ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
*********************************************
White Seagull Feather
ฉลามกับนกผู้โง่เขลา
เคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับฉลามและนกขนสีขาวสะอาดตาหรือเปล่า?
คุณเคยขึ้นเรือในยามที่พระจันทร์เต็มดวงไหม?
คุณเคยได้ยินเสียงเพลงที่มากับสายลมหรือไม่?
และหากคุณเคยได้ฟังเรื่องเล่าหรือเคยได้ยิน
คุณคิดบ้างไหมว่าเสียงนั้นมันมาจากไหนกันแน่?
คุณคงไม่เคยคิดใช่ไหมล่ะ???
:mew6: ขอให้อ่านให้สนุกน่ะครับ #NewYear42
White Seagull Feather
ฉลามกับนกผู้โง่เขลา
เคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับฉลามและนกขนสีขาวสะอาดตาหรือเปล่า?
คุณเคยขึ้นเรือในยามที่พระจันทร์เต็มดวงไหม?
คุณเคยได้ยินเสียงเพลงที่มากับสายลมหรือไม่?
และหากคุณเคยได้ฟังเรื่องเล่าหรือเคยได้ยิน
คุณคิดบ้างไหมว่าเสียงนั้นมันมาจากไหนกันแน่?
คุณคงไม่เคยคิดใช่ไหมล่ะ???
ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสกับท้องทะเลสีเขียวมรกตของเกาะแห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างชื่นชอบ จึงทำให้มีผู้คนมาเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย
ในยามเช้าในเวลาเก้าโมงซึ่งมีรถมิตซูมิชิ มิราจ สีดำ คันหนึ่งแล่นมาจอดที่บ้านพักติดชายทะเล
ซึ่งมันเป็นสถานที่พักเที่ยวและเพื่อผ่อนคลาย
มันเป็นสถานที่ ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
“เย้....ทะเลลลลล”
หญิงสาวนามว่าแอนนาเมื่อเธอลงจากรถเธอก็ตะโกนด้วยความดีใจ
“แอนนาอย่ามัวแต่ดีใจสิ...มาช่วยยกนี้หน่อย”
เสียงของคริสซึ่งเป็นแฟนของหญิงสาวพูดขึ้นทำให้เธอหยุดอาการดีใจแล้วไปช่วยเพื่อนๆของเธอที่ตอนนี้ต่างช่วยกันยกของลงจากรถเพื่อไปบ้านพักของพวกเขา
“ไปเล่นน้ำกันเถอะ”
เมื่อแอนนาจัดเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอจึงเอ่ยชวนเพื่อนๆของเธอและแฟนหนุ่มเธอไปเล่นน้ำที่ชายหาดกันซึ่งตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆแล้ว
“เอาสิ”
แบมเพื่อนอีกคนของแอนนาพูดขึ้นซึ่งคนอื่นๆต่างก็คิดเช่นนั้นยกเว้นแต่เด็กหนุ่มที่ชื่อว่าแทมี่
“ฉันยังไม่อยากเล่นน่ะ”
เด็กหนุ่มพูดขึ้น
“แต่ฉันว่านายควรเล่นนะ...นายควรผ่อนคลายบ้าง”
ชายหนุ่มซึ่งชื่อว่าอิ๊กพูดขึ้นบ้างเพราะเขารู้ดีว่าร่างบางนั้นเจอกับอะไรมาบ้าง
เขาจึงรู้สึกเป็นห่วงเด็กหนุ่มมากอยู่เหมือนกัน
“ไม่ต้องห่วงหรอก...เดี๋ยวฉันตามไป”
