พิมพ์หน้านี้ - My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 10:03:46

หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 10:03:46
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


-----------------------------------------------------------------------------------------



My Gear  รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา



Intro.



“ ไม่มีทาง!!!  เรื่องอะไรแม่ต้องให้เขามาพักกับกิจที่คอนโดด้วยอะ “

เสียงของกิจ  ลูกชายคนโตของบ้านดังขึ้น  หลังจากที่ผู้เป็นแม่บอกข่าวที่ทำให้เขาไม่ชอบใจขึ้นมาในระหว่างมื้อเช้า

“ ถือว่าแม่ขอก็แล้วกันนะตากิจ  เพราะเพื่อนแม่คนนี้เขามีบุญคุณกับแม่มากนะ  สมัยที่แม่ยังเรียนมหาลัยฯ น่ะ  อีกอย่างคอนโดเราก็มีห้องว่างอยู่  แค่ให้คนมาอยู่เพิ่มอีกสักคนจะเป็นไรไป “

“ ยังไงก็ไม่...  โธ่แม่  กิจไม่ชินกับการมีเด็กมาอยู่ด้วยหรอกนะ “  กิจยังคงค้านกับสิ่งที่แม่เขาขอมา

“ เว้นแต่จะเป็นสาวๆ “  อีกเสียงหนึ่งที่นั่งยังฝั่งตรงข้ามเขาดังขึ้น  กิจเงยหน้าจากจานอาหารเช้าขึ้นมามองอย่างหาเรื่อง 

“ เงียบไปเลยไอ้กานต์ “  กิจว่ามา  ในขณะที่น้องชายวัยมัธยมปลายก็หาได้รู้สึกกลัวไม่  ก่อนจะเทซอสมะเขือเทศเพิ่มลงไปยังไส้กรอกตรงหน้าอีกนิด

“ ไม่รู้ล่ะ  แม่ตัดสินใจแล้ว  ยังไงแม่ก็จะให้ลูกชายของเพื่อนแม่ไปพักอยู่กับเราที่คอนโด  และคราวนี้แม่ก็จะไม่ให้เราขัดคำสั่งเด็ดขาด “ 

ผู้เป็นแม่ยังคงยืนกรานถึงความตั้งใจเดิม  แม้ที่ผ่านมาเธอจะค่อนข้างตามใจและปล่อยให้ลูกๆ  มีอิสระ  ไม่บังคับอะไรมากมายจนเกินไปก็ตาม 

กิจรวบมีดและซ้อมไว้ที่จาน  ก่อนจะซดกาแฟอีกครึ่งถ้วยที่เหลืออยู่จนหมด  แล้วหันไปมองทางขวามือที่หัวโต๊ะอาหารพร้อมทั้งยิ้มให้ผู้เป็นแม่  และพูดอย่างนุ่มนวลด้วยรอยยิ้ม

“ ไม่มีทางคร้าบโผม..... “  ว่าจบเขาก็ลุกออกจากที่นั่ง  พร้อมทั้งหยิบเป้สะพายขึ้นมาสะพายที่ไหล่ขวา

“ นี่ตากิจ!!! “

“ กิจไปแล้วนะแม่ “  เขาบอกไปในขณะที่กำลังหันหลังเดินออกไปจากห้องอาหาร  พร้อมทั้งยกมือโบกลาเล็กๆ

“ แล้วนี่เราจะไปไหนอีกละเนี่ย “  แม่เขาถามขึ้น  กิจจึงหยุดหันหลังกลับมามองอย่างแปลกใจเล็กน้อย

“ ก็ไปนอนที่มหาลัยฯ  เตรียมกิจกรรมรับน้องไงแม่  กิจบอกแม่ไปแล้วนะเมื่อวันก่อน  นั้นกิจไปแล้วนะ  หวัดดีครับแม่ “  สิ้นเสียงเขาก็รีบเดินออกไปจากห้องอาหารทันที  ในขณะที่ผู้เป็นแม่พยายามจะพูดทักท้วงแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

....................................

ที่โรงจอดรถ

กิจเดินเร่งๆ พลางสวมถุงมือหนังสีดำสำหรับขับมอเตอร์ไซต์  ก่อนจะเดินผ่านรถยนต์ยี่ห้อหรูหลายคันมายังบิ๊กไบต์คู่ใจสีขาวดำที่ตอนนี้คนรถกำลังเช็ดถูให้อยู่

“ อ้าวคุณกิจ  ผมทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้วนะครับ “ 

“ ขอบคุณครับลุงสมาน  เดี๋ยวกิจออกไปแล้วนะครับ “  เขายิ้มขอบคุณให้เหมือนเช่นทุกที  ก่อนจะขึ้นควบบิ๊กไบต์คู่ใจและขับออกไปจากบ้าน



.................................................



คุยกันก่อนอ่านนิยายครับ

เมื่อต้นปี2017 ผมเคยเขียนนิยายลง  แต่ไม่ทันจบก็มีเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาล  ช่วงนั้นสุขภาพผมแย่มากเลยครับ  กว่าจะดูแลตัวเองจนดีขึ้นกลับมาอีกทีนิยายก็ถูกลบไปแล้ว  เลยต้องขอโทษคนที่เคยอ่านและติดตามมาบ้างครับ

เพราะการป่วยครั้งนี้ทำให้มุมมองชีวิตของผมเปลี่ยนไปมาก  ตอนนั้นความตายอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อมจริงๆครับ  หมอบอกถ้าไม่รักษาตอนนั้นก็คงอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือนหรอก...  ถึงทุกวันนี้ผมจะดีขึ้นจนกลับมาเป็นเหมือนปกติแล้ว  แต่โรคนี้มันก็รักษาไม่ได้อยู่ดี  ซึ่งเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้เหมือนคนปกติ  โดยแลกกับการกินยาตลอดชีวิต

ผมพยายามคิดบวก  ไม่โทษอะไรเลย  เพราะมันคือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบกับการผิดพลาดที่ผ่านมา  อดีตก็ปล่อยมันผ่านไป...  ที่สำคัญคือ  จากนี้ไปต่างหาก

ผมเรียนรู้ว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้ยืนยาวมากนัก  ดังนั้นถ้าเรายังมีเวลาที่เหลืออยู่่อยากทำอะไรก็รีบทำ  และใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและดีที่สุด เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าวันตายจะมาเมื่อไหร่  แต่ถ้าเราทำมันดีที่สุดแล้ว  เมื่อวันนั้นมาถึงเราก็จะไม่เสียใจเลย

นิยายก็เป็นอีกสิ่งที่ผมอยากทำ  ผมมีความสุขกับการอ่านนิยาย  และก็อยากทำนิยายให้คนอ่านมีความสุขเหมือนกัน ^ ^

เรื่องนี้ผมเขียนใหม่หลังจากที่ร่างกายเริ่มฟื้นตัว  ตอนนี้เขียนไปได้ 32 chapters แล้ว จะทยอยลงแบบวันเว้นวันนะครับ  ส่วนวันแรกประเดิมปีใหม่ให้ 2 chapters เลยครับโผมมมม

หวังว่าจะมีความสุขกับการอ่านนะครับ  สามารถแนะนำหรือติชมได้เสมอนะครับ  น้อมรับเสมอเพื่อเอามาเป็นกำลังใจหรือพัฒนาปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ขอบคุณครับ  :mew5: ^ __________________________________ ^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 10:11:13
Chapter  1



กันต์’s  Part



สวัสดีครับ  ผมชื่อกันต์นะครับ  อายุ 18 ปี กำลังจะเป็นเฟรชชี่ในอีกไม่กี่วันนี้ในคณะวิศวกรรมศาสตร์  ภาควิชาอุตสาหการ 
วันนี้ผมมาที่บ้านเพื่อนของแม่ครับ  ซึ่งจะเรียกว่าบ้านก็คงจะไม่ถูก  น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์เลยมากกว่า  ตอนนี้ผมกับแม่กำลังนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก  ซึ่งผมได้แต่นั่งเงียบๆแหละครับ  ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน  ก็เรื่องเดิมๆ ของวัยนี้แหละครับ  ความหลังเก่าๆ  ความเป็นอยู่ปัจจุบันและจบด้วยเรื่องของผม.....

“ ฉันก็ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ  เพราะถ้าฉันกลับไปอังกฤษแล้วตากันต์ก็ต้องอยู่คนเดียวในเมืองไทยแบบนี้  ฉันก็ไม่สบายใจ  จะให้ไปเรียนที่นั่นด้วยเจ้าตัวดีนี่ก็ไม่ยอมไป “ 

แม่ผมเองครับ  แกกลับมาเมืองไทยหลังจากที่พ่อผมเสียไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้วด้วยโรคมะเร็ง  พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่ผมอายุยังไม่ถึง 10 ขวบเลยครับ  ผมต้องไปอยู่กับพ่อที่เป็นสถาปนิก  ในขณะที่แม่ก็แต่งงานใหม่ก็ชาวอังกฤษในอีกไม่กี่ปีต่อมา  แต่ท่านก็แวะเวียนมาเยี่ยมผมที่ย้ายไปอยู่ที่กระบี่บ้างนะครับ  แต่ตอนนี้พ่อผมเสียไปแล้ว  แม่เลยบินกลับมาดูแลเรื่องงานศพและตัวผม  ท่านอยากให้ผมไปอยู่ด้วย  แต่...  ผมทำตัวไม่ถูกหรอกครับ  แม่เขาก็มีครอบครัวใหม่ที่อบอุ่นอยู่แล้ว  ผมไม่อยากไปเป็นส่วนเกิน  และอีกอย่าง  ผมคงจะไม่ชินที่จะอยู่ที่นั่นและผมรักที่จะอยู่เมืองไทยมากกว่า  แต่เพราะคุณปู่ คุณย่า  รวมทั้งคุณตา คุณยาย  พวกท่านก็แก่มากแล้วและอยู่กันต่างจังหวัด  ในขณะที่ผมสอบติดและต้องมาเรียนในกรุงเทพฯแบบนี้  ผมก็เลยไม่สามารถไปอยู่ด้วยได้  ส่วนญาติคนอื่นๆก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะรับตัวภาระอย่างผมสักเท่าไหร่หรอกครับ  เมื่อหมดหนทางแม่เขาเลยต้องมาพึ่งเพื่อนเก่าแบบนี้

“ ไม่ต้องห่วง  กันต์ก็เหมือนหลานฉันคนหนึ่งนั่นแหละ  ให้มาอยู่กับฉันที่นี่แหละดีแล้ว  ส่วนตอนเปิดเทอมก็ให้ไปพักอยู่กับลูกชายฉัน  ‘ตากิจ’ ที่คอนโดก็แล้วกัน  เพราะใกล้มหาลัยฯแถมเรียนที่เดียวกันด้วย  จะได้ให้ตากิจช่วยดูแลน้อง “  คุณป้าพูดขึ้นก่อนจะหันมายิ้มให้กับผมอย่างเมตตา  ผมเลยยิ้มเจื่อนๆอย่างเกรงใจส่งให้ไปด้วยเช่นกันครับ

ผมลาแม่ในตอนเย็น  เพราะท่านต้องบินกลับไปวันนี้เลย  ส่วนผมที่หอบกระเป๋ามาแล้ว  ก็ต้องพักอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันนี้  คุณป้าแกใจดีมากครับ  แกเตรียมห้องไว้ให้ผมเรียบร้อยแล้ว  และบอกให้ผมคิดซะว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้านของตัวเอง 

เมื่อมาถึงมื้อเย็น  ผมก็ได้รู้จักกับสมาชิกของครอบครัวบ้านนี้เกือบทั้งหมดครับ  ทั้งคุณลุง  คุณป้า  รวมถึงน้องกานต์  ขาดก็แต่พี่ชายคนโตของบ้าน  เห็นว่าอายุมากกว่าผม 2 ปีและเรียนคณะเดียวกันกับผมด้วย  คุณลุงคุณป้าแกใจดีมากครับ  ส่วนน้องกานต์เองก็เป็นเด็กน่ารักและค่อนข้างจะเป็นกันเองกับผมดี

คืนนี้ผมหลับตาลงในบ้านหลังใหญ่  แต่กระนั้นผมกลับรู้สึกเหงาในหัวใจยังไงก็ไม่รู้  คิดถึงพ่อ  คิดถึงแม่  และคิดถึงบ้านหลังเก่าเล็กๆของผม  แต่ผมจะไม่ร้องไห้แล้วนะครับ  ผมต้องเข้มแข็งตามที่ให้สัญญาไว้กับพ่อก่อนที่ท่านจะเสีย  ไม่ว่าจะเจอกับอะไร  สุขทุกข์แค่ไหน  ผมก็ต้องเข้มแข็งและยืนหยัดต่อไปให้ได้  แม้ว่าจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากแค่ไหนก็ตาม


...................................


วันรุ่งขึ้น

เช้านี้คุณป้าให้ผมเตรียมเก็บข้าวของและเสื้อผ้าที่จำเป็นสำหรับการเรียนในมหาลัยฯ  เพราะบ่ายนี้คุณป้าจะพาผมไปที่คอนโดพี่กิจ  คอนโดที่ผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในช่วงที่เรียนอยู่นี้

หลังมื้อเที่ยงคุณป้าขับรถพาผมเข้ามายังบริเวณใกล้ๆมหาลัยฯ ที่ซึ่งผมจะได้เป็นนักศึกษาและกำลังจะเปิดภาคเรียนแรกในวันพรุ่งนี้แล้ว  ไม่นานคุณป้าก็ขับรถเข้ามายังคอนโดหรูในย่านนั้น  คือมันผิดจากที่ผมคิดไว้เยอะมาก  ผมว่ามันหรูเกินกว่าที่ระดับนักศึกษาทั่วไปอย่างผมจะสามารถอยู่ได้ 

คุณป้าพาผมที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าเพียงใบเดียวเดินผ่านประตูคีย์การ์ดและขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น 10 และเดินไปยังห้อง 108 ซึ่งเป็นห้องบริเวณมุมตึก  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นทำเลที่แพงกว่าห้องอื่นในชั้น  ก่อนจะใช้คีย์การ์ดใบเดิมปลดล็อคประตูห้องเข้ามาอีกครั้ง

ว้าว!!!....  ห้องนี้กว้างและหรูดูดีมากครับ  ซ้ายมือเป็นโซนห้องครัวใกล้กับประตูทางเข้า  มองตรงเข้าไปสุดทางเดินจะเป็นห้องนั่งเล่นกว้างขวาง  ซึ่งล้อมรอบไปด้วยกระจกใสตลอดแนว ทำให้มองเห็นวิวได้อย่างเต็มตา  มีม่านขาวรวบไว้อย่างเป็นระเบียบและบริเวณทางเดินซ้ายขวาก่อนถึงก็คงจะเป็นห้องนอน 2 ห้องซึ่งหันประตูชนกัน  คุณป้าเดินนำผมเข้าไปยังห้องนั่งเล่น  ซึ่งมีเซตโซฟาหนังสีดำ  เข้าเซตกับทีวี เครื่องเสียง ชั้นหนังสือ ชั้นวางของที่ออกแบบมาแบบบิ้วอิน  หันหลังกลับจากห้องรับแขกไปก็มีพื้นที่ซึ่งถูกจัดเป็นโซนออกกำลังกาย  มีเครื่องเล่นอยู่3-4 ชนิด  ซึ่งบ่งบอกถึงว่าเจ้าของห้องคงเป็นคนรักสุขภาพน่าดู

“ เอ้านี่จ๊ะ  คีย์การ์ดของห้องนี้นะกันต์  ป้าให้เราเลย “ คุณป้าส่งคีย์การ์ดมาให้  ผมเลยยกมือไหว้พร้อมกับรับมา

“ นี่ตากิจไม่รู้หรอกนะว่าป้ามีคีย์การ์ดห้องนี้อีกใบ  ฮะๆๆ “ คุณป้าพูดติดตลก  ในขณะที่ผมก็ได้แต่ยิ้มรับแหยๆไปเท่านั้น

คุณป้าพาผมไปดูยังห้องว่างห้องหนึ่ง  ซึ่งข้างในตกแต่งไว้แล้วจนผมแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย  แค่เอาเสื้อผ้ามาก็เข้าอยู่ได้ทันที  จากนั้นคุณป้าก็แนะนำอะไรผมต่ออีกเล็กน้อย  และไม่ลืมที่จะกำชับว่า  ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้โทรหาหรือไปที่บ้านคุณป้าได้เลย  ให้คิดซะว่าผมเป็นหลานของท่าน  จากนั้นท่านก็กลับไป  เหลือเพียงแค่ผมอยู่ในคอนโดหรูห้องนี้เท่านั้น

ผมจัดแจงกับของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินออกมาสำรวจห้องอีกครั้ง  แต่ไม่ระราบละล้วงเข้าไปยังห้องนอนอีกห้องนะครับ  ก่อนจะมานั่งดูทีวีที่โซฟา  พอตกเย็นก็เริ่มหิวครับ  จะออกไปหาอะไรกินตอนนี้ก็ยังไม่คุ้นชินกับสถานที่  เลยเดินไปที่ตู้เย็นเผื่อจะมีอะไรให้กินได้บ้าง  เดี๋ยวไว้ค่อยซื้อมาคืนพี่เขาทีหลังก็แล้วกัน  แต่พอเปิดตู้เย็นมานะครับ...  สิ่งแรกที่สายตาเห็นก็คือเครื่องดื่มต่างๆ  ทั้งแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำเปล่า  ผมต้องก้มลงไปยังชั้นล่างๆ ถึงจะเจออาหารสำเร็จรูปจำพวกไส้กรอก  ปีกไก่รมควัน  แฮมและเบค่อน  ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปจากร้านสะดวกซื้อ  และผมก็ต้องเลือกมาดีๆ ด้วยนะครับ  เพราะบางอันมันก็หมดอายุไปแล้ว  ท่าทางพี่เขาคงจะเป็นพวกต้องการความสะดวกรวดเร็วและไม่ทำอาหารเองแน่ๆ  เพราะไม่มีของสดอะไรเลยในตู้เย็น  ผักหรือผลไม้อะไรก็ไม่มีครับ  เป็นผมนี่ไม่ได้  ชอบทำอาหารครับ  เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับพ่อกันสองคน  ก็มีผมเนี่ยแหละครับที่เป็นพ่อครัว...

ผมเอาไส้กรอกออกมา 2 ถุงและนำไปเวฟ  ก่อนจะมาคัดเอาของที่หมดอายุออกจากตู้เย็นให้พี่เขา 
หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ  ผมก็ทิ้งตัวลงไปยังโซฟายาวอีกครั้ง  มองไปไกลๆผ่านกระจกด้านนอกก็เห็นตึกมากมายที่เริ่มเปิดไฟกันบ้างแล้ว  เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนจากสีครามไปเป็นสีน้ำเงินดำ 
เหงาจังเลยครับ....
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-01-2018 10:16:22
จิ้มๆๆๆๆ
รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 10:17:53
ผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้  มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา  ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์ไปด้วยขณะที่ปิดประตูลงและเปิดไฟสลัวจากดาวไลท์  ทำให้ห้องยังคงไม่สว่างมาก  ผมยังไม่กล้าขยับตัวครับ  รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้บุกรุกยังไงไม่รู้  เพราะผมเดาว่าคนที่เข้ามาก็คงจะเป็นพี่กิจเจ้าของห้องแน่ๆ  และพี่เขาก็คงจะไม่เห็นผมเพราะความมืดที่สลัวและขอบโซฟาที่บังผมอยู่  รู้สึกใจเต้นตึกตักๆ  ขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิครับ

ผมได้ยินเสียงพี่เขาเปิดประตูห้องนอนเข้าไป  บางทีผมควรจะลุกขึ้นและเดินเข้าไปแนะนำตัวกับพี่เขาตอนนี้เลยดีกว่า  ผมลุกขึ้นนั่งบนโซฟาและหันไปมองยังประตูห้องของพี่เขาก็เห็นว่ามันเปิดอยู่และมีแสงไฟสว่างจ้าสาดออกมาจากภายใน  และไม่ทันที่ผมจะลุกขึ้นจากที่  พี่เขาก็เดินออกมาจากห้องในสภาพที่ถอดเสื้อออก  ใส่เพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียว  เผยให้เห็นหุ่นสมบูรณ์แบบที่ผมเชื่อว่าละลายใจสาวๆได้แทบจะทุกคน  ไม่แปลกเลยที่มีเครื่องออกกำลังกายไว้ในห้องแบบนี้

“ เดี๋ยวนะมึง... “

พี่เขามองมาทางผม  ก่อนจะวางสายโทรศัพท์และเก็บมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกง  ใบหน้าหล่อๆมองผมด้วยความแปลกใจจนผมทำตัวไม่ถูก  หวังว่าพี่เขาคงจะไม่คิดว่าผมเป็นขโมยหรอกนะครับ...

“ เห้ย!!! “

พี่เขาตวาดเสียงดัง  พลางถลาตัวเข้ามาหาผมด้วยความรวดเร็ว  ผมตกใจมาก  ผงะตัวไปเล็กน้อยจนทำอะไรไม่ถูก  ก่อนจะถูกแขนแข็งแรงคว้าข้อมือ  ล็อค  และกดผมหน้าติดเบาะโซฟาจากทางด้านหลัง  มันไวและแข็งแรงมากจนผมตั้งตัวไม่ทัน  และผมในตอนนี้ก็แทบจะขยับตัวอะไรไม่ได้เลย...

“ มึงเป็นใครวะ!!! “  เสียงตวาดดังขึ้นอย่างดุดันจากทางด้านหลัง  จนผมรู้สึกกลัวขึ้นมาในทันที

“ คือ..  คือ... “  ความกลัวทำให้ผมเริ่มคิดอะไรไม่ออก  ได้แต่พูดซ้ำๆไม่รู้เรื่องอยู่อย่างนั้น

“ ขโมย!!! “

“ ปะเปล่าพี่!!!  คือ..  คือ...  ผมเป็นลูกของเพื่อนแม่พี่  ที่บอกว่าจะขอมาอยู่ด้วยกับพี่อะครับ “  ในที่สุดผมก็พูดออกมาได้สักที  พี่เขาเงียบเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรวบแขนและกดหลังผมติดโซฟาแน่นอยู่เหมือนเดิม

“ หมายความว่าไง ?  แม่กูเนี่ยนะที่ให้มึงมาอยู่ด้วย “  พี่เขาถามขึ้น

“ ก็ใช่น่ะสิครับ  ไม่เชื่อพี่ก็ลองโทรไปถามคุณป้าดูสิ “  ผมพูดจบ  พี่เขาก็เอามือล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง  โดยที่อีกมือยังคงจับข้อมือผมและกดผมติดโซฟาอยู่เหมือนเดิม

“ ฮัลโหลแม่....  นี่แม่ให้เด็กนี่มาพักกับกิจจริงเหรอ ?  อะไรนะ...  แม่....กิจก็บอกแม่ไปแล้วไงว่าไม่...  ไม่รู้ล่ะไว้ค่อยคุยต่อนะ  กิจจัดการเรื่องตรงนี้ก่อน “  ว่าจบพี่เขาก็วางสายไป  ก่อนจะคลายมือพร้อมทั้งลุกขึ้นยืนจากที่คร่อมร่างผมอยู่  แต่จากที่ได้ยินเสียงที่พี่เขาสนทนาผ่านสายเมื่อสักครู่  ก็พอทำให้รู้ว่าคนตรงหน้านี้ไม่ได้ยินดีและเต็มใจที่จะให้ผมมาพักด้วยกับเขาสักเท่าไหร่  ดังนั้นแล้วผมก็เลยได้แต่ทำหน้าสลดไม่กล้ามองหน้าพี่เขาตรงๆ  หรือบางทีผมควรจะรีบเก็บของออกไปจากห้องนี้เสียเลยด้วยซ้ำ

ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนตรงหน้าก่อนที่พี่เขาจะเริ่มพูดขึ้น

“ คือกูไม่รู้นะว่าแม่กูบอกกับมึงว่ายังไง  เรื่องที่จะให้มาพักอยู่กับกู  แต่...  ขอโทษนะคือกูไม่สะดวกที่จะให้มึงมาพักด้วย  ขอพูดตรงๆ ละกัน “

พี่เขาพูดจบผมก็เลยเงยหน้ามองพี่เขาตรงๆ  รู้สึกใจแป้วยังไงก็ไม่รู้สิครับที่ได้ยินแบบนี้  คือมันทำตัวไม่ถูกเลยครับที่ได้ยินเจ้าของห้องพูดให้ผมออกไปจากห้องเขาตอนนี้  แล้วผมจะไปอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ยคืนนี้  แถมพรุ่งนี้ก็เปิดเทอมแล้วด้วย...

“ นั้นก็...  รบกวนเก็บของออกไปเลยนะ  ถ้าไม่รู้จะไปไหนคืนนี้ก็กลับไปหาแม่กูที่บ้านก็ได้ “  พี่เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและหน้านิ่ง  ก่อนจะเดินผ่านผมกลับไปยังห้องนอน

“ อ้อ...  หวังว่าถ้ากูออกมาจากห้องอีกครั้งคงจะไม่เจอมึงแล้วนะ “  สิ้นเสียงพี่เขาไม่นานก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้องดังปั้ง  ผมที่ยืนตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก  รู้สึกเหมือนกำลังอยากจะร้องไห้ให้ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น  ท่าทางฉุนเฉียวและน้ำเสียงที่ดุดันเมื่อสักครู่  มันทำให้ผมรู้สึกกลัวและคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนกาฝากที่ไม่มีใครต้องการเลย  แบบนี้แล้วผมจะกล้ากลับไปหาคุณป้าได้อีกเหรอ...

ถึงจุดนี้...  ผมรู้สึกได้ถึงความโดดเดี่ยว  อ้างว้าง...  แล้วน้ำตามันก็เหมือนจะเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตา...

แต่....  ผมจะร้องไห้ไม่ได้...  ก็ผมสัญญากับพ่อไว้แล้วนี่ว่าผมจะต้องเข้มแข็งและไม่ร้องไห้

ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อให้น้ำตาที่เอ่อออกมาไม่ไหลลงมา  ก่อนจะกระพริบตาเล็กน้อย 

ผมจะต้องเข้มแข็งและอยู่ต่อไปให้ได้ด้วยตัวเอง...

เมื่อทุกอย่างดีขึ้น  ผมรีบเดินกลับเข้าไปภายในห้องเพื่อเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว  ในเมื่อเจ้าของห้องไม่ได้อยากให้เราอยู่  ผมก็ไม่หน้าด้านพอที่จะอยู่หรอกครับ  คืนนี้ก็ไปหาอพาร์ทเม้นหรือโรงแรมนอนไปก่อน  พรุ่งนี้เรียนเสร็จค่อยหาหอพักแถวมหาลัยอยู่ก็ได้

ผมรูดซิบปิดกระเป๋าเสร็จก็เดินออกมาจากห้อง  ประจวบกับที่พี่เขาเปิดห้องออกมาพอดี  ผมว่าผมเก็บของไวแล้วนะ  เพื่อที่จะได้ออกไปก่อนที่พี่เขาจะออกห้องมา 

เราเผชิญหน้ากันนิ่ง  ผมที่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่เพียงมองสายตาเย็นชาของคนตรงหน้าเท่านั้น

“ แล้วนี่จะไปนอนไหน “  พี่เขาถามน้ำเสียงเรียบ  ผมอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากตอบออกไปตามที่ตัวเองคิดและตัดสินใจไปเมื่อสักครู่

“ ก็คงหาโรงแรมหรือไม่ก็ห้องพักรายวันนอนไปก่อนอะครับ  แล้วพรุ่งนี้เรียนเสร็จก็ค่อยไปหาหอพักอยู่ใกล้ๆมหาลัย...  เอ่อ...  มันก็สะดวกดีครับแบบนั้น “  ผมบอกไปก่อนจะยิ้มเจื่อนๆให้  ทว่าคนตรงหน้าก็ยังคงมีใบหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิม

“ เอ้อ...  เกือบลืม  นี่ครับพี่  คีย์การ์ด “  ผมล้วงเอาคีย์การ์ดที่คุณป้าทิ้งไว้ให้  ก่อนจะส่งไปให้พี่เขา  พี่เขารับมันไว้ในมือก่อนจะเหลือบตาขึ้นมามองผม  สายตายังคงเย็นชาเหมือนเดิม  และก็ไม่มีคำพูดอะไรตอบกลับมาทั้งนั้น

“ เอ่อ..  นั้นผมไปก่อนนะครับ...  แล้ว...  ขอโทษที่เข้ามารบกวนพี่แบบนี้... “  เมื่อไม่รู้จะทำอะไรผมก็เลยกล่าวลาพี่เขาไปพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ ส่งให้  ก่อนจะหันหลังเดินตรงไปยังประตูห้อง

“ เดี๋ยว!!! ...”

เสียงพี่กิจดังขึ้นทำให้ผมชะงักเท้าลงและหันหลังกลับไปมองยังพี่เขาอีกครั้ง

“ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ “

พี่เขาพูดมาอย่างนี้  ส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้าไม่เข้าใจมองตอบกลับไป

“ หมายความว่า... “

ผมกำลังจะเอ่ยถามขึ้น  แต่ยังไม่ทันจะจบประโยค  พี่เขาก็พูดสวนขึ้นมาทันที

“ กูให้มึงอยู่ที่นี่ก็ได้  แต่ว่ามันก็ต้องมีข้อแม้อยู่นะ....? “





TBC.     
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 10:50:05
Chapter 2



กันต์ 's  Part




ที่ห้องรับแขก

ผมวางกระเป๋าไว้ข้างๆ โซฟาเดี่ยวก่อนจะร่นตัวนั่งลงไป  ส่วนพี่กิจนั่งอยู่ที่โซฟายาวตัวที่ผมนอนไปเมื่อตอนเย็น  สีหน้าพี่เขายังนิ่งเฉย  สายตาเย็นชายังคงจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่วางตา

“ เข้าเรื่องเลยนะ  อันที่จริงกูก็ไม่เห็นด้วยกับแม่หรอกที่จะให้มึงมาพักที่นี่  เพราะกูไม่ค่อยชอบให้ใครมาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของกู “  พี่กิจเริ่มว่ามาครับ  ถึงพี่ไม่บอกผมก็พอรู้  เล่นเอาซะผมน้ำตาแทบเล็ดไปแบบนั้น

“ แต่เมื่อกี้แม่กูโทรมา  บอกว่ายังไงก็จะให้มึงอยู่ที่นี่ให้ได้  กูก็เลยไม่อยากขัดใจ  แต่ว่า...  “ พี่กิจหยุดพูดเล็กน้อย  ให้ผมตื่นเต้นตามไปด้วยกับสิ่งที่พี่เขาจะบอกต่อมา

“ ในฐานะที่มึงเป็นผู้ขออาศัย  มึงก็ต้องทำตามกฎที่กูจะบอกต่อไปนี้ “

ผมพยักหน้าเล็กๆ รับไปอย่างว่าง่าย  เพราะมันก็ถูกของพี่เขาที่ผมเป็นเพียงแค่ผู้มาขออาศัย
 
“ ข้อแรก....  มึงต้องไม่บอกใครว่าพักอยู่กับกู  และห้ามพาใครมาห้องนี้โดยเด็ดขาด “

ผมพยักหน้ารับไปอย่างว่าง่ายครับ 

“ ข้อสอง...  ห้องนี้ต้องทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง  และมึงต้องเป็นคนทำหน้าที่นี้ “

อันนี้ผมก็รับได้ครับ  สบายมาก  ว่าแล้วผมก็พยักหน้ารับต่อ

“ ข้อสาม...  ถ้าไม่ทำความสะอาดห้ามเข้าห้องกูเป็นอันขาด “

ผมก็ยังคงพยักหน้ารับเหมือนเดิมครับ  เพราะใครจะอยากเข้าไปยุ่งกับห้องของคนดุๆ และเย็นชาแบบนี้กันละครับ

“ ดีมาก  เท่าที่คิดได้ตอนนี้ก็มีเท่านี้ “

เอ๋ ?  นี่แปลว่าถ้าคิดอะไรเพิ่มได้ก็จะออกกฎออกมาอีกเหรอ  แย่แล้วล่ะไอ้กันต์  คราวนี้มึงไม่ได้อยู่สบายๆแน่

“ ถ้างั้นก็เอาข้าวของเข้าไปเก็บในห้องซะ “

“ ครับผม “  ผมเริ่มขานรับอย่างเป็นทางการแล้ว  ราวกับถูกสั่งจากเจ้านายเสียอย่างนั้นเลย

“ ว่าแต่มึงชื่อไรนะ “

“ กันต์ครับ “

“ เห็นแม่บอกว่ามึงอยู่คณะวิศวะใช่มั้ย “

“ ครับ “

ผมตอบไป  พี่เขาก็พยักหน้าเข้าใจเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“ พรุ่งนี้เข้าเชียร์ด้วย...  และห้ามโดดเชียร์เด็ดขาด “

และนี่ก็คือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของพี่เขาในคืนนี้  คนอะไรดุเป็นบ้าเลย  เย็นชาก็ที่หนึ่ง  บ้าอำนาจก็ที่หนึ่ง  ถึงหน้าตาจะหล่อมากก็เหอะแต่ถ้านิสัยแบบนี้นะ  เชื่อผมเหอะ  ไม่มีสาวคนไหนอยากเป็นแฟนด้วยหรอก
สาธุ  ขอให้โสดไปตลอดชีวิตเลย  เพี้ยง.....



..................................



เช้าวันต่อมา

เสียงมือถือปลุกผมให้ลุกจากเตียงตอน 7 โมงเช้า  ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกสำหรับชีวิตเฟรชชี่ในรั้วมหาลัยฯ ของผม 

ผมเปิดประตูห้องออกมาอย่างงัวเงีย  ก่อนจะได้ยินเสียงทีวีซึ่งเป็นการรายงานข่าวของเช้าวันนี้  พร้อมด้วยเสียงเหมือนคนกำลังวิ่งอยู่...

โห...  ผมว่าผมตื่นเช้าแล้วนะครับ  แต่คุณชายเย็นชากลับตื่นก่อนผมมาออกกำลังกายแถมฟังข่าวได้แบบนี้  บ่งบอกได้ชัดเลยครับว่าเป็นคนเจ้าระเบียบแค่ไหน

ผมยืนมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่มีคราบเหงื่อสะท้อนเป็นเงาจากแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านกระจกใสเข้ามากระทบ  หุ่นแบบนี้คนอย่างผมไม่มีทางมีได้แน่  แค่จะออกกำลังกายยังขี้เกียจเลยครับ  แถมเรื่องกินนี่ก็เก่งใช่ย่อย  จะให้มาดูแลตัวเองแบบนี้ไม่มีทางหรอก

ผมมองพี่เขาวิ่งอยู่บนลู่วิ่งนานเท่าไหร่ไม่รู้  แต่มันก็เพลินตาดีนะครับ  มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงพี่เขาดังขึ้น

“ มองอะไร “  ทำอย่างกับมีตาหลังเสียอย่างนั้น  รู้ด้วยเหรอว่าผมกำลังมองอยู่

“ เปล่าครับ  กำลังจะไปกินน้ำ “  ผมตอบไป

“ อาหารเช้าก็หาดูเอาในตู้เย็นละกันนะ  แล้วเวฟเผื่อกูด้วย “  ปากสั่งงานแต่ไม่หันมามองผมเลยสักนิดครับ  เอาแต่วิ่งๆ แล้วก็วิ่ง  ผมเลยทำหน้าล้อเลียนส่งให้ไปเล็กๆ  ก่อนจะเดินไปทำตามคำบัญชาของคุณชายท่าน

ผมหยิบไส้กรอกค๊อกเทล 2 ถุงเข้าเวฟ  ก่อนจะใส่จานของผมและของคุณชาย  แล้วหยิบเอาซอสมะเขือเทศมาเทไว้ที่ขอบจาน  และนมอีก 2 แก้ว  เป็นอันเสร็จพิธีสำหรับมื้อเช้าอันเร่งด่วนแบบนี้

“ กูไม่กินนมตอนเช้า “ 

น้ำเสียงเรียบเฉยมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่  เปลือยให้เห็นแผ่นอกหนากว้าง  โดยมีผ้าขนหนูสีขาวพาดอยู่ที่ไหล่ข้างซ้าย  พี่เขาเดินเลยผมไปยังเคาท์เตอร์ครัวและชงกาแฟกลิ่นหอม  ก่อนจะมานั่งยังฝั่งตรงข้ามกับผมบนโต๊ะกินข้าวกลมเล็กๆ

เมื่อต้องนั่งเผชิญหน้ากันห่างไม่ถึงเมตรแบบนี้  ทำเอาผมกลืนไส้กรอกแสนอร่อยแทบไม่ลงคอเลยทีเดียว

“ เป็นอะไร  ทำไมไม่กินล่ะ  เรียนวันแรกไม่รีบกินเดี่ยวก็ไปสายหรอก “

“ คะครับ “  ว่าแล้วก็รีบกิน  รีบไปอาบน้ำดีกว่า  ไม่ได้กลัวไปสายหรอกนะครับ  แต่กลัวคนตรงหน้านี่ต่างหาก


.....................................................


ที่หน้าคอนโด

ผมออกห้องมาช้ากว่าพี่เขา  ทั้งๆที่ผมอาบน้ำก่อนแท้ๆ  คนอะไรเร็วเป็นบ้าเลยครับ  ผมมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ  ยังเหลืออีก 20 นาที  ทันสบายอยู่แล้วจากที่นี่ไปมหาลัยฯ

“ เชี่ย!!!! “

ผมสบถขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ ก็ถูกรถบิ๊กไบต์สีขาวคันหนึ่งขี่ปาดหน้าผมไปอย่างไว  เฉียดไปนิดเดียวเอง  ถึงผมจะไม่ทันดูก็เหอะ  แต่เขาก็ควรจะขับระวังคนหน่อยนะครับ

ผมกำลังจะเดินเข้าไปหารถบิ๊กไบต์กวนบาทาคันดังกล่าวที่หยุดจอดห่างผมออกไปไม่ถึง 20 เมตร  งานนี้ขอด่าสักหน่อยเหอะ 
 
“ เดินไม่ระวังแบบนี้ระวังจะโดนชนเข้าสักวันเหอะ !!! “

จากที่คิดจะเข้าไปต่อว่า  กลับต้องหยุดเท้าลงเมื่อเจ้าของบิ๊กไบต์หันมาและเปิดกระจกดำที่หมวกกันน๊อคหนาขึ้นออกให้เห็นใบหน้าเพียงบางส่วน  แต่ผมจำได้แม่นครับ  ใบหน้าแบบนี้  น้ำเสียงแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณชายเย็นชานั่นเอง

“ แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว  วันแรกก็จะไปสายแล้วเหรอ “  ว่าจบพี่เขาก็เลื่อนหน้ากากหมวกลงก่อนจะขับรถออกไป  ผมได้แต่ยืนอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น

ก็ถ้าคิดว่าผมจะสายพี่ก็ให้ผมติดรถไปด้วยสิครับ...  เอาแต่ว่าๆๆ  แล้วก็ว่า  คนอะไรวะแม่งดุชิบหาย

แต่ว่า...  เดี๋ยวผมก็จะสายจริงๆหรอกมัวแต่มายืนคิดอยู่แบบนี้  ว่าแล้วผมก็รีบออกไปหาวินมอเตอร์ไซร์แถวปากทางเข้าไปยังมหาลัยฯ  ดีกว่า



หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 10:56:50
ที่มหาลัยฯ

ผมลงจากมอเตอร์ไซร์รับจ้าง  พร้อมกับดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ  เห็นว่ายังเหลืออีก 10 นาทีก่อนจะถึงเวลาเรียน  แต่ว่า...  ผมยังไม่รู้เลยครับว่าห้องเรียนผมมันอยู่ตรงไหน  คณะก็กว้างตึกก็เยอะ  วันแรกก็ซวยแล้วไอ้กันต์เอ้ย...

“ ไอ้กันต์!!! “ 

เหมือนได้ยินเสียงใครบางคนเรียกผมเลยครับ  พอหันไปมองรอบๆ ผมก็ยิ้มออกเมื่อเห็นไอ้เรย์เพื่อนจากโรงเรียนเก่านั่งโบกมือป้อยๆอยู่ที่บันไดหน้าตึกๆหนึ่ง

นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมเลือกที่จะอยู่ที่เมืองไทย  เพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมต้น  และการเจอมันที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกครับ  เมื่อผมกับมันตั้งใจจะมาเรียนด้วยกันที่นี่อยู่แล้ว  และก็ทำสำเร็จ  แต่กว่าจะได้นี่ก็อ่านหนังสือกันแทบบ้าเลยละครับ

“ นี่กูรอตั้งนานแล้วนะเว้ย  นึกว่ามึงเปลี่ยนใจไปอังกฤษกับแม่มึงซะแล้ว “  มาถึงมันก็พูดเหน็บเบาๆ เลยครับ  แหม..  รอนิดรอหน่อยทำเป็นบ่นไปได้

“ ก็กูบอกแล้วว่าจะมาเรียนกับมึง  แล้วกูจะไปได้ไงวะ “

“ ดีมาก...  ต้องให้ได้อย่างนี้สิวะ “

“ ว่าแต่เรียนที่ไหนวะ  มึงรู้ปะ...  นี่จะสายแล้วเนี่ย “  ผมบอกไป  เพราะนี่คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การทักทายสักเท่าไหร่

“ เออ...  กูไปสำรวจมาหมดละ  มึงตามกูมาก็พอ “

สุดท้ายทั้งผมและไอ้เรย์ก็เข้าเรียนกันโดยไม่สาย  แม้เวลาจะเฉียดฉิวก็ตามที

ส่วนเช้านี้ก็ยังไม่มีการเรียนการสอนอะไร  นอกจากการแนะนำเนื้อหาที่จะเรียน  จากนั้น  พวกรุ่นพี่ปี 2 ก็เข้ามาบอกให้พวกเราเข้ารับน้องกันในตอนเย็นหลังเลิกเรียนด้วย


.................................


ที่โรงอาหารคณะ

“ แล้วมึงพักที่ไหนวะ “  ไอ้เรย์ถามขึ้นขณะที่พวกเรากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ครับ  ได้ยินมันถามมาอย่างนี้ผมก็นึกไปถึงข้อห้ามของคุณชายท่านทันทีว่าห้ามบอกใครเรื่องที่ผมพักอยู่กับท่าน

“ เอ่อ...  ก็พักอยู่กับลูกพี่ลูกน้องกูน่ะ  ไม่ไกลจากมอเท่าไหร่หรอก “  ผมโกหกมันไปครับ  ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่มีหรอกลูกพี่ลูกน้องอะไรเนี่ย  มันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะถามผมต่อ

“ แต่มึงมาอยู่กับกูได้นะเว้ย  หอกูแถวๆนี้เอง “  ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมก็คงจะตอบตกลงไปแล้ว  แต่นี่เพราะความเกรงใจคุณป้าที่อุตส่าห์พูดให้ผมได้อยู่ที่นั่นได้และไม่อยากให้แม่ต้องเป็นห่วงมาก  ก็เลยต้องจำใจอยู่กับคนใจดำและเย็นชาแบบนั้น

“ ขอบใจเว้ย  แต่ไม่ได้หรอก  แม่กูฝากฝังไว้  เดี๋ยวแกโทรมาเช็คแล้วกูจะงานเข้าเอา “

“ อืมๆ  เอาที่มึงสะดวกก็แล้วกัน “

ผมกินข้าวไปได้อีกแปบ  เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาข้างๆครับ

“ นายๆ  ตรงนี้ว่างอยู่ป่าววะ “  เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น  ซึ่งผมจำหน้าได้ว่าเขาเรียนอยู่ sec เดียวกับผม

“ ว่างๆ นั่งได้เลย “  ผมบอกไป  ซึ่งเขากับเพื่อนอีกคนก็วางจานข้าวและแก้วน้ำลงข้างๆ ผมกับไอ้เรย์  จากนั้นผมก็ได้เพื่อนใหม่ในคณะเพิ่มขึ้นอีก 2 คนคือไอ้แน๊ค  ซึ้งก็คือคนที่ถามผม  และอีกคนที่มาด้วยกันก็คือไอ้เจมส์


..................................................


5 โมงเย็น ณ หอประชุมคณะ

พวกผมมากิจกรรมรับน้องตามที่พวกพี่ปี 2 บอก  ซึ่งบริเวณหน้าหอประชุมคณะตอนนี้ก็มีบรรดาเหล่าเฟรชชี่ทยอยมากันเรื่อยๆ  พวกผมเดินไปเซ็นชื่อเพื่อรับป้ายชื่อไว้คล้องคอที่บริเวณหน้าทางเข้าหอประชุมกันครับ

“ 0014  น้องกันต์ “  เสียงพี่ผู้หญิงพูดขึ้นเมื่ออ่านชื่อผมจากใบเซ็นชื่อตามรหัสนักศึกษา  จากนั้นพี่เขาก็นำป้ายที่ทำจากกระดาษแข็งสีขาวคล้องด้วยเชือกมาเขียนชื่อผมและรหัสนักศึกษาสี่ตัวท้ายลงไป  แต่ก่อนที่ผมจะได้เดินออกไปจากบริเวณนี้เหมือนคนอื่นๆ  พี่เขาก็ตระโกนเหมือนเรียกเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา

“ ซีๆ!! “

จากนั้นผมก็เห็นพี่ผู้ชายน่ารักๆคนหนึ่งหันมาตามเสียงเรียก  พร้อมทั้งทำหน้าเหมือนจะถามว่าอะไรตอบกลับมา

“ น้องรหัสแกอะ “

พี่ผู้หญิงพูดจบ  พี่ผู้ชายคนดังกล่าวก็เดินเข้ามาหาผมทันที  นี่น่ะเหรอพี่รหัสปี 2 ของผม  น่ารักใสๆ สไตล์เกาหลีเลยครับ

“ หวัดดี  พี่ชื่อพี่ซีนะ  เป็นพี่รหัสปี 2 “  พี่เขาแนะนำตัวพร้อมทั้งส่งยิ้มมาให้ครับ  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปให้ด้วยเช่นกัน

“ ผมกันต์ครับ “

“ อื้ม..  นั้นเดี่ยวพี่ขอเบอร์น้องไว้หน่อยนะ  เดี๋ยวพี่จะได้โทรหาเวลามีอะไร  หรือถ้าน้องมีอะไรก็โทรหาพี่ได้นะ “  พี่เขาบอกมาครับ  ผมเลยส่งโทรศัพท์ให้พี่เขาไปเมมเบอร์

“ ได้ทุกเรื่องน้อง  แต่ห้ามไปจีบพี่เขานะ  เพราะแฟนพี่เขาดุ “  แล้วพี่ผู้หญิงก็เริ่มแซวกันเองกับเพื่อน  ส่วนพี่รหัสผมก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบไปเล็กๆ ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนมาให้ผม

จากนั้นพวกผมทั้งสี่คนก็พากันเข้าไปยังภายในหอประชุม  ซึ่งตอนนี้รุ่นพี่ปีสองต่างก็กำลังเอนเตอร์เทรนพวกเรากันอย่างสนุกสนาน  แต่สักพักทุกอย่างก็เงียบลง  และพี่ปีสองที่เคยอยู่หน้าเวทีก็ทยอยพากันเดินออกไป  ท่ามกลางความสงสัยและเสียงฮือฮาของบรรดาเหล่าปีหนึ่งที่เกิดขึ้น

“ เงียบ!!! “

เสียงตวาดดังก้องไปทั่วทั้งหอประชุม  ทุกคนเงียบลงพร้อมกับจ้องไปยังต้นเสียงที่อยู่ด้านหน้าอย่างตกใจ  หลายคนคาดไม่ถึงว่าจะเจออะไรแบบนี้  มันไวมากจากเสียงหัวเราะเมื่อสักครู่กลายมาเป็นความกดดันในตอนนี้

“ เชี่ย  พวกพี่ว๊ากเถื่อนชิบหาย “  ไอ้เรย์มันกระซิบกระซาบเบาๆข้างผม  เมื่อเห็นกลุ่มพี่วากด้านหน้าที่หน้าตาดุดัน  หนวดเครารุงรังราวกับนักเลงหน้าปากซอยยังไงอย่างนั้น

“ เออว่ะ  แม่งถูกปล่อยออกมาจากคุกเปล่าวะเนี่ย “  ไอ้แน็คที่อยู่หลังผมเสริมขึ้นเบาๆ  ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มพยักหน้าเล็กๆ เห็นด้วยกับความคิดมันครับ

“ ผมบอกให้เงียบไง!!!! “ 

ก็เงียบกันแล้วนี่ไง  ไม่ต้องตวาดกันก็ได้คร้าบพี่

“ ปี 1 ฟัง!!! “

……

“ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับพวกคุณด้วยที่สอบติดเข้ามาเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งนี้!!!  แต่ว่า..!!.  ถึงพวกคุณจะเข้ามาแล้ว!!!  พวกผม...!!!  ก็ยังไม่ได้รับคุณเข้ามาเป็นรุ่นน้องหรอกนะ!!! “

“ จนกว่าพวกคุณจะแสดงให้พวกผมเห็น!!!  ว่าพวกคุณเหมาะสม!!!  ที่จะมาเป็นรุ่นน้องของพวกผม!!! “

“ ดังนั้น!!!  พวกคุณต้องเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์!!!  และร่วมในทุกๆกิจกรรม!!!!  เพื่อแสดงให้พวกผมได้เห็นว่า!!!  พวกคุณ!!!  เหมาะสมหรือไม่!!!  ที่จะมาเป็นรุ่นน้องของพวกผม!!!! “

“ และทีนี้!!!   ผมจะแนะนำ!!!  ประธานเชียร์ปี 3!!!  ให้พวกคุณได้รู้จัก !!!! “

หลังจากที่กลุ่มพี่ว๊าก  ผลัดกันพูดเสียงดังให้พวกเราได้รับรู้จนเสร็จสิ้นแล้ว  คราวนี้ก็ถึงคิวของพี่เป้งหัวหน้ากลุ่มแล้วละครับ  ไหนขอดูหน้าหน่อยซิว่าจะนักเลงและป่าเถื่อนแค่ไหน...

“ แก๊!!!  ดูดิแก๊!! “

“ โครตหล่อเลยอะ “

เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้น  โดยเฉพาะสาวๆ  เมื่อสายตาเริ่มมองเห็นชายร่างสูงสวมชุดนักศึกษาผูกไทร์ตามแบบฟอร์มที่ถูกต้องของนักศึกษา  ต่างจากพวกพี่ๆปี 3 ที่สวมเสื้อช๊อปกางเกงยีนต์เหมือนเด็กช่างทั่วๆไป  กำลังเดินตรงเข้ามาอยู่บริเวณกลางเวที

ว่าแต่... 

มัน... 

คุ้นๆนะ... 

หรือว่า..   

แต่.. ไม่ใช่หรอกมั้ง…

ผมถึงสายตาจะสั้นไม่มากก็ตาม  แต่เมื่อนั่งอยู่เกือบท้ายแถวแบบนี้  มันก็มองไม่ค่อยจะชัดสักเท่าไหร่  แต่เมื่อเพ่งมองดูดีๆแล้ว...

บอกได้คำเดียวว่า...

เชี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 14:58:13
Chapter  3



กันต์ 's  Part




“ ดังนั้น!!  พวกคุณทุกคน!!  ต้องปฏิบัติตามที่พวกผมและรุ่นพี่ทุกคนบอก!!!  เข้าใจมั้ย!! “

“ เข้าใจครับ!!!! / ค่ะ!!!!!! “

ผมละไม่แปลกใจเลยว่าความบ้าอำนาจมาจากไหน 

“ ดี!!  นั้นก่อนจะจบการเชียร์ในวันนี้  ผมจะให้การบ้านพวกคุณ!!!  ให้พวกคุณไปจำชื่อเพื่อนมาให้ได้อย่างน้อยคนละ 300 ชื่อ !!!  แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาทดสอบ!!!  ว่าพวกคุณสนใจที่จะอยากรู้จักเพื่อนของพวกคุณแค่ไหน!!! “

บ้ารึป่าวพี่คุณชาย  ให้จำชื่อเพื่อนให้ได้ 300 ชื่อในวันเดียว  จะมีใครที่ไหนทำได้กัน  โธ่ไอ้คนบ้าอำนาจ!!!

หลังจากที่ประธานเชียร์สุดหล่อของพวกสาวๆเดินออกไป พวกพี่ว๊ากหน้าเถื่อนก็เดินตามหลังออกไปติดๆ  จากนั้นพี่ๆปี 2 ก็กลับเข้ามาเอนเตอร์เทรนพวกเราต่อ  แต่ตอนนี้ดูท่าทางหลายๆคนจะไม่มีอารมณ์ร่วมแล้วละครับ  บ้างก็บอกว่าจะไม่เข้าเชียร์บ้าง  บางส่วนก็เริ่มต้นทำความรู้จักและจำชื่อเพื่อนกันทันที

จบการเชียร์พวกผม 4 คนออกมาหาข้าวกินกันที่หน้ามอก่อนจะแยกย้ายกันกลับหอ  ส่วนผมแวะซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนจะค่อยๆเดินกลับคอนโดครับ  ไม่ค่อยอยากรีบกลับสักเท่าไหร่  เดินชิลๆไปดีกว่า  ซึ่งไม่เกิน 20 นาทีก็คงถึงครับ


......................


ที่คอนโด

ผมเปิดประตูเข้าห้องมา  ซึ่งทั่วทั้งห้องยังคงมืดสนิท  สงสัยท่านประธานเชียร์คงยังไม่กลับ  ผมเปิดไฟที่ห้องครัวก่อนจะจัดแจงข้าวของต่างๆที่ซื้อมาเก็บไว้ให้เป็นระเบียบ  ไม่ค่อยอยากรบกวนท่านประธานสักเท่าไหร่  กินของเขาทุกวันแบบนี้  เดี๋ยวจะดูไม่ดีครับ

ผมเข้าไปอาบน้ำในห้องก่อนจะออกมานั่งดูทีวีที่โซฟาและเผลอหลับไปจากความเพลียตลอดทั้งวัน  สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่พี่เขาเปิดประตูเข้ามา  ดูท่าทางพี่เขาจะเพลียอยู่เหมือนกัน  ผมมองดูนาฬิกาที่ผนังซึ่งบอกเวลากว่า 5 ทุ่มแล้ว  พี่เขามองผมอยู่เล็กๆ  ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป  ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายฝากผมเวฟไส้กรอกทิ้งไว้ให้ด้วย  ดูท่าแล้วคงยังไม่ได้กินข้าวมาแน่ๆ ครับ  เห็นสภาพนี้แล้วมันก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้

ผมเวฟข้าวกล่องให้ตามคำสั่ง  ก่อนจะเวฟข้าวกระเพราไก่  อาหารกล่องในเวลาเร่งด่วนของผม  และน้ำส้มทิ้งไว้ให้บนโต๊ะกลมที่ห้องครัว  อย่างน้อยกินอะไรที่ให้สารอาหารมากกว่าโปรตีนจากไส้กรอกเสียหน่อยก็ยังดี  แถมเครื่องดื่มคุณชายท่านก็มีแค่น้ำเปล่า แอลกอฮอล์  น้ำอัดลม  และนมจืดแค่นั้น  ผลไม้หรือน้ำผลไม้ก็ไม่มีเลยสักนิดครับ

ผมกลับเข้าไปในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงและหลับเป็นตาย  รู้สึกเพลียจังครับ  คงเพราะกิจกรรมเชียร์ละมั้งครับที่ทำให้ผมหมดแรงได้ขนาดนี้  เอาเป็นว่าวันนี้คงต้องชัตดาวน์ตัวเองแล้วละครับ  พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่


.........................


วันรุ่งขึ้น

โทรศัพท์มือถือผมยังคงปลุกผมตอน 7 โมงเช้าเหมือนเดิม  และก็เหมือนเมื่อวานครับที่ทีวีถูกเปิดไว้เพื่อฟังข่าว  ในขณะที่เจ้าของห้องยังคงทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเช่นเคย

“ เหมือนเมื่อวานแต่ไม่เอานมนะ “ 

“ คร้าบ.... “  ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ตื่นดีสักเท่าไหร่ 

ว่าแต่...  ผมคิดอะไรสนุกๆได้อย่างละครับ

“ พี่กิจ...  ผมชงกาแฟไว้ให้เลยนะครับ  พี่กาแฟกี่ช้อน  ครีมเท่าไหร่  น้ำตาลเท่าไหร่ครับ “

“ กาแฟช้อนครึ่ง  ครีม 1 น้ำตาล 2 “ 

ได้เลยเดี๋ยวจัดให้ครับคุณชาย

“ ครับพี่ “

ผมล่อกาแฟไป 4 ช้อน ครีม 1 น้ำตาล 0 ครับ  ขอผมเอาคืนบ้างเถอะ  สั่งดีนัก  หึๆๆ

แต่ก่อนที่ผมจะไม่ปลอดภัย  ผมต้องรีบกินและรีบเข้าห้องก่อนที่พี่เขาจะออกกำลังกายเสร็จครับ  ว่าแล้วผมก็รีบสวาปรามทันที  ก่อนจะรีบเผ่นเข้าห้องไปและไม่ลืมที่จะล็อคห้องไว้ด้วย

...................................

ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  ทุกอย่างดูเงียบผิดปกติไป  ผมคิดว่าพี่เขาจะมาทุบประตูหรือตระโกนว่าผมซะอีก  แต่เงียบไปเลย  มันน่าแปลกมากครับ

ผมค่อยๆ เปิดประตูห้องออก  มองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง  เผื่อพี่เขาอาจจะซุ่มอยู่รอผมออกมาก็เป็นได้  แต่ก็ไม่มีครับ  แถมดูท่าแล้วน่าจะออกห้องไปก่อนผมเหมือนเดิมอีกแล้ว 

น่าแปลกมาก...?  แต่ช่างมันเถอะ...  รีบไปเรียนดีกว่าเดี๋ยวจะสายเอา


..................................


5 โมงเย็น ณ หอประชุมคณะ

พวกผมทั้งสี่คนยังคงมาประชุมเชียร์เหมือนเดิม  แม้เพื่อนบางส่วนจะโดดเชียร์กันบ้างก็ตามที  แต่นั่นก็แค่ส่วนน้อยครับ ที่สำคัญ  ผมคงจะทำแบนั้นเหมือนคนอื่นไม่ได้หรอก  ไม่งั้นท่านประธานเชียร์เอาผมตายแน่

เมื่อการประชุมเชียร์เริ่มขึ้น  สิ่งแรกที่ท่านประธานเชียร์สุดหล่อต้องการก็คือการบ้านเมื่อวานนี้ครับ

“ 0014 คุณกันต์  ยืนขึ้น!!!  ผมจะทดสอบคุณนะว่า!!!  คุณสนใจที่จะอยากรู้จักเพื่อนๆของคุณแค่ไหน !!! “

เอาแล้วไง...  ทำไมต้องเริ่มที่ผมด้วยเนี่ย  แถมเอาจริงๆ  แค่ใน sec เดียวกันผมยังจำได้ไม่หมดเลยครับ

“ ทุกคนกลับป้ายชื่อ!!!  ทีนี้ผมจะชี้เพื่อนของคุณ!!!  แล้วจะให้คุณ!!  บอกว่าเขาชื่ออะไร!!! “

จากนั้นท่านประธานเชียร์สุดหล่อก็เริ่มชี้คนนั้นที  คนนี้ที  ส่วนผมน่ะเหรอ....

“ตอบไม่ได้!!! “ 

เอ่อ....

“ ทำไมถึงไม่รู้จัก!!! ”

อ่า...

“ นี่คุณไม่อยากรู้จักเพื่อนของคุณอย่างนั้นเหรอ!!! “ 

อยากรู้สิ  แต่...  เห้ยใจเย็นๆ!!!

ชี้มา 10 กว่าคนผมตอบได้แค่ 2 คนเองครับ  ก็รวมทุกภาควิชาแล้ว ปี1 รุ่นผมนี่มีนักศึกษารวมกันเกือบ 900 คนเลยนะครับ  วันเดียวจะให้จำได้ขนาดนั้นได้ยังไง

แต่ว่า...  เหมือนผมจะเห็นสีหน้าชอบใจของท่านประธานเชียร์ที่ทำกับผมแบบนี้เลยนะครับ

สุดท้าย  ปีหนึ่งก็ถูกเรียกให้ทดสอบอีก 4 – 5 คน  ซึ่งก็ไม่มีใครทำได้เลยสักคน แล้วบทลงโทษพวกเราก็คือการลุกนั่ง 46 ครั้งตามรุ่นที่ 46 ของพวกผม  แต่ไม่ได้จบแค่นี้นะครับ  เรายังต้องฝึกปรบมือและร้องเพลงจนคอแทบแตกอีกกว่าชั่วโมง  และจบด้วย….

“ พวกคุณ!!!  มองไปรอบๆซิ!!!  เห็นรุ่นน้องของพวกผมมั้ย!!  พี่ปี 2 ที่บอกว่าจะรับคุณเป็นรุ่นน้องน่ะ!!! “

“ เห็นครับ!!! / ค่ะ!!! “

“ งั้นคุณไม่อยากรู้จักพวกเขาอย่างนั้นเหรอ!!! “ 

นั่นไง...  งานเข้าอีกแล้วครับ...

“ อยากรู้จักครับ!!! / ค่ะ!!! “

“ ถ้าอย่างนั้น!!  ผมจะให้เวลาคุณ 2 วัน!!!  ทำความรู้จักชื่อและขอลายเซ็นพี่ๆ ของพวกคุณ!!!  อย่างน้อย 100 คน!!!  ทำได้มั้ย!!! “

“ ทำได้ครับ!!! / ค่ะ!!! “

“ ดี!!!  แต่สำหรับรุ่นผมขึ้นไป!!!  พวกคุณไม่ต้องเข้ามา !!!  เพราะพวกผมยังไม่รับพวกคุณเป็นรุ่นน้อง!!! “


……………………..


จากวันนั้น  ความสนุกและความวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้นในคณะ  เพราะการจะได้มาซึ่งลายเซ็นของพี่ปี 2 นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ  เพราะต้องแลกกับการทำอะไรให้พี่เขาสักอย่าง  บางคนก็โดนใช้ไปซื้อน้ำ  บางคนก็ให้ตระโกนอะไรแปลกๆ  บ้างก็เต้นอะไรตลกๆ  มันก็ดูครึกครื้นดีนะครับ  ยิ่งช่วงเที่ยงๆที่โรงอาหารคณะด้วยแล้ว  มันทำให้พวกผมกินข้าวกันแทบไม่ได้เลย  นั่งขำกันทั้งกลุ่มกับการมองเพื่อนๆปี 1 ทำอะไรแปลกๆ  ล่าสุดนี่ไอ้แน็คไปขอลายเซ็นพี่รหัสตัวเอง  มันโดนบอกให้ตะโกนบอกชอบไอ้เจมส์ที่มาด้วยกันกลางโรงอาหารเลยครับ  ผมกับไอ้เรย์นี่หัวเราะกันแทบกลิ้งเลย

จนมาถึงเดทไลน์วันสุดท้ายวันศุกร์สุดสัปดาห์  วันนี้ลายเซ็นรุ่นพี่ของผมยังมีแค่ 90 กว่าคนเองครับ ส่วนไอ้เพื่อนทั้ง 3 นี่ครบกันหมดแล้ว  ไม่รู้มันแอบไปขอพี่ๆเขาตอนไหนไม่ชวนผมเลย  แม่ง…

“ ทันอยู่แล้วมึง “  ไอ้เรย์บอกผมขณะกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารคณะครับ

“ อืม..  แต่เดี๋ยวต้องให้เสร็จเที่ยงนี้นี่แหละ “  ผมบอกไปพลางมองไปรอบๆ โรงอาหารหาพี่ๆปี 2  ไม่นานผมก็เจอคนที่ผมคิดว่าจะขอลายเซ็นง่ายๆละครับ  ว่าแล้วก็เดินเข้าไปหาเลยดีกว่า

“ เฮ้ย! ไอ้เรย์  กูฝากเก็บจานด้วยนะ  เดี๋ยวกูไปล่าลายเซ็นแปบ “

“ เอ๊าเชี่ยนี่  ใช้กูอีก “  ผมได้ยินเสียงมันบ่นตามหลังมา  แต่ผมก็ได้แค่ทำหูทวนลมก่อนจะเดินเข้าไปหาเป้าหมายของผมที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะตรงสุดโรงอาหาร

“ พี่ซีหวัดดีครับ “  ผมกล่าวทักทายพี่รหัสพร้อมรอยยิ้ม  ซึ่งพี่เขาก็ยิ้มน่ารักตอบกลับมาให้ด้วยเช่นกัน  ผมมองไปรอบๆโต๊ะที่พี่เขานั่งก็เห็นว่ามีเพื่อนๆพี่เขาอีก 3 คน รวมพี่เขาก็เป็น 4 คนครบตามจำนวนที่ผมขาดพอดี

“ เป็นไงบ้างเรา “  พี่เขาถามขึ้น  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆครับ  การเรียนไม่เท่าไหร่หรอก  แต่เรื่องเข้าเชียร์กับคุณชายที่คอนโดนี่สิทำผมเหนื่อยเลยครับ

“ ก็เรื่อยๆครับพี่  เอ่อพี่ซี...  คือพี่ช่วยเซ็นลายเซ็นให้หน่อยได้มั้ยครับ  ตอนนี้ผมขาดอีก 4 ลายเซ็นอะครับ  จะไม่ทันแล้วด้วย “  ผมอ้อมแอ้มพูดขอไป  พี่เขาก็ยิ้มๆก่อนจะขอสมุดรายเซ็นจากผมไปและเซ็นให้โดยไม่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรเลย

“ อะนี่...  พวกมึงเซ็นก็ให้น้องรหัสกูด้วย “  พี่ซีพูดจบก็ส่งสมุดเชียร์และปากกาไปให้รุ่นพี่อีก 2 คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามทันที

“ ได้เลย  นั้นก่อนพี่จะเซ็นพี่หิวน้ำมาก... “

“ พอเลยพวกมึง  นี่น้องกูเซ็นฟรีเว้ย “  ผมที่ได้แต่ยืนยิ้มแหยๆ  มองพี่สองคนตรงข้ามพี่ซีทำท่าอิดออดเล็กน้อย  แต่ก็ยอมเซ็นให้ผมแต่โดยดีครับ  ทีนี้ก็เหลืออีกแค่ลายเซ็นเดียวแล้ว

ผมมองไปยังรุ่นพี่ที่นั่งข้างๆพี่ซี  รุ่นพี่คนนี้ค่อนข้างจะหล่อเท่ห์เลยทีเดียวครับ  ผมเห็นพี่ซีหยิบสมุดจากฝั่งตรงข้ามของโต๊ะก่อนจะส่งไปให้ยังคนข้างๆ

“ อะเอ็กซ์  เซ็นให้น้องซีด้วยนะ  คนสุดท้ายแล้ว “

“ ซี...  เอ็กซ์ก็อยากเซ็นให้น้องซีง่ายๆ อยู่หรอกนะ  แต่..  พี่รหัสเอ็กซ์อะดิ..  สั่งมาแถมกำชับด้วยว่าถ้าเป็นน้องกันต์นี่ต้องทำตามข้อแลกเปลี่ยนเท่านั้น “

“ พี่กิจอะนะสั่ง “  พี่ซีถามด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อ  ในขณะที่พี่เอ็กซ์ก็ได้แต่พยักหน้าป้อยๆ เหมือนจะรู้สึกผิด  แต่ผมนี่ไม่แปลกใจเลยครับ  คิดจะแกล้งกันใช่มั้ย  ไม่เป็นไรผมไม่ยอมแพ้หรอก  ยังไงผมจะเอาลายเซ็นนี้มาให้ได้เลยคอยดู

ถ้าได้แล้วเย็นนี้กลับคอนโดไป  ผมจะเอาไปโชว์ให้บางคนเห็นสักหน่อย หึๆๆๆ 

ดูซิจะทำหน้ายังไงถ้าเห็นผมได้ลายเซ็นน้องรหัสตัวเองมาแบบนี้

“ ไม่เป็นไรครับพี่  ผมทำได้ทุกอย่างเลยครับ “  ผมยิ้มรับท่าทางมั่นใจให้ไป  พร้อมทั้งรู้สึกฮึกเหิมกับลายเซ็นสุดท้ายนี้ขึ้นมาแล้วด้วย

“ เอางั้นเหรอน้อง...  คือถ้าน้องจะเอาลายเซ็นนี้อะ  น้องต้องวิ่งรอบสนามบาสตามจำนวนรุ่นของน้องนะ “  แย่แล้วไงไอ้กันต์  วิ่งรอบสนามบาสตามจำนวนรุ่น  อย่างนั้นก็ 46 รอบอะดิ  แถมแดดจัดขนาดนี้ด้วยนะ

ไม่ไหวแน่เลยผม.....

“ เอ็กซ์.... “

“ อะๆ  เพื่อตัวเองเลยนะเนี่ย...  เดี่ยวเอ็กซ์ลดให้น้องเขาก็ได้  เอาแค่ครึ่งเดียวก็พอ “  พี่เอ็กซ์บอกพี่ซีเหมือนกลัวๆยังไงก็ไม่รู้  ทำอย่างกับเป็นแฟนกันเสียอย่างนั้น

“ มันก็ยังเยอะอยู่ดีอะ “  พี่ซียังคงพยายามช่วยผมต่อ

“ ลดกว่านี้ไม่ได้แล้วอะ...  เพราะ... “  พี่เอ็กซ์ไม่พูดออกมาแต่กระซิบที่ข้างหูพี่ซีแทน  ซึ่งพี่ซีเองก็ดูจะเข้าใจมากขึ้น  เลยไม่ได้ทักท้วงอะไรต่อ

“ นั้นพี่ว่ากันต์ไปขอคนอื่นดีกว่ามั้ย  น่าจะง่ายกว่านี้ “  พี่ซีบอกมา  ส่วนพี่เอ็กซ์ก็รีบพยักหน้าป้อยๆ เห็นด้วยกับพี่ซี

“ อืม...  ไม่ดีกว่าครับ  ท้าทายดีพี่  ยิ่งประธานรุ่นอย่างพี่กิจตั้งใจไม่ให้ลายเซ็นนี้กับผม  ผมยิ่งต้องเอามาให้ได้ “  ผมทำเก่งบอกไปครับ  ส่วนจะทำได้รึเปล่านั้นก็ต้องว่ากันอีกที 

เห้อ...  ปากเก่งจังเลยผม...


.........................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 02-01-2018 15:03:08
ที่สนามบาส

แดดวันนี้แรงมากครับ  จนไม่มีใครมาเล่นบาสกันเหมือนทุกวันเลย  ผมมองไปรอบๆ เมื่อเดินมาถึงพร้อมกับพวกพี่ๆ กลุ่มพี่ซี  รู้สึกเหมือนคิดผิดที่ทำเก่งไปแบบนั้นซะแล้วครับ

“ เปลี่ยนใจยังทันนะกันต์ “  พี่ซีถามย้ำอีกครั้ง  แต่ถ้าผมยอมถอยตอนนี้ก็อายกันพอดีสิครับ  ปากเก่งไปซะขนาดนั้น

“ ไม่เป็นไรพี่  สบายมาก  นั้นผมเริ่มเลยนะครับ “  ว่าแล้วผมก็เริ่มสตาร์ทออกตัววิ่งทันทีครับ 

รอบ 1 รอบ 2 ผ่านไปได้แบบชิลๆครับ  มันก็ไม่ยากเกินไปนี่น่า  ถึงแดดจะร้อนมากก็เหอะ  แต่ผมยังสบายๆอยู่เลย

รอบที่ 6  ตอนนี้เหงื่อผมเต็มเสื้อไปหมดแล้วครับ  แถมเริ่มหายใจถี่มากขึ้นด้วย  แต่พอมองกลับไปทางกลุ่มพี่ๆเขา ก็ดูเหมือนจะมีคนออกมามุงดูว่าไอ้บ้านี่มันมาวิ่งบ้าอะไรรอบสนามบาสตอนแดดเปรี้ยงๆแบบนี้  มันยิ่งกดดันให้ผมยอมแพ้ไม่ได้ไปในตัว

รอบที่ 10 คราวนี้ผมมองไปยังบริเวณที่พวกพี่ซียืนกันอยู่  ก็พบใครบางคนกำลังยืนยิ้มชอบใจมองผมอยู่ครับ  ซึ่งไม่ต้องถามผมก็คงรู้นะครับว่าใคร...

ใช่แล้วครับ  จะใครที่ไหนไม่ได้นอกจากท่านประธานเชียร์สุดหล่อของเราเนี่ยแหละ....

จากที่แทบจะหมดแรงแล้ว  เห็นสีหน้าและรอยยิ้มชอบใจแบบนั้น  แรงฮึดของผมก็กลับมาอีกครั้ง  แถมคราวนี้ผมวิ่งเร็วกว่าปกติด้วยครับ  จะได้รู้กันไปครับท่านประธาน

รอบที่ 16  ตอนนี้ผมเริ่มหายใจถี่มากขึ้นและความเร็วก็ตกลงไปมาก

รอบที่ 17  ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างเดินกับวิ่งอันไหนมันจะไวกว่ากัน  เพราะผมเริ่มวิ่งแบบลากขาแล้ว

รอบที่ 18  หัวใจผมเหมือนจะเต้นเร็วกว่าปกติแล้วละครับ  ผมเหมือนจะหายใจไม่ทันแล้วด้วย  แต่อีกนิดเดียว...  ผมต้องวิ่งให้ครบให้ได้

รอบที่ 19  หูผมเริ่มจะอื้อ  ผมเหมือนจะมองอะไรไม่ชัดแล้วละครับ  ทุกอย่างมันค่อยๆมืดลงไปเรื่อยๆ  และตอนนี้ผมก็.....

.....................................

“ เห้ยไอ้กันต์ “

ผมเหมือนจะได้ยินเสียงคุณชายเลย  แต่ผมมองอะไรไม่เห็นเลยครับตอนนี้

“ อย่ามุงครับ  ขออากาศให้น้องก่อนครับ “

อันนี้เสียงพี่ซีแน่นอน  แล้วใครกันที่อุ้มผมอยู่ตอนนี้นะ ?

“ มีใครมียาดมมั้ย “  เหมือนได้ยินเสียงคุณชายอีกรอบครับ  แถมมีคนกำลังปลดกระดุมเสื้อผมอยู่ด้วยตอนนี้

“ ขอบคุณครับน้อง “  ยาดมที่จ่อส่ายไปมาบริเวณจมูกทำให้ผมรู้สึกหายใจโล่งขึ้นครับ อีกทั้งยังรู้สึกเย็นๆ เหมือนมีลมพัดมาตลอดเลย 

จากทุกอย่างที่ดูมืดมนไปหมด  ตอนนี้มันเริ่มค่อยๆสว่างชัดเจนขึ้นมาทีละน้อยๆ แล้วครับ  และสิ่งที่ผมเห็นตอนนี้ก็คือใบหน้าหล่อๆ ที่ผมคุ้นเคย  แต่ตอนนี้มันต่างออกไปจากทุกทีที่ผมเคยเห็น  มันไม่ใช่ใบหน้านิ่งๆ เย็นชา  หรือดุร้ายเกรี้ยวกราด  แต่กลับเป็นสีหน้าที่มีความรู้สึกเหมือนอย่างคนธรรมดาทั่วๆไป  ที่สำคัญ..ความรู้สึกเป็นห่วงที่ผมไม่คิดว่าเขาจะมีให้ผมแบบนี้

ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว  แต่ทำไมหัวใจกลับยังคงเต้นระส่ำแปลกๆ  สายตาผมตอนนี้ไม่ได้เบี่ยงเบนไปที่ไหนเลยนอกจากสีหน้าที่เป็นห่วงของพี่กิจ

รู้สึกดีแฮะ..  ถ้าทุกวันพี่เขาไม่เย็นชาและทำหน้าดุใส่ผมบ่อยๆก็คงจะดีนะครับ

“ เป็นไงบ้างกันต์  ดีขึ้นมั้ย “  พี่กิจที่กำลังเอาเอกสารการเรียนปึกบางๆพัดให้ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา  ผมรู้สึกได้ว่าพี่เขาเป็นห่วงผมจริงๆนะครับ

“ ดีขึ้นละครับ... “  ผมตอบไป  เมื่อสายตาผมตอนนี้มองภาพได้สดใสเหมือนปกติและรู้สึกดีขึ้นแล้ว  ขณะที่พี่ซียังคงให้ผมดมยาดมต่อและพี่กิจก็ยังคงพัดลมใส่หน้าอกผมที่ถูกปลดกระดุมออกมาในตอนนี้

ไม่นานสีหน้าพี่กิจก็เปลี่ยนไป  กลับมาทำหน้าดุใส่ผมเหมือนเดิม  ก่อนจะส่งเอกสารการเรียนไปให้พี่เอ็กซ์พัดต่ออย่างรู้หน้าที่

“ วันหลังอะ..  ถ้าไม่ไหวก็อย่าทำเป็นเก่ง  เดือดร้อนคนอื่นเขาหมด “

พี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงดุๆเหมือนเดิม  ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปจากบริเวณนี้...

ก็จริงอย่างที่พี่เขาบอกนั่นแหละครับ  ผมเนี่ยแหละที่ผิด  เพราะถึงพี่เขาจะแกล้ง  แต่ผมก็ไม่ควรทำอะไรที่ฝืนตัวเองจนเป็นเหตุให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะผมแบบนี้

ผมนี่มัน...
 
แย่จริงๆนั่นแหละ...


.....................................


ที่คอนโด

กว่า 2 ทุ่มแล้วที่ผมกลับเข้ามาถึงคอนโด  และต้มมาม่ากิน  ด้วยอารมณ์หงอยๆ อย่างบอกไม่ถูก  เพราะตลอดเข้าเชียร์เย็นนี้  พี่กิจไม่มองไม่เรียกผมเลยแม้แต่น้อย  ท่าทางพี่เขาคงจะโกรธผมเรื่องเมื่อตอนบ่ายมากๆ เลยอะครับ  วันนี้ผมเลยไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรอร่อยๆกินเลย  นี่ถ้าวันนี้พี่เขาดันกลับห้องมาไวด้วยแล้ว  ผมคงสู้หน้าพี่เขาไม่ไหวหรอก  รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ครับ  ผมไม่น่าอวดดีทำปากกเก่งไปแบบนั้นเลย

“ แกร๊ก!! “

เสียงประตูห้องถูกเปิดออก  ผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวกลมตัวเล็กในห้องครัวหันมามองทางขวาทันที ก่อนจะเห็นร่างสูงใหญ่หิ้วถุงพะรุงพะรังเข้ามาในตอนนี้ 

ผมเหลือบตามองหน้าพี่กิจเล็กน้อย  หน้าพี่เขายังคงนิ่งเย็นชาไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม  แต่ไม่ทันที่ผมจะละสายตาออกมา  พี่เขาก็เหลือบตามามองผมพอดี  รู้สึกเหมือนจะโดนด่าเลยแฮะ  ว่าแล้วก็หลบสายตาพี่เขาก้มลงมายังชามมาม่าที่ผมยังไม่ได้กินเลยแม้แต่คำเดียวจะดีกว่า

“ อะนี่!!  แดกแบบนี้เมื่อไหร่ก็ไม่แข็งแรง “  ผมที่กำลังคาบเส้นบะหมี่สำเร็จรูปอยู่เงยหน้ามองร่างสูงที่มายืนอยู่ตรงหน้า  พร้อมทั้งวางถุงอาหารเยอะแยะลงบนโต๊ะ  แค่ได้กลิ่นก็ทำเอาผมท้องร้องอีกรอบแล้วละครับตอนนี้

“ ยังทำหน้างงอีก  กูซื้อมาให้กินแล้วยังต้องเตรียมใส่จานมาให้อีกเหรอ “
 
พี่เขาพูดต่อพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอีกฝั่งตรงข้าม  ส่วนผมนี่ยังคงงงอยู่ครับ  คืออาหารพวกนี้พี่เขาซื้อมาให้ผมด้วยเหรอ  ไม่ด่าผมหรอกเหรอ...  กับเรื่องเมื่อตอนกลางวันนี้น่ะ

ผมมองไปที่อาหารในถุง  มันเป็นเซตเบนโต๊ะเซตใหญ่ใส่มาในกล่องไม้ 2 กล่อง  ส่วนอีกถุงเป็นไก่ทอดยี่ห้อหนึ่งและน้ำอัดลมครับ

ผมเอาอาหารออกจากถุง  ไปหยิบจานมาใส่ไก่และแก้วมา 2 ใบ  เอาชุดเบนโต๊ะออกมา  เลื่อนไปให้คุณชายท่าน  และไม่ลืมที่จะรินน้ำอัดลมใส่แก้วให้ด้วย  จากนั้นผมจึงค่อยๆ เปิดดูเซตเบนโตะตรงหน้า  ตาผมลุกวาว  น่ากินมากครับ  คนละเรื่องกับมาม่าของผมเมื่อสักครู่นี้เลย

“ ไม  ไม่ชอบกินเหรอ “  พี่กิจถามขึ้น

“ ป่าวพี่  ก็แค่แปลกใจว่าทำไมจู่ๆ พี่ถึงซื้ออาหารมาเลี้ยงผมแบบนี้ “  ผมบอกไปตามจริงครับ

“ ทำไม!  ไม่ชอบนั้นก็ไม่ต้องกิน “  พี่เขายื่นมือมาจะดึงถาดไป  แต่ผมหวงเอาไว้ครับ

“ เปล่าพี่  กินสิคร้าบ  แหม...แซวหน่อยก็ไม่ได้ “

“ ก็...  เดี๋ยวแม่กูจะหาว่ากูดูแลมึงไม่ดี  นานๆให้แดกของดีๆบ้าง  จะได้ไม่ไปเป็นลมที่ไหนอีก “

“ เหรอ..  ก็นึกว่าอยากจะไถ่โทษที่แกล้งผมซะอีก “  ซวยละไงครับเหมือนว่าความคิดผมจะดังออกมาเป็นคำพูดอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  พี่เขามองผมเขม็งเลยครับตอนนี้

“ กูไม่ด่ามึงก็ดีถมแล้ว  ทำอะไรไม่รู้จักประมาณตัว  วันหลังอย่าให้กูเห็นว่ามึงทำอะไรแบบนี้อีกนะ..”

“ ครับ... “  ผมตอบรับเป็นหมาหงอยเลยตอนนี้  เมื่อเห็นสายตาดุๆของพี่เขามองมา

“ กินไปได้แล้ว  พูดมาก... “

นี่เป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากพี่เขาในวันนี้...  แต่อย่างน้อยผมก็ไม่โดนว่าเหมือนที่คิดเอาไว้เสียอีก  ดูๆไปแล้วพี่เขาก็ใจดีอยู่บ้างนี่นา
 
ว่ามั้ยครับ...




TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( ลงวันแรก และ update chapter 3 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 02-01-2018 18:47:13
พี่กิจแอบใจดีน้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( ลงวันแรก และ update chapter 3 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-01-2018 20:30:53
Chapter  4



กันต์'s  Part




“ ก๊อกๆๆๆ!!!! “

อะไรเนี่ย...  วันหยุดแท้ๆ ใครมาเคาะห้องกันแต่เช้านะ...

“ ก๊อกๆๆๆ!!!! “

………..

“ ก๊อกๆๆๆ!!!! “

อะไรวะ!!!

ผมเดินงัวเงียมาเปิดประตูออกทันทีอย่างขัดใจ  จนลืมไปว่าตอนนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนี่หว่า...

นั่นไง  ไอ้คุณชาย  มาเคาะอะไรแต่เช้าเนี่ย  นี่มันวันเสาร์นะพี่

“ ขี้เซาจังวะ  กูเคาะตั้งนานแล้วนะ...  ปะเร็ว!  มาออกกำลังกายกับกู “

ออกกำลังกาย...  อะไร ? 

ผมเคยบอกตอนไหนว่าจะออกกำลังกายด้วย  ไม่อ้าวววว...  ว่าแล้วผมก็รีบดึงประตูจะปิดห้องทันที  แต่มือแข็งแรงดันมาผลักขวางเอาไว้เสียก่อน  ผมเลยได้แต่ทำหน้ายู่มองคนตรงหน้า

“ อะไรกันพี่  พี่ก็ไปออกกำลังกายของพี่ดิ  ผมจะนอนต่อแล้ว  นี่มันวันหยุดนะพี่ “

“ กูคิดแล้วว่ามึงน่ะอ่อนแอเกินไป  จากนี้...  มึงต้องมาเริ่มออกกำลังกายกับกูทุกวัน  อย่างน้อยก็วันละ 15 นาทีไปก่อน “ 
อ้าวเห้ย  ทำไมคิดเองเออเองแบบนี้ล่ะพี่

“ ไม่อาว.... “

“ มันเป็นกฎข้อที่ 4 ของการอยู่ที่นี่ “ 

ไอ้!!.... 

สุดท้ายผมก็ทำได้แค่จิ๊ปากอย่างขัดใจไปเท่านั้น  จะด่าก็ไม่กล้า...เพราะแม่งเวลาโหดแล้วน่ากลัวจะตาย 

อีกอย่าง...  ถ้ารักจะอยู่เป็นทาสคุณชายท่านที่นี่  ก็คงต้องทำตามกฎของท่านแต่โดยดี

“ ให้เวลา 5 นาทีล้างหน้าล้างตาแล้วออกมาหากูด้านนอก “

ฮือๆๆๆ.......


…………………………


ผมเดินหน้าบูดมายังบริเวณออกกำลังกายริมกระจกใสกว้าง  นี่มันพึ่งกี่โมงกัน  มองออกไปด้านนอกกระจกไกลๆ  ฟ้ายังสลัวอยู่เลย...

คุณชายที่กำลังนั่งซิทอัพหันมามองผม ในขณะที่ผมเองก็มองตอบกลับไป  วันนี้คุณชายใส่เสื้อกล้ามสีดำขับผิวขาว  และยังเผยให้เห็นกล้ามแขนเป็นมัดๆเลยครับ  เห็นแล้วอยากได้หุ่นแบบนี้บ้างจัง

“ เริ่มจากวิ่งวันละ 15 นาทีก่อนละกันมึงอะ “  พี่เขาพูดจบ  ผมก็เดินไปที่ลู่วิ่ง  แล้วมันใช้ยังไงหว่า  ผมได้แต่มองสำรวจไปรอบๆ ก่อนครับ แค่เปิดยังไม่เป็นเลย  จากนั้นไม่นานเหมือนพี่เขาจะรู้  ก็เลยเดินเข้ามาหาผม

“ โง่จริง..  เปิดตรงนี้...  เวลาจะปรับความเร็วก็ตรงนี้  ส่วนนี่เวลา  ตรงนี้แคลลอรี่... “  ก็ฟังไปงั้นแหละครับจำได้ไม่หมดหรอก  เอาที่สำคัญๆก็พอ  เมื่อพี่เขาอธิบายเสร็จเขาก็กลับไปซิทอัพต่อ  ส่วนผมก็เริ่มกดเพิ่มความเร็วไปเรื่อยๆ เตรียมจะวิ่งแล้วละครับ  แต่..

“ ปึก!!! // โอ้ย!!! “

คือผมปรับความเร็วมากไปจนเท้าเริ่มตามไม่ทันและถอยหลังเซถลาล้มลงไปชนกำแพงด้านหลังครับ  เจ็บไม่เท่าไหร่นะ...  แต่อายนี่สิครับที่แย่กว่า...

“ ฮะๆๆๆ .... เล่นตลกเหรอมึง ”  ยังมีหน้ามายิ้มขำผมอีก  แทนที่จะมาช่วยน้อง  แม่ง... 

แต่เอ๊ะ!... 

ยิ้มเหรอ ? 

จะว่าไปผมก็ยังไม่เคยเห็นพี่เขายิ้มเลยนะครับตั้งแต่เจอกันมา  ยิ่งเวลาสวมบทประธานเชียร์ด้วยยิ่งแล้ว  มีแต่สีหน้าเย็นชาเพียงอย่างเดียวเลย  จะได้มาเห็นพี่เขายิ้มก็วันนี้แหละครับ  เวลาเขายิ้มหัวเราะนี่ก็ดูสดใสดีนะครับ  มีเสน่ห์เอามากๆ  ถ้ายิ้มบ่อยๆ นี่สาวๆ ติดตรึมแน่เลย  เพราะขนาดไม่ยอมยิ้ม  คนยังกรี๊ดกันไม่หยุดขนาดนี้ 

โลกเรานี่ช่างลำเอียงจริงๆ  เอาสิ่งดีๆยัดไปในตัวคนๆนี้ซะหมด  จนไม่เหลือเผื่อมาไว้ให้ผมบ้างเลย  เห้อ...

ว่าแต่...  อย่างนี้ผมก็เป็นปีหนึ่งคนแรกสิครับที่ได้เห็นรอยยิ้มพี่เขา.... 

แล้ว...  นี่ผมจะดีใจทำไมเนี่ย...

“ มานี่...  มาถึงแรกๆมึงก็ปรับแค่นี้พอ  ค่อยๆเดินไปก่อนเป็นการวอร์มร่างกาย  แล้วก็ค่อยๆวิ่ง  ปรับระดับความเร็วไปทีละนิด  เข้าใจมั้ย...  “  พี่เขาเรียกผมไปสอนอีกครั้ง  ผมก็ได้แต่พยักหน้าตามป้อยๆ

“ แล้วอย่าเล่นตลกให้กูดูอีกล่ะ ฮะๆๆๆ “

“ ก็อย่าขำผมดิ  เดี๋ยวกลับไปนอนนะ “

“ ก็มันจริงนี่หว่า... “  ว่าจบพี่เขาก็กลับไปซิทอัพของเขาต่อครับ  แต่นี่คงเป็นครั้งแรกที่พี่เขายอมคุยกับผมด้วยรอยยิ้มเหมือนคนปกติสักที  สงสัยคงจะลืมตัว...  แต่ถ้านี่เป็นนิสัยจริงของพี่เขาก็คงดีสิครับ  ผมชอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแบบนี้จัง…


…………………………..


กว่าจจะครบ 15 นาทีเล่นเอาซะเหงื่อท่วมเลยครับ  แต่ผมก็ทำได้นะครับ  เห็นมั้ยล่ะ  ถ้าผมตั้งใจก็ทำได้...

ผมปิดเครื่องก่อนจะก้าวลงมาจากลู่วิ่ง  จากนั้นก็มีผ้าขนหนูสีขาวลอยมาติดหัวครับ

“ เอาไปเช็ดเหงื่อ... “ 

ผมรับมาแบบเขินๆครับ  รู้สึกทำตัวไม่ถูกเวลาที่เขาดีกับผมแบบนี้  เพราะปกติโมเมนต์แบบนี้ไม่มีทางมีได้หรอก  แต่จะว่าไปได้ออกกำลังกายแต่เช้าแบบนี้ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าดีนะครับ  ว่าแล้วก็ทำมื้อเช้ากินดีกว่า  เผื่อคุณชายท่านด้วย  ว่าแต่จะเป็นอะไรดี  ผมมองดูของในตู้เย็นที่ซื้อมาก็ตัดสินใจว่าจะทำซุปมักโรนีใส่ไก่กับแครอทดีกว่า  เช้าๆแบบนี้กินอะไรร้อนๆก็ดีนะครับ


……………………


ผ่านไปกว่า  20 นาที

“ ทำไรวะ “

เสียงพี่กิจดังมาจากทางด้านหลังผม  ขณะที่ผมกำลังชิมน้ำซุปอยู่  ก่อนจะได้กลิ่นไอเหงื่อและความร้อนจากร่างกายใกล้ๆไหล่ขวา  พี่เขาก้มตัวลงมาดูในหม้อ  แต่มันใกล้จนผมขยับตัวทำอะไรต่อไม่ได้เลย  พี่เขาพยักหน้าเล็กๆ ก็เดินออกไป  รู้สึกหายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อย  ไม่ได้รู้สึกกลัวนะครับ  แต่มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้สิ  ผมหันไปมองพี่เขาที่กำลังก้มหาอะไรในตู้เย็นมากิน  ผมก็เลยพูดออกไป....

“ ผมทำเผื่อพี่ด้วยนะ... “  พี่เขาหันมามองผม  แต่ผมกลับไปกล้าสู้หน้าพี่เขาเสียอย่างนั้น  เลยหันกลับไปดูหม้อซุปที่กำลังจะได้ที่แล้วในตอนนี้แทน

“ พึ่งรู้นะเนี่ยว่ามึงทำอาหารเป็นกับเขาด้วย “  พี่เขาปิดตู้เย็นเสร็จก็เดินมานั่งรอที่โต๊ะกลม  พอดีกับที่ซุปของผมเองก็เสร็จเรียบร้อย

“ ก็เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านกับพ่อสองคน  พ่อเองก็ไม่มีเวลามาทำอาหารให้กิน  ผมก็เลยหัดๆ ทำจาก you tube บ้าง หนังสือบ้าง  แล้วก็มาปรับๆเอาเองอะ “  ผมพูดไปพลางยกหม้อมาวางไว้ที่กลางโต๊ะ  ซุปมักโรนีน้ำใสมีแครอท   เนื้อไก่   แล้วก็ต้อนหอมอีกนิดหน่อย  ไม่ยากมากแต่ก็อร่อยนะครับ

ผมหยิบชามมา 2 ใบ ส่งให้พี่เขาพร้อมช้อนก่อนจะตักซุปแบ่งกัน  พี่เขาตักขึ้นมาดมๆเล็กน้อยอย่างไม่แน่ใจว่ารสชาติมันจะเป็นอย่างไร  แต่ดูแล้วกลิ่นคงผ่าน  พี่เขาก็เลยลองชิมรสชาติต่อ  หน้าแกนิ่งอยู่เล็กน้อย  แต่แปบเดียวก็ยิ้มเล็กๆที่มุมปากขึ้นมาครับ

“ ทำอร่อยเหมือนกันนี่หว่า “  พี่เขาชมมา  ผมนี่หลุดยิ้มออกมาเลยครับ  ครั้งแรกนะเนี่ยที่เขาชมผม

“ ของมันแน่อยู่แล้ว “  ผมบอกไปแก้เก้อ

“ ชมหน่อยทำเป็นเหลิงนะมึงอะ “ 

“ ว่าแต่วันนี้พี่ไปไหนรึป่าวอะ “  กินไปได้สักแปบผมก็ถามพี่เขาครับ

“ อืม...  ไม่นะ  เสาร์อาทิตย์นี้กูว่าง  อยากพักว่ะ  คงไม่ได้ไปไหน  ทำไมวะ? “

“ เปล่าครับ  ก็ผมว่าจะทำความสะอาดห้องไง  เผื่อจะได้เข้าไปทำห้องพี่ได้ “  ผมบอกไปถึงหน้าที่ผู้อาศัยของผมครับ  เพราะช่วงวันธรรมดาผมมีเรียนเลยไม่มีเวลามากครับ  มาทำเต็มที่เอาวันหยุดดีกว่า  พี่เขาพยักหน้ารับเข้าใจเล็กๆ  ก่อนจะกลับไปสนใจที่อาหารตรงหน้าต่อ


....................................


กว่า 9 โมง เช้า.....

ผมเดินออกมาจากห้องหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  ก่อนจะเริ่มเตรียมตัวทำความสะอาดห้อง  ส่วนตอนนี้คุณชายนั่งเหยียดขาบนโซฟายาวเล่นไอแพดอยู่  จากนั้นผมก็เริ่มทำงาน  ซึ่งพอทำไปเรื่อยๆ แม่งเหนื่อยกว่าวิ่งเมื่อเช้านี้อีกครับ  ห้องก็กว้าง  ทั้งกวาด ทั้งถู ทั้งดูดฝุ่น จัดของให้เข้าที่  จนในที่สุดก็เหลือเพียงแค่ห้องต้องห้าม...

“ พี่กิจ... “

ผมเรียกพี่เขา  ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนมานั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาแล้ว  เขาหันมามองผมเหมือนจะถามว่าอะไร  ผมเลยบอกออกไป

“ ผมเข้าไปทำความสะอาดในห้องพี่นะ “ 

พี่กิจไม่ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าเล็กๆ  จากนั้นผมก็เลยเดินไปเปิดประตูห้องพี่เขาเข้าไป  นี่เป็นครั้งแรกครับที่ผมเคยเข้ามาในห้องนี้  ภายในตกแต่งแบบเรียบๆแต่หรูดูดี  เป็นโทนสีขาว เทา ดำ  ที่ชั้นข้างเตียงมีโมเดลสวยๆเต็มเลยครับ  วันพีทการ์ตูนเรื่องโปรดของผมก็มีเกือบครบเลย  ผมถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงนุ่มที่คลุมด้วยผ้าห่มสีเทาเดามองไปยังรอบๆห้องอย่างสำรวจ  จนลืมไปเลยว่าที่เข้ามาที่นี่ก็เพื่อทำความสะอาด  รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงกระแอมของพี่กิจที่หน้าห้องนั่นแหละ  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆส่งให้ไปครับ 

“ อย่ารื้อค้นอะไรล่ะ  กูขี้เกียจจัดของใหม่ “

“ รู้ล้วคร้าบ “  ผมตอบไป  จากนั้นพี่เขาก็เข้ามาหยิบหนังสือที่ชั้นแล้วเดินออกไปจากห้อง  ผมถอนหายใจโล่งอก  นึกว่าจะโดนด่าซะแล้ว


......................................


และแล้วภารกิจวันนี้ก็เสร็จลง  ล่อไปเที่ยงครึ่งเลยครับ  ว่าแล้วก็เริ่มหิว  แต่ขอมานอนพักสักแปบที่โซฟาดีกว่า  ว่าแต่พี่กิจออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย  แต่ช่างเหอะ...  ตอนนี้ห้องนี้เป็นของเรา ฮ่าๆๆๆๆ

“ แกร๊ก!!! “

กำลังตาปรือๆอยู่เลย  เสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออก  ผมยันตัวลุกขึ้นมาดูอย่างช้าๆ เห็นพี่กิจเดินเข้าห้องมาพร้อมถุงข้าวกล่อง

“ มาแดกข้าวเร็ว  กูซื้อมาเผื่อ “

ผมเดินตาปรือเข้าไปหา  พอได้กลิ่นท้องมันก็เริ่มหิวขึ้นมาอีกรอบ  ทำเอาตาสว่างเลยครับตอนนี้ 

ผมจัดข้าวใส่จานให้ทั้งผมและของพี่เขา  มันเป็นผัดกระเพราะทะเลรวม  น่ากินมากครับ  มีทั้งกุ้ง ปลาหมึกและปูด้วย ละลานตาเลยทีเดียว  ยั่วน้ำลายสุดๆ  ว่าแต่พี่เขานี่ก็ใจดีเนอะ  มีกระจิตกระใจจะซื้อมาเผื่อผมด้วย

“ เออพี่กิจ  แถวนี้พอมีร้านที่ขายพวกอุปกรณ์วาด Drawing มั้ยพี่  ผมไม่ค่อยรู้จักที่อะ  เพราะอาทิตย์หน้าก็ต้องใช้แล้ว  วันพรุ่งนี้เลยว่าจะไปหาซื้อดู “  ผมถามไปถึงอุปกรณ์ที่จะใช้ในวิชาเรียนเขียนแบบของผม

“ จริงๆมึงไม่ต้องซื้อใหม่ก็ได้นะ  ใช้ของเก่ากูก็ได้  กูไม่ได้ใช้แล้ว  จะได้ไม่ต้องเปลืองตัง “

“ จริงเหรอพี่!!!  นั้นผมขอยืมใช้หน่อยนะครับ “  ผมโพล่งออกมาด้วยความดีใจ  เพราะอุปกรณ์แต่ละอย่างก็ใช่ว่าราคาจะถูก  รวมๆกันก็ประหยัดตังผมไปได้เยอะเลยทีเดียว

“ เออดิ  แต่มึงไปค้นๆเอาเองในห้องเก็บของนะ “

ผมยิ้มพยักหน้าดีใจให้ป้อยๆ ทันทีครับ


................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( ลงวันแรก และ update chapter 3 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-01-2018 20:34:42
หลังทานข้าวเสร็จในช่วงบ่าย  ผมเดินไปที่ห้องเก็บของบริเวณใกล้ๆ ประตูห้อง  เพื่อค้นหาอุปกรณ์ drawing เก่าของพี่กิจ  พอเปิดประตูไปมันก็เป็นห้องเล็กๆ  มีชั้นวางของเต็มไปหมดเลย  แถมของข้างในก็ระเกะระกะอยู่ไม่ใช่น้อย  ผมมองไปรอบๆเห็นโต๊ะเขียนแบบด้วย  พอตระโกนถามพี่กิจที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา  ว่าผมจะเอาไปใช้ในห้องได้มั้ย  พี่เขาก็อนุญาต  งานนี้ลาภลอยเลยผม  อิอิ

ผมค่อยๆ ลากโต๊ะออกมาจากห้องเก็บของ  คงต้องทำความสะอาดเล็กน้อยก่อนจะเอาเข้าห้องไป  จากนั้นก็ไปหาของที่ตั้งใจไว้ต่อ  พี่กิจเดินมาดูผมอยู่ที่หน้าประตูห้องเก็บของ  ก่อนจะบอกว่ามันอยู่ในกล่องด้านบนสุดทางขวา  แต่ชั้นมันอยู่สูงเกินกว่ามือผมจะเอื้อมถึง  ผมพยายามยื่อตัวเพื่อเลื่อนกล่องใส่ของสีขาวนั้นลงมาอย่างทุลักทุเล  แต่แล้ว...

“ โครม!!!! “

ทั้งของที่อยู่ในกล่องและบนชั้นด้านบน  ต่างก็ตกลงมาข้างล่างใส่ผมอย่างระเนระนาดเลยครับ
 
แต่...  ผมไม่เจ็บเลยสักนิด ?

“ เป็นไรมั้ยวะ “
 
เสียงพี่กิจดังอยู่ใกล้หูผมมากเลยตอนนี้  สังเกตอีกที  พี่เขาเข้ามาบังผมเอาไว้นี่หว่า....  แถมยังถามผมอีกนะว่าเป็นอะไรมั้ย  ทั้งๆคนที่น่าจะเจ็บที่สุดน่าจะเป็นพี่เขาแท้ๆ... 

ผมหันหลังกลับไปมองก็เห็นใบหน้าพี่เขาที่ก้มลงมาป้องกันผมไว้จนเกือบจะชิดกับใบหน้าผมในตอนนี้  สายตาห่วงใยที่พี่เขาส่งผ่านมา  มันทำให้ผมรู้ว่า  พี่เขาไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอย่างที่ผมเคยคิดไว้เลย  ก็แค่สร้างภาพเป็นคนดุและเจ้าระเบียบ  แต่เนื้อแท้กลับเป็นคนจิตใจดีอย่างที่ผมคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ผมเชื่อในความรู้สึกนี้ของผมจริงๆนะ  จากสายตาและน้ำเสียงที่ผมสัมผัสได้ในตอนนี้....

“ มะ..ไม่ครับ “  ผมตอบไปทั้งๆ ที่ยังอ้าปากค้างเล็กๆอย่างทำตัวไม่ถูก  พี่เขาค่อยๆยันตัวขึ้นก่อนจะชักหน้ากลับมาวางมาดนิ่งเหมือนเดิม

“ นั้นก็ดีแล้ว  ซุ่มซ่ามชะมัด  นี่ถ้ากูไม่เห็นว่ากล่องบนชั้นโยกเยกจะตกลงมา  ป่านนี้มึงได้เจ็บตัวกว่านี้แน่ “  พี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและมองผมด้วยสายตาที่ตำหนิ  แต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเหมือนแต่ก่อนเลย 

ว่าแต่.. ที่ปลายคิ้วซ้ายพี่เขามีแผลเลือดซึมออกมานิดหน่อยนี่หว่า

“ พี่กิจ..  พี่มีแผลที่ปลายคิ้วซ้ายอะพี่ “  ผมบอกไป  พี่เขาก็เอามือไปแตะๆ  ก่อนจะเห็นว่ามีเลือดติดมาเล็กน้อย

“ เดี๋ยวผมทำแผลให้พี่  ห้องผมมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาล “

“ ไม่ต้องอะ  แค่นี้เองเดี๋ยวก็หาย “  พี่เขาพูดจบก็เดินออกไป  พอผมลุกขึ้นจะเดินตามไป  พี่เขาก็เดินเข้าห้องไปเสียแล้ว  แต่ช่างมันเถอะ  ผมรีบกลับเข้าไปในห้องผม  หยิบเอาชุดอุปกรณ์ทำแผลก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องพี่เขาและถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเลย
 
พี่กิจที่นั่งอยู่ที่เตียงหันมามองผมอย่างแปลกใจ ขณะที่ผมเดินดุ่มๆเข้ามาหา

“ เห้ย...  เข้ามาทำไม  ใครบอกให้เข้ามา  จำกฎไม่ได้เหรอ “

“ จำได้ครับ  แต่บางอย่างมันก็ต้องมีข้อยกเว้นนะครับ  มาเดี่ยวผมทำแผลให้ “

“ บอกแล้วไงว่าไม่ทำ  เดี๋ยวมันก็หายไปเองแหละ “  พี่กิจยังคงยืนกรานปฏิเสธ  แต่ผมก็ไม่ยอมเหมือนกันครับ  ก็พี่เขาเจ็บเพราะช่วยผมไว้นี่นา  ผมเองก็อยากจะตอบแทนพี่เขาบ้างก็เท่านั้น

“ อย่าดื้อดิพี่  พี่เป็นประธานเชียร์นะ  เหตุผลง่ายๆแค่นี้พี่จะรั้นไปทำไม “  ผมเสียงแข็งบ้างครับคราวนี้

“ นี่มึงสอนกูเหรอ “

“ เปล่าครับ...  ผมก็แค่อยากทำแผลให้พี่ก็แค่นั้น  เสร็จแล้วเดี๋ยวผมก็จะไป “ 

ผมบอกไปพี่เขาก็เงียบมองผมอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะพยักพเยิดเล็กๆ และยอมให้ผมทำแผลให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่  ผมยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก  นานๆจะเอาชนะคนๆนี้ได้สักที 

บางทีพี่เขาก็ดูเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ เลยนะครับ....

“ เบาๆนะมึง “

“ คร้าบ..  มือผมอะเบาที่สุดในโลกละ “ 

ผมบอกไปก่อนจะเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ค่อยๆ เช็ดที่แผล  ถึงแม้แผลจะไม่ใหญ่แต่พี่เขาก็สะดุ้งเล็กๆ ร่นคิ้วหน่อยๆ  เห็นแบบนี้แล้วอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้เลยครับ

พอผมทำแผลเสร็จก็ปิดพลาสเตอร์สีเหลืองลายหมีให้  ทำไงได้ละครับ  ก็ผมมีแต่แบบนี้นี่นา  ติดแล้วก็น่ารักจะตายไป  จากหน้าดุๆ ตอนนี้น่ารักขึ้นมาทันทีเลยครับ  อิอิ

“ เสร็จละ...  นั้นเดี๋ยวผมไปละครับ “  ผมมองพี่เขาเล็กน้อย  ช่างใจถึงบางอย่างที่อยากจะบอก  ก่อนจะตัดสินใจบอกออกไป

“ เอ่อ...  เมื่อกี้อะ  ขอบคุณนะครับ “

“ เรื่องไร “  พี่เขาทำหน้างงถามมาครับ

“ ก็เรื่องที่พี่ช่วยผมที่ห้องเก็บของไง “

“ เรื่องแค่นั้นเอง  ช่างมันเหอะ  ไปได้แล้วมึงอะ  กูจะนอน “ 

พี่กิจพูดจบ  ผมก็มองพี่เขาเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินออกไป  แต่เดินไปไม่ถึง 2 ก้าว  จู่ๆ พี่เขาก็คว้าข้อมือผมรั้งเอาไว้ซะงั้น  ผมที่กำลังใจลอยกับท่าทีไม่แยแสของพี่เขาเมื่อกี้ถึงกับตกใจและผงะเซถลาล้มเข้าไปหาพี่เขาทันที

“ เห้ย!! // ตุบ!! “

ผมล้มลงไปทับบนตัวพี่เขาจนใบหน้าของเราเกือบจะชนกัน  พี่เขามีสีหน้าตกใจเล็กน้อย  ผมเองก็เช่นกัน  รู้สึกหัวใจมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  ผมไม่เคยใกล้ชิดใครมากๆ แบบนี้มาก่อน  กลิ่นน้ำหอมจางๆผสมกลิ่นกายเฉพาะตัวของพี่เขามันให้ความรู้สึกดีจังครับ  ยิ่งแววตาและริมฝีปากตรงหน้ายิ่งทำให้ผมประหม่าจนไม่กล้าขยับตัวเลยในตอนนี้  แต่ไม่นานผมก็ต้องรีบดึงสติกลับมาและยันตัวขึ้น  ไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลยครับ

“ อะไรอะพี่..  จู่ๆมาดึงแขนผมทำไม...  “  ผมพูดไปอ้ำๆ อึ้งๆ

“ ก็...  มึงลืมลืมชุดทำแผลมึงอะ  กูเลยจะเรียกมึงไง “

“ อ่อ.. นะนั้นผมไปละนะ “  ว่าแล้วผมก็รีบคว้าชุดปฐมพยาบาลบนเตียงพี่เขาก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่มองพี่เขาอีกเลย

ไม่รู้จะกลัวอะไร  แต่มันประหม่ายังไงก็ไม่รู้สิครับ....

นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย....




TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 04/01/2561 update chapter 4 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-01-2018 01:33:05
เฮียจะทำอะไร น้องก็ระทวยไปหมดแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 04/01/2561 update chapter 4 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 05-01-2018 14:52:48
รอกันต์กิจ มาต่อเร็วๆเด้ออออ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 04/01/2561 update chapter 4 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 05-01-2018 16:17:50
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 04/01/2561 update chapter 4 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 06-01-2018 20:53:01
Chapter 5



กันต์ 's  Part



เช้าวันอาทิตย์

เช้านี้เป็นวันที่ 2 ที่พี่กิจมาเคาะเรียกผมให้ไปออกกำลังกาย  เมื่อเห็นผมยังไม่ออกมาจากห้องสักที  คือผมลืมตั้งเวลาปลุกให้ไวขึ้นกว่าเดิมอะครับ  ลืมไปเลยว่าต้องมาออกกำลังกายกับพี่เขา

เช้านี้เราออกกำลังกายกัน  โดยไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย  ผมเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าพี่เขาเลยด้วยซ้ำ  ไม่รู้จะกลัวอะไรจากเรื่องเมื่อวาน

แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคงทำอาหารเช้าเผื่อพี่เขาเหมือนเดิมนะครับ....


..............


ตลอดช่วงเช้านี้ผมไม่ค่อยอยากออกจากห้องเลยครับ  นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องดีกว่า  คือรู้สึกแปลกๆถ้าต้องเจอหน้าพี่เขาอะครับ  แต่พอใกล้เที่ยงจู่ๆ พี่เขาก็เดินมาเคาะประตูห้อง  ผมเลยจำเป็นต้องออกมาเผชิญหน้ากับพี่เขาจังๆ

“ มีอะไรครับพี่ “

“ แม่โทรมาบอกให้กลับไปกินข้าวบ้านเย็นนี้  รวมทั้งมึงด้วย “  พี่กิจว่ามาครับ

“ อ่อครับ  นั้นเดี๋ยว.. “

“ ไม่ต้องเดี๋ยวเลย  ให้เวลา10นาทีนะ เดี๋ยวกูจะลงไปรอข้างล่าง “

“ พี่..  จะให้ผมไปกับพี่เหรอ.. “  ผมถามไปอย่างไม่แน่ใจ

“ ก็เออดิ  ขืนมึงไม่ไปกับกู  แม่กูก็จะหาว่ากูไม่ดูแลมึงอีก “  พี่เขายังคงพูดมาด้วยน้ำเสียงไม่แยแสเหมือนเคย

“ อ่อครับ.. “

“ เร็วๆเลยมึง  กูลงไปรอข้างล่างละนะ “

พูดจบพี่เขาก็เดินออกประตูห้องไป  ส่วนผมก็รีบเปลี่ยนชุดให้มันดูดีหน่อยก่อนจะหยิบกระเป๋าตังและโทรศัพท์  แล้ววิ่งตามพี่เขาลงไป

พอลงมาถึงหน้าคอนโดก็เห็นพี่เขานั่งเท้ายันพื้นบนบิ๊กไบต์สีขาวคันสวยอยู่  วันนี้พี่เขาใส่เสื้อยืดสีขาวมีเชิร์ตสีฟ้าอ่อนบางๆ เป็นเสื้อนอก  สวมกางเกงสีน้ำตาลอ่อน  และถุงมือหนังขับรถสีดำ  แค่นี้ก็โครตเท่ห์ละลายใจคนที่ผ่านไปผ่านมาแล้วละครับ  ขนาดผมที่เป็นผู้ชายด้วยกันยังยอมรับเลยครับว่าพี่เขาแม่งทั้งหล่อทั้งเท่ห์มากอะ

“ ชักช้านะมึงอะ  เร็ว! กูหิวข้าว “ 

เมื่อพี่เขาเห็นผมเดินมา  เขาก็เรียกเอาซะผมอายคนเลย  พอเดินมาถึงพี่เขาก็ขึ้นคร่อมรถก่อนจะลิ่วตาให้ผมขึ้นซ้อนท้าย  ผมมองที่นั่งเล็กๆด้านท้ายสูงๆ  ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะนั่งได้มั้ย  เพราะผมไม่เคยซ้อนบิ๊กไบต์แบบนี้เลย  แต่ก็ลองขึ้นมานั่งดูครับ  มันก็แปลกๆดีนะครับ  มุมมองมันสูงกว่าคนขับเล็กน้อย  แถมรถก็สูงกว่ามอเตอร์ไซต์ปกติอีก  เท่ห์ดีเหมือนกันนะเนี่ย

“ กอดเอวกูไว้  ไม่งั้นมึงตกรถแน่ “
 
พี่เขาบอกเสียงเรียบ  ผมเลยค่อยๆเอามือมาจับเอวพี่เขาอย่างกล้าๆกลัวๆ  แต่พี่เขากลับถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าเล็กๆแล้วดึงมือผมเข้าไปโอบเอวเขาเลย  จนตัวผมเลื่อนเข้าไปแทบจะแนบแผ่นหลังของเขาแล้วในตอนนี้

“ จับแบบนั้นรับรองมึงหงายหลังตกรถแน่ “ 

พี่เขาว่ามาแบบนี้ผมก็เถียงอะไรไม่ออกเลยครับ...  ได้แต่เงียบ  และ..  สูดกลิ่นหอมๆจากตัวพี่เขา  ผมนี่ท่าทางจะโรคจิตแฮะ  รู้สึกชอบกลิ่นพี่เขาจัง  ไม่รู้ว่ามันมาจากกลิ่นน้ำหอม กลิ่นกาย หรือกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่อยู่กับเสื้อกันแน่  แต่รวมๆแล้วผมชอบมากอะ....


........................


ขับออกมาได้สักแปบพี่เขาก็แวะที่ร้านอาหารร้านหนึ่งเพื่อทานมื้อเที่ยง  พี่เขาให้ผมเลือกสั่งอาหาร  แต่พอผมสั่งไปได้ 2 อย่างซึ่งก็คือ  ไข่เจียวหมูสับ กับ ผัดผักรวม  พี่เขาก็ดึงเมนูออกไปจากมือผมแล้วบอกว่าสั่งอะไรจืดชืดมาก  จากนั้นพี่เขาก็สั่งมาเพิ่มอีก 2 อย่างครับ

ผมมองไปรอบๆร้าน  มีคนแอบมองมาที่โต๊ะเราเยอะมากเลยครับ  ท่าทางจะสนใจพี่กิจนั่นแหละ  ส่วนเจ้าตัวนี่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยครับ  สงสัยคงจะชินตามประสาของคนหล่อไปแล้วละมั้ง

“ เออพี่  พี่ไม่มีหมวกกันน๊อคอีกใบให้ผมใส่เหรอ “  ผมถามขึ้นมาขณะกำลังทานอาหารอยู่ครับ

“ ไม่อะ  ไม่จำเป็นต้องมี “

“ ทำไมอะพี่ แบบนี้คนซ้อนก็อันตรายอะดิ “  ผมถามต่ออย่างไม่เข้าใจ

“ ก็ปกติกูไม่เคยให้ใครซ้อนรถคันนี้เลย  มีมึงเนี่ยแหละคนแรก “  พี่เขาพูดจบ  จู่ๆผมก็รู้สึกตัวลอยขึ้นมาซะงั้น  อดยิ้มกริ่มขึ้นมาเล็กๆไม่ได้

“ เป็นไรมึง “

“ เปล่าพี่...  กินต่อเหอะ... “ 

นั่นสิครับ..  ผมเป็นอะไร?


..................................


กว่าจะมาถึงบ้านพี่กิจก็เกือบบ่าย 2 โมงแล้วละครับ  ตอนนี้คุณลุงยังไม่กลับบ้าน  มีแต่คุณป้ากับน้องกานต์เท่านั้น  พี่กิจพาผมไปพบคุณป้าที่ห้องนั่งเล่นก่อน  ซึ่งท่านก็ชวนคุยกันตามประสาและถามว่าอยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ  บอกไปว่าโอเคครับ  ไม่งั้นไอ้คนที่นั่งข้างๆผมเอาผมตายแน่

จากนั้นน้องกานต์ก็มาชวนผมไปเล่นเกมเป็นเพื่อนที่ห้องครับ  ผมก็เลยตามขึ้นไป  แต่เล่นยังไงก็แพ้น้องเขาอยู่ดี  ไม่ว่าจะเกมอะไรก็เถอะ

“ ก๊อกๆๆ “  เสียงเคาะประตูดังขึ้น  และไม่ทันที่เจ้าของห้องจะอนุญาต  ประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาอย่างถือวิสาสะราวกับทำจนเป็นเรื่องปกติ  และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  พี่กิจนั่นเองครับ

“ เฮ้ยกานต์  วันพีทเล่มล่าสุดมึงซื้อมาแล้วใช่มั้ย  กูยืมอ่านหน่อยนะ “

“ บนโต๊ะอะ  พึ่งอ่านจบมะคืนเอง “  น้องกานต์พูดไปแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่กับเกมในจอทีวีอย่างไม่วางตา  ไอ้เราก็อุตส่าห์นึกว่าจะฉวยโอกาสชนะได้ซะแล้ว  สุดท้ายก็ KO เหมือนเดิม  แพ้ราบคาบ

“ อ่อนว่ะมึงอะ  แค่ไอ้กานต์ยังแพ้อีก “  พี่กิจพูดเยาะเย้ยครับ 

แหม...  พ่อคนเก่งลองมาเล่นเองมั้ยล่ะ

“ ลองเล่นกับน้องกานต์มั้ยล่ะ  จะได้รู้ว่าเป็นไง “  ผมพูดท้าทายไปบ้าง  ขณะที่น้องกานต์เองก็เลิกคิ้วท้าทายพี่ชายเหมือนกัน  ว่าแล้วพี่กิจก็วางการ์ตูนลงบนเตียงก่อนจะลงมานั่งที่โซฟาเล็กปลายเตียงเพื่อรับคำท้า

เกมที่สองพี่น้องคู่นี้แข่งกันก็เป็นเกมฟุตบอลครับ  ดูไปจนจะหลับ  ผมเลยหยิบการ์ตูนที่ผมเองก็ยังไม่ได้อ่านมาอ่านรอ  แต่จนแล้วจนรอดผลก็ยังเสมอกันอยู่ดี  จนผมอ่านการ์ตูนจบและไม่รู้จะทำอะไร   เลยออกห้องลงไปเดินเล่นข้างล่างแทน
เดินไปเดินมาก็มาโผล่ที่ห้องครัว  คุณป้ากับป้าแม่ครัวกำลังเตรียมอาหารเย็นกันอยู่  ผมที่ไม่มีอะไรทำอยู่พอดี  เลยถือโอกาสเข้าไปช่วยท่านเลยละกัน  ก็อย่างที่เขาว่า  อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายไงครับ

“ คุณป้ามีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ “  เดินมาถึงผมก็ถามขึ้นทันที  คุณป้ายิ้มก่อนจะพูดขึ้น

“ กันต์ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอลูก “

“ ก็พอเป็นบ้างครับ  เมื่อก่อนตอนอยู่กับพ่อ  ผมก็เป็นคนทำกับข้าวอะครับ “

“ นั้นถ้ากันต์ว่างก็ช่วยป้าหั่นผักก็แล้วกัน  ว่าแต่...  ลองทำกับข้าวให้ป้าชิมสักจานก็ดีนะ  เห็นแม่เราเคยเล่าให้ป้าฟังเหมือนกันว่าเราชอบทำอาหารและฝีมือก็ดีด้วย “  คุณป้ายิ้มชมผมมาครับ

“ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ  นั้นเดี๋ยวผมหั่นผักให้ก่อนละกันนะครับ  เดี๋ยวค่อยดูว่ามีอะไรที่ผมพอทำได้บ้างอะครับ “ ผมขันอาสาก่อนจะเริ่มสนุกกับงานครัวที่ผมชอบ  จะว่าไปการทำอาหารก็ถือว่าเป็นงานอดิเรกของผมก็ได้นะครับ


.................................................


ที่ห้องอาหาร

มื้อเย็นถูกจัดเรียงบนโต๊ะยาว  คุณลุงนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ส่วนผมนั่งอยู่ข้างๆกับคุณป้า  และพี่กิจนั่งข้างกับน้องกานต์  อาหารมื้อนี้เยอะจนเต็มโต๊ะไปหมดเลยครับ  แถมยังน่าทานทั้งนั้นด้วย

“ นี่ตากิจลองกินนี่ดูสิ  ยำ 3 เห็ด “  ทานไปได้สักพักคุณป้าก็แนะนำเมนูใหม่ให้พี่กิจลองทานดูครับ  เป็นเห็ด 3 ชนิดเอาไปทอดก่อนแล้วราดด้วยน้ำยำ  ที่สำคัญเมนูนี้ผมเป็นคนทำเองครับ  พี่กิจทำหน้าแปลกๆ ก่อนจะลองชิม  ส่วนผมเองก็ได้แต่รอลุ้นผลว่าพี่เขาจะว่ายังไง

“ อืม..  อร่อยดีแม่  ไม่เคยเห็นทำมาก่อนเลย  วันหลังกิจกลับมาทำให้กินอีกนะ “  พี่เขาพูดมาพลางตักใส่จานอีกรอบ  ซึ่งนั่นทำเอาผมอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ครับ

“ อันนี้แม่กับป้านุ่มไม่ได้ทำนะ  ให้เดาว่าใครทำ “

“ ใครอะแม่ “  พี่กิจถามพลางยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

“ ก็น้องกันต์ไง  โชว์ฝีมือเองทั้งหมดเลยนะเนี่ย “  คุณป้าพูดจบพี่กิจก็แทบสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไปเมื่อสักครู่  ก่อนจะเบิกตากว้างมองผมอย่างแปลกใจ

“ ไหนๆ  ผมลองบ้าง “  น้องกานต์พูดขึ้นพลางตักมาชิม

“ โหพี่กันต์  ฝีมือแบบนี้นะ  เปิดร้านได้สบาย “  เล่นชมกันทั้งโต๊ะแบบนี้ผมก็อดเขินไม่ได้สิครับ

“ แบบนี้อยู่ที่คอนโด  กันต์ก็ทำอาหารให้พี่กิจเค้ากินบ้างนะลูก  ลุงเคยไปคอนโดเห็นมีแต่อาหารแช่แข็งทั้งนั้น “  คุณลุงว่ามาครับ  ผมก็ได้แต่พยักหน้ายิ้มรับไปเล็กๆ  ส่วนพี่กิจนี่เหลือบตามามองผมอยู่เล็กน้อย  พอเห็นผมมองสวนกลับไปก็เลี่ยงไปมองทางอื่นแทน

ทานกันไปคุยกันไปก็อิ่มครับ  แถมก็เริ่มมืดแล้วด้วย  พี่กิจเลยบอกให้ผมเตรียมตัวกลับได้แล้ว  ไม่งั้นจะกลับไปถึงคอนโดดึกเกิน  เพราะพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าด้วย  ผมเลยลาคุณลุงและคุณป้า  ส่วนน้องกานต์ก็ชวนให้ผมมาเที่ยวหาทุกอาทิตย์เลย  ผมก็ได้แต่บอกไปว่าถ้าว่างพี่ก็จะมาหานะ...  จะว่าไปมาบ้านคุณป้าก็สนุกดีนะครับ  ครอบครัวแกอบอุ่นดี  แถมยังเห็นผมเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวอีก  มันเลยทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้างเล็กๆ  จากที่เคยคิดว่าต้องอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้แล้วแท้ๆ

“ จะขึ้นรถได้ยัง.... “ 

น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยถามขึ้น  ขณะที่ผมกำลังลาคุณป้าอยู่ที่หน้าประตูบ้าน

“ คร้าบ... “  ผมขานรับไปก่อนจะเดินไปหาพี่กิจที่ยืนรออยู่ที่รถแล้ว

“ ตากิจนี่ก็เร่งน้องจัง  ถ้าน้องมาฟ้องว่าเราแกล้งน้องให้แม่รู้นะ  น่าดู... “ 

ถึงจุดนี้ผมเลยอมยิ้มมีชัยพลางเลิกคิ้วให้คนตรงหน้า  เมื่อตอนนี้มีคนถือหางและปกป้องผมอยู่  ส่วนพี่กิจก็ได้แต่มองหน้าคาดโทษผมไว้  สงสัยว่ากลับคอนโดแล้วผมต้องรีบเข้าห้องทันทีเลยละครับ  เริ่มเห็นสัญญาณอันตรายแล้ว

กว่าจะออกจากบ้านพี่กิจก็ค่ำแล้วละครับ  อากาศก็เริ่มเย็นลง  มีแสงไฟจากบ้านเรือนและตึกสูงไกลๆ  กลิ่นหอมจากคนตรงหน้ายังคงทำให้ผมชอบเหมือนเคย  รู้สึกดีจังครับ  ทั้งกลิ่นและบรรยากาศในตอนนี้  มันทำให้ผมเริ่มเคลิ้มและง่วงนอนขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว

ถ้าผมจะขอพิงหลังพี่กิจ  พี่เขาจะว่าอะไรมั้ยนะ....

