พิมพ์หน้านี้ - 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Snufflehp ที่ 21-10-2018 20:08:26

หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-10-2018 20:08:26
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

***********************************

ชื่อของมันคือเจ้า เจ้าที่อาจจะมาจากคำว่าพระเจ้า เพราะมันบันดาลให้เขาได้ทุกสิ่ง ทว่าบางครั้งบางทีพระเจ้าก็มักใจร้าย มอบแต่ความโชคร้ายและความเจ็บปวดให้

"ผมชื่อเจ้า เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเจ้าที่อยากเป็นทุกอย่างให้คุณ เรียกผมว่าเจ้าชีวิตก็ได้ครับ"
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-10-2018 20:12:36
ตอนที่ 1 OMG



รู้จักพี่ธราไหม

พี่ธราคนที่ไหล่กว้าง ส่วนสูง 185 ซม. น้ำหนักยังไม่รู้เพราะยังหาข้อมูลตรงนี้ไม่ได้ รู้แค่ว่าไม่อ้วน มีซิกแพ็คเป็นลอนสวย ตัวหนาไปหน่อย แต่ก็ยังโอเค จัดเป็นหนุ่มรูปร่างดี เกรดพรีเมี่ยม ส่วนเรื่องหน้าตา หากมีเกรดที่มากกว่าพรีเมี่ยมก็จะยกให้ วัดระดับจากรูปทรงของจมูกโด่ง ตาเรียวคม คิ้วหนาเข้ม สันกรามสวย ริมฝีปากอิ่มน่าบดขยี้ เผยรอยยิ้มออกมาทีสามารถทำให้โลกหยุดหมุนได้ เมื่อก่อนเคยเห็นทำผมสีบลอนด์ เซ็ตจัดทรงแล้วสาวๆ น้ำเดินเกือบท่วมมหาวิทยาลัย แต่ครึ่งปีมานี้ทรงผมอินเทรนด์นั่นเป็นสีน้ำตาลเข้ม หน้าขาวใสจึงโดดเด่น จิกตามองมาทีแทบหัวใจวาย อ้อ...พี่ธราเรียนหมอ หมอที่จบไปจะเป็นหมอฟัน แต่ปัจจุบันเป็นหมอชอบฟัน และเป็นหมอที่ใครหลายๆ คนอยากให้ฟัน

นับรวมไอ้เจ้าด้วยไหมที่อยากโดนฟัน หากมองสายตาหวานเชื่อมที่มันใช้มองพี่ธราก็นับรวมมันไปด้วยอีกคนก็ได้

แล้วไอ้เจ้าเป็นใคร ใช่บุคคลสำคัญของประเทศหรือไม่...

คำตอบก็คือไม่ใช่ แต่หากมีรายการแฟนพันธุ์แท้ของพี่ธรา ไอ้เจ้าคงคว้ารางวัลมาได้ไม่ยาก เอาเป็นว่าหากอยากรู้เรื่องของพี่ธรา ไอ้เจ้าจะตอบคุณได้ทุกคำถาม ส่วนตัวมันเป็นใครนั้น ถามมันไปมันก็คงไม่ตอบหรืออาจจะได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนมากนัก เพราะมันรู้จักพี่ธรามากกว่าตัวมันเองจนเผลอชอบอะไรๆ ที่เหมือนกับพี่ธราแล้วลืมสิ่งที่มันเคยชอบมาก่อนหน้านี้ไปเกือบหมด แต่บนโลกนี้ยังมีคนที่รู้จักไอ้เจ้าอยู่เหมือนกัน

หากถามเพื่อนในคณะเกษตรฯ ของมัน คนพวกนั้นคงตอบแค่ว่าไอ้เจ้าเป็นคนแปลก และถ้าถามเพื่อนร่วมสาขาปฐพีวิทยาของมันก็คงตอบได้แค่ว่าแปลกมากๆ

นิยามคำว่าแปลกของไอ้เจ้ามีมาจากหลายสาเหตุ

เพื่อนคนหนึ่งบอกว่ามันเป็นเด็กซิ่วมาจากมหาวิทยาลัยอื่น ความจริงตอนปีหนึ่งมันอายุ 21 ปี แต่กลับยังเป็นเฟรชชี่ของคณะเกษตรฯ แน่ล่ะว่าอายุทางหน้าตาของมันช่วยกลบเกลื่อนอายุจริงไปได้ เพื่อนร่วมรุ่นบางคนยังมีใบหน้าที่ล้ำหน้ามันไปไกล ไอ้เจ้าน่ะตัวสูง มันสูง 179 ซม. แต่ตัวผอม เอวบาง ไหล่บาง รูปร่างแทบเป็นเส้นตรงซ่อนอยู่ใต้เสื้อนักศึกษาตัวโคร่ง หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ ใบหน้าของมันคมคาย จัดอยู่ในไทป์ที่มีคนเข้าหาถ้าหากว่ามันจะยอมตัดผมตัดเผ้าแล้วเลิกสวมแว่นตาเชยๆ เสียที ที่จริงอาจมีหลงผิดมาบ้างแต่เมื่อรู้จักนิสัยของมันก็โบกมือลาไปจนหมด เพราะมันเป็นคนที่โคตรยียวนกวนตีน เป็นน้องปีหนึ่งที่ไม่สมกับการเป็นเฟรชชี่ แต่ก็เก๋าเกมพอที่จะไม่โดนรุ่นพี่รังแก

ตอนที่ยังอยู่ในช่วงทำกิจกรรมของเด็กปีหนึ่ง ไอ้เจ้าก็ให้ความร่วมมือบ้างตามแต่พี่ธรา ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด ตามแต่พี่ธราจริงๆ หากถามว่าพี่ธราเกี่ยวข้องอะไรกับมัน คนอย่างมันคงตอบว่าถ้าอยากให้เกี่ยวก็คงต้องเกี่ยว แต่จะว่าไม่เกี่ยวก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะถ้าวันไหนที่พี่ธราเรียนจนมืดค่ำ วันนั้นจะได้เห็นไอ้เจ้าเสนอหน้าอยู่ในห้องเชียร์ แต่ถ้าวันไหนพี่ธราเลิกเรียนก่อนสี่โมงเย็น วันนั้นจะไม่มีพี่ๆ หรือเพื่อนๆ คนไหนตามตัวมันเจอ เพราะวันนั้นจะเป็นวันที่มันคอยตามพี่ธราราวกับเป็นเงาแค้นมาแต่ชาติปางก่อน เมื่อเห็นพี่ธราอยู่ตรงหน้า ไอ้เจ้าจะอยู่ข้างหลังห่างออกไปเกือบห้าสิบเมตร

ถามว่าไอ้เจ้ามีเพื่อนไหม หลายคนก็ตอบไม่ได้ว่ามีหรือไม่มี เพื่อนในคณะหรือเพื่อนร่วมสาขาก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นเพื่อนกับมัน แต่ถ้าถามว่าปกติแล้วมันนั่งกินข้าวกับใคร นั่งเรียนใกล้ๆ ใคร ก็เห็นจะมีอยู่คนหนึ่ง คนคนนั้นชื่อไอ้เอ๋ จัดเป็นคนประเภทเดียวกับไอ้เจ้า นั่นก็คือแปลกเหมือนกัน

มิตรภาพของไอ้เจ้ากับไอ้เอ๋เริ่มขึ้นตอนรับน้องเพราะบังเอิญนั่งข้างๆ กัน ไอ้เจ้าอยู่ซ้ายมือของไอ้เอ๋ ส่วนไอ้เอ๋อยู่ขวามือของไอ้เจ้า ตอนที่รุ่นพี่บอกให้ทำความรู้จักกับเพื่อนที่นั่งข้าง ตอนนั้นคงเป็นตอนที่พวกมันได้รู้ชื่อของอีกฝ่าย

‘สวัสดีตัวคุณ ตัวผมชื่อเอ๋’

‘สัสดีนายเอ๋ ตัวผมชื่อเจ้า เจ้าสั้นๆ คำเดียวรู้เรื่อง ใครเรียกมากกว่าหนึ่งพยางค์ บอกเลยว่าผมไม่หัน’

‘เค’

ไอ้เจ้าเป็นคนกวนตีนแบบนั้นและมันเป็นคนจริง มันบอกว่าถ้าใครเรียกชื่อมันเกินหนึ่งพยางค์มันจะไม่ขานรับ ทั้งตอนที่อาจารย์เรียกในห้องเรียน ทั้งตอนที่รุ่นพี่ตะโกนด่าหรือจะเป็นตอนที่พวกรสนิยมมีปัญหาตะโกนแซว ไอ้เจ้าไม่เคยหัน มันจึงกลายเป็นคนหยิ่งและกวนตีนในสายตาของคนรู้จักที่รู้จักมันเพียงผิวเผิน แต่ในสายตาไอ้เอ๋ ไอ้เจ้าเป็นเพื่อนที่ดี

แล้วในสายตาของพี่ธราล่ะ ไอ้เจ้าเป็นยังไง

แต่ก่อนจะถามคำถามนี้ ถามพี่ธราก่อนไหมว่ารู้จักคนชื่อ ‘เจ้า’ หรือเปล่า

คำตอบก็คือ...ไม่รู้

งั้นลองเปลี่ยนคำถาม ลองถามพี่ธราดูว่าเคยเห็นคนที่ซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเต้าหู้ฝากไว้กับลุงยามที่คณะทันตะฯ ทุกเช้าวันอังคารกับวันศุกร์ไหม หรือจะเป็นเจ้าของไลน์ไอดี OMG ที่มักจะทักมาปลุกในวันที่มีเรียนตอนเช้าจนแทบตื่นไม่ไหว ตั้งนาฬิกาปลุกก็ปิดมันซ้ำๆ แต่ก็ได้ OMG คอยตื้อปลุกจนขุดตัวเองลุกจากเตียงแล้วลากสังขารไปเรียนจนได้ ตอนกลางคืนก่อนนอนก็จะมีข้อความบอกฝันดีกับลิ้งเพลงเพราะๆ ส่งมาให้ฟัง แต่บางวันก็จะถูกกวนโมโหจนแทบลุกเป็นไฟ OMG เคยถูกพี่ธราบล็อกไปหลายครั้ง แต่ก็ขยันสมัคร ขยันเปลี่ยนไอดีแอดมาอยู่เรื่อยๆ พอคิดว่าบล็อกได้สำเร็จ สุดท้ายก่อนนอนก็ยังได้รับข้อความ





OMG: ฝันดีครับ

OMG: ผมให้พอร์น

OMG: อิ๊ พร แบบนี้ต่างหาก

OMG: ขอฟังเสียงหน่อยสิครับ อยากฟังตอนคุณร้องว่า โอ้พระเจ้า

OMG: น้ำผมต้องเดินหมดตัวแน่ๆ

OMG: โอ้ววว ซี๊ดดดด

OMG: ล้อเล่นครับ อิ๊ คลายเครียดก่อนนอน ฝันดีนะคุณ พรุ่งนี้ข้าวขาหมูกับน้ำขิง ไปเอาที่ลุงยามด้วย

OMG: ชอบคุณครับ

OMG: *ผมตั้งใจพิมพ์





พี่ธรามักจะหัวเสีย รู้ว่า OMG หน้าตาเป็นยังไงเพราะรูปโปรไฟล์ของมันก็ซูมหน้าจนแทบจะเห็นทุกรูขุมขนที่มันมี มันน่ะเป็นคนเดียวที่ชอบเดินตาม ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็เจอมันตลอด เคยเข้าไปถามว่ามีปัญหาอะไรไหม เป็นโรคจิตหรือไม่ แต่มันก็ยิ้มแล้วบอกแค่ว่า ‘ชอบคุณครับ’ หน้าตามันยียวนกวนโมโห ไม่ว่าจะพูดหรือถามอะไรมันไป มันก็จะตอบกลับมาแบบนี้เสมอ ตอนนี้ก็เกือบสองปีแล้วที่มีเรื่องปวดประสาทเกิดขึ้น เคยไปแจ้งตำรวจ ตำรวจรับลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ตำรวจก็ทำอะไรมันไม่ได้ มันหายไปแค่วันเดียวแล้วจากนั้นก็กลับมาเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิม วัดจากระยะทางที่มันเดินตามที่ย่นระยะลงมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ารอดพ้นจากตำรวจมาได้อย่างไร ท่าทางก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร หรือมันจะรวยก็ไม่รู้ ไม่เคยสนใจเรื่องของมัน รู้จักแค่หน้า ชื่อก็ไม่อยากรู้ด้วยซ้ำ สองสามเดือนแรกก็แทบเป็นบ้าเพราะมัน โดนมันตามตลอด โผล่ไปนั่นมานี่ราวกับเป็นผีหรือวิญญาณอาฆาต แต่มันไม่เคยทำร้าย มันทำดีให้มากๆ เสียด้วยซ้ำ จนสุดท้ายก็เริ่มปลง หนีมันไม่ได้ก็เลยต้องเออๆ ออๆ ไปกับมัน แม้บางครั้งจะรับมือกับความบ้าของมันไม่ไหว





OMG: ห้ามมีแฟน

OMG: หวงนะครับคุณ

OMG: ผมตบผู้หญิงได้นะ ยิ่งดาวมหาลัยนี่ถนัดเลย

D. : ควงเฉยๆ

OMG: ได้ครับ ห้ามคบนะ

D. : อืม

OMG: ห้ามพาขึ้นห้องด้วย

D. : แล้วจะให้ไปทำที่ไหน

OMG: โรงแรม ผมจองห้องไว้แล้ว คุณพามันไปได้ แต่ห้ามขึ้นห้องคุณ ถ้าคุณไม่ฟัง พรุ่งนี้ผมจะย้ายไปอยู่ข้างห้อง

D. : ให้กูไปห้องที่มึงจองไว้ แล้วกูจะรู้ได้ไงว่ามึงไม่ได้แอบตั้งกล้อง คนอย่างมึงทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่

OMG: ไม่มีสิทธิ์ถามครับ ผมกำลังโมโห

D. : เรื่องของมึง





กลายเป็นว่าในเช้าวันต่อมา เพื่อนบ้านร่วมชั้นคอนโดฯ ที่ทั้งชั้นมีเพียงแค่สองห้องก็ย้ายออกกะทันหัน และในอีกสามวันต่อมา OMG ก็ยืนอยู่หน้าประตูห้องแล้วแนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า จำได้ว่าตอนนั้นธราเผลอนิ่งค้าง ก้าวถอยหลังห่างจากประตูอย่างนึกหวั่น แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ได้มีทีท่าจะเข้าใกล้

‘ผมบอกคุณแล้ว’

คำพูดนั้นดังก้องอยู่ในหัว ไม่เคยคาดคิดว่าจะเจอคนแบบมัน สุดท้ายก็ได้เจอแล้วคาดว่าจะมีอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ด้วย คนหน้าด้านหน้าทน คนยียวนกวนประสาท คนทำตัวมึนกับทุกสิ่งแม้แต่คำพูดปฏิเสธ คนที่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรเทียบเคียงธราได้ แต่งตัวบ้านๆ เสื้อยืดราคาถูก กางเกงยีนเก่าๆ รองเท้าแตะที่ดูสกปรก แต่กลับมีปัญญาย้ายมาอยู่ข้างห้องของธรา ห้องที่มีราคาไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้าน ทั้งยังย้ายมาอยู่ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน คิดแล้วก็แทบลมจับ

ไอ้ OMG มึงเป็นใคร!

‘มึงมันบ้า’

‘เพราะผมชอบคุณ’

‘ไอ้เหี้ยเอ้ย กูจะทำยังไงกับคนอย่างมึงดี!’

‘เป็นของผมสิครับ แล้วจะทำยังไงค่อยมาเรียนรู้กัน อิ๊’





ปึง!

ปิดประตูกระแทกหน้าไปแล้ว แต่วันต่อๆ มามันก็ขยันมาเคาะห้องตามเดิม แต่ก็ไม่เคยเปิดไปพูดคุย แล้วก็เป็นอีกครั้งที่คิดผิด เพราะคนอย่างมันไม่เคยเลิกพยายาม





OMG: ครางชื่อผม

OMG: ดินครับ ครางชื่อผมนะ

OMG: ครางให้ดังๆ ผมอยู่ที่ระเบียง ผมแน่ใจว่าผมจะได้ยิน

OMG: ดินครับ ผมไม่ไหวแล้ว อยากโดนคุณกระแทกจัง

OMG: ดิน ตอบผม

OMG: ตอบผม

OMG: ตอบผม

OMG: ตอบผม

OMG: ตอบผมครับ

OMG: ผมรู้รหัสเข้าห้องคุณนะ

OMG: ต่อให้ล็อกแน่นหนาผมก็พังเข้าไปได้

OMG: ตอบผม

D. : ไอ้เหี้ย!

OMG: สดชื่นจริงๆ ด่าอีกครับ

D. : ไอ้เวร! มึงจะเอายังไง!

OMG: อ่า...ผมจะเสร็จแล้ว ด่าผมอีก

D. : … มึง ทำอะไรวะ

OMG: ชอบคุณครับ ผมชอบคุณ

OMG: มาที่ระเบียง

OMG: เร็วครับที่รัก

OMG: ผมอยากเห็นคุณ





พอยอมออกไปทั้งที่รับรู้ถึงสัญญาณอันตรายในหัวก็เห็นว่า OMG กำลังยืนเปลือยท้าลมบนชั้น 36 ของคอนโดฯ มันยืนมองท้องฟ้า เชิดหน้าขึ้น ผิวขาวซีดของมันกำลังรับแสงแดด ไม่ได้รู้เลยว่ากำลังทำร้ายสายตาของคนที่เห็น

‘มองผมสิครับ’

‘ดินครับ มองผมหน่อย’

มันอ้อนวอน แค่เหลือบสายตามองก็เห็นว่ามันกำลังทำสีหน้าแบบไหน

‘ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อผ้า’

‘ผมเป็นคนเปิดเผย’

‘มึงเปิดมากไปไอ้เหี้ย!’

‘หึ เปิดขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกว่าผมชอบคุณมากแค่ไหน’

‘รู้ มึงมันโรคจิต’

‘ผมแค่ชอบคุณ’

‘มันมากไปโว้ย!’

‘อยากเป็นของคุณจัง ผมอยู่ข้างล่างได้นะ แต่ข้างบนก็น่าจะวิวดี ออนท็อปอะไรงี้ ผมถนัด’

‘ทำไมกูต้องยอมออกมาตามที่มึงบอกแล้วให้มึงคุกคามทางเพศแบบนี้ด้วย!’

‘เกรี้ยวกราดจังเลยที่รัก ผมชักอยากรู้ว่าถ้าอยู่บนเตียงด้วยกัน คุณจะเป็นยังไง’

‘ฝัน!’

‘ครับ ฝันเปียกทุกวันเลย’

‘ไอ้สัด!’

‘ผู้ชายด่าแปลว่าผู้ชายรัก’

‘มึงไปใส่เสื้อผ้าไป๊!’

‘อิ๊ มีห่วงผมซะด้วย’





รับมือไม่ไหว คนแบบมัน...ควรรับมือด้วยวิธีไหน ต่อสู้ฟาดฟันหลายครั้งก็มีแต่ต้องแพ้ให้กับความหน้าด้านของมัน สุดท้ายก็ต้องถอยทัพ หนีกลับเข้าห้องแล้วกระชากผ้าม่านปิด สาบานเลยว่าถ้ามันอยู่ที่ระเบียงก็จะไม่มีวันออกไปยืนรับลมเหมือนที่ชอบทำบ่อยๆ เป็นอันขาด

OMG มันเป็นคนบ้าโดยสันดาน บางทีก็ชอบทำตัวเป็นหมาบ้า ทั้งที่มันไม่มีสิทธิ์ แต่มันก็อ้างสิทธิ์ประหลาดๆ ข้างๆ คูๆ ธรามีแฟนกี่คนก็คบกันไม่ยืด สาเหตุก็เพราะมัน มันเป็นหมาบ้าที่ชอบบงการ





OMG: คนนี้ให้สามวัน

OMG: รับรู้แล้วก็ตอบผม

OMG: ผมไม่อยากโมโหคุณนะดิน

D. : อะไรของมึง

OMG: ชอบมันเหรอ

D. : ชอบมั้ง

OMG: ให้สามวัน แล้วกลับมาเป็นของผม

D. : กูไม่เคยเป็นของมึง

OMG: ให้สามวัน เกินกว่านั้นเห็นดีกันแน่

D. : เรื่องของมึง

OMG: ครั้งก่อนก็พูดแบบนี้ แล้วเป็นไง

D. : อะไรนักหนาวะ

OMG: ไปเลิกกับมัน

D. : เออๆ แค่นี้ใช่ไหม จะอ่านหนังสือแล้ว

OMG: อืม

OMG: แต่มาที่หน้าประตูก่อน ซื้อข้าวมาให้

D. : อืม









OMG นอกจากจะเป็นคนบ้า โรคจิต ป่วนประสาทแล้ว บางทีมันก็เป็นคนเข้าใจยาก มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มันเอาแต่มองหน้าแล้วก็ไม่พูดไม่จา ไม่ยิ้ม ไม่หือไม่อือ แค่มามองหน้าที่คณะ ที่หน้าประตูห้อง ที่ที่ธราไปทุกที่ แต่มันก็ทำแค่นั้น แค่มอง ไม่ไลน์มาหา ไม่มีวอยซ์ส่งมากวน จนต้องถามด้วยความสงสัย





D. : เป็นไร

D. : ไอ้เหี้ย มึงทำแบบนี้กูจะประสาทกิน เอาแต่มองกูทำไม

D. : ไม่อ่านไม่ตอบด้วยไอ้ห่าเอ้ย

D. : มึง

D. : เป็นไรวะ

D. : มึง กูหิวข้าว

D. : จะอ่านหนังสือแล้วนะ มีควิซตอนเช้า

D. : OMG มึงเป็นบ้าอะไร

OMG: รักครับ

D. : ไอ้เวร

OMG: คิดถึงอะดิ

D. : คิดถึงก็เหี้ยละ มึงมีปัญหาอะไร เอาแต่มองหน้ากูอยู่ได้

OMG: รักไงครับ

D. : คุยกับมึงประสาทจะกิน

OMG: แต่ก็ทักมาไม่หยุด อ่อยแบบนี้อยากได้อยากโดนเหรอ หึ มาสิ ผมจัดให้ได้ ตัวร้ายอย่างคุณต้องเจออย่างผม อิ๊

D. : กูไม่น่าถามเลย กลับมาบ้าอีกแล้วไอ้เหี้ย

OMG: พูดมากน่า มาที่หน้าประตูครับ

D. : อะไร

OMG: ซูชิ ร้านโปรดคุณ ออกมาเอา

D. : ไม่กิน

OMG: งั้นผมเข้าไปนะ รอก่อนเถอะ จะย่ำยีให้ร้องครางทั้งคืน

D. : เวรจริง รออยู่ตรงนั้นแหละ





เป็นความบ้าบอที่ไม่จบไม่สิ้นและเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด นับจากที่เริ่มรู้ตัวว่าตกเป็นเป้าหมายของ OMG มาจนวันนี้ก็ปีกว่าๆ แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะครบสองปี ทั้งอย่างนั้นก็ยังไม่เคยรู้ชื่อมัน คนโรคจิต บ้าๆ บอๆ โผล่หัวไปทุกที่ ลึกลับยิ่งกว่าผี บางทีก็หายไปครั้งละนานๆ ตัวตนของมันเหมือนอะไรบางอย่างที่จับต้องไม่ได้ราวกับมันไม่อนุญาตให้ได้รับรู้มากไปกว่าการที่มันเป็นคนคอยตาม

รู้หน้า...ไม่รู้ชื่อ ไม่รู้ว่ามันเป็นใครมาจากไหน เคยคิดจะใส่ใจถาม แต่ก็เลิกล้มเพราะไม่อยากให้มันสำคัญตัวผิด ถึงอย่างนั้นก็พอรู้คร่าวๆ ว่ามันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน ไม่รู้ว่าเรียนคณะไหน ชั้นปีอะไร มันไม่เคยพูดถึงตัวเองให้ฟัง ท่าทางของมันดูกระจอกเมื่อเทียบกับธรา OMG เป็นแค่ไอ้โรคจิตที่คอยเดินตามต้อยๆ ไม่มีอะไรคู่ควรกัน แต่มันไม่เคยเจียมตัว



หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 21-10-2018 20:12:56


OMG: คนใหม่เหรอ

D. : อะไร

OMG: ดาวอักษรฯ นั่นคนใหม่เหรอ

D. : อืม

OMG: เจ็บจัง

D. : เรื่องของมึง

OMG: เรื่องของเราครับ

D. : เลิกบ้าแล้วไปตายซะไป

OMG: ต้องเกลียดกันขนาดไหนถึงไล่กันไปตายอย่างนี้ครับที่รัก

D. : ให้กูบรรยายความเกลียดที่มีต่อมึง ห้าสิบปีก็ไม่หมด

OMG: จะอยู่เกลียดผมไปอีกห้าสิบปีเลยเหรอ

OMG: ดีจัง มีตัวตนในสายตาคุณแล้ว อิ๊

D. : เวรกรรม

OMG: เลิกกับหล่อนครับ คนนี้สเปคคุณด้วย ผมให้ครึ่งชั่วโมง นานกว่านี้คุณต้องตกหลุมหล่อนแน่ๆ

D. : กูไม่เลิก! กูบอกกี่ครั้งว่าอย่ามาก้าวก่าย ทำไมตำรวจจัดการคนอย่างมึงไม่ได้วะ

OMG: ตำรวจจะจัดการคนดีอย่างผมทำไม รีบทำตามที่ผมบอกครับ อย่าให้โมโห

D. : มึงมันหมาบ้า

OMG: งั้นก็ระวังหมาบ้ากัด

OMG: ผมเตือนแล้วนะดิน

D. : แต่กูชอบเขาแล้ว

OMG: แต่ผมชอบคุณ

D. : กูไม่ชอบมึง กูเกลียดมึงไงไอ้เหี้ย ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง

OMG: สามครั้ง แต่ขอเป็นบนเตียงนะ ขอเจ็บๆ แรงๆ อิ๊

D. : คนนี้ขอเถอะ กูจริงจัง

OMG: ผมจะเริ่มนับ...

D. : คนชอบกันเขาทำแบบนี้เหรอวะ

OMG: ผมไม่ได้ชอบกัน ผมชอบดิน

D. : กูเหนื่อยกับมึงแล้วนะ

OMG: งั้นก็นอนเฉยๆ ผมโยกเอง

D. : ไอ้สัด!

OMG: ผมนับหนึ่ง...





OMG คือศูนย์รวมแห่งความเกลียดมากที่สุดเท่าที่ธราเคยมี หากไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลังแก้ไขปัญหา แต่เจอคนอย่างมันก็ต้องใช้ ถึงอย่างนั้นก็ทำอะไรมันไม่ได้อีกเช่นเคย ต่อให้จะถูกต่อยจนเลือดกลบปาก แก้มบวมช้ำ คนอย่างมันก็ไม่คิดถอย มันตัวผอมบาง แต่ก็คงไม่ใช่คนที่จะยอมอยู่เฉยให้ใครรังแก ทว่าเมื่อถูกธราต่อยกลับไม่ตอบโต้ ต่อยกี่ทีมันก็ยังยิ้มแล้วบอกแต่ว่า ‘ชอบคุณครับ’

สุดท้ายก็แพ้มันอีกจนได้...





OMG: มาที่ประตูครับ

D. : มึงไม่เคยเข็ดจริงๆ

OMG: ให้เข็ดอะไร แค่ถูกต่อย ไม่ได้โดนยิง แต่ต่อให้โดนคุณยิง ใกล้ตายยังไง ผมก็จะคลานมาหาคุณ

D. : หน้ามึงทำด้วยอะไร หนาได้ใจมาก

OMG: ชมอีกแล้ว สดชื่นจัง

D. : โว๊ะ! ไปไกลๆ ตีน

OMG: ไม่ครับ แล้วก็มาที่หน้าประตู ผมซื้อข้าวมาให้

D. : กูไม่กิน

OMG: เร็ว อย่าให้ผมโมโห

D. : มึงโมโหแล้วจะทำอะไรกูได้

OMG: ทำได้ แต่ผมไม่ทำครับ นอกจากใช้ปากให้คุณร้องครางชื่อผมแล้ว ผมจะไม่ใช้อย่างอื่น

D. : โรคจิต!

OMG: ออกมา!

D. : เออ! รู้แล้ว





เห็นหน้าบวมๆ ของมันก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของมันแล้วความรู้สึกผิดก็หายวับไปกับตา แน่ใจแล้วว่าแผลแค่นี้คงทำอะไรคนอย่างมันไม่ได้

'กินข้าวซะ' มันบอกแล้วยื่นถุงจากร้านสเต็กเจ้าอร่อยแต่ราคาแพงกระเป๋าฉีกมาให้ 'ของโปรดคุณ ผมรู้'

'มันไม่ใช่ข้าว'

'ก็จริง' ตอบแล้วยักไหล่ 'แล้วไง อิ่มเหมือนกัน'

'แต่มึงบอกข้าว'

'เรียนหมอ โง่ได้ไง ข้าวสำหรับผมตอนนี้ก็คือมื้ออาหาร'

คนฟังเม้มริมฝีปาก ความหงุดหงิดคืบคลานเข้ามา เกือบยกมือขึ้นชกหน้าคนยียวนอีกสักแผล

'ไปละ กินด้วยล่ะ'

'กูจะเอาไปทิ้ง'

'เรื่องของคุณ'

มันก็เป็นซะแบบนี้ บางทีมันก็เย็นชา ยิ่งตอนที่มันทำหน้านิ่งๆ ก็ยิ่งอยากถอยห่าง มันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คนโรคจิตอย่างมันจะทำอะไรที่เกินขอบเขตไหมก็ยากจะเดาใจ อยากหนีไปให้ไกล อยากซ่อนตัวจากมัน แต่กลับทำไม่ได้ มันตามเขาเจอ มันรู้ทุกความเคลื่อนไหวราวกับเขาอยู่ในสายตาของมันตลอดเวลา แต่บางที...การได้อยู่ในสายตาของมันก็มีเรื่องที่ดีอยู่บ้างเหมือนกัน





OMG: ธรา





เวลามันเรียกชื่อจริง จะรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังโกรธอย่างจริงจัง นับครั้งได้และก็เป็นเรื่องเดิมๆ





OMG: ใครอนุญาตให้คุณป่วย!

OMG: เรียนหมอได้ไงถ้าจะโง่ขนาดนี้

OMG: ผมโมโหคุณจริงๆ รอก่อนเถอะ ผมจะไปลากคอหมอมาตรวจอาการคุณ





ทำไมกันนะ...ทำไมคนบ้าแบบมันกลับเป็นคนเดียวที่เดือดร้อนกับอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ของเขา เป็นไข้และไอนิดหน่อย กินยาแล้วนอนพักผ่อนไม่นานก็หาย แต่ OMG กลับทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ มันบุกเข้ามาในห้อง ยืนยันได้ว่ามันรู้รหัสห้องของเขาจริงๆ ไม่ได้แค่พูดไปอย่างนั้น มันเข้ามาพร้อมกับนายแพทย์วัยกลางคนที่หน้าซีดเหงื่อท่วมตัว ดูก็รู้ว่าถูกพาวิ่งมาด้วยความรีบร้อน

'ถ้าเขาไม่หาย หมออาจจะต้องหายไปเอง'

คนบ้าเต็มขั้น...คงมีแค่มันคนเดียว

‘มองทำไม นอนไป ไม่มีอารมณ์ยัดเยียดความเป็นเมียให้ ฉิบ! หงุดหงิดโว้ย!’

เพราะมันบ้า...มันบ้าเอามากๆ มันบ้าจนทำให้ธราก็เกือบจะบ้าตามมันไปด้วย

บ้า...ที่เผลอยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของมัน

บ้า...ที่เผลอใจเต้นแรงเมื่อมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้แค่เพราะอยากวัดไข้เหมือนกับในซีรีย์เกาหลี

ธราเกลียดมัน แต่บางครั้งก็เหมือนกับว่าความเกลียดนั้นพิเศษขึ้นมา...

‘เกลียดว่ะ’

‘ชอบครับ ชอบมาก แล้วก็รักมากด้วย’

OMG เป็นคนที่ธราเกลียดที่สุดในชีวิตและคงไม่มีใครสามารถล้มตำแหน่งของมันได้





“ไอ้เจ้า ผมว่านายอาการหนัก” ไอ้เอ๋มองเพื่อนรักด้วยสายตาหวาดผวา “บอกผมหน่อยว่าสูตรเคมีที่กำลังแก้มีเสน่ห์ตรงไหน ผมจะได้ชอบมันบ้าง หรือผมต้องคิดต่าง เช่นว่าโอ้ แม่ยอดยาหยี เฮชทูโอนี่ใช่สมการรักของเธอไหม”

“นายไม่เข้าใจคนกำลังมีความรักอย่างผมเอ๋ หัวใจของผมเต้นไม่เป็นส่ำ ตึกตัก ตึกตัก รุนแรงยิ่งกว่ากลองยาวหน้าขบวนแห่นาค” ไอ้เจ้าทำตาเชื่อม “คำว่าเกลียดที่ดังออกจากปากธราเหมือนคำว่ารักที่จู่โจมหัวใจของผมให้สิ้นท่า ผมแทบล้มเมื่อเขาพูดว่า เกลียดว่ะ สายตาชิงชังของเขาตราตรึงในใจของผม”

“ผมไม่เข้าใจเลยเพื่อนรัก นายใจเต้นกับคำว่าเกลียดได้ยังไง” ไอ้เอ๋ว่าพลางยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง มันไม่เข้าใจความรักของไอ้เจ้าที่มีต่อคนที่แอบหลงรักจริงๆ

“ธราบอกรักผม”

“เขาบอกว่าเกลียดนาย”

“เขาน่ะคนปากแข็ง”

“นายแค่ไม่ยอมรับความจริง”

“อย่าเถียงดิเอ๋!”

ไอ้เจ้าแทบล้มโต๊ะ ตาหวานเชื่อมหายวับ ไอ้เอ๋จึงได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้จากคำว่าเกลียดถูกตีความไปเป็นคำว่ารักได้อย่างไร ฟังจากที่ไอ้เพื่อนตัวดีเล่าแล้วก็ไม่มีถ้อยคำไหนที่สื่อความหมายว่ารักเลยแม้แต่คำเดียว

“หนึ่งปี สิบเดือนกับอีกสามวัน” ไอ้เอ๋เกริ่นเตือนสติ “นั่นเป็นเวลาที่นายยัดเยียดคำว่าเกลียดให้ธรา เขาเกลียดนายจากอินเนอร์ เกลียดที่แปลว่าเกลียดอย่างจริงจัง ผมรู้ว่ามันเจ็บ แต่นายควรยอมรับ”

“คำว่ารักเอ๋ คำว่ารัก! ผมยอมรับแค่คำว่ารักเท่านั้น”

“แต่ธราเกลียดนายไอ้สัด เขามองนายเหมือนกับเห็บหมาที่ไร้ประโยชน์ เขาแจ้งความจับนายสิบครั้ง เขาต่อยหน้านายสิบครั้ง และตอนนี้เขาก็กำลังจะมีแฟนคนที่สิบที่ไม่ใช่นาย”

ไอ้เจ้าปิดสมุดที่มันใช้เลคเชอร์ สูดหายใจเข้าลึกแล้วยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเอง “ผมรู้เอ๋ ผมรู้! และผมกำลังคิดหาวิธี ครั้งนี้แฟนคนที่สิบของธราทำให้ผมปวดหัว”

“หล่อนคือตัวจริง”

“ไม่เอ๋ หล่อนนมใหญ่ ผมไม่ชอบทำร้ายแม่พันธุ์ชั้นดี”

ไอ้เอ๋กลอกตาไปมา รู้จักไอ้เจ้ามาตั้งแต่รับน้องจนตอนนี้ขึ้นปีสองก็ยังไม่เคยเข้าใจความคิดของมัน มันเป็นเด็กซิ่วซึ่งไอ้เอ๋ก็ไม่เคยถามว่าซิ่วมาจากไหน เคยเรียนคณะอะไรมา อายุมันก็มากกว่า แต่ก็พูดคุยเข้าคู่กันดี และไอ้เจ้าแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง รุ่นพี่ที่มีชื่อว่าธรา รูปหล่อ ฐานะดี มีรถหรูขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปชัดยิ่งกว่ากล้องโปร พี่ธราคนนั้นที่อยู่สูงเกินไอ้เจ้าเอื้อมถึง ใครที่มองสภาพของไอ้เจ้าก็พอจะรู้ได้ว่าคนอย่างมันไม่มีทางสมหวังกับพี่ธรา ไอ้เจ้าบอกว่าเพราะชอบพี่ธราถึงได้ซิ่วมาเรียนที่นี่ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไร ไอ้เอ๋ก็ยังช่วยมันเต็มที่ อะไรที่ถูกขอให้ทำก็ทำให้อย่างไม่อิดออด

ไอ้เจ้าน่ะเป็นคนประหลาด มันเหมือนคนที่มีหลายบุคลิกในตัวเอง นิสัยเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ แปรปรวนยิ่งกว่าช่วงที่มีพายุเข้า แต่ไม่ว่านิสัยมันจะขึ้นๆ ลงๆ อย่างไร ความมั่นคงที่มันมีต่อพี่ธรา แรร์ไอเทมของคณะทันตะฯ ก็เป็นของจริง

ไอ้เจ้าชอบพี่ธรา ชอบมากจนไม่อาจบรรยายความชอบของมันได้ หากเปรียบกับจักรวาลแล้วจักรวาลก็คงดูเล็กน้อยไป ทั้งที่พี่ธราไม่เคยมีท่าทีจะชอบมันเลยสักนิด เขาก็บอกว่าเกลียดมันอยู่ทุกวัน แต่มันกลับเลือกจะอยู่กับจินตนาการ ไม่เคยยอมรับความจริงเลยว่าพี่ธราคิดอย่างไรกับมัน

“เรียนถามหน่อยเพื่อนรัก” ไอ้เอ๋เริ่มบทสนทนาอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยให้ไอ้เจ้าจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นาน

“กล่าวมา” ไอ้เจ้าเอ่ยอนุญาต สบตามองกับคู่สนทนาที่มีแววตาจริงจัง

“สมมติว่าธราเขารักดาวเภสัชฯ คนนี้จริง นายจะทำอย่างไรเล่า”

ไอ้เจ้ามีสีหน้าครุ่นคิด ไม่มีความวูบไหวในแววตา สีหน้าของมันก็ยังเป็นปกติราวกับมันไม่เคยกลัวเกรงว่าหัวใจของธราจะตกไปอยู่ในมือใคร

“ธราชอบที่จะประชดประชันผม เขาเป็นคนร้ายๆ ที่ชอบเรียกร้องให้ผมสนใจ ไม่มีทางที่เขาจะไปเป็นของใครจริงๆ นายรู้ ผมรู้ และธรารู้ ว่าผมจะไม่มีวันยอม อิ๊”

“นายตอบไม่ตรงคำถาม” ไอ้เอ๋ว่าอย่างอ่อนใจ ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเจาะกะโหลกหนาๆ ของไอ้เจ้าดี

“คำถามของนายต่างหากที่ไม่ตรงคำตอบของผม แล้วนายว่าอย่างไรเอ๋ ดาวเภสัชฯ ที่ธราควง มีดีบ้างไหม”

“จากที่ผมสืบมาได้ หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี เรียบร้อย น่าทะนุถนอม ฐานะทางบ้านจัดอยู่ในขั้นดีมาก เบ้าหน้าไม่ต้องพูดถึง บรรยายความสวยน่ารักของหล่อนสองวันก็ไม่จบไม่สิ้น เส้นผมยาวตรงของหล่อนสีดำเงางาม ผิวขาวใสเป็นธรรมชาติไม่มีการเสริมแต่ง หลายคนบอกว่าหล่อนเหมาะสมกับธราราวกับกิ่งทองใบหยก ซึ่งตอนที่เห็นพวกเขาเดินด้วยกันผมก็คิดเห็นเช่นนั้น ขอโทษนะเพื่อนรักที่ผมไม่เห็นความไม่เหมาะสมของพวกเขาเลย นายต้องทำใจ”

“ทำไมผมรู้สึกเจ็บ เหมือนนายทุบหัวใจผมด้วยค้อนเหล็กเลยเอ๋ แต่ไม่เป็นไร ผมทนไหว แล้วอย่างไรต่อ”

“วงในบอกมาว่าธราไปจีบหล่อนเอง ไม่เหมือนคนก่อนๆ ที่เข้าหาธรา พวกเขาเจอกันที่ค่ายอาสา เภสัชกับหมอฟันผมว่าก็เข้ากันดี หรือได้เข้าไปแล้วเรื่องนี้ผมยังสืบอยู่ แต่ดูท่าว่าเลขสิบจะไม่สมพงษ์กับนายแล้ว แฟนคนที่สิบของธราอาจทำให้เขาสลัดนายทิ้งได้อย่างถาวร”

ไอ้เจ้าพยักหน้ารับรู้ คงจะจริงอย่างที่ไอ้เอ๋มันพูดไว้ นับถึงสิบทีไรเป็นเรื่องทุกที แต่คนอย่างไอ้เจ้าไม่เคยยอมแพ้ ความรักจะเอาชนะทุกอย่างได้เสมอ

“นายกำลังคิดอะไรเพื่อนรัก”

“กำลังคิดว่าหน้าตาอย่างนายจีบดาวเภสัชฯ แล้วจะติดไหม”

ส่งไอ้เอ๋ไปทำการใหญ่คงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่อยากจะเลือก แต่ก็คิดหาวิธีดีๆ ไม่ออก เพราะไอ้เจ้าแพ้ทางผู้หญิงเรียบร้อย การรังแกหล่อนก็เหมือนกับเอาหมอนไปปิดหน้าคนที่กำลังนอนหลับฝันดีให้ตายไปอย่างทุรนทุราย

ทำไม่ได้...ใจเหี้ยมไม่พอ

“ห้าห้าห้า ความหล่อของผมไม่เข้าตานายเลยหรือไอ้เพื่อนเวร”

“มันแยงตาแทบบอดเลยไอ้สัด แต่เดี๋ยวก่อนเอ๋ ความหล่อของนายช่วยอะไรไม่ได้ เพราะนายยังเทียบเศษเล็บของธราไม่ติด ธราหล่อกว่านายหลายขุมนัก หากผมเป็นดาวเภสัชฯ ผมก็จะเลือกธรา นายมันกระจอก”

“เฮ้เฮ้เฮ้”

“แต่เอาอย่างนี้ มาว่ากันตามตรง นายไปฉุดหล่อน ย่ำยีให้หล่อนเป็นของนาย ตั้งท้องลูกของนายเลยยิ่งดี ดีลไหมเพื่อนรัก”

แผนชั่วก็คงจะมีแต่คนชั่วที่คิดขึ้นมาได้ แล้วจะมีคนบ้าที่ไหนยอมทำตาม นอกจากไอ้เอ๋แล้วคงไม่มีคนอื่นรับฟังความคิดของไอ้เจ้าได้อีก

เพราะมันสองคนนั้นไทป์เดียวกัน แปลกและประหลาดเหมือนกัน

“ดีลตีนผมนี่สิครับ อยู่ดีไม่ว่าดีหาคุกหาตะรางมาให้กัน”

“นายต้องช่วยผมนายเอ๋”

“ผมควรปฏิเสธอย่างไร”

“แค่พูดคำว่าไม่”

“งั้นไม่”

“ไม่เอาดิเอ๋ นอกจากผมแล้วก็ไม่มีใครคบนาย”

“เพื่อนรักเพื่อนตายของผม”

“ดีลไหม”

“ผมไม่ย่ำยีใคร แต่จะกันออกมาให้ แล้วนายก็จัดการธราซะ”

“มิตรภาพของเราจะยาวนานไปอีกร้อยปี”

“แต่ผมคิดว่าอีกสิบนาทีจะตัดเพื่อนกับนายแล้วไอ้สัด! หาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้”

“รองเท้าที่นายอยากได้ แค่ส่งยี่ห้อ รุ่นและเบอร์รองเท้ามาให้ผม”

“เค ดีล”

ไอ้เจ้าไม่เคยพูดว่าชื่อมันถูกตั้งมาได้อย่างไร แต่สำหรับไอ้เอ๋แล้วคิดว่าเจ้าคงมาจากคำว่าพระเจ้า เพราะไอ้เจ้าเสกของได้ บันดาลได้แทบทุกสิ่ง มันไม่เคยพูดว่ามันร่ำรวย แต่มันเปย์ได้ทุกอย่างตามที่มันต้องการ ไม่เคยเห็นมันขับรถหรู ไม่เคยเห็นมันแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนม อยู่ที่คณะมันเป็นแค่ไอ้เจ้าคนประหลาด วันๆ จับแต่จอบแต่เสียม ก้มหน้างกๆ อยู่กับตัวอย่างดิน เนื้อตัวมอมแมมบ้างตามแต่การลงวิชาภาคปฏิบัติในวันนั้นๆ แต่คิดว่ามันก็ไม่ใช่คนธรรมดา ไอ้เจ้ามีบรรยากาศบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัว มันทำให้คนเงียบได้แค่ปรายตามอง มันทำให้คนเกรงใจมันได้แค่มันทำหน้านิ่งๆ ทั้งที่รู้จักมันมาปีกว่าแล้วแต่ก็เหมือนไม่เคยรู้จักมันเลย บทสนทนากับมันจะมีเรื่องของพี่ธราเป็นส่วนใหญ่ราวกับว่าทั้งชีวิตของมันไม่มีเรื่องอื่นที่น่าสนใจอีกแล้ว

“ธราพักเที่ยงแล้ว ผมไปส่งข้าวก่อน แล้วเจอกันที่อาคารเรียนรวม” ไอ้เจ้าลุกขึ้นพลางร่ำลา มันไม่เคยท้อเลยจริงๆ กับการตามตื้อคนที่มันชอบ กลับเป็นไอ้เอ๋ซะเองที่เห็นแล้วเหนื่อยแทน

“โชคดีเพื่อนเอ๋ย หวังว่าครั้งนี้ธราจะมอบรอยยิ้มเป็นการตอบแทน และไม่เอาข้าวที่แสนอร่อยของนายไปทิ้งอีก”

“เป็นคำอวยพรที่ฟังแล้วสดชื่นหัวใจยิ่งนักเพื่อนรัก แล้วเจอกันเอ๋ ขอตัวก่อน”

ไอ้เจ้าเดินอย่างรีบเร่งจากไปแล้ว ระยะทางจากคณะเกษตรฯ ไปคณะทันตะฯ นั้นหากให้บอกถึงความห่างก็เอาเป็นว่าหากไม่มียานพาหนะก็ลำบากพอดู แต่นี่ไม่ใช่อุปสรรคของไอ้เจ้า มันวิ่งของมันอยู่แทบทุกวัน เหงื่อท่วมตัวทุกครั้งที่ไปถึงกลับไม่เคยย่อท้อ หวังแค่ว่าพี่ธราจะได้กินข้าวที่มันซื้อให้เป็นมื้อเที่ยงก็แค่นั้น





OMG: อยู่ไหนครับ

D. : ออกมากินข้าว

OMG: ผมซื้อข้าวมาให้

D. : ทิ้งไปสิ กูออกมากินข้าวแล้ว

OMG: อยู่ไหน

D. : กูกำลังกิน

OMG: อยู่ไหน

D. : ไอ้สัด มึงจะอะไรกับกูนักหนา

OMG: ผมจะถามอีกที อยู่ไหน

D. : โรงอาหารกลาง

OMG: ไปกินไกล

D. : นัดคนไว้

OMG: ดาวเภสัชฯ เหรอ

D. : เออ

OMG: ผมกำลังไปหา

D. : ไม่ต้อง!

OMG: ผมกำลังไป

D. : กูบอกว่าอย่ามา!

OMG: ห้ามผมได้เหรอ

OMG: งั้นผมให้เลือก จะเจอผมตอนนี้หรือคืนนี้ที่ห้องคุณ

D. : กูไม่เลือก!

OMG: ห้องคุณดีกว่านะ

D. : ไอ้เวรเอ้ย!

OMG: ผมจะรอที่ห้อง รีบกลับด้วยนะครับ ทุ่มครึ่งผมต้องเห็นคุณ

D. : มากไปแล้วนะ

OMG: ธรา ผมจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว

D. : เออๆ แล้วแต่มึงละกัน

OMG: ดีครับ

D. : เกลียดว่ะ ไอ้เหี้ยเอ้ย กูเกลียดมึงชิบหาย!

OMG: แต่ผมรักคุณครับที่รัก รีบกลับนะ ผมรอ





ความรักอาจเป็นเรื่องของโชคชะตาไม่ใช่เรื่องของความพยายาม แต่การได้พยายามก็ยังทำให้ได้พูดคุย ได้เห็นหน้า แม้น้อยครั้งที่จะได้เห็นรอยยิ้ม ทว่ามันก็ดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย


........................TBC........................

เปิดเรื่องใหม่ ฝากด้วยนะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-10-2018 20:45:25
 :mc4: :mc4: :mc4: ตอนแรกเราก็กลัวเจ้าแล้วอะ หวังว่าธาราจะไม่เป็นบ้าไปเสียก่อนนะ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 21-10-2018 21:04:07
เจ้าน่าสนใจอยากรู้เรื่องเจ้าเยอะๆ มาอัพบ่อยๆนะคะรอค่า  :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 21-10-2018 21:46:45
เป็นกำลังใจให้เจ้า :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-10-2018 21:47:50
เราต้องมีสติในการอ่าน อย่าหวั่นไหวในความรักอันบ้าคลั่งของเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 21-10-2018 22:10:04
เจ้านี่เป็นตัวละครที่หน้าค้าหามากจริมๆ น่าติดตามครับ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 21-10-2018 22:42:28
จะ..จะ..จะ..เจ้า ไม่รู้จะรู้สึกกับนายยังไงดี
วิธีการตื๊อของนายน่ากลัวเกิน  :a5:
แต่ก็กลัวดินจะหมดความอดทนจริงๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-10-2018 22:52:22
เจ้าน่าสนใจอยากรู้เรื่องเจ้าเยอะๆ มาอัพบ่อยๆนะคะรอค่า  :a1: :a1:

ใช่เลย..........
อยากเผือกเรื่องเจ้า.....
เป็นกำลังใจให้เจ้า........  :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 22-10-2018 00:52:33
กว่าจะอ่านจบเราจะไม่บ้าตามเจ้าใช่มั้ยคะแต่ชอบมากกกกค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-10-2018 01:47:20
ไม่ใช่ว่าคุณ D จะโดนฝังไมโครชิฟไปเรียบร้อยแล้วหรือไม่ คุณเจ้าถึงได้รู้ไปหมดดดดดดด  o18
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-10-2018 02:37:55
อยากเผือกเรื่องของเจ้ามาก ทำไมรู้เรื่องธราดี ทำไมรวย 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 22-10-2018 03:08:21
เจ้าใจเย็นก่อน555555555555 สงสารธราเลยอะั
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 22-10-2018 05:32:50
สงสารพี่ธรา เจ้าตื้อได้โหดมาก น่าสนใจมาก นี่คืดว่าเจ้าเป็นลูดเจ้าของคอนโด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 22-10-2018 13:03:05
ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก คือสโลแกน​ของเรื่องนี้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-10-2018 16:19:29
เจออย่างนี้เป็นเราเราก็กลัว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 1 OMG ​P. 1 21/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 22-10-2018 16:43:49
ขำเพื่อนเจ้ากับเพื่อนเอ๋คุยกัน
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-10-2018 17:58:08
ตอนที่ 2 เจ้าไม่ใช่พระเจ้า





“คุณมาช้าที่รัก”

คนถูกทักขมวดคิ้วมุ่น พอปิดประตูห้องแล้วก็เจอตัวปัญหานั่งอยู่บนพื้น พิงหลังกับผนังอยู่ข้างประตู มันอยู่ในห้องมืดๆ ไม่เปิดไฟ ทำเอาธราสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกทัก

“ครึ่งชั่วโมง ผมนั่งรออยู่บนพื้นแข็งๆ หนาวเย็นจนเจ็บก้น รอแล้วรอเล่าแต่คุณก็ยังไม่มา” มันพร่ำพูด “บอกผมสิที่รัก ดาวเภสัชฯ ทำให้คุณเกเรกับผมเหรอ”

“กูเรียนไหมล่ะ” ธราตอบเสียงห้วน ปาเอกสารการเรียนที่ถูกม้วนเป็นทรงกระบอกใส่หน้าของคนชอบยุ่ง “อย่ามาชวนทะเลาะ เหนื่อย ไม่มีแรงจะเถียง”

“ครับ” มันรับคำสั้นๆ หยิบเอาเอกสารการเรียนที่กระทบหน้ามันแล้วตกลงพื้นไปเก็บเข้าที่ให้อย่างเรียบร้อย

OMG รู้ทุกซอกทุกมุมในห้องของธรา แน่ใจว่ามันคงเคยเข้ามาสำรวจหลายครั้งตอนที่เขาไม่อยู่ แต่เพราะไม่มีของหาย สมบัติทุกชิ้นยังอยู่ครบจึงขี้เกียจจะแจ้งความจับมัน เพราะแจ้งไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ทำอะไรมันไม่ได้ ไม่รู้ว่าเส้นมันใหญ่ขนาดไหน คนโรคจิตแบบมันถึงไม่ถูกจับไปสักที

ธราทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายและใจ นอกจากจะต้องเรียนเป็นบ้าเป็นหลังแล้วก็ต้องมาหาวิธีรับมือกับไอ้บ้าโรคจิตที่คอยตามเป็นเงาตามตัว แผ่นหลังกว้างเอนไปด้านหลัง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมือผอมๆ ของมันสัมผัสเข้าที่ขมับทั้งสองข้าง

“อยู่เฉยๆ” มันบอกเสียงเรียบ “รู้ว่าเหนื่อย จะนวดให้”

วันนี้มันมาแปลก มันนิ่งมากกว่าทุกวัน ราวกับลมที่สงบก่อนพายุจะโหมกระหน่ำ

“เป็นอะไร” ไม่ได้ตั้งใจถามแต่ก็เผลอตั้งคำถาม

“เป็นเมีย”

“กูไม่น่าถาม”

“หึ เป็นห่วงเหรอ”

“ใครจะห่วงคนอย่างมึง”

มันเงียบ ไม่ต่อล้อต่อเถียง แต่น้ำหนักมือที่นวดให้ยังคงเดิม ธราไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้ เขารู้สึกอึดอัดและทำตัวไม่ถูก

“มีไรก็พูดดิ มึงเงียบแล้วกูกลัว”

มันพยักหน้าก่อนจะเรียก “ดินครับ”

“ว่า”

“จริงจังเหรอกับดาวเภสัชฯ”

ธราเลิกคิ้ว รู้สึกแปลกใจกับคำถาม เพราะมันไม่เคยถามอะไรทำนองนี้ ปกติแล้วจะชอบทำตัวเป็นหมาบ้าเมื่อรู้ว่าเขาควงหรือคบกับใคร ขนาดเป็นแค่คนคุยมันยังบังคับให้เลิกคุย แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนครั้งก่อนๆ

“เออ” ตอบเสียงห้วน จงใจให้น้ำเสียงกระแทกเข้ากะโหลกหนาๆ ของมัน ที่ผ่านๆ มาไม่ว่าจะพูดจะบอกอะไรมันก็จะทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่รับรู้ ยิ่งบอกว่าเกลียดมันก็ยิ่งยิ้ม แต่...นั่นสิ มีแต่อีกแล้ว ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน

“คบก็ได้นะ ครั้งนี้ไม่ห้าม”

ผีเข้ามันแน่ๆ

“อะไรของมึง กูจะคบไม่คบก็ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องมายุ่ง บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าก้าวก่าย”

น้ำเสียงห้วนแสดงความไม่พอใจ คนนวดขมับหยุดชะงักมือก่อนจะโน้มหน้าลง วางคางเกยไหล่กว้างแล้วยกมือขึ้นกอดรอบคอหนาอย่างถือวิสาสะ ธราชะงักค้าง รู้จักมันมาปีกว่าเกือบสองปี เห็นมันเปลือยท้าลมก็เห็นมาแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันเข้าใกล้เขามากขนาดนี้

“ผมเหนื่อยที่รัก” มันกระซิบเสียงแผ่วแต่สามารถจับความเครือในน้ำเสียงได้ “เพื่อนผมบอกว่าหล่อนเหมาะสมกับคุณ หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี เรียบร้อย ผมอยากให้คุณคบกับคนดีๆ คุณต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่พอเป็นอย่างนี้ผมไปไม่เป็นเลย ผมเจ็บ ผมหวงคุณ หล่อนไม่เหมือนที่ผ่านๆ มาใช่ไหม”

“อืม” จะว่าเหมือนก็เหมือน จะว่าไม่เหมือนก็ไม่เหมือน ธราเข้าไปจีบหล่อนเองเพราะพูดคุยกันถูกคอตั้งแต่ออกค่ายอาสาด้วยกัน หล่อนก็คุยง่าย น่ารัก แต่จัดอยู่ในไทป์ทั่วไป ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าคนอื่น

“ผมว่าผมต้องกลับไปตั้งหลัก เราคงจะไม่ได้เจอกันสักพัก”

มันจะหายไปอีกแล้ว...

ธราขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดใจ “ก็แค่ควงไหมล่ะ”

“เดี๋ยวคุณก็ชอบหล่อน หล่อนเหมาะสมจะเป็นแม่ของลูกคุณ”

“กูไม่คิดไกลขนาดนั้น”

“แต่ผมคิด”

“เรื่องของมึง”

“เรื่องของเราครับ”

คนหน้ามึนกระชับอ้อมแขน ขยับใบหน้าเข้าชิดกับซอกคอหอมกรุ่น ธราเอียงคอเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าทำไมไม่ผลักไสไอ้ตัวหน้ามึนให้ออกห่าง แต่เพราะมันแปลกไปก็เลยไม่รู้ว่าถ้าผลักมันออกในครั้งนี้...ครั้งหน้าจะได้เห็นหน้ามึนๆ ของมันอีกไหม

แค่คิด...ก็ตกใจกับความคิดของตัวเองมากแล้ว ธราอาจจะกำลังบ้าตามมันไปติดๆ

“ที่รัก”

“กูไม่ใช่”

“ที่รักครับ”

“ก็บอกว่า...”

“ที่รัก”

“เออๆ ว่าไง”

“ผมชื่อเจ้า”

ธราหันไปมองคนพูดในทันทีทำให้ริมฝีปากของเขาแนบสนิทกับริมฝีปากของมันเข้าเต็มเปา ไม่ได้ตั้งใจ...แค่เพราะมันอยู่ใกล้ ใบหน้ามันแนบชิด ตอนที่หันไปมันก็หันมามองเขาพอดี

นุ่ม...

นั่นเป็นความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัว ก่อนความร้อนจะเริ่มลามเลียทั่วใบหน้า มันเอียงศีรษะ ทำใจกล้าแต่ก็หลับตาปี๋ ไม่พอแค่นั้นยังรีบร้อนจะส่งลิ้นเข้ามาดุนดัน แต่ธรารีบผลักมันออก เห็นหน้าแดงๆ ของมันในระยะประชิดแล้วหัวใจจะวาย

ไม่ชินเลยสักนิด...

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” เขาสบถด่า “กูจะติดเชื้อบ้าจากมึงไหมวะ”

“ถ้าติดทางน้ำลาย คุณไม่รอดหรอกครับ”

“ปากดี”

“ลิ้นก็ดีด้วย”

มันยิ้มร่า ตั้งสติได้แล้วก็กลับมาบ้าบอตามเดิม ตอนนี้มันเดินอ้อมโซฟามานั่งข้างๆ ก่อนจะฉวยโอกาสดึงมือเขาไปกุมไว้

“ผมชื่อเจ้า”

เคยคิดว่ามันอาจจะชื่อโอ หรือเอ็ม หรือจี ตามชื่อไลน์ของมัน แต่ชื่อเจ้าก็ไม่ผิดกับตัวมันนัก เพราะนิสัยมันไม่ต่างจากชื่อเลย ไม่รู้ว่าตั้งเอาไว้ก่อนหรือตั้งตามนิสัยกันแน่

“บอกชื่อตัวเองทำไม”

“ผมต้องบอกเพราะคุณไม่ถามผมเลย คุณปล่อยเวลานานอย่างนี้ได้ยังไง อีกสองเดือนก็จะครบสองปีแล้ว อยากเรียกผมว่าที่รักไปจนตายเหรอ ไม่ได้นะครับ อย่างน้อยลูกของเราก็ต้องรู้ชื่อแม่ของเขา”

ธราเบ้ปากอย่างรับไม่ได้กับคำพูดของมัน ไม่ใช่ว่าไม่อยากรู้ แต่ไม่อยากถามต่างหาก มันเป็นแค่คนบ้า เป็นแค่คนโรคจิตที่มาตามติดเขา แล้วจะให้ทำยังไง เกิดแสดงความสนใจออกไปมันก็คงเข้าใจผิดแล้วไม่เลิกตาม แต่ก็เห็นแล้วว่าต่อให้แสดงออกว่าไม่สนใจ มันก็ยังหน้าทนตามเขาอยู่ดี

“กูไม่ได้อยากรู้ แล้วก็ไม่เคยเรียกมึงว่าที่รักด้วย”

“คุณเรียกในใจ”

“ชาตินี้กูจะเถียงมึงชนะไหม”

“เรื่องเถียงคุณอาจจะแพ้ แต่เรื่องหัวใจผมแพ้คุณ”

“โคตรเลี่ยน”

“เลี่ยนแล้วเมื่อไหร่จะเงี่ยน อิ๊”

“อิ๊ที่หน้ามึง เพื่อนเล่นหรือไง”

“ไม่ใช่ ดินเป็นผัวผมครับ”

“ไอ้สัด! กลับห้องมึงไป!” รู้ว่าไล่ยังไงมันก็ไม่ไป แต่ก็ยังไล่ทุกครั้ง “แล้วก็ปล่อยมือกูได้แล้ว”

“ผมไม่ได้จับแน่น ถ้าดึงออกไปก็หลุด” มันย้อน ยักคิ้วพลางอมยิ้ม “ผมไม่ปล่อยหรือคุณเองที่อยากกุมมือผมไว้”

“ไอ้เจ้า!”

“ครับ...เจ้าครับ เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเจ้าที่อยากเป็นทุกอย่างให้คุณ เรียกผมว่าเจ้าชีวิตก็ได้ครับ”

คำพูดคำจาของมันทำเอาธราไม่กล้ามองตามันตรงๆ คนอะไรจะหน้าเหมือนแมวแล้วยิ้มทั้งปากทั้งตาได้ขนาดนี้กัน “มึงบ้าอีกนิดก็จะเป็นเจ้าชีวิตกูจริงๆ แล้วไอ้ห่า เวรกรรมสุดๆ ที่ต้องมาเจอคนอย่างมึงเนี่ย”

“ผมเรียกมันว่าเดสตินี่”

“กระแดะภาษาอังกฤษ”

“เพราะมีคนแบบคุณไง คนไทยถึงไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ”

“กูต้องขอโทษใช่ไหม”

“ทำสิครับ กราบที่ตักผมนะ มาครับ ทำหน้าที่ผัวที่ดี กราบเมียก่อนนอน”

“กูไม่อยากมีเมียแบบมึง!”

“แล้วแบบไหนถึงจะได้เป็น”

“แบบดาวเภสัชฯ”

รู้เลยว่าพูดเรื่องนี้ต้องเห็นหน้าหงอยๆ ของมัน แล้วก็จริงตามนั้น มันปล่อยมือธราดื้อๆ ริมฝีปากบางก็เม้มแน่น ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

เดี๋ยวนะ...

อะไรของมันวะ

เสียงประตูที่ปิดลงเรียกสติของธราให้กลับคืน เขายังคงอยู่ในท่าเดิม มือก็ยังวางอยู่ที่เดิม ความอุ่นร้อนจากฝ่ามือของมันก็ยังไม่จางหาย แต่ไอ้เจ้าโรคจิตเดินออกไปแล้ว ออกไปอย่างเงียบๆ งงๆ

แต่เดี๋ยวมันก็คงกลับมา...เพราะกระเป๋าตังค์ของมันตกอยู่บนโซฟาข้างๆ ธรา

กระเป๋าตังค์ที่ไม่ได้ดูมีราคา เป็นกระเป๋าหนังเก่าๆ สีซีดจาง มีรอยขาดเล็กน้อยกับรอยเย็บบางแห่ง บ่งบอกว่าผ่านการซ่อมแซมมานับครั้งไม่ถ้วนจนไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเป็นกระเป๋าตังค์ของเจ้าของห้องที่อยู่ถัดไป ความซอมซ่อนี้นำพาให้มันมาอยู่ห้องข้างเขาได้อย่างไร ตัวตนของมันมีแต่เรื่องประหลาดใจให้ขบคิด

ในกระเป๋านั้นไม่มีอะไรสำคัญเลย บัตรประจำตัวประชาชนก็ไม่มีให้เห็น เครดิตการ์ดหรือบัตรสำคัญอื่นๆ ก็ไม่มีซุกซ่อนไว้ ในนั้นมีเพียงธนบัตรใบละยี่สิบอยู่ห้าใบ บัตรลดราคาซื้อของในห้างสรรพสินค้า แสตมป์เซเว่นที่มันเก็บสะสมไว้ ไม่นับรวมใบเสร็จจากร้านค้าที่มันไม่ยอมทิ้ง ทั้งหมดยัดอยู่ในกระเป๋าจนเหมือนขยะ แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เขาสะดุดตาหลังจากค้นกระเป๋าของมันทุกซอกทุกมุม การ์ดอวยพรปีใหม่ขนาดเล็กในซองสีขาวที่จ่าหน้าด้วยลายมือเรียบร้อยน่ารักถูกเก็บไว้ในช่องซิปด้านใน





ถึง...เจ้า จักรพรรดิ





สวัสดีปีใหม่นะเจ้า ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีอีกปี อ้อ...ปีต่อๆ ไปด้วย ขอบอกรวบยอดเลย กลัวว่าปีหน้าจะไม่ได้เขียนให้อีก

เจ้า ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่บันดาลให้ ไม่ว่าผมต้องการอะไรเจ้าก็หามาให้ได้เสมอ แต่ยกเว้นไว้แค่อย่างเดียวเนอะที่เจ้าเอามาให้ผมไม่ได้ ผมไม่โกรธนะ ไม่เคยโกรธเจ้าเลย เพราะฉะนั้นมีความสุขมากๆ นะเจ้า เจ้าเป็นพระเจ้าของผม เป็นเจ้าชีวิตของผม เจ้าเป็นของผมคนเดียว ผมยังยืนยันคำเดิม ผมรักเจ้า รักมากกว่าชีวิตที่ไม่มีค่าของผม





ธราไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังอ่านการ์ดอวยพรปีใหม่หรือจดหมายรัก ที่แน่ๆ คือคนเขียนการ์ดรักไอ้เจ้าโรคจิต ไม่เคยคิดว่าคนอย่างมันจะมีใครมาหลงชอบ แปลกก็เท่านั้น ประหลาดก็เท่านั้น

พระเจ้าเหรอ...หึ! ไอ้เจ้ามันซาตานชัดๆ

แกร๊ก!

เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาทำเอาธราสะดุ้งสุดตัว จะเก็บการ์ดอวยพรปีใหม่ก็ไม่ทัน กระเป๋าตังค์เก่าๆ ที่อยู่ในมือก็ขว้างทิ้งไม่ทันแล้ว

“ทำอะไร” มันถามหน้านิ่ง มองของในมือคู่สนทนาด้วยดวงตาวาววับ “ไม่มีมารยาท”

“อะไรนะ! " ธราถามเสียงดังลั่น "คนโรคจิตอย่างมึงที่ถือวิสาสะเข้าห้องคนอื่นอย่างกับเป็นห้องตัวเองนี่กล้าว่าคนอื่นว่าไม่มีมารยาทเหรอวะ!”

“คนละเรื่อง” มันว่า ก้าวเท้าเข้ามาใกล้แล้วฉวยเอากระเป๋าตังค์และการ์ดอวยพรปีใหม่ไป “คุณนี่มันจริงๆ เลยนะ เปิดอ่านแบบนี้ได้ยังไง”

“ทำไมกูจะอ่านไม่ได้ ของมึงตกในห้องกู กูก็แค่เปิดดูไหม ไม่ได้อยากเสือกหรืออยากรู้เรื่องของมึงเลย ใครจะไปอยากอ่านจดหมายรักเลี่ยนๆ ของมึงกับแฟนวะ”

มีแฟนอยู่แล้วแต่ยังมาทำตัวโรคจิตตามตื้อคนอื่น มึงต้องเป็นคนแบบไหนถึงทำได้ขนาดนี้!

“ไม่ใช่แฟน” มันว่าเสียงห้วน ตวัดตามอง "เพื่อน"

“เพื่อนห่าเหวอะไรเขียนให้กันแบบนั้น”

“เพื่อนผมนี่แหละไอ้สัด” มันดูโกรธจริงจังจนธราไม่กล้าพูดอะไรอีก “พรุ่งนี้หาข้าวกินเองด้วย ผมงดส่งข้าวส่งน้ำสามวัน”

ธราเผลอกำหมัดแน่น กับแค่การ์ดบ้าๆ นั่นถึงกับโมโหเขาขนาดนี้ ปากบอกว่าเพื่อน แต่ก็คงยกให้คนคนนั้นเป็นคนสำคัญ “กูเคยขอมึงหรือไง! มึงทำของมึงเองทั้งนั้น อีกอย่างมึงให้มากูก็ไม่เคยกิน กูเอาไปทิ้งมึงก็รู้ ไม่ต้องมาบอกให้กูหาข้าวกินเองหรอกเว้ย!”

เวลาที่ไอ้เจ้าทำหน้านิ่งแล้วธรารู้สึกไม่ชินเท่าไร มันยืนนิ่งมองเขา ใบหน้าฉาบไปด้วยความเย็นชา “จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม”

ธราไม่กล้าสบตามันตามตรง แค่สายตาที่มองมาของมันก็ทำให้รู้สึกเหมือนมันกำลังลงไม้ลงมือทุบตีเขา ฟาดฟันทิ่มแทงจนหัวใจรู้สึกวูบโหวงเหลือจะกล่าว

“ขอโทษผมมา สองคำสั้นๆ แล้วจะหายโกรธ”

“ทำไมกูต้องขอโทษ” ปากมันไวไปกว่าความคิด รู้อยู่เต็มอกว่าเสียมารยาทค้นกระเป๋าตังค์ของมัน แต่คนปากแข็งก็ยังดื้อรั้น

“ธรา อย่าให้ผมนับถึงสาม” แต่คนหน้านิ่งก็ยังทำเสียงดุ เวลาถูกมันเรียกด้วยชื่อจริงทีไร รู้สึกกลัวทุกที

“เออ” เสียงแข็งห้วนสั้นแต่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบเอ่ย “ขอโทษ”

“ดีครับ” มันเผยรอยยิ้ม

“กูไม่ได้เต็มใจ” ธราบอกเสียงห้วน

“แต่คุณก็พูดแล้ว ผมหายโกรธ” บทมันจะง่ายมันก็ง่ายจนน่าแปลกใจ แต่บทมันจะยากมันก็ยากจนน่าถีบ “ไปละ คุณมันน่าโมโห”

“ก็ไหนมึงบอกว่าหายโกรธแล้วไง!” ธราพูดโพล่ง หงุดหงิดไม่น้อยที่เห็นว่ามันยังหันหลังจะเดินออกจากห้อง “มาโมโหอะไรกูอีกวะ”

“ดาวเภสัชฯ” มันบอกย้ำ แววตาว่างเปล่ามองคู่สนทนา

“กูบอกว่าแค่ควง!” ธราตะคอกเสียงดัง หวังให้ไอ้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้าใจ

“เรื่องของคุณ” มันว่าอย่างเย็นชา มือวางบนที่จับประตูและกำลังจะเปิดออกไป

“ไอ้เจ้า!” เกลียดมัน...ธราเกลียดคนอย่างมันจริงๆ นะ

“คุณอย่ามาเอาแต่ใจกับผม คนอย่างคุณมันร้าย เห็นผมชอบเข้าหน่อยก็ไม่เห็นหัวกัน คาสโนว่าก็แค่ผู้ชายเจ้าชู้รู้ไว้ด้วยนะ”

“แล้วมึงจะเอายังไง” ธราถาม อยากกัดลิ้นตัวเองตายที่ถามมันออกไปแบบนั้น แต่ไอ้คนยียวนก็ยังคงกวนประสาท มันหลิ่วตา เดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้มแล้วตอบกวนๆ

“เอาบนเตียง ผมไม่ชอบพื้นมันแสบหลัง โซฟาก็ไม่ได้เดี๋ยวคุณโยกไม่ถนัด”

“ไอ้เวร!”

ไม่มีครั้งไหนที่คุยกับไอ้เจ้าแล้วจะไม่ถูกลากบทสนทนามาที่เรื่องใต้สะดือ ไอ้เจ้ามันหมกมุ่นอะไรนักหนา จูบเมื่อกี้ก็ท่าทางไม่ประสาแต่ดันใจกล้าอยากออนท็อปให้ธรา

“อย่าบังคับให้ผมเป็นเมียหลวงตามหึงหวงคุณ ผมไม่สนุก เพราะฉะนั้นจัดการด้วย ความหฤหรรษ์ของคุณต้องสิ้นสุดโดยเร็ว ก่อนที่ผมจะส่งเพื่อนหล่อเลวของผมไปจัดการหล่อน”

คำขู่ของไอ้เจ้าไม่รู้จะเชื่อได้แค่ไหน แต่คนบ้าอย่างมันคงทำได้แน่ๆ ธราไม่ติดใจเรื่องนี้ ติดใจก็แต่เรื่องเพื่อนของมัน “คนอย่างมึงมีเพื่อนเหรอวะ”

คนประเภทไหนกันที่คบกับคนโรคจิตอย่างมันได้ มันอยู่ในสังคมแบบไหน สังคมทั่วไปหรือในโรงพยาบาลบ้า

“มี ผมน่ะเพื่อนเยอะ”

“ไม่น่าเชื่อว่ามีคนคบมึงด้วย”

“มิตรภาพของพวกผมไม่ต้องการให้คนอย่างคุณมาเข้าใจ ความลึกซึ้งไม่เหมาะกับคนใจหยาบกระด้าง” มันด่าเสร็จก็ถามต่อ “แล้วจะเอายังไงกับดาวเภสัชฯ”

ธราพ่นลมหายใจ ไอ้เจ้าเมื่อหนึ่งปีก่อนคุยไม่รู้เรื่องอย่างไร วันนี้มันก็ยังเป็นอย่างนั้น คงเส้นคงวาดีจริงๆ “ไหนมึงบอกว่ามึงไม่ห้าม กูก็แค่ควงไปอย่างนั้น เขาก็คุยสนุกดี”

“ผมก็คุยสนุก”

“เอาแต่พูดทะลึ่งใส่กูสิไม่ว่า”

ไอ้เจ้าย่นจมูก สีหน้าของมันเหมือนแมวโดนแย่งปลาทูไปต่อหน้า ธราจึงเผลอหลุดยิ้มกับสีหน้าของมัน แต่เพียงชั่วครู่ก็กลบเกลื่อนเป็นความเรียบตึง

“สามวัน เดี๋ยวกูเลิก”

“ไม่”

“สอง”

“นานไป”

“กูยอมให้หน่อยมึงชักเอาใหญ่”

“อืม ทั้งชักทั้งเอา งานถนัดผม”

“เจ้า มึงจะหยุดทะลึ่งสักนาทีได้ไหม”

“เค”

ธราถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เถียงกับมันไม่เคยชนะไม่พอ ยังต้องมาเหนื่อยเหมือนเพิ่งใช้รอยหยักในสมองหมดไปหมาดๆ

“ทำไมครั้งนี้มึงดิ้นรุนแรง” สงสัยก็แค่ถาม ไม่ได้อยากใส่ใจมันเท่าไร “สิบคนแล้วไหม ทำไมยังไม่ชิน”

“ผมไม่ชอบเลขสิบ หนึ่งกับศูนย์อยู่ใกล้กัน เอามาบวกลบคูณหารยังไงก็ไม่ได้เลขคู่ ผมเกลียด”

“ประสาท” ไม่คิดอยู่แล้วว่าจะเข้าใจตรรกะประหลาดๆ ของมัน แต่พอได้ฟังกลับนึกเอ็นดู

“หล่อนเหมาะสมกับคุณนะดิน มองยังไงผมก็แพ้ หัวใจผมอ่อนแอจนแทบล้มตอนเพื่อนมันบอกว่าคุณกำลังจะไปได้ดี แม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ คนนั้นทำเอาผมจุกอก นมหล่อนใหญ่เกินไป”

ธราหลุดหัวเราะ รู้อยู่แล้วว่าไอ้เจ้าเป็นคนบ้าและโรคจิต แต่ไม่คิดว่ามันจะบ้าจนกู่ไม่กลับขนาดนี้ “มึงแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันสู้ เพราะมึงไม่มีนม”

“แล้วยังไง ผมแพ้แต่ผมก็ยังได้อยู่ข้างคุณนะ ส่วนคนชนะก็แค่ชนะชั่วคราว พวกหล่อนชนะแล้วก็เลือนหายไป ผลัดเปลี่ยนคนชนะไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครอยู่กับคุณได้นานเท่าผม ผมเป็นคนขี้แพ้ที่อยู่ข้างคุณได้ ถ้าเราคบกันผมคงท้องลูกของคุณไปแล้ว" มันว่าพลางคลี่ยิ้มกว้าง "ตั้งชื่อลูกหน่อยสิครับที่รัก เอาชื่ออะไรดี ผมจะคลอดในอีกสองเดือนข้างหน้า วันครบรอบสองปีของเรา”

จริงสินะ...นี่ก็เกือบสองปีแล้วที่รู้จักคนโรคจิตอย่างไอ้เจ้า แม้จะเพิ่งรู้ชื่อมันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ไม่อยากรู้จักก็ต้องรู้จักเพราะไอ้เจ้ามันถนัดยัดเยียด แจ้งตำรวจจับมันไปหลายครั้ง ต่อยตีกับมันก็หลายหนแม้จะเป็นเขาคนเดียวที่ลงไม้ลงมือ แต่มันก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ยังคงเดินตามต้อยๆ ส่งข้าวส่งน้ำให้ อยากกินอะไร แค่เอ่ยปากมันก็แจ้นหามาประเคน อยากได้อะไรไม่ว่าจะแพงแค่ไหน แค่เห็นประวัติการเสิร์จในอินเตอร์เน็ตของเขามันก็รีบหามาให้สมใจปรารถนา

บันดาลทุกสิ่งเหรอ...คงเคยมีคนได้รับอย่างเขา และคนคนนั้นก็คงเป็นเจ้าของการ์ดอวยพรปีใหม่

เจ้า...ที่ไม่ใช่พระเจ้า แล้วเจ้าเป็นอะไร สำหรับคนนั้นของมันคงเป็นพระเจ้าใช่ไหม แล้วสำหรับธรา...อ่า ไม่ควรคิด คนอย่างไอ้เจ้าโรคจิตไม่ควรไปคิดหวั่นไหวกับมัน!

“ชื่ออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ชื่อเจ้า กูเกลียดคนชื่อเจ้า” วันนี้ไม่รู้ว่าพูดคำว่าเกลียดมันไปกี่ครั้งแล้ว แต่มันเคยขอว่าอย่าพูดเกินสิบครั้ง ไอ้เจ้ามันนับ ไม่รู้ว่ามันจะนับไปทำไมทั้งๆ ที่เขาก็เกลียดมันอยู่ทุกลมหายใจ แล้วพอพูดเกินก็โกรธเขา หายหน้าหายตาไป ไลน์ก็ไม่อ่าน ข้าวน้ำก็ไม่ส่ง สุดท้ายก็ต้องทำตามที่มันขอคือพูดได้แต่ห้ามเกินสิบครั้ง

มันเอาแต่ใจ...ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์เลย

“หึ คุณนี่มันเหมาะจะเป็นผัวผมจริงๆ คุณทำผมยิ้ม รักนะครับที่รัก”

“กูเพิ่งบอกว่าเกลียด”

“เจ็ดครั้งแล้วน้า”

ธราขมวดคิ้วอย่างว้าวุ่นใจ “เหนื่อยกับคนอย่างมึง กลับห้องมึงไปเถอะ กูจะพักผ่อน”

“เค”

“อ้าว ยอมง่ายจังวะ”

“งั้นผมจะอยู่”

“เดี๋ยวๆ กูล้อเล่น มึงไปไหนก็ไป”

“เอาแต่ใจว่ะ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เอาแต่คุณ”

“ไอ้ชิบหาย! กูว่าจะไม่ขึ้นแล้วเชียว!”

ไอ้เจ้ากระโดดหลบหมอนอิงเป็นพัลวัน มันหลบซ้ายหลบขวาแต่ใบสุดท้ายหลบยากเพราะธราถือมาฟาดหัวไอ้เจ้าเองกับมือ

“โอ๊ยๆ ผมเจ็บครับดิน เจ้าเจ็บแล้วครับที่รัก กระแทกแรงแบบนี้เก็บไว้กระแทกบนเตียงดีกว่าน้า” มันส่งเสียงอ้อน พลางยกมือขึ้นกันหมอนที่กำลังฟาดใส่ศีรษะ แต่ถ้อยคำของมันช่างยียวนกวนประสาทจนคนตีไม่อาจหยุดมือได้

ธราหอบหายใจเล็กน้อย มองไอ้คนออดอ้อนที่ร้องโอดโอยแต่ริมฝีปากยิ้มกริ่ม อืม...มึงมันโรคจิตจริงๆ

หมับ!

สองแขนของไอ้เจ้ากอดรอบเอวหนาของธรา เกาะแน่นเป็นตุ๊กแก ผลักไสอย่างไรก็ไม่หลุด “เจ้า ปล่อยกู”

“อยากลองกอดดินดูสักครั้ง”

“…”

“ตัวอุ่นจัง” ไอ้เจ้าซุกซบใบหน้าลงที่ซอกคอขาว ริมฝีปากของมันคลอเคลียผิวเนียน ดุนดันลิ้นเล็กน้อยแต่ไม่ลงแรงเพราะไม่อยากให้เกิดรอย “ผมชอบดินมากนะครับ”

“อืม รู้”

“วันนี้ได้กำไรละ อิ๊”

“ไอ้ประสาท มึงไปเลย!”

“ไล่อยู่ได้” มันยู่หน้า ทำท่างอน แต่ก็เพียงไม่กี่วินาที สุดท้ายก็กลับมาทำตาเชื่อมใส่ธรา “ครบรอบสองปีอยากได้อะไรครับ”

ไอ้เจ้าเป็นคนใส่ใจ มันใส่ใจกับทุกโมเม้นในชีวิตของธรา วันสำคัญในปฏิทินมันไม่เคยพลาด สงกรานต์ วาเลนไทน์ หรือแม้กระทั่งวันสำคัญทางศาสนา มันจะมีของพิเศษมาให้ วันเกิดของธรามันก็เล่นใหญ่จนธราทำหน้าไม่ถูก ถึงแม้มันจะโรคจิตแต่มันก็โรแมนติกพอควรหรือจะพูดตรงตามที่ใจคิดก็คือมันเป็นคนที่โรแมนติกมากๆ มันจำทุกช่วงเวลาที่สำคัญของธราได้ ไม่รู้ว่าไปสืบหามาได้อย่างไร เรื่องนี้ธราเลิกสงสัยไปนานแล้ว เพราะไอ้เจ้าก็คือไอ้เจ้า มันรู้ทุกอย่างที่มันอยากรู้นั่นแหละ

“ที่กูอยากได้ก็แค่ให้มึงหายไปจากชีวิตกูก็พอ”

ไอ้เจ้างับเข้าที่ไหล่หนา ทำเอาเจ้าของไหล่นิ่วหน้า ตบศีรษะมันไปฉาดใหญ่ แต่ไอ้เจ้าก็ไม่โวยวาย มันกอดร่างหนาแน่นและยังคงยิ้ม “ครบรอบหนึ่งปีก็พูดแบบนี้ แล้วผมหายไปไหมล่ะ”

“ไม่ มึงยังหน้าด้านอยู่ หน้าทน หน้ามึน สารพัดความหนาบนหน้าจนกูไม่รู้จะด่ายังไง”

“งั้นถ้ารู้ว่าผมให้ไม่ได้ก็อย่าขอ จำ!”

ธราได้แต่เหนื่อยใจกับมัน ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าพิสวาทอะไรในตัวของเขานักหนา เรื่องนี้แม้แต่คนถูกพิสวาทก็ยังไม่รู้ ความรักของไอ้เจ้าที่มีต่อธรานั้นช่างรุนแรงเหลือเกิน บางครั้งก็แทบรับมือมันไม่ไหว เวลาปกติมันก็ดีใจหาย แต่พอโดนเหยียบหางก็กลายเป็นหมาบ้าได้ง่ายๆ “มึงไปหาหมอบ้างนะ อาการของมึงชักแย่เต็มทีละ”

“ก็มาหาหมอนี่ไง ผมอยากโดนฟัน ผมอยากโดนฟัน”

“ไอ้สัด กูบอกกี่ทีแล้วว่ากูไม่เอามึง!”

“มาเป็นผัวผมซะดีๆ อย่าเล่นตัวเลยที่รัก”

“เกลียดมึ้ง!”

“ง้าาา บอกรักผมอีกแล้ว เขิน”

“กูบอกว่าเกลียด”

“ปากคุณมันไม่ตรงกับใจ แต่เห็นว่านิ่มดีหรอกนะก็เลยให้อภัย อิ๊”

“เจ้า กูไหว้ล่ะ มึงเป็นคนปกติเพื่อกูหน่อยนะ”

ไอ้เจ้าหน้าหงอย ส่วนธราได้แต่ทำหน้าเมื่อย รู้แน่ว่าอีกไม่นานไอ้เจ้าจะต้องเล่นดราม่าใหญ่โต “คุณรับไม่ได้เหรอที่ผมเป็นชายพิการ แต่ที่ผมพิการมันก็เพราะคุณนะ หัวใจของผมมันไปอยู่ที่คุณแล้ว”

“งั้นก็เอาคืนไปสิวะ”

“ไม่ครับ ผมจะเอาคืนมาทำไม ถ้าเป็นคนปกติแล้วจะไม่มีคุณ”

“ต้องซึ้งไหม หรือซีนนี้กูต้องร้องไห้”

“ร้องครางชื่อผมก็พอ”

“ไอ้เจ้า!”

“โอ๊ยๆ ๆ ๆ เมียเจ็บแล้ว เมียเจ็บบบ”

“ตายๆ ไปเถอะมึง”

ตัวไอ้เจ้าผอมบางแต่ก็ชอบทำซ่า หน้าตามันก็ไม่ได้ขี้เหร่ ถ้าไม่ติดว่านิสัยของมันเกินเยียวยา ธราก็อาจจะสนใจมันอยู่บ้าง แต่เพราะมันเป็นแบบนี้ เป็นไอ้โรคจิตที่คอยสร้างความวุ่นวายให้ ประสาทจะกินก็เพราะมัน จะเป็นบ้าก็เพราะมัน แล้วตอนนี้ก็ต้องมาติดแหง็กอยู่กับมันเพราะทำอะไรมันไม่ได้

เป็นอย่างนี้จะให้รักลงได้ยังไงวะ!

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-10-2018 17:58:35



“นายเจ้าเพื่อนรัก ผมว่านายอาจจะต้องเลิกล้มแผนการขยี้ดาวเภสัชฯ” ไอ้เอ๋บอกกล่าวข่าวร้ายกับเพื่อนที่กำลังทำหน้าเหมือนเมากัญชา แววตาเลื่อนลอยของมันดูน่าเวทนายิ่งกว่าไอ้แป๊ดหมาประจำตึกสัตวบาล “หล่อนไม่ใช่ขี้ๆ”

“ทำไมนายถอดใจนายเอ๋ ความหล่อของนายจะให้มันเฉาตายอยู่บนคานหรือไง สู้หน่อยเพื่อนเวร” ไอ้เจ้าละทิ้งโลกแห่งมโนภาพแล้วหันกลับมามองหน้าเพื่อนในโลกแห่งความเป็นจริง

“ผมยอมรับว่าผมหมดทางสู้” ไอ้เอ๋หน้าเหี่ยว “ผมใจกล้าหน้าด้านไปขอเบอร์หล่อน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำด่าทอต่อว่าทางสายตา หล่อนมองว่าผมส่ำส่อน มากรัก เจ้าชู้ คาสโนว่า! หล่อเลว!”

“นายคิดมากเอ๋ หล่อนเรียบร้อยน่ารัก สายตาของหล่อนยิ่งกว่าลูกกวางน้อย ไม่มีทางมองนายอย่างหยาบคายแน่ นายกำลังเข้าใจผิด”

ไอ้เอ๋เบ้ปากไม่เห็นด้วย “แต่คนน่ารักมักใจร้าย”

“งั้นเล่าโดยละเอียด ผมจะวิเคราะห์สถานการณ์ให้แล้วเราจะปรับปรุงแผนการกันต่อไป”

ไอ้เอ๋สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะผ่อนปรนออกมา “วันนี้ผมเริ่มแผนการของเราอย่างแยบยล ผมขับขี่จักรยานคันหรูของผมไปที่คณะเภสัชฯ เช็กทรงผมว่าหล่อเท่บาดใจสาวแล้วผมก็จอดไบค์ของผมไว้ที่ป้อมยาม ขณะกำลังคิดว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปดีนั้น รถออร์ดี้สีดำโทรมๆ ของธราก็พาหล่อนมาส่งที่หน้าคณะ ทุกคนเหลียวมอง ส่วนผมแทบกรี๊ด”

“หึ ธราหล่อโดนใจนายเข้าแล้วล่ะสิ”

“เปล่า งูตัวเล็กกำลังเลื้อยพันล้อจักรยานของผม! ผมรีบหาไม้แล้วไล่ตีงู กว่าจะตีงูเสร็จหล่อนก็เดินเข้าตึกคณะไปแล้ว ส่วนธราก็ยืนคุยกระหนุงกระหนิงกับสาวอื่นต่อที่หน้าคณะนั่นแหละ”

“ไอ้เหี้ยเอ๋”

“ใจเย็นก่อนนายเจ้า” ไอ้เอ๋รีบเบรกเมื่อเห็นมือของไอ้เจ้ากำรอบอยู่ที่แก้วน้ำ เตรียมสาดเทเล่นสงกรานต์ “นายรู้ ผมรู้ว่าแผนการนี้สำคัญต่อหัวใจของเพื่อนรักอย่างนาย เพราะฉะนั้นผมจึงเฝ้ารอหล่อนอย่างใจจดจ่อ”

“ขอบใจที่ทำเพื่อผมจนต้องยอมโดดเรียนวิชาเสรี แต่นายปล่อยผมนั่งหง่าวอยู่ในห้องเรียนคนเดียว ทำไมไม่ชวนผมไปด้วย ผมล่ะอยากเห็นนักว่านมคัพไหนที่ดึงดูดใจธราได้ กี่ซีซี!”

“พอก่อนเพื่อนรัก ฟังผม ผมต้องการทำงานนี้เพียงลำพัง” ไอ้เอ๋ตอบเสียงขรึม “ผมขอเล่าต่อ ผมนั่งรอหล่อนอยู่ใต้ตึกคณะ ผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าจนเที่ยงตรงหล่อนก็โผล่หน้าน่ารักมาให้เห็น ผมไม่รอช้า รีบเข้าประชิดทันท่วงที”

“ซีนนี้ต้องเป็นซีนแห่งประวัติศาสตร์ในชีวิตของนาย นายทำดีแล้วเอ๋”

“ผมก็คิดอย่างนั้น แต่ทุกแผนการมีความผิดพลาดเสมอ ตอนที่ผมวิ่งไปหาหล่อน ผมล้มไม่เป็นท่า ผมรีบเก็บคองอเข่า ภาวนาให้หน้าไม่ไถไปกับพื้นซีเมนต์ ในใจร้องตะโกนสัดเอ้ยไปตลอดวินาทีที่ไถกับพื้น”

“ผมควรจะด่านายว่ายังไงเอ๋ ขอความเห็นหน่อยไอ้เวร”

“อย่าด่าผม!” ไอ้เอ๋รีบออกตัว ขยับออกห่างวิถีน้ำหวานมหาประลัยในมือไอ้เจ้า “นอกแผนการไปบ้างในบางที แต่สุดท้ายผมก็ได้คุยกับหล่อน หล่อนเข้ามาช่วยผมด้วยหน้าตาน่ารักที่กำลังตกใจ ดวงตาที่ว่าโตอยู่แล้วแทบถลนออกมาจากเบ้าเมื่อเห็นว่าผมเจ็บ แล้วนั่นแหละจังหวะเหมาะ ผมบอกหล่อนว่าก่อนผมจะตายผมต้องได้หล่อนสักครั้ง”

“ไอ้สัด!” ไอ้เจ้าร้องตะโกน วาดมือไปตบหัวเพื่อนรักเน้นๆ “ผมไม่แปลกใจว่าทำไมหล่อนมองว่านายส่ำส่อน!”

ไอ้เอ๋หน้าหดเหลือสองนิ้ว “ขอโทษได้ไหมล่ะ นายควรเห็นใจผม ผมเกือบโดนเพื่อนของหล่อนกระทืบ ธราที่มารับหล่อนไปกินข้าวเที่ยงก็ทำท่าจะเข้ามากระทืบผมด้วยอีกคน ผมก็เลยรีบใส่เกียร์หมา คว้าไบค์ของผมแล้วปั่นออกมาอย่างรีบร้อน”

“แม่งเอ้ย!”

“นายอย่าอารมณ์เสียเพื่อนรัก เราควรรีบปรับแผน”

“ก่อนปรับแผนปรับสมองนายก่อน ไปเลยไอ้สัด ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้กู!”

ไอ้เอ๋รีบแจ้นไปทำตามคำสั่ง ในขณะที่ไอ้เจ้าได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่าน แต่สุดท้ายก็จำต้องระงับโทสะแล้วลุกเดินไปหาซื้อยามาทำแผลให้ไอ้เพื่อนตัวดี





D. : เจ้า

D. : กูว่ากูเห็นมึง มึงอยู่คณะเกษตรฯ เหรอ

OMG: คุณอยู่ไหน

D. : ตอบคำถามกูก่อน

OMG: คุณอยู่ไหน

D. : มึงก๊อปวางหรือไง ตอบคำถามกู

OMG: อยู่ไหนครับที่รัก

D. : เวร! กูอยู่โรงอาหารคณะมึง ไอ้คนที่ยืนหัวฟูหน้าเด๋อใส่แว่นเชยๆ อยู่หน้าร้านชำใช่มึงไหม

OMG: ใช่ แล้วมาทำไม พาใครมาเย้ยผมเหรอ

D. : จะรู้ไหมว่ามึงเรียนเกษตรฯ บีบอกว่าที่นี่กับข้าวอร่อยก็เลยมาเปลี่ยนบรรยากาศ

OMG: ก็ไม่เคยสนใจกันไงล่ะ

D. : มึงไม่เคยบอก

OMG: ไม่มีปากถามผมเหรอ

D. : ไม่อยากทะเลาะกับมึง แล้วก็อย่าเข้ามาทักกูนะ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ารู้จักคนแปลกๆ อย่างมึง

OMG: เค





ไอ้เจ้าเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง ความเรียบนิ่งบนใบหน้ายิ่งทำให้มันดูหยิ่งขึ้นไปอีกเท่าตัว แต่ภายใต้ความเรียบนิ่งเต็มไปด้วยความคุกรุ่นของอารมณ์ โทสะแล่นพล่านในอกจนแทบระเบิด มันเดินถือถุงยากลับมาที่โต๊ะซึ่งไอ้เอ๋ไปซื้อข้าวเสร็จและกำลังนั่งรออยู่

“เจ้า ย้ายโต๊ะไหม ผมว่านายอาจจะไม่ไหว” ไอ้เอ๋ยิ้มแห้งเมื่อไอ้เจ้ามาถึง

คนหน้านิ่งโยนถุงยาไปให้ไอ้เอ๋ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง ใบหน้าของมันเรียบตึง ไม่แม้แต่จะหันมองสองหนุ่มสาวที่กำลังคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ที่โต๊ะข้างๆ ต้นเหตุแห่งความแห้งแล้งบนใบหน้าของไอ้เจ้าทั้งปวง ธรากับดาวเภสัชฯ เลือกโต๊ะได้ราวกับโชคชะตาเป็นใจที่จะทดสอบความอดทนของไอ้เจ้า ทั้งคู่นั่งเคียงกัน หัวร่อต่อกระซิกกับบทสนทนาที่น่าสนุกสนาน แต่คนได้ยินอย่างไอ้เจ้าไม่สนุกไปด้วยเลยสักนิด

“ผมไหว” เอ่ยเสียงเรียบพลางลงมือคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวในชาม “รีบกินดิเอ๋ จะได้ทำแผล”

ไอ้เอ๋พยักหน้า เหลือบมองไปยังโต๊ะข้างๆ แล้วก็กลับมาสนใจจานข้าวของตัวเองตามเดิม “เอ้อ...งานกลุ่มนายจะเอาไง อีกสามวันต้องพรีเซ้นแล้ว วันนี้พวกแป้งจี่นัดทำหลังเลิกเรียน”

“ที่ไหน”

“หอสมุด”

“ผมไป”

ไอ้เอ๋ลอบถอนหายใจ ไม่เคยเจอไอ้เจ้าโหมดตึงอย่างนี้มันก็ไปไม่เป็น เพราะปกติไม่ว่าจะมีเรื่องหงุดหงิดแค่ไหนแต่ไอ้เจ้ามันก็มีรอยยิ้ม ครั้งนี้มันคงยิ้มไม่ไหวจริงๆ ในเมื่อคนที่ชอบกำลังนั่งคุยกระหนุงกระหนิงอยู่กับสาวอื่น

เวลาเกือบสองปีคงไม่ได้ทำให้ใครใจอ่อน แต่ไอ้เอ๋ก็ไม่อยากพูดถ้อยคำใดเป็นการซ้ำเติมเพื่อน มันเคยบอกให้ไอ้เจ้าเลิกล้มความตั้งใจหลายครั้ง แต่เหมือนคำพูดนั้นจะไม่เจาะเข้ากะโหลกหนาๆ ของไอ้เจ้าเลยแม้แต่น้อย ก็หวังว่าภาพบาดตาครั้งนี้จะทำให้ไอ้เจ้ารู้ตื่นขึ้นมาบ้าง

“นายคนที่ล้ม” เสียงหวานใสเอ่ยทัก “ยังเจ็บอยู่ไหมคะ”

ไอ้เอ๋หน้าตื่น หันมองแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ด้วยความกระดากอาย รู้อยู่หรอกว่าสาวเจ้าคงไม่ลืมหน้ามันง่ายๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทักทายกัน “อ้อ...ไม่เจ็บแล้วครับ”

“ไม่เจ็บแล้วก็ดี” เสียงทุ้มอีกเสียงดังขึ้น เป็นเสียงของธราที่กำลังเท้าคางมองมาด้วยท่าทางยียวน “งั้นขอโทษได้แล้วสินะที่เมื่อกี้ทำตัวหยาบคาย ยืดอกขอโทษให้สมกับเป็นลูกผู้ชายหน่อยเถอะว่ะ”

“อ่า...นั่นสินะครับ คือผมแค่เผลอหลุดปากเพราะเธอน่ารักมากเท่านั้นเอง ขอโทษนะครับที่ผมไม่ระวัง เผลอพลั้งพูดความในใจ” ไอ้เอ๋ยิ้มซื่อ ค้อมหัวเล็กน้อย ไม่เกรงสายตาคมของธราที่มองมา

สาวเจ้าหน้าแดงก่ำ ยิ้มเอียงอาย “คือ...ไม่เป็นไรค่ะ เด็กผู้ชายก็โผงผางแบบนี้ บีเข้าใจ”

“นิสัยน่ารักสมตัวมากครับ ขอบคุณที่ไม่ถือโทษโกรธผู้ชายปากตรงกับใจอย่างผม”

“หึ” ได้ยินเสียงหลุดหัวเราะราวกับเย้ยหยัน “ปากตรงกับใจยังไงก็ควรเกรงใจกันบ้าง”

“หึงเหรอครับ” ไอ้เอ๋ย้อนถาม “เป็นอะไรกันงั้นเหรอ”

“ว่าที่แฟน” ธราให้คำตอบ ยิ้มเยาะเมื่อเห็นคนบางคนหน้าตึงยิ่งกว่าเดิม โดยไม่ได้ดูเลยว่าคำพูดของเขาทำเอาสาวสวยหน้าแดงเป็นลูกตำลึง

“ว้า...จะมีเจ้าของซะแล้ว” ไอ้เอ๋ทำหน้าเสียดาย ก่อนจะเหลือบสายตามองเพื่อนร่วมโต๊ะที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวโดยไม่สนใจเข้าร่วมบทสนทนา “เจ้า ผมอกหักแล้ว แง้”

“ขอโทษด้วยค่า ไม่ได้ตั้งใจเลย ทำไงดีคะพี่ดิน” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดกับมือบางที่เขย่าต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของธราทำเอาไอ้เจ้าเผลอกำตะเกียบแน่นจนแทบหักคามือ

“อย่าคิดมากเลยครับ” ไอ้เจ้าหันไปบอกหล่อนเพราะไม่อยากได้ยินคำพูดแสลงใจไปมากกว่านี้ มันเหลือบแลสายตามองธรา ตาสบตาแล้วอีกฝ่ายก็หลบเลี่ยงไป “อ่อนแอก็แพ้ไปน่ะถูกแล้ว เพื่อนของผมก็พูดอะไรไม่คิด คงทำให้ลำบากใจ”

“เอ๊ะ ทำไม...” ดวงตากลมโตสบมองมา “หน้าคุ้นจังเลยล่ะคะ”

“หืม”

“ใช่พี่เจ้า...เดือนแพทย์มอเจไหมคะ”

ไอ้เจ้าเอียงคอเล็กน้อยพลางยิ้มตอบ “ไม่ใช่ครับ ผมชื่อเจ้า ปีสองคณะเกษตรฯ มอเดียวกับคุณ”

“แต่ว่านายซิ่วมา...” ไอ้เอ๋เงียบปากทันทีที่เห็นสายตาของไอ้เจ้าเพื่อนรัก ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรผิด หรือเรื่องการซิ่วของไอ้เจ้าจะเป็นความลับระดับชาติ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงแล้วจะทำอย่างไร ก็ในเมื่อคนในคณะก็รู้กันเกือบหมดแล้วว่าที่มันยียวนกวนประสาทและเก๋าเกมมากขนาดนี้เพราะมันไม่ใช่เฟรชชี่ที่แท้จริง

“งั้นบีคงจำผิด ขอโทษนะคะ เจ้าเหมือนพี่เขามากเลยค่ะ พี่สาวของบีเรียนแพทย์มอเจ ตอนนี้อยู่ปีสามแล้ว พี่เอเคยเอารูปสายรหัสมาอวดบีด้วย พี่เจ้าเป็นสายรหัสพี่เอ เป็นผู้ชายที่เท่มากๆ”

“เท่กว่าพี่อีกเหรอครับ” ธราเอ่ยถามแทรกบทสนทนา แต่สายตาไม่ได้มองคนถูกถาม กลับมองอีกคนที่กำลังถูกพาดพิง

“ไม่ค่ะ ไม่ๆ ๆ ตอนนี้พี่ดินเท่ที่สุดสำหรับบีเลยค่า แล้วก็เป็นคนที่บีชอบที่สุดด้วย” พอหลุดปากสารภาพดาวเภสัชฯ ก็หน้าแดงก่ำ “คือ...คือว่า...บีหมายถึง...”

“แล้วกับคนชื่อเจ้าล่ะครับ ชอบแบบไหน” ธราถามต่อ ไม่ได้สนใจนักว่าสาวเจ้าจะมีความรู้สึกต่อเขาอย่างไร

“บีปลื้มพี่เขาเฉยๆ ค่า เพราะพี่เจ้าเท่มากๆ เขาเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็ค ชื่อของเจ้า จักรพรรดิ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในมอเจไม่รู้จัก พี่เอโดนหมั่นไส้ด้วยนะคะที่ได้เป็นสายรหัสกับพี่เจ้า งื้อ ยังไงบีไลน์ไปถามพี่เอดีกว่า ไม่ได้คุยเรื่องพี่เจ้านานแล้ว ถ้าได้รูปแล้วจะเอามาให้เจ้าดูนะ เพราะถ้าบีจำไม่ผิด พี่เจ้าเหมือนกับเจ้ามากเลย”

“คนเดียวกันแล้วล่ะมั้ง” ธราเอ่ยลอยๆ

“ไม่ใช่หรอกครับ แต่ผมคงเหมือนเขามาก” ไอ้เจ้าปฏิเสธพลางคลี่ยิ้ม

“เหมือนมากค่ะ ถ้าเจ้าผมสั้นกว่านี้คงเห็นหน้าชัดเนอะ ขนาดผมปรกหน้าปรกตายังดูเหมือนพี่เจ้าเลย”

ไอ้เจ้าไว้ผมยาวโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะมันแค่ไม่เข้าร้านตัดผม เมื่อก่อนเคยเป็นรองทรงสูงเปิดหูดูสะอาดสะอ้าน แต่เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ตัด ปล่อยให้ยาวปิดหน้าปิดตา ยิ่งเมื่อมันใส่แว่นก็ยิ่งทำให้ใบหน้าดูรกรุงรังไปกันใหญ่ จากที่เคยดูสะอาดกลับกลายเป็นสกปรกได้ไม่ยาก

“ถ้าคุณบอกว่าคนนั้นเพอร์เฟ็ค ผมก็ไม่มีทางเหมือนเขาหรอกครับ ขอตัวก่อนนะ ผมกินเสร็จแล้ว” ไอ้เจ้าเฟดตัวออกจากบทสนทนาอย่างสุภาพ ก่อนจะหันมองเพื่อนซี้ร่วมรุ่นที่กำลังเพ่งมองมาด้วยแววตาสงสัย “เอ๋เก็บจาน เดี๋ยวผมทำแผลให้แล้วค่อยไปเรียนกัน”

“ได้ ไปกันเลยเพื่อนรัก” ไอ้เอ๋ลุกขึ้นตามที่สั่ง มันสะพายกระเป๋า ถือถุงยาไว้ในมือข้างหนึ่งและถือจานไว้ในมืออีกข้าง ก่อนจะจากก็ยิ้มส่งลาดาวเภสัชฯ แต่เจ้าหล่อนกลับเอาแต่ยิ้มหวานไปทางไอ้เจ้า

“แล้วเจอกันนะคะเจ้า”

“ครับ” คนไม่สะเทือนกับรอยยิ้มดาวคณะตอบกลับเสียงเรียบแล้วยกถ้วยก๋วยเตี๋ยวเดินไปเก็บ มีไอ้เอ๋ยืนคอยท่าอยู่ที่ทางเข้าออก





03:30 PM

D. : เจ้า ตอนเย็นมาเจอกันหน่อย

OMG: ผมไม่มีอารมณ์

D. : กูอยากเจอ

OMG: ผมไม่ว่าง

D. : โกรธอะไรนักหนา

OMG: คุณก็แบบนี้ทุกที

D. : จะมาไหม

OMG: สามทุ่ม ผมไป

D. : กูเลิกเรียนสองทุ่ม มาหากูที่คณะ

OMG: อย่าเอาแต่ใจ ผมจะไม่ตามใจคุณ

D. : เจ้า เลี้ยงข้าวกูหน่อย

OMG: อย่ามาอ้อนผม

D. : เจ้า

OMG: ได้ แล้วเจอกัน

D. : อืม มารับกูด้วย

OMG: ผมไม่มีรถ

D. : มารับกู

OMG: แล้วรถคุณจะเอาไว้ไหน

D. : แค่มารับก็พอ

OMG: คุณแม่งเอาแต่ใจ แต่ผมก็ตามใจคุณทุกที

D. : ไม่ตามใจก็ได้นี่

OMG: ได้ที่ไหน ผมรักคุณไปแล้ว แล้วเจอกันครับที่รัก

D. : อืม อย่าเอารถกระจอกๆ มารับกูละกัน ไม่งั้นกูไม่ไปด้วย

OMG: สำหรับคุณ แค่จักรยานของเพื่อนผมก็หรูมากแล้วครับ

D. : เรื่องมึ้ง!





“จะด่านายว่าควายผมก็ยังสงสารควาย จะให้เป็นเหี้ย เหี้ยมันก็ไม่ได้โง่เหมือนนาย เอาไงดีเพื่อน จะเป็นสัตว์ตัวไหนโปรดเลือก” ไอ้เอ๋ที่เพิ่งละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้าพูดขึ้นด้วยท่าทีอ่อนใจ “ธราร้ายมาก เขาย่ำยีหัวใจนายแล้วสุดท้ายก็มาทำให้นายหวั่นไหว”

“อืม เขาเป็นแบบนั้นอยู่หลายครั้ง”

“ธรากั๊กนาย เขาแค่เห็นนายเป็นของตายสำหรับเขา”

ของตายเหรอวะ...ของตายก็ยังมีค่ามากกว่าสถานะของไอ้เจ้าต่อธราในตอนนี้ ธรานายตัวร้าย ชอบปั่นหัวไอ้เจ้า ปากบอกว่าเกลียด ทำทีท่าไม่สนใจ ควงผู้หญิงไปทั่ว คุยกับทุกคนที่เข้าหาราวกับไม่แคร์ว่ามีไอ้เจ้าเดินตามอยู่ต้อยๆ แต่เมื่อไอ้เจ้ามีทีท่าจะเลิกเดินตามก็หันหลังกลับมาแล้วจูงมือไอ้เจ้าให้เดินตามต่อ

ธราเป็นแบบนั้น...เขาเป็นแบบนั้นมาตลอด

เกลียดไอ้เจ้า แต่กลับไม่ยอมให้ไอ้เจ้าหายไป

“ผมรู้เอ๋”

“นายอย่ายอมเขาเพื่อนรัก”

“หัวใจของผมยอมเขาไปแล้ว ผมเจ็บทุกการกระทำที่เขาทำให้ผมเสียใจ”

“มาเป็นเพลง แต่นายรู้ไว้ นายเจ็บ ผมก็เจ็บ”

“เพื่อนรักเพื่อนตายของผม”

“แล้วนายจะเอายังไงต่อไป ผมบอกนายแล้วว่าดาวเภสัชฯ ไม่ใช่ขี้ๆ หล่อนอาจจะได้เป็นตัวจริง”

ไอ้เจ้ากัดริมฝีปาก ขบคิดเล็กน้อย “ผมเอาอยู่ หล่อนยังไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวของผม ธราก็แค่เกเร เดี๋ยวผมจะทำให้เขารู้ว่าคนเกเรจะโดนลงโทษยังไง”

“นายทำได้ถ้าใจนายเหี้ยมพอ ดัดนิสัยให้เขารู้สำนึกไปเลย สู้ๆ เพื่อน”

“ขอบใจสำหรับกำลังใจ ว่าแต่งานกลุ่มจะเสร็จก่อนเวลานัดของผมไหม”

“แป้งจี่คงตอบนายได้ แต่หล่อนคงอยากรั้งนายให้อยู่ด้วยทั้งคืน”

“หล่อนเสนอ แต่ผมไม่อยากสนอง”

“ไม่รู้ว่าคนรกรุงรังสกปรกอย่างนายมีดีกว่าผมตรงไหน คานของผมไม่เคยถูกใครสั่นสะเทือนเลยสักครั้งเดียว ไม่ได้การล่ะ ผมต้องหาวิธีลงจากคานด้วยตัวเอง”

“ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้ นายจะผ่านมันไปได้เพื่อนรัก”

สองเพื่อนซี้ต่างยิ้มให้แก่กัน ก่อนไอ้เจ้าจะเปิดฝาขวดแอลกอฮอล์ด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม จากนั้นก็จัดการเชือดไอ้เอ๋ให้ร้องจ๊ากด้วยการทำแผลสุดหฤโหด

“ไอ้เจ้าาา!! ไอ้เหี้ยๆ ๆ ๆ ๆ ผมแสบบบบบ!!”

หากมีใครเดินผ่านไปผ่านมาคงได้เห็นไอ้เอ๋ผู้ที่เคยเกือบคว้าตำแหน่งเดือนสาขาปฐพีวิทยาร้องกรี๊ดเหมือนตุ๊ดใจแตก ความแสบจากยาใส่แผลน่ะไม่เท่าไร น้ำหนักมือของไอ้เจ้าต่างหากที่เป็นภัยต่อบาดแผล

มึงจะถูทำไมนักหนา กูแสบโว้ย!!


.....TBC....
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-10-2018 18:48:29
ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-10-2018 19:01:05
เจ้า นายเป็นใครอ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 22-10-2018 19:06:22
ยังยืนยัน ชอบตอนสองเพื่อนคุยกันมากๆ เคมีเข้ากันสุดๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 22-10-2018 19:08:30
กรี้ดดดดดดดดดดดดด พี่เจ้าเดือนแพทย์55555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 22-10-2018 19:44:57
เบื้องหลังนังเจ้าช่างมีเงี่ยนงำ หึหึ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-10-2018 20:05:40
เจ้า....จักรพรรดิ  เดือนแพทย์   :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-10-2018 20:39:26
ชอบเวลาเพื่อนซี้เขาคุยกันจัง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-10-2018 21:00:18
ฉันปวดหัวเวลาสองเพื่อนคุยกัน
ธราเธอขาดเจ้าไม่ได้หรอก อิอิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 22-10-2018 21:16:28
เจ้า ไม่ธรรมดา การตามติดพี่ธราดูมีเงื่อนงำ เหมือนมีการวางแผนการณ์มาแล้ว ตอน 2 รู้สึกเหมือนอ่านนิยาย ฆาตรกรรม ตามล้างแค้น  เครียดแทนพี่ธรา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 22-10-2018 21:50:14
กลัวเจ้า 555 สตอล์กเกอร์โหดมากจริงๆ  :laugh:
อยากรู้จริงๆ ว่าตัวจริงเป็นใครกันแน่  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 22-10-2018 23:05:27
ความหลังของเจ้า เป็นสีเทา หรือสีดำ  :เฮ้อ:
เรื่องใส ๆ ของคุณนักเขียนมันมีตะกอนมากแค่ใหนกันนะ  :hao5:
อ่านไปก็หวาดระแวงไป  :mew5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 23-10-2018 00:54:37
มีเจ้าของจดหมายปริศนาไปอีก
พี่เจ้าเดือนแพทย์อีก ฮือออออออ :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 23-10-2018 03:10:32
เดาว่าเจ้ามาเพราะคำขอของเพื่อนในการ์ดใบนั้น  เพื่อนเจ้าอาจไม่อยู่ในโลกนี้แล้วก็ได้
เดาอีกว่า  ธราอาจจะเคยหักอกเพื่อนเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 23-10-2018 05:35:26
จะยังไงกัต่อเนี่ย​  เจ้าจะเอารถอะไร​ไป​รับ​นะ​
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 23-10-2018 06:09:36
ตอนเปิดเรื่องมาดาร์กมากๆ เหมื่อนโรคจิต แต่พอมาตอนสอง ทำไมมันหลุดยิ้มหลายตอนเลยอ่ะ พอได้รุ้จักเจ้ามากขึ้นก็รู้ว่าไม่น่ากลัวเท่าไรนะ ต้องรอดูว่าธนาจะเริ่มติดใจรึเปล่า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 2 เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า ​P. 1 22/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-10-2018 16:58:42
สนุกมากกกกกกกกกกกกก
บอกไม่ถูกเลย จะสงสารก็แอบสงสารเจ้า แต่ก็สงสารธราด้วย
อยากรู้มากว่าเจ้าด
เป็นใคร เดือนแพทย์มอเจ คือเจ้าแน่ๆ แล้วทำไมซิ่วมาเกษตร หรือไม่ได้สิ่วแต่เรียนควบ แต่แพทย์จะมีเวลาว่างขนาดนั้นเลยหรอ แง อยากรุ้
ขอเดาว่าที่ซิ่วมาเกษตร ต้องเป็นเพราะเพื่อนคนที่เขียนกระดาษให้แน่ๆ
เราว่าธราก็คงชอบเจ้าแหล่ะ
แต่ไม่อยากยอมรับ ก็เจ้าทำตัวแปลกซะขนาดนั้น โรคจิตเลยล่ะ
รออ่านต่อค่าา
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 23-10-2018 19:24:53
ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า



“ไปเอารถใครมา” ธราถามคนที่ยืนรออยู่ลานจอดรถ ไอ้เจ้ากำลังยืนเงยหน้ามองท้องฟ้ายามเย็นอยู่ข้างรถสปอร์ตสีดำคันหรู ดูจากยี่ห้อรถแล้วก็เตะคำว่ากระจอกทิ้งไปได้เลย รถคันนี้ราคาเหยียบสามสิบล้าน เป็นรถในฝันที่เขายังไม่สามารถกล่อมบิดาให้ใจอ่อนซื้อให้ได้ แล้วไอ้เจ้ามีมันได้ยังไง

ทั้งที่ไม่ได้คาดหวังอะไรจากมัน คิดว่าคนอย่างมันคงจะปั่นจักรยานมาหาตามที่บอกไว้ แต่สุดท้ายก็เกินคาดอีกจนได้

มันเป็นพระเจ้าจริงๆ หรือเปล่าวะ!

“ขโมยมา” ไอ้เจ้าตอบเสียงยียวน มือข้างที่ล้วงกระเป๋ากางเกงถูกชักออกมาพร้อมกับอมยิ้มในมือ “กินไหมที่รัก”

“ไม่ชอบของหวาน” ธราตอบเสียงเรียบ “เดี๋ยวฟันผุ”

“อร่อยนะ” โฆษณาชวนเชื่อมาพร้อมกับรอยยิ้มยียวน

ธราชั่งใจอยู่เพียงครู่ ก่อนจะบอกเบาๆ “งั้น...แกะให้หน่อย”

ไอ้เจ้าพยักหน้า มือผอมของมันแกะพลาสติกที่ห่ออมยิ้มออกตามบัญชา ในขณะที่ธราเอาแต่ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของมันสลับกับรถคันหรู

“ถามจริง รถใคร” หัวข้อนี้คงไม่ถูกปัดตกไปง่ายๆ เพราะธราสงสัยมากจริงๆ “ยืมเพื่อนมาเหรอ”

“แล้วคิดว่าไง”

“ไม่รู้ไงถึงได้ถาม” ธราขมวดคิ้ว แค่เริ่มคุยไม่กี่ประโยคก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว “บอกไม่ใช่เหรอว่ากูไม่สนใจ นี่ก็ถามเพราะสนใจแล้ว ยังจะยียวนอีกเหรอวะ”

“ใจเย็นน่า โมโหแล้วได้อะไรที่รัก” ไอ้เจ้าตอบพลางคลี่ยิ้มแล้วยื่นอมยิ้มไปให้ “ผมยืมมา ถ้ารถไม่หรูพอก็พาคุณไปไม่ได้ ผมก็เลยต้องหาสิ่งที่ตรงใจคุณ”

“ก็ไหนบอกจะปั่นจักรยานมา” ถามอ้อมแอ้มแล้วรับอมยิ้มส่งเข้าปาก “ไปจักรยานก็ได้”

ไอ้เจ้าอมยิ้ม แววตาเชื่อมมองธราอย่างสื่อความหมาย “ร้านที่จะพาไปมันอยู่ไกล ผมปั่นไม่ไหว เพื่อนก็เลยให้ยืมคันนี้มา แล้วก็...ไปกับคุณทั้งที ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคุณได้ผมก็พร้อมจะให้”

รู้อยู่แล้วว่าไอ้เจ้าโรคจิตมันเป็นคนแบบนี้ มันชอบหยอดคำหวานแต่มันก็ทำตามที่มันพูดได้จริงทุกคำ ธราไม่อยากยอมรับเลยว่าใจเต้นไปกับคนอย่างมันบ่อยแค่ไหน

“ถามจริงไอ้เจ้า มึงไม่ได้กระจอกอย่างที่กูคิดใช่ไหม”

เรื่องของไอ้เจ้ามีแต่ความน่าสงสัย ยิ่งใส่ใจก็ยิ่งอยากรู้ แต่พอยิ่งอยากรู้ก็เหมือนกับว่ามันยิ่งถอยห่าง มันไม่เคยพูดเกี่ยวกับตัวเอง ไม่เคยเปิดเผยตัวตนให้เขารู้จัก มันเข้ามาเพื่อทำความรู้จักกับเขาอยู่ฝ่ายเดียว แต่ในขณะที่มันรู้ทุกเรื่องของเขา เขากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย

“ต่อหน้าคุณแล้วผมก็แค่คนกระจอกคนหนึ่งที่หลงรักคุณ” คาดไม่ผิดว่าคำตอบของมันจะต้องเลี่ยนแบบนี้

“อย่าเพิ่งหยอด เอาความจริง” ธราเสียงเข้ม หลายครั้งแล้วที่ไอ้เจ้าเลี่ยงการตอบคำถามด้วยคำตอบจอมปลอม มันชอบหยอดให้เขว แล้วสุดท้ายเขาก็จะลืมคำถามที่ถามมันไป

“นี่คือความจริงที่สุดแล้วครับดิน คนกระจอกคนนี้มันรักคุณมาก”

ธราถอนหายใจพลางยกมือขึ้นผลักหน้าผากไอ้เจ้า “กูเกลียดมึง”

“ครับที่รัก”

มันยิ้มรับอีกแล้ว

“ไม่เข้าใจหรือไง”

“เข้าใจว่ารักครับ”

“เฮ้อ...เรื่องของมึงนะ”

เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อยโว้ย!

“เรื่องของเราสิครับ”

“พอเถอะกูขอร้อง”

ไอ้เจ้าหัวเราะ ก่อนจะยื่นกุญแจรถไปให้ธรา “ขับนะครับ เดี๋ยวผมบอกทาง”

“เฮ้ย รถแพง กูไม่กล้าขับหรอก” ธรารีบปฏิเสธ ใจจริงก็อยากขับ แต่เพราะเป็นรถของเพื่อนไอ้เจ้า หากขับไปชนนั่นชนนี่เข้าก็คงแย่แน่นอน

“ไม่ต้องกลัว ชนขึ้นมาก็ได้ตายพร้อมกัน ผมถือว่าเป็นโมเม้นต์คู่ของเรา” ไอ้คนโรคจิตหัวเราะคิกกับความคิดของตัวเอง แววตาของมันเปล่งประกายประหลาด ดูน่าอันตรายราวกับว่าต้องการให้โมเม้นต์คู่บ้าๆ นี่เกิดขึ้นจริง

ไม่รู้ว่าจินตนาการพามันไปถึงไหน แต่ธราก็ช่วยตบหัวเรียกสติให้

“พ่อมึง! ปากไม่เป็นมงคล ตายด้วยกันดีตรงไหนวะ” พูดแล้วก็หัวเสีย ถ้าตายจริงจะได้อยู่ด้วยกันไหม ธราน่ะคงไปสวรรค์ ส่วนไอ้เจ้าคงอยู่ในนรกแน่นอน “มึงขับไปเลย กูเหนื่อย อยากนั่งเฉยๆ วันนี้มีแต่เคสน่าปวดหัว”

“งั้นก็ได้ครับ ว่าแต่รถคุณล่ะ”

“ให้เพื่อนขับกลับไปแล้ว” ธราบอก ก่อนจะรีบพูดต่อเมื่อเห็นไอ้เจ้าเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “เพื่อนในกลุ่มน่ะ ชื่อแพร์”

ธรามีกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาในคณะ คนที่ให้ขับรถกลับไปก็คือไอ้แพร์ ไอ้แพร์เป็นคนที่เขาสนิทด้วยที่สุด หากถามถึงระยะเวลาที่รู้จักกัน เขาก็ไม่แน่ใจว่านานหรือไม่ เอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวของตัวเขาในตอนนี้ไม่มีเรื่องไหนที่แน่ใจได้เลยสักเรื่อง ทั้งเพื่อน ทั้งครอบครัว หรือแม้กระทั่งตัวตนของเขาเอง

“เพื่อนคุณไม่ถามเหรอว่าคุณจะไปยังไง”

“ก็ถาม”

“แล้วคุณบอกว่าไงที่รัก”

“จะมีคนมารับ”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม มองคนที่เอาแต่หลบตาอย่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังประหม่า “บอกชื่อผมไปไหม”

“บอก เพื่อนกูรู้จักมึงกันหมดทุกคนแล้ว เพราะชอบเสนอหน้ามาหากูที่คณะบ่อยๆ”

เป็นความจริงที่ว่านอกจากเพื่อนในคณะของธราแล้ว ลุงยามที่คณะก็รู้จักไอ้เจ้าเป็นอย่างดีด้วย ดูเหมือนว่าคนรอบข้างของธราจะไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยเห็นหัวยุ่งๆ หน้าเด๋อๆ ที่ถูกปกปิดไว้ใต้แว่นตาเชยๆ กับผมยาวรกรุงรังของมัน อีกทั้งการแต่งตัวประหลาดแบบนี้คงมีแค่มันคงเดียว แม้จะไม่อยากจดจำก็คงจดจำได้ไม่ยาก

“อืม ก็จริง” ไอ้เจ้าพยักหน้ารับ ก่อนถาม “แล้วดาวเภสัชฯ ของคุณล่ะ ไม่งอแงให้ไปรับเหรอ”

“นิดหน่อย”

“ดีแล้ว เหลืออีกแค่หนึ่งวันนะ ยังไงคุณก็ต้องเลิกกับหล่อน”

“แล้วถ้ากูไม่เลิกล่ะ”

“ธรา” เสียงของไอ้เจ้าเข้มขึ้น ใบหน้าของมันกลับมาเรียบนิ่ง ดวงตาคมจิกมองผ่านแว่นตาเชยๆ อย่างเอาเรื่อง “คุณควรรีบกลับมาเป็นของผม”

“เออ...รู้แล้ว” ธราตอบรับอย่างเสียมิได้ ทั้งที่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงยอมไอ้เจ้าขนาดนี้ แค่มันพูด แค่มันทำท่าจริงจังขึ้นมา เขาก็พร้อมจะทำตามไม่ว่ามันจะต้องการอะไร

“ดีครับที่รัก”

ไอ้เจ้าอารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง มันขยับเข้าใกล้แล้วรั้งลำคอหนาให้โน้มลงมาเล็กน้อยก่อนจะฉวยโอกาสตอนที่ธรากำลังชะงักค้างฝากสัมผัสอุ่นจากริมฝีปากไว้บนแก้มของเขา

“ทำไมเดี๋ยวนี้มึงถึงเนื้อถึงตัว” เพราะหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ธราจึงรีบผลักไอ้เจ้าให้ออกห่างแล้วกลบเกลื่อนสีหน้า

“มันถึงเวลาแล้วไงครับ คุณไม่สังเกตเหรอว่าระยะห่างที่ผมเดินตามคุณมันลดลงจนแทบไม่เหลือแล้ว พอเข้าปีที่สามผมจะเดินอยู่ข้างๆ คุณ จะไม่เดินตามหลัง”

เริ่มแรกไอ้เจ้าเคยอยู่ห่างจากธรา มันคอยเดินตามไม่ว่าธราจะไปที่ไหน สองเดือนแรกระยะห่างยังเท่าเดิม แต่หลังจากผ่านมาหกเดือนระยะห่างนั้นก็ลดลงเหลือเพียงแค่สามช่วงตัว จนเมื่อไม่นานมานี้ระยะห่างที่ว่าลดลงมากอย่างน่าใจหาย แค่เพียงไอ้เจ้ายื่นมือออกไปก็สามารถคว้าแขนของธราเอาไว้ได้แล้ว

“ใครอนุญาต”

“งั้นผมจะหายไปนะ” ไอ้เจ้ามองสบตากับธรา “คนที่คุณเกลียดเป็นพิเศษคนนี้จะหายไปนะครับ”

“คนอย่างมึงไม่ไปไหนหรอก” ธราว่าเสียงแผ่วอย่างไม่แน่ใจ

“รู้ใจผมอีกแล้ว” ไอ้เจ้ายกยิ้ม

“ไม่ได้อยากรู้เลยไอ้สัด”

ไอ้เจ้าหัวเราะ แววตาเชื่อมของมันมองคนที่ตัวสูงกว่า ไหล่กว้างกว่า จนคนที่ถูกมองทำตัวไม่ถูก “ที่รักครับ”

“ว่า”

“ผมดีใจนะที่พอเรียกคุณว่าที่รัก คุณก็ขานรับเหมือนกับว่ายอมรับตัวผมแล้ว”

“เพราะกูรำคาญ” ธราบอกเสียงหงุดหงิด “คนอย่างมึงถ้าไม่ขานรับ มึงก็จะเรียกซ้ำๆ อยู่แบบนั้นไม่ใช่หรือไง”

รู้จักมันดี เกือบตลอดสองปีที่มีมันคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ทำให้รับรู้ไปเองว่ามันเป็นแบบไหนทั้งที่ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิด

“ก็ใช่นะ ผมน่ะถนัดยัดเยียดความรักให้คุณทั้งที่คุณไม่เคยต้องการ”

ไอ้เจ้าสายดราม่า ทำไมมันถึงถนัดทำให้หัวใจของธราเต้นผิดจังหวะนัก

“นี่!” ธรารู้สึกว้าวุ่นใจอย่างไรชอบกล “อย่าทำหน้าแบบนี้สิวะ”

“แบบไหนครับ”

“แบบที่...มึงกำลังเสียใจ” ธรายกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเอง ต่างหูรูปไม้กางเขนสีเงินแกว่งไกวเมื่อศีรษะได้รูปสั่นไหว “ขอโทษที่ไม่ได้รัก”

หัวใจเจ้ากรรมเต้นในจังหวะผิดแปลกอีกแล้ว ยิ่งเห็นแววตาของไอ้เจ้า เห็นรอยยิ้มของมัน ธราก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่มันเป็นตัวน่ารำคาญ ชอบป่วนประสาท ทำให้เขาเกือบเป็นบ้า นอนไม่หลับเพราะความโรคจิตของมันอยู่เกือบสองเดือน แน่ใจว่าความรู้สึกที่มีต่อมันไม่ใช่ความรัก คิดว่าเป็นความผูกพันที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว สถานะพิเศษของมัน คนที่เขาเกลียดมากที่สุดในโลก แต่กลับไม่เคยอยากให้มันต้องเจ็บปวดเลยสักครั้ง

ไม่อยากให้เจ็บปวด ไม่อยากให้หายไป

“เพราะคุณใจดีแบบนี้...ต่อให้ไม่ได้รักกัน ผมก็ยังอยากอยู่ข้างคุณ”

“ทำไมถึงรักกู ทำไมต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้เพื่อกู มึงเสียเวลาเกือบสองปีเพื่อฟังกูบอกว่าเกลียดมึงอยู่ทุกวัน” ธราเสียงแผ่ว แววตาวูบไหวเมื่อมองสบตากับไอ้เจ้า “ถามจริง...มึงไหวเหรอ”

จะมีสักกี่คนที่อดทนเหมือนไอ้เจ้า หากมันไม่ได้บ้า หากมันเป็นแค่คนธรรมดา การถูกเกลียด การถูกผลักไส ก็คงทำให้มันถอดใจแล้วหนีหายไปจากธรานานแล้ว แต่ไอ้เจ้าก็ยังอยู่ นอกจากเป็นคนบ้าแล้วก็คิดหาเหตุผลดีๆ ไม่ได้

“ก็ไหวนะ เพราะการไม่มีคุณทำให้ผมทรมานมากกว่า” ไอ้เจ้าตอบพลางคลี่ยิ้ม “ผมรักคุณนะ รักคุณมากกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าจะคุณในตอนนี้หรือตอนไหนๆ คนที่ผมรักเพียงคนเดียวก็คือคุณ ผมสิที่ต้องถามว่าคุณไหวหรือเปล่าที่มีผมมาตามติดอยู่แบบนี้ ผมทำให้คุณลำบากใจหลายเรื่อง ผมรู้ว่าคุณนอนไม่หลับเพราะผม รู้ว่าคุณกลัวผม แต่ดินครับ ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะว่าผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณ เชื่อผมได้ไหม”

“อะ...อืม” ธรารับคำแผ่วเบา “ทำไมอยู่ๆ ก็มาพูดเรื่องเครียดๆ แบบนี้”

“ผมแค่เหนื่อยนิดหน่อยและกำลังลังเลใจ”

“เรื่องอะไร”

“เรื่องของคุณ” ไอ้เจ้าเกลี่ยนิ้วลงบนหลังมือของธรา สัมผัสผะแผ่วโดยไม่กล้าเกาะกุมไว้เต็มมือ “ผมกำลังคิดว่าควรปล่อยให้คุณทำตามหัวใจตัวเองดีไหม”

“ดาวเภสัชฯ อีกแล้วเหรอวะ”

“อืม ผมตรวจสอบหล่อนแล้ว หล่อนเหมาะสมกับคุณ หล่อนจะสร้างครอบครัวที่ดีให้คุณได้ มีลูกน่ารักๆ ให้คุณ ครอบครัวหล่อนก็เอื้อต่อธุรกิจครอบครัวของคุณ ไม่มีเหตุผลข้อไหนเลยถ้าคุณรักหล่อนแล้วผมจะต้องขัดขวาง หล่อนไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่คุณเคยควง หล่อนดีกว่าผู้หญิงพวกนั้น ไม่มีประวัติด่างพร้อย”

“เจ้า!” ธราเสียงกร้าวด้วยความไม่พอใจ “นอกจากมึงจะเก่งเรื่องยัดเยียดตัวเองเข้ามาในชีวิตกูแล้ว ตอนนี้ยังพยายามยัดเยียดกูให้คนอื่นอีกเหรอวะ! กูบอกแล้วไงว่ากูก็แค่ควง กูไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับน้องบี”

“คำพูดของคุณทำให้ผมยิ้ม”

“มึงมันบ้าไง กูบอกอยู่ว่าจะเลิกติดต่อแล้ว ถ้าอีกแค่วันเดียวมันทำให้มึงฟุ้งซ่าน กูเลิกกับน้องตอนนี้ก็ได้”

“อย่าทำแบบนี้สิครับที่รัก” ไอ้เจ้ายิ้มกว้างเต็มหน้า กลั้นยิ้มอย่างไรก็กลั้นไม่อยู่ “มันทำให้ผมคิดว่าคุณแคร์ผมนะ”

“ก็แคร์ไง” ธราหน้าบึ้ง “กูเบื่อจะด่ามึงแล้ว แต่ถ้ามึงไม่เลิกโง่ กูจะต่อยมึงจนหายโง่เลยไอ้เหี้ย!”

“เกรี้ยวกราดกลบเกลื่อนอีก เฮ้อ...คนเรา”

“รู้ว่ากูแคร์แล้วก็เลิกงี่เง่า เบื่อจะฟังมึงตัดพ้อ”

“ครับๆ เข้าใจแล้วครับที่รัก”

ขยับเข้าใกล้อีกนิดแล้ว...รู้ว่าไม่ควรหวัง แต่ธราทำแบบนี้ ไอ้เจ้าก็อดคิดไม่ได้จริงๆ

“จะไปกันได้ยัง ยืนคุยนานจนรากงอกแล้ว กูหิวข้าว”

“งั้นกินผมไปพลางๆ ก่อนไหม ของหวานรองท้องอะไรแบบนี้”

ธรามองไอ้คนใจกล้า สบตามันตามตรงแต่คราวนี้เขาจะไม่เป็นฝ่ายหลบเลี่ยง เมื่อทำแบบนั้นคนที่ไม่คิดว่ามันจะหน้าแดงกลับหน้าแดงขึ้นมา ไอ้เจ้าหลบตา หน้าแดงไปจนถึงใบหู มันปากกล้าแต่คงไม่ประสีประสาแน่ๆ

“เดี๋ยวก่อนครับที่รัก” ไอ้เจ้าหน้าตื่นเล็กน้อยเมื่อธราก้าวเข้าใกล้ มันถอยหลังธราก็ยังตามมาจนแผ่นหลังมันชิดกับประตูรถ แขนแข็งแรงทั้งสองข้างของธราก็กักตัวมันเอาไว้ “ใจเย็นก่อน”

“ให้กินรองท้องไม่ใช่เหรอ” ธรากระซิบ “ขอกินเลยได้ไหมล่ะ”

“เดี๋ยวๆ” ไอ้เจ้ายกมือขึ้นดันแผ่นอกกว้าง “คุณจะเปลี่ยนมาเป็นคนคุกคามผมไม่ได้นะ”

“ทำไมจะไม่ได้ ทีมึงยังทำได้มาตลอดเกือบสองปี อย่าบอกนะว่าเก่งแต่ปาก แต่ภาคปฏิบัติไม่เคยทำ”

ไอ้คนปากเก่งลอบกลืนน้ำลาย รู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายที่วิ่งเตือนอยู่ในหัว “ดิน...ผมว่าที่นี่คงไม่เหมาะ”

“งั้นในรถ”

“รถเพื่อนผม เดี๋ยวเลอะครับ”

“ประเทศไทยมีธุรกิจคาร์แคร์”

“ง่า…”

ธราหัวเราะกับสีหน้าของไอ้เจ้า มันหน้าซีดไปถนัดตาเลย ก็ถ้ารู้ว่ามันเป็นอย่างนี้คงไม่ปล่อยให้มันคุกคามมาได้จนถึงตอนนี้หรอก “ตอนที่มึงใจกล้าเปลือยให้กูเห็น กูเชื่อไปแล้วนะว่ามึงกร้านโลก”

“ก็แค่เห็น เอาไม่ได้นี่ครับ แล้วตอนนั้นดินก็แทบไม่มองผมด้วยซ้ำ พอมีคนอายมากกว่าผมก็เลยไม่ค่อยอาย แหะ”

“อ้อ...เพราะคิดว่ายังไงกูก็รังเกียจจนไม่เอามึงสินะ ถึงได้ยั่วโดยไม่คิด”

“พูดอย่างกับมานั่งอยู่กลางใจ”

ธรายกมือขึ้นลูบแก้มของไอ้เจ้า ปัดผมยาวรุงรังที่บดบังใบหน้าของมันออกพร้อมกับแว่นกรอบเหลี่ยมเลนส์หนาเชยๆ ถูกถอดให้พ้นหูพ้นตา “ยั่วกูอีกได้ไหม เพราะตอนนี้กูโคตรอยากเอามึงเลย”

“ที่รักใจเย็นก่อน”

“หิว”

“ผมจะรีบพาไปกินข้าวเลย ตอนนี้ห้ามใจไว้นะ”

“หึ ไอ้บ้า” ธราหลุดยิ้ม มือหนาบีบริมฝีปากบางเบาๆ “ครบรอบสองปี กูรู้แล้วว่าอยากได้อะไร”

“อะไรครับ”

“มึง” ธราแลบลิ้นเลียริมฝีปาก “กูอยากเอามึง ให้กูได้ไหม”

ไอ้เจ้าหน้าแดงก่ำจนเหมือนมันจะเป็นลม “ครบรอบสองปีต้องเสียซิงเลยเหรอ”

“ให้ไหมล่ะ”

“ให้ก็ได้ ยังไงหัวใจผมก็เป็นของคุณแล้วนี่ ไม่ช้าก็เร็วตัวผมก็ต้องตกเป็นของคุณ อิ๊”

“กลับมาซ่า” ธราส่ายหัวอย่างอ่อนใจ “เตรียมถุงยางให้กูด้วยนะ ส่วนเรื่องขนาด...ไว้มึงมาวัดเอง”

“หัวใจผมจะวายก่อนได้เสียซิงไหม” ไอ้เจ้าหน้าร้อนผ่าวจนแทบระเบิด “แต่ผมจะเตรียมให้ครับ อะไรที่ที่รักอยากได้ ผมให้ได้ทั้งนั้น”

“อืม”

“แล้วก็...อย่าลืมบอกเลิกดาวเภสัชฯ ล่ะ คุณรับปากแล้วนะครับ”

“ครับ”

“หู้ยย คุณพูดเพราะ ผมไม่ชินเลย แค่คุณพูดครับผมก็เสียวไปทั้งตัวแล้ว”

“มึงนี่มันปากดีจริงๆ เดี๋ยวได้เสียวในรถแน่” ธราดีดหน้าผากไอ้คนดีแต่ปากแต่ใจกากไปสองทีจนมันมองค้อน ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ “รีบขึ้นรถ กูหิวข้าว”

“จ้า”

ธราอาจจะยังไม่ได้รัก อาจมีแค่ความผูกพันที่ทำให้ธราใส่ใจกับความรู้สึกของไอ้เจ้า แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลแบบไหน สำหรับไอ้เจ้าแล้วแค่เพียงเท่านี้ก็ทำให้มันยิ้มได้และมีแรงที่จะยืนอยู่เคียงข้างธราต่อไป

ความพิเศษของคนที่เกลียดเป็นพิเศษขอให้คงอยู่ไปนานๆ ด้วยเถอะนะ เพราะคำว่าเกลียดของธรา ไอ้เจ้ารู้ดีว่ามันหมายถึงคำว่ารัก



.
.
.
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 23-10-2018 19:25:25

06:50 AM

OMG: ที่รัก

D. : ว่า

OMG: ข้าวมันไก่กับโจ๊ก เอาไรครับ

D. : ข้าวต้มหมู

OMG: ไม่มีในตัวเลือก

D. : จะกินข้าวต้ม

OMG: เอาแต่ใจจัง ถ้างั้นต้องไปกินด้วยกัน อาบน้ำยังครับ

D. : อืม หลังจากมึงปลุกสิบนาทีก็ไปอาบ วันนี้เลคเชอร์ถึงเก้าโมงแล้วขึ้นคลินิก

OMG: ผมไปส่งนะ กินข้าวเช้าเสร็จแล้วเข้ามอด้วยกัน

D. : มึงมีเรียนบ่ายไม่ใช่เหรอ

OMG: เรื่องของผม

D. : กูถามดีๆ ไอ้เหี้ย

OMG: โทษครับท่าน เรียนบ่ายครับ แต่ผัวเรียนเช้า ต้องไปส่งผัว

D. : ผัวมึงน่ะใคร

OMG: ยังไม่รู้ตัวอีก ไปส่องกระจกไป๊ รำคาญผัวโง่

D. : หึ มาให้กูเอาก่อนแล้วจะเป็นให้

OMG: อยากครางชื่อดินแล้วค้าบ

D. : มาปากเก่งต่อหน้ากูมา

OMG: อิ๊ ไม่ว่าง ซื้อข้าวต้มอยู่

D. : ไหนบอกไปกินพร้อมกัน

OMG: เปลี่ยนใจแล้วครับ เอาไปให้ที่ห้องดีกว่า อยากครางชื่อดินแบ้ว

D. : แบ้วที่หน้ามึงอ่ะ งั้นรีบมานะ น้ำเต้าหู้ด้วย

OMG: ครับที่รัก





ไอ้เจ้าผิวปากอารมณ์ดี เช้าวันนี้ก็สดใสอีกแล้ว ธราที่รักของมันใจอ่อนลงเยอะ ไม่ได้เอาแต่ด่า คำว่าเกลียดก็ได้ยินน้อยลง ธราเปิดโอกาสให้มันเข้าหามากขึ้น ทักไลน์หาก็ตอบอย่างรวดเร็ว โทรปลุกก็ไม่มีทีท่ารำคาญแม้เจ้าตัวจะบ่นจนตื่นเต็มตา ตอนเย็นก็ยอมให้ไปอยู่ด้วย อนุญาตให้มันส่งเข้านอน บอกฝันดี ก่อนจะไล่ให้กลับห้องพร้อมคำอวยพรให้แค่ว่าฝันร้ายนะมึง แต่แค่นั้นไอ้เจ้าก็ระทวยมากแล้ว

เสียงดุที่เอื้อนเอ่ย ตาเรียวที่มองมา เกือบจะไม่ทนแล้ว เกือบใจง่ายให้ธรากินมันเข้าไปทั้งตัว จะได้ถือโอกาสวัดขนาดแล้วไปเลือกซื้อของตามสั่งให้เลย

ไอ้เจ้าถือถุงข้าวต้ม แตะคีย์การ์ดที่ลิฟต์เพื่อนำมันขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัย ต้องขอบคุณความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งนี้ ทั้งเป็นส่วนตัวและไม่ต้องระแวงอันตรายใดๆ โจรโมยไม่ต้องพูดถึงเพราะแค่มดสักตัวก็ผ่านเข้ามาได้ยาก

ไอ้เจ้ายกมือเคาะประตูเป็นมารยาทก่อนจะกดรหัสเข้าห้องของธรา พอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าร่างสูงในชุดนักศึกษากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา

“มาแล้วครับ” ไอ้เจ้าบอกเมื่อเห็นว่าธราไม่มีทีท่าหันมาสนใจ “ที่รักได้ยินหรือเปล่า”

“อือ” ธราขานรับแต่ตายังไม่ละความสนใจจากหนังสือ พอมีสมาธิทีไรก็เป็นแบบนี้ทุกที

ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ...

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มแม้คนที่ยิ้มให้จะไม่หันมามองก็ตาม ก่อนมันจะเดินไปที่ครัว จัดการเทข้าวต้มใส่ถ้วยแล้วยกไปเสิร์ฟ

“ดิน กินข้าว”

“รู้น่า” ธราวางหนังสือแล้วหันมาสนใจถ้วยข้าวต้มกลิ่นหอมฉุยตรงหน้า “ของมึงล่ะ”

“ไม่มีครับ ตังค์ไม่พอ”

“มึงรวยไม่ใช่เหรอ แค่ข้าวต้มถุงละไม่กี่บาท ทำไมไม่ซื้อของตัวเองมาด้วย”

“ผมไม่เคยบอกเลยนะว่าผมรวย คิดไปเองแล้ว”

“เชื่อมึงกูก็ควาย” ธราผลักหัวไอ้เจ้าไปสองที ก่อนจะบอกเสียงห้วนว่า “กินด้วยกัน”

ไอ้คนจนยิ้มกริ่ม “ดินใจดีกับผมจัง รักผมแล้วใช่ไหม”

“กูสงสาร”

“ปากแข็ง”

“ไหนบอกว่านิ่ม”

พูดมาแบบนี้ไอ้เจ้าก็ไปไม่เป็น “ไม่รู้ๆ ๆ ๆ กินกันครับ ผมป้อนนะ อยากทำหน้าที่เมียที่ดี อิ๊”

ธรากระตุกยิ้มมุมปาก ปากก็เก่ง ขี้เขินก็ที่หนึ่ง แต่ก็ยังทำตัวบ้าๆ บอๆ “งั้นมานั่งตัก”

“เดี๋ยวเสื้อดินยับ”

“มา”

ไอ้เจ้าเบ้ปากใส่คนเอาแต่ใจ ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง แต่เมื่อชิดใกล้กลิ่นหอมจากตัวบุรุษเพศก็ทำเอาหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา ธรายกแขนขึ้นโอบรอบเอวบาง ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นวางเกยอยู่บนไหล่แคบ ไอ้เจ้าหายใจกระตุก ไม่คิดฝันว่าจะมีวันได้อยู่ในท่าล่อแหลมอย่างนี้กับธรา

“ที่รัก นั่งแบบนี้แล้วผมจะป้อนคุณยังไง”

แล้วนั่งแบบนี้หัวใจวายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ!

“หาทางเอง”

“คุณต้องรีบกินนะ เดี๋ยวจะสาย ปล่อยผมก่อน”

“ถ้าสายก็เป็นความผิดของมึง”

“โทษกันซะงั้น อ๊ะ! เจ็บครับดิน” ไอ้เจ้าร้องเสียงหลง รู้สึกเหมือนเนื้อตรงไหล่จะหลุดเมื่อถูกฟันคมๆ ของธรากัดเข้าให้

“มันเขี้ยว”

ไอ้เจ้าหันมอง ตาสบตา “อย่าให้ผมโมโห”

“อยากเห็นมึงโมโหจริงๆ”

“ทำไมไม่กลัวผมแล้ว”

“มึงมันก็แค่แมวมาขู่เสืออย่างกู”

คนหน้าเหมือนแมวเม้มริมฝีปาก ก่อนจะใจกล้าจูบที่ปลายคางหนาแล้วเลื่อนขึ้นงับริมฝีปากล่างของธรา “ลงโทษ”

“เกลียดว่ะ” ธรากระซิบเสียงพร่า มือข้างหนึ่งรั้งท้ายทอยของไอ้เจ้าแล้วดึงเข้าหา จากนั้นริมฝีปากได้รูปก็บดจูบริมฝีปากบาง เคล้าคลึงเน้นย้ำจนได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอของไอ้เจ้าที่ตอนนี้ในหัวเริ่มขาวโพลน เหมือนสมองหยุดการทำงานไปชั่วขณะ ธราบดจูบ ดุดันและหนักหน่วงจนริมฝีปากบางนั้นแดงช้ำ ไม่นานก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากอุ่น เกี่ยวกระหวัดเอาเรียวลิ้นนุ่มมาดูดชิม

“อึก…” ไอ้เจ้าเกือบลืมวิธีหายใจ มันยกมือขึ้นทุบไหล่หนาเป็นการท้วงแต่ก็ถูกมือของธรารวบเอาไว้ แววตาของมันฉ่ำเยิ้ม หวานเชื่อมจนทำให้ธราเกือบคุมตัวเองไม่ไหว กลีบปากบางถูกฟันขาวงับ ดูดชิมจนแทบหายเข้าไปในโพรงปากของอีกคน น้ำใสไหลซึมที่มุมปากก็ถูกจัดการด้วยลิ้นร้อน ทำเอาหัวใจของไอ้เจ้าเต้นแรงจนเหนื่อย “ที่รัก...พอก่อนครับ”

“อืม” ธรารับคำ แต่สายตายังมองจ้องริมฝีปากบาง “ทำไมรสโคล่า”

“ก็เพิ่งกินอมยิ้มรสโคล่า”

“เดี๋ยวก็ฟันผุ”

“ฟันผุก็ให้หมอดินรักษา แล้วถ้าฟันไม่ผุแต่อยากโดนหมอฟันต้องทำไงอะ” ไอ้คนปากเก่งคลี่ยิ้มยั่ว “อยากได้หมอดินเป็นผัวต้องทำไงครับ”

“หึ ยั่วกูตอนนี้จะดีเหรอ”

ไอ้เจ้าหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นสีหน้าของธรา แววตาที่มองมาก็สื่อได้เป็นอย่างดีว่าเขาต้องการอะไร

“กินข้าวนะครับ”

“อืม”

“ป้อนนะ”

“ครับ”

ชอบฉิบหาย...ชอบจะตายอยู่แล้วโว้ย! ยังจะมาพูดเพราะให้หลงอีก!

ไอ้เจ้าแทบระทวยในอ้อมกอดของธรา ข้าวต้มในถ้วยจากร้อนๆ ก็เริ่มอุ่น แต่คงไม่อุ่นเท่าอ้อมกอดของธราเป็นแน่ ตอนนี้อะไรๆ ธราก็ดีเลิศไปซะหมด แม้เมื่อกี้เขาจะบอกว่าเกลียด แต่สายตาที่มองมาไม่เห็นจะเกลียดอย่างที่พูดเลย

“เจ้า”

“หืม”

“ห้าสิบสองนะ”

“อะไรเหรอที่รัก”

“ถุงยาง”

ไอ้เจ้าเผลอกัดริมฝีปาก หูอื้อไปกับสิ่งที่ได้ยิน “อะ...เอาแบบไหนครับ”

“เจ้าชอบแบบไหน”

“ไม่รู้ ผมไม่เคยทำ”

ไอ้เจ้าเป็นคนใจกากแต่ปากเก่งของจริง มันโตมาจนอายุปูนนี้ก็ยังไม่เคยเชยชมหญิงงาม โอกาสที่จะได้ใช้เครื่องป้องกันจึงไม่มีเลยสักครั้ง แม้จะมีคนเข้าหา แต่หัวใจของมันก็ไม่เคยเปิดรับใคร พอมีคนเข้าใกล้ก็รีบถอยห่างออกมา เพราะหัวใจของมันรอแค่คนคนเดียว เป็นของคนคนเดียว

หัวใจของมันเป็นของคนที่ชื่อ...ธรา

“งั้นเอามาทุกแบบ จะได้ลอง”

“ครับที่รัก”

ตอบรับไปแบบนั้นแต่หัวใจกำลังใกล้โคม่า ไอ้เจ้าจะรอดตายได้อย่างไรหากว่าธรายังทำตัวให้น่าระทวยด้วยขนาดนี้ กลับมาด่ากันก็ได้ กลับมารังเกียจ กลับมาหวงเนื้อหวงตัวอีกก็ได้ เป็นแบบนี้ไอ้เจ้าไม่ชินเลย!





Bee : ก๊อกๆ สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ดิน ตื่นหรือยังคะ





ไอ้เจ้าเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะกระจก ข้อความจากดาวเภสัชฯ ปรากฎหราจนคิ้วเข้มของมันขมวดมุ่น ก่อนจะถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์มือถือของธรามาปลดล็อกแล้วเปิดดูข้อความ

“ธรา” ไอ้เจ้าเอ่ยเสียงเรียบ ทำเอาคนที่กำลังซุกซบอยู่กับซอกคอของมันถึงกับหยุดชะงัก

“ว่า”

“ยังไม่เลิกอีกเหรอ”

ธราเลิกคิ้วไม่เข้าใจเพียงครู่ ก่อนจะเห็นข้อความที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองซึ่งไอ้เจ้ากำลังเปิดอ่าน “คุยกันรู้เรื่องแล้ว”

“แล้วทำไมยังทักมาอีกครับ ทักมาทุกเช้าเลยด้วย”

ไอ้เจ้าเป็นคนขี้หึงและขี้หวงมากๆ รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่มันก็มึนอ้างสิทธิ์ไปอย่างนั้น แรกๆ ธราก็รำคาญ แต่ไม่รู้ว่าชินตอนไหน พอมันตั้งคำถามก็เผลอตอบ อาจมีบ้างที่โวยวายกลับ แต่ส่วนใหญ่ก็อธิบายให้ไอ้เจ้าเข้าใจ เพราะรู้ว่าถ้าไม่อธิบายมันก็จะเป็นหมาบ้าไม่เลิก

“ไม่รู้ กูจะไปรู้ได้ไง”

“ต้องรู้สิ ก็คุณคุยกับเขาตลอด ไม่ตัดขาดจริงๆ สักที”

“ตกลงเป็นพี่น้องกันแล้ว เข้าใจกันทุกฝ่าย มีแต่มึงนี่แหละที่ไม่เข้าใจ”

“ผมเข้าใจนะ แต่ผมไม่เข้าใจว่าพี่น้องบ้านไหนบอกฝันดี บอกคิดถึงกัน มีชวนไปกินข้าว ดูหนัง ไอ้เหี้ยเอ้ย! ผมยังไม่เคยไปดูหนังกับคุณเลยนะ”

ไอ้เจ้าเลื่อนอ่านบทสนทนาของคนทั้งคู่ก็ยิ่งหัวร้อน แต่ดูได้ไม่นานมือหนาของธราก็ดึงโทรศัพท์มือถือออกจากมือของมัน

“ก็แค่คุย จะหัวร้อนอะไรนักหนา ไม่คิดจะให้กูคุยกับเพื่อนร่วมโลกเลยหรือไง อย่าบ้าให้มากเจ้า มันน่ารำคาญ”

ไอ้เจ้าเม้มริมฝีปาก จ้องรูปหน้าหล่อเหลาของคนที่มันชอบเขม็ง “เค ผมจะไม่ยุ่งแล้ว”





Bee : พี่ดินขา จะรบกวนอะไรไหมคะถ้าบีจะขอติดรถไปที่มอด้วย ทางเดียวกันไปด้วยกัน ประหยัดนะคะ แหะๆ

Bee : ยังไงตอบบีหน่อยน้า รออยู่นะคะ





“ตอบหล่อนสิ” ไอ้เจ้าบอกเสียงห้วนพลางลุกจากตัก ในขณะที่ธราคว้าข้อมือของมันไว้ “บอกเลยว่าคุณจะไปกับหล่อน จะไปรับแล้วส่งถึงหน้าคณะเลย”

“อย่าประชด”

“ผมไม่ได้ประชด คอนโดฯ หล่อนก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มาก คงสะดวกสำหรับคุณนะธรา” ใบหน้าเรียบนิ่งของไอ้เจ้ายิ่งทำให้ธราว้าวุ่นใจมากขึ้น “ถ้าคุณไม่คิดจะตัดหล่อนจริงๆ ก็บอกผมตรงๆ อย่าให้ความหวังผม ผมไม่สนุกไปกับคุณด้วย”

“เจ้า มึงโคตรไม่มีเหตุผล” ธราบีบข้อมือของไอ้เจ้าแน่นด้วยแรงโทสะที่เริ่มปะทุ “กูบอกแล้วว่าเป็นพี่น้องกัน คุยกันเข้าใจแล้ว กูไม่ได้คิดอะไร แล้วถ้าเขาคิดกูจะห้ามได้ยังไง”

“งั้นก็เล่นบทพี่ชายที่แสนดีของคุณต่อไปนะธรา ผมขอตัว”

“มึงแม่ง...คุยกันไม่เคยรู้เรื่อง กี่ครั้งมึงก็แบบนี้ อยากไปไหนก็ไป!”

ไอ้เจ้าเดินตรงไปที่ประตู มันเปิดออกแล้วกระแทกปิดดังโครมใหญ่ ปล่อยให้ธราหัวเสียกับนิสัยของมัน ไม่ชอบเวลาที่ไอ้เจ้าเป็นหมาบ้า มันไม่เคยฟังเหตุผล มันไม่เคยเชื่อใจ คำพูดของเขาเหมือนเป็นแค่คำพูดผ่านๆ ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือ ทะเลาะกันกี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน สถานะก็แค่มันเป็นทำตัวโรคจิตคอยตามเขา แต่กลับต้องมาใส่ใจยิ่งกว่าคนเป็นแฟนกัน





D. : ได้ครับ เดี๋ยวพี่ไปรับ

Bee : เย้ ดีใจจังเลยค่า จะออกมาแล้วบอกบีนะคะ รอที่หน้าคอนโดฯ

D. : ครับ





ทำไมไอ้เจ้าถึงไม่พูดง่ายๆ เหมือนคนอื่น ทำไมถึงได้ยากเย็น แค่เพราะเป็นมัน แค่เพราะเป็นไอ้เจ้า เรื่องง่ายๆ กลับเป็นเรื่องยากไปได้ในพริบตา





D. : ตอนเที่ยงมาหากูที่คณะด้วย

OMG: ไม่ได้ชื่อบีครับ

D. : อย่ากวนตีน มาหากูนะ มาคุยกัน

OMG: เรื่องของผม ผมไม่ไป

D. : เดี๋ยวนี้มึงชักเอาใหญ่

OMG: แล้วยังไง ก็เรื่องของผมอีกเหมือนกัน

D. : เจ้า กูไม่อยากทะเลาะด้วยแล้วนะ

OMG: งั้นก็อย่ามายุ่งกับผม

D. : มึงมายุ่งกับกูก่อนนะไอ้เหี้ย มาตามกูต้อยๆ ยัดเยียดนั่นนี่ แล้วสุดท้ายมาพูดหมาๆ แบบนี้เหรอวะ

OMG: ธรา คุณอาจจะลืมไปนะว่า ผมตามคุณได้ ผมก็เลิกตามได้

D. : งั้นกูคิดได้ใช่ไหมว่าคนอย่างมึงก็ดีแต่พูด

D. : จะไม่ไปไหน จะไม่ทำให้กูเสียใจ แล้วตอนนี้มึงกำลังทำอะไร

D. : กูโคตรเกลียดมึงเลยเจ้า เกลียดคนอย่างมึงจริงๆ





เพราะไอ้เจ้าก็คือไอ้เจ้า มันปุบปับเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว และวันใดวันหนึ่งมันอาจจะหายไปโดยที่ธราไม่ทันตั้งตัวเลยก็ได้ แล้วความรู้สึกของเขา...ใครจะรับผิดชอบ





OMG: ขอโทษครับที่รัก

OMG: ผมขอโทษนะ

OMG: ผมหวงคุณมาก ผมไม่ชอบที่ใครเข้าใกล้คุณ ผมโมโห ผมอารมณ์ไม่ดีเลย

OMG: ยกโทษให้ผมนะ ผมจะใจเย็นมากกว่านี้

D. : กลับมา

OMG: แต่เมื่อกี้คุณไล่ผม

D. : เจ้า กลับมาหากู

OMG: ถ้าผมเข้าไปแล้ว จูบผมนะ ปลอบผมหน่อย

D. : ครับ รีบเข้ามา





แค่เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากจบบทสนทนาในโทรศัพท์มือถือ ประตูห้องก็ถูกเปิด ไอ้เจ้าเดินตรงมาหา โผเข้ามาในอ้อมกอดของธราแล้วเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อน เขาแทบตั้งตัวไม่ทันแต่สุดท้ายก็จูบตอบมันกลับไป

“ที่รักครับ” ไอ้เจ้าร้องเรียก แววตาฉ่ำเยิ้ม

“หืม” ธราที่ยังคลอเคลียอยู่กับซอกคอของมันขานรับในลำคอ

“บอกผมหน่อย” มันทำเสียงอ้อน

“บอกอะไร” กระซิบถามเสียงพร่า

“บอกว่าเกลียดผม แล้วก็จูบผมแรงๆ”

“เกลียด” เสียงแผ่วเบา ก่อนริมฝีปากได้รูปจะกดจูบลงที่ลำคอ ดุนดันลิ้นให้เกิดร่องรอย “กูเกลียดมึงเจ้า โคตรเกลียดเลย”

“แต่ผมรักคุณ” เสียงของไอ้เจ้าเบาหวิว เกือบหลุดเสียงครางเมื่อใบหน้าหล่อเหลายังคงซุกซบที่ซอกคอและลิ้นของเขาก็ดุนดันอยู่บริเวณนั้นไม่ผละหนี “โคตรรักคุณเลย”

“อืม”

“คุณเป็นของผมนะ”

“ครับ”

“อย่ายุ่งกับคนอื่น”

“อยากมีคนที่สิบเอ็ด”

“ไม่ได้”

“แค่ควงได้ไหม”

ไอ้เจ้าหน้างอ “ผมเจ็บนะ หัวใจผมจะไม่ไหวเข้าสักวัน”

“แต่กูแคร์มึง” ธราอมยิ้ม “แค่นี้ยังไม่พอเหรอ”

“ไม่ครับ ผมโลภ”

“แล้วแค่ไหนถึงจะพอ”

“แค่รัก”

“ไม่รัก”

“เกลียดก็ได้”

“อืม เกลียดว่ะ” พอพูดคำว่าเกลียดก็อดไม่ได้ที่จะบดคลึงริมฝีปากบางของมัน “อย่าเป็นหมาบ้าอีกนะ ไม่อยากทะเลาะ”

“คุณก็ทำตัวดีๆ”

“ขนาดยังไม่ได้เป็นเมียยังหวงขนาดนี้”

“ผมเป็นแล้วเหอะ เป็นมานานแล้วด้วย”

แค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง...

“จูบอีกทีเร็ว เดี๋ยวกูไปรับน้องบี”

“ง่ะ”

“ตามใจผัวมึงหน่อย”

“โว้ยยย! ขี้โกง พูดแบบนี้ก็ต้องตามใจอยู่แล้วสิ!”

“แล้วมากกว่าจูบล่ะ”

“ได้ อยากได้มากแค่ไหนพูด”

“ใช้ปากให้กู เหมือนที่มึงเคยบอก”

“แต่คุณแต่งตัวแล้ว”

“ไม่รู้เหรอว่าเสื้อผ้ามันถอดออกได้”

“ง้าาา...ถ้าผมหัวใจวายตายผมจะโทษคุณนะที่รัก รับผิดชอบผมด้วย”

“ครับๆ”

“ร้องว่าโอ้พระเจ้าดังๆ เลยนะ ผมอยากฟัง”

“ก็เหี้ยละ!”

บางทีธราก็ได้แต่สงสัยในความรู้สึกของตัวเองว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เขาเกลียดไอ้เจ้าจริงๆ ใช่ไหม...

.......TBC.......

ขอบคุณที่ให้การต้อนรับพี่เจ้ากันนะคะะะะ ขอบคุณมากค่า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-10-2018 20:26:09
คนแปลกๆ แบบเจ้านี่ ทำเอาหลงเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-10-2018 20:57:53
หมั่นไส้ธราจริงๆค่ะ
ปากไล่ ปากบอกเกลียดแต่ขาดเจ้าไม่ได้
เอ็นดูความไม่เคยได้ใช้งานหนอนน้อยของเจ้า
เชียร์ให้มีคนกินเจ้าแทนซะเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 23-10-2018 21:03:16
สรุปตอนนี้ใครล่อลวงใครกันแน่  ... การ์ดที่ธราอ่านรอบนั้นอาจจะเป็นการ์ดที่ธราเคยเขียนให้เจ้าก็ได้นะ แบบอาจจะความจำเสื่อม เลยลืมไปงี้แล้วเจ้าพยายามกลับมา แต่ก็นะ....รอบนี้เหมือนผัวเมียกันมากๆแต่แอบคบกันงี้ คนอื่นไม่รู้ ผัวก็ยังไปร่าเริงกับคนอื่น :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 23-10-2018 21:25:32
แปลกทั้งคู่เลยอ่ะ​ ไปเป็นแฟนกันจริงๆจังๆซะไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 23-10-2018 21:30:27
ทำไมอ่านแล้วเหมือนหัวมันจะหมุนติ้ว ติ้ว ติ้ว ยังใงไม่รู้ :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-10-2018 21:54:04
ก้าวหน้าแล้วระหว่างดิน เจ้า  :hao3:
พัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงยอมรับอาหาร   o22 o22 o22
นั่งตัก กัดไหล่ จูบคาง จูบดีพคิส ป้อนข้าว   :o8: :-[ :impress2:
อะจ๊ากกกกกก มาถึงขั้นนี้แล้ว มันยอดมาก......พระเจ้า   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เหมือนดินจะขาดเจ้าไม่ได้ซะแล้ว
ดิน  เจ้า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 23-10-2018 22:08:54
หมั่นใส้ธราาาาาา อยากแหมมม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 23-10-2018 22:08:58
มาติดตามพระเจ้าด้วยคนค่ะ

หวังว่าเรื่องนี้จะไม่ดร่ามา มากน้าา หัวใจคนอ่านช่างบอบบาง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 23-10-2018 22:15:34
หวานๆแบบกลัวดราม่า  :ling3:
ดินความจำเสื่อมหรือเปล่า
ที่บอกว่าตอนนี้ไม่แน่ใจเลยสักเรื่อง

สงสารเจ้าเวลาที่ดินยุ่งกับคนอื่น
แต่ก็เหมือนจะเข้าใจดิน เจ้าเข้าหาแบบแปลกๆ
นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป
แถมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าซักอย่าง
อาจทำให้ดินกลัวที่จะรัก

ดินหยุดทำร้ายจิตใจเจ้าเถอะ
เดี๋ยวน้องหายไปจริงๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 23-10-2018 22:33:04
โอ้ยยยยยยยยยย ชอบทั้งคู่เลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 23-10-2018 22:33:44
เป็นมานานแล้วแต่ไม่รู้คือยังไง กำกวมเหลือเกิน
กี๊ดดดดดด  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 23-10-2018 23:44:26
ดินจำไม่ได้เหรอ เหตุผลเดียวกับที่เจ้าต้องซิ่วรึเปล่า  :ruready
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 24-10-2018 00:03:23
ชอบนะ  อย่ามีมาม่าเลย
ความคิดเจ้า เวลาบรรยายดูไม่มีเบื้องหลัง


แต่ที่มาของเจ้า  ไม่ชัดเจนเลย
เหมือนพร้อมจะหายไปได้ตลอดเวลา
กลัวอิพี่ธราต้องร้องไห้
ตกลงธรานี่เป็นพี่หรือเป็นน้องเจ้า  อ่านแล้วเหมือนน้องเจ้าสองปีรึเปล่า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 24-10-2018 01:17:06
เจ้าเคยเป็นเมียของดินแล้ว แต่ดินจำไม่ได้รึเปล่า...อิ๊ ?? :katai1:

/me นี่ก็เดาไปเรื่อย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 24-10-2018 02:41:05
ตอนนี้ทั้งสองคน บ้าบอพอๆกัน พี่ธรา โดนเจ้าตกไปแล้วเรียบร้อย ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เหมือนมีอดีตต่อกันที่พี่ธราจำไม่ได้
รอเจ้าเฉลยคำตอบ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 24-10-2018 04:30:11
โอยลุ้นนนนน  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 24-10-2018 06:56:10
สรุปดินชักจะย้อนแย้งในตัวเองนะ 55 แต่เหมือนจะเริ่มจับทางการรับมือกับ OMG​ ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 24-10-2018 07:01:08
เคยรู้จักกันมาก่อน เคยรักกัน และเจ้าตามมา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 24-10-2018 09:59:29
โอยดีมากกก แต่คลุมเครือมากก เหมือนจะรักแต่ไม่รัก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 24-10-2018 10:01:20
เราอ่านซ้ำประมาณสามรอบได้
ทำไมเจ้าพูดเหมือนเคยเจอธรามาก่อน หรือรู้จักมาก่อนที่จำทำตัวโรคจิตแบบนี้อะ
แต่ธรานี่น้า ปากบอกเกลียดๆ แต่เขาทำตัวหนีห่างหน่อยก็หงุดหงิด
แถมจ้องจะเอาเขาอย่างเดียว
แหมมมมมมม ขนาดนี้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 24-10-2018 13:54:43
เจ้านี่มันมาโซในตำนานชัๆ 55555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 3 โอ้...พระเจ้า ​P. 2 23/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 24-10-2018 17:44:52
ขอลงถี่ๆเลยนะไรท์  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-10-2018 18:21:57
ตอนที่ 4 คนใจร้าย



“นายเจ้า” ไอ้เอ๋เอ่ยเรียกในยามเช้าของวันศุกร์ “ผมได้ยินเสียงซุบซิบนินทาตอนที่กำลังเดินไปซื้อน้ำแดงโซดาให้นาย ผมหยุดฟังแล้วตัวสั่นเหมือนผีเข้า ทนฟังแทบไม่ไหว คำพูดพวกนั้นเหมือนมีดแหลมคมกรีดแทงใจเกินไป”

ไอ้เอ๋เล่นใหญ่ มันทำหน้ามู่ทู่ กระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้แข็งๆ จนร้องโอดโอย ลืมคิดไปเสียสนิทว่าที่นี่คือโรงอาหารคณะ ไม่ใช่ห้องนั่งเล่นที่มีโซฟานุ่มๆ

“นินทากาเลก็แค่ลมปาก ว่าแต่พวกมันนินทาใครรึเพื่อนรัก” ไอ้เจ้ายอมเงยหน้าขึ้นจากเลคเชอร์ของไอ้เอ๋ที่อุตส่าห์จดเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับมันที่โดดเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ทางดินไปเมื่อคาบก่อนและวันนี้มีควิซก่อนเรียนจึงต้องรีบศึกษาหาความรู้ยัดใส่สมอง

“นินทานายไงเพื่อน คนพวกนั้นกล่าวถึงทรงผมนายที่รกรุงรังไม่ต่างจากลิงอุรังอุตังเพิ่งหลุดจากสวนสัตว์ แว่นตาบนดั้งจมูกนายก็คงไปหนักอยู่บนหัวใครสักคนถึงได้เป็นปัญหาของพวกเขา” ไอ้เอ๋เปิดปากเล่า วางน้ำแดงโซฟาเซ่นไหว้เพื่อนของมัน “แต่นายอย่าไปคิดมาก นายมีสไตล์และคาแร็กเตอร์ของตัวเองที่ไม่มีใครเข้าใจ แม้แต่ผมเองก็ยังสงสัยว่านี่เพื่อนหรือลิงลพบุรี”

ไอ้เจ้ายกมือขึ้นจัดทรงผม ขยับแว่นบนดั้งจมูกให้เข้าที่ เห็นทีต้องไปเลือกทรงแว่นใหม่ ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะมีเบ้าหน้าดูดีเข้ากับทุกเครื่องประดับและทรงผมเหมือนธรา เชื่อเถอะว่าให้สวมแว่นเลนส์หนาและไว้ผมทรงไอ้เจ้า ธราก็ยังโดดเด่นอยู่ดี คงมีแต่คนกรี๊ดลุกหล่อเซอร์ แตกต่างจากไอ้เจ้าที่เป็นลุกสกปรกรกรุงรัง

“ไอ้สัดเอ๋ ลิงลพบุรีตัวไหนจะหล่อได้เท่าผม ตาประมาณนี้ คิ้วประมาณนั้น ริมฝีปากก็น่าย่ำยี อื้อหือ นี่ชาติที่แล้วผมไปกู้ชาติมาหรือไงถึงได้เด้งโดดปานนี้ แต่เดี๋ยวก่อนเรื่องทรงผม ไอ้ผมน่ะก็แค่ลืมไปว่าควรตัดให้เป็นทรง ไม่ได้จะตั้งใจไว้ให้ยาวหนักหัวใคร”

ไอ้เอ๋มองด้วยความสงสัย มันห่อริมฝีปากก่อนเอ่ยถาม “เรื่องแบบนี้ลืมกันได้ด้วยหรือนาย แต่เมื่อเช้าผมก็ลืมขับถ่ายเหมือนกัน ตอนนี้เหมือนในท้องกำลังเต้นระบำสามช่า ไม่แน่ใจว่าควรไปเข้าห้องน้ำหรือนั่งคุยกับนายต่อดี”

“สมองของผมมีไว้จำแต่เรื่องของธรา นายอย่าคาดหวังให้ผมจำเรื่องอื่นเลย มันไม่คูล แล้วก็ไปเถอะเพื่อนรัก สุขารอนายอยู่ จะขี้จะเยี่ยวก็ตามสบาย ผมจะรอนายอยู่ตรงนี้ด้วยความห่วงใย”

ไอ้เอ๋พยักหน้าหงึก ถือเป็นอันเข้าใจกันดี “ไม่เป็นไร ข้าศึกสงบลงไปแล้ว แต่เอาอย่างนี้นายเจ้า ผมจะช่วยนายเลือกทรง ขอหาข้อมูลสักครู่”

ไอแพดขนาดเก้านิ้วถูกหยิบออกจากกระเป๋าเป้สีน้ำแดงเลือดนก ไอ้เอ๋ปลดล็อคแล้วเข้าหาข้อมูลทรงผมที่อินเทรนด์ในสมัยปัจจุบันให้กับเพื่อนรัก ในขณะที่ไอ้เจ้าไม่ได้สนใจอะไรมาก มันนั่งดูดน้ำแดงโซดาพลางกวาดสายตาอ่านเลคเชอร์

“นายเจ้า ทรงนี้ดีไหม ปาดเจลแล้วผมว่าคงเท่ไม่หยอก เจ้จีจี้จะต้องรู้ว่าการปฏิเสธให้ตำแหน่งเดือนกับนายนั้นเป็นเรื่องน่าขำขัน นายเจมส์เดือนสาขาจะต้องรู้ว่าหล่อวัวตายควายล้มแท้จริงแล้วเป็นยังไง” ไอ้เอ๋เปิดประเดิมรูปแรกด้วยสีผมบลอนด์สว่างรับกับทรงผมอันเดอร์คัท “ทรงนี้กำลังทันสมัย แป้งจี่จะต้องร่ำร้องหานายมากกว่าเดิม”

“สีผมไม่เด่นไปเหรอ มองผ่านๆ นึกว่าหงอกเต็มหัว” ไอ้เจ้าไม่เห็นด้วย ก่อนมันจะชี้ไปยังทรงข้างๆ “แบบนี้ก็ดี ผมชอบ”

“ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำผมทรงผู้นำเกาหลีเหนือแล้วปัง นายควรจะเข้าใจว่ามันไม่ได้อินเทรนด์”

“แต่นี่ระดับท่านผู้นำเชียวนายเอ๋” ไอ้เจ้าเถียง แต่ไอ้เอ๋ไม่เห็นด้วยอย่างแรง มันส่ายหน้าส่ายหัวคอแทบหลุด ก่อนจะรีบไถนิ้วเลื่อนภาพบนหน้าจอให้ทรงผมท่านผู้นำหลุดจากความสนใจของไอ้เจ้าไปซะ

“แล้วทรงนี้ล่ะเพื่อนรัก ผมทรงคอมม่า” ไอ้เอ๋นำเสนออีกครั้ง คราวนี้มันตั้งใจพรีเซ้นต์เป็นอย่างมาก “ทำสีน้ำตาลเข้มเข้าคู่กับธรา ผมว่านายตัดทรงนี้ต้องดูดีแน่ ผมมั่นใจ”

“ชอบคำว่าเข้าคู่” ไอ้เจ้ายิ้มกริ่ม ละทิ้งเลคเชอร์แล้วนั่งมองทรงผมที่ไอ้เอ๋นำเสนอ “ผมเอาทรงนี้”

“งั้นใช้รูปนี้เป็นเรฟนะ”

“เค ขอบใจมากเพื่อน”

“ไม่เป็นไร” ไอ้เอ๋พยักหน้า ยกยิ้มบอกเป็นนัยว่าเล็กน้อย “ผมไม่อยากเป็นเพื่อนกับลิงลพบุรีแล้ว เรื่องนี้ผมจะช่วยนายเต็มที่ นายโปรดวางใจ”

“ฝากความหวังไว้ที่นายนะเอ๋”

“เพื่อนไม่ทิ้งกันครับ”

“ว่าแต่ดาวเภสัชฯ” ไอ้เจ้าเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “ที่ชื่อน้องบีน่ะ นายจัดการหล่อนหรือยัง”

“ยังทำอะไรไม่ได้มาก หล่อนตามติดธราแจ แม้ผมจะสร้างความบังเอิญเจอหล่อนอยู่หลายครั้งแต่เราก็ทำได้แค่พูดคุยทักทายกันตามประสาเพื่อนร่วมโลก” ไอ้เอ๋รายงาน “ผมคิดว่าถ้าเราไม่ฆ่าธรา หล่อนก็ไม่มีทางสนใจผม คนน่ารักอย่างหล่อนคงไม่รอดเงื้อมมือธราเข้าสักวัน”

ไอ้เจ้าครุ่นคิด ดูดน้ำแดงโซดาเข้าไปอึกใหญ่จนเหลือแต่น้ำแข็งในแก้ว “จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราฆ่าธรา เราไม่ได้จะแย่งชิงหัวใจของหล่อนไอ้สัดเอ๋ ผมต้องบอกแผนการกับนายกี่ครั้งว่าที่เราทำทั้งหมดก็เพื่อธราจะตกเป็นของผม”

“ขอโทษที” ไอ้เอ๋บอกหน้าหงอย “ความน่ารักของหล่อนย่ำยีหัวใจของผมจนไขว้เขว”

“อย่าประมาทศัตรูท่านแม่ทัพ” ไอ้เจ้าตบไหล่ให้กำลังใจ “ความสวยของหล่อนคือยาพิษ หล่อนคงร้ายมากกว่าที่เราคิด”

“ผมจะหนักแน่น” ไอ้เอ๋บอกเสียงฮึกเหิม

“แล้วนายชอบหล่อนบ้างไหม”

“หล่อนก็น่ารักดี ถ้าหล่อนตกลงปลงใจกับผม ผมก็ถือว่ากำไร แต่ถ้าหล่อนได้กับธราผมก็ไม่ซีเรียส”

“แต่กูซีเรียส!”

“อ้าว นายไม่ได้ชื่อเจ้าเหรอ”

“อย่าเล่นมุกนี้กับผมนายเอ๋ ถ้านายไม่อยากกลายเป็นศพ”

ไอ้เอ๋หัวเราะเสียงแห้งก่อนจะตบไหล่ไอ้เจ้าสองสามที “เอาน่า ผมเข้าใจว่ามันยากที่จะยอมรับ แต่หล่อนกับธราเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก เพจของมหาวิทยาลัยที่ลงรูปคู่ของพวกเขาก็ต่างเอาใจช่วย ความคิดเห็นที่แสดงผ่านโพสก็ไม่มีความคิดเห็นไหนที่แย้งความเหมาะสมนี้เลย นายเจ้าเพื่อนรัก...บางทีนายอาจต้องรีบทำใจ ธราอาจจะตกหลุมรักหล่อนเข้าให้แล้ว”

“ธราคุยกับหล่อนแล้วว่าตกลงเป็นแค่พี่น้อง” ไอ้เจ้าบอกเสียงแข็ง “แค่พี่น้องเอ๋ ธราไม่มีทางรักหล่อน”

“นายเชื่อใจธราเหรอ”

“ไม่”

“แล้วดาวเภสัชฯ ล่ะ”

“ไม่ยิ่งกว่า”

ไอ้เอ๋ถอนหายใจพลางยกมือขึ้นนวดขมับ กลุ้มใจแทนเพื่อนรักเสียเหลือเกิน “เจ้าฟังผมนะ ธราไปรับไปส่งหล่อนทุกวันทั้งๆ ที่ใครก็รู้ว่าหมอฟันเวลาว่างแทบไม่มี แต่เขาก็กระเสือกกระสนไป คนทุกคนเห็นและเข้าใจว่าพวกเขาคบหาดูใจกัน ผมไม่รู้จะปลอบนายยังไง แต่หยุดไหมเพื่อน นายอาจจะทรมานมากกว่านี้ก็ได้ถ้านายยังไม่หยุดรักเขา”

“หยุดรักยังไงล่ะ” ไอ้เจ้าย้อนถาม “นายเคยหยุดรักใครได้ด้วยเหรอเอ๋ กับคนที่นายพยายามทุกอย่างเพื่อเขา นายละทิ้งความรู้สึกที่เต็มแน่นอยู่ในอกได้ในทันทีมั้ย”

“ผมรู้ว่ามันยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรแปซิฟิก ใต้มหาสมุทรมันทั้งลึก ทั้งมืดและหนาวเย็น นายจะทนงมเข็มอยู่ในที่แบบนั้นทั้งที่รู้ว่าจะไม่มีวันหาเจอน่ะเหรอ เข็มมันเล็กมากนะ แล้วนายก็น่าจะรู้ว่ามนุษย์เราทนอยู่ใต้น้ำได้ไม่นาน นายอาจจะตายก็ได้ถ้ายังดันทุรัง”

ไอ้เจ้ารู้ดีถึงคำพูดของไอ้เอ๋เพื่อนรัก เพราะมันเคยเจ็บเจียนตายมาแล้ว มันเคยหาเจอ...เข็มในมหาสมุทรที่ว่านั้น แต่เข็มเล่มนั้นกลับทิ่มแทงมันจนสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ ทั้งๆ ที่เป็นแค่เข็มเล่มเล็กที่มีปลายแหลมคม

“ธราจะไม่มีทางรักผม เอ๋คิดอย่างนั้นใช่ไหม”

“ผมก็ไม่รู้ แต่ถ้านายมีหวัง แล้วทำไมเขาถึงไม่หยุดล่ะ” ไอ้เอ๋บอกพลางยกมือลูบหลังไอ้เจ้าอย่างปลอบประโลม “ผมว่าการที่เรารักใครสักคนเราคงไม่อยากเห็นคนคนนั้นเจ็บปวด แต่ทำไมธราถึงทำให้นายเจ็บ ผมว่านายรู้คำตอบดีนะ"

“ใช่...ผมรู้คำตอบดี เพราะธราเขาก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว”

ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน ธราก็อาจจะไม่มีทางเป็นของไอ้เจ้า ต่อให้กลายเป็นพระเจ้าขึ้นมาจริงๆ แต่ก็คงจะเป็นได้แค่นั้น ไม่มีทางได้เป็นคนรัก









7:25 PM

D. : มึงหายไปทั้งวัน

D. : ไม่คิดจะทักกันแล้วหรือไง

D. : เจ้า อยู่ไหน

OMG: ในใจคุณครับ

D. : ไม่ตลก

OMG: อย่าให้รู้นะว่ายิ้ม คุณก็แบบนี้ทุกที ปากแข็งกับผม ไม่รู้เหรอว่าศรรักของผมปักอกคุณอยู่

OMG: คุณรักผมเข้าแล้วรู้ตัวยังอะ

D. : รักก็เหี้ยละ บอกมาเร็วว่าอยู่ไหน

OMG: อยู่ในใจเสมอ หึ ล้อเล่นครับ อยู่ห้าง

D. : เที่ยวเหรอ ไปทำไมไม่บอก

OMG: เปล่าครับ มาตัดผม

OMG: Sent a photo.

OMG: เมียคุณสวยไหมครับ

D. : ขี้เหร่ ใครให้ตัดทรงนี้ เห็นหน้าเด๋อๆ ของมึงโคตรชัด

OMG: แต่ช่างที่ร้านกรี๊ดผมมากเลยนะ เจ้กรีนบอกว่าอยากได้ผมเป็นผัว แต่ผมบอกว่ามีผัวแล้ว เอารูปคุณให้ดูด้วย เจ้กรีนกรี๊ดร้านแทบแตกเลย บอกจะคิดค่าตัดผมกับทำสีเกินราคา ผมโดนโกรธที่มีคุณเป็นผัว รับผิดชอบเมียด้วย

D. : มึงนี่นะ

D. : แล้วไปกับใคร จะกลับยัง

OMG: ยังไม่กลับครับ ผมมากับเพื่อน ขอไปเปลี่ยนแว่นตาก่อน ใส่แว่นทรงนี้แล้วไปหนักหัวคนพบเห็น

D. : ทำไมต้องเปลี่ยนอะไรเยอะแยะวะ แว่นมึงมันไปหนักหัวใคร

OMG: หนักหัวคนนินทาผม พวกปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

D. : สนใจทำไม แบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว

OMG: ไม่สนครับ แต่สงสารเพื่อนที่เหมือนเดินกับลิงอุรังอุตัง

D. : ขอเหตุผลจริงๆ

OMG: ผมเพิ่งนึกได้ว่าควรตัด ตอนเดินสะดุดบ่อยๆ ทีแรกก็คิดว่าตัวเองซุ่มซ่าม แต่จริงๆ คือมองไม่เห็นทาง

D. : ก็ควรจะรู้ตัวตั้งนานแล้วมั้ย ผมยาวทิ่มตาจะบอดอยู่แล้ว

OMG: มันเป็นแผนการให้คุณเดินจูงมือผมต่างหาก เห็นเดินด้วยกันทีไร คุณก็จับมือผมทุกที เป็นห่วงกลัวผมสะดุดล่ะสิ

D. : เรื่องเพ้อเจ้อนี่ไม่มีใครสู้มึงได้

OMG: อะๆ ผมเพ้อเจ้อก็ได้ งั้นไปก่อนนะ เอ๋งอแงละ คืนนี้ไม่กลับนะที่รัก ไปให้อาหารปลาทองห้องผมด้วย บอกมันว่าผมคิดถึงและขอให้มันนอนหลับฝันดี

D. : ทำไมไม่กลับ

OMG: แป้งจี่ชวนไปผับ หล่อนเสนอผมก็เลยต้องสนอง

D. : เจ้า

D. : กูไม่ให้ไป

OMG: ไม่ได้ครับ ผมจะไปฉลองทรงผมใหม่ แป้งจี่บอกจะเลี้ยง หล่อนมองผมเหมือนอยากเข้ามาเลียทั้งตัว ผมอาจต้องจัดให้หล่อนสักยกสองยกเพื่อลดภาวะโลกร้อน

D. : กูก็ร้อน

OMG: เปิดแอร์ครับ

D. : กูไม่อยากนอนคนเดียว

OMG: คืนเดียวครับที่รัก อดทนหน่อย

D. : เจ้า กลับมาหากู

OMG: อย่าทำแบบนี้ คุณก็รู้ว่าผมจะใจอ่อน ผมตามใจแต่คุณ

D. : เจ้า อยากกอดมึง

OMG: ขออีกสักประโยค

D. : อยากเอามึง รีบมาครับ

OMG: แป๊บ





แป๊บของไอ้เจ้านั้นใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าที่มันจะกลับมาถึงคอนโดฯ เพราะต้องเกลี้ยกล่อมให้ไอ้เอ๋ไปรับหน้าหญิงสาวเพื่อนร่วมสาขานามว่าแป้งจี่และผองเพื่อนของหล่อน แม้จะถูกไอ้เอ๋ตัดพ้อต่อว่าอยู่เกือบสองนาที ไอ้เจ้าก็ไม่เปลี่ยนใจที่จะไปร่วมสังสรรค์ ธรานั้นสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดอยู่แล้ว ปล่อยไอ้เอ๋ไปให้พวกแม่เสือสาวย่ำยี ถ้ามันไม่โดนสูบน้ำออกจากตัวจนแห้งเหี่ยวตายไปเสียก่อนไว้พรุ่งนี้ค่อยพามันไปเลี้ยงปลอบใจ

ไอ้เจ้ายกมือขึ้นกดรหัสประตูห้องของธรา เป็นตัวเลขง่ายๆ ไม่กี่ตัว จำง่ายยิ่งกว่าตัวเลขบัตรประชาชนสิบสามหลัก เจ้าของรหัสเคยถามว่ารู้ได้อย่างไร ที่จริงก็อยากจะตอบกลับไปว่าไอ้รหัสสิ้นคิดเป็นตัวเลขเรียงกลับด้านเพียงไม่กี่ตัวนั้นใครก็เดาได้ ง่อยกว่า 12345 ก็ 54321 นี่แหละ

“ดินค้าบบบ” ไอ้เจ้าตะโกนเรียกเมื่อไม่เห็นเจ้าของห้อง ปกติจะเห็นนั่งอยู่ที่โซฟาในเวลานี้ แต่พอมองดีๆ ผ่านความมืดสลัวแล้วคนร่างสูงก็อยู่ตรงนั้นแต่เพียงแค่นอนห่มผ้าทั้งที่ยังสวมแว่นสายตาไว้ “อ้าว หลับ”

หนังสือหลายเล่มกองอยู่บนโต๊ะกระจก ข้างกันนั้นก็มีเอกสารการเรียนที่จดเนื้อหาสำคัญเอาไว้ ถัดมาเป็นสมุดโน๊ตที่ธราใช้เขียนสรุปเนื้อหา ไอ้เจ้าจัดเก็บรวบรวมไปวางไว้ที่มุมทำงาน ก่อนจะกลับมานั่งมองรูปหน้าหล่อเหลาของคนที่อยู่ในนิทรา พอใช้นิ้วเกลี่ยที่แก้ม คนถูกรบกวนก็ครางฮือแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวหรี่เล็กเมื่อเจอแสงไฟ จากนั้นจึงค่อยๆ ลืมขึ้นเต็มตา

“ขี้เหร่” ธราเอ่ยขึ้นคำแรก มองสำรวจดวงหน้าที่ไม่มีผมยาวรกรุงรังบดบังแล้ว แว่นตาก็เปลี่ยนทรงใหม่รับเข้ากับใบหน้าขาว ริมฝีปากบางก็เห็นชัดกว่าทุกที

“ปากไม่ตรงกับใจเลย” ไอ้เจ้าอมยิ้ม ขยับหน้าเข้าไปใกล้แล้วจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากของธรา “ถึงกับหลับรอ เหนื่อยเหรอครับวันนี้”

“อืม เลิกคลินิกแล้วเข้าเลคเชอร์ต่อ ไม่ค่อยไหว”

“แต่กินข้าวเที่ยงใช่ไหม ผมฝากไว้ที่เพื่อนคุณ พอดีเจอไอ้หมอแพร์ที่โรงอาหารกลาง”

“กิน” ธราตอบสั้น ยังไม่สามารถละสายตาจากดวงหน้าขาวได้ อยากถามนักว่าคิดยังไงถึงตัดทรงนี้ เห็นเครื่องหน้าชัด หน้าผากลาด คิ้วเข้ม ตาคมสีดำขลับ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีสวย กรอบหน้าของไอ้เจ้ารับกับผมทรงคอมม่าที่คงถูกช่างเซ็ตให้ก่อนออกจากร้าน ไหนจะสีผมสีน้ำตาลเข้มที่ทำให้ใบหน้าของมันดูขาวเนียนโดดเด่น

“มองนานเกินไปแล้ว” ไอ้เจ้าท้วง อมยิ้มมองคนปากแข็ง “ถูกใจใช่ไหมครับ”

“ก็บอกว่าขี้เหร่”

“ว่าเมียตลอด คนใจร้าย”

ธราดีดหน้าผากไอ้เจ้าด้วยความหมั่นไส้ “แล้ววันนี้เป็นบ้าอะไร ไม่ทักมา”

“รู้ว่าคุณไม่ว่าง”

“ปกติกูไม่ว่างมึงก็ทัก ทักมารัวอย่างกับก๊อปวาง”

“พูดอย่างนี้คิดถึงเหรอ อิ๊”

“อืม”

ไอ้เจ้าชะงักค้างกับคำตอบรับสั้นๆ ที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน “ไม่เล่นนะ”

“ไม่ได้เล่น”

“ถ้าผมยืนอยู่ ผมคงล้มกับพื้นลงไปชักดิ้นชักงอแน่ๆ” ไอ้เจ้ายิ้มกว้าง ก่อนกระซิบแผ่ว “รักคุณจังเลยครับ”

ธราพยายามกลั้นยิ้ม ปั้นหน้าขรึม “มึงไม่ต้องพูดดี เมื่อกี้ยังจะแรดไปผับกับแป้งจี่อะไรนั่น”

“ไปดื่มเข้าสังคม”

ไอ้เจ้ามันคงทั้งบ้าทั้งโง่ ทำเหมือนรู้ดีแต่ก็ยังไม่ประสีประสา ขืนไปผับก็คงไม่พ้นโดนมอม รู้ตัวอีกทีก็นอนเปลือยอยู่บนเตียงแล้ว มันควรจะคิดถึงเรื่องแบบนี้บ้าง “ก็รู้ว่าผู้หญิงคิดยังไงแล้วยังจะไปกับเขา”

“คุณก็รู้ว่าน้องบีคิดยังไงกับคุณ คุณก็ยังจะคุยกับเขา ไปรับไปส่งเขา”

“ย้อนเหรอ”

“ผมแค่เอาความจริงมาพูด”

“จะไม่จบเหรอกับเรื่องนี้”

“ผมระแวง”

“มันไม่มีอะไร”

“ผมกับแป้งจี่ก็ไม่มีอะไร”

“ดื้อ”

“ผมเป็นเด็กดีของคุณ”

“อย่ามาอ้อน”

ยิ่งมันตัดผม หน้ามันยิ่งเหมือนแมวชัดขึ้นไปอีก พอมาทำหน้าออดอ้อนแล้วคลอเคลียกับต้นแขนของเขา ใจแข็งแค่ไหนก็ต้องสั่นไหวบ้าง

“มุดอกกูเข้าไป”

“ก็อกดินหอม” ไอ้เจ้าสูดดมความหอมจากอกกว้างเข้าเต็มปอด “อุ่นด้วย”

“บ้าจริงๆ นะมึงอะ” ธราเกือบจะสูญเสียการควบคุมอยู่แล้ว หัวใจของเขาเต้นรัวและคิดว่าไอ้เจ้าที่แนบหน้ากับอกข้างซ้ายของเขาคงได้ยิน

“ที่รัก”

“หืม”

“ผมมีความสุข โลกที่มีคุณมันดีจริงๆ นะ รับรักผมสักทีได้ไหม”

“…” ธราไม่ตอบ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าควรตอบอย่างไรดี ในเมื่อไม่มั่นใจเลยว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คือความรู้สึกแบบไหน

รักเหรอ...จะรักมันได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เขาเกลียดมันมากขนาดนี้

แต่...พอคิดว่าเกลียดแล้ว หัวใจกลับปวดแปลบขึ้นมาทุกที

“วางสถานะให้ผมหน่อย ผมอยากมั่นใจว่าพอมีทางที่คุณจะรักผมบ้าง” ไอ้เจ้าเงยหน้าขึ้นมองสบกับดวงตาเรียวที่ทอดมองมา “ผมกลัวนะ ผมกลัวว่าสุดท้ายแล้วคุณจะไม่เลือกผม”

“ครบรอบสี่ปีกูถึงจะบอก”

“อีกนานเลย ให้อยู่กันไปจนถึงสี่ปีเลยเหรอ แต่ผมรอไหว ผมรอเก่งนะ ถ้าสุดท้ายแล้วเส้นชัยมีคุณอยู่ อีกกี่ปีก็ได้ครับ”

“อืม” ธรารับคำเสียงแผ่ว ก่อนบอก “ขอโทษ”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม ซุกหน้าลงกับอกกว้างตามเดิม “ระหว่างผมรอ คุณก็อย่าทำให้ผมท้อนะครับ อย่ามีใครนะ”

“ครับ”

“เรียกผมว่าที่รักหน่อยได้ไหม”

“มากไป”

“เรียกหน่อย”

“หน่อย”

“มุกเหี้ยนี่ซื้อทิ้งได้มั้ย”

ธราหัวเราะในลำคอก่อนจะยกมือลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ไม่เคยต้องอ่อนโยนกับใครแบบนี้ อีกทั้งยังต้องมาอ่อนโยนกับไอ้เจ้าโรคจิตที่คอยตามเขาราวกับเงาตามตัว สงสัยคงต้องยอมรับว่าเริ่มผิดปกติตามมันเข้าให้แล้ว

“ที่รัก” เสียงทุ้มกระซิบแผ่ว แทบจะถูกเสียงเครื่องปรับอากาศกลบจนไม่ได้ยิน แต่คนฟังกลับได้ยินก้องอยู่ในหัว แก้มขาวเริ่มขึ้นสีระเรื่อก่อนจะลามเลียไปยังใบหู “ได้ยินไหม”

“ได้ยินครับ” ไอ้เจ้าตอบกลับ “แค่นี้ผมก็ไม่กลัวที่จะรอแล้ว”

“ถ้าจะหมดกำลังใจอีกเมื่อไหร่ก็บอก กูจะพูดให้ฟัง”

“กั๊กของแท้เลย”

“ยอมรับ”

นี่คงเป็นครั้งแรกที่ไอ้เจ้าพ่ายแพ้ให้กับธรา ปกติแล้วมันต้องเป็นฝ่ายจบบทสนทนา ทว่าครั้งนี้ระทดระทวยจนลิ้นเปลี้ย พูดแทบไม่เป็นคำ

“เจ้า ไปอาบน้ำ”

“นอนเลยไม่ได้เหรอ”

“สกปรก”

“ผมไปนอนห้องตัวเองได้”

“ตามใจกูหน่อยครับ”

“ง้ะ”

“นะ ไปอาบน้ำ จะได้มาซ้อมก่อนวันครบรอบสองปี”

ไอ้เจ้าหน้้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด “ยังเมื่อยปากไม่หาย ที่รักเสร็จช้า”

“มึงทำไม่เก่ง ต้องฝึกบ่อยๆ”

“บ่อยแค่ไหน”

“ทุกเช้าและทุกคืนก่อนนอน”

“เงี่ยน ออกเสียงแบบนี้”

“อืม ยิ่งเห็นหน้ามึงยิ่งโคตร...”

“พอๆ ๆ” ไอ้เจ้ายกมือขึ้นห้าม “ดินเล่นกลับแล้วผมไม่ชิน”


หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-10-2018 18:22:34



10:25 PM

Bee: พี่ดินนอนยังเอ่ย

Bee: บีแค่อยากถามแว่ เอ้ย! ว่า! พรุ่งนี้ว่างมั้ยคะ ไปดูหนังกันนน





“อีกละ” ไอ้เจ้าหน้าบึ้งเมื่อเห็นข้อความปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของธรา “ตลกแดกซะด้วย”

“น้องสาว” ธราตอบเสียงเรียบ กดปิดหน้าจอแล้ววางโทรศัพท์มือถือคว่ำลงกับโต๊ะให้พ้นสายตาหมาบ้า “อย่าคิดมาก”

“แล้วคุณจะไปดูหนังกับหล่อนเหรอ”

“ดูก่อน ถ้าไม่ใช่ที่อยากดูก็ไม่ไป”

“แล้วถ้าผมชวนล่ะ” ถามพลางมองสบตา “ไปกับผมไหม”

“ตามคิว”

“เค” ไอ้เจ้ารับคำหน้านิ่ง ก่อนจะถูกริมฝีปากหนากดจูบลงมาที่แก้ม

“มึงคิวแรก กูล็อกไว้ให้”

“ไม่ดีใจ”

“งั้นกูไปกับเขา”

“เรื่องมึ้ง!”

ธราหัวเราะ แล้วฟัดแก้มไอ้คนขี้งอนไปอีกหลายที “ไปกับมึงครับ แล้วจะดูเรื่องอะไร”

“บีวอนนาดาย”

“ชื่อเรื่องแปลกๆ นะ” ธราอมยิ้มมองไอ้คนที่นอกจากจะขี้งอนแล้วยังขี้หึงมากๆ อย่างชอบใจ

“แปลกครับแต่หนังดี เป็นหนังสยองขวัญ เรื่องของดาวคณะเภสัชฯ ที่อยากตายมาก เอากระดาษทิชชู่ยัดจมูกก็ไม่ตายเลยมายุ่งกับผัวชาวบ้าน ตัวผัวก็ดันเล่นด้วย บอกน้องสาวๆ เหอะ บราเด้อโซนไปอีก ไม่รู้จบไง ดูแต่เทรลเลอร์”

ถึงกับต้องกุมขมับเมื่อไอ้เจ้ามันพูดจบ จินตนาการเพ้อเจ้อแบบนี้คงมีแค่มันคนเดียวที่คิดได้

“ดูแต่เทรลเลอร์แล้วทำไมรู้ว่าผัวเล่นกับน้องเขาล่ะ เมียมันงี่เง่าหรือเปล่าถึงได้เข้าใจผิด เทรลเลอร์มันตัดแค่บางฉากที่น่าสนใจเพื่อดึงคนดูไหม”

“ไม่รับรู้” ไอ้เจ้ายกมือปิดหู แต่ก็โดนมือหนาจับยึดข้อมือไว้

“ดื้อว่ะ เมื่อไหร่จะพูดกันเข้าใจ”

“บ่เป็นหยัง เค้าเข้าใจ ไปโลดไปบ่ต้องห่วง”

“อะไรครับมึง”

“ร้องเพลง”

“หนักแล้วล่ะกูว่า ไปอาบน้ำซะที”

“ได้ แต่คุณห้ามตอบไลน์นะ”

“กูจะตอบ”

“ห้าม!”

“จะตอบว่าไปดูกับมึงไง ให้ตอบหรือไม่ให้”

ได้ยินแค่นั้นไอ้เจ้าก็ยิ้มแก้มปริแล้ว “ตอบครับ ตอบว่าไปดูกับเมียรักนะ”

“ได้ แต่สองน้ำ” มีต่อรอง

“ยันสว่างก็ได้ถ้าคุณไหว” คนปากดีก็ยังปากดี

“ถ้าหลับก่อนจะเอาฟาดหน้าจนตื่น”

“โหดร้ายทารุณ แต่เพราะเป็นคุณหรอกนะผมถึงยอม ไปอาบน้ำละจ้า”

ธราส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ แค่มีมันอยู่ข้างๆ ไม่นานก็เหนื่อยแล้ว ถ้ามีอยู่ไปตลอดชีวิตจะเป็นยังไงนะ

ต้องยิ้มจนเหนื่อยตายเลยไหม หรือหัวใจจะทำงานหนักจนวายตายไปซะก่อน

เจ้าคนนี้ไม่ใช่พระเจ้าหรอก สำหรับธราแล้วอาจจะหมายถึง...เจ้าชีวิตก็ได้





06:14 AM

OMG: ที่รัก

D. : มีไร

OMG: อิ๊ ไม่มีท้วง

D. : เหนื่อยจะท้วง แล้วหายไปไหน กลับห้องแล้วเหรอ

OMG: เปล่าครับ ลงมาซื้อข้าวเช้าให้คุณ เอาไรเพิ่มมั้ย ซื้อน้ำเต้าหู้กับข้าวต้มทรงเครื่องให้แล้ว

D. : ปังสังขยา

OMG: เค จัดให้ตามขอ ข้าวเหนียวหมูปิ้งล่ะ

D. : สี่ไม้ ข้าวเหนียวหนึ่งห่อ

OMG: ปาท่องโก๋?

D. : ห้าตัว

OMG: นมช็อกโกแล็ต?

D. : สองกล่อง

OMG: เจ้า?

D. : สามน้ำ

OMG: ห้าห้าห้า

D. : ห้าก็ได้ ไม่ขัดศรัทธา

OMG: ไม่ได้หมายถึงแบบนั้นค้าบบ แล้วคุณอาบน้ำยังอะ

D. : เรียบร้อย

OMG: อะฮะ

D. : คุยงานกับเพื่อนก่อนนะ รีบมาล่ะ

OMG: จ้า





ไอ้เจ้าจัดการเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ยิ้มกว้างเต็มใบหน้า เช้าวันเสาร์ก็สดชื่นสดใสอีกแล้ว แค่เพราะว่ามีธรา ไม่ว่าอากาศจะแปรปรวน ครึ้มฟ้าครึ้มฝน หรือพระอาทิตย์สาดแสงสว่างจ้าแผดเผาจนตับแลบ ไอ้เจ้าก็ยังจะบอกว่าเป็นเช้าที่ดี โลกในสายตาของคนมีความสุขก็เป็นอย่างนี้กันทั้งนั้น

สดใส สดใส สดใส! เห็นอะไรก็อยากยิ้ม แม้แต่หมาหน้าคอนโดฯ ที่ชอบวิ่งมากระชากถุงหมูปิ้งยังดูเป็นมิตรกันเลยในตอนนี้





06:40 AM

OMG: Sent a photo.

OMG: ระหว่างเมียกับดอกไม้อันไหนสวยกว่ากัน

D. : เมีย

OMG: สวยกว่าจริงเหรอ

D. : เปล่า บานกว่า

OMG: ยิ้มบานสดใส หัวใจชมพูจ้า

D. : หน้ามึงอะบาน

OMG: คนใจร้าย!

D. : รีบกลับครับ กูหิว คุยงานเสร็จไปสองหัวข้อแล้วมึงยังไม่โผล่หัว

OMG: ต่อคิวซื้อหมูปิ้งอยู่ค้าบ คนเยอะอะ ไม่รู้เพราะหมูอร่อยหรือพ่อค้าแซ่บ

OMG: กล้ามแขนเป็นมัดๆ อุ้ยน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ น่ากระซิบเบียดกายกระแซะ อู้วว

D. : มากัดตีนกูนี่ครับ

D. : ไม่แดกแล้วหมูปิ้ง

OMG: มีความเกรี้ยวกราดสูงจ้า

D. : มึงแรดอะ

OMG: นิดหนึ่ง เห็นกล้ามพ่อค้าแล้วนึกถึงกล้ามที่รัก

OMG: ชอบครับ อยากได้ / โปรยเงิน

D. : อย่าให้ต้องไปลากคอกลับ

OMG: ถึงคิวแล้ว ขอเต๊าะพ่อค้าแป๊บ

D. : เจ้า เดี๋ยวมึงจะโดน

OMG: ผมหลอกเล่น แง้ โดนหึงเลย

D. : เพ้อเจ้อ

OMG: คนเพ้อเจ้อที่รักคุณ

D. : เกลียดมึง

OMG: เกลียดแค่ไหน

D. : มากกว่าที่มึงรักกู

OMG: เยี่ยมยอด เป็นคำว่าเกลียดที่ทำให้ยิ้มจนหุบไม่ได้

D. : ประสาท อย่ายิ้มเรี่ยราด

OMG: น่ารักพิมพ์งี้

D. : หลงตัวเอง

OMG: Sent a photo.

OMG: อะ ว่าผมหลงตัวเอง รูปนี้เป็นไง ดินหลงผมยังครับ

D. : ไม่ มึงขี้เหร่

OMG: อุตส่าห์ตื่นมาเซ็ตผม หามุมกล้อง แล้วใช้แอปใส่หนวดแมวที่แก้มด้วย ยังไม่หลงอีกเหรอ

D. : ทำแต่เรื่องไร้ประโยชน์

OMG: ชมเมียหน่อย

D. : น่าเอามาก

OMG: เป็นงั้นไป

D. : น่า

OMG:?

D. : รัก

OMG: หุบยิ้มไม่ได้เลย แต่ขอโฟกัสคำเดียวนะ

OMG: รัก

D. : แล้วแต่ครับ

OMG: เขิน

D. : บิดเป็นพยาธิแล้วดิ

OMG: รู้ตลอด เนื้อคู่กันป้ะเนี่ย

D. : ไม่ได้คู่กัน

D. : คู่เจ้า

OMG: วางแผนฆ่าผมแต่เช้าเลย ถ้าผมล้มหัวฟาดพื้นทำไง พิมพ์มาแต่ละคำแทบยืนไม่ไหว สั่นมาก

OMG: อยากได้คุณ ผมอยากได้!

D. : รีบกลับ กูนอนรอบนเตียงแล้ว

OMG: นอนรอท่าไหน ใส่กางเกงป่าว

D. : Sent a photo.

D. : เปลือย

OMG: ฮืออออ โอ้พระเจ้า!

D. : 555

OMG: เดี๋ยวกลับไปจัดการ รอเมียแป๊บ

D. : ครับ รีบมา

OMG: เอ้อ...ตัวเอง

D. : ว่า?

OMG: เค้าได้เบอร์พ่อค้ามาด้วย อิ๊

D. : กลับมามึงตายแน่!





ไอ้เจ้าหลุดหัวเราะกับข้อความที่ได้เห็น อืม...คำว่าเกลียดของธรานี่ตีความว่ายังไงดีนะ อยากตีความว่ารักก็กลัวจะเข้าข้างตัวเองมากไป หรือลดระดับลงมาแค่ชอบดีไหม หรือเอาเป็นแค่รู้สึกดี แต่ไม่ว่าจะตีความแบบไหนไอ้เจ้าก็ยิ้มจนเหงือกแห้งทั้งนั้น

คนอะไรวะ...พูดคำว่าเกลียดได้โคตรโดนใจ!

เกลียดว่ะ

เกลียดมึง

เกลียดคนชื่อเจ้า

โคตรเกลียดเลย!

แต่เจ้าโคตรรักดินเลย!



.....TBC.....

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 24-10-2018 18:48:48
เจ้าตามธรามาใช่มั้ย อ่านไปวิเคราะห์ไป เหมือนจะหวานให้ตายใจแล้วต่อจากนี้จะดราม่าหนักหน่วงมั้ยเนีย :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 24-10-2018 18:56:05
เจ้าาาาา555555555
พ่อค้าแซ่บนี่มีจริงป่าว หรือมโนให้ธราหึงเล่น แต่อยากให้มีจริง ชอบอ่านคนร้อนรน
ธรานี่น้า ยิ่งอ่านก็ยิ่งชัดว่าหลงเจ้า
ไลน์ตามจิกเหมือนผัวตามเมียหนีเที่ยว
เขาหายหน่อยก็รัวหาเลยน้า
หวงเขาอีก หูยยยยยยยย
แถมยังมีซงมีซ้อมก่อนวันครบรอบด้วย ร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 24-10-2018 19:12:12
เริ่มมีหึงแล้ว​ แถมเจ้าตัดผมปรับลุคแล้วน่ารัก​ ต้องมีคนสนใจเข้าหาแน่ๆ​ ดินเตรียมตัว​เถอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 24-10-2018 19:22:35
อ่านไปกุมขมับไป  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Faii0518 ที่ 24-10-2018 19:48:12
จากที่อ่านมาได้สี่ตอนตะหงิดๆว่าดินกับเจ้าต้องรุ้จักหรือสนิทกันมาก่อน แต่อาจจะเกิดอะไรขึ้นกับดินบางอย่างทำให้ดินความจำเสื่อม แล้วตอนนี้เจ้าเลยทำทุกอย่างเพื่อให้ดินกลับมารักตัวเองอีกครั้ง.. ก็เดาไปเรื่อย อิ๊ ขออย่างเดียวคืออย่าดราม่าเลย อยากให้ฟีลกู๊ดใสๆแบบนี้ไปจนจบเรื่อง กราบไรท์  :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 24-10-2018 19:53:51
ตอนนี้คือฮาหนักมาก เราชอบ 555555
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-10-2018 20:06:24
อ่านไปงงไป นี่ไปเป็นเมียดินตอนไหนเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 24-10-2018 20:20:42
ทำไมถึงตั้งชื่อตอนนี้ว่า คนใจร้ายอ่ะ แค่สื่อถึงธรา หรือมีความหมายอื่นแฝง เช่น ธรากำลังหลอกให้เจ้ารักมากขึ้นงี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 24-10-2018 20:21:52
เจ้าน่ารักกกกกกก น่ารักมากไม่ไหวแล้ว แก้มปริตาม แงงงงง  :hao3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 24-10-2018 20:37:20
อีกอย่างนอกจากตัวเอกที่ชอบแล้ว ชอบ อิ๊ มากเลย 5555 สนุกสุด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 24-10-2018 20:46:32
ถึงกับต้องเปิดกูเกิ้ล​ผมทรงคอมมา​ อยากให้เจ้าสมหวังเร็วๆง่า​ เอ๊ะ​ แต่เขาก็กินไอติมกันไปแล้วนะ​ เอ๊ะ​ เริ่มงง​ ช้ารึเร็ววว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 24-10-2018 21:08:16
คือเจ้าบ้าน้อยลง หรือ​ธราติดเชื้อบ้าจากเจ้า ตอนนี้ถึงมุ้งมิ้งสไตล์​คู่บ้า 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: himecrazy ที่ 24-10-2018 21:10:22
 :pig4:    :L2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 24-10-2018 21:18:09
เป็นเรื่องที่ไม่เครียดดีนะคะ5555555 พี่เจ้าป่วงมาก :m20:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 24-10-2018 21:40:50
 ความอ่อยของเจ้า นึกถึงเพี้ยน รักป๋าพ่าย ยอมเจ็บปวด แต่ก็ต้องการแก้แค้นด้วย #ความเพ้อเจีอส่วนตัว

ทำไปทำมารู้สึกกลับขั้วมาสงสารเจ้าซะงั้น เจ้าเหมือนคนที่โดนความเจ็บปวด ความเสียใจทำร้ายมาในอดีต

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 24-10-2018 22:13:25
น่ารักมากเลยตอนนี้ กรี้ดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-10-2018 22:16:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-10-2018 22:35:33
ธรานี่ออกจากหลุมดักของเจ้าไม่ได้แล้วนะ
คือทำตัวเหมือนตะกุยดินตะกายตัวออกมาแต่ใจนี่นอนพลีกายอยู่ก้นหลุมและก็ยังไม่รู้ตัว
ฉันหมั่นไส้มาก เจ้าควรเจอคนใหม่เอาให้ธราชักดิ้นชักงอ
เวลาเพื่อนเจ้ากับเพื่อนเอ๋คุยกันดิฉันจะบ้าตายกับความเพ้อเจ้อเล่นใหญ่ของพวกนาง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-10-2018 23:01:39
อ่านไปอึนไป จริงๆพอกันทั้งคู่นะ 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 24-10-2018 23:13:30
ชอบผัวเมียเขาสนทนากัน
อ่่านไปหัวเราะไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 24-10-2018 23:16:43
สนุกกกกกกก มาต่ออี๊กกกก  เบื่อธราคนปากแข็ง มีความกั๊กสูงเว่ออออออร์   และชอบเล่นกับความรู้สึก  วันนึงเจ้าเลือกหยุด จะสมน้ำหน้าให้
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-10-2018 23:42:24
สนุกมากๆเลย แต่ก็แอบสงสัยว่าเจ้าของจดหมายนั่นคือใคร เจ้ากับดินเคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม เหตุผลที่เจ้าซิ่วมาจากหมอต้องเกี่ยวกับดินด้วยรึป่าว อ่านไปก็สงสัยเยอะไปหมด 555555 เอาเป็นว่าขออยู่ทีมเจ้า เป็นกำลังใจให้เจ้านะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 24-10-2018 23:50:45
คนแต่ง ค่อยๆคลายปริศนามาทีละนิดๆ คนอ่านก็ค่อยๆเดากันต่อไป555
รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว มาต่อไวๆนะคะ  :3123:
คิดว่าระหว่าดินกะเจ้า  ต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในอดีตน่าจะรุนแรง
ถึงทำให้ปัจจุบันดินถึงทำเป็นไม่รักเจ้า เดาล้วนๆอิอิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-10-2018 00:52:00
ตอนนี้ดินอ่อนลงเยอะเลยแต่ก็แบบไว้ใจไม่ได้ อุแงงง
หรือคนที่เจ้าหมายถึงไม่ใช่ดิน?แต่ใกล้ตัวดิน?  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 25-10-2018 01:46:27
ชอบมากกว่าเจ้า ธราก็เจ้า เอ๋นี่หละค่ะชอบเวลาที่พวกเค้าคุยกันกวนๆดี
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-10-2018 02:25:19
สนุกจัง ชอบเจ้าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-10-2018 04:55:03
ยิ่งอ่านเจ้ายิ่งน่ารักแต่ก็กลัวเพราะแต่ละเรื่องที่ผ่านมามันทั้งหน่วงทั้งปวดใจน้ำตาตกเป็นถังๆเลย :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 25-10-2018 07:32:38
อยาทำร้ยเจ้าด้วยการป้อนมาม่าให้เจ้า นางน่ารักอ่ะ ใรไม่รัก เดี๋ยวเรารักนางเอง จะปรนนิบัตรตั้งแต่ลืมตาตื่นยันนอนตาหลับเลยค่าาาาาาา  :katai2-1: :katai2-1: ดีต่อใจแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-10-2018 09:16:36
ความอ่อยของเจ้า นึกถึงเพี้ยน รักป๋าพ่าย ยอมเจ็บปวด แต่ก็ต้องการแก้แค้นด้วย #ความเพ้อเจีอส่วนตัว

ทำไปทำมารู้สึกกลับขั้วมาสงสารเจ้าซะงั้น เจ้าเหมือนคนที่โดนความเจ็บปวด ความเสียใจทำร้ายมาในอดีต

สงสารเจ้า..........  :hao5:
ถ้าดิน ............  :angry2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: t152_rakjai ที่ 25-10-2018 10:16:50
เจ้า.................ทำไมต้องน่ารักแบบ แปลกๆ  :pig2: :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 25-10-2018 18:13:59
ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้



“ไอ้เจ้า! ไอ้มดทอระยิด!” ไอ้เอ๋เกรี้ยวกราดเมื่อเริ่มเช้าวันจันทร์ “สัดเอ้ย! นายปล่อยให้ผมอยู่ในฝูงไฮยีน่าเมื่อคืนวันศุกร์ แล้ววันเสาร์ก็หายหัวไม่ยอมเอ่ยปากถามว่าผมเป็นตายร้ายดียังไง! ผมเกือบเสียความบริสุทธิ์ที่เก็บรักษาไว้ให้ภรรยาสุดที่รักในอนาคตของผม ผมเกือบเสียตัว!”

ไอ้เจ้ายิ้มแห้ง เห็นหน้าไอ้เอ๋เพื่อนรักแล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวันศุกร์ปล่อยให้มันไปเผชิญหน้ากับพวกแป้งจี่แต่เพียงลำพัง พอวันเสาร์ก็ลืมไปเลยว่าไอ้เอ๋มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ไอ้เจ้าเอาแต่ฟินกับการได้ไปดูหนังกับธรา จูบแลกลิ้นในโรงหนังมืดๆ บนที่นั่งสุดพิเศษตลอดหนังฉาย เหตุการณ์นั้นยังตราตึงใจมาจนถึงตอนนี้ ถัดมาอีกวันในเช้าวันอาทิตย์ก็ใช้เวลานั่งเฝ้าธราอ่านเจอนอลไปครึ่งวัน อีกครึ่งวันธราแก้แล็ป ได้แต่นั่งมองเขาพะเน้าพะนอฟันปลอมจนถึงเย็น เสร็จจากนั้นก็รีบไปหาข้าวมาให้เขากิน บริการดีมีระดับประทับใจจึงได้รางวัลเป็นจูบที่เร่าร้อนต่อชีวิต ก่อนจะต้องกลับมานั่งมองเขาโทรนัดคนไข้ทำฟัน คนแล้วคนเล่า หึงหวงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นงานของเขา ไม่ทำเขาก็จะไม่ได้คะแนน ไอ้เจ้าจึงอดทน คอยนั่งเป็นกำลังใจ ช่วยจดเวลานัดหมาย จนเกือบตีสามธราก็ยอมเข้านอน ไอ้เจ้าจึงได้มีโอกาสบอกฝันดี ซุกไซ้เข้าหาอ้อมกอดอุ่น แล้วนอนหลับไปพร้อมกัน ในตอนนั้นเรื่องราวของไอ้เอ๋จึงถูกลบเลือนไปจากความทรงจำหมดสิ้น

โลกของไอ้เจ้ามีแต่ธรา ธรา ธรา!

“กราบขออภัยครับเหี้ยเอ๋ นายได้โปรดนั่งลงตรงนี้ วางกระเป๋านายลงแล้วอย่าเพิ่งไฟลุก เพื่อนคนนี้จะรีบไปซื้อน้ำแดงโซดามาดับความหัวร้อนของนาย ถือว่าแก้กระหายไปพลางๆ ระหว่างรอขึ้นเรียนนะ”

“เออ รีบเลย ก่อนที่ผมจะโชว์ความหฤโหดของตัวผมกลางโรงอาหารคณะ ผมแทบจะคีพคูลไม่ไหว”

ไอ้เจ้ารีบใส่เกียร์หมาไปร้านขายน้ำหวานเจ้าประจำของมัน ก่อนจะรีบประคองแก้วน้ำแดงโซดาสองแก้วกลับโต๊ะ “แด่ความสดชื่นเพื่อนรัก”

ไอ้เอ๋รับแก้วน้ำแดงโซดาไปดูดอึกใหญ่ แต่คิ้วเข้มๆ ของมันก็ยังขมวดไม่หาย นึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันศุกร์แล้วก็ยังหวาดผวา ไอ้เอ๋ไม่เคยพบเจออะไรที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ โลกที่เคยสดใสกลับกลายเป็นสีเทาขึ้นมาบัดดล ตลอดชีวิตบนคานทองจำต้องแปดเปื้อนมือแม่เสือสาวเกือบทั้งกลุ่ม นึกแล้วก็ช่างน่าขัน ผู้ชายวัยกำลังมันส์กลับเสียเชิงชายให้ฝ่ายหญิง

ร่างกายของเอ๋มีมลทิน!

“ไหนเล่ามา อาการมันเป็นยังไง”

ไอ้เอ๋คลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมพลางถอนหายใจ เรียบเรียงเหตุการณ์ในหัวก่อนจะเริ่มเล่า “ผมถูกฝูงไฮยีน่าไล่ต้อน พวกหล่อนน่ากลัวมากโดยเฉพาะแป้งจี่ หล่อนเลื้อยผม รูดขึ้นลงประหนึ่งผมเป็นเสาไฟ เหนื่อยใจจะพูดว่าผมแทบล้ม ผมถูกมอม มีแต่คนมาขอชนแก้วแล้วคะยั้นคะยอให้ดื่ม จำได้ว่าอ้วกอยู่สามรอบ แทบกอดชักโครกแทนหมอนข้าง คืนนั้นผมได้รู้ว่าชักโครกคือมิตรแท้ยามยากของผมจริงๆ ไม่ใช่นายที่ทิ้งผมให้อยู่ในสมรภูมิรบตามลำพัง นายมันใจร้าย!”

“เฮ้เฮ้ ใจเย็นก่อนนะสัดเอ๋” ไอ้เจ้ารีบเบรก เห็นอกเห็นใจเพื่อนที่เพิ่งพบเจอเหตุการณ์สะเทือนขวัญ “ผมไม่เคยคิดจะทิ้งนาย ธรางอแงต้องการพบผมให้ได้ นายรู้ ผมรู้ ว่าผมพร้อมทิ้งนายไปหาเขาอยู่แล้ว”

“มิตรภาพของเรามันช่างจอมปลอมจริงๆ เพื่อธราแล้วนายสามารถฆ่าผมได้” ไอ้เอ๋ปลงตก “แต่ธราก็ร้ายนัก เขาคงคิดจัดการกับคู่แข่งอย่างผมแน่ๆ ผมคงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับเขาเข้าแล้ว ดาวเภสัชฯ รอผมก่อนเถอะ หากผมเอาชนะแป้งจี่ได้ หล่อนก็ไม่น่ารอด!”

“ผมเอาใจช่วยนายเสมอ” ไอ้เจ้าตบไหล่อย่างคนที่พร้อมอยู่เคียงข้าง “ว่าแต่คืนนั้นนายกลับยังไง”

“ไม่รู้ ผมภาพตัดตั้งแต่อ้วกครั้งที่สาม”

“อันตรายจริงๆ ต่อไปผมคงต้องไปกับนายด้วย นายอ่อนหัดสำหรับโลกเทาๆ ใบนี้”

“ก็ถึงได้บอกให้นายไปด้วยไงไอ้สัดเพื่อน พอถึงเวลาทิ้งกูเฉย”

“ธรามาก่อนนายเสมอ จำ!”

“นายมันคนใจบาป! ผมจะบอกให้แป้งจี่จับนายขึงพรืดแล้วย่ำยีให้สาแก่ใจ”

ไอ้เอ๋ดราม่าต่ออีกยกใหญ่ จากนั้นมันก็นั่งเงียบกริบเมื่อแป้งจี่กับเดอะแก้งของหล่อนเข้ามาทักทายแล้วขอนั่งด้วย พวกหล่อนเม้าท์เรื่องคืนวันศุกร์ให้ไอ้เจ้าฟังอย่างสนุกสนาน ทั้งยังส่งแววตาหวานเยิ้มเชิญชวนให้กับไอ้เจ้าอย่างเปิดเผย ไอ้เอ๋รู้ว่าไอ้เจ้าอาจถึงฆาตเข้าให้แล้ว โดนพวกหล่อนจ้องขนาดนี้คงถูกย่ำยีเป็นรายต่อไป!

แต่จะโทษใครได้ ต้องโทษผมทรงคอมม่าของไอ้เจ้าที่เรียกสายตาผู้คนให้มองมันจนเหลียวหลัง ตั้งแต่เข้ามานั่งในโรงอาหารก็มีแต่คนเมียงมองมาทางมัน คนพวกนั้นเอาแต่พูดชมราวกับไม่เคยรู้ว่าไอ้หน้าหล่อที่นั่งหน้าคมคายอยู่ตรงนี้นั้นคือคนเดียวกับไอ้เจ้าคนประหลาด แต่แม้จะเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนรูปทรงแว่นตา สำหรับไอ้เอ๋แล้วไอ้เจ้าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย มันเคยเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น อยู่กับคนอื่นมันไม่ค่อยพูด ไม่หือไม่อือและไม่ยิ้ม ดูหยิ่งจนน่าหมั่นไส้ เมื่อก่อนผมเผ้ารกรุงรังปิดหน้าปิดตาก็เลยมีแต่คนเกลียดนิสัยแบบนี้ แต่พอตัดผมเปิดให้เห็นหน้าหล่อๆ เข้าหน่อย ไอ้เจ้าก็กลายเป็นผู้ชายรูปหล่อลุกเย็นชาไปเสียอย่างนั้น มีแต่คนบอกว่ากร้าวใจ อยากได้อยากโดน

สรุปแล้วคนเรานี่มันตัดสินกันด้วยเบ้าหน้าหรือยังไงวะ!

“เจ้าคะ แป้งไม่เข้าใจตรงนี้เลยค่ะ” แป้งจี่ หัวหน้าฝูงไฮยีน่าฉีกยิ้มหวาน แต่ไอ้เอ๋รู้ว่ามันเป็นยิ้มหวานเคลือบสารพิษร้ายแรง “อธิบายให้ฟังอีกทีได้ไหมคะ”

““วิธีหาฟอร์แมลิตีของสารละลายตัวอย่างกรดตรงนี้ใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมอธิบายอีกรอบนะ” ไอ้เจ้าตอบหน้านิ่ง สายตาไม่อ่อนโยนแต่คำพูดก็สุภาพกับสตรีเพศ มันเริ่มอธิบายการแก้สมการเคมีของรายวิชาเคมีวิเคราะห์ที่อาจารย์สุเทพสั่งให้ทำแบบฝึกหัดก่อนเรียน พูดช้าๆ ชัดๆ อธิบายแบบละเอียดยิบโดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกแป้งจี่จ้องงาบลงท้องเข้าไปทั้งตัว

“ขอบคุณค่ะเจ้า เข้าใจง่ายยิ่งกว่าสุเทพสอนอีกค่ะ เจ้าใจดีจังเลย ใจดีอย่างนี้มีแฟนหรือยังคะเนี่ย”

“โสดครับ” ไอ้เจ้าตอบพลางคลี่ยิ้มนิดๆ “ไม่มีเจ้าของ”

แป้งจี่ยิ้มหวาน ในขณะที่ไอ้เอ๋ลอบเบ้ปาก มองบน ตอบหล่อนไปได้ว่าโสด โสดแค่สถานะน่ะสิ...หัวใจของไอ้เจ้าไม่โสดแล้ว มีแต่ธราๆ อยู่เต็มห้องหัวใจทั้งสี่ห้อง

“ดีจังเลยค่ะที่เจ้ายังโสด” แป้งจี่เปิดเผยความดีใจอย่างไม่ปิดบัง “แป้งก็ยังไม่มีใครเหมือนกัน”

“โถ...สวยๆ อย่างนี้น่าจะมีคนดูแลได้แล้ว” ไอ้เจ้ายกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์ของมันบ่งบอกว่ากำลังมีแผนการณ์ชั่วร้ายจนไอ้เอ๋เพื่อนยากเสียวสันหลังวาบ “ผมแนะนำให้ไหม เพื่อนผมนายเอ๋ยังว่างนะครับ”

“แค่กๆ ๆ” ไอ้เอ๋แทบสำลักน้ำแดงโซดา อยู่ๆ ไอ้เจ้ามิตรทรยศก็โยนระเบิดมาให้ “มะ...ไม่โสดแล้วครับ จริงๆ นะ”

ไอ้เจ้ากลั้นหัวเราะในขณะที่ไอ้เอ๋เริ่มคิดหาทางหนีทีไล่ เกิดแม่เจ้าประคุณสนใจขึ้นมาจริง ชีวิตคงได้ดับสิ้นเป็นแน่ แต่รอดตัวไปเมื่อแป้งจี่พูดขึ้นราวกับเชื่อเรื่องโกหก

“ใช่ค่ะเจ้า เอ๋ไม่โสดแล้วนะคะ เจ้าไม่รู้อะไร คืนวันศุกร์น่ะเอ๋กลับกับแฟน แป้งเห็นเต็มสองตาเลยว่าคลอเคลียกันขึ้นรถไป นี่แป้งว่าจะเหยียบไว้ ไม่อยากแซวเพื่อน แต่อดไม่ได้ เอ๋มีแฟนหล่อไม่เคยบอกกันเลย ฮึ งอน”

ไอ้เอ๋ตาโต รู้สึกเหมือนเข้าไม่ถึงโลกอีกโลกที่มีมนุษย์สปีชีส์อื่นอาศัยอยู่กัน “เดี๋ยวนะ...แฟนเหรอ คนไหนอะ”

“อ้าว ตลกเหรอเอ๋” แป้งจี๋ทำหน้ากลั้นขำเมื่อเห็นไอ้เอ๋งงเป็นไก่ตาแตก “ก็คนนั้นไง ที่นัวกันในห้องน้ำ ไม่ต้องอายหรอกน่า เดี๋ยวนี้สังคมเปิดกว้างแล้ว มีแฟนเป็นผู้ชายไม่น่าอายสักนิด”

“เฮ้เฮ้” ไอ้เจ้ารีบเปิดโหมดเสือกของตัวเองทันที “สรุปคืนนั้นไอ้เอ๋กลับกับผู้ชายเหรอครับ”

“ใช่ค่า” แป้งจี่ขานรับเสียงร่าเริงพลางสาธยายให้ฟังถึงแฟนที่ไอ้เอ๋ก็ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใครมาจากไหน “แฟนเอ๋ไงคะเจ้า พี่หมอแพร์ทันตะฯ กลุ่มของพวกพี่หมอดิน เจ้าอาจจะไม่ค่อยรู้จักคนดังๆ ในมอ แต่กลุ่มนี้แซ่บทุกคนเลยนะคะ พี่หมอดิน พี่หมอแพร์ พี่หมอคิน พี่หมอจอม แต่ละคนรูปหล่อพ่อรวย คุณสมบัติครบมาก พวกพี่เขาเป็นสมบัติของคณะ ที่จริงจะว่าสมบัติของมอด้วยก็ได้เพราะพวกผู้หญิงในมอโคตรหวงเลย พวกพี่เขาเป็นเด็กกิจกรรม ลูกรักอาจารย์ ไม่เคยเห็นคนในกลุ่มมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที นี่พวกเพื่อนๆ แป้งยังอิจฉาเอ๋กันอยู่เลยอะ พี่หมอแพร์ดูแลเอ๋ดีมาก เห็นแล้วอิจฉ๊าอิจฉา”

ไอ้เอ๋อ้าปากหวอ จำได้ว่าตัวเองภาพตัดตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่ง ก่อนหน้านั้นไม่ได้คลอเคลียกับมนุษย์หน้าไหนนอกจากฝาชักโครกที่เป็นเพื่อนยามยาก แล้วไอ้พี่หมอแพร์มันเป็นใครมาจากไหน!