เด็กหนุ่มพูดบอกกับเพื่อนๆของเขาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มถึงมันจะดูเศร้าก็ตาม
“นายแน่ใจนะ”
แอนนาถามเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าที่เป็นห่วงซึ่งเด็กหนุ่มก็เข้าใจดีว่าเพื่อนๆของเขานั้นเป็นห่วงเขามากก็จริงเพราะเขาเพิ่งอกหักกับคนรักมา มันเป็นภาพที่เด็กหนุ่มเจ็บไปจนตายเลยก็ว่าได้
มันเป็นภาพที่แฟนหนุ่มของเขากับหญิงสาวซึ่งเคยเป็นแฟนเก่าของแฟนหนุ่มกำลังจูบกันต่อหน้าเขา
“ฉันสบายดีน่าไม่ต้องห่วงหรอก”
เด็กหนุ่มถึงแม้เขาจะเสียใจมากอยู่ก็ตามแต่เขาไม่อยากให้เพื่อนๆของเขานั้นเห็นน้ำตาเขาตอนร้องไห้จึงเลือกที่จะตอบว่าเขาสบายดีเพื่อให้คนอื่นๆไม่เครียดไปกับเขา
“ถ้างั้นพวกเราไปเล่นน้ำก่อนนะ”
“อืม”
พอพวกเพื่อนของเด็กหนุ่มออกไปหมดแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนที่หางตาของเขานั้นมีน้ำตาสีใสไหลอาบหน้าเต็มไปหมด เขาไม่อยากให้เพื่อนๆรู้ว่าเขานั้นอ่อนแอแค่ไหน เด็กหนุ่มเป็นคนที่ชอบเก็บความรู้สึกตัวเองไว้จะไม่แสดงให้คนอื่นๆเห็นหากแต่เมื่ออยู่คนเดียวเขาจะปลดปล่อยมันออกมาจนหมด
เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเขานั้นร้องไห้ไปนานแค่ไหน แต่เขาคิดว่าน้ำตาช่วยเขาได้เยอะมากๆมันช่วยให้เขาผ่อนคลายความเจ็บปวดได้ เด็กหนุ่มคิดขึ้นมาได้ว่าหากเขานั้นเล่นน้ำคงจะไม่ทำให้เขาคิดมากเท่าไหร่ เด็กหนุ่มจึงเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเล่นน้ำกับเพื่อนของเขา
เด็กหนุ่มพอแต่งตัวด้วยเสื้อแขนสั้นสีฟ้ากับกางเกงขาสั้นสีดำซึ่งมันเข้ากับเด็กหนุ่มมากพอสมควรเพราะเขามีใบหน้าที่เหมือนเด็กทรงผมของเขาเป็นรองทรงพร้อมกับผมสีน้ำตาลอ่อนดวงตาของเด็กหนุ่มนั้นโตเหมือนเป็นแมวตัวหนึ่งพร้อมกับจมูกที่ไม่โด่งมากกับปากสีเชอรี่ เด็กหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปหาเพื่อนๆซึ่งตอนนี้กำลังเล่นน้ำกันอยู่
“อ้าว...แทมี่มาสักทีฉันเป็นห่วงแทบแย่”
อิ๊กพูดบอกกับเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มตลอดเวลาของเขา
ชายหนุ่มเป็นคนยิ้มง่ายเขาเป็นคนที่มีร่างสูงใหญ่พอสมควรใบหน้าของเขาก็หล่อมากเลยที่เดียวสีผมนั้นเป็นดำน้ำตาลอมแดงซึ่งเขาเป็นคนมีเสน่มากคนหนึ่งเลยล่ะ
“ตอนนี้นายโอเคแล้วใช่ไหม”
แบมพูดขึ้นเพราะเขาเห็นขอบตาร่างบางตรงหน้านั้นมีรอยแดงซึ่งหมายถึงเด็กหนุ่มซึ่งจะผ่านการร้องไห้มาได้ไม่นานนั้นเอง
“ฉันโอเคแล้ว”
เด็กหนุ่มพูดบอกกับเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