แต่มันง่วงนี่ครับ  ลองสักครั้งคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง...

ผมค่อยๆแนบแก้มลงไปบนแผ่นหลังกว้าง  พี่เขาสะดุ้งตัวเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ผมเลยทิ้งน้ำหนักลงไปมากกว่าเดิม  ตาผมค่อยๆปิดลงและเหมือนว่าความเร็วของรถจะลดลงกว่าเดิมเล็กน้อย...

บางทีนี่อาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวที่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่เขามากขนาดนี้  พอถึงวันพรุ่งนี้เราก็คงกลับสู่สภาพเดิม  ประธานเชียร์กับปีหนึ่ง  เจ้าของห้องกับผู้อาศัย  พี่เขาคงจะเย็นชาหน้านิ่งเหมือนเดิม....

แต่ก็เอาเถอะ  วันหยุดของผม  ได้เท่านี้ก็ดีเกินไปแล้วละครับ...



TBC.


---------------------------------------------------------------------


ขอบคุณทุกคนนะครับที่ติดตาม ^ ^ :pig4: :pig4:

ตอนนี้สั้นจัง  พึ่งสังเกตเห็น...  เท่าที่เขียนไปหลายตอน(ตอนนี้กำลังเขียนตอนที่ 32 อยู่ครับ )  ตอนนี้ไหงมันสั้นจังหว่า ><

วันมะรืนจะมาต่อตอนต่อไปให้นะครับผม ( ลงวันเว้นวันครับ )

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณอีกครั้งที่ติดตามกันนะครับ  ถ้ามีอะไรแนะนำหรือติชม  ก็น้อมรับเสมอครับผม  ขอบคุณคร้าบปม ^ ^  :mew5:

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 06/01/2561 update chapter 5 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 06-01-2018 23:11:14
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 06/01/2561 update chapter 5 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-01-2018 06:05:23
หลานกันต์มีความสุขแล้ว ดีใจด้วย แต่หลับตอนขี่มอไซส์ มันอันตรายนะหลาน เป็นห่วงจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 06/01/2561 update chapter 5 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 09-01-2018 12:26:37
Chapter 6



กันต์'s  Part





ตลอดทั้งสัปดาห์นี้เป็นอะไรที่เหนื่อยมากครับ  ทั้งเรียน  ทั้งงานส่งอาจารย์  ทั้งเชียร์  จนพวกผมนี่แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรกันเลยครับ

ครั้นจะโดดเชียร์ก็ใช่ที่  ยิ่งผมด้วยแล้ว  โดดมาโทษตายสถานเดียว  ก็ดันไปพักอยู่กับท่านประธานเชียร์แบบนี้นี่ครับ  แต่จะว่าไปช่วงนี้พี่กิจเองก็กลับดึกอยู่เหมือนกันนะครับ 4ทุ่ม 5ทุ่ม ตลอดเลยช่วงนี้



และแล้ววันศุกร์สุดสัปดาห์ก็มาถึง...

ผมนั่งทำงาน Drawing ที่ต้องส่งอาจารย์ในอาทิตย์หน้าอยู่ในห้อง  ส่วนพี่กิจก็เหมือนเดิมครับ  ยังไม่กลับห้องมาเลย  ผมมองดูนาฬิกาซึ่งบอกเวลาว่าตอนนี้กว่า 5 ทุ่มแล้ว  แถมฝนก็ตกด้วย  แบบนี้พี่เขาจะกลับมาได้มั้ยนะ...

ผมวางดินสอกดไว้ที่โต๊ะเขียนแบบก่อนจะเดินออกมานอกห้อง  อดห่วงพี่เขาไม่ได้อยู่เหมือนกันนะครับ  เมื่อเช้าก็เห็นเริ่มมีไอบ้างเล็กน้อย  ท่าทางงานกิจกรรมเชียร์คงหนักน่าดู  เห็นพี่เขาทุ่มเทแบบนี้แล้วผมก็รู้สึกว่ายิ่งไม่ควรจะโดดเชียร์เลยนะครับ  เพราะถ้ามันเป็นกิจกรรมที่ไม่มีความหมายอะไร  พี่เขาคงไม่ทุ่มเทกันมากขนาดนี้หรอก...

ผมนั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกมองสายฝนภายนอกกระจกใสด้วยความรู้สึกเป็นห่วง  บรรยากาศภายในห้องเงียบและหดหู่เหมือนกับใจของผมตอนนี้เลย... 

เมื่อไหร่พี่เขาจะกลับนะ...

สักพักหนึ่งเสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออก  ผมหันขวับไปมองอย่างรวดเร็วพร้อมรอยยิ้ม  พี่กิจเดินเข้าห้องมาในสภาพชุดนักศึกษาที่เปียกปอน  และเหมือนพี่เขาจะเดินโซเซจนผมสังเกตได้  แต่เขาก็ยังคงพยายามรักษาภาพลักษณ์เอาไว้  พร้อมทั้งมองมายังผมก่อนจะพูดขึ้น

“ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก “

“ เอ่อ...  ก็  ทำงาน Drawing อยู่อะพี่  แล้ว..นี่พี่กินไรมายัง “

“ กินมานิดหน่อยตอนเย็นละ “  พูดจบพี่เขาก็เดินเข้าห้องไป  แต่ดูจากสภาพพี่เขาแล้วยิ่งทำให้ผมเป็นห่วงมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าครัวไปหาอะไรร้อนๆให้พี่เขาทานหน่อย  ยิ่งขับรถเปียกฝนกลับมาหนาวๆแบบนี้ด้วยแล้ว  เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี

กว่า 20 นาทีผมก็ทำโจ๊กสำเร็จรูปใส่หมูสับและผักชีนิดหน่อยเสร็จเรียบร้อย  ผมเดินมาเคาะประตูห้องพี่เขา  แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ กลับมา  ผมเคาะอีกครั้งพร้อมเรียกพี่เขา  แต่ก็เหมือนเดิมครับ  ชักเริ่มเป็นห่วงพี่เขาขึ้นมาซะแล้วสิ  นั้นผมขอถือวิสาสะเข้าไปในห้องเลยละกันครับ

ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่เขากำลังนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง  ท่าทางพี่เขาคงจะไม่ไหวจริงๆ  นั้นผมไม่รบกวนจะดีกว่า  เพื่อพี่เขาจะได้พักผ่อน  แต่ก็เลือกที่จะวางโจ๊กทิ้งไว้ให้บนโต๊ะเล็กข้างๆเตียง  เผื่อถ้าพี่เขาตื่นมาแล้วเกิดหิวก็จะได้มีอะไรกิน

“ มึงเข้ามาได้ไงเนี่ย... “  เสียงพี่กิจพูดขึ้นมาเบาๆ  ในสภาพที่งัวเงียตาปรือๆ 

“ เอ่อ...  ผมเห็นพี่ยังไม่ได้กินอะไรมา  ผมเลยทำโจ๊กมาให้อะครับ  แต่...  ผมเคาะห้องแล้วนะครับ  แต่.. “

“ เออ  วางไว้ตรงนั้นแหละ  เดี๋ยวกูกินเอง  ขอบใจมาก  แล้วมึงก็ออกไปได้แล้ว “  พี่เขาพูดมาเสียงอ่อย  ซึ่งผมคิดว่าจะโดนด่าซะแล้วเสียอีก

“ ครับพี่กิจ  นั้นพี่กินเสร็จก็ทิ้งไว้นี่แหละครับ  เดี๋ยวผมเข้ามาเอาไปเก็บให้เอง “

ผมบอกไป  เห็นพี่กิจพยักหน้าพร้อมด้วยเสียงในลำคอ อือๆ  จากนั้นผมก็เดินออกจากห้องไป 

ผมกลับไปทำงาน Drawing ของผมต่อ  สักพักเมื่อเห็นว่านานพอสมควร  ป่านนี้พี่กิจก็คงกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ผมก็เลยวางดินสอเดินไปยังห้องพี่กิจอีกรอบ

ผมเดินเข้ามา  พี่กิจยังคงนอนหลับอยู่เหมือนเดิม  และโจ๊กที่ผมทำไว้มันก็ยังคงวางอยู่ในสภาพเดิมเหมือนตอนที่ผมเอามาวางไว้  นี่พี่กิจยังไม่ได้ลุกมากินเลยเหรอเนี่ย

ผมเดินเข้าไปดูอาการพี่เขาใกล้ๆ  ก้มตัวลงเอามือไปแตะที่หน้าผาก 

เห้ย!!  ตัวพี่กิจร้อนอย่างกับไฟเลยครับ  ผมตกใจออกจะรนนิดหน่อย  แต่ก็ต้องพยายามตั้งสติเอาไว้

คิดสิๆ  ไอ้กันต์  ต้องทำยังไง....

ผมมองดูพี่กิจที่นอนด้วยท่าทางที่อึดอัดแต่ก็ไม่มีสติ  ก่อนจะนึกถึงตอนที่ตัวเองเคยป่วยและตัวร้อนมากๆ แบบนี้  เมื่อตอนเด็กๆ  ซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่จะมาคอยเช็ดตัวให้ผมอยู่ตลอดเวลาที่มีไข้  ผมเลยว่าจะลองทำแบบนั้นดู  เผื่ออาการพี่กิจอาจจะดีขึ้นบ้างก็ได้

ผมเตรียมน้ำใส่กะละมังและผ้าขนหนูผืนเล็กกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง  ชุบน้ำและบิดพอหมาดๆ  พลิกตัวพี่กิจให้นอนหงาย  ก่อนจะค่อยๆ เช็ดเบาๆ ตั้งแต่หน้าผากไล่ลงมายังคอ....  แต่เพียงเท่านี้  พี่กิจก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยท่าทีที่ตกใจ  จนทำให้ผมชะงักมือลงทันที  พร้อมกับสีหน้าเจื่อนๆ

“ ทำอะไรของมึงวะ!! “  พี่กิจถามขึ้นมาเสียงดัง

“ เอ่อ..  คือผมเห็นพี่ตัวร้อนมากอะครับ  เลยจะมาเช็ดตัวให้  เพราะทำแบบนี้แล้วไข้พี่จะได้ลดลง “  ผมบอกไปเสียงอ่อย  พลางมองหน้าพี่เขาอย่างกล้าๆกลัวๆ  ส่วนพี่กิจจากสายตาดุๆ เมื่อกี้ก็ดูจะมีท่าทีที่อ่อนลง

“ แล้วทำไมไม่ปลุกกูก่อนวะ “

“ ก็พี่ไม่ตื่นนี่...  เอ่อ...  ผมเช็ดต่อนะ  พี่จะได้สบายขึ้น “  พี่กิจมองผมด้วยสายตาเหมือนจะระแวงและลังเลอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะพูดขึ้น

“ กูเช็ดเองได้ “

“ ไหวเหรอพี่  ผมว่าอย่าฝืนเลย  แค่ลุกพี่ยังจะไม่ไหวเลยตอนนี้  ให้ผมทำให้เถอะครับ  แค่นี้เอง “  ผมพูดจบพี่กิจก็มองหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ  ก่อนจะขานรับในลำคอเบาๆ

“ นั้น...  พี่ช่วยผมถอดเสื้อให้ผมหน่อยนะ “  ผมพูดขึ้น  ส่วนพี่กิจก็มองผมเหมือนจะระแวงเล็กๆ  แต่ก็ยอมถอดเสื้อยืดที่ใส่นอนให้แต่โดยดี

ผมค่อยๆเช็ดไปตามแผ่นอก  ข้อพับ  และเรียวแขน  พลางกลืนน้ำลายเล็กๆอย่างไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ  ในขณะที่หัวใจกลับเต้นรัวอยู่ตลอดเวลา  รู้สึกเกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ

“ อือ.. “

ผมชะงักมือที่กำลังลูบเบาๆบริเวณหน้าท้องพี่กิจ  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองยังพี่กิจที่กำลังนั่งพิงหมอนอยู่ที่หัวเตียง  พี่เขาทำหน้าเหรอหรา  ก่อนจะกระแอมเบาๆแก้เก้อขึ้นมา

“ มะ  มองเชี่ยไรมึง...  ไม่ทำต่อล่ะ “

ผมหลุดอมยิ้มเล็กๆ ออกมาอย่างห้ามตัวไม่ได้  ก่อนจะหันกลับไปเช็ดตัวให้พี่เขาต่อ

“ นี่กูคงไม่ต้องถึงกับถอดบ๊อกเซอร์ออกใช่มั้ย “

“ บ้าเหรอพี่...  ใครจะไปเช็ดลึกอะไรขนาดนั้นกันละ “  บ้าป่าวทะลึ่งชิบ  แต่พูดไปก็อดเขินขึ้นมาไม่ได้อีกละครับ  รู้สึกเหมือนหูมันจะแดงเพราะรู้สึกร้อนๆที่หูยังไงก็ไม่รู้สิครับตอนนี้  รีบทำให้เสร็จๆไปดีกว่า  ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอึดอัดแฮะ...

พอเช็ดตัวเสร็จ  ผมก็เอาของไปเก็บ  ก่อนจะเอายาลดไข้  และเค้กกล้วยหอมที่พึ่งซื้อมาเมื่อวันก่อนให้พี่เขารองท้อง  เพราะดูท่าแล้วพี่เขาคงอยากจะนอนและโจ๊กของผมก็คงจะเป็นหมันไปซะแล้ว

“ ขอบใจนะ “

พี่กิจพูดขึ้นมาพลางมองหน้าผมด้วยสายตาคมๆเหมือนเดิม  ดูท่าไข้คงจะลดลงบ้างแล้วละครับตอนนี้ 

กินยาเสร็จพี่เขาก็ร่นตัวลงไปนอนใต้ผ้าห่มเหมือนเดิม  และไม่พูดอะไรกับผมอีก  ผมเลยเดินกลับห้องตัวเองไป

รู้สึกอดห่วงพี่เขาไม่ได้แฮะ  ท่าทางผมคงจะหลับไม่ลงซะแล้ว  ถ้าอย่างนั้นก็นั่งทำงาน Drawing ต่ออีกหน่อยดีกว่า  เผื่อจะรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้าง

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือที่โต๊ะข้างๆ ขึ้นมาดูเวลา  นี่มันก็เกือบจะตี 2 แล้วนี่หว่า  ผมทำงานเพลินจนเลยเวลามาถึงขนาดนี้แล้วเหรอ  แต่จะว่าไป  อาจารย์แม่งก็สั่งงานมาซะเยอะจนพวกผมเริ่มบ่นกันทั้งชั้นปีไปแล้วเนี่ย

ผมวางดินสอลง  วันนี้คงพอแค่นี้  และกำลังว่าจะนอนแล้ว  แต่อีกใจก็คิดว่าน่าจะเดินเข้าไปดูพี่กิจอีกสักหน่อยนะ 
ผมช่างใจอยู่เล็กน้อย  เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้วด้วย  แต่ไม่รู้ทำไม่มันถึงอดเป็นห่วงพี่เขาไม่ได้จริงๆ  ว่าแล้วก็ลองเข้าไปดูพี่เขาสักหน่อยดีกว่า

ผมเข้าไปภายในห้องพี่กิจอีกรั้ง  ภายในมืดและเงียบมาก  จะมีก็เพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ส่งเสียงการทำงานของมันอยู่  พี่กิจนอนตะแคงห่มผ้าหนาอยู่  ผมเดินเข้ามาร่นตัวลงข้างๆเตียง  เห็นท่าทางพี่เขาเหมือนจะหนาวสั่น  ผมเลยรีบเอามือไปแตะที่หน้าผากพี่เขาทันที 

“ เชี่ย! “  ผมอุทานขึ้นมาในความมืด  ตัวพี่เขาร้อนขึ้นมาอีกแล้วครับ

ผมรีบออกห้องไปเอาผ้าขนหนูและน้ำเตรียมมาเช็ดตัวให้พี่เขาอีกรั้ง  เพื่อที่จะทำให้ไข้มันลดลง  คราวนี้เหมือนพี่เขาไม่ค่อยจะรู้สึกตัวเลยครับ  ขนาดผมถอดเสื้อออกพี่เขาก็ยังไม่ตื่นเลย  ผมเช็ดตัวให้พี่เขาเสร็จก็ใส่เสื้อให้พี่เขาอีกครั้ง  ก่อนจะห่มผ้าให้เหมือนเดิมพร้อมทั้งเบาแอร์ลงอีกหน่อย

อาการสั่นเทาของพี่เขาดูจะลดลง  แต่ก็คงจะยังวางใจอาการไม่ได้  สงสัยพรุ่งนี้ถ้าไม่ดีขึ้นคงต้องพาไปหาหมอแล้วละมั้งครับ
ผมนั่งลงบนพื้นข้างๆเตียง  มองหน้าพี่กิจที่ตอนนี้นอนพลิกตัวหันหน้ามาเผชิญหน้ากับผมอยู่  ใบหน้าพี่เขาตอนนี้โครตเท่ห์เลยครับ  ใบหน้าเรียวได้รูป  จมูกโด่งเป็นสัน  ริมฝีปากบางรูปกระจับ  คิ้วหนาคมๆที่ชอบขมวดเวลาทำหน้าดุใส่ผม  แต่ดูตอนนี้สิครับ  ไร้พิษสงสุดๆ  นอกจากผมคงไม่มีใครได้เห็นประธานเชียร์สุดโหดในมุมนี้หรอกมั้ง

คิดได้อย่างนี้  จู่ๆ  ผมก็ยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น  แถมยังท้าวคางลงบนเตียงมองพี่เขาไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

แม่ง....  ผู้ชายอะไรวะหล่อดึงดูดสายตาคนได้ขนาดนี้ 

ว่าแต่..  แล้วนี่ผมจะมาเคลิ้มอะไรกับพี่เขาเนี่ย  บ้าไปแล้ว....

ผมลุกไปปิดไฟ  แล้วว่าจะกลับไปห้องผม  แต่ขณะที่มือกำลังกำลูกบิดประตูอยู่นั้น  ในหัวก็คิดขึ้นมาทันทีว่า   ถ้าพี่ตัวร้อนขึ้นมาอีกจะทำยังไงล่ะ

ผมคลายมือออกจากลูกบิด  ก่อนจะกลับมานั่งลงข้างเตียงในความมืด  เท้าคาง  มองดูพี่กิจที่กำลังหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมออยู่ในตอนนี้

อีก 15 นาทีละกัน  ดูพี่เขาอีกสักหน่อย  แล้วค่อยกลับไปนอนที่ห้อง.....



.......................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 06/01/2561 update chapter 5 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 09-01-2018 12:39:57
กิจ’s  Part




เช้านี้แม่งปวดหัวชิบหาย  แถมยังตัวรุมๆด้วยครับ  ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาจากแสงสว่างที่รอดผ่านม่านสีขาวบางที่ผมเปิดทิ้งไว้  ดูจากแสงสว่างจ้าแบบนี้แล้ว  มันคงจะสายมากเลยละครับ  คงเพราะอาการไข้เลยทำให้ผมนอนยาวกว่าปกติ

ผมที่กำลังนอนหงายขยับตัวเล็กน้อยตะแคงมาทางด้านขวา  ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าที่ขอบเตียงมีใครบางคนกำลังฟุบหลับอยู่ 
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  ไอ้กันต์รุ่นน้องและรูมเมทของผมเอง  ว่าแต่ทำไมมันถึงมานอนในสภาพนี้ได้ล่ะ  ก็เท่าที่ผมจำได้คือเมื่อคืนหลังจากที่มันเช็ดตัวให้ผมเสร็จมันก็ออกจากห้องผมไปแล้วนี่นา  แล้วทำไม...

ผมเหลือบไปมองยังโต๊ะเล็กใกล้ๆเตียง  ก็เห็นกะละมังที่มีผ้าขนหนูสีขาวพาดอยู่  แถมยังมีโจ๊กถ้วยเที่มันทำมาไว้ให้ผมกิน แต่ผมก็ไม่ได้กินเพราะว่าร่างกายมันไม่ไหวจริงๆ ครับ 

ผมดูจากสภาพแล้ว  บางทีมันอาจจะเข้ามาเช็ดตัวให้ผมอีกรอบก็ได้  โดยที่ผมไม่รู้ตัว และคงเผลอนอนหลับตรงนี้แหละครับ
นี่มัน...  เป็นห่วงและทำให้ผมถึงขนาดนี้เชียวเหรอ....  ทั้งๆที่...  ผมโครตจะใจร้ายและแกล้งมันมาตลอดเนี่ยนะ....

มันยังคงหลับสนิท  ท่าทางคงจะนอนดึกพอสมควร  หลับลึกซะขนาดนี้  ผมมองหน้ามันได้ชัดๆจริงๆก็วันนี้แหละครับ  เมื่อมันนอนตะแคงหันหน้ามาทางผม

เชี่ยนี่แม่ง...  ผิวขาวเนียนชิบหาย  จะว่าไปผิวดีกว่าผู้หญิงหลายๆ คนด้วยซ้ำไป  ไม่รู้เป็นผู้ชายประสาอะไรถึงได้มีผิวดีขนาดนี้  แต่ก็อย่างว่าแหละครับ  สงสัยคงไม่ค่อยได้เล่นกีฬาถึงได้ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง  เพราะแบบนี้ไงผมถึงได้บังคับให้มันมาออกกำลังกายกับผมทุกเช้า

ไม่รู้ว่าเพราะแสงที่ส่องเข้ามาหรืออะไร  มันเลยทำไมผมมองหน้าไอ้นี่แล้วแม่ง...  น่ารักเกินผู้ชายไปปะเนี่ย  ผิวก็ขาวใส  ปากก็เล็กเรียวสีชมพูจางๆ  จมูกไม่โด่งมากเป็นสันกำลังดี  ขนตาก็แม่งยาวอย่างกับผู้หญิง  แถมตอนมันนอนหลับตาพริ้มแบบนี้นะ  เห้อ....  ผู้หญิงยังอายเลยเหอะ..

ว่าแต่นี่ผมคิดอะไรไปไกลขนาดนั้นวะเนี่ย....

ว่าแล้วผมก็ละสายตาออกจากมัน  แต่ก็ไม่วายเหลือบมามองมันอีกครั้งอยู่ดี  นี่มันทำให้ผมมองมันอย่างกับเวลาที่เราเห็นผู้หญิงสวยๆเดินผ่านมาเลยอะครับ

ท่าทางจะเลอะเลือนเพราะพิษไข้ซะแล้วผม 

ผมสะบัดหัวไปมาเล็กๆ  เพื่อให้ตื่นและมีสติมากขึ้น  แต่แม่งลืมไปว่าปวดหัวอยู่..  มึนหนักเข้าไปอีกละครับ  ดีนะที่วันนี้เป็นวันเสาร์  ถ้าเป็นวันธรรมดานี่ผมคงแย่  ยิ่งช่วงนี้มีงานเชียร์เข้ามาด้วยแล้ว  ถ้าประธานเชียร์อย่างผมมีสภาพแบบนี้คงได้อายปี 1 ทั้งคณะแน่ๆ

ผมขยับตัวพยายามจะลุกขึ้น  ฝืนตัวเองให้ร่างกายมันสู้กับพิษไข้สักหน่อย  เผื่อว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น

“ อะ อือ... “ 

เสียงไอ้คนข้างเตียงมันสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาครับ  นี่ผมกวนมันหลับใช่มั้ยเนี่ย  แอบรู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้  ทั้งๆที่มันนอนดึกก็เพราะผมแท้ๆ  ใจจริงก็อยากให้มันนอนต่อดีๆแหละครับ  แต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี  ยิ่งเป็นมันด้วยแล้วยิ่งพูดยาก  เพราะผมกับมันก็ไม่ค่อยจะคุยกันดีสักเท่าไหร่ 

ไม่ใช่ว่าผมเกลียดมันหรอกนะครับ  แต่อาจเป็นเพราะครั้งแรกที่เจอกัน  มันเป็นต้นเหตุของความน่ารำคาญใจสำหรับผมที่ต้องมาถูกแม่บังคับอย่างนี้  ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ...  ผมคงจะชินแล้วละมั้งครับกับการที่อยู่ด้วยกันกับมันแบบนี้  และถ้าเจอกันในแบบอื่นที่ไม่ใช่การเจอกันเหมือนครั้งนั้น  ผมก็คงจะไม่ใจร้ายกับมันแบบนี้หรอก 

“ อ้าว  ผมเผลอหลับไปเหรอเนี่ย...  พี่กิจตื่นละเหรอ “  มันงัวเงียว่ามาครับ  ตาแม่งก็ยังลืมขึ้นมาได้แค่ครึ่งเดียวเอง  จะน่ารักไปไหนมึง..

เห้ย...  นี่ผมคิดบ้าอะไรไปอีกแล้วเนี่ย..

“ เออ “  ผมทำหน้านิ่งและตอบไปแค่นั้นครับ

“ โทษนะพี่ “  แล้วจู่ๆมันก็เลื่อนตัวเข้ามาใกล้  ก่อนจะเอามือมาแตะหน้าผากผมโดยที่ผมไม่ทันจะตั้งตัว   รู้ตัวอีกทีผมก็ปัดมือมันออกไปแล้วละครับ

เชี่ยเอ้ย... น้องมันอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ  แต่มันไม่ชินอะครับที่มีผู้ชายมาสัมผัสตัวใกล้ๆแบบนี้  เพราะมือนุ่มๆของมันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเวลาเล่นหัวกับเพื่อนๆในคณะ  เลยทำให้รู้สึกแปลกๆจนต้องปัดมือมันออกไปแบบนั้น

“ ทำเชี่ยอะไรมึงอีกเนี่ย “

ไวเท่าความคิด  ผมก็ดันปากหมาดุมันไปแล้วละครับ 

ทำเชี่ยอะไรวะกู  รู้ทั้งรู้นะว่าน้องมันเป็นห่วง... 

แม่งเอ้ย....  หน้าเจื่อนเลยมันตอนนี้

“ จะดูว่าพี่ตัวร้อนรึเปล่าอะตอนนี้  แต่ก็ดูไข้จะลดลงกว่าเมื่อคืนเยอะแล้วนะ “  มันว่ามาเสียงอ่อยครับ  ก่อนจะลุกเดินไปยังโต๊ะเล็กที่วางกะละมังน้ำ  และยกมันพร้อมกับโจ๊กที่มันทำให้แต่ผมก็เสือกไม่กินขึ้น  ก่อนจะเดินไปยังประตูห้อง

ผมมองมันตาละห้อยอย่างรู้สึกผิดในการกระทำ  แต่ก็ปากแข็งไม่กล้าขอโทษหรือแม้แต่จะทำอะไรทั้งนั้น  เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ครับผม  รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยตอนนี้

“ เช้านี้ก็กินโจ๊กละกันนะพี่  เดี๋ยวจะได้กินยาด้วย “  มันหันมาบอกผม  ซึ่งยังคงทำหน้านิ่งมองตอบมันไป  ก่อนที่มันจะเปิดประตูห้องและเดินออกจากห้องไป

“ เชี่ยเอ้ย.... “  ผมสบถขึ้นมาเบาๆ  ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความงี่เง่าของตัวเอง 

นอนเซ็งกับตัวอยู่ได้ไม่นาน  ผมก็ค่อยๆลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ  ทำธุระส่วนตัว  แต่ไม่อาบน้ำนะครับ  แค่ล้างหน้าแปรงฟันก็พอแล้ว  รู้สึกว่าร่างกายมันยังไม่ค่อยไหวสักเท่าไหร่  ก็ตั้งแต่เปิดเทอมมาผมแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย  ไหนจะเรียน  ไหนจะเรื่องเชียร์อีก  แถมเมื่อวานยังมาตากฝนอีก  ร่างกายมันก็เลยทรุดเป็นธรรมดาครับ

ผมเข้ามานอนต่อในลักษณะเดิม  แต่ไม่วายหยิบไอแพดมาเปิดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย  สักแปบเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น  และเหมือนว่ามันจะไม่รอให้ผมอนุญาต  แม่งก็ถือวิสาสะเปิดเข้ามาแล้ว

ผมเกือบจะออกปากด่ามันไปอยู่แล้วเชียว  แต่ก็ชะงักลงเมื่อเห็นมันถือถาดข้าวเข้ามาให้ผม  เอาเป็นว่าปล่อยผ่านไปวันนึงก็แล้วกันครับ

มันวางลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียงก่อนจะเลื่อนมาใกล้ๆ  ผมหันไปมองในถาดก็เห็นมีชามโจ๊กกลิ่นหอมน่ากินอยู่  ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเป็นโจ๊กสำเร็จรูปนะ  เพราะมันมีหมู มีตับ และรูปลักษณ์น่าทานกว่ามาก  นอกจากนี้ก็มีนม  น้ำเปล่าและก็ยาอยู่ในนั้นด้วย

“ ผมลงไปซื้อที่ร้านหน้าคอนโดมาให้อะครับ “  มันบอกมา  ร้านนี้อร่อยครับ  ผมเองก็ชอบไปกินอยู่บ่อยๆ  แต่ผมจะบอกป้าคนขายเขาเสมอว่าไม่ใส่ขิง  เพราะผมไม่ชอบ  แล้วดูมันซื้อมาสิครับ  ใส่มาครบเลย....

“ จะลงไปซื้อทำไมไม่บอกกูวะ  กูไม่กินขิงแม่งเสือกใส่มาเต็ม “

“ อ้าวเหรอพี่!  ผมไม่รู้  แต่ไม่เป็นไรผมจัดการให้ “

ว่าจบมันก็ดึงเอากระดาษทิชชูที่โต๊ะมาวางข้างๆชาม  ก่อนจะบรรจงตักขิงออกให้ผมไปจนหมด  รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณชายที่เอาแต่ใจเลย  ทั้งๆที่ปกติผมค่อนข้างจะติดดินเสียด้วยซ้ำไป  แม้นามสกุลและฐานะทางบ้านจะทำให้ผมมีชีวิตอยู่ในฐานะอย่างนั้นก็ตาม 

แต่กับไอ้รุ่นน้องคนนี้  ไม่รู้ทำไมผมถึงชอบหาเรื่องมันจังครับ  แต่แม่งก็ยังเสือกมาดีกับผมแบบนี้อีก 

ดูกลายเป็นคนเลวขึ้นมาทันทีเลยครับตอนนี้....

“ เสร็จละพี่  กินได้ “ 

มันว่ามาหลังจากที่เอาขิงออกให้ผมไปจนหมดแล้ว  ผมวางไอแพดลงข้างตัว  ก่อนจะขยับตัวจากกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหมอนอยู่ที่ขอบเตียงมานั่งยังข้างเตียง  ซึ่งมันขยับโต๊ะตัวเล็กที่วางของมาใกล้ๆให้ผมเรียบร้อยแล้ว  เพื่อที่ผมจะได้กินได้สะดวก

“ แล้วมึงไม่กินเหรอวะ “

“ กินดิพี่  แต่เดี๋ยวค่อยไปกิน “ 

“ อ้าว...  ทำไมวะ “

“ ก็ผมกลัวพี่แม่งดื้อ  ไม่ยอมกินเหมือนเมื่อวาน  แล้วก็จะไม่กินยาอีกอะ “ 

มันว่ามา  ผมถึงกับชะงักช้อนที่กำลังจะตักโจกเข้าปากไปเลยครับ  หันไปมองมัน  แม่งก็นั่งอมยิ้มส่งมาให้ผมเสียงั้น 
นี่มึงรู้มั้ย...  เป็นผู้ชายเขาไม่ทำตัวหน้ารักกันแบบนี้หรอกนะเว้ย!

“ กูก็กำลังจะกินอยู่นี่ไง  มึงก็ออกไปกินได้แล้ว  จะมานั่งมองกูทำเชี่ยไร “  ผมบอกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ  ก็แค่อยากให้มันหัดดูแลตัวเองบ้าง  ไม่ใช่มัวแต่มาห่วงคนอื่นอยู่แบบนี้

“ ไม่อะ  เพื่อความแน่ใจ  รอดูพี่ดีกว่า  พี่ยิ่งดื้อๆอยู่ “

“ ไอ้!!!.. “

กำลังจะด่ามัน  แต่นึกไม่ออกว่าจะด่ามันว่าอะไรดี

“ เออ!  อยากดูนัก  นั้นมึงก็เอาของมึงเข้ามานั่งกินกับกูในนี้เลยละกัน “

มันมองผมงงๆ คือมึงจะงงอะไรนักหนากับคำพูดง่ายๆ แค่นี้วะ

“ ให้ผมเข้ามากินในนี้กับพี่เหรอ “

“ ก็เออดิวะ  มึงนี่แม่งเข้าใจอะไรยากจังวะ “

น้องมันมองผมแปลกๆ  แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นจากพื้นที่มันนั่งเดินออกไปนอกห้อง  สักแปบก็กลับเข้ามาพร้อมกับชามโจ๊กร้อนๆอีกชาม  มันวางไว้ที่โต๊ะเล็กอีกฝั่ง  ก่อนจะเลื่อนเอาเก้าอี้จากโต๊ะทำงานผมมานั่ง

จากนั้นเราก็กินข้าวเช้ากันตามปกติเหมือนเช่นทุกที  ต่างกันก็ตรงที่เปลี่ยนบรรยากาศมากินในห้องผมและนั่งใกล้กันมากขึ้นกว่าปกติ

ผมมองดูมันกินโจ๊กก็อดนึกขำขึ้นมาไม่ได้  ก็ดูสิครับกินอย่างกับเด็กแน่ะ  แถมยังทำเลอะติดริมฝีปากบนและมุมปากอีก  ซึ่งมันเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยนะ  ไอ้เด็กน้อยเอ้ย...

“ ขำอะไร “  มันเงยหน้าจากชามโจ๊กขึ้นมามองผมครับ

“ ป๊าว... “  ผมได้แต่ยิ้มที่มุมปาก  ไม่บอกมันหรอกครับ  ปล่อยมันไปแบบนี้แหละ...  ก็..  น่ารักแบบเด็กๆดีว่ะ

หลังจากที่กินอะไรตามที่มันหามาให้แล้ว  ผมก็กินยาและทำท่าว่าจะนอนพักต่อครับ  แต่เพียงแค่หัวถึงหมอนมันก็ถามผมขึ้นมาอีกครั้ง

“ พี่กิจ... จะเช็ดตัวมั้ยครับ “

ผมมองมันนิ่ง  ซึ่งมันเองก็ดูกล้าๆกลัวๆที่ถามผมขึ้นมาแบบนี้  แต่ที่ผมนิ่งไปก็คือ  ผมยังจำความรู้สึกตื่นเต้นนิดๆที่มันมาเช็ดตัวให้ผมเมื่อคืนนี้ได้แม่น 

นึกแล้วก็...  น่าสนุกดีนะ  ให้มันเช็ดอีกรอบก็ดีเหมือนกัน

“ คือ..  ก็เห็นพี่ไม่ได้อาบน้ำเช้า  เผื่อจะได้สบายตัวก่อนนอนพักไง “

มันว่ามาก็ดูมีเหตุมีผลเหมือนกันนะ  ว่าแล้วก็ตามนั้นละกันครับ  แต่...

“ มึงจะเช็ดให้กูใช่มั้ย “

จู่ๆมันก็งุดหน้าลงไม่กล้าสบตาผมเสียอย่างนั้น  แปลกคน....

“ ก็..  ได้นะ “

มันว่ามาแค่นั้นก็เดินออกไปจากห้องผมพร้อมกับถาดอาหารมื้อเช้า  จากนั้นไม่ถึง 10 นาทีมันก็กลับเข้ามาในห้องผมอีกครั้งพร้อมอุปกรณ์สำหรับเช็ดตัว

ผมถอดเสื้อให้มันอย่างรู้หน้าที่  มันบิดผ้าขนหนูสีขาวพอหมาดๆ  ก่อนจะมาเช็ดซอกคอผมอย่างเบามือ  หน้ามันเข้ามาใกล้ผมมาก  ผมเหลือบตาขึ้นมามองมัน  แต่มันก็เลี่ยงสายตาผมไปทันที 

ผมรู้สึกแปลกๆแฮะคราวนี้  มันไม่เหมือนเมื่อคืนที่ผมสะลึมสะลือ  มีสติไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์  แต่เช้านี้ผมมีสติแล้ว...  พอไอ้เด็กนี่เข้ามาใกล้  จู่ๆมันก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาซะงั้น  ไม่ชินมั้งครับที่ผู้ชายเข้ามาใกล้และสัมผัสตัวผมลักษณะนี้  แถมแม่งยังขาวใส แบ๋วซะขนาดนั้น  นี่ถ้าเป็นผู้หญิงเข้ามาใกล้ผมขนาดนี้นะ  เสร็จไปไหนต่อไหนแล้ว  ถึงผมจะป่วยอยู่ก็เหอะ...

ผมปล่อยให้มันค่อยๆ เช็ดไล่ลงมาตามตัวเรื่อยๆจนถึงบริเวณหน้าท้อง  เหมือนน้องมันจะชะงักมือเล็กน้อยในขณะที่ผมเองก็รู้สึกเหมือนจะเริ่มเคลิ้มและมีอารมณ์ตามสัญชาตญาณของผู้ชาย..

“ เชี่ย! พี่กิจ “

อะไรวะ  จู่ๆแม่งก็ด่าผม  ผมซึ่งกำลังจะหลับตาเคลิ้มอย่างไม่รู้ตัวเป็นอันต้องเบิกตาขึ้นมาดูมันทันที

เชี่ยจริงด้วย!!!

เมื่อกิจน้อยของผมเสือกผงาดขึ้นมาตอนนี้  แถมผมใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวซะด้วย  มันเลยนูนเห็นได้ชัดซะขนาดนั้น

“ ไมวะ  ผู้ชายด้วยกัน  ทำอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้ “

ผมแค่นบอกไป  ทั้งๆที่ความจริงแล้วแม่งโครตอายเลยครับ

“ ไม่เอาแล้ว  ทะลึ่งว่ะพี่  ทำต่อเองเลยละกัน “

อ้าว...  แล้วมันก็ทิ้งผ้าไว้บนตัวผม  เดินหน้างุดออกจากห้องผมไปเสียอย่างนั้น

กูค้างนะเว้ยเห้ย...  เอ้ยไม่ใช่...  มึงมาทำต่อให้เสร็จสิวะ....





TBC.


-----------------------------------------------------------------------------

ขอโทษครับมาช้าไปนิด  มะคืนกินยาแล้วมึนหัวเลยหลับไปเลย  ไม่ทันได้ลงอะครับ  :mew2:

ช่วงนี้ก็กิจกับกันต์เริ่มๆ มีโมเม้นต์น่ารักๆกันบ้างแล้ว  แต่ยังมีเรื่องราวอีกเยอะเลยครับ  ซึ่งล่าสุดที่ผมเขียนอยู่ตอนนี้ chapter 33 กำลังจะดราม่าด้วย  แต่ว่า... นิยายที่ผมเขียนก็ขอบอกก่อนเลยนะครับว่ายังไงก็จบไม่่เศร้าครับ  เพราะชีวิตจริงมันก็เศร้าพอแล้วเลยอยากให้หลายๆคนมีวามสุขกับการอ่านนิยายแฮปปี้ๆมากกว่าอะครับผม (มันคือความตั้งใจแง่มๆ)

สุดท้ายก็ขอขอบคุณมากๆนะครับที่ติดตาม  มีอะไรจะแนะนำหรือติชมสำหรับมือใหม่อย่างผม  ก็พร้อมรับไว้เสมอนะครับ ขอบคุงคร้าบบบบ

^________________________________________^

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 09/01/2561 update chapter 6 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-01-2018 18:13:36
 :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 09/01/2561 update chapter 6 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 09-01-2018 21:17:50
พยายามเข้านะครับ คุณหมีขาว ถ้าได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ มันจะทำให้ชีวิตคิดบวกมากขึ้น แล้วก็จะทำให้ทัศนคติในการใช้ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆครับ ซึ่งพวกนี้มันจะส่งผลมาที่นิยายที่คุณหมีขาวเขียน และทำให้คนอ่านรับรู้ได้ว่าแนวคิดของคนเขียนนั้นเป็นยังไง

นิยายที่ให้ความรู้สึกด้านบวกต่อชีวิต มักจะทำให้คนอ่านรู้สึกดีที่ได้อ่านเสมอครับ เพียงแค่ว่า องค์ประกอบหลายๆส่วนมันอาจจะต้องครบครันหน่อย เรื่องพล็อตหรือความแน่นของตัวละคร มันไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์มากก็ได้สำหรับการเขียนสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะเราไม่ได้ต้องการให้มันเป็น masterpiece สำหรับวงการวรรณกรรม แต่สิ่งที่ควรต้องคิดคือจำเป็นต้องมีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง และเลือกสาส์นหรือแก่นเรื่องที่คนเขียนมั่นใจว่าจะถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ไขว้เขว สองสิ่งนี้จำเป็นครับที่จะทำให้วรรณกรรมสมบูรณ์ในระดับเบื้องต้นน่ะนะ

เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 09/01/2561 update chapter 6 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-01-2018 02:26:09
หวังว่าหวัดของอีพี่จะไม่ไปติดอีน้องนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 09/01/2561 update chapter 6 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 10-01-2018 16:13:03
Chapter 7



กันต์'s  Part




ต้นสัปดาห์เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากครับ  งาน Drawing ก็ยังทำไม่เสร็จ  ก็เสาร์อาทิตย์มัวแต่ดูแลคนป่วยอยู่อะครับ 
ส่วนตอนนี้พี่กิจเองก็ดีขึ้นมากแล้ว  เช้านี้ยังปลุกผมมาออกกำลังกายอยู่เลย  คนอะไรแม่งฟิตเป็นบ้า


.......


ผมเดินเข้าห้องเรียนคาบเช้ามาท่าทางเหมือนยังไม่ค่อยตื่นดี  ทั้งๆที่โดนบังคับให้วิ่งออกกำลังกายตอนเช้าไปแล้วนะครับ  แต่ทำไงได้ล่ะ  เมื่อคืนนั่งทำ Drawing ต่อจนเกือบตี 2 เลยครับ  อาจารย์ก็สั่งมาซะอย่างกับให้การบ้านเด็กประถม  เขียนแบบนะครับอาจารย์ไม่ใช่การบ้านเลขที่ให้มาทีเกือบ 30 รูปแบบนี้  แถมแต่ละรูปนี่กว่าจะเขียนเสร็จล่อไปเกือบชั่วโมงเลย

“ ไอ้กันต์ทางนี้ !! “  ผมเห็นไอ้เรย์มันโบกมือไหวๆ เรียกผมอยู่ด้านบนสุดของห้องสโลป

ผมเดินขึ้นไปหามัน  แล้ววางกระเป๋าลงข้างๆ  ก่อนจะฟุบลงนอน  เผื่อจะได้อีกสักงีบก่อนอาจารย์เข้ามาครับ

“ มึงทำสรุปแลปฟิสิกส์เสร็จยังวะ “  ชิบหายละ!  เสียงไอ้เรย์ทำเอาผมเบิกตาโพรงเลยครับ  มัวแต่หมกมุ่นอยู่แต่กับงาน Drawing จนลืมไปว่าพรุ่งนี้มีเรียนแลปฟิสิกส์ตอนบ่าย  แต่ต้องส่งรีพอร์ตก่อนตอนเช้า  แถมยังมีควิชแลปแต่ละการทดลองด้วยนี่หว่า  ลืมซะสนิทเลยครับ

“ เชี่ยเรย์...  กูลืมเลยว่ะ  มึงทำยังวะ  กูยืมมาลอกทีดิ “  ผมทำหน้าตาตื่นถามคนข้างๆ ทันทีครับ  แต่แม่งเอาหนังสือการ์ตูนที่มันกำลังอ่านอยู่มาตีหัวผมซะงั้น

“ ลอกได้พ่องมึงดิ  อาจารย์จับได้พอดี  แล้วมึงว่าหน้าอย่างกูเนี่ยนจะทำเสร็จ “

เออว่ะ...  ไม่น่าถามเลย  หน้าตาโง่ๆอย่างมันก็คงจะมาขอลอกผมเนี่ยแหละ ( ซึ่งผมก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่ามันสักเท่าไหร่เลยครับ)

“ เชี่ยแล้วไง  ส่งพรุ่งนี้นะเว้ย  แถมวันนี้มีเรียนทั้งวันด้วย  ตอนเย็นก็ต้องเข้าเชียร์อีก  เอาเวลาไหนไปทำวะ “  ผมพูดไปก็เครียดไปครับ

“ โดดเชียร์แล้วไปทำหอกูมั้ยวะ “

ความคิดดีนะครับ  แต่มันไม่ดีสำหรับผมน่ะสิ  คือถ้าผมโดดนะ...กลับห้องไปไอ้ประธานเชียร์มันเอาผมตายแน่  ถึงจะพึ่งหายไข้  แต่เชื่อเหอะ  ผมสู้ไรพี่เขาไม่ไหวหรอก  ตัวก็สูงกว่า  น่าจะสัก 185ได้มั้ง  ขนาดผม 177 ยังดูเตี้ยไปเลย

“ เดี๋ยวก็โดนซ่อมอะมึง  ไม่เอา.. “ 

“ นั้นซ้อมเชียร์เสร็จค่อยไปทำที่หอกูก็ละกัน “

ไอ้เรย์ว่ามาอย่างไม่มีทางเลือกครับ  มันเองก็คงไม่อยากโดนซ่อมเพราะขาดเชียร์ด้วยเหมือนกัน..

คือตอนเข้าเชียร์อะครับ  มันจะมีการเช็คชื่อ  แล้วใครที่ขาดในวันก่อนหน้านั้นก็จะถูกแยกออกไปอีกกลุ่ม  คงไม่ต้องถามนะครับว่าไปทำไม  เพราะเท่าที่ผมเห็นคือ  พวกที่ซ่อมเสร็จกลับเข้ามาในแถว  เหงื่อแม่งท่วมตัวกันทุกคนเลย

เช้านี้แคลคูลัสไม่ได้เข้าหัวอะไรผมเลยครับ  มองไปทางขวาไอ้เรย์แม่งก็กำลังอ่านการ์ตูน  ทางซ้ายไอ้แน็คก็กำลังเล่นเกมในมือถือ  มีแต่ไอ้เจมส์ที่นั่งข้างไอ้แน็คเท่านั้นแหละครับที่เป็นความหวังของกลุ่มเรา

ส่วนผมน่ะเหรอ  สะลึมสะลือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่แล้วละครับ


..........................................


เชียร์วันนี้พี่กิจยังคงมาดนิ่ง  และโหดเหมือนเดิม  ทั้งๆที่พึ่งหายไข้มาแท้ๆ  ไอ้เราก็นึกว่าจะซอร์ฟลงสักหน่อย  แต่ไม่เลยครับ  โหดเหมือนเดิม

แต่ถึงกระนั้น  พวกสาวๆก็ยังคงกรี๊ดกร๊าด  และไม่ถือสาพี่เขาอยู่ดี  ส่วนเราพวกผู้ชายหน้าตาบ้านๆก็ได้แต่มองด้วยความอิจฉาก็เท่านั้นแหละครับ

เมื่อพี่ว๊ากเดินเรียงแถวกันออกไปจากห้องเชียร์เรียบร้อย  จู่ๆ วันนี้พี่ปี 2 ก็เดินเข้ามาคุยกับพวกเราต่ออีกหน่อยครับ  ก่อนที่จะปล่อยให้พวกเรากลับบ้านกันตามปกติ

ซึ่งเรื่องที่พี่ปี 2 มาแจ้งก็คือวันเสาร์ที่จะมาถึงนี้จะมีงาน First Gear ซึ่งจะเป็นงานที่เหมือนจะจัดต้อนรับปี 1 ของคณะผม  แต่ประเด็นสำคัญหลักๆก็คือ จะมีการประกวดดาวเดือนของคณะเราด้วยอะครับ  ซึ่งพี่เขาจะให้แต่ละ Sec ส่งตัวแทนชาย หญิงมา Sec ละคน  ภายในเย็นวันพรุ่งนี้  เพื่อแจ้งชื่อให้กับพี่เขาตอนเข้าเชียร์ครับ

ผมเดินบิดขี้เกียจออกมากับพวกเพื่อนๆ อย่างรู้สึกเหนื่อยล้า  พึ่งเปิดเทอมแท้ๆ  ทำไมกิจกรรมมันเยอะขนาดนี้นะ  ไหนจะเรื่องเรียนอีก  ตายๆกันพอดี

ผมโบกมือลาไอ้แน็คกับไอ้เจมส์ที่อยู่ในรถกำลังจะกลับหอครับ  ไอ้สองตัวนี้มันทำแลปเสร็จแล้ว  เลยว่าจะกลับไปพัก  ซึ่งผมแม่งโครตเข้าใจเลยครับว่ามันคงจะเหนื่อยกันมากๆ  เพราะผมเองก็อยากจะนอนเต็มแก่แล้วตอนนี้  แต่พอนึกถึงงานที่ต้องส่งวันพรุ่งนี้แล้วละก็...  ฮือๆๆๆ

“ เฮ้ยมึง  กินข้าวก่อนหรือจะซื้อไปกินที่หอกูดีวะ “  ไอ้เรย์มันหันมาถามความเห็นผมครับ

“ แล้วแต่มึงเลย  กูยังไงก็ได้ “

“ นั้นกินหลังมอกันก่อนกลับละกัน “

ก็โอเคตามนั้นครับ  จากนั้นไอ้เพื่อนตัวสูงของผมมันก็เดินนำผมลิ้วๆไปที่รถมัน  ก่อนจะขับไปยังหลังมอซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคณะผมมากสักเท่าไหร่


ที่ร้านข้าวหลังมหาลัยฯ

ผมกำลังนั่งกินข้าวไก่กระเทียมไข่เจียว  ส่วนไอ้เรย์นี่เข้ากระเพราหมู  แต่ว่าเป็นจานที่ 2 ของมันแล้วนะครับ  มันตัวโตกินเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ  สูงกว่าผมไม่มาก  แต่หนากว่า  ผิวสีแทน  ห้าวๆกวนๆ  นิสัยต่างกับผมโดยสิ้นเชิง  ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเป็นเพื่อนสนิทกันไปได้

“ นี่แกๆ  พี่กิจเว้ย! “

เสียงพี่ปี 2 คณะอะไรสักอย่างที่อยู่โต๊ะข้างๆผม  เรียกบอกให้เพื่อนในโต๊ะให้หันไปมอง  ผมเองก็เสือกหันตามไปด้วยเช่นกัน (ไม่รู้จะเสือกเรื่องชาวบ้านเขาไปทำไม)

ภาพที่เห็นคือคุณชายกิจครับ  ขี่บิ๊กไบต์หรูสีขาวมาจอดไม่ไกลจากร้านที่ผมนั่งอยู่  คนอะไรโครตหล่อเลย  ดูสิครับทั้งชายจริงหญิงแท้มองกันให้เพียบ 

“ เชี่ย...  เท่ห์ชิบหายว่ะพี่กิจอะ  ขี่บิ๊กไบต์ด้วยเท่ห์สัด “  ไอ้เรย์ที่พึ่งเห็นพูดขึ้นมาครับ

พี่กิจเดินไปสั่งข้าวร้านข้างๆ  เขาคงไม่เห็นผมอะครับ  แถมยังทำหน้ามึนไม่สนใจสายตาประชาชีโดยเฉพาะสาวๆที่พากันมองและซุบซิบกันอย่างเห็นเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น

นี่เหรอวะวิถีชีวิตเทพบุตร...

ผมหันมาสนใจข้าวตรงหน้าต่อดีกว่าครับ  ทำเป็นตื่นเต้นตามสาวๆแถวนี้ไปได้  เห็นกันแม่งทุกวัน  เข้าเชียร์ก็เจอ  กลับห้องก็เจอ  น่าเบื่อจะตายไป 

รึเปล่านะ...


………………….


มาถึงห้องไอ้เรย์  สิ่งแรกที่ผมทำคือ  กระโดดลงไปนอนแผ่หลาบนเตียงมันทันทีเลยครับ  ไอ้เรย์วางกระเป๋าเสร็จมันก็หยิบเอาหนังสือแลปฟิสิกส์  พร้อมทั้งสมุดรายงานที่พึ่งซื้อมาใหม่โยนมาข้างผม

นี่มึงอย่าพึ่งให้กูรับรู้ความเป็นจริงไวขนาดนี้สิวะ  กูยังไม่หายเหนื่อยเลยนะเว้ย

“ เร็วมึง!  จะ 3 ทุ่มแล้วเนี่ย “  เออว่ะ  ไม่รีบทำมีหวังผมกลับดึกแน่  แถมยังต้องอ่านทวนเนื้อหาแลปไว้ทำควิซวันพรุ่งนี้ด้วย
ผมกับไอ้เรย์ขะมักเขม้น  ทำรายงานกันบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่พื้นจนในที่สุดก็เสร็จเรียบร้อย  มันก็แค่ 5 – 6 หน้าเองครับ  แต่มันช้าตรงที่ต้องเอาผลการทดลองมาคำนวณเนี่ยแหละ  ยิ่งผมนะไม่ได้เอาหนังสือแลปติดมา  เลยต้องเมคข้อมูลโดยดูจากผลการทดลองของไอ้เรย์มันนิดหน่อย  แถมยังต้องให้เปอร์เซ็นความคาดเคลื่อนมันมีน้อยอีก  เลยทำให้ผมช้า...

มองดูเวลาอีกทีนี่ก็เกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว  จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาครับ  ผมหยิบขึ้นมาดู  เป็นเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก  ก่อนจะกดรับสายไป

-- อยู่ไหนวะ --

“ เอ่อ..นั่นใครครับ... “

-- กูเองไง -- 

กูไหนกันวะ  แต่พอฟังจากน้ำเสียงเรียบๆเย็นชาๆ แบบนี้แล้วก็รู้ได้ทันทีเลยครับว่าเป็นพี่กิจ

“ เอ่อ..  อยู่หอเพื่อนอะครับ  มาทำรายงาน “

-- กลับกี่โมง --

“ เดี๋ยวก็จะกลับแล้วครับ  เสร็จพอดี “

-- ที่ไหน...  เดี๋ยวกูไปรับ --

 เห้ย!  นี่ผมฟังผิดไปรึป่าวนี่ย  พี่กิจเนี่ยนะจะมารับผม โอ้มายก๊อด

“ หอxxxx  ที่หลังมออะครับ “

-- อ่อ..  ให้เวลา 15นาที  มารอกูที่หน้าหอ --

และไม่ทันที่ผมจะได้ตอบรับอะไร  แม่งก็วางสายไปเสียอย่างนั้น  เอาแต่ใจชิบ  ไอ้คุณชายนี่

“ ใครวะ “

ไอ้เรย์ถามอย่างสงสัย  เพราะนอกจากมันและเพื่อนอีก 2 คน  ก็ไม่น่าจะมีใครที่โทรหาผมแล้ว...

เมื่อมันคิดว่าตอนนี้ผม..  เหมือนอยู่ตัวคนเดียว

ซึ่งก็จริงของมัน....

“ ญาติน่ะ  คนที่กูพักด้วย “  มันมองผมอย่างสงสัยเล็กๆ  แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อครับ

“ นั้นกูกลับก่อนนะเว้ย “  ผมรีบร้อนขึ้นมาหน่อยๆ  กลัวคุณชายแม่งจะมาถึงก่อนผมลงไปหน้าหอ

“ เออปะ  เดี่ยวกูไปส่ง “  ไอ้เรย์ขันอาสาครับ

“ เห้ย!  ไม่เป็นไรมึง  เดี๋ยวพี่เขามารับ “

“ น่าสงสัยสัยนะมึงเนี่ย  หออยู่ไหนแม่งก็ไม่ยอมบอกกู  นี่กูเป็นเพื่อนสนิทมึงนะเว้ย... “

มันทำหน้าสงสัยก่อนจะพูดตัดพ้อมา  ผมชะงักไปเล็กน้อย  เพราะผมกับมันปกติมีอะไรก็จะรู้กันทุกเรื่อง  และครั้งนี้ผมเองก็ไม่อยากจะปิดมันหรอกครับ  แต่เพราะไม่มีทางเลือกจริงๆ

“ คือ....  เอ่อ..  ไว้คราวหลังนะ วันนี้กูรีบว่ะ “  ว่าแล้วผมก็ปิดกระเป๋าเป้ก่อนจะลุกและเตรียมออกไปจากห้องครับ
ทั้งรีบทั้งไม่รู้จะตอบมันยังไงดี  หนีไปก่อนดีกว่า  ขอเวลาผมหาทางออกที่ดีกว่านี้  แล้วค่อยมาบอกมันทีหลังละกัน

“ ไปแล้วนะเว้ย “  ผมหันมาบอกมันขณะที่มือกำลังกำลูกบิดประตูพร้อมจะเปิดออก  มันยกมือลาพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นการตอบมาให้ด้วยเช่นกัน

ผมเร่งฝีเท้าลงมาจากชั้น 4 โครตเหนื่อยเลย  หวังว่าจะมาถึงก่อนพี่กิจนะครับ

แต่....

เชี่ย...  ไหงมาไวจังวะ  ก็ 15 นาทีไง  นี่ยังไม่ถึงเวลาเลย  แล้วจะรีบมายืนหล่อล่อสายตาใครต่อใครทำไมวะเนี่ย  ( แม้ตอนนี้จะไม่ค่อยมีคนแล้วก็ตาม ) 

พี่กิจมองผมสีหน้าเรียบเฉยไม่สบอารมณ์  นั่งพิงบิ๊กไบต์อยู่  บางคนเดินผ่านไปอาจจะมองดูว่าเท่ห์นะ แต่ผมมองดูเหมือนตัวเองกำลังจะมีงานเข้ายังไงก็ไม่รู้สิครับ

“ ยังไม่ 15 นาทีเลยพี่ “  ผมรีบอ้าง  ซึ่งมันก็จริงนะครับ

“ แล้วมึงต้องรอให้มันพอดี  หรือเกินเวลารึไงถึงจะลงมาได้ “

เงียบกริบเลยครับผม  ถ้าพูดซะขนาดนี้ผมบอกอะไรไปก็ผิดหมดอยู่ดี  จะบ้าตายไอ้กันต์

“ ขึ้นรถ “

พี่เขาพูดจบก็ขึ้นไปคร่อมบิ๊กไบต์  แต่แกไม่สวมหมวกกันน๊อคนะครับวันนี้  ผมเองก็ขึ้นซ้อนท้ายเหมือนที่เคยทำ  ก่อนจะลังเลว่าจะจับพี่เขายังไงดี

“ ไม่จำอีกนะมึง “  พี่เขาว่ามาครับ  ก่อนจะดึงมือผมไปกอดเอวพี่เขาไว้เหมือนเช่นทุกที 

ผมรู้สึกเขินขึ้นมาทันทีครับ  แถมดูรอบๆ บริเวณสิครับ  มองมาทางเรากันหมด  บ้างก็ซุบซิบอะไรกันไปด้วย 

แม่งเอ้ย!!!  อายเป็นบ้าเลยครับ

พี่กิจขับรถกลับมาที่คอนโด  แกไม่พูดอะไรเลยสักคำจนกระทั่งมาถึงห้อง

รู้สึกเหมือนผมทำอะไรผิดไปรึป่าว  แต่ก็ไม่นะ...  ผมจำไม่ได้ว่าทำอะไรให้แกน่าจะโกรธเลยนี่หว่า

“ ทีหลังถ้าจะกลับดึกอะ...  ให้โทรมาบอกกูด้วย “

อึ้งครับ....  อะไรวะ  หมายความว่าไงเนี่ย...  ผมงงกับการกระทำและคำพูดพี่เขา  นี่พี่เขาจะตำหนิผม  หรือว่า..  พี่เขาห่วงผมกันเนี่ย...

ผมเหลือบมองพี่เขาที่หันมาชำเลืองมองหน้าผมเล็กน้อยด้วยแววตาไร้อารมณ์เหมือนเคย  ก่อนจะเดินเข้าห้องส่วนตัวของเขาไป  ทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ที่หน้าห้อง


ติ๊ง!! 

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู  เมื่อแอพพริเคชั่นไลน์เตือนมาว่ามีคนไลน์หา

Ray :  ไอ้เชี่ยกันต์  มึงเล่ามาเลยนะ  ว่ามึงพักอยู่กับใครอะไรยังไง

…….

Ray :  สัด...อ่านแล้วไม่ตอบ  กูเห็นนะเว้ยว่าใครมารับมึงเมื่อกี้อะ

ซวยละไง  แล้วนี่ไอ้เรย์มันเห็นได้ไงวะเนี่ย

GunT :  เห็นไรมึง

Ray :  ก็กูแอบตามมึงลงมาไง  เสือกไม่บอกกู  กูก็ต้องสืบเอาเอง

ถึงว่า...แม่งเงียบไม่เซ้าซี้เหมือนทุกทีที่ผมมีเรื่อง  ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง

Ray :  เร็วมึง...

GunT :  เออๆ  เดี๋ยวกูโทรหา

พิมพ์จบผมก็เดินเข้าห้องไปครับ  สงสัยผมคงได้แหกกฎไอ้คุณชายแล้วล่ะครับงานนี้  แต่กับไอ้เรย์นี่ผมไม่ห่วงเลยนะ  เพราะรู้จักนิสัยมันดี  มันไม่ปากโป้งหรอก  ว่าแต่  ผมจะเริ่มเล่าจากตรงไหนก่อนดีล่ะครับเนี่ย...


……………………………..
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 09/01/2561 update chapter 6 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 10-01-2018 16:24:17
เช้าวันต่อมา

“ กูว่าละ  ทำไมเวลากูชวนมึงโดดเชียร์ถึงไม่กล้าโดดสักครั้ง “

ผมที่กำลังเดินไปตึกฟิสิกส์ของคณะวิทยาศาสตร์  เพื่อเรียนฟิสิกส์ในช่วงเช้า (เพราะวิชาพื้นฐานนี่เราต้องตัดเกรดร่วมกับคณะอื่นด้วย)  จู่ๆไอ้เรย์มันก็เข้ามากอดคอผมและพูดขึ้นครับ

“ สัด!!!  เสียงดังไปมึง “  ผมหันไปทำหน้าดุใส่  มันก็ได้แต่ทำหน้าตากวนตีนผมส่งมาครับ  แม่งไม่น่าเล่าให้มันฟังเลย...

“ เออนี่มึง  แล้วพี่กิจอะ  ตอนปกติกับตอนเชียร์นี่เหมือนกันป่าววะ “  มันถามต่ออย่างอยากรู้ครับ 

“ ก็... “ 

ผมเริ่มนึกไปถึงช่วงแรกๆที่ไปอยู่กับพี่เขา  อยากบอกมันมากว่าเชี่ยกว่าในห้องเชียร์มาก  ทั้งเอาแต่ใจเป็นคุณชายและบ้าอำนาจสุดๆ  แต่พอมาช่วงหลังๆนี่...  ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปซะทีเดียว  ผมก็เลย...

“ อือ... “

ตอบไปแค่นั้น....

“ โห..  อย่างเท่ห์ว่ะ  ไอดอลกูเลยนะเนี่ย “

อ้าวไอ้เพื่อนตัวดี  นี่มึงไม่คิดสงสารกูบ้างเลยรึไงวะ


....................................


เช้านี้อาจารย์ปล่อยเร็วกว่าปกติเกือบครึ่งชั่วโมงครับ  เลยมีเวลาให้เพื่อนๆใน Sec ผมคุยกันเรื่องว่าจะส่งใครเป็นตัวแทนไปประกวดดาวเดือนคณะในงานวันเสาร์นี้

“ ไอ้กันต์ๆ !! “ 

ผมที่จากเคลิ้มๆเพราะนอนฟุบอยู่บนโต๊ะอย่างสะลึมสะลือ  ตาสว่างขึ้นมาทันทีเลยครับ  เมื่อจู่ๆไอ้เรย์แม่งก็ยกมือตะโกนเสนอชื่อผมเสียงดังตามประสามันไป

“ สาด!!!  กูไม่ไป  เล่นไรมึงเนี่ย “ 

ผมตบหัวมันไปทีนึงครับ  เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง  ยิ่งไม่ค่อยอยากวุ่นวายอะไรแบบนี้อยู่แล้ว  เพราะแค่ทุกวันนี้ผมก็แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรแล้วเนี่ย  ที่สำคัญ  เรื่องประกวดอะไรเนี่ย  ผมไม่ชอบเอาเสียเลย

บนไวท์บอร์ด มีชื่อผู้ชาย 4 ชื่อและผู้หญิง 5ชื่อครับ  เพื่อที่จะให้พวกเราใน Sec ยกมือนับคะแนนกันว่าใครจะได้เป็นตัวแทนของ Sec เราไปประกวด

สาธุ...  อย่าให้เป็นผมเลย  ขอให้เป็นไอ้เจมส์  เพื่อนในกลุ่มผมละกัน  ไอ้นี่แม่งขาว ตี๋ ใส่แว่น ตามสไตล์ลูกคนจีนแต่ก็หล่อนะครับ

“ ถ้ากูได้มานะมึง...  ตาย!!! “ 

ผมหันไปขู่ไอ้เรย์ที่กำลังยิ้มแหยๆ ส่งมาให้ข้างๆ ผมครับ

“ ก็กูเห็นมึงน่ารักไง  กูก็เลยอยากสนับสนุนเพื่อน “  ดูเหตุผลมันสิครับ  แต่สีหน้าและแววตาเล่นๆ ของมันนี่เหมือนจะแกล้งผมชัดๆเลย

“ สนับสนุนพ่องมึงสิ  และอีกอย่างนะเว้ย..  กูหล่อไม่ใช่น่ารัก สัด!! “

“ เหรอ.... “ 

มันทำเสียงเหมือนไม่เห็นด้วย  ก่อนจะพยักเพยิกกับไอ้แน็คสองคน  ซึ่งไอ้เชี่ยนี่ก็มีท่าทีเห็นด้วยไปกับมัน

โอ้ย...  ไม่รู้แล้วเว้ย  ช่างแม่ง..  ใครจะอะไรก็เชิญ  ผมของีบดีกว่า  ว่าแล้วผมก็ฟุบลงบนโต๊ะไปเลย

ผมไม่รู้หรอกว่าใครยกมือให้ใครแค่ไหน  ได้ยินแต่เสียงฮือฮาในห้องเพราะกำลังฟุบอยู่ที่โต๊ะ

“ นั้นสรุปตามนี้นะ  ตัวแทนชายเราก็...  กันต์ ส่วนตัวแทนหญิงเราก็ เมย์นะ “

อ่อไอ้กันต์ได้....
 
หือ...

เสคผมมีคนชื่อกันต์กี่คนวะ...

ผมคนเดียวนี่หว่า  คิดได้อย่างนี้ผมเลยสะดุ้งตัวขึ้นมาทันที

“ เห้ย!!! “ 

พอมองไปรอบๆ  คนก็เริ่มทยอยออกห้องไปกันบ้างแล้ว  ที่สำคัญ  ไอ้เชี่ยเรย์ตัวการใหญ่หายไปจากข้างตัวผมอย่างไว  มันคงจะรู้ตัวว่าถ้ายังอยู่คงต้องโดนตีนผมแน่ๆ

เห้อ....  ซวยอะไรแบบนี้วะเนี่ย  โผมมมมม!!!!




TBC.



-----------------------------------------------------

Chapter ที่แล้วลง late ตามกำหนดการวันนี้ก็เลยต้องลง Chapter 7 ต่อครับ

- คุณ Grey Twilight  ขอบคุณครับที่แนะนำแนวทาง  ผมจะพยายามทำให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้นะครับ  และจะพยายามปรับปรุงมันไปเรื่อยๆครับผม  ขอบคุณครับ
- คุณ Areenart1984 น้องยังไม่ติดหวัดครับ  แต่ยังต้องเหนื่อยอีกเยอะเลยครับ  ยังไงก็ฝากดูน้องเขาต่อไปด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ ^ ^

ขอบคุณทุกๆคนมากนะครับที่เขามาอ่าน  วันมะรืนจะลง Chapter ต่อไปนะครับผม

^______________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 10/01/2561 update chapter 7 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 10-01-2018 21:25:23
รอตอนต่อไปปปป :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 10/01/2561 update chapter 7 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-01-2018 01:44:06
น้องกันต์เราหล่อไม่เบา ได้เป็นเดือนแล้วววว  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 10/01/2561 update chapter 7 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 13-01-2018 20:06:51
Chapter 8



กันต์'s  Part




“ อ้าว!  กันต์เป็นตัวแทน Sec 1 เหรอ “

เสียงพี่ซีพี่รหัสผมดังขึ้น  เมื่อผมต้องแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆในห้องเชียร์ที่กำลังนั่งมาคุกันอยู่

คือเขาให้พวกที่เป็นตัวแทนแต่ละ Sec แยกตัวออกไปเพื่อแจ้งชื่อ  และพี่เขาก็จะอธิบายถึงสิ่งที่พวกเราจะต้องทำในการประกวดให้ฟังอะครับ

“ โดนบังคับอะดิพี่  ผมอยากมาที่ไหนล่ะ “ 

ผมทำหน้ามู่บอกไป  พี่ซีเห็นเข้าก็ได้แต่ยิ้มขำ  ก่อนจะให้ผมเขียนชื่อ  ภาควิชา  และรหัสนักศึกษาลงบนกระดาษที่พี่เขาเตรียมไว้ให้ครับ

“ เอาน่า  ก็เรามันน่ารักออกจะตาย  ไม่แปลกหรอกที่จะถูกเพื่อนๆเขาส่งมา “ 

เอ๊า..  พี่ซีนี่ก็อีกคนละ  ผมหล่อนะครับพี่  ไม่ใช่น่าร้ากกกกก

“ เออซี...  เดี๋ยววันพรุ่งนี้หลังเลิกเชียร์ว่างมั้ย “  พี่ซีถามขึ้นครับ  ผมทำท่าคิดเล็กน้อยว่าติดอะไรมั้ย  ก่อนจะตอบออกไป

“ ว่างนะพี่ “ 

“ นั้นดีเลย  เดี๋ยวพี่จะพาไปเลี้ยงสายรหัส  ถ้าไงเลิกเชียร์แล้วเดี๋ยวพี่โทรหานะ “

พี่ซียิ้มบอกมาครับ  ซึ่งผมอยากบอกว่า  ไอ้ที่น่ารักเนี่ยน่าจะเป็นพี่ซีมากกว่า  ยิ้มมาทีนี่ผู้ชายยังเคลิ้มได้เลยนะครับ

จากนั้นพี่ๆ ปี 2 ก็เข้ามาชี้แจงเรื่องการประกวดให้พวกเรากว่า 20 ชีวิตทราบถึงลำดับงาน  การซ้อมในช่วงระยะเวลาอันสั้น  เพราะนี่เป็นแค่การประกวดภายในคณะ  เลยไม่มีอะไรเป็นทางการเหมือนการประกวดดาวเดือนมหาลัยครับ  ซึ่งผู้ตัดสินก็จะเป็นคณะกรรมการจากพวกรุ่นพี่เรานี่แหละครับ

แต่สำคัญสุดที่ทำให้ผมยิ้มได้และรู้สึกดีกับการประกวดครั้งนี้ก็คือ  ตลอดช่วงสัปดาห์นี้จนกว่าจะถึงวันประกวด  พวกผมได้รับข้อยกเว้นให้ไม่ต้องเข้าเชียร์  แต่ต้องมาซ้อมและฝึกบล็อกกลิ้งกับพวกพี่ๆ เขาสำหรับการประกวดแค่นั้น

“ เอาล่ะค่ะน้องๆ  อีกเรื่องที่พี่จะบอกก่อนที่พี่จะปล่อยพวกน้องๆ กลับบ้านกันก็คือ  น้องๆอย่าลืมเตรียมการแสดงความสามารถพิเศษมาคนละ 1 อย่างด้วยนะคะ  ซึ่งพี่มีเวลาให้แค่คนละไม่เกิน 5 นาทีนะจ้ะ “

เอาล่ะสิ  เครียดเลยผม..  แล้วผมจะเอาอะไรมาแสดงล่ะทีนี้  ไม่เก่งอะไรสักอย่าง  ดนตรีก็เล่นไม่เป็น  ร้องเพลงก็โครตห่วย  ชนิดที่เรียกว่าไอออกมายังผิดคีย์เลย  แล้วผมจะเอาอะไรไปแสดงละครับงานนี้

พวกผมถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมๆกับที่ห้องเชียร์กำลังเลิกพอดี  ไอ้เรย์กับไอ้แน็ควิ่งเข้ามากอดคอผมคนละข้างจากทางด้านหลังครับ  ผมตกใจอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับเรื่องการแสดงความสามารถพิเศษที่กำลังครุ่นคิดอยู่ 

“ เป็นอะไรวะมึง “  ไอ้แน็คถามขึ้นเมื่อมันเห็นท่าทางเครียดๆ ของผม

“ เครียดดิวะ  แม่งไม่น่าได้ไปประกวดเลย  ไอ้เรย์..มึง!! “  ว่าแล้วผมก็หันไปมองยังคนข้างๆ ที่ได้แต่ยิ้มทะเล้นกึ่งสำนึกผิดมาให้ครับ

“ เอาน่า  อย่าคิดมาก  ปะๆไปกินข้าวหลังมอกัน  เดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเอง “

เออ...  อันนี้ค่อยน่าฟังขึ้นหน่อย

“ รวมกูกับไอ้เจมส์ด้วยใช่ปะ “  ไอ้แน็ครีบถามขึ้นต่อทันที

“ พ่องมึงสิ  มีตังค์ก็จ่ายเองสิคร้าบ “  ไอ้เรย์รีบปฏิเสธทันทีอย่างไร้เยื่อใย


...................................


ที่ร้านอาหารตามสั่งหลังมหาลัยฯ

ระหว่างรออาหารที่สั่ง  ผมมองไปยังรอบๆร้าน  คนค่อนข้างเยอะมากครับร้านนี้  เห็นไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คการันตีว่าแจ่ม  ซึ่งไอ้เจมส์มันหมายถึงรสชาติอาหารนะครับ  ส่วนไอ้แน๊คนี่มันหมายถึงสาวๆ

แต่ก็คงจริงอย่างที่มันว่ามานั่นแหละครับ  มีทุกคณะ ทุกชั้นปีเลยครับที่มานั่งกินกันร้านนี้  แถมพอผมมองไปเหมือนจะมีบางโต๊ะกำลังมองมาทางโต๊ะพวกผมด้วย  โดยเฉพาะสาวๆ  คงจะเพราะหน้าหล่อๆ ตี๋ๆ อย่างไอ้เจมส์ หรือ ไม่ก็ไอ้ควายเรย์  เพราะมันตัวสูงหุ่นดี  เด่นซะขนาดนี้

แต่แล้ว..  ทุกสายตาก็ถูกดึงดูดไปยังแขกผู้มาเยือนกลุ่มใหม่ครับ

“ แก๊!!!  แก๊งจตุรเทพนี่หว่า “ 

เสียงแอบกรี๊ดกร๊าดเล็กๆดังขึ้นมาพอให้ได้ยิน  ก่อนที่ผมจะหันไปมองตามสายตาของคนอื่นๆ

เชี่ย!!!

พี่กิจกับเพื่อนๆ ของแกครับ....

คือพี่ๆ จะเลือกคบกันเฉพาะคนหน้าตาดีหรือไงเนี่ย.....

ผมมองไปยังกลุ่มรุ่นพี่ 4 คนที่เดินเข้ามาในร้านก่อนจะไปนั่งยังโต๊ะตัวมุมสุดที่ยังว่างอยู่ของร้าน

คนแรกที่หล่อขั้นทำลายล้างก็อย่างที่รู้ๆกันใช่มั้ยครับว่าคือ  ไอ้พี่กิจนั่นเอง

คนที่สองนี่นั่งข้างๆพี่กิจ  ดูเรียบร้อยหน่อย  ผมยาวระดับต้นคอ  ผิวขาว สวมแว่น  แถมยังดูขรึมๆ กว่าพี่กิจ  หล่อใสๆ สไตล์เกาหลีเลยครับ

คนที่สามนี่นั่งฝั่งตรงข้ามกับพี่กิจ  ดูท่าทางจะเฮฮาที่สุดในกลุ่มละ  ผมสั้น จมูกโด่ง  หน้าคม  และมีคิ้วเข้มพอๆกับพี่กิจเลย

ส่วนคนสุดท้ายสูงโครต  ว่าพี่กิจสูงแล้วนี่ยังจะสูงกว่าพี่กิจอีก  น่าจะถึง190ได้มั้ง  หุ่นดี หล่อสไตล์ไทยๆอะครับ

“ คืออะไรวะมึง  แก๊งจตุรเทพ “  คราวนี้ไอ้เจมส์ที่ได้ยิน  พี่ผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ถามขึ้นมาบ้างอย่างอยากรู้

“ ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง  เดี๋ยวกูไปสืบให้  ได้เรื่องยังไงแล้วเดี๋ยวกูจะมาบอก “
 
ไอ้แน๊คพูดขึ้น  จากนั้นผมก็หันกลับไปมองยังกลุ่มพวกพี่เขาอีกครั้ง 

เชี่ย!!! 

พี่กิจมองมา...  สายตาไม่สบอารมณ์เหมือนเคย  นี่ผมทำอะไรผิดไปรึป่าวเนี่ย  จากนั้นพี่เขาก็เมินหน้าหนีหันไปสนใจคนในกลุ่มต่อ

“ เท่ห์ชิบหายเลยว่ะพี่กิจ  ไอดอลกูเลยนะเนี่ย “  ไอ้เรย์มันยังคงชื่นชมไอดอลของมันอยู่เหมือนเดิมครับ

“ มึงว่าอย่างกูจะเป็นได้แบบพี่เขาได้มั้ยวะ “

มันพูดจบ  พวกผม 3 คนเลยได้แต่ถอนหายใจอย่างเอือมระอาให้มันไปเป็นคำตอบ

“ แดกข้าวกันเหอะมึง “ 

ผมพูดไปแค่นั้น 


.........................................


ที่คอนโด

เมื่อผมกลับมาถึงห้อง  หลังจากที่ปิดประตูลงและมองเข้าไปเห็นพี่กิจนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาตรงห้องรับแขก  พร้อมทั้งหันมามองผมด้วยสายตาคาดโทษเหมือนตอนกินข้าวเด๊ะเลยครับ

นี่ต้องแปลว่าผมไปทำอะไรผิดจริงๆ แน่  แต่ถึงกระนั้นก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีครับ 

กลับก็ไม่ดึกนี่หว่า...  แล้วอะไรอีกละครับคุณชาย

“ ทำไมวันนี้ไม่เข้าเชียร์ “

เอ๋...  ผมเนี่ยนะไม่เข้าเชียร์  เห้ยไม่ใช่แล้ว

“ เข้าดิพี่  ผมไม่เคยโดดเชียร์เลยนะ “

“ แต่กูมองหาแล้วไม่เห็น... “

นี่แปลว่าตอนเชียร์พี่เขามองหาผมด้วยเหรอเนี่ย...

แล้วทำไมผมต้องรู้สึกดีใจด้วยว้า!!!

“ ว่าไง  มึงโดดเชียร์ไปไหน “

เสียงดุมาแล้วครับ  ใจเย็นๆดิพี่

“ อ๋อ..  คือพี่เขาให้ผมแยกออกไปอะครับ “

พี่กิจทำหน้างงๆ ถึงสิ่งที่ผมบอกมา  ผมเลยอธิบายต่อ

“ พวกที่จะประกวด ดาว – เดือนคณะอะ “

“ มึงเนี่ยนะเป็นตัวแทน Sec เข้าประกวด “

แล้วพี่เขาก็หลุดขำออกมาเล็กๆ 

ว่าแต่...มันน่าขำตรงไหนอะ 

เห้ย...  เห็นอย่างนี้ก็ใช่ว่าผมจะไม่หล่อนะพี่  ถึงผมจะสู้พี่ไม่ได้ก็เถอะ  แต่ถ้าเป็นสามัญชนคนธรรมดา  ผมก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกันนะ

“ ขำไร... “ 

ผมทำหน้ายู่ถามไป  เมื่อเห็นท่าทีหยามกันขนาดนี้ของพี่กิจ

“ ป๊าว.... “ 

แม่งใช้เสียงสูง...  เห็นละหมันไส้โว้ยไอ้พี่กิจ

“ คอยดูเหอะพี่  ว่าแต่...  ถ้าผมได้เดือนคณะขึ้นมาพี่จะให้อะไรผม “

“ อยากได้อะไรว่ามาเลยมึง “  พี่กิจมองผมอย่างท้าทายพลางเลิกคิ้วมีความสุขส่งมาให้

“ ถ้าผมชนะ  พี่เลี้ยงข้าวผมมื้อนึง “

“ กูจัดชุดใหญ่ให้เลย “

ดูท่าทางไอ้พี่กิจมันดิครับ  โครตมั่นใจเลยอะ  ว่าผมจะไม่มีทางชนะ

“ แล้วคอยดูละกัน “

พูดจบผมก็เดินเข้าห้องไปเลยครับ  ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจตามหลังเข้ามาด้วย

ชักรู้สึกอยากจะชนะขึ้นมาซะแล้วละครับตอนนี้  แม่งเอ้ย!!!



.....................................



วันต่อมา

ระหว่างที่นั่งรอให้ถึงเวลาเรียนในคาบเช้าบริเวณชั้นบนสุดของห้องสโลป  จู่ๆไอ้แน๊คก็เร่งฝีเท้าเข้ามาหาพวกผมสามคน  ก่อนจะวางกระเป๋าและเลื่อนเก้าอี้ขยับเข้ามาใกล้ๆ เพื่อแจ้งข่าวสาร

“ กูไปสืบมาแล้วเว้ยจากพวกรุ่นพี่และพี่รหัสกู “

“ เรื่องไรวะ “  ไอ้เรย์ถามอย่างสงสัย

“ ก็เรื่องจตุรเทพนั่นไง “

มันพูดจบ  จู่ๆความอยากรู้ของพวกเราก็เพิ่มขึ้นมาทันที

“ คืองี้..  จตุรเทพมันเป็นชื่อที่คนเขาตั้งให้กลุ่มพวกพี่เขาน่ะ  เพราะอย่างที่พวกมึงเห็น  แต่ละคนแม่งไม่หล่อก็เท่ห์เวอร์ “

“ สงสัยกลุ่มนี้เลือกคบจากหน้าตาละมั้ง “  ผมแอบแขวะไปครับ

“ ป่าวๆ  คือมันเป็นความบังเอิญเว้ย  คือว่าตอนปี 1 พวกพี่เขา 4 คนได้เป็นตัวแทน Sec เข้าประกวดดาวเดือนเหมือนอย่างกับมึงอะไอ้กันต์  ก็เลยได้สนิทกัน  แถมยังเสือกอยู่ภาควิชาเดียวกันอีก  ก็เลยจับกลุ่มสนิทกันไปโดยปริยาย “

“ ว่าแต่พวกพี่เขาอยู่ภาควิชาอะไรวะ “  อันนี้ไอ้เจมส์ถามขึ้นมาบ้างครับ  ซึ่งจะว่าไปพวกผม 4 คนนี่ก็ดันอยู่ภาควิชาเดียวกันด้วยนะครับ  โครตบังเอิญอะ

“ IE เหมือนพวกเราแหละ “

เชี่ย...  ไหงเป็นงั้นเนี่ย  แปลว่าพอแยกเข้าภาควิชาตอนปี 2 ผมก็ต้องเจอกับพี่กิจบ่อยๆ สิครับแบบนี้

“ จริงเหรอว้า  สาดไอดอลกู “  ไอ้เรย์ดูจะตาเป็นประกายเมื่อรู้ว่าไอดอลมันอยู่ภาควิชาเดียวกัน

“ แต่ไม่จบแค่นั้นนะเว้ย  ที่เรียกว่าเทพได้นั่นก็ไม่ใช่ไม่มีที่มานะ “

พวกผมพากันทำหน้างงกับข้อมูลต่อไปที่ไอ้แน๊คนักข่าวหัวเห็ดประจำกลุ่มเราจะนำเสนอต่อครับ

“ คนแรกเลย  พี่บิว  พี่คนที่ใส่แว่นนั่นน่ะ  ข่าวมานะเว้ยว่าเรียนไม่เคยต่ำกว่า 3.8  แถมพี่แกเคยสอบตรงติดแพทย์แต่ก็สละสิทธ์ไปเพราะไม่ชอบ  ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็เป็นหมอใหญ่ในโรงพยาบาลดังด้วยกันทั้งคู่  ตอนประกวดดาวเดือนคณะปีนั้นแกได้รองอันดับหนึ่งด้วยนะเว้ย “

โห...  โปรไฟล์ดีสุดๆอะ  ทั้งหล่อทั้งฉลาด  ถ้าขนาดนี้ยังไม่ได้เดือนคณะแล้วอย่างผมละครับ  ตายๆๆไอ้กัน  ดีนะไม่เกิดเร็วไป 2 ปี  แล้วต้องไปแข่งกับพวกเทพๆ แบบนี้

“ ส่วนคนที่สอง  ชื่อพี่คิม  พี่คนผมสั้นๆ ที่ท่าทางเฮฮาๆหน่อยอะ  ได้ข่าวว่าพี่เขาเป็นคนที่ปากหมาและกวนตีนที่สุดในกลุ่มเลยนะ  แต่เห็นแบบนี้นี่  ลูกท่านทูตนะคร้าบ “

“ คนที่สามนี่  ชื่อพี่พี  คนที่สูงๆอะ  คนนี้คือว่าที่กัปตันชมรมรักบี้คณะเราเลยนะ  เพราะตั้งแต่ปี1 ที่พี่เขาเข้าทีมก็นำทีมได้แชมป์ตลอดทั้งในและนอกมหาลัยฯ เราเลย  เป็นคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ  แต่เป็นลูกนายหัวใหญ่อยู่ทางใต้  ที่บ้านมีกิจการโรงแรมและรีสอร์ทหรู “

“ เชร็ดดดดด  แต่ละคนแม่ง “  ไอ้เรย์ส่งเสียงบ้างครับคราวนี้

“ ส่วนคนสุดท้ายหัวหน้าแก๊ง  พี่กิจ.. “

ไอ้แน๊คพูดมาถึงตรงนี้  จู่ๆ ผมก็แอบกลืนน้ำลายขึ้นมาเล็กๆ  เหมือนกับอยากรู้ข้อมูลมากกว่าคนอื่นๆ อย่างนั้นแหละ  ทั้งๆ ที่ผมเองก็อยู่ใกล้พี่เขาขนาดนี้แท้ๆ

“ แค่นามสกุล พานิชยไพศาล  พวกมึงก็คงพอรู้มาบ้างแล้วใช่มั้ย “

หา...  ผมไม่รู้นะเว้ย  แต่ดูท่าทางไอ้เจมส์และไอ้เรย์มันจะรู้จักเป็นอย่างดี

“ มันทำไมเหรอวะ “  ผมถามไปซื่อๆครับ

“ เอ๊าไอ้นี่...  มึงไม่รู้เหรอ  นี่น่ะเจ้าของเครือ PPกรุ๊ป ทั้งผลิต นำเข้า ส่งออก  ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ  แถมยังไม่รวม  กิจการพวกอสังหาริมทรัพย์อีกนะ  เรียกว่าโครตพ่อโครตแม่รวยเลยมึง “  ไอ้เรย์มันขยายความให้ฟังครับ  ผมนี่ถึงกับงงเลย  ไม่คิดว่าคุณลุงคุณป้าเขาจะรวยขนาดนี้  เพราะดูท่านใช้ชีวิตในบ้านค่อนข้างติดดินและไม่ถือตัวเอามากๆ  ผิดกับลูกชายคนโตที่แม่ง  คุณชายชัดๆ

“ ยังไม่จบนะพวกมึง...  ปีนั้นพี่เขาได้ตำแหน่งเดือนคณะ  และยังได้เดือนมหาลัยอีก “

อันนี้ผมไม่แปลกใจนะ  หล่อปานเทพซะขนาดนั้น

“ เป็นนักกีฬาบาสคณะเรา  แถมเรื่องเรียนนี่พี่แกก็ว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรีญทองเลยนะเว้ย “

บ้าไปแล้ว...  ไม่จริงน่า  ไอ้พี่กิจเนี่ยนะ  วันๆผมไม่เคยเห็นพี่เขาจะเอาหนังสือเรียนมาอ่านเลย  กิจกรรมก็ทำเยอะซะขนาดนั้น  เป็นไปไม่ได้  ข้อมูลมึงต้องผิดแล้วไอ้แน๊ค!!!!

“ สาดดดด  ไอดอลกู  แม่งอย่างนี้กูก็เทียบไม่ติดเลยดิว่ะ “  ไอ้เรย์รำพึงกับตัวเองขึ้นมาครับ

“ แต่อีกเรื่องที่รู้มาคือ  พี่กิจแกเป็นเสือผู้หญิง  เจ้าชู้ตัวพ่อเลยมึง  ได้ข่าวว่า ปี1 ปี2 ที่ผ่านมา  ดาวและสาวหน้าตาดีหลายคณะผ่านมือพี่แกมาเพียบ  แถมไม่เคยคบใครนานเกิน 1 เดือนเลยด้วยซ้ำ “

ฟังมาถึงตรงนี้  จู่ๆผมก็รู้สึกใจแป้วขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ กูว่าบางคนแม่งคงมาเสนอตัวให้พี่เขาถึงที่เลยเหอะ “  ไอ้เรย์ออกความเห็น

“ กูก็ว่างั้นแหละ  แม่งเพอร์เฟคซะขนาดนี้  เป็นใคร ใครก็อยากได้ทั้งนั้นแหละ “  ไอ้แน๊คสมทบต่อ

นั่นสิครับ...  ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าชู้นี่เอง...  ถึงว่าทำไมไม่อยากให้ผมมาพักด้วยตอนแรก  คงคิดจะพาสาวๆ มาค้างบ่อยๆ แน่

ชิส์!!! 

แล้วนี่ผมจะอารมณ์ขึ้นทำบ้าอะไรวะเนี่ย


..............................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 10/01/2561 update chapter 7 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 13-01-2018 20:15:32
เย็นวันเดียวกัน

จบจากเชียร์  ซึ่งสำหรับผมมันช่างสุขกาย  แต่ไม่สบายใจเลยครับ  คือมันยังคิดไม่ออกเลยครับว่าจะแสดงอะไร  แถมพรุ่งนี้ต้องแจ้งพี่ๆเขาแล้วด้วยสิ  เครียดเลยงานนี้....

แต่ช่างเหอะไว้ค่อยคิด  วันนี้พี่ซีจะพาไปเลี้ยงสายรหัส  กินให้อิ่มก่อนเผื่อหัวจะแล่น 

ว่าแต่...  ผมควรจะโทรไปรายงานคุณชายท่านก่อนดีกว่า  เดี๋ยวงานจะเข้าผมอีก

ว่าแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์กดโทรออกไปยังเบอร์พี่กิจที่ผมเมมไว้ตอนที่พี่เขาโทรมาเมื่อคราวก่อน

“ ว่าไงมึง “

“ วันนี้ผมกลับดึกหน่อยนะพี่  พอดีมีเลี้ยงสายรหัสอะครับ “

“ แล้วเลี้ยงที่ไหน  ไปกับใคร “

นั่นสินะ...  ยังไม่ได้ถามพี่ซีเลย  ก็เห็นว่าพี่เขาจะโทรมาหา  ผมเลยยังไม่โทรไป

“ ยังไม่รู้เลยครับว่าที่ไหน  แต่ไปกับพี่ซีครับ “

“ อืม.. “

แค่นั้นแล้วคุณชายท่านก็วางสายไปเลยครับ 

นี่ไอ้พี่กิจ  คุณมึงจะเอาแต่ใจไปถึงไหนว้า  มารยาทอะมีมั้ยมารยาท

ผมทำปาก ชิส์ ให้กับหน้าจอโทรศัพท์ที่ว่างเปล่า

ไม่นานพี่ซีก็โทรมา  บอกให้ผมมารอที่หน้าหอประชุมจุดที่ผมยืนอยู่ตอนนี้เนี่ยแหละครับ  เดี่ยวพี่เขาจะมารับ

ยืนรอไปได้ไม่นานพี่เขาก็มาครับ  วันนี้พี่ซีมากับพี่เอ็กซ์  ผมจำได้  พี่หล่อๆแก๊งพี่ซี  น้องรหัสพี่กิจนั่นเอง

พี่เอ็กซ์เป็นคนขับ  ส่วนพี่ซีนั่งข้างๆครับ  ผมขึ้นไปนั่งยังเบาะหลังก่อนจะกล่าวทักทายพี่ๆ ทั้งสอง  จากนั้นพี่เขาก็ขับพาไปยังร้านหมูกระทะห่างออกไปจากมหาลัยฯไม่ไกลมาก

พอมาถึงพี่เขาก็เดินนำผมเข้าไปในร้านยังโต๊ะยาวซึ่งมีคนมานั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว  ซึ่งส่วนใหญ่จะใส่เสื้อธรรมดาและคลุมด้วยเสื้อช็อปสีน้ำเงินกันทั้งนั้น  แต่ก็ยังมีอีกคนที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกันกับผมครับ  ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ  ไอ้เจมส์นั่นเอง...
ว่าแต่มันมาด้วยเหรอ...  ไม่เห็นมันบอกผมเลย

พอเดินเข้ามาใกล้จนมันเห็นผม  มันก็ยกมือทัก  ผมก็พยักหน้าตอบมันไปครับ  ดีเลยมีเพื่อนในกลุ่มมาด้วยแบบนี้

“ นี่พี่เปิ้ลพี่ปี 3 แล้วนี่พี่แทน พี่ปี 4 สายเรานะกันต์ “

ผมยกมือสวัสดีพี่ๆเขา  ซึ่งพี่เขาก็ยิ้มตอบกลับมาให้ครับ

“ แล้วนี่พี่โอ  พี่ปี4 สายรหัสเอ็กซ์มัน “

พี่ซีแนะนำต่อ  ก่อนจะหันมาบอกว่าสายรหัสเรามีโครหัสกับสายพี่เอ็กซ์  ผมก็ได้แต่พยักหน้าเข้าใจครับ  ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆไอ้เจมส์มัน

“ น้องๆสายเรามีแต่คนหน้าตาดีเนอะ “  พี่เปิ้ลหันมาชมผมกับไอ้เจมส์มันครับ  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ เกาหัวไม่รู้จะตอบยังไงดี

“ น้องกันต์ลงประกวดเดือนคณะด้วยนะพี่ “  พี่ซีเสริมครับ  นั่นยิ่งทำให้ผมอายหนักเข้าไปใหญ่  ขณะที่พี่ๆดูจะให้ความสนใจกับพวกผมมากขึ้นไปอีก

“ ปีที่แล้วพี่ก็ประกวดนะกันต์ “  พี่เอ็กซ์บอกมา

“ จริงอะพี่  แต่ก็ไม่แปลกหรอก  หล่อๆแบบพี่ไม่ประกวดน่ะสิแปลก “  ผมว่าไปตามจริงครับ

“ แต่ไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ  โดนไอ้เอสเบียดตกเวทีไป “  พี่ซีแซวขึ้นพลางหัวเราะคนข้างๆ  ที่หันมามองคาดโทษเล็กๆ

“ แล้วไง...  แต่อย่างน้อยเอ็กซ์ก็ชนะมันเรื่องความรักนะซี “  แล้วเสียงวี๊ดวิ้วก็ดังขึ้นมาจากพวกพี่ๆปีสูงครับ  ในขณะที่พี่ซีหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเหมือนจะไม่สนใจ 

“ ว่าแต่ทำไมสายเราถึงเป็นสายโคกับสายพี่เอ็กซ์อะครับ “ 

ผมถามต่ออย่างอยากรู้  แต่พี่ซีไม่ตอบอะไร  ได้แต่ยิ้มเขินๆขึ้นมาซะงั้น

“ อ้าว..  ซียังไม่ได้บอกเหรอ “  พี่เปิ้ลพูดขึ้นมาบ้างครับคราวนี้  ผมเลยได้แต่ส่ายหัวส่งให้ไป

“ ก็...  สายเรา0014 กับ 0013 พี่รหัสเราดันได้กัน  ก็เลยถือโอกาสนับญาติกันไปเลย “  พี่เปิ้ลอธิบายต่อยิ้มๆ 

“ พี่เปิ้ลก็ใช้คำผิดแล้ว  ได้กงได้กันอะไรพี่ “  พี่ซีแย้งขึ้นมาทันทีครับ

“ ชั้นใช้คำผิดที่ไหน  ใช่มั้ยเอ็กซ์ “ 

“ ถูกทุกคำ  ไม่ผิดเลยพี่ “  พี่เอ็กซ์พูดจบ  พี่ๆปีสูงก็พากันหัวเราะกันทั้งโต๊ะเลยครับ  มีแต่ผมกับไอ้เจมส์เท่านั้นที่มองหน้ากันอย่างงงๆ  แต่ก็พอจะเข้าใจความหมายแล้วละครับ

“ เดี๋ยวไปตักของละ “ 

พี่ซีพูดจบก็รีบเดินหน้างุดไปเลยครับ  คงจะอายน่าดู  เป็นผมๆก็อายครับ  ไม่เหมือนพี่เอ็กซ์ที่ดูจะหน้าชื่นตาบานเอาสุดๆ  ก่อนจะรีบลุกเดินตามพี่ซีไป  ได้ยินเสียงมาไกลๆ ว่า  “ มาๆเดี๋ยวเอ็กซ์ช่วยถือให้นะ “

แต่จะว่าไปพี่สองคนนี้ก็น่ารักดีนะครับ....

ว่าแต่... 

ถ้าเราโคกับสายพี่เอ็กซ์  อย่างนั้นก็หมายความว่า...

“ อ้าว!  กิจทางนี้!! “ 

พี่โอ  พี่ปี 4 สายรหัสพี่เอ็กซ์โบกมือไหวๆ เรียกคนที่กำลังเดินเข้าร้านมาใหม่  ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมายที่กำลังจับจ้องในออร่าความหล่อนั้นอยู่

ว่าละทำไมไม่ถามอะไรมาก  แล้วก็วางสายไปเลย  ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง...

“ พี่โอหวัดดีครับ  พี่แทนหวัดดีครับ “

นอบน้อมเชียวนะครับคุณชาย....

พี่กิจมองซ้ายมองขวาหาที่ว่าง  ก่อนจะมานั่งยังฝั่งตรงข้ามกับผมข้างๆ พี่ซี  ซึ่งตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย

“ ตรงนี้ 2 คนนั้นนั่งเหรอเปิ้ล “  พี่กิจถามเมื่อมองดูถ้วยชามบนโต๊ะ 2 ชุดข้างๆ

“ อื้อ  ตอนนี้ไปจู๋จี๋กันอยู่โน่น “  พี่เปิ้ลชี้ไปยังโซนตักอาหาร  ซึ่งพี่กิจก็มองตามไป  ก่อนจะยิ้มแล้วส่ายหน้าเล็กๆ ให้ไป  จากนั้นก็หันกลับมายังโต๊ะตามเดิม

ผมนี่พูดอะไรไม่ออกเลยครับ  ใครจะไปคิดละครับว่าพี่เขาจะมานั่งกินด้วยแบบนี้ 

“ ประชุมสต๊าฟเสร็จแล้วเหรอกิจ “  พี่โอถามต่อ

“ เสร็จละพี่  อาทิตย์นี้ไม่มีไรมากครับ  ประชุมเสร็จก็รีบมาเลย “

พี่เขาพูดจบก็หันหน้ากลับมามองที่ผม  สบตาพี่เขาได้ไม่นาน  ผมก็หันมาชวนไอ้เจมส์ที่กำลังกลับหมูอยู่ไปตักอาหาร  แต่แม่งบอกว่าขี้เกียจซะงั้น  แถมหมู  ไก่  และตับก็ยังเต็มจานมันอยู่เลย  สุดท้ายผมเลยต้องลุกออกไปคนเดียว

ก็พี่กิจเล่นจ้องหน้าผมดุแบบนี้  อึดอัดสิครับ  แอบปลีกตัวออกมาก่อนดีกว่า

ผมเดินออกมาก็พอดีสวนกับพี่เอ็กซ์และพี่ซี  เห็นพี่เอ็กซ์ช่วยถือแทนให้พี่ซีเกือบซะทุกอย่างแบบนี้  โครตน่ารักเลยอะ

เดินมาถึงผมก็หยิบจานเพื่อมาเลือกของสดที่มีมากมายจนไม่รู้จะเอาอะไรดี  แต่ไม่ทันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้...

“ เอาเบคอนไปเยอะๆ  กูชอบกิน “

ผมหันขวับไปด้านหลัง  ร่างสูงกำลังยืนคร่อมผมอยู่พร้อมกับออกคำสั่ง 

นี่พี่กิจตามมาด้วยเหรอวะเนี่ย.....  คนอุตส่าห์หลบมาแล้วแท้ๆยังจะตามมาอีก

แม่ง…. เอ้ย!!!





TBC.



ขอโทษครับที่มาช้า  วันนี้ขอรีบไปทำงานก่อนนะครับ  เหนื่อยจังเลย   
ขอบคุณนะครับที่ติดตามกัน ^ ^        ชะแว๊บ!!!   :mew5:

^_____________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 13/01/2561 update chapter 8 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 13-01-2018 21:01:11
สู้ๆ จ้า  :L2: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 13/01/2561 update chapter 8 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-01-2018 21:17:32
หลานกันต์ เอาชนะการประกวดให้ได้นะ หมั่นไส้คนหล่อร่วมห้อง  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 13/01/2561 update chapter 8 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 14-01-2018 10:38:00
โอ้ยๆๆๆๆๆ น่ารักใจละลาย เลยยย. คนอะไรหน้ารัก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 13/01/2561 update chapter 8 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 14-01-2018 22:07:48
Chapter 9




กิจ‘s  Part




“ เอาเบคอนเยอะๆ  กูชอบกิน “ 

ผมสั่งน้องมันไปครับ  แล้วมันก็หันกลับมามองผมด้วยสีหน้าเหวอๆ  ก่อนจะหลบสายตาผม  แล้วก้นหน้าก้มตาตักเบคอนไปซะจนพูนจาน

นี่มึงประชดกูใช่มั้ยเนี่ย....  เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย....

ว่าแต่เห็นท่าทีมันแบบนี้แล้ว  ผมไม่สบอารมณ์เอาเสียเลยครับ  พูดด้วยคุยด้วยแม่งก็หลบตาผมตลอด  นี่ผมมันไม่น่ามองขนาดนี้เลยเหรอ....

หรือมึงเป็นไรมากป่ะเนี่ย....ห๊ะ!

คือไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีแบบนี้ของมันอะครับ  กับคนอื่นก็ไม่เป็นนะ  ก็มีแต่มันเนี่ยแหละที่กวนใจผมอยู่ตลอด

“ แปะ!!! “

ผมตีหัวมันไปเบาๆ ครับ

“ นี่มึงจะแดกแต่เบคอนอย่างเดียวเลยรึไง “

“ อ่าว...  ก็พี่บอกให้เอาไปเยอะๆนี่ “

แม่งทำตาใสซื่อตอบมา  ทำเอาผมไปไม่ถูกเลยครับ

“ เยอะก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะกินแค่อย่างเดียวนะ “

“ แล้วพี่จะเอาอะไรอีกล่ะ “

“ เดินตามกูมา “ 

จากนั้นผมก็ให้มันถือจานเดินตามผมมาครับ ส่วนผมก็ตักนั่นตักนี่  เอาแต่ที่ตัวเองชอบ  และไม่ถามมันสักคำว่ามันอยากกินอะไร 
แกล้งมันก็สนุกดีนะครับ  ไม่รู้ผมยิ้มออกมาได้ตอนไหน  แต่มันที่เดินตามหลังผมอยู่คงมองไม่เห็นหรอก..

พอของเต็มจานพลาสติกเล็ก 3 ใบที่มันพยายามถืออยู่  ผมก็หันมาถามหน้าบูดๆ ของมันบ้าง

“ ว่าแต่... มึงอยากกินอะไร “

“ ถ้าพี่จะตักเยอะซะขนาดนี้นะ  ไม่ต้องถามผมหรอก...  ไม่มีที่จะใส่แล้วเนี่ย “

แม่งทำเป็นน้อยใจครับ  เห็นแล้วอดยิ้มขำเล็กๆในลำคอขึ้นมาไม่ได้

“ เออ....  ก็บอกมาดิ  เดี๋ยวกูตักให้ “

ผมเดินไปหยิบจานเปล่ามาอีก 1 ใบถือไว้รอมันว่ามา  แล้วคราวนี้มันก็เดินนำผมบ้าง  ผมตักอีก 2-3 อย่างก็พากันกลับโต๊ะไป

ตอนนี้ที่โต๊ะกำลังสนุกเลยครับ  แถมอาหารบนเตาก็กำลังสุกพอดี  ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมากเลย  ยิ่งตอนนี้ผมกำลังหิวๆ อยู่ด้วย  เพราะจบจากเชียร์มาก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยครับ

ไม่นานนักบรรดาอาหารที่ผมกับกันต์มันตักมาก็เริ่มสุก  ผมเห็นมันท่าทางหิวและก็กำลังเล็งหมูชิ้นโตที่ย่างเกรียมกำลังดีอยู่ในตอนนี้  และทันทีที่มันขยับตะเกียบเพื่อจะเข้าไปคีบ  ผมก็...

“ เห้ย!  พี่กิจ  แย่งผมทำไมอะ “

มองหน้าหาเรื่องเลยครับ  สงสัยหิว ฮ่าๆๆ

“ แย่งอะไร... ก็กูเห็นมันสุกพอดี  ก็คีบกินดิวะ  อีกอย่างมึงก็ไม่ได้ติดป้ายจองไว้นี่ว่าเป็นเจ้าของ “

โกรธเหรอคร้าบน้องกันต์  ฮ่าๆๆ

“ เห้ย!!  พี่กิจ “  ผมแย่งต่อครับ  ยิ่งมันทำท่าทางฟึดฟัดหน้าแดงแล้วยิ่งน่ารัก  ทำเอาผมอารมณ์ดีสุดๆ

“ เอาแบบนี้ใช่มั้ย “  ผมเลิกคิ้วตอบรับคำท้ามัน  กลัวซะที่ไหนละ ตัวก็แค่นี้  จะทำอะไรผมได้

“ พี่โอครับ  พี่กิจแกล้งผมอะพี่ “

แสรด!!!  เล่นแบบนี้เลยนะไอ้เปี๊ยก

“ อะไรมึง  แค่นี้ฟ้องพี่เหรอ “  ผมทำเสียงเข้มบอกมันไปครับ  แต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านั้นเพราะสถานการณ์ตอนนี้เหมือนมันกำลังเป็นต่อผมอยู่เลย

“ กิจก็อย่าไปแกล้งน้องมันดิ  ออกห้องเชียร์มาแล้วนะ “  พี่โอว่ามาครับ  ผมหันไปยิ้มให้  ก่อนจะหันกลับมามองยังไอ้ตัวดีที่ตอนนี้มันกล้าเลิกคิ้วท้าทายผมด้วย

ช่างกล้านะมึงอะ  พอมีพวกละทำเก่ง...

“ เออเฮีย  น้องเขาประกวดเดือนคณะด้วยนะ  เฮียช่วยน้องมันด้วยดิ “  น้องรหัสผมจู่ๆ ก็หันมาบอกผมครับ 

ใช่ครับ  ผมในฐานะเดือนปี 3 ผมเลยมีส่วนในการให้คะแนนมัน  แต่เรื่องอะไรละครับผมจะไปช่วยมัน

“ กูว่านะ..  Sec นี้แม่งแปลก  น้องเจมส์สายเราหล่อกว่าไอ้นี่ตั้งเยอะ  ทำไมเขาไม่เลือกกันวะ “  ผมบอกไปพร้อมทั้งหันไปมองน้องเจมส์ที่เป็นคนไม่ค่อยพูด  ก่อนจะชำเลืองมองไปยังคนตรงหน้าที่ทำหน้าบูดกับสิ่งที่ผมพูดมา

สนุกดีครับแกล้งมันแบบนี้  แต่ผมก็พูดความจริงนะครับ  ไอ้น้องเจมส์มันหล่อกว่าไอ้นี่ตั้งเยอะ  ตัวแทนวิศวะเรามันต้องหล่อเท่ห์  ไม่ใช่มาแบ๊วๆน่ารักๆ แบบนี้

“ อะไรพี่กิจ  น้องผมมันไม่หล่อตรงไหน  น่ารักจะตายไป  ใช่มั้ยเอ็กซ์ “  คราวนี้น้องซีแฟนน้องรหัสผมพูดตำหนิผมมาบ้างครับ  น้องซีมันเป็นคนน่ารักครับ  ผมเลยค่อนข้างจะพูดเพราะกับเขา  ไม่เหมือนกับไอ้น้องรหัสผม  ไม่รู้พวกมันไปคบกันได้ยังไงสองคนนี้

“ ใช่ๆ  น่ารักๆ  เหมือนซีปี 1 เลยอะ “  ไอ้เอ็กซ์ครับ  พูดจบก็โดนน้องซีกระทุ้งสีข้างไปแรงๆหนึ่งที   
 
“ อย่างนี้ไม่เรียกว่าน่ารักหรอก  เขาเรียกว่าหน้าตากวนตีน “  ผมบอกไป  แล้วมันก็ยู่หน้าใส่ผม

“ กิจนี่ก็ชอบแกล้งน้องนะ  พี่เห็นเรากวนแต่น้องมันตั้งแต่เข้ามาแล้วเนี่ย “  อีกรอบที่พี่โอตำหนิ  ผมเลยได้แต่ยิ้มๆ ส่งให้ไป

“ เปล่าพี่โอ  ผมไปแกล้งมันที่ไหน “

“ เหรอ..... “

มันทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ  ออกจะกวนๆ ด้วยซ้ำ  แต่ผมก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว  เกรงใจพวกพี่ๆเขา  เลยได้แต่ทำหน้าคาดโทษมันไว้ก่อน 

รอกลับถึงห้องก่อนมึง....  โดนกูแน่...


..........................................


มื้อนี้ผ่านไปด้วยความอิ่มหนำครับ  ผมเดินไปล้างมือที่ห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาหน้าร้าน  เห็นไอ้ตัวแสบ  น้องเจมส์และน้องซี  ยืนอยู่กันแค่ 3 คน

พอเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงน้องเจมส์มันบอกว่าเดี่ยวมันจะไปส่งไอ้กันต์เอง  ซึ่งไอ้นี่ก็เออออห่อหมกไปกับเขาง่ายจังนะ

“ ไม่ต้องครับคุณ  เดี๋ยวผมไปส่งมันเอง “

ราวกับสมองผมยังไม่ทันจะได้คิด  ปากผมก็พูดไปแล้ว.... 

ไม่รู้สิครับ  ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นเจ้าของมันยังไงก็ไม่รู้  เลยไม่อยากให้ใครมายุ่งกับของๆ ผม...

ส่วนสรรพนามที่ใช้กับพวกปี 1 ผมก็ยังคงต้องใช้  คุณกับผม  อยู่เหมือนเดิม  เพราะมันยังไม่จบช่วงเชียร์  แม้น้องเขาจะเป็นน้องรหัสสายผมก็ตาม  จะมีแต่ก็ไอ้แสบนี่แหละครับที่ผมเผลอใช้สรรพนามอื่นอยู่ตลอดเวลา

พูดจบมันก็มองหน้าผมย่างแปลกใจกึ่งไม่พอใจอีกต่างหาก  แต่ผมสนใจซะที่ไหน  กอดไหล่มันพาเดินออกมาเลยครับ  ถ้าคิดจะดื้อก็ต้องบังคับกันหน่อยล่ะ

ผมเดินมาถึงบิ๊กไบต์คันโปรด  ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลมากนัก  ก่อนจะขึ้นคร่อมและบอกให้มันซ้อน  กันต์มันดูทำท่าทางอิดออดเล็กน้อย  แต่พอผมเร่งมันด้วยสายตา  มันก็เลยยอมแต่โดยดี

เมื่อมันขึ้นมา  เหมือนมันจะเริ่มรู้แล้วว่าต้องกอดเอวผมเอาไว้เหมือนเช่นทุกที  มือเล็กจึงเข้ามาสวมกอดผมพร้อมกับร่างอุ่นที่เลื่อนเข้ามาชิดผมมากขึ้น

ไม่รู้ทำไม  แต่ผมชอบที่จะให้มันทำแบบนี้นะครับ...

“ แหม...  อะไรอะเฮีย...  มีไปส่งน้องเขาด้วยเหรอ  นี่ถ้าไม่บอก  ผมก็นึกว่าเป็นแฟนกันเลยนะเนี่ย  มีกอดเอวกันด้วย “  ไอ้เอ็กซ์ที่ขับรถเข้ามาจอดเทียบ  เลื่อนกระจกลงมาแซวครับ

“ แฟนพ่องมึงดิ  กูกลับทางเดียวกัน  แล้วรถกูถ้าไม่กอดเอวแม่งก็ตกรถกันพอดี “

“ เหรอ... “

ดูมันครับ  ทำเสียงเหมือนไม่เชื่อแน่ะ

“ แล้วนี่ไปรู้หอน้องเขาได้ไงเนี่ย  เมื่อกี้ก็เห็นกัดกันจะตาย  น่าสงสัยนะเฮีย “

ดูน้ำเสียงและสายตามันสิครับ 

นี่กูเป็นพี่รหัสมึงนะเว้ย!!  ไอ้น้องเลว!!!

“ เออน่า..  เรื่องของกู  มึงอะกลับไปได้แล้ว...  ซีดูแลแฟนด้วยนะ  ท่าทางแม่งจะบ้า “

พูดจบผมเห็นน้องซีหัวเราะคิกคักในรถ  ก่อนที่ไอ้น้องรหัสตัวกวนผมมันจะหันไปพูดอะไรสักอย่างกับคนข้างๆ  แต่ผมไม่สนใจแล้วครับ  ขับรถออกไปจากตรงนี้เลยดีกว่า  เดี่ยวแม่งหยิบเอาอะไรไม่รู้มาแซวผมอีก...


.........................................


ขับรถมาถึงคอนโด  ไอ้คนตัวเล็กกว่าก็ลงรถและเดินเลยไปไม่สนใจผมเลยสักนิด 

แม่งเป็นไรอีกวะเนี่ย  ผมก็ไม่ได้แกล้งอะไรมันแล้วนะ....

ผมเร่งฝีเท้าเดินตามมันที่กำลังเข้าลิฟท์ไปจนตามทัน  ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด

ตอนนี้ภายในลิฟต์มีเพียงแค่ผมกับมันแค่สองคนเท่านั้น  และผมก็กำลังมองหน้าด้านข้างมันที่กำลังสนใจแค่เพียงไฟลูกศรที่กำลังเลื่อนขึ้นไปยังชั้นต่างๆ

มันไม่มองหน้าผมเลย  และทำเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เสียด้วยซ้ำ...

ผมเริ่มหงุดหงิดกับท่าทีที่มันไม่สนใจผมอย่างนี้  ก่อนจะเอ่ยถามมันขึ้นมา

“ มึงเป็นอะไร “

“ เปล่า... “

มันตอบมาแค่นั้น  แต่ก็ยังไม่มองหน้าผมอยู่ดี

“ เปล่าแล้วทำไมไม่มองหน้ากู “

มันไม่ตอบครับ  และประจวบเหมาะกับที่ประตูลิฟต์เปิดออก

มันเลยรีบเดินออกไปเลยครับ  ผมที่เริ่มหัวเสียกับท่าทีที่ไม่แยแสของมัน  ก็เร่งฝีเท้าเดินตามหลังมันไปติดๆ

มันที่เปิดประตูได้ก็ทำท่าว่าจะรีบปิด  ผมเลยดันไว้ก่อนจะแทรกตัวเข้าไป  และปิดประตูลง

จากนั้นมันก็ทำท่าจะรีบเดินหนีเข้าไปในห้อง  ผมเลยรีบคว้าแขนมันไว้  ก่อนจะดันมันไปติดกำแพง  แล้วใช้แขนอีกข้างพิง
กำแพงคร่อมตัวมันไว้  เพื่อที่มันจะได้มาเผชิญหน้ากับผมสักที

ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มันมากขึ้น  จนมันต้องเบี่ยงหน้าออกไปด้านข้าง

นี่ผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอครับ  มันถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้กับผม

“ มึงเป็นเหี้ยไร  โกรธไรกูวะ  ทำไมถึงไม่อยากมองหน้ากู  หรือว่ากูมันน่ารังเกียจมากรึไง “

ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดุดันตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ผมรู้สึกได้ถึงอาการสั่นเทาเล็กๆ ของมันอยู่บ้าง  จากข้อมือที่ผมกำมันไว้แน่น  กระนั้นมันก็ยังคงไม่หันหน้ามามองผมอยู่ดี

ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ  และมันเองก็ไม่พูดอะไรด้วยเช่นกัน...


แต่แล้ว...

“ ก็พี่ชอบดุผม  ว่าผม...  ผมทำอะไรพี่ก็ไม่เคยพอใจ  ทำแต่หน้าดุใส่ทุกครั้งที่ผมมอง  พี่เกลียดอะไรผมนักหนาวะ  ทีกับคนอื่นผมไม่เห็นพี่จะทำแบบนี้เลย “ 

จู่ๆ มันก็หันหน้ามาเผชิญหน้าและจ้องตาผมเขม็ง  พร้อมทั้งพูดสิ่งที่น่าจะอัดอั้นอยู่ในใจมาโดยตลอด

แล้วน้ำตามันก็เริ่มไหลออกมาครับ  ผมนี่ใจแป้วไปเลย  ก่อนจะค่อยๆคลายมือที่บีบข้อมือมันไว้แน่น  แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยให้มันเป็นอิสระไปนะครับ

นี่ผมทำให้มันรู้สึกแย่ขนาดนี้เลยเหรอ...  ผมไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นนะครับ...  ไม่ใช่ทุกคนที่ผมอยากจะแกล้ง  อยากจะเล่นด้วยแบบนี้...

เพราะมันแตกต่างจากคนอื่นไง....

ผมรู้สึกดีเวลาที่อยู่กับมัน  ได้แกล้งได้แหย่  ได้เห็นมันทำสีหน้าต่างๆ  มันทำให้ผมยิ้มได้...

ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำมันจะทำให้มันรู้สึกแย่ขนาดนี้  ที่สำคัญ...  ผมไม่อยากให้มันรู้สึกเกลียดผม...

ไม่นานผมก็คลายมือที่จับข้อมือมันไว้ออก  ก่อนจะมองมันด้วยสายตาที่รู้สึกผิดเอามากๆ  ที่ทำให้มันร้องไห้แบบนี้

ไม่รู้ทำไม  จู่ๆ ผมก็เอามือไปปาดน้ำตาที่แก้มมันออกเสียอย่างนั้น...  มันเองก็ยืนนิ่งให้ผมทำ  ก่อนจะมองผมด้วยสายตาที่ต่างไปจากเมื่อกี้  ราวกับว่าคาดไม่ถึงว่าผมจะสามารถอ่อนโยนกับมันได้แบบนี้

จากนั้นมันก็เบี่ยงตัวออกไปจากร่างผม  และเปิดประตูหายเข้าไปในห้อง 

ผมได้แต่ยืนทื่อทำอะไรไม่ถูกไปเสียอย่างนั้น...

ผม...  รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำเอามากๆ เลยนะครับตอนนี้...




TBC.