“เอาแล้วไง” ไอ้เจ้าหัวเราะ “มีผัวโดยไม่รู้ตัวไปอีก”

“คือเอาจริงนะนาย ผมจำไรไม่ได้เลยอะ” ไอ้เอ๋กระซิบ “ตอนเช้าตื่นมาก็อยู่ห้องตัวเอง ไอ้ตัวผมน่ะก็จำไม่ได้หรอกว่ามาถึงได้ยังไง คิดว่าคงนั่งแท็กซี่กลับเองด้วยซ้ำ แล้วไอ้คนชื่อแพร์นี่มันจะมาได้ยังไงรึ จำไม่ได้ ผมไม่นัวกับใครนะ ผิดผี”

“ถามผมผมจะรู้เรอะ เมาแล้วเรื้อนอย่างหมา ดีไม่ถูกฆ่าชิงทรัพย์หมกห้องน้ำตาย”

“ทิ้งผมแล้วยังมีหน้ามาพูดดดด”

ความผิดไอ้เจ้าก็ส่วนหนึ่ง ไม่น่าปล่อยให้คนกระจอกคออ่อนอย่างไอ้เอ๋ไปอยู่กลางดงไฮยีน่าเลยให้ตายเถอะ ดีที่มันรอดปลอดภัย ไม่งั้นไอ้เจ้าคงต้องได้บวชหน้าไฟให้มันเพื่อชดใช้ความผิดแน่ นอกจากจะไม่ตายแล้วยังโชคดีอีกชั้นที่มันไม่ได้เสียตัวชิงมีผัวไปก่อนไอ้เจ้า

“พี่หมอแพร์ก็โดนเอ๋สอยไปแล้ว ต่อไปพี่หมอดินคงโดนยัยบีอะไรนั่นสอยไปอีกคน เทียวรับเทียวส่งกันขนาดนั้น ไม่คบกันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว” แป้งจี่เหมือนบ่นลมบ่นฟ้า ทำเอาไอ้เอ๋หยุดการกระซิบกับไอ้เจ้าแล้วได้แต่ยิ้มแห้ง “ถ้าเจ้ามีแฟนไปอีกคน แป้งต้องเหี่ยวเฉาตายแน่ๆ เลยค่ะ”

“ไม่หรอกน่ามึง” ลิลลี่เพื่อนในกลุ่มแป้งจี่ขัดขึ้นมา “พี่หมอดินน่ะเจ้าชู้จะตาย เขาไม่ลงเอยกับใครง่ายๆ หรอก นี่กับยัยบีก็เทียวรับเทียวส่งยังไม่ถึงเดือน เชื่อสิว่าครบเดือนเดี๋ยวก็เปลี่ยนคน เด็กใหม่ๆ เข้ามาพี่หมอดินก็เก็บเรียบหมด ไม่เหลือ รู้กันอยู่ว่าเขากินของเก่าไม่นาน จำดาวอักษรฯ ปีหนึ่งได้ไหมล่ะ ที่ได้เป็นดาวมหาลัยน่ะมึง สวยหยาดฟ้าแค่ไหนก็เอาพี่หมอไม่อยู่ ควงได้สองเดือนแยกทาง แฟนก็ไม่ได้เป็นด้วยซ้ำ สถานะคนคุยชิวๆ ไปอีก สีไฟสวยมันก็ร้อนแบบนี้”

“แต่ใครก็อยากเล่นกับไฟอะ” น้ำขิงเพื่อนอีกคนพูดขึ้น “หล่อเถื่อนได้ใจขนาดนั้น ได้ควงสักครั้งก็เป็นบุญแล้ว ต่อให้จะเป็นแค่คนคุย คนแก้เหงา แต่ก็ยังได้ควงเขาจ้า ไม่รู้ว่าจนพวกเราเรียนจบไปแล้วจะได้เห็นแฟนตัวจริงของพวกพี่หมอกันไหมนะ ส่วนตัวเราชอบพี่หมอจอม สุภาพเรียบร้อย ขี้เล่น เฟรนด์ลี่ แต่สับรางรถไฟเก่งที่หนึ่ง”

“มึงก็พูดไปนังขิง แฟนตัวจริงของพี่หมอแพร์ก็ไอ้เอ๋นี่ไง” แป้งจี่เหมือนพูดเตือนสติเพื่อน ทั้งที่แฟนตัวจริงอย่างไอ้เอ๋ยังนั่งทำหน้าเหลอหลา งงสุดขีดว่าไอ้หมอแพร์มันเป็นใคร แล้วเรื่องจริงแค่ไหนที่เคยไปนัวกับมัน ไอ้เอ๋จำไม่ได้ ไม่มีสักเสี้ยวความทรงจำเหลือให้ข้องใจเลย

“เอ้อ ใช่ๆ จริงด้วยเอ๋ แกอย่าคิดมากที่เราพูดนะ” น้ำขิงรีบพูด “ว่าแต่ว่ายัยบีอะ...เรียบร้อยไปยัง”

“ตั้งแต่สามวันแรกที่ควงจ้า” ลิลลี่บอกอย่างคนรู้ลึกรู้จริง “จำได้ปะตอนที่เรียนเสรีที่อาคารเรียนรวมอะ พวกเราเรียนกับพวกบ๊อท วันนั้นพวกเภสัชฯ เรียนที่อาคารเรียนรวมด้วยมั้ง แต่ไม่รู้วิชาอะไร แล้วนี่ไปเข้าห้องน้ำก็เลยได้ยินนางคุยกับเพื่อน อวดน่าดูเลย พี่หมอดินดีอย่างนั้นอย่างนี้ หารู้ไม่ว่าอีกไม่นานก็จะตกกระป๋อง นางบอกว่าพี่หมอดินพาไปดินเนอร์ก่อนจะไปจบที่คอนโดฯ คุยฟุ้งเลยว่าแซ่บสุด”

“โห เห็นเรียบร้อยแบบนั้นไม่คิดว่าจะกล้าพูดอวดเรื่องอะไรแบบนี้อะ แต่คนเรียบร้อยก็นั่นแหละ ร้ายลึก” น้ำขิงพูดก่อนจะหันมองไอ้เจ้าที่ไม่ได้เข้าร่วมบทสนทนา “เจ้าเป็นอะไรรึเปล่าคะ สีหน้าไม่ดีเลย”

ไอ้เจ้าเกือบหักดินสอที่กำอยู่ในมือแล้วหากน้ำขิงไม่ทักขึ้น “ปวดหัวนิดหน่อยน่ะครับ”

“เจ้าทำโจทย์เยอะไปแน่เลย พักก่อนนะคะ ผ่อนคลายค่าผ่อนคลาย” แป้งจี่ยิ้มน่ารักพลางยกสมุดขึ้นมาพัดให้ ไม่แน่ใจว่าหล่อนต้องการจะคลายอาการปวดหัวหรือคลายร้อนให้ไอ้เจ้ากันแน่ แต่คนรับน้ำใจก็ได้แต่ยิ้มแล้วพูดขอบคุณในความมีน้ำใจของสาวเจ้า





D. : เจ้า ตอนกลางวันไม่ต้องเอาข้าวมาให้นะ

D. : พวกไอ้แพร์ชวนไปกินซูชิ





ไอ้เจ้าเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่แจ้งเตือนข้อความจากแอปไลน์ ก่อนจะกดเปิดอ่านแล้วพิมพ์ตอบกลับไป





OMG: ครับ

D. : เรียนยัง

OMG: ยังครับ

D. : เป็นไร ตอบห้วนแปลกๆ

OMG: ไม่รู้

D. : งอแงอะไร

OMG: เหนื่อยแล้ว

D. : สู้หน่อย

OMG: รู้เหรอว่าเรื่องอะไร

D. : บอกสิ จะได้รู้

OMG: รักนะครับ

D. : อืม รู้แล้ว

OMG: ดิน

D. : ครับ?

OMG: ขอหายไปสักสามวันนะ

D. : ไปไหน

OMG: เหนื่อยอะ

D. : เดี๋ยวไปหา

OMG: ไม่ต้องมา จะเข้าเรียนแล้วครับ

D. : ห้านาที มารอที่ลานจอดรถ

OMG: ไม่มีเรียนเหรอ

D. : มีเวลาก่อนเข้าเลคเชอร์สิบห้านาที ถึงรถละ รอแป๊บ

OMG: ครับ





“เดี๋ยวมานะ ขึ้นเรียนก่อนได้เลย” ไอ้เจ้าบอกกับไอ้เอ๋และกลุ่มของแป้งจี่ ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ถามว่าตัวมันจะไปไหน ขายาวๆ ก็ก้าวอย่างรีบเร่งไปที่ลาดจอดรถ

วันนี้น่าจะเป็นวันที่สดใสอีกวันแท้ๆ แต่อยู่ๆ ท้องฟ้าก็ครึ้มฝน เงยหน้ามองจากตรงนี้ก็เห็นเมฆก้อนใหญ่สีทะมึนลอยเด่น ไอ้เจ้าก็เลยรู้สึกครึ้มตามสภาพอากาศไปด้วย จิตใจห่อเหี่ยวหมดแรงจะสู้

จะว่าไปท้องฟ้าก็คงไม่ต่างจากธราล่ะมั้ง วันนี้สว่าง อีกวันมีพายุ เอาแน่เอานอนไม่ได้

ยืนมองท้องฟ้าอีกไม่กี่นาทีก็มีรถออร์ดี้สีดำขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ไอ้เจ้าเห็นป้ายทะเบียนคุ้นตาจึงรีบเดินไปหา ก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างคนขับ มันนั่งเงียบในขณะที่ธราก็ไม่พูดอะไร ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจ้องมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของไอ้เจ้าก่อนมือหนาจะดึงมือของมันไปกุมไว้

“งอแงอะไรอีก” คำถามแรกถูกถามขึ้นจากผู้ชายที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของไอ้เจ้ามากที่สุด

“เหนื่อย” คำตอบยังคงเป็นคำเดิม ก่อนร่างผอมบางจะถูกดึงเข้าไปกอด เจ้าของร่างไม่ขัดขืนกลับซุกใบหน้าเข้าหาอกกว้าง “ที่รักครับ”

“หืม”

“ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย มันแย่ไปหมด แล้วก็เหนื่อยมากๆ”

ไอ้เจ้าอธิบายไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน รู้แค่ว่ารู้สึกหน่วง ปวดร้าวไปทั้งอก แค่หายใจเข้าออกก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว

“เรื่องกูใช่ไหม” ธราพอจะมองออก แววตาของไอ้เจ้าเศร้าสร้อยขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องของเขาแล้วก็คิดไม่ออกเลยว่ามันจะเศร้าเพราะอะไร

“ผมได้ยินคนพูดกัน” ไอ้เจ้าบอกเสียงเบา “คุณมีอะไรกับน้องบีแล้ว พาขึ้นคอนโดฯ คุณด้วย ผมไม่รู้แล้วอะว่าผมกำลังวิ่งไปที่เส้นชัยที่มีคุณอยู่หรือเปล่า หรือคุณยืนอยู่ตรงนั้นกับคนอื่นแล้ว บอกผมที”

“แค่ครั้งเดียว แค่ช่วงแรกที่รู้จักกัน” ธราตอบตามตรง ลูบศีรษะของคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกของเขาโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองกัน “ไม่มีหลังจากนั้น เชื่อกูนะ”

“จะเชื่อได้ไงครับ ขนาดผมเฝ้าคุณทุกวัน ตามติดคุณทุกฝีก้าว คุณก็ยังมีโอกาสทำเรื่องแบบนั้น คุณเก่งมากเลยนะที่หลบสายตาผมได้ ผมไปพลาดตอนไหนวะ”

ไอ้เจ้านึกไม่ออกเลย ทั้งที่บอกว่าแค่ควง แต่กลับพาขึ้นคอนโดฯ มาทำเรื่องอย่างว่า ไม่เข้าใจเลยสักนิดกับความสัมพันธ์แบบนั้น ทำอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย หรือว่าเซ็กส์ก็มีความหมายในแบบนั้น

“ขอโทษ”

สองคำสั้นๆ ที่ทำให้ไอ้เจ้าอ่อนยวบไปทั้งใจ มันเผลอกัดริมฝีปากของตัวเอง บังคับไม่ให้เผยรอยยิ้มออกไป “แล้วคุณก็ยังเป็นพี่น้องกับคนที่คุณเคยนอนด้วยเหรอ”

“กูจบแล้วนะเจ้า ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น แค่ครั้งเดียว ตอนที่บอกมึงว่ากูจะเลิก กูจบแล้วแค่ตรงนั้น ไม่สานต่อ”

“แต่ผู้หญิงเขาไม่จบนะคุณ คุณยังไปรับไปส่ง ยังไปกินข้าวด้วย ใครเขาก็คิดว่าพวกคุณคบกัน”

“ใครจะคิดยังไงก็ช่าง แค่มึงไม่คิดก็พอแล้วไง”

“ผมคิดนะ!” ไอ้เจ้าเผลอขึ้นเสียง “ผมคิดจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วธรา ผมไม่อยากยื่นคำขาดกับคุณหรอก เพราะรู้ว่ายังไงคุณก็ไม่เลือกผม แต่ผมจะไม่วิ่งต่อถ้าคุณยังคาราคาซังกับคนอื่น แค่ผมวิ่งผมก็เหนื่อยแล้ว อย่าให้ผมต้องกังวลกับคู่แข่งที่จะโผล่มาตอนไหนก็ไม่รู้อีกเลย เพราะผมไม่รู้ว่าเขาวิ่งเร็วกว่าผมไหม หรือบางทีคุณอาจจะเป็นคนบอกทางลัดไปถึงเส้นชัยให้เขาก็ได้ ผมอยู่กับความแน่นอนอย่างนี้ทั้งที่อีกสองอาทิตย์จะครบสองปีของเราแล้ว ลิมิตที่ผมตั้งไว้ตอนแรกคือเวลาแค่นั้น ผมบอกกับตัวเองว่าผมจะให้โอกาสตัวเองสองปีในการเข้าใกล้คุณ ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นผมจะกลับไปอยู่ในที่ของผม ผมจะเลิกดันทุรังแล้วหายไปจากคุณ”

ธราไม่ชอบใจเลยสักนิด ไม่ชอบใจที่คำขู่ของไอ้เจ้ามีอิทธิพลต่อหัวใจของเขา ทั้งที่มันเป็นแค่ไอ้โรคจิตที่ตามเขาต้อยๆ ใช่...เมื่อก่อนมันเป็นแค่นั้น แต่เดี๋ยวนี้แค่มันบอกว่าจะหายไป หัวใจของเขาก็ทำท่าจะไปต่อไม่ไหว “แล้วกูต้องทำยังไง กูพูดอะไรไปมึงก็ไม่เชื่อ มึงรักกูแบบไหนถึงไม่เคยเชื่อใจกูสักครั้งวะ”

ไอ้เจ้าเม้มริมฝีปาก ผละออกห่างจากอกกว้างแล้วมองสบตาธราด้วยแววตัดพ้อ ทำไมถึงไม่เคยเข้าใจว่าที่มันเป็นบ้าถึงขนาดนี้เพราะอะไร “เพราะรักมากๆ ไงครับ รักมากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้คุณ แค่คุณเลิกติดต่อกับมัน เลิกคุยเลิกเจอ อะไรที่เกี่ยวข้องกับมันเลิกให้หมด! แค่เท่านั้นผมก็พอใจแล้ว ผมบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วว่าผมไม่ชอบ ไม่โอเคเลย แต่คุณก็ยังทำ ทำทำไมวะ คุณรักมันรึไง!”

“มึงแม่งโคตรขี้หึงไอ้เหี้ย” ธราอยากจะตบกะโหลกให้มันเลิกเป็นหมาบ้าสักที แต่พอเห็นดวงตาที่เริ่มคลอไปด้วยน้ำใสของคนขี้หึงก็ทำไม่ลง อยากจะดึงมันเข้ามากอดปลอบเสียด้วยซ้ำ “พอๆ กูเข้าใจแล้ว มึงนี่มันเหมาะกับชื่อเจ้าจริงๆ”

“เกี่ยวอะไรกับชื่อผม!”

“ยัง...ยังไม่เลิกหมาบ้าใส่กูอีก”

“ก็คุณอะ!”

“กูทำไม มีแต่มึงที่โวยวายอยู่คนเดียว วันหลังก็หาป้ายชื่อหาโซ่มาล่ามคอกูไว้เลยนะ ถ้ามึงจะเป็นบ้าขนาดนี้”

ไอ้เจ้าหน้างอ ส่งค้อนใส่คู่สนทนาไปวงใหญ่ “ผมบ้าได้มากกว่านี้อีก เตียงนอนคุณผมจะสั่งเปลี่ยน โซฟาด้วย ถ้าคุณเอากับมันที่นั่น ผมจะได้เปลี่ยนยกชุดไปเลย ของอะไรที่มันแตะต้องผมจะรื้อออกให้หมด”

“รวยมากมั้ง”

“ซื้อประเทศนี้ได้ทั้งประเทศก็แล้วกัน”

“เมียกูรวยชิบหายครับ”

ไอ้เจ้าชะงักไปเพียงครู่ มันกลั้นยิ้มไว้ไม่ไหว “ง้ะ พูดคำต้องห้ามผมก็หายโกรธทุกที”

“อย่าโกรธนาน กูรำคาญ”

ธรารั้งท้ายทอยของไอ้คนขี้หึงเข้าใกล้แล้วจูบมันไปแรงๆ ก่อนจะกดศีรษะของมันลงแนบอก ไม่เปิดโอกาสให้มันได้เห็นสีหน้าและสายตาของเขา

“ไม่อยู่ให้รำคาญหรอก” ไอ้เจ้าพูดเสียงอู้อี้เพราะใบหน้ายังคงแนบกับอกกว้าง “จะไปพักผ่อนสามวัน”

“ยังจะไปอีก เคลียร์แล้วไม่ใช่เหรอวะ”

“เรื่องของผม”

“ดื้อโคตรๆ อยากไปไหนก็ไปเถอะงั้น”

“รั้งหน่อย”

“คิดถึงหน้าผัวมึงด้วย”

“แง้ ไม่ไปก็ได้จ้า”

“ดี”

ธราเป็นแบบนี้...งั้นไอ้เจ้าจะคิดไปไกลก็คงไม่ผิดใช่ไหม

“ที่รัก”

“ว่า”

“ไปเที่ยวกัน ผมมีที่ที่อยากพาคุณไป”

“ขอดูเวลาว่างก่อน”

“วันอาทิตย์ได้ไหม”

“ยังไม่แน่ใจ มีทำเคส แล้วไอ้แพร์ก็นัดทำงานกลุ่ม”

“คิวแน่นจริง งั้นว่างเมื่อไหร่ก็บอกผม ผมแสตนด์บายรอ”

“ครับๆ จะรีบเคลียร์คิวให้มึงครับ”

“ดีจัง งั้นผมไปเรียนก่อนนะครับ เลยเวลาเรียนมาสิบนาทีแล้ว”

“ตั้งใจ”

ไอ้เจ้าหอมแก้มของธราทั้งซ้ายและขวาก่อนจะก้าวลงจากรถ มันยืนส่งจนรถออร์ดี้สีดำเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถไปจนลับสายตาแล้วจึงเดินขึ้นห้องเรียน





08.10 AM

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

P. : คุณธราครับ จารย์แม่จะเช็กชื่อแล้วไอ้ห่าเอ้ย มึงมีไหน

K. : อีกสิบนาทีจะถึงรหัสมึงแล้ว เช็กเสร็จล็อกห้องนะโว้ย! เกียร์หมามาเลยนะมึงงงง!

P. : มันไปไหนวะ ตอนแรกก็นั่งคุยกันอยู่ดีๆ กูลุกไปห้องน้ำแป๊บเดียว กลับมาหายเฉย

J. : กูเห็นตอบแชทไอ้เจ้า ทำหน้ายุ่งแล้วลุกออกไปเลยจ้า ไม่บอกกูสักคำเหมือนกัน

K. : ไม่อ่านไม่ตอบด้วยไอ้เหี้ย ไอ้ดินโว้ยยย!!

P. : ไอ้ดิน ตายห่าไปยัง ไอ้เหี้ยๆ ๆ โทรไปไม่รับด้วย รับสายกู!

J. : ขึ้นอ่านครบแล้วๆ ไอ้ดิน มึงตอบหน่อย อยู่ไหน

D. : อยู่ลานจอดรถ กำลังวิ่ง แป๊บ

P. : เหี้ยยย รีบเลย เร็ววว

D. : อยู่ลิฟต์ละ

K. : มึงไปไหนมาวะ

D. : หาไอ้เจ้า มีเรื่องนิดหน่อย

J. : ไม่พ้นเรื่องน้องบีอะกูว่า

D. : เออ มันแม่งหมาบ้า

P. : ว่ามันหมาบ้า มึงก็บ้าพอกัน จะควิซอยู่รอมร่อ ยังจะหายหัว

D. : กูถึงละ ไว้ค่อยบ่น

J. : เค แยก


.
.
.
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 คนใจร้าย ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 25-10-2018 18:14:28


“ไอ้เหี้ยยย รอดสักทีกู ไปกันเว้ยมึง ซูชิๆ ๆ ๆ” ไอ้คนที่กำลังแหกปากโวยวายอยู่ในตอนนี้คือไอ้จอม ตัวเขมือบประจำกลุ่มหมอชอบฟัน เสียงท้องมันร้องตั้งแต่สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้วแต่ก็ต้องอดทนเพราะอาจารย์แม่สายสุนีย์ยังคงเฉ่งมันเรื่องความหยาบของเนื้องาน “ขอซูชิปลอบใจกูที แค่ 0.2 มิลด่าเหมือนกูทำพลาดมาทั้งชีวิต ตาคนนะเว้ยไม่ใช่กล้องจุลทรรศน์ กูจะรู้ได้ไงว่า เท่านี้ 0.5 เท่านี้ 0.2 ฮืออออ”

“มึงก็ไม่หัดใจเย็นบ้าง รู้ก็รู้ว่างานละเอียด” ไอ้แพร์ที่ดูเป็นผู้เป็นคนมากที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น

“อย่าว่ากู พอแล้ว แค่จารย์แม่คนเดียวกูก็รับแทบไม่ไหว” ไอ้จอมเบ้ปาก ยกมือขึ้นปิดหูเหมือนเด็ก

“ก้มหน้ากุมเป้าฟังเหมือนตั้งใจ แต่สารภาพมาว่ามึงหลับในใช่ไหมไอ้จอม” ไอ้คินที่เพิ่งถอดแมสก์ออกจากใบหน้าพูดอย่างรู้ทัน

“เออ กูนั่งเรียงฟันทั้งคืนไอ้เหี้ยเอ้ยแทบไม่ได้นอน แต่ต้องแหกตาตื่นมาเลคเชอร์ตอนแปดโมงเช้า นี่ชาติที่แล้วกูคงไม่ได้ทำบุญบริจาคหมอนให้วัด ชาตินี้หัวก็เลยไม่ค่อยได้สัมผัสหมอน พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆ เอาหมอนใส่บาตรให้หลวงพ่อไปด้วยดีกว่าว่ะ” ไอ้จอมถอนหายใจแรงๆ กับความไม่มีโชคด้านการนอนของมัน “ว่าแต่มึงเถอะไอ้ดิน กล่อมเจ้ปากแดงยังไงให้ลบลิปสติกออกได้วะ ตอนนางมาเป็นเคสให้กูคือไม่ยอมลบลิปท่าเดียวจ้า บอกแต่ว่าไม่สวยๆ เปื้อนถุงมือกูไปอีก กูแทบกราบกว่านางจะยอมลบให้”

“ใช้ปากกูลบ” ธราตอบหน้านิ่ง ยักคิ้วกวนให้กับเพื่อนอีกสามคนที่มองมาแล้วพร้อมใจกันเบ้ปากมองบน

“ไอ้เจ้ารู้ได้เป็นเรื่อง” ไอ้แพร์เตือน

“ก็อย่าไปบอกมัน” ธรายักคิ้วกวน

“แคร์จริงจังแต่ก็ยังทำตัวเลว” ไอ้คินว่าเสียงเรียบ “ระวัังเถอะ มันจะไม่ทน”

“ก็ขู่กูอยู่ทุกวันว่าจะหายไป แม่งเป็นบ้าอะไรไม่รู้ ไม่เคยจะพูดรู้เรื่อง โคตรรำคาญ”

“อ๋อ รำคาญนะ” ไอ้แพร์ยิ้มล้อ “รำคาญแต่ก็อธิบายทุกที ยิ่งกว่าผัวแก้ตัวเวลาเมียหลวงจับได้ว่าซุกกิ๊ก เพื่อนกูนี่มันเป็นคนยังไงวะ”

“หยุดเสือก”

“อะๆ ขอเสือกอีกเรื่อง” ไอ้จอมรับไม้เสือกต่อ “ตกลงตอนนี้มึงกับไอ้เจ้าคือยังไง สถานะไหน แล้วเมื่อไหร่จะพามาเจอพวกกู กั๊กมันไว้นานไม่ดีนะมึง มันก็ไม่ใช่คนขี้เหร่อะ”

“สถานะเหมือนเดิม เจอเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”

ไอ้จอมพยักหน้าหงึก เข้าใจแล้วว่าคนอย่างธรามันปากแข็งแค่ไหน “ไอ้เจ้ามันหน้าตาดีนะมึง ถ้ามึงยังไม่ชัดเจนหมาคาบไปแดกแน่ เอาจริง แม่งโคตรหล่อเลย กูเห็นแล้วยังใจสั่น เมื่อเช้ามีรูปมันลงในเพจมหา’ ลัย เพิ่งเห็นว่ามันตัดผมใหม่ สาวๆ เม้นตรึม แต่ส่วนใหญ่คอมเมนต์มีแต่คนมาถามว่าใช่พี่เจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์มอเจไหมคะ แล้วก็เห็นเด็กมอเจอีกหลายคนมาเม้นอะ กูเคยได้ยินว่ามันเป็นเด็กซิ่วนะ แต่คือซิ่วจากแพทย์มาเรียนเกษตรฯ นี่มันก็โลกเหวี่ยงมากไป”

“มีคนถ่ายรูปมันลงเพจเหรอวะ ขออนุญาตเจ้าของเขารึยังเถอะ” ธราถามเสียงนิ่ง รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา

“อะ โฟกัสผิดจุดไปอีกไอ้ห่า” ไอ้คินส่ายหน้าระอาใส่คนปากแข็งที่โคตรขี้หวง “เพจมหา’ ลัยก็แบบนั้นอยู่แล้ว แอดมินน้องแต้วเห็นคนหล่อได้ที่ไหน ต้องกระเสือกกระสนไปถ่ายรูปมาลงเพจเรียกยอดไลค์ รูปมึงยังโดนลงรัวๆ เลย ตัวเรียกไลค์อันดับหนึ่ง”

“จริง นี่กูยังสงสัยว่ามันจ้างตากล้องมือโปรมาเลยไหม มึงดูรูปไอ้เจ้า ถ่ายหน้ามันได้แบบคมชัด หล่อระดับสี่เค แต่กูเห็นเม้นไอ้มิน เดือนบริหารปีเราบอกน่ารัก หน้าเหมือนแมวอ้อน กูแบบ...ไอ้มินมันเอาตาไหนมอง” ไอ้จอมสาธยายพลางเปิดรูปให้ไอ้คนปากแข็งดู

“เออ ไอ้ห่ามินตาถั่ว มันน่ารักตรงไหน ก็แค่คนโรคจิต”

“ใช่มั้ยมึง” ไอ้จอมทำปากมุบมิบ เหมือนมันพูดอะไรอยู่คนเดียว จับใจความได้แค่ว่าไอ้มินแม่ง...

“ไปคุยต่อที่ร้านซูชิเถอะ เดี๋ยวหมดเวลาพัก รีบกินจะได้รีบกลับมาทำเคสต่อ” ไอ้แพร์รีบรุนหลังเพื่อนๆ ให้ออกเดิน ขืนยังยืนคุยกันต่อคงไม่ต้องกินอะไรกันพอดี ไอ้คนที่บ่นหิวอย่างไอ้จอมก็เอาแต่พูดอยู่คนเดียว ไอ้คนปากแข็งอย่างไอ้ดินก็เอาแต่ขมวดคิ้วจ้องรูปในโทรศัพท์มือถือไม่วางตา ส่วนไอ้คนขายาวพอๆ กับสันหลังอย่างไอ้คินก็ได้แต่ยืนหาวหวอดไม่ออกความเห็นเหมือนหลับในไปแล้ว

สี่หนุ่มกลุ่มหมอชอบฟันเดินออกจากโรงพยาบาลแล้วข้ามทางม้าลายมายังร้านซูชิฝั่งตรงข้าม ในเวลาเที่ยงวันแบบนี้ลูกค้าในร้านจึงค่อนข้างแน่นขนัด แต่ยังพอมีโต๊ะว่างให้จับจอง ไอ้คินเดินตรงไปที่โต๊ะเป็นคนแรกเพราะอยากหาที่นั่งเอนหลัง ไอ้จอมตามไปติดๆ เห็นมันคว้าเมนูมาสั่งกับพนักงานแล้ว อีกไม่นานคงได้อาหารเต็มโต๊ะ ส่วนไอ้แพร์กับธรากำลังทักทายสายรหัสที่บังเอิญเจอ พูดคุยกันเล็กน้อย ถามไถ่ถึงชีวิตการเรียนเพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างได้เจอกัน แต่ตอนที่กำลังจะเดินกลับโต๊ะ เสียงทักทายสองเสียงก็ดังขึ้นเหมือนวูดรถไฟสองขบวนที่ไม่ควรมาแล่นในรางเดียวกัน

“พี่ดินคะ / ดินครับ"



(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

J. : SOS รถไฟชนกันไอ้เหี้ยยยย ไอ้ดินตายไปยังมึงงง

K. : หน้าไอ้เจ้านิ่งชิบหาย น้องบีมาได้ไงวะ ไอ้ดินมึงชวนเหรอ

D. : เปล่า ไม่ได้คุยแล้ว กูบล็อกน้องตั้งแต่เมื่อเช้าตอนเคลียร์กับไอ้เจ้า น่าจะบังเอิญ

P. : ร้านซูชิมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่ไป ดันพากันมาแดกร้านตรงข้ามโรงบาลมอ แล้วไอ้เจ้านี่บังเอิญมาด้วยรึเปล่าวะ

D. : กูบอกไอ้เจ้าว่ามากินซูชิกับพวกมึง มันคงตามมา

K. : ตามมาได้จังหวะเหมาะด้วย

P. : จังหวะเลวร้ายสุดๆ

J. : กูทีมไอ้เจ้า เพราะกูชอบคนหล่อ แล้วน้องบีนี่อะไรนักหนา เขย่าแขนมึงอยู่ได้ไอ้ดิน คิดว่าทำงี้น่ารักเหรอ

D. : น่ารำคาญ

K. : กูทีมไอ้เจ้าด้วย กูชอบในความโรคจิตของมัน บอกน้องบีไปเลยว่าน่ารำคาญ ขอสีหน้าเหมือนตอนที่มึงกำลังทำ scaling นะ แม่งโคตรได้

P. : น้องเป็นผู้หญิงไอ้พวกเหี้ย พูดไปก็หักหน้าน้อง ถึงกูจะคิดเหมือนพวกมึงก็เถอะ

K. : อ้าวๆ ไอ้เจ้าไปนั่งอีกโต๊ะแล้ว มันไม่นั่งกับพวกเราเหรอวะ

P. : มันมากับเพื่อน

K. : คนไหนเพื่อนมันวะ กูเห็นวันๆ มาเฝ้าไอ้ดิน นึกว่าชีวิตมันจะมีแต่ไอ้เพื่อนเหี้ยของเรา

P. : คนตัวเล็ก ผอมๆ ปากแดงที่กำลังเดินเข้าร้านมาอะ น้องชื่อเอ๋ หอเดียวกับกู อยู่ห้องข้างๆ เคยเห็นไอ้เจ้าไปหาบ่อย

K. : น่ารักว่ะ ถ้าบอกเป็นเมียไอ้เจ้ากูไม่แปลกใจ ดูแลกันดีชิบหาย คุยกันน่ารักด้วย ผมๆ นายๆ

J. : ฮืออ กูอยากได้ไอ้เจ้า ไอ้เจ้าแม่งโคตรหล่อเลย กูใจสั่นอีกแล้ว เห็นใกล้แล้วโคตรสั่น ทิ้งไอ้ดินแล้วมาเอากูซะ กราบแนบอกพี่เจ้า!

D. : เจอตีนกูหน่อยมั้ยมึงอะ

J. : แฟนก็ไม่ใช่ทำมาหวง จัดการเอานมน้องบีออกจากแขนมึงก่อนมั้ย ไอ้เจ้าแม่งจะมากระชากหัวน้องออกจากมึงอยู่แล้ว มันมองไม่วางตาเลยนะ หล่อจริงแต่น่ากลัว โคตรกร้าวใจ!





ธราได้แต่ถอนหายใจ เขาขยับหนีเจ้าหล่อนจนแทบจะเบียดตัวแทรกผนังอีกฝั่ง แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากอยู่ใกล้ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะทำมึนไม่รับรู้ ยังคงเอาแต่พูดเจื้อยแจ้วไม่ยอมกลับไปหาเพื่อนของตัวเองที่โต๊ะสักที เพื่อนๆ ของเขาก็พากันก้มหน้าแชทในไลน์กลุ่มกันหมด แต่เจ้าหล่อนก็ยังพยายาม ชวนคุยเรื่อยเปื่อย

ตอนที่ควงแรกๆ ก็เห็นว่าน่ารักดี ใครจะไปคิดว่าตอนนี้จะทำตัวน่ารำคาญ

ธราเห็นเจ้าหล่อนเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขาบ่อยๆ คงสงสัยอยู่ว่าเขาคุยกับใครถึงไม่ยอมตอบคำถามหรือเข้าร่วมบทสนทนากับหล่อนด้วย ดวงตากลมโตบนใบหน้าน่ารักนั้นจับจ้อง คิดว่าคงเห็นชัดและอ่านออกทุกคำ





D. : เมียครับ

OMG: อะไรคุณ กำลังง้อผมเหรอ

D. : อืม ง้อนะ โอเคขึ้นมั้ย

OMG: ไม่ครับ คุณมานั่งกับผมสิ สะบัดแขนหล่อนแล้วมานั่งข้างผมเดี๋ยวนี้

D. : หักหน้าเลยนะแบบนั้น

OMG: หักหน้าหล่อนไม่ได้แล้วหัวใจผมล่ะ ความรู้สึกผมด้วย

D. : ตัดพ้อเก่ง

OMG: ผมจะหายไปนะธรา

D. : เจ้า อย่าพูดอย่างนี้บ่อยได้ไหม

OMG: ทำไม คุณไม่ชอบฟังเหรอ ผมก็ไม่ชอบที่คุณทำเหมือนกัน

OMG: แมสก์ในกระเป๋าเสื้อคุณก็มีรอยลิปสติก ผมเห็นนะ คนไข้คุณทำรอยไว้เหรอ ทำไมทำเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆ

D. : กูไม่น่าลืมทิ้ง

OMG: ไม่ควรทำตั้งแต่แรกมั้ยครับ

D. : เคลียร์ทีละเรื่อง

OMG: ผมไม่เคลียร์แล้วธรา เคลียร์ไปเท่านั้นคุณก็เหมือนเดิม เสียเวลา

D. : เดี๋ยวไปนั่งด้วย

OMG: ไม่ต้อง ผมจะกลับแล้ว

OMG: คืนนี้ผมไม่กลับห้องนะ ผมโกรธคุณ

D. : จะไปไหน

OMG: ม่านรูด หาใครสักคนมานอนจูบมานอนเอากัน เผื่อผมจะเข้าใจคุณขึ้นมาบ้าง

D. : ประชดกูแบบนี้นอกจากจะไม่ได้เหี้ยอะไรแล้วมึงยังจะโดนกูกระทืบ

OMG: ผมโสด ผมจะทำอะไรก็ได้ กระทืบมากระทืบกลับไม่โกงครับ

OMG: อ้อ...คืนนี้ผมจะครางชื่อคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ

D. : เจ้า อย่าทำนะ

D. : เข้าใจไหม ห้ามทำ กูห้ามมึงนะเจ้า

OMG: ผมจะทำ ผมจะไม่เก็บความบริสุทธิ์ของผมให้คุณแล้ว คืนนี้ผมจะนอนกอดคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ ผมจะทำกับเขา ใช้ปากให้เขา แล้วก็ให้เขาเข้ามาในตัวผมด้วย ผมจะขอให้เขากระแทกผมแรงๆ เอาให้ลืมคุณไปเลย

D. : เจ้า กูขอร้อง อย่าประชดกันแบบนี้

OMG: ผมจะมีผัวตัวจริงของผม ไม่เอาผัวมโนแบบคุณแล้ว บายธรา ผมโกรธคุณมาก รู้ไว้ด้วย!!





“เจ้า!” ธราตะโกนเรียก คนทั้งร้านหันมามองเขาไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเพื่อนที่กำลังกินกำลังแชทแต่เขาไม่ได้สนใจ เขาแทบจะผลักหญิงสาวที่นั่งชิดกับเขาออกห่างแล้ววิ่งตามไอ้เจ้าที่เดินเร็วๆ ออกจากร้านไป แต่ก็ทำได้ยากในเมื่อเจ้าหล่อนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ทั้งยังเกะกะขวางทาง

“อะไรกันเหรอคะพี่ดิน จะไปไหนคะ แล้วตะโกนเรียกชื่อเจ้าทำไม” ดาวเภสัชฯ คนสวยเอียงคอถามอย่างงงงวย

“ไม่ใช่เวลาถาม! บีลุกก่อน พี่ขอทางหน่อย จะกลับโต๊ะไปเลยก็ได้ มานั่งนานแล้วเพื่อนไม่รอหรือไง” ธราไม่มีเวลามารักษาน้ำใจใคร เพราะไอ้เจ้ากำลังจะประชดประชันกันด้วยความคิดที่ไม่เข้าท่า ต้องรีบเคลียร์รีบคุยกับมันก่อนที่มันจะทำเรื่องบ้าๆ ลงไปจริงๆ

“เอ่อ...คือ เพื่อนของบีกลับกันไปหมดแล้วค่ะ”

“แล้วนั่งอยู่ทำไมล่ะครับ ทำไมไม่กลับกับเพื่อน ลุกหน่อยครับ พี่ออกไปไม่ได้”

อยากจะสาปแช่งคนออกแบบร้านที่ออกแบบโต๊ะให้ออกได้ทางเดียว ธราตัวใหญ่ หากคนที่นั่งขวางไม่หลบเขาก็คงต้องเหยียบตัวเจ้าหล่อนปีนออกไป ป่านนี้ไอ้เจ้าวิ่งไปไหนแล้วก็ไม่รู้ คนบ้าแบบมันคงทำจริงอย่างที่ว่าแน่ ธราประสาทจะกินแล้ว รู้สึกร้อนรุ่มไปหมด

คิดจะครางชื่อคนอื่นเหรอวะ!

ฝัน! มึงฝันมากไปไอ้เหี้ยเจ้า!

“เดี๋ยวก่อนไอ้ดิน มีอะไรกัน” ไอ้แพร์ที่ใจเย็นที่สุดในกลุ่มถามขึ้นหลังจากรีบกลืนแซลม่อนโรลเข้าไปคำโต เกือบสำลักเพราะเสียงตะโกนของไอ้เพื่อนตัวดีอยู่แล้ว แต่เพราะความหิวโหยจึงยัดลงท้องได้สำเร็จ

“ไอ้เหี้ยเจ้าแม่ง...” ธราแทบพูดไม่ออก เขาหงุดหงิดจนไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดออกมาได้

แค่คิดว่ามันจะไปนอนกับใคร จะจูบกับใคร จะเปลือยต่อหน้าใคร มือหนาก็กำหมัดแน่น อยากชกลงหน้าของคนคนนั้น เอาให้ยับ ให้สาแก่ใจกับความทุรนทุรายที่เกิดขึ้นนี้

“ไปทะเลาะกันตอนไหนล่ะนั่น” ไอ้จอมถามด้วยความสงสัย “ก็เห็นมึงนั่งเงียบ ไม่พูดไม่จาสักคำ ก้มหน้าเล่นแต่โทรศัพท์ นึกว่าจะเคลียร์กันทีหลัง”

“ในแชท” ธราตอบเสียงห้วน ในใจร้อนระอุราวกับถูกไฟสุม “มันบอกกูว่าคืนนี้จะไม่กลับ จะไปนอนให้ไอ้เหี้ยที่ไหนก็ไม่รู้เอา ประชดเรื่องเหี้ยๆ หัวคิดได้แค่นั้น แม่งเอ้ยลุกสักทีสิวะ!”

“มึงๆ น้องเป็นผู้หญิง” ไอ้คินรีบเตือนสติคนที่กำลังคลั่ง “เอ่อ น้องบีครับ พี่ว่าเรากลับก่อนไหม”

ดาวเภสัชฯ ที่กำลังนั่งเม้มริมฝีปากน้ำตาคลอพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ งั้นบีกลับก่อนนะคะ พี่ดินช่วยปลดบล็อกบีทีนะคะ บีไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิด บีแค่อยากคุยกับพี่”

“พี่บล็อกก็คือพี่ไม่อยากคุย เมียพี่มันไม่ชอบ แค่นั้นแหละครับ ขอโทษด้วย”

สามเพื่อนซี้ที่เหลือลอบมองหน้ากันพลางในใจแต่ละคนก็คิดไม่ต่าง ไอ้เหี้ย...เมียเต็มปากเต็มคำ

“อ่า...คือพี่มี...แบบนั้น” สาวเจ้ายังคงมีความไม่เข้าใจปรากฎบนใบหน้า รู้สึกตั้งตัวไม่ทันกับถ้อยคำที่ได้ยินจากปากของชายหนุ่มรุ่นพี่ที่หล่อนหลงรัก

“ครับ พี่น่าจะบอกเราตั้งแต่แรก บีจะได้ไม่ต้องเสียเวลา”

“คือคบกันนานแล้วเหรอคะ แบบว่าบีมาทีหลังใช่ไหมคะ”

น้ำใสเริ่มเอ่อล้นดวงตากลมโต สามหนุ่มที่เหลือเงียบกริบในขณะที่ธราทำหน้าเรียบนิ่ง มองหล่อนด้วยแววตาที่ไม่สื่อความหมาย

“รู้จักกันเกือบสองปีแล้วครับ และใช่ครับ บีมาทีหลัง”

“บีไม่รู้...”

“พี่ผิดเองที่ไม่ได้บอก”

“เจ้าใช่ไหมคะ คนนั้นของพี่”

“ครับ เจ้าปีสอง คณะเกษตรฯ”

ทั้งโต๊ะเงียบกริบไร้บทสนทนาเมื่อธราพูดจบ น้ำตาของดาวเภสัชฯ ไหลอาบแก้ม สร้างความลำบากใจให้ชายหนุ่มอีกสามคนที่นั่งร่วมเป็นสักขีพยานการสะบั้นรักของธราในครั้งนี้ ไอ้จอมสะกิดเท้าไอ้แพร์ ส่งสัญญาณให้ไอ้คนที่ใจเย็นที่สุดในกลุ่มไกล่เกลี่ยสถานการณ์

“น้องบีครับ มีเรียนอีกหรือเปล่าครับ พี่จะได้ไปส่งที่คณะ พี่ว่าเราคงกลับเองไม่ไหว” เป็นไอ้แพร์ทุกทีที่ต้องรับหน้าที่เป็นสารถีให้กับสาวๆ ที่ถูกธราหักอก

“ขอบคุณค่ะพี่ รบกวนด้วยนะคะ”

ดาวเภสัชฯ ลุกเดินตามไอ้แพร์ออกจากร้านไปแล้ว ที่เหลือจึงมีเพียงชายหนุ่มสามคนที่โต๊ะ สองคนถอนหายใจโล่งอก ส่วนอีกหนึ่งคนกำลังรัวแชทไปหาไอ้เจ้าราวกับคนคลั่ง

“ไอ้เจ้าไม่ตอบกู ไอ้สัดเอ้ย แม่งโคตรลองดี”

“ไม่สำนึกเลยไอ้ห่านี่ ทำผู้หญิงร้องไห้เป็นงานอดิเรกรึไงวะ ขอให้ไอ้เจ้าทิ้งมึงไปมีชู้จริงๆ ซะเลย”

“ปากเหรอไอ้เหี้ยคิน” ธรามองตาขวาง “ต่อยกับกูมา”

“ไอ้ดินอย่าพาลดิวะ ใจเย็นก่อน” ไอ้จอมรีบห้ามทัพ “ไอ้คินก็อย่าไปแหย่มัน คลั่งจะตายอยู่แล้วเนี่ย”

“สมน้ำหน้าไหมล่ะ” ไอ้คินอ่อนลงเล็กน้อยแต่ก็ยังอยากแหย่คนปากแข็ง “ชอบหาเรื่องใส่ตัว คบกับไอ้เจ้าไปก็จบถ้าจะรักจะแคร์ขนาดนี้”

“กูไม่ได้รัก”

“เออ ปากแข็งไปเถอะมึง ไม่รักเลยนะ เป็นบ้าขนาดนี้อะ กี่คนกี่คนก็คบไม่ยืดเพราะไอ้เจ้าบอกให้เลิก มึงมีมันมาเกือบสองปีแล้ว มึงควงคนนั้นคนนี้ สันดานเจ้าชู้ทั่วถึง แต่สุดท้ายจบกับทุกคนเพราะไอ้เจ้า ไม่รู้ตัวอีกเหรอวะว่ารู้สึกยังไงกับมัน”

“กูแค่หวงมัน เพราะมันเป็นของของกูแค่นั้น”

“เมื่อก่อนยังบอกว่าเป็นไอ้โรคจิตอยู่เลย ทั้งต่อยมัน แจ้งความจับมัน ตอนนี้กลายเป็นของมึงซะงั้น” ไอ้จอมเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ “แต่คู่พวกมึงนี่ทำให้กูเห็นจริงๆ นะว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลกอะไม่ใช่แค่ประโยคเพ้อเจ้อ”

“จะอะไรก็ช่างเถอะ ช่วงบ่ายกูโดดได้ไหมวะ ต้องรีบเคลียร์กับมัน ไม่รู้ว่าตอนนี้เตลิดไปไหน”

“ไม่ได้ไอ้ห่า ห้องเด็กต้องการมึง ไม่มีมึงพวกกูเหนื่อยแน่ คนเหี้ยไรยิ้มทีเด็กหยุดร้องไห้ ฟันกระต่ายของมึงใช้ได้ทุกสถานการณ์อะ โคตรมีเสน่ห์ พี่หมอดินเป็นน้องต่าย น่าย๊ากกก” ไอ้จอมทำท่าเลียนแบบประกอบ มันแสร้งเขย่าแขนไอ้คินที่อยู่ข้างๆ แล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากกันสองคน

“ไอ้พวกเวร” ธราสบถด่า รู้สึกหงุดหงิดใจแต่กลับหาทางระบายไม่ได้

ตึ๊ง!

ธรารีบเปิดห้องแชททันทีที่มีเสียงแจ้งเตือน แต่เมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งเข้ามาแล้วมือก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่





OMG: Sent a photo.

OMG: ผัวใหม่ครับ หล่อน้อยกว่าคุณแต่ผมโอเค

OMG: คืนนี้ผมนอนกับคนนี้นะที่รัก

OMG: จะครางชื่อเขาให้ดังลั่นห้องเลย

D. : เจ้า อย่าทำแบบนี้ คุยกันดีๆ สิวะ ประชดกูแล้วจะได้อะไร

OMG: ได้สิ ผมคิดว่ามันคุ้มค่า คนเจ้าชู้อย่างคุณต้องเจออย่างผมธรา

OMG: ผมจะสอนให้คุณรู้ว่าความรู้สึกเวลาที่ของของตัวเองไปเป็นของคนอื่นมันรู้สึกยังไง

D. : เจ้า ถ้ามึงจะทำอย่างนั้นก็ฆ่ากูเถอะครับ

OMG: ผมรักคุณ ผมไม่ฆ่าคุณหรอก ผมแค่อยากสั่งสอนคุณ

D. : ไหนมึงบอกว่าจะไม่ทำให้กูเสียใจ ไหนบอกว่าจะเป็นของกูคนเดียว

OMG: ขอโทษทีที่ผมมันคนกลับกลอก ชอบกลืนน้ำลายตัวเอง





“ช่วยกูหน่อย ช่วยห้ามไอ้เจ้าที” ธราบอกเสียงสั่น เขารู้สึกพ่ายแพ้ หัวใจบีบรัดแน่นเหมือนจะตาย “มันไม่ฟังกูเลย มันส่งรูปใครก็ไม่รู้มาให้กูดู มันบอกจะนอนกับเขา ไอ้เหี้ยนั่นอยู่บนเตียงแล้ว พวกมึงช่วยกูคิด กูควรจะทำยังไงดีวะ ความรู้สึกแบบนี้โคตรเหี้ยว่ะ ทำไมต้องทำกับกูแบบนี้ด้วย”

“ยากเลยแบบนี้ คนอย่างไอ้เจ้านะมึง มึงอะรู้นิสัยมันดีที่สุด แล้วพวกกูจะช่วยยังไงล่ะเนี่ย มึงใจเย็นก่อนนะ สูดหายใจเข้าลึกๆ มึงต้องเก็บเคสให้ครบ มึงจะไปไหนไม่ได้ตอนนี้” ไอ้จอมถอนหายใจแรงๆ เห็นหน้าไอ้เพื่อนปากแข็งแล้วก็ได้แต่สงสาร “ว่าแต่มันจะพากันไปนอนที่ไหน”

“มันบอกม่านรูด แต่เตียงที่กูเห็นน่าจะคอนโดฯ หรือโรงแรมที่ไหนสักที่”

“ใจกล้าชิบหาย” ไอ้คินทำหน้าละเหี่ยใจ “เอางี้ละกัน เลิกคลินิกแล้วขอพวกกูเคลียร์งานก่อน สักสามทุ่มค่อยไปตามหามัน”

“จะทันเหรอวะ ตอนนี้มันอาจจะนอนกับไอ้เหี้ยในรูปแล้วก็ได้” ธราไม่มีความมั่นใจเลยสักนิดว่าไอ้เจ้าจะรอ มันพูดจริงทำจริงเสมอ ทั้งที่เขารู้จักมันดีที่สุดแต่ก็ยังปล่อยให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขนาดนี้

“เดี๋ยวไอ้แพร์กลับมาให้มันช่วยคิด คนจะเอากันมันเอากันได้เลยแบบไม่ต้องถ่ายรูปมาให้ดูก่อนหรอก ที่มันทำมึงก็รู้นะว่ามันทำไปทำไม เพราะงั้นใจเย็นก่อนนะเพื่อน” ไอ้จอมรับหน้าที่ปลอบคนปากแข็งที่กำลังหน้าซีด มือหนากำโทรศัพท์แน่นราวกับจะบีบให้แหลกคามือ ไม่เคยเห็นธราเป็นแบบนี้มาก่อนเลย มันอาจจะเป็นคนนิ่งๆ แต่ก็ยิ้มง่าย ไม่เคยเห็นโมโหอะไรเป็นจริงเป็นจัง แต่ตั้งแต่ที่รู้จักไอ้เจ้าก็เพิ่งจะเคยเห็นใบหน้านิ่งๆ ของมันแสดงอารมณ์สุดโต่งออกมา บางครั้งก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่บางครั้งก็นั่่งยิ้มกว้างอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์อยู่คนเดียว





D. : เจ้า กูเหมือนจะตายเลย มึงอยู่ไหน มาหากูนะ กลับมาหากู





กับคนที่เกลียดเป็นพิเศษ ทำไมถึงมีอิทธิพลต่อหัวใจของธรามากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้



......TBC........
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-10-2018 18:26:51
เจ้า เอาจริงอ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 25-10-2018 18:50:30
นี่คือตัวอย่างการไม่เห็น​โลงศพ​ไม่หลั่งน้ำตาที่แท้ทรู แอบสะใจเล็กๆ แต่จบคดีนี้ เจ้าได้เป็นเมียหมอดินสมใจแน่นวล
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 25-10-2018 19:01:50
งื้ออออ​ อยากอ่านต่อแย้วววง่า​ ชอบมากเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 4 คนใจร้าย ​P. 3 24/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 25-10-2018 19:02:35
สมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 25-10-2018 19:05:36
สำหรับตอนนี้ มีแค่คำเดียว สะใจ

เจ้า ถ่ายรูปเสร็จแล้วกลับห้องนะ  :call:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 25-10-2018 19:08:40
ถ้าสามีใหม่แซ่บบนเตียง ก็ทิ้งธราไปเหอะ นี่ตอนนี้ยังกล้าไปจูบคนอื่น บอกให้พื่อนช่วยปกปิด  คนเหี้ย2018จริงๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
.
มาต่อไวๆนะไรท์ อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 25-10-2018 19:13:17
หมั่นไส้อะ สะใจแต่ก็สงสารธราด้วย
แต่ก็ดีเผื่อจะเข็ดบ้าง
มัวแต่แคร์คนอื่นไม่แคร์เจ้า
ถ้าไม่รักไม่ชอบก็ไม่ต้องสนใจก็ได้นี่ เหอะ สงสารเจ้านะ แต่เจ้าก็เห้อ แสนเจ้าอารมณ์ ขี้ประชดประชันที่หนึ่ง ไม่เดาอะไรแล้วกันค่ะ รออ่านตอนหน้าค่าา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: lukYRKM ที่ 25-10-2018 19:15:29
พอกันทั้งคู่เลย ดินก็พอดิน  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 25-10-2018 19:18:56
สมน้ำหน้าดิน​ ต้องเจอซะมั่งเรี่ยราดทั่วถึงเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 25-10-2018 19:32:47
ดินติดเจ้ามากนะ แต่ปากแข็งเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-10-2018 19:54:57
 o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 25-10-2018 20:09:39
"แฟนก็ไม่ใช่ทำมาหวง" เนี่ย ประโยคนี้คือใช่เลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Babyboys ที่ 25-10-2018 20:12:28
ติดงอมแงมอีกแล้วววว
ติดบ่วงนักเขียนคนนี้ตลอดเลยยย :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 25-10-2018 20:41:10
จะลบลิปจากปากสาว ต้องใช้ปาก ??? นิสัย !!!!!   :fire:

เจ้าทนมาจะครบ 2 ปี ถ้าไม่ไหวก็พักนะ สงสาร  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-10-2018 20:49:12
ชอบเอ๋ๆน่ารัก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Faii0518 ที่ 25-10-2018 20:49:41
ชอบแก๊งค์หมอ(ชอบ)ฟัน ดูเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือและแซะกันได้ตลอดเวลา
เจ้าชู้อย่างดินต้องเจออย่างเจ้า! นี่ขนาดไม่ได้รักทำไมถึงต้องรู้สึกเหมือนจะตาย ต้องคิดได้แล้วนะดิน! สงสารเจ้า แต่คิดว่าเจ้าเอาดินอยู่!!!
แพร์ทำเป็นพูดเหมือนรู้จักน้องเอ๋แค่ผ่านๆ แล้วคืนที่นัวกันในห้องน้ำคืออะไร??? ขอตอนแยกด่วนค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-10-2018 20:51:06
คลั่งขนาดนี้ยังไม่ยอมรับตัวเองอีก งานนี้เจ้าต้องเล่นให้หนัก  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 25-10-2018 20:57:16
โอ๊ยยยย เจ้า จักรพรรดิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 25-10-2018 21:17:51
อึดอัด ลุ้นจนอึดอัด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 25-10-2018 21:23:56
To: คนเขียน
ชอบมากกกค่ะ  o13 อ่านไปสงสารเจ้าไป + แอบเกลียดคนนิสัยเห็นแก่ตัวอย่างธรา  :m16:

To: ธรา
สมนำ้หน้า  :m16: เป็นไงหละ ทีตอนขยันทำคนอื่นเสียใจไม่รู้สึก... ทีนี้มาดิ้น
 
To: เจ้า
สะใจค่ะ ทำดีมากกก  o13 ต้องดัดนิสัยเสียให้มันดีขึ้นซะบ้าง  o13 สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 25-10-2018 21:26:08
คือถ้าเจ้า คือเจ้า จักรพรรดิ์นักศึกษาแพทย์อีก ม.นึงจริง ๆ แล้วซิ่วมาเรียนเกษตรที่ม.นี้เพื่อตามธาราเราไม่โอเคเท่าไรเลย ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าจะมีเหตุผลที่ใหญ่หลวงพอที่ทำแบบนั้นนะ
ป.ล.สมน้ำหน้าธาราเป็นบ้าไปซะ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 25-10-2018 21:31:21
เจ้าถ่ายกับเอ๋ใช่มั้ย เพราะแพรร์ไม่อยู่เลยไม่มีใครรู้เอ๋แล้ว  รำคาญดินอ่ะ นิสัย รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 25-10-2018 21:45:50
ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้


ธรารั้งท้ายทอยของไอ้คนขี้หึงเข้าใกล้แล้วจูบมันไปแรงๆ ก่อนจะกดศีรษะของมันลงแนบอก ไม่เปิดโอกาสให้มันได้เห็นสีหน้าและสายตาของเขา


.
.
ประโยคนี้คือไรอ่ะ ไม่ให้เห็นสีหน้ากับสายตา...อ่านแล้วให้อารมณ์แบบกุกำลังหลอกมึงอยู่นะ อะไรแบบนี้เลย  แต่ตอนนี้รู้สึกสงสารเจ้านะ ตามที่เจ้าพูดเลย ขนาดตามทุกวัน ยังแอบไปมีไรกันได้...ไหนจะอิเจ้ที่ไปทำฟันด้วยอีก เสียความรู้สึกเนาะ อย่าบอกนะว่าจริงๆแล้ว อีกสองอาทิตย์เจ้าคือเลิกตามจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้นคงสะใจ แต่ก็อาจจะสงสารธนานิดหน่อย  :katai1::katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-10-2018 21:59:08
เจ้าสู้ๆๆๆ สมน้ำหน้าอีดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 25-10-2018 22:50:56
ดินโครตเห็นเห็นแก่ตัวเลย
สมแล้วที่โดนของตายทำให้เจ็บเจียนตาย
ถ้าหลังจากนี้ยังคิดไม่ได้
เราจะเชียร์ให้เจ้าจับนายทำเมียแทน  :m16:

บียังเป็นคนที่เราอยากจับโยนออกนอกเรื่องในทุกๆตอน
มองบนใส่จนตาแทบจะทะลุติดเพดาน

คู่พี่แพร์คนดีกับน้องเอ๋น่าติดตามมากๆ
คู่มินจอม(?)ด้วย จอมน่าจะมาสายตลก เพ้อๆ
เอ็นดูความอยากซบอกเจ้า

 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-10-2018 23:20:12
สมน่ำหน้าา
เพื่อนเอ๋งานนี้จะได้ผัวชิมิ พี่แพร์นี่คู่แท้ชิมิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 25-10-2018 23:25:49
หวังหลายต่อหลายให้ครั้งว่าให้เจ้าให้บทเรียนกับดินซะที  ตอนนี้คิดว่าคงเป็นดินแล้วที่ขาดเจ้าไม่ได้ เจ้าเล่นตัวได้แล้วนะ ดินก็ต้องค่อยปรับตัว เราก็จะปรับตัวสร้างโล่ป้องกันดราม่าที่อาจจะมีหรือไม่มีก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 26-10-2018 00:19:48
เออดีเลยเจ้า ทำแบบนี้สุดยอดมาก สมน้ำหน้าดิน ให้อกแตกดิ้นตายไปเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 26-10-2018 00:31:48
สงสารเจ้า สมน้ำหน้าพี่ธราจริงๆ ปล่อยเรื่องคาราคาซัง คนเจ้าชู้ต้องให้เจ้าจัดการแบบนี้
ชอบทีมหมอชอบฟัน และเพื่อนเอ๋
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 26-10-2018 00:53:00
จัดค่ะ จัดไปเลยเอาให้สาสม  :hao7: :hao7: :hao7: ให้อปแตกตายกันไปข้างเลย 

น้องเอ๋ น้องน่าร้ากกกกก เสร็จแพร์ไปแล้วจริงหรือ

จอมเธอมันเป็นคนบ้าผู้ชายอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 26-10-2018 01:30:03
ธราาทำแบบนี้ไม่ดีเลย สมควร!!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: CHOO ที่ 26-10-2018 01:43:20
ช่างหัวธราไปก่อนค่ะตอนนี้
อยากรู้ว่าพี่เจ้า คือพี่เจ้าเดือนแพทย์จริงมั้ย ถ้าจริงพี่ซิ่วมาด้วยเหตุอะไรคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 26-10-2018 02:35:02
จ้า เชื่อก็ได้พี่ ร้อนรนขนาดนี้ไม่รักเล้ยยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-10-2018 02:38:37
 พอกันเลย ทั้งดินทั้งเจ้า ซีนเหรอ ถึงประชดกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ampaiem33 ที่ 26-10-2018 07:22:52
รีบอัพน๊า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 26-10-2018 09:57:46
 o13 o13 สมน้ำหน้าอิหมอดิน เห็นเค้าเป็นของตายดีนัก  คิดว่าเค้าจะต้องอยู่ต้องรักไม่ไปไหนแค่พูดจาหวานๆ ก็พอ รอให้แกเสียน้ำตาสักวัน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-10-2018 11:38:39
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
เอ๋งงพี่ก็งงกับเอ๋ ไปเรียกหมอแพร์มาคุยหน่อย 55555555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 5 ยังโสดโสดอยู่ทางนี้ ​P. 4 25/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ppnplg ที่ 26-10-2018 12:22:59
สมน้ำหน้าดิน ขนาดเจ้าตามขนาดนี้แล้วนะยังไม่แอบพาขึ้นคอนโดได้
เจ้ามันไม่ขายห้องนั้นทิ้งก็ดีเท่าไหร่แล้ว อีเจ๊ที่ทำฟันอีกเนี่ย
สงสารเจ้านะคนรอมันท้อใจอะ ไม่รู้เมื่อไหร่อะ
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P. 5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 26-10-2018 18:06:53
ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ



“ไม่เจอมึงโคตรนาน ตั้งแต่มึงลาออกไปก็ไม่ติดต่อเพื่อนฝูง”

ไอ้เจ้าละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนเก่าซี้ปึ้กชนิดที่ว่าเห็นกันมาเกือบทั้งชีวิตแต่ก็ขาดการติดต่อกันไปตั้งแต่ที่ตัดสินใจเปลี่ยนวิถีทาง

“กี่ปีแล้ววะ สองหรือสาม” ไอ้เจ้าถามอย่างไม่แน่ใจในช่วงเวลา

ไม่เคยจำ...เวลาอะไรพวกนั้นสำหรับไอ้เจ้ามันหยุดชะงักไปนานแล้ว สมองของมันจำแต่เรื่องของคนคนเดียว ไม่เพิ่มความจำเรื่องอื่นเพราะกลัวว่าเรื่องสำคัญที่ควรจำจะหายไป

“สามมั้ง จำไม่ได้เหมือนกันว่ะ” ไอ้บิน หนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนเคียงกันอัดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด “คิดถึงนะเว้ย แต่อยู่ๆ โทรมากะทันหัน กูเอากับเมียยังไม่เสร็จก็ต้องรีบใส่กางเกงบึ่งรถมาหามึง นึกว่ามีเรื่องสำคัญคอขาดบาดตายแต่ที่แท้ก็แค่ขอถ่ายรูป”

ไอ้เจ้าหัวเราะในลำคอ หันมองไอ้บินที่ตัวสูงชะลูดแล้ววาดแขนโอบไหล่มัน “เพราะมึงรูปหล่อที่สุดในกลุ่มเรา กูก็เลยต้องขอยืมหนังหน้ามึงหน่อย ให้เรียกไอ้วินมาก็คงสู้ไม่ได้ คงทำให้คนคนนั้นดิ้นไม่พอ”

“ไอ้ห่า ก็แค่รูป แชทมาขอกูก็ได้ไหม”

“แชทได้ แต่อยากเจอมึงไง ไม่เจอกันตั้งนาน”

“แล้วใครให้มึงลาออกกะทันหันวะ ลาออกไม่บอกเพื่อนสักคน คิดจะหายก็หายไปเลย พวกกูตามหามึงอยู่เป็นเดือนสองเดือน ทุกคนเป็นห่วงมึงกันหมด ไอ้วินร้องไห้อยู่สามวัน เห็นข่าวคนโดดตึกที่ไหนก็คิดว่าเป็นมึง ซึมกันทุกคนเลยนะเว้ย ทิ้งพวกกูไปแบบโคตรน่าโกรธอะ แต่ก็นั่นแหละ โกรธมึงไม่ลง คิดว่ามึงคงมีเหตุผลของมึง”

ไอ้เจ้าเหม่อมองท้องฟ้าเบื้องหน้า ระเบียงบนชั้นสามสิบหกของคอนโดฯ แห่งนี้สูงพอที่จะทำให้มันเห็นท้องฟ้าสีครามได้ชัด ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามาก็ช่วยหอบเอาควันบุหรี่ของไอ้บินลอยหายไป มันไม่ชอบกลิ่นของบุหรี่แต่ถ้าเพื่อนชอบสูบก็ไม่เคยขัดศรัทธา

“กูเจอเขาแล้วว่ะบิน อยู่ๆ ก็เจอหลังจากที่ตามหาแทบพลิกแผ่นดิน แต่กูกลัวเขาจะหายไปอีกก็เลยไม่ทันคิดให้ดี” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้มเศร้า ในขณะที่ไอ้บินได้แต่ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของมันอย่างไม่แน่ใจนักว่าควรพูดอะไรต่อ “เขายังเหมือนเดิม รูปร่าง หน้าตา แต่เหมือนจะสูงขึ้นนิดหนึ่ง ไหล่กว้างกว่าเดิม ก็มีบ้างที่ความชอบบางอย่างเปลี่ยนไป แต่กูสัมผัสได้อะว่าเขาคนเดิมยังอยู่ ต่อให้จะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ตัวตนคนเรามันลบกันไม่ได้ง่ายๆ”

“ดีแล้วที่มึงเจอ” กว่าจะหาเสียงเจอก็เหมือนปล่อยให้ไอ้เจ้าจมจ่อมกับอดีตอยู่นาน “แบบยังไงดีวะ กูก็พูดไม่เก่ง แต่กูดีใจกับมึงด้วยจริงๆ "

“ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่านะที่เจอ” รอยยิ้มยังไม่จางจากสีหน้าแต่ความเศร้าสร้อยกลับยิ่งทวี “กูทรมานว่ะบิน ทรมานกับความทรงจำที่มีแต่กูจำได้อยู่คนเดียว”

“มันจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”

“อืม หายไปอย่างถาวร ครึ่งชีวิตของกูก็หายไปด้วย”

ถ้าไอ้บินมองไม่ผิด ก็เห็นน้ำใสๆ หยดหนึ่งไหลกลิ้งลงบนแก้มของคนร้องไห้ยากอย่างไอ้เจ้า ไม่มีใครไม่รู้ว่าไอ้เจ้าทุกข์ทรมานมากแค่ไหน เรื่องราวของไอ้เจ้ากับคนคนหนึ่งที่หลงรักกันมาสิบกว่าปี จากน้องชายขยับเป็นคนคุย จากคนคุยขยับเป็นแฟน จากแฟนขยับไปเป็นคู่ชีวิต ทุกอย่างเป็นไปได้ดี ราบรื่นมาตลอด แต่พระเจ้าคงเห็นว่าไม่ยุติธรรม คนสองคนที่มีความสุขมากเกินไปจึงถูกทำให้พลัดพราก ไอ้บินคือเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่สนิทกับไอ้เจ้าและคนรักของมัน ได้มีโอกาสได้อยู่ในช่วงเวลาที่ไอ้เจ้ามีความสุขที่สุดและทุกข์ใจที่สุด

เจ้า จักรพรรดิที่เคยมีทุกอย่างสมดั่งชื่อของมันเหมือนสูญเสียหลักยึดเหนี่ยวของชีวิตภายในคืนเดียว

“แหวนกูก็ยังเก็บไว้ การ์ดแต่งงานที่ออกแบบเล่นๆ ด้วยกันก็ยังมีไฟล์อยู่ในคอมฯ รูปทุกรูปที่ถ่ายด้วยกันกูไม่เคยทิ้ง มีแต่กูที่เวลาหยุดลง อยู่กับความทรงจำที่มีเขา แต่ตัวจริงเขาไม่อยู่กับกูแล้ว” ไอ้เจ้ายกมือขึ้นลูบหน้า สูญเสียการควบคุมแทบหมดสิ้น “มึงจะทำยังไงวะบินถ้าคนที่มึงรักยิ่งกว่าชีวิตเขาลืมมึง ต่อให้อยู่ตรงหน้าก็ไม่มีตัวตน”

“ไม่เป็นไรนะมึง มึงเจอมันแล้วนะ” ไอ้บินลูบแผ่นหลัง มันปลอบใครไม่เป็น ถ้าไอ้วินหรือไอ้จี้อยู่ตรงนี้ก็คงจะทำได้ดีกว่า “รู้จักกันใหม่ ทำให้มันรักมึงอีกครั้ง ไม่ยากหรอก ไหนมึงบอกว่าตัวตนคนเราเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆ ไง”

“แต่ใจคนมันเปลี่ยนกันได้ว่ะ” ไอ้เจ้าแย้งพลางยิ้ม แม้ดวงตาของมันจะไม่ได้รู้สึกอยากยิ้มเลยสักนิด ราวกับกำลังเย้ยหยันชะตาชีวิตรักของตัวเองมากกว่า “ตอนอยู่มอหนึ่งมั้งนะที่เขาเคยบอกว่าอยากเรียนเกษตรฯ ความฝันเด็กๆ อะแบบจะได้ปลูกผักปลอดสารพิษให้กูกิน เพราะอยากให้กูสุขภาพดี แข็งแรง อยู่กับเขาไปนานๆ พูดแต่คำหวานๆ หยอดกูฉิบหาย แต่ตอนนี้เขาเรียนทันตะฯ ฟันดาวคณะคนแล้วคนเล่าสมชื่อหมอฟันจนกูหัวร้อนเป็นพักๆ ต้องเตือนตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์ เพราะตอนนี้กูไม่ได้เป็นอะไรกับเขา แบบ...โคตรเหี้ยอะ โคตรทรมาน กูแทบอยากจะกระชากตัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ทำอะไรก็ได้ให้พวกนั้นเจ็บเหมือนที่กูเจ็บ แต่กูได้แค่มองแล้วก็ทำใจอยู่คนเดียว”

“ทำไงดีวะเนี่ย” ไอ้บินจนใจจะปลอบ “กูโทรตามไอ้พวกนั้นมาดีไหม กินเหล้ากันมึง คลายเครียดๆ”

“ก็ดีว่ะ ยังไงวันนี้กูก็ว่าง”

“เออๆ เดี๋ยวกูคอลกรุ๊ปเลย รอแป๊บครับ พี่บินจัดให้”

ไอ้บินแยกตัวเข้าห้องไปแล้ว เหลือแต่ไอ้เจ้าที่ยังคงยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง มันไม่เคยคิดจะกลับมาที่นี่ ห้องที่เป็นเหมือนห้องหอของมัน ปิดตายเอาไว้ตั้งแต่ที่อีกคนหายไป เพราะไม่อยากเปิดกล่องความทรงจำขึ้นมาอีก ในเมื่อไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็เห็นแต่ภาพแห่งความสุขที่ตอนนี้กลายเป็นแค่ความทรงจำที่มีแต่มันจำได้อยู่คนเดียว

ระเบียงตรงนี้เคยมานั่งรับลมเล่นด้วยกัน เขาชอบนอนตักไอ้เจ้า พอถูกลูบศีรษะเข้าหน่อยก็เข้าสู่นิทรา มุมตรงนั้นเยื้องไปทางฝั่งซ้ายของประตูก็เคยช่วยกันทำเป็นมุมผักสวนครัว ไอ้เจ้าเป็นคนลงเมล็ด ส่วนเขาเป็นคนเตรียมดินใส่กระถาง หน้าตามอมแมมด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข เคยเผลอจูบกันด้วยเพราะมองตากันอยู่นานแล้วขยับเข้าใกล้ตอนไหนก็จำไม่ได้ จูบแรกของไอ้เจ้าคือเขา และจูบแรกของเขาก็คือไอ้เจ้า ทั้งคู่เป็นของกันและกัน เป็นครั้งแรกของกันและกัน เขาบอกเสมอว่าไอ้เจ้าคือพระเจ้าของเขา หากไม่มีไอ้เจ้าเขาจะอยู่ไม่ได้

แต่ตอนนี้...ไม่มีไอ้เจ้า เขาก็อยู่ได้ ทั้งยังอยู่ได้เป็นอย่างดี





OMG: Sent a photo.

OMG: ผมชอบวิวที่มองจากระเบียงนี้

OMG: ผมอยู่ที่นี่ ที่ของผม ที่รักอยากมาหาผมไหม

OMG: ถ้าอยากมาหาผม นึกให้ออกนะ

OMG: ผมจะรอ

D. : อยู่กับใคร แล้วไอ้เหี้ยนั่นอยู่ไหน

OMG: กำลังอาบน้ำ เตรียมตัวขึ้นเตียงกับผม ของเขาห้าสิบสองมั้ง ผมไม่แน่ใจ แจาถึงน้อยกว่าคุณผมก็คิดว่าโอเค ไม่น่าเจ็บมาก

D. : เจ้า กลับมาหากูไม่ได้เหรอวะ กูจะไปรู้ได้ยังไงว่ามึงอยู่ที่ไหน กลับมาเคลียร์กันที่ห้อง

OMG: ผมบอกแล้วไงว่าคืนนี้ผมไม่กลับ

D. : มึงคิดฆ่ากูให้ตายจริงๆ ใช่ไหม

OMG: ไม่คุ้นบ้างเหรอว่าที่ไหน





ไม่หลงเหลืออยู่สักนิดเลยเหรอ...





D. : กูจะไปคุ้นกับวิวระเบียงคอนโดฯ ไอ้เหี้ยนั่นได้ยังไง

D. : ส่งโลเกชั่นมา

OMG: ไม่ใช่คอนโดฯ ของบิน คอนโดฯ ผมเอง ห้องของผม รังรักของผม

D. : อ๋อ มันชื่อบินสินะ ดี! กูจะได้ตามกระทืบถูกตัว

OMG: นักเลงจังเลยครับที่รัก

D. : เจ้า กูไม่เล่นแล้วนะ หัวกูจะระเบิดอยู่แล้วไอ้เหี้ย บอกมาสักทีว่าอยู่ไหน

OMG: ผมไปกินเหล้าก่อนนะ ต้องย้อมใจนิดหน่อย กลัวเจ็บอะ

D. : กูเหมือนจะตายจริงๆ แล้วว่ะ มึงโคตรใจร้ายเลยเจ้า

D. : กูเกลียดมึงเจ้า โคตรเกลียดมึงเลย

OMG: แต่ผมรักคุณนะ

D. : อย่าบอกว่ารักกูถ้ามึงกำลังฆ่ากูให้ตายทั้งเป็น

D. : คิดได้ไงวะ ไปนอนเอากับคนอื่นเพื่อประชดกู มึงแม่งเป็นคนแบบนี้ได้ไง

OMG: เพราะผมรักคุณ รักมาก ผมให้คุณได้ทุกอย่าง มากกว่านี้ก็ชีวิตของผมแล้วดิน

OMG: ผมก็เลยเจ็บมากกับสิ่งที่คุณทำ

D. : ขอโทษ ให้กูพูดอีกร้อยครั้งก็ได้ว่ากูขอโทษ ให้อภัยแล้วกลับมาหากูนะ

D. : กูทรมานจะตายแล้วครับเมีย

D. : Sent a photo.

D. : ผลงานมึง

D. : กูจะไม่ทำแผลจนกว่ามึงจะมา





ไอ้เจ้าเผลอกำโทรศัพท์มือถือในมือแน่นจนรู้สึกเจ็บมือไปหมด มือขาวๆ ของธราเต็มไปด้วยบาดแผลจากการที่ถูกกระแทกอย่างรุนแรง

นิสัยเก่าไม่เคยหาย...





OMG: คุณทำให้ผมโมโหนะธรา ผมไม่ชอบที่คุณเจ็บตัวคุณก็รู้ แล้วเมื่อไหร่ไอ้นิสัยที่ต่อยผนังเพื่อระบายอารมณ์นี่มันจะหายไปสักที มือคุณสำคัญต่องานของคุณนะ เป็นแบบนี้แล้วจะทำยังไงวะ ทำเคสด้วยมือข้างเดียวได้เหรอไอ้โง่

D. : ไอ้แพร์ด่ากูเยอะแล้ว ตอนนี้ก็ยังบ่นไม่หยุด ขอมึงไว้คนได้ไหม อย่าด่ากูเลย มาหากูหน่อยนะ กลับมาทำแผลให้กู

OMG: เดี๋ยวแพร์ก็บังคับคุณได้เองแหละ

D. : เจ้า กูขอร้อง

OMG: ธรา ผมเอาจริงนะครั้งนี้ ผมเตือนคุณหลายครั้งแล้วกับเรื่องความเจ้าชู้ของคุณ ถ้าครั้งนี้ผมใจอ่อนกับคุณมันก็จะมีครั้งต่อไป ผมไม่ชอบให้มันเกินสิบครั้ง

OMG: ผมไม่อยากหายไปจากคุณถึงต้องทำแบบนี้ เข้าใจผมด้วยครับ ผมจะไม่ตอบไลน์แล้วนะ ทำแผลด้วยครับที่รัก





“ท่าน เรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวเมาได้ เดี๋ยวพวกมันมา มากันครบเลย แหกปากกันใหญ่ที่จะได้มาเจอมึง” ไอ้บินจัดการนัดแนะกลุ่มเพื่อนมาสังสรรค์เสร็จแล้ว มันรายงานก่อนจะนิ่งเงียบเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้เจ้า

คนที่ทำให้เจ้า จักรพรรดิโกรธขนาดนี้ก็คงมีคนเดียว

“ไอ้ดินมันทำอะไรให้โกรธอีกล่ะ” เพราะเคยเห็นไอ้เจ้ากับคนรักทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่หลายครั้ง เห็นสีหน้าแบบนี้ก็พอเดาได้แล้ว

“ต่อยผนัง ขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ”

“เท่าที่จำได้มันทำเพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากมึง ทุกครั้งที่ทะเลาะกันมึงก็เย็นชากับมันฉิบหาย บทจะใจแข็งก็ไม่ยอมลงให้มันเลย แล้วพอมันเจ็บตัวมึงก็ใจอ่อน มันก็เลยต้องเจ็บตัวทุกครั้งที่ทะเลาะกับมึงอะ มีครั้งหนึ่งนิ้วหักเลยนี่”

“อืม ลำบากกูต้องเป็นมือเป็นตีนให้เป็นเดือน”

“มึงเต็มใจไงท่าน เห็นบ่นมันตลอดแต่ก็ทำให้ แล้วครั้งนี้ทะเลาะอะไรกันวะ ขนาดว่าจำไม่ได้แต่ก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ”

“เรื่องผู้หญิง กูแค่จะดัดนิสัยมัน ไม่เคยเลิกเจ้าชู้ไอ้เหี้ยนั่น พูดแล้วก็หัวร้อน กูไปอาบน้ำก่อน อยากแช่น้ำ หัวจะได้เย็นลงบ้าง”

“เออๆ เดี๋ยวกูลงไปหาซื้อกับแกล้ม จะรอรับพวกไอ้วินขึ้นมาด้วยเลย”

“อืม เอากระเป๋าตังค์กูไปเลยละกัน กูเลี้ยง”

“เข้ กระเป๋าตังค์ในตำนาน กูได้จับเป็นคนแรกของกลุ่มเว้ย เดี๋ยวเอาไปอวดพวกไอ้วิน”

กระเป๋าตังค์เก่าๆ ของไอ้เจ้าคือหนึ่งในบรรดาของรักของหวงที่สุดของมัน ไม่เคยให้ใครแตะต้อง ดูแลอย่างดี เคยทำตกน้ำถึงขั้นต้องจ้างนักประดาน้ำตามหา คงเพราะเป็นของขวัญวันเกิดจากคนสำคัญที่สุดในชีวิต ไอ้เจ้าก็เลยหวงยิ่งกว่าชีวิตของมัน ก็...เขาบอกว่าเก็บเงินค่าขนมซื้อให้ ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจว่าทำไมชวนไปกินขนมไม่เคยไปด้วยกัน ที่แท้ก็ประหยัดเงินไว้ ถึงกับยอมอดเพื่อให้ของขวัญกับไอ้เจ้า

จำได้ว่าตอนที่ได้รับ สีหน้าคนให้มีแต่ความลังเลและกังวลใจ

‘ของถูกๆ แบบนี้ โอเคไหม ถ้าไม่โอเคบอกนะ ปีหน้าจะให้ใบที่สวยกว่านี้’

‘ฮื้อ ไม่ต้องๆ เจ้าชอบใบนี้ ชอบมากๆ เลย สวยอะ ดินเลือกเก่งจัง เจ้าจะใช้มันอย่างดี ขอบคุณนะ’

จำได้ว่าสีหน้าของคนให้เริ่มดีขึ้นจนยิ้มกว้างเต็มใบหน้า

‘สุขสันต์วันเกิดนะ อยู่ด้วยกันไปนานๆ ตลอดชีวิตเลยยิ่งดี’

‘เป็นคำอวยพรวันเกิดที่เหมือนขอแต่งงานไปด้วย’

‘แต่งมั้ยล่ะ’

‘ปฏิเสธได้เหรอ’

‘ไม่ได้’

‘งั้นถ้าตอบว่าได้แล้วยิ้มให้เจ้าทุกวันเลยนะ เจ้าชอบรอยยิ้มของดิน ใครไม่รักดินไม่เป็นไรแค่เจ้ารักก็พอ เจ้าจะเป็นทุกอย่างให้ดิน จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ดิน ความสุขของดินคือความสุขของเจ้า รู้มั้ยว่าแต่งงานกันแล้วก็จะเป็นคู่ชีวิตของกันนะ ดินจะเป็นอีกครึ่งชีวิตของเจ้า เป็นคนที่สำคัญมากๆ’

จำได้ว่าในตอนนั้นยิ้มให้กันอย่างไม่เคยนึกกังวลถึงเรื่องทุกข์ใจอื่นใด เพราะมั่นใจว่าจับมือกันแน่นพอ เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีวันปล่อยมือ และเพราะแบบนั้นถึงไม่เคยคิดว่าจะมีวันพรากจาก

‘ขอบคุณอีกครั้งนะสำหรับของขวัญวันเกิด กระเป๋าใบนี้จะเก็บสิ่งที่สามารถซื้อทุกอย่างที่ดินต้องการได้ ทุกอย่างบนโลกเลย แค่บอกเจ้า เจ้าจะหามาให้ แต่ความสุขกับความรัก เจ้าจะให้ดินเองนะ’

‘ทำตัวเป็นพระเจ้าอีกแล้ว’

‘ไม่ใช่ซะหน่อย บอกกี่ครั้งแล้วว่าเจ้า...ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเจ้าที่จะเป็นทุกอย่างให้ดิน’

‘งั้นเป็นเจ้าชีวิตของผมด้วยนะ’

ทั้งที่พูดแบบนั้นแต่กลับลืมเลือนคนที่บอกว่าเป็นเจ้าชีวิตไปจนหมดสิ้น...

ไอ้เจ้ากะพริบตาไล่น้ำใสๆ ที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาให้หายไป “เอาอีกใบไปดีกว่า กูกลัวมึงทำหาย”

“ระดับท่านเจ้า จักรพรรดินี่ต้องใช้กระเป๋าตังค์สองใบเลยสินะ ไอ้เหี้ยๆ ๆ ๆ ใบนี้ๆ ๆ ๆ กูอ้อนแฟนตั้งนาน แต่แฟนไม่ซื้อให้สักที สวยฉิบหายแต่ก็แพงฉิบหาย เอาใบนี้มาก็ได้ กูจะเอาไปอวดพวกมัน เฮ้ย! ไอ้สัดเจ้า อย่าโยน!” ไอ้บินตาพร่าไปแล้วกับความสวยสดงดงามของกระเป๋าหนังชั้นดี แต่ก็ใจหายใจคว่ำเมื่อเพื่อนตัวดีโยนมาให้อย่างไม่ใส่ใจว่าตัวกระเป๋าจะตกพื้นแล้วมีรอยขีดข่วนหรือไม่ “ดีที่กูรับทันหวุดหวิด รักษาหน่อยดิว้า ของแพง เป็นรอยขึ้นมานี่เสียดายเลย”

“ไม่ได้อยากได้”

“แล้วซื้อมาทำไมวะ”

“แม่เลี้ยงกูส่งมาให้ เห็นกระเป๋าตังค์เก่าๆ ของกูแล้วอยากให้เปลี่ยนมั้ง”

“เขาก็ดีกับมึงอะ”

“ก็ลองไม่ดีกับกูสิ”

“มึงจะร้ายกับคนทั้งโลกไม่ได้นะท่าน ดีกับคนที่ดีกับมึงบ้าง แบบ...เขาก็ดีอะ รักมึงเป็นห่วงมึง”

“กูดีกับดินคนเดียว จำ!”

“โอ๊ย! อย่าจิ้มหน้าผากกู มึงรุนแรงตลอด กูลงไปซื้อของละ จะผลาญเงินมึงให้เกลี้ยงกระเป๋า หึ วันนี้กูรวยจ้า”

“เรื่องของมึงเถอะไอ้เจ๊ก”

“อย่าเรียกกูว่าเจ๊ก! กูแค่ตาตี่เท่านั้น!”

“เรื่องมึ้ง!” ไอ้เจ้าสะบัดหน้าเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนใจไอ้บินอีก ปล่อยไอ้เจ๊ก เอ้ย! ไอ้ลูกคนจีนกระฟัดกระเฟียดอยู่เพียงลำพัง



หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 26-10-2018 18:07:30


09:30 PM

OMG: Sent a photo.

OMG: Sent a photo.

OMG: มา

D. : ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า

OMG: รอคนมาเอา

D. : เจ้า พอเถอะ กูจะไม่ไหวแล้วนะ

D. : กูต้องทำยังไงวะถึงจะหยุดมึงได้ กูเจ็บไปหมดแล้วนะเจ้า พอทีได้มั้ย

OMG: ขอโทษครับ ผมแค่จะบอกว่าผมรอคุณ

OMG: รอคุณอยู่นะครับ มาหาผมนะที่รัก

OMG: Sent a location.

OMG: อยากกอดคุณ

OMG: คิดถึงมาก ผมเหนื่อยแต่ผมก็คิดถึง ผมทรมานแต่ผมก็คิดถึง

OMG: คุณเก่งจังที่ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้

OMG: Sent a photo.

OMG: ผลงานคุณ ผมเป็นแบบนี้ทุกที ทุกครั้งที่ทะเลาะกับคุณ ผมก็ทำได้แค่ร้องไห้

D. : อยู่ชลเลยเหรอ

OMG: อืม

D. : คนเดียว?

OMG: เพื่อนกลับแล้ว

D. : เมาเหรอ

OMG: นิดหน่อย

D. : ยังเป็นของกูคนเดียวใช่ไหม

OMG: คนเดียวมาตลอดครับ ดินคิดว่าผมจะเป็นของคนอื่นได้เหรอ ผมง่ายกับคุณแต่ผมไม่ง่ายกับคนอื่น

D. : ครับ รู้แล้ว

D. : ร้องไห้หยุดยัง

OMG: ไม่บอก มาดูเอง

D. : งั้นรอนะ กำลังไปหา

OMG: ลงมาหน้าคอนโดฯ ผมส่งคนไปรับคุณแล้ว ผมรู้คุณขับรถไม่ไหว

D. : รอบคอบ

D. : มึงเก่งจริงๆ นะ ทำกูเป็นบ้าได้ขนาดนี้

OMG: แน่นอนที่รัก เพราะผมคือพระเจ้าไง

OMG: คุ้นบ้างไหม

OMG: คนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ

OMG: คนที่เคยเป็นพระเจ้าของคุณ

OMG: คนที่เป็นเจ้าชีวิตของคุณ

OMG: คุณลืมเจ้าคนนี้ได้ไปยังไง





เพราะบางทีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ทำให้คนที่เข้มแข็งอ่อนแอ ความทรมานตั้งแต่ที่คนอีกคนหายไปจากชีวิตนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นจนเกือบถึงจุดที่ทนไม่ไหว ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนที่นอนหลับได้สนิท น้ำตาไหลอาบแก้มก็เท่านั้น คร่ำครวญหาก็เท่านั้น ไม่เคยมีสิ่งใดหวนคืนกลับมา แต่ก็ยังคงร้องไห้ ยังคงพร่ำเรียกหา แค่อยากได้คนรักคนเดิมคืนกลับมา แค่อีกสักครั้งที่จะได้พูดคำว่าขอโทษ

นี่ดิน...ถ้าคืนนั้นเราไม่ทะเลาะกัน ตอนนี้เราจะเป็นยังไงนะ

ไอ้เจ้าขดตัวอยู่บนพื้นที่ถูกปูด้วยพรม สั่นไปทั้งตัวเพราะแรงสะอื้น มุมนี้เป็นมุมโปรดของดิน เป็นมุมที่ดินชอบมานั่งอ่านหนังสือ บางครั้งก็นอนหลับตาแล้วเสียบหูฟังฟังเพลงโปรด มีไอ้เจ้าคอยป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่าง ดินอ่านหนังสือมันก็อ่านตาม ดินนอนมันก็นอนตาม เพราะเป็นอีกครึ่งชีวิตของกันและกันจึงไม่เคยคิดอยู่ห่าง ไม่รู้ว่าดินจะรำคาญมันไหม แต่มันมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้

ไอ้เจ้าร้องไห้โดยไร้เสียง มีแต่เพียงเสียงหลุดสะอื้น ทั้งที่อยากร้องตะโกนระบายความอัดอั้นในใจให้ดังๆ แต่ก็ไม่รู้จะตะโกนคำไหนให้สบายใจที่สุด มันปล่อยเวลาให้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ หลับตาให้น้ำตาไหลลงมาเงียบๆ ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามา

ธรามาถึงแล้ว เขาขึ้นคอนโดฯ มาพร้อมกับคนของไอ้เจ้าที่ส่งไปรับ คนของไอ้เจ้าแนะนำตัวว่าชื่อลุงชัน เป็นคุณลุงที่หน้าตายิ้มแย้ม อัธยาศัยดี ลุงชันเดินมาส่งเขาถึงหน้าห้องของไอ้เจ้า แตะคีย์การ์ดและกดรหัสให้เขาจากนั้นจึงขอตัวกลับไป

ห้องของไอ้เจ้ากว้างขวางกินพื้นที่ทั้งชั้น ดูใหญ่เกินกว่าจะอยู่เพียงลำพัง ธรากวาดสายตามองหาเจ้าของห้อง ในส่วนครัวที่มองเห็นได้ง่ายไม่มีมันอยู่ตรงนั้นมีเพียงจานชามที่ถูกใช้แล้ววางอยู่บนเคาน์เตอร์ ขวดเบียร์หลายขวดวางอยู่ใกล้เคียง สังสรรค์กันเสร็จแล้วคงเก็บกวาดก่อนกลับไป เขากวาดตามองอีกครั้งก่อนจะสะดุดตากับก้อนกลมๆ ที่เหมือนคนขดตัวนอนอยู่ รู้แน่ว่าคงเป็นไอ้เจ้าจึงได้เดินไปดู คิดว่ามันคงเมาหลับอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ใช่...

“ทำไมร้องไห้ขนาดนี้เจ้า”

เสียงสะอื้นของไอ้เจ้า ตัวผอมบางที่สั่นไปทั้งร่าง น้ำใสที่เปียกชุ่มใบหน้าทำเอาหัวใจของธราปวดหนึบ

“ม..มาแล้วเหรอ” เสียงสั่นเครือเอ่ยถาม ก่อนจะค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง

ไอ้เจ้ารีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ไม่หวังจะปิดบังว่าตัวมันร้องไห้ แต่หากถูกถามถึงเหตุผลก็คงไม่ตอบออกไป ธราไม่ต้องรับรู้หรอกว่าไอ้เจ้ากำลังทรมาน

“ขอโทษ” ธราบอกเสียงแผ่ว ดึงตัวไอ้เจ้าเข้าสู่อ้อมกอด “ขอโทษนะ”

“ฮึก…”

“อย่าเป็นแบบนี้ กูเหมือนจะตายเลยเจ้า เจ็บเหมือนจะตายเลย อย่าร้องไห้ กูขอโทษ”

กับคนที่เกลียดเป็นพิเศษคนนี้ ไม่เคยอยากเห็นน้ำตา ไม่เคยอยากให้เจ็บปวด ไม่เคยอยากให้หายไป ธราหมายความตามนั้น เขาเหมือนจะตายจริงๆ เจ็บปวดไปทั้งใจ จุกแน่นไปทั้งอก แค่เพราะไอ้เจ้าร้องไห้ สีหน้าเศร้าสร้อยของมัน ความทรมานในแววตาของมัน ทำให้เขาหายใจแทบไม่ออก

คงเป็นเพราะเขา...ไม่รู้ว่ามันต้องเจ็บปวดเพราะเขามาตั้งเท่าไร เคยคิดว่าพูดด่าว่าอะไรมันไปมันก็คงไม่รู้สึกรู้สา จนเมื่อเห็นน้ำตาของมันก็เพิ่งได้รู้ว่า ไอ้เจ้าก็มีหัวใจ

“ร้องไห้ตามเจ้าทำไมดิน”

เพราะไอ้เจ้าทักขึ้นมาถึงได้รู้ ถึงได้รู้ว่าน้ำตาไหลอาบแก้มไม่ต่างจากคนในอ้อมแขน

“เจ้าโอเคแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ดินอย่าร้องไห้นะ ไม่เอา ห้ามร้อง”

มือผอมบางของมันคอยเช็ดน้ำตาให้ คำพูดปลอบประโลมของมันยิ่งทำให้หัวใจของเขาบีบรัดแน่น คำถามมากมายประดังประเดเข้ามาในหัว

ถ้าเจ็บปวดขนาดนี้ทำไมถึงยังอยู่กับเขา อดทนฟังคำว่าเกลียดอยู่ได้ทุกวัน อดทนมาได้ยังไงตั้งนานขนาดนี้

ความรักของไอ้เจ้าไม่มีเหตุผลเลย ทำไมเอาแต่รักเขา ไม่รักตัวเองบ้างเลยหรือไง

“เจ้า ถามหน่อยได้ไหม”

“หืม”

“มึงเคยรู้จักกูมาก่อนเหรอ”

“…”

“ข้อความในไลน์ของมึง หมายความว่ายังไงเหรอเจ้า”

ธราอ่านทุกข้อความที่ไอ้เจ้าพิมพ์มาในแชท แต่ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร เพราะไม่รู้ว่ามันพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่

พระเจ้าของคุณ...

เจ้าชีวิตของคุณ...

คุ้นบ้างไหม...

ลืมได้ยังไง...

ทั้งตัดพ้อ ทั้งโกรธและเสียใจ ธราจับความรู้สึกได้ผ่านทางตัวอักษรราวกับเห็นสีหน้าของไอ้เจ้าตอนกำลังพิมพ์ เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงตั้งคำถามแบบนั้น รู้แค่ว่าความรู้สึกที่ได้อ่านมัน...เหมือนตอนเดินลงบันไดแล้วลืมเหยียบไปหนึ่งขั้น รู้สึกวูบโหวงในช่องท้อง อะไรบางอย่างบิดมวนอยู่ภายใน

“เปล่า” ไอ้เจ้าปฏิเสธ พร้อมทั้งแก้ตัวโง่ๆ “ส่งผิดแชท”

ธราขมวดคิ้วมอง เขาย้อนถามสั้นๆ แค่ว่า “เหรอ”

“ไหนเอามือมาดูหน่อย” ไอ้เจ้าเปลี่ยนเรื่องอย่างเนียนๆ “เข้าเฝือกอ่อนเลยเหรอ ต่อยแรงเลยใช่ไหมครับ”

“อืม เดี๋ยวก็หาย” ธรายอมเปลี่ยนเรื่องตามมัน แม้ความข้องใจจะเต็มแน่นอยู่ในอก

“ทำอะไรไม่คิด” ไอ้เจ้าบ่น ย่นจมูกใส่

“มึงสิที่ไม่คิด” ธราดีดหน้าผากไอ้เจ้าอย่างแรงสองทีซ้อน จนมันดีดดิ้นเพราะความเจ็บ ลูบหน้าผากป้อยๆ “เก่งแต่จะประชดกู แล้วเอารูปใครส่งมา หน้าเหี้ย”

“ไอ้บินนอนร้องไห้แล้วแน่ๆ” ยังเจ็บหน้าผากไม่หายแต่ก็เผลอหลุดยิ้มไปกับคำวิจารณ์หนังหน้าไอ้บิน “หน้าเหี้ยเลยเหรอ ไอ้บินมันเป็นเพื่อนผมอะ ซี้กัน คุณไม่คุ้นหน้ามันบ้างเหรอ”

“เพื่อนมึงแล้วกูจะคุ้นได้ไง”

“เออนั่นสิ ผมก็ถามอะไรโง่ๆ แหะๆ” ไอ้เจ้าหัวเราะกลบเกลื่อน “แล้วนี่ที่รักกินข้าวยังอะ”

“ยัง มึงคิดว่ากูกินลงหรือไงวะ มัวแต่ตามหาวิวคอนโดฯ เหี้ยๆ ของมึงเนี่ย ไอ้แพร์ด่ากูฉิบหายว่ากวนเวลามันแก้แล็ป แทบเอาฟันปลอมตบหัวกู”

ไอ้เจ้าไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี แต่เอาวะ จำไม่ได้ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็แคร์กันซะขนาดนี้ “ทั้งดีใจทั้งเสียใจแฮะ แต่ก็นั่นแหละ คุณแคร์ผมมากเลยนี่ครับที่รัก คิดอะไรกับผมรึเปล่าน้า”

ธราหน้าบึ้ง อยากจะตบกะโหลกไอ้เจ้าให้เลิกโง่ไปหลายๆ ที “กูทำขนาดนี้แล้วนะ ยังต้องพูดเหรอ”

“นั่นสิ ทำขนาดนี้แล้วก็เป็นผัวผมเถอะครับ”

“เออ ไปรอที่เตียงไป” รับมุกซะอย่างนั้น

“แง้ ใจเย็นก่อน” ไอ้เจ้าเบรกแทบไม่ทัน “กินข้าวก่อนครับจะได้มีแรง”

“ตอนถ่ายรูปส่งมายั่วกูไม่เห็นมึงอายอย่างนี้”

“ก็เมาอะ ตอนนี้สร่างแล้ว”

ธราส่ายหน้าระอาใส่คนใจกากแต่ปากเก่ง ยั่วได้ยั่วดีแต่พอจะเอาจริงกลับถอยหนี “เดี๋ยวทำให้เมาอีกรอบ”

“ไม่ๆ ๆ ๆ พรุ่งนี้ต้องรีบกลับ เดี๋ยวคุณเข้าคลินิกไม่ทัน ผมเป็นคนขับอย่าทำให้ผมเมาเลย มันจะไม่ตื่นเอา”

“ข้ออ้างมึงนี่เยอะจริงๆ แต่เอาเถอะ มือกูเจ็บ ไม่ถนัด”

ไอ้เจ้าทำหน้าโล่งใจจนน่าหมั่นไส้ ธราจึงดึงมันเข้ามาจูบเป็นการลงโทษที่วันนี้ทำเขาเสียการควบคุมจนไม่เหลือมาด เพื่อนก็พากันรุมด่าว่าโง่ มือก็ยังมาเจ็บ ไม่พอยังหัวฟัดหัวเหวี่ยงเหมือนหมาบ้า ทั้งโกรธทั้งโมโห แต่พอหามันเจอก็เสียน้ำตาให้มันได้เห็น

ถ้าจะเป็นขนาดนี้ขอยอมรับก็ได้ว่า...รู้สึก

รู้สึกที่ไม่ใช่...เกลียด

หัวใจของธราเต้นรัวเมื่อเผลอยอมรับ ยากจะอธิบายว่าเป็นแบบไหน มันเหมือนกับกับว่ารอคอยมาตลอด ราวกับว่าจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว มันเป็นความรู้สึกที่บอกได้ยากด้วยคำพูด

บอกไม่ได้และสูญสิ้นการควบคุม

“มึง” เสียงทุ้มร้องเรียก เผลอกลืนน้ำลายลงคอเพราะลังเลที่จะพูด แต่ไม่พูดก็ไม่ได้...ไม่อยากต้องทะเลาะกับมันแบบนี้อีกแล้ว “สมมติว่าสี่ปีผ่านไป”

“เล่านิทานเหรอ”

“ฟังก่อน” ธราทำเสียงดุ จนไอ้เจ้าหงอ หน้าจ๋อยสนิท “คือ...ยังไงดีวะ แป๊บ”

ไอ้เจ้ารอฟังอย่างใจจดใจจ่อ เห็นแบบนั้นแล้วคนพูดก็พูดยากมากขึ้นไปอีก ธราสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ทำอยู่อย่างนั้นสองสามครั้งเพื่อลดความตึงเครียดให้ตัวเอง “ที่กูบอกมึงว่าสี่ปีถึงจะบอก กูจะบอกอนาคตให้ฟัง”

ไอ้เจ้ายกมือขึ้นปิดหูอัตโนมัติเมื่อมันรู้ว่าธรากำลังจะพูดอะไร “เรื่องไม่ดีไม่ฟัง ไม่เอาๆ ๆ ๆ ยังไม่ครบสองปีเลย จะมาสี่ปีได้ยังไง ห้ามไล่นะ ที่บอกจะหายไปแค่ขู่เฉยๆ ผมไม่ไปไหนทั้งนั้นอะ จะอยู่กับคุณ อย่าไล่ผม อย่าไล่ผมมมม!”

“เจ้า” มือหนาข้างหนึ่งกำรอบข้อมือของไอ้เจ้าที่กำลังสติแตกแล้วดึงมากุมไว้ มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ ส่ายหัวราวกับบอกให้เขาอย่าพูดอะไรออกมา แต่ธราตัดสินใจแล้ว ยังไงก็ต้องบอกให้มันเข้าใจ “ที่กูจะบอกก็คือมึงถึงเส้นชัยแล้วครับ”

ตอนแรกเหมือนไอ้เจ้ามันจะฟังไม่เข้าใจ มันนิ่งค้าง ในขณะที่ธราเริ่มนับในใจ ไม่รู้ว่าจะต้องนับถึงสิบไหมกว่าที่ไอ้เจ้าจะรู้ตัว มันบอกว่ามันไม่ชอบเลขสิบด้วยเหตุผลที่ชวนประสาทเสีย เพราะฉะนั้นอย่าให้ถึงสิบเลยนะ รู้ตัวสักที

แต่แค่เพียงนับถึงห้า ไอ้เจ้าก็เผยรอยยิ้ม

“รู้หรอกว่าดินกำลังนับ”

ตั้งแต่แรกแล้ว...ตั้งแต่แรกที่มันเข้ามาในชีวิต มันก็เหมือนกับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาไปซะหมด ทั้งที่บางเรื่องเขาก็ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ ความชอบที่ถูกมันค้นพบ นิสัยเสียๆ ที่แก้ไม่หายก็ถูกมันค้นเจอ

สงสัยมันจะเป็นพระเจ้าจริงๆ

“ครบสิบแล้ว” ไอ้เจ้านับต่อในใจจนครบสิบ มันดึงมือของธราไปแนบที่แก้มของตัวเอง ก่อนจะพรมจูบลงบนหลังมือขาว “งั้นคบเลยนะ เจ้าชู้ไม่ได้แล้วนะครับที่รัก”

“รู้ จะไม่ทำ”

“สุดจริงๆ คนนี้ ผมรักคุณจะตายอยู่แล้ว ฮื้อออ”

ธราหัวเราะกับปฏิกิริยาโอเวอร์ของไอ้เจ้า แววตาของมันไม่โกหก มันดีใจมากอย่างที่คิดเอาไว้ ก็ถ้ารู้ว่ารอยยิ้มของมันจะทำให้เขามีความสุขขนาดนี้...เขาคงพูดไปตั้งนานแล้ว

“รอแป๊บนะ ผมมีของจะให้”

ไอ้เจ้าลุกขึ้นก่อนจะเดินหายไปในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ฝั่งขวามือ คิดว่าคงเป็นห้องนอนของมัน ธรานั่งรอ ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ มันคุกเข่าลงตรงหน้า เปิดกล่องเผยให้เห็นแหวนสองวงที่วางเคียงกันอยู่ด้านใน

“ขอบคุณที่กลับมา” น้ำตาหยดหนึ่งไหลหยดลงบนแหวน เป็นน้ำตาของไอ้เจ้าที่ธราไม่เข้าใจสีหน้าเศร้าสร้อยของมัน “เจ้าไม่รู้ว่ายังใส่ได้ไหม ทำไว้นานแล้ว วันนี้มีโอกาสได้สวมให้สักที”

“แหวนของใคร”

“ของดิน”

“เจ้า”

“อย่าถามอะไรเลย เจ้าสวมให้นะ” เพราะธราทำท่าจะตั้งคำถาม ไอ้เจ้าจึงรีบตัดบท

แหวนวงนี้เป็นของธรา ธราเป็นเจ้าของมันมาตั้งแต่ต้น มันจึงสามารถสวมนิ้วนางข้างซ้ายของเขาได้พอดิบพอดี ขนาดนิ้วไม่เปลี่ยนไปเลย แต่ทำไมกันนะ...แววตาถึงเปลี่ยนไป

“ข้างซ้ายเลยว่ะ” ธรายิ้มเมื่อเห็นไอ้เจ้าหน้าแดงก่ำ “คบเป็นแฟนคือใส่นิ้วนางข้างซ้าย แล้วถ้าแต่งงานกันกูต้องใส่ซ้อนอีกวงไหม”

“อยากได้อีกวงก็จะให้” ไอ้เจ้ายิ้มหวาน ตาเชื่อม “เพชรสักยี่สิบกะรัตไปเลย อลังการ"

“มึงรวยจริงๆ สินะ”

ไอ้คนรวยยักคิ้ว “ซื้อทะเลไว้บ้านคุณได้อะ”

“อันนี้เพ้อเจ้อครับมึง”

คนเพ้อเจ้อหัวเราะคิก ก่อนจะหน้าเหวอเมื่อเห็นธราหยิบแหวนอีกวงขึ้นมา

“นิ้วมึงล่ะ”

ไอ้เจ้าเบ้ปาก รู้สึกเหมือนโดนขู่กรรโชกทรัพย์ “ขอโรแมนติกกว่านี้”

“ทำไม่เป็น”

“เมื่อก่อนโคตรโรแมนติกเลย”

“ตอนไหน”

“ไม่รู้ๆ ๆ ๆ” ไอ้เจ้ารีบยื่นนิ้วออกไป “ใส่มาครับ ช้าๆ เบาๆ อย่าแรง เดี๋ยวเจ็บ อูยยย”

ธราหลุดขำ สีหน้าไอ้เจ้านี่มันได้ใจมาก เรื่องยั่วน่ะที่หนึ่ง ปากเก่งก็ที่หนึ่ง แต่เจอของจริงวิ่งหนีหางจุกตูด “เหี้ยไรมึงเนี่ย เดี๋ยวก็เอาใส่เข้าไปจริงๆ สักที”

“แหะ”

ถึงจะไม่มีความโรแมนติก แต่ธราสวมแหวนให้ไอ้เจ้าอย่างเบามือ สายตาที่ทอดมองก็อ่อนโยนจนไอ้เจ้าระทดระทวย แทบกลิ้งตายไปกับพื้นพรม

“มีแค่มึงแล้วนะตอนนี้ กูวางสถานะให้แล้วก็เลิกเป็นหมาบ้านะครับ”

“ถ้าคุณเลิกเจ้าชู้ได้ ผมก็ทำได้”

“เคลียร์หมดแล้วน่า แค่มึงคนเดียวกูก็ปวดหัวจะตายแล้ว”

“ก็บอกแล้วว่าคนอย่างคุณต้องเจออย่างผม”

“เล่นซะกูเกือบบ้า”

“เสียฟอร์มเลย”

“เออ รับผิดชอบกูด้วย”

ไอ้เจ้ายิ้มกว้าง พยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ “รับผิดชอบไปตลอดชีวิตเลยครับ”

หวังว่าครั้งนี้...จะเป็นตลอดชีวิตจริงๆ สักทีนะ





02:33 AM

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

D. : Sent a photo.

D. : คบแล้ว

P. : สักทีไอ้เหี้ยยยยยย จุดพลุ ปังๆ ๆ ๆ ยินดีด้วยยย

K. : แหวนโคตรสวยยยย นิ้วนางข้างซ้ายด้วย อู้ววว ไม่ธรรมดา!

J. : ฮืออออ เจ้าของจอมมม เสร็จไอ้เหี้ยนี่ไปแล้ว ได้ไง ได้ไง!

P. : สรุปมันอยู่ไหนไอ้ดิน

D. : ชลบุรี ส่งคนมารับกูไปหามันด้วย สุดจริงคนนี้ กูยอมแล้วก็ได้

P. : ไอ้สัด แล้วล่อน้ำมันกูไปครึ่งถัง ตระเวนหาเกือบทั่วกรุงเทพฯ ฝากด่ามันที ถ้าครั้งหน้าเล่นหนังอินเดียอีกกูจะถีบหน้ามัน แล้วเอาฟันปลอมตบๆ ๆ ๆ ๆ

K. : ใจนายเหี้ยมมากแพร์ นับถือว่ะ

D. : เจ้าฝากบอกว่าจะให้ค่าน้ำมันมึงสามเดือน จะเติมก็มาเบิกตังค์ที่มันได้เลย

P. : งั้นบอกมันนะว่าจะเล่นอีกรอบก็ตามสะดวก กูจะคอยซัพพอร์ตเอง เรื่องแค่นี้ทำให้กันได้เสมอ รักกกก

D. : เปลี่ยนไวเป็นกิ้งก่าเลยนะมึง

P. : แน่นอน ฮิ___ฮิ

D. : เจ้าโอนเข้าบัญชีกูแล้วสามพัน พรุ่งนี้มาเอาที่กู

P. : ซารังเฮฮฮฮฮ

J. : นิสัยสุลต่านแบบนี้จอมช๊อบชอบบบ พี่เจ้ารับเมียน้อยเพิ่มมั้ยค้าาา

D. : รับตีนกูก่อนครับ พรุ่งนี้จะไปเสิร์ฟถึงหน้ามึง

K. : ผู้ชายซึนๆ ที่ขี้หึงลุนแลงงงง

D. : ก็เป็นแค่กับมันคนเดียว

P. : มองบน

K. : มองบนเซม

J. : มองบนเซมๆ

D. : สััด!





....TBC....
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 26-10-2018 18:27:02
เอ้าามันยังไงกันละทีนี้

ดินความจำเสื่อมเหรอ ทะมายยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-10-2018 18:29:16
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 26-10-2018 18:47:00
มึ้งงงงงง!!! เค้าคบกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 26-10-2018 18:49:55
เอ้าๆๆๆๆๆๆๆ รีเฟรชทั้งวันเพื่อตอนนี้ ฮือออออ คราวนี้คลายไปปมนึง ก็เหลืออีกปม สรุป
-รู้จักกันมาก่อน
-เคยรักกันจริง
-ความจำเสื่อมจริง
-เจ้ารวยจริง
แล้วต่อไปคือ...เพราะอะไรถึงความจำเสื่อม เมื่อกี้อ่านเหมือนมีแง้มๆว่าทะเลาะกัน...โอ้ววววววว
แอบเขินตอนสวมแหวน ฮืออออ :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-10-2018 18:56:17
มันมีที่มาที่ไปจริงๆด้วย..........  :hao4:
ถึงว่าทำไมเจ้าถึงตามติดดิน ทั้งที่ดินเจ้าชู้โคตรๆ  :z3: :z3: :z3:
จำเจ้าไม่ได้  จำอดีตไม่ได้ เกิดอุบัติเหตุใช่มั้ย   :serius2: :really2: o22

ดิน เจ้า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 26-10-2018 19:04:12
ความจำเสื่อมจริงๆด้วย เจ้านี่เก่งจริงๆ ที่ทำให้คนเดิมรักได้อีกครั้ง
แต่กว่าจะมาถึงตอนนี้ เจ็บไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย ขอให้รักครั้งนี้อยู่ไปนานๆ นะเจ้า  :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 26-10-2018 19:05:00
ซะงั้น คนจำไม่ได้ก็ดีไป คนจำได้ก็ทรมานไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 26-10-2018 19:06:28
ชอบความกิ้งก่าของหมอแพร์ 5555555  :z2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 26-10-2018 19:26:06
ธราความจำเสื่อมหรอ?
ตอนนี้ไม่มีเพื่อนเอ๋ คิดถึงนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-10-2018 19:37:01
อะไร อย่างไง  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 26-10-2018 19:46:31
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 26-10-2018 19:51:53
เกิดอะไรขึ้นกับธรา ทำไมถึงความจำเสื่อม เจ้าเก่งจังเลยทำให้คนที่ลืมไปแล้วกลับมารักกันอีกครั้งได้ คิดถึงเพื่อนเอ๋นะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 26-10-2018 20:00:41
กลุ่มหมอ(ชอบ)ฟันน่ารักง่า  :กอด1: มีเงื่อนงำจิงๆด้วย :ruready
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-10-2018 20:26:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 26-10-2018 20:41:28
สนุกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-10-2018 21:09:00
ในหัวมีแต่ ธราความจำเสื่อมเพราะอะไร

ตอนต่อไปจงมา  :call:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ppnplg ที่ 26-10-2018 21:39:23
เค้าคบกันแล้วแต่ทำไมชั้นใจไม่ดีเลยอะ
กลัวดินเปลี่ยนไปอะ แบบความรู้สึกแค่ชั่ววูบกลัวเจ้าหายไปไรงี้
สงสารเจ้ามากอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: lukYRKM ที่ 26-10-2018 21:45:11
สงสารเจ้าที่ต้องพยายามอยู่คนเดียวเพราะอีกคนจำอะำรไม่ได้ :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 26-10-2018 21:56:14
ในที่สุดก็ได้รู้เหตุผลของเจ้าที่ยอมลาออกจากนักศึกษาแพทย์ มันคงมากกว่าคำว่ามากพอ มันคงมากกว่าคำว่าใหญ่หลวง มันคงอธิบายไม่ได้เลยมากกว่าสินะ เจ็บมากไหมเจ้า ทรมานมากหรือเปล่า เราไม่รู้จะพูดอะไรเลยอะ  :katai1:

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: juthamart ที่ 26-10-2018 22:12:05
เหมือนเคยรักกันเเล้วมีเหตุที่ทำให้ดินความจำเสื่อมอะ เเต่สงสัยว่าทำไมต้องเเยกกันอะ งงไปหมก เดาไม่ถูกเลยย เเต่สงสารเจ้าอะเป็นคนที่จำได้อยู่ฝ่ายเดียวเเล้วต้องมาคอยมองคนที่รักไปมีอะไรกับคนอื่นไปทั่วอะ เจ็บเเทนเลยอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 26-10-2018 22:15:12
รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก รักกันมากจนเป็นคู่ชีวิต
อยู่ๆหายไป หายไปทางไหน  หายไปได้ยังไง แล้วทำไมความจำหาย  แล้วครอบครัวดินหายไปด้วยไหม
คาดว่า  น่าจะมีมาม่าใหญ่อีกหลายชามเพราะเพิ่ง6บท


ทีแรกนึกว่าเพื่อนเอ๋เป็นเกษตรถึก จากสำนวนการพูดจา
รู้จากปากพี่แพร์ว่าแท้แล้ว ตัวบางปากแดง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 26-10-2018 22:23:53
 กรี๊ดดดดด เดาถูกว่าเค้าเคยคบกันมาก่อนนนนน
 :hao7: :hao7:

ดินจะเลิกเจ้าชู้ได้รึเปล่านะ  :ruready
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-10-2018 22:33:14
เจ้าอยู่กับความทรมานมานานแค่ไหนกันนะ
แล้วเกือบ 2 ปีทีีเจ็บปวด ที่ต้องทนอีกล่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 26-10-2018 22:34:19
ไรท์ทำเราร้องให้ืเราสงสารเจ้ามากขอให้เจ้าสมหวังซักทีนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 26-10-2018 22:37:38
โอ๊ยยยย รอไม่ไหวแล้วจ้าาาา จะขาดใจ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 26-10-2018 22:54:16
โอ้ยยยยย เรื่องนี้สนุกมาก สำหรับเราความเป็นเจ้า จักรพรรดิ คือตัวตนที่ลึกลับและยิ่งใหญ่มาก แง้ ราชินีสายเปย์สุดๆ และชื่นชมเคมีของเพื่อนเอ๋กับไอ้เจ้ามาก ชอบเวลาคุยกัน ตอนแรกคิดว่าเอ๋จะเป็นลุคเมะ สรุปพี่แพร์บรรยายซะเคะสุด ตัวเล็ก ปากแดง555 ส่วนความทรงจำของดินที่หายไปนั้น ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งอ่านเรายิ่งระแวง เรารู้ว่าเจ้าให้ดินเกินร้อย แต่ตัวดินเองทำให้เราไม่มั่นใจเลย เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 26-10-2018 23:02:53
มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ ถึงได้เป็นขนาดนี้ แล้วที่บ้านฝังดินรู้ไหมว่าดินกับเจ้ารักกัน ไม่เอาไม่ม่าค่ะ ช่วงนี้ท้องอืดหมดเเล้ว แต่ตัวตนของเจ้ายังไม่เปิดเผย น่าจะยิ่งใหญ่อลังการ แต่ว่ามีเเม่เลี้ยงอ่ะ what happen???
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: CHOO ที่ 27-10-2018 00:47:22
หวังว่าจะเป้นแค่อุบัติเหหตุที่ทำให้ดินความจำเสื่อมและต้องแยกกัน หวังว่าจะไม่ได้เกิดจากใครต้องการแยกพวกเค้าออกจากกัน แค่อ่านตอนนี้ก็ทรมานแทนเจ้าแล้วอะทนมาได้ยังไง ก่อนจะเจอดินอีกครั้งเจ้าผ่านเวลานั้นมาได้ยังไง TT ว่าแต่เมื่อก่อนดินก็คือไม่ค่อยมีเงินเหรอ หรือว่ายังไง ถึงเก็บเงินซื้อกระเป่าเงินถูกๆให้เจ้า แล้วทำไมปัจจุบันถึงรวย

แต่ยอมความรวยล้นฟ้ามหาสมุทรของพี่เจ้าค่ะ อยากเป็นเด็กพี่เจ้าอีกสักคน มีเศษเงินเหลือๆโยนมาให้ทางนี้มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 27-10-2018 01:44:49
เริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่น  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 27-10-2018 02:16:36
สงสารเจ้าหนักมาก ตอนนี้ก็คบกันแล้ว รอดินคนนี้จะเลิกเจ้าชู้ได้หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 27-10-2018 11:23:08
เฉลยไปอีกหนึ่งปม ตอนแรกคิดว่าเจ้ากับดินแค่เป็นแฟนคบกันแบบธรรมดาๆเหมือนคู่อื่นทั่วไปเฉยๆ ที่ไหนได้คบกันมานานแถมยังรักกันมากอีกต่างหาก ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจะตามดินขนาดนี้ อ่านแล้วใจพังตามกันเลยทีเดียว แล้วเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นทำไมดินถึงความจำเสื่อมไปได้
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ 27-10-2018 12:50:59
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ ชอบมากกก คนเขียนมีเรื่องอื่นอีกไหมคะ จะไปตามอ่าน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 27-10-2018 15:02:24
ว่าแล้วว่าต้องมีอดีต ไม่งั้นเจ้าไม่หลงเบอร์นี้หรอกกก

อิมเมจคุ้นมาก แบบมากๆ บอกว่าเป็นฟิคของคู่นึงก้เชื่อนะเนี่ย555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 27-10-2018 19:08:29
เย้!! ดินยอมรับความรู้สึกแล้ว

ดินก่อนความจำเสื่อมอยากเรียนเกษตรแต่มาเรียนหมอฟัน
หมายความว่าความจำเสื่อมตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัยแล้วใช่ไหม
ตอนนี้ดินเข้าคลินิคแล้วก็น่าจะอยู่ปี5ปี6แล้ว
โอโห เจ้ารอนานมาก น้องงงงงง
ครอบครัวที่ดินอยู่ด้วยตอนนี้ไม่ใช่ครอบครัวแท้ๆรึเปล่า

นอกจากคู่ขาเก่าๆของดินจะมีปัญหาอื่นอีกไหม ไม่อยากให้เจ้าเสียใจเลย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 27-10-2018 19:42:34
ชั้นรออยู่ ชั้นยังรักเธออยู่!!?! :mew6: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 27-10-2018 20:23:53
มารอเจ้าๆ :oni1: :oni1:

คิดถึงเพื่อนเอ๋ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 27-10-2018 22:43:37
วันนี้ไม่มาหรอ โน่วววววววววว  :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 28-10-2018 07:35:14
ลึกซึ้งจริง เรื่องนี้ o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 28-10-2018 09:09:23
คนจำได้ก็ทรมานต่อปายยย  :กอด1:#ทีมเจ้าจักรพรรดิ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-10-2018 13:13:06
เรื่องนี้จะเศร้าไหมนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 28-10-2018 18:07:43
 :katai1:ยังรออยู่ึะ  ฮืออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 28-10-2018 18:49:26
มาต่อมั้ย วันนี้  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-10-2018 20:15:04
เจ้าๆ เจ้าไปไหนกลับมาเถอะป้าคิดถึงหายไปสองวันแหละ คิดถึงๆ :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ ​P.5 26/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 28-10-2018 23:06:06
Pls pls pls plsssssssss  :hao5: :hao5: :hao5: มาเถ๊อะ ใจจะขาดแล้ววววสสสสสส คิดถึงมากกกกกกกกกกกกกกก  :sad4:
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 29-10-2018 17:19:10
ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK





06:30 AM

D. : เมียหาย

D. : ไปไหนวะเจ้า

OMG: มาซื้อข้าวให้ที่รักจ้า ข้าวมันไก่พิเศษหนัง แตงกวาเยอะๆ ด้วย ของโปรดคุณ

D. : ไม่รอวะ กูบอกให้ปลุกจะได้ไปพร้อมกัน มึงหนีไปคนเดียวตลอด

OMG: ปลุกแล้วคุณไม่ตื่น นอนขี้เซากอดหมอนข้าง

OMG: Sent a photo.

OMG: ถ่ายรูปไว้ด้วย เจ้าตั้งไว้เป็นวอลหน้าจอมือถือ

D. : หน้ากูบวม

OMG: หล่อธรรมชาติ เจ้ารักมาก

D. : อือ

D. : แล้วซื้อเสร็จยัง

OMG: ยังครับ วันนี้ร้านข้าวมันไก่คนแน่น แต่เจ้าซื้อน้ำเต้าหู้ให้คุณแล้ว คุณเอาไรอีกมั้ย

D. : เอาเจ้ากับห้าสิบสองสองกล่อง

OMG: เจ้าเขินมาก // ขอยาดม

D. : 555

OMG: คุณไปอาบน้ำนะ เดี๋ยวเจ้ารีบไปให้กินเลย

OMG: *รีบเอาข้าวไปให้กิน

D. : *ตั้งใจพิมพ์

OMG: อย่าขัดมุกเจ้า!

D. : น่ารักจังวะ รีบมา

OMG: ได้แล้วๆ เจ้าจ่ายตังค์แป๊บ กำลังไปหานะ

OMG: รักคุณ

D. : เกลียดมึง

OMG: *รัก

D. : ถ้าเข้าใจก็ OK





ไอ้เจ้าหัวเราะอย่างมีความสุข เป็นคำว่าเกลียดที่ทำให้รู้สึกดีจริงๆ นั่นแหละนะ เพราะเป็นคำว่าเกลียดที่มาจากธรา ผู้ชายที่ไอ้เจ้ารักที่สุดในโลก

ธราคนปากแข็ง ไม่หวานไม่โรแมนติก คำพูดกับการกระทำสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัดจนไอ้เจ้าต้องแปลความเอาเอง

เวลาธราคิดถึง ธราจะรัวแชทมาหาไอ้เจ้า เจอหน้าก็จะเอาแต่จุ๊บปาก หอมแก้ม หอมหน้าผาก

เวลาธราเหนื่อยหรือเครียด มีเรื่องไม่สบายใจ ธราจะอ้อนให้ไอ้เจ้าไปหา เจอหน้าก็จะกอดแล้วซุกหน้ากับไหล่ของไอ้เจ้า

เวลาธราจะบอกรัก ธราจะบอกว่าเกลียด หากอ่านผ่านแชทก็มีใจกระตุกไปบ้าง แต่พอฟังจากปากของธรา ได้เห็นแววตา ได้ยินน้ำเสียง บอกเลยว่าไอ้เจ้ากลายเป็นคนที่ชอบคำว่าเกลียดไปซะแล้ว

เพราะเกลียดของธรา แปลว่า รัก

เกลียดมึงว่ะเจ้า = รักมึงว่ะเจ้า

โคตรเกลียดมึงเลยเจ้า = โคตรรักมึงเลยเจ้า

สายมโนก็ต้องมาแล้วล่ะงานนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นธราคนก่อน หรือธราคนนี้ก็ปากแข็งไม่แพ้กัน กว่าจะพูดออกมาทีต้องง้างปาก เล่นแง่กันไปตั้งหลายรอบ

ไอ้เจ้าหอบหิ้วข้าวมันไก่กับน้ำเต้าหู้กลับคอนโดฯ แวะหยิบชีทวิชาที่จะเข้าเลคเชอร์ในช่วงเช้าที่ห้องของตัวเองก่อนจะเดินไปที่ห้องของธราซึ่งอยู่ติดกัน ไอ้เจ้ากดรหัสที่จำได้ง่ายยิ่งกว่ารหัสเข้าห้องของมันเพราะกดบ่อยจนเคยชินและเป็นตัวเลขง่ายๆ เพียงไม่กี่ตัว

ห้องของธราเหมือนกับห้องของไอ้เจ้าทุกอย่าง เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ต่างตรงที่ห้องไอ้เจ้ามีปลาทองสัตว์เลี้ยงแสนรักของมันแต่ห้องของธราไม่มี ในทางกลับกันห้องของธรามีคนที่ไอ้เจ้ารักสุดหัวใจแต่ห้องของไอ้เจ้าไม่มี ด้วยเหตุนั้นไอ้เจ้าจึงเสนอทุบกำแพงที่คั่นกลางระหว่างมันกับธราบ่อยๆ แต่ธรากลับบอกให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ห้องของเขา พักหลังมานี้ไอ้เจ้าจึงไม่ค่อยได้อยู่ห้อง แค่เข้ามาหยิบของ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้อาหารปลาทองแล้วก็ไปอยู่กับธรา ถึงจะพูดว่าไปอยู่ด้วยก็แค่ไปนั่งมองเขาทำงาน

อ่านเจอนอล ทำวิจัย แก้แล็ป รายงานกลุ่ม โทรนัดคนไข้มาทำเคส และอีกบลาๆ ที่แย่งชิงเวลาของธราไปจากไอ้เจ้า วันๆ หนึ่งจึงแทบจะไม่ได้พูดคุยกัน ในหนึ่งสัปดาห์เขาต้องเข้าคลินิกห้าวัน ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น บางวันมีเข้าเลคเชอร์ตอนแปดโมงเช้า ไอ้เจ้าต้องทำหน้าที่ปลุกเขาให้ตื่นไปเข้าเลคเชอร์ให้ทันเพราะเจ้าตัวตื่นไม่ไหว นอนแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง ถ้าได้นอนคือหลับเป็นตาย แต่บางวันก็มีเลคเชอร์ห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม ไอ้เจ้าก็ต้องคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ระหว่างเขาพักเบรก พอกลับมาถึงห้องเขาก็ทุ่มเวลาให้กับฟันปลอมที่แทบจะเป็นเมียน้อยของเขา พอว่างเข้าหน่อยก็โทรนัดคนไข้ คุยเรื่องงานกับเพื่อนอีกหลายชั่วโมง

นั่นแหละ...เขาไม่ค่อยว่าง จะได้อยู่กับไอ้เจ้าอีกทีก็ตอนนอน พูดคุยกันต่อวันน้อยมาก แต่ก็ยังดีที่แชทคุยกันได้ตลอด บางทีอาจจะไม่ได้ตอบโต้กันรวดเร็ว ก็ยังถือว่าได้คุย ที่จริงก็มีบ้างที่เขาเครียดมากๆ แล้วต้องการอยู่คนเดียว เวลานั้นไอ้เจ้าก็จะไสหัวตัวเองไปหาไอ้เอ๋ ไปนอนเกะกะที่ห้องของมันแล้วดูหนังเล่นเกมด้วยกัน รอเขาหายเครียดแล้วต้องการเจอก็จะรีบแจ้นกลับมาหา

ไอ้เจ้าเข้าใจเขาจึงไม่เคยงอแง พร้อมจะอยู่ข้างเขาและช่วยเหลือเสมอ ขอแค่ได้เห็นหน้า ได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ ได้คอยดูแลส่งข้าวส่งน้ำก็มีความสุขมากแล้ว

“ที่รักมากินข้าว” ไอ้เจ้าร้องเรียกเมื่อจัดการเอาข้าวมันไก่ใส่จานเรียบร้อยแล้ว

ข้าวมันไก่พิเศษหนัง เพิ่มแตงกวาเยอะๆ เป็นของธรา ส่วนข้าวมันไก่พิเศษเครื่องในเป็นของไอ้เจ้า ข้าวมันไก่สองจานวางเคียงกันก็ถือเป็นโมเมนต์คู่ ไอ้เจ้าจึงถ่ายรูปอัพลงไอจีสตอรี่ของมันเหมือนเช่นที่ทำทุกครั้ง มันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือโดยไม่รู้เลยว่าธรากำลังมองมันอยู่

มีความสุขอะไรขนาดนั้น...

ธรายกยิ้มตาม ไม่รู้หรอกว่าไอ้เจ้าสุขใจเรื่องอะไร แต่แค่เห็นรอยยิ้มของไอ้เจ้า เขาก็กลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่ “ยิ้มเก่ง”

ไอ้เจ้าละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปมองร่างสูงที่อยู่ในชุดนักศึกษา เห็นจนชินตาแล้วก็ยังอดที่จะมองนานๆ ไม่ได้ “วันนี้คุณหล่ออีกแล้ว เซ็ตผมด้วย มีเคสผู้หญิงสวยๆ เหรอ”

ธราขยี้กลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลเข้มของไอ้คนขี้หึงที่ก็เซ็ตเป็นทรง “มึงก็เซ็ตเถอะ วันๆ จับแต่จอบ เซ็ตไปทำบ้าอะไร”

“หว่านเสน่ห์ไส้เดือน”

“ตลก”

“นี่” ไอ้เจ้ายกมือขึ้นติดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่นายตัวดีของมันตั้งใจละทิ้งไว้ “ติดกระดุมครบทุกเม็ดมันจะหายใจลำบากหรือไง รู้ว่าอกขาวน่าซบ แต่ให้เจ้าเห็นคนเดียวก็พอแล้ว”

“ขี้หวง”

“ก็แฟนเจ้าไหมล่ะ”

“ครับๆ” ธรายิ้มขำกับใบหน้างอง้ำของไอ้เจ้า “เออ เกือบลืม วันนี้ไม่กลับนะ ไปช่วยน้องทำแล็ป”

ไอ้เจ้าชะงักไปเพียงครู่ ไม่รู้แสดงความรู้สึกออกทางสีหน้าให้ธราลำบากใจหรือไม่ แต่แน่ใจว่าคลี่ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติแน่นอน “เจ้าซื้อข้าวไปให้นะ คุณบอกด้วยว่าอยู่ที่ไหน”

“ไว้ส่งโลเกชั่นให้ กินข้าวเถอะ เดี๋ยวสาย”

เหงา...แม้จะรู้ว่าธราก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่พอเป็นแฟนกันก็โลภขึ้นมา เมื่อก่อนไอ้เจ้าตามเฝ้า ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องอยู่ในระยะประชิดก็ได้ ขอให้ได้มองเห็นก็ยังดี ทว่าตอนนี้ทำอย่างนั้นไม่ได้แล้ว ธราบอกว่าคบกันก็ทำตัวให้สมกับที่เป็นแฟน ไอ้เจ้าไปมีชีวิตของไอ้เจ้าบ้าง ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตของเขาบ้าง เพราะยังไงเขาก็กลับมาหาไอ้เจ้า เป็นของไอ้เจ้า ไอ้เจ้าอยากคุยก็แค่แชทมาหรือโทรหาก็ได้ ไอ้เจ้าทำได้ทุกอย่างแต่เว้นระยะห่างให้เขาได้หายใจหน่อย อย่าตามติดเกินไป แต่ก็อย่าห่างเกินจนรู้สึกไม่ดี

“เคสเอนโด มาเป็นให้กูมั้ย” ธราถามขึ้น ตอนนี้ข้าวมันไก่ในจานของเขาหมดไปครึ่งจาน ในขณะที่ไอ้เจ้ายังคงเขี่ยข้าวเล่น

“ยังไงอะ ให้เจ้าเป็นเคสให้เหรอ” ไอ้เจ้าทำหน้างงเล็กน้อย ละสายตาจากเนื้อไก่ไปมองสบตากับธรา “หรือว่าดินเก็บเคสไม่ครบ มีคนแคนเซิลใช่ไหม แบบ...เกิดปัญหาใช่ป่าว ดินเครียดมั้ย ไม่เป็นไรนะ เจ้าจะเป็นให้ เป็นให้ทุกอย่างจ้า”

ความเป็นห่วงของไอ้เจ้าช่างมากมายเหลือเกิน

“เปล่าๆ” ธรารีบปฏิเสธก่อนที่ไอ้คนขี้เป็นห่วงจะคิดไปไกล ก่อนจะพูดเสียงอ้อมแอ้ม “คิดว่าถ้ามึงเป็นเคสให้คงได้เจอกันบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าอยากเจอหรอกนะ...แต่นั่นแหละ แบบนั้น”

“ว้าว” ไอ้เจ้าตาเป็นประกาย รีบขยับเข้าไปใกล้ “เจ้าเป็นทุกเคสเลยได้มั้ย ถอนฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน ครอบฟัน จะเลาะฟันเจ้าออกหมดปากแล้วทำฟันปลอมใส่ให้เจ้าก็ได้ ยอมแล้ว”

ธราหลุดยิ้ม คำพูดบ้าบอของไอ้เจ้าทำไมทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงนักนะ “เออ จะเลาะออกให้หมดปาก”

“งั้นนัดเวลามาได้เลยหมอ เจ้าว่างทุกวัน เช้าสายบ่ายเย็น ตอนดึกก็ได้นะ แบบ...อะฮึ่มมมม”

“มึงเรียนบ้างเถอะ” ธราส่ายหน้าระอา “แล้วตอนดึกไม่รับรักษาเว้ย มึงยิ้มเหี้ยไรเนี่ย”

“เคสเจ้ารักษาตอนดึกดีนะหมอ แต่ไม่ต้องรักษาฟัน จะให้หมอฟันแทน อุ่กๆ ๆ ”

“กูจะบ้าตาย”

ไอ้เจ้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี จากที่เหงาๆ หงอยๆ กลับซู่ซ่าขึ้นมา “สั่นเลย จะโดนหมอดินฟันแล้ว”

“ใจเย็นไว้ อีกไม่กี่วันก็ครบสองปี เดี๋ยวก็โดน”

เหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ วันเสาร์ที่จะถึงแล้วนี่หว่า “เอ้ย! จริง เกือบลืมไปเลย”

“ก็มัวแต่บ้าๆ บอๆ”

ไอ้เจ้าหัวเราะกลบเกลื่อน ที่จริงแล้วเกิดป๊อดขึ้นมาก็เลยใช้ชีวิตแบบลืมๆ ไปบ้างว่าต้องเสียตัวในวันครบรอบสองปี รู้ว่ามันต้องเจ็บมากแน่ๆ เพราะเคยลองแล้ว เคยลองกับธราคนก่อน ธราคนนั้นเงอะงะทำทุกครั้งก็เจ็บทุกครั้ง ครั้งแรกของเขาก็เป็นครั้งแรกของไอ้เจ้าด้วย ทำไม่เป็นกันทั้งคู่ เรียนรู้กันมาตลอด แต่กับธราคนนี้ไอ้เจ้าคิดว่าคงไม่รอดแน่ เขาจุดติดง่ายแล้วไม่ยอมสงบง่ายๆ ด้วย เจ็บใจอยู่เหมือนกันที่เขาคงฝึกปรือความเชี่ยวชาญกับคนอื่นมาหลายคน แตกต่างจากไอ้เจ้าที่ยังมีแค่เขาคนเดียว พอร้างจากการถูกสัมผัสไปนานแค่โดนเขาจูบก็เคลิ้มไปถึงไหนต่อไหน เขารู้ว่าจะจัดการกับไอ้เจ้ายังไง เวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนนอนเป็นเวลาฝึกกับเขา บางทีคิดว่าเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้วคงหลับเป็นตายแต่ที่ไหนได้ยังรังแกไอ้เจ้าได้ทั้งคืน

คงจริงอย่างที่กลุ่มของแป้งจี่พูดไว้ พี่หมอดินแซ่บมาก!

“เจ้า กูจะไปแล้วนะ มึงรีบๆ กิน”

นั่งคิดเรื่อยเปื่อยเพลินๆ รู้ตัวอีกทีธราก็เตรียมตัวเสร็จแล้ว ไอ้เจ้าจึงรีบโกยข้าวเข้าปาก กินอีกสองสามคำก็อิ่ม ก่อนจะรีบลุกเอาจานไปเก็บ

“เจ้า จะสายแล้ว”

“คร้าบที่รัก เสร็จแล้วๆ ไปกันครับ”

ทุกเช้าไอ้เจ้าจะทำหน้าที่เป็นสารถีไปส่งธรา รู้ว่าเช้าๆ แบบนี้แฟนรูปหล่อของมันคงขับไม่ไหว สติสตังไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งวันไหนมีสอบวันนั้นจะเหมือนวิญญาณไม่เข้าร่าง ไอ้เจ้าต้องจับจูงมือเดิน เป็นคนตัวใหญ่ที่ชอบทำให้เป็นห่วง ต้องคอยดูแลเหมือนเด็กๆ

“วันนี้มึงเอารถกูไป ไม่ต้องเดิน” ธราบอกเมื่อไอ้เจ้าจอดรถที่ลานแล้ว “ตอนเที่ยงค่อยขับมารับกู”

“เจ้าเลิกช้าครับวันนี้ มีงานที่คณะ อีกอย่างเลคเชอร์เสร็จแล้วคุณต้องไปเข้าคลินิก ต้องใช้รถนะ เจ้าเดินได้ ไม่ต้องห่วงครับ” วิ่งก็เคยวิ่งมาแล้ว แค่นี้ไม่หนักหนาสำหรับไอ้เจ้า มันลำบากได้แต่ธราห้ามลำบากเด็ดขาด

“ไปกับไอ้แพร์ได้ ไอ้จอม ไอ้คินก็มีรถ คณะมึงอยู่ไกล เดินก็เสียเวลา ร้อนอีกสารพัด”

“เจ้าโอเค”

“แต่กูไม่โอเค”

“งั้นเจ้าให้ไอ้เอ๋ปั่นจักรยานมารับ คุณอย่าหน้าบึ้ง ยิ้มหน่อยนะ เจ้าชอบรอยยิ้มคุณ”

ธราแพ้ทางไอ้เจ้าทุกที อ้อนเก่ง ยิ้มหวานก็เก่ง ยิ้มทีหน้าเหมือนแมวขี้อ้อน เห็นแล้วอยากเก็บไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครได้เห็นว่ามันน่ารักมากแค่ไหน

หวง...เขาหวงมันมาก

“อย่ายิ้มแบบนี้ดิ” ธราบีบแก้มคนยิ้มหวาน “ขี้เหร่”

“ขี้เหร่แล้วเกลียดป่าว”

“เกลียด” กระซิบเสียงพร่าแล้วจุ๊บริมฝีปากเจ้าของรอยยิ้มไปหนึ่งที “เกลียดมาก”

“แต่เจ้ารัก” ไอ้เจ้าตอบกลับพลางหอมแก้มธรา “ตั้งใจเรียนนะ คิดถึงเจ้าด้วย”

“อืม เหมือนกัน”

“ว้าว ใจเต้นแรงเลย”

“ประสาท” ด่ายังไงให้รู้ว่าเขิน คงต้องถามจากธราแล้ว

ดูสิ...ด่ากันอยู่แต่ยิ้มหน้ายับเลย เฮ้อ...หัวใจไอ้เจ้าเต้นแรงอีกแล้ว ถ้าแรงกว่านี้คงหัวใจวายตาย ขยันทำให้รัก ขยันทำให้หลง ธราคนนี้มีเสน่ห์ล้นเหลือ ไม่แตกต่างจากเดิมมากแต่คงเพราะโตขึ้น จัดการตัวเองได้ดีขึ้น ถึงได้รู้สึกชัดเจนว่าเขาคือผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่ว่ายังไงก็เป็นธราคนเก่งของไอ้เจ้าอยู่ดี จะทำอะไรไอ้เจ้าก็รัก









“ดาวเภสัชฯ” ไอ้เอ๋เริ่มบทสนทนาเมื่อเห็นว่าไอ้เจ้ากำลังยิ้มเหมือนคนเมากัญชาอยู่กับน้ำแดงโซดาแก้วใหญ่ “เรื่องราวของหล่อนเงียบหายจากความสนใจของนายมาสักพักแล้ว ทำไมรึเพื่อนรัก”

“เพราะสงครามจบแล้ว” ไอ้เจ้าบอกพลางยิ้มกริ่ม “หล่อนแพ้ราบคาบ”

“เฮ้ ไม่จริงน่า” ไอ้เอ๋ตาโต ถึงกับหยุดเกมที่กำลังเล่นในโทรศัพท์มือถือมาพูดคุยกับไอ้เจ้าอย่างจริงจัง “บอกผมสิว่านายล้อเล่น"

“เรื่องจริงสัดเอ๋ นายไปตามเฝ้าหล่อนทุกวันไม่รู้เลยเหรอว่าหล่อนถูกหักอกแล้ว”

วันนั้นในร้านซูชิตอนที่ไอ้เจ้ากำลังจำลองเล่นบทเป็นนางเอกหนังอินเดีย วิ่งหนีให้ธราตามง้อ วินาทีนั้นคงเป็นวินาทีที่โลกอันแสนสดใสของแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ กลับกลายเป็นสีเทาหม่นหมอง ไอ้เจ้าทราบเรื่องจากไอ้หมอแพร์ที่ทักแชทมาเล่าให้ฟังเป็นการส่วนตัว ซึ่งไอ้เจ้าก็ไม่ได้เอาไปเล่าให้ใครฟังต่อแม้แต่ไอ้เอ๋ หากไอ้เพื่อนซี้ไม่ถามถึงหล่อนขึ้นมาไอ้เจ้าก็คงลืมไปแล้วว่าเคยวุ่นวายใจเพราะหล่อน

“ก็เห็นนะว่าดวงตากลมโตนั่นเศร้าสร้อยอยู่บ้าง แต่คิดแค่ว่าคงท้องผูกตามประสาผู้หญิงวัยอย่างหล่อน ผมก็เลยซื้อโยเกิร์ตกับนมเปรี้ยวไปฝาก หล่อนก็รับไว้พร้อมบอกขอบใจแล้วร้องไห้ ผมน่ะคิดไปแล้วว่าอาการคงสาหัสจริงๆ วันต่อมาก็เลยแอบขโมยผักของพวกบ๊อทไปให้หล่อนอยู่หลายอย่าง บล็อคโครี่เอย กะหล่ำปลีเอย ที่ไหนได้ ธราลงดาบกับหล่อนแล้วแต่ผมไม่รู้”

ไอ้เจ้าตบไหล่เพื่อนรัก นึกชื่นชมในความทุ่มเทของมัน “นายน้ำใจงามนักเพื่อน แต่นายต้องรู้ไว้ว่าพวกบ๊อทจะตามล่านาย ไอ้คิ้มโวยวายใหญ่โตเรื่องที่กะหล่ำปลีของมันหายไปเกือบหมดแปลง”

“ผมมันโจรใจหยาบช้า แต่ผมทำไปเพราะมีเหตุผล”

“เพื่อหญิงงามนายถึงกับต้องกระทำผิด ผมนับถือใจ”

“ผมสงสารหล่อน หล่อนเฮิร์ตจริงอะไรจริงเพื่อนรัก ผมนั่งปลอบหล่อนโดยไม่รู้อะไรเลยอยู่สามชั่วโมง หล่อนพูดตัดพ้อมากมาย แต่ผมจำไม่ได้หมด ผมบอกหล่อนแค่ว่าเดี๋ยวก็หาย ตอนนั้นคิดจริงๆ ว่าท้องผูกแม่งทรมานขนาดนี้เลยเหรอวะ หล่อนอาจเสี่ยงเป็นริดสีดวงทวารหนัก แต่แน่ล่ะว่าเรื่องแบบนั้นพูดไปก็อาจจะทำให้หล่อนอับอาย”

“ดีแล้วที่นายไม่พูด ดีแล้วล่ะเพื่อน”

ไอ้เอ๋กับไอ้เจ้าถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนไอ้เอ๋จะถามขึ้นว่า “แล้วนายกับธราเป็นยังไงต่อจากนั้น”

“ผมอาจจะยังไม่ได้บอก” ไอ้เจ้ายิ้มกริ่มตาเป็นประกาย “ที่จริงก็ไม่รู้ว่าธราอยากให้เปิดเผยหรือเปล่า แต่หลังจากที่ธราลงดาบกับดาวเภสัชฯ วันนั้น เขาก็คบกับผม”

“เฮ้เฮ้เฮ้” ไอ้เอ๋ร้องขึ้น สีหน้าตกตะลึง “นายกำลังล้อหลอกผม”

ไอ้เจ้าคิดอยู่แล้วว่าไอ้เอ๋ต้องไม่เชื่อ ไอ้เอ๋เป็นผู้ชมติดขอบสนามที่ติดตามมหกรรมตามตื้อของไอ้เจ้ามาตลอดเกือบสองปีและเห็นว่าไอ้เจ้าไม่มีหวังเลยสักนิด ยิ่งครั้งนี้ไอ้เอ๋ต้องถึงกับลงทุนจีบดาวเภสัชฯ แข่งกับธราเพื่อกันให้หล่อนออกห่างจากคนที่เพื่อนรัก แต่สุดท้ายกลับพลิกผัน ดาวเภสัชฯ ถูกหักอกแต่ไอ้เจ้าสมหวัง

“ผมไม่ได้ล้อหลอกนาย ธราคบกับผม เขาเป็นแฟนผม ผมเป็นแฟนเขา เราเป็นแฟนกัน อ่านปากผม ฟังชัดๆ ธราเป็นแฟนผมแล้ว!”

“นายไม่ได้ข่มขู่หรือบังคับธราใช่ไหม นายไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมายลงไปใช่หรือเปล่าเพื่อน” ไอ้เอ๋มองไอ้เจ้าอย่างนึกห่วง แม้จะตกใจกับเรื่องที่ได้รับรู้อยู่มากแต่ถ้าเพื่อนทำผิดก็ต้องรีบหาทางช่วย “นายอาจต้องการทนายและโชคดีมากที่ญาติของผมทำอาชีพนี้อยู่ เขาจะช่วยนายสู้ในชั้นศาลอย่างถึงที่สุด”

“เอ๋ นายต้องใจเย็นๆ แล้วเชื่อผม”

“ผมไม่เชื่อ ผมทำใจเชื่อไม่ลง ผมแบบว่านิ่งอึ้งตะลึงงัน”

“งั้นดู คลังลับยี่สิบบวกของผมกับธรา” ไอ้เจ้ายื่นโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าไอ้เอ๋ แกลลอรี่รวบรวมรูปภาพที่ไอ้เจ้าสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อธราโดยเฉพาะนั้นบอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างไอ้เจ้ากับธราได้เป็นอย่างดี

“ไม่น่าเชื่อว่านายกับธรา...” ไอ้เอ๋หยุดพูดไว้เท่านั้น มันกลืนน้ำลายลงคอในขณะที่ใบหูแดงก่ำ “พวกนายนอนเปลือยด้วยกัน โอ้...ผมสั่นไปหมด รูปพวกนี้มันอะไรกัน รอยจูบนั่นมัน...”

ไอ้เจ้ายักคิ้วภูมิใจ “ผมทำรอยบนตัวเขา สัมผัสเขาตั้งแต่หัวจรดตีน กลิ่นตัวเขาหอม ผมแทบคลั่ง”

“นายร้ายที่สุดนายเจ้า ผมขอทำใจแป๊บ” ไอ้เอ๋รู้สึกวิงเวียนศีรษะ แต่ตาก็ยังคงจับจ้องรูปบนหน้าจอ “มีรูปที่พวกนายจูบกัน รูปนี้ธรากอดนายจากข้างหลังแล้วหอมแก้มนาย รูปนี้ธรายิ้มใส่กล้อง แต่ผมแน่ใจว่าเขายิ้มให้นายแน่ๆ แล้วรูปนี้ แผ่นหลังของธรา เขาหลังกว้างจังนะ นายซบบ่อยๆ ใช่ไหม ตายล่ะนาย ผมหุบยิ้มไม่ได้เลย นายเจ้า...ชีวิตนายคอมพลีทแล้ว นายตายตาหลับได้แล้ว โอ้...ผมดีใจกับนายจริงๆ”

ไอ้เอ๋น้ำตาซึม ปลื้มปริ่มไปกับความสำเร็จของความพยายามเกือบสองปีของเพื่อน

แม่จ๋าว่าไว้ไม่มีผิดว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น แล้วนี่ไง...เพื่อนของไอ้เอ๋พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นจริงและใช้ได้แม้แต่กับเรื่องของความรัก!

“คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ธราเป็นของผมมาตั้งแต่เขาลืมตาดูโลก” ไอ้เจ้ายกยิ้ม ดูดน้ำแดงโซดาไปอีกอึกใหญ่ “ว่าแต่นายเถอะ เรื่องไอ้หมอแพร์น่ะ นายไขปริศนาได้หรือยัง”

ไอ้เอ๋นิ่งค้าง สายตาล่อกแล่กพลางไม่ยอมมองไอ้เจ้าขณะที่ตอบ “ไม่รู้ๆ ๆ ผมจำไม่ได้ก็จบๆ กันไป”

“แต่ไอ้หมอมันทักแชทผมมาขอคอนแท็กนาย แล้วผมก็ให้มันไป มันทักนายหรือยัง”

ไอ้เอ๋หน้าบึ้ง มองเพื่อนซี้ด้วยสายตาจิกกัด “นายไม่ควรให้คอนแท็กของผมกับใครง่ายๆ มันไม่ปลอดภัย”

“ขอโทษทีเพื่อน แต่มันบอกจะเล่าซีนที่ธราลงดาบดาวเภสัชฯ ให้ผมฟัง ผมก็เลยต้องยอม”

“นายขายผมเพราะธราทุกที”

“ผมก็บอกนายแล้วว่าความสำคัญของธรามาก่อนนาย”

“เป็นความลำเอียงที่ชัดเจนอยู่ในใจผมเสมอ”

ไอ้เจ้าหัวเราะ เห็นไอ้เอ๋หน้างอง้ำก็เลยแบ่งน้ำแดงโซดาให้มันดูดเพื่อคลายความหัวร้อน “เอาน่าเอ๋ อย่าเพิ่งโกรธผม ตอนนี้นายควรคิดหาวิธีหลบตีนไอ้คิ้มดีกว่า ป่านนี้มันอาจจะรู้แล้วว่าโจรใจทรามที่ขโมยลูกรักของมันไปให้สาวแก้ท้องผูกเป็นใคร เชื่อเถอะว่าอะไรก็ไม่เลวร้ายเท่ากับการที่แป้งจี่เป็นคนเห็นว่านายอยู่ที่แปลงสาธิตเมื่อเย็นวาน หล่อนต้องรีบช่วยเหลือไอ้คิ้มแน่ เพราะมันหล่อบาดใจ”

ไอ้เอ๋ทำหน้าจะร้องไห้ ไอ้เจ้ารู้สึกสงสารมันขึ้นมาบ้างเหมือนกัน แต่เพราะความเปิ่นของมันทั้งนั้นที่หาเรื่องใส่ตัว

“นายต้องช่วยผมนะเจ้า แค่นายบอกแป้งจี่ว่านายเป็นคนทำ หล่อนต้องรีบหาแพะมารับผิดให้นายแน่ นายหล่อกว่าไอ้คิ้ม แป้งจี่ต้องยอมนาย ผมจะโดนกระทืบไม่ได้ ผมอ่อนแอ!”

“ไอ้เหี้ยเอ๋ บอกผมทีว่านี่คิดก่อนพูดแล้ว ผมไม่อยากโดนแป้งจี่จกตับไปกิน แล้วถ้าเกิดผิดพลาดไอ้คิ้มอาจจะกระทืบผม มิตรภาพของเราขอสิ้นสุดตรงนี้!”

“นี่เพื่อนไงนาย ช่วยเพื่อนด้วยยยย!” ไอ้เอ๋เขย่าแขนไอ้เจ้า ไถศีรษะกับต้นแขนของเพื่อนเหมือนที่มันชอบทำอ้อนเวลาโดนแม่จ๋าโกรธ “เจ้า นายต้องช่วย ผมพึ่งนายได้คนเดียวเพื่อนรัก”

“เวรกรรมอะไรของผมวะ กินผมก็ไม่ได้กิน ดาวเภสัชฯ นู่นเป็นคนกิน นี่ทำไมผมต้องมาซวยเพราะหล่อนไม่จบไม่สิ้น โอ๊ย! ไอ้เอ๋ เลิกอ้อนผมที!”

“นายต้องคิดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่นายทำให้ธราลงดาบกับหล่อน นายต้องรับผิดชอบแทนผมด้วย ฮืออออ ไอ้คิ้มมานู่นแล้ว ผมไปก่อนๆ ๆ ๆ แล้วเจอกันบนห้องเรียน แล้วเจอกานนนน!”

ไอ้เอ๋รีบคว้าสัมภาระแล้ววิ่งหายลับไปกับตา มันรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด เกือบคิดแล้วว่ามันเป็นเดอะแฟลชกลับชาติมาเกิด แต่เรื่องมันเอาไว้ก่อน ตอนนี้ไอ้เจ้าต้องรับหน้าไอ้คิ้มที่เดินหน้าตูมใกล้เข้ามาแล้ว

เฮ้อ...นี่ต้องรับกรรมแทนมันจริงๆ ใช่ไหมวะเนี่ย!

หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 29-10-2018 17:20:18




05.30 PM

D. : Sent a photo.

D. : อธิบาย





ไอ้เจ้าที่เพิ่งละสายตาจากคัทเอาท์งานกีฬาของคณะที่มันมาลงแรงช่วยเพราะแป้งจี่รบเร้าขอให้มาด้วยกันถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นรูปภาพและถ้อยคำห้วนสั้นที่ธราส่งผ่านมาทางห้องแชท มันยกมือเกาหัวเพราะงงอยู่ชั่วครู่ ไม่รู้ว่าธราได้รูปที่ไอ้เอ๋กำลังเอาหัวทุยๆ ไถต้นแขนของไอ้เจ้ามาจากไหน รู้แต่ว่าพ่อเจ้าประคุณกำลังอารมณ์ไม่ดีเข้าให้แล้ว





D. : อ่านแล้วก็ตอบกู

OMG: คุณครับ นั่นไอ้เอ๋เพื่อนเจ้าไง มันแค่กำลังอ้อนให้เจ้าช่วย

D. : ไม่เห็นต้องทำอย่างนั้น พวกมึงทำเหมือนคนเป็นแฟนกัน

D. : เพื่อนแน่เหรอวะ

OMG: แค่เพื่อนครับ

OMG: คุณอยู่ไหน เดี๋ยวเจ้าไปหา

D. : ไม่ต้องมา

OMG: เจ้าอยากเจอ

D. : อยากเจอกูแล้วตอนเที่ยงมึงไม่โผล่หัว ให้ใครเอาข้าวมาให้กูก็ไม่รู้ วันนี้ทั้งวันไม่ทักแชทกู โทรมาไม่กี่นาทีก็วาง

D. : มึงไม่เหมือนเดิม

OMG: ก็คุณไม่ว่าง เจ้าไม่อยากกวน แล้วเจ้าก็ฝากเพื่อนในสาขาเอาไปให้ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้นะครับ มันผ่านแถวนั้นพอดี เจ้าอยากไปเจอคุณมากๆ แต่เจ้าไปไม่ได้ คุณเข้าใจเจ้านะ อย่าโกรธเจ้าเลย

D. : ไม่โกรธ แต่มึงทำตัวไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนมึงมาได้ แต่พอเป็นแฟนกันแล้วมึงมาไม่ได้ มึงเห็นคนอื่นดีกว่ากู

OMG: เจ้าไม่เคยคิดแบบนั้น แต่เอ๋มีเรื่องให้ช่วย เจ้าโทรบอกคุณแล้ว คุณก็บอกว่าไม่เป็นไร

D. : อะไรก็เอ๋ เพื่อนมึงสำคัญกว่ากูแล้วมั้ง

OMG: คุณเป็นอะไรหรือเปล่า งอแงมากเลย เครียดเหรอ เดี๋ยวเจ้าไปหานะ

D. : อยู่ดูแลเอ๋ของมึงไปเถอะ

OMG: เจ้าเก็บของแล้ว กำลังไปหาคุณ บอกที่อยู่มาทีครับ

D. : บอกว่าไม่ต้องมาไง กูกำลังหงุดหงิด

OMG: เจ้าจะทำให้คุณอารมณ์ดี

D. : อย่ามา

D. : กูไม่อยากพูดไม่ดีกับมึง

OMG: เจ้าโอเค หงุดหงิดใส่เจ้าก็ได้ แต่ให้เจ้าอยู่ข้างคุณนะ

D. : Sent a location.

D. : รีบมาหากูครับ

OMG: วาร์ปไปเลย





ไอ้เจ้ารีบเก็บข้าวของ ที่จริงไม่ได้มีอะไรมากก็แค่เอกสารการเรียนที่ไอ้เอ๋ซีร็อกมาให้กับดินสออีกหนึ่งแท่งเท่านั้น มันปลีกตัวเนียนๆ บอกกับเพื่อนร่วมสาขาที่ไม่ได้สนิทกันนักว่าจะกลับก่อน ไม่กล้าเข้าไปบอกแป้งจี่ที่กำลังทำงานอยู่อีกมุมห้องกับพวกเพื่อนของหล่อน ขืนบอกก็คงไม่ได้กลับง่ายๆ แน่ เพราะลูกตื้อไม่ธรรมดา อีกอย่างเพราะเรื่องของไอ้เอ๋ถึงต้องมาตกระกำลำบากอย่างนี้ ใครจะไปคิดว่าไอ้คิ้มมันโกรธเป็นจริงเป็นจัง ลั่นวาจาไว้ด้วยว่าถ้าเจอตัวจะกระทืบไส้ไหล ไอ้เอ๋ได้ยินก็หน้าซีดปากสั่น เกาะติดไอ้เจ้าแจ ลำบากไอ้เจ้าต้องไปเจรจากับแป้งจี่ให้หล่อนเงียบปาก โดยการแลกกับข้าวสามมื้อ มื้อกลางวันเสร็จสิ้นไปแล้ว ยังเหลือมื้อเช้ามื้อเย็นที่ไอ้เจ้าขอผลัดไปวันอื่น ส่วนไอ้ตัวต้นเรื่องอย่างไอ้เอ๋นั้นปั่นจักรยานกลับหอไปนอนตีพุงสบายใจเฉิบตั้งนานแล้ว แต่เพราะมันรับปากจะทำรายงานให้ ไอ้เจ้าก็เลยไม่บ่นอะไรมาก

พอเนียนปลีกตัวออกมาได้ก็รีบใส่เกียร์หมาไปที่หน้าตึกคณะ ตอนนี้เย็นมากแล้วแต่ก็ยังมีนักศึกษาจับกลุ่มอยู่ตามโต๊ะม้าหินอ่อน คงจะนั่งคุยงานหรือนั่งเม้าท์กันตามประสา หลายคนหันมองไอ้เจ้า พวกสาวๆ ก็ส่งยิ้มมาให้ แต่ไอ้เจ้าไม่ได้สนใจหันไปมอง มันออกวิ่ง จุดหมายก็คือตึกทันตกรรมที่ตอนนี้ธราคงรอมันอยู่

ถือเป็นสถิติใหม่ ไอ้เจ้าใช้เวลาแค่สิบห้านาทีก็มาถึง ธรานั่งรอที่ม้าหินอ่อนหน้าตึก เขานั่งอยู่คนเดียว มองจากตรงนี้ก็เห็นแล้วว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ยอมยิ้มเลย

“มะ..มาแล้วจ้า” ไอ้เจ้าเสียงสั่นเล็กน้อย มันหอบเหนื่อย เหงื่อไหลชุ่มแผ่นหลัง “รอเจ้านานมั้ย”

“นาน” ธราตอบเสียงห้วน ทำหน้านิ่งมองมา

“ไหน อาการมันเป็นยังไง บอกหมอเจ้าสิครับ” ไอ้เจ้านั่งลงบนม้าหินอ่อนอีกตัว ไม่เสี่ยงเข้าใกล้เพราะไม่มั่นใจว่ากลิ่นเหงื่อของมันจะทำให้ธราหงุดหงิดมากกว่าเดิมไหม

“ไม่รู้”

“โกรธเจ้าเหรอ” ถามเสียงอ่อนพลางยื่นมือไปกุมมือหนาไว้ “เจ้าขอโทษ มันไม่ใช่ว่าเจ้าไม่เหมือนเดิม แต่เจ้าไม่อยากกวน”

“ก็บอกตลอดว่ากวนได้ ทำไมเพิ่งมาเกรงใจเอาตอนนี้ มึงเกรงใจตอนที่กูชินเวลาโดนมึงกวนไปแล้ว แล้วกูต้องจัดการกับตัวเองยังไงให้ไม่รู้สึกแปลกที่มึงหายไป”

“ดิน” บีบมือที่กุมอยู่เบาๆ “เจ้าเป็นคนน่ารำคาญ เจ้ากวนคุณได้ทั้งวันเพราะเจ้าคิดถึง แต่เจ้ากลัวคุณอึดอัด อย่างที่คุณบอกไง เราเป็นแฟนกันแล้ว เจ้ากำลังพยายามเป็นแฟนที่ดีของคุณ อย่างอแงเลยนะ ยิ้มให้เจ้าหน่อย”

ธราถอนหายใจออกมา เขาจัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เลยเมื่อเป็นเรื่องของไอ้เจ้า แต่เพราะมันกำลังยิ้มและเฝ้ารอรอยยิ้มจากเขา ริมฝีปากได้รูปจึงคลี่ยิ้มกว้าง

“ยิ้มแล้ว...เจ้าชอบรอยยิ้มของคุณนะ ตกหลุมรักคุณอีกแล้วล่ะ”

ไม่รู้ทำไม...พออยู่กับไอ้เจ้า มองหน้าของมัน ฟังน้ำเสียงมัน ถ้อยคำที่มันเอ่ย รวมทุกอย่างที่มาจากมัน เขาก็มีแต่ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเต็มไปหมด

“กูไม่เคยมีแฟน” ธราบอกเสียงแผ่ว “ไม่เคยให้ความสัมพันธ์นี้กับใคร มึงเป็นคนแรก ก็เลยไม่รู้ว่าควรทำยังไง”

แววตาของไอ้เจ้าแปลกไป แต่มันก็ยังคงยิ้ม “ดีใจจัง”

“ที่จริงแล้วกูอาจจะน่ารำคาญสำหรับมึงก็ได้นะเจ้า ถ้ามึงรู้ว่าทั้งวันในหัวกูคิดอะไร”

“เจ้ารู้” เสียงของไอ้เจ้าแผ่วเบาไม่แพ้กัน “เจ้ารู้ว่าคุณคิดแต่เรื่องเจ้า”

“เพ้อเจ้อว่ะ ใครจะไปคิดเรื่องมึง หลงตัวเอง” ธราไม่ยอมรับ

“เจ้าไม่ได้หลงตัวเอง คุณต่างหากที่ปากแข็ง คุณน่ะไม่เปลี่ยนไปเลย”

“อีกแล้วนะ” ธราขมวดคิ้วมอง “มึงพูดเหมือนรู้จักกูดีอีกแล้ว”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม ยกนิ้วขึ้นไล้ไปตามคิ้วเข้มของธราเพื่อให้คลายตัว “คืนนี้กลับได้ไหม ดึกแค่ไหนเจ้าก็จะไปรับ”

“อืม งั้นเดี๋ยวมึงไปส่งกูที่หอน้องแล้วขับรถกูกลับ”

ไอ้เจ้าพยักหน้า เกลี่ยนิ้วลงบนหลังมือของธราพลางมองตาเชื่อม “ถ้าอยู่ในรถ เจ้าจูบคุณได้ไหม”

“มากกว่าจูบก็ได้”

“งั้นไปเลยได้เปล่า สั่นไปหมดแล้ว”

ธราหลุดหัวเราะ อยากจะดึงไอ้คนปากกล้ามาจูบแรงๆ แต่ต้องเกรงใจสถานที่ “อืม เดี๋ยวไปบอกน้องแล้วเก็บของก่อน เจอกันที่รถ”

“เจ้าพร้อมมาก ตามมานะที่รัก” ไอ้เจ้ายิ้มยั่ว ไม่รู้มันพูดจริงหรือพูดเล่น มันแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วย

โคตรยั่ว...

ธราแทบไม่มีสมาธิระหว่างเก็บของ ในหัวมีแต่หน้าไอ้เจ้า ลิ้นเล็กๆ ของมันที่แลบเลียริมฝีปากนั้นเหมือนภาพติดตา ได้ยินน้องรหัสบ่นลมบ่นฟ้าให้ฟังก็ฟังไม่รู้ความ พอเก็บของเสร็จและตกลงกับน้องรหัสว่ากินข้าวเรียบร้อยแล้วจะไปเจอกันที่หอก็รีบเดินลิ่วมาที่ลานจอดรถ

ไอ้เจ้ารออยู่แล้ว เมื่อเห็นธราก็รีบเข้าไปช่วยถือของ มีเสื้อกาวน์ กระเป๋าเป้และกล่องใส่ฟันปลอมที่พกติดตัวไปทุกที่ทุกเวลา ฟันปลอมที่เปรียบเสมือนคนรัก สำคัญยิ่งกว่ากระเป๋าตังค์หรือโทรศัพท์มือถือ ดูแลประหนึ่งลูกในไส้

ธราเปิดประตูขึ้นไปนั่งประจำที่ ส่วนไอ้เจ้ากำลังสาละวนกับการจัดเก็บของบนเบาะหลัง ก่อนมันจะรีบมานั่งที่นั่งคนขับ ได้ยินมันฮัมเพลงอารมณ์ดี น่าหมั่นไส้จนต้องหยิกแก้ม

“อยากหอมแก้มก็หอม ไม่ใช่หยิกครับ” มันเอียงแก้มเข้ามาใกล้ “รีบหอม เจ้ารออยู่”

ธราจำต้องหอมแก้มมันตามที่ขอ ไม่ได้อยากหอมเลยสักนิด ไอ้แก้มนุ่มๆ ของมันเนี่ย “พอใจยัง”

“ยังครับ” ไอ้เจ้าตอบแค่นั้น แล้วมันก็จู่โจมธรา เล่นเอาคนร่างสูงไม่ทันตั้งตัว ผ่านไปเกือบครึ่งนาทีกว่าเขาจะจูบโต้ตอบมันกลับไปได้ เล่นทีเผลออย่างนี้...หัวใจของธราต้องทำงานหนักอีกแล้ว

“โคล่าอีกแล้วเหรอ” ธราถามเมื่อผละริมฝีปากออกจากกัน “วันนี้กินอมยิ้มไปกี่อัน”

ไอ้เจ้าชูสี่นิ้ว ก่อนจะยกมือโอบรอบคอหนา มองคนที่ทำตาดุด้วยแววตาหวาน “คุณอย่าดุเจ้า”

“กินเยอะไม่ดี บอกอยู่ทุกวัน”

“ฟันผุก็เป็นเคสให้คุณไง ดีจะตาย”

“ดีตรงไหน ไม่มีใครอยากฟันผุ มีมึงเนี่ยแปลก”

“ก็เจ้าชอบหมอฟัน รักหมอฟัน อยากโดนหมอฟัน”

ธรางับริมฝีปากของไอ้เจ้าเบาๆ เห็นมันขยับลอยอยู่ตรงหน้าแล้วอยากกัดให้ขาด “วันเสาร์มึงโดนแน่ กูจะเอาให้คุ้มกับที่ยั่วกู”

“แรงๆ เลยนะ”

“ให้เอวหัก”

“สุดจริงคนนี้ ชอบ อยากได้แล้ว”

ไม่รู้ว่าถึงเวลาจริงๆ แล้วไอ้เจ้าจะยังปากเก่งได้อยู่ไหม กลัวก็แต่มันจะร้องไห้แล้วเขาจะใจอ่อนเสียก่อน

“ที่รัก”

“ว่า”

“ขอเจ้ากินอมยิ้มหน่อย”

ธราขมวดคิ้วมองแววตาหวานของไอ้เจ้า “กินไปสี่อันแล้วนะ”

“อันนี้พิเศษไง”

“หืม”

“อมยิ้มของคุณอะ อันที่เจ้ากินทุกคืน ขอเจ้ากินตอนนี้นะ”

ธราชะงักค้าง รู้สึกเหมือนโดนหมัดหนักๆ เข้าปลายคาง กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอก็เกือบหนึ่งนาที แถมเสียงที่เปล่งออกมายังแหบพร่า “อ่า...เดี๋ยวฟันผุ”

“ไม่ให้โดนฟัน เจ้าเก่งแล้ว”

นั่นสินะ...ไอ้เจ้าฝึกอยู่ทุกคืน ก็คงต้องเก่งขึ้นแน่นอน ธรารู้อยู่แล้วเพราะพิสูจน์มาเองกับตัว

“นะ เดี๋ยวคืนนี้คุณกลับดึก เจ้าอดกิน”

ธราสู้ไม่ได้ แพ้ไอ้เจ้าตลอด แค่มองสบตากับมันก็ไม่เห็นทางชนะแล้ว ยิ่งถูกมันอ้อนก็ยิ่งต้องตามใจ “มา กินให้อิ่มเลยนะ”

มือผอมบางของไอ้เจ้าเริ่มซุกซนเมื่อได้ยินคำอนุญาต “เจ้าชอบอมยิ้มของคุณหมอดิน ขอกินละน้า”

ธราต้องตายเข้าสักวันแน่ๆ ตายเพราะฝีมือของไอ้เจ้านี่แหละ ขยันทำให้หัวใจจะวายจังโว้ย!









03:40 AM

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

P. : กำลังหาเพลงฟังในยูทูปเพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ในการดัดลวด เสียงแจ้งเตือนไอจีก็ดังขึ้น

K. : กูนี่ถึงกับต้องวางเฝือกลงกับโต๊ะแล้วเข้าไปดู อื้อหือ เปิดปุ๊บเห็นทันที

J. : กูก็เห็น! เห็นคนอวดเมีย 1 อัตรา

D. : นัดกันมาเหรอพวกเหี้ย แซวกูเป็นขบวนการ

K. : ใช่! นัดกันมาเพื่อแซวมึงโดยเฉพาะ ไหนมึงบอกไปช่วยไอ้ซันทำแล็ป ทำไมกูเห็นแต่ไอ้เจ้านอนซบอกมึงวะ ไหนน้องรหัสมึงอยู่ไหน ตอบสิคะน้อง! พี่ถาม!

J. : สัดคิน อินเนอร์วรพลมาเต็มมาก มึงเพิ่งโดนเฉ่งมาถูกมั้ย

K. : เออ วันนี้คนไข้กูมาสาย นัดเก้าครึ่งมาสิบโมง ช้าไปหมดเลยไอ้เหี้ย วรพลก็จี้กูจั๊งงง กูจะรู้ไหมว่าทำไมเขามาสาย กูก็ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องของเขาป่าววะ คนไข้นะเว้ยไม่ใช่เมีย แค่โทรให้มาตามนัดยิกๆ นี่ผัวเขาก็จะมายิงหัวกูทิ้งอยู่แล้ว

P. : เอาน่ามึง ที่จริงต้องรู้ทุกเรื่องนะ ดูไอ้จอมดิไอ้มินเดือนบริหารยอมมาเป็นเคสเอนโดให้มัน โทรตามเขาเช้า กลางวัน เย็น คิดว่าตอนนี้นอกจากเป็นเคสแล้วน่าจะเป็นอย่างอื่นด้วย แม่งเสือกเรื่องเขาอย่างกับเป็นเมีย ไม่รู้นอกจากขึ้นเตียงทำฟันแล้วขึ้นเตียงอื่นด้วยไหมจ๊ะ

K. : อรุ่มมมม...มันมีเงี่ยนงำ

J. : เงี่ยนที่หน้ามึงสิ มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ กูก็แค่ต้องตามไหมล่ะ แม่งชอบทำยึกยักจะเลื่อนนัดตลอด เดี๋ยวกูเก็บเคสไม่ครบ ซวยอีกทีนี้ เพื่ออนาคตการศึกษาแค่นั้นครับ ไม่มีอะไร จบ แยก!

P. : แน่ใจเหรอ แน่ใจนะว่าแค่นั้น แล้วทำไมต้องเกรี้ยวกราด!

K. : ทำไมวะมึง มึงรู้อะไรมาไอ้แพร์ คายตะขาบด่วน กูรอใส่ใจ!

P. : ก็แบบคนไข้พิเศษต่อใจหมอ แค่รักษารากฟัน ดูแลอย่างกับผ่าฟันคุด โทรถามอาการหลังทำฟันทุกสิบนาที พูดเสียงอ้อนๆ ด้วยว่าอย่าลืมนัดครั้งหน้าของเรานะมิน อย่ามาสายนะ ห้ามเลื่อนนัดจอมด้วย ไม่มีอะไรเล้ยย กูขอมองบน

K. : มองบนเซม มึงแรดอะจอม มึงแบบ...อรุ่มมม

J. : ไม่ใช่แบบนั้นเว้ย! อะ แล้วไอ้คิน มึงทำทันไหม มาสายขนาดนั้น

P. : เปลี่ยนเรื่องหน้าด้านๆ

J. : กูเปลี่ยนแล้วทำไม! สรุปมึงทันไหมไอ้คิน

K. : ทันก็เหี้ยแล้ว ได้แค่ฟันซี่หน้าหนึ่งราก วรพลมองกูแบบว่ามึงไม่ทันแน่ มึงตายแน่ มองแบบนั้นก็ฉาบกูซะ ว่าแต่ไอ้ดินเถอะ ยังไม่ตอบคำถามกู ทำไมมึงอยู่กับไอ้เจ้า แล้วทิ้งน้องรหัสมึงเดียวดาย ไอ้ซันคร่ำครวญว่าทำฟันแตกไปหลายรอบแล้ว ทำไมไม่ช่วยมัน พี่น้องอะจะเอามั้ย!

D. : อะไรกับกูนักหนา ขอกูนอนหลับพักผ่อนบ้างได้ไหมล่ะ

P. : พักผ่อนแบบไหนซบกันบนเตียงขนาดนั้น เสื้อก็ไม่ใส่ ไอ้พวกหน้าไม่อาย! อี๋ๆ ๆ ๆ

D. : อยากโชว์กล้าม กูผิด?

J. : อะ ไม่ผิดจ้า กล้ามน่าขบกัดมาก นี่คงถูกไอ้เจ้ากัดไปหลายรอบสินะ รอยทั้งตัวอิสัด!

D. : ก็พอรู้ตัวว่าน่ากัด กูนอนละ เจ้าหลับแล้ว เดี๋ยวแสงแยงตามัน

K. : เป็นห่วงเป็นใยเขานะคุณ

P. : ใส่ใจดูแล ปกป้องดียิ่งกว่าโซฟีแบบกระชับ

J. : ก็พี่เขาเลิกปากแข็งแล้ว รักมากก็อย่างงี้จ้า

D. : กูไม่ได้รัก

K. : ปากแข็งไปอีก! กูอยากเอาเฝือกสบฟันตบให้หน้าหัน แล้วเหยียดมองด้วยอินเนอร์วรพล

D. : ไม่ใช่แค่ปากแข็ง อย่างอื่นก็แข็ง อยู่กับเจ้ายิ่งแข็ง

P. : พูดขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมรับ กูไม่เข้าใจมึ้ง!

D. : มึงไม่เข้าใจก็เรื่องของมึง แค่เจ้าเข้าใจก็พอ

J. : โฟกัสที่ “แค่เจ้าเข้าใจก็พอ”

K. : อรุ่มมมม

P. : อื้มมมมมมม

D. : ไม่ใช่เสียงครางของเจ้า กูไม่ฟังนะครับ ขอให้พวกมึงโชคดีกับการแก้แล็ปยันสว่าง

D. : อย่าลืมครับเดดไลน์แล็ปพรุ่งนี้ ย้ำ พรุ่งนี้!

J. : ดูพี่เขาสิคะ ปากคอเราะร้าย แต่ขอแหมให้ยาวๆ แหมมมมมมมม

K. : อื้มมมมมมม เสียงครางของเจ้าาาาา

P. : ลู้เลื่องงงงงง

D. : xวย!



........TBC......

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ช่วงนี้ยุ่งๆ อาจจะไม่ได้มาทุกวัน เพราะวุ่นกับการย้ายที่อยู่ อย่างไรจะรีบมาต่อให้เร็วๆ เลยนะค้าาาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-10-2018 17:29:50
โอ้ยยยย เจ้าเอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 29-10-2018 18:06:59
เจ้ายั่วมากกกกกกกกกกกก เลิฟฟๆๆไ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 29-10-2018 18:15:41
ดอนโว้ยยยยยย ปากแข็งอะไรขนาดนั้นนนนน
เจ้าเข้าใจแต่เราไม่เข้าใจ!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 29-10-2018 18:21:55
นานๆทีจะมีนิยายที่ทำให้เราต้องมารีเฟรชทุกชั่วโมงรอให้อัพเดท :katai1: :katai1:..... ความหวานแบบนี้ของธรากับเจ้า เหมือนเป็นท้องฟ้าสดใสก่อนเมฆมืดครึ้มยังไงไม่รู้!!!  ชอบเวลาหมอคุยกัน. ตลกดี!!! :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-10-2018 18:32:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-10-2018 18:53:33
ดีต่อใจจจจ
หมอแพร์กับเพื่อนเอ๋คืออะไรยังไงคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-10-2018 19:05:45
เจ้า รักดิน........ :impress2:
ดิน เกลียดเจ้า.........   :-[
 
ดิน เจ้า    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 29-10-2018 19:18:54
อรุ่มมมมม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Faii0518 ที่ 29-10-2018 19:56:54
คนที่ไม่ได้รักทำไมขี้หึงจังคะ ปากแข็งแต่หลงเค้าหัวปักหัวปำแล้ว!! เจ้ากินอมยิ้มแล้วระวังฟันผุนาจา อิ๊
ไหนจะคู่หมอแพร์กับน้องเอ๋ แล้วยังจะมีมินจอมอีก ทำไมเรื่องนี้มันมีเงี่..งำเยอะอย่างนี้!!! อิ๊
และจากใจ ขออย่าให้ดราม่ามากไปกว่านี้เลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 29-10-2018 19:57:11
อรุ่มมมมม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 29-10-2018 19:57:58
อยากถามเอ๋จริงๆว่าจะให้ดาวเภสัชกินแต่กะหล่ำหรือยังใงถึงได้เอาของเขามาทั้งแปลงอย่างนั้น555 สางสารคนปลูก  :laugh:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 29-10-2018 20:01:13
ชอบกลุ่มหมอชอบฟัน :กอด1:

รักเอ๋ๆ เอ๋น่ารัก +1เป็ดให้เอ๋  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 29-10-2018 21:15:01
ปากแข็งจริ้งงงง เรื่องของมรึ้งงค่ะหมอดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 29-10-2018 21:37:19
สนุกอ่ะ 55555555

รักเอ๋ รักเจ้า หมั่นไส้ดิน  o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 29-10-2018 22:00:39
ชอบกลุ่มแชทหมอชอบฟัน 5555  o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 29-10-2018 22:32:01
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-10-2018 23:21:29
ปากแข็งเหลือเกิน เจ้าก็ขี้ยั่วมาก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-10-2018 23:51:37
รับรองผ่านฉลุย เพราะธราฝึกมาอย่างดี
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: CHOO ที่ 30-10-2018 00:08:40
ปากไม่ต้องแข็งมากก็ได้คุณพี่ อิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 30-10-2018 00:17:45
เจ้า คุณนี่สุดจริงๆ โคตรชอบบบบบบบ  o13
มาต่อไวๆนะคะ  :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 30-10-2018 00:50:02
ขออนุญาตหมั่่นไส้ดิน คนขี้อวดทั้งคู่เลย จะครบ2ปีแล้วจะยังไงต่อ :L2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Banarot ที่ 30-10-2018 01:23:08
อีกไม่นานซินะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 30-10-2018 02:36:52
วันเสาร์ขอให้ได้ขอให้โดนอย่างที่เจ้าหวัง  :hao6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 30-10-2018 08:37:32
อิพี่ปากแข็งไม่สร่าง :oo1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 30-10-2018 11:35:36
ดินเราขอโทษนะคะเราชอบ #เจ้าเอ๋ มากกว่าเค้าคุยกันน่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ksoleef ที่ 30-10-2018 17:29:49
เดาว่าเคยได้กันแล้วอิ๊ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ksoleef ที่ 30-10-2018 19:31:17
อีกสองอาทืตย์นี่เชียร์ให้เจ้าหายไปได้ไหม สงสารน้อง เหมือนธรามองเจ้าเป็นของตาย อะไรจะกั๊กเบอร์นั้นอ่ะ :sad11:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 30-10-2018 22:13:12
พี่ธรา ตอนนี้จำอดีตไม่ได้ ยังหลงเจ้าขนาดนี้ อดีต เจ้าคือเจ้าชีวิตเหมือนในโน๊ตแผ่นนั้เข้าใจได้ว่าทำไมเจ้าถึงไม่ยอมปล่อยมือจากพี่ธรา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-10-2018 22:34:00
เข้ามาอ่านแรกๆนี่รู้สึกว่าอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเจ้าเลยเลิกอ่านไป แล้วไม่รู้กลับมาอ่านอีกทีได้ไง แต่จะบอกตอนนี้คือชอบเจ้ามากยิ่งอ่านยิ่งติด ชอบตอนเจ้าคุยกับเอ๋ตลกดี น่ารักดี แล้วก็ชอบตอนแก๊งหมอชอบฟันแชทคุยกันด้วย ยิ่งมารู่ว่าเจ้ากับดินเคยเป็นแฟนกันแต่ดินจำไม่ได้คือแบบ เห้ยยย ทำไมดินถึงจำอะไรไม่ได้เลย น่าติดตามมากๆ คู่นี้บทจะหวานก็จัดซะเพื่อนตาร้อนเลย คู่ที่น่าสนใจอีกคู่คือพี่หมอแพรกับน้องเอ๋ จะโคจรมาเจออีกทีตอนไหน รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 7 ถ้าเธอเข้าใจก็ OK ​P.6 29/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 30-10-2018 23:13:04
.
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 30-10-2018 23:14:45
ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน



Wednesday, 08:20 PM

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

P. : คืนนี้ใครออกบ้าง

J. : มาช่วยกูแก้แล็ปก่อนแล้วจะตอบ

P. : ข้าม

J. : เพื่อนตายจริงๆ ไอ้สัดแพร์

K. : กูออก

P. : ที่ไหน

K. : ออกจากชีวิตตัวเองนี่แหละไอ้ห่า งานกูยังไม่เสร็จโว้ยยย!

P. : พวกกระจอกขอไม่คุยครับ @D. อยู่ไหนจ๊ะพี่จ๋า

J. : อี๋ ขนลุก

P. : วางมือถือแล้วไปทำงาน!

J. : ขอมีส่วนร่วมหน่อยไม่ได้เหรอ กูเพื่อนมึงมั้ย แค่ขออยู่ในบทสนทนาด้วยแค่นี้ ทำไมต้องขับไล่กันด้วย จอมไม่เข้าใจเลยว่าจอมทำอะไรผิดดดด

P. : กูต้องรู้สึกอะไรด้วยมั้ย

J. : มึงต้องเศร้าและทุกข์ระทมเหมือนกู!

P. : ไม่!

J. : ฮึกกกก

D. : ไปไหน?

K. : ไอ้ดินนนนนน มาช่วยกู!

D. : ไอ้แพร์ว่าไง

K. : อืม เมินกูไปเถอะ ใช่สิ กูมันเกิดมาแค่ชดใช้กรรม คนอย่างกูมันแค่เกิดมาหน้าตาดีแล้วก็ตายไปซะ อยู่ไปก็มีแต่คนอิจฉา ไม่มีคนเห็นอกเห็นใจ ขนาดมีเพื่อนอยู่แค่ไม่กี่คน เพื่อนก็ยังไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือ ฮึก...

J. : เล่นใหญ่ไอ้เวร

D. : มึงก็ไม่ต่างจากมันไอ้จอม @P. ไอ้แพร์ เกินสามทุ่มกูไม่ออกนะ

P. : เมื่อก่อนต่อให้นัดเที่ยงคืนมึงก็ไป แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ต้องมีเคอร์ฟิว!

D. : ขี้เกียจทะเลาะกับเจ้า

K. : แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ได้รักไอ้สัด!

J. : ขนาดนี้แล้วนะ!

D. : มีงานก็ทำไปดิ ไม่ต้องมาเสือก

J. : มันเจ็บตรงนี้ที่ใจที่ใจ

K. : ปากคอเราะร้าย ไม่อ่อนโยน!

D. : อ่อนโยนแค่กับเจ้าครับ

P. : ฮึกกกก น้ำตากู น้ำตากูไหลแล้ว พวกมึงเห็นแม่น้ำเจ้าพระยามั้ย นั่นแหละ...ที่ไหลมารวมกันนั้นคือน้ำตาของกูเอง ไอ้ดินลูกพ่ออออ อ่อนโยนได้ขนาดนี้แล้วเหรอลูกกกกก ฮึกกกก ซึ้งจายยย

J. : โฮฮฮฮฮ ไม่เสียแรงที่เลี้ยงดูมาาาเลยจ้ะพ่อ ฝากบอกลูกใภ้ด้วยว่าว่างๆ มายัดเยียดความเป็นผัวให้แม่ด้วย

K. : พ่อ แม่ พี่ชายผมโตแล้วววว เขาเป็นผู้เป็นคนแล้วครับ ตายตาหลับได้แล้วนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้

P. : ถ้าเป็นลูกกูจริงๆ มึงก็ลูกทรพีไอ้ห่าคิน ส่วนไอ้จอมก็เป็นเมียระยำ อยากได้เมียลูกเป็นผัวจนตัวสั่น

K. : เออว่ะ คิดตามแล้วก็ถูก ครอบครัวส้นตีนมาก ความสัมพันธ์ช่างซับซ้อนเหลือเกิน ฮึกกก ครอบครัวมีปัญหา ร้องไห้แน้ววว

D. : พวกมึงไปเปิดโรงละครเล่นด้วยกันมั้ยไอ้พวกเวร เล่นใหญ่

P. : ตกลงไปมั้ย

D. : ไป แต่เจ้าไปด้วย

P. : เค เจอกันที่หน้าบ้าน

K. : แดกทั้งทีไม่แดกที่ร้านวะ แดกทำไมที่หน้าบ้าน

P. : ชื่อร้านมั้ยล่ะไอ้สัด

J. : ไปด้วยดิ

P. : ไปทำงานให้เสร็จก่อน งานเสร็จแล้วค่อยตามมา ถ้าไม่เสร็จอย่าเสนอหน้ามาไอ้จอม รู้หรอกว่าไอ้มินขึ้นร้องคืนนี้ กูจะถ่ายคลิปมาให้ โอเคมั้ย

J. : สัด กูไม่ได้จะไปดูไอ้มิน แต่กูจะไปกินกับพวกมึงเว้ย! นานๆ สังสรรค์ทีอะ

D. : อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ กูไปแต่งตัวละ

P. : @J. โอเคมั้ย?

J. : เออๆ โอเคก็ได้วะ





ธราวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวก่อนจะก้มลงมองคนที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น ปากก็คาบปลาเส้นส่วนศีรษะก็พิงอยู่กับขาข้างหนึ่งของเขา ตอนนี้พวกเขากำลังดูหนังจาก netflix หรือพูดให้ถูกไอ้เจ้าดูคนเดียวส่วนเขาหาการ์ตูนอ่านฆ่าเวลา เพราะเป็นหนังสงครามอย่างที่ไอ้เจ้าชอบแต่เขาไม่ชอบ ทว่าเมื่อมันอยากดูเขาก็ไม่ได้ขัด กลับเต็มใจที่จะนั่งดูอยู่กับมันด้วย ไอ้เจ้านั่งดูเงียบๆ มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว เวลามันสนใจกับอะไรสักอย่าง มันก็จะจมอยู่กับสิ่งนั้นโดยไม่วอกแวก

“เจ้า” ธราส่งเสียงเรียก ไม่อยากขัดจังหวะแต่ก็ต้องบอกเรื่องที่นัดกับไอ้แพร์ไว้

“จ๋า” ไอ้เจ้าขานรับโดยไม่หันมอง

“ไปดื่มกัน” ธราไม่อ้อมค้อม คำชักชวนของเขาทำให้ไอ้เจ้าหยิบรีโมทขึ้นมากดหยุดหนังที่กำลังดูแล้วหันมอง มันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ไอ้แพร์ชวนไปหน้าบ้าน”

“หน้าบ้านใคร” ไอ้เจ้าถามซื่อ

“ชื่อร้าน” ธราตอบพลางขยับลงจากโซฟาไปนั่งข้างไอ้เจ้า “ไปไหม แต่กูบอกไอ้แพร์แล้วนะว่ามึงจะไปด้วย”

“ตอบตกลงไปก่อนอย่างนี้ แล้วจะไม่ไปได้เหรอ” ไอ้เจ้าถามเสียงเรียบ แววตาของมันดุจนธราหายใจสะดุด “งานเสร็จแล้วเหรอครับ”

“อืม” ธรารับคำเสียงอ้อมแอ้ม “ตารางคืนนี้ชิลได้”

“แล้วไปกับใครบ้าง”

“มีไอ้แพร์คนเดียว ไอ้จอมกับไอ้คินไม่ได้ไปด้วย งานยังไม่เสร็จ”

“ถ้าเจ้าบอกว่าไม่ไปล่ะ”

ไอ้เจ้ามองสบตากับธรา ประกายในดวงตาของมันทำให้ธราไม่กล้าตอบสิ่งที่คิดในใจ อยากบอกเหลือเกินว่า งั้นก็ไม่ไป แต่ก็กลัวมันจะคิดว่าคนอย่างเขาไม่กล้าหือกับมัน

“อ้อนเจ้าหน่อยสิครับ” ไอ้เจ้ายิ้มหวานให้ “ถ้าอยากไปก็อ้อนนะ เจ้าเคยเห็นคลิปขอแฟนไปเล่นเกม น่ารักมากเลย”

“มึงฝันอยู่เหรอ”

“อะ เป็นแค่ความฝันก็ได้ แต่อ้อนหน่อยได้มั้ย เจ้าอยากระทวย”

ธราเม้มริมฝีปาก ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าไปเห็นคลิปบ้าบออะไรมา แต่มันคงกำลังฝันอยู่แน่ๆ ทำไมถึงคิดว่าคนอย่างเขาจะอ้อนมัน!

เหอะ!

“แล้ว...” ฟันขาวเรียงตัวสวยขบริมฝีปากล่างเบาๆ เพราะสมองกำลังร้องตะโกนว่าอย่า แต่ในใจมันร่ำร้องว่าอยากเห็นไอ้เจ้าระทวย “แล้วต้องทำยังไงครับ”

ไอ้เจ้าชะงักนิ่งไปเพียงครู่ด้วยไม่ได้คิดว่าธราจะถามมันแบบนี้ ไม่คิดด้วยว่าคนตัวใหญ่ตรงหน้าจะหน้าแดงลามไปจนถึงใบหู ทั้งยังทำสีหน้าสับสนเอามากๆ

“ว่าไงครับเจ้า...กูต้องทำยังไงให้มึงระทวย”

เนี่ย! แค่ทำหน้าแบบนี้! ไอ้เจ้าก็ระทวยแล้ว ไม่ต้องอ้อนก็ได้!

“ขี้โกงจริงๆ” ไอ้เจ้าพึมพำ มือไม้อ่อนไปหมดเมื่อเห็นความน่ารักของธรา “เจ้าแพ้แล้วครับที่รัก ไปไหนไปกัน ไปได้ทุกที่ นรกก็ไปแล้วจังหวะนี้”

ธราหัวเราะ เห็นสีหน้าของคนขี้แพ้แล้วก็อยากจับฟัด มันก็ปากเก่งไปอย่างนั้น คิดว่าถ้าเกิดธราอ้อนขึ้นมาจริงๆ คงได้เห็นคนหัวใจวายตายแน่

“ไม่พาไปนรกหรอก” ธรากระซิบ “จะพาไปขึ้นสวรรค์”

“แน๊” ไอ้เจ้าหูแดงก่ำ แต่ก็ยังปากดี “พาไปชั้นไหนดีจ๊ะ”

“มีเงินจ่ายได้ถึงชั้นไหนล่ะ”

หัวใจของไอ้เจ้าเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อน้ำเสียงแหบพร่าของธราดังชัดกว่าทุกครั้ง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะเข้าครอบครองใบหูของคนขี้อายจนเจ้าของมันร้องซี๊ดอย่างลืมตัว

“เมียคุณรวยนะธรา” ไอ้เจ้าบอกเสียงสั่น มันขนลุกไปทั้งตัว “จ่ายได้ไม่อั้นจนกว่าคุณจะพาขึ้นไม่ไหว”

“แล้วถ้าขึ้นไม่ไหว...”

“เจ้าขึ้นเอง”

“ปากเก่ง”

“เจ้ารู้ เพราะคุณชมเจ้าทุกคืน อิ๊”

“เหรอ” ธรายิ้มยียวน “คนเก่งคงไม่บ่นว่าเมื่อยปากหรอกมั้ง”

“แต่คุณก็ยังชมนี่นา”

“ก็นะ”

“ก็นะอะไรอะ”

“เก่งจริง” เสียงทุ้มกระซิบตอบ “โคตรเสียวเลยเวลาอยู่ในปากเจ้า”

“กามมาก”

ธราหัวเราะพลางบีบปากไอ้เจ้าที่กำลังทำปากยื่นปากยาวใส่ “น่ารักจังวะ”

“รักซี น่ารักก็รักเจ้าเยอะๆ เลย”

“เรื่องอะไรจะรัก” ธราว่าเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะก้มลงดูดริมฝีปากของไอ้เจ้า “รสชีส”

“คุณออกเสียงผิดนะ” ไอ้เจ้าบอกสีหน้าขึงขัง “ความจริงต้องออกเสียงว่า รสซี๊ดดดดด...อื้มมม”

“ไอ้บ้า” ธราส่ายหน้าระอากับคนที่เอาแต่สูดปากยั่วยวน “คนอย่างมึงนี่ต้องโดนสักทีสองที”

“โดนไรน้า”

“ตีน”

“ใจร้าย!”

“ฮ่าๆ ๆ”

ไอ้เจ้ายิ้มกว้างเพราะเห็นธราหัวเราะอารมณ์ดี มันเข้าไปกอดคนตัวโตตรงหน้าที่ชะงักเมื่อถูกจู่โจม แต่พอตั้งตัวได้แขนแกร่งของธราก็โอบตัวไอ้เจ้าไว้แล้วโยกตัวมันเบาๆ

“เจ้ามีความสุข”

“อืม” ธรารับคำเบาๆ “เหมือนกัน”

“เหมือนฝันเลยที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคุณแบบนี้”

“ไม่ใช่ความฝัน”

ไอ้เจ้ายิ้มกับอกกว้างของธรา ชอบที่เสียงทุ้มของเขาบอกย้ำว่านี่คือความจริง ชอบที่ริมฝีปากของเขากดจูบที่ขมับของมันราวกับให้เป็นสิ่งยืนยันอีกอย่าง

“ตอนนี้กูเป็นความจริงของมึงแล้วเจ้า”

“เป็นตลอดชีวิตเลยได้มั้ย”

“ได้”

“ทำไมตอบรับง่ายจัง”

“ก็มันมีเหตุผลง่ายๆ” ธราคลี่ยิ้ม “ไม่ต้องคิดซับซ้อน”

“รักเหรอ”

“เกลียด”

“คำว่าเกลียดของดินก็คือรักนั่นแหละ”

“ก็รู้นี่” เสียงของธราแทบไม่หลุดออกจากลำคอ

“หืม” ไอ้เจ้าเลิกคิ้ว “พูดว่าอะไรอะ”

“กูบอกว่ามึงมั่ว”

“ไม่มั่วสักหน่อย” ไอ้เจ้าย่นจมูกใส่ “คนเกลียดกันที่ไหนจะยอมเป็นแฟน ไหนจะยอมให้กอด ยอมให้จูบ แล้วก็ยังยอมให้อม...ยิ้ม”

ธรายิ้มยียวนก่อนตอบ “คนเงี่ยน”

“จบเลยจ้า” ไอ้เจ้าทำเสียงประชดประชัน แล้วผละตัวจากอ้อมกอด “ไปอาบน้ำแต่งตัวกันครับ ไอ้หมอแพร์รอจนเงกแล้วมั้ง”

“ปล่อยมันรอไปดิ” ธราพูดพลางดึงคนตัวผอมเข้าสู่อ้อมกอดตามเดิม “เลทกว่านี้ก็ไม่ต้องไปแล้ว”

“อ้าว” ไอ้เจ้าหน้าเหวอ “แต่ดินนัดไว้แล้วนี่ครับ ไม่ไปตามนัดจะดีเหรอ ขืนเทนัดคนอย่างไอ้หมอแพร์ มันได้แช่งดินยันลูกของเราบวชแน่ เนี่ย อาบน้ำแต่งตัวไปตอนนี้ยังทัน”

“อยากกอด” ธราบอกอย่างดื้อดึง “ไม่อยากไปไหน”

“แน๊ หลงเจ้าละซี”

“ฝันอีกแล้วไอ้เจ้า” ธราไม่ยอมรับ “คนอย่างกูนี่นะจะหลงมึง”

ได้ยินดังนั้นไอ้เจ้าจึงดีดดิ้นขัดขืน จะหนีจากอ้อมกอดของธราให้ได้ แต่เขาล็อกตัวมันไว้แน่นหนา

“เจ้า” ธรากระซิบเสียงดุ “อย่าดิ้นสิครับที่รัก”

ไอ้เจ้านิ่งค้าง ตัวอ่อนดั่งขี้ผึ้งถูกไฟลน “ขี้โกงงงงง”

“หึ” ธราหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเชยคางไอ้เจ้าขึ้นมองสบตา “เจ้าครับ”

กำลังจะตาย...กำลังจะตายแน่ๆ หัวใจเต้นแรงไม่หยุดเลย เหนื่อยมาก ไอ้เจ้าเหนื่อยมาก!

“กินอมยิ้มมั้ย” มือหนากุมมือคนตัวผอมไปตรงกลางกาย “อมยิ้มคงอยากละลายในปากเจ้าแล้ว”

ไอ้เจ้าได้ยินเสียงไซเรนรถพยาบาลในหัว ยิ่งสบตากับธรามันยิ่งต้องการถูก CPR อย่างเร่งด่วน ไม่ไหว...เจอแบบนี้หัวใจของไอ้เจ้ารับไม่ไหว มันคลั่งราวกับคนบ้า ในใจที่กำลังคลั่งนั้นตะโกนก้องไปทั้งสี่ห้องว่าอยากกินอมยิ้มของหมอดินใจแทบขาดแล้ว!

มือผอมของไอ้เจ้าเงอะงะอยู่ที่ขอบกางเกงในขณะที่เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของธราดังขึ้นติดๆ กันหลายครั้งแต่คนทั้งคู่ไม่ได้ให้ความสนใจ ตอนนี้ความสนใจของธรามีแค่ไอ้เจ้าและความสนใจของไอ้เจ้ามีแค่การกินอมยิ้มรสโปรดของมันเท่านั้น

ธราจัดการปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเองและของไอ้เจ้าที่วางอยู่ใกล้กันเพราะไม่อยากเสี่ยงให้ใครรบกวนเวลากินอมยิ้มของไอ้คนปากเก่งได้

“หมอฟันที่ไหนกันชอบให้คนไข้กินอมยิ้ม” ไอ้เจ้ากระซิบเสียงพร่าพร้อมกันกับที่มือของมันล้วงเข้าไปสัมผัสกับอมยิ้มแท่งใหญ่ที่ส่วนปลายเริ่มละลายจนเปียกชุ่ม

ธราคลี่ยิ้มก่อนตอบ “หมอชอบฟันไงครับ”

ไอ้เจ้าแยกเขี้ยว งัดเอาอมยิ้มแท่งสวยออกจากที่ห่อหุ้มพลางใช้ปลายนิ้วชี้ลากไล้ตั้งแต่โคนจรดปลายเรียกเสียงครางต่ำในลำคอจากธรา เขามองนิ้วแสนซนที่กำลังเล่นงานอมยิ้มด้วยการปัดผ่าน บางครั้งก็บีบบี้จนส่วนที่ละลายยิ่งละลายมากขึ้น น้ำเหนียวเหนอะเปื้อนปลายนิ้วแต่เจ้าของก็ใช้เรียวลิ้นของตัวเองทำความสะอาดราวกับแมวดื้อกำลังทำความสะอาดขนของตัวเอง ทว่ากลับเป็นภาพที่ทำให้คนมองคิดดีไม่ได้

“กินสักที” คนความอดทนต่ำอ้อนวอนเมื่อเห็นว่าอีกคนยังคงเล่น ไม่ยอมลิ้มชิมรสอมยิ้มให้ละลายในปาก

“ใจร้อน” ย่นจมูกใส่ ก่อนจะแลบลิ้นเลียชิมรสของอมยิ้มจนมันกระตุกสั่น “อร่อยจัง”

“เจ้าครับ อ้าปาก” ธราทนไม่ไหวจนต้องจับศีรษะได้รูปเอาไว้แล้วกดลงต่ำจนอมยิ้มแท่งสวยถูไถกับริมฝีปากบางอย่างแนบชิด จากนั้นจึงออกคำสั่งเพื่อนำความอร่อยเข้าสู่โพรงปากอุ่น คนรับคำสั่งก็ทำตามอย่างว่าง่าย อ้าปากกลืนกินอมยิ้มของเขาอย่างถึงใจ “ซี๊ดดด..ด เจ้า อื้มม..ม”

ไม่ว่าจะกลืนกินสักกี่ครั้ง รสชาติของอมยิ้มก็ยังทำให้ไอ้เจ้ามัวเมาราวกับกำลังลิ้มชิมรสเหล้านอกชั้นดี อมยิ้มรสโคล่าก็ต้องชิดซ้ายเมื่อเจออมยิ้มของผู้ชายที่ชื่อธรา เพราะกินได้ไม่มีวันหมดและกินได้ไม่รู้เบื่อ ยิ่งเมื่อตอนละลายก็ยิ่งหวานติดลิ้น ยิ่งได้ดูดกินก็ยิ่งติดใจ

“สวยครับเจ้า” ธราเสียงกระเส่าเมื่อไอ้เจ้ารูดริมฝีปากขึ้นลง ตอนนี้มันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลิ้มชิมรสอมยิ้มไปเสียแล้ว ทั้งองศาใบหน้าที่จัดวางได้อย่างพอเหมาะ ทั้งริมฝีปากที่ใช้ครอบครองก็พลิ้วอย่างหาตัวจับยาก ภาพที่ธราเห็นจึงสวยจับใจ เขามองด้วยความหลงใหล แววตาหวานเยิ้มมองสบตากับไอ้เจ้าที่จัดการกับอมยิ้มของเขาราวกับคนกระหายอยาก

“ซี๊ดดด..ด อาา..า ใกล้แล้วครับ อืม...”

หวานยิ่งกว่าน้ำตาลก็คืออมยิ้มของธรา นุ่มยิ่งกว่ามาร์ชเมลโล่ก็คือริมฝีปากของธรา ว่าแต่ว่าจะมีส่วนไหนของธราบ้างไหมหนอที่ไอ้เจ้าไม่หลงใหล

คำตอบชัดๆ ที่คงตอบได้ตอนนี้ก็คือ ไม่มี

เพราะเจ้า จักรพรรดิคนนี้รักธราอย่างสุดหัวใจ

“ต้องเทนัดไอ้หมอแพร์แล้วล่ะ” ไอ้เจ้ายิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อตวัดชิมอมยิ้มที่กำลังละลายกลายเป็นน้ำหวาน “เพราะเจ้ายังกินไม่อิ่ม”

“อย่าไปสนนัดไร้สาระนั่นเลย” ธราคลี่ยิ้มตอบ “กินให้อิ่มเถอะ”

“จัดไปครับ”

ไอ้เจ้าชอบกินอมยิ้มและเมื่อได้กินก็จะกินไม่หยุด ส่วนธราก็ตามใจ ไม่อยากขัดไอ้เจ้า ยกให้มันเป็นแฟนทั้งทีก็ต้องให้มันกินอิ่ม นอนหลับ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะนินทาเอาได้ว่าธราเป็นแฟนไม่ได้เรื่อง ด้วยเหตุนั้นนัดสังสรรค์ที่นัดเอาไว้จึงถูกลืมเลือนเมื่อไอ้เจ้าเริ่มกินอมยิ้มครั้งที่สอง





10:30 PM

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

P. : พวกมึงงง ไอ้จอม ไอ้คิน มีใครติดต่อไอ้ดินได้บ้าง

J. : ทำไมวะ?

K. : ไม่ได้อยู่ด้วยกันเรอะ

P. : อยู่กับผีน่ะสิ กูนั่งกับเบียร์หนึ่งโปรพร้อมถังน้ำแข็งมาชั่วโมงกว่าแล้วเนี่ย

P. : กูโทรไปมันปิดเครื่อง

P. : @D. ไอ้สัดเอ้ยยย เทนัดกูใช่มั้ย!! มาตอบ!!

J. : ต้องการพี่มั้ยจ๊ะน้อง

K. : น่าสงสารเขานะครับ นี่แหละเวรกรรมที่เขาทิ้งเพื่อนที่กำลังเดือดร้อนไปเที่ยว

P. : เสือก

J. : ว่าจะไปหาแล้วเชียว ตอนนี้กูโยนกุญแจรถออกนอกโลกแล้วจ้า

P. : @D. ไอ้ดิน ไอ้เหี้ยยยย

J. : ใช่! กูมันไม่สำคัญ ข้ามข้อความกูไป!

P. : ตกลงกูโดนเทใช่มั้ยวะ

K. : สม

J. : น้ำ

D. : หน้า

P. : ไอ้สัดดดด มึงไม่เนียน ไม่ต้องมาทำตลกสามตัวร้อย บอกมาว่าอยู่ไหน

D. : โทษทีไอ้แพร์ เจ้ากำลังกินอมยิ้ม กูไปไม่ได้แล้ว

P. : บอกมันมาแดกร้านเหล้า อยู่ร้านเหล้าก็แดกได้โว้ย

D. : ไม่ได้ว่ะ อมยิ้มอันนี้ต้องแดกบนเตียง

K. : อะฮึ่มมมม รู้เรื่อง!

P. : ไอ้เหี้ยดินมึ้งงงงง

J. : ไอจีสตอรี่คือหวานมาก พี่เจ้ากินไปกี่อันแล้วนังเมียน้อย!

D. : สอง ตอนนี้พัก มันบ่นเมื่อยปาก

K. : อย่าหักโหมเด้อเพื่อนเด้อ พรุ่งนี้ห้องเด็กเด้อ เหนื่อยเด้อ

D. : เพราะพรุ่งนี้ห้องเด็ก ถึงต้องทิ้งความกามไว้ในคืนนี้

K. : ทิ้งความกามไว้ที่เจ้า อะฮึ่มมม

J. : ถือว่ามีเหตุผล เป็นคนมีอุดมการณ์ เมียหลวงอย่างกูให้อภัย ฝากบอกพี่เจ้าด้วยว่ากินอมยิ้มแล้วแวะมากินติ่มซำที่ห้องน้องจอมได้ เตียงนุ่ม สปริงเด้งดี ชุดเครื่องนอนสีสวย นอนแล้วระทวยร้องโอ๊ยๆ ทั้งคืน

D. : ตีนกูนี่

P. : เจอตีนกูก่อนเถอะไอ้ดิน เทกูหน้าด้านๆ ไอ้จอมมึงมา!

J. : กูไม่ไป อย่ามาเห็นความสำคัญของกูในวันที่มึงไม่มีใคร! ไม่รักไม่ต้องมาแคร์ไม่ต้องมาดีกับฉัน!

K. : ไม่รักไม่ต้องมาหวง ไม่ต้องมาห่วงใยฉัน

D. : ต่อไม่ได้ กูร้องเพลงนี้ไม่เป็น

J. : งั้นมึงก็เงียบๆ ไปแดกอมยิ้มต่อไป๊ นังเมียน้อย!

D. : กูเป็นผัว!

P. : เต็มปากเต็มคำ แล้วก็บอกไม่รักๆ

P. : ไอ้จอม มึงไม่มาจริงเหรอวะ

P. : Sent a photo.

P. : เดือนบริหารรอมึงอยู่นะเว้ยยย

J. : ไม่เว้ย กูไม่ไป

P. : ไอ้สัด แล้วไอ้หัวฟูแก้มย้วยที่ยืนเด๋ออยู่หน้าร้านนั่นใครวะ

J. : แฝดของกูเอง กูส่งมันไปเป็นตัวแทน เรียกมันว่าไอ้จ๊อมมม

P. : พ่อมึงเถอะไอ้สัดดดด

D. : ได้เพื่อนแล้ว งั้นไปละ บอกเจ้าก่อน มันจะได้สบายใจว่าไม่ได้ทำให้ใครรอ

K. : สรุปคือถ้าไอ้เจ้าไม่กังวล คืนนี้ทั้งคืนไอ้ดินไม่โผล่หัวมาตอบมึงหรอกไอ้แพร์

P. : น้ำตาจะไหล ดินลูกพ่อรักพ่อขนาดนี้ ถุ้ย!


.
.
.
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 30-10-2018 23:15:33


“นายเจ้าเพื่อนรัก” ไอ้เอ๋ร้องเรียกมาแต่ไกลทั้งที่ยังปั่นจักรยานคันเก่งของมันมาตามทาง ทำเอาไอ้เจ้าที่กำลังนั่งเหลาดินสอไม้ให้กับธราสุดที่รักของมันอยู่ใต้ต้นหูกวางถึงกับชะงักกึก หันมองตามเสียงด้วยความสนเท่ห์ แล้วจากนั้นจึงพบไอ้เอ๋ที่วันนี้ดูแปลกตาไปมาก

ไอ้เอ๋เพื่อนซี้จอดจักรยานคู่ใจพิงต้นหูกวางเมื่อมาถึงที่หมายก่อนจะก้าวย่างไปหาไอ้เจ้าอย่างมาดมั่น มันมาในชุดนักศึกษาที่แปลกตาเพราะไม่ผูกเนคไท ปกติไอ้เอ๋จะแต่งตัวถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ไอ้เอ๋ที่อยู่ตรงหน้าไอ้เจ้าตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนชายหนุ่มที่เพิ่งหลุดมาจากแอพนัด... นั่นแหละ เป็นที่รู้กัน เสื้อนักศึกษาของมันปลดกระดุมถึงสามเม็ดจนเผยให้เห็นอกขาว รอยสักประหลาดโผล่พ้นสาบเสื้อมาให้เห็นวับๆ แวมๆ ยามที่ไอ้เอ๋ขยับตัว กางเกงยีนส์ที่มันใส่คู่กับเสื้อนักศึกษาก็รัดติ้วจนอดอึดอัดแทนเอ๋น้อยไม่ได้

“เอ๋” ไอ้เจ้าเอ่ยเรียกด้วยสีหน้าตกใจ “เกิดอะไรขึ้นกับนาย”

ไอ้เอ๋ทำหน้างงเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นไอ้เจ้ามองสำรวจตัวมันแล้วจึงเข้าใจในทันที “เฮ้เฮ้เฮ้ ทำไมต้องตกใจกับความหล่อเหลาของผมถึงขนาดนั้นกัน”

“ผมห่วงใย” ไอ้เจ้าวางคัตเตอร์ลงพร้อมกับเก็บดินสอที่มันเหลาเสร็จแล้วไว้ในกระเป๋าดินสอ เพราะธราชอบใช้ดินสอมากกว่าปากกาและเขาไม่นิยมใช้ดินสอกด ทุกสัปดาห์จึงต้องเป็นธุระของไอ้เจ้าที่จะจัดการอุปกรณ์การเรียนของเขาให้ แต่เรื่องของธราเอาไว้ก่อน ตอนนี้ที่น่าห่วงยิ่งกว่าธราไม่มีดินสอใช้ก็คือไอ้เอ๋เพื่อนรักเพื่อนตาย “นายดูไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมน่ะก็เตือนหลายครั้งแล้วว่าเรื่องกาวให้เพลาลงบ้าง ต่อให้นายจะขาดจินตนาการแต่นายก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพามัน”

“เดี๋ยวก่อนนาย ต่อให้ผมจะต้องเหี่ยวแห้งจนตายผมก็ไม่คิดพึ่งพาสิ่งเสพติด” ไอ้เอ๋รีบเบรกเมื่อเห็นว่าไอ้เจ้าเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ก่อนจะรีบอธิบาย “นายอาจจะสงสัยว่าทำไมวันนี้ผมจึงหล่อเหลา”

“ถ้านายเรียกว่าหล่อเหลา” ไอ้เจ้าว่าพลางมองสำรวจ “ผมก็จะไม่ขัด มิตรภาพของเรายิ่งใหญ่เสมอ”

“ขอบใจ” ไอ้เอ๋ทำหน้าซึ้ง “ขอบใจที่นายยังไม่ลืมว่าไม่ใช่เพราะเวรกรรมหรือพรหมลิขิตที่นำพาให้มิตรภาพของเราบังเกิด แต่เป็นเพราะเบ้าหน้าของเราดึงดูดเราเข้าหากัน”

“คนจะคูลช่วยไม่ได้จริงๆ ความหล่อของเรามันเด้งโดด”

“โอ้...เพื่อนรักเพื่อนตาย”

“แต่เดี๋ยวก่อน นายโปรดบอกผม ว่าทำไมวันนี้นายจึงสวมคาแรคเตอร์ของธรา”

ไอ้เอ๋ยิ้มกริ่มทันทีเมื่อได้ยินคำถาม “เพราะวันนี้แม่จ๋าบอกผมว่าดวงความรักของผมพุ่งแรงมากกว่าทุกวัน นายเห็นนี่ไหม” ชี้มือไปยังของที่สะพายไว้ด้านหลัง

“อะไรหรือนาย”

“อูกูเลเล”

“หืม”

“อูกูเลเลไงนายเจ้า กีต้าร์ตัวเร้กๆ”

“อ้อ...นายออกเสียงได้แบบสยามพารากอนดี ผมก็เลยงงนิดหน่อย”

“งั้นนายโปรดรู้ไว้ว่านี่คือเครื่องดนตรีพิชิตใจแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วขึ้นสูงจนแทบทะลุหน้าผากด้วยความแปลกใจอย่างล้นพ้น “ก่อนที่จะถามคำถามอื่นนั้น ผมขอถามนายก่อนว่า นายเล่นมันเป็นใช่ไหม”

“ใช่” ไอ้เอ๋บอกเสียงหนักแน่น “ผมเล่นเป็น แต่ไม่ค่อยเป็นทำนอง เพราะแบบนั้นผมจึงปั่นจักรยานคันหรูของผมวนหานายตั้งแต่คณะทันตะฯ มาจนถึงที่นี่”

“เฮ้ ไม่เอาน่านายเอ๋” ไอ้เจ้าส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “นายคงจะไม่ให้ผมไปช่วยนายบรรเลงจีบอดีตศัตรูหัวใจ”

“มันเป็นอย่างนั้นแล”

“นายควรตัดใจจากหล่อนเพื่อนรัก”

“ความรักที่มีต่อหล่อนกัดกินหัวใจของผมเสียแล้วนายเจ้า ผมไม่อาจหักห้ามความรู้สึกของตัวเองได้ ให้อภัยกับหัวใจที่ไม่รักดีของเพื่อนคนนี้และได้โปรดช่วยเพื่อนรักคนนี้ที”

“ผมพูดจริงๆ ว่าไอ้หมอแพร์จะเป็นผัวที่ดีของนายได้”

“ตั้งแต่คบหาเป็นกัลยามิตรกันมาไม่เคยมีคำพูดไหนที่ทำให้ผมอยากเตะปากนายเท่าคำพูดนี้นายเจ้า!”

“งั้นก็ไปเล่นไอ้อูกูเลเลของนายเองไอ้สัด! อย่ามารบกวนผม ผมมีหน้าที่ที่ต้องทำ”

“มีอะไรที่ผมพอช่วยนายได้บ้าง” ไอ้เอ๋รีบเสนอตัว “บอกผมมาเร็วไว หน้าที่ของนายจะเสร็จสิ้นแค่นายบอกเพื่อนคนนี้มา”

“นายช่วยผมเพื่อหวังผลประโยชน์”

“เราก็คบหากันด้วยเรื่องแบบนั้นมาตลอดมิใช่หรือนาย”

“มิตรภาพที่ไม่เสื่อมคลายอย่างแท้จริง” ไอ้เจ้าพยักหน้าหงึก “งั้นตกลง ผมจะช่วยนายพิชิตใจดาวเภสัชฯ เอง”

“ไม่เคยผิดหวังกับมิตรภาพของพวกเราเลยเพื่อนรัก”

“เพื่อนไม่ทิ้งกันอยู่แล้วนาย”

ไอ้เอ๋ซึ้งใจอย่างสุดจะหาคำมาเอื้อนเอ่ย แต่ก่อนที่จะชักชวนกันไปขึ้นจักรยาน ไอ้เจ้าก็ถามขึ้นเสียก่อน “ว่าแต่รอยสักที่อกนั่น”

“อ้อ…” ไอ้เอ๋ว่าพลางแหวกสาบเสื้อตัวเองจนเผยให้เห็นสิ่งที่ไอ้เจ้าคิดว่าเป็นรอยสัก แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่ตัวหนังสือที่ถูกปากกาขีดเขียน “ผมปิ้งไอเดียการขอเป็นแฟนแม่ยอดยาหยีด้วยวิธีที่ไม่ต้องพูด แน่ใจว่าถ้าหล่อนได้อ่านคำว่ารักตัวโตๆ จากอกกว้างสามศอกของผม หล่อนคงต้องระทวยยิ่งกว่าที่ธราเคยทำได้เป็นแน่”

“บอกตามตรงว่าอกนายกับอกของธราต่างกันราวฟ้ากับเหว นายคงไม่ลืมว่าธราคือเจ้าของไหล่กว้างหกสิบกว่าเซ็นในขณะที่นายเป็นไอ้แห้งผอมกะหร่องที่อกไม่ถึงสามศอก”

“อย่าขัดจินตนาการเพื่อนของนาย! ถ้านายขาดจินตนาการนักผมจะแบ่งกาวที่บ้านให้นายดมก็ได้!”

ไอ้เอ๋ฉุนเฉียวจนไอ้เจ้าต้องรีบกลับลำ

“มองๆ ไปแล้วอกของนายก็กว้างไม่หยอก แม่ยอดยาหยีคนนั้นจะต้องกรี๊ดจนสลบเป็นแน่ตอนที่นายกระชากเสื้อ” ไอ้เจ้าให้กำลังใจ “แต่นายแน่ใจไหมว่าตอนที่ผมเล่นอูกูเลเล ส่วนนายก็ร้องเพลงพร้อมกระชากเสื้อ พี่รปภ. ที่ตึกคณะเภสัชฯ จะไม่เข้ามารวบตัว”

“อย่าได้ห่วงไป” ไอ้เอ๋ทำหน้าอมภูมิ “ผมได้ซื้อใจพี่ดี๋ด้วยเอ็มร้อยสองขวดแล้ว”

“งั้นไปกันเถอะเพื่อนรัก ทางลงจากคานของนายโรยไปด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน”

เสร็จจากการพูดคุย สองเพื่อนซี้ไอ้เจ้าไอ้เอ๋ก็ขึ้นควบจักรยาน ไอ้เจ้าสะพายเป้ของมันที่บรรจุอุปกรณ์การเรียนและของว่างของธรา ตั้งใจจะเอาไปให้ธราก่อนมันจะเข้าเรียนตอนบ่ายสาม ด้วยเหตุนั้นจึงต้องเร่งภารกิจรักของไอ้เอ๋ให้เสร็จทันเวลา

“นายเล่นเพลงอะไรเป็นบ้างนายเจ้า” ไอ้เอ๋ถามแทรกผ่านลมที่ตีเข้ามาระหว่างที่จักรยานกำลังเคลื่อนที่ไปตามถนนมุ่งสู่คณะเภสัชฯ

“เพลงสตริงเก่าๆ สมัยผมเรียนมัธยมก็พอเล่นได้” ไอ้เจ้าตอบ “แต่ผมบอกตามตรงว่าผมเล่นเป็นแค่กีต้าร์โปร่ง เมื่อก่อนน่ะชายผู้ใดมีกีต้าร์หลังเต่า ชายผู้นั้นคือหนุ่มฮอตเลยทีเดียว เล่นกีต้าร์จีบสาวคนใดไม่มีหลุดรอดเลยสักราย”

“อ้าว” ไอ้เอ๋ร้องขึ้นอย่างกังวล “แล้วอย่างนี้อูกูเลเลจะเป็นปัญหากับนายมั้ย”

“มีแน่ แค่จำนวนสายก็ต่างกันแล้ว”

“อ้าว อ้าว อ้าว แล้วผมทำยังไงล่ะนิ”

“ไม่ต้องห่วงนายเอ๋” ไอ้เจ้าเอ่ยปลอบ “นายร้องสดไป ถ้าหล่อนไม่รับรักก็ค่อยใช้อูกูเลเลทุบหัวหล่อนแล้วลากเข้าพงหญ้าข้างทางซะ”

“ใจนายเหี้ยมมากนายเจ้า”

“หากทำเพื่อความรักแล้ว ไม่มีคำว่าท้อถอย”

“เราจะสู้”

“ใช่ นายต้องสู้”

“เย้เย้”

“เป็นคำร้องที่ปลุกใจได้ดี” ไอ้เจ้ากล่าวชม แต่ในขณะที่จักรยานของไอ้เอ๋กำลังเคลื่อนผ่านตึกทันตกรรม ไอ้เจ้าก็สังเกตเห็นแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ที่ไอ้เอ๋กำลังจะไปร้องขอความรักเข้าเต็มตา คิ้วเข้มของไอ้เจ้าขมวดมุ่นด้วยเจ้าหล่อนอยู่ผิดที่ผิดทาง เพราะที่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของธราคือที่ของไอ้เจ้า ไม่ใช่ที่ของหล่อน “นายเอ๋ หล่อนอยู่นั่น!”

ไอ้เอ๋เบรกกะทันหัน จักรยานคู่ใจจอดกึกพลางสายตาของสองเพื่อนซี้ก็มองไปยังฉากบาดตาบาดใจ ดาวเภสัชฯ กำลังกอดธราไว้แน่น หล่อนซบหน้ากับอกกว้างของเขา อกกว้างที่ไอ้เจ้าเป็นเจ้าของ

“นายเจ้า” ไอ้เอ๋กระซิบเรียก “ผมสละอูกูเลเลให้นายได้ ตอนนี้คงไม่ต้องใช้ทุบหัวหล่อนแล้วลากเข้าพงหญ้า”

“แต่ผมคงต้องใช้ทุบหัวธราเองใช่ไหม”

“เขาดูไม่เต็มใจ”

“เขาไม่ได้ผลักหล่อนออกห่าง”

“หล่อนอาจเป็นฝ่ายดันทุรังเอง”

“นายรู้ ผมรู้และธรารู้ว่าผมไม่ชอบที่เขาให้คนอื่นซบอกกว้างๆ ของเขา”

“ไปสั่งสอนเขาซะเพื่อนรัก เอาให้หลาบจำ”

“แล้วนายจะได้โอกาสปลอบแม่ยอดยาหยี”

ไอ้เอ๋ส่ายหน้า “เจ็บแล้วจำคือผมเองนายเจ้า และนายอาจพูดถูก ผมควรมีผัวดีๆ สักคน ผมจะมีผัวก่อนที่หล่อนจะมี หล่อนจะได้รู้ว่าไม่ใช่แค่หล่อนที่สามารถเล่นกับหัวใจของผู้ชายได้!”

“ไอ้หมอแพร์รอนายอยู่”

“ผมจะตอบไลน์เขาเดี๋ยวนี้!”

“จัดการซะเพื่อนรัก ส่วนผม” ไอ้เจ้าทำหน้าเหี้ยม “จะไปจัดการกับคนไม่รักดี!”

“เฆี่ยนตีให้ได้รู้สำนึก!”