ซึ่งพวกเขาก็รู้กันดีว่าร่างบางฝืนแค่ไหนกับรอยยิ้มที่เด็กหนุ่มยิ้มให้
“งั้นไปเล่นน้ำกันดีกว่านะ”
แอนนาพูดขึ้นมาทำให้เพื่อนๆต่างเห็นดีด้วยจึงพากันลงเล่นน้ำ
พวกเขาเล่นน้ำทะเลไม่รู้นานเท่าไหร่จนพระอาทิตย์เริ่มเปลี่ยนสี
“เย็นแล้วขึ้นกันเถอะ”
เสียงของเด็กหนุ่มพูดบอกกับเพื่อนซึ่งตอนนี้ต่างสาดน้ำเล่นกัน
พอเด็กหนุ่มพูดบอกทุกคนก็เงยหน้ามองท้องฟ้าซึ่งมันเป็นสีส้มแล้ว
“งั้นเราไปจัดปาร์ตี้กัน”
คริสพูดขึ้นกับสิ่งที่พวกเขาเตรียมกันไว้ก่อนจะมาถึงที่นี้
พอคริสพูดจบทุกคนก็พากันขึ้นจากน้ำ
พอขึ้นจากทะเลทุกคนต่างก็พากันไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่
แต่หากร่างบางนั้นอาบเสร็จเรียบร้อยไวไปเขาจึงมาเดินเล่นที่ชายหาดเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลาย
********************************************
:L2: เรื่องยังไม่จบนะครับเดี๋ยวจะเอามาลงให้เพิ่ม
ไม่รู้สนุกหรือเปล่าน่ะครับ แต่ก็ขอบคุณอีกทีแล้วกันที่เข้ามาอ่าน
เรื่องนี้ผมแต่งไว้เมื่อนานมากแล้วแต่ไม่ได้ลงในเว็บนี้ ถ้ายังไงก็ติชมได้น่ะครับผมเป็นแค่มือใหม่ที่หัดแต่งเอง...ขอบคุณที่อ่านน่ะครับผม
#NewYear42
สายลมเย็นๆพัดเบาๆในตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
สายลมมันช่างเย็นและสงบซะจริงๆมันทำให้เด็กหนุ่มสบายใจมากขึ้น
เขาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆตามชายหาดสีขาวสะอาดตามกับภาพพระอาทิตย์ใกล้ตกดินและน้ำทะเลเปลี่ยนสีเป็นสีส้มสะท้อนแสงสวยงามมันยิ่งทำให้เขาไม่คิดถึงผู้ชายคนนั้นเลยสักนิดเดียวมันทำให้จิตใจเขานั้นสงบมากและไม่คิดถึงอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ข้าอยากไปหาเจ้าเหลือเกิน~~~”
เสียงแผ่วๆที่มาตามสายลมทำให้เด็กหนุ่มตกใจกับเสียงที่ยินมากแต่หากมันเบาเกินไปเขาจึงได้ยินมันไม่ชัดเจนมากนัก
“ข้ารักเจ้าเหลือเกิน~~~”
เสียงแผ่วนั้นยังคงได้ยินมาตามสายลมอีกครั้งแต่หากคำพูดมันต่างจากครั้งแรกที่เขาได้ยิน
เด็กหนุ่มจึงเดินไปตามเสียงนั้นทันที เขาเดินไปช้าๆและคอยฟังเสียงนั้นเรื่อยๆเสียงมันเป็นเสียงของผู้ชายแต่มันเล็กมากจึงทำให้เขาคิดว่าเป็นเสียงของผู้หญิงมันเป็นเสียงเหมือนคนกำลังเจ็บปวดน้ำเสียงมันเหมือนคนที่กำลังกำลังมีความทุกข์ใจและเศร้าโศกเสียใจกับอะไรสักอย่าง
เด็กหนุ่มเดินตามเสียงนั้นไปเรื่อยๆจากที่ได้ยินแค่แผ่วๆมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆและดังจนได้ยินชัดเจน
เสียงมันมาจากหลังโขดหินใกล้ๆนี้เอง
“ข้าอยากไปหาเจ้าเหลือเกิน”