---------------------------------------------------------------------
ตอนที่แล้วลงเลทไป  ตามกำหนดการวันเว้นวันแล้ว  วันนี้ก็เลยลงตอนต่อไปอะครับ
จริงๆแล้ว  ตอนที่ผมเขียน X - C ผมจะเกริ่นเรื่อง กิจไว้ด้วยนะครับ  คือปูทางไว้ก่อน  ถ้าจบแล้วจะได้เขียนเรื่องนี้ต่อเลย (แต่ตอนนั้นเข้า รพ. ไปซะก่อนเลยไม่ทันเขียนจบ)
ตัวอย่างที่ผมเคยเกริ่นตัวละครกิจไว้ก็อย่างเช่น....
ตอนที่กิจมาขอให้ซีช่วยเป็นลีดให้ในงานสปอร์ตเดย์...
-------------

หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มและขนมเรียบร้อยแล้ว  ผมเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็เห็นพี่กิจพี่หัสผมกับพี่ผู้หญิงอีกคนกำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับไอ้ซีมันอยู่ที่โต๊ะครับ
“ เฮียหวัดดี “  ผมทักขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ
“ เฮ้ยเอ็กซ์  มึงมาก็ดีแล้ว  ช่วยบอกเพื่อนมึงมาเป็นลีดให้พี่หน่อยดิ “
“ ลีดไรอะพี่ “  ผมถามกลับอย่างแปลกใจครับ  แล้วพี่กิจก็เริ่มอธิบายให้ผมฟังต่อทันที
“ ก็พอดีน้องปี 1 ที่เป็นลีดเมื่อเทอมก่อนซิ่วไปตอนจบเทอมหนึ่งน่ะ  ทีนี้ลีดปี 1 ก็เลยขาดคน  แล้วนี่ก็ใกล้สปอร์ตเดย์แล้วด้วย  พวกพี่ๆ ก็เลยต้องหาคนมาแทน  ซึ่งก็ดูกันแล้วว่าซีน่าจะทำได้และก็เหมาะสมที่สุดแล้ว “  พี่กิจอธิบายมาผมก็พยักหน้าเข้าใจตามถึงความจำเป็นนี้ครับ
“ ผมจะไหวเหรอพี่  พี่ไม่ให้ไอ้เอ็กซ์หรือคนอื่นแทนละครับ “  ไอ้ซีมันทำหน้าไม่มั่นใจถามพี่กิจไป
“ คนที่พอจะเป็นได้ออย่างเอ็กซ์หรือเอสก็เป็นตัวนักกีฬา  แถมยังต้องซ้อมกันเกือบจะทุกวันช่วงนี้  คงไม่มีเวลามาซ้อมให้พวกพี่แน่  ก็มีแต่ซีเท่านั้นแหละที่พอจะช่วยพวกพี่ได้ตอนนี้  นะซี..  ช่วยพวกพี่หน่อยนะครับ “  พี่กิจอธิบายพร้อมกับเริ่มตื้อไอ้ซีต่อครับ  ซึ่งมันก็ได้แต่ทำหน้าลำบากใจ  และผมก็รู้นะครับว่ามันไม่ได้ติดที่จะช่วยหรอก  แต่มันคงกลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีเสียมากกว่าครับ
“ แต่ผมไม่เป็นเลยนะพี่  จะไหวเหรอครับ “
“ สบายมากซี  เดี๋ยวพี่เทรนให้เป็นพิเศษเลย  แต่ว่าช่วงนี้อาจจะต้องอยู่ซ้อมดึกหน่อยนะ  เพราะใกล้วันงานแล้ว “  พี่กิจพูดต่อเมื่อเห็นท่าทีไอ้ซีมันเริ่มใจอ่อนขึ้นมาบ้างแล้ว 
ว่าแต่.. ต้องซ้อมดึกแบบนี้ก็ดีสิครับ  เพราะผมจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้มันมานอนกับผมได้นี่นา  ว่าแล้วก็ไม่ควรจะปล่อยให้เสียโอกาสแล้วละครับ  หึๆ
“ กูว่ามึงช่วยพี่เขาหน่อยก็ดีนะ  เพราะนี่ก็ใกล้จะสปอร์ตเดย์แล้วด้วย อย่างน้อยไปลองดูก่อน  ได้ไม่ได้ยังไงค่อยว่ากันทีหลัง “  ผมบอกไป  ทุกคนก็หันมามองผมในทันที  ยิ่งพี่กิจนี่ยิ้มหน้าบานทันทีที่ผมช่วยเกลี้ยกล่อมให้อีกแรง  ไอ้ซีดูครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย  แต่สุดท้ายมันก็ยอมตกลงช่วยพี่เขาแต่โดยดีครับ
ที่เหลือแค่ผมรอให้ยื่นข้อเสนอให้มันมานอนค้างที่ห้องผมในช่วงนี้ก็แค่นั้น  หึๆ

กว่าที่พวกเราจะทำการบ้านกันเสร็จก็ปาไปกว่า 2 ทุ่มครึ่งแล้ว  และตอนนี้พวกเราก็กำลังจะพากันออกมาจากร้านพี่ทาม  ไอ้เนทและไอ้วินมันขอแยกตัวกลับคอนโด  ส่วนผมขันอาสาไปส่งไอ้ซีมันที่บ้านเอง  ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงปล่อยมันขึ้นรถกลับเองไปแล้วละครับ  แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วล่ะ...
พวกเราแวะกินผัดไทกันที่ร้านอร่อยของผม  ซึ่งเป็นร้านธรรมดาริมถนนเนี่ยแหละครับ  แต่ลูกค้าเยอะมาก  ซึ่งตอนพวกเรามานี่ก็เหลือโต๊ะสุดท้ายเพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น
“ เออซี  ศุกร์เสาร์อาทิตย์หน้ามันเป็นวันหยุดยาว  มึงว่างเปล่าวะ “  ผมถามขึ้นขณะรอผัดไทกุ้งสดที่สั่งมาเสิร์ฟ
“ อืม  ก็ว่างนะ  ทำไมวะ “
“ ดีเลย  กูว่าจะชวนมึงไปค่ายชมรมถ่ายภาพกับกูน่ะ “  ผมบอกไปตามจริงครับ
“ แต่กูไม่ได้อยู่ชมรมนะ  ไปได้เหรอวะ  อีกอย่างกูก็ถ่ายภาพไม่เก่งด้วย  กล้องอะไรก็ไม่มีกับเค้า “ 
“ เออได้ดิ  คือปีนี้เขาให้พาคนไปด้วยได้หนึ่งคนน่ะ  กูก็ไม่รู้จะชวนใครดี  มึงไปกับกูหน่อยนะ  ฟรีด้วยนะงานนี้  เหมือนไปเที่ยวอะมึง “  ผมบอกไปและเหมือนมันจะคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาครับ
“ ไม่อะ  อาทิตย์หน้าเดี๋ยวมีซ้อมลีดอีก  อาจจะไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่นก็ได้  ยิ่งพี่กิจจะซ้อมให้กูเป็นพิเศษอีกด้วย “
“ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง  กูคุยกับพี่เขาเอง  หยุดสักวันสองวันไม่เป็นไรหรอก  แค่มึงตอบตกลง  เรื่องอื่นเดี๋ยวกูเคลียร์ให้  นะมึง...  ไปกับกูนะ “  ผมยื่นข้อเสนอพลางตื้อมันต่อครับ
“ แล้วทำไมมึงไม่ชวนเจนไปละวะ  แฟนกันไม่ใช่เหรอ “  ได้ยินมันพูดแบบนี้ผมนี่ละเซ็งเลยครับ
“ ไม่อะ  เจนเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอก  อีกอย่าง...  กูอยากไปกับมึงมากกว่า.. “
“ แล้วทำไมต้อง.. “
“ นะมึง  นะคร้าบ  ไปกับกูน้า “  เมื่อท่าทีมันเริ่มจะใจอ่อน  ผมก็เลยต้องรีบอ้อนเรื่อยๆ  เดี๋ยวไม่นานมันก็ใจอ่อนครับ
“ เออ... “  นั่นไงล่ะ  ไอ้ซีน่ะผมรู้จักนิสัยมันดีครับ
“ น่ารักที่สุดเลยมึงอะ “  ผมบอกไปพลางจ้องตามันและยิ้มกริ่มส่งให้ไป  มันจ้องตอบกลับมาอยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาที่ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น  แต่แล้วมันก็ผลุบตาต่ำลง  เพื่อหลบสายตาผมพร้อมกับเผยยิ้มเล็กๆ ออกมา..
ผมพึ่งรู้นะครับเนี่ย...  ว่าเวลาผู้ชายอาย...  มันก็น่ารักดีไปอีกแบบหนึ่งนะครับ....
--------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนนะครับสำหรับการติดตาม  ส่วนกันต์จะได้เดือนรึเปล่านี่น่าจะรู้ผลในอีก(นับแปบ) 3 chapters มั้งครับถ้าจำไม่ผิด
ส่วนตอนนี้เดี๋ยวจะปั่น chapter 33 ต่ออีกหน่อยก่อนนอนครับผม
ส่วนตอนหน้าจะลงในวันมะรืนนะครับ  ขอบคุณอีกครั้งนะครับผม  :mew5:

^_____________________________________________^




หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 14-01-2018 23:41:28
 o22
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: diszalove_ ที่ 15-01-2018 02:13:01
จะว่าพี่กิจห่ามมากค่ะ คือห่ามโคตรๆ เลย อ่านไปเหมือนรู้สึกอยู่ในห้องเชียร์ตลอด
สงสารน้องนะคะ แต่ถ้าน้องชอบพี่กิจจริงๆ ก็ไม่รู้จะว่าอะไร หวังว่าจะซอฟต์ลงหน่อย
ใจจริง อยากให้น้องทำให้พี่กิจคลั่งได้บ้าง รู้สึกดีกับคนอื่นแทนที่จะเป็นพี่กิจได้บ้าง
สิ่งที่น้องอยากได้ คือ คนที่อ่อนโยนกับน้อง รับฟังน้อง อะไรแบบนี้
เขียนคนนั้นให้น้องหน่อยค่ะ สงสารน้องจริงๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-01-2018 04:33:49
ทำน้องเสียใจจนร้องไห้ แล้วถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองทำร้ายน้อง สมน้ำหน้า  :3125:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 15-01-2018 08:39:40
 :3123: :pig4: :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 15-01-2018 08:47:57
นี้รออ่านจริงๆๆนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 15-01-2018 11:30:44
รอนะค่าาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 15-01-2018 11:32:10
รออ่านค่าาาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 15-01-2018 14:30:35
น้องน่าเอ็นดู ไม่ดุน้องเนอะพี่กิจ o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-01-2018 21:45:04
คุณหมีขาว ดูแลสุขภาพด้วยนะ

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-01-2018 22:41:53
แบบนี้ต้อง

ตาต่อตา ปากต่อปาก

ไปเลย 5555

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-01-2018 14:05:19
Chapter 10



กันต์'S  Part




ผมเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงไปบนเตียง  ผมทั้งกลัวและรู้สึกแย่เอามากๆ ที่พูดกับพี่เขาไปอย่างนั้น

เพราะพี่เขาบีบมือผม  ดุผมเสียงดัง  และกดดันผมซะขนาดนั้น  มันเลยอดไม่ได้ที่จะระเบิดออกไปอย่างไม่ทันจะได้คิดหน้าคิดหลังแบบนั้น

แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงก็คือสีหน้า  แววตา  และท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดของพี่กิจ 

ผมเหมือนจะทำให้พี่เขารู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้สิครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้พี่รู้สึกแบบนั้นเลยนะ  แต่มันอดไม่ได้จริงๆ

เพียงแต่...  ผมยังบอกพี่ไปไม่หมด...

อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่อยากจะมองหน้าพี่ก็คือ....

ทุกครั้งที่มองสายตาพี่  มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ  ใจผมเต้นไม่เป็นปกติเอาเสียเลย  ก็ตั้งแต่วันที่พี่เจ็บตัวแทนผมนั่นแหละ
 
ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย  มันไม่ชินอะครับ...  ถ้าเลี่ยงได้ผมขอเลี่ยงจะดีกว่า...

ผมไม่อยากจะต้องมารู้สึกใจสั่นๆ แบบนั้น....

ไม่รู้พี่กิจจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้  ผมยันตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียง  แต่แล้วจู่ๆก็มีกระดาษเอสี่สอดเข้ามาผ่านช่องใต้ประตูห้อง  ก่อนจะได้ยินเสียงประตูห้องพี่กิจปิดลง

จากนั้นผมก็เดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาดู 


-- ขอโทษนะ…
  ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำ  มันจะทำให้คุณรู้สึกแย่ขนาดนี้
  แต่ผมอยากบอกว่า  ผมไม่เคยเกลียดคุณเลยนะ...
  ขอโทษที่ผมเข้ามาวุ่นวายกับคุณมากเกินไป
                                                                     กิจ     --   



ผมอ่านข้อความในกระดาษจบ  จู่ๆ ผมก็รู้สึกใจหายขึ้นมาเสียอย่างนั้น  รู้สึกอยากจะไปขอโทษพี่เขาที่พูดแบบนั้นออกไป 

อยากจะเดินไปเคาะประตูห้องและขอโทษ...

แต่....  มันก็ไม่กล้า....



.....................................



เช้าวันต่อมา

ผมกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือ  ลุกจากเตียงอย่างงัวเงีย  ลังเลใจที่จะออกจากห้องไปเผชิญหน้ากับพี่กิจ 

เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองทำเรื่องไม่ค่อยดีกับเขาเอาไว้  เลยไม่ค่อยกล้าจะสู้หน้าสักเท่าไหร่

ไม่นานผมก็ตัดสินใจเปิดประตูห้องออกไป  ก่อนจะเดินไปยังโซนออกกำลังกาย  ซึ่งพี่กิจก็ยังคงทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเช่นทุกที 

แต่...  ดูเหมือนพี่เขาจะไม่หันมาสนใจผมเลย

ผมวิ่งเสร็จก็เดินเข้าไปในครัว  เพื่อหามื้อเช้าทาน  ถึงตรงนี้..  ผมก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับพี่เขาเลยสักคำ

ผมทอดไส้กรอก  แฮม  และไข่ดาวเป็นมื้อเช้า  และไม่ลืมที่จะทำเผื่อพี่เขาด้วย 

บางทีผมควรจะขอโทษพี่เขาในมื้อเช้านี้นะครับ

ไม่นานนัก  พี่กิจก็เดินเข้าห้องไป  หลังจากที่ออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จ  โดยไม่ได้หันมามองผมเลยสักนิด  ทั้งๆที่ปกติพี่เขาจะแวะเข้ามาหาอะไรกินในครัวก่อนอาบน้ำเสมอ

พี่เขา...  คงจะโกรธผมเอามากๆ เลยใช่มั้ย...

หลังจากที่ผมเข้าไปอาบน้ำ  แต่งตัวเพื่อที่จะไปเรียน  พี่เขาก็ออกห้องไปก่อนผมแล้ว  และจานข้าวนั้นก็ยังคงมีอาหารเต็มจานอยู่เหมือนเดิม...


......................................


ตลอดทั้งวันผมดูหงอยๆไปเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น  จนไอ้เรย์มันสังเกตได้  แต่มันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากจากผม  เพราะปกติแล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม  ผมก็จะเป็นฝ่ายเล่าให้มันฟังเอง  แต่เรื่องคราวนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเล่าให้มันฟังยังไง  ยิ่งเรื่องความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นด้วยแล้ว  ยิ่งไม่รู้จะอธิบายมันยังไงดี

เย็นนี้พวกที่ต้องเตรียมตัวประกวดดาวเดือนคณะได้เลิกไวกว่าพวกที่เข้าเชียร์ครับ  เพราะแค่ซ้อมบล็อกกลิ้งกันนิดหน่อยจากนั้นพี่เขาก็ปล่อยให้เราไปเตรียมตัวสำหรับการแสดงความสามารถพิเศษกัน

“ หวัดดี..  “ 

ขณะที่ผมกำลังหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า  จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งทักขึ้นมาพอดีครับ

มันเป็นไอ้หล่อจาก Sec ไหนสัก Sec เนี่ยแหละครับ  ผมจำชื่อไม่ได้อะ  แต่ก็เป็นปี 1 ที่เข้าประกวดเหมือนกันกับผม

“ เราชื่อ ธัน นะ  นายชื่อไรอะ “ 

มันยิ้มทักมาท่าทางเป็นมิตรครับ  ผมเลยยิ้มทักตอบกลับไปด้วยเช่นกัน

“ เรากันต์ “ 

“ แล้วนี่กันต์อยู่ Sec ไหนเหรอ “

“ Sec 1 เลย  แล้วธันล่ะ “

“ เรา Sec 7 อะ  แยกภาคปี 2 แล้วเราอยู่ โยธา  แล้วกันต์อยู่ภาคไหนเหรอ “

“ เรา IE “  ผมหมายถึงวิศวอุตสาหการ อะครับ  มันพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ

พอมองดูมันชัดๆ  ไอ้ธันนี่มันหล่อมากนะครับ  ผิวขาว สูง คิ้วเข้ม หน้าเรียวได้รูป  แถมยิ้มทีก็มีลักยิ้มที่มุมปาก  เห็นแบบนี้แล้วผมจะเอาอะไรไปสู้มันได้เนี่ย

แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญตอนนี้เลย  เพราะผมไม่ได้สนใจเรื่องการประกวดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  ตอนนี้ที่อยู่ในหัวผมก็คือเรื่องไอ้พี่กิจเรื่องเดียวนั่นแหละ 

แม่ง...  เป็นเชี่ยอะไรอีกเนี่ย  แล้วทำไมผมต้องมาหงอยอย่างนี้ด้วยว้า!!!

“ เลิกไวแบบนี้แล้วกันต์จะไปไหนต่ออะ “

“ เราว่าจะกลับห้องเลย “  ผมตอบไปเนือยๆครับ  รู้สึกวันนี้ตัวเองไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าสักเท่าไหร่

“ ให้เราไปส่งมั้ย “

“ เห้ย!  ไม่เป็นไร เรากลับเองได้ “  ผมบอกไปอย่างเกรงใจ  พึ่งคุยกันแค่ไม่ถึง 5 นาที จะมาใจดีอะไรกันขนาดนี้

“ เอางั้นเหรอ “

“ อืม...  ขอบใจนะ “

“ โอเค  นั้นไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ “ 

มันยิ้มและยกมือลา  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปให้ด้วยเช่นกัน


....................................


ผมเดินหงอยๆ เรื่อยเปื่อย  เพื่อจะไปยังประตูทางออกด้านข้างมหาลัยฯ  เพราะแถวนั้นจะมีร้านกาแฟน่านั่งอยู่ร้านหนึ่ง  ซึ่งผมนัดกับไอ้เรย์ไว้ให้มันมาช่วยคิดเรื่องการแสดงความสามารถพิเศษของผม

แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินผ่านสนามลักบี้อยู่นั้น  สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“ โอ้ย!!! “

ผมรู้สึกเหมือนอะไรหนักๆมากระแทรกอยู่ที่หัวไหล่ครับ  แรงจนทำให้ผมตื่นขึ้นจากภวังค์ในหัวได้ทันที

ผมมองดูที่พื้น  มันเป็นลูกลักบี้กำลังกลิ้งอยู่  นี่ใครแม่งขว้างมาวะเนี่ย....

“ ขอโทษครับน้อง  เป็นไรมากป่าว “

แล้วร่างใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนขว้างมาก็กำลังวิ่งเข้ามาหาผมครับ

ผมจำได้ครับว่าพี่เขาคือเพื่อนพี่กิจ  สมาชิกแก๊งจตุรเทพที่สาวๆ พากันกรี๊ดกร๊าด  ที่สำคัญเป็นพี่คณะ  และพี่ภาควิชาด้วย  จากที่คิดว่าจะด่า  เลยต้องเก็บเงียบกริบไปในทันที

“ โทษทีพี่ขว้างมาเองแหละ  ไม่ทันเห็นว่าน้องเดินมาพอดี  แล้วนี่เราเป็นไรมากมั้ย “

พอพี่เขาเข้ามาใกล้ๆ แบบนี้  รู้สึกเหมือนตัวเองเตี้ยไปในทันทีเลยครับ  ใบหน้าหล่อเข้ม  แต่คำพูดกลับนุ่มนวลจนผมนี่ด่าไม่ลงไปเลย 

“ ก็..  ไม่เป็นไรมากครับ  เคล็ดๆนิดหน่อย  เดี๋ยวก็หายครับ “

ผมพูดไปอย่างนั้น  ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วแม่ง...  แทบจุกอกผมเลยครับ  นี่ขนาดโดนที่หัวไหล่ยังสะเทือนซะขนาดนี้  ถ้าโดนหัวมีหวังสลบ....

“ พี่ขอดูหน่อยนะ “  แล้วจู่ๆพี่เขาก็ถลกคอเสื้อนักศึกษาผมลงมาดูบริเวณหัวไหล่พร้อมทั้งก้มดูเล็กน้อย

“ แดงเลย  ไม่รู้ทิ้งไว้จะช้ำรึป่าวเนี่ย “

อ๋อ...  ไม่ต้องห่วงครับพี่  ช้ำแน่นอนงานนี้....

“ เอาไงดี... “ 

พี่เขาพูดมาพลางทำท่าคิด  ว่าแต่เอาไงดีของพี่คืออะไรครับ

“ นั้นรอพี่ตรงนี้แปบนะ  เดี่ยวพี่มา “

พี่เขาพูดจบก็ถือลูกลักบี้วิ่งกลับเข้าไปในสนาม  ผมมองตามไปอย่างงงๆ  ไม่นานพี่เขาก็วิ่งกลับมา  คราวนี้มีเป้สะพายข้างมาด้วยครับ

“ พอดียานวดพี่หมดอะ  เดี๋ยวพี่พาเราไปซื้อยานวดหน่อยละกัน “

“ ไม่เป็นไรครับพี่  ที่หอผมก็มี “

“ เอาน่า  ให้พี่ชดเชยเราหน่อยก็แล้วกัน “

“ ไม่เป็นไรจริงๆครับพี่ “ ผมอดที่จะเกรงใจไม่ได้ครับ  แต่จะว่าไปเพื่อนพี่กิจกับพี่กิจทำไมนิสัยมันต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้นะ  พี่พี (ผมจำชื่อได้จากข่าวสารของไอ้แน๊ค) นี่โครตใจดีเลย  ส่วนพี่กิจนี่แม่ง....ทั้งดุ ทั้งแกล้งผมตลอดอะ  ไม่เคยจะใจดีกับผมแบบนี้บ้างเลย

“ นี่พี่ขอเลิกซ้อมก่อนเวลามาแล้วนะ  ยังไงให้พี่ชดเชยเราหน่อยก็ละกัน “  พี่เขายิ้มว่ามาแบบนี้  แล้วผมจะทำไงได้ละครับ  ก็คงต้องตามใจพี่เขาไปแบบนั้น


..........................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-01-2018 14:28:28
ที่หน้าร้านขายยา

“ ขอบคุณนะครับพี่พี “

ผมบอกขึ้นเมื่อซื้อยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ ไม่เป็นไร  พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเรา  ว่าแต่..  นี่เรารู้จักชื่อพี่ด้วยเหรอ “  พี่เขาทำหน้าสงสัยถามมา  ผมเลยได้แต่อึกอักเล็กๆ  ก่อนจะตอบกลับไปครับ

“ ก็กลุ่มพวกพี่ดังจะตายไป  ใครไม่รู้จักก็แปลกแล้วครับ “  ผมแถไป  พี่เขาก็ทำหน้างงๆ  แต่ก็พยักหน้าเล็กๆเหมือนว่าจะเข้าใจ

“ แล้วเราล่ะ  ชื่ออะไร “

“ เอ่อ..  ผม กันต์ ครับ “

“ เดี๋ยวรีบกลับป่ะเนี่ย “

“ ไม่อะครับ  พอดีนัดกับเพื่อนไว้ที่ร้านกาแฟตรงโน้นอะครับ “  ผมบอกไปพลางชี้ไปยังร้านกาแฟที่อยู่ห่างออกไปอีกไม่ถึง 100 เมตร

“ อ่อ..  นั้นดีเลย  เดี๋ยวพี่เลี้ยงกาแฟกับขนมเราละกัน “

“ เห้ย!  ไม่เป็นไรครับพี่  ผมเกรงใจ “

“ ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า  ถือว่าเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน “

พี่เขายิ้มว่ามาแบบนี้  ผมก็เลยตามเลยครับ..

ของฟรี...  บางทีก็ไม่มีอะไรเสียหายใช่มั้ยครับ อิอิ


ที่ร้านกาแฟ

“ โหพี่..  เยอะขนาดนี้เลยเหรอ  ผมกินไม่หมดหรอก “

ผมมองขนมนานาชนิดบนโต๊ะ  น่ากินทั้งนั้นเลย  แต่ถ้ากินหมดนี่  ผมคงไม่ต้องกินข้าวยันพรุ่งนี้กันพอดี

“ ก็เผื่อเพื่อนเราด้วยไง “
 
พี่เขาว่ามาก่อนจะจิบอเมริกาโน่รสเข้ม  เข้ากับสไตล์พี่เขาเลย  ในขณะที่คนในร้านต่างก็พากันมองมายังโต๊ะเรา  ยิ่งพี่พีตัวสูงใหญ่  ใส่ชุดกีฬา  แถมหน้าตาดีขนาดนี้อีก  ไม่แปลกเลยครับที่คนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ

“ เออยังไม่ได้ถามเลย  นี่กันต์อยู่คณะอะไรอะ “

“ วิศวะครับพี่ “

“ อ้าว...  แล้วไม่เข้าเชียร์เหรอ “  พี่เขาทำหน้าแปลกใจถามมาครับ

“ อ๋อ..  พอดีผมประกวดดาวเดือนคณะอะครับ  พวกพี่ๆเขาเลยบอกไม่ต้องเข้าเชียร์ “  พี่พีพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ

“ ว่าแต่ดูๆไปเรานี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ  ยังไงก็ขอให้ได้ละกัน “

ก็มีแต่พี่เนี่ยแหละครับที่เชียร์ผม  ไม่เห็นจะเหมือนเพื่อนของพี่เลย  ดูถูกผมตลอดเวลาอะ 

“ ขอบคุณครับพี่  แต่...  ไม่ได้ก็ดีนะครับ  อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยอยากจะประกวดเท่าไหร่หรอก “

“ อ้าว...  ทำไมล่ะ “

“ ไม่รู้ดิพี่  ไม่มั่นใจอะ  หน้าอย่างผมจะเอาอะไรไปสู้เขาได้  นี่ถ้าเพื่อนมันไม่แกล้ง  ผมก็คงไม่ต้องมาประกวดหรอก “

ผมบอกไปเซ็งๆครับ  แต่จู่ๆพี่พีก็ขำผมขึ้นมาซะงั้น  ไม่เห็นจะมีอะไรน่าขำเลยครับพี่

“ เอาน่า  ตอนรุ่นพี่  พี่ก็ไม่ได้อยากประกวดหรอก  เพื่อนมันบังคับมาเหมือนกัน  ในวันงานก็แค่เดินๆ แสดงๆ  ตอบคำถามนิดหน่อย  เดี๋ยวก็จบแล้ว  มันแค่ประกวดในคณะ  ไม่ได้วุ่นวายเป็นทางการขนาดประกวดดาวเดือนมหาลัยนั่นหรอก “

พี่พีพูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ เลย  แต่ได้ยินแบบนี้แล้ว  ผมก็ค่อยสบายใจขึ้นมาบ้างนะครับ  รู้สึกไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่

แล้วจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของพี่พีที่วางอยู่ที่โต๊ะก็ดังขึ้น  มันขึ้นชื่อที่โทรเข้ามาว่าเป็นพี่กิจ

“ ว่าไงมึง...  เออเลิกแล้ว  แล้วมึงเลิกเชียร์แล้วเหรอวะ...  เออๆ  เดี๋ยวกูตามไป  ร้านเดิมใช่มั้ย.. โอเค.. “

พี่พีวางสายก่อนจะหันมายิ้มให้ผมทีนึง  ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ

“ เดี๋ยวพี่ต้องไปแล้วนะ  เพื่อนพี่มันโทรมาชวนไปกินเหล้าน่ะ  ไว้ค่อยเจอกันใหม่นะน้อง “

“ ขอบคุณนะครับพี่  หวัดดีครับ “  ผมยกมือไว้พี่เขา ซึ่งเขาก็รับไหว้ตอบกลับมาด้วยเช่นกัน  ก่อนจะเดินดุ่มๆ ออกจากร้านไป
ว่าแต่....  วันนี้พี่กิจไปกินเหล้าเหรอ

นี่ผมทำพี่เขาเครียดไปรึเปล่าเนี่ย  เพราะเท่าที่อยู่มา  เห็นพี่เขายุ่งอยู่แต่กับกิจกรรมเชียร์และไม่ได้ไปกินเหล้าเลย 

แล้วทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงไปกินเหล้าได้

คงไม่ใช่...  เพราะผมหรอกนะ....




TBC.




-----------------------------------------------------

มาแล้วครับตามสัญญา  ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับทุกการติดตามและกำลังใจ  มันช่วยให้ผมมีกำลังใจมากเลยจริงๆครับ

ตอบคำถามในเม้นต์ นะครับ ( สปอยนิดๆ )
จริงๆ กิจใจดีนะครับ  แต่ช่วงเริ่มแรกกับกันต์จะดุมากครับ  แต่พอหลังๆจะใจดีมาก
( ตัวอย่างบางส่วน Ch. 26 (แบบยังไม่ได้เรียบเรียงประโยคนะครับ) )

“ กันต์  เป็นยังไงบ้าง  ไหวมั้ย...  “  ไอ้ธันรีบเข้ามาประคองผมและถามไถ่อย่างเป็นห่วง  ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ส่ายหน้าส่งให้ไปเท่านั้น
“ ขอโทษนะเว้ย...  เสียแต้มเพราะกูอีกแล้ว “  ผมพูดออกไปอย่างอดที่จะรู้สึกโทษตัวเองขึ้นมาไม่ได้  เพราะหลายต่อหลายลูกที่ฝั่งผมเสียแต้มนั้นก็มาจากผม  บางทีถ้าไอ้ธันคู่กับคนอื่น...  มันอาจจะไม่แย่ขนาดนี้ก็เป็นได้นะครับ
“ พูดอะไรอย่างนั้น  กันต์เองก็ทำเต็มที่แล้ว  ดูสิเจ็บหมดแล้วเนี่ย “
ถึงจะได้ยินอย่างนี้  แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนว่าเราไม่มีทางเอาชนะคู่แข่งตรงหน้าได้เลย  ไม่ว่าจะพยายามเต็มที่แค่ไหนก็ตาม....
ผมก้มมองดูที่รักข้อมือที่พี่กิจให้เป็นของขวัญวันเกิด  ผมคงคว้าเหรียญทองมาให้พี่ไม่ได้นะครับพี่กิจ  ทั้งๆที่พี่กิจพยายามเทรนให้ผมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแท้ๆ  แต่คู่แข่งมันแข็งแกร่งจริงๆครับ....  ผมไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะได้  ไม่มีทางเลยจริงๆ....
............................................................................................
“ กันต์ !  “
แล้วจู่ๆก็เหมือนได้ยินเสียงพี่กิจแว่วเข้ามาในหัว...  แล้วความทรงจำครั้งหนึ่งที่พี่กิจเคยพูดกับผมไว้ตอนที่พี่เขาเทรนให้  และตอนนั้นก้ไม่ต่างกับตอนนี้เลย  ที่ผมแพ้แล้วก็แพ้อีก  ไม่มีทางที่จะชนะพี่กิจได้เลยแม้แต่น้อย....
“ กันต์...  ถ้าแข่งขันกับใครสักคนแล้วแพ้แล้วแพ้อีกมันเป็นสิ่งดีนะ...  เพราะถ้าแพ้ก็เรียนเพื่อแก้ไข  ความอายความขายหน้าเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เราเอาชนะได้  อย่ารีบร้อน...  ค่อยๆเป็นค่อยๆไป  แล้วประสบการณ์จะสอนให้เราเรียนรู้ที่จะผ่านมันไปได้...  นอกจากนั้น  อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน  หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไปก็คืออะไรรู้มั้ย...  “
“ ไม่รู้อะครับ “
“ กำลังใจไง...  หากมีกำลังใจเราก็จะมีพลังในการเอาชนะได้... “
“ แล้ว... วันนั้น  พี่กิจจะมาเป็นกำลังใจให้ผมมั้ย “
“ มาสิ...  ต้องมาแน่นอน... “
................................................................................................
ผมดึงสติกลับเข้ามาในการแข่งอีกครั้ง  ในขณะที่ไอ้ธันถอยหลังเยื้องไปทางด้านหลังผมแล้วในตอนนี้
และก่อนที่ไอ้เคจะเสิรฟลูกต่อไปมา  จู่ๆความวุ่นวายที่ประตูทางเข้าโรงยิมก็เกิดขึ้น  จนทุกคนต้องหยุดและหันไปมองยังที่มาของความวุ่นวายนั้น
“ ถอยหน่อยคร้าบๆ !!!  กองเชียร์คณะวิศวะมาแล้วคร้าบ  ของทางหน่อยๆ!!! “
เสียงพี่คิมดังมาแต่ไกล  พร้อมด้วยกลุ่มคนมากมายที่เบียดผู้คนที่ส่วนมากจะเป็นกองเชียร์คณะเภสัทเข้ามา 
ในนั้นมีทั้งกลุ่มจตุรเทพคนดังของมหาลัยฯ  ชมรมบาสที่มีไอ้เรย์ห้อยเหรียญทองนำมากันยกทีม  เพื่อนๆปีหนึ่งอีกหลายคน  รวมถึงพี่ๆปีสูงๆขึ้นไปอีก...  มันเยอะมาก  เยอะมากจริงๆครับ  จนตอนนี้ที่ยืนในโรงยิมแทบจะไม่มีแล้ว  หลายคนต้องเบียดเสียดกัน  ทว่าทุกคนกลับส่งเสียงเชียร์พวกผมกันยกใหญ่และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  พวกเขาไม่สนด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมกำลังจะแพ้หรือว่าชนะ  แต่ก็ยังเชียร์และให้กำลังใจพวกผมไม่ขาด...
“ อ้าวๆๆ  พวกกูมาช้ากันนิดเดียวถึงกลับแต้มตามขนาดนี้เลยเหรอวะ  สู้ๆหน่อยเว้ยมึง  กูรู้ว่ามึงทำได้ “
 เสียงไอ้เรย์มันตระโกนมาครับ
“ สู้ๆนะคุ้ดหล่อทั้งสองคนของพวกพี่ๆ “
นี่เป็นกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงที่ตระโกนมาครับ
“ ธัน!!  คนอ่อนแอเท่านั้นถึงจะแพ้นะ “
อันนี้แพรเพื่อนสนิทของไอ้ธันมันครับ  เล่นซะเอาไอ้ธันทำหน้าแหยๆเกาหัวยิกๆเลย
“ กันต์  สู้ๆนะพี่เชื่อว่าเราทำได้ “
นี่พี่พีครับตระโกนเสียงเข้มมาเชียว
“ สู้ๆนะไอ้น้อง  ถ้าชนะเดี๋ยว...  ไอ้กิจเลี้ยงให้ชุดใหญ่เลย  ฮ่าๆๆๆ “
พี่คิมตระโกนบอกมาบ้างครับ
ผมเหลือบไปมองพี่กิจที่ยืมส่งยิ้มอยู่ไกลๆมาให้  และเหมือนพี่เขาจะเห็น  เขาเลยเอานิ้วมาชี้ย้ำที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง  ผมเลยก้มมองดุที่รัดข้อมือที่พี่เขาให้มา...  นั่นสินะ..  ผมมีพี่เขาเป็นกำลังใจอยู่ด้วยตลอดเวลานี่นา..
ถึงจุดนี้ผมก็ยิ้มออก  แล้วความร้สึกฮึกเหิมมันก็หลั่งไหลมาจากไหนก็ไม่รู้มากมาย  ผมหันไปมองไอ้ธันที่ยิ้มและพยักหน้าส่งมาให้ผม
ผมเข้าใจแล้วล่ะครับพี่กิจ...  ว่ากำลังใจมันมีพลังให้เรามากเช่นไร....
พวกเราพร้อมที่จะสู้แล้วครับ  ไม่ว่าผมจะเป็นยังไงก็ช่าง  พวกผมรับรองว่าเราจะทำมันให้เต็มที่แน่นอน...
“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “
“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “
“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “
.......................................

-----------------------------------
ถึงตรงนี้สรรพนามที่กิจใช้เรียกตัวเองกับกันต์จะเปลี่ยนไปแล้วด้วยนะครับ เปลี่ยนแบบที่เราเองจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าเปลี่ยนตอนไหน  มารู้ตัวอีกที สรรพนามระหว่าง 2 คนนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว
ส่วนใครบางคนที่ขอไว้....  มีแน่นอนครับ  CH10 นี่ก็โผล่มาละครับ  แต่ยังจะยังไม่มีบทบาทมากเท่าไหร่  แต่มีเรื่อยๆครับ และรู้สึกได้ทันทีว่าคิดยังไงกับกันต์  ต้องติดตามต่อไปนะครับ 

คุณ Billie ผมจำได้  เคยอ่าน X-C ด้วย ขอบคุณนะครับที่ห่วงใยและยังติดตามเรื่องนี้ 

ขอบคุณทุกๆคนและทุกกำลังใจมากๆนะครับผม  ได้อ่านทุกๆเม้นแล้วอยากจะลงให้ทุกวันเลย  แต่กลัวเขียนไม่ทัน 55+  ขอเป็นวันเว้นวันนะครับ  ตอนนี้พึ่งจบ Ch33 อยู่เลยครับ  แฮ่ๆ

แล้ววันมะรืนจะมาต่อตอนต่อไปนะครับ  ขอบคุณครับผม
^_________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-01-2018 15:18:18
ขอบคุณค่ะ  สนุกมากกก  ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 16-01-2018 18:36:34
ติดตามจร้าาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-01-2018 19:21:57
รอจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 16-01-2018 19:33:07
 :ling3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 16-01-2018 21:58:03
เค้าชอบกัน และ กัน แต่เข่ำม้รู้ใจตัวเองยังสับสน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-01-2018 22:08:43
ปักหมุดติดตาม  :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-01-2018 22:18:35
เอ้า..... มากอดกันดีกว่านะเด็ก ๆ อีพี่กิจก็จิตหลุด ทำขวัญอีน้องหาย  ส่วนอีน้องกายก็สติหาย กลัวทำอีพี่กิจติดเหล้า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tang ที่ 16-01-2018 22:35:47
ติดตามจ้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-01-2018 23:27:55
 :L2: :pig4:

ใช่แล้ว เราคนเดิม55 ดีใจที่คุณกลับมาเขียนอยู่ด้วยกันไปนานๆ ดูแลสุขภาพดีดี :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 17-01-2018 00:05:30
สนุกแท้
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 17-01-2018 10:58:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-01-2018 21:45:03
รอๆ

มีคนมาจีบกันต์แล้ว...

พี่กิจหวั่นไหวบ้างยังเนี้ย

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 18-01-2018 13:09:14
Chapter  11



กันต์'s  Part




“ สัด!!! “
 
ไอ้เรย์ครับ  มาถึงมันก็ตบหัวผมซะหน้าเกือบทิ่มใส่แก้วกาแฟตรงหน้าเลย  ก่อนจะโยนกระเป๋าไปยังเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ เชี่ยไรมึงเนี่ย  มาถึงก็ตบหัวกูเลยนะ !! “ 

ผมด่ามันขึ้นครับ  พร้อมทั้งมองดูสภาพมันตอนนี้...  บอกได้คำเดียวครับว่าหมดสภาพ  อย่างกับมันไปมีเรื่องกับใครมาอย่างนั้นแหละ

มันเล่าให้ฟังว่า  วันนี้ไอดอลของมันแม่งไปกินรังแตนที่ไหนมาก็ไม่รู้ครับ  เล่นปี 1 ที่เข้าเชียร์ซะอ่วมเลย  ส่วนที่มาตบหัวผม  ก็เพราะเห็นว่าผมแม่งโชคดีที่รอดตาย  ไม่ต้องเข้าเชียร์ไปโดนเหมือนพวกมัน

“ แล้วนี่อะไรวะ  ซื้อมาแดกคนเดียวอะไรตั้งเยอะขนาดนี้ “

มันมองดูขนมตรงหน้าที่ไม่ว่าผมจะพยายามกินยังไงมันก็ไม่ยอมหมดลงไปสักที

“ กูป่าวซื้อ  มีคนเขาเลี้ยง “

“ ใครวะ “  มันทำหน้าสงสัยถามมา  แต่ก็เสือกเอาซ้อมตักแบ่งเค้กตรงหน้าเข้าปากไป

“ พี่พี “

“ พีไหนวะ “

“ ก็พี่พีแก๊งจตุรเทพไง “

“ เชร็ดด....  แล้วนี่มึงไปรู้จักพี่เขาได้ไงวะ  แถมยังมีมาเลี้ยงขนมด้วยนะ “ 

มันพูดไปกินไปครับ  ท่าทางมันคงจะเหนื่อยและหิวจริงๆ นั่นแหละ  จากนั้นผมก็เลยเล่าให้มันฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

……

“ แล้ววันนี้มึงเป็นเชี่ยอะไรเนี่ย  กูเห็นทำหน้ากลุ้มอยู่ได้ทั้งวัน “

“ เปล่า...  ก็..  เรื่องที่กูเรียกมึงมาช่วยคิดเนี่ยแหละ “
 
ผมอ้อมแอ้มบอกมันไปถึงเรื่องการแสดงความสามารถพิเศษ  ที่จนป่านนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยครับ  ในขณะที่อีกเรื่องที่ผมกลุ้ม  ผมกลับยังไม่พร้อมที่จะเล่าให้มันฟังตอนนี้

เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นเล่าให้มันฟังยังไงดี....

“ อืม...  แล้วเท่าที่มึงคิดไว้มีอะไรบ้างอะ “

เชี่ยนี่ก็ถามไม่คิด  ถ้าผมคิดออกจะมาขอความช่วยเหลือมันมั้ย

“ ไม่มีสักอย่าง  มึงก็รู้อย่างกูมีความสามารถพิเศษอะไร  ดนตรี ?...  กีฬา ?...   แม่งก็ไม่เอาไหนสักอย่าง “ 

พูดไปผมก็ได้แต่ถอนหายใจทำหน้าเซ็งครับ

“ เออว่ะ “ 

มันเห็นด้วยพลางทำท่าคิดเหมือนกันกับผม  ในขณะที่มันก็ยังคงกินขนมตรงหน้าอย่างไม่วางมือ

“ แม่งเอาแต่แดกอยู่ได้  ช่วยกูคิดเร็วๆดิ  วันมะรืนแล้วนะเว้ย  แถมนี่มันเป็นความผิดมึงด้วยนะ  ที่กูต้องได้มาประกวดแบบนี้อะ “

“ ก็กูหิว  แล้วมันก็อร่อยนี่..  หือ... “

มันทำท่าเหมือนจะคิดอะไรออกครับ

“ ไอ้กันต์  อย่างนึงที่มึงเก่งเว้ย  กูนึกออกละ “ 

มันทำท่าทางตื่นๆ เมื่อคิดขึ้นมาได้  ผมเองก็เช่นกัน

“ มึงทำอาหารเก่งไง  อร่อยด้วย “

“ สาด!!!  เวลาแค่ 5 นาทีกูจะไปทำอะไรทัน  แถมเครื่องไม้เครื่องมือก็...  เห้ย!!  แซนวิชก็ได้นี่  เตรียมของไว้บางส่วนแล้วค่อยเอามาผสมกัน “

เชร็ดดดด  ไอเดียบรรเจิด  รอดแล้วผมงานนี้  ไม่ต้องสวยหรูดูดี  ขอแค่ให้มันผ่านๆไปก็พอ

“ เป็นไงล่ะไอเดียกู “
 
แหม  ทำยืดเลยนะมึง  แต่ก็ถือว่ามันช่วยได้เยอะเลยทีเดียวครับ

“ ว่าแต่  ถ้ามึงเสือกได้เป็นเดือนคณะมานี่มึงจะเป็นเดือนคณะที่มุ้งมิ้งที่สุดเลยนะเว้ย “

“ ทำไมวะ “

“ อ๋าว...  ก็มีอย่างที่ไหน  เดือนคณะแสดงความสามารถพิเศษทำอาหารมุ้งมิ้ง  แทนที่จะเป็นดาวคณะทำ “

“ ไอ้สาด!!!!! “


.............................................


ที่คอนโด

ผมมองนาฬิกาในห้อง  นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว  พี่กิจยังไม่กลับมาอีก...

แบบนี้ร่างกายพี่เขาจะไหวมั้ยเนี่ย  แม่งเอ้ย!! 

เมื่อวานผมไม่น่าพูดอะไรอย่างนั้นกับพี่เขาไปเลย  ให้ตายเถอะ...

ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง  สงสัยพี่กิจคงจะกลับมาแล้ว

ผมทำใจกล้าๆ กลัวๆ ที่จะออกมาเจอหน้าพี่เขา  แต่ก็อยากจะให้เห็นกับตาว่าพี่เขายังโอเคอยู่

ผมเปิดประตูห้องออกไป  เห็นพี่กิจที่กำลังถอดรองเท้าหนังเก็บอยู่  หันมามองผมด้วยสายตาเรียบเฉย  มันเรียบเฉยเกินไปจนผมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก  เหมือนผมจะไม่ได้เจอพี่กิจที่ชอบกวนตีนผม  ชอบแกล้งผมแบบนั้นอีกแล้ว

เพราะถึงพี่เขาจะแกล้งผม  กวนผม  แต่อย่างน้อยผมก็ยังได้ใช้เวลาร่วมกับเขา

ถ้าเป็นไปได้ผมขอสายตาดุๆ นั้นกลับมาแทนจะได้มั้ย....

พี่กิจหันหน้ากลับไปไม่สนใจผม  ก่อนจะเดินเลยผมเข้าไปในห้องโดยไม่พูดจาอะไรเลย 

ผมได้กลิ่นเหล้าจากตัวพี่เขาโชยมาแรงมาก  ดูท่าพี่เขาคงจะกินไปไม่ใช่น้อยเลยครับ  แต่ก็ยังดีที่เขายังมีสติและกลับมาได้อย่างปลอดภัย

แค่นี้ก็ทำให้ผมสบายใจแล้วล่ะครับ....


...........................


วันต่อมา

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมระหว่างผมกับพี่กิจ  ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นที่พี่เขาไม่มาอะไรกับผมเลย

เย็นนี้พวกประกวดดาวเดือนยังคงไปตามนัดของพี่ปี 2 ซึ่งพี่ๆเขาก็แค่ย้ำถึงเรื่องสำคัญต่างๆ และนัดแนะให้เรามาพร้อมกันที่อาคารเรียนรวมของคณะตอนบ่ายโมง  เพื่อที่จะเตรียมตัวสำหรับการประกวดในตอนค่ำวันพรุ่งนี้  จากนั้นพี่ๆ เขาก็ปล่อยให้เรากลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ครับ

ผมนัดไอ้เรย์  ซึ่งจริงๆ อย่าเรียกว่านัดเลยครับ  เรียกว่าบังคับมันดูจะเหมาะมากกว่า  ให้มันขับรถพาผมไปซื้อเครื่องปรุงและของที่จำเป็นสำหรับทำแซนวิช

ผมนั่งรอมันอยู่ที่หน้าหอประชุมคณะ  ได้ยินเสียงเพลงเชียร์ที่ปี 1 พากันร้องรอดออกมาอยู่กลายๆ  ผสมกับเสียงนับเลข ซึ่งเดาว่าคงเป็นบทลงโทษอะไรสักอย่างเป็นแน่  แถมดูจะบ่อยกว่าทุกครั้งที่ผมเข้าเชียร์  สงสัยไอ้พี่กิจคงอารมณ์ไม่ดีแหงๆ

“ อ้าว!!!  โดดเชียร์อีกแล้วเหรอน้อง “

ผมหันขวับไปตามเสียง  ก็เห็นพี่พีกับจตุรเทพอีกสองคนหยุดยืนมองผมอยู่ไม่ไกลจากที่ผมนั่งสักเท่าไหร่

“ โดดอะไรพี่  ก็อย่างที่บอกเมื่อวานอะครับ “ 

ผมรีบแก้ตัวทันทีครับ  เห็นพี่พีกับพี่คิมทำท่ายิ้มขำผมอยู่  ส่วนพี่บิวนี่มองผมนิ่งๆ ครับ

“ เออรู้แล้ว พี่แค่แซวเล่น “  พี่พีพูดต่อ

“ แล้วอยากจะเข้าไปข้างในมั้ยน้อง  เดี๋ยวพี่พาไป “ คราวนี้พี่คิมพูดขำๆ ส่งมาให้

“ ยังอะพี่  ให้ผมพักสักหน่อยเฮ๊ออออ “ 

แล้วผมก็ทำหน้าเหนื่อยๆ ส่งไปให้  พวกพี่เขาก็พากันยิ้มขำ  ซึ่งรอบนี้พี่บิวเองก็ยิ้มๆ ส่งมาด้วยเช่นกัน

“ มึงเข้าไปกันก่อนเลย  เดี๋ยวกูตามไป “

พี่พีพูดกับเพื่อนทั้งสองคนเสร็จ  ก็เห็นพี่คิมกับพี่บิวพยักน้าเล็กๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในหอประชุมที่กำลังจัดกิจกรรมเชียร์กันอยู่  ส่วนพี่พีก็เดินมาร่นตัวลงนั่งข้างๆ ผมครับ

“ แล้วเป็นไง  พร้อมมั้ยพรุ่งนี้อะ “

“ ไม่เลยพี่...  ถอนตัวตอนนี้จะทันมั้ยอะ “

“ เห้ย!!  ใจสู้ดิวะ...  กลัวอะไร “

“ ก็ผมไม่มั่นใจนี่ “

ผมตอบไปพร้อมทั้งหันหน้าไปมองพี่เขาด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

“ เรานี่นะ...  ไว้พรุ่งนี้  เดี๋ยวพี่มาเชียร์เราเอง “

พี่เขายิ้มบอกมา  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไป 

มันก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีนั่นแหละครับ... 

จากนั้นพี่เขาก็เอามือขยี้หัวผมเบาๆ  ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ สู้ๆนะเว้ย  เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปได้เองนั่นแหละ “

พี่เขาบอกก่อนจะยิ้มและเลิกคิ้วให้ผมอย่างเห็นเป็นเรื่องง่ายๆ  แล้วเดินตามพี่คิมกับพี่บิวเข้าไปข้างใน

ผมนั่งรอไปสักพัก  ไอ้เรย์ ไอ้เจมส์ และ ไอ้แน๊คมันก็ออกมาครับ

ตอนแรกไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คมันจะชวนผมไปกินเหล้าเพราะเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์  จริงๆ ผมก็อยากไปนะครับ  เผื่อจะได้รู้สึกดีขึ้นกว่านี้หน่อย  ถ้าไม่ติดว่ามีธุระที่ต้องทำ  ก็เลยปฏิเสธมันไป  ก่อนจะลากไอ้เรย์ที่ทำท่าอิดออดไม่อยากจะไปส่งผมเพราะมันอยากจะไปแดกเหล้ากับไอ้สองคนนี้มากกว่า  แต่มันก็ต้องยอมครับ  เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของมันที่ทำให้ผมต้องเข้าประกวดแบบนี้


.................


ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ

ผมกำลังเดินเลือกของโดยมีไอ้เรย์มันเข็นรถเข็นให้ตามหลัง  ตอนนี้ของใช้จำเป็นก็ซื้อมาจนเกือบครบละครับ  จะเหลือก็แค่วัตถุดิบเท่านั้น

จู่ๆ  ผมก็เกิดอยากถามไอ้เรย์ถึงบางอย่างที่มันกวนใจผมอยู่ตลอดเวลาขึ้นมาเสียอย่างนั้น  อาจเพราะมันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผม  เวลาผมมีเรื่องไม่สบายใจก็มักจะระบายกับมันเสมอ  เก็บไว้กับตัวเองไม่ค่อยได้นานหรอกครับ

“ เฮ้ยมึง... “

ผมเอ่ยขึ้น  มันทำหน้าสงสัยรอว่าผมจะพูดอะไรต่อ

“ มึงเคยทำให้ใครโกรธจนเขาไม่พูด  ไม่สนใจมึงเลยรึป่าววะ “

“ เคยดิวะ  แต่ส่วนมากจะเป็นพวกสาวๆ ที่กูบอกเลิกนะ “  มันพูดติดตลกมาเล็กๆ

“ แล้วมึงทำไงวะ “

“ กูก็ไม่ทำไงนะ  เพราะกูไม่ได้สนใจอยู่แล้ว  แต่ถ้าเป็นคนที่กูยังแคร์อยู่อะ  กูก็จะไปขอโทษเขา “

“ แค่นี้เนี่ยนะ.. “ 

ผมถามไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ  อะไรมันจะง่ายขนาดนั้นครับ

“ ก็เออดิ  เวลาที่มึงทำผิดกับใคร  สิ่งที่ดีที่สุด  ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้  ก็คือการขอโทษนะเว้ย “

มันว่ามาก็ถูกครับ  จริงๆ สิ่งที่มันพูดมา  ไม่ใช่ผมจะไม่รู้  เพียงแต่ผมไม่มีโอกาสและที่สำคัญ..  ผมไม่กล้า...

“ ว่าแต่...  บอกมาซะดีๆ ว่ามึงไปทำอะไรให้ใครโกรธวะ “

คราวนี้มันถามผมกลับมาบ้างด้วยสีหน้าที่คาดคั้นเอาคำตอบสุดๆ

“ เปล่า... “

“ เปล่าเหี้ยไร  ไม่งั้นมึงคงไม่ทำหน้าหงอยอยู่แบบนี้หรอก  บอกกูมาซะดีๆ ไอ้กันต์ “

มันยังคงคาดคั้นไม่เลิก  และถ้าผมไม่เล่ามันก็คงจะตื้อถามผมอยู่ตลอด  จนไม่เป็นอันต้องทำอะไรแน่ๆ  ผมเลยตัดสินใจเล่าให้มันฟัง...

เท่าที่พอจะเล่าได้นะครับ...

“ ก็...  คือว่า..  วันก่อนน่ะ  กูเสือกไปทำให้พี่กิจเขาโกรธ  จนตอนนี้พี่เขาแม่งไม่พูด  ไม่อะไรกับกูเลยอะ “

“ แล้วมึงไปทำอะไรให้พี่เขาโกรธวะ  พี่เขาถึงเป็นแบบนั้น “

“ ก็...  ไม่มีไรมาก  คือพี่เขาขึ้นเสียงกับกูนิดหน่อยว่าทำไมเวลาเขาพูดด้วย คุยด้วย ถึงเอาแต่เดินหนีแล้วไม่มองหน้าเขา  กูก็เลยตระโกนแดกไปประมาณว่ากูไม่ชอบเวลาที่พี่เขาชอบมาแกล้งกู  ดุกู  หรือ ทำหน้านิ่วใส่กูอะ “

“ แค่เนี่ย...  ไม่ใช่มั้ง..  น่าจะมีอะไรอีก “  มันถามต่อราวกับรู้ว่าเรื่องมันต้องมีมากกว่านี้

“ กูก็แค่บอกว่าทำไมทีกับคนอื่นไม่เห็นทำแบบนั้น  เกลียดอะไรกูมากนักหนาวะ “

ไอ้เรย์พยักหน้าเหมือนจะเริ่มเข้าใจเรื่องอยู่กลายๆ  ส่วนผมก็ได้แต่เงียบรอฟังความเห็นจากมัน

“ ก็ถ้ากูเป็นพี่เขา  แล้วมึงตระโกนแดกซะขนาดนี้  ถึงขั้นว่าเกลียดอะไรมึงนักหนา  ถ้าเป็นกู...  ต่อไปกูก็คงไม่กล้ายุ่งกับมึงหรอก “

“ แต่กูไม่ได้อยากจะให้มันเป็นแบบนี้นะเว้ย  ก็ตอนนั้นอารมณ์มันพาไปนี่หว่า “

“ แต่กูสงสัยอย่าง...  คนอย่างมมึงอะ  เรื่องแค่นี้มึงทนได้สบายอยู่แล้ว  ไม่เห็นจำเป็นต้องหลบหน้าพี่เขาเลย  หรือมึงมีอะไรมากกว่านั้น “

ไอ้นี่แม่ง  จะรู้จักนิสัยผมดีเกินไปแระครับ...

“ ก็... “ 

ผมลังเลใจที่จะตอบ  แต่มันก็ใช้สีหน้าและแววตาคาดคั้นไม่ยอมเลิก   

“ คือ..  กูก็ไม่รู้จะอธิบายมึงยังไงดีอะ  กูก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนไง “

“ ยังไงมึง “

“ ก็แบบว่า...  เวลามองตาพี่เขาแล้วมันรู้สึกแปลกๆ อะ  รู้สึกเหมือนตัวกูจะไม่ค่อยมีแรงเลย  แถมยังทำตัวไม่ถูกอีก “

“ เชร็ดดดดด  ไอ้กันต์  อย่าบอกนะว่า....  มึงชอบพี่เขาอะ “ 

แล้วมันก็ยิ้มล้อผมครับ  ชอบพ่องมึงดิ  พี่เขาเป็นผู้ชายและผมก็เป็นผู้ชาย  ผมจะไปชอบพี่เขาได้ไง

“ ชอบพ่องมึงดิ  แค่รู้สึกแปลกๆ  ไม่ได้ชอบเว้ย !! “

ผมฟึดฟัดขึ้นมา  แต่แม่งยังยิ้มกวนตีนส่งมาให้ผมอยู่เลยครับ

“ เนี่ยแหละที่เขาเรียกว่าชอบ  มึงอะไม่เคยชอบใครมาก่อน  มึงไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่มึงเป็นอะ  มันคือการชอบเว้ย... “

“ สัดนี่!!  ก็กูบอกไม่ได้ชอบไง “

ผมด่ามันไปพลางขยับตัวจะไปเตะมันครับ  แต่แม่งหนีซะก่อน  แถมยังขำผมไม่หยุดเลยตอนนี้

อายชิบหาย...  รู้อย่างนี้ไม่น่าเล่าให้มันฟังเลยครับ

“ แต่อีกอย่างนึงนะเว้ย  กูขอเตือนมึงเอาไว้เลย “
 
ไอ้เรย์มันทำหน้าจริงจังว่ามาครับ  ผมเลยหยุดไล่เตะมันพร้อมทั้งฟังมันพูดต่ออย่างตั้งใจ

“ อะไรวะ “

“ ยังไงก็ได้  แต่มึงควรรีบไปขอโทษพี่เขาให้เร็วที่สุด  ไม่อย่างนั้น... “

เชี่ยเรย์..  มึงอย่านิ่งอย่างนี้ดิวะ  ใจคอกูไม่ดีนะเว้ย....

“ ไม่อย่างนั้นทำไมวะ... “

“ ไม่อย่างนั้นพี่กิจก็จะอารมณ์เสียแล้วมาลงกับพวกกูอีก  เหนื่อยชิบหาย  มึงไม่รู้หรอก  ไอ้ห่า... “

คนอุตส่าห์ตั้งใจฟัง  ที่แท้ก็กลัวเหนื่อย  คราวนี้มันต้องโดนตีนผมแน่ๆ ครับ



.............................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/01/2561 update chapter 10 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 18-01-2018 13:21:48
ที่คอนโด

ผมให้ไอ้เรย์ขับรถมาส่งผมที่คอนโด  พอเข้ามาในห้อง  ผมเห็นพี่กิจนั่งดูทีวีอยู่ด้านนอก  ดีแล้วล่ะที่พี่เขาไม่ไปกินเหล้าเหมือนเมื่อวานนี้

พี่เขาหันมามองผมเล็กน้อย  ก่อนจะปิดทีวีและเดินเลยผมกลับเข้าไปในห้อง  โดยไม่พูดกับผมเหมือนเดิม

คืนนี้ผมวุ่นอยู่กับการเตรียมน้ำสลัดแช่ไว้ในตู้เย็นและของที่จำเป็นจะต้องใช้ในวันพรุ่งนี้ 

ก่อนเข้านอนผมหยิบเอาคำพูดไอ้เรย์มาคิดโดยไม่รู้ตัว  บางทีผมควรจะหาโอกาสขอโทษพี่เขานะครับ  แต่จะทำยังไงดีละ  แถมไม่มีโอกาสจะได้คุยกับพี่เขาอีกต่างหาก

ว่าแต่...  ที่ไอ้เรย์มันบอกว่าผมชอบพี่เขาเนี่ย  มันจะจริงอย่างนั้นเหรอ...

เป็นไปไม่ได้มั้ง.....


……………………………….


เช้าวันต่อมา

วันนี้ผมตื่นสายมากครับ  เพราะมือถือแบตหมดเลยไม่มีการปลุกผมใดๆ ทั้งสิ้น  รู้ตัวอีกทีก็เกือบเที่ยงแล้วละครับ

ผมเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอนมองดูท้องฟ้าด้านนอก 

ชิบหายฝนตก....

ผมรีบอาบน้ำแต่งชุดนักศึกษา  เอาอุปกรณ์สำหรับทำแซนวิชใส่เป้สะพาย  และบางส่วนใส่ถุงหิ้ว

ต้องรีบแล้วละครับ  พี่ๆ เขานัดตอนบ่ายโมง  ร่มผมก็ไม่มี  มาดูข้างนอกห้องก็ไม่มี  สงสัยคงต้องฝ่าฝนไปเรียกแท็กซี่แล้วละครับ

ผมเดินลงมายืนยังหน้าคอนโด  เห็นสายฝนแล้วอ่อนใจเลยครับ  จากตรงนี้ไปป้อมยามก็ไกลโขอยู่  กว่าจะถึงคงเปียกไปทั้งตัวแน่ๆ  ไหนจะของที่ผมเตรียมมาอีก...

“ ปริ๊น!! “

เสียงแตรรถดังขึ้น  ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็น BMW สปอร์ตสีดำคันหรูเข้ามาจอดเทียบอยู่ด้านหน้า   จากนั้นกระจกรถก็ถูกเลื่อนลงมา  พร้อมกับน้ำเสียงเรียบๆ ที่ดังขึ้น

“ ขึ้นมา “

ผมมองเลยผ่านเข้าไปยังภายในรถจึงรู้ว่าเป็นพี่กิจ  ผมมองพี่เขาแล้วรู้สึกตัวชา  ไม่รู้ว่าเพราะแปลกใจหรือเพราะดีใจที่พี่เขายังคงสนใจผมอยู่บ้าง

“ เร็ว... “

น้ำเสียงเร่งเร้าอีกครั้งที่ทำให้ผมได้สติ  ก่อนจะรีบเข้ามาภายในรถ

จากนั้นพี่เขาก็ขับรถออกไปจากคอนโด  ท่ามกลางสายฝนที่ไม่รู้ว่ามันจะหยุดตกเมื่อไหร่

ผมไม่รู้มาก่อนว่าพี่กิจเขามีรถหรูแบบนี้จอดไว้ที่คอนโดด้วย  นึกว่ามีแต่บิ๊กไบต์ขับเท่ห์ๆเท่านั้น  คนอะไรแม่งรวยชิบ...

ภายในรถเงียบมาก  ไม่มีการพูดคุยกันตลอดทางจนรถเลี้ยวเข้าประตูหน้ามหาลัยฯ มา  ทั้งๆ ที่ผมอยากจะคุยกับพี่เขามากถึงมากที่สุดก็ตามที

ผมมองใบหน้าด้านข้างของพี่กิจที่กำลังขับรถอยู่ด้วยใบหน้านิ่งๆ  และกำลังรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยปากขอโทษพี่เขา
แต่ไม่รู้ทำไมดันเสือกปากแข็งไปเสียอย่างนั้น

สุดท้ายพี่เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดเทียบยังหน้าอาคารเรียนรวม  เพื่อที่จะให้ได้ผมลงรถไปก่อน  จากนั้นพี่เขาก็ขับออกไปยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้

ฝนยังคงตกอยู่...  ผมอดห่วงพี่เขาที่ต้องวิ่งฝ่าฝนออกมาไม่ได้อยู่เหมือนกัน  ผมเลยได้แต่ยืนมองรถหรูอยู่ที่เดิม

ไม่นานพี่เขาก็เปิดประตูรถออกมา  ก่อนจะวิ่งฝ่าฝนจนมาถึงใต้อาคารเรียนรวมที่ผมกำลังยืนอยู่

พี่เขามองผมเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหา  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาเรียบเฉย

“ คุณ....  ไม่รีบขึ้นไปล่ะ  เขานัดบ่ายโมงไม่ใช่เหรอ “

จากนั้นพี่กิจในสภาพชุดนักศึกษาที่ชุ่มฝนบางๆ ก็เดินเลยผมขึ้นบันไดไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมามองผมเลยแม้แต่น้อย

พี่เขาไม่ได้ดุผมเลย  แต่ผมกลับรู้สึกใจหายกับสรรพนามที่พี่เขาใช้กับผม

คุณ....

สรรพนามที่เขาใช้กับพวกปีหนึ่งทั่วๆ ไปในเวลานี้...

นี่ผม...  กลายเป็นแค่คนธรรมดาทั่วๆไป  ในสายตาพี่เขาแล้วอย่างนั้นเหรอ......





TBC.



--------------------------------------------------------

ขอบคุณมากๆครับสำหรับทุกๆกำลังใจและการติดตาม  ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้  ขอบคุณมากๆจากใจจริงเลยนะครับ  :mew2: :mew6:

ส่วนพี่กิจกับกันต์ความสัมพันธ์จะเป็นยังไงต่อไปนั้น  อีก 2 Chapters รู้แน่ครับ  ไม่ขอสปอยนะครับ ><

แต่ยังมีอะไรอีกมากมายเลยครับที่ 2 คนนี้ต้องเจอ  แต่เพราะเรื่องราวมากมายความรู้สึกระหว่างกันมันเลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเราอ่านเองก็จะไม่รู้สึกตัวเลยครับว่ามันมาถึงจุดนั้นได้ยังไง 

ยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับผม  ขอบคุณมากๆนะครับผม

แล้ววันมะรืนจะลงตอนต่อไปนะครับ

^________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-01-2018 14:20:40
ขอบคุณค่ะ  สนุกมากกกก  รออ่านต่อนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-01-2018 14:55:16
อยากอ่านต่อเลยอ่ะ

ลงพรุ่งนี้เลยเถอะนะครับ :)
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-01-2018 15:41:41
 :L2: :L1: :pig4:

อ้าว โดนปรับระดับความสัมพันธ์เลย
อึดอัดแทน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 18-01-2018 17:42:00
มาลงบ่อยๆ นะคะ รอจร้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-01-2018 19:53:58
พี่กิจงอนยาวเลย

ทำไมไม่รีบจอโทษ

มัวแต่กลัวอยู่นั่นแหละ

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 18-01-2018 21:08:24
น่าสงสารรร.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-01-2018 22:30:38
อีพี่กิจจจจจจจจ อีน้องจะช้ำใจตายแล้ว เล่นตัวอยู่ได้  :angry2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 18-01-2018 23:02:57
เค้าหึงน้องค่ะ ลูกกกก เอ็นดู :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 20-01-2018 11:31:30
รีบขอโทษเร็ววว อยากให้กลับมาคุยกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-01-2018 20:41:00
Chapter 12




กิจ ‘s  Part




เห็นน้องมันทำหน้าหงอยๆ  ลึกๆ แล้วผมก็อดใจแป้วไม่ได้นะครับ 

แต่จะทำไงได้ละครับ  ถ้าผมเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับมันอีก  ผมก็อดที่จะกวนใจหรือแกล้งมันไม่ได้อยู่ดี  เพราะทำอะไรแบบนั้นหรืออยู่กับมันแล้วผมจะรู้สึกดี  และยิ้มได้บ่อยๆ  แม้ส่วนมากผมจะต้องแกล้งทำเป็นขรึมต่อหน้ามันก็ตามที

ทางที่ดีผมควรจะออกห่างน้องมันมาจะดีกว่า  มันจะได้สบายใจ  และผมเองก็จะได้ห้ามตัวเองไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวายกับมันได้...


ผมขึ้นมายังชั้น 2 ของอาคาร  เดินไปยังห้องมุมสุดซึ่งเป็นห้องใหญ่สุดของชั้น  ตามที่ฝ่ายจัดงานนัดหมายเอาไว้

คือด้วยความที่ผมเป็นเดือนคณะปี 3 ดังนั้นผมจึงได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการในการตัดสินดาวเดือนคณะเหมือนกันครับ

ผมเปิดประตูเข้ามา  ภายในช่างแต่งหน้ากำลังแต่งหน้าให้กับดาวและเดือนที่มาถึงก่อนผม  ส่วนผมก็ได้แต่ไปนั่งเซ็งๆ เล่นโทรศัพท์รออยู่ที่เก้าอี้มุมห้อง

แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่สนุกกับเกมที่เล่นเลยครับ  นี่น้องมันกวนใจผมได้ขนาดนี้เชียวเหรอ... 

ว่าแต่ตอนนี้มันทำอะไรอยู่นะ....  อยากเดินขึ้นไปชั้น 3 ดูพวกปีหนึ่งเหมือนกันนะครับ 

แต่คิดแล้ว..  ไม่ดีกว่า....

กว่าที่ช่างจะแต่งหน้าและทำผมให้ผมเสร็จก็ปาไปเกือบ  บ่าย 3 โมงแล้ว  จู่ๆ แก๊งเพื่อนสนิทผมก็พากันเดินเข้ามาภายในห้องแต่งตัวของพวกผม  ซึ่งปกติเขาจะห้ามคนนอกเข้ามานะครับ

แต่สำหรับไอ้พวกนี้  แค่มันหว่านเสน่ห์นิดหน่อยก็ได้อภิสิทธ์เข้ามาแล้วละครับ

“ ไงไอ้หล่อ  หน้าบูดเป็นตูดเลยนะมึง “ 

ไอ้พีเดินมาถึงก็ทักผมขึ้นทันที  สงสัยหน้าตาผมคงจะแสดงถึงอารมณ์ตอนนี้ได้อย่างชัดเจนเลยละมั้งครับ

“ แล้วนี่พวกมึงมากันทำไมวะ  ปกติไม่เคยเห็นจะมา “ 

ผมทำหน้าแปลกใจถามไปครับ

“ ก็ไอ้พีดิ  มันลากพวกกูมา  บอกว่าจะพามาดูพวกปีหนึ่ง  เห็นคุยนักคุยหน้าว่าปีนี้มีแต่น้องๆ น่ารัก  พวกกูก็เลยมาดูกัน “
ไอ้คิมพูดจบก็หันไปเลิกคิ้วขอแนวร่วมกับไอ้บิวครับ  ซึ่งมันก็ได้แต่ยิ้มๆ ตามสไตล์มันแค่นั้น

“ เหรอวะ “

จะว่าไปผมก็ยังไม่เห็นใครโดดเด่นน่ารักมากๆ อย่างที่มันว่ามาเลยนะครับ  สวยๆ ก็มีไม่กี่คนเท่าที่เห็นผ่านๆ  ส่วนที่น่ารักเท่าที่เห็นก็...

แม่งเอ้ย..  นี่มันจะเป็นผู้ชายที่น่ารักเกินไปรึเปล่าเนี่ย...  ถึงทำให้ผมมองผู้ชายด้วยกันว่าน่ารักได้ขนาดนี้

“ เออมึง  นี่พวกกูมาชวนมึงไปส่องเด็กปีหนึ่งอะ  ไปด้วยกันกับพวกกูมั้ย “ 

ไอ้คิมมันถามมาครับ  ผมทำท่าลังเลคิดอยู่นิดนึง  ก่อนจะตอบรับไป  เพราะมันก็คงจะดีกว่าการมานั่งแก่วอยู่แบบนี้แหละครับ 
 
“ เออไปดิ  เบื่อๆ อยู่พอดี “

พวกผมพากันเดินขึ้นไปยังชั้น 3 ของตึก  ที่ซึ่งพวกปีหนึ่งกำลังแต่งหน้าทำผมเตรียมตัวประกวดกันอยู่ 

ไอ้คิมตัวชนประจำกลุ่มเดินนำผลักประตูเข้าไปก่อน  และเพียงเท่านั้นแหละครับ  สายตาหลายสิบคู่ต่างก็พากันจับจ้องมองมาทางพวกผมกันทันที

ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ  เพื่อหาไอ้กันต์มัน  ก่อนจะสะดุดที่มุมห้อง  เห็นมันกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่จนไม่ทันสังเกตเห็นพวกผมที่พึ่งเข้ามา

ผมคงไม่เข้าไปหามันหรอกครับ  ดูมันอยู่ห่างๆ แบบนี้จะดีกว่า...

ว่าแต่....  ไม่รู้ว่าช่างแต่งหน้าเห็นความน่ารักของมันเหมือนกับผมรึเปล่านะ  ถึงได้แต่งมันให้ออกมาน่ารักได้ซะขนาดนี้  แถมความขาวใสของมันที่แทบจะไม่ต้องมีเมคอัพอะไรเลยก็สว่างเด่นซะสะดุดตาทันทีที่ผมกวาดสายตามองหา

เท่าที่ดู  ผู้ชายส่วนมากก็จะถูกแต่งให้หล่อหรือไม่ก็มาดเข้มไปเลย  จะมีก็แต่ไอ้กันต์เนี่ยแหละครับที่ช่างเขาแต่งมาแล้วแม่งเสือกแบ๊วน่ารักไปซะงั้น

มองดูเพลินเลยครับ  มารู้ตัวอีกทีก็เห็นเพื่อนผมไอ้พีเดินเข้าไปหาไอ้กันต์มันแล้ว

ก็ไหนมึงว่าจะมาดูคนน่ารักๆไงวะ  แล้วนี่อะไรของมึงเนี่ย...

แต่จะว่าไป...  ก็ถูกของมันนะ...  ที่มันมาหาคนน่ารักๆ อะครับ

เพียงแต่..  มันไปรู้จักกันได้ยังไง  ตอนไหน  ทำไมผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยล่ะ

“ เฮ้ยมึง  ไอ้นั่นใช่น้องคนเมื่อวานรึป่าววะ “ 

ไอ้บิวสะกิดไอ้คิมให้หันไปมองไอ้กันต์มันครับ

“ เชร็ดดดด  แม่งน่ารักกว่ามึงตอนปีหนึ่งอีกว่ะไอ้บิว “ 

ไอ้คิมพูดจบก็โดนไอ้บิวมันโบกหัวไปทีนึงครับ

“ สัดคิม  บอกกี่ครั้งแล้วว่ากูหล่อเว้ยไม่ใช่น่ารัก “

“ อ๊าว...  ก็กูพูดความจริงนี่หว่า  แต่มึงๆ  กูว่าจะถามตั้งแต่เมื่อวานละ ว่าไอ้พีมันไปรู้จักไอ้น้องนั่นได้ไงวะ “

นั่นสิครับผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน

“ กูก็ไม่รู้ว่ะ  อยากรู้อะไรมากกว่านี้ก็เดินเข้าไปหาดิวะ “

ไอ้บิวพูดจบ  ไอ้คิมก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปหาก่อนใครเพื่อนเลย  ส่วนผมนั้นเดินช้าๆ รั้งท้ายกลุ่มครับ 

น้องๆ ปีหนึ่งหลายคนเห็นผมก็พากันมองและยกมือไหว้  คงด้วยความที่ผมเป็นประธานเชียร์ด้วยแหละครับ  จะทำอะไรก็ลำบากช่วงนี้  ไม่เหมือนไอ้เพื่อนสามคนของผมที่อยากจะทำอะไรก็ทำได้หมด

“ เลิกเครียดได้แล้ว  ใกล้เวลาแบบนี้ทำใจให้สบายไว้น้อง “ 

เสียงไอ้พีดังขึ้นให้พอได้ยิน  เมื่อพวกผมเดินเข้าไปใกล้

“ แหม...  เดี๋ยวนี้มึงเปลี่ยนรสนิยมมาชอบผู้ชายแล้วเหรอวะไอ้พี “ 

ไอ้คิมมาถึงมันก็แซวขึ้นทันทีเลยครับ

“ สัดนี่!  น้องเขาไม่มั่นใจอยู่..  กูก็แค่มาให้กำลังใจน้องเขาเฉยๆ “ 

ไอ้พีแก้ตัวมา  ส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้าเฉยมองอยู่เงียบๆ  ไม่ค่อยชอบที่เห็นมันมาสนิทกับไอ้กันต์แบบนี้สักเท่าไหร่  เพราะปกติไอ้พีก็ใช่ว่าจะสนใจใครง่ายๆ นะครับ  แต่จู่ๆ กลับมาสนใจไอ้กันต์แบบนี้  มันก็น่าแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อย

“ ก็กูเห็นน้องเขาน่ารักดี  มึงจะชอบก็ไม่แปลกหรอก “

อ้าว..  ไอ้เชี่ยคิม  แล้วมึงจะชี้โพรงให้กระรอกทำไมวะ  แถมเชี่ยพีก็ไม่ยอมแก้ตัวอะไรอีก

“ แล้วนี่น้องชื่อไรครับ “  บิวมันถามมาบ้าง

“ กันต์ครับพี่ “

“ พี่ชื่อบิวนะ  ส่วนไอ้นี่..พี่คิม  แล้วด้านหลัง  น้องก็คงรู้แล้วใช่มั้ย  ประธานเชียร์ของน้องอะ “ 

ไอ้บิวแนะนำไป  ไอ้กันต์ก็หันมามองผมก่อนจะหลบสายตาไปเหมือนเดิม

“ แล้วนี่น้องมากังวลอะไร  หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรนี่  ออกจะน่ารักจะตาย  พูดก็พูดนะน้อง...  น่ารักกว่าดาวบางคนอีก “ 

ไอ้คิมพูดติดตลกไปครับ  ส่วนไอ้กันต์ก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ  ตอบมาเท่านั้น

“ ก็มันกลัวนี่พี่...  แม่ง...  ถ้าเพื่อนไม่แกล้งผมนะ  ผมก็ไม่ต้องมาประกวดหรอกครับ “

“ เอาน่า...  ไว้ถ้ามึงแพ้เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงเหล้าเอง “  ไอ้พีตบไหล่บอกไปครับ

“ พวกมึง...  กูว่าออกไปได้แล้วมั้ง  เดี๋ยวเขาจะทำงานกัน “

พูดจบผมก็กึ่งลากกึ่งดึงพาไอ้คิมกับไอ้บิวออกไป  ซึ่งดูท่าแล้วไอ้คิมมันยังอยากจะสิงอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยล่ะครับ

พอพวกผมมาถึงที่หน้าประตู  ผมก็หันกลับไปมองยังไอ้พี  ซึ่งผมคิดว่ามันจะตามมากับพวกผมซะอีก  แต่แม่งยังเสือกคุยกับน้องมันอยู่  แถมก่อนที่มันจะเดินออกมายังไปขยี้หัวน้องมันอีก 

นี่เขาอุตส่าห์เซทผมให้มัน  มึงก็ยังจะไปขยี้หัวน้องมันอีกนะ


.................................


ที่ห้องแต่งตัวดาวเดือน ณ ชั้น 2

“ นี่มึงจะรีบลากพวกกูออกมาทำไมวะเนี่ย  ยังไม่ทันจะได้ส่องอะไรเลย  อุตส่าห์เข้ามอมาตั้งแต่บ่ายนะเว้ย “

ไอ้คิมมันบ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยครับ  ตั้งแต่มันกลับเข้ามาในนี้  แต่แบบนี้แหละดีแล้ว  เดี๋ยวแม่งจะพากันไปแทะโลมพวกน้องๆ ปีหนึ่งจนไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี  แค่พวกผมเดินเข้าไป  กิจกรรมต่างๆ ในนั้นก็แทบจะหยุดลง  แล้วหันมาสนใจกลุ่มพวกผมแทนแล้วเนี่ย

“ ก็เค้าต้องทำงานกัน  ไว้มึงค่อยไปดูตอนประกวดเลยทีเดียวก็ได้  ชอบคนไหนก็เล็งเอาไว้  แล้วไปจีบเอาทีหลัง “

ผมหาเหตุผลที่ฟังดูดีมาบอกมันไปครับ  ซึ่งความจริงแล้วผมไม่ชอบที่พวกมันไปยุ่งวุ่นวายกับไอ้กันต์ซะมากกว่า  โดยเฉพาะไอ้พี  ผมว่าสายตาที่มันมองน้อง  ดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจสักเท่าไหร่เลยนะครับ



..................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 18/01/2561 update chapter 11 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-01-2018 20:52:10
กว่า 5 โมงเย็น 

เพื่อนทั้ง 3 คนของผมก็ออกไปจากห้องเพื่อเที่ยวงาน  ซึ่งปกติจะมีพวกพี่ปีอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปีหนึ่ง  เปิดร้านขายของหรือเล่นเกมต่างๆ  ให้ได้เดินเที่ยวกันหน้าหอประชุมคณะ  ส่วนภายในหอประชุมจะเป็นส่วนประกวดดาวเดือนกันตอน 1 ทุ่ม  ซึ่งผู้ที่เข้าไปชมการประกวดหากเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์แล้ว  เมื่อแสดงบัตรที่โต๊ะทางเข้าหน้างานก็จะได้รับ สติกเกอร์รูปเกียร์ (เฟือง) มา 1 ดวง  ไว้สำหรับติดโหวตที่บอร์ดซึ่งมีรูปผู้เข้าประกวดสำหรับใช้เป็นผลคะแนน ป๊อปปูล่าโหวต  ส่วนการตัดสินดาวเดือนคณะนี้จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการล้วนๆ เลยครับ  ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีผมร่วมอยู่ด้วย

เกือบถึงเวลาประกวด  ผมกับดาวเดือนคนอื่นๆ ก็เดินผ่านหน้างานที่หอประชุมเพื่อเข้าไปยังข้างใน 

ตอนนี้งานท่าทางน่าสนุกมากครับ  พวกปีหนึ่งในชุดธรรมดามาร่วมงานกันเพียบ  ร้านค้า  ร้านเกมต่างๆ ก็ดูคึกคักกันไปหมด  แถมมีวงดนตรีสดของชมรมดนตรีของคณะมาเล่นด้วยอย่างมันส์  เห็นแล้วผมไม่อยากเป็นคณะกรรมการเลยครับ 

เห้อ..  น่าเบื่อสุดๆ

เมื่อใกล้ถึงเวลาประกวดดาวเดือน  หลายๆ คนก็พากันทยอยเข้ามาภายในหอประชุมจนแน่นขนัด  ทั้งบนสโลปและพื้นที่ว่างด้านหน้า  จนแทบจะไม่มีที่นั่งแล้วครับตอนนี้ 

ส่วนผมนี่สบายหน่อย  นั่งอยู่ที่โต๊ะกรรมการที่ถูกจัดไว้ด้านหน้าเวที

การประกวดเริ่มขึ้นโดยการให้ผู้เข้าประกวดทยอยกันออกมาแนะนำชื่อตัวเอง  และสาขาที่เรียน 

ถึงจุดนี้ผมถึงได้รู้ว่าไอ้กันต์มันดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว  จากเสียงโห่ร้องและกรี๊ดกร๊าดของผู้คนมากมาย  ทั้งชายและหญิง

“ มึงๆ  น้องกันต์แม่งโครตน่ารักเลยอะ  ผู้ชายอะไรวะขาวใสได้ขนาดนี้ “

“ เชี่ย...  น่ารักกว่าดาวข้างๆ อีกแม่ง “

“ โครตน่ารักเลยว่ะ  คณะเรามีแบบนี้ด้วยเหรอวะ “

“ เลิกกับเมียแล้วมาจีบน้องเขา  กูจะผิดมั้ยเนี่ย “

แม่งเอ้ย!!  เชื่อผมมั้ยละครับ  ว่าหลังจบการประกวดนะ คนจะรู้จักมันเกือบทั้งคณะแน่...

โชว์ตัวเสร็จก็จะมีการแสดงกลุ่มนิดหน่อย จากนั้นก็จะเป็นการโชว์ความสามารถพิเศษของแต่ละคนครับ

ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะโชว์อะไร  เพราะไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันนั้น

การแสดงเริ่มจากผู้เข้าประกวดดาวโดยเรียงตาม Sec  เมื่อครบแล้วจึงจะต่อด้วยผู้เข้าประกวดเดือน


ท่ามกลางเสียงฮือฮาของบรรดาหนุ่มๆ วิศวะทั้งหลาย  ผมกลับใจจดใจจ่อรอที่จะดูไอ้กันต์มันเพียงคนเดียวเสียอย่างนั้น  จนถึงกับนั่งหาวไปไม่รู้กี่ครั้งกว่าที่การแสดงของเดือนจะมาถึง  ทั้งๆ ที่ปกติผมมักจะชอบดูบรรดาน้องดาวมากกว่าแท้ๆ

“ เอาล่ะครับ  รักใครชอบใครก็อย่าลืมไปติดสติกเกอร์เกียร์ให้น้องๆ กันด้วยนะครับ  ซึ่งเราจะทำการปิดโหวตกันตอน 3 ทุ่ม  ส่วนต่อไปนี้จะเป็นการแสดงของน้องๆ ผู้เข้าประกวดเดือนแล้วนะครับ “
 
ถึงตรงนี้เมื่อพิธีกรบนเวทีพูดจบ  ผมก็ถึงกลับตาสว่างรอดูไอ้กันต์มันแสดงทันที

ผมเห็นปีหนึ่ง 2 คนช่วยกันยกโต๊ะพับตัวเล็กขึ้นมาบนเวทีพร้อมทั้ง  อุปกรณ์ต่างๆมาเตรียมไว้ให้

ไม่นานตัวแทน Sec 1 ก็เดินขึ้นมาบนเวทีอย่างกล้าๆ กลัวๆ ครับ  แต่แค่นั้นมันก็เรียกเสียงฮือฮาได้แล้ว  โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย 

ก็อย่างว่าแหละครับ วิศวะผู้ชายมันเยอะ  เลยมีพวกหน้าหม้อเยอะเป็นธรรมดา

“ สวัสดีครับ  ผม กันต์  กิจจานุกุล ตัวแทนจาก Sec หนึ่ง  เอ่อ  วันนี้..เอ่อ... “

นี่มึงจะเอ่ออะไรกันหนักหนาวะเนี่ย  แล้วแม่งด้านหลังผมจะกรี๊ดกร๊าดอะไรกันเสียงดังวะ  เด็กมันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะเว้ย

“ คือผมต้องออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ค่อยจะเก่งอะไรเลย  จะมีก็แค่การทำอาหารเท่านั้นแหละครับ “

พูดจบมันก็หยิบผ้ากันเปื้อนสีดำมาใส่  ดูๆไปก็เหมือน Coffee Prince เลยแฮะ

น่ารักว่ะ...

แล้วไอ้พวกด้านหลัง  มึงจะโห่ร้องอะไรกันเสียงดังขนาดนี้วะ  กูปวดหูโว้ย!!!!

“ เวลามันน้อยอะครับ  ผมเลยว่าจะทำอะไรง่ายๆ อย่างแซนวิช.. “

พูดมาถึงตรงนี้  จู่ๆ เสียงพวกผู้ชายหื่นกระหายด้านหลังผม  มันก็ตระโกนมากันยกใหญ่เลยครับ

“ พี่ก็ชอบแซนวิชนะน้อง... “

“ แซนวิชด้วยเหรอน้อง.... “

แต่ละอย่างที่ตระโกนมาแม่ง...  น่าไปกระทืบจริงๆ  แล้วดูเด็กมันสิครับ  ตัวเกร็งจนไปต่อไม่ถูกแล้วเนี่ย

“ เอ่อ...  น้ำสลัดนี่ผมก็ลงมือทำเอง  แต่...  ไม่รู้จะถูกปากพี่ๆ และคณะกรรมการกันรึเปล่านะครับ  นั้นผมลงมือทำเลยนะครับ “

ผมมองมันที่เหมือนจะอายกับเสียงโห่แซวต่างๆ นานา  จนมันต้องทำไปเขินไป  นั่นยิ่งทำให้พวกหื่นกระหายด้านหลังผมชอบใจไปกันใหญ่

ผมมองดูมันเพลินโดยไม่ได้สนใจเสียงด้านหลังเลยครับ  เห็นมันหยิบโน่นใส่นี่  ก่อนจะใช้มีดหั่นขนมปังตัดรูปกากบาท  และได้มาเป็นมินิแซนวิชน่ากินต่อขนมปังคู่นึง  มันพยายามทำและ เรียงใส่จานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะหมดเวลา

และแน่นอนว่า  ผมซึ่งเป็นคณะกรรมการต้องได้ชิมอยู่แล้ว

ซึ่งพวกหื่นกระหายด้านหลังคงไม่มีสิทธิ์พิเศษเหมือนอย่างผมแน่นอน  หึๆ

แซนวิชถูกเสริฟใส่จานกระดาษมาไว้ตรงหน้า 2 ชิ้นเล็กๆพร้อมไม้จิ้มฟัน

ผมจิ้มชิมดู  ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอร่อย  เพราะผมกินอาหารฝีมือมันมาหลายครั้งแล้ว  ไอ้กันต์มันเป็นคนทำอาหารเก่งจริงๆครับ  แถมอร่อยมากๆ ด้วย

และแน่นอนว่าพอคณะกรรมการกินต่างก็พากันเอ่ยปากชมไม่ขาดสาย

เห็นมั้ยละครับ  ของมันแน่อยู่แล้ว....


.......................................


เมื่อการแสดงความสามารถพิเศษจบลง  พิธีกรก็บอกย้ำให้ใครที่ยังไม่ได้ไปติดสติกเกอร์เพื่อโหวตป๊อปปูล่าโหวตก็ให้รีบไปติด  เพราะจะหมดเวลาโหวตกันตอน 3 ทุ่ม  เพื่อเตรียมนับคะแนน  และ จะประกาศผลประกวดดาวเดือนกันตอน 3 ทุ่มครึ่ง

พวกผมดาวเดือนแต่ละชั้นปีและคณะกรรมการจากทีมงานผู้จัด  ต่างก็มาประชุมกันที่ห้องเล็ก  เพื่อแสดงความคิดเห็นและโหวตเสียงหาตัวแทนดาวและเดือนของคณะในปีนี้

สำหรับผลโหวตนี่ต้องขอบอกตรงนี้เลยนะครับว่า  ไอ้กันต์ไม่ได้เดือนคณะ  แต่เป็นไอ้น้องธัน ภาคโยธาที่ได้

ไม่ใช่ว่ามันหน้าตาไม่ดีนะครับ  เพราะในที่ประชุมเล็กนี่พวกคณะกรรมการเถียงกันชิบหายเลยระหว่างไอ้ธัน กับไอ้กันต์ ว่าใครสมควรที่จะได้เดือนคณะปีนี้ไป

แต่สุดท้ายด้วยความเป็นวิศวะ  พวกเราเลยจำเป็นต้องมีเดือนคณะเป็นผู้ชายมาดแมนหล่อๆ  ไม่ใช่สายแบ๊วน่ารักๆ อย่างไอ้กันต์มัน

ว่าแต่...  มันจะเสียใจมั้ยเนี่ย  ถ้ามันไม่ได้เดือนคณะแบบนี้...


.................................


“ เอาล่ะครับ  ก่อนจะถึงเวลาประกาศผลดาวเดือนคณะในปีนี้  เรามาดูผลป๊อบปูล่าโหวตกันก่อนนะครับว่าปีนี้ใครจะได้ไป “

พิธีกรชายบนเวทีกล่าว  ซึ่งผลป๊อบปูล่าโหวตนี่พวกผมคณะกรรมการเองก็ยังไม่รู้เลยครับ  เพราะเป็นผลจากคนทั้งคณะ

“ สำหรับรางวัลป๊อปปูล่าโหวตฝ่ายหญิงได้แก่!!! “

“ น้องแพร  ภาคโยธา  ตัวแทนจาก Sec 7 ครับ!!! “   

ต้องบอกเลยครับว่าน้องแพรเธอสวยมากจริงๆ  แถมความสามารถในการร้องเพลงและเล่นกีต้าร์ก็ดีด้วย  ทำให้ปีนี้ตำแหน่งดาวคณะก็เป็นของน้องเขาไปโดยปริยายด้วยเช่นกัน

เมื่อมอบช่อดอกไม้และสายสะพายเสร็จเรียบร้อยแล้ว  พิธีกรก็เริ่มกล่าวต่อทันที

“ สำหรับฝ่ายชาย...  ตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้นะครับ  แอบลุ้นอยู่เหมือนกัน  แต่คิดว่าทุกคนคงจะพอเดากันได้นะครับ  เพราะผมเองก็ออกไปติดสติกเกอร์ให้น้องเขามาเหมือนกัน “

พิธีกรพูดติดตลกก่อนจะเปิดซองออกมา  พร้อมกับยิ้มร่าราวกับว่าตัวเองถูกหวยเสียอย่างนั้น

“ สำหรับรางวัลป๊อบปูล่าโหวตฝ่ายชายได้แก่..... “

แล้วมึงจะค้างนานทำไมวะ  กูลุ้นอยู่นะเว้ย....

“ น้องกันต์  ภาควิชาอุตสาหการ  ตัวแทนจาก Sec 1 คร้าบโผมมมม!!!!  คนนี้ผมติดเองกับมือเลยนะเนี่ย “

เมื่อประกาศผลออกมาแบบนี้  เสียงเฮรอบบริเวณก็ดังก้องจนหอประชุมคณะแทบจะแตกกันเลยทีเดียว  ส่วนเจ้าตัวก็ได้แต่ทำหน้ามึนๆ  จนเพื่อนข้างๆ ต้องสะกิดให้ออกมารับรางวัล

ผมยิ้มและปรบมือให้เหมือนกับคนอื่นๆ  ผมว่ารางวัลนี้เหมาะสมกับมันที่สุดแล้วละครับ

แต่จากนี้ไป  รับรองได้เลยว่าจะต้องมีคนเข้ามาหามันมากขึ้นแน่นอน....




TBC.



--------------------------------------------------

มาช้าเลยวันนี้ครับ  พอดีกำลังเช็ค Ch 13 อยู่  เห็นคุณ anterosz อยากให้ลงเมื่อวาน  แต่ผมไม่ได้ลง  แต่ก็อยากตอบสนองความต้องการของทุกๆคน  เลยว่าวันนี้จะลงให้ 2 ตอนเลยครับ

แต่....  อาจจะดึกหน่อยอะครับ  ต้องไปช่วยเพื่อน War ก่อน  มันโทรมาตามให้ออนเกมไปช่วย war

war เสร็จจะรีบมาต่อให้นะครับ

สำหรับ Ch หน้า  บอกได้ว่าน่ารักครับ ><

แล้วจะรีบมาต่อนะครับ  ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามและให้กำลังใจมากๆนะครับผม

^_________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/01/2561 update chapter 12 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 20-01-2018 21:11:03
รอ 13 ครับ :)
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/01/2561 update chapter 12 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-01-2018 23:10:53
หลงด่าอีพี่กิจมานาน พึ่งรู้ว่าอีพี่ก็เอ็นดูน้องนิ ปากอย่างใจอย่างนิพี่กิจ  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/01/2561 update chapter 12 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-01-2018 23:12:02
 :L2: :L1: :pig4:

เราก็รอออออออออ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/01/2561 update chapter 12 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nick_June ที่ 21-01-2018 11:05:38
เพิ่งอ่านจบ 12 ตอน รอตอน 13 ครับ เล่นเกมส์นอนดึกแน่ ๆ  :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/01/2561 update chapter 12 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 21-01-2018 11:12:14
Chapter 13



กันต์'s  Part




การประกวดจบลงไปแล้ว  และตอนนี้ผมก็กำลังเก็บสัมภาระอยู่ที่อาคารเรียนรวม  เพื่อเตรียมตัวจะไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ ครับ
 
คืนนี้ไอ้พวกเพื่อนทั้ง 3 ตัวของผม  มันบอกว่าจะเลี้ยงผม  ฉลองที่ผมได้ตำแหน่งป๊อบปูล่าโหวต  ซึ่งเป็นอะไรที่เกินกว่าผมจะคาดคิดไว้มาก  จากที่คิดไว้แค่ว่าจะประกวดให้มันจบๆไป  กลับได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับมาเสียอย่างนั้น

“ กันต์... เดี๋ยวไปไหนต่อเหรอ “ 

ไอ้ธัน..  เดือนคณะปีนี้ทักขึ้นมาครับ  พอผมหันไปมอง  ก็เห็นมันยิ้มหล่อมาให้ผมจากทางด้านหลัง  ในสภาพที่พร้อมจะกลับบ้านแล้วในตอนนี้

“ เดี๋ยวว่าจะไปต่อกับเพื่อนน่ะ  กำลังรอมันมารับอยู่เลย  แล้วธันอะ “ 

“ ก็ว่าจะไปต่อกับเพื่อใน Sec น่ะ  ไปร้านเดียวกันมั้ย...  เผื่อจะได้จอยกัน “ 

“ เรายังไงก็ได้  แต่เดี๋ยวขอถามเพื่อนมันก่อนนะ “ 

ผมบอกไปเพราะไม่รู้ว่าพวกไอ้เรย์มันอยากจะสนุกกันแค่ในกลุ่มพวกเรารึเปล่า

“ โอเค  ได้เรื่องยังไงก็บอกเราด้วยนะ “

ผมพยักหน้ารับ  ก่อนจะมองดูเวลาในโทรศัพท์ที่บอกเวลาว่ากว่า 4 ทุ่มครึ่งแล้วในตอนนี้  ซึ่งไอ้เรย์มันก็น่าจะใกล้มาถึงแล้วล่ะครับ

“ เออกันต์... “ 

ไอ้ธันที่กำลังจะเดินไปหาพวกพี่ๆ ที่มาขอถ่ายรูปหันกลับมาพูดกับผม

“ เราขอถ่ายรูปด้วยดิ  เรายังไม่ได้ถ่ายกับกันต์เลย “ 

มันว่ามาพร้อมกับทำตาละห้อยขอร้องมาเสียอย่างนั้น

โห..  คือมึงเป็นเดือนคณะนะเว้ย  มาขอผมซะ...  ทำอย่างกับผมได้เป็นเดือนคณะแทนมันซะงั้น

“ เอาดิ “

“ นั้นเซลฟี่นะ “ 

แล้วมันก็เข้ามาใกล้จนชิดผมพร้อมกับโอบไหล่และยิ้มให้กับกล้องมือถือตรงหน้าของมัน  เสียงพี่ๆ ที่รอมันถ่ายรูปกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลย  ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน....  สงสัยจะหวงเดือนคณะละมั้งครับ

“ เดี๋ยวเราส่งรูปให้นะ  ว่าแต่...  ขอเบอร์หรือไลน์กันต์หน่อยได้มั้ย  เราจะได้ส่งรูปให้ “

“ อ๋อ.. ได้ๆ  เบอร์เรานะ.. 08- “

“ นี่!!!  จะกลับได้รึยัง “

ไม่ทันที่ผมจะได้บอกเบอร์ไอ้ธันมัน  เสียงที่คุ้นหูแต่แฝงไว้ด้วยความหงุดหงิดก็ดังขึ้นมามาจากทางด้านหลังครับ...

พอผมหันไป  พี่กิจก็ยืนอยู่ข้างหลังผมแล้วในตอนนี้...

“ กลับ ? “ 

ผมทวนคำพี่เขาอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ  ซึ่งพี่เขาก็ถอนหายใจออกมาเล็กๆ  ก่อนจะตอบผมมา

“ ก็กลับไง  คุณจะนอนที่นี่รึไง...  คุณมากับผม ก็ต้องกลับกับผมสิ “

เอ๋...  ตรรกะพี่มันดูแปลกๆ นะครับ  อีกอย่าง..  พี่ก็ไม่ได้บอกผมด้วยนะว่าจะรอรับผมกลับ  แล้วทำไม...

แต่ไม่ทันที่จะได้คิดต่อ  พี่เขาก็หยิบกระเป๋าผมขึ้นมาสะพายบ่า  และหยิบถุงสัมภาระของผมก่อนจะใช้อีกมือข้างที่ยังว่างอยู่จับแขนผมลากไปทันที  ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ในห้องนี้


…………………..


ระหว่างที่กำลังลงบันไดมา...

“ ก็พี่ไม่ได้บอกผมว่าจะมารับกลับนี่ “

ผมพูดเสียงอ่อยถามไปครับ 

ตอนนี้พี่เขาปล่อยมือผมแล้ว  และผมก็กำลังถือช่อดอกไม้เดินตามหลังพี่เขามาติดๆ

“ ทำไม..  ไม่อยากกลับกับผมรึไง “

“ เปล่าซะหน่อย...  แต่วันนี้..  เพื่อนผมมันชวนผมไปต่อกันร้านเหล้าข้างมออะ “

พูดจบพี่กิจก็หยุดเท้าลงทันที  จนผมที่เดินตามหลังมาเกือบจะชมเข้าให้แล้ว 

พี่เขามองผมด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเลยครับตอนนี้  จนผมไม่กล้ามองตอบราวกับว่าผมทำอะไรผิดไปอีกแล้ว

“ แล้วทำไมไม่บอกผม... “

แค่กินเหล้าเอง  ทำไมผมต้องบอกด้วยอะ

“ ก็แค่กินเหล้าเองพี่... “

“ ก็ผมเคยบอกคุณแล้วไง  ว่าถ้าจะกลับดึกก็ให้โทรมาบอกด้วย “

“ ตอนนี้ก็บอกพี่แล้ว... พี่จะอนุญาตมั้ยล่ะ “
 
ผมเหลือบตามามองอย่างคาดหวังว่าพี่เขาจะอนุญาตให้ผมไปกับเพื่อนๆ ต่อได้

“ กินเหล้าอะได้... “ 

พี่เขาว่ามาแบบนี้  ผมก็ยิ้มร่าออกมาเลยครับ

“ แต่ไม่ใช่วันนี้... “ 

อ้าว...  ผมนี่แทบจะหุบยิ้มไม่ทันเลย

ไอ้เรย์ที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา  เห็นผมยืนอยู่มันก็โพล่งขึ้นมาทันทีเลยครับ

“ อ้าว...  เสร็จแล้วเหรอวะ  มาให้ไวเลยมึง...  ไอ้สองตัวนั้นไปรออยู่ที่ร้านแล้ว “

เชี่ยเรย์  มึงมาได้ถูกจังหวะพอดีเลย  ช่วยกูหน่อยนะเพื่อนรัก

“ วันนี้กันต์มันต้องกลับแล้ว  คงไปต่อกับพวกคุณไม่ได้นะ..  เดี๋ยวผมจะไปส่งเอง “

พี่กิจหันไปมองไอ้เรย์พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่น่ากลัวแบบฉบับประธานเชียร์  จนไอ้เรย์ถึงกับหน้าเหวอไปเลยครับ  ก่อนจะผงกหัวรับป้อยๆ

“ เดี๋ยวผมไปรอที่รถนะ  อย่าช้าล่ะ “ 

พี่กิจหันมาบอกกับผมอีกครั้ง  ก่อนจะเดินลงตึกไป  ทิ้งให้ผมกับไอ้เรย์ได้แต่ยืนมองหน้ากันสองคน

“ เชี่ยเรย์!!  ทำไมมึงไม่ช่วยกูวะ  ปฏิเสธพี่เขาให้หน่อยดิ  กูอยากไปกินเหล้ากับพวกมึงนะเว้ยวันนี้ “

“ สัด!  ใครจะกล้าวะ  น่ากลัวชิบหาย  กูก็นึกว่าอยู่ในห้องเชียร์ซะอีกเมื่อกี้ “

มันสวนมาครับ  ซึ่งผมก็เข้าใจมันนะ

“ เอาเป็นว่า  วันนี้มึงกลับกับพี่เขาไปก่อนละกัน  ไว้เดี๋ยววันหลังมึงค่อยไปกับพวกกูใหม่ “

ผมได้แต่ถอนหายใจเซ็งๆ ยอมรับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ ว่าแต่นี่มึงขอโทษพี่เขาแล้วรึยังวะ “

มันทำหน้าสงสัยถามมา  ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเล็กๆ ตอบไป

“ อ้าว...  ก็ไหนมึงว่าพี่เขาไม่สนใจมึงไง  แล้วนี่อะไร..  ท่าทางหวงมึงอย่างกับแฟนซะงั้น “

“ แฟนพ่องมึงดิ  มึงไม่เห็นเหรอ  แม่งเรียกกู คุณอย่างนั้น คุณอย่างนี้  แล้วแทนตัวเองว่าผม...  ทำอย่างกับกูเป็นคนอื่นอย่างนั้นอะ “

ผมพูดไปก็อดหมันไส้กับสรรพนามพวกนั้นไม่ได้ครับ...

“ ทำไมวะ...  กลัวตัวเองไม่พิเศษกว่าคนอื่นว่างั้น “

“ สัด!!! “

มันยิ้มว่ามาครับ  ผมเลยขยับตัวจะไปเตะมัน  แต่แม่งรู้ทัน  หลบได้ซะก่อน

“ มัวแต่เล่นอะมึง  ไอดอลกูรอนานแล้ว  เดี๋ยวมีน้ำโหมาอีกจะซวยเอาทั้งมึงทั้งกู “

สุดท้ายผมก็เลยต้องยอมมัน  ก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่างพร้อมกับไอ้เรย์

พี่กิจขับรถมาจอดรออยู่ที่หน้าตึกเรียบร้อยแล้วละครับ  ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน

“ รถพี่เขาเหรอวะ  โครตสวยอะ “  มันมองรถหรูตรงหน้า  ผมเองก็ได้แต่ขานรับในลำคอไป

“ นั้นกูไปก่อนนะเว้ยมึง  ฝากบอกไอ้สองตัวนั้นด้วยว่ากูแม่งงานเข้าไปไม่ได้ “

“ เออเดี๋ยวกูบอกให้ว่า  แฟนมึงหวงเลยไม่ให้มา “

“ ไอ้เรย์!!! “

ผมกำลังจะไล่เตะมันอีกครั้ง  แต่มันเอานิ้วชี้ห้ามไว้ก่อนที่จะพูดต่อว่า...

“ พี่เขารอนานแล้วนะเว้ย  เดี๋ยวก็งานเข้าจริงๆ หรอกมึง... “

ผมนิ่งพลางกลืนน้ำลายเล็กๆ  นั่นสิ  ว่าแล้วก็รีบไปขึ้นรถจะดีกว่า

“ แล้วอย่าลืมขอโทษพี่เขาด้วยล่ะ “ 

มันพูดไล่หลังมาครับ  ผมเลยได้แต่ตอบ ” เออ “  ส่งให้ไปโดยไม่หันไปมองแค่นั้น

“ เออไอ้กันต์ “
 
ไอ้เรย์มันร้องทักขึ้นมาอีกครั้ง

“ ไรวะ “

ผมหันไปมองมันที่กำลังยิ้มกวนๆ ส่งมาให้

“ คืนนี้ก็อย่าลืมป้องกันด้วยนะเว้ย “

แล้วผมก็ชูนิ้วกลางให้มันทันทีพร้อมทั้งด่าแบบไม่ออกเสียงว่า  “ ไอ้สาด “


…..
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/01/2561 update chapter 12 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 21-01-2018 11:29:23
พอขึ้นมาบนรถแล้ว  ผมก็เงียบกริบ  เจี๋ยมเจี้ยมขึ้นมาทันทีเลยครับ

พี่กิจหันมามองผมเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  ก่อนจะออกรถไป

รถแล่นไปได้ไม่นาน  ผมก็รวบรวมความกล้าพูดกับพี่เขาขึ้นมาครับ

“ ก็นึกว่าพี่จะไม่อยากยุ่งกับผมแล้วซะอีก “

พี่เขาเหลือบมามองเล็กน้อย  ก่อนจะหันกลับไปมองยังถนนตรงหน้าต่อ  แล้วก็ไม่พูดอะไรเหมือนเดิม  ผมก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

ระหว่างที่รถกำลังจะออกพ้นประตูหน้ามหาลัยฯ  จู่ๆ พี่เขาก็พูดขึ้นมาครับ

“ ก็คุณไม่อยากให้ผมยุ่งไม่ใช่เหรอ  ผมก็เลยไม่ยุ่ง “

“ แล้วผมบอกพี่ตอนไหนว่าผมไม่อยากให้พี่ยุ่ง  ผมแค่บอกว่าทำไมชอบดุแต่กับผมก็แค่นั้น “

เหมือนผมจะเสียงดังขึ้นเล็กน้อย  จนพี่กิจถึงกับเหลือบตามามองอีกครั้ง

“ แม่งคิดเองเออเองแท้ๆ “ 

อันนี้ผมเสมองออกไปนอกรถ  ก่อนจะพูดเบาๆ กับตัวเอง  แต่เหมือนว่าในรถมันจะเงียบมากจนพี่เขาได้ยินและหันหน้ามาหาผม

“ ว่าไงนะ! “

นั่นไง  น้ำเสียงดุๆ แบบนี้ได้ยินชัวร์

“ เปล่า... “

ผมปฏิเสธไป  แต่ก็ยังหันหน้าออกไปมองข้างทางอยู่เหมือนเดิม  ตอนนี้รถกำลังติดไฟแดง  แต่ภายในรถก็ยังคงเงียบงันอย่างรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนเดิม

ผมแม่งโครตไม่ชอบเลย...


“ พี่กิจ... “

“ ว่า.. “

“ …… “

“ …… “

“ ผม...  ขอโทษนะ... “


แม่งพูดยากชิบ...  แค่คำพูดง่ายๆ แต่ต่อหน้าคนตรงนี้กลับยากที่จะเอ่ยออกมาซะงั้น

พี่กิจหันมามอง  แต่คราวนี้ดูพี่เขามีสีหน้าแปลกใจอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะทำหน้านิ่งหันกลับไปมองยังสัญญาณไฟที่ยังคงเป็นสีแดงตรงหน้าอยู่ตอนนี้

“ จะมาขอโทษผมเรื่องอะไร “

“ ก็วันนั้นที่ผมทำให้พี่โกรธ “

“ ผมจะไปโกรธอะไรไรคุณ “

“ ไม่โกรธอะไรก็เห็นๆ กันอยู่ “

“ อะไรทำให้คุณคิดไปอย่างนั้น “

แม่งเอ้ย!!  จะต้องให้ผมแจงรายละเอียดอะไรกันนักกันหนาวะไอ้พี่กิจนี่  ตัวเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจแท้ๆ  แล้วมาทำหน้านิ่งถามกลับมาซะงั้น

“ ก็นี่ไง..  พูดกับผมก็ใช้สรรพนามแทนตัวว่า คุณกับผม  แถมยังไม่พูดกับผม  ทำตัวเหินห่างไปอีก “ 

เจอลูกมึนพี่เขา   อารมณ์มันก็เลยขึ้นครับ  ใส่มาเป็นชุดเลยทีนี้

“ แล้วไม่ชอบเหรอ.. “

“ ก็ไม่ชอบไง! “

เหมือนผมจะขึ้นเสียง  พี่เขาเลยหันหน้ามามองผมครับ  สบตาพี่เขาแล้วก็รู้สึกผิด 

นี่กูพูดเชี่ยอะไรลงไปเนี่ย....  ไม่น่ารีบพูดออกไปอย่างนั้นเลย  แต่ไหนๆ ก็พูดออกไปแล้ว  มีอะไรที่อยากจะพูด  ก็พูดออกไปให้หมดเลยละกัน

“ ผมไม่ชอบที่พี่ทำเหมือนผมเป็นคนอื่นแบบนี้  พี่จะกลับมาดุผม  แกล้งผมหรืออะไรก็ได้  แต่ขอให้พี่แค่กลับมาเป็นเหมือนเดิมจะได้มั้ย... “

ยิ่งพูด...  สิ่งที่อยู่ในใจก็ยิ่งออกมาเรื่อยๆ  ผมนี่พลาดแล้ว  ทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย!!!

พี่กิจหันหน้ากลับไปมองยังถนนตรงหน้า  ซึ่งตอนนี้สัญญาณไฟกลายมาเป็นสีเขียวไปเรียบร้อยแล้ว

ความเงียบเข้ามาปกติคลุมภายในรถทันทีเมื่อรถแล่นผ่านแยกไฟแดงไป

ผมงุดหน้าอายกับสิ่งที่พูดออกไปเมื่อกี้  แต่ก็อดที่จะเหลือบมองดูปฏิกิริยาคนข้างๆ ตอนนี้ไม่ได้  เพราะพี่เขาแม่งเงียบไปเลย

แต่พอเหลือบไปมองเท่านั้น...

เห้ย!!  พี่เขายิ้มบ้าอะไรวะ  มันน่าขำตรงไหน  ผมนี่โครตจะอายเลยนะ

“ ยิ้มไร “

เห็นท่าทางแบบนี้แล้วทำผมลืมความอายเมื่อครู่เลยครับ  หัวเสียเลยสิผม  นี่มันไม่ตลกนะ

“ มึงเวลาโกรธนี่ก็...  น่ารักดีเนอะ “

ไอ้พี่กิจมันหันมายิ้มขำครับ  แต่เอ๊ะ!!!..  เมื่อกี้...

“ แล้วเป็นไรมึงเนี่ย...  ไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง “  พี่เขาว่ามาต่อครับ

บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง  แต่ที่แน่ๆ ผมโครตดีใจเลยครับตอนนี้

“ ว่าไงมึง...  เป็นไร “

“ เปล่า... “

ผมตอบไปแค่นั้น  แล้วก็ก้มหน้างุด  ก่อนจะเผยรอยยิ้มบนใบหน้าที่ไม่สามารถหุบมันลงไปได้แล้วในตอนนี้

“ เปล่าอะไร...  ก็เห็นอยู่ “

“ ก็บอกว่าเปล่าไง “

ไอ้พี่กิจนี่ก็ถามจังเลย  คนยิ่งอายๆ อยู่

“ อ้าว..  แล้วไม่เลี้ยวเข้าคอนโดเหรอ “

ผมถามขึ้นเมื่อพี่เขาขับรถผ่านทางเข้าหน้าคอนโดไป

“ หิว  เดี่ยวแวะหาอะไรกินก่อน “

ผมพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ  เพราะเอาเข้าจริงผมก็หิวอยู่เหมือนกันครับ  ข้าวกล่องที่พี่เขาแจกให้ตอนเย็นก็น้อยเสียเหลือเกิน


พี่กิจขับรถหรูมาจอดยังร้านบะหมี่ข้างทางไม่ไกลจากคอนโดมากนัก  ก่อนจะลงรถมาให้ผู้คนมองกันเป็นตาเดียวเลย  ว่าไอ้หล่อที่ไหนมันขับรถหรูมานั่งกินบะหมี่ข้างทางแบบนี้กันวะ 

“ ลุงครับ  เอาบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงพิเศษครับ “

พี่กิจสั่งเสร็จก็หันมามองทางผม

“ ผมก็เอาเหมือนกันครับ “

พอหาโต๊ะนั่งได้  พี่กิจก็เทน้ำใส่แก้วส่งให้ผมก่อนจะเทใส่ของตัวเอง  รู้สึกอารมณ์พี่เขาตอนนี้จะต่างจากเมื่อก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีมากครับ

“ มื้อนี้มึงเลี้ยงกูนะ “ 

จู่ๆ พี่เขาก็ว่ามาครับ  แล้วไหงผมต้องเลี้ยงพี่ด้วยละครับ   เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน  ฐานะ  อายุ  พี่ต่างหากที่ควรจะเลี้ยงผม

“ เอ้า...  ไหงงั้นอะ “

“ ก็ตกลงกันแล้วนี่ว่าถ้ามึงได้เดือนคณะกูจะเลี้ยงมึงชุดใหญ่  แต่นี่มึงไม่ได้  มึงก็ต้องเลี้ยงกูดิ “

“ ก็ได้....  ถึงไม่มีในข้อตกลง  แต่แค่นี้ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงหรอก “  ผมทำหน้าเป็นตอบกลับไปครับ

“ หึ...  นั้นเดี๋ยวกูจะสั่งเยอะๆใส่ถุงกลับไปกินต่อที่ห้องยันพรุ่งนี้ทั้งวันเลย “

“ เห้ย....  แบบนั้นได้ที่ไหนล่ะขี้โกง “

แล้วไอ้พี่กิจก็ยิ้มกวนๆ พร้อมกับเลิกคิ้วส่งมาให้ครับ 

แหม...  พอขอโทษเข้าหน่อย  อารมณ์ดีแล้วกลับมากวนตีนผมเหมือนเดิมเลยนะครับไอ้พี่กิจ

ไม่นานบะหมี่สองชามก็ถูกเสริฟมาพร้อมกัน  แต่ยังไม่ทันที่จะได้ปรุงอะไร  จู่ๆ พี่เขาก็ตักเกี๊ยวในชามส่งมาให้ผมชิ้นนึง  ผมมองอย่างแปลกใจ  พลางขอคำตอบจากคนตรงหน้า

“ ก็มึงบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากให้กูทำดีด้วยบ้างไง “

พี่เขายิ้มมาให้  ซึ่งนี่ไม่ใช่การประชด  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปให้ด้วยเช่นกัน  ก่อนจะก้มมองดูเกี๊ยวในชาม  รู้สึกว่ามันอาจจะเป็นของที่อร่อยที่สุดในชามของผมตอนนี้เลยก็ได้....


...........................................


ที่คอนโด

พอเข้ามาถึงห้อง  ผมเอาสัมภาระที่จะต้องทำความสะอาดวางไว้ที่โต๊ะในห้องครัว  เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดการเก็บล้างทีหลังละกันครับ  วันนี้ไม่ไหวแล้ว  เพลียเอามากๆ เลย  เหมือนร่างกายมันอยากจะพักเสียให้ได้เลยตอนนี้

ผมเดินตาปรือสะพายกระเป๋า  ในมือถือสายสะพายและดอกไม้  กำลังจะเดินเข้าห้องไป  จู่ๆ พี่กิจก็คว้ามือผมเอาไว้ก่อน

“ เรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลยนะ “

“ หา!? “

“ ก็...ไหนๆ มึงก็ได้มาหนึ่งตำแหน่ง  แล้วกูก็เห็นมีคนมาขอถ่ายรูปกับมึงตั้งเยอะ  กูก็เลยอยากจะมีบ้าง... “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  แต่ยังคงทำหน้าเหวองงๆ อยู่ตอนนี้  พี่กิจก็เข้ามาใกล้ๆ โอบไหล่ผมเอาไว้พร้อมกับเอียงหน้าเข้ามาเกือบติดหน้าผมเลยครับ...

หัวใจผมเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้วตอนนี้ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลยครับ

“ ยิ้มหน่อยสิคร้าบ “

พอพี่เขาพูดบอกผมเสียงหวาน  ผมก็เผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้บังคับร่างกายเลยแม้แต่น้อย

วันนี้ทั้งวันผมถ่ายรูปกับผู้คนมาหลายสิบคนก็จริง  แต่คงไม่มีรูปไหนที่ผมหน้าแดงหูแดงได้เท่ารูปนี้แน่ๆ

พี่กิจดูรูปเซลฟี่ในกล้องมือถือของตัวเอง  ก่อนจะยิ้มกริ่มเล็กๆ  แล้วทำท่าจะเดินเข้าห้องไป

“ เอ่อพี่.... “

“ หือ... “

“ เอ่อ..  ไว้ส่งรูปนี้ให้ผมด้วยนะครับ “

เชี่ย...  อายชิบหาย....
 
ไม่ต้องรอให้พี่เขาตอบอะไร  ผมก็รีบเดินเข้าห้องไปเลยครับ

พอปิดประตูลงได้  ผมก็เอามือแนบหน้าอกข้างซ้ายทันทีครับ  รู้สึกหัวใจมันเต้นแรงไปแล้ว 

นี่ผมจะหัวใจวายให้ได้เลยสิเนี่ย....

ที่รู้สึกแบบนี้...  หรือว่าบางทีผมจะรู้สึกกับพี่เขาเหมือนอย่างที่ไอ้เรย์มันบอกรึเปล่านะ...

ผม....  กำลังชอบพี่กิจใช่มั้ยเนี่ย.....




TBC.



----------------------------------------

ขอโทษนะครับที่เมื่อคืนไม่ได้ลง  แต่พยายามฝืนแล้วแต่มันไม่ไหว  คือผมกินยาโรคประจำตัวทุกวันตอน 3 ทุ่ม แล้วลงวอตอน3ทุ่มครึ่ง - 4ทุ่ม  จบวอในเกมมีดราม่ากันอีก  ออกเกมาตอน4ทุ่มก่าๆ  ทีนี้พอท้องว่างหลังกินยาไปชั่วโมงมันจะมึนหัวครับ  พยายามจะเรียงประโยค(ทวนอีกรอบที่พิมพ์)  แต่มันไม่เข้าหัวเลย  ประโยคเดียวอ่านไป 3-4 รอบอย่างงงๆมึนๆ  จน 5 ทุ่มกว่าเห็นว่าไม่ไหวจริงๆเลยนอนอะครับ
เลยแอบมาลงให้ตอนเช้า  แฮ่ๆ  ขอโทษด้วยนะครับ
......................
ผมลงอีกทีตามกำหนดก็คือวันพรุ่งนี้นะครับ (เพราะมะวานต้องลง 2 ตอนแต่เลทมาลงวันนี้แทน ดังนั้นตามกำหนดก็ต้องลงตอนต่อไปวันพรุ่งนี้)
.....................
ทำไมต้องเป็น  วิศวะ....
ตอบคือ  ผมจบวิศวะ  มันเลยง่ายที่จะเขียน
ทำไมต้องเป็น IE
ตอบคือ  ผมจบ IE  (ง่ายดีเนอะครับ แฮ่ๆ)
ในเรื่องกันต์จะรหัส 0014  กิจรหัส 0013  ส่วนคนเขียนนี่ xxxx0642 ><
ธัน (ธันวา) ได้แรงบันดาลใจมาจากเดือนคณะปี1 ตอนที่ผมอยู่ปี3 ครับ  แต่น้องเขาชื่อ เค  ส่วนธันวานี่  ผมชอบชื่อนี้  เทห์ดี
ส่วนชื่อ เค นี่จะไปเจอในช่วง กีฬาเฟรชชี่ อีกทีนะครับ(ติดตามกันต่อไปนะครับ)
..........................
ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจและการติดตามเสมอมานะครับผม  มันคือกำลังใจที่ดีที่สุดจริงๆครับ
และขอโทษเมื่อวานอีกทีนะครับที่ลงไม่ทันตอน13
แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะคร้าบโผม
^________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 21-01-2018 12:25:11
ขอบคุณค่ะ  มาลงให้อ่านด้วยขยันและมีวินัยมากกก
ชื่นชมค่ะ  น่ารักมุ๊งมิ๊งมากเลย  ชอบจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-01-2018 13:06:04
ขอบคุณครับผม รอตอนต่อปายย :)
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-01-2018 13:17:57
 :L2: :L1: :pig4:

เริ่มจะรู้ตัว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: hardberry ที่ 21-01-2018 14:56:46
 :katai2-1: เขิน น่าร๊ากกกกกกกกกก เป็นกำลังใจให้ไรท์น้าค้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 21-01-2018 15:15:49
ยังไม่รู้ตัวไง น่ารักๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-01-2018 15:27:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 21-01-2018 15:49:05
โอ๊ยยย น่ารัก ติดตามค้าาา :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 21-01-2018 17:33:30
ยังไม่รู้ตัวไง น่ารักๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 22-01-2018 00:25:34
จะรอ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-01-2018 00:41:18
น่ารักมากกกกกกก ทั้งพี่กิจ น้องกันต์ และหลานคนแต่ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 22-01-2018 03:59:05
น่าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-01-2018 16:41:49
น่ารักมากๆ

นี่ต่างคนต่างไม่รู้ใจตัวเองซินะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 22-01-2018 20:18:28
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tang ที่ 22-01-2018 20:26:37
วันนี้จะมามั้ยนะ รอจ้าาาา ติดตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 22-01-2018 21:19:28
Chapter 14




กิจ ‘ s  Part




“ ก๊อกๆๆ “

เงียบ... 

ท่าทางแม่งจะยังไม่ตื่นครับ  เช้านี้มันก็เบี้ยวไม่มาออกกำลังกายกับผมแล้ว 

แต่วันนี้ยกเว้นให้ครับ  เพราะผมเห็นว่าเมื่อวานมันคงเพลียเลยปล่อยให้มันวันนึง  แต่นี่ก็ 10 โมงกว่าแล้วนะครับ  ไม่รู้จะขี้เซาไปถึงไหน...

ผมเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าห้องมันมา ( ก็ทีมันยังเคยเข้าห้องผมแบบไม่ขอเลย )

มันกำลังนอนห่มผ้าห่มสีขาว  หน้าตามันดูหลับสบายมาก  เผยอปากนิดๆ 

ผมเดินลงมานั่งยังพื้นข้างเตียง  เท้าคางมองดูหน้ามัน  ก็น่ารักตลกๆ ดีนะครับ  เห็นมันหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแล้วอยากแกล้งเอามือไปบีบจมูกมันจัง  ไม่รู้มันตื่นมาจะทำหน้ายังไง

แต่ที่แน่ๆ...  ผมคงต้องโดนมันด่าแน่นอน  ยิ่งเดี๋ยวนี้มันกล้าขึ้นตั้งเยอะ  ขึ้นเสียงกลับผมก็ออกจะบ่อย

พอมองมันในมุมนี้แล้ว...  มันนี่แม่ง...  น่ารักเกินผู้ชายไปแล้วป่าวเนี่ย  ขนตาก็ยาว  จมูกนิด  ปากหน่อย  แถมผิวนี่มึงบำรุงด้วยอะไรขาวใสได้ขนาดนี้ 

ว่าแต่...  แล้วผิวมันจะเนียนแค่ไหนกันนะ...

ผมค่อยๆใช้หลังมือไล้ไปที่ข้างแก้มใสอย่างเบามือ  ในขณะที่หัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้น  ไม่รู้ว่ากลัวมันตื่น  หรือเพราะผมกำลังตื่นเต้นกันแน่...

“ อือ... “

มันครางในลำคอเบาๆ  ผมเลยได้แต่อมยิ้มเล็กๆ  มองเด็กน้อยตรงหน้า  เห็นแบบนี้แล้วมันเป็นอะไรที่น่าทะนุถนนอมมากครับ

“ เห้ย! “ 

ผมอุทานขึ้นมาเบาๆ  เมื่อจู่ๆ มันก็เอามือมาจับมือผมไว้  ก่อนจะดึงเอาเข้าไปกุมไว้แนบอก

ตกใจหมดเลยนึกว่ามันตื่นครับ  ว่าแต่...  มือมันก็นุ่มดีนะครับ  อุ่นด้วย..

เชี่ย..แล้วนี่ผมกำลังคิดบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย

“ กันต์...  ตื่นได้แล้ว “ 

ผมพูดขึ้น  แต่ดูท่าทางมันจะหลับลึกเลยนะครับ

ผมเลยเอามืออีกข้างไปบีบจมูกมัน  ดูซิจะทนได้นานแค่ไหน

“ อื้อ...  อื้อ.. “

มันละมือที่กุมมือผมอยู่ออกมาปัดมือผมออกครับ  ก่อนจะปรือตางัวเงียขึ้นมามอง..