ไอ้เจ้าลงจากจักรยาน มันรับเครื่องดนตรีพิชิตใจของไอ้เอ๋เพื่อนยากมาไว้ในมือ ก่อนจะก้าวสามขุมไปยังธราและดาวเภสัชฯ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงหล่อนร่ำไห้ ยิ่งชิดเข้าไปเท่าไรก็ได้ยินถ้อยคำตัดพ้อของหล่อน

“บีพยายามแล้ว ฮึก...พยายามจะลืมพี่แล้ว แต่บีทำไม่ได้”

ไอ้เจ้าชะงักเท้าที่จะก้าวเข้าไป อยู่ๆ ก็รู้สึกไม่สมควรขึ้นมา อยู่ๆ ก็คิดว่าเข้าใจความรู้สึกของดาวเภสัชฯ มันจึงได้แต่ยืนคอยท่า จากที่คิดจะเข้าไปฟาดอูกูเลเลใส่ธรา มันก็ทำเพียงยืนมองอยู่ห่างๆ

เรื่องของความรักต้องมีคนที่เจ็บปวดเสมอ หากในวันนั้นธราไม่ได้เลือกไอ้เจ้า วันนี้คนที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าธราก็คงไม่ใช่ดาวเภสัชฯ ยอมรับว่าทั้งหึงทั้งหวงแต่ก็ทนรอให้ธราเคลียร์ปัญหาของเขาด้วยตัวเอง ไอ้เจ้าอยากให้เกียรติและยอมรับการตัดสินใจของธรา เพราะไม่อยากเป็นไอ้เจ้าคนเดิม...คนเดิมที่ทำทุกอย่างพังแค่เพราะความรู้สึกเห็นแก่ตัว

แม้การรอคอยจะทรมานแต่ไอ้เจ้าก็เชื่อว่าคงดีกว่าเข้าไปขัดขวางคนทั้งคู่ มันยืนรอจนดาวเภสัชฯ ผละตัวออกไปขึ้นรถยนต์ของหล่อนทั้งน้ำตา รอจนท้ายรถของหล่อนลับตาไปแล้วจึงเดินไปหาธรา

“เก็บเคสเสร็จแล้วเหรอดิน” ไอ้เจ้าถามเสียงเรียบ แววตาของมันไม่แสดงอารมณ์

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ธราถาม

“นานพอจะเห็นคุณโดนกอด” ไอ้เจ้าตอบพลางยกยิ้มเล็กน้อย “หล่อนเสียใจน่าดู”

“อืม” ธรารับคำเบาๆ “รู้สึกแย่ดี พออีกฝ่ายจริงจังขึ้นมาก็ต้องเจ็บปวดกันแบบนี้”

“ความสัมพันธ์แค่ชั่วครั้งชั่วคราวก็จบลงแบบนี้ทั้งนั้น” ไอ้เจ้าเอ่ยปลอบ “แต่อย่าห่วงเลย เจ็บแค่นั้นไม่ทำให้ใครตาย”

“ขอโทษนะเจ้า” ธราเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มหน้าลงให้หน้าผากแนบกับไหล่ของไอ้เจ้า “ถ้าทำให้ไม่สบายใจ”

“ไม่เป็นไร เจ้าเข้าใจ แค่คุณเลิกเป็นหมอชอบฟัน เจ้าก็ดีใจมากๆ”

“ไม่เป็นแล้วไง มีเจ้าแล้ว ฟันเจ้าคนเดียวพอ”

“แน๊ กามใส่เจ้าตลอดเลย”

ธรายิ้ม จากที่รู้สึกแย่กับเรื่องเมื่อครู่กลับยิ้มกว้างได้เต็มหน้า แค่เพราะไอ้เจ้ายิ้มให้เขาและแค่เพราะไอ้เจ้าอยู่ตรงหน้า

“เจ้า”

“หืม”

“ที่ผ่านมากูคงแย่มากใช่ไหม” ธราถาม ซ่อนแววตาวูบไหวไม่ให้ไอ้เจ้าเห็น “แต่คนแย่ๆ แบบกู จะมีแฟนดีๆ ได้มั้ย คนแย่ๆ จะมีความรักดีๆ ได้ใช่หรือเปล่า”

“มีได้สิครับ” ไอ้เจ้ายกมือขึ้นลูบแผ่นหลังกว้างของธรา “ถ้ามีกับเจ้า ต้องยิ่งกว่าคำว่าดีแน่”

“กูทำคนอื่นเสียใจมามาก กลัวเหมือนกันว่าจะโดนทำให้เสียใจบ้าง”

“เจ้าไม่ทำ” ไอ้เจ้าบอกเสียงหนักแน่น “เพราะเจ้ารักมาก เจ้าไม่ทำหรอกครับ”

“แล้วนี่มายังไง” ธราผละออกจากไอ้เจ้าแล้วมองสำรวจดวงหน้าคมคายของมันที่แต้มรอยยิ้ม “ไม่ใช่ว่าวิ่งมาอีก”

“เปล่า” ส่ายหน้าปฏิเสธ “เจ้าซ้อนท้ายไอ้เอ๋มา”

“เอ๋ไหน”

“เอ๋นู้นไง” ไอ้เจ้าชี้ไปยังไอ้เพื่อนตัวเล็กที่เขย่งปลายเท้าค้ำยันจักรยานพลางทำหน้ายุ่งกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง “มันตั้งใจจะไปบอกรักดาวเภสัชฯ แต่เจอฉากรักของคุณกับหล่อนเข้าเสียก่อน ตอนนี้ก็เลยคิดหาผัวมากกว่าหาเมีย”

ธราทำหน้างงงวย ก่อนจะร้อง “อ๋อ...จำได้แล้ว ไอ้เด็กที่ล้มหน้าคว่ำกลางลานคณะเภสัชฯ แล้วพูดว่าอยากเสียซิงสักครั้งในชีวิตนี่เอง เด็กข้างห้องไอ้แพร์มันนี่ใช่ไหม”

“เหมือนว่าจะใช่ ไอ้หมอแพร์ก็สนใจไอ้เอ๋อยู่เหมือนกัน”

“รสนิยมประหลาดดี”

“นั่นสินะ ไม่เหมือนเราเนอะ รสนิยมดีกันทั้งคู่ ถึงได้คบกันได้ อิ๊”

“ยกหางตัวเองก็เป็น” ธราส่ายหน้าระอา “แล้วไหนของว่าง เอามาด้วยมั้ย”

“เอามาจ้า” ไอ้เจ้ารีบเปิดกระเป๋าสะพายแล้วหยิบเอาของที่เตรียมมาให้สุดที่รักของมันออกมา “ดินสอไม้ เจ้าเหลาให้แล้ว แหลมเปี๊ยบเลย แล้วนี่โรลกาแฟกับพายไก่ มีแซนวิชด้วยนะ เผื่อเพื่อนๆ ของคุณหิว”

ธรายิ้มกว้างอย่างกลั้นไม่อยู่ “มีเมียดี ส่งข้าวส่งน้ำให้อย่างนี้ เกลียดตายเลย”

“รัก” ไอ้เจ้าพูด “ไหนพูดตามเจ้าสิ รัก รอ ไม้หันอากาศ กอไก่ รักกกก”

“เปิดคอร์สสอนคำว่ารักเหรอ”

“ก็คุณพูดเองไม่ได้ เจ้าก็ต้องสอน”

ธรายกมือขึ้นเกาแก้มที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อลามไปยันใบหู “ไม่ใช่พูดไม่ได้” มือหนายกขึ้นปิดหูทั้งสองข้างของไอ้เจ้า “แต่กลัวพูดไปแล้วจะควบคุมตัวเองไม่ไหว กลัวพูดว่ารักเจ้าออกไปแล้วหัวใจจะวายเอา”

“ขี้โกง” ไอ้เจ้าย่นจมูกใส่ “ปิดหูกันไว้อย่างนี้เจ้าจะได้ยินยังไงเนี่ย”

ธราดึงมือออกแล้วมองหน้าไอ้เจ้า “งั้นฟังเสียงหัวใจก็พอ”

ไอ้เจ้าถูกดึงเข้าไปใกล้ แนบหูกับอกข้างซ้ายของธรา อกข้างซ้ายที่มีหัวใจอยู่ในนั้น หัวใจของธรากำลังเต้นแรง เต้นในจังหวะที่ทำให้ไอ้เจ้าต้องยิ้มกว้างเต็มหน้า

เพราะมันคงเต้นในจังหวะ รัก รัก รัก จนแทบทะลุออกจากอก

“เข้าใจแล้ว”

“เข้าใจว่าไง”

“เข้าใจว่าอยากเอาเจ้า อิ๊”

“มึงกามใส่กูเองนะ” ธรายิ้มเจ้าเล่ห์ “ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ”

ไอ้เจ้าหัวเราะร่า อย่างมันน่ะไม่ต้องระวังแล้วเพราะเตรียมตัวเตรียมใจรอธราอยู่ทุกวี่ทุกวัน แน่ใจว่าก่อนไอ้เอ๋จะมีผัว ไอ้เจ้าต้องมีก่อนมันให้ได้! แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าไอ้เอ๋เสียซิงไปตอนที่ถูกนัวที่ร้านเหล้าหรือยังก็เถอะ!





.........TBC.........


มาดึกเลยยย วันนี้เดินทางทั้งวันนนนนน ฝากพี่เจ้าด้วยนะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 30-10-2018 23:44:01
น่ารักมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-10-2018 23:58:16
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 31-10-2018 00:00:53
หวานมดขึ้นเลยแบบนี้ >< ดีใจเห็นเค้ากุ๊กกิ๊กกัน  :katai2-1:

คิดถึงงานคุณ snufflehp มากๆเลยค่ะ ตอนนี้เรามารีเฟรชรอพี่เจ้าอัพทุกวันเลย ทำให้คิดถึงตอนรอน้องเสมอกับพี่ชนะเลยค่ะ ><
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 31-10-2018 00:10:41
เหม็นความรักกกกกกกกกก  :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 31-10-2018 00:29:37
เอ๋ๆ จะมีผัวแทนมีเมียแล้วสินะ55555555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 31-10-2018 00:33:07
พี่ธราคนกาม ให้น้องกินอมยิ้มตลอดๆๆๆ แล้วพี่จะได้กินของน้องด้วยมั๊ยพี่ธรา
ชอบกร๊ปไลน์หมอฟันมาก
ดูเพื่อนเจ้าเพื่อนเอ๋คุยกันแล้วมึน

ขอบคุณนะคะที่มาลงให้ เฝ้ารอด้วยใจจดจ่อ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 31-10-2018 00:38:00
มิตรภาพของเจ้ากับเอ๋ช่างน่ารัก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: CHOO ที่ 31-10-2018 01:17:50
ณธราพร้อมจะพูดคำว่ารักตอนไหนคะแหมมมมม อยากเห็นคนหัวใจวายจัง
ว่าแต่.........เอาจริงดิ น้องเอ๋ จะมีผัวเนี่ย555555555555

แอบเห็นปมอดีตเล็กๆ ทะเลาะกันเหรอเจ้า ตอนนั้นน่ะ รู้สึกผิดมากเลยใช่มั้ย ;__;
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 31-10-2018 01:58:04
นี่ก็รอวันพี่เจ้าเสียซิงอีกรอบอยู่ 
เพื่อนเอ๋ตัดสินใจได้เฉียบมาก  ขอให้เพื่อนเอ๋ได้ผัวสมใจ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Faii0518 ที่ 31-10-2018 03:02:02
ไม่แน่ว่าเพื่อนเอ๋อาจจะเสียซิงแซงหน้าพี่เจ้าไปแล้วจริงๆก็ได้ อิ๊
พี่เจ้าอย่ายอมแพ้เรื่องนี้เด็ดขาด สู้ๆนะคะ
ภาษาของเพื่อนสองคนนี้เวลาคุยกันคือแบบไม่น่ามีคนเข้าใจอะ 555
ส่วนแก๊งค์หมอนี่ก็แซวกันเก่งงงว อรุ่มมมมมมม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-10-2018 03:18:10
อ่านแล้ววววววววววว อยากกินอมยิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม  :hao6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: MimoreQ ที่ 31-10-2018 03:22:24
เมื่อไหร่จะได้กันนนนนน 555555555 ชอบเพื่อนหมอดินนน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 31-10-2018 03:32:02
เอ๋ลูก อกหักรักคุด ไปฉุดผู้ชายแทนเลยเหรอ  :laugh:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-10-2018 04:41:37
เจ้ากับเอ๋ นี่คู่หูคู่ฮาจริงๆ ควรไปเปิดคณะตลก 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 31-10-2018 06:51:48
เรานับถืออุดมการณ์​นายมากเอ๋ ใช่เลย! ต้องหาผัวให้ได้ก่อนดาวเภสัช 555 เราเอามจช่วยนายนะเอ๋ อิ๊
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 31-10-2018 07:55:28
ชอบเวลาเอ๋กับเจ้าคุยกันตลก  :pandalaugh: :pandalaugh:

เอ๋คิดถูกแล้วที่จะมีผัว  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 31-10-2018 09:08:43
อยากจะแหมไปถึงคณะทันตะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 31-10-2018 10:51:07
เอ๋กับหมอแพร์นี่ยังไงๆ 555555555555555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 31-10-2018 12:42:20
เอ๋มีผัวดีกว่าลูกพี่หมอแพร์รออยู่ อิ๊
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Elf_Carat ที่ 31-10-2018 12:43:34
ชอบเวลาเจ้ากับเอ๋คุยกัน ศีลเสมอกันจริงๆ (นึกถึงพี่บอมม์กับพี่มหาตวงเลย)
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 31-10-2018 13:57:44
ขอให้ได้ ขอให้โดนนะเพื่อนเอ๋
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 31-10-2018 14:03:52
ธราคนกามมม
น้องเอ๋ของแม่ขอให้ได้ขอให้โดนนะลูก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 31-10-2018 15:09:48
หู้ยยย...อ่านรวดเดวยาวๆ...  :hao5: :hao5:
รีบนะคะ..  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 31-10-2018 17:51:39
จะรอดูว่าใครจะได้ผัวก่อนกันนน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 31-10-2018 17:54:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-10-2018 19:46:04
ชอบเวลาเจ้ากับเอ๋คุยกัน ศีลเสมอกันจริงๆ (นึกถึงพี่บอมม์กับพี่มหาตวงเลย)

ใช่เรื่องเกณฑ์ทหาร (จำชื่อเต็มๆไม่ได้) ที่มีบอม บูม มหา หนู ใช่มั้ย  ชอบมากๆเลย  :mew1: :mew1: :mew1:
ต้องกลับไปอ่านใหม่  :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 31-10-2018 19:48:50
เราจะตั้งตัวเป็นแฟนคลับจอมแล้วนะ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 31-10-2018 20:45:02
เอ๋เปลี่ยนมาหาสามีแล้ว ขอให้สมหวังนะเอ๋
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 31-10-2018 21:02:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 31-10-2018 21:38:40
โอ้ยยยยยยชอบมากกกกกชอบเจ้าเอ๋มากกอยากรู้ว่าไรท์ตอนพิมพ์บทเจ้าเอ๋นี่ยิ้มจนเป็นบ้าเหมือนเราไหมขอบคุณมากๆนะค้าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 31-10-2018 21:40:28
หวานงี้ฆ่าคนโสดเถอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 31-10-2018 23:01:26
ชอบมากกกก   สนุกมากกกก อ่านไปฮาไป มีสุขปนเศร้าเคล้าบ้า โอ้ยยย ติดตามอยู่เด้อ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 8 หมอ (ชอบ) ฟัน ​P.8 30/10/2018
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 01-11-2018 19:05:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-11-2018 17:16:11
Friday, 03:40 PM

OMG: Sent a photo.

OMG: อยู่ตาบั๊คกับเอ๋ คุณเอาไรมั้ย

D. : n

OMG: ใกล้เลิกยัง

D. : n

OMG: เจอคนสวยมั้ยวันนี้

D. : y

OMG: อยากตายเหรอ

D. : s

OMG: ขอโทษทำไม ไปจูบใครมาอีกวะ แค่ลบลิปสติกนี่ต้องทุ่มทุนขนาดนั้น?

D. : แป๊บ เดี๋ยวมาอธิบาย





ไอ้เจ้าขมวดคิ้วมุ่น แก้วในมือแทบแหลกเมื่อถูกมือผอมๆ ของมันบีบแน่น ไอ้เอ๋ลอบมอง เห็นท่าไม่ดีจึงแย่งแก้วออกจากมือเพื่อน

“นายทำหน้าเหมือนฆาตกร” ไอ้เอ๋บอกเสียงหวั่น “บอกผมทีว่าใครคือเหยื่อของนาย”

“ธรา” ไอ้เจ้าตอบเสียงเครียด “ผมจะฆ่าเขาด้วยริมฝีปากของผม เอาให้ร้องไม่เป็นภาษา!”

“ผมต้องตะโกนบอกธราให้หนีไปถูกมั้ย” ไอ้เอ๋ทำหน้าสยองกับความร้ายกาจของไอ้เจ้า

“อย่า! ธราต้องตายด้วยน้ำมือผมเท่านั้น ผมจะลงโทษเพราะเขามันคนเจ้าชู้บีดับบีดู”

“เอาให้สาแก่ใจไปเลยเพื่อน ผมเชียร์นายอยู่” ไอ้เอ๋ทำหน้าประหนึ่งถูกรับเลือกเป็นเชียร์หลีดเดอร์ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “จะว่าไปผมเคยฟังเพลงนี้ คนร้องน่ารักดี ความน่ารักของหล่อนเฆี่ยนตีหัวใจผม เด้งโดดจนสั่นไหว แต่ดาวเภสัชฯ ก็ยังได้ใจผมมากกว่า”

ไอ้เจ้ายกมือขึ้นบีบไหล่ไอ้เอ๋หวังเตือนสติ “สงครามมันจบแล้วนายเอ๋ นายควรถอยทัพกลับชาวเรา อย่าเอาหัวใจอันบริสุทธิ์ของนายไปให้หล่อนย่ำยี”

“ไม่!” ไอ้เอ๋ร้องบอก “ผมบอกนายแล้วว่าจะลงจากคานให้ได้ อยู่มาจนสิบเก้าปีผมจะต้องมีแฟนสักที”

“จัดแป้งจี่ไป”

“ผมไม่ไหวกับหล่อน ผมกลัว”

ไอ้เจ้าถอนหายใจเฮือก ไอ้เอ๋คงสยองไม่หาย แต่ถ้ามันสนใจแป้งจี่ป่านนี้ก็คงลงจากคานไปแล้ว เพราะดาวเภสัชฯ ไม่มีทีท่าใจอ่อนให้มันเลย ขนาดว่ามันลงทุนเสี่ยงตีนพวกบ๊อทขโมยผักไปประเคนให้แม่เจ้าประคุณ หล่อนก็ยังไม่เปิดโอกาส

“ตอนนี้หล่อนไม่มีธราแล้ว ผมก็น่าจะพอมีหวัง”

“บอกตามตรงว่าพอไม่มีธราแล้วก็ยิ่งชัด หล่อนไม่สนใจนายตั้งแต่แรก”

“อย่าตัดกำลังใจเพื่อน”

“กูหวังดีเถอะ” ไอ้เจ้าว่าพลางดูด Red Velvet Frappuccino เมนูโปรดของมันเข้าไปอึกใหญ่ “แทนที่จะสนใจดาวเภสัชฯ นายตอบแชทไอ้หมอแพร์ง่ายกว่า”

“หมอนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับแป้งจี่ แค่ว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น”

“เอ๊ะ...นาย”

“อย่ามองผมแบบนั้นนายเจ้า ผมไม่มีอะไรจะบอกนาย หยุดส่งสายตารบกวนผม ผมจะท่องสูตรแล้ว”

ไอ้เจ้ายักไหล่ ไม่บอกก็ไม่เซ้าซี้ถามต่อ แต่แค่เห็นพิรุธของไอ้เอ๋ก็จับได้หมดแล้ว ยิ่งไอ้หมอแพร์แสดงความสนอกสนใจขนาดนั้น ยิ่งต้องคิดว่ามีอะไรในกอไผ่ เว้นแต่ว่าไอ้เอ๋จะไม่รู้เพราะมัวแต่เอาตาไปมองนมของแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ของมัน





D. : มา พร้อมตอบ





ไอ้เจ้าวางแก้วเครื่องดื่มของตัวเองทันที เกือบลืมไปแล้วว่าคุยกับธราค้างไว้





OMG: อะไร

D. : What?

OMG: ไม่เล่นครับ

D. : โทษๆ เดี๋ยวไปหา

OMG: เลิกแล้วเหรอครับ

D. : อืม เมื่อกี้ไปคุยกับอาจารย์มา

OMG: เค

D. : ไอ้แพร์ไปด้วยนะ มันบอกอยากกินกาแฟเพราะคืนนี้คงแก้แล็ปยาว

OMG: จ้า มาเถอะ รู้หรอกว่าอยากเจอไอ้เอ๋ ไม่ใช่อยากกินกาแฟ

D. : ไอ้แพร์บอกว่ามึงแสนรู้

OMG: ที่รักชูนิ้วกลางให้มันหน่อย

D. : เรียบร้อย เออ เจ้า

OMG: ครับ?

D. : ไม่คิดถึง

OMG: รู้ว่าคิดถึง

D. : ถ้าเข้าใจก็ดี

OMG: ขับรถดีๆ นะ เจ้าห่วง

D. : ครับ ออกละ เดี๋ยวเจอกัน





“นายกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รบกวนสมาธิผม” ไอ้เอ๋กำลังใช้ปากกาไฮไลท์สูตรบนชีท เหลือบมองไอ้เจ้าก็เห็นมันกำลังยิ้มกับโทรศัพท์มือถือ น่าหมั่นไส้ยิ่งนัก “เลิกวางแผนฆ่าธราแล้วรึ”

“แผนฆ่าอะไรกัน นายไปเอาความคิดโหดเหี้ยมนี่มาจากไหน ผมน่ะเหรอจะฆ่ายอดดวงใจได้ลง” ไอ้เจ้าแสร้งทำหน้าตกใจกับความคิดเหิมเกริมดังกล่าว

“ผมคงต้องปลงกับสภาพอารมณ์แปรปรวนของนายแล้วก้มหน้าท่องสูตรต่อไปสินะ” ไอ้เอ๋ปลงตกกับความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของไอ้เจ้า

“เป็นทางเลือกที่ดีของนายแล้ว เกรด A อยู่ไม่ไกล มุ่งไปให้สุด”

“แล้วนายไม่ท่องเหรอ เรามาพิชิต A ด้วยกันเพื่อน ทั้งผมทั้งนาย ร่วมมือกันสร้างความยิ่งใหญ่”

“ผมพิชิตธราสำเร็จก็ไม่มีห่วงอะไรแล้ว เชิญเอ๋พิชิต A เพียงลำพัง”

“ครอบครัวนายจะต้องร้องไห้”

“พวกเขาเข้าใจผมอย่างสุดซึ้ง ไม่ต้องห่วง”

ไอ้เอ๋หมดหนทางจะโน้มน้าว เพราะไอ้เจ้ามันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ไม่เคยเห็นมันอ่านหนังสือ มันสนใจแต่เรื่องของธรา ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนกระทั่งเข้านอน ในหัวของมันวนเวียนอยู่แค่ว่าวันนี้ธราจะไปไหน ธราจะกินอะไร ธราอยู่กับใคร และธราๆ ๆ บลาๆ ๆ ไม่จบไม่สิ้นจนไอ้เอ๋เคยคิดจะลากไอ้เพื่อนตัวดีไปหาจิตแพทย์สักครั้ง ทว่าคนไม่อ่านหนังสืออย่างไอ้เจ้ากลับสอบได้คะแนนดีไม่เคยตกมีน มันไม่ได้เก่งถึงขั้นได้คะแนนท็อป แต่คะแนนก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ มาเรียนเหมือนมาเล่น ได้เท่านี้ก็ดีแค่ไหน

“เออเอ๋ ผมลืมบอก เดี๋ยวธราจะมาหาผมที่นี่”

“ก็ดีแล้ว นายจะได้เลิกฟุ้งซ่านน้อยใจธรา ส่วนผมจะเตรียมคำพูดต้อนรับ นี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกับแฟนนายอย่างเป็นทางการ”

ตั้งแต่ที่ไอ้เจ้าตกลงปลงใจคบหากับธรา ไอ้เอ๋ก็ยังไม่เคยมีโอกาสพูดคุยกับแฟนเพื่อนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ฝ่ายนั้นไม่เคยมาหาไอ้เจ้าที่คณะ กินข้าวกลางวันด้วยกันสักมื้อก็ไม่มี ทราบมาว่าไม่ค่อยว่าง เห็นแต่ไอ้เจ้าวิ่งพล่านส่งข้าวส่งน้ำ ลำบากจักรยานของไอ้เอ๋อยู่เป็นประจำ ไอ้เอ๋เคยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมทีกับดาวเภสัชฯ หรือพวกผู้หญิงที่เคยควงคนก่อนๆ นั้นธราถึงมีเวลาไปรับไปส่งพวกหล่อนได้ ทีกับไอ้เจ้าเพื่อนของไอ้เอ๋กลับไม่เป็นอย่างนั้น ไอ้เจ้ามันก็น้อยใจบ้าง บ่นกับไอ้เอ๋อยู่บ่อยๆ หรือบางทีที่ธราไม่ว่างหรืออยากอยู่คนเดียว ไอ้เจ้าก็จะระเห็จมานอนหน้าหงอยที่หอไอ้เอ๋ พอเห็นไอ้เจ้ามีแฟนแล้วเป็นแบบนี้ไอ้เอ๋ก็นึกกลัวขึ้นมา ไม่รู้ว่าการคิดลงจากคานมันเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ แต่ก็เห็นนะว่าบางครั้งไอ้เจ้ามันก็มีความสุข ยิ้มบ้าบอได้ทั้งวัน แล้วครั้งนี้ก็คงเรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ธราจะมาหาไอ้เจ้า ไอ้เอ๋ก็พลอยดีใจกับเพื่อนไปด้วย เห็นไอ้เจ้ายิ้มกว้างแบบนี้แล้วก็นะ...มีแฟนก็อาจจะดีเหมือนกันล่ะมั้ง

“ขอบใจนายมาก นายมันเพื่อนตาย แขกบ้านแขกเมืองมา ต้องต้อนรับขับสู้ แต่ธรามาพร้อมกับไอ้หมอแพร์นะ”

“ห้ะ…” ไอ้เอ๋ร้องได้แค่นั้นก็เบิกตาโตถลนออกจากเบ้า เพราะพอไอ้เจ้าพูดจบ ร่างสูงของธราก็เดินเคียงคู่มากับไอ้คนกวนตีนคนนั้น คนที่น่ากลัวเหมือนแป้งจี่ คุกคามทางเพศไอ้เอ๋ได้ไม่หยุด

“หวัดดีไอ้หมอ” ไอ้เจ้าทักทาย พลางชนกำปั้นกับไอ้หมอแพร์ “ทำไมมาถึงเร็ว ขับเร็วเหรอ”

“ไอ้ดินมันตีนผีมึงก็รู้” ไอ้หมอแพร์ตอบ เหลือบตามองคนที่กำลังทำหน้าเด๋อ “พี่นั่งด้วยได้ไหมครับ”

ไอ้เอ๋เผลอเม้มริมฝีปาก บอกไอ้เจ้าแล้วว่าจะเตรียมคำพูดต้อนรับ แต่ตอนนี้สมองตื้อไปหมด ตาพร่าไปกับรอยยิ้มของไอ้พี่หมอที่กำลังนั่งลงตรงข้ามโดยไม่รอคำอนุญาต

“ลืมแนะนำเลย เอ๋ นี่พี่หมอดิน ส่วนนี่ไอ้หมอแพร์” ไอ้เจ้าที่นั่งลงข้างไอ้เอ๋เริ่มแนะนำสร้างความคุ้นเคยระหว่างคนร่วมโต๊ะ เพราะไอ้เอ๋นิ่งค้างไปแล้ว มันคงเป็นใบ้ไปชั่วขณะ “เอ๋ หวังว่านายยังอยู่”

“ผมอยู่” ไอ้เอ๋กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็ตอนที่ไอ้เจ้าสะกิดที่ไหล่ “สวัสดีครับพี่หมอดิน แล้วก็พี่หมอแพร์”

“ครับ” ธราตอบกลับนิ่งๆ ใบหน้าปกติของเขาคือไม่ยิ้ม ยกเว้นอยู่ตามลำพังกับไอ้เจ้าจะขยันยิ้มจนหน้ายับ

“ไอ้ดินอย่าทำหน้าดุใส่น้อง” อีกคนที่ร่วมโต๊ะรีบเข้าบทสนทนา “แล้วพี่ต้องแนะนำตัวแบบละเอียดไหม นอกจากชื่อแล้วแนะนำนามสกุลที่น้องเอ๋จะได้ใช้ในอนาคตด้วยได้หรือเปล่า”

“มึงไม่ต้อง” ไอ้เจ้ารีบพูด เห็นหน้าไอ้เอ๋ทำหน้าหวาดผวาแล้วอยากจะตบหัวไอ้หมอแพร์ให้หลุด “บ้านมึงขายหม้อสินะไอ้หมอแพร์ หม้อได้หม้อดี”

“อ้าว ปาดกูเฉย แล้วทำไมมึงไม่เรียกพวกกูว่าพี่เหมือนน้องเอ๋วะเจ้า”

“กูอายุมากกว่ามึงไง ไม่เรียกไอ้น้องก็ดีแค่ไหนแล้ว ไอ้น้องแพร์งี้ เออ แบบนี้ได้ว่ะ” ไอ้เจ้าว่าพลางหัวเราะกับคำพูดของตัวเอง

“อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยมึง กูไหว้” ไอ้แพร์ทำหน้าละเหี่ยใจ

“แล้วผมต้องเรียกนายว่าพี่ไหม” ไอ้เอ๋ทำหน้าสงสัยขึ้นมา รู้ว่าไอ้เจ้าเป็นเด็กซิ่ว แต่ก็ไม่คิดว่ามันอายุมากกว่าพี่หมอทั้งสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

“เออจริง ไหนลองเรียกดิ๊เอ๋ เรียกแบบที่นายเรียกพี่ชายนายก็ได้” ไอ้เจ้ายักคิ้วกวน

“เฮียเจ้า” ไอ้เอ๋ลองเรียกแต่ก็แทบกัดลิ้นตัวเองตาย “เข้! ไม่ชิน ขอแบบเดิมเถอะ ลิ้นแข็งหมดแล้ว”

ไอ้เจ้าหัวเราะพลางยกมือขยี้หัวทุยๆ ของไอ้เอ๋ “เรียกเหมือนเดิมได้ อย่าให้ใจนายลำบาก”

“เจ้า” ธราเอ่ยแทรก ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่ง น้ำเสียงก็นิ่งตาม “ไปสั่งเครื่องดื่มให้หน่อย”

“ได้ครับ” ไอ้เจ้าเปลี่ยนโหมดทันที ต่อหน้าธราแล้วไอ้เจ้านุ่มนวลประดุจปุยก้อนเมฆ “คุณเอาอะไรดี เมนูโปรดของคุณมั้ย”

“อืม” คนหน้านิ่งรับคำ “ขนมด้วยนะ หิว”

“ได้ตามขอครับ” ไอ้เจ้าส่งยิ้มละมุน ก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่คนนั่งข้างธรา “ไอ้หมอแพร์ มึงไปกับกู”

“ไม่ ทำไมกูต้องไปกับมึง”

“มึงทำให้เอ๋กลัว มึงรุกแรงเกินไปไอ้หมอ ไร้ชั้นเชิงมากๆ เร็วๆ ลุกไปกับกู”

“เออๆ ก็ได้วะ นี่เห็นว่าค่าน้ำมันยังไม่ครบสามเดือนนะมึง”

ไอ้เอ๋ส่งซิกให้ไอ้เจ้าแต่ก็ไม่ทัน ให้ไอ้พี่หมอคนนั้นนั่งอยู่ด้วยยังดีกว่าปล่อยให้ไอ้เอ๋นั่งอยู่กับแฟนไอ้เจ้าตามลำพัง แฟนไอ้เจ้าที่เคยเจอพร้อมดาวเภสัชฯ ก็ไม่ค่อยชอบหน้าไอ้เอ๋อยู่แล้ว ตอนนี้ก็เหมือนไม่ชอบหน้ามันไปกันใหญ่

ธราเงียบขรึม ไม่ชักชวนไอ้เอ๋พูดคุย เขาเล่นโทรศัพท์มือถือไปเงียบๆ ไอ้เอ๋จึงก้มหน้ามองชีทวิชาเคมีในมือ เป็นไม่กี่นาทีที่รู้สึกยาวนานมาก อึดอัดจนอยากลุกหนี เคยบอกไอ้เจ้าไว้ดิบดีว่าจะพูดต้อนรับ แต่มันกลับพูดอะไรไม่ออก แค่สายตาของธราที่มองมาก็ทำให้รู้สึกหายใจลำบากแล้ว

“สนิทกับเจ้าเหรอ”

ไอ้เอ๋สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อธราเอ่ยปากถาม พอเงยหน้าขึ้นจากชีทก็เห็นว่าเขาไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว แต่กำลังมองสำรวจไอ้เอ๋

“ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งครับ” ไอ้เอ๋ตอบ

“สนิทขนาดไหน” ธราซักต่อ

“ตอบไม่ได้เหมือนกัน ผมก็ไม่เคยวัดระดับด้วย แต่ทั้งคณะเราก็สนิทกันอยู่สองคน” ไอ้เอ๋พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกำลังถูกสอบสวน สายตาของธราน่ากลัวเกินไป ตอนที่ยังควงดาวเภสัชฯ ก็ไม่เห็นจะมองไอ้เอ๋ด้วยสายตาแบบนี้เลย

“เจ้าไปนอนที่ห้องบ่อยไหม”

“ก็ทุกครั้งที่พี่หมอไม่อยู่”

“แสดงว่าบ่อย”

“ครับ”

“คิดอะไรกับเจ้าหรือเปล่า”

ไอ้เอ๋แทบลืมหายใจ เหมือนอยู่ดีๆ ก็กลั้นหายใจไปเอง “ผะ...ผมน่ะเหรอครับ”

“ใช่ มึงนั่นแหละ กูคุยกับมึงแล้วจะใครอีก”

“พี่หมอใจเย็นก่อน อย่าหัวร้อนใส่ผม คือผมไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เจ้าครับ พวกผมเป็นเพื่อนกันเฉยๆ”

เข้าใจแล้วว่าสายตาที่มองมาอย่างน่ากลัวของธราเป็นเพราะอะไร กลัวก็กลัวแต่ก็ดีใจไปกับไอ้เจ้ามันด้วยที่แฟนมันใส่ใจมันขนาดนี้ เอ๊ะ...จะเรียกว่าใส่ใจหรืออะไรดีวะ

“งั้นก็อย่าถึงเนื้อถึงตัวกันบ่อย” ธรายังคงเสียงนิ่ง ขมวดคิ้วมองไอ้เอ๋ “รู้ว่าตอนนี้ไม่คิดอะไร แต่ใกล้กันมากๆ เดี๋ยวก็คิด”

“ไม่หรอกพี่หมอ พี่หมอสบายใจได้เลย ต่อให้ใกล้ขนาดไหนผมก็ไม่คิดอะไรกับไอ้เจ้าหรอก” แค่คิดก็รู้สึกเหมือนจะฝันร้ายแล้ว คิดว่านอกจากพี่หมอดินก็คงไม่มีใครรับคนอย่างไอ้เจ้าไหว ดูสิว่าขนาดไอ้เจ้าทำตัวโรคจิตใส่ขนาดนั้นก็ยังมาคบกันได้เลย ไม่เข้าใจรสนิยมของคนหล่อไปอีก!

“งั้นมีแฟนไปซะสิ กูจะได้สบายใจ เวลาเจ้าไปนอนห้องมึงกูจะได้ไม่ต้องระแวง มึงคบกับเพื่อนกูก็ได้ ไอ้แพร์ก็คนดี”

“เดี๋ยวนะ...”

“ปลดบล็อกไลน์มันด้วย”

“เดี๋ยวๆ ๆ ๆ”

“มันขอให้กูพูดกับมึง เพราะเจ้าไม่พูดให้ แค่นี้แหละ”

จบ...

ไอ้เอ๋นิ่งค้างกับบทสนทนา ส่วนธรากลับไปสนใจโทรศัพท์มือถือของเขาต่อแล้ว

“อ้าว...นั่งเงียบเลย ไม่คุยกันหน่อยเหรอ” ไอ้เจ้ากลับมาที่โต๊ะ ในมือมีอเมริกาโน่แก้วใหญ่ เมนูโปรดของธรากับพายไก่อีกสองชิ้น มันวางของเสร็จก็นั่งลงข้างไอ้เอ๋

“นิสัยเข้าสังคมยากแก้ไม่หาย” ไอ้หมอแพร์พูดขึ้นอีกคน ก่อนจะเลื่อนจานบลูเบอร์รี่ชีสเค้กไปตรงหน้าไอ้เอ๋ “ไอ้เจ้าบอกว่าน้องเอ๋ชอบกิน พี่ซื้อมาให้”

“ขอบคุณครับ” ไอ้เอ๋บอกขอบคุณเบาๆ

“คุณเล่นอะไรอะ สนใจแต่มือถือ” ไอ้เจ้าถามธรา เมื่อเห็นว่าคนร่างสูงยังไม่เงยหน้าขึ้นจากจอ

“เกม” ธราตอบสั้นๆ แต่ไม่ทันตั้งตัวไอ้เจ้าก็ยึดโทรศัพท์มือถือไป “เจ้า กูยังเล่นไม่จบ”

“กินก่อนครับ เดี๋ยวเจ้าคืนให้”

ธราหน้าบึ้ง มองไอ้เจ้าด้วยสายตาคาดโทษ “คืนนี้มึงโดนแน่”

“ขอแรงๆ เจ้าชอบ”

ไอ้เอ๋หน้าแดงก่ำ เข้าใจความหมายที่คนสองคนคุยกันพลันคลังลับยี่สิบบวกของไอ้เจ้าที่เคยให้ดูก็แล่นเข้ามาในความคิด

“ไม่อายก็เข้าใจ แต่สงสารน้องเอ๋ด้วย” ก่อนที่ไอ้เจ้าจะลงลึกว่าชอบอะไรแรงๆ ไปมากกว่านี้ ไอ้พี่หมอแพร์หน้าหม้อก็ช่วยชีวิตไอ้เอ๋ไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นไอ้เอ๋คงล้มตึงไปเพราะภาพจินตนาการในหัวของมัน

“โทษทีเพื่อนรัก ผมลืมคิดไปว่านายยังเด็ก ไว้ผมว่างไปห้องนายอีกเมื่อไหร่จะเปิดกรณีศึกษาให้ดู รับรองเลยว่านายจะพบทางสว่าง ปลอดโปร่งโล่งสบาย”

แต่ธราคงไม่เห็นด้วยกับคำพูดของไอ้เจ้า เขาเอ่ยแทรกทันที “ให้เพื่อนมึงไปดูกับไอ้แพร์สิ ห้องก็อยู่ข้างกัน มึงจะเสนอหน้าไปทำไม”

“ก็ถ้าไอ้หมอแพร์ตกมันล่ะคุณ ไอ้เอ๋ไม่เสียตัวเลยเหรอ” ไอ้เจ้าว่าพลางมองไอ้คนหน้าหม้ออย่างไม่ไว้วางใจ “ไม่ได้ครับ ผมต้องปกป้องเพื่อนผม”

“ไอ้แพร์พร้อมรับผิดชอบ ปล่อยเพื่อนไปมีผัวเถอะ”

“เฮ้เฮ้” ไอ้เอ๋ร้องท้วง “ผมไม่ดูอะไรทั้งนั้นเว้ย! แล้วก็จะไม่มีผัวด้วย!”

“ไม่อยากมีผัวไม่เป็นไร แต่นายต้องดูนะเอ๋ นายต้องก้าวข้ามความไร้เดียงสาแล้วเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แฟนคนแรกของนายจะต้องประทับใจที่นายเป็นงาน” ไอ้เจ้ายังไม่ยอมจบประเด็น “ผมเอาใจช่วยนายเสมอ”

“ขอบใจนายเจ้าเพื่อนรัก พูดมาขนาดนี้แล้วก็เล่าเถอะว่าแฟนคนแรกของนายเป็นงานมากไหม” ไอ้เอ๋ย้อนถามซื่อๆ คิดว่าธราก็คงอยากฟังว่าตัวเองนั้นเยี่ยมยอดแค่ไหน หรือถ้าไม่ดียังไงก็จะได้เอาไปปรับปรุงตัว

ไอ้เจ้านิ่งไปเพียงครู่ เหลือบตามองก็เห็นธรามองมา ในขณะที่ไอ้หมอแพร์มีสีหน้าแปลกพิกล

“ไม่ค่อยเป็น” ไอ้เจ้าตอบพร้อมรอยยิ้ม แต่แววตาของมันปิดบังความเศร้าสร้อยไว้ไม่มิด “ยังเด็กน่ะตอนนั้น”

“อ้าวนาย” ไอ้เอ๋ทำหน้างงเล็กน้อย “พี่หมอดินไม่ใช่แฟนคนแรกของนายเหรอ ก็ไหนนายบอกผมว่า...”

“น้องเอ๋กินบลูเบอร์รี่ชีสเค้กสักหน่อยเถอะครับ” ไอ้หมอแพร์เหมือนช่วยกอบกู้ระเบิดที่ไอ้คนจุดระเบิดไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป “อย่าให้พี่เสียน้ำใจ”

“พี่ก็ไม่น่าซื้อมาให้ผมเลย เมื่อกี้ผมกินไปสองชิ้น แน่นท้องแล้วเนี่ย” ไอ้เอ๋บ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมหันไปสนใจชีสเค้กตรงหน้า

“กินๆ ไปเถอะ จะได้ฉลาดขึ้นมาบ้าง”

“เอ๊ะ ไอ้พี่หมอ ด่าผมโง่เหรอ!”

“ป๊าว!”

ไอ้เจ้าสบตากับธรา รู้ว่าสายตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม มันพลาดเองที่เก็บอาการไว้ไม่อยู่ แต่จะให้เงียบก็เห็นอยู่ว่าเขารอคอยคำตอบ ครั้นจะโกหกก็ทำไม่ได้ ความรู้สึกที่ว่าหากโกหกไปแล้ว...ความทรงจำที่อยู่ในหัวของมันจะกลายเป็นเรื่องโกหกไปด้วยนั้นทำให้กลัวขึ้นมาจับใจ

เพราะกลัวว่าจะลืมธราคนเก่า กลัวว่าจะจำธราคนนั้นไม่ได้อีก ในเมื่อยังมีเรื่องที่อยากจะพูด ยังมีเรื่องที่อยากจะบอก ยังมีเรื่องที่อยากจะถามและทำด้วยกันอีกมากมาย อยากทำกับธราคนนั้น...ไม่ใช่ว่าไอ้เจ้าไม่รักธราคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แบบนั้นเลย





D. : เหม่อ





เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ไอ้เจ้ารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เปิดห้องแชทก็เห็นว่าเป็นข้อความจากธรา





D. : เป็นไร

OMG: คิดอะไรนิดหน่อย

D. : คิดถึงแฟนคนแรก?

OMG: ครับ

D. : ไม่โกหกกูหน่อยเหรอ

OMG: ไม่ครับ ไม่อยากโกหกคุณ

D. : อืม

D. : แฟนคนแรกคือคนที่ให้การ์ดอวยพรปีใหม่ใช่ไหม

D. : เหมือนเขายังสำคัญกับมึงมาก การ์ดนั่นมึงเก็บไว้อย่างดี

D. : ยังรักเขาเหรอ

OMG: เจ้าขอไม่ตอบนะ

D. : แค่นี้กูก็ได้คำตอบแล้ว

OMG: คำตอบที่คุณได้ มันไม่ถูกหรอกดิน

D. : ก็ให้คำตอบที่ถูกต้องกับกู

OMG: เจ้ารักคุณ รู้แค่นี้ก็พอแล้ว

D. : กูเชื่อมึงได้แค่ไหน

D. : ถ้าเขากลับมา กูจะไม่เสียมึงไปใช่ไหม

D. : จะไม่ทิ้งกูไว้แล้วไปกับเขาใช่หรือเปล่า





หัวใจของไอ้เจ้าบีบรัดแน่นจนเจ็บ พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นธราเงยหน้าขึ้นมาเช่นกัน เมื่อสบตากันแล้วจึงได้รู้...ว่าต่างฝ่ายต่างมีแต่ความรู้สึกที่จัดการได้ยาก





OMG: อย่าทำหน้าแบบนั้นดิน ยิ้มให้เจ้านะ

D. : ยิ้มไม่ไหว

D. : กลับกันเถอะ อยากนอนกอดมึง

OMG: ครับ

.
.
.
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-11-2018 17:16:44

เป็นเพราะไอ้เจ้า รอยยิ้มที่มันชอบถึงหายไป ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไร คนที่ทำลายรอยยิ้มของธราก็ยังคงเป็นมันเสมอ

ทั้งที่รักมาก ทั้งที่ตั้งใจจะปกป้องรอยยิ้มและความสุขของธราเอาไว้ แต่เพราะไอ้เจ้าไม่ใช่พระเจ้า มันเป็นเพียงคนบ้าบอคนหนึ่งที่รักธราอย่างสุดหัวใจ

ทว่า...รักก็เป็นแค่รัก ต่อให้หวังว่ารักของมันจะเป็นโล่ที่แข็งแกร่ง ท้ายที่สุดก็เป็นได้แค่สิ่งเปราะบางที่พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ

เป็นแบบนั้นแต่ก็ยังดันทุรังที่จะรักต่อไป...

ไอ้เจ้ากับธราแยกตัวกับไอ้เอ๋ที่ถูกไอ้หมอแพร์คะยั้นคะยอขอซ้อนท้ายจักรยานกลับหอ คนสี่คนแยกออกเป็นสองคู่ คู่หนึ่งทะเลาะกันไปตลอดทาง ส่วนอีกคู่มีแต่ความเงียบงัน

ไอ้เจ้าทำหน้าที่ขับรถ ส่วนธราเอาแต่นั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่าง ในห้องโดยสารนั้นไม่มีเสียงอื่นใดนอกไปจากเสียงเคาะนิ้วกับพวงมาลัยของไอ้เจ้า สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความครุ่นคิด แม้สมาธิจะยังจดจ่ออยู่กับท้องถนน แต่ขณะเดียวกันก็ยังคิดถึงความหลัง

ธราคนนี้ก็เหมือนคนที่ตายแล้วเกิดใหม่ แม้ว่าจะเหมือนมากแค่ไหนแต่ก็มีบางอย่างที่บอกว่าไม่ใช่ แค่แววตาที่มองไอ้เจ้าก็ไม่เหมือนแล้ว ความรู้สึกของไอ้เจ้าจึงเหวี่ยงขึ้นลงราวกับกราฟที่ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ตลอดเวลาจนบางครั้งบางทีก็รู้สึกราวกับกำลังเผลอใจให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ธรา คนอื่นที่เหมือนธราแต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่าง

“เจ้า” เสียงของธราทำให้ไอ้เจ้าหยุดเคาะนิ้วกับพวงมาลัยแล้วขานรับในลำคอ “มึงว่ากูเป็นคนเก่งไหม”

ไอ้เจ้ายกยิ้มนิดๆ “เก่งสิ เก่งมาก”

“แล้วมึงคิดว่ากูเก่งพอที่จะทำให้มึงลืมแฟนคนแรกของมึงได้หรือเปล่า”

ไอ้เจ้าละมือซ้ายจากพวงมาลัยไปกุมมือของธราเอาไว้ นิ้วเรียวเกลี่ยเบาๆ บนหลังมือหนา ก่อนจะบีบกระชับส่งผ่านความอบอุ่น “อย่าคิดเรื่องอื่นเลยครับ เจ้ารักคุณนะ”

“แปลกดี” น้ำเสียงของธราแฝงความตัดพ้อ “บอกไม่ให้คิด แต่มึงกลับไม่ให้ความชัดเจน”

“ชัดเจนกว่าเจ้าไม่มีอยู่บนโลกนี้หรอก”

ธราทำหน้าบึ้ง แต่ไอ้เจ้ายิ้มอารมณ์ดี ที่พูดก็หมายความตามนั้นจริงๆ ชัดเจนกว่าไอ้เจ้าคงไม่มีแล้ว รักก็บอกว่ารัก อยากได้ก็บอกว่าอยากได้ แสดงออกเปิดเผยอย่างหน้าไม่อาย แล้วจะหาความชัดเจนมากกว่านี้จากไหนมาอีก

“สีหน้าตอนพูดถึงแฟนเก่าน่าเชื่อนักนี่"

ที่ธรากังวลไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่การอธิบายให้ชัดคงเสี่ยงต่อการเปิดกล่องความทรงจำ ความทรงจำที่ไม่ได้มีแค่ความสุขสมหวัง ความทรงจำที่ทั้งอยากจดจำและอยากลืมเลือน

“ไม่มีเรื่องที่คุณต้องกังวลหรอกครับดิน เขาไม่มีทางกลับมาหาผมและผมก็ไม่มีทางกลับไปหาเขา”

ความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์ เพราะคนชื่อเจ้า จักรพรรดิ ได้ตายไปจากความทรงจำของคนคนนั้นแล้ว

“แต่มึงก็ยังไม่ลืม”

“คนบางคนก็อยู่ในฐานะที่ควรนึกถึงในความทรงจำ”

“กูต้องใจกว้างมากๆ ใช่ไหม” ธราถามเสียงห้วน

“คุณคือปัจจุบัน”

“มึงเห็นแก่ตัว”

“เจ้าเห็นแต่คุณต่างหาก ในสายตาเจ้ามีแต่คุณนะดิน”

“เชื่อมึงกูก็ควาย”

ไอ้เจ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่คนที่เอาแต่ทำหน้าบึ้งตึง ไม่ยอมคลี่ยิ้มให้เห็นสักที “ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมดีด้วย”

“ลืมมัน ลืมมันแล้วให้ในใจมีแค่กู ถ้าทำให้กูไม่ได้ กูก็คบมึงต่อไม่ได้”

ไอ้เจ้าแทบอยากสบถออกมาทุกภาษาที่มันพูดได้ แต่คงไม่ดีแน่หากมันจะร้อนเป็นไฟตามธรา ความสัมพันธ์ของคนสองคนต้องมีคนหนึ่งร้อนและคนหนึ่งเย็น หากร้อนกันทั้งคู่ก็คงไปกันไม่รอด บทเรียนในอดีตเป็นครูได้อย่างดี

“หึ เฮงซวยไอ้สัด!” ธราตะคอกเสียงดังลั่นรถเมื่อเห็นว่าไอ้เจ้าเงียบงัน ไม่ให้คำตอบ เขาถอดแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้ายก่อนจะขว้างใส่ขมับคนที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง “เอาแหวนของมึงคืนไป!”

“สวมไว้อย่างเดิมธรา” ไอ้เจ้าจอดรถเข้าข้างทางทันที มันหันมองหน้าธราด้วยแววตาอันตราย ใบหน้าคมคายของมันฉาบไปด้วยความเย็นชา มือข้างหนึ่งดึงมือของธรามาตรงหน้า ส่วนอีกมือควานหาแหวนที่ตกลงตรงไหนสักแห่งใกล้บริเวณที่นั่งคนขับ

“ปล่อยกู” ธราบอกเสียงเข้ม พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุม แต่ไอ้เจ้าจับข้อมือของเขาไว้แน่น “เจ้า! กูบอกให้ปล่อยกูไง!”

ไอ้เจ้าเม้มริมฝีปาก มันเกือบหลุดคำหยาบคายใส่ธรา วิธีเดียวที่จะทำให้ใจเย็นลงได้ก็คือต้องนับเลขในใจ นับจนใจเย็นลงจึงได้เริ่มพูดคุยกันใหม่ “ผมเข้าใจว่าคุณโกรธ แต่อย่าถอดแหวนที่ผมให้ง่ายๆ ได้มั้ย นี่เป็นแหวนแทนใจของเรา คุณทำแบบนี้ผมเสียใจนะครับ”

“แหวนแทนใจของเราเหรอวะ” ธรามองไอ้เจ้าด้วยดวงตาวาววับ “มึงคิดว่ากูโง่เหรอเจ้า แหวนวงนี้ไม่ใช่ของกู มันเคยเป็นของแฟนเก่ามึง กูพูดถูกไหม กูไม่เคยแน่ใจจนกระทั่งวันนี้ มึงเก็บไว้อย่างดี แหวนของมึงกับมัน”

“ไปกันใหญ่แล้ว”

“มึงทำให้กูรู้สึกเหี้ยๆ แบบนี้ได้ยังไง” ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความปวดร้าว “ความรักของมึงเป็นแบบนี้เหรอเจ้า กูแม่ง...เป็นตัวแทนของใครอยู่หรือเปล่าวะ”

“มันไม่ใช่อย่างนั้น!” ไอ้เจ้าตะโกนกลบเสียงพูดของธราที่ชะงักไปในทันที “อย่าให้ผมต้องพูดบ่อยๆ ว่าผมรักคุณ รักคุณจนผมจะเป็นบ้าอยู่แล้วธรา!”

“กูควรเชื่อมึงเหรอเจ้า” ธราถามกลับด้วยเสียงเย้ยหยัน “งั้นบอกกูสิว่าระหว่างกูกับแฟนเก่ามึง มึงรักใครมากกว่ากัน”

“ผมรักคุณ”

ธราหัวเราะเยาะ “หึ มึงโกหก”

“ผมพูดความจริง”

“พิสูจน์สิว่าจริง ทำให้กูเชื่อสิว่าคำพูดของมึงไม่ใช่แค่คำหลอกลวง”

“ผมทำได้ถ้าคุณให้โอกาส”

ธราเดาะลิ้นกับกระพุ้งแก้ม แววตาของเขาเย็นชาในขณะที่คิ้วเข้มข้างซ้ายเลิกขึ้นนิดๆ “กูให้ได้ แต่ไม่ใช่ในฐานะแฟน ตอนนี้กูกับมึงกลับไปเป็นแค่คนแปลกหน้าตามเดิม”

“ดิน…”

“มึงทำตัวมึงเองนะเจ้า มึงทำลายความเชื่อใจของกูจนไม่เหลือแล้ว”

“ทำไมความพยายามเกือบสองปีของผมต้องหมดลงแค่เรื่องของแฟนเก่า”

“ต่อด้วยสิว่าเป็นแฟนเก่าที่มึงลืมไม่ได้”

ไอ้เจ้าสบถออกมาอย่างไม่สามารถปิดกั้นโทสะได้อีกต่อไป ในขณะที่ธราหัวเราะเยาะมัน

“พูดจี้ใจดำเหรอ”

“จบเถอะเรื่องนี้”

ธรายิ้มหยัน ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มลงไปบนอกข้างซ้ายของไอ้เจ้า “จำไว้นะเจ้า ถ้ากูอยู่ในนี้คนเดียวไม่ได้ กูก็ไม่อยู่”

“แต่หัวใจของผมกว้างมากพอที่คุณจะอยู่ได้โดยไม่อึดอัด”

“คนอย่างมึงนี่มัน...” ธราหมดคำจะต่อว่า หัวใจของเขาปวดแปลบจนอยากจะหามีดแหลมๆ มาแทงหัวใจดำๆ ของไอ้เจ้าบ้าง มันพูดมาได้อย่างไร...มันคิดเหรอว่าจะมีใครทำใจกับเรื่องนี้ได้

“ผมรักคุณนะดิน ปัจจุบันของผมมีแค่คุณ”

“แต่ปัจจุบันของกูไม่อยากมีมึงแล้วไอ้สัด!”

ธราผลักใบหน้าคมคายของไอ้เจ้าให้ออกห่าง เพราะมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้หมายจะใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก้มของเขา

“อย่าพูดกับเมียอย่างนี้”

“มึงยังไม่ได้เป็น!”

“เหลือแค่สอดใส่เท่านั้น ผมก็จะเป็นของคุณอย่างสมบูรณ์”

“กูไม่เอามึงแล้ว” ธรามองตาขวางพลางพูดเสียงแข็ง “ไม่ชอบทับรอยใคร”

ไอ้เจ้าเอียงคอมองอย่างยียวน “แล้วคนก่อนหน้าที่คุณเอาเขา คุณคิดว่าได้ของบริสุทธิ์เหรอ”

“กูไม่ได้เคร่ง”

“แล้วกับผมล่ะ ไม่เคร่งบ้างได้มั้ย”

“กูไม่เอา”

“ใจร้ายจริงๆ” ไอ้เจ้ายกยิ้มมุมปาก “แต่คุณไม่รอดหรอก เดี๋ยวก็ตกเป็นผัวผมอยู่ดี อิ๊”

“ผัวที่หน้ามึงไอ้เหี้ย”

“ที่หน้าก็ได้ แต่ที่ตรงนั้นก็คง อะฮึ่มมมม ซี๊ดดด”

“ไอ้เวร”

ไอ้เจ้าหัวเราะชอบใจ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มของธราที่เหลือบมองมาด้วยสายตาหวาดระแวง “ถึงผมจะเผื่อใจไว้แล้วว่าสักวันหนึ่งก็ต้องเลิกกับคุณ แต่ก็คิดไว้ว่าคงนานกว่านี้ที่จะได้อยู่ในฐานะแฟน ผมคงไม่เก่งพอจริงๆ ธรา หนังสือเล่มเดิม...ไม่ว่าจะเปลี่ยนสถานที่อ่าน เปลี่ยนช่วงเวลา แต่ก็ยังคงจบแบบเดิม”

“เจ้า...” ธราไม่เข้าใจที่ไอ้เจ้าพูดเลยแม้แต่น้อย ครั้นจะถามมันก็ตัดบท

“แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก...ผมจะทำให้คุณเห็นว่าเจ้าคนนี้คือเจ้าชีวิตของคุณ” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มหวาน “ยิ้มให้ผมหน่อยสิครับ อยากเห็นอีกสักครั้ง...ขอร้องในฐานะคนโรคจิตที่รักคุณก็ได้”

“เป็นบ้าไปแล้วหรือไง”

“ผมบ้าตั้งแต่รู้ตัวว่ารักคุณแล้ว” ไอ้เจ้าขยับเข้าใกล้ในขณะที่ธราขึงตามอง เขาเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อไอ้เจ้าเริ่มใช้ริมฝีปากของมันมอบความหวานให้ แต่ไม่ว่าจะถูกบดคลึงหรือถูกลิ้นนุ่มสัมผัสมากแค่ไหน เขาก็ไม่แม้แต่จะเปิดปากรับการรุกล้ำ “ที่รัก อย่าทรมานตัวเองเลย แววตาของคุณบอกว่าอยากจูบผมใจจะขาด”

“กูไม่...อืมม..ม” แค่จะพูดปฏิเสธก็โดนไอ้เจ้าฉกฉวยโอกาส เรียวลิ้นร้อนของมันรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากของธรา รสชาติของอเมริกาโน่ที่เพิ่งดื่มไปเมื่อตอนเย็นยังติดที่ปลายลิ้น เขาไม่ผลักไอ้เจ้าออกแต่ก็ไม่ตอบรับเช่นกัน ทำแค่อยู่เฉยๆ ให้ไอ้เจ้าปรนเปรอ มันดูดลิ้นของเขา งับริมฝีปากของเขา กลืนกินอย่างตะกละตะกลามจนได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอหนา

“กลับห้องกันครับ” ไอ้เจ้ากระซิบเสียงกระเส่า “คืนนี้ผมต้องได้คุณเป็นผัว”

ธราเบือนหน้าหนีจากสายตาของไอ้เจ้า ริมฝีปากหนาเม้มแน่น เพราะกลัวจะหลุดสีหน้าใจอ่อนให้มันได้เห็น เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจนกว่ามันจะชัดเจน เขาไม่ควรเผยความรู้สึกไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้น...คงกลายเป็นคนที่เจ็บปวดเสียเอง เขาควรหยุดความรู้สึกที่มีต่อมันก่อนที่จะสายเกินไป

แฟนเก่าเหรอ...ดูจากสีหน้าและแววตา ก็รู้แล้วว่ายังรักอยู่เต็มหัวใจ แต่ทำไมถึงบอกรักเขาได้เต็มปาก

“ได้แน่นอน...มึงก็จะเป็นหนึ่งในเมียของกูเหมือนกัน” ธรากระซิบกลับ “ถ้าลีลาดี กูจะให้เป็นอันดับหนึ่ง”

ไอ้เจ้าชะงักไปเพียงครู่ แต่ในที่สุดก็คลี่ยิ้มกว้างเต็มหน้า ทว่าดวงตาของมันกลับเรียบนิ่ง ไม่ได้ยิ้มแย้มตาม “เล่นอย่างนี้เหรอ อ่า...ท้าทายดี ผมต้องทุ่มสุดตัวซะแล้ว”

“พยายามเข้า”

“บอกเลยว่านางเอกเอวีก็ยังลีลาดีไม่เท่าเจ้า จักรพรรดิ”

ธราหัวเราะเยาะ “ใครการันตี ผัวเก่ามึงบอกงั้นสิ”

“คงงั้น” ไอ้เจ้าตอบกลับอย่างยียวน “ร่อนทีแตกไปสามสี่น้ำ”

ธราสบถออกมา แค่คิดว่าไอ้เจ้ากำลังร่อนอยู่บนตัวของชายไร้หน้า หัวใจของเขาก็เหมือนถูกเข็มทิ่มเป็นพันๆ เล่ม

“อย่าหึงไปเลย ผมจะร่อนให้คุณยิ่งกว่าทำให้เขา”

ธราคงลืมไปแล้วว่าไอ้เจ้าก็แค่ปากเก่ง เพราะเขากำลังโมโหจึงไม่เห็นว่ามันพูดไปพลางหน้าแดงก่ำไปพลางจนเหมือนจะระเบิดตัวเองตาย

“กูไม่ได้หึง แค่รังเกียจ”

“มันเจ็บตรงนี้ ที่ใจที่ใจ”

“ตลกเหรอเจ้า”

“นิดหนึ่ง ไม่อยากให้คุณเครียด”

“ไม่อยากให้กูเครียดก็ออกไปจากชีวิตกู”

ไอ้เจ้าทำหน้าไม่ชอบใจ แต่ก็ยังแสร้งพูดติดตลก “ไปได้ที่ไหน หัวใจไม่ยอม”

“โอ๊ย! เรื่องมึงเถอะ!” ธราแทบจะยื่นมือไปกระชากหัวไอ้เจ้ามาใกล้แล้วตบสั่งสอนให้กบาลแยก จะได้รู้สักทีว่าในหัวของมันมีสมองหรือขี้เลื่อย

“อิ๊ รักคุณน้า อย่าคิดมากไปเลยจ้า” ไอ้เจ้าทำมือเป็นรูปหัวใจจนธราหลุดยิ้มให้มัน “บอกได้แค่รักมากมาย รักเธอมากมาย”

“เพลงเก่าแล้ว”

“แต่รักของเจ้าไม่เก่าเลยน้าดิน”

“รักผัวเก่ามึงเหรอ”

“ไม่-พูด-อย่าง-นี้! ไม่น่ารัก!”

ไอ้เจ้าหน้างอ ส่วนธรายักคิ้วยียวนให้มัน “ก็อย่ารัก”

“ไม่เถียงแล้ว กลับห้องดีกว่า ไปเถียงคุณบนเตียง เจ้าจะได้บอกรักให้คุณครางลั่นเลย อรุ่กๆ ๆ”

“ครางชื่อผัวเก่ามึงสิ”

“หยุด!” ไอ้เจ้าเสียงเหี้ยม “ถ้าครางจริงเดี๋ยวดินร้องไห้”

“ไม่มีใครตาย กูไม่ร้องไห้หรอกไอ้สัด”

“ปากแข็ง เดี๋ยวทำจริง”

“ลองทำสิ ตายคาตีนกู”

“กลัวแล้วเด้อ” พูดไปพลางหัวเราะอารมณ์ดี “ว่่าแต่ตอนนี้ใส่แหวนกลับไปได้ยัง”

“ยัง”

“โอเค เจ้าเก็บไว้ก็ได้ แต่ถ้าดินพร้อมเมื่อไหร่ มาใส่นะ ใส่สดงดถุง HIV ไปด้วยกัน ครื้นเครงเลยย”

“เดี๋ยวนะ...” ธราหันมองไอ้เจ้าด้วยแววตาสงสัย “มึง...เป็นเหรอ ผัวเก่ามึงเป็นด้วยใช่ไหม”

“หยุดพูดถึงผัวเก่าสักทีโว้ย!” ก็ว่าจะไม่เดือดแล้ว แต่ธราไม่ยอมจบสักที “แล้วอีกอย่าง ถ้าคุณไม่เป็น ผัวเก่าเจ้าก็ไม่เป็น”

“เกี่ยวไรกับกูวะ” ธราถามด้วยสีหน้างงงวย “ผัวเก่ามึงไม่ใช่เมียเก่ากูสักหน่อย”

“อุ้ย” ไอ้เจ้าทำทีตกใจ ก่อนจะจีบปากจีบคอ “ได้ฟีลลิ่ง ผัวเราเป็นเมียเขาเลยอะ”

“ไม่เล่น” ธราเสียงดุ “ตกลงมึงเป็นไหม”

ไอ้เจ้าส่ายหน้าแล้วคลี่ยิ้มหวาน “สะอาด ปลอดภัย ถ้าขอมาตรฐานได้ก็คงแปะไว้กลางหน้าผากจ้า”

“ดี โล่งใจ” ธราถอนหายใจอย่างจริงจัง

“คุณรังเกียจเหรอ” ไอ้เจ้าแสร้งทำหน้าเศร้า “แบบ...ประเด็นอ่อนไหวเลยนะเรื่องนี้ ถ้าเจ้าเป็นขึ้นมาจริงๆ คุณก็จะ...”

“กูก็คงเป็นไปแล้วไงเจ้า” ธรารีบตัดบทก่อนไอ้เจ้าจะเล่นบทโศกไปมากกว่านี้ “น้ำคัดหลั่งจากตัวมึงกูก็แดกไปหลายรอบแล้ว ที่ถามก็แค่ถ้ามึงเป็นขึ้นมาจริงๆ ต้องวางแผนการรักษาแล้วต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ไม่ไปแพร่เชื้อให้ใคร”

“รู้งี้บอกว่าเป็นก็ดี คุณจะได้ไม่ไปเอาคนอื่น”

พลาดแล้วไอ้เจ้า มึงพลาด!

“มีถุงยาง”

“ไม่ได้! อย่าใช้ผิดจุดประสงค์ ถุงยางอนามัยมีไว้เพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์” ไอ้เจ้าพูดคอเป็นเอ็น มันต้องย้ำให้ธราเข้าใจ แต่คนรูปหล่อกลับทำแค่ยักคิ้วยียวนแล้วพูดต่อว่า

“หรือมีไว้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กูก็เรียนมา อย่ามาหลอกกู”

“ฮึ่ย!” ทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ “ยังไงก็ช่าง ห้ามไปใช้กับใครนอกจากเจ้า”

“สดได้งั้นสิ”

“ถีบหน้าหงายไอ้เหี้ย”

ไอ้เจ้าเล่นโหมดโหดจนธราหน้าเหวอ

“มึงกล้าพูดหยาบกับกูเหรอ”

“ขอโทษจ้า เป็นเพียงแค่ความในใจที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่”

“เก็บไว้บ้างก็ดี ไม่ใช่แฟนไม่ต้องมาหึงหวง”

“เจ็บกว่านี้ยังได้อีกกกกก”

“หึ” ธราหลุดหัวเราะ ก่อนจะรั้งต้นคอของไอ้เจ้าเข้าใกล้แล้วกดจูบที่ขมับมันไปแรงๆ “โดนของกู มึงเจ็บจนเดินขาถ่างแน่”

“คลานก็ยอม”

“ปากดี”

“เอวก็ดี”

“ลีลาดีด้วยไหม”

“ที่สุดอะ”

“ปะ...กลับ”

“แน๊ รีบร้อน”

“มึงรีบก่อนมั้ย ไหนบอกอยากได้กูเป็นผัว”

“งั้นถ้าเจ้าได้คุณเป็นผัว แล้วคุณได้เจ้าเป็นอะไร”

ไอ้เจ้ารอคอยคำตอบ แค่คิดก็ฟินแค่ไหนที่จะได้อยู่ใต้ร่างหนาๆ ของดิน ธรา ผู้ชายไหล่กว้าง 63 cm แถมยังเต็มไปด้วยมัดกล้าม ภาพตอนที่เม็ดเหงื่อผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาคงทำให้ฟินไปยันสวรรค์ชั้นเจ็ด

อยากร้องโอ้ พระเจ้าในตอนที่เขากระแทกใส่ร่างแล้ว แต่ติดที่ว่า...ธราในตอนนี้อาจไม่ได้วางสถานะให้ไอ้เจ้าเหมือนที่ผ่านมา

“อืม...นั่นสินะ” ธราทำท่าครุ่นคิด “คู่ขาดีมั้ย”

“อยากได้แฟน” ไอ้เจ้าแหกปาก “ไม่ใช่คะแนนสงสาร เพราะฉันไม่ใช่ขอทาน มาขอเดนความรักใคร เธอก็รู้นี่น่าว่าแฟน ไม่อาจแทนด้วยคำไหนนนน!”

“เพลงเก่าอีกแล้ว ผัวเก่ามึงร้องให้ฟังบ่อยรึไงไอ้สัด ร้องอยู่ได้”

“ผัวเก่าชอบร้อง คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตนาการเป็นหน้าเธอ”

“น้ำเน่า”

“ถึงน้ำจะเน่าแต่ยังเห็นเงาจันทร์ อิ๊”

ธราแยกเขี้ยวใส่ไอ้เจ้า “แต่กูไม่เห็นเงาหัวมึง ขืนยังพูดถึงมัน กูจะเอามีดมาฟันคอมึงทิ้งซะ”

“ก็คุณเริ่มก่อน” ไอ้เจ้าเถียง

“กูเริ่มแต่มึงก็ไม่จำเป็นต้องสานต่อ” ธราว่ากลับ

“ไม่มีใครอยากได้ยินคำประชดประชัน” ไอ้เจ้าบอกเสียงแผ่ว

“งั้นมึงก็รู้ไว้ว่าไม่มีใครอยากประชดประชัน ถ้าอีกคนแม่งชัดเจนว่าในใจมีใครอยู่”

น็อกเอาท์!

เจอถ้อยคำนี้เข้าไปไอ้เจ้าเงียบกริบ มันเถียงต่อไม่ได้ เพราะยังคงยอมรับว่ามันรักธราคนก่อนมากกว่าธราคนนี้ ทั้งที่ก็เป็นคนเดียวกัน แต่ความรู้สึกกลับแน่ชัดว่าชอบธราคนก่อนหน้ามากกว่า

“รักกูก็มีแค่กู” ธราเอ่ยเสียงเรียบ “ทั้งที่ว่างข้างๆ และที่ในใจของมึง”

ไม่ใช่ความผิดของธรา แต่กลับเป็นความผิดของไอ้เจ้าเองที่ก้าวออกจากอดีตมาไม่ได้ ภาพจำของมันยังคงมีแต่ภาพของธราคนก่อน ที่มาอยู่ตรงนี้ก็แค่อยากได้ธราคนนั้นคืนกลับมา โดยไม่สนใจว่าธราที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นอย่างไร

“เจ้า กูเกลียดมึงนะ”

“…”

“แต่ตอนนี้ที่ว่างข้างๆ กูก็มีแค่มึงแล้ว”

ไอ้เจ้ายิ้ม เป็นรอยยิ้มเศร้าๆ ที่ไม่ชินตา “งั้นถ้าคุณเจอคนที่รัก ที่ว่างข้างๆ คุณจะยังเป็นผมอยู่ไหม ถ้าวันหนึ่งคุณเจอคนที่โชคดีคนนั้นขึ้นมา คุณจะทิ้งผมอีกหรือเปล่า”

“เจ้า...”

“ขอโทษนะ ผมทำให้คุณงงอีกแล้ว” ไอ้เจ้ากะพริบตาเพื่อไล่น้ำใสๆ ที่เริ่มคลอหน่วย “คุณหิวไหมครับดิน ไปกินโจ๊กรอบดึกกันก่อนไหม”

“อืม” ธรารับคำ ก่อนบอก “ยังไงก็ได้”

เพราะสีหน้าของไอ้เจ้า ทำให้ธราไม่กล้าขัด ทำไมถึงได้ทำหน้าเศร้าแบบนั้น แววตาของมันก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เป็นความเจ็บปวดที่เขากลับแน่ใจว่าเขาคือต้นเหตุ ทั้งที่ไม่เข้าใจกับคำพูดของมันเลยแม้แต่น้อย ทว่าหัวใจกลับปวดหน่วงไปกับมันด้วย

“โจ๊กใส่ขิงเยอะๆ ที่คุณชอบคงทำให้คุณอารมณ์ดี”

“คงงั้น”

ธราไม่เคยรู้หรอกว่าตัวเขาชอบกินโจ๊กใส่ขิงเยอะๆ จนเมื่อไอ้เจ้าเป็นคนบอกว่าเขาชอบ ทีแรกก็ได้แต่เถียงอยู่ในใจ แต่พอลองกินแล้วก็ถูกใจกับรสชาติ จากนั้นก็กินแบบนี้เรื่อยมา ทั้งที่จริงก็ไม่ได้ชอบมากมาย ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้

ที่ชอบก็แค่เพราะไอ้เจ้าบอกว่าเขาชอบเท่านั้น...



......TBC......

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: เจอกันอีกทีสัปดาห์หน้าเด้อจ้าาา แต่ถ้าว่างจะรีบมาเลยยยย เสาร์อาทิตย์นี้ไปต่างจังหวัด อิ๊
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 02-11-2018 18:06:15
หน่วงเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 02-11-2018 18:16:39
ความฟินถาวรไม่มีในนิยายของนางจริงๆจ้า แงง้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-11-2018 18:22:33
ดินหึงตัวเอง  :hao3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-11-2018 18:27:12
 :mew6: น้ำตาซึม สงสารเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 02-11-2018 18:28:49
หน่วงเบาๆๆๆๆๆ ธราเทอจะต้องเสียใจ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 02-11-2018 18:34:11
คนๆนั้นเขาไม่กลับมาแล้วเจ้า คนปัจจุบันก็เหมือนจะปล่อยมือและทำร้ายเจ้าได้ตลอดเวลา เหมือนรักสำหรับเขามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อยากปล่อยก็ปล่อย  พอไปจนิงๆก็ดิ้นเหมือนหมาลวกน้ำ 
.
เจ้า ควรไปให้ไกลจากดิน หนังสือเล่มเก่าอ่านยังไงก็จบเกมมือนเดิม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 02-11-2018 18:43:35
สงสัยอยู่ว่า   
ทำไมเจ้าถึงไม่ถามเรื่องอดีตกับดิน   
มีอะไรที่ทำให้เจ้า คุยกับดินไม่ได้   ว่าทำไมดินถึงเกิดการลืมขึ้น
หรือทำไมเจ้าถึงไม่บอก ว่าเคยเป็นแฟนกัน  ทำไมต้องเงียบจนเกิดดราม่า
ถ้าดินเป็นโรค เกี่ยวกับความทรงจำ เหมือนที่เคยเจอในนิยายหรือหนังญี่ปุ่น ดินและครอบครัวน่าจะรู้ตัว

แต่นี่เหมือน ความทรงจำในอดีตของดินหายไป  และไม่มีใครอยากขุดขึ้นมา
และดินก็ไม่รู้ตัวว่า  ตัวเองมีอดีต ที่ถูกตัวเองลืมไป
เรื่องร้ายขนาดไหน  ถึงบอกให้ดินรู้ไม่ได้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-11-2018 18:51:54
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-11-2018 18:59:42
คนๆนั้นเขาไม่กลับมาแล้วเจ้า คนปัจจุบันก็เหมือนจะปล่อยมือและทำร้ายเจ้าได้ตลอดเวลา เหมือนรักสำหรับเขามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อยากปล่อยก็ปล่อย  พอไปจริงๆก็ดิ้นเหมือนหมาลวกน้ำ 
.
เจ้า ควรไปให้ไกลจากดิน หนังสือเล่มเก่าอ่านยังไงก็จบเหมือนเดิม

สงสัยอยู่ว่า   
ทำไมเจ้าถึงไม่ถามเรื่องอดีตกับดิน   
มีอะไรที่ทำให้เจ้า คุยกับดินไม่ได้   ว่าทำไมดินถึงเกิดการลืมขึ้น
หรือทำไมเจ้าถึงไม่บอก ว่าเคยเป็นแฟนกัน  ทำไมต้องเงียบจนเกิดดราม่า
ถ้าดินเป็นโรค เกี่ยวกับความทรงจำ เหมือนที่เคยเจอในนิยายหรือหนังญี่ปุ่น ดินและครอบครัวน่าจะรู้ตัว

แต่นี่เหมือน ความทรงจำในอดีตของดินหายไป  และไม่มีใครอยากขุดขึ้นมา
และดินก็ไม่รู้ตัวว่า  ตัวเองมีอดีต ที่ถูกตัวเองลืมไป
เรื่องร้ายขนาดไหน  ถึงบอกให้ดินรู้ไม่ได้

เหมือนอย่างที่คิดเลย........  :mew2:
มันหน่วง อึมครึม  ดูแล้วธราพร้อมไปจากเจ้าตลอดเวลา  :z3: :เฮ้อ: :serius2:
สงสารเจ้า บางที่ก็คิดอยากให้เจ้าไปจากธราจริงๆ
โอกาสที่ธรา จะฟื้นความจำจะเป็นไปได้ตอนไหนนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 02-11-2018 19:36:53
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 02-11-2018 19:38:44
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 02-11-2018 19:45:16
แอบร้องไห้นิดๆ​ สงสัย​ทำไม​เจ้าไม่บอกอดีตไปเลย​ เก็บไว้ทำไม​ อยากรู้ด้วยว่าทำไมดินถึงความจำเสื่อม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 02-11-2018 20:17:16
ติดตามมากก... ทั้งๆที่อ่านทุกครั้งก็หน่วงๆทุกครั้ง...  กลัวอดีตของทั้งคู่จะกระทบปัจจุบันจนและ :ling3: ประมาณว่าหวานก็ยังแอบมีขมนำ :ling2: กลัวใจคนเขียนมากกก...  :ling1: กลับแบบอยู่ดีๆปาดร่าม่าฉากใหญ่ใส่หน้า  :ling3: แต่ก็หยุดอ่านไม่ได้ ใจบางแค่ไหนก็ต้องทนอ่าน  :ling3:  ฝึกความแข็งแรงเข้มแข็งจริงๆ  :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 02-11-2018 21:06:57
ฮืออออ สามวันดีสี่วันไข้จริงๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 02-11-2018 21:33:03
คนที่เป็นอดีต เธอก็ยังไม่ลืม
เธอนั้นยังมีใจให้กับเขา....

มอบให้เจ้า....
            จากธรา....

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Faii0518 ที่ 02-11-2018 21:44:49
ในความคิดของนี่ ตอนนี้ดินคนใหม่รักเจ้าแล้ว แต่เจ้ารักดินคนเก่ามากกว่า ถ้าเราเป็นเจ้าเราจะเดินหน้ากับคนเก่าที่เป็นคนใหม่คนนี้ จะทำทุกอย่างให้ดี จะไม่ทำในเรื่องที่เคยทำพลาดไป.. เอ้ออออ่านแล้วก็สงสารทั้งคู่ ทั้งคนที่จำได้ทุกอย่างและคนที่ไม่เหลือความทรงจำแต่ก็รักเค้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ppnplg ที่ 02-11-2018 21:51:49
คือดินพร้อมจะไปจากเจ้าตลอดเวลาอะ สงสารเจ้าดินมันรักจริงๆใช่ไหมเนี่ย หรือแค่ชั่ววูบ
อดีตของดินที่เจ้าไม่เคยเล่า และไม่เคยถาม เพราะอะไรอะ คนรอบตัวรู้ไหมอะว่าดินจำไม่ได้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-11-2018 23:09:37
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: changemoo ที่ 02-11-2018 23:32:35
 ตอนที่เรื่องทะเลาะกันในอดีต เรื่องมือที่สามไหมคะ ไม่แปลกที่เจ้าจะรักคนในอดีตมากกว่า ที่เจ้ารักคนในปจบ เพราะคิดว่าเป็นคนในอดีต ความจริงแล้วถึงเป็นคนคนเดียวกัน แต่ไร้ความทรงจำก็เหมือนคนละคน ความรักครั้งนี้จะเป็นยังไงนะ 555 มันยุ่งเหยิงซับซ้อน เพราะจริงๆมันยุ่งหรือเพราะคนทำมันยุ่งกันแน่
อีกนิด สุดท้ายแล้วคนปจบอาจเป็นคนที่ไม่ทิ้งเจ้าไปไหนก็ได้ แม้ว่าจะมีใครเข้ามา นี่เป็นความหวังของเราด้วย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 03-11-2018 00:03:21
ทำไมเจ้าเอาแต่ปิดบัง แล้วเมื่อไหร่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หน่วงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตายกันไปข้าง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: CHOO ที่ 03-11-2018 00:16:36
มันต้องเป้นความทรงจำที่เลวร้ายขนาดไหนนะ ที่แม้แต่พูดถึงยังทำไม่ได้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 03-11-2018 01:01:57
รักเรื่องนี้อะ อ่านแล้วอินทุกตอนเลย ไม่มาต่อ 2 วัน เราคิดถึงมากเลย อินกว่าคุณธนิกอีก  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 03-11-2018 01:44:00
ต่อไปธราก็จะหึงหวงเรื่องแฟนเก่าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ว่า นั่นก็คือตัวเอง....ก็จะย้อนมาอีกรอบ แล้วทำไมเค้าถึงความจำเสื่อมหว่า?!?!???!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-11-2018 07:06:19
ธราาาา ทำไมๆๆ เจ้าก็ทำไมไม่บอก งื้ออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-11-2018 07:16:53
มองเห็นดราม่ามาแต่ไกล  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 03-11-2018 10:02:46
แค่อุบัติเหตุ​ทำให้ดินจำไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ มันดูมีเงี่ยน เอ้ย เงื่อนงำ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 03-11-2018 10:13:09
เศร้าจัง ธราเหมือนเป็นแก้วเปล่าที่มีเจ้ากำลังเติมน้ำลงไป
 สงสารธราจัง แต่ก็สงสารเจ้า อยากให้ธราจำได้จะได้เคลียร์เรื่องเก่ากันไป
ส่วนความรักครั้งใหม่นี้ค่อยสร้างมันขึ้นมาอีกละกันนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-11-2018 10:17:38
เง้ออออออ สงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 03-11-2018 11:37:34
แต่ละคำพูดของธรา พูดออกมาได้ เฮงซวย!
ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปนายมันก็แค่ธราคนปัจจุบัน ธราที่เป็นตัวแทนของธราเจ้าของการ์ดอวยพร
ไม่มีทางที่นายจะเป็นคนเดียวกันกับธราคนนั้นในใจเจ้าหรอก
.
บอกเลิกง่ายๆ บอกลาง่ายๆ นายคงลืมไปว่าถ้าเจ้าหายไป นายไม่มีทางหาเจอ
อย่าคิดจะไปสู้คนอื่นเลย สู้ตัวเองในความทรงจำคนอื่นยังไม่ได้ คนเฮงซวย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 03-11-2018 12:40:25
ีทำไมดินความจำเสื่อมแล้วทำไมดินถึงไม่รู้ว่าตัวเองความจำเสื่อม หน่วงตามธราเลย แต่ก็เหมือนจะรักเจ้าแต่บางทีก็เหมือนแค่กั๊กไว้เฉยๆให้เป็นของตัวเองเท่านั้น พอเจ้าคิดถึงแฟนเก่าก็หวงของ กลัวไม่มีใคร ทำไมเขาไม่คุยเรื่องเก่าๆกันสักที  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 03-11-2018 15:37:24
เราต้องได้เล่มนี้พูดเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 03-11-2018 23:46:48
หน่วงอ่าาาา
มาต่อไวๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-11-2018 01:02:50
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 04-11-2018 04:49:22
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ 04-11-2018 06:46:21
ธารเคยทำอะไรให้จ้าวบ้างเนี่ย อ่านมามีแต่จ้าวทำ นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรอ
มีแตาธารอะที่ไม่ชัดเจนแต่แรก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-11-2018 12:30:46
รอวันคลายปม :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: CRP_N ที่ 04-11-2018 22:16:21
ตามทันแล้วววววว สนุกมากกกกก เอ็นดูนายเจ้ากับนายเอ๋ที่สุดเลย // กว่าจะอ่านจบแต่ละตอนคือเป็นไบโพล่า5555555555555 เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวเจ่บหัวจัยยย ฮืออออออ รอติดตามตอนต่อไปฮับ เป็นกำลังใจให้นะคะ♡
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 04-11-2018 23:51:53
รอนะคะ..  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-11-2018 23:57:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 05-11-2018 05:02:09
เข้าใจธราที่โกรธเจ้าเรื่องแฟนเก่า ความรักที่เจ้ามีให้กับแฟนเก่ายังฉายชัดในแววตา ถ้าเราเป็นธราก็คงเจ็บปวดที่คนที่เรารักเอาเราไปเป็นตัวแทนแฟนเก่า เชื่อว่าตอนนี้ธรารักเจ้าแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 05-11-2018 17:21:08
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 05-11-2018 17:24:49
มันคือคนๆเดียวกันมะเนี้ย ยังไงๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 05-11-2018 20:28:02
 :mew2: จะรักกันนานๆไม่ได้เลยเหรอออออออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 05-11-2018 21:16:46
ดินกับเจ้าจะข้างคาเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่ อยากให้เจ้าบอกความจริงอยากรู้สาเหตุทำไมดินลืมกัน แงงงงรอเสพมาม่า :heaven
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-11-2018 10:30:28
งืมๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 07-11-2018 10:39:53
แฟนเก่ากับแฟนปัจจุบัน ก็คือธรา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-11-2018 19:13:21
จะบ้าบอตามเจ้ามั้ยเนี่ยยย

แต่ต้องตามม ขอตามด้วยคน!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 09-11-2018 05:08:02
 :katai1: รออยู่นะ เจ้าาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 11-11-2018 13:45:59
ต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบมั้ย พลาดพ้อยท์ไหนไป ทำไมนี่ทีมธรา เข้าใจว่าเจ้าหน่วงมาก พยายามมากเรื่องธรา แต่ตอนล่าสุดกลับรู้สึกว่าเจ้าทำตัวเองนะ บางทีถามก็ได้ พาไปดูที่เดิมๆภาพเก่าๆก็ ให้ธรารู้ไปเลยว่าผัวเก่ากับผัวใหม่คือคนคนเดียวกัน แล้วหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมความจำเสื่อมค่อยแก้ไขกันไป อันนี้แต่ละคนต่างประชดประชันกัน ธราก็หึงโหด แต่คำพูดก็ทำร้ายจิตใจเกิน เจ้าเหมือนจะใจเย็นแต่ก็ประชดตามไปอีก ทั้งที่เอาจริงแล้วคนที่แสดงออกว่ายังรักผัวเก่าอยู่เต็มหัวใจยังไงคนใหม่มันก็คิด รักคนเก่าก็บอกเขาระเบิดความจริงไป แล้วเอาคนเก่ากับคืนมา ไม่บอกเขาแล้วจะได้ธราคนเก่ากลับมามั้ย
ตอนไลน์ตอนเมาครั้งโน้น หรือจะตอนใส่แหวน เผลอพูดเรื่องเดิมนิดหน่อยนี่ก็ลุ้นแล้ว บอกเลยๆๆ
บอกความจริงไป แต่แล้วก็ไม่บอก เฟล!
เค้าความจำเสื่อมใช่มั้ย ไม่ได้เลิกกันเพราะจับได้ว่าไปมีชู้ ถึงได้เก็บงำความลับเหมือนรอวันแก้แค้น
บางทีเครียดก็เครียดไปเลยเถอะ ทะเลาะให้บ้านแตกแล้วระเบิดความจริงออกมา อย่าเครียดแล้วกลับพูดทีเล่นทีจริงอย่างนี้ ไอ้คำว่า อิ๊ นี่ขอซื้อทิ้งเลย
 สถานการณ์กำลังตึงเครียดโว๊ย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Once ที่ 12-11-2018 00:41:15
กลัวจะไม่ใช่คนเดียวกันจังวุ้ย แบบฝาแฝดที่พลัดพลากจากกันงี้ TVT)
แต่ชื่อเดียวกัน นิสัยคล้ายกันนี่สิ TVT) ว่าแต่คนคนหนึ่งจะหายไปแล้วกลับมาใหม่เหมือนตายแล้วฟื้นง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ คนหรือแมวเนี่ย TVT) เท่าที่อ่านดูเหมือนเจ้าเรียนปี 3 แล้วธราหายไป ตามหา 1 ปี แล้วก็มาเจอธราแล้วก็ตามมาจะสองปีแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 12-11-2018 06:46:36
คิดถึงเจ้าจังเลย

แอบส่องเจ้าเมื่อไหร่เจ้าจะมา  :m22: :m22: :m22:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 12-11-2018 19:43:15
ดินสูญเสียความทรงจำเพราะเจ้าใช่ไหม ทะเลาะกันแล้วเกิดอุบัติเหตุงี้เปล่า?  :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 15-11-2018 20:10:51
เจ้าคิดถึงๆ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-11-2018 20:19:12
คิดถึงพี่เจ้าแล้วเมื่อไหร่จะมาน้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-11-2018 22:45:52
เกิดอะไรขึ้นกับดินนะ ทำไมจำเรื่องเจ้าไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 17-11-2018 02:23:09
อ่านรวดเดียวฮือ 

เราไปอยู่ไหนมา เปิดเรื่่องใหม่ตอนไหน อะไรยังไง ตามตลอดแต่ไม่เห็นเลย

เรื่องมีมิติมาก ทั้งรู้สึกหน่วง แล้วก็หวิว ฟินคำที่เค้าโต้ตอบกัน

แอบสงสัยพระเอกจำอะไรไม่ได้บ้างเลยรึ แล้วนายเอกไม่พยายามให้นึกให้ออกหรอ

แต่ยังไงก็ตาม มันดีมากเลยเรื่องนี้ อบอุ่นละมุนๆหน่วงๆ ดีงามไปหมด :o8: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 17-11-2018 05:41:31
มันอึดอัดอยู่ในใจตลอดเวลาที่อ่านเลยค่ะ แงงงงงงงง
 :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 21-11-2018 16:57:12
คิดถึงเจ้าแล้วววว
มาต่อให้ชื่นใจหน่อยน้าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 21-11-2018 19:19:56
นี่เป็นสายโรคจิต รู้สึกชอบเจ้าตอนเป็นสตอล์คเกอร์มากกว่า เจ้าที่คอยบังคับ ขู่ให้ธราเลิกกับสาว เจ้าที่มีตัวตนในแชท รู้สึกเป็นคนแปลกหน้าดี โรคจิตชัดๆเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-11-2018 07:25:30
เจ้ายุน๊ายยยยยยยยยยยยยยย :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: oneil ที่ 30-11-2018 15:21:40
คิดถึงพิเจ้าา :mew1: :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-11-2018 20:17:05
รอ  'เจ้า'  ..........  :mew2:
คิดถึงเจ้า   .........  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 30-11-2018 23:53:31
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 05-12-2018 11:30:03
รอเจ้าอยู่นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 05-12-2018 12:57:04
คิดถึงพี่เจ้าแล้วค่ะะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-12-2018 20:11:43
 :mew6: :mew6:


หน่วงอ่ะ   สงสารเจ้า 

คนที่ลืมกับคนที่จำ คนจำมันเจ็บจริงไรจริง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 07-12-2018 15:42:33
มารออ่านตอนต่อไปค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-12-2018 07:37:12
เจ้าไปไหนกลับมาเดี๋ยวนี้เลย

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 17-12-2018 16:17:02
นี่เป็นห่วงผู้แต่งเด้อ
กลับไปอ่านทอล์คท้ายบทที่แล้วว่ากำลังเดินทางกลับบ้าน แล้วจะมาต่อใน1สัปดาห์
ถ้าได้รับแมสเสจแล้วขอให้ส่งซิกแนล    :L1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 30-12-2018 03:28:41
จนลืมไปแล้วว่าเคยอ่านนิยายเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 31-12-2018 16:06:21
หน่ว ดราม่า และบ้ามาก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 9 แฟนเก่า ​P.9 02/11/2018
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 31-12-2018 20:27:37
หน่วงสุดด  :sad11:
หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 05-01-2019 17:31:12
ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น





Saturday, 01:30 AM

D. : มึง

D. : นอนยังวะ

P. : จะนอนได้ไง กูรอเสือกเรื่องของมึงอยู่

D. : เออ

P. : อะ จะมาองมาเออสั้นๆ ไม่ได้นะเพื่อนนะ เล่าเลย

D. : ให้เล่าอะไร

P. : เอ้า ไอ้ห่าดิน มึงเมาเหรอ

D. : กูไม่ได้กินเหล้ามั้ยล่ะ

P. : แต่มึงดูงงๆ

D. : เออ ไม่รู้ว่ะ งงมั้ง

P. : อาการหนัก ไปคุยในกรุ๊ปมั้ย ให้ไอ้จอมกับไอ้คินตบมุขสร้างความบันเทิงให้ มึงจะได้ไม่งงเพียงลำพังแต่จะมีกูงงไปกับมึงด้วย

D. : แก้ปัญหาอะไรของมึง กูว่าเครียดกว่าเดิม

P. : เอาแต่ใจจริงๆ ไอ้ลูกคนนี้

D. : บอกกี่ทีแล้วว่ากูไม่มีพ่ออย่างมึง

P. : เจ็บ แต่ไม่ตาย

P. : แล้วยังไง เคลียร์กับไอ้เจ้ายังลูกรัก

D. : ให้เคลียร์ไรวะ

P. : แฟนเก่าไง ที่น้องเอ๋คนซื่อของกูวางระเบิดโดยไม่รู้ขิงรู้ข่า

D. : มีอะไรต้องเคลียร์รึไง

P. : ก็จริง อดีตก็คืออดีต





ธราได้แต่ถอนหายใจกับข้อความจากเพื่อนซี้ ไม่รู้จะตอบกลับมันอย่างไรดี เพราะเขาไม่ได้คิดว่าอดีตก็คืออดีตเลยสักนิด ในเมื่ออดีตนั้นกำลังวิ่งแข่งกับปัจจุบัน อดีตที่ทำให้คนอย่างไอ้เจ้ายังคงรู้สึก





P. : เงียบหายเหมือนตายจาก

P. : สรุปยังไงลูกพ่อ ไปต่อหรือพอส่ำนี่

D. : ทะเลาะ

P. : ว๊อทท?

D. : กูทะเลาะกับเจ้า

D. : แล้วกูก็ปากไวบอกเลิกมันไปแล้ว

P. : เอ้า! แล้วค่าน้ำมันสามเดือนกูอะ

D. : ใช่เวลามั้ยไอ้สัด

P. : ขอโทษขรั่บ

P. : รอรับสายนะ เดี๋ยวโทรหา

D. : อือ





ธรารออีกไม่กี่อึดใจ ไอ้แพร์เพื่อนผู้ชอบใส่ใจในเรื่องของเขายิ่งกว่าเรื่องของตัวมันเองก็โทรเข้ามา เขากดรับสายพลางลุกเดินไปที่ระเบียง

“ไหน เรื่องมันเป็นยังไง” เสียงของเพื่อนซี้ดังมาตามสาย “ทำไมเรื่องของแฟนเก่าไอ้เจ้าถึงเป็นปัญหาได้วะ มึงไปงี่เง่าใส่มึงหรือไง”

เจ้าของไหล่กว้างเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรีที่มีพระจันทร์สีนวลตาลอยเด่น ความรู้สึกตอนที่ได้พูดคุยถึงอดีตคนรักของคนที่เกลียดเป็นพิเศษคนนั้นยังคงลอยวน

“ถามหน่อยเถอะไอ้แพร์ ถ้าเป็นมึงจะคบกับคนที่ไม่เคยลืมแฟนเก่าได้ไหม” ธราถามเสียงแผ่ว เขาเต็มไปด้วยความลังเลและความสับสน ทั้งไม่รู้และไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อดี

“ไอ้เจ้าบอกเหรอว่ายังไม่ลืม” ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “หรือมึงคิดไปเองวะไอ้ดิน”

“มันก็ไม่ได้บอกตรงๆ แต่มันก็ไม่ได้ปฏิเสธตอนที่กูถาม” ธราบอกเสียงห้วนสั้น เขาจ้องมองพระจันทร์แต่ภาพที่เห็นกลับเป็นใบหน้าของคนที่ทำให้หงุดหงิดใจแทน

“ได้ถามมั้ยว่าแฟนเก่ามันเป็นใคร แล้วมีโอกาสจะรีเทิร์นมากแค่ไหน”

“กูไม่ได้อยากรู้จัก ไม่ได้อยากรู้อะไรทั้งนั้น” ทั้งไม่อยากรู้จักและไม่อยากให้คนคนนั้นมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ ธราไม่อยากรับรู้หรอกว่าหัวใจของไอ้เจ้าเคยเป็นของใครมาก่อน เพราะเขาหวั่นใจ หวั่นใจว่าจะสู้คู่แข่งคนนั้นไม่ได้ “ไม่จำเป็นมั้ยล่ะวะ มันจะเป็นใครก็ช่าง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกูแล้ว”

“ต้องเกี่ยวสิวะไอ้ลูกโง่นี่” คนชอบใส่ใจทำเสียงเข้มมาตามสาย ธรานึกสีหน้าของไอ้แพร์ในตอนนี้ออกได้เลยว่าต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่แน่ๆ “ถ้าวันหนึ่งมันโผล่หัวกลับมา มึงจะไม่แย่เอาเหรอไอ้ดิน”

“ใครจะกลับมาก็ช่างแล้วตอนนี้” ธราเสียงห้วน เขาแสดงออกอย่างไม่แยแสแต่ในใจนั้นรุ่มร้อนราวกับถูกลนด้วยไฟ “เพราะกูเลิกไปแล้วไง”

“วิถีคนแพ้สัดๆ แค่คนในอดีตก็เอาชนะไม่ได้ เลิกกันด้วยเรื่องแฟนเก่านี่นะ กูเป็นไอ้เจ้าที่ตามตื้อมึงมาสองปีคงร้องไห้ตาย” ถ้อยคำปรามาสจนคนฟังรู้สึกอยากต่อยให้หน้าหงาย “แล้วตอนนี้ไอ้เจ้าอยู่ไหน”

“ไม่รู้ ไปหาไอ้น้องเอ๋เพื่อนมันมั้ง เลิกกันแล้วกูก็ไม่จำเป็นต้องรู้มั้ย”

“อะ ย้ำเข้าไป พูดอยู่ได้ว่าเลิกกัน แต่ใจมึงอยากเลิกกับมันเหรอ”

“ก็ไม่ได้อยากคบตั้งแต่แรก” ธราว่าเสียงแข็ง เผลอขบเม้มริมฝีปากเมื่อพูดถ้อยคำที่ตรงข้ามกับความรู้สึก “กูก็บอกอยู่ตลอดว่าเกลียดมัน”

“ดิน มึงก็แค่ปากแข็ง” เพื่อนซี้เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจะย้ำถ้อยคำให้ธรารู้สึกราวกับโดนหมัดหนักๆ ต่อยเข้าที่ปลายคาง “มึงรักมัน”

“ไม่” คนปากแข็งปฏิเสธเสียงเบา “กูไม่ได้รัก”

“ดิน”

“กูพูดจริงๆ แพร์” บางแห่งในใจของธรากำลังร้องประท้วง บางแห่งในอวัยวะแสนสำคัญนี้กำลังรู้สึกทรมาน “ความรู้สึกของกูที่มีต่อเจ้า กูรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความรัก มันเป็นความรู้สึกที่กูนิยามมันไม่ได้ อยู่กับมัน...บางครั้งกูก็รู้สึกทรมานใจ บางครั้งก็รู้สึกเกลียดมันอย่างไม่มีเหตุผล แต่กูก็ไม่ปฏิเสธว่ามันทำให้กูมีความสุขมากกว่าที่คนอื่นทำได้”

ธราพยายามอธิบายความรู้สึกของเขาเผื่อว่าคนที่รับฟังจะสามารถนิยามความรู้สึกที่มีนี้ได้บ้าง หวังว่าความรู้สึกที่เขาหาคำตอบมาเนิ่นนานจะได้รับคำนิยามสักที แต่เปล่าเลย ไอ้แพร์ได้แค่เงียบฟังโดยไม่ออกความเห็นจนเมื่อเขาพูดจบก็ได้ยินเสียงมันถอนหายใจ

“กูเป็นงง” ไอ้แพร์พูดขึ้นในที่สุด “กูอยากรู้เลยเนี่ยว่าในหนึ่งวินาทีที่มึงอยู่กับไอ้เจ้า ความรู้สึกของมึงซับซ้อนได้ขนาดไหนกันวะ”

“ขนาดที่เขาวงกตยังต้องแพ้ให้ความรู้สึกของกูว่ะ” ธราเปรียบเปรย เขาจ้องมองแสงนวลตาของพระจันทร์เพื่อหวังหาคำตอบที่ไม่ได้รับจากการปรึกษาคนไร้ประโยชน์อย่างไอ้แพร์ คาดหวังอย่างโง่ๆ ว่าอาจจะมีคนที่อาศัยอยู่บนนั้นเขียนคำตอบลงบนผืนฟ้าให้ ทว่าสุดท้ายก็ยอมรับว่าเป็นแค่ความคิดเพ้อเจ้อ เขาถอนหายใจ สะบัดศีรษะเล็กน้อยแล้วเหลือบมองไปที่ระเบียงของห้องที่เจ้าของสร้างความว้าวุ่นใจให้ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนาส่งยิ้มกว้างตอบกลับมา “ชิบ! ไอ้เหี้ย!!”

“เอ้า ด่ากูทำไม” เสียงทุ้มโวยวายมาตามสาย

“ไม่ได้ด่ามึง” ธรารีบพูด เขายกมือข้างที่ว่างขึ้นลูบอกข้างซ้ายราวกับกำลังสำรวจว่าหัวใจยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้กระเด็นกระดอนหายไปตอนที่กำลังตะโกนด้วยความตกใจ “แค่นี้ก่อนไอ้แพร์”

“อ้าว ไรวะ เดี๋ยว...”

ธรากดวางสาย เขาไม่รอฟังเพื่อนซี้โวยวายเสียด้วยซ้ำเพราะตอนนี้ความสนใจทั้งหมดกำลังมุ่งตรงไปที่เจ้าของร่างผอมสูง ผู้ซึ่งกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความมืด หลบแสงจากพระจันทร์อยู่ตรงมุมหนึ่งของระเบียง “กูเกือบหัวใจวายตาย” เขาว่า หัวใจยังคงเต้นในจังหวะรัวเร็ว “นึกว่าผีไอ้สัด มายืนทำอะไรมืดๆ”

“ก็ได้ยินเสียงคุณคุยโทรศัพท์ ผมก็เลยออกมายืนเป็นเพื่อน” ไอ้เจ้าว่าด้วยน้ำเสียงสบายๆ ใบหน้าคมคายระบายรอยยิ้มให้เห็น “ไหนบอกจะนอนแล้ว”

“นอนไม่หลับ” ธราบอกตามตรง

“อืม” ไอ้เจ้าขานรับ

หลังจากจบมื้อดึกด้วยกันที่ร้านโจ๊กเจ้าอร่อยแล้วไอ้เจ้าก็เป็นแบบนี้มาตลอด ธรารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายพูดน้อยคำ แววตาคมบนดวงหน้าก็ราวกับคนกำลังครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เขาทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้จึงได้แต่สังเกตอยู่เงียบๆ โดยไม่ตั้งคำถาม แต่ก็พยายามหาคำตอบเองในแบบของเขาจนท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับว่าตัวเขานั้นไม่เก่งกาจพอจะตีความคนคนนี้ได้จึงตัดสินใจแยกย้ายกันกลับ ตกลงกันว่านอนพักสักคืนแล้วค่อยมาพูดคุยทำความเข้าใจกันใหม่

ไอ้เจ้าอยากให้เขาคิดทบทวนเรื่องที่จะเลิกรา ในขณะที่เขาก็อยากให้มันคิดทบทวนความรู้สึกของตัวมันเอง

“เจ้า” ธราตัดสินใจเอ่ยเรียก

ไอ้เจ้าละสายตาจากภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนตรงหน้าแล้วหันมองเจ้าของเสียง “ว่าไง”

ครั้นได้ยินคำถาม ธราก็เผลอกลั้นหายใจ เขาไม่ได้คิดคำถามหรือบทสนทนาไว้ตั้งแต่แรก เพราะก็แค่อยากเรียกคนที่เหมือนกำลังหลุดลอยไปในที่ไกลๆ ให้กลับมาเท่านั้น

“ว่าไงดิน” ไอ้เจ้าถามย้ำ คิ้วโก่งได้รูปเลิกขึ้นสำทับ

“กูคิดว่ามึงไปหาเพื่อน” ธราปรับสีหน้าให้เป็นปกติพลางพูดเสียงราบเรียบ เหลือบเห็นไอ้เจ้ากำลังอมยิ้มแล้วก็ยิ่งไม่อยากมองสบตากับมัน เพราะกลัวไอ้คนรู้ทันจะรู้ว่าเขาก็แค่อยากชวนคุย “ไม่ได้ไปหรอกเหรอ”

“ครับ เอ๋นอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปมอแต่เช้า ผมก็เลยไม่อยากไปกวน”

“แต่พรุ่งนี้วันเสาร์” ธราแย้งเมื่อนึกขึ้นได้ “คณะมึงมีเรียนเหรอ”

“เปล่าครับ แต่เอ๋มีภารกิจลับนิดหน่อย” ไอ้เจ้าตอบ น้ำเสียงของมันกลั้วหัวเราะเมื่อนึกถึงวีรกรรมวีรเวรของไอ้เอ๋เพื่อนยาก “ผมคิดว่าถ้าว่างก็คงไปช่วยมัน”

“ทำอะไร” ธราถามด้วยความสนใจแต่เขาปิดบังความรู้สึกนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ปลูกผัก”

“เป็นภารกิจลับตรงไหน”

“ต้องลับสิครับเพราะผมกับเอ๋วางแผนกันเกือบสองชั่วโมง” ไอ้เจ้าโคลงหัวเล็กน้อยเมื่อเริ่มเล่าถึงแผนการณ์ของมันกับเพื่อนรัก “ผมต้องยอมไปกินข้าวกับแป้งจี่เพื่อแลกกับที่เธอต้องไปเดตกับไอ้คิ้ม ดินคงสงสัยใช่ไหมว่าไอ้คิ้มเป็นใคร อะๆ ไม่ต้องปฏิเสธหรอกเพราะดินกำลังขมวดคิ้ว”

“คนขมวดคิ้วก็ไม่ใช่ว่ามีเรื่องสงสัย” ธราว่า “บางทีอาจจะกำลังไม่พอใจ”

“แล้วไม่พอใจเรื่องอะไรครับ” ไอ้เจ้าเลิกคิ้ว แววตาของมันกำลังแสร้งไม่รู้ความ แต่ธรารู้ดีว่าไอ้คนยียวนคนนี้รู้ทันความคิดของเขามากแค่ไหน

“ทำไมต้องไปกินข้าวกับคนอื่น” ธราถามตามตรง

“เนี่ย คำพูดคำจาของคนเพิ่งบอกเลิก” ไอ้เจ้าส่ายหน้าพลางยิ้มกริ่ม “คุณไม่มีสิทธิ์แล้วนะครับ”

“กวนตีนไอ้สัด” ธราว่าอย่างหงุดหงิด เขาอยากจะเดินไปหยิบกระถางต้นดอกมะลิแล้วเขวี้ยงข้ามระเบียงไปโดนไอ้คนชอบยียวนกวนประสาทเสียจริงๆ เอาให้หน้ายิ้มๆ ของมันยับไปเลย

“หงุดหงิดอีกแล้วนะครับ”

“ถ้าไม่อยากให้กูหงุดหงิด ก็ลดความกวนตีนลงหน่อย”

“ไม่ได้ มันเป็นคาแรคเตอร์”

“ไปตาย”

“อย่าไล่ ขอร้อง”

น้ำเสียงจริงจังของไอ้เจ้าทำให้ธราหันไปมอง ก่อนจะเห็นสีหน้าที่ไม่ต่างจากน้ำเสียงของมัน เขามองสำรวจ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “ขอโทษ”

“ผมไม่โกรธหรอกครับ” ไอ้เจ้ายิ้ม รอยยิ้มของมันเศร้าสร้อย “โกรธคุณสักครั้งผมยังไม่เคย”

“เคยสิ” ธราแย้ง “มึงโกรธทุกทีตอนที่กูป่วย”

“ไม่ใช่ความโกรธครับที่รัก แต่คือความห่วงใย”

เลี่ยนแค่ไหน ธราก็ชอบฟัง หากไอ้เจ้ามีงานอดิเรกชอบหยอดขนมครก เขาก็คงชอบที่จะได้เป็นลูกค้าขาประจำ “งั้นก็เป็นตอนที่กูควงคนอื่น ตานี่ขวางอย่างกับหมาบ้า”

“ผมโกรธที่ไหนกัน หึงหวงคุณต่างหาก”

“ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์” คนถูกหึงหวงเลิกคิ้วยียวน “ก็ยังหึง”

“ครับ ทั้งที่ไม่มีนั่นแหละ”

ธราเผยรอยยิ้ม เขาไม่แน่ใจเลยว่าทำไมถึงยิ้มกับแค่ได้ยินคำพูดที่เรียบง่าย “เจ้า เล่าต่อสิ แผนบ้าบอของมึงกับเพื่อน”

“อ๋อ…ถึงไหนแล้วนะ”

“ไอ้คิ้ม”

“ครับ ไอ้คิ้ม” ไอ้เจ้าพยักหน้าหงึก “ไอ้คิ้มมันเป็นคนรับผิดชอบแปลงผักสาธิตที่นายเอ๋เพื่อนของผมขโมยผักไปให้น้องบีดาวเภสัชฯ เพราะเข้าใจผิดว่าน้องท้องผูก”

“วิธีจีบแบบใหม่เหรอ” ธราถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะถ้าไม่ใช่เขาอาจต้องเตือนไอ้แพร์เพื่อนซี้ให้คิดทบทวนการสานสัมพันธ์กับเพื่อนของไอ้เจ้า เด็กหนุ่มที่ชื่อเอ๋คนนั้นอาจต้องการการรักษาสติมากกว่าต้องการแฟนดีๆ สักคน

“ครับ เอ๋มีความรักความจริงใจมอบให้หล่อน แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าหล่อนมีใจให้คุณ ส่วนคุณก็มีใจให้ผม รักสี่เส้าเราสี่คน เรื่องนี้ต้องมีคนเจ็บ”

“เอาที่มึงสบายใจจะพูดเถอะ” คนฟังอ่อนใจจนขี้เกียจจะแย้ง “แล้วยังไงต่อเจ้า ทำไมมึงต้องไปกินข้าวกับแป้งจี่อะไรนั่น”

“มันเป็นแผนล่อไอ้คิ้มออกจากแปลงสาธิตครับ เพราะหลังจากที่ผักโดนขโมย ไอ้คิ้มก็แทบจะกินนอนอยู่ที่แปลง”

“ไม่เวอร์ใช่มั้ย”

“ผมใส่ไข่นิดหน่อย” ไอ้เจ้ายอมรับในขณะที่ธราส่ายหน้าระอาใส่มัน “แต่ก็มีความจริงอยู่นะ ที่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกับแป้งจี่ เพราะจะให้แป้งจี่กันไอ้คิ้มให้ ปกติวันเสาร์เนี่ย ไอ้คิ้มมันจะชอบขลุกอยู่ที่แปลง เออ...แต่ที่จริงมันก็ขลุกอยู่ที่นั่นทุกวันจนนายเอ๋ไม่มีจังหวะเข้าไปไถ่โทษ ไม่รู้มันไปเรียนบ้างหรือเปล่าก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่โดนไทร์แล้วยึดอาชีพปลูกผักขายจริงๆ แต่นั่นแหละครับก็เลยต้องให้แป้งจี่ไปเดตกับมันวันเสาร์เพื่อที่เอ๋จะได้มีเวลาปลูกผักคืนให้”

“แต่ปลูกยังไงก็โตไม่ทันมั้ย ไม่ได้มีเวทมนตร์เสกได้ข้ามคืน”

“ครับ ถ้าปกติก็ไม่ทัน แต่คุณก็รู้ว่าผมมีเวทมนตร์ ยังไงก็ทัน”

เวทมนตร์ของไอ้เจ้านั้น ธรารู้ดีทีเดียวว่าคือมนตร์แบบไหน

“เจ้า” ธรามองตาดุ “มึงเอาเงินไปทำเรื่องไร้สาระอีกแล้วใช่มั้ย”

“ไม่นะครับ” ไอ้เจ้าปฏิเสธตาใส “ผมแค่อยากช่วยเพื่อน”

“มึงใจดีตั้งแต่เมื่อไหร่” ธราเค้น

“ก็ใจดีมาตลอด” ไอ้เจ้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“แค่กับกู”

คนใจดีไม่ทั่วถึงได้แต่พยักหน้าจำนนต่อพยานปากเอก “ครับ แค่กับดิน กับเอ๋ก็เลยมีข้อแลกเปลี่ยนนิดหน่อย”

“ถึงคราวซวยของไอ้น้องเอ๋ที่เป็นเพื่อนกับคนอย่างมึง” ธราแน่ใจว่าข้อแลกเปลี่ยนของไอ้เจ้าคงจะใช้งานเพื่อนผู้โชคร้ายของมันอย่างคุ้มค่าทีเดียว

“พูดมาขนาดนี้ ถ้าคุณไม่ให้ผมเจ็บ แล้วคุณจะให้ใครเจ็บ” ไอ้เจ้าแสร้งตัดพ้อ มันมองสบตากับธราที่กำลังขึงตามองกลับมา “ว่าร้ายกันก็เหมือนเอาหนามมาทิ่มตำใจ”

“ไม่เล่น”

“ดุจังเลยพ่อ”

“ไม่ใช่พ่อ”

“ผัว”

“ยังไม่ได้เป็น”

ไอ้เจ้าหัวเราะขึ้นมาทันที “ก็ถ้าไม่บอกเลิกกันก่อน ก็ได้เมียไปแล้วคืนนี้อะ ผมนี่ซักซ้อมเอวมาเต็มที่ วันนี้วันครบรอบสองปีแล้วด้วย เปลี่ยนใจยังทันนะครับ”

“ไม่รีเทิร์น”

“เล่นตั๊วว”

“เสียงสูงทำไม”

“เป็นคนแบบนี้”

“หึ มึงนี่นะ”

ธราถึงกับหลุดหัวเราะ รู้สึกโล่งใจขึ้น เพราะดูเหมือนว่าไอ้เจ้าจะเริ่มกลับมาอยู่กับร่องกับรอยแล้ว เขาไม่ชอบที่มันเอาแต่เงียบ ไม่ชอบที่เวลาอยู่ด้วยกันแล้วเกิดความอึดอัด

“ดินครับ”

“หืม”

“จะเลิกกับผมจริงๆ ใช่ไหม”

“อืม จริงสิ ก็บอกชัดเจนไปแล้วนี่” ธราบอกเลิกไปแล้ว...แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะไปมีใครใหม่ ไม่ได้คิดจะมีคนอื่น เพราะเขาก็รอแค่มัน รอให้มันชัดเจนและรอให้ความรู้สึกของเขาชัดเจนยิ่งกว่านี้ “ที่จริงเราอาจจะใจร้อนไปหน่อยที่ตกลงคบกัน ทั้งที่ยังไม่ได้รู้จักกันดีก็ได้ สองปีที่มึงเข้ามาในชีวิตของกูก็ไม่ใช่สองปีที่กูได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของมึง”

สถานะจะสำคัญอะไรหากหัวใจไม่ได้ให้ความสำคัญต่อกัน

“ดินเคยได้ยินตำนานของกล่องแพนโดร่ามั้ย” ไอ้เจ้าเกริ่นถาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ที่เริ่มเคลื่อนตัวหายลับไปในก้อนเมฆ “กล่องแพนโดร่าเป็นกล่องที่ไม่ควรถูกเปิดเพราะมันเต็มไปด้วยความหายนะและความวิบัติ ผู้ที่สอดรู้สอดเห็นและสงสัยใคร่รู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไรแล้วเปิดมันออกมักจะพบเจอแต่ความโชคร้ายเสมอ” ไอ้เจ้ายิ้ม แววตาเลื่อนลอย “ความทรงจำบางความทรงจำก็เหมือนกับกล่องแพนโดร่า มันควรถูกล็อกด้วยแม่กุญแจที่แข็งแรงที่สุดในโลกและถูกคุ้มกันด้วยระบบความปลอดภัยที่แม้แต่มดสักตัวก็ไม่กล้าเข้าใกล้”

“มึงมีความลับอะไรนักหนาเจ้า” ธราเอ่ยถามด้วยความสงสัยเป็นล้นพ้น เขาอยากรู้ว่าเรื่องใดกันที่ทำให้ไอ้เจ้าทำหน้าเศร้าสร้อยได้ถึงขนาดนี้ “เปิดอกคุยกันทุกเรื่องไม่ได้หรือไง ความลับของมึงน่ะ ให้กูรู้อีกคนไม่ได้เหรอ”

“ไม่ใช่ความลับเลยดิน” ไอ้เจ้าปฏิเสธ ส่ายหน้าพลางพรูลมหายใจ “มันไม่ใช่ความลับ แต่ผมเป็นแค่คนขี้ขลาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะยื่นมือเข้าใกล้กล่องใบนั้น”

“ถ้ามึงพูดแบบนี้ งั้นกูก็คงมีเหมือนกันใช่ไหม” ธราว่าพลางสังเกตสีหน้าของไอ้เจ้า “กล่องบ้าๆ ใบนั้น กล่องความทรงจำที่อาจจะเป็นกล่องเดียวกับมึง เพียงแค่กูไม่มีกุญแจเปิดมันออก หลายครั้งแล้วนะที่มึงทำเหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน มึงคงเป็นใครสักคนที่ถูกกูลืมใช่ไหม บอกมาสิ กูรับฟังมึงทุกเรื่อง ต่อให้จะมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแฟนเก่าของมึงกูก็จะฟัง”

ไอ้เจ้าไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ มันเพียงแค่มองจ้องพระจันทร์ที่ถูกก้อนเมฆบดบังไปเกือบทั้งดวง ปล่อยให้ถ้อยคำของธราถูกสายลมเย็นพัดเลือนหายไป

“โอเค มึงไม่พูดตอนนี้ก็ได้ แต่ถ้าสักวันมึงพร้อม ก็ช่วยใช้กุญแจที่มึงมีเปิดมันออกให้กูได้ไหม”

คนรับฟังผินหน้ามองก่อนจะคลี่ยิ้มเศร้า “ผมไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอกครับดิน เพราะในกล่องใบนั้นมีทั้งเรื่องที่คุณควรรู้และไม่ควรรู้”

“เจ้า...”

“ถ้าคุณเปิดกล่องใบนั้น ตัวตนของผมจะหายไป” ไอ้เจ้าบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมจะอยู่ข้างๆ คุณไม่ได้”

“ทำไม...”

“เพราะคุณจะเกลียดผม”

“ตอนนี้กูก็เกลียด”

ไอ้เจ้ายิ้มมุมปาก ทอดมองคนที่บอกว่าเกลียดด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก “นั่นสินะครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ทำให้คุณตกหลุมรักไม่ได้”

“รู้แล้วก็ไม่ต้องพยายาม”

ไอ้เจ้ายักไหล่ ใบหน้าคมคายกระจ่างยามที่เจ้าของใบหน้าคลี่ยิ้ม “ไม่รู้เหรอครับว่าหน้าด้านหน้าทนก็เป็นคาแรคเตอร์ของผม”

ธรามองคนที่กำลังยียวนด้วยความอ่อนใจ “เอาเถอะ ไปนอนไป ดึกแล้ว”

“เนี่ย มีความห่วงใย”

“ก็ห่วง” ธราว่าเสียงแผ่ว แต่ไอ้คนถูกห่วงดันหูดีได้ยินเข้า ทีนี้ก็เลยยิ้มกว้างเต็มหน้า “ยิ้มอะไรนักหนา ไปนอน!”

“ครับๆ ไปก็ไป แต่คุณบอกฝันดีก่อนได้ไหม”

“เป็นแค่แฟนเก่า อย่าเรียกร้องเยอะ”

“เจ็บ แต่ยังไหว” ไอ้เจ้าแสร้งยกมือขึ้นกุมที่อกข้างซ้าย ทำท่าจะเป็นจะตายจนธราหลุดหัวเราะ “ดูสิคนเรา ไม่สงสารกันแล้วยังมาหัวเราะใส่ ใจร้ายมากคุณธรา”

“ผมน่ะแค่ใจร้าย แต่คุณน่ะหลายใจ”

“โอ้โห...คำพูดคำจา”

“ไปนอน” ธราเอ่ยเสียงดุกับคนที่เล่นไม่เลิก “จะให้บอกอีกกี่ครั้ง”

“จนกว่าจะเปลี่ยนคำว่าไปนอนเป็นคำว่ามานอน...ด้วยกัน จะอีกกี่ครั้งก็แล้วแต่ใจคุณ”

ธราพรูลมหายใจใส่คนดื้อดึง “เลิกกันแล้ว จำได้มั้ย”

“อย่าย้ำเลยครับที่รัก” ไอ้เจ้าเอ่ยขอร้อง ก่อนบอกด้วยเสียงอ้อนที่ธราฟังแล้วรู้สึกปวดประสาทมากกว่าใจอ่อน “ผมเคารพการตัดสินใจของคุณนะ แต่ก็ยังหวังอยู่นิดๆ ว่าถ่านไฟเก่าของเรายังร้อน รอวันรื้อฟื้น”

“ดื้อสุด แต่ไม่นอนก็ตามใจ ตัวของใครคนนั้นก็รับผิดชอบเอง ป่วยมาก็อย่าลำบากคนอื่น”

“จะมีใครใจร้ายเท่าคุณอีกไหม”

“มึงไง” ธราย้อน “แฟนเก่ามึงด้วย”

“เลิกกันไปแล้วยังจะประชดประชัน”

ธราตวัดตามองคนที่กำลังเล่นลิ้นกวนประสาท “กูพูดตามจริง ไม่ได้ประชดใคร”

“จะมีทางมั้ยที่คุณจะลืมอดีตของผม”

ธรารับฟังแล้วนิ่งงันไปเพียงครู่ คำตอบของเขาชัดเจนอยู่แล้ว “ก็อย่าทำให้มันเป็นปัจจุบัน”

“ผมมีแค่คุณที่เป็นปัจจุบัน” ไอ้เจ้าขยับก้าวเข้ามาชิดกับระเบียงฝั่งห้องของธรา ในขณะที่เขายังยืนอยู่ที่เดิม “มีแค่คุณนะธรา”

ต่อให้ถ้อยคำของไอ้เจ้าหนักแน่นแค่ไหน แต่ก็สั่นคลอนธราไม่ได้ “งั้นก็เลิกรักมันให้ได้”

“ผมรักคุณ”

“มากแค่ไหน”

“มากเท่าที่จะมากได้”

“โกหกเก่ง”

ไอ้เจ้ามีสีหน้าอ่อนใจพลางส่งยิ้มมาให้ “ขออยู่ใกล้กว่านี้ได้ไหม”

“อือ มาสิ” ธราเอ่ยอนุญาต “มาที่ห้อง อยากมาก็มา มึงจะได้นอนสักที”

“ครับ งั้นผมนอนด้วยนะ” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มบอก ก่อนจะรีบเสริม “ผมนอนพื้นก็ได้ ไม่รบกวนคุณ”

“เคยนอนที่ไหนก็นอนที่นั่น”

“ได้เหรอดิน” ไอ้เจ้าถามย้ำ “ในอ้อมกอดของคุณ แฟนเก่าอย่างผมนอนตรงนั้นได้เหมือนเดิมเหรอ”

“อือ อยากทำอะไรก็ทำเถอะ รีบมาได้แล้ว”

ไอ้เจ้ายิ้มกว้างเต็มหน้า ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ในขณะที่ธราได้แต่ส่ายหน้าอ่อนใจให้กับตัวเขาเองที่เผลอใจอ่อนตามใจคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่าหมาดๆ

ก็ทำหน้าดีใจซะขนาดนั้นแล้วจะให้ทำใจร้ายลงได้ยังไง




[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 05-01-2019 17:31:37




“บอกหน่อยเพื่อนรักว่าทำไมคนที่ควรไปเดตในวันครบรอบสองปีกับธราอย่างนายถึงมาช่วยผมจัดการเรื่องหยุมหยิมใจอย่างนี้ได้” ไอ้เอ๋ตั้งคำถามด้วยความฉงนพลางมองไอ้เจ้าเพื่อนรักของมันที่กำลังพาดด้ามจอบไว้บนบ่า “นายบอกว่ามืออาชีพที่นายจ้างวานมาขนย้ายผักที่กำลังงอกงามลงดินนั้นทำงานได้ดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ทำไมถึงยังลากผมมาตากแดดหน้าดำกันด้วย แถมงานก็ยังเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่รอเวลาให้ไอ้คิ้มกลับจากเดตกับแป้งจี่มาเซอร์ไพรส์กับความงามของแปลงสาธิตเท่านั้นเอง”

“เอ๋ฟังผม ผมต้องหาข้ออ้างทำตัวไม่ให้ว่างในวันนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงจะทำให้ธราลำบากใจ เพราะถ้าเผื่อนายไม่รู้นะเอ๋ ธราตัดความสัมพันธ์กับผมเรียบร้อยแล้ว” ไอ้เจ้าตอบเสียงขรึม ใบหน้าคมคายนั้นเรียบนิ่งจนไอ้เอ๋นึกหวั่นว่าจอบในมืออาจจะจามลงบนหัวทุยๆ ของมันหากเผลอพูดถ้อยคำขัดหูเข้า “เขาย้ำอีกว่าไม่รีเทิร์น”

“เฮ้...นาย คงไม่ใช่ว่า...” ไอ้เอ๋อ้าปากพะงาบ สมองกำลังประมวลผลอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามวิเคราะห์หาสาเหตุของการเลิกรา “เพราะเรื่องนั้นที่ผมเผลอพูดออกไป...”

“ตอบแบบไม่ให้นายโทษตัวเองผมก็คงตอบว่าใช่” ไอ้เจ้าว่าเสียงเรียบในขณะที่ไอ้เอ๋หน้าซีด นึกในใจอยู่ครามครันว่าคำตอบของไอ้เจ้าเพื่อนยากเป็นคำตอบประเภทไหนกัน ขนาดบอกว่าไม่ให้โทษตัวเองยังรู้สึกผิดขนาดนี้

“แล้ว...แล้วถ้าตอบแบบให้ผมโทษตัวเองล่ะ” ไอ้เอ๋ถามเสียงหวั่น เห็นไอ้เจ้าตวัดตามองมาแล้วก็หน้าหดเหลือสองนิ้ว

“ก็ใช่มากๆ ไงไอ้สัด” ไอ้เจ้าคำรามลั่น “เพราะมึงเลยเอ๋ เพราะมึ้งงงง”

“ขอโทษษษษษ เป็นความผิดของผมเอ๊งงงงงง พลีสคลามดาววววดู๊ดดดดด” ไอ้เอ๋ยกมือไหว้ท่วมหัว สีหน้าสำนึกผิดจนจอบในมือของไอ้เจ้าหยุดสั่น คนหัวร้อนพรูลมหายใจ ก่อนจะทิ้งจอบลงข้างกายแล้วทรุดตัวลงนั่งโดยไม่สนใจว่ากางเกงยีนส์สีซีดของมันจะเปื้อนดินโคลน “นะ...นาย นายโอเคไหมเพื่อนรัก”

ไอ้เจ้าพยักหน้า “ผมโอเค”

“เต็มสิบ โอเคเท่าไร”

“หนึ่ง”

“ก็ยังดี...ถุ้ย! อย่างนี้เรียกว่าไม่โอเคมากๆ”

“นายไม่ควรถามคนที่ถูกบอกเลิกว่าโอเคมั้ย” ไอ้เจ้าบอกพลางทำหน้าหน่าย “โดนบอกเลิกไม่ใช่โดนบอกรักจะให้ยิ้มแล้วบอกว่าโอเคไอ้สัด”

“เอ๋ผิดอีกแล้ว” ไอ้เอ๋เสียงหงอย พลางนั่งลงเคียงข้างไอ้เจ้า มันยอมกางเกงเปื้อนดินเพื่อจะได้นั่งเคียงตบไหล่ปลอบใจเพื่อนรักของมัน “แต่นายรู้ใช่ไหมว่าต่อให้นายไม่โอเคแค่ไหน นายก็ยังมีผม”

“อืม ผมไม่ได้หัวโล้น” คนที่ยังมีผมใช้มือจับเส้นผมของตัวเองเพื่อยืนยัน “ผมยังแข็งแรงสุขภาพดี แต่มันก็เริ่มยาวนิดหน่อยแล้ว ส่องกระจกเมื่อเช้าก็เห็นว่าดูดีไม่หยอก”

ไอ้เอ๋กลอกตาอย่างนึกเซ็ง “นายแค่โดนบอกเลิกนายเจ้า อย่าถึงกับคิดลาออกไปเปิดคณะตลก”

“อยากได้ความบันเทิง” ไอ้เจ้ายกยิ้มมุมปาก

“งั้นผมจะร้องเพลงให้นายฟังเอง” ไอ้เอ๋รีบเสนอตัวสร้างความบันเทิงให้ “จัดเมดเล่ไปเลยดีไหม”

“อย่าเลยเอ๋” คนต้องการความบันเทิงรีบห้าม “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ”

“นี่ไง นายเกลียดผมแล้วใช่ไหมเพื่อนรัก” ไอ้เอ๋ทำหน้าเศร้า แววตาของมันเหมือนลูกหมากำลังจะถูกทิ้ง

“ไม่มากเท่าที่ผมรักธราหรอก อย่ากังวลไปเลย”

ไอ้เอ๋หน้างอ “นายควรปฏิเสธนะ”

“ผมจะไม่พูดโกหก”

“ได้นายเจ้าได้! งั้นเราขาดกัน! พรุ่งนี้ไปเจอกันที่หน้าอำเภอ!” ไอ้เอ๋เล่นใหญ่ ทำท่าสะบัดสะบิ้งราวกับนางเอกละครหลังข่าวที่กำลังจะหย่าขาดกับสามี

“เอ๋ บางทีนายก็ไม่ควรคิดลาออกเพื่อไปเปิดคณะตลกกับผมก็ได้”

ไอ้เอ๋ยิ้มแหย “ขำขันเท่านั้นจ้าา”

“เฮ้อ มิตรภาพกับนายทำให้ผมปวดหัว”

“ยาพาราช่วยนายได้ ที่จริงญาติผู้น้องฝั่งแม่จ๋าของผมคนหนึ่งกำลังขายยาเทวดาประเภทนี้อยู่ หากว่านายสนใจผมจะแนะนำโปรโมชั่นดีๆ ให้ ซื้อสามกระปุกวันนี้ แถมฟรี...”

ไอ้เจ้ายกมือห้าม “หยุดก่อนสัดเอ๋ นายจะขายตรงตอนนี้ไม่ได้”

“แล้วตอนไหนถึงจะขายได้”

“ตอนที่ผมได้ธราคืนมา ผมสัญญากับนายเลยว่าตอนนั้นผมจะซื้อมากกว่าสามกระปุก”

“งั้นชาตินี้นายก็ไม่ได้อุดหนุนญาติผู้น้องของผมแล้วล่ะ”

ไอ้เจ้าตวัดตามองไอ้เอ๋ที่ยิ้มซื่อส่งมาให้ “ถ้าไม่ใช่นายพูด ผมคงได้เอาจอบในมือนี่จามหน้าแหกไปแล้ว”

“แหะ ผมก็แค่พูดความจริง” ไอ้เอ๋เสียงอ่อย ก่อนแววตาของมันจะกระตือรือร้นขึ้นมา “นี่นายเจ้า ผมคิดออกแล้วว่าจะบรรเทาความเศร้าของนายได้อย่างไร”

“ว่าไปซิเพื่อนรัก”

“ไปเข้าผับเข้าบาร์กัน! นายควรปลดปล่อยความเศร้าไปกับเหล้าเข้มๆ”

ไอ้เจ้าทำหน้าละเหี่ยใจ “แก้ปัญหาแบบเด็กๆ”

“จุ๊ๆ ๆ” ไอ้เอ๋ยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายพลางทำหน้าอมภูมิ “อย่าประมาทไอเดียของผม”

“นอกจากไปกินเหล้าแล้วจะมีอะไรปลอบใจผมได้” ไอ้เจ้าถามเสียงเนือย ความสนใจทั้งหมดในตอนนี้ถูกเปลี่ยนจากไอ้เอ๋เพื่อนยากไปที่ไส้เดือนบนดินร่วนซุยเสียแล้ว “บอกไว้ก่อนว่าผมไม่สนใจผู้หญิง ถ้านายคิดจะหาใครสักคนมาปลอบใจผม คนนั้นต้องเป็นธราเพียงคนเดียว”

“ผมรู้ใจนายดีเพื่อนรัก ผมก็เลยคิดว่าจะยอมปลดบล็อกไอ้หมอแพร์อีกสักครั้งแล้วชักชวนมันออกไปเที่ยวด้วยกันในค่ำคืนนี้” ไอ้เอ๋อธิบายพลางยิ้มกริ่ม “นายรู้ ผมรู้ ว่าธราสนิทกับไอ้คนหื่นกามคนนั้น ผมจะให้หมอนั่นชักชวนธราไปให้ได้ แล้วทีนี้นายจะรวบหัวรวบหางอย่างไรก็ตามแต่ใจนาย”

ไอ้เจ้ายกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ฟังไอ้เอ๋พูดจบ “นายคือเพื่อนตายของผมจริงๆ นายเอ๋”

“แน่นอนนายเจ้า เพราะถ้าไม่ใช่เพื่อนาย ผมคงไม่ปลดบล็อกไลน์หมอนั่นแน่ๆ”

“ขอบใจนายมาก” ไอ้เจ้ามองไอ้เอ๋ด้วยความซาบซึ้ง ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “แต่นายลองชวนนายขวัญดูด้วยไหม ผมว่าเขาอาจจะสนใจไปปาร์ตี้กับเรา”

“อ้อ...นายขวัญสัตวศาสตร์ เพื่อนใหม่ร่วมคณะของเรานั่นเอง” ไอ้เอ๋พูดทวนพลางพยักหน้าหงึกตาม เพื่อนใหม่คนนี้คือคนที่ไอ้เจ้าแนะนำให้รู้จักตอนที่กำลังเคี้ยวลูกชิ้นอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ใต้ตึกคณะในบ่ายวันจันทร์เมื่อสามสัปดาห์ก่อน “ผมก็ลืมไปเลยว่าตอนนี้กลุ่มคนหน้าตาดีของเรามีสมาชิกเพิ่มขึ้นแล้ว”

“นั่นแหละ ลองชวนดู”

“ได้ ผมจะจัดการให้เพื่อนรัก” ไอ้เอ๋รับปากพลางรีบควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจัดแจงนัดหมายทันที





(กรุ๊ปไลน์) ถ้ารวยก็ออกจากแก๊งเราไป (3)

มั่นคง รักดี: มีใครอยู่ไหมครับ

OMG : ผมไง

มั่นคง รักดี : ไม่ใช่นายสินายเจ้า @ควั๊นพั๊ด

มั่นคง รักดี : @ควั๊นพั๊ด อันเชิญ!

มั่นคง รักดี : @ควั๊นพั๊ด อันเชิญ!

มั่นคง รักดี : @ควั๊นพั๊ด อันเชิญ!

ควั๊นพั๊ด : ว่าไงครับเอ๋

มั่นคง รักดี: ควั๊นนน นายมาแล้ว ผมรอนายอยู่

ควั๊นพั๊ด : โทษที ผมเพิ่งว่าง มีไรเอ๋ ว่ามาได้เลย

OMG : นายอยู่ไหน

ควั๊นพั๊ด : ที่เดิมเหมือนเช่นวันวาน

OMG : รับจ๊อบอีกแล้วเหรอ

ควั๊นพั๊ด : ครับ ว่างๆ ก็เลยมา

มั่นคง รักดี : ดีแล้วควั๊น เอาเวลาว่างไปทำประโยชน์ดีกว่าไปยุ่งกับยาเสพติด

OMG : งั้นนายก็ควรทำบ้างนะเอ๋ นายไม่ควรเอาเวลาว่างไปดมกาว

มั่นคง รักดี : จะพูดอะไรก็ให้เกียรตินามสกุลผมด้วย

ควั๊นพั๊ด : อย่าแกล้งเพื่อนนายเจ้า อ่านทวนชื่อไลน์เอ๋เดี๋ยวนี้

มั่นคง รักดี : ใช่ ใช่ ใช่

ควั๊นพั๊ด : แล้วยังไงเอ๋ มีอะไร

มั่นคง รักดี : ผมจะชวนนายเข้าผับเข้าบาร์

ควั๊นพั๊ด : ผมเพิ่งให้นายเจ้าอ่านชื่อไลน์นายไปเมื่อกี้นะ

OMG : เอ๋ใจแตก

มั่นคง รักดี : อย่ารุมผม!

ควั๊นพั๊ด : บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบที่แบบนั้น

OMG : ไม่ไปหรือไง

ควั๊นพั๊ด : ครับ อีกอย่างแฟนผมคงไม่อนุญาต

ควั๊นพั๊ด : คุณไปด้วยเหรอเจ้า

OMG : อืม

ควั๊นพั๊ด : แฟนอนุญาตเหรอครับ

OMG : ผมโสดแล้ว

มั่นคง รักดี : เพราะแบบนี้เราถึงต้องเข้าผับเข้าบาร์กันไงควั๊น

ควั๊นพั๊ด : งั้นเอาไงดี ไม่มีใครว่างดูแลแฟนให้ผมด้วย ผมปล่อยเขาอยู่คนเดียวไม่ได้ครับ

OMG : ไม่เป็นไร เอาไว้คราวหน้า

มั่นคง รักดี : ใช่แล้วควั๊น นายเจ้าคงเฮิร์ตไปอีกนาน ไม่คืนดีเร็วๆ นี้หรอก ไม่ต้องคิดมาก คราวหน้าไปกัน

OMG : ก็ว่านั่งอยู่ข้างกันดีๆ มันลุกหนีไปทำไม กลับมาให้เตะเดี๋ยวนี้ไอ้สัดเอ๋!!

ควั๊นพั๊ด : อย่าแกล้งเพื่อน

ควั๊นพั๊ด : 555









“มึง น้องเอ๋ชวนไปเข้าผับเข้าบาร์” น้ำเสียงทุ้มของคนที่กำลังก้มหน้าอยู่เหนือโทรศัพท์มือถือดังขึ้น “น้องบอกให้ชวนมึงไปด้วยว่ะ”

ธราละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้วหันมองเพื่อนซี้ที่เขาลากมันให้ออกมานั่งหากาแฟดื่มด้วยกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง คิ้วเข้มได้รูปเลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ “แปลก”

“ใช่ แปลก แปลกตั้งแต่พิมพ์มาแล้วไอ้ห่า เข้าผับเข้าบาร์ สำนวนบ้าบออะไร ชวนเที่ยวก็คือชวนเที่ยว” ไอ้แพร์เห็นด้วยพลางยิ้มขำกับความเกินจนล้นของเด็กหนุ่มข้างห้อง “อีกอย่างน้องบล็อกไลน์กูเป็นว่าเล่น แต่ตอนนี้ดันมาปลดบล็อกแล้วชวนไปเที่ยว แถมยังเจาะจงให้กูลากมึงไปให้ได้ ต่อให้โง่ก็รู้ว่ามีจุดประสงค์แอบแฝง”

“เออ โคตรไม่เนียน”

“น้องคงไม่รู้ตัว แต่น่ารักดีว่ะ กูชอบคนโง่ หึหึ” หัวเราะชอบใจแล้วยกแก้วคาปูชิโน่เย็นขึ้นดูดไปอึกใหญ่ “แล้วเอาไง ไปดีไหม”

“อืม ไปสิ” ธราตอบรับทันทีโดยไม่อิดออด “น้องอุตส่าห์ชวน”

“ไปเพราะน้องชวนหรือไปเพราะรู้ว่าไอ้เจ้าไปด้วย”

คำถามจากคนรู้ทันทำให้ธราอึกอักอยู่นานก่อนจะให้คำตอบว่า “อย่างหลัง”

“ให้มันรู้กันไป” เพื่อนซี้ส่งสายตาล้อเลียนแล้วถามต่อ "วันนี้มันทักมามั้ย”

“หาย” ธราตอบเสียงแผ่ว “ออกไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า ยังไม่ทักกูมาเลย”

“อ้อ จ้องโทรศัพท์ตั้งแต่มาถึงร้านนี่คือรอให้มันทัก”

“อืม”

คนรับฟังกลอกตาอย่างนึกเซ็งกับท่าทีของเพื่อน “จะรอทำไมวะไอ้ดิน มึงทักมันไปก่อนเลย”

“เลิกกันแล้วไง” ให้เหตุผลแล้วดูดเอสเปรซโซ่จนเหลือค่อนแก้วก่อนจะพรูลมหายใจออกมาพลางตั้งคำถามเสียงเรียบ “กูมีสิทธิ์รู้เหรอว่ามันออกไปไหนกับใคร”

“เอ้า ยุ่งยากอีก”

“วันนี้เป็นวันครบรอบสองปีว่ะ” คนพูดยกมือขึ้นลูบใบหน้า เหนื่อยล้าเต็มทีกับความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงนี้ “มันบอกกูเองว่าหน้าด้านหน้าทน แต่กลับหนีหน้ากู ปกติต้องบังคับให้ไปเดตกับมันแล้ว”

“สีหน้ามึงแย่มาก มึงรู้ตัวมั้ย” ไอ้แพร์ถามพลางมองหน้าเพื่อนซี้ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักกันมาก็เพิ่งเคยเห็นธรามีสีหน้าทุรนทุรายขนาดนี้ “มึงอาจจะบอกกูว่ามึงไม่ได้รักไอ้เจ้า แต่ที่มึงแสดงออกในตอนนี้ มันไม่ใช่ความเกลียด กูไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของมึงถึงขั้นไหน แต่มึงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้ ทำเพื่อหัวใจของมึงเองเถอะดิน”

“แต่กูไม่รู้ว่าต้องทำยังไง” ธราตอบอย่างคนจนมุม “ไม่รู้ว่าต้องทำแบบไหนถึงจะดี ปกติจะมีแต่เจ้าที่เป็นคนทำตลอด มึงเข้าใจใช่ไหมว่ากูก็แค่อยู่ของกูเฉยๆ มันเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหากูเอง”

“เข้าใจ เพราะงั้นตอนนี้มึงก็ต้องเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหามันบ้าง ทำความรู้จักมันบ้าง มึงบอกนี่ว่ามันรู้จักมึงดีทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันไม่นาน มันรู้อกรู้ใจมึงมากกว่าใคร อาจจะมากกว่าคนในครอบครัวของมึงด้วยซ้ำ” คนพูดเหลือบตามองคนที่กำลังนิ่งงันฟังถ้อยคำ ที่เงียบไปแบบนั้นคงเพราะไม่มีข้อโต้แย้งในเมื่อเป็นจริงตามที่ว่ามาทั้งหมด ไอ้เจ้ารู้จักธราดียิ่งกว่ากลุ่มเพื่อนอย่างไอ้แพร์ ไอ้คินและไอ้จอมที่ร่ำเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เข้าเรียนปีแรกในมหาวิทยาลัย กลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่ำเรียนด้วยกันมานานสามสี่ปีก็ยังรู้จักธราดีได้ไม่เท่าไอ้เจ้าที่เพิ่งเจอ “มันไม่มีหรอกนะเว้ยดิน คนที่จะรู้อกรู้ใจทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จะบอกว่ามันเป็นคนในอดีตชาติของมึงก็คงเกินความเชื่อของกูไปหน่อย ทางเดียวที่จะเชื่อได้นั่นก็คือไอ้เจ้ามันรู้จักมึงมานานแล้ว นานกว่าที่พวกกูรู้จักมึง นานกว่าที่ครอบครัวที่มึงบอกว่าเหมือนคนแปลกหน้ารู้จักมึงก็ได้”

ธราเคยสงสัยว่าตัวเขานั้นเป็นใครมาก่อน เขาไม่มีความทรงจำในวัยเด็ก ไม่มีเรื่องราวก่อนหน้าที่ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลให้นึกถึง ตัวเขามีเพียงความว่างเปล่าอยู่รายล้อม รู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวราวกับตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ เขาอยู่ในโรงพยาบาลโดยลำพังนานนับเดือนก่อนที่จะมีชายหญิงคู่หนึ่งมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ให้กำเนิดพร้อมกับยื่นอัลบั้มรูปในวัยเด็กให้เขาดูเป็นหลักฐาน แต่เขาในตอนนั้นไม่ได้คิดโต้แย้งในข้อเท็จจริง เพราะให้พูดตามจริงแล้ว ใบหน้าในตอนเด็กของตัวเขาเอง เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน หากเทียบกับหน้าตาในปัจจุบันแล้วเด็กผู้ชายในรูปก็คล้ายคลึงมากทีเดียว

“มึงเคยบอกกูว่ามึงเกิดอุบัติเหตุรถชนจนความจำเสื่อม เพราะงั้นไอ้เจ้าอาจจะเป็นคนเดียวที่รู้จักมึงคนก่อน” ถ้อยคำของไอ้แพร์ยังคงดำเนินอยู่ในความคิดของธรา ความสงสัยของเพื่อนซี้นั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยนึกสงสัยแต่กลับไม่เคยหาคำตอบว่าเป็นจริงมากแค่ไหน

“มึงเชื่อมั้ยว่ากูไม่เคยอยากรู้ว่ากูคนก่อนเป็นยังไงหรือผ่านอะไรมาบ้าง อาจจะมีคนอีกหลายคนที่กูลืมเขาไป อาจจะมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่กูจำไม่ได้” ธราเผยความในใจ “แต่กูรู้สึกว่าที่กูลืมไปนั้นอาจจะมีแต่เรื่องที่ไม่น่าจำ กูก็เลยไม่เคยพยายามที่จะนึกถึง มันอาจจะไม่มีเรื่องสำคัญอะไรเลย อาจจะแค่ชีวิตเรียบง่ายอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ บ้านของพ่อกับแม่ก็เป็นบ้านที่ในบ้างครั้งกูนึกขึ้นมาได้ว่าเคยไปเล่นตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง ความคุ้นเคยกับคนในบ้านอาจจะไม่ค่อยมีแต่พ่อก็บอกว่าเมื่อก่อนกูเป็นเด็กที่ค่อนข้างเก็บตัว พ่อกับแม่ก็บินไปต่างประเทศบ่อยไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่แปลกหากเราจะไม่รู้สึกผูกพันกัน ทุกอย่างมันลงล็อกจนกูไม่ได้เดือดร้อนแม้ว่าจะจำเรื่องเมื่อก่อนไม่ได้” เขาหยุดพักหายใจพลางผินหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างที่วิวทิวทัศน์ในยามนี้เห็นเด่นชัดด้วยแสงสว่างจ้าของดวงอาทิตย์ในยามบ่ายโมงตรง “แต่มึงรู้ไหม ตั้งแต่ที่รู้จักเจ้า กูรู้สึกมากขึ้นทุกวันว่ามีบางอย่างที่ไม่ลงล็อก มันน่าหงุดหงิดใจทุกครั้งที่ได้เห็นหน้ามัน ได้ยินเสียงของมัน ก็รู้สึกรำคาญ มีบางอย่างที่ติดค้างแต่กูอธิบายไม่ได้ว่าคืออะไร”

“แล้วมึงอยากหาคำตอบไหมหรือจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ต่อ”

“ทั้งอยากและไม่อยาก” เขาพรูลมหายใจออกมา ในขณะที่แววตาเต็มไปด้วยความสับสน “เพราะยอมรับตรงๆ ว่ากูก็กลัว กูไม่รู้จักตัวกูคนก่อน กูไม่รู้ว่าตัวกูในตอนนี้คือตัวกูจริงๆ ไหม”

“มึงก็คือมึงนะดิน” น้ำเสียงทุ้มปลอบโยน “ไม่ว่าจะคนก่อนหรือคนที่อยู่ตรงหน้ากูในตอนนี้ ก็คือตัวมึง คนเราเติบโตจากอดีต มันอาจจะดีกว่าก็ได้ถ้ามึงได้รู้จักตัวเองก่อนหน้านี้ ไม่ใช่คนที่อยู่ๆ ก็โตเป็นหนุ่มโดยข้ามผ่านเรื่องราววัยเด็ก มึงอาจจะเคยเป็นแชมป์ดีดลูกแก้ว อาจจะเคยสร้างวีรกรรมแสบๆ แล้วหัวเราะมีความสุขไปกับกลุ่มแก๊ง เนี่ย...มีแต่เรื่องที่ควรนึกถึง อย่ากลัวไปเลย เราทุกคนก็เปลี่ยนไปกันทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลหรอกว่าตอนนั้นกับตอนนี้จะไม่เหมือนกัน”

“แต่ไม่รู้ทำไมนะแพร์ กูถึงได้รู้สึกว่าตัวกูคนก่อนไม่ควรมีตัวตนอยู่บนโลกนี้” เขาแย้งด้วยเสียงราบเรียบ วัยเด็กสดใสในจินตนาการของเพื่อนอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา “ตอนนั้นกูอาจจะเป็นคนที่แย่มากกว่านี้ก็ได้ อาจจะไม่ใช่เด็กแสบซน แต่คงเป็นเด็กเวรคนหนึ่งที่ควรตายๆ ไปซะ พ่อบอกว่ากูขับรถชนเสาไฟฟ้าเพราะทะเลาะกับพ่อแล้วหนีออกจากบ้าน”

“ตอนนั้นมึงอายุเท่าไรกันเชียว”

“สิบเจ็ดย่างสิบแปดแล้วมั้ง ขับเร็วน่าดู สภาพรถพังยับตอนที่ตำรวจเอารูปรถมาให้กูดูพร้อมกับสอบปากคำ” น้ำเสียงเรียบเรื่อยของผู้พูดทำให้ผู้ฟังได้แต่ลอบมองอย่างไม่แน่ใจว่าเจ้าของน้ำเสียงกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน “โชคดีที่ไม่ตาย หรือโชคร้ายก็ไม่รู้ เพราะกูก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จำอะไรไม่ได้สักอย่าง”

“มึงฆ่าตัวตายเหรอ” คนถามใช้น้ำเสียงอย่างระมัดระวังพลางมองสีหน้าเพื่อนที่ราวกับล่องลอยไปในที่ไกลแสนไกล

“ไม่รู้ แต่ตำรวจบอกว่าไม่พบรอยเบรก ตอนนั้นคงจะคิดสั้น เด็กวัยรุ่นที่มีปัญหาก็หาทางออกผิดๆ เป็นส่วนใหญ่กันทั้งนั้น”

“อืม ก็เข้าใจได้ แต่ว่านะดิน มึงขับจริงๆ เหรอวะ”

“ทำไม” คนถูกถามหันมองคนตั้งคำถามด้วยความฉงน “ถ้ากูไม่ขับแล้วใครจะขับ”

“ก็มึงเพิ่งให้กูสอนขับรถให้ตอนปีหนึ่งเทอมสองนะเว้ย”

ธรานิ่งงันไปเพียงครู่ ทบทวนความจำแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเขานั้นเริ่มขับรถเป็นตอนไหน “กูจำเรื่องอื่นไม่ได้ ขับรถไม่เป็นก็ไม่แปลก”

“แต่มึงก็ไม่ได้หัดเดิน หัดจับช้อนกินข้าว หัดทำนู่นนี่ที่ต้องทำในชีวิตประจำวันใหม่นี่ใช่ไหม มึงว่ายน้ำได้ด้วย จำได้ไหมตอนที่ถามว่ามึงว่ายน้ำเป็นหรือเปล่า”

“กูจำได้ ตอนรับน้องที่หัวหิน”

“ใช่ มึงก็บอกว่ามึงไม่แน่ใจ แต่พอลงทะเล มึงก็ว่ายได้นี่ คล่องปร๋อเชียว”

“แล้วยังไงวะแพร์ ถ้ากูขับไม่เป็น ก็แค่ขับรถไม่เป็นมั้ย”

“เอ้า ไอ้นี่ ถ้ามึงขับไม่เป็นแล้วใครขับรถไปชนเสาไฟเล่า!”

คำพูดของไอ้แพร์ทำให้ธราจมอยู่ในความคิดอยู่นาน ก่อนเขาจะแย้งขึ้นว่า “กูว่ากูก็แค่ลืมวิธีขับ”

“แต่กูว่ามันน่าสงสัยนะเว้ย” เพื่อนซี้เริ่มสวมวิญญาณของยอดนักเสือก หัวคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างคนที่ครุ่นคิดถึงอุบัติเหตุที่พรากความทรงจำของธราไป แต่เจ้าของเรื่องกลับไม่ให้ความร่วมมือ

“ช่างเถอะน่า” ธราตัดรำคาญกับความสงสัยไม่เข้าเรื่องของเพื่อนซี้ “แล้วนี่ตอบไอ้น้องเอ๋มันรึยังว่าเราจะไปด้วย”

“ตอบแล้ว น้องบอกว่าเจอกันที่อันซีนได้เลย” ไอ้แพร์ตอบอย่างอารมณ์ดี หัวใจเต้นโครมครามยามเมื่อคิดว่าจะได้ชิดใกล้กับเด็กหนุ่มข้างห้อง ความหวานนุ่มจากกลีบปากบางในครั้งเก่าก่อนยังติดตรึงอยู่ในใจไม่หาย

“เจ้าไปแน่นะ” ธราถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ไปเสียเที่ยว

“เออ มึงคิดว่าน้องเอ๋จะชวนกูทำมะเขืออะไรถ้าไม่มีไอ้เจ้าบงการอยู่เบื้องหลัง”

คนรับฟังหัวเราะเยาะ “ถือมีดแทงตัวเองทำไม”

“ไม่เจ็บเท่าโดนน้องบล็อก” คนเจ็บจนชินสาธยาย “กูบอกเลย ส่งข้อความฝันดีไปเป็นร้อย ไม่ขึ้นอ่านสักข้อความ เจ็บกระดองใจยิ่งกว่าตอนที่ไอ้ฟินน้องรหัสมาช่วยแก้แล็ปแล้วเสือกทำฟันที่กูกรออย่างดีแล้วแตกคามือ”

“ถือว่ามีประสบการณ์ความเจ็บ แต่ส่งไปขนาดนั้นเป็นกูก็บล็อกไอ้สัด มึงโรคจิตเหรอ” ถึงกับส่ายหัวกับวิธีจีบบ้าบอของเพื่อนซี้ ปกติแล้วไอ้แพร์ก็ถือว่าเป็นผู้เป็นคนมากที่สุดในกลุ่ม แต่เห็นได้ชัดว่ากับเรื่องของความรักแล้ว มันก็เป็นคนบ้าไม่น้อยหน้าคนอื่นเลย

“น้อยกว่าไอ้เจ้าละกัน กูกำลังใช้วิธีมันอยู่ เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าวิธีของมันได้ผล”

“ได้ที่ไหน”

“ได้ที่มึงนี่แหละ”

ธราหัวเราะอารมณ์ดี เขาไม่โต้แย้งเพราะความจริงก็เห็นกันอยู่ทนโท่ “เออ ก็เกือบได้”

“แน๊ มีความขิงข่าใส่กู”

“หึ ไม่มีก็แย่หน่อย”

“อย่าลืมว่ามึงเพิ่งบอกเลิกมัน”

“เดี๋ยวคืนนี้คืนดี”

“ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“ไม่รู้ ดูก่อน”

“เอ้า”

“เออน่า ทักมันแป๊บ”

“เชิญเถอะ กูจะคุยกับน้องเอ๋แล้ว”

“ขอให้น้องบล็อกมึงอีกรอบ”

“ไม่มีทาง!”

คำแช่งของธราดูเหมือนจะได้ผลเพราะในอีกไม่กี่นาทีต่อมาก็เห็นเพื่อนซี้สถบคำหยาบยาวเหยียด จับใจความไม่ค่อยได้แต่รู้แน่ว่าคนที่มันอยากคุยด้วยคงบล็อกมันไปแล้วเรียบร้อย





D. : .

OMG :?

D. : อยู่ไหน

OMG : ห้องเอ๋ครับ คุณล่ะ

D. : ร้านกาแฟ

OMG : กับใคร?

D. : แพร์

OMG : ครับ

D. : มามั้ย

OMG : อยากให้ไปหาเหรอครับ

D. : เปล่า





ลมหายใจสะดุดไปเล็กน้อยในระหว่างที่กำลังพิมพ์ตอบ





D. : ชวนตามมารยาท





ไอ้เหี้ย...ถึงขนาดทักไปหา ใครเชื่อว่าชวนตามมารยาทก็โง่เง่าเต็มที





OMG : อ๋อ





แต่คนรับข้อความอีกฝั่งคงจะเชื่อ เพราะตอบกลับมาสั้นๆ แล้วหายไปเลย จนธราต้องรีบพิมพ์ข้อความไปอีกครั้ง





D. : มาหน่อยสิ ไอ้แพร์บอกจะเลี้ยงกาแฟ





ข้ออ้าง ไม่โง่ก็คงรู้ว่าเป็นข้ออ้าง





OMG : มันอยากได้เงินค่าน้ำมันหรือเปล่า ผมยังติดมันอีกสองเดือน





แต่ไอ้เจ้าโง่...โง่จนไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรดีแล้ว





D. : ก็ใช่ มาเถอะ

OMG : ไม่มีเงินสด ผมโอนไปดีกว่าไหม





แม่ง...





D. : ให้ยืม

OMG : อยากเจอผมใช่ไหม





ธราขมวดคิ้วมุ่น คันยุบยับที่หัวใจเล็กน้อย





D. : เปล่า





ใช่ อยากเจอ รู้สักทีได้ไหมว่าอยากเจอ...อยากเจอมากๆ





OMG : ส่งโลเกชั่นมาครับ เดี๋ยวผมไปหา

D. : *Sent a location*

OMG : เดี๋ยวเจอกันครับที่รัก

D. : แล้วมายังไง

OMG : รถเมล์

D. : ไม่ขับรถมาล่ะ

OMG : คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบขับรถ

D. : แต่ขับให้กูนั่งทุกที

OMG : ถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วยผมก็ไม่ขับ

D. : งั้นเดี๋ยวไปรับ จะได้ไม่ต้องลำบากนั่งรถเมล์





พิมพ์ไปแล้ว เวลาพิมพ์ตรงกับใจทำไมรู้สึกเหมือนจะตายขนาดนี้กันวะ!





OMG : ห่วงเหรอ





ที่สุด





D. : อืม ห่วงในฐานะแฟนเก่าได้ใช่มั้ย





ข้อความถูกส่งออกไปแล้ว แต่นิ้วมือของธราก็ยังคงสั่นเทา เขามองข้อความที่ขึ้นอ่านด้วยหัวใจที่เต้นด้วยจังหวะผิดแปลก





OMG : สำหรับคุณแล้วมีเรื่องไหนที่ไม่ได้บ้าง

D. : ก็มีอยู่ไม่ใช่เหรอ





มีอยู่แล้วเรื่องที่อีกฝ่ายให้กันไม่ได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงต้องจบลง





OMG : ครับ ก็มีอยู่จริงๆ





ธราแค่นยิ้มให้กับคำตอบที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เขาเกือบหลุดคำหยาบคายเหมือนอย่างไอ้แพร์ที่ตอนนี้นั่งทำหน้าซังกะตายในขณะที่นิ้วมือจิ้มลงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเพื่อเคลียร์ด่านเกมแคนดี้ครัช

“ไอ้แพร์”

“ว่า”

“มึงว่าอย่างกูนี่มีดีพอจะทำให้ใครสักคนลืมแฟนเก่าได้มั้ยวะ”

คนรับฟังทำหน้าหน่ายพลางส่ายหัวเมื่อฟังคำถามจบ “ไม่ได้ว่ะ เพราะมึงคนเหี้ย มึงมันไม่มีดี มึงต้องโสดเป็นเพื่อนกูต่อไปไอ้เพื่อนยาก ไอ้เจ้าจะต้องบล็อกไลน์มึงเหมือนที่น้องเอ๋กระทำกับกู!”

“โทษที” ธรายกคิ้วยียวน “กูถามผิดคน”

“ว๊อทททท!”

คำถามนี้ควรเก็บไปถามกับคนที่น่าจะให้คำตอบได้ถูกต้องที่สุดคงดีกว่า

ไอ้เจ้าคงเป็นคนเดียวที่จะให้คำตอบกับเขาได้





...............TBC.................


ทุกคนขาาาา เค้ามาแล้วเด้ออออออ ขอโทษที่ให้รอกันนะคะ ที่เราเงียบหายไปเลยยยยย

เราคิดว่าจะเคลียร์ธุระให้เสร็จหมดก่อน แต่คือมันยืดยาวนานและมันนานเกินไปปปป เห็นวันที่แล้วใจหาย เกือบสองเดือน

กลับมาค่ะ กลับมาแล้ววววววว ฮืออออ

เอาใจช่วยกันด้วยนะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: CHOO ที่ 05-01-2019 18:18:57
ใครขับ เจ้าเหรอ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Phaakram ที่ 05-01-2019 18:45:31
หน่วงนี้อีกนาน ขอบคุณที่กลับมาอัพ ดีใจ :mew1: :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 05-01-2019 18:48:48
ในที่สุดก็กลับมาาาาาาาาาาา    :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 05-01-2019 18:53:12
รอออๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 05-01-2019 19:03:45
 :hao7: เจ้ามาแล้วววว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 05-01-2019 19:11:00
เปิดกล่องเหอะ
ทั้งหน่วงทั้งอึดอัด
ต่อมอยากรู้ทำงาน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 05-01-2019 19:45:51
 :hao5:  :hao5: :hao5:

อ่านแล้วอึดอัดแหม๋  สงสารเจ้า  เป็นคนที่ถูกลืมแต่ดันจำได้ในทุกๆอย่าง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 05-01-2019 20:13:41

อดีตมันเกิดขึ้นแล้ว จบไปแล้ว ..จะจำเรื่องในอดีตได้ไม่ได้ มันก็เกิดขึ้นแล้ว

ถ้าอดีตมันไม่ส่งผลถึงปัจจุบันก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรื้อฟื้น แต่ถ้ามันเห็นชัดว่าเป็นปัญหา ที่ควรทำคือแก้ไขมันซะ ไม่งั้นชีวิตมันก็ไปต่อไม่ได้ เจ็บเหมือนเป็นฟันคุดไม่ได้ผ่าอยู่อย่างนั้น จะเคี้ยวจะกลืนจะอ้าปากยังยากเลย ชีวิตยังอีกยาวไกล เป็นเรื่องโง่มากที่จะเก็บปัญหาไว้ รอถึงวันตายแล้วมานั่งเสียใจว่าทำไมเราไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน

ตอนนี้คิดว่ามันไม่แฟร์กับ ธรา เพราะไม่ว่าอดีตเค้าจะเลวยังไง แต่ปัจจุบันเค้าความจำเสื่อม จริงๆ เค้ามีสิทธิ์ที่จะรู้ทุกอย่างและตัดสินมันด้วยตัวตนในปัจจุบัน แต่ดูเหมือนว่าคนรอบตัวจะคิดแทนเค้าไปซะหมด ไม่บอกไม่กล่าวอะไรให้ชัดเจนเลย

ในแง่ของ เจ้า เข้าใจว่ามันเจ็บปวด แต่เราก็คิดว่าเจ้าเห็นแก่ตัวจริงๆ น่ะแหละ ถึงธราคนนี้จะเป็นคนเดียวกับธราในอดีตหรือเปล่าก็ตาม การทำให้ธราคนนี้เข้าใจผิดไปทั้งอย่างนี้มันใจร้ายและเห็นแก่ความรู้สึกตัวเองฝ่ายเดียว ไม่คิดบ้างล่ะว่าธราคนปัจจุบันมันก็เจ็บเป็น และ มันเป็นคนใหม่ไปแล้ว มันเหมือนคนละคนเดียวกันไปแล้วไหม จะมารักแบบกั๊กๆ ไว้นี่ ไม่ดีเลย จริงๆ ถ้าเจ้าไม่มาวุ่นวายตามตื๊อธรามาตั้งสองปี ธราคนใหม่ก็คงไม่ต้องเจ็บอีกไหม คงมีชีวิตใหม่แบบที่พ่อแม่อยากให้มีไปละ นี่มาวุ่นวายสร้างเรื่องทำไมอะ งง เข้ามาละก็มาทำให้เค้ารู้สึกว่ารักคนเก่ามากกว่าไปอีก อะไรของคุณนะเจ้า :seng2ped:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-01-2019 20:25:09
บอกได้แค่ "โธ่ ชีวิตของแพร์" ทำใจลูก ที่เป็นเพื่อนกับดิน  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 05-01-2019 20:40:59
อห ดินเอ้ยยนนนนย หงุดหงิด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-01-2019 21:02:38

อดีตมันเกิดขึ้นแล้ว จบไปแล้ว ..จะจำเรื่องในอดีตได้ไม่ได้ มันก็เกิดขึ้นแล้ว

ถ้าอดีตมันไม่ส่งผลถึงปัจจุบันก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรื้อฟื้น แต่ถ้ามันเห็นชัดว่าเป็นปัญหา ที่ควรทำคือแก้ไขมันซะ ไม่งั้นชีวิตมันก็ไปต่อไม่ได้ เจ็บเหมือนเป็นฟันคุดไม่ได้ผ่าอยู่อย่างนั้น จะเคี้ยวจะกลืนจะอ้าปากยังยากเลย ชีวิตยังอีกยาวไกล เป็นเรื่องโง่มากที่จะเก็บปัญหาไว้ รอถึงวันตายแล้วมานั่งเสียใจว่าทำไมเราไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน

ตอนนี้คิดว่ามันไม่แฟร์กับ ธรา เพราะไม่ว่าอดีตเค้าจะเลวยังไง แต่ปัจจุบันเค้าความจำเสื่อม จริงๆ เค้ามีสิทธิ์ที่จะรู้ทุกอย่างและตัดสินมันด้วยตัวตนในปัจจุบัน แต่ดูเหมือนว่าคนรอบตัวจะคิดแทนเค้าไปซะหมด ไม่บอกไม่กล่าวอะไรให้ชัดเจนเลย

ในแง่ของ เจ้า เข้าใจว่ามันเจ็บปวด แต่เราก็คิดว่าเจ้าเห็นแก่ตัวจริงๆ น่ะแหละ ถึงธราคนนี้จะเป็นคนเดียวกับธราในอดีตหรือเปล่าก็ตาม การทำให้ธราคนนี้เข้าใจผิดไปทั้งอย่างนี้มันใจร้ายและเห็นแก่ความรู้สึกตัวเองฝ่ายเดียว ไม่คิดบ้างล่ะว่าธราคนปัจจุบันมันก็เจ็บเป็น และ มันเป็นคนใหม่ไปแล้ว มันเหมือนคนละคนเดียวกันไปแล้วไหม จะมารักแบบกั๊กๆ ไว้นี่ ไม่ดีเลย จริงๆ ถ้าเจ้าไม่มาวุ่นวายตามตื๊อธรามาตั้งสองปี ธราคนใหม่ก็คงไม่ต้องเจ็บอีกไหม คงมีชีวิตใหม่แบบที่พ่อแม่อยากให้มีไปละ นี่มาวุ่นวายสร้างเรื่องทำไมอะ งง เข้ามาละก็มาทำให้เค้ารู้สึกว่ารักคนเก่ามากกว่าไปอีก อะไรของคุณนะเจ้า :seng2ped:

คิดเหมือน........... :z3:  :really2:  :เฮ้อ:
เจ้า กล้าๆหน่อย..........
บอกดินไปเลย อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด แตก-หักไปเลย
ดีกว่าให้ดินระแวงว่าเจ้ายังรักคนเก่า ทั้งที่ปากว่ารักดิน
ดิน จะได้รู้ว่าคนรักเก่าของเจ้าก็คือดินนั่นเอง
แล้วจะยังไงต่อ ไปต่อหรือจะยังไงให้มันรู้กันไปเลย
ดิน  เจ้า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-01-2019 21:54:06
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 05-01-2019 22:09:44
เจ้าเป็นคนขับเหรอ แล้วทำไมต้องโยนให้ธาราขับ  สงสารพี่แพร์น้องบล็อค ชอบคนโง่ ตกลงใครโง่นะพี่แพร์
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-01-2019 22:18:59
ถ้าดินไม่ใช่คนขับ แล้วใครเป็นคนขับล่ะ เจ้าหรอ? เราว่าถ้าได้เปิดกล่องให้ดินได้รู้อดีตบ้างอะไรๆมันก็อาจจะดีขึ้นรึป่าว มันจะได้ไม่มีปัญหาคาใจอยู่แบบนี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 05-01-2019 22:21:44
ดินตอนนี้จะไปทางไหนก็ไม่ได้เหมือนถูกเจ้ากดไว้ไม่ให้ได้เดิน บรรยากาศมันอึดอัด เพราะถ้าจะบอกว่ายังรักและเป็นห่วง ก็จะโดนเจ้าใช้ถ้อยคำย้อนตลอดว่า เลิกกันแล้วดินไม่มีสิทธิ  และในขณะเดียวกันเจ้าก็ชอบตัดพ้อประมาณว่าตัวเองถูกดินทิ้งถูกดินบอกเลิก ทั้งที่เจ้าเป็นคนที่ทำให้ความสัมพันธ์เกิดรอยร้าวเพราะเอาดินไปเปรียบเทียบกับดินในอดีต ... ที่จริงเราว่าตามหาจนเจอและรุกเข้าชีวิตปัจจุบันของดินถึงขนาดนี้แล้ว  เจ้าก็ควรกล้าที่จะเผยอดีตเพื่อให้ปัจจุบันได้ตัดสินว่าควรก้าวไปทางไหนกันต่อดี จะรักหรือจะชังกัน  ไม่ใช่เล่นกับความรู้สึกที่พอจะรักก็เกิดปมให้กลับมาไม่ชอบกัน  วกไปวนมา... หลายปีที่เจ้าวิ่งตามหา  ไม่ได้เตรียมตัวเลยเหรอว่าถ้าเจอแล้วจะทำยังไง

อ่านเรื่องนี้ แรกๆก็ฮาอยู่นะ  แต่พอมาเจอนิสัยเจ้าแบบนี้  อ่านแล้วอึดอัดแทน เพราะถ้าเจ้าหายไป ดินก็หาเจ้าไม่เจออยู่ดีเพราะเจ้าไม่เปิดเผยตัวเองกับดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 05-01-2019 22:29:41
กลับมาต่อแล้ว ดีจายยย
ลุ้นค่ะว่าจะคืนดีกันไหม
สงสารแพร์ สู้นะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 05-01-2019 23:02:18
กลับมาแล้วววว คิดถึงมากก รอตอนต่อไปน้า :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 05-01-2019 23:37:23
สงสารดินแฮะ
มีน้องขวัญด้วย คิดถึงน้องงงง

 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-01-2019 23:40:12
อยากรู้อดีตแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 06-01-2019 01:11:36
กลับมาอัพแล้ววว หายไปนานมากจนลืมไปเลยว่าเปิดเรื่องนี้ไว้ ติดตามอยู่นาาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 06-01-2019 07:39:21
ทั้งเจ้าทั้งดินมีเบื้องลึกเบื้องหลังกันหมดเลย  :m22: :m22:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 06-01-2019 10:58:01
เรื่องมนอดีตมันต้องมีปมอะไนใรสักอย่างสินะ โอ๊ยยยย!! มีน้องขวัญ​มารับเชิญด้วย 555 ช่างเป็นการจับกลุ่ม​ที่ดีเหลือเกินนน 5555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-01-2019 21:13:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 06-01-2019 23:28:13
รีบมาไวๆนะคะ.. อยากอ่านต่อแล้วววว..  :katai4: :katai4: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 06-01-2019 23:53:07
ถ้าเจ้าไม่อยากให้เขารู้ก็ไม่น่าพูดถึงมั้ยอ่ะ  :z3: :z3:
หรือเจ้าจะเป็นคนขับวันนั้น?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 07-01-2019 08:50:44
ขอบคุณที่กลับมานะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 10 กล่องใบนั้น ​P.11 05/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ksoleef ที่ 07-01-2019 14:39:23
ขออนุญาตเสียบกาน้ำร้อนรอนะคะ  :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.11 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-01-2019 18:41:56
ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า



Unseen คือชื่อร้านเหล้ายอดฮิตในซอยหลังมหาวิทยาลัยที่ไอ้เอ๋เลือกสรรให้เป็นสถานที่นัดพบกับสองหนุ่มแห่งแก๊งหมอฟันในค่ำคืนนี้ มันกับไอ้เจ้าเพื่อนซี้จึงรีบปั่นจักรยานซ้อนท้ายกันมาจับจองโต๊ะตั้งแต่ห้าโมงเย็นโดยเลือกโต๊ะตัวในสุดฝั่งซ้ายมือของประตูหน้าร้านซึ่งไกลจากหน้าเวทีแสดงดนตรีสดอยู่พอประมาณเพราะไอ้เจ้าที่ออกตัวเป็นเจ้ามือบอกว่าไม่ชอบแสงสีบริเวณหน้าเวทีสักเท่าไร อยู่ใกล้ลำโพงก็เสียงดังหนวกหู คนต้นคิดไอเดียอย่างไอ้เอ๋จึงต้องเลือกสรรมุมให้เป็นที่ถูกอกถูกใจ ไม่อย่างนั้นก็เกรงว่าเหล้าเบียร์ฟรีที่ตกลงกันไว้คงเป็นอันยกเลิก เมื่อได้ทำเลที่ตั้งที่น่าพึงพอใจแล้วก็พากันมานั่งรอคนที่นัดหมายพร้อมทั้งสั่งเบียร์สดหนึ่งเหยือกมาเพิ่มความสุนทรีย์ในการรอคอย

“ธราจะมาแน่ๆ ใช่ไหมเอ๋” ไอ้เจ้าถามขึ้นพลางมองคนที่กำลังพยายามลูบผมฟูๆ ให้เข้าที่ ไอ้เอ๋ดูกังวลใจกับทรงผมและการแต่งกายของตัวเองอย่างน่าขัน ทั้งที่ในตอนนี้ก็สวมใส่เสื้อผ้าที่คิดว่าดูดีที่สุดเท่าที่เคยสวมใส่มาแล้ว ไอ้ผมฟูๆ ของมันก็ใช้หวีชุบน้ำหวีแล้วหวีอีกอยู่หน้ากระจกเกือบครึ่งชั่วโมง แตกต่างจากไอ้เจ้าที่นั่งอยู่ตรงข้าม คนรูปหน้าคมคายน่ามองคนนี้ไม่ได้พิถีพิถันในการแต่งกายเลยสักนิด กางเกงยีนส์สีซีดขาดเข่ากับเสื้อเชิ้ตสีขาวมอซอตัวเก่งยังคงเป็นสไตล์การแต่งตัวของมัน ทรงผมก็ไม่ได้ถูกเซต กลับปล่อยให้ผมหน้าม้าปิดหน้าผากเนียนเอาไว้

“มาๆ ไอ้พี่หมอแพร์ยืนยันแล้ว มันบอกเป็นตายร้ายดียังไงก็จะลากธราของนายมาให้ได้” ไอ้เอ๋ตอบ มือของมันพยายามจัดทรงผมไปด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ดั่งใจเสียที “เฮ้อ! ทำไมมันไม่ยอมเรียบสักทีเนี่ย! นี่ผมควรจะเข้าร้านเสริมสวยไปยืดผมให้ตรงสวยเหมือนอย่างที่แป้งจี่แนะนำจริงๆ ใช่มั้ย”

ดวงตาเรียวคมของเจ้าของทรงผมคอมม่าฉายแววขบขัน ก่อนมือผอมจะล้วงเข้าไปในเป้ที่พกติดตัวมาด้วยแล้วหยิบเอากระปุกเจลขึ้นวางบนโต๊ะ ขยับเลื่อนส่งไปตรงหน้าไอ้เอ๋ที่กำลังทำหน้างอขัดเคืองใจกับเส้นผมฟูๆ “เอ้า! นี่ ไอเทมพิเศษ”

“นายมีเจล!” ไอ้เอ๋จับตามองไอเทมพิเศษด้วยตาลุกวาว เจลราคาแพงที่ทำให้เส้นผมของไอ้เจ้าเพื่อนยากถูกเซตให้ดูราวกับเป็นธรรมชาติอยู่ตรงหน้าแล้ว

“ใช่ ผมมี ตอนแรกก็คิดจะเซตผมบนรถแท็กซี่ แต่บังเอิญนายพาซ้อนท้ายจักรยานมาก็เลยต้องล้มเลิก”

“แล้วทำไมไม่บอกกันเล่า! ผมนี่ใช้น้ำลูบหัวจนจะเป็นหวัดอยู่แล้ว”

“ก็ผมไม่ได้คิดว่านายจะกังวลกับเรื่องแบบนี้”

ไอ้เอ๋เอียงคอเล็กน้อยกับถ้อยคำที่ได้ยิน “อะไรคือเรื่องแบบนี้เหรอนาย”

“ก็เรื่องทรงผมของนาย” ไอ้เจ้าให้คำตอบพลางเคาะนิ้วลงกับโต๊ะไม้สไตล์ลอฟ ดวงตาเรียวคมเหมือนเหยี่ยวพิจารณาใบหน้าของคนหัวฟู “ไหนจะเรื่องที่นายเลือกเสื้อผ้าอยู่สามชั่วโมงอีก มันยังไงกันฮึนายเอ๋ สมองนายมีอะไรผิดปกติไปหรือเปล่า”

“อ้อ ก็เรื่องปกตินี่นายเจ้า” ปากบอกว่าปกติแต่สายตาล่อกแล่กอย่างเห็นได้ชัด “มาร้านเหล้าทั้งทีก็ต้องดูดีไว้ก่อน ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม จะให้แพ้ธราของนายกับเพื่อนของเขาได้อย่างไร ผมเชื่อแน่ว่าสองคนนั้นจะต้องดูดีจนผู้หญิงมองเหลียวหลัง เพราะงั้นผมต้องดูดีแข่งกับพวกเขาเพื่อไม่ให้เสียชื่อตำแหน่งรองเดือนสาขาของเรา อีกอย่างเส้นทางลงจากคานของผมยังไม่ปิดตายหรอกนะเพื่อนรัก”

“เอ๋ เผื่อนายจำได้นะเพื่อน นายไม่ได้ถูกโหวตให้ไปแข่งเดือน นายเป็นแค่ไอ้คนหัวฟูที่แสนจืดจาง แต่เรื่องที่เข้าใจได้ก็มีอยู่” ใบหน้าดูดีขยับขึ้นลงสองทีตามความเข้าใจของเจ้าของ ไอ้เจ้ายกแก้วเบียร์ขึ้นจิบให้คล่องคอก่อนพูด “ไอ้หมอแพร์จะพานายลงจากคานเอง”

“ไม่ใช่สิ!” ไอ้เอ๋ร้องปฏิเสธทันควัน หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินชื่อของคนกะล่อน ก่อนละล่ำละลักถามด้วยใบหูแดงก่ำ “เกี่ยวอะไรกับไอ้หมอหื่นกามคนนั้นกันนาย ไม่ใช่แล้ว ไม่เกี่ยวเล้ย!”

“ไม่เกี่ยวเหรอ” ไอ้เจ้าย้อนถามทำหน้าไม่เชื่อ ก็จะให้เชื่อได้อย่างไรในเมื่อไอ้เอ๋แสดงหลักฐานบนใบหน้าชัดมากอย่างนี้ “แต่นายหน้าแดงนะเอ๋”

คนหน้าแดงยกมือขึ้นโอบแก้มของตัวเองทันที “จริงเหรอนาย”

“อืม หูก็แดง แบบนี้แสดงว่านายมีใจ”

“ผมคนนี้น่ะเหรอ!” ไอ้เอ๋ร้องเสียงลั่นพลางทำตาโตราวกับเห็นผี “โน้ๆ ๆ ๆ ๆ แค่คิดก็แย่แล้ว”

ใช่ แค่คิดก็แย่...แย่มากๆ คนอย่างนายมั่นคง รักดี คนนี้น่ะเหรอจะไปมีใจให้กับไอ้หมอหื่นกามคนนั้น แม่จ๋าบอกไว้เสมอว่าผู้ชายที่ทำตัวเป็นหมาหยอกไก่มักจะไว้ใจไม่ได้ แล้วไอ้พี่หมอคนนั้นน่ะหยอกน้อยเสียที่ไหน เช้า สาย บ่าย เย็น เรื่อยไปจนถึงก่อนนอนก็ส่งกลอนบ้าๆ บอๆ มาหยอกได้ตลอดจนสุดท้ายเมื่อรู้ว่าตัวเองต้านทานความหื่นกามนั้นไม่ไหวก็ตัดสินใจบล็อกช่องทางการติดต่อไปเพราะหัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงจนเหนื่อย กลัวว่าถ้าได้อ่านข้อความจากไอ้หมอคนนั้นไปมากกว่านี้จะหัวใจวายตายเข้าสักวัน

เอ๋ไม่อยากทำให้แม่จ๋าร้องไห้เพราะเอ๋ตาย เอ๋จึงบล็อก! ไม่ได้มีใจสักนิด! ไม่มี๊!

ระหว่างที่ไอ้เอ๋กำลังตีอกชกหัวตัวเองอย่างไม่ยอมรับในคำพูดของเพื่อนและไอ้เจ้ากำลังยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดกเพื่อรอเวลา คนที่นัดหมายกันไว้ก็มาถึง ธรากับเพื่อนของเขาเดินผ่านประตูร้านเข้ามาแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงทั้งสองคนกวาดสายตามองทั่วร้านเพียงครู่ เมื่อเจอโต๊ะเป้าหมายก็รีบก้าวขาเดินไปหาทันที

“โอ๊ะ!” ไอ้เอ๋ทำตาเหลือก หยุดมือที่กำลังทึ้งเส้นผมตัวเองแล้วยกมือไหว้ “สวัสดีครับ มากันเร็วมากเลย”

“สวัสดีน้องเอ๋ บอกตามตรงว่าก็เพิ่งเคยเข้าร้านเหล้าตอนหกโมงเย็นนี่แหละครับ เขินๆ อยู่เหมือนกัน” คนตอบคำถามที่กำลังมองไอ้เอ๋ด้วยสายตาพราวระยับก็คือไอ้หมอหื่นกามจอมกะล่อน ร่างสูงของไอ้พี่หมอแพร์ยืนอยู่ใกล้กับไอ้เอ๋ในขณะที่พี่หมอคนสำคัญยืนอยู่ใกล้ไอ้เจ้า “ว่าแต่ให้ใครนั่งตรงไหนดี”

ไอ้เอ๋รู้สึกปวดหัวตุบๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มระยับนั้น มันอยากจะบอกว่าคนอย่างพี่มึงควรไปนั่งอีกโต๊ะหรือจะย้ายตัวเองไปอยู่ส่วนไหนของโลกก็ได้ แต่ก็กลัวจะเสียมารยาทมากเกินไป ครั้นจะให้นั่งข้างเพื่อนรักเพื่อนตายอย่างไอ้เจ้าก็เห็นจะเป็นการปิดโอกาสเพื่อนและไม่ตรงตามจุดประสงค์ของการนัดหมาย ด้วยเหตุนั้นนายมั่นคงที่แสนรักเพื่อนคนนี้จึงจำต้องเสียสละตัวเอง “พี่หมอแพร์มานั่งข้างผมดีกว่าครับ ให้พี่หมอดินนั่งข้างนายเจ้า”

โอ๊ย! อยากกัดลิ้นตัวเองตาย แต่เพื่อนายเจ้าเพื่อนยากผู้ที่เอ่ยปากจะเลี้ยง ไอ้เอ๋คนนี้ทนได้!

“เฮ้อ...มีใจขนาดนี้แต่ก็ยังบล็อกไลน์กันได้ลง อะๆ ไอ้ดิน นั่งเลยมึง” คนกะล่อนพูดพลางขยับเก้าอี้เข้าไปชิดกับเก้าอี้ของคนชอบบล็อก ไอ้เอ๋เกร็งตัวขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อหัวไหล่ของไอ้หมอหื่นกามเบียดแนบชิด ยิ่งเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายของอีกฝ่ายก็ยิ่งใจสั่น

แม่จ๋าแม่...ถ้าเอ๋หัวใจเต้นแรงจนตาย ให้แม่จ๋าทำผัดเผ็ดปลาดุกใส่บาตรมาให้เอ๋ด้วย!

“ห่างหน่อยก็ได้มั้ง” ไอ้เจ้าพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนซี้กำลังหน้าแดงแปร๊ดและกำลังส่งสายตามาขอความช่วยเหลือ “ไม่แปลกใจที่มึงโดนบล็อกเลยไอ้หมอ ดูด้วยว่าเอ๋มันเขิน”

“ไม่ได้เขิน!” ไอ้เอ๋ร้องตะโกน “ผมแค่อึดอัด! โอ๊ย! นี่ก็เบียดจังเลย ขยับไป๊!”

ทั้งไอ้เจ้าเพื่อนไม่รักดีกับไอ้คนกะล่อนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ก่อนไอ้เจ้าจะละความสนใจจากไอ้เอ๋ไปหาคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆ “คุณมานั่งติดกระจกไหมครับดิน ที่นั่งตรงทางเดินคงทำให้คุณหงุดหงิด”

ธราไม่ชอบนั่งติดทางเดิน เพราะเขามักจะหงุดหงิดที่ตกเป็นเหยื่อของคนที่แสร้งล้มลงมานั่งบนตัก หลายต่อหลายครั้งที่ไปสังสรรค์ด้วยกันกับกลุ่มเพื่อน ตักของเขาก็จะเป็นที่จับจองของสาวๆ ที่เล็งเขาไว้เสมอ พวกหล่อนจะแสร้งทำทีเดินผ่านแล้วก็เซล้มลงมา บางคนเขาก็เล่นด้วยแต่บางคนก็ทำตัวน่ารำคาญจนอยากผลักออกแรงๆ ทว่าวันนี้ธราไม่อยากเรื่องมาก เขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้มากกว่าจะให้ไอ้เจ้ามานั่งแทน

“ไม่เป็นไร นั่งตรงนี้ได้” ธราบอกพลางขยับเก้าอี้เข้าใกล้ไอ้เจ้าจนไหล่กว้างของเขาเบียดกับไหล่แคบของมัน “ว่าแต่มึงเถอะ บอกให้มาพร้อมกันก็ไม่ฟัง กูบอกแล้วว่าออกจากร้านกาแฟก็จะมาที่นี่เลย มึงก็ยังจะดื้อ แล้วมึงมายังไงกัน”

“จักรยานครับ ต้องพาเอ๋มาจองโต๊ะ วันเสาร์อย่างนี้คนเยอะ มาดึกๆ คงไม่มีโต๊ะให้นั่ง” ไอ้เจ้าตอบเสียงนุ่ม ก่อนถามอย่างห่วงใย “ว่าแต่คุณกินมื้อเย็นหรือยังดิน”

“ยังไม่หิว กาแฟตอนบ่ายสองยังทำให้รู้สึกอิ่มอยู่เลย แต่มึงใจเย็นก่อน จะรีบเมาหรือไง” ธราขยับมือไปรั้งแก้วเบียร์ที่กำลังจะถูกยกขึ้น เขามองตาดุปรามคนที่ทำท่าอยากเมาแต่หัวค่ำ

“อ่า...โอเคครับ ไม่รีบก็ได้” ไอ้เจ้ายอมความ ยอมปล่อยมือจากแก้วแล้วจับมือธราไว้แทน “แต่ถ้าคุณหิวก็บอกผมนะ เอ๋บอกว่าร้านนี้ทำข้าวผัดอร่อย หมูมะนาวก็รสชาติดี”

“อืม ยังไงบอกอีกที”

บทสนทนาเรียบง่ายของไอ้เจ้ากับธราทำให้ไอ้เอ๋ที่กำลังหูผึ่งนิ่งฟังถึงกับขมวดคิ้ว คิดในใจอยู่คนเดียวว่าสถานการณ์ระหว่างพวกเขาไม่ได้เลวร้าย ธราก็ยังพูดคุยกับไอ้เจ้าตามปกติ ทั้งสองคนดูไม่ได้บาดหมางอย่างคนที่ตัดความสัมพันธ์กันในชั่วข้ามคืน แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องที่เลิกรากันเป็นเรื่องโกหกนัก ในเมื่อแววตาที่ทั้งคู่มองกันนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่น่าอึดอัด ฝ่ายหนึ่งมีแต่ความไม่เข้าใจ อีกฝ่ายก็มีแต่ความเสียใจที่ปิดเอาไว้ไม่มิด

“แล้วนึกยังไงถึงชวนเที่ยววะไอ้เจ้า” ไอ้แพร์เอ่ยถามหลังจากที่กระดกเบียร์ในแก้วของไอ้เอ๋ไปครึ่งแก้วจนเจ้าของแก้วได้แต่ส่งค้อนวงใหญ่ให้ “ดีนะที่พวกกูเคลียร์งานกันไปเยอะแล้ว ไม่งั้นคงได้เทนัดมึงแน่”

“ไม่นึกยังไง อยากเที่ยวก็เลยให้เอ๋ลองชวนดู” ไอ้เจ้าให้คำตอบง่ายๆ พร้อมให้เหตุผล “เพราะถ้าเอ๋เมา จะได้มีคนหิ้วมันกลับ ไม่ลำบากกู”

“เฮ้ นายเจ้า คนอย่างผมน่ะนะ ไม่ยอมให้ใครหิ้วกลับง่ายๆ หรอก!” ไอ้เอ๋รีบทักท้วง แต่แล้วก็รู้สึกประหม่าเมื่อคนที่นั่งข้างๆ อมยิ้มยียวน

“ก็จริงนะไอ้เจ้า อย่างน้องเอ๋ไม่ยอมให้ใครหิ้วหรอก” แม้คำพูดจะเห็นด้วยแต่ไอ้เอ๋ก็ไม่ไว้ใจและยิ่งแน่ใจว่าควรอยู่ให้ห่างจากไอ้คนหื่นกามคนนี้ก็เมื่อถ้อยคำต่อมาดังขึ้น “เพราะน้องจะเดินตามเอง ร้องเมี้ยวๆ ตามด้วย หึหึ”

ไอ้เจ้ายิ้มล้อคนที่กำลังหน้าแดงก่ำ “โอ้โห นายเอ๋ นายมีมุมแบบนั้น ไหนบอกผมสิว่าเรื่องในคืนนั้นมันเป็นยังไง”

“ผมเมาโว๊ยยยยย! แล้วมันก็ไม่ได้ถึงขั้น... เวร..เวร...ไอ้ฉิบหาย ยิ้มทำไมเนี่ย” คนถูกแซวสบถออกมายาวเหยียดแต่ฟังไม่ได้ความเพราะเป็นการสบถที่เต็มไปด้วยความประหม่าจึงมีน้ำเสียงเบายิ่งกว่าเสียงกระซิบ หน้าแดงๆ นั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอาการเขินอายหรือโกรธจนไฟลุกท่วมกันแน่

“แกล้งเพื่อน” ธราว่าขึ้นเบาๆ เขาทอดสายตามองไอ้เจ้าที่กำลังหัวเราะร่วนผสมโรงกับไอ้แพร์แกล้งไอ้น้องเอ๋ที่กำลังหน้าแดงก่ำ เสี้ยวหน้าด้านข้างของไอ้เจ้านั้นสะกดสายตาของเขาให้หยุดนิ่งอยู่ที่มัน แม้เสียงไฟในร้านจะเริ่มสลัวลงตามเวลาแต่ก็ไม่ได้ทำให้การมองเห็นของเขาขัดข้องแต่อย่างใด เขายังคงเห็นใบหน้าคมคายที่สร้างความรู้สึกยุ่งเหยิงในใจได้ชัด ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาควรรู้สึกอย่างไรกับคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ ในห้วงคิดของเขามีแต่เพียงคำถามที่ไม่มีคำตอบ มีแต่เพียงความรู้สึกที่ไร้รูปร่างจนยากจะอธิบาย เพราะยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจที่ได้เห็นใบหน้าของคนคนนี้

“ก็เอ๋น่าแกล้ง” ไอ้เจ้าหันกลับมาตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนรอยยิ้มบนใบหน้าคมคายของมันจะค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อพบว่าสายตาของธรากำลังจดจ้อง สีหน้าของธราที่มันเห็นก็เป็นสีหน้าของคนที่ไร้แววแห่งความสุข

สีหน้าแบบนี้...เหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิด

เสียงดนตรีในร้านเริ่มดังขึ้นแล้ว โต๊ะที่ว่างก็กำลังถูกจับจองทีละโต๊ะ บรรยากาศรอบข้างเริ่มครึกครื้น เสียงพูดคุยดังมาจากตรงนั้นตรงนี้ แต่ระหว่างธราและไอ้เจ้ากลับรู้สึกเงียบงัน คนทั้งคู่ราวกับถูกดึงออกจากสถานที่แห่งความบันเทิงไปสู่ที่ที่เงียบสงบ แค่เพียงมองสบตากันก็ราวกับกำลังฉุดดึงกันไปในสถานที่ที่ไร้ชื่อเรียกและเต็มไปด้วยความอึดอัด

“ที่จริงผมอยากให้วันนี้เป็นวันที่เรามีความสุขด้วยกัน” ไอ้เจ้าเอ่ยขึ้น หางตาเหลือบเห็นไอ้เอ๋เพื่อนยากถูกไอ้หมอแพร์คนกะล่อนฉุดดึงไปที่ไหนสักแห่ง อาจจะเป็นห้องน้ำหรือชักชวนกันไปทำธุระที่อื่นก็ไม่ได้สนใจจะถาม เพราะตอนนี้ความสนใจของมันอยู่ที่ธราเพียงคนเดียว “แต่มันคงยากมากใช่ไหมธรา ไม่มีผมคงดีกว่าใช่ไหม”

ความทรมานใจของไอ้เจ้าปรากฏชัดบนสีหน้าจนธราต้องคว้ามือผอมนั้นมากุมไว้ เขาไม่มีคำตอบให้แต่แน่ใจว่าไม่อยากปล่อยมือของมัน คำตอบของเขาคือความเงียบแต่ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็ยังคงบีบมือผอมของมันเบาๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวระหว่างเขากับคนคนนี้ถึงได้ยากเย็น ทั้งที่ความรักก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆ มีเพียงแค่รักกับไม่รัก ใช่กับไม่ใช่ ทว่ากลับไม่มีใครเลยที่จะเอื้อนเอ่ยความจริงออกมา

“ดื่มเถอะ” ธราพูดขึ้นในที่สุด เขายื่นมือไปคว้าเหยือกเบียร์แล้วเทใส่แก้วทั้งสองแก้ว “วันนี้เรามาดื่มกันในวันครบรอบสองปี มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงหวังเอาไว้ แต่อย่างน้อยตอนนี้กูก็ยังอยู่กับมึง”

“งั้นผมขอเมาหัวราน้ำเลยได้ไหม” ไอ้เจ้าเอ่ยขออนุญาต คนที่ไม่เข้าร้านเหล้าและไม่เคยเห็นดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมันถึงกับเอ่ยปากแล้วมีหรือที่ธราจะห้ามปราม เพราะเขาก็อยากจะเมาหัวราน้ำเหมือนกัน

“เอาสิ ดื่มด้วยกันให้ตายไปข้าง” ธราบอกเสียงเรียบพลางยกยิ้ม ใบหน้านิ่งขรึมกระจ่างขึ้นจนคนมองฉีกยิ้มตาม “มึงว่าจะมีสักกี่คนที่มากินเหล้ากับคนที่เพิ่งบอกเลิกแล้วเมาหัวราน้ำไปด้วยกันอย่างนี้”

“ฮ่าๆ ๆ” ไอ้เจ้าหัวเราะขึ้นทันที ใบหน้าหล่อคมของมันน่ามองยามที่มีรอยยิ้มกว้างประดับ เสียงของมันก็น่าฟังยามที่หัวเราะจากใจจริง ธราเผลอจ้องมองอย่างไม่รู้ตัว เขาตกลงไปในหลุมกับดักของรอยยิ้มนั้นจนแทบจะขึ้นมาปากหลุมไม่ได้ “นั่นสินะดิน ปกติก็ต้องเกลียดจนไม่อยากเจอกันแล้ว”

“อืม” ธราเห็นด้วยกับไอ้เจ้า คำตอบของเขาราวกับคนที่กำลังเพ้อ สีหน้าของเขาก็ผ่อนคลายมากขึ้น คงต้องยกความดีความชอบให้กับรอยยิ้มของไอ้เจ้า ตั้งแต่เห็นรอยยิ้มของมันเป็นครั้งแรก เขาก็รู้มาตลอดว่าสักวันหนึ่งต้องพ่ายแพ้ให้กับรอยยิ้มนี้ “คงเพราะกูไม่ได้เกลียดมึงละมั้ง”

ไม่เกลียด...ไม่เคยเกลียดได้เลย ธราพยายามแล้ว เคยพยายามรู้สึกตามคำพูด แต่หัวใจของเขาไม่เคยทำได้สักครั้ง เขาถลำลึก ถอนตัวไม่ขึ้นจากความรู้สึกที่มี แม้แต่ในตอนที่รู้ว่าในหัวใจของเจ้า จักรพรรดิไม่ได้มีแค่เขาที่อยู่ในนั้น เขาก็ยังเกลียดคนคนนี้ไม่ลง

“แล้วก็คงเพราะผมไม่เคยเกลียดคุณเหมือนกัน” ไอ้เจ้าบอกเสียงแผ่วเบาและย้ำถ้อยคำที่ทำให้ธรายิ่งดำดิ่งลงไปในหลุมอันตรายยิ่งกว่าเดิม “ผมรักคุณธรา ความรู้สึกของผมไม่เคยโกหกคุณเลย”

ธรากับไอ้เจ้ายกแก้วขึ้นชนกันเสียงดังเคร้ง ก่อนต่างฝ่ายต่างกระดกเบียร์จนหมดแก้ว รสชาติแอลกอฮอล์ที่ไหลผ่านลำคอนั้นฝาดเฝื่อนแต่ไม่มีใครบ่นออกมา บทสนทนาระหว่างพวกเขาถูกละทิ้งไว้เพียงเท่านั้น จบประโยคที่ไอ้เจ้าและธราไม่ได้สานต่อ เขาทำเพียงดื่ม ดื่ม และดื่ม ซึ่งคนที่บอกว่าจะเมาหัวราน้ำก็ทำไม่ต่างกัน

“โอ้โห...พวกมึง มันต้องขนาดนี้เลยนะ เบียร์นะเฮ้ยไม่ใช่น้ำเปล่า เพลาบ้างๆ” ไอ้แพร์กลับมาที่โต๊ะแล้ว ซึ่งไอ้เด็กหัวฟูที่มันลากออกไปก็ตามกลับมาด้วย ทั้งสองคนต่างมองเพื่อนของตัวเองด้วยความข้องใจพลางเหลือบมองเหยือกใส่เบียร์สดที่ลดปริมาณลงไปจนแทบไม่เหลือและตอนนี้พนักงานก็กำลังยกเบียร์ขนาดหนึ่งทาวน์เวอร์มาเสิร์ฟให้ ก่อนจะพากันพรูลมหายใจออกมาเพราะไม่รู้เลยว่าระหว่างที่พากันออกไปซื้อของที่เซเว่นเพียงครู่เดียวนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างคู่รักปวดประสาทคู่นี้บ้าง ทั้งที่ก็เห็นคุยกันดีราวกับคนที่คืนดีกันแล้วแต่กลับทำหน้าเหมือนคนอกหักทั้งคู่

“เออน่า...ดูแลพวกกูด้วย” ธราพูดแค่นั้น เขาไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมให้คนเป็นเพื่อนได้เข้าใจ ทำเอาคนที่ได้รับฟังหันมองหน้ากันเล่ิกลั่ก จากที่เป็นศัตรูก็กลายเป็นมิตรที่ต้องมาร่วมกันหาคำตอบไปโดยปริยาย

“ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่” ไอ้เอ๋กระซิบกับผู้ร่วมชะตากรรม

“น้องเอ๋ถามไอ้เจ้าดูมั้ย พี่อยากรู้” อีกคนกระซิบตอบ

“พี่หมอก็ดูหน้ามัน” ไอ้เอ๋ทำหน้าสยอง “ขืนถามออกไปแล้วมันเอาแก้วเบียร์ฟาดหน้าผมล่ะพี่!”

“ยอมหน้าแหกดีกว่าไม่ได้เสือกนะน้องเอ๋” คนอุดมการณ์ในการเสือกเข้มข้นให้คำแนะนำ

แต่คนขี้เสือกระดับจูเนียร์กลับทำหน้าขยาด “คือต้องขี้เสือกระดับไหนอะถึงยอมเจ็บตัวขนาดนี้”

“ก็ระดับที่มีคนคิดจะทำโล่ให้เลยนะ คนเสือกยอดเยี่ยมแห่งปีคือพี่เองจ้า”

ไอ้เอ๋เอียงคอมองด้วยความสงสัย “มันเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจใช่มั้ยวะพี่หมอ”

“สอบติดทันตะฯ ก็ไม่น่าภูมิใจเท่านี้เลยน้องเอ๊ย!”

“คือพี่แม่งเป็นคนไงวะ”

คนกะล่อนยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนตอบ “เป็นคนที่ชอบน้องเอ๋มากๆ จ้า”

“ถุ้ย!”

“ถึงพี่จะชอบน้องเอ๋แค่ไหน แต่พี่ก็รังเกียจน้ำลายน้องนะ อี๋ๆ ๆ สกปรก!” ว่าแล้วก็ทำท่ารังเกียจอย่างจริงจัง

“เนี่ย ก็เป็นซะแบบนี้แล้วจะไม่ให้บล็อกได้ไงวะ!” ไอ้เอ๋ร้องปากคว่ำ มันอยากจะทุบไอ้คนปากดีคนนี้สักที กล้านักที่มาว่าคนรักสะอาดอย่างมันเป็นคนสกปรก! “ไม่ต้องมาเบียด ไปไหนก็ไปไป๊!”

สงครามน้ำลายระหว่างไอ้เอ๋กับพี่หมอหื่นกามจอมกะล่อนของมันจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้น ในขณะที่ไอ้เจ้ากับธราก็ยังคงยกเบียร์ขึ้นดื่มไม่หยุดราวกับสิ่งที่คนทั้งคู่สนใจในตอนนี้มีเพียงแค่น้ำเมาที่มีฤทธิ์ทำให้ลืมทุกสิ่งอย่างได้ชั่วคราว

ไอ้เจ้าจดจ่ออยู่กับแก้วในมือ นิ้วเรียวกำรอบหูแก้วพลางสายตาก็ไม่ละจากน้ำสีสวย เอาแต่จ้องมองราวกับมีภาพสะท้อนออกมา ในขณะที่ธรากลับมุ่งความสนใจไปที่ใบหน้าของไอ้เจ้าเพียงอย่างเดียว ใบหน้าด้านข้างของมันดูคุ้นตาอย่างน่าประหลาด คุ้นอย่างที่ไม่ใช่คนที่รู้จักกันมาสองปี แต่เป็นความคุ้นเคยที่ยาวนานกว่านั้น ทว่าก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่แล่นเข้ามาในชั่วอึดใจก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ธราส่ายศีรษะเล็กน้อย เขาคิดว่าเบียร์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วนี้คงเล่นงานสติสัมปชัญญะเข้าให้แล้ว ซึ่งคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็คงไม่ต่างกัน ร่างผอมของมันโงนเงนเล็กน้อยจนเขาต้องดึงให้มาอยู่ในอ้อมแขน

“ดีจัง” ริมฝีปากบางขยับพูดพลางยกยิ้มให้ธรา “ถูกดินกอดไว้แบบนี้ ดีจริงๆ นะ”

“ไหวหรือเปล่า” เขาเอ่ยถาม มองคนในอ้อมแขนอย่างห่วงใย “ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไหม”

ไอ้เจ้าส่ายหน้า “อยากเมามากกว่านี้”

“เดี๋ยวค่อยมาดื่มต่อก็ได้” ทั้งที่เอ่ยอนุญาตให้เมาหัวราน้ำได้ แต่ธรากลับไม่แน่ใจว่าจะทนเห็นไอ้เจ้าดื่มต่อได้สักแค่ไหน เพราะยิ่งดื่มหนักเท่าไร ตัวตนของเจ้า จักรพรรดิก็ดูอ่อนแอลงทุกที เขากลัวเหลือเกินว่าจะได้เห็นมันร้องไห้ราวกับจะขาดใจเหมือนในคราวนั้นอีกครั้ง ภาพที่มันนอนคุดคู้อยู่บนพรมที่คอนโดฯ แห่งนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำของเขา ทั้งที่ไม่รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ร้องไห้แต่หัวใจของเขากลับทรมานไปกับมันด้วย “นะเจ้า ไปทำให้ตัวเองสร่างกว่านี้หน่อย เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”

“อือ ไปๆ” ลูกอ้อนของธราใช้ได้ผลกับไอ้เจ้าเสมอ แค่เขามองด้วยสายตาอ่อนโยน ใช้น้ำเสียงออดอ้อนนิดหน่อย ไอ้เจ้าก็คล้อยตามแล้ว “แต่เดี๋ยวเจ้าไปเองก็ได้ ดินไม่ต้องห่วงเลย สบายมาก สบายมาก”

คนบอกไม่ต้องห่วงลุกขึ้นยืนแต่โงนเงนจนเกือบจะเซหงายหลัง โชคดีที่ธราคว้าไว้ทัน ไม่อย่างนั้นคงล้มตึงไปชนลูกค้าที่กำลังโยกตัวอย่างเมามันอยู่ด้านหลังเป็นแน่

“เดี๋ยวกูไปส่ง มึงไม่ต้องดื้อเลย” ธราทำเสียงดุ ก่อนจะหันไปทางเพื่อนซี้ของเขาที่กำลังหยอกเหย้ากับเพื่อนของไอ้เจ้าด้วยการตะโกนคุยกับอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ข้างกันแข่งกับเสียงเพลงที่ดังลั่นร้าน ในขณะที่มือก็พยายามถือแก้วป้อนเบียร์ให้ราวกับป้อนนมลูกน้อย เห็นดังนั้นธราก็ได้แต่พรูลมหายใจ พูดกันตามตรงเลยว่านับถือในความพยายามของไอ้แพร์มากแต่ก็อยากเตือนมันสักหน่อยว่าระวังเส้นเสียงอักเสบ เพราะยิ่งดึกร้านนี้ก็ยิ่งหรี่ไฟสลัวและเปิดเพลงเสียงดัง ซึ่งหากยังตะโกนปล่อยมุกจีบกับคนที่มันพยายามมอมให้เมาอยู่อย่างนี้คงได้คอพังกันไปข้าง “ไอ้แพร์ ไอ้แพร์! ไอ้เหี้ยแพร์!”

“ฮะ...ฮะ? อะไรของมึงวะไอ้ดิน” คนถูกเรียกทำหน้าเหวอเมื่อได้ยินสรรพนามเรียกขานที่ไม่รื่นหูพลางหยุดชะงักมือที่กำลังโอบใบหน้าเล็กของคนที่กำลังเมาได้ที่ไว้ “มีอะไร”

“จะพาเจ้าไปเข้าห้องน้ำ” ธราตอบเสียงเรียบพลางตวัดตามองมือของเพื่อนซี้ที่อยู่ผิดที่ผิดทาง “ดูไอ้น้องเอ๋ด้วยไอ้เวร มึงมอมเบียร์น้องหรือไง หน้าแทบจะจูบโต๊ะอยู่แล้ว อีกนิดมึงก็จะจูบน้องมันแทน”

“เปล๊า!” ไอ้แพร์ปฏิเสธเสียงสูง ดูก็รู้ว่าไม่จริงเลยสักนิด “ไม่ได้มอมเว้ย น้องเต็มใจดื่มเอง น้องบอกไอ้เจ้าเลี้ยงทั้งทีก็เลยอยากกินให้คุ้ม เห็นมั้ย กินซะคุ้มเลย คุ้มฉิบหายยย”

“มึงน่ะสิคุ้ม แต่ไอ้น้องเอ๋มันขาดทุนไอ้สัด” ธราส่่ายหน้าหน่ายเมื่อเห็นแววตาราวกับหมาจิ้งจอกที่จ้องจะกินหนูน้อยหมวกแดง “อย่าให้มันมากไปนะ อย่างน้อยก็เพื่อนเจ้า ให้เกียรติด้วย”

“เออน่า ไม่ทำอะไรหรอกเว้ย ถ้ากูจะทำกูทำตั้งแต่คืนที่นัวกันแล้ว มึงจะพาไอ้เจ้าไปห้องน้ำก็ไป ไม่ต้องห่วงทางนี้” ไอ้แพร์โบกมือไล่แล้วไม่สนใจธราอีกเพราะมันกำลังพยายามจิ้มแก้มไอ้น้องเอ๋ที่พยายามปัดป้องแต่ก็ไร้แรงสู้

“ดีๆ นะเว้ยมึง กูไม่อยากมีปัญหากับเจ้าเพิ่ม”

“ครับลูกครับ รู้แล้วครับ ไปสักทีครับไอ้สัด ไอ้เจ้าจะหลับคาอกมึงแล้ว ไป๊!”

“เออ” ธรารับคำสั้นๆ ก่อนจะประคองคนขี้เมาให้เดินไปตามทาง เขาพาไอ้เจ้ามาจนถึงห้องน้ำอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย เพราะมีคนเดินสวนมาทำให้เส้นทางระหว่างโต๊ะนั้นคับแคบลง ต้องคอยหลบคอยเบียดเพื่อให้เดินผ่านไปได้

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-01-2019 18:42:25
ห้องน้ำของตัวร้านนั้นสะอาดสะอ้านแต่ก็เริ่มมีกลิ่นคาวเมื่อมีคนเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงเวลานี้มีคนเพียงสามสี่คนอยู่ในนั้น ผู้ชายสองคนอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ คนหนึ่งวักน้ำจากก๊อกขึ้นลูบใบหน้า ส่วนอีกคนนั้นกำลังจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือ อีกสองคนที่เหลืออยู่หน้าโถฉี่ ต่างกำลังเพลิดเพลินกับการปลดป่อย ธราจึงพาไอ้เจ้าเดินไปที่อ่างล่างมือที่อยู่ริมสุดฝั่งซ้ายมือซึ่งใกล้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เหลือบตามองเขาผ่านกระจกเงา ชายคนนี้มีส่วนสูงถึงปลายคางของเขา ใบหน้าขาวเนียนใสมีจมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากเล็กบางประดับไว้อย่างน่ามอง ดวงตากลมโตภายใต้คิ้วได้รูปสวยจ้องมาที่เขา ชั่วครู่ที่ได้สบตากันนั้นเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้น เขาแน่ใจว่าไม่รู้จักผู้ชายคนนี้แต่กลับรู้สึกคุ้นเคย เป็นความรู้สึกโหยหา แต่เมื่อกะพริบตาก็เลือนหายไป

“เจ้า” ธราตัดใจละสายตาจากดวงตากลมโตที่สะกดสายตาของเขาแล้วก้มมองคนในอ้อมแขน “จะหลับตาทั้งที่ยืนอยู่หรือไง ล้างหน้าหน่อยนะ”

“อือ” ไอ้เจ้าครางแผ่ว พยายามลืมตาขึ้นเล็กน้อย “โลกหมุนเร็วจังเลยดิน”

ธราพรูลมหายใจใส่คนขี้เมาที่ปล่อยให้ยืนทรงตัวเองไม่ได้ เพราะปล่อยแขนออกเมื่อไหร่ก็คงล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อนั้น “นิ่งๆ หน่อย จะล้างหน้าให้”

“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ” เจ้าของดวงตากลมโตหวานซึ้งเอ่ยถาม ริมฝีปากเล็กนั้นขยับเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงเล็กออกมา “เอ่อ...แฟนของคุณคงเมามาก”

“ครับ เขาดื่มไปมากทีเดียว” ธรารับคำพลางคลี่ยิ้มให้อีกฝ่าย สภาพของเขากับไอ้เจ้าตอนนี้คงดูไม่จืดนัก เพราะคนขี้เมานั้นดื้อรั้น พอโดนน้ำเย็นเข้าหน่อยก็ดิ้นเป็นแมวทั้งที่ยังหลับตา ลำบากเขาต้องประคองไม่ให้ล้มอีกทั้งยังต้องพยายามเอาน้ำลูบหน้าให้ เป็นการต่อสู้ที่น่าละเหี่ยใจอยู่เอาการ “แต่ไม่มีอะไรให้ช่วยหรอกครับ ผมแค่พาเขามาล้างหน้า ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ”

ริมฝีปากเล็กฉีกยิ้มกว้างจนดวงตากลมโตมีรูปร่างคล้ายสระอิ หัวใจของธรากระตุกวูบไปชั่วครู่ ก่อนจะเต้นรัวขึ้นมา รอยยิ้มของคนตรงหน้าทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากใบหน้าหวานได้

“ดิน...คุณชื่อดินใช่ไหมครับ”

“ใช่” ธราตอบรับเสียงแผ่ว “คุณล่ะครับ”

“จันทร์ครับ” เสียงเล็กเอ่ยพลางย้ำเตือน “ผมชื่อจันทร์เจ้า แต่เรียกสั้นๆ ว่าจันทร์ก็ได้”

ธราขานรับในลำคอ รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากสีหน้าของเขา “ดวงตาของคุณเวลายิ้ม...เหมือนพระจันทร์เสี้ยวเลยนะครับ”

“ครับ...เคยมีคนคนหนึ่งบอกผมแบบนั้นเหมือนกัน”

“อ่า…”

“คุณดินพาแฟนของคุณกลับดีกว่าครับ ประคองไว้อย่างนี้คงเมื่อยแย่เลย ผมต้องขอตัวก่อน”

ชั่วครู่หนึ่งที่ความเสียดายแล่นเข้ามาในความรู้สึกและอาจจะแสดงออกทางสีหน้า ทีแรกธราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไรแต่เมื่อจันทร์เจ้าหมุนตัวจะเดินจากไป เขาก็รีบคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ ใบหน้าเล็กหันมองมาพลางคิ้วได้รูปก็เลิกขึ้นเล็กน้อย

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณดิน”

ธราชะงักนิ่ง เขาค่อยๆ ปล่อยมือออกจากข้อมือของจันทร์เจ้าพลางก้มมองมือของตัวเองอย่างแปลกใจ “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยขอโทษ รู้สึกเสียมารยาทกับคนที่เพิ่งรู้จัก “ขอโทษที่รุ่มร่ามกับคุณ”

“ไม่เป็นไรครับ แต่เรา…” จันทร์เจ้ามีสีหน้าลังเลเล็กน้อยเมื่อเริ่มพูดขึ้น จากนั้นก็หยุดคำพูดลงไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง “เราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่าครับ ผมหมายถึง...” ดวงตาคู่โตเหลือบมองคนในอ้อมแขนข้างหนึ่งของธรา ท่อนแขนแข็งแกร่งที่โอบรั้งรอบเอวของใครอีกคนไว้ทำให้เกิดความไม่แน่ใจที่จะพูดออกมา “เอ่อ...จะเป็นอะไรมั้ยครับถ้าผมอยากจะขอไอดีไลน์หรืออะไรก็ได้ครับที่คุณสะดวกให้ติดต่อ”

ธราไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นดี เขารู้สึกว่าปล่อยคนตรงหน้าให้เลยผ่านไปไม่ได้แต่อีกใจก็รู้สึกผิดกับคนขี้เมาที่ยังยืนโงนเงนอยู่ในอ้อมแขน ไม่รับรู้บทสนทนาของเขากับใครอีกคน

“ถ้าคุณดินไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะ”

“คือ…” ธราเผลอกำมือตัวเองแน่น แขนที่โอบรั้งเอวบางของไอ้เจ้าไว้ก็แข็งเกร็งขึ้นมา เพราะใบหน้าเศร้าสร้อยของจันทร์เจ้าทำให้เขาไม่อาจปล่อยผ่านได้จริง แค่อยากเห็น...พระจันทร์เสี้ยวบนใบหน้าเล็กนี้อีกสักครั้ง “ผมสะดวกครับ”

จริงตามคาด...เมื่อได้รับฟังถ้อยคำจากเขา ดวงตากลมโตของจันทร์เจ้าก็กลายเป็นพระจันทร์เสี้ยวในทันที

รอยยิ้มที่แสนคุ้นเคยนี้...ทำอย่างไรก็ลบออกจากความรู้สึกไม่ได้จริงๆ

.

.

ธราคงไม่รู้ว่าไอ้เจ้าสร่างเมาตั้งนานแล้ว โลกที่เคยหมุนจนพื้นเอียงเพราะฤทธิ์น้ำเมากลับหยุดนิ่งเมื่อพบเจอกับคนที่ไม่ควรเจอเข้า เสียงกรีดร้องแห่งความทรมานจากบางแห่งภายในใจดังขึ้นเมื่อธราสบตากับคนคนนั้น ไอ้เจ้าสังเกตเห็นได้ สังเกตความผิดปกติที่ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเขากับไอ้เจ้าเมื่อครั้งที่พบเจอกันเป็นครั้งแรก

ไม่แปลกเลย...เพราะไม่ว่าจะเป็นตอนนั้นหรือตอนนี้ ไอ้เจ้าก็ไม่ใช่คนที่ธราเลือก

เพราะเขาเลือกคนคนนั้นมาตลอด

ไอ้เจ้านอนลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดสลัวเพราะแสงไฟจากโคมไฟข้างโต๊ะทำงานของธราส่องมาไม่ถึง มันถูกพากลับมาที่คอนโดฯ โดยแสร้งทำตัวเป็นคนเมาเพื่อกลบเกลื่อนความปวดร้าวที่อาจเผลอแสดงออกทางสีหน้า

เป็นวันครบรอบที่ห่วยแตกสิ้นดี

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือทำให้ไอ้เจ้าเผลอจิกเล็บลงบนหน้าขาของตัวเอง ดวงตาเรียวเหลือบมองฝ่าความมืดไปยังจุดที่เป็นแสงสว่างแห่งเดียว ธราอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานพลางก้มหน้าเหนือโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มพลางนิ้วก็รัวลงบนแป้นพิมพ์

เป็นอีกครั้งที่รอยยิ้มของธราไม่ใช่สิ่งที่ไอ้เจ้าหวัง รอยยิ้มที่เกิดจากคนอื่นไม่ใช่รอยยิ้มที่ไอ้เจ้าต้องการ

ไอ้เจ้ากัดริมฝีปากจนห้อเลือด เล็บมือก็เพิ่มแรงจิกเพื่อหวังจะระบายความปวดร้าวที่เกิดขึ้นในอก น้ำใสๆ ไหลกลิ้งลงทางหางตาหยดแล้วหยดเล่า บทสนทนาของธรากับคนคนนั้นยังฉายซ้ำราวกับหนังที่กรอกลับไปมาอย่างไม่มีวันจบ แค่ได้เห็นรอยยิ้มและสีหน้าของธราเมื่ออยู่ต่อหน้าคนคนนั้นไอ้เจ้าก็รู้ได้ทันทีว่าเวลาแห่งการเห็นแก่ตัวของมันคงเริ่มนับถอยหลังไปสู่ตอนจบแล้วและคงไม่เหลือโอกาสสำหรับคนขี้ขลาดคนนี้อีกในเมื่อคนในใจตัวจริงของเขาปรากฏตัวขึ้นมา

“ครับคุณจันทร์ ถึงบ้านปลอดภัยใช่มั้ย อืม...ครับ นอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้ครับ ฝันดีนะครับจันทร์เจ้า”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มทั้งน้ำตา ความทรมานราวกับของแหลมคมทิ่มแทงประดังประเดเข้ามาอีกครั้ง

หนังสือเล่มเดิมก็จบแบบเดิม

คนคนเดิมก็มีหัวใจดวงเดิม

แต่ทั้งที่ธราคนก่อนกับธราคนนี้...แทบจะไม่เหมือนคนคนเดียวกัน

ทว่าทำไม...ไม่ว่าจะเป็นธราคนไหนก็ไม่เคยเลือกไอ้เจ้าเลย





01:20 AM

Gee : ท่าน ครบสองปีแล้วนะ จะกลับมาได้หรือยัง

Gee : เครื่องหยุดเวลาของท่านคงเจอเขาแล้ว

Gee : เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าสุดท้ายมันจะจบแบบเดิม

Gee : สุดท้ายหนังสือเล่มโปรดปรานของท่านก็ไม่ได้จบอย่างที่ท่านหวัง

Gee : ต่อให้ท่านจะอ่านอีกกี่ครั้ง เลือกอ่านแค่ส่วนที่ท่านชอบและมีความสุขไปกับมัน

Gee : แต่ยังไงก็เปลี่ยนตอนจบไม่ได้ ตอนจบที่ถูกเขียนไว้แล้วถ้าเปลี่ยนมันก็คงไม่ใช่เรื่องเดิมอีกต่อไป

Gee : ท่านน่ะขลาดที่จะยอมรับเรื่องราวของหนังสือเล่มเดิม

Gee : แต่ก็ขลาดมากกว่าที่จะเขียนเรื่องราวขึ้นมาใหม่

Gee : เพราะฉะนั้นกลับมาเถอะนะ ท่านให้สัญญาไว้แล้วว่าท่านจะกลับมาหากท่านทำให้เขารักท่านไม่ได้

Gee : สองปีมานี้ ท่านได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากพอแล้ว

Gee : ท่านเจ้า

Gee : ดินน่ะไม่เคยเลือกท่านเลย

Gee : ต่อให้จะเคยเป็นดั่งเจ้าชีวิต

Gee : แต่ครั้งหนึ่งก็แค่เคยเป็น

Gee : กลับมาเถอะนะท่าน กลับมาในที่ที่ท่านควรอยู่

Gee : พื้นดินกับท้องฟ้าไม่ใช่สิ่งที่ควรคู่กันตั้งแต่แรก





ไอ้เจ้าถอนหายใจแผ่วเบาเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ขึ้นแจ้งเตือนข้อความจากคนสนิท ก่อนจะหันมองไปทางธราที่นอนอยู่เคียงข้างกัน เขาเข้านอนได้สักพักแล้วในขณะที่ไอ้เจ้าแกล้งหลับเพื่อแสดงบทบาทของคนขี้เมาต่อไป รับรู้ได้ว่าเขาห่มผ้าให้และก้มลงมากดจูบที่หน้าผาก ถ้อยคำกระซิบให้นอนหลับฝันดียังดังก้องในหูแต่เสียงที่เขาบอกกับใครอีกคนกลับดังมากกว่า มันกลบหัวใจฟูฟ่องของไอ้เจ้าให้ฟีบลงได้อย่างรวดเร็ว

ไอ้เจ้ายกมือขึ้นสัมผัสเรือนผมนุ่มของธราเพียงครู่ ก่อนจะลดมือลงอย่างคนที่พยายามสะกดกลั้น เห็นลมหายใจสม่ำเสมอจากการกระเพื่อมขึ้นลงของหน้าอกกว้างแล้วก็แน่ใจว่าเขาจมลึกอยู่ในห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยจึงถือโอกาสลุกเดินไปที่ระเบียงเพื่อตอบข้อความ





OMG : จี้ ขอต่อเวลา





ขอต่อเวลา...แม้สักนาทีก็ยังดีเพื่อให้ได้อยู่ตรงนี้





Gee : ท่านเห็นแก่ตัวมามากแล้ว สองปีก็มากเกินพอ

Gee : คืนเขาไปเถอะ เขามาตามคืนแล้ว

OMG : ไม่ได้ ให้ไม่ได้





แค่คิดก็ทรมานราวกับถูกแทงซ้ำๆ ยิ่งข้อความที่คนสนิทส่งมาย้ำเตือนกลับยิ่งสร้างบาดแผล





Gee : ท่านไม่มีสิทธิ์

Gee : ท่านไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คนที่เป็นเจ้าของหัวใจเขา

Gee : ท่านแค่เคยเป็นเท่านั้น





ไม่ต้องให้ใครมาตอกย้ำ ไอ้เจ้าก็จำทุกอย่างได้ไม่มีวันลืม





OMG : รู้ กูรู้เรื่องนั้นดี





เพราะรู้ถึงบอกไม่ได้ เพราะรู้ถึงพูดไม่ได้ว่าเคยเป็นใครในชีวิตของเขา

คนที่ไม่มีสถานะอย่างไอ้เจ้าจะกล้าให้เขาจำได้อย่างไร เพราะต่อให้จำได้...ก็ไม่มีพื้นที่ตรงไหนในหัวใจของเขาให้ไอ้เจ้าได้ยืนอยู่

คนขี้ขลาดคนนี้ก็แค่อยากให้เขาจดจำความรู้สึกรักที่เคยมีให้กันก็เท่านั้น

ไม่อยากให้จำในตอนที่เลิกรักกันเลย แค่ช่วงเวลาหนึ่งก่อนหน้าที่เขาจะเจอคนในใจตัวจริง แค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเคยคิดว่ารักไอ้เจ้า แค่ช่วงเวลานั้น หยิบเอาช่วงเวลานั้นมาให้ธราคนใหม่จดจำไม่ได้เหรอ





Gee : ความรักของท่าน มันเป็นไปไม่ได้

Gee : ทั้งดินและท่าน ต่างก็รู้เรื่องนั้นดี อย่าให้ใครต้องย้ำเตือนท่านเลย

Gee : เพราะไม่ว่ายังไงท่านก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้





ไอ้เจ้าแค่นยิ้ม ก่อนฟันขาวจะกัดริมฝีปากล่างจนเลือดสีสดไหลออกเป็นทาง

ความจริงที่เปลี่ยนให้ไอ้เจ้ากลายเป็นแค่อดีตคนรัก ความจริงที่ทำให้ธรารับใครคนอื่นเข้ามาในหัวใจ ความจริงนั้นกำลังกัดกินหัวใจของไอ้เจ้าให้ทรมานจนอยากอาเจียนเอาความรู้สึกขยะแขยงที่มีต่อตัวเองออกมา





Gee : น้องชายที่มีสายเลือดเดียวกันยกให้ท่านเป็นคนรักไม่ได้หรอก





ไอ้เจ้ายกกำปั้นขึ้นทุบอกของตัวเอง หนึ่งครั้ง...สองครั้ง...ก่อนขาที่อ่อนแรงจะพาให้ร่างผอมของมันทรุดฮวบลงกับพื้น





Gee : ตอนนี้ความทรงจำที่เป็นตราบาปมีแต่ท่านที่จำได้ คนที่ท่านพร้อมจะตกนรกไปด้วยนั้นเขาลืมไปหมดแล้ว

Gee : ท่านก็ควรจะลืมเสียทีกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ของท่าน

Gee : เพราะดิน ธรา ถูกกำหนดให้เป็นได้แค่น้องชายของเจ้า จักรพรรดิตั้งแต่เกิด





ไม่เคยสิ้นสุด ความทรมานนี้ไม่มีจุดจบ เจ้า จักรพรรดิที่เป็นได้เพียงพี่ชายของธราคงต้องอยู่กับความทรมานนี้ไปตลอดชีวิต



.......TBC........


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นทุกความคิดเห็นค่ะ

เอาใจช่วยพี่เจ้ากันด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 20-01-2019 19:13:37
โอโหหหหหหหห พลิกล้อคขนาดนี้ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย ต้องมาต่อน้ามันค้างงไม่หายแล้ววส
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 20-01-2019 19:21:58
ห้ะ!! ตกลงเจ้าเป็นพี่แท้ๆของดิน :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 20-01-2019 19:40:49
 :a5:  :a5: เจ้ากับดินเป็นพี่น้องกัน !!!

น้ำตาซึมเลย สงสาร :ling1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 20-01-2019 19:45:03
หู้ยยยยย.. หนักเรยย.. เรื่องนี้ หนักเรยยย..  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-01-2019 19:55:37
OMG ของจริง
ตอนแรกคิดว่าจันทร์เจ้าคือพี่น้องของเจ้า
หม่คิดว่าเป็นดินเลย ที่เป็นพี่น้อง พีคในพีคไปอีก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-01-2019 20:34:04
ช็อค...เจ้ากับดินเป็นพี่น้องกันจริงๆหรอ โอ้ยใจจจจ
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 20-01-2019 20:34:35
เจ้า กลับไหม?  อย่างน้อยก็เคยได้รักนะ อยู่ตรงนั้นมันเจ็บไม่ใช่หรอ กลับเถอะนะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 20-01-2019 20:59:34
คาดเดาอะไรจากเรื่องนี้ไม่ได้เลย
สิ่งเดียวที่รู้สึกคือ สงสารเจ้า ที่ต้องทนทุกข์กับความรู้สึกผิด ถ้าดินไม่รักเจ้าแต่รักจันทร์เจ้า
ก็ขอให้เจ้าได้ตัดใจจากดินได้ ขอให้เขาได้มีความสุขบ้าง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 20-01-2019 21:05:45
เอาเข้าไปจ้าาา...เป็นพี่น้องกันเฉย
ต้องเสียน้ำตาให้คนเขียนอีกกี่เรื่อง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 20-01-2019 21:24:46
อยากให้เจ้าเจอหนังสือเล่มใหม่ ที่ไม่จบแบบเดิม
ความทรงจำที่จำได้แค่คนเดียวมันทรมานเกินไป

ถ้าเป็นดินคนก่อนหน้านี้เราอาจจะเชียร์อม่ว่ามันจะผิด แต่ดินคนนี้ไม่ใช่ ไม่ใช่คนที่มาสร้างเรื่องราวต่อด้วยกันอะ เป็นแค่คนที่ทำให้เจ้าจมอยู่ในความทรงจำ  ดินคนนี้รักเจ้าไม่มากพอ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-01-2019 21:49:12
เจ้า พอเหอะ ไม่อยากให้เจ้าต้องเจออะไรแบบนี้วนอยู่แบบเดิม
รักตัวเองบ้างนะเจ้า อย่ารักเขามากนักเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 20-01-2019 21:54:07
ไม่ใช่แค่เจ้าหรอกค่ะที่เจ็บเจียนตายเน่ก็เจ็บไม่ต่างจากเจ้าเลยพีคมากกกกกกกกกสงสารเจ้าสุดๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-01-2019 22:03:23
โอย...........สงสารเจ้า  น้ำตาก็มา :mew2: :z3: :เฮ้อ:

เจ้า ........ อย่าต่อเวลาเลย ตัดใจจากดินไปเถอะ
ไม่อยากให้เจ้าเสียเวลากับตินอีกแล้ว
แค่ดิน เห็นจันทร์ ก็สดใส ให้ใจไปแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-01-2019 22:13:05
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 20-01-2019 22:16:50
โธ่เจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 20-01-2019 22:48:30
อ่านจบตอนนี้ละอ้าปากค้างเลย  :ling2:  :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: hunhan ที่ 20-01-2019 23:03:33
เจ้า เธอเข็มแข็งมากเลยนะ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ขอให้เจ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปนะ
ถึงแม้ดินจะรักเจ้า แต่มันคงไม่มากพอที่จะประคองไปต่อได้ ถ้าดินเลือกจันทร์มันก็คงเป็นเรามี่จะต้องถอยนะ
ถึงเจ้าจะรักดินมากแค่ไหนแต่เจ้าต้องรักตัวเองด้วยนะ เจ้าเดินมาถึงขนาดนี้แล้ว เดินหน้าอีกต่อไปก็ย่อมได้
ทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากนี้คือสิ่งที่เจ้าต้องเลือกนะ ระหว่างไปต่อ แล้วกลับมาวนลูปเดิม
กับก้าวต่อไปและพยายามเข้มแข็งกว่าเดิม มันไม่เป็นไรเลยถ้าเขาไม่เลือกเรา มันอาจจะเจ็บอีกครั้ง แต่หนังสือเล่มนี้อาจเปลี่ยนเป็นตอนพิเศษที่เจ้าคนนี้เข้มแข็งและเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ถ้าสมุดเล่มเดิมมันเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เจ้าก็เดินหน้าหาสมุดเล่มใหม่ เริ่มต้นใหม่ เผื่อซักวันนึงเจ้าจะเข้มแข็งและสามารถมองดินเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของตัวเองได้
ถ้าเหนื่อยแล้ว เริ่มใหม่นะ คนรักเจ้าอยู่ข้างๆเจ้าเสมอ เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เดินหน้าต่อไปนะ คนดี
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Babyboys ที่ 20-01-2019 23:56:33
พี่เจ้าาา เริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 21-01-2019 01:24:23
สงสารเจ้าเลย รักน้องชายตัวเอง แถมน้องชายก็รักคนอื่นด้วย เรื่องนี้คงจบด้วยความเศร้าของเจ้าเหมือนเดิม ยังไงก็ขอให้เลิกได้เถอะนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-01-2019 03:17:10
อีหยังอ้ายยยยยยยยยย  :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 21-01-2019 03:51:00
WTF นี่มันอะไรกัน   ที่ผ่านมาทั้งหมด คือคุณหลดกดาว!!!