เด็กหนุ่มได้ยินเสียงชัดขึ้นและเขาเริ่มเดินเข้าไปใกล้ๆกับเสียงนั้นเรื่อยๆ
และพอเขาเดินถึงที่โขดหินนั้นก็ได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งผมของเขายาวจนถึงหลังสีผมขาวทั้งหัว
ใบหน้าของเขานั้นสวยดังกับนางฟ้าที่โบยบินลงมาจากสวรรค์ตัวของเขานั้นสูงพอๆกับเด็กหนุ่มเลยก็ว่าได้ และร่างนั้นก็เป็นผู้ชายที่เขารู้เพราะร่างตรงหน้านั้นใส่กางเกงขาสั้นสีขาวแต่ไม่ได้สวมเสื้อ
“ข้ารักเจ้าเหลือเกิน”
เสียงของชายหนุ่มตรงหน้ายังดังอยู่โดยที่ไม่รู้ว่ามีคนเดินมา
เด็กหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปหาร่างตรงหน้าทันที
“คุณครับ”
เด็กหนุ่มเรียกคนตรงหน้าซึ่งตอนนั้นกำลังนั่งอยู่บนโขดหินเล็กซึ่งมันอยู่หลังโขดหินก้อนใหญ่
ร่างบางตรงหน้าเอาแต่มองท้องทะเลพร้อมพูดกับคำบางอย่างสามสี่คำแล้วก็ย้อนกลับมาพูดมันอีกครั้งแต่พอร่างบางเรียกร่างบางตรงหน้าก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาดวงตาของร่างบางตรงหน้าเต็มไปด้วยความคิดถึงใครสักคนที่เขาไม่สามารถจะไปหาได้
“เจ้าหาข้าพบ”
คำพูดของร่างบางตรงหน้าพูดบอกกับเด็กหนุ่มซึ่งคำพูดนั้นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกมึนงงมาก
แต่ร่างตรงหน้ากลับยืนขึ้นช้าๆพร้อมกับเดินมาหาเด็กหนุ่ม
“ช่วยพาข้าไปที่โขดหินรูปเทพธิดาที่อยู่มุมซ้ายของเกาะทีน่ะ”
คำพูดของร่างตรงหน้าทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกมึนหัวและล้มลงไปในหาดทรายในที่สุด
ส่วนร่างชายหนุ่มร่างบางนั้นค่อยๆกลายเป็นหินแกะสลักรูปนกนางนวลสีขาวสะอาดตา
ซ่า ซ่า ซ่า ซ่า
เสียงคลื้นในทะเลกระทบกับโขดหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง
มีฝูงนกนางนวลมากมายต่างมาเกาะโขดหินก้อนนั้นพอพวกมันมาถึงโขดหินมันก็จะกลายเป็นมนุษย์แต่จะมีผิวที่ขาวดั่งหิมะเส้นผมพวกเขาต่างก็เป็นสีขาวและมีใบหน้าที่หล่อสวยดั่งเทพธิดาและเทพบุตร พวกเขาจะสวมชุดที่เป็นเกล็ดขนนกแต่ละคนชุดจะไม่เหมือนกัน และพวกเขาต่างก็มีรอยยิ้มที่ใบหน้าด้วยกันทั้งนั้น
“ถึงเวลาออกหากินแล้ว...ไปกันเถอะ”
เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดบอก
ซึ่งคนอื่นๆก็ต่างแปลงกายเป็นนกนางนวลทันทีพวกเขาเริ่มบินไปตามแรงลมช้าๆและคอยหาปลาตัวเล็กๆเพื่อกินมัน แต่หากมีนกนางนวลอยู่ตัวหนึ่งมันมีขนสีขาวที่สะอาดกว่าตัวอื่นๆและเป็นเทพบุตรของแดนสววรค์ซึ่งค่อยๆดำดิ่งลงไปในน้ำช้าๆเพื่อผ่อนคลายความทุกข์อยู่เสมอแต่หากวันนี้มันกับไม่เป็นอย่างเดิม
“ฉลาม!!!”