เชี่ย..  แม่งจะน่ารักไปไหนวะ  นี่ถ้ามีใครมาเห็นนะ...  ไม่อยากจะคิดเลย

“ เห้ย!!! “

น้องมันผงะตัวเล็กน้อย  ก่อนจะร่นตัวเขยิบไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนหัวเตียง  พร้อมทั้งมองผมมาอย่างตกตะลึง

“ เข้ามาได้ไงเนี่ย “

“ ก็เปิดประตูเข้ามาดิ “

“ แล้วทำไมไม่เคาะเรียกก่อนอะ  มารยาทอะมีป่าว “

เห็นมั้ยครับว่ามันเริ่มกล้า  นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ  ไม่มีหรอกมาว่าผมแบบนี้อะ

“ กูเคาะแล้ว  และหลายรอบด้วย  มึงไม่เปิดกูก็ต้องเปิดเข้ามาเองดิวะ “

“ แล้ว...  พี่มีธุระอะไร “

ผมถอนหายใจ  ก่อนจะบอกมันไปครับ

“ นี่มันกี่โมงแล้ว “

“ ก็เจ็ด แปดโมงมั้ง “  มันทำหน้ามึนตอบมาครับ

“ จะ 10 โมงครึ่งแล้ว “ 

ผมพูดเน้นเสียงไป  ดูมันจะตกใจกับเวลาเอามากๆ  ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่โต๊ะใกล้ๆขึ้นมาดู

“ เชี่ย...  หลับเพลินเลยกู “ 

มันพูดกับตัวเองครับ  ก่อนจะหันมามองหน้าผมต่อ

“ แล้วพี่มีอะไรเปล่าอะ  นี่มันวันเสาร์นะ “

“ แล้วปกติวันเสาร์มึงไม่ต้องทำความสะอาดรึไง “

“ โห...  เคี่ยว “ 

มันพูดมาเสียงเบาๆ  แต่ผมก็พอจะได้ยินนะครับ

“ ว่าไงนะ “

“ เปล่า...  เดี๋ยวผมขออาบน้ำก่อน  แล้วเดี๋ยวออกไปทำให้คร้าบ “

“ ไม่ต้องแล้ว  อาทิตย์นี้ห้องไม่ได้รกเท่าไหร่ “ 

ผมตีหน้านิ่งบอกไปครับ  มันถึงกับถลึงตาอ้าปากค้าง 

นี่มึงจะตกใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย....

“ หมายความว่า...   อาทิตย์นี้ผมไม่ต้องทำอย่างนั้นเหรอ “

“ ก็เออดิ  มึงนี่เข้าใจอะไรยากจังวะ “

“ ขอบคุณครับพี่กิจ  พี่แม่งโครตน่ารักเลย...  นั้นผมนอนต่อนะ “

รู้สึกชอบใจที่มันชมผมครับ  ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็เหอะ 

จากนั้นมันก็ทำท่าจะนอนต่อ  ผมเลยเอามือไปตีหน้าผากมันทีนึง

“ แป๊ะ! “

“ โอ้ย!  อะไรอีกอะพี่ “  มันทำหน้ายุ่งถามมาครับ

“ ลุก!  ไปอาบน้ำได้แล้ว “

“ อาบทำไมอะ  ก็พี่บอกว่าวันนี้ผมหยุดงานได้นี่  ผมก็เลยจะนอนต่ออะ “

“ เร็ว!  เดี๋ยวกูจะพาไปเลี้ยงข้าว “

ผมบอกไป  มันก็ตาโตอ้าปากเหวอเล็กๆ ขึ้นมาอีกแล้วครับ

นี่มึงจะตกใจอะไรกันบ่อยๆวะ...

“ เลี้ยง...  เลี้ยงผมอะนะ  เนื่องจากไรพี่ “

“ ก็...  ที่มึงได้ตำแหน่งไง  กูเคยบอกไว้แล้ว “

ผมให้เหตุผลไป  ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่ใช่เหตุผลจริงๆ ของผมด้วยซ้ำไป

จริงๆ แล้วผมคงอยากจะมีเพื่อนกินข้าว...  หรืออาจเพราะอยากไปนั่งกินข้าวกับมัน...  ก็ได้นะ

“ แต่ผมไม่ได้เดือนคณะนี่ “

“ แต่มึงก็ได้ป๊อปปูล่าโหวต “

มันทำหน้าเหมือนจะงงๆ  แต่ก่อนที่มันจะถามอะไรต่อ  ผมก็รีบพูดตัดบทไปก่อนครับ

“ เร็วๆ!  จะไปไม่ไป...  ถ้าไม่ไปมึงก็ต้องทำความสะอาดห้องนะวันนี้ “

ผมที่นั่งอยู่ที่พื้นยืนขึ้นบอกมันไปครับ  ซึ่งพอมันเห็นผมทำท่าจะเปลี่ยนข้อเสนอ  มันก็รีบลุกขึ้นจากเตียงทันที

“ ไปดิไป... “

แล้วมันก็รีบเดินผ่านผมที่กำลังยิ้มกริ่ม  หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที

ผมนั่งลงบนเตียงมัน  มองไปรอบๆ ห้องครับ  ว่าจะนั่งรอมันในนี้แหละ  นานๆ ทีได้เข้าห้องคนอื่นเขาบ้าง...

หลายอย่างในห้องนี้ยังคงเหมือนเดิม  จะเพิ่มเข้ามาก็แค่ของกระจุกกระจิกและของใช้ส่วนของน้องมัน

ผมลุกขึ้นเดินมาดูที่โต๊ะเขียนแบบ  ยังมีงานที่มันทำค้างไว้อยู่  ดูจากฝีมือแล้วก็ใช้ได้อยู่นะครับ  แต่ก็ไม่เท่าผมหรอก ฮ่าๆๆ

ผมพลิกดูการบ้านวิชานี้ที่มันยังไม่ได้ทำ  โห..  ปีนี้  อาจารย์สั่งเยอะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ  หรือเพราะมันดองงานไว้รึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ

จากนั้นผมก็เดินต่อมายังโต๊ะทำงานข้างๆ  มีชีทวิชาฟิสิกส์เปิดค้างไว้อยู่  คู่กับหนังสือการ์ตูนวันพีทเล่มล่าสุด  นี่มันก็อ่านวันพีทเหมือนกันกับผมเหรอเนี่ย...

จากนั้นผมก็เริ่มสำรวจต่อ  ไอ้กันมันท่าทางจะชอบต้นไม้นะครับ  ผมเห็นมีประมาณ 3 – 4 ต้นที่มันปลูกไว้  มีตั้งไว้บนโต๊ะหัวเตียง  และที่ชั้นวางของอีก 3 ต้น  ซึ่งก็เป็นต้นไม้ชนิดเดียวกันหมดเลย  แต่ผมไม่รู้หรอกว่ามันชื่อต้นอะไร  เพราะผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องต้นไม้สักเท่าไหร่

เมื่อไม่มีอะไรให้สำรวจแล้ว  ผมก็ถือวิสาสะมานอนเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียงมันต่อ

ไม่นานมันก็ออกห้องน้ำมา  ผมหันไปมองร่างขาวใสที่นุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาว  ซึ่งกำลังยืนชะงักอยู่ที่หน้าห้องน้ำในตอนนี้

“ ทำไมยังไม่ออกไปอีกอะ  นี่มันห้องผมนะพี่ “

“ ห้องมึงแต่คอนโดกู  ดังนั้นกูมีสิทธิทุกห้อง “

มันเบ้ปากใส่ผมเล็กๆ  แต่ก็เถียงไม่ออกครับ  ผมละชอบใจจังที่ได้แหย่มันแบบนี้  เวลาเห็นมันฟึดฟัดหน่อยๆ แล้วน่ารักดี  อย่างกับเด็กๆ เลยครับ   

“ มองอะไร ” 

มันถามขึ้นมาครับ  ถึงตรงนี้ผมถึงพึ่งมารู้ตัวครับว่า  ผมมองร่างขาวตรงหน้าอย่างไม่วางตาเลย  ผิวมันดีจริงๆ นะครับ  แถมยอดอกยังสีชมพูอ่อนสะดุดตาให้น่ามองไปอีก  เอาเข้าจริงมันน่ามองกว่าผู้หญิงหลายๆ คนที่ผ่านมาของผมตั้งเยอะ

“ มองอะไร...  อย่างมึงมีอะไรน่ามองวะ “

ผมทำหน้าหน่ายๆ แถบอกไป  ก่อนจะหันกลับไปเล่นโทรศัพท์ในมือต่อ

“ ผมจะแต่งตัว  พี่ออกไปก่อนดิ ”

“ ก็แต่งไปดิวะ  กูไม่มองมึงหรอก “

“ ก็มันไม่ชินนี่  มีคนอื่นอยู่ในห้องแบบนี้อะ “

“ เร็วๆ  อย่าเรื่องมาก... “

มันยู่หน้าใส่ผมทีนึงแต่ก็ยอมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าอยู่ดี  ผมเหลือบมองร่างบางตรงหน้าด้วยหางตา  ก่อนจะเผลอกลืนน้ำลายตัวเองอย่างไม่รู้ตัว 

คือต้องมาเห็นกับตาครับ  มันดึงดูดสายตาจริงๆ

วันนี้น้องมันใส่เสื้อยืดสีฟ้าอ่อน  กางเกงยีนส์  เซทผมตกๆ สายแบ๊วตามปกติของมัน  ก่อนจะปิดท้ายด้วยการฉีดน้ำหอมยี่ห้อดัง  แต่กลิ่นคนละแนวกับผมเลย  ของมันจะเป็นกลิ่นหอมละมุนๆ พอผสมเข้ากับกลิ่นตัวมันแล้วก็....  เอิ่ม.. อธิบายได้ยาก  ถ้าใครไม่เคยใกล้ชิดมันเหมือนผม  ส่วนแนวผมจะเป็นแนวซีตัสสดชื่อเย็นๆ สบายๆ ครับ

........

วันนี้ผมขับรถยนต์มาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  ไม่อยากเอามอเตอร์ไซต์มาเพราะเห็นน้องมันใส่เสื้อแขนสั้น   เดี๋ยวผิวมันจะเสียเอา

“ อยากกินอะไร “ 

ผมถามขึ้น  เพราะตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้วละครับ

“ แล้วแต่พี่เลย คนเลี้ยงอยากเลี้ยงอะไร  ผมได้ทั้งนั้นแหละ “

“ นั้นอาหารญี่ปุ่นก็ละกัน “

มาถึงร้าน  ผมก็เอาเมนูให้มันสั่งได้เต็มที่เลยครับ  แต่ดูเหมือนมันจะเกรงใจ  ผมเลยสั่งมาเพิ่มซะเยอะเลย  ไม่รู้ว่ามันชอบอะไรก็สั่งๆ มาให้มันก่อน จนมันบอกว่าเยอะซะขนาดนี้จะกินหมดได้ยังไง...

“ อ้าว!!  น้องกันต์..   มากินข้าวเหรอครับ “

เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังผมครับ  ซึ่งเสียงนี้ผมก็จำได้แม่น  ไอ้คิมเพื่อนในกลุ่มของผมเอง  แต่ดูแล้วท่าทางมันคงจะยังไม่เห็นผม

“ พี่คิมหวัดดีครับ “

“ มากับใครเหรอ...  อ๊าววววว  ไอ้กิจ...  มึงมาได้ไงเนี่ย “ 

แม่งทำเสียงสูงถามมาพร้อมกับสีหน้าจับผิด 

“ เลี้ยงน้องมัน  ก็..  มันเป็นโครหัสสายกู  แล้วเมื่อวานมันได้ป๊อปปูล่าโหวตไง  กูก็เลยพามันมาเลี้ยงเฉยๆ “

 ผมอ้างเหตุผลไปครับ  ขณะที่ไอ้คิมก็พยักหน้าพร้อมกับเบ้ปากเล็กๆ เหมือนจะไม่เชื่อ

ช่างมันครับ  ผมไม่สนใจหรอก

ว่าแต่นี่มันมากับใครหว่า  ผมมองดูน้องผู้หญิงข้างๆ มัน  ก็พอจะจำได้คร่าวๆ ว่าเป็นน้องปีหนึ่งคณะเราเนี่ยแหละครับ  แถมประกวดดาวเมื่อวานด้วย  แต่ไม่ได้ตำแหน่งนะครับ

ไอ้นี่แม่งไวตลอดเลย  แต่เชื่อผมเหอะ  อย่างมาก 2 อาทิตย์...

พอผมมองไปที่น้องเขา  น้องเขาก็ยกมือไหว้ผมมาอย่างเกรงๆ  ส่วนหนึ่งคงเพราะผมเป็นประธานเชียร์ด้วยละมั้งครับ

“ สั่งมาซะเต็มโต๊ะเลย  จะกินหมดมั้ยเนี่ยกันต์ “  ไอ้คิมมันถามต่อ

“ พี่กิจสั่งครับ  ผมป่าวนะ “

อ้าวไอ้นี่...  สั่งมาให้เลือกกินไม่ชอบเหรอคร้าบ

“ กินด้วยกันมั้ยครับพี่คิม “

ไอ้นี่ก็ซื่ออีกแล้ว  เขามากับเด็ก  ใครจะมานั่งกินกับคนอื่นกันวะ  ถามไม่คิดเลยนะ

“ เอาดิ.. “ 

ไอ้คิมมันตอบตกลงทันที  ก่อนที่มันจะหันไปถามเด็กใหม่มันด้วยซ้ำ  ซึ่งน้องเขาก็ยิ้มพยักหน้าป้อยๆ ตอบมา

ตอนนี้ไอ้คิมลงมานั่งข้างผม  ส่วนน้องผู้หญิงนั้นไปนั่งข้างไอ้กันต์มันครับ  จากนั้นมันก็สั่งอาหารมาเพิ่มอีกนิดหน่อย

“ เมื่อคืนพี่โหวตให้เราด้วยนะ “  ไอ้คิมมันหันไปบอกกันต์

“ เหรอครับพี่  ขอบคุณครับ “

“ กลุ่มพี่โหวตให้เราหมดเลยนะ  เว้นก็แต่ไอ้กิจเนี่ยแหละ “

มีแขวะผมด้วยนะ  ถ้าผมไม่ต้องเป็นคณะกรรมการผมก็โหวตให้มันอยู่หรอก..

“ พี่กิจเขาไม่โหวตให้ผมหรอก “ 

ดูมันครับ  ทำเป็นมองค้อนมาทางผม  นี่มึงคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงรึไงมามองผมแบบนี้

“ แล้วนี่.. ? “ 

ลืมถามชื่อเด็กใหม่ไอ้คิมมันเลยครับ  มันเองก็เสือกไม่แนะนำด้วยนะ แต่ก็ใช่ว่ามันจะสนใจน้องเขาเท่าไหร่ด้วยแหละ  ดูท่าแล้วมันก็คงจะไม่ได้คบอะไรจริงจังเหมือนเช่นทุกทีแหละครับ

“ น้องมายด์  ปี 1 น่ะ “ 

ผมพยักหน้ารับ  น้องเขายิ้มส่งมาให้ด้วยเช่นกัน

“ พึ่งรู้ว่าพี่กิจนอกห้องเชียร์ก็ใจดีนะคะ  มีเลี้ยงน้องด้วย “  น้องเขาพูดขึ้น

“ มันก็อย่างนี้แหละมายด์  ในห้องเชียร์ก็แค่เก๊กไปแค่นั้น “ 

สัดไอ้คิม  เสียการปกครองกูหมด

“ แต่ไม่ว่ายังไง สิ่งที่พวกผมสอนพวกคุณในห้องเชียร์  พวกคุณก็ต้องรู้จักนำมาใช้และปฏิบัติตามด้วย “ 

ผมทำเสียงเข้มเรียบๆ สไตล์ประธานเชียร์บอกน้องเขาไปครับ  และสรรพนามที่ใช้กับปีหนึ่งช่วงนี้ก็ต้องเป็นคุณกับผมเท่านั้น ( มีก็แต่ไอ้กันต์เนี่ยแหละที่ผมใช้ไม่เหมือนใคร )  คือมันต้องมีฟอร์มกันบ้างครับ  เดี๋ยวเอาไปพูดกันแล้วความเคารพก็หมดกันพอดี

แต่พอหันหน้ามามองคนตรงหน้านะครับ  แม่งทำปากขมุบขมิบล้อเลียนผมเล็กๆ  พอเห็นผมมองมาก็ทำเป็นหยุดไป

เดี๋ยวเหอะมึง  ใจดีด้วยหน่อยทำเหลิง  เดี๋ยวพ่อจะแกล้งซะให้เข็ดเลย  แล้วอย่ามาร้องไห้ทีหลังก็ละกัน

ระหว่างที่กินข้าวกันนั้น  สิ่งที่ผมสังเกตได้ชัดก็คือ น้องมายด์แทบจะไม่คุยอะไรกับไอ้กันต์มันเลย  ทั้งๆที่เป็นปีหนึ่งเหมือนกันแท้ๆ  ที่แปลกคือ  แทนที่จะคุยกับไอ้คิมที่มาด้วยกันมากหน่อย  กลับเอาแต่ถามนั่นนี่กับผมเสียมากกว่า  ซึ่งถ้าให้มองในมุมมองของผมแล้ว  ผมว่า... น้องเขาน่าจะคิดอะไรกับผมแน่...

ส่วนไอ้คิมน่ะเหรอ..  มันไม่สนใจหรอกครับ  เพราะดูแล้วมันหวังแค่ปิดจ๊อบเดี๋ยวก็คงเลิกตามฟอร์มมัน...


……….
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/01/2561 update chapter 13 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 22-01-2018 21:29:02
ออกจากร้านมา  เห็นว่า 2 คนนี้จะไปดูหนังกันต่อนะครับ  ส่วนผมว่าจะเดินดูของอีกสักหน่อยก่อนกลับ

“ ผมเข้าห้องน้ำแปบนะครับพี่กิจ “

ไอ้กันต์มันบอกผมหน้านิ่ง  จะว่าไปผมก็เห็นมันก็นั่งเงียบมาตั้งแต่ในร้านอาหารแล้วนะครับ  ผมมองตามหลังมันไป  ก่อนจะลากับ 2 คนนั้น  แล้วเดินตามหลังมันไปครับ

ผมยืนรอมันตรงทางเดินที่จะไปยังห้องน้ำ  แต่แล้วจู่ๆ น้องมายด์ก็เดินเข้ามาหาผมครับ  แปลกใจนิดหน่อยเพราะนึกว่าน้องเขาจะเดินไปโรงหนังกับไอ้คิมซะอีก

“ อ้าว...  ผมก็นึกว่าคุณไปกับเพื่อนผมแล้วซะอีก “

“ อ๋อ...  พอดีมายด์ขอมาเข้าห้องน้ำก่อนน่ะ  เลยฝากพี่คิมไปซื้อตั๋วให้ก่อน “

ผมพยักหน้าเล็กๆ รับรู้  ในขณะที่น้องเขายิ้มหว่านเสน่ห์ตอบมา

ท่าทางจะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ  ควงเพื่อนผมมาแท้ๆ ยังกล้ามาหว่านเสน่ห์กับผมแบบนี้อีก

“ ว่าแต่..  มายด์ขอเบอร์พี่กิจไว้หน่อยได้มั้ยคะ “ 

นั่นไง...  ว่าแล้วไม่มีผิด...

ผมยิ้มที่มุมปากเล็กๆ  ตามสไตล์ของคนเจ้าชู้ส่งไปให้ด้วยเช่นกัน

“ แล้วคุณจะเอาไปทำไม “

“ ก็..  เผื่อมายด์อยากให้พี่กิจช่วยติว...  ในบางรายวิชาให้น่ะค่ะ  ได้ข่าวว่าพี่เก่ง “

เธอพูดไปพลางขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอย่างส่อเจตนา  ผมเลยยิ้มเล็กๆ ส่งให้ไปราวกับว่าจะเล่นด้วย  ก่อนจะตอบกลับไป

“ ถ้าอยากได้..  ก็ไปขอเอาจากไอ้คิมมันนะครับ “

ดูน้องเขาจะมีท่าทีขัดใจอยู่เล็กๆ  แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมามาก 

ส่วนผมน่ะเหรอ..  ไร้ซึ่งความตื่นเต้นใดๆ  น่าเบื่อสุดๆ ครับ... 

ผมเจออะไรพวกนี้มานักต่อนักแล้วในช่วงปี 1 ปี2 ที่ผ่านมา  ทั้งที่ผมเล่นด้วยและไม่เล่นด้วย เพราะช่วงนั้นผมเจ้าชู้เอามากๆ  ถ้าเสนอมาและถูกใจ..  ผมก็สนอง  แต่ก็ไม่เคยจริงจังกับใครสักคน  มันก็แค่ความต้องการตามประสาผู้ชายเจ้าชู้...

และสำหรับกรณีนี้  ยิ่งไม่ทำให้ผมรู้สึกอยากเล่นด้วยเลยแม้แต่น้อย  ทั้งในมุมเพื่อนที่จะไม่แทงข้างหลังกัน  มุมมองในฐานะประธานเชียร์  และ..

ผมรู้สึกว่าผมอยากอยู่กับบางคนมากกว่า...  บางคนที่ทำให้ผมรู้สึกหัวใจเต้นแรงและรู้สึกดีเวลาอยู่ใกล้

“ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ “

น้องเขาดูจะมีสีหน้าผิดหวัง  หรืออาจจะผิดคาดที่ถูกผมปฏิเสธไปแบบนี้ 

ส่วนผมน่ะเหรอ... 

สนใจซะที่ไหนกันละครับ...
 
ผมเดินเบี่ยงตัวออกมาเพื่อที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ  แต่กลับเห็นไอ้กันต์มันยืนมองอยู่ไม่ไกลมาก

ไม่รู้สิครับ  ผมรู้สึกตกใจอยู่เหมือนกัน  หวังว่ามันคงจะไม่เห็นและเข้าใจอะไรผิดนะ

ว่าแต่....  แล้วผมจะมานั่งแคร์ความรู้สึกมันทำไมกันวะเนี่ย

มันเดินเลยผมไปเลยครับ  ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ 

ผมเหลียวหลังหันไปมองมัน  เห็นมันเดินดุ่มๆ ออกไปยังทางเดินหลักแล้ว  ส่วนน้องมายด์เธอหายไปแล้วครับตอนนี้  คงจะกลับไปหาไอ้คิมมันนั่นแหละ


ผมเดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาเห็นไอ้กันต์มันยืนหน้ามุ่ยรอผมอยู่  ผมเลยทำเป็นยิ้มเล่นเดินเข้าไปหามันครับ

“ เป็นไร...  หน้าเป็นตูดเลยมึง “

มันเหลือบตามามองผม  แต่ผมก็ยังคงยิ้มก่อนจะเลิกคิ้วขอคำตอบมันอยู่เนืองๆ  มันไม่ตอบแต่ถอนหายใจแรงๆ อย่างหงุดหงิดออกมาแทน

“ จะกลับยัง “

แนะ..  กระแทกเสียงด้วย  นี่กูประธานเชียร์นะเว้ย  ให้เกียรติกูหน่อยนะคร้าบไอ้รุ่นน้อง

“ ยัง...  จะเดินดูของก่อน “

“ นั้นผมกลับละ “

“ แล้วจะกลับยังไง “

“ รถเมล์ก็มี  แท็กซี่ก็มี  ไม่เห็นจะยาก “

ดูมันครับ  ว่าแต่ขนาดมันทำหน้าหงิกยังน่ารักเลยนะครับ  ตลกด้วย ฮ่าๆๆๆ

“ ไม่ได้  มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกัน  ตามมา.. “

แล้วผมก็จับมือมันดึงไปทันที  มันยื้ออยู่เล็กน้อย  แต่ก็ต้องยอมตามผมมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผมเดินเข้าร้านเสื้อยี่ห้อดังร้านหนึ่ง  แต่ยังคงจับมือมันไว้นะครับ  กลัวมันหนี  หึๆๆๆ 

ผู้จัดการร้านเดินออกมาต้อนรับผมทันทีที่เห็น  อาจจะเพราะผมเป็นลูกค้าประจำหรือเพราะนามสกุล  แต่อะไรก็แล้วแต่มันก็ทำให้ผมสะดวกสบายในการเลือกเสื้อผ้า ( ซึ่งหลายๆร้านดังก็มักจะเป็นแบบนี้กับผมกันทั้งนั้น )

ผมเลือกดูเสื้อคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่แขวนอยู่  ในขณะที่ไอ้ขี้งอนมันก็ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ  หน้านี้หงิกเลยครับ

“ ตัวนี้เป็นไง “

ผมหยิบเสื้อมาทาบที่ตัวพร้อมกับถามความเห็นมัน

“ อืม..  ก็ดี..  จะเสร็จยังเนี่ย “

ผมอมยิ้มไม่ตอบอะไรก่อนจะเลือกเสื้อต่อ

“ น้องมายด์  เขามาขอเบอร์กู “ 

ผมพูดขึ้นขณะที่กำลังเลือกเสื้อไปด้วย

“ แต่กูก็ไม่ได้ให้ไปนะ “ 

ผมหยุดพลางหันมาดูปฏิกิริยาคนข้างๆ  มันท่าทางตั้งใจฟังเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่เหมือนกัน

“ แล้วทำไมไม่ให้ไปล่ะ  เห็นยิ้มให้เขาซะขนาดนั้น  ไม่ชอบรึไง “ 

มันเริ่มพูดได้แล้วครับ ฮ่าๆๆ  แล้วผมก็หันกลับไปเลือกเสื้อต่อ

“ ก็ไม่ชอบไง  แถมยังเป็นเด็กไอ้คิมมันด้วย  กูยิ่งไม่ทำเรื่องเหรี้ยๆ แบบนั้นหรอก “

“ แต่ก็หว่านเสน่ห์ใส่เขาอยู่ดี “

“ มันเป็นนิสัยปกติของคนหล่อ... “ 

พูดจบผมก็หยิบเสื้อสีฟ้าอ่อนตัวหนึ่งไปทาบที่ตัวมัน  มันดูงงๆ  ก่อนที่ผมจะพูดต่อ

“ อย่างมึงไม่รู้หรอก “

“ ผมก็หล่อเหอะ...  แต่ก็ไม่เคยทำอะไรอย่างนั้น “

โห่...  นี่มันส่องกระจกบานไหนแล้วมองว่าตัวเองหล่อวะ  อย่างมันเขาเรียกว่าน่ารักครับ

“ มึงเนี่ยนะหล่อ... “ 

มันทำหน้ามั่นใจพร้อมกับยักคิ้วตอบกลับมา  ดูมันอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วละครับ  ผมส่ายหน้าเล็กๆ  ก่อนจะเลือกเสื้อต่อ


….


ผมยื่นบัตรเครดิตส่งให้พนักงานขาย  ก่อนจะส่งถุงเสื้อที่ซื้อให้มัน 2 ตัวไปให้มันถือ  มันทำหน้างงๆ  พลางถามกลับมาว่าอะไร

“ กูซื้อให้  เห็นมันเหมาะกับมึงดี “ 

ผมตอบไปครับ  แต่มันก็เหมาะจริงๆ นั่นแหละ  พอลองเอามาทาบที่ตัวมันแล้ว  แม่งโครตน่ารักเลย

“ ไม่เอา...  แพงจะตาย  พี่จะซื้อให้ผมทำไม “  มันปฏิเสธมาครับ

“ ก็กูอยากซื้อให้  แค่นี้ขนหน้าแข็งกูไม่ล่วงหรอก  เอาไปเร็วๆ “

“ คร้าบ..  พ่อคนรวย “

ผมเอามืออีกข้างหนึ่งที่ยังว่างอยู่ตีหัวมันไปเบาๆ  แต่มันก็รับถุงเสื้อมาไว้ในเมือแต่โดยดี  เห็นหน้ามันยิ้มๆอารมณ์คงดีขึ้นแล้วละครับ

จากนั้นพวกเราก็เดินดูของร้านนั้นร้านนี้ไปเรื่อยเปื่อย  จากที่มันอิดออดเดินตามหลังผม  ตอนนี้มาเดินข้างๆ ผมแล้วละครับ

“ พี่กิจๆ แวะร้านนี้ก่อน “

มันเป็นร้านโมเดลของเล่นครับ  ดูหน้าตามันตื่นตาตื่นใจมาก  ท่าทางคงจะชอบ 

มันเดินนำเข้าไป  ส่วนผมก็เดินตามมันไปติดๆ  มันโฟกัสไปที่โมเดลการ์ตูนเรื่องวันพีทครับ  ผมก็ชอบนะครับสะสมเรื่อยๆ  ทั้งหุ่นยนต์และการ์ตูนที่ชอบ

“ ตัวไหนดีพี่  ผมว่าจะสะสม 7 เทพโจรลัด  พวกลูฟี่ผมมีครบแล้วเซตนึง “

มันหยิบมา 2 ตัวเป็นตัวละครชื่อ โดฟลามิงโก้ กับ คุมะ

“ ก็เอาไปทั้งเซทเลยดิ “

“ โห..  ไม่ไหวหรอกพี่  เอาไปหมด  ผมก็กินมาม่าทั้งเดือนกันพอดี “

“ กูซื้อให้ “

“ ไม่เอา.. “

“ พี่ครับ  เอาเซท 7 เทพโจรสลัดเซทนี้ทั้งเซตเลยครับ ” 

ผมหันไปบอกคนขาย  โดยไม่สนใจคำทักท้วงของคนข้างๆ ในตอนนี้

“ มากับกู  มึงต้องตามใจกู  รู้มั้ย.. “

 มันทำหน้าหงิกครับ  ผมรู้ว่ามันเกรงใจ  แต่ผมอยากซื้อให้มันจริงๆ นะครับ  ซึ่งปกติคนที่ผมควงมาเดินด้วย  ผมก็ไม่ได้ตามใจซื้อให้ตลอดแบบนี้หรอกนะครับ  เอาแค่ตามความเหมาะสมเท่านั้น 

เห็นแบบนี้ผมก็ใช่ว่าจะใช้เงินเปลืองนะครับ  ทั้งๆ ที่ค่าขนมเดือนนึงๆ ของผมก็เกือบ 6 หลัก ยังไม่รวมถึงบัตรเครดิตต่างๆอีก  แต่ถึงกระนั้นผมก็มีเหลือเก็บในบัญชีสะสมส่วนตัวมากพอที่จะซื้อคอนโดดีๆได้สักห้องเลยทีเดียว  เพราะส่วนใหญ่ผมจะหมดไปกับค่าเหล้าที่เที่ยวกับเพื่อนในกลุ่มซะมากกว่า

ออกมาจากร้านโมเดล  มันยังคงทำหน้าไม่พอใจผมสักเท่าไหร่ครับ  นี่ผมต้องง้อมันอีกใช่มั้ยเนี่ย

ไรวะ..  ผมไม่เคยจะง้อใครเยอะแบบนี้เลยนะครับ  ให้ตายสิ

“ เอางี้  ถ้ามึงเกรงใจกูมาก  นั้นมึงเลี้ยงหนังกูเรื่องนึงก็แล้วกัน “

“ ด้ายยย “

แล้วมันก็ยิ้มออกมาครับ  เอาใจง่ายดีแท้  น่ารักชิบหาย


..................


หน้าโรงหนัง

ผมนั่งรออยู่ที่ล๊อบบี้  ส่วนไอ้กันต์มันไปต่อแถวซื้อตั๋วครับ  จู่ๆ ไอ้คิมมันก็เดินมานั่งข้างๆ ผมครับ

“ เอ๊า...  มาไงวะ “

“ หนังพึ่งจบน่ะ “

“ แล้วเด็กมึงล่ะ “

“ เข้าห้องน้ำ “

“ คิม...  เด็กมันแรงมึงรู้ใช่มั้ย “

ผมตัดสินใจบอกเพื่อนไปตามประสาเพื่อนฝูง  อะไรที่ดีไม่ดี  ก็จะบอกจะเตือนกันตรงๆ

“ เออ..  กูรู้ตั้งแต่เห็นน้องเขาแซะมึงตอนกินข้าวแล้ว  แต่คิดว่ากูสนใจจริงๆ เหรอวะ “

เห็นมั้ยละครับ  ผมบอกแล้ว...  สันดานเจ้าชู้ระดับเดียวกับผมเมื่อก่อนนั่นแหละ  ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ผมจะลดระดับลงมามากแล้วก็ตาม

“ อืม...  แล้วคนนี้กี่วันวะ “

ผมหมายถึงว่ากี่วันมันจะเลิก  ต้องขอใช้คำว่าวันนะครับ  เพราะสัปดาห์ดูจะยาวไปแล้วสำหรับกรณีนี้

“ คงไม่เกินอาทิตย์หรอก “

“ ทำอะไรก็ดูตามความเหมาะสมด้วยนะมึง  ปี 3 แล้ว  แถมเป็นรุ่นน้องในคณะอีก “

“ เออ..  กูรู้น่า  อีกอย่าง  กูว่าน้องเขาก็แค่เล่นๆ กับกูด้วยแหละ  ต่างคนต่างเล่นก็วินๆ กันไป “

ดูมันสิครับ  ชิลมั้ยละ....

“ ว่าแต่  น้องกันต์ละวะ “

ผมพยักพเยิดไปยังบริเวณที่ขายตั๋ว  แต่ตอนนี้เห็นมันยืนเลือกซื้อป๊อปคอร์นแล้วล่ะครับ

“ เอาจริงๆ นะเว้ย  กูว่าน้องเขาแม่งโครตน่ารักอะ  นี่ถ้าน้องเขาเป็นผู้หญิงนะ  กูจีบไปนานแล้วเนี่ย “

“ น่ารักตรงไหนวะ “

ผมถามไปอย่างนั้นแหละครับ  ทั้งๆ ที่ผมเนี่ยแหละ  ที่ได้เห็นมันในมุมที่น่ารักมากกว่าคนอื่นๆ เสียอีก 

ระหว่างนี้สายตาผมก็มองไปที่มัน  ซึ่งบอกได้เลยว่ามันค่อนข้างสะดุดตาคนไม่ใช่น้อย  แถมมีคนแอบมองมันก็หลายคนอยู่  แต่ซื่อบื่ออย่างมันคงจะไม่รู้ตัวหรอกครับ

“ ทุกตรงอะ  ผิวก็ขาวใส  ปากนิดจมูกหน่อย  ยิ่งไอ้พีนะ  ตอนวันงานเมื่อวานอะ  มองน้องมันตาไม่กระพริบเลยมึง “

เนี่ยแหละครับ  สาเหตุที่ผมรีบรับมันกลับห้องเมื่อคืนนี้  ขืนปล่อยไว้นาน  เดี๋ยวไอ้พีมันตามมาพาไอ้กันต์ไปเลี้ยงต่ออย่างที่มันบอกเอาไว้จะแย่เอา

ยิ่งไอ้พีด้วยแล้ว  ถึงมันจะไม่เจ้าชู้มากเหมือนผมกับไอ้คิมก็ตาม  แต่ถ้ามันเล็งใครไว้แล้วมันก็ไม่เคยพลาดนะครับ  เห็นมันมองไอ้กันต์ด้วยสายตาแบบนั้นแล้ว  ยิ่งไม่น่าไว้วางใจเลย

“ อ้าวพี่คิม  ยังไม่กลับเหรอพี่ “

กันต์ที่เดินเข้ามาพร้อมกับน้ำ 2 แก้วแล้วก็ป๊อบคอร์นถังใหญ่  ดีนะที่ผมเอาถุงข้าวของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ที่รถก่อนแล้ว  ไม่งั้นพะรุงพะรังแน่นอน

“ ว่าแต่มาดูเรื่องไรครับน้องกันต์ “

พูดซะเพราะเลยมึง อย่าบอกนะว่ามึงคิดจะจีบไอ้กันต์มันด้วยอีกคน

กันต์มันไม่ได้ตอบอะไร  แต่ยื่นตั๋วหนังให้ดูเป็นคำตอบแทน

“ เห้ย..  เรื่องเดียวกับที่พี่ดูเลย  สนุกมาก “

“ จริงเหรอพี่  แต่อย่าสปอยนะเดี๋ยวไม่สนุก “

ไม่นานมากเสียงผู้หญิงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาไม่ไกลมาก

“ อ้าว...  เจอกันอีกแล้วนะคะพี่กิจ  มาดูหนังเหรอคะ “

ผมไม่ตอบอะไร  ได้แต่พยักหน้าส่งให้ไป  ส่วนไอ้กันต์จากที่คุยกับไอ้คิมอยู่สนุกๆ ดูเหมือนจะเงียบลงทันที

“ ปะไปกันยัง “

ผมเอ่ยขึ้น และไม่ต้องรอให้มันตอบอะไรผมก็จับคอเสื้อมันลากไปเลยครับ  มันเซนิดหน่อยจนป๊อปคอร์นหกไปบ้าง  แต่ก็ตามมาแต่โดยดี

พอผมปล่อยมือ  แม่งก็หันว่าผมทันทีเลยครับ...

“ บอกดีๆ ก็ได้พี่  ไม่เห็นต้องลากมาเลย  เนี่ยป๊อปคอร์นเกือบหกหมดแล้ว  พี่นี่แม่ง... “

“ แม่งอะไร... “

“ ไม่เห็นใจดีเหมือนเพื่อนพี่เลย... “

“ กูก็เป็นของกูอย่างนี้แหละ...  ไม่ชอบรึไง “ 

มันหน้านิ่งครับ  ก่อนจะหลบสายตาผมไปเสียอย่างนั้น  ผมเลยดึงเอาแก้วน้ำอีกแก้วมาถือไว้พร้อมกับป๊อบคอร์น 

“ ช่วยถือให้  แค่นี้ใจดีพอยัง “ 

มันไม่ตอบอะไร  แต่ก็อมยิ้มซะแก้มแดง 

น่ารักดี...

“ ปะ  ไปได้แล้ว “

ผมบอกก่อนจะเดินนำมันเข้าไปในโรงหนังครับ


....................................


ภายในโรงหนัง...

พอดูไปได้สักกลางๆ เรื่อง  ผมก็หันมามองยังคนข้างๆ เพราะเห็นมันไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย  พอหันมาเท่านั้นแหละครับ

แม่งหลับ.....

เข้าใจนะครับว่ามันเหนื่อยสะสมมาตั้งแต่เมื่อวาน  แต่หนังมันก็สนุกนะครับ  มันยังหลับได้อีก  เด็กน้อยจริงๆ เลยมันเนี่ย

ผมหันหน้ากลับไปมองยังจอภาพยนตร์ต่อ  สักแปบก็มีเสียงขยับตัวจากคนข้างๆ ดังขึ้นมาเล็กน้อย  แล้วจู่ๆ มันก็เอาหัวมาพิงที่ไหล่ผมซะงั้น..

ผมเผลอยิ้มออกมาแทบจะในทันที  ผมมองร่างเล็กกว่าที่กำลังหลับสบาย  มันเป็นคนที่น่าทะนุถนอมเอามากๆครับ  เวลานอนก็เหมือนกับเด็กเลย

เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกว่าอยากจะเป็นคนดูแลมันไปตลอดเลยครับ

จากนั้นผมก็ไม่พยายามขยับตัวเองมาก  กลัวมันจะตื่นหรือขยับตัวออกจากไหล่ผม

ให้มันนอนแบบนี้แหละดีแล้วครับ

เพราะผมเองก็รู้สึกดีเหมือนกัน....




TBC.



............................................

ขอโทษครับที่มาซะดึกเลย  พอดีตอนนี้มันยาวไปหน่อยเลยกรองประโยคช้าอะครับ  แต่ก็มาตามนัดนะครับ  ขอบคุณมากๆที่ติดตามกันนะครับ

ขอขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกกำลังใจนะครับผม  มันสำคัญกับผมมากๆเลย  แง่มๆ

แล้วตอนต่อไปตามนัดก็วันมะรืนนะครับผม

ขอบคุณทุกๆ คนอีกครั้งนะครับที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้ผม

^_________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 22-01-2018 22:47:54
ขอบคุณค่ะ  ยาวจุใจมากเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-01-2018 23:13:12
อีพี่มีอาการหวงน้องมากขึ้นทุกทีเลยนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nick_June ที่ 22-01-2018 23:27:37
ขอบคุณคราาาฟ.ลงยาว ๆ ก็ได้ครับชอบ อีกตั้งวัน สองวัน กินพิซซ่านั่งรอเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-01-2018 00:48:36
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 23-01-2018 01:24:05
ตะมุตะมิ นะ. รักเค้าเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-01-2018 14:30:56
ครับหวานมากๆเลย

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 25-01-2018 12:45:41
Chapter 15



กันต์'s  Part




เช้าวันจันทร์

ผมเดินเข้าห้องเรียนมา  ก็เห็นพวกเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนของผมมาถึงกันอยู่ก่อนแล้ว

“ แหมๆ  ยิ้มเข้ามาเลยนะมึง  พ่อป๊อปปูล่า “  ไอ้แน๊คแซวผมคนแรกเลยครับ

“ แต่กูว่ายิ้มแบบนี้ไม่น่าจะใช่นะ “ 

ไอ้เรย์มองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ราวกับว่ามันจะอ่านใจผมออกเสียอย่างนั้น

“ แล้วอะไรวะ “  ไอ้เจมส์ถามต่อ

“ ก็...  อาจจะอารมณ์ดีเพราะใครบางคนก็ได้มั้ง “ 

ไอ้เรย์พูดมาแบบมีเลศนัยพร้อมกับมองมาที่ผมยิ้มๆ

“ ใครบางคนพ่องมึงดิ  กูก็เป็นของกูแบบนี้อยู่แล้วทุกวัน  แสนรู้นะมึงอะ “ 

ผมพูดขึ้นก่อนจะวางกระเป๋าและนั่งลงข้างๆ มันครับ

“ สาด  กูไม่ใช่แมวนะเว้ย “

“ หมา.. ไอ้สัด! “

ผมนี่ก็บ้าจี้ตามมุขห้าบาทสิบบาทของมันนะครับ

“ ว่าแต่..  พี่เขายอมคุยด้วยแล้วเหรอวะ “ 

มันเอียงคอมากระซิบถามผมข้างหู  ผมพยักหน้าเล็กๆ แทนคำตอบ  พร้อมกับอดอมยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาเสียไม่ได้ครับ

“ มิน่า  ยิ้มหน้าบ้านเลยนะมึง “

“ ยิ้มพ่อง! “

ผมเบี่ยงหน้าออกมา  ก่อนจะด่ามันครับ

“ เออมึง  กูมีเรื่องจะขอร้องให้ช่วยหน่อยว่ะ “

ไอ้เรย์พูดขึ้น  ไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คที่นั่งอีกข้างของมันก็เอี้ยวตัวมามองผมราวกับรู้ว่ามันคือเรื่องอะไร

“ เรื่องไรวะ “

“ ช่วยกูจีบคนหน่อยดิวะ “

หือ...  ร้อยวันพันปีมันไม่เคยจะมาขอผมให้ช่วยเลย  มีแต่ตรงดิ่งเข้าไปจีบเอง  ถึงมันจะไม่ได้หล่อมาก  แต่มันก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรเลยนะครับ  แถมหุ่นยังดีอีก  ปกติไม่ต้องให้ผมช่วยมันก็จีบติดได้ไม่ยากครับ

“ ใครวะ  แล้วทำไมต้องให้กูช่วยด้วย “

มันอมยิ้มอ้ำอึ่ง  ท่าทางจะเป็นเอามากนะมึงเนี่ย  เห็นแบบนี้แล้วผมชักอยากรู้แล้วว่ามันไปตกหลุมรักใคร

“ ก็แพรดาวคณะปีนี้ไง “  ไอ้แน๊คตอบมาแทนเจ้าตัวครับ

โหนี่มึงกะเล่นของสูงเลยนะเว้ย...

“ เชี่ย...!  เอาซะสูงเลยนะมึง “

“ ก็ไอ้วันงานนั่นแหละ  แม่งชมแพรอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ตลอดเลยอะ  จนพวกกูเบื่อจะฟังแล้วเนี่ย “ 

ไอ้เจมส์ผู้มาดขรึมพูดมาบ้าง  สงสัยท่าจะจริง  ไม่งั้นอย่างไอ้เจมส์คงไม่เหลืออดหรอก

“ แล้วกูจะช่วยมึงได้ยังไงวะ “

“ ก็มึงเข้าประกวดด้วยนี่  มึงก็น่าจะรู้จักเขาบ้าง  แค่ไปตีสนิทแล้วแนะนำกูให้เขารู้จักหน่อยแค่นั้น “  ไอ้เรย์มันว่ามาครับ

“ พ่องมึงดิ  นี่กูยังไม่เคยคุยกับเขาเลยนะเว้ย  จะไปตีสนิทได้ยังไง “

“ น้าๆๆ  กูขอร้องละ  ถ้าสำเร็จนะ  มึงอยากแดกอะไรกูจัดให้ทุกอย่างเลย “

มันยกมือไหว้ขอผมป้อยๆ

“ ก็กูไม่รู้จักเค้า  จะให้กูช่วยยังไงวะ “

“ มึงก็ใช้ความเป็นคนเคยประกวดด้วยกันเข้าหาดิ น้าๆๆๆ “

“ เออๆ  ไว้มีโอกาสเจอเค้าแล้วกูจะลองดูให้ก็ละกัน “

ผมบอกไปอย่างนั้น  มันจะได้เลิกเซ้าซี้ผมสักที  ที่สำคัญนอกเวลาเรียนปกติผมก็ไม่ค่อยได้เจอแพรเขาอยู่แล้วครับ


แต่ราวกับฟ้าเห็นเป็นใจ... 


เที่ยงนี้ที่โรงอาหารคณะ 

ผมถือจานข้าวมันไก่พร้อมน้ำซุปลงมานั่งที่โต๊ะปุ๊บ  ไอ้เรย์ที่นั่งข้างๆ ผมก็กระแซะสีข้างผมทันที  พลางหลิ่วตาไปยังผู้ที่กำลังเดินเข้ามาใหม่ยังโรงอาหาร  และไม่ใช่ใครที่ไหนครับ  แพรดาวคณะปีนี้เอง  แถมยังเดินคู่มากับเดือนคณะด้วย  งานนี้บอกได้เลยครับว่าอย่างเด่น....

“ เชี่ย...  มากับไอ้ธันด้วย  มึงแดกแห้วแน่ไอ้เรย์ “ 

ไอ้แน๊คอวยเพื่อนครับ  ก่อนจะไปเลิกคิ้วขอเสียงสนับสนุนไปยังไอ้เจมส์ที่เออออตามกันไปเป็นปี่เป็นขลุ่ย

“ จริงเหรอวะ  สองคนนี้เป็นแฟนกันเหรอวะ “ 

ไอ้เรย์หน้าสลดถามเพื่อนในโต๊ะเสียงอ่อยเลยครับ

แต่เท่าที่ดู  ผมว่าสองคนนี้ก็ดูสนิทสนมกันจริงๆ นะครับ  มีหยอกล้อกันหัวเราะคิกคัก  เล่นเอาหนุ่มๆ สาวๆ หลายๆ คนในโรงอาหารตอนนี้มองกันอย่างอิจฉาเลยทีเดียว

“ เศร้าไปมึง...  เดี๋ยววันนี้กูไปแดกเหล้าย้อมใจเป็นเพื่อน  ชดเชยที่กูไม่ได้ไปกับพวกมึงวันนั้นด้วย “ 

ผมเอามือตบไหล่มันเบาๆ  และก็ดูเหมือนมันจะถอดใจทันที  เมื่อต้องสู้กับเดือนคณะหล่อๆ อย่างไอ้ธันแบบนี้

จากนั้นบทสนทนาบนโต๊ะระหว่างผมกับไอ้แน๊คและไอ้เจมส์ก็จะเป็นเรื่องนัดกินเหล้ากันคืนนี้เพื่อปลอบใจไอ้คนข้างๆ ผมที่นั่งหน้าหงอยอยู่ตอนนี้ครับ

คุยกันได้สักแปบจู่ๆ เสียงหนึ่งก็ทักผมขึ้นมา

“ โต๊ะว่างมั้ย  ขอเรานั่งด้วยคนได้ป่ะ “

ผมหันไปมองยังที่มาของเสียง..  ชิบหาย...ไอ้ธันครับ  แถมมาพร้อมกับแพรด้วย  แบบนี้ยิ่งเหมือนเหยียบหัวใจไอ้เรย์เพื่อนผมให้จมดินเลยทีเดียว

ผมหันมองมาไอ้เรย์ที่มันเองก็มองสองคนนี้อย่างตะลึงงันอยู่เหมือนกัน  อยากปฏิเสธนะครับ  แต่ที่นั่งข้างๆ ผมมันก็ว่างจริงๆ นั่นแหละ 

ผมควรจะทำไงดีเนี่ย...

ผมหันมองไอ้ธันกับแพรที่ยิ้มส่งมาให้แล้วก็ลำบากใจ

“ นั่งเลย  ที่นั่งยังว่าง “

ผมรีบหันขวับไปมองยังไอ้เรย์ที่เป็นคนเอ่ยปากชวนเสียเอง  พลางถามมันด้วยสายตา  ซึ่งมันก็ส่ายหน้าเล็กๆ ว่าไม่เป็นไรส่งกลับมาให้แค่นั้น

“ ไม่ประกวดเลยไม่ค่อยได้เจอกันต์เลยเนอะ “

 ไอ้หน้าหล่อศัตรูหัวใจเพื่อนผมที่นั่งข้างๆ ยิ้มชวนผมคุยครับ

“ อือ... “ 

ผมตอบไปแค่นั้นครับ  ศัตรูเพื่อนเลยไม่ค่อยสนิทใจที่จะเป็นกันเองสักเท่าไหร่  ชิส์ๆ

“ วันนั้นเรายังไม่ได้เบอร์กันต์เลย  นั้นเราขอเลยละกันนะ “ 

แล้วมันก็ล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาครับ

“ หา...  เห้ย.. จะเอาเบอร์เราจริงอะ “ 

“ อื้ม.. “

“ ให้มันไปเถอะกันต์  ไอ้ธันมันอยากได้ “
 
คราวนี้เป็นแพรที่นั่งฝั่งตรงข้ามพูดขึ้นมาครับ   แต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ  แล้วทำไมไอ้ธันมันต้องมาอยากได้เบอร์ผมด้วย  หรือแค่จะส่งรูปให้เนี่ยนะ...  แต่ดูจากสีหน้ามันสลับกับสีหน้าแพรที่สนับสนุนเต็มที่แล้ว  ผมว่ามันแปลกๆ นะ
 
แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจให้เบอร์มันไปอยู่ดีครับ  แล้วแม่งจะดีใจอะไรกันนักหนาวะ  ยิ้มซะหน้าบานเลย  ทำเอาสาวๆ หลายๆคนในโรงอาหารมองกันเป็นแถว

“ เออแพร..  เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำ  แพรเอาอะไรป่าว “

ไอ้ธันเอ่ยปากถามสาวสวยที่นั่งฝั่งตรงข้ามมันครับ

“ เหมือนเดิม  แต่ออกให้ก่อนนะ “

“ ตลอดอะ  นี่เราต้องเลี้ยงน้ำแกจนจบมหาลัยเลยใช่มั้ยเนี่ย  แฟนก็ไม่ใช่ “ 

ไอ้ธันทำหน้าอิดออดครับ  แต่กลับถูกแพรชี้นิ้วเตือนและบอกไปว่า

“ เดี๋ยวชั้นไม่ช่วยนะ “ 

เท่านั้นแหละครับ  มันก็ยอมบริการให้แต่โดยดี

ว่าแต่....  จากที่ไอ้ธันพูดเมื่อกี้  นั้นก็แปลว่า  สองคนนี้ไม่ได้เป็นแฟนกัน  แถมจากลักษณะที่เห็นแล้วน่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันมากกว่า

ผมหันไปมองไอ้เรย์ที่ข้างๆ ทันทีครับ 

สัด!!  ยิ้มร่าเลยนะมึง

“ ฮิ้ว... ข้าวอร่อยแล้วเหรอวะมึงไอ้เรย์ “ 

ไอ้แน๊คคนแรกเลยครับที่เริ่มแซว  ก่อนจะตามมาด้วยไอ้เจมส์ตามลำดับ  ส่วนผมยังคงงงๆ  แถมรู้สึกเหมือนตัวเองงานจะเข้าแล้วด้วย  เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น  ผมก็ต้องทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ไอ้เรย์มันสิครับแบบนี้...

กินข้าวไปได้สักพัก  สายตาผมก็ไปสะดุดกับเสื้อช๊อปสีกรมท่าที่เปล่งออร่ามาแต่ไกล  ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ  แก๊งจตุรเทพเองครับ  แต่มากันไม่ครบนะครับ  ขาดก็แต่..   ไอ้พี่กิจ..

แต่จะว่าไป  ผมก็ไม่เคยเห็นพี่กิจกับพวกพี่ว๊ากมากินข้าวที่โรงอาหารกันเลยนะครับ  ไม่รู้ไปกินที่ไหนกัน

พวกพี่เขาเดินเข้ามาราวกับนายแบบเสียอย่างนั้น  ซึ่งผมเห็นหลายๆ สายตากำลังแอบมองดูพวกพี่เขาอยู่  โดยเฉพาะพวกสาวๆ ปี 1  และไม่ทันที่ผมจะได้ก้มหน้าสนใจอาหารตรงหน้าต่อ ก็ดันไปสบสายตาเข้ากับพี่พีพอดี  จนพี่เขายิ้มทักมาให้  แถมยังเดินตรงเข้ามาหาอีก  ซึ่งไม่ได้มาแค่พี่พีหรอกนะครับ  เดินมากันครบแก๊งเลย...

งานนี้โต๊ะผมออร่าจับจนสว่างจ้าไปทั้งโรงอาหารแน่ๆ  ทั้งเดือน ทั้งดาว ทั้งเทพ  มากันให้รึ้ม....

“ ไง..  วันนั้นรีบกลับจัง  พี่ว่าจะเลี้ยงปลอบใจเราสักหน่อย “ 

พี่พีพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ  ก่อนที่พวกผมทั้งโต๊ะจะยกมือไหว้พวกพี่ๆ เขาครับ

“ ไม่เป็นไรพี่  ผมออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ไม่ได้เป็นเดือนอะ “ 

“ เห้อ...  เรานี่นะ... นั้นเอาเป็นว่าอาทิตย์นี้ว่างวันไหนเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยง “  พี่พีพูดต่อครับ

“ เอ่อ..  จริงๆ ก็ว่างทุกวันนะพี่  หลังเชียร์อะครับ “

“ เออดี  นั้นเอาเบอร์เรามาหน่อย  เดี๋ยวพี่จะได้โทรนัด “

ทำไมวันนี้เบอร์ผมขายดีจังวะเนี่ย...  คนโน้นก็จะเอา  คนนี้ก็จะเอา 

ผมบอกเบอร์พี่เขาไปเสร็จ  พี่คิมก็พูดต่อขึ้นมาทันทีครับ

“ เป็นไงเรา  หนังสนุกมั้ย “

เอ่อ...  จะตอบยังไงดีหว่า...  คือผมดูไม่จบครับ  หลับไปเพราะเพลียตั้งแต่กลางเรื่องแล้วอะ  แถมยังทำหน้าอายไปพิงไหล่พี่กิจอีก

อย่าต้องให้พูดเลยว่าตอนตื่นมาแล้วเห็นเครดิตหนังขึ้น  ขณะที่หัวผมยังพิงไหล่พี่เขาอยู่นั้น  มันน่าอายแค่ไหน  ไอ้พี่กิจก็ตัวดี  ปลุกน้องสักนิดก็ไม่มี....

“ ก็ดีพี่.. “ 
 
“ อ้าว...  มึงไปดูหนังกับน้องมาเหรอ “  พี่พีทำหน้างงๆ หันมาถามเพื่อน

“ กูป่าว...  ไอ้กิจมันโน่น “

“ ไอ้กิจเนี่ยนะ ! “ 

พี่พีเน้นเสียงถามราวกับเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ

แต่ไอ้คนข้างๆ ผม  มันใช้ศอกกระทุ้งสีข้างผมเบาๆ  พอผมหันไปมอง  แม่งเสือกอมยิ้มส่งมาให้พร้อมกับทำตาแสนรู้ด้วยนะครับ  ผมเลยเอาเท้าผมที่อยู่โต๊ะ  ตื้บมันไปทีนึง

“ ก็เออดิ  ก็มันพาน้องเค้าไปเลี้ยงที่ได้ตำแหน่งไง  คือน้องเค้าเป็นโคสายรหัสเดียวกับมัน “ 

พี่คิมบอกไป  พี่พีเลยพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ ครับ

“ นั้นพวกพี่ไปก่อนนะ  ไว้จะโทรหา “ 

พี่พีพูดจบ  พวกพี่ๆ แก๊งจตุรเทพเทพก็พากันเดินจากไป

“ อะไรวะไอ้กันต์..  กูเป็นน้องรหัส  เป็นลูกเมียหลวงแท้ๆ  พี่เขายังไม่เคยพากูไปเลี้ยงเลย  มึงอะแค่โคสาย  ลูกเมียน้อยชัดๆ  ไมดูแลดีจังวะ “  ไอ้เจมส์มันแขวะผมมาครับ

แต่ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกดีแฮะ...  รู้สึกเหมือนตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นเลย

“ เรื่องแบบนี้มึงต้องดูหนังหน้าด้วย “

ถูกต้องมากไอ้เรย์เพื่อนเลิฟ

“ หน้าหล่อๆ ตี๋ๆ แบบมึงอะ  พี่เขาไม่สนหรอก  มันต้องน่ารักๆ แบบไอ้กันต์นี้  ทั้งหญิงทั้งชายมองกันให้เพียบ “

“ ผัวะ!!! “

ผมตบท้ายทอยไอ้เรย์มันไปทันทีเลยครับ  อุตส่าห์ชมไปเมื่อกี้แท้ๆ

“ น่ารักพ่อง “

“ แต่กันต์ก็น่ารักจริงๆ นะ “ 

ผมหันขวับไปยังคนอีกข้างผมทันที  ก่อนจะเห็นไอ้ธันมันยิ้มว่ามาครับ

แม่ง...  ตกลงนี่ผมมันไม่หล่อใช่มั้ยเนี่ย!!!!


……………………………….

สรุปว่าไอ้เรย์มันยังไฟท์ต่อครับ  แถมยังเซ้าซี้ให้ผมช่วยมันเหมือนเดิม  ที่เพิ่มเติมคือ...

มันยังมั่วบอกมาอีกว่า... ทั้งพี่พีและก็ไอ้ธันต่างก็มาชอบผม....

เออ...  แม่งเห็นใครมาคุยกับผมด้วยหน่อย  เดี๋ยวนี้มันก็เหมาบอกว่าเขามาชอบผมกันหมดแล้วครับ... 

แม่งประสาท....


......................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/01/2561 update chapter 14 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 25-01-2018 12:51:20
เลิกเชียร์ออกมาจากหอประชุมคณะฟ้าก็มืดแล้วครับ  ซึ่งพวกผมว่าจะไปกินข้าวกันหลังมหาลัยฯ ก่อนกลับ

ระหว่างที่กำลังเดินเม้ามอยส์กันออกมาอยู่นั้น  จู่ๆ ไอ้ธันกับเพื่อนสาวคนสวยมันก็เดินเข้ามาหาครับ

“ จะไปไหนกันเหรอกันต์ “

มันยิ้มถามมาครับ  ผมเลยตอบไปว่ากำลังจะไปกินข้าวกันที่หลังมหาลัยฯ

“ พอดีเลย  เรากับไอ้ธันก็กำลังจะไปกินกันอยู่พอดี  นั้นเราไปด้วยกันเลยมั้ย “

“ เอาดิ  คนเยอะๆ สนุกดี “ 

ไอ้เรย์รีบตอบมาทันทีโดยไม่ต้องคิดเลยครับ

“ นั้นไปรถเรามั้ย “  ไอ้เรย์มันเสนอตัวต่อ 

แหม...  เห็นโสดหน่อยแล้วรีบทำคะแนนเลยนะมึง  พอผมหันไปมองไอ้เจมส์กับไอ้แน๊ค  มันก็เลิกคิ้วตอบมาให้  เป็นอันรู้กันครับ

“ เดี๋ยวเราไปกับธันก็ได้ “  แพรว่ามาครับ

“ แต่หลังมอรถเยอะหาที่จอดยากนะ  ไปคันเดียวกันก็ได้  เดี๋ยวขากลับเรามาส่งเอารถที่มอเอง “ 

เอากับมันสิครับ  จะตื้อให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย  แพรมองหน้ากับธันเล็กน้อย  เห็นธันมันพยักหน้ารับ  ก็เลยเป็นอันว่าพวกเรา 4 คนไปรถไอ้เรย์มันครับ  ส่วนคู่หูเจมส์แน๊คก็ไปรถไอ้เจมส์มันเหมือนเดิม

ขณะที่กำลังเดินไปที่รถ  ไอ้เรย์มันก็มากระซิบที่ข้างหูผมครับ  เป็นคำขอเชิงสั่งว่าให้ผมนั่งหลังกับไอ้ธันมัน...

เออกูรู้หน้าที่กูดี  ไอ้เพื่อนเลว....

“ นั้นแพรนั่งหน้าละกัน  เดี๋ยวเรานั่งหลังเอง “ 

ผมยิ้มบอกไปครับ  แพรเองก็ยิ้มตอบกลับมาให้ด้วยเช่นกัน

เอาวะ... ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของเพื่อน  มันจะใช้ผมทำอะไร  ผมก็ยอมทั้งนั้นแหละคร้าบ


.......................................


ผมมากินกันยังร้านเดิม  ซึ่งคนก็ยังคงเยอะมากเหมือนเคย  แต่ก็ยังโชคดีที่มีที่ว่างพอสำหรับพวกผม 6 คน 

ผมที่นั่งข้างไอ้ธันมองออกไปรอบๆ ร้าน  เห็นสายตาหลายคู่มองมาที่โต๊ะเราเยอะมาก  ก็แหงละครับ  หล่อๆ สวยๆ มารวมกันอยู่เต็มโต๊ะซะขนาดนี้

คุยกันไปคุยกันมาผมถึงรู้ว่าไอ้ธันกับแพรเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว  และมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกันตลอด  จนมันชินและไม่ค่อยจะแก้ข่าวกันสักเท่าไหร่  แต่พอผมถามย้ำไปว่า “ แน่ใจเหรอ “  ไอ้ธันมันก็รีบปฏิเสธขึ้นมาทันทีเลยครับ

เท่าที่คุยดูไอ้ธันมันก็นิสัยดีนะครับ  ไม่หยิ่ง  เฟรนลี่มากๆ เลย  ส่วนแพรนี่ก็น่ารักครับ  ออกจะห้าวๆ ตลกๆ เสียด้วยซ้ำไป  ผิดกับรูปลักษณ์ที่เห็นเอามากๆ  ซึ่งนี่ยิ่งทำให้ไอ้เรย์มันชอบหนักเข้าไปกว่าเดิมอีก

ยังไม่ทันที่อาหารจะมาถึงโต๊ะ  นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ปี 3 กลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาภายในร้าน  และแล้วโฟกัสสายตาก็เบนจากกลุ่มพวกผมไปยังพวกรุ่นพี่ที่กำลังเดินเข้ามาทันที

ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ  แก๊งเดิมเลยครับ  จุตรเทพแห่งวิศวะ  แถมคราวนี้ยังมากันครบทีมเลย  มีพี่กิจคนเดียวที่ใส่ชุดนักศึกษา ( เพราะประชุมเชียร์ ) ส่วนพี่คนอื่นๆ ใส่ช๊อปกันหมด

มันเป็นความเข้ากันที่ลงตัว  เพราะแต่ละคนก็คนละสไตล์กันเลย

พี่บิวนี่ก็หล่อใสๆ สไตล์เกาหลี

พี่คิมก็หล่อทะเล้น ขี้เล่น เป็นกันเอง

พี่พีนี่หล่อแบบแมนๆ เข้มๆ นักกีฬา

ส่วนหัวหน้าแก๊งนี่ก็..  หล่อขั้นทำลายล้าง... ( นี่ขนาดชอบทำหน้าเบื่อโลกไม่สนใจคนรอบข้างอยู่บ่อยๆ นะ  แม่งยังเท่ห์เลยอะ )

ไม่รู้ว่าผมมองไปยังพวกพี่เขานานแค่ไหน  มารู้ตัวอีกทีสายตาพวกพี่ๆ เขาก็จับมาที่กลุ่มพวกผมกันหมดแล้ว  ก่อนจะเดินเข้ามาหา

สงสัยงานนี้ร้านป้าคงเป็นเหมือนกองประกวดดาวเดือนกันแน่ๆ ครับ  รวมกันมาแต่พวกหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น..

“ เจอกันอีกแล้วนะน้องกันต์ “ 

พี่คิมทักเป็นคนแรกเลย  ในขณะที่พี่บิวกับพี่พีก็ส่งยิ้มมาให้ด้วยเช่นกัน  มีก็แต่พี่กิจเนี่ยแหละครับ  หน้านิ่งมีฟอร์มเหมือนเดิม  จากนั้นพวกผมทั้งโต๊ะก็ยกมือไหว้พวกพี่ๆ เขา

“ แวะมากินข้าวกันก่อนกลับอะครับ “ 

ผมยิ้มตอบไป  ก่อนจะเหลือบไปมองยังพี่กิจ  ไม่รู้ทำไมถึงชอบมองไปทางนั้นจังครับ...

“ แล้วนี่เราพักอยู่แถวไหนเนี่ย  และกลับไง “  พี่พีถามผมต่อ

“ ก็..  แถวๆหน้ามอครับ  เดี๋ยวให้เพื่อนผมไปส่ง “

“ อ้าวเหรอกันต์...  เราต้องไปทางนั้นพอดี  ส่งแพรที่หอน่ะ  เดี๋ยวกันต์กลับกับเรานะ  เราไปส่งเอง “

จู่ๆ ไอ้ธันมันก็เสนอตัวขึ้นมาครับ

“ น้อง..  ที่เป็นเดือนปีนี้ใช่มั้ย..  ไม่ต้องก็ได้  น้องไปส่งแฟนน้องเถอะ  เดี๋ยวพี่ไปส่งกันต์มันเอง “

พี่พีพูดขึ้น

“ ไม่ใช่แฟนครับ! “

“ อ้าวเหรอ...  แต่ไม่เป็นไร  เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลา  พี่ผ่านทางนั้นอยู่แล้ว “

“ เดี๋ยวๆ นะมึงไอ้พี  หอมึงไม่ได้อยู่แถวนั้นนี่หว่า “  พี่คิมแย้งขึ้นมาครับ

“ วันนี้กูมีธุระแถวนั้น... “

เอ่อ...  ทำตัวไม่ถูกเลยครับ  ที่อยากจะบอกคือ...  จริงๆแล้วผมจะให้ไอ้เรย์มันไปส่งผมเองนะครับ

แต่แล้วน้ำเสียงนิ่งๆ เย็นๆ ก็พูดขึ้น...

“ น้องเขาพักที่คอนโดกู  เดี๋ยวให้มันกลับกับกูเองละกัน “

แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเลยครับ..  หนำซ้ำทุกคนยังหันไปมองยังคนพูดที่ยังคงทำหน้านิ่งเบื่อโลกอยู่ตอนนี้

“ อ้าวน้องเขาอยู่คอนโดเดียวกับมึงเหรอวะ “  พี่บิวถามขึ้นมาบ้าง

“ ชั้นไหน  ห้องไหนวะ “

ก็ชั้นเดียวห้องเดียวกับไอ้คนพูดนั่นแหละครับพี่คิม

“ แม่งไม่เห็นบอกพวกกูเลย “ 

พี่พีพูดเสริม  ว่าแต่พวกพี่ๆ จะอยากรู้กันไปทำไมคร้าบ...  ปีหนึ่งนั่งหน้าสลอนกันอีกหลายคนบนโต๊ะนี้  แถมน่าสนใจกว่าผมตั้งเยอะ

พี่กิจนิ่งๆ ไม่ตอบอะไร

“ แต่มึงเอามอไซต์มา  ให้กูไปส่งนั่นแหละดีแล้ว  ไม่ลำบากน้องมันด้วย “

พี่พีพูดต่อ  ผมเห็นพี่กิจเหลือบตามองพี่พีอยู่เล็กน้อยก่อนจะหันมามองที่ผม...

“ ก็ตามใจ... “

สั้นๆ  และเย็นชาตามไสตล์ท่านล่ะครับ...

ชิส์... ไม่กลับด้วยก็ได้

จากนั้นพี่กิจก็เดินแยกออกไปนั่งยังโต๊ะที่ว่างอยู่ข้างๆ โต๊ะพวกผม  ก่อนที่พี่ๆ คนอื่นจะเดินตามกันไป

“ เชี่ย..  เพื่อนกูฮอตสัด “
 
ไอ้เรย์มันขยับหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ  ผมเลยกระทืบเท้ามันที่ใต้โต๊ะแรงๆ ไปทีนึง  แทนคำขอบคุณที่มันแซวมา

ฮอตบ้าอะไร..  นี่ก็เพื่อน  นั่นก็พี่  ปฏิเสธก็ไม่ได้...  มึงลองเป็นกูดูมั้ยล่ะ

แถมไอ้คนที่นั่งมุมโต๊ะข้างๆ นั่นก็ยังมีท่าทีไม่สนใจผมอีก  ทีวันเสาร์ที่ผ่านมาละอยากให้ผมอยู่ด้วย  พอมาตอนนี้กลับถีบหัวส่งให้ผมไปกับคนอื่น

วันหลังนะ...  ขอให้ผมไปไหนมาไหนด้วย..  อย่าหวังเลยเหอะ..

......ถ้าผมทำได้นะ





TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 25-01-2018 13:05:14
พี่กิจ เกิดงอนรึป่าวเนี่ย  อิอิ
น้องมีแต่คนจีบ 



หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 25-01-2018 14:30:35
อิพี่ก็มัวแต่ฟอร์ม น้องยิ่งเนื้อหอมอยู่ ระวังจะแห้วนะค๊าาา กินเข้าไปอ่ะฟอร์มอ่ะ 5555
นี่ถ้าไม่ใช่สกิลพระเอก คงแด๊กแห้วแล้วล่ะ ฟอร์มเกิ๊นนนน  :angry2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-01-2018 14:35:07
กันต์โดนจีบยังไม่รู้ตัวอีกนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-01-2018 15:33:42
 :L2: :L1: :pig4:

งอนแล้ว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nick_June ที่ 25-01-2018 19:30:24
อิกิจ..ปากแข็ง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-01-2018 21:34:46
น้องขายดีจริงๆๆๆๆ อิอิออิอิ อีพี่กิจงอนไปละ คู่แข่งเยอะนะอีพี่กิจ รีบทำคะแนนซะละ ระวังคนอื่นคาบไปแดก
เขียนได้อ่านง่าย กระชับดีครับ เอาใจช่วยคนแต่งนะครับ สู้ๆ ครับ สุขภาพแข็งแรงนะครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 25-01-2018 23:03:50
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-01-2018 23:19:03
สังวรตัวเองด้วยนะอีพี่กิจ อย่านึกว่าอีน้องจะไม่ฮอต เป็นไงละร้อนแรงออกซะขนาดนั้น  :laugh:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 26-01-2018 03:44:24
 :o8: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-01-2018 04:09:19
สนุกๆๆ ตกลงน้องจะได้กลับกับใคร
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-01-2018 10:36:10
รอๆๆ ว่าจะได้กลับกับใคร
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 26-01-2018 11:43:09
เริ่มหึงกันแล้วววว รอค่าาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 26-01-2018 12:57:16
รีบพาน้องสก๊อยบึ่งกลับห้องหอด่วนเลย
น้องโซฮอตเหลือหลาย
 :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-01-2018 16:10:57
น้องกันต์งานดีมากๆ

มีแต่คนมารุม...

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-01-2018 21:17:41
Chapter 16




กิจ ‘ s  Part




ไอ้กันต์นี่มันฮอตขนาดนี้เลยเหรอวะ  ทั้งไอ้พี  และไอ้น้องธันด้วย  แถมแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาทั้งนั้น 

แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือไอ้พี  เห็นมันนิ่งๆ ขรึมๆ แบบนี้นะครับ  แต่เวลามันเล็งใครไว้แล้วมันไม่ใครพลาดเลย

ส่วนไอ้น้องธัน...  ถ้ามันยังไม่เลิกเกาะแกะ  รับรองมันเจอผมเล่นในห้องเชียร์แน่

ผมนั่งหน้านิ่ง  ซึ่งจริงๆ ก็เป็นหน้าปกติของผมอยู่แล้วนะครับ  อยู่ที่มุมโต๊ะในขณะที่กำลังรออาหารที่สั่งไว้

รู้สึกเซ็งอยู่นิดๆ   ทำไมไอ้กันต์มันไม่รู้จักปฏิเสธคนบ้าง  ใครจะลากไปไหนมึงก็ไปหมดเลยเหรอวะ  แถมควรจะกลับกับผมแท้ๆ  แม่งก็ไม่ปฏิเสธพวกนั้นไป

กลับห้องไปก่อนคงต้องได้อบรมกันสักหน่อยแล้วละครับ


............................


ที่คอนโด

ผมกลับมาถึงห้องเกือบจะชั่วโมงนึงแล้ว  ไอ้กันต์มันก็ยังไม่กลับมาเลยครับ  ทั้งๆ ที่ออกร้านมาพร้อมกันแท้ๆ

ผมที่นั่งที่โซฟาห้องรับแขกวางไอแพดลงตรงหน้าก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเลือกหาเบอร์โทรไอ้กันต์มันครับ  เพiาะนี่มันก็นานเกินไปแล้วนะครับ  ไม่รู้ว่าไอ้พีแม่งจะพาน้องมันไปเถรไถลที่ไหนรึเปล่าก็ไม่รู้

“ แกร๊ก! “ 

เสียงประตูห้องเปิดออกก่อนที่ผมจะกดโทรออก  ไอ้กันต์มันเดินสะพายเป้หน้าชื่นตาบานเข้ามาเลยทีเดียว

“ ไปไหนมา! “

ผมถามขึ้นพลางลุกขึ้นเดินเข้าไปหามัน

“ พี่พีพาไปกินขนมต่อ “

“ แล้วทำไมไม่โทรมาบอก “

“ อ้าว...  แค่กินขนมเองพี่  ไม่เห็นต้องโทรรายงานเลย  ปกติผมไปกินกับเพื่อนก็ไม่เห็นพี่ว่าไรเลยนี่ “

มันทำหน้าบูดว่ามาครับ  แต่ก็จริงอย่างที่มันว่ามานะ  ปกติมันเคยกลับดึกกว่านี้ผมก็ยังไม่สนใจเท่าไหร่เลยครับ  อาจจะเป็นเพราะมันไปกับไอ้พีก็ได้ครับ  เลยไม่ค่อยไว้ใจ...

“ แล้วชอบกลับกับคนอื่นนักรึไง “

“ ก็ไม่นะ  ทีแรกก็ว่าจะให้ไอ้เรย์มันมาส่ง   แต่เห็นไอ้ธันกับพี่พีว่ามาซะขนาดนั้นใครจะกล้าปฏิเสธอะ “

“ แล้วทีตอนกูบอกให้มึงกลับกับกูทำไม... “ 

ไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคมันก็สวนขึ้นมาทันทีเลยครับ

“ ก็พี่ยอมคนอื่นเค้าแล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะ “

พูดไม่ออกเลยครับ...  แถมมันยังเลิกคิ้วรอคำตอบจากผมอยู่  พอผมไม่ตอบอะไรมันก็มองผมตาขวางก่อนจะเดินเลยผมเข้าไปในห้อง...

จากที่คิดว่าจะอบรมมันสักหน่อย  กลายเป็นผมเองที่ถูกมันตำหนิเอาเสียอย่างนั้น...

เห้อ....  ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้ผมถึงยอมไอ้เด็กนี่มันบ่อยๆ นะ  แถมแม่งยิ่งดุขึ้นทุกวันอีกด้วย



.............................................................



เช้าวันต่อมา

ผมที่ออกห้องมาก่อนไอ้กันต์กำลังรอมันอยู่ในรถที่หน้าคอนโด 

คือถ้าไอ้พีคิดจะมาส่งมันอีก  มันจะได้ไม่มีข้ออ้างเรื่องความสะดวกสบายของน้องมันแบบเมื่อวานครับ

ว่าแต่... แล้วนี่ผมทำไมต้องเอาใจเด็กมันขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย

ผมเห็นไอ้กันต์มันเดินออกมาที่หน้าคอนโด  ผมก็รีบกดแตรเรียกมันทันทีครับ  ก่อนจะลดกระจกลงเพื่อเรียกให้มันขึ้นรถมา

สงสัยว่าช่วงนี้ผมคงจะต้องใช้รถยนต์และคอยรับคอยส่งมันไปแบบนี้ก่อนละมั้งครับ  ไม่อย่างนั้นมีหวังโดนเสือโดนจระเข้งาบกันไปพอดี

“ พี่คิดไงให้ผมติดรถไปด้วยเนี่ย “

“ ทางเดียวกันก็ไปด้วยกันดิวะ “

“ ปกติไม่เห็นจะอยากให้ผมไปด้วยเลย “

“ แล้วทำไม..  ไปกับกูไม่ชอบรึไง “

“ เปล่า... “

แล้วมันก็ทำหน้าบึ้งก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่าง  ไม่มองหน้าผมอีกครับ

แม่งเอาใจยากกว่าผู้หญิงจริงๆ 

จากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย  จนกระทั่งมาถึงลานจอดรถในคณะ

“ เลิกเชียร์แล้วไปรอกูที่ร้านกาแฟข้างมอ  กูประชุมฝ่ายเชียร์เสร็จแล้วเดี๋ยวจะไปรับ “

ผมบอกไปครับ  มันเลยหันมามองงงๆ

“ แต่..  วันนี้พี่พีบอกว่าจะพาไปเลี้ยงเหล้านะพี่  พี่เขาไม่ได้บอกพี่กิจเหรอ “

อ้าวเห้ย!  ทำไมผมยังไม่รู้เรื่องเลย  สงสัยเดี๋ยวไอ้พีมันคงจะบอกผมตอนเรียนละมั้งครับ

“ นั้น...  ค่อยว่ากัน  เดี๋ยวกูโทรหาอีกทีนึง “

มันพยักหน้าเล็กๆ  ก่อนจะขอบคุณผมแล้วออกรถไปครับ


...................................


ที่ตึกภาควิชาอุตสาหการ  คณะวิศวกรรมศาสตร์

ผมเดินเข้ามาในห้องเรียนชั้น 3 ของตึกภาค  เช้านี้มีเรียนวิชา Work Study

เข้าห้องเรียนมาผมก็ตรงไปยังที่นั่งประจำหลังห้อง  ซึ่งตอนนี้พวกเพื่อนๆ แก๊งผมมันมากันครบแล้ว  ดีเลยครับ  ผมจะได้ถามไอ้พีมันเรื่องที่นัดกินเหล้าด้วย

“ เฮ้ยไอ้พี  วันนี้มึงนัดน้องมันกินเหล้าเหรอวะ “

ผมพูดขึ้นทันทีที่เดินมาถึงเก้าอี้ครับ  ก่อนจะวางเอกสารการเรียนลงและแทรกตัวเข้าไปนั่ง

“ เออดิ  นี่กูกำลังว่าจะบอกมึงอยู่พอดี  จะได้ถามว่าคืนนี้จะไปจัดกันที่ร้านไหนดี “ 

มันตอบมาอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติครับ  แต่ผมนี่สิ..  ไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติเลยครับ 

ถ้าไอ้กันต์มันเมา  แล้วไอ้พีมันจะไปส่ง 

หรือ... 

โอ้ย!  เหล้าเข้าปากเมาเมื่อไหร่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ครับ

ผมนิ่งคิดอยู่แปบนึงก่อนจะพูดออกไป

“ มากินที่ห้องกูละกัน “

“ โห..  ไม่เอา..  แล้วกูจะไปเล็งสาวที่ไหนวะ “ 

ไอ้คิมมันสวนขึ้นมาทันทีเลยครับ  ไอ้นี่แม่งก็หื่นได้ตลอด....

“ มึงก็พาเด็กมึงมาดิ  ครั้งนี้กูไม่ว่า  แต่ห้าม..  มีไรที่ห้องกูเด็ดขาด “

“ เด็กไหนวะ...  ตอนนี้กูโสด “ 

ไอ้คิมทำหน้าเซ็งว่ามาครับ

“ เอ๊า...  ก็น้องปีหนึ่งที่กูเจอเมื่อวันก่อนไง “

“ เลิกแล้ว “

สาด!!  ปิดจ๊อบไว  เลิกไวกว่าที่ผมคิดไว้อีก  ไอ้เลว...

“ เออน่า  มาห้องกูเถอะ  ช่วงนี้กูเหนื่อย  ขี้เกียจไปร้านว่ะ “

โน้มน้าวพวกมันอยู่สักพักก็เป็นอันตกลงครับ  อย่างน้อยอยู่ที่ห้องผมมันก็ปลอดภัยและอยู่ในสายตาของผมตลอดเวลา

จากนั้นเลิกเรียนช่วงเช้าเสร็จ  ผมก็กดโทรไปบอกไอ้กันต์มันทันที  และให้มันไปรอผมที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ เหมือนเดิม


................................


กว่า 2 ทุ่มครึ่งที่ผมขับรถไปจอดเทียบบริเวณหน้าร้าน Miracle Coffee ข้างมหาลัยฯ  ก่อนจะเดินเข้าไปยังภายในร้าน

ผมมองหาไม่นานก็เห็นมันครับ  นั่งอยู่มุมร้านเล่นโทรศัพท์อยู่  บนโต๊ะมีนมเย็นกับขนมเค้กที่เกือบจะหมดชิ้นแล้ว

ผมเดินไปสั่งอเมริกาโน่กับเค้กช๊อคโกแลตมาอีกชิ้นนึงที่เค้าท์เตอร์  ก่อนจะเดินเข้าไปหามัน

“ มานานยัง “

ผมถามขึ้นพลางวางแก้วกาแฟและจานขนมลงบนโต๊ะ  ไอ้กันต์มันเงยหน้าจากจอโทรศัพท์มามองผม  ก่อนจะกดปุ่มปิดเครื่องและวางลงบนโต๊ะ

“ สักพักแล้วพี่  เลิกเชียร์แล้วให้ไอ้เรย์มันมาส่ง “

ผมพยักหน้ารับรู้เล็กๆ  เท่าที่ได้ยินมันพูดถึงเพื่อน  ดูมันคงจะสนิทกับเพื่อนคนที่ชื่อเรย์มากเลยทีเดียว

ผมเลื่อนจานเค้กไปให้มัน  มันมองหน้าผมเป็นเชิงถามว่าอะไร

“ กูเลี้ยง  เห็นขนมมึงใกล้จะหมดแล้ว “

“ ขอบคุณครับ  ทีงี้ละใจดีจัง “

“ เอ๊า..  ก็บอกว่ากูใจร้ายไม่ใช่เหรอ  ทีกูทำดีด้วยก็เสือกไม่ชอบอีก  นั้นเอามานี่...กูกินเอง “

ผมพูดจบก็เลื่อนจานเค้กมาไว้ที่ตัวเองเลยครับ

“ ได้ไง..  เลี้ยงผมแล้ว  เอามานี่เลย “ 

แล้วมันก็แย่งคืนไปทันที  ก่อนจะรีบเอาช้อนตักเข้าปาก  เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ 

น่ารักโครตๆ  ดูหน้ามันสิครับ  อย่างกับเด็กเลยอะ

“ แล้วไม่รีบกลับเหรอ “ 

“ ไม่อะ  นัดไว้ 4 ทุ่ม “

มันพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ  ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินขนมต่อ  ผมเหมือนจะเห็นมันยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาด้วยนะครับ


....................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/01/2561 update chapter 15 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-01-2018 21:33:08
ที่คอนโด

นี่ก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้วครับ  กว่าที่พวกผมจะกลับเข้ามาถึงห้อง  คือเราแวะซื้อเครื่องดื่มและกับแกล้มที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ นี้ก่อนกลับมาอะครับ

กันต์มันเข้าไปอาบน้ำ  ส่วนผมก็จัดแจงเครื่องดื่มและกับแกล้มมาไว้ที่โต๊ะที่โซฟา  ไม่นานเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น  พอเปิดไปก็เจอไอ้คิมมาพร้อมกับไอ้บิวครับ

พวกมันเคยมาห้องผมบ่อยแล้ว  เลยทำตัวกันตามสบายราวกับเป็นห้องของตัวเองไปแล้ว  เพราะปกติเวลาติวหนังสือ  กินเหล้า  ก็มักจะไม่พ้นห้องผมอะครับ

ภายในห้องคลอด้วยเพลงเบาๆ ชิลๆ  หลี่ไฟลงให้สลัวจนเกือบมืด  พร้อมั้งเปิดม่านออกให้เห็นวิวตึกสูงด้านนอกเพื่อสร้างบรรยากาศครับ

สองคนนั้นมาถึงก็จัดแจงหาแก้วของตัวเองเลยครับ  ผมตามลงไปนั่งด้วยยังโซฟาเดี่ยว  ตอนนี้ก็ขาดแต่ไอ้พีคนเดียวเท่านั้น  แต่ไม่ต้องให้รอนาน  มันก็มาครับ  พร้อมเหล้าในมืออีกขวด 

นี่มึงลืมกันไปแล้วเหรอว่าพรุ่งนี้ก็ยังต้องไปเรียนนะเว้ย...

มาถึงไอ้พีก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง  ผมรู้ว่ามันหาอะไรครับ  จากนั้นมันก็ถามขึ้น

“ แล้ว...  กันต์มันยังไม่มาเหรอวะ “

นั่นไงครับ  ไม่ผิดจากที่ผมคิดเลย

“ แก๊ก!! “

เสียงประตูห้องนอนไอ้กันต์มันเปิดออก  ในขณะที่ทุกสายตาหันไปจับจ้องยังคนที่กำลังออกมา

ไอ้กันมันใส่เสื้อยืดหลวมๆ หน่อย กับ กางเกงขาสั้น... ขอบอกว่าสั้นจริงๆ ครับ  สั้นจนเห็นขาเนียนขาวของมันเลย
 
ก็เข้าใจนะครับว่ามันคือชุดนอน  แต่ท่ากลางดงหมาป่าแบบนี้  มันจะกลายเป็นลูกแกะไปน่ะสิครับ

“ อ้าวพี่ๆ หวัดดีครับ มากันแล้วเหรอ “ 

มันทำหน้ามึนๆ ถามมาในขณะที่หลายๆ สายตายังคงตะลึงกับความขาวและเนียนของมันอยู่ตอนนี้

มันเดินเข้ามาที่ห้องรับแขก  ไอ้คิมและไอ้บิวขยับตัวออกให้มันนั่งด้วยกันสามคนที่โซฟาใหญ่  ส่วนผมกับไอ้พีนั่งกันที่โซฟาเล็กคนละตัว

“ นี่...  น้องอยู่ห้องเดียวกับไอ้กิจมันเหรอ “

ไอ้คิมถามขึ้นมาครับ  ซึ่งสีหน้าแต่ละคนดูจะแปลกใจเอามากๆ เลย  ที่เห็นว่าไอ้กันต์มันอยู่ห้องนี้

“ ครับพี่ “

“ ไม่เห็นบอกพวกกูเลยวะไอ้กิจ “  ไอ้บิวถามผมต่อทันที

“ ก็..  ไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นอะไรนี่หว่า.. “

“ แล้วพวกมึงสองคน “  ไอ้คิมถามอีก  พลางชี้มือไปมาระหว่างผมกับไอ้กันต์มันครับ

“ เห้ย!!  บ้าเหรอ..  แม่กูกับแม่มันรู้จักกัน  ก็เลยฝากกูมาเนี่ยแหละ “

“ จริงๆ พี่เขาโดนบังคับต่างหากพี่คิม  วันแรกพี่เขาก็เกือบจะไล่ผมออกห้องไปนอนข้างถนนแล้วด้วย “

ดูมันสิครับ  ทำเป็นฟ้องนะมึง  แถมพูดจาซะเกินจริงด้วย

“ ไอ้เลว!!! “

ไอ้คิมกับไอ้บิวด่าผมพร้อมกันทันที  โดยไม่ได้นัดหมายเลยครับ  นี่พวกมึงเชื่อไอ้เด็กนี่เหรอว้า!!

แม่งดูหน้ามันตอนนี้สิครับ  ยิ้มขำผมอยู่เนี่ย  พอมีพวกแล้วทำเป็นเก่งนะ...  เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย หึๆๆ

“ พวกมึงก็เชื่อเด็กมันเนอะ “

ผมส่ายหน้าให้ไป  ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปอาบน้ำครับ


...........................


พอกลับออกมาอีกที... 

เชี่ย!! 

พวกแม่งกำลังจะมอมน้องมันครับ  แถมดูตาไอ้กันต์มันสิ  เยิ้มเชียว... 

“ พวกมึงไปมอมอะไรน้องมันเนี่ย “ 

ผมถามขึ้นขณะนั่งลงไปยังโซฟาตัวเดิมของผม

“ มอมอะไร  น้องมันคออ่อนเอง “ 

ไอ้คิมปฏิเสธมาครับ  แต่ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อมันหรอก

“ ว่าแต่งานเปิดโลกชมรมศุกร์นี้  เราจะเข้าชมรมอะไร “ 

ไอ้พีถามขึ้นถึงงานวันศุกร์นี้ครับ  ที่จะให้ชมรมต่างๆ มาออกบูธเชิญชวนคนไปเข้าชมรมกันครับ

“ ผมยังไม่รู้เรื่องงานเลยพี่  ว่าแต่..  มีชมรมอะไรแนะนำบ้างมั้ยครับ “

“ สนใจเข้าชมรมลักบี้กับพี่มั้ยล่ะ “

“ มึงนี่ก็ไม่คิดเลยนะเว้ยไอ้พี  นี่มึงดูหุ่น  ดูหน้าตาน้องมันซะก่อน  เข้าลักบี้ไปกระแทกใครเขาได้  แถมยังจะเสียของหมด “

ไอ้คิมว่ามาก็ถูกครับ  เอาไอ้กันต์ไปชนนี่ก็เหมือนเอาไม้จิ้มฟันไปงัดเรือดำน้ำ

“ มาชมรมบาสกับพี่ดีกว่าน้อง  ไอ้กิจก็อยู่ด้วยนะ  แถมมันเป็นรองประธานชมรมด้วย  เข้ามานี่รับรองสาวๆ เข้าหาเพียบ “

ไอ้คิมว่ามาต่อครับ  แต่ผมว่านะอย่างไอ้กันต์นี่คงไม่ใช่สาวๆ ละครับที่เข้าหา  เพราะดูจากตอนที่มันประกวดสิครับ  ส่วนใหญ่ที่โห่แซวมันก็มีแต่หนุ่มๆ กันทั้งนั่น

“ ถ้าไม่ชอบมาชมรมถ่ายภาพกับพี่ก็ได้นะกันต์ “ 

อันนี้ไอ้บิวชวนด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ ตามสไตล์มันครับ

“ แต่อย่าลืมเข้าชมรมจิตอาสาด้วยล่ะ  จะได้ไปออกค่ายทำประโยชน์กัน  พวกพี่นี่เข้ากันทุกคน “ 

ไอ้พีเสริมต่อในขณะที่ไอ้กันต์ดูจะยังเหรอหราตัดสินใจไม่ถูกกับคำเชิญของแต่ละคน  ผมกระดกเหล้าที่เหลือในแก้วเข้าปากจนหมด  ก่อนจะพูดขึ้นต่อบ้าง

“ มึงจะเข้าชมรมอะไรก็ได้นะ  แต่ชมรมเชียร์ของคณะนี่มึงเลี่ยงไม่ได้  กูใส่ชื่อมึงลงไปแล้ว “ 

มันทำหน้าเหวอหันมามองผมพร้อมๆ กับเพื่อนๆ ในแก๊งผมครับ

“ ก็...  พวกคนในชมรมเห็นว่ามันหน้าตาพอไปวัดไปวาได้  ก็เลยจะให้มาเป็นลีดวันงานสปอร์ตเดย์ปีนี้อะ “ 

ผมให้เหตุผลไป  ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้ว  ยังไม่มีการใส่ชื่อหรือพูดคุยอะไรกันทั้งนั้นเลยครับ  ก็แค่อยากดึงตัวมันมาเอาไว้ก่อนก็แค่นั้น 

แล้วไง..  ก็ผมมีอำนาจนี่  ในฐานะประธานชมรมเชียร์คณะวิศวกรรมศาสตร์

“ อะไรกันพี่กิจ  ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย “  มันทำหน้าอิดออดว่ามาครับ

“ มึงไม่มีสิทธิ์เลือก  นี่เป็นชมรมของคณะไม่ใช่มหาลัยฯ  ดังนั้นมึงต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์เพื่อคณะเราเว้ย “

เหตุผลข้างๆ คูๆ ของผม ก็ทำให้มันยอมได้ด้วยแฮะ  ซื่อ(บื่อ)ซะจริง

“ เอาน่า  น้องมันจะเข้าอะไรก็แล้วแต่  แต่วันนี้  มันต้องเจอเครื่องดื่มสูตรพิเศษของกลุ่มเราเว้ย “

ไอ้คิมพูดจบมันก็พยักพเยิดกับไอ้บิวก่อนจะลุกจากโซฟาไปยังห้องครัว  และกลับมาพร้อมถังใส่น้ำแข็งใบเล็กและเครื่องดื่มต่างๆ มาวางไว้ที่โต๊ะ

จากนั้นไอ้คิมมันก็เริ่มต้นทำเครื่องดื่มสูตรพิเศษของกลุ่มเราทันทีครับ  เริ่มจากเหล้าลงไปก่อน  ตามด้วยส่วนผสมต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นวอตก้า  น้ำแดง มะนาว และอื่นๆ...  ดูเหมือนจะผสมกันมั่ว  แต่สุดท้ายก็ได้เครื่องดื่มสีแดงในถังน้ำแข็งเย็นๆ  ที่รสชาติอร่อยมาก  กินง่าย..  แต่ก็เมาง่ายชิบหายเลยครับ

“ น้องกันต์ก่อนเลยครับ “

มันเลื่อนถังเครื่องดื่มที่ใส่หลอดลงไป 5 อันให้น้องมันครับ  ผมกับไอ้พีมองอย่างหวั่นๆ  เพราะรู้ว่าส่วนผสมนี้ทำคนเมาง่ายๆ มานักต่อนักแล้ว

ไอ้กันต์เริ่มดูดขึ้นมาอึกหนึ่ง  พอมันกลืนลงไปเห็นมันทำหน้าแปลกๆ เล็กน้อย  ก่อนจะเผยรอยยิ้มขึ้นมาแล้วก็ก้มลงไปดูดต่ออีกหลายอึกเลยครับ  ทำเอาไอ้คิมและไอ้บิวอดขำขึ้นมาไม่ได้  ท่าทางพวกมึงนี่คิดจะมอมน้องมันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย

“ อร่อยใช่มั้ยล่ะ “  ไอ้คิมถามขึ้น

“ โครตๆ เลยพี่  กินง่ายด้วย “

แล้วเดี๋ยวมึงจะรู้....

จากนั้นไอ้คิมก็เสนอเกมหมุนขวดแดกเหล้าขึ้นมาครับ  คือง่ายๆ เลย  หมุนขวดเหล้าไปตกที่ใคร  คนนั้นก็กินเหล้าในถังน้ำแข็งไป

เล่นไปได้สักพักเหล้าผสมก็หมดถัง  ไอ้พวกผมนี่ไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอก  แต่ไอ้กันต์นี่สิครับ  คอพับคออ่อนไปแล้ว..

“ กูว่าให้น้องมันไปนอนก่อนมั้ยวะ  ท่าทางมันจะไม่ไหวแล้ว “ 

ผมพูดขึ้น  แต่....

“ ม้ายยยอาววว....  เล่นต่อๆ  พี่คิมไปชงเหล้ามาเพิ่มเลย “

แม่งมีโวยวายครับ  เมาแล้วไง....  หน้าแดงหูแดงไปหมดแล้วเนี่ย

แต่... เดี๋ยวมึง  เห้ยๆๆ!!!

มันเอาหน้าเข้าไปซบไหล่ไอ้บิวที่นั่งข้างๆ ทันทีครับ  ซึ่งไอ้บิวได้แต่หันมามองน้องมันแล้วยิ้มๆ

ส่วนตัวแล้วผมไม่ห่วงไอ้บิวมันหรอกครับ  แต่ที่ไม่ค่อยไว้ใจก็ไอ้คนที่ลุกจากโซฟาตัวเองไปนั่งแทนที่ไอ้คิมที่ไปชงเหล้ามาเพิ่มมากกว่า

กูรู้นะว่ามึงหวังอะไรไอ้พี....

ไอ้คิมกลับมาพร้อมเครื่องดื่มที่ผสมเสร็จก่อนจะทำหน้าเหวอเมื่อเห็นสภาพไอ้กันกำลังนอนกระแซะไอ้บิวอยู่  แถมที่นั่งตัวเองก็ถูกไอ้พียึดไปแล้วตอนนี้   มันโวยวายไอ้พีว่าฉวยโอกาสอย่างนั้นอย่างนี้  ซึ่งก็จริงของมันนะครับ  อันนี้ผมเห็นด้วย

จากนั้นไอ้พีก็ปลุกไอ้กันต์ขึ้นมาเล่นต่อ  และถึงจุดนี้เอง  ผมจึงรู้ว่าเวลาที่มันเมานี่อันตรายสุดๆ ครับ  เพราะมันจะขี้อ้อนเอามากๆ  แถมอ้อนแบบไม่เลือกหน้าด้วยนะครับ  หน้าก็แดงระเรื่อ  แถมตาก็เยิ้มซะขนาดนี้  เข้าใกล้ใครแม่งก็ชอบใจกันทั้งนั้น...

“ พอแล้วๆ!!  เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่งก็ลุกไปเรียนไม่ไหวกันพอดี “

ผมที่ทนเห็นภาพตรงหน้าต่อไปไม่ไหว  ก็ลุกพรวดก่อนจะเดินมาหามันพร้อมกับดึงแขนให้ลุกขึ้นจากโซฟา  เพื่อพามันไปนอนในห้องครับ

“ ม้ายอาวววว  พี่กิจอ้า  ยังสนุกอยู่เลย “

มันโวยวายมาพร้อมๆ กับไอ้เพื่อนๆ ทั้งสามตัวของผมเลย  แต่ผมไม่ยอมซะอย่างใครจะทำไม

“ น้าคร้าบพี่กิจสุดหล่อ  กันต์กินต่ออีกนิดเดียวน้า “

เชี่ย...  แม่งอ้อนผมซะเสียงหวานพร้อมมองผมตานี่เยิ้มเชียว  จากนั้นแม่งก็เอาหัวมาถูๆ ที่ต้นแขนผมครับ  โครตเข้าใจเลยครับว่าทำไมไอ้พวกนี้มันชอบกันนัก...

แต่ผมจะมาใจอ่อนไม่ได้ครับ...  เพื่อ... 

ตัวมันเอง ( แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากก็ตาม )

จากนั้นผมก็ลากมันเข้าไปในห้องครับ   มันโวยวายเล็กๆ แต่ก็ไม่มีแรงจะขัดขืนหรอก  แถมพอส่งมันถึงเตียงไอ้นี่มันก็หลับไปง่ายๆ เสียอย่างนั้น

หมดห่วงสักที...  นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  อย่าให้มันเมาแล้วอยู่นอกสายตาผมเป็นอันขาด...


ผมกลับเข้ามาในวงเหล้าอีกครั้ง  พวกนี้แม่งก็ทำหน้าเซ็งๆ  แถมไอ้คิมยังด่าผมอีกว่าผมหวงน้อง...

กูไม่ได้หวง  กูแค่ห่วงมันโว้ย!

สักแปบไอ้บิวมันก็จะขอตัวกลับครับ  มันนอนดึกไม่ได้...  ด้วยเรื่องของสุขภาพนั่นแหละครับ  ผมเลยให้มันนอนในห้องผม  ไม่อยากให้มันขับรถกลับแบบนี้  ถึงมันจะเมาน้อยที่สุดในกลุ่มก็เถอะ  แต่ก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี 

คืนนี้ก็คงให้ไอ้พวกนี้นอนที่นี่กันเหมือนเดิมละครับ

ผมชนกับไอ้พี ไอ้คิม  สักพักใหญ่ไอ้คออ่อนคิมก็พ่ายแพ้ไป  ก่อนจะเดินโซซัดโซเซเข้าไปนอนในห้องผมตามไอ้บิว

ทีแรกแม่งเนียนจะเปิดประตูห้องไอ้กันต์มันครับ  แต่ถูกไอ้พีที่รู้ทันซะก่อนตบหัวแล้วถีบมันเข้าไปในห้องผม  ซึ่งผมก็ไม่รู้เลยว่าชะตากรรมมันจะเป็นไง  นอนบนพื้นหรือว่านอนบนเตียงกับไอ้บิวหลังจากที่ไอ้พีปิดประตูห้องลงแล้ว

ทีนี้ก็เหลือแค่ผมกับไอ้พีที่ต้องมาวัดกันชอตต่อชอตแล้วละครับ  ซึ่งเอาจริงๆ แล้วผมกับมันก็คอแข็งพอๆ กันนะครับ  แต่เพราะพวกมันใส่กันมาก่อนระหว่างที่ผมเข้าไปอาบน้ำ  งานนี้เลยเป็นมันที่ฟุบไปก่อน

ผมเดินเข้าไปหยิบเอาผ้าห่มมาห่มให้มันที่นอนหลับไม่รู้เรื่องบนโซฟายาวในห้องรับแขก...

ส่วนตัวผมซึ่งไม่มีที่นอน...  ก็คงต้องไปนอนห้องไอ้กันต์มันแล้วละครับ

ก็ไม่มีทางเลือกนี่ครับ...  ทำไงได้ล่ะ  หึๆๆ


……..


รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆยังไงก็ไม่รู้สิครับหลังจากปิดประตูห้องลง  โดยไม่ลืมที่จะล็อคห้อง...

ผมมองดูมันที่นอนห่มผ้าหลับสบายบนเตียงราวกับเด็กน้อย  ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ  แล้วแทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มข้างๆ น้องมัน  มันขยับตัวออกห่างผมเล็กน้อยแต่ก็ยังคงหลับไม่รู้เรื่องอยู่ดี  ส่วนผมที่เข้ามาใต้ผ้าห่มกลับรู้สึกเกร็งๆ ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นและกลิ่นเหล้าจางๆ จากคนข้างๆ  แต่ถึงกระนั้นกลิ่นกายละมุนเฉพาะตัวของมันก็ยังคงมีอยู่บางๆ จากทั้งผ้าห่มและตัวมันเอง  ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือผิดที่พาตัวเองเข้ามาอยู่ในสถานการณ์นี้  ทั้งเกร็ง  ทั้งตื่นเต้น  ระคนกันจนบอกไม่ถูกเลยครับ

นี่มันมีอิทธิพลต่อผมและคนรอบข้างได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ

ผมพลิกตัวนอนตะแคงเบาๆ ราวกับกลัวว่าจะทำมันตื่น  ผมมองดูมันที่กำลังหายใจเข้าออกสม่ำเสมออยู่ได้ไม่นาน  จู่ๆ มันก็พลิกตัวขยับเข้ามาซุกที่หน้าอกผมเสียอย่างนั้น...

หายใจไม่ทั่วท้องเลยสิครับตอนนี้  กลิ่นกายผสมกลิ่นเหล้าก็ช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน  แถมตัวมันเองก็ยังนุ่มไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงเลย

นี่ผมกำลังคิดบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย...

อาจจะเป็นเพราะความเมาบวกกับความเดียงสาของมันละมั้งครับเลยทำให้ผมรู้สึกได้แบบนี้

ถ้างั้น  ก็เลยตามเลยก็แล้วกัน  ไหนๆ ก็กำลังเมานิดๆ อยู่ด้วย

ผมเอามือเข้าไปโอบกอดมันไว้ให้กระชับขึ้น  ซึ่งมันเองก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนแต่อย่างใด  ผมเลยขยับแก้มเข้าไปคลอเคลียผมนุ่ม(นุ่มจริงๆนะครับ) ของมัน  ก่อนจะปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนไปพร้อมกับความอุ่นสบาย  และกลิ่นหอมที่ผมไม่เคยได้สัมผัสจากที่ไหนมาก่อน

ไม่รู้สิครับ  ผมว่าคืนนี้...  ท่าทางผมจะนอนหลับฝันดี.... 

จริงๆนะ..




TBC.



-----------------------------------------------

ตอนที่แล้วลงเรทไป  ตามกำหนดวันนี้เลยต้องลงตอนต่อไปอะครับ ( วันเว้นวัน )

ตอนนี้ถ้าประโยคมันผิดๆยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ  ผมรีบกรองประโยคไปหน่อยอะครับ  อาจจะตรวจทานไม่ละเอียดอะครับ

ขอบคุณมากๆ นะครับที่ติดตามกันและก็กำลังใจที่่ให้มา  มันเป็นแรงพลักดันที่ดีมากๆเลยครับสำหรับคนเขียน

แต่ตอนนี้  พึ่งเขียนจบ CH-34 เองคร้าบบบบ  ไล่ตามมาติดๆแล้ว ><

จริงๆที่ plan ไว้  ผมกะว่าจะเขียนแบบ 3 seasons โดยที่ SS1 คร่าวๆน่าจะมีประมาณ 60 ตอน  บวกลบนิดหน่อยอะครับ  คือวางโครงเรื่องไว้แล้ว...

จากนั้นถ้าจบ SS1 แล้วจะพัก 1 เดือน (เพื่อเขียน SS2 ล่วงหน้า)  แล้วมาลงให้ต่ออะครับ

ยังไงก็อย่าพึ่งทิ้งกันไปไหนนะครับ

และขอให้มีความสุขกับนิยายเรื่องนี้นะครับ (มันเป็นความตั้งใจของคนเขียน)

แล้ววันมะรืนเจอกันตอนต่อไปนะคร้าบโผม

^_____________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 26-01-2018 21:42:18
ตั่งตารออ่านเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-01-2018 22:09:41
กิจฝันดีมีน้องอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง จะเป็นอย่างไงถ้าตื่นมาแล้วอยู่ในอ้อมกอดของน้องกันต์หน่า   :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-01-2018 22:19:29
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 26-01-2018 22:50:56
อีพี่กิจจจจจจ :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 26-01-2018 23:05:39
รอๆๆครับ :)
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nick_June ที่ 27-01-2018 12:03:33
ปูเสื่อรอเลยครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-01-2018 12:11:41
อีพี่กิจเนียนจริ๊งงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-01-2018 12:21:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-01-2018 15:11:27
รออ่านตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-01-2018 15:38:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tang ที่ 27-01-2018 19:16:34
ร้ายไปอีกก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 28-01-2018 22:23:24
Chapter 17




กันต์'s  Part




“ ตื่น... “

“ ไปอาบน้ำได้แล้ว... “

“ กันต์..  ตื่น... “

……

เหมือนจะได้ยินเสียงพี่กิจหลอนเข้ามาในความฝันเลยครับ 

ผมขยับตัวก่อนจะเอาผ้าห่มมาคลุมหน้า  เมื่อรู้สึกได้ว่าในห้องมันสว่างแล้ว  ทั้งๆ ที่ตอนนี้ผมยังไม่ได้ลืมตามาเลยเสียด้วยซ้ำ

หนักหัวชิบหาย  นอนต่ออีกหน่อยดีกว่า.... 

“ พรึ่บ!!! “

และแล้วผ้าห่มผมก็ถูกกระชากออก  ผมสะบัดหน้าพร้อมกับลืมตามาดูทันทีอย่างหัวเสีย

ใครกันวะมาทำแบบนี้กับผม  แต่พอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นแหละครับ...  ความคิดเมื่อกี้ที่มีก็ต้องกลืนลงคอไปจนหมด

พี่กิจในสภาพชุดนักศึกษาเนียบตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมที่จะไปเรียน  กำลังยืนมองผมคิ้วขมวดอยู่ตอนนี้

“ อะไรพี่  ยังเช้าอยู่เลย  ผมจะนอนต่ออีกหน่อยอะ “

ผมหยิบหมอนอีกใบขึ้นมาปิดหน้าไว้  ในเมื่อผ้าห่มตอนนี้อยู่ในมือพี่เขา  เพราะแค่นี้ผมก็นอนได้ครับ 

แต่...  เห้ย! 

พี่เขาแย่งเอาหมอนที่ผมปิดหน้ากันแสงสว่างไว้ออกไปอีกครับ  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมทั้งมองหน้าพี่เขาอย่างไม่พอใจทันทีเลยครับ 

คนบ้าอะไรมาแกล้งได้กระทั่งคนกำลังนอน  แถมยังปวดหัวอยู่ด้วยตอนนี้  ท่าทางเมื่อคืนผมคงจะดื่มไปเยอะอยู่เหมือนกัน

“ ตื่นได้แล้ว  สายแล้วเนี่ย  เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน “

“ สายอะไรพี่  นี่พึ่งจะ.... “ 

กี่โมงหว่า  ว่าแล้วผมก็หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลาครับ...

“ เชี่ย!!! “

ผมอุทานขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเวลาก่า 8 โมงแล้วในตอนนี้  ที่สำคัญ...  เช้านี้ผมมีเรียนตอน 8 โมงครึ่งด้วยสิครับ 

ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนหล่ออยู่ข้างเตียง  พี่กิจเลิกคิ้วให้มาเหมือนเป็นการบอกว่าจะเอายังไงต่อ... 

ไงต่อละพี่...  ก็ต้องรีบแล้วสิคร้าบโผม.....

ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที  ก่อนจะได้ยินเสียงพี่กิจตระโกนตามหลังมาว่าให้เวลา 15 นาที  พี่เขาจะลงไปรอข้างล่าง...

นี่แปลว่าวันนี้พี่เขาจะไปส่งผมอีกอย่างนั้นเหรอ...  ใจดีจังแฮะช่วงนี้ 

ว่าแต่...  แล้วผมจะมามัวยิ้มทำบ้าอะไรเนี่ย!!    15นาที  ต้องรีบแล้วละครับ


...........................


ผมวิ่งกระหืดกระหอบลงมายังหน้าคอนโด  ก็เห็นพี่เขาจอดรถเทียบรอไว้อยู่แล้ว  ผมมองดูนาฬิกาข้อมือ  ยังไม่เลยเวลาเลยครับ  แต่ก็ 15 นาทีเป๊ะเลย  เรียกได้ว่าไม่ขาดไม่เกินกันเลยทีเดียว

ผมขึ้นรถมา  พี่กิจก็โยนถึงอะไรบางอย่างมาให้ผมบนตัก  ผมคลี่ถุงออกดูก็เห็นเป็นขนมปังกับแซนวิชครับ  จากนั้นพี่เขาก็ยื่นแก้วกาแฟส่งให้ผมต่อ 

ผมมองอย่างงงๆ แต่ก็รับมาแต่โดยดี  พี่เขาบอกให้รองท้องไปก่อนระหว่างขับรถไปเรียน  จากนั้นพี่เขาก็ไม่พูดอะไรต่อก่อนจะขับรถออกจากคอนโดไป

ส่วนผมที่กำลังหิวอยู่พอดีก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเหมือนกันครับ  ก้มหน้าก้มตายัดขนมปังและกาแฟเข้าปากทันที

ไม่ได้ตะกละนะครับ  แต่เวลามันเร่งด่วนไง  แหะๆๆ....



...........................




วันศุกร์สุดสัปดาห์

บ่ายนี้อาจารย์งดคลาสให้พวกเราไปร่วมงานเปิดโลกกิจกรรมของมหาลัยฯครับ  ผมแอนเดอะแก๊งนัดกับไอ้ธันและแพรไว้ที่หน้าหอประชุมมหาลัยฯ  ซึ่งบริเวณลานกว้างหน้าหอประชุมนี้จะเป็นที่จัดงานน่ะครับ

พอมาถึง  คนที่นี่แน่นขนัดเลยครับ  มีทุกชั้นปี ทุกคณะ มากหน้าหลายตาเต็มไปหมด  ถึงตอนนี้ผมยังตัดสินใจไม่ได้เลยครับว่าจะลงชมรมอะไรดี  แต่ที่แน่ๆ นอกจากชมรมเชียร์ของคณะที่ถูกพี่กิจมัดมือชกใส่ชื่อลงไปแล้ว  ผมคงต้องลงชมรมจิตอาสาตามที่พี่ๆ แก๊งพี่กิจเขาขอไว้ด้วยแหละครับ 

งานนี้ผมคงจะลากพวกเพื่อนๆ ผมตามไปด้วยนั่นแหละ  เวลาออกค่ายผมจะได้มีเพื่อนไปด้วย

ไอ้ธันกับแพรมาถึงพวกเราก็พากันเข้าไปในงานทันที  ระยะนี้พวกผมกับไอ้ธันและแพรเจอกัน  กินข้าวด้วยกันบ่อยครับ  ถึงแม้จะอยู่กันคนละ Sec ก็ตาม

ภายในงานมีเต้นท์สีขาวตกแต่งให้หน้าสนใจตามคอนเซปของแต่ละชมรมมากมายเลยครับ  มีพี่ๆ หลายคนยืนหน้าบูทพร้อมกับแจกใบปลิวพลางเชิญชวนให้เข้าชมรม  ซึ่งกลุ่มของพวกผมก็ถูกเรียกและจับตามองกันอยู่มากเลยทีเดียว  ก็มีทั้งแพรและไอ้ธันเดินมาด้วยแบบนี้  แถมพวกผมเองก็ใช่ว่าจะหน้าตาดูไม่ได้กันซะที่ไหน  พอโดนพี่ๆ เขายิ้มให้  พร้อมทั้งอ้อนหน่อยๆ ผมก็เกือบจะอดใจอ่อนเข้าชมรมไปด้วยไม่ได้หลายครั้งเลยทีเดียว

แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าชมรมไหนนะครับ  ได้แต่รับโปรชัวร์มาดูเท่านั้น

เดินไปได้สักพักสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่บูทหนึ่งครับ  สาวๆ เต็มหน้าบูทเลย  ไม่รู้ว่าเป็นชมรมอะไร  แต่ท่าทางจะเป็นชมรมของพวกสาวๆ แน่เลยครับ  แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำให้พวกผมสนใจอยากจะรู้กันอยู่เหมือนกัน

พอมาถึงหน้าบูท  ผมมองป้ายด้านบนถึงได้รู้ว่านี่เป็นบูทของชมรมบาส 

มิน่าล่ะ  สาวๆ ถึงได้เต็มหน้าบูทกันแบบนี้  คือไม่ได้จะมาเข้าชมรมกันหรอกนะครับ  มาขอพี่คิมที่ยืนแจกโปรชัวร์ถ่ายรูป  และแอบถ่ายพี่กิจที่นั่งเบื่อๆ เล่นโทรศัพท์อยู่ภายในบูท  ท่าทางพี่แกคงจะไม่ได้สนใจอะไรหน้าบูทเลยครับ...

“ เฮ้ย..  กูว่ากูจะเข้าชมรมบาสด้วยว่ะ “ 

ไอ้เรย์พูดขึ้นมาด้วยสายตาเป็นประกาย  ก็แหงล่ะ  มันมีพี่กิจเป็นไอดอลมันซะขนาดนั้น  ไม่เข้าก็แปลกแล้วครับ

พอมันหันมาชวนพวกผมเข้าชมรมเป็นเพื่อน  ผมเนี่ยแหละคนแรกเลยคับที่ส่ายหน้าปฏิเสธ  รับรองเข้าไปเนี่ย  ผมโดนแกล้งแน่นอน  ถึงช่วงนี้พี่ขาจะดูใจดีขึ้นมากก็เหอะ  แต่ความเย็นชาก็ยังคงเหมือนเดิม..  แบบนั้นผมไม่เสี่ยงจะดีกว่า

อีกอย่าง..  บาสก็ไม่ใช่กีฬาที่ผมถนัดด้วย  เรียกได้ว่าอ่อนเลยจะดีกว่า  คือไม่ได้เก่งด้านกีฬาทุกอย่างแบบไอ้เรย์มันอะครับ  แต่ก็มีกีฬาชนิดหนึ่งนะครับที่ผมถนัด  และคาดว่าผมจะเข้าชมรมนั้นอยู่เหมือนกัน...

“ อ้าว....  น้องกันต์..  ตกลงจะมาเข้าชมรมบาสแล้วใช่มั้ยครับ  มาเลยๆ เดี๋ยวพี่พาเข้าไปกรอกใบสมัคร “ 

พี่คิมที่มองผ่านบรรดาสาวๆ ออกมาเห็นพวกผมก็ทักขึ้นทันที  ก่อนจะเดินแหวกหมู่สาวๆ ที่ล้อมบูทออกมาหาครับ

“ ป่าวพี่  ไอ้เรย์เพื่อนผมต่างหากที่มันจะเข้า “ 

ผมโบ้ยไปที่ไอ้เรย์มันครับ  ซึ่งมันก็ยิ้มรับ  ท่าทางเอาจริงเอาจังทันที

“ อ้าวเหรอ...  ว้า...  เสียใจนะเนี่ย...  แต่ก็เอาเหอะ  อย่าลืมไปเข้าชมรมจิตอาสาด้วยละกันนะ “

“ แน่นอนครับพี่  เนี่ยพวกผมทั้งหมดนี่เลยว่าจะไปเข้ากันครับ “ 

ผมยิ้มบอกไป  พี่เขาเลยมองมาที่พวกผมทั้งกลุ่ม  ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา  ท่าทางจะชอบใจเอามากๆ ที่จะมีสมาชิกใหม่เข้าชมรมเยอะขนาดนี้

“ นั้นน้องเข้าไปกรอกใบสมัครกับไอ้กิจข้างในได้เลยนะ “ 

พี่คิมบอกไอ้เรย์  พลางชี้มือไปยังพี่กิจที่มัวแต่สนใจอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่เท่านั้น

ไอ้เรย์เข้าไปได้ไม่นาน  ผมก็เห็นพี่กิจหันมามองผมอยู่เล็กน้อย  แต่แค่นั้นสาวๆ ก็พากันกรี๊ดกร๊าดหยิบกล้องมาถ่ายรูปกันให้เพียบเลยครับ 

คนบ้าอะไรวะแฟนคลับเยอะชิบหาย....  เห็นละหมันไส้จริงๆ...

ไอ้เรย์ออกมา  พวกผมก็ออกจากชมรมบาสกันเลยครับ  อึดอัดบรรดาสาวๆ ที่เข้ามาใหม่และที่อยู่ยาวไม่ยอมออกไปไหนสักที  ไม่รู้คลั่งไคล้อะไรกันนักหนา

พวกผมพากันไปลงชื่อเข้าชมรมจิตอาสากันต่อทั้งกลุ่มเลยครับ  จากนั้นไอ้เจมส์มันก็แวะเข้าไปลงชื่อเข้าชมรมวิชาการ ไอ้แน๊คเข้าชมรมถ่ายภาพ  ที่มีพี่เอ็กซ์เป็นพรีเซ็นเตอร์ยืนแจกโปรชัวร์ให้อยู่ที่หน้าบูท  ส่วนผมเข้าชมรมแบดมินตันครับ  โดยมีไอ้ธันและแพรตามเข้ามาด้วย  แพรเล่นไม่ค่อยเป็นหรอก  แต่เธออยากลองเล่นอะครับเลยเข้าตามมา  ส่วนไอ้ธันเห็นแพรบอกว่ามันเป็นนักกีฬาตัวโรงเรียนเลยนะครับ

เย็นนี้พวกผมไม่มีกิจกรรมเชียร์ครับ  ท่านประธานเขางดให้พวกเราหนึ่งวัน  เพื่อมางานกิจกรรมชมรม  ซึ่งตอนนี้พวกผมก็เลือกกันเสร็จแล้ว  และด้วยความที่มันเป็นศุกร์สุดสัปดาห์  ไอ้เรย์มันเลยชวนดริ๊งกันต่อค่ำนี้ครับ  นัดกันสามทุ่มครึ่งที่ร้านเหล้าข้างมอ  ผมเลยกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่คอนโดก่อน  แล้วรอให้ไอ้เรย์มารับไป...


.................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/01/2561 update chapter 16 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 28-01-2018 22:37:41
กว่า 3 ทุ่มแล้วที่ผมแต่งตัวเสร็จ  และกำลังรอไอ้เรย์ที่พึ่งจะออกจากหอมาเมื่อกี้นี้เองครับ

พี่กิจยังไม่ได้กลับมาที่ห้อง  สงสัยคงจะยุ่งอยู่กับการเก็บงานละมั้งครับ  ผมเลยส่งไลน์ไปบอกว่าวันนี้ผมจะออกไปกินเหล้ากับเพื่อน  แต่ส่งไปพี่เขาก็ยังไม่อ่าน  แต่ช่างเหอะ  ผมถือว่าบอกแล้วนะ  จะหาว่าผมไม่บอกไม่ได้นะคร้าบ

ผมกับไอ้เรย์มาถึงร้านกันก็สามทุ่มครึ่งพอดี  โดยมีไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์มาถึงและจองโต๊ะรออยู่ก่อนแล้ว  ไม่นานมากหนุ่มหล่อสาวสวยก็ตามมาครับ  สองคนนี้ถ้ามองกันผ่านๆ ดูยังไงมันก็เหมือนเป็นแฟนกันจริงๆ นั่นแหละครับ  ไอ้ธันกับแพรเนี่ย...

กินกันไปได้สักพักใหญ่ก็เริ่มรั่วกันมากขึ้นครับ  แต่ก็เฮฮาสนุกดีนะครับ  ที่สำคัญใครจะรู้ว่าแพรคอแข็งมาก  ส่วนผมนี่  มึนๆ แล้วละครับ  เห็นไอ้ธันมันคอยถามอยู่บ่อยๆ ว่าผมไหวมั้ย

มีสาวๆ แวะเวียนเข้ามาขอเบอร์โต๊ะผมกันเยอะอยู่พอควร  หนุ่มๆ เองก็เข้ามาขอชนแก้วและขอเบอร์แพรกันบ้าง  แต่แพรไม่เคยให้ใครเลยสักคน 

ส่วนผมนี่...  ทำไมไม่มีสาวๆ มาขอเบอร์เลยวะเนี่ย...  ไหงมีแต่หนุ่มๆ อะ 

นี่มันอะไรกันวะ  อายไอ้พวกนี้มันสุดๆ เลยครับ  แม่งหัวเราะผมกันชิบหายเลย

พวกเราสนุกกันแต่ภายในโต๊ะเราครับ  จนเวลาล่วงเลยไปเกือบจะตี 2 แล้ว  ท่าทางแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะไหวกันสักเท่าไหร่  เลยตัดสินใจกลับกันครับ

ไอ้เรย์กับไอ้ธันหิ้วปีกไอ้แน๊คที่หมดสภาพมาส่งที่รถไอ้เจมส์  ก่อนจะให้มันขับรถไปส่งที่หอ  จากนั้นพวกผมเลยว่าจะไปส่งไอ้ธันกับแพรที่รถก่อนแล้วค่อยกลับกัน

ที่ลานจอดรถค่อนข้างมืดและไม่มีคนเลยครับ  แถมไอ้ธันก็จอดรถซะในสุดเลย 

ผมเดินเซอยู่หน่อยๆ  ดีนะครับที่ไม่กินมากเท่าไหร่  ไม่งั้นป่านนี้คงมีสภาพไม่ต่างอะไรกับไอ้แน๊คแน่ๆ

พอมาถึงรถไอ้ธัน  สิ่งที่พวกผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...  คือจู่ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังพวกเราไว้  ซึ่งผมจำได้ว่าหนึ่งในนั้นก็คือคนที่เคยเดินเข้ามาขอเบอร์แพร  แต่ก็ถูกแพรปฏิเสธไป

“ ว่าไงแพร...  จะกลับแล้วเหรอครับ “

ไอ้คนที่มันเข้ามาขอเบอร์พูดขึ้นครับ  ผมมองไปรอบๆ  พวกมันมากันราวๆ สิบคนได้  ในขณะที่ตอนนี้พวกผมเหลืออยู่กันแค่ 4 คน ชายสามหญิงหนึ่ง  ถ้าต้องมีเรื่องกันพวกผมนี่เสียเปรียบแน่นอนครับ

“ จะกลับแล้ว “ 

แพรพูดแค่นั้น ก่อนจะหันไปบอกให้ไอ้ธันขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวกลับ

“ เดี๋ยวสิ...  เรายังไม่ได้เบอร์เธอเลยนะ “

ไอ้คนเดิมมันคว้าข้อมือแพรเอาไว้ครับ  มันเป็นชายผิวเข้มตัวหนาๆ ตัดผมสกินเฮด  ส่วนกลุ่มพวกมันก็ท่าทางเถื่อนๆ ไม่ต่างกัน

“ อ้าวเห้ย ! ”

ไอ้เรย์เดินเข้าไปปัดมือมันออกพร้อมกับแทรกกลางระหว่างสองคนนั้น  ก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องครับ

“ อะไรมึง..  กูแค่จะขอเบอร์แพรก็เท่านั้นเอง “

“ ก็ผู้หญิงเขาไม่ให้  มึงจะตื้อเขาทำเหี้ยไรวะ “ 

ไอ้เรย์ดูจะเริ่มมีน้ำโหครับ

“ แล้วมึงเป็นใครวะ  มาเสือกเรื่องชาวบ้านเขาเนี่ย “

ไอ้เรย์ดูอ้ำอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป

“ กูเป็นแฟนเว้ย  เข้าใจรึยัง  ถ้าเข้าใจแล้วก็เลิกวุ่นวายกับแฟนกูได้ละ “

เชี่ย....  นี่มันตอบแบบนี้เลยเหรอวะ  เหวอกันหมดเลยครับ  แพรเองก็เช่นกัน...