โอ้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-01-2019 04:19:17
 :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 21-01-2019 07:08:31
อ่านๆไป  :a5: อะไรนะ!    :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 21-01-2019 09:41:39
ห๊ะ! โอ้ยยยยย อะไรกันเนี่ย? ไม่เคยคิดถึงตรงนี้เลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-01-2019 14:22:42
โอ้โหหหหหหหห คาดไม่ถึงแบบคาดไม่ถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย จะจบยังไง แค่นี้เจ้าก็จะไม่ไหวแล้ว
คนอ่านก็จะตายแล้วเช่นกัน T______________________T
อยากให้เจ้าหาหนังสือเล่มใหม่ ยังไงเล่มนี้ก็คงเปลี่ยนตอนจบอะไรไม่ได้แล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 21-01-2019 15:39:06
โหหหห พลิกล็อก​กันน่าดู อู้วว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-01-2019 17:44:57
เป็นพี่น้องแล้วรักกันไม่ได้ก็ว่าหนักแล้ว
แต่นี่ดูถ้าว่าธราจะรักอีกคนอยู่แล้วด้วย
เป็นพี่น้องแถมไม่โดนรัก ไม่โดนเลือกอีก
ทนทรมานได้ขนาดนี้เชียวเหรอเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 21-01-2019 18:09:42
เอาอีกกกกกกกกก   ค้างๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 21-01-2019 21:31:21
สงสารเจ้าจัง จะเป็นยังไงต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 21-01-2019 22:38:44
คนที่พร้อมจะตกนรกไปด้วยกันไม่มีอีกเเล้ว ประโยคนี้คือจี๊ดมาก เสียใจเเทนเจ้า ขอให้เจ้าหยุดเเล้วหนีไปให้ไกลๆ ธรานี่รักเจ้ามากพอ มีค่ามากพอกับความรักของเจ้าไหมอ่ะ รอดูพาร์ทอดีตเลย แต่รู้สึกมีเเววว่าจะเกลียดอิธรามากขึ้นเพราะฉันรักเจ้า 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 21-01-2019 23:49:52
ขอ skip ไปคู่หมอแพร์น้องเอ๋ได้มั่ยคะ หัวใจทำงานหนักเกินจะรับไหว  ฮือออออ พลิกล็อคกันน่าดู ถล่มทลายย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 22-01-2019 05:02:32
ความรู้สึกตอนนี้คือ อิหยังวะ   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 22-01-2019 12:33:58
มันบีบหัวใจเหลือเกินนนน... :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 11 จันทร์...เจ้า ​P.12 20/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 22-01-2019 12:50:35
 :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-01-2019 17:17:57
ตอนที่ 12 Our Memories





รู้จักท่านเจ้า จักรพรรดิไหม

รู้จักสิ...เจ้า จักรพรรดิคือคนที่ตัวสูงๆ ผอมๆ หุ่นตรงทรงกระบอก คนที่ชอบทำหน้านิ่ง ไม่เคยเห็นยิ้มเลย

ไม่จริงน่า...ยิ้มเก่งจะตาย ท่านเจ้ายิ้มทีโลกสดใสทั้งใบ

ไปเห็นตอนไหนกัน รอยยิ้มที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นแบบนั้น

ก็ตอนที่อยู่กับดิน ธราไง ไม่เคยเห็นเลยเหรอ สองคนนี้ตัวติดกันยิ่งกว่าแฝดสยาม ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าถ้าเจอดิน ธราก็ต้องเจอท่านเจ้า จักรพรรดิ

นั่นสินะ...คงมีแต่คนหูหนวกตาบอดเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ไม่เห็น

ดิน ธรา กับท่านเจ้า จักรพรรดิน่ะเคยอยู่ห่างกันเกินร้อยเมตรเสียที่ไหน จะว่าเกินจริงก็เกินจริงแต่ถ้าประเมินจากสายตาแล้วก็ไม่เกินจริงเลยสักนิด เพราะไม่เคยห่่างกันแม้แต่ตอนนอน ชีวิตในแต่ละวันของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นด้วยการลืมตาตื่นขึ้นเจอหน้า ธรานอนอยู่ฝั่งซ้ายส่วนท่านเจ้านอนอยู่ฝั่งขวา คนนอนฝั่งซ้ายนั้นเป็นคนขี้เซาจึงถูกคนนอนฝั่งขวาปลุกให้ตื่นอยู่เป็นประจำ เมื่อตื่นแล้วก็จะพบกับสายตาของท่านเจ้าเป็นอันดับแรก สายตาที่ธราไม่เคยอ่านออกว่ามีความหมายอย่างไร สายตาที่ราวกับจดจ้องอยู่นานแล้ว สายตาของท่านเจ้าอ่านไม่ออกตั้งแต่ตอนไหนธราก็จำไม่ได้ เคยคิดหาความหมาย แต่ไม่เคยเข้าใจ รู้แค่เพียงว่าเมื่อมองแล้วหัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ ทุกเช้าจะเป็นแบบนี้เสมอ โดนทำให้ใจเต้นแรงแล้วจากนั้นจึงกล่าวอรุณสวัสดิ์พลางคลี่ยิ้มกว้างให้แก่กัน

“สวัสดีตอนเช้าครับดิน” ท่านเจ้ามักจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับธรา รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าก็น่ามองเสียจนนึกหวงแหน อยากจะเก็บเอาไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียว

กี่ปีแล้วก็ขี้เกียจนับที่ชีวิตประจำวันของธรามีแต่ท่านเจ้า เพราะนานมาก...หากนับตั้งแต่ตอนอายุห้าขวบมาจนถึงตอนนี้ก็อาจเรียกได้ว่าธราอยู่กับท่านเจ้ามาเกือบทั้งชีวิต เรื่องราวสมัยเด็กก็จำรายละเอียดได้ไม่มากแล้ว แต่ที่ยังจำได้ดีก็คือตอนที่เจอกับท่านเจ้าครั้งแรก

‘มาอยู่กับเจ้า มาเป็นของเจ้านะน้องดิน’ ประโยคนั้นยังจำติดหู มือเล็กๆ ของท่านเจ้ายื่นมาตรงหน้า รอยยิ้มสดใสมอบให้กับธราซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ในตอนนั้นทำให้ตัดสินใจยื่นมือออกไป มือเล็กทั้งสองมือจับกัน ท่านเจ้ายิ้มกว้างในขณะที่ธราคลี่ยิ้มตาม

‘คิดไว้แล้วเชียวว่าเวลายิ้มต้องดีมากแน่ๆ หลังจากนี้ก็ยิ้มเยอะๆ นะน้องดิน ยิ้มให้เจ้า เพราะเจ้าชอบรอยยิ้มของน้องดิน’

ธราเด็กที่เงียบขรึม พูดน้อย ไม่เคยมีความสำคัญและพิเศษต่อใคร กลับถูกท่านเจ้าเลือกให้เป็นคนสำคัญ ท่านเจ้าบอกว่าชอบรอยยิ้มของธรา ชอบมือเล็กๆ ของธรา ด้วยเหตุนั้นธราจึงต้องออกจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อไปอยู่กับท่านเจ้า ครอบครัวของท่านเจ้ารับธราเป็นลูกบุญธรรมและเลี้ยงดูธราเป็นอย่างดีในฐานะน้องชายของท่านเจ้า

ในฐานะน้องชายของท่านเจ้าแล้วธราได้รับทุกอย่าง...ทุกอย่างที่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับมาก่อนในชีวิต ทั้งความรัก และการดูแลเอาใจใส่ เขามีเสื้อผ้าสวยๆ ของเล่นแพงๆ ซึ่งเขาได้รับมากพอแม้จะไม่เคยเอ่ยปากร้องขอ เพราะคิดว่าดีแค่ไหนแล้วที่ได้อยู่ในครอบครัวที่แสนวิเศษนี้ เขาถูกปฏิบัติเป็นเหมือนลูกชายคนหนึ่งของบ้าน มีชีวิตที่สุขสบาย ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่น มีคุณพ่อ คุณแม่ และพี่ชายอย่างท่านเจ้า เพียงเท่านี้ก็วิเศษมากเกินกว่าที่ชีวิตของเด็กชายกำพร้าคนหนึ่งจะสามารถมีได้

ตั้งแต่รู้ความว่าตนเองเป็นเด็กถูกทิ้ง เป็นลูกที่พ่อแม่ไม่ต้องการ นี่นับเป็นครั้งแรกที่ธรารู้สึกโชคดีและมีความสุข ธราเติบโตมาพร้อมกับท่านเจ้าและเป็นที่รักของคนในบ้าน ‘คุณชายธรา’ คือชื่อที่คนงานในบ้านเรียกเขา ทุกคนต่างเรียกด้วยความรักใคร่เอ็นดู คุณพ่อกับคุณแม่ก็เรียกเขาว่า ‘ธรา’ มีเพียงท่านเจ้าเท่านั้นที่เรียกเขาว่า ‘น้องดิน’

‘ห้ามใครเรียกเหมือนเจ้า’ นั่นคือคำประกาศก้องของท่านเจ้าให้คนในบ้านได้รับรู้ ‘น้องดินคือน้องของเจ้า เจ้าเรียกได้คนเดียว’

ไม่เคยมีใครขัดความต้องการของท่านเจ้า ทุกคนในบ้านตามใจท่านเจ้า แม้แต่ธราเองก็ไม่เคยขัด เพราะท่านเจ้าคือที่สุด ท่านเจ้าคือทุกเหตุผล และท่านเจ้าคือพระเจ้าของธรา

ธราคิดแบบนั้นเพราะท่านเจ้าคือพระเจ้าของเขาจริงๆ ท่านเจ้าให้ทุกอย่างกับเขา ให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ให้ความรักความอบอุ่นที่เขาไม่เคยได้รับ ธราตระหนักดีว่าหากท่านเจ้าไม่เลือกเขาในวันนั้นก็จะไม่มีเขาที่มีความสุขเหมือนในวันนี้

ท่านเจ้าคือพี่ชายที่แสนดี ท่านเจ้ารักธรา รักธรามากยิ่งกว่าใคร ตั้งแต่ที่ธราย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ธราก็ไม่เคยเหงา เพราะท่านเจ้าอยู่กับธราแทบตลอดเวลา ถึงกับยอมเรียนซ้ำชั้นเพื่อจะได้เรียนเป็นเพื่อนธรา

‘เจ้าไม่ปล่อยให้น้องดินอยู่คนเดียว เจ้ากลัวน้องดินเหงา เจ้าอยากเห็นน้องดินยิ้มเยอะๆ น้องดินยิ้มให้เจ้านะ’ และนั่นคือเหตุผล เหตุผลของท่านเจ้านั้นแม้จะไม่สมเหตุสมผลแต่ก็ไม่เคยมีใครขัด คุณแม่รักท่านเจ้ามาก คุณแม่เคยบอกธราว่าเพราะท่านเจ้ารักธรา คุณแม่จึงรักธราด้วย และเพราะธราเป็นเด็กดีคุณแม่ก็ยิ่งรักธรา ธราไม่เคยรู้สึกอิจฉาท่านเจ้า กลับเอาแต่ภูมิใจที่มีพี่ชายอย่างท่านเจ้า

ท่านเจ้าเป็นคนเก่ง ความสามารถรอบด้านและเพราะแบบนั้นท่านเจ้าจึงเป็นจุดศูนย์รวม ใครๆ ต่างก็อยากเป็นเพื่อนกับท่านเจ้า แตกต่างจากธราโดยสิ้นเชิง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นท่านเจ้าก็ไม่เคยทิ้งธรา ต่อให้ใครต่อใครจะเข้าหาท่านเจ้าแต่สายตาของท่านเจ้าก็มองหาแค่ธราเสมอ

‘ไม่ต้องกังวลนะน้องดิน เจ้าอยู่ตรงนี้ ไม่หายไปไหนแน่นอนเลย เจ้าสัญญา’

ธรามีความสุข การเป็นน้องชายของท่านเจ้านั้นได้รับอภิสิทธิ์มากมายเหลือเกิน ซึ่งอาจหมายรวมถึงการได้มีความสุขมากกว่าใครบนโลกใบนี้

‘ไม่เป็นไรหรอกน้องดิน น้องดินทำเต็มที่แล้ว’

ท่านเจ้ามักจะยิ้มอย่างอ่อนโยนยามที่ปลอบประโลมธรา

‘แต่ดินสอบตก คุณพ่อต้องโกรธดินแน่ๆ เลยเจ้า คุณแม่ก็อาจจะผิดหวัง’

ธราเรียนไม่เก่ง ชื่อของเขาไม่เคยติดประกาศอยู่ในลำดับใกล้เคียงกับท่านเจ้าเลย เคยมากสุดก็แค่อยู่ในกระดาษที่จัดเรียงอันดับใบเดียวกัน แต่ความห่างชั้นระหว่างที่ 1 กับที่ 20 ก็ไกลกันอย่างน่าใจหาย

‘โอ๋ๆ นะ เจ้าจะคุยกับทั้งสองคนให้เอง อย่าทำหน้าเศร้าเลยครับ เชื่อเจ้าสิว่าเจ้าจัดการได้’

‘ดินเชื่อครับ ดินรู้ว่าเจ้าเก่งมากๆ’

พี่ชายของธราเป็นคนเก่งยิ่งกว่าใคร

‘แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเจ้าไม่เก่งก็ปกป้องน้องดินไม่ได้นี่นา’

เพราะหน้าที่ของพี่ชายคือหน้าที่ของผู้ปกป้อง ด้วยเหตุนั้นท่านเจ้าจึงไม่ปล่อยให้ธราเผชิญปัญหาเพียงลำพัง ในยามที่ธรามีเรื่องไม่เข้าใจ ท่านเจ้าก็จะคอยอธิบาย ในยามที่ธรามีเรื่องกังวลใจ ท่านเจ้าก็จะคอยปลอบประโลม ท่านเจ้ามอบทุกสิ่งที่สร้างความสุขให้ธรา เพื่อนของท่านเจ้าก็กลายเป็นเพื่อนของธรา แม้แต่คนสนิทของท่านเจ้าก็ยังเป็นคนสนิทของธราด้วย เพราะไม่มีสิ่งใดที่ท่านเจ้ามีแล้วธราจะไม่มี...เด็กชายธราที่แสนอ่อนแอจึงเติบใหญ่อย่างแข็งแรงอยู่บนโลกที่มีท่านเจ้าเป็นคนขับเคลื่อน

‘คนนี้ชื่อลุงชัน คนสนิทของเจ้า ถ้าใครรังแกน้องดินตอนเจ้าไม่อยู่ น้องดินบอกลุงชันให้จัดการได้ ลุงชันเก่ง ลุงชันเป็นตัวแทนของเจ้าเพื่อปกป้องน้องดิน’

‘เจ้าจะไปไหนเหรอครับ ทำไมถึงจะไม่อยู่’

‘ไปธุระกับคุณแม่ เจ้าอยากให้น้องดินไปด้วยแต่กลัวน้องดินเหนื่อย ไม่ได้ไปเที่ยว ไม่สนุกหรอก ไว้ไปเที่ยวเจ้าจะพาไปด้วย’

ท่านเจ้ามักจะต้องเดินทางไปที่ต่างๆ กับคุณแม่ ในบางครั้งธราก็ไปด้วย แต่ส่วนใหญ่จะต้องรออยู่ที่บ้าน บางครั้งท่านเจ้าก็หายไปครั้งละนานๆ จนธราเคยแอบหวั่นใจว่าท่านเจ้าจะไม่กลับมา

‘ลุงชันครับ จะหนึ่งเดือนแล้ว’ ลุงชันกลายเป็นที่ระบายความเหงา เพราะท่านเจ้าบอกธราว่าหากคิดถึงท่านเจ้าให้คุยกับลุงชัน ธราจึงต้องรบกวนลุงชันบ่อยๆ

‘นับอีกห้านิ้วท่านเจ้าก็กลับครับ’ ลุงชันมักจะยิ้มใจดีให้เสมอ ลุงเป็นคนยิ้มเก่งเหมือนท่านเจ้า

‘ทำไมทุกคนต้องเรียกเจ้าว่าท่านเจ้า แล้วทำไมผมเรียกด้วยไม่ได้ ผมเรียกทีไรเจ้าโกรธทุกที’

‘เพราะคุณชายคือคนพิเศษไงครับ คนพิเศษจะเรียกท่านเจ้าแบบห่างเหินได้ยังไง’

‘ท่านเจ้าไม่ใช่ชื่อเล่นเหรอครับ เพื่อนในห้องก็เรียกท่านเจ้ากันทุกคน ทั้งบิน ทั้งจี้แล้วก็วินด้วย’

‘นายหญิงให้ทุกคนเรียกท่านเจ้าครับ เพราะให้ความรู้สึกสำคัญและพิเศษกว่าใคร’

‘คุณแม่รักเจ้ามาก’

‘ใช่ครับ นายหญิงรักท่านเจ้ามาก’

‘ลุงชันว่าเจ้าจะคิดถึงผมไหม’

‘คิดถึงครับ คงงอแงกลับมาหาคุณชายอยู่ทุกวัน’

‘แล้วทำไมเจ้าต้องไปล่ะครับลุงชัน’

‘ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองครับ’

‘ผมช่วยอะไรเจ้าได้บ้างไหม เจ้ากลับมาทุกครั้งก็เปลี่ยนไปทุกครั้ง เจ้าคงเหนื่อย’

‘เหนื่อยครับ แต่แค่คุณชายยิ้มให้ท่านเจ้า ท่านเจ้าก็หายเหนื่อยแล้วครับ’

‘เจ้าก็บอกผมแบบนั้น แต่พักหลังเจ้าไม่ค่อยยิ้มเลย ผมเป็นห่วงจัง’

‘ถ้ารู้ว่าคุณชายเป็นห่วงขนาดนี้ ท่านเจ้าต้องยิ้มกว้างแน่เลยครับ’

ธราไม่เคยเข้าใจความพิเศษที่เขามีต่อท่านเจ้า ยิ่งเติบใหญ่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่คำพูดของลุงชันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ ธราคือคนพิเศษของท่านเจ้าเพราะเมื่อเขายิ้ม ท่านเจ้าก็ยิ้มตาม เมื่อบอกว่าเป็นห่วง บอกว่าคิดถึง ท่านเจ้าก็ยิ้มกว้าง อารมณ์ดีได้ทั้งวัน ธราเคยถามว่าทำไมเขาถึงพิเศษ ท่านเจ้าตอบกลับมาแค่ว่า ‘เพราะเจ้ารัก’

สีหน้าของท่านเจ้าในตอนนั้นปราศจากรอยยิ้ม ไม่เหมือนกับการบอกรักที่ผ่านๆ มา อาจจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้นที่แววตาของท่านเจ้าเปลี่ยนไป

‘เพราะเจ้ารักดิน’

คำว่า ‘น้อง’ ก็หายไปจากรูปประโยคด้วย

ถึงอย่างนั้นชีวิตของธราก็ราบรื่นมาโดยตลอด แม้จะมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปแต่ท่านเจ้าก็ยังคงอยู่กับธรา ยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดี ท่านเจ้าตามใจธรา ไม่เคยขัด แต่ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่บนโลกใบนี้

ความสัมพันธ์ที่น่าเป็นห่วงคือความสัมพันธ์ที่คนสองคนไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง ธราไม่เคยเห็นท่านเจ้าโมโห ธราไม่เคยโดนท่านเจ้าโกรธ แต่ท่านเจ้าที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้าธราคือคนโมโหร้าย เอาแต่ใจ หยิ่งยโสและไม่แคร์ใครหน้าไหนบนโลก ธราไม่เคยรู้จนเมื่อตอนที่อยู่มัธยมต้นปีที่สอง

“เอาไปท้ิง!” ท่านเจ้าตะคอก เสียงดังจนเพื่อนๆ ในห้องหันมอง “เจ้าบอกให้เอาไปทิ้งไง ฟังไม่เข้าใจเหรอ!”

“แต่ว่าพี่ปลาตั้งใจเอามาให้ ถ้าทิ้งพี่ปลาต้องเสียใจนะเจ้า” ธราพยายามอธิบาย มือของเขาถือกล่องช็อกโกแลตจากพี่ปลา เด็กหญิงชั้นมอสามเอาไว้

“เสียใจก็ช่างหัวใคร ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้าบอกให้เอาไปทิ้งไงดิน ของสกปรกราคาถูกแบบนี้รับมาได้ยังไง! เอามานี่! ไอ้บิน! มึงยืนโง่อะไรอยู่ มาช่วยกู!”

“ใจเย็นๆ กันก่อนนะเว้ย ไอ้ดิน มึงเอาไปทิ้งเร็วๆ” บินเพื่อนในกลุ่มของท่านเจ้าเข้ามาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ “ท่านเจ้าของมึงโมโหแล้วนะ เดี๋ยวก็เรื่องใหญ่”

“ท่าน มึงตะคอกแบบนี้ไอ้ดินกลัวนะ” จี้เข้ามาช่วยอีกคน แต่ยืนอยู่ฝั่งท่านเจ้า กำลังห้ามไม่ให้ท่านเจ้าโมโหไปมากกว่านี้ “สูดหายใจเข้าลึกๆ ท่าน นับหนึ่งถึงสิบเหมือนที่ชอบทำไง มันไม่มีอะไร กูเห็นแล้วละ ไอ้ดินมันก็ปฏิเสธแล้วนะ แต่พี่เขาซื้อมาให้ก็ต้องรับไว้ เขาจะเสียน้ำใจ แค่รับไว้ไม่ต้องกิน เดี๋ยวให้ไอ้วินมันกินไง นะๆ”

“กูชอบช็อกโกแลต กูกินเองท่าน กูรับเอง ไอ้ดินเอามาๆ ๆ มึงไม่ชอบของหวานกูรู้” วินรีบฉกฉวยกล่องช็อกโกแลตออกจากมือธราที่ยืนนิ่งอึ้ง

“ห้ามใครกิน! กูบอกให้เอาไปทิ้งก็เอาไปทิ้งสิวะ!”

ทำไมต้องโกรธมากขนาดนี้ ท่านเจ้าไม่เคยตะคอก ไม่เคยมองธราด้วยสายตาน่ากลัวแบบนี้เลยสักครั้ง

ไม่เหมือนเดิม...ธรารับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ท่านเจ้าเคยเป็นพี่ชายที่แสนดี ดูแลธราเป็นอย่างดีมาตลอด แต่พักหลังมานี้ท่านเจ้าไม่ค่อยเข้าใกล้ธรา แม้จะทำเหมือนว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่คนที่อยู่ด้วยกันมานานก็พอมองออก

“เจ้าเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ด้วย” ธราเอ่ยเสียงแผ่ว ความรู้สึกเสียใจจุกแน่นอยู่ในอก “เจ้าไม่เหมือนเดิม”

“ใครกันแน่ที่ไม่เหมือนเดิม” ท่านเจ้าย้อนถามเสียงกร้าว “อย่ามองเจ้าแบบนี้ดิน! เพราะช็อกโกแลตเฮงซวยนั่นถึงกับมองกันแบบนี้เลยเหรอวะ!”

“ท่าน นับหนึ่งถึงสิบ" จี้คอยเตือน “ถ้าถึงสิบแล้วยังไม่ดีขึ้นให้นับใหม่ ไอ้บิน ไอ้วินพาดินออกไปก่อน เดี๋ยวกูคุยกับท่านเอง”

ธราพูดผิดตรงไหน ท่านเจ้าไม่เหมือนเดิมจริงๆ เมื่อก่อนไม่ว่าเรื่องอะไรธราก็จะรู้ก่อนคนอื่น ท่านเจ้าพูดกับธราทุกเรื่อง แต่เดี๋ยวนี้คนที่รู้กลับเป็นคนอื่นไปซะแล้ว จี้ดูเหมือนจะเข้าใจท่านเจ้าดีกว่าเขา หลายครั้งแล้วที่พูดคุยเรื่องที่รู้กันอยู่สองคน

“ไม่ต้องตามมาหรอก ผมอยากอยู่คนเดียว” ธราว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ออกจากห้องเรียนโดยไม่เหลียวหลังมองอีกเลย

“ตามดินไป อย่าให้ใครเข้าใกล้ อย่าให้ผู้หญิงหน้าไหนเข้าใกล้มันอีก เพราะพวกมึงไม่ดูมันให้ดี...ปล่อยมันอยู่คนเดียว แล้วอย่างนี้กูจะไว้ใจอะไรพวกมึงได้อีกวะ”

“ขอโทษนะท่าน กูไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวเอง กลับมาก็เจอพี่ปลาอะไรนั่นยืนคุยกับมันแล้ว เดี๋ยวกูกับไอ้บินไปอยู่กับมัน มึงไม่ต้องห่วงนะ จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น กูสัญญา" วินรีบพูดเมื่อเห็นสีหน้าท่านเจ้า “จี้ ฝากด้วย”

คนที่ต้องรับบทหนักก็คือจี้ เพื่อนในกลุ่มเพียงคนเดียวที่ท่านเจ้าพูดคุยด้วยมากที่สุด

“กูเกลียดวิธีของมึงจี้ มันไม่เคยได้ผล" สีหน้าของท่านเจ้าเต็มไปด้วยความทรมาน “กูนับถึงสิบเป็นล้านๆ รอบแต่กูก็ยังสงบใจไม่ได้"

“ท่าน ถ้ามันแย่ขนาดนั้นก็อย่าทน ก็แค่บอกมันไป จะกลัวอะไรกับการเปลี่ยนสถานะ”

“กูไม่เคยกลัว แต่ดินเห็นกูเป็นพี่ชายมาตลอด กูแย่แล้วจี้ กูกลับไปเป็นพี่ชายไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ กูต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจไม่ให้สัมผัสมันเกินกว่าที่พี่ชายคนหนึ่งควรทำ กูนับแล้วนับอีกแต่ไม่เคยรอด จนตอนนี้กูเกลียดเลขสิบไปแล้ว เพราะรู้ว่าเมื่อถึงสิบทีไรกูก็จะทำเรื่องไม่ดีลงไปทุกที”

"แต่ถ้าไม่บอก ดินก็จะไม่รู้ไปอย่างนี้ ถ้าวันหนึ่งมันวางสถานะให้ท่านชัดเจนแล้วมันจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วนะ ทั้งชีวิตท่านก็จะได้เป็นแค่พี่ชายของมัน รู้ว่าท่านทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นมันมีแฟน พี่ชายที่คิดไม่ซื่อ ยินดีกับมันไม่ได้หรอกท่าน”

ภาพจินตนาการที่ธราจะไปเป็นของคนอื่นนั้นทำให้รู้สึกทรมานจนแทบทนไม่ไหว

“กูไม่อยากทำไม่ดีกับดินเลยจี้ แต่ถ้ากูต้องทรมานขนาดนั้น กูยอมทำเรื่องแย่ๆ ต่อให้ต้องบังคับมันกูก็จะทำ กูเสียมันไปไม่ได้ แค่คิดก็เหมือนจะตายแล้ว”

“กูเข้าใจ แต่ขอกูเตือนอย่างหนึ่งได้ไหม พูดในฐานะเพื่อนที่ไม่ใช่ลูกน้อง” จี้ถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นว่าท่านเจ้าไม่ได้ว่าอะไรก็พูดต่อ “มึงคือพระเจ้าของพวกกูนะ ทั้งกู ไอ้วิน ไอ้บิน หรือแม้แต่ไอ้ดินเอง มึงก็เป็นคนให้ชีวิตใหม่ มึงพาพวกกูออกจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ชีวิตของพวกกูให้มึงได้ แต่ว่านะท่าน เรื่องของความรักมันก็อีกเรื่อง มึงบังคับใครไม่ได้หรอก มึงบังคับได้แค่ตัว หัวใจมันก็ยังเป็นของมัน มึงต้องรับความจริงตรงนี้ให้ได้ด้วย กูห้ามมึงไม่ได้ ไม่มีใครห้ามมึงได้ มีแต่ตัวมึงเองที่ต้องตัดสินใจ พวกกูแค่คอยอยู่ข้างๆ แล้วช่วยเหลือเท่านั้น”

ท่านเจ้าคนนี้ไม่เหมือนใคร ท่านเจ้าคนนี้เลือกทุกอย่างให้กับชีวิตของตัวเองมาโดยตลอด โลกของท่านเจ้าเริ่มต้นจากความว่างเปล่า จากนั้นจึงค่อยๆ เรียนรู้ว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้โดยลำพัง

คนแรกที่เข้ามาในโลกของท่านเจ้าคือคุณแม่ คุณแม่ที่รักท่านเจ้า รักและคอยตามใจทุกอย่าง ท่านเจ้าเคยคิดว่าโลกที่มีคุณแม่นั้นเพียงพอแล้ว แต่คุณแม่กลับบอกว่าคนทุกคนมีพบก็ต้องมีจาก วันหนึ่งหากคุณแม่ไม่อยู่ ท่านเจ้าก็ต้องอยู่เพียงลำพัง คุณแม่บอกว่าท่านเจ้าจะต้องมีเพื่อน เพื่อนที่จะคอยอยู่เคียงข้างท่านเจ้าเวลาที่คุณแม่ไม่อยู่ แต่ท่านเจ้าไม่ชอบใครเลยสักคน คนที่เรียนด้วยกันที่โรงเรียนก็ไม่รู้สึกอยากพูดคุย ท่านเจ้าไม่ชอบเด็กผู้หญิงเสียงแหลม ไม่ชอบเด็กผู้ชายที่ทำตัวเป็นนักเลง ไม่ชอบคนขี้ฟ้อง ไม่ชอบคนที่ร้องไห้งอแงโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีใครในโรงเรียนที่ท่านเจ้าชอบเลยสักคน

จำได้ว่าตอนนั้นคุณแม่กลุ้มใจมาก เพราะกลัวท่านเจ้าเหงา แต่ไม่นานคนที่สองที่เข้ามาในโลกของท่านเจ้าก็ปรากฏตัว ลุงชันคือคนที่สอง ลุงชันคือคนขายไอศกรีมหน้าโรงเรียนท่านเจ้า ลุงชันเป็นคนใจดี พูดคุยกันแล้วถูกชะตา ท่านเจ้าจึงบอกคุณแม่ว่าชอบลุงชันมาก อยากให้ลุงชันมาอยู่กับท่านเจ้า คุณแม่ก็จัดการให้โดยไม่ขัด หลังจากนั้นลุงชันก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงของท่านเจ้า จากเคยเป็นคนขายไอศกรีมหน้าโรงเรียนก็ต้องมาคอยรับส่งท่านเจ้าไปในทุกที่ที่ท่านเจ้าต้องการ แต่คุณแม่ก็บอกว่าท่านเจ้าจะมีแค่ลุงชันไม่ได้ ท่านเจ้าต้องมีเพื่อนวัยเดียวกันบ้าง เป็นอีกครั้งที่ต้องกลับมาคิดหนัก ท่านเจ้าไม่ชอบใครเลย คุณแม่เกือบท้อใจแต่ตอนที่ท่านเจ้าไปทำบุญครบรอบวันเกิดกับคุณแม่ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ท่านเจ้าก็เจอคนสามคนที่จะเข้ามาอยู่ในโลกของท่านเจ้าแล้ว

คนหนึ่งชื่อจี้ ปากแดง แก้มย้อย ตาโต ใบหน้าน่ารัก ตัวเล็กกว่าใครเพื่อน

อีกคนชื่อบิน ตัวสูงเก้งก้าง ตาชั้นเดียว ปากห้อย

คนสุดท้ายชื่อวิน ตาชั้นเดียวเหมือนบิน แต่ริมฝีปากบางกว่า

สามคนที่จะเป็นเพื่อนกับท่านเจ้า เพื่อนวัยเดียวกันตามที่คุณแม่ต้องการ เพื่อนที่ท่านเจ้าเลือกแล้วว่าถูกใจมากที่สุด ท่านเจ้าบอกกับคุณแม่ แค่เพียงบอกคุณแม่ก็จัดการให้ ไม่นานสามเพื่อนซี้ของท่านเจ้าก็มาอยู่ในความอุปการะของคุณแม่ มีลุงชันกับภรรยาของลุงชันที่ไม่มีลูกเป็นผู้ปกครอง

“พวกมึงคือเพื่อน เพื่อนที่กูเลือกมาแล้ว กูอาจใช้ชีวิตไม่เหมือนคนอื่น วิธีการเป็นเพื่อนกับพวกมึงอาจจะไม่เหมือนใคร แต่กูคิดจริงๆ ว่าพวกมึงคือเพื่อน ไม่เคยคิดดูถูก พวกมึงใช้ชีวิตของพวกมึงได้เต็มที่ กูไม่ใช่เจ้าชีวิตหรือพระเจ้าของพวกมึง อย่าเอาตัวเองมาหมุนรอบกูเลย แต่แค่คอยอยู่ข้างๆ กูในตอนที่กูไม่เหลือใครก็พอ”

“รู้อยู่แล้วล่ะ” จี้ยกมือขึ้นบีบไหล่ท่านเจ้าเบาๆ ไหล่ที่แคบนั้นเหมือนยิ่งห่อเล็กลงเมื่อเจ้าตัวกำลังครุ่นคิด “เวลาพวกกูโดนล้อว่าเป็นเด็กกำพร้า ท่านเป็นคนเดียวที่หัวร้อนแล้วเข้าไปต่อยคนพวกนั้น ปากแตกคิ้วแตกจนโดนนายหญิงบ่น แล้วทั้งที่ไม่จำเป็นต้องพาออกมาจากบ้านนั้นก็ได้ แต่ท่านก็พาออกมา แค่เพราะกลัวว่าพวกเราจะเหงา ท่านทำให้พวกเรามีพ่อกับแม่มาในงานโรงเรียน ทำให้พวกเรามีโอกาสได้เขียนการ์ดขอบคุณคนที่พวกเรารัก พวกเราสาบานเลยว่าจะอยู่ข้างๆ ท่าน ไม่มีใครคิดจะทิ้งท่าน ดินก็คงคิดเหมือนกัน”

ท่านเจ้ายกยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเศร้าสร้อย “ตอนนี้อยากให้ทิ้ง อยากให้เอาคำว่าพี่ชายทิ้งไปสักที”

คนสุดท้ายที่ได้เข้ามาในโลกของท่านเจ้า คนพิเศษยิ่งกว่าใคร คนที่ทำให้โลกของท่านเจ้าสดใสขึ้นมาแค่ได้เห็นรอยยิ้ม

น้องดิน...แค่เพราะตอนนั้นอยากมีน้องชาย อยากเข้าใจความรู้สึกของสามเพื่อนซี้ที่อยู่กันแบบพี่น้อง ดูวุ่นวายและชวนปวดหัว แต่กลับสัมผัสได้ถึงความสุขที่มีมากล้น ท่านเจ้าจึงบอกกับคุณแม่ว่าต้องการน้องชาย ท่านเจ้าไม่ชอบเด็กผู้หญิงเพราะเสียงแหลมและอ่อนแอ เด็กผู้หญิงในห้องเรียนของท่านเจ้านั้นน่ารำคาญ เล่นเตะบอลก็ไม่ได้ เล่นหุ่นยนต์ก็ไม่เป็น ทั้งยังขี้ฟ้อง โดนแกล้งเปิดกระโปรงก็ร้องไห้จ้า ท่านเจ้าจึงไม่เคยเข้าไปยุ่ง ท่านเจ้าต้องการน้องชาย น้องชายที่สามารถเล่นด้วยกันได้ แต่ครั้งนี้คุณแม่ให้กำเนิดน้องเพื่อท่านเจ้าไม่ได้ จนเมื่อครบรอบวันเกิดอีกครั้ง ท่านเจ้ากลับไปที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้ากับคุณแม่ คนพิเศษของท่านเจ้าก็ปรากฏตัว

เด็กผู้ชายที่มักจะเล่นอยู่คนเดียว ไม่ยิ้มแย้ม ไม่พูดคุยกับใคร ท่านเจ้ามองเด็กคนนั้นอยู่บ่อยครั้ง มองแล้วมองอีก ลังเลว่าควรจะเข้าไปคุยด้วยดีหรือไม่ กลัวก็แต่ทักทายไปแล้วจะไม่มีเสียงตอบกลับมา ท่านเจ้าไม่เคยพูดกับใครก่อนจึงรู้สึกประหม่า แต่ตอนที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำเห็นเด็กคนนั้นกำลังเล่นกับแมว ใบหน้าน่ารักฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันรูปกระต่าย ในอ้อมแขนอุ้มแมวพลางริมฝีปากเล็กก็ขยับ

‘สวัสดีคุณแมว’ ท่านเจ้าตีเนียนทักทาย แต่กลับทักทายแมวในอ้อมแขนของคนที่อยากทัก ‘เราชื่อเจ้า’

เด็กคนนั้นกลับมานิ่งเงียบอีกครั้งพลางมองมาที่ท่านเจ้า แมวในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลักราวกับอึดอัดที่ถูกกอดไว้แน่น

‘เราชื่อเจ้านะ’ ท่านเจ้าย้ำ

‘ดิน’ อีกคนตอบกลับ

‘ชื่อคุณแมวเหรอ ชื่อเพราะดีจัง’

เด็กผู้ชายส่ายหน้าพลางชี้นิ้วเข้าหาตัว ‘ดิน’

‘น้องดิน’ ท่านเจ้าคลี่ยิ้มกว้าง แววตาเป็นประกายราวกับเพิ่งเล่นเกมชนะจี้สิบตารวด เพราะไม่เคยเอาชนะจี้เรื่องเล่นเกมได้สักครั้ง ‘ยิ้มซี่ เจ้าอยากเห็น’

‘ทำไมต้องยิ้ม’

‘เพราะเจ้าชอบคุณกระต่าย’

เด็กชายมีสีหน้างงงวยแต่ท่านเจ้าก็ทำเพียงยิ้มกว้าง ไม่อธิบายอะไร แต่เพราะรอยยิ้มที่ชอบ แค่เท่านั้นจริงๆ ที่ทำให้ท่านเจ้าตัดสินใจยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อรับสถานะที่กำลังทำให้ใจเจ็บปวดจนถึงตอนนี้

“งั้นตอนนี้พร้อมจะพังมั้ยล่ะ ถ้าพร้อมก็ไปคุยกับมันเลยท่าน มันก็คงรอคุยกับท่านอยู่” จี้ส่งยิ้มให้กำลังใจ “ตัดสินใจเองนะ ไม่มีใครบังคับ”

“ไม่กล้าพอว่ะ” ท่านเจ้าบอกอย่างหมดท่า “เดี๋ยวไปง้อมันก่อน เรื่องอื่นช่างหัวแม่ง”

“ได้ ถ้างั้นก็อย่าลืม นับเลขด้วยนะ อดทนให้ได้ถ้าจะเลือกทางนี้”

“เกลียดวิธีการนับเลขไปเลยโว้ย!”

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ธรา ท่านเจ้าก็คงไม่ต้องกระวนกระวายใจมากอย่างนี้ แต่เพราะเป็นธรา คนที่พิเศษและสำคัญสำหรับชีวิตของท่านเจ้า ถึงต้องอดทนให้มาก ต้องคิดให้มาก และในครั้งนั้นกว่าธราจะเลิกมึนตึงใส่กัน ท่านเจ้าก็ง้องอนจนแทบเหี่ยวแห้ง ท่านเจ้าที่ไม่ได้รับรอยยิ้มจากธราก็เหมือนต้นไม้ขาดการรดน้ำ รอวันเหี่ยวเฉา

ทว่าเหตุการณ์ทำนองนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว เพราะเมื่อธรายิ่งเติบใหญ่ ความสนใจจากเพศตรงข้ามก็มากขึ้น หลายต่อหลายครั้งที่วิธีการนับเลขของจี้เหมือนกับการกระตุ้นให้ยิ่งดับเครื่องชน

.

.

“ถึงสิบแล้วไอ้เหี้ย กูไม่ทนแล้ว! ไปลากมันออกมาไอ้บิน ยิ้มอะไรนักหนาวะ ยิ้มหน้ายับขนาดนั้นยิ้มให้กูได้คนเดียวเว้ย!”

“นับถึงสิบกี่รอบคราวนี้”

“สิบรอบ ที่จริงกูควรนับถึงร้อยใช่มั้ยวะ”

“นับถึงพันก็ไม่หายหัวร้อนหรอกคนอย่างมึงอะท่าน"

นั่นน่ะตอนงานกีฬาสี มีรุ่นพี่มอปลายเข้ามาขอเบอร์ธรา ลำบากจี้ต้องคอยรับหน้าและบินต้องคอยกันธราออกจากสาวรุ่นพี่

.

.

“มันเป็นใครวะ เวรเอ้ย! เอาไอ้เค้กนี่ไปให้ไกลหน้ากูไอ้วิน ของขวัญอะไรพวกนี้ก็ทิ้งให้หมด อย่าให้ดินรู้ รีบจัดการ”

“ท่าน อย่างน้อยก็เก็บของพวกกูไว้”

“เออ ของพวกมึงจะทิ้งทำไมวะ ทิ้งของคนไม่เกี่ยวกับชีวิตพวกเราดิ ทิ้งไป๊!”

“นับเลขวนไป”

“เชี่ย!”

นั่นน่ะตอนวันเกิดของธรา ท่านเจ้าแทบสติแตกกับเค้กและของขวัญที่ธราได้รับ เพราะชอบไปยิ้มให้คนนั้นคนนี้เรี่ยราด ถึงได้มีคนคอยตามวอแว คราวนี้เป็นหน้าที่ของวินต้องจัดการของรกหูรกตาก่อนที่ธราจะรู้

.

.

“ทำไมต้องมีวันวาเลนไทน์วะ แล้วพวกผู้หญิงโรงเรียนเรามันเป็นห่าอะไร อินอะไรกันขนาดนั้น ไอ้บิน ไปบอกดินว่าถ้าไม่รีบกลับมาหากู กูจะขังมันไว้ที่บ้าน”

“ท่าน มึงลืมนับเลข”

“กูนับมาตั้งแต่เช้าจนจะครบหมื่นแล้วไอ้เหี้ย เรียกมันออกไปทำไมนักหนาวะ กูนั่งเป็นหัวหลักหัวตอเฝ้าอยู่นี่ ไม่เกรงใจกูสักคน”

“ท่านเป็นพี่มันแค่นั้นมั้ยล่ะ ทำไมต้องมีใครเกรงใจ”

“สัด กูเจ็บ”

วันวาเลนไทน์ที่แย่ที่สุดของท่านเจ้า ทั้งที่เป็นวันแห่งความรักแต่กลับนั่งทำตาขวางเป็นหมาบ้า สาวๆ ที่เมียงมองมาก็ได้แต่หวาดผวา ไม่กล้าเข้ามาให้ช็อกโกแลต ในขณะที่คนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างธรากลับถูกเรียกออกจากห้องไปรับช็อกโกแลตครั้งแล้วครั้งเล่า

.

.

“กูเกลียดวันสงกรานต์โว้ย! ทำไมต้องมาโดนแก้มมันด้วยวะ ปะแป้งอย่างกับเด็กปัญญาอ่อน”

“ท่าน มึงจะเกลียดทุกเทศกาลไม่ได้”

“กูเกลียดได้ แล้วกูจะเกลียดลอยกระทงไว้ล่วงหน้า ถ้าใครมาชวนมันไปลอยกระทง คราวนี้กูจะตามไปยิงหัวถึงบ้าน”

“กูล่ะเหนื่อย”

“ไม่เตือนกูนับเลขแล้วเหรอวะ”

“หยุดวิธีห่วยแตกนั่นเถอะ กูรู้ละว่ามันไม่ได้ผล”

“เหี้ยยยย คราวนี้กูไปเอง ไอ้สัดเอ้ย อย่ามาแตะของกู!”

สงกรานต์ปีนั้นจำได้ว่าท่านเจ้าแทบตบกับกะเทยกลุ่มใหญ่ โชคดีที่จี้กับวินไปรั้งตัวไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นก็คงไปจบเรื่องกันที่สถานีตำรวจ

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-01-2019 17:18:39
หากถามว่าท่านเจ้าต้องอดทนกี่ครั้ง ก็ต้องถามว่านับหนึ่งถึงสิบไปกี่ล้านรอบแล้ว ความอดทนทุกครั้งเพิ่มรอบการนับมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างจากความรู้สึกที่มีต่อธราที่ก็มากขึ้นตาม มันเพิ่มพูนขึ้นทุกวันจนท่านเจ้าเริ่มถอดใจที่จะนับ จากคนที่เอาแต่โวยวายกลับกลายเป็นนิ่งเงียบ เงียบมากขึ้นทุกครั้งที่มีใครต่อใครเข้าใกล้ธรา

“ท่าน พี่จี๊ดหลีดสีฟ้าที่ไปร้านนมกับดินเมื่อเย็นวาน ขอยืนยันว่าไม่มีอะไร” จี้คือหน่วยกล้าตายของผองเพื่อน รู้กันดีว่าจี้คือคนเดียวที่พูดกับท่านเจ้าได้ดีที่สุด แต่ตอนนี้ต่อให้เป็นจี้ก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะพูดได้ไหม เพราะความนิ่งเงียบและใบหน้าที่ฉาบไปด้วยความเย็นชาของท่านเจ้านั้นเป็นสิ่งที่แปลกตา ไม่เคยเห็นมาก่อน

โวยวายยังดีกว่า หัวร้อนยังดีกว่า ตะโกนใส่กันยังดีกว่านี้ เพราะจะได้รู้ว่าท่านเจ้ากำลังไม่พอใจ แต่เมื่อเงียบและมีสายตาที่อ่านไม่ออกทำให้ไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“ได้ยินมาว่าแค่เลี้ยงตอบแทนที่ช่วยถือป้ายให้ ไปกันหลายคนด้วย ไอ้บินก็ไป มันตามไปคุม นั่งข้างไอ้ดินตลอด หายห่วงเลยท่าน” วินพูดเสริมเพราะเห็นว่าคนที่รับรายงานยังคงนิ่ง

“เหรอ” ท่านเจ้าย้อนถามเสียงเรียบ “ก็ดีแล้ว”

สองเพื่อนซี้มองหน้ากัน ก่อนจี้จะเป็นคนพูดขึ้น “ตามดินมาไหม จะได้อารมณ์ดี”

“ไอ้บินมันว่าไงบ้างล่ะ กินเสร็จแล้วเหรอ”

“ก็เสร็จแล้วล่ะ” จี้พยายามคิดหาคำพูด “เดี๋ยวคงขึ้นมา”

“ช้านะ ไปกินข้าวเป็นชั่วโมง มันนั่งคุยกับใครอยู่ใช่ไหม”

“อ่า…”

“จี๊ด หลีดสีฟ้าอีกแล้วสินะ” ท่านเจ้าเลิกคิ้วน้อยๆ รอคำตอบจากจี้ “หลายครั้งแล้วล่ะคนนี้”

“ไม่น่าจะมีอะไร”

“กูไม่ได้โง่จี้ รู้ว่ามันมี”

ความนิ่งเงียบของท่านเจ้าคือสัญญาณอันตราย คนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กรู้ดียิ่งกว่าใคร อันตรายยิ่งกว่ามองตาขวางเหมือนหมาบ้าก็คือทำหน้าเย็นชามองทุกอย่างด้วยสายตาว่างเปล่า

จี้พยักหน้าให้วินไปตามตัวต้นเรื่อง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างท่านเจ้าซึ่งเป็นที่นั่งของธรา “ไม่อยากบอกให้นับเลข แต่ตอนนี้มันจำเป็นแล้วล่ะ”

“จี้ กูนับไม่ไหว” ท่านเจ้าบอกเสียงแผ่ว “ระหว่างจัดการให้ตัวเองหายไปกับจัดการให้คนอื่นหายไป แบบไหนง่ายกว่ากัน”

“ท่าน มันไม่ใช่ตัวเลือกสักทาง”

ท่านเจ้ากับความนิ่งเงียบคือสิ่งที่ไม่คู่กัน เพราะมันคือความสงบก่อนพายุจะโหมกระหน่ำและยิ่งแน่ใจว่าจะมีพายุลูกใหญ่ก็ตอนที่ธราเดินกลับมาพร้อมกับหลีดสีฟ้าคนสวย เจ้าหล่อนเดินมาส่งถึงห้องเรียน จี้ได้แต่ส่งสายตาเป็นคำถามให้กับอีกสองเพื่อนซี้ที่ได้แต่ทำหน้าลำบากใจเดินตามหลังเข้ามา

“สวัสดีจ้าพี่จี๊ดเอง เพื่อนๆ ของน้องดินใช่มั้ยเอ่ย” สาวเจ้าทักทายอย่างร่าเริง แต่ทั้งกลุ่มเงียบกริบ “เอ่อ...คือทำอะไรกันอยู่เหรอ พี่มารบกวนหรือเปล่า”

“รบกวน” จี้เป็นคนตอบ ไม่เสี่ยงให้ถึงมือท่านเจ้า “ตึกมอปลายไม่ได้อยู่ที่นี่นะครับ นี่ตึกมอต้น ถ้าหลงทางผมจะให้ไอ้บินไปส่ง”

“คือว่า...” หลีดสีฟ้าคนสวยถึงกับหน้าถอดสี รู้สึกเหมือนโดนตบจนหน้าชา

“จี้ ทำไมพูดกับพี่จี๊ดแบบนั้นวะ” ธราขมวดคิ้วมองเพื่อน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสียมารยาทขนาดนี้ ก็แค่คำทักทาย มันก็มีเท่านั้น แต่ทำไมต้องมองคนอื่นที่หลงเข้ามาใกล้เป็นตัวประหลาด

“พี่คงมารบกวน” จี๊ดรีบพูด “ไม่เป็นไรจ้าน้องดิน พี่ไม่ถือ น้องๆ คงอารมณ์ไม่ดีกันอยู่เนอะ”

“น้องดิน?” คราวนี้เป็นเสียงนิ่งๆ ของท่านเจ้าที่เบือนหน้าหนีออกนอกหน้าต่าง ไม่สนใจเข้าร่วมบทสนทนาตั้งแต่แรก ทว่าคำว่าน้องดินสะดุดหูจนต้องหันกลับมามองคนพูดด้วยสายตาเหยียด “ดินไปเป็นน้องของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ใครอนุญาตให้เรียก คำนั้นผมเรียกได้คนเดียว คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ! หน้าด้านเรียกของของคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง!”

ของของคนอื่น สำหรับท่านเจ้าแล้วธราเป็นแค่สิ่งของหรือ

ความเงียบเข้าครอบคลุม จี๊ดยืนตะลึงงันด้วยไม่เข้าใจว่าใช้คำพูดคำไหนผิด ก็แค่เรียกว่าน้องดิน...ไม่ได้พูดคำหยาบหรือคำไม่ดีอะไรเลย หล่อนมองไปที่เด็กทั้งสามคนที่มีสีหน้าเคร่งเครียด ในขณะที่อีกคนที่ยืนข้างหล่อนมีสีหน้าโกรธขึ้ง ริมฝีปากได้รูปเม้มแน่นแล้วคลายออก ทำอย่างนั้นซ้ำๆ จนในที่สุดเหมือนเจ้าตัวจะฝืนตัวเองต่อไม่ไหว

“มันต้องขนาดนี้เลยเหรอเจ้า จะเป็นหมาบ้าอีกนานมั้ย จะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่วะ!” น้ำเสียงของธราแข็งกร้าวด้วยโทสะ ความไม่เข้าใจเต็มแน่นอยู่ในแววตา “ใครเข้าใกล้นี่ไม่ได้เลยใช่ไหม เห็นนี่เป็นอะไรวะ นักโทษของเจ้าเหรอ ไปไหนก็ต้องมีไอ้บินไปคุม คุยกับใครก็ไม่ได้ ทำอะไรเจ้าก็โกรธ ไม่เคยถูกใจ ต้องทำแบบไหนวะ ทนมานานแล้วนะเว้ย!”

“ดิน ใจเย็นๆ” บินบอกพลางจับต้นแขนของธราไว้ “ท่านแค่ห่วงมึง”

“ห่วงเหรอวะ มันไม่ใช่ห่วง แต่นี่มันหมาบ้าที่ไล่กัดคนอื่นไปทั่ว กี่ครั้งแล้ววะที่เป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพวกมึงทำอะไรบ้างนะ กูรู้แต่กูแค่ไม่พูด กูรอดูว่าจะหยุดกันเมื่อไหร่ ออกจากโลกแคบๆ ของพวกมึงมาสักทีสิวะ โลกที่มีกันอยู่แค่สี่คนมันสนุกรึไง จะไม่คบใครเลยเหรอ คนบนโลกอีกกี่ล้านคนไม่อยากรู้จักแล้วใช่มั้ย พวกมึงจะเป็นนักโทษของเจ้าไปอีกกี่ปีวะ”

“มึงพูดแรงไปแล้วนะเว้ย” วินร้องเตือน “กับแค่ผู้หญิงคนเดียวมึงพูดกับท่านแบบนี้ได้ไง”

“มันไม่ใช่เพราะใครไอ้วิน แต่กูเหนื่อยจะต้องโดนขังแล้ว ทำไมกูถึงไม่มีอิสระ ทำไมต้องล่ามกูไว้ ถ้าจะพากูออกมาใส่กรงทองแบบนี้ อย่าพาออกมาตั้งแต่แรกดีกว่า” เพราะธรากำลังโกรธ ความโกรธจึงทำให้ไม่เห็นสีหน้าของท่านเจ้า ไม่เห็นความเสียใจที่แสดงชัดบนใบหน้าคมคายนั้น

“ถ้าไม่อยากอยู่ก็ออกไป” เสียงเรียบนิ่งแผ่กระจายความเยียบเย็น ความเสียใจถูกกลบมิดด้วยความเย็นชา จี้คนที่ยืนอยู่ใกล้ท่านเจ้ารู้ดีว่ามือของเพื่อนสั่นแค่ไหน “เจ้าอยู่คนเดียวได้ ออกไปซะ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ทรมานมาตลอด”

คำพูดนั้นเหมือนน้ำเย็นสาดใส่ใบหน้าของธรา จากที่ไฟลุกท่วมกลับมอดดับลงในพริบตา สิ่งหนึ่งที่เอากลับคืนมาไม่ได้ก็คือคำพูด ธราก็เพิ่งรู้ว่าเสียใจมากแค่ไหนที่ได้พูดออกไป

กรงทองของท่านเจ้าเปิดประตูให้ธราแล้ว แต่เป็นธราเองที่ก้าวขาไม่ออก หยุดยืนอยู่หน้าประตูนั้นด้วยความรู้สึกปวดร้าว

“ท่าน!! จะไปไหน!!” จี้เป็นคนแรกที่ได้สติและออกวิ่งตามแผ่นหลังที่หายลับประตูห้องเรียนไป ในขณะที่คนที่เหลือได้แต่ยืนมองหน้ากันไปมา ก่อนจี๊ดจะเลี่ยงออกไปเงียบๆ ด้วยสีหน้ากระอั่กกระอ่วนใจ

“มึงต้องเป็นอีกคนแล้วละที่ต้องใช้วิธีนับเลข” บินบอกเสียงเครียด บีบที่ไหล่ของธรา “ถ้าจะทำหน้าเสียใจขนาดนี้ ทำไมไม่คิดให้ดีก่อนวะ”

“กูไม่ไหวแล้วไง” ธรายกมือขึ้นลูบใบหน้าพลางนั่งลงบนเก้าอี้ “กูไม่รู้ว่าเจ้าเป็นอะไร เจ้าไม่เหมือนเดิม กูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษ กูแค่รู้สึกว่ากูทนไม่ไหวแล้ว กูไม่ได้อยากพูดแบบนั้น”

ธราฟุบหน้าลงกับแขนของตัวเอง ไหล่กว้างสั่นตามแรงสะอื้น ความเสียใจท่วมท้นอยู่ในอก

“ดิน มึงคิดว่าพวกเราเป็นนักโทษจริงๆ เหรอวะ” วินที่กำลังลูบหลังปลอบประโลมเอ่ยถาม “คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

“กูแค่รู้สึกไม่มีอิสระ” เสียงสั่นๆ ตอบกลับมา

“มึงอยากได้อิสระที่จะคบกับใครสักคนใช่ไหม จะคบกับพี่จี๊ดเหรอ”

ไม่เคยมีเรื่องของคนอื่นอยู่ในหัวของธรา ในห้วงคิดของธรามีแค่ท่านเจ้า มีแค่ท่านเจ้าเท่านั้นที่เป็นตัวแปรสำคัญ

“มันไม่ใช่แบบนั้น กูแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมกูคุยกับคนอื่นไม่ได้เลย ทำไมเจ้าจะต้องโมโหกูทุกครั้ง ทำไมต้องให้ไอ้บินมาตามกูตลอด ทำไมกูถึงไปไหนมาไหนกับใครไม่ได้ทั้งๆ ที่ก็เพื่อนก็พี่น้องกัน นอกจากพวกมึงแล้วกูคุยกับใครไม่ได้เลย จะยิ้มให้ใครก็กลัวเจ้าไปอาละวาดใส่เขา ทำแบบนั้นจะมีแต่คนเกลียดเจ้า กูห่วง กูรู้สึกแย่ไปหมด กูก็แค่อยากให้เจ้าเข้าใจกูบ้าง”

สองเพื่อนซี้ต่างพากันถอนหายใจ ก่อนบินจะพูดขึ้น “ไม่ใช่ว่าพวกกูไม่เข้าใจมึงนะ เข้าใจหมดแหละ บางเรื่องมันก็พูดยาก มึงอะถามแต่ว่าทำไมแต่ไม่รู้เลยเหรอว่าคำตอบมันก็แค่ง่ายๆ มึงคุยกับเพื่อนผู้ชายในห้องได้ทุกคน เพื่อนผู้หญิงในห้องท่านก็ไม่อาละวาด ท่านเป็นเฉพาะกับคนที่เข้าหามึง หรือพูดง่ายๆ ก็เป็นแค่กับคนที่ชอบมึง”

“จะบอกว่าเจ้าหวงกูเหรอ”

“มึงใช้คำว่าหึงก็ได้นะ”

“ไม่เหมือนกันเหรอวะ”

“ไม่เหมือน แต่ไม่รู้ดิ กูก็ไม่เชี่ยวชาญ แต่ตอนนี้ต่อให้มึงเข้าใจก็สายไปแล้ว ท่านปล่อยมึงแล้ว ปล่อยมึงออกจากกรงทองที่มึงไม่อยากอยู่”

คำพูดของบินทำให้ธราสะอึก หัวใจปวดแปลบขึ้นมา ความรู้สึกเหมือนตกลงจากที่สูงแล้วกระแทกพื้นเข้าอย่างแรงคงไม่ต่างจากที่ธรากำลังรู้สึกนัก

“ถ้าทำหน้าเหมือนจะตายขนาดนี้ก็ไม่น่าหัวร้อนเล้ย ต่อไปก็หัดนับเลขซะนะมึง ไม่หายหัวร้อนก็ห้ามเลิกนับ รอไอ้จี้กับท่านกลับมาเถอะ ค่อยว่ากัน” วินผลักหัวธราหลายๆ ที เชื่อแน่ว่าหากเป็นเวลาปกติวินคงโดนท่านเจ้าถีบหงายหลังไปแล้ว แต่ตอนนี้ท่านเจ้าไม่อยู่ก็ไม่มีใครปกป้องธรา

“ท่านไม่อยู่มึงได้ทีเลยนะ แต่กูขอด้วย หมั่นไส้มานานไอ้ห่า”

คราวนี้บินร่วมผสมโรงแต่ธราไม่ได้สนใจปัดป้อง รู้สึกว่าการโดนผลักหัวก็ช่วยลดความเครียดไปได้บ้างเหมือนกัน แต่เมื่อกริ่งบอกการเริ่มชั่วโมงในคาบบ่ายดังขึ้น ความเครียดก็เข้าคุกคามธรา จี้ยังไม่กลับมาและท่านเจ้าก็เช่นกัน จนเมื่อถึงชั่วโมงวิชาสังคมที่เป็นวิชาสุดท้ายของวัน อาจารย์สั่งงานทิ้งไว้แล้วรีบไปประชุม จี้ก็กลับมาแต่ท่านเจ้าไม่ได้มาด้วย

“มึง ท่านล่ะ” บินถามขึ้นเป็นคนแรก

“ไปแล้วว่ะ” จี้บอกเสียงนิ่ง “พ่อชันมารับแล้วออกไปเลย นายหญิงเรียกตัวด่วน”

“ได้ถามมั้ยว่าไปไหน” ธราแทรกขึ้น หัวใจที่พองโตเมื่อเห็นหน้าจี้และคิดว่าอีกคนจะกลับมาด้วยนั้นฟีบลงราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม

“มึงอยากรู้ไปทำไม” จี้ไม่ตอบแต่ย้อนถาม “ท่านลบมึงออกจากโลกของท่านแล้ว มึงเป็นอิสระได้ แต่เรื่องในโลกพวกกูก็ไม่ต้องมายุ่ง”

“จี้ พอน่ามึง” วินปราม “ถ้ามันโดดหน้าต่างลงไป คือมึงเตรียมตายตามมันได้เลย”

“เป็นไอ้ดินนี่ดีว่ะ แต่ก็เพราะว่าท่านรักมันขนาดนี้ไง มันถึงได้ทำอะไรไม่คิด พูดมาแต่ละคำไม่คิดถึงใจคนฟัง ทั้งรักทั้งห่วง ให้แม่งทุกอย่าง สุดท้ายได้อะไรกลับมาบ้าง”

“จี้อย่าหัวร้อน” บินบีบไหล่คนใจเย็นที่ตอนนี้ทำตัวหัวร้อนกว่าใครเพื่อน “มันจะร้องไห้แล้ว”

“ร้องสิดี ถ้ามึงเห็นตอนที่ท่านร้องไห้ มึงจะหัวร้อนเหมือนกู” จี้พรูลมหายใจ รู้สึกเหมือนมีไฟสุมในอก “ท่านบอกว่าพวกเราไม่ต้องอยู่กับท่านแล้ว ออกจากโลกแคบๆ ไปมีเพื่อนใหม่ๆ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีอะไรเปลี่ยน พวกเราก็ยังเป็นลูกของพ่อชัน ไอ้ดินก็เป็นน้องชายของท่านเหมือนเดิม แค่ท่านอาจจะไม่กลับมาอยู่ด้วย”

“หมายความว่าไงจี้ ไม่กลับมาคือยังไงวะ” วินละล่ำละลักถาม ในขณะที่ธราได้แต่นั่งนิ่ง เผลอกลั้นหายใจเมื่อได้ยิน

“พวกมึงก็น่าจะรู้นะว่านายหญิงกับพ่อของท่านเจ้าไม่ลงรอยกันมานานแล้ว รอแค่วันหย่า ถ้าหย่ากันแล้วท่านก็คงอยู่กับนายหญิง คงต้องไปอยู่ต่างประเทศถาวร ธุรกิจทางตระกูลของนายหญิงต้องการคนดูแล ท่านเจ้าก็ทายาทคนเดียว ทางนั้นคงไม่ปล่อยมาหรอก” จี้คือคนที่รู้ดี

“แล้วพ่อท่านยอมเหรอวะ ธุรกิจของทางพ่อก็ใช่ย่อยไม่ใช่เหรอ” บินถามต่อ

“เมียใหม่คงช่วยได้มั้ง แล้วก็ยังมีไอ้ดินไง พ่อท่านรักไอ้ดินอย่างกับลูกในไส้”

“เออจริง โอ๋ลูกเลี้ยงแต่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับลูกในไส้ งงกับความสัมพันธ์ครอบครัวท่านเหมือนกัน”

“ดีแล้วว่ะที่อยู่กับพ่อชัน เฮฮาทั้งปี”

“พูดอีกก็ถูกอีก”

“แต่ถ้าท่านไม่กลับมาทำไงวะ ไม่เอานะเว้ย เหงาตายห่า”

สามเพื่อนซี้ได้แต่มองตากันไปมาแล้วจากนั้นก็พากันถอนหายใจ ส่วนธรานั้นเอาแต่นั่งเงียบ หายใจเข้าออกด้วยความรู้สึกจุกแน่นอก

จะไม่กลับมาอีกแล้วเหรอ...แค่หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอก็แทบตาย ถ้าไม่ได้เจอกันตลอดไปแล้วธราควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ชีวิตที่ไม่มีท่านเจ้านั้นไม่เคยนึกฝันถึงเลย เพราะตั้งแต่วันแรกที่จับมือกันในวันนั้นก็ไม่เคยคิดจะปล่อยมือ แค่มีบางครั้งที่ถูกจับแน่นจนรู้สึกอึดอัด แค่มีบางครั้งที่แรงบีบรัดทำให้รู้สึกอยากผละหนี ท่านเจ้าที่เพิ่มแรงบีบมากขึ้นนั้นทำให้ธราตั้งคำถามด้วยความไม่เข้าใจจนลืมไปว่าท่านเจ้าคือคนที่เป็นดั่งเจ้าชีวิต

คนแรกที่บอกว่าชอบรอยยิ้มของเขา

คนแรกที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเขา

คนแรกที่บอกว่ารักเขา

เขาที่เป็นเด็กถูกทิ้งไว้ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่เคยรู้ว่าพ่อกับแม่หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่มีใครเหลียวแล มีเพียงท่านเจ้าที่ยื่นมือมาตรงหน้าแล้วฉุดให้ลุกขึ้นยืน พาเขามาอยู่ในโลกใบใหม่ โลกที่เขามีพร้อมทุกอย่างและเป็นโลกที่เขาได้รับความรักอย่างล้นเหลือ แต่เขากลับบอกอย่างใจร้ายว่าโลกที่อยู่นี้มันคับแคบ ใจร้ายถึงขนาดคิดว่าการอยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าดีกว่าอยู่เคียงข้างท่านเจ้า อยากออกมาจากกรงทอง ไม่อยากเป็นนักโทษที่ถูกคุมขัง อยากได้รับอิสระ แต่พอได้มันมาแล้วไม่ดีใจเลยสักนิด กลับรู้สึกตรงกันข้าม ธรารู้สึกเจ็บจนเหมือนจะตาย

“จี้ พากูกลับเข้าไปอีกครั้งได้ไหม” ธราเอ่ยเสียงสั่น “สัญญาว่ากูจะไม่พังประตูออกมาอีกแล้ว พากูกลับเข้าไปทีนะ กูอยู่ข้างนอกนี้ไม่ได้หรอก ที่ที่ไม่มีเจ้าไม่ใช่ที่ของกู”

คำอ้อนวอนมาพร้อมกับน้ำตา จี้หันมองพลางยื่นมือไปบีบที่ไหล่กว้าง “รู้ตัวใช่ไหมว่าพูดอะไรออกมา”

“รู้”

“แล้วทำไมถึงอยากกลับเข้าไป”

“กูอยู่ไม่ได้”

“มึงอยู่ได้” จี้บีบที่ไหล่ธราอีกครั้ง “ไม่มีท่าน อีกเดี๋ยวก็ชิน”

“ไม่คิดว่าจะชินง่ายๆ หรอก กูมีเจ้ามาเกือบทั้งชีวิต เราไม่เคยห่างกันเลย แค่ตอนที่เจ้าไม่อยู่เดือนเดียวกูก็ทนไม่ได้แล้ว”

“ดิน มึงเคยลองถามตัวเองไหมว่ารู้สึกยังไงกับคนชื่อเจ้า” จี้มองสบตาธรา “ไม่ใช่ท่านเจ้าพี่ชายที่แสนดีของมึง แต่เป็นคนชื่อเจ้า มึงรู้สึกยังไง”

“ไม่เห็นต้องถามว่ารู้สึกยังไง มันก็ชัดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ” ธราถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าก็คือเจ้า คือพี่ชายของกู คือคนสำคัญ...ที่สำคัญมากๆ”

“งั้นมึงกลับเข้าไปไม่ได้หรอก เพราะถ้ากลับเข้าไปด้วยความรู้สึกแบบนี้ อีกเดี๋ยวมึงก็พังประตูออกมา”

“กูไม่เข้าใจ” ธราบอกตามตรง “เพราะเจ้าไม่รู้สึกกับกูเหมือนเดิมเหรอวะ”

“มึงก็รู้นี่”

“ไม่ มันไม่รู้หรอกมึง” บินรีบบอก “มันแค่รู้ว่าไม่เหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าอะไรที่ไม่เหมือนเดิม เก็ทมั้ยวะ อะ แต่กูเริ่มงงละ”

“ขอกูดมยาดมแป๊บนะ” วินบอกด้วยท่าทีละเหี่ยใจ

“ท่านไม่ควรมีน้องโง่อย่างมึง” จี้ถอนหายใจออกมา “ดิน กูถามแล้วมึงคิดตามนะ ถ้าตอบกูได้กูจะพากลับเข้ากรงทอง”

“อืม จะพยายาม”

จี้มีสีหน้ายุ่งยากใจเล็กน้อยเพราะพยายามเค้นสมองเรียบเรียงคำถาม จะทำให้คนอย่างธราเข้าใจได้คงมีแต่ท่านเจ้าเท่านั้นที่มีวิธีอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย แต่ยังไงก็ต้องลองดู เผื่อว่าท่านเจ้าจะเปลี่ยนใจกลับมา

“ดิน มึงรักใครอยู่มั้ยตอนนี้”

“เจ้าไง” ธราตอบโดยไม่ต้องคิดนาน เพราะทุกลมหายใจเข้าออกของเขามีแค่คนคนเดียว

“ไม่” จี้ส่ายหน้า “กูหมายถึงรักแบบอยากเป็นแฟน”

“แล้วทำไมกูต้องมีแฟนวะ”

“เอ้า! มึงไม่คิดจะมีแฟนรึไง”

“แค่มีเจ้าก็พอแล้ว ทำไมต้องมีแฟน กูเห็นไอ้บินมีแฟนแล้วไม่เห็นจะดีตรงไหน”

ธรายังไม่มีความคิดที่จะมีแฟนในตอนนี้ เห็นบินต้องวิ่งวุ่นตามง้องอนแล้วไม่สนุกเลยสักนิด สำหรับธราแค่อยู่กับท่านเจ้าก็รู้สึกไม่ต้องการใครเข้ามาเพิ่มให้ปวดหัว เพราะท่านเจ้าไม่ต้องตามง้อ ไม่ต้องตามเอาใจ กลับกันท่านเจ้าชอบง้อ ตามใจธราทุกอย่าง ไม่ว่าธราเอ่ยปากอยากได้อะไรก็หามาให้ได้เสมอ แค่มีท่านเจ้า ธราไม่ต้องมีแฟนก็ได้

“แฟนไอ้บินมันงี่เง่าไง แต่คนดีๆ ก็มีอยู่เยอะ แบบคนที่จะคอยอยู่เคียงข้างมึงเวลามึงเหงา เวลามึงท้อใจหรือเวลามึงต้องการใครสักคน หรืออาจจะเป็นคนที่ชอบดูหนังแนวเดียวกัน ชอบกินอะไรเหมือนๆ กัน คนที่ไปกับมึงในทุกที่ที่มึงอยากไป หรืออาจจะเป็นคนที่แตกต่างกันก็ได้แต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีความสุข เจอหน้าก็อยากจะยิ้มให้ เป็นคนที่มึงอยากคุยด้วยทุกวัน เจอหน้าทุกวัน คนที่เป็นแบบนั้นได้อะ ไม่อยากมีเหรอ”

“กูมีแล้ว”

“ท่านอีกใช่มั้ย”

“อืม”

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 22-01-2019 17:19:35
“ดิน แล้วถ้าวันหนึ่ง ท่านทำกับคนอื่นที่ไม่ใช่มึงล่ะ เคยคิดถึงวันที่ท่านมีแฟนบ้างมั้ย เคยนึกภาพตอนที่ท่านอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่มึงบ้างมั้ยดิน” จี้ถามโดยไม่ได้คาดหวังคำตอบ รู้ว่ามันคงยากที่จะแยกแยะความรู้สึกของธราที่มีต่อท่านเจ้า ต่อให้คนที่เก่งแค่ไหนก็มองไม่ออก คงเพราะสายตาที่ธรามองท่านเจ้านั้นเป็นมากกว่าคนรัก มากกว่าคนที่อยากเป็นแฟน เพราะท่านเจ้าเป็นเหมือนเจ้าชีวิตของธรา

“จี้ จะมีคนแบบนั้นเหรอ” ธราไม่เคยนึกถึง ไม่เคยนึกภาพที่ท่านเจ้าอยู่กับคนอื่น บุรุษนิรนามในภาพจินตนาการที่ธราไม่เห็นหน้า เห็นแต่เพียงแผ่นหลังกว้างที่นั่งอยู่ตรงหน้าท่านเจ้า คนสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วพูดคุยหัวเราะราวกับกำลังมีความสุขที่สุดในโลก “แล้วถ้าเป็นแบบนั้น กูอยู่กับพวกเขาได้มั้ย หรือกูต้องอยู่ตรงไหน”

“อยู่ไม่ได้ หรือต่อให้อยู่ได้ก็ไม่ใช่ที่ข้างๆ ท่าน”

ธราเจ็บที่หัวใจ เจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อนึกไม่ออกเลยว่าในภาพจินตนาการนั้นเขาควรยืนอยู่ตรงไหนถึงจะไม่เกะกะ เขาอยู่ตรงไหนถึงจะได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของท่านเจ้าได้ชัดเจน เขาไม่อยากหายไป ไม่อยากให้มีใครคนนั้นเกิดขึ้นมา “จี้ มันจะไม่เกิดขึ้นใช่มั้ยวะ”

“สักวันมันจะเกิดขึ้น เว้นแต่ว่ามึงจะลบคนคนนั้นไป แล้ววางตัวเองลงตำแหน่งที่ถูกต้องแทน” จี้ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นคนรับฟังกำลังทำหน้าขบคิด “ที่จริงมึงควรรู้นะว่ากรงทองของท่านเจ้าขังแค่มึงคนเดียว ไม่ได้มีพวกกูอยู่ในนั้น พวกกูจึงไม่รู้สึกอึดอัด ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักโทษ เพราะพวกกูคือเพื่อนของท่าน เพื่อนที่คอยอยู่ข้างๆ แต่มึงไม่ใช่ ถ้ามึงข้องใจอะไรก็ถามกับเจ้าตัว ไม่ใช่รอจนทนไม่ไหวแล้วระเบิดออกมาแบบนั้น รู้ว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่คนฟังมันเสียใจไปแล้ว”

“แล้วทำไมเจ้าไม่บอกกับกูเอง ทำไมต้องรอให้ถาม”

“บางเรื่องมันก็ไม่ได้พูดง่าย ที่จริงมึงจะโกรธก็ไม่ผิด แต่มึงพูดแรงไปไงดิน ท่านใส่ใจคำพูดมึงทุกคำ เก็บไปคิดตลอด ถ้าเป็นคนอื่นท่านก็พูดแค่ว่าช่างแม่ง แต่เพราะเป็นมึง ทุกอย่างสำคัญหมด”

“ที่กูพูดไปก็แค่อยากให้เจ้ารู้ตัวบ้าง” ธราเอ่ยเสียงแผ่ว “เจ้าเป็นคนใจดี ใจดีมากๆ ถ้าใครรู้จักก็ต้องรักเจ้า แต่ต้องมาโมโห มาอาละวาดใส่คนอื่นแค่เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนอื่นเขาก็พาลเกลียด มองเจ้าไม่ดี มีแต่คนนินทาว่าร้ายเจ้า กูไม่อยากให้ใครเกลียดเจ้าทั้งๆ ที่เจ้าไม่ใช่คนไม่ดีเลย”

“เข้าใจ แต่มึงก็พูดเกินเบอร์ไปเยอะอยู่นะ” จี้ตบไหล่ธรา ความเข้าอกเข้าใจฉายชัดบนใบหน้าจนธราเผยรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มเนือยๆ ที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าเต็มที

“โมโหด้วยไง” ยอมรับอย่างเสียมิได้

“ควรฝึกนับเลข” จี้เสนอวิธี “นับเป็นเพื่อนท่านไปเลยมึงอะ”

“ได้ แต่จี้ มึงต้องช่วยกูนะเว้ย เจ้าฟังมึงคนเดียว”

“ฟังมึงคนเดียวต่างหากไอ้ห่า ไม่รู้ตัวอีก แค่ยิ้มให้ท่าน ท่านก็โอเคแล้ว”

รอยยิ้มของธราคือสิ่งที่ท่านเจ้าชอบและคงไม่ยุติธรรมเลยที่รอยยิ้มนี้จะสามารถลบล้างคำพูดใจร้ายของธราลงได้ “ไม่อยากให้แค่รอยยิ้มของกูทำให้เจ้าหายโกรธหรอก”

“ไม่ใช่ให้ยิ้มเพื่อให้ท่านหายโกรธ เพราะท่านไม่เคยโกรธมึง” จี้แก้ไขความเข้าใจ “แต่ช่วยยิ้มเพื่อบรรเทาความเสียใจของท่าน รอยยิ้มของมึงทำได้ดีอย่างที่มึงคาดไม่ถึงเลยนะดิน ท่านก็เคยบอกมึงแล้วใช่ไหม”

“เคย” ธราตอบเสียงแผ่ว ยิ่งหวนนึกถึงก็ยิ่งรู้สึกผิด “เจ้าบอกว่าเจ้าชอบ บอกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน”

“อืม เพราะฉะนั้นมันไม่ยากหรอก ลองดู”

ธราพยักหน้า เผยรอยยิ้มอีกครั้ง “อือ ขอบใจนะจี้”

“ไม่เป็นไร หน้าที่กู”

“หน้าที่ของเพื่อนที่ดีสินะ”

“เปล่า” จี้ส่ายหน้า แววตาจริงจัง “หน้าที่ของคนที่รักท่านต่างหาก”

“เหมือนไอ้วินกับไอ้บินใช่ไหม”

“อย่ารู้เลย” จี้ตัดบท “มันเรื่องของกู”

“ไม่ต้องทำหน้าสงสัยไปหรอกมึงน่ะ” วินรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นธราทำท่าจะถามต่อ “เอาเรื่องของตัวเองให้รอดเถอะ”

“ว่าแต่เราจะติดต่อท่านได้ยังไง หรือต้องรอท่านกลับมา” บินช่วยถามขึ้นอีกเพื่อเบี่ยงประเด็น

“ไว้ถามพ่อชันดูอีกที เพราะคนที่รู้เรื่องของท่านดียิ่งกว่ากูก็คือพ่อชัน” จี้ให้คำตอบ ก่อนจะเริ่มเก็บของใส่กระเป๋านักเรียนเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน “ตอนนี้ก็แยกย้ายกันก่อน ไอ้วิน มึงไปส่งไอ้ดินด้วยก็แล้วกัน”

“แล้วมึงจะไปไหน” ธราตั้งคำถาม เขาสบตามองกับจี้เพื่อค้นหาความจริงที่อีกฝ่ายอาจจะปิดบังเอาไว้

“ไปทำธุระให้พ่อชัน” จี้ตอบโดยไม่หลบตา “ไม่มีเรื่องอย่างที่มึงกำลังจินตนาการหรอกดิน เรื่องเกี่ยวกับท่าน กูไม่เคยโกหกมึง ไม่ต้องคิดระแวงว่ากูจะทำเรื่อง กูบอกว่าจะช่วยก็คือจะช่วย”

“อืม โทษที”

ธราไม่ชอบใจกับความรู้สึกที่กำลังก่อตัวมวนอยู่ในท้องเพราะไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเท่าไรนัก แต่เขาก็หยุดมันไม่ได้ เขาหยุดความอิจฉาที่ค่อยๆ เริ่มก่อตัวขึ้นไม่ได้เลย ทำไมต้องเป็นจี้ทุกทีที่รู้เรื่องของท่านเจ้าดีกว่าเขา แววตาของจี้ยามที่มองท่านเจ้านั้นรบกวนเขาทุกครั้ง เมื่อก่อนความรู้สึกอิจฉานี้ไม่เคยชัดเจนเลย แต่เมื่อจี้บอกว่ารักท่านเจ้า เขากลับพบว่าความรู้สึกอิจฉาที่น่าสะอิดสะเอียนนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างน่าวิตก คนในจินตนาการที่ได้อยู่เคียงข้างท่านเจ้ายามที่จี้ตั้งคำถามกับเขาเริ่มมีใบหน้าให้เห็นเด่นชัด

คนแบบนั้น...คนที่ธราไม่อยากให้มีตัวตน อาจจะมีอยู่มานานแล้วก็เป็นได้

“อย่าคิดมากดิน กูไม่ใช่คนโง่ที่จะเอาตัวเองไปลงแข่งกับเรื่องที่เห็นผลแพ้ชนะตั้งแต่แรก” จี้คลี่ยิ้มเย็นใส่คนที่กำลังมีสีหน้ายุ่งยากใจ จินตนาการของธราอาจไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้วก็เป็นได้ “จำคำกูไว้นะว่าสำหรับเจ้า จักรพรรดิแล้ว แค่มึงหายใจอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรให้ลำบากก็เป็นผู้ชนะ”

“อ่า…”

“อย่าลืมซะล่ะ”

“อื้ม...กูไม่ลืมหรอก”

.

.

ตุบๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ธรายกมือขึ้นกุมที่อกข้างซ้ายของตัวเองหลังจากที่สะดุ้งตื่นขึ้นมา เขารู้สึกราวกับหัวใจกำลังจะกระเด็นกระดอนทะลุผิวเนื้อออกมาวิ่งเล่นอยู่ภายนอก เม็ดเหงื่อเล็กๆ ซึมชื้นออกตามไรผม แผ่นหลังก็รู้สึกเย็นชื้นไม่ต่างกัน เขาพรูลมหายใจยาวๆ แล้วโกยอากาศเข้าปอดอีกครั้งพลางทบทวนความฝันที่ทำให้ตื่นขึ้นกลางดึก ทว่ากลับจำได้เพียงเลือนรางและหลังจากนั้นอีกยี่สิบนาทีต่อมาก็เรียบเรียงความฝันนั้นไม่ได้แล้ว เขาไม่แน่ใจสถานที่ที่ฝันถึง ไม่แน่ใจว่ารู้จักกลุ่มคนในความฝัน แต่ที่จำได้แน่ชัดคือไอ้เจ้า...ไอ้เจ้าที่คนกลุ่มนั้นเรียกว่าท่านเจ้า เขาปะติดปะต่อเรื่องไม่ได้มากนัก บทสนทนาที่พูดคุยกันก็จำไม่ได้ครบถ้วน สถานที่ในความฝันก็ไม่คุ้นตา สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยเปื่อยเพราะโดยปกติแล้วความฝันก็มักจะเกิดจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างบางครั้งเขาก็เคยฝันว่าตนเองวิ่งหนีซอมบี้ในเมืองร้างที่เต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ สับขาวิ่งเร็วเท่าไรก็รู้สึกช้ากว่าซอมบี้ที่วิ่งตามอยู่ดี จนเมื่อถูกต้อนแล้วถึงได้สะดุ้งตื่น หรือบางครั้งก็วิ่งหนีทันแต่ดันไปโผล่อีกที่ ฝันต่อเนื่องว่าตนเองตกบันไดก็มี ซึ่งในครั้งนี้ก็เหมือนๆ กัน ความฝันมักจะปะปนกับเรื่องเหลือเชื่อเสมอจนเมื่อเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว

“ฝันร้ายเหรอดิน” คำถามของไอ้เจ้าทำให้ธราละสายตาจากเพดานห้องไปมองคนที่เพิ่งเดินมาจากทางระเบียง

“ไม่ใช่ฝันร้าย แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงสะดุ้งตื่น” ธราบอกพลางสำรวจไอ้เจ้าที่ดูไม่จืด เสื้อเชิ้ตสีขาวมอซอที่มันสวมใส่นั้นมีเลือดสีสดเปื้อนเป็นทางยาว ทรงผมคอมม่าที่เคยเป็นทรงก็ชี้ไม่เป็นทิศไม่เป็นทางราวกับผ่านการขยี้มาอย่างหนักหน่วง “สร่างเมาตอนไหน แล้วออกไปทำอะไรที่ระเบียง”

“ออกไปรับลมที่ระเบียงน่ะ” ไอ้เจ้าตอบพลางคลี่ยิ้มให้ “ผมปวดหัวก็เลยนอนต่อไม่ไหว”

“แล้วรอยเลือดที่เสื้อล่ะ”

“ได้แผลนิดหน่อย ไม่ต้องห่วงหรอกครับ” ไอ้เจ้าปัดประเด็น ไม่ยอมให้ธราได้ซักไซ้ “ว่าแต่คุณฝันเรื่องอะไรเหรอดิน ปกติผมเห็นคุณหลับสนิทจนถึงเช้าตลอดเลย”

“ฝันเห็นมึงตอนมอต้นมั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

“หืม...จริงเหรอครับ”

“อือ แต่ตอนนี้จำแทบไม่ได้แล้ว” ธราคิดทบทวนอีกครั้งก็แน่ใจว่าลืมเรื่องราวโดยส่วนใหญ่ที่ฝันไปแล้วจริงๆ

“แต่แปลกนะ ทำไมคุณฝันถึงผม”

“ไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าเพราะดูรูปโรงเรียนมัธยมที่มีคนส่งมาให้ก่อนนอนหรือเปล่า”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วน้อยๆ “ใครส่งรูปมาให้คุณ”

“กูหมายถึง...” ธราลังเลใจเล็กน้อยที่จะพูด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายตาของไอ้เจ้าที่มองมาหรือความรู้สึกผิดบางแห่งในใจกันแน่ “ดูรูปในอินเตอร์เน็ต พอดีไอ้จอมกับไอ้คินมันคุยกันเรื่องโรงเรียนที่จะไปออกค่ายหมอฟันอาสากัน”

“อ๋อ…ครับ” ไอ้เจ้าลากเสียงรับคำด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

โกหก...ไม่เห็นต้องโกหกกันเลย ถ้าคุยกับกลุ่มเพื่อน คุณคงไม่ยิ้มกว้างมากขนาดนั้นหรอกดิน

“เจ้า”

“หืม”

“ไปเอากล่องยามาสิ จะทำแผลให้”

“ไม่เป็นไรครับ” ไอ้เจ้าเอ่ยปฏิเสธ รอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของธราปวดหนึบ “แผลที่ผมมี ต่อให้ใส่ยาก็ไม่หายหรอก อย่าเสียเวลาเลยดิน”

“พูดอะไรบ้าๆ” ธราว่าเสียงดุ นึกอยากเขกกบาลของคนดื้อรั้นสักทีสองที “เป็นแผลก็ต้องใส่ยา หายไม่หายก็ต้องใส่ เลือดเปรอะเสื้อขนาดนี้ ปล่อยไว้ได้ยังไง”

“ห่วงผมเหรอ”

ธราชะงักไปกับคำถาม แต่แค่ชั่วอึดใจก็ให้คำตอบ “ห่วง...มากๆ”

“แค่ความเป็นห่วงของคุณก็เป็นยาสำหรับผมแล้วล่ะครับ”

“ไม่ใช่เวลาหยอด”

“เรื่องของผมน่า...”

“อ้าว ไอ้นี่ อยู่ดีๆ อยากโดนด่า”

“ฮ่าๆ ๆ”

ก็...ไม่มีอะไรผิดปกตินี่หว่า ธราคงคิดมากไปเอง

“ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณเคยฝันถึงผมบ้างไหมดิน”

ธราสบตากับไอ้เจ้า เลิกคิ้วกับคำถามที่ได้ยิน ก่อนตอบ “ไม่รู้ กูจำความฝันไม่ได้เลยสักครั้ง มึงก็เห็นว่ากูนอนหลับสนิทแทบทุกคืน ตื่นเช้ามานี่เหมือนไม่ได้ฝันอะไรเลย”

“ก็จริง” ไอ้เจ้าพยักหน้าเห็นด้วย “คุณขี้เซามาก ถ้าไม่มีผมคอยปลุกก็คงโดนรีไทร์ไปตั้งนานแล้ว”

“นาฬิกาปลุกกูก็มีเถอะ”

“นาฬิกาปลุกสู้ความขี้เซาของคุณไม่ได้หรอกดิน คุณต้องมีผมคอยปลุก”

“ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นมึงไง อย่ามาทวงบุญคุณเลย ไม่ได้ขอให้ทำ”

“ครับ...ผมเสนอหน้าเอง” ไอ้เจ้ายอมรับอย่างไม่โต้เถียง “ทุกเรื่อง”

“กูพูดเล่น” ธรารีบพูดเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้เจ้า รอยยิ้มอย่างคนที่ยอมจำนนของมันทำให้เขารู้สึกแย่ตามไปด้วย “ทำไมเดี๋ยวนี้อ่อนไหวง่ายวะ เมื่อก่อนโดนว่ายิ่งกว่านี้อีกนะ ไหนบอกว่าตัวเองหน้าด้านหน้าทน”

“ก็เล่นใหญ่ไปอย่างนั้นเองครับ คนอย่างผมไม่เจ็บกับเรื่องแค่นี้หรอก”

“เชื่อดีมั้ยว่าไม่เจ็บ”

“เรื่องของคุณเลย”

ธรายกยิ้มพลางยื่นมือออกมาตรงหน้า “จับมือไว้หน่อยสิเจ้า”

“ทำไมครับ”

“กูรู้สึกเหมือนมึงจะหายไป”

ไอ้เจ้านิ่งเงียบไปกับถ้อยคำที่ได้ยิน แต่ก็ยื่นมือออกไปจับมือของธราเอาไว้

“สองปีกับอีกหนึ่งวันแล้วนะที่ได้รู้จักกัน มึงพยายามอย่างบ้าๆ บอๆ มาตลอด” ธราเอ่ยเสียงแผ่ว เขาบีบมือผอมที่กุมกันไว้เบาๆ แล้วมองสบตากับเจ้าของมือที่รอยยิ้มยังคงแต้มบนใบหน้า รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่แค่ริมฝีปากแต่ไปไม่ถึงดวงตา “แต่ตอนนี้กูอยากถามว่ามึงมีความสุขหรือเปล่าเจ้า”

“…”

“มีความสุขมั้ยที่อยู่ด้วยกันตรงนี้”

“…”

“ถ้าเหนื่อยเมื่อไหร่บอกกูนะ...บอกกูก่อนที่มึงจะไปด้วย”

“…”

“แล้วก็ขอโทษ...กูขอโทษที่ความรู้สึกของกูมีไม่มากพอ”

“…”

“กูขอโทษที่ความรู้สึกของกูในตอนนี้ มันไม่ใช่ความรัก เคยคิดว่ามันใช่”

“…”

“แต่ความจริงแล้วมันอาจจะแค่ใกล้เคียงความรู้สึกนั้น”

“…”

“แล้วกูก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะเจ้า ทั้งที่รู้อย่างนี้แต่ก็อยากให้มึงอยู่ตรงนี้ต่อ”

“…”

“คงเพราะเวลาสองปีของเรา...ทำให้สำหรับกูแล้ว”

“…”

“มึงก็สำคัญ”

ไอ้เจ้ายังคงยิ้ม ยังคงมีสติรับฟังถ้อยคำของธราอย่างครบถ้วน เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม แววตาเต็มไปด้วยความสับสนคละเคล้าไปกับความรู้สึกผิด แต่ที่เขาเลือกที่จะพูดออกมา เลือกที่จะให้ความชัดเจนว่าระหว่างเขากับไอ้เจ้าไม่ใช่ความรัก คงเพราะเขาได้เจอความรู้สึกที่ชัดเจนกับคนคนนั้นแล้วก็เป็นได้

แค่เพียงชั่วข้ามคืนที่ได้เจอ...ก็ทำลายความพยายามสองปีของไอ้เจ้าลงย่อยยับ





‘งั้นถ้าคุณเจอคนที่รัก ที่ว่างข้างๆ คุณจะยังเป็นผมอยู่ไหม ถ้าวันหนึ่งคุณเจอคนที่โชคดีคนนั้นขึ้นมา คุณจะทิ้งผมอีกหรือเปล่า’





ขอบคุณครับดิน ผมคิดว่าผมได้คำตอบแล้ว





“ครับ ถ้าคุณบอกว่าผมยังสำคัญ ผมก็ยังจะอยู่ตรงนี้ต่อ”



.................TBC..................



ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจบ แต่ก็เคารพการตัดสินใจ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วนน้อย ที่ 22-01-2019 17:35:55
เจ็บจนหายใจไม่ออก  :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 22-01-2019 17:56:26
เวลาแค่2ปีมันน้อยเกินไป หรือใช้ทั้งชีวิตก็ไม่พอกันแน่ อย่าดึงเจ้าไว้เลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 22-01-2019 18:02:36
เจ็บกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เจ็บให้มากๆค่ะเจ้าแล้ววันนึงเจ้าจะชินความรู้สึกนั้นจะไม่มีอีกตอนนี้อาจจะเจียนตายแต่เจ้าจะผ่านไปได้เพราะไม่ว่ายังไงเราก็เอาผิดกับคนที่ไม่รักเราไม่ได้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 22-01-2019 18:03:04
แง่เศร้ามากกกกกก พูดไม่ออก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 22-01-2019 18:08:23
โฮ๊ยยยยยย อึดอัดโว้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 22-01-2019 18:12:56
จิตใจของดินทำด้วยอะไร ก็ยังดีที่บอกมาแล้วว่าไม่ได้รัก
แต่จะอยากให้อยู่ตรงนี้ทำไม คนใจร้าย
เจ้าก็ทำไมไม่รักตัวเองให้มากๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-01-2019 18:40:25
ไปเหอะเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-01-2019 18:47:18
เราไม่ไหวแล้วอะ.....
เจ้าพอเหอะ ขอร้อง
ขอเหอะ หยุดทำร้ายตัวเองสักที
อย่าจุดไฟเผาตัวเองเพื่อให้คนอื่นอุ่นได้ไหม สุดท้ายแม้แต่ตัวเราก็จะไม่เหลือเลยนะ
แม่งเจ็บว่ะ ขนาดนี้แล้วอะเจ้า ชัดแล้วว่าเขาไม่รักอะ ต่อให้ตอนนี้หรือว่าตอนไหนเขาก็ไม่ได้รักอะ
ให้กราบไหมเจ้า เดินออกมาเหอะ ไม่ไหวจริงๆ
ส่วนธรา ทุเรศ เห็นแก่ตัวที่สุด นึกถึงแต่ตัวเอง ขอให้เขาอยู่ทั้งๆที่สิ่งที่เขาขอจากตัวเอง ตัวเองยังให้ไม่ได้ แล้วจะมาขอทำห่าไรวะ เหอะ สำคัญหรอ พูดออกมาได้ เฮงซวย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-01-2019 18:52:12
อยากถามเจ้าว่าเมื่อไหร่จะไปสักที​ เราปวดใจไปหมดแล้วเจ็บปวดมากๆเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-01-2019 19:07:07
 หน่วงสุดๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-01-2019 19:07:51
จดชื่อดินขึ้นบัญชีหนังหมาจ้าาา
หน่วงกว่ามาโปรดและป๋าพ่ายอีก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 22-01-2019 19:17:55
 :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ksoleef ที่ 22-01-2019 20:07:08
พูดออกมาได้ เฮงซวย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-01-2019 20:09:06
ปล่อยธราไป

ปล่อยมันไป

โอ๋ ท่านเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-01-2019 20:17:17
เจ็บกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เจ็บให้มากๆค่ะเจ้าแล้ววันนึงเจ้าจะชินความรู้สึกนั้นจะไม่มีอีกตอนนี้อาจจะเจียนตายแต่เจ้าจะผ่านไปได้เพราะไม่ว่ายังไงเราก็เอาผิดกับคนที่ไม่รักเราไม่ได้

อ่านไป น้ำตาก็ไหลตลอด  :m15:
ดิน.........รู้ตัวว่าคิดกับเจ้าแค่ใกล้เคียงความรัก  :really2: :เฮ้อ: :serius2:
หมดหวังกับดินแล้ว  o22
เจ้า จบเถอะ.....อยู่ข้างๆดินต่อทำไม ถ้ามันเจ็บ  :m15: :z3: :monkeysad:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 22-01-2019 20:22:08
 :hao5: :hao5: :hao5:


เราอยากไปอุ้มเจ้าออกมาจากตรงนั้น  เราเหนื่อยไปกับเจ้า  มันอึดอัดน่ะเว้ย ความพยายามตลอดมามันไม่มีความหมายเลยสิน่ะ  ถ้าดินมีคนอืรนอย่ายื้อให้เจ้าเจ็บ เจ้าเจ็บมาเยอะแล้ว


งื้อออออ....ร้องไห้หนักเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 22-01-2019 20:47:03
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย เลยว่าจะอ่านตามน้ำไปรอเฉลยทีเดียวแต่เดาว่าคุณจันทร์นั่นน่าจะเป็นต้อนเหตุของความจำเสื่อมของดิน หวังว่าครั้งนี้จะเดาไม่ผิด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 22-01-2019 21:29:32
 :katai1:  อยู่ต่อไปทำไม เจ้าเป็นมาโซหรอ... ชอบความเจ็บปวดงี้   ตอนนี้มันมากกว่านั้นอ่ะ มันเหมือนเอามีดมากรีดหัวใจตัวเองเล่นๆเพลินๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 22-01-2019 21:37:19
ไม่รักแต่ยังกั๊กไว้ คืออะไรยังไงหมอดินนนน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 22-01-2019 21:38:04
ท่านเจ้าหยุดทำร้ายตัวเองได้แล้วนะ
เอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นเสียที !!

 :katai5:  :katai5:

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 22-01-2019 21:44:57
ดิน คนเฮงซวย!!  :m31:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-01-2019 21:55:53
 :mew6: กลับเถอะเจ้า เราไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-01-2019 22:02:54
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 22-01-2019 22:06:03
เจ้ามานี่มา ถ้าเจ็บจนพอแล้วก็ออกมานะ ยังมีคนข้างนอกรออยู่เสมอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 22-01-2019 22:37:07
ใจจะขาดตาม ปวดหนึบมาก ต้องรักแค่ไหนวะท่านเจ้าถึงทำให้ดิน เพื่อดิน ได้ขนาดนี้ แล้วต้องอดทนเก่งแค่ไหนวะที่รู้ผลที่ปลายทางแล้วแต่ก็ยังทำทุกอย่างให้อยู่เหมือนเดิม ไม่เคยลดน้อยลงเลย ต้องทำร้ายตัวเองไปอรกแค่ไหนวะเจ้า  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 22-01-2019 22:43:21
ทีมเจ้า ขอให้เจ้าได้เจอความสุขจริงๆ จะด้วยวิธีไหนก็ตาม ชีวิต ตั้งแต่เด็ก ไม่ได้คิดว่าเจ้ามีความเพียบพร้อม สิ่งที่เจ้ามีคือเงิน ด้วยเห็นพ่อแม่ที่ทะเลาะกัน คิดว่าเป็นสาเหตุที่เจ้าไม่อยากมีเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 22-01-2019 22:45:16
โอ้โหววววว ไม่รู้จะเริ่มด่าดินจากตรงไหนดี

รักตัวเองให้มากกว่านี้เจ้า ออกมาเถอะ มันขนาดนี้แล้วอ่ะ มันยังไม่เกินไปอีกหรือ?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 22-01-2019 22:45:56
อ่านมาถึงบทนี้ ก็ยังไม่คิดว่าเจ้าน่าสงสารอะ  :katai5:  ออกจะเห็นใจดินมากกว่าด้วยซ้ำ ถึงตรงนี้อะนะ  :katai1:

ให้ชีวิตใหม่ โอกาส ทุกสิ่งอย่าง ความรัก..แล้วไงอะ ดินก็คนๆนึง มีสิทธิ์จะเลือกใช้ชีวิตของตัวเองนะ

เหมือนเด็กสมัยนี้ ชอบออกมาต่อว่าพ่อแม่ตัวเอง ให้เกิดมาเลี้ยงดูนั่นนี่ แต่ อย่ามาบังคับฉัน นี่ชีวิตฉัน ..

อ่านแล้วได้ฟิลนี้เลย ให้ชีวิต แต่อย่าบังคับการใช้ชีวิต



ส่วนเจ้าโตมาแบบอยากได้อะไรก็ต้องได้สุดๆ เอาแต่ใจตัวเองก็เข้าใจได้

แต่สุดท้าย ไม่มีใครเป็นเจ้าชีวิตใครได้หรอก ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง คิดเอง เลือกเอง



เจ้าเลือกเองทุกอย่างที่มันออกมาแบบนี้ และจะเจ็บต่อจากนี้ ดินก็บอกแล้วว่าไม่น่าใช่รัก

ถ้าเจ้าจะไม่ไป นั่นคือเจ้าเลือกที่จะไม่ปล่อยมือเอง ดินอาจจะพูดไม่ดีหรือเหมือนเห็นแก่ตัว แต่นั่นคือดินที่เจ้าดันเลือกที่จะรัก



ดินอาจจะไม่ดีพอที่จะเป็นพระเอกสำหรับคนอ่าน แต่สำหรับไรท์ฯ เค้าเลือกให้มันเป็นแบบนี้



คนอ่านก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน จะอ่านต่อหรือจะเท...ชีวิตเต็มไปด้วยทางเลือก เลือกด้วยตัวเอง :katai4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-01-2019 22:56:36
รู้สึกเหมือนหัวใจโดนมีดกรีดเป็นพันๆครั้ง สงสารเจ้ามาก อยากให้เจ้ามีความสุขสักที ปมค่อยๆคลายออกมาทีละนิดแล้วใช่ไหมคะ โล่งอกไปนิดนึงที่เจ้ากับดินไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆกัน แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าทำไมเกิดอะไรขึ้นดินถึงจำเจ้าไม่ได้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 23-01-2019 02:46:38
คิดว่ายังขาดจิ๊กซอว์อีกหลายตัว  หนึ่งในนั้นอยู่ในประโยคที่เจ้าเคยพูดว่าทั้งคู่เป็นครั้งแรกของกันและกัน ... และเจ้าว่าดินไม่เหมือนเดิม.... แสดงว่าดินตอนนี้ที่ยังไม่เหมือนเดิม คือดินที่ไม่ได้เลือกเจ้า  เจ้ากำลังตามหาดินคนเดิมที่เลือกเจ้าอยู่  ดินคนนั้นอยู่ในความทรงจำลึกๆที่ทำให้ดินคนนี้สะดุ้งตกใจตื่น และเป็นดินในสมัยเด็กที่หัวใจแกว่งทุกเช้าเวลาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นเจ้า  เหมือนดินคนนี้หายไป...  เราว่าดินคนที่รักเจ้ามีอยู่จริงแต่หลับใหลอยู่ที่ไหนไม่รู้  ดินคนปัจจุบันก็จำสถานที่ในอดีตร่วมกันไม่ได้...
และการที่ดินเลือกว่าให้เจ้าเป็นแค่คนสำคัญในท้ายบท ก็เหมือนย้อนกลับไปสู่ช่วงที่เจ้าจะปล่อยดินเป็นอิสระ  กลับสู่ไทม์ไลน์เดิมที่จี้เคยพูดเอาไว้ว่า ดินต้องวางบทบาทตัวเองให้ถูกตำแหน่ง เพราะถ้าดินวางไม่ถูกตำแหน่งต่อไปเมื่อเจ้ามีคนอยู่เคียงข้าง ตอนนั้นดินก็จะกลับมาอยู่เคียงข้างเจ้าไม่ได้แล้ว... ตอนนี้เหมือนมีเหตุการณ์บางอย่างพับซ่อนไว้....ดินที่รักเจ้าหายไป  ...เกิดดินที่รักจันทร์เจ้าขึ้นมาแล้วหายไปอีก...  เพื่อเกิดดินที่เจอเจ้า เจอจันทร์แล้วจำได้ว่ารักจันทร์ ให้เจ้าเป็นได้แค่คนสำคัญ ... ส่วนดินที่รักเจ้า  ยังไม่กลับมา 

อีกอย่างเจ้าในฝันของดินเรียนซ้ำชั้นเพื่อดินตั้งแต่เด็กมากๆ  แต่เจ้าคนปัจจุบันเพิ่งซิ่วมาตามดินในระดับมหาวิทยาลัย

อยู่ๆดันไปคิดถึงเรื่องของการย้อนเวลา การเข้าผิดร่าง หรือการเลือกก่อนตายของใครคนหนึ่ง ยังไงไม่รู้... เหมือนเหตุการณ์จำลองลำดับการถูกรักว่าถ้าเป็นพี่ชายหรือไม่ใช่พี่ชาย มีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่ เจ้าจะถูกลืม หรือเจ้าจะถูกเลือกไหม

อย่างอ่านต่อแล้วววววววววววววววว   :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 23-01-2019 08:15:06
บีบหัวใจที่สุด. :katai1: :serius2: มาต่อเร็วๆน้า :pig4: :pig4: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-01-2019 09:30:29
ดินกับจันทร์เจ้าในอดีตไปรักกันตอนไหน
แล้วคนนั้นไม่รู้จักเจ้าเหรอ เจอในหัองน้ำเสมือนไม่เคยเจอ
กลับไปหาจี้เถอะค่ะเจ้า สงสารหัวใจตัวเองบ้าง
แค่ธราเจอเขาครั้งเดียวก็รักเขามาเหมือนเดิมแล้ว
ความรู้สึกที่ธรามีให้เจ้าทั้งอดีตและปัจจุบัน
มันคงแค่ความผูกพันธ์และเทอดทูนหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 23-01-2019 09:33:22
ไม่รู้ว่าเจ้าจะเดินออกมาได้ตอนไหน
ตอนนี้รู้แค่ว่าดินใจร้ายและเห็นแก่ตัวมากนะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 23-01-2019 09:34:58
อยู่ไปก่อนเจ้า อยู่จนถึงที่สุด แล้วไปแบบไม่ต้องเหลืออะไรทั้งนั้น

มันไม่ใช่รักใช่มั้ย ก็ด้ายยยยย จำคำตัวเองไว้นะดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-01-2019 09:39:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 23-01-2019 11:09:39
โคตรเจ็บอ่ะ..
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 23-01-2019 11:17:04
อ้างถึง
Gee : ความรักของท่าน มันเป็นไปไม่ได้
Gee : ทั้งดินและท่าน ต่างก็รู้เรื่องนั้นดี อย่าให้ใครต้องย้ำเตือนท่านเลย
Gee : เพราะไม่ว่ายังไงท่านก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้


ไอ้เจ้าแค่นยิ้ม ก่อนฟันขาวจะกัดริมฝีปากล่างจนเลือดสีสดไหลออกเป็นทาง

ความจริงที่เปลี่ยนให้ไอ้เจ้ากลายเป็นแค่อดีตคนรัก ความจริงที่ทำให้ธรารับใครคนอื่นเข้ามาในหัวใจ ความจริงนั้นกำลังกัดกินหัวใจของไอ้เจ้าให้ทรมานจนอยากอาเจียนเอาความรู้สึกขยะแขยงที่มีต่อตัวเองออกมา


Gee : น้องชายที่มีสายเลือดเดียวกันยกให้ท่านเป็นคนรักไม่ได้หรอก
ไอ้เจ้ายกกำปั้นขึ้นทุบอกของตัวเอง หนึ่งครั้ง...สองครั้ง...ก่อนขาที่อ่อนแรงจะพาให้ร่างผอมของมันทรุดฮวบลงกับพื้น


Gee : ตอนนี้ความทรงจำที่เป็นตราบาปมีแต่ท่านที่จำได้ คนที่ท่านพร้อมจะตกนรกไปด้วยนั้นเขาลืมไปหมดแล้ว
Gee : ท่านก็ควรจะลืมเสียทีกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ของท่าน
Gee : เพราะดิน ธรา ถูกกำหนดให้เป็นได้แค่น้องชายของเจ้า จักรพรรดิตั้งแต่เกิด



ไปอ่านบทนี้ซ้ำใหม่อีกครั้ง
เจ้าหยุดเวลาไว้  แล้วย้อนอดีตกลับมา  อนาคตสองคนก็คือพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-01-2019 21:46:51
เจ้าๆ  :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 23-01-2019 23:51:58
เจ็บจนจุก  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-01-2019 00:14:59
โคตรกั๊ก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 24-01-2019 11:18:44
เจ้า น่ากลัวนะ เดี๋ยวนี้ก็ยังน่ากลัวอีกแบบ
เข้าใจ ความรู้สึกดินหรือยัง รักนะ แต่มันอึดอัด
กับอีกคนมันคงเบาสบายในใจ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 12 Our Memories ​P.13 22/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 24-01-2019 11:25:30
ย้อนกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ

รักต้องห้ามชัดๆ

หน่วงใจมาก ดินแกทำงี้ได้ไงอ้ะ เจอเค้าวันเดียวแล้วทิ้ง2ปีเลยหรอ สงสารท่านต้องเจ็บไม่รุ้กี่รอบต่อกี่รอบทั้งๆที่ทำไปก็หวังดีกับดินทั้งนั้น หรือ2ปียังไม่มากพอ บอกตรงๆดินแม่งโคตรใจร้าย ถ้าเลิกกันอย่างน้อยก็อย่าเพิ่งคบใคร ให้รุ้ง่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะไม่ได้ชอบ ไม่ใช่เพราะเจอคนใหม่ที่อาจจะชอบกว่า ฮือออ อยากให้ท่านสมหวัง ท่านรักขนาดนี้ ทุ่มเทขนาดนี้ ดินเป็นความสุขของท่านนะโว่ยยยย ฮืออออออ  ไม่อยากนึกถึงตอนจันทร์กับดินคบกันเลย ท่านนนน ใจพังแน่คราวนี้ ทำไงดี  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-01-2019 18:19:00
ตอนที่ 13 ยังไกล





Sunday, 11:30 AM

(กรุ๊ปไลน์) ถ้ารวยก็ออกจากแก๊งเราไป (3)

มั่นคง รักดี: ไอ้เจ้า! ไอ้มดทอระยิ๊ดดดดดดดด!

มั่นคง รักดี: ไอ้เจ้าาาา มึงออกมา มึงออกม๊าาาา

ควั๊นพั๊ด: เป็นไรเอ๋

มั่นคง รักดี: ควั๊นนนนนเพื่อนรั๊กกก! นายกำลังถามผมด้วยความห่วงใย

มั่นคง รักดี: นี่สิมิตรภาพที่แท้จริง ผมน้ำตาจะไหลแล้ว

มั่นคง รักดี: //เอ๋นอนร้องไห้จมกองน้ำตา

ควั๊นพั๊ด: เอ๋ตั้งสติก่อนดีมั้ย

มั่นคง รักดี: สติของผมตอนนี้มีครบถ้วนนะเพื่อน อ่านชื่อไลน์ผมแล้วตะโกนดังๆ สามครั้ง

ควั๊นพั๊ด: ตั้งสติ ตั้งสติ ตั้งสติ

มั่นคง รักดี: ควั๊น! นายไม่ใจเลยเพื่อน

ควั๊นพั๊ด: แป๊บนะเอ๋

มั่นคง รักดี: ไปไหนอะนาย

ควั๊นพั๊ด: ไปขอให้ไอ้แฝดนรกของผมสอนวิธีปิดแจ้งเตือนแชตก่อน

มั่นคง รักดี: เฮ้ๆ ๆ ๆ คำว่ามิตรภาพอะ

ควั๊นพั๊ด: งั้นก็เลิกดีดสักที

มั่นคง รักดี: เค๊!

มั่นคง รักดี: ว่าแต่เราคุยกันขนาดนี้แล้วทำไมนายตัวดีที่ทิ้งผมไว้ร้านเหล้าถึงยังไม่โผล่หัวออกมา

ควั๊นพั๊ด: ไปด้วยกันไม่ได้กลับด้วยกันเรอะ

มั่นคง รักดี: ไม่เลยเพื่อนรัก นายตัวดีคนนั้นทิ้งผมไว้กับตัวอันตราย!

ควั๊นพั๊ด: แต่นายยังปลอดภัยใช่มั้ย

มั่นคง รักดี: โผ๊มมมมเกือบเสียตั๊ว!

ควั๊นพั๊ด: ทำไมต้องเสียงสูงวะเอ๋

มั่นคง รักดี: เรามาตั้งแก๊งเสียงสูงกันเถอะเพื่อน

ควั๊นพั๊ด: ยังไง?

เอ๊: ท๊าดาาาา อ่านชื่อไลน์ผม

ควั๊นพั๊ด: มีผัวแล้วดีดเรอะ

เอ๊: ควั๊น! นายถูกปลดออกจากตำแหน่งเพื่อนรัก

ควั๊นพั๊ด: ได้เลยจ้า

เอ๊: ผมล้อนายเล่น @OMG นายตัวดี เปลี่ยนชื่อไลน์เดี๋ยวนี้

ควั๊นพั๊ด: ชื่อเจ๊าคงไม่ดีนะผมว่า

เอ๊: งั้นก็โอ๊เอ๊มจี๊

ควั๊นพั๊ด: พูดจริงนะเอ๋ ตั้งแต่ที่เป็นเพื่อนกับนาย ชีวิตของผมก็ยากขึ้นทันที

เอ๊: ไม่ลับลู้เด้อ

เอ๊: @OMG นายเจ้าาาาา นายเจ้าเพื่อนรักกกกกก





ไอ้เจ้ามองความวุ่นวายในกลุ่มแชตที่มีไอ้เอ๋เป็นตัวก่อกวนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เมื่อคืนที่ผ่านมาคงเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับไอ้ตัวป่วน ตอนนี้มันถึงได้ดีดยิ่งกว่าคนเมากาว ทีแรกก็นึกเป็นห่วง แต่เห็นร่าเริงได้ขนาดนี้ก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

ร่าเริงขนาดนี้สงสัยได้ลงจากคานสมใจ

เมื่อเปิดอ่านข้อความในกลุ่มแชตเป็นที่เรียบร้อยแล้วไอ้เจ้าก็เงยหน้าขึ้นสนใจวิวทิวทัศน์นอกระเบียงตามเดิมโดยไม่คิดจะตอบกลับข้อความแต่อย่างใด

“เสียงแจ้งเตือนดังรัวเลยนะ” ธราที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของไอ้เจ้า คิ้วเข้มของเขาขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ในขณะที่ไอ้เจ้าก็หันกลับมามองเขาพลางเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “คุยกับใคร”

“เอ๋ป่วนในกลุ่มแชต” ไอ้เจ้าให้คำตอบ “โทษทีนะ คงรบกวนสมาธิของคุณ”

“นิดหน่อย” ธราว่าพลางลุกเดินจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาคนที่นั่งทอดอารมณ์มองวิวทิวทัศน์อยู่ที่โซฟาเบดปลายเตียง “ไม่ได้คุยกับคนอื่นก็ดีแล้ว”

“หวงเหรอครับ” แสร้งถามทีเล่นทีจริง

“อืม หวง” แต่คนตอบกลับตอบเสียงแผ่วด้วยประโยคที่ทำให้หัวใจเต้นแรง อีกทั้งยังมองไอ้เจ้าด้วยแววตาที่จริงจัง “ได้ใช่มั้ย”

ไอ้เจ้าไม่ตอบ ร่างผอมของมันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เผชิญหน้ากับธราที่มีความสูงไล่เลี่ยกัน แววตาว่างเปล่าที่ตีความไม่ออกนั้นทำให้คนถูกมองนึกหวั่นใจ “ถ้าคุณต้องการ ผมก็ให้ได้ทั้งนั้น”

“ให้ลืมแฟนเก่าก็ทำได้เหรอ”

ความต้องการของธราทำให้ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม รอยยิ้มที่ทำเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นนั้นไม่อาจทำให้ธรายิ้มตามได้ “อย่าพูดเรื่องนี้เลยที่รัก เพราะไม่ว่าผมจะลืมหรือไม่ลืม มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

ไม่มีประโยชน์...ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่ถูกคุณรัก

“ทำไมจะไม่มี” ธราย้อนถาม คำถามของเขาช่างอันตรายต่อหัวใจของไอ้เจ้าเหลือเกิน ถ้อยความที่ทำให้คิดไปไกลแต่ก็ไม่กล้าตีความคิดเข้าข้างตัวเอง ตอนนี้ไอ้เจ้าคิดแค่ว่าที่ธราพูดแบบนี้ก็คงแค่อยากรั้งมันไว้ เพราะต่อให้มันจะรับปากไว้แล้วว่าจะไม่ไปไหนแต่ดูเหมือนเขาไม่เชื่อแม้แต่น้อย หลังจากที่พูดคุยกันแล้วไอ้เจ้าก็ถูกเขากอดไปจนถึงเช้า เขากอดแน่นราวกับกลัวว่าเมื่อตื่นขึ้นมาไอ้เจ้าคนนี้จะหายไป

“เจ้า กูพูดจริงๆ” แววตาของธราแฝงความอ้อนวอน เขายอมรับว่ากลัวเหลือเกิน ความกลัวว่าจะไม่มีไอ้เจ้าอยู่เคียงข้างประดังประเดเข้ามาเมื่อได้พูดบอกความรู้สึกออกไป เขาบอกมันว่าไม่ได้รัก แต่เขาก็ยังคงอยากเป็นคนสำคัญ ยังอยากอยู่ในสายตาของมัน ยังอยากให้มันอยู่กับเขา...อยากเห็นแก่ตัวเก็บมันไว้ ทั้งที่ไม่สามารถระบุสถานะให้ได้ แต่ก็ยังอยากจะอยู่ด้วยกันต่อ “เป็นเหมือนเดิมได้ไหมวะ เป็นเหมือนสองปีที่ผ่านมาของเรา”

สองปีที่ผ่านมามีค่ากับธรามากแค่ไหน ไอ้เจ้าก็ยังอดสงสัยไม่ได้ ทั้งที่เป็นสองปีที่ไม่ได้หวานชื่น เป็นสองปีที่ไอ้เจ้ายัดเยียดตัวเองเข้าไปในชีวิตของธราโดยที่เขาก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วย แต่ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้เป็นเหมือนเดิม

ตลกดีเหมือนกัน...ไม่รู้ว่าคุณจะเล่นตลกกับความรู้สึกของผมไปจนถึงเมื่อไหร่นะดิน

“ผมจะพยายาม” ไอ้เจ้ารับปากด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หัวใจปวดหนึบแต่ไม่อาจแสดงอาการออกทางสีหน้า ความเศร้าสร้อยถูกกลบฝังไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดและเลือกที่จะเผยความเฉยชาออกมา “ทำตามคำขอของคุณ" ริมฝีปากบางบวมแดงเพราะมีแผลจากการขบกัดโดยแรงนั้นถูกฟันขาวคมกัดย้ำซ้ำๆ หลังจากที่เอื้อนเอ่ยถ้อยคำออกไป

ยากแค่ไหนผมก็ต้องทำ ถ้าผมยังพอจะมีหวังก็อยากจะอยู่กับคุณไปจนถึงที่สุด

“อย่ากัด” ธราเตือนเสียงดุพลางใช้นิ้วบีบริมฝีปากของไอ้เจ้าเบาๆ เพื่อให้ฟันคมคลายแรงออก เห็นสีแดงช้ำของกลีบปากบางแล้วก็นึกห่วง “แผลใหญ่ขนาดนี้ยังไม่พออีกหรือไง”

“โทษที” คนถูกดุบอกเสียงแผ่ว “ผมไม่รู้ตัว”

ธราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะรั้งท้ายทอยของไอ้เจ้าเข้าหาเพื่อให้ใบหน้าคมคายของมันอยู่ในระยะที่ริมฝีปากของเขาจะสามารถทำตามความปรารถนาได้ ซึ่งไอ้เจ้าก็ไม่ได้ขัดขืน มันโอนอ่อนตามธรา ยอมให้มือหนาได้กระทำตามใจและเมื่อกลีบปากบางเข้าชิดใกล้ก็ถูกเขาครอบครอง เขาจูบผะแผ่ว ใช้เรียวลิ้นเลียปากแผล ในขณะที่คนถูกกระทำก็ทำเพียงแค่ยกสองแขนขึ้นโอบรั้งรอบคอหนาให้เข้าใกล้มากขึ้นเท่านั้น

“อือ..อ” ไอ้เจ้าครางแผ่ว กลีบปากสีสวยถูกบดคลึงเบาๆ ธราอ่อนโยนกับจูบในครั้งนี้ เขารุกล้ำอย่างนุ่มนวล ไม่บดขยี้ ไม่ผลีผลาม เขาดำเนินความต้องการไปอย่างเชื่องช้า ป้อนความหวานให้อย่างต่อเนื่อง พอเห็นว่าไอ้เจ้ากำลังจะทานทนต่อสัมผัสของเขาไม่ไหวก็แกล้งผละออก แต่อีกไม่กี่วินาทีก็แนบชิด ครั้งแล้วครั้งเล่าจนไอ้เจ้าได้แต่อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเขา

“มึงสำคัญกับกูนะเจ้า” ธรากระซิบเสียงพร่าในขณะที่มือข้างหนึ่งของเขากำลังสอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวบาง ส่วนอีกข้างก็ดึงรั้งให้ร่างผอมนั้นบดเบียดแนบชิด “เพราะฉะนั้นอย่าคิดหายไปเลย”

ไอ้เจ้ารู้ดีว่าธราเป็นคนเป็นแบบไหน เขาทั้งเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว ธราคนก่อนหน้าก็ไม่ได้ต่าง แม้ความจำจะเลือนหายแต่ความใจร้ายของคนคนนี้ก็คงไม่ได้หายไปด้วย เพราะไม่ว่าเขาจะเลือกใครหรือหัวใจจะไม่ใช่ของไอ้เจ้า แต่เขาก็ไม่ยอมให้ไอ้เจ้าหายไป เขาขอร้องให้อยู่กับเขา ไม่ว่าจะในสถานะใดก็ขอให้ไอ้เจ้ายังอยู่ด้วยกัน ให้ไอ้เจ้าทนมองเขารักคนอื่น ทนอยู่กับความใจร้ายและหล่อเลี้ยงไอ้เจ้าด้วยความหวัง

ความหวังที่ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะรัก

“อยู่ด้วยกัน” ธราอ้อนวอน ริมฝีปากของเขายังคลอเคลียแนบชิด เขาสัมผัสริมฝีปากแดงช้ำของไอ้เจ้าเรื่อยไปจนถึงลำคอขาวที่เขากำลังฝากฝังร่องรอย “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องอยู่กับกู”

“ต่อให้คุณจะมีคนที่คุณรักด้วยใช่ไหม”

ธราชะงักกับคำถามที่ได้ยิน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาผละออกห่างผิวเนื้ออ่อนบริเวณลาดคอขาวแล้วมองสบตากับคนตั้งคำถาม ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะพยักขึ้นลงช้าๆ อย่างยอมรับในความเห็นแก่ตัว “อืม ต้องอยู่ เพราะสำหรับกู ไม่ว่าต่อจากนี้จะมีใครเข้ามา ความสำคัญของคนคนนั้นก็ไม่มากเท่ามึงหรอก แต่ตอนนี้มึงไม่ต้องห่วงหรอกเจ้า กูยัง...ไม่คิดจะมีใคร” ในบรรดาความรู้สึกที่กำลังยุ่งเหยิงจนระบุอย่างแน่ชัดไม่ได้นี้ ความรู้สึกที่ไอ้เจ้าคือคนสำคัญของเขากลับเป็นความรู้สึกเดียวที่ชัดเจน เป็นเพียงความรู้สึกเดียวที่ธราให้ความมั่นใจได้

“คงเฉพาะเรื่องนี้ที่คุณไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ” ไอ้เจ้าแค่นยิ้ม “ผมรู้สึกเหมือนกำลังกลับไปอ่านหนังสือเล่มโปรดในบทที่ไม่อยากอ่านอีกครั้งเลย”

ธราขมวดคิ้วพลางแย้ง “แต่ยังไงมันก็เป็นหนังสือเล่มโปรดของมึงนี่”

“อืม เป็นเล่มโปรดที่อยากเผาทิ้ง”

“อย่าใจร้ายสิวะ”

ไอ้เจ้ายักไหล่ ทำหน้ายียวนจนธราอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นบีบปลายจมูกโด่งด้วยความหมั่นไส้ เขาไม่ได้ออกแรงบีบมากนักทั้งยังยิ้มจนหน้ายับเมื่อเห็นไอ้เจ้ามองตาดุ

“มันเขี้ยวว่ะ” ว่าแล้วก็ปล่อยมือแต่กลับใช้ริมฝีปากฟัดแก้มของไอ้เจ้าแทน “ทำไมใครๆ ก็บอกว่ามึงหล่อ ไอ้จอมกรี๊ดมึงเหมือนคนบ้า พูดกรอกหูกูทุกวันว่าอยากได้มึงเป็นผัว”

“ก็เขาพูดเรื่องจริง” ไอ้เจ้าได้ทียืด

“ไม่จริงสักหน่อย” ธราไม่เห็นด้วย เขามุ่นคิ้วพลางยกนิ้วขึ้นไล้ไปตามแก้มเนียนขาวของคนในอ้อมแขน “เพราะสำหรับกู...” เขาหยุดพูดแล้วจูบลงบนกลีบปากบาง “มึงน่ารัก”

“ก็แย่ละ” ใช่...แย่ มันแย่ตรงที่หัวใจไม่รักดีของไอ้เจ้าเต้นรัวแรงอย่างไม่เคยหลาบจำ มันเต้นโครมครามทุกครั้งเมื่อถูกเขาให้ความหวัง

“ว่าแต่คุณหิวหรือยังดิน จะเที่ยงแล้ว” ไอ้เจ้าจำต้องรีบเปลี่ยนประเด็น การยังคงปล่อยให้ธรามีโอกาสสร้างความหวังให้คือเรื่องที่ไม่ดีต่อหัวใจในตอนนี้

“เที่ยงแล้วเหรอ” ธราทวนถาม เขาผละออกจากไอ้เจ้าแล้วก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ “จริงด้วย”

“ไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนกันดี” ไอ้เจ้าถามความเห็นพลางลอบมองสีหน้าของธรา หัวใจที่เต้นโครมครามก่อนหน้าราวกับถูกทุบด้วยฆ้อนเหล็กเมื่อเห็นความลำบากใจของเขา “หรือคุณมีนัดแล้ว”

“อืม” ธรายอมรับ เลี่ยงสบตากับไอ้เจ้า “โทษทีที่ไม่ได้บอก”

“นัดกับใครเหรอครับ”

“ก็...พวกไอ้จอม”

โกหก

“ครับ ไปที่ร้านไหนกันเหรอ”

คุณน่ะโกหกไม่เก่งเลยที่รัก

“แถวๆ นี้แหละ”

แต่ผมจะเชื่อคุณ

“อ๋อ...โอเค”

เหมือนที่ผมเคยเชื่อมาตลอด

“ตอนเย็นค่อยกินข้าวด้วยกันนะ เลือกร้านโปรดของมึงไว้เลย”

แค่เพราะไม่อยากให้ผมหายไป คุณถึงเลือกที่จะโกหก

“อื้ม”

ธรายกมือขึ้นลูบศีรษะของไอ้เจ้า มือของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความรู้สึกผิดท่วมท้นอยู่ในใจ “ขอโทษ รอกูนะเจ้า เดี๋ยวก็กลับ”

เมื่อก่อนคุณก็พูดอย่างนี้ คุณบอกว่าเดี๋ยวคุณก็กลับมา แต่สุดท้าย...ผมก็รอเก้อทุกที

.

.

“สภาพนายดูไม่จืดเลยนายเจ้า” ไอ้เอ๋เหลือบตามองเพื่อนรักของมันที่มีสภาพอิดโรย ขอบตาดำคล้ำ ผมเผ้าไร้การเซ็ตให้เป็นทรง จากผมทรงคอมม่าที่ทำให้สาวๆ ในคณะฮือฮาในตอนนั้นกลับกลายมาเป็นผมยาวแทบทิ่มตาเกือบบอดในตอนนี้ แต่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ใส่ใจ ลำบากไอ้เอ๋ต้องไปขโมยกิ๊ฟติดผมของแป้งจี่มาติดให้เพราะกลัวเพื่อนจะตาบอดไปเสียก่อน “เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่นายทดลองทำตัวเป็นหนุ่มอาร์ต มาดเซอร์ ผมขอบอกตามตรงเลยนะนายว่าไม่เวิร์กอย่างแรง เพราะสภาพนายในตอนนี้ไม่เรียกอาร์ต ไม่เรียกเซอร์เพราะมันค่อนไปทางซากศพ จากที่คิดว่าหล่อเซอร์จะมีสาวกรี๊ด ผมก็จะพลอยยืดไปด้วย แต่เดินไปทางไหนก็มีแต่คนหลบสายตา แม้แต่ยัยตัวดีแป้งจี่ยังแอบมากระซิบบอกผมเลยว่าให้พานายไปตัดผมโกนหนวด”

ไม่มีคำโต้แย้งใดๆ เพราะคำพูดของไอ้เอ๋เป็นจริงทุกคำ ไอ้เจ้าจึงได้แต่คลี่ยิ้มเล็กๆ รับสภาพของตัวเอง “โทษทีนะเอ๋ พอดีว่าช่วงนี้ผมนอนน้อยไปหน่อย”

ไอ้เอ๋มุ่นคิ้ว ก่อนตั้งคำถาม “แล้วนายทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ ล่ะเพื่อนรัก ผับบาร์ก็ไม่เข้า งานพาร์ทไทม์ก็ไม่ทำ อ่านหนังสือหรือทำการบ้านก็ขี้เกียจตัวเป็นขน” สาธยายจนไอ้เจ้าไม่เหลือความดีแต่คนรับฟังก็ไม่ได้โกรธ

“ผมนอนไม่ค่อยหลับ ที่จริงก็เป็นคนหลับยากอยู่แล้วแต่ช่วงนี้มันยากกว่าเดิม”

ไอ้เอ๋มองเพื่อนรักของมันอย่างนึกห่วง “นายมีเรื่องเครียดเหรอ”

“เปล่า” ไอ้เจ้าปฏิเสธ ใบหน้าคมคายที่ถูกเส้นผมบดบังไปเกือบครึ่งส่ายไปมา “ผมติดซีรีส์”

“โอ้โหนาย...ผมนี่เก็บความห่วงใยกลับคืนแทบไม่ทัน”

“ก็บอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องห่วง”

ไม่ต้องห่วงหรอก...ผมยังไหว

“แต่ควั๊นว่านายเหมือนคนอกหัก ผมก็บอกควั๊นแล้วว่านายคืนดีกับธรา จะอกหักได้ยังไง แต่ควั๊นก็บอกว่าอาการของนายคืออาการของคนอกหักแน่ๆ” ไอ้เอ๋บอกพลางทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดมุ่นราวกับกำลังต่อสู้กับความคิดของเพื่อนอีกคนในจินตนาการ “ผมน่ะนะไม่เคยมีแฟนมาก่อน ผมมองไม่ค่อยออกหรอกว่านายกำลังรู้สึกยังไง แฮปปี้ดีไหมหรือกำลังต้องการใครสักคนนั่งข้างๆ เพื่อระบายความในใจหรือเปล่า ผมเป็นคนโง่นะนายเจ้า เพราะฉะนั้นถ้านายกำลังเศร้าเสียใจก็อย่ายิ้มออกมาเลย ผมอาจจะช่วยอะไรนายไม่ได้ แต่ที่ตรงนี้จะเป็นหลุมหลบภัยให้นายนะ อะไรก็ตามที่นายแบกมันอยู่แบ่งมาให้ผมช่วยแบกก็ได้ แบกจอบแบกเสียมผมก็แบกมาแล้ว แค่ปัญหาของนายมันจะหนักสักแค่ไหนกันเชียว”

ไอ้เจ้าก้มมองมือตัวเอง มือของมันสั่นเทาในขณะที่ความคิดกำลังแล่นฉิวไปไกล ทว่าริมฝีปากก็ยังคงยิ้ม ใบหน้าคมคายไม่เคยปล่อยให้รอยยิ้มจางหายเลย ราวกับว่าที่กำลังยิ้มคือการปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ตอนนี้ยังไหว แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นแค่การหลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“นายติดตามไอจีของธราใช่ไหมเอ๋”

“อือ ผมติดตามเพราะเขาเป็นแฟนนาย ช่วงนี้เขาโพสรูปบ่อยๆ ด้วยผมก็เลยคิดว่านายแฮปปี้ดีซะอีก เวลาเขาโพสรูปผมก็ยังแคปไปแซวนายในแชตกลุ่มอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”

รูปภาพในอินสตราแกรมของธราในช่วงนี้มีแต่รูปภาพสวยๆ กับแคปชั่นหวานๆ ราวกับคนกำลังมีความรักซึ่งนั่นทำให้ไอ้เอ๋พลอยดีใจกับไอ้เจ้าไปด้วย คืนดีกันคราวนี้เห็นทีจะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับทั้งสองคนทำให้มันก็ไม่ได้นึกห่วง แม้สภาพของไอ้เจ้าจะตรงกันข้ามกับคนที่มีความสุขกับชีวิตก็ตามที ทว่าไอ้เอ๋ก็ปล่อยผ่าน ไม่ได้ตั้งข้อสงสัย จนกระทั่งขวัญพัฒน์ เพื่อนอีกคนที่มารวมกลุ่มด้วยกันไม่บ่อยแต่ก็พูดคุยผ่านทางแชตตลอดนั้นทักขึ้นมา ขวัญพัฒน์บอกว่าไอ้เจ้ามีอาการเหมือนคนอกหัก ด้วยคำทักท้วงนั้นทำให้ไอ้เอ๋นอนไม่หลับอยู่หลายคืนอย่างนึกห่วง

“อืม...ช่วงนี้เขาโพสบ่อย” ไอ้เจ้าว่า สีหน้าเหนื่อยล้าจนไอ้เอ๋จับสังเกตเห็นความผิดปกติได้ “แต่คนที่อยู่กับเขาในรูปไม่ใช่ผม”

ไอ้เอ๋อ้าปากหวอ แม้แต่จะอุทานก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา มันทำเพียงแค่อ้าปากพะงาบ งับลมงับอากาศแล้วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของไอ้เจ้าและก็เป็นครั้งแรกที่เห็นอย่างชัดเจนว่าใบหน้าของเพื่อนรักเต็มไปด้วยความปวดร้าว

“เขาดูรักกันดีหรือเปล่าเอ๋ มีความสุขหรือเปล่า” คำถามของไอ้เจ้าดังขึ้นแผ่วเบา มันสั่นเครือเล็กน้อยในขณะที่คนพูดก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า

“นายไม่ควรยิ้ม” เป็นไอ้เอ๋เสียเองที่น้ำตาคลอเบ้า “ไม่ควรยิ้มตอนที่กำลังเสียใจมากขนาดนี้”

“แล้วผมจะทำอะไรได้ เขาปิดทุกอย่างไม่ให้ผมรู้และเขาก็คงคิดว่าเขาทำได้” ไอ้เจ้ายังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงคงเดิม แผ่วเบาและสั่นเครือ “แต่ผมรู้ทุกอย่าง”

“นาย…”

“ผมคิดว่าถ้าผมหูหนวกตาบอดมันก็คงดีกว่านี้”

“นายเจ้า...”

“อย่าร้องไห้เลยเอ๋ นายไม่ควรร้องไห้แทนผม”

“ก็เพราะนายไม่ยอมร้อง!” ไอ้เอ๋ร้องลั่นทั้งน้ำตา ความรู้สึกโกรธแล่นพล่าน ทั้งโกรธเพื่อนรักที่ยังคงยิ้ม ทั้งโกรธใครอีกคนที่ทำให้รอยยิ้มเพื่อนของมันเศร้าจับใจ “เจ็บขนาดนี้แต่ก็ไม่ยอมร้องไห้! เสียใจอยู่คนเดียวทุกวันแต่ไม่ยอมบอกผมเลย!”

ไอ้เอ๋เป็นคนโง่ แต่เพราะเป็นคนโง่ ไอ้เจ้าจึงรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ด้วย “ขอโทษนะเอ๋ แล้วก็ขอบใจมากที่ร้องไห้เพื่อผม”

“ก็เราเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันนี่” ไอ้เอ๋ว่าพลางสูดน้ำมูกเสียงดัง พอเห็นจมูกแดงๆ ของมันแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ “มิตรภาพของเราน่ะจะยาวนานไปอีกหลายปีนายเจ้า ผมบอกเลยว่าต่อให้ใครจะทิ้งนายไป แต่ผมคนนี้จะไม่มีวันทิ้งนายแน่นอน”

ไอ้เอ๋คลี่ยิ้ม ในขณะที่ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มตามและคงเป็นรอยยิ้มแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่เผื่อแผ่ไปถึงดวงตาเรียวคมของมัน ขับให้ใบหน้าคมคายกระจ่างน่ามอง

“เหมือนไม่ได้เห็นนายยิ้มนานแล้ว ทั้งๆ ที่นายก็ยิ้มอยู่ตลอด” ไอ้เอ๋พูดขึ้นหลังจากลดโทรศัพท์มือถือลง มันไม่พลาดที่จะเก็บรูปที่ประทับใจเอาไว้ เพราะเวลาไอ้เจ้ายิ้มจนตาหยีนั้นน่ามองมาก ยิ้มเต็มหน้าทีไรดวงตาเรียวคมของมันจะเป็นรูปสระอิคล้ายพระจันทร์เสี้ยว “ผมว่ารูปนี้ต้องขูดเงินจากแป้งจี่ได้มหาศาลแน่ๆ บอกเลยว่าหล่อนน่ะชอบนายมาก ถ้านายเฉดหัวธราทิ้งเมื่อไหร่ก็รับพิจารณาหล่อนไว้ก็ดี หล่อนมั่นคงกับนายนะเพื่อน ขนาดที่ว่าผักปลอดสารพิษของไอ้คิ้มที่ประเคนให้หล่อนทำสลัดทุกวันก็ไม่สามารถสั่นคลอนหัวใจของหล่อนได้”

“นี่นายถูกจ้างมาเท่าไร” ไอ้เจ้าถามอย่างรู้ทันเมื่อไอ้เพื่อนหัวฟูโฆษณาจบ

“แหะ” ไอ้เอ๋ยิ้มแห้ง “ก็ไม่มากไม่มาย แค่สองสามเมา นายอย่าโกรธนะเพื่อน”

“เอาเถอะ ผมไม่โกรธหรอก เพราะผมก็ไม่ได้เสียหายอะไร”

“แต่ผมก็คิดจริงๆ นะนายเจ้า เรื่องของแป้งจี่อะ ผมอยากให้นายรับพิจารณาไว้” ไอ้เอ๋ทำหน้าจริงจังยามพูดจนไอ้เจ้าไม่กล้าขัด เพราะนานทีคนป้ำๆ เป๋อๆ อย่างมันจะเข้าโหมดซีเรียสให้เห็น “ธราเห็นนายเป็นของตายเพราะที่ผ่านมานายไม่เคยสนใจใครเลยนอกจากเขา ผมก็เลยอยากให้นายเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นแป้งจี่ก็ได้ จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้นขอแค่เป็นคนที่ทำให้นายมีความสุข ผมเชียร์เต็มที่เลย”

“พูดตามตรงว่าผมไม่อยากดึงใครเข้ามาเจ็บ” ไอ้เจ้าเข้าใจความเป็นห่วงของเพื่อนดี แต่ก็เข้าใจอีกเช่นกันว่าเรื่องของความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่าย “ตอนนี้ผมยังไม่เห็นทางที่จะเลิกรักธรา เพราะฉะนั้นผมก็ไม่อยากที่จะดึงคนอื่นเข้ามาในวังวนนี้ด้วย ไม่ควรมีใครมาเสียเวลากับผมหรอกเอ๋ สู้ไปมีความรักดีๆ กับคนที่เขาพร้อมจะดีกว่า”

ไอ้เอ๋ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ฟังไอ้เจ้าพูดจบ มันเข้าใจดีทีเดียวแต่ก็อยากให้เพื่อนรักลองเปิดใจดูสักหน ไอ้เจ้าอาจจะบอกว่าไม่อยากให้ใครเข้าไปติดอยู่ในวังวนความรักที่ไม่สมหวัง แต่ไอ้เอ๋ก็อยากจะบอกเหมือนกันว่ามันก็ไม่อยากให้ไอ้เจ้าติดอยู่ในนั้นเพียงลำพัง วังวนที่ไร้ความหวังไม่ควรมีใครถูกขังไว้แม้แต่คนเดียว

“แล้วนายไม่คิดบ้างเหรอว่าคนที่ตามเข้าไปในวังวนนั้นเขาจะเป็นคนพานายออกมาได้ ธราคือคนที่สร้างวังวนแต่ผมเชื่อว่าต้องมีใครสักคนที่ทำลายวังวนนั้นลงได้ แค่นายให้โอกาส”

“นายเข้าใจผิดแล้วเอ๋” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ามองดังเดิม “ธราไม่ใช่คนสร้างวังวน”

ไอ้เอ๋เอียงคอมองด้วยความสงสัย คิ้วได้รูปภายใต้ผมหน้าม้าชี้ฟูมุ่นเข้าหากัน “นายกำลังปกป้องธรา”

“เปล่าเลย” ไอ้เจ้าปฏิเสธ “เขาไม่ใช่คนสร้างหรอกเอ๋ เพราะวังวนที่ผมติดอยู่นี้ ผมสร้างมันขึ้นมาเอง”

“ผมไม่เข้าใจ”

“สักวันถ้านายรักใครสักคนมากจนยอมเป็นทุกอย่างให้เขาได้ นายจะเข้าใจเอง”

“งั้นผมก็คงไม่มีวันเข้าใจ” ไอ้เอ๋พรูลมหายใจ สีหน้าเหนื่อยล้าเมื่อนึกถึงความพยายามในการลงจากคานของตัวเอง “ว่าแต่นายจะทนไปถึงเมื่อไหร่”

“คงอีกไม่นานหรอก ตอนนี้เขายังต้องการผม อีกอย่างผมก็อยากเห็นเขามีความสุขจริงๆ ก่อนที่ผมจะไป”

“นายเหมือนคนโง่เลยนายเจ้า”

“ไม่เหมือนหรอกเอ๋” ไอ้เจ้ายิ้มหยัน “เพราะผมน่ะ...คนโง่ตัวจริง”

เพราะไม่ใช่มุขตลกจึงไม่มีใครหัวเราะออกมา ทั้งไอ้เอ๋และไอ้เจ้าต่างนิ่งเงียบ ต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ปล่อยเวลาให้เคลื่อนผ่านจนเมื่อถึงเวลาเข้าเรียนก็ลุกขึ้นเดินเคียงกันไป

.

.

หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-01-2019 18:19:21
“หิวแล้ว” ธราส่งเสียงอ้อนในขณะที่เดินเข้าไปสวมกอดคนที่กำลังยืนจัดอาหารใส่จาน เขาสอดแขนเข้าโอบรอบเอวบางแล้วกดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนขาวไปหนึ่งที ก่อนจะก้มลงมองอาหารในจานพลางขมวดคิ้ว “ทำไมมีแต่ของโปรดกูอีกแล้วล่ะเจ้า”

“ไม่ดีเหรอครับ” ไอ้เจ้าย้อนถาม “คุณไม่ชอบเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ชอบแต่มันก็ควรมีของโปรดมึงบ้าง”

“เจ้ากินอะไรก็ได้”

“พูดอย่างนี้ทุกทีแต่ไม่เห็นจะกิน เดี๋ยวนี้มึงกินข้าวเหมือนแมวดม” ธราบ่น ไม่วายใช้มือลูบไล้บริเวณหน้าท้องของคนในอ้อมแขน “ดูสิ เหลือแต่กระดูก”

“ก็ไม่ได้ผอมขนาดนั้น” ไอ้เจ้าแย้ง จับมือที่กำลังซุกซนของธราให้หยุดนิ่งอยู่แค่ระดับเอว ไม่ให้ขึ้นสูงหรือลงต่ำไปมากกว่านี้ “ไปนั่งดีๆ สิครับ จะได้กินข้าวกัน”

“ขอกอดอีกหน่อย วันนี้เหนื่อย ห้องเด็กไม่เคยอ่อนโยนกับกูเลย” คนอ้างเหนื่อยไม่ยอมปล่อยกลับเอาแต่ซุกไซ้ใบหน้าลงกับลาดคอสวยราวกับกำลังหาขุมพลังงาน “เวลาได้กอดมึงแล้วกูหายเหนื่อยทุกที”

“แค่เจ้าคนเดียวเหรอ”

“อือ คนเดียวนี่แหละ” ธราย้ำคำตอบของเขาด้วยการกอดไอ้เจ้าแน่นขึ้น “แต่ตอนนี้ผอมไปหน่อย กอดแล้วเจอแต่กระดูก”

“ช่วยไม่ได้น้า เจ้ากำลังไดเอต ไม่อยากอ้วน”

ธราส่ายหน้าระอากับคนที่เอาแต่ยิ้มยียวน ผอมแห้งขนาดนี้ยังจะคิดลดน้ำหนัก เห็นทีต้องจัดการคนดื้อคนนี้ซะแล้วละมั้ง “อ้วนที่ว่านี่น้ำหนักเท่าไร”

“หกสิบกว่าๆ”

“กว่าเยอะมั้ย”

“นิด”

“แล้วจะไดเอตทำไม ไม่เข้าเรื่องเลย”

ไอ้เจ้ายิ้ม เป็นอีกครั้งที่รอยยิ้มของมันรบกวนจิตใจของธรา ทั้งที่ก็เป็นรอยยิ้มปกติแต่เขาก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ดีนัก “อย่าดุนักซี เจ้าไม่เป็นไรหรอก”

“ก็เป็นห่วง” ธราว่าพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวคมที่พักหลังมานี้เขาไม่สามารถตีความได้ราวกับเจ้าของปิดตายความรู้สึกไม่ให้ใครได้รับรู้ “รู้แล้วก็อย่าทำให้ห่วงเยอะนะเข้าใจมั้ย”

“แน๊ ช่วงนี้หยอดเก่ง” ไอ้เจ้าหยอกเย้า “เอาดินคนที่ปากแข็งคืนมาได้ไหม เจ้าเขิน”

“พูดแค่นี้ก็เขินแล้วหรือไง” อดีตคนปากแข็งไล้มือไปตามแก้มเนียนของคนเขินหน้าตาย ปากบอกว่าเขินแต่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด “เขินจริงปะวะ” ถามพลางมุ่นคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เพื่อค้นหาความจริง แต่อีกฝ่ายกลับผละหนี ไม่ยอมให้สำรวจ ทว่าก็ถูกมือหนารั้งเอาไว้ สองมือของธราโอบแก้มของไอ้เจ้าแล้วรั้งเข้าหา ไม่นานหลังจากนั้นริมฝีปากบางของมันก็ถูกเขาบดขยี้ จากรุนแรงในตอนแรกก็ปรับเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลในตอนหลัง

ไอ้เจ้าหลับตาในขณะที่ริมฝีปากถูกดูดดึง แตกต่างจากธราที่ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าเนียนได้ เขาชอบรสจูบนี้ จูบรสโคล่าที่เป็นรสชาติของอมยิ้มที่ไอ้เจ้าชอบกิน มันหอมกรุ่นอยู่ภายในโพรงปากและหวานล้ำ เรียวลิ้นนุ่มก็เหมือนเยลลี่ที่เขาอยากลิ้มชิมรสโดยไม่รู้เบื่อ

ปึก!

สะโพกของไอ้เจ้าชนเข้ากับขอบโต๊ะกินข้าวเพราะการรุกล้ำที่ราวกับจะช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไปนั้นทำให้มันพยายามผละหนี เพราะทุกครั้งที่ถูกธราจูบ ไอ้เจ้ามักจะไม่เป็นตัวของตัวเอง มันเคลิบเคลิ้มและรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์จนเผลอคิดไปว่าสัมผัสนี้มีเพียงมันที่เป็นเจ้าของ แต่ความจริงก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นอย่างนั้น ไอ้เจ้าไม่อยากถูกพาขึ้นสวรรค์จอมปลอมแต่ก็หยุดยั้งเขาไม่ได้

“เจ็บมั้ย” ธรากระซิบถาม น้ำเสียงกระเส่าตามแรงอารมณ์ที่มี มือหนาของเขาลูบสะโพกของไอ้เจ้าราวกับกำลังบรรเทาความเจ็บ

“ไม่หรอก” เจ็บที่อื่นมากกว่า ประโยคนี้ถูกทดไว้ในใจ

ธราจ้องมองริมฝีปากบวมเจ่อที่ขยับเมื่อเจ้าของตอบคำถาม ริมฝีปากของไอ้เจ้ามีสีแดงระเรื่อเพราะถูกบดขยี้เป็นเวลานานจนเขาอดรู้สึกผิดไม่ได้ “แล้วตรงนี้ล่ะ” เขาย้ำจุดด้วยการแนบริมฝีปากลงไปผะแผ่วก่อนจะผละออก “เจ็บหรือเปล่า”

“ถูกจูบทุกคืนจนชินแล้ว”

คำพูดของไอ้เจ้าไม่ได้เกินจริง ริมฝีปากของมันกลายเป็นของว่างยามดึกให้กับธรา เขาอยู่กับไอ้เจ้าทุกคืน เข้านอนพร้อมกันและคอยมอบความหวานรัญจวนใจให้ แม้บางวันจะปล่อยให้ไอ้เจ้านั่งรอจนดึกดื่นแต่เขาก็กลับมา เขาอ้างเรื่องงาน อ้างเรื่องเพื่อน สารพัดคำโกหกของเขาก้องอยู่ในหัว แต่ไอ้เจ้าก็ไม่เคยซักไซ้ คิดแค่ว่าเขายังคงกลับมาก็ดีเท่าไรแล้ว จะดำเนินต่อไปอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร ขอให้พื้นที่ที่มันอยู่ไม่ได้ถูกรุกล้ำก็พอ

“ขัดขืนบ้างก็ได้” ธราเอ่ยกระเซ้าคนที่มักจะตามใจกับความเอาแต่ใจของเขา แต่ไอ้เจ้าคงไม่รู้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมานั้นเขาไม่อยากหยุดอยู่แค่จูบ ไม่อยากหยุดอยู่เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกัน ทุกครั้งที่ผละออกห่างด้วยความเสียดายเพราะกลัวจะเลยเถิด อีกฝ่ายคงไม่รู้หรอกว่าเขาต้องหักห้ามใจมากแค่ไหน

“ทำแล้วแต่สู้แรงคุณไม่ไหว”

ธราหัวเราะชอบใจเพราะไอ้เจ้ากำลังทำหน้างอ รู้สึกมันเขี้ยวจนต้องหอมแก้มมันไปอีกสองที “ก็เพราะไม่ค่อยกินข้าวไงก็เลยไม่มีแรง”

“เกี่ยวเหรอ”

“เกี่ยว เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้มึงกินข้าวไม่หมดจาน โดนทำโทษแน่”

“จะทำอะไรเจ้า”

“ทำเรื่องที่คนเคยเป็นแฟนกันเขาทำกันไง”

ไอ้เจ้าแสร้งหัวเราะ “หูยย กลัวแล้วเนี่ย แต่อยากโดนจะแย่”

“มึงนี่...”

“ไม่กินข้าวดีกว่า อยากโดนทำโทษ”

ธราถอนหายใจ ดูเหมือนว่าเขาจะเปิดช่องให้คนดื้อเสียแล้ว แต่ไอ้เจ้าก็ยังเป็นไอ้เจ้า ต่อให้จะดื้อแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นไอ้เจ้าที่แพ้ลูกอ้อนของเขา “กินเถอะนะครับ ถือว่าแฟนเก่าขอ”

“เนี่ย คำพูดคำจา”

ต่างคนต่างยิ้ม ก่อนจะแยกย้ายกันนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อเริ่มมื้ออาหาร รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากใบหน้าคนทั้งคู่ ทว่าความรู้สึกกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งกำลังยิ้มเพราะมีความสุขจากใจจริง แต่อีกคนกำลังยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนความเสียใจ

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนทำให้ทั้งไอ้เจ้าและธราหยุดชะงัก โทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้ายังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวข้างๆ จานกระเบื้องใบสวย แต่เสียงแจ้งเตือนยังคงดังไม่หยุด นั่นทำให้ธราทำท่าจะลุกขึ้นเมื่อแน่ใจแล้วว่าเสียงแจ้งเตือนที่ได้ยินนั้นดังมาจากโทรศัพท์มือถือของเขา

“นั่งลงก่อน” น้ำเสียงของไอ้เจ้าเรียบนิ่งไม่ต่างจากสีหน้าของมัน “กำลังกินข้าวกันอยู่ไม่ใช่หรือไง”

“เผื่อว่าคนที่ทักมามีธุระสำคัญ เล่นรัวมาขนาดนั้น” เหตุผลของธราฟังเข้าทีแต่ไอ้เจ้าไม่ยอมความ

“ถ้าเป็นธุระสำคัญก็คงโทรมาแล้ว”

“เจ้า...”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของธรา ก่อนจะตั้งคำถามที่ยิ่งทำให้อีกฝ่ายหลบเลี่ยงที่จะสบตา “ช่วงนี้คุณติดมือถือนะดิน คุยกับใครอยู่หรือเปล่า”

“ก็พวกไอ้แพร์ไง คุยงานกัน บางทีก็ต้องฟังพวกมันบ่นเรื่องเก็บเคส เรื่องสอบ”

คุณโกหกได้ไม่เนียนเลย

“อ๋อ อย่างนั้นเอง”

“ถามทำไมวะ ปกติไม่เห็นสนใจ”

ไอ้เจ้ารวบช้อนส้อมแล้วยกน้ำขึ้นดื่มทั้งที่เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ “เจ้าถามเพราะดูเหมือนว่าสามสี่วันมานี้พวกไอ้แพร์รบกวนคุณแม้แต่ตอนนอน คุณบ่นว่าปวดหัวอยู่บ่อยๆ นะ สะดุ้งตื่นกลางดึกก็หลายครั้ง ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปจะไหวเหรอ พวกคุณคุยเรื่องเครียดๆ กันอยู่หรือไง เตือนพวกมันหน่อยมั้ยว่าให้รู้จักเวลาส่วนตัวบ้าง”

ธราเผลอเม้มริมฝีปาก ความเป็นห่วงของไอ้เจ้าทำให้เขารู้สึกจุกในอก “ไว้จะคุยกับพวกมัน มึงไม่ต้องห่วงหรอก”

“ก็ดี หวังว่ามัน...จะคุยรู้เรื่อง” ไอ้เจ้าว่าพลางเผยรอยยิ้ม

“อือ แล้วนี่อิ่มละเหรอวะ กินไปนิดเดียวเอง”

“ก็อยากโดนทำโทษ”

ธราย่นจมูกใส่พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกโด่งของคนดื้อรั้น “โดนแน่ๆ”

“รอเลย”

เพราะไอ้เจ้ายิ้ม ธราจึงยิ้ม ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดที่พักหลังมานี้เขาเอาแต่โหยหารอยยิ้มของไอ้เจ้า รอยยิ้มที่รบกวนจิตใจ รอยยิ้มที่ตามไปถึงแม้แต่ในความฝัน แม้ว่ามันจะยิ้มให้เขาอยู่บ่อยครั้ง แต่กลับเหมือนรอยยิ้มจอมปลอม รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ไม่ได้ออกมาจากใจจะนับว่าเป็นรอยยิ้มได้อย่างไร

มีสักกี่ครั้งกันที่ไอ้เจ้ายิ้มเต็มหน้าให้ธราได้เห็น

“ช่วงนี้กูฝันถึงมึงบ่อยมากเลยเจ้า” ธราพูดขึ้นหลังจากที่เขาฝืนกินต่อไม่ลงเหมือนกัน เขารวบช้อนส้อมแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม ความอยากอาหารหายไปหมดเมื่อมีความรู้สึกบางอย่างเข้ารบกวน “แต่ละครั้งก็อยู่ในที่ที่กูไม่รู้จัก แต่ใครก็ไม่รู้จักสถานที่ในฝันทั้งนั้นอะกูว่า มันคุ้นนะแต่ก็บอกไม่ได้ว่าที่ไหน กูโผล่ไปนั่นไปนี่ ไม่รู้ว่าคืนหนึ่งฝันกี่เรื่อง บางทีนั่งคุยกับมึงอยู่ดีๆ ก็มีผีโผล่มา วิ่งหนีกันแทบตาย ฉากแม่งก็เปลี่ยนไปเรื่อย”

“คุณก็เลยสะดุ้งตื่นเหรอ” ไอ้เจ้ามีสีหน้าขบขัน

“มันน่ากลัว วิ่งเท่าไรก็หนีไม่พ้น” ธราบอกพลางทำหน้าสยอง “ไอ้เหี้ยผีสับขาไวฉิบหาย”

“ผีมีขาเหรอดิน ไม่ใช่ว่ามันลอยตามคุณนะ”

“เออ น่าจะลอย” ธรามีสีหน้าสับสน เขาทวนความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ทำให้สะดุ้งตื่นแล้วก็เห็นแต่ภาพเบลอๆ “ไม่รู้ว่ะ ไม่แน่ใจ อีกอย่างกูในความฝันก็ไม่กล้าหันไปมอง”

“อืม...แต่แปลกนะช่วงนี้” ไอ้เจ้าตั้งข้อสงสัย “ปกติคุณนอนหลับสนิท เจ้าเฝ้าคุณนอนมาสองปี ไม่เคยเห็นคุณตื่นกลางดึกบ่อยๆ เท่าช่วงนี้เลย คุณมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า”

“กูก็เครียดเรื่องเรียนเป็นปกตินะ บางทีก็ฝันว่ากำลังถอนฟันคนไข้ แต่เลือดคนไข้ไหลไม่หยุด ไหลท่วมปากยิ่งกว่าผีบุปผาปากฉีก ฟันก็งอกยาว” ขนแขนของธราลุกชัน สีหน้าเหยเกไปกับภาพจินตนาการ แววตาดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ถ้าบอกว่าช่วงนี้ขอบตาของไอ้เจ้าดำคล้ำ ธราก็คงไม่ต่างกันนักเพราะเขาหลับไม่สนิทเลย เขายกมือขึ้นนวดขมับพลางถอนหายใจออกมา “เฮ้อ...ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันว่ะเจ้า หน้ามึงแว๊บเข้ามาในหัวกูบ่อยๆ จนบางทีก็ปวดหัวขึ้นมา”

“เนี่ย ก็คิดถึงกันทุกลมหายใจ ยังจะเล่นตัวไม่รีเทิร์นอีก”

“แล้วที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี่ต่างจากคบกันตรงไหนวะ”

“ต่าง” ไอ้เจ้าตอบแค่นั้นและไม่อธิบายเพิ่มเติมถึงความต่างที่มันพูดถึง

“เถียงแล้วก็หยุดพูดไปดื้อๆ นะมึง”

“คุณไม่อยากรู้หรอกว่าต่างยังไง” ไอ้เจ้าว่าพลางลุกขึ้น “คุณไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะดิน เดี๋ยวเจ้าเก็บโต๊ะแล้วจะออกไปข้างนอก คืนนี้คงไม่ได้กลับมานอนด้วยนะ”

“เดี๋ยว” ธรามองตาดุทันทีเมื่อได้ยิน “จะไปนอนที่ไหน”

“ผ๊มก็มีธุระของผ๊ม”

“มึงดื้อละไอ้เจ้า เรื่องที่ชอบหายออกไปกลางดึกกูก็ยังไม่เคลียร์กับมึงนะ” แววตาของธราดุมากยิ่งขึ้น “ถ้ากูไม่สะดุ้งตื่นกลางดึกคงไม่รู้หรอกว่าบางทีมึงก็ไม่อยู่”

“เจ้าลุกไปเข้าห้องน้ำ คุณตื่นมาแป๊บเดียวก็หลับต่อ จะรู้อะไร”

“อย่าให้จับได้ละกันว่ามีคนอื่น” ธรามองด้วยสายตาคาดโทษ

“ผ๊มว่าผ๊มก็เนียนพอสมควร” ไอ้เจ้าพูดติดตลก แต่แววตาของมันจริงจัง “เนียนได้ยิ่งกว่าคุณถ้าคิดจะทำละกัน”

“พูดจาหาเรื่องไอ้สัด”

ไอ้เจ้าหัวเราะ ก่อนจะเดินเข้าไปโอบรอบคอธราจากทางด้านหลัง ทำเอาคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เกร็งตัวขึ้นมาเพราะสัมผัสแนบชิด ยิ่งเมื่อริมฝีปากบางจูบย้ำลงบนผิวเนื้ออ่อนบริเวณลำคอของเขา ร่างกายก็ยิ่งรู้สึกร้อนเร่า ตื่นตัวขึ้นอย่างน่าอาย เขาปล่อยให้ไอ้เจ้ากอดและสัมผัสตัวเขาตามอำเภอใจโดยไม่รู้เลยว่าพายุฝนได้ก่อต่อขึ้นแล้ว

“คุณคิดเหรอว่าผมไม่รู้อะไรเลย” ไอ้เจ้ากระซิบถาม อ้อมแขนของมันรัดธราแน่นขึ้น ริมฝีปากของมันก็ดูดย้ำอย่างรุนแรงก่อนที่ฟันคมจะกัดผิวเนื้อของเขาจนความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมา “คิดเหรอว่าคำโกหกแบบเด็กๆ ของคุณทำให้ผมเชื่อ”

“เจ้า กูเจ็บ” ธราบอกเสียงแผ่ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกกัดเข้าที่ตำแหน่งเดิม ทว่าเขากลับไม่กล้าผลักอีกฝ่ายออกห่างแค่เพราะถ้อยคำและน้ำเสียงสั่นเครือของมันที่เปล่งออกมาราวกับว่าความเจ็บของเขาเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่มันมี

“ขอโทษ ผมแค่อยากลงโทษคุณ”

“อืม” ธราไม่รู้สึกโกรธ เขายอมให้ไอ้เจ้ากัดอีกพันๆ ครั้ง ถ้านั่นจะทำให้ความเจ็บปวดของมันบรรเทาลงได้บ้าง “ไม่เป็นไร ลงโทษกูได้เลย กูเป็นคนผิดเอง”

“คุณจะผิดอะไร ต่อให้คุณรักเขา คุณก็ไม่ผิด” ไอ้เจ้าบอกพลางจูบย้ำลงที่รอยช้ำเลือดจากการถูกกัด “ผมต่างหากที่ผิด ผิดที่ทำให้คุณรักไม่ได้” น้ำเสียงของมันอ่อนแรงในขณะที่น้ำตาหนึ่งหยดไหลรดลงบนรอยกัด “แต่ก็ไม่เห็นต้องโกหกกัน ในเมื่อผมก็บอกแล้วว่าผมเข้าใจคุณ ต่อให้เป็นเรื่องที่คนทั้งโลกมองว่าคุณผิด ผมก็ยังจะเข้าใจ”

“เจ้า...”

“ที่ผมพูด ผมไม่ได้จะตำหนิหรือด่าว่าคุณ แต่ผมก็แค่เป็นห่วง ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยที่ต้องปิดบังผม” ไอ้เจ้าเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนจะคลายออกเมื่อมีความกล้ามากพอจะพูดประโยคต่อไป “คุณไปกับเขาได้เลยนะดิน ไม่ต้องห่วงผม ผมเคยคิดว่าผมปล่อยคุณไปไม่ได้ แต่ถ้ามีแค่ตัวคุณที่อยู่ตรงนี้ มันก็คงแย่ใช่ไหม ตัวกับหัวใจไม่ควรอยู่ห่างกัน เพราะมันไม่มีอะไรดีเลย ผมเห็นแล้วว่าคุณเหนื่อย คุณทุกข์ใจ ต่อให้คุณไม่พูด ผมที่มองแค่คุณก็รู้สึกได้”

ถ้าไอ้เจ้ากำลังเจ็บ ธราก็คงเจ็บไม่ต่างกัน แต่อาจจะน้อยกว่า...ความเจ็บของเขาคงไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่ไอ้เจ้ารู้สึก

“เจ้า มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก แต่กูก็ยอมรับว่ากูโกหก กูต้องโกหกเพราะกูไม่อยากให้มึงไป” ธราบอกเสียงสั่น ความกลัวที่จะสูญเสียขยับเข้าใกล้จนทำให้รู้สึกหายใจลำบาก

“คุณเลือกสองทางไม่ได้ดิน เพราะเป็นคุณเองที่จะแย่ ผมอยู่กับคุณได้แต่คุณจะไม่ไหวเข้าสักวัน รู้มั้ยว่าพักหลังมานี้คุณเอาแต่มองผมด้วยความรู้สึกผิด ในตอนที่คิดว่าผมหลับไปแล้วคุณก็เอาแต่พูดขอโทษ” ไอ้เจ้าคลายอ้อมแขน แต่ธรากลับรั้งไว้ เขาจับแขนของไอ้เจ้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “ผมอยากเห็นคุณมีความสุขนะ ต่อให้ผมจะเจ็บก็ไม่เป็นไรเลย ผมทนได้ แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังไว้”

ไม่ว่าไอ้เจ้าจะเอ่ยถ้อยความใด มือของธราก็จับไว้แน่น เขาไม่ยอมคลายแรง กลับเพิ่มแรงบีบเพื่อยืนยันความต้องการที่เห็นแก่ตัวของตัวเอง “อย่าไป...อย่าหายไปจากกู”

ธราไม่เข้าใจความรู้สึกที่เขามี ยิ่งตั้งแต่ที่ได้รู้จักจันทร์เจ้า เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ เพราะยิ่งได้ทำความรู้จัก ความสำคัญของไอ้เจ้าก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นมา เขายอมรับว่าเขาสบายใจที่ได้พูดคุยกับจันทร์เจ้า เป็นความสบายใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ไม่ใช่ความสบายใจที่ขาดไม่ได้ ตรงกันข้ามกับคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ ตลอดเวลาสองปีที่อยู่ด้วยกัน แม้จะมีแต่ความอึดอัด วุ่นวายใจ แต่ก็เป็นความรู้สึกที่หัวใจยอมรับ ต่อให้มองแล้วรู้สึกเศร้าใจแต่กลับไม่อยากให้หายไปจากสายตา

“มึงรู้หรือเปล่าเจ้าว่ากูเคยเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม” ธราเกริ่นเรื่องที่เขาไม่เคยคิดจะพูดคุยกับอีกฝ่าย เขาไม่รู้ว่าไอ้เจ้ามีสีหน้าแบบไหนเพราะมันซบหน้าลงกับไหล่ของเขา ทว่าเสียงขานรับในลำคอของมันทำให้เขาเริ่มพูดต่อ “กูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับมึง ทั้งที่สงสัยแต่ก็ไม่เคยถาม เพราะกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวกูเมื่อก่อนเป็นยังไง ใช่คนเดียวกับที่เป็นอยู่ไหม กูไม่เคยคิดหาคำตอบ กูรู้สึกว่ากูไม่อยากรู้จักตัวเองคนก่อนหน้า กูพอใจกับปัจจุบัน พอใจที่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้ พ่อแม่ของกูก็ไม่ได้อยากให้จำนัก พวกเขาบอกว่าไม่ต้องพยายามจำหรอก ให้กูใช้ชีวิตใหม่ที่ได้รับต่อไปให้มีความสุขก็พอแล้ว แต่พอเจอมึง กูก็คิดบ่อยๆ ว่าบางทีมึงอาจจะเป็นใครสักคนที่รู้จักตัวกูคนเก่า มึงคงเป็นใครสักคนที่ถูกกูลืม”

“ครับ” ไอ้เจ้ายอมรับเสียงอู้อี้ “เจ้าคนนี้เป็นคนที่มาจากอดีตของคุณ”

“แล้วทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรก” ธราถามเสียงแผ่ว “ไม่อยากให้กูจำมึงได้เหรอ”

ผมอยากให้คุณจำได้ แต่ผมก็กลัวว่าคุณจะจำเรื่องที่ไม่น่าจำของเรา ไอ้เจ้าเก็บคำตอบไว้ในใจแล้วเลือกให้ความเงียบเป็นคำตอบแก่ธรา

“มึงสำคัญนะเจ้า กูรู้สึกจริงๆ ว่ามึงสำคัญกับกูมาก” เสียงทุ้มเอ่ยต่อเมื่อไม่ได้รับคำตอบ “สำคัญจนกูอยากรู้เลยว่ามึงเคยเป็นใครในชีวิตของกูมาก่อน”

“ทำไมคุณถึงอยากรู้ล่ะดิน” ไอ้เจ้าถามอย่างนึกหวั่น สัญญาณเตือนบางอย่างเริ่มปรากฏให้เห็น บ่งบอกว่าใครสักคนคงไปยุ่งกับความทรงจำที่หายไปของธราเข้าให้แล้ว “แล้วถ้ารู้ว่าผมเป็นใคร ระหว่างเราจะมีอะไรดีขึ้นมาเหรอ”

ธรายังไม่ให้คำตอบ กลับฉุดรั้งให้ไอ้เจ้านั่งลงบนตัก คนที่ซ่อนใบหน้าไม่ให้เห็นเผยความตกใจเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกเปลี่ยนตำแหน่ง อีกทั้งยังถูกจ้อง พอคิดจะหลบตาก็ถูกมือหนาจับใบหน้าเอาไว้ “กูไม่รู้ว่าจะมีอะไรดีขึ้นไหม แต่กูเจอคนที่มาจากอดีตเหมือนกับมึง คนที่รู้จักตัวกูคนก่อน คนคนนั้นบอกว่ากูเคยเป็นคนรักของเขา”

ก็คิดไว้แล้วว่าไม่ว่ายังไงคนอย่างมันก็ต้องหาโอกาสพูดจนได้...

“อย่างนั้นเหรอ” ไอ้เจ้าทวนถามเสียงแผ่ว “แล้วคุณรู้สึกยังไง ตอบผมได้มั้ย”

“บอกไม่ถูก” ธราตอบตามจริง “ทีแรกก็ไม่อยากเชื่อแต่เขาเอารูปให้ดู รอยยิ้มของเขาก็คุ้น เวลาเขายิ้มดวงตาของเขาเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยว ตอนที่เจอครั้งแรก กูยอมรับว่ากูสนใจ”

“ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแค่เพราะรอยยิ้มเหรอ”

“เปล่า ไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้น กูสนใจเพราะกูรู้สึกคุ้น แต่ก็ยอมรับว่าใจเต้นแปลกๆ” ธราบีบแก้มคนช่างถามที่ตั้งคำถามเองแต่กลับทำหน้าเศร้าเอง แต่ถ้าไอ้เจ้ารู้ว่าเขาก็เคยใจเต้นกับรอยยิ้มของมันมาแล้ว มันจะยังทำหน้าเศร้าอีกไหม “รอยยิ้มของเขาคล้ายรอยยิ้มของมึง กูหมายถึงมึงที่กูฝันถึง ไม่ใช่มึงตัวจริงที่มีแต่รอยยิ้มปลอมๆ”

“ก็คนคนเดียวกันมั้ย แล้วรอยยิ้มของผมปลอมยังไง”

“งั้นไหนลองยิ้มหน่อย” ธราสั่ง ในขณะที่ไอ้เจ้ายกยิ้มมุมปาก “ไม่ใช่ ต้องยิ้มทั้งปากทั้งตาสิ”

“ใครจะทำได้ ผมไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น” ไอ้เจ้าย่นจมูกใส่ ก่อนเปลี่ยนประเด็น “ว่าแต่คุณฝันถึงผมบ่อยแค่ไหน”

“ช่วงหลังมานี้แทบทุกวัน ที่จริงกูอาจจะเคยฝันถึงมึงเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้ว แต่กูจำความฝันไม่ได้ ที่จำได้ก็มีแต่ความฝันที่ทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึกเท่านั้น”

“อืม ทำให้เดี๋ยวนี้คุณเหมือนคนนอนไม่พอสินะ”

ธราพยักหน้า แต่ต่อให้เขาจะเหน็ดเหนื่อยกับความฝันมากแค่ไหน ในใจลึกๆ แล้วกลับรู้สึกอยากฝันต่อไป เพราะในความฝันนั้นเขารู้สึกสุขใจ แม้จะจำไม่ได้เลยว่าทำไมถึงตกใจตื่น “แล้วมึง...ไม่เคยฝันถึงกูบ้างเหรอ”

“ผมไม่อยากฝันร้าย”

“อ้าว...ไอ้นี่”

ไอ้เจ้าหัวเราะ ก่อนแววตาขบขันของมันจะเต็มไปด้วยความจริงจัง “แล้วยังไงต่อเหรอดิน หลังจากที่เขาบอกว่าเขาเคยเป็นคนรักของคุณแล้ว พวกคุณคบกันทันทีเลยไหม”

“ไม่ได้คบ” ธราปฏิเสธแล้วตอบเสียงแผ่ว “แต่หลังจากนี้ก็ไม่รู้ กูรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร การถูกคนที่รักลืมคงเจ็บปวดน่าดู เขาบอกว่ากูไม่ผิดที่จะลืมแต่เขาก็จะทำให้กูจำให้ได้ เขาบอกว่ากูลืมเรื่องที่สำคัญมากๆ ไป เขาบอกว่าคิดถึงกูมาตลอด แต่เขามาหาไม่ได้เพราะเขาป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตั้งเกือบปี กว่าจะพักฟื้นแล้วกลับมาเป็นปกติก็ต้องใช้เวลานาน” ธราหยุดพูดแล้วจับมือของไอ้เจ้ามากุมไว้ “แต่เขามาแล้วเจ้า เวลามองหน้าเขากูทั้งสงสาร ทั้งรู้สึกผิด กูลืมเขา ตอนที่เขาป่วยกูก็ไม่ได้อยู่ด้วย กูเป็นคนรักที่แย่มาก” ในขณะที่สารภาพความรู้สึกมือทั้งสองมือก็บีบตอบรับกันเบาๆ “กูก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง กูไม่อยากเสียมึงไป แต่กูก็ปล่อยเขาไว้ไม่ได้”

ความสับสนเต็มแน่นอยู่ในแววตาของธรา เขาไม่แน่ใจเลยว่าอธิบายความรู้สึกของตัวเองได้ดีแค่ไหน แต่คนที่รับฟังเหมือนจะเข้าใจเขายิ่งกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ ไอ้เจ้ายังคงสงบนิ่ง ใบหน้าของมันเผยรอยยิ้มปลอมๆ รอยยิ้มที่เจ้าของไม่ได้อยากยิ้มแต่กลับยิ้มเพื่อปิดบังความรู้สึก

“แล้วตอนที่อยู่กับเขาคุณมีความสุขมั้ย” เนิ่นนานกว่าที่คำถามของไอ้เจ้าจะดังขึ้น ธราทบทวนคำถามก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยจนแทบไม่เห็น เขาไม่อยากทำให้ไอ้เจ้าเจ็บแต่ก็ไม่อยากโกหกมันอีกแล้ว “แล้วถ้าไม่มีผมล่ะ จะมีความสุขมากกว่านี้หรือเปล่า”

ธราส่ายหน้า เขาจับมือของไอ้เจ้าแน่นขึ้น “ที่กูมีความสุขเพราะกูรู้ว่ากลับมายังไงก็เจอมึง”

“จะมีผมไปพร้อมกับเขาเหรอ”

“ได้มั้ย” เสียงของธราสั่น ความเห็นแก่ตัวของเขาเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย แต่เพราะคนตรงหน้าของเขาคือไอ้เจ้า ไอ้เจ้าที่พร้อมจะเข้าใจเขาทุกอย่าง

“ต่อให้ผมตอบว่าได้ เขาก็คงไม่ยอม” น้ำเสียงเรียบเฉยไม่ต่างจากสีหน้าคนพูดทำให้ธราเดาความรู้สึกที่ถูกซ่อนไว้ไม่ถูกและเมื่อเดาไม่ได้ก็รู้สึกกลัวเหลือเกิน “คุณถามใช้มั้ยว่าผมเคยเป็นใครในชีวิตของคุณมาก่อน” ครานี้น้ำเสียงที่เอ่ยแฝงความไม่มั่นใจ หัวใจของคนพูดเต้นโครมครามจนรู้สึกเจ็บ ในขณะที่คนรับฟังก็ไม่ต่างกัน หัวใจของธราเต้นในจังหวะรัวเร็วเมื่อสบตากับไอ้เจ้า แววอาวรณ์ที่แฝงไปด้วยความปวดร้าวในดวงตาของมันฉายชัดเมื่อเริ่มพูดต่อ “ผมก็ไม่ต่างจากเขา”

ธรานิ่งฟังพลางเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

“เพราะผมก็เคยเป็นคนรักของคุณ”

ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบหัวใจของธรา มือนั้นออกแรงบีบขย้ำ รุนแรงจนเหมือนหัวใจของเขากำลังจะแหลกละเอียด ในขณะที่สีหน้าของไอ้เจ้าก็ไม่ต่างกันนัก ใบหน้าคมคายบิดเบี้ยวแต่รอยยิ้มยังไม่จางหายราวกับกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของมันไปเสียแล้ว

“แต่ผมพิเศษกว่านั้น”

“…”

“พิเศษมากจนคุณคาดไม่ถึง”

“…”

“พร้อมจะพังไปกับผมมั้ย”

“…”

“ถ้าคุณพร้อม ผมจะใช้กุญแจที่ผมมีเปิดกล่องแพนโดร่าที่ไม่ควรเปิดให้คุณได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน”

ธรารู้สึกกลัว แต่เขากลับยอมพยักหน้าเพื่ออนุญาต เขาไม่มีความคลางแคลงใจในคำพูดของไอ้เจ้าเลยแม้แต่น้อย กลับกัน...บางแห่งในใจของเขากำลังกรีดร้องว่าเป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้ว มันกรีดร้องออกมาพร้อมกับความเศร้าสร้อย

“แล้วหลังจากนั้น ถ้าคุณยังต้องการผม ผมสาบานเลยว่าจะไม่มีวันคิดไปจากคุณแน่นอน"





แต่มันคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ผมรู้ดี

เพราะฉะนั้นผมจึงต้องเลือกทางนี้ คุณอาจจะต้องเจ็บปวดอีกครั้งแต่ก็อย่าให้คนอย่างผมฉุดรั้งคุณไว้

ผมอยากให้คุณเกลียดผมและไปมีความสุขจริงๆ เสียที





.

.





OMG: ออกมาเจอกันหน่อย กูมีเรื่องจะคุย

-Read-

.

.

J_Jao: รออยู่เลยว่าเมื่อไหร่จะทักมา

J_Jao: ว่าแต่เจอกันที่ไหนดีครับ

J_Jao: พี่ชาย :)

-Read-





..........TBC..........



สมองมันก็แพ้หัวใจเสมอ อยากจะลบความจำที่มันรักเธอ

แต่มันกลับจำได้ขึ้นใจ

พยายามทุ่มเทเพื่อเป็นคนที่ใช่ พยายามเท่าไรมันก็ไม่พอ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 24-01-2019 19:05:51
ขอหน่อยเถอะ ไม่ไหวจริงๆ  อิดิน ถ้ามึงจะพูดแบบนี้ เอามีดมาแทงพี่เจ้าของกูเลย เอาให้ตาย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบเดิมซ้ำๆซากๆ  พี่จะทนไปถึงไหน พอได้เเล้ว อย่าฝืนเลย ก็รู้ว่ารัก แต่ถ้ารักแล้วมันเป็นแบบนี้ พี่มีความสุขหรอ ใครจะรู้ ว่าถ้าลองออกมาอาจจะมีความสุขกว่าการอยู่ตรงนั้นก็ได้

ชั้นเสียใจได้ยินไหม!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 24-01-2019 19:32:56
ทนมะไหวแล้ววววววววววววว อยากให้เจ้าออกมา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วนน้อย ที่ 24-01-2019 19:38:24
 :sad4:เจ็บโว้ยยยยยยยย เมื่อไหร่จะให้เจ้ามีความสุขค้าา ฮือ เกลียดอิดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 24-01-2019 19:39:48
โอ้โห อ่านตอนนี้แล้วหัวร้อนมาก ไอ้ดินนะไอ้ดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 24-01-2019 19:49:48
 :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 24-01-2019 19:51:33
มาเลยเปิดเผยเถอะ เอาให้ใจพังไปเลย เปิดออกมาทั้งกล่อง จีบกันไปทั้งสองคนนั่นแหละ
แล้วให้ดินเลือก สุดท้ายก็ต้องเลือกคนเดียวอยู่ดี ฮืออ อ่านแล้วเหมือนคนอกหัก ใจมันหน่วง มันชา :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 24-01-2019 19:58:43

จันทร์เจ้านี่ เป็นน้องชายต่างแม่ของ เจ้า จักรพรรดิ์ ปะเนี่ย

ดินน่าเห็นใจที่สุด ก็คนมันความจำเสื่อม ฮึ่ยยยยยยยยยยย อึดอัดแทน :m31:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 24-01-2019 20:02:13
คนอ่านอย่างฉัน ก็น้ำตานองอีกแน๊ววว ฮือออออ :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Chobreadyaoi ที่ 24-01-2019 20:07:00
สงสารเจ้าแต่ก็นะ ถ้าดินรู้ความจริงทุกอย่างแล้วกลับไปเหมือนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมก็ให้มันเป็นไปเถอะ เหมือน set zero กลับไปอยู่จุดเริ่มต้นใหม่ เจ้าก็นะ ไม่น่าตามเขามาเลย น่าจะต่างกันต่างอยู่ไปตั้งแต่ตอนดินความจำเสื่อม คิดว่าเจ้าคงใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมดินอ่ะ รักขนาดวางแผนชีวิตกับดินขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-01-2019 20:07:32
พังๆ ตามกันไป รวมถึงคนอ่านด้วยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 24-01-2019 20:12:27
วงสารท่านเจ้า ขนาดเราแค่อ่านยังรู้สึกอึดอัด น้ำตามันจุกอกแต่ร้องไม่ออก  งื้อออออ....อึดอัด!!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 24-01-2019 20:16:25
ฮืออ คือแบบอ่านเรื่องเดียวละจบเลย ซึมเลยหมั่นดินมาก โมโห :fire:

โมโหมาก เมื่อเย็นปั่นจักรยานไปนึกถึงที่ดินทำตัวละขึ้น โมโหไป ปั่นไป เงยหน้ามาอีกทีครึ่งชมละ เหงื่อเต็มตัว
 เลิกหัวร้อนได้หน่อยนึง  :z10: อยากจะจับดินมาฟาดก้นสักที ตั้งสติ!!!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: YoK_mehok ที่ 24-01-2019 20:29:00
เจ็บปวดกว่านี้มีอีกมั้ย :ling3: :ling1:


สงสารเจ้าอะ  :heaven
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-01-2019 20:31:31
หน่วงจิต และปวดตับสุดๆ   :ling1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-01-2019 20:55:18
พ่อกับแม่แยกกันก่อนที่เจ้าจะรับสามเกลอและดินเข้ามาใช่ไหม
J_J มาทีหลังอย่างตั้งใจหรือบังเอิญ
ถ้าตั้งใจขอเกลียดแฝดน้องล่วงหน้าเลยนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-01-2019 21:03:20
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-01-2019 21:11:33
หน่วงงงงง มาก สงสารเจ้า  :mew2: :hao5: :sad4:
อ่านไป น้ำตาก็ไหลไปสงสารเจ้าสุดๆ
ดิน เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว.........เกลียดดิน  :z6: :z6: :z6:
รักเจ้าไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาให้ความสำคัญ........
ไม่ต้องมาบอกว่าเจ้าเป็นคนสำคัญ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 24-01-2019 21:14:12
ดินแม่งงงงง พูดมาได้
โคตรๆๆๆๆๆๆๆเห็นแก่ตัวเลย
ปวดใจแทนเจ้า  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 24-01-2019 21:53:23
จันทร์​เจ้านี่น้องคนละแม่กับท่านเจ้าแน่ๆ อารมณ์​อยากแย่งของพี่สินะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 24-01-2019 22:03:14
จันทร์เจ้า ~ น้องท่านเจ้า
ดิน ~~ ท่านเจ้าเก็บมาเลี้ยงเป็นน้อง
ดิน~~ เป็นคนรักกับท่านเจ้า ไม่ได้
ดิน~~ เป็นคนรักกับจันทร์เจ้าได้

อ้าว ยังไง? อะไร? ทำไมฉันงง หรือฉันเข้าใจอะไรผิด บอกฉันที โอวว ม่ายยย  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 24-01-2019 22:05:52
สงสารเจ้า ที่ต้องเป็นแบบนี้ตรอมใจ แต่เพราะรักมาก ยังตัดใจไม่ได้  แต่ก็เห็นใจธราเหมือนกัน คนที่สับสนไม่รู้จะเลือก ในอดีตยังเลือกไม่ได้ ตอนนี้จำอะไรไม่ได้ ยิ่งแย่
เป็นเรื่องที่หน่วง แต่อยากติดตามตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 24-01-2019 22:11:32
เจ้า ขอแค่อย่างเดียวนะ ถ้าเปิดแล้วพังให้ถอยออกมาจริงๆ ไม่ใช่อยู่ดูแลห่างๆ เราไม่อยากให้เจ้าพังไปมากกว่านี้แล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-01-2019 22:32:56
พระเอกเลวแห่งปีไปเลยจ้าาา
หมดคำพูด แย่กว่ามาโปรด+ป๋าพ่ายอีกจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 24-01-2019 22:39:06
เจ้าพอเถอะเลิกเถอะเจ้า ร้องไห้น้ำตาเลือดดินก็ไม่รักแบบนี้  :ling2:

ยิ่งอ่านก็ยิ่งเจ็บปวดไปกับเจ้าเมื่อไหร่เจ้าจะยิ้มอย่างมีความสุขสักที ใครไม่รักก็ชั่งเขาแต่ป้ารักเจ้านะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-01-2019 23:04:52
 :sad4: พังกันไปเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-01-2019 23:43:27
ออกมาได้ก็ขอให้ออกมานะ
หลังจากฟังเรื่องเล่าไม่ต้องอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นยังไง  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 25-01-2019 01:52:25
มีบทหนึ่งที่บอกว่าดินเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกับเจ้า

ครั้งแรกคงเป็นพี่น้องแบบรับมาเลี้ยง ดินขาดเจ้าไม่ได้จึงขอกลับเข้ากรงและรักกันได้จนวางแผนจะใช้ชีวิตด้วยกัน หลังจากนั้นเกิดเหตุให้กลายเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดที่รักกันไม่ได้ ... จี้เคยเล่าว่าพ่อรักดินมากทั้งๆที่เป็นลูกเลี้ยง  จึงขอคิดว่าเจ้ากับดินเป็นลูกพ่อเดียวกัน  ส่วนจันทร์เจ้าอาจเป็นลูกติดของแม่เลี้ยงคนใหม่ของเจ้า....เดาๆๆๆๆๆ
ส่วนบทสนทนาของเจ้ากับจันทร์  ประโยคสั้นๆยังให้รู้สึกได้ว่าจันทร์น่าจะร้าย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-01-2019 02:43:39
ใจพังไปหมดแล้ว :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 26-01-2019 09:49:53
ไรท์รีบมาาาาา..
จิขาดใจแล้วววว...  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 13 ยังไกล ​P.15 24/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 26-01-2019 14:12:59
จากนิยายแนวโรคจิต ตามติดยิ่งกว่าเงา กลายเป็นบทเศร้าน้ำตาซึม   อ่านไปแบบระแวงไปจะพลิกไปทางไหนกันอี๊กกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 28-01-2019 18:48:02
ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์





ยามบ่ายของวันอาทิตย์เป็นวันที่แสงอาทิตย์เจิดจ้า ท้องฟ้าสีครามไร้เมฆ ใบไม้ไม่ไหวติงเพราะไม่มีสายลมโชยพัดผ่าน มีเพียงความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่คอยสร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้คนที่กำลังเดินบนทางเท้าผ่านหน้าคาเฟ่ห์แห่งหนึ่งหน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งไอ้เจ้าก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่หัวเสียกับอากาศร้อนในยามบ่าย แต่ก็คงโชคดีกว่าหลายๆ คนที่ต้องเดินทางต่อเพราะตอนนี้มันมาถึงสถานที่นัดหมายเป็นที่เรียบร้อย

กรุ๊งกริ๊ง~

เสียงกระดิ่งที่ประตูดังกังวานเมื่อไอ้เจ้าผลักประตูร้านเข้าไปและแค่เพียงไม่กี่วินาทีความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศก็ปะทะใบหน้า ขายาวจึงก้าวข้ามธรณีประตูพลางกวาดตามองหาคนที่นัดหมาย เมื่อเจออีกฝ่ายอยู่ที่โต๊ะริมกระจกไม่ไกลจากพุ่มไม้ประดับแล้วก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองกับพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์

“นมคาราเมลปั่นเพิ่มวิปครีมครับ”

“ได้ค่ะ นมคาราเมลปั่นเพิ่มวิปครีมทั้งหมด 95 บาทค่ะ” พนักงานแจ้งราคาเครื่องดื่ม ก่อนจะรับเงินที่ไอ้เจ้าให้ไปพร้อมรอยยิ้ม “ให้มาพอดีนะคะ รอรับเครื่องดื่มสักครู่ค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ในอีกสิบนาทีต่อมาไอ้เจ้าก็ผละจากหน้าเคาน์เตอร์ไปที่โต๊ะริมกระจกเมื่อได้เครื่องดื่มมาไว้ในมือแล้ว มันนั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มตรงข้ามกับคนที่นัดหมายพลางวางแก้วนมคาราเมลลงบนโต๊ะกลางที่ทำจากลังไม้ขนาดใหญ่ ในขณะที่อีกฝ่ายมองตามทุกอิริยาบถของมันด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

จันทร์เจ้าอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้ม ดูสะอาดสะอ้านและเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าน่ารักนั้นขาวใสหมดจด ไม่มีรอยด่างดำหรือรอยตำหนิใดๆ ให้รำคาญตาทำให้ไม่ว่าใครที่พบเห็นต่างก็ไม่อาจละสายตาได้ ซึ่งแตกต่างจากไอ้เจ้าโดยสิ้นเชิง

“ไม่เจอกันนานนะครับพี่เจ้า” จันทร์เจ้าพูดขึ้นเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงเล็กหวานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว “พี่เปลี่ยนไปเยอะเลย ไม่เหลือคราบเทพบุตรสักนิด”

“เพราะกูไม่ใช่” ไอ้เจ้าตอบเสียงขรึม ใบหน้าเรียบตึงทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนคนนี้

“ก็จริงครับ ผมลืมไปเลยว่าพี่ไม่ใช่เทพบุตร” จันทร์เจ้าไม่ใส่ใจกับสีหน้าและน้ำเสียงของคู่สนทนา กลับยังยิ้มหวานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไอ้เจ้ารำคาญหู “เพราะพี่เป็นพระเจ้า”

“มึงกำลังคิดจะทำอะไร” ไอ้เจ้าไม่ได้สนใจถ้อยคำเหน็บแนม มันพูดธุระที่อยากจะพูดทันทีโดยไม่เสียเวลา

คนถูกถามเลิกคิ้ว ใบหน้าหวานยังคงเจือรอยยิ้ม “ยังไงนะครับ พี่หมายถึงเรื่องอะไรเหรอ”

“กูใช่คนที่มึงควรเล่นลิ้นด้วยเหรอจันทร์” แววตาเย็นชาของไอ้เจ้ามองคนไม่เจียมอย่างคุกคาม “กูถามก็ตอบ ไม่ใช่ย้อนถามกู”

“ก็ผมไม่เข้าใจจริงๆ นี่ครับว่าพี่หมายถึงเรื่องอะไร” จันทร์เจ้ามีสีหน้าสลดเมื่อถูกดุ ดวงตากลมโตหลุบมองต่ำ “อุตส่าห์ได้เจอกันทั้งที แต่กลับไม่ถามผมสักคำว่าสบายดีไหม”

“เก็บมารยาของมึงไว้ใช้กับดิน” ไอ้เจ้าว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ความรำคาญแล่นริ้วขึ้นทีละน้อย ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่สามารถทนคุยกับจันทร์เจ้าได้นานเลยสักครั้ง ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่คนคนนี้เหมือนรวมเอาความรำคาญใจไว้ในตัวเอง จันทร์เจ้าเป็นทุกอย่างที่ไอ้เจ้าไม่ชอบ ทั้งปากดี ขี้ฟ้องและชอบเรียกร้องความสนใจ “อยู่ต่อหน้ากูไม่ต้องแอ๊บ กูรู้สันดานมึงดี”

“ว้า...กำลังคิดว่ากลับมาเจอกันครั้งนี้จะเป็นน้องที่ดีให้อยู่แล้วเชียว” รอยยิ้มหวานนี้เคลือบยาพิษ แต่นอกเหนือจากไอ้เจ้าแล้วใครจะรู้ ไม่ว่าใครหน้าไหนต่างก็หลงมัวเมาไปกับรอยยิ้มของมันกันหมด

“กูไม่เคยพูดสักทีว่านับคนอย่างมึงเป็นน้อง”

“ก็เพราะเอาแต่พูดแบบนี้ คนอื่นๆ ก็เลยมองว่าพี่เป็นเด็กมีปัญหา” จันทร์เจ้ายกขาขึ้นไขว่ห้างพลางเชิดหน้าขึ้นสบตาไอ้เจ้า “แค่ลูกติดแม่เลี้ยงก็ยอมรับไม่ได้ ผมก็เลยกลายเป็นคนน่าสงสารที่ถูกพี่กลั่นแกล้ง แม้แต่บ้านก็ไม่ให้อยู่ ต้องระเห็จไปอยู่บ้านพักคนงาน กินข้าวกับพวกคนใช้ ใช้ของราคาถูก ทั้งที่ผมก็เป็นลูกของคุณผู้หญิงของบ้าน” ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ภาพจำที่ไม่น่าจำฉายชัดแม้จะผ่านมานานหลายปีและคนที่เป็นต้นเหตุก็นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความรู้สึกผิด ทั้งที่ความทรงจำที่แสนขมขื่นของจันทร์เจ้าล้วนเกิดขึ้นเพราะคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิทั้งสิ้น

จันทร์เจ้าเป็นลูกติด มารดาของเขาแต่งงานกับบิดาของเจ้า จักรพรรดิในตอนที่เขาอายุสิบห้าปี มารดาของเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาหลายปีจนมีนักธุรกิจคนหนึ่งมาติดพัน ทั้งคู่คบหาดูใจกันได้ไม่นานก็ตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกันโดยที่เขาก็ไม่ได้คัดค้าน จันทร์เจ้าไม่ใช่เด็กสิ้นคิดที่ชอบทำตัวมีปัญหา เขารู้ว่ามารดาเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องเลี้ยงดูเขาเพียงลำพัง เพราะฉะนั้นหากมารดาจะมีความสุขบ้างเขาก็ไม่คัดค้าน เขาอวยพรและยินดีกับมารดาที่จะมีครอบครัวใหม่ แม้จะกังวลใจเมื่อรู้ว่าทางพ่อเลี้ยงของเขาก็มีลูกติด แต่ก็คิดว่าด้วยความดีของมารดาคงจะเอาชนะใจลูกเลี้ยงได้ ทว่าเมื่อถึงวันที่ต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ความคิดที่ว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีก็มอดดับ จันทร์เจ้ารู้ได้ทันทีเมื่อสบสายตาเข้ากับเด็กผู้ชายตัวผอมสูงที่ใครต่างก็เรียกขานว่าท่านเจ้า ท่านเจ้าคนนี้มีใบหน้าเรียบนิ่ง แววตาเย็นชาไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด ในตอนที่แนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักก็ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา มีเพียงเสียงของจันทร์เจ้าและเสียงของเด็กผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างท่านเจ้าเท่านั้นที่ทำความรู้จักกัน เขายังจำได้ดีถึงรอยยิ้มกว้างและฟันรูปกระต่ายของเด็กผู้ชายคนสำคัญของท่านเจ้า เพราะรอยยิ้มนั้นคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อ

ทั้งที่อยากหนีไปให้ไกลแต่เพราะมารดาของเขาและธรายังคงอยู่ที่นั่น แล้วตัวเขาจะไปที่ไหนได้

“กูไม่ได้มาเพื่อพูดเรื่องไร้สาระ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขัดเมื่อเห็นจันทร์เจ้าดำดิ่งสู่อดีต

“ผมรู้” เสียงหวานตอบกลับ “ทุกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับดินก็ไร้สาระสำหรับพี่ทั้งนั้น”

“ก็รู้ดีนี่ งั้นมึงก็ตอบคำถามว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร”

“ผมแค่จะทำในสิ่งที่ควรทำ” ดวงตากลมโตฉายแววจริงจัง “ผมมาเอาของของผมคืน”

จันทร์เจ้าคิด...คิดจริงๆ ว่าหากที่นี่เป็นที่ลับตาคน เขาก็คงไม่ได้นั่งสบายๆ อยู่บนโซฟา อาจได้นอนอยู่แทบเท้าด้วยสภาพสะบักสะบอม ท่านเจ้าน่ะอารมณ์ร้าย แค่แววตาอันตรายที่มองจ้องมานั้นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนความคิดที่อยากให้เขาตาย

“มึงจะงัดกับกูเหรอจันทร์” แววตาคุกคามจดจ้อง เสียงที่เอ่ยก็เรียบนิ่ง “คิดว่าตอนนี้เป็นอิสระแล้วกูจะจับมึงขังอีกไม่ได้ใช่ไหม”

จันทร์เจ้ารู้ดีว่าเขาไม่มีสิ่งใดจะไปต่อกรกับคนระดับเจ้า จักรพรรดิ แม้แต่พ่อเลี้ยงและแม่ของเขาก็ไม่ใช่ตัวช่วย เขาอยู่ต่างประเทศมาตลอดหลายปีตั้งแต่เกิดเรื่องร้ายแรงในครั้งนั้น ถูกสั่งห้ามออกนอกประเทศ ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต ถูกควบคุมและจับตามอง แค่เพราะคำสั่งของเจ้า จักรพรรดิ คำสั่งของคนที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของคนอื่น

“ผมรู้ว่าพี่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะแข่งเรื่องไหนผมก็เอาชนะไม่ได้เลย” จันทร์เจ้ายิ้มหวาน มองสบตาท่านเจ้าอย่างไม่กลัวเกรง “แต่มีแค่เรื่องความรักที่ผมจะไม่แพ้”

“ปากกล้าดีนี่” ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้ม แต่แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “แต่ขนาดว่ามั่นใจว่าจะทวงคืนได้ก็ยังทำทุกทางเพื่อให้ดินจำมึงได้”

“ผมคิดว่าเขาควรจำได้ว่าอะไรเป็นอะไร” จันทร์เจ้าเน้นย้ำท้ายประโยค อะไรเป็นอะไรที่ว่าคืออาวุธเพียงอย่างเดียวที่เขามี การทำลายเจ้า จักรพรรดิน่ะยากแต่ถ้าหากทำลายคนที่เขารัก นั่นก็เรียกว่าได้รับชัยชนะแล้ว “เขาควรรู้สิว่าที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ตัวเองก็พราะพี่ เพราะพี่ต้องการฆ่าผม เพราะคนใจร้ายอย่างพี่ เขาถึงต้องเป็นแบบนี้ แล้วพี่ก็ยังขี้โกง พี่ทำให้เขาลังเลที่จะเลือกผม ลังเลที่จะกลับมาหาผมทั้งที่ระหว่างเขากับพี่มันเป็นไปไม่ได้ พี่จะพาเขากลับไปตกนรกอีกครั้งด้วยความเห็นแก่ตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาก็ควรต้องรู้ เขาต้องจำให้ได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเลือกผมไม่ใช่พี่ ผมจะตัดความลังเลของเขาออกให้หมด แล้วผมก็บอกเลยว่าถ้าครั้งนี้พี่คิดจะทำร้ายผมอีก พี่มีปัญหากับแม่ของพี่แน่”

“มึงใส่ร้ายคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานก็ได้เหรอ คิดว่ากูเหรอที่สั่งฆ่ามึง” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพร้อมกับที่รอยยิ้มยียวนปรากฏบนใบหน้า “แต่เอาเถอะ มึงจะคิดยังไงก็เรื่องของมึง อยากทำอะไรก็เรื่องของมึง แต่อย่าทำร้ายดิน อย่าฝืนให้เขาจำมึงได้หรือใส่ความทรงจำปลอมๆ ให้เขา กูมาเตือนมึงแค่นี้ ถ้ามึงคิดว่ามีแม่กูคอยคุ้มหัวแล้วจะไม่กลัว มึงก็ลองงัดกับกูก็ได้ แล้วคราวนี้ถ้ามึงทำให้เขาต้องเจ็บอีก...กูจะเป็นคนที่ฆ่ามึงด้วยมือของกูเอง”

“พี่คิดจริงๆ เหรอว่าที่เขาเจ็บมันเป็นเพราะผม” จันทร์เจ้าย้อนถามพลางยิ้มเยาะ “ทั้งที่คนใจร้ายที่ทำให้เขาเจ็บน่ะ...มีแค่พี่คนเดียวต่างหาก”

ร่างสูงของเจ้า จักรพรรดิผุดลุกขึ้นโดยไม่ตอบอะไรกลับไปแล้วหมุนตัวเดินหันหลังไปทางประตูร้านทันทีทั้งที่ยังไม่ได้ชิมรสนมคาราเมลปั่นเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่จันทร์เจ้าก็เอาแต่นั่งนิ่งจมอยู่ในความคิดของตัวเอง

รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีอะไรจะไปสู้กับคนที่ทำตัวเหมือนดั่งพระเจ้า แต่ครั้งหนึ่งก็เคยเอาชนะมาแล้วและครั้งนี้ก็จะไม่แพ้เหมือนกัน

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 28-01-2019 18:48:37
03:23 PM

OMG: คุณ

OMG: ว่างหรือยัง

D. : อยากให้ว่างก็จะว่างให้

OMG: เอาดีๆ ดิ๊

D. : ดุว่ะ ไปโดนตัวไหนมา

OMG: ตัวไหนก็เรื่องของผม

D. : อ้าว อารมณ์ไม่ดีจริงจังเลยมั้ย

OMG: ตอบคำถามก่อนครับ

D. : ว่าง

OMG: อืม ก็แค่นี้

D. : แล้ว?

OMG: ไปชลบุรีกัน

D. : คือที่กูบอกว่าว่าง ก็ไม่ได้ว่างถึงขนาดจะขับรถไปทะเลนะครับ

OMG: ติดงานเหรอ

D. : มีนัด

OMG: สำคัญกว่าผมมั้ย

D. : ถามมาขนาดนี้กูก็คงต้องไปกับมึงแล้วล่ะ เกิดติสท์อะไรขึ้นมาวะ

OMG: จะพาไปเจอเพื่อน

D. : มึงมีเพื่อนนอกจากไอ้น้องเอ๋ด้วยเหรอ

OMG: ผมน่ะเพื่อนเยอะ

OMG: แต่คุณไปกับผมใช่มั้ย

D. : อือ ไป

OMG: ยกเลิกนัดได้แน่นะ

D. : แน่ กูจะไปดูหน้าเพื่อนมึง

OMG: ดี ไปถึงก็ยกมือไหว้ด้วย หนึ่งในนั้นเคยเป็นกิ๊กผม

D. : สัดเจ้า กวนตีน

OMG: 555

D. : แล้วอยู่ไหน กูกลับห้องตอนบ่ายโมงแต่ไม่เจอมึง

OMG: มาซื้อนมปั่นกินแล้วก็แวะมาหาเอ๋ คุณล่ะ ยังอยู่ห้องอยู่มั้ย

D. : อยู่หอไอ้ซัน มาติวให้มันกับเพื่อนมันต่อ

OMG: เค เดี๋ยวไปรับ

D. : จะมายังไง รถก็ไม่มี

OMG: จักรยานเอ๋ ปั่นสักสองวันคงถึงชลบุรี ไม่งั้นเดี๋ยวหาซื้อรถเอาแถวนี้แหละ เห็นโชว์รูมรถอยู่เหมือนกัน

D. : มึงเมากาวเหรอเจ้า

OMG: เปล่า ทินเนอร์

D. : ไปหาไอ้น้องเอ๋ทีไร ชีวิตมึงมีแต่อบายมุข ไม่ยาดองก็ดมกาว ล่าสุดคือทินเนอร์แล้วไอ้สัด

D. : เจอเมื่อไหร่กูจะล็อคคอตีเข่า ดื้อนัก

OMG: ก็พูดขำๆ เป็นสีสันไปอย่างนั้นเอง

D. : เออ ยังไงก็รีบมา

OMG: ครับ เดี๋ยวส่งคนไปรับ





หลังจากที่จบการสนทนากับธราแล้ว ไอ้เจ้าก็ติดต่อไปหาลุงชัน คนสนิทเพื่อให้ไปรับธราที่หอพักของน้องรหัสของเขา ก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม

“ตั้งแต่มาถึงแล้วที่นายเอาแต่ทำหน้าตาน่ากลัว” ไอ้เอ๋ได้โอกาสทักขึ้นเมื่อเห็นว่าไอ้เจ้าเสร็จธุระเป็นที่เรียบร้อย “มีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจของนายอีกหรือเปล่าเพื่อน บอกผมได้นะ ถ้ามันหนักหนานัก ในห้องของผมก็มีกาว ไม่ต้องทำหน้าอยากแจ้งตำรวจแบบนั้น ที่บอกว่ามีกาว ผมน่ะจะชวนนายมาทำงานศิลปะฉีกกระดาษแปะตามรูปเฉยๆ งานศิลปะจะทำให้นายใจเย็นลงนะเพื่อน”

ไอ้เจ้าหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของไอ้เอ๋ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกมาหามัน เพราะตอนที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดไม่เข้าท่าแบบนี้ ใบหน้าเอ๋อๆ ของไอ้เอ๋ช่วยได้เป็นอย่างดี “ไม่มีอะไรหรอกเอ๋ พอดีผมเจอหมาเห่าเสียงดังไปหน่อย เสียงของมันน่ารำคาญก็เลยรู้สึกหงุดหงิดไม่หาย อยากเตะให้กลิ้งสักที แต่หมามันก็คงมีเจ้าของ”

“หมาที่ชอบนอนหน้าร้านของชำหน้าปากซอยปะนาย”

“อืม” ตอบรับส่งๆ ไม่รู้หรอกว่าหมาที่ว่านั่นเป็นยังไง ผ่านหน้าปากซอยทีไรก็ไม่เคยเจอสักที

“มันชื่อไอ้เฮงอะนาย” ไอ้เอ๋บอกชื่อหมาที่มันคิดว่าทำให้ไอ้เจ้าหงุดหงิดใจ ก่อนจะสาธยายให้ฟังถึงมิตรภาพอันดีงามของมันกับไอ้เฮง “มันนิสัยดีนะ ชอบวิ่งตามจักรยานของผม กลับหอดึกแค่ไหนก็มีมันวิ่งมาส่ง ผมน่ะซื้อซี่โครงไก่ย่างให้มันกินบ่อยๆ เราก็เลยสนิทกัน นายไม่เตะมันก็ดีแล้วเพื่อนรัก ไม่งั้นผมคงขาดใจ” ว่าแล้วก็ยิ้มกว้างแล้วยกมือนวดไหล่เอาอกเอาใจเพื่อนให้คลายความหงุดหงิดลงไปอีก “เอาอย่างนี้สินาย ต่อไปถ้านายเจอมันอีกนะ นายก็บอกไปเลยว่าเป็นเพื่อนกับเอ๋ หอสีเขียวสุดซอย ถ้ามันรู้ว่านายเป็นเพื่อนผม มันจะไม่เห่านายแน่นายเจ้า แถมจะช่วยเป็นบอดี้การ์ดไม่ให้หมาตัวอื่นวิ่งไล่กัดนายด้วยนะ เพราะหมาของคุณนายบ้านตรงข้ามกับหอผมอะชอบวิ่งไล่ ตัวแค่หน้าแข้งแต่ซ่าฉิบหาย”

แววตาของไอ้เจ้าขบขันก่อนมันจะยกมือขึ้นขยี้หัวฟูๆ ของไอ้เอ๋ให้ยิ่งฟูกว่าเดิม “บอกแล้วมันจะเข้าใจผมเหรอ”

“ไม่งั้นนายก็เอารูปผมให้มันดู” เป็นจริงเป็นจัง

“ตอนที่เอาให้ดูมันจะกัดมือผมมั้ยเอ๋” ไอ้เจ้าก็เล่นด้วย

“งั้นเอาอย่างนี้ ผมจะบอกควั๊นให้ช่วยนายเอง” ไอ้เอ๋รีบแนะวิธีที่ง่าย เพราะก็เห็นด้วยกับไอ้เจ้าว่าก่อนที่ไอ้เฮงจะได้ดูรูป ไอ้หมาตัวดีคงกัดนิ้วไอ้เจ้าเข้าเสียก่อน “ควั๊นน่ะเป็นมิตรกับสัตว์โลก ไอ้เฮงไม่เคยเห่าเลยตอนที่ควั๊นแว๊นมอเตอร์ไซค์มารับผมไปมอ”

“เมื่อไหร่เอ๋จะเรียกชื่อเพื่อนถูก” ไม่รู้ว่าการเรียกควั๊นมันง่ายตรงไหน

“ก็เรากลายเป็นแก๊งเสียงสูงแล้ว ผมไม่เรียกนายว่าเจ๊าก็ดีเท่าไร”

“เจ๊านั่นฟังดูเข้าที” รสนิยมของไอ้เจ้าไม่เคยมีใครเข้าใจ

“แต่ควั๊นว่าไม่ค่อยเหมาะ” แม้แต่ไอ้เอ๋เพื่อนรักของมันก็ตาม “ผมก็คิดว่าไม่”

“แล้วควั๊นมันเหมาะกว่าตรงไหน”

“นั่นสิ” ไอ้เอ๋คิดตาม ที่จริงการเรียกชื่อเพื่อนอีกคนด้วยเสียงสูงนั้นก็ออกเสียงยากเอาการ “หรือเราจะเป็นแก๊งคนรวยดีอะนาย นายเป็นรวยเบอร์หนึ่ง ควั๊นเป็นรวยเบอร์สอง”

“พวกเรารวยเหรอเอ๋” ไอ้เจ้าเลิกคิ้วถามแล้วชี้แจงข้อเท็จจริง “เริ่มจากนายเลย นายขี่จักรยานที่ยางแบนบ่อยๆ ยางนอกยางในสึกหรอก็ไม่ยอมเปลี่ยน ตะกร้าหน้ารถก็พังเพราะชอบเอาไปชนต้นไม้ ขวัญก็ขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆ บางทีก็ไปรับจ๊อบรับส่งลูกค้าเพื่อเป็นค่าน้ำมัน ส่วนผมก็เดินหรือไม่ก็อาศัยรถเมล์ฟรี อาหารโปรดของพวกเราคือข้าวราดแกง นัดปาร์ตี้กันที่ซุ้มยาดอง แต่แก๊งคนรวยน่ะต้องมีรถคันละหลายล้านขับ กินข้าวร้านหรูๆ ใส่เสื้อผ้าแพงๆ ใช้ของแบรนด์เนม จะปาร์ตี้ทีหนึ่งก็กินเหล้านอก กินไวน์อย่างดี วิถีคนรวยอะไม่เคยง่าย”

“โห ยากจริงด้วยนาย ถ้าผมทำอย่างนั้นแม่จ๋าคงฟาดผมน่องลายแน่” ไอ้เอ๋ยิ้มแหยพลางรู้สึกขยาดวิถีคนรวยที่ไอ้เจ้าสาธยายให้ฟัง “คนงานในโรงงานน้ำจิ้มไก่ของแม่จ๋าต้องทำงานกันแบบไม่ได้พักถ้าผมอยากซื้อรถซุปเปอร์คาร์สักคัน”

“นั่นแหละ แก๊งคนรวยไม่เหมาะกับเราหรอก”

“แต่นายรวยนี่นายเจ้า” ไอ้เอ๋แย้ง “นายบอกว่าที่เป็นเพื่อนกับควั๊นได้เพราะเจอกันที่งานเลี้ยงผู้ถือหุ้นบ่อน้ำมันที่ต่างประเทศ”

ไอ้เจ้าหัวเราะ “นายเชื่อเหรอเอ๋”

“อ้าว นายโกหกเหรอ” ไอ้เอ๋เอียงคอมอง เบิกตาโตเท่าไข่ห่าน

“อือ ผมเจอขวัญที่ซุ้มยาดองที่ซอยแรกข้างประตูมอต่างหาก”

“โอ้โห...แล้วนายก็สร้างสตอรี่ซะใหญ่โต”

“ขอผมรวยบ้างสิ” ไอ้เจ้ายกยิ้มเมื่อเห็นไอ้เอ๋มองมาตาใสแป๋ว “จะเป็นแฟนกับธราได้ก็ต้องหล่อต้องรวย”

“จะเป็นแฟนกับใครสักคนก็ต้องใช้ใจมั้ยนาย” ไอ้เอ๋ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของไอ้เจ้า “เพราะถ้าคนมันใช่อะ ต่อให้เป็นขอทานเขาก็รัก แต่ถ้าคนมันไม่ใช่ ต่อให้เป็นพระเจ้าเขาก็ไม่รัก”

“เนี่ย นายตอกย้ำเพื่อน”

“ก็ผมไม่ชอบใจนี่” ไอ้เอ๋บอกตามตรง สีหน้าของมันก็เป็นตามที่พูด “นายน่ะควรมีความรักดีๆ แทนที่จะเป็นของตายของธรา”

“เอ๋ห่วงผมเกินไปแล้ว” ไอ้เจ้าไม่ได้โกรธเลยแต่กลับยอมรับความเป็นห่วงของไอ้เอ๋ด้วยใจจริง “อย่าคิดมากสิ”

“ผมน่ะนอนไม่หลับมาหลายคืน เอาแต่คิดว่านายจะเสียใจอยู่มั้ยนะ จะเหงาอยู่คนเดียวมั้ยนะ” ไอ้เอ๋ไม่ได้โกหก ซึ่งไอ้เจ้าก็ดูออกเพราะขอบตาไอ้เอ๋ก็เริ่มดำคล้ำ จากเด็กอนามัยนอนก่อนเที่ยงคืน กลับคอยทักไลน์มาหาไอ้เจ้าตลอดว่าโอเคไหม ไหวหรือเปล่า

“บอกแล้วไงว่าถ้าอยู่คนเดียวไม่ไหวจะมาหานายทันที”

“พูดแบบนี้แต่ก็ไม่เคยมา” ไอ้เอ๋ย่นจมูกใส่ “ผมคิดแล้วนะนายเจ้า ผมจะยังไม่มีแฟนหรอกถ้านายยังไม่มีความสุข ผมจะไม่ทิ้งนายไว้คนเดียว เพราะผมมีนายเป็นเพื่อนคนสำคัญ ถ้านายโสด ผมก็จะโสดไปกับนาย”

“เพื่อนรักเพื่อนตายของผมจริงๆ” ไอ้เจ้าลูบหัวไอ้เอ๋ด้วยความเอ็นดู ถ้านับอายุแล้วไอ้เอ๋ก็เป็นน้อง เป็นน้องที่น่าเตะน่าถีบในบางเวลาเพราะความเมากาวของมัน แต่ก็เป็นน้องที่น่าปกป้อง ไอ้เอ๋เป็นคนไม่มีพิษไม่มีภัย ความคิดของมันบริสุทธิ์ ไม่คิดร้ายต่อใคร นั่นทำให้ไอ้เจ้าพึงพอใจที่จะอยู่ด้วย ที่บอกว่าตัวเองเป็นหลุมหลบภัยให้ไอ้เจ้าไอ้เอ๋ก็ไม่ได้โม้เลยสักนิด “ว่าแต่ผมต้องบวชให้ไอ้หมอแพร์มั้ยที่ทำให้เอ๋คิดจะโสด”

คำหยอกเย้าทำให้ไอ้เอ๋หูแดง มันเป็นคนดูง่ายจนนึกห่วง “อย่าพูดถึงซี่”

“ยังเขินไม่หายอีก แค่โดนจูบเอง”

“ก็คราวนี้ไม่ใช่แค่ที่ปากนี่”

“หืม”

“ไม่รู้ๆ ๆ ๆ ๆ ห้ามถามผมอีกนะ ผมจะไปรดน้ำน้องตะวันแล้ว” ว่าแล้วก็ชิ่งหนีทันที ไม่อยู่ให้ไอ้เจ้าได้ซักไซ้ ไอ้เอ๋หนีไปที่ระเบียงพร้อมกับบัวรดน้ำ ส่วนน้องตะวันที่ว่าก็คือต้นดอกทานตะวันที่ไอ้เอ๋เฝ้าฟูมฟักเป็นอย่างดี

ไอ้เจ้าหัวเราะกับท่าทีของไอ้เอ๋ คิดไว้ว่าหลังจากนี้คงต้องหาโอกาสไปซักฟอกไอ้หมอแพร์ เพราะหลังจากคืนที่ไปร้านเหล้าด้วยกันก็ไม่ค่อยได้เจออีกเลย ฝ่ายนั้นเรียนหนักอีกทั้งยังเร่งเก็บเคส เห็นธราหัวฟูจมอยู่กับกองหนังสือแล้ว ไอ้หมอแพร์ก็คงมีชะตากรรมไม่ต่างกัน มันจึงหลุดรอดการซักฟอกมาจนถึงทุกวันนี้

ไอ้เจ้านั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ เปิดเช็กอีเมลและติดตามข่าวธุรกิจเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำอีกพักใหญ่ ก่อนจะบอกลาไอ้เอ๋ว่าจะไปทำธุระต่อเมื่อลุงชันติดต่อเข้ามาบอกว่าจอดรถรอที่หน้าหอพักแล้ว ไอ้เจ้ารีบออกจากห้องแล้วลงไปชั้นล่าง พอเดินไปถึงรถที่จอดคอยท่าก็เห็นว่าธรานั่งอยู่ที่เบาะหลัง เขาหอบเอาหนังสือเล่มหนาสองสามเล่มมาด้วย

“ทำไมมาช้าล่ะครับ” ถามพลางขึ้นไปนั่งเคียงข้างธรา

“รถติดครับ” ลุงชันเป็นคนในคำตอบ “อีกอย่างลุงหลงทางเพราะไม่ชินทางเท่าไร กว่าจะไปรับคุณชายได้ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง”

“ทางเข้าหอไอ้ซันมันซับซ้อน” ธรารีบอธิบาย “อยู่ลึกในซอกในซอยเพราะราคาถูก ทางมันแคบด้วย รถยนต์ก็ผ่านลำบาก มึงอย่าตำหนิลุงนะเจ้า กูไปสองสามครั้งแล้วก็ยังหลง”

“เจ้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลย” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้ม แววตาขบขัน “แค่ถามเอง”

“ก็มึงเหมือนจะเหวี่ยง แล้วปกติเวลารอนานมึงเหวี่ยงตลอด”

“เป็นคนหน้านิ่งอยู่แล้ว” ไอ้เจ้าแย้ง “ว่าแต่เวลาที่รอคุณอะ เจ้าเคยเหวี่ยงเหรอ”

“ก็...ไม่เคย” ธราตอบเสียงอ่อย เขาเถียงไม่ได้เพราะความจริงแล้วไอ้เจ้าไม่เคยบ่นแม้ว่าจะต้องรอเขานานแค่ไหน

“ไม่เปลี่ยนเลยนะครับ” ลุงชันที่กำลังตั้งอกตั้งใจขับรถเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ธราเห็นผ่านกระจกมองหลัง “ไม่เคยโกรธคุณชายได้สักที”

ธรารู้สึกเก้อเขินกับสรรพนามที่ถูกเรียกขาน เขาเคยทักท้วงแล้วว่าให้เรียกเขาแค่ชื่อก็ได้แต่ลุงชันก็ทำเพียงแค่ส่งยิ้มมาให้ ไม่ได้รับปากว่าจะทำตาม

“ดูทำหน้าเข้า” ไอ้เจ้าเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของธราแล้วก็ยิ้มขำ “ให้ลุงเขาเรียกไปเถอะ เพราะเขาก็เรียกคุณแบบนี้มาตั้งแต่คุณเด็กๆ แล้ว”

คิ้วเข้มมุ่นเข้าหากันพลางสบตามองคนพูด “งั้นเหรอ”

“อืม” ไอ้เจ้าพยักหน้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดรูปภาพให้ธราได้ดู “ผมขอให้เพื่อนถ่ายจากอัลบั้มรูปที่คอนโดฯ” ว่าแล้วก็จิ้มนิ้วไปบนรูปของคนสามคนที่กำลังยิ้มกว้างให้กับกล้อง เด็กชายตัวผอมสูงยิ้มกว้างตาหยีอยู่ทางซ้ายของรูป มือผอมจับมือกับเด็กชายตัวอวบขาวซึ่งกำลังยิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่ายและพื้นที่ข้างกันก็มีชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดสูทสีสุภาพนั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีครีม สถานที่ในรูปคงจะเป็นสตูดิโอถ่ายภาพที่ถูกเซ็ตไฟและฉากไว้อย่างลงตัว “คนนี้คือลุงชัน คนนี้คือดินและนี่...”

“มึงเหรอ”

“อืม”

ธราไม่อาจอธิบายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้ เขามองเด็กผู้ชายในภาพสลับกับตัวจริงในปัจจุบันอยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งก็ขมวดคิ้วเพราะกำลังพยายามนึก ค้นเข้าไปในความทรงจำของตัวเอง ทว่าจนแล้วจนรอดก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยเสียที

“ไม่ต้องพยายามจำให้ได้หรอกดิน คุณอย่าฝืนดีกว่า เดี๋ยวจะปวดหัวเปล่าๆ เพราะความเครียดไม่ดีต่อร่างกาย ปล่อยตัวให้สบายๆ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามเรื่องตามราวของมัน” ไอ้เจ้าบอกเสียงนุ่ม แววตาของมันเต็มไปด้วยความห่วงใย “และที่ผมทำอย่างนี้ ผมแค่คิดว่าคุณจำเป็นต้องรู้ว่าใครเป็นใครและใครเคยอยู่ในชีวิตของคุณบ้าง ทั้งลุงชันและเพื่อนที่ผมกำลังจะพาคุณไปเจอก็คือคนที่เคยอยู่ในอดีตของคุณเหมือนกันกับผม คุณอาจจะรู้สึกคลางแคลงใจและเอาแต่ตั้งคำถาม แต่ไม่ว่าคุณจะคิดหรือรู้สึกอะไรก็ตามก็อย่าปิดกั้นความคิดที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปได้” ไอ้เจ้ายิ้ม เป็นรอยยิ้มน่ามองเหมือนกับเด็กชายในรูปภาพ “ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องแพนโดร่าของผมอาจจะไม่ได้ช่วยให้คุณจำอะไรขึ้นมาได้เลย ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้น คุณจะตัดสินใจอย่างไรผมก็เคารพการตัดสินใจของคุณ เพราะสำหรับผมแล้วการที่คุณจำได้หรือจำไม่ได้ มันไม่แตกต่างกันนักหรอก”

“ทำไมมันจะไม่ต่าง เพราะถ้าเมื่อก่อนกูเคยรักมึงมาก...”

“งั้นถ้าคุณจำได้ว่าเราเคยรักกันมากแล้วมันจะเป็นยังไงเหรอดิน” ไอ้เจ้าถามตัดบท ไม่ปล่อยให้ธราได้พูดจนจบประโยค “มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณจำได้แต่คุณไม่ได้รู้สึก ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกันอยู่ดี”

“แล้วมึงจะอยากให้กูรื้อฟื้นความทรงจำทำไม ถ้าคิดว่ายังไงผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม มึงอยากให้กูจำได้ไม่ใช่เหรอว่าเราเคยรักกัน” ธราถามเสียงห้วน รู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เข้าใจความคิดของไอ้เจ้าขึ้นมา

“ครับ ผมอยากให้คุณจำได้ แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่น แต่เป็นเพราะตอนนี้คุณกำลังสับสน” ไอ้เจ้าบอกเสียงเรียบ ไม่อนาทรต่อความหงุดหงิดของธรา “ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าถ้าคุณจำทุกอย่างได้คุณคงเกลียดผม”

เหตุผลของไอ้เจ้าไม่เหมือนจันทร์เจ้า ธรารู้ดีทีเดียวว่าแตกต่างเมื่อสบเข้ากับแววตาเย็นชาของมัน “อยากให้กูเกลียดมึงเหรอ” หัวใจของธราปวดหนึบยามที่ตั้งคำถาม “อยากไปจากกูมากนักเหรอเจ้า”

“ผมไม่เคยคิดอยากไปจากคุณเลยและไม่อยากให้คุณเกลียดผมด้วย” ไอ้เจ้าบอกเสียงแผ่ว “แต่เขามาแล้ว เขาคนที่ทำให้หัวใจของคุณรู้สึกในขณะที่ผมทำไม่ได้ ผมเป็นคนขี้โกงที่ผูกคุณไว้ด้วยความผูกพันโง่ๆ ถ้าผมหายไปตอนนี้คุณก็คงเสียใจซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังเอาไว้ ผมไม่อยากทำให้คุณเจ็บ ผมอยากเห็นคุณมีความสุขและผมอยากแน่ใจว่าคุณจะมีความสุขจริงๆ ในวันที่ผมไม่อยู่”

“อย่าพูด...” ธราร้องห้าม “กูไม่อยากคิดถึงวันที่ไม่มีมึง”

“นั่นเพราะตอนนี้คุณไม่ได้เกลียดผม” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเศร้า “แต่ผมไม่ใช่คนดีหรอกธรา หลังจากที่คุณจำทุกอย่างได้ ผมจะกลายเป็นคนที่คุณเกลียดที่สุดในโลก”

“กูว่ามึงคงคิดผิด” ธราเอ่ยเสียงแผ่ว เขาดึงมือของไอ้เจ้ามากุมไว้แล้วบีบเบาๆ เพื่อส่งผ่านความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอก “เพราะมันไม่มีตัวกูคนที่เกลียดมึงอยู่บนโลกนี้หรอก กูมั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นคนก่อนหรือคนนี้ก็ไม่เคยเกลียดมึงเลย”

เป็นไม่กี่ครั้งที่ธราเห็นน้ำตาของไอ้เจ้า น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลกลิ้งออกจากดวงตาเรียวคม ก่อนที่เจ้าของมันจะรู้ตัวแล้วรีบซ่อนใบหน้า





‘จากนี้ไป...เราจะบอกรักกันไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม’

‘เราต้องทำเหมือนเกลียดกันจริงๆ เหรอ’

‘ถ้าผมทำได้คุณแม่จะให้เจ้าอยู่กับผมหรือเปล่า’

‘แล้วถ้าผมทำไม่ได้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วใช่ไหม’

‘แต่ผมไม่ใช่คนเก่งเลย ให้เกลียดเจ้าใครจะทำได้’

‘ใครจะเกลียดคนที่เป็นเจ้าชีวิตของตัวเองลง’

‘ตัวผมที่เกลียดเจ้าไม่มีอยู่บนโลกนี้หรอก’

‘เพราะผมรัก รักมากๆ’





หัวใจของไอ้เจ้าเจ็บแปลบราวกับถูกของแหลมคมทิ่มแทงครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ ถ้อยคำในความทรงจำยังคงดังก้องอยู่ในหัวเหมือนเทปถูกกรอซ้ำ ตอกย้ำความเจ็บปวดให้ยิ่งฝากรากลึก

“เอาเถอะนะ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย” กว่าถ้อยประโยคนี้จะหลุดออกมาได้ ไอ้เจ้าก็ต้องใช้ความพยายามอยู่มากโข น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยก็สั่นเล็กน้อยแต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติดังเดิม “มาพูดเรื่องของคุณกันต่อดีกว่า”

ธราพยักหน้า เขายอมให้ไอ้เจ้าหยุดประเด็นที่ยากจะหาข้อสรุปนั้นไว้ ในเมื่อเห็นแล้วว่าคงยากเย็นเกินกว่าจะหาความชัดเจนได้ในตอนนี้ อีกทั้งเขาก็ไม่อาจทนเห็นมันต้องเจ็บปวดกับความทรงจำที่มันจำได้อยู่ฝ่ายเดียว เพราะเขาปลอบมันไม่ได้ ถามไปก็คงไม่ได้ความ คนอย่างไอ้เจ้าไม่ค่อยยอมอ่อนแอให้เห็น ไม่เคยบอกสาเหตุที่ตัวเองเจ็บ แม้แต่น้ำตาก็ถือเป็นของหายาก ซึ่งหลายๆ ครั้งที่ธราคิดไปเองว่าความเจ็บปวดและความเสียใจของมันเกิดขึ้นเพราะคนอื่น คนอื่นที่มันบอกว่าเป็นแฟนเก่าที่ไม่สามารถลืมได้ทำให้เขาตีโพยตีพายจนทะเลาะกันไปหลายหน แต่พอมารู้ว่าแท้จริงแล้วนั้นแฟนเก่าที่ว่าก็คือตัวเขาคนก่อน นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยจนพานอยากชกหน้าตัวเองขึ้นมา

“ที่จริงผมศึกษาอาการของคุณมาเยอะเหมือนกัน ในกรณีของคุณมันเกิดขึ้นทั้งการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนและภาวะทางสภาพจิตใจ ในวันแรกที่คุณได้สติแล้วจำใครไม่ได้ ผมก็คุยกับหมอเจ้าของไข้ของคุณทันที” ไอ้เจ้าหยุดพูดเมื่อธรามองหน้ามันราวกับกำลังมีคำถามเป็นร้อยๆ ข้ออยู่ในหัวของเขา

“วันนั้นมึงอยู่ด้วยเหรอ”

“ครับ” ไอ้เจ้ายอมรับพลางพูด “ผมอยู่หน้าห้องของคุณตลอด ผมเฝ้าอยู่ทุกวันก่อนที่คุณจะหายตัวไป”

“พ่อให้ย้ายโรงพยาบาล” ธราบอกพลางนึกทบทวน “ตอนนั้นครบหนึ่งเดือนพอดีแล้วอาการกูก็ดีพอที่จะย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลของเพื่อนพ่อ เขาเป็นหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านสมอง น่าจะดูแลอาการของกูได้ดีกว่า”

“หึ” ไอ้เจ้าทำเสียงในลำคอ แววตาขุ่นเมื่อนึกถึงภาพตัวเองวิ่งเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อตามหาธราในโรงพยาบาล “ย้ายไปไกลถึงไหน นอกโลกเหรอ ทำไมตอนนั้นผมหาคุณไม่เจอ”

“มึงกำลังหงุดหงิดอยู่หรือเปล่าเจ้า”

“อืม” ไอ้เจ้ารับคำพลางพรูลมหายใจเพื่อข่มโทสะที่กำลังแล่นริ้วขึ้นทีละนิดทีละน้อย “นิดหน่อยครับ พอเข้าใจอะไรๆ แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา”

“แล้วคุยกับหมอว่ายังไง” ธรารีบเปลี่ยนประเด็นเพราะแววตาของไอ้เจ้าฉายแววอันตรายไม่ต่างจากหมาบ้า

“อ้อ...เขาบอกว่าสมองของคุณได้รับการกระทบกระเทือน คงใช้เวลาสักครึ่งปีหรือนานกว่านั้นหน่อยที่ความทรงจำจะค่อยๆ กลับมาแต่ก็อาจจะไม่เกินหนึ่งปีซึ่งหมอก็ตอบแน่ชัดไม่ได้ ในระหว่างนั้นก็ต้องมีคนคอยช่วยกระตุ้นความทรงจำของคุณด้วย” ไอ้เจ้าจับจ้องที่ใบหน้าของธรา “แต่ผมคิดว่าคุณไม่มี”

“อืม หลังออกจากโรงพยาบาลกูก็อยู่คอนโดฯ คนเดียวมาตลอด พ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วย พวกเขาอยู่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่ นานๆ ถึงจะบินกลับมาที”

บิดาและมารดาของธราเป็นนักธุรกิจ ทั้งสองคนใช้ชีวิตและดูแลธุรกิจอยู่ต่างประเทศ นานครั้งถึงจะบินกลับมา ทำให้ธราไม่ได้รู้สึกผูกพันกับพวกเขานัก หนึ่งเดือนจะโทรคุยกันหนึ่งครั้ง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและวางสายภายในไม่กี่นาทีจนธราคุ้นชินที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง

“อืม เพราะแบบนั้นผมก็เลยคิดว่าจะลองวิธีของผมดู ตอนนี้ผมมีข้อสมมติฐานอยู่ในใจสองข้อ” ไอ้เจ้าว่าพลางขยับเปลี่ยนท่านั่งหลังจากนั่งอยู่ในท่าเดิมอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง “ข้อแรกผมคิดว่าเพราะคุณใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ สังคมใหม่ ทำให้ไม่มีใครหรือสถานที่ไหนให้คุณได้ฉุกคิดขึ้นมา แต่สมมติฐานข้อนี้ถูกปัดตกไปเมื่อผมอยู่ตรงหน้าคุณ ผมใช้เวลาสองปีโดยที่ไม่สามารถทำให้คุณฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าผมเป็นใคร จนเมื่อคุณเจอใครอีกคนที่ทำให้คุณรู้สึก สมมติฐานข้อสองของผมจึงเป็นไปได้มากกว่าข้อแรก” มันหยุดพูด หยุดไปนานหลายนาทีจนธราถามขึ้น

“ข้อสองคืออะไร”

“คุณต้องการลืมผม หัวใจของคุณปิดตายเรื่องของผมเอาไว้” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มเศร้าที่ธรานึกอยากให้หายไปสักที เพราะถ้ายิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ก็อย่ายิ้มเลย “ไม่ยุติธรรมเลยนะว่าไหม เพราะแค่คุณสบตากับเขา ความพยายามสองปีของผมก็ไม่มีความหมาย”

“ขอโทษ” คำขอโทษของธราดังออกมาจากใจ เขารู้สึกอยากขอโทษ อยากขอโทษไอ้เจ้าเป็นพันๆ ครั้ง “ถ้ากูควบคุมความรู้สึกได้ บังคับมันได้ ตอนนี้เราคงมีความสุขด้วยกัน เพราะในโลกนี้คนที่ดีกับกู ตามใจกู ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับกู ก็มีแค่มึง”

แต่เพราะคุณบังคับมันไม่ได้ ทำให้ไม่ว่าผมจะดีกับคุณ ตามใจคุณ หรือแม้กระทั่งยกทั้งชีวิตของผมให้กับคุณ คุณก็ไม่รักผมอยู่ดี

“ไม่เป็นไรครับ ช่างมันเถอะนะ”

“อย่ายิ้มได้ไหม” ธราอ้อนวอน เขาไม่อยากให้ไอ้เจ้าฝืนอีกแล้ว “ถ้ามันไม่ไหวก็หยุดยิ้มเถอะ”

“ถ้าไม่ให้ผมยิ้ม คุณจะให้ผมร้องไห้เหรอ”

“ร้องสิ ร้องกับกู”

“…”

“ให้โอกาสกูเช็ดน้ำตาให้มึงบ้าง”

“อย่าเลยดิน”

“เจ้า...”