นกนางนวลตัวอื่นๆต่างพากันบินหนีฉลามตัวใหญ่ซึ่งมันว่ายขึ้นไปจนเห็นท้องฟ้าในยามสายของวันมีแสงอาทิตย์ส่องสว่างพอพวกนกนางนวลหนีไปจนหมดแล้วมันจึงค่อยดำลงไปในสายน้ำแต่หากมันกับพบกับนกนางนวลสีขาวสะอาดตาอยู่ตัวหนึ่งซึ่งมันยังลงดำน้ำพร้อมกับหลับตาของมันอยู่แต่ยังคงมีลมหายใจ พอเห็นอย่างนั้นมันจึงว่ายน้ำไปรอบตัวของนกตัวนั้นซึ่งพอมันลืมตาขึ้นมันกับทำท่าตกใจและพยายามว่ายน้ำหนีแต่ฉลามก็ยังคงว่ายตามมันขึ้นไปจนมาถึงโขดหินก้อนปานกลางนกนางนวลสีขาวสะอาดจึงรีบขึ้นไปบนนั้นทันทีพร้อมกับแปลงกายให้ตนเองเป็นมนุษย์
“ไปให้พ้นนะเจ้าฉลามบ้า...ทำไงดีอีกนานเลยกว่าปีกจะแห้ง”
เด็กหนุ่มคิดว่าถ้าหากเขาบินตอนนี้ปีกเขามันคงพาเขาตกลงไปในทะเลอีกแน่ๆ
จึงเลือกที่รอให้มันแห้งซะก่อนหากแต่ฉลามตัวนั้นกลับแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เหมือนกับเขามันทำให้ร่างบางตกใจมากเพราะพอฉลามตัวใหญ่นั้นแปลงเป็นมนุษย์ฉลามตัวนั้นกับกลายเป็นหนุ่มรูปงามมีรูปร่างแข็งแกร่งผมของเขานั้นเป็นสีน้ำเงินเข้มดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความห่วงใยที่ส่งให้มากับเด็กหนุ่มมันจึงทำให้เขายังคงมึนงงอยู่
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
เสียงของชายตรงหน้าทำให้ร่างบางรู้สึกสบายใจมากขึ้นเขาคงคิดมากไปว่าพวกฉลามนั้นจะกัดกินทุกอย่างที่ขวางหน้าของพวกมัน
“ข้าไม่เป็นไร”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ”
เสียงของชายหนุ่มพูดบอกกับเด็กหนุ่มร่างบางด้วยความโล่งใจ
ชายหนุ่มคิดว่าถ้าเขาไม่เห็นร่างบางก่อนร่างบางคงมีอันตรายแน่ๆ
เพราะที่ตรงนี้มีฉลามอยู่อีกหลายตัวและพวกมันก็มักจะจัดการเยื่อโดยไม่สนใจด้วยซ้ำ
“แล้วเจ้าชื่ออะไรหรอ”
ชายหนุ่มเริ่มพูดก่อน
“ข้าชื่อรันโทร์...เรียกข้าว่าโทร์ก็พอแล้วเจ้าละ”
“ข้าบลูดอล”
เด็กหนุ่มบอกชื่อของตนเองให้กับชายหนุ่มเรียบร้อยชายหนุ่มจึงบอกชื่อของตนเองบ้าง
พอชายหนุ่มพูดจบร่างเล็กก็มองชายหนุ่มตั่งแต่หัวจรดเท้า
“ก็เข้ากับชื่อเจ้าดีนิน่า”
เด็กหนุ่มพูดจบชายหนุ่มก็ขำกับคำที่เด็กหนุ่มพูด
มันช่างใสซื่อและน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน
“ข้าว่าเจ้าควรไปได้แล้วล่ะที่นี้มันอันตรายเกินไป”
“แล้วถ้าหากข้ามาที่นี้อีกครั้งข้าจะเจอเจ้าหรือเปล่า”
“เจอสิ...เพราะข้าอยู่ที่นี้ตลอดน่ะ”
“งั้นพรุ้งนี้ข้าจะมาหาเจ้า”
เด็กหนุ่มพูดจบก็แปลงกายเป็นนกนางนวลขาวแล้วบินหายไปในท้องฟ้า
พอขึ้นวันใหม่เด็กหนุ่มก็มาตามที่พูดไว้และก็ได้พบกับฉลามผู้นั้นตามเดิม