“ เชื่อตายเหอะ  ถ้าไอ้หล่อนั่นพูดกูจะไม่ว่าอะไรเลย แต่อย่างมึงเนี่ยนะจะเป็นแฟนแพร เห๊อะๆๆ... “

“ อย่างกูทำไม “

“ ก็...  เหมือนดอกฟ้า..  กับหมาขี้เรื้อนไง “

“ ผัวะ!!! “

สิ้นประโยคไอ้เรย์ก็ไม่รอช้า  ใช้หมัดขวาตะบันหน้าไอ้สกินเฮดนั่นล้มลงไปนอนกลิ้งบนพื้นเลยครับ  ก่อนจะถูกตีนจากไหนไม่รู้ถีบมันล้มตามลงไป  แล้วทุกอย่างก็ดูจะชุลมุนขึ้น 

ไอ้ธันทำท่าจะกระโจนเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกล๊อคตัวเอาไว้จากชาย 2 คน  เช่นเดียวกับไอ้เรย์ในตอนนี้  ต่างกันก็ตรงที่ไอ้เรย์มันโดนรุมไปบ้างแล้ว  จนมีเลือดออกมาที่มุมปาก

ไอ้โล้นสกินเฮดมันลุกขึ้นได้ก็เอามือจับแก้มที่โดนชก  ก่อนจะใส่หมัดขวาไปบนหน้าไอ้เรย์หนึ่งหมัดเต็มๆ  และดูเหมือนว่ามันจะตามมาด้วยหมัดที่สอง  แต่....

“ ปึ๊ก!!! .”

ผมวิ่งกระโดดเข้าไปถีบมันกระเด็นออกไปครับ  ถึงผมจะรู้ว่าสู้พวกมันไม่ได้  แต่นี่มันเพื่อนผมนะ  ผมไม่ยอมดูมันเจ็บตัวอยู่เฉยๆ แบบนี้หรอกครับ

สุดท้ายผมก็เหมือนกับไอ้พวกนั้น  ที่โดนชายอีก 2 คนเข้ามาล็อคตัวไว้  พอไอ้โล้นลุกมาได้อีกครั้ง  มันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลย ชกมาที่ผมซะเต็มแรง  จนผมนี่มึนไปเลยครับ...

“ เสือกนะมึงอะ “

มันพูดพลางเอามือมาจับหน้าผมหันกลับมา  ก่อนจะตบเบาอย่างท้าทาย

“ หน้าอ่อนๆ อย่างมึงจะมีปัญญาทำอะไรกูได้วะ “

พูดจบมันก็ถุยน้ำลายใส่หน้าผมทันที  ด้วยศักดิศรีของลูกผู้ชาย  ผมไม่เคยถูกใครเหยียบย้ำขนาดนี้มาก่อน

“ ไอ้เหี้ย!!!! “

เสียงไอ้ธันกับไอ้เรย์ดังขึ้นมาพร้อมกัน

“ สัด!!! “

ผมสบถอย่างสุดทน  ก่อนจะเอาเท้าที่ยังว่างอยู่ถีบมันออกไป  แต่มันไม่ล้มครับ  เพราะผมออกแรงได้ไม่เต็มที่  เมื่อร่างกายส่วนบนถูกรั้งเอาไว้แบบนี้  แต่นั่นก็ดูจะทำให้มันโกรธมากขึ้นไปอีก  ก่อนจะเข้ามาชกผมไปอีกหมัด  ตบหน้าผม  และตามด้วยอีกหมัด  จนผมรู้สึกได้ว่าเลือดกำเดาผมมันไหลออกมาแล้วในตอนนี้  แถมยังมึนมากจนถึงกลับคอพับลงมาเลยครับ  ผมคงทำได้เท่านี้แล้วล่ะครับ

ผมเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย  ในหูมันเหมือนได้ยินแต่เสียงวิ้งๆ เต็มไปหมด  แต่ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าคือ  ไอ้เรย์ที่มันเอาเรี่ยวแรงจากไหนไม่รู้มาเหวี่ยงผู้ชายสองคนที่จับมันอยู่ออก  ก่อนจะเข้ามาตะบันหน้าไอ้โล้นตรงหน้าผมล้มคว่ำไป  จากนั้นพวกเพื่อนๆ มันก็เข้ามารุมที่ไอ้เรย์มันทันที

ผมเห็นแพรตระโกนร้องไห้บอกให้พวกนั้นพอได้แล้ว  แต่แล้วจู่ๆไอ้สองคนที่จับผมอยู่ก็ตัวปลิวออกไป  พอผมหันไปมองก็เห็นไอ้ธันที่หลุดออกมาได้ถีบพวกมันออกไป

“ กันต์!!  พาแพรหนีไปก่อน “

ไอ้ธันมันพูดได้แค่นั้นมันก็ถูกถีบกระเด็นลงไปนอนบนพื้นครับ 

เสี้ยวเวลาหนึ่งที่ผมมองดูเพื่อนสองคนถูกรุมทำร้ายจากชายกว่า 8 คน  ในขณะที่ผมสลับสายตาไปมองยังแพรที่กำลังร้องไห้หนักมากและตระโกนบอกให้พวกนั้นหยุด  แต่ดูท่าทางเสียงของเธอจะไม่เป็นผลอะไรในตอนนี้

ทันใดนั้นผมก็รีบวิ่งเข้าไปคว้าข้อมือแพรทันที  เพื่อที่จะพาเธอออกไปจากบริเวณนี้ก่อน 

อย่างน้อยที่สุดแพรก็ต้องปลอดภัย  เสียงไอ้เรย์ตระโกนไล่หลังตามมาให้ผมพาแพรหนีไปให้ได้  ในขณะที่เสียงไอ้โล้นนั่นก็สั่งการตามมาด้วยเช่นกัน

“ พวกมึงตามไปจับตัวมา  คืนนี้กูจะเอามันมาทำเมีย “


ผมพาแพรวิ่งลัดเลาะและหลบตามรถที่จอดเรียงรายกันอยู่  เพื่อไม่ให้ไอ้สองคนที่ตามผมมาเจอตัวได้ง่าย

ถ้าผมเข้าไปช่วยไอ้ธันกับไอ้เรย์มันตอนนี้  ตอนจบมันก็คงจะเป็นเหมือนเดิม  คือพวกผมสามคนคงหมดสภาพที่จะปกป้องแพรไว้ได้  และจากนั้นแพรจะเป็นไง...  ผมเองก็ไม่อยากจะนึก

มันเลยเป็นทางเลือกที่ผมจำเป็นต้องทำ....

ผมที่กำลังแอบอยู่ข้างรถ  เมื่อเห็นไอ้สองคนที่ไล่ตามมาทำท่าว่าจะเลิกตามและเดินกลับไป  ผมก็ค่อยๆ พาแพรออกไปจากลานจอดรถ  และวิ่งออกไปยังปากซอยเพื่อตรงไปยังร้านเหล้าที่อยู่ไม่ไกลมาก  อย่างน้อยที่นั่นก็ดูน่าจะปลอดภัยสำหรับแพร

“ แพร!!! “

ผมหยุดวิ่งลงพร้อมกับมองหน้าเธออย่างจริงจัง

“ ตามคนมาช่วยนะ  แต่ถ้าไม่มี...  อย่ากลับไปที่นั่นเด็ดขาด “

“ แล้ว...  กันต์จะไปไหน “

ผมยิ้มให้แพรเล็กๆ ก่อนจะบอกเธอออกไป

“ สองคนนั้นมันเพื่อนเรา...  ถ้าเจ็บก็ต้องเจ็บด้วยกัน..  เราทิ้งมันไม่ได้หรอก “

ผมยิ้มให้แพรอีกรอบ  เธอร้องไห้ออกมา  แต่ผมไม่มีเวลาแล้วครับ  ผมรีบวิ่งกลับไปยังทางเดิมที่ออกมา

ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำมันจะมีประโยชน์แค่ไหน  แต่ผมทำใจทิ้งเพื่อนผมไม่ได้หรอกครับ 

ผมกลับเข้ามาก็เห็นไอ้ธันมันนอนหมดสภาพอยู่บนพื้น  ส่วนไอ้เรย์กำลังพยายามยืนขึ้นมาอีก  แต่ก็ไม่วายโดนชกลงไปนอนบนพื้นต่ออีกรอบ 

ผมไม่รอช้าวิ่งเข้าไปกระโดดถีบพวกมันต่อทันที 

เชี่ยเอ้ย!!  แม่งทำเพื่อนผมสะบักสะบอมขนาดนี้  ยอมไม่ได้หรอกครับ

ไอ้เรย์กับไอ้ธันมองผมด้วยสายตาแปลกใจที่เห็นผมกลับมา  แต่ก็ไม่ทันที่จะได้พูดคุยอะไรกันหรอกครับ  ความชุลมุนก็เกิดขึ้นมาอีกรอบ 

ผมรู้สึกเหมือนว่าไอ้เรย์กับไอ้ธันมันจะมีแรงฮึดสู้ขึ้นมากันต่อได้อีก  แต่นั่นก็ไม่มีผลอะไรมากครับ  สุดท้ายพวกเราสามคนก็สะบักสะบอมไปตามๆกัน 

ผมที่ตอนนี้ตาแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว  พยายามจะลุกขึ้นมาตามไอ้เรย์  แต่ก็ดูจะลำบากสักหน่อย  เมื่อร่างกายมันฟ้องว่าตอนนี้มันไม่ไหวแล้วจริงๆ...

“ อึดนักใช่มั้ยมึง ! “ 

ผมได้ยินเสียงไอ้โล้นมันแว่วเข้ามาในหู  ชั่วพริบตานั้นผมเห็นมันคว้าเอาท่อนไม้ที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมา...

ไม่รู้สิครับ...  มันคงเป็นกำลังเฮือกสุดท้ายของผมละมั้ง  ที่ผมเอาตัวพุ่งเข้าไปขวางมันไว้...

แล้ว......

ทุกอย่างก็มืดดับลงไปในทันที....


........


นี่ผม...  ตายแล้วใช่มั้ยครับ....





TBC.



------------------------------------------------

ขอโทษนะครับที่มาซะดึกเลย  แต่ก็มาตามสัญญานะครับ  แฮ่ๆ

สมาชิกในชมรมคร่าวๆดังนี้ครับ.....
ชมรมบาส  กิจ  คิม  เอ็กซ์(แฟนซี)  เรย์
ชมรมถ่ายภาพ  บิว  เอ็กซ์(แฟนซี)  เฟรม(จะยังไม่มีบทในภาคนี้  แต่เคยเกริ่นๆในX-C แล้ว  เป็นเทพอยู่คณะบัญชี)
ชมรมแบดมินตัน กันต์  ธัน  แพร  เค
ชมรมว่ายน้ำ  เอส(จะเจอใน X-C)
ชมรมจิตอาสา  มากมายเลย
คร่าวๆประมาณนี้ก่อนครับ  แฮ่ๆ

ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับทุกกำลังใจและการติดตาม  ขอบคุณจริงๆครับ

แล้ววันมะรืนจะลงตอนต่อไปให้นะครับ  แง่มๆ

^____________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-01-2018 22:56:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-01-2018 23:16:29
พี่กิจมาช่วยเร็วๆจิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 28-01-2018 23:47:58
พี่กิจน้องตกอยู่ในอันตรายยย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 28-01-2018 23:55:34
พวกเทพมาช่วยแน่ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-01-2018 00:04:11
จำ ๆ หน้าที่มันทำหนูไว้ให้เยอะทีสุดเลยนะ เด๋วให้พี่กิจตามเก็บให้  :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-01-2018 20:24:25
จะมีใครมาช่วยไหม

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-01-2018 20:36:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-01-2018 20:40:54
 :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 30-01-2018 18:39:32
โอ้ย เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
สนุกมากครับเขียนได้น่าอ่านมาก ภาษาอ่านง่าย

ตอนล่าสุดนี่แบบ อ๊ากกก อย่าเป็นไรมากนะ
ขอให้มีคนมาช่วยสามคนนี้ทีเถอะ

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 30-01-2018 21:45:51
Chapter 18




กิจ ‘s  Part




หลายชั่วโมงก่อนหน้านั้น...

ผมกลับห้องมาก็เกือบจะ 5 ทุ่มแล้วละครับ  ที่ห้องปิดไฟมืดหมดเลย  ป่านนี้กันต์มันคงนอนหลับไปแล้วละมั้งครับ

ผมเดินเข้าไปยังห้องนอนของผม  หยิบเอาโทรศัพท์ที่แบทหมดไปชาร์ตไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง  ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหมดสภาพไปทั้งแบบนี้  เหนื่อยมาทั้งวันเลยครับ  กว่าจะจัดการกับเอกสารคนมาสมัครชมรม  เก็บบูทและประชุมเสร็จ  โครตเหนื่อยเลย  คืนนี้ขอนอนไปทั้งอย่างนี้เลยก็แล้วกัน....



………….



เช้าวันต่อมา

ผมตื่นขึ้นมาในสภาพเน่าๆ ของเมื่อวาน  ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ที่ชาร์ตแบททิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ออก  พร้อมทั้งปิดเครื่องทันที  ซึ่งพอเปิดเครื่องได้  ผมก็กดเข้าไปยังแอพพลิเคชั่นไลน์  เพราะมันแสดงให้เห็นว่ามีหลายข้อความที่ผมยังไม่ได้อ่าน  และหนึ่งในนั้นก็มีไลน์ของกันต์มันด้วยครับ  มันพิมพ์มาว่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อนแถวๆ ข้างมอ  ดึกๆ จะกลับ  สงสัยตอนนี้มันคงจะแฮงค์และไม่ตื่นง่ายๆ แน่  ว่าแล้วก็ไม่ปลุกมันแต่เช้าจะดีกว่า  ปล่อยให้มันได้นอนพักผ่อนเยอะๆ หน่อย

ผมล้างหน้าล้างตาและมาออกกำลังกาย  หาอาหารเช้ากินเองตามปกติ  ก่อนจะกลับเข้าไปอาบน้ำและออกมานั่งดูทีวีที่โซฟาของห้องรับแขก

กว่า 10 โมงครึ่งแล้ว  ไอ้กันต์มันก็ยังไม่ตื่นเลย  ถึงเวลาที่ผมจะต้องเข้าไปปลุกมันได้แล้วละครับ  เพราะนี่มันก็จะเที่ยงแล้ว  กะว่าจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกสักหน่อย  เลยจะลากมันไปเป็นเพื่อนด้วย

แต่พอเข้าไปในห้องมันเท่านั้นแหละครับ....

ว่างเปล่า.... 

ที่นอนมันยังอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกใช้งาน..
 
นี่แปลว่าเมื่อคืนมันคงจะเมามากแล้วไม่กลับมานอนห้องแน่ๆ 

แม่ง..  ไปนอนกับเพื่อนคนไหนวะ  แล้วทำไมมันไม่เห็นโทรมาบอกผมเลย

ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์โทรออกไปหามันทันที  แต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมาครับ

แบบนี้ต้องมีอะไรแหงๆ  กลับมาละน่าดู.. 

ผมปิดประตูกลับออกมาดัง ‘ปัง!’ ก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเองไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว....



...........................................




กันต์ ‘s  Part




ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา  ด้วยสายตาพร่ามัวจากแสงไฟบนเพดาน  นี่ผมอยู่ที่ไหนกันเนี่ย...

ผมยังไม่ตายหรอกเหรอ....

“ ไอ้กันต์ฟื้นแล้วเว้ย!! “

เสียงไอ้เรย์ครับ... 

แต่..  ปวดหัวจังเลย  แถวยังเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมด

“ กันต์ // กันต์ “

นี่มันเสียงไอ้ธันกับแพรนี่  อยู่ด้วยกันหมดเลยเหรอ  ท่าทางทุกคนคงจะปลอดภัยดีนะครับ

ผมพยายามปรับโฟกัสตา  ก็เห็นอะไรชัดขึ้น  เพื่อนๆ ผมทั้งสามคนกำลังยืนล้อมผมที่กำลังนอนอยู่บนเตียง  ซึ่งท่าทางจะเป็นที่โรงพยาบาลนะครับ 

นึกๆ ดูแล้ว..  บางทีผมคงจะสลบไป  ใช่...  ผมน่าจะสลบไปตอนที่โดนไม้ฟาดเข้าที่ท้ายทอยเมื่อคืนนี้แน่ๆ 

มิน่าถึงได้เจ็บหัวแบบนี้...

“ ไง....  ที่นี่ที่ไหนวะ “

ผมถามไปเสียงพร่าอย่างไม่ค่อยจะมีแรงสักเท่าไหร่  แล้วจู่ๆ  ไอ้เรย์มันก็บ่อน้ำตาแตกขึ้นมาเสียอย่างนั้นครับ

“ เป็นไรวะมึง  หรือว่ามีใครเป็นอะไร “
 
ผมถามขึ้นอย่างร้อนรน  แต่มันก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบกลับมาให้

“ ไม่มี..  ก็มีแต่มึงนั่นแหละ...  ฮือๆๆ “ 

มันพูดไปก็ร้องไห้ไปครับ  ปกติมันไม่ใช่คนจะร้องไห้ง่ายๆ แบบนี้นะครับ

“ ต่อไปมึงอย่าทำแบบนี้นะเว้ย... “

“ ทำอะไรวะ... “

“ ก็...  เข้ามารับไม้แทนกูไง “ 

พูดมาถึงตรงนี้  แม่งก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม  ไอ้ธันเลยเดินเข้ามาตบไหล่มันเบาๆ

“ ไม่เห็นเป็นไรเลย  มึงเพื่อนกูนะเว้ย...  แล้วตอนนั้นมันก็กะทันหัน  กูคิดอะไรไม่ออกอะ “

“ เชี่ย....  มึงนี่มัน...  “

มันหยุดพูดพร้อมทั้งปาดน้ำตาออก  ก่อนจะเริ่มพูดต่อ....

“ ทุกวันนี้แค่มึงอยู่ตัวคนเดียวมันก็แย่พอแล้ว....  มันต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอวะที่ต้องดูแลมึง...  แล้วมึงยัง... ถ้ามึงเป็นอะไรขึ้นมา.. “

“ เห้ย..  อย่าคิดมากดิ...  กูก็อยู่ตรงนี้แล้วไง  ไม่ได้ตายสักหน่อย...  พอแล้วไม่ต้องร้องไห้...  แพรกับธันก็ด้วย...   เราแข็งแรงจะตายดูดิ “ 

ผมยิ้มพร้อมกับพูดติดตลกบอกไป  แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่เลยนะครับ

“ หมอเช็คหมดแล้วนะ..  หมอบอกว่ากันต์หัวแตกและสลบไปจากการกระทบกระเทือน  ส่วนอย่างอื่นก็เป็นแผลพกช้ำซะส่วนมาก  จะแอดมิดดูอาการหรือจะออกโรงพยาบาลเลยก็ได้  ส่วนตอนนี้ยังอยู่ที่ห้องฉุกเฉินอยู่นะ “ 

ไอ้ธันอธิบายถึงสถานการณ์ตอนนี้ให้ฟังครับ  เพราะดูท่าแล้ว  ไอ้เรย์กับแพรจะยังบังคับตัวเองให้หยุดร้องไห้ไม่ได้เลย

ผมมองดูสภาพไอ้เรย์กับไอ้ธันที่มีรอยพกช้ำทั่วใบหน้าและผ้าก๊อตปิดแผลถลอกที่ข้อศอกหรือจุดอื่นบ้างเล็กน้อย  ดูๆ แล้ว  สภาพผมตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากสองคนนี้สักเท่าไหร่  ไม่งั้นคงไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวขนาดนี้หรอกครับ

“ แล้ว...  เรารอดกันมาได้ยังไงวะ “

“ ก็แพรตามพี่ๆ การ์ดที่ร้านเหล้ามาช่วยน่ะ  ตอนที่กันต์สลบไปพอดีนั่นแหละ  จากนั้นเราก็รีบพากันต์มาที่โรงพยาบาลเลย “

ผมพยักหน้าเข้าใจเรื่องราวเล็กๆ

“ แล้วนี่กี่โมงแล้วอะ  กูว่ากูอยากกลับห้องแล้วล่ะ  ไม่อยากนอนโรงพยาบาล “

“ ตอนนี้ก็ 9 โมงกว่าแล้ว  นั้นเดี๋ยวเราไปจัดการเรื่องให้นะ  นอนรอสักแปบ  เดี่ยวเรากลับกัน “ 

ไอ้ธันยิ้มบอกมาครับ  แต่แววตามันก็ยังคงดูแย่อยู่เลย  จากนั้นมันก็เดินไปบอกพี่พยาบาลที่อยู่โต๊ะห่างออกไปไม่ไกลมาก  ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องฉุกเฉิน

“ เจ็บมากมั้ยมึง “

“ ไม่เลย... “

“ ปากเก่งนะมึงอะ...  สัญญากับกูนะเว้ย..  ว่าต่อไปมึงจะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนี้อีก “

“ เออ..  กูสัญญา.. “

ผมยิ้มบอกไป

“ กันต์... “ 

ผมหันไปมองยังแพรที่เรียกผม

“ ขอบคุณนะ... “

“อื้ม... “

ผมยิ้มพร้อมกับพยักหน้าตอบไป

จากนั้นพี่พยาบาลก็เดินเข้ามาถามอาการผมอีกครั้ง  ไม่นานหลังจากที่ไอ้ธันกลับมา  แล้วพวกผมก็พากันออกจากโรงพยาบาลไปครับ

ไอ้เรย์เป็นคนขับรถมาส่งผมที่คอนโด  กว่าจะจัดการเรื่องที่โรงพยาบาลเสร็จและขับรถกลับมาถึงคอนโด  ก็ปาไป 11 โมงกว่าแล้ว  หวังว่าจะไม่เจอพี่กิจอยู่ห้องตอนนี้นะครับ  เพราะถ้าเห็นสภาพผมเละแบบนี้  มีหวังโดนด่ายับแน่เลยเรื่องทะเลาะวิวาท

“ เชี่ย...  มึงว่ากูจะโดนพี่กิจด่ามั้ยวะเนี่ย “  ผมทำหน้าเครียดถามไอ้เรย์ไปเมื่อมันขับรถเข้ามาจอดเทียบที่หน้าคอนโด

“ นี่มึงยังจะห่วงเรื่องนั้นอีกเหรอ...  ห่วงตัวเองก่อนมั้ยวะ  ดูสภาพตัวเองก่อนเหอะ  แล้วอย่าลืมกินยาด้วย  ถ้ามีอาการผิดปกติอะไรมึงรีบโทรหากูเลยนะเว้ย “

“ เออ...  กูรู้แล้ว  ไม่ใช่เด็กนะเว้ย “

ผมเปิดประตูรถออกไป  ก่อนจะหันกลับมาโบกมือลามัน  และเหมือนมันจะพูดอะไรกับผมอีก  แต่แม่งทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว  มันเลยไม่พูดต่อ  แล้วก็ขับรถออกไปเลย



..............
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 28/01/2561 update chapter 17 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 30-01-2018 21:56:36
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยมันออกมาเพื่อรวบรวมความกล้า  ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป

ผมมองไปรอบๆ ห้อง  แต่ไม่เห็นพี่กิจครับ... 

โชคดีของผมละที่พี่กิจไม่อยู่  แต่ไม่ทันที่ผมจะเปิดประตูห้องของตัวเอง  เสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามทันที

“ จะไม่กลับห้องทำไมไม่โทรมาบอก  แล้วเมื่อคืนไปนอนไหนมา...  นี่มันกี่โมงแล้ว  กลับมาอะไรเอาป่านนี้ “

เสียงพี่กิจดังออกมาจากห้องพี่เขาครับ  แต่ฟังจากเสียงแล้วท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีเอาสุดๆ เลย  งานนี้ผมไม่รอดแน่ๆ ครับ

“ คือพอดีเมื่อคืน..  “ 

ผมพูดเสียงอ่อยผ่านประตูเข้าไป  แต่ไม่ทันจะได้พูดต่อ  พี่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาต่อทันที

“ เมามาก  เลยกลับห้องไม่ได้...  รู้ว่าตัวเองคออ่อนแล้วกินเยอะทำไมวะ...  ทำไมทำตัวแบบนี้ห๊ะ “

“ คือผม... “

“ อยู่กับกู  แม่กูฝากให้กูดูแลมึง  มึงก็ควรเชื่อฟังกูหน่อยดิวะ...  ไม่ใช่ทำตัวเป็นภาระแบบนี้... “

ถึงตรงนี้ จู่ๆ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น...  ผมไม่ได้อยากทำตัวเป็นภาระใคร 

ถ้าเลือกได้..  ผมก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้หรอกครับ...

แต่เพราะผมเลือกไม่ได้ไง....

ถ้าผมเลือกได้...  ผมก็ไม่อยากทำตัว..  เป็นภาระพี่อยู่แบบนี้หรอก

“ ผม..  ไม่ได้ตั้งใจ “

“ ไม่ได้ตั้งใจ...  แก้ตัวได้แค่นี้เหรอ..  โตแล้วนะเว้ย..  ต่อไปอย่าทำตัวเป็นเด็กๆ อีก.. “

“ ครับ...  ผมขอโทษครับ... “

ผมที่ยืนน้ำตาไหลพรากอยู่หน้าห้องพี่กิจ  พยายามห้ามเสียงสะอื้นของตัวเอง  ไม่อยากให้คนอีกฝั่งประตูรับรู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง  ซึ่งตอนนี้มันเอ่อล้นออกมากลายเป็นน้ำตาจำนวนมาก  ที่ไม่ว่าจะปาดมันออกไปยังไง  มันก็ยังคงไหลออกมาอยู่อย่างนั้น

ผมกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง...  วางถุงยาไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ  ผมหยิบเอาโพสต์อิทสีเหลืองอ่อนออกมา 1 ใบ  ก่อนจะเขียนข้อความขอโทษพี่เขาลงไปในนั้น  แล้วออกจากห้องไปอีกครั้ง

ผมสอดกระดาษผ่านประตูเข้าไปในห้องพี่เขา  ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องของตัวเอง

ผมทิ้งร่างที่เจ็บไปทั้งกายลงบนเตียง  แต่นั่นก็ไม่เท่ากับใจที่เจ็บกว่าในตอนนี้  ผมปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาอีกครั้ง  ก่อนจะข่มตาให้หลับลงไปบนเตียง

เหนื่อยเหลือเกินครับ…

เหนื่อยทั้งกาย  เหนื่อยทั้งใจ...

การอยู่ตัวคนเดียวนี่มัน....
 
โหดร้ายจริงๆ เลยนะครับ....



...................




กิจ ‘s  Part




---  ขอโทษนะครับกับเรื่องเมื่อคืนนี้  ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้น....
      และผมก็ขอโทษพี่กิจอีกครั้ง...  ที่ทำตัวเป็นภาระมาโดยตลอด....
      ผมผิดเองที่มีชีวิตแบบนี้  แต่จากนี้ไปผมจะไม่ทำตัวเป็นภาระกับพี่อีกแล้ว..
    ขอโทษอีกครั้งนะครับ......  กันต์  ---




นี่เป็นข้อความที่ผมอ่านจากโพสต์อิทที่กันต์มันสอดผ่านใต้ประตูเข้ามาให้  เหมือนกับที่ผมเคยทำให้มันเมื่อครั้งก่อน  แต่พออ่านแล้วกลับเป็นผมเองที่รู้สึกผิดและใจหายขึ้นมา

ผมว่ามันแรงไปรึป่าวนะ.. 

ว่ามันไปทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ฟังเหตุผลมันเลยด้วยซ้ำ  เพราะความโมโหที่มันไปนอนที่อื่น  โมโหที่มันไม่ได้อยู่ในสายตาผม 

แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ช่าง...  ตอนนี้มันคงจะเสียใจมาก  และผมเองเนี่ยแหละที่เป็นคนทำ

รู้สึกแย่จังครับ  จากที่โมโห  แต่พอพูดไปไม่คิดแบบนั้นแล้วกลับมารู้สึกผิดเอาตอนนี้...

ผม...  ควรจะไปขอโทษมันนะ  หรืออย่างน้อยก็ทำอะไรก็ได้ที่มันจะไม่รู้สึกเสียใจแบบนี้

ผมเดินออกจากห้องมา  ลังเลใจอยู่หน้าประตูห้องมันครู่หนึ่ง  ก่อนจะกล้าตัดสินใจเคาะประตูห้องไป 

แต่มันก็เงียบ...  ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมาเลย...

“ กูเข้าไปนะ... “

ผมไม่อยากปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปเหมือนเมื่อคราวก่อน  ถ้าเราพูดคุยกันดีๆ  เรื่องมันจะได้จบลง  โดยที่เราไม่ต้องมามึนตึงกันอีก

ผมเปิดประตูเข้ามาอย่างแผ่วเบา  เห็นมันนอนอยู่บนเตียงหันหลังให้อยู่  แต่ดูจากการหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแล้ว  ท่าทางมันคงจะหลับอยู่ครับ

หลับง่ายจังแฮะ...

ผมเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียง  ไม่ได้อยากจะกวนมันนอนหรอกนะครับ  แต่อยากเห็นหน้ามันตอนหลับก็เท่านั้นเอง

แต่....

ผมถึงกลับอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น....

ทำไมหน้าตามันถึงได้แดงและช้ำแบบนี้ล่ะ  แถมยังมีผ้าพันแผลที่หัวอีก  ตามแขนก็ไม่แพ้กัน...

มันเกิดอะไรขึ้น...  ใครทำอะไรมัน...

ผมไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนมันไปเจออะไรมา...  แต่มันคงเป็นเรื่องที่แย่เอามากๆ เลยครับ  หนำซ้ำไอ้โง่อย่างผม...  ยังมาต่อว่ามันอีกในตอนเช้า...

ผมนี่มัน... 

โง่จริงๆ...


ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆ มัน  เอามือไล้ที่ใบหน้ามันอย่างทะนุถนอม  ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่แผลตรงมุมปาก  มันสะดุ้งตัวเล็กน้อย  คงเพราะเจ็บ  ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองผมตาปรือ...

ท่าทางมันตกใจมากครับ  ก่อนจะพลิกตัวไปอีกด้านและเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปรงไว้

“ กันต์...  เกิดอะไรขึ้น..  บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ “ 

“ เปล่าครับพี่  ไม่มีอะไรหรอก  อุบัติเหตุนิดหน่อยอะครับ...  พี่ไม่ต้องห่วงหรอก  ผมดูแลตัวเองได้ “

“ …… “

“ …… “

“ พี่ขอโทษ...  ที่พี่พูดไม่ดีแบบนั้นกับเราไป “

“ …… “

“ แต่พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ นะ  พี่ไม่เคยมองว่าเราเป็นภาระเลย  พี่แค่เป็นห่วงก็เลยหัวเสียไปแบบนั้น “

“ ….. “

“ ไหนมาคุยกันหน่อยซิ  ว่าเกิดอะไรขึ้น..  “

ผมเอามือวางบนหัวไหล่กันต์มัน  เหมือนมันจะตัวสั่นเล็กๆ  ผมเลยค่อยๆ พลิกตัวมันหันมาและดึงผ้าห่มออกจากหน้ามันช้าๆ...

มันกำลังร้องไห้เบาๆ อยู่ครับ  ผมเลยเอามือลูบหัวมัน  แต่นั่นกลับทำให้มันร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีก....

“ ไม่ต้องร้องนะ...  ไหน.. มีไรเล่าให้พี่ฟังหน่อยซิ “

กันต์มันค่อยๆ ชันตัวลุกขึ้นมานั่งพิงพนักหัวเตียง  มันปาดน้ำตาป้อยๆ จนตาแดงไปหมดแล้วตอนนี้

“ ผมขอโทษ  ผมไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้  ผม... ผม “

“ ไม่เป็นไร...  พี่ไม่โกรธเราหรอก  เล่ามานะว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ “

ผมเอามือลูบหัวกันต์มันเบาๆ เพื่อไม่ให้มันคิดมาก  มันลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเล่าเรื่องให้ผมฟัง  ซึ่งจับใจความได้ว่า  ระหว่างที่มันกำลังจะกลับ  ได้มีพวกอันธพาลมาเกาะแกะน้องแพรเดือนคณะเราปีนี้  ก่อนจะมีเรื่องกัน...

ผมให้น้องมันนอนพักต่อ  ดูท่าทางแล้วมันคงจะเพลียและเหนื่อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเอามากๆ

จากนั้นผมก็ออกจากห้องมา  ก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์หัวหน้าการ์ดที่ทำงานให้พ่อผมทันที

“ กิจนะครับ  พอดีมีเรื่องจะให้พี่สิทธิช่วยหน่อยอะครับ...  ครับ...  ฝากพี่ส่งคนไปเช็คกล้องวงจรปิดที่ร้านเหล้า XXX ข้างมอกิจให้ทีนะครับ  บริเวณลานจอดรถ  ได้เรื่องยังไงแล้วติดต่อกลับมานะครับ  ขอบคุณครับ ”

ถ้าจะสืบข้อมูลพวกนี้  เชื่อมือพวกพี่ๆ การ์ดที่บ้านผมได้เลยครับ  เขาทำงานกันเร็ว  แถมเส้นสายพวกผมก็ทำให้ได้ข้อมูลจากที่ต่างๆ ได้ไม่ยาก

......


ผมนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกไม่ถึงสองชั่วโมง  พี่สิทธิหัวหน้าการ์ดก็โทรเข้ามารายงาน  ก่อนจะส่งคลิปกล้องวงจรปิดเข้ามือถือมาให้ผม

แต่แค่ผมกดดูเท่านั้นแหละ...  นี่มันไม่ใช่แค่การชกต่อยธรรมดาตามที่ผมเข้าใจเลยแม้แต่น้อย...  มันเป็นการรุมทำร้ายกันมากกว่า...  10 ต่อ 3 

นี่กันต์มันเล่าให้ผมฟังไม่หมดนี่  ที่สำคัญ....

ภาพที่ผมเห็นกลับทำผมถึงกลับน้ำตาซึมเลยทีเดียว...  กันต์มันหนีออกไปได้แล้วแท้ๆ  แต่กลับย้อนกลับมาช่วยเพื่อนมันอีก  ทั้งๆที่มันก็ตัวแค่นี้  จะไปสู้อะไรกับคนหมู่มากขนาดนั้นได้  แต่มันก็เลือกที่จะไม่ทิ้งเพื่อนมันเลย.... 

และอีกอย่างที่มันไม่ได้บอกผม...  ก็คือภาพสุดท้ายก่อนที่การ์ดของร้านจะเข้ามาช่วยและไอ้พวกนั้นพากันหนีไป...

กันต์มัน...  เอาตัวเองรับไม้แทนเพื่อนจนตัวมันเองสลบไป...

มันไม่ได้เล่าให้ผมฟังเลย...

ผมมือไม้สั่นด้วยความโกรธ...  โกรธไอ้พวกที่มันทำกับคนของผมแบบนี้...

ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่สิทธิอีกครั้งทันที

“ พี่สิทธิ...  รบกวนลากคอพวกแม่งที่มันทำกับน้องผม  ให้ไปหาผมที่ค่ายมวยค่ำนี้ “

“ เอามันมาทุกตัว!!!! “





TBC.



------------------------------------------------------

มาดึกอีกแล้ว  แฮ่ๆ  แต่ก็มาตามนัดนะครับ ^ ^

ผมยังเขียน CH-34 ยังไม่จบเลย  แต่เกือบละครับ  ลงตอนนี้แล้วว่าจะนั่งเขียนต่อก่อนนอนครับ  พรุ่งนี้น่าจะจบ(วันหยุดผม)

ก่อนจะมึนหัวเพราะกินยาไปตอนท้องว่าง  จะรีบไปเขียนต่อละครับ

ขอบคุณทุกๆคนมากนะครับสำหรับกำลังใจและการติดตามเสมอมา

วันมะรืนเจอกันเหมือนเดิมนะคร้าบ

^______________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-01-2018 22:17:42
รอติดตามจร้าา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-01-2018 22:43:39
 :L2: :L1: :pig4:

ไอ้พวกเวง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-01-2018 23:05:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-01-2018 23:24:40
ฝากด้วย 3-4 ทีที่หัว ตามตัวอีก 10 โหล ฐานทำร้ายกันต์กับเพื่อน ๆ  :โป้ก1: o12
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-01-2018 23:39:41
ตามไปรออยู่ค่ายมวยเลยครับ :)
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-01-2018 23:56:19
จัดการมันเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 30-01-2018 23:57:35
พี่กิจจัดการมันเลย มาทำร้ายน้อง

แอบโหดๆ 555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 31-01-2018 00:06:14
พี่กิจจัดมันให้ยับเลยยย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 31-01-2018 17:35:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-02-2018 22:14:19
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 01-02-2018 22:16:07
Chapter 19




กิจ ‘s  Part




ผมขับรถออกไปซื้อโจ๊กร้านอร่อย  กว่าจะกลับมาถึงห้องก็กว่าบ่าย 2 แล้ว  แต่เพราะกันต์มันยังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เที่ยงเลยครับ  เห็นมันหลับสนิทท่าทางอ่อนเพลียขนาดนั้น  ผมเลยไม่กล้าปลุก  แต่นี่ก็บ่ายมากแล้ว  มันน่าจะพอลุกมาทานข้าวทานยาไหวนะครับ

ผมเอาโจ๊กเทใส่ชามเข้าไปให้มันที่ห้อง  มันยังคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียง 

แต่ไม่รู้สิครับ...  ผมที่เห็นภาพมันตอนนี้แล้วกลับรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ

มันไม่ใช่คนที่มีครอบครัวเหมือนคนปกติ  ไม่มีพ่อแม่ที่จะมาคอยดูแลเวลาเจ็บป่วยแบบนี้  มีแค่ตัวคนเดียว...  แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่เคยหยิบเอาเรื่องพวกนี้มาใช้เป็นข้ออ้างให้ตัวเองกลายเป็นคนอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย...

แต่ภายใต้แววตาคู่นั้น...  ผมกลับรู้สึกได้ว่ามันกำลังโหยหาความอบอุ่น....  ทั้งกายและใจอยู่เสมอ...

ผม...  จะเป็นคนตรงนั้นให้มันเองครับ  จากนี้ไปจะไม่มีใครมาทำร้ายมันได้อีกแล้ว...


...............


ผมวางชามโจ๊กลงบนโต๊ะข้างๆ หัวเตียงมัน  ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆ  ผมเอามือลูบผมมันเบาๆ อย่างระมัดระวังแผลที่หัว  มันขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองผม

“ เจ็บเหรอกันต์ “

น้องมันส่ายหน้าเล็กๆ  ก่อนจะค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมานั่ง

“ พี่กิจมีอะไรเหรอครับ “

“ พี่แค่เห็นว่าเรายังไม่ได้กินอะไรเลย  แล้วพี่ก็เห็นว่าเรามียาที่ต้องกินด้วยไม่ใช่เหรอ พี่เลยไปซื้อโจ๊กมาให้กินอะ...  ลองกินสักหน่อยนะ  จะได้กินยาแล้วค่อยนอนพักต่อ “

“ เอ่อ...  ครับ “

ผมหยิบชามโจ๊กมาถือไว้  จากนั้นกันต์มันก็ทำท่าจะเอื้อมมือมาเอาไป  แต่ผมหวงไว้...

“ ไม่เป็นไร  เจ็บเนื้อเจ็บตัวแบบนี้เดี่ยวพี่ป้อนให้ “

“ แต่... “

“ เอาน่า  ตอนนี้เราป่วยอยู่นะ...  เป็นคนป่วยก็ต้องเชื่อฟังรู้มั้ย  จะได้หายไวๆไง “

กันต์มันดูลังเลอยู่เล็กน้อย  แต่สุดท้ายมันก็ยอมแต่โดยดีครับ

กันต์มันเป็นคนปากเล็กมากครับ  ป้อนไปก็เลอะไป  ผมเลยต้องคอยเช็ดให้มันไปด้วย  อย่างกับเด็กๆ เลย  น่ารักดีเหมือนกันนะครับ

“ พี่นี่ก็ใจดีเหมือนกันเนอะ “ 

มันว่ามาครับ  เมื่อเห็นผมวางชามโจ๊กที่มันกินพอแล้วลงบนโต๊ะ

“ กูอะใจดีอยู่แล้วเว้ย.. “

“ เหรอ...  เชื่อตายเหอะ “

เห็นมันยิ้มมาแบบนี้แล้ว  สงสัยมันคงจะอารมณ์ดีขึ้นแล้วครับ

“ เดี๋ยวกินยาแล้วก็นอนพักนะ  ค่ำๆ อยากกินอะไร  เดี๋ยวพี่ออกไปธุระข้างนอกแปบนึง  ขากลับจะซื้อเข้ามาให้ “

“ อะไรก็ได้ครับ  แล้ว...  พี่กิจจะไปไหนอะ “

เห็นสายตามันมองผมมาราวกับว่าไม่อยากให้ผมไปไหนเลย  แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาครับ  ผมเดินกลับเข้ามานั่งข้างๆ เตียง  ก่อนจะเอามือลูบหัวมันเบาๆ

“ ธุระน่ะ  แต่พี่ไปไม่นานหรอก  เดี๋ยวจะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อน “ 

มันพยักหน้ารับ  ผมเลยขยี้หัวมันเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้  แล้วออกไปจากห้อง

จากนี้ก็ถึงเวลาชำระความกับไอ้พวกที่มันทำกับน้องผมแบบนี้แล้วละครับ....



...................................



ที่สนามมวยบริเวณชานเมือง

ผมขับรถมาถึงสนามมวยที่ใช้เป็นที่ซ้อมนานๆ ที  ซึ่งค่ายนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางบ้านผมอยู่บ่อยๆ ในการจัดการแข่งขันหรือส่งนักกีฬาไปแข่ง  ดังนั้นการยืมสนามเพื่อใช้สะสางเรื่องต่างๆ มันเลยไม่ใช่เรื่องยากอะไร

เวลาตอนนี้ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วครับ  ที่สนามก็มีเพียงแค่ผมที่ถอดเสื้อออกและใส่แค่กางเกงวอร์มนั่งรอบนเก้าอี้อยู่บนเวที  โดยมีการ์ด 3 คนยืนสแตนด์บายอยู่ด้านล่าง 

จากนั้นไม่นาน  รถเก๋งสีดำคันแรกก็มาจอดเทียบให้เห็นอยู่ไกลๆ ที่ประตูทางเข้า  การ์ด 2 คนลากตัวหนึ่งในกลุ่มคนที่มันทำร้ายกันต์มาให้ผมที่ล่างเวที  มันทำหน้างงและตกใจมากเมื่อเห็นผม

ผมหยิบเอาเอกสารข้อมูลที่พี่สิทธิส่งมาให้เปิดดูว่ามันเป็นใคร  แต่จากที่ดูคร่าวๆ  กลุ่มนี้ทั้งกลุ่มมันเป็นเด็กปีหนึ่งคณะเกษตรมหาลัยฯเดียวกันกับผม  มันถึงได้ตกใจเมื่อเห็นหน้าผมตอนนี้

“ พะ..พี่กิจ  พาตัวผมมาที่นี่ทำไมครับ “

แหม..  ทำเป็นพูดเพราะเชียวนะมึง  ทีเมื่อวานรุมกระทืบคนแล้วทำเป็นห้าว...

“ รู้จักกูด้วยเหรอ “

“ ใครจะไม่รู้จักพี่ละครับ...  คนเขารู้จักพี่กันทั้งมหาลัยฯนั่นแหละ “

“ ถ้ารู้แล้วมึงก็ยังกล้าลองดีกับกูอีกนะ “

“ ผะผมไปลองดีอะไรพี่ละครับ  ไม่มีใครกล้าลองดีกับพี่หรอก “

“ แล้วเมื่อคืนนี้พวกมึงไปทำอะไรมา!!! “

พูดมาถึงตรงนี้ผมก็ขึ้นเสียงด้วยความโกรธ  เมื่อนึกถึงสิ่งที่ไอ้พวกเลวนี้มันทำไว้  จนมันถึงกับสะดุ้งตัวสั่นเทาขึ้นมาเลยทีเดียว

“ มะเมื่อคืน...  ผะผมไม่ได้เจอพวกพี่เลยนะครับ “

“ แล้วที่พวกมึงรุมกระทืบล่ะ...  มึงรู้มั้ยว่านั่นใคร.... “

มันทำท่าอึ้งทันที  ปากที่กำลังสั่นของมันไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอะไรออกมา

“ นั่นมันน้องกู!!! “

“ ผมขอโทษพี่  ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นน้องพี่กิจ  ผมไม่ได้ตั้งใจ “

มันรีบยกมือไหว้ผมผงกๆ ทันที

“ ถึงไม่ใช่น้องกู  มึงก็ไม่ควรไปทำกับใครอย่างนั้น!!!... “

“ ผมขอโทษครับ  ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว  ให้ผมทำอะไรก็ได้ครับพี่  ผมขอโทษจริงๆ “

“ กูมีทางเลือกให้มึงสองทาง...  หนึ่ง  มึงขึ้นมาบนนี้แล้วชกกับกู...  แค่ 3 นาทีเท่านั้น  แต่ไม่ต้องห่วงหรอก  กูจะใส่นวมให้  เพราะพี่คณะพวกมึงขอไว้  ว่าอย่าให้ถึงกับปางตาย...  แต่ถ้ามึงไม่เลือกทางนี้กูก็มีให้เลือกอีกทาง...  คือรีบกลับไปซะ...  แต่อาจจะถูกการ์ดกูกระทืบ  ซึ่งจุดนี้กูไม่รับรองความปลอดภัยนะ... “

มันตัวสั่นระริกก่อนจะหันไปมองยังการ์ดที่เลิกสูทดำออกมาเล็กน้อย  เผยให้เห็นปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอว

สุดท้ายมันก็เลือกกรณีแรก....  ผมให้มันเลือกที่จะใส่หรือไม่ใส่นวมก็ได้  เอาที่มันสะดวกเลย...

สิ่งที่ผมอยากจะสอนให้มันรู้ก็คือ  ลูกผู้ชายถ้าจะมีเรื่องชกต่อยกัน  เขาไม่ทำตัวเป็นหมาหมู่แบบนั้นกันหรอกครับ  และอีกอย่าง... 

พวกมันทุกตัว...  ผมจะเป็นคนตะบันหน้าให้มันสลบคาตีนผมทั้งหมดเลย


ผมไม่รู้ว่า 3 นาทีมันจะนานไปรึเปล่า  สำหรับความทรมานที่พวกมันได้รับ  เพราะแค่คนแรกมันก็น็อคไปตั้งแต่ 2 นาทีแรกแล้ว  ในสภาพที่หน้าแตก  เลือดกำเดาไหล  ปากแตก  แล้วก็สลบไป


จากนั้นรถก็ทยอยเข้ามาจอดเทียบทีละคัน  และการ์ดก็ทยอยพาสมาชิกไอ้พวกเลวนั่นมากันทีละคน...  และทุกคนก็สลบเหมือดไปตามๆ กัน  ถึงจุดนี้ผมมีเพียงแค่รอยแดงที่มุมปากและเลือดซิบๆ ก็เท่านั้น  แต่มันไม่เจ็บหรอกครับ  เพราะยิ่งนึกถึงภาพที่กันต์มันโดนทำร้าย  ผมยิ่งรู้สึกด้านชาและไม่เจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น  มีเพียงความโกรธที่อยากจะตะบันหน้าพวกแม่งให้จมตีนกันไปทุกคน....


จนในที่สุดคนสุดท้าย  และคิวสุดท้ายที่ผมวางไว้ก็มาถึง...  ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ  ก็ไอ้คนต้นเรื่อง  และที่สำคัญ...ไอ้คนที่มันฟาดกันต์จนสลบไปนั่นเอง

“ ไอ้ 9 คนที่นอนสลบอยู่ตรงนั้นกูใส่นวมชก...  แต่สำหรับมึง...  จะเป็นคนเดียวที่กูจะไม่ใช้นวม!!! “

และไม่รอช้า  หมัดต่อหมัดก็เข้ามาสวนกัน  แต่ชั้นเชิงมวยมันต่างกันครับ...  ผมชกมันไปอย่างไม่นับหมัด  จนเลือดมันออกท่วมหน้า  ทั้งจมูก ปาก แก้มที่แตก  มันทำท่าจะล้มไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  แต่ผมก็ดึงมันขึ้นมาชกต่อ  ล้มลงไปผมก็ดึงมันขึ้นมา  จนมันสลบไปตั้งแต่นาทีแรกแล้ว  ผมก็ยังไม่หยุดระบายความโกรธ  จนในที่สุด  การ์ดก็เข้ามาห้ามผมเอาไว้

“ คุณกิจครับ  พอเถอะ  ไม่งั้นมันได้ตายแน่ครับ... “ 

พี่สิทธิหัวหน้าการ์ดพูดขึ้น  ผมพยายามใจเย็นก่อนจะหันหลังเดินลงเวทีไป

“ ฝากจัดการที่เหลือด้วยนะครับพี่สิทธิ “

“ ครัคุณกิจ  ว่าแต่คุณกิจจะแวะเข้าไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนมั้ยครับ  เดี่ยวผมจะโทรไปแจ้งไว้ก่อน “

“ ไม่เป็นไรครับพี่สิทธิ  แผลแค่นี้เอง...  ผมยังต้องไปทำธุระต่อครับ  ขอบคุณมากนะครับ  ส่วนทีเหลือรบกวนฝากพี่สิทธิช่วยจัดการทีนะครับ “

“ ครับ  ตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วง  เดี่ยวผมจะส่งพวกมันไปนอนโรงพยาบาลเองครับ  แล้วเรื่องทุกอย่างก็จะหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนครับ “

ผมพยักหน้ารับเล็กน้อย  ก่อนจะเดินออกจากสนามกลับไปยังรถที่จอดอยู่  หยิบเสื้อยืดสีขาวที่หลังรถขึ้นมาใส่  เพราะผมยังต้องไปหาซื้อข้าวเย็นให้กันต์มันต่อครับ  ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะรอผมและหิวแค่ไหนแล้ว...



...............................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 30/01/2561 update chapter 18 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 01-02-2018 22:21:12
ที่คอนโด

ผมกลับเข้ามาถึงก็ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว  มื้อเย็นนี้ผมซื้ออาหารญี่ปุ่นเบาๆ เข้าไปให้มันครับ  จำพวกสเต๊กปลาหิมะ ซุปเบาๆ  เผื่อมันจะเบื่อโจ๊กหรือข้าวต้มครับ

“ อ้าว..  ไม่นอนพักอะ “

ผมถามขึ้นเมื่อเห็นกันต์มันนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขกครับ

“ นอนมาทั้งวันแล้วอะพี่  มันเบื่ออะ “

“ ยังไม่ได้กินอะไรใช่มั้ย  พี่ซื้อข้าวมาให้  มากินก่อนนะจะได้กินยา “

ผมบอกไปพลางจัดเตรียมอาหารไปด้วย  ส่วนกันต์มันค่อยๆ ลุกจากโซฟาเดินมาหาผมยังห้องครัว  ท่าทางมันจะยังเจ็บเนื้อเจ็บตัวอยู่ไม่น้อย  แต่ก็ไม่แปลกอะไรหรอกครับ  คนบอบบางอย่างมันเจอหนักซะขนาดนั้นนี่นะ

“ โหพี่...  น่ากินอะ  ของชอบทั้งนั้นเลย “

มันตาวาวเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าที่ผมจัดเตรียมใส่จานไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกันกับผม

“ ชอบกินก็กินเยอะๆ นะ  จะได้หายไวๆ “  ผมยิ้มบอกไปครับ

“ ใจดีนะเนี่ย..  แต่เห้ย!!  หน้าพี่ไปโดนอะไรมาอะ “

พอมันละสายตาจากอาหารตรงหน้า  ก็มาเห็นสิ่งผิดปกติบนใบหน้าของผมทันทีครับ

“ เปล่า  ไม่มีอะไร “

“ เปล่าอะไร  ก็เห็นๆ อยู่ “

ผมนิ่งเงียบไม่ตอบมันไปครับ  แต่ก็ไม่กล้ามองหน้ามัน  คือไม่ค่อยอยากจะโกหกมันสักเท่าไหร่อะ

“ พี่กิจ...  บอกมาเดี๋ยวนี้ “

“ ก็ไม่มีอะไรไง “

“ ไม่บอกผมไม่กินนะ “

มันพูดจบก็วางมีดกับซ้อมที่เตรียมจะหั่นสเต็กปลาลงทันทีครับ

เออๆ  กูยอมแล้วก็ได้....

“ ก็ไปเคลียร์เรื่องมึงมาไง “

“ พี่ไปมีเรื่องกับพวกนั้นมาเหรอ “

ผมเลิกคิ้วพยักหน้าส่งให้ไปเป็นคำตอบ  จากนั้นมันก็เริ่มบ่นว่าผมทำอะไรไม่เข้าเรื่องอย่างนั้นอย่างนี้...

เฮ้ยๆๆ  นี่กูทำเพื่อมึงนะเว้ย...

จากนั้นมันก็ลุกออกจากโต๊ะกลับเข้าห้องของมันไป  ก่อนจะออกมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลครับ

พอผมบอกจะไม่ทำแผล  มันก็ไม่ยอมหาว่าผมดื้อ...  นี่มันจะเหมือนแม่ผมเข้าไปทุกวันแล้วนะครับเนี่ย

มันเริ่มทำแผลที่มุมปากผม  จากที่ไม่เจ็บตอนชกกับพวกนั้น  แต่ตอนนี้โครตเจ็บเลยครับเวลาที่มันทาแอลกอฮอล์ล้างแผลให้

ตัวก็แค่นี้เอง  แต่ทำผมเจ็บได้  เก่งนะเนี่ย...

ผมมองมันทำแผลไปเรื่อยๆ  เพลินดีเหมือนกันนะครับ  ดูมันตั้งใจดี  ทำไปปากก็ว่าผมไป  แต่ผมกลับรู้สึกดีนะครับที่มันมาดูแลห่วงใยผมแบบนี้


...................


กว่า 5 ทุ่มที่ห้องนอนกันต์

“ อ้าวพี่กิจ  มาทำอะไรอะ “

กันต์มันถามขึ้นเมื่อเห็นผมเอาที่นอนปิกนิกมาปูข้างเตียง  พร้อมด้วยหมอนหนึ่งใบและผ้าห่มหนึ่งผืน

“ ช่วงนี้เราป่วย  เดี่ยวพี่จะนอนเป็นเพื่อน “

“ ไม่เป็นไรพี่  ผมนอนได้ “

“ เออน่า  เผื่อมีอะไรกลางดึกพี่จะได้ช่วยได้ไง “

มันทำหน้าแปลกใจอยู่เล็กๆ  พร้อมกับนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกครับ  ทิ้งตัวลงไปนอนทันที

“ นั้นขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันกับผมก็ได้  พี่จะได้ไม่ต้องเจ็บหลัง “

“ เดี๋ยวพี่จะทำเรานอนไม่สบายอะดิ “

“ ไม่เป็นไรพี่  เตียงมันก็กว้างพอนอนกันได้สองคนอยู่แล้ว “

“ แต่พี่นอนดิ้นนะ  เดี่ยวเผลอไปกอดเรา... ไม่รู้ด้วยนะ “

“ อืมๆๆ  ขึ้นมาเหอะน่า “

ผมยิ้มเล็กๆ ไม่เล่นตัวไปมากกว่านี้ครับ  เพราะเดี๋ยวมันจะเปลี่ยนใจ  ก่อนจะลุกขึ้นไปนอนกับมันบนเตียง

“ พี่ห่มด้วยนะ “

ผมถามขอห่มผ้าห่มผืนเดียวกับมัน  ซึ่งมันก็ได้แต่พยักหน้าเล็กๆ ตอบมาเท่านั้น  และไม่รอช้า  ผมก็แทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มทันที
 
ไม่นานไฟที่หัวเตียงก็ถูกปิดลง  แล้วกันต์มันก็นอนตะแคงหันหน้ามาหาผม

“ พี่กิจ “

“ อะไร “

“ ขอบคุณนะ...  ที่ทำอะไรให้ผมตั้งเยอะแบบนี้อะ “

“ ไม่เป็นไร  นอนเหอะ... “

ผมขยับตัวนอนตะแคงมองหน้ามันก่อนจะเอามือไปขยี้หัวมันเบาๆ  จากนั้นมันก็ปิดตาลงพร้อมกับหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ...

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ครับ  ผมรู้แต่เพียงว่าตอนนี้... 

ผมนอนไม่หลับ!!!!

ยิ่งมีร่างเล็กนี่อยู่ใกล้ๆ ผมยิ่งนอนไม่หลับ  รู้สึกเหมือนว่าร่างกายมันยังอยากทำอะไรบางอย่างอยู่....  บางอย่างที่ผมทำเมื่อไม่กี่คืนก่อนหน้านี้  ก็ตอนที่ได้มีโอกาสมานอนกับมันเป็นครั้งแรกนั่นแหละครับ

ผมลังเลใจอยู่นาน  มองดูแผ่นหลังน้องมันที่ตอนนี้นอนตะแคงหันหลังให้ผมอยู่

สุดท้าย...

เอาก็เอาวะ  ช่างแม่ง....

ผมขยับตัวเข้าไปสวมกอดมันทันที  รู้สึกได้ถึงไออุ่นและกลิ่นกายที่ผมปรารถนา 

เพียงแค่เท่านี้แหละครับ...  มันก็จะเติมเต็มให้ผมหลับสบายได้สักทีสำหรับคืนนี้ 

และคาดว่านี่คงเป็นอีกคืนหนึ่งที่ผมจะนอนหลับฝันดีแน่ๆ....





TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-02-2018 22:31:31
 :hao6: :hao6: :hao6: อีคุณชายมีโมเม้นนี้ด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-02-2018 22:57:40
 :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-02-2018 22:58:59
 :L2: :L1: :pig4:

น่ารักขึ้นเยอะเลยอีพี่กิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-02-2018 23:11:23
 o13 สุดยอดเลยอาเฮียยยยยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 01-02-2018 23:12:17
มีกอดกันด้วยเว้ย มุมนี้ก็น่ารักดีนะคุณชาย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 01-02-2018 23:51:02
มีแอบกอดน้องด้วย ว๊ายๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-02-2018 01:26:58
แหมๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 02-02-2018 22:12:20
สนุกค่ะอ่านรวดเดียวยาวเลย ความรักค่อยๆเติบโต
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 03-02-2018 15:54:40
พี่กิจคนเนียน อยากนอนกอดน้องก็บอกน้องสิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-02-2018 01:09:01
มาให้กำลังใจคับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-02-2018 14:37:04
Chapter 20




กันต์'s  Part




ช่วงนี้พี่กิจดีกับผมมากเลยครับ  ขนาดเช้าวันเปิดเรียนวันนี้  จากที่เมื่อก่อนถ้าพี่เขาจะไปส่ง  เขาก็จะให้เวลาผม  แล้วลงไปรออยู่ด้านล่างคอนโด  แต่วันนี้กลับรอออกจากห้องไปพร้อมกัน

ผมยังไม่ค่อยหายดีหรอกครับ  ยังระบมๆ อยู่เลย  แต่ก็ดีขึ้นมากกว่าวันแรกแล้วครับ

“ เล่นแบดด้วยเหรอ “

พี่กิจถามขึ้น  เมื่อเห็นผมถือซองใส่ไม้แบดยี่ห้อดังที่ผมเก็บเงินซื้อได้เมื่อปีที่แล้ว  พร้อมกับถุงใส่รองเท้าพื้นยางสำหรับเล่นแบดมินตันโดยเฉพาะ

“ ครับพี่  ผมเข้าชมรมแบดมินตันอะ “

“ แล้วนี่เราลงชมรมอะไรไปบ้าง “

“ ก็มีแบดมินตันกับจิตอาสาแค่นี้อะครับ “

พี่กิจพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ  ก่อนจะปิดประตูห้องและเดินไปยังลิฟท์พร้อมกันกับผม


...........................


ที่คณะ

“ เย็นนี้จะไปรอรับที่คอร์ดแบดนะ  อย่าไปไหนซะล่ะ “

พี่กิจกำชับมาอย่างนี้  ผมก็ได้แต่ทำหน้าเหวอๆ ตอบกลับไปครับ 

รู้สึกพี่เขาจะใจดีกับผมมากไปมั้ยเนี่ยช่วงนี้....

ลงจากรถพี่กิจมา  ผมก็รีบตรงเข้าไปยังอาคารเรียนรวม  เพื่อไปยังห้องสโลปสำหรับเรียนวิชาแคลคูลัสในช่วงเช้า

คนมองกันเพียบเลยครับระหว่างทาง  อายเป็นบ้าเลย....  ก็สภาพผมที่มีผ้าพันแผลที่หัวกับหน้าตาช้ำๆ  ผมก็เลยรีบเดินก้มหน้าก้มตาเร่งฝีเท้าขึ้นไปยังห้องเรียนเท่านั้นครับ

เข้ามาห้องเรียน  เพื่อนๆกลุ่มผมก็มากับครบแล้ว  ยังที่นั่งประจำหลังห้อง...

“ เป็นไงบ้างวะมึง...  ดีขึ้นป่าววะ “

ไอ้เรย์ถามขึ้นเสียงอ่อย  นี่มันยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิดอยู่เหรอเนี่ย  เห้อ....

“ แม่งเอ้ย  ถ้าพวกกูอยู่ด้วยนะ “

ไอ้แน๊คพูดมาถึงแค่ตรงนี้  ไอ้เจมส์มันก็แทรกขึ้นมาทันทีครับ

“ ก็จะมีสภาพแบบพวกมันใช่มั้ย “

“ สัดเจมส์ !  แต่ก็จริงว่ะ  แต่อย่างน้อย...  ก็ช่วยหารตีนพวกมึงได้นะ “

ผมได้แต่ยิ้มขำ  ก่อนจะวางกระเป๋าและเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ข้างๆไอ้เรย์

“ แล้วพวกมึงรู้ป่าววะว่าใครทำ “ ไอ้เจมส์ถามต่อ

“ ไม่รู้ว่ะ...  แต่น่าจะเป็นรุ่นๆ เดียวกับพวกเรานะ “  ไอ้เรย์ตอบไป

“ ให้กูสืบให้มั้ย “  ไอ้แน๊คนักข่าวหัวเห็ดประจำกลุ่มอาสาขึ้นครับ

“ ไม่ต้องหรอก  พี่กิจจัดการให้แล้ว “ 

ผมบอกไปเท่านี้  พวกนั้นมันก็หันมามองผมเป็นตาเดียวกันเลยครับ

“ จัดการยังไงวะ “  ไอ้แน๊คถามขึ้นทันที

“ จัดการตอนไหน  แล้วพี่เขารู้เหรอว่าเป็นพวกไหน “  ไอ้เรย์ถามต่อ

“ ก็ไม่รู้นะ  ว่าพี่เขาจัดการยังไง  แต่น่าจะมีเรื่องชกต่อยกันอะ  เพราะพี่เขาก็ได้แผลกลับมาด้วย  ส่วนอย่างอื่นนี่กูไม่รู้เลย  พี่เขาไม่ยอมเล่าต่อ “

ผมบอกไปตามจริงครับ  เพราะผมถามรายละเอียดต่อยังไง  พี่เขาก็ไม่ยอมบอกเลย  บอกแค่เพียงว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว  และพวกนั้นก็จะไม่กล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกผมอีก

“ แล้ว...  พี่เขารู้ได้ไงวะ  ว่ามึงโดนทำร้าย... “ 

ไอ้เจมส์ตั้งคำถามน่าคิดขึ้นมาทันที  แล้วผมจะตอบยังไงล่ะเนี่ยว่าพักอยู่กับพี่เขาอะ

“ อาจารย์มาแล้ว.... “

ไอ้เรย์ผู้ไม่สนใจการเรียนรีบเปลี่ยนเรื่องให้ผมทันทีครับ  เมื่อเห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง... 

รอดไปที...  ถ้าเป็นไปได้  ผมก็ไม่อยากโกหกใครหรอกครับ... 

แต่พี่เขาสั่งไว้ว่าห้ามบอกใครนี่....  ไม่งั้นเดี่ยวผมได้ระเห็จไปหาที่อยู่ใหม่แน่ๆ


...................................


ที่โรงอาหารคณะ

พวกผมมาถึงก็เห็นแพรกับไอ้ธันกำลังโบกมือไหวๆ เรียกพวกผมให้ไปนั่งด้วยกันอยู่ตอนนี้  เห็นหน้าไอ้ธันแล้วก็อดขำขึ้นมาเสียไม่ได้นะครับ  ก็เดือนคณะต้องมามีสภาพยับเยินซะขนาดนี้

“ ขำไรอะกันต์ “  มันถามผมครับ

“ เปล่า...  แค่ตลกๆ อะ  ว่านี่เหรอเดือนคณะเรา “

“ โหย...  กันต์เองก็ไม่ต่างกับเรานะ “

“ ว่าแต่ซื้ออะไรมากันเยอะแยะเนี่ย  กินกันสองคนจะหมดเหรอ “ 

ผมถามต่อเมื่อเห็นกับข้าวหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะครับ  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกอาหารอิสาน  ข้าวเหนียว  ส้มตำ  ไก่ย่าง   ลาบ น้ำตก เต็มโต๊ะไปหมด

“ วันนี้เราเลี้ยง...  ขอบคุณที่ช่วยเราวันนั้นอะ “ 

แพรยิ้มบอกมาครับ  ลาภปากพวกผมเลย  น่ากินทั้งนั้นเลยครับ  ไม่รอช้าพวกตละกะอย่างพวกผมก็รีบนั่งลงกันทันที

แต่ไม่ทันจะได้กินกันหรอกครับ  พวกพี่ๆ กลุ่มพี่กิจที่พึ่งเข้ามายังโรงอาหาร  ก็เร่งฝีเท้าเดินเข้ามาหาพวกผมกันทันที

“ เชี่ยเอ้ย!!  แม่งหนักกว่าที่กูคิดไว้อีก “ 

พี่พีสบถขึ้นมาด้วยความโกรธครับ  พวกผมก็ได้แต่มองหน้ากันหวั่นๆในท่าที  ไม่รู้ว่าพวกพี่เขามีเรื่องอะไรกัน

“ มีอะไรกันเหรอครับพี่ๆ “ 

ผมถามขึ้นมาอย่างประหม่า  ท่าทางพี่พีเขาดูจะอารมณ์เสียสุดๆ เลยครับตอนนี้

“ ก็เห็นไอ้กิจบอกว่าพวกน้องๆโดนรุมตีมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  พวกพี่ก็เลยเป็นห่วง “  พี่คิมว่ามาครับ

“ ไปล่อมันแม่งตอนนี้เลยมั้ย “ 

พี่พีที่ยังคงฉุนเฉียวอยู่  ทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็ถูกพี่บิวดึงแขนเอาไว้เสียก่อน

“ อย่าเลยมึง  ไอ้กิจจัดการแล้ว  เชื่อดิ...พวกนั้นมันโดนไม่ใช่น้อยหรอก  มึงก็รู้นี่ว่าถ้าไอ้กิจมันลงมือแล้วจะเป็นยังไง “

พี่บิวพูดห้ามทัพไว้  ว่าแต่พี่กิจนี่โหดขนาดนั้นเลยเหรอครับ  ผมว่าไม่นะ...  กับผมก็เห็นดีจะตาย  ถึงจะโกรธก็ไม่เคยทำร้ายหรือทำอะไรแรงๆ กับผมเลยสักที

และไม่ทันที่สถานการณ์จะเบาบางลง  เรื่องน่าปวดหัวก็โผล่ขึ้นมาอีกครับ  เมื่อจู่ๆ กลุ่มนักศึกษาต่างคณะเดินเข้ามาภายในโรงอาหาร  ที่สำคัญผมจำได้แม่นเลยครับว่าพวกนั้นเป็นใคร..

ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  ก็ไอ้กลุ่มพวกที่มันรุมทำร้ายพวกผมเมื่อวันก่อนไง 

นี่มันยังไม่ยอมจบ  จะมาหาเรื่องกันต่อถึงในคณะเลยเหรอเนี่ย

“ เชี่ย...  เรย์มึงดูโน่น “ 

ผมบอกไอ้เรย์ให้หันไปมองยังกลุ่มพวกนั้นที่กำลังมองซ้ายมองขวา  ท่าทางกำลังจะมองหาพวกผมอยู่แน่ๆ   ซึ่งไม่นานมันก็เห็นและเดินตรงเข้ามากันทั้งกลุ่มเลยครับ

แต่เอ๊ะ.....  สภาพแต่ละคน..  ยับเยินยิ่งกว่าพวกผมเสียอีก  เรียกได้ว่าถ้าผมอยู่ในสภาพแบบนี้  ผมคงนอนพักอยู่ที่ห้องมาเรียนไม่ไหวแน่ๆ

“ ยังไม่จบ...  มึงจะเอาต่อที่นี่ใช่มั้ย!!! “ 

ไอ้เรย์อารมณ์ขึ้นทันที  พร้อมกับเลิกแขนเสื้อขึ้นและลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ เปล่าๆๆ...  พวกกูไม่กล้าแล้ว  กูแค่จะมาขอโทษพวกมึงเฉยๆ เท่านั้น “  หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาครับ

“ ไอ้พวกนี้เหรอกันต์  ที่มันรุมทำร้ายเราอะ “ 

พี่พีถามขึ้นต่อเสียงเข้ม  ผมเลยได้แต่พยักหน้าตอบไปเท่านั้น  และไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ  พี่พีก็ถีบไปยังหนึ่งในนั้นทันทีจนมันเซถลาล้มกันไปพร้อมกับเพื่อนข้างๆ อีกสองสามคน  ก่อนที่พี่พีจะถูกพี่คิมกับพี่บิวล็อคตัวเอาไว้

“ พอเหอะมึง  ดูสภาพพวกนี้มันก่อน  เดี๋ยวแม่งก็ตายคาโรงอาหารหรอก “ 

พี่คิมรีบพูดห้ามไว้ครับ

“ พอเถอะครับพี่ๆ  พวกผมยอมแล้ว  แค่พี่กิจคนเดียวพวกผมก็จะตายกันอยู่แล้ว  ผมแค่จะมาขอโทษจริงๆครับ “ 

พวกนั้นบอกพลางยกมือไหว้ขอโทษกันทั้งกลุ่ม  เห็นสภาพนี้แล้วก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้นะครับ  เพราะแต่ละคนท่าทางจะโดนหนักกันเลยทีเดียว... 

แต่ถ้าโดนขนาดนี้...  ไหงพี่กิจถึงมีแผลแค่นั้นเองอะ ?  น่าแปลกสุดๆ...

“ แล้วไอ้โล้นตัวต้นเรื่องมันไม่มาด้วยเหรอวะ “ 

ไอ้ธันถามขึ้นมาบ้างครับ  ตอนนี้คนทั้งโรงอาหารต่างก็ตกใจและให้ความสนใจมาที่พวกผมกันหมด

“ มันนอนหยอดข้าวต้มอยู่โรงพยาบาลโน่น...  อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์คาดว่ามันคงมาเรียนไม่ไหว  แต่ถ้ามันหายดีแล้ว  พวกกูจะให้มันมาขอโทษพวกมึงนะ “

“ ไม่ต้อง..  แค่อย่ามายุ่งกับพวกกูอีกก็พอ  ที่สำคัญอย่าไปทำเรื่องแบบนั้นกับใครอีกล่ะ “ 

ผมบอกไปครับ  จะได้จบๆกันไป  แค่นี้สภาพพวกมันก็จะตายกันอยู่แล้ว  ขืนมีเรื่องอีก  สงสัยจะได้เป็นผีเฝ้าโรงอาหารตามที่พี่คิมบอกไว้แน่ๆ

“ ได้ๆ  พวกกูสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว  นั้นพวกกูไปก่อนนะ “ 

มันพูดจบก็มองมาทางพี่พีอย่างหวาดๆ  ก่อนจะรีบพากันออกไปจากโรงอาหาร

“ มึงอะใจดีเกินไป “ 

ไอ้เรย์หันมาว่าผม  ก่อนจะนั่งลงที่เดิมครับ

“ เออน่า....  จะได้จบๆกันไป  มึงไม่เห็นสภาพพวกนั้นเหรอ  แม่งโดนหนักกว่าพวกเราซะอีก “

“ ปล่อยกูได้ละ.. “ 

พี่พีพูดขึ้น  พี่คิมกับพี่บิวเลยปล่อยแขนพี่เขาทันที  ท่าทางอารมณ์จะเย็นลงมาหน่อยๆ แล้วละครับตอนนี้

“ นี่ถ้าไอ้กิจโทรมาบอกนะ  พวกแม่งได้ตายคาตีนแน่ “  พี่พีพูดขึ้น

“ เออน่ามึง  แค่นี้มันก็จะตายกันอยู่แล้ว  มึงไม่เห็นเหรอ “  พี่คิมพูดต่อ

“ เออ... “

“ เอ่อ...  พวกพี่ๆ กินข้าวกันยังครับ  กินกับพวกผมมั้ย “ 

ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง  เพื่อให้พวกพี่ๆ เขาได้อารมณ์เย็นลง

“ ยังดีกว่าน้อง  เดี่ยวพวกพี่ต้องไปทำธุระกันข้างนอกต่ออะ  เดี๋ยวก็ไปแล้ว “ 

พี่บิวว่ามาครับ  จากนั้นพวกพี่ๆ เขาก็เดินออกไป  โดยที่พี่พีทิ้งท้ายไว้ว่า  ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรกันอีก  ก็ให้เรียกพวกพี่เขาได้เลยทันที  ผมก็เลยได้แต่พยักหน้ารับไปเท่านั้น

“ เชี่ย... กูแม่งอยากรู้ชิบหายว่ะ  ว่าพี่กิจทำไรพวกนั้นวะ  สภาพถึงได้แย่ขนาดนี้ “ 

ไอ้แน๊คพูดขึ้นมาขณะที่จิ้มไก่ย่างเข้ามาไว้ในจานเปล่า

“ นั่นดิ “ 

ไอ้เรย์เห็นด้วย  จากนั้นทุกสายตาบนโต๊ะก็หันมามองที่ผมเป็นตาเดียว 

เห้ย!!  ผมไม่รู้  ถามพี่เขายังไง  เขาก็ไม่ยอมบอก

“ มองกูทำไม  กูไม่รู้ “

ผมบอกไปครับ  แต่หลายๆ สายตายังมองเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อผมเลย... 

นี่กูพูดจริงๆ นะเห้ย...  เพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน...

“ เออแพรกับธัน  วันนี้มีนัดประชุมที่ชมรมแบดด้วยนี่ “ ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเลยครับ

“ ใช่ๆ  แต่พวกเราคงต้องไปหลังเลิกเชียร์อะ  คงเข้าประชุมสายแน่ๆ “  ไอ้ธันว่ามาครับ

“ พูดถึงเชียร์  ถ้าวันนี้พี่กิจเล่นหนัก...  กูว่าพวกเราอ่วมแน่เลยมึงเอ้ย... “ 

ไอ้เรย์พูดขึ้นมา  ผมก็นึกภาพตามทันที  พร้อมกับทำหน้าเหนื่อยๆ  ท่าทางจะแย่แน่ๆ เลยครับ  เย็นนี้

“ โดดเชียร์มั้ย  เดี๋ยวเราโดดเป็นเพื่อน “ 

แพรเสนอครับ  ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะมาจากปากของดาวคณะแบบนี้ 

“ ไม่ไหวดิ  เดี๋ยวโดนซ่อมมาจะหนักกว่าเดิม “  ผมบอกไป

แล้วพวกเราก็ถอนหายใจขึ้นมาพร้อมกันอย่างรู้ชะตากรรม



...................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/02/2561 update chapter 19 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-02-2018 14:41:55
ตอนเย็นที่หอประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์

ผมกับเพื่อนๆในกลุ่มเข้าไปจัดแถวกันตามปกติ  ในขณะที่พวกพี่ว๊ากหน้าโหดก็มายืนเรียงแถวกันตรงหน้าเวทีแล้ว  รอก็แต่ท่านประธานเชียร์สุดหล่อที่ยังไม่เข้ามาเลยครับตอนนี้

“ น้องกันต์ๆ  ออกมานี่ค่ะ “ 

พี่หน่วยพยาบาลปี 2 เรียกผมให้ออกไปหาเขาครับ

“ ตามพี่มานะ “ 

ผมเดินงงๆตามพี่เขาไป  ก่อนจะไปยังจุดพยาบาล  ซึ่งตอนนี้มีไอ้ธันกับไอ้เรย์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ ช่วงนี้พวกน้องป่วย  อาทิตย์นี้ก็ยังไม่ต้องเข้าไปรวมแถวกับเพื่อนๆ นะ  มาอยู่ที่หน่วยพยาบาลกับพวกพี่ๆ ก่อนละกัน “  พี่เขาอธิบายต่อ

“ แล้ว...  พี่กิจเขาจะไม่ว่าเอาเหรอครับ “

“ ไม่ว่าหรอก  ก็พี่กิจเป็นคนบอกให้แยกพวกน้องออกมาเองแหละ “

ได้ยินมาอย่างนี้  ผมก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว  ก่อนจะไปนั่งข้างๆไอ้เรย์  ซึ่งมันก็ขยับเข้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ ว่า   “ ยิ้มไม่หุบเลยนะมึง ”



…………………….



จบจากห้องเชียร์ก็ทุ่มครึ่งแล้วครับ  ผม ไอ้ธันและก็แพร  ยังต้องไปที่ชมรมแบดมินตันต่อ  ซึ่งไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะประชุมกันเสร็จแล้วรึยัง

“ เดี๋ยวเรานั่งข้างหลังนะ “

แพรพูดขึ้นก่อนจะเปิดประตูรถของธันออก  ส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้างงๆ ครับ  เพราะแพรต่างหากที่ควรจะมานั่งหน้าคู่กับไอ้ธันมัน  ไม่ใช่ผม...  แต่เห็นสองคนนี้ยิ้มๆ มา  ผมก็เลยว่าตามนั้นครับ

ธันขับรถมาถึงคอร์ดแบดของมหาลัยฯ  พวกเราก็เร่งฝีเท้ารีบเดินเข้าไปกันทันที  คนเยอะมากเลยครับ  เต็มกันทุกคอร์ดเลย  ซึ่งในโรงยิมจะมีด้วยกันทั้งหมด 8 คอร์ด  โดยมีป้ายบอกว่าคอร์ดที่ 1 – 4 มีไว้สำหรับชมรมแบดมินตันครับ

พวกเราที่มากันโครตสายรีบเดินตรงเข้าไปหารุ่นพี่เคยเป็นคนรับใบสมัครครับ  ซึ่งพอเขาเห็นสภาพผมกับไอ้ธัน  ก็ตกใจกันยกใหญ่เลย  ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้นกับพวกผม  แต่พวกผมก็ไม่ได้อธิบายอะไรไปมากนะครับ  บอกแต่เพียงว่ามีเรื่องชกต่อยกันนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง

จากนั้นพวกผมก็เริ่มอธิบายถึงความจำเป็น  ว่าช่วงนี้ที่คณะยังมีกิจกรรมเชียร์อยู่  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมาสายแบบนี้

“ ไม่เป็นไร  เอาไว้จบห้องเชียร์แล้วค่อยมาซ้อมกันตามปกติก็ได้จ้ะ  วิศวะก็เป็นกันแบบนี้ทุกปีนั่นแหละ “

จากนั้นพี่เขาก็เริ่มอธิบายให้เราฟังว่าที่ชมรมจะซ้อมกันทุกวัน จันทร์ – พุธ  พร้อมทั้งให้กุญแจล็อคเกอร์พวกเรามากันคนละดอกสำหรับเก็บของครับ

จากนั้นพวกพี่ๆ และโค๊ชก็เรียกให้พวกเราไปรวมกับคนอื่นๆ  ก่อนจะแนะนำสมาชิกใหม่อย่างพวกผมให้คนอื่นๆได้รู้จัก  ซึ่งนั่นก็เรียกเสียงฮือฮาได้มากเลยทีเดียว

ก็แหงล่ะ...  ก็ดาวกับเดือนคณะวิศวะมาเป็นสมาชิกในชมรมนี่นะ

แต่แล้วทุกสายตาก็เบนไปจากพวกผมทันทีครับ  เมื่อมีอีกหนึ่งคนที่กำลังเดินเข้ามาในคอร์ดแบด  ในสภาพชุดนักศึกษาเนียบตั้งแต่หัวจรดเท้า  ก่อนจะมองมาทางผม  แล้วค่อยหาที่นั่งข้างสนามนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างไม่แคร์สายตาใครต่อใครเลย
คงจะเดากันได้ใช่มั้ยละครับ  ว่าเป็นใคร...?

ถูกต้องคร้าบ!!!   ก็ไอ้พี่กิจนั่นแหละ...  คนหล่อแม่งไม่ต้องทำอะไรมาก  ออร่ามันก็จับซะขนาดนี้แหละครับ

พอประชุมกันเสร็จ  พวกผมก็เอาของเข้าไปเก็บยังห้องล็อคเกอร์ครับ  พร้อมกับทักทายสมาชิกและพี่ๆ หลายๆ คนด้วย

ล็อคเกอร์ของผมหมายเลข 13 ติดกับของไอ้ธัน  ส่วนแพรจะอยู่อีกห้องหนึ่งครับ  ซึ่งเป็นฝั่งของผู้หญิง  ส่วนล็อคเกอร์เบอร์ 12 ข้างผมนั้นเป็นหนุ่มหล่อตัวสูง  ท่าทางจะเป็นรุ่นเดียวกันกับผมครับ  เขาพึ่งจะเดินเข้ามาหลังจากล้างตัวเสร็จในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาว  พลางขยี้ผมและเปิดล็อคเกอร์ตัวเองออก

“ หวัดดี “ 

ผมทักขึ้นครับ  แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจอะไร ผมเลยได้แต่ทำหน้าเจื่อนเก้อๆไปครับ  แล้วเขาก็หยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นมาใส่โดยไม่ได้สนใจอะไรทางผมเลย

เมื่อไม่มีอะไรแล้ว  ผมก็ปิดล็อคเกอร์พร้อมจะออกไปข้างนอกกับไอ้ธันมันครับ

“ ดีเนอะ...  อยู่ชมรมแต่มาสายได้  โดยไม่ต้องซ้อมเหมือนอย่างคนอื่นๆ เขา  คนหน้าตาดีมันดีอย่างนี้นี่เอง “

ไอ้หน้าหล่อมันพูดขึ้นมาลอยๆ ครับ  แต่ผมกับไอ้ธันรู้ดีว่ามันกำลังเหน็บพวกเราอยู่

“ อ้าว!  พูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ “ 

ไอ้ธันหยุดเดินหันมาถามขึ้นทันทีครับ

“ แล้วแต่จะคิด  กูพูดขึ้นลอยๆ  ถ้ามึงไม่ได้ทำตัวอย่างนั้นจะมาเดือดร้อนทำไม “

“ อ้าวเห้ย.. “ 

ไอ้ธันกำลังเดินเข้าไปจะมีเรื่องครับ  ผมเลยรีบเข้ามาแทรกกลางไว้ก่อน

“ ใจเย็นมึง...  อย่าไปสนใจเลย  กลับกันเหอะ... “ 

ผมพูดพลางดันตัวไอ้ธันให้ออกจากไปห้องล็อคเกอร์ครับ

“ เชี่ยไรมันวะ “ 

พอออกมาได้  ไอ้ธันมันก็สบถขึ้นมาอย่างหัวเสียครับ

“ เออน่า...  ช่างมันเถอะ  อย่าไปมีเรื่องกันเลย  ชมรมเดียวกัน  ถ้ามันไม่ชอบเรา  เราก็แค่ไม่ไปยุ่งกับมันก็พอป่ะ “ 

ผมบอกไป  มันก็พยักหน้ารับเล็กๆ  ดูจะใจเย็นลงมาบ้างแล้วครับ  พอดีกับที่แพรออกมาพอดี  พวกเราเลยเดินกลับมากันที่คอร์ดแบดอีกครั้ง

พอมาถึง  ภาพที่ผมเห็นก็คือ.... 

ไอ้พี่กิจกำลังนั่งคุยกับสาวสวยคนหนึ่งอยู่ครับ  ท่าทางเหมือนจะรู้จักกันดีด้วยสิ...

“ แล้วนี่พี่กิจมาทำอะไรที่นี่อะ “  แพรถามขึ้นมาครับ

“ ไม่รู้ดิ  มาหม้อสาวละมั้ง... “ 

ผมตอบไปเสียงเรียบๆ ครับ  ปากบอกจะมารับผม  แต่ที่จริงจะมาหลีสาวซะมากกว่ามั้งแบบนี้

“ พี่กิจหวัดดีครับ // ค่ะ “

ไอ้ธันกับแพรเดินเข้ามาทักทายพี่เขา  ในขณะที่ผมเดินรั้งท้ายอยู่ในตอนนี้  แล้วสาวสวยที่นั่งข้างๆ พี่เขาก็หันมามองพวกเราสามคน  ก่อนจะหันไปถามพี่กิจว่าพวกผมคือใคร...  ซึ่งพี่เขาก็บอกว่าเป็นรุ่นน้องที่คณะ  แต่ฟังจากน้ำเสียงและการสนทนาแล้ว  ผมว่าพวกเขาน่าจะรู้จักกันมาอยู่ก่อนแล้ว

“ หิวข้าวว่ะธัน “

ผมพูดขึ้นมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่  ก็ถ้าจะมาหาสาว  ก็ไม่ต้องอ้างว่าจะมารับผมก็ได้  เชิญตามสบายเลยคร้าบ  ผมกลับเองก็ได้

“ นั้นไปกินข้าวกัน  กินเสร็จแล้วเดี๋ยวเราไปส่งนะ “  ไอ้ธันว่ามาครับ

“ ไม่ต้อง!  เดี่ยวกันต์กลับกับผม  พวกคุณกลับกันก่อนได้เลย “ 

น้ำเสียงในแบบฉบับท่านประธานเชียร์พูดขึ้น  ต่างจากเสียงสบายๆ หวานๆ ที่คุยกับสาวข้างๆ ราวฟ้ากับเหวเลยครับ

จากนั้นพี่กิจก็ลุกขึ้นยืน  ก่อนจะเดินมายืนอยู่ข้างผม

“ อ้าว...  กิจจะกลับแล้วเหรอ...  ยังอยากจะคุยต่ออยู่เลย “

พี่สาวคนดังกล่าวพูดขึ้นด้วยสีหน้าเซ็งๆ ครับ

“ อืม...  เดี๋ยวกิจต้องกลับแล้วล่ะ  เดี๋ยวต้องพาเจ้านี่ไปกินข้าวต่อด้วย “

“ ถ้าพี่จะอยู่คุยต่อก็ได้นะ  เดี๋ยวผมจะกลับกับไอ้ธันเอง “
 
ผมบอกไปเซ็งๆ ครับ  เดี๋ยวจะหาว่าผมมาขัดขวางความสุขของพวกเขาซะงั้น

“ ก็พี่บอกจะมารับเรา  แล้วเรายังจะกลับกับคนอื่นอีกทำไม “

ผมมองหน้าพี่กิจ  เหมือนจะไม่เข้าใจในท่าทีพี่เขา  ดูเหมือนจะห่วงผม  แต่ปากก็หวานกับสาวๆ แบบนั้น

“ ปะ...  กับกันได้ละ  หิวข้าวไม่ใช่เหรอ “

พี่กิจพูดจบก็เดินแยกกลุ่มออกไป  ผมเลยต้องหันมาลาไอ้ธันกับแพรที่ตอนนี้กำลังทำหน้างงๆ กันอยู่  ก่อนจะเดินตามพี่เขาไปติดๆ..


...............


ภายในรถ

“ เป็นอะไร..  อยากกลับกับไอ้เดือนคณะนั่นมากเหรอ “ 

พี่กิจถามขึ้น  เมื่อขับรถออกจากคอร์ดแบดได้ไม่นาน

“ เปล่า...  ก็เห็นพี่กับพี่คนนั้นคุยกันออกรสออกชาติซะขนาดนั้น  ใครจะกล้าขัดคอ “

“ พี่กับดาวเราไม่มีอะไรกันแล้ว “

“ แปลว่าเมื่อก่อนมีงั้นสิ “

“ ก็..  เมื่อก่อนนะ...  แต่เลิกไปนานแล้ว “

“ แต่ดูเหมือนพี่เขายังไม่อยากจะเลิกอยู่เลยนะ “

“ มันก็เรื่องของเขาป่ะ  แล้วเราจะมาหงุดหงิดทำไม... “

แสรดดดด.....  นี่ผมกำลังหงุดหงิดอยู่เหรอ  ป่าวสักหน่อย

“ ยิ้มไร “

ผมถามขึ้นเมื่อหันไปเห็นพี่กิจอมยิ้มเล็กๆ อยู่ในตอนนี้

“ เปล่า...  ว่าแต่อยากกินอะไร  เดี่ยวพี่จะพาไปกิน “

“ อะไรก็ได้.. “ 

ผมตอบไปเซ็งๆ แต่พี่เขากลับขำขึ้นมาเล็กๆ ในลำคอซะงั้น

โครตน่าหมันไส้เลยครับ

ว่าแต่....

นี่ผมกำลังหัวเสียจริงๆ อย่างนั้นเหรอ...  เพราะอะไรกันนะ....





TBC.


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-02-2018 15:02:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 04-02-2018 15:22:14
ธันชอบกันต์แน่ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 04-02-2018 18:16:32
กันต์ขี้หึงนะเนี่ย อิอิ  ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-02-2018 18:49:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-02-2018 18:55:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-02-2018 20:00:01
มีตัวละครเพิ่มขึ้นป่าวนะ ใครหว่า ล๊อคเกอร์ข้างๆกันต์ มาถึงก็กวนตีนเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 04-02-2018 23:36:07
ชอบกันก็พูดดด
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-02-2018 01:47:42
แค่พี่กิจคุยกับสาว อีน้องมีงอนด้วย  :m13:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 05-02-2018 01:49:36
ชอบกันแล้ว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 06-02-2018 13:25:32
Chapter 21




กันต์'s  Part




เย็นวันจันทร์ต้นสัปดาห์ที่ห้องเชียร์หอประชุมคณะ

“ อีก 1 เดือน!!!  มหาลัยฯเราจะมีงานกีฬาเฟรชชี่และการประกวดดาวเดือนมหาลัย!!!  วิศวะเราทุกปีไม่เคยเป็นรองใคร!!  ดังนั้น!!  ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึงวันงาน  พวกผมจะพักการเข้าเชียร์....  เพื่อให้พวกคุณได้เตรียมตัวสำหรับงานกีฬา  และโชว์สปิริต!!!  ให้พวกผมได้เห็นว่า...  พวกคุณ!!!  มีความสามารถแค่ไหน!!!  พอที่จะมาเป็นรุ่นน้องของพวกผมได้มั้ย!!!...  โดยการคว้าเหรียญทองมาให้ได้มากที่สุด!!!  ดังนั้น...!!!  วันนี้จึงเป็นการเชียร์ครั้งสุดท้าย!!!  แล้วพบกันอีกที!!!!  หลังกีฬาเฟรชชี่..!!!  เข้าใจมั้ย!!! “

“ เข้าใจครับ // ค่ะ “

“ ถ้าใจแล้ว...  วันนี้...  ผมขอทำการเลิกประชุมเชียร์แต่เพียงเท่านี้!! “

พี่กิจพูดจบก็เดินแยกออกไปจากกลางเวที  โดยมีพี่ว๊ากหน้าโหดเดินตามหลังไปเป็นขบวนเหมือนเช่นทุกที

พอกลุ่มพี่ว๊ากหายไปหมด  รุ่นพี่ปี 2 ก็เข้ามาแทนที่ทันที  แล้วเสียงฮือฮาก็เริ่มดังขึ้นมาอย่างผ่อนคลายจากความมาคุเมื่อสักครู่
จากนั้นรุ่นพี่ปี 2 ก็บอกถึงรายละเอียดของงาน  ว่าใครที่ต้องการลงแข่งอะไรก็ให้ไปลงชื่อกับพี่ๆ เขาในวันพรุ่งนี้ที่ใต้อาคารเรียนรวมของคณะ  ไม่นานพวกพี่ๆ เขาก็ปล่อยให้พวกเราได้กลับบ้านกันครับ


……


“ กันต์  ลงแบดคู่กับเรามั้ย “

ไอ้ธันที่เดินเข้ามาแตะไหล่ผมจากทางด้านหลังชวนขึ้นมาครับ  ผมคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะตอบตกลงไป

มันก็น่าสนุกดีนะครับ  ลองสักหน่อยก็ดี  ถึงแพ้ก็ไม่เป็นไร  เอาแค่สนุกๆ ก็แล้วกัน

ส่วนไอ้เรย์มันว่ามันจะลงบาสครับ

ไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คนี่ไม่ลงเลย  มันขอตามไปเก็บภาพให้พวกผมดีกว่า

ก่อนกลับพวกเราไปกินข้าวกันที่ร้านประจำหลังมอ  และก็เหมือนเดิมที่ได้เจอกลับแก๊งของพี่กิจ  ซึ่งมากันครบแก๊งเลยครับวันนี้

“ เป็นไงบ้างน้อง  แผลดีขึ้นยัง “ 

พี่คิมถามขึ้น  ซึ่งจากวันนั้น...  นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วครับ  แผลก็แทบจะเป็นปกติแล้วละครับ

“ ดีขึ้นมากแล้วละครับพี่ “

“ แล้วนี่พวกเราลงแข่งกีฬาอะไรกันมั้ย “ 

พี่พีถามต่อครับ  ผมเลยบอกไปว่า  ผมกับไอ้ธันจะลงแบดมินตันชายคู่  แล้วจู่ๆ พี่กิจที่ทำหน้าไม่สนโลก  ก็หันไปมองไอ้ธันมันทันที  ก่อนจะหันมาทำหน้าดุใส่ผมครับ  เดาอารมณ์พี่แกไม่ถูกเลยจริงๆ

“ แต่มึงไอ้เรย์  ยังไงก็ต้องลงบาสนะเว้ย “  พี่คิมกำชับไปที่ไอ้เรย์ต่อครับ

“ ลงอยู่แล้วพี่  ผมไม่พลาดหรอก “

“ ไม่ใช่แค่ลง  แต่ต้องชนะด้วยเว้ย!!  วิศวะเรา 3 ปีที่ผ่านมาไม่เคยหลุดเหรียญทองเลยนะสำหรับบาส  ทั้งกีฬาเฟรชชี่และสปอร์ตเดย์ปลายปี “

“ โหพี่  พูดมาแบบนี้ก็กดดันผมอะดิ “

ไอ้เรย์ทำหน้าเจื่อนพูดขึ้น  พี่ๆ เขาเลยพากันหัวเราะมันครับ  เว้นก็แต่พี่กิจที่ยังคงคอนเซปเดิมยังไงก็อย่างนั้น  แล้วพวกพี่ๆ เขาก็พากันเดินเลยเข้าไปหาโต๊ะนั่งข้างใน  ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องของคนทั้งร้าน ( เหมือนเดิม )

พี่พีขยี้หัวผมเบามืออย่างเอ็นดูขณะที่เดินผ่าน ส่วนพี่กิจที่เดินรั้งท้ายพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า...

“ เดี๋ยวรอกลับพร้อมกัน... “

แค่นั้นแหละครับ  ไอ้เรย์มันก็มากระซิบข้างหูผมทันทีเลยว่า  ตกลงแล้วผมจะเลือกใคร  พี่กิจ  พี่พี  หรือว่าไอ้ธัน...

ผมเลยเหยียบเท้ามันไปแรงๆ หนึ่งทีให้ไปเป็นคำตอบ 

เลือกพ่องมึงสิ  ใครเขาจะมาชอบผม  แถมแต่ละคนนี่ไม่ต้องพูดถึง  สาวๆ แทบจะวิ่งมาถวายตัวให้ถึงที่กันเลยทีเดียว...



.................



วันต่อมา

ผมกับไอ้ธันไปลงชื่อสมัครแข่งแบดมินตันชายคู่กันที่ใต้ตึกครับ  เท่าที่ดูจากรายชื่อแล้วก็มีหลายคู่ที่สมัครอยู่เหมือนกัน  ซึ่งพี่เขาบอกว่าจะคัดตัวกันอีกทีในวันจันทร์หน้าครับ

สำหรับไอ้ธัน  นอกจากมันจะลงคู่แล้ว  มันยังลงชายเดี่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรายการ  แม่งฟิตมาก... 

นี่มันลืมคิดไปรึเปล่า...  ว่าตอนค่ำมันยังต้องลงประกวดเดือนมหาลัยฯ อีกนะครับ

ส่วนผมนี่รายการเดียวก็พอครับ  ไม่ไหว...ยอมมันดีกว่า

ผมกับไอ้ธันตกลงกันว่าทุกเย็นหลังเลิกเรียนเราจะมาซ้อมกันที่คอร์ดแบดของมหาลัยฯกันครับ  ซึ่งช่วงนี้ผมก็สามารถมาซ้อมให้กับชมรมได้เหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆ ในชมรม  เพราะไม่ต้องเข้าเชียร์



..................



และแล้ววันแรกที่ผมกับไอ้ธันเริ่มซ้อมเพื่อเตรียมตัวแข่งก็เป็นเรื่องครับ ( วันนี้เป็นวังอังคารซึ่งไม่ใช่วันซ้อมของชมรม )

ผมกับไอ้ธันใช้สิทธิสมาชิกของชมรมไปเล่นที่คอร์ดของชมรมร่วมกับพวกพี่ๆ และเพื่อนๆ ในชมรมครับ 

เล่นไปได้สักพัก  ไอ้หน้าหล่อ คิ้วเข้มๆ ต้นขาใหญ่ๆ  คนที่เคยแขวะผมกับไอ้ธันก็เดินถือไม้แบดเข้ามาภายในโรงยิม  พร้อมกับเพื่อนมันอีกหนึ่งคน  ซึ่งผมจำได้ว่าไม่ใช่สมาชิกในชมรมนะครับ

“ แหม...  วันที่ไม่มีซ้อมนี่มากันได้เนอะ  พอวันที่มีซ้อมเห็นมากันตอนเลิกซ้อมทุกที “ 

ถึงจะพูดลอยๆ จากคอร์ดข้างๆ  แต่มันก็ดังมากพอที่ผมกับไอ้ธันจะได้ยิน 

ไอ้ธันทำท่าจะเดินเข้าไปหา  แต่ผมคว้าแขนมันเอาไว้ก่อนครับ

“ ช่างเหอะมึง  เล่นต่อเหอะ  พี่ๆ เขารออยู่...  อีกอย่าง...  เสียเวลาซ้อมด้วย  วันจันทร์ก็ต้องคัดตัวแล้วนะ “

ผมบอกมันไปครับ  ซึ่งมันก็หันไปมองยังรุ่นพี่ปี 2 อีกฝั่งที่กำลังรอเล่นอยู่  ท่าทางมันดูจะใจเย็นลงบ้างแล้ว  จากนั้นคอร์ดพวกผมก็เล่นกันต่อจนจบเกมครับ

แบดมินตันนี่เป็นกีฬาที่ผมคิดว่าผมก็เล่นได้ดีพอสมควรเลยนะครับ  แต่สำหรับไอ้ธันนี่เก่งกว่าผมเยอะ  ไม่แปลกใจเลยที่แพรบอกว่ามันเคยเป็นตัวโรงเรียนมาก่อน

เซตนี้จบลงโดยที่พวกผมชนะรุ่นพี่ปี 2 ไป 15 / 11 ครับ  เหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกัน

แพรซื้อน้ำมารอพวกเราแล้วตรงที่นั่งข้างสนาม  เพราะแพรยังเริ่มหัดตั้งแต่เบสิคอยู่เลยครับ  คือเธออยากลองเล่น  ก็เลยสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกของชมรมอะครับ

“ ลองกันสักเกมมั้ย  ตัวแทนคณะวิศวะ “

ไอ้หน้าหล่อพร้อมกับเพื่อนมันอีกคนมายืนท้าทายอยู่ตรงหน้า  ขณะที่พวกเรากำลังนั่งพักเหนื่อยกันอยู่ครับ  พอผมเงยหน้ามอง  ก็เห็นมันทำท่ายิ้มเล็กๆมั่นใจที่มุมปาก  ราวกับว่ายังไงพวกผมก็ไม่มีทางชนะมันได้หรอกครับ

“ ประเดิมก่อนแข่งจริงไง  จะได้รู้ว่าระหว่างวิศวะกับเภสัชใครมันจะเจ๋งกว่ากัน “

มันพูดมาแบบนี้ผมถึงรู้ว่ามันคงลงแข่งกีฬาเฟรชชี่นี้ด้วย และเป็นตัวแทนของคณะเภสัชศาสตร์

“ เอาดิวะ  พวกกูกลัวที่ไหน “

ไอ้ธันตอบไปทันทีโดยแทบจะไม่ต้องคิดเลยครับ  จากนั้นพวกเราก็ลงสนามกันไป  ท่ามกลางการจับตามองของหลายๆ คน  ซึ่งผมว่าส่วนมากคงจะไม่ได้สนใจกับการแข่งขันเท่าไหร่หรอก  ที่มองคงเพราะคอร์ดนี้มีแต่คนหน้าตาดีซะมากกว่า  เพราะดูจากสาวๆ ข้างสนามแล้ว  บางคนถึงกับเอามือถือมาถ่ายรูปกันเลยทีเดียว

การแข่งขันดำเนินไปอย่างไม่ค่อยจะสูสีกันสักเท่าไหร่  เพราะเอาเข้าจริง...  ผมต้องยอมรับเลยครับว่ามันเก่งเอามากๆ  ทั้งเทคนิคและกำลังกาย 

มิน่า...  ต้นขาถึงได้ใหญ่ซะขนาดนั้น

สุดท้าย...  พวกผมก็แพ้ไปอย่างขาดรอยด้วยผล 9 ต่อ 15  ซึ่งส่วนมากจะเป็นผมที่ทำให้ทีมเสียซะมากกว่า  และเหมือนว่ามันจะรู้ว่าผมอ่อนกว่าไอ้ธันจึงหันมาตบใส่ทางผมอยู่บ่อยๆ

“ กูขอโทษนะเว้ยไอ้ธัน... “

ผมพูดขึ้นเมื่อกลับมานั่งยังที่นั่งข้างสนาม  พร้อมกับรับน้ำเย็นๆ จากแพรที่คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ

“ ขอโทษอะไร “

“ ก็ที่กูทำทีมแพ้ไง... “

“ เห้ย!!  อย่าคิดอย่างนั้นสิ  เราไม่เคยโทษว่ามันเป็นความผิดของกันต์เลยนะ  อีกอย่าง...  เราเป็นทีมเดียวกัน  ก็ต้องรับผิดชอบผลร่วมกันดิ “

มันยิ้มบอกผมที่ทำหน้าหงอยๆ มาครับ

“ เอาน่า...  กันต์ก็เล่นได้ดีแล้ว  เรายังมีเวลาซ้อมกันอีกเยอะ  ถึงวันนี้จะแพ้  แต่วันจริงเราอาจจะชนะก็ได้นะ “

มันพูดมาแบบนี้  ผมก็พอจะยิ้มออกครับ  แพรเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ไอ้ธันมันพูด

“ แน่ใจเหรอวะ  ว่าวันจริงจะเอาชนะพวกกูได้  ขนาดแค่เล่นๆ ยังแพ้ซะหลุดลุ่ยเลย “

ไอ้หน้าหล่อมันยิ้มขำที่มุมปากมาครับ  โครตกวนตีนเลย....

“ เฮ้อ...  ผิดหวังจริงๆ  เนี่ยเหรอวะวิศวะ  กูก็นึกว่าจะแน่กว่านี้ซะอีก  อ่อนชิบหาย “

ไอ้ธันทำท่าจะลุกขึ้นครับ  ผมเลยรีบจับไหล่มันเอาไว้  เดี๋ยวมีเรื่องกันแล้วจะยุ่ง...

“ วิศวะเราไม่อ่อนหรอกครับน้อง  แค่ตอนนี้ยังขาดการฝึกซ้อมอยู่บ้างก็เท่านั้น  ส่วนเรื่องแน่ไม่แน่  ลองดูกับพี่ก่อนก็ได้นะครับ  เอาแบบตัวๆ ไปเลย  จะได้รู้ผลกันชัดๆ “

เสียงเรียบๆ เย็นๆ ดังขึ้น  พร้อมกับใบหน้าหล่อๆ ในสภาพชุดเล่นบาสสีดำ  ที่เผยผิวขาวซะจนออร่าจับ...

ไอ้หน้าหล่อมองพี่กิจเหมือนอยากจะลองดี  เพราะมันเองก็มั่นใจในฝีมือตัวเองอยู่มากครับ ซึ่งผมก็ยอมรับนะครับว่ามันเก่งจริงๆ  ถึงจะเป็นพี่กิจก็เถอะ  ไม่น่าจะเอาชนะมันได้หรอก 

ที่สำคัญ...  นี่มันแบดมินตันนะพี่...  ไม่ใช่บาส

“ เอาสิครับ...  พี่กิจ “

มันว่าจบก็เดินลงไปรอในคอร์ดทันที  พี่กิจนั่งลงข้างๆ ผม  ก่อนจะถอดรองเท้ากีฬาของตัวเองออก

“ กันต์พี่ขอยืมไม้แบดหน่อยนะ  แล้วคุณ... “ 

พี่กิจหันไปทางไอ้ธันมันครับ

“ ผมขอยืมรองเท้าคุณใส่หน่อยนะ  ของกันต์มันเล็กไป  ผมคงใส่ไม่ได้ “

เมื่อทุกอย่างพร้อม  พี่กิจก็ลงสนามไป  แต่คราวนี้แทบจะทุกคอร์ดในโรงยิมที่พร้อมใจกันหยุดเล่นหมด  เพื่อรอดูการแข่งระหว่าง 2 คนนี้

ผมเข้าใจนะครับว่าพี่กิจเป็นห่วงเรื่องศักดิศรีของของคณะ  แต่พี่ไม่มีทางเอาชนะมันได้แน่ๆ  ไอ้นี่มันเก่งมากนะครับ  ขนาดไอ้ธันยังพูดเลยว่า  ถ้าสู้กันแบบ 1 ต่อ 1   มันเองก็ยังเอาชนะไม่ได้  แล้วนี่นักบาสจะมาสู้กับนักแบดมินตันเนี่ยนะ...  มันแพ้เห็นๆ กันอยู่แล้ว


..........................


การแข่งดำเนินไปนานพอสมควร  ผลที่ออกมาก็คือ 15 ต่อ 8

แต่....


พี่กิจชนะ....  เห้ย!!  เป็นไปได้ไง 

แต่เท่าที่ผมดู  มันไม่ใช่เพราะฟลุ๊คหรอกนะครับ  ทั้งเทคนิค  กำลัง  และความคิด  พี่กิจแทบจะเหนือกว่าทุกอย่างเลย  ตอนที่พี่เขาตั้งใจตบกดลงมาแรงๆ เสียงดังอย่างกับยิงปืนแน่ะ  ก้องไปทั่วทั้งโรงยิมเลย... 

ใครจะไปเชื่อว่าพี่เขาอยู่ชมรมบาส  นี่ถ้าบอกว่าเป็นนักแบดมินตันตัวมหาลัยฯผมก็เชื่อนะครับ....

เมื่อการแข่งกู้ชื่อเสียงนอกรอบจบลง  พี่กิจก็เดินหน้าเฉยกลับเข้ามานั่งข้างๆ ผมที่ข้างสนาม  ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ มากมาย  ทว่าเจ้าตัวสนใจซะที่ไหน  คงชินไปแล้วละมั้งครับ  ก่อนจะถอดรองเท้าคืนให้ไอ้ธันมัน  แล้วเอาไม้แบดมาเคาะที่หัวผม

“ อะไรพี่... “ 

ผมทำหน้ายุ่งถามไปครับ

“ ไปแพ้เขาได้ไงเนี่ย  ต้องฝึกอีกเยอะเลยรู้มั้ย “

“ ก็ใครมันจะไปเก่งทุกอย่างเหมือนพี่อะ “

พี่กิจถอนหายใจเบาๆ  ก่อนจะพูดต่อ

“ ไว้วันหยุดเสาร์อาทิตย์เดี๋ยวพี่จะเทรนให้ก็ละกัน  แต่วันธรรมดานี่พี่คงมาช่วยไม่ได้นะ  เพราะต้องไปดูชมรมบาส “

“ จริงอะ... “

“ เออ....  ขืนปล่อยไว้แบบนี้  มีหวังชวดเหรียญแน่ๆ “

พอพี่เขาว่ามาแบบนี้  ผมก็ทำหน้ายู่มองตอบกลับไปทันทีครับ 

แหม...  ดูถูกกันซะจริง  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงก็เถอะนะ

“ แล้วนี่จะกลับยัง...  พี่หิวข้าวแล้ว “

พี่กิจว่ามาต่อ  ผมเลยหันไปถามไอ้ธันคู่บัดดี้ผมครับ  ซึ่งตอนนี้มันก็กว่า 2 ทุ่มแล้ว  และที่คอร์ดก็จะปิดตอน 3 ทุ่มด้วย

“ พวกคุณ 2 คนไปด้วยกันสิ  เดี่ยวผมเลี้ยงเอง “

ใจปล้ำดีแท้คุณชาย...  สุดท้ายเราก็ตกลง  ซ้อมกันแค่นี้สำหรับวันนี้

แต่ก่อนกลับ  ไอ้หน้าหล่อมันเดินผ่านหน้าพวกผมมาพอดี  ท่าทางมันคงจะเจ็บแค้นน่าดู  ที่ความมั่นใจของมันถูกทำลายซะยับขนาดนั้น

“ ไว้เจอกันวันแข่งก็แล้วกัน  ยังไงเหรียญทองก็ต้องเป็นของเภสัชแน่นอน “  พูดจบมันก็เดินไปเลยครับ

เอาตรงๆ นะ...   นี่ผมยังไม่รู้เลยว่าพวกผมไปทำอะไรให้มันเจ็บแค้นขนาดนี้  ถึงได้จ้องแต่พวกผมตลอดเลย



.....................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/02/2561 update chapter 20 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 06-02-2018 13:34:25
ที่ร้านสเต๊กหน้ามหาลัยฯ

พี่กิจพามาเลี้ยงสเต๊กครับ  พร้อมทั้งสั่งอาหารอย่างอื่นมาอีกเพียบ  ทั้งยำแซลมอล  ซีซ่าสลัด  และปีกไก่ทอดสูตรพิเศษของร้านครับ

“ พี่กิจนี่ตอนเชียร์กับหลังเชียร์นี่คนละเรื่องกันเลยนะคะ “ 

แพรพูดขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารกันอยู่

“ มันเป็นหน้าที่น่ะ  วันนึงพวกคุณจะเข้าใจ “ 

พี่กิจพูดไปเรียบๆ ตามสไตล์พี่แกครับ

“ ว่าแต่..  พี่กิจกับกันต์ทำไมดูสนิทกันจังเลยคะ “

 แพรถามต่อครับ  ซึ่งเป็นคำถามที่ผมคงจะตอบยาก  เพราะมีข้อตกลงไว้กับพี่กิจอยู่  แต่พี่กิจกลับตอบมันง่ายๆ  สบายๆ  เสียอย่างนั้น

“ ก็ผมกับกันต์พักอยู่คอนโดเดียวกัน..  ไม่สิ..  เรียกว่าห้องเดียวกันเลยดีกว่า “

ถึงตรงนี้  ผมที่กำลังดื่มน้ำก็ถึงกับสำลักน้ำขึ้นมาทันที

ส่วนไอ้ธันกับแพรก็มองหน้ากันอึ้งๆ

ว่าแต่...  ไหนห้ามผมบอกใครไงเล่า..  แล้วทีตัวเองกลับบอกชาวบ้านเขาไปแบบหน้าชื่นตาบาน

“ ไม่เห็นกันต์เคยเล่าให้เราฟังเลย “  ไอ้ธันถามต่อครับ

“ เอ่อ... “ 

จะตอบยังไงดีหว่า…

“ ผมสั่งห้ามเองแหละ...  เพราะถ้าใครรู้ว่ากันต์อยู่กับผม  เดี๋ยวเขาก็จะหาว่าเป็นเด็กเส้นเอา  เพราะตอนนี้ผมยังทำหน้าที่ประธานเชียร์อยู่ “

พี่กิจอธิบายมาครับ  สองคนนั้นก็ดูจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง

แต่ผมว่า...  แรกๆมันไม่ใช่เหตุผลนี้ป่าววะ...

จากนั้นระหว่างมื้ออาหาร  พี่กิจก็จะคอยย้ำเรื่องที่ต้องให้ผมกับไอ้ธันฝึกให้มากๆ  เพราะไม่อย่างนั้นเราอาจจะต้องเสียเหรียญทองไปให้กับคณะเภสัชตามที่มันข่มเอาไว้ก็ได้

ซึ่งจะว่าไปแล้ว...  จากที่คิดว่าจะแค่เล่นๆ เอาสนุกๆ  ตอนนี้ผมกลับรู้สึกฮึกเหิมอยากคว้าเหรียญทองขึ้นมาให้ได้จริงๆ แล้วครับ

ไม่ใช่เพื่อตัวเอง

ไม่ใช่เพื่อทีม

ไม่ใช่เพื่อคณะ

แต่เพราะหมันไส้ไอ้หน้าหล่อมันล้วนๆ เลยครับ... 

งานนี้รับรองผมทุ่มสุดตัวแน่ๆ....



.......................



ตลอดสัปดาห์ผมกับไอ้ธันซ้อมกันอย่างหนักทุกวัน  ส่วนไอ้เรย์ก็เช่นกัน  เห็นมันบ่นอุบเลยว่าพี่กิจโครตโหดเลย...

แล้วอย่างนี้ถ้าพี่เขาจะมาเทรนให้ผม  มันจะโหดแค่ไหนกันนะ....

แต่ไม่ต้องให้คิดนานหรอกรับ  วันเสาร์สุดสัปดาห์ก็มาถึง

วันนี้พี่กิจพาผมมาที่คอร์ดแบดแถวชานเมืองครับ  เพราะที่มหาลัยฯ มันปิดวันเสาร์ อาทิตย์

ที่นี่นอกจากจะมีคอร์ดแบดแล้วก็ยังมีสนามเทนนิส  ฟิตเนต  และสนามฟุตซอร์อีกด้วยครับ

พี่กิจเดินนำเข้าไปติดต่อยังเค้าเตอร์  เห็นว่าจองไว้แล้ว 2 ชั่วโมง  ซึ่งตอนนี้ก็เวลา 5 โมงเย็นพอดี  ซ้อมเสร็จก็คงกินข้าวกันต่อเลย....

แต่จะว่าไป  เดี๋ยวนี้พี่เขาดูจะใจดีกับผมเป็นพิเศษเลยนะครับ  ที่สำคัญสรรพนามที่ใช้เดี๋ยวนี้ก็มีแต่พี่กับเราหรือไม่ก็เรียกชื่อผมไปเลย  ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีแค่ มึงกับกูเท่านั้น...

พี่กิจสอนผมหลายอย่างเลยครับ  ตั้งแต่การวิ่งคอร์ด  การใช้ข้อมือ  เทคนิคต่างๆ  ซึ่งหลายอย่างผมก็พอรู้มาบ้างแล้ว  แต่ทำไม่ได้เทพเท่ากับพี่เขา

ในชั่วโมงสุดท้ายเราแข่งกันแบบ 1 ต่อ 1  15 แต้มครับ

เล่นไปแค่ 3 เซตผมก็หมอบแล้วครับ  ผลที่ได้ก็คือ

เซตที่1  3 – 15

เซตที่2  4 – 15

เซตที่3  3 – 15

บอกได้คำเดียวเลยครับว่า...  เละ....


....................


“ เอาน่า...  ยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ  ขยันซ้อมเดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละ “ 

พี่กิจพูดขึ้น  ขณะส่งน้ำดื่มเย็นๆ มาให้ผมครับ

“ ไม่รู้ว่าวันคัดตัวจะรอดป่าวอะพี่ “

“ รอดอยู่แล้ว  เราไม่ได้อ่อนนะ  แต่พี่มันเทพไง “

“ แหวะ...  คนอะไรชมตัวเองก็เป็น “

พี่กิจไม่ได้ว่าอะไรต่อ  ได้แต่ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วตอบกลับมาแทน

“ แล้วเย็นนี้อยากกินอะไร “

“ อะไรก็ได้พี่  แล้วแต่พี่เลย “

“ นั้นปะ...  อาบน้ำล้างตัวกัน  จะได้ไปหาอะไรกิน “ 


..............................


หลังจากเอาของจากล็อคเกอร์เสร็จผมก็เดินตามพี่กิจไปยังห้องอาบน้ำที่อยู่ติดกันครับ 

ภายในมีห้องอาบน้ำอยู่ 6 ห้อง  แต่ 4 ห้องกำลังมีคนใช้อยู่  พี่กิจเดินเข้าไปยังห้องสุดท้ายก่อนผม  ซึ่งผมก็เดินตามเข้าไปยังห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกัน

พอถอดชุดอะไรเรียบร้อยแล้ว...  ผมเลยเปิดฟักบัว...  แต่เท่านั้นแหละครับ 


เงียบ....


ไม่มีแม้กระทั่งน้ำสักหยด...

ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาข้างนอก  ก่อนจะบอกพี่กิจว่าห้องผมน้ำไม่ไหล  ไม่นานประตูห้องพี่กิจก็แง้มเปิดออกมา  พี่กิจเอี้ยวตัวมาแค่ครึ่งท่อน  ในสภาพที่ผมเปียกน้ำหมาดๆ  และหยดน้ำเกาะอยู่ทั่วทั้งตัว...

พี่กิจมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า  รู้สึกเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ  กับสภาพผมในตอนนี้

“ เดี๋ยวผมรออาบต่อจากพี่นะ “ 

ผมบอกไปเท่านั้น  แต่พี่เขากลับตอบกลับมาว่า...

“ ไม่ต้อง.. อาบพร้อมกันเลย  เสียเวลา  พี่หิวแล้ว... “

จากนั้นพี่เขาก็ดึงผมเข้ามาในห้องน้ำเลยครับ  พอผมจะโวยวาย  พี่เขาก็เอามือมาปิดปากผมไว้  ก่อนจะบอกให้ผมเบาๆ

“ จะเสียงดังทำไม  รบกวนคนอื่นเขา  ผู้ชายเหมือนกัน...  อาบน้ำด้วยกันมันก็เป็นเรื่องปกติ..  จะอายทำไม “

ไม่ให้อายได้ไงละครับ  ผมเคยอาบน้ำกับผู้ชายด้วยกันซะที่ไหน...

ผมมองร่างเปลือยเปล่าของพี่กิจตั้งแต่หัว  ไล่ลงมายังแผ่นอกหนากว้าง  6 packs  และ...

เห้ย!!! 

เห็นเต็มๆ ตาเลยครับ...  แถมยัง...  ใหญ่ซะจนผมอายที่จะต้องถอดผ้าเช็ดตัวของตัวเองออกเลย

ผมหลับตาปี๋ทันทีที่มองจุดนั้น  เหมือนได้ยินเสียงพี่กิจขำเล็กๆ ในลำคอ

“ ตกใจอะไร  ทำไมต้องหลับตาด้วย  ของตัวเองก็มี...  แปลกตรงไหนวะ “

พูดจบพี่กิจก็ถือวิสาสะดึงผ้าเช็ดตัวของผมออกเลยครับ  ผมตกใจจนต้องรีบเอามือมาปิดไว้  ก่อนตั้งท่าจะด่าพี่เขาออกไป  แต่กลับถูกพี่เขาเอามือมาปิดปากผมไว้ก่อน  พร้อมทั้งเอามือจุ๊ปากตัวเอง  บอกให้ผมเงียบๆ

“ รีบอาบกันได้แล้ว...  จะได้ไปหาอะไรกินกันสักที  พี่หิวแล้วเนี่ย “

แล้วพี่กิจก็ดึงผมเข้าไปใต้ฝักบัวครับ  พี่เขาให้ผมแบมือออกก่อนจะกดครีมอาบน้ำใส่มือมาให้  ผมก็เลยตามเลยครับ...
 
ผมที่เผลอเอามือออกมาจากของสงวน  พอนึกขึ้นมาได้  ก็รีบหันหลังให้พี่เขาทันทีเลย  แต่ดูท่าจะไม่ทันแล้วละครับ  ป่านนี้พี่เขาคงเห็นผมหมดทุกซอกทุกมุมแล้วล่ะครับ...

อายชิบหาย....

ผมที่หันหลังให้พี่กิจ  กำลังไล้สบู่เหลวไปทั่วร่าง  แล้วจู่ๆ  มือพี่กิจก็มาขยี้ที่หัวผม  พร้อมกับฟองที่เกิดขึ้น  นี่พี่เขากำลังสระผมให้ผมอยู่เหรอเนี่ย... 

รู้สึกดีจังแฮะเวลามีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้...

พี่กิจสระผมให้ผมไป  ก็เล่นหัวผมไปด้วยครับ  ทำผมตั้งแบบอุลตร้าแมนบ้าง  แล้วก็ขำผมซะงั้น  พอสระผมเสร็จ  ก็ล้างตัวให้ผมด้วย  ก่อนจะมาจัดการกับตัวเองต่อ

พี่กิจที่กำลังฟอกหน้าด้วยโฟมล้างหน้า  บอกให้ผมหยิบครีมอาบน้ำให้หน่อย  ผมเลยหันหลังให้  แล้วเอื้อมมือจะไปหยิบ  แต่ขวดมันดันล้วงลงพื้นไป  พอผมก้มตัวลงไปเก็บเท่านั้นแหละครับ

รู้สึกได้เลยว่า...  มันเป็นความไม่ได้ตั้งใจที่เหมาะเจาะเสียจริง  เมื่อก้นผมดันไปสัมผัสเข้ากับแก่นกายพี่เขาพอดี

“ เห้ย !!! “ 

 o22

ผมตกใจรีบยันตัวเองขึ้นมาครับ  เห็นพี่กิจกำลังยิ้มขำ  พร้อมกับหน้าตาชอบใจเสียอย่างนั้น  อายเป็นบ้าเลย ไม่เอาแล้วครับ  ออกไปก่อนดีกว่า...

“ อ้าว..จะรีบไปไหน “ 

พี่กิจถามขึ้น  เมื่อเห็นผมหยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งเตรียมพร้อมจะออกไปจากห้องน้ำแล้วตอนนี้

“ ไปรอข้างนอก... “ 

ผมตอบไปแค่นั้น  แต่ไม่กล้าหันหน้าไปมองหรอก  รู้ได้ทันทีเลยครับว่าตอนนี้ผมกำลังหน้าแดงหูแดงอยู่แน่ๆ  เพราะมันรู้สึกเหมือนจะร้อนผ่าวๆ บริเวณใบหน้า...

ไม่นานมากพี่เขาก็ตามออกมาพร้อมกับมองผมแล้วยิ้มขำเล็กๆ 

มีอะไรน่าตลกนักเหรอ  ชิส์...


ผมรีบเดินดุ่มๆ ไปที่ห้องล็อคเกอร์ทันที  เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า  โดยมีพี่กิจเดินตามหลังมาติดๆ

นี่มันวันบ้าอะไรวะเนี่ย....

ว่าแต่...  ทำไมผมต้องใจเต้นแรงแบบนี้ด้วย  ตั้งแต่ตอนที่เห็นพี่กิจเปลือยแล้ว...

คงไม่ใช่อย่างที่ไอ้เรย์มันพูดไว้ใช่มั้ย...

หรือว่า... 

บางที...

ผมอาจจะชอบพี่เขาแล้วจริงๆ อย่างนั้นหรือ....





TBC.