“ต่อให้คุณจะเป็นผ้าเช็ดหน้าที่ดีแค่ไหน ผมก็ไม่ต้องการ”

มีคนเคยพูดไว้ว่าคนที่ทำให้น้ำตาหยุดไหลมักเป็นคนคนเดียวกับที่ทำให้ร้องไห้ แต่ถ้อยความนี้ใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะบาดแผลของคนบางคนก็ลึกจนยากจะเยียวยา



..............TBC..............



ยังอยู่ตรงนี้ถึงแม้จะเหงาและเดียวดาย 
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-01-2019 19:11:55
ปวดตับ สะเทือนไต  :m25:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: มุมิมิ ที่ 28-01-2019 19:16:24
เจ็บหัวใจจจจ :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 28-01-2019 19:48:53
คนพ่อก็บ้ารักลูกเลี้ยง เชื่อลูกเลี้ยง ลูกตัวเองไม่สนใจ

ยืนยันคำเดิมนะเจ้า ไม่ไหวก็ออกมาเถอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-01-2019 19:54:08
พ่อเจ้า พาธราหนีไป เพื่อเปิดทางให้ลูกเลี้ยงเหรอ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 28-01-2019 20:01:48
ถ้ารู้ความจริงแล้ว อย่าเกลียดกันได้ไหม  :katai5: กลัวรับไม่ไหวว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 28-01-2019 20:41:35
หน่วงมากกกกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-01-2019 20:43:33
อยากจะร้องไห้ แต่อ่านแล้วเจ็บจนร้องไม่ออก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 28-01-2019 21:01:34
มีคุณแม่ คุณพ่อ คุณแม่เลี้ยง คุณลูกเลี้ยงมาเกี่ยวพันกันหมดเลย
ชีวิตชุลมุนมากๆ เลยเจ้า :katai1:
แล้วจะรักกันกับดินได้อย่างไร ดูซับซ้อนจนมึนไปหมด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 28-01-2019 21:23:33
หน่วงอะไรเบอร์นี้คะเนี่ยยยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-01-2019 21:31:34
เจ็บเกินบรรยาย มันปวดใจไม่รู้ใครพูดจริงหรือโกหก ได้แต่รอให้ดินจำได้ว่าอะไรเป็นอะไร :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 28-01-2019 21:45:31
หน่วงมาก ความจริงค่อยๆเปิดออกทีละนิด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 28-01-2019 22:54:31
ถ้าวันนึง สุดท้ายแล้วดินจำไม่ได้ ออกมาได้ไหมเจ้า ฮือออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-01-2019 22:56:55
เห้ออออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-01-2019 23:11:13
จันทร์เจ้า คนหลอกลวง   :z6:
ว่าแต่มีใครซักคนไหม ที่จันทร์เจ้า ไม่หลอกลวงเขา  :hao3:
กับดิน รักดิน ทำให้ดินรักเพราะจะเอาชนะท่านเจ้าหรือเปล่า  :m16:

รอกล่องแพนโดราเปิด ...........ถ้าดินรู้ทุกอย่างแล้ว
ยังไงก็ไม่รักเจ้า  :m15:
เจ้าก็ปล่อยมือจากดินเถอะ  :mew2:
ยังมีคนที่ดีกับเจ้า ทั้งแบบเพื่อนแท้  :mew1:
รักเจ้าอย่างจริงใจแบบคนรัก แต่เจ้าไม่เคยสนใจ   :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-01-2019 23:55:41
หนักหน่วง  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-01-2019 00:44:39
หน่วงเข้าไป
นี่อินมากจนเก็บไปฝันเลยจ้า ฮ่าาา
เอ็นดูน้องเอ๋
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 29-01-2019 10:09:48
นาทีนี้ไม่สงสารใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 14 สายสัมพันธ์ ​P.16 28/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 29-01-2019 14:14:01
เหมือนทรมานตัวเอง  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 31-01-2019 19:39:30
ตอนที่ 15 Our love





ที่ไอ้เจ้าบอกว่ามี ‘กิ๊ก’ ของมันอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่จะพาธรามาเจอด้วยนั้นคงไม่ได้ล้อเล่น...

ธรามากับไอ้เจ้าที่ร้านอาหารไทยบรรยากาศดีติดชายทะเลเพื่อกินข้าวเย็นกับเพื่อนของไอ้เจ้าที่นัดหมายกันไว้ ซึ่งเพื่อนที่ว่านั้นมีอยู่สามคน คนแรกชื่อบิน คนคนนี้ธราเคยเห็นมาก่อนแล้วจากรูปถ่ายในตอนที่ไอ้เจ้าประชดประชันเขาด้วยการจะไปนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่บินตัวจริงนั้นตัวสูงและดูดีกว่าในรูปเป็นเท่าตัว หากบอกว่าเป็นนายแบบก็ไม่แปลกใจนัก ส่วนคนที่สองชื่อวิน หนุ่มหน้าแฉล้มอารมณ์ดี ทักทายธราด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร อีกทั้งเสียงหัวเราะของวินก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยราวกับว่าเคยได้ยินบ่อยๆ จากที่ไหนสักที่ซึ่งเขาก็นึกไม่ออก และคนสุดท้ายชื่อจี้ ผู้ชายที่มีส่วนสูงถึงแค่ปลายจมูกของไอ้เจ้า ใบหน้าหวานไม่แพ้จันทร์เจ้าแต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่าง จี้ไม่ได้เป็นมิตรตั้งแต่แรกเห็นและไม่ได้ให้ความรู้สึกอยากเข้าใกล้ ในตอนที่สบตากันครั้งแรกนั้นความรู้สึกไม่สบายใจประดังประเดเข้าหาธราอย่างท่วมท้น เพราะจี้ที่แม้จะมีใบหน้าน่ารักน่ามองแต่แววตาที่ใช้มองธรานั้นกลับเย็นชาและให้ความรู้สึกไม่ได้ยินดีที่เจอกันเลยสักนิด

คนคนนี้คงเป็นกิ๊กของไอ้เจ้า...ธราสรุปความได้ตามนั้นเพราะอีกฝ่ายมองมือที่จับกันของเขาและไอ้เจ้าไม่วางตา

“เป็นอะไร” ไอ้เจ้าเอ่ยถามในขณะที่มันกับธรากำลังนั่งฟังเสียงคลื่นและรับลมเย็นๆ หลังมื้ออาหารเย็นอยู่ที่เก้าอี้ผ้าใบริมหาดซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พัก “หน้าบึ้งเชียว”

“เปล่า” ธราปฏิเสธ มุ่นคิ้วเข้าหากัน “แค่ปวดหัวนิดหน่อย”

มือผอมของไอ้เจ้ายกขึ้นแล้วนวดคลึงขมับให้ คนที่บ่นปวดหัวจึงคลายสีหน้าลงเล็กน้อย “ไม่รีบบอก เมื่อกี้ก็กินข้าวไปนิดเดียว ต่อไปถ้ารู้สึกไม่สบายต้องบอกผมนะ”

“อือ” พยักหน้าแล้วขานรับในลำคอ ก่อนจะหลับตาลงแล้วหวนนึกถึงบทสนทนาระหว่างมื้ออาหารกับเพื่อนของไอ้เจ้าอีกครั้ง “เจ้า”

“หืม”

“กูเคยสนิทกับเพื่อนของมึงจริงเหรอ”

“อืม” ไอ้เจ้าตอบพลางหันมองคนถามที่ตอนนี้แม้จะหลับตาแต่คิ้วเข้มๆ นั้นก็ยังขมวดเข้าหากัน “ทำไมเหรอครับ มีอะไรที่คุณข้องใจหรือเปล่าดิน”

“กูคุ้นคนที่ชื่อวิน” ธราว่า ก่อนจะค่อยๆ ลืมตามองไอ้เจ้า แสงสลัวรอบบริเวณทำให้เห็นสีหน้าของมันไม่ชัดนัก “กับคนชื่อจี้”

“อ้อ…” ไอ้เจ้ายกยิ้ม ใช้มืออีกข้างที่ว่างดึงมือธราไปกุมไว้ “อาจเพราะคุณสนิทกับวินมากๆ เมื่อก่อนมันเป็นเพื่อนซี้ของคุณเลยนะ คุณอยู่กับมันตลอด พักหลังน่ะอยู่ด้วยกันมากกว่าอยู่กับผมอีก”

“แล้วกับจี้” ใช่เพื่อนแน่เหรอ เขาทดประโยคไว้ในใจ เพราะไม่กล้าถามออกไป แม้จะติดอยู่กับความสงสัยนี้ตั้งแต่ที่แยกย้ายกันกลับ เพราะจวบจนถึงวินาทีที่บอกลา จี้ก็ยังไม่พูดกับเขา เอาแต่ใช้สายตาไม่เป็นมิตรจ้องมอง

“ก็เพื่อนของคุณ”

“เหรอ” ธราทวนถามพลางเลิกคิ้ว น้ำเสียงแปร่งไปเล็กน้อยเมื่อพยายามข่มความรู้สึก “เพื่อนแบบไหนวะ”

“ทำไมครับ”

“กูรู้สึกว่าเขาไม่ชอบกู”

ไอ้เจ้าหัวเราะขึ้นมาทันที “ไม่ใช่หรอกดิน จี้แค่เป็นคนขี้อาย หลังจากที่ไม่เจอกันมาหลายปีมันก็คงไม่รู้จะเริ่มพูดกับคุณยังไงละมั้ง ดินอย่าคิดมากเลย จี้ก็เป็นอย่างนั้นเอง ไม่ใช่คนไม่ดี ผมยืนยันได้”

“มึงดูรู้จักเขาดีนะ” น้ำเสียงของธราเต็มไปด้วยความประชดประชัน เขารู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นไอ้เจ้าพูดถึงจี้ด้วยสีหน้าอ่อนโยนแบบนี้ ทีกับเขายังไม่เคยทำสีหน้าอ่อนโยนแบบนี้ให้เห็นบ้างเลย

“แน่นอนครับ” ไอ้เจ้าไม่ปฏิเสธ “ก็เพื่อนของผมเหมือนกัน”

“แน่ใจเหรอว่าแค่เพื่อน” จากสายตาที่มองกัน ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งที่คิดมากเกินกว่าเพื่อน ธราแน่ใจว่าเขาไม่ได้มองพลาด จี้น่ะรู้อกรู้ใจไอ้เจ้า อะไรที่ชอบกินไม่ชอบกิน คนคนนั้นรู้ดี อีกทั้งยังเอาอกเอาใจอย่างออกนอกหน้าในขณะที่ธรานั่งบื้อ ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง

“แล้วคุณจะให้เป็นอะไรล่ะครับ”

“กิ๊กมึงมั้ง”

“ว้า” แววตาของไอ้เจ้าเต็มไปด้วยความขบขัน “รู้ซะแล้ว ว่าจะเฉลยทีหลังนะเนี่ยว่าคนไหนคือกิ๊กของผม แต่คุณก็ไม่เห็นจะยกมือไหว้เลย”

“กูไม่ถีบหน้าหงายก็บุญแล้วไอ้สัด!” น้ำเสียงของธราแข็งกร้าว แววตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด แต่คนฟังไม่กลัวเกรง เอาแต่หัวเราะชอบใจ

“ขี้หึงจังเลย”

“ไม่เล่นนะเจ้า” ใบหน้าขึงขังจริงจังนั้นทำให้ไอ้เจ้าหยุดหัวเราะ “บอกความจริงมาว่าเขาเป็นอะไรกับมึง”

คำถามของธราทำให้ไอ้เจ้าพรูลมหายใจ ก่อนมันจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่แพ้กัน “แค่เพื่อนครับ สำหรับผม จี้เป็นเพื่อนสนิท”

“แล้วอีกฝ่ายล่ะคิดยังไง”

ใบหน้าคมคายระบายยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ธราต้องเบือนหน้ามองไปทางอื่น เขาไม่ได้อยากเห็นรอยยิ้มที่ยืนยันว่าความคิดของเขาถูกต้อง “ไม่ว่าจี้จะคิดยังไง คุณก็ไม่มีอะไรต้องกังวล”

“ทำไมจะไม่มี” ความกังวลของธราเต็มแน่นอยู่ในใจจนเขารู้สึกแย่ เขามีแต่ความไม่รู้และยังหงุดหงิดที่ตนเองกำลังรู้สึกอิจฉา เพราะในขณะที่เขาจำอะไรเกี่ยวกับไอ้เจ้าไม่ได้เลยแต่จี้กลับรู้ทุกอย่าง ทั้งที่เขาเป็นคนรัก ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ยังเป็นแต่กลับแพ้คนที่ไอ้เจ้าเรียกว่าเพื่อนอย่างหมดท่า

ทว่าความกังวลของธราก็คงอยู่ได้ไม่นานเมื่อไอ้เจ้าเอ่ยถ้อยคำที่ราวกับเวทมนตร์ช่วยปัดเป่าเมฆหมอกในใจของเขา แค่เพียงมันพูดว่า “เพราะผมรักคุณ คนที่ผมรักน่ะมีแค่คุณครับธรา”

แค่เท่านั้น...หัวใจของธราก็ถูกเติมเต็ม จากความรู้สึกแย่ที่ทำให้วูบโหวง ตอนนี้กลับเต็มแน่นไปด้วยความสุขใจ

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนดังขัดขึ้น ธราหลุดจากภวังค์ความคิดในขณะที่ไอ้เจ้าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มันมองมาที่เขาด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้เพราะเสียงแจ้งเตือนนั้นไม่ได้ดังจากโทรศัพท์มือถือของมัน





J_Jao : อยู่ไหนครับดิน

J_Jao : ออกมาเจอผมหน่อยได้มั้ย

J_Jao : ผมรู้สึกไม่ดีเลย





ข้อความที่ได้เห็นเรียกความกังวลใจของธรากลับคืน เขาเงยหน้าขึ้นมองไอ้เจ้า ในใจคิดอยากโทรหาคนตัวเล็กเสียเดี๋ยวนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะความรู้สึกผิดที่มีต่อไอ้เจ้าเต็มล้นอยู่ในใจ เขาคิดว่าถ้าหากเขาโทรหาจันทร์เจ้าในตอนนี้แล้วไอ้เจ้าจะรู้สึกอย่างไร เขาห่วงว่ามันจะคิดมาก ห่วงว่ามันจะเจ็บปวด แต่ความเป็นห่วงใครอีกคนกลับมีมากกว่า เขาอยู่กับความลังเลอีกชั่วอึดใจ ทว่าเมื่อตัดสินใจได้ มือผอมของคนที่นั่งเคียงข้างก็จับมือของเขาไว้แน่น

“มีใครกำลังจะตายเหรอถึงได้ทำหน้าแบบนั้น” ไอ้เจ้าเอ่ยถามด้วยเสียงเยียบเย็น “ผมไม่เคยบอกเหรอว่าเวลาอยู่กับผมอย่าทำแบบนี้”

“เจ้า” ธราเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว ก่อนพยายามอธิบาย “กูขอโทษ แต่จันทร์กำลังแย่ เขาต้องเจอเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ”

“ผมไม่รู้ด้วยหรอกเรื่องแบบนั้น” คำตอบของไอ้เจ้าไม่แยแสเหมือนกับแววตาที่มันกำลังใช้จ้องมองธรา “อีกอย่างเขาจะเจออะไรมาก็ไม่เห็นเกี่ยวกับคุณ”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว”

“แล้วคุณเกี่ยวยังไง” ไอ้เจ้าถามต่อ สีหน้าของมันเย็นชาลงทุกขณะ “รักเขาเหรอ”

“เจ้า...” ธราตอบไม่ได้ เขาไม่แน่ใจในคำตอบแต่กลับรู้สึกห่วงใยจันทร์เจ้ามากเหลือเกิน ทุกครั้งที่ออกไปพบก็เพราะคนตัวเล็กบอกว่ารู้สึกไม่ดี ไม่ว่าดึกดื่นแค่ไหนเขาก็พร้อมจะไปหา จันทร์เจ้าอยู่ตัวคนเดียว ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเดี่ยวหลังเล็กเพียงลำพัง ไม่มีเพื่อนหรือใครที่พอจะพึ่งพาได้ อีกทั้งยังมีร่างกายที่อ่อนแอขี้โรค ไม่แข็งแรงเหมือนอย่างคนอื่นๆ เขาจึงรู้สึกว่าไม่สามารถปล่อยคนคนนี้ไว้คนเดียวได้

“จะทิ้งผมไว้ตรงนี้แล้วกลับไปหาเขาหรือไง”

“…”

“ผมพามาไกลถึงที่นี่แล้ว แต่ถ้าคุณยังคิดจะกลับไป ผมว่าเราก็ไม่ต้องเสียเวลายื้อกันต่อ”

ความเด็ดขาดของไอ้เจ้าทำให้ธราแน่ใจว่าถ้าเขาไปคราวนี้มันคงจะหายไปจากเขาตลอดกาล ด้วยความคิดแบบนั้นทำให้เขาไม่กล้าขยับเขยื้อนราวกับถูกโซ่ตรวนล่ามเอาไว้

“เฮ้อ...” ธราถอนหายใจ ก่อนจะตั้งคำถามด้วยความน้อยใจ “ทำไมชอบขู่จะทิ้งกูนักวะ”

คนชอบขู่คลี่ยิ้ม “ไม่อยากให้ขู่ก็เป็นเด็กดี”

เด็กดีของไอ้เจ้าเบ้ปาก แต่ก็ยังไม่คลายความเป็นห่วงที่มีต่อใครอีกคน “แล้วถ้าเขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ล่ะเจ้า ถ้าเขากำลังแย่และต้องการความช่วยเหลือในขณะที่กูเป็นเด็กดีของมึงอยู่ตรงนี้ล่ะ”

“มีแรงพิมพ์มาหาคุณได้คงไม่ได้ใกล้ตายหรอกครับ” ไอ้เจ้าว่าอย่างใจร้าย “แล้วถ้าไม่โง่ เบอร์โทรโรงพยาบาลก็มีเยอะแยะ แจ้งเหตุฉุกเฉินก็ยังได้ ต่อให้จะตายขึ้นมาจริงๆ คนที่อยู่ชลบุรีในตอนนี้อย่างคุณก็ช่วยมันไม่ได้”

“ก็จริงของมึง” อดเห็นด้วยไม่ได้ว่าที่ไอ้เจ้าพูดมานั้นจริงทุกอย่าง “แต่กูก็ยังห่วง”

แววตาของไอ้เจ้าเจ็บปวด แต่ก็เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่มันยอมเผยให้เห็น ก่อนความเย็นชาจะกลบทับจนมิด “อืม คุณก็ห่วงเขามากมาตลอดนั่นแหละ”

“เจ้า” ราวกับเพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอพูดถ้อยคำไม่น่าฟังสำหรับอีกฝ่ายออกไป “กูไม่ได้ตั้งใจให้มึงรู้สึกแย่”

“เพราะความรู้สึกของคุณบังคับไม่ได้อีกใช่ไหม” ไอ้เจ้ายกยิ้ม เป็นอีกครั้งที่มันใช้รอยยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึก “ตลกดีนะ ข้ออ้างนี้ของคุณทำให้ผมโทษอะไรคุณไม่ได้เลย”

“จะโทษกูก็ได้แต่ฟังกูหน่อยได้ไหม” ธราพยายามอธิบายให้ไอ้เจ้าเข้าใจ “จันทร์ตัวคนเดียวนะเจ้า เขาไม่มีใคร ร่างกายก็ไม่แข็งแรง เขาเป็นหอบหืด ต้องใช้ยาพ่นบ่อยๆ ยิ่งเวลาอากาศเย็นๆ อาการของเขาจะแย่มาก มีครั้งหนึ่งที่เขาเกือบตาย ถ้าวันนั้นกูไม่ไปเจอ เขาก็คงแย่ เพราะแบบนี้กูก็เลยเป็นห่วง มันแค่นี้จริงๆ”

“คุณรู้เรื่องของเขาขนาดนี้แล้วคุณรู้อะไรเกี่ยวกับผมบ้าง” ไอ้เจ้าย้อนถาม คำว่าแค่นี้ของธราไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่กลับยิ่งตอกย้ำว่าเขาใส่ใจเรื่องของใครอีกคนมากแค่ไหน “สองปีที่ผมอยู่กับคุณ ช่วยให้คุณรู้จักผมมากขึ้นไหม”

ธราหลุบตาลงต่ำ เขาไม่กล้าพอที่จะมองสบตากับไอ้เจ้า อีกทั้งยังไม่สามารถตอบคำถามของมันได้ เพราะสองปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้เขารู้จักคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิมากพอที่จะพูดได้ว่า ‘รู้จักกันดี’ เขารู้แค่ว่ามันเป็นไอ้เจ้าโรคจิตที่ตามติดเขาไปวันๆ เป็นใครมาจากไหนเขาก็ไม่รู้ ตัวตนของมันแม้แต่นักสืบที่เขาจ้างสืบก็ไม่สามารถระบุประวัติอย่างละเอียดถี่ถ้วนให้ได้ รู้แค่ว่ามันไม่ใช่คนธรรมดา แม้จะชอบทำตัวเหมือนยาจกก็ตามที ไอ้เจ้าน่ะเหมือนลมเพลมพัด มาๆ หายๆ นึกจะมาให้เห็นหน้าก็ตามติดจนน่ารำคาญ แต่พอนึกจะหายไปก็หายไปจนเขาห่วงว่ามันไปทำอะไรอยู่ที่ไหน

“แค่เพราะเขาทำให้คุณเห็นว่าเขาอ่อนแอ คุณก็เลยอยากปกป้องเหรอ” ไอ้เจ้าถามต่อพลางเหยียดยิ้มหยัน “งั้นถ้าผมทำให้เห็นบ้าง คุณจะห่วงผมเท่าที่ห่วงเขาหรือเปล่า”

“มึงเป็นคนเข้มแข็ง ทุกครั้งที่มองไปที่มึงกูจะรู้สึกปลอดภัย มึงเป็นเซฟโซนที่กูขาดไม่ได้ แค่มีมึงอยู่ด้วยกูก็รู้สึกว่ากูจะผ่านทุกปัญหาไปได้อย่างง่ายดาย” ธราบอกเสียงเบา เขาเลือกที่จะมองไปยังท้องทะเลมืดมิดแทนที่จะมองใบหน้าของคู่สนทนา “ต่อให้ตอนนี้กูกำลังลอยคออยู่กลางทะเลมืดๆ นั่นกูก็ไม่กลัวถ้ามีมึงอยู่ด้วย เพราะกูรู้ว่ามึงต้องพยายามหาทางพากูกลับเข้าฝั่งจนได้ แต่ทั้งที่มึงเข้มแข็งกูก็ยังห่วง กูห่วงมึงไม่น้อยกว่าเขาหรอกเจ้า เพราะมึงไม่เคยบอกเลยว่าจริงๆ แล้วรู้สึกยังไง สองปีที่อยู่ด้วยกัน มีสักกี่ครั้งที่มึงเผยความรู้สึกให้เห็น มีสักกี่ครั้งที่ยอมให้กูทำความรู้จัก แล้วมึงจะคาดหวังให้สองปีที่ผ่านมาของเราเป็นแบบไหน คาดหวังให้กูรู้จักมึงมากในระดับไหนกัน”

ไอ้เจ้ามองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้าเช่นกัน มันมองนิ่งนานก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “เป็นสองปีที่แย่หรือเปล่านะ”

“แรกๆ มันก็แย่เพราะมึงไม่ได้เข้ามาเหมือนคนปกติ แต่หลังจากนั้น...ไม่มีวันไหนเลยที่ทำให้รู้สึกไม่ดี” ธราแน่ใจในถ้อยคำที่ได้พูดออกไป ไม่มีคำโกหกแม้แต่คำเดียวอยู่ในนั้น มีแต่ความรู้สึกที่ชัดเจนของเขาว่าการที่มีในไอ้เจ้าอยู่ในทุกๆ วันของชีวิตไม่ใช่เรื่องไม่ดี

“ผมควรต้องยิ้มกับคำพูดนี้หรือเปล่า”

“ก็แล้วทำไมไม่ยิ้ม”

“เพราะอยากร้องไห้มากกว่า” คนที่บอกว่าอยากร้องไห้นั้นยังคงเอาแต่ยิ้ม ทว่าแววตาเศร้าสร้อยเหลือเกิน เพียงแต่ว่าธราไม่อาจเห็นได้้เพราะเขายังมองตรงไปเบื้องหน้า ในขณะที่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ละสายตาไปจากคลื่นที่กำลงซัดเข้าฝั่ง “กลับห้องของเรากันมั้ยครับ ดึกแล้ว คุณคงอยากพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแต่เช้าด้วย”

“อืม” ธรารับคำอย่างเห็นด้วย “รู้สึกเพลียเหมือนกัน”

“งั้นไปกันครับ” ไอ้เจ้าลุกขึ้นยืนก่อนแล้วส่งมือให้ธรา ในขณะที่เขายื่นมือไปจับไว้แล้วลุกขึ้นตาม

การเดินทางกลับ ‘ห้องของเรา’ นั้นใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ระหว่างทางที่เดินเคียงกันไปก็ไร้บทสนทนา จวบจนเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกก็ยังไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาและเมื่อประตูปิดลงไอ้เจ้าก็ปล่อยมือธราแล้วแยกตัวไปที่ครัว ทิ้งให้เขายืนเคว้งอย่างไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหนดี เขารู้สึกเคอะเขินราวกับนี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ได้อยู่สองต่อสองกับไอ้เจ้า ทั้งที่ผ่านมาก็อยู่กับมันมาตลอด แต่ที่ห้องนี้ให้ความรู้สึกพิเศษต่างออกไป ความรู้สึกของธราบอกแบบนั้น

ธรากลับมาที่ห้องนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกที่มาก็ได้ตกลงเป็นแฟนกับไอ้เจ้า ได้สวมแหวนที่มันมอบให้แล้วมีมันอยู่ในอ้อมกอดไปจนถึงเช้า ซึ่งครั้งนั้นก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้เห็นคนอย่างเจ้า จักรพรรดิ ร้องไห้ราวกับจะขาดใจ เขาจึงไม่แน่ใจว่าเพราะแบบนั้นไหมจึงรู้สึกพิเศษขึ้นมา

“ดื่มน้ำครับ” ไอ้เจ้ากลับมาพร้อมกับแก้วน้ำ มันยื่นแก้วไปให้ธราที่นั่งอยู่บนพนักโซฟาซึ่งกำลังกวาดสายตามองไปรอบห้อง เขาหันมองไอ้เจ้าเพียงครู่แล้วรับแก้วไปไว้ในมือ จากนั้นจึงยกขึ้นดื่ม ก่อนจะวางลงบนที่ว่างข้างกาย “คุณไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวผมไปหาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยน กางเกงเก่าๆ ของคุณน่าจะยังพอใส่ได้”

“เจ้า”

“หืม”

“ทำไมถึงเรียกว่าห้องของเรา” ธราไม่เก็บความสงสัย เขาถามออกไปตามตรง

“เพราะเป็นห้องของเรา” ไอ้เจ้าตอบง่ายๆ ความไม่ซับซ้อนของคำตอบทำให้ธราขมวดคิ้ว มันจึงพูดต่อ “เป็นห้องของผมกับคุณ เราเคยอยู่ด้วยกันที่นี่” แววตายามพูดเต็มไปด้วยความสุข “อยู่กันแค่สองคน มีแค่คุณกับผม”

“งั้นนอกจากเพื่อนที่อยากพามาเจอแล้ว ก็อยากพามาที่นี่เหรอ”

“ครับ” ตอบพลางยิ้มสำทับ “เพราะมาคราวก่อนคุณยังไม่ได้เห็นห้องที่ผมล็อกเอาไว้”

“แล้วคราวนี้...”

“ผมจะเปิดให้คุณได้ดู” รอยยิ้มของไอ้เจ้ากว้างขึ้นจนหัวใจของธราเต้นรัว “ความทรงจำของเรา”

ธราราวกับคนละเมอ เขายื่นมือไปจับใบหน้าของไอ้เจ้า ความรู้สึกเศร้าใจพวยพุ่งแต่เขาไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้ “เป็นความทรงจำที่ดีหรือเปล่า” เขาถาม น้ำเสียงแผ่วเบาราวกับไม่มั่นใจว่าอยากรับฟังคำตอบ

“ดียิ่งกว่าดี”

รอยยิ้มบนใบหน้าคมคายยืนยันคำว่าดีให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ธราคลี่ยิ้มตาม เขาบีบจมูกไอ้เจ้าแล้วขยี้ศีรษะของมัน “ขี้โม้หรือเปล่ามึงน่ะ”

“ก็ลองดูก่อนครับว่าจะดีจริงอย่างที่ผมบอกไหม”

“แล้วถ้าได้เห็น แต่กูยังจำไม่ได้ล่ะ”

“ก็ไม่เป็นไร” ไอ้เจ้าตอบจากใจ คำตอบของมันไม่ได้เสแสร้งแต่กลับรู้สึกจริงๆ ว่าต่อให้ธราจะจำไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่มันต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว “ผมก็ยังยืนยันนะว่าทุกสิ่งที่ผมทำก็แค่บอกเพื่อให้คุณรับรู้ ส่วนคุณจะจำได้หรือไม่ได้ จะรู้สึกหรือไม่รู้สึก ผมก็ไม่ได้บังคับ แต่ขอแค่อย่าปิดกั้นความจริง อย่าปฏิเสธความเป็นไปได้ที่มันจะเกิดขึ้น เพราะถ้าคุณไม่เชื่อ นั่นแหละถึงจะเป็นปัญหา”

ธราพยักหน้า ไม่แย้งหรือต่อความให้ยืดยาวไปมากกว่านั้น ในเมื่อไม่มีเรื่องใดเลยที่เขาจดจำได้ก็ต้องปล่อยให้ความรู้สึกเป็นตัวตัดสิน จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขอให้ได้รู้ได้เห็นก่อนก็แล้วกัน

“ตอนนี้ไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ วันนี้ความรู้สึกของคุณคงตีกันวุ่นจนเหนื่อย แต่น้ำอุ่นๆ จะช่วยให้คุณผ่อนคลายนะ แช่น้ำสักหน่อยคงดีขึ้น”

“อือ” ธราขานรับ ก่อนถาม “มึงอาบด้วยกันมั้ย”

แววตาของไอ้เจ้าวูบไหว “ได้เหรอ”

“ทำไมจะไม่ได้”

“ก็มีเหตุผลที่มันไม่ได้อยู่นะ” และเหตุผลที่ว่านั้นกำลังเฉือนเนื้อหัวใจของไอ้เจ้าอย่างเงียบๆ

“มึงไม่ใช่คนมีเหตุผลหรอก” ธรามองลึกเข้าไปในดวงตาของไอ้เจ้าผู้ที่ตอนนี้ซ่อนเก็บความปรารถนาของตนเองเอาไว้ “กูรู้”

“ครับ” ไอ้เจ้ายอมรับ “ผมทิ้งเหตุผลตั้งแต่ชอบกินอมยิ้มของคุณแล้ว”

“กินอีกมั้ย” ธราเชิญชวน เขาดึงมือข้างที่ว่างของไอ้เจ้ามาจับที่กลางกายของตัวเอง “ไม่ได้กินนานแล้วนี่”

ใบหน้าของไอ้เจ้าร้อนผ่าวเมื่อมือของมันจับต้องสิ่งแข็งขืน ความรู้สึกผิดบาปก็ไม่อาจต่อสู้กับความต้องการในใจได้ “อยากกินจนตัวสั่นเลยครับที่รัก”

น้ำเสียงกระเส่าที่ตอบรับกลับมาทำให้ธราอดที่จะรู้สึกไม่ได้ “แล้วรอช้าทำไม” เสียงที่เอ่ยนั้นแหบพร่า ยิ่งเมื่อถูกมือบางลูบไล้ก็ยิ่งทำให้เสียงของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา “มากินสักทีครับเจ้า”

“คำพูดของคุณเหมือนถีบประตูนรกให้เปิดออกเลยดิน” แววตาของไอ้เจ้าสั่นระริก มันขยับเข้าใกล้ธรามากยิ่งขึ้น ก่อนจะค่อยๆ กดจูบลงบนลำคอหนา ใบหน้าของมันเริ่มซุกไซ้เข้าหาผิวเนื้ออ่อนแล้วฝากฝังรอยลงไป

“ใช่นรกที่ไหน” ธราแย้งเสียงสั่น โอบแขนเข้ากับเอวของไอ้เจ้าแล้วดึงรั้งเข้าแนบชิด จงใจให้กลางกายของเขาบดเบียดกับกลางกายของอีกฝ่าย “มองดีๆ สิเจ้า สวรรค์ไม่ใช่เหรอ”

“อืม” ไอ้เจ้างึมงำเพราะริมฝีปากยังไม่ละจากซอกคอของธรา “เค็ม”

“ก็ยังไม่ได้อาบน้ำ” ธราออกตัวพลางผลักใบหน้าของไอ้เจ้าให้ออกห่าง “เค็มแล้วยังดูดอยู่ได้”

“ก็อยาก” ไอ้เจ้ายอมรับอย่างไม่อาย “เพราะงั้นควรไปต่อในห้องน้ำแล้วจังหวะนี้”

รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของคนทะลึ่งทำให้ธราถึงกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “ปากเก่งทุกที แต่แก้ผ้าต่อหน้ากูสักครั้งมึงยังไม่กล้า”

“เคยแก้แล้ว แต่คุณไม่มองเอง” คนถูกกล่าวหาว่าปากเก่งได้ทีเถียง

“ตอนนั้นใครจะอยากมอง อยู่ดีๆ ก็มีคนโรคจิตมาแก้ผ้าให้ดู” ธราว่าพลางหวนนึกถึงตอนที่ไอ้เจ้าแก้ผ้าท้าลมอยู่ที่ระเบียง นึกไปแล้วตอนนั้นเขาเกือบแจ้งตำรวจให้มาจับมัน

“ที่แก้ก็เพราะรู้ว่าคุณไม่มองนี่แหละ”

“กวนตีนจริงๆ” นึกหมั่นไส้จนต้องดีดหน้าผากมันไปหนึ่งที “กล้าให้มันถูกทางหน่อย”

ไอ้เจ้าหัวเราะชอบใจ “คุณอยากเห็นผมเปลือยให้ดูเหรอ”

“กูอยากเห็นมึงทุกซอกทุกมุม” ธราเอ่ย แววตาของเขาไม่ปิดบังความต้องการ “อยากรู้ว่าคนของกูจะน่ามองแค่ไหน”

คำว่าคนของกู ทำให้หัวใจของไอ้เจ้าเต้นกระหน่ำ แค่เพียงถ้อยคำไม่กี่คำจากธราก็กำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจได้ขนาดนี้...คงไม่แปลกเลยที่ความรักของเขาจะกำหนดลมหายใจของไอ้เจ้าด้วย

“ถ้าไม่ติดว่าเสื้อตัวที่ใส่อยู่ราคาแพง ผมจะกระชากทิ้ง” ไอ้เจ้าแสร้งทำหน้ากระเหี้ยนกระหือรือ มือของมันยึกยักอยู่ที่คอเสื้อ ทำท่าจะกระชากอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่ทำสักที

“ตัวละเท่าไร” ธราใจป้ำ เขามองอย่างลุ้นตามไปด้วย “กูจ่ายชดใช้ให้ได้ แพงแค่ไหนก็จ่ายไหว”

“199 จากตลาดนัด” ไอ้เจ้ายิ้มเผล่ตอบ

“ต้องถุยน้ำลายเพื่อตบมุขมึงมั้ย” ถึงกับหงุดหงิดใจจนอยากตบกบาลคนขี้เล่นให้แยก “เอาดีๆ”

“ถ้าไม่ปิดไฟผมก็ไม่มั่นใจจะให้คุณเห็นหรอกดิน” ไอ้เจ้าไม่เคยให้ธราได้เห็นผิวกายภายใต้เสื้อผ้าที่มันส่วมใส่อย่างจริงจังเลยสักครั้ง ถ้าไม่นับตอนที่มันแก้ผ้าในครั้งนั้น ธราก็ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นอีกเลย แม้จะเลยเถิดกันหลายครั้งจนเกือบจะตกต้องเป็นของกันและกันแต่เขาก็ยังได้แค่สัมผัส ไม่เคยได้เชยชมชัดๆ แต่ละครั้งถ้าไม่ปิดไฟก็อย่าหวังเลยว่าไอ้เจ้าจะยอมให้เอาเปรียบ “ผมไม่น่ามองหรอกที่รัก”

“น่ามองหรือไม่กูจะตัดสินใจเอง”

“ต้องเป็นคนหื่นแค่ไหนอะถึงอยากให้คนอื่นแก้ผ้าให้ดู” แสร้งทำหน้าตกใจก่อนจะเล่นใหญ่ “คุณตำรวจจจจ มีคนหื่นอยู่ทางนี้ค่าาาา คุณตำรวจคะคุณตำรวจ” ดัดเสียงอ่อนเสียงหวานไม่พอยังแสดงเก่งเหมือนผู้หญิงกำลังจะโดนโรคจิตลวนลามอย่างสมจริง

“มึงนี่ชอบลองดีจริงๆ ไอ้เจ้า” ธราว่าเสียงเหี้ยม แม้สีหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความจริงจังแต่คนชอบลองดีก็ไม่กลัวเกรง จนต้องสั่งสอนให้รู้ความเสียบ้าง ทันเท่าความคิดมือหนาของธราก็จับมือผอมบางของไอ้เจ้าเอาไว้แล้วออกแรงกระชากเสื้อที่เจ้าของมันบอกว่าซื้อจากตลาดนัดมาในราคาหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาทจนกระดุมหลุดออกจากเนื้อผ้า “หึหึ” เสียงหัวเราะไม่ต่างจากคนโรคจิตในบทบาทสมมติของไอ้เจ้าดังขึ้นเมื่อเห็นผิวกายขาวละเอียด ในขณะที่คนถูกกระทำชะงักงัน

ธรากวาดสายตามอง เขาจดจ้องที่หน้าท้องแบนเรียบของมันเรื่อยขึ้นไปจนถึงแผ่นอกแคบ วนเวียนสายตาอยู่กับเม็ดทับทิมสีสวยทั้งสองข้างจนเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างนึกอยากลิ้มลอง ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ตรงรอยแผลเป็นกลางอกที่ค่อนไปทางขวามือเล็กน้อย รอยแผลเป็นที่เป็นตำหนิเพียงจุดเดียวบนความสวยงามนี้ทำให้เขายกมือขึ้นลูบไล้เบาๆ อย่างไม่รู้ตัว

“ดิน” ไอ้เจ้าจับมือของธราไว้พลางร้องเรียก “ไปอาบน้ำเถอะครับ ผมบอกรอบที่เท่าไรแล้วนะ”

“ได้มายังไง” ธราไม่ยอมละความสนใจ เขาตั้งคำถามและไม่ละสายตาจากรอยแผลเป็นนั้น รอยแผลเป็นที่แค่ใช้นิ้วสัมผัสเบาๆ ก็รู้สึกว่าไอ้เจ้าเกร็งตัวขึ้นมา “รอยแผลที่เหมือนรอยของกระสุนปืนนี่ มึงได้มายังไงเหรอ”

“จำไม่ได้แล้วครับ”

โกหก...ไอ้เจ้าโกหกเขา ทำหน้าเจ็บปวดขนาดนั้นแล้วจะให้คิดว่าจำไม่ได้ได้ยังไง “ยังเจ็บอยู่มั้ย”

“ครับ เจ็บอยู่ตลอดเวลา”

“ใครทำ”

“ผมจำไม่ได้” ไอ้เจ้าบอกพลางเลี่ยงที่จะสบตากับธรา แววตาที่หลบไปนั้นวูบไหว ปิดซ่อนความรู้สึกและฝังความทรงจำเกี่ยวกับรอยแผลนี้ไว้กับตัว

“เจ้า...” ปฏิกิริยาของไอ้เจ้าทำให้ธรารู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะเขาไม่รู้เลยว่าในความทรงจำที่เขาจำไม่ได้นั้น เขาได้ทำเรื่องเลวร้ายลงไปบ้างไหม เขากลัวจริงๆ ว่าตัวเขาคนก่อนจะเป็นคนไม่ดีถึงขั้นทำร้ายไอ้เจ้าได้ลง “กูไม่ได้เป็นคนทำใช่มั้ย"

ไอ้เจ้าหัวเราะจนอกกระเพื่อม “บ้าแล้ว คุณยิงปืนเป็นที่ไหนกัน”

“กูอาจจะเคยยิงเป็นก็ได้” ศีรษะของธราเริ่มหนักอึ้ง ตรงขมับเต้นตุบๆ ปวดร้าวจนต้องหลับตาลง

“ต่อให้ยิงเป็น” ไอ้เจ้าพูดพลางใช้มือนวดขมับให้ธรา สีหน้าของเขากำลังแย่เต็มที “แล้วความรู้สึกของคุณน่ะคิดจะยิงผมเหรอ”

ธราส่ายหน้าเร็วๆ “แค่เห็นรอยแผลเป็นของมึงกูก็รู้สึกแย่มากๆ กูคงรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายถ้าลงมือยิงมึงจริงๆ แต่มีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นใช่ไหมถึงทำให้มึงได้รอยแผลนี้มา มีคนทำร้ายมึงเหรอเจ้า มันเป็นใคร แล้วทำไมต้องทำมึงด้วย ตอนนี้มันโดนจับไปหรือยัง จะย้อนกลับมาอีกไหม มึงปลอดภัยหรือเปล่า กูจะช่วยได้ยังไงเจ้า ถ้ามึงเป็นอะไรขึ้นมากูควรทำยังไงดี”

“ดิน...อย่าเพิ่งคิดมาก” น้ำเสียงของไอ้เจ้าอ่อนโยน มันปลอบประโลมคนที่กำลังวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี “ตอนนี้ผมไม่เป็นไร โอเคไหม สูดหายใจเข้าลึกๆ ครับ”

ธราทำตามที่ไอ้เจ้าบอก เขาค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วผ่อนออกมาช้าๆ ทำอยู่อย่างนั้นสามสี่ครั้งจนรู้สึกดีขึ้น

“โอเคนะ”

“อืม”

“ไปครับ ไปอาบน้ำกันสักที เชื่อผมเถอะว่าน้ำอุ่นๆ ช่วยคุณได้”

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 31-01-2019 19:40:05
คราวนี้ไอ้เจ้าไม่ทำแค่พูด มันจูงมือธราไปที่ห้องน้ำ จัดการเตรียมน้ำในอ่างให้แล้วบอกธราให้ไปทำความสะอาดร่างกายที่ใต้ฝักบัวก่อนจะลงไปแช่น้ำอุ่น ซึ่งเขาก็ทำตามอย่างไม่อิดออด พอจัดการชำระล้างเหงื่อไคลแล้วก็ก้าวลงอ่างโดยมีไอ้เจ้าทำหน้าที่นวดผ่อนคลายให้

เพราะเห็นธราเปลือยจนชินตาแล้วไอ้เจ้าจึงไม่รู้สึกเคอะเขิน แต่ไหล่กว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาก็ยังทำให้หัวใจเต้นรัวไปด้วยความปรารถนาอยู่ดี ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็ไม่เคยห้ามใจได้เลย

“อยากกัดกล้ามของคุณ” ไอ้เจ้าสารภาพ ความต้องการกำลังทำให้ใบหน้าของมันขึ้นสีระเรื่อ ลมหายใจกระชั้นเล็กน้อยราวกับคนกำลังอดกลั้น

“เอาสิ” ธราเอ่ยอนุญาต “กัดแรงๆ เลยนะ”

เมื่อได้รับคำอนุญาต คนชอบกัดก็ฝากรอยฟันไว้บนผิวเนื้อ หนึ่งรอยที่ท้ายทอย หนึ่งรอยที่ลำคอ และอีกหนึ่งรอยที่ต้นแขน ในขณะที่ธราได้แต่นิ่วหน้า ยอมรับความเจ็บโดยไม่ปริปากบ่น

“เจ็บมั้ยครับ” เมื่อทำเสร็จก็เอ่ยถามพลางใช้ลิ้นอุ่นร้อนของตัวเองเลียบาดแผลให้ “ผมขอโทษที่อดใจไม่ไหว”

“เจ็บ แต่ไม่เป็นไร” ธรายอม เขามักจะยอมโดยไม่มีเหตุผลและเลิกหาเหตุผลตั้งแต่ที่มีคนชื่อเจ้า จักรพรรดิเข้ามาในชีวิต ทั้งที่ไม่ชอบแต่ก็ขัดไม่ได้ ทั้งที่เจ็บแต่ก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร เขาเป็นแบบนั้นเสมอมา

“ผ่อนคลายบ้างมั้ย”

“ก็ดีขึ้น คงเพราะมึงนวดให้ด้วย”

“ดีแล้วครับ”

“เจ้า”

“หืม”

“รอยแผลนั่นจะไม่เป็นไรใช่ไหม” ธรายังไม่คลายความกังวล เขายังคิดวนเวียนถึงสาเหตุ ยังคงจินตนาการถึงคนร้ายไร้ใบหน้าที่กำลังยกปืนขึ้นเล็งยิงไอ้เจ้าจากที่ไหนสักแห่ง “มึงหายดีแล้วใช่หรือเปล่า”

“อย่ากังวลเรื่องของผมเลย” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเมื่อธราลืมตาขึ้นมองมัน “ผมอยู่กับมันได้”

“ที่บอกว่ายังเจ็บอยู่” ใบหน้าหล่อเหลายิ่งกังวลมากขึ้น “หมายถึงว่ามันยังเจ็บอยู่จริงๆ เหรอ”

“ครับ ก็นิดหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมอยู่กับความเจ็บนี้จนชินแล้ว” ไอ้เจ้าตอบแค่นั้นแล้วไม่อธิบายเพิ่มเติม ต่อให้ธราจะตั้งคำถามถึงการรักษาหรือสาเหตุที่ได้รอยแผลมา มันก็ไม่ได้ให้คำตอบใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย

หลังจากนั้นอีกสิบนาทีต่อมาธราก็อยู่ในชุดเสื้อยืดผืนบางขนาดพอดีตัวกับกางเกงขายาวที่ไอ้เจ้าเตรียมเอาไว้ให้ ในขณะที่คนเตรียมเสื้อผ้าให้เขาขอตัวเข้าไปอาบน้ำบ้าง เขาจึงนอนรอที่เตียงโดยเลือกหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลารอ ไม่สนใจที่จะตอบกลับข้อความของจันทร์เจ้า แม้ตอนนี้จะมีโอกาสแล้วแต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยการแจ้งเตือนค้างไว้อย่างนั้น

“ทำอะไรครับ คิ้วขมวดเชียว” คนที่ออกจากห้องน้ำมาในชุดนอนเอ่ยถามขึ้น กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำทำให้ธรายกมือขึ้นกวักเรียกให้เข้าไปใกล้ ซึ่งไอ้เจ้าที่แม้จะเลิกคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็เดินไปหาธราอย่างไม่อิดออดและเมื่อเข้าไปในระยะความยาวของท่อนแขนแกร่ง ตัวของมันก็ถูกดึงให้ลงไปนอนทับเจ้าของอกกว้างทันที

“อืม” ธราส่งเสียงในลำคอ เขาสูดดมความหอมจากซอกคอของไอ้เจ้าเข้าเต็มปอด แน่ใจว่าใช้ครีมอาบน้ำขวดเดียวกัน ทว่ากลิ่นครีมอาบน้ำจากตัวของไอ้เจ้าหอมกว่าเป็นไหนๆ “เคยบอกหรือยังว่าชอบกลิ่นจากตัวมึง”

“หมายถึงกลิ่นครีมอาบน้ำเหรอครับ” ไอ้เจ้าถามเสียงแผ่ว หัวใจของมันเต้นโครมครามเพราะกำลังถูกกอดรัด

“ไม่รู้ แต่ครีมอาบน้ำที่มึงใช้กูก็ใช้ด้วย แล้วทำไมไม่หอมเหมือนกันล่ะ”

“งั้นคงขึ้นอยู่กับหน้าตาคนใช้แล้วล่ะ” ด้วยเพราะตอบยียวนจึงโดนเขกหัวเข้าให้

“อยู่ดีๆ ก็หาเรื่องให้ตบตี มึงนี่จริงๆ เลย” ธราส่ายหน้าอ่อนใจ ไอ้เจ้าน่ะชอบทำลายบรรยากาศอยู่บ่อยๆ บางทีอารมณ์กำลังได้ที่มันก็กวนตีนเสียจนอยากประเคนเท้าให้มากกว่าจูบอย่างร้อนแรง

“แล้วเมื่อกี้คุณทำอะไรอยู่เหรอ”

“เล่นเกม”

ไอ้เจ้ามีสีหน้าไม่เชื่อ ทำให้ธรายื่นโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้ามัน “อะไรครับ”

“เอาไปดู” ธราบอก “ดูสิว่าไม่ได้คุยกับใคร ข้อความของจันทร์ก็ยังไม่ได้อ่านไม่ได้ตอบเลย”

ไอ้เจ้าเบ้ปาก ก่อนพูด “ยังไงคุณก็ตอบอยู่ดี จะช้าจะเร็วก็ไม่เห็นต่าง”

“สำหรับกูมันต่าง” ธรารู้ดีว่าความรู้สึกของเขาในตอนนี้เป็นแบบไหนและมีความรู้สึกใดที่โดดเด่นขึ้นมา “สำหรับคนที่รอการตอบกลับก็คงต่างเหมือนกัน”

“ถ้างั้นคุณก็ควรรีบถ้าไม่อยากเสียเขาไป” ไอ้เจ้าแนะแต่ธราส่ายหน้า

“ไม่เคยพูดสักทีว่าเสียเขาไปไม่ได้” จันทร์เจ้าเป็นความสบายใจ แต่หากจะไม่มีเขาก็ไม่ได้ทุรนทุราย ทว่าคนที่เป็นความว้าวุ่นใจอย่างไอ้เจ้า กลับขาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว “ตอนนี้กูอยากอยู่กับมึงมากกว่า”

คำพูดของธราทำให้ไอ้เจ้ายิ้มจนตาหยีและเป็นรอยยิ้มที่สะกดสายตาของเขาได้เป็นอย่างดี เขาคิด...คิดจริงๆ เลยว่าพระจันทร์เสี้ยวดวงนี้สวยกว่ามาก...มันสวยกว่าพระจันทร์ดวงไหนๆ ที่เขาเคยเห็น สวยราวกับได้เห็นในความฝันมานับครั้งไม่ถ้วน

“ยิ้มขนาดนี้...แสดงว่ามีความสุขมากเหรอ” ธราถามราวกับคนที่กำลังต้องมนตร์ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความลุ่มหลงเมื่อมองรอยยิ้มตรงหน้า

“ครับ เพราะคุณน่ะเก่งเรื่องให้ความหวัง” ไอ้เจ้ายอมรับ หัวใจพองโตราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลม พร้อมที่จะล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้างไกล แต่จะลอยจนถึงสวรรค์ไหมก็ไม่มีทางรู้ได้

“มึงก็เก่งเรื่องคิดไปเอง” ธราปัดปอยผมหน้าม้าออกจากหน้าผากเนียน ก่อนจะกดริมฝีปากแนบลงไป ความอุ่นนุ่มจากสัมผัสทำให้ไอ้เจ้าหลับตาลงเพื่อซึมซับความรู้สึกนี้เอาไว้ “กูพูดจริงก็หาว่าให้ความหวัง”

“ใครจะรู้ใจคุณ” ไอ้เจ้ากระซิบ ฟังดูเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับธรา แต่คนที่มันนอนเกยอยู่นี้คงได้ยิน

“อืม ก็ไม่แปลกที่มึงไม่รู้” ธราพรูลมหายใจพลางยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มเนียนที่ตอนนี้แนบอยู่กับอกกว้างของเขา ในขณะที่เจ้าของแก้มนอนหลับตาฟังเสียงหัวใจของเขาไปด้วย “เพราะขนาดกูที่เป็นเจ้าของยังไม่รู้เลยว่ามันรู้สึกยังไงกับมึง”

“ดิน” ไอ้เจ้าลืมตาขึ้นสบมองกับเจ้าของชื่อ

“ว่าไง”

“ไปที่ห้องนั้นกัน”

คำชักชวนที่ได้ยินทำให้หัวใจของธราเต้นกระหน่ำ เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของไอ้เจ้าก่อนจะพยักหน้า จากนั้นจึงลุกเดินตามกันไปที่ ‘ห้องนั้น’ ห้องที่อยู่ถัดจากห้องที่เขากำลังนอนและถูกล็อกด้วยแม่กุญแจขนาดใหญ่ คล้องโซ่อย่างแน่นหนาราวกับต้องการป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปยุ่มย่าม

ธรายืนรอในขณะที่ไอ้เจ้าจัดการปลดพันธนาการประตู ตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรก็บอกไม่ถูก อาจจะทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นราวกับคนป่วยโรคร้ายแรงที่รอคำวินิจฉัยจากหมอว่าจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกนานเท่าไร ความรู้สึกของเขาเป็นแบบนั้นและเมื่อประตูถูกเปิดออก ไฟในห้องติดสว่างเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ในห้อง เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว จนไอ้เจ้าต้องจับที่ข้อมือของเขาไว้แล้วดึงให้เดินตาม

“อาจจะมีฝุ่นนิดหน่อยนะ เพราะลุงชันไม่ว่างเข้ามาทำความสะอาดให้หลายวันแล้ว” ไอ้เจ้าบอกในขณะที่ธรากวาดสายตามองรอบห้อง

ที่ถูกเรียกว่าห้องแห่งความทรงจำก็คงไม่ผิดมากนัก เพราะในห้องรูปตัวแอลนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของธรากับไอ้เจ้า บนผนังมีกรอบรูปที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของคนทั้งสอง ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ไม่มีช่วงเวลาไหนที่พื้นที่ข้างๆ ดิน ธรา จะไม่มีคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิยืนอยู่ด้วย ทั้งสองมักจะยืนเคียงกันและจับมือกันไว้ พร้อมกันนั้นก็ฉีกยิ้มกว้างให้กับกล้อง รอยยิ้มของเจ้า จักรพรรดิในตอนนั้นเต็มไปด้วยความสุข ช่างห่างไกลจากรอยยิ้มของไอ้เจ้าในตอนนี้นัก ทว่าในบรรดารูปถ่ายเหล่านั้นกลับมีเพียงรูปเดียวที่แตกต่าง รูปถ่ายที่มีขนาดใหญ่กว่ารูปอื่นๆ และกินเนื้อที่บนผนังไปกว่าครึ่ง มันเป็นรูปที่อยู่ในกรอบสีไม้ซึ่งทำจากวัสดุชั้นเยี่ยม ในรูปนั้นธราถูกไอ้เจ้ากอดไว้จากข้างหลัง เป็นรูปที่สีหน้าของไอ้เจ้าเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย

“ไอ้วินถ่ายให้” ไอ้เจ้ากระซิบข้างหู มันกำลังสวมกอดธราเหมือนในรูป ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันไม่ถึงห้าเซนติเมตรทำให้ไม่เป็นอุปสรรคนักที่จะเกยคางไว้บนไหล่หนา “ตอนนั้นคุณโกรธผม ผมตามง้ออยู่นานเลย ไอ้วินแค่อยากถ่ายมาแซวแกล้งคุณทีหลัง แต่รูปนี้มันถ่ายได้ดีผมก็เลยขอมาจากมัน”

“เจ้า” ธราร้องเรียกเสียงเบา “เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”

“ตั้งแต่คุณห้าขวบ”

ใบหน้าหล่อเหลาของธราเต็มไปด้วยความสงสัย “ที่บ้านกู...หมายถึงบ้านพ่อแม่ไม่มีรูปมึงอยู่เลย ถ้ามึงอยู่ด้วยตั้งแต่เด็ก มันก็ต้องมีรูปของมึงบ้างใช่ไหม ต่อให้จะเป็นเด็กที่อยู่ข้างบ้านหรือในซอยเดียวกัน แต่ถ้าเป็นเพื่อนเล่นกันก็ต้องมี” มีบางอย่างที่ไม่ลงล็อกในความรู้สึกของธรา ถ้าไอ้เจ้าอยู่กับเขามาตั้งแต่เด็กแล้วทำไมพ่อกับแม่ของเขาไม่เคยพูดถึงมัน ตามปกติแล้วการพูดถึงเพื่อนของลูกชายที่สนิทกันมากขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่หรือ ทว่าทำไม... “เจ้า มีอะไรที่ไม่ได้บอกหรือเปล่า”

สีหน้าของคนที่พร้อมจะตอบคำถามทำให้ธรานึกหวั่นใจ “มีครับ”

ศีรษะของธราหนักอึ้งราวกับถูกของหนักหลายสิบตันถ่วงเอาไว้ บางแห่งในใจกรีดร้องให้เดินออกจากห้องแต่เท้าของเขาไม่ขยับ “ถ้า...ถ้าเป็นเรื่อง” ลมหายใจของเขาสะดุด พูดแทบไม่เป็นคำด้วยอะไรบางอย่างที่แล่นขึ้นมาจุกที่คอจนอยากจะอาเจียน “ถ้ามันเป็นเรื่องที่กูไม่ควรรู้ ก็ไม่ต้อง...”

“คุณควรรู้ครับ เพราะนอกจากผมจะเคยเป็นคนรักของคุณแล้ว ผมยังเป็นพี่ชายของคุณ” ไอ้เจ้าบอกเสียงเรียบ สีหน้าไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใดของมันเผยให้เห็นเพียงครู่ ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม “ในทางกฎหมายน่ะครับ คุณเป็นน้องชายบุญธรรม”

ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบรัดหัวใจของธราจนรู้สึกเจ็บ “แล้วเราก็เป็นคนรักกันเหรอ”

“ครับ” น้ำเสียงของไอ้เจ้าหนักแน่น แววตาเศร้าสร้อยของมันยืนยันได้ชัดถึงความเป็นจริง “เราเป็น”

“ความรักของเราในตอนนั้นมันถูกต้องใช่มั้ย” ธราถามอย่างไม่แน่ใจ ทั้งศีรษะและหัวใจปวดร้าวจนไม่รู้ว่าตรงตำแหน่งไหนที่เจ็บปวดมากกว่ากัน

“เราไม่ใช่สายเลือดเดียวกันนี่ครับ” น้ำเสียงของไอ้เจ้าแปร่งไปเล็กน้อยเมื่อพูด “หรือถ้าใช่จริงๆ แล้วมันยังไง”

“แล้วพ่อกับแม่...” ธรายังจับต้นชนปลายไม่ถูก ตอนนี้ข้อมูลในหัวของเขาผิดเพี้ยนไปหมด จากที่เคยมั่นใจในตัวตนของตัวเอง แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกเลือนรางลงไปทุกที เขาไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเขาคือคนที่ชื่อ ดิน ธรา หรือเป็นใครคนอื่นกันแน่ เขาเป็นใครมาจากไหน พ่อกับแม่ที่แท้จริงเป็นใคร ราวกับตัวตนของเขาถูกอุปโลกน์ขึ้นมา

“ผมไม่ได้สนใจคนอื่น” ไอ้เจ้ากอดรัดธราแน่นขึ้น “ผมไม่เคยสนใจใครเลยนอกจากคุณ ต่อให้จะผิดหรือไม่ผิด ตัวผมก็รักคุณอยู่ดี ความจริงข้อนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย”

“กูปวดหัว” ธราเอ่ยเสียงแผ่วอย่างทรมาน “เหมือนมันจะระเบิดเลยเจ้า”

“เรารักกันมากนะดิน” ไอ้เจ้าย้ำ ไม่ยอมปล่อยธราออกจากอ้อมแขน “เราวางแผนที่จะแต่งงานกัน วางแผนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ผมเป็นครึ่งชีวิตของคุณ คุณเป็นอีกครึ่งชีวิตของผม แหวนที่คุณใส่ก็คือแหวนแต่งงานของเรา ผมอยากให้คุณจำแค่เรื่องนี้ได้ อยากให้คุณจำได้ว่าคุณเคยรักผมมากแค่ไหน”

“เจ้า...” น้ำเสียงของธราอ่อนแรงแต่อีกคนไม่สนใจฟัง

“ผมรักคุณ รักคุณ จำผมได้หรือเปล่าดิน ผมคนที่รักคุณ ผมคนที่เป็นเจ้าชีวิตของคุณ เป็นพระเจ้าของคุณ” ไอ้เจ้าเฝ้ากระซิบ บอกย้ำคำว่ารักในขณะที่ธราตัวสั่นเทา น้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงตาของเขาปิดสนิท ความปวดร้าวที่ศีรษะทำให้ดวงตาพร่าเลือน หัวใจของเขาก็ปวดแปลบราวกับถูกทิ่มแทงด้วยของมีคม เขากำลังทรมานแต่คนที่พร่ำพูดว่ารักไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ

“ขอร้อง...เจ้า” ธราอ้อนวอน “กูขอร้อง พอสักที”

ราวกับเพิ่งรู้ตัว ไอ้เจ้าหน้าซีดเผือดและเมื่อมันคลายอ้อมแขน ธราก็ทรุดฮวบลงกับพื้น เขาตัวสั่น นอนคุดคู้อยู่ตรงนั้น น้ำตาไหลพรากด้วยความทรมาน สองมือยกขึ้นกุมศีรษะ ครวญครางราวกับสัตว์บาดเจ็บ

“ผมขอโทษ...” น้ำตาของเจ้า จักรพรรดิหลั่งไหล พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งแล้วช้อนศีรษะคนรักขึ้นมาบนตัก ก่อนจะกอดไว้แน่นแล้วพร่ำพูดคำขอโทษที่หวังช่วยบรรเทา แต่ธรายังคงทรมาน คำขอโทษไม่เคยช่วยอะไร

ท้ายที่สุดแล้วคนที่ทำให้ธราต้องเจ็บปวดก็ยังคงเป็นคนที่ชื่อ เจ้า จักรพรรดิคนนี้อยู่ดี

.

.

“ท่าน มันหลับไปแล้วเหรอ” เสียงของจี้ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด ธราที่กำลังอยู่ในช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่นถึงกับหยุดหายใจเมื่อได้ยินเสียงไม่คุ้นหูนี้ เขาควานมือไปข้างกายก็พบกับความเย็นชืดของที่นอน ไม่พบเจ้าของร่างผอมที่นอนหลับในอ้อมกอดไปพร้อมกัน

ไอ้เจ้าคงอยู่ข้างนอกกับเจ้าของเสียงที่ธราได้ยิน...

จี้...คนที่บอกว่าเป็นแค่เพื่อนมีธุระสำคัญหรือไงถึงได้มาหาในเวลานี้...

ตีสามสี่สิบห้านาทีใช่เวลาที่เหมาะสมต่อการพบเจอกันหรือ...

“หลับไปแล้วตั้งแต่ตอนสี่ทุ่ม ค่อนข้างแย่เลยวันนี้” เสียงของคนที่ควรจะนอนอยู่เคียงข้างธราตอบกลับ “ไอ้วินกับไอ้บินล่ะ”

“อยู่กับเมีย” จี้ตอบ “กำลังชดเชยให้กับพวกเมียๆ ของมันเพราะท่านเรียกรวมตัวกะทันหันก็เลยอดกินข้าวเย็นด้วยกัน ทำตัวครอบครัวสุขสันต์แต่ที่จริงก็นอกใจกันเป็นว่าเล่น”

“หึ ก็มองโลกในแง่ร้ายไป” เสียงของไอ้เจ้ากลั้วหัวเราะ ยิ่งได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้ธราอยากเห็นสีหน้าของมัน เขาลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู พยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเมื่อจับลูกบิดประตูแล้วเปิดออก แค่แง้มเป็นช่องเล็กๆ ก็เห็นแล้วว่าคนทั้งสองที่กำลังพูดคุยกันนั้นอยู่ตรงไหน

ไอ้เจ้านั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่จี้คุกเข่าอยู่ตรงหน้า มือเล็กนั้นกำลังนวดคลึงเท้าทั้งสองข้างของไอ้เจ้าที่วางพาดอยู่บนหน้าตัก “แล้วนี่ทำไมเท้าระบมขนาดนี้ ตรงนี้ก็เป็นแผล”

“มาเพราะเรื่องนี้เหรอ” ไอ้เจ้าเอ่ยถามพลางทอดสายตามอง “ไม่เปลี่ยนเลยนะ ช่างสังเกตเหมือนเดิม”

“ถ้าเป็นเรื่องของท่าน ยังไงก็ต้องรู้” จี้ตอบแล้วเงยหน้าขึ้นสบตา “แค่ท่าเดินผิดไปนิดเดียวก็รู้แล้ว แต่ท่านไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง ไปทำอะไรมา”

“เดินคิดอะไรเพลินไปหน่อย”

“ไกลมากไหม”

“สิบกิโลได้มั้ง”

จี้ได้ยินก็ถอนหายใจ “ที่บอกว่าไปเจอมันมาน่ะเหรอ”

“อืม พอแยกย้ายก็เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนถึงห้องเพื่อน”

“ไม่ดีเลยแบบนี้” สีหน้าของจี้เต็มไปด้วยความห่วงใย “ท่านควรรู้ได้แล้วว่าตัวเองสำคัญมากแค่ไหน”

ไอ้เจ้าส่ายหน้า “สำคัญกับใครก็ไม่มีความหมาย ถ้าไม่ได้สำคัญกับคนที่อยากสำคัญ”

“ไม่มีแม้กระทั่งกับกูเหรอท่านเจ้า” จี้ถามพลางกดริมฝีปากลงบนหลังเท้าของไอ้เจ้า ภาพที่เห็นทำให้ธรานิ่งค้าง ความปวดร้าวแล่นริ้วขึ้นที่ศีรษะทีละนิด สะสมมากขึ้นจนแทบระเบิด ภาพจำที่น่าเศร้าประดังประเดเข้ามาจนดวงตาของเขาพร่าเลือน เขาค่อยๆ คลานกลับไปที่เตียงอย่างยากลำบาก ความปวดร้าวที่ศีรษะยิ่งรุนแรงเมื่อเสียงของจี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัว เสียงที่ไม่น่าฟังและไม่น่าจดจำ แม้ในยามที่ยกมือขึ้นปิดหูก็ยังคงได้ยิน เขาพยายามหลับตา กล่อมตัวเองให้หลับใหลจะได้ไม่ต้องรับรู้สิ่งใดอีกและไม่นานเขาก็ทำสำเร็จ เสียงของจี้หายไป แทนที่ด้วยความฝันแสนหวานที่เขาชอบที่จะฝันถึงอยู่บ่อยๆ

.

.

“อย่าถามในเรื่องที่มึงก็รู้อยู่แล้ว”

“เอาเถอะ” จี้ตัดบท ไม่อยากฟังถ้อยคำที่ตอกย้ำตัวเองไปมากกว่านี้ “ว่าแต่ที่อกเป็นยังไง ยังเจ็บขึ้นมาอีกไหม”

“มันก็เจ็บอยู่เรื่อยๆ” มือบางยกขึ้นลูบที่บริเวณอกด้านขวา “แต่ไม่ได้รบกวนอะไร กูยังใช้ชีวิตได้ปกติ”

“บอกมันเรื่องนี้หรือยัง”

“ไม่จำเป็น” ท่านเจ้าพูดขึ้นในทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลาไตร่ตรองนาน

“แต่มันก็ควรรู้” จี้แย้งอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดของท่านเจ้า คนที่แสนสำคัญที่สุดในชีวิตของจี้นั้นไม่เคยคิดห่วงตัวเองเลย “มันควรรู้ว่าในตัวของท่านมีไอ้สิ่งที่เหมือนระเบิดเวลาฝังอยู่ในนั้น ควรให้มันได้เห็นรอยแผลที่ทำให้มันยังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เผื่อว่ามันจะจำเรื่องของท่านขึ้นมาได้บ้าง”

“กูไม่อยากให้ดินเป็นห่วงหรือเป็นกังวล” รอยยิ้มของท่านเจ้าเศร้าสร้อยเมื่อเอ่ยถึงคนสำคัญ “ในตอนที่ดินเห็นรอยแผล สีหน้าก็แย่เต็มที ดินเอาแต่ถามว่าได้มายังไง ยังเจ็บอยู่ไหม มีแต่ความกังวลเต็มไปหมดจนกูรู้สึกแย่ตามไปด้วย เพราะฉะนั้นอย่าให้เรื่องของกูไปเพิ่มความทุกข์ใจให้ดินเลย แค่ที่แบกรับอยู่ทุกวันนี้ก็หนักหนาเต็มทีแล้ว”

“แต่บางทีท่านก็ควรอ่อนแอบ้างท่านเจ้า ให้โอกาสมันได้เป็นห่วง ได้ดูแล”

“ให้สำออยเป็นคนขี้โรคเหมือนจันทร์เลยหรือเปล่า” ท่านเจ้าย้อนถามพลางคลี่ยิ้มหยัน “กูจำไม่เห็นได้ว่ามันเป็นหอบหืด เมื่อก่อนน่ะชอบชวนดินออกไปเล่นน้ำฝน ทำตัวเหมือนเด็กสามขวบวิ่งไล่จับกัน ดินป่วยกลับมาแทบทุกครั้งในขณะที่มันไม่เป็นอะไรเลย ภูมิคุ้มกันดีจนกูคิดว่ามันจะไม่ป่วยตายแน่ แต่คงตายสักวันเพราะความตอแหล”

จี้หัวเราะเบาๆ “สันดานมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มันน่ะชอบเรียกร้องความสนใจจนท่านกลายเป็นตัวร้าย ชอบทำตัวอ่อนแอใสซื่อ ทั้งที่อยากได้น้องชายของท่านจนตัวสั่น”

“น้องชายเหี้ยอะไรจี้” ท่านเจ้ามองเพื่อนสนิทตาขวาง

“งั้นก็เอาที่ท่านสบายใจ” จี้ไม่อยากต่อความให้ยืด พูดแล้วก็ถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะปล่อยมือออกจากข้อเท้าของท่านเจ้าแล้วกลับขึ้นมานั่งโซฟาตามเดิม “แล้วนี่นายหญิงว่ายังไงบ้างเรื่องที่ท่านไม่กลับไปตามสัญญา”

“ไม่รู้” ท่านเจ้าตอบง่ายๆ “ไม่ได้คุยกับแม่นานแล้ว”

“เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก” จี้เตือนด้วยความห่วงใย ตกใจอยู่เหมือนกันที่ได้ยินคำตอบที่ไม่คาดคิดนี้ เพราะจี้รู้ดีว่านายหญิง ท่านแม่ของท่านเจ้าเป็นคนแบบไหนและคนที่รู้ดีที่สุดอย่างท่านเจ้ากลับเพิกเฉย สีหน้าไม่อนาทรร้อนใจยิ่งทำให้จี้เป็นกังวล

“ก็เป็นเรื่องอยู่แล้ว ไม่งั้นแม่คงไม่ปล่อยให้มันกลับมา” แววตาของท่านเจ้าเครียดขรึมเมื่อพูดถึงมารดา “กูรู้ดีนะจี้ว่าดันทุรังต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ ทั้งที่เรื่องนี้มันควรจะจบตั้งแต่วันนั้น แต่กูกลับไม่ยอมให้มันจบลง” มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบใบหน้าที่ปรากฏความทุกข์ใจให้เห็น “กูผิดเองที่กลับมาเป็นเรื่องแย่ๆ ในชีวิตของดินอีกครั้ง ผิดเองที่จะทำให้เขาต้องตกลงไปในนรกอีกหน มึงห้ามหรือใครห้ามกูก็ไม่ฟังเลย ขอโทษที่ต้องเป็นแบบนี้ ขอโทษจริงๆ นะจี้”

“ท่านขอโทษมากเกินไปแล้ว” จี้ยกมือขึ้นบีบไหล่แคบของท่านเจ้าอย่างปลอบประโลม “ท่านผิดตรงไหนกัน ท่านไม่ผิดเลยสักนิด พระเจ้าทำอะไรก็ไม่ผิดนะท่าน รู้ไว้ด้วย”

ท่านเจ้าหัวเราะขึ้นในทันที “จะอวยอะไรขนาดนั้น”

“ก็จริงนี่ ต่อให้ใครจะมองว่าท่านผิด แต่ท่านถูกเสมอในสายตาจี้คนนี้”

“คงมีแต่มึงที่เข้าใจ” ท่านเจ้ามองสบตากับคนหน้าหวานที่นั่งเคียงข้าง แววตาหวานที่มองมานั้นไม่เคยปิดบังความรู้สึก “ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี มึงก็เป็นคนเดียวจริงๆ ที่เป็นความสบายใจของกู”

“เป็นความสบายใจที่ไม่ใช่ความรักของท่านใช่ไหม”

“ขอโทษนะจี้” ท่านเจ้าบอกกับคนที่ยังคงคลี่ยิ้มส่งมาให้ “มึงน่ะควรมีความรักดีๆ ได้แล้ว คนดีๆ ยังมีอีกเยอะ”

“ใครจะดีกว่าท่านอีกท่านเจ้า” จี้เอ่ยถามเสียงแผ่ว “ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอเลย”

“ไม่เปิดใจหรือเปล่า”

“ก็เหมือนกับท่าน”

“ยอกย้อนนัก” ท่านเจ้ายกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มของคนหน้าหวาน ก่อนจะชะงักมือแล้วผละออกห่างเมื่อพบว่าใบหน้าอยู่ใกล้กับอีกฝ่ายมากเกินไป

“ท่าน”

“หืม”

“ในตอนนั้น” จี้หยุดพูดไปเพียงครู่ ก่อนจะพูดต่อเมื่อรวบรวมความกล้าได้ “กูสงสัยมาตลอดว่าสำหรับท่านแล้ว...มันดีมั้ย คือ...กูหมายถึง...”

“ดีสิ” ท่านเจ้าตอบกลับก่อนที่จี้จะทันได้พูดจนจบประโยค “มึงเป็นเรื่องดีๆ สำหรับกูมาตลอดนั่นแหละ”

“…”

“ร้องไห้จนได้” พูดพลางดึงคนที่ร้องไห้ออกมาเงียบๆ มากอดปลอบ “ขี้แยเหมือนเดิมเลย ต่อหน้าไอ้วินกับไอ้บินล่ะทำเก่ง”

“ฮึก…” เสียงสะอื้นเบาๆ ดังไม่ขาดสาย จี้ซุกใบหน้าลงกับอกของคนสำคัญด้วยความคิดถึงจับขั้วหัวใจ ความคิดถึงที่ไม่สามารถส่งไปถึงได้นั้นช่างทรมาน

“ขอโทษที่เอาแต่ใจแล้วทำให้มึงต้องเหนื่อยมาตลอด ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรมึงก็คอยตามแก้ให้ กูเป็นเพื่อนที่ขยันสร้างเรื่องแต่มึงก็ไม่เคยบ่นเลย เวลากูมีเรื่องทุกข์ใจมึงก็เป็นคนแรกที่รู้ทุกที มึงเป็นทุกอย่างเพื่อกูจริงๆ จี้ แต่สัญญาได้มั้ยว่าจะรักตัวเองให้มากเท่าที่รักกู ถ้าวันหนึ่งกูต้องตกนรกก็อย่าตกไปกับกูด้วย มึงต้องมีชีวิตของตัวเองนะจี้ ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ ไม่ต้องคอยห่วงกูแล้ว”

คนที่ไม่เคยรักตัวเองมากเท่ารักธรากลับกล้าให้จี้สัญญาแบบนี้ก็เป็นเรื่องตลกดีเหมือนกัน แต่สีหน้าจริงจังของท่านเจ้าทำให้คนฟังพยักหน้ารับอย่างจำยอม

“ข้ออื่นน่ะรับปากได้อยู่หรอกท่าน แต่ไม่ให้ห่วงคงทำไม่ได้” จี้พูดขึ้นพลางผละออกจากอ้อมแขนของท่านเจ้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตามองดวงตาเรียวสวยบนใบหน้าคมคาย สีดำราวกับท้องฟ้ายามราตรีสะท้อนเงาของจี้อยู่ในนั้น “เพราะท่านทำแต่เรื่องน่าห่วงแถมยังไม่ค่อยดูแลตัวเอง"

“ก็มีจี้ดูแลแล้วไง”

“อย่ามาพูดแบบนี้!” จี้แหวกลับ “ท่านอยู่ให้ดูแลที่ไหนกัน”

“เอาน่า” ท่านเจ้ารีบพูดเมื่อจี้มองตาคว่ำ “ไม่ต้องห่วงๆ อยู่ทางนั้นก็มีเพื่อนที่พึ่งพา”

“ไอ้เด็กท่าทางเมากาวคนนั้นน่ะเหรอเพื่อนของท่าน” จี้ถามอย่างไม่อยากเชื่อ เคยให้วินเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามดูความเคลื่อนไหวของท่านเจ้าเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่วินหายไปสามวันแล้วสุดท้ายก็กลับมาพร้อมรูปถ่ายของท่านเจ้ากับเด็กหัวฟูหน้าตาเอ๋อๆ คนหนึ่ง ถามคนที่ถูกส่งเข้าเมืองกรุงก็ได้ใจความแค่ว่าท่านเจ้าอยู่กับเด็กคนนี้บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมไปมากกว่านั้น ทำให้ทั้งจี้และบินต่างเดากันไปต่างๆ นานาว่าเด็กในรูปนั้นเป็นใคร

“อย่าว่าเอ๋!”

จี้ส่ายหน้าระอาทันทีที่เห็นท่านเจ้าเป็นเดือดเป็นร้อน “ใช้ชีวิตบ้าบออยู่ได้ ท่านน่ะไม่ใช่คนที่จะเที่ยวเล่นได้ขนาดนั้นนะ ถ้าเกิดนายหญิงรู้เข้า...”

“วันๆ แม่ยุ่งจะตาย” ท่านเจ้าพูดอย่างขอไปที เพราะรู้ดีว่าที่พูดออกมานั้นก็แค่คาดเดาเพื่อความสบายใจของตน

“นายหญิงก็ต้องว่างสักวันนั่นแหละท่าน” แต่จี้กลับดับฝัน พูดความจริงที่รู้กันอยู่แล้วออกมา

“ก็ให้แม่ว่างก่อนแล้วกันนะ แต่ตอนนี้ง่วงมาก แยกย้ายกันเถอะ ใกล้สว่างแล้วด้วย”

“อืม ใกล้ได้เวลาที่ไอ้บินจะมารับพอดี” จี้พูดเมื่อก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ เวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเดินทางเข้าใกล้ตีห้าอยู่รอมร่อ “ยังไงท่านก็ดูแลตัวเองด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้รีบโทรมา ไม่ว่าดึกหรือไกลแค่ไหนก็จะไปหา”

“ได้”

“แล้วก็...”

“หืม”

“ถ้าวันหนึ่งท่านเหนื่อยจนไปต่อไม่ไหวแล้วก็บอกกัน” จี้กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “จะรีบไปรับกลับทันที”

ท่านเจ้าพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ถึงวันนั้นก็ฝากด้วยนะ”

หากพูดถ้อยคำที่อยู่ในใจออกไปได้ ก็คงจะบอกกับท่านว่า พอเถอะนะ กลับมาได้แล้ว กลับมาในที่ที่คู่ควรกับท่านเสียที แต่เพราะไม่มีสิทธิ์พูดออกไปก็คงทำได้แค่เคารพการตัดสินใจของท่าน



.............TBC............

ภาพจำของเรามันคงต่างกัน :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-01-2019 20:06:51
รักดินนี่ มันเหนื่อยมากเลยนะ ท่าน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 31-01-2019 20:52:09
จะมีตอนไหนมั้ย.. ที่น้ำตาไม่ไหลลล..
ฮรุก..ๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 31-01-2019 20:55:02
ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่เข้าใจเหมือนว่าใคร ๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ไปซะหมด :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 31-01-2019 22:05:16
นายหญิงหรือจันทร์ตอแหลกันแน่ที่เป็นตัวแปรอดีตความรักของดินกับเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 31-01-2019 22:34:36
* จันทร์ตอแหลจะแย่งดินจากเจ้าเพราะเป็นเพียงหนึ่งอย่างที่คิดว่าถ้าทำให้ดินรักได้นั่นคือการชนะเจ้าได้สักเรื่อง
** ท่านแม่กีดขวางความรักของเจ้ากับดิน
***ดินมักเข้าใจเจ้าผิดว่าเจ้าชอบทำร้ายจันทร์
****มีคนจะยิงดินแต่เจ้าไปขวางทางปืนเลยโดนเอง..หรือดินเป็นคนยิงเจ้า ???!  :katai1:

ฯลฯ

เดาล้วนๆๆๆ  :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 31-01-2019 22:55:04
รักดีๆอยู่ข้างๆตลอดนะเจ้า
รักที่ให้ไปแบ้วต้องทนเจ็บกับคนโลเล เอากลับมาแล้วให้คนที่ควรเถอะนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 31-01-2019 22:57:00
 ไม่เข้าใจเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-01-2019 23:00:20
รักดินนี่ มันเหนื่อยมากเลยนะ ท่าน  :เฮ้อ:

จริง........ที่สุด  :hao5: :sad4: :mew2:
ลุ้นนนน   :z3: :z3: :z3:
จันทร์ ที่ตอแหล มีแต่เล่ห์เหลี่ยม........  :fire: :angry2: :m31:
เมื่อไหร่ดินจะรับรู้ซะทีนะ   :mew2: :serius2: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-02-2019 00:57:18
หน่วงมันเข้าไป น้ำตาไหลพรากอย่าได้หยุด
ไม่ไหวค่ะขอไปเมากาวกับน้องเอ๋ดีกว่า
โลกความจริงมันโหดร้ายเกินไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 01-02-2019 03:04:58
ทีมเจ้าเอ๋ค่ะ เน่จะยืนหนึ่งในทีมนี้ ดินเจ้าอะไรไม่รู้จัก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-02-2019 03:41:54
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ อยากรู้ใจจะขาดแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-02-2019 06:52:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 01-02-2019 11:03:00
แผลนั่นได้มาก็เพราะธราสินะ
อึดอัดมาก หงุดหงิดด้วย
มีแต่เรื่องที่ไม่รู้เต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 15 Our love ​P.17 31/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 01-02-2019 14:40:02
อ่านแต่ละตอนนี่กลัวตัวเองจะตายมาก หัวใจเต้นทั้งเร็วทั้งแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา รู้ว่าทรมานแต่ก็ยังทนอ่าน อินเกินไปจริงๆ :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 01-02-2019 16:33:28
ตอนที่ 16 Our happiness





“ลุงชันครับ เมื่อไหร่เจ้าจะกลับมา” ธราในวัยสิบห้าปีกำลังตั้งคำถามซ้ำซากกับลุงชันที่ก็ให้คำตอบอย่างไม่นึกรำคาญ เพราะไม่ว่าจะถามกี่ครั้ง คนสนิทของท่านเจ้าก็ยิ้มอย่างใจดีเสมอ

“อีกไม่นานหรอกครับคุณชาย” ลุงชันก็ให้คำตอบแน่นอนไม่ได้ ทว่าก็ไม่อยากให้คุณชายของบ้านกังวลไปมากกว่านี้ กว่าจะกลับมากินข้าวกินปลาได้ก็ใช้เวลาตั้งหลายวัน ขืนบอกไปว่าท่านเจ้าไม่มีกำหนดกลับคงได้กลับไปอดข้าวอีกเหมือนเดิม

“เมื่อสองเดือนก่อนลุงก็บอกว่าอีกไม่นาน” คนพูดทำหน้าหงอย เริ่มรู้แล้วว่ามันเป็นคำโกหก “เจ้าจะไม่กลับมาแล้วเหรอครับ”

“ท่านไปคราวนี้ไม่ได้บอกไว้ครับว่าจะกลับเมื่อไหร่” ลุงชันสารภาพ “นายหญิงก็ไม่ได้พูดอะไร ลุงขอโทษนะครับที่ต้องโกหก”

“ไม่เป็นไรครับลุง ผมเข้าใจ”

ธราไม่ถือโทษ เขาเบือนหน้ามองออกไปทางนอกหน้าต่างรถที่กำลังแล่นฉิวมุ่งสู่คฤหาสน์หลังงามของตระกูลเวชธาดา ท้องฟ้าที่เห็นในยามนี้เป็นสีอมส้ม เวลาเย็นย่ำแบบนี้การจราจรมักจะติดขัด กว่าจะหลุดออกจากแยกไฟจราจรได้ก็ติดอยู่ตรงนั้นราวครึ่งชั่วโมง แต่เขาไม่ได้หงุดหงิดเลย กลับคิดว่าหากติดอยู่ตรงนั้นนานอีกสักหน่อยก็คงดี เพราะการกลับไปบ้านที่ไม่มีท่านเจ้าก็ไม่ต่างกับการนั่งกร่อยอยู่บนรถท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดนัก

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากไม่มีท่านเจ้าก็เหงาไม่ต่างกัน

“คุณชายทะเลาะกับท่านหรือครับ” ลุงชันเอ่ยถามพลางเหลือบมองธราผ่านกระจกมองหลัง เมื่อเห็นดวงหน้าอ่อนเยาว์เศร้าสร้อยก็สรุปความได้ “น่าแปลกใจนะ ปกติท่านเจ้าไม่เคยโกรธคุณชายลงสักครั้ง”

“ผมไม่ดีเองครับลุงชัน” ธราว่า “ผมพูดไม่ดีกับเจ้า จี้บอกว่าเจ้าร้องไห้ บอกว่าเจ้าจะไม่กลับมาแล้ว ผมผิด ผมไม่ดีเอง เจ้าก็เลยทิ้งผมไป”

ลุงชันได้แต่รับฟังเงียบๆ ปล่อยให้ธราได้ระบายความในใจ เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีพูดไปพลางร้องไห้ไปพลาง การแยกจากกันกับท่านเจ้าในครั้งนี้สร้างบาดแผลขนาดใหญ่ขึ้นในใจ บาดแผลที่คงมีแค่คนที่ทิ้งไปเท่านั้นที่จะเยียวยาให้หายได้ แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าคนคนนั้นจะกลับมารักษาให้เมื่อไหร่

“ถ้าเจ้ากลับมาผมจะเป็นเด็กดี ผมจะไม่ดื้อ จะไม่ขัดใจเจ้าอีกแล้ว ลุงชันบอกเจ้าให้ผมได้ไหมครับ” ธราอ้อนวอน น้ำตาไหลอาบแก้มแต่ก็ไม่ยอมเช็ดออก ผ่านมาสองเดือนแล้วแต่เขาก็ยังคงทำได้แค่รอ เพื่อนในกลุ่มบอกให้เขาอดทน คุณพ่อก็ไม่เคยกลับบ้านมาให้คำตอบว่าจะติดต่อเจ้าได้อย่างไร ครอบครัวของเขาในตอนนี้แยกกันไปคนละทิศคนละทาง ทุกคนทิ้งเขาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง โดยมีลุงชันคอยทำหน้าที่รับส่งไปโรงเรียนและมีแม่บ้านคอยทำอาหารให้กินในแต่ละมื้อเท่านั้น “ผมพึ่งใครไม่ได้แล้ว คุณพ่อก็อยู่แค่ที่บริษัท ทำแต่งาน พอถามเรื่องเจ้ากับคุณแม่ คุณพ่อก็ตัดสาย ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”

“คุณชายใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” ลุงชันปลอบโยน สงสารเด็กหนุ่มจับใจแต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี “ลุงจะพยายามติดต่อนายหญิงให้”

“ขอบคุณครับ” ธรายกมือไหว้ รู้สึกซาบซึ้งใจเพราะรองจากท่านเจ้าแล้วก็มีแค่ลุงชันที่เขาสามารถพึ่งพาได้ “แล้วเรื่องที่คุณแม่กับคุณพ่อจะหย่ากัน...”

“เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เถอะครับคุณชาย” น้ำเสียงของลุงชันแฝงไปด้วยความสงสาร “ทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง”

“แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี คุณพ่อกับคุณแม่ไม่เคยทะเลาะกันเลย พวกท่านใจเย็นและมีเหตุผล ต่อให้คุณพ่อจะค่อนข้างเข้มงวด แต่ครอบครัวของเราก็มีความสุขกันดี” ธราพูดตามที่ใจคิด เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลเวชธาดาตั้งแต่ห้าขวบ รับรู้ถึงความอบอุ่นและความรักความเอาใจใส่จากคนในครอบครัวมาตลอด แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรบุญธรรมแต่ก็ไม่เคยน้อยหน้าใคร คุณพ่อของเขาเข้มงวดแต่ก็รักเขามาก ส่วนคุณแม่ก็ใจดีและตามใจเขา ทั้งสองท่านไม่เคยมีเรื่องหมางใจกันหรือทะเลาะเบาะแว้งกันเลยสักครั้ง ตรงกันข้ามกลับให้เกียรติซึ่งกันและกัน ภาพความสมบูรณ์แบบนี้ทำให้เขาไม่เคยคาดคิดว่าทั้งสองท่านจะหย่าร้าง

“เพราะท่านเจ้าอยากให้คุณชายมีความสุข ท่านอยากให้คุณชายได้อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์พร้อม เพราะแบบนั้นภาพครอบครัวที่คุณชายเห็นจึงเป็นครอบครัวในอุดมคติของท่านเจ้า” ลุงชันพูดพลางหักเลี้ยวพวงมาลัยรถไปตามทาง “ท่านเจ้าของคุณชายน่ะไม่เหมือนใคร หากท่านรักท่านก็ให้ทุกสิ่งทุกอย่างและเพราะท่านเกิดมาเป็นคนที่สามารถให้ได้ คุณชายจึงเป็นคนพิเศษ สำหรับท่านเจ้าแล้วนอกเหนือจากนายหญิงก็ไม่มีใครสำคัญเท่ากับคุณชาย แต่สำหรับนายหญิง ท่านเจ้าคือคนสำคัญเพียงคนเดียวในโลก”

แม้ลุงชันจะแฝงความนัยไว้ในถ้อยคำแต่ธราก็ไม่สามารถเข้าใจได้ เขาทำหน้างุนงงในขณะที่ลุงชันหัวเราะด้วยความเอ็นดู “ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่เกิดผลกระทบ คุณชายก็ยังไม่ต้องเข้าใจก็ได้ครับ”

“แล้วถ้าเกิดคุณพ่อกับคุณแม่หย่ากัน ผมจะถูกทิ้งอีกหรือเปล่าครับ” ธราเผยความกังวลใจ “คนอย่างผมมีสิทธิ์เลือกบ้างไหม”

“ไม่ต้องห่วงครับ คุณพ่อท่านรักคุณชาย ท่านไม่ทิ้งคุณชายแน่นอนและคุณชายก็เป็นลูกชายที่ถูกต้องตามกฎหมายของท่าน อยู่ในความอุปการะของท่านเพียงคนเดียวมาตั้งแต่แรก”

คำว่า ‘เพียงคนเดียว’ ไม่ได้สะดุดหูของธรา เพราะเขาเอาแต่คิดถึงท่านเจ้า คิดถึงอนาคตที่อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน พอคิดแบบนั้นความกลัวก็เข้าครอบงำอย่างช่วยไม่ได้ “แต่ผมอยากอยู่กับเจ้า เจ้าคงต้องไปอยู่กับคุณแม่ใช่ไหมครับ”

“ครับ หากตกลงกันเรียบร้อยแล้วท่านเจ้าต้องอยู่กับนายหญิง เพราะท่านเป็นทายาทเพียงคนเดียว”

ความจริงในข้อนี้ทำให้ธราปวดใจ ปลายทางที่มองเห็น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ได้อยู่กับท่านเจ้า แม้จะตั้งคำถามว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเป็นร้อยๆ ครั้งก็คงไม่ได้รับคำตอบ เพราะอย่างที่ลุงชันพูดไว้ ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง เหตุผลที่เด็กกำพร้าถูกทิ้งอย่างเขาคงไม่มีวันเข้าใจ

รถเบนซ์สีดำคันหรูส่งธราที่หน้าคฤหาสน์ซึ่งยามนี้สว่างไสวและสวยงามไปด้วยแสงไฟจากจุดต่างๆ สถานที่ที่เหมือนภาพฝันเมื่อได้เห็นเป็นครั้งแรกยังคงเหมือนเช่นวันวาน ไม่ว่าจะผ่านเลยมากี่ปีก็ยังคงความงดงามอยู่อย่างนั้น เหมือนๆ กับวันแรกที่ท่านเจ้าบอกว่า ‘ยินดีต้อนรับนะน้องดิน ที่นี่เป็นบ้านของเรา’

ธราก้าวลงจากรถหลังจากบอกลาลุงชันที่เคลื่อนรถออกไป เขาเดินเข้าไปในบ้านที่เงียบสงบ หยุดทักทายแม่บ้านที่ออกมาต้อนรับด้วยน้ำผลไม้เย็นชื่นใจก่อนจะขอตัวกลับไปทำงาน หน้าที่ที่ท่านเจ้ากำหนดให้กับคนในบ้านนั้นทุกคนยังปฏิบัติได้ดีแม้ว่าตัวคนกำหนดในตอนนี้จะไม่กลับมาร่วมสองเดือนแล้ว

“เฮ้อ…" เสียงถอนหายใจของธราดังสะท้อนโถงทางเดินในขณะที่เขาเดินตัดไปยังบันไดที่ทอดนำขึ้นสู่ชั้นสองของตัวบ้าน ทั้งที่ปกติแล้วต้องไปทักทายคุณแม่ที่มักจะง่วนอยู่ในครัวหรือบางครั้งก็ไปทักทายคุณพ่อที่ห้องหนังสือหากวันไหนท่านกลับบ้านแต่หัวค่ำ ทว่าตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขาจำไม่ได้ว่าทำเรื่องแบบนั้นครั้งสุดท้ายตอนไหน ที่จำได้ก็มีแต่ขลุกตัวอยู่กับท่านเจ้า พี่ชายที่แสนดีของเขา ทำการบ้าน เล่นเกมหรือแม้แต่นอนพูดคุยกันถึงเรื่องราวในโรงเรียน

ธราก้าวเดินช้าๆ เขาลากเท้าไปตามทางเดินอย่างนึกเบื่อหน่ายก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกถึงลมเย็นๆ ลอดผ่านประตูบานใหญ่ของห้องนอนท่านเจ้าที่เปิดแง้มเอาไว้ เขาขมวดคิ้ว จ้องมองด้วยหัวใจที่เต้นรัวแรงแล้วรีบผลักประตูให้เปิดออก เมื่อแทรกตัวเข้าไปในห้องเรียบร้อยก็ปิดประตูลงอย่างเบามือ

กลับมาแล้ว...เจ้าชีวิตของเขากลับมาแล้ว

เขาร่ำร้องขึ้นในใจเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของท่านเจ้านอนอยู่บนเตียง ใบหน้าคมคายแผ่ความเย็นชาแม้ในยามที่เปลือกตาปิดสนิท เขายื่นมือออกไปสัมผัสที่แก้มเนียน แน่ใจว่ามือของเขาคงเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งด้วยความตื่นเต้นเพราะแค่สัมผัสก็ทำให้คนที่อยู่ในห้วงนิทราสะดุ้งเฮือกพลางลืมตาขึ้น

“ขอโทษครับ” ธราบอกขอโทษเบาๆ “ขอโทษที่ทำให้เจ้าตื่น”

“ไม่เป็นไร” ท่านเจ้าตอบเสียงเรียบ ปราศจากรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างที่ชอบยิ้มให้กับธรา “เพิ่งกลับมาเหรอดิน”

“ครับ” ธราตอบพลางขยับเข้าไปใกล้ แต่ท่านเจ้าขยับออกห่าง เขาจึงต้องหยุดตัวเองไม่ให้ขยับเข้าไปใกล้กว่านี้

“แล้วเข้ามาในห้องพี่มีธุระอะไรหรือเปล่า”

ธราเม้มริมฝีปาก สะกดกลั้นความเสียใจ เพราะรู้ดีว่าตัวเขาเป็นฝ่ายผิด แต่สรรพนามที่ห่างเหินทำให้อดที่จะน้อยใจไม่ได้ “ลุงชันบอกว่าเจ้าไม่มีกำหนดกลับ ไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้ากลับมา ทำไมไม่บอกกันเลย โกรธกันมากจนไม่อยากเจอกันแล้วเหรอ”

“พี่ไม่เคยโกรธ” ท่านเจ้ายกมือขึ้นลูบศีรษะของธราเบาๆ เมื่อเห็นว่าคนสำคัญกำลังเสียใจแล้วก็ใจอ่อนทุกที “แต่ถ้าพี่ทำให้อึดอัด ทำให้ดินไม่มีความสุข พี่ก็ไม่ควรอยู่กับดินต่อ”

“ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่เป็นน้องชายที่ไม่ได้เรื่อง” ธรากล่าวขอโทษทั้งน้ำตา ตั้งแต่ที่ได้เผลอพูดถ้อยคำนั้นออกไปก็เสียใจอยู่ทุกวัน “แต่จากนี้จะเป็นเด็กดีของเจ้า จะไม่เกเร จะไม่ขัดใจเจ้าอีกแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งผมได้ไหม ให้ผมได้อยู่กับเจ้าต่อเถอะนะ ผมไม่ชอบชีวิตที่ไม่มีเจ้าเลย”

ท่านเจ้าใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้กับธราพร้อมกับเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “แน่ใจแล้วเหรอครับว่าจะเป็นเด็กดีของพี่”

ธราพยักหน้า เขารับรู้ถึงความทรมานที่ไม่มีท่านเจ้าแล้วและจะไม่ขอรับรู้มันอีก “ครับ” คำตอบรับหนักแน่นทำให้ท่านเจ้าเผยรอยยิ้มกว้าง “จะเป็นเด็กดี”

“ที่รัก” ท่านเจ้ากระซิบเมื่อดึงธราเข้าสู่อ้อมแขน ใบหน้าคมคายโน้มเข้าใกล้ ก่อนริมฝีปากบางจะบดขยี้ลงบนริมฝีปากของธราอย่างหนักหน่วง ราวกับเฝ้ารอมานานแล้วที่จะได้รับคำอนุญาต “ต่อให้เจ้าทำแบบนี้” ท่านเจ้าจูบธราอีกครั้งแล้วผละออก “ดินก็จะเป็นเด็กดีใช่ไหม”

แม้จะตกใจแต่ธราก็พยักหน้า ผิวหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ หัวใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

จูบแรกของเขา...จูบแรกกับคนที่เป็นพี่ชาย จูบแรกกับท่านเจ้า แต่เมื่อมองสบตากับคนตรงหน้า เขาก็พบว่าไม่ใช่...จูบแรกนี้กับผู้ชายที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ ต่างหาก

“อ้าปากหน่อยครับ” ท่านเจ้าบอกเสียงนุ่มกับธราที่กำลังตื่นเต้นกับสัมผัสแปลกใหม่ เด็กหนุ่มที่เติบใหญ่ขึ้นมาโดยไม่เคยรู้จักสัมผัสนี้ถึงกับทำหน้างงงวย แต่เมื่อถูกสั่งแกมขอร้องก็ทำตามแต่โดยดี เขาเผยอริมฝีปากขึ้น เปิดช่องเพียงเล็กน้อย แต่แค่เท่านั้นก็ทำให้ท่านเจ้ารุกล้ำเข้าไปได้ ริมฝีปากของเขาถูกดูดดึง บดคลึงจนแดงช้ำ ในขณะที่ในโพรงปากก็ถูกเรียวลิ้นร้อนเข้าสำรวจ จูบร้อนแรงที่ช่วงชิงเอาลมหายใจของเขาดำเนินไปอย่างดุดัน ท่านเจ้าไม่ปล่อยเขา เอาแต่ตักตวงอย่างคนไม่รู้จักอิ่ม

“อือ..อ” เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอของธรา เลือดในกายฉีดพล่านจนรู้สึกร้อนเร่า ยิ่งเมื่อท่านเจ้าละริมฝีปากไปที่ซอกคอของเขา เขาก็ยิ่งส่งเสียงน่าอาย “เจ้า...”

“หืม” ท่านเจ้าขานรับ หยุดชะงักการกระทำแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนสำคัญ “ว่าไงครับเด็กดี”

“ผม…” ใบหน้าของธราแดงก่ำ “รู้สึกแปลกๆ”

“รังเกียจมั้ย”

ความรู้สึกของธราไม่ใกล้เคียงความรู้สึกที่ท่านเจ้าถามเลยแม้แต่น้อย “ไม่ครับ”

“แล้วถ้าเจ้าทำมากกว่านี้” มือผอมของท่านเจ้าไล้ไปตามลำตัวของธราก่อนจะหยุดลงที่กลางกายของเขา สอดมือเข้าไปสัมผัสกับสิ่งที่อยู่ใต้เนื้อผ้าในระหว่างที่เจ้าของมือก็สบตากับเขาโดยไม่ปิดบังความต้องการ “ดินจะว่ายังไง”

“แต่เรา...” แม้จะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ธราก็ไม่กล้าที่จะก้าวผ่านเส้นความสัมพันธ์ของเขากับท่านเจ้าไปมากกว่านี้ เขาไม่ใช่เด็กไม่รู้ประสา เขารู้อยู่แล้วว่าการจูบกันอย่างลึกซึ้งไม่ใช่เรื่องที่พี่ชายกับน้องชายควรทำ ทว่าต่อให้รู้ก็ไม่ได้นึกขัดขืนหรือรังเกียจ ตรงกันข้าม...เขากลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

“เวลาอยู่กันสองคน ไม่เป็นพี่น้องแล้วได้มั้ย” ท่านเจ้ายอมเผยความในใจให้ธราได้รับรู้เป็นครั้งแรก “ดินรู้หรือเปล่าว่าเจ้าต้องอดทนมากแค่ไหนที่ต้องรักษาระยะห่าง รู้หรือเปล่าว่าเจ้าต้องหักห้ามใจมาตลอด”

“แล้วคนอื่นเขาจะคิดยังไงล่ะครับ ถ้ามีใครรู้ว่าเราทำเรื่องแบบนี้กัน” ไม่มีพี่น้องที่ไหนจูบกัน ไม่มีพี่น้องที่ไหนมองกันด้วยความปรารถนาเหมือนอย่างที่ธรากับท่านเจ้ามองกันอย่างนี้เลย

“ไหนดินบอกว่าจะเป็นเด็กดี” ท่านเจ้าตัดพ้อ สีหน้าน้อยใจที่ธราเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกปรากฏแก่สายตา “โกหกเหรอ”

“เปล่าครับ” ธรารีบปฏิเสธ ไม่อาจทนมองท่านเจ้าของเขาตัดพ้อต่อได้ “ผมจะเป็นเด็กดีของเจ้า”

“อืม” ท่านเจ้ายิ้มกว้างก่อนจะบดจูบธราอีกครั้ง ครั้งนี้หนักหน่วงจนริมฝีปากของเขารู้สึกเจ็บ “ถ้ากลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไง ก็ให้เป็นความลับของเราสองคนนะครับ น้องดินของพี่เก็บความลับเก่งใช่มั้ย”

ธราพยักหน้าพลางคลี่ยิ้มตาม “อื้ม” เขาพ่ายแพ้ทุกที ท่านเจ้าน่ะไม่เคยเอาแต่ใจ แต่กลับมีวิธีที่ทำให้เขาสามารถคล้อยตามได้ง่ายๆ “จะเก็บอย่างดีเลยครับ”

“แล้วที่ว่ารู้สึกแปลกๆ คือตรงนี้เหรอ” แววตาของท่านเจ้ากรุ้มกริ่มในขณะที่มือก็ลูบไล้ ‘ตรงนี้’ ของธราไปด้วย เด็กหนุ่มถึงกับเกร็งตัวขึ้นเพราะไม่เคยมีใครสัมผัสนอกจากมือของเจ้าตัว “มีอารมณ์กับพี่ชายแบบนี้ เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ”

เชื่อแน่ว่าถ้าไอ้วินรู้ มันก็คงต้องร้องฉิบหายแล้วไปกับธราแน่นอน เขาน่ะเคยเกิดอารมณ์ทางเพศเพราะท่านเจ้ามานับครั้งไม่ถ้วน ปรึกษาปัญหานี้กับไอ้วินก็บ่อยจนโดนมันแซวเกือบความแตกไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ถูกจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้เลย แต่แล้วจะแปลกอะไร โดนจูบขนาดนี้ถ้าไม่มีอารมณ์น่ะสิแปลก

“เจ้าครับ...อย่า” ในขณะที่ธรากำลังตบตีกับความคิดของตัวเองอยู่นั้น ท่านเจ้าก็ทำสิ่งที่คาดไม่ถึง พี่ชายตัวดีของเขาลดระดับใบหน้าลงจนอยู่ในระดับที่อันตรายต่อหัวใจและก็เกือบจะทำให้หัวใจของเขาแทบวายเมื่อริมฝีปากบางงัดเอาเจ้าสิ่งแข็งขืนใต้เนื้อผ้าออกมาครอบครอง แค่ในทีเดียวเจ้าสิ่งนั้นก็ผลุบหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อนเกือบครึ่ง

“ซี๊ดด..ด” คนถูกกระทำสูดปากจนเกิดเสียงเมื่อกลางกายถูกเล่นงานอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากบางห่อตัวแล้วขยับรูดขึ้นลง ลิ้นร้อนก็ทำหน้าที่ดุนดันเป็นอย่างดี ธราเชิดหน้าครางต่ำ จับศีรษะผู้รุกล้ำไว้แล้วกดลง คราวนี้มันจึงผลุบหายเข้าไปเกือบหมด ทำให้เขาแทบคลั่งไปกับสัมผัสที่ถูกมอบให้ ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนจะคลายออกแล้วฟันกระต่ายเริ่มขบกัดริมฝีปากล่าง สะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน ในระหว่างที่เอวสอบเริ่มสวนกลับเพื่อโต้ตอบการรุกล้ำ เขารู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยแต่กลับรู้สึกสุขจนเกินจะทน

“อาา..า”

ราวกับฝันเป็นจริง ความฝันที่ในระยะนี้ได้เสพสุขร่วมกับท่านเจ้าผู้เป็นพี่ชาย สุดท้ายก็ได้กลายมาเป็นความจริง พอก้มลงมองก็ยิ่งย้ำชัดว่าท่านเจ้ากำลัง ‘ทำ’ ให้ เสียงดูดดุนยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบให้พุ่งสูง

“จะเสร็จแล้วครับเจ้า” เสียงของธรากระเส่า เร่งเร้าให้คนปรนเปรอยิ่งเพิ่มความถี่กระชั้นในการขยับริมฝีปาก เขาหลับตาแน่น ครางต่ำในลำคอ ก่อนจะกระตุกสั่นในริมฝีปากของท่านเจ้า ปลดปล่อยความต้องการเหนียวข้นให้พี่ชายที่เป็นแค่คำเรียกของสถานะได้ลิ้มลอง

ทำลงไปแล้วสินะ...ในที่สุดก็ทำลงไปจนได้

.

.

นับตั้งแต่วันนั้น นับตั้งแต่วันที่ได้ก้าวข้ามเส้นความสัมพันธ์ ธราก็ไม่เคยแยกห่างจากท่านเจ้า ทั้งคู่ตัวติดกันยิ่งกว่าเดิม เจอท่านเจ้าที่ไหนก็มักจะเจอธราที่นั่น กรงทองที่เขาพาตัวเองกลับเข้าไปไม่ได้สร้างความอึดอัดให้อีกต่อไปแล้ว แต่กลับเต็มไปด้วยความสุขที่โอบล้อมตัวของเขาเอาไว้

ธราไม่เคยตั้งคำถามถึงการกลับมาของท่านเจ้าที่กลับมาเพียงลำพัง เพราะเขาพอใจแล้วที่ได้อยู่กับท่านเจ้า พอใจแล้วที่บ้านหลังใหญ่นี้ไม่ได้มีแค่เขาที่ถูกทิ้งไว้ บิดาไม่ได้กลับมาที่บ้านนับเวลาก็ร่วมหลายเดือนแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าท่านไปอยู่ที่ไหน ได้พูดคุยกันผ่านสายโทรศัพท์ก็เท่านั้น ส่วนมารดานั้น ท่านเจ้าบอกแค่ว่างานยุ่งแล้วตัดบทไม่ให้เขาตั้งคำถามไปมากกว่านี้

“งอนอะไรครับที่รัก” ในเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนท่านเจ้ามักจะเรียกธราด้วยคำพูดแสนหวานอย่างนี้เสมอ แขนยาวทั้งสองข้างก็โอบรอบเอวของเขาไว้ไม่ห่าง “ไหนบอกเจ้าหน่อยครับ หน้าบึ้งตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียนแล้ว”

“เจ้าสนิทกับจี้มากเกินไปแล้วรู้ตัวหรือเปล่า” น้ำเสียงของธรากรุ่นไปด้วยความอิจฉา นับวันเขาก็ยิ่งทำตัวเหมือนท่านเจ้าที่เคยเป็นหมาบ้าไปทุกที “คุยแต่เรื่องที่รู้กันสองคน แล้วยังออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ”

ท่านเจ้าหัวเราะพลางกอดธราแน่นขึ้น “ก็เพื่อนเจ้านี่ครับ ดินก็ไปเที่ยวกับไอ้วิน เจ้ายังไม่ว่าเลย”

“ไม่เหมือนกัน” ตอบเสียงห้วนแล้วพยายามผละออกจากอ้อมแขนของคนที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย “เพราะจี้น่ะ...”

“จี้ทำไมครับ”

“ก็…” ธราไม่กล้าพูด เขารู้ความรู้สึกของจี้ดี แค่มองตาก็รู้แล้วว่าสายตาของจี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแบบไหนเวลามองท่านเจ้า “เอาเป็นว่าอย่าอยู่กับจี้บ่อยๆ”

“อ้าว...ซะงั้นเลยคนเรา” ท่านเจ้าส่ายหน้าอ่อนใจกับคนที่อยู่ๆ ก็ไร้เหตุผลขึ้นมา แต่เพราะเป็นธราจึงยอมความได้ “เป็นเด็กขี้หวงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

ธราเบ้ปาก มองตาคว่ำ “หวงพี่ชายผิดด้วยเหรอ”

“หืม” เลิกคิ้วมองคนขี้หวง “ให้เป็นพี่ชายเท่านั้นใช่มั้ย”

“ไม่” ธราปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ก่อนจะละล่ำละลักพูด “ก็...เจ้าก็รู้ว่าเรา...”

“เรา…” คนยียวนลากเสียงตาม

“เจ้าอย่าแกล้ง”

“พูดออกมาสิครับ” ท่านเจ้าเร่งเร้า คลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้แกล้งคนสำคัญ “เจ้ารอฟังอยู่นะ”

“เจ้ายังไม่เคยพูดเลย” น้ำเสียงของธราแฝงความน้อยใจ “บอกตลอดว่าไม่อยากเป็นพี่ แต่ก็ไม่เคยบอกว่าอยากเป็นอะไร”

“โอ้โห...เจ้าผิดเลย” แววตาของท่านเจ้าเต็มไปด้วยความขบขัน “ถ้างั้นก็ขอโทษนะครับ”

“อือ ไม่โกรธหรอก แค่...”

“แค่น้อยใจ”

ธราย่นจมูกใส่คนรู้ทัน “รู้แล้วก็ยังไม่พูดอีก”

“ยังไม่ถึงเวลาครับ” ท่านเจ้าจูบขมับของธราแรงๆ ก่อนจะผละออกห่าง ทิ้งให้ธราได้แต่มองตามด้วยความน้อยใจ แต่เขาก็น้อยใจพี่ชายตัวดีได้ไม่นาน เมื่ออีกฝ่ายกลับมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกล่องขนาดเท่าฝ่ามือที่ได้รับการห่อหุ้มเป็นอย่างดีจากผ้ากำมะหยี่สีสวย บนตัวกล่องสลักชื่อของธราเอาไว้ “รับไปสิธรา”

“อะไรครับ” ธราถามพลางมองกล่องในมือท่านเจ้า คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

“ของขวัญวาเลนไทน์ไง” ท่านเจ้าตอบ คลี่ยิ้มน่ามอง “เจ้าไม่ลืมหรอก”

คนฟังยิ้มกว้างขึ้นทันที แต่กลับพูดตรงข้ามกับเสียงหัวใจ “ไม่เห็นต้องให้เลย”

“ก็ตั้งใจไว้แล้ว วาเลนไทน์ปีแรกที่ได้เป็นมากกว่าพี่ชายแถมยังได้ดอกกุหลาบสีขาวดอกสวยที่ดินปลูกเองกับมืออีก ยังไงก็ต้องพิเศษสิครับ”

ใช่...วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์และท่านเจ้าก็ได้รับดอกกุหลาบจากธราแต่เช้าตรู่ เพราะหลังจากที่เข้าไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียน พอออกจากห้องน้ำก็เห็นดอกกุหลาบดอกสวยวางอยู่บนเตียง แนบการ์ดที่มีลายมือหวัดๆ ของธราด้วยว่า ‘ความรู้สึกของผมเหมือนดอกกุหลาบห้าดอกที่มอบให้ ขอบคุณที่ทำให้วาเลนไทน์ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดนะครับ’

“แล้วชอบมั้ย” ธรารู้สึกประหม่าเมื่อตั้งคำถาม “ไม่ได้มีของแพงๆ จะให้ ผมมีแค่ดอกไม้...”

“ชอบครับ” คนพูดยืนยันความชอบของตัวเองด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “ชอบความหมายของดอกกุหลาบห้าดอก ชอบการ์ดที่ดินเขียนให้ แล้วก็ชอบอาหารเช้ามื้อพิเศษที่ดินเตรียมให้ด้วย”

“ก็ไม่ได้พิเศษ” ธราแย้ง ใบหน้าของเขาตอนนี้คงแดงไม่ต่างจากท่านเจ้า “แค่อาหารเช้าธรรมดา”

“ดินทำเองก็ไม่ธรรมดาแล้ว ทุกอย่างบนจานเป็นรูปหัวใจหมดเลย แล้วที่บอกว่าพิเศษน่ะ” ใบหน้าของคนฟังยิ่งร้อนผ่าวเมื่อคนพูดลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบที่แฝงไปด้วยความกระเส่าเล็กน้อย “ของดินต่างหาก ยิ่งตอนที่โดนริบบิ้นผูกไว้ก็ยิ่ง...”

“เจ้าเป็นคนแบบนี้เองสินะ”

“หึหึ”

“ระวังโดนดี”

“ยิ่งชอบเลย”

“ไม่คุยด้วยแล้วครับ” พอสู้ไม่ได้ก็ตัดบทหนีดื้อๆ “ว่าแต่ในกล่องนี้มีอะไรครับ”

“เปิดดูสิ ไม่ใช่ช็อกโกแลตโง่ๆ ที่ดินได้จากคนที่โรงเรียนทั้งวันหรอก บอกเลยว่าคนอย่างเจ้าไม่ให้ซ้ำใคร”

ธรามองคนพูดด้วยความหมั่นไส้พลางเปิดกล่องที่ได้รับมา ปากก็พูดบ่นไปด้วย “เห็นอยู่แต่กับจี้ แล้วเอาเวลาที่ไหนไปหาของขวัญ”

“ก็เวลาที่อยู่กับจี้นั่นแหละ”

“เหรอ ผิดคาดนะ ตัวติดกันซะขนาดนั้นผมก็คิดว่าเจ้าคงให้ดอกกุหลาบกับจี้วันนี้ซะแล้ว เห็นจี้ได้ดอกกุหลาบผมก็คิดว่าเป็นของเจ้า”

“ก็คิดไปเรื่อยอะคนเรา” ท่านเจ้าส่ายหน้าระอาใส่ธรา ก่อนจะตั้งคำถามเมื่อเห็นเขาเอาแต่จ้องมองของในมือ “เป็นไง ของขวัญของเจ้า”

ความอิจฉาที่เคยเกิดขึ้นในใจของธราหายวับไปกับตา เหลือเพียงความสุขใจที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในนั้น เขามองสิ่งของล้ำค่าที่อยู่ในกล่อง ความสวยงามของมันทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะหยิบจับขึ้นมาเชยชม

ท่านเจ้ามอบดอกกุหลาบให้เขา เป็นดอกกุหลาบที่มีขนาดความยาวเกือบเท่าฝ่ามือ ตัวดอกมีสีแดงที่เขาไม่แน่ใจว่าแกะสลักมาจากพลอยทับทิมหรืออัญมณีอื่น เขาไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านอัญมณีนัก แต่แน่ใจว่าตัวก้านนั้นประดับไปด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ หลายร้อยเม็ดแน่นอน

“รู้ความหมายของดอกกุหลาบสีแดงดอกเดียวที่ไม่มีวันร่วงโรยมั้ย” ท่านเจ้ายกมือขึ้นไล้ไปตามแก้มของธรา แววตานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งใคร่ “นั่นแหละ...ความรู้สึกของเจ้าเป็นแบบนั้น เจ้ารักดิน...รักมากๆ รักตั้งแต่ที่ได้เห็นรอยยิ้มของดินในวันแรกที่เจอกัน”

“งั้นผมจะเก็บรักษาไว้อย่างดี” ธราบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาสบตากับคนตรงหน้า ดึงอีกฝ่ายเข้าหาแล้วประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบางเบาๆ ก่อนกระซิบพูด “ทั้งความรักของเจ้าและกุหลาบดอกนี้”

“สัญญาหรือเปล่า”

“สัญญาครับที่รัก”

ไม่แน่ใจว่าเพราะคำสัญญาที่หนักแน่นของธราหรือสรรพนามเรียกขานของเขากันแน่ที่ทำให้ท่านเจ้ายิ้มกว้างเต็มหน้าจนดวงตาเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ทว่ามีสิ่งเดียวที่ธราแน่ใจ นั่นก็คือความรู้สึกของเขาที่มีต่อท่านเจ้า

ความรู้สึกรักที่ไม่ใช่รักที่มีต่อพี่ชาย แต่เป็นความรู้สึกรักที่มีให้กับผู้ชายที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 02/01/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 01-02-2019 16:33:54
“ดอกกุหลาบ” ธราพึมพำออกมาหลังจากที่เขารู้สึกราวกับเพิ่งผุดขึ้นเหนือน้ำ ความรู้สึกอึดอัดในอกหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่อาการหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวนอนหงายหลังจากพบว่าที่รู้สึกอึดอัดเป็นเพราะนอนคว่ำทับแขนตัวเอง

“ตื่นแล้วเหรอครับ” ไอ้เจ้าที่นอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นธราขยับตัว “ผมคิดว่าถ้าอีกสิบนาทีคุณยังไม่ตื่นจะปลุกด้วยจูบร้อนแรงรับอรุณอยู่แล้วเชียว”

“เจ้า” ธราร้องเรียก ไม่สนใจคำหยอกล้อ “ดอกกุหลาบ”

“หืม” ไอ้เจ้าทำหน้างง “คุณอยากได้ดอกกุหลาบเหรอ เช้าๆ อย่างนี้ที่ตลาดก็น่าจะมีขายนะ ให้ผมไปซื้อให้มั้ย ว่าแต่จะเอามาทำอะไรครับ”

“ไม่…” ยกมือนวดขมับพลางสะบัดศีรษะไล่ความมึนเบลอ “ดอกกุหลาบสีแดงที่มึงเคยให้ ตัวดอกทำจากพลอยสีแดง ตัวก้านมีเพชร...มันเป็นของขวัญ”

“ของขวัญวาเลนไทน์ปีแรกของเรา” ไอ้เจ้าต่อประโยคให้ด้วยใบหน้าเครียดขรึมลงทันควัน

“มันอยู่ที่ไหน”

“หายไปแล้วครับ” ไอ้เจ้าตอบเสียงเรียบ “คุณบอกผมว่าทำหายไปแล้ว”

“แต่มันเป็นของสำคัญ แล้วกูจะทำหายได้ยังไง” ธราไม่เชื่อ บางแห่งในใจของเขากำลังตะโกนก้องว่าไอ้เจ้าโกหก

“มันหาย...ก็เพราะมันไม่สำคัญกับคุณในตอนนั้น” แววตาของไอ้เจ้าเจ็บปวดเมื่อพูดขึ้น “ผมจะรู้กับคุณมั้ยว่าคุณทิ้งมันไว้ที่ไหน”

“เจ้า กูมั่นใจว่ากูไม่ได้ทิ้ง”

“คุณจะมั่นใจได้ยังไงในเมื่อคุณจำไม่ได้” ไอ้เจ้ายิ้มหยัน “อย่าทำให้เช้านี้เป็นเช้าที่แย่เลยธรา คุณรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเรียนดีกว่า เข้าสายบ่อยๆ เดี๋ยวก็โดนไอ้หมอแพร์บ่นคุณอีก”

“ก็ได้” ธราตอบเสียงห้วน “กูก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นเช้าที่แย่เหมือนกัน ทั้งที่มันก็เป็นมาตลอดตั้งแต่กลับจากชลบุรีวันนั้น”

ธราไม่เคยนอนหลับสนิทอีกเลย แม้จะมีเวลานอนแค่วันละสองสามชั่วโมงหรือต่อให้มีเรื่องเรียนรุมเร้า งานแก้แล็ปบานตะไท แต่เขาก็ยังมีความฝันมากมายที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย เขาอดคิดไม่ได้ถึงความสัมพันธ์ของไอ้เจ้ากับเพื่อนที่ชื่อจี้คนนั้น ทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ในเวลาเดียวกันทำให้ลังเลที่จะตั้งคำถาม

“ไปหาหมอกันมั้ยดิน” ไอ้เจ้าเอ่ยชวนเมื่อเห็นสีหน้าของธรา สีหน้าของเขาเผือดซีด ขอบตาดำคล้ำอย่างน่าเป็นห่วง “ถ้ายังเป็นอย่างนี้ร่างกายของคุณจะแย่นะครับ เวลานอนเหมือนไม่ได้นอน ตื่นมาก็เลยไม่สดชื่น ทั้งเพลียทั้งหงุดหงิด ปล่อยไว้นานคงไม่ดีแน่ ผมเป็นห่วงคุณนะ”

“มึงห่วงในฐานะอะไร พี่ชายหรือไง” ธราย้อนถามพลางเหยียดยิ้มไม่น่ามอง ช่วงนี้เขาหงุดหงิดงุ่นง่านจนกลายเป็นคนไม่น่าคบหา “อ๋อ...ใช่สิ มึงเป็นพี่ชายที่เป็นคนรักของกูด้วยนี่ แต่ถามหน่อยเถอะ ตอนนั้นมึงบอกคนอื่นว่ายังไงวะ บอกว่ากูเป็นน้องหรือบอกว่าเป็นผัว”

“ดิน…”

“หรือมึงมีคนของมึงอยู่แล้วกันแน่เจ้า คนที่บอกว่าเป็นเพื่อนคนนั้นน่ะเป็นผัวหรือเป็นเมียมึง”

“ผมว่าคุณชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้ว”

“กูก็พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ นั่นแหละ” ว่าแล้วก็นึกสมเพชตัวเอง “แม้แต่ตัวกู กูยังไม่รู้เลยว่ากูเป็นใคร กูเป็นแค่ไอ้โง่ที่จำอะไรไม่ได้อยู่คนเดียว”

“ผมเข้าใจที่คุณหงุดหงิด” ไอ้เจ้ากล่าวอย่างสงบ ไม่เต้นไปตามอารมณ์ของธรา ขืนร้อนใส่กันคงมีแต่พังกับพัง “แต่อะไรทำให้คุณคิดว่าผมมีคนอื่น”

“ความรู้สึกของกูตอนเห็นมึงอยู่กับเขา” ธราว่าพลางยกมือขึ้นเสยผมไปด้านหลังด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจเมื่อหวนนึกถึงตอนที่คนคนนั้นจูบลงบนหลังเท้าของไอ้เจ้า “มันไม่ธรรมดาเลยนะเจ้า เป็นแค่เพื่อนจริงๆ เหรอวะ”

“แค่เพื่อนครับ”

“แล้วทำไม...” ธราหยุดพูดไปเสียอย่างนั้น ก่อนจะตัดบท “ช่างเถอะ ต่อให้ไม่ใช่แค่เพื่อนแล้วกูจะว่าอะไรมึงได้”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มอย่างอ่อนใจ “ขี้หึงจริงๆ”

“ไม่ได้หึง” ปฏิเสธเสียงห้วนอย่างไม่ยอมรับ

“คุณหึง”

“มึงนี่...” รู้สึกพ่ายแพ้ต่อรอยยิ้มของมัน “ดื้อด้าน เป็นพี่บ้าบออะไรวะ ดื้อกว่าน้อง”

“เป็นพี่ที่ไม่เคยใช่พี่อะ”

“แล้วเป็นอะไรถ้าไม่ใช่พี่”

“เป็นเมีย”

“เคยเรอะ”

“ตอนนั้นก็หลายครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สักครั้งเดียว”

“มึงมา!”

ท่าทางคุกคามของธราทำให้ไอ้เจ้าหัวเราะ “ล้อเล่นครับ ผมก็ไม่ได้กามขนาดนั้น”

“มึงกามขนาดนั้นแหละ”

“ไปอาบน้ำไป๊”

คราวนี้เป็นฝ่ายธราที่หัวเราะขึ้นมาบ้าง เขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเปลื้องผ้าต่อหน้าไอ้เจ้าที่ร้องอู้ขึ้นอย่างอารมณ์ดี “แล้วบอกว่าไม่กาม มองกูไม่วางตาเลยไอ้ห่า”

“โผ๊มก็มีความรู้สึกอยู่เด้อ”

“อยู่กับไอ้น้องเอ๋บ่อยก็เลยได้สำเนียงเพี้ยนๆ มาหรือไง”

“ถ้าไม่เมากาวนายเอ๋ก็ไม่เพี้ยนหรอก แต่ที่เพี้ยนปกติน่ะนายขวัญ” ไอ้เจ้าพูดถึงเพื่อนพลางหัวเราะคิก เห็นมันอารมณ์ดีแล้วธราก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วขยี้ศีรษะของมันแรงๆ จนผมที่ถูกเซ็ตเป็นทรงชี้ไปคนละทิศคนละทาง

“คบเพื่อนปกติบ้าง” ธราเตือนไม่จริงจังนัก โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเพื่อนของเขาแต่ละคนก็ไม่ได้ต่างจากเพื่อนของไอ้เจ้ามากนัก

“เพื่อนของคุณก็ไม่มีใครปกตินะดิน” ไอ้เจ้าเถียงก่อนจะเริ่มสาธยาย “ไอ้หมอแพร์ขี้บ่น น้องหมอจอมก็ไม่ค่อยเต็ม วันๆ เอาแต่คิดว่าตัวเองท้องกับกู ส่วนไอ้หมอคินว่างเมื่อไหร่ก็เอาแต่นอนแล้วละเมอถึงฟันปลอมอย่างกับเป็นคนรัก”

“เออ ก็จริง” เถียงไม่ได้จึงจำต้องเห็นด้วย “ควรเลิกคบว่ะ”

“สงสารน้องหมอจอมล่วงหน้าเลยนะ หลุดจากกลุ่มคุณไปก็คือไม่มีใครคบแล้ว ทุกวันนี้ก็ชอบมาบ่นว่าโดนคุณกับไอ้หมอแพร์ทิ้ง ไอ้หมอคินก็ไม่สนใจไยดี”

ธราเลิกคิ้วนิดๆ พลางมองไอ้คนขี้สงสารอย่างจับผิด “คุยกับไอ้จอมบ่อยเหรอ”

“ก็ไม่บ่อย” ไอ้เจ้าตอบ พยายามกระตุกปมผ้าเช็ดตัวของธรา แต่เขาก็รั้งไว้สุดกำลัง “แน่นแฮะ”

“ก็แล้วจะดูทำไม” ว่าเสียงดุแล้วใช้มือดันใบหน้าของไอ้เจ้าออกห่าง

“เผื่อของคุณไม่เหมือนของผม” คนหาข้ออ้างทำหน้ายียวนก่อนจะถูกเขกหัวเข้าให้ “เนี่ย! ชอบใช้กำลัง”

“มึงนี่นะ เป็นบ้าเป็นบอได้ทุกวัน” ทุกวันนี้ธราก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าคนที่ควรไปพบหมอคือเขาหรือไอ้เจ้ากันแน่ เพราะอารมณ์ของมันเหวี่ยงยิ่งกว่าคนมีประจำเดือน บางวันก็ดีด บางวันก็ทำหน้านิ่งทั้งวันจนตามอารมณ์แทบไม่ทัน

“คนหน้าตาดีก็อย่างนี้แหละคุณ” ไอ้เจ้ายิ้มเผล่ ท่าทางของมันในวันนี้ร่าเริงราวกับคนไม่มีเรื่องทุกข์ใจใดๆ

“ถ้าหน้าตาดีแล้วเป็นบ้า กูว่ากูขอขี้เหร่”

“คนขี้เหร่ก็เป็นบ้าได้นะคุณ ยกตัวอย่างเช่นนายเอ๋เพื่อนของผม”

ธรารู้สึกสงสารไอ้เด็กกาวคนนั้นจับใจ “ไอ้น้องเอ๋นี่มีดีอะไรบ้างวะ”

“นิสัยดี” เพื่อนไอ้น้องเอ๋ตอบโดยไม่เสียเวลาคิด “เป็นเด็กน่ารักใสซื่อคนหนึ่งเลย”

“เด็กใสซื่อที่ไหนเมากาว”

“ฮ่าๆ ๆ” ไอ้เจ้าระเบิดหัวเราะทันทีกับความคิดของธรา “พูดแต่ว่ามันเมากาวจนคนอื่นจะคิดจริงๆ แล้วนะว่ามันดมกาวอะ”

“อ้าว ไม่ได้ดมเรอะ”

“มันชอบซื้อกาวมาทำงานศิลปะอะคุณ ไม่ได้ซื้อมาดม” ไอ้เจ้ารีบอธิบาย “ผมยืนยันได้ ที่ดมทุกวันนี้อะทินเนอร์ต่างหาก”

ธราหลุดหัวเราะ ใบหน้าหล่อเหลากระจ่างขึ้นเมื่อมีรอยยิ้ม “ขายเพื่อนแล้วนายคนนี้”

“เป็นมุขที่ทำให้คุณอารมณ์ดีต่างหาก” ไอ้เจ้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นธรามีสีหน้าสดชื่นขึ้น “ทีนี้ก็ไปอาบน้ำได้แล้วนะครับ เดี๋ยวผมไปอุ่นข้าวต้มให้”

“อือ” ธราขานรับเบาๆ ในลำคอพลางมองตามไอ้เจ้าที่ลุกขึ้นจากเตียงและกำลังเดินไปที่ประตูห้องนอน “เจ้า”

คนถูกเรียกชะงักเท้า ก่อนหันมอง “ว่าไงดิน”

“เย็นนี้กูมีนัด” ธราบอกพลางก้าวไปยืนตรงหน้าไอ้เจ้า “จันทร์อยากเจอ กูก็เลยตกลงจะไปกินข้าวกับเขา”

แววตาของไอ้เจ้าไม่เผยความรู้สึก มีเพียงริมฝีปากเท่านั้นที่กำลังคลี่ยิ้ม “อยากเจออีกแล้วเหรอ หลังกลับจากชลบุรี คุณก็ไปเจอมันทุกวันเลยนะ มีเรื่องอะไรให้คุยกันขนาดนั้น แค่ในแชตยังไม่พอหรือไง พามานอนด้วยเลยมั้ยจะได้หายคิดถึงกัน”

“เจ้า อย่าเพิ่งพาลได้มั้ยวะ” ธราปรามไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะรีบอธิบายเพราะเกรงว่าความคิดของไอ้เจ้าจะเลยเถิดไปมากกว่าความเป็นจริง “ก็แค่ไปเจอ ไปกินข้าว ไปเดินเที่ยวด้วยกัน ไม่ได้มีอะไรเกินกว่านั้นเลย”

“แต่คุณไม่ได้ว่างไงธรา” น้ำเสียงของไอ้เจ้าเข้มจัด รอยยิ้มบนใบหน้าคมคายเริ่มบิดเบี้ยวไปเพราะโทสะที่เริ่มปะทุ “มันรู้หรือเปล่าว่าคุณเรียนหนัก งานก็เยอะ เวลาพักผ่อนแทบจะไม่มี แล้วจะนัดออกไปเจอทำไมบ่อยๆ กว่าจะกลับมาก็ดึกดื่น ขนาดผมอยากจะชวนคุณออกไปกินข้าวข้างนอก ผมก็ยังห่วงว่าคุณจะเหนื่อยเกินไป ซื้อข้าวกลับมาเตรียมไว้ให้คุณทุกครั้ง ผมอยากไปเดตที่โรงหนังกับคุณบ้าง แต่ผมก็อดทนนั่งดูหนังคนเดียวที่หน้าทีวีเพื่อรอให้งานของคุณเสร็จ ผมอยากไปเดินเที่ยวกับคุณ อยากพาคุณไปในที่ที่ผมชอบ แต่พอเห็นคุณทั้งง่วงทั้งเพลีย ผมก็อยากให้คุณพักผ่อน ผมเป็นห่วงทุกเรื่องของคุณ แล้วดูสิ่งที่คุณกำลังทำ คุณห่วงตัวเองบ้างมั้ย หรืออยากไปเจอมันมากจนไม่นึกห่วงตัวเองเลย”

ธราดึงมือที่กำลังสั่นด้วยความโกรธของไอ้เจ้ามากุมไว้ เขาบีบเบาๆ เพื่อหวังให้มันใจเย็นลงบ้าง ไม่เคยเห็นโกรธมากขนาดนี้ก็รับมือไม่ถูก ปกติแล้วเจ้า จักรพรรดิมีแต่รอยยิ้ม แม้จะเป็นรอยยิ้มจอมปลอมแต่ก็เป็นเครื่องหมายการค้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ของมันอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ทว่าในตอนนี้กลับพร้อมจะพังสิ่งที่ขวางตรงหน้าให้ราบเป็นหน้ากลอง

“ที่กูไปเจอเขา มันไม่ใช่ความรู้สึกอยากเจอเหมือนที่กูต้องกลับห้องมาเจอมึงทุกครั้งหรอกนะเจ้า แต่กูก็แค่อยากแน่ใจกับความรู้สึกที่มันรบกวนกูอยู่ในตอนนี้ กูหาคำตอบเองไม่ได้ กูก็เลยต้องไปหาคำตอบที่เขา”

ไอ้เจ้าสบตากับธรา มองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ “แล้วคุณได้คำตอบบ้างหรือยัง ตอนนี้ความลังเลในใจของคุณมันชัดเจนขึ้นบ้างมั้ย”

“อืม ก็ค่อนข้าง”

รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้น “งั้นถ้ากำหนดวันจะทิ้งผมได้เมื่อไหร่ก็บอกล่วงหน้าก็แล้วกัน”

“เราก็ไม่ใช่คนที่คบกันอยู่แล้วนี่” ธราตอกกลับ รู้สึกหงุดหงิดใจกับคนที่เอาแต่คิดจะทิ้งกันไป ไอ้เจ้าจะรู้บ้างไหมว่าการฟังถ้อยคำทำนองนี้ซ้ำๆ นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี หัวใจของเขาปวดหนึบทุกครั้งที่ได้ยิน “กูยังต้องกำหนดวันอีกเหรอ ถ้าไม่อยากอยู่แล้วมึงจะไปตอนนี้ก็ได้”

คำพูดของธราเป็นเหมือนค้อนเหล็กที่คอยทุบหัวใจของไอ้เจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า “อ้อ…งั้นผมไปได้เลยใช่มั้ย”

“มึงเป็นพี่ชายประสาอะไรถึงทิ้งน้องชายของตัวเองได้ลง” สถานะพี่น้องถูกยกมาอ้าง ในขณะที่คนฟังทำได้เพียงหัวเราะเบาๆ กับเรื่องตลกร้ายนี้ “เว้นแต่มึงจะไม่ใช่”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วเมื่อได้ฟัง ดวงตาเรียวคมมองธราด้วยความสงสัย “มีเรื่องอะไรที่คุณจำได้แล้วยังไม่ได้บอกกับผมหรือเปล่าธรา”

“เปล่า” คำปฏิเสธห้วนสั้นหนักแน่น แต่ไม่นำพาให้คนฟังเชื่อถือ

“พักหลังมานี้คุณไม่เล่าความฝันให้ผมฟังเลย มีเรื่องไหนที่จำได้ คุณก็ไม่ค่อยพูด หรือตอนนี้ผมไม่มีสิทธิ์รู้แล้ว”

“ความฝันมันก็มีทั้งเรื่องจริงกับเรื่องไม่จริง แล้วจะให้กูเล่าอะไร” ธราเลี่ยงจะสบตา เขาไม่ได้เก่งเรื่องปกปิดความรู้สึกเหมือนไอ้เจ้า ยิ่งแววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความกดดันเขาก็ยิ่งต้องหนี

“เอาเถอะ ผมไม่คาดคั้น” ไอ้เจ้าตัดบทเสียดื้อๆ จากที่คิดว่ามันจะซักไซ้มากกว่านี้แต่มันก็ไม่ทำ “สรุปยังไง ผมไปได้เลยใช่มั้ย”

“ไปได้ก็แย่ละ คิดจะจบง่ายขนาดนี้เลยหรือไงเจ้า” ธราหน้าบึ้ง เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด อยากถามว่ามันง่ายนักเหรอที่จะทิ้งกันไป แต่ก็กลัวคำตอบที่ใจร้ายว่ามันอาจจะเป็นเรื่องง่ายดายเหมือนแค่ปอกกล้วยเข้าปาก

“ก็ควรจบตั้งแต่คุณเป็นน้องชายของผมแล้วมั้ย อีกอย่างคุณก็พูดเองว่าเราไม่ใช่คนคบกัน” ไอ้เจ้าพูดเตือนความจำให้คนความจำสั้นที่เริ่มพูดกลับไปกลับมาอย่างจับต้นชนปลายไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วต้องการอะไร

“กูไม่ได้รู้สึกว่ามึงเป็นพี่เลยนะเจ้า กูคนก่อนจะยังไงก็ไม่รู้ ช่างหัวไอ้ธราคนนั้นเถอะ เพราะกูจำห่าอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่กูคนนี้ไม่ใช่น้องของมึง” ธราเถียงในทันที เขาปฏิเสธสถานะพี่น้องตั้งแต่วันที่ไอ้เจ้าบอกแล้วว่าเขาเป็นน้องชายของมัน ความรู้สึกของเขาบอกชัดว่าไม่ใช่ ต่อให้ไอ้เจ้าจะยืนยันว่าเป็นความจริงอย่างไร เขาก็จะคิดว่ามันโกหก “แล้วเราก็ไม่ใช่คนคบกันจริงๆ ไม่ใช่เหรอวะ ทุกวันนี้มีสถานะมั้ย ก็ไม่ คนอื่นเขาคิดว่าเราคบกัน แต่ความจริงแล้วที่มึงยังอยู่ตรงนี้แค่เพราะกูไม่ให้มึงไป”

“แล้วคุณจะเอายังไงธรา” สีหน้าของไอ้เจ้าหงุดหงิดเต็มที “ผมเอาใจคุณไม่ถูกแล้ว”

“อยู่...โดยที่ไม่คิดจะทิ้งกันไปได้มั้ย”

“…”

“มึงรู้ตัวหรือเปล่าเจ้าว่าคนที่กำหนดวันจะทิ้งแม่งไม่ใช่กู”

“…”

“แต่เป็นมึง”

“…”

“กูต่างหากที่ควรถามว่าตอนนี้เหลือเวลาอีกเท่าไรที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”

คำถามของธราได้รับคำตอบเพียงความเงียบงันเพราะคนที่ควรให้คำตอบเอาแต่หลุบตาลงต่ำ ทั้งที่ผ่านมานั้นไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเลี่ยงสบตา

.

.

“เอ๋ จอดๆ ๆ ๆ จอดรถก่อนได้มั้ย บีมีเรื่องอยากถาม”

ไอ้เอ๋ถึงกับเบิกตาโตเท่าไข่ห่านเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ที่เคยสะบั้นรักมันมาดักตรงหน้ารถจักรยาน สาวเจ้าถ่อมาถึงคณะเกษตรฯ เพื่อดักรอมันโดยเฉพาะ คิดได้อย่างนั้นไอ้เอ๋จึงรีบลูบผมเผ้าและจัดให้เข้าทรง ทว่าผมฟูๆ ของมันไม่เป็นใจ ยังคงชี้โด่เด่ขายขี้หน้า

“โอ้ ว่าไงยัยตัวร้าย” ไอ้เอ๋ทักทายด้วยการทำตัวแบดบอยอย่างที่ควั๊นเพื่อนรักของมันแนะนำ การเจอยัยตัวร้ายที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือนทำให้ไอ้เอ๋ถึงกับแสยะยิ้มอย่างคิดไปเองว่าในที่สุดเจ้าหล่อนก็มาตามตื้อ “ตั้งแต่ที่เธอทำให้ผมโดนไอ้คิ้มตามล่าเรื่องขโมยผักในแปลง เราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยนะ”

สาวเจ้าขมวดคิ้วโก่งได้รูปเข้าหากันด้วยไม่เข้าใจว่าตนเองเป็นสาเหตุได้อย่างไร แต่ก็พอจำได้แม้จะนานมากแล้วที่ได้รับผักปลอดสารพิษจากชายหนุ่มตัวผอมตรงหน้า “แม้จะไม่เข้าใจที่เอ๋พูดเท่าไร แต่บีก็ขอโทษนะคะ"

“ให้ความหวังผมอีกแล้วนะ แต่เธอรู้ไว้ว่าผู้ชายอย่างผมเจ็บแล้วจำ มันสุดจะทนเมื่อต้องเจ็บนมเพราะคนอย่างเธอ” ไอ้เอ๋สะบัดหน้า ท่าทางตลกๆ ของมันทำให้ดาวเภสัชฯ อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ไม่ต้องยิ้มขำ เพราะผมไม่ใช่คนตลก ผมคือเอ๋ที่จริงจัง”

“เอ๋” เจ้าหล่อนร้องเรียกพลางทำหน้าจะร้องไห้เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มพูดคุยไม่รู้เรื่องแล้ว

“เอาล่ะ เข้าเรื่องของคุณได้ แต่ผมขอจอดจักรยานแป๊บ”

“เอ่อ ไม่ต้องจอดก็ได้ ไม่นานหรอก แค่มีเรื่องอยากถามเฉยๆ”

ไอ้เอ๋ตวัดตามอง “โปรดให้เกียรติความยาวของขาผมด้วย เขย่งอย่างนี้มันเมื่อยนะ”

“งั้นตามแต่ใจเอ๋เลยค่า”

ไม่อยากขัดไปมากกว่านี้จึงปล่อยให้ไอ้เอ๋จูงรถจักรยานของมันไปจอดใต้ร่มไม้ โดยที่ขาเรียวยาวของแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ก็ก้าวตามไปด้วย เมื่อไอ้เอ๋จอดรถเป็นที่เรียบร้อย บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น

“เรียบร้อยละ ไหน มีเรื่องอะไรจะถามก็พูดมาเลย แต่ถ้าถามว่าตอนนี้ผมโสดไหม บอกเธอได้ว่าขายออกแล้วจ้า”

ดาวเภสัชฯ ยิ้มยินดี “ดีใจกับเอ๋ด้วยจ้า”

“ไม่เสียดายหน่อยเรอะ”

“ไม่ เพราะบีก็มีแฟนแล้ว”

“เธอมันคือยัยตัวร้ายที่มาเหยียบอกผมถึงที่ ฮึ่ยย” ไอ้เอ๋ฟึดฟัด แต่แล้วก็สงบใจได้ด้วยรู้ว่าออกนอกเรื่องไปไกล “ว่าแต่เรื่องที่จะถามล่ะ”

“อ่า...คือ เอ๋จำได้มั้ยที่บีเคยบอกว่ามีพี่สาวที่เรียนแพทย์อยู่มอ J” ดาวเภสัชฯ เกริ่นนำเรื่อง พอเห็นไอ้เอ๋ทำหน้าครุ่นคิดไม่นานจากนั้นก็พยักหน้าแล้วจึงพูดต่อ “พี่เอน่ะ พี่เอเป็นสายรหัสกับพี่เจ้า พี่เจ้าคนที่เป็นเดือนแพทย์ ที่บีบอกว่าหน้าเหมือนกับเจ้าเพื่อนของเอ๋”

“อื้อๆ จำได้ๆ นายเจ้าเพื่อนของผมก็ซิ่วมานะ แต่ก็ไม่เคยถามอะว่าจากคณะไหน ทำไมเหรอ”

“คืออย่างนี้เอ๋” ดาวเภสัชฯ มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย แต่ในความลำบากใจนั้นกลับแฝงแววบางอย่างที่ไอ้เอ๋เห็นแล้วรู้สึกไม่ดี “ช่วงนี้เจ้าไปไหนเหรอ ไม่ค่อยเห็นเลย”

“รายนั้นโดดบ่อย ไม่ค่อยเข้าเรียนอยู่แล้วอะ ไม่เห็นก็ไม่แปลกหรอก มีอะไรหรือเปล่าเธอ สีหน้าเธอไม่ดีเลยนะ” ไอ้เอ๋มีสีหน้าจริงจัง พลอยรู้สึกเครียดไปด้วย

“บีบังเอิญได้คุยกับพี่เอเรื่องสายรหัส ต้องเรียกว่าบังเอิญจริงๆ เพราะติดต่อไม่ค่อยได้ คงเพราะต่างคนต่างเรียนหนักด้วย กลับบ้านก็คลาดกันตลอด แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังสบายดีอะไรแบบนี้อะก็เลยไม่ได้นึกห่วงอะไร แล้วเมื่อวานไม่รู้ทำไมถึงติดต่อได้ขึ้นมา แล้วอยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามเรื่องของพี่เจ้าเลย ติดค้างเจ้าว่าจะเอารูปมาให้ดูด้วย ที่คุยกันตอนอยู่โรงอาหารคราวนั้น จะขอรูปจากพี่เอแล้วถามสักหน่อยว่าพี่เจ้าเป็นยังไงบ้าง ยังเรียนอยู่หรือซิ่วไปแล้ว แบบ...อยู่ๆ บีก็อยากรู้”

“โห เรื่องก็นานหลายเดือนแล้วอะ แต่ยังจำได้ ไม่แปลกใจที่เรียนเภสัชฯ คงจำชื่อยาเก่งเชียว”

“ไม่นะเอ๋ ปกติบีลืมง่าย เรื่องนี้ก็ลืมไปแล้ว แต่อยู่ๆ ก็ฉุกคิดขึ้นมา” ดาวเภสัชฯ มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อยเมื่อกำลังขบคิดถึงเรื่องที่กำลังจะพูดต่อจากนี้ “คือบีคุยกับพี่เอเรื่องพี่เจ้าอะ แซวๆ พี่เอไปว่ามีพี่รหัสหล่อๆ คอยช่วยติวให้ เกรดก็คงสวย แต่พี่เอก็บอกว่าสายขาดไปแล้ว ตอนนี้สายปีสูงของพี่เอก็จบเป็นอินเทิร์นไปหมดแล้วอะ”

“ก็ถ้าใช่คนเดียวกับนายเจ้าเพื่อนของผม สายก็ต้องขาดอยู่แล้วนะเธอ ก็นายเจ้าซิ่วมาเรียนที่นี่อะ” ไอ้เอ๋ว่า “เธองงอะไร”

“เอ๋” ดาวเภสัชฯ เอ่ยเรียกชื่อไอ้เอ๋เสียงแผ่ว เสียงหวานสั่นเล็กน้อยเมื่อเริ่มพูด “แต่พี่เอบอกว่าพี่เจ้าไม่ได้ซิ่วไปเรียนที่ไหนนะ ที่สายขาดเพราะโดนยิงเสียชีวิตไปแล้ว”

“เฮ้!” ไอ้เอ๋ร้องลั่น “ไม่ตลกนะ”

“อือ ไม่เลย” สาวเจ้าไม่ได้มีท่าทีโกหกแม้แต่น้อย และเพราะอย่างนั้นไอ้เอ๋จึงได้แต่ทำหน้าเครียด “ดูแชตพี่เอมั้ย บีขอรูปพี่เจ้ามาด้วย”

ไอ้เอ๋ไม่มีความกล้า อยู่ๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ไม่รู้ว่าตัวมันกลัวอะไร แต่เพื่อความแน่ใจจึงทำใจกล้ายื่นมือไปรับโทรศัพท์จากดาวเภสัชฯ มาดู บนหน้าจอนั้นปรากฏรูปของไอ้เจ้าเพื่อนของไอ้เอ๋ที่ถ่ายรวมกับหญิงชายในรูปที่คาดเดาน่าจะเป็นการเลี้ยงรวมสายรหัส แต่พี่เอ คนที่ส่งรูปมาให้บอกว่าผู้ชายในรูปชื่อพี่เจ้า จักรพรรดิ สายรหัสของหล่อนที่เป็นเดือนคณะ ทว่าใบหน้าคมคายที่โดดเด่นหาตัวจับยากนั้นไม่มีทางปฏิเสธได้เลยว่าไม่ใช่คนเดียวกับเพื่อนของไอ้เอ๋

“เธอ พี่สาวเธอได้ข่าวมาผิดมั้ย” ไอ้เอ๋เอ่ยถามทั้งที่หน้าซีดเผือด “คือพี่เจ้าเดือนแพทย์อะคนเดียวกับเพื่อนของผมแน่นอน แต่เธอก็เห็นนี่ เพื่อนของผมยังไม่ตาย”

ดาวเภสัชฯ ไม่ได้สนใจตอบคำถาม หล่อนมองหน้าไอ้เอ๋พลางเอ่ยถาม “เอ๋เจอเจ้าครั้งแรกเมื่อไหร่เหรอ จำได้มั้ย”

“ก็ต้องจำ...” ไอ้เอ๋หยุดพูดไปเพียงครู่ อยู่ๆ ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าความทรงจำของตัวเองนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใบหน้าของคนที่กล่าวทักทายกันครั้งแรกที่ถือเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพนั้นพร่าเลือนลงไปทุกที “เธอ...”

“ลืมเหมือนกันใช่มั้ย ไม่รู้ทำไมบีก็จำไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่มีรูปพี่เจ้าในเครื่อง บีก็นึกหน้าเจ้าไม่ออก”

“คนเราก็ต้องมีลืมกันบ้าง” ไอ้เอ๋ไม่ยอมรับ “บางเรื่องก็ลืม บางเรื่องก็จำ มันเป็นปกติ”

“เอ๋ว่ามันจะเป็นยังไงอะ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมา”

“เธอ เพื่อนของผมยังไม่ตาย” ไอ้เอ๋ยืนกรานเสียงหนักแน่น “สองปีเลยนะที่ผมอยู่กับเพื่อนของผม แล้วเธอจะให้ผมสงสัยเหรอว่ามันมีเรื่องบ้าๆ เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นจริง”

“ทำไมถึงจำเวลาได้แม่นล่ะเอ๋” ดาวเภสัชฯ เอ่ยถามพลางเฝ้ารอคำตอบ “ทั้งที่ไม่รู้เวลาเริ่มต้นแต่ทำไมรู้ระยะเวลาที่แน่นอน ทำไมถึงเป็นเวลาสองปี เอ๋เคย...”

“ผมว่าเธอเพ้ออะ” ไอ้เอ๋ตัดบท ไม่คิดยอมรับว่าตัวมันเองก็แคลงใจสงสัย “เดี๋ยวผมต้องขึ้นเรียนแล้ว เธอก็คงมีเรียนใช่มั้ย ให้ยืมจักรยานปั่นกลับคณะเอาเปล่า”

“เอ๋ ไม่รู้ทำไมจริงๆ นะ บีถึงรู้สึกว่าเราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เป็นครั้งแรกอะ ทั้งที่นี่ก็เพิ่งครั้งแรก มันตะหงิดอยู่ในใจ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

“เธอคงเรียนหนักแน่ๆ บอกแฟนเธอซื้อวีต้าให้กินด้วยนะ”

“เฮ้อ ก็คิดแล้วว่าเอ๋คงไม่เชื่อ” ดาวเภสัชฯ ถอนหายใจ ก่อนจะมองหน้าไอ้เอ๋ด้วยความจริงจัง “แต่เอ๋...ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาสองปีแล้วนะ เวลามันเกินสองปีมามากแล้ว”

“…"

“ตอนนี้มันเป็นสองปีกับอีกสี่สิบวัน”

แต่ในความรู้สึกของไอ้เอ๋ราวกับผ่านมาสักชาติเห็นจะได้ ทว่ามันก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป “เห็นมั้ย เธอยังจำเวลาได้แม่นเลย”

“แล้วทำไมเราถึงจำได้ล่ะ มันคือเวลาอะไร เรานับเวลากันทำไม นับตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วจริงๆ แล้วมันคือเวลาของใครกันแน่เอ๋” ดาวเภสัชฯ มีสีหน้าย่ำแย่ลงทุกที “บีกลับคอนโดฯ ก่อนดีกว่า ปวดหัวยังไงก็ไม่รู้”

“อืม ไปพักเถอะ เธอคงเพ้อ กาวอะ ลดๆ ลงบ้างก็ดี”

“นายก็เหมือนกันล่ะย่ะ!”

ดาวเภสัชฯ ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้แค่เพียงไอ้เอ๋กับจักรยานคู่ใจของมัน

เวลา...ของใคร งั้นเหรอ

นั่นสินะ...มันเป็นเวลาของใครกัน

.

.

03:40 PM

เอ๊: ควั๊น นายเรียนอยู่มั้ย

ควั๊นพั๊ด: ไม่ นายมีไร ทำไมไม่ทักในกลุ่ม ทักส่วนตัวทำไม บอกเลยนะว่าผมมีแฟนแล้ว ไม่รับดีลใครลับหลังแฟน

เอ๊: เมาควันรถมอเตอร์ไซค์เหรอนาย

ควั๊นพั๊ด: โอเค นายจริงจังใช่มั้ย งั้นมีไรว่ามา

เอ๊: ผมอยากรู้ว่านายเจอนายเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ

ควั๊นพั๊ด: บอกนายไปแล้วไง ว่าครึ่งปีมาแล้ว

เอ๊: วันไหน

ควั๊นพั๊ด: ใครจะไปจำได้

เอ๊: จำเดือนได้มั้ย

ควั๊นพั๊ด: มิถุนาหรือกรกฏานี่แหละมั้งไม่แน่ใจ

เอ๊: นาย ถ้าบอกว่าครึ่งปีก่อนก็ไม่ใช่มิถุนาหรือกรกฏาสิ มันต้องพฤศจิกายนนะ นายนับเดือนไม่เป็นเหรอ จบอนุบาลที่ไหนมา

ควั๊นพั๊ด: นายโมโหทำไมเอ๋ ผมงง ก็เดือนนี้ธันวาคมไม่ใช่เหรอ

เอ๊: นี่มันเดือนเมษายน! ผมเพิ่งเล่นเอพริลฟูลเดย์กับนายไปนะ! ที่ผมบอกนายไงว่าผมจน นั่นน่ะเป็นการโกหกในวันเอพริลฟูลเดย์ของผม

ควั๊นพั๊ด: นั่นไม่ใช่คำโกหกนี่

เอ๊: เราต้องตัดเพื่อนกันวันนี้แหละ ไปเปิดปฏิทินเลยไป๊

ควั๊นพั๊ด: เฮ้ นายนั่นแหละที่ควรไปเปิดปฏิทิน เรายังไม่สอบกลางภาคกันเลย ถ้าเป็นเดือนเมษายน นายจะยังเรียนอยู่ได้ยังไง ต้องปิดเทอมแล้วสิ สมองนายมีปัญหาแล้วนายเอ๋

เอ๊: ควั๊น นายมาเจอกันหน่อยได้มั้ย ผมว่าผมอาจจะมีปัญหาจริงๆ

ควั๊นพั๊ด: ผมมีธุระ

เอ๊: ทำไมนายต้องติดธุระทุกครั้งเวลาที่แก๊งเราจะรวมกลุ่ม

ควั๊นพั๊ด: ผมจะรู้มั้ยเนี่ย ก็คนมันมีธุระ ผมควรจะถามมากกว่าว่านายเป็นตัวดึงดูดความวุ่นวายมั้ย นัดผมทีไร ผมงานเข้าทุกที

เอ๊: ควั๊น นายคิดว่าเราอยู่คนละมิติมั้ย แบบ...เวลาของนายอาจจะเร็วหรือช้ากว่าเวลาของผม ไม่รู้ทำไม ยิ่งผมสงสัยผมก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกที่ผมอยู่นี้มันไม่จริงมากขึ้นเรื่อยๆ นายว่าโลกคู่ขนานมันจะมีจริงมั้ย แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งมันซ้อนทับกันขึ้นมามันจะเป็นยังไง ถ้าโลกหนึ่งไม่ได้เดินไปพร้อมกับอีกโลก แต่กลับถูกหยุดเวลาไว้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น วนเวียนอยู่อย่างนี้ซ้ำๆ แล้วถ้าวันหนึ่งโลกคู่ขนานเกิดครอสกันขึ้นมา ซ้อนทับช่วงเวลาแค่บางช่วงเวลา นายว่ามันจะเป็นไปได้มั้ย

ควั๊นพั๊ด: ผมบอกให้เลิกดมกาวไง อ่านชื่อและนามสกุลของนายวนไปสิบครั้ง! เริ่ม!

เอ๊: ควั๊น ผมพูดจริงๆ นายยกเลิกธุระของนายได้มั้ย มาเจอกันหน่อย เราไม่เคยเจอกันเลยนะ

ควั๊นพั๊ด: เอ๋ แฟนผมไข้ขึ้นสูงต้องนอนโรงพยาบาล วันนี้ผมไปหาไม่ได้จริงๆ เขาไม่มีใครแล้วเอ๋ เขามีแค่ผม นายเรียกนายเจ้าได้มั้ย

เอ๊: ไม่เป็นไรนาย ผมเข้าใจนะ ไม่ต้องรู้สึกผิดนะ ผมแค่หาเพื่อนกินข้าว

ควั๊นพั๊ด: มีเรื่องด่วนอะไรก็โทรมานะ นายทนกินข้าวคนเดียวไปก่อนละกัน

เอ๊: โอเค๊

ควั๊นพั๊ด: แต่ว่านะเอ๋

ควั๊นพั๊ด: เราเคยเจอกันแล้ว เมื่อสองวันก่อนไง แต่นายคงรีบก็เลยมองไม่เห็นว่าผมทัก ผมเกือบคิดไปแล้วว่าเราเป็นเพื่อนกันแค่ในแชตเท่านั้น

เอ๊: อ่า...เหรอๆ ๆ ผมคงรีบจริงๆ นั่นแหละ นายอย่าน้อยใจไปเลยนะเพื่อนรัก

ควั๊นพั๊ด: เค ผมไปก่อนละ

เอ๊: จ้า



....................TBC..................



คุณรู้ไหมว่ามันไม่ง่ายเลยที่ผมต้องยอมรับ กับชีวิตในโลกที่มันไม่มีคุณ

ขอบคุณการคิดวิเคราะห์มาตลอดนะคะ มันทำให้เรารู้ว่าเราร่วมเดินทางมากับทุกคนมานานแค่ไหน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Margarita ที่ 01-02-2019 17:37:12
ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากวอทททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททท
งงไปหมดแล้วจ้ะพี่จ๋า รอต่อนะคะ
ปล.พี่เจ้าเป็นเมะทันมั้ย พี่หล่อกระแทกตาน้องเหลือเกิน เลิฟยู
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 01-02-2019 18:23:01
สับสน สงสัย..  :hao5:
งงอ่าาาา..  :katai1:
ไรท์รีบมานะค้าาาาาา.. :katai4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 01-02-2019 18:27:32
งงงไปหมดแล้ววววว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 01-02-2019 19:00:21
มันคืออารายยยยย  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 01-02-2019 19:04:48
คือยังไงงงง สับสนไปหมดแล้ว
สับสนในสับสน ซับซ้อนในซับซ้อน
หรือว่าจริงๆแล้วนายเอ๋เมากาว
หรือเจ้าจะขอเวลาเพื่อมาอยู่กะดินแล้วก็จากไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 01-02-2019 19:22:13
ไม่เอาไม่คิดนะเอ๋นะ
ตอนนี้สนแค่ เจ้า
เจ็บให้สุดๆแล้วออกมานะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 01-02-2019 19:36:53
โลกคู่ขนานหรอออ ก็รู้ว่าท่านเจ้าบันดาลได้ทุกสิ่ง ทำไมกลายเป็นแบบนี้ งงไปหมด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-02-2019 20:06:13
เจ้า เดือนแพทย์ถูกยิงตาย  :really2:
แล้วที่มาเรียนมอ.เอ๋ ตามตื๊อดิน มันยังไง  :z3:
เจ้ามีรอยแผลที่หน้าอก ยังเจ็บอยู่ ยังคุยเรื่องนี้กับจี้ด้วย แล้ว  :z3: :a5:

เวลาที่จำกันไม่ได้ ทั้งเอ๋ ทั้งเดือนเภสัช ทั้งควั๊นพัด งงงงงงงงง....เดั   :z10: o22

หรือเจ้ามาปรากฎให้เห็นเฉพาะบางคน  o22 :really2: :serius2:
ที่แน่ๆ ดินเห็นแก่ตัว  :angry2:
ไม่มีสถานะการคบ แล้วก็ไม่ให้เจ้าไป........ เครียดเด้อ   :really2:
หรือเจ้า ปล่อยข่าวว่าตายที่มอ.เดิม แต่จริงๆมาเรียนที่มอ.ดิน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 01-02-2019 20:13:42
เราฮงเลยนิ  o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-02-2019 20:22:02
????????...
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Poompim ที่ 01-02-2019 20:38:13
ทำไมเอ๋พาเราออกทุ่งอ่ะ :z3: :z3:
 เหมือนจะตามเรื่องได้ เรากลับไปอ่านตั้งแต่ตอน  เเรกอีกรอบเลยอ่ะ :a5: o22
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 01-02-2019 22:33:26
มาต่อเร็วๆนะค่ะ กำลังตื่นเต้นเลย สงสารเจ้าอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-02-2019 23:48:39
เมากาวเปเปอร์มาเช่น้องเอ๋จ้าาา
นิยายเราแอ๊ดวานซ์ขึ้นทุกที
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-02-2019 00:15:27
เอ๊ะ? เราเริ่มปวดหัวเหมือนบีละ หรือว่าเราเมากาวเหมือนเอ๋ งงไปหมด หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นแนวแฟนตาซี
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 02-02-2019 01:13:35
เอ๋ หนูทำให้พี่งง พี่กำลังเข้าใจพี่ต้องไปเริ่มใหม่อีก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 02-02-2019 01:34:02
ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ เอ๊ะ อะไร ยังไงนะคะ แงงงงง พี่เจ้าาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 02-02-2019 01:48:11
เจ้าเป็นใครกันแน่ แต่จี้ก็บอกว่าสองปีแล้วไม่ใช่เหรอ  o22
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 02-02-2019 02:09:18
ปวดหัวกันใหญ่เลย 
เดาว่าโลกนี้ดินไม่รู้จักเจ้า จำเจ้าไม่ได้ เพราะสะเทือนใจที่เห็นเจ้าถูกยิงเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน
แต่ในอีกโลกหนึ่งดินถูกยิงเสียชีวิตทำให้เจ้าข้ามมิติมาเพื่อห้ามเหตุการณ์  ดินรอด แต่เจ้าคนที่ข้ามมิติมาถูกยิง  จันทร์คนนี้เป็นจันทร์ในอนาคต  เจ้าคนนี้เป็นคนปัจจุบันมีรอยถูกยิงที่หน้าอก เพราะต้องกลับโลกอดีตและรอการถูกยิงในอีกสองปี... เดาคล้ายมั้ย อย่าคิดตามเด้อเดี๋ยวปวดหัว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-02-2019 04:26:15
เอ๋ กับ บี พวกเธอทำให้คนแก่คันหงอกขึ้นมาเลยนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-02-2019 08:14:37
 :pig4: เป็นนิยายที่กาวมาก คาดเดาอะไรไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-02-2019 09:34:27
งงในงง
คงต้องขอร้องดาวเภสัชให้มีเวลาพาไปหาพี่สาว
แล้วคุยเรื่องนี้จริงจังสักทีนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 16 Our happiness ​P.17 01/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 02-02-2019 19:27:14
ตกลงเป็นแนวแฟนตาซีใช่ม๊ายยยยยยยยยยยยยย  :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 03-02-2019 18:11:37
ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น





ธรามาตามนัดหมายกับจันทร์เจ้าในเวลาหกโมงเย็นที่ร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งฝ่ายที่นัดหมายนั้นบอกว่าเป็นสถานที่แห่งความทรงจำ เพราะแบบนั้นเขาจึงตกลงใจที่จะมาจนเป็นเหตุให้มึนตึงกับไอ้เจ้ามาตลอดทั้งวัน

ธรานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวที่อยู่ไม่ไกลจากกระจกใสบานใหญ่สูงจรดเพดานที่พอมองออกไปจะเห็นสวนสวยที่เจ้าของร้านคงจ้างนักออกแบบสวนมาจัดตกแต่งไว้เป็นอย่างดี เมื่อหันกลับเข้ามาในตัวร้านแล้วกวาดตามองก็จะเห็นการตกแต่งสไตล์ไทยประยุกต์ ภายในร้านนั้นให้ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่อึดอัดแม้จะมีจำนวนโต๊ะเยอะอยู่พอสมควร บางจุดที่มีฉากไม้กั้นก็ไม่ได้ดูรกหูรกตา เฟอร์นิเจอร์อย่างเช่นพัดลม โคมไฟ หรือของตกแต่งอื่นตามฝาผนังก็มีทั้งดีไซน์โบราณย้อนยุคและดีไซน์ร่วมสมัย ทั่วทั้งร้านถูกคุมโทนด้วยสีครีมขาว แทรกสีน้ำตาลของงานไม้ แม้แต่ชุดของบริกรก็เป็นโทนสีเดียวกัน ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา ทว่าก็ยังมีบางจุดที่โดดเด่นแปลกตา อย่างเช่นมุมตรงข้ามที่เขานั่งก็ยังมีของตกแต่งที่ดูทันสมัยแต่เข้ากันกับตัวร้านได้อย่างลงตัว

“ผมสั่งของโปรดให้นะครับ เวลามาที่ร้านนี้ด้วยกัน ดินมักจะสั่งเมนูเดิมทุกที” จันทร์เจ้าบอกอย่างเอาใจ รอยยิ้มหวานปรากฏบนดวงหน้าเล็กเมื่อผสานสายตากับธรา

“ครับ สั่งอะไรมาก็ได้ เพราะตอนนี้ผมไม่มีของที่ชอบเป็นพิเศษหรอก”

“งั้นรับรองเลยว่าเมนูนี้ดินต้องขอข้าวเพิ่มอีกจานแน่ เพราะดินเคยชอบมากๆ” จันทร์เจ้ายิ้มสดใส แต่ยิ่งเห็นรอยยิ้มนี้ ความรู้สึกของธราก็ยิ่งชัด ทั้งที่ก็ไม่ได้ต่างจากวันแรกที่เจอ แต่กลับน่าสนใจน้อยลงจนแทบไม่หลงเหลือความน่าสนใจ

คงเพราะเคยได้เห็นพระจันทร์เสี้ยวที่สวยกว่านี้มาแล้วละมั้ง...

ธราจมอยู่ในความคิดในขณะที่เสียงของจันทร์เจ้ากำลังเจื้อยแจ้วสั่งอาหารกับบริกรสาว จากที่เคยไม่แน่ใจกลับแน่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าที่นั่งตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่ที่ของจันทร์เจ้า เขาอาจจะเคยหรือไม่เคยมาที่นี่ เรื่องนี้ไม่มั่นใจเท่าไรนัก แต่เขากลับมั่นใจว่าจันทร์เจ้าไม่ใช่คนในความรู้สึกที่คอยรบกวนจิตใจของเขาในตอนนี้ ภาพจำของคนคนนั้นรางเลือน ไร้เสียงพูด มีแต่เพียงมือที่มักจะจับมือของเขาไว้ ไม่เคยได้เห็นใบหน้า ราวกับตรงนั้นถูกเบลอไปด้วยความขมุกขมัวของกลุ่มควัน เขาจึงต้องออกมาพบกับจันทร์เจ้าเพื่อยืนอยากยืนยันความมั่นใจของตัวเองให้ยิ่งชัดเจนขึ้นก็เท่านั้น

“จันทร์ครับ” ธราเอ่ยเรียกเมื่อบริกรเดินจากไปพร้อมออเดอร์และบอกด้วยรอยยิ้มว่าอีกไม่นานอาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟ “ผมไม่แน่ใจว่าควรถามมั้ย”

“ถามอะไรเหรอครับ คำถามยากหรือเปล่า ถ้ายากจันทร์คงตอบไม่ได้นะเพราะจันทร์หัวทึบ”

“ไม่ยากหรอกครับ” ธราคลี่ยิ้มเมื่อพูด “ผมแค่อยากรู้ว่าเราคบกันนานมั้ยก่อนที่ผมจะเกิดอุบัติเหตุ”

จันทร์เจ้าเงียบไปเพียงครู่ ก่อนจะเผยรอยยิ้มหวาน “หนึ่งปีนี่นานหรือเปล่าครับดิน แต่เราตัวติดกันเหมือนกับแฝด ใครๆ ก็พูดว่าดินห่างจันทร์ได้ไม่เกินเมตรต้องขาดใจตายแน่ๆ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย จันทร์ต่างหากที่ห่างดินไม่ได้ ว่าแต่ถามแบบนี้ ดินจำเรื่องของเราได้บ้างแล้วใช่มั้ยครับ”

ธราไม่ตอบคำถามแต่กลับถามต่อ “แล้วก่อนหน้านั้นผมเคยมีแฟนหรือมีคนรักมั้ย ถ้ามีแล้วผมเลิกกับเขาได้ยังไง จันทร์บอกว่าจันทร์รู้จักผมก่อนที่เราจะเป็นแฟนกันเกือบสองปี เพราะฉะนั้นก็คงรู้ใช่ไหมครับ”

“จันทร์ไม่รู้หรอกครับ” น้ำเสียงของจันทร์เจ้าแฝงความน้อยใจ ดวงตากลมโตตัดพ้อ “ว่าแต่ดินถามคำถามนี้กับจันทร์ ไม่คิดว่าใจร้ายไปหน่อยเหรอ จันทร์ขี้หึงนะบอกไว้ก่อน อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้แต่ก็ยังพูดถึงคนอื่น แล้วต่อให้ดินเคยมีมันก็ไม่ใช่เรื่องของเราเลยนะ เพราะเขาเป็นแค่อดีตไปแล้ว สถานะของเขาในตอนที่เราคบกันก็เป็นแค่แฟนเก่า คนที่ดินควรแคร์ ควรให้ความสำคัญก็คือจันทร์มั้ย”

“ขอโทษครับ ไม่ทันคิด” ธราบอกเสียงเรียบ สีหน้าไม่อนาทรทำให้คนมองยิ่งน้อยใจเพราะรู้สึกได้ว่าเขาขอโทษของเขานั้นเป็นเพียงแค่คำขอโทษตามมารยาทโดยที่ไม่ได้รู้สึกอยากขอโทษจริงๆ

“แล้ววันนี้อยู่กับจันทร์ได้ถึงกี่โมง” จันทร์เจ้าเก็บงำความน้อยใจเอาไว้ ก่อนจะเริ่มบทสนทนาด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง

“วันนี้ต้องรีบกลับครับ ผมต้องแก้แล็ปให้เสร็จทันวันมะรืน”

รีบกลับอีกแล้วเหรอ...ที่ห้องมันมีอะไรดีนักหนา

“เอามาทำที่ห้องของจันทร์ก็ได้ เราจะได้อยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้” จันทร์เจ้าเสนอ แววตาตัดพ้อจ้องมองธราเมื่อเริ่มพูดต่อ “ถ้าเรายังเจอกันแค่วันละครั้ง ครั้งละไม่กี่ชั่วโมงอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่ดินจะจำจันทร์ได้ ดินไม่สงสารคนที่ถูกลืมบ้างเลยเหรอ กว่าจันทร์จะตามหาดินเจอ กว่าจันทร์จะมาอยู่ตรงหน้าดินตอนนี้ได้ ดินไม่รู้หรอกว่าจันทร์ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน คิดถึงแต่ทำได้แค่คิดถึงมันทรมานมากเลยนะดิน”

ธราไม่รู้จะตอบกลับคำพูดของจันทร์เจ้าว่าอย่างไรถึงจะไม่ทำให้เจ้าของดวงตากลมโตตรงหน้าเสียใจไปมากกว่านี้ เพราะสีหน้าเจ็บปวดของจันทร์เจ้าเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาแน่ใจว่าไม่ใช่การเสแสร้งและหากทุกเรื่องที่จันทร์เจ้าพูดเป็นความจริง เขาจะชดใช้ให้กับคนคนนี้อย่างไร ในเมื่อความรู้สึกของเขาที่มีต่อจันทร์เจ้าในตอนนี้ไม่ใกล้เคียงความรู้สึกของคนรักเลยแม้แต่น้อย ธราคนก่อนจะรู้สึกอย่างไรนั้นก็ยังไม่แน่ชัดเพราะยิ่งพยายามนึกความทรงจำที่ทำร่วมกันกับจันทร์เจ้า ความทรงจำกับใครอีกคนก็เด่นชัดขึ้นมา ตอกย้ำทุกครั้งว่าคนที่เคยเป็นคนรักของเขาไม่ใช่คนที่มีดวงตากลมโตคนนี้ ทว่าความห่วงใยที่เขามีต่อจันทร์เจ้าก็ยังคอยฉุดรั้งให้เขายังคงเชื่อว่าอาจจะเคยมีสถานะพิเศษต่อกัน รอยยิ้มที่ได้เห็นครั้งแรกก็มองเลยผ่านไปไม่ได้ ทำให้เขายังคอยตามหาความชัดเจนให้กับความรู้สึกของตัวเอง แต่เมื่อได้ออกมาเที่ยวเล่นด้วยกัน ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็ยิ่งแน่ใจว่ามันเป็นเพียงความรู้สึกสนใจที่ไม่ได้พัฒนาไปมากเท่าที่จันทร์เจ้าคาดหวัง

“ดินกลัวมีปัญหากับคนนั้นใช่มั้ย คนที่จันทร์เจอที่ร้านเหล้าวันนั้น”

“ครับ” ธรายอมรับอย่างไม่คิดโกหก

“แต่ดินเลิกกับเขาแล้วไม่ใช่เหรอ” แววตาของจันทร์เจ้าปิดซ่อนความริษยาไว้ไม่มิด “เลิกกันแล้วทำไมยังให้เขามีอิทธิพลกับดินอยู่อีกล่ะ คนที่เป็นอดีตไปแล้วทำไมยังต้องอยู่ด้วยกันต่อ”

ธราไม่ตอบคำถาม เขาเลือกที่จะเงียบ แม้จันทร์เจ้าจะคาดคั้นแต่เขาก็ไม่ได้ให้ความกระจ่าง จวบจนที่บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ เขาจึงได้มีข้ออ้างที่จะเงียบต่อไปเพื่อจัดการอาหารตรงหน้า

อาหารในจานถูกจัดการลงทีละเล็กทีละน้อยจนเมื่อฝืนกินต่อไม่ได้ก็รวบช้อนส้อม ธราไม่เจริญอาหารนักเพราะแต่ละเมนูประกอบไปด้วยของที่เขาไม่ชอบเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแกงที่ประกอบไปด้วยกะทิ อย่างพะแนงหมูหรือแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ยิ่งแกงเขียวหวานยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเขาไม่ชอบมะเขือ ที่เห็นจะกินได้คงเป็นเมนูผัดผักรวมมิตรแต่เขาไม่อยากเขี่ยถั่วลันเตาออกให้เสียมารยาท ด้วยเหตุนั้นจึงตัดใจจบมื้ออาหารทั้งที่ยังรู้สึกหิว

“อิ่มแล้วเหรอดิน” จันทร์เจ้าเอ่ยถามเสียงแปร่ง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังไม่หายเคืองเรื่องที่คุยกันก่อนหน้า แต่ก็ยังอดใส่ใจไม่ได้ “ทำไมกินน้อยนักล่ะ จันทร์อุตส่าห์สั่งแต่ของที่ดินชอบให้”

ความสงสัยเพิ่มขึ้นในใจของธราอีกข้อ เขาจำไม่ได้หรอกว่าก่อนหน้านี้เขาชอบกินอาหารเมนูไหนบ้าง แต่เขาจำกลิ่นเหม็นเขียวของมะเขือกับอาการวิงเวียนหลังกินแกงที่ใส่กะทิเยอะๆ ได้ไม่มีวันลืม แล้วของที่จันทร์เจ้าบอกว่าเขาชอบนักหนาจะเป็นของพวกนี้ได้อย่างไร แต่ถ้าเป็นใครอีกคน...

ใช่แล้ว...ถ้าเป็นคนคนนั้น

.

.

“โอ้โห...สั่งแต่ของที่เจ้าชอบอีกแล้ว มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าเนี่ย หรือว่าไปทำอะไรผิดมาก็เลยคิดจะปิดปากเจ้าด้วยของกินใช่มั้ย นายดินตัวร้าย”

“โธ่ ใช่ที่ไหนกันครับ ก็วันนี้วันเกิดของเจ้าไง วันเกิดก็ต้องกินแต่ของที่ตัวเองชอบ”

“ก็เกือบลืมไปเลยว่าจุติวันนี้”

“ใช้คำว่าจุติเลยนะคนคนนี้

“แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่วันเกิดสักหน่อย ไปกินร้านไหนดินก็สั่งแต่แบบเนี้ย ของชอบตัวเองไม่มีเลย กลับถึงบ้านแล้วก็บ่นหิวกลางดึกทุกที ลำบากเจ้าต้องเจียวไข่ให้กินอยู่เรื่อย”

“ลำบากแต่ก็ยังทำให้เนอะ บ่นทุกครั้งก็ทำทุกครั้งเลย”

“ก็ดินหิว ใครจะปล่อยให้อดอยากกันเล่า”

“ไม่ถึงกับอดอยากซะหน่อย แค่หิวจนไส้จะขาดเอง”

“เห็นมั้ย กดดันกันชัดๆ เจ้าก็บอกแล้วว่าทำไม่เป็น ดินก็ดื้อ ได้กินไข่เจียวเค็มทุกที”

“ผมบอกว่าอร่อยก็อร่อยสิครับ ความเค็มก็เป็นรสชาติที่คู่กับอาหารคาวอยู่แล้ว”

“ก็คือโตไปเป็นโรคไตได้เลยนะ”

“ไตหาหัวจามน่ะเหรอ”

“โห...มุข แต่จะตามหาอีกเหรอ มีเจ้าอยู่ทั้งคน”

“เอ...หาเพิ่มอีกได้มั้ยครับ”

“โดนดีแน่!”

“ฮ่าๆ ๆ”

.

.

“ที่กินน้อยเพราะมันไม่ใช่ของชอบของผมนะจันทร์” ธราบอกด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วกับความทรงจำที่จู่ๆ ก็ผุดวาบขึ้นมา ตอนนี้เขารู้สึกราวกับเจอกล่องปริศนาอีกหนึ่งกล่องที่ถูกซุกซ่อนไว้ ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าต้องหาอีกกี่กล่องถึงจะได้เจอกับเส้นชัย แต่ตอนนี้กลับดีใจจนปิดซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่ได้

ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าคนคนนั้นในความรู้สึกของเขาเป็นใคร ชัดเจนเสียจนอยากรีบกลับไปหาเสียเดี๋ยวนี้

“แต่ดินสั่งทุกครั้งที่มากินที่นี่นะครับ” จันทร์เจ้ายังคงยืนกราน “จันทร์ว่าจันทร์จำไม่ผิด”

“ครับ อาจจะจำไม่ผิด” ธรายังคงยิ้มกว้าง “เป็นผมเองที่ลืม”

ลืมว่าทำไมถึงสั่งเมนูพวกนี้ทุกครั้ง...ถ้าไม่ใช่เพราะความเคยชินก็คงเพราะคิดถึงคนที่ชอบเมนูพวกนี้อยู่ตลอดเวลา

จันทร์เจ้ามีสีหน้าโล่งอก “จันทร์ก็ตกใจ คิดว่าจำผิดซะแล้ว”

“แต่จันทร์ก็กินน้อยนะครับ” ธราสังเกตเห็นว่าข้าวในจานของจันทร์เจ้าก็พร่องลงไปไม่มาก มีเพียงร่องรอยของแกงพะแนงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ติดอยู่บนจาน “ไม่ชอบเหรอ”

“ก็กินได้ครับ” จันทร์เจ้าตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ “แต่ไม่ค่อยหิว กินไม่ลง”

ธรามองเมินอาการแสนงอนของคนตรงหน้ากับคำพูดสื่อความนัยเพื่อให้เขางอนง้อ แต่เขากลับเลือกที่จะคุยเรื่องอื่นแทน “จันทร์ชอบมะเขือมั้ย”

“ไม่เท่าไรครับ” ตอบกลับเสียงห้วน แต่เมื่อรู้ตัวว่าเผลอแสดงกิริยาไม่น่ารักก็เผยรอยยิ้มหวานแล้วถามกลับ “แต่ดินชอบใช่มั้ย”

“ผมไม่ชอบครับ แต่มีคนเคยบอกผมว่ามะเขืออร่อยมาก ผมก็เลยฝึกกินแต่ก็ไม่เคยรอด ไม่เข้าใจว่ามันหวานยังไงทั้งที่เหม็นเขียวขนาดนี้”

“ใครเหรอครับที่บอก” สีหน้าของจันทร์เจ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตากลมโตมีความหวาดหวั่นอยู่ในนั้น “คนสำคัญเหรอครับที่ถึงขนาดทำให้ดินฝืนกินของที่ไม่ชอบได้”

“ครับ” ธรายอมรับ “ผมคิดว่าคงสำคัญมากๆ”

“ดิน…”

“ขอโทษครับจันทร์” คำขอโทษของธราดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หนักแน่นราวกับตะโกนออกจากใจ “ผมคิดว่าผมควรต้องบอกจันทร์สักทีว่าผมคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างที่จันทร์ต้องการไม่ได้ ผมจำคำว่าเหมือนเดิมของเราไม่ได้เลย มีบ้างที่ผมรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นไปได้ แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างที่ผมอยู่กับจันทร์”

จันทร์เจ้ามีสีหน้าเจ็บปวดจนธราอดรู้สึกผิดไม่ได้ ดวงตากลมโตคลอไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลริน เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอ้อนวอน “อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจได้มั้ย เรายังมีเวลาที่จะ...”

“จันทร์ครับ” ธราตัดบท เขาไม่อยากยืดเยื้อไปมากกว่านี้อีกแล้ว ในตอนนี้ความรู้สึกของเขาชัดเจนจนหาพื้นที่ให้จันทร์เจ้าไม่ได้อีกต่อไป “เราอาจจะเคยคบกันหรือเคยรักกัน แต่นั่นเป็นเรื่องของธราคนก่อน ผมพยายามแล้วนะครับที่จะกลับไปเป็นธราคนนั้นของจันทร์ คนที่อาจจะเคยรักจันทร์ เคยมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันกับจันทร์ แต่ผมทำไม่ได้ ความรู้สึกของผมไปต่อไม่ไหว ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่าต่อให้ธราคนนี้จำได้ขึ้นมา แต่เขาก็มีคนในใจของเขาอยู่แล้ว เขาก็ไม่แน่ใจนักหรอกครับว่ามันคือความรัก แต่การที่เขารักคนอื่นไม่ได้ ผมว่ามันก็ชัดแล้วที่เขาจะไม่กลับไป”

จันทร์เจ้ารับฟังอย่างสงบ คนหน้าหวานไม่ได้มีอาการฟูมฟายอย่างที่ธราคาดคิดเอาไว้ กลับทำเพียงยิ้มแล้วปล่อยให้น้ำตารินไหลอาบแก้มอย่างเงียบเชียบ เป็นนานกว่าที่น้ำตานั้นจะหยุดไหลโดยที่ธราทำได้เพียงมอง ไม่ได้คิดที่จะยื่นมือเข้าไปเช็ดให้ ความเป็นห่วงของเขาไม่ควรทำให้จันทร์เจ้าคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านี้ แม้จะห่วงว่าต่อจากนี้จันทร์เจ้าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อ แม้จะรู้สึกผิดจนอยากจะชดใช้ให้กับเวลาที่เสียไปของจันทร์เจ้าที่เฝ้ารอและคิดถึงเขามาโดยตลอด แต่เขาตัดสินใจแล้ว

จันทร์เจ้าสะอื้นเบาๆ ใช้หลังมือปาดน้ำตาก่อนจะพูดขึ้นว่า “แต่ดินรู้มั้ยครับว่าไม่ว่าจะเป็นธราคนก่อนหรือธราคนนี้ก็รักคนคนนั้นไม่ได้” เสียงหวานหยุดลงเพื่อที่เจ้าของเสียงจะได้เฝ้ามองปฏิกิริยาของธรา เมื่อเห็นว่าเขากำลังขมวดคิ้วด้วยความสงสัยจึงเริ่มพูดต่อ “ถ้าคนคนนั้นชื่อเจ้า จักรพรรดิ ผู้ชายที่ชื่อดิน ธรา ก็รักไม่ได้”

“ทำไม...”

ทำไมถึงรู้จัก เจ้า จักรพรรดิ ธราเต็มไปด้วยความสงสัย เขาจ้องมองรอยยิ้มของคนตรงหน้า มองสีหน้าที่ราวกับรู้เรื่องสำคัญบางอย่างที่เขาไม่รู้ด้วยความหงุดหงิดใจ

“อยากฟังเรื่องเล่าของดิน ธราคนก่อนมั้ย”

ธราจ้องมองจันทร์เจ้าเขม็ง “ทำไมถึงรู้จักเจ้า”

“นั่นสินะ...” เสียงหวานสั่นเครือ “ทำไมกัน”

“อย่ามาเล่นลิ้นกับผมนะจันทร์” ธราว่าเสียงดุ แต่อีกฝ่ายไม่มีความกลัวเกรง กลับทำแค่หัวเราะร่วน แม้น้ำตาจะเพิ่งเหือดแห้งไป เสียงหวานเสียดแก้วหูยิ่งทวีความหงุดหงิด “ทำไมถึงรู้จักเจ้า แล้วตัวคุณน่ะเคยเป็นใครในความทรงจำของผมกันแน่ ตอบคำถามด้วยครับ”

“เอ…” จันทร์เจ้ายังคงจงใจยั่วโมโหธรา รอยยิ้มเยาะปรากฏ ก่อนใบหน้าหวานจะเหยเกพร้อมกับครางเสียงแผ่วเมื่อข้อมือถูกกระชากจากคนที่ลุกจากเก้าอี้มายืนค้ำศีรษะ แววตาดุดันของธราทำให้นึกหวั่นอยู่ไม่น้อย “จันทร์เจ็บนะดิน ปล่อยก่อนเถอะ ลูกค้าโต๊ะอื่นมองกันหมดแล้ว จ่ายเงินค่าอาหารแล้วเราค่อยไปหาที่เงียบๆ คุยกัน โอเคมั้ย”

ธรายอมรามือ เขาก็ไม่อยากเป็นจุดสนใจมากไปกว่านี้เหมือนกันจึงยอมกลับไปนั่งลงบนที่นั่งของตัวเองตามเดิม ระหว่างรอให้บริกรมาคิดเงินเขาก็นั่งเงียบๆ รอ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าการพูดคุยกับจันทร์เจ้าจะมีความจริงให้เชื่อได้มากแค่ไหน เพราะแค่เรื่องที่รู้จักกับไอ้เจ้าก็ยังปิดเขาอยู่ได้ตั้งนาน แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่รู้อะไรเลย

หลังจากที่จ่ายเงินค่าอาหารเป็นที่เรียบร้อย ธราก็ลากจันทร์เจ้าที่พิรี้พิไรไม่ค่อยยอมให้ความร่วมมือออกมานอกร้าน ทั้งที่อยากกระชากแรงๆ ให้สมกับความร้อนใจที่เขามีเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเห็นข้อมือเล็กแดงเถือกแล้วก็ไม่กล้าทำรุนแรงไปมากกว่านี้

“จะไปคุยที่ไหนกันดี” จันทร์เจ้าถามอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นความหงุดหงิดของธรา “ห้องของจันทร์หรือห้องของดินดีครับ แต่บอกตามตรงว่าจันทร์ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้พูดเรื่องนี้กันเร็วนักหรอก เพราะจันทร์อยากค่อยๆ ฟื้นความทรงจำของดินทีละน้อย อยากให้ดินจำได้เอง ไม่อยากให้คิดว่าจันทร์โกหกหรือใส่ร้ายใคร แต่ก็คงไม่ได้แล้ว เพราะจันทร์เสียเปรียบ จันทร์มาช้ากว่าพี่เจ้าไปตั้งสองปี พอมาทวงดินคืนตอนนี้ มันก็...ไม่ทัน”

ธราคนนี้ดื้อดึง จันทร์เจ้าเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนจากธราคนก่อนที่เป็นคนหัวอ่อน เชื่อคนง่าย ไม่ว่าจะพูดอะไรก็คล้อยตามไปเสียหมด คนคนนั้นอ่อนโยน เจียมเนื้อเจียมตัวและขาดความมั่นใจ ทว่าธราคนนี้คือชายหนุ่มที่เติบโตจากความว่างเปล่าและใช้ชีวิตเพียงลำพัง เขามีความมั่นใจในตัวเอง ทั้งแข็งแกร่ง หยาบกระด้างและเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว เขาไม่เคยปล่อยคำพูดของจันทร์เจ้าให้เลยผ่านโดยไม่ตั้งคำถาม เขามักจะสงสัยกับเรื่องเล่าของจันทร์เจ้า ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะมองด้วยแววตาที่เชื่ออย่างสนิทใจ คงเป็นเพราะเขาเปลี่ยนไปแล้ว หัวใจของเขาปฏิเสธที่จะยอมรับ เขาจึงหาเหตุผลมาค้านทุกทาง

แม้จะให้เห็นรูปที่ถ่ายคู่กันเขาก็ไม่เชื่อ

แม้จะให้ลองทำเหมือนครั้งที่เคยคบกันเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 03-02-2019 18:12:06
เขาไม่เคยล่วงเกินจันทร์เจ้า ทำมากสุดก็แค่กอดและจับมือกันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นจันทร์เจ้าที่เป็นฝ่ายเริ่ม เขาไม่ยอมที่จะอยู่ในที่ลับตาคนตามลำพัง ชวนไปที่ห้องก็ไม่เคยตอบตกลงเลยสักครั้ง ต่อให้รั้งตัวให้อยู่เที่ยวด้วยจนดึกดื่นแค่ไหนเขาก็ดึงดันที่จะกลับห้องของตัวเอง เขามักจะเช็กโทรศัพท์มือถือทุกครึ่งชั่วโมง สีหน้าก็เต็มไปด้วยความกังวล บางครั้งก็หนีกลับเสียดื้อๆ คงมีแค่เรื่องเหล่านี้ที่ไม่ว่าจะเป็นธราคนไหนก็ไม่ต่างกัน จันทร์เจ้ายิ้มเยาะด้วยความสมเพชตัวเองเพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เป็นได้แค่เงา ต่อให้ครั้งก่อนจะถือเป็นผู้ชนะ แต่ก็ไม่เคยได้เป็นคนสำคัญ

ทว่าจันทร์เจ้าก็อดทนมาตลอด เพราะธราคนก่อนไม่เคยพูดชัดว่ารู้สึกอย่างไร เขาไม่เคยผลักไส ไม่ว่าจันทร์เจ้าจะรู้สึกอย่างไรเขาก็รับเอาไว้ แต่แล้ววันนี้ธราคนนี้กลับให้คำตอบที่ชัดเจนว่าต่อให้ดันทุรังแค่ไหนเขาก็จะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม ต่อให้จำได้หรือไม่ได้ จันทร์เจ้าก็ไม่มีความหมายต่อเขา

ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้กันนะดิน อยากกลับไปตกนรกอีกงั้นเหรอ

เจ้า จักรพรรดิคนนั้นไม่ใช่พระเจ้าของดินหรอกนะ

เพราะเขาน่ะเป็นปิศาจร้ายที่คอยแต่จะฉุดดินลงนรกไปกับเขาต่างหาก

จันทร์เจ้าได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจยามที่มองแผ่นหลังกว้างของธราซึ่งเดินนำอยู่ข้างหน้า เขากำลังเดินหาสถานที่เพื่อพูดคุยโดยไม่สนใจข้อเสนอของจันทร์เจ้า เพราะสถานที่ทั้งสองไม่ใช่ตัวเลือก ยิ่งเป็นห้องของเขา เขายิ่งไม่ให้จันทร์เจ้าเฉียดไปใกล้ เขาให้เหตุผลว่าเจอกันที่อื่นสะดวกกว่า แต่จันทร์เจ้ารู้ว่าห้องของเขามีใครอยู่ในนั้น

ใครคนนั้นคนที่สำคัญต่อเขา ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ความสำคัญก็ไม่ได้เปลี่ยน ยังคงสำคัญเหมือนเช่นดอกกุหลาบที่ไม่มีวันร่วงโรยดอกนั้น ดอกกุหลาบที่เขาบอกว่าเป็นของสำคัญและขอเลิกรากันแค่เพราะจันทร์เจ้าทำลายดอกกุหลาบดอกนั้นลง

“คุยตรงนี้” ธราพูดขึ้น เรียกจันทร์เจ้าที่ความคิดหลุดลอยไปไกลให้กลับคืน เขาหยุดเดินแล้วหมุนตัวมาเผชิญหน้าพร้อมกับใช้แววตาดุจ้องมอง “ตอบคำถามผมก่อนว่ารู้จักเจ้าได้ยังไง”

สถานที่นี้เงียบสงัดเพราะเป็นพื้นที่ว่างโล่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถของร้านอาหาร คาดเดาได้ว่าคงมีเด็กในละแวกใกล้เคียงมาเล่นเตะฟุตบอลบ่อยๆ เพราะมีประตูฟุตบอลขนาดเล็กตั้งอยู่คนละฝั่ง จันทร์เจ้ามุ่งจุดสนใจไปที่ตรงนั้นเพื่อเลี่ยงที่จะมองธรา ดวงตากลมโตมองผ่านความมืดสลัว สูดหายใจเล็กน้อยด้วยความอึดอัดทั้งที่อยู่ในบริเวณโล่งแจ้ง

“แค่คำถามแรกก็ตอบยากแล้วนะดิน”

“ตอบมาเถอะจันทร์” ธราไม่ยอมให้บ่ายเบี่ยง “ต่อให้ยากแต่คุณก็มีคำตอบให้ผมอยู่แล้ว”

จันทร์เจ้าหัวเราะเบาๆ “ให้ความรู้สึกต่างจากดินคนก่อนจริงๆ เลยนะ ถ้าเป็นดินคนนั้นคงไม่คาดคั้นจันทร์หรอก”

คนคนนั้นน่ะต่อให้ไม่เคยยกให้จันทร์เจ้าเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ก็ใจดีและอ่อนโยน เขาดูแลจันทร์เจ้าเป็นอย่างดีในฐานะของคนที่คบหากัน ดูแลเอาใจใส่แม้ว่าจะไม่เคยให้ใจ สิ่งใดที่รู้ว่าทำไปแล้วจันทร์เจ้าจะเสียใจเขาก็เลี่ยงที่จะทำและให้เกียรติจันทร์เจ้ามาโดยตลอด เพราะแบบนั้น...ถึงทำให้จันทร์เจ้ารักเขา ยอมที่จะอยู่เป็นเงาของคนในใจของเขาแม้ว่าจะไม่เคยได้ครอบครองหัวใจของเขาเลยก็ตาม

“จันทร์ พูดสักที ผมว่าเราไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้” แววตาดุไม่แพ้น้ำเสียงของธราทำให้จันทร์เจ้ายกมือยอมแพ้

“โอเค...เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เปลี่ยนคำถามจากรู้จักได้ยังไงมาเป็นจันทร์กับพี่เจ้าเป็นอะไรกันดีกว่า” จันทร์เจ้าคลี่ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของธรา เขาเหมือนคนที่อยากรู้และไม่อยากรู้ไปพร้อมกันแต่ก็ยักปักหลักรอคำตอบ “แม่ของจันทร์แต่งงานใหม่กับพ่อของพี่เจ้า จันทร์เป็นลูกติดของแม่เลี้ยงพี่เจ้า ซึ่งพี่เจ้าก็เป็นพี่ชายของดินด้วย...เรื่องนี้คิดว่าคงรู้อยู่แล้วใช่ไหม”

“ใช่...เจ้าบอกแล้วว่าเป็นพี่ชาย” น้ำเสียงของธราแผ่วเบา เขาเริ่มมองเห็นความยุ่งเหยิงในความสัมพันธ์นี้ “แต่ไม่ได้บอกเรื่องจันทร์”

“ก็แน่นอนอยู่แล้วสิ เขาไม่เคยนับญาติกับจันทร์นี่ เขาคิดว่าตัวเองสูงส่ง ส่วนจันทร์มันก็แค่คนที่ไม่มีอะไรเทียบเขาได้” ใบหน้าของจันทร์เจ้าบิดเบี้ยวเมื่อพยายามฝืนยิ้ม ความริษยาท่วมท้นอยู่ในใจจนยากที่จะควบคุมความรู้สึกได้อีกต่อไป “แต่พนันได้ว่าเขายังไม่บอกเรื่องทั้งหมดกับดินหรอกใช่ไหม”

ธราไม่อยากยอมรับแต่ความจริงก็เป็นอย่างที่จันทร์เจ้าพูด ในหัวของเขาตอนนี้มีความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อกันอยู่หลายเรื่อง ทั้งแน่ใจและไม่แน่ใจ บางเรื่องก็ไม่รู้ว่าเป็นความทรงจำที่ปรุงแต่งขึ้นเองหรือไม่ ซึ่งเขาก็ไม่รู้จะไปหาคำตอบจากที่ไหน เพราะไอ้เจ้าปิดปากเงียบตั้งแต่กลับจากชลบุรี มันเอาแต่ห่วงแล้วขอให้เขาอย่าเร่งรัดตัวเอง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ทว่าเขาทำไม่ได้ เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธราคนก่อน อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงลืมเลือนไอ้เจ้าไป อยากเข้าใจถึงสีหน้าเศร้าสร้อยและแววตาที่เจ็บปวดของมันสักที

“ดินรักกับพี่เจ้าไม่ได้หรอกนะ” เสียงของจันทร์เจ้าดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางความเงียบ เมื่อเห็นว่าธรากำลังมีสีหน้าครุ่นคิดก็อาศัยจังหวะนี้ในการพูด

“ทำไมจะไม่ได้” ธราหลุดถาม หัวใจปวดหน่วงเพราะถ้อยคำที่ได้ยิน เขารู้สึกราวกับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จันทร์เจ้าบอกกับเขาแบบนี้ “ผมกับเจ้าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ สักหน่อย แล้วตอนนี้ก็ยิ่งเหมือนคนแปลกหน้า ถ้าจะอ้างด้วยเหตุผลนี้ผมกับจันทร์ก็รักกันไม่ได้หรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วเราจะเคยคบกันได้ยังไง”

จันทร์เจ้าเหยียดยิ้มราวกับคนที่กำลังถือธงแห่งชัยชนะโบกสะบัด ดวงตากลมโตมองธราด้วยความสงสาร “แล้วถ้าเป็นสายเลือดเดียวกันล่ะ ดินยังคิดว่าจะรักกันได้อยู่มั้ย”

แปล๊บ!

ธรานิ่งงันราวกับถูกจู่โจมอย่างรุนแรงที่อกข้างซ้าย เขาเผลอกลั้นหายใจ รู้สึกราวกับตกลงไปในเหวลึกที่ไร้ก้นบึ้ง ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีสิ้นสุด

“ไม่...จริง” เขาเอื้อนเอ่ยได้เพียงเท่านั้น น้ำเสียงขาดห้วงอย่างผู้ไม่ยอมรับ “เอา...อะไร...มาพูด”

“เรื่องจริงครับ” จันทร์เจ้าว่าพลางขยับเข้าไปใกล้ มือเล็กยกขึ้นสัมผัสสันกรามของธราด้วยความหลงใหล “ดินรักพี่เจ้าไม่ได้เพราะดินกับพี่เจ้าเป็นพี่น้องกัน เป็นคนที่มีสายเลือดเดียวกัน เป็นพี่น้องต่างแม่ แม่ของดินทิ้งดินไว้ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เพราะโชคชะตาหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่ทำให้ดินได้กลับมาอยู่กับพ่อแท้ๆ ของตัวเอง พ่อของดินน่ะรักดินมากเลยนะ ท่านไม่อยากให้ดินยุ่งกับพี่เจ้า ท่านถึงพาดินหนีพี่เจ้ามา แต่พี่เจ้าก็หาดินเจอจนได้ เขาไม่ปล่อยดินเพราะเขาเห็นแก่ตัวไง เขารู้ว่ารักไม่ได้แต่ก็ยังอยากจะพาดินตกนรกไปกับเขาด้วย”

“พอ…”

“ตอนนี้พ่อของดินกับแม่ของจันทร์อยู่ที่ต่างประเทศ ถ้าดินอยากรู้ความจริงดินก็โทรถามพวกเขาได้เลยว่าเรื่องที่จันทร์พูดใช่เรื่องโกหกมั้ย หรือจะบินไปหาพวกเขาก็ได้ ไปด้วยกันกับจันทร์เลย”

“พอสักทีจันทร์!” ธราตะคอก แววตาของเขาดุดันแล้วยกมือขึ้นผลักจันทร์เจ้าให้ออกห่าง “ผมกับเจ้าไม่ใช่พี่น้องกัน ความรู้สึกของผมไม่เคยโกหกผม จันทร์ต่างหากที่โกหก”

“ความรู้สึกไม่ยอมรับความจริงของดินต่างหากที่กำลังทำให้ดินหลอกตัวเอง” จันทร์เจ้าแย้ง แววตาหวานดึงดันที่จะให้ธรายอมรับให้ได้ “ความรักของดินมันเป็นไปไม่ได้ แต่รู้มั้ย ไม่ใช่แค่ดินที่หลอกตัวเองแต่คนที่ดินรักก็ไม่ต่าง เขาอยากให้ดินตายไปกับเขา เขาเลือกจะพาดินลงนรกแทนที่จะปล่อยดินไป ที่ดินต้องความจำเสื่อมก็เป็นเพราะเขา ที่ดินต้องเจ็บปวดก็เป็นเพราะเขา แล้วยังจะกลับไปรักเขาอีกเหรอ” น้ำตาของจันทร์เจ้าไหลรินอีกครั้ง ความเจ็บปวดมาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่เคยเข็ดหลาบ กลับเต็มใจที่จะอ้าแขนรับเอาไว้ “มันยากมากเหรอที่จะรักคนที่รักดินอย่างจันทร์ คนที่เป็นไปได้อย่างจันทร์ อย่ากลับไปรักเขาอีกเลยนะดิน จันทร์ขอร้อง จันทร์ไม่อยากเห็นดินเจ็บอีกแล้ว”

แววตาของธราแดงก่ำ ทุกความรู้สึกที่เขาควรรู้สึกนั้นตีกันวุ่นอยู่ในอกจนแทบระเบิดออกมา เขาย้ำเตือนกับตัวเองว่าคำพูดของจันทร์เจ้าเป็นเพียงคำโกหก คำโกหกที่เลวร้ายที่สุดในโลก เขากับไอ้เจ้าน่ะหรือจะมีสายเลือดเดียวกัน หน้าตาไม่ได้เหมือนกันแม้สักเศษเสี้ยว ไม่มีหนทางอื่นแล้วหรือไงถึงได้เลือกที่จะโกหกกันด้วยเรื่องผิดบาปแบบนี้ เขาไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด ใครจะทำใจเชื่อได้ลง ใครจะทำใจยอมรับได้ว่าเคยสุขสมกับพี่ชายสายเลือดเดียวกันมานับครั้งไม่ถ้วน

“หมดเรื่องจะคุยแล้วครับ จันทร์กลับเองได้นะ ผมคงไม่ไปส่ง”

ธราก้าวเดินหลังจากที่ตัดบทร่ำลา เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองจันทร์เจ้า ทว่าเสียงหวานนั้นยังคงดังไล่หลัง

“ตอนนี้ดินอาจจะคิดว่าจันทร์โกหก แต่ถ้าดินจำได้ ดินจะรู้ว่าจันทร์ไม่ได้โกหกเลย คนที่กำลังโกหกดินอยู่ตอนนี้ก็คือคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ! จันทร์จะไม่ไปไหนหรอกนะ จันทรจะรอดินกลับมา! เพราะคนที่ดินควรรักก็คือจันทร์ ไม่ใช่พี่เจ้า! ดิน! ดินได้ยินมั้ย!”

แม้เสียงของจันทร์เจ้าจะดังแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจส่งไปถึงเจ้าของไหล่กว้างที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ โดยไม่เหลียวกลับมามอง

.

.

“โอ๊ะ” ไอ้เจ้าร้องอย่างตกใจ เพราะอยู่ๆ ก็ถูกสวมกอดจากข้างหลัง กลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่คุ้นจมูกทำให้ไม่ร้องโวยวายไปมากกว่านั้น มันถอดหูฟังออกแล้วถามกับเจ้าของอ้อมแขน “กลับเร็วจังครับ ว่าแต่มาตอนไหน ไม่ได้ยินเสียงตอนคุณเข้ามา”

“จะได้ยินเสียงได้ไง มึงใส่หูฟังฟังเพลงเสียงดังขนาดนี้” ธรากอดคนตัวผอมแน่นขึ้น แล้วบอกเสียงนุ่ม “คิดถึงก็เลยรีบกลับ”

“เฮ้เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ” ไอ้เจ้าพยายามองเสี้ยวหน้าของคนที่เกยคางบนไหล่ของมันอย่างนึกห่วง “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าที่รัก”

“ไม่รู้สิ แต่รู้สึกเหมือนกำลังจะตายเลย” ธราบอกเสียงแผ่ว เขารู้สึกทรมาน ถ้อยคำของจันทร์เจ้าก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัว ทั้งที่ปฏิเสธจะเชื่อแต่กลับลบออกไปจากความจำไม่ได้ เขาจมอยู่กับคำพูดนั้นราวกับคนจมน้ำ ใกล้ขาดอากาศหายใจเต็มที แต่เมื่อเปิดประตูห้องและเห็นแผ่นหลังแคบของไอ้เจ้าที่ยืนอยู่ตรงระเบียง เขาก็เหมือนถูกช่วยเหลือ แค่เพียงเห็นไอ้เจ้า แค่ได้กอดมันเอาไว้ เขาก็รู้สึกว่าต่อให้ต้องจมน้ำต่อไปก็คงไม่ทรมานมากนัก

“ปวดหัวอีกแล้วใช่มั้ย” เสียงทุ้มนุ่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้า จักรพรรดินั้น ธราก็เพิ่งรู้ว่ามันน่าฟังมากก็วันนี้ มันน่าฟังจนช่วยลบเสียงของจันทร์เจ้าออกไปจากหัวของเขาได้ “ถ้าการออกไปเจอมันแล้วกลับมาแย่ทุกครั้ง ผมจะไม่ให้คุณไปอีกแล้ว ต่อให้ต้องขังคุณไว้ผมก็จะทำ”

“ไม่ต้องขังก็ไม่ไปแล้ว กูจะอยู่กับมึง”

ความหนักแน่นของธราทำให้ไอ้เจ้ารู้แน่แก่ใจว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับเขา “มีอะไรจะเล่าให้ผมฟังมั้ย”

“ไม่” ธราปฏิเสธทันควัน “มันเรื่องไร้สาระ”

ไอ้เจ้าพรูลมหายใจ เห็นสีหน้าย่ำแย่ของธราแล้วก็ไม่อยากคาดคั้นไปมากกว่านี้ “เอาเถอะครับ ถ้าคุณไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร ว่าแต่กินข้าวมาหรือยัง”

“กินมาสองคำ”

ไอ้เจ้าได้ยินก็หัวเราะทันที “มันไม่อร่อยเหรอ”

“มีแต่ของที่ไม่ชอบ ทั้งแกงเขียวหวาน ทั้งพะแนง แล้วก็ผัดผักที่มีถั่วลันเตาด้วย”

“โห...แย่เลย แล้วทำไมไม่สั่งอย่างอื่น”

“จันทร์เป็นคนสั่ง” ธราตอบอ้อมแอ้ม “เขาบอกว่ากูชอบกิน”

“ไม่ข้อมูลเพี้ยนก็มันนั่นแหละเพี้ยน คุณไม่ชอบกินแกงที่ใส่กะทิไม่ใช่เหรอ”

ธรายิ้มกว้างพลางรับคำ “อือ ตอนแรกก็จำไม่ได้หรอกว่าไม่ชอบ มันก็พอกินได้ แต่ประเภทที่ใส่กะทิเยอะๆ มันๆ พอลองกินแล้วเวียนหัว”

“ก็แปลกดีเนอะ ความชอบบางอย่างร่างกายก็คงจดจำเอาเอง” ไอ้เจ้าพึมพำ ก่อนจะเอ่ยถาม “ว่าแต่กินมาสองคำอย่างนี้คงหิวใช่มั้ย”

“ตอนนี้ยัง แต่ดึกๆ เจียวไข่ให้กูกินด้วย กูต้องมีแรงแก้แล็ป ฟันปลอมของคุณตาอำนวยยังรอคอยกูอยู่”

ไอ้เจ้าหัวเราะ “ก็ชอบหนีไปเที่ยว ผมเตือนก็ไม่ฟัง แล้วเป็นไง รับกรรมจนสว่างคาตา”

“ต่อไปไม่ไปไหนแล้ว”

“แน่ใจเหรอ”

“อืม กูเคลียร์เรียบร้อย”

ไอ้เจ้าชะงักไปเพียงครู่ ก่อนจะผละจากอ้อมแขนของธราแล้วหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเขา “ผมควรดีใจหรือเปล่านะดิน”

“แล้วตอนนี้มึงไม่ดีใจเหรอ” ธราย้อนถาม “กูบอกเขาชัดเจนแล้วว่าต่อให้เมื่อก่อนจะเคยคบกัน แต่กูก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้”

“คุณคิดดีแล้วใช่มั้ย”

“อืม คิดมาสักพักแล้ว” ธรายกมือขึ้นไล้ไปตามแก้มของไอ้เจ้า “ทุกครั้งที่อยู่กับเขา กูกลับคิดถึงคนอื่น เป็นแบบนี้มันก็ไม่แฟร์กับเขา เขาเสียเวลารอกู เสียเวลากลับมาหากูเพื่ออยากให้กูจำได้ กูก็เลยไม่อยากให้เขาเสียเวลาที่จะเจอคนดีๆ ไปมากกว่านี้”

“ครับ แบบนี้ก็ดี” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มไม่เต็มหน้า รอยยิ้มของมันเป็นเพียงแค่การกระตุกมุมปาก “มีแค่ผมก็พอแล้ว”

“อือ รีเทิร์นมั้ย มีสถานะกันสักที”

ไอ้เจ้าแสร้งทำตาโตกับคนที่อยู่ๆ ก็ขอมีสถานะกันดื้อๆ “เมื่อเช้ายังทะเลาะกันอยู่เลย ขอเล่นตัวรีเทิร์นพรุ่งนี้ได้มั้ยครับ”

“ไม่ได้ กูรีบ” ธรายิ้มร้าย “อยากมีเมีย”

“แน๊”

ธรายิ้มขำกับสีหน้ายียวนของไอ้เจ้าก่อนจะล็อกคอมันเข้าใกล้ “ขอโทษที่เคยบอกว่าความรู้สึกที่มีให้มึงมันไม่ใช่ความรัก” เขากดริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียน “เพราะตอนนี้กูแน่ใจแล้วว่ามันมากกว่าความรู้สึกนั้นหลายเท่า”

บางคนก็เป็นได้แค่ความสบายใจ บางคนก็เป็นได้แค่คนที่นึกห่วง แต่บางคนกลับเป็นทุกความรู้สึก ต่อให้รู้สึกถึงความเป็นไปไม่ได้ก็ยังจะดึงดัน ไอ้เจ้าเป็นทุกความรู้สึกนั้นอย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกได้

“คุณสารภาพรักเหรอ”

“อืม” ธราขานรับในลำคอพร้อมกับเปิดเผยความรู้สึกของเขาผ่านแววตา “กลับมาเป็นคนรักกันอีกครั้งได้มั้ย”

“ดิน…”

“กูจำอะไรไม่ได้เลยเจ้า กูคนก่อนทำเรื่องผิดพลาดอะไรลงไปบ้างกูก็ไม่รู้ คนคนนั้นอาจจะเคยเลิกรากับมึง อาจจะเคยทิ้งมึงไปคบกับคนอื่น หรืออาจจะมีเหตุผลที่ทำให้อยู่กับมึงไม่ได้” ธราหยุดพูด ดวงตาของเขาร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำตาหนึ่งหยดจะรินไหล เขารู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน เศร้าใจจนอธิบายไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าน้ำตาไม่หยุดอยู่เพียงแค่หยดเดียว มันรินไกลอาบแก้มไม่ต่างจากไอ้เจ้าที่ก็ก้มหน้าซ่อนน้ำตาของตัวเองไว้ “แต่กูคนนี้ คนปัจจุบันคนนี้ขอเป็นคนรักของมึงอีกครั้งได้มั้ย กูสัญญาว่าจะไม่มีวันทิ้งมึงไปไหนอีกแล้ว”

ผมไม่เคยคาดเดาความคิดของคุณได้

“ได้มั้ยเจ้า”

คุณมักจะทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง

“กลับมาเป็นเจ้าชีวิตของกูนะ”

แต่คุณรู้มั้ย ผมกลับเอาแต่คาดหวังกับความไม่แน่นอนของคุณ

“ผมจะกลับได้ยังไง ในเมื่อผมไม่เคยไปไหนเลย”

เพราะผมรู้ว่าในวันที่คุณให้ความชัดเจนกับผม ความสุขจะต้องมาเยือน

ความทรมานใดในโลกนี้ก็ไม่สามารถฆ่าไอ้เจ้าได้อีกแล้ว เพราะในตอนนี้ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวได้กลายเป็นความจริง

.

.

Gee : ท่านรู้ดีว่าการดื้อดึงของท่านกำลังจะพาท่านไปเจอกับอะไร

OMG : แต่กูว่าครั้งนี้มันคงต่างไปจากเดิม

Gee : ท่านเหลือเวลาไม่มาก ท่านรู้ใช่มั้ย

OMG : รู้ กูรู้ว่าครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย

Gee : เพราะท่านทำผิดสัญญาท่านเจ้า ท่านไม่กลับมาตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ นั่นแหละถึงทำให้เวลาไม่หมุนย้อนกลับเหมือนเช่นทุกครั้ง

OMG : แต่กูว่ามันคุ้มแล้ว กูดันทุรังมาจนถึงวันที่เขาเลือกกู ครั้งนี้กูมาไกลเกินกว่าที่จะกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่มีแค่กูที่ไม่ได้เริ่มจากศูนย์

Gee : แม้ว่าความตายจะเดินทางมาถึงท่านน่ะหรือท่านเจ้า

OMG : จี้ มึงก็รู้ว่าตอนจบในแต่ละครั้งไม่ใช่ตอนจบที่ดี แต่ครั้งสุดท้ายนี้กูเริ่มต้นได้ดีมาตั้งแต่แรกและคงพบตอนจบที่ดีเช่นกัน

OMG : หนังสือเล่มเดิมมันอาจจบแบบเดิม แต่มึงรู้มั้ย แต่ละครั้งที่อ่านจบ ความรู้สึกไม่เคยเหมือนกัน

OMG : และครั้งนี้ต่อให้มันจะจบแบบเดิมกูก็ไม่เสียใจ เพราะกูแค่หวังว่าเขาจะจดจำกูได้...แค่สักเศษเสี้ยวก็พอแล้ว

Gee : แต่ครั้งนี้กระสุนนัดนั้นจะดับลมหายใจของท่าน มันจะไม่ถูกหยุดไว้ และเจ้า จักรพรรดิตัวจริงจะหายไปตลอดกาล หวังว่าท่านจะเข้าใจและยอมรับการจากลาได้

OMG : กูยอมรับได้ตั้งแต่แรกแล้วจี้

OMG : แล้วเจอกันนะ

OMG : อีกปลายด้านหนึ่งของความว่างเปล่า กูหวังจะเจอคนที่เป็นความสบายใจของกูอยู่ตรงนั้น

Gee : หวังว่าจะเจอท่านเช่นกัน

Gee : เจ้าชีวิตของผม :)



................TBC.................

ทุกความรู้สึกของคุณ มีอิทธิพลต่อหัวใจของผมเสมอ - เจ้า จักรพรรดิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-02-2019 18:53:24
แฟนตาซีปะเนี่ย
นี่เรากำลังย้อนเวลาไปมาแบบนาฬิกาของเฮอร์ไมโอนี่ป่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 03-02-2019 19:02:00
ฮื่อออ ร้องไห้รอแล้วเนี่ย ; ^ ;
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 03-02-2019 19:15:33
โจทย์ยากอีกแล้วววววววน้องเอ๋ช่วยด้วยยยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 03-02-2019 19:30:01
เราไม่เข้าใจและก็ไม่โอเคเลย จากตอนแรกจนถึงตอนนี้เรารับรู้ได้ว่าเจ้ารักดินมากและเราก็ยังคิดว่าเจ้าก็เห็นแก่ตัวมากเช่นกันเราไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านมาเจ้าทำอะไรเพื่อดินบ้างแต่สิ่งที่เราสัมผัสได้คือการยัดเยียดตัวเองเข้าไปในชีวิตคน ๆ นึงจากตอนเด็ก ๆ ที่ดินเป็นเด็กกำพร้ามันไม่แปลกเลยถ้าจะมีใครสักคนที่มาทำดีกับเรามาก ๆ แล้วเราจะไม่รู้สึกหวงความรู้สึกเหล่านั้นไว้กับตัวไม่อยากให้เขาไปทำดีกับใครจนกระทั่งปัจุบันก็เหมือนกันเจ้าก็ยังทำเหมือนเดิมคือการยัดเยียดตัวเองเพื่อให้ดินได้รู้จักและให้ดินจำเจ้าได้อีกครั้ง(ความรู้สึกเรามันบอกแบบนี้นะ)จากการที่มองว่าดินเห็นแก่ตัวเราว่าถ้าคน ๆ นึงจะรักตัวเองมากกว่าใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำเลยมันไม่ผิดนะ และประเด็นสำคัญสำหรับเราในตอนนี้คือก็ยังมองไม่ออกและก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเจ้าในตอนนี้คือยังใงกันแน่แต่!!!ถ้าให้คิดว่าเจ้ามีโอกาสย้อนเวลากลับมาอีกครั้งหลังจากที่โดนยิง(ซึ่งเราไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร)เจ้าจะย้อนกลับมาเพื่ออะไรกลับมาเพื่อแก้ไข หรือกลับมาเพื่อให้ได้รักกับดินอีกครั้งแล้วจะให้ได้รักกันเพื่อ?ทั้งที่รู้ว่าตัวเองต้องหายไปอีกแล้วดินละจะทำยังใงต่อไปเคยมองตรงนี้บ้างหรือเปล่าหรือมองแค่ว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ ถูกทำร้ายจิตใจอยู่ฝ่ายเดียว รักมากกว่าต้องเสียใจมากกว่า ต้องเป็นคนน่าสงสารมากกว่าอย่างนั้นเหรอ เคยทบทวนบ้างหรือเปล่าว่าก่อนหน้านั้นทำไมดินถึงเลือกจันทร์เจ้าเพราะจากที่ได้รับรู้ความรู้สึกของจันทร์เจ้าในตอนนี้เราคิดว่าดินต้องมีเหตุผลอะไรที่ต้องเลือกจันทร์เจ้าแน่ ๆ
 ***ทำไมถึงไม่อยู่กับความรู้สึกที่ว่าอย่างน้อยก็เคยได้รักละ
 ***ป.ล.ไปหัวร้อนมาจากใหนวะเนี่ย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 03-02-2019 19:32:08
สรุปแล้วดินน่าสงสารสุดใช่รึเปล่า ??

จะกลับมาทำให้จำทำไม ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ???