ชีวิตของเด็กหนุ่มนั้นเริ่มเปลี่ยนไปเขามักจะมาหาชายหนุ่มทุกวันและชายหนุ่มก็จะมารอเขาอยู่ที่เดิมเสมอ พอนานเข้าพวกเขาก็เริ่มมีใจให้กันและกัน และมีวันหนึ่งที่เด็กหนุ่มนั้นไปหาชายหนุ่มมันเป็นวันที่อากาศดีมากและสงบมาก
“เจ้ามาหาข้าแล้ว”
ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อร่างบางนั้นมาหาเขา
เด็กหนุ่มพอได้ยินก็ยิ้มส่งให้ชายหนุ่ม
“ข้าก็มาหาเจ้าทุกวันอยู่แล้ว”
“ข้าอยากให้เจ้าร้องเพลงให้ข้าฟัง”
“ได้สิ...มานอนที่ตักข้าสิ”
เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็รีบไปนอนตักของเด็กหนุ่มที่เขารักทันที
ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้อยู่กับร่างตรงหน้า
เสียงขับกล่อมของเด็กหนุ่มค่อยๆเปล่งเสียงอันอ่อนหวาน
เสียงนั้นช่างเป็นเสียงที่ละมุนละไมค่อยๆขับกล่อมชายหนุ่มซึ่งชายหนุ่มก็ยิ้มตามกับสิ่งที่เล็กร่างเล็กนั้นทำให้เขา มันช่างเป็นชีวิตที่สงบสุขเหลือล้น เสียงของเด็กหนุ่มๆค่อยไปพร้อมกับสายลมจนเพลงจบลง
“เจ้าช่วยสัญญากับข้าสักอย่างได้ไหม?”
ชายหนุ่มพูดถามกับเด็กหนุ่ม
เขามองดวงตาของเด็กหนุ่มตลอดมันช่างหน้าเอ็นดูมาก
“ได้สิ...เจ้าอยากให้ข้าสัญญาอะไรล่ะ”
เด็กหนุ่มมองดวงตาของชายหนุ่มอยู่เช่นกัน
พวกเขามักจะทำแบบนี้เสมอเวลาอยู่ด้วยกัน
“ข้าอยากให้เจ้าร้องเพลงให้ฟังที่โขดหินนี้ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง ได้ไหม?”
“ได้สิ...ข้าจะทำตามที่เจ้าขอ...แต่ข้าก็อยากให้ท่านสัญญากับข้าว่าเจ้าจะต้องมีแต่ข้า”
“ข้าสัญญา”
เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็จูบร่างเด็กหนุ่มตรงหน้าทันที
หากแต่เมื่อวันต่อมาเด็กหนุ่มกลับมาที่แห่งนี้เช่นเดิมแต่กลับไม่พบชายหนุ่มที่เขารักอีก
เด็กหนุ่มมาเฝ้ารอชายหนุ่มอยู่ที่แห่งนี้ทุกวันแต่มันก็ยังว่างเปล่าเช่นเดิม
เด็กหนุ่มก็ได้แต่รอและรอวันแล้ววันเล่าจนในวันที่พระจันทร์เต็มดวงของคืนหนึ่ง
มีฉลามตัวหนึ่งนั้นขึ้นมาในถิ่นของนกนางนวลซึ่งทำเอานกนางนวลตัวอื่นๆต่างตกใจมาก
แต่พอฉลามตัวนั้นแปลงกายเป็นมนุษย์ตอนแรกเด็กหนุ่มคิดว่าจะเป็นชายหนุ่มที่เขารักแต่หากมันไม่ใช่
ร่างตรงหน้านั้นเป็นร่างของชายรูปร่างใหญ่โตผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าเศร้าโศก
“ข้ามีเรื่องของบลูดอลมาบอกกับเจ้า”
ชายคนนั้นพูดบอกกับเด็กหนุ่มซึ่งมันทำให้เด็กหนุ่มยิ่งอยากรู้ว่าทำไมชายหนุ่มถึงไม่ยอมมาหาเขาอีกตั่งแต่วันนั้น
“บอกมาสิว่าทำไมเขาถึงไม่มาหาข้าเหมือนทุกครั้ง”