-------------------------------------

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณเหมือนเดิมนะครับ  สำหรับทุกกำลังใจและการติดตาม

ช่วงนี้วุ่นๆอะครับ  เลยมะได้ลงเมื่อวานอะครับ  ยังไงวันมะรืนเจอกันตอนต่อไปนะครับผม

^_____________________________________________^

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-02-2018 14:03:33
 :hao7:  :-[

เขิลเลย อีพี่ค่อนข้างหน้าด้านนะ

:L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-02-2018 14:23:46
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 06-02-2018 14:26:32
คู่ของธันเปิดตัวออกมาแว้ววววว
รักเกิดที่คอร์ดแบต ดีต่อใจๆๆ
พี่กิจก็จัดเต็ม บอกชัดๆ ว่าอยู่ห้องเดียวกัน ชกใต้เข็ดขัดโป้งเดียวจอดแบบนี้ธันก็ซีดดิพี่

เคยเจอก้มเก็บสบู่ นีท่น้องกันต์ ก้มเก็บ...
มะอาว มะพูดดดดดดด
ว้๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 06-02-2018 16:45:49
พี่กิจเทอีกแล้ว  กรี๊ดค่ะ 
กันต์รู้ใจตัวเองซะที
พี่กิจเจ้าเล่ห์ขนาดนี้  กันต์ไม่หลุดมือไปไหนแน่  อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 updatบe chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 06-02-2018 18:37:24
ถ้าจะหล่อรวยเก่งขนาดนี้ ชอบเถอะ 555. จอยืมเป็นพ่อของลูกนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 06-02-2018 21:44:47
พี่กิจคนเนียน น้องกันต์คนซึน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 06-02-2018 21:59:14
อิกจหน้าด้านมาก.. :angry2:
น้องอย่าพึ่งกลัวนะลูกสีคล้ำหน่อยเพราะอืพี่มันใช้งานบ่อย  o18
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-02-2018 22:16:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 06-02-2018 23:43:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 07-02-2018 00:04:44
นี่ขนาดพี่กิจยังไม่ตื่นนะเนี่ย ยังตกใจเลย 555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2018 01:21:21
อย่าบอกนะว่าพี่กิจจำได้ว่าน้ำห้องไหนไม่ไหล  :m12:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 07-02-2018 10:48:14
 :-[ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-02-2018 21:42:58
เอาอีกๆ

สนุกมากๆ

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 08-02-2018 06:32:00
โอ้โหวววว ข้ามขั้นแบบสุดดด ยังไม่ทันจีบกันเลย อาบน้ำด้วยกันและ 5555555 สนุกมากเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-02-2018 20:18:56
ยู้ววฮู

สบายดีไหม
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 09-02-2018 20:47:28
Chapter 22




กันต์'s  Part




และแล้ววันคัดตัวก็มาถึง....

รู้สึกตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้สิครับ  พี่กิจยังคงขับรถมาส่งผมที่ตึกเรียนเหมือนเดิม  แถมวันนี้ยังใจดีให้ผมใช้ไม้แบดของพี่เขาด้วย...  กับเหตุผลที่ว่า  ไม้เทพยังไงก็ชนะ...

ก็ดีครับ...  เพราะไม้ของพี่เขาถึงจะยี่ห้อเดียวกันกับผม  แต่ก็เป็นรุ่น Top ที่ดีกว่าของผมมาก

“ อย่าเครียดนะ  ตอนแข่งอะ  เล่นสบายๆ ตามสไตล์ของเรานั่นแหละ  พี่เชื่อว่าเราทำได้อยู่แล้ว “ 

พี่กิจยิ้มบอกมาขณะที่เรายังอยู่กันในรถครับ

“ แล้ว...  พี่จะมาดูผมมั้ย... “

“ อื้ม..  มาสิ  เดี๋ยวจะฝากชมรมให้ไอ้คิมมันดูน้องซ้อมบาสแทน “

“ แบบนี้จะดีเหรอพี่ “

“ วันเดียวไม่เป็นไรหรอกน่า “

ผมยิ้มรับก่อนจะปลดเบลออก  เพื่อเตรียมตัวลงไปจากรถ

“ กันต์...  สู้ๆ นะ  แล้วพี่จะไปเชียร์ “

พี่กิจลูบหัวผมเบาๆ  แต่ผมนี่สิครับ...  ใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย

ตกลงผมชอบพี่เขาจริงๆ เหรอเนี่ย...   เป็นไปได้ไง  เมื่อไหร่กัน  หรือผมออาจจะคิดมากไปเองนะ  มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้...

โอ้ยยยย....  สับสนโว้ยยยย!!!


..........................


ผมเดินเข้ามาในห้องเรียน  ไอ้เรย์มันก็ทักผมขึ้นมาทันที  เมื่อเห็นว่าผมทำหน้าเครียดๆ เดินเข้ามา  ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เครียดนั้นเพราะเรื่องอะไร  ระหว่างเรื่องคัดตัว  หรือว่า...  เรื่องพี่กิจกันแน่...

“ เรื่องคัดตัวเหรอวะ “

ไอ้เรย์มันถามมา  ผมเลยได้แค่พยักหน้าส่งๆ ให้ไปเท่านั้น

“ แล้วมึงกับแพร  ตกลงยังไงกันเนี่ย  กูไม่เห็นมึงจะทำอะไรเลย “

ผมเปลี่ยนเรื่องถามมันไปบ้างครับ  ซึ่งไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์ก็ดูจะสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกันกับหัวข้อนี้ 

“ ใครว่ากูไม่ทำ  กูแค่ไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อก็เท่านั้นเอง  ที่สำคัญ...  ช่วงนี้กูคุยไลน์กับเขาอยู่ “


“ เชร็ด!!!!!!! “


พวกผมสามคนถึงกับอุทานขึ้นมาพร้อมกันทันที  กับการซุ่มเงียบของมัน 

“ เออเรย์..  กูถามมึงอย่างนึงดิวะ...  ไอ้เวลาที่เราอยู่ใกล้ใครสักคน  แล้ว...  ใจเรามันเต้นแรงๆ เนี่ย..  มันคือการชอบป่าววะ “

ผมแอบถามมันต่อครับ  อยากรู้จากปากผู้มีประสบการณ์มากๆ อย่างมันเสียหน่อย

“ ส่วนมากก็ใช่นะ  เพราะถ้ามึงไม่คิดอะไร  มึงก็จะไม่ใจเต้นหรอก “

ชิบหายละไง...

นี่ผมชอบพี่เขาจริงๆ เหรอเนี่ย

ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น  ไอ้เรย์มันก็เข้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ ว่า...

“ ตกลงใครวะ  พี่กิจ  พี่พี  หรือว่าไอ้ธัน “

“ พ่องมึงสิ “

“ เอาเหอะ...  มึงจะชอบใครก็อยู่ที่ใจมึงละกัน  แต่ส่วนตัวแล้ว...  กูเชียร์พี่กิจ  ไอดอลของกูเว้ย “

สาดนี่...  เสือกเชียร์ถูกคนด้วยสิครับ

เห้อ...  แล้วจากนี้ไปผมจะทำตัวยังไงดีเนี่ย  ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้  พี่เขาก็โครตจะดีกับผมเลย...



.....................



เย็นนี้พวกรุ่นพี่นัดเราที่ลงชื่อคัดตัวไปที่คอร์ดแบดของมหาลัยฯครับ  โดยพวกรุ่นพี่เขาจองคอร์ดเอาไว้  2  คอร์ดคือคอร์ด 7 กับ 8  ซึ่งมีคนมากันเยอะอยู่พอสมควร  ทั้งคนมาคัดและคนที่ตามมาเชียร์


.................


ในช่วงแรกจะเป็นการคัดตัวแบบชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยวก่อน  ซึ่งไอ้ธันก็ทำได้สำเร็จครับ  ได้เป็นตัวแทนคณะ  ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ มากมายทั้งในและนอกคณะที่คอยเชียร์มันอยู่

“ ไหวมั้ยเนี่ย “

ผมถามขึ้นเมื่อมันเดินกลับเข้ามานั่งข้างๆ ผม  ในสภาพชุ่มเหงื่อไปทั่วทั้งตัวแบบนี้

“ ไหวสิ  ยิ่งคู่กับกันต์ด้วยแล้ว  เรายิ่งต้องพลาดไม่ได้เลย  ยังไงเราสองคนก็ต้องได้เป็นตัวแทน “

 มันยิ้มบอกมาครับ  จากนั้นแพรก็ส่งน้ำเย็นๆ ให้มันต่อ  ส่วนไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คนี่เป็นแบล็คอัพคอยพัดวีให้มันอยู่เนืองๆ

สำหรับการคัดตัวประเภทคู่  ฝ่ายชายจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 คู่ครับ  เท่ากับว่าถ้าผมจะผ่านการคัดตัวก็ต้องแข่งให้ชนะถึงสามเกมเลยทีเดียว

แต่ว่า...

จนป่านนี้ผมก็ยังไม่เห็นวี่แววของพี่กิจเลยครับ...  ไหนบอกว่าจะมาเชียร์ผมไง...


....................


แล้วการแข่งขันรอบแรกของพวกผมก็มาถึง….

ผมเดินเข้าสนามไปพร้อมกับไอ้ธันด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจอยู่เล็กน้อย

ไอ้ธันเดินเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆ  เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย  ซึ่งมันก็ช่วยได้บ้างนะครับ  แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่หรอก...

เมื่อการแข่งเริ่มขึ้น  ไอ้ธันซึ่งสูงกว่าผมเลยทำหน้าที่คุมหลัง  ส่วนด้านหน้าเป็นหน้าที่ของผมเองครับ

เกมดำเนินไปค่อนข้างสบาย  เพราะอีกฝ่ายฝีมือยังไม่สูงมาก  พวกเราจึงเอาชนะกันได้ไม่ยาก  และใช้เวลาไม่นาน  ด้วยผลคะแนน  15 ต่อ 8

ผมกลับเข้ามานั่งพักที่ข้างสนาม  ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่หรอกครับ  แล้วแบล็คอัพดีๆ จากเพื่อนๆ  ทั้งน้ำ   ทั้งพัดก็เข้ามาทันที

“ ไง...  คัดตัวไปยัง “

เสียงพี่พีกับพี่บิวที่เดินเข้ามาถามขึ้นครับ

“ ลงแข่งรอบแรกไปแล้วพี่  พึ่งจบมะกี้นี้เองครับ “  ผมตอบไป

“ แล้วผลเป็นไง “

“ ก็ต้องชนะอยู่แล้ว  เพราะคู่ผมเก่งครับ  ฮ่าๆๆ “

ผมพูดจบก็เอามือไปกอดคอไอ้ธันมันครับ  มันมองผมยิ้มๆ  ในขณะที่พี่พีหันไปมองไอ้ธันด้วยสายตาแปลกๆ

“ อะ..  พวกพี่ซื้อมาให้ “

พี่บิวยื่นถุงขนมและน้ำดื่มหลายอย่างส่งมาให้ครับ  ลาภปากพวกผมเลยครับงานนี้  แต่คาดว่ามันคงหมดเพราะไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์  ระหว่างที่รอพวกผมลงแข่งอยู่แน่ๆ

“ แล้ว...  พี่คิมกับพี่กิจไม่มาด้วยเหรอครับ “  ผมแอบถามถึงพี่กิจครับ

“ จะได้มารึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย  มันติดรอพรีเซ็นต์ Pre – Project อยู่น่ะ  ท่าทางจะอีกนานกว่าจะเสร็จ “  พี่บิวว่ามาครับ

ได้ยินแบบนี้แล้ว  ผมก็เลยรู้สึกผิดหวังขึ้นมายังไงไม่รู้สิครับ  แต่พี่เขาก็มีเหตุผลของเขานี่นะ  ถึงมาไม่ได้แบบนี้....

แต่ลึกๆ แล้ว  ผมก็ยังอยากจะได้กำลังใจจากพี่เขามากกว่าใครเพื่อนเลยนะ

“ เอาน่า  พวกพี่มาเชียร์แบบนี้แล้ว  ก็สู้ๆนะ  พี่ว่าเราต้องทำได้อยู่แล้ว “ 

พี่พีตบไหล่ให้กำลังใจครับ  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปเล็กๆ


พักต่ออีกไม่นาน  รอบสองก็มาถึง...

คู่แข่งดูน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยครับ  แค่ชุดกับไม้ก็บ่งบอกแล้วว่าไม่น่าจะใช่มือสมัครเล่นเหมือนคู่แรกเลย

การแข่งดำเนินไปอย่างสูสีครับที่ผลคะแนน 8 ต่อ 7

ถึงผมจะนำอยู่แต่ก็เหนื่อยเอาการเลย  ยิ่งไอ้ธันด้วยแล้ว  มันเริ่มมีอาการหายใจถี่มากขึ้น  ก็ไม่แปลกใจหรอกครับ  เพราะมันเล่นมาตั้งกี่เซตแล้ววันนี้....  ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าอึดมากแล้ว

ระหว่างการแข่ง  เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ดังขึ้นทุกครั้งที่ไอ้ธันมันตบ  ในขณะที่แรงตบมันกลับดูเริ่มจะอ่อนแรงลง  และทำให้อีกฝ่ายรับลูกได้อย่างไม่ยากนัก

ผมเลยพยายามเล่นหน้าเน็ตให้มาก  และพยายามงัดลูกไปยังท้ายคอร์ด  เพื่อไม่ให้มันต้องเหนื่อยมากครับ

จนเกือบจะท้ายเกมสถานการณ์กลับมาเลวร้ายลงไปอีก  เมื่อแต้มตอนนี้เรากลับมาตามหลังคู่แข่งอยู่ที่ 12 ต่อ 13

“ ไหวมั้ยวะมึง “ 

ผมถามไอ้ธันมันครับ  ซึ่งมันก็ยังคงฝืนยิ้มตอบผมกลับมาว่าไหว  แต่ดูจากสภาพแล้ว  ผมว่ามันควรจะพักได้แล้วนะครับตอนนี้

“ กันต์... “

มันเรียกผมก่อนที่จะทำการเสริฟลูก

“ ว่า.. “

“ ถ้าเราผ่านการคัดตัวได้...  เย็นนี้ไปกินข้าวกันนะ “

“ อื้ม... “

ผมพยักหน้าตอบรับไป  เพราะถึงจะแพ้...  ยังไงก็ต้องไปกินข้าวด้วยกันอยู่ดี  เชื่อสิครับ...  แบล็คอัพด้านหลังผม  มันรอกันอยู่แล้ว

แต่ไอ้ธันกลับยิ้มกว้างออกมาให้กับคำตอบของผม  ดูมันจะฮึกเหิมขึ้นมากเลยทีเดียว...

และก็จริงอย่างที่คิด  ไม่รู้ว่ามันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน  เพราะ 3 แต้มที่เหลือนี่ฝีมือมันล้วนๆ เลยครับ  ซึ่งทำให้พวกเราผ่านรอบสองกันไปได้...

นี่มึงเป็นซุปเปอร์แมนรึป่าววะเนี่ย  ไอ้ธัน...

เรากลับมานั่งยังที่พักข้างสนาม  บรรดาเหล่าแบล็คอัพทั้งหลายก็เข้ามาให้น้ำพร้อมกับพัดโบกให้เป็นอย่างดี  ซึ่งไอ้แน๊คถึงกลับเข้าไปนวดไหล่ให้ไอ้ธันมันเลยครับ

“ รอบหน้าไม่รู้จะเป็นยังไงนะ.. “

ไอ้ธันมันพูดพลางหลิ่วตาให้ดูอีกคู่ในสนามที่กำลังแข่งกันอยู่  ฝีมือไม่ธรรมดาเลยครับ  เก่งกว่าที่ผมเจอเมื่อสักครู่นี้อีก  ซึ่งถ้าไอ้ธันแข็งแรงดีก็อาจจะพอมีลุ้น  แต่ถ้าสภาพนี้ละก็  บอกตรงๆ...  ค่อนข้างยากเลยครับ

“ เอาน่า...  ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น..  อย่าเครียด “  ผมยิ้มบอกไปครับ

“ แต่เราไม่อยากทำให้กันต์ผิดหวังอะดิ  และที่สำคัญเราอยากแข่งคู่กับกันต์ในงานด้วย “

“ ถ้างั้น..  รอบหน้าเปลี่ยนตำแหน่งกันนะ  เดี๋ยวกูเล่นหลังเอง “

“ ไหวเหรอ...  ไม่ต้องหรอก  เรายังไหว  อีกอย่าง...  หน้าเน็ตกันต์ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว “

“ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันไง  มึงอะแข่งติดต่อกันมาตั้งหลายเซตแล้ว  ถ้าทีมเราอยากจะชนะก็ต้องลองเสี่ยงดู “

“ อืม...  ถ้าอย่างนั้นก็ได้ “

เราพักกันต่ออีก 20 นาที  ก็มาถึงเวลาตัดสินแล้วละครับ  ซึ่งก็เหลือแค่เซตนี้เซตเดียวเท่านั้น  เพราะคู่หญิงนี่ได้ผลการคัดเลือกไปแล้ว ( คนลงสมัครน้อย )

เมื่อพี่ๆ เรียกให้ลงสนาม  ไอ้ธันก็ลุกเดินนำผมออกไปก่อน  ขณะที่ผมกำลังจะเดินตามหลังมันไปติดๆ  จู่ๆ  มือนึงก็เอื้อมเข้ามาจับไหล่ผมเอาไว้ก่อน.... 

พอผมหันหน้าไปมอง....

ใบหน้าและน้ำเสียงที่คุ้นเคย  ซึ่งผมเฝ้ารอตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา  ก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วในตอนนี้

“ สู้ๆ นะ  พี่มาเชียร์แล้ว  ขอโทษนะที่พี่มาช้า “

พี่กิจในสภาพที่หายใจหอบ  ท่าทางเหมือนจะรีบมา  พยายามพูดขึ้นเสียงนุ่ม  จนผมนี่แทบจะร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจเลยทีเดียว  แต่ก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าป้อยๆ ไปเท่านั้น  ก่อนจะเดินเข้าสนามไป


การแข่งรอบนี้หินกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้มากครับ  ผ่านไปได้ไม่นานผมก็เริ่มหอบ  อาจจะเพราะผมต้องวิ่งและใช้แรงเยอะกว่าในรอบที่ผ่านๆ มา  และอีกฝ่ายก็เก่งมากจนทำให้เราเริ่มรวนกันเลยทีเดียว

และตอนนี้ก็เข้าใกล้ช่วงท้ายของเกมแล้ว  ซึ่งแต้มของพวกเราก็ตามคู่แข่งกันอยู่ที่ 10 ต่อ 13

บางที..  พวกผมอาจจะมากันได้แค่นี้ก็ได้นะครับ....

ผมหันกลับไปมองยังด้านหลัง  พวกเพื่อนๆ พี่ๆ  กำลังเชียร์ผมอยู่อย่างไม่ลดละ  ทั้งๆ ที่ดูจากแต้มแล้ว  พวกผมกำลังจะแพ้ในอีกไม่นานนี้แท้ๆ  แต่พวกเขาก็ยังไม่เลิกหวัง....

แล้วอย่างนี้...  พวกผมจะหมดหวังไปได้ยังไงกันละครับ...

จากนั้นสายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่พี่กิจ...  พี่เขายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ผมถึงสองนิ้ว

ไม่รู้จะพูดยังไงดีครับ  แต่ผมโครตจะรู้สึกดีเลย...  รู้สึกมีกำลังใจ  และแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกเป็นกองเลย

“ ธัน...  พวกเรายังไม่ได้แพ้นะ  ดูดิ  พวกเพื่อนๆ เรายังไม่หมดหวังกับเราเลย  แถมยังเชียร์เราซะขนาดนั้น..   เราเองก็ต้องไม่ยอมแพ้นะ  ไม่ว่าผลจะเป็นไง  ขอแค่เราทำมันให้เต็มที่ก็พอ “

“ อื้ม...  มีกันต์อยู่ด้วย  ธันไม่เคยยอมแพ้อยู่แล้วล่ะ “


มีคนเคยพูดไว้ว่า....

หากเราเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว...  จงอย่ากลัวเขา....  แต่ให้เปลี่ยนมันเป็นความยินดีที่ได้เจอ  เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปได้อีก...


ผมจะไม่กลัว...

ผมฝึกหนักมาก็เพื่อวันนี้...

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เชียร์ผม...

11 ต่อ 13

ขอบคุณพี่ๆ ที่ตามมาเชียร์... (แฮ่กๆ )

12 ต่อ 13

ขอบคุณไอ้ธัน...  ที่อดทนเพื่อผมมาจนถึงรอบนี้...  ( แฮ่กๆๆ )

13 ต่อ 13

และ..

ขอบคุณทุกๆ อย่าง  ที่พี่ทำให้ผมครับ...  พี่กิจ ( แฮ่กๆๆๆๆๆ )

14  ต่อ 13

ลูกตบสุดท้าย  และแรงเฮือกสุดท้ายของผม... 

หวังว่า.. 

มันจะทำให้ทุกคนมีความสุขกันนะครับ

“ ปัง!! “

จุดบอดมุมสามเหลี่ยมท้ายคอร์ดที่ผมเล็งไว้...  ถ้าโชคดี...  มันคงจะลงและไม่ออกนอกเส้นไปนะ... 

เพราะตอนนี้...  ผมไม่มีแรงพอที่จะไปต่ออีกแล้ว...


“ ตุ๊บ! “



.........
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 6/02/2561 update chapter 21 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 09-02-2018 21:05:07
15 ต่อ 13  !!!


“ เฮ้!!!!!!!!!!!! “


เสียงเฮดังขึ้นทั่วทั้งโรงยิม  จนอื้ออึงไปหมด  ส่วนผมยังคงมึนๆ อยู่เลยครับ 

นี่ผมตบลงใช่มั้ย...


ไอ้ธันเดินเข้ามากอดผมทันที  เหมือนมันกำลังพูดอะไรสักอย่าง  แต่พอจับใจความได้ว่า  พวกเราทำสำเร็จแล้วนะ... 

แต่ผมก็ยังงงๆ อยู่เลย...  นี่พวกเราชนะจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย...

จากนั้นไอ้ธันมันก็ประคองไหล่ผมเดินกลับเข้ามายังข้างสนาม  เพื่อนๆ และพี่ๆ ยกนิ้วโป้งให้พวกเรามากมาย

พอมาถึงผมก็นั่งลงอย่างหมดแรงแทบจะในทันที  พี่พียื่นน้ำเย็นๆ ส่งมาให้  ในขณะที่ไอ้เจมส์ก็พัดให้ผมอย่างแรง  จากนั้นพี่พีก็มาขยี้หัวผมอีกครั้งอย่างเอ็นดู...

แล้วพี่กิจล่ะ....

ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหา  ไม่นานก็เห็นพี่เขาโทรศัพท์อยู่ไกลๆ  ก่อนจะวางสายและเดินกลับเข้ามาหาพวกผมอีกครั้ง

“ เก่งมากนะ “

พี่กิจขยี้หัวผมเบาๆ บอกมา  ถึงตอนนี้จู่ๆ ผมก็ยิ้มกว้างออกมาได้

ก็นึกว่าพี่เขาจะไม่เข้ามายินดีด้วยกับผมซะแล้ว....

“ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดร้านข้างมอเอง  พี่โทรไปจองไว้ละ “

“ แล้ว..  เพื่อนๆ ผมอะ “

“ ก็พี่หมายถึงพวกเราทั้งหมดเนี่ยแหละ “

พี่กิจพูดจบ  พวกผมก็เฮกันลั่นเลยครับ...


จากนั้นพี่ๆ ฝ่ายคัดตัวนักกีฬา  ก็เรียกพวกเราที่ลงคัดตัวไปรวมกัน  เพื่อประกาศผลการคัดตัวให้ทุกคนทราบ

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเราผ่านกันไปได้เปราะหนึ่งแล้ว  แต่ถ้าอยากจะชนะไอ้หน้าหล่อที่ตอนนี้มันกำลังจ้องผมตาเขม็งจากคอร์ดของชมรม  ผมคงต้องฝึกกันอีกมากครับ... 

แต่เรายังพอมีเวลานี่...   ขอแค่มีความพยายาม  บางทีสิ่งที่คิดว่าเราทำไม่ได้  มันก็อาจจะทำได้ก็ได้นะครับ...



.....................



ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ด

พวกผมและพี่ๆ พากันมาที่ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล  ซึ่งพี่คิมกับไอ้เรย์ก็ได้ตามมาสมทบกันทีหลังด้วย

กุ้ง  หอย  และปูตัวใหญ่มากมาย  ถูกขนมาเผาที่โต๊ะยาวที่ต่อเรียงกันถึงสามตัวของพวกเรา

ผมนั่งข้างๆ พี่กิจกับไอ้เรย์  โดยมีพี่พีกับไอ้ธันนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ

“ ตอนแข่งพี่ก็ลุ้นอยู่แทบตาย  นึกว่าเราจะไม่รอดซะแล้ว  แต่ 5 แต้มสุดท้ายนี่ทำเอาพี่ทึ่งจริงๆ “ 

พี่พีพูดขึ้นพลางกลับตัวกุ้งเผาตรงหน้าไปด้วย

“ นั่นดิ  สุดยอดเลยนะกันต์  คนเดียว 5 แต้มรวดในสถานการณ์แบบนั้น “ 

ไอ้ธันชมผมต่อครับ  จนผมอดอมยิ้มแก้มปริขึ้นมาไม่ได้เลย  กับการที่มีคนมาชมผมเยอะขนาดนี้

“ ไม่หรอก  ถ้าไม่มีธันช่วยเราก็ทำไม่ได้หรอก “ 

ผมบอกไปตามจริงครับ  ส่วนไอ้เรย์ก็บ่นอุบเลยว่าเสียดายที่ไม่ได้มาดูเพราะต้องซ้อมบาส  เห็นมีแต่คนพูดถึงว่าสนุกมาก

“ อะ..กันต์ “ 

ไอ้ธันมันตักกุ้งที่มันแกะไว้แล้วส่งมาให้ผมครับ

“ ปูก็อร่อยนะ...  “ 

แล้วพี่พีก็เอากรรเชียงปูที่แกะไว้เป็นอย่างดีส่งมาให้ผมอีก

“ ขอบคุณครับ “  ผมยิ้มรับไป

“ เอาหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์มั้ย  เนี่ยตัวโตมาก  เราพึ่งไปตักมาตอนเชฟเขาย่างเสร็จมาใหม่ๆ เลย “ 

ไอ้ธันถามต่อครับ  แล้วพี่พีก็หันไปมองหน้ามัน  ก่อนจะหันมาถามผมต่อ

“ ปลาหมึกมั้ยกันต์  เดี๋ยวพี่หั่นให้  สุกพอดี “

เอ่อ...  จริงๆ ผมก็ทำเองได้นะครับ...

จากนั้นไอ้เรย์มันก็เข้ามากระซิบที่ข้างหูผมว่า  “ กูบอกมึงแล้ว “

หรือว่าที่ไอ้เรย์มันมโนไว้จะเป็นจริงนะ...  ชักเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วซิครับ....

ผมตักปูสีแดงตัวโตจากจานที่สุกแล้วมาไว้ที่จานของตัวเองเพื่อเตรียมแกะครับ  แต่ก็แกะแบบไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่หรอก 

จริงๆ แล้วผมชอบกินปูนะครับ  แต่ไม่ค่อยซื้อมากินหรอก  เพราะว่าเรื่องการแกะเนี่ยแหละ  คือผมแกะไม่ค่อยเป็นอะครับ  เสียเนื้อไปเยอะเลยเวลาผมแกะทีไร

“ แกะเป็นมั้ยเนี่ย...  ดูนี่นะ  ต่อไปจะได้ทำเอง  ไม่ต้องรอให้ใครมาทำให้ “

พี่กิจพูดมาเสียงเรียบๆ  ก่อนจะหยิบปูมาสอนผมแกะทีละขั้นตอน...  ผมมองพี่เขาแกะสลับกับหน้าพี่เขาไป  เพลินดีนะครับ       นี่ถ้าผมจะโง่ไปซะทุกเรื่อง  แล้วมีพี่กิจมาคอยสอนให้แบบนี้อยู่ตลอดเวลา  ผมก็ยอมนะครับ...

จากนั้นโต๊ะอาหารก็ครึกครื้นไปด้วยเสียงหัวเราะ...  โดยมีพี่คิมและไอ้เรย์เป็นตัวนำ  ส่วนตอนนี้ผมอิ่มแปล้เลยครับ  ยัดอะไรลงท้องไม่ไหวอีกแล้ว  แถมตาก็ยังปรือๆ แล้วด้วย... 



ไม่นานมากพวกเราก็แยกย้ายกันกลับครับ  ผมหลับมาตลอดทางที่อยู่บนรถพี่กิจเลย...

มารู้สึกตัวอีกที  ก็ตอนที่พี่กิจเรียกผมพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาหาซะใกล้มาก  เรียกได้ว่าห่างกันไม่ถึงคืบ   พอลืมตามาก็เลยเห็นหน้าพี่เขาเต็มๆ เลยครับ... 

ผมสบตากับพี่กิจอยู่ครู่หนึ่ง  แต่ราวกับว่าเหมือนจะโดนมนต์สะกด  จนผมไม่อยากจะละสายตาออกไปจากสายตาคู่นี้เลยครับ...

“ ถึงแล้ว... “ 

พี่กิจขยับตัวออกไปก่อนจะว่ามา  ผมเลยขยี้ตามองไปนอกกระจกรถ  ถึงได้รู้ว่านี่คือลานจอดรถใต้คอนโดนั่นเอง...

ผมรู้สึกเหมือนว่าวันนี้ผ่านอะไรมาเยอะเลยครับ  ล้าไปหมดทั้งตัวเลย  ได้เรียนรู้อะไรมากมาย  ทั้งประสบการณ์ในการแข่ง  กำลังใจที่สำคัญจากเพื่อนๆ พี่ๆ  และที่สำคัญ...


บางที..  ผมอาจจะได้เข้าใจหัวใจตัวเองมากขึ้นแล้วก็เป็นได้...




TBC.



------------------------------------------------------

ขอโทษครับ  มะวานป่วยกินยาแล้วไม่อยากฝืนตัวเอง  เลยนอนหลับไปเลยอะครับ  วันนี้กลับมาเลยรีบกรองประโยคแล้วโพสเลย  ช้าหน่อยขอโทษนะครับ

ขอบคุณครับคุณ Billie ที่เป็นห่วง  วันนี้สบายดีขึ้นละครับ  แต่คงต้องพักผ่อนเยอะๆครับผม

ตอนหน้า....  ง่า.....  มีตัวอย่าง (แบบยังไม่ได้กรองประโยคระครับ)

ตัวอย่างตอนต่อไป

////////////////////////////////////////
วันนี้พี่กิจพาผมไปซ้อมแบดที่คอร์ดแถวชานเมืองเหมือนเดิม  แต่วันนี้พี่กิจขับบิ๊กไบต์ไปแทน  แกบอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศขับกินลมบ้างอะครับ
“ อยากกินไรวันนี้ “  พี่กิจถามขึ้นขณะกำลังเดินมายังรถที่จอดไว้
“ เค้ก... “  ผมตอบไปแค่นั้นครับ  ผมไม่ได้บอกใครหรอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม จะมีก็คงเป็นไอ้เรย์ที่มันจำได้ทุกปีเท่านั้น  แต่วันนี้มันก็เงียบครับ...  ไม่เห็นโทรหรือไลน์มาอวยพรผมเลย  สงสัยมัวแต่คุยกับแพรละมั้งเลยลืมเพื่อนคนนี้  ชิส์
“ ข้าวสิไม่ใช่ขนม “  พี่เขามองผมเอือมๆ  เหมือนผมไปกวนประสาทพี่เขาอย่างนั้นอะ
“ อะไรก็ได้  แล้วแต่พี่เลย “  ผมบอกไปเสียงอ่อยครับ

////////////////////////////////

ทุกอย่างในวันเกิดปีนี้ของผมก็ดูเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ
แต่คุณเชื่อผมเหอะ  โลกเรามันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ  จงเรียนรู้ที่จะทำให้ทุกวันดีที่สุดเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียใจในทุกๆวันหลังจากนี้...

////////////////////////////////

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะกดหาเบอร์โทรไอ้เรย์ด้วยอาการรนและมือไม้สั่น 
“ ฮัลโหล...  ไงมึง  อยู่ไหนวะเนี่ย  กูว่าจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย “
“ ไอ้เรย์..  ฮึกๆๆ..  มึงมาช่วยกูทีนะ  กูไม่รู้จะทำไงแล้ว ฮือๆๆ.. “
“ เห้ย!!!  เกิดอะไรขึ้นไอ้กันต์  ใครทำไรมึง  แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน “

//////////////////////////////

 :mew2: :mew5: :katai1:

แต่นิยายผมอย่างที่บอกครับ  ว่ายังไงก็จะต้องจบแบบมีความสุข 

ผมอยากให้ทุกคนมีความสุขกับนิยายของผมนะครับ (หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น)

ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับกำลังใจและการติดตามนะครับผม

ปล. CH ล่าสุดที่เขียนอยู่  โหย... :katai1: :z3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-02-2018 21:13:46
 :pig4: :pig4: :pig4:

เกิดไรขึ้นกับตอนหน้าเนี่ย?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-02-2018 21:44:52
 :ling1: อ้าว อ้าว  ทำไมเอาระเบิดมาปล่อย

 :L2: :pig4: :L1:

ดูแลตัวเองดีดีนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-02-2018 21:45:30
พี่กิจดีมากๆ สอนอะไรน้องหลายๆอย่าง
อ่านตอนท้ายหิวบุฟเฟ่ซีฟู๊ดบ้างเลย ฮ่าๆๆ

ตอนหน้าเกิดไรขึ้นเนี้ย อยากอ่านแล้วววว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-02-2018 21:56:31
ง่าาาส เกิดไรนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-02-2018 22:01:30
แล้วก็อ่านจบไปอีกตอน

รอๆตอนต่อไป

อ่านสนุกมากๆ

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-02-2018 22:05:48
มาทิ้งให้อยากแล้วจากไป  :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 09-02-2018 22:10:47
3 ต่อ1 จะเลือกใครดี  รัก 3 เศร้า เรา 4 คน 55 
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-02-2018 22:41:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-02-2018 22:54:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-02-2018 03:14:07
จะเกิดอะไรขึ้นกับกันต์ในตอนหน้านะ อยากรู้คะ อยากรู้
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 10-02-2018 08:59:31
หื้ออออตอนหน้ามันทำไมคะ นี่อยากให้เขาเปิดใจกันแล้ว55555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 10-02-2018 09:03:33
เกิดอะไรขึ้นในตอนหน้า
รอๆๆครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 11-02-2018 15:28:12
Chapter 23



กันต์'s  Part




เสาร์นี้เป็นวันเกิดผมครับ...

แต่ที่ต่างไปจากทุกปีก็คือ...  มันคงเป็นวันเกิด...ปีที่ผมดูจะไม่มีใครเลย...  ทั้งพ่อ  และแม่...

แต่...  ไม่เป็นไรหรอกครับ  จากนี้ไป  ผมจะต้องเข้มแข็งและยืนยัดด้วยตัวเองให้ได้...


....................


วันนี้พี่กิจพาผมไปซ้อมแบดที่คอร์ดแถวชานเมืองเหมือนเดิม  แต่วันนี้พี่เขาขับบิ๊กไบต์ไปแทน  แกบอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศขับรถกินลมบ้างอะครับ

“ อยากกินไรวันนี้ “
 
พี่กิจถามขึ้นขณะกำลังเดินมายังรถที่จอดไว้  หลังจากเลิกซ้อมกันแล้ว

“ เค้ก... “ 

ผมตอบไปแค่นั้นครับ  ผมไม่ได้บอกใครหรอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม จะมีก็คงเป็นไอ้เรย์ที่รู้และจำได้ทุกปีเท่านั้น  แต่ไหงวันนี้มันเงียบไปเลยครับ...  ไม่เห็นโทรหรือไลน์มาอวยพรผมเลย  สงสัยมัวแต่คุยกับแพรอยู่ล่ะมั้ง  เลยลืมเพื่อนคนนี้ไปได้  ชิส์

“ ข้าวสิไม่ใช่ขนม “ 

พี่เขามองผมเอือมๆ  เหมือนผมไปกวนประสาทพี่เขาอย่างไงอย่างงั้นอะ

“ อะไรก็ได้  แล้วแต่พี่เลย “  ผมบอกไปเสียงอ่อยครับ

“ โอเค..  แต่ว่าเดี๋ยวพี่ไปเอาชีทเรียนกับไอ้บิวที่โรงพยาบาลก่อนนะ “

“ อ้าว...  พี่บิวไม่สบายเหรอครับ “

“ เปล่า...  มันไปช่วยงานพ่อแม่มันอะ “

“ โรงพยาบาลเนี่ยนะ “

“ อื้ม...  ก็กิจการของที่บ้านมันนี่  อีกหน่อยมันจบมา  ก็อาจจะต้องไปบริหารที่นั่น  คงไม่ได้ทำอาชีพตามที่ตัวเองอยากทำหรอก “

“ แย่เลยเนอะ  แบบนี้อะ “

“ ไม่หรอก....  เนื้อหาภาควิชาเรา  ส่วนหนึ่งมันก็เป็นเรื่องของการบริหารจัดการอยู่แล้ว  อีกอย่าง... มันก็เป็นหน้าที่ด้วยแหละ...  แต่ไอ้บิวมันเป็นคนง่ายๆ  ยังไงก็ได้กับชีวิตอะ “

พี่กิจพูดมาอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ  แต่ผมก็เข้าใจกับเหตุผลที่พี่เขาบอกมานะครับ 

พอพวกเราเดินมาถึงที่รถแล้ว  พี่กิจก็คว้าหมวกกันน็อคมาเตรียมใส่ไว้  แต่ก่อนจะใส่มันลงไปบนหัว  พี่เขาก็หันมาพูดกับผมก่อนว่า..

“ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วพี่จะพาไปซื้อเค้กให้นะ  แล้ววันหลังเดี๋ยวพี่จะหาหมวกกันน็อคน่ารักๆ ที่เหมาะกับเราไว้ให้ “

พี่เขาพูดจบก็สวมหมวกกันน็อคสีดำไป  ส่วนผมก็เผลอยิ้มเล็กๆ ออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัวเมื่อได้ยิน 


…………………..

ถึงพี่เขาจะไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม  แต่การที่พี่เขาทำดีกับผมแบบนี้  มันก็เพียงพอแล้วสำหรับผม...

...............................


ทุกอย่างในวันเกิดปีนี้ของผม  ดูเหมือนว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ



แต่คุณเชื่อผมเหอะ  โลกเรามันไม่มีอะไรที่แน่นอนหรอกครับ  จงเรียนรู้ที่จะทำให้ทุกวันนี้ดีที่สุด  เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในทุกๆ วัน  หลังจากนี้...



มันเป็นช่วงหัวค่ำที่พี่กิจกำลังขับบิ๊กไบต์  ซึ่งมีผมซ้อนท้ายอยู่เหมือนเช่นทุกที  ตามทางเบี่ยงด้านนอกของถนนใหญ่  ซึ่งมันค่อนข้างโล่ง  และมืดพอสมควรแถวย่านชานเมือง  เพื่อมุ่งหน้าเข้าเมืองไปหาพี่บิวที่โรงพยาบาล

รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูงเพราะถนนโล่ง  มีแค่ไฟหน้ารถเท่านั้นที่สาดส่องลงมาบนพื้น  เพื่อให้เห็นเส้นทางเบื้องหน้า  ใครเลยจะคาดคิดกันละครับว่า  จู่ๆ จะมีสุนัขสีขาวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถมาจากข้างทาง 


“ เห้ย !!!! “


พี่กิจอุทานเสียงดังลั่น  พร้อมกับเบรครถจนเสียงดังสนั่น  และด้วยความเร็วรถที่ขับมา  มันเลยทำให้รถปัดในทันที  ก่อนจะพาให้ทั้งคนขับและคนซ้อนล้มลงไปกระแทรกพื้น  แล้วไถลไปตามถนน  ก่อนจะไปหยุดลงบนพื้นหญ้าข้างทาง

ตัวผมกระเด็นออกมาจากรถก่อนพี่กิจ  ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก  จนผมตั้งตัวไม่ทัน  พอเริ่มได้สติ  ผมก็พยายามยันตัวเองขึ้นมาจากพื้น รับรู้ได้ถึงอาการแสบบริเวณแขนละขา  ก่อนจะรู้สึกเจ็บเสียวบริเวณหัว  จากนั้นก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกอุ่นๆ ที่ไหลลงมาผ่านแก้ม 

ใช่ครับผมหัวแตก...  ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ผมถึงได้หัวแตกบ่อยจัง  แต่ก็ช่างมันเถอะ....

ผมมองไปยังพี่กิจที่นอนอยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตร  ใกล้ๆ กับรถ  พี่เขานอนนิ่งไม่ขยับเลยครับ  ผมพยายามประคองร่างเดินเข้าไปหาพี่เขา  ก่อนจะถอดหมวกกันน็อคหนาสีดำของพี่เขาออก  พี่กิจยังคงไม่มีสติ  นั่นยิ่งทำให้ผมใจเสียมากขึ้นไปอีก

“ พี่กิจ... พี่กิจ... “

ผมพยายามเขย่าตัวพี่เขา  แต่พี่เขาก็ยังคงไม่ได้สติ  ถึงจุดนี้น้ำตาผมก็ไหลออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  ผมควรจะทำอย่างไรดี....  แถมที่นี่ก็เปลี่ยว  ไม่มีรถผ่านไปมาอีกต่างหาก  ทางด้านถนนใหญ่ก็มีแต่รถใหญ่ที่ขับกันเร็วซะจนไม่มีใครจะทันสนใจถนนเลี่ยงข้างทางแบบนี้เลย  ยิ่งแท็กซี่นี่คงไม่ต้องพูดถึง  บริเวณนี้ไม่มีแน่นอน...  แล้วแบบนี้ผมจะทำยังไงดีละครับ

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะกดหาเบอร์โทรไอ้เรย์ด้วยอาการรนและมือไม้สั่น 


-- ฮัลโหล...  ไงมึง  อยู่ไหนวะเนี่ย  กูว่าจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย --

“ ไอ้เรย์..  ฮึกๆๆ..  มึงมาช่วยกูทีนะ  กูไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว ฮือๆๆ.. “

-- เห้ย!!!  เกิดอะไรขึ้นวะไอ้กันต์ !!  ใครทำไรมึง  แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน --

“ กูไม่รู้อะ...  พี่กิจรถล้ม  แล้วตอนนี้พี่เขาสลบไป  กู...  ไม่รู้ว่าพี่เขาจะเป็นอะไรรึเปล่าอะ  ไอ้เรย์..  กู..กูกลัวอะ  ฮือๆ.. “

-- ใจเย็นๆ นะมึง  ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน --

“ กูไม่รู้อะ  แต่น่าจะแถวๆ เส้นนอกมอเตอร์เวย์  แถวลาดกระบังอะ  แต่กูไม่แน่ใจนะ  กูไม่ค่อยรู้เส้นทาง “

-- มึงใจเย็นๆ นะ  รออยู่ที่นั่นเดี๋ยวกูจะรีบไปหา  มึงแชร์.. --


แล้วทุกอย่างก็เงียบไป  ผมเอาโทรศัพท์ที่ตอนนี้เปื้อนไปด้วยเลือดมาดู  ก็พบว่าแบตมันหมด  ทำไมคนเราเวลาเจอเรื่องร้ายๆมันถึงได้มาพร้อมกันทีเดียวหลายๆ เรื่องแบบนี้กันนะ

ผมพยายามตั้งสติ  ปาดน้ำตาป้อยๆ  ก่อนจะค้นเอาผ้าขนหนูในกระเป๋ามากดซับเลือดที่หัวไว้  แล้วเอาเสื้อกีฬาตัวบางมาพันทับไว้อีกชั้น  เพื่อห้ามเลือด...

ผมจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้ครับ....

ผมไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยหรือจะมีใครผ่านมาแถวนี้บ้าง...

แต่ผมไม่ควรรออยู่เฉยๆ แบบนี้  ตัวผมเองไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่หรอกครับ  แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกแย่  ก็เพราะคนตรงหน้าที่ไม่ได้สติอยู่ในตอนนี้

ผมต้องพาพี่กิจไปโรงพยาบาลให้ได้...

ผมประคองพี่กิจที่ไม่ได้สติขึ้นหลัง  ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก  ทั้งหนัก  ทั้งเจ็บไปทั่วตัว...

แต่ผมจะมาอ่อนแอและท้อแท้ตอนนี้ไม่ได้  อย่างน้อยก็ควรลองไปข้างหน้า  เผื่อจะเจอคนหรือรถสักคันที่พอจะช่วยพวกเราได้
มันก็ยังดีกว่าการนั่งรออย่างไม่มีจุดหมายอยู่แบบนี้...


.......................


“ แฮ่กๆๆ “

ผมที่กำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาได้เกือบจะ 100 เมตรแล้ว  บนทางที่ดูจะไม่มีจุดหมายอะไรเลย  ก็เริ่มเหนื่อยและหอบขึ้นมา  เหงื่อที่ไหลหยดลงมาอย่างกับน้ำ  เสียงหอบหายใจที่ดังขึ้น  มันทำให้ผมรู้ว่า  ตอนนี้ร่างกายผมมันกำลังฝืนตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว...

ถึงกระนั้น...  ทางเบื้องหน้าก็ยังคงดูไม่มีจุดหมายปลายทางอยู่ดี...


“ แฮ่กๆๆ “


ขาผมมันดูจะไม่มีแรงแล้วในตอนนี้  อยากจะร้องไห้  อยากจะหยุดและรอคนมาช่วย...  แต่ผมก็ทำไม่ได้  ผมคาดหวังอะไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้เลย

ถ้าผมท้อ  ถ้าผมหยุด  แล้วพี่กิจละ...  จะเป็นยังไง...

คิดได้เพียงเท่านี้  ขาที่เหมือนจะไม่มีแรงแล้ว  ก็เริ่มฝืนวิ่งต่อ...

วิ่งต่อไปอีกสักพัก  แสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งก็สาดส่องผ่านด้านหลังผมมา  ผมหยุดฝีเท้าก่อนจะหันไปโบกมือขอความช่วยเหลือ  รถคันนั้นชะลอความเร็วลงเล็กน้อย...  แต่แล้วก็ผ่านเลยไป

ผมไม่รู้ว่าเพราะสังคมทำให้คนเกิดความระแวง  หรือเพราะน้ำใจที่เริ่มเหือดแห้งลงไปในสังคม  มันเลยทำให้ผู้คนเดี๋ยวนี้ต่างคนต่างอยู่กันมากขึ้น

ผมได้แต่ยืนอ้าปากค้าง  มองจนไฟท้ายรถคันนั้นเลยผ่านไป  ก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินต่อไปตามทางเบื้องหน้าที่มืดมิด...

ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหล  มันไหลมาเพราะความน้อยใจ  หรือเพราะความอ่อนแอของตัวเองกันแน่  แต่มันก็ไหลลงมาอย่างไม่หยุด  และผมเองก็ไม่มีเวลาพอที่จะหาคำตอบ  สิ่งที่ต้องทำก็คือวิ่ง...  วิ่ง...  และก็วิ่งต่อไปเท่านั้น

วิ่งต่อไปได้ไม่นานผมก็ต้องเปลี่ยนเป็นเดิน  เพราะมันไม่ไหวแล้วจริงๆ  แต่ผมก็ไม่หยุดที่ก้าวไปข้างหน้านะครับ..

เพราะผมมีคนที่อยากดูแลอยู่...  ผมจะมายอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้...


......................


เวลาผ่านไปอีกเกือบ 20 นาที  ผมเริ่มที่จะไม่ไหวแล้ว...  ทั้งเจ็บและมึนหัวจนดูเหมือนจะเป็นลมเสียให้ได้  ทว่ามันก็ยังไม่มีวี่แววว่าผมจะพบอะไรเลย  แม้จะมีรถขับผ่านมา 2 – 3 คัน  แต่เขาก็ขับเลยผ่านไปเหมือนเคย...  จนผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังแล้วในตอนนี้


“ ปริ้นๆ!!! “


แต่แล้วเสียงแตรรถคันหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง  ผมหันกลับไปมองยัง CIVIC สีดำทะเบียนที่ผมคุ้นเคย...  ก่อนที่เจ้าของรถคันดังกล่าวจะเปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งตรงเข้ามาหาผม

“ ไอ้เรย์... “

ผมร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ  พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมามากกว่าเดิม

“ ไม่ต้องพูดไรแล้ว  รีบขึ้นรถมาเร็ว !!! “

ผมพยักหน้าป้อยๆ  ขณะที่น้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง

ไอ้เรย์ช่วยประครองพี่กิจไปยังเบาะหลัง  จากนั้นเราก็รีบกลับขึ้นมาบนรถ  เพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกไปในทันที 

ไอ้เรย์หันมามองผมรอบหนึ่งก่อนจะอ้าปากค้าง  ผมเหมือนจะเห็นน้ำตามันปริ่มๆ ที่ขอบตา  อาจจะเพราะสภาพผมที่ดูน่าสมเพชเอามากๆ ละมั้งครับ

“มึงนะมึง... “ 

มันพูดมาแค่นั้น...  ก่อนจะปาดน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาออกไป  แล้วรีบสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว



........................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 9/02/2561 update chapter 22 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 11-02-2018 15:37:14
ที่โรงพยาบาล...

ผมกับพี่กิจถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว  ผมถูกพี่ๆ พยาบาลช่วยกันทำแผล  ในขณะที่พี่กิจนั้นมีหมอเข้ามาดูอาการก่อนจะพาตัวแยกออกไปจากห้องฉุกเฉิน  แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพี่เขาอีกเลย  จนกระทั่งผมถูกทำแผลเสร็จ  มีหมอเวรเข้ามาสักถามอาการต่ออีกเล็กน้อย  แต่เท่าที่ฟังดู  ผมก็ไม่น่าจะมีอะไรที่น่าเป็นห่วงมากนะครับ 

ตอนนี้ที่ผมห่วงก็แค่...  พี่กิจเท่านั้นแหละครับ...

ผมนอนพักอยู่ในห้องฉุกเฉินได้สักพักหนึ่ง  เมื่อเห็นว่าร่างกายเริ่มพอไหว  ก็ขอพี่พยาบาลออกไปหาเพื่อนด้านนอก

ผมเห็นไอ้เรย์มันนั่งรออย่างกระวนกระวายใจอยู่  แต่พอมันเห็นผมเดินออกมาเท่านั้น  มันก็ยิ้มขึ้นมาได้ในทันที 

ผมลงไปนั่งข้างๆ มัน  ถึงได้รู้ว่าไอ้เรย์มันจัดการเรื่องต่างๆ ให้บ้างแล้ว  ก่อนจะยื่นถุงใส่ของใช้ของพี่กิจส่งมาให้  ซึ่งก็เป็นพพวกกระเป๋าตัง มือถือ นาฬิกา และของมีค่าบางอย่างส่งมาให้

มันบอกว่าหมอตรวจอย่างละเอียดแล้ว  พี่เขาแค่สลบไป  โชคดีที่พี่เขาใส่หมวกกันน็อค  สมองเลยไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไรมาก  ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องแล้ว  มันเลยมานั่งรอผมอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินแบบนี้...

ผมหยิบมือถือพี่กิจออกมา  บางทีผมควรจะโทรไปบอกคุณลุงคุณป้าให้ทราบเรื่อง  แต่ผมก็ปลดล็อคหน้าจอของพี่เขาไม่ได้  เลยต้องลำบากไอ้เรย์มันช่วยติดต่อพี่คิม  ซึ่งมันมีเบอร์พี่เขาอยู่  เพราะว่าเป็นพี่ชมรม  จนในที่สุดก็ได้เบอร์ที่บ้านพี่กิจมา...

ผมใช้โทรศัพท์ไอ้เรย์โทรไปแจ้งข่าว  ไม่นานคุณลุง คุณป้า รวมถึงน้องกานต์ก็พากันมาที่โรงพยาบาลทันที

ผมเล่าอาการคร่าวๆ ของพี่กิจจากที่ฟังมาจากไอ้เรย์ให้พวกท่านฟัง  ก็ดูท่านจะสบายใจขึ้นมาบ้าง  จากนั้นท่านก็เข้ามาซักถามอาการและเรื่องราวจากผมต่อ  คุณป้าร้องไห้เพราะสงสารผมออกมา  ก่อนจะลูบหัวผมมาเบาๆ 

จากนั้นพวกเราก็ไปยังห้องพักที่พี่กิจนอนอยู่  คุณลุงคุณป้าสอบถามอาการกับหมอที่ดูแลอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ  ส่วนผมก็ได้แต่นั่งมองพี่เขาตาละห้อยอยู่ที่โซฟากับไอ้เรย์และน้องกานต์

เพลียจังเลยครับ...  รู้สึกเหมือนว่าผ่านอะไรมาเยอะมากเลยวันนี้  แต่ก็ดีที่ทุกอย่างมันผ่านไปได้ด้วยดีแบบนี้...

“ ไหวมั้ยวะมึง  ตามึงจะปิดอยู่แล้วเนี่ย... “

ไอ้เรย์มันถามขึ้นมาครับ

“ เพลียๆ ว่ะ  แต่ก็ยังไหวอยู่...  ไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอก “

“ มึงก็พูดแบบนี้ตลอดอะ  มึงควรจะรู้จักห่วงตัวเองบ้างนะเว้ย...  ยิ่งเห็นมึงเป็นแบบนี้  กูนี่แม่ง... “

แล้วมันก็หยุดพูดลง  ราวกับว่าถ้าพูดต่อแล้วจะทำให้มันร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น  แม่งอ่อนแอไม่สมกับร่างกายมันเลย  แต่ผมก็รู้นะครับว่ามันเป็นห่วงผมจริงๆ  ยิ่งตอนนี้ผมไม่เหลือใครแล้ว  และต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแบบนี้  มันเลยยิ่งเป็นห่วงผมมากกว่าเดิม

“ กันต์จะนอนพักที่โรงพยาบาลก่อนมั้ยลูก  เดี๋ยวป้าจะจัดการเรื่องห้องพักให้ “ 

คุณที่เดินเข้ามาพร้อมคุณลุงถามขึ้นมาครับ

“ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า  กันต์ไม่ได้เป็นอะไรมาก  เดี๋ยวคงให้เพื่อนไปส่งที่คอนโดอะครับ  เพราะทางนี้ก็คงไม่มีอะไรน่าห่วงเป็นแล้วใช่มั้ยครับ “

“ จะเอาอย่างนั้นเหรอ  แต่ป้าอยากให้เราอยู่ใกล้ๆ หมอก่อนนะ “

“ ขอบคุณครับคุณป้า  แต่กันต์ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ  อีกอย่าง...  กันต์ก็ไม่ค่อยชอบนอนโรงพยาบาลสักเท่าไหร่ “ 

ผมตอบกลับไปอย่างเกรงใจครับ  ซึ่งคุณลุงกับคุณป้าก็พยักหน้าเข้าใจเล็กๆ  และก็ไม่ได้ว่าอะไร

ไม่นานผมก็ขอตัวกลับไปพร้อมกับไอ้เรย์  ส่วนพี่กิจถูกย้ายไปที่ห้องพิเศษ  และมีครอบครัวพี่เขาดูแลอยู่  ผมเลยไม่จำเป็นจะต้องอยู่ต่อ....

กลับไปพักผ่อนที่ห้องก็ดีครับ  รู้สึกตาจะปิดอยู่แล้วตอนนี้  แถมร่างกายก็เหมือนจะแหลกอยู่แล้วด้วย

“ มึง...  แวะซื้อของเซเว่นแปบดิ “ 

ผมบอกไอ้เรย์ก่อนที่จะถึงคอนโด



หลังจากที่แยกกับไอ้เรย์เสร็จ  ผมก็เดินขึ้นมาบนห้องตามลำพัง....

ตอนนี้ก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว  ภายในห้องมันช่างมืดและเงียบจริงๆ

ผมเปิดประตูเข้ามาด้วยความรู้สึกไม่ชินที่จะต้องอยู่คนเดียว  เพราะรู้ว่าคืนนี้ยังไงก็จะไม่มีพี่กิจอยู่ด้วยแน่ๆ

ผมเดินเข้ามาในห้องนอนตัวเอง  วางถุงข้าวของที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ  ก่อนจะนั่งลงไป 

ผมมองรูปพ่อแม่ที่อยู่บนโต๊ะ  รู้สึกเหงาๆ พิกลครับ  อยากจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนที่สัญญาไว้กับพวกท่าน  แต่มันก็อดที่จะอ่อนแอขึ้นมาไม่ได้ในบางเวลา...

เพราะเอาเข้าจริง...  ถึงผมจะบอกว่าไม่เป็นไร...  แต่ความจริงแล้ว...  ผมก็อยากจะมีครอบครัวอยู่ดูแลผมบ้างในเวลาแบบนี้...
แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วใช่มั้ย....

ผมพยายามเงยหน้าขึ้น  เพื่อไม่ให้น้ำตาที่มันเอ่อล้นขึ้นมาไหลอออกมาจากดวงตา  เพราะวันนี้มันไหลมามากแล้ว 

ที่สำคัญ...  ผมไม่อยากร้องไห้ต่อหน้ารูปของพ่อกับแม่แบบนี้  เพราะผมสัญญากับพวกท่านไว้แล้วนี่นา

ผมหยิบขนมเค้กชิ้นเล็กที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ  ก่อนจะใช้ช้อนพลาสติกตักมันเข้าปากไป...

มันเป็นวันเกิดปีที่ผมไม่มีใคร  อยู่เพียงลำพังกับรูปของพ่อและแม่เท่านั้น...

มันช่าง.... 


เหงาจังเลยครับ....


TBC.



--------------------------------------------------------------

ตอนนี้ CH ที่ผมกำลังเขียนอยู่  เป็นดราม่าสุดท้ายของ SS1  ตามที่วางโครงเรื่องไว้  แต่เป็น Combo ดราม่าเลยครับ  คร่าวๆ คงยาวไปกว่า 20 ตอนแน่
ส่วนที่ถามว่า  เมื่อไหร่จะบอกชอบกัน...   เนี่ยแหละครับ ><
การบอกชอบกันว่ายากแล้ว  แต่การยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง...  กลับยากกว่า...
เพลินเลยครับคนเขียน  เขียนไปก็สงสารไป  เห้อ.....
..............................................
ที่ตั้งไว้  ผมจะมี 3  Seasons
วางแผนไว้แบบนี้อะครับ  จบ SS1    ตอนพิเศษ 4 ตอน   SS2
เว้นช่วง SS1 กับ SS2  1 เดือนเพื่อที่จะได้เขียนล่วงหน้าไปเยอะๆ  จะได้ลงแบบต่อเนื่องเหมือนตอนนี้อะครับ ( แต่ระหว่าง 1 เดือนจะมีตอนพิเศษลง )
................................................
หลายๆ เรื่องที่ผมเขียน  ผมหยิบเอามาจากหนังสือที่อ่านบ้าง ( ส่วนมากจะเป็นการ์ตูน )  บางทีมันมีข้อคิดดีๆแฝงไว้  แต่บางคนอาจจะไม่เคยอ่านมัน  ผมเลยถือโอกาสแบ่งปันมันมาบ้างอะครับ
อย่างเช่น....
ข้อความที่ว่า.... “ การไม่แก้ไขความผิดพลาด...  คือความผิดพลาดที่แท้จริง “
อันนี้ยังไม่ได้เขียนลงไป  แต่ผมจำได้มาจากการ์ตูนเรื่อง  เคียว ( Kyo )
และอีกหลายๆอย่างที่ผมอยากแบ่งปัน...
แต่มีอันนึงที่ผมเข้าใจแต่เขียนให้คนเข้าใจได้ยากมากๆ  คือยังไม่รู้จะอธิบายมันยังไงดี...

บางเรื่อง..  ต่อหน้าคนที่เราอยากจะบอกที่สุด  แต่เรากลับเลือกที่จะไม่พูดมันออกไป  เพราะถ้าพูดไปแล้วมันจะกลายเป็นแค่เรื่องธรรมดา...  ถ้าอย่างนั้น...  ไม่บอกจะดีกว่า....  เพื่อให้อยู่โดยไม่ลืม...

คนเขียนเริ่มเวิ่นเว้อละ555+
............................................
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย  เผื่อบางคนที่อยากเข้าเรียน IE
IE เป็นวิศวะที่กว้างพอสมควร...  คือนอกจากความรู้เชิงวิศวกรรมแล้ว  เรายังต้องเรียนพวกการบริหารจัดการอีก 
แต่ว่า...  เราจะไม่ลงลึกอะไรมากอะครับ  เป็นความรู้แบบกว้างๆเพื่อหยิบเอามาใช้งาน
เหมือนเป็ดอะครับ  บินก็ได้  แต่ก็ไม่เท่านก  ว่ายน้ำก็ได้  แต่ก็ไม่เท่าปลา คือทำได้หลายอย่าง  แบบแนวกว้างแต่ไม่ได้ลงลึก
และนอกจากความรู้เชิงวิศวกรรมแล้ว  เรายังต้องเจอพวกเศรษฐศาสตร์ (ผมได้ A แฮ่) การจัดการ และอื่นๆในเชิงบริหารด้วย
ส่วนงานที่ทำก็มีหลายด้านนะครับ  เช่น
QC  งานด้านตรวจอบคุณภาพ 
QA  ประกันคุณภาพ
Production  งานด้านฝ่ายผลิต  ซึ่งไม่ได้ไปประกอบหรือซ่อมเครื่องจักรนะครับ  แต่ IE เราจะสนใจไปที่  การลดขั้นตอนการทำงาน   การลดเวลาการผลิต   การทำ Work study   ปรับปรุง Lineการผลิต หรือ process ต่างๆ   ให้คุ้มค่าและลดต้นทุนมากที่สุดอะไรทำนองนี้อะครับ
Production Planning  (ช่วงที่ผมทำงานอยู่ในฐานะวิศวกรจะทำในส่วนนี้ครับ)  ง่ายๆเลยคือ...  ลูกค้าสั่งของเท่าไหร่  ก็วางแผนผลิตไปตามนั้น...  แต่detail เยอะมากครับ  เพราะมันต้องคำนึงหลายอย่าง  ตั้งแต่  วัสดุที่ใช้ประกอบ  ที่เราต้อง order มา ( งานส่วนนี้จะเหมือนพี่อาทิตย์ ใน SOTUS S )  inventory  ยาวไปจนถึง ระบบ logistic เลย  ให้อธิบายคงจะยาวมาก  เพราะแผนการผลิตที่เราทำจะไม่ใช่ออก plan มาแค่เดือนเดียว  แต่เราต้องวางยาวแบบ forecast ไปกว่า 12 เดือนเลย  แต่ก็สนุกดีนะครับ  ถ้าไม่เจอคนอย่างพี่จอร์นใน Sotus  55+  (คือเข้าใจอารมณ์เลยตอนดูซีรี่ย์  แต่ของจริงหนักกว่านั้นอีก )
และยังมีงานด้านอื่นๆ อีกเยอะ ไม่ว่าจะงานด้านออกแบบ  หรืออื่นๆ  ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่
.......................
เล่ามายาวเลยกลัวคนรำคาญจัง แฮ่  แค่เผื่อมีน้องๆ  อยากรู้ว่า  เรียน IE มันเป็นวิวะแบบไหน  เผื่อสนใจอยากเรียนอะครับ ^ ^
ก็เลยเอาเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาเล่าสู่กันฟัง  เผื่อจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับปม
...........................
เริ่มโม้มายาวละ  พอแค่นี้ดีกว่าเนอะ  555+
วันมะรืนจะมาลงตอนหน้าให้นะครับผม
ขอบคุณทุกๆกำลังใจและการติดตามมากๆนะครับ  บอกเลยว่ามันเป็นแรงกระตุ้นให้ผมเขียนหัวฟูเลย ^ ^
แง่มๆ
^___________________________________________________^

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 11-02-2018 16:23:16
 :L3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-02-2018 16:41:43
 :m15: :m15: :m15:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-02-2018 17:01:50
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-02-2018 18:24:24
สงสารพีกิจน้องกันต์
เจ็บตัวทั้งคู่ 
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-02-2018 20:43:49
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-02-2018 21:50:23
ดราม่า 20 ตอน  :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-02-2018 02:17:54
 :a13: ขอให้มีความสุขในวันเกิดนะลูก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 12-02-2018 11:03:44
พี่กิจอย่าเป็นไร น้องรออยู่
วันเกิดนี้คงจำไปนาน
 :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-02-2018 12:34:29
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-02-2018 20:32:54
พี่กิจอย่าเป็นไรนะ น้องเหงาแล้ว เอาใจช่วยทั้วน้องทั้งพี่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 12-02-2018 21:14:23
 :m15: งืมๆ อยากจะกอดน้องเหลือเกิน..
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-02-2018 21:31:43
สงสารน้องกันต์จังเลย

ดราม่าแต่จบแฮ็ปปี้ก็เอานะคนแต่ง

ชอบๆรอ รอตอนต่อไปคับ

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 12-02-2018 22:25:20
น่าสงสาร  :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: HPG ที่ 13-02-2018 10:20:26
 :-[ ในที่สุดก็ตามอ่านจนทันแล้ว เย้ๆๆๆๆ เรื่องน่ารักมากเลย ตัวละครแต่ละตัวก็มีสเน่ห์มากกกกกก คือแต่ละตัวละครเอามาเขียนเป็นตัวหลักได้หมดเลยอ่ะ ตัวเรื่องจริงๆเนื้อหาก็ไม่ได้แปลกไปกว่าเรื่องอื่นนะ แต่การเขียนการบรรยายตัวละครของคุณมันดูธรรมชาติมากเลย ก็เลยไม่รู้สึกว่าอ่านนิยาย แต่เหมือนกำลังอ่านไดอะรี่หรือไม่ก็กำลังฟังเพื่อนเล่าเรื่องชีวิตให้ฟัง ซึ่งมันเป็นสเน่ห์ของคุณคนเขียนเลยนะ
ปล.ตกหลุมรักเด็กๆในนิยายของคุณนะ ดูแลเด็กๆของเราด้วย 5555+
ปล ของ ปล อีกที
ขอให้สุขภาพแข็งแรงๆขึ้นทุกวันๆนะคะ ❤
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 14-02-2018 17:34:22
Chapter 24




กิจ ‘s  Part




ผมกำลังค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนหัวเล็กๆ  ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้น 

ผมรีบหันไปมองรอบๆ ทันที  ซึ่งก็พบไอ้กานต์น้องชายผม  มันกำลังนอนหลับอยู่ที่โซฟาไม่ไกลจากเตียงที่ผมกำลังนอนอยู่

ผมค่อยๆ นึกและลำดับเรื่องราวในทันที...
 
ใช่แล้ว...  ผมรถล้มนี่นา  ถ้าอย่างนั้น...  ตอนนี้ผมก็คงกำลังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแน่ๆ....

แต่ว่า...

ตอนนั้น...  ที่ไปกับผมด้วย...  ก็มีกันต์นี่...  แล้วตอนนี้...  น้องมันอยู่ที่ไหนกันนะ...

ว่าแล้วผมก็ผงะตัวขึ้นมา  ตะโกนเรียกไอ้กานต์ที่นอนอยู่ใกล้ๆ เพื่อซักถามทันที  มันงัวเงียทำหน้ายุ่งๆ มองมาทางผม 

“ กานต์!  กันต์ล่ะ...  อยู่ไหน  ปลอดภัยรึเปล่า “

“ พี่กันต์ปลอดภัยดีพี่  ตอนนี้กลับไปที่คอนโดแล้ว  แต่ว่า... “

“ แต่อะไร! “

“ ถึงจะปลอดภัยดี  แต่พี่เขาก็เจ็บเอาการอยู่นะพี่  แผลเต็มตัวไปหมดเลย  ผมเห็นละเจ็บแทน  แต่ว่า...  พี่เขาไม่ยอมนอนโรงพยาบาลอะ “

ได้ยินอย่างนี้แล้ว  ผมนี่โครตรู้สึกผิดเลยครับ  ที่น้องมันต้องมาเจ็บตัวแบบนี้  ก็เพราะผมแท้ๆ เลยครับ

“ แล้วกลับไปยังไง  ใครไปส่ง  แล้วพ่อกับแม่รู้เรื่องนี้รึเปล่า “  ผมถามต่อครับ 

จากนั้นกานต์มันก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่มันรู้ให้ฟังคร่าวๆ ว่า...  กันต์มันเป็นคนโทรไปบอกให้ที่บ้านผมทราบเรื่อง  ส่วนอาการของผมก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมาก  ในขณะที่กันต์มันมีแผลถลอกตามตัวและก็หัวแตก  ซึ่งทำแผลไปเรียบร้อยแล้ว  ก่อนจะกลับคอนโดไปโดยมีเพื่อนไปส่ง  ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็นไอ้เรย์  ว่าแล้วผมก็รีบขอโทรศัพท์ผม  ก่อนจะกดโทรออกไปหาไอ้เรย์มันทันทีครับ


--- ฮัลโหลครับ ---

“ เรย์  เมื่อคืนมึงไปส่งกันต์มาใช่มั้ย “

--- ฟื้นแล้วเหรอครับพี่  ใช่ๆ  ผมไปส่งมันเองครับ ---

“ แล้ว...  มันเป็นยังไงบ้าง  เจ็บหนักมั้ย “

--- ก็เอาการอยู่พี่  ถึงปากมันจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก  แต่จากที่เห็น...  มันก็คงจะเจ็บน่าดู  ที่สำคัญ –

“ ที่สำคัญอะไร... “

--- มันโครตเป็นห่วงพี่เลยรู้ป่าว ---


ถึงตรงนี้...  ผมก็พูดอะไรไม่ออกเลยครับ  ได้แต่เงียบรอฟังมันพูดต่อมาเท่านั้น


--- ตอนที่เกิดเรื่อง...  มันโทรมาหาผม...  ให้ผมไปช่วย  แต่แบตมันเสือกหมดไปก่อน  กว่าที่ผมจะขับรถตามหามันจนเจอ  ก็กว่าครึ่งชั่วโมงเลย  แล้วพี่รู้มั้ย....  ว่ามันทำยังไง... ---

“ แล้ว..  กันต์มันทำยังไง “

--- มันกลัวว่าพี่จะเป็นอะไร  และกลัวว่าจะไม่มีใครมาช่วย...  มันเลยแบกพี่เดินไปตามทางเรื่อยๆ  เผื่อว่าจะเจอใครที่พอจะช่วยได้...  แม่ง.. แผลก็เต็มตัว  หัวก็แตกจน...  เสื้อที่มันโพกหัวไว้...  ชุ่มไปหมดด้วยเลือด...  เห็นสภาพมันตอนนั้นแล้ว... ---


ถึงตรงนี้...  ไอ้เรย์ที่น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือก็เงียบไปครับ...  มันคงพยายามกลั้นน้ำตาอยู่แน่ๆ 

ส่วนผมที่ได้แต่อ้าปากค้าง  พอนึกถึงภาพที่ไอ้เรย์มันเล่ามาให้ฟัง  ผมก็ยิ่งรู้สึกผิด  และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

น้องมันจะรู้สึกยังไงบ้างนะ  เวลานั้น..

มันจะกลัวขนาดไหนกันนะ..

มันจะเหนื่อยแค่ไหนกัน..

มัน..  จะเจ็บมากแค่ไหน...

ความอดทนและความพยายามเท่าไหร่...  ถึงจะทำได้ขนาดนั้น...

ถึงจุดนี้...  น้ำตาที่มันไม่เคยไหลออกมาจากตาผมเป็นเวลานานแล้ว  ก็ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตา  ซึ่งผมก็ต้องพยายามข่มมันเอาไว้...


--- พี่กิจรู้อะไรมั้ย....  เชี่ยกันต์มันโครตเป็นห่วงพี่เลยนะ...  ตลอดทางบนรถ  มันเอาแต่หันไปดูพี่ตลอด...  พูดซ้ำๆ ว่า  ขอให้พี่ปลอดภัย  ทั้งๆ ที่ตัวมันเองก็แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว  เสียเลือดซะขนาดนั้น  จนร่างกายมันอ่อนเพลียและแทบจะไม่มีแรงแล้ว...  พอถึงโรงพยาบาล  มันก็เอาแต่บอกให้คนเข้าไปดูพี่ก่อน  พาพี่ไปก่อน  มันนี่แม่ง...  ไม่เคยห่วงตัวมันเองเลย...   ผมละนับถือใจมันจริงๆ ---


ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาที่มันไม่เคยไหลมานานแล้ว  จู่ๆ มันก็ร่วงหล่นผ่านแก้มผมไป  โดยที่ผมไม่สามารถจะควบคุมมันได้  ก่อนที่ผมจะปาดมันออกไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น


“ แล้ว...  ตอนนี้กันต์มันอยู่ที่ห้องใช่มั้ย “

--- ครับพี่  เมื่อคืนผมไปส่งมันเองที่ห้อง  นี่ก็กะว่าวันนี้จะเข้าไปเยี่ยมมันสักหน่อย...  อีกอย่าง..  เมื่อวานเป็นวันเกิดมันนะพี่  ทีแรกผมกะว่าจะเซอร์ไพส์มันสักหน่อย  แต่แม่ง...  กลับถูกเซอร์ไพส์เองซะงั้น... ---




วันนี้อยากกินอะไร...
เค้กครับพี่....





“ เฮ้ยเรย์...  นั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ  เดี๋ยวพี่ว่าจะกลับห้องไปดูกันต์มันแล้ว “

--- ครับพี่...  ผมฝากมันด้วยนะครับ  แล้วยังไง...  วันนี้ผมขอเข้าไปเยี่ยมมันหน่อยนะครับ ---

“ อืม..  มาถึงก็บอกแล้วกัน “


จากนั้นผมก็วางสายจากไอ้เรย์ไป  ก่อนจะเลิกผ้าห่มออก  แล้วทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียง  ก็พอดีกับที่พ่อและแม่เดินเข้าห้องมาพอดี

“ อ้าวฟื้นแล้วเหรอตากิจ  แล้วนี่จะไปไหน  ร่างกายเรายังไม่แข็งแรงเลยนะ  แล้วอะไรเจ้ากานต์...  เอาแต่นอนไม่ดูแลพี่ตัวเองเลยนะ “

แม่ผมร่ายยาวขึ้นมาทันทีที่เห็นผมกำลังจะลุกขึ้นจากเตียง  ก่อนจะเดินเลยไปยังโซฟาปลุกไอ้กานต์ที่นอนหลับไปอีกรอบระหว่างที่ผมกำลังโทรศัพท์อยู่

“ กิจไม่เป็นไรแล้วแม่  ว่าจะกลับห้องแล้ว  จะได้ไปดูกันต์มันด้วย...  เพราะที่มันต้องเจ็บแบบนี้ก็เพราะกิจเองนะ “ 

ผมบอกไปตามจริงครับ  เพราะยิ่งนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว  ก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาทุกที

“ แต่เรายังไม่แข็งแรงเลยนะ “  แม่ยังยังคงดึงดันจะไม่ให้ผมกลับครับ

“ กิจรู้ตัวเองดีน่าแม่  อีกอย่าง...  หมอก็บอกแล้วนี่ว่าไม่เป็นอะไรมาก  ยังไงกิจก็จะกลับ “

“ แต่... “

“ เอาน่าคุณ  ก็ลูกมันอยากจะกลับก็ปล่อยมันไปเถอะ  อีกอย่าง  เราก็ไปคุยกับหมอมาแล้ว  เขาก็รับรองว่าตรวจให้ละเอียดแล้วว่าเจ้ากิจไม่เป็นอะไรมาก “ 

พ่อเอามือมาตบไหล่แม่เบาๆ ซึ่งแม่ก็ดูจะมีท่าทีอ่อนลงมาบ้างแล้วนะครับตอนนี้

“ ส่วนรถ  พ่อให้คนไปเอากลับมาเข้าอู่ให้แล้วนะ “

“ ขอบคุณครับพ่อ “

“ แล้วแม่ก็ขอสั่งห้ามเราขับมอเตอร์ไซต์อีกนะ “ 

แม่ผมบอกเสียงเข้ม  ท่าทางเอาจริงครับ  ก็รู้นะครับว่าแกเป็นห่วง  แต่บิ๊กไบต์มันเป็นความชอบส่วนตัวของผมนี่นา 

แต่ว่า...  หลังจากนี้ก็คงจะใช้ให้น้อยลงแล้วละครับ

“ คร้าบ.... แต่จะให้เลิกขับเลยก็คงจะไม่นะแม่  แต่จะพยายามใช้ให้น้อยที่สุดก็แล้วกัน “

จากนั้นผมก็เปลี่ยนชุดที่พ่อกับแม่เตรียมมาให้จากที่บ้าน  ก่อนที่จะให้คนขับรถขับไปส่งผมที่คอนโด  ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งให้ผมดูแลกันต์มันดีๆ ด้วย  ถ้ามีอะไรก็ให้รีบพามาที่โรงพยาบาลทันทีเลย  แต่ถึงพ่อกับแม่จะไม่สั่ง  ผมก็จะทำมันอยู่แล้วล่ะครับ



...........................



ที่คอนโด

ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องที่เงียบสนิทราวกับว่าไม่มีใครอยู่  สงสัยกันต์มันคงจะยังไม่ตื่นอะครับ

ผมเลือกที่จะไม่เคาะประตูห้อง  เผื่อมันจะยังหลับอยู่  จะได้พักผ่อนยาวๆ  ผมเลยตัดสินใจถือวิสาซะเปิดประตูห้องเข้าไป

ภายในห้องเงียบมาก  จะมีก็เพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่เท่านั้น

กันต์มันกำลังหลับอยู่จริงๆ ครับ....

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียง  ก่อนจะนั่งลงมองดูมันที่กำลังหลับตาพริ้มและหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ

ผมเอามือไปแตะที่แก้มมันอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม  ก่อนจะสะดุ้งมือขึ้นมาเล็กน้อย  เพราะมันตัวร้อนจี๋เลยครับ  ท่าทางจะมีไข้จากแผลที่อักเสบ

อยากจะปลุกและพามันไปโรงพยาบาลนะครับ  แต่มันก็คงจะไม่ยอมไปแน่ๆ 

ผมนิ่งคิดอยู่เล็กน้อยว่าสถานการณ์แบบนี้  ควรจะทำยังไงดีถึงจะช่วยลดไข้มันได้  ก่อนจะนึกถึงตอนที่ผมป่วย  ซึ่งกันต์มันก็ใช้วิธีเช็ดตัวให้  เพื่อลดไข้ผม...

ทันทีที่คิดได้  ผมก็รีบรุดออกไปหาผ้าขนหนู และน้ำอุณหภูมิปกติเข้ามาในห้องทันที

ผมค่อยๆ จุ่มผ้าลงไปในน้ำและบิดมันให้พอหมาดๆ  ก่อนจะค่อยๆ สัมผัสลงบนแก้มมันอย่างเบามือ 

ไม่อยากให้มันตื่นครับ....

ผมไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน  ก็มีมันเนี่ยแหละครับ  ที่ทำให้ผมรู้สึกอยากทะนุถนอมได้ขนาดนี้

เช็ดไปได้ไม่นาน  มันก็ปรือตาขึ้นมา  ท่าทางมันดูจะเบลอๆ อยู่นะครับ  ก่อนจะพูดเสียงอู้อี้อะไรไม่รู้อยู่ในลำคอ  ซึ่งเบามากจนผมฟังไม่ได้ศัพท์...

“ นอนต่อเถอะ  เรามีไข้อยู่นะ  เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้... “

ผมบอกไปเท่านั้น  ไม่นานมันก็ผล็อยหลับไปต่อ  มันคงจะเพลียและเบลอจากอาการเหนื่อยล้าและพิษไข้ละมั้งครับ  ถึงได้หลับต่อไปอย่างง่ายดายขนาดนี้...

ผมค่อยๆ  เช็ดหน้า  ลำคอ  แขน  ขา  และตามข้อพับต่างๆ อย่างเบามือ...  ไม่อยากให้มันตื่นมาอีกรอบ  อยากให้ได้พักผ่อนสบายๆ ไปก่อน  เพราะต่อจากนี้...  ผมเป็นคนจะจัดการเรื่องต่างๆ ให้มันเอง...

ถึงเวลาที่ผมต้องดูแลมันบ้างแล้วละครับ...

พอเช็ดตัวเสร็จ  ผมเอามือไปแตะที่หน้าผ้ามันอีกครั้ง  ดูเหมือนว่าตัวจะเย็นลงมาบ้างแล้วนะครับ  แต่ก็ยังคงมีไข้อยู่ 

ผมมองดูมันต่ออีกเล็กน้อย  รู้สึกปวดใจแปลกๆ...  ไม่รู้ทำไม  ผมถึงไม่อยากเห็นคนๆ นี้  ตกอยู่ในสภาพแบบนี้เลยครับ 

ที่สำคัญ....  ยิ่งรู้ว่าการที่มันมาเป็นแบบนี้  ก็เพราะพยายามที่จะปกป้องผมด้วยแล้ว  มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บไปมากกว่าเดิม...

ผมลุกขึ้นจากเตียงพร้อมอุปกรณ์เช็ดตัว  เพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปจากห้อง  ตั้งใจว่าจะไปหาอะไรมาให้มันกินกลางวันนี้ครับ  จะได้ให้มันกินยาต่อ

ก่อนออกจากห้อง  ผมมองไปยังโต๊ะเขียนหนังสือ  เผื่อว่ามันจะมียาจากโรงพยาบาลให้มาบ้าง  ซึ่งก็จริงครับ  มันมีถุงยาวางอยู่บนโต๊ะ  ผมเดินเข้าไปดูว่ามียาอะไรบ้างและต้องกินก่อนหรือหลังอาหารยังไง  ซึ่งเท่าที่ดูก็มีแค่ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบเท่านั้น

นอกจากนี้  บนโต๊ะก็ยังมีขนมเค้กที่มันกินไปได้แค่คำสองคำเท่านั้นเหลือทิ้งไว้  มองเลยขึ้นไปมีรูปพ่อกับแม่ของมันวางอยู่ตรงหน้า....

กันต์..   มันคงเหงาน่าดูนะครับ  ในวันเกิดของตัวเองแบบนี้....

จะรู้สึกยังไงกันนะที่วันเกิดปีนี้  เราจะไม่มีใครเลย...  ต้องอยู่ตามลำพัง  แถมยังมาเจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้อีก

ผมมองกลับไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกตื้อๆ ที่เบ้าตา... 

ผมเข้าใจแล้วครับ  ที่ไอ้เรย์มันบอกว่ากันต์มันพยายามทำตัวเองให้เข้มแข็ง  และได้แต่บอกว่าตัวเองไม่เป็นไร... 

แต่เชื่อผมสิ...

มัน...  เป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ ครับ


ก่อนออกจากห้อง  สายตาผมก็ไปสะดุดอยู่ที่ตะกร้าผ้า  ผมเห็นเสื้อที่ถูกโยนทิ้งไว้ด้านบน  มันเป็นเสื้อตัวเมื่อวานที่กันต์มันใส่  ซึ่งผมจำได้ดี  แต่ว่าสภาพมันต่างไปจากเมื่อวานมาก  จนแทบจะไม่เหลือเคล้าเดิมเลยแม้แต่น้อย  เพราะมันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานเต็มไปหมด

ถึงจุดนี้..  จากที่แค่ตื้อๆ ที่เบ้าตา  จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น...

คนที่จิตใจเข้มแข็งอย่างผม  กลับมามีหัวใจที่บอบบางได้เพราะคนๆ นี้ 

มันเป็นไปได้ยังไงกันนะ....

ผม...  ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ...



..................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 14-02-2018 17:44:48
กันต์ ‘s  Part 




ผมตื่นมาก็เกือบจะเที่ยงแล้วครับ  หลับยาวไปเลย  แถมรู้สึกมึนๆ เหมือนจะมีไข้ด้วยสิครับ...

ว่าแต่....  ผมฝันถึงพี่กิจด้วยนะครับ...

ผมฝันว่าพี่เขามานั่งข้างๆ และดูแลเช็ดตัวให้ผม....

ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ  ว่าแล้วผมก็อยากจะไปเยี่ยมพี่เขาจังเลยครับ  รู้สึกเป็นห่วงยังไงก็ไม่รู้

แต่ทันทีที่ผมพยายามจะลุกขึ้นจากที่นอน  มันก็เจ็บที่หัวแปล๊บขึ้นมาทันที  จนผมต้องอุทานออกมา... 

ก็คงจะเพราะแผลที่หัวนั่นแหละครับ...  แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเท่าไหร่  ที่จะขัดขวางไม่ให้ผมไปเยี่ยมพี่เขาได้

ผมค่อยๆ ขยับตัวมานั่งที่ขอบเตียง  ยังรู้สึกแย่ๆ  และไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่  มันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมดเลยครับตอนนี้  แถมดูจะมึนๆ ที่หัวอีกด้วย

ทันใดนั้นเอง  ลูกบิดประตูห้องผมก็ถูกเปิดออก  ผมเงยหน้าไปมองด้วยความแปลกใจ...

ใครกันเข้ามาในห้องนี้ได้....

และภาพที่ผมเห็นตรงหน้าก็ทำให้ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

พี่กิจเองครับ... 

แต่พี่เขาน่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอตอนนี้...  หรือว่านี่ผมกำลังฝันอยู่นะ


“ อ้าว..  ตื่นแล้วเหรอ  เป็นไงบ้าง...  ไหวมั้ย...  กินข้าวก่อนมั้ย  เดี๋ยวพี่จะเอาเข้ามาให้นะ  พี่ซื้อมาเพียบเลย... “

ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่เขาไปสักอย่าง  ได้แต่มองอย่างงงๆ  ไม่แน่ใจว่านี่คือความจริงหรือว่าความฝัน

พี่เขาเดินเข้ามาหาผมก่อนจะเอามือมาแตะที่หน้าผากผมเบาๆ  แล้วพูดขึ้นว่าตัวยังร้อนอยู่เลยนะ...

“ พี่...กิจ.. “

“ หือ... “

“ นี่พี่จริงๆ เหรอ... “

“ เอ๊า!..  ก็พี่ดิ จะใครล่ะ  หัวแตกแค่นี้จำกันไม่ได้แล้วเหรอ “

“ ก็...  พี่..  น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลนี่ “

“ ก็ออกมาแล้วไง “

“ แล้วรีบออกมาทำไมอะ  ยังไม่หายดีเลย  แล้วหมอเขาว่าไงบ้างอะพี่ “

ผมถามไปอย่างอดที่จะรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้  ในขณะที่พี่เขาเดินเข้ามาและนั่งลงที่ขอบเตียงข้างๆ ผม

“ หมอก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ “

“ พี่น่าจะนอนพักต่อนะ... “

“ ก็ถ้าพี่นอนพักแล้วใครจะมาดูแลเราล่ะ “

ถึงตรงนี้ผมก็ได้แต่อ้าปากค้างเล็กๆ  ก่อนจะหลบตาพี่เขา  ก้มหน้ามองลงพื้น  แล้วเผลอหลุดยิ้มออกมาหน่อยๆ

นี่พี่เขาเป็นห่วงผมเหรอเนี่ย....

“ พี่ขอโทษนะ  ที่เป็นต้นเหตุให้เราต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ “

“ ไม่ใช่ความผิดพี่ซะหน่อย  มันเป็นเรื่องสุดวิสัยนี่นา “

“ แต่ยังไงพี่ก็ต้องขอบใจเรานะ...  ไอ้เรย์มันเล่าให้พี่ฟังหมดแล้วล่ะ “


เชี่ยเรย์...  นี่มันจะเล่าให้พี่เขาฟังทำไมวะเนี่ย...


“ อะ...  ครับ “

ไปไม่ถูกเลยผม  อายจัง...  ไม่รู้ว่ามันเล่าอะไรไปบ้าง

“ นั้นกินข้าวกันเนอะ  เราจะได้กินยา  แล้วนอนพักต่อ... “

พี่เขาพูดจบก็ลุกออกจากเตียง  แล้วกำลังเดินไปยังประตู  ผมเลยทักขึ้นมาก่อนที่พี่เขาจะออกไปจากห้อง  ถึงเรื่องความฝันของผมเมื่อสักครู่

“ พี่กิจ... “

“ หือ “

“ เอ่อ...  เมื่อกี้พี่..  เอ่อ...  เปล่าครับไม่มีอะไร “

พี่กิจร่นคิ้วมองผมอย่างงงๆ  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ กลบเกลื่อนไปให้เท่านั้น  อยากจะถาม  แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง


แต่ไม่ว่ามันจะเป็นความจริงหรือว่าความฝัน  รู้หรือไม่รู้ก็ช่างมันเถอะ  ผมแค่รู้ว่ามันทำให้ผมมีความสุขมากก็พอแล้ว...  ใช่มั้ยละครับ....



.................................



ระหว่างทานข้าว  พี่กิจดูแลผมอย่างดีมากเลย  ถึงขนาดที่ทีแรกจะป้อนให้ผมเลยด้วยซ้ำ  แต่ผมเห็นว่าผมไม่ได้เจ็บเวอร์อะไรขนาดนั้น  ก็เลยปฏิเสธไป 

พอทานข้าวเสร็จพี่เขาก็ให้ผมกินยาและนอนพักต่อ   ส่วนพี่เขาบอกว่าจะออกไปทำธุระข้างนอกสักหน่อย  แต่ไปไม่นานเดี๋ยวจะรีบกลับมา...  ผมก็เลยว่านอนสอนง่ายเชื่อฟังพี่เขาไปครับ  ก็เล่นมาดูแลผมดีซะขนาดนี้  ผมก็เลยทำตัวไม่ถูกเลยสิครับ

แต่จะให้นอนต่ออีกมันก็ไม่ไหวแล้วละครับ  ถึงจะไม่สบายตัว  แต่มันก็นอนมาเยอะแล้วอะครับ  ผมพยายามข่มตานอนยังไงมันก็นอนไม่หลับ  ผมเลยเลือกที่จะลุกมานั่งทำงาน Drawing กองมโหฬารที่ต้องส่งวันจันทร์นี้แล้วดีกว่าครับ...

ไม่รู้ว่านั่งทำการบ้านไปนานเท่าไหร่  แต่ตอนนี้พี่กิจก็กลับเข้าห้องมาแล้ว  พร้อมทั้งเปิดประตูห้องเข้ามาดูผมด้วย

“ อ้าว...  ไม่นอนต่อล่ะ  มานั่งทำอะไรอีกเนี่ย "

“ การบ้านอะพี่  โครตเยอะเลย  ต้องส่งวันจันทร์นี้แล้วด้วย  ถ้าไม่รีบทำตอนนี้  ไม่มีทางเสร็จทันแน่นอน “ 

ผมบอกไปพลางลิ่วตาให้พี่เขาดูปึกเอกสารรูป Drawing ที่ผมต้องวาดส่งในวันจันทร์นี้ครับ

“ เอาน่าไปนอนพักเหอะ  เดี๋ยวพี่ทำให้ “

“ ได้ไงพี่  การบ้านผม... “

“ อย่าดื้อดิ..  ถ้าร่างกายมันไม่ไหวแล้วต้องหยุดเรียน  มันจะไม่แย่กว่าเหรอ  ไปนอนพักเร็วๆ “

พี่กิจทำเสียงเข้มสั่งผมมาครับ  ผมก็เลยต้องยอมแต่โดยดี 

ผมกลับมานอนที่เตียงอีกครั้ง  มองพี่กิจที่กำลังดูแบบงาน Drawing ที่ผมทำค้างไว้อยู่  ก่อนจะเริ่มทำต่อให้ผม  มองดูพี่เขาได้ไม่นาน  ผมก็ผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ครับ



……………………………..



“ กันต์..  ตื่นได้แล้ว “

“ กันต์.. “

เสียงพี่กิจพร้อมกับแรงเขย่าตัวเบาๆ  ทำให้ผมปรือตาตื่นมาจากภวังค์นิทราที่เผลอหลับไปตอนช่วงบ่าย 

พี่กิจในสภาพหล่อเนียบ  ที่สวมเสื้อเชิร์ตสีม่วงเข้มแกมแดง  กำลังนั่งเรียกผมอยู่ข้างๆ เตียง  เห็นพี่เขาแต่งตัวหล่อๆ แบบนี้แล้ว  สงสัยว่าพี่เขาคงจะไปเที่ยวคืนนี้แน่ๆ...

“ เป็นไงบ้าง  ไหวมั้ย “

พี่เขาถามต่อทันทีที่เห็นผมตื่น  พลางเอามือมาแตะที่หน้าผาก  รู้สึกใจเต้นยังไงก็ไม่รู้สิครับ  ที่พี่เขาเข้ามาใกล้และดูแลผมขนาดนี้  แถมยังพูดจาอ่อนโยนกับผมอีกด้วย

“ กะก็..  ดีขึ้นเยอะแล้วครับ “

“ อืม...  นั้นก็ดีแล้ว  เดี๋ยวพี่จะพาไปกินข้าวข้างนอกนะ  ไปไหวมั้ย “

ผมพยักหน้าเล็กๆ ให้ไปแทนคำตอบ  จากนั้นพี่กิจเขาก็บอกว่าจะออกไปรอด้านนอก  เพื่อให้ผมอาบน้ำแต่งตัวออกไปทานข้าวกับพี่เขาครับ 

ผมลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างเมื่อยล้า  ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว  ซึ่งจะต้องเดินผ่านโต๊ะเขียนแบบ  ผมเลยหันไปดูงานที่โต๊ะ  โห...  พี่เขาทำให้ผมเสร็จไปเยอะเลยครับ  เหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะเสร็จหมดแล้ว  โครตไวเลย  แถมงานก็เนียบมากด้วย


......................


สักพักใหญ่ผมก็เดินออกมาจากห้องในชุดสีขาวแขนยาวคอเต่ากับกางเกงยีนต์  พี่กิจหันมามองผมก่อนจะยิ้มให้เล็กๆ  และวางไอแพดลงบนโต๊ะ  พร้อมทั้งหยิบกุญแจรถและเดินเข้ามาหาผม

“ ปะ..  หิวยังเราอะ “

“ ก็นิดหน่อยครับพี่  ว่าแต่เราจะไปกินอะไรกันอะครับ “

ผมถามไป  ก่อนจะมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ  ซึ่งบอกเวลาว่ากว่า 1 ทุ่มแล้วในตอนนี้

“ เอาเหอะน่า  เดี๋ยวพี่พาไปเอง “

พี่เขาบอกมาแค่นั้น  ก่อนจะเดินนำผมออกไปจากห้อง  ผมเลยได้แต่เดินตามพี่เขาไปติดๆ เท่านั้น





TBC.



--------------------------------------------------------------

ขอโทษนะครับที่เมื่อวานไม่ได้ลง....  ด้วยเหตุผลเดิมๆ คือหลังยาโรคประจำตัวออกฤทธิ์มันจะมึนๆ เลยไม่อยากฝืนร่างกายอะครับ  เลยมาเรียงประโยค(ที่พิมพ์เสร็จแล้ว)ต่อวันนี้ (ที่เรียงใหม่เพื่อให้มันอ่านง่ายอะครับ จากที่พิมพ์ไปแล้ว)

ตอนนี้ผมพึ่งเขียนจบตอนที่ 35 อยู่เลย   :katai4: :hao7:

แต่สู้ๆครับเพราะมีกำลังใจที่ดีๆจากทุกๆคน o13

หวังว่านิยายผมจะทำให้ทุกคนมีความสุขที่ได้อ่านนะครับ  มันคือความตั้งใจของผม ^ ^

ขอบคุณนะครับผม

^__________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 11/02/2561 update chapter 23 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-02-2018 17:47:59
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-02-2018 17:57:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 14-02-2018 18:17:36
อยากรู้ไมตากิจหายไว 555.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2018 19:34:50
สู้ๆๆๆ ทั้งตัวละครทั้งคนแต่งนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-02-2018 19:59:08
 :L2: :L1: :pig4:

สุขสันต์วันแห่งความรัก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-02-2018 21:53:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 14-02-2018 23:07:37
อ่านแล้วจะร้องไห้ตามพี่กิจ
ตอนที่รู้ว่าน้องแบกพาไปโรงพยาบาล ซึ้งใจมากๆ
ฟาดเคราะห์ไปเนอะทั้งสองคน ไม่เป็นไรมากก็ดี

ว่าแต่พี่กิจจะพาน้องไปกินข้าวไหน!?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-02-2018 23:24:55
อึดกันทั้งพี่ ทั้งน้องเลยนะ ดูแลซึ่งกันและกันด้วย ดี ๆ รัก ๆ กันไว้นะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-02-2018 23:28:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: HPG ที่ 15-02-2018 11:30:42
เป็นที่อ่านแล้วบั่น นี่ฉันจะสงสารก่อน หรือฟินก่อนดี 55555+ สงสารน้อง แต่ก็ฟินคนพี่ที่เอ็นดูน้อง
งือ~~~รอตอนต่อไปด้วยใจระทึก 55555+
ปล ดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะคุณคนเขียน ❤
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Naesuka ที่ 15-02-2018 13:54:00
รออ่านตอนต่อไปนะคับ เรื่องสนุกมากๆๆๆ คุณหมีขาวดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคับ!!!  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-02-2018 21:03:34
เป็นตอนที่อ่านแล้วร้องไห้ตามพี่กิจเลย

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 15-02-2018 21:15:52
มารอแล้วว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-02-2018 20:33:08
Chapter 25



กันต์'s  Part




ผมนั่งรถมากับพี่กิจประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งครับ  ซึ่งร้านจะเป็นลักษณะของคาเฟ่เสียมากกว่า  แต่วันนี้ดูท่าทางร้านจะปิดนะครับ  เพราะไฟในร้านดูมืดไปหมดเลย  จะมีก็แค่ป้ายชื่อร้านและทางเข้าเท่านั้นที่ยังคงสว่างอยู่  แต่ที่น่าแปลกก็คือ  ลานจอดรถทำไมถึงยังมีรถเข้ามาจอดกันหลายคันอยู่แบบนี้

“ ร้านปิดมั้งพี่ “

ผมบอกพี่กิจไป  เมื่อเห็นเขาปลดเบลท์ที่คาดไว้ออก

“ ไม่ปิดหรอก  ตามพี่มาก็แล้วกัน “

พี่เขาบอกมาแค่นั้นครับ  ผมก็ได้แต่ทำหน้างงๆ เดินตามพี่เขาเข้าไป  พอถึงประตูหน้าร้าน  พี่เขาก็เปิดมันเข้าไปในทันที 

นี่พวกเราคงไม่ได้กำลังจะบุกรุกอยู่ใช่มั้ยเนี่ย...

ทว่า...  ทันทีที่เสียงกระดิ่งจากประตูร้านดังขึ้น  ไฟในร้านก็สว่างวาบขึ้นมาทันที  พร้อมกับเสียงผู้คนมากมายที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น....


“ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะเว้ยมึง “

“ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับน้องกันต์ “

“ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะกันต์ “


ผมได้แต่อ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า  พวกเพื่อนๆ กลุ่มผม  และพวกพี่ๆ กลุ่มพี่กิจ  มากันครบเลย  พร้อมทั้งกำลังอวยพรวันเกิดให้ผมกันทุกคน

ผมมองภาพตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง  อดที่จะรู้สึกตื้นตันขึ้นมาไม่ได้ครับ 

นี่พวกเขารู้วันเกิดของผมได้ยังไงกันเนี่ย  แม้ว่ามันจะเลยมาแล้วหนึ่งวันก็ตาม...

ผมหันมามองหน้าพี่กิจ  พี่เขาก็ได้แต่ยิ้มๆ ตอบกลับมาให้เท่านั้น  จากนั้นของขวัญมากมายจากทั้งพี่ๆ และเพื่อนๆ ผม  ก็ทยอยส่งมาให้  ผมเอามันไปวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ จนเต็มโต๊ะไปหมด  ได้มาครบทุกคนเลยครับ  จะขาดก็แต่ของพี่กิจเท่านั้น  แม้จะอยากได้มากที่สุด  แต่ผมก็ไม่กล้าทวงถามอะไร  เพราะแค่นี้ผมก็ดีใจมากจนยิ้มแก้มแทบปริแล้วล่ะครับ


ภายในร้านถูกตกแต่งไปด้วยลูกโปร่งสีฟ้าขาวลอยติดอยู่เต็มเพดานไปหมด  ที่โต๊ะตรงกลางมีอาหารน่ากินมากมาย  ทั้งอาหารหลักและของกินเล่น  ส่วนตรงมุมห้องเป็นมุมของเครื่องดื่มครับ  ซึ่งมีครบเลยตั้งแต่น้ำผลไม้ พั้นช์ น้ำอัดลมและแอลกอฮอล์

“ นี่...  รู้วันเกิดผมได้ยังไงกันอะ “

ผมอ้อมแอ้มถามไปครับ  จากนั้นทุกคนก็พยักพเยิดไปที่พี่กิจ  ผมเลยหันไปมองเพื่อขอคำตอบ  ซึ่งพี่เขาก็บอกว่ารู้มาจากไอ้เรย์มันอีกทีนึงครับ


สำหรับงานวันนี้  ก็มีแค่คนที่สนิทๆ กันครับ  คือแก๊งพวกผม 6 คน ( จากที่เคยมี 4 คน แต่ตอนนี้เพิ่มไอ้ธันกับแพรมาด้วย)   แก๊งพี่กิจอีก 4 คน แต่พ้วงด้วยรุ่นพี่ปี 2 สาวสวยที่มากับพี่คิม (ท่าทางจะเป็นแฟนใหม่อะครับ)  และสุดท้ายก็พี่เอ็กซ์น้องรหัสพี่กิจ กับพี่ซี  แฟนพี่เอ็กซ์เขา.... 

เอ้ย!... พี่รหัสผมครับ


งานก็สนุก  อาหารก็อร่อย  เครื่องดื่มสูตรพิเศษของกลุ่มพี่กิจก็ถูกชงมาหลายรอบเลย  ซึ่งตอนนี้ไอ้เรย์และไอ้เจมส์  ก็เริ่มจะเมาๆ แล้วละครับ  ก็เล่นถูกพวกพี่คิมเรียกชนอยู่นั่นแหละ... 

ส่วนผมนี่อดครับ...  กินไปได้แค่ 3 ชอตก็ถูกพี่กิจสั่งห้ามแล้ว  ด้วยเหตุผลที่ว่าผมยังป่วยอยู่  สุดท้ายก็เลยถือและชนด้วยน้ำส้มแค่เท่านั้น  เห้อ....

สักพักใหญ่พี่คิมก็เอาไพ่ออกมาเล่นเกมครับ  ก็เกมง่ายๆ  ไพ่ 13 ใบสำหรับ 13 คนในนี้ 

วิธีเล่นก็ง่ายๆ ครับ  พอแจกไพ่ 13 ใบนี้เสร็จ  ใครที่ได้คิงก็จะมีอำนาจในการสั่งไพ่ใบอื่นทำอะไรก็ได้หนึ่งอย่างครับ

ฟังดูก็น่าสนุกดีนะครับ  แต่.....

เล่นไปได้สักพัก  ไอ้เรย์มันก็เริ่มหอบครับ  คือมันแม่งโครตซวยเลย  ถือไพ่ใบที่พี่เขาสั่งตลอด  โดนทั้งวิดพื้น 50  ปั่นจิ้งหรีดบ้าง  และล่าสุดนี่...  พี่พีสั่งให้หมายเลข 5 ไปวิ่งรอบลานจอดรถ 3 รอบ  ซึ่งก็คงไม่ต้องบอกนะครับว่าใครถือหมายเลขนี้ไว้....  พอมันกลับมาก็เลยหอบอย่างที่เห็นนี้แหละครับ

“ ให้เลข 9 แดกไป 5 ชอตนะครับ “ 

พี่บิวพูดเสียงนุ่มๆ สั่งมา  ซึ่งคนที่ซวยนี่ก็คือพี่กิจครับ  ฮ่าๆๆ

“ แจกต่อๆ “  พี่คิมพูดขึ้น  พลางรีบหยิบไพ่มาสับและแจกต่อทันที

“ เสร็จกู !!!! “ 

พูดจบ  พี่คิมก็ยิ้มร่าโชว์คิงในมือให้ทุกคนเห็นทันที

“ ขอให้แจ๊คหอมแก้มหมายเลข 4 คร้าบโผม “

นั่นไง  แล้วคำสั่งแปลกๆ ก็โผล่ขึ้นมา  ที่สำคัญ... ใน 13 คนนี้ก็มีผู้หญิงอยู่แค่ 2 คนเองครับ  ซึ่งโอกาสที่จะเป็นผู้ชายหอมแก้มกันเองนี่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

แต่ที่ซวยที่สุดก็คือ  ผมดันถือเลข 4 เอาไว้ซะด้วยสิ....

“ ใครแจ๊คๆ  หงายมาๆ “ 

พี่คิมเร่งเร้าให้คนที่ถือแจ๊ครีบเผยตัวออกมาครับ  และแล้วคนที่ถือ  ก็พลิกไพ่ออกมาด้วยหน้านิ่งๆ ครับ  แต่นั่นกลับเรียกเสียงฮือฮากันไปทั้งห้องเลยทีเดียว

ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ...


ก็....  ไอ้พี่กิจเนี่ยแหละ...


“ หอมเลยๆๆๆ!!! “ 


แล้วพวกพี่ๆ กับพวกเพื่อนผมบางคนก็เร่งให้พี่กิจรีบหอมผมทันที  ส่วนผมนี่สิครับทำหน้าไม่ถูกเลย...

ถึงผมจะรู้สึกว่าชอบพี่เขาก็เถอะ  แต่ต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้  มันก็ไม่ไหวนะครับ  แถมมันเป็นการหอมแบบที่พี่เขาไม่ได้เต็มใจด้วยน่ะสิ

จากนั้นพี่กิจก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้  เดินเข้ามาหาผม  และไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัว  ริมฝีปากบางนุ่มๆ ก็เข้ามาทาบทับบนแก้มซ้ายของผมทันที 

รู้สึกเหวอเลยครับ  ตัวชาเลยทีเดียว...

แล้วเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นมาซะลั่นห้อง  ในขณะที่พี่กิจกลับเหมือนจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนผมสักเท่าไหร่  เพราะพี่แกยังคงหันหน้าไปหาพี่คิมแล้วเลิกคิ้วไปให้ประมาณว่า...  ไม่เห็นจะยากเลย....

แต่ผมนี่สิ...  โครตอายเลยครับ  ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วเนี่ย  แถมไอ้เรย์ที่นั่งข้างๆ กัน  ยังเข้ามากระซิบข้างหูผมว่า..  ฟินล่ะสิมึง


เชี่ย!!!!


........................


ไม่ถึงเที่ยงคืนพวกเราก็แยกย้ายกันกลับครับ  เพราะพี่กิจบอกว่าไม่อยากให้ผมนอนดึก

ผมหอบของขวัญบนโต๊ะมากมายมาใส่ไว้ที่ท้ายรถ  โดยมีไอ้ธันกับพี่พีช่วยผมถือมา 


......................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/02/2561 update chapter 24 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-02-2018 20:49:31
ที่คอนโด

“ ทำอะไร...  ไม่รีบอาบน้ำนอนล่ะ  จะได้พักผ่อน “

พี่กิจที่พึ่งอาบน้ำเสร็จและออกจากห้องมา  ถามผมที่กำลังนั่งแกะห่อของขวัญอยู่ที่โซฟาขึ้นครับ

“ แกะของขวัญอะพี่  เนี่ย...  มีของที่อยากได้หลายอย่างเลย “

ซึ่งก็จริงนะครับ  อย่างไอ้ธันนี่ซื้อต้นไม้ใส่กระถางเล็กๆ น่ารักๆ มาให้  แถมเป็นต้น แพนซี ที่ผมชอบด้วย  ไม่รู้ว่ามันรู้ได้ไงว่าผมชอบ  ส่วนพี่พีนี่ซื้อรองเท้าสำหรับใส่เล่นแบดยี่ห้อดังมาให้  แถมสวยมากด้วย  ถูกใจผมสุดๆ เลยครับ...  ไอ้เรย์นี่มันซื้อเคสมือถือมาให้ผมใหม่  เพราะอันเก่าเปื้อนเลือดจนดูไม่ได้ไปแล้วครับ  นอกจากนั้นก็ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลยครับ 

ผมชอบนะ...  การแกะของขวัญเนี่ย  เพราะมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกที  เวลาที่ลุ้นว่าของข้างในนั้นมันจะเป็นอะไร  แถมในปีนี้ผมยังได้ของขวัญวันเกิดมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาเสียอีก

พี่กิจเดินเข้ามานั่งข้างๆ  จับโน่นดูนี่แล้วก็ถามว่าอันนั้นของใครอันนี้ของใคร  ผมก็บอกๆไปก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคำถามว่า  แล้วพี่ไม่มีของขวัญวันเกิดให้ผมบ้างเหรอ  หลังจากที่ผมแกะของขวัญของพี่บิวซึ่งเป็นกล่องสุดท้ายเสร็จ

พี่กิจเหลือบมามองผมด้วยสายตาหน่ายๆ  ก่อนจะลุกขึ้นและเดินกลับเข้าห้องไป...

แต่...  นั่นมันห้องผมนี่หว่า  พี่เขาจะเข้าไปทำอะไรอะ  ว่าแล้วผมก็ทิ้งของไว้ที่โซฟา  ก่อนจะรีบเดินตามพี่เขาเข้าไปติดๆ

“ เข้ามาทำไรอะพี่... “ 

ผมถามขึ้นทันที  ซึ่งตอนนี้พี่กิจได้ไปนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงราวกับเป็นเจ้าของห้องแล้วเสียอย่างนั้น ( ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นห้องของพี่เขาจริงๆ นั่นแหละ)

“ ก็นอนไง...  เราอะไปอาบน้ำได้แล้ว  ดึกแล้วเนี่ย  จะได้นอนพักผ่อน “

“ แต่ห้องพี่อยู่โน่นนะ “
 
ผมบอกไปพลางชี้นิ้วไปยังห้องพี่เขา

“ วันนี้พี่จะนอนนี่  จะได้ดูเราด้วย  ช่วงป่วยๆ แบบนี้  มีคนอยู่ด้วยจะดีกว่า “

ได้ยินมาอย่างนี้ผมก็อดที่จะยิ้มในใจขึ้นมาไม่ได้  หากแต่ไม่สามารถยิ้มออกมาได้จริงๆ หรอกครับ  เดี่ยวพี่เขาจะผิดสังเกตเอา  กับความรู้สึกของผมในตอนนี้

“ จริงๆ ผมก็ดูแลตัวเองได้นะครับ “ 

ผมพูดไปอย่างนั้น  แต่จริงๆ แล้วก็อยากให้พี่เขาอยู่ด้วยนั่นแหละ  แต่ลึกๆ มันก็อดเกรงใจพี่เขาไม่ได้อยู่ดี

“ อย่าดื้อดิ  ไปอาบน้ำได้แล้ว “

พี่กิจทำหน้าหน่ายๆ มองมาที่ผมแล้วตอนนี้  ผมก็เลยต้องยอมครับ  จากนั้นพี่เขาก็เอาไอแพดที่หยิบติดตัวมาเปิดเล่นทันที



…….



พอผมออกมาจากห้องน้ำ  พี่กิจก็ยังคงนอนเล่นไอแพดอยู่บนเตียงเหมือนเดิม  ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินเข้ามาหาพี่เขา  พี่กิจหันมามองผมเล็กน้อย  ก่อนจะปิดไอแพดและวางมันลงที่โต๊ะหัวเตียง  ก่อนจะหลิ่วตาไปยังโต๊ะเขียนหนังสือให้ผมหันไปมองตามครับ

“ ของขวัญวันเกิด... “

ผมมองตามไปก็เห็นเป็นไม้แบดยี่ห้อดังรุ่นใหม่วางอยู่บนโต๊ะครับ

โห...  โครตเจ๋งอะ !!!

ผมทำหน้าตาตื่นๆ กับของขวัญที่เห็น  ก่อนจะรีบเข้าไปดูทันที  พร้อมทั้งหยิบขึ้นมาลองถือ  ลองเหวี่ยงดู  สุดยอดเลยครับ  ทั้งเบา  ทั้งสบายมือ  ถ้าให้ผมซื้อเอง  ผมก็คงไม่มีปัญญาซื้อหรอกครับ

จากนั้นผมก็หันไปขอบคุณพี่เขา  ซึ่งพี่เขาก็พยักหน้ารับนิ่งๆ ตามสไตล์พี่แกนั่นแหละ  ก่อนจะเรียกผมให้ไปหาอีกครั้ง  ผมวางไม้แบดลงที่เดิมก่อนจะเดินกลับเข้าไปหาแก

“ มีอีกอย่างจะให้ “

พี่เขาว่ามา  ผมก็ได้แต่ทำหน้างงเป็นเชิงถามว่าอะไร  แล้วพี่เขาก็หยิบเอาที่รัดข้อมือส่งมาให้ผมครับ

ผมรับมาก่อนจะพลิกดูไปมา  มันเป็นที่รัดข้อมือผ้านุ่มๆ สีดำสำหรับเล่นกีฬา  ซึ่งมีตัวอักษรภาษาอังกฤษสีขาวเขียนไว้ว่า  KIJ

ผมเลยเดาว่ามันน่าจะเป็นของที่พี่เขาเคยใช้มานะครับ

“ ของพี่ที่เคยใช้แข่งตอนปีหนึ่งน่ะ  ไม่ถือใช่มั้ยถ้าเป็นของเก่าอะ “

ผมส่ายหน้าพร้อมทั้งบอกว่าไม่ถือเลย  จริงๆ แล้วผมชอบมันมากเลยล่ะครับ  ชอบกว่าของราคาแพงหรือของขวัญทุกชิ้นในวันนี้เลยด้วยซ้ำ

“ เอาไว้ใส่ตอนแข่งนะ  เผื่อจะได้โชคดีเหมือนพี่ “

“ อย่างพี่กิจคงไม่ต้องใช้โชคแล้วละมั้งครับ  แต่...  ผมขอใส่ทุกครั้งที่เล่นเลยละกันครับ  ชอบอะ... “

พูดไปก็อดเขินขึ้นมาไม่ได้ครับ  เห็นพี่กิจอมยิ้มพยักหน้ารับเล็กๆ  ผมเลยเดินเอามันไปวางไว้คู่กับไม้แบด  ก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องลง  ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่แสงไฟจากโคมไฟที่โต๊ะหัวเตียงด้านพี่กิจเท่านั้นที่ให้ความสว่างนวลๆ อยู่ตอนนี้

ผมแทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับพี่กิจ  รู้สึกดีจังแฮะ...  การที่มีพี่เขาอยู่ด้วยกันแบบนี้  เพราะผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้

“ กันต์... “

พี่กิจที่กำลังนอนหงายมองเพดานพูดขึ้น  ในขณะที่ผมขยับตัวนอนตะแคงหันหน้ามาทางพี่เขาเมื่อถูกเรียก  แสงไฟจากโครมไฟทำให้เห็นหน้านิ่งๆ หล่อๆ ของพี่เขา  ช่างเป็นคนที่มีเสน่ห์อะไรขนาดนี้  แต่สำหรับผม...  นิสัยพี่เขาต่างหากที่มันมีเสน่ห์มากกว่าหน้าตาและฐานะ

พี่เขาหันหน้ามาหาผม  สายตาเขาดูอ่อนโยนและมีมนต์สะกดมาก  จนทำให้ผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปได้ในทันที...

“ ขอบคุณนะ...  ที่ทำอะไรเพื่อพี่ตั้งหลายอย่าง “

“ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่  ที่ทำอะไรๆ ให้ผมตั้งเยอะ “

พี่เขายิ้มให้ผมเล็กๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ

“ ต่อไปนี้...  จำไว้ว่า...  เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะ  เพราะจะมีพี่คอยดูแลเราอยู่ข้างๆ “

คำพูดที่อ่อนโยน  แต่กลับรู้สึกได้ถึงความหนักแน่นและจริงจัง....

ไม่คิดเลย...  ว่าจะได้ยินประโยคนี้จากพี่เขา

ไม่คิดเลย...  ว่าจะรู้สึกแบบนี้  ความรู้สึกที่ผมคิดว่าจะไม่ได้สัมผัสกับมันอีกแล้ว 

แต่จากสายตา..  ถ้อยคำที่อ่อนโยน  และสัมผัสที่พี่เขามอบมาให้  มันทำให้ผมเชื่อว่าที่พี่เขาพูดมานั้น  จะต้องทำได้จริงๆ 

จากนั้นจู่ๆ น้ำตาผมมันก็เอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตาเสียอย่างนั้น

อายเป็นบ้าเลยครับ...  แต่มันก็ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ

“ เป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม... “  พี่กิจถามขึ้น

“ เปล่า... “

อายครับ...  ผมที่กำลังทำตัวไม่ถูก  เลยพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้พี่เขาไปทันที

จากนั้นไม่นาน  พี่กิจก็ปิดไฟจากโคมไฟข้างๆ  แล้วก็...


“ ฝันดีนะกันต์... “


ผมไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด  ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ให้รู้ว่าผมรับรู้แล้วในตอนนี้

มันเป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆ  วันนึงเลยครับ  ซึ่งผมไม่คิดเลยว่าจะได้มีโอกาสรับรู้ความสุขแบบนี้อีก...

ขอบคุณมากนะครับ  พี่กิจ...



……

“ ฝันดีนะครับพี่ “
......


ผมบอกพี่เขาไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา  ซึ่งคิดว่าพี่เขาคงจะไม่ได้ยินแน่ๆ  เพียงแต่...  ผมก็แค่อยากจะบอกพี่เขาไปบ้างก็เท่านั้น...


…..


…..


“ อืม.... “




TBC.


---------------------------------------------

ขอบคุณทุกๆ คนมากๆนะครับที่เป็นห่วงสุขภาพผม  ขอบคุณจริงๆครับ  แค่ได้รับกำลังใจจากทุกคนก็ทำให้ผมแข็งแรงขึ้นมากแล้วละครับ  ทั้งกายและใจเลย  :pig4:

ส่วนทำไมอีพี่กิจถึงหายไว  ตอบเลยครับ....  มันไม่ใช่คน  มันอึดเกินคนไปแล้วววว  อ๊าก!!!! (คือจริงๆ สวมหมวกกันน็อคและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากอะครับ  แค่สลบไป)  แต่มันก็เก่งเกินคนครับ(คาแรคเตอร์มันเวอร์มากๆ แฮ่

แต่จะว่าไป  ผมกะเป็นนะ  ขนาดแต่งเอง ตอนเรียงประโยคก่อนลง  ผมยังน้ำตาซึมๆเลยตอนที่แล้ว  (จิตใจบอบบางเกินไปแล้ว :mew5:)

อ่านตอนนี้แล้ว  พอไปเทียบกับตอนที่เขียนอยู่ (ในหลาย CH ข้างหน้า)  เอิ่ม....
(มีตัวอย่างแบบยังไม่ได้กรองประโยคมาให้อ่านเล่นๆครับ)
............

ผมขึ้นรถบัสคันที่มีไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คนั่งโบกมือไหวๆ เรียกอยู่ที่หน้าต่าง  ซึ่งพอขึ้นมาบนรถ  สายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่เบาะยาวหลังสุดซึ่งมีแก๊งค์พวกพี่กิจกำลังนั่งอยู่พอดี
พูดตรงๆ  ผมยังไม่ค่อยกล้าจะสู้หน้าพี่เขาสักเท่าไหร่  อยากจะลงรถไปขึ้นอีกคันมันก็คงดูไม่ดี  เพราะไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์มันจองที่เอาให้แล้ว  ที่สำคัญ...  สายตาที่พี่กิจเขามองผมมาตอนนี้  มันทำให้ผมไม่กล้าที่จะทำอะไรแบบนั้น  ผมเลยได้แต่ตีหน้าซื่อยิ้มตอบกลับไปก่อนจะละสายตาไปแทบจะในทันที  แล้วเรีบเดินเข้าไปนั่งที่บริเวณกลางรถที่พวกมันจองเอาไว้ให้ผมกับไอ้เรย์
“ มึงโอเคเปล่าวะ  ย้ายคันก็ได้นะเว้ย  เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน “
ไอ้เรย์มันถามผมมาหน้าเจื่อนๆ ครับ
“ บ้าเหรอมึง...  กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  มึงเห็นหน้ากูเศร้าปะล่ะ “ 
ผมแสร้งยิ้มตอบมันไป  แต่เหมือนสายตามันจะไม่เชื่อครับ  ผมเลยตีหัวมันไปทีนึงเบาๆ
“ อย่าเยอะ...  กูบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรดิวะ “
พูดจบผมก็หันหน้ออกไปมองยังภายนอกหน้าต่างครับ  ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับเมื่อรถกำลังเริ่มเคลื่อนตัวออกไปจากรีสอร์ท  ทว่าพยายามยังไงมันก็ไม่ยอมหลับสักที  เพราะหูมันคอยแต่จะฟังเสียงที่ดังมาจากกลุ่มพี่กิจอยู่ตลอดเวลา....
มันคงต้องใช้เวลาใช่มั้ยครับ  กับการรักษาโรคทางใจแบบนี้...
ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ...  ก็แค่เจ็บแปลบๆนิดหน่อยก็เท่านั้น...
............................


 :mew6: :katai1: :mew5:

ขอให้ทุกคนมีวามสุขกับนิยายของผมนะครับ....
ผมจะดีใจมากๆเลยถ้ามันเป็นแบบนั้น
คือมันรู้สึกดีนะครับ  กับการทำให้ใครมีความสุขขึ้นมาได้  แม้สิ่งที่ทำมันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรก็ตาม
ขอบคุณทุกคนมากๆ นะครับผม

^______________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 16-02-2018 21:09:00
ตอนสุดท้ายนี้คือยังไง.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-02-2018 21:28:06
ขอแอบตอบนิดนึงน้า....

อย่างที่เคยบอกเลยครับ  ตอนจบไม่ว่าจะ ซีซั่นไหน  ก็ Happy แน่นอนครับ  สบายใจได้เลย

แม้ว่ามันจะมีดราม่าหรืออุปสรรคยังไง  ผมก็จะไม่เขียนนิยายที่จบเศร้าอะครับ  สบายใจได้  :mew3:  เพราะผมเองก็ไม่ชอบอะไรที่จบแบบเศร้าๆ เท่าไหร่  มันไม่มีความสุข  และจิตนาการต่อไม่ได้ ^ ^

แต่ว่า....  มันก็ต้องมีดราม่าและเรื่องราวมากมายให้เดินผ่านไประหว่างทางอะครับ...  เพราะมันจะทำให้ความรู้สึกของตัวละครมันเติบโตขึ้น... 
ลองสังเกตพี่กิจ กับ กันต์ ในCHแรกๆ กับตอนนี้ดูนะครับ  มันมีพัฒนาการต่างขึ้นมามากเลย  แบบที่เราเองก็ยังไม่รู้ว่ามนเปลี่ยนมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง  แต่คือสิ่งที่ดีสำหรับความผูกพันเนอะครับ

ยังไงก็สบายใจได้  และติดตามกันต่อนะครับ  ส่วนตอนจบ ซีซั่น1 Spoil ไม่ได้นะครับ แฮ่!!!  แต่อีกยาวเลยครับ  อย่างที่เคยบอกว่า  ซีซั่น 1 น่าจะมีราวๆ 60CH  บวกลบนิดหน่อยอะครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-02-2018 21:32:27
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-02-2018 21:42:58
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปล่อยทีเซอร์มานี่ มาม่าเต็มเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-02-2018 21:54:33
 :L2: :pig4:

อนาคต มีมาม่าหม้อใหญ่
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mamieweiei ที่ 16-02-2018 22:05:33
ดีกันไม่เท่าไรจะดราม่าอีกแล้วหรอคะ ฮื่ออออออแ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-02-2018 22:08:09
 :a5:  อนาคตมันเกิดอะไรขึ้น  :ling1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-02-2018 14:06:13
 o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-02-2018 16:37:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 17-02-2018 22:08:39
ดีใจแทนน้อง ต่อไปนี้ก็มีพี่กิจคอยดูแลอยู่ข้างๆแล้วเนอะ
ซึ้งมากๆตอนนี้
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 18-02-2018 19:00:09
 o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nick_June ที่ 19-02-2018 23:48:20
คิดถึงจังหายไปไหนเอ่ย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-02-2018 05:32:24
น้องกันต์จะต้องเสียใจเพราะพี่กิจอีกเหรอครับ? สงสารน้องอ่ะ T^T
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 21-02-2018 14:24:20
Chapter 26



กันต์'s  Part




และแล้ววันงานกีฬาเฟรชชี่ก็มาถึงครับ

ตอนนี้ก็บ่าย 3 โมงกว่าแล้ว  ซึ่งผมกำลังนั่งอยู่ที่คอร์ดแบด  สำหรับการเตรียมตัวแข่งในรอบสุดท้าย  เพื่อชิงเหรียญทองกับคณะเภสัชตามที่ได้คาดไว้ก่อนหน้านั้น


.........................