ไม่ยุติธรรมกับดินเลยนะเจ้า  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Poompim ที่ 03-02-2019 20:15:10
 :o12: :o12: :sad4: คนหนึ่่งกำลังจะจากไปส่วนอีกคนเพิ่งจะเริ่ม อ่านแล้วรู้สึกอินเหมือนใจจะขาดมาต่อไวๆนะค่ะ ช่วยเอาความคลุมเครือที่เราสงสัยออกไปสักที   :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-02-2019 20:36:21
กระสุนลูกนั้นเป็นของใคร
พ่อหรือแม่ของเจ้าหรือใคร ?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-02-2019 20:45:33
สรุปว่าเกี่ยวกับเรื่องกาลเวลาจริงๆใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 03-02-2019 20:46:48
ทำไมมันเส้าขนาดนี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 03-02-2019 20:48:33
เราจะเป็นไบโพล่าแล้ววว 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-02-2019 20:51:30
ยิ่งอ่าน ยิ่งเครียด  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 03-02-2019 21:32:12
ข้ามมิติ ย้อนเวลาหรือยังไง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-02-2019 21:38:43
เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติสินะ  :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เฉื่อย ที่ 03-02-2019 21:46:06
เพิ่งอ่านไปได้ไม่กี่ตอนแต่ชอบมาก มันอึดอัดปนหน่วงๆแต่ก็แอบยิ้มให้กับความเป็นเจ้าเสมอ
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2019 22:00:02
เหมือนคราวนี้ เรื่องดี เรื่องรัก เรื่องดิน..........
จะพลิกผันมาหาเจ้านะ  :mew1: :katai2-1:

จันทร์ที่เข้ามายุ่งกับดินเหมือนต้องการเอาชนะเจ้า
แต่ผลพลอยได้คือถ้าดินคบกับจันทร์ จันทร์จับดินได้
ฐานะ ความร่ำรวยจะมาหาจันทร์นะ 
จันทร์ไม่ใช่ขี้ไก่ ขี้กานะเนี่ย อนาคตกินอยู่อย่างสบายๆเลย

แต้ที่จี้ บอกเจ้าว่า "แต่ครั้งนี้กระสุนนัดนั้นจะดับลมหายใจของท่าน
มันจะไม่ถูกหยุดไว้ และเจ้า จักรพรรดิตัวจริงจะหายไปตลอดกาล
หวังว่าท่านจะเข้าใจและยอมรับการจากลาได้"

คราวนี้เจ้าตายจริงเหรอ  มาม่าอีกเหรอ  :z3: :เฮ้อ: :serius2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 03-02-2019 22:07:48
กาวเอ๋เหลือไหม? แบ่งเราที เราไม่ไหว :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-02-2019 22:45:44
  o2
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 03-02-2019 23:19:58
น่าติดตามมาก  เจ้าจะต้องตายจริงๆ ใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-02-2019 23:55:12
ลุ้น  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 04-02-2019 00:06:08
สรุปที่เราอ่านมารวดเดียวตอนที่ 1-17 เพื่ออะไร??
ถ้ามันจะแนวแฟนตาซี ข้ามเวลา มิติ บลาๆๆ ไรไม่รู้  - -"
เอาความอินของเราคืนมา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 04-02-2019 01:51:30
อ่านเจอประโยคหนึ่ง น่าจะนานแล้ว เป็นประโยคที่โผล่มาในความฝันของดินที่แม่ของเจ้าพูดว่า ถ้าอยากอยู่กับเจ้า ดินต้องไม่ทำดีกับเจ้า... ทำให้คิดถึงว่าถ้าเป็นการย้อนเวลาจริง ตอนนั้นคงเป็นดินโหมดหัวอ่อนเชื่อฟังแม่เจ้าเพราะอยากอยู่กับเจ้า เลยดูแลจันทร์เจ้าตามคำบอกของแม่เจ้า(โหมดหัวอ่อนนี้ ดินรักเจ้ามาก รักตั้งแต่ตื่นนอนลืมตาขึ้นมาเห็นรอยยิ้มของเจ้าในทุกๆเช้า  รู้สึกกับเจ้าอย่างผู้ชายรักผู้ชาย และเกิดอารมณ์บ่อยจนต้องไประบายกับวิน ) การดูแลจันทร์ทำให้เจ้าเข้าใจผิดว่าถูกดินทิ้ง และการไม่โต้แย้งกับจันทร์ ทำให้จันทร์หลงรักดิน เหตุการณ์ร้ายน่าจะเกิดหลังจากที่จันทร์รู้ว่าดินยังชอบเจ้าเลยทำลายดอกกุหลาบ...จากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องรอผู้แต่งมาเฉลย ส่วนตัวเดาว่าน่าจะเป็นการยิงกันมากกว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะแพร์เคยบอกว่าดินขับรถไม่เป็น ไม่น่าขับรถไปเกิดอุบัติเหตุได้   ปมคงอยู่ที่จู่ๆเอ๋กับบี ก็จำไม่ได้ว่ารู้จักเจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่  ความทรงจำของเหตุการณ์ในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนเพราะเวลาเริ่มทำงาน เกิดข่าวว่าเจ้าถูกยิงเสียชีวิต  เพราะเหตุการณ์ในอดีตได้ถูกเปลี่ยนสำเร็จแล้วตั้งแต่ตอนที่ดินรอดกลับมาแล้วช็อคเพราะเห็นเจ้าถูกยิง ทำให้จำเจ้าไม่ได้  เจ้ามาเพื่อตายแทนดิน (โปรดสังเกตว่า ดินฝันว่าวิ่งหนีผีหลายครั้ง) การย้อนอดีตมาช่วยดินน่าจะทำมาหลายครั้ง ครั้งนี้ช่วยได้สำเร็จ เลยจะเป็นครั้งสุดท้าย   เมื่อเจ้ากลับไป คนยุคนี้ที่เจอเจ้าในช่วง2ปี ก็จะค่อยๆลืมเจ้าเกษตร จะจำได้แค่ว่าเจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์ได้เสียชีวิตเพราะถูกยิง ... ที่น่าสนใจ คือบทนี้ ดิน รู้สึกว่าไม่ได้เป็นพี่น้องกับเจ้า   อาจจะมีการย้อนอดีตของดินคนนี้ไปแล้ว(รึเปล่า) แล้วไปเจอเงื่อนปมอะไรสักอย่าง ถึงส่งผลต่อความรู้สึกของดินในปัจจุบันบทนี้ .... ว่าแต่  ไทม์แมชชีนมาแต่ไหน  ใครมาจากอนาคตเป็นคนแรก.... ด้านบนคือเดานะ  อย่าไปจำผิดว่าผู้แต่งเป็นคนเขียน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 17 พระจันทร์ดวงนั้น ​P.18 03/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 04-02-2019 10:15:10
เหมือนใจจะขาด :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 06-02-2019 18:02:51
ตอนที่ 18 เวลาของใคร





เอ๊: เธอ

เอ๊: ขอโทษที่ทักมาแต่เช้านะ

เอ๊: แต่ผมนอนไม่หลับเลย

เอ๊: ผมไม่กล้าคุยเรื่องนี้กับใคร

เอ๊: แต่เพื่อนในแชตของผมเขาบอกว่าตอนนี้เป็นเดือนธันวาคมแล้ว

เอ๊: ผมก็ยังไม่กล้าฟันธงอะไรหรอกนะ เพราะควั๊นก็ดูไม่ค่อยเต็ม เขาอาจจะดูปฏิทินพลาดก็ได้

เอ๊: เธอว่าโลกที่เราอยู่นี้เป็นยังไง

เอ๊: เวลาผิดเพี้ยนหรือเปล่า

Bee : ใจเย็นก่อนนะคะเอ๋ เอ๋ลองถามคนอื่นหรือยังคะ

เอ๊: ถามแล้ว ไอ้พี่หมอแพร์ห้องข้างๆ บอกว่าผมประสาทด้วยล่ะ เพราะผมเอาแต่ถามเรื่องวันเดือนปีกับเขา

เอ๊: ว่าแต่เธอถามพี่เอให้หน่อยได้มั้ย ผมอยากรู้ว่าพี่เดือนแพทย์คนนั้นโดนยิงตอนไหนแล้วใครยิงเขา มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

Bee : พี่เอติดต่อไม่ได้อีกแล้วล่ะเอ๋ แต่บีว่าพี่เอคงไม่รู้เรื่องมากนักหรอก

เอ๊: แล้วผมควรจะทำยังไงดี เพื่อนของผมทั้งคน เขาเป็นเพื่อนรักเพื่อนตาย เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมเลยนะเธอ ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา

Bee : บีจะหาทางติดต่อพี่เอนะเอ๋ แต่บอกตามตรงเลยนะว่าเป็นเรื่องยาก บีเคยคิดจะไปเยี่ยมแต่ไม่เคยไปถึงเลย แท็กซี่บอกว่าไม่รู้จักมอ J พอเราพยายามไปเองมันก็หลงทุกที

เอ๊: เธอ เธอว่าจริงๆ แล้วเรามีตัวตนอยู่มั้ย โลกที่เราอยู่นี้มันเป็นจริงมั้ย ทั้งผมทั้งเธอหรือทุกๆ คน เรามีอยู่จริงหรือเปล่า

Bee : เอ๋กำลังฟุ้งซ่านแล้วนะคะเนี่ย ถ้าเราไม่มีตัวตนแล้วเราเป็นอะไรล่ะคะ

เอ๊: ไม่รู้เหมือนกัน ผมยอมรับเลยว่าความคิดของผมวิ่งวุ่นไปหมด

Bee : ทำใจให้สบายก่อนนะคะเอ๋ ตอนนี้ทุกอย่างปกติดี พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นกลับด้าน

เอ๊: งั้นเธอคิดว่าพี่เออยู่โลกเดียวกับเรามั้ย แล้วถ้าไม่ใช่ ถ้าเวลาของโลกพี่เอเร็วกว่าเวลาของโลกเรา งั้นแสดงว่าอีกไม่กี่เดือน เพื่อนของผมก็จะตายด้วยหรือเปล่า

Bee : ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ ถ้าอยู่คนละโลกแล้วบีกับพี่เอจะเป็นพี่น้องกันได้ยังไงคะ พี่เอเพิ่งมาขาดการติดต่อไปไม่นาน

Bee : หรือนานกันนะ

เอ๊: ยังไงแน่เธอ

Bee : ไม่แน่ใจ แต่บีมาคิดๆ แล้วนะคะเอ๋ พี่เจ้ากับเจ้าอาจจะเป็นฝาแฝดกันก็ได้

เอ๊: แต่ผมกลับรู้สึกว่าคนชื่อเจ้า จักรพรรดิมีคนเดียวในโลก

เอ๊: ผมสังหรณ์ใจว่าในเดือนธันวาคมของอีกโลกนั้น หมายถึงถ้ามันมีอีกโลกอยู่จริงๆ เจ้า จักรพรรดิอาจจะตายไปแล้วก็ได้ คงเกิดเรื่องขึ้นก่อนหน้านั้น เพราะงั้นฝากเธอหน่อยได้ไหม ถามพี่เอให้ที ไม่ต้องรู้เรื่องทั้งหมดก็ได้ แค่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เกิดเรื่องขึ้นก็พอ

Bee : ได้เลย หวังว่าจะติดต่อพี่เอได้อีกครั้งนะ เอ๋ก็อย่าเพิ่งคิดมากเลยตอนนี้ ทำใจให้สบายดีกว่าค่ะ





“นายเอ๋!” เสียงร้องเรียกดังขึ้นจากทางด้านหลังทำเอาไอ้เอ๋ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม โทรศัพท์มือถือเกือบหลุดจากมือร่วงไปบนพื้น ดีที่ว่านึกถึงหน้าดุๆ ของแม่จ๋าได้ มันจึงกำแน่น รักษาไว้เท่าชีวิต เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือปลอดภัยดีแล้วจึงหันมองเจ้าของเสียงเรียกที่กำลังเดินใกล้เข้ามา

ไอ้เจ้ากำลังเดินตรงมาทางนี้ เรียกสายตาจากสาวๆ ที่กำลังนั่งเม้ามอยกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะให้มองกันจนเหลียวหลัง แต่พ่อเจ้าประคุณหาได้สนใจสายตาเหล่านั้นไม่ ความสนใจเพียงหนึ่งเดียวคือไอ้เอ๋เพื่อนซี้ที่กำลังนั่งปลีกวิเวกอยู่ใต้เงาร่มไม้ที่มันใช้เป็นที่จอดจักรยานคู่ใจอยู่บ่อยครั้ง

“โห ตกใจอะไรขนาดนั้น” ไอ้เจ้าถามด้วยแววตาขบขันเมื่อเห็นไอ้เอ๋ตกใจแทบเสียสติ ผมที่ฟูอยู่แล้วก็เหมือนจะฟูขึ้นยิ่งกว่าเดิม หน้าตาตื่นๆ ของมันยิ่งน่าแกล้ง “แล้วนี่ทำไรอยู่นาย หน้าเครียดเชียว”

“คือ…ว่า แบบ...” ไอ้เอ๋หาข้ออ้างไม่ทัน มันตะกุกตะกักจนน่าสงสัย ไอ้เจ้าจึงนั่งลงเคียงข้าง

“เป็นไรนาย ทำหน้าเหมือนเห็นผี”

ไอ้เอ๋ยิ้มแหย รีบบอกขอโทษขอโพย “โทษทีเพื่อนรัก ผมแค่กำลังคุยเรื่องเครียดๆ กับแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ”

“เห...ไอ้หมอแพร์อกหักดังเป๊าะแล้ว นายกลับไปคุยกับหล่อนเหรอ ที่จริงก็ไม่ได้เจอหล่อนนานแล้วนะ คิดถึงช่วงที่ฟาดฟันกันเรื่องธราแล้วก็อดอยากเจอหล่อนไม่ได้ หล่อนคงสบายดีใช่มั้ย” ไอ้เจ้าแซว วันนี้มันดูอารมณ์ดีผิดปกติ

“ก็สบายดีนะ มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย” ไอ้เอ๋ให้คำตอบ ก่อนจะลอบมองไอ้เจ้าที่ใบหน้าคมคายของมันเจือรอยยิ้มน่ามองยิ่งกว่าทุกวัน “ว่าแต่นายเถอะ แย้มบานกว่าปกตินะวันนี้ มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเรอะ”

“แน่น๊อน” ไอ้เจ้ายักคิ้วขึ้นเพียงข้างเดียวอย่างเท่ๆ “ธรายอมรีเทิร์นกับผมแล้วนาย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ มั้ย”

ไอ้เอ๋ทำท่าราวกับจุดพลุในจินตนาการของมันเพื่อเป็นการเล่นใหญ่อวยพรไอ้เจ้า “ก็คือถ้าผมเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ ผมจะลงข่าวหน้าหนึ่งเพื่อแสดงความยินดีให้นายเลย”

“ก็ทุ่มเทไป” ไอ้เจ้าหัวเราะร่วนพลางผลักหัวไอ้เอ๋เบาๆ “แต่ก็ขอบใจ ยังไงตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อนเอ๋ หิวแล้ว”

“อือ” ไอ้เอ๋ตอบรับ พอสบตากับไอ้เจ้าแล้วความกลัวเรื่องที่มันครุ่นคิดอยู่หลายคืนจนทำให้นอนไม่หลับก็ประดังประเดเข้ามา จะเป็นอย่างไรกันนะถ้าในตอนนี้ ณ วินาทีนี้ ไอ้เจ้าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ผิดที่ผิดทาง

“นายหงอยมากเลยเอ๋ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเพื่อนรัก”

ไอ้เอ๋เม้มริมฝีปาก มันรู้สึกจุกแน่นที่อก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรระบายความรู้สึกที่กำลังรู้สึกอยู่นี้ด้วยวิธีการใด จึงเลือกที่จะโกหกเพื่อนรักของมันออกไป “ผมฝันว่านายตายไปแล้ว”

ไอ้เจ้าชะงักไปเพียงครู่ ก่อนจะคลี่ยิ้ม “มันก็แค่ความฝัน”

“ถึงงั้นก็เถอะ นายต้องระวังตัวนะนายเจ้า” ไอ้เอ๋บอกด้วยสีหน้าจริงจัง “นายอย่าไปมีเรื่องกับใคร ถ้าเห็นท่าไม่ดีนายต้องวิ่งหนีนะ อย่าทำตัวกวนตีนเหมือนที่ชอบทำใส่ผม ใครในโลกนี้ก็ไม่ใจเย็นเท่าผมหรอก นายรู้ ผมรู้ ว่าผมไม่สู้คน ต่อให้นายกวนตีนแค่ไหนผมก็จะอดทนไว้ ผมคือนายมั่นคง รักดีที่ไม่เคยมีเรื่องต่อยตีกับใคร”

“เหมือนนายกำลังหลอกด่าผมและอวยตัวเองแบบสุดกู่อยู่เลยนะเพื่อน”

“มันคือความห่วงใยจากผมต่างหาก”

ไอ้เจ้าส่งเสียงหัวเราะในลำคอ มันยกแขนขึ้นคล้องคอไอ้เอ๋ ก่อนพูดด้วยเสียงทุ้มน่าฟัง “นายเป็นเพื่อนที่ดีมากเลยเอ๋ นายไม่เคยเปลี่ยนเลย”

ไม่ว่าจะเริ่มต้นใหม่อีกสักกี่ครั้ง ก็ยังเหมือนเดิม

“นายเจ้า”

“ว่ายังไง”

“นายจะไม่หายไปใช่มั้ย” หางเสียงของไอ้เอ๋สั่นเล็กน้อย ความกลัวครอบงำความรู้สึกจนไม่อาจทำตัวเป็นปกติได้

“นอกจากธราแล้ว นายก็เป็นคนที่สองที่ถามผมแบบนี้” ไอ้เจ้าฉีกยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นลูบศีรษะของไอ้เอ๋เบาๆ “ทำไมทั้งนายและธราถึงชอบคิดว่าผมจะหายไป เห็นผมเป็นคนที่ทิ้งขว้างคนอื่นได้ลงคอเหรอ ผมเคยใจร้ายขนาดนั้นด้วยเหรอ”

“เคย” ไอ้เอ๋ตอบโดยไม่คิด ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจที่หลุดคำพูดออกไป เพราะไม่รู้ทำไม จู่ๆ ความคิดนี้ก็ผุดวาบขึ้นในหัว “ผมหมายถึง...ไม่รู้สิ อาจจะเคยละมั้ง”

“วันนี้นายดูเครียดเกินไปนะ” ไอ้เจ้าว่าอย่างนึกห่วง “เราไปกินของหวานกันมั้ย บิงซูคงทำให้นายรู้สึกดีขึึ้น”

ต่อให้ตอนนี้มีบิงซูเป็นสิบๆ ถ้วยวางอยู่ตรงหน้า ไอ้เอ๋ก็แน่ใจว่ามันคงเครียดอยู่เหมือนเดิม แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนรักของมันเป็นกังวลไปมากกว่านี้จึงรีบกลบเกลื่อน เรียกองค์ชอบของฟรีประทับร่าง “นายเลี้ยงมั้ยนายเจ้า”

“แน่นอน ผมต้องฉลองที่ได้คืนดีกับธราอยู่แล้ว”

“งั้นหลังกินข้าวเสร็จก็ไปต่อบิงซูกันเลย!”

“ได้ วันนี้ได้ตามที่นายขอทั้งนั้น เพราะผมอารมณ์ดีมากๆ”

“แหม ผมนี่แทบอยากหาพวงมาลัยกับน้ำแดงไปไหว้ธราเลยนะ” ไอ้เอ๋ส่งเสียงประชดประชัน “เก่งนัก เปลี่ยนคนหงอยเป็นคนดีดได้ ผมเล่นตลกให้นายดูจนหมดมุขนายก็ยังเอาแต่ซึม”

“ไม่ได้ชื่อธราก็แย่หน่อยอะ”

“คำว่ามิตรภาพนะนาย”

“ผมก็บอกว่ามันกินไม่ได้ นายก็ไม่เคยจำ เฮ้อ” ไอ้เจ้าแสร้งถอนหายใจใส่ เห็นไอ้เอ๋ทำหน้างอแล้วก็ยิ่งชอบใจ อยากแกล้งให้ร้องไห้วิ่งกลับไปฟ้องแม่จ๋าของมันเสียจริงๆ

“นาย” อยู่ๆ ไอ้คนหน้างอก็เปลี่ยนเป็นโหมดหน้าหงอยอีกครั้ง เรื่องที่ทำให้มันนอนไม่หลับกลับมาโจมตีมันอีกหนเมื่อเห็นรอยยิ้มของไอ้เจ้า

ไม่อยากให้หายไป...จริงๆ นะ

“หืม”

“นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะนายเจ้า”

“ฮะ?” ไอ้เจ้าทำหน้างงกับโหมดดราม่าของไอ้เอ๋ “ผมน่ะก็รู้ตัวดีว่าผมเป็นเพื่อนที่ดีนะเอ๋ นายไม่ต้องเยินยอผมขนาดนี้ ผมก็เลี้ยงข้าวเลี้ยงบิงซูนายอยู่แล้ว”

“ผมน่ะนะ...” ไอ้เอ๋ไม่ได้ฟังคำพูดพร่ำยกหางตัวเองของไอ้เจ้า แต่มันกลับเอาแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตากำลังไหลอาบแก้ม “ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับนาย ดีใจมากที่สุดในชีวิตเลย”

“เอ๋ นายเป็นอะไร” ไอ้เจ้าถามด้วยความตกใจ เพราะอยู่ๆ ไอ้เอ๋ก็ร้องไห้ออกมา “ใครทำอะไรนายหรือเปล่าเพื่อน”

ไอ้เอ๋ส่ายหน้า ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาออกลวกๆ ดวงตาแดงก่ำของมันเอาแต่จ้องมองไอ้เจ้า มือของมันจับแน่นที่แขนของเพื่อนราวกับต้องการยืนยันกับตัวเองว่าเพื่อนรักเพื่อนตายของมันมีตัวตนอยู่จริงๆ “ผมน่ะไม่เคยเข้าใจความทุกข์ใจของนายหรอกนะ เรื่องที่นายรักธรามากๆ ทั้งที่เขาใจร้ายกับนาย นายก็ยังอดทน ไม่เลิกรักเขา ผมก็ไม่เคยเข้าใจ ผมเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลืออะไรนายไม่ได้เลย” พูดพลางสะอื้นเบาๆ “แต่อย่าเลิกเป็นเพื่อนกับผมนะ อยู่ด้วยกันต่อ รับปากได้มั้ยนายว่าจะไม่ไปไหน"

“กาวหรือทินเนอร์ที่เกินขนาดกันนะถึงทำให้นายเล่นบทดราม่าได้เป็นฉากอย่างนี้” ไอ้เจ้าเอ่ยแซว แต่ไอ้เอ๋ไม่เล่นด้วย

“ผมจริงจังนะนายเจ้า” ใบหน้าของไอ้เด็กกาวหัวฟูจริงจังจนไอ้เจ้าหุบยิ้ม “อย่าหายไปไหน รับปากกับผม”

“ฟังนะเอ๋ ผมจะไปไหนได้ ผมก็ยังอยู่กับนายนี่แหละ” ไอ้เจ้าถามกลับ “หรือว่านายงอแงเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอผมเหรอ” พูดเองสรุปเองจนไอ้เอ๋ไม่มีโอกาสแทรก “แต่่ก็แย่หน่อยนะ ช่วงนี้ผมต้องให้เวลากับธราแล้วก็หลังจากนี้ด้วย แบบยังไงดีอะนาย คืนดีกันแล้วก็ต้องจู๋จี๋กันเป็นเรื่องธรรมดา ตัวติดกันก็เป็นเรื่องปกติ นี่แหละ วิถีของคนมีแฟน นายอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนะเอ๋ เพราะนายยังลงจากคานไม่ได้”

ไอ้เจ้าพานอกเรื่องไปไกล แต่ไอ้เอ๋ก็ยังวกเข้าประเด็นเดิม “นายไม่รับปากผมอะ”

“คือบางทีผมก็มีธุระของผมนะเพื่อน” แต่ไอ้เจ้าก็ยังพลิ้ว

“ไม่ใช่ในความหมายนั้นสินาย ผมหมายถึง...” ไอ้เอ๋ดูหัวเสียเล็กน้อย มันทึ้งหัวแล้วขมุบขมิบปากจนนึกกลัวว่ามันจะหัวล้านก่อนวัยอันควร “ไม่รู้จะอธิบายให้นายเข้าใจยังไงดี แต่เอาเป็นว่ารับปากผมก่อนเถอะ”

เมื่อเห็นว่าไอ้เอ๋จริงจังไม่เลิก ไอ้เจ้าก็เลิกเล่นเหมือนกัน มันตั้งคำถามพร้อมกับจ้องหน้าไอ้เอ๋ “นายกลัวอะไรอยู่เหรอหรือมีเรื่องรบกวนจิตใจนายอยู่ เอ๋บอกผมได้มั้ย”

“ผม…” ไอ้เอ๋พูดไม่ออก มันจะบอกเรื่องที่คุยกับแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ให้ไอ้เจ้าฟังได้อย่างไรกัน ในเมื่อแม้แต่มันเองก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ถ้าไม่เพ้อไปเองก็คงจะหลอนจนกู่ไม่กลับ “ไม่มีอะไร” สุดท้ายก็เลือกคำแก้ตัวง่อยๆ ที่ไม่นำพาให้คนฟังรู้สึกเชื่อ “เออจริงสิ ผมไม่รู้เลยนะว่าจริงๆ แล้วนายแก่กว่าผมกี่ปี เอาแต่เรียกนายแบบนี้ บางทีก็เหมือนไม่ให้เกียรติอายุนาย”

“ไม่เห็นต้องคิดมาก แต่คงจะสี่ปีมั้ง เอ...หรือมากกว่านั้น” ไอ้เจ้าตอบ สีหน้าลังเลเล็กน้อย “ผมก็ไม่แน่ใจแฮะ โทษทีนะเพื่อน ผมจำปีเกิดของนายไม่ได้”

“งั้นถ้านายไม่ซิ่ว ตอนนี้นายเรียนหรือทำงานเหรอนายเจ้า” ไอ้เอ๋ถามด้วยความกระตือรือร้นตามนิสัยชอบใส่ใจเรื่องชาวบ้านของมัน ทำให้ไอ้เจ้าไม่ผิดสังเกตแต่อย่างใด

“ถ้าไม่ซิ่วผมก็คงอยู่ปีสี่” ไอ้เจ้าตอบเสียงเรียบ “ว่าแต่เราเดินไปด้วยมั้ย ผมหิวข้าว”

“ได้สิได้ เดินนำเลย ก๋วยเตี๋ยวป้าแย้มกำลังรอนายไปลิ้มลองอยู่นายเจ้า” ไอ้เอ๋ผายมือเชื้อเชิญ ในขณะที่ไอ้เจ้าออกเดินนำ มีไอ้เอ๋คอยเดินตามติดๆ ปากก็ยังไม่ละประเด็นสนทนา “เออ...งั้น นายก็อยู่ปีสี่เท่าธราเลยนะ ใช่ไหม”

“อืม แต่ผมแก่กว่าธราสองปี โอ๊ะ ร้านป้าแย้มปิดอะนาย กินข้าวมันไก่ก็แล้วกัน”

“นายเรียนคณะอะ...โอ๊ย!” หน้าแข้งเจ้ากรรมชนเข้ากับขาโต๊ะเข้าอย่างจังเพราะไอ้เอ๋เอาแต่จ้อไม่ทันได้มองทาง

“เป็นอะไรมากมั้ยเอ๋” ไอ้เจ้าถามขึ้นทันที มันเผลอกวาดตามองสำรวจร้านข้าวในโรงอาหารคณะแค่แป๊บเดียว ไอ้เอ๋ก็กุมหน้าแข้งดิ้นเร่าๆ อย่างน่าสงสาร พอถกขากางเกงขึ้นดูก็เห็นรอยแดงช้ำปรากฏบนหน้าแข้งขาว “ให้ตายเถอะนาย ถ้าขาโต๊ะโรงอาหารคณะหักขึ้นมา พวกไอ้คิ้มต้องมารีดไถเงินจากนายแน่”

“คราวนี้ขาโต๊ะโรงอาหารไปเกี่ยวอะไรกับพวกมันอี๊กกกก” ไอ้เอ๋ถามอย่างหัวเสีย ลากเสียงไฮโน๊ตด้วยความเจ็บใจกับความซุ่มซ่ามของตัวเอง

จะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว ดันมาพลาดชนขาโต๊ะซะได้ ทีนี้จะเริ่มพูดขึ้นอีกยังไงดีเล่า

“พวกมันทำงานสโมฯ ไง นายบอสเพื่อนมันก็ตำแหน่งใหญ่โตเชียว เหรัญญิกหน้าเลือด” ไอ้เจ้าแจกแจงให้ฟัง

“นายบอสที่ธรรมะธรรมโมคนนั้นน่ะนะ” ไอ้เอ๋ทวนถามอย่างไม่เชื่อ ก่อนจะเล่าวีรกรรมของนายบอสให้ไอ้เจ้าฟัง “วันก่อนผมได้ซองผ้าป่าตั้งสามซองจากนายบอส เขาน่ะบอกให้ร่วมทำบุญเพื่อซื้อเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีให้หลวงเจ๊ แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมนับถือแค่วันพีซเท่านั้น ไม่สนใจร่วมทำบุญ”

“ก็ไม่อยากจะถามอย่างนี้หรอกเพื่อนรัก” ไอ้เจ้าเบรกความเมาของไอ้เอ๋ ก่อนมันจะฟุ้งไปมากกว่านี้ “แต่วันพีซไม่ใช่ศาสนาไม่ใช่เหรอ”

“ถ้าใจนายบอกว่าใช่ อะไรก็เป็นไปได้หมดนั่นแหละ” ไอ้เอ๋ตอบกลับด้วยคำพูดที่มันคิดว่าเท่พลางยักคิ้ว “พอ พูดขึ้นมาแล้วก็อยากกลับไปดูตั้งแต่ตอนแรกที่ลูฟี่ออกทะเล นายรู้มั้ยว่าฉากที่ซึ้งที่สุดคือฉากไหน”

ไอ้เจ้าพรูลมหายใจพลางเอ่ยถาม “ฉากที่ต้องลาจากกับเรือใช่มั้ย”

“ใช่ ฉากนั้นเลย” ไอ้เอ๋พยักหน้าหงึกแล้วทำหน้าเลื่อมใสใส่ไอ้เจ้า “นายรู้ได้ไง”

“นายคร่ำครวญให้ฟังหลายครั้งนี่เอ๋ ผมคือคนที่ผ่านสามอาทิตย์ที่กินข้าวไม่ลงไปกับนายนะ”

จำได้ว่าไอ้เจ้าต้องลำบากแค่ไหนที่ต้องคอยลากไอ้เอ๋ไปกินข้าวแทบทุกวัน ทั้งขู่ทั้งบังคับ แต่มันก็ดื้อ อีกทั้งยังชอบทำร้ายตัวเองด้วยการกลับไปดูฉากนั้นซ้ำๆ รีรันไม่รู้กี่รอบ รู้ว่าดูแล้วจะต้องร้องไห้แต่ก็ไม่เลิกดูสักที

“ใช่ๆ ผมร้องไห้อยู่สามวัน กินข้าวไม่ลงตั้งสามอาทิตย์”

“มันต้องขนาดนั้นเลยนะ”

“ผมเศร้ามากอะนายเจ้า คิดดูว่าขนาดเป็นแค่การ์ตูนยังขนาดนี้ ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมจริงๆ ผมคงตรอมใจ”

“นายเผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเอ๋ ยังไงทุกคนก็ต้องจากลากันอยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็ว ทุกคนก็ต้องไป โอ๊ะ ร้านนั้นคนน้อย กินข้าวมันไก่ละกันนะนาย เดี๋ยวซื้อมาให้”

ไอ้เอ๋นิ่งงันไปกับคำพูดของไอ้เจ้า มองร่างสูงโปร่งของเพื่อนแล้วอยู่ๆ ก็เริ่มไม่แน่ใจขึ้นมาว่าใบหน้าของไอ้เจ้าเป็นใบหน้าที่มันรู้จักจริงๆ หรือเปล่า เกิดความรู้สึกชั่วครู่ที่รู้สึกราวกับเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

ความไม่แน่ใจเกิดขึ้นอยู่ในห้วงคิดของไอ้เอ๋หลายครั้ง มันเงียบงัน จ้องมองพลางขบคิด แม้ไอ้เจ้าจะผละเดินไปที่ร้านขายข้าวมันไก่แล้วก็ตาม

ไอ้เอ๋สะบัดศีรษะไล่ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น หลายคืนมานี้มันนอนไม่หลับ คิดว่าคงเบลอไปเองมากกว่า

ไม่มีทางที่ไอ้เอ๋จะจำหน้าของไอ้เจ้าไม่ได้หรอก ไม่มีทางเลย

.

.

(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

J. : เดี๋ยวนี้นะ มันชักจะเหิมเกริม

P. : เป็นการเปิดแชตในรอบเดือนที่งงๆ อยู่นะมึง ฟันคุดไอ้มินเดือนบริหารบดขยี้ไอคิวมึงเหรอถึงได้ดูอ๊องๆ แบบนี้

J. : ไปดูไอจีของคนขี้ขิงสิไอ้สัดจะได้หายโง่!

J. : แล้วก็อย่าพาดพิงฟันคุดว่าที่ผัวกูจ้า ฟันคุดแห่งรักน่ะรู้จักมั้ย!

K. : 555 กูว่ากูเข้าใจ

J. : ใช่มั้ย มันมีคนขี้อวดว่ามีพระเจ้าเป็นของตัวเองอยู่ทุกสามชั่วโมงอะ

P. : ไอ้เหี้ยยย กูตกข่าวเหรอ อะไรยังไง ลูกกูเหรอ มันอวดใครวะะะะ

K. : ควายจริงๆ ไอ้แพร์ เสียสถาบันคนขี้เสือกหมด

P. : วันๆ หนึ่งกูทำวิจัย แก้แล็ปไฟลุก แล้วมึงจะให้กูเอาเวลาไหนเสือก!

P. : เวลาจะเต๊าะเด็กยังไม่มีไอ้เหี้ย

K. : ก็คือระบายจริงจัง เอาเป็นว่ากูเข้าใจ

J. : เนี่ย หัวอกเดียวกัน แต่ที่กูไม่เข้าใจคือทั้งๆ ที่พวกเราแห้งเหี่ยวกันอยู่บนคาน แต่ไอ้สัดดินมันชื่นบานอยู่คนเดียวได้ยังไง!

K. : เป็นคนเดียวที่คงคอนเส็ปชื่อกลุ่มได้อย่างน่านับถือด้วย

J. : โคตรขี้อวด ทำอย่างกับไม่เคยมี ถ่ายตั้งแต่เล็บตีนพี่เจ้ายันติ่งหู ไม่รู้เลยว่ารักเขามากแค่ไหน

J. : @D. มึงจะถ่ายทอดชีวิตประจำวันของพี่เจ้าผัวกูขนาดนี้ไม่ได้นะลูก อัพรูปถี่จนกูอยากบอกว่ามึงไลฟ์สดเลยก็ได้ไอ้ห่า

D. : แต่มึงก็ตามกดหัวใจทุกรูปไอ้เหี้ยจอม เป็นอะไรกับแฟนกูนัก

P. : อู๊วววว โผล่หัวมาแล้วและมาแบบชัดเจน

K. : โอ้โห ชัดขนาดนี้แล้วคนนั้นเล่าพี่มึง เขี่ยทิ้งแล้วหรือยังไง

J. : เออ กูก็เห็นออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ในไอจีก็ยังลงรูปมึงอะ แต่คือมึงเป็นแฟนกับพี่เจ้าของกูแล้ว

J. : ไม่มึงงงก็กูนี่แหละงง

D. : งงไรวะ คนอื่นจะยังไงก็เรื่องเขาดิ ส่วนเรื่องกูก็มีแค่กูกับเจ้า

P. : ซีนนี้คนเป็นพ่ออย่างกูต้องร้องไห้มั้ย กูรู้สึกว่าลูกกูเลิกเหี้ยว่ะ เหี้ยไม่ใช่ดินแล้ว แต่เหี้ยหมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่งที่ครั้งหนึ่งเคยสิงร่างลูกกูมาก่อน

J. : ในฐานะแม่ก็อยากจะบอกว่าภูมิใจ แต่ถ้าเมียลูกไม่ใช่ว่าที่ผัวของแม่ แม่ก็จะภูมิใจมากกว่านี้ ฮรึกกก

K. : ตกลงมึงจะเอาใครแน่ไอ้จอม ไอ้เจ้าหรือไอ้มิน

P. : มึงก็ถามเหมือนมันเลือกได้ แต่ความจริงถามว่ามีสักคนที่สนใจมันมั้ย

D. : ก็ไม่

J. : เจร่บบบบบบ

P. : เออ พูดถึงไอ้เจ้า กูว่าเพื่อนไอ้เจ้าช่วงนี้แปลกๆ

J. : ขอคิดจุดเชื่อมโยงก่อน ทำไมมึงพูดถึงเพื่อนพี่เจ้านะพ่อมึง

K. : ครอบครัวเราจะมีแม่อย่างมึงจริงๆ เหรอจอม ให้กูเป็นแค่ลูกติดไอ้แพร์ได้มั้ย มันดูฉลาดคู่ควรกับสมองกูดี

J. : ยอมรับก็ได้ว่าโง่ แต่ช่วยบอกกูหน่อยว่าทำไมมันพูดถึงเพื่อนพี่เจ้า

D. : มันจีบอยู่ แต่เพื่อนเจ้าไม่ชอบมัน

K. : กูว่าใช้คำว่ารังเกียจได้เลยนะ น้องดูแขยงเวลามันเข้าใกล้

J. : เอ้า นี่พ่อมึงไปนอกใจกูตอนไหนวะ อยู่ข้างห้องกันมานานไหนบอกไม่เอา ไม่ชอบไง

P. : โง่

D. : @P. มันแปลกอยู่แล้วไม่ใช่?

P. : ถ้าอิงบนพื้นฐานความกาวของน้อง กูก็ว่าปกติ แต่แบบช่วงนี้มันยิ่งไม่ปกติว่ะ

K. : ยังไงวะ? น้องมันมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า

J. : นั่นสิ อยู่ข้างห้องกันก็ถามหน่อยก็ดีนะเว้ย น้องอยู่คนเดียวด้วย น่าจะเหงา เพราะช่วงนี้พี่เจ้าโดนไอ้ห่าดิน ลูกทรพีของกูยึดตัว น้องคงไม่มีเพื่อนเล่นด้วย

P. : เออ กูก็ถามแหละ เพราะมันเอาแต่ถามเรื่องวันเดือนปี

K. : คณะให้ทำสำรวจอะไรหรือเปล่าวะ

P. : ไม่ มันเอาแต่ถามว่าวันนี้วันอะไร

J. : เชี่ยยย น้องหาเรื่องคุยกับมึงหรือเปล่า เหยยย แก บ้าน่า ไอ้แพร์จะลงจากคานก่อนกูเหรอ ไม่ได้นะเว้ยพ่อมึง เราจะยังหย่ากันไม่ได้

K. : คือมีผัวทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

D. : น้องมันถามทำไมไอ้แพร์ @P.

P. : ไม่รู้เหตุผล แต่ที่แปลกคือกูก็ตอบไม่ได้ว่ามันคือวันอะไร

K. : มึงลืมเหรอ

J. : โง่จริง จำวันไม่ได้ก็เปิดปฏิทินดู

P. : แล้ววันนี้วันอะไร

K. : ใครจะรู้วะ

J. : ควายกันทั้งหมด วันนี้วันอังคารไง กูจำได้ว่าห้องเด็กวันอังคาร ตอนเลิกคลินิกกูยังคิดว่าจะไปหาหมอตรวจหูอยู่เลยนะไอ้เหี้ย เสียงร้องไห้ทำลายแก้วหูกูมาก ถ้าไม่ใช่ไอ้ดินคือสยบไม่ได้จริงๆ นะ ฟันน้องต่ายคือไอเทมพิเศษ

K. : ห้องเด็กย้ายวันแล้วนี่ไอ้จอม ย้ายไปวันศุกร์ไม่ใช่เหรอ วราพลจัดตารางใหม่แล้ว

D. : ไม่ ไม่ใช่วันศุกร์ เมื่อวานต่างหากห้องเด็ก

P. : แล้วเมื่อวานวันอะไร

J. : ดูปฏิทินแป๊บ

K. : ของกูรวนว่ะ มันดูไม่ได้ เปิดแล้วจอมันกระพริบ

P. : จอมว่าไง

D. : เมื่อวานวันพุธ

K. : บ้าน่า เมื่อวานกูนอนตีพุงอยู่ห้องนะเว้ย มันวันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอวะ

P. : @J. จอม ว่าไง

K. : รู้สึกถึงความเคร่งเครียดผ่านตัวอักษร มีไรหรือเปล่าไอ้แพร์

P. : รอไอ้จอมก่อน

J. : โทษที มือถือกูดับไปเลยอะ เข้าแอพแล้วค้าง หน้าจอเบลอหมดแล้วมันก็ดับ

P. : เป็นเหมือนกู

K. : ของไอ้ดินไม่เป็นใช่ปะวะ

D. : เปล่า

D. : เป็นเหมือนกัน

P. : แล้วมึงรู้ได้ไงว่าวันพุธ

D. : ดูจากมือถือเจ้า

P. : อืม ก็ยังดีที่ไม่พังกันหมด แอพเจ๊งอย่างนี้กูจะร้องเรียนผู้พัฒนา

K. : แต่กูพูดจริงๆ ว่าเมื่อวานไม่ได้ไปเรียน กูมั่นใจว่าเป็นวันอาทิตย์ก็เลยนอนอยู่ห้องจริงๆ นะเว้ย

P. : มึงมาเรียนนะคิน กูเจอมึงที่ห้องเอ็นโดแต่ไม่ได้ทัก

K. : กูไม่ได้ไปไอ้เหี้ย

J. : วันนี้ห้องเด็กจริงๆ นะมึง หูกูยังวิ้งๆ ไม่หายเลย

D. : วันนี้มึงอยู่ศัลฯ ไอ้จอม กูยังเห็นมึงโดนวราพลสวดยับ

K. : …

K. : กูว่านะ

K. : ไม่ควรแกล้งกันแบบนี้

K. : โบราณเขาถือนะเว้ย

P. : กูไม่ได้แกล้ง

D. : กูก็เหมือนกัน

J. : กูก็พูดจริงว่าวันนี้คลินิกเด็ก

K. : เกิดเรื่องเหี้ยไรขึ้นวะ

P. : กูจะรู้มั้ย

D. : คุยกันไปก่อนนะ เจ้าอาบน้ำเสร็จแล้ว มันบอกจะนอนเลย กูดูมันก่อน

J. : หูยยย นอนเร็ว จะทำไรกันป่าวเนี่ย ไม่เอานะลูก ยังเด็กยังเล็ก

D. : ก็ยังจะเล่นไอ้ห่า มันไม่สบาย

P. : อ้าว มันเป็นไรวะ ตั้งแต่ไปร้านเหล้าฉลองครบสองปีของพวกมึงวันนั้นก็ไม่เจออีกเลย

D. : มันไปห้องไอ้น้องเอ๋บ่อยๆ มึงไม่เจอมันเลยหรือไง หรือว่ามันโกหกกูว่าไปหาเพื่อนวะ

J. : อ้าว ไอ้สัดแพร์ เผาบ้านเพื่อนไอ้ห่า

P. : เออ ไม่มีไรหรอกมั้งมึง กูก็ไม่ค่อยได้กลับห้องอะ ช่วงนี้ไม่อยู่คณะก็ช่วยไอ้แพมทำแล็ป

D. : ก็แล้วไป เกือบได้รังแกคนป่วย :)

K. : หาเรื่องรังแกอยู่แล้วปะวะ หึ

P. : แล้วมันเป็นไร ปกติแข็งแรงจะตายห่า ไม่เคยเห็นมันป่วย

D. : ไม่รู้ว่ะ จะพาไปหาหมอมันก็ไม่ไป

J. : เป็นไข้เหรอวะ

D. : ไม่นะ แต่สีหน้ามันทรมานเหมือนเจ็บอะไรสักอย่าง ถามก็ไม่บอกว่าเจ็บตรงไหน เจ็บจนหน้าซีดแทบไม่มีสีเลือดแล้วยังบอกไม่เป็นไร โคตรน่าตี

J. : พาไปหาหมอเถอะอย่างนี้ ไม่ใช่เล่นแล้วอะ

D. : มันไม่ไปท่าเดียว ทะเลาะกันไปหลายรอบแล้ว

K. : ให้ไอ้รพินทร์น้องไอ้พีมไปดูมันมั้ย เผื่อช่วยไรได้

J. : ไอ้รพินทร์มันเพิ่งเรียนผ่าอาจารย์ใหญ่ไปเมื่อวาน จะช่วยพี่เจ้าของกูได้ยังไงไอ้โง่ พาไปหาหมอจริงๆ สิโว๊ย!

K. : สายรหัสมันไง พวกเอ็กเทิร์นก็น่าจะได้

P. : เอ็กเทิร์นมอเราช่วงนี้แยกไปฝึกต่างจังหวัดไม่ใช่เรอะ ล่าสุดกูยังเห็นไอ้พี่แจ๊บโพสรูปแดกเหล้าอยู่กับยามฯ หน้าตึกผู้ป่วยนอกที่สุรินทร์

P. : เพราะงั้นอย่างที่ไอ้จอมบอก ลากมันไปหาหมอ

D. : กูเคยพาไป

D. : แต่ไม่เคยไปถึงว่ะ เพราะมันไม่เคยป่วยก็เลยไม่ได้เฉียดโรงพยาบาลกันเลย แล้วพอจะไปจริงๆ รถก็เสียบ้าง ยางแบนบ้าง สารพัดอุปสรรค ลากขึ้นแท็กซี่ แท็กซี่ก็พาไปไม่ถูก

K. : ว๊อทททท โรง’ บาลมอตั้งตระหง่าน อยู่บนดอยอินทนนท์มองลงมาก็ยังเห็นยอดตึก อธิการมอเราเวอร์แค่ไหนมึงก็รู้ แต่อะไรคือไปไม่ถูก

J. : แต่ถ้าเขาไปไม่ถูก มึงไม่บอกทางเขาเหรอวะไอ้ดิน ศูนย์ทันตกรรมมอเรากับโรงพยาบาลมอมันตั้งอยู่ข้างๆ กันเลยนะ เมื่อก่อนตอนมึงเคลมดาวแพทย์มึงก็ปีนรั้วไปหาบ่อยๆ ไม่ใช่เรอะ ว่าแล้วกูยังนับถือความพยายาม รั้วห่างกันครึ่งกิโลก็ยังหาทางส่งข้าวกล่องให้กันจนได้

D. : เออ ก็ใช่ กูก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ถ้าคันเดียวกูก็ยังจะคิดว่าแม่งอิดออดไม่อยากไปส่งเพราะเส้นหน้ามอรถติด แต่คือทุกคันเลยนะที่ไปไม่ถูก ส่วนกูบอกทางไม่ได้เพราะพอขึ้นบนรถแล้วงงเลยว่าอยู่ทิศไหน มองผ่านกระจกรถแล้วมันไม่คุ้นตาไปหมด

D. : พอจะพาไปคลินิกเล็กๆ แถวคอนโดฯ มันก็บอกหายแล้ว ไม่เจ็บแล้ว ท่าทางก็ดีขึ้นจริงๆ กูก็เลยไม่รู้เนี่ยว่าตกลงมันโกหกหรืออะไรยังไง

J. : พี่เจ้าไม่เคยโกหก มึงจำ!

K. : มีแต่เรื่องแปลกๆ หรือพวกเราเรียนหนักจนเบลอกันวะ ตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมของปีสามก็คือไม่รู้จักคำว่าปิดเทอมอีกเลย

P. : ไม่รู้แม่ง แต่ตอนนี้มึงไปดูมันเถอะไอ้ดิน มีไรให้ช่วยก็บอก

D. : อือ ถ้าจะมีอะไรให้ช่วยก็คือมาช่วยกูลากมันไปหาหมอนี่แหละ ดื้อฉิบหาย

J. : เคๆ แยกย้าย




หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 06-02-2019 18:04:31

ธราวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วหันมองคนที่เพิ่งขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆ กัน ไอ้เจ้าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ สีหน้าของมันไม่สู้ดีนัก ซีดเซียวจนน่าเป็นห่วง หลายวันมานี้อาการของมันแย่ลงเรื่อยๆ จนเขาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ห่วงว่าไอ้คนที่สุขภาพดีมาตลอดคนนี้จะป่วยร้ายแรงแล้วไม่ยอมบอก

“เป็นไงบ้าง” ธราเอ่ยถามพลางดึงร่างผอมบางของไอ้เจ้าเข้าสู่อ้อมกอด มือก็คอยลูบศีรษะของมันเบาๆ “พรุ่งนี้ถ้าไม่ดีขึ้นมึงต้องไปหาหมอจริงๆ แล้วนะเจ้า”

“ไม่อยากไป” ไอ้เจ้าส่งเสียงอ้อน ซุกหน้ากับอกกว้างของธราพลางถูไถไปมาจนเขาถึงกับต้องข่มตัวเองไม่ให้ลงมือรังแก ทั้งที่กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำยั่วยวนให้ฝังจมูกลงสูดดมใกล้ๆ “ไม่ชอบโรงพยาบาล”

“ทำไมดื้ออย่างนี้” ริมฝีปากหนากดลงบนหน้าผากเนียนเน้นๆ เพื่อเป็นการลงโทษคนหัวดื้อ ทว่าคนถูกลงโทษกลับรู้สึกราวกับได้รับรางวัลเสียมากกว่า “เป็นห่วงมากไม่รู้หรือไง”

“อย่าห่วงเลยครับ มันเจ็บแค่เป็นพักๆ เดี๋ยวก็หาย”

“คำว่าเดี๋ยวของมึงกินเวลาเกือบสัปดาห์แล้วเจ้า” ธราไม่อ่อนข้อ เขาสังเกตมันอยู่ตลอด แต่มันก็ดื้อไม่ยอมรับ “รอยแผลเป็นที่อกมึงน่ะ ไปให้หมอดูดีกว่ามั้ย อย่าโกหกกูเลยว่าไม่ได้เจ็บตรงนั้น”

“หมอดูจะช่วยอะไรผมได้” ไอ้เจ้ายียวนจนโดนเขกกบาลเข้าให้ มันแสร้งร้องโอดโอยพลางมองค้อน “ก็คือชอบใช้กำลังกับเมีย”

“ก็มีเมียดื้อ พูดไม่ฟังก็ต้องตี”

“งั้นตีแรงๆ เลยได้มั้ย” ช้อนตาขึ้นมองอย่างเชิญชวน “แบบ...เจ้าชอบเจ็บๆ อื้อ..อ อ๊าาา มันต้องแบบ...ดีต่อใจแน่เลย”

ธราได้แต่ส่ายหน้าระอา คนปากเก่งคงไม่รู้เลยว่าอันตรายแค่ไหนถึงได้ยั่วยวนในตอนที่ยังอยู่ในอ้อมกอดกันอย่างนี้ “เดี๋ยวได้ครางจริง”

“ขู่บ่อยจนจะไม่กลัวแล้วนะ ไม่ทำสักที”

“ก็…” ธรากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “ถ้าแข็งแรงแล้วกูถึงจะทำ ตอนนี้ขืนทำไปก็คงเหมือนรังแกคนป่วย”

“ก็ถ้าไม่หายป่วย คุณหมอขาต้องฉีดยาให้แล้วนะเนี่ย” ไอ้เจ้าจีบปากจีบคอในขณะที่ธราหัวเราะร่วน มันกวนไม่เลิกจริงๆ “เข็มใหญ่ๆ ของคุณหมอขาจะช่วยได้มั้ยน้า”

“ก็ต้องลองดูนะคะ” ธราเล่นด้วย เขาทำเสียงอ่อนเสียงหวานพลางยิ้มอ่อนโยนจนไอ้เจ้าระทวย “แต่เข็มหมออันใหญ่ ไม่รู้คนไข้คนนี้จะรับไหวหรือเปล่า”

“ขอดูเข็มก่อนได้มั้ย จะได้รู้ว่ารับไหวหรือไม่ไหว” คนปากเก่งยังคงแกล้งยั่ว โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้แววตาของธราที่ทอดมองมานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์แบบไหน เพราะถ้ารู้ก็คงไม่ปากเก่งเช่นนี้แน่

“แค่ดูเหรอคะ” ธราเอ่ยถาม ความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ในน้ำเสียง ก่อนมือของเขาจะชักนำมือของไอ้เจ้าให้ไปวางแนบตรงกลางกายเพื่อสำรวจเข็มฉีดใหญ่เล่มใหญ่ที่ภูมิใจนักหนา “จับด้วยสิ หมออนุญาต”

“คุณหมอลามกแล้ว” ใบหน้าของไอ้เจ้าร้อนผ่าวไปหมด มันแพ้ธราโหมดนี้จริงๆ “นี่คนไข้นะหมอ หมอจะทำอย่างนี้ไม่ได้ มันแบบ...ฮึ่ม พูดแล้วใจสั่นเลย”

“ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อเป็นคนไข้คนพิเศษ” ธรากดจมูกลงบนแก้มของไอ้เจ้า สูดดมความหอมจนเจ้าของมันหัวใจเต้นแรง “ไหนขอหมอตรวจร่างกายหน่อย จับเข็มหมอแล้ว คราวนี้หมอขอตรวจคนไข้บ้าง”

“แต่หมอเป็นหมอฟัน” ไอ้เจ้าแย้งพลางหยุดมือปลาหมึกไว้ “ลืมหรือเปล่าเนี่ย”

“ก็จะตรวจแบบหมอฟันไง” เสียงทุ้มกล่าวต่อพลางบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมแล้วเริ่มสำรวจร่างกายคนไข้คนพิเศษ มือข้างหนึ่งของเขาถูกสอดเข้าไปใต้เสื้อนอน สำรวจผิวนุ่มลื่นมือที่ยังคงกรุ่นไปด้วยกลิ่นของครีมอาบน้ำ ส่วนอีกข้างลงสำรวจด้านล่าง ปัดผ่านกลางกายของไอ้เจ้าแล้วลูบไล้บริเวณขาอ่อนด้านใน

“ตรวจแบบไหนของหมอครับเนี่ย” แม้จะเอ่ยถามราวกับไม่ชอบใจแต่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ขัดขืนมากนัก กลับให้ความร่วมมือเสียด้วยซ้ำ ในตอนที่มือหนานั้นพยายามถอดกางเกงของมัน มันก็ยกสะโพกขึ้นเพื่อให้เขาถอดได้อย่างถนัด “อื้อ..อ”

“ก็ตรวจแบบนี้” เสียงทุ้มแหบพร่าตอบกลับ มือก็ยังคงสำรวจ “ตรวจเสร็จก็...ฟันเลย ตามวิธีของหมอ...ฟัน”

“อืมม..ม ตามใจคุณหมอครับ”

ถึงไอ้เจ้าจะเอ่ยอนุญาตและธราก็อยากทำตามที่ใจนึกคิด ทว่าใบหน้าซีดเซียวของไอ้เจ้าไม่นำพาให้เขาสานต่อความปรารถนา ยิ่งเมื่อเห็นรอยแดงบนแผลเป็นตรงกลางอกของมันเขาก็ยิ่งห่วง เขาจึงทำเพียงแค่สำรวจและบดจูบกลีบปากบางเป็นการระบายเท่านั้น เขาดูดงับ รุกล้ำเข้าไปสำรวจในโพรงปากอุ่นแล้วผละออกห่างอย่างข่มอารมณ์ความต้องการจนถึงที่สุด

“รอหายดีก่อนดีกว่า” ว่าพลางทอดมองร่างกายเปลือยเปล่าของไอ้เจ้าอย่างนึกเสียดาย ร่างผอมนี้น่ามองไปทุกส่วน ทั้งที่คิดว่ามันผอมเกินไป แต่พอได้กอดแล้วกลับนุ่มนิ่ม ผิวกายของมันก็หอมจนไม่แน่ใจเลยว่าหากครั้งต่อไปได้สัมผัสอีก เขาจะอดทนไม่รังแกได้อย่างไร

“หยุดกลางครันอีกแล้ว” ไอ้เจ้ามองตาปรอย ริมฝีปากบวมเจ่อของมันขยับเมื่อส่งเสียงพูดจนธราที่มองอยู่อดไม่ไหวต้องก้มลงไปบดจูบอีกครั้ง “อือ..อ ทำต่อนะดิน เจ้าอยากเป็นของดิน”

“มึงไม่สบาย”

“เจ้าไหว” คนดื้อยืนยัน “รักเจ้าแรงๆ เลยก็ได้”

“มันเจ็บไม่ใช่เหรอ” เสียงทุ้มถามอย่างอ่อนโยน “กูจำได้นะ” เขายกมือขึ้นไล้ไปตามแก้มของไอ้เจ้า “วันที่เราทำกันครั้งแรก”

ไอ้เจ้าเลิกคิ้วมองธราอย่างไม่เชื่อ “ไม่จริงน่า...”

“จริง” เขายืนกราน “ตอนที่เกือบทำกันเมื่อสองวันก่อน อยู่ๆ ก็เหมือนได้ยินเสียงครางของมึงดังขึ้นในหัว แล้วก็จำได้ว่าเคยเข้าไปในตัวมึงมาแล้ว”

สมองของมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความพิศวง หลายครั้งที่พยายามนึกถึงความทรงจำที่หายไปธรากลับนึกไม่ออกและหลายครั้งที่ไม่ได้พะวงถึงกลับผุดวาบขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนเช่นเมื่อสองวันก่อนที่เขาและไอ้เจ้าต่างสัมผัสกันจนเกือบเลยเถิด เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นของมันยามที่ถูกริมฝีปากของเขาครอบครองตรงกลางกายก็ยังติดอยู่ในห้วงคิด ไอ้เจ้าน่ามองและหวานไปทั้งตัวจนเขาแทบควบคุมตัวเองไม่ไหว มือของเขาลูบไล้ไปทั่วผิวกาย สัมผัสในจุดที่คิดว่าจะเรียกเสียงครางหวานจากคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนได้ เขาพรักพร้อม แกนกายเต็มแน่นไปด้วยความต้องการที่อยากจะเข้าสำรวจช่องทางรักที่ปิดแน่น แม้แต่นิ้วเรียวยาวของเขาก็ยังเข้าสำรวจได้ยาก ทว่าอยู่ๆ ไอ้เจ้าก็ร้องขึ้นด้วยความทรมาน มือของมันจับที่กลางอก ใบหน้าซีดเผือดลงถนัดตาจนเขาหยุดการกระทำทุกอย่างไว้ แล้วเขาก็จำได้ว่าในครั้งหนึ่งก็เคยเห็นภาพแบบนี้ ภาพที่ไอ้เจ้านอนอยู่ใต้ร่างของเขา สองขากางกว้างเพื่อรอให้ตัวของเขาแทรกเข้าไป แต่ในตอนนั้นมันไม่ได้มีสีหน้าทุรนทุรายขนาดนี้หรือถึงแม้จะทุรนทุรายแต่ก็เจือไปด้วยความสุขสม

“จำผิดแน่ๆ” ไอ้เจ้าไม่ยอมรับ แต่หน้ามันแดงลามไปจนถึงใบหู “ว่าแต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นคุณตื่นกลางดึกเลยนะดิน กลับไปนอนหลับสนิทแล้วเหรอ”

“อืม เพราะมีแต่ฝันดีๆ จนกูไม่อยากตื่น” ธราตอบ หลายวันมานี้เขานอนหลับได้ดีจนไม่เคยคาดคิดว่าก่อนหน้านั้นต้องปวดหัวและสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะความฝัน “มันเหมือนกูได้กลับไปใช้เวลาอยู่กับมึงในตอนนั้น มีความสุขไปด้วยกันทุกๆ วัน”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเมื่อได้ยินและคราวนี้ก็เป็นรอยยิ้มที่ทำให้พระจันทร์เสี้ยวดวงสวยปรากฏ “ตอนนี้เราก็มีความสุขกันแล้วนะ ยังจะไม่อยากตื่นอีกเหรอครับ”

“ความสุขมันก็มี สุขมากๆ ด้วยเวลาได้อยู่ด้วยกัน แต่กูรู้สึกกังวลนะเจ้า ยิ่งเห็นมึงไม่สบายแบบนี้กูยิ่งใจไม่ดี” คงเพราะไม่เคยเห็นไอ้เจ้าป่วย ตลอดสองปีที่มีมันเข้ามาในชีวิตธราก็ไม่เคยนึกกังวลใจ คิดไปด้วยซ้ำว่าคนบ้าๆ คงไม่มีวันเจ็บป่วยจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ขนาดต่อยตีมันมันก็ยังทำเหมือนไม่เจ็บไม่ปวด ทว่าในตอนนี้อาการป่วยของมันคงรุนแรงจนคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกถึงกับเผยความอ่อนแอให้เห็น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเอาแต่กังวล พยายามให้มันอยู่ในสายตาตลอดเวลาและยิ่งกังวลเมื่อความรู้สึกว่ามันจะหายไปรุนแรงมากขึ้นทุกขณะที่เวลาเคลื่อนผ่าน

“เจ้าไม่เป็นอะไรหรอกดิน อย่ากังวลไปเลย” ไอ้เจ้ากล่าวอย่างหนักแน่น แต่คนฟังมั่นใจว่าเป็นเพียงคำโกหก

“ก่อนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร ก็ทำสีหน้าให้มันดีขึ้นหน่อยได้มั้ย” ธราว่าเสียงดุพลางผละออกห่างเพื่อมองใบหน้าของไอ้เจ้าให้ชัด “ดูเอาเถอะ ตอนพูดยังหน้าซีดขนาดนี้”

“อยากให้หน้าเจ้ามีเลือดฝาด คุณก็ทำให้เขินหน่อยซี”

คนฟังได้ยินก็หัวเราะในลำคอ ก่อนจะลงมือทำให้คนอวดเก่งเขินเป็นจริงเป็นจัง เขาถอดเสื้อที่ใส่นอนออกเผยให้เห็นแผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม จากที่ผละห่างก็กลับเข้าไปแนบชิด แล้วจัดการครอบครองกลีบปากบางของคนที่ส่งสายตาเชิญชวนมาให้อย่างรวดเร็ว “ยังไม่เข้าไปนะ” เขากระซิบ “วันนี้จะช่วยให้เจ้าหลับสบาย”

“ทำยัง--” คนช่างสงสัยได้คำตอบทั้งที่ยังถามไม่จบประโยคเสียด้วยซ้ำ เมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนเบื้องหน้าถอยร่นลงไปจนถึงกลางกาย ในระหว่างนั้นก็กดริมฝีปากจูบย้ำไปตลอดทางที่ลาดลงสู่จุดอ่อนไหว ยิ่งที่แอ่งสะดือและยอดอกสีหวานก็ถูกเรียวลิ้นร้อนเล่นงานจนเจ้าของมันถึงกับบิดกายเร่า นิ้วมือนิ้วเท้าจิกเกร็งด้วยความซ่านเสียว

“อาา..า ดินครับ ดิน”

ธราได้ยินเสียงครางเรียกชื่อเขาแล้วก็ยิ่งเพิ่มแรงดูดดุน ริมฝีปากของเขาในตอนนี้กำลังครอบครองปลายยอดแห่งความกระสัน เขากดลิ้นดุนดันพลางห่อริมฝีปากตอบรับขนาดของแกนกายร้อน เรียวลิ้นยาวใช้งานได้อย่างช่ำชองในขณะที่ปลายนิ้วนั้นบดขยี้ยอดอกของคนรัก

ไอ้เจ้าทอดสายตามองภาพที่ราวกับความฝัน ธรากำลังแทรกอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของมันพลางขยับโยกศีรษะเพื่อมอบความรัญจวนให้ ทั้งที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เขากลับมาอีกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าการกระทำเช่นนี้จะเกิดขึ้น

“อืมม..ม ที่รัก อาา..า เจ้า อื้มม..ม เสร็จ อาา..า ซี้ดดด..ด”

ผมจะทำยังไงดี

“เจ้าขอเสร็จในปากดินนะครับ อืมม..ม ดิน! อาา อ๊ะ!”

เพราะเป็นอีกครั้งแล้วที่ในความสุขนั้นแฝงไปด้วยความทรมาน

หัวใจของไอ้เจ้าเต้นกระหน่ำอย่างหนักหน่วง มันกระตุกเกร็งไม่กี่ครั้งในขณะที่ปลดปล่อยความต้องการในโพรงปากของธรา มือทั้งสองข้างก็กดศีรษะเขาเข้าหาระหว่างนั้นก็แอ่นสะโพกขึ้นเพื่อให้แกนกายนั้นถูกครอบครองอย่างแนบแน่น ส่วนเขาก็ไม่ได้ขืนตัวออกกลับช่วยไอ้เจ้ารีดเค้นหยาดแห่งความสุขออกมาจนหยดสุดท้ายและกลืนกินลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ

“ขอบคุณครับดิน” ไอ้เจ้าบอกพลางคลี่ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน

“หน้าแดงแล้ว” ธราหยอกล้อ เขาขยับขึ้นมานอนเคียงข้างไอ้เจ้าแล้วดึงมันเข้าไปกอดตามเดิม “สบายตัวมั้ย”

“อือ แต่ดินคงอึดอัด”

“เดี๋ยวจัดการเอง” เขาบอกน้ำเสียงสบายๆ แม้สีหน้าจะอึดอัดอย่างที่ไอ้เจ้าว่า “เจ้านอนพักเถอะ”

“อืม งั้นฝันดีนะดิน”

“ฝันดีครับที่รัก”

ไอ้เจ้ายิ้มกว้างด้วยเพราะได้ฟังถ้อยคำที่ไม่คาดฝัน “หูยย ต้องฝันดีแน่นอนเลยแบบนี้”

“ก็อยากให้ฝันดีนั่นแหละ รีบนอนเลย ไม่งั้นจะให้รับผิดชอบนะ”

“พูดแบบนี้แล้วใครจะอยากนอน”

“พอก่อน อย่าทดสอบความอดทนกูนักเลย”

“ฮ่าๆ ๆ นอนแล้วก็ได้” ว่าแล้วไอ้เจ้าก็หลับตาพริ้มลงทันที

ธราเมื่อเห็นคนที่หลับตาลงง่ายดายอย่างนั้นก็ปล่อยร่างผอมเป็นอิสระ จัดแจงห่มผ้าให้แล้วเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำและกว่าเขาจะออกมาไอ้เจ้าก็หลับสนิทด้วยท่านอนประจำของมันไปแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้ท่านอนตะแคงงอตัวเหมือนกุ้งนี่มันสบายตรงไหน แต่เห็นมันหลับลงได้เขาก็สบายใจไปอีกเปลาะ เพราะขืนก่อนๆ มันทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวดจนแทบไม่ได้นอนเลยทีเดียว

เขาทอดมองคนที่นอนหลับสบายเพียงครู่ก็เดินไปหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศขึ้นมาปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงานพร้อมโทรศัพท์มือถือที่หยิบติดมือมาด้วย เขาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน สำรวจโทรศัพท์มือถือของตัวเองด้วยความสงสัยเพราะจนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถดูปฏิทินได้ เวลาก็เหมือนจะเคลื่อนช้าลง ทั้งที่ราวกับผ่านมานานเกือบสามชั่วโมงแต่ความจริงแล้วก็เพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่รู้ว่านาฬิกาผิดเพี้ยนหรือความรู้สึกของเขาผิดเพี้ยนกันแน่ เพราะโทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้าก็ยังคงเป็นปกติ

สงสัยต้องให้ไอ้แพร์ร้องเรียนผู้พัฒนาอย่างจริงจังซะแล้ว

เขาพรูลมหายใจออกมาเมื่อพบว่าไม่มีประโยชน์ที่จะหาสาเหตุเพราะเขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเท่าไรนัก แค่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นและใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนทำให้ธราหลุดจากภวังค์ความคิดก่อนจะมองข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอ จันทร์เจ้าส่งข้อความมาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าข้อความนี้เป็นข้อความที่เท่าไรแต่เขาก็ไม่เคยตอบกลับไปเลย ครั้นจะให้บล็อกการติดต่อ อีกฝ่ายก็ยืนยันว่าหากเขาทำอย่างนั้นแล้วก็จะบุกมาหาถึงที่คอนโดฯ แม้จะขึ้นมาจนถึงห้องของเขาไม่ได้เพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา แต่ก็เคยเจอดักรออยู่ที่ล็อบบี้ ปักหลักอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหนเหมือนกัน





(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

D. : เครียดว่ะไอ้เหี้ยเอ๊ย





เขาระบายลงในแชตกลุ่มเพื่อหาที่ระบาย หลังจากเปิดอ่านข้อความของจันทร์เจ้าแล้วพบว่าคิดผิดที่เปิดอ่าน ฝ่ายนั้นยังคงพยายามยัดเยียดความเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันให้กับเขาและไอ้เจ้า บางข้อความก็พิมพ์มาเสียยืดยาวจนเขาขี้เกียจที่จะให้ความสนใจ เขากวาดสายตามองคร่าวๆ แล้วลบบทสนทนาทิ้งในทันที





K. : พ่ออออ ลูกมึงเครียด มาปลอบลูกหน่อยพ่อ @P.





ไอ้คินสาระแนมาคนแรก บทบาทพ่อแม่ลูกกับพวกเพื่อนๆ นั้นสนุกสนานไม่น้อย มีไอ้แพร์เป็นพ่อ ไอ้จอมเป็นแม่ และไอ้คินเป็นน้องชาย ครอบครัวประสาทเสียที่มีแม่อย่างไอ้จอมคอยแต่จะตีท้ายครัวเขา ครอบครัวที่เขารู้สึกว่าเป็นจริงมากกว่าครอบครัวที่ทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง





P. : ว่าไงไอ้ลูกเวร เครียดอะไรนักหนา รีบพูดมาก่อนที่กูจะต้องไปอยู่กับฟันปลอมที่เป็นแม่เลี้ยงของมึง

K. : มึงว่าชาติก่อนเราเคยไปต่อยคนจนฟันร่วงหมดปากปะวะ ชาตินี้ถึงต้องมารับกรรมนั่งทำฟันปลอมงกๆ

J. : พี่เจ้านอนละยังงงงง ขอรูปเป็นกำลังใจ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก คือแบบกลางคืนยาวนาน แต่กลางวันก็เหมือนยิ่งยาวกว่า กูเหมือนตกอยู่ในนรกครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกงงๆ เบลอๆ

D. : Sent a photo.





ธรากดส่งรูปที่ไอ้เจ้านอนคว่ำตะแคงใบหน้าหลับตาพริ้ม สีหน้าดูอ่อนแรง โดยแผ่นหลังที่ไม่สวมใส่เสื้อนั้นเต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบที่เขาเป็นคนทำ





J. : กี๊ดดดดดด มึงทำอะไรพี่เจ้าา ไอ้เหี้ยดิ๊นนนน

D. : ทำรัก

P. : ถ้าจะขิงข่าตะไคร้ใบมะกรูด กูจะไปแก้แล็ปต่อแล้วนะ ไม่อยากกินต้มยำตอนนี้

D. : อยู่ก่อน

P. : พิมพ์สิว่า ‘ขอร้อง’

D. : ไอ้สัด

K. : เป็นลูกทรพีมากเลยพี่มึง ว่าแต่เครียดไร คนที่วราพลชมแล้วชมอีกอย่างมึงมีเรื่องให้เครียดด้วยเรอะ

D. : จันทร์แม่งตื้อกูไม่เลิก

J. : ผูกเองแก้เองเด้อ

D. : แก้แล้วแต่เหมือนยิ่งแก้ยิ่งแน่น

D. : ไม่อยากให้เจ้าไม่สบายใจว่ะ เพราะกูตัดแล้วเคลียร์แล้ว แต่เขาไม่เลิกตามสักที

P. : มึงไปทำอะไรให้เขาหลงหัวปักหัวปำนักหนาวะ

K. : กูว่าตามประสามันอะ ตอนสนใจก็เทคแคร์ดูแลเก่ง แต่ตอนจะเทคือเทเลย กูไม่สน กูไม่เอา

J. : ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ไง กรรมตามทันแล้ว คือชัดเจนกับพี่เจ้าแต่แรกก็ไม่มีปัญหาอะไอ้เหี้ย

P. : จริง ก็รักขนาดนั้นแต่ก็ยังเถียงว่าไม่รัก กูนี่งงเป็นพักๆ เลย รู้สึกเป็นพ่อที่แย่มากที่ไม่เคยเข้าใจลูก เลยทำให้ลูกเป็นเด็กมีปัญหา เป็นภัยสังคม ฮึกกก แม่ เราควรมอบตัวกับตำรวจ

K. : ไปขอกาวข้างห้องมาดมหรือไงวะ มึงดูเมาๆ แต่ก็เห็นด้วยที่ว่าไอ้ดินแม่งเป็นภัยสังคม

J. : แต่มันโชคดีไงที่คนนั้นเป็นพี่เจ้าอะ คือถ้าเป็นคนอื่นใครจะทนรอไหว ปากบอกไม่ให้ไป ปากบอกไม่รัก หัวใจก็จะเอาไปให้คนอื่น แต่รั้งไว้ รั้งกูเพื่อ กูเป็นของตายของมึงเหรอ ก็ไม่ เนี่ย ไม่เคยเลี้ยงลูกให้เป็นแบบนี้ กูต้องไปมอบตัวกับตำรวจเป็นเพื่อนพ่อมึงแล้ว

P. : อินมากจริงๆ นะแม่มึง เพลาบ้าง

K. : ว่าคนอื่นได้เรอะ

D. : ตอนเจอจันทร์แรกๆ ก็ไม่คิดว่าจะพูดยากพูดเย็นอย่างนี้นี่หว่า ดูคุยรู้เรื่องมากกว่านี้

J. : ความรักอะเปลี่ยนคนดีๆ เป็นคนแย่ๆ มานักต่อนัก

P. : มันไม่ใช่ความรักหรอกที่เปลี่ยน ความเห็นแก่ตัวต่างหากที่เปลี่ยนให้คนแย่เอง

D. : กูก็ผิดด้วยที่ให้ความหวังเขา

K. : ก็เล่นไปไหนมาไหนด้วย ไปรับไปส่งข้ามหัวไอ้เจ้าอีก เขาก็ต้องคิดว่าเขาสำคัญน่ะสิ

D. : แล้วกูต้องทำยังไงวะ เขาถึงจะเลิกตามตื้อ ตอนนี้กูกับเจ้ามีความสุขดีแล้ว กูไม่อยากให้ใครหรืออะไรมาทำพัง

P. : ก็เข้าใจ แต่มันเป็นผลที่ตามมาไง มีเหตุยังไงก็ต้องมีผล

D. : อืม

K. : เป็นคำว่าอืมที่อึมครึมดี แล้วนี่มึงไม่นอนเหรอวะ

D. : นอนไม่หลับว่ะ

P. : เป็นไรอีก เป็นๆ หายๆ คราวก่อนก็ทีหนึ่งละ แต่หลายวันมานี้มึงนอนหลับสนิทไม่ใช่เหรอวะ

D. : ใช่ แต่เมื่อวานกูฝันร้าย

J. : โธ่ ลูกแม่

D. : วันนี้เลยไม่กล้านอน กูกลัวฝันแบบนั้นอีก มันเป็นฝันที่ไม่ดีเลยว่ะ

P. : ระบายมาลูก

D. : ฝันว่าเจ้าโดนยิง เลือดนี่เต็มมือกูไปหมด





เป็นฝันร้ายที่ไม่น่าจดจำแต่ธรากลับจำได้แม่น ฝันนั้นทำให้เขาตื่นขึ้นกลางดึกแต่ไอ้เจ้าไม่รู้และเขาไม่ได้บอก พักหลังมานี้ไอ้เจ้าหลับลึก อาจเพราะอาการป่วยของมันด้วยที่เป็นสาเหตุ โดยปกติเวลาที่สะดุ้งตื่นกลางดึกเขามักจะเจอมันตื่นอยู่ก่อนแล้วและจับมือของเขาไว้ แต่เมื่อวานกลับมองหาไม่เจอ หัวใจของเขาวูบโหวงไปหมด แต่พอกระพริบตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับความมืดสลัวก็พบว่ามันยังคงนอนอยู่ข้างๆ เขาจึงรีบขยับเข้าไปกอดมันไว้แน่น กลัวเหลือเกินว่ามันจะทิ้งเขาไปเหมือนในความฝันจริงๆ





P. : ดิน ยังอยู่มั้ย





ข้อความจากไอ้แพร์ราวกับช่วยดึงธราออกจากภาพฝันที่โหดร้าย เขาสูดหายใจเข้าลึกพลางมองไปที่เตียงที่ไอ้เจ้ายังคงนอนหลับตาพริ้มเพื่อย้ำกับตัวเองว่ามันยังคงอยู่ตรงนั้น นอนหลับสบายและปลอดภัยดี





D. : โทษที คิดเรื่อยเปื่อยแล้วลืมพิมพ์

J. : พวกกูก็รอไป

K. : ฝันร้ายขนาดนี้ เป็นลางไม่ดีหรือเปล่า ไปทำบุญกันดีมั้ยวะ กูก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจตอนที่พวกมึงคุยในกลุ่มแล้วอะ มันเหมือน...ยังไงดีวะ ลางบอกเหตุไรงี้ปะเวลามีคนเห็นเราทั้งที่เราไม่ได้อยู่ตรงนั้น

J. : พูดถึงเรื่องนี้ กูแชตถามมินแล้ว แอพแม่งรวนจริงว่ะ พรุ่งนี้ว่าจะเอามือถือไปให้มินดู เผื่อเขาช่วยซ่อมได้

P. : ถือโอกาสเลยนะแม่มึง เดือนบริหารไม่่ใช่ช่างซ่อมมือถือไอ้เหี้ย หาเรื่องคุยกับเขาตลอด

J. : เรื่องของกูจ้า

K. : ปฏิทินตั้งโต๊ะอะ ดูยัง

D. : ห้องกูไม่มี

J. : กูก็ไม่ แต่เดี๋ยวกูจะไปซื้อข้าวที่เซเว่น กูจะดูที่แผงหนังสือพิมพ์ คิดว่าที่หนังสือพิมพ์มันต้องมีวันที่บ้างแหละวะ เพราะเปิดในคอมฯ ก็ไม่มี เหมือนภารกิจตามหาวันที่ที่หายไป

K. : จะดูที่อื่นให้ยากทำไม มึงถามกูเกิลเลย พิมพ์ไปว่าวันนี้วันอะไร

J. : Sent a photo.

J. : ถามแล้วไอ้สัด หน้าเว็บเปลี่ยนเป็น 404 not found เฉย

K. : เน็ตบ้านมึงเจ๊ง

J. : งั้นมึงลองดิ กูฟันธงเลยว่าเหมือนกัน เพราะมินก็ลองแล้ว

J. : แต่ของมินแม่งเป็นวันเสาร์เดือนธันวาคม ทั้งที่ไอ้ดินบอกวันพฤหัส ตอนนี้ตีหนึ่งแล้วต้องวันศุกร์ มันเพี้ยนไปไกลถึงนู่น

K. : ไม่งั้นไอ้มินมันก็เพี้ยนเอง ตอนมึงผ่าฟันคุดให้มันคงโดนเส้นประสาทแน่ๆ ไม่แปลกใจที่แม่งมาๆ หายๆ เคสมึงก็เก็บไม่ครบสักที ฟันหน้าสี่รากคือเหมือนปาฏิหาริย์ไปเลยถ้าเก็บครบ

J. : จะว่าไปเมื่อไหร่จะเก็บเคสครบวะ กูเหมือนเก็บแล้วเก็บอีก เหมือนรอสอบไฟนอลเพื่อขึ้นปีห้ามาสักสามชาติแล้ว วราพลแม่งก็ด่าอย่างกับกรอเทปซ้ำ อาจารย์แม่ก็ย้ำให้กรอฟันอีกนิดหนึ่งๆ กูนี่อยากถามว่านิดหนึ่งนี่มันเท่าไร นิดมาสิบรอบแล้วไอ้แม่เย๊ดดดด ไม่ได้ระยะสักที

K. : คนไข้คนดีคนเดิมคนสายของกูก็มาสายเป็นสิบๆ รอบ ไม่เคยพัฒนา เวลาเดิมด้วย ไม่เคลื่อนสักวินาที ถ้าแม่งจะสายเวลาเดิมอย่างนี้ก็หัดมาให้ตรงเวลาหน่อยเถอะ

P. : แล้วทำไมเราต้องสนใจวันที่กันขนาดนี้ด้วยวะ

J. : อ้าว มึงถามขึ้นมาก่อนนะ

K. : เออ นั่นสิ

P. : เอาเวลาไปทำงานเถอะงั้น ไม่อยากรู้ละ

D. : แต่กูอยากรู้ กูรู้สึกว่ามันสำคัญ รู้วันที่ไว้ก็น่าจะดี

P. : ทำไมวะ

D. : ไม่รู้ว่ะ ความรู้สึกกูบอก

K. : เครื่องไอ้เจ้าไง เครื่องมันไม่รวนนี่

D. : กูเช็กเมื่อกี้อีกรอบแล้วกูว่าน่าจะรวนเหมือนกัน

P. : เกิดบัคกันถ้วนหน้า

D. : ก็คงงั้น เพราะแม่งทั้งวันและเวลาไม่ขยับ ตอนนี้เครื่องกูตีหนึ่งสี่สิบแล้วแต่เครื่องมันยังเป็นวันพฤหัส ตอนห้าโมงสิบเจ็ดนาทีอยู่เลยว่ะ

K. : กูอยากจะบอกว่านาฬิกาตาย แต่แม่งก็เป็นมือถือ ใครมีเหตุผลดีกว่านี้มั้ย

P. : ไวรัสเข้าเครื่องแหละ

D. : ก็คงใช่ เพราะไม่ใช่แค่วันกับเวลา วันที่กับเดือนก็เพี้ยนไปด้วย

J. : มันเป็นวันอะไรวะ

D. : วันที่ 17 กรกฎาคม 17:17 PM

P. : มันมีความหมายมั้ยวันนี้

D. : มี

J. : ยังไง

D. : วันเกิดเจ้า

J. : กูต้องเก็บเงินเตรียมซื้อของขวัญแล้ววว เพื่อพี่เจ้า น้องจะยอมอด

K. : ชอบพาหลุดประเด็นตลอดไอ้เหี้ย

K. : แต่กูพูดจริงๆ นะเว้ย กูว่าตอนนี้แม่งแปลกๆ แล้วว่ะ

P. : อย่าเพิ่งคิดมาก กูว่าไม่มีอะไรหรอก เทคโนโลยีมันก็รวนกันได้

J. : จริง มึงอะวิตกเกินเหตุไอ้คิน

K. : กูคิดจริงๆ นะเว้ย มึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้เหรอวะที่มึงจะไม่รู้วันเวลา ในเมื่อพวกเราแม่งต้องคอยนัดวัน นัดเวลาทำฟันกับคนไข้

P. : เรียนหนัก พักผ่อนน้อย ส่งผลต่อสมองโดยตรง เพราะงั้นตอนนี้แยกย้ายกันไปนอน ถ้าใครยังพิมพ์มาอีก กูจะแช่งให้เก็บเคสไม่ครบ ไป!

.

.

P. : น้องเอ๋ตอบหน่อย

P. : น้อง พี่มาอย่างสันติ

เอ๊ : .

P. : อยู่ห้องมั้ย

เอ๊ : ไม่อยู่ ไม่มีทางอยู่ ย้ายห้องแล้วครับ

P. : เสียงการ์ตูนดังมาถึงห้องพี่

เอ๊ : ตายจริง เปิดทิ้งไว้ซะได้ครับ เดี๋ยวบอกทานตะวันที่เลี้ยงไว้ปิดให้

P. : ดอกทานตะวันที่ระเบียงเรอะ

เอ๊: ครับ

P. : วางกาวแล้วจริงจังกับพี่หน่อย

เอ๊ : ผมก็ไม่เคยล้อเล่นกับใครนะพี่ เป็นคนจริงจังระดับหนึ่งเหมือนกัน

เอ๊ : มีแต่พี่ที่ล้อเล่นกับผม : (

P. : อยู่ใกล้จะจับหอมหัว แต่ตอบพี่มาก่อนคำถามหนึ่ง

เอ๊ : อืม คบก็ได้ครับ นี่ยอมสุดๆ แล้วนะ

P. : ฮะ?

เอ๊ : ซ้อมเฉยๆ ผมรู้ว่าพี่จะถามอะไร

P. : ไม่ได้ถามว่าจะคบกันมั้ย แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงถามเรื่องวันที่

เอ๊ : ขอบล็อกนะครับ

P. : เดี๋ยว อย่าเพิ่งวิ่งชนกำแพง เกรงใจข้างห้อง

เอ๊ : ผมไม่อยากเกรงใจพี่! พี่ได้ผมแล้วทิ้ง!

P. : เอ๋ครับ ลูกในท้องเอ๋พี่จะรับผิดชอบเอง เขาเป็นลูกของพี่ พี่บอกแล้วไงตั้งแต่วันนั้น แต่ช่วงนี้พี่ยุ่ง พี่ทำเพื่ออนาคตของเรา ไว้พี่เรียนจบและมีงานทำแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์จะยกให้เอ๋หมดเลยนะครับ เชื่อใจพี่หน่อยนะ

เอ๊ : จริงๆ นะ พี่จะเป็นพ่อของน้องอิ๋งใช่มั้ยครับ

P. : ครับ ตอนนี้คุยกันแบบจริงจังก่อน พี่มีเรื่องสำคัญ

เอ๊ : มาหาที่ห้องเลยครับ ขี้เกียจพิมพ์

P. : ก็คือถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะเหลาไม้เรียวเตรียมฟาด ชวนผู้ชายเข้าห้องอย่างนี้

เอ๊ : ก็ไม่ได้เป็นลูกเป็นหลานอะครับ

เอ๊ : เป็นแฟนแล้ว

เอ๊: พี่จะเข้าไม่เข้า!

P. : ครับๆ อยู่หน้าห้องแล้วครับ มาคุยกันนะเด็กดี

เอ๊ : อื้อ!



..............TBC.............

ผมรักคุณ นั่นแหละทั้งหมดที่ผมมี - เจ้า จักรพรรดิ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 06-02-2019 19:00:00
ภารกิจตามหาวันที่แท้จริงจ้าา
งงในงง ซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ยากกว่าปัญหาโจทย์ละคนก็นิยายเรื่องนี้แหละจ้า
ว่าแต่น้องเอ๋ลูกแม่ลงจากคานแล้วจ้าา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-02-2019 19:11:55
เวลาของทุกคนที่อยู่ใกล้เจ้า ........รวนกันหมดทุกคน  :a5: o22 :really2:
เจ้า........จะหายไปจริงๆใช่ไหม  :z3:
เจ้า มีอิทธิพลต่อเวลาด้วยเหรอ  :really2:
เจ้าควบคุมเวลาได้  o22 :really2:

คนที่ยิงเจ้า คือจันทร์หรือเปล่า  :m16:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 06-02-2019 19:13:27
เวลารวนไปหมดแล้วอะ
คิดว่าเจ้าน่าจะกลับมาหลายรอบแค่มันจบลงทุกครั้ง  คือ2ปี
แต่ครั้งนี้มันนานกว่านั้น คิดว่าถ้าเจ้าหายไปทุกคนน่าจะลืมด้วย แบบเหมือนไม่มีตัวตนมาก่อนอะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 06-02-2019 19:23:04
 "ยืนงงในดงเห็ดเผาะ"กันอีแล้วครับท่าน
ขอคำถามเดียว : เจ้าทำแบบนี้เพื่อ?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-02-2019 19:27:26
แล้วจริงๆ วันนี้วันที่เท่าไหร่  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 06-02-2019 19:46:25
กำลังสับสนกับวันเวลา แต่อยู่ดีๆ น้องเอ๋ก็เป็นแฟนหมอแพร์ไปแล้วซะงั้น 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 06-02-2019 20:48:54
น้องเอ๋พี่ขอดมกาวด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 06-02-2019 21:19:16
มีปมซับซ้อนเฉยยย แง้ ปวดหัวแน้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 06-02-2019 21:53:23
ใกล้วันหวยออกแน้วววววว
เจ้าๆ เราขอเลขหน่อย  :katai5:

วันนี้วันอังคารใช่มะ??  :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 06-02-2019 22:30:48
น้องเอ๋จะช่วยเจ้าได้ไหมอ่ะ ; ^ ;
อยากให้เขาแฮปปี้สักที
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-02-2019 22:32:02
 :serius2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 06-02-2019 22:44:20
วันนี้วันพุธ ที่6 กุมภาจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 07-02-2019 00:15:45
นี่ยังไปคิดถึงบทแรกๆที่เจ้าเล่าเรื่องการใช้ชีวิตบนโลก ที่แม่บอกว่าคนต้องมีสังคมมีเพื่อน เลยพาเจ้าไปเลือกเด็กมาเป็นเพื่อน  ต้องมีน้องเลยไปเลือกดินมาเป็นน้อง  ตอนที่อ่านเจอตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ ยังคิดว่าการบรรยายเหมือนเจ้าเป็นมนุษย์ต่างดาวหลงเข้ามาในโลกหรือไม่ก็เป็นมนุษย์จำลองที่หัดมีครอบครัว... แล้วยังมีดิน ที่จู่ๆก็โผล่มาแบบไม่รู้อดีต ไม่พูดถึงครอบครัวแบบตรงๆ  ก็เลยแปลกเข้าไปอีก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-02-2019 01:59:22
วันเวลารวนไปหมดเลย ที่สงสัยคือเจ้าทำให้มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เจ้าเป็นใคร มีพลังวิเศษหรอ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-02-2019 06:29:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 07-02-2019 07:15:53
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 07-02-2019 10:39:23
งงในงง แล้ววว.. :katai4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-02-2019 11:22:55
ถามวันที่กันจนงงไปหมดแร้ววววว
หวังว่าเอ๋จะช่วยได้นะ แต่ช่วยแล้วเวลาเดินแล้วเวลาของเจ้าล่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 07-02-2019 11:50:01
เจ้าไม่ใช่คนเหรอทำไมย้อนเวลาไปมาได้  :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-02-2019 12:46:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-02-2019 19:30:45
งงงวยและงวยงง แต่ช่างวันที่เพี้ยนไปก่อน
ตอนนี้ของงงวยเรื่องหมอแพกับน้องเอ๋
เขาไปเป็นแฟนและได้กันยังไง ตอนไหน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 08-02-2019 00:39:16
เอ๋ ส่งกาวมาซิ รู้สึกสมองไม่ปลอดโปล่ง  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 08-02-2019 02:01:29
 :katai1:  :mew5: จะเมากาวตามเอ๊ไปอีกคน
เริ่มวิตกกังวล ว่าวันนี้วันอะไร
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Hibird1827 ที่ 08-02-2019 03:34:08
วันนี้ วันที่ 8 กุมภา ไงงง!!

 :hao7: :katai5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 18 เวลาของใคร ​P.19 06/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-02-2019 19:49:43
โอยยยย ซับซ้อนกันไปอีก
ตอนแรกแค่พีคและดราม่าเรื่องความสัมพันธ์
แต่ตอนนี้พีคและสับสนกับวันเวลา
มีการย้อนอดีตกันจริงจัง แต่เริ่มจากอะไร ทำได้ยังไง
แล้วทำไมรวนกันเป็นแถบแบบนี้

การได้ความจริงเรื่องวันเวลา จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไหม

สงสารเจ้า และสงสารดิน บทสรุปตอนนั้นคืออะไร
ใครทำใครตาย ใครยิงใคร ไม่ใช่รถชนใช่ไหม

งงในงงมากค่ะ จับประเด็นได้เป็นพัก ๆ
พอกำลังเข้าใจ เหมือนต้องไปตามหาความจริงต่ออีก

ลุ้นไปกับดิน จะช่วยเจ้าไหม และแพร์สืบอะไรจากเอ๋ได้บ้าง
จะพากันเมากาวหนักกว่าเดิมไหมล่ะ สงสารเอ๋เลยถึงกับเครียด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 09-02-2019 17:16:36
ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่





ไอ้เจ้ากำลังง่วนอยู่ในครัว วันนี้มันตื่นแต่เช้าตรู่ไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าให้กับธรา เมนูที่เลือกสรรเป็นอย่างดีให้กับคนรักของมันเติมพลังในเช้าวันนี้ก็คือข้าวต้มหมูสับกับไข่ลวก เมนูที่แสนธรรมดาทว่าทำได้ยากเย็นเพราะคนทำไม่ใช่เชฟมือทองที่หยิบจับเมนูไหนมาทำก็อร่อยไปเสียหมด

“ทำอะไรอยู่เจ้า เสียงดังเชียว” ธราส่งเสียงถาม เขาเพิ่งเดินออกจากห้องนอนแล้วตรงมาที่ครัว ใบหน้าหล่อเหลายังคงมีความงัวเงียให้เห็นเพราะถูกปลุกด้วยเสียงสับหมู “หืม กลิ่นหอมจัง”

น้ำซุปในหม้อที่ผ่านการปรุงรสด้วยผงเพิ่มรสชาติเดือดปุดๆ ส่งกลิ่นหอม ธราสูดหายใจพร้อมกับมองเสี้ยวหน้าของคนที่ตั้งใจสับหมูอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยแววตาขบขัน “โมโหอะไรแต่เช้าเนี่ย”

“ไม่ได้โมโหครับคุณ เจ้ากำลังสับให้มันละเอียด” ไอ้เจ้าตอบพลางทำหน้าหงุดหงิด “แต่มันไม่ละเอียดสักที”

“ไม่ซื้อหมูที่เขาบดเรียบร้อยแล้วมาล่ะ”

พอถูกตั้งคำถาม ไอ้เจ้าก็ถึงกับเบิกตาโตราวกับเพิ่งนึกได้ “นั่นสิ เจ้าก็มัวแต่อ่านตามสูตรที่เขียนไว้ในเน็ต เขาบอกว่าหมูสองขีดก็ซื้อมาอย่างนี้เลย”

“วันนี้ดีขึ้นเหรอ” ธราเดินเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจสีหน้า “แก้มมีเลือดฝาดแล้ว”

“อือ ดีขึ้นแล้วครับ” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มกว้างสำทับความสุขภาพดีของมัน “เจ้าก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร คุณน่ะห่วงมากเกินไปเอง”

“ไปตรวจให้แน่ใจก็ดีไง” เขายังไม่ยอมปักใจเชื่อ ภาพที่ไอ้เจ้าทุรนทุรายเพราะความเจ็บจนสลบไปนั้นยังติดตาเขาอยู่เลย นึกถึงทีไรก็กลัวขึ้นมา “นะ ไว้ว่างๆ ไปด้วยกัน”

“ไม่เอา ไม่ชอบหมอ” คนหัวดื้อยืนกราน ปฏิเสธที่จะไปโรงพยาบาลท่าเดียว “รอคุณเรียนจบแล้วค่อยมารักษาเจ้านะ ถึงวันนั้นจะยอมให้ตรวจทุกซอกทุกมุม”

“คือกูเรียนหมอฟัน อย่ากดดันให้กูต้องไปเรียนหมอรักษาคนเลย แค่เรียนทุกวันนี้ก็เหนื่อยจะแย่”

“เป็นหมอฟันก็ตรวจได้” ไอ้เจ้ายิ้มเผล่ “ตรวจเหมือนเมื่อคืนไงครับ”

ธราย่นจมูกใส่คนปากดีด้วยความหมั่นไส้ “เดี๋ยวโดนตรวจรอบเช้า”

“อู้วว กลัวเลย” ยียวนกวนใจธราแล้วก็หัวเราะร่วนพลางหันกลับไปต่อสู้กับหมูสองร้อยกรัมต่อ

“ทำให้มั้ยเจ้า กูว่าถ้ารอมึงสับคงไม่ได้กิน” ธราเอ่ยถามขึ้นเมื่อทนมองไอ้เจ้าสับหมูต่อไปไม่ไหว สับทีหนึ่งเหมือนจะแบ่งเขียงออกเป็นสองซีก สะท้านสะเทือนจนนึกกลัวจะเกิดอันตราย “เรื่องสับเรื่องซอยนี่กูถนัด ไว้ใจกูได้”

“คุณไม่รีบไปอาบน้ำเตรียมตัวเหรอดิน เดี๋ยวก็สายหรอก” ไอ้เจ้าเตือนเมื่อเห็นว่าคนรูปหล่อของมันยังคงอยู่ในชุดที่ใส่นอนเมื่อคืน

“วันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ” เขาถามด้วยสีหน้างงงวย “กูจำได้ว่าไม่มีเมคอัพคลาส ไม่มีธุระที่ไหนด้วย”

“ผิดแล้วครับ” ไอ้เจ้ายกยิ้ม ในขณะที่แววตาของมันไม่เผยความรู้สึก “วันนี้วันจันทร์ คุณบอกเจ้าด้วยว่านัดคุณตาอำนวยใส่ฟันปลอม”

“แต่กูว่ากูจำไม่ผิด” เขายืนยันแต่น้ำเสียงก็แผ่วลงเมื่อเริ่มไม่แน่ใจ “หรือจำผิดวะ"

“เชื่อเจ้าเถอะดิน วันนี้น่ะวันจันทร์ ไปอาบน้ำเถอะครับ ตรงนี้เจ้าจัดการเอง รับรองว่าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ คุณได้กินข้าวต้มอร่อยๆ ก่อนไปมหาลัยแน่นอน”

ธรามีสีหน้างงงวยจนถึงขีดสุด แต่เขาก็พยักหน้ารับแล้วทำตามที่ไอ้เจ้าแนะนำ ไม่วายคว้าโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องน้ำด้วย





(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

D. : พวกมึง วันนี้วันจันทร์

P. : มามุขสวัสดีวันจันทร์เหรอลูกพ่อ บอกเลยว่าแค่แม่กูส่งมาให้ทุกเช้าก็พอแล้วนะ อย่าให้กูได้จากมึงอีกเลย

D. : ไม่ กูจะบอกว่าวันนี้วันจันทร์ ย้อนแชตสิไอ้โง่

J. : เกรี้ยวกราดแต่เช้าเลยวุ้ย

K. : เออ วันจันทร์แล้วมันยังไงวะ ก็ถูกแล้วนี่

P. : ใช่ วันนี้วันจันทร์ไง

D. : อะไรของพวกมึง เมื่อคืนยังคุยกันอยู่เลยเรื่องวันบ้าบออะไรเนี่ย

P. : กูย้อนแชตมาละ

J. : เซม เพราะงั้นความเป็นไปได้ที่วันนี้เป็นวันจันทร์นั้นต่ำมาก

D. : แต่เจ้าบอกว่าวันจันทร์

J. : เออ กูเชื่อ พี่เจ้าไม่เคยโกหก พวกมึงจำ!

K. : เออ พอบอกอย่างนี้แล้วอยู่ๆ ก็นึกได้ว่ากูนัดไอ้พีมมาเป็นเคสเอ็นโด

K. : แม่มึงเอ๊ย เกือบลืมไปแล้ว

P. : แสดงว่ามือถือไอ้เจ้าก็รวนนั่นแหละ ตอนมึงคุยบอกว่าเมื่อวานวันพุธเพราะมือถือไอ้เจ้ามันเป็นวันพฤหัส แต่ความจริงแล้วมันค้างไง มันไม่ขยับ เพราะงั้นวันนี้นี่แหละวันจันทร์

J. : ดีนะที่กูตื่นมาใส่บาตร ไม่งั้นล่ะมึงเอ๊ย ฉิบหายแน่

K. : มึงแค่ตื่นมารอดูไอ้มินวิ่งตอนเช้าก็พูดมา

J. : แล้วไงวะ กูทุ่มเทเพื่อความรัก กูผิดตรงไหนเพื่อน

P. : เจอไอ้มินมั้ยวันนี้

J. : ไม่ว่ะ เส้นทางเดิม เวลาเดิม แต่กูรอจนพระท่านมาแล้ว มินก็ยังไม่โผล่หัว

K. : ใช้คำว่าโผล่หัวกับคนที่รักเหรอวะ รักเขามากมั้ง

D. : ยังไงก็เถอะ เจอกันที่มอ

D. : แต่วันนี้กูซวยแน่ไอ้เหี้ย ฟันปลอมตาอำนวยยังไม่เสร็จ ทำไมกูถึงนัดไปแล้ววะ

P. : เบลอแล้วลูกเอ๊ย ไปๆ แยกย้าย เจอกันๆ

J. : จ้า กูวิ่งแล้ววว เจอกันเว้ย





ธราไม่ใช่คนหละหลวม เขามั่นใจมากว่าไม่มีวันพลาดเรื่องหน้าที่รับผิดชอบ ทว่าทำไมถึงเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาได้ แต่เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและเดินไปที่โต๊ะทำงานเพื่อเก็บของจำเป็นที่จะนำติดตัวไปมหาวิทยาลัย สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับใบตารางงานของเขาที่ทำขึ้นเองเพื่อจดรายละเอียดงานต่างๆ ที่ต้องทำในแต่ละสัปดาห์

“ดิน ข้าวต้มเสร็จแล้ว” ไอ้เจ้าโผล่หน้ามาที่กรอบประตู มันร้องบอกพลางมองเขาที่กำลังจดจ้องอยู่กับกระดาษในมือ “ทำไรอยู่เหรอที่รัก”

“กำลังคิดว่ากูปิดเคสไปได้ยังไง กูเก็บเคสยังไม่ครบด้วยซ้ำ แล้วนี่มันเป็นตารางงานก่อนสอบไฟนอลแค่ไม่กี่สัปดาห์ ทุกช่องเขียนคอมพลีทหมดแล้วด้วย แต่นี่มันเพิ่ง...” อยู่ๆ สมองของธราก็คิดต่อไม่ได้ เขามองหน้าไอ้เจ้าแล้วมองกระดาษในมือ “ตารางของปีสามเหรอวะ”

“ใช่ครับ คุณงงอะไรเนี่ย” ไอ้เจ้ายิ้มขำ “เพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้าแน่เลย ไปกันครับ ข้าวต้มอร่อยๆ รอคุณอยู่นะ”

“อร่อยแน่เหรอ” ธราเลิกสนใจกระดาษในมือแล้วเลิกคิ้วถามไอ้คนที่กำลังโม้หน้าตาย

“แน่นอน ยิ่งคนทำอะยิ่งอร่อย”

“โอเค งั้นกินคนทำก่อนละกัน” ว่าแล้วก็แกล้งดึงตัวคนปากเก่งเข้าสู่อ้อมแขน “กินมึงอิ่ม ข้าวต้มก็ไม่จำเป็นแล้ว”

“ได้ไง” ไอ้เจ้าร้องท้วงพลางพยายามขืนตัวออก “เจ้าอุตส่าห์ทำให้ ตื่นแต่เช้าไปตลาดหาซื้อของมาทำให้เลยนะดิน ชิมสักคำก็ได้”

“ไม่ต้องมาไม้นี้เลย” เขากดจมูกลงบนแก้มนิ่มของคนที่แสร้งทำหน้าหงอย “ปากเก่งแล้วยังเลี่ยงเก่ง”

“ก็แบบว่าอยากให้กระชุ่มกระชวย”

“มันชุ่มจนเปียกเลยนะถ้ายั่วกันไม่หยุดแบบนี้”

“ไม่หื่นซี เจ้ายังไม่หื่นเลย”

“แน่ใจเหรอ” ธราเลิกคิ้วมอง แววตากรุ้มกริ่มจนไอ้เจ้าหน้าร้อนผ่าวเพราะหวนคิดถึงเหตุการณ์หวานชื่นที่ผ่านมา “คนไม่หื่นร้องขอเสร็จในปากเลยนะ ครางชื่อกูด้วย”

ไอ้เจ้าหน้าแดงซ่าน “เจ้าเขินมาก” หลบสายตาของธราด้วยการซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง “แต่วันหลังทำให้เจ้าอีกนะดิน เจ้าชอบ”

“พอเลยนะมึง” เขาว่าเสียงดุ “น่ารักให้ดูเวลาหน่อย”

ไอ้เจ้าเอียงคอมอง “ทำไมครับ”

“มันฟัดไม่ได้ เข้าใจมั้ย”

คนช่างยั่วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกอดธราแน่นขึ้น “ตัวคุณหอมเหมือนเดิมเลย เจ้าชอบกลิ่นนี้มาก”

“ก็เลยชอบดมตัวกูเหรอ” หอมขมับคนในอ้อมกอดไปหนึ่งที “หืม โรคจิตแล้วนะเนี่ยเจ้า”

“พูดจริงๆ” แววตาที่ซ่อนอยู่กับไหล่กว้างของธรานั้นไม่ได้ล้อเล่น "อยากกลืนคุณลงท้อง ไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครได้กลิ่น เพราะคุณเป็นของเจ้า เป็นอีกครึ่งชีวิตของเจ้า”

“อืม ก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ” ธราว่าเสียงแผ่ว “กูหวงมึงมากนะ ไม่ว่ากับใครก็ไม่อยากให้มึงไปยิ้มไปหัวเราะกับเขา ตอนนี้มีแค่เราสองคนแล้ว”

ความรู้สึกของธราเป็นไปตามที่พูด เขาพบว่าไม่ง่ายเลยที่จะก้าวข้ามความรู้สึกที่คลุมเครือเพื่อไปหาไอ้เจ้า แต่เมื่อยืนอยู่ตรงหน้ามันแล้ว ความรู้สึกที่กักเก็บเอาไว้ก็ไหลทะลักออกมา ถลำลึกจนถอนตัวไม่ได้ มาไกลจนกลับไม่ไหว

“ดิน”

“หืม”

“เชื่อที่มันบอกมั้ย”

คำถามของไอ้เจ้าทำให้ธราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มันที่ว่านี่ใคร”

“จันทร์” เสียงเรียบตอบกลับ “คุณอาจจะไม่ได้เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่เคลียร์กับมัน แต่เจ้ารู้นะ”

“รู้ได้ยังไง” ทั้งที่หลีกเลี่ยงจะพูดถึง แต่ก็รู้ดีว่าจันทร์เจ้าคงไม่ปล่อยให้เขาเดินจากมาอย่างมีความสุข

“คุยแชตกับมัน” ไอ้เจ้าผละออกห่างจากตัวธราเล็กน้อยเพื่อที่จะสบตากับเขา “เจ้าเอาคอนแท็กจากมือถือของคุณแอดมันไปนานแล้ว ขอโทษนะดินที่เช็กมือถือของคุณ”

“ไว้ลงโทษทีหลัง” ธราคาดโทษไม่จริงจังนัก “แล้ว...เขาบอกอะไร”

“ก็เรื่องที่มันบอกคุณนั่นแหละ ส่งข้อความมาย้ำวันละร้อยข้อความมั้งว่าเจ้ากับคุณเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน”

แววตาคมของธราเก็บซ่อนโทสะเอาไว้แทบไม่มิด เขาอยากจับตัวจันทร์เจ้ามาเขย่าแล้วถามนักว่าทำไปเพื่ออะไร แต่คำตอบก็รู้อยู่แก่ใจตัวเองดี “อย่าไปอ่าน เรื่องไร้สาระ”

“แล้วถ้ามันเป็นความจริงล่ะดิน” ไอ้เจ้าโยนหินถามทาง มันไม่หลบเลี่ยงดวงตาที่มองตอบกลับมา “ถ้าเป็นความจริงว่าเราเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันคุณจะทำยังไง”

ธราเงียบไปอึดใจ เขาคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว เพราะถึงแม้จะบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าคำพูดของจันทร์เจ้านั้นเป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่ถ้าหากเป็นความจริงขึ้นมา เขาก็คิดคำตอบไว้ล่วงหน้าแล้วเหมือนกัน มันอาจจะยากสำหรับคนอื่นในการตัดสินใจ แต่สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดเพราะเขาในตอนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันกับไอ้เจ้าในฐานะอื่น ไม่เคยมองมันในฐานะพี่ชาย ต่อให้เจ้า จักรพรรดิจะใช่หรือไม่ใช่พี่ชายสายเลือดเดียวกัน ความรู้สึกของธราก็ไม่เปลี่ยน “กูจะตกนรกไปกับมึง ศีลธรรมบ้าบออะไรแบบนั้นไม่มีในตัวคนเหี้ยอย่างกูหรอก”

“ว้าว ใจคุณได้เลยนะที่รัก” ไอ้เจ้ายิ้มกว้างราวกับคิดว่าธราล้อเล่น แต่สีหน้าของเขาจริงจังจนหัวใจของมันเต้นโครมคราม

“กูพูดจริงๆ ตอนนี้กูมาไกลจนปฏิเสธไม่ได้แล้ว มีแต่ต้องไปต่อกับมึงเท่านั้นแหละเจ้า” ถ้ามันจะผิดบาป ถ้าความรักนี้จะพาเขาไปยังขุมนรกที่ลึกที่สุด เขาก็ไม่กลัว ถ้าที่ตรงนั้นมีไอ้เจ้าอยู่ด้วย นรกน่ะก็เป็นได้แค่...ชื่อเรียกเท่านั้น

“งั้นตอนนี้เราก็อยู่ในนรกขุมเดียวกัน” สีหน้าของไอ้เจ้าและน้ำเสียงของมันก็จริงจังไม่แพ้ธรา “เจ้าจะบอกคุณว่าที่มันพูด...อืมม..ม” ถ้อยคำของไอ้เจ้าถูกแทนที่ด้วยเสียงครางต่ำในลำคอเมื่อกลีบปากบางถูกริมฝีปากของเขาบดขยี้ เขาดูดงับจนเกิดเสียงชื้นแฉะแล้วผละออกห่างพลางใช้สายตามองมาอย่างเร่าร้อน

“กูเชื่อความรู้สึกของกูนะเจ้า มึงน่ะเป็นพี่กูไม่ได้หรอก” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า เขาสอดมือเข้าไปหยอกล้อกับเม็ดทับทิมเม็ดเล็กทั้งสองข้าง บีบบี้จนเจ้าของมันส่งเสียงคราง “เพราะมึงน่ะเป็นได้แค่เมียเท่านั้นครับ”

“ร้อนแรงเหลือเกินเด็กดี” แววตาของไอ้เจ้าเผยความรู้สึกรักใคร่อย่างไม่ปิดบัง มันแอ่นกายตอบรับสัมผัสจากนิ้วมือของธรา ปากพร่ำพูดเสียงกระเส่าเพราะถูกกระตุ้น “ต่อให้ตายด้วยความเร่าร้อนของคุณก็ต้องยอมแล้ว”

“งั้นตอนนี้เอาได้มั้ย ขอสิบนาที” ร่างหนากระซิบถาม ซื่อตรงแต่หยาบโลน ทว่าคนฟังกลับหัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นกระดอนออกนอกอก “อยากเข้าไปในตัวเมียจะแย่”

“แน๊ ใจร้อน”

“นะครับพี่ รับรองว่าเด็กดีคนนี้จะเปลี่ยนนรกของพี่เป็นสวรรค์” เด็กดีของไอ้เจ้าอ้อนวอน มือหนาทำหน้าที่อย่างช่ำชอง “ผมจะทำให้พี่รู้ว่านรกมันเป็นแค่ชื่อสถานที่เท่านั้น”

ถ้าตั้งคำถามกับไอ้เจ้าในตอนนี้ คนถามก็คงไม่ได้รับคำตอบเพราะสมองของมันไม่สั่งการเสียแล้ว ในหัวของมันดังอื้ออึงไปด้วยเสียงของธรา เด็กอวดดีที่คิดจะเปลี่ยนสถานที่แห่งความทรมานให้เป็นสรวงสวรรค์ที่สุขล้ำ เขาเปิดประตูที่กักขังไอ้เจ้าแล้วฉุดดึงให้ก้าวตามโดยที่ไอ้เจ้าก็ไม่มีความลังเลที่จะไปกับเขา

“อืออ..อ ถ้าเกินสิบนาทีคุณสายแน่ดิน อาา..า” ไอ้เจ้าเตือนพร้อมอ้าปากส่งเสียงครางเมื่อถูกริมฝีปากของธราเล่นงานที่ยอดอก เขาถอดเสื้อผ้าของไอ้เจ้าทั้งที่เสื้อผ้าของเขายังอยู่ครบ ปล่อยให้ไอ้เจ้าเปลือยเปล่าอยู่ในอ้อมแขน ไม่เสียเวลาแม้จะพาไปที่เตียง ขาที่อ่อนแรงของไอ้เจ้าถูกสองแขนแกร่งของเขาโอบประคองเอาไว้ เขาปรนเปรอด้วยริมฝีปาก ปลุกเร้าตัวตนด้วยสัมผัสจากฝ่ามือ ไม่นานก็มอบความเร่าร้อนให้ผ่านปลายนิ้ว ชโลมจนชุ่มฉ่ำด้วยน้ำลายก่อนสอดเข้าไปสำรวจอย่างเชื่องช้า จากหนึ่งเพิ่มเป็นสอง ขยับเข้าออกจนเกิดเสียง ไม่นานนิ้วที่สามก็เข้าไปทักทาย สอดเข้าออกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนขาเรียวที่เกาะเกี่ยวเอวสอบไว้หนึ่งข้างเริ่มอ่อนแรง

“โอยย..ย ที่รัก นิ้วของคุณมัน..” ไอ้เจ้ากัดริมฝีปาก ตอนนี้ตัวมันถูกยกขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงานโดยที่เจ้าของไหล่กว้างจัดการเคลียร์พื้นที่ให้ มือหนาปัดสิ่งที่ขวางทางรักออกอย่างไม่ไยดีพลางแยกขาเรียวออกจากกันเพื่อให้ลำตัวของเขาสามารถแทรกอยู่ระหว่างกลางได้ เขารีบร้อนแต่ก็ไม่ได้รีบจนลืมที่จะอ่อนโยน แม้สัมผัสของเขาจะหนักหน่วงแต่ไอ้เจ้าก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกดีที่ในความเร่งรีบนี้ก็ได้รับการทะนุถนอม

“ทั้งแน่นทั้งฝืดเลยเจ้า ตอดเก่งฉิบหาย” เสียงกระเส่ากระซิบ ปลายนิ้วก็ยังสำรวจ ผลุบหายเข้าไปในช่องทางที่เริ่มชื้นแฉะ หมุนควงอยู่อย่างนั้นเพื่อควานหาจุดกระสัน “เข้าไปตอนนี้กูแตกแน่”

“ใช้เจล...อาา..า ที่รัก” ไอ้เจ้าแนะ “แค่น้ำลายคงไม่พอ...อืออ..อ นิ้วคุณรัวเกินไปแล้วดิน”

“โทษครับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม แววตาลุแก่โทษ “แต่ดีใช่มั้ย”

“มาก”

“ครางหน่อยเจ้า อยากได้ยิน”

ไอ้เจ้าหน้าร้อนผ่าว หลบสายตากรุ้มกริ่มที่มองมา “มันต้องขนาดนั้นเลยนะเด็กคนนี้”

“ก็ชอบ” ธราบอกตามตรง ควงนิ้ววนจนได้ยินเสียงครางที่ชอบฟังในขณะที่ช่องทางรักนั้นก็ตอดรัดจนแทบขยับไม่ไหว “อยากใส่เข้าไปแล้วเจ้า ไม่ไหวแล้ว” เขาครางอย่างทรมาน แกนกายแข็งขืนคับแน่นอยู่ภายใต้เนื้อผ้า ร่ำร้องอยากเข้าไปสำรวจโพรงอุ่นนุ่มที่แสนคับแคบอย่างสุดจะทน

“ใส่เจลก่อน” ไอ้เจ้าท้วงพลางยกมือขึ้นดันหน้าท้องเป็นลอนสวยของธราแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่งั้นเข้าไม่ได้”

“ไม่มีเจล ไม่ได้เตรียมไว้” เขาบอกพลางถอนนิ้วออกไปแล้วรูดซิปกางเกงงัดอาวุธร้ายออกมา แกนกายร้อนนั้นพร้อมพรักที่จะเข้าสำรวจ ทว่าไอ้เจ้าจ้องมองอย่างหวาดหวั่น “ถุงก็ไม่มี ไม่ได้ใช้กับใครก็เลยไม่ได้ซื้อ”

“สดเหรอดิน” ไอ้เจ้ามองอาวุธขนาดเขื่องแล้วลอบกลืนน้ำลาย กังวลใจว่าจะเข้าไปได้สักแค่ไหน แต่ครั้งหนึ่งก็เคยกลืนกินจนสุดความยาวที่มีมาแล้ว

“อือ” เขาตอบรับ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยแรงอารมณ์แห่งความใคร่ “อยากปล่อยข้างใน”

“ไปสุดจริงๆ” ไอ้เจ้าลดมือลงทักทายอาวุธร้าย รูดมันขึ้นลงสองสามทีก่อนเจ้าของมันจะเคลื่อนกายเข้าหา จับมือผอมไว้แล้วจับส่วนปลายสีสวยถูไถตรงปากทาง “อึก...ดิน” แกนกายร้อนพยายามที่จะแทรกตัวผ่านแต่ไม่เป็นผล ทว่ากลับเรียกเสียงครางหวานจากไอ้เจ้าได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของมันก็เหยเกราวกับกำลังทรมาน แต่เขารู้ดีว่ามันเป็นความทรมานที่อยากให้เกิดขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุด “อื้ออ..อ อะ..อะ ดิน อาา ที่รัก ของคุณมัน อื้ออ”

“ทนอีกนิด อาา..า” เขากัดฟันแน่น สีหน้าทรมานไม่ต่างจากร่างผอมเพราะถูกตอดรัดจนขยับแทบไม่ได้ “คลายหน่อย ซี๊ดดด..ด อืมม ดี อย่างนั้น” มือแกร่งจับล็อกเอวของคนรักแล้วเคลื่อนสะโพกบดเบียดเข้าหา จนส่วนปลายสีสวยผลุบหายเข้าไปในช่องทางรักอย่างช้าๆ ผ่านความยากลำบากจนเข้าไปสุดทาง “ยิ้มดิ อยากเห็น”

“ก็ยิ้มอยู่” เสียงของไอ้เจ้าเครือไปด้วยความต้องการที่พุ่งขึ้นสูง บดสะโพกเรียงเสียงครางต่ำจากธรา “อึก...ดีมั้ยคุณ”

“อา..มีมากกว่าคำว่าดีไหม” ธราย้อนถามเสียงพร่า “อืม..บดเก่ง”

ไอ้เจ้ายิ้มร้ายยอมรับคำชม ในขณะที่ธราสบถในลำคอ จับความไม่ได้ว่าเขาสบถคำใด หัวใจของเขาทำงานหนัก เขาครางต่ำอย่างสุขล้ำโดยที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเสียงและแสดงสีหน้า ยิ่งเมื่อถูกตอดรัดก็ยิ่งใกล้แตะขอบสวรรค์

รักกันไม่ได้อย่างนั้นเหรอ

พี่น้องร่วมสายเลือดอย่างนั้นเหรอ

คิดว่าความสุขที่ได้รับนี้ไม่คุ้มค่าที่จะตกนรกหรืออย่างไร

ตัวเขาน่ะไม่เคยกลัวเลย

ดิน ธราคนนี้ไม่ได้สนใจเงื่อนไขนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 09-02-2019 17:17:31
“สูบกัญชามาเหรอวะไอ้ลูกทรพี” ไอ้แพร์เอ่ยทักเหมือนเห็นเพื่อนซี้ของมันกำลังมองฟันปลอมด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มทั้งที่เพิ่งถูกอาจารย์เฉ่งยับมาเพราะความหยาบของเนื้องาน “โดนด่าแต่ยังนั่งยิ้มได้ก็คืออาการหนักมากๆ แล้ว ไหน มันเป็นยังไง เล่าให้พ่อคนนี้ฟังหน่อยสิลูกรัก”

“ตกลงมันเป็นลูกรักหรือลูกทรพีของมึงวะ” ไอ้คินสอดปากขึ้นมา “แต่กูก็ไม่น่าถาม ความสัมพันธ์ในครอบครัวเรามันซับซ้อน อิตัวแม่ก็ระริกระรี้หาชู้อยู่ได้ทุกวัน”

“อย่าไปว่ามัน วันนี้หงอยเพราะไอ้มินไม่มาตามนัด ติดต่อไม่ได้อีกตามเคย” ไอ้แพร์ว่าพลางมีสีหน้าสงสารเพื่อนอีกคนในกลุ่มที่ตอนนี้กำลังหงอยเหงาอยู่กับโทรศัพท์มือถือ แตกต่างจากธราที่มีความสุขราวฟ้ากับเหว “ดีที่ว่าวันนี้ดวงมันดี วราพลไม่มา ไม่งั้นไอ้จอมจมน้ำลายวราพลตายแน่ เล่นด่าแบบนอนสต๊อปแน่นอน”

“เอ้า อีกแล้วเหรอวะ แต่เดี๋ยวนี้วราพลก็ไม่โผล่หัวมาหลายวันแล้วนะ หายต๋อม จำวันที่ไอ้ดินทำฟันปลอมตาอำนวยไม่เสร็จได้ไหมล่ะ กูคิดว่าวราพลจะเฉ่งมันเป็นบุญตากูแล้ว แต่มันไม่มา แถมตาอำนวยก็ไม่มาอีก โคตรของโคตรโชคดี เออ ยังไงกูไปปลอบไอ้จอมก่อน นั่งหน้าเหี่ยวเป็นซาลาเปาไม่มีไส้อยู่นั่น” ว่าแล้วไอ้ตัวสูงโย่งก็ลุกไปยังมุมห้องที่ไอ้แก้มซาลาเปากำลังทำหน้าหงอย แต่คำว่าปลอบของมันคงไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง เพราะไม่รู้ว่าปลอบอย่างไร ไอ้คนที่กำลังเหี่ยวเฉาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา ตอนนี้ก็กำลังล็อกคอตีเข่ากันอยู่ ไอ้แพร์ที่หันไปมองก็ได้แต่ส่ายหน้าระอา

“ว่ายังไงไอ้ดิน” ละความสนใจมาจากความชุลมุนแล้วก็เค้นธราต่อ “ช่วงนี้มึงเหมือนคนเมากาวยิ่งกว่าน้องเอ๋ที่วันๆ คุยกับดอกทานตะวันและคิดว่าตัวเองกำลังท้อง ตั้งชื่อลูกล่วงหน้าแล้วว่าน้องอิ๋ง อ้อ มีกูเป็นพ่อด้วยไอ้ห่า ทั้งที่กูยังไม่ได้เสียบน้องสักดอก”

ธราได้ยินก็หัวเราะขำ ก่อนให้คำตอบ “ก็ไม่มีอะไร” แต่รอยยิ้มกว้างของเขาโกหกใครไม่ได้ ยิ่งกับไอ้พ่อจอมขี้เสือกคนนี้ด้วยแล้ว

“มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นสิท่า” ไอ้แพร์เดาได้ถูกเผง เพราะธราพยักหน้ายืนยัน “ก็ดีแล้ว ห่วงอยู่เลยว่าจะแย่”

“ทำไมวะ” ย้อนถามอย่างงงๆ “คบกันแล้วก็ต้องมีแต่เรื่องดีๆ สิ”

“ก็ใช่ แต่กูก็รู้สึกกังวลแปลกๆ” สีหน้าของไอ้แพร์เต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ “ไม่รู้ว่ะ กูไม่สบายใจด้วยแหละมั้งช่วงนี้” พรูลมหายใจแล้วพูดต่อ “กูไปคุยกับน้องเอ๋มา เรื่องวันเวลาห่าไรนี่แหละ แล้วก็ได้ยินเรื่องไม่ดีมานิดหน่อย”

“คงไม่นิดหน่อย ถ้ามึงทำหน้าแบบนี้” ธราตั้งข้อสังเกต “ไปคุยไรมาวะ”

“เออน่า...แล้วช่วงนี้ไอ้เจ้า” ไอ้แพร์เว้นช่วงจังหวะหายใจเพราะเผลอกลั้นหายใจเมื่อพูดถึง “มันปกติดีมั้ย”

“ยังไง”

“หมายถึง...มันหายดีหรือยัง อาการป่วยของมัน”

“อ๋อ” ธราพยักหน้าเมื่อเข้าใจในคำถามของเพื่อน “ก็ดีแล้ว แต่ก็เป็นๆ หายๆ นานๆ เป็นที ไม่ถี่เหมือนช่วงก่อน กูก็วางใจแล้วแต่ก็ยังทะเลาะกันเรื่องไปหาหมอเหมือนเดิม เมียใครไม่รู้ โคตรดื้อ”

“จะให้กูต่อว่าเมียมึงเรอะลูกรัก”

“ต่อสิ อยากฟัง” ธราขำกับความคิดของตัวเอง “คนห่าไรทำให้หลงได้ทุกวัน”

“มึงหลงมันเองต่างหาก”

“ก็ยอมรับ ช่วงนี้มีน้ำมีนวลอีก นิ่มมาก”

ไอ้แพร์ทำหน้าปั้นยาก “กูต้องอิจฉาปะวะ”

“เอาที่สะดวกใจ”

คนเป็นเพื่อนถึงกับยกมือขึ้นผลักหัวเข้าให้ “เผื่อใจไว้หน่อยดีมั้ยไอ้ห่า มึงหลงเขาจนจะไม่เหลือชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว ตัวติดกันอะไรขนาดนั้น วันก่อนก็โดดเรียนอยู่ด้วยกัน มันก็เกินไปหน่อยมั้ย”

“อะไรของมึง” ธราถึงกับขมวดคิ้ว “ช่วงนี้มึงพูดอะไรแปลกๆ นะไอ้แพร์ ไม่ชอบเจ้าแล้วเหรอวะหรือมีเรื่องอะไร”

“หวงลูกไง เป็นห่วงด้วย มึงกำลังจะเสียคนเพราะความรัก กูก็ต้องเตือน”

“อย่าอินไอ้สัด มึงไม่ใช่ไอ้จอม” ธราว่า แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของไอ้แพร์ก็ยกมือขึ้นตบไหล่มันเบาๆ “แต่ยังไงก็ขอบใจ กูรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่เว้ย เจ้าก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้กูไปไหน แต่กูอยากอยู่ด้วยไง ไม่อยากให้มันละสายตา แต่สัญญาเลยว่าต่อจากนี้ไม่โดดแล้ว เจ้าก็บ่นกูจนหูชาเลยเรื่องนี้ มันก็ไม่ชอบใจนักหรอก”

ไอ้แพร์พรูลมหายใจ ตอนนี้สมองของมันกำลังคิดไม่ตก คิดหนักและว้าวุ่นเป็นอย่างมาก “แล้วที่คนชื่อจันทร์มาตะโกนใส่หน้ามึงเมื่อวันก่อนล่ะ เรื่องจริงแค่ไหน”

“อ้อ” ธรานึกออก “เรื่องนี้เหรอที่ทำให้มึงกังวล”

สถานการณ์ระหว่างธรากับจันทร์เจ้าย่ำแย่ลงทุกที เขาไม่เคยเจอคนที่พูดไม่รู้เรื่องขนาดนี้ มันย่ำแย่ถึงขั้นที่เขาคิดอยากแจ้งความให้ตำรวจมาจัดการเสียรู้แล้วรู้รอด ยิ่งเมื่อวันก่อนก็ยิ่งอยากเอากำปั้นปิดปากเล็กๆ นั่นไว้เพราะเล่นมาตะโกนประจานเขากับไอ้เจ้าที่กำลังนั่งกินข้าวด้วยกันกับกลุ่มเพื่อนของเขา เขานัดไอ้เจ้ามากินข้าวที่โรงอาหารของคณะ นั่งกินกันไปได้สักพักจันทร์เจ้าก็โผล่มา ทั้งที่มหาลัยของคนพวกนั้นไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่กลับขับรถมาถึงที่นี่ได้ก็นับว่าใจถึง ฝ่ายนั้นโวยวายว่าเขาไม่ยอมอ่านไม่ยอมตอบข้อความ โทรหาก็ไม่เคยรับสาย มัวแต่ขลุกเล่นจ้ำจี้กับพี่ชายสายเลือดเดียวกัน มัวเมาจนไม่ลืมหูลืมตา ถ้าไม่ได้ไอ้เจ้าคว้าจานข้าวมันไก่ของไอ้จอมไปโปะหน้าก็คงไม่หยุดพูด ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเจ้า จักรพรรดิเล่นงานคนอื่น

“ก็มีส่วน” ไอ้แพร์ยอมรับ “ตกลงมึงกับไอ้เจ้าคือพี่น้องพ่อเดียวกันเหรอ”

“ถ้าใช่แล้วมึงจะรังเกียจกูมั้ย” ธราถามกลับ “ถ้ากูรักกับพี่ชายของตัวเอง มึงจะยังอยากเป็นเพื่อนกูหรือเปล่า”

“ไอ้ดิน” สีหน้าเคร่งเครียดของไอ้แพร์นั้นไม่ต่างจากน้ำเสียงที่มันเรียกเลย “มึงแน่ใจแล้วนะที่จะทำแบบนี้”

“ถอนตัวไม่ได้แล้วมึง กูมาไกลมากแล้ว” รอยยิ้มของธราไม่เจือความกังวลใดๆ เลย “กูรักเจ้าไปแล้วว่ะ ให้เลิกกันไปตอนนี้ ฆ่ากูดีกว่า”

ไอ้แพร์ถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ มันสะบัดศีรษะไปมาอยู่ได้ไม่นานก็ทำหน้าปลงตก “เออ อะไรจะเกิดก็ให้มันเป็นไป ยังไงพวกกูก็อยู่กับมึงอยู่แล้วเว้ย”

“ซึ้งจนอยากร้องไห้”

“ตอแหลไอ้สัด ยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายขนาดนี้”

ธราหัวเราะ ก่อนจะสังเกตรอบตัว “ว่าแต่คนอื่นมันไปไหนกันหมดวะ วันนี้ทำไมมีแค่กลุ่มเราที่มา”

สีหน้าของไอ้แพร์กลับมาเคร่งเครียดอีกครั้ง แววตาของมันปิดซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ “มึงอาจจะไม่ทันสังเกตนะว่าคนรอบข้างเราเริ่มหายไปทีละคน ที่จริงกูก็ไม่ทันสังเกตหรอก เพราะไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร แต่คนที่หายไปกลับนึกหน้าแทบไม่ได้ รู้ว่าเคยมีอยู่แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก”

“ยังไงวะ กูไม่เข้าใจ”

“มึงนึกหน้าวราพลออกมั้ยวะ” ไอ้แพร์ตั้งคำถาม มองสบตากับธราตามตรง “เพื่อนร่วมรุ่นของมึงคนอื่นๆ ด้วย”

ธราพยายามนึก แต่ในหัวของเขาว่างเปล่า เขารู้ชื่อ รู้ว่ามีใครในรุ่นบ้าง จำได้แม้แต่ว่าคนไหนเคยควงกับเขาแต่กลับนึกหน้าไม่ออกเลยแม้แต่คนเดียว มันเลือนรางราวกับถูกปิดทับเอาไว้ด้วยหมอกสีขมุกขมัว “ไม่ว่ะ” เขามองหน้าไอ้แพร์อย่างขอคำอธิบาย “มันแปลกปะวะ”

“กูอยากบอกว่ากูก็ไม่ได้รู้สึกแปลก แต่กูก็แค่สงสัย”

“คิดเหมือนกัน” แววตาของธราเต็มไปด้วยความสับสน เขาพูดว่า “กูรู้สึกตะหงิดใจแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไร แต่อย่าไปสนใจมันเลยมึง” สุดท้ายก็ตัดบทเอาดื้อๆ จนคนเป็นเพื่อนได้แต่ทำหน้าอึนๆ ใส่

“เอางั้นเหรอวะ”

“เออ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก คนเรามันก็ลืมกันได้ ขนาดกูยังจำห่าอะไรไม่ค่อยได้เลย”

“แต่ความทรงจำของมันก็ค่อยๆ กลับมาแล้วนี่ไอ้ดิน” ไอ้แพร์เถียง มันไม่อยากปัดตกข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในใจ “มึงหวีดให้กูฟังในแชตทุกครั้งเวลาจำได้ว่ามึงกับไอ้เจ้าเคยสวีตกันแค่ไหน”

“ก็กลับมานิดๆ หน่อยๆ แต่กูก็ไม่รู้ไงว่ามันเป็นความทรงจำจริงๆ หรือแค่ปรุงแต่งขึ้นมาเอง ใครจะจำรายละเอียดได้ครบวะ ต่อให้มึงไม่ความจำเสื่อม มึงก็จำเรื่องที่ผ่านมาหลายปีได้ไม่ครบถ้วนหรอกจริงมั้ย” ธราพูดอย่างมีเหตุมีผล บางทีภาพบางภาพก็แวบเข้ามาในหัวแต่เขาก็ไม่เคยปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาทำเพียงแค่เชื่อความรู้สึกปัจจุบันของตัวเองก็เท่านั้น ตอนนี้ต่อให้จำได้หรือจำไม่ได้ เขาก็รักไอ้เจ้ามากอยู่ดี “อีกอย่างตอนนี้กูว่าที่เป็นอยู่ก็โอเคแล้ว ไม่ต้องจำไปมากกว่านี้ก็ได้ เรื่องไม่น่าจำก็ปล่อยให้มันหายไปตามกาลเวลาดีกว่า”

“ไม่อยากรู้ความจริงหน่อยเหรอวะ” ไอ้แพร์ถาม สีหน้าของมันไม่เห็นด้วยที่ธราสรุปความแบบนี้ “ทั้งเรื่องที่เกิดอุบัติเหตุ เรื่องครอบครัว เรื่องตัวตนหรือเรื่องอะไรก็ได้ที่ทำให้มึงเป็นมึง”

“ไม่ว่ะ” ธรายืนกรานความคิด “ไอ้ดินคนก่อนคงไม่ใช่คนที่ดีพอจะเป็นตัวกูในตอนนี้หรอก”

“อาจจะดีกว่าก็ได้ไอ้สัด” ไอ้แพร์แย้ง “เพราะไอ้ดินคนนี้คือไอ้เหี้ยดินลูกทรพีของกู ไอ้คนที่ชอบกั๊ก เห็นแก่ตัว ใจร้าย มีความย้อนแย้งในตัวเองฉิบหาย”

“ไอ้ควายเอ๊ย กูอัพเกรดเวอร์ชั่นแล้ว” ธราว่าแล้วก็ยิ้มกริ่ม “ตอนนี้กูคือไอ้ดินเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดที่มีพระเจ้าเป็นของตัวเอง อย่าคิดหือกับกู”

“ขิงแรงจนไอ้จอมตอนมโนว่าได้ไอ้เจ้าเป็นผัวก็สู้มึงไม่ได้”

“แน่นอนสิวะ”

“แก้แล็ปต่อไปเถอะมึง ขี้เกียจฟังความ ทำหน้าร้ายนักไอ้ตัวร้าย”

ไอ้แพร์ทำท่าหัวเสียเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ร่วมหัวเราะไปกับธรา สองเพื่อนซี้นั่งคุยกันไป ทำงานกันไปจนถึงเวลาเลิกเรียน

.

.
(กรุ๊ปไลน์) ดมกาวไปด้วยกัน (3)

Bee : ทุกคนคะ ติดต่อพี่เอได้แล้วค่ะ

เอ๊ : ขอร้องกรี๊ดได้มั้ย ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ตื่นเต้นถึงขีดสุดเลยก็ว่าได้

P. : เบาหน่อยเอ๋ เสียงดังมาถึงห้องพี่

เอ๊ : ประสานเสียงกับน้องอิ๋งอยู่ครับแด๊ด

P. : นี่ตกลงจะเรียกพี่ว่าแด๊ดจริงๆ เรอะ

เอ๊ : นายเจ้าบอกว่าเป็นคำที่ใช้เรียกแฟน นายเจ้าเรียกธราว่าแด๊ดดี๊ขาทุกทีเลย มันแบบอบอุ่นหัวใจ อรุ่มๆ ดี

P. : เอาเถอะลูก เรียกอะไรก็เรื่องของหนูเลย

P. : น้องบีพูดต่อเลยครับ

เอ๊ : หึงอะ

Bee : ขอโทษนะเอ๋ที่สวยเกินไป พี่หมอแพร์ต้องเป็นของเรา

เอ๊ : เธอดมกาวมากไปแม่ยอดยาหยี แบ่งมาทางนี้บ้างสักกระป๋อง

Bee : ก็ซื้อมาจากเอ๋นั่นแหละ เอ๋เป็นผู้ค้าจะมาขอแบ่งทำไม

P. : คือพี่ต้องแก้แล็ป พี่ไม่มีเวลาว่างมากพอจะมาตามอ่าน ตอนนี้พี่ขอรู้เรื่องเร็วที่สุดนะครับนะ พี่ไหว้ก็ได้น้อง

เอ๊ : แด๊ดจะไหว้คนอื่นทำไม เมียแด๊ดอยู่ตรงนี้

P. : ตอนจีบแรกๆ ก็ไม่คิดว่าจะประสาทขนาดนี้เลยนะ บล๊อกแด๊ดต่อดีมั้ยหนู

เอ๊ : ไม่เอา ผมต้องได้ค่านมน้องอิ๋ง

P. : น้องบี มาต่อครับ

Bee : ค่ะพี่หมอ คือวันนี้บีออกมากินข้าวหน้าคอนโดฯ ก็พยายามติดต่อพี่เอมาตลอดค่ะ ทักไปทุกวัน แล้วตอนออกไปกินข้าว พี่เอก็ตอบกลับมาพอดี

เอ๊ : สรุปทางพี่เอคือเดือนธันวาคมใช่มั้ย

Bee : ใช่ค่ะเอ๋ ส่วนพี่เจ้าเดือนแพทย์คนนั้นเขาเสียเดือนกรกฎาคม ส่วนใครยิงนี่พี่เอก็ไม่รู้ ทางมหาลัยปิดข่าว ไม่มีข่าวออกเลย มีแต่คนในคณะที่รู้เรื่องกัน

เอ๊ : อ่า...เดือนกรกฎาคมเหรอ นี่เดือนเมษายนแล้ว

P. : เราไม่รู้เวลาแน่นอนหรอกนะตอนนี้ เอาอะไรมาแน่ใจว่าเป็นเดือนเมษา ต่างคนต่างก็คิดว่าเป็นวันนั้นเดือนนี้ แต่ความคิดใครที่มันถูกต้องที่สุดเราก็พิสูจน์ไม่ได้ ยอมรับว่าตอนนี้พี่ก็ไม่แน่ใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา แล้วทำไมคนอื่นๆ ถึงเริ่มหายไป

Bee : บีก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บีก็ติดต่อกับแฟนของบีไม่ได้แล้ว ตอนนี้ไปไหนมาไหนคนเดียว เจอเพื่อนในคณะก็เหมือนเขาไม่เห็นเรา แค่เดินสวนกันแล้วไม่ได้ทัก บอกตามตรงนะคะว่าตอนนี้กลัวมากๆ กลางคืนก็ไม่กล้าหลับเลย

เอ๊ : ผมก็เหมือนกันเธอ ตอนนี้ไม่เจอใครที่รู้จัก ทั้งพวกแป้งจี่ พวกไอ้คิ้มหรือจะคนอื่นๆ ในคณะ อาจารย์ก็ไม่เข้าสอน จนทุกวันนี้ผมนอนอยู่หอ ไม่ไปมหาลัยแล้ว ติดต่อแม่จ๋าก็ไม่ได้ เงินจะหมดอยู่รอมร่อ ซวยแล้วเด้อ

P. : น้องสองคนใจเย็นๆ กันก่อนนะ พี่ว่าเรื่องทุกเรื่องมันต้องมีที่มาที่ไปและตอนนี้คำตอบอาจจะอยู่กับคนที่เป็นสิ่งแปลกปลอมในช่วงเวลาของพวกเรา ทำไมถึงเหลือแค่พวกเรา แค่คนที่เกี่ยวข้องกับไอ้ดินและตัวของมันเอง คำถามนี้ไอ้เจ้าน่าจะตอบพวกเราได้

เอ๊ : ผมบล็อกจริงนะครับถ้าพี่ยังตั้งข้อสงสัยแบบนี้อีก นายเจ้าเพื่อนของผมน่ะมีตัวตนอยู่จริงๆ และไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมอย่างที่พี่กล่าวหา

P. : งั้นก็คงเป็นพวกเราที่เป็นสิ่งแปลกปลอมของช่วงเวลาและอีกไม่นานพวกเราอาจจะต้องหายไปเหมือนคนอื่นๆ ตอนนี้เวลาอาจจะเริ่มนับถอยหลังแล้วก็ได้

Bee : หมายถึงพวกเราจะตายเหรอคะพี่หมอ

P. : พี่ก็ไม่รู้ครับ พี่ทำได้แค่คาดเดา เพราะถ้าหากห้วงเวลานี้มีเจ้าของ คนที่เป็นสิ่งแปลกปลอมก็อาจจะเป็นพวกเราเองที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ โลกของเราก็อาจจะไม่ใช่ที่นี่ ที่ทุกคนหายไปก็แค่อาจจะกลับไปอยู่ในที่ของตัวเอง ที่ที่ถูกต้องเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่แรกและในวันใดวันหนึ่งต่อจากนี้เราก็คงต้องไปด้วย

P. : ในที่ตรงนั้นพวกเราอาจจะเป็นแค่คนแปลกหน้าต่อกัน

เอ๊ : เป็นพ่อของลูกผมไม่ได้แล้วนะครับพี่ ความคิดแง่ลบแบบนี้ไม่เหมาะกับน้องอิ๋งเลยสักนิด

P. : เอ๋ต้องยอมรับความจริงได้แล้วนะครับว่าตอนนี้มีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับพวกเราและตอนนี้ในเวลาปัจจุบัน นายเจ้าเพื่อนของเอ๋อาจจะตายไปแล้ว

เอ๊ : ผมไม่มีทางเชื่อ ผมไม่เชื่อหรอกว่าโลกที่เราอยู่นี้จะไม่มีจริง พี่จะให้ผมคิดเหรอว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตลอดสองปีที่ผ่านมาเป็นแค่เรื่องที่ไม่มีอยู่จริงเลย ผมเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายของนายเจ้า เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ ผมมีเขาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว ความรู้สึกของผมน่ะมันจริงมากนะครับ ทั้งที่เกิดขึ้นกับนายเจ้าและเกิดขึ้นกับพี่

เอ๊ : ที่ที่เราเคยอยู่น่ะ พวกเราเป็นแค่คนแปลกหน้ากันเหรอครับ

เอ๊ : พี่จะให้ผมยอมรับเรื่องแบบนี้เหรอ

Bee : เอ๋พอก่อนนะคะ เอ๋ใจเย็นๆ ก่อนนะ

เอ๊ : ผมขอโทษครับ รู้ว่าทุกคนก็เครียด แต่ผมไม่อยากหายไปเหมือนอย่างคนอื่นๆ ผมอยากจะอยู่กับนายเจ้า อยากอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อน

เอ๊ : ผมน่ะมีเพื่อนเพียงคนเดียวแล้วจะให้ผมทิ้งเขาไปได้ยังไง ถ้าผมไปแล้วใครจะคอยเป็นกำลังใจให้นายเจ้า นายเจ้าน่ะเห็นเข้มแข็งแบบนั้น แต่ที่จริงแล้วอ่อนแอมากเลยนะครับ เขาไม่เคยร้องไห้ให้เห็นสักครั้งแต่ผมก็รู้ว่าเขาเสียใจ

เอ๊ : ผมควรทำยังไงดี

P. : เอ๋เปิดประตูให้พี่หน่อยครับ

P. : พี่อยู่หน้าห้องเรา

P. : มาร้องไห้กับพี่นะ

.

.
“เจ้า” ธราร้องเรียกเมื่อเห็นคนรักกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ปลายเตียง ช่วงนี้ไอ้เจ้าเหม่อบ่อยๆ แม้จะยิ้มหัวเราะเหมือนปกติ แต่พอละสายตาก็จะนั่งเงียบๆ เหม่อมองอย่างไร้จุดหมาย แววตาก็เต็มไปด้วยความครุ่นคิด “ง่วงก็นอนก่อนก็ได้ไม่ต้องรอกูหรอก”

ไอ้เจ้าส่ายหน้า ก่อนบอก “เจ้านอนไม่หลับ”

“เป็นอะไร” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างเป็นกังวล “เจ็บที่แผลเป็นอีกแล้วเหรอ”

“เปล่าครับ แค่มีเรื่องให้คิด”

“หืม” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “เรื่องอะไร ระบายมาดิ ถ้าทำให้มึงทำหน้ากลุ้มใจแบบนี้ก็คงเป็นเรื่องใหญ่อยู่นะ”

“ก็ค่อนข้างใหญ่” ไอ้เจ้ายอมรับพลางพรูลมหายใจ ทว่าต่อให้ทำอย่างนั้นสีหน้าของมันก็ไม่คลายกังวล “เจ้ากำลังคิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะทำอะไรให้คุณกิน ข้าวต้มก็น่าจะเบื่อแล้วหรือต้องไปซื้อข้าวมันไก่เจ้าอร่อยมาให้ แต่เขาก็ไม่ขายมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ย้ายร้านไปเปิดที่ไหน ไปก็ไม่บอก แย่เลย”

“กลุ้มเรื่องนี้เรอะ” ธราแทบสบถออกมา เก็บความเป็นห่วงกลับแทบไม่ทัน “นี่ต้องเปิดทอปปิคตามหาร้านข้าวมันไก่ปะวะ”

“ก็มันเป็นร้านที่คุณชอบไง เนี่ย พอเขาไม่ขาย เจ้าก็ต้องลำบากทำข้าวต้มให้กิน” ไอ้เจ้าสาธยายความลำบากของมันให้กับคนที่กำลังทำหน้าหงิกฟัง “จะให้คุณกินแค่ขนมปังปิ้งก็ไม่ได้ บกพร่องในหน้าที่เมียที่ดีอีก”

“ไม่ใช่มึงคงคิดไม่ได้”

“ครับ” ไอ้เจ้ายอมรับพลางยิ้มเผล่ “ไม่ใช่คนหน้าตาดีอย่างผมคงคิดไม่ได้”

“มันมีต่อความยอตัวเองด้วยนะเดี๋ยวนี้”

“ก็คือส่องกระจกทุกวันมันก็ต้องมียอมรับกันบ้างนั่นแหละครับ อิ๊”

ธราหัวเราะ อยากจะเดินเข้าไปตบกบาลคนยียวนสักทีแต่ก็ละมือจากงานตรงหน้าไม่ได้ ขืนลุกไปเล่นกับมันคงได้ยาวจนไม่ได้การได้งานแน่ “นอนได้แล้วไป ไม่ต้องกลุ้มเรื่องไม่เป็นเรื่อง กูกินอะไรก็ได้แหละตอนเช้า แค่อิ่มก็พอ”

“งั้นพะแนงหมู”

“มึงจะฆ่ากูเรอะ”

“แหะๆ ก็แบบอยากให้ลิ้มลอง ของอร่อยทั้งนั้นนน เกิดมายังไงเนี่ยไม่ชอบกิน”

ธราแยกเขี้ยวใส่ “ไม่รู้ว่าคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด”

“ดู๊ววว เดี๋ยวนี้มีมุขยอกย้อน”

“ก็สรรหาคำมาพูด”

“เอ๋ชอบเล่น” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้ม แต่แววตาของมันที่เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้ายามราตรีเบื้องนอกนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย “เอ๋ตลกดี เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายของเจ้าเลย”

“อืม น้องมันดูเหมือนเมากาวตลอดเวลา แต่มันก็เป็นเด็กดี” มิตรภาพของไอ้เจ้ากับไอ้เอ๋นั้นธราเห็นมาตลอดสองปี ไอ้เจ้าไม่มีเพื่อนคนอื่นในคณะนอกจากไอ้เอ๋ซึ่งไอ้เอ๋ก็ไม่ได้ต่าง มันสองคนคบกันอยู่แค่นั้น เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งเปิดใจรับคนอื่นเข้ามาร่วมกลุ่มเพื่อน แต่มิตรภาพระหว่างไอ้เจ้ากับไอ้เอ๋ก็ไม่ได้จืดจาง “มึงกลุ้มเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะไม่มีเวลาไปหาน้องมันใช่มั้ย” เขาตั้งคำถามแต่ไม่ได้คำตอบ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากร่างผอม ไอ้เจ้ายังคงนั่งเงียบจ้องมองท้องฟ้าที่เห็นได้ผ่านกระจกใสที่กั้นระหว่างระเบียงกับห้องนอนต่อไป “กูบอกแล้วว่าจะไปก็ได้ ไม่ต้องตัวติดกับกูนักหรอก มีเวลาให้เพื่อนบ้าง หรือไม่ก็เวลาไปไหนด้วยกันมึงพาน้องมันมาก็ได้ กูจะได้พาไอ้แพร์ไปด้วย ไม่ต้องกลัวไปเป็นก้างเลย เดตคู่ก็สนุกดี”

“คุณทำบ่อยเหรอ เดตคู่น่ะ” ไอ้เจ้าหันมองพลางใช้ดวงตาคมกริบจ้องธรา

“เรื่องในอดีต” ธราว่าเสียงอ้อมแอ้ม “อย่าหึงเลย”

“เด็กไม่ดี” ไอ้เจ้าย่นจมูกใส่ก่อนจะละสายตากลับไปมองยังจุดเดิม “ท้องฟ้าวันนี้ไม่สวยเลย ไม่มีดาวสักดวง พระจันทร์ก็ไม่เห็น สงสัยเมฆเยอะ โอ๊ะ! คุณ...”

ธราลุกจากเก้าอี้เข้าไปสวมกอดไอ้เจ้าจากทางด้านหลังโดยที่มันไม่ทันตั้งตัว อ้อมกอดของเขาทำให้มันร้องเสียงหลงออกมา ทว่าแค่ไม่นานก็เผยรอยยิ้มออกมา “คุณไม่อ่านหนังสือแล้วเหรอ”

“รอมึงหลับค่อยอ่านก็ได้” ธราตอบเสียงนุ่ม คางได้รูปเกยบนไหล่ของไอ้เจ้าในขณะที่ลำตัวหนานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง สองขาอ้ากว้างกักขังร่างผอมไว้ภายใน สองแขนก็โอบรอบเอวไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี “กลุ้มใจอะไรนักคะคนดี”

“ก็คือแพ้มาก” หัวใจของไอ้เจ้าเต้นแรงในระดับอันตรายอีกแล้ว “คะขาทำไมที่รัก คุณพูดแบบนี้ทีไรหัวใจเจ้าจะวายตายเพราะคำหวาน”

“ไม่ชอบเหรอคะ”

“ไม่ชอบครับ มันอ่อนโยนต่อการรับฟังแต่ไม่อ่อนโยนต่อการเต้นหัวใจ”

“ไหนจับ” ว่าแล้วก็วางมือทาบลงบนอกข้างซ้ายของไอ้เจ้า “เต้นแรงจริงด้วย”

“ฉวยโอกาสจับนมเลยน้าดินน้า”

“เคยดูดมาแล้ว” ธราแกล้งกระซิบเสียงพร่า “จับแค่นี้จะเป็นไร”

“ดู๊ววว นายคนนี้มันแน่”

“ไม่แน่ไม่ได้เป็นผัวคุณครับ ขย่มผมทีผมนี้แทบตาย”

“แทบตายอะไรเล่า” ไอ้เจ้าย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้ “เห็นเอาแต่บอกว่าชอบ เด้งเอวสวนกันอีก เจ้านี่สิจะตายเอา ขย่มเบาไม่ได้ด้วย ไม่ถึงใจคุณ”

“ก็” ริมฝีปากหนาชิดใบหูก่อนจะพูดถ้อยคำที่ทำเอาคนฟังหน้าร้อนผ่าวว่า “เจ้าทำผมเสียวแทบตายไงครับ”

“ยอมแพ้เลย” ไอ้เจ้าจำต้องยกธงขาว หากเป็นเรื่องแบบนี้มันสู้ธราไม่ไหวจริงๆ “น่ะ แค่คุยกันเรื่องนี้ก็เอาดินน้อยมาแทงหลังเจ้า”

“ใช่เหรอเจ้า หัวเข่ากูหรือเปล่า” เขาแสร้งถามพลางขยับตัวเข้าชิด “กล่าวหากันนี่โดนดีเลยนะ ใครจะหื่นตลอดเวลาขนาดนั้นกัน”

“หัวเข่าคุณอยู่นี่” ไอ้เจ้าชี้สิ่งที่ถูกกล่าวอ้างให้ธราเห็น “ส่วนไอ้ที่แทงข้างหลังเจ้าอะอยู่ตรงกลาง ยาวจนจะถึงสะดือคุณอยู่แล้วมั้ง”

“รู้ขนาดกันขนาดนี้ก็จับมันหน่อยดิเจ้า มันอยากเล่นด้วย”

“คุณจะเอาวันละสามเวลาไม่ได้นะที่รัก” ไอ้เจ้าเตือนอย่างไม่จริงจังนัก เพราะต่อให้ปากจะพร่ำพูดแต่มือของมันก็อ้อมไปด้านหลัง สอดเข้าไปใต้กางเกงใส่นอนเพื่อทักทายอาวุธร้ายของธราอยู่ดี “เป็นผู้หญิงนี่เจ้าท้องไปแล้ว คุณปล่อยในทุกครั้งเลย ขนาดใส่ถุงก็ยังเอาถุงออก”

“ก็ใส่แล้วเจ้าเจ็บ เจ้าบอกไม่ดีไม่มันส์ เป็นแฟนก็ต้องตามใจมั้ย มีความสุขก็ต้องมีไปด้วยกัน”

“แล้วก็ติดโรคไปด้วยกัน”

ธราชะงักก่อนจะเผยรอยยิ้ม “พูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่งเลยค่ะ”

“คุณมันตัวดีธรา” น้ำเสียงจิกกัดของไอ้เจ้าเรียกเสียงหัวเราะจากธราได้เป็นอย่างดี ก่อนต่างฝ่ายต่างเงียบ ปล่อยให้เสียงเข็มวินาทีจากนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังเบาๆ แทนเสียงสนทนา ทว่าคนทั้งสองกลับไม่ผละออกจากกัน เขายังคงกอดร่างผอมของไอ้เจ้าไว้ในขณะที่มือของไอ้เจ้าก็ครอบครองแกนกายของเขา นวดคลึงเบาๆ สลับกับรูดรั้งตามความยาวที่มี จากโคนสู่ปลาย รีดเอาน้ำใสเหนียวเหนอะเลอะเปื้อนมือ

“ซี๊ดด..ด” เขาเริ่มสูดริมฝีปากส่งเสียงครางต่ำ มือหนาก็เริ่มซุกซนไปทั่ว จากที่โอบอยู่ที่เอวบางก็สอดเข้าไปภายใต้เสื้อนอนเพื่อเล่นงานจุดอ่อนไหวทั้งสองข้าง

“จะเปลี่ยนนรกเป็นสวรรค์อีกแล้วเหรอครับ” ไอ้เจ้าหันหน้ากลับไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ของธราพลางตั้งคำถามที่ทำเอาคนฟังเผยรอยยิ้มแห่งความปรารถนา

“อยากมั้ยล่ะครับพี่ชาย” เขายิ้มร้าย ถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยก็ยิ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับไอ้เจ้า

ถ้าคุณคนก่อนเหมือนกับคุณในตอนนี้ เราก็คงไม่ต้องทรมานกันหรอกครับ

“โคตรอยากเลยน้องดิน” รอยยิ้มยั่วปรากฏบนใบหน้าคมคาย ในขณะที่คำพูดนั้นทำให้ธราหัวใจเต้นโครมครามอย่างอดที่จะตื่นเต้นไม่ไหว “เอาพี่แรงๆ เลยนะเด็กดี”

ธราไม่รอช้าที่จะตอบรับคำเชิญชวนนี้ เขาจัดการอย่างรวดเร็ว จู่โจมอย่างหนักหน่วง ทั้งริมฝีปากทั้งฝ่ามือก็ทำงานอย่างเชี่ยวชาญ มันมอบความเสียวซ่านให้กับคนใต้ร่างของเขา เรียกเสียงครางหวานได้เป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อสอดเข้าไปสำรวจในช่องทางรักที่ไม่ได้ถูกปิดแน่นเพราะถูกเขาสำรวจไปแล้วเมื่อตอนหัวค่ำก็เรียกเสียงครางได้ไม่หยุดหย่อน เขาตั้งใจฟังเสียงครางของเจ้า จักรพรรดิที่เรียกหาแต่เขา ตั้งใจมอบความหวานให้ผ่านการสัมผัส ก่อนจะเสือกไสแกนกายร้อนเข้าหา เคลื่อนผ่านช่องทางเข้าไปจนสุดความยาว

“อืมมม..ม” เขาครางต่ำ แทบหยุดหายใจเมื่อได้ฝังตัวตนเข้าไปในตัวของคนรัก มันสุขล้ำเมื่อถูกความอ่อนนุ่มโอบล้อมและเมื่อถูกตอดรัดก็ยิ่งร้อนผ่าว กระตุ้นให้ขยับโยกกายเข้าออก เขาจึงเริ่มขยับสะโพกกระแทกกระทั้น จากจังหวะเนิบนาบเป็นถี่ระรัวจนเกิดเสียงหยาบโลนของผิวกายที่กระทบเข้าหากันดังลั่นห้อง “อาา..า เจ้า โคตรดีเลย” เขาเปลี่ยนจังหวะ ลดความถี่ลงจนเกือบหยุดแล้วถอนกายออกไป “ขึ้นให้หน่อยครับ” เขาบอกแค่นั้นก็ดึงรั้งคนรักขึ้นนั่งบนตัก

“ให้ขย่มจนเสร็จเลยมั้ยดิน” ไอ้เจ้าถามเสียงหวาน จูบปลายคางของธราอย่างรักใคร่พลางลดสะโพกลงครอบครองแกนกายของเขา “อืมม จุก อาา เสียว”

“ขยับสิ” ธราพูดเสียงลอดไรฟัน เขาแยกเขี้ยวเมื่อไอ้เจ้าควงเอวหมุนวน บดสะโพกและตอดรัดอาวุธร้ายของเขา “เจ้า เดี๋ยวกูเสร็จก่อน อย่า...อาา ซี๊ดด..ด ตัวดี” แต่เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ เขาเชิดหน้าขึ้นเมื่อเอวบางนั้นเล่นงานเขาเสียอยู่หมัด ทั้งบดทั้งร่อน “อืมม..ม ร่อนเก่ง” เอ่ยชมแล้วเสยกายกระแทกสวนระรัว ภาพงดงามตรงหน้าที่ได้เห็นคนรักเคลื่อนกายโยกไหวอยู่บนร่างตัวเองยิ่งกระตุ้นให้เขาใกล้ปลดปล่อย “กูเสร็จก่อนแน่ที่รัก ไม่ไหว...เสียวฉิบ ซี๊ดด อืออ อืมม..ม” ริมฝีปากหนางึมงำก่อนจะถูกกลีบปากบางดูดงับ สะโพกก็ทั้งร่อนทั้งบด ไม่เหลือทางให้เขาได้ต่อกร ร่างกายของเขาตอนนี้ตกเป็นทาสรักของไอ้เจ้าเสียแล้ว

“ปล่อยในตัวเจ้าเลยนะดิน” ไอ้เจ้าบอกเสียงกระเส่า ก่อนฟันขาวจะกัดริมฝีปากล่างเพื่อระบายความซ่านเสียว มือผอมก็จับไหล่กว้างเอาไว้แน่นแล้วกระแทกกระทั้นสะโพกลงกลืนกินแกนกายของธราซ้ำๆ และถี่ระรัวจนเขาทานทนไม่ไหว ปลดปล่อยออกมาพร้อมทั้งส่งเสียงครางต่ำอย่างยาวนาน ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้นเอวบางนั้นก็ไม่หยุดขยับ น้ำแห่งความใคร่ไหลทะลักอาบแกนกายร้อนที่ผลุบเข้าผลุบออกในช่องทาง ในขณะที่เจ้าของมันกำลังเสียวแทบขาดใจ เขาถูกรีดเค้นจนหน้าตาเหยเกแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะรู้ว่าคนรักยังคงไม่ถึงฝั่งฝัน

“เจ้า อืมม..ม เอาให้เสร็จเลยนะ ซี๊ดด..ด ขย่มเลย”

“อืมม..ม อาา มาจูบหน่อย เร็ว”

คำสั่งของเจ้า จักรพรรดิดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าเอาแต่ใจ แววตาที่ทอดมองมานั้นเว้าวอนอย่างรอให้ธราเข้าไปสัมผัส เขาจึงไม่รอช้าที่จะทำตามคำสั่ง รีบยกมือรั้งลำคอของคนเอาแต่ใจเข้าหาและมอบจูบให้ด้วยความเต็มใจ

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 09-02-2019 17:17:55
เอ๊ : นายเจ้า

เอ๊ : นายนอนหรือยังเพื่อน

OMG : ผมเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจรัก อีกสักพักคงจะเข้านอน

OMG : ว่าแต่นายมีอะไรหรือเปล่าเอ๋

เอ๊ : พรุ่งนี้ไปเที่ยวด้วยกันมั้ยนาย

OMG : หืม?

OMG : พรุ่งนี้มีเรียนนี่

เอ๊ : นายก็รู้ว่าอาจารย์ไม่เข้าสอนหลายครั้งแล้ว

OMG : อ่า

OMG : ก็จริง ว่าแต่นายอยากไปที่ไหนล่ะเอ๋

เอ๊ : ผมให้นายเลือกเลย ไปที่ที่นายอยากไป ผมน่ะเป็นคนดีที่ตามใจเพื่อนเสมอ

OMG : นายเลือกดีกว่า ผมตามใจเพื่อนเก่งกว่านาย

เอ๊ : ดู๊ววว เกทับผมเก่งจังเลยนายเจ้า

เอ๊ : งั้นผมขอไปคิดก่อนว่าผู้ชายหน้าตาดีสองคนที่เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันควรไปเที่ยวที่ไหนดี

OMG : พรุ่งนี้เช้าให้คำตอบผมนะ

เอ๊ : ได้เลย ผมจะรีบใช้สมองอันชาญฉลาดของผมคิดให้ออกเร็วที่สุด

OMG : ไม่อวยตัวเองสักวันเอาเท่าไร

เอ๊ : ไม่เอาสักบาท แค่มีนายให้อยู่อวยไปตลอดก็พอ

OMG : เอ๋

เอ๊ : ว่าไงเพื่อนรัก

OMG : นายเครียดอยู่เหรอ ดึกแล้วนายก็ยังไม่นอน

เอ๊ : ผมกำลังคุยกับน้องตะวัน

เอ๊ : นายว่าถ้าผมไม่อยู่ จะมีใครดูแลน้องมั้ย

OMG : ผมก็รดน้ำให้นายทุกทีตอนนายกลับบ้านไปหาแม่จ๋าของนาย

เอ๊ : แล้วถ้าผมไม่อยู่นานเลยล่ะ นายจะทำยังไง

OMG : ผมจะรดน้ำให้จนกว่านายจะกลับมา ว่าแต่คำว่านานของนายคือนานแค่ไหน

เอ๊ : อาจจะตลอดไป

OMG : เป็นอะไรหรือเปล่า

เอ๊ : ผมกลัวนายเจ้า

OMG : ให้ผมไปหาตอนนี้มั้ย

เอ๊ : ไม่ต้องนาย เราจะเจอกันวันพรุ่งนี้แล้วไปเที่ยวด้วยกันนะเพื่อน

เอ๊ : ผมเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายของนาย ผมมีแค่นายคนเดียวที่เป็นเพื่อนกับคนอย่างผม

เอ๊ : แล้วตอนนี้ผมกำลังกลัวว่าเราจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันต่อ

OMG : เอ๋ เดี๋ยวผมจะไปหา

เอ๊ : นายไม่ต้องมา ผมกำลังรดน้ำให้กับน้องตะวัน ผมไม่ว่าง

OMG : น้ำตาของนายเค็มเกินกว่าจะใช้รดน้ำดอกไม้นะเพื่อนรัก

เอ๊ : นายรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังร้องไห้

OMG : เพราะเราคือเพื่อนกัน

เอ๊ : นายเจ้า

เอ๊ : ถ้าผมหายไปนายจะลืมผมมั้ย

OMG : ใครจะลืมนายได้

OMG : ผมจำเก่งอยู่แล้ว กลัวก็แต่นายจะลืมผม

เอ๊ : นาย

OMG : ว่ามาเอ๋

เอ๊ : ผมน่ะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดหรือเปล่า

OMG : หาใครดีกว่านายไม่ได้แล้ว

เอ๊ : งั้นสัญญากับผมได้มั้ย

เอ๊ : สัญญากับผมว่าไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เราก็จะเป็นเพื่อนกันอย่างนี้

OMG : ถ้าเอ๋ยังจำสัญญาของเราได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราก็คือเพื่อนรักเพื่อนตาย

เอ๊ : อย่าหายไปนะนายเจ้า

เอ๊ : อย่าหายไปจากความทรงจำของผม

เอ๊ : นายน่ะต้องกลับมานะ

OMG : พรุ่งนี้ผมขอเป็นคนเลือกสถานที่ดีกว่า ไว้เจอกันนะเอ๋

เอ๊ : ได้เลยเพื่อน เจอกันนะ

.

.

Bee : พี่หมอ บีหาแชตเอ๋ไม่เจอแล้วค่ะ กลุ่มก็หายไปด้วย ขออนุญาตทักส่วนตัวนะคะ

Bee : บีลืมบอกเลยว่าในครั้งนั้นมีอีกคนค่ะที่เสียชีวิต

Bee : พี่เอบอกว่าอาจจะเป็นคนรักของพี่เจ้าค่ะ เพราะเห็นอยู่ด้วยกันตลอดเลย

Bee : เขาฆ่าตัวตายตาม แล้วคนที่ยิงก็น่าจะเป็นเขาค่ะ

Bee : ตอนตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ศพของเขานอนอยู่ข้างๆ ศพของพี่เจ้า

Bee : พี่หมอคะ

Bee : ตอบหน่อยค่ะ บีรู้สึกไม่ดีเลย

D. : ครับ?

Bee :!!

D. : หมายความว่ายังไงครับน้องบี

-Read-





.............TBC.............



ขอบคุณค่ะที่เป็นกำลังใจให้พี่เจ้า มาอยู่ด้วยกันไปจนถึงบทสรุปนะคะ

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 09-02-2019 18:06:00
เดี๋ยวนะ บีทักแชตจะคุยกับหมอแพร์หรือเปล่า แล้วทำไมกลายเป็นแชตกับดิน งงในงง ค้างไปอี้กกกกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 09-02-2019 18:24:03
 :ling1: ไม่รู้อะไรทั้งนั้น รออย่างเดียว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 09-02-2019 18:26:41
อ่านมาได้กลาง ๆ ของตอนนี้ก็คิดอยู่ว่าดินก็ตายไปแล้วด้วยหรือเปล่าถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ มันก็คงเป็นความปรารถนาของใครสักคนระหว่างดินกับเจ้าที่อยากจะกลับมาแก้ไขหรือกลับมาทำในสิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำก็ได้แต่หวังว่าให้ทุกอย่างมันคลี่คลายและมีความสุขกันสักทีแต่เรารู้สึกมันไม่ยุติธรรมกับคนรอบข้างเลยถ้าพวกเขาไม่ลืมความรู้สึกเหล่านี้จะเป็นยังใงหรือแค่พวกเขาจำไม่ได้ก็หมดเรื่องไปอย่างนั้นเหรอ
ป.ล.เราเข้าใจว่าคนที่เลือกจะตายหรือตายไปแล้วย่อมมีความเจ็บปวดแต่อย่าลืมความรู้สึกคนข้างหลังความเจ็บปวดนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยและตราบใดที่เขายังมีชีวิตความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ยังอยู่กับเขาต่อไปเรื่อย ๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 09-02-2019 18:34:47
สับสนงุนงงมากเพคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 09-02-2019 18:54:14
ใกล้จะถึงความจริงแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 09-02-2019 19:34:39
วันนี้ขอทินเนอร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-02-2019 19:59:39
นี่เราเคยอ่านนิยายเรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่านะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 09-02-2019 20:10:27
จุดจบของเรื่องนี้จะเป็นยังไง รู้สึกท้อมากเลยค่ะ  :sad11:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-02-2019 20:13:04
 :really2: มาดมกาวไปด้วยกัน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 09-02-2019 20:18:37
น้องเอ๋. ฮือออออ ที่กลัวหายไปเพราะกลัวว่าจะไม่มีคนอยู่ข้างเจ้าเข้าใจเจ้าสินะ รับรู้ว่าน้องเครียดมากจริงๆอะ คือไม่ใช่ไม่รู้อะ แต่แค่ไม่ยอมรับความคิดตัวเอง

เวลาในเรื่องอาจเกิดจากการทับซ้อนกันอะ แต่พอเวลามันนานเกินไปก้เคลื่อนออกจากกัน คนที่หายไปก็คือแค่ไปอยู่ในห้วงเวลาตัวเองเท่านั้น
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 09-02-2019 20:20:13
ขอพรมาเพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องที่เคยเกิดขึ้นสินะ เหมือนอนิเมะที่เคยดูเลยแต่จำชื่อเรื่งไม่ได้ จำได้แต่ว่ามันเศร้ามากกว่าจะดูจบร้องไห้ตามไปหลายรอบ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 09-02-2019 21:05:59
ฉันเป็นใคร ฉันมาทำอะไรที่นี่ อ๊ากกกกกกก!!!!!
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 09-02-2019 21:14:35
หู้ยยยย.. ซับซ้อนเข้าไปอี๊กกก..
ท่านเจ้า.. ข้างงไปหมดแล้ววว..  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-02-2019 21:49:04
ขออุทานนน เชี้ยยย!!!
เดาทางไม่ถูกแล้วจ้าาา
เศร้าไปกับน้องเอ๋
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 09-02-2019 23:59:09
ทำไมมมมมมมมมม  :katai1: :katai1: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 10-02-2019 00:38:17
ปวดหัวไปหมดแล้วค่ะ เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องนี้เลย แง้ เข้าใจยากไปนิดแต่เราจะพยายามสู้ต่อไปค่ะ!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 10-02-2019 00:41:35
คิดว่า  ทุกคนค่อยๆหายไปเพราะเวลาค่อยๆย้อนกลับไปสู่จุดที่ทุกคนยังไม่เคยรู้จักเจ้า...และในเวลาเดียวกัน มีความคิดอนาคตเช่นเอ๋และลูกอิ๋งที่แทรกเข้ามาในมิติของหมอแพร์ เอ๋คนนี้ปรารถนาจะให้เจ้ากลับคืนสู่อนาคต... ส่วนดินที่ติดไปด้วยตอนนี้เป็นจิตใหม่ที่จะกลับไปเจอวันในอดีต อาจจะได้ไปแก้ไขอดีตหรือแค่กลับไปถึงจุดที่ยิงกัน แล้วก็หายไปเป็นคนสุดท้าย(กลับไปอยู่ในอนาคต2ปีข้างหน้าที่จำอดีตไม่ได้ ซึ่งอาจแยกไปอีกสองมิติ คือมีเจ้า และไม่มีเจ้า... มิติที่มีเจ้าก็จะวนลูปซ้ำแบบนี้ มิติที่ไม่มีเจ้าก็คือดินจำอะไรไม่ได้ ) เพราะคือดินคนที่รอดด้วยการเปลี่ยนอดีตและเจ้าเจอในบทแรก ... ลึกๆ คือคิดว่าคนเสียชีวิตจริงๆคือดิน เจ้าอาจจะแค่บาดเจ็บ แล้วเจ้าย้อนเหตุการณ์เพื่อช่วยแล้วเปลี่ยนได้สำเร็จ  ผลข้างเคียงของการย้อนเหตุการณ์และขอหยุดเวลาไว้สองปี ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมใหม่ที่มีผลต่อการตัดสินใจของดินในอดีต และเกิดมิติคู่ขนานที่3 คือรอดทั้งคู่ ... แต่ก็ยังมีปมอุบัติเหตุของจันทร์

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-02-2019 04:25:44
 o22 รู้สึกมึนในชีวิต ไรท์มาช่วนหน้อย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-02-2019 05:45:23
คิดว่า  ทุกคนค่อยๆหายไปเพราะเวลาค่อยๆย้อนกลับไปสู่จุดที่ทุกคนยังไม่เคยรู้จักเจ้า...และในเวลาเดียวกัน มีความคิดอนาคตเช่นเอ๋และลูกอิ๋งที่แทรกเข้ามาในมิติของหมอแพร์ เอ๋คนนี้ปรารถนาจะให้เจ้ากลับคืนสู่อนาคต... ส่วนดินที่ติดไปด้วยตอนนี้เป็นจิตใหม่ที่จะกลับไปเจอวันในอดีต อาจจะได้ไปแก้ไขอดีตหรือแค่กลับไปถึงจุดที่ยิงกัน แล้วก็หายไปเป็นคนสุดท้าย(กลับไปอยู่ในอนาคต2ปีข้างหน้าที่จำอดีตไม่ได้ ซึ่งอาจแยกไปอีกสองมิติ คือมีเจ้า และไม่มีเจ้า... มิติที่มีเจ้าก็จะวนลูปซ้ำแบบนี้ มิติที่ไม่มีเจ้าก็คือดินจำอะไรไม่ได้ ) เพราะคือดินคนที่รอดด้วยการเปลี่ยนอดีตและเจ้าเจอในบทแรก ... ลึกๆ คือคิดว่าคนเสียชีวิตจริงๆคือดิน เจ้าอาจจะแค่บาดเจ็บ แล้วเจ้าย้อนเหตุการณ์เพื่อช่วยแล้วเปลี่ยนได้สำเร็จ  ผลข้างเคียงของการย้อนเหตุการณ์และขอหยุดเวลาไว้สองปี ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมใหม่ที่มีผลต่อการตัดสินใจของดินในอดีต และเกิดมิติคู่ขนานที่3 คือรอดทั้งคู่ ... แต่ก็ยังมีปมอุบัติเหตุของจันทร์

คิดต่างนะ.....แต่น่าจะใช่   o22
อ่านจากเรื่องเหมือนคนที่ตาย คือเจ้ากับเอ๋  :z3:

ไม่ว่าจะอย่างไหน ..........ก็...มันมีแต่น้ำตา.......น้ำตามันก็ไหลออกมาแล้ว   :sad4:
ดิน  เจ้า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 10-02-2019 09:40:30
ึดาวเภสัช จะคุยกับหมอ P แล้วมันมาโผล่ที่แชตหมอ D อย่างไร
ถ้าน้องบีพูดจริง ดินยิงเจ้าเพราะอะไร หรือมีใครยิงเจ้า
แล้วดินเห็นเลยยิงตัวเองตาม รอๆๆๆๆๆๆจะไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-02-2019 10:20:32
ร้องไห้ตามเอ๋แล้วเนี่ย  :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 10-02-2019 11:16:59
คิดอะไรไม่ออกเลยค่ะ ขอทินเนอร์หน่อยคุณเอ๋

ตอนนี้มีแต่คำถามว่าแล้วดินจะทำไงต่อไป ใครจะหายไปอีกมั้ย เจ้ากับเอ๋จะไปไหนกันแล้วจะกลับมาอีกมั้ย  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 10-02-2019 13:33:53
นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยยย
งงไปหมดแย้วววววว
มาต่อไวๆนะคะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 10-02-2019 14:41:44
มันบีบหัวใจจจจจ สรุปคือดินยิงเจ้า แล้วฆ่าตัวตายตาม แต่ห้วงเวลาทำให้กลับมาเจอกันเพื่อแก้ไขอะไรบางอย่าง ใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: banazjj ที่ 10-02-2019 16:26:12
จบแฮปปี้ได้บ่ สงสารทุกหมู่เหล่า  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 10-02-2019 21:52:45
อ่านไปงงไปนะ แต่มันก็หยุดไม่ได้เหมือนกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 10-02-2019 23:58:26
เราเดาคนที่ตายนะ อาจจะมี เจ้า เอ๋ จี้ ไม่รู้นะเดาก่อน


เราว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอะ  ทุกคนยังใช้ชัวิตประจำวันกันปกติ แต่แค่มีเรื่องราวของเจ้าเข้ามาแทรกเวลาในชีวิตประจำวันด้วย (งงกันไหม)(แต่เวลาของเจ้าก็จะเป็นเวลานึงที่ไม่ใช่เวลาปัจจุบัน) เหมือนแบบว่าตัวตนจริงๆอะ ใช้ชีวิตและเวลาทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ แต่พอมีเรื่องของเจ้าแทรกเข้ามา มันเลยเหมือนทำอะไรหรือเจอเหตุการณ์อะไรๆ2อย่างพร้อมกันอะ 

แต่พอวันนึง วันที่เจ้าหายไป ทุกคนก็ยังใช้ชีวิตประจำวันปกติ แต่จำเวลาของเจ้าที่แทรกเข้ามาไม่ได้ แต่จะมีความรู้สึกคุ้นเหมือนเคยทำ หรือเหมือนเคยเจออะไรแบบนี้มาแล้วอะ

ยกตัวอย่างเช่น

สมมุติว่า บีเคยแชตคุยกับเอ๋ (สมมุติเอ๋เป็นช่วงเวลาที่เข้ามาแรกในปัจจุบัน) (แต่พอวันนึงเวลาหรือเหตุกาณ์ที่มาแทรกปัจจบันได้หายไป) บีก็คงใช้ชีวิตปกคิ แต่จะมีความรู้สึกคุ้นว่าเหมือนเคยแชตคุยกับคนชื่อเอ๋ แต่จำไม่ได้ว่าเอ๋คือใคร ทั้งๆที่ในชีวิตประจำวันไม่เคยเจอหรือรู้จักกัน

เราก็ยังเดาว่าอาจจะเจอช่วงเวลาใดเวลานึงเข้ามาแทรก แต่พอหายไป ทุกอย่างก็ดำเนินไปปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปล.ขอบคุณนะคะคนเขียน สนุกมากค่ะ เสียน้ำตาไปเยอะมาก เราชอบแนวสายดราม่าด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 11-02-2019 00:14:35
ย้อนเวลากลับมาแก้ไขอดีตเหรอ
แบบดึงเอาคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในห้วงเวลาเดียวกัน
หรือแบบไหนกันนะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 11-02-2019 01:47:01
บีจะทักแชทหาหมอแพร์แต่ดันทักผิดมาหาหมอดินซะงั้น ความลับแตกแน่ๆ :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 11-02-2019 14:24:44
อ้าว......
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 19 นรกก็แค่ชื่อสถานที่ ​P.20 09/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 11-02-2019 21:13:21
โอ๊ยยยย น้องเอ๋ ยิงตัวตายตามพี่เจ้าเหรอ?  แล้วน้องเอ๋อ่ะนะจะยิงพี่เจ้าก่อน เราไม่เชื่ออออ  ม่ายยยย  :hao7:  พี่เจ้าาา พี่ทำให้กาวขาดตลาด ใครกักตุนกาวไว้ ปล่อยมาค่ะ พวกเราต้องการ พวกเราต้องได้ไปถึงบทสรุปพร้อมๆกัน  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 14-02-2019 18:22:38
ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่





Gee : อีกไม่กี่วันแล้วนะท่าน

OMG : รู้

Gee : ท่านกำลังเสียใจใช่มั้ย

OMG : น้อยกว่าที่มีความสุข

Gee : แต่ท่านกำลังร้องไห้

Gee : สุดท้ายแล้วทางที่ท่านเลือกก็ยังทำให้ท่านเจ็บปวดอยู่ดี

OMG : ตอนนี้มันดีที่สุดแล้วจี้ อย่างที่มึงบอกกูเห็นแก่ตัวมามากเกินไปแล้ว

Gee : ท่านยอมรับแค่คำพูด แต่สุดท้ายในใจของท่านก็ยังปรารถนาที่จะให้พวกเขาอยู่กับท่านต่อ

Gee : เพื่อนของท่านคนนั้นต้องกลับไปในที่ของเขาแล้ว กาลเวลาเริ่มหมุนแล้วท่านเจ้า เขาจะลืมท่าน ทุกคนที่เคยอยู่ที่นี่จะลืมว่าเคยรู้จักเจ้า จักรพรรดิในห้วงเวลานี้

OMG : ดินต้องไปเมื่อไหร่

Gee : เขาจะไปเป็นคนสุดท้าย เขาจะอยู่กับท่านจนถึงเที่ยงคืนก่อนวันสุดท้ายของท่านจะมาถึง

OMG : จี้

OMG : ที่ที่มึงอยู่ในตอนนี้ น่ากลัวมากมั้ย

Gee : ไม่มีที่ใดน่ากลัวเท่ากับจิตใจของมนุษย์หรอกท่าน :)

OMG : ดินจะลืมใช่มั้ย

OMG : ต่อให้กูต้องตาย เขาก็จะไม่เจ็บปวดใช่หรือเปล่า

Gee : ใช่ เขาจะกลับไปเป็นดิน ธราคนที่ไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับท่านเจ้าของเขา

Gee : เขาจะกลับไปเป็นดิน ธราที่เกลียดเจ้า จักรพรรดิที่ตามตื้อเขา

Gee : เขาจะแต่งงานกับคู่หมั้นของเขาและมีความสุขด้วยกัน มีลูกที่น่ารัก มีครอบครัวที่ดีอย่างที่ท่านหวัง

Gee : หรือในอีกทาง เขาจะกลับไปเป็นคนรักของคนที่ท่านเกลียดท่านเจ้า

Gee : ไม่ว่าทางไหนในที่แห่งนั้น ท่านก็ไม่ใช่คนที่เขาเลือก อย่าห่วงไปเลย

OMG : ก็ดีแล้ว

OMG : ขอบคุณนะจี้ที่ให้ความทรงจำสุดท้ายของกูมีแต่ความสุข

OMG : ให้เขาได้กลับมาหากู

OMG : ให้กูได้รู้สึกถึงความรักของเขาก่อนที่จะหายไป

Gee : มันเป็นหน้าที่

Gee : ของคนที่รักท่าน

Gee : และเป็นการขอโทษ

Gee : จากคนที่ทำผิดต่อท่าน

OMG : กูไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดของมึงสักครั้ง

OMG : ที่บอกว่ามึงเป็นเรื่องดีๆ ในชีวิตของกู

OMG : จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็น

Gee : ขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะท่านเจ้า

Gee : ท่านไม่เหมาะกับความเสียใจหรอก

OMG : จี้ แล้วแม่จะเสียใจมั้ย

Gee : หัวใจของนายหญิงคงแตกสลาย

OMG : งั้นเหรอ แปลกดี

Gee : นายหญิงรักท่านเจ้า ไม่มีความรักของใครจะเทียบเท่าหรอกท่าน

OMG : ไม่หรอกจี้

OMG : ถ้าแม่รักกูก็คงไม่เป็นแบบนี้ แต่กูคงทำให้แม่เสียใจมามากแล้ว

Gee : อย่ามีห่วงอีกเลยท่านเจ้า อย่าคิดกังวลถึงเรื่องใด ถึงเวลาที่ต้องจากจะได้ไม่ติดค้างกัน

OMG : อืม หวังว่ากูจะทำได้นะจี้

.

.

“มาแต่เช้าเลยนายเจ้า” ไอ้เอ๋เพิ่งตื่นนอน มันนั่งหัวฟูอยู่บนเตียงก่อนจะทักทายเพื่อนซี้ที่กำลังถือฝักบัวรดน้ำดอกทานตะวันให้ พอเหลือบมองนาฬิกาก็ตาเหลือก คำว่าเช้าที่คิดอยู่ในหัวหายวับไปกับตาเมื่อนาฬิกาปลุกข้างเตียงบอกเวลาเก้าโมงสิบนาที “ขอโทษที่ผมตื่นสาย เมื่อคืนผมนอนแทบไม่หลับ คิดว่าจะโต้รุ่งแล้วไปเที่ยวกับนายเลย แต่พอได้คุยกับนายแล้วผมง่วงมากๆ ผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้” แก้ตัวยืดยาวแล้วก็บิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที ริมฝีปากก็อ้ากว้าง หาวหวอดด้วยความง่วงงุน

“นายนอนต่ออีกสักนิดเถอะเพื่อน” ไอ้เจ้าวางบัวรดน้ำแล้วหันมอง “ผมอาจจะมาเร็วไปหน่อย”

“ไม่ๆ ผมจะลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้” ท่าทางของไอ้เอ๋กระปี้กระเป่าขึ้นมาทันที “เรานัดกันเก้าโมงแต่ผมกลับสายซะเอง ใช้ไม่ได้ แม่จ๋าจะต้องร้องไห้กับความเหลวไหลของผม”

“ไม่ต้องรีบเอ๋ เดี๋ยวก็ล้ม แม่จ๋าของนายให้อภัยนายเสมอนั่นแหละเพื่อน” ไอ้เจ้าเตือน เห็นไอ้คนซุ่มซ่ามมันผลีผลามแล้วก็อดห่วงไม่ได้ “ผมรอได้ ที่เที่ยวของเราก็รอได้เหมือนกัน”

“เอ้อ จริงด้วย” คนหัวฟูทำท่าคิดออก “นายเป็นคนเลือกสถานที่นี่นา ตกลงเราจะไปไหนกันเรอะ”

“ไปใช้ชีวิตวัยรุ่นกัน” แววตาของไอ้เจ้าเต็มไปด้วยความซุกซน “นายบอกไม่ใช่เหรอว่าไม่เคยได้เที่ยวเล่นเลยเพราะไม่ค่อยมีเพื่อน นี่ไง ผมเป็นเพื่อนคนแรกที่จะไปเที่ยวกับนายเอง”

“เพื่อนรัก” ไอ้เอ๋น้ำตาคลอ ทำหน้าซาบซึ้งใหญ่โต “นายไม่ได้ล้อหลอกผมนะ”

“ไม่หรอก เรื่องเดียวที่ผมจะโกหกคือนายสำคัญมากกว่าธรา”

“คำว่ามิตรภาพของนายนี่ชัดเจนเสมอต้นเสมอปลาย”

ไอ้เจ้าหัวเราะกับสีหน้าบูดบึ้งของไอ้เอ๋ “ผมมันคนมั่นคงต่อความรู้สึก” ว่าแล้วก็โบกมือไล่ไอ้เอ๋ “ไปๆ ไปอาบน้ำ ผมรอ นี่ซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาด้วยนะ ถ้านายช้า ผมกินคนเดียวหมดแน่”

“คำว่าแบ่งปันอะนาย”

“ไม่มีในพจนานุกรมของผมหรอก”

“จำว้ายยย”

“ฮ่าๆ ๆ”

ไอ้เอ๋สะบัดตูดเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่เพียงไอ้เจ้าที่กำลังมองสำรวจรอบห้องพัก ดวงตาเรียวกวาดมองตรงมุมนั้นมุมนี้ โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่ไอ้เอ๋มักจะใช้กินข้าวและนั่งทำงานวางอยู่กลางห้อง ไม่ได้ถูกพับเก็บเป็นที่เป็นทาง ทั้งที่มีมุมทำงานให้อยู่แล้ว โต๊ะและเก้าอี้ครบพร้อมแต่กลับใช้มุมนั้นวางของจิปาถะ เอกสารการเรียน กางเกงที่ใส่แล้วและอะไรก็ตามที่อยากวางจนดูรกรุงรัง บางทีก็มีกระทะไฟฟ้าที่มักจะใช้ต้มมาม่ากินกลางดึกวางอยู่บนนั้นด้วยแต่ตอนนี้เจ้ากระทะนั้นวางอยู่ที่ระเบียง ไม่รู้ว่าไอ้เอ๋เอาออกไปทำอะไรกันแน่ เพราะบางทีเจ้าหมอนั่นก็ชอบทำอะไรแผลงๆ แต่จะว่าอะไรมันได้ในเมื่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อใคร

ใบหน้าคมคายระบายยิ้มเมื่อไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็มีแต่ความทรงจำที่น่าจดจำ มิตรภาพนั้นสวยงามเหมือนดอกไม้สีสวยที่กำลังผลิบาน ทว่าในตอนนี้ดอกไม้ดอกนั้นกำลังร่วงโรยไปตามกาลเวลาของมัน

ผมคงได้มาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วสินะ ต้องคิดถึงนายมากๆ แน่เลยเพื่อน

ไอ้เจ้าเดินไปที่ระเบียง เก็บกระทะไฟฟ้าของไอ้เอ๋ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับน้องตะวันของไอ้เอ๋ต่อ ในตอนนี้น้องตะวันกำลังหันกลีบดอกรับแสงแดดยามสาย ดูเบิกบานและไร้พิษภัยเหมือนกับเจ้าของมันที่กำลังเปิดคอนเสิร์ตในห้องน้ำ

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้าดังขึ้น มันจึงละความสนใจจากน้องตะวันไปที่เครื่องมือสื่อสารที่กำลังโชว์ข้อความของธราขึ้นบนหน้าจอ





D. : คิดถึงแล้ว





ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเมื่อได้อ่าน วันนี้ธราอยู่ที่ห้อง เขาให้ไอ้เจ้าออกมาเที่ยวกับไอ้เอ๋ แม้จะงอแงเล็กน้อยแต่ก็อยากให้ไอ้เจ้าได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนบ้าง เขาบอกว่าเขาเข้าใจแต่ก็อ้อนจนไอ้เจ้าเกือบจะมาตามนัดสาย





OMG : คิดถึงเหมือนกันครับ

OMG : คุณทำอะไรอยู่เหรอดิน

D. : ดูยูทูป เย็นนี้จะทำของอร่อยให้มึงกิน

OMG : ว้าว ตั้งตารอเลย แต่เจ้าอาจจะกลับดึกนะ

OMG : เจ้าจะอยู่กับเอ๋จนเอ๋เข้านอน

D. : หึงได้มั้ยวะ

OMG : ได้ แล้วเจ้าจะกลับไปให้ลงโทษ

D. : อือ

D. : ก็รีบกลับมา จะลงโทษแรงๆ เลย

OMG : ให้เอวหัก

D. : จัดเน้นๆ

OMG : สู้ไม่ไหวเด้อ

D. : ไหวอยู่แล้ว ระดับเจ้าอะ

OMG : ก็อวยเก่ง

OMG : แล้วเมื่อเช้าเป็นอะไร คุณหน้าซีดมาก

D. : ฝันร้าย

D. : ฝันแบบนี้หลายครั้งแล้ว แย่ว่ะ

OMG : จะว่าไปคุณไม่เล่าความฝันให้ฟังนานแล้วนะ

D. : ก็เล่าให้ฟังทุกคืน

OMG : หืม?

D. : เล่าผ่านร่างกายไง ในฝันกูมีแต่เรื่องแบบนั้นแหละ

OMG : ฝันเปียกตลอดสิท่า

D. : อืม ก็ทำจนเสร็จทุกครั้ง

OMG : โธ่ เด็กดีของเจ้า

OMG : แล้วฝันอะไรครับเมื่อคืน

D. : ฝัน

D. : ว่ามึงตาย

OMG : 555

D. : ไม่ตลกเลย มันเหมือนจริงจนกูกลัว

OMG : อย่าคิดมาก

D. : ตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่ดี

D. : เจ้า

OMG : หืม

D. : มึงจะไม่ตายใช่มั้ย

OMG : ดินครับ เราทุกคนต้องตายนะ

D. : อยากให้มึงเป็นอมตะ

OMG : งั้นคุณก็ต้องเป็นด้วย เจ้าไม่อยู่คนเดียวหรอก

D. : รักมากเลยดิ

OMG : อือ รักสิครับ

D. : รักมากเหมือนกัน

OMG : แน๊ เป็นอะไรเนี่ย ปกติไม่พูด

D. : ไม่มีอะไร

D. : อยากพูด ไว้กลับมาจะพูดให้ฟังจนมึงหลับเลย

D. : ดูแลตัวเองนะเจ้า

D. : แล้วกลับมาหากูนะ กูรอ

OMG : เนี่ย ก็แค่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน คุณเล่นใหญ่มาก

D. : ใจไม่ดี

OMG : จะกลับไปโอ๋นะครับเด็กดี ไหนยิ้มให้เจ้าก่อน

D. : Sent a photo.

OMG : อยู่กับไอ้แพร์เหรอ?

D. : อืม

D. : ไอ้แพร์กับน้องบีมาหา

OMG : อ่า

D. : โกรธหรือเปล่า

OMG : ไม่ครับ คุณมีเพื่อนอยู่ด้วยจะได้ไม่เหงา

D. : หมายถึงน้องบีมา เจ้าโกรธมั้ย

OMG : นิดหน่อยครับ แต่ก็แค่หวง เจ้ารู้ว่าไม่มีอะไร

D. : อือ ไม่มี รักเจ้าคนเดียวนั่นแหละ

OMG : ครับ เจ้าไปก่อนนะ เอ๋อาบน้ำเสร็จแล้ว

D. : tc babe

OMG : :)





“นายนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้าเลยนายเจ้า” ไอ้เอ๋ที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเอ่ยแซว “มันมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นรึนาย”

“ธราบอกรักผม” ไอ้เจ้าตอบหลังจากที่เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงเป็นที่เรียบร้อย “เขาเรียกผมว่าที่รักด้วย”

“ดวงความรักของนายพุ่งแรงมากเลยนะตอนนี้” ไอ้เอ๋ยิ้มยินดีพลางพยายามลูบเส้นผมฟูๆ ของมันให้อยู่ทรง “เห็นนายมีความสุขผมก็ดีใจ แต่นึกไม่ถึงว่านายกับธราจะมีวันนี้ ผมยังจำได้อยู่เลยว่านายเคยโดนเขาต่อยเพราะตามตื้อมากเกินไป”

“ก็คือเป็นอีกโมเมนต์ในชีวิตที่น่าจดจำเลยนะ” สีหน้าของไอ้เจ้ากำลังหวนนึกถึงความหลัง “ตอนนั้นนายช่วยทำแผลให้ผมด้วย ผมจำได้ว่านายจะบุกไปเอาเรื่องธรา แต่พอเห็นขนาดกล้ามของเขาแล้วนายก็วิ่งหน้าตั้งกลับมาหาผม”

“ใจผมน่ะสู้ แต่ร่างกายผมไม่ไหว” ไอ้เอ๋ยิ้มแหย เลิกพยายามที่จะจัดทรงผมแล้วเดินมานั่งลงบนเบาะรองนั่งที่วางล้อมโต๊ะญี่ปุ่นซึ่งมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ที่ไอ้เจ้าซื้อมาวางอยู่บนนั้น “มากินนี่ก่อนเถอะเพื่อน เติมพลังก่อนไปใช้ชีวิตวัยรุ่นกัน”

“ได้” ไอ้เจ้านั่งลงบนเบาะรองนั่งที่อยู่ตรงข้ามกับไอ้เอ๋ มันนั่งขัดสมาธิพลางยื่นมือไปหยิบปาท่องโก๋มาหนึ่งตัว ฉีกแบ่งออกเป็นสองส่วนแล้วส่งส่วนหนึ่งเข้าปาก อีกส่วนก็ยื่นไปให้ไอ้เอ๋ที่อ้าปากงับไว้ “ตอนนี้มาแพลนกันมั้ยว่าจะไปที่ไหนก่อน”

“เล่นเกมก่อนแล้วค่อยดูหนังมั้ยนาย จากนั้นเราค่อยไปเดินเล่นกัน” ไอ้เอ๋เสนอด้วยดวงตาเป็นประกาย “มันต้องสนุกมากแน่ๆ”

“ก็ดีนะ แล้วนายอยากทำอะไรอีกมั้ย มีที่ที่อยากไปอีกหรือเปล่า ผมพาไปได้ทุกที่”

“อยาก” ไอ้เอ๋พูดทันที ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ไว้วันอื่น วันนี้ถ้าไปทุกที่ที่ผมอยากไปคงไม่ทันหรอก แค่ดูหนังกับเล่นเกมก็คงกินเวลาหลายชั่วโมงแล้ว นายก็ต้องรีบกลับไปหาธราด้วย ผมยึดตัวนายไว้ทั้งวันไม่ได้นะนายเจ้า ผมเป็นเพื่อนที่ดีที่เข้าใจว่าเพื่อนมีแฟนแล้วก็ต้องให้เวลากับแฟน แม่จ๋าน่ะต้องภูมิใจในตัวลูกคนนี้” พูดจบก็ยิ้มภูมิใจในตัวเองสำทับความเป็นเพื่อนที่ดี โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันมีสีหน้าแบบไหน

ไอ้เจ้ารับฟังพลางเผยรอยยิ้มเศร้า แววตาอ้างว้างทอดมองคนที่กำลังพูดจ้อไม่หยุด ไอ้เอ๋เป็นแบบนี้เสมอ มันพูดสิ่งที่มันคิดอย่างน่าเอ็นดู รอยยิ้มของมันสดใส เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของไอ้เจ้าที่ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่น่าเสียดายที่จะต้องจากลากัน “วันนี้วันสุดท้ายแล้วเอ๋”

“นาย…”

“เอ๋รู้แล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงของไอ้เจ้าเรียบเรื่อยเมื่อเอ่ยถาม แต่กลับทำให้ลมหายใจของไอ้เอ๋สะดุด “เรื่องของผม”

“ผมไม่รู้” ไอ้เอ๋ไม่ยอมรับ มันก้มหน้าซ่อนแววตา “จริงๆ นะนาย ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดู รู้ดีทีเดียวว่าในบางครั้งเพื่อนคนนี้ก็ดื้อรั้น “เงยหน้าขึ้นมองผมก่อนได้มั้ย ก่อนที่เอ๋จะลืมเพื่อนรักเพื่อนตายคนนี้ไป”

ไอ้เอ๋ตัวสั่น น้ำตาของมันเริ่มรินไหล ความกังวลตลอดหลายวันมานี้ชัดเจนอยู่ตรงหน้า กังวลว่าเมื่อไหร่การจากลาจะมาถึงและเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของเพื่อนรัก น้ำเสียงของมันจึงสั่นเครือเมื่อตั้งคำถาม “นายน่ะ...เจ็บปวดมากหรือเปล่า”

คำถามของไอ้เอ๋นั้นไม่ใช่คำถามที่ไอ้เจ้าคาดคิดไว้ ไอ้เอ๋ไม่ได้ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่คงมีคำถามเป็นร้อยเป็นพันอยู่ในหัวและคงมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่เต็มไปหมด ทว่ากลับมองเมินเรื่องพวกนั้นไป

“ผมชินแล้วเอ๋” เสียงทุ้มน่าฟังของไอ้เจ้าตอบกลับ “ความเจ็บปวดเป็นเพื่อนของผม”

“มันไม่ควรเป็นเพื่อนของนาย” ไอ้เอ๋แย้งทันที “ผมต่างหาก...ผมคนนี้”

ไอ้เจ้าหัวเราะ “นายดื้อเหมือนกันนะ”

ไอ้เอ๋เม้มริมฝีปาก จุกแน่นอกเพราะความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง “นายเจ้า”

“หืม”

“ที่นี่เป็นโลกความฝันเหรอ” ที่สุดแล้วก็มีแต่เพียงคำถามนี้ที่ตรงใจของไอ้เอ๋ ความสงสัยของมันมีมากเกินกว่าจะเรียบเรียงออกเป็นคำพูดได้ แค่กลั่นกรองออกมาได้เท่านี้ก็ดีมากแค่ไหนแล้ว “สองปีที่ผ่านมามันมีอยู่จริงมั้ย มิตรภาพของผมกับนาย ทุกเรื่องที่เราทำด้วยกันมา ช่วงเวลาที่เราผ่านทั้งความสุขและความเศร้ามาด้วยกัน มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือเปล่า”

ไอ้เจ้ามองสบตากับไอ้เอ๋ เปิดเผยความจริงใจให้อีกฝ่ายได้เห็น “สำหรับผมแล้วมันเกิดขึ้นจริงๆ นะเอ๋ เราน่ะเป็นเพื่อนกันไม่ว่าเวลาจะหมุนย้อนกลับกี่ครั้ง ต่อให้ทุกครั้งผมจะถูกลืม แต่เมื่อเราทักทายกัน เราก็กลับมาเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันเหมือนเดิม เอ๋น่ะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอเลย”

ไม่มีใครรู้ถึงความเจ็บปวดของไอ้เจ้า ไม่มีใครเข้าใจถึงความอ้างว้างที่เต็มแน่นอยู่ในดวงตาเรียวคู่นั้น ความรู้สึกของคนที่ถูกลืมเลือนนั้นเป็นอย่างไร จะทรมานมากแค่ไหน ไอ้เอ๋อยากจะเข้าใจให้มากกว่านี้ อยากเข้าใจและปลอบโยนคนที่ตอนนี้เอาแต่เผยรอยยิ้มเศร้าสร้อย

“เหนื่อยใช่มั้ยเพื่อน”

คำถามของไอ้เอ๋เรียกเสียงหัวเราะในลำคอจากไอ้เจ้า ก่อนจะยอมรับ “อืม เหนื่อยมาก แต่อีกไม่นานผมก็จะได้พักแล้ว”

ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้ไอ้เอ๋ยิ่งใจเสีย มันละล่ำละลักถาม “ผมช่วยอะไรนายได้บ้างมั้ย ให้ผมทำอะไรก็ได้ ผมสัญญาเลยว่าผมจะไม่ปอดแหก ต่อให้ต้องไปสู้กับใครหรือกับอะไร ผมก็จะช่วยนายให้ได้เลย”

ไอ้เจ้าส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก ไม่มีใครหนีความจริงพ้น แค่ผมยังอยู่ตรงนี้ก็ฝืนมากแล้ว”

“ช่วยฝืนอีกหน่อยได้มั้ย” ไอ้เอ๋ถามอย่างสิ้นหวัง “หากธรารู้เขาก็คงจะพูดกับนายอย่างนี้ เขาจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่านายกำลังจะทิ้งเขาไป เขารักนายมากเลยนายเจ้า เขาจะอยู่ได้เหรอถ้าไม่มีนายแล้ว เพราะขนาดตัวผม...ผมยังคิดเลยว่าผมต้องแย่แน่ๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกเอ๋ ทั้งนายทั้งธรา จะไม่เป็นไรแน่นอน” ไอ้เจ้าบอกเสียงหนักแน่น แววตาสั่นไหวเผยให้เห็นเพียงครู่ ก่อนจะถูกกลบเกลื่อนด้วยความเรียบเฉย “พรุ่งนี้ ถ้านายตื่นขึ้น นายจะลืมเรื่องของผม และเมื่อถึงเวลา ธราก็จะเหมือนกับนาย เขาจะลืมผมคนที่เป็นคนรักของเขาเหมือนกัน”

“งั้นผมจะไม่นอนนายเจ้า” ไอ้เอ๋ดิ้นรน ความดื้อดึงของมันทำให้ไอ้เจ้ามองมันด้วยความเอ็นดู “แค่ไม่นอนก็จะไม่ลืมนายใช่ไหม งั้นเราไปกันเถอะเพื่อน ผมควรจะกินกาแฟแทนน้ำเต้าหู้ เราแวะร้านกาแฟก่อนไปเที่ยวกันเถอะนะ ไปกันๆ ๆ” ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาไอ้เจ้าถึงกับทำหน้าเหวออย่างคนเสียอาการ “มาๆ ตามผมมา ใส่รองเท้าแล้ววิ่งเลยนะ”

“จริงๆ เลย ไอ้หมอแพร์ต้องปวดหัวกับนายอีกนานแน่ๆ” ไอ้เจ้าส่ายหน้าระอาก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเจ้าเพื่อนหัวฟูที่กระตือรือร้นจะออกจากห้องอย่างฉับพลัน มองไอ้เอ๋ใส่รองเท้าอย่างทุลักทุเล ไม่สนใจจะผูกเชือกรองเท้าให้เรียบร้อยด้วยซ้ำจนไอ้เจ้าต้องก้มลงไปผูกให้มัน

“นายเจ้าเร็วๆ ผมต้องการกาแฟเข้มๆ เดี๋ยวนี้เลย ผมจะง่วงไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวนะ”

“เออๆ รู้แล้ว อย่าวิ่งดิเอ๋ เดี๋ยวก็ล้มหน้าคะมำ”

“อย่ามาดูถูกผม ผมน่ะนักวิ่งงานกีฬาสีโรงเรียนนะ มาเร้ววว”

แม้จะเป็นการดิ้นรนที่ไม่เกิดประโยชน์ แต่ไอ้เอ๋ก็เอาจริงเอาจัง ในขณะที่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ขัดขวาง กลับเอาแต่หัวเราะกับท่าทางตลกๆ ของคนหัวฟู

ผมน่ะ...ดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับนาย

จากนี้ก็ขอให้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากๆ

และถ้าเกิดนายจำผมได้แม้สักเสี้ยวล่ะก็ ไปส่งผมด้วยนะเอ๋

ไม่อยากพูดคำว่า ‘ลาก่อน’ กับนายเลย

เพราะงั้น...พบกันใหม่นะเพื่อนรัก

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 14-02-2019 18:22:56
“เรื่องที่พูดมาน่ะ” ธราเค้นเสียง เขาพบว่ายากเย็นเหลือเกินที่จะใช้น้ำเสียงตามปกติได้ เขามองไอ้แพร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด มองน้องบีที่ก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน “ไม่ได้โกหกใช่มั้ย ไม่ได้วางแผนกันทำเซอร์ไพรส์อะไรใช่หรือเปล่า คือเจ้ามันก็ชอบเล่นใหญ่ไง อาจจะขอให้พวกมึงมาช่วยหลอกกู ก็มันน่ะเป็นคนอย่างนั้น” พูดเองก็หัวเราะเองแต่อีกสองคนกลับไม่ได้ขำไปกับเขาด้วย ทั้งสองคนยังคงมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ยืนยันว่าคำบอกเล่าที่พูดให้เขาฟังทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง ทั้งเรื่องที่เจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์มอเจเสียชีวิตและเรื่องที่โลกนี้มีบางอย่างผิดเพี้ยนไป

ธรารู้ดีทีเดียว ไม่ใช่ไม่รู้เพราะเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่เขาก็แค่ยังไม่อยากที่จะยอมรับและก็แค่อยากจะใช้วันคืนที่มีความสุขกับคนรัก ให้เรื่องราวที่มีความสุขนี้ดำเนินไปทุกวันอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด “นี่...ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วกูควรทำยังไงเหรอ”

“ไม่มีใครรู้” ไอ้แพร์ตอบพลางพรูลมหายใจ “กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราจะเป็นยังไงต่อ ห้วงเวลานี้มีเจ้าของและเจ้าของก็คือไอ้เจ้า พวกเราจะหายไปเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ผิดที่ผิดทางต้องกลับไปอยู่ในที่ที่ถูกที่ควร”

“ทั้งหมดเลยเหรอ” ธราย้อนถามเสียงเรียบ “ตลกมั้ยวะมึง”

“เราคิดกันอย่างนั้นนะคะพี่ดิน เพราะตอนนี้เอ๋ก็ติดต่อไม่ได้แล้วค่ะ” ดาวเภสัชฯ คนสวยพูดเสริมขึ้น ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มเมื่อพูดถึงคนอีกคนที่ร่วมตามหาคำตอบมาด้วยกัน “แชตของเอ๋กลายเป็นห้องว่าง กลุ่มที่สร้างขึ้นก็เหมือนกัน เมื่อคืนบีก็เลยจะทักบอกพี่หมอแพร์ แต่กลายเป็นทักผิด” หล่อนหยุดพูดไปเพียงครู่พลางมองสบตากับธรา “ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ ค่ะที่จะให้พี่รู้เรื่องนี้ แชตของพี่หมอแพร์อยู่ถัดจากแชตของพี่ พอดี...บีพินแชตพี่ไว้บนสุด ขอโทษนะคะ”

“พี่ไม่ได้ว่าอะไร ไม่เห็นต้องอธิบายขนาดนี้ก็ได้” ธราพูดเสียงกลั้วหัวเราะ แม้จะรู้ดีว่าสาวเจ้าคิดอย่างไรกับเขา ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีก็รับรู้ได้เป็นอย่างดี แต่ในครั้งนี้ก็ไม่ได้คิดว่าหล่อนโกหกหรือสร้างเรื่องมาหลอกลวง ทว่าเขาก็เลือกที่จะปฏิเสธเรื่องราวด้วยการหลอกตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกร้าย

“ขอบคุณนะคะที่ไม่ถือสา เมื่อคืนบีกังวลไปหมดเลย นอนก็ไม่หลับมาหลายคืนแล้ว” ดวงตาคู่สวยรื้นไปด้วยน้ำ มือบางจับกันแน่น “ยอมรับว่าตอนนี้กลัวมากค่ะ เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เอ๋ก็จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คำว่าหายไปน่ะคือพวกเราต้องตายมั้ยก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้เลย"

“แล้วตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่น้องเอ๋นะไอ้ดินเพราะไอ้จอมกับไอ้คินก็ติดต่อไม่ได้แล้ว” ไอ้แพร์บอกเสียงเครียด คิ้วเข้มของมันขมวดมุ่น นึกอยากจะชกหน้าไอ้คนที่เอาแต่ยิ้มอยู่ตรงหน้านัก ไม่รู้ว่ามันจะหลอกตัวเองไปถึงไหน “แล้วกูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงทีพวกเราบ้าง ตอนที่รู้ว่าบีทักผิดก็เครียดเหมือนกันเพราะกูก็ลังเลว่าจะพูดกับมึงเรื่องนี้ดีมั้ย แต่สุดท้ายก็นั่นแหละ ถ้าพวกกูหายไปดื้อๆ แล้วปล่อยมึงที่ไม่รู้อะไรเลยไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนกูคงรู้สึกผิดแน่ๆ กูก็เลยพาบีมาคุยกับมึงด้วย”

“อ่า…อย่างนั้นเอง” ธราเอนหลังพิงพนักโซฟาแล้วเหม่อมองออกไปที่ระเบียง “แต่มันยอมรับได้ยากมึงเข้าใจใช่ไหม ต่อให้กูจะรู้ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว ทั้งกับคนรอบข้าง ทั้งกับคนใกล้ตัว แต่แล้วยังไง” เขาแค่นยิ้ม “ไม่ตั้งคำถามแล้วไม่ได้เหรอวะ ไม่ต้องคิดสงสัยอะไรแล้วไม่ได้เหรอ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้ต่อ”

“ไอ้ดิน”

“แค่เชื่อว่ามันเป็นความจริงแค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ยากตรงไหนเลยนะที่จะเชื่อ”

“มันยากที่จะยอมรับ กูรู้เว้ย” ไอ้แพร์ตบไหล่กว้างของเพื่อนเบาๆ “แต่มึงหลอกตัวเองต่อไม่ได้แล้ว เราหนีความเป็นจริงไม่พ้นนะมึง สุดท้ายทุกคนต่างต้องไปตามวาระของตัวเอง”

หลังจากที่ไอ้แพร์พูดจบ ต่างคนก็ต่างเงียบ เกือบสิบนาทีที่ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา แต่ละคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง คิดหาคำตอบกับคำถามที่ผุดขึ้นเป็นร้อยๆ ข้อ ทว่ากลับไม่มีคำถามใดเลยที่มีคำตอบ

“มึง” ธราเป็นคนแรกที่พูดขึ้นหลังจากปล่อยให้ทั้งห้องมีเพียงเสียงเข็มวินาทีจากนาฬิกาแขวนผนัง “ถ้าเจ้าตายแล้วจริงๆ งั้นกูควรทำยังไงถึงจะได้อยู่กับมันวะ”

แววตายามพูดนั้นไม่มีแววล้อเล่น ความเอาจริงเอาจังทำให้อีกสองคนเผลอมองสบตากันอย่างเป็นกังวล ไม่มีใครรู้ว่าธราหลอกตัวเองมานานแค่ไหน เขาอาจจะเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องจริงทั้งหมดก็ได้ แต่เพราะเขาไม่เคยยอมรับ ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าเจ้า จักรพรรดิ ได้ตายจากไปแล้ว เขาจึงกลายเป็นคนที่ตามืดบอดและเชื่อในสิ่งที่ตนเองอยากเชื่อเท่านั้น

“มึงอย่าแม้แต่จะคิดหาวิธี” ไอ้แพร์ห้ามปราม “เพราะไม่มีทางไหนที่จะทำได้ หรือต่อให้มีก็ไม่ใช่ทางที่ควร”

“บีเห็นด้วยกับพี่หมอแพร์นะคะพี่ดิน พวกเราน่ะทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ” เสียงหวานเสริมขึ้นอีกแรง เพราะความปรารถนาในแววตาของธราไม่อ่อนลงแม้แต่น้อย กลับมุ่งมั่นจนน่าหวั่นใจ “อย่าคิดทำอะไรเลยนะคะ”

“ฟังพวกกูหน่อยเถอะไอ้ดิน เชื่อสิว่าไม่ว่าอะไรก็มีเหตุและผล ไม่ว่าที่ไหนก็มีเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของมัน มึงเชื่อกูเถอะว่าต่อให้มึงคิดจะตายที่นี่ มึงก็ไม่ได้อยู่กับไอ้เจ้าหรอก เรามาถึงทางตันแล้วไอ้ดิน สุดท้ายก็ต้องเดินทางกลับทางเดินของตัวเอง”

“ไม่ไอ้แพร์ มันต้องมีทาง” ธราบอกอย่างดื้อดึง “กูเคยบอกมึงใช่มั้ยว่ากูไม่สนเรื่องศีลธรรม กูก้าวข้ามความถูกต้องทั้งหมดเพื่อที่จะรักมัน แล้วมึงจะให้ความตายมาพรากมันไปจากกูเหรอ”

ไม่ได้หรอก...ใครจะไปยอม

“ไอ้ดิน มึงต้องยอมรับ” ไอ้แพร์เอ่ยเสียงเข้ม บีบที่ไหล่ของธราหวังดึงสติที่อาจจะกำลังหลุดลอยไปไกล “ระหว่างมึงกับไอ้เจ้าน่ะ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว มันคือคนที่ตายไปแล้วนะเว้ย ตอนนี้ ที่แห่งนี้คืออะไรก็ยังไม่รู้ พวกเรามีแต่คำว่าไม่รู้เต็มไปหมด วันเวลา สถานที่ หรือแม้แต่ความคิดที่ว่าโลกนี้มีอยู่จริงมั้ยก็ไม่มีใครยืนยันได้ เราเป็นตัวอะไรในที่แห่งนี้ มีตัวตนอยู่หรือเปล่า กูยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ มึงอย่าทำเรื่องบ้าๆ เลย เรายังไม่รู้ความจริงสักอย่าง มีความจริงเพียงแค่อย่างเดียวที่พวกเราแน่ใจในตอนนี้นั่นก็คือไอ้เจ้าตายไปแล้ว”

“พอเถอะไอ้สัด เลิกปั่นได้ละ พักหลังมานี้มึงอาจจะมีเรื่องไม่ชอบใจเจ้า มึงบ่นกูเรื่องที่เจ้าทำให้กูเสียการเรียน แต่ก็ไม่เห็นต้องเล่นแรงขนาดนี้มั้ง”

“มึงคิดได้ไงวะ” อยากจะตะบันหน้ามันสักที จากที่เริ่มคล้อยตามแล้วกลับกลายเป็นค้านหัวชนฝาขึ้นมาเสียอย่างนั้น “กูไม่ได้ปั่นสักนิด ที่กูพูดเป็นความจริงทั้งหมด”

“ใช่ค่ะพี่ดิน พี่เอยืนยันเลยนะคะว่าพี่เจ้าที่เป็นพี่รหัสของพี่เอเสียชีวิตแล้ว เขาโดนยิงเข้าที่กลางอก”

“เจ้ายังไม่ตาย!” ธรามองตาขวาง เขาสะบัดตัวให้มือของเพื่อนหลุดจากไหล่ “กูกอดมันอยู่ทุกวัน ฟังเสียงหัวใจของมันอยู่ตลอด ก็แค่มีบางอย่างผิดปกติไปเท่านั้น โลกมันอาจจะเพี้ยนไปเองก็ได้ แต่เจ้ายังไม่ตายไอ้แพร์ เชื่อความรู้สึกของกูเถอะ”

“แต่ที่นี่มันแปลกนะเว้ย มึงเชื่อกูสิว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา” เชื่อเถอะว่าเราไม่ควรติดอยู่ในวังวนนี้อีกต่อไปแล้ว

“กูไม่สนหรอกว่าที่นี่จะเป็นยังไง ไม่อยากเสียเวลาหาคำตอบด้วย” น้ำเสียงของธราแข็งกร้าว เขามองทั้งเพื่อนซี้และคนเคยควงอย่างหงุดหงิดใจ “ถ้ามึงบอกว่าเจ้า จักรพรรดิในโลกความจริงตายไปแล้ว งั้นก็ทิ้งกูไว้ที่นี่ ไม่ต้องห่วงกู ให้กูได้อยู่ในที่ที่กูกับมันยังสามารถอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป แค่นั้นก็พอ”

“มันไม่มีคำว่าตลอดไปไอ้ดิน”

“มี”

“มึงดื้อจังวะ” ไอ้แพร์แทบสบถออกมา แต่ก็ควบคุมตัวเองไว้ได้ทัน รอจนใจเย็นลงแล้วถึงได้เริ่มพูดต่อ “เอาเถอะ ต่อให้มึงจะอยากอยู่หรือไม่อยากอยู่ยังไง สุดท้ายแล้วมึงก็อยู่ต่อไม่ได้ อย่างที่กูบอกว่าทุกคนต้องกลับไปในที่ของตัวเอง อาจจะแค่เหมือนตื่นจากฝันที่ยาวนานและจำความฝันของตัวเองไม่ได้อีกเลย มันคงจะเป็นในรูปแบบนั้น เหมือนกับที่พวกเราที่ยังติดอยู่ที่นี่แต่กลับนึกหน้าคนที่หายไปไม่ออก ในทางกลับกันเขาก็คงจำเราไม่ได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ ทั้งความรู้สึก ความผูกพัน ความทรงจำ เมื่อกลับไปแล้วคงไม่เหลือให้นึกถึง”

ธรานิ่งเงียบรับฟัง ในขณะที่ไอ้แพร์ยังคงพูดข้อสันนิษฐานของมันต่อไป “ห้วงเวลานี้คือห้วงเวลาของคนตายไอ้ดิน กูไม่รู้ว่าเราทุกคนมาที่นี่ได้ยังไง เงื่อนไขของเวลาอาจจะเป็นระยะเวลาสองปี กูรู้แค่นี้และไม่รู้มากกว่านั้นเพราะกูทำได้แค่คาดเดา ทุกอย่างมันเริ่มแปลกไปตั้งแต่วันครบรอบสองปีของพวกมึง หรืออาจจะหลังจากนั้นกูก็ไม่รู้อีก คนที่รู้ดีที่สุดก็คือเจ้าของห้วงเวลา คนที่เห็นแก่ตัวพาพวกเรามาติดอยู่ในวังวนของมัน อาจจะเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้วก็ได้”

“มึงเรียนจนเบลอแล้วมั้งไอ้แพร์ กลับไปนอนมั้ย”

“ไอ้ควายเอ๊ย! กูจะพูดยังไงให้มึงเชื่อดีวะ มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย สมองเป็นส้นตีนอะไร มีปัญหาหรือไงถึงดูไม่ออก ไม่ผิดสังเกตเหี้ยอะไรเลย!”

“ใจเย็นๆ กันก่อนนะคะ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มสนทนาเป็นฝ่ายห้ามปรามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองกำลังเดือดได้ที่ คนหนึ่งมีสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน แม้จะกำลังโดนกระชากคอเสื้อก็ไม่มีทีท่าจะปัดป้อง ส่วนอีกคนจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ปากก่นด่ากับความดื้อแพ่งของอีกคนไม่หยุด

“มึงรู้ไว้นะไอ้ดิน รู้ไว้ว่าแฟนมึงเป็นคนโคตรเห็นแก่ตัว” น้ำเสียงเข้มดุดัน กำปั้นที่เงื้อขึ้นนั้นลดลงแล้วแต่ก็ยังสั่นเทิ้มจนแทบควบคุมไม่ได้ “วังวนความเห็นแก่ตัวของมัน ไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลย พวกกูก็มีความรู้สึก มีความทรงจำที่ไม่อยากลืม มีความรู้สึกที่อยากจะจดจำไปตลอดชีวิต มันเคยคิดบ้างมั้ยว่าคนอื่นจะเป็นยังไง คนรักของกูหายไปแล้ว แล้วเขาจะจำกูไม่ได้ มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูรู้สึกยังไงที่อยู่ๆ น้องก็ไปโดยที่ไม่ได้ลากันสักคำ”

“อย่ากล่าวหาถ้ามึงยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ธราเค้นเสียง คราวนี้เขาเป็นฝ่ายกระชากคอเสื้อของเพื่อน จากที่ไม่กี่นาทีก่อนไม่คิดจะโต้กลับ ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายจู่โจมแทน “มันเป็นแค่ข้อสันนิษฐานบ้าๆ ของมึง มึงรู้ได้ยังไงว่าคนที่หายไปเขาจะจำไม่ได้ มึงเคยหายไปหรือไง มีใครในพวกนั้นกลับมาบอกมึงเหรอ มันก็แค่การคาดเดาเหมือนมึงถามว่าตายแล้วไปไหน มีแต่คนที่อยู่คาดเดากันไป แต่สุดท้ายมีใครรู้จริงๆ บ้าง มึงไม่รู้เรื่องของเจ้าก็อย่ากล่าวหา มึงไม่รู้หรอกว่าแฟนกูเป็นยังไง”

“ถ้ามึงรู้ก็หยุดหลอกตัวเองไอ้สัด! มึงจะตายอยู่ที่นี่ จะติดอยู่ในวังวนบ้าๆ นี้ก็แล้วแต่มึง อยากจะอยู่กับผีก็เชิญ! แต่กูจะกลับไปหาคนรักของกู!”

ผลัวะ!

กำปั้นหนักๆ ของธราซัดเข้าที่สันกรามของเพื่อนซี้ ในขณะที่ผู้หญิงคนเดียวในเหตุการณ์อุทานลั่น เพราะหลังจากนั้นชายหนุ่มทั้งสองก็เริ่มแลกหมัดกัน เสียงกำปั้นหนักๆ ดังเป็นระยะ สร้างบาดแผลให้คนทั้งคู่ หล่อนทำได้เพียงจ้องมองด้วยความพรั่นพรึง อยากเข้าไปห้ามปรามแต่ก็กลัวโดนลูกหลง แต่จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้ ทว่าหล่อนก็พะว้าพะวงอยู่ได้ไม่นานเพราะทั้งสองวิวาทกันไม่ถึงห้านาทีก็เลิกราราวกับว่าแค่ระบายความอัดอั้นใส่กันเสียมากกว่าที่จะทะเลาะวิวาทจริงจัง

“ขอโทษทีนะบี ที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้” ธราเอ่ยขึ้นพลางเช็ดเลือดออกจากมุมปาก “พาไอ้หมาบ้านี่กลับไปเถอะ แล้วก็ไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้ว”

“พี่ดินคะ” ใบหน้าหวานปรากฏความห่วงใย “ไม่อยู่กับพี่เจ้าแล้วได้มั้ยคะ บีไม่รู้เลยว่าพี่เขาจะทำอะไร อยู่ให้ห่างจากพี่เขาจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องไปจากที่นี่ไม่ได้เหรอคะ”

“กลับไปเถอะ” ธราตัดบท เหลือบมองเพื่อนซี้ที่พยายามเช็ดเลือดที่กำลังไหลเข้าตาเงียบๆ ได้ยินเสียงมันซี๊ดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บแล้วก็รู้สึกผิด “ขอโทษแทนเจ้าด้วย ถ้าได้ล่วงเกินอะไรไว้หรือทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น ยังไงก็ให้อภัยแฟนพี่ด้วยละกันนะบี”

“พี่คะ...”

“กลับกันเถอะบี ปล่อยมันโง่อยู่ที่นี่แหละ ยังไงเราก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ รักกันมากก็ตายตามกันไป” ไอ้แพร์ลุกขึ้นพลางทิ้งถ้อยคำเจ็บช้ำน้ำใจไว้กับธรา “แต่กูบอกเลยนะไอ้ดิน พวกมึงไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอก ความรักของพวกมึงมันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งหมดหวัง แล้วก็ฝากบอกไอ้เจ้าด้วยละกัน กูอโหสิให้”

“เออ โชคดีละกัน แล้วก็ขอบใจที่เคยเป็นเพื่อนกับกู”

ไอ้แพร์หันหลังเดินไปที่ประตู มีร่างเล็กของสาวหน้าหวานเดินตามไปติดๆ ก่อนเสียงปิดประตูจะตามมา มันดังก้องไปทั้งห้องและเงียบลงในฉับพลัน ในห้องนี้จึงเหลือเพียงธราที่ยังคงมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าแม้บาดแผลที่คิ้วและที่ริมฝีปากจะเริ่มปวดแสบขึ้นมาแล้วก็ตาม

.

.

“ดินครับ...ดิน” มือผอมสะกิดที่ไหล่กว้างของคนที่กำลังนอนขดตัวอยู่บนโซฟา ร่างหนาส่งเสียงในลำคอพลางพลิกตัวหนีสัมผัสแต่เพราะเนื้อที่คับแคบทำให้เกือบพลัดตกไปบนพื้น โชคดีที่มือผอมดันแผ่นหลังไว้ได้ทัน อีกทั้งยังส่งเสียงดุคนขี้เซาที่ไม่ยอมลืมตาตื่นเสียที “ตื่นครับ จะกลิ้งตกแล้วนะ เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”

“อือ” น้ำเสียงงัวเงียดังขึ้นเบาๆ โดยที่เปลือกตานั้นยังปิดสนิท “มาแล้วเหรอเจ้า”

“มาแล้วครับ” ไอ้เจ้าตอบแล้วทาบหลังมือลงบนหน้าผากของธรา ดวงตาเรียวสำรวจใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ ที่คิ้ว แก้มและริมฝีปากก็มีรอยช้ำ “นอนตากแอร์นานจนตัวรุมๆ เลยนะ ทำไมก่อนนอนไม่ห่มผ้าล่ะครับ เจ้าบอกหลายครั้งแล้วนะ แอร์นี่ก็เปิดไปเถอะยี่สิบองศา ไม่แข็งตายก็บุญแค่ไหน แล้วแผลนี่อะไร ไปฟัดกับหมาที่ไหนมา”

“ก็ไม่ได้คิดจะนอน” เขาแย้งพลางกอดไอ้เจ้าไว้ ซุกหน้ากับไหล่แคบอย่างออดอ้อน “อย่าดุได้มั้ย เผลอหลับไปแป๊บเดียวเอง”

“ไม่ดุอย่างเดียว เป็นไข้จะซ้ำให้” คนชอบดุคาดโทษ แม้น้ำเสียงจะอ่อนมากก็ตาม ถูกอ้อนขนาดนี้ใครจะดุได้ลงกันเล่า! “แต่ตอบมาก่อนว่าได้แผลมายังไง”

“ทะเลาะกับไอ้แพร์นิดหน่อย แต่มึงนี่พอเป็นเมียแล้วก็ดุอย่างกับหมาเลยนะเจ้า” เขาย่นจมูกใส่พลางงับที่ไหล่ของไอ้เจ้าจนโดนตีที่แขนเข้าให้ ต่อสู้กันอยู่ไม่ถึงนาทีก็ต่างคนต่างหยุด ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายตั้งคำถามต่อ “แล้วทำไมกลับเร็ว เพื่อนนอนแล้วเหรอ” พูดแล้วก็ทำหน้าครุ่นคิด “หรือมึงออกไปไหนมานะ กูเพิ่งตื่นก็เลยมึนๆ”

“ไปหาเพื่อนครับ” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มพลางพูด “ชื่อเอ๋ เจ้าบอกคุณแล้ว”

“เออ ใช่...ไอ้น้องเอ๋ ว่าแต่ทำไมมันนอนเร็ว” ว่าแล้วก็เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง “เพิ่งสองทุ่มเอง”

“เที่ยวเพลินก็เลยเพลียครับ” ไอ้เจ้าให้คำตอบแล้วนินทาไอ้เอ๋ให้ฟัง “อวดเก่งจะกินกาแฟ บ่นขมแต่ก็ฝืนกิน สุดท้ายก็อ้วกออกหมด บ่นว่าเวียนหัวสารพัด แต่ใจก็สู้ ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ยอมใจเลย”

“พากันตะลอนทั้งวันสิท่า”

“ครับ ดูหนัง เล่นเกม เดินเที่ยว ซื้อของ เยอะแยะไปหมด เอ๋ก็พลังงานล้นเหลือ กระตือรือร้นแทบทุกอย่าง ว่าแต่ใครทำแผลให้คุณ ทำเองเหรอครับ”

“ทำเอง เมียหนีเที่ยวไม่อยู่ดูแลก็ต้องทำเองดิ” ธราบอก เห็นไอ้เจ้าพูดจ้อแล้วก็คลี่ยิ้มกว้าง “แล้วเพลียมั้ยเนี่ย เที่ยวทั้งวัน นึกว่าลืมกูไปแล้ว ไม่ทักมาเลย”

“นิดหนึ่ง” ความจริงก็ไม่นิดเท่าไร “ตอนเที่ยวไม่ได้จับโทรศัพท์เลย ขอโทษนะครับที่รัก”

“ไถ่โทษยังไง” ธราถาม หลังจากนั้นก็ได้ริมฝีปากนิ่มๆ มาเป็นของไถ่โทษ “ก็แค่นี้”

“แล้วทะเลาะอะไรกับไอ้แพร์ ปกติมันใจเย็นมาก” ไอ้แพร์น่ะเป็นคนสุดท้ายในโลกเลยก็ว่าได้ที่ไอ้เจ้าคิดว่ามันจะใช้กำลังแก้ไขปัญหา ต่างจากธราตัวดีของมันที่เอะอะอะไรก็ต่อยก็ตี คนใจร้อนกับคนใจเย็นเป็นเพื่อนกันก็เข้าที ทว่าถึงขั้นต่อยตีกันอย่างนี้ ไอ้แพร์ก็คงไม่ได้เย็นเท่าไรนักหรอก

“เรื่องไร้สาระทั้งนั้นแหละ มันพูดไม่เข้าหู”

“นักเลงจัง”

ธรายักไหล่ก่อนจะซุกไซ้ใบหน้าลงกับซอกคอของไอ้เจ้า แต่คนที่เพิ่งเหน็ดเหนื่อยจากการตะลอนเที่ยวทั้งวันเบี่ยงตัวออกอย่างไม่ม่ันใจในกลิ่นของตัวเอง “อยู่นิ่งๆ”

“เจ้ายังไม่ได้อาบน้ำ”

“ยังหอมอยู่” ว่าเสียงงึมงำเพราะริมฝีปากกำลังจูบย้ำบนผิวเนื้ออ่อน ดูดงับจนเกิดรอยสีกุหลาบอีกรอย แต่สังขารก็ไม่อำนวยเท่าไรนัก เพราะยิ่งใช้งานริมฝีปากมากก็ยิ่งเจ็บแผล “ซี๊ดด..ด ไอ้เหี้ยแพร์โคตรแย่ เจ็บอย่างนี้จะจูบเมียได้ไงวะ”

“สงสารอะ” คำพูดสวนทางกับรอยยิ้มระยับบนใบหน้า แต่พอเห็นธราทำหน้าบึ้งก็รีบปลอบโยน “มาครับ เจ้าเป่าเพี๊ยง หายเจ็บแน่นอนเลย”

“ก็คือโตแล้ว ไม่เชื่ออะไรแบบนี้”

“เอ้า โตแล้วเหรอ”

“อือ แต่ถ้าอยากเป่าก็ได้ มานั่งตักสิ” สั่งพลางตบตักตัวเอง “จะได้เป่าถนัด แล้วเดี๋ยวกูนวดตอบแทนให้”

“แหนะ” ยิ้มล้ออย่างรู้ทัน

“มานงมาแหนะอะไร ไม่ได้คิดอกุศลสักนิด” เขาบ่ายเบี่ยงแต่แววตากลับเจ้าเล่ห์ “แค่ตอนนั่งก็บดสะโพกตอบแทนหน่อย”

“นี่ขนาดไม่คิด” ไอ้เจ้าส่ายหน้าระอาแต่ก็ยอมย้ายไปนั่งบนตักแกร่ง จัดท่าทางอยู่นานจนเป็นที่พึงใจของเขาแล้ว มือหนาก็เริ่มลงมือนวดขมับให้ ระหว่างนั้นไอ้เจ้าก็เป่าคาถาไล่ความเจ็บปวดที่บาดแผลของเขาไปด้วย เห็นเขาทำท่ายกมือปิดจมูกราวกับรับกลิ่นไม่ได้ก็อยากจะตีซ้ำให้เจ็บ แต่เพราะความผ่อนคลายที่ได้จากการนวด ไอ้เจ้าจะไม่ถือสาเอาความก็ได้

“เจ้า” ธราร้องเรียกเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของไอ้เจ้าได้ชัดเจนจากระยะใกล้ “ร้องไห้มาเหรอ”

“หืม” เลิกคิ้วเพียงนิดแล้วปฏิเสธ “เปล่านี่ครับ”

“อย่าโกหก ขอบตาช้ำเนี่ย” เสียงดุขึ้นมาทันที “เล่ามา”

“ก็ไม่มีอะไร”

“คาเตียงนะบอกก่อน ถ้ากูได้เค้น”

ไอ้เจ้าหัวเราะกับคำขู่ของธรา อยากบอกใจแทบขาดว่าจัดมาหนักๆ ได้เลย แต่ก็เกรงว่าจะหนักเกินไป วันนี้เพลียมาทั้งวันก็อยากจะพักผ่อนแทนที่ร้องครางอยู่ใต้ร่างเขา “ก็จะบอกยังไงดี พอดีว่าวันนี้เอ๋น่ะ...”

“ช่างมันเถอะ” ธราตัดบทเอาดื้อๆ “ไม่ต้องเล่าแล้ว ขี้เกียจฟัง”

“เอ๊ะ หึงใช่มั้ยนะ” ไอ้เจ้าหยอกเย้า จิ้มแก้มขาวของธราไปหนึ่งที

“มาก”

“ดุดันจนรู้สึกเร้าใจ”

“เป็นเล่นไป ก็รู้ว่ากูเร้าใจได้มากกว่านี้”

ไอ้เจ้ายกมือยอมแพ้ เพราะมือปลาหมึกของธรากำลังจะพิสูจน์ความเร้าใจให้มันได้เห็นจึงต้องชิงยอมแพ้ไว้ก่อน “โอเคครับ เจ้ารู้แล้ว”

“โห ไม่สนุกเลย” ธราทำหน้าเสียดาย แต่ก็ยอมหยุดมือที่กำลังจะเลื้อยผ่านใต้เสื้อไว้แค่นั้น “เออ ก็ลืมถาม มึงกินข้าวมาหรือยัง”

“ยังครับ” ไอ้เจ้าปฏิเสธ เพราะมันตั้งตารอจะมากินอาหารฝีมือของธราที่เขาอวดไว้ว่าจะทำตามที่ดูในยูทูป “เจ้ารอกลับมากินพร้อมคุณ”

“ดีๆ งั้นเดี๋ยวไปอุ่นกับข้าว จะได้กินด้วยกัน” ธราว่าพลางภูมิใจนำเสนอ “กูทำของโปรดมึงไว้เลยนะ ดูในยูทูป เขาบอกวิธีละเอียดยิบ เข้าใจง่ายดี กูกลั้นใจชิมแล้ว แกงเขียวหวานอะไรของมึงเนี่ย มันก็โอเค กินได้แน่นอน”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มน่ามอง “อยากกินอาหารฝีมือคุณทุกมื้อเลย”

“เออ จะทำให้กินทุกวัน ถ้ากูไม่เรียนจนเป็นบ้าไปซะก่อน”

“ฮ่าๆ ๆ น่าสงสารเด็กดีของเจ้า” เสียงหัวเราะของไอ้เจ้าน่าฟัง แต่ก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น เพราะหลังจากนั้นแววตาของมันกลับเศร้าสร้อยจนธราเลือกที่จะเมินไปทางอื่น “ดิน”

“ว่า”

“ถ้าเจ้าไม่อยู่แล้ว ดินจะกินข้าวคนเดียวได้มั้ยนะ”

“หุบปากไอ้สัด มึงจะไปไหน” ธราเสียงดุขึ้นมาทันที เขามองไอ้เจ้าด้วยสีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “อย่าพูดอะไรเป็นลาง ได้กูแล้วจะทิ้งเหรอ อยากโดนดีหรือไง”

“เกรี้ยวกราดเวอร์ คุณอินอะไร” ไอ้เจ้าแสร้งทำหน้าตกใจ ยิ้มกลบเกลื่อน “ก็แค่ถามเอง”

“ถามอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่านี้” น้ำเสียงของธราจริงจัง เขาบีบเอวไอ้เจ้าเป็นการลงโทษ “กูไม่ชอบฟัง เป็นอะไรนักถึงชอบพูดแบบนี้”

“คือว่า...”