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องเสียใจมากแต่ข้าก็ต้องบอกเจ้าอยู่ดี”
“บอกมาสิ”
“บลูดอลได้ตายไปแล้ว”
คำพูดของชายผู้นั้นทำให้ร่างของเด็กหนุ่มแทบล้ม
หัวใจของเขาเหมือนแตกสลายเหมือนคนใกล้ตายเต็มที
หางตาของเด็กหนุ่มเริ่มมีน้ำตาค่อยๆไหลอาบใบหน้าเรื่อยๆ
“ตั่งแต่เมื่อไหร่”
“ตั่งแต่วันที่เขาไปพบเจ้าในวันนั้น”
“ไม่จริง...ฮึก...ไม่จริงใช่ไหม”
“ข้ามาบอกเจ้าเพียงแค่นี้ล่ะ...ข้าต้องไปแล้ว”
เมื่อชายตรงหน้าพูดจบก็แปลงกายเป็นฉลามแล้วจากไปทันที
แต่คำที่ชายคนนั้นบอกนั้นมันยังคงแทงหัวใจของเด็กหนุ่ม มันทั้งเจ็บและทรมาน
เด็กหนุ่มนั้นยังคงทำใจให้ยอมรับกับเรื่องนี้ไม่ได้จึงรีบโบยบินไปที่โขดหินที่พวกเขามักนัดพบเจอกันเมื่อมาถึงที่แห่งนั้นเด็กหนุ่มกับพบสร้อยคอของชายหนุ่มห้อยไว้อยู่ที่โขดหินด้านที่ดวงจันทร์ส่อง เด็กหนุ่มพึ่งสังเกตุเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่พระจันทร์นั้นเต็มดวง เด็กหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตาให้กับสร้อยของชายหนุ่ม และเริ่มทำตามสัญญาที่เคยให้กันไว้ เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มร้องเพลงแสงดวงจันทร์กลับเริ่มส่องแสงจ้ามากขึ้น เด็กหนุ่มค่อยๆร้องไปเรื่อยๆจนจบเพลง อยู่ๆร่างของเด็กหนุ่มก็ตกลงไปในมหาสมุทรอย่างเชื่องช้าแต่หากก่อนตกลงไปนั้นเด็กหนุ่มได้ดึงสร้อยของชายหนุ่มมาด้วยเด็กหนุ่มกำมันไว้ในมือของเขาและร่างนั้นก็เริ่มกลายเป็นหินเกะสลักรูปนกนางนวลสีขาวสวยงามทันที
“ช่วยพาข้าไปที่โขดหินรูปเทพธิดาที่อยู่มุมซ้ายของเกาะทีน่ะ”
เฮือก
เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นหลังจากสิ่งที่เขาฝันนั้นมันจบลงอย่างหน้าเศร้าใจ
แต่หากก่อนตื่นเขากลับได้ยินคำขอของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมา
“ฟื้นแล้วหรอ”
เสียงของใครสักคนที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงและคุ้นหูกับเด็กหนุ่มมาก
เมื่อเขาหันไปมองก็พบเข้ากับชายหนุ่มที่ทำให้เขานั้นเสียใจ
“ฮาน...คุณมาได้ไง”
เมื่อได้สติเด็กหนุ่มจึงถามชายหนุ่มตรงหน้าทันที
“ผมตามคุณมา...ผมรู้ว่าคุณกำลังเข้าใจผิดอยู่คุณถึงหนีมาแบบนี้”
“อธิบายมาสิ”
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพบเจอในฝันนั้นมันทำให้เขาเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น
เด็กหนุ่มจึงเลือกที่จะให้ชายหนุ่มอธิบายเพราะเขาคิดว่าชายหนุ่มจะต้องพูดความจริงแน่นอน
“เรื่องของผมกับมิ้นมันจบไปแล้ว...และที่เขาจูบผมวันนั้นก็เพราะเขาขอจูบผมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเขาจะไปเมืองนอกและไม่กลับมาที่นี้อีก...เชื่อผมเถอะน่ะ”