หลังจากวันเกิดของผมที่ผ่านมา  ผมก็ต้องพักฟื้นร่างกายและงดซ้อมแบดอยู่หลายวันเลยครับ  จากนั้นก็กลับมาซ้อมต่อได้ตามปกติ  ส่วนพี่กิจก็มาช่วยเทรนให้บ้างในบางครั้งที่พี่เขาว่าง  เพราะที่ชมรมบาสเองก็ต้องซ้อมกันหนักอยู่เหมือนกัน  แต่สำหรับในวันหยุด  พี่เขาก็ยังคงพาผมไปซ้อมตามปกติครับ

ผมใช้ไม้แบดและที่รัดข้อมือที่พี่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตลอดเลย  จนพี่เขาบอกว่าผมน่ะขี้เห่อ... 

ก็คนมันชอบนี่นา...


……………....


การแข่งตลอดช่วงเช้าวันนี้ก็หนักเอาการเลยครับ  รอบรองนี่เล่นเอาซะเส้นยาแดงผ่าแปดเลย  แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีนะครับ

สำหรับชายเดี่ยวนั้นรู้ผลกันตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว  ซึ่งไอ้ธันก็คว้าเหรียญทองแดงมาได้  แต่จริงๆ แล้วผมว่ามันมีสิทธิ์ที่จะได้เหรียญเงินเลยด้วยซ้ำ  ถ้ารอบรองมันไม่ได้ไปเจอกับไอ้เคคณะเภสัทนั่นเสียก่อน  แต่ถึงแพ้..  ก็แพ้แบบไม่ห่างมากนะครับ 

จบจากชายเดี๋ยวพวกผมก็รีบพากันไปที่สนามบาสกันทันที ( คือยังพอมีเวลาก่อนที่จะแข่งประเภทคู่ )  เพราะพวกไอ้เรย์มันกำลังจะแข่งบาสนัดชิงกับคณะเกษตรอยู่  ซึ่งปีนี้คณะเราก็คว้าเอาเหรียญทองมาได้กันตามคาด  แถมไอ้เรย์มันยังดีใจจนออกนอกหน้า  วิ่งเข้ามาหาพวกผม  แต่เสือกไปกอดแพรซะงั้น  ทำเอาผมกับไอ้ธันมองหน้ากันเอ๋อแดกไปตามๆ กัน

ชักอยากรู้แล้วสิครับว่าสองคนนี้คืบหน้ากันไปถึงขั้นไหนแล้ว...  เพราะนี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะเนี่ย...


....................................


จบจากบาส  ผมกับไอ้ธันก็รีบพากันกลับมายังคอร์ดแบดทันทีเลยครับ

“ ตื่นเต้นเหรอกันต์ “ 

ไอ้ธันมันถามขึ้นมา  ขณะที่เรากำลังนั่งกันอยู่ข้างสนาม  เพื่อรอที่จะแข่งในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

“ อืม... “

“ เอาน่า  แค่ทำเต็มที่ก็พอแล้ว  ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ไม่เป็นไร  ถือว่าเราได้ทำมันเต็มที่แล้วก็พอ “ 

มันยิ้มบอกมาครับ  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปให้เจื่อนๆ  คือจะบอกว่ารู้สึกดีขึ้นมั้ย...  มันก็ใช่อยู่หรอกนะ  แต่จะให้หายตื่นเต้นไปเลย  มันก็คงไม่ใช่ 

จากนั้นไม่นาน  กรรมการก็ประกาศให้พวกเราลงสนาม  สำหรับการแข่งรอบชิงชนะเลิศประเภทชายคู่  ระหว่างคณะวิศวะฯ กับ คณะเภสัชฯ

ไอ้เคมันคู่กับเพื่อนของมันครับ  ก็คนที่มาซ้อมด้วยกับมันที่คอร์ดอยู่บ่อยๆ  ซึ่งฝีมือก็ไม่ใช่ย่อยเลยนะครับ  แต่ก็ไม่ถึงขนาดไอ้เคมันหรอกนะ  ซึ่งจะว่าไป  ไอ้ธันของเราดูจะมีฝีมือดีกว่าบัดดี้ของมันเสียด้วยซ้ำ

ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม  ไอ้เคมันมองมาทางพวกผมพร้อมกับยิ้มเยาะเล็กๆ ส่งมาให้  ราวกับว่ามันมั่นใจมาก  ว่ายังไงพวกผมก็ไม่มีทางเอาชนะพวกมันได้หรอก 

เห็นอย่างนี้แล้ว  โครตหมันไส้มันเลยครับ...

การแข่งเริ่มต้นที่ฝั่งเราเป็นฝ่ายเสริฟก่อน  ผมยังคงเล่นหน้าเน็ตและให้ไอ้ธันที่ตัวสูงกว่าเล่นหลัง

แข่งไปได้ไม่นาน  ความกดดันก็เริ่มก่อตัวขึ้นครับ  เมื่อแต้มเริ่มห่างกันมากขึ้น  และยังไปไวกว่าที่พวกผมคาดเอาไว้อีก  ซึ่งแต้มตอนนี้ก็คือ 3 ต่อ 8 ครับ

“ สู้ๆ นะกันต์ “ 

เสียงไอ้ธันมันดังมาจากทางด้านหลัง  ผมเลยหันไปยิ้มให้  พร้อมทั้งยกนิวโป้งตาม 

แค่นี้ใครจะไปยอมแพ้กันละครับ  เกมนี้ยังอีกยาวไกล....


............................


เวลาผ่านไปอีกเกือบ 10 นาที 

ทั้งๆ ที่ผมและไอ้ธันพยายามยื้อเอาไว้อย่างเต็มที่  และก็ทำอย่างเต็มกำลังแล้วแท้ๆ  แต่มันก็ยังคงให้ผลลัพธ์เหมือนเดิมอยู่ดี  ซึ่งแต้มตอนนี้ก็โดนนำไปจนถึง 5 ต่อ 12 แล้วละครับ

เกมมัน...  กำลังจะปิดฉากลงแล้วล่ะครับตอนนี้....

เราเริ่มเล่นกันต่อไปโดยการเสริฟของอีกฝั่ง  ผมพยายามตั้งสติและเล่นให้เป็นธรรมชาติที่สุด  แต่เพราะคู่แข่งมีฝีมือมาก  และแต้มที่ห่างออกไปเรื่อยๆ จนใกล้จะจบเกมขึ้นมาทุกขณะ  มันเลยทำให้ผมเริ่มรนและขาดสติขึ้นมาบ้างแล้ว  จนดูเหมือนว่าผมกำลังจะสูญเสียความเป็นตัวเองในการเล่นไป

“ ปึ้ง!! “

เสียงตบอันทรงพลังที่ไอ้เคมันตบมาจากท้ายคอร์ด  มุ่งตรงมายังบริเวณโซนหน้าเน็ตที่ผมรับผิดชอบอยู่  แต่เพราะการโต้กันไปมาเมื่อสักครู่  มันเลยทำให้ผมหลุดออกจากตำแหน่งและเปิดช่องโหว่เอาไว้  ซึ่งไกลเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมมือไปถึง

ผมถลาตัวออกไปรับอย่างเร่งรีบ  จนพลาดสะดุดล้มลงพื้นก่อนที่จะไปถึงลูกแบด  ผมไถลไปตามพื้นเล็กน้อย...  ทั้งเจ็บ  ทั้งอาย  แถมยังเสียแต้มอีก...  นี่เราคงไม่มีทางเอาชนะได้จริงๆ แล้วใช่มั้ยครับ...

“ กันต์  เป็นยังไงบ้าง  ไหวมั้ย...  “ 

ไอ้ธันรีบเข้ามาประคองผมและถามไถ่อย่างเป็นห่วง  ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ส่ายหน้าส่งให้ไปเท่านั้น

“ ขอโทษนะเว้ย...  เสียแต้มเพราะกูอีกแล้ว “ 

ผมบอกไปอย่างอดที่จะรู้สึกโทษตัวเองขึ้นมาไม่ได้  เพราะหลายต่อหลายลูกที่ฝั่งผมเสียแต้มไปก็เพราะผม 

บางที...  ถ้าไอ้ธันไปคู่กับคนอื่น...  มันก็อาจจะไม่แย่ขนาดนี้ก็ได้นะครับ

“ พูดอะไรอย่างนั้น  กันต์เองก็ทำเต็มที่แล้ว  ดูสิ..  เจ็บไปหมดแล้วเนี่ย “

ถึงจะได้ยินอย่างนี้  แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่า  เราไม่มีทางเอาชนะคู่แข่งตรงหน้านี้ได้เลย  ไม่ว่าจะพยายามเต็มที่แค่ไหนก็ตาม....

ผมก้มมองดูที่รัดข้อมือที่พี่กิจให้เป็นของขวัญวันเกิด  ผมคงคว้าเหรียญทองมาให้พี่ไม่ได้นะครับพี่กิจ  ทั้งๆ ที่พี่พยายามทุ่มเทให้ผมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแท้ๆ  แต่คู่แข่งมันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ครับ....  ผมไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาได้เลย  ไม่มีทางเลยจริงๆ....




............................................................................................


“ กันต์ !  “

แล้วจู่ๆ ก็เหมือนได้ยินเสียงพี่กิจแว่วเข้ามาในหัว... 

ความทรงจำครั้งหนึ่งที่พี่กิจเคยพูดไว้กับผม  ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับตอนนี้เลย  ที่ผมแพ้แล้วก็แพ้อีก  ไม่มีทางที่จะชนะพี่กิจได้เลยแม้แต่น้อย....

“ กันต์...  ถ้าแข่งขันกับใครสักคน  ถึงจะแพ้แล้วแพ้อีก  มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ...  เพราะถ้าแพ้ก็เรียนรู้เพื่อแก้ไข  ความอายความขายหน้าเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เราเอาชนะไปได้  อย่ารีบร้อน...  ค่อยๆ เป็น  ค่อยๆ ไป  แล้วประสบการณ์จะสอนให้เราเรียนรู้ที่จะผ่านมันไปได้...  นอกจากนั้น  อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน  หรือบางทีอาจจะสำคัญมากกว่าด้วยซ้ำไป  ก็คืออะไรรู้มั้ย...  “

“ ไม่รู้อะครับ “

“ กำลังใจไง...  หากมีกำลังใจ  เราก็จะมีพลังในการเอาชนะไปได้... “

“ แล้ว... วันนั้น  พี่กิจจะมาเป็นกำลังใจให้ผมมั้ย “

“ มาสิ...  ต้องมาแน่นอน... “

................................................................................................



ผมดึงสติกลับเข้ามาในการแข่งอีกครั้ง  ในขณะที่ไอ้ธันถอยหลังเยื้องไปทางด้านหลังของผมแล้วในตอนนี้

และก่อนที่ไอ้เคจะเสริฟลูกต่อไปมา  จู่ๆ ความวุ่นวายที่ประตูทางเข้าโรงยิมก็ดังขึ้น  จนทุกคนต้องหยุดและหันไปมองยังที่มาของความวุ่นวายนั้น

“ ถอยหน่อยคร้าบๆ !!!  กองเชียร์คณะวิศวะมาแล้วคร้าบ  ของทางหน่อยๆ!!! “

เสียงพี่คิมดังมาแต่ไกล  พร้อมด้วยกลุ่มผู้คนมากมายที่เบียดเสียดกองเชียร์คณะเภสัทเข้ามา 

ในนั้นมีทั้งกลุ่มจตุรเทพคนดังของมหาลัยฯ  ชมรมบาสที่มีไอ้เรย์ห้อยเหรียญทองนำเข้ามายกทีม  เพื่อนๆ ปีหนึ่ง  และพี่ปีสูงๆ อีกหลายคน... 

มันเยอะมาก  เยอะมากจริงๆ ครับ 

จนตอนนี้ที่ยืนในโรงยิมแทบจะไม่มีแล้ว  หลายคนต้องเบียดเสียดกัน  ทว่าทุกคนกลับส่งเสียงเชียร์พวกผมกันยกใหญ่  และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  พวกเขาไม่สนด้วยซ้ำว่าตอนนี้พวกเรากำลังจะแพ้หรือว่าชนะ  แต่ก็ยังเชียร์และให้กำลังใจพวกเราไม่ขาด...

“ อ้าวๆๆ  พวกกูมาช้ากันนิดเดียว  ถึงกลับแต้มตามขนาดนี้เลยเหรอวะ  สู้ๆ หน่อยเว้ยมึง  กูรู้ว่ามึงทำได้ “

 เสียงไอ้เรย์มันตระโกนมาครับ

“ สู้ๆ นะคะ  สุดหล่อทั้งสองคนของพวกพี่ๆ “

นี่เป็นกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงที่ตระโกนมาครับ

“ ธัน!!  คนอ่อนแอเท่านั้นนะถึงจะแพ้ “

อันนี้แพรว่ามาครับ  เล่นเอาซะไอ้ธันทำหน้าแหยๆ เกาหัวยิกๆ เลย

“ กันต์  สู้ๆ นะพี่เชื่อว่าเราทำได้ “

นี่พี่พีครับ  ตระโกนเสียงเข้มมาเชียว

“ สู้ๆ นะไอ้น้อง  ถ้าชนะเดี๋ยว...  ไอ้กิจเลี้ยงชุดใหญ่ให้เลย  ฮ่าๆๆๆ “

พี่คิมตระโกนบอกมาบ้างครับ

ผมเหลือบไปมองยังพี่กิจที่ยืมยิ้มส่งมาให้อยู่ไกลๆ  และเหมือนพี่เขาจะเห็น  เขาเลยเอานิ้วมาชี้ย้ำที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง  ผมเลยก้มมองดูที่รัดข้อมือที่พี่เขาให้มา... 

นั่นสินะ..  ผมมีพี่เขาเป็นกำลังใจอยู่ด้วยตลอดเวลานี่นา..

ถึงจุดนี้ผมก็ยิ้มออก  แล้วความรู้สึกฮึกเหิมมันก็หลั่งไหลมาจากไหนไม่รู้มากมาย  ผมหันไปมองไอ้ธันที่ยิ้มและพยักหน้าส่งมาให้ผม

ผมเข้าใจแล้วละครับพี่กิจ...  ว่ากำลังใจมันมีพลังให้กับเรามากแค่ไหน....

พวกเราพร้อมที่จะสู้แล้วครับ  ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงก็ช่าง  ผมรับรองว่า..  เราจะทำมันเต็มที่แน่นอน...

“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “

“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “

“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “



.......................................

เกมจบลง  และการมอบเหรียญก็ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว

ผมเดินเหนื่อยๆ กลับมาหาพวกเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่เชียร์ผมอยู่ข้างสนาม

ไม่รู้ว่าอะไรทำให้น้ำตาผมมันไหลออกมา.... 

แต่พวกเราทำมันเต็มที่แล้วจริงๆ นะครับ...

เพราะอย่างนั้น...


.....


....


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/02/2561 update chapter 25 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 21-02-2018 14:33:23
เราจึงคว้าเหรียญทองมาให้กับคณะได้แบบนี้ยังไงล่ะ....


....


“ เป็นอะไรวะ  ร้องไห้ทำไมมึง “  ไอ้เรย์มันถามมาครับ

“ ก็กูดีใจนี่นา “  ผมตอบไปพลาง  ปาดน้ำตาไปพลาง

“ กิจ..  น้องมึงร้องใหญ่แล้วเนี่ย “ 

พี่คิมว่ามาพลางกระทุ้งสีข้างพี่กิจที่ยืนอยู่ข้างๆ  แล้วพี่กิจก็เดินเข้ามาขยี้หัวผมเหมือนเดิม  ก่อนจะพูดขึ้นว่า...

“ ทำตัวเป็นเด็กอีกแล้วนะเรา...  ค่ำนี้อยากกินอะไร  เดี๋ยวพวกพี่ๆ จัดให้ชุดใหญ่เลย “ 

พี่กิจพูดจบก็หันไปขอแนวร่วมกับพี่ๆ ในกลุ่มอีก 3 คนด้านหลัง  พี่คิมเอานิ้วชี้เข้าหาตัวเองเป็นเชิงถามว่า   นี่กูต้องหารด้วยใช่มั้ยเนี่ย  แล้วพี่พีก็ตบหัวพี่คิมไปเบาๆ แทนคำตอบครับ

“ เออ...  ก็ได้ๆ  เพื่อน้องๆ เลยนะเนี่ย  อยากกินอะไรบอกมาได้  มื้อนี้ไม่อั้น “ 

จากนั้นรอบๆ บริเวณก็พากันส่งเสียงโห่ร้องอย่างดีใจขึ้นมา

“ เห้ยๆๆ  เลี้ยงเฉพาะรุ่นน้องนะ  พวกรุ่นพี่จะกินออกเองนะเว้ย! “

พี่คิมรีบเบรคขึ้นมาทันที  ก่อนจะถูกโห่และตามมาด้วยเสียงหัวเราะ

มันดูจะเป็นความอิ่มเอมใจที่เกิดขึ้นที่นี่  ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง  มันทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความกลมเกลียว... 

มันช่าง...อบอุ่นดีครับ...



.............................................



จบทุกการแข่งขัน  พวกเราก็พากันมาที่ร้านบุพเฟ่ปิ้งย่างใกล้ๆ มอเหมือนเดิม 

เท่าที่ได้ข่าวมาจากนักข่าวประจำกลุ่มพวกผมอย่างไอ้แน๊คก็รู้ว่า  ปีนี้วิศวะเราครองแชมป์เหรียญทองเยอะที่สุดอีกตามเคย  มิหนำซ้ำประกวดดาวเดือนมหาลัยในช่วงเย็นที่ผ่านมา  ไอ้ธัน กับ แพรก็ได้ตำแหน่งไปด้วยทั้งสองคน

ที่ร้านตอนนี้ก็เต็มไปด้วยกลุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องคณะวิศวะฯ เกือบจะทั้งร้านเลยครับ  ทุกคนดูมีความสุข  สนุกสนานเฮฮา  จนร้านดูครึกครื้นมากถึงมากที่สุด  ในขณะที่ไอ้ธันและแพรก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย  นอกจากถ่ายรูปกับพวกรุ่นพี่  และเพื่อนๆที่เข้ามาขอถ่ายรูปดาวและเดือนมหาลัยปีนี้  ส่วนผมนี่ก็มีเข้ามาบ้างประปรายครับ

ซึ่งในมือถือผมนั้น  นอกจากจะมีรูปที่ถ่ายกับเพื่อนๆ แล้ว  อีกรูปหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ  รูปที่ผมถ่ายคู่กับพี่กิจ  พร้อมกับชูเหรียญทองที่คว้ามาได้....


และแล้ว...  ช่วงเวลาแห่งการฝึกมหาโหดก็ผ่านพ้นไป  พร้อมกับความสำเร็จที่คาดไม่ถึง

มีความสุขมากมายเกิดขึ้นมาในวันนี้  ถึงจะเหนื่อยมากก็เถอะ  แต่มันก็คุ้มค่าสุดๆ เลยว่ามั้ยครับ

ส่วนวันนี้...  คงต้องพอเท่านี้แล้วล่ะครับ... 

ผมขอตัวไปหาอะไรกินก่อนนะ  เพราะกุ้งที่ผมย่างไว้  ไอ้เรย์กับไอ้แน๊ค  มันขโมยไปหมดเลย  หนำซ้ำวันนี้พวกผมยังแยกมานั่งกันเองในกลุ่มอีก  เพราะพวกพี่กิจนั่งอยู่กับกลุ่มรุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่โต๊ะข้างๆ  งานนี้เลยต้องช่วยตัวเองครับ  ยิ่งไอ้พวกนี้ไม่รู้มันไปตายอดตายอยากที่ไหนกันมา  ทั้งกินจุและมือไวกันสุดๆ เลย...

แต่ก็สนุกดีนะครับ  ฮ่าๆๆๆ...

“ ไอ้สาด!  นั่นกุ้งตัวสุดท้ายของกู  มึงไปตักมาใหม่เลยนะไอ้เรย์ !!! “





TBC.


--------------------------------------------
 ขอโทษครับ  หายไป2-3วัน  อินเตอร์เนตเจ๊งครับ   :z3:  ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์  พึ่งใช้ได้เกือบๆเที่ยงวันนี้อะครับ

ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมลงตอนต่อไปให้เลยนะครับ

ตอนนี้ผมเคยลงแล้วบางส่วน(ที่ยังไม่ไม่กรองประโยค) ในช่วงแรกๆ อาจจะพอคุ้นๆ กันบ้างเนอะ  (ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นช่วงที่เปิดตัวละคร ธัน )

ตอนต่อๆไปช่วงนี้จะชิลๆครับอยู่ครับ  แฮ่ๆ

แต่ผมอาจจะลง  ตอนสั้นพิเศษเล็กๆต่อท้ายนิดนะครับ เป็นเรื่องของ X-C  พอดีว่ามันจะเข้าใจความรู้สึก X ชัดขึ้น  เพราะปลายๆซีซั่นมันมีความจำเป็นนิดหน่อยอะครับ

ดังนั้นพรุ่งนี้จะลง CH-27 + ตอนสั้นพิเศษ 1 ตอนนะครับ

ขอบคุณนะครับที่ติดตามและให้กำลังใจดีๆ  :pig4:

ทำงานต่อแระคร้าบบบบบบ  ชะแว่บ!!!!

^___________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 21-02-2018 15:00:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 21-02-2018 15:04:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2018 15:30:48
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 21-02-2018 16:39:38
ขอให้มีความสุข  สุขภาพแข็งแรงนะ ผู้เขียนรอให้กำลังใจนะคับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-02-2018 16:49:51
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 21-02-2018 18:07:12
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 21-02-2018 18:33:24
ในที่สุดก็ชนะ ได้กำลังใจดีเนอะ 
ชอบบรรยากาศตอนท้ายดูอบอุ่นมากๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2018 20:30:45
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-02-2018 02:48:47
ชนะจนได้........................ ได้กินกุ้ง  :a2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 23-02-2018 21:12:06
Chapter 27



กันต์'s  Part




การแข่งกีฬาเฟรชชี่พึ่งผ่านพ้นไปเมื่อวานนี้เองครับ  บ่ายนี้พี่กิจพาผมออกมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  เพราะว่าค่ำนี้เราต้องไปงานเลี้ยงกันครับ  ซึ่งคุณป้าเป็นคนบอกให้พี่เขาพาผมไปเอง  เพราะแกไม่ได้เจอผมมาหลายวันแล้ว

พี่กิจเลือกเสื้อเชิ้ตสีขาวผ้าลื่นๆ ให้ผม  พร้อมกับกางเกงสแลคสีดำ  ถึงจะดูธรรมดาแต่เพราะแบร์นที่ใส่  มันเลยทำให้ราคาแพงขึ้นหูฉี่เลยครับ  ชนิดที่ว่าถึงผมมีเงินมากๆ ผมก็คงไม่กล้าซื้อมันหรอก

สำหรับงานเลี้ยง  เห็นพี่กิจบอกว่ามันเป็นแค่งานเลี้ยงขอบคุณพนักงานที่ช่วยกันทำงานและฉลองที่คอนโดหรูระดับไฮเอนโครงการใหม่ที่พัทยาถูกขายไปได้จนหมด 

ซึ่งสำหรับผม  ฟังๆ ดูแล้ว  ผมว่ามันเป็นทางการมากเลยนะครับ  แต่พี่กิจบอกว่าไม่ต้องไปเครียดอะไรมาก  มันก็แค่งานเลี้ยงธรรมดาๆ 

เพียงแต่....

นั่นมันสำหรับพี่...  ไม่ใช่ผมนะคร้าบ.....

กลับมาจากซื้อของก็เกือบเย็นแล้วละครับ  พี่กิจเลยให้ผมไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปงานตอนค่ำนี้

ผมอาบน้ำเสร็จก็แต่งชุดใหม่ที่พี่เขาพึ่งซื้อให้  เซตผมที่ตอนนี้เริ่มดูจะยาวขึ้นมากแล้ว  ก่อนจะฉีดน้ำหอมบางๆ ตบท้ายไป

วันนี้พี่กิจใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแกมชมพูบางๆ  กางเกงและเข็มขัดสีขาว  เหมือนจะดูหวานนะครับ  แต่พอพี่เขาใส่แล้วกลับดูเป็นผู้ชายอบอุ่นโครตๆ เลย

คนบ้าอะไร...  ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด


.................................


พี่กิจขับรถเข้ามายังโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน  ที่นี่หรูมากครับ  ดูจากแขกที่มาพัก  และการแต่งตัวของพนักงานแล้ว  ผมว่าค่าห้องคืนหนึ่งคงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

พี่กิจเดินพาผมไปยังห้องจัดงาน  ที่ตอนนี้ผู้คนก็เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว  ซึ่งเท่าที่ดู  ผู้ที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็จะมีอายุอยู่ในช่วง 20 ปลายๆ ถึง  40 ต้นๆ ซะส่วนมาก  เห็นพี่กิจบอกว่าจะเป็นพนักงานในส่วนของฝ่ายขาย  วิศวกร  สถาปนิก อินทีเรีย บลาๆๆ  ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนรุ่นใหม่เสียมากกว่า

มาถึงจุดนี้  ผมถึงได้รู้ว่าพี่กิจนอกจากจะเรียนที่มหาลัยฯ แล้ว  ก็ยังต้องมาเริ่มเรียนรู้งานธุรกิจของที่บ้านอีกด้วย  เพื่อที่จบมาแล้วจะได้เห็นภาพรวมและเริ่มทำงานได้ทันที

ฟังๆ ดูแล้ว  รู้สึกว่าความรับผิดชอบของผมกับพี่เขาดูจะต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยนะครับ  เพราะแค่ที่มหาลัยฯ  พี่เขาก็ยังทำกิจกรรมมากกว่าผมเลย  ไม่รู้ว่าไปเอาเวลาที่ไหนมากันมากมายขนาดนี้

เดินเข้ามาในงานพี่กิจก็เล่าโน่นเล่านี่ให้ฟังไปเรื่อยครับ  ผมเองก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง  เพราะมันค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับสถานที่  และโดยเฉพาะของกินที่ทำให้ผมเริ่มหิวขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้

ในขณะที่ผมกวาดสายตาไปรอบๆ งานอย่างสนใจ  ก็พบว่ามีสายตาหลายต่อหลายคู่จับจ้องมากันที่ตัวพี่กิจไม่ใช่น้อยเลย  ซึ่งจุดนี้ผมเองก็เริ่มจะชินแล้วล่ะครับกับการเดินกับพี่เขาแบบนี้

โต๊ะกลมหรูด้านหน้าใกล้เวที  ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า V.I.P อยู่ที่กลางโต๊ะ  เป็นจุดหมายปลายทางของพวกเรา   ทุกอย่างบนโต๊ะดูหรูมากครับ  ซึ่งมันต่างจากที่พี่เขาบอกไว้ว่านี่เป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดาๆ เท่านั้นเอง....

“ ไอ้กานต์ไลน์มาบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว  เดี๋ยวกันต์นั่งรอตรงนี้แปบนะ  พี่ไปเข้าห้องน้ำแปบ “

ผมพยักหน้ารับก่อนที่พี่กิจจะลุกออกจากโต๊ะไป  ตอนนี้ทั้งโต๊ะก็มีแค่ผมอยู่คนเดียว  รู้สึกแปลกๆ  ยังไงก็ไม่รู้สิครับ  เกร็งไปหมดเลย  มองไปทางไหนก็มีแต่คนที่ไม่รู้จักทั้งนั้น  ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างพากันพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

หันซ้ายหันขวาไปได้สักแปบ  จู่ๆ ก็มีคุณป้าคนหนึ่งเข้ามาสะกิดผม

“ นี่เธอ!  พนักงานใหม่ใช่มั้ยเนี่ย “

“ เอ่อ..  “

“ ตรงนี้เป็นที่นั่ง V.I.P นะ  สำหรับผู้บริหารระดับสูงและครอบครัว  เธอต้องไปหาที่นั่งตรงอื่นนะ “

“ คือว่า... “

“ ยังจะเถียงอีก!!  แผนกไหนเนี่ย !! “ 

คุณป้าแกทำเสียงดุขึ้น  ผมเลยไม่กล้าที่จะอธิบายอะไรต่อ  สุดท้ายก็เลยต้องรีบลุกออกไปจากที่นั่งแทบจะในทันที

ผมเดินเก้ๆกังๆ ไปยังมุมเครื่องดื่ม  ก่อนจะหยิบคอกเทลสีแดงน่ากินมาไว้ในมือแก้วนึง

ไม่มีพี่กิจอยู่ด้วยทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  ว่าแต่... ตอนนี้ผมควรจะไปอยู่จุดไหนของงานดี  เพราะไม่ว่าจะที่ไหน  ก็ไม่มีใครที่ผมพอจะรู้จักทั้งนั้น

จากนั้นผมก็เดินเข้าไปดูยังโซนอาหาร  เนื่องจากงานเป็นลักษณะบุพเฟ่  แต่หรูตรงที่มีของสดและเชฟมาทำให้ถึงที่เลย  อย่างกับบุพเฟ่หรูๆ ที่หัวละแพงๆ อะครับ

ผมเดินดูเรื่อยๆ ยังไม่ได้เลือกว่าจะกินอะไรดี  แต่ก็เล็งๆ เอาไว้บ้างแล้ว  อย่างผักโขมอบชีต  หอยแมลงภู่อบเนย  และคงเอาเนื้อปลาแซลมอลไปให้เชฟทำสเต๊กให้


“ โอ๊ย!! “


ขณะที่ผมถอยหลังออกจากบริเวณของกินเล่น  ก็ดันไปเหยียบเข้ากับเท้าของพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเข้า  ประมาณจากสายตาแล้วก็น่าจะอายุประมาณ 20 ปลายๆ แต่ไม่น่าจะเกิน 30 อะครับ

“ ขอโทษครับ “

ผมรีบพูดขึ้นทันทีอย่างรู้สึกผิด  แต่สีหน้าเธอดูจะโกรธเอามากๆ เลยครับ  จากหน้าสวยๆ ตอนนี้เปลี่ยนไปดูซะน่ากลัวเลย

“ หัดดูคนซะบ้างสิ !!  ไม่ใช่มัวแต่มองขนม  ทำอย่างกับที่บ้านไม่มีอะไรจะกิน “

อูย....  แรงครับ 

แต่ผมก็เถียงอะไรไม่ได้หรอก  เพราะผมก็ผิดเองจริงๆ นั่นแหละ

“ ขอโทษจริงๆ ครับพี่ “

พี่เขาจิ๊ปาก  พลางก้มลงดูรองเท้า  พร้อมทั้งพลิกไปมาดูว่ามีอะไรที่เสียหายหรือเปรอะเปื้อนรึเปล่า  ผมเลยได้แต่มองไปหน้าตาเจื่อนๆ อย่างรู้สึกผิดให้เท่านั้นเอง

“ จะอะไรกับเด็กมากคุณ  น้องเขาก็ขอโทษไปแล้ว  ก็ให้มันจบๆ ไปเหอะ “ 

จู่ๆ ก็มีพี่ผู้ชายวัยประมาณเดียวกันกับพี่ผู้หญิงคนนี้  มาช่วยพูดให้ครับ

“ วันหลังก็หัดเดินดูตาม้าตาเรือซะบ้างนะ ! “

พี่สาวคนนั้นพูดจบ  ก็สะบัดผมแล้วเดินเชิดจากไปททันที

น่ากลัวเป็นบ้าเลยครับ...คนอะไร...

“ อย่างนี้แหละน้อง  ยัยนี่น่ะ  ถือว่าเป็นหลานของผู้จัดการแผนก HR ก็เลยไม่ค่อยเห็นหัวใครเท่าไหร่ “
 
พี่ผู้หญิงอีกคนที่ยืนข้างๆ พี่ผู้ชายที่เข้ามาช่วยผมไว้  พูดขึ้นครับ

“ แล้วนี่เราอยู่แผนกไหนเหรอ  เหมือนพี่จะไม่เคยเห็นหน้าเราเลยนะ “  พี่ผู้ชายถามต่อ

“ อ๋อ... เอ่อ... คือผมไม่ได้ทำงานที่นี่หรอกครับ  ผมยังเรียนอยู่เลย  พอดีมากับพี่น่ะครับ “

ผมบอกไป  พวกพี่ๆ เขาก็พยักหน้าเข้าใจเล็กๆ

“ นี่ก็พึ่งโดนคุณป้าคนนึงไล่มาอยู่เลย  เขาว่าผมไปนั่งผิดที่อะครับ  ฮะๆๆ “ 

ผมพูดติดตลกเล่าให้ฟังต่อ

“ ใช่ป้าที่มีไฝที่มุมปากรึป่าว “ 

พี่ผู้หญิงถามขึ้นต่อทันที  ผมเลยพยักหน้ารับ  เพราะไฝเม็ดนั้นมันเตะตาผมให้จำป้าแกได้ดีเลยทีเดียว

“ นั่นแหละ...  ป้าของยัยคนเมื่อกี้นี้อะ  ผู้จัดการแผนก HR จู้จี้ขี้จับผิดสุดๆ “ 

พอพี่เขาขยายความมาให้ฟัง  ผมเลยพอจะเข้าใจแล้วละครับว่าทำไมแกถึงดูดุขนาดนั้น

“ แล้วนี่พี่เราชื่ออะไร  อยู่แผนกไหนเหรอ...  ว่าแต่จริงๆ แล้ว  งานนี้เขาไม่ได้ให้พาครอบครัวมาได้นะ  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าไม่มีใครรู้  น้องก็เนียนๆ ไปเลยละกัน “

พี่ผู้หญิงว่ามาแบบนี้  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไปครับ... 

รู้สึกเหมือนผมเป็นส่วนเกินของงานยังไงไม่รู้แฮะ

พี่กิจนะพี่กิจ...  ทิ้งผม  ไม่ดูแลกันเลยนะ  ชิส์!!!!

“ ชื่อพี่กิจครับ  แต่ผมไม่รู้ว่าพี่เขาทำแผนกไหน  แล้วตอนนี้เขาก็ไม่อยู่  ผมเลยไม่รู้ว่าจะไปไหนดี  ที่นั่งเดิมก็โดนไล่ออกมาแบบนี้ “

“ นั้นไปนั่งกับพวกพี่ก่อนละกัน  รอพี่เรามาแล้วค่อยกลับไปเนอะ “ 

พี่ผู้หญิงชวนมาครับ  ใจดีจัง.... 


พอมาถึงที่โต๊ะพวกพี่เขา  ก็มีพี่ผู้หญิงและพี่ผู้ชายอีก 3 – 4 คน  นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว

“ แหมๆๆ...  บอกจะไปหาของกินเล่น  ไหงได้หนุ่มหล่อมาแบบนี้จ๊ะ... “ 

พี่ผู้หญิงคนหนึ่งแซวขึ้นมาครับ  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไปเท่านั้น

“ น้องเขาโดนยัยแนนนี่ฝ่ายขายเล่นเอาน่ะสิ  ฉันเลยเข้าไปช่วย “

“ ยัยแนนนี่อีกแล้วเหรอ...   แต่จะว่าไป  ฉันได้ข่าวมานะ  ว่าวันนี้หล่อนทุ่มเงินเป็นหมื่นซื้อชุดใหม่มาเพื่องานนี้เลยนะเธอ “

และแล้วการเม้าส์มอยตามประสาผู้หญิงแท้และผู้หญิงเทียมที่โต๊ะก็เริ่มขึ้นครับ  แถมดูจะออกรสออกชาติมากเลยทีเดียว 

“ ก็อย่างที่รู้อะ  คุณเธอจ้องน้องกิจลูกท่านประธานตั้งนานแล้วนี่  เห็นว่างานวันนี้ก็จะมาด้วยนะ “

“ แต่น้องกิจนี่หล่อทำลายล้างจริงๆ เลยนะเธอ ใครได้เป็นแฟนนี่ยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งชุดใหญ่ซะอีก “

“ น้อยไปย่ะ  ระดับนี้เป็นหมื่นล้านเลยนะขอบอก “

“ ตายแล้ว!  ยิ่งพูดก็ยิ่งอยากได้  ผู้ชายอะไร  ทั้งหล่อ  ทั้งรวย  แถมเก่งอีกต่างหาก  เทพบุตรชัดๆ “

“ แบบนี้ไง  ยัยแนนนี่ถึงได้จ้องตาเป็นมัน “

ผมได้แต่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ครับ  ดูพี่ๆ เขาคุยกันสนุกดีนะครับ  ในขณะที่พวกพี่ผู้ชายก็ตั้งหน้าตั้งตากินกันอย่างเดียว  ปล่อยให้สาวๆ เม้าส์มอยกันจนลืมกิน

“ ว่าแต่นั่งคุยมาตั้งนานแล้ว  น้องเขาชื่ออะไรอะยัยมิ้น “ 

พี่คนหนึ่งถามขึ้นมาครับ  แล้วพี่ผู้หญิงคนที่พาผมมาด้วยก็หันมามองหน้าผมอย่างกับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย

“ ชื่อกันต์ครับ “ 

ผมตอบไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้พี่เขาถาม  จากนั้นพี่ๆ เขาก็แนะนำตัวเองให้ผมได้รู้จัก  ถึงจุดนี้ผมถึงได้รู้ว่า  พี่ๆ เขาเป็นทีมสถาปนิกของบริษัท 

มิน่าล่ะ  การแต่งตัวและทัศนะคติ  อินดี้กันมิใช่น้อย 

แต่ส่วนตัวผมชอบนะ...  ไม่น่าเบื่อดี

จากนั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น  พี่กิจนั่นเองที่โทรมาครับ....



-- อยู่ไหนเนี่ย –

-- พอดีมีคนบอกว่ากันต์นั่งตรงนั้นไม่ได้อะพี่  ก็เลยเดินออกมาหาอะไรดื่ม  แล้วพอดีพี่ๆ สถาปนิกเขาชวนมานั่งด้วย  ผมก็เลยมานั่งกับพวกพี่ๆ เขา --

-- กลับมาด่วนเลย...  ใครให้เราไปนั่งกับเขา  รู้จักกันเหรอ  หือ..?  แล้วนี่ใครเป็นคนมาไล่เรา... –

-- ทีละคำถามก็ได้พี่  ผมตอบไม่ทัน  โอเคๆ นั้นเดี๋ยวผมจะรีบกลับไปแล้วละคร้าบ...



ผมพูดไปพลางถอยเก้าอี้ออกเพื่อลุกขึ้นยืน  คงต้องรีบกลับแล้วละครับ  เพราะพี่กิจบ่นใหญ่เลย  แต่ไม่ทันที่จะได้กดวางสายและลาพวกพี่ๆ ที่โต๊ะ  เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ


“ ว้าย!!! “


เสียงคุ้นหูที่ผมพึ่งได้ยินไปเมื่อสักครู่ดังขึ้นมาอีกแล้ว  แถมคราวนี้หนักกว่าตอนที่ผมเดินไปเหยียบเท้าพี่เขาเสียอีก  เพราะระหว่างที่ผมเลื่อนเก้าอี้ออกและลุกขึ้นยืนนั้น  ดันไปชนมือที่ถือแก้วคอกเทลสีแดงสดแบบเดียวกันกับที่ผมพึ่งดื่มไปเมื่อสักครู่นี้  จนหกหมดและรดลงมาใส่บ่าผมไปเต็มๆ  แต่ที่ซวยที่สุดก็คือมันมีบางส่วนกระเด็นไปโดนชุดสวยสีขาวของพี่เขาด้วยน่ะสิครับ


งานนี้ไอ้กันต์มึงตายแน่ๆ.... 

ลาก่อนนะครับทุกคน... 

เรื่องคงต้องจบลงแค่นี้แล้วละครับ....





...............




วินาทีนี้ผมแทบไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลยครับ  พี่เขาทำตาดุและสีหน้าเกรี้ยวกราดอย่างสุดๆ  ท่าทางพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อเลยตอนนี้

“ เธออีกแล้วนะ!!  รู้มั้ยว่าทำอะไร!!  ชุดฉันเปื้อนไปหมดเลยเนี่ย...เห็นมั้ย!!!  แล้วรู้มั้ยว่ามันราคาเท่าไหร่!!!  เด็กอย่างเธอจะมีปัญญาชดใช้ให้ฉันมั้ย !!! “

“ ขอโทษครับ...คือผมไม่... “

“ ห๊ะ !!  ว่าไง...  จะชดใช้ให้ยังไง !!! “

“ คือผมคง... “

“ นี่เธอ..!  เธอเองก็เดินไม่ดูทางเหมือนกันนะ  มัวแต่เล่นโทรศัพท์อยู่ไม่ใช่เหรอ  ฉันเห็นนะ “ 

พี่มิ้นพูดขึ้นช่วยผมครับ  แล้วพี่ๆ ที่โต๊ะก็ออกเสียงเห็นด้วยตามที่พี่มิ้นพูด  จนดูเหมือนว่าพี่แนนนี่จะอึ้งๆ ไปเล็กน้อย  แต่สุดท้ายๆ ก็หันมาทำหน้าดุใส่ผมอีกครั้ง

“ ยังไงก็ช่าง...  ถ้าเธอจะระวังสักหน่อย  มันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก...  ตกลงว่าไง...  จะรับผิดชอบให้ฉันยังไง “

“ นี่หล่อน...  จะเอาอะไรกับน้องเขานักหนาห๊ะ  เป็นผู้ใหญ่แท้ๆ “ 

พี่โอเอ สาวสองฝีปากกล้า (แต่ใจดี)  พูดสวนขึ้นมาบ้างครับ

“ นี่ชุดฉันเปื้อนนะ...  เห็นมั้ย !!  มีตาหัดดูซะบ้าง “

“ แล้วน้องเขาไม่เปื้อนรึไง  แถมยังเปื้อนเยอะกว่าหล่อนอีก...  ถ้ามีตาก็หัดดูซะบ้าง! “ 

พี่โอเอเถียงต่ออย่างไม่ยอมแพ้ครับ

“นี่…!!   มีอะไรกัน !!!   เสียงดังโหวกเหวกโวยวายไปหมด !! “


แล้วทุกอย่างก็เงียบลง...  เมื่อเสียงคุณป้าคนที่บอกให้ผมลุกออกจากที่นั่งดังขึ้น  พร้อมกับเดินเข้ามาในวงแห่งความวุ่นวายตอนนี้

“ ก็คุณป้าดูซิคะ  เด็กนี่มันทำน้ำหกใส่ชุดแนนนี่  เลอะไปหมดแล้วเนี่ย “

คุณป้าหน้าดุขยับแว่นมองดูรอยแดงบนชุดพี่แนนนี่  ก่อนจะหันมามองทางผมด้วยสายตาตำหนิในทันที

“ นี่เธอ...  คนที่ฉันเจอเมื่อกี้นี่...  สร้างปัญหาอีกแล้วนะ “


อึ้งแปบ....  ทำอะไรไม่ถูกเลยครับตอนนี้....


“ แผนกไหนเนี่ย..!!!  แต่เอ๊ะ....  เหมือนฉันจะไม่เคยเห็นหน้าเธอเลยนะ  แถมยังดูเด็กอยู่ด้วย  ยังไงกัน...ฮึ!! “

งานเข้าแล้วล่ะครับผม...

“ เอ่อ...  คือผมไม่ได้ทำงานที่นี่หรอกครับ พอดีมากับพี่... “

“ แล้วมาได้ไง!!  เขาให้แต่เฉพาะพนักงานบริษัทนี้เท่านั้นนะ  พี่เธอชื่ออะไร!!  แผนกไหน!!  เดี่ยวฉันจะจัดการ... “

คุณป้าทำน้ำเสียงดุจนผมกลัว  ในขณะที่พี่คนอื่นๆ ก็เงียบลงทันที  มีก็แต่พี่แนนนี่เท่านั้นที่ดูจะยิ้มชอบใจอยู่ข้างๆ แก
…..



“ กันต์มากับผมครับ  มีใครมีปัญหามั้ย..  แล้วนี่มีเรื่องอะไรกันครับ “
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 23-02-2018 21:35:59
ในที่สุด...  พระเจ้าก็ส่งคนมาช่วยผมครับ...  ดีใจจนน้ำตาแทบไหลเลย 

น้ำเสียงเรียบๆ แต่หนักแน่นของพี่กิจดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของผม  ก่อนที่พี่เขาจะมายืนอยู่ข้างๆ  และเอามือมาโอบไหล่ผมไว้

รู้สึกใจชื้นและปลอดภัยขึ้นมาเลยครับ...

“ คุณกิจ! “

ทั้งคุณป้าและพี่แนนนี่พูดขึ้นมาพร้อมกันด้วยสีหน้าประหลาดใจอย่างสุดๆ

“ นี่น้องเขามากับคุณกิจเหรอคะ “  คุณป้าถามต่อครับ

“ ใช่ครับ..  น้องเขามากับผม  ว่าแต่...  มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ “ 

พูดจบพี่เขาก็หันมามองผม  ก่อนจะขมวดคิ้วเข้มๆ เมื่อเห็นเสื้อขาวตัวใหม่ที่พึ่งซื้อให้ผมเปื้อนรอยแดงบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายยาวลงไปจนถึงขอบกางเกง

“ อะไรเนี่ย...!  ทำไมเปื้อนอย่างนี้ห๊ะกันต์.. “
 
พี่กิจถามขึ้น  ก่อนจะล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงมาเช็ดให้ผม  ซึ่งมันก็ได้แค่จางลงไปบ้างเท่านั้น

“ คือ... “

ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี  ในขณะที่ทุกคนในบริเวณนี้ดูจะยังอึ้งและเงียบกันไปหมด

“ ซุ่มซ่ามอีกแล้วนะเรา  พี่ไม่อยู่แปบเดียวเอง  เรานี่นะ... “

“ บ่นผมอีกแล้วนะ “

“ หรือมันไม่จริง “

“ ก็ไม่จริงดิ  ใครให้พี่ทิ้งผมไว้ล่ะ “ 

ผมเงยหน้าไปมองพี่เขาแบบสู้ๆ ครับ  กลัวซะที่ไหน...  แต่แล้วพี่เขาก็มาตีหัวผมเบาๆ ซะงั้น  อายเลยครับ... ชิส์


“ พี่กันต์!!! “

เสียงน้องกานต์ดังขึ้น  พร้อมกับวิ่งเข้ามาเกาะแขนผมไว้ครับ  โดยมีคุณลุงกับคุณป้าเดินตามเข้ามาติดๆ

“ ช่วงนี้ไม่เห็นไปเล่นเกมกับกานต์ที่บ้านเลย “

“ ช่วงก่อนพี่ซ้อมกีฬาน่ะ  แต่ตอนนี้ว่างละ  น่าจะไปได้บ่อยขึ้น “

“ ดีเลย  กานต์จะได้มีเพื่อนเล่นเกมด้วย “

น้องกานต์ยิ้มน่ารักบอกมา  สองพี่น้องนี่หล่อไม่ทิ้งลายกันเลยนะครับ

“ น้อยๆ หน่อยเรา  มัวแต่เล่นเกม  เดี๋ยวก็สอบเข้ามหาลัยฯไม่ได้หรอก “

แล้วพี่กิจก็แขวะน้องชายตัวเองขึ้นมาครับ  จากนั้นน้องกานต์ก็หันไปมองพี่ชายอย่างเซ็งๆ ก่อนจะตอบกลับไปในทันที

“ ทำอย่างกับตัวเองเคยอ่านหนังสือเตรียมสอบนักนี่ “

นั่นไง...  สองคนนี้ไม่เคยยอมกันจริงๆ  แต่ผมก็ชินแล้วครับ  ปกติไปกินข้าวที่บ้านคุณป้าทีไร  ก็ไม่เคยสักครั้งเลยที่สองคนนี้จะไม่ต่อปากต่อคำกัน 

“ มีอะไรกัน... “ 

เสียงคุณป้าที่เดินตามน้องกานต์เข้ามาดังขึ้น  ทำให้ทุกคนหันไปมอง  ก่อนจะหน้าถอดสีกันไปตามๆ กัน

“ หวัดดีครับคุณลุง คุณป้า “

ผมยกมือไว้คุณลุงกับคุณป้า  ซึ่งทั้งสองก็รับไหว้และยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดูเหมือนเช่นทุกที

“ ช่วงนี้ไม่เห็นไปหาป้าบ้างเลยนะ...  ป้าคิดถึง “

“ พี่กิจเลยครับคุณป้า.... “

ผมโบ้ยไปทางพี่กิจทันทีครับ  มีคนหนุนหลังแล้วผมไม่กลัวหรอก  อิอิ

“ อ้าว...ไหงงั้นล่ะ “

“ ไม่ต้องมาอ้าวเลยเรา  นี่แม่ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่พาน้องไปรถล้มคราวก่อนเลยนะ “

คุณป้าส่งสายตาคาดโทษไปให้ลูกชายคนโต  ในขณะที่ผมกับกานต์ก็มองหน้ากันยิ้มๆ อย่างเข้าใจ  อิอิ

“ แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน “ คุณป้าพูดต่อพลางมองไปรอบๆ

“ ตายแล้ว...!  กันต์ลูก..!  ทำไมเสื้อเป็นแบบนี้ล่ะ “ 

ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีครับ  พอมองไปที่พี่แนนนี่  เธอก็ถึงกับหน้าถอดสี  ต่างจากพี่ๆ สถาปนิกที่โต๊ะ  ที่ต่างพากันอมยิ้มชอบใจกันอยู่มิใช่น้อย

“ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณป้า  อุบัติเหตุน่ะครับ “ 

ผมบอกไปอย่างนี้  จะได้ไม่ต้องกระทบกับใคร

“ อ๋อใช่ค่ะ...  คือน้องเขาเลื่อนเก้าอี้มาชนหนู  น้ำที่หนูถือมาเลยหกใส่น้องเขา “ 

พี่แนนนี่ว่ามาครับ 

“ แล้วทำไมถึงมีเสียงโหวกเหวกโวยวายกัน “ 

คุณป้าถามต่อ

“ คือ... “  พี่แนนนี่อ้ำอึ้งที่จะตอบ

“ พอดีแนนนี่เขาพยายามจะให้น้องกันต์รับผิดชอบเรื่องชุดเขาน่ะค่ะ “ 

ได้ทีพี่มิ้นก็จัดเลยครับ  พี่แนนนี่ถึงกับหันไปมองตาดุใส่

“ คือหนูแค่แหย่น้องเขาเล่นๆ เท่านั้นน่ะค่ะ  เผื่อครั้งต่อไปน้องเขาจะได้ระวังมากขึ้น “ 

“ แต่จริงๆ แล้ว  เธอเองก็มัวแต่เล่นโทรศัพท์ไม่ดูน้องเขาเหมือนกันนะ  ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ “ 

พี่มิ้นแย้งต่อครับ  เมื่อเห็นว่าความจริงมันเริ่มจะผิดเพี้ยนไป

“ ใช่ที่ไหน!!! “ 


พอพี่แนนนี่เริ่มขึ้นเสียง  ทุกคนก็หันไปมองเธอแทบจะตาเดียวกันทันทีเลยครับ  จนพี่เขาถึงกับพูดต่อไม่ออกเลยตอนนี้

“ เอาล่ะๆ  พอได้แล้ว “ 

คุณป้าพูดขึ้นเพื่อหยุดสถานการณ์ลง  ก่อนจะหันไปทางพี่แนนนี่

“ เอาเป็นว่าชุดของเธอ  ค่าเสียหายเท่าไหร่ก็ให้ไปแจ้งไว้ที่เลขาของคุณเกียรติก็แล้วกัน “  คุณป้าหมายถึงคุณลุงน่ะครับ

“ คือไม่เป็นไรหรอกค่ะ  แค่นี้เอง  ไม่ได้เสียหายอะไรมากหรอกค่ะ “ 

พี่แนนนี่บอกไป  แต่น้ำเสียงต่างไปจากตอนที่คาดคั้นผมเมื่อกี้นี้แบบสุดๆ

“ ไม่ได้หรอก  กันต์เป็นหลานคนพิเศษของฉัน  ฉันไม่ต้องการให้ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าทำอะไรแล้วไม่รับผิดชอบ “

“ แต่.... “ 

พี่แนนนี่พูดต่อได้แค่นั้น  เมื่อถูกคุณป้ามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ  หากแต่เต็มไปด้วยอำนาจที่ทรงพลัง  จนเธอถึงกับพูดต่อไม่ออก

“ ว่าแต่ตากิจ  ทำไมปล่อยให้น้องมานั่งตรงนี้ห๊ะ “ 

คุณป้าหันไปถามพี่กิจต่อครับ

“ ผมก็ว่าจะถามกันต์อยู่พอดี  ว่าใครไล่ออกมาจากโต๊ะ “ 

พี่กิจตอบไป  ก่อนจะหันมาถามผมต่อ

“ อะไรนะ..!  ใครที่ไหนกล้าไล่หลานฉันแบบนี้! “

“ เอ่อ..  คือดิฉันไม่รู้ค่ะว่าน้องเขาเป็นหลานคุณอร “ 

คุณป้าหน้าดุผู้จัดการฝ่าย HR อธิบายมาเสียงอ่อย  ก่อนจะถูกสายตาตำหนิจากคุณป้าเข้าให้

“ ต่อไปก็รู้ไว้ด้วยนะ  นอกจากตากิจ ตากานต์แล้ว  กันต์ก็ถือเป็นคนในครอบครัวของฉันเหมือนกัน “ 

ได้ยินอย่างนี้คุณป้าหน้าดุ (ที่ตอนนี้หน้าจ๋อยไปแล้ว) ก็ได้แต่พยักหน้ารับป้อยๆ  ขณะที่ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ อยู่ตอนนี้

“ ไหนดูซิ...  เปื้อนหมดเลยลูก “ 

คุณป้าเข้ามาจับเสื้อผมพลิกดูไปมา

“ พี่มีสูทอยู่หลังรถน่ะ  เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้นะ “  พี่กิจว่ามาครับ

“ ไม่เป็นไรพี่  แค่นี้เอง “

“ ไม่เป็นไรได้ไง  อย่าดื้อดิ...  เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้ “ 

พี่กิจพูดจบก็เดินแยกตัวออกไปเลยครับ

“ ปะลูก  ไปนั่งกับป้า...  เนี่ยเห็นตากิจเล่าให้ฟังว่าเราได้เหรียญทองกีฬาเฟรชชี่ด้วยเหรอ  แม่เราดีใจมากเลยนะ  เห็นว่าจะส่งของขวัญมาให้ด้วย  ป้ากับคุณลุงเองก็เตรียมของขวัญไว้ให้ด้วยนะ “ 

คุณป้าว่ามา  ก่อนจะจับมือผมเดินไปที่โต๊ะกับแกครับ  ผมหันไปผงกหัวและลาพวกพี่ๆ สถาปนิกที่โต๊ะ  ก่อนจะเดินไปพร้อมกับคุณป้า


สักพักพี่กิจก็กลับเข้าเข้ามาในงานอีกครั้ง  พร้อมกับสูทเข้ารูปสีดำส่งมาให้ผมสวมทับ  พอใส่แล้วก็ดูหล่อขึ้นนิดนึงเลยครับ  แต่มันไม่ใช่แนวผมสักเท่าไหร่  เพราะดูมันจะเป็นทางการไปนิด  แต่มันก็ยังดีกว่าใส่เสื้อเปื้อนๆ ไปตลอดทั้งงานอะครับ 



………………………..



กว่า 4 ทุ่มแล้วที่คุณลุงกับคุณป้าพากันกลับ  และผมกับพี่กิจเองก็เช่นกัน 

ระหว่างที่ลงมาบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม  ผมก็เจอกับกลุ่มพี่ๆ สถาปนิกกำลังยืนออกันอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าโรงแรม  ผมเลยบอกพี่กิจว่าจะขอไปลาพวกพี่ๆ เขาแปบนึง

“ พี่ๆจะกลับกันแล้วเหรอครับ “ 

ผมพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึง 

“ อ้าวนึกว่าใคร  น้องกันต์สุดหล่อนี่เอง “ 

พี่มิ้นทักขึ้นครับ  ผมก็เลยได้แต่ยิ้มอายๆ  ตอบไป...  คือเวลามีผู้หญิงมาชมว่าหล่อแบบนี้  มันก็อดเขินขึ้นมาไม่ได้อะครับ

“ กันต์กำลังจะกลับอะครับ  เลยว่าจะมาลาพวกพี่ๆ “

“ อ๋อ...  แล้วนี่กลับยังไง  ให้พี่ไปส่งมั้ย “  พี่มิ้นว่ามาต่อ

“ ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมกลับกับพี่กิจอะครับ “
 
ว่าจบผมก็ชี้ไม้ชี้มือไปทางด้านหลัง  เพื่อให้รู้ว่าพี่กิจกำลังรออยู่ไม่ไกลมาก  แต่พอผมหันตามไปมอง  ก็เห็นพี่กิจกำลังคุยอยู่กับพี่แนนนี่ครับ

ถึงแม้ว่าพี่แนนนี่เขาจะนิสัยไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่  แต่หน้าตาพี่เขาก็ถือว่าสวยเลยนะครับ  แถมพี่กิจเท่าที่ผมรู้มา  ก็เจ้าชู้ไม่ใช่ย่อยเลยด้วย 

พอเห็นแบบนี้แล้ว  จู่ๆ ผมก็รู้สึก...  หวั่นใจขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิครับ....

ผมคงจะไม่โดนทิ้งไว้ใช่มั้ย... 

พี่จะไม่ไปไหนต่อกับพี่แนนนี่ใช่มั้ย...

“ นี่แกดูสิ  อ่อยน้องกิจไม่เลิกเลย “ พี่โอเอสาวสองแอบเหน็บขึ้นมาครับ

“ แต่ฉันว่าน้องกิจเขาไม่สนหรอก “

“ มันก็ไม่แน่นะ  หนุ่มๆ บริษัทเราโดนชีงาบไปหลายรายแล้วนะจ๊ะ “

“ ไอ้พวกนั้นมันหน้ามืด  อย่าเอาไปเทียบกับน้องกิจเลย “

ผมได้ยินพวกพี่ๆ เขาพูดกันไปเรื่อยๆ  ในใจก็แอบหวั่นไม่ได้อยู่ดี  แต่ก็ยังหวังนะครับว่าพี่กิจจะใจแข็งมากพอ

มองดูไปได้สักแปบ  พี่เขาก็เดินเข้ามาหาผมและพวกพี่ๆ

คงไม่ใช่มาบอกให้ผมกลับคอนโดเองนะ... 

ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย...






“ กลับได้ยัง.... “

พี่กิจถามมาครับ  ซึ่งคำถามนี้ก็ทำเอาผมใจชื้นขึ้นมาทันทีเลย  ในขณะที่ผมก็พอจะได้ยินเสียงพี่ๆ เขากระซิบกันเบาๆ ว่า   เห็นมั้ยฉันว่าแล้ว  ระดับน้องกิจเขาไม่สนใจยัยนี่หรอก

“ ครับ “ 

ผมตอบไปแค่นั้น  ก่อนจะยกมือไหว้พวกพี่ๆ สถาปนิกทุกคน  ซึ่งพี่กิจเองก็ยิ้มผงกหัวลาให้ด้วยเช่นกัน  ก่อนจะเดินออกมาหน้าโรงแรม  รถพี่กิจจอดอยู่ไม่ไกลมาก  ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า  เฉพาะ V.I.P. เท่านั้น  กั้นอยู่  พอเดินมาถึงรถ  พนักงานโรงแรมก็ผงกหัวรับก่อนจะขยับป้ายออกให้  ผมรู้สึกไม่ชินเลยครับ  ในขณะที่พี่กิจดูจะเห็นเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว


พี่กิจขับรถออกมาได้สักแปบ  จู่ๆ ผมก็ถามพี่เขาขึ้นมาด้วยความอยากรู้ 

ก็เรื่องที่พี่แนนนี่เข้ามาคุยกับพี่กิจนั่นแหละครับ....

แบบนี้เขาเรียกว่าอาการหวงรึป่าวนะ...  หวงทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์…

“ เมื่อกี้...  ที่พี่แนนนี่เข้ามาคุยกับพี่อะ  ผมก็นึกว่าจะถูกปล่อยเกาะแล้วซะอีก “

“ ปล่อยเกาะอะไร “ 

พี่เขาหันมาถามทันที

“ ก็เห็นพี่ๆ สถาปนิกเขาบอกว่า...  พี่แนนนี่เขาชอบพี่อะ...  แล้วเข้ามาคุยแบบนั้น...  ผมก็นึกว่า... “

“ นึกว่าอะไร “

“ ก็...  นึกว่า...  พี่จะเล่นด้วย “

“ ฮะๆ...  คิดไปขนาดนั้นเลยนะ  นี่เราเห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย “

“ ก็ไม่รู้ดิ  ได้ข่าวว่าพี่เจ้าชู้จะตาย “

“ ก็เคยนะ...  แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วล่ะ “

“ ทำไมอะ “

“ ไม่รู้สิ..  เพราะโตขึ้นมั้ง.. “

“ อืม... “

พอได้ยินว่าพี่เขาเลิกเจ้าชู้แล้ว....  มันรู้สึกดีจังแฮะ

“ แล้วถ้าพี่ปล่อยเกาะเราขึ้นมาจริงๆ  เราจะทำไงอะ “

“ จะทำไงได้ล่ะ....  ก็ถ้าพี่จะทิ้ง...  ผมจะไปมีสิทธิ์อะไร “ 

ผมทำหน้าและน้ำเสียงนอยๆ ตอบไปครับ  แต่พี่เขากลับขำในลำคอขึ้นมาเสียอย่างนั้น

มันน่าตลกตรงไหนห๊ะ...  ไอ้พี่กิจ!!

“ โห... มีงอนๆ  พี่ไม่ทำอย่างนั้นกับเราหรอก “ 

พี่เขาพูดจบก็เอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ ครับ

ว่าแต่...  ผมจะเชื่อพี่ได้แค่ไหนกันนะ  และอีกอย่าง...

ทำไม... พี่เขาถึงบอกกับผมแบบนี้นะ ?

ทำไมกัน....?





TBC.



------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นเลย  ต้องขอโษทีนะครับที่เมื่อวานลงไม่ทัน  ไม่คิดว่าจะยาวแบบนี้  มันกรองประโยคไม่ทันอะครับ  พอมาตอนเช้าวันนี้ต้องไป รพ.(ตามนัดหมอ)  เลยมานั่งทำได้ก็เย็นเลย  ขอโทษน้าคร้าบปม  :mew2:

ตอนนี้  ตอนหน้า  และต่อไปก็ยังชิลๆอยู่ครับ
ส่วนตอนที่ผมเขียนอยู่  ดราม่าเลย  แต่ไม่หนักเวอร์นะครับ  มันยาวแต่ออกแนว  หึงแต่ไม่กล้าแสดงออกอะไรทำนองนี้  และมีอะไรเข้ามาอีกเยอะเลย  ยังไงฝากติดตามต่อนะครับผม

วันนี้คุยกับหมอ...  รู้สึกเหงาๆอยู่บ้างเหมือนกันครับ  เพราะผมเลือกที่จะไม่เปิดใจกับคนอีกแล้ว  เพียงเพราะไม่อยากทำร้ายใคร...
คือชีวิตจริงมันไม่ใช่นิยาย...  มันจะมีสักกี่คนที่เข้าใจเราและรับเราได้...  ที่สำคัญ  ผมกลัวว่าตัวเองจะให้ความสุขเขาได้ไม่มากพอ....
อาจจะเหงาสักหน่อย  แต่มันก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีมั้งครับ...
(มองขำๆ  มันคงเป็นกรรมเก่าที่ทำกับเขาไว้เยอะ  ทั้งแฟนคนแรก(ผู้หญิงนะ)  หรือผู้ชายบางคนที่มาชอบผม  แต่ผมทำร้ายเขาไปเยอะ  ปล. ผมไม่เคยเจ้าชู้  ไม่เคยนอกใจ  แต่ถ้ามันไม่ใช่ผมก็ไม่ฝืนต่อ(เลว))
แต่ถึงจะต้องอยู่คนเดียว  แต่ถ้าเราเลือกที่จะทำอะไรที่มันมีความสุข  มันก็คงเป็นทางออกที่ดีอีกทางละมั้ง(ยังหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับตัวเองไม่ได้)
แต่ว่า...  การเขียนนิยายแล้วมันทำให้คนที่อ่านมีความสุข  ผมมีความสุขมากนะครับ  อย่างที่เคยบอกว่ามันคือสสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำ...
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความห่วงใยนะครับผม  แง่มๆ...

เอ้อ...เกือบลืม  ติดตอนพิเศษไว้ก่อนนะครับ  กรองประโยคไม่ทันอะครับ  :mew2:

^______________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-02-2018 22:09:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-02-2018 22:19:54
 :L2: :L1: :pig4:

เท่าที่ลงก็บ่อยแล้วนะ อย่าหักโหม
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 23-02-2018 22:47:01
สู้ สู้ค่ะ  ไรท์เตอร์   
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-02-2018 22:59:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 23-02-2018 23:23:52
อึ้งไปเลยสิคุณป้าหัวหน้าแผนกกับยายแนนนี่
กันต์นี่หลานท่านประธานเชียวนะ  ฮ่าๆ

พี่กิจคงไม่ทิ้งกันต์หรอกเนอะ ใส่ใจขนาดนี้ อิอิ

ปล. เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ
ตอนนี้ยาวมากๆ ชอบๆ อ่านเพลินเลย ยังไงอย่าคิดมากนะ
อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนแต่งที่ยังจะอยู่คนเดียว (หมายถึงชีวิตโสด) ผมก็ยังอยู่คนเดียวและคนอื่นๆอีก เรื่องความรักถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ตอนนี้ผมก็ไม่ได้รู้สึกไรแบบนั้น
อาจจะไม่เปิดใจแบบคุณผู้แต่งมั้ง แต่จะบอกไงดี
คงจะเรียกว่ารักฝังใจมั้ง คือถ้าไม่ใช่คนนั้น ผมก็ไม่รู้สึกรักใคร เหมือนกับว่ารอถึงแม้ไม่มีหวัง ถึงต้องอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไรอะไรประมาณนั้น

ดีใจนะที่คนแต่งชอบงานเขียนนิยาย
ผมก็ชอบอ่าน เป็นคนชอบอ่าน อ่านนิยาย
เล่นเกม เดินหาของกินอร่อยๆ คืองานยามว่าง
มันคือความสุขเล็กๆ เนอะ ยังไงก็สู้ๆ
ถือว่าเล่าแชร์ประสบการณ์เนอะ รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 23-02-2018 23:25:12
ก็ถึงผู้เขียนนะ .....  บางทีการได้ละบายออดมาให้คนที่ไม่รู้จักมันก็ดีนะคับ เพราะชีวิตจริงกับนิยายมันส่วนทางผู้อ่านอย่างผมชอบจะอ่านนิยายแล้วเราก็มีความสุขกับการจินตนากาล ถึงชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นเหมือนในนิยาย  ให้กำลังใจคุณผู้เขียนนะ ดูแลรักษาสุขภาพนะ รอติดตามผลงานนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-02-2018 23:27:52
 :hao6: :hao6: :hao6:  สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ ยังมีคนเข้าใจอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-02-2018 00:56:55
พี่กิจไม่ทิ้งกันต์แน่นอน มั่นใจได้น้องกันต์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 25-02-2018 09:53:52
เป็นนิยายที่ไม่ยัดดี อ่านได้เรื่อยๆ สบายใจดี 55555 นายเอกก็ไม่ได้แมรี่ซูเวอร์วังมาก ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-02-2018 10:40:00
ไม่อยากให้น้องกันต์เสียใจ ไม่อยากให้น้องต้องเสียน้ำตา พี่กิจทำอะไรสักอย่างสิครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 25-02-2018 22:07:22
นี่ใคร ดูด้วย หลานท่านประธานจ้า นัยแนนนี่กับป้าจ๋อยเลย
พี่กิจไม่เจ้าชู้เหมือนเดิมแล้วนะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 25-02-2018 22:33:10
Chapter 28



กันต์'s  Part




“ สุดท้ายนี้..!  ผมก็ขอให้คุณพร้อมสำหรับ Spirit night ในคืนวันศุกร์นี้…!  ถ้าเข้าใจกันแล้ว...  ผมก็ขอเลิกประชุมเชียร์...  แล้วเจอกันอีกทีในเย็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้..  เลิกประชุม!! “

พี่กิจพูดจบก็เดินออกจากห้องประชุมไปพร้อมกับพี่ว๊ากหน้าโหดทั้งหลาย

การประชุมเชียร์วันนี้สรุปคร่าวๆ ได้ว่า  จากวันนี้ไป  จะไม่มีการประชุมเชียร์อีกจนถึงวันศุกร์  ซึ่งเป็นคืนที่เรียกว่า Spirit night  โดยปีหนึ่งจะต้องมาค้างคืนกันที่คณะ 1 คืน  ซึ่งพวกเราจะได้ใบขออนุญาตผู้ปกครองจากรุ่นพี่ปี 2 หลังเลิกประชุมเชียร์  แต่ถึงกระนั้น  พวกเราก็ไม่มีใครรู้เลยว่าคืนนั้นเราจะเจอกับอะไร  เพราะไม่มีรุ่นพี่คนไหนบอกเราเลยสักคน


......................


ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

ผมกำลังนั่งกินน้ำและขนมกันอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ  หลังจากที่ไปทานข้าวกันมาแล้วที่ร้านประจำหลังมอ  และตอนนี้เราก็กำลังคุยกันถึงเรื่องที่จะต้องเจอกันในคืนวันศุกร์นี้ครับ  ซึ่งพวกเราต่างก็คาดการณ์กันไปต่างๆ นานา  แต่ก็แอบหวั่นใจไม่ได้อยู่ดี  ว่าอาจจะเจอกับอะไรที่หนักๆ

วันนี้พี่กิจมารับช้าหน่อยครับ  พี่เขาไลน์มาบอกตั้งแต่ตอนผมกินข้าวเย็นแล้วว่าประชุมวันนี้อาจจะช้าหน่อย  ตอนนี้ที่ร้านก็เหลือแค่ผม ไอ้เรย์  ไอ้ธัน  และก็แพรเท่านั้น  ส่วนไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์อยู่ดึกมากไม่ได้ครับวันนี้  มันเลยกลับกันไปก่อน

ไม่นานพี่กิจก็โทรมาบอกว่ามาถึงแล้ว  และจอดรถรออยู่ใกล้ๆ กับร้าน  พวกเราจึงได้เวลากลับกันครับ  แต่ที่ต่างออกไปจากทุกทีก็คือ  วันนี้ไอ้ธันไม่ได้ไปส่งแพรเหมือนทุกทีครับ  แต่เป็นไอ้เรย์ที่ไปส่งแทน

เห็นทีต้องถามความคืบหน้ามันแล้วละครับ  ว่าไปถึงไหนกันแล้ว  อิอิ


.........................


ภายในรถ

“ พี่กิจ...  วันศุกร์นี้มันมีอะไรเหรอ “

“ บอกไม่ได้...  ไว้ไปรอดูเอาเอง “
 
“ โหย...  นิดนึงน่าพี่ “

ผมตื๊อถามต่อ  พี่เขาก็ได้แต่หันมายิ้มขำเล็กๆ  ก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้าต่อ  แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรผมมาทั้งนั้น  ได้แต่ปล่อยให้ผมทำหน้ามู่อยู่ข้างๆ เท่านั้น

“ แล้ว..  มันจะโหดมั้ยอะ “

“ โหด! “ 

พี่เขาว่าจบ  ก็ขำเล็กๆ ในลำคอครับ  ผมเลยไม่รู้ว่ามันคือเรื่องจริงหรือว่าแค่ล้อเล่นกันแน่ 

แกล้งกันตลอดเลยนะ  ไอ้พี่กิจนี่....

“ เอาดีๆ ดิพี่... “

.” ก็มันบอกไม่ได้...  เอาน่า..  ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ “

ชิส์...  คิดว่ากลัวเหรอ...  จะรูปแบบไหนก็จัดมาเลย  ไอ้กันต์ไม่กลัวอยู่แล้ว


มั้งนะครับ....



...................................



เย็นวันศุกร์....

และแล้ววันศุกร์สุดสัปดาห์ที่สุดระทึกของพวกปีหนึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็มาถึง….

พวกเราปีหนึ่งถูกพาเข้าหอประชุมคณะกันเหมือนเคยครับ  และก็มีการเชียร์และว๊ากกันตามปกติ  ไม่มีอะไรที่ดูจะแปลกใหม่เลย...

จนกระทั่ง 2 ทุ่ม  มันก็เริ่มต้นขึ้นครับ...

เพลงเชียร์สิบกว่าเพลงที่พี่ๆ เขาสอนร้องตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา  ถูกสั่งให้ร้องจนกว่าจะผ่านไปได้ทีละเพลงๆ  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ  กว่าที่พี่เขาจะให้ผ่านไปได้ในแต่ละเพลง



ตอนนี้ก็กว่า 4 ทุ่มแล้วที่เรานั่งเชียร์กันอยู่ในหอประชุม  ทั้งหิว  ทั้งเพลีย  ทั้งเหนื่อย  เหน็บก็เริ่มกินจนขาเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว  คอก็เริ่มแห้งผาก  แต่ถึงกระนั้นเราก็พึ่งผ่านไปได้แค่ 2 เพลงเท่านั้น...

“ พยาบาลเข้ามาดูน้องหน่อย!! “

 เสียงพี่สต๊าฟดังขึ้นมาไกลๆ เมื่อมีคนเริ่มเป็นลมกันอีกแล้ว  จากนั้นพี่ๆ ฝ่ายพยาบาลก็เข้ามาพาออกไปพักด้านนอก  ส่วนผมกับเพื่อนๆ ก็ยังคงพอไหวกันอยู่ครับ 

แต่ก็ไหวแบบเพลียๆ อะนะ....



…..



ในที่สุดเที่ยงคืนก็มาถึงครับ 

ตอนนี้เราผ่านกันไปได้แค่ 4 เพลงเท่านั้นเอง  แต่พี่กิจเขาให้พวกเราไปพักกันได้ 1 ชั่วโมง  ก่อนจะให้กลับมารวมกันที่นี่อีกครั้งตอนตีหนึ่ง

ผมที่ทั้งหิว ทั้งเพลีย ทั้งง่วง ระคนกันไปหมดเลย  กำลังเดินสะโหลสะเหลออกมานอกหอปะชุมพร้อมกับพวกเพื่อนๆ  ก่อนจะเห็นพวกรุ่นพี่ใส่ช๊อปมากมายกำลังมองหาและร้องเรียกรุ่นน้องของตัวเองกันอยู่  ซึ่งผมก็เช่นกัน  พี่เอ็กซ์กับพี่ซีเดินเข้ามาหาผมกับไอ้เจมส์  ก่อนจะพาไปหากลุ่มรุ่นพี่สายรหัสที่ผมเคยเจอมาเมื่อตอนที่เลี้ยงสายครับ  จะขาดก็แต่พี่กิจสายรหัสไอ้เจมส์มันก็เท่านั้น

พี่ๆ เขาซื้ออาหาร  ขนม  และน้ำดื่มมาให้พวกเรามากมาย  ก่อนจะพูดคุยกันสนุกสนาน  แต่ผมกับไอ้เจมส์นี่ตั้งหน้าตั้งตากินกันอย่างเดียวเลยครับ  ถึงจุดนี้  ความง่วงดูจะหายไปในทันที  อาจจะเพราะการได้ผ่อนคลายด้วยละมั้งครับ

“ ไหวมั้ยเนี่ยเรา “  พี่ซีถามผมขึ้นมาครับ

“ ก็ยังไหวอยู่พี่  ว่าแต่...  เขาจะเชียร์กันถึงเช้าเลยเหรอครับ “

“ มันก็ขึ้นอยู่กับพวกน้องอะ  ว่าจะทำให้ผ่านไปได้เร็วแค่ไหน “  พี่เอ็กซ์ว่ามาครับ

“ โหพี่  อย่างนี้พรุ่งนี้เที่ยงก็ไม่เสร็จหรอกครับ “  ผมบ่นอุบขึ้นมาทันที

“ มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก....  พี่กิจเขาใจดีจะตายไป “  พี่ซีพูดต่อ

พี่กิจเนี่ยนะใจดี  หึๆๆ  อย่าให้ต้องพูดเลย....  เยอะครับ!!!!

“ แต่ก็ไม่แน่นะ  อย่างพี่กิจคาดเดาอะไรไม่ได้หรอก “ 

พี่เอ็กซ์เสริมมา  ทำเอาผมกับไอ้เจมส์มองหน้ากันหวั่นๆ ขึ้นมาทันที 

ซึ่งมันก็จริงของพี่เขานะ...

“ เอ็กซ์ก็ไปแกล้งน้อง “ 

พี่ซีว่าพี่เอ็กซ์ครับ  พร้อมทำตาดุๆ ใส่  ส่วนพี่เอ็กซ์ก็ได้แต่ยิ้มทะเล้นๆ ตอบไปให้เท่านั้น 

แต่ผมกับไอ้เจมส์นี่ขำไม่ออกหรอกครับ  ถึงพี่เขาจะพูดเล่น  แต่มันก็อดหวั่นใจขึ้นมาไม่ได้อยู่ดี  เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง 
ท่าทางพวกผมคงจะไม่ไหวกันแน่ๆ


..............................


พอเวลาตีหนึ่ง  พวกเราก็กลับเข้ามาในหอประชุมกันอีกครั้ง  แล้วบรรยากาศก็กลับมามาคุกันเหมือนเดิม  แต่ที่แย่สำหรับผมตอนนี้ก็คือ  พอหนังท้องตึงหนังตามันก็เริ่มหย่อนครับ  ตามันจะปิดลงเสียให้ได้เลยตอนนี้  ทั้งๆ ที่เสียงร้องเพลงเชียร์  เสียงว๊ากก็ออกจะดังขนาดนี้แท้ๆ  แต่ร่างกายมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วอะครับ...

ทนต่อไปจนถึงตี 2   มันก็ยังดูไม่มีทีท่าว่าทุกอย่างจะจบลงไปได้ในเช้าวันนี้เลย  เพลงเชียร์ก็ยังเหลืออีกเพียบเลยครับ  คนไม่ไหวที่ถูกพาออกไปก็เยอะ  ส่วนผมนี่ทั้งง่วง  ทั้งเหน็บกินขาจนไม่รู้สึกอะไรที่เท้าแล้ว  ทรมานเป็นบ้าเลยครับ.... 


แม่งจะไม่ไหวอยู่แล้วเนี่ย !!!!


...........



จนตี 5 ดราม่าก็เริ่มหนักขึ้น  บรรยากาศมาคุแบบสุดๆ  พี่กิจเลิกให้เราร้องเพลงกันแล้ว  เพราะทำไปก็เท่านั้น  ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม  เลยเปลี่ยนให้พวกเรามาบูมกันแทน

แต่ลองนึกดูสิครับ  จาก 6 โมงเย็นเมื่อนี้  แหกปากร้องเพลงและปรบมือกันมาจนถึงตี 5 จะเอาแรงที่ไหนมาบูมกันครับ  ยิ่งพวกเราบูมกันเท่าไหร่  ก็ยิ่งโดนว่า  โดนว๊ากหนักขึ้นไปเรื่อยๆ  จนผู้หญิงบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว...


“ ไม่ได้เรื่อง!!! “

“ ทำได้แค่นี้เหรอ !!! “

“ สปิริตของพวกคุณ  แสดงให้พวกผมเห็นได้แค่นี้เองเหรอ !!! “


ประโยคเดิมๆ  ถูกพูดปลุกเร้าหนักขึ้นไปเรื่อยๆ  แต่ไม่ว่าเราจะพยายามทำเท่าไหร่  มันก็ดูจะไม่ดีขึ้นเลยสักนิด

จนกระทั่งพี่ปี 2 ต้องออกมาช่วยกันบูมแทนพวกเรา  แต่เท่านั้นแหละครับ


“ ปี 2 !!!  ใครให้พวกคุณบูม  ผมสั่งให้หยุด !!! “


พี่กิจตวาดเสียงดังจนทุกคนเงียบ  และพี่ๆ ปี 2 ก็หยุดบูมกันแทบจะในทันที


“ ผมขอบูมแทนน้องครับ//ค่ะ “

“ พวกเราขอช่วยน้องบูมครับ // ค่ะ “


แล้วพี่ๆ ปี 2  ก็ช่วยกันบูมต่อไปอีก  ท่ามกลางสายตาของพวกเราปี 1

พี่กิจไม่ได้พูดอะไรต่อ  ได้แต่มองตาเขียวปั๊ด  แต่พี่ๆ ปี 2 ก็ยังคงไม่หยุดบูม  พี่เขาบูมไปเรื่อยๆ จนผมเริ่มรู้สึกผิดและอยากจะรับผิดชอบในภาระของตัวเอง

จนกระทั่งแรงขับในใจทำให้พวกเราปี 1 ต้องช่วยกันบูมพร้อมกับพี่ปี 2 อีกครั้ง


“ อยากบูมก็บูมกันไปเลย!!!! “


เสียงพี่กิจดังลั่น  แต่ทุกคนก็ยังคงไม่หยุดบูม  มันรู้สึกว่ามีพลัง  และฮึกเหิมขึ้นมาเสียอย่างนั้น  จากที่ร่างกายคิดว่าจะไปไม่ไหวอยู่แล้วแท้ๆ 

เราบูมกันอย่างสุดเสียง  แม้จะไม่เป็นระเบียบอย่างที่ถูกสอนเอาไว้  แต่มันก็ออกมาจากใจ...  ผมไม่ได้สนใจหรอกว่า  นี่มันคือการแสดงหรือว่าอะไรทั้งนั้น  แต่มันก็ทำให้พวกเรามีพลัง  และช่วยกันได้จากใจจริง

พวกเราไม่ได้แสดง  มันคือความรู้สึกจริงๆ นะครับ...


ผมไม่รู้หรอกว่าเราบูมกันไปกี่รอบแล้ว  แต่คิดว่าน่าจะเกินจำนวนรุ่นของพวกเราไปแล้ว  เสียงพวกเราเริ่มแหบ  แต่พวกเราและพี่ๆ ปี 2 ก็ยังคงไม่หยุด  ยังคงทำทุกอย่างเต็มที่และทำมันให้ถึงที่สุด... 

แล้วจู่ๆ จากเสียงที่เริ่มเบาลงจากความเหนื่อยล้า  ก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง  จากอีกหลายเสียงที่เพิ่มเข้ามาในตอนนี้.....

ภาพที่เห็นก็คือ...  รุ่นพี่ปี 3 และปี 4 ที่ตอนนี้กำลังกอดคอช่วยพวกเราบูมกันอีกแรง  นั่นยิ่งทำให้เรารู้สึกแน่นๆ ในอก  มันเป็นความตื้นตันและฮึกเหิมที่อัดแน่น  จนกระทั่ง...




“ พอแล้วครับพี่ๆ น้องๆ!!!! “




เสียงพี่กิจดังก้องไปทั่วบริเวณ  แล้วพวกรุ่นพี่ก็หยุดลง  เว้นก็แต่พวกเราปีหนึ่งที่ยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ

“ ปี 1 หยุด !!!”

ทุกคนหยุดบูมด้วยอาการเหนื่อยหอบ  ก่อนจะมองไปยังเวทีตรงหน้า  ทั้งมึน  ทั้งหอบกันจนรับรู้ได้ด้วยเสียงหายใจกระเส่าทั่วทั้งบริเวณ

ตอนนี้พวกพี่ว๊ากหน้าดุกำลังยืนเรียงแถวกันอยู่บนเวที  โดยมีพี่กิจยืนอยู่ตรงกลาง  จากนั้นพวกพี่ๆ เขาก็กอดคอกันและบูม...


ใช่ครับ  บูม...


พวกเราปี 1 ได้แต่งงกับภาพตรงหน้า  ทุกคนคิดไม่ออกว่านี่คืออะไร  หรือจะต้องทำอย่างไรต่อ  เห็นแต่พวกพี่เขาบูมกันไปเรื่อยๆ  จากนั้นพวกพี่ปี 2  ปี 3  และปี4  ก็พากันบูมสมทบขึ้นมาอีก

มันยิ่งใหญ่มากเลยครับ  เสียงมันก้องไปทั้งหอประชุมเลย  ผมไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวรึป่าว  ที่รู้สึกว่าพลังมันกลับมาอัดแน่นอยู่เต็มอกอีกครั้ง  ทั้งๆ ที่มันน่าจะหมดไปแล้วไม่รู้กี่หนต่อกี่หน  จนในที่สุดพวกเราก็กลับมาช่วยกันบูมตามพวกพี่ๆ เขาต่อ  โดยไม่ต้องรอให้มีใครมาบอก

มันเป็นความเต็มใจ  ตั้งใจ  เป็นพลัง  เป็นความสามัคคี  เป็นความรัก  และความรู้สึกมากมายที่ผมสัมผัสได้..  จนผมถึงกับน้ำตาซึมขึ้นมาเลยทีเดียว

แต่อย่าพึ่งว่าผมขี้แยนะครับ.... 

เพราะอีกหลายคนก็ไม่ต่างกับผมหรอก  บางคนบูมไปร้องไห้ไปก็มีครับ

ผมไม่รู้ว่าเราบูมกันไปกี่ครั้งแล้ว  แต่ผมกลับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย  จนกระทั่งพี่กิจสั่งให้หยุด  และนั่นก็ทำให้พวกพี่ๆ เขาพากันหยุดลง  ก่อนที่ปี 1 จะค่อยๆ หยุดกันตามมา


“ พวกผมบูมให้พวกคุณเท่ากับจำนวนรุ่นของพวกคุณ  นั่นก็หมายความว่า...!!!! “


พี่กิจหยุดค้างไว้แค่นั้น  ในขณะที่พวกเราต่างก็กำลังตั้งหน้าตั้งตารอฟังกันต่ออย่างใจจดใจจ่อ


“ พวกผม...และพวกรุ่นพี่ทุกคน...  ยอมรับพวกคุณ!!  เป็นรุ่นน้องของพวกเราแล้ว!!! “


ถึงจุดนี้  เสียงเฮของพวกปี 1 ก็ดังลั่น  พร้อมกับเสียงปรบมือของพวกพี่ๆ ทั่วทั้งหอประชุม

ผมเงยหน้ามองไปบนเวที  เห็นพี่กิจยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในห้องเชียร์

รู้สึกอบอุ่นจังครับกับบรรยากาศตอนนี้...



“ พอละคร้าบๆ พี่ๆ น้องๆ “

แล้วพี่กิจก็พูดต่อ  แต่น้ำเสียงกลับไม่แข็งกร้าวเหมือนเช่นทุกที  รวมทั้งสีหน้าในตอนนี้ก็ด้วย

“ บรรยากาศและความรู้สึกในวันนี้เป็นยังไง  พี่ก็ขอให้น้องๆ จดจำเอาไว้ให้ดีๆ นะครับ  ความตั้งใจ  การพยายาม  การลุกขึ้นสู้  การร่วมใจ  รวมถึงความอบอุ่นของบรรยากาศแบบพี่น้องแบบนี้...  เมื่อใดก็ตามที่เราเจออุปสรรคอะไรก็ตาม  พี่อยากให้น้องๆ นึกถึงวันนี้  วันที่เราพยายามผ่านมันไปจนได้  ทั้งๆ ที่จะล้มไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  แต่ก็กลับมาลุกขึ้นสู้ได้เพราะความตั้งใจ  และความพยายาม  ที่สำคัญ...  จงอย่าลืมว่า  ที่นี่เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว  เรายังมีเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่จะคอยประคองเราให้ผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปได้...  พี่ก็ขอฝากเอาไว้แค่นี้นะครับ... “

พี่กิจพูดจบ  ไฟในหอประชุมก็ดับลง  จากนั้นก็ค่อยๆ มีแสงเทียนที่ถูกทยอยขนออกมาวางเรียงรายอยู่รอบๆ พวกเราปี 1 ที่นั่งกันอยู่ที่พื้น  แสงสลัวจากเปลวเทียนที่จัดวางไว้ภายในหอประชุม  แม้จะไม่สว่างจ้า  แต่ก็อบอุ่นกว่าแสงไฟจากหลอดมากนัก

จากนั้นพี่ๆ ในสายรหัสเรา  ต่างก็พากันเดินเข้ามาหาน้องรหัส  พร้อมทั้งผูกข้อมือและอวยพรให้ด้วย


“ ตั้งใจเรียนนะ..  และถ้ามีอะไรจะให้พี่ช่วย  ก็บอกได้เลยนะ “ 

พี่ซีสายรหัสปี 2 บอกขณะกำลังผูกข้อมือให้ผมครับ

“ ชีวิตในมหาลัยฯ มันอาจจะสบายกว่ามัธยมก็จริง  แต่ความรับผิดชอบมันสูงกว่ามาก  อย่าประมาทในการใช้ชีวิตนะ  ถ้ามีอะไรจะให้พวกพี่ช่วย...  ก็บอกมาได้เลยนะ “ 

ต่อมาด้วยคำเตือนสติจากสายรหัสปี 3

“ ตั้งใจเรียนและอย่าลืมว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ  เรายังมีเพื่อนๆและพี่ๆช่วยเราได้เสมอ  มีความสุขมากๆ กับชีวิตมหาลัยฯ ต่อไปจากนี้นะ “ 

และปิดท้ายด้วยสายรหัสปี 4 ครับ



บอกไม่ถูกเลยครับว่ารู้สึกยังไง  แต่มันตื้นตันและประทับใจจริงๆ....
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-02-2018 23:01:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/02/2561 update chapter 27 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 25-02-2018 23:03:16
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิน  แสงไฟในหอประชุมก็ถูกเปิดขึ้นมา 

ที่หน้าเวทีไม่มีพี่กิจกับพวกพี่ว๊ากยืนทำหน้าดุกันอีกต่อไป  มีแต่พี่กิจที่ผมรู้จัก  กำลังนั่งอยู่ที่ขอบเวททีพร้อมกับยิ้มแป้นอยู่ในตอนนี้  โดยที่รอบข้างก็มีพี่ว๊ากหน้าโหดที่ตอนนี้ดูจะไม่โหดสักเท่าไหร่แล้ว  แต่เพราะหนวดเครา  มันก็เลยทำให้ดูเถื่อนๆ อยู่บ้างก็เท่านั้นเอง....

“ ปี2 ๆ  ขอไมค์พี่หน่อย  เจ็บคอว่ะ “

พี่กิจตระโกนบอกพวกสต๊าฟปี 2 อย่างเป็นกันเอง  ปราศจากภาพลักษณ์ประธานเชียร์ที่เราเคยเห็นมาโดยตลอด  จนหลายๆคนรู้สึกแปลกใจ

พอได้ไมค์มาพี่กิจก็เริ่มพูดขึ้น

“ ไม่ต้องเกร็งนะครับน้อง...  พวกพี่โหดกันขนาดนั้นเลยเหรอ “


“ โหด!!!!!!! “ 


ไม่ใช่เสียงจากพวกเราปีหนึ่งนะครับ  แต่เป็นพวกพี่ๆ ที่ยืนกันอยู่ข้างๆ ตระโกนมาครับ  บรรยากาศดูจะผ่อนคลายมากขึ้นอย่างมาก  ถึงมากที่สุดแล้วในตอนนี้

“ โหดอะไร...  ปีผมโดนกนักกว่านี้อีก..  “ 

พี่กิจแก้ตัวมาครับ

“ เอาละ...  เข้าเรื่องกันเลยนะครับน้อง  วันนี้ก็จะเป็นวันเชียร์วันสุดท้ายแล้ว  แต่ว่า..  น้องๆ จะยังไม่ได้ช๊อปกับเกียร์นะ  คือพวกพี่ๆ ยอมรับพวกเราเป็นรุ่นน้องแล้วก็จริง  แต่เรื่องรุ่น...  ก็คงต้องอยู่ที่ตัวน้องๆ เองแล้ว  ว่าน้องๆ จะแสดงให้พวกพี่ เห็นกันได้ยังไง  กับสิ่งที่พวกพี่ๆ สอนใว้ในห้องเชียร์...   จนหลัง Sport day ของมหาลัยฯ  เราค่อยมาดูกันว่าน้องๆ จะได้รุ่นกันมั้ย  แต่หลังจากนี้..  ก็ไม่ต้องกลัวพี่และไอ้พวกเถื่อนๆ นี่แล้วนะครับ เห็นหน้าดุๆ อย่างนี้  แต่ใจโครตติ๋มเลยนะ  พี่ขอบอก “


ถึงตรงนี้พวกเราก็พากันหัวเราะลั่นทันที  แล้วบรรยากาศก็เริ่มครึกครื้นเป็นกันเองแบบพี่กับน้อง...  รู้สึกดีและอบอุ่นอย่างที่สุดเลยครับ...



....................


ออกจากหอประชุมมา  ภายนอกก็สว่างจ้าแล้วละครับ 

นี่พวกเราอยู่กันจนถึงเช้าจริงๆ เลยเหรอเนี่ย 

นึกๆ ดูแล้ว  ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะผ่านวันโหดๆ อย่างนี้มาได้  แต่พอมันผ่านมาได้แล้ว  ความรู้สึกที่ได้รับมันก็คุ้มค่าเกินกว่าที่คิดเอาไว้มากเลยจริงๆ

“ แล้วนี่มึงกลับยังไง  ให้ไอ้ธันไปส่งมั้ย “ 

ไอ้เรย์ถามมาครับ  แหม.... ช่างมีน้ำใจมาก  ถามมาเองแท้ๆ แต่กลับโยนไปให้คนอื่นแทน  ซึ่งผมก็รู้นะครับว่ามันคงจะต้องไปส่งแพรแทนไอ้ธันมัน

“ ไม่รู้ว่ะ  แต่กูว่า... กูกลับเองดีกว่า  รบกวนไอ้ธันมันด้วย  มันจะได้กลับไปนอนพัก “  ผมบอกไปครับ

“ กวนอะไรกันต์  ให้เราไปส่งนะ “  ไอ้ธันมันยิ้มบอกมาครับ

“ อืม..  ถ้างั้น “



“ กลับกันยัง!  “ 



เสียงพี่กิจดังมาจากทางด้านหลังครับ  พร้อมกับร่างสูงหล่อที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาพวกผม

“ อ้าว...  นึกว่าพี่ต้องประชุมต่อ “  ผมถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ

“ ประชุมอะไรล่ะ  ง่วงจะตายอยู่แล้ว... “ 

พี่กิจทำหน้าเบื่อโลกบอกมาครับ 

“ นั้น...  เดี๋ยวกูกลับกับพี่กิจละกันมึง “
 
ผมหันไปบอกไอ้ธันมันครับ  ซึ่งมันก็ได้แต่พยักหน้าเล็กๆ ตอบมา


จากนั้นผมก็แยกตัวกับเพื่อนๆ ไปยังลานจอดรถใกล้ๆ หอประชุมกับพี่กิจ

“ กินอะไรเช้านี้ “ 

พี่กิจถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถ

“ อืม..  อะไรก็ได้พี่  ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่อะ  ง่วงมากกว่า “

“ นั้นโจ๊กแถวคอนโดละกันเนอะ “ 

ผมพยักหน้ายิ้มรับ  ก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง

เมื่อปิดประตูรถลงแล้ว  ผมก็เริ่มบิดขี้เกียจพลางเอามือมาขยี้ตา  ก่อนจะมองดูสายสิญจน์ที่ข้อมือที่พี่ๆ เขาผูกมาให้  แล้วเปรยเล่นๆ ขึ้นมาเบาๆ ว่า....

“ เสียดาย...  ไม่ได้พี่มาผูกให้บ้าง “

“ ทำไม..  อยากให้พี่ผูกให้เหรอ “

“ ก็.. “ 

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ  แต่พยักหน้าเล็กๆ ให้แทน  จากนั้นพี่กิจก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ  ก่อนจะหยิบเอาสายสิญจน์เส้นเล็กออกมาเส้นหนึ่ง  แล้วดึงมือซ้ายของผมไป  เพื่อผูกให้เหมือนกับพี่ๆ ในสายรหัสผม

“ ข้างขวาดีกว่าพี่ “

“ ทำไมอะ “

“ ก็ผมจะได้รู้ไงว่าเส้นนี้เป็นของพี่ “

ผมบอกไปแค่นั้น  ซึ่งพี่กิจก็ทำหน้างงๆ มองมา  แต่ก็ยอมผูกให้แต่โดยดี

“ ชีวิตมหาลัยฯและต่อไปจากนี้...  อย่าคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว  ให้จำไว้เสมอว่าเรายังมีพี่คนนี้ที่คอยดูเราอยู่เสมอ  ต่อจากนี้ไปพี่จะคอยดูแลเราเองนะ...  พี่สัญญา “

พี่กิจพูดมาแบบนี้  ทำเอาผมทำตัวไม่ถูกไปเลยครับ  คิดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้  แถมยังเผลอยิ้มออกมาเล็กๆ ด้วยสิ...

“ สัญญาจริงๆ นะ... “

“ อื้ม..  พี่สัญญา “

ผมมองตากับพี่กิจได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น  ก่อนจะเสไปมองทางอื่น  พร้อมทั้งอมยิ้มจนแก้มแทบปริแล้วในตอนนี้

ช่างเป็นเช้าที่มีความสุขอะไรแบบนี้ครับ  ทั้งในห้องเชียร์และในเวลานี้...

มันเป็นวันที่ดีเอามากๆ วันหนึ่งในชีวิตของผมเลยนะ 

ซึ่งผมจะจดจำไว้...  ไม่ลืมเลยละครับ...




TBC.


-----------------------------------------------------------

ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง  ทั้งสุขภาพและเรื่องอื่นๆ  ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ 

ผมอ่านทุกๆคอมเม้นต์นะครับ  มีความสุขที่ได้อ่าน  และยิ่งเห็นคนอ่านมีความสุขกับสิ่งที่เราทำมันก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปใหญ่

แฮ่....

จากพล็อตเรื่องที่ร่างไว้ในหัว....  อยากเขียนซีซั่น2 แล้วอ่า  มันจะเป็นอะไรที่น่ารักมาก  ถ้าเทียบความดราม่าแล้ว  น่าจะน้อยที่สุดใน 3 ซีซั่นเลย  บอกได้แค่ว่า....  แค่คิดก็ยิ้มออกแล้ว ><

สำหรับวันน้ขอติด  ตอนพิเศษไว้เหมือนเดิมก่อนนะครับ  เรียงประโยคไม่ทัน...

คือปกติ  ผมจะพิมพ์คร่าวๆไปก่อน  พอตอนจะลง  จะมานั่งเรียงประโยค แก้คำ ต่างๆนานา อีกทีอะครับ 

นี่จะเป็นตัวอย่างที่ผมพิมพ์คร่าวๆ  ก่อนจะลงและยังไม่เรียงประโยค  คือมันจะมีคำผิดเพียบ  และเวลาอ่านประโยคมันจะขัดๆ  อ่านยากกว่าปกติอะครับ...
....................................................
ตัวอย่างตอนที่เท่าไหร่มะรู้อะครับ  30กว่าๆเนี่ยแหละครับ 
.....................................................

“ อันนี้ไว้ไหนอะ “
ผมถามขึ้นขณะกำลังถือกล่องใส่หนังสือเข้ามาในห้อง
“ แถวชั้นตรงนั้นก็ได้  เดี๋ยวเราจัดเอง “ 
ไอ้ธันมันชี้ไปยังชั้นหนังสือใกล้ๆโต๊ะทำงานในห้องนอนครับ  ขณะที่ตัวมันเองกำลังง่วนอยู่กับการลำเรียงกล่องอีกหลายใบเข้ามา
“ มาเดี๋ยวกูช่วย “
ผมบอกไปก่อนจะไปช่วยประคองกล่องที่วางซ้อนกันสูงเหนือหัวมันเข้าไปในห้อง  มันไม่ค่อยหนักเท่าไหร่หรอกครับ  แต่เพราะมันซ้อนกันสูงเลยทำให้ไม่ค่อยจะมั่นคงเท่าไหร่ เพราะเหตุนี้มันก็เลยพลาดเอียงล้มมาทางผมก่อนจะประคองไปถึงทที่หมาย
“ เห้ย!! “
โครม !
โชคดีนะครับที่ของข้างในไม่หนักและผมก็ล้มลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง  แต่มันแย่ก็ตรงที่ไอ้ธันที่ประคองอยู่อีกฝั่งมันล้มตามผมลงมาด้วยอะครับ  ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่ามันกำลังคร่อมร่างผมไว้อยู่บนเตียง  ซึ่งหน้ามันกับผมก็อยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไหร่  เห็นสายตามันมองมาแล้วผมก็ไม่กล้าสบตาต่อ
เขินครับ...
แต่มันไม่ได้รู้สึกสั่นไหวแบบที่เป็นกับพี่กิจนะครับ  แค่ไม่ชินกับการจ้องตาผู้ชายด้วยกันในระยะประชิดแบบนี้ก็เท่านั้นเอง
“ เอ่อ...  มึงขยับออกไปหน่อยดิ “
ผมอ้อมแอ้มบอกไป  เมื่อเห็นมันนิ่งค้างไว้แบบนี้นานไปแล้ว
“ โทษทีๆ  กันต์เจ็บตรงไหนเปล่าอะ “
มันยิ้มแหยๆว่ามาก่อนจจะผละตัวขึ้นมาจากร่างผมครับ
“ ไม่อะ... “
แล้วก็เกิดมีเดธแอร์เล็กๆขึ้นมาระหว่างผมกับมัน  ผมเลยรีบชิงพูดขึ้นมาต่อเพื่อทำลายบบรรยากาศที่เกิดขึ้นนี้ทันที
“ นั้นเดี๋ยวกูช่วยเรียงหนังสือเข้าชั้นให้ละกันนะ “
ว่าจบผมก็รีบเดินไปที่ชั้นหนังสือก่อนจะนั่งลงข้างกล่องใส่หนังสือที่ผมพึ่งจะยกเข้ามาเมื่อกี้นี้ครับ
เท่าที่ดูจากหนังสือแล้ว  ไอ้ธํนมันน่าจะเป็นคนชอบแต่งบ้านหรืออะไรทำนองน้มากนะรับ  เห็นมีหนังสือเกี่ยวกับบ้านตั้งหลายเล่ม  ไม่เหมือนผมที่ส่วนมากนอกจากหนังสือเรียนก็จะเป็นการ์ตูนซะมากกว่า
ผมหยิบหนังสือเรียนนมันขึ้นมาดูพลางเปิดดูผ่านๆ  โห...  มันเขียนตัวหนังสือสวยมากครับ  แถมจดงานก็เป็นระเบียบดีด้วย  ไม่แปลกใจเลยที่มันจะเป็นยคนเรียนเก่งที่สุดในกลุ่ม...
เปิดดูไปได้ไม่นานผมก็มาสะดุดที่ชื่อมันครับ...  ก่อนจะเหวอไปนิดๆ  เพราะแปลกใจกับสิ่งที่พึ่งรู้เกี่ยวกับตัวมันขึ้นมา
“ เฮ้ยธัน... ทำไมคำนำหน้าชื่อมึงถึง... “
ผมหยุดถามต่อเพื่อรอมันตอบมาครับ  มันยิ้มเจื่อนๆก่อนจะตอบกลับมาให้
“ ก็ตามนั้นแหละ.... “
ตามนั้นอะไรกันครับ...  ก็คำนำหน้าชื่อมันไม่ได้เป็น นาย ธันวา...  แต่เป็น  มล. ธันวา   นะครับ  ไม่ได้ธรรมดาๆเหมือนน้ำเสียงที่มันตอบมาเลยสักนิด
“ จริงๆก็มีแค่แพรเท่านั้นที่รู้  ก็ทำไงได้ละ  เลือกเกิดไม่ได้นี่.... “
..............................................................................................
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////
อีกช่วง...  ที่อึนๆอยู่..  ดราม่าเบาๆ  แต่ยาวนาน  คือมันจะทำให้เข้าใจความรู้สึกสุดท้ายเมื่อจบไปได้ครับ....  แต่...นิยายผมอย่างที่บอกไว้  จบแฮปปี้แน่นอน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////
..............................................................................................

กว่าจะกลับเข้าห้องตัวเองมาก็เกือบ 4 ทุ่มแล้วครับ
พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นพี่กิจที่นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก  มองดุมายังผมทันที  ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้มเล็กๆส่งให้ไปเพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ดูตรึงเครียดอะครับ
บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไงมากกว่ากันระหว่างกลับดึก (ซึ่งเอาจริงๆไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะผมบอกพี่เขาไปแล้ว )  หรือ ทำตัวไม่ถูกเวลาที่ต้องเจอหน้าพี่เขามากกว่า
“ ทำไมถึงดึกขนาดนี้ “
“ ก็ผมบอกพี่แล้วไงว่าช่วยไอ้ธันมันย้ายหออะ “
“ ที่ไหน... “
ทำไมรู้สึกเหมือนเรากำลังคุยกันในช่วงแรกๆที่เจอกันเลย  ไม่เหมือนช่วงที่ผ่านมานี้เลย  อาจเพราะความรู้สึกมันไปแล้วละมั้งเพราะการทำอะไรไม่คิดของผมที่บอกพี่เขาไปแบบนั้น
“ ที่นี่ครับ  ธันมันย้ายมาอยู่ที่นี่...  ชั้นข้างล่างเรานี่เอง “
ผมบอกไปตามจริง  แล้วจู่ๆ พี่กิจก็ร่นคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่  ซึ่งผมเดาใจพี่เขาไม่ออกจริงๆเลยครับตอนนี้
“ แล้วทำไม  มันถึง.. “
“ ถ้าพี่กิจไม่มีอะไรแล้ว  ผมขอเข้าห้องแล้วนะครับ  วันน้เหนื่อยมามากแล้ว “
ไม่ทันที่พี่เขาจะพูดจบผมก็รีบบอกออกมาก่อนทันที  มัน...อึดอัดกับบรรยากาศตอนนี้อะครับ 
ขอผมทำใจ  ขอระยะห่างและเวลาสักหน่อยนะครับพี่  แล้วผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เหมือนพี่กิจจะดูเหวอๆ ไปเล็กน้อย  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ  รีบเดินดุ่มๆเข้าไปยังห้องนอนทันที  ก่อนจะโยนเป้สะพายไปไว้บนเตียง  และล้มตัวตามลงไป
ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ...  ผมไม่ชอบเลยความรู้สึกและบรรยากาศแบบนี้
ไม่ชอบเลยจริงๆ.....

////////////////////////////////////////////////////
เขียนไปกะเหนื่อยใจไป >< 
..............................................
ผมจะพยายามลงบ่อยๆ นะครับ  จะพยายามตั้งใจเพื่อคนอ่าน
ผมอยากให้มีความสุขและผูกพันกับนิยายเรื่องนี้กัน  มันจะทำให้ในวันที่เราเหนื่อยล้า...  ถ้าเราคิดแค่ว่าวันนี้เราจะได้อ่านอะไรที่ทำให้เรามีความสุขแล้ว....   มันจะทำให้เรามีกำลังใจกับวันร้ายๆแบบนั้นได้
ถ้ามันเป็นไปได้แบบนั้น  ผมจะมีความสุขมากเลยที่ได้แบ่งปันความสุขกับคนอื่นได้แบบนี้
มันอาจจะเป็นนิยายและการใช้ภาษาที่ไม่สวยหรูนัก(เพราะผมโง่เรื่องภาษามากครับ  ไม่ถนัดเลย)  แต่ผมก็อยากทำอะไรที่เราตั้งใจไว้อะครับ

ขอให้มีความสุขกับนิยายนะครับ  แล้วเจอกันตอนต่อไปน้าคร้าบ 
แฮ่....
^__________________________________________________^ 



หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-02-2018 00:11:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-02-2018 00:36:01
 :hao5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 26-02-2018 00:57:00
แต่จริงเราชอบ ธันนะเออ อยากให้พี่กิจเป็นพี่ชายที่แสนดีแล้วธันเป็นแฟนที่น่ารักนะ

ดีใจนะที่ผู้เขียนมีความสุข รักษาสุขภาพนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-02-2018 01:12:56
กว่าจะผ่านได้ แทบจะเป็นซอมบี้กันหมดเลยนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-02-2018 10:47:58
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-02-2018 22:42:11
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 01-03-2018 22:37:49
Chapter 29



กันต์'s  Part




และแล้ว 1 สัปดาห์ก่อนสอบกลางภาคก็มาถึง 

หลายๆ รายวิชาก็งดการเรียนการสอน  เพื่อให้นักศึกษาได้เตรียมตัวอ่านหนังสือสอบกันครับ  ในขณะที่พวกผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่หอสมุดกลางเพื่ออ่านหนังสือสอบ  ครั้นจะอยู่แต่ที่หอก็คงจะไม่ได้อ่านเป็นแน่  ได้มาอ่านกับเพื่อนๆ  แบบนี้แหละดีแล้ว  เพราะเวลามีอะไรที่ไม่เข้าใจ  ก็จะได้ถามกันได้และไม่น่าเบื่อด้วย

“ แม่ง... เนื้อหาครึ่งเทอมเท่ากับเรียนมอปลายมา 2 ปี  แถมยากกว่า..  จะโหดไปไหนวะเนี่ย!!! “ 

ไอ้เรย์มันบ่นเสร็จ  ก็โยนชีทวิชาเคมีไปตรงหน้าทันทีเลยครับ

“ อะไรเรย์...  นั่งอ่านมายังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ  มาทำเป็นบ่น  อ่านต่อไปเลยนะ  เดี๋ยวก็ไม่รอดหรอก “ 

แพรที่นั่งข้างๆ หันมาดุมันครับ  ไอ้เรย์มันมันทำหน้าอิดออดเล็กน้อย  แต่ก็ยอมจับชีทขึ้นมาอ่านใหม่อยู่ดี

“ แหม...  แพรสั่งหน่อยทำเป็นเชื่องเลยนะมึง “  ผมแซวไปครับ

“ เชื่องพ่อมึงดิ  กูก็เป็นคนขยันเหมือนกันนะเว้ย “


“ เหรอ!!! “


คราวนี้ทั้งผม ไอ้เจมส์ และก็ไอ้แน๊ค  ต่างก็อุทานขึ้นมาพร้อมกันทันที  ก็มันน่าเชื่ออยู่หรอกครับ  อย่างไอ้เรย์เนี่ยนะจะสนใจการอ่านหนังสือ.... 

ไม่มีทาง !!


“ เออนี่...  พวกมึงรู้กันป่าว...  ว่าหลังมิดเทอม  ภาคเราจะมีการรับน้องต่างจังหวัดกันนะ “ 

ไอ้แน๊คเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาครับ

“ มึงไปเอาข่าวมาจากไหนวะ “ 

ไอ้เจมส์คู่หูมันถามมาต่อ

“ ก็พี่รหัสกูบอกมา  ว่าปกติแล้ว  หลังมิดเทอมภาคเราก็จะไปรับน้องกันที่ต่างจังหวัด “ 

“ ดีอะ  อยากอยู่ภาคอุตฯ บ้าง  จะได้ไปพักผ่อนด้วย “  ไอ้ธันว่ามาครับ

“ คงจะได้พักผ่อนอยู่หรอก  กลัวจะถูกเอาไปแกล้งมากกว่าดิ “  ไอ้แน๊คเสริมต่อ

“ ไม่มั้ง  จบจากห้องเชียร์แล้วนี่ “  คราวนี้ผมออกความเห็นบ้างครับ

“ มันก็ใช่..  แต่อะไรที่พิเรน ๆ อะ  คิดว่าจะรอดเหรอวะ “
 
มันก็จริงของไอ้แน๊คนะครับ  ยิ่งคณะวิศวะเราด้วยแล้ว  อะไรที่พิเรนๆ อะ..  มีเพียบ!!


.............................


ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

ตอนนี้ก็กว่า 4 เย็นแล้ว  ที่เรานั่งเล่นกันอยู่ที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ  ฟังไม่ผิดหรอกครับว่านั่งเล่น  แม้จะมีกองเอกสารและหนังสือมากมายอยู่บนโต๊ะก็ตาม  แต่ขนมและเครื่องดื่มก็มากไม่แพ้กัน  คือมันเริ่มล้าแล้วอะครับ  กับการอ่านหนังสือ  เราเลยเปลี่ยนมานั่งคุยเล่นกันไปเรื่อย  ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะบรรยากาศในร้านมันดีและสามารถคุยกันได้  ไม่เหมือนในหอสมุดกลางที่ห้ามส่งเสียงดัง  เลยทำให้พวกเราติดลมและก็วางหนังสือกันยาวเลยตอนนี้


“ กลับกันยัง “

เสียงพี่กิจดังขึ้นมาจากทางด้านหลังผมครับ  พอหันไปมอง  ก็เห็นพี่เขาในสภาพชุดนักศึกษาที่ไม่เนียบเหมือนเช่นทุกที  คือละชายเสื้อออกมานอกกางเกงและพับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก  ต่างไปจากทุกทีที่ยังอยู่ในสถานะประธานเชียร์มาดขรึม

วันนี้พี่กิจมีพรีเซนต์งาน  ก็เลยต้องเข้าคณะครับ  พี่เขาเลยบอกให้ผมรอกลับพร้อมกันกับเขา

“ พี่กิจหวัดดีครับ // ค่ะ “

แล้วเพื่อนๆ ในโต๊ะก็พากันยกมือไหว้พี่กิจ  ซึ่งพี่เขาก็รับไหว้และยิ้มรับอย่างเป็นกันเองให้ด้วยเช่นกัน


หล่อสาด.....  สาวๆ ในร้านมองกันเต็มเลยครับ


“ พี่กิจติวให้พวกผมบ้างดิ  อ่านไปแม่งไม่เข้าใจเลยพี่ “ 

ไอ้เรย์มันว่ามาครับ  พอจบห้องเชียร์ความเกร็งๆ ในตัวพี่เขาก็ดูจะลดน้อยลงไปเยอะ

“ เอาดิ  ไว้หาวันที่พวกเราว่าง  แล้วมาบอกพี่ก็ละกัน  เดี๋ยวพี่ช่วยดูให้  แต่มึงนะไอ้เรย์....  ถ้าตกมีนวิชาไหนละก็...  มึงโดนพี่ซ่อมแน่ “ 

พี่กิจพูดพลางชี้นิ้วหมายหัวไปที่ไอ้เรย์มันครับ

“ อะไรพี่  ไหงผมโดนคนเดียวอะ “  มันทำหน้างงถามมาครับ

“ ก็มึงเป็นน้องชมรมไง  ตกมีนก็เท่ากับเสียชื่อชมรมเราหมด “

“ เกี่ยวกันป่าวอะพี่  ไอ้เจมส์ก็น้องรหัสพี่นะ  ทำไมมันไม่เห็นโดนเหมือนอย่างผมบ้างอะ  ไอ้กันต์มึงก็อีกคน..  อย่ามายิ้มหัวเราะกูเลยนะสัด.. “

“ ก็กูอยากแกล้งมึงไง...  มีไรป่ะ “

พี่กิจพูดจบ  พวกเราก็พากันหัวเราะกันทั้งโต๊ะเลยครับ  จะมีก็แต่ไอ้เรย์เท่านั้นที่ทำหน้าเซ็งอยู่คนเดียว  ถึงจะดูเหมือนพี่เขาพูดเล่นนะ  แต่เชื่อผมเถอะ  ถ้ามันตกมีนจริงๆ รับรองพี่เขาแกล้งมันจริงๆ แน่  ฮ่าๆๆๆ 

และผมเนี่ยแหละ  ที่จะเป็นคนเอาคะแนนมันไปรายงานพี่เขา  อิอิ


...........................


“ เดี๋ยวแวะซุปเปอร์มาเก็ตหน่อยนะ  ของในตู้เย็นหมดแล้วอะ “ 

พี่กิจว่ามาขณะที่เรากำลังเดินไปยังรถที่จอดไว้ไม่ไกลมากจากร้านกาแฟครับ

“ ครับ  ว่าแต่...เย็นนี้พี่อยากกินไรมั้ย  เดี๋ยวผมทำให้  ไหนๆ ก็เข้าซุปเปอร์แล้ว “

ผมบอกไป  พี่กิจก็หันมามองผมยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“ เอาใจพี่ปะเนี่ย “

“ เอาใจอะไร!  แค่ถามเฉยๆ  เผื่ออยากกินอะไร... “

“ เสียงสูงนะ...  แต่อืม... อะไรก็ได้อะ  พี่กินได้หมดแหละ “

“ นั้น....  เอาเป็นพวกสปาเก็ตตี้ละกันเนอะ  ไวดี  ง่ายด้วย “

พูดจบ  พี่กิจก็ยิ้มและเลิกคิ้วเห็นด้วยส่งมาให้  และก่อนที่เราจะมาถึงรถ  ผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ

แมวครับ...  ตัวใหญ่ด้วย  แต่ไหงมันดูผอมแบบนี้ล่ะเนี่ย 

มันเป็นแมวธรรมดาๆ สีเทา  มีลายสีดำเหมือนเสือตามตัวครับ  แต่ที่ผิดสังเกตคือมันดูผอมเอามากๆ เลย

“ เมี๊ยวๆ  มานี่มะ.. “ 

ผมนั่งลงและเรียกมันครับ  มันมองผมนิ่งๆ ก่อนจะเดินโซซัดโซเซมาหา  และก็..  ล้มลงครับ  เหมือนมันจะพยายามลุกขึ้นมา  แต่ก็ดูจะไม่ค่อยไหวสักเท่าไหร่  ผมเลยรีบเดินเข้าไปหามันครับ 

ผมค่อยๆ อุ้มมัน  ซึ่งมันก็ว่าง่ายมาก  หรืออาจจะเพราะมันไม่ค่อยมีแรงสักเท่าไหร่  ซึ่งดูๆ แล้ว  ผมว่ามันน่าจะหิวและกำลังป่วยอยู่นะครับ  ไม่งั้นสภาพมันคงไม่แย่ขนาดนี้หรอก

“ พี่กิจๆ...  มันป่วยอะ  ช่วยพามันไปหาหมอหน่อยได้มั้ย “

ผมหันไปร้องเรียกพี่กิจ  ซึ่งพี่เขาก็เดินเข้ามา  ก่อนจะนั่งลงดูมันข้างๆ ผม

“ นะครับพี่...  มันน่าสงสารมากอะ  นะครับพี่กิจ  น้า.... “

ผมอ้อนพี่เขาไปไม่นาน  พี่กิจก็พยักหน้ารับ  ก่อนจะบอกให้ผมอุ้มมันไปที่รถครับ


..........................................


ที่คลินิกรักษาสัตว์

คุณหมอตรวจเจ้าเหมียวนั่นสักพัก  ก็ออกมาบอกว่ามันป่วยและท่าทางจะอดอาหารมานาน  วันนี้เลยอยากจะให้แอดมิดไว้ที่นี่ก่อน  พรุ่งนี้ค่อยมารับกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านครับ

“ แล้วนี่...ถ้าพรุ่งนี้เอาออกจากคลินิกแล้ว...  จะเอายังไงต่อ  จะเอามันไปไว้ที่ไหน “ 

พี่กิจถามขึ้นขณะที่เรากำลังจะเดินกลับไปที่รถ

“ ก็...เอาไว้ที่ห้องไงพี่...  ถามแปลก... “

“ เห้ย!!  ได้ไง...  ไม่เอาหรอก  พี่ไม่เลี้ยงแมวหรอกนะ “

“ ก็...  อย่างน้อยขอแค่ให้มันดีขึ้นก่อนก็ได้  เดี๋ยวผมค่อยหาบ้านให้มันเอง “

พี่กิจขมวดคิ้วมองมาที่ผมเล็กน้อย  ส่วนผมก็ได้แต่ทำสายตาเว้าวอนอยู่เนืองๆ จนในที่สุดพี่เขาก็ยอมใจอ่อนตกลง  โดยมีข้อแม้ว่าถ้ามันหายดีแล้ว  ก็ให้เอามันไปปล่อยหรือหาบ้านให้มันอยู่ที่อื่น  ซึ่งผมก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายครับ  ขอแค่ให้ผ่านไปให้ได้ก่อน  อย่างอื่นค่อยว่ากันอีกทีหลังครับ


......................................


วันต่อมา....

ผมกับพี่กิจไปรับเจ้าเหมียวนั่นกลับมาที่คอนโดครับ  ซึ่งผมได้เตรียมกระบะทรายและที่นอนของมันไว้ให้แล้วที่ห้องของผม  ทว่าผมที่ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน  เลยได้แต่เปิดๆ ดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น  ว่ามันต้องมีอะไรบ้าง  ช่วงบ่ายผมก็เลยรีบกลับจากมหาลัยฯ เพื่อมาเตรียมรอเอาไว้ก่อน

มันเป็นแมวที่เชื่องมากครับ  ว่านอนสอนง่ายแบบสุดๆ เลย  แต่ตอนนี้มันไม่ค่อยจะมีแรงสักเท่าไหร่  ได้แต่นอนอยู่ที่เบาะนุ่มที่ผมเตรียมไว้ให้เท่านั้น  พี่กิจเดินเข้ามาดูมันเล็กน้อย  ก่อนจะกำชับให้ผมดูแลมันดีๆ  อย่าให้มันไปทำลายข้าวของในห้องด้วย  จากนั้นพี่เขาก็ออกไปนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบต่อที่โซฟา


......................................


ผ่านไป 3 – 4 วันมันก็เริ่มดูดีขึ้นมากครับ  เริ่มอ้วนขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ  ผมตั้งชื่อให้มันว่า ไทเกอร์  เพราะมันเหมือนเสือมากครับ
เชื่อดิ...  ถ้ามันตัวโตนะ  มันก็เป็นเสือดีๆ นี่เอง



…….



“ กันต์!   อ่านหนังสือ...  อย่ามัวแต่เล่นกับแมว “

“ คร้าบๆๆ “

ผมวางไอ้ไทเกอร์ไว้บนโซฟาข้างๆ ก่อนจะหยิบเลคเชอร์และหนังสือแคลคูลัสมาดูเพื่อจะหัดทำโจทย์ต่อ  พอลองทำไปได้สักพัก  มันก็แก้สมการต่อไม่ออก  โครตยากเลยครับ....

ผมเกาหัวหยิกๆ  ก่อนจะเหลือบมองไปยังตัวช่วยที่นั่งอ่านชีทอยู่ที่โซฟาเดี่ยวใกล้ๆ

“ พี่กิจ...  ทำไม่ได้อีกแล้วอะ “

นี่เป็นรอบที่ 3 แล้วครับที่ผมร้องเรียกพี่เขา 

พี่กิจละสายตาจากชีทมามองผมเล็กน้อย  ก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ แล้ววางชีทเรียนลงที่โต๊ะกลางตรงหน้า  จากนั้นก็ลุกเดินเข้ามาหาผมที่โซฟายาว  ซึ่งมีผมกับไอ้ไทเกอร์กำลังนอนอยู่  ผมอุ้มมันขึ้นมานอนบนตัก  เพื่อที่จะให้พี่กิจได้ลงมานั่งข้างๆ

“ ไหน... “ 

พี่กิจหยิบเอากระดาษที่ผมใช้ทำโจทย์ขึ้นมาดู  ก่อนจะ...

“ โอ้ย!! “

เอาดินสอกดมาตีหัวผมครับ….  ( แง่ง !!!! )

“ นี่มันก็โจทย์รูปแบบเดิมที่พี่สอนไปเมื่อกี้นี้ไง  อะไรกัน  สอนไม่จำเลย...  มัวแต่เล่นแมวอะเรา “

โดนดุเลยครับ  ก็มันยากนี่  ดิฟบ้าดิฟบอ...บายพงบายพาร์ทอะไรก็ไม่รู้  มั่วไปหมด...  คือมันยากกว่าแคลเมื่อตอนมอปลายตั้งเยอะ

ก็ใครมันจะไปอัจฉริยะเหมือนคุณชายละคร้าบ....

พี่กิจสอนผมอีกครั้ง  ก่อนจะหยิบเอาหนังสือไปเลือกวงๆ โจทย์ที่น่าสนใจให้ผมลองหัดทำดู

“ 20 ข้อเลยเหรอพี่ “

“ อือ...  แล้วถ้าผิดเกิน 5 ข้อล่ะก็.... “

ถึงจุดนี้...  พี่กิจก็อุ้มไอ้ไทเกอร์ไปนอนบนตักของตัวเอง

“ พี่จะเอาไอ้ไทเกอร์ไปเก็บไว้ในห้อง  แล้วเราก็ต้องทำต่ออีกเท่าตัว “

โหดสัดรัสเซีย!!!!!!

“ โหพี่  โหดไปอะ  10 ข้อได้มั้ย “

พี่กิจยิ้มให้ผมได้ใจชื้น  ก่อนจะตอบมาอย่างหน้าตายว่า... 