“ไม่ต้องพูด” ธราตัดบทเสียงเสียบ มองแววตาก็รู้แล้วว่ามันจะพูดอะไร “บอกรักกูหน่อย”

“เปลี่ยนอารมณ์เร็วเกิน” ไอ้เจ้าส่ายหน้าระอากับคนอารมณ์แปรปรวนที่ยังทำหน้าดุ “ตามไม่ทันแล้ว”

ธรายกมือขึ้นบีบจมูกของไอ้เจ้า เห็นสีหน้าของมันแล้วหมั่นไส้ “ต่อไปถ้าจะพูดอะไรแย่ๆ ก็บอกรักกูดีกว่า น่าฟังกว่าเยอะ เข้าใจมั้ย”

“เข้าใจแล้วจ้า” ยอมความอย่างเสียมิได้ ไม่อย่างนั้นคนรูปหล่อของไอ้เจ้าก็คงไม่หายหงุดหงิด ไอ้เจ้าอยากเห็นรอยยิ้มของเขา รอยยิ้มที่ทำให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นมากกว่า “เออนี่ที่รัก พรุ่งนี้ไปชลบุรีกัน ครั้งนี้ไปยาวๆ เลย”

“ไปอีกแล้วเหรอ” บางแห่งในใจตะโกนเป็นสัญญาณเตือน เขารู้สึกไม่ดีเลยสักนิด “ไม่ไปได้มั้ยวะ กูขาดเรียนนานๆ ไม่ได้หรอก”

“แต่ใกล้วันเกิดแล้ว เจ้าอยากกลับไปที่นั่น”

“วันเกิดเหรอ” เขาทวนถามเสียงแผ่ว “อีกกี่วันนะ”

“สามวัน”

“เดือนกรกฎาคมแล้วหรือไง” วันเวลาไม่เคยคอยท่า คงอย่างที่คิดไว้ว่ามันผิดเพี้ยนไปหมด เพราะทั้งที่ล่วงเข้าเดือนกรกฎาคมแล้ว เขาก็ยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ ยังไม่ได้สอบไฟนอลเลื่อนชั้นปี แต่วันเกิดของไอ้เจ้ากลับใกล้เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ไอ้เจ้ายิ้มกว้าง แม้จะแคลงใจกับสีหน้าไม่เห็นด้วยของธราที่บ่งบอกว่าเขาไม่อยากไป แต่กลับโฟกัสอีกเรื่องที่ทำให้หัวใจเต้นแรง “คุณรู้วันเกิดเจ้าด้วยเหรอดิน”

“ก็จำได้” เขาตอบเสียงนุ่ม แววตาอ่อนโยนทอดมองคนสำคัญ “เคยฉลองวันเกิดให้ทุกปี ทำไมจะจำไม่ได้”

“ตอนนี้ไม่รู้แล้วนะว่าคุณจำอะไรได้บ้าง เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กันสักพักแล้วสินะ”

“อืม แต่ไม่ต้องห่วง กูจำได้แต่เรื่องที่อยากจำนั่นแหละ” ธราตอบ ยกมือลูบศีรษะของไอ้เจ้า “ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ว่ามึงจะเคยทำอะไร กูก็รักมึง ไม่เคยเกลียดเลย”

“ดิน…"

“กูรักมึงมากนะเจ้า ไม่เคยคิดสักครั้งว่าวันหนึ่งจะไม่มีมึง”

ผมก็รักคุณ ผมรักคุณมาก ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะแยกจากคุณ

“อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยได้มั้ย”

แต่ผมจะทำอะไรได้ ในเมื่อคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง ผมอยู่กับคุณไม่ได้อีกแล้ว

“หรือถ้าไม่ได้...ก็ให้กูจำเรื่องของมึงตลอดไปได้หรือเปล่า”

อย่าจดจำผมเลย ให้มีแค่ผมจำเรื่องของคุณก็พอแล้ว

“กูไม่อยากลืมมึงอีกแล้ว”

ลืมผมเถอะ อย่าเจ็บปวดเพราะผมเลย

“ไม่อยากทำให้มึงต้องเจ็บอีกแล้วนะเจ้า มีความสุขสักทีได้ไหม”

ตอนนี้ผมมีความสุขแล้วที่รัก เพราะตอนนี้ผมอยู่ในอ้อมกอดของคุณ

“พระเจ้าของกูนี่ร้องไห้เก่งจริงๆ”

ไม่เคยเลยสักครั้งที่ธราจะเห็นไอ้เจ้าร้องไห้มากขนาดนี้ คนที่เข้มแข็งมาตลอด คนที่ไม่เคยให้ใครได้เห็นด้านที่อ่อนแอกลับปล่อยโฮออกมา น้ำตารินไหลอาบแก้มหยดแล้วหยดเล่า แววตาที่ไม่ค่อยเผยความรู้สึกก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดที่ไม่คาดคิดว่าคนคนหนึ่งจะทนไหว แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้นอกจากเช็ดน้ำตาให้และดึงร่างผอมที่แสนเปราะบางนี้เข้ามากอดไว้

ร้องออกมาเถอะนะ ให้โอกาสคนที่รักได้เช็ดน้ำตาให้บ้าง

ครั้งสุดท้ายก็ยังดี

.

.

D. : จี้ ถ้ากูไม่ยอมปล่อยให้เจ้าไป จะมีเรื่องที่แย่ยิ่่งกว่านี้เกิดขึ้นหรือเปล่า หรือที่เป็นอยู่นี้มันแย่ที่สุดแล้ววะ

-Read-



..............TBC..........



ที่สุดก็ต้องเป็นไป  :กอด1: :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเม้นและกำลังใจค่า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 14-02-2019 18:48:50
ไปให้สุดจ้า ไปให้สุด แล้วหยุดอยู่ที่ bad end  :ling1: แงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-02-2019 19:08:04
เรื่องนี้ คนที่น่าสงสารที่สุดจะเป็นใครกันนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 14-02-2019 19:27:20
เอาให้สุดค่ะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 14-02-2019 19:31:46
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกแปลกๆค่ะ หรือว่าคนที่ยิงเจ้า จะเป็นจี้
แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมดินถึงเลือกจะลืมเจ้าล่ะ  สงสารเจ้ามาก
ถ้าสุดท้ายจริง ดินมีอนาคตที่มีความสุขโดยลืมเรื่องเจ้าไปหมด
นี่โคตรเศร้าเลย
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-02-2019 19:45:14
 :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 14-02-2019 19:58:47
ถึงตรงนี้ เลิกเดาเรื่องแล้วว่าจะเป็นแบบไหน จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปป แค่มีความสุขที่ได้อ่านได้ติดตามความเป็นไปของทุกคน มีความสุขและไม่เครียด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 14-02-2019 20:08:01
เดาไม่ถูกแล้วววววววว จบดีมั้ยคะ?  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 14-02-2019 20:36:20
ปวดตาไปหมดแล้ว สงสารเอ๋มากและเจ้าก็รักเอ๋มากเช่นกัน ินเราก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าคุณดูแลตัวเองด้วยนะคะ ปล่อยเจ้าไปเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 14-02-2019 20:55:23
แง้ก็คืออ่านไปแบบมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นอย่างงี้แต่ก็ร้องไห้หนักมาก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 14-02-2019 21:02:14
ไปตามทางเดินของแต่ละคน  :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-02-2019 21:09:17
มีสุดกว่านี้อีกไหม คือคนอ่านร้องไห้สุดๆ น้ำตาไหลพรากๆ
คัดจมูกเสมือนเป็นหวัดติดต่อกันมาสามปีเลยเชียว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 14-02-2019 21:33:31
เอ๋กับดินคือคนที่รู้มากที่สุด แต่หลอกตัวเองตลอด เพราะไม่อยากให้จากกันอะ
ตอนเอ๋บอกจะไม่นอนคือน้ำตาไหลแล้ว มันเป็นความพยายามที่รู้ว่าไม่ได้ผลอะ   :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-02-2019 22:06:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 14-02-2019 22:13:53
เราร้องไห้เพราะเอ๋เลย  :ling3: :ling3:

เราจะคิดถึงเอ๋นะ แม้ตอนนี้เอ๋จะหายไปแล้วก็ตาม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 14-02-2019 23:51:34
อ้าว ดินมีแอบแชทกับจี้ไปอี๊กกก  จี้คบซ้อนหรา 55555 #ขำกลบเกลื่อนความงงในงง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 15-02-2019 00:14:45

สะดุดตรงนี้เหมือนกัน  ดินแชทกับจี้

อ่านบทนี้เหมือนคนที่ตายคือเจ้ากับจี้
น่าจะเพราะดินในอดีตเข้าใจผิดเรื่องเจ้ากับจี้
แต่ก็ยังอธิบายเรื่องที่จันทร์ถูกทำร้ายไม่ได้
และจี้ก็ยังมีตัวตนในมิติที่ชลบุรี

อ่านบทพูดหมอแพร์ นิยายเลยจะกลายเป็นนิยายผีไปซะงั้น  หมอต้องอ่านนิยายมิติคู่ขนานหรือนิยายย้อนอดีตเยอะๆนะหมอ 
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-02-2019 00:21:31
ไม่ไหว ตอนจบจะขนาดไหน T_____________T
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 15-02-2019 00:23:55
ขอบคุณของขวัญวันวาเลนไทน์นะคะ ร้องไห้จนจะไม่มีน้ำตาอยู่แล้ว  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-02-2019 00:32:07
สงสารทุกคนเลย ร้องไห้ตามเอ๋แล้วก็ร้องไห้ตามเจ้า มันเจ็บปวดมากเลยที่ต้องลืมกันไปแบบนี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 15-02-2019 00:55:21
เจ้ากับจี้ที่ตาย โลกความจริงมันเป็นยังไงอยากรู้ๆ

ร้องไห้ตาบวม คัดจมูกไปหมดแล้วเรา  :mew6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-02-2019 01:43:39
 :serius2: ทั้งมึน ทั้งลุ้น
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-02-2019 01:59:08
จัดไปเอาให้สุด น้ำตาของน้องแด่พี่เจ้านะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-02-2019 07:41:28
 :mew4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 15-02-2019 08:57:41
ตอนจบจะเป็นยังไงเนี้ยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 15-02-2019 09:50:58
งงไปอีก.. มิติซ้อนมิติ
โลกคู่ขนาน.. ยังไงดี.. หืมมมม..
หรือแบบ อินเซปชั่น.. เจ้าโคม่าอยู่ไอซียู แล้ว ดินเข้าฝันไปหาเจ้า..
ซับซ้อนไปอีกกจ้าาาา..  :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 15-02-2019 10:08:53
ไปเลยไปให้สุด ให้ใจมันพังไปเลย ฮือออออออ คนอ่านไม่ไหวแล้ว เจ็บหัวใจมาก :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-02-2019 10:58:40
มีสุดกว่านี้อีกไหม คือคนอ่านร้องไห้สุดๆ น้ำตาไหลพรากๆ
คัดจมูกเสมือนเป็นหวัดติดต่อกันมาสามปีเลยเชียว

เหมือนพอรู้จุดจบ ......
จู่ๆ น้ำตา ...มันก็ไหลออกมา   :o12:
ใช้กระดาษทิชชูเป็นกองๆเลย  :mew2:
ปกติมันก็ซึมๆ แต่นี่สะอื้นฮึกๆ เศร้าโศกมากๆ  :z3:
สงสารเจ้า ดิน เอ๋   :mew5:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 15-02-2019 12:43:14
ไปให้สุด ไปให้สุด  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 15-02-2019 21:45:39
ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริงเรื่องเท็จแล้ว

อินคำพูดหมอแพร์มากเลยค่ะฮื่ออ เรื่องบางเรื่องก็อยากจดจำจนไม่อยากลืมหรอกนะ   :mew4::mew4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 15-02-2019 23:17:02
เจ้าอย่าไปเลย สงสารดิน สงสารเอ๋
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MayLYn ที่ 16-02-2019 22:36:58
ฮืออออ สงสาร อ่านไปก็จุกหน้าอกไป อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด เราฝืนชะตาไม่ได้หรอกดิน


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 17-02-2019 02:03:44
อึดอัดมาก ไม่อยากคิดถึงตอนจบ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 17-02-2019 17:21:13
ร้องไห้ทุกตอน,,,
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่ ​P.21 14/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 17-02-2019 18:10:39
มา จะเศร้าแค่ไหนก็มา เตรียมตับ เตรียมเช็ดชู่แล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 17-02-2019 18:11:37
ตอนที่ 21 ท่านเจ้า





-เจ้า จักรพรรดิ-





ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ ไม่เชื่อเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้และไม่เชื่อสิ่งอื่นใดนอกจากตัวของผมเอง ซึ่งโดยพื้นฐานความคิดนี้ทำให้ผมไม่เคยจินตนาการถึงโลกหลังความตายที่อาจจะมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงแค่มโนคติ ไม่มีใครเคยกลับมาบอกเล่าได้ว่าเมื่อละสังขารไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ทุกคนที่ยังอยู่จึงวนเวียนกับคำถามที่ไร้คำตอบที่แน่ชัด ต่างคนต่างคาดเดากันไปต่างๆ นานา แต่ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงความว่างเปล่าที่เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็จะดับสูญไป ความคิดของผมมุ่งเน้นไปทางนั้นในขณะที่หลายๆ คนเชื่อเรื่องนรก สวรรค์หรือเส้นทางที่จะเดินกันต่อหลังจากนี้

แต่...หากไม่เคยตายสักครั้งก็คงไม่รู้

ใช่...ไม่มีใครรู้จนกว่าจะพบเจอด้วยตัวเอง

ผมยกมือขึ้นสัมผัสที่กลางอก ไล้นิ้วไปตามรอยแผลเป็นที่ยังคงสร้างความเจ็บปวด แม้จะชินชากับความรู้สึกนี้แต่ในบางครั้งก็ทุรนทุรายเมื่อมันปวดจนเกินจะรับไหว หากถามว่าผมได้รอยแผลนี้มาอย่างไร ผมก็คงให้คำตอบได้อย่างไม่ชัดเจนนักเพราะเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ปรากฏภาพที่แน่ชัดในความทรงจำ ผมจำได้แค่ว่าผมถูกยิง กระสุนนัดนั้นผ่านทะลุกลางอก สร้างบาดแผลสาหัสที่ทำให้เลือดไหลทะลักออกมา ในตอนนั้นแน่ใจแล้วว่าคงจะได้พบคำตอบสักทีว่าโลกหลังความตายเป็นอย่างไร แต่คำตอบกลับไม่มาถึง ความทรงจำในช่วงเวลานั้นหายไป ระยะเวลาอาจจะแค่ชั่วอึดใจหรือยาวนานมากกว่านั้นผมก็บอกไม่ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็ตื่นขึ้นที่ห้องนอนของตัวเองในเช้าวันรุ่งขึ้นราวกับคนที่เพิ่งผ่านฝันร้ายแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยสภาพเหงื่อโซมกาย ทว่าผมกลับรับรู้ได้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในความฝัน รอยแดงช้ำกลางอกก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่มีเลือดไหลทะลักออกมาแต่ก็ปวดจนแทบทนไม่ไหว

ผมคิดว่าห้วงเวลาของผมคงเริ่มต้นขึ้นจากตรงนั้น...

ในตอนนั้นผมรับรู้ถึงความผิดปกติได้ในทันทีแม้จะก้ำกึ่งว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน ยิ่งเมื่อหันมองรอบห้องนอนก็ยิ่งแน่ใจว่าที่นี่อาจจะเป็นโลกหลังความตายที่หลายๆ คนเฝ้าหาคำตอบก็เป็นได้ เพราะผมไม่มีทางกลับมาที่นี่ สถานที่ที่เป็นทั้งความสุขและความเศร้าใจ ผมปิดตายมันเอาไว้ตั้งแต่ที่เจ้าของอีกคนไม่อยู่ ความทรงจำในที่แห่งนี้มีทั้งที่อยากจำและอยากลืม หลังจากที่ทำใจยอมรับได้แล้วผมก็ลุกขึ้นสำรวจรอบห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องยังถูกจัดวางเหมือนเดิม ไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งชิ้นใดวางผิดที่ผิดทางเลยสักชิ้นเดียว ความทรงจำที่มีเพียงแค่ผมที่จำได้ก็ยังคงรายล้อมอยู่ในตอนนี้

อืม...โลกหลังความตายก็คงจะเป็นนรกแห่งความทรมานอย่างที่คนส่วนใหญ่พูดเอาไว้

ผมใช้เวลาทั้งสัปดาห์อยู่ในห้องนั้น ห้องที่เป็นดั่งเครื่องทรมานแต่กลับมีชีวิตชีวาเหมือนครั้งหนึ่งที่ผมเคยอยู่กับเขา ไม่เคยรับรู้ถึงความผิดปกติของห้วงเวลา เพราะผมเอาแต่ให้ความสนใจกับภาพถ่าย ไดอารี่และของแทนใจที่เขาเคยให้ไว้ จนเมื่อเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้นติดๆ กันอยู่สามครั้ง บ่งบอกว่ามีผู้มาเยือน

“ท่านเจ้าครับ เจอตัวคุณชายแล้วนะครับ ผมได้ที่อยู่มาแล้ว” ลุงชันคนสนิทคือคนที่ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูและนั่นทำให้คำถามผุดขึ้นในใจของผม

หรือมันจะเป็นแค่ความฝัน เรื่องที่ผมถูกยิงอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นรอยแผลเป็นนี้มาจากไหน

“ไม่สบายหรือเปล่าครับท่านเจ้า”

“เปล่า ผมไม่เป็นไร เมื่อกี้ลุงพูดว่าไงนะครับ”

“เจอคุณชายแล้วครับ”

ไม่ใช่เพราะเพิ่งเจอ แต่เพิ่งได้รับอนุญาตให้เจอต่างหาก

“แม่ยอมให้ลุงบอกที่อยู่น้องดินแล้วเหรอ”

บทสนทนานี้คล้ายกับเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ผมจำสีหน้าลำบากใจของลุงชันได้ จำประโยคที่ลุงจะพูดขึ้นต่อจากนี้ได้เช่นกัน

“ครับ นายหญิงท่านยอมแล้ว ท่านบอกว่าเพื่อความสุขของท่านเจ้า ท่านจะไม่ขัดขวาง”

เป็นมุขตลก ผมทราบดี อย่างแม่น่ะหรือจะเห็นแก่ความสุขของผมในเรื่องนี้

“แม่มีแผนอะไร ลุงบอกผมได้มั้ย”

“ขอโทษครับท่านเจ้า”

ผมเข้าใจดีถึงคำขอโทษของลุงชัน การทำตามคำสั่งของแม่อย่างเคร่งครัดก็เป็นเหมือนการต่อชีวิตให้ครอบครัวที่สำคัญของลุง

“ครับ ไม่ต้องบอกผมหรอก ยังไงชีวิตของจี้กับป้าพรต้องมาก่อน ที่จริงผมไม่ควรทำให้ใครต้องเดือดร้อนเลย”

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ทุกคนเต็มใจทำเพื่อท่าน อีกอย่างนายหญิงก็จะให้น้องจี้กลับมาแล้ว คราวนี้นายหญิงใจอ่อนจริงๆ นะครับ ท่านเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ไปหาคุณชายเถอะครับ คงไม่เป็นไรแล้ว”

“แต่ป้าพรยังอยู่กับแม่ ป้าไม่ได้กลับมาด้วยใช่มั้ย”

คำตอบของลุงชันคือความเงียบ ลบคำว่าไม่เป็นไรที่เคยพูดไปจนหมดสิ้น ผมรู้ดีทีเดียวว่าไม่มีสิ่งใดง่าย หากแม่ของผมยังคงไม่เห็นด้วยกับความรักที่ผมมีต่อคนสำคัญคนนั้น คนที่เขาลืมเลือนผมไปแล้ว แต่ผมก็ยังหวังว่าเขาจะจำผมได้

หวังจริงๆ ว่าผมจะได้น้องดินของผมกลับคืนมา

ความปรารถนานี้รุนแรงอยู่ทุกขณะที่หายใจ ก่อเกิดเป็นความเจ็บปวดที่รอยแผลเป็นเมื่อนึกถึง มันเจ็บจนผมหายใจแทบไม่ออก แน่ใจว่าอาจจะตายในอีกไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่งแต่แล้วความเจ็บปวดก็ทุเลาลง อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมหอบหายใจในขณะที่นอนแผ่อยู่กลางห้องหลังจากตัวบิดงอด้วยความทรมาน

ผิดปกติ

ผมรับรู้ได้จากสัญชาตญาณ แม้ในโลกนี้จะไม่มีสิ่งใดผิดเพี้ยนไปเลยจากที่ตาเห็น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นปกติเหมือนเช่นที่เป็นมา อย่างน้อยก็รอยแผลเป็นที่สร้างความเจ็บปวดให้ผมนี่แหละที่เป็นความผิดปกติหนึ่งอย่างที่สังเกตเห็นได้ง่าย แต่ผมก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นหรือฟันธงไปอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ในเมื่อลุงชันที่น่าจะยังคงมีชีวิตอยู่มาอยู่ในโลกนี้ด้วย ถ้าหากเป็นโลกหลังความตายของผมจริงๆ ที่แห่งนี้ต้องมีผมอยู่เพียงลำพัง

หลังจากเกิดข้อสงสัยเหล่านั้นผมก็เฝ้าหาคำตอบ ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมีที่มาที่ไป มีเหตุที่ส่งผลให้มันเกิดขึ้น แล้วผมก็พบคำตอบหลังจากนั้นไม่นาน -- ที่แห่งนี้ไม่ใช่โลกหลังความตายแต่เป็นห้วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนวันเกิดอายุ 23 ปีของผม เป็นเวลาสองปีสองเดือนกับอีกเจ็ดวันนับตั้งแต่วันแรกที่ผมตื่นขึ้นในห้องนี้ ผมแน่ใจก็เมื่อความทรงจำก่อนวันเกิดของผมกลับมาในหนึ่งเดือนให้หลังและพบว่าโลกที่ผมอยู่นี้มีเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของมันอย่างชัดเจน

เงื่อนไขของมันคือเวลาและกฎเกณฑ์ของมันคือการไม่เปลี่ยนแปลง

ในทุกวันความผิดปกติจะเกิดขึ้นหนึ่งเรื่อง ที่เห็นชัดเจนรองจากรอยแผลเป็นที่ปวดเป็นพักๆ ก็คือวันเวลา วันเวลาที่ไม่เคลื่อนขยับ เวลาที่นาฬิกาข้อมือของผมหยุดเดินที่เวลาห้าโมงสิบเจ็ดนาที ในขณะที่วันที่ก็ไม่เคลื่อนเปลี่ยนแม้สักวัน มันหยุดอยู่ที่วันที่ 17 กรกฎาคม แต่ผมกลับรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าในแต่ละวันนั้นคือวันเดือนปีอะไร ภาพเหตุการณ์ในแต่ละวันก็ทำให้รู้สึกเหมือนเกิดเดจาวู รับรู้ว่าเคยเกิดขึ้น รับรู้ผลลัพธ์ แม้เส้นทางที่เกิดจะแตกต่างแต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน สุดท้ายแล้วการกระทำหนึ่งที่ส่งผลต่ออีกการกระทำหนึ่งก็ยังคงอยู่ ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เพราะต่อให้หลีกเลี่ยงจะไม่ให้เกิดอย่างไรก็จะได้ผลลัพธ์เท่าเดิม อย่างเช่นหากวันนี้ผมรู้อยู่แล้วว่าจะโดนมีดบาด ผมจึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้มีด ทว่าสุดท้ายก็เกิดรอยบาดจากสิ่งอื่นอยู่ดี

ผมใช้เวลาอยู่พอสมควรที่จะทำใจยอมรับกับตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง มันยากที่จะเชื่อและก็ยากที่จะคิดหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ ผมเอาแต่ตั้งคำถามกับตัวเองเพราะคงไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้ ทุกคนในห้วงเวลานี้ไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติเหมือนกับผม พวกเขาดำเนินชีวิตเหมือนเช่นทุกวันที่เคยเป็นมา

ผมหมกตัวอยู่ในห้องเกือบสองเดือนเพราะไม่มีกะจิตกะใจคิดทำอย่างอื่น ความรู้สึกว่าหากได้ตายไปจริงๆ คงจะดีกว่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของผมไม่หยุดหย่อน ความปรารถนาที่อยากเจอคนสำคัญคนนั้นมอดไหม้เมื่อจำได้ว่าความทรงจำก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไร ผมปล่อยเวลาให้เลยผ่าน วันแล้ววันเล่าที่ทำได้แค่ดูรูปถ่ายและหวนคิดถึงภาพความสุขที่เคยเกิดขึ้นในห้องนี้ จนเมื่อมีข้อความถูกส่งเข้ามา

ข้อความจากเพื่อนคนสนิทที่เป็นความสบายใจของผม





Gee : ท่านจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีกนานแค่ไหนท่านเจ้า

Gee : จะนอนแผ่อยู่กลางห้องไปอีกนานแค่ไหน เวลามันไม่คอยท่านหรอกนะ





ผมแน่ใจในทันทีว่านี่อาจจะไม่ใช่จี้ที่ผมรู้จัก แน่ใจโดยไม่ต้องตั้งคำถามใดๆ ขึ้นมาเลย





Jao : อยู่ตรงไหน

Gee : ข้างๆ ท่าน

Jao : นานแค่ไหนแล้ว

Gee : ตลอดเวลานั่นแหละ





ความเศร้าเกิดขึ้นในใจแทบทันที ต่อให้ไม่ถามก็รู้ได้ว่าจี้ที่พูดคุยกับผมในตอนนี้อาจจะไม่มีตัวตนหรืออาจจะมีตัวตนอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ที่แห่งนี้ ผมรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดจึงไม่ได้แปลกใจหากจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นอีก แต่ก็ยังอดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้เพราะบางเรื่องต่อให้เข้าใจก็ยากที่จะรับไหว





Gee : อย่าทำหน้าเศร้าเลยท่านเจ้า

Gee : ท่านควรจะมีความสุขได้แล้วนะ

Jao : จะหาความสุขมาจากไหนจี้ ในเมื่อคนที่เป็นความสุขของกูเขาหายไปแล้ว

Gee : เพราะแบบนี้ท่านถึงอยากกลับมาไม่ใช่เหรอ

Gee : ท่านปรารถนาให้เขาจดจำท่านได้ ปรารถนาให้เขาเลือกท่าน

Gee : ทั้งที่รู้ดีว่าความรักของท่านเป็นไปไม่ได้ แต่ท่านก็ยังปรารถนา

Jao : แต่กูรู้ว่ามันไม่ได้แล้ว กูทำอะไรไม่ได้เลย ความสุขของกูเขาไปเป็นความสุขของคนอื่นแล้ว





ความทรงจำนี้ทำให้ผมทรมาน กลางอกของผมเจ็บปวดขึ้นอีกครั้งแต่มันไม่ได้ทุรนทุรายเหมือนก่อนหน้า ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นความเจ็บที่ไม่ก่อให้เกิดความสุข กลับนำพาเอาความรู้สึกแย่เข้ามาในจิตใจ





Gee : ณ ที่แห่งนี้ ท่านทำได้

Gee : ห้วงเวลานี้เป็นของท่าน ความปรารถนาจะเป็นจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับท่าน

Gee : ที่แห่งนี้ท่านเป็นเจ้าของ แต่ถึงแม้จะเป็นเจ้าของ ท่านก็คงรู้เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของมันดี

Jao : ก็พอรู้และก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ไงจี้ กูเคยลองแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน กูจะกลับมาทำไมถ้าต้องกลับมาทรมานเหมือนเดิม

Gee : บางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเพราะเหตุไม่เปลี่ยน หากท่านเปลี่ยนเหตุ ผลที่ตามมาก็จะเปลี่ยนตาม ผลลัพธ์น่ะขึ้นอยู่กับการเลือกกระทำ เพราะฉะนั้นในห้วงเวลานี้ท่านต้องหาเหตุแห่งความทุกข์ของท่านให้เจอ

Jao : แล้วถ้าหาไม่เจอล่ะจี้

Gee : ท่านจะติดอยู่ในห้วงเวลานี้ จะทรมานอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ได้ แม้แต่ความตายก็ไม่ใช่อิสระของท่าน

Jao : แล้วมึงจะอยู่กับกูมั้ย

Gee : :)





ต่อให้ไม่ได้ตอบอย่างชัดเจนแต่นั่นก็เป็นคำยืนยันแล้ว จี้น่ะเป็นแบบนี้เสมอ เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างและเสียสละเพื่อความสุขของผมมาโดยตลอด





Jao : ไม่อยากให้มึงติดอยู่ที่นี่กับกูหรอกจี้ อยากให้มึงเป็นอิสระสักที

Jao : กูจะหาให้เจอนะ ความสุขของกูน่ะ กูจะตามกลับมาเอง

Gee : หวังว่าท่านจะเจอกับความสุขและสมปรารถนา

Jao : แต่คงไม่มีอะไรง่ายหรอกใช่ไหม ถ้าเงื่อนไขของที่แห่งนี้คือเวลา กูก็คงมีเวลาจำกัดเหมือนกัน

Gee : ใช่ ท่านมีเวลาจำกัด

Jao : ถ้าตามที่กูเข้าใจ กูต้องทำให้ได้ก่อนวันเกิดของกูใช่ไหม กูมีเวลาสองปี สองเดือนกับอีกเจ็ดวันหรือเปล่า ถ้านับจากวันที่ตื่นขึ้นมาในที่แห่งนี้

Gee : ไม่ใช่

Gee : แค่สองปี

Gee : ตราบใดที่ยังไม่เป็นไปตามที่ท่านปรารถนา ท่านมีเวลาแค่สองปีเท่านั้น อย่าให้เกินกว่านี้

Jao : ทำไม

Gee : เพราะห้วงเวลาของท่านจะหมดลง เวลาจะเริ่มเดินต่อไปจนถึงวันนั้น

Jao : กูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

Gee : ท่านต้องไม่เจอกับเหตุที่ชักนำให้เกิดเรื่องในวันนั้นท่านเจ้า เพราะห้วงเวลาของท่านจะถูกหยุดลงแล้วพาท่านไปถึงวันที่ท่านต้องตาย ท่านคงจำได้ว่าหลังจากสองปีที่ท่านพยายามในคราวนั้น ท่านเจอกับใคร

Jao : จันทร์เจ้า

Gee : ใช่ นั่นเป็นเหตุเพียงอย่างเดียวที่ไม่ได้อยู่ในห้วงเวลาของท่านเพราะเป็นเหตุที่ชักนำให้ท่านมาอยู่ตรงนี้ ท่านเปลี่ยนเหตุนี้ไม่ได้ นั่นแหละคือกฎเกณฑ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

Gee : ท่านต้องให้สัญญาว่าจะกลับมาก่อนที่จะครบสองปี กลับมาในที่ที่ท่านตื่นขึ้นมาครั้งแรกเพื่อทำความปรารถนาของท่านให้เป็นจริงไม่ว่าจะต้องหมุนวนสักกี่ครั้งก็ตาม

Jao : กี่ครั้งก็ได้เหรอจี้

Gee : กี่ครั้งก็ได้ ถ้าท่านทำตามสัญญา แต่ในแต่ละครั้งมันก็มีสิ่งที่ท่านต้องจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนกับเวลา

Jao : ก็ไม่คิดว่ามันจะง่ายนักหรอก แล้วอะไรที่กูต้องจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยน

Gee : ท่านหาคำตอบเอาเองดีกว่าท่านเจ้า บอกไปตอนนี้ท่านก็คงไม่เข้าใจ





ในตอนนั้นผมเก็บงำความสงสัยไว้โดยไม่ตั้งคำถามเซ้าซี้ บางอย่างที่ผมต้องจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนกับเวลาคงไม่ใช่เงินทองของมีค่า แต่คงเป็นบางอย่างที่ผมสามารถจ่ายได้ ผมคิดแค่เท่านั้น

หลังจากที่คุยกับจี้ ในวันรุ่งขึ้นผมก็ไปพบกับคนสำคัญของผมอีกครั้งตามที่อยู่ที่ลุงชันให้ไว้และเหมือนครั้งแรกที่เหตุการณ์นี้เริ่มต้น เขาไม่รู้จักผม น้องดินของผมจำผมไม่ได้อีกเช่นเคยและผมพบว่ามันยากมากจริงๆ ที่จะทำตัวเหมือนคนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก มันยากเพราะผมคือคนที่มีความทรงจำร่วมกับเขา ในขณะที่เขาเห็นผมเป็นเพียงคนแปลกหน้า ผมอดทนต่อความเจ็บปวดได้เพียงไม่นานก็ต้องยอมรับว่าผมไม่มีทางทำให้ความปรารถนาของตัวเองเป็นจริงได้

ในครั้งแรกนั้นจบไม่สวยเลยสักนิด ผมจำได้ดีทีเดียวว่าเขาไม่ชายตามองผมเลย ธราคนที่ผมเจอนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วและเขาก็รักคู่หมั้นของเขามาก เขามั่นคง ไม่ไขว้เขว แม้ผมจะหน้าด้านและพยายามเป็นมือที่สามก็ไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของผมกับเขาก้าวหน้า เขาเกลียดผมมากเสียด้วยซ้ำที่เข้าไปทำให้เขาและคู่หมั้นผิดใจกัน แม่ดาวเภสัชฯ คนสวยคนนั้นร้องไห้น้ำตานองหน้าทุกทีที่ผมต่อว่าเธอว่าหน้าไม่อายที่มาแย่งแฟนของผม ทั้งที่ในตอนนั้นผมถูกมองว่าเป็นผู้แอบอ้างมากกว่าจะได้เป็นตัวจริง

ตลกดีเหมือนกัน...มันเหมือนเทปที่กรอซ้ำ เนื้อหาเหมือนเดิมแต่ความเจ็บปวดของผมเพิ่มมากขึ้น มันมากกว่าครั้งเดิมหนึ่งเท่าตัว ผมจึงต้องยอมรับความพ่ายแพ้และกลับไปเริ่มใหม่ กลับไปหมุนวนเวลาที่ได้ทำผิดพลาดเพื่อให้ความปรารถนาของผมเข้าใกล้ความจริงอีกครั้ง แต่การหมุนวนในครั้งแรกไม่ได้ทำให้ผมรู้เลยสักนิดว่าผมต้องจ่ายสิ่งใดเพื่อแลกเปลี่ยนกับเวลา ผมกลับเข้าสู่วังวนเดิมแต่ครั้งนี้ธราไม่ได้มีคู่หมั้น เขาเป็นหนุ่มเพลย์บอยที่รักสนุก ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า หลับนอนกับพวกเธอคนแล้วคนเล่า โดยที่ผมทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ ถึงอย่างนั้นเขาก็มีคนที่อยู่เคียงข้าง ดาวเภสัชฯ คนสวยคนเดิมที่เป็นแฟนตัวจริงของเขา และผมพบว่าในครั้งนี้ยากกว่าครั้งก่อนเพราะเขาตั้งท่ารังเกียจผมตั้งแต่แรกเห็น แม้จะจำผมไม่ได้ แต่ความรู้สึกเกลียดนั้นฝังอยู่ในใจของเขา ครั้งที่สองจึงเป็นอีกครั้งที่ผมซมซานกลับมายังจุดเริ่มต้น และในครั้งที่สามผมก็เริ่มรู้ตัวว่าสิ่งใดคือสิ่งแลกเปลี่ยน

ความทรงจำของผมเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง ความเจ็บปวดก็เพิ่มมากขึ้นตาม เพราะตัวผมไม่ได้ถูกรีเซ็ตไปพร้อมเวลา สิ่งที่ยังคงค้างนั้นสร้างความทรมานให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่คนในห้วงเวลากลับไม่เหลือความทรงจำเดิม พวกเขาเริ่มต้นด้วยความทรงจำใหม่ มีชีวิตราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นใครในความสัมพันธ์ที่เคยได้สร้างความทรงจำร่วมกันต่างก็ลืมเลือนผมกันทุกคน มีแค่ความรู้สึกเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ยังคงติดค้างอยู่กับพวกเขา แต่ยกเว้นธรา คนสำคัญของผม ทุกครั้งที่ถูกรีเซ็ตสิ่งที่ยังคงเดิมสำหรับเขาก็คือความรู้สึกเกลียดที่มีต่อผม ไม่ว่าจะเริ่มต้นสักกี่ครั้ง ความปรารถนาของผมก็ไม่เคยเข้าใกล้ความจริง

ในจำนวนการรีเซ็ตทั้งหมดเก้าสิบเก้าครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เขาเลือกผมแม้สักครั้งเดียว ผมไม่เคยมีตัวตนอยู่ในความทรงจำ ไม่มีสิทธิ์แม้จะได้อยู่ในสายตา ธราที่แตกต่างกันในแต่ละครั้งต่างก็เลือกที่จะหันหลังให้ผม





Gee : ท่านเจ้า ยอมรับความจริงได้หรือยังท่าน





จี้มักจะถามคำถามนี้กับผมเมื่อเวลาหมุนย้อนกลับ แต่ผมตอบปฏิเสธทุกครั้ง ความปรารถนาของผมยังไม่เปลี่ยน ผมจึงไม่สามารถยอมรับได้ จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง การที่ไม่ใช่คนที่ถูกรักก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากเหลือเกิน





Jao : กูยังไหวน่า มันไม่เจ็บไปมากกว่านี้แล้วล่ะจี้

Gee : รู้ แต่พอเถอะนะท่าน ยอมรับได้แล้ว อย่าทรมานไปมากกว่านี้เลย

Gee : ท่านไม่ได้ยิ้มมานานเท่าไรแล้วนะท่านเจ้า




หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 17-02-2019 18:12:19

ความเจ็บปวดทรมานน่ะกลายเป็นเพื่อนของผม ทุกการรีเซ็ตนั้นความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ความทรมานจะอยู่กับผมเพราะผมต้องตายในห้วงเวลาถึงจะกลับไปเริ่มใหม่ นั่นคือสิ่งแลกเปลี่ยนที่ผมต้องจ่ายไป

ไม่มีสิ่งใดง่ายดายแต่ผมก็ยอมรับเพราะผมดื้อดึงเอง นอกจากผมที่จะต้องติดอยู่ในวังวนนี้แล้ว จี้ก็คงไม่ต่าง ผมไม่รู้ความปรารถนาของจี้แต่ก็เดาได้ไม่ยากนัก เพราะฉะนั้นผมจึงหยุดไม่ได้จนกว่าที่จะหลุดพ้นแม้จะอยากหยุดมันมากแค่ไหนก็ตาม ลำพังตัวผมน่ะไม่เป็นไรแต่ผมอยากให้จี้เป็นอิสระสักที

แต่นั่นก็เป็นแค่ความคิดในตอนที่รีเซ็ตครั้งที่ห้าสิบเก้า เพราะหลังจากนั้นความคิดของผมก็เปลี่ยน จำนวนครั้งที่มากขึ้นทำให้ตัวตนในฐานะมนุษย์ของผมหายไป ความรู้สึกพื้นฐานที่ทำให้มนุษย์ยังคงเป็นมนุษย์ถูกปิดกั้น ทำให้ในการรีเซ็ตครั้งที่เก้าสิบเก้านั้นจบลงอย่างรวดเร็วด้วยเวลาเพียงไม่นาน ผมพ่ายแพ้โดยที่ไม่ทันได้เริ่มอย่างจริงจังด้วยซ้ำ แต่ก็หนีไปไหนไม่ได้ ผมรู้ว่าต่อให้ผมตายในห้วงเวลานี้ก็ยังต้องเริ่มใหม่ ผมต้องกลับไปยังจุดเดิม กลับไปเป็นคนที่ถูกคนที่ผมผูกพันลืมจนหมดสิ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขมีแต่เพียงตัวผมที่เข้าไม่ถึงความรู้สึกนั้น

และในครั้งที่หนึ่งร้อยผมตั้งใจว่าจะไม่หมุนวนเวลาอีก การตัดสินใจนี้ไม่ได้ยาก แต่ผมไม่ได้บอกจี้ถึงเรื่องที่ผมตัดสินใจ ผมยอมรับความพ่ายแพ้ ผมจ่ายสิ่งแลกเปลี่ยนไม่ไหวอีกต่อไป ผมเอาแต่คิดว่ามาจนถึงตอนนี้จะอยู่หรือตายก็คงทรมานไม่ต่างกันนัก เพียงแต่หลังจากที่ความตายมาถึงผมจะกลับไปแก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้ว การยอมรับคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ต่อให้จะรู้สึกติดค้างก็คงไม่เจ็บปวดไปมากกว่าเดิม

ผมเริ่มครั้งที่หนึ่งร้อยด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง แต่ธราในครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาเหมือนธราที่รวมตัวตนในหลายๆ ครั้งเข้าด้วยกัน มีความหลากหลายทางความรู้สึกมากพอที่จะสับสนกับการกระทำของผมที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะทำให้เขาไขว้เขวได้ ธราคนนี้น่ะไม่ใกล้เคียงกับน้องดินของผมเลย อาจจะมีบางส่วนที่คล้ายแต่ก็เพียงน้อยนิด ไม่มากไปกว่านั้น

ที่จริงผมก็ไม่เคยสังเกตเลยสักครั้งว่าแต่ละครั้งที่ผ่านมาธราเป็นอย่างไร เขาอาจจะเปลี่ยนแปลงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อาจจะมีความชอบหรือความเกลียดสิ่งใหม่เกิดขึ้น อาจจะมีสิ่งปรุงแต่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากเดิม แต่ผมก็ไม่เคยรู้ เพราะผมเอาแต่คิดถึงแค่ความรู้สึกของตัวเองและเฝ้าแต่ตามหาน้องดินในความทรงจำ ผมไม่เคยยอมรับธราที่สูญเสียความทรงจำเลยสักครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมพบเหตุแห่งความทุกข์ของตัวเอง เหตุที่พรากเอาความสุขของผมไป

เหตุนั้นน่ะคือตัวผม ความทุกข์ทั้งหมดเกิดจากความคิดของผม เพราะผมไม่ยอมปล่อย ผมเอาแต่ยึดติดโดยไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์ของการไม่เปลี่ยนแปลงที่เคยเข้าใจก็ไม่ได้มีอยู่จริง มันไม่เคยมีอยู่แม้แต่ในห้วงเวลาของผม

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา นี่ต่างหากคือกฎเกณฑ์ของมัน

“นั่งคิดอะไรอยู่ คุยด้วยก็ไม่หือไม่อือ” ธราถาม น้ำเสียงของเขาแฝงความหงุดหงิดซึ่งทำให้ผมหลุดจากความคิดแล้วหันไปมองเขาที่กำลังนอนกระดิกเท้าอยู่บนโซฟาอีกตัว

“คิดเรื่อยเปื่อยครับ” ผมให้คำตอบพลางคลี่ยิ้มให้เขา คนขี้หงุดหงิดจึงทำเพียงเลิกคิ้วมองมา ความสงสัยเต็มแน่นอยู่ในแววตาแต่เขากลับไม่ยอมตั้งคำถาม ผมรู้ดีทีเดียวว่าเขารู้ในหลายๆ เรื่องที่เกิดความผิดปกติขึ้น เพราะห้วงเวลาของผมสิ้นสุดลง เวลาไม่หมุนย้อนกลับแต่มันเดินต่อไปยังจุดสิ้นสุด เดินเข้าใกล้ความเป็นจริงที่ผมหลบหนีมา ทำให้คนที่หลุดจากห้วงเวลาต่างต้องกลับไปในเวลาของตัวเอง บางคนไม่รู้และก็ไปทั้งไม่รู้ แต่บางคนที่รู้ ต่อให้อยากอยู่ต่อแต่ก็ต้องไปอยู่ดี ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น แม้แต่ตัวผมก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อได้

ทุกคนต้องกลับไปในห้วงเวลาของตัวเอง

“หยุดคิดเรื่องไร้สาระ แล้วมาคิดกันดีกว่าว่าวันนี้จะทำอะไร” เขาว่าแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง “ทะเลอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้ หาเรื่องโรแมนติกทำกันมั้ย”

แววตาของเขาซุกซน ดูก็รู้ว่าคิดเรื่องอย่างว่า ธราคนนี้น่ะนอกจากจะปากแข็ง ขี้หงุดหงิดและเอาแต่ใจแล้ว เขายังชอบ...อืม นั่นแหละ ดุมากด้วย

“ที่ระเบียงก็พอ อย่าคิดทำในน้ำเลย” ผมดักทางอย่างรู้ความคิด น้ำทะเลน่ะทั้งเค็มทั้งสกปรก ให้ทำเรื่องอย่างว่าในที่แปลกๆ แบบนั้นผมเลือกความแปลกใหม่ที่ระเบียงเสียดีกว่า

“อะไร ทำอะไร” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังโยนมาให้ผมอีก “ทะลึ่งแล้วเจ้า ใครคิดจะทำเรื่องอย่างว่าในน้ำ”

“คุณไง”

“ก็คือใส่ร้ายกันแบบนี้ โดนสักทีน่าจะดี”

ผมส่ายหน้าระอา รู้สึกว่าการอยู่กับเขาสองคนในที่ลับตาคนนั้นไม่เคยได้อยู่ในสภาพเสื้อผ้าครบถ้วนนานๆ เลย “พอก่อน ขย่มให้ไม่ไหวแล้ว”

“งั้นไปเดินเล่น” เขาเสนอ ก่อนยิ้มร้ายเมื่อพูด “เห็นเตียงเห็นโซฟาแล้วอยากจับมึงกดทุกที”

“แต่แดดร้อนอยู่เลย รอเย็นๆ ดีมั้ย”

“แล้วตอนนี้ให้ทำไร”

“นอน”

“เปลือยปะ”

“พ๊อออ”

“ฮ่าๆ ๆ”

ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาแล้ว ผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีวันนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองต่อสู้มาอย่างยาวนาน ต่อสู้โดยไม่คาดคิดว่าจะได้สิ่งที่ปรารถนามาครอบครอง ถ้าครั้งนี้ผมกลับไปหมุนวนเวลาอีกครั้งผมก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นเขายิ้มในครั้งหน้าไหม ในครั้งต่อไปเราจะได้มีความสุขด้วยกันอย่างนี้หรือเปล่า มันอาจจะล้มเหลวเหมือนแต่ละครั้งที่ผ่านมาก็ได้ ด้วยเหตุนั้นผมจึงไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตัดสินใจแบบนี้ เพราะผมคิดจริงๆ ว่าในครั้งนี้ผมยอมรับได้แม้ว่าเขาจะเลือกหรือไม่เลือกผมก็ตาม

“นอนตักนะ” ไม่ใช่คำขออนุญาตแต่คงเป็นแค่คำบอกเล่า เพราะเมื่อเขาพูด เขาก็ย้ายตัวเองมานอนหนุนตักผมทันที “ว่าแต่ทำไมต้องกลับมาที่นี่ เราไปฉลองวันเกิดมึงที่อื่นก็ได้ ต่างจังหวัดที่อากาศดีๆ หรือต่างประเทศก็เข้าท่า บอกตามตรงว่ากูไม่ค่อยชอบทะเลเท่าไร ไม่อยากกลับมาที่นี่ด้วย”

“อยากฉลองที่ห้องของเราน่ะครับ” ผมให้เหตุผลง่ายๆ เพราะไม่ได้มีเรื่องซับซ้อนอะไร ผมพาเขากลับมาก็เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับเขาที่ห้องแห่งความทรงจำของเราจนถึงวินาทีสุดท้าย อย่างน้อยก็อยากจะเปลี่ยนความทรมานที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ให้เป็นความสุขเมื่อนึกถึง “อดทนหน่อยนะ อยู่แค่อีกไม่นาน”

“แล้วเราจะฉลองสองคนเหรอ” เขาถามพลางขยับตัวจัดท่านอน คงพยายามหาท่าที่สบายอยู่ แต่เพราะเขาตัวใหญ่ โซฟานี้จึงไม่ค่อยเอื้อต่อการนอนนัก “เพื่อนมึงจะมามั้ย วิน บินแล้วก็...อืม คนนั้นแหละ”

“ไม่เอ่ยชื่อเขาล่ะ” ผมยิ้มอย่างรู้ทันความคิดของเขา ธราน่ะตั้งแง่กับจี้ ทั้งที่ธราคนก่อนสนิทกับจี้มาก แต่ธราคนนี้กลับทำหน้าเหม็นเบื่อทุกครั้งที่เอ่ยถึง

“ไม่ชอบ” เขาบอกหลังจากนั้นแล้วหลับตาลง “มึงก็ห้ามชอบนะ”

“เอาแต่ใจจัง”

“เอาอย่างอื่นก็เก่ง”

“แหนะ”

ได้ยินเขาทำเสียงในลำคอก่อนจะเงียบไป พอก้มมองก็เห็นว่าเขาลืมตาขึ้นจ้องผมอยู่แล้ว เมื่อสบตากันก็เห็นเพียงความเจ้าเล่ห์ที่ไม่เคยได้เห็นจากน้องดิน แต่จากธราคนนี้น่ะผมเห็นบ่อยเหลือเกิน

“ตกลงพวกนั้นมามั้ย”

“ไม่มาครับ แค่เราสองคน”

“อือ ก็ดี แต่มึงโอเคนะ แบบว่าที่จริงควรมีเพื่อนอยู่ด้วยมั้ยวะ วันเกิดทั้งที”

ผมส่ายหน้า “ถ้ามีคุณ เจ้าก็ไม่ต้องการคนอื่นหรอก”

“อย่าให้ชีวิตมึงมีแค่กูสิเจ้า” น้ำเสียงของเขาจริงจัง คิ้วก็ขมวดไปด้วยเมื่อพูด “มึงมีเพื่อน มีครอบครัว มีคนที่เขารักมึงอยู่อีกเยอะ อย่าให้คนคนเดียวกลายเป็นโลกทั้งใบของมึงเลย”

“คุณโตขึ้นมากเลยนะ” ถ้าเป็นธราคนก่อนคงไม่พูดอย่างนี้ “ถ้าไม่มีผมคงอยู่ได้ใช่ไหม”

“ไม่รู้หรอก ใครจะไปรู้อนาคต”

“นั่นสิ คนเราก็รู้แค่เรื่องที่ผ่านมาในอดีตเท่านั้น”

“อืม รู้ทั้งที่ไม่อยากรู้ จำทั้งที่ไม่อยากจำ”

ธราคนนี้มีความน่ากลัวบางอย่างที่ผมก็อธิบายไม่ได้ เป็นความไม่สบายใจลึกๆ ที่ยิ่งชัดเจนขึ้นในความรู้สึก อาจเพราะเขาไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจ เขาทำเหมือนไม่รู้ทั้งที่เขารู้ เขาไม่ตั้งคำถามเพื่อคำตอบที่เขาต้องการ แต่กลับบิดเบือนมันจนทำให้เรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นกลายเป็นความจริง

“เจ้า” น้ำเสียงของธราเรียบเรื่อย ในขณะที่เขาลืมตาขึ้นมองผม “ตายด้วยกันมั้ย”

ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย หัวใจกระตุกวูบไปกับคำถามของเขา “นี่คือเรื่องโรแมนติกที่คุณอยากทำเร้อ”

“แล้วไม่โรแมนติกเหรอวะ” เขาย้อนถามพลางเผยรอยยิ้ม “จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยไง”

“แน่ใจเหรอว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน ถ้าเกิดตายขึ้นมาจริงๆ เราอาจจะไปคนละทิศคนละทางก็ได้”

“แน่ใจสิ” แววตาของเขาจริงจังจนผมนึกหวั่น “ใครก็แยกเราไม่ได้หรอก”

ผมยกมือขึ้นลูบแก้มของเขาเบาๆ ในขณะที่เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วยกมือขึ้นมาทาบบนหลังมือของผมไว้ “อย่าเลยครับ ถ้าจะมีใครตายจริงๆ แค่เจ้าคนเดียวก็พอแล้ว คุณน่ะใช้ชีวิตต่อไปให้มีความสุข จะแต่งงานก็ได้ มีลูกน่ารักๆ เผื่อว่าเจ้าจะได้ไปเกิดเป็นลูกคุณ หรือถ้าจะไม่แต่งงานก็มีความรักดีๆ อยู่กับคนดีๆ ที่เขาเป็นความสุขให้คุณได้”

“สั่งเสียยาวเลยนะ จะตายแล้วหรือไง”

“ก็...เผื่อไว้”

“งั้นกูสั่งเสียบ้างได้มั้ย”

ผมขมวดคิ้วใส่เขา แม้เขาจะไม่เห็นก็ตาม “ไม่ต้องหรอก คุณยังมีเวลาอีกนาน”

“กูรักมึง” แต่เขาไม่ฟังเลย อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา “นั่นแหละคำสั่งเสียของกู”

จู่ๆ ที่กลางอกของผมก็ปวดแปลบอย่างฉับพลัน ผมเผลอดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาแล้วยกขึ้นทาบกลางอก รู้สึกหายใจติดขัดเมื่อมองสบตากับเขาที่ลืมตาขึ้นจ้องมอง

“ไม่ใช่แค่กูที่ลืมหรอกเจ้า”

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความทรมาน

“มึงก็ลืมเหมือนกัน”

ริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มเมื่อพูดจบ

“มึงมีเวลาของมึง”

เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“กูก็มีเวลาของกู”

น้ำเสียงของเขาก็ไม่ต่างกัน

“ความปรารถนาของกูคือไม่อยากให้มึงตาย”

เป็นน้ำเสียงที่เอาแต่พูดถึงความปรารถนาที่เหมือนดังก้องอยู่ในหัวของผม

“ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องทรมาน”

นั่นน่ะหมายถึงเรื่องอะไร

“แต่ถ้าความปรารถนาของมึงเป็นจริง เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

แล้วทำไมถึงรู้เรื่องนี้

“เข้าใจมั้ยว่าทำไมกูถึงต้องเกลียดมึงในแต่ละครั้งที่ผ่านมา”

ผมไม่เข้าใจเลย

“ทั้งที่กูรักมึงมาตลอด รักจนยกให้มึงเป็นโลกทั้งใบ”

ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมตัวผมถึงได้รับอภิสิทธิ์ให้มีทางเลือกก่อนที่ความตายจะเดินทางมาถึง ผมคิดแค่ว่าเป็นเพราะผมยังคงติดค้างกับสิ่งที่ยังปรารถนาให้มันเป็นความจริง ความปรารถนานี้อาจจะรุนแรงจนทำให้เกิดห้วงเวลา ทว่ามันคงไม่เป็นอย่างนั้นเสียทีเดียว คงมีความปรารถนาที่แรงกล้ากว่าความปรารถนาของผมจนทำให้เกิดห้วงเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้

“ทำไมทำอย่างนี้น้องดิน”

คำตอบของเขามีเพียงรอยยิ้มและความเงียบ

“จี้รู้เรื่องด้วยหรือเปล่า” แม้จะรู้คำตอบดีแต่ผมก็ยังตั้งคำถาม ทั้งที่ก็คาดเดาความปรารถนาของจี้ได้ตั้งแต่แรก ทว่าไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้

“เรามีความปรารถนาเหมือนกัน แต่เราต่างวิธีการ”

ผมพูดแทบไม่ออก กว่าจะเค้นเสียงออกมาได้ก็ต้องใช้ความพยายามอยู่หลายนาที “รู้มั้ยว่าพี่ทรมาน”

รับรู้หรือเปล่าว่าผมผ่านความเจ็บปวดมามากแค่ไหน ผมอดทนอยู่กับมันมานานเท่าไร กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมอยากจะหลุดพ้นแต่ผมกลับไปไหนไม่ได้

“รู้” เขาตอบเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยคำขอโทษ ทว่าไม่มีแววของความรู้สึกผิด ราวกับเขายืนกรานการกระทำของตัวเองว่าไม่ใช่ความผิดพลาด หากแต่เป็นความตั้งใจที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วน “แต่เราเสียพี่ไปไม่ได้”

“น้องดิน” ผมเค้นเสียง อยากดุเขา อยากจับตัวเขาเขย่าแล้วตะคอกใส่ดังๆ แต่รอยแผลเป็นที่กลางอกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ มันปวดแสบปวดร้อนราวกับกระสุนนัดนั้นชำแรกผิวเนื้อเข้ามาทีละนิด

“พี่เป็นเจ้าชีวิตของพวกเราและสำหรับผมพี่เป็นมากกว่านั้น พี่เป็นอีกครึ่งชีวิต ถ้าไม่มีพี่แล้วผมจะอยู่ยังไง”

ผมเจ็บ

“ผมนึกเสียใจมาตลอดว่าถ้าตอนนั้นผมจำพี่ได้ เรื่องเลวร้ายก็คงไม่เกิดขึ้น เราคงมีความสุขด้วยกันไปแล้ว”

ทั้งเจ็บทั้งทรมาน

“แต่ถ้าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็ยอมรับเหมือนที่พี่ยอมรับ”

แววตาที่มองสบมาทำให้ผมรู้ว่าธราคนก่อนกับธราคนนี้ แท้จริงแล้ว...ก็เป็นคนคนเดียวกัน

เป็นธราที่แสนเอาแต่ใจ

.

.

D. : โดนเกลียดแล้วแน่นอนว่ะจี้

Gee : ต้องปลอบมั้ยไอ้ห่า

D. : สักนิดก็ดี

Gee : เออ ท่านไม่เกลียดมึงหรอก ถ้าเกลียดมึงได้คงเกลียดไปนานแล้ว

D. : อืม ดีขึ้นเยอะ

D. : จี้

Gee : อะไร

D. : มึงทรมานมั้ยวะ

Gee : ไม่มากเท่าท่านหรอก มึงล่ะ

D. : กูจำอะไรไม่ได้ จะทรมานได้ไง

Gee : อย่าหลอกตัวเอง

D. : :)

Gee : ครั้งสุดท้ายแล้วนะ คงไม่ได้เจอกันแล้วนะมึง

D. : อืม ขอบคุณ

Gee : เหมือนกัน

Gee : แล้วก็ขอโทษนะเว้ย

D. : เออ ไม่เป็นไร



......................TBC.......................



ขอให้มีความสุขในทุกเส้นทางที่ชีวิตเดินไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 17-02-2019 19:37:32
รักนิยายเรื่องนี้มากๆค่ะ ต่อให้จบไม่สมหวังเราก็ทำใจไว้แล้ว ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-02-2019 19:44:23
อะไรอีกจ๊ะเนี่ย
ซ้อนในซ้อน น้องเอ๋พี่ขอกาวหน่อยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-02-2019 19:58:53
ตั้งสติก่อนอ่านทวน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 17-02-2019 20:01:02
 :z3: :z3: :z3: ยังไงอ้ะ ไม่เคลียร์น้องดินนน คือที่ผ่านมาละ แกล้งจำไม่ได้มาตลอดหรอ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 17-02-2019 20:11:23
โอ๊ยพีค ไม่เป็นไร ตับพี่ยังไหว น้องๆจัดมาได้เลยพี่พร้อม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Zestful ที่ 17-02-2019 20:23:50
คนที่ยิงตัวตายตามเจ้าในโลกจริงคือดินเหรออออ อมกกกกกกกก จะตายคู่เหรอ ฮือออออออ ถ้าจริงก็ขอให้ได้รักกัน อยู่ด้วยกันในที่ใดที่นึงนะ พี่เจ้าน้องดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 17-02-2019 20:25:12
เศร้าจังงื้ออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-02-2019 20:55:33
เอาเข้าไป ไปให้สุดใจ เจ็บให้ลึก ปวดใจสุดๆ แต่พี่ยังไหวสู้ไปกับเจ้า :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 17-02-2019 20:58:58
รับไม่ไหว
ตายไปด้วยกันดีกว่าค่ะ
 :ling3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 17-02-2019 21:01:16
ค้างงงงงงง :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 17-02-2019 21:04:12
 :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-02-2019 21:25:33
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 17-02-2019 21:33:03
อ่านทวนแล้วทวนอีก  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 17-02-2019 21:35:50
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 17-02-2019 22:25:45
จะหนีไปตายไปกับเจ้าละเนี๊ยะ. ทรมาน สงสาร,,,
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 17-02-2019 22:28:55
นับถือคนเขียนมากค่ะ เขียนได้ซับซ้อนมาก แต่ในความงงนั้นมันมีเสน่ห์ที่ยังต้องให้ติดตามต่ออยู่ มันทิ้งไปไม่ได้จริงๆ   ใกล้แล้วค่ะทุกคน (เราคิดว่างั้นนะ) มารอบทสรุปไปด้วยกัน ฮึบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 17-02-2019 22:44:07
หักมุมในหักมุม โว้ยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 17-02-2019 22:57:32
ตกลงคนที่ตายคู่กับท่านเจ้าคือใครรรรร งงไปหมดแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: banazjj ที่ 18-02-2019 00:17:28
เหมือนเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ มันไม่ชัดเจน มันอึมๆ ครึมๆ
อ่านแล้วเหมือนนั่งสูดกาวเป็นเพื่อนพี่เอ๋  :really2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-02-2019 00:19:24
พลิกในพลิกพลิกแล้วพลิกอีก  o13
อย่าบอกว่าดินฆ่าตัวตายตาม หรือใคร เอ๊ะะะะะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 18-02-2019 01:03:41
ดินรู้ รู้ว่าถ้าเจ้ารีเซ็ตเวลาก้จะวนลูบเดิม กลับมาเจอกันอีก
เลยทำให้เจ้าต้องยอมรีเซ็ตเวลาไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้ถึงจุดจบ (แต่ไม่แน่ใจว่าดินจำได้แค่ไหนอ่ะ รู้รึป่าวว่าจันทร์เจ้าคือตัวทำให้ถึงจุดจบ)
เจ้าทรมานมากจริงๆอะ เวลาที่หมุนวนมาเรื่อยๆ การย้อนกลับไปแต่ละครั้ง คนๆนึงจะทนได้แค่ไหนกันเชียว
ความรักของเจ้าทรมานเกินไปอะ  แต่เจ้ายึดติดกับน้องดินมากๆ  นี่อาจเป็นการรีเซ็ตครั้งแรก ที่มองธราเป็นธรา ไม่ใช่ธราคนที่เป็นตัวแทนน้องดิน
จี้เป็นตัวละครที่เราอยากกอดปลอบสักครั้ง นายก้ทนมามากเหมือนกัน รักมากกว่าใครเหมือนกัน
สุดท้าย น้องเอ๋คะ พี่ขอกาวเพิ่มค่ะ แงงงง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-02-2019 03:00:00
ตอนนี้ไม่อยากจะรู้อะไรแล้ว นอกจาก "gee" แกคือใครฟ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 18-02-2019 05:06:35
ยังงงๆ แต่ก็น้ำตาไหลอยู่ดี

ชอบเวลาเจ้าเรียกน้องดิน
ชอบในการเรียกด้วยความเอ็นดู
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-02-2019 05:29:03
ที่ผ่านมา จริงๆดินจำเจ้าได้ .........  o22 o22 o22
เพราะไม่อยากให้เจ้าหายไป แต่มันยิ่งทำให้เจ้าทรมาน
และสูญเสียตัวตนไปเรื่อยๆ....... OMG  เจ้า จักรพรรดิ   :mew2:
ตกลงดินมีแผนดึงรั้งให้เจ้าอยู่มาตลอด  :z3:
ดินอยากตายไปกับเจ้า  :really2:
เศร้า....กับเจ้า กับดิน  :mew2: :mew5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 18-02-2019 05:48:44
งงในงง เหมือนจะเข้าใจแต่ก้ไม่เข้าใจ
แต่ทำไมน้ำตามันไหลก็ไม่รู้ :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 18-02-2019 08:10:22
โอยยย ซ้อนแล้วซ้อนอีก  o13 o13 :pig4:
ขอพักหายใจแปป :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 18-02-2019 11:29:57
สุดท้ายอาจจะมีคนตายแค่คนเดียวหรืออาจจะไม่มีใครตาย
เหตุจริงๆอยู่ที่คุณแม่  ถ้าระงับเหตุที่คุณแม่ได้ คุณแม่ยอมปล่อยวาง การย้อนเวลา100ครั้งก็จะไม่เกิด
คุณแม่คือบอส
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 18-02-2019 22:46:58
เหมือนที่เราเดาไว้จริงด้วย....

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด บทสรุปจะเป็นเช่นไร เราก็เตรียมร้องไห้ไว้แล้วล่ะ เพราะเรื่องมันคงกลับมา Happy End ไม่ได้แล้ว

คนเขียนเก่งมาก เราเข้าใจนะ สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 18-02-2019 23:03:49
ง่าาา..  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 19-02-2019 10:03:33
คืออะไรอ่ะซ้อนในซ้อนไปอีก คนอ่านงงแต่ก็อยากอ่านอีกอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 19-02-2019 14:16:34
ยังไหวค่ะ มาเล๊ยยย จะหนักกว่านี้ก็มาเล๊ยยย :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 19-02-2019 15:01:09
สรุปคือตายแล้วทั้งคู่ นี่คือห้วงเวลาของทั้ง 2 คนสินะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 19-02-2019 18:23:59
งงงงงงงงงงงงงงงง เมากาวน้องเอ๋หนักมาก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 20-02-2019 05:49:19
ไรท์เก่งมากๆอ่ะ อ่านตอนแรกก้อนึกว่าแนวใสๆ ตอนแรกเกลียดแต่ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกสุดท้ายธราก้อหนีเจ้าไม่พ้น พอเดาได้ก้อเลยเลิกอ่านไปช่วงนึง หวังว่าพอกลับมาอ่านรอบนี้จะมีฟิล..ซิ้สสสสส.ๆ...กันบ้าง...แล้วไงล่ะ ปวดหัวจิ้ดเลย ซับซ้อนซ่อนเงื่อนลึกสุดไปเลย.....ขอตบมือให้ไรท์...เก่งมากจริงๆคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 20-02-2019 05:54:22
ปล.ถ้าไรท์จะกลับไปต่อเรื่องโซ่สีครามให้จบ จะถือว่าเป็นความเมตตากรุณาอย่างยิ่งยวดคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 21 ท่านเจ้า ​P.22 17/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Fon-NR ที่ 20-02-2019 13:07:00
งงไปหมดแล้วจ่ะพี่จ๋า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-02-2019 18:43:01
ตอนที่ 22 Their fault





ปัง!

เสียงสนั่นดังกึกก้องเมื่อกระสุนเคลื่อนที่ออกจากปลายปากกระบอกปืน แหวกผ่านอากาศด้วยความเร็วสูงแล้วผ่านทะลุกลางอกของใครคนหนึ่ง สร้างบาดแผลสาหัสที่ทำให้เลือดสีแดงฉานไหลทะลัก ก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงหายใจรวยริน

ปัง!

และอีกเสียงก็ดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันส่งผลให้ร่างของใครอีกคนล้มลงราวกับใบไม้ที่ถึงกาลร่วงโรย

ธราจำความฝันนี้ได้ดีแม้ในยามตื่น เพราะเป็นฝันร้ายที่พักหลังมานี้เขามักจะต้องเผชิญอยู่เสมอ เป็นความฝันที่เขาไม่กล้าเล่าให้ใครฟังและเป็นความฝันที่นำพาความทรงจำที่ขาดหายไปกลับคืนมา หากแต่เป็นเพียงความทรงจำที่เขามีหลังจากเกิดอุบัติิเหตุเท่านั้น

ความทรงจำที่กลับคืนมาเริ่มขึ้นเมื่อตอนที่ธราเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สองของคณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นตอนที่เจ้า จักรพรรดิ ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าในฐานะคนแปลกหน้าที่แสนคุ้นเคย ไม่แน่ใจระยะเวลาที่แน่ชัดนักว่าได้เจอเจ้า จักรพรรดิในวันเวลาใด อาจจะเป็นตอนต้นเทอมแรก หรืออาจจะเป็นตอนปลายเทอมสอง แต่ไม่ว่าจะวันใดก็ทำให้ธราเข้าใจได้ในทันทีว่ากล่องแพนโดร่าที่ไอ้เจ้ามีไม่ใช่ความทรงจำในอดีตที่เขาลืมเลือนไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุ แต่เป็นความทรงจำในช่วงระยะเวลาสองปีที่ได้เริ่มทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้งในฐานะนักศึกษาต่างคณะและต่างมหาวิทยาลัยที่ไม่มีทางจะโคจรมาเจอกันได้เลยต่างหาก

‘หลังจากที่คุณจำทุกอย่างได้ ผมจะกลายเป็นคนที่คุณเกลียดที่สุดในโลก’

นั่นน่ะเป็นคำพูดของไอ้เจ้าที่เคยพูดไว้ ธราเคยนึกสงสัยว่ามีความทรงจำใดที่จะทำให้เขาเกลียดคนที่ไม่เคยนึกเกลียดคนนี้ในเมื่อความรู้สึกของเขานั้นค้านกับคำพูดของมัน ต่อให้ในตอนที่มีความรู้สึกคลุมเครือ ไม่ชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรต่อคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ แต่ความรู้สึกที่เขามีก็ไม่ได้เอนเอียงไปทางเกลียดเลยสักนิด ถึงอย่างนั้นไอ้เจ้าก็ยังยืนกรานความคิด แววตาที่มองเขาในแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยความกลัวและเป็นกังวลจนสุดท้ายก็พยายามปิดกั้นไม่ให้เขาได้รู้เรื่องราวเพิ่มเติม แม้ปากพูดว่าจะเปิดเผยทั้งหมดที่เก็บซ่อนไว้ แต่ในท้ายที่สุดก็ทำครึ่งๆ กลางๆ แล้วปล่อยเวลาให้ล่วงผ่านไปโดยไม่ทำสิ่งใด

ห้วงเวลาของเจ้า จักรพรรดิน่ะ...คงเป็นแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้ง จึงทำให้ความปรารถนาที่มีไม่เคยสำเร็จแม้สักครั้งเดียว

เพราะขาดความกล้า

“พี่น่ะไม่เคยมีความกล้าเลย” ธราพูดกับบานประตูที่กั้นกลางระหว่างเขากับคนอีกคนที่ปิดขังตัวเองอยู่ในห้อง “ต่อให้ผมจะพยายามมากแค่ไหน พี่ก็ไม่เคยตอบรับเลยสักครั้ง เพราะพี่ไม่กล้าที่จะยอมรับ ไม่กล้าที่จะตกนรกไปพร้อมกับผมจริงๆ”

เขาได้ยินเสียงสะอื้น แน่ใจว่าเจ้าชีวิตของเขาคงนั่งพิงหลังกับประตูห้อง อยู่ห่างแค่เพียงความหนาของบานประตูแต่กลับไม่สามารถสัมผัสได้ อยู่ห่างกันเพียงแค่นี้แต่กลับรู้สึกว่าไกลแสนไกล

“ผมจำได้แล้วนะ ผมจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยแม้แววตาจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “แต่พี่รู้มั้ยว่าต่อให้ผมจำได้ ผมก็ไม่เกลียดพี่”

เมื่อห้วงเวลาของเจ้า จักรพรรดิหมดลง ความทรงจำของธราก็ค่อยๆ กลับมา มันกลับมาในรูปแบบของความฝัน พาเขากลับไปยังวันเวลาที่คาบเกี่ยวระหว่างความฝันกับความเป็นจริง ราวกับทั้งสองเหตุการณ์ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ดำเนินไปพร้อมกัน

ดิน ธราในความฝันที่เห็นนั้นถูกโซ่ตรวนจองจำ เขาถูกกักขังที่ห้องแห่งนี้ นั่งคุดคู้อยู่บนเตียงอย่างไร้ทางหนีในห้องนอนที่ใครอีกคนกำลังขังตัวเองไว้ ข้อเท้าของเขาเป็นรอยสีช้ำจากการดิ้นรนเพื่อจะหลุดจากพันธนาการ พันธนาการที่เกิดขึ้นจากคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ คนที่มีนัยตาโศกอยู่เป็นนิตย์เมื่อมองมาที่เขาแต่บางครั้งก็จ้องด้วยความเย็นชา เขาถูกกักขังนานเท่าไรก็ไม่อาจบอกระยะเวลาได้ อาจจะหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์หรือนานนับเดือน ความทรงจำในจุดนี้ไม่แน่ชัดนัก แต่ที่จำได้อย่างชัดเจนก็มีเพียงแค่ธราในความฝันนั้นเอาแต่ตะโกนด่าทอ แววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังคนที่ถือสิทธิ์ยึดครองอิสระภาพของเขา ถ้อยคำเจ็บแสบเหล่านั้นย้ำเตือนแต่คำว่าเกลียดให้ฝังลึกลงในใจของคนฟัง

“ตอนนั้นน่ะ...ผมขอโทษที่จำพี่ไม่ได้ ขอโทษที่บอกว่าเกลียด” เขาเอ่ยขอโทษ ความรู้สึกเสียใจท่วมท้นอยู่ในอก “พี่คงเจ็บมากใช่มั้ย มันเป็นความผิดของผมเอง”

“ไม่...ไม่เลย น้องดินเกลียดก็ถูกแล้ว เพราะพี่ทำเรื่องไม่ดี” เสียงสั่นเครือของอีกคนตอบกลับ “ไม่ต้องขอโทษ”

“ผมอยากขอโทษ ถ้ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พูด ก็ให้ผมได้พูดนะพี่” มีคำพูดมากมายที่ธราอยากบอก อยากพูดให้เจ้าชีวิตของเขาได้รับฟัง อยากบอกทุกสิ่งที่อยู่ในใจ “ผมขอโทษที่ทำให้พี่เจ็บ ขอโทษที่ทำให้พี่ทรมาน ขอโทษที่ผมทำให้เรื่องเป็นแบบนี้”

“ช่างมันเถอะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกลับ พลางประตูห้องก็ค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นร่างผอมสูงของเจ้า จักรพรรดิที่ตอนนี้ใบหน้าคมคายเลอะไปด้วยคราบน้ำตา “อย่าขอโทษพี่อีกเลยนะน้องดิน เรื่องแค่นี้เอง”

ไม่ว่าเมื่อไหร่ ความผิดของดิน ธรา ที่ต่อให้จะใหญ่โตแค่ไหนก็เป็น ‘เรื่องแค่นี้’ สำหรับเจ้า จักรพรรดิ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะถือสาเอาความ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะโกรธเป็นจริงเป็นจัง คนเป็นพี่คนนี้ใจอ่อนทุกทีเมื่อได้ยินคำขอโทษ

“เจ็บมากมั้ย” คนเป็นน้องถามแล้วลุกขึ้นไปสวมกอดพี่ชาย “ทรมานมากหรือเปล่า”

ธราอยากรู้ แม้จะไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดหรือช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดทรมานได้แต่เขาก็อยากรับฟัง เพราะช่วงระยะเวลาสองปีที่เป็นห้วงเวลาของเจ้า จักรพรรดินั้นเขาไม่ได้รับอนุญาตให้จดจำ ไม่ว่าจะหมุนวนสักกี่ครั้งก็ไม่หลงเหลือความทรงจำอยู่เลย ที่จำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่เหตุการณ์ก่อนเกิดห้วงเวลาและเหตุการณ์ในห้วงเวลาสุดท้ายนี้เท่านั้น

“ชินแล้ว” น้ำเสียงเรียบให้คำตอบ “ในจำนวนเก้าสิบเก้าครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้แย่นักหรอก จะพูดยังไงดี มันคงเป็นบททดสอบก่อนที่จะมาถึงครั้งนี้ละมั้ง แต่คงเป็นทั้งบททดสอบและบทลงโทษที่พี่ทำให้น้องดินเสียใจ”

แววตาที่มองธราสะท้อนความรู้สึกผิดและคงเป็นความรู้สึกผิดที่มีให้กับธราคนที่มีความทรงจำก่อนเกิดอุบัติเหตุคนนั้น

“นี่คือครั้งที่หนึ่งร้อยใช่มั้ย” ธราถามต่อพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า

“อืม” รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนใบหน้าคมคายและเป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองปวดแปลบที่อกข้างซ้าย “ครั้งนี้เป็นครั้งเดียวที่น้องดินเลือกพี่ เพราะในจำนวนเก้าสิบเก้าครั้งที่ผ่านมา น้องดินเลือกคนอื่น น้องหมั้นกับสาวสวยดาวเภสัชฯ คนนั้นและจะแต่งงานกันหลังเรียนจบ”

ธราอดแปลกใจไม่ได้ “ผมรักเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ไม่รู้” ตอบอย่างจนปัญญาจะคาดเดาความรู้สึกของธราในแต่ละครั้ง “ที่รู้แน่ชัดคือน้องดินเกลียดพี่ ต่อให้ไม่เลือกน้องบี น้องดินก็เลือกรักคนอื่นที่ไม่ใช่พี่อยู่ดี แค่ในจำนวนครั้งทั้งหมด ทางเลือกนี้เกิดขึ้นมากที่สุด”

“ขอโทษ” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว “จำไม่ได้แต่ก็อยากขอโทษ”

“บอกแล้วว่าไม่เป็นไร” น้ำเสียงสบายๆ ดังขึ้น ก่อนจะตั้งคำถาม “งั้นพี่ขอถามบ้างได้มั้ย”

“ถามอะไร” ธราถามกลับอย่างระแวดระวัง

“ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นครับน้องดิน” แววตาจริงจังนั้นจ้องมอง น้ำเสียงที่ใช้ก็ไม่ต่างจากแววตา “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา” คนพูดหยุดพูดไปเพียงครู่ก่อนจะพูดต่ออย่างเน้นย้ำคำ “ทั้งสามคน”

ธรากลืนน้ำลายลงคอ หลบเลี่ยงสายตาที่มองมา เขาไม่แน่ใจนักว่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้ในเมื่อตัวเขาก็ไม่ได้มีความเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากเท่าไรนัก

“ไม่รู้” เขาบ่ายเบี่ยงพลางปัดไปให้อีกคน “ทำไมไม่ถามกับจี้”

“น้องดิน” คนตั้งคำถามยังคงกดดันด้วยการเรียกชื่อเขาเสียงเข้ม

“ที่ผมรู้ก็แค่เรื่องที่เราอยู่ตรงนี้เพราะเรายังมีห่วง” เขาพูดขึ้นในที่สุดหลังจากที่เงียบอยู่นาน “ตัวผมเอาแต่นึกสงสัยว่าพี่เป็นใคร ทำไมถึงเอาตัวมาบังกระสุนให้ แผ่นหลังของพี่ก็คุ้น คุ้นจนผมเหมือนจะจำได้ ผมคิดว่าถ้าเกิดมีโอกาสอีกสักครั้ง ผมก็อยากจะจำพี่ให้ได้ แล้วถ้ามีความเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้พี่ต้องตายเลย ผมอยากมีเวลาทำความรู้จักกับพี่นานกว่านี้ อยากรู้ว่าทำไมคนที่ผมเกลียดถึงรักผม พี่...ผมเสียใจมากจริงๆ นะในตอนนั้น ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย”

“เดี๋ยว...แล้วทำไมเป็นแบบนี้ไปได้” เสียงเครียดถามต่อ ทั้งที่แน่ใจว่าคนที่รักต้องปลอดภัย แต่แล้วทำไมคนที่เป็นเจ้าของห้วงเวลากลับไม่ได้มีแค่คนเดียว ห้วงเวลาที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาสำหรับคนที่ความตายกำลังคืบคลานมาถึงควรจะมีแต่เจ้า จักรพรรดิเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ “น้องควรจะปลอดภัย”

ธราเผยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แทบหยุดลมหายใจของคนมอง เพราะเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยคำขอโทษและความรู้สึกผิด “แย่เนอะ พี่อุตส่าห์ปกป้อง แต่ผมก็ไม่รอดอยู่ดี”

ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ อกข้างซ้ายของเจ้า จักรพรรดิปวดแปลบแข่งกับรอยแผลเป็นกลางอกที่ปวดขึ้นมาฉับพลัน

“เวลาของพี่คือสองปีแต่เวลาของผมนานกว่านั้น” โทรศัพท์มือถือของธราถูกยื่นไปตรงหน้า “วันเวลาของผมหยุดอยู่ที่วันที่ 18 กรกฎาคม เวลาเที่ยงคืนตรง แต่เหตุของผมต่างจากพี่ เหตุชักนำของผมเกิดขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม พี่รู้ใช่มั้ยว่าถ้าเราไม่เจอกับเหตุ ผลก็จะไม่เกิด เราเปลี่ยนเหตุที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าผมตายก่อนวันที่ 17 เราก็ยังจะได้อยู่ด้วยกันต่อ เวลาของผมจะเริ่มนับตั้งแต่คืนวันครบรอบสองปีของเรา”

“ธรา” น้ำเสียงเรียกนั้นเข้มจัด “มันหมายความว่ายังไง น้องทำอะไร” รอยยิ้มเศร้าของเขาทำให้คนถามเบิกตากว้างอย่างพรั่นพรึงด้วยความเข้าใจในเรื่องราวที่เกิด “นี่น้อง...”

“ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง”

“…”

“เพราะเราต่างที่มาและต่างเจตนา เงื่อนไขของเราก็เลยต่างกัน พี่ไม่ได้ตั้งใจมา” ธราหยุดพูด สบสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของคนที่เป็นทั้งพี่ชายและคนรัก “แต่ผมกับจี้ เราตั้งใจ ขอโทษที่ความตั้งใจของเรากักขังพี่เอาไว้ ทำให้พี่ต้องทรมานอยู่แบบนี้”

ถ้อยคำของธราทำให้คนฟังรู้สึกทรมานจนแทบอยากอาเจียน รอยแผลเป็นนั้นปวดแสบปวดร้อนจนยากที่จะสะกดกลั้นเอาไว้ได้ ขาเรียวแข็งแรงถึงกับทรุดฮวบลง ทว่าอ้อมแขนแกร่งของเขาก็ประคองไว้อย่างทันท่วงที เขาโอบร่างผอมไว้ กอดรัดไว้แน่นด้วยความหวงแหน

“แต่อย่างที่ผมบอกว่าเราเสียพี่ไปไม่ได้” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความจริงจัง แววตาก็มุ่งมั่นอย่างที่ไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอน “มีชีวิตต่อไปได้มั้ย ต่อให้ต้องทรมานก็อดทนอีกได้หรือเปล่า ผมน่ะ...ต่อให้ต้องตายอีกกี่ครั้งเพื่อยื้อพี่ไว้ ผมก็ยอมนะ” คำพูดนั้นดังก้องอยู่ในหัวราวกับกำลังขับกล่อมให้คนฟังคล้อยตาม “พี่อย่าเพิ่งยอมแพ้เลย ที่ตรงนี้มีคำว่าตลอดไปอยู่จริงๆ นะพี่ อยู่ด้วยกันต่อเถอะนะ อยู่ในโลกที่เราเริ่มต้นกันใหม่ได้ทุกครั้ง จะสิบครั้งร้อยครั้งก็ได้ หมื่นๆ ครั้งเลยก็ได้”

คนในอ้อมแขนของธราส่ายหน้าพลางพยายามขืนตัวออกห่าง ทว่าอ้อมกอดของเขากลับรัดไว้แน่น

“ผมไม่ปล่อย...ผมจะไม่มีวันปล่อยพี่อีกแล้ว ผมบอกพี่แล้วไงว่าผมจะไม่ไปไหน”

“ปล่อย...ขอร้อง...น้องดิน เจ้าขอ...” น้ำเสียงขาดห้วงเต็มไปด้วยความทรมาน ก่อนร่างผอมจะสลบไปเพราะทนความเจ็บปวดที่รอยแผลไม่ไหว ในขณะที่ธรากระชับอ้อมแขนของตัวเองแล้วอุ้มร่างของคนรักเข้าไปในห้องนอน จากนั้นจึงวางลงบนเตียงนอนด้วยความระมัดระวัง ไม่ลืมที่จะกดจูบที่หน้าผากลาดเนียนหนึ่งครั้งแล้วผละออกห่าง

“จะมีสักกี่คนกันนะพี่ที่โชคดีเหมือนพวกเรา” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยกับคนที่ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาปิดสนิทและนอนแน่นิ่งอย่างน่าเป็นห่วง แต่ลมหายใจยังคงสม่ำเสมอจึงทำให้คลายกังวลไปได้บ้าง “โชคดีที่ก่อนตายนั้นมีโอกาสได้เลือกว่าจะยอมรับหรือจะฝืนโชคชะตา โชคดีที่ได้กลับมาทำตามความปรารถนาในวินาทีสุดท้ายของชีวิต ผมน่ะสวดภาวนามาตั้งแต่เด็ก อธิษฐานให้ได้อยู่ด้วยกันแม้ความตายก็ไม่อาจพราก ทั้งผมทั้งจี้ต่างก็อธิษฐานต่อทุกอย่างที่เราเชื่อ เพราะพวกเราทำได้เพียงเท่านั้น ทำได้เพียงแค่ขอพรเพื่อจะได้อยู่กับพี่ ภาวนาขอให้พี่รักพวกเราและไม่ทิ้งพวกเราไปเหมือนอย่างที่พ่อแม่แท้ๆ เคยทำ แล้วในที่สุดคำภาวนาก็เป็นจริง โลกนี้น่ะเป็นของพวกเรา ห้วงเวลาที่ไม่สิ้นสุดนี้ก็มีแต่เราที่เป็นคนกำหนด แล้วทำไมถึงคิดจะละทิ้งโชคดีนี้ไปเพื่อต้อนรับโชคร้ายที่กำลังจะมาเยือนล่ะครับ”

ทั้งที่โชคร้ายนั้นจะทำให้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันต่อ แต่ทำไมกลับเอาแต่ร้องขอ...

.

.

D. : จี้ กูปล่อยไม่ได้จริงๆ

Gee : ท่านทรมานมาก มึงก็เห็น

D. : แล้วจะทำยังไง มึงก็รู้ว่าไม่มีทางอื่นแล้ว

Gee : รู้ กูก็ปล่อยไม่ได้ แต่ท่านไม่ไหวแล้ว กูมองท่านอยู่ตลอด ทุกครั้งที่เกิดการรีเซ็ต มันแย่มากขึ้นเรื่อยๆ

D. : จี้

Gee : อะไร

D. : ถ้าปล่อยเวลาไปจนถึงวันนั้น แล้วมันจะเป็นยังไงถ้าเราเปลี่ยนเหตุ

Gee : ไม่ว่าจะเปลี่ยนยังไงผลลัพธ์ก็เท่าเดิม

Gee : คนที่ตายในวันนั้นมีสองคน

Gee : มันไม่คุ้มที่จะไปยุ่ง ทุกสิ่งต้องเป็นไปนะไอ้ดิน

D. : งั้นก็เปลี่ยนเป็นกูกับมึงแทน เพราะไม่ว่ายังไงกูก็ต้องตายอยู่ดี แค่ผลลัพธ์เท่าเดิมก็ไม่มีปัญหาใช่มั้ย

Gee : บทลงโทษของการทำผิดกฎคือการที่มึงต้องติดอยู่กับความทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์

Gee : มึงจะกลายเป็นคนที่ถูกลืม จะกลายเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลก

D. : ก็ไม่เป็นไร

Gee : มึงน่ะดื้ออย่างที่ท่านบ่น

D. : :)

Gee : ดิน ถามอะไรหน่อย

D. : ว่ามา

Gee : ทำไมตอนนั้นมึงถึงเลือกไปกับจันทร์เจ้าวะ

D. : ตอนนั้น?

Gee : อืม ก่อนที่พวกมึงจะรถคว่ำ

D. : ทำไมถึงคิดว่ากูจำได้

Gee : ต่อให้จะจำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้ แต่เหตุการณ์นั้นกูคิดว่ามึงจำได้ทันทีที่เห็นท่านเอาตัวบังกระสุนให้ เพราะสีหน้าของมึงในตอนนั้นกูยังจำได้ติดตา และถ้ามึงจำไม่ได้มึงก็คงไม่มาอยู่ตรงนี้

D. : อืม ที่จริง ต่อให้ความทรงจำที่กูมีจะไม่ปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราว แต่เหตุผลของกูก็ไม่ได้ซับซ้อนจนยากที่ตัวกูในตอนนี้จะเข้าใจ

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-02-2019 18:43:53
ดิน ธรา ในวัย 16 ปีคือเด็กหนุ่มที่เคยมีรอยยิ้มสดใสราวกับคนที่ไม่เคยพานพบกับเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ แต่คำว่าเคยก็เป็นเพียงอดีตเพราะหลังจากผ่านพ้นอายุ 15 ปี เขาก็พบว่าเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะยิ้มด้วยใจที่เป็นสุข ในตอนนั้นเขาเหมือนย้อนเวลากลับไปตอนที่ยังอยู่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า มีความรู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยวเต็มแน่นอยู่ในหัวใจ เขารู้ดีว่าไม่มีใครต้องการ ตัวเขาจึงถูกทิ้ง แต่หลังจากที่โชคชะตาลิขิตให้เจอกับท่านเจ้า พี่ชายที่แสนใจดีที่ยื่นมือมาตรงหน้าเพียงเพราะชอบรอยยิ้มของเขา เขาคิดว่านั่นคือความโชคดีเพียงอย่างเดียวในชีวิต เจ้า จักรพรรดิคือคนที่มอบโชคดีนั้นให้โดยที่เขาก็ไม่เคยคิดว่าคนคนนี้จะมอบโชคร้ายให้ได้เช่นกัน

“ท่านไม่กลับอีกแล้วเหรอวะ” เสียงของวินเพื่อนสนิทที่พักหลังมานี้อยู่ด้วยกันบ่อยยิ่งกว่าท่านเจ้าดังมาตามสาย

“อืม” ธราขานรับในลำคอ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปตามช่วงอายุ ตอนนี้มันทั้งแหบทั้งต่ำเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน “คงอยู่กับจี้เหมือนเดิม”

“อย่าคิดมาก” วินปลอบใจ “ตั้งใจเรื่องสอบเทียบจบดีกว่า ตอนนี้เรื่องที่มึงควรโฟกัสคือการเตรียมตัวให้พร้อมเร็วที่สุดนะ ท่านรอมึงอยู่ สถานการณ์ที่บ้านตอนนี้ก็ไม่สู้ดี ลูกเลี้ยงของพ่อมึงน่ะใช่ย่อยเลย ที่ท่านไม่กลับก็คงเพราะแบบนี้ด้วย คือถ้ามึงเรียนจบอะไรๆ คงดีขึ้น ถึงเวลาย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็จะได้เริ่มต้นง่าย กูคิดว่าท่านคงเลือกมหาวิทยาลัยไว้ให้มึงแล้ว มึงก็รู้ว่าท่านจัดการให้ได้ทุกอย่าง พามึงไปได้ทุกที่ ท่านไม่ทิ้งมึงหรอก ตอนนี้แค่ใจเย็นๆ ก่อน”

“รู้ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ะ พอมีเรื่องไม่สบายใจทีไรก็ไปหาจี้ทุกที กูแม่งโคตรไม่มีประโยชน์อะไรต่อเจ้าเลย” น้ำเสียงของธราเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ กี่ครั้งแล้วที่เป็นแบบนี้ เขาก็นับจำนวนไม่ได้เพราะมากเกินกว่าจะจำได้หมด “ทำไมต้องเป็นจี้วะวิน ทำไมไม่ใช่กู ทำไมคนที่เป็นความสบายใจของเจ้าถึงไม่ใช่คนรักอย่างกู”

วินถอนหายใจมาตามสาย “กูก็ไม่รู้ คำถามนี้คงมีแค่ท่านที่ตอบมึงได้”

ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ธราก็ไม่กล้าถาม เพราะเขาขลาดเกินกว่าจะได้ยินคำตอบ แววตาที่จี้มองท่านเจ้านั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกแบบไหน ทำไมเขาจะไม่รู้ แต่สำหรับท่านเจ้าแล้วมองอีกฝ่ายอย่างไร เขากลับไม่แน่ใจเลย จี้เป็นความสบายใจที่เขาเป็นไม่ได้ สถานะคนรักที่เขาได้รับอาจเป็นแค่การได้ถูกรักแต่อาจไม่ได้เป็นทุกความรู้สึก

“วิน” เสียงเรียกชื่อนั้นแฝงไปด้วยความหวั่นใจ “ถ้าเกิดวันหนึ่งพวกเขารักกันขึ้นมาจริงๆ กูควรทำยังไง ตัวกูควรอยู่ตรงไหนในความสัมพันธ์ของพวกเขาเหรอ”

จินตนาการนั้นสร้างความเจ็บปวด ภาพบาดตาที่เห็นอยู่ทุกวันทำให้เขาเผลอคิดไปไกล เพราะท่านเจ้ามักจะยิ้มแย้มและหัวเราะเสมอเมื่อมีจี้อยู่ข้างๆ ในขณะที่เวลาอยู่กับเขากลับเงียบงัน ราวกับมีเรื่องกังวลใจแทบตลอดเวลา

“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนนะไอ้ดิน” วินบอกด้วยน้ำเสียงระมัดระวังเพราะรู้ดีว่าตอนนี้คนฟังกำลังอ่อนไหว “มันไม่ควรมีคนอื่นอยู่ในความสัมพันธ์ แต่ไม่มีวันที่สิ่งที่มึงคิดจะเป็นจริงหรอกไอ้ดิน ตอนนี้ที่มึงควรทำคือการเชื่อใจท่าน”

จะให้เชื่อใจยังไงไหว ธราแย้งอยู่ในใจ เขาเลือกที่จะไม่พูดออกมา เพราะสำหรับวินแล้วคงเป็นเรื่องง่ายที่จะมองว่าความสัมพันธ์ของท่านเจ้ากับจี้ไม่มีการลึกซึ้งกันเกินกว่าเพื่อนที่รู้ใจ แต่สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกิน “โอเค กูจะเชื่อ แต่กูก็อยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลม มึงคิดว่าไงถ้ากูให้เจ้าเลือก...”

“อย่าเลย” วินห้ามปรามแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เพราะคำตอบของท่านยังไงก็เป็นมึง จี้ไม่ใช่คู่แข่งของมึงตั้งแต่แรกแล้ว มันไม่ดีหรอกที่จะให้ท่านเลือกตัดใครหรือเก็บใครไว้ ในเมื่อมึงกับจี้อยู่คนละสถานะกัน เข้าใจที่กูพูดไหม”

“กูพยายามเข้าใจที่สุดแล้ว” ธราบอกอย่างจนใจ “แต่กูก็ยังรู้สึกว่าจี้สำคัญกับเจ้ามากกว่ากูอยู่ดี กูเชื่อใจนะแต่ไม่รู้จะเชื่อได้อีกนานแค่ไหน เพราะทุกวันนี้มันก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเจ้าอาจจะวางสถานะให้กูผิด ตัวกูน่ะอาจเป็นได้แค่น้องชายของเจ้าเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดก็เท่านั้น”

ความคิดนี้คงฝังรากลงไปในหัวใจของธราเสียแล้ว เพราะไม่ว่าจะมีใครพูดปลอบเขาอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย เขายอมรับอย่างหน้าไม่อายเลยว่าอิจฉาจี้ อิจฉามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเวลาเห็นคนรักของเขากับอีกฝ่ายอยู่ด้วยกัน หัวใจของเขาก็ราวกับถูกไฟแผดเผา มันร้อนจนพานหงุดหงิดไปทั่ว หลายครั้งที่ทะเลาะกัน หลายครั้งที่มึนตึงกันด้วยเรื่องเดิมๆ และหลายครั้งก็จบลงด้วยการที่เขากลายเป็นคนที่งี่เง่าไปเอง

ก๊อกๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น นั่นทำให้ธราหยุดชะงักมือที่กำลังทึ้งศีรษะของตัวเอง เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเสียงเคาะยังคงดังต่อเนื่อง

“เสียงเคาะประตูจากฝั่งมึงปะวะ” วินเอ่ยถามเมื่อเสียงเคาะดังเล็ดลอดไปตามสาย “ใครมาตอนนี้ เที่ยงคืนกว่าแล้วนะเว้ย”

“ไม่รู้ว่ะ” ธราตอบ ขมวดคิ้วมองไปทางประตูด้วยความสงสัย “เดี๋ยวกูไปดู”

“ไม่ต้องหรอกมึง” วินร้องห้ามอย่างไม่เห็นด้วย “ดึกขนาดนี้แล้ว พ่อกับแม่เลี้ยงของมึงก็ไปธุระที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ แต่อาจจะเป็นเจ้า”

“ท่านยังไม่กลับ กูยังได้ยินเสียงคุยกันจากห้องของจี้”

“เหรอ” ธราทวนถามเสียงแปร่ง เขาเผลอกำหมัดแน่น จิกเล็บลงบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บแปลบ “งั้นอาจจะเป็นใครสักคนในบ้าน”

“เออ เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ลูกเลี้ยงของพ่อมึงละกัน โผล่หัวมาทีไรมึงมีเรื่องกับท่านทุกที แล้วก็ลำบากกูเนี่ยคอยฟังมึงระบาย”

ถ้อยคำของวินเรียกเสียงหัวเราะจากธรา “จันทร์ก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก เขาแค่เหงา”

“เหงาหรือเงี่ยนเอาดีๆ แม่งชอบบุกมาหามึงดึกๆ ตลอด”

“เขาบอกว่าเขาอยู่คนเดียวไม่ได้ กลัวความมืด”

“เปิดไฟสิ โง่เหรอวะ”

“เออน่า เดี๋ยวกูไปดูก่อน มึงก็นอนได้แล้วนะ ขอบใจมากที่รับฟังกู”

“เออ มีไรก็โทรมา จะโดนมันปล้ำก็เรียกตำรวจ อย่าให้มันได้แตะต้องตัวมึงนะ ไม่งั้นท่านได้ฆ่าคนตายแน่”

ธรารับปากแม้จะรู้สึกขบขันกับคำพูดของวินก่อนจะรีบวางสายแล้วเดินไปที่ประตูเมื่อเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง เขาจับลูกบิดแล้วดึงประตูให้เปิดออก

“เปิดช้าจัง” ใบหน้าหวานของเจ้าของเสียงระบายรอยยิ้ม เป็นจันทร์เจ้าอย่างที่คาดเดาไว้ไม่ผิด คนตัวเล็กยืนอยู่ตรงหน้าธราในชุดนอนที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคร่ง ไม่แน่ใจว่ามีกางเกงซ้อนอยู่ด้านในหรือไม่เพราะชายเสื้อปิดคลุมลงมาจนถึงขาอ่อนเนียนขาว “จันทร์เห็นว่าห้องของดินยังไม่ปิดไฟก็เลยคิดว่าคงยังไม่นอน ดินทำอะไรอยู่เหรอ”

“คุยกับเพื่อนน่ะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบพลางเผยรอยยิ้มเป็นมิตร อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหัวไหล่เนียนที่โผล่พ้นคอเสื้อซึ่งย้วยจนมีขนาดกว้างกว่าปกติ มันตกลู่อย่างไม่พอดีกับไหล่แคบของจันทร์เจ้า “จันทร์มีอะไรหรือเปล่า”

“จันทร์นอนไม่หลับ ที่ห้องคนใช้น่ะร้อนแล้วก็แมลงเยอะ” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงบ่น ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองธราอย่างออดอ้อน “ดินจะว่าอะไรมั้ยถ้าจันทร์จะขอนอนด้วย”

“เอ่อ...”

“ยังไงพี่เจ้าก็คงไม่กลับมาอยู่แล้ว เขาคงนอนกับแฟนของเขา ดินให้จันทร์นอนด้วยได้มั้ย เราเป็นพี่น้องกันแล้ว ดินนอนกับพี่เจ้าได้ก็คงนอนกับจันทร์ได้ใช่มั้ย ขอร้องนะดิน จันทร์นอนที่ห้องนั้นไม่ได้จริงๆ พี่เจ้าน่ะใจร้าย เกลียดแม่ของจันทร์แต่กลับชอบมาลงที่จันทร์ ไม่ยุติธรรมเลย จันทร์น่ะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่กลับต้องมาโดนแกล้งอย่างนี้” จันทร์เจ้าสอดมือเข้ามากอดแขนของธราแล้วเขย่าเบาๆ คนตัวเล็กออเซาะเสียจนเขาทำสีหน้าไม่ถูก อยากพูดปฏิเสธไปตามตรงแต่เขาไม่อยากมีปัญหาอีกทั้งยังไม่อยากรับรู้เรื่องความบาดหมางระหว่างคนรักของเขากับอีกฝ่ายด้วย

แต่เกรงใจเพราะยังไงก็เป็นคนในครอบครัว

จันทร์เจ้าน่ะเป็นลูกติดของคุณจันทร์แรม ผู้หญิงที่แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยงของเขาเมื่อครึ่งปีก่อน คุณจันทร์แรมเป็นผู้หญิงเรียบร้อย พูดน้อยแต่ก็ใจดี เขาจึงไม่แปลกใจนักที่พ่อเลี้ยงจะตกหลุมรักเธอจนตกลงใจแต่งงานกัน ซึ่งท่านเจ้าก็ไม่ได้คัดค้าน พี่ชายของเขาไม่มีความเห็นในเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำและก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังคุณจันทร์แรมอย่างที่จันทร์เจ้าเข้าใจ เขารู้ดีว่าท่านเจ้าเป็นคนแบบไหน จึงรู้สึกไม่ชอบใจทุกครั้งที่ได้ยินจันทร์เจ้าพูดความคิดแง่ลบให้เขาฟัง ตรงข้ามกับตัวเขาที่ส่วนลึกในใจแล้วรู้สึกคัดค้านแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะออกเสียงอะไรได้ในเมื่อเขาก็เป็นแค่ลูกชายบุญธรรม

ธราชอบครอบครัวที่มีแค่เพียงเขา ท่านเจ้า คุณพ่อและคุณแม่เท่านั้น เป็นครอบครัวในฝันที่สมบูรณ์แบบ แต่ความสมบูรณ์แบบนั้นกลับพังลงไม่เป็นท่า คุณพ่อแต่งงานใหม่ คุณแม่ก็ไม่รู้เป็นอย่างไร ท่านไม่กลับมาอีกเลยตั้งแต่ไปในครั้งนั้น ถามกับท่านเจ้าที่กลับมาเพียงลำพังก็ถูกบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องพูดเสียทุกครั้งไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับท่านเจ้า อยู่กันเพียงลำพังสองคนในฐานะคนรักที่มีแค่กันและกันเท่านั้น จนกระทั่งสองแม่ลูกย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกันกับพวกเขา...ความสุขที่มีก็เลือนหายไป ท่านเจ้าไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ บอกแค่เพียงว่าใครอยากจะอยู่ก็อยู่ไปแต่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน แต่ลูกติดของคุณจันทร์แรมคงไม่ได้คิดแบบนั้น คนตัวเล็กพยายามที่จะสานสัมพันธ์เพื่อจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเขา ทว่าตลอดครึ่งปีมานี้กลับมีแต่เรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง

“นะดิน ขอจันทร์นอนด้วย เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ” เสียงของจันทร์เจ้าปลุกธราให้ตื่นจากภวังค์ความคิด เขาเผลอยืนนิ่งค้างแล้วปล่อยให้ร่างเล็กบดเบียด “หรือดินไม่คิดว่าจันทร์เป็นคนในครอบครัว ดินก็เป็นอีกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพ่อกับแม่เราใช่มั้ย”

“ไม่ใช่อย่างนั้น” เขาปฏิเสธและพยายามขืนตัวออกโดยไม่ให้เป็นการหักหน้าอีกฝ่าย อย่างไรก็ต้องถนอมน้ำใจเพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวย่ำแย่ไปมากกว่านี้ ลำพังแค่ท่านเจ้าบาดหมางกับลูกติดของแม่เลี้ยงก็ทำให้เกิดความตึงเครียดมากอยู่แล้ว “จันทร์อยากนอนก็นอนได้ เดี๋ยวผมไปใช้ห้องรับรองแขกเอง”

“ดินรังเกียจจันทร์เหรอ” เสียงหวานสั่นเครือ ดวงตากลมโตก็เผยความอ่อนไหว “จันทร์น่ารังเกียจมากเหรอดิน ทำไมทั้งพี่เจ้าทั้งดินถึงไม่ชอบ...”

“ไม่ใช่หรอก” เขารีบปฏิเสธ รู้สึกสงสารคนตัวเล็กขึ้นมาจับใจ “อย่าคิดมากเลย ไม่มีใครรังเกียจจันทร์ทั้งนั้น”

“แต่พี่เจ้า...”

“เจ้าไม่ได้รังเกียจจันทร์หรอกนะ ที่จริงแล้วเป็นคนใจดีมากๆ แต่แค่เข้าหาคนอื่นไม่เก่ง จันทร์ต้องให้เวลาเจ้าหน่อยนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น”

“อืม จันทร์จะพยายามนะดิน”

“ครับ สู้ๆ นะ มีอะไรไม่สบายใจก็คุยกับผมก็ได้ รู้ว่าอยู่คนเดียวคงเหงา เพราะผมก็เคยอยู่คนเดียวเหมือนกัน แต่โชคดีที่ได้เจอกับเจ้า”

“พี่เจ้ามากกว่าที่โชคดีที่ได้เจอดิน”

รอยยิ้มของจันทร์เจ้าในตอนนั้นน่ามอง มันอาจเป็นรอยยิ้มแรกที่ได้เห็นคนตัวเล็กยิ้มออกมาจากใจ แม้เขาจะไม่ได้รู้สึกชอบใจครอบครัวใหม่นี้แต่ก็ไม่ใจร้ายมากพอที่จะเกลียดจันทร์เจ้า คิดแค่เพียงว่าคนตัวเล็กคนนี้ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยและคงไม่ยุติธรรมด้วยที่จะตั้งแง่รังเกียจ

.

.

D. : จะพูดยังไงดีวะจี้ ในตอนนั้นสำหรับกูแล้วจันทร์เจ้าก็ไม่ได้เลวร้าย

Gee : แต่มันก็ทำให้มึงผิดใจกับท่านบ่อยๆ

D. : ก็ไม่ใช่แค่จันทร์หรอก

D. : มึงก็ด้วย

Gee : ก็นะ…

.

.

“คือยังไงวะ ติดมึงเหมือนปลิงเลย” วินเบ้ปากในขณะที่กำลังกระซิบอยู่ข้างหูธรา ดวงตาก็กำลังจับจ้องมองคนตัวเล็กหน้าหวานที่จงใจนั่งคั่นกลางธรากับท่านเจ้า “ยังไงก็เป็นรุ่นน้องมั้ย ไม่นั่งแดกข้าวกลางวันกับเพื่อนวะ เสนอหน้ามานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเราทำไม”

“มึงก็พูดแรงไปไอ้วิน” ธรากระซิบกลับ “จันทร์เพิ่งย้ายโรงเรียนมาไม่นาน ยังไม่มีเพื่อน”

“นิสัยส้นตีนขนาดนี้คงมีหรอกเพื่อนน่ะ ตอแหล”

“เอ๊...มึงนี่ อย่าคิดแง่ลบขนาดนั้นสิวะ”

“มึงก็คิดบ้างเถอะ อย่าโลกสวยให้มาก ท่านแม่งแดกข้าวไม่ลงแล้ว”

“เหอะ” น้ำเสียงของธราเต็มไปด้วยความประชดประชัน “แดกไม่ลงเดี๋ยวจี้ก็ป้อนเองนั่นแหละ”

“มึงยังไม่เลิกคิดเรื่องไร้สาระอีกเรอะ”

“ให้เลิกได้ยังไง ตัวติดกันยิ่งกว่าแฝด กลับบ้านก็ดึกดื่นบางวันก็ไม่กลับ กูต้องบวชแล้วล่ะถ้าเลิกคิดได้”

“ก็ไปบวช”

ธราสบถในลำคอไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะหันมองจันทร์เจ้าที่วอแวกับท่านเจ้าของเขาไม่หยุด “พี่เจ้ากับแฟนนี่ตัวติดกันจังเลยนะครับ อยู่ด้วยกันตลอดเลย ดีจังที่มีแฟนรุ่นเดียวกัน เป็นได้ทั้งเพื่อนทั้งแฟน เอ๊..น้องชายอย่างดินคงตกกระป๋องแล้วแน่ๆ เพราะพี่เจ้าไม่ค่อยกลับบ้านเลย แต่ไม่เป็นไรน้า ผมจะดูแลดินให้เอง ดินน่ะหลับง่าย แค่ลูบหัวก่อนนอนก็หลับปุ๋ยแล้ว”

“สาระแน” เสียงของจี้ดังขึ้นอย่างเหยียดหยัน “สาระแนไปซะทุกเรื่อง”

“พี่จี้ว่าผมหรือเปล่าครับ” รอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้าเล็กยามตั้งคำถาม “หรือว่าตัวเอง คือผมกำลังคุยกับพี่เจ้าแล้วพี่ก็สอดขึ้นมา เอ...ยังไงกันนะ”

“อ้อ โทษทีนะที่สอด แต่พี่ไม่ได้ว่าจันทร์หรอก” จี้ปฏิเสธพลางยิ้มไม่ต่างกัน “แค่ว่าพวกปลิงขึ้นวอแถวนี้น่ะ มันชอบสาระแนเรื่องของชาวบ้าน สักวันคงไม่ได้ตายดี”

“งั้นก็แล้วไปครับ...ผมก็นึกว่า...”

“จี้ ไปกัน กูอิ่มละ” ท่านเจ้าพูดแล้วก็ลุกขึ้นก่อนปรายตามองจันทร์เจ้าที่หลบข้อศอกของคนที่อยู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้นแทบไม่ทัน “ไหนๆ ก็ชอบสาระแนแล้ว เอากระดูกในจานไปเคี้ยวให้ด้วยสิ แค่ที่กินอยู่คงไม่อิ่ม” ว่าแล้วข้าวในจานพร้อมเมนูแกงเขียวหวานก็ราดลงบนศีรษะของจันทร์เจ้า ธราถูกวินดึงตัวออกห่างเพราะกลัวน้ำแกงจะกระเด็นใส่ในขณะที่เสียงโวยวายของจันทร์เจ้าดังก้องโรงอาหาร

“โอ๊ะ โทษทีว่ะ กูลืมแยกน้ำแกงให้” ท่านเจ้ายิ้มร้าย มองคนที่เลอะเมล็ดข้าวและน้ำแกงด้วยความสะใจ “แต่หายคันบ้างไหมหรือคันยิ่งกว่าเดิม”

“นี่!” จันทร์เจ้าตอบโต้ได้แค่นั้น ปากร้องตะโกนในขณะที่ดวงตากลมโตปิดสนิท “แก...คนอย่างแกมัน!”

ซ่า!

คราวนี้เป็นน้ำแดงจากจี้ที่สาดใส่ใบหน้าหวาน ช่วยล้างคราบสีเขียวจากแกงออกไปได้แต่ก็สร้างรอยแดงขึ้นตามโหนกแก้มเพราะน้ำแข็งในแก้วที่ถูกสาดไปพร้อมกับน้ำ

“โอ๊ย! ดิน...ดินช่วยจันทร์ด้วย ดิน! จันทร์เจ็บ ฮึก...ช่วยด้วยดิน ช่วยด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของจันทร์เจ้าดังก้อง แต่ธราไม่ขยับ เขาทำได้แค่เพียงมองด้วยความสงสารแต่อีกใจก็คิดว่าสมควรแล้วที่จันทร์เจ้าจะถูกสั่งสอนเสียบ้าง คนที่ชอบพ่นแต่คำโกหกน่ะควรได้รับบทลงโทษเสียที เพราะเขากับจันทร์เจ้านั้นไม่เคยหลับนอนด้วยกันเลย แล้วทำไมต้องพูดให้คนรักของเขาเข้าใจผิด

“มึงคิดว่าตัวเองเป็นใคร” ใบหน้าของจี้เย็นชาไม่ต่างจากน้ำเสียงที่ใช้พูดกับจันทร์เจ้า “คิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนเล่นกับท่านหรือไง หรือสำคัญว่าเป็นคนในครอบครัวของท่าน หึ” คำพูดเย้ยหยันดังขึ้นพร้อมกับนิ้วชี้ที่จิ้มลงบนหน้าผากลาดเนียนของคนที่กำลังสะอึกสะอื้น “อย่าให้มันมากไปนัก ระวังคำพูด ระวังการกระทำ ถ้าไม่ต่างคนต่างอยู่ อย่าหาว่ากูไม่เตือน”

“ฮึก...ดิน...ดินช่วยจันทร์ด้วย”

น้ำเสียงของจันทร์เจ้านั้นน่าเวทนา แต่ธรากลับมองเมิน เขามีบทเรียนมาครั้งหนึ่งแล้วจากการเข้าข้างคนอื่นจนเกือบจะเสียท่านเจ้าไป แล้วครั้งนี้ก็เห็นได้ชัดว่าหากเขาเลือกช่วยจันทร์เจ้า ท่านเจ้าคงทิ้งเขาไปโดยไม่ลังเล

.

.

D. : บอกตามตรงว่ากูนึกย้อนไปแล้วก็รู้สึกผิด พอจำเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาได้บ้างก็รู้สึกว่าในวันนั้นควรเข้าไปช่วย

Gee : มันสมควรโดน

D. : ก็จริง แต่ไม่รู้ว่ะ กูแค่สงสัยว่าถ้ากูเข้าไปช่วยเขาวันนั้น มันจะดีกว่ามั้ย

Gee : ไม่หรอกไอ้ดิน อย่างจันทร์เจ้าน่ะมันแค่อยากเอาชนะท่าน ต่อให้มึงทำดีกับมันยังไงก็ไม่ได้เปลี่ยน

Gee : เพราะมันรักมึง มันอยากได้มึงจนตัวสั่น

D. : อืม ไม่เถียงละกันเรื่องนี้ เพราะหลังจากนั้นมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จนทำให้เรื่องมันแย่ยิ่งกว่าเดิมนั่นแหละ

.

.

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้จันทร์เจ้าสงบลงไปมาก คนตัวเล็กไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับท่านเจ้าหรือเข้ามาวอแวกับธราทั้งที่ปกติจะตามติดจนบางทีก็รู้สึกรำคาญ ซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรักดีขึ้นมาได้บ้าง แม้จะยังมีจี้คอยรบกวนจิตใจแต่เขาก็ไม่ได้หาเรื่องทะเลาะ กลับตั้งใจที่จะใช้เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันให้มีความสุขอย่างเต็มที่ แต่แล้วเขากลับคิดผิด เขาเกือบเชื่อแล้วว่าจันทร์เจ้าเลิกยุ่งกับพวกเขา

“ดิน ขอจันทร์คุยด้วยหน่อยได้มั้ย” จันทร์เจ้ามาพบเขาที่ห้องในกลางดึกของคืนวันเสาร์ ซึ่งท่านเจ้าออกไปทำธุระกับลุงชันยังไม่กลับ

“หืม” เขารู้สึกแปลกใจกับคนที่ไม่คิดว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ต่อในเมื่อเขาเคยใจร้ายไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในยามที่อีกฝ่ายนั้นกำลังเดือดร้อน “มีเรื่องอะไรเหรอจันทร์”

“เรื่องสำคัญน่ะ” รอยยิ้มหวานของจันทร์เจ้าที่ส่งมาให้นั้นไม่น่าไว้ใจ “ไปคุยกันที่อื่นก็ได้ ถ้าดินกลัวว่าการอยู่ในห้องนอนกับจันทร์สองต่อสองจะทำให้พี่เจ้าเข้าใจผิด”

“ไม่เป็นไร ยืนคุยกันตรงนี้ก็ได้ ไม่นานหรอกใช่มั้ย”

“อื้ม ไม่นาน” จันทร์เจ้ายังคงส่งยิ้มหวาน แต่รอยยิ้มนี้ไม่ได้น่ามองเพราะมันแฝงไปด้วยเจตนาบางอย่างจนเขารู้สึกไม่สบายใจ “ดินกับพี่เจ้าน่ะ เป็นมากกว่าพี่น้องเหรอ”

ธรานิ่งอึ้งไปเพียงครู่กับคำถามของจันทร์เจ้า เขารีบกลบเกลื่อนสีหน้าแทบทันที “หมายความว่ายังไงเหรอจันทร์”

“เอ...ยังไงนะ” ลิ้นเล็กดุนดันกระพุ้งแก้มอย่างยียวน “เอาเป็นว่าจันทร์เห็นดินกับพี่เจ้าจูบกัน”

“แปลกเหรอ” ย้อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแม้จะเริ่มตรวจจับสัญญาณอันตรายได้จากคนตรงหน้า

“ก็ถ้าเป็นจุ๊บริมฝีปากแบบปกติที่พี่น้องทำกันคงไม่แปลก ต่อให้จะโตกันขนาดนี้แล้วก็เถอะนะ แต่ที่ดูดลิ้น ไซ้คอกันน่ะแปลก” คราวนี้เจตนาของจันทร์เจ้าเผยออกมาอย่างชัดเจน ดวงตากลมโตนั้นมุ่งร้าย “ไม่มีพี่น้องที่ไหนทำกันหรอก ยิ่งเอากันน่ะ...ยิ่งไม่มี คุณพ่อรู้เรื่องนี้หรือเปล่านะดิน”

หัวใจของธราเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานของจันทร์เจ้าก็ยิ่งแน่ใจว่าความลับของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับท่านเจ้านั้นมีคนล่วงรู้เข้าให้แล้ว

“หรือจันทร์ควรส่งคลิปกับรูปให้คุณพ่อดีนะ โอ๊ย!”

“ลบ!” ธราตะคอกเสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึงจนจันทร์เจ้านึกหวั่นใจ มือแกร่งบีบที่ไหล่แคบทั้งสองข้าง บีบแน่นราวกับคีมเหล็กที่ต้องการให้แหลกละเอียด “กล้าดียังไงถึงทำเรื่องทุเรศแบบนี้!”

“อย่าทำกับจันทร์แบบนี้นะดิน!” จันทร์เจ้าแหวเสียงลั่น “ตัวเองทำเรื่องน่ารังเกียจแล้วยังมาว่าคนอื่นได้เหรอ!”

“น่ารังเกียจยังไงจันทร์ ผมกับเจ้าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ” ธราเพิ่มแรงบีบ โทสะของเขาในตอนนี้ปะทุจนอยากจะฉีกร่างของจันทร์เจ้าออกเป็นชิ้นๆ “แต่ต่อให้ผมทำแล้วคุณเสือกอะไร!”

“โอ๊ยยย! จันทร์เจ็บนะดิน! ปล่อยแขนจันทร์เดี๋ยวนี้!”

“อย่ามายุ่งกับเรื่องของผมกับเจ้า!” เสียงตะคอกยังคงดังต่อเนื่อง มือแกร่งก็เพิ่มแรงบีบจนจันทร์เจ้าร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด “ถ้าอยู่กันดีๆ ไม่ได้คุณก็ไสหัวออกไปไกลๆ เป็นบ้าอะไรถึงได้ระรานกันแบบนี้วะ!”

“แต่นี่มันผิดนะดิน! จันทร์บอกคุณพ่อแล้วและคุณพ่อไม่ยอมแน่” เสียงหวานแย้งด้วยความสั่นเครือ ก่อนริมฝีปากจะพยายามคลี่ยิ้ม แววตาเผยความเย้ยหยัน “คิดว่าตัวเองดีเลิศแค่ไหนกันเชียว ท่านเจ้าเหรอ ยกตนกันมากขนาดนั้นทั้งที่ก็เป็นแค่คนวิปริตที่เอากับน้องชายตัวเอง ดินกำลังหลงผิดนะ ดินกำลังถูกหลอก คุณพ่อท่านรักดินมาก นั่นเพราะดินเป็นลูกแท้ๆ ของท่าน ดินอาจจะไม่รู้เรื่องนี้แต่จันทร์รู้ เพราะฉะนั้น...เลิกยุ่งกับเขาได้แล้ว เขาน่ะรู้ดีเลยว่าดินเป็นลูกแท้ๆ แต่กลับโกหกและไม่บอกอะไรดินเลย มีแต่จันทร์ที่พูดความจริงกับดิน”

จันทร์เจ้าน่ะเกินเยียวยาแล้ว ธราไม่รู้จะสรรหาคำใดมาต่อว่าเพราะคำพูดทุกคำล้วนแต่จุกแน่นอยู่ในอก คิดจะพูดคำไหนก็รู้สึกว่าไม่รุนแรงพอที่จะทำให้คนตรงหน้าเขาสะทกสะท้านได้ เขาจึงผลักร่างเล็กให้ออกห่างแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าห้อง ก่อนจะปิดประตูดังโครมตามหลัง

ธราเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกช้าๆ อย่างพยายามควบคุมโทสะพลางกล่อมตัวเองให้เชื่อว่าถ้อยคำของจันทร์เจ้านั้นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมาเพื่อแก้แค้นที่เขาไม่เข้าไปช่วยเหลือในเหตุการณ์ครั้งนั้นและนี่คงเป็นการเอาคืนที่ทำได้ดีทีเดียว เพราะหลังจากที่ได้คุยกับจันทร์เจ้าแค่เพียงไม่กี่วัน เขาก็ได้รับสายตรงจากคุณพ่อที่โทรทางไกลมาจากต่างประเทศ

“น้องดิน พ่อขอได้มั้ยลูก” คุณพ่อพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่มีแววตำหนิเลยแม้แต่น้อย “พ่อไม่เคยคิดอยากบังคับหรือกะเกณฑ์ ไม่ว่าลูกจะรักใครพ่อก็ยินดีที่จะรักด้วย จะเพศไหนก็ไม่ใช่ปัญหา แต่กับท่านเจ้า กับคนคนนี้ไม่ได้จริงๆ”

คุณพ่อน่ะมักจะเรียกพี่ชายของธราด้วยสรรพนามที่ห่างเหินเสมอจนบางครั้งธราก็นึกแปลกใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ในความทรงจำของเขานั้นไม่ค่อยได้เห็นทั้งสองคนพูดคุยกัน หากมาคิดๆ ดูแล้วลุงชันคนสนิทก็พูดคุยกับท่านเจ้ามากกว่าคุณพ่อเสียด้วยซ้ำ ท่านเจ้ากับคุณพ่อไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน หากไม่มีเขาเป็นตัวเชื่อมก็อาจจะไม่เคยยิ้มและหัวเราะด้วยกันเลยก็ว่าได้

“คุณพ่อครับ น้องขอโทษ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด “น้องขอโทษที่เป็นคนไม่ดี แต่น้องรักเจ้า น้องก็ไม่รู้จะทำยังไง มันผิดมากใช่ไหมครับ”

“ครับ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควร” คุณพ่อตอบกลับด้วยน้ำเสียงเครียดขรึมที่กรีดหัวใจของธรา “เพราะฉะนั้นพอเถอะนะน้องดิน พ่อรักน้องมากนะครับ ถ้าน้องรักพ่อก็ทำตามที่พ่อขอได้มั้ย”

แม้คุณพ่อที่แสนใจดีจะอ้อนวอนมากแค่ไหน แต่ธราก็ไม่ได้รับปาก เขาบอกขอโทษแล้ววางสาย คิดอย่างดื้อรั้นว่าต่อให้ไม่มีใครเห็นด้วยก็คงไม่เป็นไร ซ้ำยังไม่ยอมรับว่าตนเองกับคนรักมีสายเลือดเดียวกัน ต่อให้คุณพ่อยืนยันว่าตัวเขานั้นคือลูกชายแท้ๆ เขาก็ไม่ยอมเชื่อ เขาพอใจกับสถานะที่เป็นได้เพียงลูกชายบุญธรรม พอใจที่ตัวเขานั้นคือเด็กที่ถูกท่านเจ้าเลือกมาจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่ใช่คนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนายเหนือหัวของตระกูลเวชธาดาซึ่งมีเจ้า จักรพรรดิเป็นพี่ชายสายเลือดเดียวกัน

ทว่าธราก็ดิ้นรนอยู่ได้ไม่นาน ความพยายามที่จะยื้อความสัมพันธ์ต่อนั้นไร้ความหมายเมื่อท่านเจ้าของเขายอมจำนนอย่างง่ายดาย

“พี่ขอโทษครับ น้องดินเกลียดพี่เลยก็ได้ แต่เรา...กลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเถอะนะ พี่คิดว่าพี่กับจี้คงเป็นไปได้มากกว่า พี่รู้ใจตัวเองช้าไป พี่คิดว่าความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้องดินมันคือความรัก แต่กลับไม่ใช่ พี่รักน้องดินเหมือนที่พี่ชายรักน้องชายเท่านั้น แต่กับจี้...พี่คิดว่ามันพิเศษ”

ตั้งแต่ที่ได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นดังออกจากปากเจ้า จักรพรรดิ วังวนความเจ็บปวดของธราก็เริ่มต้นขึ้น

หลังจากนั้นความกลัวที่อยู่ในใจของธราก็กลายเป็นจริง แม้แต่วินก็ไม่สามารถพูดปลอบใจเขาได้ อนาคตที่เคยวาดฝันไว้ด้วยกันก็พังครืนลงในพริบตาเมื่อท่านเจ้าเลือกให้เขากลับไปเป็นแค่น้องชาย

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 20-02-2019 18:44:24
D. : นึกย้อนไปแล้วก็ตลก เลยเถิดกันขนาดนั้นแล้วยังขอให้กลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม

D. : ว่าแต่ตอนที่มึงกับเจ้าคบกัน มันดีหรือเปล่าวะ

Gee : ไม่ได้คบ กูน่ะเป็นแค่ความสบายใจของท่าน

Gee : ไม่ใช่คนรัก

D. : แต่ก็เป็นความสบายใจที่เจ้าขาดไปไม่ได้

Gee : ไม่หรอก ท่านก็แค่อยากให้มึงเกลียดท่าน

D. : แต่ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะกูมันคนโง่

Gee : อืม มึงน่ะโง่จริงๆ

.

.

ทว่าต่อให้คำพูดและการกระทำของท่านเจ้าจะย้ำเตือนสถานะให้กับธรา ยัดเยียดตำแหน่งน้องชายคืนกลับให้ แต่คนเป็นน้องกลับไม่ให้ความร่วมมือ ดิน ธรานั้นดื้อรั้นเพราะการเลี้ยงดูของท่านเจ้า หากจะโทษก็ต้องโทษท่านเจ้าที่หล่อหลอมให้เขาเป็นแบบนั้น

“ไปสิ ถ้าออกไปหาจี้คืนนี้ ผมจะตายให้พี่ดู” ธราตะคอกเสียงดังลั่นหลังจากที่ยื้อแย่งกุญแจรถออกจากมือของพี่ชายที่พักหลังมานี้ไม่เคยอยู่ติดบ้านได้สำเร็จ

“น้องดิน” เสียงของท่านเจ้าเข้มจัด “พี่คิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ แล้วก็อย่าพูดเรื่องไม่น่าฟังขึ้นมาอีก ความตายไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเล่น”

“โอเค ผมขอโทษ แต่เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว พี่อยากให้ผมเป็นน้องผมก็เป็นให้แล้วไงครับ” ธราลดเสียงลงแล้วจ้องมองใบหน้าคมคายของผู้เป็นพี่ “นี่ผมก็กำลังทำหน้าที่น้องชายที่เป็นห่วงพี่ชายอยู่นะ ผมจะให้พี่ชายขับรถออกไปดึกๆ ดื่นๆ ได้ยังไง อันตราย”

“พี่ไปได้ครับ น้องดินไม่ต้องห่วง”

“ไม่เอา” คนเป็นน้องส่งเสียงกระเง้ากระงอดพร้อมกับที่เข้าไปกอดร่างผอมเอาไว้ “พี่เป็นพี่ชายประสาอะไรถึงชอบทิ้งน้องให้นอนคนเดียว ผมนอนคนเดียวมาเกือบเดือนแล้ว พี่จำได้มั้ย”

“น้องดินโตแล้ว ดูแลตัวเองได้”

“ไม่ได้” ส่งเสียงอ้อนพลางซุกไซ้ใบหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น ประทับริมฝีปากลงบนผิวเนื้ออ่อนพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามขืนตัวออกห่าง “ผมคิดถึงพี่” เขากระซิบ “คิดถึงคนรักของผม คิดถึงตอนที่อยู่ในตัวของคุณ ได้ปลดปล่อยในตัวของคุณ แล้วอย่างนี้จะให้กลับไปเป็นพี่น้องกันเหรอครับ คุณพูดมาได้ยังไง”

“ดิน…”

“ผมบอกเลยว่าผมทำไม่ได้ ต่อให้จะอ้างเรื่องสายเลือด อ้างเรื่องที่ผมไม่ใช่คนที่พี่รักแต่ผมก็กลับไปเป็นพี่น้องกับพี่ไม่ได้แล้ว” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นเต็มไปด้วยความรวดร้าว “พี่อย่าทิ้งผมได้มั้ย ผมยอมแล้ว ในความสัมพันธ์ของพี่กับคนที่พี่รัก ให้ผมอยู่ตรงไหนก็ได้ เป็นตัวอะไรก็ได้ ผมเป็นให้พี่ได้ทั้งนั้น แค่อยู่กับผมนะครับพี่ ผมขอร้อง...”

เสียงถอนหายใจของท่านเจ้าดังแผ่วเบาเมื่อธราพูดจบ ก่อนแขนเรียวจะยกขึ้นโอบรั้งลำตัวหนาเอาไว้ “พอแล้วครับที่รัก เจ้าก็ยอมแล้วเหมือนกัน” พูดจบก็บดจูบริมฝีปากหนาอย่างหนักหน่วง ลิ้นร้อนเข้าสำรวจรุกล้ำโพรงปากจนเรียกเสียงครางต่ำในลำคอ ธราหลับตาลงพลางตอบรับสัมผัสจากท่านเจ้าด้วยความเต็มใจ

.

.

D. : โง่ที่ยอมเป็นตัวอะไรก็ได้ในความสัมพันธ์ของมึงกับเจ้าใช่มั้ย

Gee : เปล่า โง่ที่ไม่รู้ว่าท่านกำลังปกป้องมึงต่างหาก

D. : ปกป้องกูเหรอวะ จากใคร?

Gee : นายหญิง

D. : อ่า...นั่นสินะ ถ้ามึงไม่พูดขึ้นมากูก็จำไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ใช่เรื่องน่าจำ

.

.

ไม่ว่าใครก็คงมีช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ธราที่หน้าชื่นอกตรมอยู่นานหลายเดือน ถึงจะปรับความเข้าใจกับท่านเจ้าของเขาแล้ว ถึงจะรั้งให้อยู่ข้างๆ กันต่อได้สำเร็จแต่ก็ไม่ได้มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเลย เพราะหลังจากนั้นกลับยิ่งแย่ลงจนไปต่อไม่ไหวและคราวนี้เป็นธราเองที่เป็นฝ่ายถอยออกมา

ในช่วงเวลานั้นคงเป็นช่วงเวลาเดียวที่ธราไม่นึกจำเพราะสาหัสสากันสำหรับเด็กผู้ชายในวัย 17 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนเสียเป็นส่วนใหญ่ เขาเครียดจนนอนไม่หลับ บางครั้งก็อาเจียนออกมา ข้าวปลาก็กินไม่ลง เพราะถูกเพื่อนที่โรงเรียนมองเหมือนตัวประหลาด ข่าวลือที่เขาเป็นคนรักกับพี่ชายร่วมสายเลือดนั้นแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน บางคนกล้าเดินเข้ามาถามเขาว่าร่วมรักกับพี่ชายตัวเองเป็นยังไง รู้สึกเหมือนอยู่ในนรกไหมหรือไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะไม่มีสามัญสำนึก และบางคนก็ตะโกนใส่เขาว่าเป็นพวกวิปริตผิดเพศ แค่คบกับผู้ชายด้วยกันก็แย่พออยู่แล้วอีกทั้งยังมีเรื่องที่ผิดศีลธรรมเกิดขึ้น ธราทำได้เพียงรับฟังโดยไม่โต้แย้งเพราะข้อเท็จจริงก็เป็นไปตามนั้น

“อย่าไปสนใจ” บินบอก แม้ตอนนี้มันจะกำหมัดแน่นอยู่ข้างๆ ธราก็ตาม “พวกปากเก่งมันก็กล้าแค่ตอนที่ท่านไม่อยู่ มึงโอเคนะ ถ้าไม่โอเคยังไงก็กลับบ้านไปก่อน ให้ไอ้วินไปส่ง เดี๋ยวกูบอกไอ้จี้ให้ ตอนนี้มันอยู่กับท่าน”

“กูโอเค” ธรายืนกราน “ไม่เป็นไรหรอก พวกมันพูดก็ไม่ผิด”

“กูสงสัยนักว่าไอ้เหี้ยตัวไหนมันปล่อยข่าว” หากเป็นภาพในการ์ตูน ตอนนี้บินคงมีควันพวยพุ่งออกจากหูแล้ว ตาตี่ของบินมองขวางไปที่กลุ่มนักเลงประจำห้องที่กำลังตะโกนล้อธราอยู่ในขณะนี้

“จันทร์เจ้าปล่อยข่าว” วินพูดขึ้นพลางนั่งลงข้างๆ “กูเดินผ่านห้องน้ำหญิง ได้ยินพวกผู้หญิงมันจับกลุ่มพูดกันอยู่แถวนั้น”

“เล่นแม่งเลยมั้ย” บินถามอย่างหัวเสีย “เมื่อไหร่มันจะเลิกสาระแนสักทีวะ”

“จนกว่าจะได้กูเป็นผัวละมั้ง” ธราว่าติดตลก แต่แววตาของเขาไม่ได้ตลกไปด้วย “หรือกูควรสนองให้สักที”

“อย่าไอ้สัด” วินร้องห้ามพร้อมเตือน “ท่านได้ฆ่ามึงตายพอดี อยากให้ท่านติดคุกเรอะ”

“คงไม่หรอก” รอยยิ้มเยาะปรากฏบนดวงหน้าหล่อเหลา “เจ้าไม่ได้สนใจอะไรกูอยู่แล้ว”

“เฮ้...ไม่เอาน่า” บินบีบไหล่หนาเบาๆ “อย่าคิดมากมึง”

“อืม ไม่คิดมาก” ธราตอบกลับเบาๆ “ต่อให้จะเห็นใครจูบกัน กูก็ไม่คิดมากอยู่แล้วเพราะกูไม่มีสิทธิ์คิด ตอนนี้ตัวกูเป็นใครในความสัมพันธ์ของพวกเขากูยังไม่รู้เลย”

ไม่มีใครตอบกลับคำพูดของธรา ทั้งบินและวินพร้อมใจกันปิดปากเงียบ แต่ธรารู้ดีว่าทั้งสองคนนั้นลำบากใจและเขาก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาเห็นใจหรือทุกข์ใจไปกับเขาด้วย เพราะเขาเลือกเอง เขาเลือกที่จะตกนรกเองและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้เขาก็พร้อมยอมรับแต่โดยดี ด้วยรู้แน่แก่ใจว่าความรักในครั้งนี้มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก ไม่มีใครเห็นด้วย ไม่มีใครยินดี มีแต่คนคิดจะกีดกันและแยกพวกเขาไปคนละทิศละทาง เขายิ่งแน่ใจในความคิดก็หลังจากได้พูดคุยกับคุณแม่ที่บินกลับมาอย่างกะทันหัน คุณแม่ที่ไม่เจอกันนานนับปีกลับมาพร้อมพายุลูกใหญ่ที่สามารถพัดพาพวกเขาให้ไกลห่างกัน ท่านเรียกหาพวกเขาพร้อมกันอีกทั้งยังพูดเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ท่านบอกว่าเป็นเรื่องไม่ควร บอกว่าเขากับท่านเจ้าเป็นพี่น้องกันแล้วจะรักกันได้อย่างไร แค่รักเพศเดียวกันก็ผิดมากแล้ว คุณแม่รับไม่ได้กับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แววตาที่เคยมีแต่ความอ่อนโยนให้กับธราก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา

“จากนี้ไป...เราจะบอกรักกันไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม” ธราถามขึ้นหลังจากที่อยู่กันตามลำพัง ท่านเจ้านั่งเงียบอยู่ที่ปลายเตียงอีกด้าน มือผอมประสานกันแน่นพลางก้มหน้าลง ซ่อนใบหน้าไม่ให้ธราได้เห็น

“อืม อย่าพูดอีกเลยครับ” เสียงตอบกลับนั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับคนฟัง

“แล้วเราต้องทำเหมือนเกลียดกันจริงๆ เหรอ” เขารับรู้ว่าอาจจะเดินกันมาจนสุดทางแล้ว “ถ้าผมทำได้คุณแม่จะให้เจ้าอยู่กับผมหรือเปล่า”

“ดิน...พอเถอะครับ”

“แล้วถ้าผมทำไม่ได้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วใช่ไหม”

“ครับ เพราะงั้น...น้องดินต้องทำให้ได้นะ”

ธราปล่อยให้น้ำตารินไหลอาบแก้ม ปล่อยให้มันไหลลงมาอย่างเงียบเชียบโดยไม่หลุดรอดเสียงสะอื้น “แต่ผมไม่ใช่คนเก่งเลย ให้เกลียดเจ้าใครจะทำได้”

“เกลียดได้แล้วนะ ต้องเกลียดพี่แล้วน้องดิน”

“ใครจะเกลียดคนที่เป็นเจ้าชีวิตของตัวเองลง”

“พี่ขอโทษ”

“ตัวผมที่เกลียดเจ้าไม่มีอยู่บนโลกนี้หรอก”

“น้องดิน"

“เพราะผมรัก รักมากๆ”

“พี่ขอโทษนะครับ ขอโทษที่ทำให้เรากลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริงๆ เกลียดพี่เถอะนะ เกลียดพี่แล้วไปมีความสุขได้แล้วนะครับน้องดิน อย่าทรมานเพราะพี่อีกเลย”

ถ้ารู้ว่าจะรักกันไม่ได้ แล้วมาทำให้ผมรักทำไมตั้งแต่แรก ถ้ารู้ว่าสุดท้ายจะเจอกับทางตัน ถ้ารู้จะไม่ทลายทางนั้นแล้วไปด้วยกันต่อ แล้วทำไม...แล้วทำไมถึงพาผมเดินมาไกลจนเดินกลับทางเดิมไม่ไหว

.

.

Gee : ตอนนั้นไม่ได้มีแค่มึงที่แย่ ท่านก็เหมือนคนที่ตายไปแล้ว

D. : แต่ท่านของมึงเลือกที่จะปล่อยมือกูเอง

Gee : ไม่มีทางเลือกมากนัก มึงก็รู้

D. : ตอนนั้นไม่รู้ แต่ต่อให้รู้ก็คงเจ็บอยู่ดี

Gee : ขอโทษ

D. : ไม่หรอก มึงไม่ผิด ตอนนั้นดีแล้วที่มึงอยู่กับเจ้า

D. : ดีแล้วที่คนคนนั้นเป็นมึง เพราะมันทำให้กูยิ่งแน่ใจว่าต่อให้จะเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้นแค่ไหนหรือต่อให้เจ้าจะมีคนที่ดีพอจะยืนเคียงข้าง กูก็ยังรัก

D. : กูบอกตัวเองอยู่ทุกวันว่าให้เกลียด ฝืนมองภาพบาดตาของมึงกับเจ้าเพื่อให้เจ็บจนรักต่อไม่ได้ พยายามแทบตาย พยายามรักคนอื่น มองคนที่รักกูและให้ความเป็นไปได้กับกูมากที่สุด แต่สุดท้ายมันไม่เคยได้ผล

Gee : แล้วทำไมถึงไม่กลับมาคืนดีกับท่านในวันที่ท่านขอให้มึงกลับมา ทำไมถึงเลือกจันทร์เจ้า คนที่ทำลายความสุขของมึงแทนที่ท่านเจ้าที่สร้างความสุขให้มึงได้ ตอนนั้นน่ะท่านยอมมึงทุกอย่างแล้ว กูเข้าใจว่าท่านผิด ผิดที่เลือกจะปล่อยมือมึงตั้งแต่แรก แต่ทำไมวะดิน ทำไมถึงไม่กลับมา

D. : เพราะในตอนนั้นเจ้าสร้างความเจ็บปวดมากกว่าความสุขละมั้ง ถ้าเทียบความไม่ชอบใจที่มีต่อจันทร์กับความเจ็บที่ได้รับจากเจ้าแล้ว กูอยู่กับจันทร์ได้สบายเลยจี้ เพราะอยู่กับจันทร์กูไม่ต้องแคร์ความรู้สึก ไม่ต้องมานั่งคิดหน้าคิดหลัง ไม่ต้องคอยกังวลว่าเมื่อไหร่เขาจะทำให้กูเสียใจ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะมีใครเข้ามาในความสัมพันธ์อีก เพราะจันทร์ไม่เคยมีผลต่อความรู้สึกของกู เป็นได้แค่ความรำคาญใจและความไม่ชอบใจแต่ไม่ได้มีมากกว่านั้น กูก็เลยเลือกจะอยู่ตรงนั้นต่อ

Gee : งั้นกูคงได้คำตอบแล้วว่าตอนนั้นทำไมมึงถึงเลือกไปกับจันทร์เจ้า

D. : อืม แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอก

Gee : ยังไง

D. : เพราะตอนนั้นกูมีบางเรื่องที่จะพูดกับจันทร์ ถึงได้ตัดสินใจขึ้นรถไปด้วยกัน คิดเอาไว้ว่าถ้าเคลียร์เสร็จก็คงกลับไปหาเจ้า

Gee : เรื่องอะไร?

D. : จำไม่ได้เหมือนกัน

Gee : มึงจำได้ไอ้ดิน

D. : งั้นถ้ากูเล่าให้ฟัง มึงจะยอมให้กูเปลี่ยนเหตุมั้ย

D. : ถ้ารู้ว่าความรักของกูมันไม่ใช่เรื่องผิดอย่างที่มึงหรือใครๆ เคยเข้าใจ มึงจะช่วยฆ่ากูก่อนที่เจ้าจะมาถึงได้หรือเปล่าจี้

D. : ช่วยทำให้คนที่มึงคิดว่าเป็นเหมือนนรกสำหรับท่านเจ้าของมึงหายไปที

Gee : ได้

Gee : กูรับปาก

D. : โอเค งั้นกูจะเล่าให้ฟัง เรื่องในวันนั้นที่เหมือนฝันดีและฝันร้ายสำหรับกู



..............TBC.................



ขอบคุณทุกๆ กำลังใจและความคิดเห็นเลยค่ะ เราอ่านตลอดเลยนะคะ แม้จะไม่ได้ตอบก็ตาม สนใจไปคุยกันในแท็ก #เจ้าชีวิต ได้ค่า ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-02-2019 19:21:25
เกลียดจันทร์เจ้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :fire: :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 20-02-2019 19:22:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 20-02-2019 19:59:42
ยังมีเรื่องที่แย่กว่าตอนนี้อีกเหรอคะ  :katai1: :katai1: โอ้ยเศร้าาาาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 20-02-2019 20:06:51
 :z3: :z3: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 20-02-2019 20:15:18
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 20-02-2019 21:15:15
อ่านตอนนี้ เหมือนต้องกลั้นหายใจตลอดเลย ลุ้นมาก 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 20-02-2019 21:29:52
มันจะมีอะไรที่พีคสุดกว่านี้อีกรึ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: YoK_mehok ที่ 20-02-2019 21:32:31
เลือกสงสารไม่ถูกเลย :sad4:  :serius2:  :m15:  ทำไมเขียนได้ดิบขนาดนี้  :katai1: แต่ชอบบบบบ รอตอนต่อไป และเป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 20-02-2019 21:39:45
มันสะเทือนไปทั้งตัว :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 20-02-2019 22:25:27
อ่านไปก็ลุ้นไปจะเจออะไร  พีคขึ้นเรื่อยๆ  :a5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 20-02-2019 22:34:50
โอ้ยยยยยยย สงสารน้องดินทรมานมากมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 20-02-2019 22:55:03
อ่านถึงตรงนี้
โคตรสงสารน้องดินเลย ฮือออออออ
 :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-02-2019 23:27:26
มันยังมีเรื่องที่พีคกว่านี้อีกหรอคะ :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 20-02-2019 23:30:20
น้องปวดหัวไปหมดแล้วคะคุณพี่  :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-02-2019 23:59:17
เจ็บทุกทางเจ็บทั้งหมด สงสารรรรรรร
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-02-2019 00:16:31
สุด ๆ ของความหน่วงเลยคราวนี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 21-02-2019 00:19:56
ขอไม่สงสารใครเลยตอนนี้ เพราะสงสารตัวเองมากกว่า
อ๊ากกกกกกก :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 21-02-2019 00:29:23
สนุก เหนือการคาดเดา เดาอะไรไม่ถูก รอน้องดินพี่เจ้าจี้ด้วย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-02-2019 02:06:05
พีคในพีค
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-02-2019 02:18:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 21-02-2019 02:19:26
เจ้าไม่ใช่ลูกของพ่อ และอาจไม่ใช่ลูกคุณแม่  เดาล้วนๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 21-02-2019 09:34:08
สรุปนี้ถ้าไม่ใช่พี่น้องกัน..จะกรี๊ดดดดด...
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 21-02-2019 11:29:27
เพราะแกคนเดียว นังจันทร์จ้าววววววว ทำเป็นอ่อนแอ ตอออออออออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 21-02-2019 12:23:42
พีคในพีค อ่านแล้วต้องลำดับเหตุการณ์​ดีๆ เลยเรา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 21-02-2019 14:24:09
อ่านตอนนี้ได้แต่ร้อง ห้ะ ห้ะ ห้ะ ทำไมเลือกไปทางไหนก็มัแต่ความเศร้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 21-02-2019 18:17:33
ไม่รู้ต้องชมคนเขียนยังไงถึงจะให้สมกับที่เขียนเรื่องยากๆเรื่องนี้ได้ขนาดนี้ เก่งจริงๆ ทั้งซับซ้อนในซับซ้อน ทั้งอ่านยาก บีบหัวใจ แต่ก็ไม่สามารถเลิกตามอ่านได้ ฉันต้องทนให้ไหวใช่ไหม? กาวเอ๋ กระเจี๊ยบเอ๋ ก็ขาดตลาดไปแล้ว แล้วฉันจะพึ่งอะไรรรร?  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-02-2019 20:46:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 21-02-2019 23:25:53
พีคไปอีก หักให้สุดแล้วหยุดที่ท่านนะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 21-02-2019 23:39:09
ซับซ้อนไปอี้ก!!! สุดยอดเลยครับ. พีคแล้วพีคอีก,,,
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 23-02-2019 09:54:32
เพิ่วได้อ่าน แต่อ่านมา 2วันติด มาทันตอนล่าสุดเมื่อกี๊๊ อ่านแบบไม่ให้พลาดทุกตัวอักษร ผูกเรื่องได้ดีมากๆเลยค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคงจะงง แต่อ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มเข้าใจขึ้นเรื่อยๆ อ่านจนหยุดไม่ได้เลยจริงๆ

ส่วนเรื่องห้วงเวลา แสดงว่าเป็น้วงเวลาของ2คนซ้อนทับกันอยู่ใช่มั้ยคะ ทั้งเจ้า และ ก็ดิน คนที่ตายก็คือดินกับเจ้า ส่วนคนยิงอาจจะเป็นจี้ หรือแม่ของเจ้า
แล้ว99ครั้งที่เจ้าย้อนกลับไปในช่วงเวลาเดิมๆ ดินจำเจ้าได้ทุกครั้ง แต่ต้องทำเหมือนเกลียดเพื่อที่จะได้อยู่กับเจ้าในช่วงเวลานี้ตลอดไป

นับถือมากๆค่ะ หน่วงแบบ ลุ้นมากๆ ว่าตอนจบ จะเป็น happy end ที่ทั้งคู่อาจจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในสักที่นึง หรือว่า bad end ที่มีคนใดคนหนึ่งต้องหายไป

แต่ที่เราสงสัยคือ จี้อยู่ที่ไหน จี้บอกว่าอยู่ด้วยตลอดแต่เราไม่เห็นจี้เลย หรือจริงๆแล้วทั้งสองคนอาจจะยังไม่ตาย ทั้งเจ้าและก็ดิน  อาจจะโคม่ากันทั้งคู่

โอยยยยย คิดเยอะมากไม่เคยอ่านนิยายแล้วคิดเยอะขนาดนี้    :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-02-2019 17:22:22
ตอนที่ 23 Our pain



“มานั่งทำอะไรตรงนี้ครับคุณชาย” ลุงชันคนสนิทของท่านเจ้าเอ่ยถามกับเด็กหนุ่มที่กำลังเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในยามดึกสงัด “ลุงเห็นนั่งอยู่ตั้งแต่หัวค่ำ ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ถ้าป่วยจะแย่เอานะครับ”

“ผมไม่เป็นไรหรอกครับลุงชัน” ธราตอบกลับทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากท้องฟ้าเบื้องหน้า “วันนี้ดาวสวยดีก็เลยดูเพลินไปหน่อย”

ลุงชันเผยรอยยิ้มเอ็นดูพลางนั่งลงบนพื้นหญ้าเคียงข้างเด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยตัวสูงแค่สะโพก แต่บัดนี้กลับสูงใหญ่เลยศีรษะของเขาไปแล้ว “พอมานั่งดูดาวแบบนี้แล้วก็คิดถึงตอนที่ท่านเจ้าพาคุณชายไปท้องฟ้าจำลองครั้งแรกนะครับ”

“ครับ คิดถึงตอนนั้น เจ้าน่ะใจดีมากเลย โม้ด้วยนะว่าบนท้องฟ้าน่ะมีดาวที่ชื่อว่าดาวจักรพรรดิอยู่ด้วย” ธราร่วมผสมโรงไปกับลุงชัน หวนระลึกถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อนที่เต็มไปด้วยความทรงจำแสนสุข “เอาแต่พูดว่าขอเดือนก็จะให้เดือน ขอดาวก็จะให้ดาว ท่านเจ้าของลุงบันดาลได้ทุกสิ่งเลยนะครับ ฮ่าๆ ๆ”

“จริงครับ เพราะท่านเจ้าบอกเอาไว้ว่าจะเป็นพระเจ้าที่มอบทุกอย่างให้กับคุณชาย”

“ก็ไม่ได้ผิดคำพูดเลยนะครับ” คราวนี้รอยยิ้มของธราเจือด้วยความเศร้า “เป็นพระเจ้าที่มอบทั้งโชคดีและก็โชคร้ายให้”

“ท่านไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ” ลุงชันเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ต่อให้จะชอบทำตัวเป็นพระเจ้าแต่ท่านก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซ้ำยังมีอายุมากกว่าคุณชายแค่สองปี สำหรับลุงแล้วถ้าจะทำเรื่องผิดพลาดบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

“เพราะยังเด็กสินะครับ”

“ใช่ครับ ทั้งคุณชายและท่านเจ้ายังเด็ก” รอยยิ้มของลุงชันราวกับน้ำเย็นที่รินรดหัวใจของธราให้ชุ่มชื่น ไม่บ่อยเลยที่จะได้นั่งพูดคุยกับลุงชันอย่างนี้ เพราะโดยมากแล้วลุงชันมีหน้าที่ติดตามท่านเจ้าและทำงานให้กับคุณแม่ นานๆ ครั้งเท่านั้นที่จะได้นั่งพูดคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว “เด็กน่ะมักจะทำผิดพลาดและเติบโตขึ้นจากความผิดพลาดนั้น”

“ลุงครับ” ธราเอ่ยเรียกพลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มเชิดขึ้นในขณะที่ปิดเปลือกตาลง สีหน้าผ่อนคลายอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานหลายเดือน “มีแต่คนบอกว่าความรักของผมกับเจ้าเป็นเรื่องผิด ความรักของผมมันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก ทั้งน่ารังเกียจและน่าสะอิดสะเอียนที่รักกับพี่ชายร่วมสายเลือด” เขาลืมตาขึ้นเมื่อพูดจบ ก่อนจะหันมองลุงชันที่ยังคงสงบรับฟัง “ลุงคิดว่าผิดหรือเปล่าครับ คิดว่าผมน่ารังเกียจมั้ย”

“ไม่ครับ” ลุงชันให้คำตอบ “ความรักที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องผิด ต่อให้จะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมหรือเป็นเรื่องที่สังคมภายนอกไม่ยอมรับ แต่ใครเป็นคนตัดสินถูกผิด นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ลุงสงสัย เพราะการตัดสินมันขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละคนครับคุณชาย ในเมื่อสังคมที่เราอยู่นั้นมีกฎเกณฑ์ซึ่งคนในสังคมก็ยึดถือและปฏิบัติตามกันมา หากเกิดสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปเพียงนิดก็อาจถูกมองว่าผิดโดยทันที แต่ไม่ใช่ทุกคนในสังคมจะคิดเห็นเหมือนกันทั้งหมด บางเรื่องเรามองว่าผิดแต่เขาอาจจะมองว่าถูก” รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมอบให้กับธราพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังปลอบโยนขึ้นต่อ “ความรักของคุณชายกับท่านเจ้า สำหรับลุงน่ะไม่ผิดหรอกครับ แล้วคุณชายก็ไม่น่ารังเกียจด้วย คุณชายของลุงน่ะรูปหล่อขนาดนี้”

“ถ้าผมลอยขึ้นฟ้าจนไปเจอกับดาวจักรพรรดินี่ต้องโทษลุงแล้วนะครับ” ธรายิ้มกว้างเมื่อพูด เขาพรูลมหายใจเมื่อรู้สึกสบายใจขึ้นมากจากการได้พูดคุยกับลุงชัน “แต่โชคชะตาก็แปลกดี ทำไมผมถึงกลายมาเป็นพี่น้องกับเจ้าแถมยังบังเอิญเจอพ่อแท้ๆ ของตัวเองก็ไม่รู้ ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าผมยังอยู่ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าจะได้เจอกับพ่อมั้ย”

“โชคชะตากับความบังเอิญเกิดขึ้นแค่ตอนที่ท่านเจ้าเจอกับคุณชายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแหละครับ”

“หมายความว่ายังไงเหรอครับลุง” ธราเอ่ยถาม เขาได้ยินเสียงถอนหายใจจากลุงชัน พอหันมองก็เห็นว่าคุณพ่อบ้านคนเก่งกำลังมีสีหน้าลำบากใจ “ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร”

“ลุงก็พูดอะไรมากไม่ได้” ลุงชันตอบไม่เต็มเสียงนัก น้ำเสียงของลุงแผ่วเบาจนธราแทบไม่ได้ยิน “แต่ลุงจะพูดแค่ที่พูดได้เท่านั้นครับ”

“หมายถึง...”

“ที่จริงแล้วคุณท่านตั้งใจจะไปรับคุณชายมาเลี้ยงดูตั้งแต่แรก ท่านตามหาคุณชายจนเจอเพราะแม่ของคุณชายเสียชีวิตหลังจากคลอดคุณชายที่โรงพยาบาลแต่ในตอนนั้นไม่มีญาติหรือใครที่พอจะแสดงตนมารับผิดชอบได้”

หัวใจของธราปวดหนึบเมื่อฟังเรื่องเล่าจากปากของลุงชัน ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่จุกแน่น “เขาทำยังไงกับแม่เหรอครับลุง”

“ศพไร้ญาติจะมีมูลนิธิฯ เป็นคนจัดการครับ ส่วนคุณชายก็ได้พยาบาลคนหนึ่งที่อยู่ในทีมทำคลอดรับไปดูแลในช่วงแรกก่อนจะถูกส่งให้บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าเพราะพยาบาลคนนั้นเสียชีวิตกะทันหัน เขาถูกรถชนเสียชีวิตคาที่”

ธราพูดแทบไม่ออก เขาเผลอสูดน้ำมูกและป้ายหลังมือบนแก้มเพื่อเช็ดน้ำตาออกลวกๆ “ผมอยากเจอคุณแม่กับคุณพยาบาลคนนั้นจังเลยครับลุง”

“ไว้ลุงจะตามหาให้นะครับ ที่ลุงรู้ก็เพราะตามสืบประวัติของคุณชายตามคำสั่งของท่านเจ้าเท่านั้น คุณพยาบาลอาจจะพอมีหวังแต่สำหรับคุณแม่คงจะช้าไปเพราะกระดูกคงถูกเผาในวันล้างป่าช้านานแล้ว มันผ่านมานานหลายปีอย่างนี้คงยากแล้วครับ” ลุงชันปลอบประโลม มือหนายกขึ้นลูบหลังเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร

“ผมคิดมาตลอดว่าถูกทิ้ง แม้แต่หน้าพ่อกับแม่แท้ๆ ก็ไม่เคยได้เจอ พอมารู้อย่างนี้แล้วผมรู้สึกผิดที่เคยกล่าวโทษแม่ ท่านคงไม่ได้ตั้งใจทิ้งผม” ธราพูดพลางสะอื้น ความอ้างว้างโอบล้อมรอบตัวเขาอีกครั้ง “แล้วพ่อของผมเขาอยู่ที่ไหนครับตอนนั้น”

“คุณท่านอยู่ต่างประเทศครับ ท่านบินกลับมาที่ประเทศไทยแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ก็เป็นไม่กี่ครั้งที่ได้พบกับคุณแม่ของคุณชาย ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ผมคิดว่าคุณท่านคงไม่ทราบเรื่องที่คุณแม่ของคุณชายตั้งครรภ์ เพราะทั้งคู่ไม่ได้คบหากัน ความสัมพันธ์แค่ชั่วข้ามคืนคงไม่สามารถพูดบอกอะไรได้ คุณแม่คุณชายก็คงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูคุณชายตามลำพัง แต่โชคร้ายที่เสียชีวิตไปเสียก่อนแถมยังเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวที่ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน หลังจากนั้นอีกสองสามปีคุณท่านถึงได้รู้ครับว่ามีคุณชาย” คำบอกเล่าของลุงชันนั้นไม่มีตรงไหนที่ธราไม่เข้าใจ แต่เขากลับยอมรับได้ยากเย็นว่าตัวเขานั้นเกิดจากความพลั้งเผลอของชายหญิงคู่หนึ่งที่ไม่ได้มีความรักต่อกัน อีกทั้งฝ่ายชายก็ไม่ได้คิดแยแส ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองสร้างภาระให้กับผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัวหรือหากคิดในแง่ร้ายก็อาจจะรู้ตัวแต่ไม่ได้พร้อมที่จะรับผิดชอบในทันที ทว่าไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้เลย

“งั้นตอนนั้น...คุณพ่อก็มีคุณแม่ของเจ้าอยู่แล้วใช่ไหมครับ” ธราตั้งคำถามด้วยความคลางแคลงใจ “ผมคิดจริงๆ นะว่าผู้ชายน่ะถ้าตั้งใจทำแล้วคงรู้ตัว นอกจากจะเมาจนไม่แน่ใจก็อีกเรื่อง ข้ออ้างที่บอกว่าไม่รู้สำหรับผมมันฟังไม่ขึ้นเท่าไรเลยครับลุง ทำให้ผมคิดว่าในตอนนั้นคุณพ่ออาจจะไม่ได้พร้อมที่จะยอมรับว่ามีผมก็ได้”

“เรื่องนี้...” ลุงชันอึกอักอยู่เพียงครู่ ในขณะที่ธราเฝ้ารอ ซึ่งเป็นเวลานานกว่าที่ลุงชันจะยอมพูดขึ้นมา “ไม่ใช่หรอกครับ ความสัมพันธ์ของนายหญิงกับคุณท่านไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าสามีภรรยาเลยแม้แต่น้อย”

“ลุงครับ...” ธราร้องเรียก แววตาเต็มไปด้วยคำถาม “ผมไม่เข้าใจ”

“คุณชายเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณท่านไม่ผิดแน่ครับเรื่องนี้และคุณแม่ของคุณชายก็ไม่ได้เข้าไปเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของใคร ในตอนนั้นคุณพ่อของคุณชายท่านยังโสด แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่มาติดพันแต่ก็ไม่ได้ตกลงปลงใจจะแต่งงานกับใคร” ตอนนี้สีหน้าของลุงชันราวกับกำลังเคี้ยวบอระเพ็ด ลุงหยุดพูดไปอีกครั้งแล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอด “มันเป็นเรื่องที่ลุงไม่ควรบอกกับคุณชายเพราะนายหญิงสั่งห้าม แต่ลุงคิดว่าคุณชายก็ควรจะรู้ไว้ว่าท่านเจ้าน่ะไม่ใช่พี่ชายร่วมสายเลือดกับคุณชาย ท่านเจ้ากับคุณท่านมีความสัมพันธ์เพียงแค่คนที่ใช้นามสกุลร่วมกันเท่านั้น”

“ครับ?” ธราร้องขึ้นเสียงหลง เขามีสีหน้างงงวยพลางมองลุงชันด้วยความไม่่แน่ใจว่าวันนี้ลุงชันไปดื่มมาหรือไม่ “ที่ลุงพูดเป็นเรื่องจริงเหรอครับ”

“เรื่องจริงครับ” ลุงชันเผยรอยยิ้มตามเด็กหนุ่มที่กำลังยิ้มกว้างแม้จะมีสีหน้างงงวย “แต่นายหญิงและคุณท่านคงอยากให้คุณชายเข้าใจไปแบบนั้น”

“อ่า...ผมคิดว่าผมเข้าใจนะ” สีหน้าของธราแฝงความโล่งใจ ในยามที่พูดว่าเข้าใจก็คือเข้าใจอย่างแท้จริงถึงเหตุผลของผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน “คุณแม่ท่านคงไม่อยากให้เจ้ามีความรักแบบนี้...ผมหมายถึงในแบบพวกผม ท่านบอกว่ามันวิปริต”

“ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างคงทำให้นายหญิงพูดกับคุณชายแบบนั้น” ลุงชันเอ่ยเสียงขรึม “เพราะท่านเจ้าเป็นคนสำคัญ ท่านใช้ชีวิตตามแต่ใจไปมากกว่านี้ไม่ได้ นายหญิงตามใจท่านเจ้าได้ทุกเรื่องแต่ยกเว้นเรื่องนี้ครับ เพราะไม่ว่าจะยังไงในสักวันหนึ่งท่านเจ้าก็ต้องกลับไปอยู่ในที่ที่คู่ควรกับท่าน”

“หมายความว่าต่อให้จะใช่หรือไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด ผมกับเจ้าก็ไม่มีทางรักกันได้ใช่มั้ยครับ”

ลุงชันไม่ให้คำตอบ แต่ธรารู้ว่าความเงียบนั่นคือคำตอบแล้ว เขาเผลอถอนหายใจ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คิดอย่างไร้สาระว่าอาจจะมีดาวจักรพรรดิอยู่บนนั้นจริงๆ “พ่อของเจ้าเป็นใครเหรอครับลุง เป็นคนที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยใช่ไหม”

“ครับ ยิ่งใหญ่และเป็นความลับ แม้แต่ท่านเจ้าก็ไม่เคยเจอหรอกครับ ท่านเจ้าคิดว่าคุณท่านเป็นพ่อแท้ๆ เสียด้วยซ้ำ”

ธราพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่เซ้าซี้ถึงความลับนั้นต่อ แต่ชวนลุงชันคุยในเรื่องที่จับต้องได้แทน “แต่เจ้าไม่สนิทกับคุณพ่อเลยครับลุงชัน”

“ไม่แปลกหรอกครับ เพราะคุณท่านก็ไม่ได้เข้าหาท่านเจ้า”

“ลุงว่าถ้าเป็นอย่างนั้นเจ้าจะน้อยใจคุณพ่อมั้ย เจ้าอาจจะคิดว่าคุณพ่อไม่รัก”

ลุงชันหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เสียงหัวเราะเบาๆ ของลุงทำให้ธราคลี่ยิ้มตาม “ลุงกำลังคิดภาพท่านเจ้าน้อยใจอยู่เลยครับ”

“เนอะ เจ้าน่ะเป็นคนแปลก ไม่สนใจใครเลย” ธราได้ทีก็เผาท่านเจ้าให้ลุงชันฟัง “บางทีผมก็คิดนะว่าเจ้าอาจจะตายด้านหรืออาจจะแค่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง ในใจอาจจะกำลังคิดมากอยู่ก็ได้ แต่ผมไม่เคยเดาถูกเลย บางเรื่องที่คิดว่าเจ้าคงคิดมากแต่เจ้ากลับไม่คิด แต่บางเรื่องที่มันนิดๆ หน่อยๆ เจ้ากลับคิดไปไกล”

“แต่เรื่องนิดๆ หน่อยๆ นั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของคุณชายนะครับ”

“ก็...ใช่ครับ” ธรายิ้มเขิน แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าในสถานการณ์ตอนนี้ระหว่างเขากับท่านเจ้าเป็นอย่างไร รอยยิ้มเศร้าก็เข้าแทนที “แต่ตอนนี้คงไม่แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วครับ”

“ถ้าคุณชายว่าดี ลุงก็ไม่คัดค้านหรอกครับ” ลุงชันคล้อยตามง่ายๆ พลางมองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่เคียงข้าง “แต่ลุงคิดว่ามีอีกเรื่องที่คุณชายต้องรู้”

“เรื่องอะไรเหรอครับ”

“ในตอนนั้นคนที่คุณท่านหลับนอนด้วยน่ะไม่ได้มีแค่คุณแม่ของคุณชายนะครับ” ลุงชันพูดด้วยน้ำเสียงระมัดระวังแล้วมอบสบตากับธราที่หันมอง “คุณจันทร์แรมก็เป็นคู่ขาของคุณท่าน เธอไม่ได้คบกับใครอื่นในช่วงเวลานั้นเลยแต่กลับตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นหนูจันทร์ก็คงไม่ใช่ลูกของผู้ชายคนอื่นหรอกครับ แต่คงจะเป็นพี่น้องกับคุณชาย”

ธราหลุดหัวเราะออกมา เขาไม่รู้ว่าต้องตกใจกับเรื่องตลกร้ายที่ได้รับรู้อีกกี่เรื่อง “นี่คุณพ่อเจ้าชู้แค่ไหนกันนะครับ ไข่ทิ้งไปทั่วขนาดนี้”

“นั่นสิครับ แต่ท่านน่ะรักเดียวใจเดียวนะครับ เหมือนกับคุณชายไม่มีผิด”

ธราโคลงศีรษะพลางเผยรอยยิ้ม “คนที่คุณพ่อรักคงจะเป็นคุณแม่ของเจ้าสินะครับ”

“ครับ เป็นความรักที่ไม่เคยมีเงื่อนไขและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน”

“แล้วคุณแม่ล่ะครับ รักคุณพ่อบ้างมั้ย”

“คุณท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนายหญิงครับ”

“ผมคิดว่าผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วล่ะครับลุง ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยให้ผมสบายใจขึ้นมาบ้าง”

ลุงชันค้อมศีรษะเล็กน้อยให้กับเด็กหนุ่มที่ยกมือขึ้นไหว้ด้วยใบหน้าที่สดใสมากขึ้น “คุณชายก็เหมือนลูกเหมือนหลานของลุง ลุงรักเหมือนที่รักน้องจี้ น้องวิน น้องบิน มีอะไรที่ลุงพอทำให้ได้ลุงก็อยากทำ”

“ผมก็รักลุงครับ” ธรากอดลุงชัน สัมผัสไออุ่นของลุงชันที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่แล้วผละออกห่าง “ตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจเจ้าแล้วว่าที่บอกว่าคนที่เป็นความสบายใจน่ะเป็นแบบไหน เจ้าน่ะมีลุงกับจี้ที่เป็นความสบายใจ แล้วตอนนี้ลุงก็เป็นความสบายใจของผม”

“ดีใจที่ได้ยินอย่างนี้นะครับ แต่ลุงขอให้คุณชายรับปากได้มั้ยครับ”

“เรื่องอะไรครับลุง”

“เรื่องท่านเจ้า” ลุงชันเผยรอยยิ้มเศร้าเมื่อพูดต่อ “ให้ความเป็นไปไม่ได้มันดำเนินต่อไปเถอะนะครับ เพราะตราบใดที่ยังดำเนินต่อไปอย่างนี้ คุณชายก็จะปลอดภัย แต่ถ้าวันใดที่ฝืนต่อไม่ไหวก็อย่าแบกรับกันไว้เองนะครับ ให้ลุงที่เป็นความสบายใจคนนี้ช่วยแบกอีกคน”

“งั้นถ้าถึงวันนั้นก็รบกวนลุงชันด้วยนะครับ แต่ผมว่าคงไม่มีวันนั้นหรอก เพราะผมกับเจ้าคงเดินกันคนละทางแล้ว” ธราบอกแล้วลุกขึ้นยืน “ผมไปนอนก่อนนะครับลุงชัน ขอบคุณอีกครั้งครับ”

“ยินดีครับคุณชาย”

ธราแยกตัวกับลุงชัน ปล่อยทิ้งความสบายใจไว้ที่แห่งนั้นแล้วแบกรับความทุกข์ใจที่หนักอึ้งต่อ เขาตระหนักดีว่าตอนนี้เป็นอย่างไร เขายอมรับความเป็นไปไม่ได้และให้มันดำเนินต่ออย่างที่ควรจะเป็น เพราะเขาจะไม่ฝืนอีกแล้ว ในเมื่อคนที่จับมือเดินด้วยกันมาปล่อยเขาทิ้งไว้เมื่อเจอกับทางตันแล้วหันไปเดินบนเส้นทางใหม่กับคนอื่น ทั้งที่เขายังยืนอยู่ตรงหน้ากำแพงหนาที่ปิดกั้นเส้นทาง ไปต่อไม่ได้ จะหันกลับก็มาไกลเกินกว่าจะกลับไหว แล้วจะให้ฝืนต่อไปทำไม

“ดินไปไหนมา จันทร์รออยู่นานแล้ว” จันทร์เจ้าปรี่เข้ามาหาเขาแทบจะทันทีที่ขาของเขาก้าวพ้นธรณีประตู “กำลังคิดว่าจะออกไปตามหา กลัวว่าไอ้ลูกคนใช้สองคนนั่นจะพาดินไปนอกลู่นอกทาง”

“ผมคิดว่าการเรียกคนอื่นแบบจิกกัดแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนะจันทร์” ธราขมวดคิ้วมองจันทร์เจ้าด้วยความไม่ชอบใจ “วินกับบินเป็นเพื่อนของผม เป็นลูกของลุงชัน ซึ่งลุงชันไม่ใช่คนใช้ เขาเป็นคนสนิทของเจ้า”

“คนสนิทหรือคนใช้ก็ไม่ต่าง ยังไงก็ขี้ข้า” จันทร์เจ้าเถียงกลับ ปากเล็กนั้นยื่นยาวอย่างไม่น่ามอง “แล้วนี่ดินกินข้าวหรือยัง พวกแม่บ้านน่ะไม่ยอมตั้งโต๊ะให้จันทร์เพราะคุณชายของบ้านบอกว่ากินมาจากข้างนอกแล้ว”

“ครับ ผมกินมาจากข้างนอก กินก๋วยเตี๋ยวกับไอ้วินมา”

“อ้อ” จันทร์เจ้าลากเสียง กลอกตาไปมา “ก็ยังดีที่ไม่ได้โกหก จันทร์ก็คิดว่าเป็นเพราะพี่เจ้าสั่งไว้เสียอีก”

“เจ้ามาเกี่ยวอะไร” ธราข่มโทสะ เขาดึงแขนออกจากการเกาะกุมของจันทร์เจ้าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟารับแขก “ต่างคนต่างอยู่กันได้แล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับจันทร์ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้า ผมว่าจันทร์ควรมองตัวเองนะว่าทำอะไรไว้บ้าง คนในบ้านนี้ถึงไม่ชอบ”

“แล้วเป็นคนใช้น่ะมีสิทธิ์ขัดคำสั่งเจ้านายเหรอ” จันทร์เจ้าแหวกลับ เดินกระแทกเท้ามานั่งข้างๆ ธรา

“จันทร์ไม่ใช่เจ้านายของที่นี่ ไม่ว่าจันทร์หรือผมก็เป็นแค่ผู้อาศัย” ธราเน้นย้ำเพื่อเตือนสถานะของคนที่มักจะลืมตัว “อีกอย่างคนที่เขาทำงานเขาทำเพื่อแลกเงิน ทุกอย่างมีการแลกเปลี่ยน เขาลงแรงเพราะเราให้เงินและให้ใจ อีกอย่างที่นี่น่ะเจ้าเป็นเจ้าของ ถ้าอยากจะจิกหัวใช้คนของเจ้าก็ไปขออนุญาตเจ้า อย่าไปทำตัวต่ำใส่พวกเขา พวกเขาไม่ได้ขอเงินจันทร์ใช้ พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เกรงใจ”

“ดิน!” ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยโทสะ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความริษยา “จันทร์จะฟ้องคุณพ่อ!”

“ก็เอาสิครับ จะทำอะไรก็แล้วแต่เลย ผมคิดว่าไม่ต้องเกรงใจกันแล้วล่ะในเมื่อจันทร์ก็ไม่เคยเกรงใจผม”

“แค่เพราะไอ้ดอกกุหลาบห่วยๆ ดอกนั้น ดินถึงเป็นแบบนี้! จันทร์น่าจะเอาเท้าขยี้มันให้แหลกจนไม่เหลือซาก”

ธราคงประเมินตัวเองสูงเกินไป เขาคิดว่าเขาคงอดทนกับจันทร์เจ้าได้มากกว่านี้ แต่เปล่าเลย ความอดทนของเขาติดลบเสียยิ่งกว่าอุณหภูมิอากาศของขั้วโลกเหนือ ความร้อนระอุในอกก็แทบละลายภูเขาน้ำแข็งให้ละลายภายในพริบตา

“ถ้าจะบอกว่าจันทร์เป็นลูกเลี้ยงของคุณจันทร์แรมผมก็ไม่แปลกใจเลยนะ เพราะสันดานต่ำๆ แบบนี้คนใจดีอย่างคุณจันทร์แรมคงไม่ได้สอน!” ธราบอกอย่างเหยียดหยันก่อนจะจ้องมองจันทร์เจ้าที่เงื้อมือขึ้นสูง “เอาสิ จะตบผมเหรอ จันทร์ตบมาผมต่อยแน่ ไม่ใช่ผู้หญิงผมก็ไม่ต้องเกรงใจ แล้วอย่าคิดว่าผมจะต่อยทีเดียวนะ ผมจะซัดให้แหลกเหมือนดอกกุหลาบของผมเลย”

จันทร์เจ้าไม่กล้า แค่มองกล้ามแน่นๆ ของธราก็ถอยหนีแล้ว “ขอโทษ...จันทร์ก็แค่หงุดหงิดมากไปหน่อย”

“ทีหลังก็อย่าเอามาลงกับผม ผมไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร”

“ครับ...จันทร์ขอโทษนะดิน จันทร์จะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่พาลไปทั่ว ดีกันนะดิน อย่าใจร้ายกับจันทร์เลย ดีกันเหมือนเดิมนะ”

ธราไม่ให้คำตอบ เขาปล่อยให้นิ้วก้อยของจันทร์เจ้าที่ยื่นมาค้างเติ่งไว้อย่างนั้นแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขก ก่อนจะก้าวเท้าพ้นออกจากห้องก็หันไปบอกกับจันทร์เจ้าว่า “ไม่ต้องตามมานะครับ ผมจะพักผ่อน มีอะไรไว้คุยกันพรุ่งนี้”

“ก็ได้!”

ธราส่ายหน้าระอากับเสียงหวานที่ตวาดกลับมา เขากำลังคิดว่าต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกับการที่จะต้องมีจันทร์เจ้าต่อไปในฐานะคนในครอบครัวที่มีพ่อคนเดียวกัน เผลอภาวนาไปแล้วว่าขอให้ไม่เป็นความจริงเพราะเขาไม่อยากจะนับญาติด้วยเท่าไรนัก จากที่คิดว่าคนคนนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด พอเวลาผ่านไปกลับรู้ซึ้งถึงแก่นว่าเลวร้ายมากกว่าที่คิดเลยทีเดียว

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 24-02-2019 17:22:56
“ไม่สบายเหรอ” ธราอดถามไม่ได้ คนที่ไม่ยอมกลับบ้านมานานนับเดือนนั้นกลับมานอนอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยสภาพที่ดูไม่จืด ใบหน้าคมคายซีดเซียว ขอบตาดำคล้ำ ริมฝีปากแห้งแตกจนเห็นคราบเลือดที่ซึมออกมา

ไม่มีเสียงตอบกลับ ท่านเจ้ายังคงนอนหลับตาอยู่อย่างนั้นแม้สีหน้าจะดูทุรนทุรายและมีเหงื่อซึมออกตามไรผม ธราจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เขาลดตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับกับคนที่นอนราบแล้วใช้หลังมือทาบลงบนหน้าผากเนียนใต้ปอยผมหน้าม้าที่ยาวจนตกลู่ลงบดบังดวงตา ความร้อนที่สัมผัสได้นั้นทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวล

“เจ้า” เขาตัดสินใจเรียกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สะกิดร่างผอมเบาๆ ไปด้วย “ตื่นก่อน”

“หืม” ท่านเจ้าขานรับในลำคอพลางค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง ริมฝีปากยกยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่ปลุกคือคนที่เพิ่งฝันถึง “กลับมานานหรือยังครับ”

“เพิ่งถึงบ้านเมื่อกี้” ธราตอบแล้วรีบขยับตัวออกห่าง เขาตกใจอยู่เหมือนกันที่เข้าใกล้อีกฝ่ายในระยะประชิดขนาดนี้ ใบหน้าที่อยู่ในห้วงคิดก็ไม่ได้เห็นชัดๆ มานานนับเดือนแล้ว “ไม่สบายแล้วกินข้าวกินยาหรือยัง”

แววตาคมของท่านเจ้ามองธรา เปิดเผยความปวดร้าวให้เห็นเพียงครู่แล้วกลบเกลื่อนมิดชิดด้วยความเรียบเฉย “กินแล้วครับ ว่าแต่น้องดินสอบเป็นไงบ้าง”

“ทำได้” ธราตอบสั้น อยากรีบจบการสนทนาให้เร็วที่สุดเพราะเขารู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้เก่งพอที่จะทำใจแข็งต่อไปได้ การฝืนทนไม่เข้าใกล้ไม่สัมผัสก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัด ในเมื่อเกือบทั้งชีวิตของเขาไม่เคยมีความคิดที่จะเมินเฉยคนที่เป็นดั่งเจ้าชีวิตเลยสักครั้ง “งั้นผมขอตัวขึ้นห้องก่อน...”

“เดี๋ยวครับ” เสียงแหบต่ำดังขัดขึ้น ในขณะที่เจ้าของเสียงยื่นมือมาจับที่แขนของธราไว้ คนถูกรั้งถึงกับขมวดคิ้วใส่ “ขอคุยด้วยหน่อย...ไม่นาน”

“จะคุยอะไรครับ” ธราถามพลางดึงแขนออกจากการเกาะกุม ทอดสายตามองเจ้าของฝ่ามือร้อนแล้วถอนหายใจออกมา “พูดมาเลย ผมฟังอยู่”

ธรารออยู่นานกว่าที่คำพูดจะเล็ดลอดออกจากริมฝีปากบาง “แค่อยากรู้” แววตาคมที่สบมองกับเขาก็เผยความอาวรณ์ให้เห็น “แค่อยากรู้ว่าสบายดีมั้ย”

ธราเกือบหลุดหัวเราะทั้งที่ไม่ได้รู้สึกตลกกับคำถามที่ได้ยิน แต่เขาอยากหัวเราะจริงๆ หัวเราะเพื่อเป็นการเย้ยหยันตัวเองที่ต้องมาตอบคำถามสิ้นคิดแบบนี้ “ก็ดีครับ ไม่มีพี่...ก็ไม่แย่นักหรอก”

ใช่...ไม่แย่ ผ่านมาแล้วเกือบเดือนธราก็ยังคงหายใจได้ ยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ แม้จะมีบางวันที่รู้สึกว่าผ่านพ้นไปได้ยากเย็นแต่เขาก็ผ่านมาได้ อีกฝ่ายเถอะเป็นอย่างไร เขาอยากจะรู้นัก ชีวิตที่ไม่มีเขาดีหรือเปล่า ทางที่เลือกเดินไปนั้นดีกว่าทางที่มีเขาบ้างมั้ย

“อืม ดีแล้ว” ท่านเจ้าพูด เผยรอยยิ้มสำทับ แต่แววตานั้นไม่ได้คล้อยตาม

“ครับ ดีมากๆ” ทำไมถึงเชื่อคำโกหก ธราก็ไม่อยากถาม ท่านเจ้าของเขาไม่ใช่คนโง่ แต่กลับตั้งคำถามโง่ๆ ออกมาและยอมเชื่อคำตอบโง่ๆ ของเขา

คนที่ถูกทิ้ง มันจะไปสบายดีได้ยังไงวะ!

“มีอะไรอีกมั้ย” ธราเอ่ยถามอย่างเย็นชา เขาพบว่าตนเองนั้นไม่สามารถฝืนยืนตรงหน้าคนที่ทำให้เจ็บช้ำโดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกไปได้ หากยังอยู่ตรงนี้ต่อไปคงสารภาพว่าที่บอกออกไปนั้นมันเป็นคำโกหก เขาไม่ได้สบายดี ไม่แม้แต่จะเฉียดใกล้คำนั้น ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายของท่านเจ้า ความเข้มแข็งก็เลือนหายไปจนแทบไม่เหลือร่องรอย

“มี” ท่านเจ้าตอบกลับ ขยับตัวเข้าประชิดธราที่นิ่งอึ้งไปกับร่างผอมที่กำลังบดเบียดเข้าหา รับรู้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากผิวกายคนป่วย ลมหายใจร้อนเป่ารดยามที่ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าใกล้ ก่อนเสียงกระซิบแผ่วจะดังขึ้นให้ได้ยิน “เจ้าคิดถึง”

ธราสบถในลำคอแทบไม่เป็นคำ เขายืนตัวแข็ง ไม่กล้าแม้แต่จะยกมือโอบรัดกายผอมหรือผลักออกห่าง เขายอมรับอย่างหมดท่าว่าพ่ายแพ้ต่อความคิดถึงที่ล้นอยู่ภายในอกแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะตอบรับ ความเจ็บยังคงอยู่ แม้จะดีใจที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังคงคิดถึงกัน แต่ก็เท่านั้น...ให้ความเป็นไปไม่ได้ดำเนินต่อไปก็คงดีกับทุกคนแล้ว

“ปล่อยเถอะครับ” สุ้มเสียงของธราเต็มไปด้วยความลังเล เขาอาวรณ์แต่กลับเลือกที่จะพูดตรงกันข้ามกับความต้องการ “เราทำอย่างนี้ไม่ได้แล้ว”

“ไม่ปล่อย” แววตาของท่านเจ้าดื้อรั้นเมื่อสบมองกับธรา ไม่บ่อยเลยที่จะได้เห็นแววตาอย่างนี้จากคนที่ตามใจเขามาโดยตลอด “เจ้าไม่ปล่อย ไม่อยากปล่อย”

“ป่วยแล้วงอแงเหรอ” ไม่รู้หรอก ธราก็แค่คาดเดาเพราะไม่เคยเห็นท่านเจ้าป่วยสักที ท่านเจ้าน่ะแข็งแรง เป็นฝ่ายที่คอยดูแล เฝ้าไข้มาโดยตลอด พอเห็นพฤติกรรมแปลกๆ แล้วเขาจึงได้แต่คิดเอนเอียงไปทางว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย “ไปอ้อนแฟนของพี่ไป แต่ต้องยอมโดนจี้บ่นหน่อย เพราะพี่ไม่ดูแลตัวเองจนป่วยแบบนี้”

“อยากอ้อนน้องดิน” ท่านเจ้าดื้อดึง ซุกใบหน้าลงกับไหล่กว้างของธรา คลอเคลียเหมือนลูกแมวจนคนถูกอ้อนถึงกับใจอ่อนยอมให้ซุก “แล้วจี้ก็ไม่ใช่แฟนของเจ้า เจ้ามีแค่น้องดิน เพราะเจ้ารัก...”

“ไหนบอกไม่ให้พูด” ธราถามเสียงเข้ม เขารีบตัดบทไม่ให้ท่านเจ้าพูดจนจบประโยค เพราะแน่ใจว่าหากได้ฟังแล้วเขาคง... “ไหนบอกให้เกลียด ไหนบอกให้กลับไปเป็นพี่น้องกัน แล้วตัวเองกลับมาพูดแบบนี้ได้ยังไง”

“อย่าดุได้มั้ย” ท่านเจ้าอ้อนวอน ช้อนตาขึ้นมองคนที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นคล้ายกำลังหงุดหงิด “เจ้ารู้ว่าเจ้าทำผิด ตอนนี้ดินคงเกลียดเจ้าแล้ว แต่เจ้าอยากขอโอกาส”

“พอ…” ธราไม่อยากฟัง แต่ท่านเจ้าของเขาไม่ให้ความร่วมมือ

“กลับมาเป็นคนรักของเจ้าอีกครั้งได้มั้ยดิน” กลีบปากบางเปล่งเสียง แววตาอ้อนวอนอย่างยอมจำนน “เจ้าทนไม่ไหวแล้ว”

“พอเถอะครับพี่” ธราใจแข็งตัดบท เขาเลือกที่จะไม่สบตากับท่านเจ้า “เราอย่าฝืนกันอีกเลย ผมเป็นน้องชายของพี่ ตำแหน่งนี้มันถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะถ้าเรายังฝืนกันต่อ ผมอาจจะเกลียดพี่เข้าสักวัน”

ท่านเจ้านิ่งเงียบ ไม่โต้กลับคำพูดของธราแต่กลับกอดร่างหนาของเขาไว้แน่น คล้ายกับประกาศก้องว่าจะไม่มีวันปล่อยเขาไปแม้จะไม่ได้พูดคำใดออกมาแม้แต่คำเดียว

“ว้าว...” จู่ๆ เสียงที่ธราไม่อยากได้ยินที่สุดในเวลานี้ก็ดังขึ้น เขาหันมองแล้วก็พบว่าจันทร์เจ้ายืนอยู่ที่กรอบประตูห้อง โทรศัพท์มือถือที่ถูกยกขึ้นมาคล้ายกำลังถ่ายรูปก็ลดลงราวกับจงใจให้เห็นว่าตนเองกำลังทำอะไร “ได้ภาพดีๆ ให้คุณพ่อแล้ว”

ธรากับท่านเจ้าผละออกจากกัน เด็กหนุ่มทั้งสองมองไปที่จันทร์เจ้า คนหนึ่งทำหน้าเอือมระอา ส่วนอีกคนมีแววตาอันตราย

“ยังไงล่ะทีนี้พี่ชาย จะจับน้องชายตัวเองกินอีกแล้วเหรอครับ” เสียงหัวเราะเสแสร้งของจันทร์เจ้าดังขึ้นเมื่อพูดจบ ร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้ธราแล้วสอดมือเข้าที่แขนแกร่ง “แต่ไม่ได้หรอกน้า ผมไม่ให้ดินกับพี่หรอกพี่เจ้า ดินเป็นของผมแล้ว”

ท่านเจ้ายกยิ้ม แววตาเย็นชาจ้องมองใบหน้าจันทร์เจ้าแล้วเคลื่อนลงมองมือบางที่ถือสิทธิ์ “ถ้าไม่ตายก็คงไม่หยุดสาระแนจริงๆ นะคนอย่างมึง”

“อู้...น่ากลัวจัง ขู่ฆ่ากันเลยเหรอ” ไม่มีความกลัวในสีหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็เก่งแค่คำพูด ไม่เคยทำอะไรตนเองได้เลยสักที “แต่คุณพ่อจะว่ายังไงนะถ้าพี่ทำร้ายน้องๆ หรือไม่ว่ายังไงคุณพ่อก็ไม่สนใจคนอย่างพี่อยู่แล้ว ดูสิ คุณพ่อน่ะรักลูกเลี้ยงอย่างผมมากกว่าพี่อีกนะ”

“หยุดพูดเถอะจันทร์” ธราเตือน เขาไม่อยากให้จันทร์เจ้าพ่นความไม่รู้ออกมาไปมากกว่านี้ “แล้วมาที่นี่มีอะไร”

“จันทร์จะมาหาดินไม่ได้หรือไง จะให้อุดอู้อยู่ที่ห้องคนใช้เหรอ เหอะ จันทร์บอกเลยนะว่าถ้าคุณพ่อกับคุณแม่กลับมา ต้องมีใครบางคนโดนลงโทษแน่ที่ทำกับจันทร์อย่างนี้”

“หมายถึงกู?” ท่านเจ้าเลิกคิ้วถาม รอยยิ้มยังไม่จางจากสีหน้า “ที่จริงจะลงโทษก็ไม่ถูกนะ น่าจะให้รางวัลกูด้วยซ้ำที่ส่งคนอย่างมึงไปอยู่ในที่ที่ถูกที่ควร”

“พี่เจ้า!”

“อย่าขึ้นเสียงใส่เจ้า” ธราบอกเสียงเข้ม ไม่เคยชอบใจที่มีใครมาทำกิริยาแบบนี้ใส่คนที่เขารัก เขาอดทนกับจันทร์เจ้าได้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำตัวแย่แค่ไหน แต่ต้องไม่ใช่กับท่านเจ้าของเขา “ถ้าจะเป็นคนในครอบครัวก็หัดมีความเคารพต่อพี่ชายตัวเองบ้าง”

“พี่ชายที่เป็นเมียดินน่ะเหรอ” จันทร์เจ้าโต้กลับ

ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึง ธราก้าวยาวๆ เพียงสองก้าวก็เข้าประชิดคนตัวเล็ก “อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะจันทร์”

“แหม รับความจริงไม่ได้เหรอครับ หรือต้องให้จันทร์เปิดคลิปย้ำเตือน...”

โครม!

จันทร์เจ้าสะดุ้งเฮือกเมื่อโซฟาด้านหลังถูกธราถีบจนเคลื่อนไปชนกับโต๊ะวางของตกแต่งจำพวกคริสตัลที่บัดนี้ของพวกนั้นตกลงบนพื้นส่งเสียงดังลั่นห้อง เศษซากเกลื่อนกระจายอยู่บนพื้น

“ถ้ายังไม่หยุดพูด คราวหน้าที่โดนถีบจะไม่ใช่โซฟา” สุ้มเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นตาม ธรามองตาขวางไปที่ใบหน้าหวานซีดเผือดของจันทร์เจ้า ร่างเล็กสั่นเล็กน้อยไปด้วยความหวั่นกลัว เขามองจนเมื่อเห็นว่าจันทร์เจ้าสงบลงแล้วจึงหันไปหาอีกคน “พี่ไปพักผ่อนเถอะครับ ไม่สบายก็พักเยอะๆ”

“แต่เรายังคุยกันไม่จบ” ท่านเจ้าแย้ง มองธราที่ยืนอยู่ข้างจันทร์เจ้าด้วยความไม่เข้าใจ

“จบแล้วครับ” ธราพูดเสียงเรียบ “หมายถึงเรื่องของเราน่ะ...จบแล้ว”

“เดี๋ยว…” พูดได้เท่านั้นก็ชะงักค้างเมื่อธราเลือกที่จะเดินไปหาจันทร์เจ้าแล้วดึงมือเล็กนั้นมากุมไว้

“หลังจากนี้พี่ไม่ต้องห่วง จะไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก” เขาเผยรอยยิ้ม แทบกัดฟันกลั้นใจเมื่อต้องพูดประโยคถัดไปออกมา “ผมจะดูแลคนของผม ไม่ให้ไปยุ่งกับพี่ ในเมื่อเราเลี่ยงที่จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไม่ได้ ก็ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิตดีกว่าครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของธรา จันทร์เจ้าก็เผยรอยยิ้มกว้างทันที สีหน้าท่านเจ้าที่เห็นก็ทำให้นึกสะใจจนไม่อาจปิดกั้นความสุขใจไว้ได้ “แหม...จันทร์ก็เผลอหงุดหงิดไปซะได้ พอเห็นพี่กับดินกอดกันกลมแล้วก็นึกว่าทั้งสองคนจะกลับไปคืนดี” จันทร์เจ้ายิ้มหวาน สอดแขนเข้าคล้องกับแขนของธราเอาไว้อีกครั้ง “ขอโทษนะครับพี่เจ้า ที่จันทร์เข้าใจผิดแล้วเผลอทำตัวไม่น่ารัก เพราะจันทร์เป็นคนขี้หึง จันทร์ไม่อยากให้แฟนของจันทร์ยังอะไรๆ กับของเก่าๆ”

“ผมบอกว่าไงจันทร์” ธราเสียงเข้มจัด “บอกให้หุบปากไม่ใช่เหรอ”

“อุ๊บ! ขอโทษครับ จันทร์ก็แค่อยากพูดขอโทษพี่เจ้าเท่านั้นเอง”

ในตอนนี้ไม่ว่าคำพูดเสแสร้งของจันทร์เจ้าจะน่าหงุดหงิดใจมากแค่ไหน ท่านเจ้าก็ไม่ได้สนใจเพราะเอาแต่มองธรา แววตาเจ็บปวดเต็มไปด้วยคำถามและความไม่เข้าใจ

“พี่ไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมกับจันทร์จะออกไปกินข้าวข้างนอก ไม่อยู่รบกวน” ธราเผยรอยยิ้มเศร้าเมื่อสบตามองกับคนที่ยืนนิ่งงัน ในขณะที่จันทร์เจ้าแทบร้องออกมาเป็นเพลงด้วยความดีใจ ปากเอาแต่พร่ำพูดว่าดินเนอร์ๆ “กินข้าวกินยานะครับพี่ แล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก ผมยังรู้สึกกับพี่เหมือนเดิม”

แต่แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เท่านั้นเอง

ธราเลือกที่จะเดินออกมา เขาไม่ได้หันหลังกลับไปมอง เพราะรู้ว่าหากหันไปแล้วคงเข้มแข็งอีกได้ไม่นาน

“เราจะไปดินเนอร์ที่ไหนกันดี” จันทร์เจ้าถามด้วยความกระตือรือร้น “เอารถไปเองมั้ย จันทร์ไม่อยากไปแท็กซี่แล้วก็ไม่อยากให้ลุงคนนั้นขับรถให้ด้วย คนสนิทของพี่เจ้าน่ะไม่ชอบจันทร์”

ธราระบายลมหายใจออกมา ความรำคาญกัดกินใจจนยากจะขจัดออก แน่ใจว่าถ้าจันทร์เจ้าไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันกับเขา เขาคงซัดเปรี้ยงให้กรามหักไปตั้งนานแล้ว ที่ยังฝืนทนอยู่ได้เพราะคิดว่าอย่างไรก็คนในครอบครัว คุณจันทร์แรมก็ดีกับเขา แค่ฝืนใจกับลูกชายที่มีนิสัยไม่น่าคบสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร

“แล้วจะไปยังไง ผมขับรถไม่เป็น” ธราถามกลับ เบื่อหน่ายกับความเรื่องมากของจันทร์เจ้า เพราะเขาไม่เคยต้องตามใจใคร เขาเป็นฝ่ายที่ถูกตามใจ ถูกดูแล แม้แต่รถก็ขับไม่เป็น เขามักจะมีคนขับรถให้เสมอ หากลุงชันไม่ว่างก็จะเป็นเพื่อนในกลุ่มที่คอยขับให้ ตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถของท่านเจ้านั้นเขาก็ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ที่ท่านเจ้าขับรถเป็น

ชีวิตที่มีท่านเจ้าคือชีวิตที่เขาเป็นฝ่ายได้รับอยู่ฝ่ายเดียว แต่ต่อจากนี้เขาต้องเป็นผู้ให้บ้างแล้ว

“ให้จันทร์ขับมั้ย จันทร์อยากลองขับบ้าง นะๆ ๆ ดิน รถในบ้านก็มีตั้งหลายคัน ให้จันทร์ขับคันหนึ่งคงไม่มีใครว่าหรอก ถ้าดินกลัวพี่เจ้าว่า จันทร์โทรไปขอคุณพ่อก็ได้” ในระหว่างที่จันทร์เจ้ากำลังออดอ้อนอยู่นั้น ธราก็เห็นจี้ วิน และบินเดินเกาะกลุ่มกันมา ทั้งสามคนมองมาที่เขา พยักหน้าทักทายแล้วเลื่อนสายตาไปที่จันทร์เจ้าก่อนจะมองเมิน

“พวกลูกคนใช้” จันทร์เจ้าแอบเบ้ปากเมื่อทั้งสามคนเดินผ่านโดยไม่ได้หยุดทักทาย แต่เมื่อได้ยินถ้อยคำแสลงหูคนที่หยุดเดินคนแรกคือวิน แต่จี้กลับรุนหลังให้เดินต่อ

“เข้าไปหาท่านกันก่อน อย่าลืมว่าท่านไม่สบาย เสียเวลากัดกับหมาคงไม่ใช่เรื่อง เดี๋ยวกูจัดการเอง” จี้ว่าแล้วก็ปล่อยให้วินกับบินที่มีทีท่าขัดใจเล็กน้อยเดินเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนตัวเองจะหันมาเผชิญหน้ากับธราและจันทร์เจ้า “ไงไอ้ดิน จะพาหมาออกไปเดินเล่นที่ไหน”

จันทร์เจ้าเป็นแค่คนปากเก่งที่เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้ก็ตัวสั่นหลบอยู่ข้างหลังธรา คงเพราะรู้ดีว่าจี้นั้นไม่ใช่คนที่สามารถตอแยได้ ไม่เหมือนท่านเจ้าที่ถึงแม้จะไม่ชอบใจหรือจงเกลียดจงชังจันทร์เจ้ามากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือตบตี อาจมีบ้างที่โต้กลับรุนแรงเหมือนอย่างคราวที่ราดแกงเขียวหวานใส่จันทร์เจ้า แต่หลายครั้งก็ปล่อยให้จันทร์เจ้ากระทำอยู่ฝ่ายเดียว ไม่สนใจที่จะตอบโต้ ทว่าคนร่างเล็กที่มีแววตาเย็นชาคนนี้แตกต่าง

“ไปกินข้าว” ธราตอบ ที่จริงก็ไม่ได้คิดจะชวน แต่เมื่อจันทร์เจ้าสร้างเรื่องไม่จบไม่สิ้น เขาก็คิดว่าคงต้องพูดคุยกันอย่างจริงจังสักที จะได้บอกเล่าความจริงและปรับความเข้าใจกันด้วย อย่างน้อยก็อาจจะทำให้จันทร์เจ้าคิดดีขึ้นมาได้บ้าง “มึงรีบเข้าไปดูเจ้าเถอะ เมื่อกี้เกิดเรื่องนิดหน่อย ฝากด้วยนะ”

“อืม แล้วจะไปยังไง พ่อชันไม่อยู่ ไปทำธุระให้ท่าน ให้กูไปส่งมั้ย” จี้ถามอย่างหวังดี แต่แววตาที่จับจ้องจันทร์เจ้านั้นเผยความอันตราย

“ไม่ต้องๆ มึงอยู่กับเจ้าไป จันทร์ขับรถเป็น ให้จันทร์ขับ”

“ก็ดี เอารถคันไหนไปล่ะ รถที่บ้านกูมั้ย เดี๋ยวไปเอามาให้ กุญแจรถที่บ้านหลังนี้ก็อยู่กับพ่อชันหมด” จี้เสนอ ขยับยิ้มจนธรานึกแปลกใจเพราะปกติคนตัวเล็กคนนี้ไม่ใช่คนยิ้มง่าย หากไม่ได้อยู่ต่อหน้าท่านเจ้าแล้วก็ไม่เคยเห็นยิ้มเลยด้วยซ้ำ “เว้นรถของท่าน หรือมึงจะเอารถของท่านไป”

“ไม่เอา” ธราตอบในทันที เขาจะไม่ยอมให้จันทร์เจ้าแตะต้องของที่เป็นของท่านเจ้าไปมากกว่านี้ “ยืมรถที่บ้านมึงหน่อย”

“ได้” จี้ตอบรับ “แต่เก่าหน่อยนะ ลูกผู้ดีนี่ขับรถเก่าๆ ได้มั้ยน้องจันทร์”

จันทร์เจ้าไม่ให้คำตอบ เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ต้องการที่จะสนทนากับคนตั้งคำถาม

“หึ” จี้หัวเราะในลำคอ “รอที่นี่ละกัน เดี๋ยวกูเอามาให้”

“เออๆ ขอบใจมาก”

จี้หันหลังเดินออกไป และเกือบยี่สิบนาทีก็ขับรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่มาจอดตรงหน้าธรา “โทษที” จี้พูดเมื่อลงจากรถ “รอแม่กลับจากตลาด”

“ไม่เป็นไร แล้วนี่น้ำอะไรวะจี้ หยดเป็นทาง” ธราตั้งคำถาม สังเกตเห็นรอยน้ำที่หยดมาตามทางขณะที่รถเคลื่อนผ่านช้าๆ “มีอะไรรั่วหรือเปล่า”

“กูเพิ่งเติมน้ำที่ปัดน้ำฝนเมื่อกี้ อาจจะลืมปิดฝา ขอเช็กดูก่อน” จี้ว่าแล้วเดินไปเปิดฝากระโปรงหน้ารถ ก่อนจะส่งเสียงบอกธรา “เออมึง จริงด้วยว่ะ ลืมปิด”

“อย่างนี้ต้องเติมเพิ่มมั้ย” ธราไม่แน่ใจว่ามันสำคัญมากแค่ไหน เพราะไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับรถเลย เขามีหน้าที่แค่นั่งข้างหรือด้านหลังคนขับเท่านั้น

“ไม่ต้อง ไม่ได้สำคัญหรอก แต่กูแค่เติมไว้เฉยๆ”

“โอเค” ธรารับกุญแจรถมาจากจี้แล้วหันไปที่จันทร์เจ้า “ไปเถอะจันทร์ รีบไปจะได้รีบกลับ”

จันทร์เจ้าพยักหน้าจำยอม แม้จะนึกเสียได้ที่ไม่ได้ขับรถหรูที่จอดเรียงรายอยู่ในโรงจอดรถ แต่แค่ได้ขับรถพาธราไปดินเนอร์เพื่อฉลองชัยชนะของตนเอง คนตัวเล็กก็พอใจมากแล้ว

“ขับรถดีๆ ล่ะ” จี้อวยพรพลางยกยิ้ม “อย่าซิ่ง”

“เออน่า แล้วเจอกัน”

“หวังว่าจะได้เจอ”

รอยยิ้มของจี้ในครั้งนั้นอาจเป็นครั้งเดียวที่ธราเห็นว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ

.

.

D. : จี้ ไม่อยากถามแบบนี้ แต่มึงทำใช่มั้ย

Gee : อืม แต่กูก็เตือนแล้วว่าอย่าซิ่ง ถ้ามันไม่ขับเร็วก็คงไม่เป็นอะไร เบรกย้ำๆ ยังไงก็อยู่

Gee : ไม่ได้แก้ตัวนะมึง แต่กูไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง พวกมึงอาจจะกลับมาอย่างปลอดภัยก็ได้ เพราะการทำให้น้ำมันเบรกรั่วไม่ได้ทำให้พวกมึงเกิดอุบัติเหตุได้ในทันที มันต้องอาศัยปัจจัยอื่นด้วยเพราะเบรกมันก็ยังทำงานได้ คอนโซลรถก็น่าจะขึ้นแจ้งเตือนความผิดปกติอยู่แล้ว ถ้าเอะใจสักนิดคงไม่เป็นอะไรกันหรอก

D. : มาถึงตอนนี้แล้วไม่รู้จะโกรธหรือหัวเราะดีว่ะ

Gee : โกรธก็ได้ แต่กูไม่ขอโทษนะ เพราะกูตั้งใจ ต่อให้ลังเลแต่กูก็ปล่อยจันทร์เจ้าไปไม่ได้ คนที่ทำให้ท่านไม่มีความสุข กูไม่อยากปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตา อยู่ไปก็รกโลก

D. : เข้าใจ แต่ถามจริงนะ มึงเกลียดกูด้วยใช่มั้ยจี้

Gee : อืม ยอมรับ แต่น้อยกว่าจันทร์เจ้านิดหนึ่งละกัน เทียบกับคนแบบนั้นแล้วกูรักมึงขึ้นมาเลย

D. : ขอบใจไอ้สัด

D. : แต่ว่านะจี้ มันไม่ใช่เพราะมึงซะทีเดียวหรอก

Gee :?

D. : เพราะพวกกูทะเลาะกันบนรถด้วย ตอนนั้นน่ะกูบอกเรื่องที่ควรบอกกับจันทร์ทั้งๆ ที่คิดว่าจะนั่งคุยกันระหว่างกินข้าว แต่ให้อยู่กับคนอย่างจันทร์นานเกินวินาทีกูก็ทนแทบไม่ไหว

.

.

“รถเก่าก็แบบนี้อะดิน เหยียบเบรกไม่ค่อยอยู่เลย ต้องเหยียบลึกขึ้นทุกที ไฟหน้าคอนโซลก็ขึ้นอะไรไม่รู้ รถของพวกคนใช้นี่ไม่ได้เรื่องอะ หาดีๆ มาให้หน่อยก็ไม่ได้ ไว้จันทร์จะขอคุณพ่อซื้อคันใหม่ ถ้าพี่เจ้าหวงไม่ให้ใช้นักก็ถอยคันใหม่เลยก็แล้วกัน” จันทร์เจ้าบ่นกระปอดกระแปดในขณะที่เพิ่มความเร็วรถแล้วหักเลี้ยงพวงมาลัยไปตามทางโค้งของถนน

ร้านอาหารที่จันทร์เจ้าเลือกนั้นอยู่ไกลไปสักหน่อย แต่ธราก็ไม่คัดค้าน เขาไม่ออกความเห็น จะไปร้านไหนก็คงเหมือนกันถ้าไปกับจันทร์เจ้า ความรู้สึกของเขาคงไม่ดีไปมากกว่านี้หรอก

“ทำไมถึงชอบพูดจิกกัดคนอื่นวะจันทร์” ธราถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเบือนหน้ามองออกนอกหน้าต่างรถที่เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามความหงุดหงิดของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยรถ “เขาเอามาให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ดีกว่านั่งแท็กซี่ไม่ใช่เหรอ”

“ดินหยุดเข้าข้างคนอื่นสักทีเถอะ เป็นอะไรนักถึงชอบว่าจันทร์” เสียงหวานตวาดกลับ ตบไฟเลี้ยวแล้วเร่งความเร็วขึ้นปาดหน้ารถคันข้างหน้าที่ขับช้าแต่แช่อยู่เลนขวา

“ทำไมไม่ย้อนดูตัวเองบ้าง นิสัยของจันทร์มันเหลือรับมากขึ้นทุกทีแล้ว ผมเบื่อที่ต้องฟังจันทร์พูดถึงคนอื่นด้วยคำต่ำๆ ทั้งที่ตัวจันทร์ก็ไม่ได้มีดีอะไรเลย” ธราโต้เสียงเฉียบ เขาหงุดหงิดจนแทบจะทุบกระจกรถให้แหลกเมื่อเห็นเงาของจันทร์เจ้าสะท้อนอยู่ในนั้น “จันทร์ไม่ได้สูงส่งกว่าคนอื่น ก่อนคุณจันทร์แรมจะแต่งงานกับคุณพ่อ จันทร์ก็อยู่บ้านเช่าหลังเล็ก ต้องตื่นเช้ามาช่วยคุณจันทร์แรมขายข้าวแกงไปวันๆ ไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมถึงชอบดูถูกคนอื่นนัก ผมบอกเลยนะว่าต่อให้จันทร์คิดจะเทียบกับเจ้า จันทร์ก็เทียบไม่ติดหรอก ต่อให้จะเลียนแบบ ลงทุนไปทำศัลยกรรมให้คล้ายยังไง จันทร์ก็ไม่มีวันเหมือน”

“หยุดพูดนะดิน! จันทร์ไม่อยากฟัง! ทำไมต้องคอยเปรียบเทียบจันทร์กับคนอื่น”

“มีแต่ตัวจันทร์เองนั่นแหละที่คอยเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลา จันทร์ทำตัวเองทั้งนั้น”

คนทั้งคู่ต่างสาดอารมณ์ใส่กันจนหน้าแดงก่ำไปด้วยโทสะ ครั้งนี้ธราไม่ยอมความและจันทร์เจ้าก็ไม่เคยรามือ ความอิจฉาริษยาที่มีต่อเจ้า จักรพรรดิ แสดงออกมาอย่างเด่นชัดเมื่อถูกเปรียบเทียบจากคนที่เผลอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น

“ผมพูดด้วยความหวังดีนะจันทร์ พูดเพราะเห็นว่าเรามีพ่อคนเดียวกัน” ธราตัดสินใจพูดออกมาในขณะที่เจ้าของดวงตากลมโตปิดปากเงียบ “ถ้าจันทร์คิดว่าผมกับเจ้าไม่ควรรักกันเพราะเรื่องสายเลือด งั้นจันทร์ก็ต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ เพราะผมกับเจ้าไม่ใช่”

เสียงหัวเราะดังขึ้นในทันทีที่ธราพูดจบ “อะไรกันดิน เสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วเหรอ”

“เปล่า ผมพูดความจริง” ธราบอกเสียงหนักแน่น “ผมเกลียดจันทร์จนอยากจะฆ่าให้ตายด้วยซ้ำ แต่ที่ไม่ทำเพราะยังไงจันทร์ก็ถือเป็นน้องชายของผม เป็นน้องชายแท้ๆ ที่เกิดจากพ่อคนเดียวกัน”

“ไม่จริง!” จันทร์เจ้าไม่ยอมรับ ริมฝีปากบางเม้มแน่นในขณะที่ดวงหน้าซีดเผือด “ดินกับพี่เจ้าต่างหากที่เป็นพี่น้องกัน ไม่ใช่จันทร์กับดิน! ไม่ใช่! ไม่มีทาง!”

“ถ้าไม่เชื่อ เราไปตรวจ DNA กันมั้ย พาพ่อไปตรวจด้วย เอาให้รู้ไปเลยว่ามันเป็นยังไง เพราะผมก็อยากแน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะตอนนี้ที่ผมแน่ใจโดยไม่ต้องไปตรวจ DNA เลยก็มีแค่เรื่องที่เจ้าไม่ใช่พี่ชายของผมเท่านั้น”

“บ้าไปแล้วแน่ๆ” จันทร์เจ้าพึมพำพลางเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วรถขึ้นอีกเท่าตัว ดวงตากลมกวาดมองกระจกมองหลังเพียงชั่วครู่แล้วแสยะยิ้ม “รถของพี่เจ้าหรือเปล่าที่ตามมาน่ะ”

ธราหันไปมองในทันที เห็นรถจาร์กัวสีดำ ป้ายทะเบียนคุ้นตาขับไล่หลังมา “ขับไปหาที่จอดก่อนจันทร์”

“ไม่” จันทร์เจ้ายืนกรานปฏิเสธแล้วเร่งความเร็วขึ้น แต่รถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่คันนี้คงไม่สามารถเอาชนะความเร็วของรถนอกคันสวยได้ “พี่เจ้าน่ะเป็นคนพูดไม่รู้ฟัง ถ้าอยากได้ดินคืนนักก็ไปตามเอาที่นรกก็แล้วกัน”

“จันทร์! หยุดรถ!”

นั่นอาจเป็นเสียงตะโกนสุดท้ายของธราที่เรียกชื่อของจันทร์เจ้า เพราะหลังจากนั้นรถญี่ปุ่นที่แล่นด้วยความเร็วก็เสียการทรงตัวก่อนเข้าโค้ง เบรกรถไม่ทำงานทำให้ตัวรถพุ่งทะยานไปแฉลบกับเสาไฟจนเสียงดังกึกก้องหลังจากนั้นก็พลิกคว่ำไปอีกหลายตลบ รถทุกคันบนเส้นการจราจรหยุดชะงักแล้วมองภาพตรงหน้าด้วยความพรั่นพรึง ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของรถจาร์กัวสีดำที่เหยียบเบรกอย่างกะทันหันเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะลนลานลงจากรถแล้วตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งเรียกหาคนรัก ทั้งร้องขอความช่วยเหลือ น้ำตาไหลนองหน้าอย่างคนที่พบเจอกับความเจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด

.

.

Gee : มันคิดจะตายจริงๆ หรือเปล่าไอ้ดิน

D. : ไม่หรอก กูคิดว่าจันทร์แค่ขู่ เพราะพอรู้ว่าเบรกไม่ทำงานก็เอาแต่ร้องไห้อย่างกับคนเสียสติ มันแค่ไม่กี่นาทีเองมั้งแต่กูกลับได้ยินคำขอโทษซ้ำๆ แล้วภาพก็ตัด ตอนนั้นก็คิดจริงๆ แหละว่าคงไม่รอด

Gee : อืม

D. : จี้ ที่กูยังสงสัยคือทำไมเจ้าถึงตามกูไป

Gee : เพราะกูสารภาพกับท่านถึงสิ่งที่กูทำ ท่านไม่เสียเวลาโกรธกูด้วยซ้ำ แต่รีบออกไปหามึง ท่านโทรหามึงก็ติดต่อไม่ได้

D. : เลยทำให้ต้องเห็นภาพจำแย่ๆ แบบนั้น ไม่ดีเลยว่ะ มันคงเป็นภาพติดตาที่เจ้าคงจำไปตลอดชีวิต ฝันร้ายของเจ้าคงเป็นเรื่องในวันนั้น

Gee : ก็จริง เพราะท่านโทษตัวเองว่าเป็นเพราะท่าน ท่านเอาแต่พูดขอโทษมึง ตอนนั้นคิดว่าถ้าเสียมึงไปก็คงเสียท่านไปด้วยแน่ๆ สุดท้ายคนที่อยากปกป้องอย่างกูก็มีแต่ทำเรื่องผิดพลาด

D. : มึงก็ทำเต็มที่ของมึงแล้วจี้ อีกอย่างกูก็รอดมาได้

Gee : ไม่หรอก มึงก็เหมือนตายไปแล้ว น้องดินของท่านตายไปตั้งแต่วันนั้น เพราะมึงไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับท่านเลย

D. : แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะถ้าเป็นธราคนก่อน ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันเลือกท่านเจ้าของมึงหรอกจี้

D. : ตอนนั้นต่อให้จะยังรักแต่กูก็คิดจะตัดใจแล้วจริงๆ กูยอมรับความเป็นไปไม่ได้จนคิดว่าอยู่ต่อไปอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร

Gee : แล้วจะทำยังไงต่อหลังจากนี้

D. : ทำอะไรได้ด้วยเหรอวะ มันสุดทางแล้ว

Gee : ดิน

D. : ว่า

Gee : ถ้ามีโอกาสอีกครั้งจะกลับไปหาท่านมั้ย มึงจะทำให้ท่านมีความสุขมั้ย

D. : แน่นอน กูจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า จะทำให้มีความสุขให้มากกว่าความเจ็บปวดที่เจ้าเคยเจอ

Gee : ก็ดี

D. : ถามทำไมวะจี้

Gee : แค่อยากรู้

D. : อืม แต่พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วนะ

D. : กูจะจัดงานวันเกิดให้เจ้า เพราะหลังจากนี้คงไม่ได้อวยพรให้อีกแล้ว

Gee : เอาสิ

D. : ว่าแต่ทำไมตัวมึงถึงไม่อยู่ตรงนี้วะจี้ ทำไมจี้ที่กูเจอกับมึงที่กำลังคุยนี่ถึงรู้สึกว่าไม่เหมือนกัน

Gee : คำถามไร้สาระ ขอไม่ตอบ

D. : อยากด่า

Gee : เออน่า ไม่มีอะไรหรอก

D. : อืม งั้นกูนอนละ ฝันดีมึง

Gee : ฝันดีๆ



..............TBC.................



ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยค่าาาา อีกสองตอนเราจะเดินทางไปถึงตอนจบแล้วนะคะ มาอยู่ด้วยกันไปจนถึงตอนนั้นเน้อ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 24-02-2019 17:45:06
ฝันดีนะจี้ ลาก่อน~~~  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-02-2019 18:37:32
ตั้งสติอ่านแต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรจ้าา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 24-02-2019 18:53:38
หน่วงนะ แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่มากกว่าคือ เกลียดจันทร์เจ้า เกลียดมาก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 24-02-2019 18:59:15
ต่างก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งหมด  :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-02-2019 19:46:31
ให้นังเจ้าล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน  :hao3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-02-2019 20:50:33
ตกลงเป็นห้วงเวลาของจี้สินะ  :z3:
ที่ให้โอกาสดิน กับเจ้า   o22 :really2: :serius2:
เกลียดจันทร์ โคตรเลวววววววววววววววววว  :z6: :fire: :angry2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-02-2019 21:08:02
รักไม่ได้ทั้งๆที่รักหมดใจ มันชั่งทรมาน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 24-02-2019 21:32:42
งงในงง เข้าไปอี๊กกก..
สรุปใครตาย ใครยังอยู่ ใครย้อนเวลา
เวลาเป็นของใคร
จี้ตอนก่อนหน้านี้กะจี้ที่คุยกับดิน คือคนเดวกันมัั้ย..
หืออออออ.... ไรท์รีบมาจ้าาาาาา..
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 24-02-2019 21:48:59
เพระาจี้รักเจ้ามาก จี้อยากให้เจ้ามีความสุข จี้ต้องเป็นคนที่แลกชีวิตทั้ง2คนกับตัวเองแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 24-02-2019 22:11:14
มันหน่วงๆ  :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-02-2019 22:29:27
 โคตรเกลียดจันทร์เลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 24-02-2019 22:38:01
นี่คือขั้นกว่าของ inception ช้ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 24-02-2019 23:24:58
หน่วงแบบไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-02-2019 23:27:01
เจ็บทุกคน เจ็บมากเจ็บน้อย
กลัวใจสามคนที่เหลือเหลือเกิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 24-02-2019 23:54:45
จี้จะยอมแลกหรอ ถ้ายอมแลกเจ้าจะลืมจี้มั้ยอะ ลืมคนๆนึงที่รักเจ้ามากขนาดนั้นอะ
ไม่ลืมได้มั้ย ให้จี้ได้อยู่ในความทรงจำ แม้มันจะเป็นเสี้ยวเล็กๆของเจ้าอะ

เรารู้สึกว่าจี้เป็นคนรู้กฎเกณฑ์ของห้วงเวลามากที่สุด อาจจะเพราะจี้เลือกตายหลังคนอื่นเวลาของจี้เลยยาวนานกว่า ของเจ้า2ปีของจี้อาจจะมากกว่านั้น แล้วตอนนี้อาจเป็นห้วงเวลาของจี้แล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 25-02-2019 00:14:19
ซับซ้อนจริงๆ. เศร้าด้วย,,,
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 25-02-2019 00:15:22
ที่อ่านมาคือทุกคนน่าจะถึงจุดรับรู้และตรึกตรองเรื่องได้ พอแต่ละคนปล่อยมือเรื่องก็จะกลับสู่จุดเดิม
อย่างจันทร์ ก็มีบทสำนึกได้และปล่อยมือจากดินแล้วในบทหนึ่งก่อนที่เวลาจะถอยหลังกลับ(จำกันได้เปล่า บทที่จันทร์รำพึงถึงดินคนที่น่ารักว่าหายไปไหน)  และมีบทที่ดินพูดกับหมอแพร์ว่าจันทร์ที่น่ารักเข้าใจง่ายหายไปเหลือแต่จันทร์ที่พูดยากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ดินจะกลับมาอยู่กับเจ้าและย้อนเวลากลับมาด้วยกัน (ในขณะที่เพื่อนๆอนาคตค่อยๆหายไป/แต่คนแรกที่หายจริงๆคือจันทร์ที่มีความน่ารักในสายตาของดิน...  จนกลับมาเป็นจันทร์ที่เกรี้ยวกราดและเกิดอุบัติเหตุในวันนั้นในบทนี้... เจ้าที่กลับมาเจอในบทนี้อาจจะเป็นเจ้าที่ย้อนอดีตและกลับมาครั้งแรก ส่วนเจ้าที่ขับรถตามมาอาจจะเป็นครั้งต่อๆมา..ลุงชันหายไปเพราะไปทำตามคำสั่งนายหญิง  คำสั่งอาจจะเป็นการมาขัดขวางด้วยการยิงใครสักคนเพื่อไม่ให้เจ้าเอาตัวไปแลกชีวิตกับดินที่ตายจากอุบัติเหตุ เพราะนายหญิงมีหน้าปกป้องเจ้าให้ใครสักคนที่ยิ่งใหญ่มาก....   แล้วการยิงก็เริ่มเกิด   คนที่ตายน่าจะมีสามคน ตายจากอุบัติเหตุคือดิน ตายจากการยิงสลับช่วงมิติสองคนคือจี้กับเจ้า...และดินในมิติครั้งสุดท้ายเป็นคนขอร้องจี้ให้ฆ่าตัวเองก่อนเจ้ามาถึงเพื่อยุติการเวียนว่ายในมิติให้เจ้า อาจจะเป็นจี้ยิงดินและมีคนมายิงจี้ต่อ....ดินฟื้นจากอุบัติเหตุ  เจ้าฟื้นจากการถูกยิง เหตุการณ์จะเดินหน้าไปสองปี แล้วย้อนกลับมาจุดเดิม99ครั้ง โดยจี้คนนี้รออยู่ที่เดิม และจี้คนที่คุยกับดินนี้เคยไปในห้วงเวลาของเจ้า เป็นคนที่เคยช่วยพาดินกลับเข้ากรงเจ้าในบทแรกๆ... ทำไมเหมือนอดีตย้อนไปไกลกว่านั้น
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 25-02-2019 02:00:26
  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 25-02-2019 02:51:36
จี้จะเสียสละใช่มั้ย ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นอยากให้จบแบบแฮปปี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 25-02-2019 13:30:02
เอาดีๆ คือแบบอ่านแล้วไม่รู้จะสงสารใครดีอ่ะ   :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 25-02-2019 17:30:11
โชคดีนะ พูดได้แค่นี้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 25-02-2019 18:51:29
 :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 25-02-2019 20:06:38
เอาจริงๆนะตูเริ่มงงละ  :katai1: :ling1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-02-2019 06:54:22
อ่านไปอ่านมา จี้น่าจะเป็นคนกุมความลับสำคัญของเรื่องคนหนึ่ง

แต่เรื่องนี้ อ่านมาตั้งนานแต่ไม่เคยเดาถูกสักที  :mew5:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 27-02-2019 09:25:15
คือตอนนี้อยู่โลกไหนอ้ะ :katai5:  อ่านไปอยากจะจิกหัวจันทร์ ทำชีวิตเค้ายุ่งขนาดนี้ 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 01-03-2019 19:27:07
อ้าวงง นี่คือห้วงเวลาของใครกันแน่ จันทร์กับจี้?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-03-2019 17:46:09
ตอนที่ 24 ปลายทาง





ธราตื่นแต่เช้าเพื่อจัดเตรียมของสำหรับงานวันเกิดของคนสำคัญ ในขณะที่เจ้าของงานนั้นยังคงหลับสนิท ใบหน้าคมคายของเจ้า จักรพรรดิซีดเซียว แต่ริมฝีปากบางกลับระบายยิ้มคล้ายกำลังฝันดี เห็นดังนั้นแล้วก็ไม่อยากปลุก ถ้ากำลังมีความสุข ไม่ว่าจะอยู่ในความฝันธราก็ไม่อยากเข้าไปขัดขวาง

ชายหนุ่มฮัมเพลงเบาๆ ในขณะที่ลงมือทำอาหารเช้าตามวิธีการที่ได้ดูจากอินเตอร์เน็ต ต่อให้จะเป็นเมนูง่ายๆ อย่างข้าวต้มหมูสับที่คนรักของเขาบ่นนักหนาว่าทำยากทำเย็น คนทำอาหารไม่เป็นอย่างเขาก็ต้องดูวิธีการทำอย่างละเอียด ซึ่งเมื่อศึกษาวิธีดูแล้วก็อดเห็นด้วยกับไอ้เจ้าไม่ได้เมื่อได้มาลงมือทำเอง เพราะไม่ใช่แค่ข้าวต้มที่จะแค่ใส่ข้าวใส่น้ำรอจนสุกแล้วยกลงจากเตาจัดเสิร์ฟ แต่กลับมีรายละเอียดยิบย่อยมากกว่านั้นที่ผลักดันให้ข้าวต้มมีรสชาติอร่อย เขาจึงใช้เวลาร่วมชั่วโมงขลุกอยู่ในครัว

“ตื่นเช้าหรือยังไม่ได้นอนครับ” คนที่เพิ่งเดินออกจากห้องนอนตั้งคำถามพลางพาร่างผอมบางมานั่งบนเก้าอี้หน้าบาร์เล็กๆ ที่กั้นพื้นที่ของครัวกับส่วนโถงของห้อง

“ตื่นเช้า” ธราตอบสั้นเพราะกำลังง่วนกับการทำกระเทียมเจียวตามสูตรในอินเตอร์เน็ต แม้ในใจจะคิดว่าไม่จำเป็นแต่เจ้าของสูตรกลับเน้นย้ำว่าของมันต้องมี ด้วยเหตุนั้นเขาจึงต้องมายืนหน้ามันอยู่หน้าเตาอย่างนี้

“กลัวอยู่เลยว่าตื่นมาแล้วจะเป็นยังไง เพราะเดาใจคุณไม่ถูก” ไอ้เจ้าพูดตามความรู้สึกในใจพลางมองแผ่นหลังกว้างของธรา “หรือนี่คือวันครบรอบสองปีของเรา”

“อย่าพูดเรื่องเครียดตอนเช้า” ธราเตือน เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อหันไปมองคนพูด “ให้เป็นวันดีๆ สักวันเถอะ”

“แค่ตื่นมาเห็นคุณทำอาหารเช้าให้ ก็เป็นวันดีๆ แล้วครับ” ไอ้เจ้าแย้ง ขยับยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อพูดต่อ “แต่เจ้าก็แค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

“แล้วถ้ามันกลับไปเป็นวันครบรอบสองปีล่ะ ถ้าผมพาไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เจ้าจะว่ายังไง”

ไอ้เจ้าหัวเราะเบาๆ แค่เพียงตาสบตาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย “เจ้าเชื่อว่าคุณไม่ทำหรอก”

“อาจจะทำไปแล้วก็ได้”

“ถ้าทำไปแล้วจริงๆ คุณไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมอย่างนี้” ไอ้เจ้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง สุ้มเสียงที่ใช้ก็ไม่มีแววล้อเล่น “คุณไม่รู้หรอกว่าเราต้องใช้อะไรแลกกับเวลา ไม่รู้หรอกว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ตัวเองทรมานเลยครับ ให้วันนี้เป็นวันสุดท้าย แล้วมาทำวันสุดท้ายให้ดียิ่งกว่าวันที่ผ่านๆ มาดีกว่านะ”

ธราระบายลมหายใจ สีหน้าของเขาก็จริงจังเช่นกันเมื่อตั้งคำถาม “รู้ใช่มั้ยว่าไม่่ง่ายที่จะยอมรับ”

“อืม รู้สิ แต่มันดีกว่านะที่เราจะอ่านตอนจบของหนังสือเล่มโปรดสักที”

ทุกสิ่งทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและมีจุดจบของมัน ต่อให้ประวิงเวลาก็คงหลีกหนีไม่พ้น เพราะไม่ว่าอย่างไรบทสรุปก็ต้องมาถึงและคงดีกว่าที่จะยอมรับด้วยความเต็มใจ อ้าแขนต้อนรับแล้วโอบกอดเอาไว้ราวกับเพื่อนรู้ใจที่ไม่ได้เจอมานานแสนนาน

“ต่อให้ตอนจบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันน่ะเหรอ”

“ใช่”

“ต่อให้จะไม่ได้กลับไปอ่านอีกแล้ว ก็ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่มั้ย”

“อืม...ไม่เป็นไร”

ธราเงียบไปเพียงครู่ เขาจัดการปิดเตา ละมือจากงานที่ทำแล้วเดินไปหาไอ้เจ้า “ทุกครั้งที่เจ้าตัดสินใจ ผมก็มีแต่ต้องยอมรับ ไม่ว่าครั้งไหนที่เลือกจะปล่อยมือ ต่อให้ผมรั้งไว้แค่ไหนก็ยังยืนยันจะไปอยู่ดี”

“ขอโทษครับ” ไอ้เจ้าเอ่ยเสียงแผ่ว “ขอโทษทุกๆ เรื่อง ทั้งในส่วนที่คุณจำไม่ได้และที่ทำให้คุณเสียใจในตอนนี้”

“อยากจะพูดเหมือนกันว่าไม่เป็นไร แต่ผมก็ไม่อยากโกหก” แววตาของธราไม่ปิดบังความรู้สึก เพราะเขาไม่เก่งเหมือนคนตรงหน้าที่ไม่ค่อยเผยความอ่อนแอให้เห็น “เอาเถอะ วันนี้มาฉลองวันเกิดล่วงหน้ากัน”

“จะดีเหรอ” ไอ้เจ้าถามอย่างไม่แน่ใจ “ไม่ต้องก็ได้นะ”

“ไม่ได้” ธรายืนกรานความคิด “คำอวยพรครั้งสุดท้ายน่ะไม่อยากได้ยินหรือไง”

รอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏบนดวงหน้า “เพราะรู้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายไงครับ เจ้าก็เลยไม่อยากได้ยิน”

“กลัวร้องไห้เหรอ” ธราถามพลางยิ้มล้อ “เนี่ย แล้วก็ทำฟอร์มเยอะว่าไม่เป็นไร”

“อย่าล้อกันซี่” คนฟอร์มเยอะหน้างอ มองค้อนธรา “เห็นหน้าตาดีอย่างนี้ก็อ่อนไหวเป็นนะ”

“อยากเถียง แต่หนังหน้าก็ดีเกิน” เขาทำหน้าหมั่นไส้พลางหยิกแก้มเจ้าคนหน้าตาดีไปหนึ่งที “แต่เอาอย่างนี้ละกัน ถ้าเจ้าร้อง ผมสัญญาเลยว่าจะไม่ล้อ จะให้ยืมอกกว้างๆ เช็ดน้ำตาแถมด้วยการให้กัดกล้ามแน่นๆ อีกหลายๆ ทีเลย”

“โปรโมชั่นดีอย่างนี้ชักอยากร้องไห้แล้ว”

ธราหัวเราะ บีบจมูกไอ้เจ้าเบาๆ “กินข้าวก่อนละกันค่อยร้อง”

“ก็ได้” พยักหน้าจำยอม “ขอชิมหน่อยเถอะว่ารสชาติเป็นยังไง”

“อร่อยกว่าที่เจ้าทำก็แล้วกัน”

“แน๊ นายคนนี้มันมั่นใจ มันเกทับ”

คราวนี้ธราหัวเราะเสียงดัง นึกอยากจะฟัดคนที่ชอบใช้เสียงสองแต่ก็ติดว่าถ้าเล่นเกินเหตุจะพลาดมื้อเช้ากันแน่ๆ เขาจึงตัดใจเดินกลับไปที่ครัวเพื่อจัดการตักข้าวต้มหมูสับมาเสิร์ฟ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ยกข้าวต้มหมูสับสองถ้วยไปที่โต๊ะกินข้าว ถ้วยหนึ่งวางลงตรงหน้าไอ้เจ้าที่เปลี่ยนที่นั่งจากเก้าอี้ทรงสูงหน้าบาร์มานั่งตรงหัวโต๊ะ ส่วนอีกถ้วยวางลงตำแหน่งที่ตัวเองจะนั่ง

“กลิ่นหอมจัง” ไอ้เจ้าเอ่ยชมพลางสูดดมไอร้อนที่ลอยขึ้นจากถ้วย “โอ้โห...มีกระเทียมเจียวด้วย เป็นทอปปิ้งที่โรยแล้วเพิ่มความน่ากินขึ้นอีกสิบเท่า รู้อย่างนี้ครั้งก่อนเจ้าทำก็ดี”

“ฝีมือมันต่างกั๊นนน” ธราได้ทียกหางตัวเอง เขาคลี่ยิ้มแล้วยักคิ้วให้ไอ้เจ้าด้วยความภูมิใจ “กระเทียมเจียวไม่ได้ทำง่ายๆ นะบอกไว้ก่อน”

“มันจะยากตรงไหน”

“เป็นงานละเอียด ยิ่งกว่ากรอฟันระยะนิดหนึ่งของอาจารย์แม่ก็แล้วกัน”

ไอ้เจ้าหัวเราะชอบใจ “ว่าแต่ไอ้ระยะนิดหนึ่งนี่มันเท่าไรนะคุณ”

“พระเจ้าเท่านั้นที่รู้”

“โอ...มันกลายเป็นความลึกลับของจักรวาลไปแล้ว”

ธราพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเริ่มลงมือจัดการข้าวต้มในถ้วย ขืนพูดคุยกันนานกว่านี้ ความอร่อยคงหายไปกับความร้อน เพราะมีคนเคยพูดเอาไว้ว่าข้าวต้มต้องกินตอนร้อนๆ แต่หากร้อนเกินไปก็จะทำให้หมดความอร่อยได้เช่นกัน อย่างเช่นไอ้เจ้าในตอนนี้ที่รีบกินจนลืมเป่าจึงโดนน้ำร้อนๆ ลวกปากลวกลิ้นอย่างน่าสงสาร

“อยากด่าโง่แต่ก็เกรงใจอายุ” ธราส่ายหน้าระอา จัดการส่งแก้วน้ำให้ไอ้เจ้าที่กำลังแลบลิ้นรับไปดื่ม “คราวนี้ถ้าสำลักน้ำอีกจะซ้ำนะ ระวังหน่อย”

“ก็มันอร่อยนี่” คนไม่ระวังเถียงแต่ไม่วายพูดเอาใจจนธราว่ากลับไม่ได้ หนำซ้ำยังกลั้นยิ้มไม่อยู่ “จะฉลองวันเกิดทั้งทีกลับโดนของร้อนลวกปากอย่างนี้ บอกตามตรงว่าแย่ ทีนี้จะกินเค้กยังไง”

“พูดมาขนาดนี้แล้วต้องมีเค้กให้สินะ”

ไอ้เจ้าพยักหน้า “เป็นไอเทมสำหรับงานวันเกิดเลยไม่ใช่เหรอคุณ หรือคุณจะให้เป่าดินน้อยฮึ”

เจ้าของดินน้อยถึงกับสำลัก ไออยู่หลายทีในขณะที่มือก็รับแก้วน้ำจากไอ้เจ้ามาดื่มแก้อาการ ก่อนจะถามตัวต้นเหตุว่า “ต้องทะลึ่งให้ได้อย่างน้อยวันละหนึ่งประโยคเหรอเจ้า ยังไงดี ให้ผูกริบบิ้นด้วยเลยมั้ย เป็นทั้งเทียนเป็นทั้งของขวัญให้”

“ได้ก็ดีนะดิน จัดมาอย่างนั้นเลย ขอเจ้าเถอะ” ไอ้เจ้ายิ้มเผล่ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “ยังไงก็วันสุดท้ายแล้ว”

ธราระบายลมหายใจ เขาวางช้อนแล้วยกมือขึ้นเท้าคางมองไอ้เจ้าอย่างจริงจัง “ที่จริงวันนี้เราควรทะเลาะกันแล้วเกลียดกันไปเลยดีกว่ามั้ยเจ้า เพราะยิ่งมันดีมากเท่าไร ก็จะยิ่งเสียใจมากเท่านั้น ทั้งเสียใจทั้งเสียดายเพราะรู้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

“ไม่รู้สิ” ไอ้เจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางเลือกไหนถูกต้องหรือทางเลือกไหนที่เจ็บน้อยที่สุด

“กินข้าวต่อเถอะ” ธราตัดบท เขาไม่อยากเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของคนรักไปมากกว่านี้ “แล้วค่อยไปหาซื้อเค้กกัน ยังไงการฉลองวันเกิดก็ต้องมีเค้ก ส่วนของขวัญน่ะจะผูกริบบิ้นให้อย่างดี”

ไอ้เจ้าพยักหน้าพลางยิ้มแฉ่ง คงถูกอกถูกใจของขวัญที่ธราจะมอบให้จนลืมความเศร้าไปหมดสิ้น “จะไม่เสียดายอะไรเลยจริงๆ นอกจากจะไม่ได้กินอมยิ้มของคุณอีกนี่แหละ”

“ตัดเอาไปด้วยเลยมั้ยตัวดี” น้ำเสียงประชดประชันโต้กลับ “แทนที่จะเสียดายอย่างอื่น”

“ฮ่าๆ ๆ เขินเลย”

เป็นไปได้ก็อยากจะได้เห็นรอยยิ้ม อยากได้ยินเสียงหัวเราะ อยากพูดคุยกันอย่างนี้ไปทุกวัน ยิ่งตระหนักว่าความต้องการไม่มีวันเป็นจริงแล้ว ขอบตาของธราก็ยิ่งร้อนผ่าว เขารีบก้มหน้าลงเมื่อรู้ว่าน้ำตากำลังจะรินไหล

“นี่...ดิน” เสียงของไอ้เจ้าดังขึ้นพร้อมกับที่มือผอมของมันสัมผัสที่ไหล่กว้างของธราแล้วบีบเบาๆ “ของขวัญน่ะขอเป็นคำสัญญาแทนได้มั้ย”

“…”

“สัญญาได้หรือเปล่าว่าจะอยู่ต่อไป”

“…”

“นะ มาเกี่ยวก้อยสัญญากัน”

“…”

“ขอนิ้วก้อยหน่อยครับน้องดิน”

ธราอยากปฏิเสธ เพราะรู้ว่าไม่ว่าอย่างไรตัวเขาก็จะทำผิดสัญญา แต่เขาก็ยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าเพราะอยากเห็นรอยยิ้มของผู้ชายที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิอีกสักครั้ง

“เจ้าก็เหมือนกันนะ” ไม่ว่ายังไงก็ต้องอยู่ต่อไป

นิ้วก้อยทั้งสองเกี่ยวแนบกัน สัมผัสอบอุ่นที่ปลายนิ้วก็รับรู้ได้เป็นอย่างดี ทั้งที่ใครคนหนึ่งไม่ได้คิดจะทำตามสัญญา

“ไปซื้อเค้กกันเลยมั้ย” หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นานโดยปล่อยให้นิ้วก้อยเกี่ยวกันอย่างไม่คิดจะผละห่าง ไอ้เจ้าก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น “ฉลองวันเกิดเจ้าแต่ให้ดินเลือกเค้กที่ชอบเลย”

“ครั้งนี้เจ้าเลือกได้มั้ย ผมอยากกินที่เจ้าชอบบ้าง เพราะวันเกิดทีไรก็ให้ผมเลือกทุกที”

“แต่ดินก็เลือกที่เจ้าชอบไม่ใช่เหรอ” ไอ้เจ้าแย้ง ยกยิ้มอย่างรู้ทัน “ตัวเองชอบช็อกโกแลตแต่ก็เลือกเค้กนมสด เพราะฉะนั้นครั้งนี้เลือกที่ดินอยากกินจริงๆ นะ ไม่เอาที่เจ้าชอบ”

“รู้ทัน”

“ต้องรู้ซี ไม่ได้โง่นะ”

“โอเค งั้นครั้งนี้จะเลือกวานิลลา”

“เดี๋ยวๆ”

ธราหัวเราะเมื่อเห็นไอ้เจ้าทำหน้าเหวอ “เอาวานิลลานั่นแหละ” สรุปความแล้วก็คลี่ยิ้ม “เพราะเวลาฉลองกับจี้ พวกเราก็กินวานิลลา เจ้าไม่ชอบช็อกโกแลต ผมไม่ชอบนมสด แต่เรากินวานิลลาได้ จี้ก็เลยซื้อเค้กวานิลลามาทุกครั้ง”

“อืม นั่นสินะ”

“ครั้งนี้มาฉลองกันสามคนเถอะ”

“ครับ”

ด้วยเหตุนั้นเค้กฉลองวันเกิดของไอ้เจ้าจึงเป็นเค้กวานิลลาที่ตกแต่งหน้าเค้กด้วยผลไม้หน้าตาน่ากิน สีสันก็สวยสดสมกับเป็นเค้กจากร้านเบเกอร์รี่ร้านดังที่ธราลงทุนขับรถไปไกลหลายกิโลเมตร มีไอ้เจ้าติดสอยห้อยตามไปด้วย ทำให้นอกจากได้เค้กฉลองวันเกิดแล้วก็ได้ขนมชนิดอื่นมากินรองท้องระหว่างต้องหิ้วท้องไปให้ถึงร้านอาหารเพื่อกินมื้อค่ำด้วย

“เผลอแป๊บเดียวก็มืดแล้ว” ไอ้เจ้าพูดขึ้นเมื่อมองออกไปด้านนอกร้านอาหาร “ทั้งๆ ที่ตอนออกมาซื้อเค้กยังสว่างอยู่เลย เวลามันเดินเร็วขึ้นหรือเปล่านะ”

ธราที่เพิ่งจัดการสั่งอาหารกับพนักงานเสร็จก็มองตามสายตาของไอ้เจ้าไปด้านนอกบ้าง “เวลามันก็เดินของมันเท่าเดิม คงมีแต่ความรู้สึกของเราที่อยากให้มันเดินช้าลงละมั้ง ถึงได้คิดไปเองว่ามันเร็วขึ้น”

“ก็จริง” ไอ้เจ้าพยักหน้าเห็นด้วยพลางระบายลมหายใจ “หลังจากนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้”

“กลัวเหรอ” ธราวางมือลงบนมือผอมของไอ้เจ้า รู้สึกได้ว่ามือที่เขากำลังกุมอยู่นั้นสั่นน้อยๆ

“อืม” ยอมรับอย่างไม่ปิดบัง “มีใครบ้างที่ไม่กลัว”

“อยู่ด้วยกันแล้วจะกลัวอะไร”

ไอ้เจ้ายิ้มออกมากับถ้อยคำปลอบโยนที่ได้ยิน “จังหวะนี้ก็ต้องเขินแล้วนะ”

“อือ เอาเลย อยากเห็นสักทีเหมือนกันว่าเวลาเขินจริงๆ จะเป็นยังไง”

“พอๆ ๆ เจ้าว่าเจ้าไม่ไหวกับสายตาของคุณ แย่เลย จะเสียตัวกลางร้านอาหารไม่ได้”

ธราถึงกับหลุดหัวเราะ ส่ายหน้าระอาใส่คนที่ชอบขัดมู้ด “กลบเกลื่อนไปได้ตลอด แต่เอาเถอะ กินข้าวแล้วรีบกลับดีกว่า”

“ดีๆ ๆ” ไอ้เจ้าเห็นด้วย ท่าทางกระตือรือร้นจนน่าหมั่นไส้ “อยากแกะของขวัญจะแย่ นึกภาพตัวเองกระตุกริบบิ้นแล้วเขินมาก มันต้องแบบ...”