คำอธิบายของชายหนุ่มทำให้เด็กหนุ่มโล่งใจมากขึ้นแต่เขายังคงทำเป็นว่ายังโกรธอยู่
“งั้นหรอ”
“ผมขอโทษน่ะ...ตอนนั้นผมจะปฏิเสธเขาแต่ว่าเขากับดึงผมเข้าไปจูบ”
สิ่งที่ชายหนุ่มพูดนั้นเป็นจริงทุกอย่างและเด็กหนุ่มก็เชื่อสิ่งที่ชายหนุ่มบอก
เด็กหนุ่มเป็นคนมีเหตุผลเสมอแต่หากครั้งนี้เขากับเจ็บและเสียใจจึงหนีออกมา
“ผมเชื่อคุณ”
เมื่อเด็กหนุ่มพูดจบชายหนุ่มจากใบหน้าที่เศร้าก็ยิ้มดีใจที่คนรักของเขานั้นยังไว้ใจกัน
ถ้าหากเด็กหนุ่มไม่กลับไปกับเขาเขาลงทรมานน่าดู
“ลืมไปเลย...อ๊ะ”
“คุณเอามาจากไหน”
สิ่งที่ชายหนุ่มนั้นให้เขามันคือรูปปั้นนกนางนวลเกะสลักเหมือนในฝันของเด็กหนุ่ม
“ก็เจอตอนไปพบคุณสลบอยู่ที่โขดหินพร้อมกับมันที่วางอยู่ข้างๆคุณน่ะ”
สิ่งที่ชายหนุ่มพูดทำให้เด็กหนุ่มตกใจมาก ตอนแรกเขานึกว่าสิ่งที่เขาเห็นมันเป็นแค่ฝัน
แต่มันกลับไม่ใช่มันเป็นความจริง และคำขอของเด็กหนุ่มที่เขาเห็นนั้นก็แวบเข้ามาในหัวเขาอีกครั้ง
“คุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”
“ได้สิ”
ในยามเช้าวันใหม่เด็กหนุ่มและคนรักของเขานั้นได้ไปตามคำพูดของคนในฝันพร้อมกับรูปปั้นเกาะสลักนกนางนวลตัวนั้นมาด้วย พวกเขามากันแค่สองคนเพราะเพื่อนๆของเด็กหนุ่มนั้นยังไม่มีใครตื่น พวกเขาเดินมาจนมาเจอกับหินก้อนหนึ่งซึ่งมันช่างสวยงามมาก เพราะมันคือรูปปั้นเทพธิดาแต่หากรูปปั้นนั้นก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก เด็กหนุ่มนำเอารูปปั้นเกะสลักนกนางนวลไปวางไว้ไกล้ๆรูปปั้นเทพธิดา
“คิดว่าที่นี้มันสวยไหม”
เด็กหนุ่มพูดถามแฟนหนุ่มของเขาด้วยรอยยิ้ม
ซึ่งชายหนุ่มก็ชอบมันเพราะสถานที่ตรงนี้มันทั้งทะเลเขียวใสแล้วยังมีปลาในทะเลให้เห็นชัดเจน
รวมกับรูปปั้นเทพธิดาแต่หากเมื่อวางรูปปั้นนกนางนวลลงมันกับสวยยิ่งกว่าเก่าเมื่อดูอย่างพอใจแล้วพวกเขาก็กลับบ้านพักทันที
แต่หากถ้าลองสังเกตดูดีๆล่ะก็อาดจะเห็นรูปปั้นฉลามที่อยู่ข้างหลังโขดหินเล็กๆที่เทพธิดายืนอยู่
เมื่อพวกเขาไปจากสถานที่ตรงนี้แล้วอยู่ๆก็มีแสงออกมาจากรูปปั้นนกนางนวลกับปลาฉลามนั้น
และวิญญาณที่อยู่ในรูปปั้นสองตัวนั้นก็ออกมาจากรูปปั้นเพื่อมาพบกันเหมือนแต่ก่อนและเริ่มจางหายไปช้าๆ
********************************************
:mew6: ลงให้จบแล้วน่ะครับ...ช่วยติชมกันด้วยน่ะ
ผมกำลังฝึกแต่งนิยายเรื่องยาวอยู่...ไม่รู้จะแต่งสนุกหรือเปล่าแต่ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะ
#NewYear42