“พอมั้ย” ธราปรามเสียงดุ “เดี๋ยวโดนกลางร้านจริงๆ”

“เจ้าหยอก แต่ถ้าโดนจริงก็ได้ มาเล้ยยย”

“ดีดเนอะ ล่าสุดที่ดีดอย่างนี้คือไปเมากาวห้องไอ้น้องเอ๋” ว่าแล้วก็อยากจะเขกกบาลสักที แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าดูดีนั่นแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป “ขอโทษ”

“ไม่เป็นไร แค่กำลังคิดว่าเอ๋จะเป็นยังไงบ้าง”

“ก็คงสบายดี” ธราทำได้เพียงแต่คาดเดา ในขณะที่ไอ้เจ้าก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขา “เป็นเพื่อนที่ดีเลยใช่มั้ย”

“อือ” ขานรับในลำคอพร้อมกับที่น้ำตาหนึ่งหยดรินไหลลงมาอย่างไม่สามารถกลั้นไว้ได้ “น่าคิดถึงจริงๆ นะ”

“พอแล้ว” หัวใจของธราปวดหนึบ มันเต้นด้วยความปวดร้าวเมื่อเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของคนตรงหน้า “ไม่ต้องคิดอะไรแล้วเจ้า”

“ไม่คิดแล้วๆ” ไอ้เจ้าพยายามฝืนยิ้มแต่ก็ทำได้แย่เต็มที “โอ๊ะ ข้าวมาพอดีเลย กินกันดีกว่า จะได้รีบกลับห้อง”

ธรารู้ดีทีเดียวว่าถ้อยคำที่ได้ยินนั้นเป็นเพียงคำโกหก แต่ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะมีวิธีไหนช่วยบรรเทา เพราะหลังจากนี้ไม่ว่าจะเลือกทางไหน คนที่เจ็บปวดก็ยังคงเป็นเจ้าชีวิตของเขาอยู่ดี

ผมจะทำยังไงดีนะเจ้า

ทำยังไงเจ้าถึงจะไม่ทรมานไปมากกว่านี้

ทำยังไงเจ้าถึงจะมีความสุขจริงๆ สักที

.

.

“อธิษฐานก่อนเป่านะ” ธราบอกพลางเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นคนตรงหน้าพยักหน้าอย่างว่าง่าย ในขณะที่มือข้างหนึ่งของเขาถือเค้กวานิลลาไว้ ส่วนอีกข้างนั้นใช้กำบังลมที่จะพัดเปลียวเทียนให้ดับ เพราะดันเลือกระเบียงเป็นสถานที่เป่าเทียนวันเกิดจึงต้องระมัดระวังลมที่พัดผ่านมาเป็นอย่างมาก “ว่าแต่จะอธิษฐานอะไร”

“ยังคิดไม่ออก” ไอ้เจ้าตอบ คิ้วขมวดเล็กน้อยอย่างกำลังครุ่นคิด “ดินก็รู้ว่าเจ้าไม่เคยอธิษฐานเลยสักครั้งเพราะไม่มีความเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้คิดว่าถ้าอธิษฐานก็อาจจะเป็นจริงก็ได้”

การที่ได้มาอยู่ในที่แห่งนี้โดยผ่านเรื่องราวประหลาดมาทั้งหมด คงไม่มีคำว่า ‘ไม่เชื่อ’ อยู่ในหัวของไอ้เจ้าอีกต่อไปแล้ว แม้จะก้ำกึ่งอยู่หลายครั้งว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ความรู้สึกเจ็บ ความรู้สึกเศร้า หรือแม้แต่ความสุขที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ ก็เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้จริงๆ

“อือ งั้นเจ้าก็ขอให้ตัวเองมีความสุขสิ” ธราแนะ จ้องมองเปลียวเทียนที่คล้ายจะดับแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังทำท่าคิดหนัก “ไม่เห็นยากเลย ปกติแล้วคำอธิษฐานก็ต้องขอความปรารถนาในใจอยู่แล้วจริงมั้ย แล้วก็คงไม่มีใครไม่อยากให้ตัวเองมีความสุขหรอก”

“นั่นสินะ” ไอ้เจ้าคล้อยตาม ก่อนสองมือจะยกขึ้นประสานกันไว้ระดับอก แววตาจริงจังสบมองกับธราเมื่อเริ่มอธิษฐาน “งั้นเจ้าก็ขอให้น้องดินของเจ้ามีความสุขมากๆ มีชีวิตที่ดีต่อจากนี้ อย่ามีเรื่องที่ทุกข์ใจ ให้มีแต่คนดีๆ เข้ามาในชีวิต”

น้ำเสียงทุ้มเนิบนาบราวกับต้องการที่จะพูดเน้นย้ำให้ทั้งธราและใครสักคนที่มีสิทธิ์กำหนดโชคชะตาได้รับเอาคำอธิษฐานไป และเมื่อพูดจบ ลมหายใจอุ่นก็ทำให้เปลียวเทียนดับลง นำพาความมืดสลัวเข้ามารายล้อมรอบตัวคนทั้งสอง

“บอกให้ขอให้ตัวเอง” ธราว่าอย่างอ่อนใจพลางวางเค้กลงบนพื้นข้างกาย “มาขอให้ผมทำไมก็ไม่รู้”

“ก็ถ้าดินมีความสุข เจ้าก็มีความสุข” ไอ้เจ้าตอบ จัดการจุดเทียนหอมในถ้วยแก้ว นำพาแสงสว่างกลับมา “แล้วไหนล่ะคำอวยพรของเด็กดีของเจ้า”

“อืม…” ธราแสร้งทำท่าคิด ทั้งที่มีคำอวยพรในใจแล้ว “เอ...อวยพรอะไรดีนะ”

“ก็คือไม่ได้เตรียมไว้เหรอ” ไอ้เจ้าหน้ามุ่ย ยกกำปั้นขึ้นชกไปที่หัวไหล่แน่นไปด้วยมัดกล้ามเบาๆ “ถ้ารักกันจริงต้องร่างไว้สามหน้าเอสี่แล้วนา”

“คำอวยพรหรือเรียงความวะเจ้า”

“ไม่รู้ รู้แค่อยากได้ยาวๆ”

“ดินน้อยก็ยาว”

“อู้ววว จัดหนักจัดเต็มมาเลย”

ธราหัวเราะ เสียงทุ้มกังวาน เขายกมือขึ้นผลักศีรษะของคนปากเก่ง ก่อนจะเงียบเสียงลงแล้วทำหน้าจริงจัง “เหลืออีกห้านาทีก่อนจะเที่ยงคืน”

“อือ”

“ฟังนะเจ้า”

“ครับ”

“น้องดินของเจ้าคงหายไปตอนที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น ตัวผมในตอนนี้ก็อาจจะไม่ใช่อย่างที่เจ้าหวัง ผมอาจจะจำเรื่องของเจ้าไม่ได้ทั้งหมด อาจจะมีบางช่วงเวลา ทั้งที่สำคัญและไม่สำคัญที่ผมลืมไป แต่...” ธราหยุดพูด เขาสูดหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกมาช้าๆ ความปวดร้าวที่เพิ่มขึ้นทีละนิดตั้งแต่ที่เวลาของวันนี้เริ่มต้นขึ้นและกำลังจะเดินไปถึงวินาทีสุดท้าย ในตอนนี้กลับมากจนเขาไม่สามารถพูดด้วยน้ำเสียงปกติได้ คำอวยพรถูกกลืนหายไปในลำคอ แต่เวลาไม่คอยท่าแล้ว หากไม่ได้พูดตอนนี้ก็คงไม่ได้รับโอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง “แต่ผมคนนี้รักเจ้านะ รักและอยากให้เจ้ามีความสุข อยากให้เจ้าอยู่กับผม อยากเป็นคนที่ทำให้เจ้ามีความสุขที่สุดในโลก แต่ผมไม่เก่งพอที่จะทำได้ ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็มีแต่ทำให้เจ้าเจ็บปวด ช่วงเวลาที่เรามีความสุขด้วยกันจริงๆ นั้นเคยเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ เพราะความรักที่เป็นไปไม่ได้แต่เรากลับพยายามที่จะฝืนมัน สุดท้ายก็ไม่เคยจบอย่างที่หวังเลยสักครั้ง”

“ดิน…”

“แต่ครั้งนี้น่ะ มันคงจะเป็นตอนจบที่ดีนะ” รอยยิ้มเศร้าสร้อยของธรากับแววตาที่ไอ้เจ้าเห็นนั้นทำให้นึกหวั่นในใจขึ้นมา “เจ้า ในนาทีสุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่าผมขอโทษ...ขอโทษนะครับที่ต้องผิดสัญญา ขอโทษนะครับที่ครั้งนี้ผมจะเป็นฝ่ายทิ้งเจ้าไปบ้าง ยกโทษให้ผมด้วยนะ”

มือของไอ้เจ้าจับที่แขนของธราแน่น แววตาที่เต็มไปด้วยคำถามไม่ได้รับคำตอบ ไม่เหลือเวลาแม้แต่จะรอฟังเมื่อครบกำหนดเวลา มีแต่เพียงใบหน้าเศร้าสร้อยกับรอยยิ้มที่สะกดสายตาตั้งแต่แรกเห็นของธราเท่านั้นที่ฝังแน่นในความรู้สึก

ยกโทษให้คนที่รักคุณมากๆ คนนี้ด้วย

.

.

D. : จี้

D. : มึงรับปากแล้วนะ

Gee : อืม ไม่ต้องห่วง

D. : แต่ก่อนตายกูจะจำเจ้าได้ใช่มั้ย

Gee : มึงจะจำทุกอย่างได้ในตอนที่คนในเหตุมากันครบ

Gee : เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เวลาจะเริ่มเดินต่อ

D. : มันจะเปลี่ยนได้จริงๆ ใช่มั้ยวะ

Gee : เปลี่ยนได้

D. : ทำไมมึงถึงมั่นใจนักจี้

Gee : เพราะกูเปลี่ยนมันมาแล้ว

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-03-2019 17:47:04
17 กรกฎาคม 06:30 AM

สภาพอากาศในเช้าตรู่ของวันนี้ไม่สู้ดีนัก พื้นถนนชื้นแฉะไปด้วยเม็ดฝนที่โปรยปรายตั้งแต่เมื่อคืนที่ตกลงมาอย่างหนักราวกับพายุลูกใหญ่พัดโหมกระหน่ำและเพิ่งซาลงตอนช่วงเวลาใกล้รุ่ง ทว่าก็ไม่ได้หยุดตกเสียทีเดียวเพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังตกปรอยๆ สร้างความหนาวเย็นให้เจ้าของร่างหนาที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม

“อือ..อ” เสียงครางต่ำในลำคอดังแผ่วเบาเมื่อรับรู้ถึงความเย็นเฉียบจากโซ่ตรวนที่ข้อเท้า คิ้วเข้มขมวดมุ่นก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น กระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับให้สายตาคุ้นชินกับแสงสว่างที่เล็ดลอดผ่านกระจกบานใหญ่ที่ไม่ได้ถูกผ้าม่านปิดเอาไว้เหมือนเช่นปกติ

ธรามองออกไปด้านนอก เห็นท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน บดบังแสงดวงอาทิตย์จนหมดสิ้น สีเทาขมุกขมัวที่ได้เห็นนั้นไม่ต่างจากหัวใจของเขาในตอนนี้ เขาละสายตาแล้วหันมองไปรอบห้องแล้วก็พบว่าใครอีกคนที่แสนเกลียดชังยังไม่ปรากฏตัว ทั้งที่ปกติคนคนนั้นจะมาปลุกเขาเสียด้วยซ้ำ

ครืด..ด

เสียงครูดของสายโซ่กับพื้นห้องดังขึ้นเมื่อธราขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง เขาก้าวเดินไปที่ประตู อยากเช็กให้แน่ใจว่าในตอนนี้ได้มีโอกาสอยู่ตามลำพัง แต่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา โอกาสที่คิดว่ามีหายวับไปกับตาเมื่อร่างผอมสูงของคนที่แสนเกลียดชังยืนอยู่ตรงหน้า

“อ้าว...” เสียงทุ้มของมันร้องขึ้น เผยรอยยิ้มเมื่อจ้องมองมาที่เขา “ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”

ธราจนปัญญาที่จะแก้ต่างว่าเขาไม่ใช่ที่รักของคนอย่างมัน คนโรคจิตที่ลักพาตัวเขามากักขังไว้นานเกือบสองเดือนไม่มีทางที่จะเป็นคนรักของเขา เพราะคนรักกันคงไม่มีทางทำในสิ่งที่มันกำลังทำอย่างนี้ ทั้งกักขัง ทั้งบังคับ ช่วงชิงอิสรภาพและยัดเยียดความรักที่เขาไม่ต้องการมาให้

นี่น่ะหรือที่มันพร่ำบอกว่าคือความรักที่มีให้เขา ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็ขอตายเสียยังดีกว่าที่จะได้รับความรักจากคนอย่างมัน

“หิวหรือยังครับ” เสียงเรียบยังคงเอ่ยถาม มันขยับตัวเข้ามาใกล้ ยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเขาอย่างถือวิสาสะ “ถ้าหิวแล้วผมจะได้ยกอาหารเช้ามาให้ ผมทำเองเลยน้า”

ธราไม่ตอบ เขาไม่พูดคุยกับมันมานานแล้ว อาจนานตั้งแต่เริ่มเข้าสัปดาห์ที่สามที่คิดว่าการพูดคุยกับคนอย่างมันคงไม่เป็นผล ไม่มีประโยชน์อีกทั้งยังเปลืองแรง ในเมื่อมันไม่เคยคิดจะฟัง

“คุยกันหน่อยสิครับ” มันอ้อนวอน เลื่อนนิ้วจากแก้มมาที่ริมฝีปากของเขา “หรือจะคุยกับผมแค่ตอนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น เอ...หรือจะให้ผมจัดการกับคู่หมั้นของคุณดี เอายังไงดีครับธรา คุณเลือกได้นะว่าจะเป็นเด็กดีของผมหรือเป็นเด็กดื้อ”

ธราจ้องมองด้วยความชิงชัง เขาแทบอยากฆ่ามันให้ตายคามือ เกลียดจนไม่อยากใช้อากาศหายใจร่วมกัน แต่เขากลับไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรเลย

“เด็กดื้อต้องถูกลงโทษน้า” มันยังคงลอยหน้าลอยตาพูด คราวนี้เลื่อนมือลงต่ำจนสัมผัสเข้าที่กลางกายของเขา “เอายังไงดีครับ จะตอบผมหรือจะครางก่อน”

“ไม่หิว!” เขาตะคอก “ไม่ต้องทำอะไรให้กูกิน ปล่อยกูตายจะเป็นพระคุณมาก”

“ได้ยังไงกัน” มันถามพลางยิ้มออกมา “ถ้าคุณตายแล้วผมจะอยู่ยังไง เราน่ะเป็นคนรักกันนะครับธรา”

ธราแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักมันมาก่อน เขาไม่เคยรู้จักผู้ชายที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ ไม่คุ้นตาคนที่มีรูปร่างสูง ผอม ตัวบาง ไหล่แคบ ใบหน้าคมคายหล่อเหลาอย่างหาตัวจับยากแต่กลับมีแววตาเย็นชาเมื่อจ้องมองทุกสิ่ง

“เมื่อไหร่มึงจะหยุดพูดอย่างนี้สักที!”

“จนกว่าคุณจะจำผมได้”

“จะให้กูจำอะไร! ตอนนี้ที่กูจำได้คือกูเกลียดมึง!” เขาระเบิดอารมณ์เพราะข่มโทสะไว้ไม่ไหว ต่อให้เช้านี้จะมีฝนตกจนอากาศเย็นสบาย แต่ภายในใจของเขานั้นราวกับถูกสุมด้วยไฟ ยิ่งเห็นใบหน้ายียวนของคนตรงหน้าก็ยิ่งอยากจัดการให้แดดิ้น “กูเกลียดคนอย่างมึง เกลียดจนไม่อยากเรียกชื่อ เกลียดจนไม่อยากใช้อากาศหายใจด้วย”

“รู้แล้วน่า” มันพูด ชั่วครู่หนึ่งที่เขาคิดว่าตาฝาดเพราะเห็นความเจ็บปวดในแววตามัน แต่คนอย่างมันน่ะหรือจะรู้สึกรู้สาอะไร “จะพูดทำไมทุกวันครับ ผมจำได้ขึ้นใจแล้ว”

“คนอย่างมึงมีสมองจำด้วยหรือไง”

“เอ๊...จะมีวันไหนที่ไม่ด่าผมบ้างเนี่ย”

“วันที่มึงหายไปจากชีวิตกู วันที่มึงตาย วันนั้นแหละที่กูจะเลิกด่า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะอโหสิกรรมให้กับสิ่งที่มึงทำกับกู”

“เจ็บแล้ว โดนด่าจนร้องไห้ไม่ทัน”

มันทำเป็นเล่นทุกที ไม่ว่าจะสาดคำพูดที่รุนแรงแค่ไหนใส่ มันก็ตอบกลับด้วยสีหน้ายียวนทุกครั้ง

“ไอ้สัด...ปล่อย” ธราจ้องใบหน้าคมคายเขม็ง เพิ่งด่ามันไปไม่ทันขาดคำ มือของมันก็เล่นงานเขา แม้จะพยายามผลักออกแต่มันก็เกาะติด เขานึกเจ็บใจทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นึกเจ็บใจที่ต่อให้จะพ่นคำว่าเกลียดแต่ร่างกายกลับตอบสนองกับสัมผัสที่มันมอบให้ สุขสมทุกครั้งที่มันใช้ริมฝีปากปรนเปรอ

“ฤทธิ์ยาที่ใช้กับคุณเมื่อคืนยังไม่หมดเหรอ คุณถึงไม่ค่อยมีแรงเลย” มันยกยิ้มก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอของเขา “ปกติต้องต่อยต้องเตะผมแล้ว อืม...ตัวคุณหอมจังเลยที่รัก ขอกินคุณก่อนไปมหาลัยนะ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีสมาธิเรียนแน่”

มันขออนุญาตไปอย่างนั้นเพราะแม้เขาจะปฏิเสธ มันก็ไม่เคยฟัง แต่ที่น่าโกรธคงเป็นตัวเขาเองที่ไม่เคยขัดขืนมันได้เลยสักครั้ง ทั้งที่เกลียดมันแต่กลับทำร้ายมันไม่ลง ทั้งที่ตะโกนใส่หน้ามันหลายครั้งว่าไม่เคยรู้จักกันแต่บางครั้งก็รู้สึกคุ้นเคย

“อ้อ...จริงสิครับ วันก่อนเพื่อนกับคู่หมั้นของคุณมาถามหาคุณกับผมอีกแล้ว” มันพูดในขณะที่กำลัง ‘กิน’ อย่างที่ต้องการ “พวกชอบสาระแนนี่เยอะจริงๆ นะ กิ๊กของคุณที่ชื่อจันทร์ก็มองผมตาขวางเชียว กลัวจนตัวสั่นเลยครับ เป็นอย่างนี้แล้วถ้าผมตอบโต้ไปบ้างคุณคงไม่ว่านะเพราะผมโดนคุกคามก่อน”

ธราไม่รู้หรอกว่ามันเป็นใครมาจากไหน แต่ก็พอรู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา ตำรวจไม่กล้ายุ่งกับมัน แม้ใครต่อใครจะรู้ว่าเขาถูกมันพามาขังไว้แต่ก็ไม่มีใครมาช่วยเขาได้และเขาก็ไม่ได้อยากให้ใครมาเดือดร้อนไปกับเขา เขาห่วงทุกคนที่เขารัก ห่วงพวกเพื่อนๆ และคนสำคัญที่จะติดร่างแหไปด้วย เพราะมันน่ะเป็นหมาบ้าที่พร้อมกัดทุกคนที่ยื่นมือเข้ามายุ่ง

“มึงสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำร้ายใคร” เขาพูดเสียงลอดไรฟัน ข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุเพราะสัมผัสจากมือและริมฝีปากของมัน “อย่าผิดคำพูด อย่าทำให้กูเกลียดไปมากกว่านี้เลย”

“อืม...ผมก็ไม่ได้อยากให้คุณเกลียดผมไปมากกว่านี้หรอก” มันส่งเสียงงึมงำในลำคอก่อนจะครอบริมฝีปากลงรับแกนกายร้อนของเขา ศีรษะได้รูปขยับโยกรูดรั้ง ดุนดันลิ้นเล่นอยู่นานแล้วดูดดึงจนเกิดเสียงในขณะที่เขาสูดริมฝีปากอย่างห้ามใจไม่ไหว สองมือยกขึ้นจับศีรษะของมันไว้แล้วกระแทกกายสวนเข้าหา ได้ยินเสียงอึกอักจากมันแต่เขาไม่ได้สนใจ เขาครางต่ำเพราะความอุ่นร้อนที่โอบรัด รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ปลดปล่อยในโพรงปากของมัน ในขณะที่ความรู้สึกผิดที่มีต่อคนสำคัญก็ตีคู่กันมา

ธรามีคู่หมั้น บิดาของเขาบอกว่าหมั้นเขากับหล่อนไว้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งเขาก็ไม่ได้คัดค้านหรือเดือดเนื้อร้อนใจ เพราะหล่อนก็น่ารักถูกใจเขา เขารู้สึกดีกับหล่อน อยู่กับหล่อนแล้วสบายใจ เขายกให้หล่อนเป็นคนสำคัญแม้ว่าจะควงหรือคุยเล่นกับคนอื่น เขายอมรับว่าไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพอสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่หล่อนก็เข้าใจ หล่อนไม่ต่อว่า ไม่ทำตัวงี่เง่า แต่กลับน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย แม้ในพักหลังมานี้เขาจะเอนเอียงความสนใจไปให้กับผู้ชายตัวเล็กที่ชื่อจันทร์เจ้าที่เพิ่งได้พบได้ทำความรู้จักไม่นานก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ของเขากับจันทร์เจ้าไม่ได้พัฒนาไปไกลเมื่อเขาถูก ‘มัน’ กักขังเอาไว้

เขาถูกมันตามตื้อมานาน นานพอที่ความรู้สึกของเขาชัดเจนว่าไม่ได้มีความรู้สึกดีให้กับคนคนนี้ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งมันจะกล้าขังเขาไว้โดยไม่สนใจว่าจะเกิดผลกระทบอะไรต่อชีวิตของเขาบ้าง

“ผมไปเรียนก่อนนะ” มันบอกเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว “คุณต้องเป็นเด็กดีนะครับ อย่าสร้างปัญหาให้เพื่อนของผม ถ้าเขาบอกให้กินข้าว คุณก็ต้องกิน ไม่งอแง ไม่อย่างนั้นผมจะกลับมาลงโทษคุณ”

เพื่อนของมันที่ว่าก็คือผู้ชายร่างเล็กที่ชื่อจี้ แต่จี้คนนี้อาจจะมีความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนกับมันก็ได้เพราะเขาเห็นแววตาที่จี้มองมัน เห็นความรักความเทิดทูนในแววตานั้น ในขณะเวลาที่มองเขากลับมีแต่ความเย็นชา

มันออกจากห้องไปแล้ว ปล่อยทิ้งธราไว้เพียงลำพัง แต่ถึงแม้จะปล่อยทิ้งไว้เขาก็ไม่ได้คิดหนีไปไหน เพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ โซ่ที่ล่ามข้อเท้าของเขาแน่นหนาหรือต่อให้จะหนีไปได้ มันก็ตามเขาเจออยู่ดี เพราะมันต้องทำทุกทางเพื่อหาตัวเขาอยู่แล้ว เขาไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากให้ใครต้องมาพลอยโดนลูกหลงไปด้วย

ธราถอนหายใจ เขาเหม่อมองออกไปด้านนอก คิดถึงอิสรภาพ กำลังคิดว่าได้ออกไปเที่ยวเล่นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจจะเป็นเย็นวันเสาร์ที่นัดกินข้าวกับพวกไอ้แพร์ หรือเป็นเช้าวันอาทิตย์ที่ออกไปคาเฟ่ห์แมวกับจันทร์เจ้า เขาจำไม่ได้แน่ชัดนัก แต่ที่แน่ชัดในตอนนี้คือความเศร้าสร้อยในใจที่อยู่ๆ ก็เอ่อล้นขึ้นมา เขาเหลือบมองนาฬิกาเพราะอยากรู้ว่าปล่อยให้ตัวเองนอนแกร่วอยู่นานแค่ไหน

เที่ยงตรง

เข็มยาวและเข็มสั้นชี้ตรงกัน ในขณะที่เข็มวินาทีก็ยังคงเดินไม่หยุด เขาละสายตาจากนาฬิกาแขวนผนังไปที่ประตูห้อง เพราะแน่ใจว่าอีกไม่กี่วินาทีคงถูกเปิดเข้ามา จี้ตรงเวลาเสมอ มักจะมาในเวลาเที่ยงตรงเพื่อเสิร์ฟข้าวเที่ยงให้กับเขา

“ไง” เป็นไปตามนั้น คนร่างเล็กเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร สีหน้าไม่ยินดียินร้าย แม้จะเอ่ยทักแต่ริมฝีปากไม่ขยับยิ้ม แววตาก็ไม่เป็นมิตร “หิวหรือยัง”

“ยัง” เขาตอบสั้น มองเมนูอาหารที่มีแต่ของโปรดของเขาบนถาดอาหารแล้วสบตากับจี้ “ไม่อยากกิน”

“กินหน่อย” จี้บอก วางถาดอาหารกลางวันลงแล้วเก็บถาดอาหารเช้าไปไว้บนโต๊ะมุมห้อง “ข้าวเช้าก็ไม่กิน ยังไงมื้อเที่ยงก็ต้องกิน วันนี้ท่านกลับช้า มาไม่ทันบังคับมึงกิน แต่กูไม่ช่วยมึงปิดเรื่องที่ไม่ยอมกินข้าวหรอกนะ”

“กูบอกว่ากูไม่กิน!” เขาตวาดกลับ หากบอกว่าเจ้า จักรพรรดิพูดไม่รู้ฟังแล้ว คนตัวเล็กตรงหน้าเขาก็คงไม่รู้ฟังยิ่งกว่า เพราะคนคนนี้ฟังแค่คำพูดของท่านเจ้าของตัวเองเท่านั้น

“อย่าโง่ไปหน่อยเลย” จี้พูดเสียงเย็น “ต่อให้มึงประท้วงไม่กินข้าว ท่านก็ไม่ปล่อยมึงหรอก มีแต่จะลงโทษมึงที่ดื้อกับท่าน”

“ทั้งมึงทั้งเจ้านายของมึงนี่ไม่เคยรู้ผิดชอบชั่วดีหรือยังไงวะ” เสียงแข็งกร้าวโต้กลับ “ท่านของมึงไม่ใช่เจ้าชีวิตของใคร ไม่มีสิทธิ์มากักขังหรือบังคับคนอื่นแบบนี้ มึงก็ไม่ได้โง่ไม่ใช่เหรอวะ ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงแยกแยะไม่ได้”

“กูแยกแยะได้” จี้บอกเสียงเรียบ สบตากับธราอย่างตรงไปตรงมา “แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องของท่าน กูก็ไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนใจ”

ธรากัดฟันกรอด “หมดคำพูดกับคนอย่างพวกมึง”

“ก็ดี” จี้ตัดบทอย่างเย็นชา “ไม่มีอะไรจะพูดแล้วก็กินข้าวซะ”

“ไม่ต้องมาสั่ง” ธราบอกเสียงห้วนสั้น แต่ร่างเล็กขยับเข้ามาใกล้พร้อมอาวุธร้ายในมือ ปืนพกขนาดเล็กนั้นถูกหมุนควงไปมา เขาจับจ้อง แน่ใจว่าขนาดร่างกายที่แตกต่างนั้นเขาเอาชนะได้ไม่ยาก แต่ไม่ใช่กับคนที่พร้อมจะลั่นไกใส่เขาได้ทุกเมื่อ

“หรือมึงจะให้กูบังคับกรอกใส่ปาก”

ธรารู้ดีว่าไม่ใช่แค่คำขู่ จี้นั้นมีความบ้าไม่ต่างจากท่านของมัน เป็นคนพูดจริงทำจริงซึ่งเขาเคยเห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับจันทร์เจ้าเมื่อสองเดือนก่อนมาแล้ว จำไม่ได้ว่าจันทร์เจ้าดูหมิ่นท่านของมันว่าอย่างไร แต่ที่จำได้ดีคือสภาพสะบักสะบอมของจันทร์เจ้าในอีกวันต่อมา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงจำใจต้องกินข้าวตามที่สั่ง แต่ก็กินไปได้แค่ไม่กี่คำก็วางช้อนลงเพราะฝืนกินต่อไม่ไหว เขาไม่มีความอยากอาหารตั้งแต่ที่ถูกกักขัง รู้สึกราวกับตัวเองเป็นนักโทษประหารที่รอวันตาย ซึ่งผู้คุมนักโทษอย่างจี้ก็ไม่ได้บังคับให้เขากินไปมากกว่านั้น คงพอใจแล้วที่เห็นเขากินเข้าไปบ้าง

เมื่อเห็นว่าธราขยับออกห่างถาดอาหารแล้ว จี้ก็มาเก็บกลับไป ร่างเล็กเดินออกจากห้องและกลับเข้ามาในเวลาไม่ถึงสองนาที

นอกจากหน้าที่จัดการให้ธราได้กินข้าวตรงตามเวลาแล้ว จี้ก็มีหน้าที่นั่งเฝ้า ร่างเล็กมักจะนั่งอยู่มุมห้องพร้อมกับหนังสือเล่มเล็กในมือ สร้างความอึดอัดให้เขาอยู่ไม่น้อย เพราะแม้จะชวนคุยแต่อีกฝ่ายก็ไม่โต้ตอบราวกับว่ามีเสียงไว้พูดแค่กับท่านเจ้าของมันเท่านั้น แต่วันนี้ต่างออกไป จี้เป็นคนชวนเขาคุยก่อน

“วันนี้วันเกิดของท่าน มึงช่วยทำตัวดีๆ หน่อยนะดิน”

ธราหัวเราะขึ้นมาทันที มองผู้คุมร่างเล็กที่ราวกับกำลังพูดมุขตลกให้เขาฟัง “ทำไมกูต้องทำตัวดีๆ กับคนที่กูเกลียดด้วยวะ” พูดจบก็หัวเราะพรืด “คือยังไงนะ กูต้องบอกว่าสุขสันต์วันเกิด ดีใจที่คนอย่างมันเกิดมาเหรอ เฮ้ย...มันจะไม่บังคับกันมากไปหน่อยหรือไง เพราะกูคิดจริงๆ นะว่าถ้าเกิดมาแล้วทำตัวระยำอย่างนี้ก็ไม่ต้องเกิดมาก็ได้มั้ง เก่งแค่เรื่องทำให้คนอื่นเกลียดแล้วยังมาหวังให้ทำดีด้วย เหอะ!”

“มึงไม่ได้เกลียดท่านหรอก” จี้แย้ง มองธราด้วยแววตาจริงจัง ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะแสดงกิริยาอย่างไร “มึงรักท่าน มึงอาจจะลืมไปแล้ว แต่เถียงกูสิว่ามึงไม่ได้รู้สึกดีเวลาที่อยู่กับท่าน ไม่งั้นมึงไม่ยอมถูกขังเกือบสองเดือนหรอกดิน ท่านล่ามแค่ข้อเท้า แต่ไม่ได้มัดมือมึงไว้ โทรศัพท์มือถือของมึงท่านก็ไม่ได้ยึดไป ห้องก็ไม่เคยล็อก มึงจะทำอะไรก็ได้ จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็ได้ แต่ทำไมมึงไม่ทำ”

“กู…” ธราอึกอัก รู้สึกคล้ายน้ำท่วมปากเมื่อถูกคำพูดของจี้กระแทกโดนจุด “มันขู่จะทำร้ายคนที่กูรัก ต่อให้กูหนีมันไป ยังไงมันก็ตามเจอ แล้วกูจะหนีไปทำไมวะ ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์”

“มึงคิดว่าท่านเลวร้ายขนาดนั้นเหรอ” จี้ย้อนถาม “มึงเห็นอะไรบ้างจากคนที่ตามตื้อมึงมาสองปี เคยเห็นสิ่งดีๆ ที่ท่านทำเพื่อมึงบ้างมั้ย หรือเพราะมึงเอาแต่มองไปที่อื่นจนไม่เห็นท่านเลย”

“แต่จากสิ่งที่มันทำกับกู ก็ไม่ใช่คนดีไง!” ธราโต้กลับ ไม่ชอบใจกับสายตาที่กล่าวโทษว่าเขาเป็นคนผิด “กูไม่รักแล้วกูผิดตรงไหน กูไม่เคยให้ความหวัง ไม่เคยทำอะไรให้มันรู้สึกว่ากูรักมันเลย ถ้ากูทำ กูจะไม่โทษที่มันเป็นแบบนี้ แต่กูไม่ได้ทำ กูบอกมันชัดแล้วว่ากูมีคู่หมั้น มีคนรัก แต่แทนที่ที่มันจะเข้าใจแล้วถอยออกไป มันกลับเลือกที่จะทำแบบนี้กับกู” เขาหยุดพักหายใจ อกกว้างสะท้อนขึ้นลงตามแรงโทสะที่มี “มึงคิดจริงๆ เหรอวะว่าทำแบบนี้แล้วกูจะรักได้ ยิ่งทำกูก็ยิ่งเกลียด ทำไมท่านของมึงไม่เคยเข้าใจแล้วยอมรับความจริง”

“กูก็ไม่ได้พูดว่าสิ่งที่ท่านทำตอนนี้มันถูก” จี้บอกเสียงเครียด ใบหน้าเล็กบิดเบี้ยวเล็กน้อยคล้ายกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดภายในใจ “แต่กูแค่อยากให้มึงเห็นใจท่านสักนิด แค่สักนิดก็ยังดี” ความเคร่งขรึมที่มีหายไปทีละน้อยเมื่อเสียงที่พูดเริ่มดังขึ้น “มึงไม่เอะใจอะไรเลยเหรอวะ ไม่รู้สึกคุ้นกับคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิบ้างหรือไง มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าคนที่ถูกมึงลืมทั้งที่เขาจดจำมึงได้ทุกอย่าง เขารู้สึกยังไง มึงเป็นบ้าอะไรวะดิน ทำไมถึงจำท่านไม่ได้ แต่กับคนเหี้ยๆ อย่างจันทร์เจ้า มึงกลับเข้าหามันทันที มึงเชื่อมันทุกอย่าง แต่มึงไม่เชื่อที่ท่านบอกมึงเลย!”

“กูจำไม่ได้แล้วกูผิดอะไรวะ” เสียงแข็งกร้าวโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ “คนที่ไม่ยอมรับว่าไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วก็คือท่านของมึง มึงจะให้กูรับผิดชอบในเรื่องที่กูจำไม่ได้เหรอ มึงจะให้กูทิ้งคนที่กูรักไปคบกับคนที่บอกว่าเป็นคนรักของกูทั้งที่กูไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยหรือไง อดีตก็คืออดีตสิวะ เลือกจะติดอยู่ตรงนั้นไม่ก้าวไปไหนก็ไม่ต้องโทษคนอื่น”

“ท่านไม่ควรรักมึงเลยจริงๆ ไม่ควรให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับคนอย่างมึง” แววตาที่มองธราเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ถ้ารู้ว่ามึงจะมีชีวิตอยู่เพื่อทำให้ท่านเจ็บปวดขนาดนี้ กูไม่ปล่อยให้มึงรอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอกดิน”

ธรามองใบหน้าเล็กของจี้ด้วยความไม่เข้าใจ “กูถามจริงๆ ว่ากูผิดอะไร มึงตัดสินด้วยอะไรวะจี้ ด้วยความรู้สึกของมึงที่ไม่อยากให้ท่านของมึงเจ็บปวดหรือด้วยความจริง ถ้าเป็นอย่างหลังกูยอมก้มกราบท่านของมึงก็ได้ ยอมให้มึงฆ่ากูเลยก็ได้”

“ไม่ต้องบอกกูก็จะทำ” จี้บอกอย่างเย็นชา แววตาจริงจังในขณะที่ปลดเซฟปืนในมือ ธรามองตาม ไม่รู้สึกหวั่นใจ ทว่ารออยู่นานก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น คนที่ยกปืนขึ้นเล็งเขาไม่เหนี่ยวไกเสียที “คนอย่างมึงนะดิน ดื้ออย่างที่ท่านบอก”

“ทำไมมึงถึงรักมันวะจี้” จู่ๆ ธราก็อยากรู้ เขาอยากรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้แววตาที่จดจ้องเขานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“เพราะเป็นคนที่ควรถูกรัก” จี้ให้เหตุผลพลางก้าวเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาบนใบหน้าเล็กนั้นจับจ้องที่ใบหน้าของธรา ปากกระบอกปืนจ่อที่กลางหน้าผากของเขา เขาเผลอกลั้นหายใจ รู้แน่ว่าอีกไม่นานนิ้วเล็กนั้นคงลั่นไก แต่ผ่านไปชั่วอึดใจก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เมื่อลืมตามองก็เห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของจี้ ก่อนปืนจะถูกลดลงแล้วถูกเก็บซ่อนไว้ตามเดิม “ยังไงกูก็ทำไม่ลง” ริมฝีปากเล็กพึมพำก่อนปืนจะถูกเก็บเข้าที่ซ่อน

“สงสารเหรอวะ” ธรายอมรับว่าโล่งอก หัวใจเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งเพราะคิดว่าคงจะได้ไปทัวร์นรกซะแล้ว

“เปล่า” จี้ปฏิเสธพลางให้คำตอบขณะที่กำลังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง “กูไม่อยากให้ท่านเสียใจ เพราะฉะนั้น” จี้หยุดพูดดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับลูกกุญแจ “ในเมื่อฆ่ามึงไม่ลง กูก็ต้องช่วยให้มึงหนี”

“เดี๋ยว” ธรามองคนที่กำลังก้มลงไปปลดพันธนาการให้เขาด้วยความไม่เข้าใจ “มึงจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอวะ ท่านของมึงคงไม่ชอบใจหรอก”

“ก็จริง แต่นายหญิงกำลังมา” จี้บอกเสียงเรียบ เร่งธราให้ลุกขึ้น “มึงจะนั่งแช่อยู่ทำไม ลุกขึ้นไอ้สัด”

“นายหญิงเป็นใครวะ” ธรายังคงตั้งคำถาม เขาไม่เข้าใจว่าต้องทำอะไรต่อจากนี้ ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกกับการกระทำที่เปลี่ยนแปลงของผู้คุมอย่างจี้ คนที่ไม่แม้แต่จะคิดปล่อยเขา แต่ครั้งนี้กลับเป็นคนนำทางให้เขาออกจากที่กักขัง

“นายหญิงเป็นแม่ของท่านแล้วก็เคยเป็นแม่เลี้ยงของมึง” จี้ตอบเสียงเรียบ ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ “จันทร์เจ้ากำลังจะพานายหญิงมาที่นี่ มันคงไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดี แล้วท่านก็ยังไม่รู้ว่านายหญิงกำลังมา ตอนนี้มึงต้องไปแล้ว เดี๋ยวจะมีคนมารับมึง”

“เดี๋ยว กูยังไม่เข้าใจอะไรเลย” ธรารั้งแขนของจี้ไว้ เครื่องหมายคำถามคงปรากฏบนทุกพื้นผิวของใบหน้า “กูจะแน่ใจได้ยังไงวะว่านี่ไม่ใช่แผนของมึง แบบ...มึงอาจจะสร้างสถานการณ์ให้กูหนี แล้วให้ท่านของมึงตามไปจัดการกับกูก็ได้ไง”

แววตาของจี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “มึงจะอยู่รอให้มีคนมาอุ้มไปฆ่าก็ตามใจมึงนะดิน คนของนายหญิงทำงานเรียบร้อย แม้แต่กระดูกของมึงก็คงไม่เหลือให้ตามสืบหาได้” น้ำเสียงของจี้จริงจังจนธราไม่อาจคิดว่าเป็นคำโกหก “ไอ้เด็กจันทร์นั่นสาระแนทุกที มันคงคาบข่าวไปบอกนายหญิงตั้งนานแล้วว่าท่านขังมึงไว้ที่นี่ พ่อชันกำลังไปรับนายหญิงที่สนามบินพร้อมไอ้เด็กจันทร์ เพราะฉะนั้นระหว่างนี้มึงต้องไปก่อน กูจะรีบบอกเรื่องนี้กับท่าน”

จี้ก้มลงดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้ง สีหน้าเป็นกังวลจนธราไม่กล้าที่จะตั้งคำถามต่อ เขาเดินออกจากห้อง ตามหลังจี้ไปติดๆ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์

“ดิน!” เสียงของจันทร์เจ้าเป็นเสียงแรกที่ธราได้ยิน “จันทร์เป็นห่วงดินแทบแย่!”

จี้เหลือบมองธรา ก่อนรีบโค้งศีรษะให้กับเจ้าของร่างระหงส์ที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างจันทร์เจ้าและพ่อเลี้ยง มองเลยไปทางด้านหลังก็เห็นชายร่างใหญ่อีกสามคนติดตามมาด้วย

“น้องจี้” เสียงหวานที่แสนเย็นชาของนายหญิงเอ่ยขึ้น “แล้วนี่ก็คงเป็นน้องดินสินะคะ ไม่ได้เจอกันนานเลย เป็นยังไงบ้างครับลูก”

คราวนี้เป็นธราที่เหลือบมองจี้บ้าง ตอนนี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยคำถามแต่ก็ยิ้มกลบเกลื่อนสีหน้าประหลาดใจให้กับคนตรงหน้า “เอ่อ...สบายดีครับ”

“สบายดีจริงๆ เหรอคะ” รอยยิ้มที่เห็นนั้นทำให้ธรารู้สึกไม่สบายใจ ยิ่งเมื่อเสียงหวานเอ่ยประโยคต่อมา เขาก็ยิ่งแน่ใจว่ารอยยิ้มที่เห็นนั้นเป็นรอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษ “พี่เจ้าคงเล่นสนุกเกินเหตุกับน้องดินอีกแล้วแน่ๆ เลย ว่าแต่จะไปที่ไหนกันเหรอคะ”

“นั่นสิครับ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นอีกคน “จันทร์คิดว่าพี่เจ้าขังดินเอาไว้ซะอีก! แต่ความจริงแล้วเป็นยังไงกันแน่ ที่ดินติดต่อไม่ได้มันเป็นเพราะอะไร...”

“ท่านไม่ได้...” จี้กำลังจะแก้ต่าง แต่เมื่อถูกดวงตาคู่สวยของนายหญิงจ้องมองก็เงียบเสียงลงไป

“ว่าไงคะน้องดิน กำลังจะไปไหน” เสียงหวานถามย้ำกับธรา

“กำลังจะกลับครับ” แม้จะไม่รู้และไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ธรากลับรู้ดีว่าในตอนนี้เขาไม่ควรตอบความจริง “แค่แวะมาเอาของเป็นเพื่อนจี้”

“งั้นเหรอคะ” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้นในขณะที่รอยยิ้มหวานยังคงประดับบนใบหน้าที่แสนเย็นชา “แต่หลังจากนี้คงไม่มีธุระที่ไหนใช่มั้ย งั้นไปนั่งคุยกันก่อน รอจนพี่เจ้ากลับมานะคะ ไม่ได้เจอกันนาน มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะเลยค่ะ”

“คือ…”

ธรายังไม่ทันได้ปฏิเสธ เสียง ติ๊ง! จากลิฟต์อีกตัวก็ดังก้องไปทั่วทางเดิน เขาหยุดชะงักพลางหันมองไปที่บานประตูที่กำลังเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ เกิดเสียงบางอย่างดังก้องในหัว เสียงพูด เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้และสารพัดถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงคุ้นหู อาจเป็นเพียงชั่วเวลาอึดใจเดียวเท่านั้นแต่กลับยาวนานในความรู้สึกของเขา เสียงนั้นก้องสะท้อนราวกับดังมาจากที่ไกลๆ และไม่นานก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเขา ได้ยินเสียง ปัง! ที่ดังกึกก้องขึ้นหลังจากนั้น ก่อนภาพที่ใครบางคนล้มลงต่อหน้าจะชัดเจนในความทรงจำ เลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกจากกลางอก เปลี่ยนเชิ้ตสีขาวที่สวมใส่ให้อาบไล้ไปด้วยสีแดงอย่างน่ากลัว

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 02-03-2019 17:47:37
ดิน...น้องดิน

เขาได้ยินถ้อยคำ ได้เห็นรอยยิ้มแห่งความเศร้าสร้อย ได้เห็นน้ำตาของคนที่เขาเกลียดชัง แต่ไม่มีแม้แต่ความสะใจ หัวใจของเขาร่ำไห้ ปวดจนแทบทนไม่ไหว

น้องดิน...เจ้าขอโทษ ขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้

ยิ้มหน่อยนะ อย่าร้องไห้เลย เพราะต่อจากนี้จะไม่เป็นไรแล้วนะ เจ้าไม่อยู่รบกวนแล้ว

ขอโทษที่เห็นแก่ตัว ขอโทษที่ทำเรื่องแย่ๆ ขอโทษที่ทำให้น้องดินต้องทรมานอีกครั้ง

ดีแล้วนะที่จำไม่ได้ ดีแล้วล่ะ

ขอโทษอีกครั้ง มีชีวิตที่ดีนะ มีความสุขให้มากๆ แล้วก็...

เสียงพูดขาดหายไปพร้อมกับร่างผอมบางในอ้อมแขนของเขากระตุกเบาๆ แววตาคมจ้องมองมาด้วยความอาวรณ์ ก่อนจะปิดสนิทลงตลอดกาล

“ดิน เวลาเริ่มเดินต่อแล้ว”

เสียงของจี้ราวกับน้ำเย็นที่สาดเข้าใส่เพื่อปลุกธราให้หลุดจากภวังค์ความคิด ฉุดดึงให้รู้ว่าในขณะนี้ตัวเขากำลังอยู่ที่ไหนและกำลังเผชิญกับสิ่งใด

เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ความกระวนกระวายประดังประเดเข้ามาเมื่อมองไปที่ประตูลิฟต์ หัวใจเริ่มเต้นรัวจากที่เป็นจังหวะปกติก็เพิ่มความถี่จนในตอนนี้แทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอก เขาละสายตาเพียงครู่เพื่อหันมองไปที่จี้ ชั่วครู่หนึ่งที่รู้สึกว่าจดจำคนร่างเล็กคนนี้ได้ดี ชั่วครู่เท่านั้นที่ภาพความทรงจำเป็นร้อยเป็นพันภาพไหลทะลักเข้ามาในหัว

“จี้” ธราเค้นเสียง มือของเขาสั่นอย่างหนัก “เจ้ามาแล้ว” เสียงที่เปล่งออกมานั้นคล้ายกับไม่ใช่เสียงของเขา มันเหมือนดังอยู่ในหัวทั้งที่เขาไม่ได้ขยับริมฝีปากด้วยซ้ำ “เร็วเข้า...มึงรับปากแล้วจี้”

ธรารู้ ตอนนี้เขารู้แล้ว เขาจำได้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก เหตุที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เขากับจี้ไม่อาจยอมรับนั้นมากันครบแล้วและเมื่อครบถ้วนตามเงื่อนไข เวลาจะเริ่มเดินต่อไปยังจุดสิ้นสุดที่มันควรจะเป็น

“ทำไมเหตุถึงไม่เปลี่ยน” ธราเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ ทั้งที่คุยกันแล้วว่าไม่ว่าจะต้องรับบทลงโทษแบบไหนแต่ก็จะเปลี่ยนเหตุที่ชักนำให้เกิดความสูญเสียให้ได้ แต่มาจนบัดนี้ เหตุการณ์ก็ยังคงดำเนินไปตามเดิมอยู่ดี “ทำไมถึงยังเป็นเหมือนเดิม ทำไมวะ!”

“มันเปลี่ยน” จี้กล่าวอย่างสงบ ไม่เต้นไปตามอารมณ์ของธรา “เปลี่ยนตั้งแต่ตอนที่กูคิดพามึงหนีแล้วดิน”

เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องราวในครั้งก่อนนั้นจี้เป็นเพียงผู้คุมขังที่ไร้หัวใจ ไม่เคยมีสักเสี้ยวความต้องการที่จะช่วยเหลือธรา แม้แต่ถูกคำสั่งให้กำจัดก็กระทำอย่างไม่ลังเล

ธราขมวดคิ้วมุ่น เหลือบมองคนร่างเล็กด้วยความข้องใจ “มึงหมายความว่ายังไง”

“กูต้องบอกมึงไว้ก่อนนะดินว่าต่อให้เส้นทางแตกต่างแต่ผลลัพธ์จะไม่เปลี่ยน” น้ำเสียงของจี้ราบเรียบ คนที่ไม่แม้แต่จะขยับริมฝีปากล้วงมือเข้าไปในที่ซ่อนปืน “นั่นคือสิ่งที่เราเลี่ยงไม่ได้ มึงน่ะชอบให้กูทำเรื่องยากๆ ให้อยู่เรื่อย แต่มึงควรรู้ไว้ว่าในโลกนี้คนที่ตามใจและทำให้มึงได้ทุกอย่างมีแค่ท่าน”

“มึงจะทำอะไรจี้” ธราตั้งคำถามอีกหน แน่ใจแล้วว่ามีหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปจากเหตุการณ์เดิม และหนึ่งในนั้นก็คือตัวเขา ตัวเขาที่มีความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ควรลืม ตัวเขาที่จดจำเจ้า จักรพรรดิได้ขึ้นใจ ตัวเขาที่รู้ในเรื่องที่ควรรู้ ข้อความที่จี้เคยทิ้งเอาไว้ก่อนห้วงเวลานั้นจะหมดลงก็ยังคาใจ หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับจี้ก็ยังคงเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ

“มึงตายไม่ได้หรอกดิน ถ้ามึงตายแล้วท่านจะอยู่ยังไง” คำตอบของจี้กลับกลายเป็นเพียงคำพูดที่ไม่ช่วยให้ธราเข้าใจมากขึ้น “คนรักน่ะควรจะอยู่เคียงข้าง ตำแหน่งตรงนั้นเป็นของมึงอย่างถูกต้องแล้ว ส่วนคนเป็นความสบายใจอย่างกูน่ะ...อยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น”

“จี้…” ต่อให้ไม่เข้าใจก็รู้ดีว่าแววตาที่เห็นนั้นคือแววตาของคนที่เตรียมใจมาพร้อมที่จะเสียสละ

“ไม่ต้องขอบใจกูหรอกนะ” ริมฝีปากเล็กยกยิ้ม รอยยิ้มของผู้ปกป้องนั้นปรากฏขึ้นเสมอเมื่อนึกถึงคนที่เป็นดั่งเจ้าชีวิตของตน “กูทำเพื่อท่าน ไม่ได้ทำเพื่อมึง ดูแลท่านด้วยเพราะหลังจากนี้กูคงไม่มีโอกาสได้ดูแลท่านอีกแล้ว”

ชีวิตนี้ดีขึ้นก็เพราะท่าน

ชีวิตนี้มีความสุขก็เพราะท่าน

ชีวิตนี้มีค่าก็เพราะท่าน

เพราะแบบนั้นชีวิตนี้จึงเป็นของท่าน

.

.

ธราเข้าใจได้ทันทีถึงคำพูดของจี้เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก

แม้เส้นทางแตกต่างแต่ผลลัพธ์จะไม่เปลี่ยน

เหตุการณ์เดิมฉายซ้ำ แม้จะแตกต่างจากเดิมไปบ้างแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยน เจ้า จักรพรรดิยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ขาเรียวยาวยืนอย่างมั่นคงอยู่หน้าประตูลิฟต์ ใบหน้าคมคายหันมองมาที่ธราแล้วมองเลยผ่านไปยังกลุ่มคนที่อยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย ในขณะที่จี้จับที่ข้อมือของเขาแล้วกระตุกเบาๆ

“ไปหาท่าน” จี้บอกเสียงเรียบ แต่จันทร์เจ้าเข้ามาขวางเอาไว้เมื่อเห็นท่าทีของธรา

“กลับกันเถอะครับดิน” จันทร์เจ้ายื่นมือมาจับมืออีกข้างของธราแต่จี้ไวกว่า มือเล็กนั้นปัดมือของจันทร์เจ้าออกโดยแรง

“อย่าสาระแน” จี้มองตาขวาง แต่จันทร์เจ้ามีสีหน้าเอาเรื่อง นอกจากจะไม่ยอมถอยห่างแล้วกลับขยับเข้าใกล้ “อย่าให้กูต้องเหลืออด”

“ทำไม! หมารับใช้อย่างมึงจะทำอะไร...” ถ้อยคำหลังจากนั้นถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเห็นอาวุธอันตรายในมือของอริ จันทร์เจ้าถอยห่างในทันที รู้แน่แก่ใจว่าคนอย่างจี้คงลั่นไกอย่างไม่ลังเล

“น้องจี้!” เสียงเครียดขรึมของลุงชันดังขึ้นทันที “อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยลูก มาคุยกันดีๆ ก่อน”

“พ่อคิดว่าจะคุยดีๆ ได้เหรอ ในเมื่อนายหญิงพาคนมาด้วยขนาดนี้” จี้ย้อนถาม ในขณะที่ก้าวถอยหลังไปยืนเคียงข้างเจ้านายเพียงหนึ่งเดียวของตัวเอง

“นั่นสิครับ แม่ตั้งใจจะทำอะไรถึงมาโดยไม่บอกผม” เสียงเรียบเย็นของเจ้า จักรพรรดิเอ่ยถามกับมารดา แววตาคมสบมองกับแววตาสวยอย่างไม่หลบเลี่ยง ก่อนจะกวาดสายตามองคนที่ติดตามมากับมารดาด้วย “คนที่ทำงานสกปรกให้แม่มาทำอะไรกันในที่ของผม ไหนจะตัวเสนียดที่แม่พามาด้วยอีก”

จันทร์เจ้ามีสีหน้าโกรธขึ้งเพราะรู้ดีว่าตัวเสนียดที่อีกฝ่ายพูดถึงนั้นหมายถึงใคร แต่ไม่กล้าปากดีโต้กลับเมื่ออาวุธที่แสนอันตรายในมือของจี้เล็งมาที่ตน

“ทำไมมองแม่แบบนั้นท่านเจ้า” เสียงหวานของมารดาแฝงไปด้วยความตัดพ้อ แววตาหวานเผยความเสียใจเมื่อบุตรชายมองมาด้วยความระแวดระวัง “แม่อุตส่าห์ทิ้งธุระสำคัญทุกอย่างเพื่อมาอยู่ด้วยในวันพิเศษ”

“แม่ไม่เคยสนใจวันเกิดของผมมาหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอครับ” คนเป็นลูกทำไมจะไม่รู้ว่ามารดากำลังคิดอย่างไร วันเกิดของเขาน่ะกลายเป็นวันธรรมดามาหลายปีนับตั้งแต่ที่มารดามี ‘ธุระสำคัญ’ แทบทุกวัน

“อืม...งั้นแม่ก็ไม่อ้อมค้อม” รู้ดีว่าหว่านล้อมได้ยากจึงเลือกที่จะเปิดเผยจุดประสงค์โดยไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ “อย่างที่ท่านเจ้าคิด...แม่มาเพื่อทวงสัญญา สัญญาที่ท่านเจ้าบอกจะกลับไปหาแม่แต่ก็เมินเฉยเหมือนไม่เคยได้ลั่นวาจาต่อกัน” ดวงตากลมสวยใต้คิ้งโก่งได้รูปจับจ้องมองไปที่ธราแทนที่จะเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน “แต่แม่ก็ยังใจดีปล่อยให้เที่ยวเล่นต่อ แม่ปล่อยให้ท่านเจ้าได้คิด ได้ตระหนักเองว่าอะไรคือสิ่งที่ควรหรือไม่ควรเพราะแม่เชื่อว่าท่านเจ้าของแม่โตมากพอจะคิดได้ แต่แม่รู้แล้วว่าแม่คิดผิด ท่านเจ้าไม่ได้โตขึ้นเลย ยังคงเล่นสนุกเกินเหตุโดยไม่คิดถึงผลเสียที่จะตามมา ถ้าน้องจันทร์ไม่บอกแม่ แม่ก็คงไม่รู้ว่าท่านเจ้าของแม่เสียสติได้มากถึงขนาดจับคนทั้งคนมากักขัง”

ธราอาจจะเป็นคนเดียวในที่นี้ที่มีสีหน้างงงวย เพราะในตอนนี้ต่อให้เขาจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเจ้า จักรพรรดิมากพอที่จะยื่นมือไปกุมมือที่กำลังสั่นเอาไว้ หรือแม้จะรับรู้ถึงความร้ายกาจของจันทร์เจ้า รับรู้ว่าคนที่ครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูเขามาไม่เห็นด้วยกับความรักของเขากับลูกชายของเธอ โดยที่ธราเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่ายังไงธราคนปัจจุบันคนนี้ก็ไม่ได้รู้เลยว่าเจ้า จักรพรรดิที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาเมื่อสองปีก่อนเพื่อจะได้ทำความรู้จักกับเขาอีกครั้งนั้นต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง เขาไม่รู้ว่ากว่าที่จะกลับมายืนเคียงข้างกันได้ต้องผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาด้วยความรู้สึกแบบไหน

“นั่นเพราะแม่ปล่อยมันมา ที่ผมต้องทำแบบนี้เพราะแม่ให้มันกลับมาทำลายความสุขของผม” ใบหน้าคมคายเครียดขรึม แววตาที่สบมองกับมารดานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มารดารู้ดีว่าตัวตนของจันทร์เจ้าเป็นความเกลียดชังเพียงอย่างเดียวที่เขามี แต่กลับยังปล่อยให้มันเข้ามายุ่งเกี่ยวในชีวิตของเขา “ทั้งที่เป็นการขอร้องครั้งสุดท้ายที่ผมจะร้องขอจากแม่ แต่แม่ก็ทำให้ผมไม่ได้”

“ไม่ใช่เพราะท่านเจ้าผิดสัญญากับแม่ก่อนหรือ ไม่ใช่เพราะตัวท่านเจ้าเองหรอกหรือที่กดดันให้แม่ต้องทำ” เสียงหวานโต้กลับ มองบุตรชายเพียงคนเดียวด้วยหัวใจที่เจ็บปวดไม่ต่างกัน “แม่จำเป็นต้องเตือนให้รู้ว่าระหว่างท่านเจ้ากับน้องดินมันเป็นไปไม่ได้”

“แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ” เสียงทุ้มของธราเอ่ยขัดขึ้น นั่นทำให้ใบหน้าสวยของคุณแม่ที่ครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูเขามาด้วยความรักหันมอง “ทำไมผมกับเจ้าจะรักกันไม่ได้ในเมื่อเราไม่ใช่พี่น้องกัน”

เกิดความเงียบขึ้นหลังจากที่ธราพูดจบ ได้ยินแม้แต่เสียงเม็ดฝนที่ตกอยู่ด้านนอก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา ธราจึงพูดต่อ “ถ้าคุณแม่คิดจะใช้ข้ออ้างนี้มาทำให้ผมกับเจ้าต้องแยกกันอีก ผมว่าผมคงจะทำให้ไม่ได้หรอกครับ”

“ดินพูดอะไรออกมา!” จันทร์เจ้าตวาดขัดขึ้นทันทีเมื่อได้สติ ดวงตาที่ผ่านการศัลยกรรมให้คล้ายกับท่านเจ้าของธรานั้นมองมาด้วยความขุ่นเคืองใจราวกับกำลังได้ฟังเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจที่สุดในโลก “ดินน่ะเป็นพี่น้องกับพี่เจ้า! เป็นพี่น้องคนละแม่ เรื่องนี้น่ะ...”

“ผมคิดว่าผมบอกจันทร์ก่อนที่รถจะเกิดอุบัติเหตุแล้วนะว่าความจริงมันเป็นยังไง” ธราตัดบททันที

“นี่ดิน...” จันทร์เจ้าอ้าปากค้าง ทำหน้าคล้ายเห็นผี ไม่ต่างจากสีหน้าของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ธราในเวลานี้ “จำได้แล้วเหรอ”

ธราไม่ตอบคำถามของจันทร์เจ้า เขาบีบมือบางที่กุมอยู่เบาๆ แล้วพูดกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า “ผมว่าคุณแม่ก็คงรู้แก่ใจดีอยู่แล้วถึงความจริงในเรื่องนี้”

“จริงเหรอ” ท่านเจ้าของธราถามเสียงแปร่งคล้ายกับเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอหลังจากที่นิ่งงันด้วยความตกใจอยู่นาน “ที่พูดน่ะจริงใช่มั้ยดิน”

“จริงครับ” ธราตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่น “ลุงชันยืนยันได้”

ใบหน้าหล่อเหลาของธรามองไปยังลุงชันที่เป็นคนบอกเล่าความจริงให้เขาฟัง ไม่แน่ใจนักว่าอีกฝ่ายจะพูดสนับสนุนเขาหรือไม่ แต่ก็ลังเลได้ไม่นานเมื่อลุงชันไม่ทำให้ผิดหวัง

“ใช่ครับท่านเจ้า” ลุงชันยืนยันเสียงขรึม “ที่คุณชายพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดครับ”

“แต่ลุงบอกว่า...”

“เจ้าไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ มีแค่ผมกับจันทร์เท่านั้น” ธราขัดเมื่อเห็นริมฝีปากบางกำลังจะเอ่ยแย้ง เขาเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายยังคงก้ำกึ่งที่จะเชื่ออย่างสนิทใจในเมื่อความคิดที่เชื่อว่าเขาเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดนั้นฝังหัวมานานหลายปี “ลุงชันบอกผมในคืนก่อนที่ผมจะรถคว่ำว่าที่จริงแล้วความจริงมันเป็นยังไง”

ความจริงกับความเป็นไปไม่ได้นั้นธราคนก่อนรับรู้เป็นอย่างดีและเลือกที่จะยอมรับความเป็นไปไม่ได้ที่มีโดยไม่คิดจะฝืน แต่สำหรับธราคนนี้...ไม่ใช่ เพราะเขาในตอนนี้ต่อให้จะเป็นสายเลือดเดียวกันหรือมีอุปสรรคอื่นใดมาขวาง เขาก็ยังเลือกที่จะรักผู้ชายที่ชื่อ เจ้า จักรพรรดิอยู่ดี

“ปากมากไม่เข้าเรื่องจริงๆ ด้วยสินะ” เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากสวย ก่อนดวงตากลมโตจะปรายมองพ่อบ้านคนสำคัญของบุตรชายที่ไม่คาดคิดว่าจะทรยศ “หากเรื่องไหนที่บอกว่าเป็นความลับก็คือห้ามแพร่งพราย ฉันพลาดเองที่ไม่ได้จัดการปิดปากคุณก่อน ดูสิว่าก่อเรื่องใหญ่แค่ไหน” แค่ใบหน้างามพยักขึ้นลงเพียงนิด ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังก็จ่อปืนเข้าที่ท้ายทอยของพ่อบ้านคนสำคัญทันที

“หยุดนะ!” ท่านเจ้าร้องเสียงหลง เผลอบีบมือธราแน่นด้วยความรู้สึกกลัวที่ตีตื้นขึ้นมา “แม่ครับ! สั่งให้คนของแม่เก็บปืนเดี๋ยวนี้!”

“ลุงไม่เป็นไรหรอกครับท่านเจ้า ดีเสียอีกที่ได้พูดออกมา ดีแล้วล่ะครับ ท่านเจ้าของลุงจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ดีแล้วที่คุณชายจำท่านเจ้าได้เสียที” ลุงชันเผยรอยยิ้มอย่างไม่หวั่นเกรง แววตาคมเข้มของชายมีอายุมองไปที่ใบหน้างามของนายหญิง ความเย็นชาที่อีกฝ่ายแสดงออกมาก็ไม่อาจปิดกั้นความอ่อนไหวภายในใจได้ “ไม่มีความลับอยู่บนโลกนี้หรอกครับนายหญิง ฐานะของท่านเจ้า สักวันก็จะถูกเปิดเผย ต่อให้ผมตายไป ความจริงก็ไม่ได้เปลี่ยน” น้ำเสียงของลุงชันเนิบนาบ ไม่อนาทรต่อปากกระบอกปืนที่กดแนบท้ายทอยเลยสักนิด “ท่านเจ้าน่ะรักคุณชาย ต่อให้จะใช่หรือไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ความรู้สึกของทั้งสองคนก็ไม่เป็นไปตามที่นายหญิงหวังหรอกครับ”

“ถ้าอย่างนั้น...น้องจี้” ใบหน้างามไร้รอยยิ้มเมื่อเอื้อนเอ่ย “ช่วยกำจัดต้นเหตุความผิดหวังของฉันให้หน่อยได้มั้ย”

ธราเห็นมือที่กำรอบด้ามปืนของจี้สั่น ซึ่งเขาเข้าใจดี เข้าใจดีทีเดียวว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ หลังจากที่ประโยคต่อมาถูกเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานที่แสนอันตราย

“อย่างที่ฉันเคยบอกหนู...ว่าโลกนี้ทุกสิ่งล้วนแต่ได้มาโดยเกิดการแลกเปลี่ยน ไม่มีสิ่งไหนได้มาฟรี” เสียงเย็นของนายหญิงยังคงพูดต่อ บอกย้ำให้จี้หวนนึกถึงครั้งที่ถูกส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของท่านเพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้ท่านเจ้าออกตามหาธรา “ชีวิตของพ่อที่เลี้ยงดูหนูมา กับคนที่หนูเกลียด...คงเลือกไม่ยากใช่ไหม”

“แม่บ้าไปแล้วหรือไง!” เจ้า จักรพรรดิตวาดเสียงดังลั่น เนื้อตัวสั่นเทิ้มไปด้วยโทสะ “จี้ไม่ต้องไปฟัง ไม่ต้อง...”

“ฉันเอาจริงนะหนู คนอย่างฉันไม่เคยล้อเล่น”

รู้ดี จี้รู้ดีทีเดียวว่านายหญิงนั้นเป็นคนแบบไหน ท่านเด็ดขาดและเมื่อได้ลั่นวาจาก็จะไม่คืนคำ

“เดี๋ยว!” จันทร์เจ้าขัดขึ้นอย่างอดไม่ไหวหลังจากที่มองคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยความหวาดหวั่น “หมายความว่ายังไง! ที่บอกให้กำจัดน่ะกำจัดใคร มีสิทธิ์อะไร อย่ามาทำร้ายดิน! พวกมึงมันแม่ลูกเฮงซวย!”

“ปิดปากเด็กนี่หน่อย” แค่เพียงคำสั่งสั้นๆ ชายร่างสูงใหญ่อีกคนก็ประชิดตัวจันทร์เจ้าแล้วยกมือขึ้นปิดปากเล็กเอาไว้ มืออีกข้างก็ล็อกตัวร่างเล็กบางไว้แน่น แม้จะดิ้นขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการ “ทีนี้ มาว่าเรื่องของเราต่อดีกว่าน้องจี้”

“จี้อย่าไปฟัง!” แววตาคมไม่เหลือซึ่งความเคารพ มารดาที่อ่อนโยนและแสนใจดีของเขาคงตายจากโลกนี้ไปตั้งแต่ที่ได้ครอบครองอำนาจและเงินตรา “ถ้าแม่อยากกำจัดความผิดหวัง ก็ต้องกำจัดผม ไม่ใช่คนอื่น จี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งน้องดิน ทั้งลุงชัน ไม่มีใครเกี่ยวเลย ทุกอย่างมันเกิดจากความรู้สึกของผมเอง ผมผิดเองที่เป็นอย่างที่แม่คาดหวังไม่ได้ ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าผม”

มือของจี้สั่นเทามากยิ่งขึ้น ดวงตากลมโตบนใบหน้าเล็กจับจ้องดวงหน้าของท่านเจ้า ดวงหน้าของบุคคลอันเป็นที่รักที่กำลังเจ็บปวด คนที่มักจะเป็นผู้ปกป้องเสมอ คนที่มักจะบอกกับจี้ว่าจี้เป็นความสบายใจ จี้คือเรื่องราวดีๆ ในชีวิต จี้คนที่ไร้ค่าคนนี้ได้รับความรักจากท่านโดยที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้จากใคร ท่านให้ชีวิต ให้ครอบครัว ให้จี้ได้มีพ่อแม่ มีพี่น้อง เพราะแบบนั้นท่านถึงเป็นคนที่ควรถูกรักและเป็นคนทีี่ควรถูกปกป้อง

“พ่อ” เสียงสั่นเครือร้องเรียกพ่อบุญธรรมที่เลี้ยงดูและให้ความรักมาตลอดหลายปี “พ่อจะโกรธน้องมั้ย”

ใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยริ้วรอยส่ายไปมา ดวงตาแดงก่ำมองลูกชายด้วยความสงสาร “พ่อเข้าใจน้อง”

“น้องไม่ได้ไม่รักพ่อ พ่อรู้ใช่มั้ย”

“ครับ พ่อรู้”

ธราเข้าใจแล้ว เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของคำพูดจี้ในตอนนี้ มือที่สั่นเทาของจี้หยุดสั่นราวกับพร้อมแล้วที่จะเดินทางไปยังจุดสิ้นสุด ริมฝีปากเล็กเผยรอยยิ้มเมื่อหันมามองสบตากับธรา

ต้องมีคนที่ตายในวันนี้สองคน

เพราะผลลัพธ์มันจะไม่เปลี่ยน

มึงเข้าใจใช่มั้ยดิน

เพราะฉะนั้นดูแลท่านด้วยนะ

“นายหญิงครับ” จี้กล่าวอย่างสงบ แววตาแน่วแน่มองตรง “ผมน่ะเป็นคนของท่านเจ้า เพราะฉะนั้นผมไม่คิดที่จะทำตามคำสั่งของนายหญิงหรอกครับ อีกอย่างผมก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของคนอื่นว่าควรอยู่หรือตาย”

“เอาอย่างนั้นหรือ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างเย็นชา ก่อนจะคลี่ยิ้มเย็น “ถ้าอย่างนั้น...”

แต่ฉับพลันปืนพกในมือของจี้ก็ถูกแย่งไป คนที่ไม่ทันระวังถึงกับร้องอุทานเมื่อเห็นว่าปืนที่ถูกแย่งไปนั้นอยู่ในมือของท่านเจ้า ปากกระบอกปืนจ่อแนบที่ขมับของตนเอง

“ท่าน! / เจ้า!” ธรากับจี้ร้องขึ้นพร้อมกัน แววตาของคนทั้งคู่หวาดหวั่น เรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะแน่ใจแล้วว่าล่วงรู้เหตุการณ์ที่จะเกิด แต่เหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่นี้กลับไม่เคยมีมาก่อน

“ถ้าจะมีใครต้องตาย คนนั้นก็ต้องเป็นผม” น้ำเสียงของท่านเจ้าราบเรียบ ไม่มีความหวั่นกลัว แววตาคมสบมองกับแววตาของมารดาผู้ให้กำเนิดที่สะท้อนความเจ็บปวด “ถ้าแม่คิดว่าสิ่งที่ผมเป็นมันผิด ความรักที่ผมมีให้กับใครคนหนึ่งมันผิด ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”

“วางปืนลงเดี๋ยวนี้ท่านเจ้า!” เสียงเฉียบขาดจากผู้เป็นมารดาดังขึ้น “รู้บ้างมั้ยว่าชีวิตของตัวเองมีค่ามากแค่ไหนแล้วมีความสำคัญต่อใครบ้าง!”

“ชีวิตของผมก็มีค่าเท่ากับชีวิตของคนอื่น ถ้าแม่มองว่าชีวิตของคนที่ผมรักไร้ค่า อย่างนั้นชีวิตของผมก็คงไม่ต่างกัน” เสียงเรียบโต้กลับ ไม่มีความวู่วามในแววตา มีแต่การไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง “ปล่อยลุงชันเถอะครับ แล้วก็ปล่อยคนอื่นๆ ไป ผมจะกลับไปกับแม่ก็ได้ แต่แม่ต้องรับปากว่าจะไม่ทำร้ายใคร”

“คำสัญญาจากท่านเจ้า แม่เชื่อได้แค่ไหน”

“ปล่อยลุงชันก่อนครับ”

ธราหันมองจี้ อยากขอความเห็นเพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดี ต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเมื่อเส้นทางที่จะเดินไปถึงจุดจบนี้ถูกเปลี่ยนเป็นเส้นทางใหม่ จี้ที่มองตอบกลับก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ แม้จะรู้ฉากจบแต่กลับไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน เวลาก็เคลื่อนผ่าน 17:17 น. มาหลายนาทีแล้ว เลยเวลาของจุดสิ้นสุดในครั้งก่อนจนยากที่จะคาดเดาถึงความเป็นไปได้หลังจากนี้ แต่ในขณะที่ต่างคนต่างเครียดกับสถานการณ์ตรงหน้า ไม่มีใครสังเกตเลยว่าจันทร์เจ้านั้นกำลังทำอะไร ร่างเล็กที่สงบเสงี่ยมแล้วแสร้งทำตัวเรียบร้อยนั้นถูกปล่อยตัวเมื่อไหร่ เพราะเมื่อรู้ก็สายเกินไปเสียแล้ว ปืนพกที่ฉวยโอกาสดึงออกจากที่เก็บข้างเอวของชายร่างสูงตอนที่ถูกล็อกตัวนั้นอยู่ในมือของจันทร์เจ้า รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นอย่างไม่น่ามอง แววตาชิงชังจ้องมองเป้าหมาย หลังจากนั้นเสียงปลดเซฟปืนก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว จี้สังเกตเห็นผ่านหางตา ในขณะที่ธราช้ากว่า เพราะเขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับภาพที่คนรักกำลังต่อรองยื้อชีวิตให้กับลุงชัน

“คนที่เป็นตัวปัญหาน่ะไม่ใช่ดิน คนที่ทำให้แม่ของมึงผิดหวังก็ไม่ใช่ดิน” เสียงที่เต็มไปด้วยโทสะของจันทร์เจ้าดังทั่วบริเวณ ทนมองมานานแล้ว ทนมองพวกมันล้อเล่นกับชีวิตของคนอื่น “แต่เป็นมึงไอ้เจ้า เป็นมึงที่ลากทุกคนมาซวยกันหมด เป็นมึงที่ทำให้กูต้องพิการ มึงไม่เคยขอโทษกูเลยสักครั้ง หนำซ้ำยังขังกูไว้ กูไปไหนไม่ได้ เจอพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ เพราะมึงที่ชอบทำตัวเป็นพระเจ้า ทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของคนอื่น กูเกลียดมึงเหมือนที่แม่ของมึงเกลียดดิน ทั้งมึงทั้งแม่ของมึงน่ะสมควรตายตามกันไปซะ! ไปสูงส่งกันอยู่ในนรกเถอะไอ้พวกเวร!”

ปัง!

เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณเมื่อกระสุนปืนนัดแรกแหวกผ่านอากาศทะลุผ่านผิวเนื้อเข้าที่กลางอกของเจ้า จักรพรรดิ ธราสะดุ้งโหยง เขาอยู่ใกล้ที่สุด อยู่ใกล้ท่านเจ้าแค่ระยะที่มือเอื้อมถึงแต่กลับช่วยไว้ไม่ทัน ร่างผอมนั้นสิ้นฤทธิ์และล้มลงในอ้อมแขนของเขาราวกับเทวดาปีกหักที่ตกจากท้องฟ้าร่วงสู่พื้นดิน และท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนที่เหลือ เสียง ปัง! ก็ดังขึ้นอีกหน มันดังขึ้นในอีกไม่ถึงนาทีจากเสียงครั้งแรกราวกับคนลงมือยิงต้องการที่จะแน่ใจว่าได้ปลิดชีวิตเป้าหมายได้สำเร็จ แต่กระสุนนัดนี้ไม่ถึงตัวของเจ้า จักรพรรดิหรือดิน ธราที่ใช้ร่างหนาของเขาปกป้องเอาไว้ เพราะกระสุนนัดที่สองนั้นผ่านทะลุอกซ้ายของผู้ปกป้อง

ผู้ปกป้องที่เป็นดั่งความสบายใจของท่านเจ้า

จี้ล้มลงตรงหน้าธรา ทั้งที่มุมปากยกยิ้มแต่บัดนี้ดวงตาปิดสนิทตลอดกาล ไม่เหลือเวลาแม้แต่จะพูดถ้อยคำบอกลาใดๆ ในขณะที่ธราได้แต่ตัวสั่นเทา หูอื้ออึงเพราะเสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆ เสียงแห่งความตายนั้นดังขึ้นอีกสองครั้งพร้อมกับได้ยินเสียงของหนักๆ ตกกระทบพื้น เขาแน่ใจ แน่ใจทีเดียวว่าของนั้นคงเป็นร่างเล็กบางของจันทร์เจ้าที่ถูกคนของคุณแม่ท่านเจ้าจัดการ แต่เขาไม่ได้หันไปมอง เขาทำเพียงโอบกอดร่างที่หายใจรวยรินในอ้อมแขน มือสั่นๆ ของเขากำลังพยายามห้ามเลือดที่บาดแผล

“น้องจี้...น้องจี้ของพ่อ” ได้ยินเสียงของลุงชันร้องเรียกลูกชาย น้ำตาของคนเป็นพ่อรินไหล พลางกอดร่างลูกชายตัวเล็กแนบอก

ขอบตาของธราร้อนผ่าว ตอนนี้เขาไม่แน่ใจอะไรเลย จี้ก็ไม่อยู่ตอบคำถามของเขาแล้ว แล้วใครจะตอบคำถามนี้ได้ ใครจะบอกเขาได้ว่าผลลัพธ์นั้นเป็นอย่างไร บทสรุปจะเป็นแบบไหน เสียงร้องไห้ของลุงชันนั้นไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น กลับทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ท่านเจ้าของเขาก็ไม่เอ่ยคำใดราวกับแค่เปล่งเสียงก็ทำให้เหนื่อยจนหัวใจอาจหยุดเต้นไปในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง แต่มือผอมนั้นควานไปข้างๆ เขารู้...เขารู้ดีและลุงชันก็รู้ว่ามือนั้นกำลังต้องการสิ่งใด ลุงพาร่างของลูกชายเข้ามาใกล้ ส่งมือเล็กนั้นให้ท่านเจ้าจับไว้

“ขอโทษ” เป็นถ้อยคำเพียงคำเดียวที่เล็ดลอดให้ได้ยินก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบรดบนแก้มเนียน ธราได้แต่ใช้หลังมืออีกข้างที่ไม่ได้กดปากแผลเอาไว้เช็ดน้ำตาให้แต่เหมือนยิ่งเช็ดก็ยิ่งหยุดไม่ไหล มันยิ่งเพิ่มมากขึ้นราวกับสายฝนที่กำลังตกอย่างบ้าคลั่ง หอบเอาความเศร้ามาในเวลานี้

.

.

จี้...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ขอให้มีความสุขนะ



.............TBC...............



ขอให้ทุกคนพบเจอกับความสุขนะคะ ติดตามตอนจบได้ในตอนหน้าค่าาา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 02-03-2019 18:40:17
 :hao5: :m15:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2019 18:47:09
หนูจี้  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-03-2019 18:47:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 02-03-2019 19:34:10
น้องจี้....  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 02-03-2019 19:58:53
งื้ออออออ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 02-03-2019 20:23:28
ขอให้มีความสุข ได้อยู่กับสิ่งที่คิดฝันนะจี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-03-2019 20:29:11
ลำบากมากมายที่บังคับไม่ให้ตัวเองร้องไห้
เพราะอ่านขณะที่พอกหน้าอยู่
ส่วนที่น้ำตาไหลผ่านคงจะไม่ได้รับการดูและในครั้งนี้

จะบอกว่าสงสารอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 02-03-2019 20:37:30
ฮืออออ ยังไงดี ใจพังหมดแล้ว  :z3: :sad4: :sad4:

ใครก็ได้เอาจันทร์ออกไปที แงงงงง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 02-03-2019 20:39:32
เหนื่อยอ่ะ..
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 02-03-2019 21:01:30
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-03-2019 21:20:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 02-03-2019 21:52:49
ใครอ่านตอนนี้จบพร้อมกับถอนหายใจแบบเราบ้าง  :z3:  จะไม่ไหวแล้ว บีบหัวใจมาก ตอนจบคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าจะจบแบบไหน ฮึบๆๆๆ ทุกคน สู้ค่ะ!! มะ พร้อม!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 02-03-2019 22:38:56
คือที่จริง  จี้ก็ตายทุกครั้งนะ  ครั้งนี้ก็เช่นกัน
แต่เจ้าที่ถูกยิงก่อนจี้   ยังไม่ตาย....
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 02-03-2019 22:55:12
เป็นเรื่องที่สุดทุกอย่าง ลุ้นทุกตอนเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 03-03-2019 00:01:29
อีจันทน์นี้มันตัวปัญหาชัด น่าจะให้ตายๆไปก่อน :z3:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 03-03-2019 00:13:51
พยายามที่จะไม่ร้องไห้ แต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี  :sad4: :sad4:
กอดจี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-03-2019 01:06:27
จี้ ฮืออออออ :o12:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-03-2019 01:42:34
จี้  :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 03-03-2019 02:19:36
 :katai1:  :hao5: ทั้งคน และเศร้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Gugii ที่ 03-03-2019 03:59:10
 :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-03-2019 07:47:01
มันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีใช่มั๊ย  :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 03-03-2019 08:23:28
น้องจี้คนดี
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 03-03-2019 09:56:58
ที่สุดของที่สุดที่นิยายเรื่องหนึ่งได้ให้อะไรมากๆครบทุกรสสุข เศร้า หน่วง ฮา มีในเรื่องนี้ เล่มนี้ต้องมีแล้วนะคะ ขอบคุณไรท์อย่างสุดซึ้งค่ะขอบคุณมากคะขอบุณที่สร้างนิยายดีๆขึ้นมาเรารักทุกตัวละครค่ะครบทุกรสจริงๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-03-2019 14:09:30
ร้องไห้ทุกตอน,,,
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 03-03-2019 15:45:02
ต้องตาย 2 แต่โดนยิง 3 เะราะงั้นต้องมีคนนึงที่รอดสิ ใครจะเป็นผู้ได้ไปต่อ หวังว่าคงเป็นท่านเจ้านะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-03-2019 16:08:58
แม่ของเจ้า  ไม่ได้รักเจ้าจริง  :angry2:
และไม่ได้เป็นหญิงเก่ง แกร่งอย่างที่ใครๆคิด  o22 :fire: :serius2:
ผิดหวังกับแม่ของเจ้า  :เฮ้อ: :m16: :m31:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 03-03-2019 16:31:11
ต้องตาย 2 แต่โดนยิง 3 เะราะงั้นต้องมีคนนึงที่รอดสิ ใครจะเป็นผู้ได้ไปต่อ หวังว่าคงเป็นท่านเจ้านะ

ที่จริงอาจจะตายคนเดียวนะ  ข่าวตายสองเพิ่งมีมาเพิ่มช่วงย้อนอดีตกลับมาก่อนที่บีจะหายไป อาจจะเป็นช่วงสลับเหตุการณ์ ถึงปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนเป็นข่าวถูกยิงสองแต่ตาย1บาดเจ็บ1แทนก็ได้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 03-03-2019 17:01:05
ตอนหน้าจะจบแล้วกว่าจะอ่านไม่งงก็ตอนล่าสุด เดาไม่ตรงสักเรื่อง
ต้องขอบคุณนักเขียนมากๆที่ทำให้เราต้องใช้สมองในการวิเคราะห์ตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 04-03-2019 01:41:16
อิจันทร์!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-03-2019 16:41:45
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 10-03-2019 16:28:25
อ่านมาจนถึงตอน 14 ถ้านี่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นกับคนๆหนึ่งจริงๆ  เจ้าก็ควรต้องรับการดูแลการรักษาจากจิตแพทย์คนที่เจ็บลึกขนาดนี่  เค้าจะไม่มีทางปรับสมดุลทางคสามคิดความรู้สึกได้ จะใช้ชีวิตอยู่กับกระบวกการคิดที่หัวไม่ได้ปลอดโปร่งจริงๆจนชั่วชีวิตแม้ธราจะเลือกเจ้าอยู่กับเจ้าก็ตาม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 10-03-2019 19:50:10
อ่านถึงตอนที่ 24 ก็คือน้ำตากลบตาหมดแล้วววว ฮืออออออรอตอนจบด้วยใจที่หวังเหลือเกินว่าเจ้าจะกลับมา :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต จบ ​P.26 11/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 11-03-2019 17:41:12
ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต (End)





“ที่จริงกูน่าจะเป็นคนแรกที่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตอนที่ติดอยู่ในห้วงเวลาถึงไม่สามารถมองเห็นมึงที่คุยกันผ่านข้อความได้” เสียงทุ้มของเจ้า จักรพรรดิเอ่ยขึ้น ดังก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณที่มืดมิด ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าในตอนนี้กำลังลืมตาหรือหลับตา เพราะความมืดนั้นกลืนกินทุกสิ่ง มองไม่เห็นแม้แต่ในตอนที่ก้มมองมือของตนเองที่กำลังประสานกันแน่น ไม่รับรู้แม้กระทั่งว่าสถานที่นี้คือที่ใด เขาได้แต่คาดเดาว่าอาจจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ หรืออาจจะเป็นลานกว้างโล่งไร้สิ่งกีดขวาง แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ไม่ว่าจะมองเห็นหรือไม่แต่กลับรับรู้ได้ว่าไม่ได้อยู่ตามลำพัง “ทำไมทำอย่างนี้วะจี้”

ไหล่แคบสัมผัสได้ถึงศีรษะเล็กที่เอนมาซบ ก่อนมือที่กำลังประสานกันจะถูกมืออีกมือวางทับลงมา หากถามว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ คำตอบของจี้ก็มีเพียงเหตุผลง่ายๆ “เพราะอยากแก้ไข...อยากแก้ไขในเรื่องที่ทำผิดพลาด”

“มันไม่ใช่ความผิดของมึง” ท่านเจ้าแย้ง “มันเป็นความผิดของกูเองต่างหาก”

จะเป็นความผิดของท่านได้อย่างไร คนที่คิดลงมือก็คือจี้ คนที่อยากกำจัดดิน ธรา ก็คือจี้ ถ้าจี้คนนี้ไม่คิดทำ ก็คงไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็คงไม่จบลงที่ท่านจากไป จากไปด้วยน้ำมือของคนที่คิดปกป้องท่านมาโดยตลอด เอาแต่พร่ำพูดว่าเพื่อความสุขของท่าน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ความรู้สึกเห็นแก่ตัวของตนเอง คิดแค่เพียงว่าหากกำจัดคนที่เป็นความเจ็บปวดของท่านให้หายไปได้ ท่านก็อาจจะมีความสุขมากขึ้น หากกำจัดไปให้พ้นทาง ท่านก็อาจจะมองเห็นจี้คนนี้บ้าง จี้ที่เป็นความสบายใจและอยู่เคียงข้างท่านมาตลอดจะทำให้ท่านมีความสุขเอง แต่เมื่อเห็นบทสรุปแล้วก็รู้ว่าตนเองนั้นคิดผิดมหันต์ เพราะคนที่ยกให้เป็นดั่งเจ้าชีวิตนั้นคงไม่มีวันมองจี้ในฐานะอื่น ในเมื่อท่านเจ้านั้นรักดิน ธราจนสามารถตายแทนได้

“กูผิดเองที่ดันทุรัง ผิดเองที่ฝืน” ท่านเจ้ายังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ทั้งที่รู้ว่าแม่คงไม่มีวันยอมรับ แต่กูกลับ...”

“นายหญิงรักท่านมากเลยนะ” จี้ขัดขึ้นเสียงแผ่วเบา “นายหญิงไม่เคยต้องการทำร้ายท่าน ไม่เคยคิดทำร้ายคนที่ท่านรัก คิดจริงๆ เหรอว่านายหญิงจะทำร้ายพ่อชันได้ลง ที่ให้แม่พรไปอยู่ด้วยก็เพราะพาไปรักษาตัวเท่านั้น ที่จี้ตามไปก็เพราะจะไปดูแลแม่ แต่นายหญิงแค่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้มาขู่ท่านเท่านั้นเอง ท่านน่ะเป็นความหวังนะ เป็นความหวังเดียวที่นายหญิงมี เป็นทายาทเพียงคนเดียวที่นายหญิงรัก นายหญิงให้ทุกอย่างกับท่าน ตามใจท่าน แต่กับความรักของท่าน จี้คิดว่านายหญิงคงพยายามที่สุดแล้วที่จะยอมรับ มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ความรักของท่านเป็นไปไม่ได้” จี้หยุดพูด บีบมือของท่านเจ้าเบาๆ “แล้วอย่างนี้ยังคิดว่าจะไม่ใช่ความผิดของจี้อีกเหรอท่าน คนที่ฉวยโอกาสลงมือในครั้งนั้นคือจี้เอง ทั้งที่รู้ว่าคำขู่ของนายหญิงก็แค่อยากให้ท่านยอมรับความเป็นไปไม่ได้เท่านั้น”

ท่านเจ้าระบายลมหายใจ แม้จะได้ฟังความจากริมฝีปากเล็กแต่ก็ยังไม่รู้สึกกล่าวโทษอีกฝ่าย เพราะเข้าใจดีว่าต้นเหตุที่แท้จริงก็คือตนเอง

“ขอโทษนะท่านที่ต้องเป็นแบบนี้” ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ขอโทษที่ทำให้ท่านต้องทรมานและขอโทษที่ไม่อาจอยู่เป็นความสบายใจของท่านต่อได้

“กูต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้มึงติดอยู่ที่นี่” ความมืดมิดนี้น่ากลัว ไม่เห็นสิ่งอื่น ไม่ได้ยินเสียงใด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองอยู่ตรงจุดไหน “ต้องอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน”

“ตลอดไป”

“คำว่าตลอดไปไม่มีจริง”

“มีจริงที่นี่” จี้ยิ้มให้กับตนเอง “ไม่มีเวลา ไม่มีกลางวันกลางคืน ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากความมืดมิด นี่เป็นบทลงโทษของคนที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตา ต้องอยู่ที่นี่กับความรู้สึกผิดของตัวเอง มีความเหงาเป็นเพื่อนรู้ใจ”

ท่านเจ้าเงียบไปชั่วอึดใจเพราะไม่มีคำใดจะเอื้อนเอ่ย ตอนนี้เขาแค่อยากเห็นใบหน้าของคนที่กำลังพูดด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน อยากรู้ว่าความจริงแล้วนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร “กูช่วยอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย ไม่ทันแล้วใช่มั้ยจี้”

“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก” จี้บอกเบาๆ “ไม่ต้องกังวลอะไรด้วย แค่ท่านมีความสุข ก็ถือว่าช่วยได้มากแล้ว”

“ขอโทษ” ท่านเจ้าพูดขึ้นพลางโอบแขนรั้งคนตัวเล็กเข้าในอ้อมกอด “ขอโทษจริงๆ ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย”

“อย่าร้องไห้เลยท่าน ที่เป็นอย่างนี้น่ะมันดีที่สุดแล้ว”

แค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของท่าน ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในโลก แค่ได้เป็นความสบายใจของท่าน ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิต จี้มีวาสนาเพียงเท่านี้ ได้อยู่กับท่านเพียงเท่านี้ หลังจากนี้ก็หวังว่าท่านจะพบเจอแต่ความสุข แต่หากจะมีความทุกข์ก็ขอให้ความทุกข์นั้นมีคนช่วยแบ่งเบา มีคนคอยอยู่ข้างๆ

“สุขสันต์วันเกิดนะท่านเจ้า จากนี้คงไม่ได้พูดอีกแล้ว แต่ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี ในวันเกิดของท่าน อย่าลืมนะว่าจี้จะอวยพรให้ท่านมีความสุขอยู่เสมอ”

“ไม่ลืม กูไม่มีทางลืมมึงได้หรอก คนที่เป็นความสบายใจเพียงคนเดียวของกู กูจะลืมได้ยังไง”

แค่นี้ก็พอแล้ว

“ลาก่อนนะท่าน”

สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงบอกลา สุดท้ายแล้วความปรารถนาอีกหนึ่งข้อก็ไม่ได้ทำ ความปรารถนาที่อยากจะบอกรักออกไปสักครั้ง ไม่เคยทำได้จริง

ลาก่อนนะเจ้าชีวิตของผม

.

.

17 July, 00:00 AM

D. : ทำไมมึงถึงมั่นใจนักจี้

Gee : เพราะกูเปลี่ยนมันมาแล้ว

-Read-

Gee : ความปรารถนาของกูคือการแก้ไขเหตุการณ์ กูคือคนที่ทำให้ท่านต้องตาย กระสุนนัดนั้นมาจากปืนที่กูยกขึ้นเล็งไปที่มึง แต่ท่านช่วยมึงไว้ ท่านช่วยมึงแม้ในตอนนั้นมึงจะเกลียดท่าน ทำให้ท่านต้องเจ็บปวดอยู่ทุกวัน แต่ท่านก็รับกระสุนนัดนั้นแทนมึง รู้มั้ยว่าตอนนั้นกูรู้สึกยังไง

Gee : คนที่กูยกให้เป็นเจ้าชีวิตตายเพราะน้ำมือกู มันเหมือนฝันร้ายที่กูพยายามยังไงก็ไม่ตื่นจากฝันสักที

Gee : กูตายหลังจากนั้นไม่กี่นาที ตายทั้งที่ในใจยังทุรนทุรายและยอมรับไม่ได้

Gee : โลกหลังความตายสำหรับคนอื่นจะเป็นอย่างไรกูไม่รู้ แต่สำหรับกูมันคือการติดอยู่กับเหตุการณ์เดิมซ้ำๆ เหตุการณ์ก่อนที่กูจะตายจนถึงวันที่กูระเบิดสมองตัวเอง กูกลับไปอยู่ในเหตุการณ์ที่กูยกปืนขึ้นยิงท่านเป็นพันๆ ครั้ง

Gee : แต่มึงรู้มั้ยว่าเหตุการณ์ในแต่ละครั้งนั้นจะมีจุดแตกต่างเล็กๆ เกิดขึ้นต่างกันไป แม้แต่ตัวมึงเองในเหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย

Gee : และมีครั้งหนึ่งในจำนวนเหล่านั้นที่มึงจำท่านได้ มึงจำได้ว่าท่านสำคัญกับมึงแค่ไหน ความสูญเสียที่มึงรู้สึกในครั้งนั้นนำพาให้มึงมาอยู่ตรงนี้ มาอยู่ในห้วงเวลาของกู ห้วงเวลาที่กูขังท่านที่ยังมีชีวิตอยู่เอาไว้

Gee : แล้วครั้งนี้ก็เป็นครั้งเดียวที่กูทำความปรารถนาของตัวเองสำเร็จ

Gee : เป็นครั้งเดียวที่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องของมัน

Gee : ดิน ในตอนที่มึงได้อ่านข้อความนี้ กูในเวลาปัจจุบันคงตายไปแล้ว

Gee : หลังจากนี้...ช่วยทำให้ท่านมีความสุขด้วยนะ

Gee : แล้วก็ตอนที่มึงถามว่ากูเกลียดมึงใช่มั้ย

Gee : ที่กูตอบว่าเกลียดนั่นน่ะ

Gee : กูโกหกนะ

.

.

ธราถอนหายใจ รู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่ยาวนาน เขาวางโทรศัพท์มือถือลงข้างกาย ขยับตัวเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องสีครีม ก่อนจะเหลือบมองคนที่กำลังทำหน้ายุ่งอยู่ตรงโซฟารับแขก

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอวะ” เจ้าของใบหน้าคมเข้มเงยหน้าขึ้นจากหนังสือแล้วมองมาที่เขา “ไอ้ห่า หลับเป็นตายไปสามวันสามคืนอย่างกับโดนยาสลบช้าง เออ แต่ที่จริงหมอให้ยานอนหลับมึงแหละ เพราะอยากให้มึงพักผ่อน มึงโทรมมาก ผอมลง ขาดสารอาหารอย่างกับโดนขังลืมมา”

ก็คงใช่...เพราะธราคนนี้น่ะโดนขังอยู่ในห้องมาเกือบสองเดือนแล้ว

“มันดูโง่ถ้าจะถามว่ากูมาที่นี่ได้ไง” ธรามองไอ้แพร์ที่กำลังย้ายที่นั่งจากโซฟามานั่งข้างเตียงผู้ป่วย “แต่ก็อยากถามว่ะ กูมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ”

“ไม่รู้” ไอ้แพร์ตอบง่ายๆ “มีคนโทรมาบอกว่ามึงอยู่โรงบาลกูก็ดิ่งมาทันที เพราะมึงหายหัวไปนาน ดร็อปเรียนไว้แล้วไม่บอกใคร บอกแต่ว่าสบายดีไม่ต้องห่วงไว้ในกลุ่มเมื่อสามชาติก่อนแต่คำว่าสบายดีไม่ต้องห่วงของมึงคือการโผล่มาอยู่ที่โรงบาลไอ้สัด ไอ้ลูกไม่รักดี”

ไอ้แพร์บ่นเขาต่ออีกยืดยาว สรรหาทุกถ้อยคำบนโลกใบนี้มาด่าเพื่อให้เขารู้สำนึก แต่เขาไม่ได้โต้ตอบ กลับทำแค่หัวเราะเมื่อเห็นว่าไอ้แพร์ในที่แห่งนั้นกับไอ้แพร์ในที่แห่งนี้ไม่ได้แตกต่างกันเลย ความทรงจำสุดท้ายก็คือทะเลาะจนต่อยตีกันเละ คิดว่าคงจะไม่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกแล้ว ทว่าพอมันกำลังบ่นด้วยความเป็นห่วง เขาก็พบว่าดีแล้วจริงๆ ที่มันจำไม่ได้ ไม่อย่างนั้น...

“ล่าสุดกูฝันถึงมึง ฝันว่ามึงต่อยกูจนคิ้วแตก คิดแล้วยังหงุดหงิดไม่หาย คือหายหัวไปไม่ติดต่อกูแต่ยังมาต่อยกูในฝันอีกไอ้ห่า”

“มึงนี่มันควายจริงๆ” ธราว่าเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะโดนคนที่อุปโลกน์ตัวเองขึ้นเป็นพ่อของเขาผลักศีรษะเข้าให้ “ว่าแต่กูทะเลาะอะไรกับมึงวะ”

“ใครจะไปจำได้ไอ้สัด” ไอ้แพร์มองเพื่อนรักของมันด้วยสายตาที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นโง่เง่าเสียเต็มประดา “กูฝันว่าต่อยกับมึงเสร็จก็มีน้องมิ้วเอานมมานวดหน้าเลย จำได้แค่นั้นแหละที่ชัด”

“มิ้วไหนอีกวะ”

“ก็ดาวการจัดการที่มึงควงอยู่สามวันแล้วเทน้องเพราะน้องนมใหญ่เกินไปไง”

คราวนี้ธราหัวเราะเสียงดังลั่น “จำไม่ได้ไอ้เหี้ย ไม่ใช่กูแล้ว”

“เออ กูเองจ้า กูเองที่เทน้อง นมน้องเบียดหน้ากูจนหายใจไม่ออก” ไอ้แพร์ยิ้มแหย รู้สึกได้ถึงความผิดบาปในใจ

“แล้วไอ้จอมกับไอ้คินล่ะ” ธราถามถึงเพื่อนอีกสองคนในกลุ่ม

“แก้แล็ป ที่จริงกูก็ต้องแก้แต่กูคือคนที่เสียสละเพื่อเพื่อนได้เสมอ”

“ไอ้จอมเพิ่งบอกในกลุ่มว่าเวรมึงเฝ้าไอ้ห่า” ธราว่า โชว์หลักฐานบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้ไอ้คนแอบอ้างดู “กูไม่ซึ้งเพราะกูรู้ทัน”

“คว๊ายย แม่มึงนี่ปากมาก”

ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นในใจ บทบาทสมมติที่ธราชอบยังคงดำเนินต่อ ทำให้แน่ใจว่าอย่างน้อยในที่แห่งนั้นกับที่แห่งนี้ สิ่งที่เขายังคงมีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็คือกลุ่มเพื่อนที่เหมือนครอบครัว มีไอ้แพร์เป็นพ่อ มีไอ้จอมเป็นแม่ และมีน้องชายโง่ๆ อย่างไอ้คิน

“เอ้อ...ไอ้แพร์”

“ไรวะ”

“มึง” เขาหยุดครุ่นคิด ลังเลใจว่าจะพูดดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่เก็บความสงสัยเอาไว้ “มึงรู้จักเจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์มอเจมั้ยวะ”

“มอเจคือที่ไหนวะ” ไอ้แพร์ย้อนถามด้วยหน้างงๆ “ไม่เคยได้ยินชื่อมอ ไม่คุ้นด้วย แต่ถ้าเป็นไอ้เจ้าเดือนแพทย์มอเราแฟนมึง กูรู้จัก”

มอเจที่ว่าคงไม่เคยมีอยู่จริงตั้งแต่แรก แต่อาจจะเกิดการผิดเพี้ยนทางความทรงจำ เพราะในห้วงเวลานั้นไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถเป็นไปได้ สถานที่ที่อยู่ก็ไม่รู้แน่ชัด แม้แต่วันเดือนปีหรือเวลาก็ไม่เคยกระจ่าง ธราจึงไม่แปลกใจนัก ในเมื่อมอเจก็แค่ชื่อเรียกของสถานที่นี้ในอีกห้วงเวลาเท่านั้นเอง

“แฟนกู” เขาทวนเสียงเบา “เหรอวะ”

“เออ จำแฟนตัวเองไม่ได้เหรอไอ้สัด มึงหายไปอยู่กับมันเป็นเดือนๆ” ไอ้แพร์เริ่มบ่นลูกรักของมันที่เสียการเสียงานเพราะติดแฟนจนไม่ยอมมาเรียน รู้อีกทีมันดร็อปเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “นี่ไอ้ลูกรัก ต่อให้มึงจะเพลย์บอย สาวรักสาวหลงก็เถอะนะ แต่ถ้ามีแฟนก็ให้เกียรติเขา รักก็บอกว่ารัก คบก็บอกว่าคบ นี่อะไร บอกว่าแฟนแล้วทำหน้างง ดร็อปเรียนไปอยู่ด้วยกันแล้วถ้ามึงยังบอกว่าไม่ได้เป็นไรกัน กูตบคว่ำจริงนะไอ้ดิน”

“ใจเย็นๆ คือไม่ใช่ว่าจำไม่ได้ แต่แค่แปลกใจเฉยๆ” ธรารีบบอกเมื่อเห็นไอ้แพร์ง้างมือขึ้น

“แล้วมันหายไปไหน ไอ้เจ้าน่ะ ทำไมปล่อยมึงนอนโรงพยาบาลคนเดียว ไม่มาเฝ้า”

ธราอึกอักเล็กน้อยเพราะเขาก็ไม่รู้จะบอกไอ้แพร์อย่างไรดี “ติดธุระ แต่อีกไม่นานคงกลับมา”

คำว่าไม่นานที่บอกไอ้แพร์ แม้แต่ตัวธราเองก็ไม่รู้ว่ามันคือระยะเวลาเท่าไร เจ้า จักรพรรดิคนนั้นเป็นตัวตนที่เป็นความลับ แม้จะถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสก็ยังไม่สามารถอยู่รักษาต่อในโรงพยาบาลได้นาน หลังจากที่พ้นขีดอันตรายและสามารถเคลื่อนย้ายส่งตัวได้ก็ไปในทันที ตัวธราเองเข้าใจดีทีเดียว เพราะก่อนที่จะล้มหมอนนอนเสื่ออย่างนี้ เขาก็ยังอยู่ส่งตัวคนรักจนถึงตอนที่เครื่องขึ้นบินลัดฟ้า

ไอ้แพร์พยักหน้าเข้าใจ ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ ก่อนจะเล่าเรื่องสัพเพเหระให้เขาฟัง มันบ่นถึงคนนั้นคนนี้ราวกับว่าตัวเขาเพิ่งกลับจากการติดเกาะร้างและไม่รู้ข่าวสารใดๆ ของโลกภายนอก

“เออ ไอ้ดิน” ไอ้แพร์ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ “มึงอาจจะยังไม่รู้นะ”

“รู้ไรวะ”

“มึงรู้จักไอ้จี้ เพื่อนในกลุ่มของไอ้แพงใช่ปะ”

ธราทำท่านึกก่อนถาม แม้จะรู้สึกสะดุดใจกับชื่อที่ไอ้แพร์เอ่ย “ไอ้แพงที่เป็นเพื่อนมอปลายของไอ้คินใช่มั้ย”

“ใช่” ไอ้แพร์ให้คำตอบ “ไอ้แพงคนนั้นแหละ”

“มันทำไมวะ” เขาแสร้งถามแม้จะรู้ดีอยู่แล้ว

“เพื่อนในกลุ่มมันอะ” ไอ้แพร์เกริ่น หยุดพูดไปเล็กน้อย สีหน้าของมันไม่สู้ดีเท่าไรเมื่อพูดถึงการสูญเสีย “ไอ้จี้ โดนยิงเมื่อสัปดาห์ก่อน มันเสียแล้วว่ะ มึงจะไปงานมันมั้ย”

“ไป” เขาตอบโดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ “กูอยากไปส่งมัน”

“เออ คิดแล้วว่ามึงต้องไป” ไอ้แพร์พูดขึ้น ประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพูดตนเอง มันมองหน้าเพื่อน รู้สึกตะหงิดใจแต่ก็ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ สุดท้ายก็เลือกที่จะเมินแล้วเข้าประเด็นต่อ “แต่ไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ไม่ได้ข่าวเลยว่ามีการยิงกันตาย พวกสื่อทางทีวี หนังสือพิมพ์หรือในเฟซน่ะเงิียบกริบ ทั้งที่น่าจะเป็นข่าวใหญ่ เพราะคนในมอก็พูดกัน แต่มหาลัยเราน่าจะเงินหนา อธิการคงวิ่งเต้นปิดข่าวน่าดู นักศึกษาในมอยิงกันตายคงเสียภาพพจน์”

“แล้วคนที่ยิงมันล่ะ เป็นไง”

“อ่า…” ไอ้แพร์มีสีหน้าลำบากใจ มันทำหน้าคล้ายคนจมน้ำเมื่อสบตามองกับธรา “กิ๊กเก่ามึงอะเป็นคนยิง แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเป็นไงหรือหายไปไหน ไอ้แพงบอกว่าน่าจะตาย แต่ไม่มีใครเจอศพ”

“อืม คงตายแล้วนั่นแหละ” ธราตอบง่ายๆ เขาเห็นกับตาว่าจันทร์เจ้านั้นเสียชีวิตคาที่หลังจากจี้แค่ไม่กี่นาทีด้วยฝีมือคนติดตามของนายหญิง ดวงตากลมโตที่ยังคงเบิกค้างและจ้องมาทางเขายังคงเป็นภาพติดตา ศพของจันทร์เจ้านั้นทางนายหญิงคงเป็นคนจัดการแล้ว เขาไม่รู้รายละเอียดมากนักเพราะมัวแต่ห่วงว่าคนรักของเขาจะเป็นอย่างไร หากถามว่าโกรธไหมเขาก็ยอมรับว่ามีบ้างแต่ก็อโหสิกรรมให้เพราะไม่อยากติดค้างต่อกันไปมากกว่านี้

ที่จริงแล้วจันทร์เจ้านั้นน่าสงสาร หลังเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำและหายไปรักษาตัว ร่างกายก็ไม่ได้ดีดังเดิม อุบัติเหตุรุนแรงขนาดนั้นรอดชีวิตมาได้ก็เหมือนปาฏิหาริย์ แต่อวัยวะบางอย่างก็ไม่ได้ทำงานเหมือนเช่นปกติ ดวงตาข้างซ้ายมองไม่เห็น แก้วหูข้างขวาก็ถูกทำลายจนสูญเสียการได้ยินและจากที่ธราได้พูดคุยกับลุงชันในระหว่างที่เฝ้าคนรักอยู่นั้น เขาก็ได้รู้ว่าจันทร์เจ้าถูกกักขังตัวไว้ตั้งแต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุ จันทร์เจ้าใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศในการจับตามองของนายหญิง เมื่อรับรู้ ธราจึงลดความโกรธที่เขามีลงได้

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าใครก็หลีกหนีผลของการกระทำไม่พ้น

“พวกกูนะ ตอนได้ยินว่ามีคนฆ่ากันตายแล้วเป็นคนที่รู้จักกันก็รู้สึกแย่พออยู่แล้ว พอมีคนโทรบอกให้มาหามึงที่โรงบาล ไอ้จอมร้องไห้นำเลย มันคิดว่าเป็นมึงที่อยู่ในข่าวลือนั่น” ไอ้แพร์บอกพลางจับจ้องที่ใบหน้าของเพื่อน “โล่งใจมากที่มึงไม่ได้ไปเกี่ยวด้วย”

ธราหลุดหัวเราะ “คนดีมีน้ำใจอย่างกูจะไปเกี่ยวกับเรื่องน่ากลัวได้ยังไงวะไอ้ห่า”

“ก็เพราะเป็นคนดีมีน้ำใจไปทั่วนั่นแหละ ถึงได้กลัวว่าเขาจะมาฆ่ามึงเพื่อแก้แค้น ข้อหาให้ความหวังโดยไม่รู้ตัว รักแรงเกลียดแรงงี้”

“ใจเย็นก่อน” ธราปราม “อย่าแช่งไอ้สัด สายน้ำเกลือยังคามือ”

ไอ้แพร์หัวเราะ ดูมันชอบใจที่ได้บ่นได้ด่า แต่ธราก็เข้าใจว่ามันคงเป็นห่วงเขามาก แม้จะรู้จักกันไม่กี่ปี แต่ก็เหมือนรู้จักกันมานาน ผูกพันกันเหมือนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนมีความทรงจำดีๆ มาหลายปีแล้ว

“เออ มึง ถามอีกคำถาม” ธราเอ่ยขึ้นเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้

“อะไรอีกวะ”

“รู้จักไอ้น้องเอ๋มั้ย” ธราแทบกลั้นหายใจเมื่อเห็นสีหน้างงงวยของเพื่อน “ตอนนี้น่าจะเรียนปีสอง ปฐพีวิทยา”

“มอเราเหรอวะ” ไอ้แพร์ย้อนถาม “กูไม่คุ้น”

“อ่า…”

“ตอนมึงล้มหัวกระแทกอะไรมั้ย ทำไมตื่นมาแล้วถามหาคนนั้นคนนี้” ไอ้แพร์มีสีหน้าห่วงใยพลางรีบจับศีรษะของเพื่อนแล้วหันซ้ายทีขวาทีจนโดนมือหนาตบกบาลเข้าให้ “ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่หว่า แต่กูน่าจะความจำเสื่อมตามมึงไอ้สัด ตบมาได้ ลั่นเลยหัวกู” ว่าแล้วก็ลูบศีรษะตัวเองป้อยๆ

ธราระบายลมหายใจ รู้สึกแย่เล็กน้อย แต่นั่นแหละ...ทุกสิ่งต้องเป็นไป หากวันนี้ไม่่รู้จัก วันหน้าก็ทำความรู้จักกันใหม่ได้ ยังไงก็ต้องยอมรับในจุดนี้แล้วก้าวต่อไปให้ได้

“มึงเคยเชื่อเรื่องการติดอยู่ในห้วงเวลา โลกคู่ขนานหรือการได้เลือกการกระทำก่อนตายมั้ยวะ”

คำถามของธราทำให้ไอ้แพร์ยิ่งทำหน้างงหนัก “ถามทำไมวะ ไปเจอสำนักทรงที่ไหนหลอกมาอีกเรอะ”

“เออน่า” ธราทำหน้าหงุดหงิด “ตอบมาก่อน”

“ไม่เชื่อ” ไอ้แพร์ตอบทันที “กูเชื่อในฟันปลอมเท่านั้น ฟันปลอมให้ชีวิตใหม่ ฟันปลอมสามารถเป็นให้มึงได้ทุกอย่าง ช่วยทำให้มึงยิ้มสวย ช่วยทำให้มึงเคี้ยวข้าว...”

“พอมั้ย” ธราถามตัดบท รู้สึกเหมือนไร้สาระขึ้นทุกทีที่ได้สนทนากับไอ้แพร์ “อีกนิดก็แต่งงานกับฟันปลอมของมึงไปซะ”

“พูดถึงเรื่องแต่งงาน คู่หมั้นมึงล่ะจะเอาไง น้องถามถึงมึงตลอด”

คู่หมั้น...ที่จริงแล้วธราก็ไม่ได้คิดว่าจะมีความรู้สึกพิเศษต่อใครจนถึงขั้นหมั้นหมายและฝันถึงวันแต่งงาน แต่ใครจะรู้ความคิดของตัวเขาก่อนหน้านี้ ความทรงจำ ความรู้สึกหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นมีผลต่อการตัดสินใจทั้งหมด ซึ่งบางอย่างอธิบายได้ แต่บางอย่างก็อธิบายไม่ได้ เรื่องที่ไร้เหตุผลนั้นมักจะเกิดขึ้นบนโลกนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

“ไว้เคลียร์เอง” ธราบอกเสียงเรียบ ไม่ได้รู้สึกหนักใจที่ต้องทำ เพราะเขาแน่ใจว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีเรื่องใดที่ทำให้เขาลังเลใจได้อีก ในเมื่อมีบทเรียนที่ดีมาแล้ว เขารู้ว่าเวลานั้นไม่คอยท่า มันไม่เคยนับต่อไปข้างหน้า เพราะทุกช่วงเวลามีจุดสิ้นสุดของมัน คนทุกคนก็มีบทสรุปของตัวเอง ในตอนที่เข็มวินาทีเคลื่อนไปข้างหน้าก็อาจจะหมายถึงเวลาที่เราจะได้มีความสุขเหลือน้อยลงแล้ว ด้วยเหตุนั้นหากเขายังมัวลังเล ก็คงเสียเวลาแห่งความสุขและเผลอทำเรื่องผิดพลาดลงไปอีก

“ให้ดีล่ะ อย่าให้โดนตบ ขี้เกียจฟังไอ้จอมบ่นว่ามึงไม่ระวังหนังหน้าตัวเอง” ไอ้แพร์ว่าแล้วก็เริ่มนินทา “พูดก็พูดนะ ถ้ามันเป็นแม่ของมึงจริงๆ นี่บาปมาก คนห่าอะไรจ้องจะเคลมลูก มันรักหนังหน้ามึงมากกว่าที่ตัวมึงรักอีกนะไอ้ดิน มันบอกพระเจ้าปั้นดีขนาดนี้อย่าให้เสียของ แต่ดีห่าไร ฟันเหยิน”

“คว๊ายยยย”

“ฮ่าๆ ๆ” ไอ้แพร์หัวเราะเอิ้กอ้ากเสียงดังลั่นห้องผู้ป่วย ในขณะที่ธราอยากจะถอดสายน้ำเกลือทิ้งแล้วลุกเตะมันให้เอวหัก

สองเพื่อนซี้หยอกเล่นกันไปอีกพักใหญ่ ก่อนไอ้คนขี้บ่นจะนึกขึ้นได้ว่าคนป่วยต้องพักผ่อน ด้วยเหตุนั้นมันจึงกำชับให้ธรานอนพักในขณะที่มันกลับไปนั่งอ่านหนังสือตามเดิม

เมื่อถูกปล่อยให้นอนพัก ธราก็กลับมาจมอยู่ในความคิดของตัวเองอีกครั้ง ความเศร้ายังติดค้างอยู่ในใจของเขาแต่ก็ไม่ใช่ความเศร้าที่จะไม่เลือนหาย เขาคิดว่าคงอีกสักพักใหญ่ที่หัวใจจะดีขึ้น ในสักวันมันคงดีมากพอที่เขาจะยิ้มกว้างได้เต็มหน้าอย่างมีความสุขจริงๆ สักที

ให้เวลาได้รักษาและเยียวยาทุกสิ่ง อาจจะไม่ได้หายดีทุกเรื่อง อาจจะยังมีภาพจำแย่ๆ ความทรงจำเลวร้าย แต่ในสักวันมันจะทุเลาลงและหวังว่าใครอีกคนจะหายดีเช่นกัน

เพราะผมหวัง...หวังว่าสักวันจะได้กลับมาอยู่เคียงข้าง

หวังว่าจะกลับมาเป็นคนรักของผม

หวังว่าจะกลับมาเป็นอีกครึ่งชีวิตของผม

แต่ถ้าจะปล่อยให้ความเป็นไปไม่ได้ดำเนินต่อไป

ผมก็เคารพการตัดสินใจ

แค่ให้ทางที่คุณเลือกคือทางที่คุณมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้ว

.

.
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 11-03-2019 17:41:43
(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

J. : รายงานผลหน่อยจ้าลูกรัก ถอนหมั้นเป็นยังไงบ้างฮึ

D. : เรียบร้อยดี

P. : ทะเลาะกับพ่อมั้ย

J. : ลูกจะทะเลาะกับมึงทำไม @P.

P. : พ่อจริงๆ ของมันสิไอ้สัด เขาบินมาไม่ใช่เรอะ

J. : อ๋อๆ โทษทีจ้า มึนไปนิด

K. : ดีดแปลกๆ นะไอ้จอม มึงเป็นไร

P. : จะอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าเมาน้ำหอมไอ้สัดมิน แค่มาทำฟันแต่งเต็มใหญ่โต ล่ออาบน้ำหอมมาร้อยขวดแน่กูว่า

J. : หึงเร้อออ

P. : @D. ตกลงทะเลาะมั้ย

K. : มันหึงว่ะ มันเมิน มันเปลี่ยนเรื่อง หึ คู่จิ้นจะเป็นคู่จริงแล้วเหรอวะ กูต้องเรียกพวกมึงว่าพ่อกับแม่จริงๆ ใช่มั้ย

J. : โอ๊ยๆ ๆ ตายแล้วทำไงดี ฮอตละเกินตอนนี้ เดือนบริหารก็มาจีบ สมบัติทันตะฯ ก็อยากเลื่อนสถานะ

P. : มึงไปแบ่งกาวจากห้องข้างๆ กูมาดมเรอะ เมาฉิบหายไอ้สัด

K. : จะว่าไปไอ้เด็กข้างห้องมึงแม่งฮาว่ะ วันก่อนเจอปั่นจักรยานหน้าตั้ง มีหมาวิ่งอยู่ข้างหลัง กูก็นึกว่าหมาไล่น้อง กำลังจะเข้าไปช่วย ที่ไหนได้ แม่งแค่เล่นกับหมา มัดซี่โครงไก่ย่างไว้ท้ายเบาะแล้วให้หมาวิ่งไล่เพราะอยากเล่นไล่จับกัน

J. : น้องแค่เหงา! น้องไม่มีเพื่อนเล่น! มึงอย่าว่าเอเย่นรายใหญ่ของกู ตำแหน่งนักขายกาวในตำนานไม่ได้ซื้อมาด้วยเงิน มึงจำ!

K. : เออ คุยกับดอกทานตะวันอยู่ระเบียงเป็นวรรคเป็นเวรคงไม่ได้ซื้อตำแหน่งมาด้วยเงินหรอกไอ้สัด แต่จริงๆ กูว่าน้องคงเหงามากนะ ย้ายมาอยู่ข้างห้องไอ้แพร์ตั้งหลายปี แต่ไอ้ห่าแพร์ไม่รู้แม้แต่ชื่อแม้แต่หน้า ได้ยินแค่เสียงน้องคุยกับต้นไม้ดอกไม้แต่ก็ไม่เคยคิดพาน้องไปหาหมอ

J. : มันจะพาไปหาหมอได้ไงไอ้คิน วันๆ มันก็คุยกับฟันปลอม สติไม่มีแล้วจ้า ถึงขั้นตั้งชื่อฟันครบสามสิบสองซี่นี่ไม่ธรรมดาแล้ว

D. : ชื่อส้นตีนมากด้วย ตั้งชื่อตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ น้อง A-Z

K. : ตัวอักษรไม่ครบก็เรียกซ้ำไป AA BB CC คือแบบ แพร์ มึงต้องรักษาตัวเองแล้วนะเพื่อน ศรีธัญญาคือทางออกของมึง

J. : ฮึก // ปาดน้ำตา ฟังนะลูกๆ แม่จะเลี้ยงพวกหนูตามลำพังเอง ไม่ใช่ว่าพ่อไม่รักพวกหนูนะ ที่ทิ้งไปเพราะต้องไปรักษาสติ #แม่เลี้ยงเดี่ยว #โสดมากอยากเป็นเมียเดือนบริหาร

K. : ดราม่าสตอรี่ก็มาแล้ว แต่แฮชแท็กส้นตีนดี #ครอบครัวไม่อบอุ่นอีกต่อไป

P. : กูไม่รู้จะแทรกตรงไหนเลยไอ้พวกเวร พาออกนอกเรื่องไปนู่น!

J. : มึงไม่ต้องมาพูดเลยนะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงน่ะไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนบ้าง

P. : กูต้องเล่นด้วยใช่มั้ย

D. : ไม่เข็ดกับนมน้องมิ้วอีกเหรอวะ นี่ถึงขั้นไปมีลูกมีเต้ากับเขา

P. : จะร้องไห้แล้วนะ ทำไมต้องรุม #ลูกไม่รักพ่อ

J. : น้องมิ้วที่ไหนอีก! กูหมายถึงน้องอิ๋ง ลูกน้องเอ๋เด็กข้างห้องมันเนี่ย

P. : เดี๋ยว

K. : คือ ยังไงนะ

J. : ก็ไอ้แพร์ไปทำน้องท้องแล้วไม่รับผิดชอบ!

D. : ตอนคุยกับน้องมึงวางกาวลงหรือยังไอ้จอม

J. : สูดเข้าปอดไปสามที ถุ๊ย! พวกกูนั่งจิบน้ำกระเจี๊ยบ

K. : บอกตามตรงว่ากูไม่มั่นใจของอะไรก็ตามที่อยู่ในห้องน้อง น้ำกระเจี๊ยบนั่นน่าสงสัย

P. : สรุปกูจะได้รู้มั้ยว่าไอ้ดินทะเลาะกับพ่อมันรึเปล่า

J. : มึงนี่ก็โง่จริงๆ ถ้ามันทะเลาะมันหงอยเป็นหมาไปแล้ว เป็นพ่อประสาอะไร เลี้ยงลูกมาไม่รู้ใจลูก

P. : พ่อขอโทษ สำนึกผิดไม่ทันแล้ว #พ่อรักดิน

D. : อย่างที่ไอ้จอมว่า ไม่ได้ทะเลาะ พ่อเข้าใจดี เขาก็รู้ว่ายังไงกูก็ต้องถอนหมั้นสักวัน เขาจะเคลียร์กับเพื่อนเขาให้เอง น้องบีก็ไม่ได้มีปัญหา น้องเข้าใจดีแล้ว

P. : ได้ยินแล้วก็โล่งใจ แต่ตอนนี้พ่อมึงกลับไปแล้วใช่มั้ย

D. : อืม มีเรื่องต้องจัดการเยอะน่ะ แม่เลี้ยงกูก็อาการไม่ค่อยดีด้วย เขาเสียลูกแท้ๆ เขาไปทั้งคน คงทำใจไม่ได้

J. : เอาจริงครอบครัวมึงนี่ซับซ้อนดีนะ แต่ยังไงก็เสียใจด้วยเรื่องน้องมึง แต่งานศพอะไรนี่พิธีจัดตอนไหนวะ

D. : ไม่รู้ว่ะ กูไม่ได้ไป ดูใจดำปะวะ

K. : ไม่หรอกว่ะ สำหรับกูนะ ยังไงดี คือมึงก็ไม่ได้สนิทกับเขา เขาก็ปล่อยปะละเลยมึงอยู่แล้ว มึงแทบจะมีแค่พวกกูอะเอาจริงนะ โทษนะเว้ยถ้าทำให้รู้สึกไม่ดี

D. : กูก็คิดเหมือนมึงแหละ ยิ่งตั้งแต่ความจำเสื่อมกูกับพวกเขาก็ยิ่งเหมือนคนแปลกหน้า แต่พอจำอะไรได้หน่อยก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี เพราะครอบครัวจริงๆ ของกูมีแค่พี่ชายบุญธรรมมาตลอด

P. : ถึงได้บอกว่าซับซ้อน เอาเถอะนะ มึงก็ทำใจให้สบาย ตอนนี้มีพวกกูแล้ว กูจะเป็นพ่อให้มึงเอง

J. : ส่วนกูเป็นแม่จ้า

K. : อยากเป็นลุงข้างบ้านเพราะไม่อยากอยู่ในครอบครัวประสาทแดกที่มีแม่อย่างไอ้จอม แต่กูเป็นน้องชายให้ก็ได้ กลัวมึงเหงา

D. : เออ ขอบใจมาก

D. : ที่จริงเขาก็บอกกูว่าจะย้ายไปอยู่ที่นั่นถาวรว่ะก็เลยถามว่ากูจะไปด้วยมั้ย ถ้ากูตกลงเขาจะได้อยู่จัดการเรื่องให้แล้วค่อยบินไปพร้อมกัน

J. : แล้วมึงว่าไงวะ คือกูต้องเตรียมดราม่ามั้ย

D. : ดราม่าห่าไร กูไม่ไปไหนทั้งนั้น อยู่คนเดียวจนชินแล้วปะวะ ให้ไปอยู่กับพ่อกับแม่เลี้ยงคงอึดอัดตาย

P. : อย่าชินกับความเหงา #มือเรายังมี

K. : ไปเลี้ยงน้องอิ๋งลูกมึงซะไป๊! จัญไรจริงๆ กำลังซึ้งกัน

P. : บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ลูกกู! ห้องน้องกูยังไม่เคยเฉียดไปใกล้แม้แต่ประตู

D. : แล้วมึงเดินผ่านยังไงไม่ให้ใกล้วะ

P. : รักษาระยะห่างของสองเรา

J. : อ๋อ รักษามากมั้ง วันก่อนแทบกินหน้าน้อง

D. : เอ๊ะ

K. : เอ๊ะ

P. : มันเมาน้ำกระเจี๊ยบ! มันตาฝาด! อย่าไปเชื่อมัน!

D. : ตอนกูถามเมื่อเดือนก่อนว่ามึงรู้จักน้องเอ๋มั้ย มึงตอบว่าไม่

K. : มึงโกหกเพื่อนเหรอแพร์

P. : ก็ตอนนั้นไม่รู้จัก! แต่พอไอ้ดินถามแล้วกูคาใจไง กูอยากรู้ว่าทำไมลูกรักถึงถามถึงก็เลยไปตามสืบดู

J. : แต่พรหมลิขิตทำงาน สืบไปสืบมารู้ว่าอยู่ข้างห้อง อีกเดือนต่อมาก็เลยแดกหน้าน้อง #ฟันปลอมหรือจะสู้ฟันน้อง

P. : เออ ยอมรับก็ได้ไอ้ห่า ว่าแต่น้องอิ๋งนี่ใครวะ

J. : ลูกมึงไง! มึงเป็นพ่อประสาอะไร! ตอนทำไม่รู้จักป้องกัน #ตอนทำไม่ร้องตอนท้องไม่รับ

P. : คือกูยังไม่ได้น้องไอ้สัด แค่จูบกันน้องก็จะตายแล้ว

J. : แต่น้องบอกอสุจิมึงเข้าทางปาก

D. : ไอ้เหี้ยแพร์ กูบอกตามตรงนะ กูคิดดีไม่ได้จริงๆ

P. : เออ! กูเดินเข้าคุกเองก็ได้! #น้ำตาไหลพรากต้องจากครอบครัว

K. : ร้องไปเลยไอ้เหี้ย มึงมันภัยสังคม

P. : เอาอย่างนี้ กูจะรับผิดชอบน้องกับลูกเอง

J. : กูจะยอมให้มึงมีบ้านเล็กก็ได้! เพราะมึงกล้าทำกล้ารับ มึงมันลูกผู้ชาย!

K. : เอาจริง นอกจากไอ้แพร์กับน้องเอ๋ต้องไปหาหมอแล้ว มึงก็ไปด้วยอิแม่! ไปตั้งครอบครัวกันในโรงพยาบาลบ้าเลยไป๊!

J. : คนโสดเกรี้ยวกราดว่ะ เหงาเร้อ

K. : ถามไอ้ดินดิว่าเหงามั้ย

P. : เดี๋ยวลูกรักกูร้องไห้ไอ้ห่า

D. : ไร้สาระว่ะพวกมึง

J. : ทุกวันนี้จำศีลอยู่ในห้อง รู้ข่าวอีกทีมันอาจออกบวชแล้ว

D. : กูก็มีแฟนแล้วมั้ย

P. : แฟนที่หายหัวไปไม่ติดต่อมาเลยน่ะนะ

J. : หายหัวอะไรล่ะ มันได้รับจดหมายทุกอาทิตย์

K. : กูถามจริง

D. : เออ ก็ส่งจดหมาย ส่งโปสการ์ด เจ้าใช้มือถือไม่ได้ มันรบกวนเครื่องมือแพทย์

P. : ก็คือยังไงนะ มันแบบ...ยังไง

D. : ยังกลับมาไม่ได้ไง ยังไม่หายดี

P. : สรุปมันป่วยเป็นไร

J. : จะว่าไปกูเคยเห็นหน้าแฟนมึงปะวะไอ้ดิน รู้แต่ชื่อเจ้า แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง

D. : Sent a photo.

J. : กี๊ดดดดดดดดดดดดด

K. : คือแม่กูหาผัวใหม่ได้อีกแล้วแน่ๆ คนนี้เด็ดกว่าไอ้มินเดือนบริหารอี๊กกกก

J. : แห่ก แห่ก แห่ก มินเป็นใคร กูไม่รู้จัก กูรู้จักแต่พี่เจ้า พี่เจ้าคือผัวกู ผู้ชายที่คู่ควรกับคำว่าผัว ไม่ ไม่ใช่ คำว่าผัวต่างหากที่คู่ควรกับพี่ #เจ้าจอมอิสเรียล

P. : จัญไรจริงๆ

D. : @P. ไม่สบายนิดหน่อย

P. : รักษาเป็นเดือนๆ นี่ไม่นิดแล้วนะ ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่มั้ย

D. : อืม ไม่เป็นไรหรอก ปลอดภัยแน่นอน

D. : เพราะมีคนคุ้มครองอยู่ เขาไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นไรไปหรอก

J. : และคนนั้นคือกูเองจ้า พี่เจ้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเป็นผัวกู!

D. : กูไม่น่าให้มึงเห็นรูปมันเลย ส้นตีน

J. : ไม่เจ็บ!

.

.
20 สิงหาคม

เหรอครับ คุณไปส่งจี้มาเหรอ คิดว่าจี้คงดีใจแน่ๆ แต่เสียดายที่ผมไปไม่ได้ ไว้ผมกลับไปแล้ว พาผมไปหาจี้ด้วยนะครับ จะเอาดอกไม้ที่จี้ชอบไปให้ด้วย นี่...เห็นมั้ยลายมือของผมดีขึ้นแล้วนะ ผมคิดว่าคุณไม่ต้องเสียเวลาแกะคำแล้ว :)

รายงานผลอาการ: แผลของผมไม่เจ็บมากแล้ว แต่ยังไงกระสุนที่ฝังอยู่นี้ก็ต้องเอาออก แม่เครียดมากเพราะยังหาทีมรักษาเก่งๆ ไม่ได้ หรือที่จริงอาจจะเครียดกับงานก็ได้ ผมก็ไม่รู้หรอก ไม่ค่อยได้คุยกัน

ตอบคำถามของคุณ: ที่คุณถามครั้งก่อนว่าแม่ว่ายังไงกับเรื่องของเรา ผมไม่กล้าพูดนะว่ายอมรับได้ แต่การที่จดหมายของผมถึงคุณทุกฉบับก็คิดว่าแม่คงรับได้บ้างแล้ว

คำถามของผม: คิดถึงผมมั้ย เหงาหรือเปล่า จดหมายครั้งหน้า เล่าให้ผมฟังด้วยนะ เรื่องที่ไอ้แพร์ล่วงเกินเอ๋ ผมบอกเลยว่าผมหัวร้อนมาก เอ๋ไม่ปลอดภัย!

ปล. ครั้งหน้าผมจะเขียนให้ยาวกว่านี้เท่ากับความคิดถึงที่ผมมีเลย รักคุณนะครับ

:

28 สิงหาคม

ลายมืออ่านยากเหมือนเดิม แต่แปลกที่อ่านรู้เรื่อง สงสัยชินแล้วละมั้ง ว่าแต่จี้ชอบดอกอะไร ตอนทำบุญครั้งหน้าจะซื้อไปด้วย

ติดตามผล: ไม่เจ็บมากก็ดีแล้ว แต่ระวังด้วย ถ้าได้ทีมผ่าตัดเมื่อไหร่บอกก่อนนะ จะเข้าห้องผ่าตัดโทรมาก่อน ตอนนี้ยังไม่ต้องฝืนทำอะไร กินยาตามที่หมอสั่ง หมอเขาพูดอะไรก็ฟัง ห้ามดื้อ

ตอบคำถาม: ถามว่าคิดถึงมั้ยก็ต้องบอกว่าคิดถึงมาก เรื่องเหงามันก็มีบ้างแต่ไม่มากหรอก แค่ฟังไอ้แพร์บ่นก็เหมือนมีคนอยู่ด้วยเป็นร้อย ไหนจะไอ้จอมที่มาก่อกวนขอรูปของเจ้าทุกวัน ถึงอย่างนั้นก็รีบกลับนะ อยู่กับใครก็ไม่เหมือนอยู่กับเจ้า ส่วนเรื่องของไอ้แพร์กับน้องเอ๋น่ะ ไม่รู้จะเล่ายังไงเลย มันชอบบอกว่าไม่มีอะไร แต่ไอ้จอมมันรู้มันเห็น ล่าสุดมันบอกว่าไอ้แพร์จูบน้อง นั่นแหละผมไม่รู้รายละเอียดมากหรอก ไว้กลับมาเจ้าไปถามไอ้จอมเลย มันพร้อมตอบทุกคำถาม จอมรู้โลกรู้ สโลแกนประจำตัว

คำถามครั้งต่อไป : คำถามนี้ไม่ต้องตอบเร็วๆ นี้ก็ได้ ตอบเมื่อพร้อมและแน่ใจก็พอ

จะกลับมามั้ย แล้วถ้ากลับมาเราจะอยู่ในสถานะไหน

จะเป็นคนรัก เป็นคนที่คบกัน เป็นคู่ชีวิต หรือจะไม่มีสถานะอะไรเลย

ถ้าพร้อมก็ให้คำตอบด้วยนะ เคารพการตัดสินใจเสมอเพราะไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจยังไง ผมก็จะอยู่ที่เดิม

ปล. เขียนสั้นๆ ก็ได้ รู้ว่าเจ็บแผล เป็นห่วงมากๆ นะ รักเหมือนกัน

.

.

31 ธันวาคม

“พี่หมอดิน”

ธรามองไอ้เด็กหัวฟูตัวเล็กที่กำลังยืนทำหน้างงๆ อยู่ตรงหน้า ปากเล็กก็ร้องเรียกชื่อเขาแต่กลับทำคอยืดคอยาวมองไปทางด้านหลัง ไม่โฟกัสเจ้าของชื่อเลยสักนิด

“มีอะไรเรา” ธราถามกลับ แกล้งขยับตัวบังไปในทิศที่ดวงตาโตๆ นั้นกำลังมอง “หรือจะเอาดอกไม้มาขายอีก”

ไอ้เด็กหัวฟูท่าทางอึกอัก มันสบตากับธราเพียงครู่แล้วก็หลุบตาลงต่ำ นิ้วชี้จิ้มเข้าด้วยกันจนคนมองอดที่จะหัวเราะไม่ได้ “คือ...วันนี้ไม่ได้มาขายดอกไม้”

มุขขายดอกไม้ของไอ้เอ๋ เด็กปีสองของคณะเกษตรฯ นั้นเป็นที่โจษจันไปทั่วคณะทันตะฯ เพราะมันเล่นใหญ่สมกับเป็นเอเย่นขายกาวให้ไอ้จอม ธราคิดว่าไอ้น้องเอ๋คนนี้คงตั้งใจเอาดอกทานตะวันที่มันปลูกอยู่เกือบสิบกระถางที่ระเบียงห้องของมันมาให้ไอ้แพร์เพื่อนของเขา แต่คงเพราะเขินหรือเพราะความกาวของน้องถึงได้เอาดอกทานตะวันมาตั้งแผงขายอยู่หน้าป้อมยามฯ ของคณะแทนที่จะเอามาให้ไอ้แพร์โดยตรง แต่พอใครไปถามซื้อมันก็ไม่ขายอีกทั้งยังฝากบอกให้พี่หมอแพร์ปีห้าช่วยมาซื้อดอกไม้ของมันด้วย จำได้ว่าวันนั้นไอ้แพร์ถึงกับวิ่งหน้าตั้งทั้งที่ยังไม่ถอดแมสก์ออกจากห้องทำฟันเพื่อไปเหมาดอกทานตะวันของไอ้น้องเอ๋อย่างเร่งด่วน

“แล้วมีอะไร” ธราถามต่อ

“พี่หมอดินกำลังหงุดหงิดอยู่ปะครับ” ไอ้เอ๋ถามหน้าหงอย “คือผมแค่อยากมาถามว่าวันนี้พี่หมอแพร์จะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน”

“ไม่ได้หงุดหงิด” คนหน้านิ่งรีบบอก “หน้าพี่เวลาไม่ยิ้มมันเป็นอย่างนี้เอง”

“อ๋อ ก็นึกว่าหยิ่ง”

“อ้าว น้อง”

“แหะ” ไอ้เอ๋ยิ้มแห้ง ก่อนจะลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบเมื่อพูดขึ้นอีก “แล้วยังไงครับ พี่หมอแพร์จะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน”

“ทำไมไม่ถามมันเอง เราเป็นแม่ของลูกมันไม่ใช่เหรอ ถามสิ มีสิทธิ์นะ”

ไอ้เอ๋ตาโตทันที “พี่หมอรู้ได้ยังไงว่าผมท้อง เรื่องนี้พ่อของเด็กยังไม่รู้เลยนะ! ผมบอกแค่พี่หมอจอม!”

ธราอยากจะบอกเสียจริงๆ ว่าทุกเรื่องที่ไอ้จอมรู้ คนทั้งโลกต้องรู้ไปกับมันด้วย ไม่งั้นมันอกแตกตาย “ว่าแต่ลูกในท้องเป็นยังไง แข็งแรงดีมั้ยล่ะ”

“ก็ดีครับ” ไอ้เอ๋ตอบพลางยิ้มกว้างเมื่อมีคนใส่ใจน้องอิ๋งของมัน “น้องอิ๋งแข็งแรง ไม่งอแง มีน้องมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่แพ้ท้องเลย กินได้ทุกอย่างที่อยากกิน แม่จ๋าของผมน่ะบอกว่าน้องอิ๋งต้องเป็นเด็กที่น่ารักแน่ ไม่ทำให้แม่ลำบากเลย พูดแล้วก็น้ำตาจะไหล พ่อของน้องยังไม่รู้เลยว่ามีน้อง!”

ธราเกือบตบหน้าผากตัวเองที่เผลอเล่นตาม เพราะกลายเป็นว่าตอนนี้ประเด็นสถานที่เคาท์ดาวน์ของไอ้แพร์เพื่อนซี้ถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องลูกที่มันก็ไม่รู้ว่ามีเมื่อไหร่ไปแล้ว

“เอาเถอะๆ แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกก็ดี” เขารีบตัดบทก่อนที่ไอ้น้องเอ๋จะดราม่าเล่นใหญ่ไปมากกว่านี้ “เดี๋ยวยังไงพี่ถามไอ้แพร์ให้”

“พี่หมอดินต้องเนียนๆ นะ อย่าให้พี่หมอแพร์รู้ว่าผมถาม” ไอ้เอ๋ทำหน้าล่อกแล่ก มันพยายามเขย่งปลายเท้าเพื่อมองให้พ้นไหล่ของธราอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ไหล่กว้างอย่างกับกำแพงเมืองจีนอย่างนี้เป็นอุปสรรคต่อการแอบมองของมันจริงๆ

“พี่จะบอกว่าคนข้างห้องฝากถามก็แล้วกัน”

เด็กหัวฟูโวยวายทันที “โอ๊ย! อย่างนั้นก็รู้ซี่”

“มันไม่รู้หรอก ขนาดน้องเอ๋อยู่ข้างห้องมันมานานมันยังไม่รู้เลย”

ไอ้เอ๋หน้าหงอย “ก็จริง แต่ถ้าพี่หมอบอกว่าคนข้างห้อง พี่หมอแพร์จะไม่คิดเหรอว่าเป็นเจ๊อ้อยที่อยู่อีกข้าง”

“สรุปอยากให้มันรู้หรือไม่อยาก”

“ก็คือ...แบบ ผมน่ะว่างมากเลยนะวันนี้”

ธราปวดกบาลจริงๆ เขาคิดว่าเขาคงรับมือกับเด็กคนนี้ต่อไม่ไหว ไม่รู้ไอ้แพร์มันทำได้ยังไงถึงจีบกันมาได้หลายเดือน “ไอ้แพร์” เขาตัดสินใจตะโกนเรียก เห็นไอ้น้องเอ๋ตาโต ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากส่งเสียงชู่ๆ แล้วแต่เขาก็ไม่สนใจ “น้องเอ๋มาถามว่าคืนนี้จะเคาท์ดาวน์ที่ไหน คืนนี้น้องว่างมาก ไม่ได้อยากชวน ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอก แค่มาถามเฉยๆ”

ไอ้เอ๋แทบมุดหน้าเข้าหาผนังเมื่อเห็นพี่หมอในดวงใจของมันละจากเครื่องกรอฟันแล้วเดินมาหามันที่ยืนคุยกับพี่หมอดินอยู่หน้าห้องทันตกรรม

“ก็คิดอยู่ว่ามึงยืนคุยกับใครตั้งนานสองนาน” ไอ้แพร์ว่าแล้วก็มองไปทางเด็กขี้เขินที่ตอนนี้หันหน้าเข้าผนังห้องไปแล้ว “ว่าแต่เราเถอะ ไหนบอกพี่ว่ามีคนชวนเคาท์ดาวน์แล้ว”

“ก็แบบอยากให้พี่หมอไปด้วย” ไอ้เอ๋บอกเสียงแผ่ว “อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับเขา ต่อให้เขาจะหล่อมาก รวยมาก ไม่มีอะไรที่พี่หมอเทียบติดเลย แต่ผมก็อยากเคาท์ดาวน์กับพี่หมอนะ”

ธราหลุดหัวเราะ เขาขำจนหน้าดำหน้าแดงเพราะเห็นสีหน้าไอ้แพร์เพื่อนรักที่ทำหน้าคล้ายโดนรถสิบล้อเหยียบหน้า

“คือกูควรรู้สึกยังไง” ไอ้แพร์หันมาถามความเห็น “ต้องดีใจหรือร้องไห้ แบบน้องเลือกกูทั้งที่กูไม่มีเหี้ยไรดีสักอย่าง”

“ไม่ๆ ๆ” ไอ้เอ๋รีบพูดปฏิเสธ “พี่หมอมีดีนะครับ แต่แค่ดีไม่เท่าเขาเท่านั้นเอง อย่าน้อยใจไปเลย เพราะผมตกลงกับเขาแล้วว่าจะเป็นเพื่อนกัน สัญญาแล้วว่าจะเป็นบีเอฟเอฟกันตลอดไปเลย”

“ฮ่าๆ ๆ” คราวนี้ธราระเบิดหัวเราะ ไอ้แพร์ยิ้มแห้ง คงจุกแต่พูดอะไรไม่ได้ “แต่อะไรคือบีเอฟเอฟวะน้อง”

“เบสเฟรนด์ฟอเอเวอร์”

“นี่ไงไอ้แพร์ น้องเลือกมึงแล้ว” ธราได้ทีปลอบใจเพื่อน “ต่อให้หล่อให้รวย ให้ดีกว่ามึงทุกอย่าง แต่เขาก็เป็นได้แค่เพื่อนไง ชนะแล้วเนี่ย ทำหน้าจะร้องไห้ทำไม”

“สัด กูแบบเจ็บจนพูดไม่ออก” ไอ้แพร์ว่าแล้วก็ถอนหายใจแรงและเมื่อตั้งสติได้ก็หันไปหาไอ้เด็กหัวฟู “แล้วนี่คือจะให้พี่ไปเคาท์ดาวน์ด้วยจริงๆ เหรอ”

“เราสองสามคนไปเลยไง” ธราตอกย้ำ เห็นหน้าแห้งๆ ของไอ้คนขี้บ่นแล้วยิ่งสะใจ

“ไม่ครับๆ ชวนพี่หมอดินไปด้วย ผมไม่อยากให้เขาเหงา บีเอฟเอฟของผมต้องมีความสุขในวันสิ้นปี”

“เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เลยจริงๆ กู” ไอ้แพร์พึมพำ แต่มันก็รับปาก “พี่ไปด้วยก็ได้ ยังไงก็ไม่ให้เอ๋ไปกับมันสองต่อสองหรอก ไอ้ดิน มึงก็ไปด้วยกัน ยังไงมึงก็ว่าง”

“เออ ไปด้วยก็ได้” ธรารับคำเสียมิได้ เพราะยังไงก็อยากตามไปเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของไอ้แพร์ต่อ นอกจากนมน้องมิ้วที่ทำให้มันขาดอากาศหายใจตายได้แล้ว ไอ้น้องเอ๋ที่นมแบนๆ คนนี้ก็คงทำได้เช่นกัน

หึ เด็กมันแน่

“ดีๆ ๆ นายเจ้าต้องดีใจแน่เลย” ไอ้เอ๋พูดพลางยิ้มออกมาอย่างร่าเริง แต่ธรานิ่งงันกับชื่อที่ได้ยิน

นายเจ้า นายเจ้าคนนั้นน่ะจะใช่คนที่ขาดการติดต่อไปหรือเปล่า จะใช่คนที่ทำให้จดหมายฉบับสุดท้ายของเขาไม่มีการตอบกลับไหม แล้วถ้าใช่...

“เพื่อนชื่อเจ้าเหรอ” ธราถามเสียงแผ่ว ความรู้สึกในตอนนี้ของเขาอธิบายไม่ได้ เพราะมันปะปนกันจนไม่รู้ว่าความรู้สึกไหนชัดเจน แค่ชื่อ...ทั้งที่เป็นแค่ชื่อที่เหมือน อาจจะไม่ใช่คนเดียวกัน คนชื่อเจ้าน่ะคงมีอีกหลายคนบนโลกนี้

“ชื่อเจ้าครับ เป็นรุ่นพี่นะ แต่เราตกลงเป็นบีเอฟเอฟกันแล้ว เราเจอกันที่สนามบินเมื่อวันศุกร์ที่แล้วแหละ ตัวผมไปส่งแม่จ๋าเพราะแม่จ๋าจะไปตามหาลูฟี่ที่ญี่ปุ่นให้ผม แล้วเราเดินสวนกันพอดี จากนั้นเขาก็เข้ามาจีบ เขาขอไลน์บอกว่าอยากจะคุยด้วย เราก็เลยชิตแชตกันมาตั้งแต่นั้น” ไอ้เอ๋เล่าไปด้วยยิ้มกว้างไปด้วยอย่างมีความสุข

“นี่ไง นี่ไงมึงฟังซะ เจอกันศุกร์ที่แล้วแต่เหยียบหน้ากูที่จีบมาหลายเดือน ฟ๊าคคคค” ไอ้แพร์ถึงกับโวยวายขึ้นมา

“เขาอาจจะไม่เข้ามาจีบก็ได้ไง มึงก็รู้ว่าไอ้น้องเอ๋มันไม่เต็ม คนจีบบอกไม่จีบ คนไม่จีบบอกจีบ วุ่นวายไปหมด” ธราเตือนสติเพื่อน ไม่อยากให้คิดไปไกลเพราะเชื่อความคิดของไอ้เด็กกาวคนนี้ได้เสียที่ไหน ทั้งที่ไอ้แพร์ออกหน้าออกตาว่าจีบมันมาหลายเดือนมันยังบอกเลยว่าไอ้แพร์ไม่ชอบมัน เป็นงงกันทุกคน

“เขาจีบผม! ผมก็หล่อเหลาเอาการอยู่พอสมควรนะ นี่วันก่อนแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ที่เคยคบกับพี่หมอน่ะยังมาขอผักไปทำสลัดกิน ทั้งที่หล่อนจะไปขอซื้อกับไอ้คิ้มก็ได้ แต่หล่อนมาขอกับผม เห็นไหมล่ะ หล่อนมีใจ!”

“เออ กูเชื่อมึงละ กูว่ากูไม่ควรโวยวาย” ไอ้แพร์กระซิบให้ธราได้ยินเพียงคนเดียว “หลังจากได้เป็นเมียแล้วกูต้องพาไปรักษาสติ ไม่งั้นลูกคงเป็นบ้าตามแม่”

“มึงก็รักษาสติก่อนมั้ย น้องเป็นผู้ชาย น้องท้องไม่ได้!”

“เออ ก็จริง” ไอ้แพร์หัวเราะ “กูอินกับน้องอิ๋งจนเชื่อไปแล้วเนี่ยว่ามีลูก อีกนิดคือบอกแม่เตรียมรับขวัญหลาน”

“จะหลอกเอาเงินแม่ก็พูดมา”

“มันรู้ใจ”

ธราส่ายหน้าระอา ก่อนจะมองไอ้น้องเอ๋ที่ตอนนี้กำลังสนใจโทรศัพท์มือถือ มือก็พิมพ์ยุกยิก ปล่อยให้บทสนทนาเคว้งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“นายเจ้าบอกจะมาหา” มันพิมพ์เสร็จก็เงยหน้าขึ้นบอกธรา “นายเจ้าบอกว่าให้พี่หมอดินรอก่อน ถ้ามีธุระที่ไหนก็ให้ผมล็อกตัวไว้ ห้ามพี่ไปไหน”

“ฮะ?” ธราได้แต่ร้องอุทานเพราะไอ้น้องเอ๋ตั้งท่าจะเข้ามาชาร์ตเขาจริงๆ แต่ไอ้แพร์ยกมือขึ้นห้ามและบอกว่ามันจะจัดการกับเขาเอง ด้วยเหตุนั้นตอนนี้เขาจึงถูกไอ้แพร์ล็อกแขนไว้

“พี่หมอแพร์ทำดีมาก!” ไอ้เอ๋กล่าวชม

“ครับ งานแบบนี้ให้พี่ทำเถอะ ไหล่ไอ้ดินกว้างเป็นกำแพงเมืองจีนอย่างนี้น้องล็อกมันไม่ไหวหรอกครับ”

“นี่แหละคือข้อดีของพี่!” ไอ้เอ๋ชมไม่หยุด

“คือไงนะ” ไอ้แพร์กระซิบถามธรา “ข้อดีของกูคือการใช้กำลังเหรอ”

“จะยังไงก็ช่าง มึงปล่อยกูก่อน กูไม่ได้จะหนีไปไหนไอ้ควาย”

“เออ โทษ อินอีกแล้ว”

ธราถึงกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดว่าถ้าปล่อยไอ้แพร์ไว้กับไอ้น้องเอ๋นานกว่านี้ มันคงพากันสร้างยานอวกาศไปทัวร์กาแล็กซี่แน่ๆ

“แล้วนายเจ้าเพื่อนน้องจะมาเมื่อไหร่ อีกสิบนาทีพี่ต้องเข้าเรียนแล้ว”

“งั้นเอาไงดีอะครับ นายเจ้าบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมง”

“เจอกันคืนนี้ก็ได้ ยังไงต้องเคาท์ดาวน์ด้วยกันอยู่แล้วนี่”

“จริงด้วย งั้นผมบอกนายเจ้าก่อนนะ” ไอ้เอ๋ว่าแล้วก็หันกลับไปสนใจโทรศัพท์มือถืออีกครั้งและไม่นานมันก็เงยหน้าขึ้น “นายเจ้าบอกว่าโอเค”

“อืม เจอกันที่ไหนก็บอกด้วยแล้วกัน”

“ได้เลยครับ”

ธราหวัง ทั้งที่ไม่อยากหวังแต่ก็อดไม่ได้ เขาหวังจริงๆ นะว่านายเจ้าที่เป็นบีเอฟเอฟของไอ้น้องเอ๋คนนั้น จะเป็นคนคนเดียวกับคนที่ชื่อ เจ้า จักรพรรดิ ที่เขารอคอยให้กลับมาอยู่ทุกวัน

.

.

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 24 ปลายทาง ​P.25 02/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snufflehp ที่ 11-03-2019 17:41:55
สถานที่ที่จะใช้นับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ในค่ำคืนนี้คือชั้นดาดฟ้าของหอพักที่ไอ้น้องเอ๋กับไอ้แพร์พักอาศัย ซึ่งคนต้นคิดสถานที่นั้นไม่ได้ให้เหตุผลอื่นใดนอกจากไม่อยากไปไกลกว่านี้ มันบ่นรถติด บ่นคนเยอะ บ่นเสียงประทัด แต่ที่ไหนๆ ในเวลาสิ้นปีก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ชั้นดาดฟ้าของหอพักที่ก็ไม่ได้มีแค่พวกเขาที่คิดมาฉลองกัน คนเช่าอาศัยที่นี่บางส่วนก็เลือกที่จะขึ้นมาจับจองพื้นที่ฉลองให้กับกลุ่มตัวเอง โชคดีที่ไอ้น้องเอ๋มันมาจองพื้นที่ตั้งแต่หัวค่ำจึงได้ทำเลดี แต่วิธีจองของมันก็คล้ายกับจองพื้นที่ดูหนังกลางแปง มันปูเสื่อบนพื้นแล้วเขียนชื่อใส่กระดาษเอสี่ก่อนจะใช้ก้อนหินทับกระดาษไว้อีกที ถือเป็นการเสร็จสิ้นการจอง ได้ที่แน่นอนโดยไม่ต้องตบตีกับใคร

“วางน้องๆ ไว้ตรงนี้เลยครับพี่ๆ” ไอ้เอ๋ผู้ชนะเลิศในการจองพื้นที่บอกเสียงใส มันชี้นิ้วไปทางนั้นทางนี้เพื่อให้ธรากับไอ้แพร์วางน้องๆ ของมันลงตามพื้นที่ที่ต้องการ

“เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย” ธราบ่น เขาไม่แน่ใจเลยว่าควรทำยังไงกับกระถางต้นดอกทานตะวันที่ต้องช่วยไอ้น้องเอ๋ขนขึ้นชั้นดาดฟ้าดี เลือกไม่ถูกเลยระหว่างโยนน้องๆ เหล่านี้ลงกับพื้นหรือโยนใส่หัวเจ้าของมันให้สมองกลับมาปกติ

“น้องๆ ต้องได้เคาท์ดาวน์กับพวกเราด้วยนะครับ นายเจ้าก็บอกว่าเป็นความคิดที่ดีเลยนะ เพราะเราจะปล่อยให้น้องๆ เหงาไม่ได้ น้องๆ ก็มีหัวใจ” ไอ้เอ๋ส่งเสียงแง้วๆ มาจากมุมหนึ่งเมื่อได้ยินเจ้าของไหล่ขนาดกำแพงเมืองจีนบ่น ตัวก็ใหญ่ซะเปล่าแต่เหนื่อยง่ายเสียจริงๆ สู้ไอ้เอ๋ก็ไม่ได้ นั่งจิบน้ำแดงอยู่บนเสื่อนี่ยังไม่เหนื่อยเลย!

“ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมมาเคาท์ดาวน์กับพวกมึง” ธราปาดเหงื่อที่หน้าผากหลังจากที่ขนกระถางต้นดอกทานตะวันทั้งสิบต้นขึ้นมาได้สำเร็จ “ไอ้คนเห็นดีเห็นงามก็ไม่โผล่หัวมาช่วยขน ไอ้สัด ถ้าจะเออออแล้วไม่ห้ามก็มาช่วยขนเองสิวะ”

“เอาน่ามึง หัวร้อนไปทำไม มาๆ มานั่งก่อน” ไอ้แพร์ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านที่ดี ธรารู้อยู่หรอกว่ามันก็อยากบ่น แต่ช่วงทำคะแนนอย่างนี้มันคงพูดอะไรมากไม่ได้ ในเมื่อบีเอฟเอฟของไอ้น้องเอ๋ก็ยังคลุมเครืออยู่เลยว่าสรุปมันจีบจริงหรือไม่จริง มีคู่แข่งน่ากลัวปรากฏตัวขึ้นมาอย่างนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องระวังไม่ให้เสียคะแนนไว้ก่อน แม้ไอ้น้องเอ๋มันจะชัดเจนแล้วก็ตามว่าสนใจใครมากกว่ากัน

ธรานั่งพักเหนื่อย เขารับเบียร์เย็นๆ หนึ่งกระป๋องมาจากไอ้แพร์ที่บริการเปิดให้เป็นที่เรียบร้อยมายกขึ้นกระดกไปอึกใหญ่ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ประกอบกับอากาศในยามนี้เป็นใจสำหรับการผ่อนคลาย ความหัวร้อนที่มีจึงลดฮวบลงแทบไม่เหลือ เขาหลับตาพลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่สูดอากาศเข้าเต็มปอด ได้ยินเสียงไอ้น้องเอ๋กับเพื่อนของเขาคุยกันแล้วก็น่าปวดหัวดี แต่ไม่ได้รู้สึกรำคาญ

บางทีการอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้แย่และถ้าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงไม่เป็นไร ก็แค่อาจจะเหงาบ้างก็เท่านั้น

เขายกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง รู้สึกดีกับสายลมที่พัดผ่านมา ได้ยินเสียงพูดคุยมาจากกลุ่มที่ฉลองอยู่มุมตรงข้ามกันแต่คงเพราะไม่ได้อยู่ใกล้กันมาก เสียงที่ได้ยินจึงไม่น่ารำคาญแต่กลับช่วยคลายความเหงาลงได้บ้าง กลุ่มนั้นคงเริ่มดื่มกันไปบ้างแล้ว ในขณะที่ทางพวกเขานั้นไม่ได้คิดจะดื่มกันจริงจัง เพราะทั้งเขาและไอ้แพร์ต้องกลับไปแก้แล็ปให้เสร็จสิ้น แม้แต่วันสิ้นปีงานก็ยังกองทับหัวอย่างนี้ก็สมแล้วกับคณะที่เลือกเรียน

เขาปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงเรื่องนั้น เรื่องนี้โดยไม่ได้เจาะจงไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง กลับแค่คิดขึ้นมาแล้วปล่อยผ่าน ให้เบียร์เย็นๆ กับสายลมอ่อนๆ นี้ช่วยพัดพามันไป แต่ในขณะที่เบียร์ลดลงไปค่อนกระป๋อง ใครบางคนก็นั่งลงเคียงข้าง เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเสียงพูดคุยของไอ้น้องเอ๋และไอ้แพร์เงียบไปแล้ว ที่ได้ยินตอนนี้มีเพียงเสียงร้องเพลงของกลุ่มที่อยู่ห่างออกไปแทน

“ชนหน่อยสิ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่เจ้าของเสียงหันมองธรา มือผอมที่ถือกระป๋องเบียร์นั้นยกขึ้นมาตรงหน้า ส่งรอยยิ้มที่ปรากฏพระจันทร์เสี้ยวดวงสวยมาให้ “ดื่มด้วยนะ”

“อืม” ธราขานรับในลำคอหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน เพราะเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าควรทำยังไงกับคนที่จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวตรงหน้า จะบอกว่าไม่ได้คาดหวังไว้ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ในเมื่อเขาก็หวังตั้งแต่ที่ได้ยินไอ้น้องเอ๋เอ่ยชื่อแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดจริงๆ ว่าจะใช่ “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ศุกร์ที่แล้ว” เสียงทุ้มกล่าวตอบพลางจ้องมองธรา “คุณดูสบายดีนะ”

“ก็ไม่แย่” ธราเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ไปได้เรื่อยๆ นั่นแหละ”

“อือ ดีแล้ว”

ธราไม่รู้จะพูดอะไร จากที่เคยแน่ใจว่าเมื่อได้เจอกันอีกครั้งคงมีเรื่องมากมายให้ได้พูดคุย คงมีคำถามอีกหลายร้อยคำถามที่อยากจะถาม แต่ในตอนนี้กลับเลือกที่จะนั่งข้างกันเงียบๆ ดื่มเบียร์เย็นๆ ด้วยกันแล้วปล่อยเวลาให้เคลื่อนผ่านเท่านั้น

“ดิน”

“หืม”

“คุณยังอยากให้ความเป็นไปไม่ได้ของเราดำเนินต่อไปมั้ย”

คำถามที่ได้ยินทำให้ธราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มันมีความเป็นไปไม่ได้อยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอ”

“นั่นสิ” คนตั้งคำถามเห็นด้วยพลางหลุดยิ้ม “หลังจากผ่านเรื่องพวกนั้นมาก็คงพูดไม่ได้แล้วล่ะว่ามี”

“อืม แล้วยังไงต่อ”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

ธราแน่ใจว่าถ้าเป็นเขาก็คงให้คำตอบนี้ คำตอบที่บอกแค่เพียงว่าไม่รู้ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้จะพูดคำใดต่อกันดี ในเมื่อไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำไหนก็ไม่ตรงกับความรู้สึกของเขาเลย

เพราะความรู้สึกที่มีมันเอ่อล้นและมีคำว่ามากกว่าอยู่ทุกๆ ความรู้สึก

คิดถึงไหม มากกว่าคิดถึง

ดีใจไหม มากกว่าดีใจ

รักไหม มากกว่ารัก

ไม่รู้ว่าควรจำกัดความยังไง ไม่รู้ว่าควรกำหนดจุดของความรู้สึกไว้ตรงไหน

“เจ้า”

“ครับ”

“ไม่อยากพูดอะไรมากหรอก”

“หืม”

“แค่อยากถาม”

“ว่า?”

“มีแฟนยัง”

“เดี๋ยว”

“ตอบสิ”

“มีแล้ว”

“ชื่อ”

“ธรา”

“อืม แค่นี้แหละที่อยากรู้”

คนถูกถามถึงกับหน้าเหวอและไม่นานเมื่อตั้งสติได้ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ในขณะที่ธราก็ยิ้มกว้างออกมาเช่นกัน

“คุณนี่จริงๆ เลย ขอเป็นแฟนดีๆ ไม่ได้เลยเร้อ”

ธรายกมือขึ้นโยกศีรษะของคนที่พูดตัดพ้อแต่กลับยิ้มจนตาหยีให้เขา “ไว้ขออีกที ตอนนี้พูดไม่ค่อยถูก”

“ก็เหมือนกัน ที่จริงก็ไม่รู้จะเริ่มทักคุณยังไงเลย”

“หายไปนานนี่นะ” ธรากัดเล็กน้อย อยากปล่อยผ่านเรื่องนี้อยู่หรอก แต่ลึกๆ แล้วก็น้อยใจอยู่เหมือนกัน

“เคลียร์ตัวเองอยู่ ไม่อยากกลับมาหาคุณแล้วพาปัญหาตามมาอีก”

“อือ ดีแล้ว เพราะครั้งนี้ไม่ให้หายไปแล้ว ต้องติดแหง็กอยู่ด้วยกันไปจนแก่นี่แหละ”

“ดู๊วว นายคนนี้มันแน่”

ธราหัวเราะ ไม่เคยรู้สึกสบายใจเท่านี้มาก่อน ตอนนี้ความรู้สึกของเขาเหมือนกับท้องฟ้าปลอดโปร่งที่ไร้เมฆสีขมุกขมัว ยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มของคนสำคัญก็ยิ่งแน่ใจว่าต่อให้หลังจากนี้ท้องฟ้าจะมีเมฆฝน พายุลูกใหญ่จะพัดกระหน่ำเข้ามา เขาก็ไม่กลัว เพราะเชื่อว่าฟ้าหลังฝนนั้นสวยงามเสมอ

“ชื่อเจ้านี่มาจากอะไรนะ” จู่ๆ เขาก็อยากรู้ขึ้นมาและเมื่อเห็นรอยยิ้มร้ายบนใบหน้าคมคายแล้วก็คล้ายกับได้คำตอบ

“นี่ยังไม่รู้จริงๆ เหรอ” คนพูดขยับใบหน้าเข้าหา ก่อนริมฝีปากบางจะกดย้ำลงบนริมฝีปากหนาแล้วผละห่าง “ว่าเจ้าน่ะ...มาจากคำว่าเจ้าชีวิต เพราะเจ้าคนนี้เป็นเจ้าชีวิตของคุณ”

“ไม่ใช่แล้ว” ธราแย้ง ยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนของคนตรงหน้าแล้วรั้งให้เข้ามาแนบชิด “เป็นคู่ชีวิตมากกว่า”

“แน๊ ขอแต่งงาน”

“แต่งมั้ยล่ะ”

“ขอเล่นตัวสามปีได้มั้ย”

“ไม่รอ”

“สองปีละกัน”

“สองนาที”

“แต่ง”

“ก็แค่นี้”

.

.

"ผมชื่อเจ้า เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเจ้าที่อยากเป็นทุกอย่างให้คุณ เรียกผมว่าเจ้าชีวิตก็ได้ครับ"





The End



...............Thank You...............



ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นและทุกการติดตาม ทุกกำลังใจและทุกการวิเคราะห์ เราดีใจที่เดินทางมาจนถึงตอนนี้ค่ะ

เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องแรกที่อิงแฟนตาซีนิดๆ มีความเล่นนู่นนี่นิดหน่อย เราเขียนเรื่องนี้ขึ้นเพื่อนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งของความรัก ทั้งรักที่น้องจี้มีต่อเจ้าชีวิตของน้อง รักที่พี่เจ้ามีต่อครึ่งชีวิตของพี่ และรักที่ธรามีให้กับคนที่เป็นทุกความรู้สึกของเขา บางคนอาจจะไม่ได้อยู่ในเรื่องมากแต่ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เส้นเรื่องผกผันขึ้นๆ ลงๆ แต่บางคนอยู่เพื่อสร้างสีสันให้มีความเป็นไป ซึ่งก็เหมือนเรื่องที่เราต้องพบเจอ บางเรื่องก็ไม่ได้อยู่เป็นปัญหายาวนาน อาจผ่านเข้ามาแล้วจบไป แต่บางเรื่องก็อยู่เรื้อรังและติดค้างกันมาจนถึงทุกวันนี้

เราหวังว่ามาจนถึงตอนนี้ จะไม่มีอะไรติดค้าง



สำหรับเราแล้วนี่เป็นฉากจบที่เราหวังค่ะ แค่คนทั้งคู่ได้กลับมาเจอกัน เราก็สมหวังสุดๆ แล้ว



รักนักอ่านทุกท่านเลยค่า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 11-03-2019 18:20:29
กริสส จบแล้ว ฟินตัวแตกช่วงแรก ใจพังสุดๆ ช่วงต่อมา ซับซ้อนช่วงท้าย
จบลงอย่างสวยงามเลยค่ะ ปริ่มมากค่ะ ฮืออออ ดีใจจริงๆ ที่ทั้งสองกลับมาเจอกันได้อีกครั้ง
ขอspecial part ได้ไหมคะ  :mew1: จุ้บบบบบ รอเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 11-03-2019 18:41:30
จบแล้ววววว ขอบคุณมากค่ะ ที่แต่งให้อ่าน แต่เราก็ยังอยากรู้ตัวตนของเจ้านะคะ ดูเหมือนเจ้าชายเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 11-03-2019 19:36:31
แด่ จี้ คนดีที่รักมั่นคง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Justccwpo ที่ 11-03-2019 20:03:48
จบแล้วววว สมหวังแล้วววว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-03-2019 20:21:55
ลงตัวดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 11-03-2019 20:50:37
มันหลายอารมณ์จริง ๆ ตอนนี้ เอ๋กับจอมพาหลุดขอบทุกทีเลย  :laugh: แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่ายังใงเรารู้สึกดีใจและขอบคุณที่ในที่สุดพวกเขาก็มีความสุข   :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 11-03-2019 20:54:00
ในที่สุดก็ได้เจอกันอีกครั้ง  :o8:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 11-03-2019 20:54:10
ขอบคุณมากๆนะคะ
จบแบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 11-03-2019 21:07:06
ดีใจที่ได้ร่วมเดินทางค่ะ ขอบคุณมากๆที่ไม่ทิ้งไว้กลางทางเรารักนิยายเรื่องนี้มากครบทุกรส เรารักความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสามสี่กลุ่มนี้ โดยเฉพาะกลุ่มน้องเอ๋พี่เจ้า เราร้องไห้หนักมากน้องเอ๋คือความสดใสของโลกใบนี้รักที่ให้พี่เจ้ามีแต่ความหวังดีและบริสุทธิ์ใจกลุ่มพี่ดินก็เช่นกัน ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่แต่งนิยายที่ดีมากๆให้นักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านในวันที่เหนื่อยล้าจากสิ่งที่เจอในบางวันเราก็ได้ "เจ้าชีวิต" ไว้เติมพลังในทุกๆครั้งแม้บางตอนเราจะเสียน้พตามากก็เถอะค่ะ ขอบคุณที่สร้างตัวละครในนิยาเรื่องนี้มีชิวิตในหัวใจเรานะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-03-2019 21:07:58
ฮูเร้ๆๆๆ  ❤❤❤❤❤
เสียน้ำตาไปเป็นปิ๊บ ตอนนี้ยิ้มได้แล้ว   :o8:
ขอบคุณไรท์มากกกกก  :pig4: :pig4: :pig4:
ขอตอนพิเศษ เอิ่ม.....แบบหวานๆ มี nc ด้วยก็เยี่ยมไปเลย นะ  :z3: :z3: :z3:

ดิน เจ้า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 11-03-2019 21:17:49
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ รักพี่เจ้า
แต่แอบอยากรู้เรื่องแม่พี่เจ้ากับคุณพ่ออ่ะค่ะ
แหะๆ ทำไมเค้าถึงรักกันไม่ได้ แล้วพี่เจ้าเป็นลูกใคร><
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 11-03-2019 21:39:24
 :hao5:ขอตอนพิเศษแพร์กับน้องเอ๋ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: YoK_mehok ที่ 11-03-2019 22:13:21
ต่อให้ทั้งเรื่องเสียน้ำตา  :sad4:  :mew6:  :m15:  :hao5: มากขนาดไหนก็ตาม

ถ้าจบได้สวยแบบนี้เรายอมรออ่าน  :L1:  :pig4:

เป็นกำลังใจ และรอติดตามผลงานต่อๆ ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 11-03-2019 22:49:31
แด่จี้ที่เป็นความสบายใจของท่านเจ้า

ครบทุกอารมณ์จริงๆ ขอบคุณนะคะ <3

อยากตามลุ้นหมอแพร์และน้องเอ๋เมากาวต่อจังเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-03-2019 22:51:45
จบแล้ว เขาได้ลงเอยกันแล้ว ฮือออ
คิดถึงน้องเอ๋ คิดถึงพี่เจ้า ขอตอนพิเศษด้วยค่าา
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 12-03-2019 01:15:28
เขียนเรื่องได้เก่งมากค่ะ
บทสุดท้ายบางทีก็สงสารจันทร์ อาจจะไม่คิดว่าตัวเองต้องตาย เป็นอีกคนที่ดูจะรักดินไม่ว่าจะเป็นดินในบทไหน โดยเฉพาะในบทสุดท้ายที่เป็นพี่ชาย...ชอบบรรยากาศตอนจบค่ะ ดูเป็นสากลดี เรียบง่ายหลังจากเจอเรื่องร้ายๆกันมา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 12-03-2019 01:23:55
ในที่สุดก็happy ending กลัวมากว่าจะแบดเอนรึป่าว ฝ่าฟันห้วงเวลามาเยอะมาก ยอมรับเลยว่าบางทีต้องอ่านหลายๆรอบเลย สงสารท่านเจ้ามาก ที่ผ่านมาต้องทรมานแค่ไหน ต้องเจ็บแผลขนาดไหน ไหนจะโดนดินเกลียด โดนดินปฏิเสธ อยากกอดท่านเจ้าแรงๆสักทีนึงเลย
ดีใจที่สองคนนี้ได้กลับมารักกันโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขหรือระยะเวลาอะไรมาบีบบังคับอีก
รักจี้นะ ไม่ว่าจี้จะไปอยู่ที่ไหนก็ยังคงเป็นความสบายใจให้เจ้า จักรพรรดิ์ตลอดไปแน่ๆ
ชอบแชทกลุ่มหมอชอบฟันมากๆโดยเฉพาะตอนสุดท้ายเนี่ย กาวกันทุกคน คือจะไม่มีใครห้ามกันหน่อยเร้อะะ
น้องเอ๋ นว้องงมาก ชอบความเด๋อด๋าในความใสซื่อ คือน้องเอ๋จะมีลูกไม่ได้ว้อยย
อยากเห็นโมเม้น #เจ้าจอม จังเลยค่ะ5555555555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ เสียน้ำตาไปเยอะเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 12-03-2019 01:52:23
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ   :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 12-03-2019 03:12:54
 :katai1: ในที่สุดเราก็บังคับให้ตัวเองวางกาวของน้องเอ๋ลงได้ ขอบคุณผู้เขียนสำหรับนิยายเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 12-03-2019 03:47:49
เรื่องราวนี้ควรมอบรางวัลให้แด่จี้ผู้ที่มั่นคงเสมอมา แด่จันทร์ที่เกิดมาแบบิดเบี้ยวรักแต่รักในทางผิด แด่ทุกตัวละครแพร์ เอ๋คนดมกาว บี และขาดไม่ได้คือเจ้าและดินที่ในที่สุดสุขสมหวังสักที ขอบคุณการเสียสละของจี้มากจริงๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 12-03-2019 11:45:07
ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันจริงๆ  :hao5:
สุดยอดมากๆค่ะเรื่องนี้  :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 12-03-2019 14:39:33
น้องเอ๋ๆ น่ารักจริงน่ารักจัง  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-03-2019 18:39:52
เจอฟ้าหลังฝนที่มากับพายุร้ายสักทีนะคะ
ดินและเจ้า ครึ่งชีวิตของกันและกัน

 :L2:แด่จี้ที่มอบแม้แต่จิตวิญญาณให้กับเจ้าชีวิตของตัวเอง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 13-03-2019 03:34:28
ช่วงแรกก็เหมือนเรื่องแนวธรรมดาๆหรอก รั่วๆงี้
พอผ่านมาได้10กว่าตอนเท่านั้นแหละ ได้เอ๊ะได้อ๊ะกันไม่หยุด ผมเรื่องผูกซะมึนเลย  :ling2:
เหตุๆผลๆอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าให้กลับไปแก้สัมการPAT1 อาจจะง่ายกว่า แง๊
สงสารจี้ที่สุดอะ แต่ก็อยากบอกน้องเอ๋ให้วางขวดกาวลงบ้าง55
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ อ่านวันครึ่งจนอิ่มจุกไปเลย
 :pig4:

ป.ลิง รอตอนพิเศษกับผลงานเรื่องต่อไปอยู่น้าา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 13-03-2019 13:15:18
โอ้โหห
ร้องไห้อย่างหนัหน่วง
แงงงงง
สนุกมากๆเลยค่าา  :impress2: :katai2-1: :sad4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 13-03-2019 15:52:37
สงสารจี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 13-03-2019 19:10:57
เรื่องนี้แบบ อ่านไป มือขวาถือกระป๋องกาว มือซ้ายกำยาดม อ่านข้ามไม่ได้ อ่านข้ามแล้วงง คนเขียนเก่งมากอ่ะ พูดเลย เรามอบโล่ให้จี้นะเรื่องนี้ สงสารน้อง ฮืออออ ขอตอนพิเศษให้น้องแฮปปี้ได้ไหม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-03-2019 20:42:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-03-2019 21:29:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งธิดา ที่ 14-03-2019 20:26:41
 :pig4:อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะสนุกมากครบทกความรู้สึกในเรื่องเดียวเลยขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: PimKanyarat ที่ 14-03-2019 23:01:54
เป็นเรื่องที่พีคแล้วพีคอีก เราร้องไห้จนหิวข้าวอ่ะคุณ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆของทั้งสองที่สุดท้ายก็ได้มาบรรจบพบเจอกันอีกครั้ง หวังว่าต่อจากนี้ไปทั้งดินและเจ้า จะมีความสุขตลอดไปนะคะ ขอขอบคุณคนเขียนที่นำเสนอเรื่องราวดีๆแบบนี้ออกมาให้ได้อ่าน จะเป็นกำลังใจแล้วก็ติดตามในผลงานที่จะตามมานะคะ รักกกก :impress2: :hao5: o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 14-03-2019 23:46:01
เป็นนิยายที่คาดเดาไม่ได้ที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา
ตอนแรกคิดว่าเป็นนิยายเฮฮาบ้าบอ แล้วไงอ่านไปๆน้ำตากะมา ที่ยิ่งกว่าคือเมากาวเนีย่แหล่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 14-03-2019 23:56:04
สูญเสียน้ำตามากมาย,,

สุดท้าย.. จบแบบมีความสุข

สนุกมากเลยครับผม,,,
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 15-03-2019 01:07:44
ก่อนอื่นขอบอกว่า ดีใจที่มาอ่านเรื่องนี้ตอนจบแล้ว ไม่งั้นลงแดงตายแน่ เนื้อเรื่องซับซ้อนมาก จะแฟนซีก็ได้ แต่เรียลิสติกก็ยังได้ ผูกเรื่องได้น่าติดตาม
ตกนรกอะไรก็คงไม่ทรมานเท่านรกที่จิตใจยึดถือไว้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 16-03-2019 13:13:14
ตอนอ่านถึงช่วงที่เอ๋กับบีถามวันที่กันนั้น เราถึงกับร้อง ห๊ะ!!??
นักเขียนสุดยอดเกินไปแล้ววว จากคอมเมดี้เป็นดราม่าแล้วยังมาแฟนตาซีได้อิ๊กกก สนุกสนานค่า วางมือถือไม่่ลงแล้ว
และในที่สุดก็แฮปปี้จนได้ ค่อยยังชั่ว 555

ขอบคุณสำหรับนิยาย
บวกจ้า^^
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-03-2019 22:32:13
เริ่มอ่านตั้งแต่สี่ห้าทุ่มจนหกโมงกว่า นอนตอนพระอาทิตย์ขึ้นสูง เป็นนิยายที่ครบรสมากจริงๆค่ะ อ่านไปช่วงแรกๆก็คือใจไม่หวังแฮปปี้แล้ว แต่อยากกราบคนเขียนมากสำหรับความใจดีนี้ ไม่รู้จะสงสารใคร เป็นเรื่องที่พีคในพีคหักมุมแล้วหักมุมอีก ผูกปมแล้วก็แก้ปมเก่งมาก เอาจริงๆถ้าย้อนไปอ่านใหม่แต่แรกก็คือเบาะแสเยอะมากค่ะ มีตัวหลอกเรื่องท่านเจ้าขับรถให้ดินอันนี้เผลอเคลิ้มตามไป ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆแบบนี้ จะซื้อเล่มแน่นอนค่ะ รักน้องดิน และรักที่สุดของเรื่องนี้คงเป็นนายเอ๋ รักมากๆ เอ็นดูเหมือนลูก ขอบคุณมากๆเลยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 17-03-2019 01:50:58
กว่าจะมาถึงบทสุดท้าย
หนักหน่วงจริงๆค่ะ
แต่ดีใจนะที่ตอนจบของเรื่องยังเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ellemm ที่ 17-03-2019 13:16:33
 o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ku_nan_jung ที่ 17-03-2019 15:04:34
ปักคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: MeiHT ที่ 18-03-2019 21:03:07
สนุกมากค่ะเรื่องนี้ เดาทางไม่ถูกเลย ร้องไห้หนักมากกับเอ๋ เป็นตัวละครที่น่ารักน่าหยิกมากจริงๆ ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: littlemagiz ที่ 19-03-2019 14:25:17
        เป็นฟิคที่พีคในพีค  อ่านจนจบรวดเดียวเลยอินมากเป็นพิเศษ    ตอนช่วงเป็นห้วงมิติเวลาของทุกคนไม่ตรงกันเราหลอนมากยอมรับเลยว่ากลัวแอบถามเพื่อนว่าเวลาของมึงกะกูตอนนี้ตรงกันมั๊ย ชอบภาษาการพิมของคนเเต่งมากๆค่ะ มันได้ ฟีลหลายๆอย่างทั้งความตลก เศร้า ความละมุนเป็นธรรมชาติทำให้เราเชื่อแล้วมองภาพในหัวออกและจินตนาการไปตามเรื่องออก รู้สึกว่าเรื่องของห้วงมิติเวลาเป็นอะไรที่เรียบเรียงเนื้อเรื่องให้เข้าใจทามไลน์ค่อนข้างยากพอสมควรแต่คนแต่งก็สามารถเรียงให้เข้าใจเเล้วเเอบมีคำใบ้ให้คิดตามก็เลยยิ่งอินไปอีกกก
สนุกมากๆเลยค่ะ เป็นฟิคที่ดีมากๆที่จะเก็บไว้ในคลังดวงใจของเราเลยค่ะ เราโหยหาอะไรแบบนี้มานานมากๆ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค้าาา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-03-2019 20:22:28
 ในที่สุดก็มาถึงตอนจบสักที เสียน้ำตาไปหลายลิตรกว่าจะถึงตอนนี้ได้ ดีใจที่ดินกับเจ้าได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Koduck ที่ 20-03-2019 00:53:36
สนุกมากครับ ถึงจะมีเรื่องที่งงๆไปบ้าง แต่ก็ต้องขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ และสนุกแบบนี้ครับ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 20-03-2019 01:06:31
ช่วงนี้ทามไลน์ในทวิตเรา เจ้าชีวิต ผ่านมาบ่อยมากๆ ตอนแรกก็หักห้ามใจไว้ว่าเดี๋ยวค่อยอ่าน
สุดท้ายก็ไม่รอดเข้ามาอ่านจนได้ สรุปคือไม่สามารถอ่านรวดเดียวได้
ต้องพักสมองเพราะคิดตามไม่ทัน มันซับซ้อนมาก เนื้อเรื่องมันทำให้เรา เอ๊ะ ได้ตลอดเวลา
บางตอนต้องกลับไปอ่านใหม่เพราะกลัวพลาดอะไรไป ยิ่งช่วงห้วงเวลานี่ต้องมีสมาธิอ่านมากๆ
ยอมรับเลยว่าเรื่องสนุกมากจริงๆ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะอินมาก เหมือนหนังจบอารมณ์ไม่จบ

นักเขียนเก่งมากค่ะ // ปรบมือ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 20-03-2019 15:20:08
 :L2: :L2: :L2:
ปรบมือรัวกับงานคุณภาพ
ชอบบบบบบบบบมาก
เขียนได้เยี่ยมมาก
ชอบทุกตัวละคร
อยาากอ่านอีก
ปล.ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ขอภาคพิเศษหน่อยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ไส้กรอกเจ้านี้มีแต่แป้ง ที่ 20-03-2019 15:59:45
ยอมรับเลยว่าเราเป็นนักอ่านที่ไม่ดีเท่าไร เราไม่ค่อยคอมเม้นท์ในนิยายที่เราอ่านเลยไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ คือคอมเม้นท์น้อยมากๆ อาจจะแค่ขอบคุณ หรือเป็นกำลังใจว่ารออยู่เท่านั้น ไม่เคยมีสักครั้งที่จะพูดอะไรยาวๆ แต่วันนี้เราจะพูดยาวๆสักครั้งหนึ่ง...
"เจ้าชีวิต" เป็นนิยายในแบบที่เราอยากอ่าน เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยคิดอยู่ในใจว่า ถ้าวันนั้นเราทำอะไรที่แตกต่างไป วันนี้จะเป็นอย่างไรนะ? นิยายเรื่องนี้เป็นอะไรที่ดีมากๆสำหรับเรา นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆว่ากว่ามันจะเป็นโครงสร้างเป็นรูปเป็นร่างไรท์จะต้องร่างและเรียบเรียงออกมานานขนาดไหน ตอนแรกที่อ่านก็รู้สึกว่าเจ้าไม่ปกติจริงๆ ถ้าเป็นคนทั่วไปคงไม่ทำถึงขนาดนี้ แต่พออ่านๆไป...เราลองนึกถึงตัวเรา เพื่อคนที่รักมาก รักมาทั้งชีวิต กับ99ครั้งที่พยายามทำให้เขากลับมาแต่เขาไม่กลับมา และครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้ายที่ตัดสินใจ ถึงตอนนี้คือไม่แปลกใจ และดีใจที่ในโลกนี้อย่างน้อย...แม้จะเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่า มีจริงๆคนที่ทุ่มเทเพื่อคนที่รักขนาดนี้...

ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา เรารักเจ้า จักรพรรดิ์มากจริงๆ และที่รักไม่ต่างกับเจ้าก็คือเอ๋ เราชอบเวลาที่เจ้ากับเอ๋คุยกัน เป็นอะไรดีๆที่ทำให้รู้สึกดีตลอด ขอบคุณจริงๆค่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Iiccungmi ที่ 21-03-2019 00:11:45
สมัครยูสมาเม้นให้เลยค่ะ แงงงงงงงงงงงง มันสุดมากค่ะ ชื่นชมคนเขียนมาก แต่งมาได้ยังไงคะเนี่ย ฮือ เราอ่านว่าหนักแล้ว คนเขียนนี่สุดจริงๆค่ะ กลายเป็นว่าเราร้องไห้ให้จี้หนักสุดเลย ถึงตอนนั้นก็ทำให้รู้ว่าชื่อเรื่องไม่ได้หมายถึงแค่ธรากับเจ้านะ แต่เป็นในความหมายของจี้ด้วย อยากให้น้องได้ทำ ตามความปรารถนาสุดท้ายของตัวเองจังค่ะ จะร้องไห้ แงงง ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับนิยายดีๆ ครบรสเรื่องนี้ ฝึกความอดทนของเราได้ดีเลยค่ะ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 21-03-2019 10:51:04
นอกจากลุ้นคู่ดินกับเจ้าแล้ว เราก็ลุ้นกับคู่หมอแพร์น้องเอ๋ด้วยสมหวังอ่ะ ดีใจที่เอ๋ได้กลับมาเป็นเพื่อนเจ้าและเป็นแฟนหมอแพร์ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ เรื่องนี้ค่ะ เราชอบมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 22-03-2019 03:04:56
ชอบมากเลยค่ะ ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมากค่ะ ขอตอนพิเศษนะค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: hey_sloth ที่ 22-03-2019 08:33:34
เรื่องนี้คือสนุกมากกกก หักมุมเเบบเดาเรื่องไม่ได้เลย ลุ้นทุกๆตอน ทุกๆบรรทัดที่ได้อ่าน ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆให้อ่านนะคะ ที่จริงเราตามมาจากรีวิวในทวิตเตอร์ พออ่านแล้วรู้ติดเรื่องนี้มากจริงๆ ตอนที่เศร้าก็เศร้าจนสุด ตอนตลกก็หัวเราะเหมือนคนบ้าเลยค่ะ555555 จะติดตามนิยายเรื่องต่อๆไปนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :heaven
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ஓMaRiShiTenSM ที่ 24-03-2019 07:53:09
ไม่คิดว่าจะอ่านรวดเดียวจบแบบนี้
สนุกมากกกกกก~
ลายเซ็น Snufflehp นี่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ

ตัวละครน่าสนใจ ผูกปมดีมาก
อินจ๊๊นนนน~ ตาบวมหมดเลยค่ะ
รอเล่มจ้าาาาา
 :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 24-03-2019 09:01:10
สนุกมาก
หน่วงทุกนาที
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 24-03-2019 15:00:00
สนุกมาก ๆ ครับ เรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์มาก คนเขียนเก่งมากจริง ๆ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 29-03-2019 15:33:36
ช่วงแรกเขิลจนขนลุก ซึนไปอีกกก
ช่วงกลางนี่หน่วงจิตมาก มากจนกินข้าวไม่ลง คนที่ทำงานตกใจมากค่ะ ถ้าไม่ต้องลงbts คงร้องไห้ไปแล้ว 555555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: AdLy ที่ 31-03-2019 09:26:51
น้ำตาไหลเป็นถังเลยจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 04-04-2019 20:30:39
สนุกมากค่ะ น้ำตาไหลพรากกกกก 555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 06-04-2019 05:07:25
ครบรส ช่วงแรกลุ้นกับความแปลกของพระเอก พอเขาเริ่มรักกันเราก็แฮปปี้
สักพักเหวี่ยงไปมา อึดอัดใจตอนจันทร์โผล่ และเรื่องราวของจี้ที่ค่อยๆ มาเฉลยทุกอย่าง
แฟนตาซีที่ไม่คิดว่าจะมาก็มี โอยยยย ใจเอย มีช่วงที่แบบเฮ้ย เรางงหรือเรางงด้วย
อยากย้อนกลับไปเก็บแต่ยังไม่ได้ ขออ่านจนจบก่อน กลัวเขาไม่ได้กันตอนจบ
ช่วงแรกๆ ด่าพระเอกอย่างเยอะ แต่พอเริ่มเข้าใจก็นะ นางดี นางก็รักของนาง
เจ้า ไม่มีอะไรจะเอ่ย เจ้าคือเจ้า คือเจ้าชีวิต ชีวิตของเจ้าคือน้องดิน เกิดมาเพื่อรักกันจริงๆ รักเจ้า
คนอะไรจะอดทนให้เขาเกลีดได้เป็นร้อยหน ใจพังหมด
บรรดาคณะเพื่อนก็มีความดี ความงาม และความบ้า เกลียดกลุ่มแชทที่ยิ่งคุยยิ่งออกอ่าว โดยเฉพาะจอม
พากันไปไหนไม่รู้ ชอบแพร์ พ่อแห่งชาติ ส่วนน้องเอ๊ เอ๊ย เอ๋ น่ารัก น่ารักแบบมึนๆๆ มีช่วงหนึ่งของเรื่อง
เราก็อยากขอแบ่งกาวน้องเอ๋ มาดมบ้าง ให้มันเมาไปเลย เอ๋ เป็นเพื่อนที่น้่รัก เป็นอีกคนที่เจ้ารักมาก
ขำตอนท้ายหิ้วทานตะวันไปดูดาว ทรมานคนอื่นจริงลูก ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือจันทร์เจ้า ส่วนหนึ่งเลย
ที่ทำให้ยุ่งเหยิงวุ่นวาย อยากตบปาก ไม่ว่าชาติไหนก็งี่เง่าไปหมด แต่จริงๆ น่าสงสาร ไม่มีใครรักเลย
แต่ก็ทำตัวเอง อีกคนก็จี้ รักของจี้ยิ่งใหญ่และมากมายจริงๆ ผิดย้างถูกบ้าง แต่จี้ก็ได้แก้ไขมันหมดแล้วล่ะ
จะร้องไห้กับจี้ สงสาร เกืดมาเพื่อรักเจ้าจริงๆ
ทั้งหมดทั้งมวลดีใจที่เขาพบกันอีกครั้ง กราบบบ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 08-04-2019 09:54:09
สนุกมากค่ะ
เนื้อเรื่องพลิกไป-มาตลอด
เดายากตอนเริ่มสงสัยเรื่องเวลานี่ล่ะ
อยากอ่านตอนพิเศษเพิ่มจังค่ะ
จะมีเพิ่มอีกไหมคะ?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 12-04-2019 08:48:32
อ่านแบบติดพันมาก มันมึนงง
แต่ตอนจบคือดีมาก เราดีใจกับน้องเอ๋มากอ่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-04-2019 01:11:42
ลงเอยด้วยดีเราก็ยินดีมากแล้วค่ะ
ลุ้นมาทุกตอน ลุ้นมาตลอด ว่าตอนจบจะลงเอยแบบไหน
ในใจก็คิดว่า ต้องแฮปปี้เอนดิ้งแน่นอน แต่แอบหลอนนิดนึง

เพื่อให้ได้รักกัน ให้ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ทั้งเจ้า ดิน และจี้
ก็พยายามฝืนชะตาลิขิต เพื่อแลกเวลาที่มีความสุข
จี้กลับมาเพื่อแก้ไขสิ่งที่เคยทำพลาด เพื่อสิ่งที่เจ้าปกป้อง
เจ้ากลับมาเพื่อแก้ไขความจำของดิน ให้จำกันได้ ให้ได้รักกัน
ดินย้อนกลับเพื่อขอให้แค่ต่อเวลาให้ได้รักกันยาวนาน ไม่ลืมกันไป

วนกันเป็นวงกลม วงเวียน ทุกคนมีชีวิตในช่วงเวลานึง แต่ต่างวาระ
 
อ่านตอนแรกเหมือนเจ้า แม่ จันทร์ เป็นตัวแปรสำคัญ
แต่พอรู้ว่าเจ้าตายได้ยังไง คนที่เป็นตัวแปรกลายเป็นจี้ทันทีเลย
สถานการณ์พลิกผันหลายอย่าง สลับหมุนเวียน
ชอบคำที่จี้บอก เหตุต่างแต่ผลลัพธ์ไม่ต่าง แค่อาจเปลี่ยนคน
โดยที่ถ้ามีการเปลี่ยนหนึ่งอย่างแล้ว ต่อไป ก็คาดเดาไม่ได้เลย

ขอบคุณจี้ที่เสียสละและเป็นความสบายใจของเจ้า
ให้เจ้าได้มีชีวิตต่อไป ให้ได้รักกันกับธรา
และได้สมรักกัน หลังจากที่ต้องเจ็บปวดกันมานาน

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ เนื้อหามีอะไรที่น่าคิด น่าติดตามมาก
ความซับซ้อนในความไม่ซับซ้อน ความสงสัยในความไม่ยอมรับ
ความจริงค่อยๆ เปิดเผย ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป
บอกเลยว่า เป็นนิยายที่ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ

ติดตามเรื่องต่อๆ ไปจ้า

หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: brow ที่ 19-04-2019 00:55:52
เราอ่านแล้วยังตีความไม่ค่อยแตกอ่ะ มีคำถามประมาณนึง มีใครมีคำถามทำนองเดี๋ยวกันมาแลกเปลี่ยนความคิดกันเถอะ! หรือใครตอบคำถามได้ช่วยกรุณาชี้ทางสว่างด้วยจ้าา
- ทำไมบีติดต่อพี่เอได้
- ทำไมตอนเด็กๆท่านเจ้าหายไปเป็นเดือนหลายๆครั้ง เกี่ยวกับพ่อท่านเจ้าหรือเปล่า
- เหมือนแม่ท่านเจ้าจะมีทีมงานที่ทำเรื่องไม่ดี เกี่ยวกับงานของพ่อท่านเจ้าหรือเปล่า แล้วถ้าเกี่ยวทำไมแม่ท่่นเจเาถึงมาอยู่(แต่งงาน)กับพ่อแท้ๆของน้องดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 22-04-2019 13:04:16
โอ่ยยยย เป็นเรื่องที่ซับซ้อนดีแท้  :ling1:

ถามว่าตีความเนื้อเรื่องออกไหม ตอบเลยว่า ไม่เบยยยย 55555 ความรู้สึกอยู่ในวังวงคล้ายๆกะหนังฝรั่งที่ชอบทำแนวดราม่า timeline ประมานนี้ กลับมาทำอะไรซ้ำซ้อน ทำจนกว่าจะหาวิธีแก้ได้

แต่ถึงจะงงๆไปหน่อยก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามเรื่องนึงเลยค่ะ เขียนดีและเนื้อเรื่องก็ดี น่าอ่าน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: AidinEiEi ที่ 23-04-2019 15:40:32
อ่านจบแล้ว ไม่รูจะคอมเม้นว่าอะไรดี นอกจาก มันเจ๋งมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 27-04-2019 09:55:33
เพิ่งมีเวลาว่างเข้ามาอ่าน หลังจากพักการอ่านไปนาน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อๆไปค่ะ
 :call:  :3123:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 30-04-2019 19:18:52
 o13 สุดยอดเลยเป็นเรื่องที่ครบรสจริง ตอนแรกที่อ่านนินึกว่าเป็นเรื่องแอบรักฮาๆ มีม่าเล็กๆ พออ่านไปๆ โอ๊ยทำไมผู้แต่งเก่งงี้อ่ะ  :katai2-1: วางไปลง งงในบางที ค่อยๆอ่าน ทำความเข้าใจๆ น้ำตาไม่อาจห้ามได้จริงๆ เสียใจที่จีตาย  แต่สาแก่ใจที่จันทร์เจ้าตาย  ดีใจที่กดเข้ามาอ่าน  :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: noopukna ที่ 06-05-2019 09:30:49
อ่านยาวๆไปเลย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 06-05-2019 22:26:35
เรื่องนี้คือรวดเดียวจบ ไฟนอลไม่อ่านหนังสือแล้ว
ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีอะไร นึกว่าความจำเสื่อมธรรมดา แต่พอหยุดเวลาปุ๊ปก็น่าติดตามเพิ่มมาอีก
ความทรมานในเรื่องของความรู้สึกนี่มันก็สาหัสเหมือนกันนะ
ไรท์บรรยายความรู้สึกแบบนั้นได้อินมากเลยแถมคั่นเรื่องเครียดๆด้วยความเมากาวอ่ะ ยอมใจจ
เพิ่งได้มาอ่านแค่รู้สึกดีในความหน่วงๆมากเลย
จี้เป็นตัวละครที่ไม่น่าลืมและน่าประทับใจจริงๆนะ
มันไม่ไข่แค่เจ้าชีวิตของพระเอกนายเอก
แค่เจ้าคือเจ้าของชีวิตของจี้อ่ะ  มันลึกซึ้งจังเลย  ชอบมากกกกกกจริง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 11-05-2019 11:46:07
 :mew1:  ตัดสินใจนานมากกกก..ว่าจะอ่านดีหรือไม่ดี ตั้งแต่ยังไม่จบ  ..... รอจนจบแล้วพักหนึ่ง มาอ่านแล้ว   ....รวดเดียวจบเลยค่ะ....มันดีมากกกกกก .... อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: TiGgeRLuMOs62 ที่ 12-05-2019 08:02:52
ติดต่อขอซื้อกาวน้องเอ๋ได้ที่ไหนบ้างคะ
มันซ้อนในซ้อนในซ้อนจริงๆค่ะ
สนุกมาก วางไม่ลงเลย
ต้องค่อยๆวางทามไลน์ ปะติดปะต่อกัน
 o13
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 12-05-2019 23:23:38
อ่านแรกๆก็เข้าใจอยู่ พอกลางๆเรื่องก็จะงง แต่ก็น่าติดตาม และอ่านจนจบ ดีใจที่จบแบบให้ท่านเจ้าสมหวัง :L2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 14-05-2019 00:55:58
สนุกมาก ชอบมาก รักเจ้าและดินมาก ขอบคุณนักเขียนที่ทำให้เกิดเรื่องราวดีๆแบบนี้ รู้สึกผูกพันกับพวกเค้ามาก จุ๊บๆ รักนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: vy0Cik ที่ 14-05-2019 10:48:17
เป็นนิยายเนื้อเรื่องลึกลับ ซีเรียส แต่ไดอะล็อกตลกอ่ะไม่เครียดเลย ชอบค่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 14-05-2019 13:20:49
เจ้าเกษตรกับเจ้าเดือนแพทย์คือคนเดียวกันไหมอ่ะ? หรือฝาแฝด??
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: chonaun ที่ 14-05-2019 14:49:03
เก็บไว้เป็นอีกเรื่องในใจ ยอมนักเขียนมากๆครับ กลับมาอ่านทำความเข้าใจหลายรอบมากๆ สนุกสุดๆ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: vy0Cik ที่ 14-05-2019 19:46:03
อ่านยังไม่จบก็อ้าวเลย งงม้ากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 14-05-2019 23:06:21
นี่ไปอ่านสปอยแบบผ่านๆมา เขาว่ามีโลกคู่ขนานด้วย นี่เดาว่า เจ้าอาจจะมาจากโลกคู่ขนาน มาตามหาดิน ซึ้งนี่เดาอีกว่า ดินอาจจะเป็นคนรักของเจ้าที่จากไป?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 14-05-2019 23:31:30
มันเหมือนเป็นความหวานที่จะมาก่อนความขมอ่ะ ;-;
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 14-05-2019 23:59:33
ชอบสุดอ่ะ ต้องเจองี้คนเจ้าชู้ สะใจอิช้อยยิ่งนัก!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 15-05-2019 00:39:41
เคยรักกันมาก่อน!!! แล้วทำไมดินถึงจำเจ้าไม่ได้!!!! เจ้าก็คือเจ้า จักรพรรดิ มอเจจริงๆสินะ แล้วที่เข้าเกษตรก็เพราะเป็นคณะที่ดินชอบ แงงงง ㅠㅡㅠ
ปล.แค่ตอน6 น้ำตาก็มาแล้วㅠㅠ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: vy0Cik ที่ 15-05-2019 09:17:45
เป็นนิยายที่อุทาน ห้ะ!! อ้าว!!  อะไรวะ??  ทั้งเรื่องเลย เดาจนเลิกเดา ชอบมากๆเลยค่ะ แต่บางปมก็ยังไม่เปิดเผย อย่างเช่นเรื่องพ่อ หรือปริศนาที่จี้ถามเจ้าว่าชอบหรือเปล่า หรืออะไรสักอย่างที่เคยถามเจ้า ยังคาใจในบางประเด็น แต่รอว่าถ้าเล่มออกจะมเคลียรเปล่า แต่ดีมากแล้วที่เป็นแบบนี้ ส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือน้องเอ๋และแก๊งหมอฟันตัวสร้างสีสันของเรื่องนี้ ถ้าไม่มีพวกเขาคิดว่าคงเครียดตายกับเนื้อเรื่อง 555555555
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 15-05-2019 11:37:09
คนในอดีตกับคนในปัจจุบันอาจจะเป็นคนๆเดียวกันก็ได้
แต่ที่ต่างออกไปคือ ช่วงเวลา คน ดินคนนี้กับดินคนนั้นก็ต่างกัน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 15-05-2019 12:07:33
เห็นจากชื่อคนแต่งเลยเข้ามา
อ่านแรกๆคือ ตลก สักพักตลกเริ่มร้ายขึ้น หลังๆรู้สึกเครียดไปกับเรื่อง
เป็นอีกเรื่องที่เราจะเก็บไว้ในความทรงจำ
เป็นนิยายที่ดีมากจริงๆค่ะ เดาทางไม่ออกเลย
ติดตามผลงานต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 15-05-2019 12:13:34
ดินบอกว่าเคยประสบอุบัติเหตุ ขับรถชนเสาไฟฟ้า แล้วความจำเสื่อม + ทะเลาะกับพ่อ ตรงนี้นี่เดาว่า พ่อดินอาจจะไม่ให้ดินคบกับเจ้าหรือรู้ว่าดินกับเจ้าคบกันเลยให้เลิก ก็เลยทะเลาะกัน แล้วดินก็ขับรถชน แต่หมอแพร์บอกว่าเพิ่งสอนให้ดินขับรถตอนปี1 ส่วนนี้นี่เดาว่าดินจำไม่ได้ ว่าตัวเองเคยขับรถเป็น เหมือนความเป็นตัวของตัวเองหายไปพร้อมความทรงจำ?
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 15-05-2019 12:43:40
สิ่งที่เดามาคือผิดหมดเลย อห พีคในพีค อึ้งมาก แงงงง
ก็คือ ดินกับเจ้ารักกัน? เป็นพี่น้องกัน ดินจำเจ้าไม่ได้ จันทร์เจ้าคือคนรักที่แท้จริงของดิน ไม่ไหว
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 15-05-2019 14:06:35
เวลาสองปีที่เจ้าพยายามกับไม่กี่นาทีที่ดินเจอจันทร์เจ้า เจ็บอ่ะ ต่อให้เราพยายามมากแค่ไหนใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่ว่าถ้ามันไม่ใช้ ทุกอย่างที่พยายามก็เท่านั้น เจ้ารักดินมาก มากแบบหาคำเทียบไม่มี แต่สิ่งที่เจ้าควรรักมากกว่าดิน คือตัวเอง รักตัวเองให้มาก แล้วตัวเองจะมีความสุขกว่ามาก ถึงจะไม่เท่าเวลาอยู่กับดิน แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เจ้าเดินต่อไป
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 15-05-2019 22:55:13
ปล่อยก็เจ็บ รั้งไว้ก็เจ็บ เลือกไม่ได้สักทาง เจ็บหมด ความรู้สึกนี้มัน ยากเกินไป ㅠㅡㅠ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 16-05-2019 00:41:11
อ่านตอนถึงตรงนี้ฉันขนลุกมาก แกเอ้ย
คือถ้าโลกคู่ขนานจริง! เจ้า มอเจเดือนแพทย์ ที่บีบอกว่าถูกยิงตายนั้นมันอาจจะเป็นโลกคู่ขนานแล้วเวลาหยุด เพื่อให้เจ้า จักรพรรดิ คณะเกษตร มาที่โลกปัจจุบันเพื่อแก้ไข? เหตุการณ์บางอย่างที่เกี่ยวกับเจ้าที่โดนยิง?กับเรื่องดิน
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 16-05-2019 01:08:33
ถ้าเจ้าตายจริงครั้งนี้ แล้วดินล่ะ ดินที่เพิ่งเริ่ม ดินที่กำลังจะนับหนึ่งอีกครั้ง แต่เวลาของเจ้ากำลังจะหยุดลง ต้องทำยังไง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 16-05-2019 11:45:18
เวลาที่ดินอยู่ตอนนี้มันปกตินั้นแหละ แต่เวลาของเจ้าอ่ะ มันหยุดลงช้าลง
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 16-05-2019 12:24:41
นี่ว่าโลกที่เจ้าอยู่ปัจุบันเนี่ย เป็นโลกที่เจ้าสร้างขึ้นมา เพื่อให้มาเจอกับดิน ที่ทุกคนค่อยๆหายก็เพราะ ภารกิจของเจ้าเสร็จต้องนานแล้ว แต่เจ้าก็ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ ทุกคนที่หายไปอาจจะกลับไปในโลกที่เจ้า มอเจคนนั้นตายไปแล้ว แล้วบางที่เจ้ากับดินก็อาจจะตายไปแล้ว...
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 16-05-2019 13:20:56
ดิ่งมากไม่ไหวแล้วสุดจริงๆ
ปล. จี้คือคนที่ฆ่าตัวตายตามเจ้าใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 17-05-2019 16:31:43
เราชอบความรู้สึกที่คนเขียนทำให้ทุกคนคิดว่าเจ้าจักรพรรดิ​เป็นเจ้าของห้วงเวลา​
 
 ไปๆมาๆ​  ท้ายเรื่อง อ้าว​ พลิกล็อค​ กลายเป็น​  ห้วงเวลาที่ทับซ้อนกันไปมาซะงั้น​ ทั้งของดินของจี้​ 
 
คำว่าเกลียดที่แสนธรรมดากลายเป็นเงื่อนไข​
วนเวียนไปมา99​ ครั้ง​
ทั้งสามคนต้องทรมานขนาดไหนกัน​
 
 ​ คือทั้งอิน​ และทึ่ง​ ​ พล็อตมันไม่แฟนตาซีแต่เราว่ามันทรงพลัง​  แบบดีพอิมแพคทางความรู้สึกคนอ่านมากๆ​
 
​   ต้องขอบคุณแรงอธิษฐานตอนตายของทั้งสามคน​ โดยเฉพาะการเสียสละของจี้ในตอนท้าย​ ทุกอย่างมีข้อเเลกเปลี่ยน​ สงสารจี้​ แต่ก็ช่วยเจ้ากับดินได้มากจริงๆ​ ถ้าไม่ทำแบบนี้​ เรื่องคงวนลูปไม่มีที่สิ้นสุด​
 
​  ชอบน้องเอ๋กับพี่แพร์ด้วย​ น้องเอ๋เมากาวได้น่ารักมาก​ คือฮา​ ที่เจอกับเจ้าที่สนามบิน​ แถมยังติ๊ต่างว่าโดนจีบอีกโอ้ยย​ ขำเพื่อนรักเพื่อนตายจริงๆนะคนนี้ 5555555
 
รอตอนพิเศษนะคะ​ อยากอ่านดินกับเจ้าอีก​ 
ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ให้เราร้องและยิ้มได้ในเวลาอ่าน
สนุกมากจริงๆ​ +1​ รัวๆ :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: exoxoxo1122 ที่ 18-05-2019 10:19:42
ขอบคุณไรท์มากๆที่แต่งผลงานดีๆแบบนี้ออกมาได้อ่าน ไรท์ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ติดตามไรท์มาตั่งแต่ มาโปรด,สวัสดีครับคุณธนิก แล้วก็มาเจ้าชีวิต งานไรท์คือดีมาก ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Killian ที่ 18-05-2019 17:12:39
ไม่เรียกร้องอะไรเลย แค่ตอนพิเศษที่อบอุ่นหัวใจ และฝากบอกจี้ด้วยว่าคิดถึง

รักจี้ รักเอ๋ รักเจ้า
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Sevenny ที่ 19-05-2019 13:00:11
นิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา เริ่มเเรกเรารู้สึกแปลก นายเอกเหมือนคนโรคจิต โรคจิตจริงๆ ฮ่าๆ พอเข้ากลางเรื่องที่ดินเริ่มรักเจ้าก็ยังรู้สึกว่าสุขไม่สุด เพราะพระนายไม่ยอมได้กันเสียที อิอิ เเถมยังมีปมอะไรให้งงเต็มไปหมด ง๊งงงค่ะบอกเลย เราปรารถนาที่จะอ่านncมากกกก เเต่พอได้อ่านเรากลับไม่มีความอินเลยอ่ะ เพราะเราเศร้า แต่น้ำตาแตกได้สองหยดก็หยุด เพราะเกิดสงสัยในความเป็นอยู่ของทุกคนบนโลกนั้น เนี่ย นิยายเรื่องนี้ให้หลายอารมณ์จริงๆ แต่ไม่เคยสุดเลยสักอารมณ์ ขนาดจะดราม่า เรายังเสียน้ำตาไปแค่สองหยด ฮ่าๆ ตอนนี้เรายังงงๆอยู่นะ ว่าไอ้โลกที่ทุกคนอยู่มันเพราะเจ้า หรือเพราะจี้กับดิน เเล้วไอ้ดินนี่มันตายรึยัง มันถึงกำหนดโลกนี้ได้เนี่ย โอ๊ยยงง แล้วตอนจบบทจะง่ายก็ง่ายขึ้นมา แล้วทำไมนังจี้แกไม่ทำแบบนี้ตั้งเเต่เเรก เขาจะได้อยู่ด้วยกัน หืมมม ถึงแม้จี้จะบอกว่ารอบก่อนๆนั้นดินไม่ได้ตอบรับเเละไม่ได้ปรารถนาอยากจะอยู่กับเจ้าก็เถอะ เเต่ถ้าจี้เปลี่ยนคนตายตั้งเเต่รอบเเรกๆ ไม่รอมาจนถึงรอบที่100 เจ้าก็คงไม่ต้องเจ็บมานานแบบนี่ไหมมมมม!!! นี่เป็นการเม้นต์ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลยค่ะ อาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะเราเรียบเรียงความรู้สึกเราไม่ได้เเละถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีนัก อ่านเรื่องนี้เเล้วเรารู้สึกหลากหลายมาก สับสนในตัวเองเหมือนกับไปดมกาวพร้อมเอ๋มา ฮ่าๆ สุดท้ายนี้ก็อยากบอกว่าขอบคุณค่ะ นิยายเรื่องนี้เราจะไม่มีวันลืม เพราะแปลกสุดๆ อยากขออะไรนิสสนุงงง คือนักเขียนคะ ถ้าเเต่งเรื่องหน้าขอแบบไม่ซับซ้อนมากนะคะ เราปรับอารมณ์ตามไม่ทัน อิอิ  :pig4:  :impress2:  :ruready  :mew1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 16-06-2019 09:12:47
อยากอ่านตอนพิเศษจังเลยยยนย
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-06-2019 20:11:58
เข้ามาอ่านเพราะเนื้อหาที่แปลกใหม่ แม้จะมีงานฮา งานดราม่าก็มาเต็ม ร้องไห้ตาบวมหมอนเปียกกันไป ผูกเรื่องได้ซับซ้อนวนลูปไป อยากถอดใจไม่อ่านก็หลายทีเพราะหน่วงมาก  แต่ก็ตัดใจไม่อ่านไม่ลง คือ ติดหนึบมาก นึกว่าจะไม่แฮปปี้ แต่ถ้าไม่ก็โอเคยอมรับได้นะ มันลงตัวจบสมบูรณ์ได้ แต่ตอนจบดูรวดเร็วรวบรัดไปหน่อยกับน้ำตาที่เสียไป
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ จ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-06-2019 20:29:42
เรื่องนี้สำหรับเรานะ เราว่าค่อนข้างหนัก อ่านแล้วลุ้นกับสถานการณ์ตลอด แอบหวั่นๆว่าจะจบแฮปปี้ไหม จะออกมาเป็นยังไง พอจบแบบนี้ เราว่ามันดีมาก ชอบในความสัมพันธ์ของเพื่อน ชอบที่สุดคือนายเอ๋

ปล.เรื่องนี้เราชอบการคุยกันในกลุ่มแชท ขำทุกครั้งที่อ่่่่่านเลย

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 04-07-2019 06:29:59
 :mew2: เสียน้ำตากับพี่เจ้าไปเยอะมาก​ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ​ //หน่วงได้ใจอิน้องมากเจ้าค่ะ//
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: สุนิสา ที่ 27-07-2019 22:42:09
ดี รัก  เจ้าชีวิตมากแม่
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-08-2019 12:44:08
รักเอ๋มาก นางน่ารักแบบรั่วๆดี 555
ช่วงห้วงเวลาดูซับซ้อนอ่านแล้วแอบให้อารมณ์หลอนๆๆดีเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณคนเขียนสำหรับผลงานดีๆนะคะ





หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: mameaw.omg ที่ 23-12-2019 23:27:06
ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้กว่าจะอ่านจบก็รู้สึกเหนื่อยและลุ้นมากๆ
ตอนแรกที่อ่านไม่คิดว่าเรื่องราวจะซับซ้อนและน่าติดตามขนาดนี้
ตอนอ่านจบความรู้สึกยังค้างอยู่ในใจ เจ้า จักรพรรดิเป็นคนที่สุดๆมากๆ
ดีใจที่เจ้ากับเอ๋ได้มาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งคู่นี้น่ารักมากๆ รักจี้เสมอจี้น่าจะได้บอกความรู้สึกออกไปสักครั้งก็คงดี
และสุดท้ายชอบแก๊งหมอชอบฟันเวลาคุยกันคือแฮปปี้สุด
เป็นกำลังใจให้นะคะจะติดตามผลงานต่อไป❤️
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 24-12-2019 19:52:37
เป็นนิยายที่อ่านแล้วบีบคั้นหัวใจมากๆ ซับซ้อน อึดอัดใจ แต่จะเลิกอ่านก็ไม่ได้ ไม่รู้ทำไม  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 29-12-2019 12:58:25
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ คือมาอ่านแบบไม่ได้คาดหวัง
เริ่มแรกก็ด่าเจ้าว่าทำไมทำอย่างนี้ สักพัก เริ่มสงสารเจ้าสำหรับความโลเลของดิน
แล้วบทก็พลิกแล้วพลิกอีก เอ้า นี่มันอยู่ในห้วงการเวลาเฉย งงไปหลายตอน 555555
แล้วมาถึงบทสรุปที่จี้เป็นตัวทำให้เรื่องราวทั้งหมดเปลี่ยนไป
เออ เราเข้าใจได้ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ อย่าท้อในการสร้างสรรค์ผลงาน
เราติดตามอยู่  :mew3: :mew1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 02-02-2020 15:54:04
ขอบคุณค่ะ สนุกดี เราชอบเวลาเจ้ากับเอ๋คุยกันอะค่ะ อ่านเพลินมากกกกกก 5555
มุกร้องโอ้พระเจ้า ซื้อ!!!!!
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 07-02-2020 23:13:17
อ่านเรื่องนี้จบคือแบบตาบวมเลย หลายอารมณ์มากกกก ชอบแนวเรื่องนะ แปลกใหม่ดีค่ะ ขอบคุณที่เอาเรื่องนี้มาแบ่งปันให้อ่านนะคะ ประทับใจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 13:15:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: yochiki1404 ที่ 28-04-2020 16:04:15
เป็นนิยายที่คาดเดาไม่ได้เลยจนวินาทีสุดท้ายถึงเข้าใจเนื้อหาของนิยายเรื่องนี้ โดยปกติถ้านิยายเรื่องไหนที่มีคำบรรยายมาก ๆ จะไม่ชอบอ่าน แต่เรื่องนี้ทำให้เราไม่อาจที่จะเลิกอ่านได้เลย ขอบคุณที่เขียนนิยายดี ๆ มาฝสกพงกเรานะคะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 01-05-2020 19:38:05
ในที่สุดก็จบ จบแบบแฮปปี้ ทั้งสองได้กลับมาอยู่ด้วยกันและผองเพื่อน
นึกว่าจะจบแบบแบดเอ็นสะแล้ว
ขอยอมรับว่าเราอ่านไม่รู้เรื่องอ่ะ เป็นเรื่องแรกที่เราอ่านแล้วงง
แบบบางช่วงบางตอนเราอ่านแล้วงงจริงๆ
เลยอ่านแบบข้ามๆไป ไปอ่านตอนที่อ่านแล้วเข้าใจ
ยังไงก็ขอบคุณนิยายสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: เกี๊ยวกงจื่อ ที่ 02-05-2020 23:17:01
อ่านรวดเดียวจบ แต่ต้องอ่านไปพักไปเพื่อจูนตัวเองก่อน  555

สนุกมากกกก แต่ก็ใช้พลังชีวิตในการอ่านมากเหมือนกัน

ขอบคุณนักเขียนมากเลยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Flower ที่ 26-05-2020 21:12:43
อ่านรวดเดียวจบ ตอนบีคุยกับเอ๋นี่เอ๊ะอยางแรงเลยค่ะ อ่านตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นนิยายที่ทำให้เราเสียน้ำตามากมายขนาดนี้ คุณหลอกดาวววว แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันด้วยดี คุณนักเขียนปราณีเราจริงๆ แต่แอบอยากอ่านตอนหมอแพร์กับน้องเอ๋ต่อ คงสนุกสนานกันแน่เลย :laugh:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 19-08-2020 09:54:49
 :heaven
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 07-01-2021 06:52:15
สนุกมาก เนื้อเรื่องคือคาดไม่ถึงจริง ๆ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: C.Tansakul ที่ 11-03-2021 02:50:18
สุดยอดจริงๆเรื่องนี้ ไม่นึกว่าจะทำให้ร้องไห้ได้มากขนาดนี้ ครบรสมากๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับเรื่องดีๆ ไล่ตามอ่านนิยายของนักเขียนท่านนี้ ไม่ผิดหวังเลยสักเรื่องค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: BoJit ที่ 28-08-2021 17:17:00
โอ้ยยยย อ่านต่อไม่ไหว จิตใจไม่แข็งพอ ปกติไม่ค่อยอ่านนิยายดราม่า แต่เจอหลอกล่อให้วางไม่ลง แต่ก็ทำใจอ่านต่อไม่ไหว เดี๋ยวกลับมาอ่านแน่นอนพักสักแปบบบ นิยายดีจริงๆ อ่านไม่หลับไม่นอน ร้องไห้จนตาบวม ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่าาาา จะกลับมาอ่านให้จบแน่นอนนนน(ถ้าใจเข็มแข็งพออะนะ 555) โอ้ยยยยิอธิบายไม่ถูก มันบีบรัดหัวใจไปหมด
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: Sunset and Eeyore ที่ 06-01-2023 17:25:48
เป็นเรื่องที่พลิกมาก พลิกแล้วพลิกอีก พลิกแบบไม่รู้จะพลิกยังไง ขอบคุณคุณนักเขียนนะคะ ดีใจที่ได้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 07-01-2023 17:51:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 16-01-2023 20:16:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 19-01-2023 02:34:10
สนุกมากค่ะ เราร้องไห้หนักมาก แต่สนุกมากอ่านวางไม่ลงเลยทีเดียว
ขอบคุณนักเขียนมากค่ะ สำหรับนิยายสนุกๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้ารักพ่อนะคะ ที่ 01-07-2023 23:03:09
 เป็นการประเดิมมันด้วยหยาดน้ำตาจริงๆ 
ขอบคุณคุณนักเขียนที่รังสรรค์เรื่องนี้ออกมานะคะ เป็นพล็อตที่สมบูรณ์แบบมาก ในที่สุดเราก็หากันจนเจอ นี่มันพรมลิขิตชัดๆ  :L2:  :กอด1:   o13