“ไม่... “




ผมได้แต่พ่นลมออกจมูกอย่างเซ็งๆ ใส่คนตรงหน้า  ซึ่งกำลังหยิบชีทเรียนขึ้นมาอ่านต่อ  โดยมีไอ้ไทเกอร์นอนสบายอยู่บนตัก




................



“ เสร็จสักที... “

ผมโยนดินสอกดลงบนกระดาษ  ก่อนที่พี่กิจจะหันมามองผมหน้านิ่ง  และทำท่าว่าจะลุกขึ้นมาเอามันไปตรวจคำตอบดู  แต่กลับถูกผมเบรคเอาไว้ก่อน

“ เดี๋ยวก่อนคร้าบ...  ถ้าผมผิดไม่เกิน 5 ข้อ...  มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันบ้างนะคร้าบโผม... “

พี่กิจมองผมเหมือนกำลังชั่งใจ  ก่อนจะถามว่าผมจะเอาอะไร  ผมจึงตอบพี่เขาไปครับ

“ พาไปหาอะไรอุ่นๆ กินหน่อยน้า...  ยิ่งดึกมันก็ยิ่งหิวอะพี่ “

พี่กิจเลิกคิ้วตอบตกลง  ก่อนจะเริ่มตรวจคำตอบและวิธีทำของผม 

สุดท้าย...  ด้วยความอัจฉริยะของผม  ก็ทำให้สามารถออกไปหาอะไรกินรอบดึกได้ 

เย้!!!!



................................



เรากลับเข้าห้องมากันอีกทีก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ  มาถึงพี่กิจก็เดินเข้าห้องนอนเลย  ส่วนผมก็ว่าจะกลับมาดูโจทย์ที่ทำเมื่อกี้อีกสักหน่อย  เผื่อว่าข้อไหนผิดจะได้ให้พี่เขาอธิบายต่อให้ในวันพรุ่งนี้  แต่พอลองเช็คดูเท่านั้นแหละครับ  ผมนี่ถึงกับยิ้มแก้มแทบปริเลย

เพราะอะไรรู้มั้ย...?

ก็เพราะว่า... 

จริงๆ แล้ว...  ผมถูกแค่ 13 ข้อเองครับ  แต่พี่กิจก็ยังพาผมออกไปหาอะไรกินมื้อดึกอยู่ดี... 

แค่พี่เขาดีกับผมแบบนี้  ผมก็มีความสุขมากแล้วล่ะครับ

“ ปะไทเกอร์  เราไปนอนกันดีกว่า “

ว่าจบผมก็อุ้มมันเดินเข้าไปนอนในห้องทันที  ก่อนจะวางมันลงบนเบาะตรงมุมห้อง  ใกล้ๆ โต๊ะเขียนหนังสือครับ  แต่พอผมล้มตัวลงนอนเท่านั้นแหละ  มันก็เดินเข้ามา  แล้วกระโดดขึ้นมานอนที่หมอนอีกใบข้างๆ ผมทันที

ขี้อ้อนชะมัดเลย...



.................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 25/02/2561 update chapter 28 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 01-03-2018 22:43:09
เช้าวันต่อมา

เช้าวันอาทิตย์อย่างนี้  หลังจากออกกำลังกายกับพี่กิจเสร็จ  ก็ต้องทำมื้อเช้าอร่อยๆ กินครับ  แต่ก่อนอื่น...  ผมต้องหาอาหารให้ไทเกอร์มันก่อน  และไม่รู้ว่ามันหิว  หรือว่าความรู้อยากเห็นของมันกันนะ  ถึงได้มานั่งมองผมกับพี่กิจออกกำลังกายกันตั้งแต่เช้าเลย  ยิ่งตอนที่พี่กิจซิทอัพด้วยแล้ว  มันก็ไปนั่งอยู่ตรงปลายเท้ามองอย่างสนใจเชียวล่ะครับ

“ กันต์...  อาหารเม็ดก็พอแล้วมั้ง  ไม่เห็นต้องทอดปลาทูให้มันเลย “ 

เสียงพี่กิจที่นั่งอ่านหนังสือรออาหารเช้าจากผม  ดังขึ้นมาจากทางโซฟาของห้องรับแขกครับ

“ ก็ช่วงนี้มันป่วยอะพี่  ก็ต้องบำรุงมันหน่อย  เนอะไทเกอร์เนอะ “
 
แล้วมันก็ร้องเหมียวๆ ให้ได้ยินขณะที่กำลังนั่งรอผมทอดปลาทูอยู่ที่ห้องครัวตอนนี้

“ แต่พี่หิวแล้วนะ “

“ ทำเป็นเด็กไปได้พี่  อดทนหน่อยดิ  เดี๋ยวก็เสร็จแล้วเนี่ย “

“ ให้เวลา 20 นาทีนะ  ถ้ามื้อเช้าพี่ยังไม่เสร็จ  วันนี้จะไม่ติวแคลให้ “

ซวยแล้วไงผม...  ถ้าพี่เขาไม่ติวให้ล่ะก็...  แย่แน่ !!  เพราะแคลมีสอบวันพรุ่งนี้ด้วยสิครับ

“ คร้าบๆๆ.... “



........................



บ่ายวันนี้พวกเรามีนัดติวแคลกันที่มหาลัยฯครับ  โดยมีพี่กิจเป็นคนติวให้

เราใช้ห้องเรียนที่ตึกภาควิชาอุตสาหการ  ซึ่งไม่ได้ปิดตึกในวันหยุด  แต่จะมีพี่ รปภ. เฝ้าอยู่ที่ชั้นล่าง  พี่เขาค่อนข้างจะคุ้นเคยกับพี่กิจดี  และอนุญาตให้พวกเราเข้าตึกได้  ซึ่งปกติเขาจะให้แต่เฉพาะนักศึกษาชั้นปี 3 และ 4 ที่มาทำ pre-project หรือ project เท่านั้นที่เข้าได้ในเวลานี้  โดยที่มากันในวันนี้  ก็จะมีแต่เฉพาะกลุ่มของพวกผมกับพี่กิจเท่านั้นครับ 

ถึงจุดนี้  ความเทพของพี่กิจที่เคยได้ยินมา  ก็ประจักแก่สายตาของเพื่อนๆ ในกลุ่มผมแล้วครับ  นี่ขนาดว่าเป็นวิชาที่เรียนมานานแล้วด้วยนะ  พี่เขายังจำได้เลย  แถมยังอธิบายมันอย่างกับเป็นเรื่องหมูๆ เสียอย่างนั้น

จบจากติวพี่กิจก็พาไปเลี้ยงขนมที่ร้านกาแฟข้างๆ มหาลัยฯ ครับ  สาวๆ นี่มองโต๊ะพวกผมกันเป็นตาเดียวเลย  แต่ผมดูจะเริ่มชินกับสิ่งเหล่านี้ไปเสียแล้วล่ะครับ


........................


“ เย็นนี้อยากกินอะไร “ 

พี่กิจถามขึ้นมาทันทีที่เข้ามาภายในรถ  หลังจากที่แยกย้ายกับกลุ่มเพื่อนๆ แล้ว

“ กลับไปกินที่ห้องละกันพี่  เป็นห่วงไอ้ไทเกอร์มัน “ 

ผมบอกไปครับ  จริงๆ ทั้งห่วงและคิดถึงมันด้วยนั่นแหละ  เพราะหลายวันมานี้  มันมานัวเนียกับผมและพี่กิจ  จนผมรู้สึกว่าจะรักและผูกพันกับมันเข้าให้แล้วละครับ...

“ ห่วงแต่แมวเนี่ย...  อีกหน่อยคงไม่ห่วงพี่แล้วล่ะมั้ง “

“ อะไรพี่  อิจฉาแมวเหรอ “

“ ใครจะไปอิจฉาแมว  บ้าป่าว... “

“ ก็ดีแล้ว  นั้นเอาเป็นว่า...  กินที่ห้องนะพี่  พี่กิจอยากกินอะไรว่ามาเลย  เดี๋ยวผมทำให้  ในตู้เย็นก็พึ่งซื้อของเข้ามาเพียบ “

ผมว่าจบก็เห็นสายตาเซ็งๆ ของพี่เขามองมา  แต่ก็ยอมกลับห้องแต่โดยดีครับ


.....................................


ที่คอนโด

ช่วงนี้ผมค่อยข้างจะมีเมนูปลาเยอะเป็นพิเศษ  ส่วนหนึ่งเพราะผมจะแบ่งให้ไอ้ไทเกอร์มันกินครับ  อย่างค่ำนี้ก็เหมือนกัน  ที่อาหารเย็นเป็น  แซลมอนทอดน้ำปลา กับ ต้มยำปลากะพง 

“ ปลาอีกแล้วนะ “ 

พี่กิจพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะกินข้าวตัวเล็กในห้องครัว

“ ปลามีประโยชน์มากนะพี่  เนี่ยจะสอบอยู่แล้ว  เราจะได้บำรุงสมองกัน “

“ เหรออออออ “

พี่กิจทำเสียงเหมือนไม่เชื่อครับ  ก่อนจะนั่งลง  ผมจึงตักข้าวสวยร้อนๆ ส่งให้ไป

“ จริงดิพี่  ทำเสียงเหมือนไม่เชื่อผมงั้นแหละ “

“ ก็ดี...  ถ้าเราห่วงตัวเองและพี่  ไม่ใช่ไอ้เหมียวนั่น “

แน่ะ...  รู้ทันอีก

...........

“ เออว่าแต่...  หาบ้านให้มันได้รึยัง “
 
จู่ๆ พี่กิจก็ถามขึ้นมาขณะที่เรากำลังทานอาหารกันอยู่ครับ

“ พี่จะไล่มันไปจริงๆ เหรอ... “ 

ผมทำเสียงเศร้าและหน้าตาหงอยๆ มองพี่เขาไปอย่างขอร้อง

“ ก็เราตกลงกันแล้วนี่  ว่าจะให้มันพักอยู่ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น “

“ พี่ไม่สงสารมันเหรอ.... “ 

ผมยังคงอ้อนพี่เขาต่อไปครับ



“ ไม่.. “



ตอบได้หน้าตายและเย็นชามากๆ 

คนบ้าอะไรวะ  ใจร้ายเป็นบ้าเลย

ผมทำหน้าบึ้งใส่  ก่อนจะตักปลาทอดส่งให้ไอ้ไทเกอร์มันกินครับ

เฮ้อ... 

แล้วแบบนี้ผมควรจะทำยังไงดีเนี่ย  ถึงจะทำให้พี่กิจใจอ่อนได้....





TBC.


--------------------------------------------------------------

แด่อิเหมียว...  ที่จากไปเพราะความใจร้ายของคน....
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-03-2018 22:47:36
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-03-2018 22:51:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-03-2018 23:02:55
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2018 01:38:45
ไทเกอร์ ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อพี่กิจ รับรองพี่กิจเลี้ยงจนตายไปข้างหนึ่งเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 02-03-2018 02:20:03
มาอีกมะไหร่. เร็วๆๆนะคิดถึงอยากอ่านตอนะคับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 02-03-2018 07:05:23
เขียนดีนะคะ บรรยายได้เห็นภาพตามนั้น
และลงแต่ละตอน อ่านจุใจแบบไม่มีกั๊กเลย

จะเฝ้ารออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-03-2018 20:11:39
ไทเกอจะโดนไล่แล้วหรอ
เหมือนพี่กิจแอบอิจฉาแมวนะ ที่น้องมันสนใจแต่แมว ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-03-2018 23:15:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-03-2018 15:41:38
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-03-2018 21:57:24
Chapter 30




กันต์'s  Part




เช็ดตาม่อน!!!!!!!!!!!!!!!!!

พี่กิจแม่งโครตเทพเลยครับ  ที่เกร็งข้อสอบแคลไว้  มันออกหมดเลย...  งานนี้พวกผมเลยออกห้องสอบมากันหน้าบานทุกคน

จากนั้นพวกเราก็ไปฉลองกันที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ กินขนมกันก่อนกลับครับ  เพราะยังต้องอ่านหนังสือสอบกันต่ออีก...

 
เฮ้อ....


...............................


ที่คอนโด  ช่วงหัวค่ำ...

“ นี่กันต์!  อ่านหนังสือได้แล้ว “

พี่กิจที่นั่งอ่านชีทเรียนอยู่ที่โซฟา  จี้ให้ผมอ่านหนังสือเป็นรอบที่ 3 แล้วครับ

“ คร้าบๆๆ “

“ ครับก็วางมันลงแล้วหยิบชีทขึ้นมาอ่านได้แล้ว  เคมีปี 1 มันเนื้อหาเยอะนะ  แถมยากกว่ามอปลายอีก “

“ คร้าบๆๆ “

ขี้บ่นจริง... คนอะไร  ขอพักเล่นกับไทเกอร์มันหน่อยก็ไม่ได้

“ โอ้ย!! “

จู่ๆ  พี่กิจก็เอาชีทที่อ่านอยู่  ม้วนๆ มาตีหัวผมครับ

“ บอกให้อ่านหนังสือ...  เอามานี่ “

พี่กิจทำเสียงเข้ม  ก่อนจะอุ้มไอ้ไทเกอร์กลับไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวของแก  แล้วอ่านหนังสือต่อ  โดยไม่สนใจผมที่ทำหน้ามุ่ยมองอยู่ตรงนี้เลย

อ่านไปได้สักพักก็เหมือนจะไม่รู้เรื่องครับ  ทั้งๆ ที่เป็นเนื้อหาที่เรียนมาแล้วตั้งแต่ตอนมอปลายทั้งนั้น  แถมอาจารย์ก็สอนเหมือนจะง่ายๆ เข้าใจได้ไม่ยาก  แต่พอลองทำโจทย์ดูเท่านั้นแหละ..  หึๆๆ

ผมมองไปยังตัวช่วยที่นั่งไขว่ห้าง  มือนึงถือชีท  อีกมือก็ลูบหัวแมวไปด้วย  มาดคุณชายชัดๆ ( แต่ก็เป็นคุณชายจริงๆ นั่นแหละ )  แถมดูจะชิลๆ ไม่หัวฟูเหมือนผมเลยสักนิด


พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย  สร้างคนมา  ไหงความสามารถมันถึงได้ต่างกันขนาดนี้ว้า!!!!


“ พี่กิจ... “

“ หือ... “

“ ไม่เข้าใจอะ  ติวให้หน่อยน้า... “

พี่กิจละสายตาจากชีทแล้วหันมามองผมด้วยสายตาเนือยๆ  แต่ไม่ทันที่พี่เขาจะว่าอะไร  เสียงโทรศัพท์พี่เขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน 
เท่าที่ฟังดู...  ก็พอจะจับใจความได้ว่า  เพื่อนๆ พี่เขากำลังรอให้พี่เขาไปช่วยติวให้อยู่  ซึ่งพี่กิจก็ตอบตกลงไปอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ



………………………….



ที่ตึกภาควิชาอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์

อ่านหนังสืออยู่ในห้องดีๆ ก็โดนลากออกมาอ่านที่คณะครับ  พี่กิจบอกว่าปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้ไทเกอร์มันแบบนั้น  ผมไม่ได้อ่านหนังสือแน่ๆ  เลยลากผมออกมาอ่านหนังสือกับพวกพี่ๆ เขาด้วย  ซึ่งผมก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อเสบียงติดไม้ติดมือมาด้วยนะครับ  และก็ไม่พ้นพวกช็อคโกแลตกับน้ำอัดลมเหมือนเดิม


.........................


ที่ห้องเรียนห้องหนึ่งภายในตึก..

ที่นี่มีกลุ่มรุ่นพี่ที่ผมคุ้นหน้าบ้างไม่คุ้นหน้าบ้างอยู่สิบกว่าคนครับ  แต่แก๊งพี่กิจนี่มากันครบเลย  พอพี่กิจเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ  พี่คิมก็ร้องทักขึ้นมาทันที

“ มาช้าเลยนะมึง  เร็ว!  พวกกูจะไม่รอดกันอยู่แล้วเนี่ย “

“ ก็มัวรอกันต์มันซื้อของอยู่  อีกอย่าง...ไอ้บิวก็อยู่  มึงก็ให้มันติวให้ดิวะ “

“ ถ้าไอ้บิวมันอธิบายได้ง่ายๆ เหมือนมึง  กูก็คงไม่เรียกมึงมาหรอก  เร็วๆ เดี๋ยวดึก “

“ อ้าว! น้องกันต์มาด้วยเหรอครับ “
 
เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งทักขึ้นมาครับ  จากนั้นผมก็ถูกรุมล้อมด้วยกลุ่มรุ่นพี่  ทั้งแซวทั้งชวนมานั่งด้วย  แถมยังเอาขนมของพวกพี่ๆ เขามาแบ่งให้ผมอีกตั้งเยอะ 

รู้อย่างนี้ไม่น่าเสียตังซื้อมาก็ดี.....  ประหยัดเงินตั้งเยอะ...

“ พอๆ พวกมึง  จะติวกันไม่ใช่เหรอ  ปล่อยกันต์มันอ่านหนังสือได้แล้ว “

แล้วพี่กิจก็ทำเสียงเข้มบอกเพื่อนๆ มาครับ  จากนั้นพวกพี่ๆ เขาก็กลับไปนั่งที่โต๊ะกันหมด  เหลือเพียงแค่พี่พีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ตรงนี้กับผมทางด้านหลังห้อง

“ สอบอะไรอะเรา... พรุ่งนี้ “

“ เคมีอะพี่  โครตยากเลย... “

“ พี่ติวให้มั้ย “

“ จริงอะ  ดีเลย  พี่กิจไม่ยอมติวให้ผมอะ “

“ ไหนๆ  จะสอบเรื่องไหนบ้าง “

แล้วผมก็ส่งเลคเชอร์กับชีทเนื้อหาที่เรียนไปให้พี่เขาเปิดดูผ่านๆ ครับ  พอผมเหลือบไปมองทางด้านพี่กิจ  ก็เห็นพี่เขากำลังจ้องมาตาเขียวปั๊ดเลย  ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจผมแล้วเริ่มติวต่อให้เพื่อน


.....................


ผมนั่งทำโจทย์ที่พี่เขาเกร็งไว้ให้สักพักก็เริ่มมึนครับ  เลยขอพักสักแปบ  ซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร  ไม่เหมือนพี่กิจเลยสักนิด  โครตจะใจดีอะ  เพราะถ้าเป็นพี่กิจนะ...  ถ้าไม่ดุ  ก็เขกหัวผมไปนานละ

“ นี่พี่พี  แมวผม..  น่ารักมั้ย “

ผมเปิดรูปไอ้ไทเกอร์ที่ถ่ายไว้ในมือถือให้พี่เขาดูครับ  อยากอวดอะครับ  ไม่มีอะไรมาก  อิอิ

“ น่ารัก  ไปเอามากจากไหนอะ  ว่าแต่...  ไอ้กิจมันยอมให้เลี้ยงได้ยังไงเนี่ย “

“ เจอมันข้างทางอะพี่  มันป่วยอยู่เลยพาไปหาหมอ  แล้วก็เอามาพักฟื้นที่ห้อง  เนี่ย...  กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำไงให้พี่กิจยอมให้เลี้ยงได้ “

“ แค่มันให้เอาสัตว์เข้าห้องได้นี่ก็แปลกมากแล้วนะ  จะให้เลี้ยงเลยนี่คงต้องคิดหนัก “

“ นั่นดิพี่...  พี่พีช่วยคิดหน่อยนะ “

ผมทำหน้าอ้อนๆ ขอพี่เขาไปครับ  แล้วพี่เขาก็อมยิ้มมองผมมาขำๆ


“ ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองหรอก..  พี่ไม่ให้เลี้ยงแน่นอน “

แล้วจู่ๆ  น้ำเสียงเรียบๆ ของคนหัวใจเย็นชาก็ดังขึ้น  พร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาถึงยังหลังห้อง  ซึ่งผมกับพี่พีกำลังนั่งกันอยู่

“ เห็นมั้ยพี่พี  เพื่อนพี่อะ...  โครตใจร้ายเลย  ไม่สงสารสัตว์ตัวน้อยๆ ตาดำๆ เลยสักนิด “

ผมมองพี่กิจไปแบบค้อนๆ  ซึ่งพี่เขาก็ได้แต่กระตุกยิ้มดุๆ ที่มุมปากส่งมาให้เท่านั้น

“ ถ้ากิจมันไม่ให้เลี้ยง  กันต์ก็เอามาให้พี่เลี้ยงแทนก็ได้นะ  แต่เราต้องมาเยี่ยมมันบ่อยๆ ด้วยล่ะ “

“ ได้จริงอะพี่ “

“ จริงดิ “


“ แฮ่ม!! “

แล้วพี่กิจก็กระแอมขึ้นมาขัดจังหวะพอดี

“ อ่านหนังจบแล้วเหรอ...  แล้วมึงก็ด้วยไอ้พี  เรียกกูมา...ไม่ติวรึไง “

ขัดจังหวะจริงๆ คนเรา  ผมกำลังจะหาบ้านให้แมวผมแท้ๆ  แถมยังมองมาซะตาเขียวปั๊ดเลย  แค่ไม่อ่านหนังสือเนี่ยนะ  เคี่ยวเป็นบ้าเลยคนเรา...

“ กูอ่านจบแล้ว  อีกอย่าง Work study คะแนนเก็บกูก็ดีอยู่แล้ว  มึงไม่ต้องห่วงหรอก “  พี่พีหันไปตอบพี่กิจครับ

“ แล้วเราล่ะ  คิดว่าจะรอดรึไง...  เคมีวันพรุ่งนี้น่ะ “
 
เอากับพี่พีไม่ได้  ก็หันมาลงที่ผมซะงั้น

“ ก็พี่พีติวให้อยู่เนี่ย “

“ ติวอะไร...  เห็นนั่งคุยกันอย่างเดียว “ 

แหม...ติวอยู่ไม่ใช่เหรอคร้าบ....  แล้วรู้ได้ไงว่าผมนั่งคุยเล่นอยู่กับพี่พี

“ ป่าวสักหน่อย  แค่พักนิดเดียวเอง  ถามพี่พีก็ได้ “ 

ว่าแล้วผมก็หันไปขอกำลังเสริมครับ

“ อื้ม....  มึงไม่ต้องห่วงหรอก  กูติวให้น้องมันเอง  ส่วนมึงไปช่วยไอ้พวกนั้นต่อเหอะ “

พี่พีพูดจบ  พี่กิจก็เหลือบมามองผมตาขวางเลยครับ  รู้สึกกลัวๆ ขึ้นมาแล้วสิครับเนี่ย... 

ว่าแต่...  นี่ผมทำอะไรผิดตรงไหนหว่า  นึกไม่ออกเลยครับ  แต่ที่แน่ๆ สายตาพี่กิจแบบนี้  ชักไม่ค่อยน่าไว้วางใจเลยครับ

จากนั้นพี่กิจก็เดินกลับเข้าไปยังกลุ่มเพื่อนๆ แถวหน้าห้องเรียนครับ  ส่วนผมก็กลับมานั่งมึนกับโจทย์เคมีต่อ  เพราะถึงจะมีพี่พีมาอธิบายให้  แต่มันก็ไม่ได้เข้าใจง่ายๆ เหมือนตอนที่พี่กิจอธิบายให้ฟังอยู่ดี...  แล้วแบบนี้  วันพรุ่งนี้ผมจะรอดมั้ยเนี่ย..  คิดแล้วก็ชักกลุ้มขึ้นมาบ้างแล้วละครับ


เกือบๆ เที่ยงคืนผมกับพี่กิจก็เตรียมตัวกันกลับครับ  ซึ่งจริงๆ แล้วผมเผลอหลับไปตั้งแต่ 5 ทุ่มกว่าแล้วด้วยซ้ำ  จนพี่กิจมาสะกิดให้ตื่นนั่นแหละ  ถึงได้เดินงัวเงียตามพี่เขามาต้อยๆ จนถึงรถ  ซึ่งพี่เขาก็เดินเอาๆ ไม่รอผมเลยสักนิด  ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา

…..

ภายในรถ

ในเมื่อเงียบไม่อยากพูดกับผม  ผมก็ไม่พูดบ้าง  นอนเลยละกัน  ยิ่งง่วงๆ อยู่ด้วย

ว่าแล้วผมก็หลับตานอนพิงพนักทันที  จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงไออุ่นและการขยับเขยื้อนตรงหน้านั่นแหละ  ถึงได้ผงะตัวลืมตาขึ้นมามอง


“ เห้ย!.. “ 


ใบหน้าพี่กิจอยู่ห่างกับผมไม่ถึงคืบ  ดวงตานิ่งๆ แต่ทรงเสน่ห์มองผมนิ่ง

“ ทะ..ทำอะไรพี่ “

“ ก็คาดเบลให้ไง “

พี่เขาตอบมาเสียงเรียบๆ  แต่ก็ยังคงไม่ยอมขยับตัวออกห่างไปจากผม

หายใจไม่ทั่วท้องเลยครับ  ไออุ่น  กลิ่นกายและสายพี่เขา  ทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับตอนนี้

ไม่นานพี่กิจก็ขยับตัวกลับไปนั่งยังตำแหน่งคนขับตามเดิม  ผมถึงได้หายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อย  แต่ก็ยังคงรู้สึกเขินๆ  ไม่กล้าหันไปมองหน้าพี่เขาอยู่ดี

“ เป็นไง...  ให้ไอ้พีติวให้...  ดีกว่าที่พี่ติวให้มั้ยล่ะ “

ก็นึกว่าจะไม่พูดกับผมแล้วซะอีก

“ ก็ดีครับ  พี่พีเขาไม่ดุผมเลยสักนิด “

“ แล้วพี่ไปดุเราตอนไหน “

ถึงตรงนี้ผมก็หันหน้าไปสู้กับพี่เขาก่อนจะเริ่มเถียงต่อครับ

“ ไม่ดุเล้ยยยยย “ 

ประชดครับ  ก่อนจะยู่หน้าและพ่นลมออกจมูกให้ไป  แล้วหันหน้าออกไปมองยังนอกหน้าต่างรถแทน

“ คิดว่าพี่ดุจริงๆ เหรอ ? “ 

น้ำเสียงพี่เขาดูอ่อนลงมาครับ  แต่ผมก็ยังคงไม่หันหน้าไปมองพี่เขาอยู่ดี 

จริงๆ ฟังจากน้ำเสียงแล้วผมก็แอบรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ นะครับ  เพราะที่พี่เขาเข้มงวดกับผมก็เพื่อตัวผมเองทั้งนั้นแหละ  ลองไม่เข้มงวดนะ  บอกเลย..  อ่านไม่จบแบบนี้หรอก

“ กันต์... “

“ …… “

“ ถ้างั้นต่อไป.. “

“ เปล่า!! “

ผมรีบตัดบทขึ้นทันที  ก่อนที่พี่กิจเขาจะพูดต่อ 

เพราะผมกลัวว่าพี่เขาจะไม่สนใจผมอีกเหมือนตอนนั้น... 

ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นครับ....

“ คือ...  แบบนี้ก็ดีแล้ว.. “

พี่กิจมองผมแบบงงๆ  ผมเองก็งงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน   ก็แค่ไม่อยากให้พี่เขาเลิกสนใจผมไปก็เท่านั้นเอง....

“ แล้วเรื่องแมวนี่.. จะให้ไอ้พีมันเลี้ยงจริงๆ เหรอ “

ผมหันมามองพี่เขาก่อนจะทำสายตาละห้อยขอร้อง

“ เลี้ยงมันไม่ได้เหรอ.. พี่กิจ... “


“ ไม่...  “

ไอ้คนเลือดเย็น!....




..............................




ผ่านไป 1 สัปดาห์  การสอบกลางภาคก็ผ่านพ้นไป... 

จากนี้ไปผมคงจะได้นอนหลับเต็มอิ่มเสียที  ไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนอ่านหนังสือกันวันต่อวัน  วิชาต่อวิชาแบบนี้อีกแล้ว...

คือที่ผมต้องอ่านหนังสือหนักเป็นพิเศษอย่างนี้  ก็ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวคะแนนจะแย่อะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ  แต่เพราะพี่กิจขู่เอาไว้แล้วว่า  ถ้าผมตกมีนแค่สักวิชาเดียว...  ผมโดนดีแน่...  ก็อย่างที่รู้ๆ ว่าพี่กิจเวลาเอาจริงน่ากลัวขนาดไหน..


กลืนน้ำลายแปบ...


เย็นนี้ที่ชมรมแบดมินตันเริ่มกลับมาซ้อมกันตามปกติแล้วครับ  ขณะที่ผมกับไอ้ธันกำลังเอาของไปเก็บและเปลี่ยนชุดกันอยู่ที่ล็อคเกอร์  จู่ๆ ไอ้เคมันก็เดินเข้ามาหาพวกผมครับ

“ เฮ้ย....นาย! “

สรรพนามแม่งแปลกๆ 

นายเหรอ...  ปกติมันเรียกพวกผมแต่มึงๆๆ...แค่นั้น  วันนี้มาแปลกแฮะ

ผมที่กำลังนั่งบนเก้าอี้ยาวมัดเชือกรองเท้าอยู่  เงยหน้ามองมันอย่างแปลกใจ  เพราะปกตินอกจากมันจะเขม่นพวกผมแล้ว  มันไม่เคยเข้ามาพูดคุยกับพวกผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว 

“ แมวที่นายถ่ายลง IG นั่น..  นายเอามาจากไหน “

มันคงจะหมายถึงไอ้ไทเกอร์อะครับ  เพราะช่วงนี้มันอ้วนขึ้นมากและผมก็ชอบอวดชาวบ้านโดยการถ่ายรูปลง  IG อยู่บ่อยๆ  ว่าแต่.... มันไปรู้ IG ผมได้ยังไงกันละเนี่ย...

“ ทำไม... “  ผมถามมันกลับไปสั้นๆ ครับ

“ ก็อยากรู้..  นายเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆ เลยเหรอ “

“ เปล่าอะ  พึ่งเจอมันหลงทางมา  แล้ว.. มันทำไม “

“ ก็เปล่า..  พอดีกูเห็น...  เอ่อ...  ภาพมึงในเพจคิ้วบอยของมหาลัยฯ ที่ถ่ายรูปกับแมวน่ะ  ก็เลยถามดู “

อ่อ..  ที่แท้มันก็เห็นจากเพจคิ้วบอยของมหาลัยฯ นั่นเอง  เพจที่รวมเอาคนหล่อๆ สวยๆ ของมหาลัยฯ ผมอะครับ..

ซึ่งจะว่าไปการที่ผมได้ลงในนั้นก็แปลว่า  ผมนี่ก็หล่อใช่ย่อยเลยนะเนี่ย...อิอิ

“ แล้ว... “

“ ก็เผื่อมันจะเป็น...  แมวของกู “

จบประโยคที่มันว่ามา  ก็ทำเอาผมชะงักมือที่กำลังจะใส่รองเท้าอีกข้างขึ้นทันที

ลึกๆ แล้ว  ผมกลัวว่าสิ่งที่มันพูดมาอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้  เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว...  ผมอาจจะต้องเสียไอ้ไทเกอร์ไปก็เป็นได้

แต่มันคงจะไม่โลกกลมขนาดนั้นหรอกมั้งครับ  ว่ามั้ย...

“ แล้ว..  ใช่มั้ยล่ะ “

ผมลองเสี่ยงถามดูครับ  พร้อมกับอดหวั่นใจในคำตอบของมันอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

มันอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะตอบออกมา...

“ ใช่... “

สั้นๆ แค่นั้น  แต่ทำเอาผมท้องไส้ปั่นป่วนไปเลยทีเดียว....

ผมรีบใส่รองเท้าให้เสร็จทันที  และสะกิดบอกไอ้ธันให้ออกไปจากห้องล็อคเกอร์ให้เร็วที่สุด  โดยไม่หันไปมองยังไอ้เคมันเลยแม้แต่น้อย


“ กูขอคืนได้มั้ย!! “



เสียงมันตระโกนตามหลังมา  ขณะที่พวกผมกำลังจะก้าวออกไปจากห้องล็อคเกอร์  ผมชะงักเท้าอยู่ครู่หนึ่ง  แต่ก็ไม่ได้หันไปตอบหรือแม้แต่มองมันเลยสักนิด... 

ผมยังสับสนกับสิ่งที่ได้ยินอยู่ในตอนนี้....


............................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/03/2561 update chapter 29 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-03-2018 22:08:03
กิจ‘s  Part




จบจากซ้อมบาสที่ชมรมเสร็จ  ผมก็ขับรถไปยังคอร์ดแบดทันที  เพื่อไปรับกันต์มันครับ  ผมไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ผมกลายเป็นสารถีขับรถให้มันไปตั้งแต่เมื่อไหร่  แค่รู้สึกไม่ไว้ใจที่จะให้มันกลับห้องคนเดียว  ที่สำคัญ.. 

ผมรู้สึกว่า...  ผมอยากทำ...

ระหว่างที่ขับรถไป  ผมก็คิดไปถึงเรื่องที่มันชอบขอผมอยู่เรื่อยช่วงนี้  ก็เรื่องแมวนั่นแหละครับ  คือมันตื๊อจะให้ผมอนุญาตให้เลี้ยงมันให้ได้เลย...

ถึงแม้ว่าไอ้ไทเกอร์มันจะน่ารักและขี้อ้อนมากก็จริง  แต่ผมก็ไม่สะดวกเลยที่จะเลี้ยงมันเอาไว้ที่คอนโด  อย่าว่าแต่เลี้ยงเลยครับ  ปกติผมไม่เอาสัตว์เข้ามาในห้องเลยด้วยซ้ำ  ถ้าไม่ใช่เพราะมันนะ...  ผมไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้หรอก

2 – 3 วันนี้  ผมคิดเรื่องนี้มาโดยตลอด  ว่าจะทำยังไง  ครั้นจะเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านก็คงไม่ได้  เพราะหมา  4  ตัวที่บ้านผมคงขย้ำมันตายแน่  หรือเรื่องที่ไอ้พีมันขันอาสาจะรับไปเลี้ยงนี่ยิ่งไม่มีทางครับ  เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น  กันต์มันก็คงจะไปหาไอ้พีมันบ่อยๆ แน่...


ไม่มีทาง!!...


ที่ต้องคิดมากเพราะผมห่วงความรู้สึกของกันต์มันครับ  ช่วงนี้เลยยอมให้มันเลี้ยงไว้ที่ห้องไปก่อน...   แต่จะให้ถาวรเลยก็คงจะไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ  ด้วยหลายๆ ปัจจัยที่มันไม่สะดวก...

คิดวนไปวนมาก็เข้ามาถึงคอร์ดแบดแล้วครับตอนนี้ 

ผมเดินเข้ามาภายในโรงยิมก็ไม่เห็นเขาซ้อมกันแล้วล่ะครับ  สงสัยคงจะซ้อมกันเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว  แต่มองหากันต์มันยังไงก็มองไม่เห็น  สงสัยคงอยู่ในห้องล็อคเกอร์ล่ะมั้งครับ

ผมนั่งเล่นโทรศัพท์รอมันอยู่ที่เก้าอี้ข้างสนามไม่นานก็เห็นมันสะพายเป้เดินดุ่มๆ ออกมาจากทางห้องล็อคเกอร์  แถมสีหน้ายังบูดๆ อีก 

เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย...

มันมองเห็นผมนั่งรออยู่  แต่ก็เดินเลยผ่านไปเท่านั้น  ท่าทางจะหงุดหงิดอะไรมาสักอย่างจริงๆ นั่นแหละ 

ผมเลยเดินตามมันออกไปติดๆ  จนเข้ามานั่งกันในรถแล้วนั่นแหละ  ผมถึงได้เริ่มถามขึ้น...

“ ไปกินรังแตนที่ไหนมาอีกล่ะเนี่ย “

แนะ...  มองผมมาแบบหาเรื่องด้วย  อย่างนี้ที่บ้านผมเรียกว่าพาลครับ

เมื่อมันไม่ตอบอะไร  ผมก็เลยได้แต่ขับรถออกไป  รอมันอารมณ์เย็นลงหน่อย  ผมค่อยถามมันใหม่ละกัน


ผมพามันไปกินอาหารญี่ปุ่นของโปรดมัน  เผื่อมันจะรู้สึกดีขึ้นสักหน่อยก่อนกลับห้องครับ  และก็เป็นอย่างที่คิด  คือถึงปกติเวลามันอยู่กับคนอื่นจะทำตัวเก่งและเข้มแข็งแค่ไหน  แต่ลึกๆ แล้ว  มันก็ยังเป็นเด็กอยู่ดีนั่นแหละครับ  เอาขนมหรืออาหารมาล่อสักหน่อย  เดี๋ยวก็อารมณ์ดีขึ้นเองแหละ

“ แล้วจะเล่าได้รึยัง  ว่าไปเจออะไรมา “

ผมถามขึ้น  เมื่อเห็นมันเริ่มอิ่มครับ  มันดูลังเลที่จะเล่าอยู่เล็กน้อย  แต่สุดท้ายก็ยอมเล่าให้ฟังแต่โดยดี

สรุปใจความได้ว่า  ตอนนี้มันเจอเจ้าของไอ้ไทเกอร์แล้วล่ะครับ  ซึ่งพอเขามาขอคืน  มันก็เลยหงุดหงิดไม่อยากคืนอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ


เห้อ...  เด็กหนอเด็ก 


แต่ก็เข้าใจมันนะครับ  เพราะกันต์มันก็รักของมันมาก  ขนาดผมเอง...  ลึกๆ แล้ว  ก็ยังชอบมันเลย  ถึงได้คิดหนักเรื่องที่อยู่ใหม่ของมันอยู่แบบนี้  เพื่อที่ผมกับกันต์จะได้ไปเยี่ยมมันได้บ่อยๆ



...................................



วันต่อมา

วันนี้กันต์มันงอแงครับ  บอกว่าจะไม่ไปซ้อมแบดที่ชมรม  อ้างว่าปวดหัวไม่สบาย  แต่จริงๆ แล้วมันแค่ไม่อยากไปเจอไอ้เคเจ้าของแมวตัวจริงก็เท่านั้นเอง

ถึงจะเป็นเรื่องง๊องแง๊งของเด็กๆ  แต่สุดท้าย...  เที่ยงนี้ผมก็มายืนอยู่ที่หน้าคณะเภสัชฯ ไปเสียแล้ว 

ผมว่าจะลองมาคุยกับไอ้เคมันดูครับ

หลังจากถามคนนั้นคนนี้ไปทั่ว  ผมก็หาคนที่ผมต้องการจะเจอพบแล้วล่ะครับ  ผมเดินเข้าไปหาไอ้เคมันในกลุ่มเด็กปี 1 ที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะยาวใต้ตึก  แล้วก็ขอเวลามันคุยด้วยสักแปบ  ซึ่งมันก็ยอมตามผมออกมาคุยด้วยแต่โดยดี

“ พี่ขอเข้าเรื่องเลยนะ..  แมวตัวนั้นพี่ขอได้มั้ย... “

คุยกันไปได้สักพักใหญ่  ผมก็เริ่มจับความรู้สึกเครียดและเป็นกังวลของมันได้  ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ยอมให้แมวกับพวกผมอยู่แล้ว  ส่วนสาเหตุที่แมวมันหาย  ก็น่าเห็นใจมันอยู่นะครับ  แถมยังเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเกลียดวิศวะอย่างพวกผมเอามากๆ ด้วยสิ



ค่ำนี้ผมกลับเข้าห้องมาหลังจากที่ซ้อมบาสเสร็จ  มาถึงห้องก็เห็นกันต์มันนอนหลับอยู่ที่โซฟา  โดยที่เปิดทีวีทิ้งไว้  และมีไอ้ไทเกอร์มันนอนหลับอยู่บนอก

ผมยืนมองภาพตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง  พิจารณาคนตรงหน้า  ราวกลับมันมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างให้ละสายตาไปจากตรงนี้ไม่ได้  หน้าขาวใสที่กำลังนอนเผยอปากบางอยู่เล็กน้อย  มันช่างมีเสน่ห์เอามากๆ เลยครับ  ผมว่ามันเป็นผู้ชายที่หน้ามองที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยนะครับ  เห็นมันกับแมวแบบนี้แล้ว...  ถ้ามันจะต้องเสียใจและร้องไห้เพราะเสียแมวที่มันรักไป  ผมคงจะปวดใจอยู่ไม่ใช่น้อยเลย

ผมควรจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ยังไงดีครับ....



...................



วันต่อมา

วันนี้กันต์มันงอแงจะไม่ไปซ้อมแบดอีกแล้วล่ะครับ  แต่ผมก็ต้องบังคับมันไปให้ได้อยู่ดี  เพราะการหนีปัญหาแบบนี้  มันไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยนะครับ 

ทีแรกมันก็จะไม่ยอมไปท่าเดียว  จนผมต้องขู่มันว่า  ถ้าไม่ไปผมจะเอาไอ้ไทเกอร์ไปคืนไอ้เคมันซะวันนี้เลย  สุดท้ายมันก็ได้แต่ทำหน้ายู่พร้อมกับพ่นลมออกจมูกฟึดฟัดและยอมไปซ้อมที่ชมรมแต่โดยดี

เที่ยงนี้ผมยังคงเข้าไปคุยกับไอ้เคมันอีกรอบ  แต่ผลก็ยังคงลงเอยเหมือนเดิม  ดังนั้นตลอดทั้งบ่ายมานี้  ผมเลยนั่งเปิดดูข้อมูลแมวพันธุ์ต่างๆ ในห้องเรียน  เผื่อบางที...  ถ้าผมหาแมวตัวใหม่มาทดแทนและยอมให้มันเลี้ยงในห้องได้  ก็อาจจะทำให้กันต์มันรู้สึกดีขึ้นมาบ้างก็ได้นะครับ

“ จะเลี้ยงแมวรึไงวะ  กูเห็นมึงดูมาตั้งแต่เข้าเรียนแล้วนะเว้ย “  ไอ้คิมมันหันมาถามครับ

“ มึงนี่ก็ถามไม่คิดนะ  แค่จะเอาสัตว์เข้าห้องมัน  มันยังไม่ให้เลย  แล้วอย่างมันเนี่ยนะจะเลี้ยง... “ 

ไอ้บิวว่ามาครับ  ซึ่งก็จริงของมันนะครับ  ปกติผมไม่ให้ใครเอาสัตว์เข้ามาในห้องเลย  กลัวว่ามันจะวุ่นวาย  แล้วทำเลอะเทอะอะครับ 

“ ก็จริงว่ะ.. “



..........................



ค่ำนี้ผมไปรับกันต์มันสายครับ  เพราะปี 3 ที่เป็นคณะกรรมการเรื่องค่ายรับน้อง  มีประชุมกันเรื่องเข้าค่ายรับน้องต่างจังหวัดกันครับ  กว่าจะเสร็จก็ปาไป 2 ทุ่มกว่าแล้ว

ผมขับรถไปถึงที่คอร์ดแบด  ก็เริ่มเห็นพวกนักกีฬาที่คุ้นๆ หน้า  ทยอยกันเดินออกมาจากโรงยิมกันบ้างแล้ว  แต่ก็ยังมองไม่เห็นกันต์มันนะครับ

ผมเดินเข้าไปมองซ้ายแลขวาไม่นาน  ก็เห็นมันเดินซึมๆ ออกมาจากห้องล็อคเกอร์  แต่พอเดินมาถึงผม  มันก็ปรับสีหน้าเป็นอารมณ์ดีเสียอย่างนั้น....

เห็นแบบนี้แล้ว  ผมกลับยิ่งเป็นกังวลใจมากขึ้นครับ  เพราะมันเป็นสัญญาณอันตราย  ที่บ่งบอกว่ามันกำลังมีเรื่องกลุ้มใจอยู่มากๆ
 
คือมันเป็นคนที่เวลามีเรื่องอะไรไม่สบายใจมากๆ  ก็ชอบเก็บไว้คนเดียว  ไม่อยากให้คนอื่นมาทุกข์ใจไปกับมันด้วย

เดาได้ไม่ยากหรอกครับว่าเรื่องอะไร  แต่ปัญหาก็คือ...  ผมจะแก้ไขมันได้ยังไงต่างหาก...


เห้อ... 


ทำไมผมต้องมากลุ้มกับเรื่องเด็กๆ แบบนี้ด้วยนะ....




TBC.



-----------------------------------------------------

ลองมองความสัมพันธ์และความรู้สึกระหว่าง  พี่กิจ กับ กันต์ CHนี้  เทียบกับ  CHแรก 
มันต่างกันมากเลย  ว่ามั้ยครับ.... 
คือต่างแบบที่เราเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเปลี่ยนไปตอนไหน
เนี่ยแหละครับ...
ความผูกพันมันทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนได้....

ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคร้าบโผม

^________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 04-03-2018 22:28:11
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-03-2018 23:29:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 04-03-2018 23:39:48
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-03-2018 00:11:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-03-2018 03:04:11
ไอ้คนที่ว่าแมวหาย มันเลี้ยงอย่างไงฟ่ะ สภาพที่กันต์เจอไทเกอร์มันโคตรผอมเห็นกระดูกนะ ไอ้พี่กิจก็ให้น้องเลี้ยงไทเกอร์ไปเลยไป ทำให้น้องสบายใจนทำได้ไหม  o12
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 05-03-2018 18:20:34
เข้าใจความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงนะ
เป็นพี่กิจคงคิดหนักเหมือนกัน
แต่เจ้าของแมวมา (เจ้าของจริงใช่ไหม)
ก็ต้องทำใจแหละ

จากตอนแรกถึงตอนนี้มันก็เกิดหลายเหตุการณ์
ยิ่งเหตุการณ์อุบัติเหตุนั่นอีก
แถมอยู่ด้วยกันอีก มันย่อมเกิดความผูกพันมากๆ เนอะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nick_June ที่ 06-03-2018 09:44:07
บางครั้งก็เกียจความงี่เง่าของนายเอกมาก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 15-03-2018 21:04:09
Chapter 31




กิจ ‘s  Part




ผ่านไปไม่กี่วันก็ถึงปลายสัปดาห์ครับ  กันต์มันเองก็ดูปกติในมุมมองของคนทั่วไปที่มองมา  เพราะมันพยายามทำตัวให้เป็นแบบนั้น  แต่ผมรู้ดีครับ  ว่าลึกๆ แล้วมันมีอะไรอยู่ในใจตอนนี้  ซึ่งมันเองก็ยังไม่ยอมบอกผมอยู่ดี  ไม่ว่าผมจะถามมันยังไงก็ตาม  ก็คงได้แต่รอให้เจ้าตัวสบายใจขึ้นและมาเล่าให้ฟังเองนั่นแหละครับ

จนกระทั่งวันนี้ที่มันเล่นกับไอ้ไทเกอร์นานเป็นพิเศษ  จนเผลอหลับไปที่โซฟา  ซึ่งผมก็ต้องปลุกมันให้เข้าไปนอนในห้องพร้อมกับไอ้ไทเกอร์



....


เช้าวันต่อมา

“ พี่กิจ...  เดี๋ยวสายๆ ช่วยไปส่งผมหน่อยนะ “

“ จะไปไหนอะ “ 

ผมทำหน้างงๆ ถามขึ้น  ขณะที่กำลังซิทอัพอยู่ในตอนเช้า

“ เอาไอ้ไทเกอร์ไปคืนเจ้าของมันน่ะ “

ผมอึ้งไปเล็กน้อยพร้อมกับหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่  คือไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกจากปากของมัน  แต่ดูจากสีหน้าที่กำลังพยายามฝืนยิ้มเล็กๆ ส่งมาให้ กลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปลบเข้ามาที่หัวใจ  และไม่กล้าจะซักไซ้อะไรไปมากกว่านี้


……..


ผมยืนมองกันต์มันเก็บของทุกอย่างที่มันสรรหามาให้ไอ้ไทเกอร์อยู่อย่างเงียบๆ ในห้อง

มันเป็นความเงียบที่รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด  แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคงไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ 

ไทเกอร์เดินเข้ามามองดูกันต์มันพร้อมกับทำหน้าสงสัย  กันต์มันเองก็ได้แต่เอามือไปลูบหัวมัน  ซึ่งมันก็เข้ามาคลอเคลียเหมือนเช่นทุกที  ถึงจุดนี้กันต์มันก็เริ่มจะตาแดงๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว  ก่อนที่มันจะอดกลั้นอะไรไว้ไม่ไหว  ผมเลยอาสาเข้าไปเก็บของให้มันแทน  มันเลยอุ้มไทเกอร์เอาไว้และบอกให้ผมเก็บนู้นเก็บนี่ด้วยน้ำเสียงเครือๆ 

กันต์มันยังคงไม่ร้องไห้ออกมานะครับ  แต่ก็คงจะพยายามกลั้นเอาไว้อย่างถึงที่สุดนั่นแหละ


……..


ระหว่างที่นั่งรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอพักของไอ้น้องเคแถวหลังมอ  จู่ๆ มันก็พูดขึ้นมาครับ

“ ผมคงไม่คืนให้มันหรอก  ถ้าไม่รู้ความจริงที่เกิดขึ้น “ 

กันต์ที่นั่งอยู่โดยมีไอ้ไทเกอร์นอนอยู่บนตักพูดขึ้นมาเสียงอ่อย

“ พี่รู้มั้ย...  ว่ามันไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งไอ้ไทเกอร์มันหรอกนะ  แถมมันยังตามหามาโดยตลอด... “ 

มันเริ่มเล่ามา  ซึ่งผมก็ได้แต่นั่งเงียบฟังอย่างตั้งใจ  ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ผมเองก็รู้มาอยู่ก่อนแล้ว

“ มันเล่าให้ผมฟังว่า  มันคบกับแฟนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มอปลายจนเข้ามหาลัยฯ มาที่เดียวกัน  แล้วมันก็ไปเจอไอ้ไทเกอร์หลงทางมา  ตอนย้ายมาอยู่หอใหม่กับแฟน  มันก็เลยเก็บมาเลี้ยง  แต่ไม่นานหลังจากนั้น...  แฟนมันที่คบด้วยกันมา 3 ปี  ก็ไปเจอกับรุ่นพี่วิศวะที่พักอยู่ห้องข้างๆ กัน...  ไม่นาน...ไอ้เคมันก็โดนบอกเลิก  แถมแฟนมันก็แอบขนข้าวขนของย้ายออกไปอยู่กับรุ่นพี่วิศวะที่หออื่น  และยังหอบเอาไอ้เทเกอร์ที่มันรักไปด้วย  แต่กลายเป็นว่า  รุ่นพี่วิศวะคนนั้นไม่ชอบไอ้ไทเกอร์  ก็เลยไม่ให้เลี้ยง  ครั้นจะเอามาคืนไอ้เค  แฟนมันก็ไม่กล้าจะสู้หน้า  ก็เลยเอาไปปล่อย  พอไอ้เคมันรู้เท่านั้นแหละว่าแมวที่มันรักโดนเอาไปปล่อย  มันก็เลยคลั่งขึ้นมา  จนไปมีเรื่องกับรุ่นพี่วิศวะคนนั้น  แต่แฟนเก่ามันกลับตบหน้าและต่อว่าไอ้เคซะอย่างนั้น...  ทั้งๆ ที่ต้นเหตุมาจากเขาแท้ๆ  ไอ้เคมันก็เลยฝังใจกับคำว่าวิศวะ  ที่มาแย่งเอาสิ่งที่มันรักไปทั้งสองอย่างแบบนี้...  จากวันนั้นมา..  มันก็เที่ยวตามหาแมวของมันมาโดยตลอด...  จนรู้ว่ากันต์เก็บมาเลี้ยง  มันก็เลยมาขอคืน... “

ผมฟังมันเล่าไปเรื่อยๆ ขณะที่รถกำลังค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากแยกไฟแดง

“ ได้ยินแบบนี้แล้ว...กันต์เลยคิดว่า  ถึงกันต์จะเสียใจที่เสียไทเกอร์ไป  แต่มันคงเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของไอ้เคมัน...  กันต์ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวอะพี่...  กันต์เลยขอเวลามันจนถึงวันเสาร์...  แล้วจะเอาไอ้ไทเกอร์ไปคืน... “

ผมหันมามองยังคนข้างๆ  ที่ตอนนี้นัยน์ตาแดงระเรื่อ  เห็นแล้วก็อดรู้สึกปวดใจขึ้นมาไม่ได้ครับ 

......

“ ผมทำถูกแล้วใช่มั้ยครับ “

“ อื้ม...  เก่งที่สุดเลยล่ะ... “

…..

ผมหันมามองมันอีกที  เห็นมันกำลังฝืนยิ้มเล็กๆ ส่งมาให้  และยังคงกลั้นน้ำตาเอาไว้อยู่เหมือนเดิม  ก่อนจะก้มหน้าและเอามือลูบหัวไอ้ไทเกอร์มันป้อยๆ

“ อีกอย่าง...  ไอ้ไทเกอร์มันก็คงอยากจะกลับไปอยู่กับเจ้าของเก่าของมันด้วยแหละครับ...  ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ...  เพราะถ้าเป็นผม...  ถ้าวันนึงผมหลงทาง  ถึงแม้ว่าจะเจอที่อยู่ใหม่ที่ดีกว่าแค่ไหน  แต่ถ้าพ่อกับแม่มาตามหาจนเจอ  ผมก็ไม่ลังเลเลยที่จะกลับบ้าน.. “

ก็จริงอย่างที่กันต์มันว่ามานะครับ...


……


ผมขับรถเข้ามายังอพาร์ทเม้นต์ที่กันต์มันบอกแถวๆ หลังมอ  ก็เห็นไอ้น้องเคมันลงมายืนรออยู่ก่อนแล้ว
 
ผมหอบเอาของมากมายที่กันต์มันขนมาตามสองคนนั้นขึ้นไปบนห้อง  กันต์มันยังคงไม่ยอมปล่อยไอ้ไทเกอร์ที่อยู่ในอ้อมกอดคืนไปให้เจ้าของเก่าของมัน 

จนกระทั่งเข้ามาภายในห้องแล้ว  กันต์มันถึงยอมปล่อยให้ไอ้ไทเกอร์มันลงมาบนพื้น  โดยมีไอ้เคนั่งยองๆ  ห่างออกไปไม่ไกลมาก  พร้อมทั้งกำลังเรียกมันอยู่เนืองๆ

ไทเกอร์หันซ้ายหันขวามองไปมาระหว่างกันต์กับไอ้น้องเคอยู่ครู่หนึ่ง  ไม่นานมันก็เลือกเดินเข้าไปหาไอ้น้องเค  ซึ่งสีหน้ากันต์มันดูจะผิดหวังอยู่เล็กน้อย  แต่ผมคิดว่ากันต์มันคงทำใจมาบ้างแล้วส่วนหนึ่ง  ถึงได้เลือกตัดสินใจแบบนี้

เพียงแต่...  เห็นสีหน้ากันต์มันตอนนี้แล้ว  ผมกลับรู้สึกปวดใจขึ้นมาแทนเสียอย่างนั้น

“ นี่อาหารแมว  กระบะทราย  เบาะนอน  แต่มันก็ไม่ค่อยชอบนอนหรอก...  กูเลยเอาหมอนนี่มาให้  เพราะมันชอบนอนบนหมอนนี่มากกว่า “

ผมฟังกันต์มันพูดพลางส่งของไปให้กับไอ้น้องเคทีละชิ้นๆ  พร้อมกับอดสงสารมันไปด้วยไม่ได้ครับ  เพราะตอนนี้มันกำลังพยายามอดกลั้นความอ่อนแอของตัวเองเอาไว้อย่างถึงที่สุด

“ อีกอย่างที่สำคัญ... “

กันต์มันพูดขึ้น  เมื่อยื่นของชิ้นสุดท้ายส่งให้ไป 

“ ดูแลมันดีๆ ด้วยล่ะ  แล้วถ้าทำมันหายอีกหรือเลี้ยงมันไม่ดีล่ะก็...  กูเอามึงตายแน่  แล้วคราวนี้กูจะไม่คืนมาให้มึงอีก “

แม้ว่าน้ำเสียงมันจะดูเข้มแข็งแค่ไหนในตอนนี้  ทว่านัยน์ตามันกลับสั่นระเรื่อ  ในขณะที่ไอ้น้องเคมันก็ดูจะมีท่าทีที่อ่อนลงมากกว่าแต่ก่อน  พร้อมทั้งผงกหัวรับป้อยๆ  ก่อนจะเอ่ยขอบคุณกลับมาให้นับครั้งไม่ถ้วน  จนกระทั่งพวกเราเดินจากไป

กันต์มันไม่พูดอะไรอีกเลย...  จนกระทั่งพวกเรากลับกันมาถึงที่คอนโด  ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้อง


……..


“ ก๊อกๆๆ “


นานกว่าชั่วโมงที่ผมตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องกันต์มันครับ  แต่ก็ไร้การตอบรับใดๆ กลับมา  ผมยืนรออยู่อีกครู่หนึ่งก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูห้องเข้าไปเอง 

คือ...  อดห่วงมันไม่ได้หรอกครับ....

ภายในห้องเงียบสนิท  กันต์มันคงหลับไปแล้ว  ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ มันที่ข้างเตียง  มองใบหน้ามันแล้วก็พอรู้ได้ครับว่ามันคงร้องไห้แล้วหลับไป

เห็นมันแบบนี้แล้ว...  โครตบีบหัวใจผมเลย...  ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะครับ....

“ กันต์...  กันต์... “

ผมเรียกมันเบาๆ พลางใช้ปลายนิ้วละผมที่ปกหน้าผากมันอยู่

ไม่นานมันก็งัวเงียปรือตาขึ้นมามองผม  ก่อนเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่ามีอะไร

“ ไปเที่ยวกัน... “

พูดจบมันก็มองผมด้วยสีหน้าลังเลอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะตอบตกลงผมมา


...........................


ผมขับบิ๊กไบต์คันเดิมที่ซ่อมเสร็จแล้วมายังหน้าคอนโด  ซึ่งกันต์มันกำลังยืนทำหน้าหงอยๆ รออยู่ 

เมื่อผมหยุดรถลงตรงหน้า  มันก็มองผมราวกับจะถามว่าทำไมผมถึงใช้บิ๊กไบต์แทนที่จะเป็นรถยนต์เหมือนเช่นทุกที  คือหลังจากอุติเหตุคราวนั้น  ผมก็ไม่เคยขับมันอีกเลย...  เพียงเพราะกลัวว่ามอเตอร์ไซต์มันจะไม่ปลอดภัยสำหรับกันต์มันก็เท่านั้นเอง 

แต่ในวันนี้  ผมอยากให้กันต์มันรู้สึกดีและสบายใจขึ้น  เหมือนกับเวลาที่ผมได้ขี่มอเตอร์ไซต์และปล่อยให้สายลมได้เข้ามาปะทะกับร่างกาย

“ ไว้ใจพี่มั้ย ? “ 

ผมไม่ตอบคำถามจากสีหน้านั้น  แต่กลับยิงคำถามกลับไปแทน  คำถามที่ผมเองก็คาดเดาคำตอบจากคนตรงหน้านี้ไม่ได้  เพียงเพราะกลัวว่ากันต์มันจะยังคงกลัวและฝังใจกับอุบัติเหตุครั้งนั้นอยู่  และไม่เชื่อมั่นในตัวผมอีก 

แต่สุดท้ายกันต์มันก็ยิ้มรับและพยักหน้าตอบกลับมา  ซึ่งแค่นี้เองก็ทำให้หัวใจผมพองโตและเหมือนยกภูเขาออกจากอกไปแทบจะในทันที

จากนั้นผมก็ยื่นหมวกกันน็อคที่ตั้งใจซื้อมาให้มันโดยเฉพาะ  พอมันรับมาก็เอ่ยถามขึ้นทันทีว่าเราจะไปที่ไหนกัน 

“ ขึ้นมาเหอะน่า “

ผมไม่ตอบอะไร  แค่ยิ้มบอกไปเท่านั้น  ซึ่งมันเองก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อเหมือนกัน  และยอมขึ้นรถมาแต่โดยดี


..........................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/03/2561 update chapter 30 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 15-03-2018 21:11:04
ผมขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังพัทยาครับ  ความเร็วไม่มากเหมือนเช่นทุกทีที่ผมขับรถในระยะไกล 

ตอนนี้กันต์มันกำลังซบหน้าลงบนแผ่นหลังของผมครับ  เราเงียบกันไปตลอดทาง  จนกระทั่งผมขับรถเข้ามาจอดยังร้านอาหารติดชายทะเลชื่อดังแห่งหนึ่งในช่วงเย็น

“ มาตั้งไกล  เพื่อจะมากินข้าวเนี่ยนะ “  กันต์มันถามขึ้นมาครับ

“ อืม...  อร่อยนะ  บรรยากาศก็ดีด้วย “ 

ผมยิ้มบอกไป  ก่อนจะเดินนำเข้าไปยังภายในร้าน 

ผมเลือกนั่งด้านนอกติดชายหาด  ซึ่งเก้าอี้ที่นั่งจะเป็นเก้าอี้ชายหาด  สามารถเอนหลังลงไปนอนได้ 

บรรยากาศตอนนี้ก็เริ่มสลัวๆ ลงแล้ว  ผมกับกันต์นั่งมองออกไปยังทะเลกว้างใหญ่เบื้องหน้า  ระหว่างที่รออาหารที่สั่งกันอยู่
ผมก็แค่หวังว่าทะเลและบรรยากาศดีๆ แบบนี้  จะช่วยให้มันสบายใจขึ้นได้บ้างก็เท่านั้นเอง...  ซึ่งผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใครมาก่อนเลยนะครับ


………


“ สบายใจขึ้นมั้ย... “

ผ่านไปสักพักใหญ่ผมก็เอ่ยถามขึ้น  เพื่อทำลายความเงียบในตอนนี้

“ ก็...  ดีขึ้นละครับ  ขอบคุณนะพี่กิจ...ที่พาผมมาแบบนี้ “

“ อืม... “

…..

“ เวลาที่ผมไม่สบายใจ  ผมก็ชอบมานั่งมองทะเลแบบนี้แหละครับ  ตอนที่อยู่ที่บ้านเก่า  มองมันไปเรื่อยๆ  สักพักก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง “ 

เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้มาก่อนเลยนะครับ  ความบังเอิญล้วนๆ

“ ที่บ้านเก่าเรานี่อยู่ติดทะเลเลยเหรอ “

“ ครับพี่  มีชิงช้าเล็กๆ ให้นั่งมองทะเลด้วยนะ  ผมอะชอบไปนั่งเล่นอยู่เป็นประจำเลย “

“ จะว่าไป..  กันต์ไม่เห็นจะผิวคล้ำเลยนี่  อยู่กระบี่น่าจะผิวคล้ำนะ “ 

ผมถามต่ออย่างอยากรู้ครับ  เพราะเอาเข้าจริงผิวมันขาวเนียนมาก  ผิวดีกว่าผู้หญิงหลายๆ คนเลยด้วยซ้ำ

“ ก็ไม่ค่อยได้ตากแดดนี่  อีกอย่าง... พ่อกับแม่ก็ไม่ได้เป็นคนใต้ด้วยอะพี่ แต่เพราะพ่อต้องย้ายไปทำงานที่นั่น  ผมก็เลยได้ไปโตที่นั่นอะ “ 

ผมพยักหน้าเข้าใจตาม  ถึงว่า...ทำไมผิวขาวจัง

“ แล้วนี่...  ยังอยากเลี้ยงแมวอยู่มั้ย “

ผมถามขึ้น  บางทีผมคงจะตัดใจยอมให้มันเลี้ยงได้แล้วละครับ  รู้สึกว่าอะไรที่ทำให้มันมีความสุขได้  ผมก็อยากจะทำให้มัน  ก็เท่านั้นเอง

“ ก็อยากเลี้ยงนะพี่  แต่ไม่เอาจะดีกว่า... “

“ ทำไมอะ  ก่อนหน้านี้เห็นขอพี่แทบตายเลยไม่ใช่เหรอ “

“ มันก็ใช่..  แต่ผมกลัวว่าจะเอาความรู้สึกไปผูกพันกับอะไรอีก  แล้ววันนึง... ถ้าผมสูญเสียมันไปอีก...  ผมคงจะรู้สึกแย่เอามากๆ เลยอะพี่  มันแย่ยิ่งกว่าการที่ต้องอยู่ตามลำพังซะอีก “

ได้ยินกันต์มันพูดมาแบบนี้แล้ว  ผมก็เข้าใจมันเลยครับ  เพราะไม่ใช่แค่ไทเกอร์...  แต่มันที่พึ่งสูญเสียคนที่รักไปและต้องอยู่คนเดียวตามลำพังแบบนี้  มันคงจะรู้สึกแย่เอามากๆ  ถ้ายังจะต้องรู้สึกอะไรแบบนั้นอีก

“ ว่าแต่...  ทำไมจู่ๆ พี่ถึงยอมให้เลี้ยงได้ล่ะ “

“ ก็..  ไม่อยากเห็นเด็กขี้แยแถวนี้งอแงอีกอะ “

พูดจบมันก็ยู่หน้าใส่ผมก่อนจะเอากำปั้นมาทุบที่ต้นขาของผมเบาๆ

“ โอ้ย..  เจ็บนะ “

“ ใครขี้แย  ไม่มีสักหน่อย “

“ เหรอ... “

“ ก็ใช่อะดิ “

“ หึๆ “

“ ขำอะไรพี่กิจ “

“ เปล๊า.. “

แค่เห็นมันเริ่มยิ้มได้  ผมก็รู้สึกดีแล้วล่ะครับ

ผมสั่งอาหารทะเลมาเยอะแยะเลย  เรียกได้ว่าเต็มโต๊ะจนกินกันไม่หมดแน่ๆ  แต่แค่ได้เห็นท่าทางเอร็ดอร่อยและดูมีความสุขกับการกินของมัน  แค่นี้มันก็คุ้มค่ามากแล้วล่ะครับ

“ พี่กิจมากินที่นี่บ่อยมั้ยอะ “ 

กันต์มันถามขึ้นหลังจากที่อาหารบนโต๊ะพร่องไปกว่าครึ่งแล้ว  ซึ่งพวกเราเองก็กำลังจะเริ่มอิ่มกัน  ในขณะที่ท้องฟ้าตอนนี้ก็มืดลงแล้ว  จะมีก็เพียงแค่แสงไฟจากเทียนในครอบแก้วบนโต๊ะเท่านั้นที่ให้ความสว่างกับพวกเราในตอนนี้

“ ไม่ค่อยนะ “

“ แล้ว...  พี่พาใครมาบ่อยมั้ย “

ผมละสายตาจากทะเลสีดำตรงหน้ามองมายังคนถามที่ต้องกับแสงเทียนสลัว  จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนหัวใจมันเต้นแปลกๆขึ้นมากับใบหน้าของกันต์มันตอนนี้เสียอย่างนั้น

“ กะก็...  เราคนแรกอะ “
 
ผมตอบไปตามจริงครับ  เพราะจะว่าไป..  ผมก็ไม่เคยเอาใจใครขนาดที่ขับรถพามาปลอบใจไกลถึงทะเลแบบนี้เลยนะครับ

กันต์มันเหมือนจะอึ้งๆ ไปเล็กน้อย  ก่อนจะอมยิ้มเล็กๆ แล้วหันไปมองทะเลของมันต่อ  ผมเองก็เช่นกัน.. 

จากนั้นเราก็พูดคุยอะไรกันไปเรื่อย  ซึ่งบ่อยครั้งที่มันทำให้ผมยิ้มและหัวเราะออกมาได้  ทั้งๆ ที่บุคลิกส่วนตัวผมค่อนข้างจะเฉยชาออกขนาดนี้  แต่ก็แปลกที่เวลาอยู่กับมัน  ผมกลับเริ่มเปลี่ยนตัวเองไปได้ทีละน้อยๆ เสียอย่างนั้น 



................



“ วันนี้อยากนอนนี่มั้ย  หรือจะกลับไปนอนที่คอนโด “

ผมถามขึ้นขณะที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหาร  ซึ่งตอนนี้ก็กว่า 2 ทุ่มแล้ว

“ กลับดีกว่าพี่  ผมไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนด้วยอะ  จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย “

ผมพยักหน้ารับ  ก่อนจะเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลมาก

“ พี่กิจๆ “

“ หือ “

“ อยากลองขี่บ้างอะพี่ “

ผมทำหน้าไม่ค่อยไว้ใจ  แต่มันก็ทำหน้าเป็นลูกหมาอ้อนผมไม่เลิก

“ ขี่เป็นเหรอเราอะ “

“ ก็น่าจะได้นะพี่  แต่ไม่เคยขี่คันใหญ่ขนาดนี้ “

ซวยแล้วไง  แล้วแบบนี้จะรอดกันมั้ยเนี่ย

“ น้า....  น้าคร้าบ...พี่กิจ “

น้ำเสียงและสายตาแบบนี้อีกแล้ว  หนักใจเลยผม  เพราะปกติถึงแม้ว่าจะขับได้  แต่รถคันนี้ผมหวงมากครับ  ไม่เคยให้ใครขี่เลยแม้แต่คนเดียว

แต่...
 
เห้อ....

“ ก็ได้...  แต่ถ้าจะออกถนนใหญ่  พี่ต้องขี่เองนะ “

“ ได้ๆ  แค่นี่ก็พอแล้ว “

จากนั้นมันก็ยิ้มร่า  ท่าทางตื่นเต้นดีใจอย่างกับเด็กน้อยได้ขนมขึ้นมาทันที

ผมส่งกุญแจรถให้ไป  มันก็รับไปก่อนจะขึ้นคร่อม  แถมดูเหมือนจะประคองรถไม่ค่อยอยู่อีกด้วย  งานนี้จะไปกันรอดมั้ยเนี่ย  หวังว่าผมคงจะไม่ต้องส่งรถเข้าอู่อีกรอบนะครับ

“ จับดีๆ นะพี่  เดี๋ยวผมจะซิ่งละ...  โอ้ย!!! “

มันพูดจบ  ผมก็ตบหัวมันทันทีครับ  คือผมยังไม่อยากไปนอนโรงพยาบาลอีกรอบนะ

“ ค่อยๆ ขี่ก็พอ  ทำเป็นซ่านะ  เดี๋ยวก็ไม่ให้ขี่ซะหรอก “

“ คร้าบๆ “

แล้วมันก็บ่นอุบอิบๆ  อะไรไม่รู้  ก่อนจะค่อยๆ ออกตัวไป  ผมจับที่หัวไหล่มันครับ  มันขับแบบตระกุกตระกักจนผมเริ่มหวั่นๆ ขึ้นมา  เลยบอกให้มันจอดรถ

จากนั้นผมก็ขยับตัวเข้าไปชิดมัน  ก่อนจะคร่อมลงไปจับที่แฮนด์  คล้ายกับสอนเด็กขี่จักรยานอย่างไงอย่างนั้น  คือให้ไอ้เด็กน้อยในวงแขนผมมันบิดอย่างเดียวพอ  ที่เหลือผมจัดการเอง  ดีที่ตัวมันเล็กกว่าผม  เลยทำแบบนี้ได้  ซึ่งมันก็ดูจะชอบมากเลยนะครับ  หัวเราะร่าราวกับเด็กๆ เลย  และไม่รู้ว่าตอนไหนที่ผมเอาคางไปเกยที่ไหล่มันไว้อยู่อย่างนั้น  รู้สึกได้ถึงกลิ่นกายผสมน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวมันจางๆ 

บอกตรงๆ เลยครับว่า...  ผมโครตชอบความรู้สึกในตอนนี้เอามากๆ เลยครับ

นี่ผมบ้าไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย....


……


พอออกมาถนนใหญ่ก็เปลี่ยนมาเป็นผมที่ขับแทนครับ  เพราะมันค่อนข้างอันตราย 

“ กอดพี่แน่นๆ นะ “

มันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น  จากนั้นเราก็เริ่มมุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ กันครับ....


..........................


กว่าจะมาถึงห้องก็เลยเที่ยงคืนไปแล้วครับ  กันต์มันหลับซบหลังผมมาตลอดทางเลย  ดีที่ผมให้มันกอดเอวผมเอาไว้แน่นๆ  เลยไม่เป็นอันตรายอะไร

“ ไม่อาบน้ำแน่ๆ ทรงนี้ “ 

ผมพูดขึ้นขณะเดินออกมาจากลิฟท์มุ่งหน้าตรงไปยังห้อง  เพราะดูจากท่าทางงัวเงียของมันในตอนนี้แล้ว....  ชัวร์!

“ ไว้รวบยอดพรุ่งนี้เลยละกัน “

“ ซกมก “

“ ก็เรื่องของผมดิ  พี่ไม่ได้นอนกับผมสักหน่อย “

“ ถึงได้บอกไงว่าซกมก “

พูดจบมันก็พ่นลมออกจมูก  ก่อนจะเดินเข้าห้องไป


..............................


จากนั้นอีก 20 นาที  ผมก็เปิดประตูห้องมันเข้าไปครับ 

แม่งไม่อาบน้ำจริงๆ ด้วย  และดูจากสภาพแล้ว  แค่เปลี่ยนเสื้อแล้วนอนทันทีเลย

ผมแทรกตัวเข้าไปนอนข้างๆ มัน  ซึ่งมันก็งัวเงียปรือตาตื่นขึ้นมามองครับ

“ อะไรอะพี่กิจ “

“ คืนนี้จะนอนเป็นเพื่อน  แทนไอ้ไทเกอร์มัน “

“ เป็นแมวรึไง... “

“ เรามากกว่ามั้ง  น้ำก็ไม่อาบ  ซกมกเอ้ย.. “

“ ก็บอกแล้วไง...  ว่าจะรวบยอดเอาพรุ่งนี้ “

“ อืม... รู้แล้ว  ง่วงก็นอนได้แล้วเราอะ “

จากนั้นมันก็ขยับตัวหันหลังให้ผม  ก่อนจะหลับไปแทบจะในทันที   ผมยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของมันในความมืด  และก่อนที่ผมจะผล็อยหลับไป...  ผมก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปกระชับคนข้างๆ ไว้เหมือนเช่นทุกที

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมชอบทำแบบนี้กับมัน...

แต่ถ้าไม่ทำ.... 

มันรู้สึกเหมือนว่าขาดอะไรไปบางอย่าง... 

และ...  ผมคงจะนอนไม่หลับแน่ๆ



TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2018 21:16:17
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 15-03-2018 21:38:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-03-2018 00:04:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-03-2018 01:31:11
เคคงเลี้ยงเกอร์ได้ดีเหมือนเดิมนะ สงสารกันต์แฮะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 16-03-2018 01:47:18
เค้ารักพี่กิจจังเลยยย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-03-2018 08:43:56
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2018 20:43:02
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 24-03-2018 15:18:57
Chapter 32



กันต์'s  Part



“ ทางนี้เว้ย..  ไอ้กันต์!! “

เสียงไอ้เรย์ดังขึ้นมาให้ผมหันไปมอง  ก่อนจะเห็นมันยืนโบกมือไหวๆ เรียกผมอยู่กับไอ้เจมส์และไอ้แน๊คที่หน้าหอประชุม

เสาร์นี้คณะเรามีรับน้องที่ต่างจังหวัดกันครับ  แต่เฉพาะภาควิชาอุตสาหการนะครับ  ส่วนภาควิชาอื่นก็จะขึ้นอยู่กับรุ่นพี่ในภาคอีกทีว่าจะจัดกันเมื่อไหร่  ซึ่งภาคผมปีนี้เราไปทะเลกันครับ  งานนี้ไม่รู้ว่าจะถูกพี่ๆ เขาแกล้งอะไรกันบ้าง  แต่ท่าทางน่าจะสนุกนะครับผมว่า

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  พวกผมต่างก็ลุ้นอยู่กับคะแนนมิดเทอมของหลายๆ รายวิชาที่ทยอยแจ้งกันมาบ้างแล้ว  โดยเฉพาะผม...  ที่ต้องรายงานผลคะแนนให้คุณชายท่านฟังอยู่ตลอดว่าคะแนนเป็นยังไงบ้าง  ถ้าไม่ดีมีหวังโดนเจื๋อน... 

แต่โชคดีที่ผมเก่งครับ...  เกินมีนทุกวิชาเลย  อิอิ

ช่วงนี้ที่ชมรมแบดมินตันก็ปกติดีครับ  หลังจากที่ผมคืนไอ้ไทเกอร์ให้ไอ้เคไป  ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็ดูจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว  แถมบางวันมันยังเอาไอ้ไทเกอร์ ( ซึ่งชื่อเดิมมันคือไอ้เสือ ) มาเยี่ยมผมบ้างในบางวัน


“ มากับพี่กิจยังจะสายอีกนะมึงอะ “
 
ไอ้เรย์มันแดกดันผมขึ้นทันทีที่ผมเดินเข้ามาถึงครับ  จริงๆ ก็จะไม่สายขนาดนี้หรอกครับ  ถ้าผมไม่ลืมจัดกระเป๋าตั้งแต่เมื่อคืนนี้  คือตั้งใจจะจัดนั่นแหละครับ  แต่นอนเล่นโทรศัพท์ไปๆ มาๆ  ดันหลับซะงั้น  ตื่นมาก็เลยโดนบ่นใหญ่เลย  ฐานที่ทำให้ออกห้องมาช้าแบบนี้

“ สายอะไร  ยังไม่ถึงเวลาสักหน่อย “

“ อีก 5 นาทีเนี่ยนะ “

“ ก็นั่นแหละ “  ขอแถสักหน่อยครับ

“ แล้วนี่มึงเอาอะไรมาบ้างเนี่ย “  มันถามต่อ

“ ก็ปกติ  มัน..ต้องมีอะไรพิเศษรึไงวะ “

“ ก็...  คือกูไม่ได้เอาพวกยาสีฟัน  สบู่  แชมพูมาเลยอะ...  กูขอยืมใช้กับมึงหน่อยละกันนะ “

“ ตลอดอะมึง “
 
แล้วมันก็ยิ้มหน้าเป็นส่งมาให้เหมือนเช่นทุกที  คือไอ้เรย์เนี่ย  เวลาเข้าค่ายทีไร  ไม่ว่าจะที่ไหน  มันไม่เคยเอาของใช้พวกนั้นมาเลยครับ  ยืมผมใช้ตลอดอะ  จนผมละชินกับมันไปแล้ว

ปี 1 ภาควิชาเราก็มีกันอยู่แค่ 48 คนครับ  ซึ่งก็ขึ้นรถบัสคันเดียวกันทั้งหมดเลย  โดยมีพี่ปี 2 กลุ่มหนึ่งขึ้นมาคุมด้วย  พร้อมทั้งเอนเตอร์เทรนพวกเราตลอดเส้นทางจนถึงที่หมายเลย  เรียกได้ว่าไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว  ครึกครื้นกันทั้งรถ



..................................



เกือบๆ เที่ยง  พวกเราก็เดินทางมาถึงสถานที่ครับ  ก่อนจะทยอยลงรถกันไปทีละคน  ซึ่งหน้าประตูรถก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงสองคนถือกระป๋องอยู่  พี่ๆ เขาบอกให้เราหยิบเอากระดาษในกระป๋องขึ้นมาคนละ 1 อัน  ซึ่งผมได้เลข 4  ไอ้เรย์ได้เลข 6 ไอ้เจมส์ได้เลข 1 ได้แน๊ค ได้เลข 2  ครับ

ถึงจุดนี้ผมก็คิดว่าพี่ๆ เขาคงจะจัดกลุ่มพวกเราแน่ๆ  และก็จริงตามนั้นครับ  เมื่อพี่ๆ เขาเรียกเราไปนั่งรวมกลุ่มกันก่อนจะเริ่มอธิบายถึงระเบียบการอยู่ค่าย  และปิดท้ายด้วยการแบ่งกลุ่มสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ครับ  โดยแบ่งเป็นกลุ่มละ 6 คน  ซึ่งทีแรกพวกผมก็คิดว่า  พวกเราน่าจะไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันซะแล้ว  แต่กลายเป็นว่าพี่ๆ เขาให้ในแต่ละกลุ่มต้องมีสมาชิกที่มีหมายเลขไม่ซ้ำกันตั้งแต่ 1 ถึง 6  นั่นก็เลยทำให้พวกเรา 4 คนได้อยู่กลุ่มเดียวกันทั้งหมดไปโดยปริยาย  แต่ก็ยังต้องหาสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน  คือคนที่ได้หมายเลข 3 และ 5 ซึ่งก็ไม่ยากครับ  สุดท้ายเราก็ได้สาวอีก 2 คนเพิ่มเข้ามาจนครบทีม

แต่ที่น่าดีใจที่สุดก็คือ  กลุ่มที่หาสมาชิกได้ครบกลุ่มสุดท้ายนั้นต้องถูกทำโทษด้วยการถูกพวกพี่ๆ เขาใช้สีละเลงหน้า  เพื่อประเดิมกิจกรรมเข้าค่ายรับน้องทันทีครับ  ซึ่งกลุ่มพวกผมก็รอดตัวกันไป ( แต่ก็ไม่รู้จะรอดไปได้นานแค่ไหนกันนะครับ )
จากนั้นพี่ๆ เขาก็ให้พวกเราเอาของเข้าไปเก็บที่ห้องพัก  ซึ่งพักกันห้องละ 4 คนครับ  ก่อนจะมาแจกข้าวกล่อง  แล้วให้พวกเราพักผ่อนกันตามอัธยาศัยจนถึงบ่าย 2 ครับ

“ ไงมึง  ตกลงตัดสินใจว่าไงวะ  นั่งมองพี่เขาอยู่แบบนี้  คงช่วยอะไรได้หรอก “

ไอ้เรย์มันกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูผมครับ  ขณะที่พวกเราจับกลุ่มกินข้าวกันอยู่ 4 คน  ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ริมหาด 

มันคงจะเห็นผมแอบมองพี่กิจที่นั่งอยู่ไกลๆ กับกลุ่มพี่เขาอยู่บ่อยๆ ล่ะมั้งครับ 

ส่วนเรื่องที่ว่าตัดสินใจอะไรนั้น ?  ก็คงต้องย้อนกลับไปเล่าเรื่องเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้แล้วล่ะครับ




.....................................................




2 วันก่อนเข้าค่ายรับน้อง   


“ เป็นไรมึง  นั่งหน้าหงอยเป็นหมาเหงาเลยนะ “ 

ไอ้เรย์มันถามขึ้น  ก่อนจะเข้ามานั่งข้างๆ ผม  ซึ่งนั่งอยู่คนเดียวหลังห้องเพื่อรอเรียนในเช้านี้

วันนี้ผมมาเช้ามากครับ  เพราะพี่กิจรีบมาส่งงานที่คณะ  เลยเร่งให้ผมออกห้องเร็วกว่าปกติ  ซึ่งตอนนี้ก็มีคนเข้ามารออยู่ในห้องยังไม่ถึง 10 คนเลยครับ

“ เปล่า... “ 

ผมตอบไปอย่างเซ็งๆ กับความรู้สึกสับสนในตอนนี้  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกครับ 

ก็..  เรื่องที่ว่า... ผมรู้สึกยังไงกับพี่กิจในตอนนี้

ผมไม่รู้เลยครับ  ว่าไปรู้สึกกับพี่เขาตั้งแต่ตอนไหน  ทั้งๆ ที่เจอกันครั้งแรกก็ไม่ชอบพี่เขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแท้ๆ  แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่ารู้สึกดีกับพี่เขาไปเสียอย่างนั้น  ทั้งเวลาที่ได้อยู่กับพี่เขา  ได้ใกล้ชิดกัน  ได้สัมผัส..  และทุกอย่างที่เป็นพี่เขา  มันทำให้ผมรู้สึกดีและใจเต้นแปลกๆ ทุกครั้งไป...

ผมที่ก่อนหน้านี้เป็นอ่อนต่อโลกและไม่เคยชอบใครมาก่อน  ไม่รู้เลยครับว่าความรักมันเป็นยังไง  จนกระทั่งได้มาเจอกับพี่กิจเนี่ยแหละ  ที่ทำให้ผมเริ่มพอจะเข้าใจประสบการณ์ใหม่เหล่านี้  และถึงแม้ว่าจะไม่มีใครบอก...  แต่หัวใจผมก็รู้ได้ว่าสิ่งนี้มันคือความรัก…

จากที่เคยปฏิเสธมาโดยตลอด  ว่าไม่มีทางเป็นไปได้  ที่ผมจะมาชอบผู้ชายด้วยกันเองแบบนี้ 

แต่ตอนนี้...  ผมคงต้องยอมรับหัวใจตัวเองแล้วละครับ 

เพราะผม....  หนีหัวใจตัวเองไม่พ้นแล้วจริงๆ

เมื่อคิดอย่างนี้ได้  ผมก็เลยมานั่งกลุ้มอยู่ตอนนี้  ว่าควรจะจัดการกับหัวใจตัวเองยังไงดี

“ เปล่าเชี่ยไร  กูเห็นมึงหงอยมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้วนะเว้ย..  เป็นไร...  คิดถึงแมวเหรอวะ “

“ เปล่า... “

“ ถ้าไม่ใช่...  นั้นก็มีเรื่องเดียวที่จะทำให้มึงเป็นแบบนี้ได้ “

มันเงียบไปเล็กน้อย  เพื่อรอดูท่าทีของผม  แต่ถึงกระนั้น  ผมก็ยังไม่มีท่าทีที่อยากจะรู้สิ่งที่มันจะพูดต่อแต่อย่างใด  ผมยังคงนั่งเท้าคางเบื่อๆ อยู่เหมือนเดิม

“ เรื่องพี่กิจใช่มั้ย... “

ได้ยินอย่างนี้  ผมก็ถึงกลับละมือออกมาจากคางหันไปมองมันทันที  แสนรู้จริงๆ  ไอ้เพื่อนคนนี้

“ นั่นไง  กูว่าละ...  คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ  ทะเลาะกันอีกเหรอวะ “

“ เปล่า.... “

“ ถ้าไม่ทะเลาะนั้นก็...  เห้ย!  หรือว่า...  พี่กิจปล้ำมึงแล้ววะ “

“ สัด!!  เบาๆ  ปล้ำเปิ้มอะไรเล่า  พี่เขาไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอก “

“ นั้นแล้วเรื่องอะไรวะ “

“ ไม่รู้เว้ย!! “

ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่ครับ  จะให้ตอบมันไปยังไงดีล่ะ 

ทั้งๆ ที่ตอนนี้พี่เขาก็ดีกับผมมากขนาดนี้แล้วแท้ๆ  แต่ทำไมผมถึงยังต้องมานั่งเซ็งแบบนี้อยู่อีก

“ แต่น้ำเสียงและอาการมึงตอนนี้มันบอกว่าไม่ใช่นะ “

แล้วมันก็ทำสายตาจับผิดมองมาครับ

 “ นี่...  มึงคุยกับกูได้ทุกเรื่องนะ  จำไม่ได้เหรอวะ “

ก็จริงนะครับที่ผมคุยกับมันได้ทุกเรื่อง... 

หรือบางที...  การมีมันช่วยคิดเรื่องนี้ด้วย...  ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้นะครับ 

“ มึงว่า...  การที่เราดันไปรู้สึกดีกับผู้ชายคนนึง.. มันผิดมากมั้ยวะ “

ผมอ้อมแอ้มถามไป  มันเองก็ทำหน้านิ่งๆ ฟังอยู่  ก่อนที่จะถามผมมาต่อ

“ อะไรที่มึงคิดว่าผิดวะ “

“ ก็หลายๆ อย่างอะ...  ความถูกต้อง  คนรอบข้าง  ครอบครัว  และอนาคต  ทุกอย่าง... มันดูเป็นปัญหาไปทั้งหมดอะ “

ผมพูดจบ  จู่ๆ มันก็ตีหัวเบาผมเบาๆ ขึ้นมาทีนึงอย่างไม่รู้สาเหตุครับ

“ ตีกูไมเนี่ย “

“ ก็เรียกสติมึงไง  นี่มึงคิดมากเกินไปรึป่าววะ  มึงมัวแต่คิดถึงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น  จนมึงไม่กล้าจะลองทำมันเลยเนี่ยนะ “

“ ก็กูกลัวนี่หว่า “

“ กลัวแล้วมึงต้องเดินหนีความจริงเลยเหรอวะ...  แทนที่มึงจะมัวมาหลอกตัวเองเพื่อไม่ให้เจอกับปัญหาเหล่านั้น  สู้มึงเผชิญหน้ากับมันแล้วหาทางแก้ไขไม่ดีกว่าเหรอ  ใครจะรู้..สุดท้ายมันอาจจะออกมาดีก็ได้  สมัยนี้แล้วนะเว้ย  เขาเปิดกว้างกันแล้ว “

“ แล้วถ้ามันออกมาไม่ดีล่ะ “

“ แล้วมึงมีอะไรจะต้องเสียวะ  อย่างมากก็แค่เสียใจ  แต่โอกาสในชีวิตมันไม่ได้มีมาให้บ่อยๆ นะเว้ย  ถ้ามึงไม่ลอง..  วันนึงมึงอาจจะเสียใจมากกว่าก็ได้ “

ก็จริงอย่างที่มันพูดนะครับ...

“ แต่ไม่ว่าจะยังไง  กูก็อยู่ข้างมึงเสมอนะ “
 
มันพูดจบก็เอามือมาตบไหล่ผมเบาๆ ครับ

“ ขอบใจนะ “

“ ว่าแต่...  พี่กิจใช่มั้ยวะ “

มันยิ้มถามมาครับ  ผมเลยถอนหายใจเล็กๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

“ นั่นไงกูว่าละ  วันนึงมึงต้องสปาร์คกันแน่ๆ  แต่กรณีนี้...  กูว่ามึงมีโอกาสสูง  เชื่อกูดิ “

“ โอกาสสูง ?  ทำไงวะ “

“ ก็กูว่าพี่กิจเองก็ชอบมึงเหมือนกัน  กูดูออก “

“ ไม่มั้ง...  พี่เขาเป็นเสือผู้หญิงมาก่อนนะเว้ย  จู่ๆ จะหันมาชอบผู้ชายได้ไง “

“ แต่มึงอะน่ารัก...  ขนาดที่ดึงดูดผู้ชายด้วยกันได้นะเว้ย  ดูอย่างไอ้ธันกับพี่พีดิวะ  ยังมาชอบมึงเลย “

“ มึงนี่ก็ลากคนอื่นมาเกี่ยวตลอดอะ  สองคนนั้นจะมาชอบกูได้ไง  บ้าป่าว... “

“ พี่พีกูยังไม่คอนเฟิร์ม  แต่ไอ้ธันอะชัวร์  เพราะกูคุยกับแพรมาแล้ว  แพรบอกเองเลยนะว่า... ไอ้ธันมันขอให้แพรมาช่วยจีบมึงให้อะ “

เห้ย!!  จริงเหรอเนี่ย...  หล่อๆ เพอร์เฟคอย่างไอ้ธันเนี่ยนะจะมาชอบผม  แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันแบบนี้ด้วย  ถ้ามันไม่บอกว่าแพรบอกมานะ  ผมไม่มีทางเชื่อมันหรอกครับ

“ จริงดิ  แล้วนี่กูควรจะทำไงดีวะ  โอ้ย...!! กลุ้มโว้ย!! “

“ ที่มึงควรกลุ้มคือเรื่องพี่กิจ  ไม่ใช่เรื่องไอ้ธัน “

ก็จริงของมันครับ

“ กูว่ามึงลองบอกชอบพี่เขาไปตรงๆ เลยดีมั้ย “

มันพูดจบ  ผมก็หันขวับไปมองมันตาโตทันที  คือจะให้ผมไปบอกพี่เขาตรงๆได้ยังไงกันละครับ 

ใครจะกล้า... 

ยิ่งถ้าพี่เขาไม่ชอบผม  แล้วปฏิเสธขึ้นมาล่ะ... 

แต่นั่นก็ยังไม่เท่าไหร่... 

ผมกลัวพี่เขาจะเกลียดผมไปเลยมากกว่า...
 
ไม่สิๆ  อาจจะแย่กว่านั้นอีก  คือไล่ผมออกจากห้องไปเลยก็ได้ 

หรือว่า...  อาจจะแย่กว่านั้นไปอีก... 

โอ้ย!!!  ใครจะกล้าล่ะครับเนี่ย

“ เหวอทำไม...  กูพูดจริงนะ “ 

มันยังคงยืนกรานในความคิดของมันครับ

“ กูไม่กล้า...  มึงไม่รู้หรอก...  เวลาที่พี่กิจโมโห  แม่งน่ากลัวชิบหาย “

“ แล้วถ้าพี่เขาชอบมึงตอบล่ะ  มึงจะไม่รู้สึกดีเอามากๆ เลยเหรอวะ  มึงไม่อยากลองเสี่ยงดูบ้างเหรอ “

เสี่ยงเหรอ...  แต่นี่มันเป็นความเสี่ยงที่มีโอกาสสำเร็จน้อยมากเลยนะครับ  จะถึง 1% รึเปล่าก็ยังไม่รู้  คือถ้าสำเร็จคงต้องเรียกว่าปาฏิหาริย์แล้วล่ะครับ

“ ถ้ามึงไม่เสี่ยง  มึงก็จะไม่ได้พี่เขา 100% เลยนะเว้ย  แต่ถ้ามึงลองเสี่ยงดู  โอกาสที่จะไม่ได้พี่เขา  มันก็จะไม่ใช่ 100% ละ  เห็นมั้ย...  เทคนิคการลดความเป็นไปได้ในเชิงวิศวกรรมของกู “

วิศวกรรมพ่องมึงดิคิดแบบนี้.... 

แต่ว่าก็จริงของมันนะครับ  ถ้าผมไม่เสี่ยง...  ผมก็จะไม่ได้พี่เขา 100% แน่นอน

หรือบางที... 

ผมอาจจะลองเสี่ยงดูสักครั้งในชีวิตกันนะ....




.........................................




กลับมาปัจจุบัน....


“ มึงไม่ลองใช้โอกาสมาทะเลแบบนี้บอกพี่เขาไปละวะ  บรรยากาศดีๆ แบบนี้  พี่เขาตอบตกลงมึงแน่ๆ  เชื่อกู... “

มันกระซิบว่ามาต่อ  แต่ผมก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อหนังหน้ามันสักเท่าไหร่หรอกครับ 

คือนี่มันไม่ใช่สาวๆ นะ  แต่เป็นผู้ชายเหมือนกัน  มันคงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ

ผมมองไปยังพี่กิจอีกครั้ง  พี่เขากำลังยิ้มและหัวเราะพูดคุยอยู่กับเพื่อนๆ  เห็นแล้วก็เพลินตาดีนะครับ 

คนอะไร...  ดูดีเป็นบ้าเลย 

“ แนะ...  มองพี่เขาอีกแล้วนะมึง “

ไอ้นี่ก็แม่ง...  จับผิดผมจัง 

“ มองบ้าอะไร  กูก็มองวิวไปเรื่อยนั่นแหละ “

“ เร้อ... “ 

แล้วมันก็ทำเสียงสูงเหมือนไม่เชื่อครับ

“ แดกข้าวไปต่อเลยมึง  ไม่กินเดี๋ยวกูกินของมึงนะ “
   
ว่าแล้วผมก็จิ้มเอาไข่ดาวในกล่องข้าวมันมา  ก่อนที่มันจะโวยวายและแย่งกลับคืนไป



..............................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 15/03/2561 update chapter 31 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 24-03-2018 15:26:17
ช่วงบ่าย

ตอนนี้พี่ๆ เขาให้เราแยกกันไปตามกลุ่ม  สำหรับกิจกรรมเข้าฐานในช่วงบ่ายนี้ครับ  ซึ่งจะมีรุ่นพี่ปี 2 กลุ่มละ 2 คนเป็นพี่เลี้ยงคอยพาเราเดินไปตามฐานต่างๆ ครับ  และกลุ่มผมก็ได้พี่เอ็กซ์ กับ พี่ซี เป็นพี่ประจำกลุ่ม

ฐานของกิจกรรมในช่วงบ่ายนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ฐาน  ซึ่งในแต่ละฐานก็จะมีปี 1 สองทีมเข้ามาเจอกัน  เพื่อทำการแข่งขันกัน 
ซึ่งฐานแรกที่พวกผมเจอก็ง่ายๆ ครับ  เป็นการส่งลูกปิงปองลงตะกร้า  ทีมไหนทำได้มากที่สุดก็ชนะไป 

แต่ความพิเศษของมันคือวิธีการส่งเนี่ยแหละครับ  คือเราจะต้องจับฉลากกันว่าแต่ละทีมจะได้ใช้อวัยวะส่วนไหนในการส่งลูกปิงปองไปยังตะกร้า

ซึ่งทีมผมก็คือจมูกครับ  ในขณะที่อีกทีมเป็นหน้าผาก  จากนั้นเราก็จับคู่ในทีมเพื่อช่วยกันประคองลูกปิงปองไปยังตะกร้าที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร

พอเริ่มจับเวลา  ผมกับไอ้เรย์ที่เป็นคู่แรกของทีมก็ค่อยๆ เริ่มออกตัวไปครับ  เราใช้จมูกของพวกเรากดลูกปิงปองไว้ตรงกลางก่อนจะค่อยๆ เดินออกไปจากจุดปล่อยอย่างช้าๆ  เพราะถ้าลูกปิงปองตกลงพื้นขึ้นมา  เราก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่กันทันที

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ  ถ้าไม่ระมัดระวังผมกับไอ้เรย์อาจจะพลาดไปจูบกันอย่างไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้  เพราะตอนนี้หน้าของพวกเราอยู่ใกล้กันจนแทบจะชิด  ห่างกันก็เพียงแค่ลูกปิงปองคั่นเอาไว้ก็เท่านั้นเอง 

แค่นึกว่าหากพลาดมาจูบกับไอ้เรย์จริงๆ แล้วละก็....

อึ๋ยยยยย!!!   ขนลุก!!!

กว่าผมกับไอ้เรย์จะส่งลูกปิงปองลงตระกร้าไปได้  ท่ามกลางเสียงเชียร์ให้ลูกปิงปองของทีมพวกผมตกลงพื้น  เพื่อที่พี่ๆ เขาจะได้เห็นผมกับไอ้เรย์... อึ๋ยยย  อีกทีมที่ได้ส่วนที่ง่ายกว่าก็ปาเข้าไป 3 ลูกแล้วละครับ  ซึ่งไม่ต้องคิดถึงผลแพ้ชนะเลยนะว่าจะเป็นไง...
 
หึๆๆ

ก็แพ้สิครับ...  ถามได้

ตอนนี้ผมกลายเป็นแมวจมูกแดงเดินออกมาจากฐานที่ 1 เพื่อมุ่งไปยังฐานที่ 2 แล้วละครับ 

ทำไมถึงเป็นแมว ?
 
ก็เพราะโดนเขียนแก้มกับจมูกมาน่ะสิครับ  พร้อมทั้งยังโดนมัดจุกบนหัวอีก  แต่ถึงกระนั้น  ก็ยังไม่เละเท่าไอ้เรย์มันหรอกครับ  ซึ่งจำเค้าโครงเดิมแทบไม่ได้เลย  จนเวลามันหันหน้ามาทีไร  พวกผมทั้งกลุ่มก็หัวเราะให้มันได้ทุกทีไป

ฐานที่ 2 เป็นเกมคาบเหรียญครับ 

คือจะให้ตัวแทนที่ถูกเลือกออกมานอนราบไปบนพื้น  พร้อมทั้งถอดเสื้อออก  และให้อีกคนปิดตา  จากนั้นพวกพี่ๆ ปี 4 ก็จะเอาเหรียญ 5 เหรียญมาวางไว้ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย
 
ฐานนี้โชคดีหน่อยที่ตัวแทนกลุ่มผมเป็นไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คครับ  โดยที่ไอ้แน๊คเป็นคนนอน  ส่วนไอ้เจมส์เป็นคนปิดตาหาเหรียญ  ซึ่งตอนเล่นเกม  พวกผมก็ลุ้นและเสียวแทนไอ้แน๊คมันครับ  เพราะพี่เขาเอาเหรียญไปวางไว้ที่สะดือ  หัวนมทั้งสองข้าง  หน้าผากและก็ปากครับ  กว่าที่ไอ้เจมส์จะใช้ปากควานหาจนเจอเหรียญแต่ละเหรียญ  ก็ทำเอาไอ้แน๊คแทบจะดิ้นพล่านไปเลยทีเดียว  ส่วนพวกผมกับรุ่นพี่ที่คอยดูกันอยู่นั้นก็...  ฮากันท้องแข็งเลยละครับ

และฐานนี้...  พวกเราก็แพ้กันอีกตามเคย 

ตอนนี้  ทั้งหัวและหน้าของพวกเราก็ขาวไปด้วยแป้งกันหมดแล้วล่ะครับ

แต่เราไม่ยอมแพ้กันหรอก  ใครมันจะไปแพ้กันได้ทุกฐานละครับ  หึๆๆๆ  เกมต่อไปพวกเราจะต้องชนะ  ฮ่าๆๆๆๆ


และแล้ว....


ก็แพ้กันอีกตามเคย...

นี่มันอะไรกัน....  ศักยภาพทีมพวกเรา...  ทำไมมันอ่อนด้อยเช่นนี้เนี่ย....

พอออกมาจากฐานที่ 3 พี่ซีกับพี่เอ็กซ์ก็พาพวกเราไปยังฐานสุดท้าย  ซึ่งฐานนี้มีแก๊งของพวกพี่กิจเป็นหัวโจกอยู่ 

“ ฮ่าๆๆ....  น้องกันต์ของพวกพี่  ไปทำไรกันมาครับเนี่ย “
 
เสียงพี่คิมดังลั่นขึ้นมาทันทีที่กลุ่มของพวกผมเดินเข้ามาถึง

ผมมองไปยังพี่กิจที่ทำหน้ายิ้มขำผมอยู่เล็กๆ  เห็นแล้วก็อดหมันไส้ขึ้นมาไม่ได้ครับ

“ เอานะครับ  จริงๆ ทีแรก  พวกพี่ก็ตั้งใจจะให้แข่งเกมกันอยู่หรอก  แต่พอดีมันมีเรื่องขึ้นมานิดหน่อยอะ  พวกพี่เลยต้องมาขอความช่วยเหลือจากพวกน้องๆ แทน “

พี่คิมเริ่มต้นพูดด้วยน้ำเสียงงจริงจัง  เมื่อตอนนี้น้องๆ ทั้ง 2 กลุ่มมากันครบแล้ว

ผมมองไปรอบๆ บริเวณ  ภายใต้น้ำเสียงที่ดูจริงจังของพี่คิม  แต่ไหงพี่ๆ คนอื่นๆ ดูจะชิลกันมากเลยครับ  หนำซ้ำพี่ๆ บางคนยังแทบจะหลุดขำออกมาเสียอย่างนั้น

“ คือว่า  “

พี่คิมเริ่มทำหน้าเครียดพร้อมกับน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น

“ ก่อนที่กลุ่มของพวกน้องจะเดินทางมาถึงฐานนี้อะ  พอดีกลับที่มนุษย์ต่างดาวมันเอายานลงมาจอดตรงนี้พอดี “

มนุษย์ต่างดาวเนี่ยนะ....

“ มันบอกกับพวกพี่ว่า  มันจะมายึดครองโลกนี้ “

นี่...  พี่คิมพูดภาษามนุษย์ต่างดาวได้ด้วยเหรอ  ผมพึ่งจะรู้นะเนี่ย

“ พวกพี่ก็เลยต่อรองกับพวกมันไปว่า  ถ้าจะไม่ให้มันยึดครองโลกจะต้องทำยังไง  มันเลยให้ข้อเสนอมาว่า  ให้พวกเรารวบรวมเงินให้พวกมันให้ได้มากที่สุด  มันถึงจะยอมไม่ยึดครองโลกของเรา “

เอ่อ...  ช่างสมเหตุสมผลจริงๆ ครับพี่

“ แต่ว่า...  พี่ๆ คิดกันแล้วว่า  ถึงรวมเงินของพวกเราตอนนี้มาทั้งหมด  ก็คงจะไม่พอให้พวกมันแน่ๆ  พี่ก็เลยคิดว่า...  เราคงต้องมาระดมทุนกันแบบนี้ดีกว่า...  คือ...  เสื้อ...5000  กางเกง...10000  บ๊อกเซอร์....20000 กางเกงในชาย... 30000  ยกทรง... 50000  กางเกงในผู้หญิง 100000 “

พอมาถึงตรงนี้  พวกเราก็หน้าเหวอกันไปตามๆ กัน  หมายความว่ายังไงกันครับพี่

“ พี่จะให้พวกเราไปอยู่กันในทะเล  และพี่จะส่งสัญญาณให้พวกน้องๆ บริจาค 2 ครั้ง  โดยจะมีพี่ปี 2 ถือตะกร้าไปรับบริจาคจากพวกน้องๆ นะ  ใน 2 ครั้งถ้าทีมไหนทำยอดเงินได้มากที่สุดก็ชนะไป “

เกมอะไรเนี่ย  พิเรนสัดๆ เลยครับ  มันแปลว่าให้เราแข่งกันถอดเสื้อผ้าในทะเล  เพื่อทำแต้มให้มากที่สุดอะครับ

“ แต่พี่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ  ว่าทีมที่แพ้อะ  โดนหนักมาก...  เรื่องนี้จริง...  พี่รับประกันเลย “

ชิบหายละไง...แล้วจะทำไงเนี่ย
 
จากนั้นพวกผมก็ลงไปในทะเล  ยังจุดที่มีรุ่นพี่เขาประจำอยู่  ซึ่งตรงจุดนี้ระดับน้ำก็อยู่ที่ประมาณเอวของพวกผมเท่านั้นครับ  โดยแยกหญิงชายอยู่ห่างกันประมาณหนึ่งก่อนจะเริ่มการแข่ง 

เมื่อพี่คิมยกธงเริ่มต้นการบริจาคครั้งแรก  พี่ประจำตำแหน่งก็ถือตะกร้าเดินเข้ามาขอรับบริจาคจากพวกผม  ซึ่งเริ่มต้นพวกผมก็ถอดเสื้อและกางเกงส่งให้ไป  โดยกลุ่มเราจะไม่ให้ผู้หญิงถอดเลยแม้แต่ชิ้นเดียวครับ

“ รอบแรกนะครับ  กลุ่มสีชมพูได้ยอดเงิน 6 หมื่น  ส่วนสีเหลืองได้ยอดเงินรวม 9 หมื่น นะครับ “ 

พี่คิมพูดเสียงดังผ่านโทรโข่งมา  ในขณะที่บริเวณชายฝั่งก็มีเสียงโห่ร้องพร้อมทั้งยุให้พวกเราถอดกันมากกว่านี้อีก  โดยเฉพาะผม...

“ น้องกันต์ขาวจังเลยครับ  ถอดอีกนะครับ “

นี่ล่ะครับเสียงส่วนมากที่ดังมาจากฝั่ง  ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฐานนี้ถึงไม่มีพี่ผู้หญิงอยู่เลย  หนำซ้ำดูแล้วจะเป็นพวกสายเฮี้ยวกันทั้งนั้นด้วย  ที่แท้ก็เพราะมันพิเรนแบบนี้นี่เอง

ว่าแต่...   พี่กิจนี่ก็เป็นไปกับเขาด้วยนะเนี่ย

ว่าแล้วผมก็มองไปยังคนหล่อสุดในกลุ่ม  ที่นั่งอยู่กลางโต๊ะที่ริมชายหาดท่ามกลางบรรดาเหล่าเพื่อนฝูง

แต่พอมองไปที่พี่เขากลับผิดคลาดครับ  ไหงดูพี่เขาไม่สนุกเอาซะเลยล่ะ  ดูนิ่งๆ ออกจะเครียดๆ ด้วยซ้ำ  หวังว่าผมคงจะไม่ทำอะไรผิดไปอีกใช่มั้ยครับ

“ ต่อไปจะเป็นการบริจาคครั้งสุดท้ายนะครับ  พี่จะให้พวกน้องปรึกษากัน 3 นาที  ก่อนที่พี่จะยกธงนะคร้าบ “

เมื่อพี่คิมพูดจบ  พวกผมก็หันมาปรึกษากัน  แต่ที่แน่ๆ  คือทีมเราจะไม่ยอมให้ผู้หญิงต้องถอดอะไรแน่ๆ 

แต่ว่าจะทำยังไงดีละครับ  ถึงจะชนะได้  เพราะอีกทีมเป็นผู้ชายล้วนทั้ง 6 คนเลย  แค่ถอดบ๊อกเซอร์ออกมาก็ชนะพวกผมแล้ว

“ เอาไงวะ  หรือว่าจะยอมแพ้ “ 

ไอ้เจมส์ถามขึ้นมา

“ แต่แพ้นี่โดนหนักนะเว้ย  กลุ่มพี่กิจด้วย  มึงเชื่อกู  คำว่าหนักของพวกพี่เขานี่...  หนักจริงนะเว้ย...  กูอยู่ชมรมบาสเคยเจอมาแล้ว “

ไอ้เรย์ว่ามาต่อ  ซึ่งมันยิ่งมากดดันพวกเรามากขึ้นไปอีก

“ แต่เราจะให้หญิงกับเมย์ถอดไม่ได้นะเว้ย “ 

ผมยังคงย้ำความคิดเดิมของกลุ่มเราอยู่

“ แต่ถ้าอยากจะชนะ...  มันก็มีแค่ทางเดียวนะ  พวกมึงจะกล้ามั้ยล่ะ “ 

ไอ้แน๊คถามขึ้นถึงสิ่งที่เราเองก็พอจะรู้ๆ กันอยู่

ผมก้มลงมองดูน้ำทะเล  ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่ใสมาก  แต่ถ้าอยู่ใกล้ๆ แบบนี้แล้ว  พวกเราก็คงมองเห็นอะไรของกันและกันแน่ๆ 
ถ้าเลือกที่จะทำสิ่งนั้นแล้ว....

“ โหวตมั้ย... “ 

ไอ้เจมส์เสนอครับ

“ โอเค “
 
ผมขานรับไป

“ นั้นกูคนแรกเลย...  กูยอมถอด  ผู้ชายเหมือนกันกลัวอะไร  อีกอย่าง...  อยู่โครตไกลจากฝั่ง  หรือตรงที่ผู้หญิงยืนอยู่  ก็ไม่มีทางเห็นอะไรอยู่แล้ว “

ไอ้เรย์ว่ามาคนแรกครับ

“ นั้นกูเอาด้วย “ 

ไอ้แน๊คสนับสนุนต่อ  ผมกับไอ้เจมส์เลยมองหน้ากัน  ก่อนจะพยักหน้าตามเล็กๆ 

เอาไงเอากันครับ ! 

ยังไงฐานสุดท้ายนี้...  ทีมผมจะต้องชนะ  และไม่มีทางถูกทำโทษเป็นอันขาด

พอเริ่มต้นบริจาค  พี่คิมก็ยกธงส่งสัญญาณมาให้พวกเราทันที 

ไอ้เรย์เป็นคนแรกเลยครับที่เริ่มถอดออกมา  พอพี่กรรมการเดินเข้ามาให้พวกเราใส่ของบริจาคลงไปในตะกร้าเท่านั้นแหละ  พี่เขาก็ส่งสัญญาณบอกไปยังพวกที่อยู่บนฝั่งประมาณว่า  กลุ่มนี้มันเอาจริง... ยอมถอดหมดเลยครับ  และนั่นก็สร้างเสียงฮือฮาขึ้นมาแทบจะในทันที

อายสุดๆ  เลยครับ...   เกมบ้าอะไรเนี่ย!!!   

ผมนี่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเลย  เพราะมันต้องมีข่าวมาแน่นอนว่า  ฐานนี้พวกผมถอดกันหมดเลยแบบนี้

ช่างมัน...  หน้าด้านเข้าไว้ไอ้กันต์ !

และแล้วผลก็ออกมาครับ  และทีมที่ชนะก็คือ....


…..


ทีมสีเหลืองครับ….

 o22

 :serius2: :angry2: :z3:

ไอ้สาด!!!!!! 

แล้วนี่ที่พวกผมยอมลงทุนกันไป  มันเพื่ออะไรกันละคร้าบ !!!

คือในทีมนั้นมันมีอยู่ 2 คนที่ยอมถอดกางเกงในด้วย  เลยทำให้ชนะไปในที่สุด

เห้อ...  ไม่น่าเลยพวกผม...

แต่ว่า... 

ที่อนาถใจที่สุดคืออะไรรู้มั้ยครับ...?

ก็บทลงโทษนี่แหละ...

เพราะมันคือการให้พวกเราที่อยู่ในน้ำวิ่งไปเอาเสื้อผ้าของตัวเองที่อยู่ในตะกร้าบนฝั่งมาใส่ครับ 

ถึงหาดบริเวณนี้จะเป็นจุดที่ปลอดผู้คนก็เถอะ...  แต่แค่คิดว่าต้องวิ่งขึ้นไปบนหาดเพื่อเอาเสื้อผ้าทั้งอย่างนี้  มันก็รับไม่ได้แล้วล่ะครับ

พี่ๆ เขาให้พวกผู้หญิงหันหลัง  และพวกคนอื่นๆ ด้วย  แต่มีข้อแม้ว่า...  พวกรุ่นพี่จะหันหลังให้แค่ 1 นาทีเท่านั้นครับ  ถ้าพวกผมยังแต่งตัวกันไม่เสร็จนี่ก็... 

แจ้งเกิดในวงการแน่นนอน....

พี่คิมเป่านกหวีดส่งสัญญาณให้พวกผมรีบวิ่งขึ้นมาเอาชุดบนฝั่ง
 
งานนี้พวกเราไม่สนแล้วละครับ  ช่างมัน....  เพื่อนกันทั้งนั้นและก็ผู้ชายเหมือนกันด้วย  เห็นกันบ้างจะเป็นอะไรไป  ว่าแล้วพวกเราก็รีบวิ่งขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเล  โดยไม่ปิดบังอะไรกันเลย  เพื่อไปเอาเสื้อผ้าของตัวเอง 

งานนี้ของใครเป็นไง...เห็นกันหมดครับ...
 
ดีนะที่ผมควานหาและใส่บ๊อกเซอร์ได้ทัน  ก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะหันกลับมาพร้อมกับเสียงโห่ร้องอย่างไม่พอใจทันทีที่เห็นว่าพวกเราตอนนี้ไม่มีใครโป้เลยสักคน

แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังอายอยู่ดีครับ


ไม่น่าเลยกู...  ฮือๆๆ



TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-03-2018 17:03:50
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-03-2018 17:43:41
 :pig4: :pig4: :pig4:


555

กะแล้วว่าต้องแพ้  อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-03-2018 20:00:20
5555 ใครน้อช่างกล้าถอด กกน.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 24-03-2018 21:08:02
แสนจะฮาเลยนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-03-2018 01:18:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-03-2018 01:31:04
ถอดหมดดดดดดดดด  :hao6:  :m24:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-03-2018 12:55:54
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 01-04-2018 22:04:08
Chapter 33



กันต์'s  Part




สบายจังครับ  เวลามานั่งริมทะเลแบบนี้  ลมทะเลและแสงแดดอ่อนๆ ยามเย็น  มันทำให้ผมคิดถึงบ้านที่กระบี่อะครับ
 
ผมนั่งมองไปไกลๆ จนสุดขอบทะเลตามลำพัง  ในขณะที่พวกเพื่อนๆ ในกลุ่มกำลังสนุกอยู่กับการเตะบอลที่ชายหาดกับพวกรุ่นพี่ระหว่างรอมื้อค่ำกันอยู่
 
“ มานั่งทำไรคนเดียว  ไม่ไปเล่นกับเพื่อนๆ ล่ะ “

น้ำเสียงเรียบๆ ที่คุ้นเคย  ดังขึ้นให้ผมเงยหน้าขึ้นมามองยังร่างสูงที่หยุดยืนอยู่ข้างๆ ผมในตอนนี้

“ ขี้เกียจอะพี่  ไม่อยากอาบน้ำอีกรอบด้วย “

ผมบอกไป  จากนั้นพี่กิจก็ร่นตัวลงนั่งข้างๆ ผมครับ

“ ฐานเมื่อกี้...  ทำไมถึงทำกันอย่างนั้น  บ้ารึป่าว “

“ ทำไรอะพี่ “ 

ผมถามกลับอย่างไม่เข้าใจครับ

“ ก็ที่ยอมถอดกันหมดไง  บ้าป่าว... “

“ ก็ผมอยากชนะนี่ “

“ แล้วมันคุ้มมั้ย “

“ ก็ใครมันจะไปคิดละว่า...  มันยังจะแพ้อีก... “

“ ไม่ได้หมายถึงว่าแพ้หรือชนะ  แต่หมายถึง... “

พี่กิจอ้ำอึ้งไปเล็กน้อย  ในขณะที่ผมเองก็รอฟังต่อ

“ หมายถึงไรอะพี่ “

“ ก็...  ที่ให้คนอื่นเขาเห็นอะไรอย่างนั้นไง “

“ มันก็แค่เพื่อนๆ กันไม่กี่คนเองพี่....  ผู้ชายเหมือนกัน  ไม่เป็นไรหรอกมั้ง “

“ เป็นดิ! “

ผมมองหน้าพี่กิจอย่างไม่ค่อยเข้าใจในท่าทีและน้ำเสียงตอนนี้สักเท่าไหร่

“ กะ..ก็..  พี่ว่าไม่ดีก็คือไม่ดี  แล้วทีหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีกล่ะ  อย่าให้ใครเห็นอะไรแบบนั้นอีก..  เข้าใจมั้ย! “

ผมที่ยังคงงงๆ เลยได้แต่พยักหน้าเล็กๆ ให้ไปเท่านั้น
 
เพียงแต่...  พอเห็นพี่เขาเสียงเข้มและมีท่าทีที่แปลกไป  มันก็อดคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมาบ้างไม่ได้ว่า  พี่เขาเองก็แอบหวงผมอยู่เหมือนกัน  แต่มันก็คงเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันไปตามประสาคนที่แอบชอบเขาละมั้งครับ

จากนั้นพี่กิจก็ลุกออกไป  ผมมองตามพี่เขาที่กำลังเดินเข้าไปเล่นบอลกับเพื่อนๆ ที่ชายหาด

วันนี้พี่กิจใส่เสื้อกล้ามสีขาว  มีเชิร์ตสีฟ้าอ่อนบางๆ คลุมทับไว้  และสวมกางเกงขาสั้นสีขาว  ดูหล่อเด่นสะดุดตากว่าใครๆ ทุกคนเลย  ซึ่งผมก็ได้แต่ทำตาละห้อยมองตามไปเท่านั้น  แล้วก็นั่งดูพี่เขาเล่นบอลอยู่กับเพื่อนๆ เพลินจนลืมดูเวลาเลย

นี่ผมท่าทางจะเป็นเอามากนะครับเนี่ย....



ค่ำนี้เขามีกิจกรรมต่ออีกเล็กน้อย  ก่อนจะให้พวกเราเตรียมตัวกลับเข้าที่พักกัน  ซึ่งจะมีของว่างให้ทานก่อนนอน  ผมเลยชงโกโก้ร้อนไปนั่งดื่มรับลมเย็นๆ ที่ริมชายหาด

ผมปล่อยให้ตัวเองอยู่ในห้วงแห่งความคิดเรื่องพี่กิจที่วกไปวนมาอยู่ได้ไม่นาน  ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งก็ร่นตัวลงมานั่งข้างๆ ผม

“ กินกาแฟไม่กลัวนอนไม่หลับเหรอครับพี่ “

ผมถามพี่พีขึ้น  เมื่อกลิ่นกาแฟจากแก้วพี่เขาโชยมาเตะจมูกผม

“ คืนนี้พี่ต้องอยู่เวรคอยดูน้องอะ  ว่าแต่เราเถอะ...  ออกมานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้ “

“ ลมมันเย็นดีอะพี่  เลยมานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย “

“ แล้วเป็นไง  สนุกมั้ย....  มาเข้าค่ายรับน้อง “

“ ก็สนุกดีพี่  ได้มาพักผ่อนด้วย  ผมชอบทะเลอะครับ “

“ เห็นไอ้กิจบอกว่าเรามาจากใต้เหรอ “

“ ครับ..  ผมอยู่กระบี่อะ  แล้วพี่พีล่ะ “

ผมตอบเสร็จก็หันไปถามพี่เขากลับ  เพราะจำได้คร่าวๆ ว่าพี่พีเขามาจากใต้เหมือนกัน

“ พี่อยู่พังงาน่ะ  เคยไปมั้ย “

“ เคยนะพี่  แต่ไม่บ่อย  แค่ครั้งสองครั้งเอง “

“ ไว้วันหลังถ้ามีโอกาส  พี่จะพาไปเที่ยวนะ “

“ จริงนะพี่ “

ผมยิ้มถามไปด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น  เพราะที่พังงาก็สวยไม่แพ้กระบี่เลย  แถมตอนนั้นที่ไปผมก็ยังเด็กมาก  และยังเที่ยวไม่ค่อยจะทั่วเลย  ถ้ามีเจ้าถิ่นเป็นไกด์นำเที่ยวแบบนี้  มันคงจะสนุกน่าดูเลยนะครับ

“ จริงสิ..  อยากไปเมื่อไหร่บอกพี่ได้เลยนะ “ 

พี่พียิ้มใจดีบอกมาครับ 


“ อะแฮ้ม!! “


เสียงกระแอมที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง  ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  พี่กิจนั่นเอง  พอผมกับพี่พีหันไปมอง  พี่เขาก็เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างผมแล้วในตอนนี้

“ กันต์!  ทำไมยังไม่ไปนอนอีก....  มึงก็ด้วยไอ้พี  เค้าให้มึงมาดูน้อง  ไม่ใช่ปล่อยให้น้องออกมาข้างนอกดึกๆ แบบนี้ “

“ มึงก็เข้มงวดเกินไปป่าววะ  นี่พึ่งจะแค่ 4 ทุ่มเอง  อีกอย่าง...  เขายังมีเวลาให้กินมื้อดึกก่อนนอน  แล้ว...  นี่มึงมีอะไรป่าววะ “

“ เปล่า...  ไอ้คิมมันให้มาตามมึงอะ “

“ อ๋อ...  เออๆ รู้ละ “

พี่พีพูดจบก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ

“ พี่ไปก่อนนะ  อย่านอนดึกล่ะเรา “

ผมพยักหน้ายิ้มรับเล็กๆ  จากนั้นพี่พีก็เดินจากไป  เหลือไว้แค่ผมกับพี่กิจอยู่กันตามลำพังสองคนเท่านั้นในตอนนี้

ผมเงยหน้ามองหน้าพี่กิจ  ก่อนจะถูกสายตาดุๆ มองตอบกลับมา  สงสัยคงอยากจะให้ผมเข้านอนแล้วล่ะมั้งครับ  ว่าแล้วผมก็กลับเข้าห้องพักเลยจะดีกว่า

“ จะรีบไปไหน “

พี่กิจว่ามาครับ  ผมที่กำลังจะลุกขึ้นยืน  เลยต้องหยุดชะงักลง  พร้อมกับมองหน้าพี่เขากลับไปอย่างงงๆ  จากนั้นพี่เขาก็ร่นตัวลงมานั่งข้างๆ ผม

“ ก็พี่บอกให้ผมรีบเข้านอนไม่ใช่เหรอ “ 

ผมอ้อมแอ้มบอกไป

“ ก็..  ยังไม่ดึกมาก  ให้นั่งเล่นต่ออีกหน่อยก็ละกัน “

อะไรของพี่เนี่ย....

แต่ว่า...  ก็ดีเหมือนกันนะ..  ได้นั่งอยู่กับพี่เขาท่ามกลางบรรยากาศดีๆ แบบนี้  มันก็....ไม่เลวนะครับ

“ อะ... “

พี่เขายื่นแก้วโกโก้ร้อนส่งมาให้ผม  ในขณะที่อีกมือของพี่เขาเป็นแก้วกาแฟที่กำลังส่งกลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก

“ ผมมีแล้ว... “ 

ผมบอกไปก่อนจะชูแก้วของผมที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาให้พี่เขาดู  รู้สึกเหมือนผมจะเห็นสีหน้าผิดหวังเล็กๆ ของพี่เขาเลย...

หรือผมจะคิดไปเองกันนะ...

“ แต่มันจะหมดแล้ว  นั้นผมขอแก้วนั้นต่อเลยละกันนะ “

ว่าจบผมก็รีบซดโกโก้อุ่นๆ ที่เหลือกว่าครึ่งแก้วให้หมดลงในคราวเดียว  ก่อนจะรับอีกแก้วจากพี่เขามา

ก็...  พี่เขาอุตส่าห์เอามาให้ผมนี่นา....

พี่กิจมองผมตาคม  ทำเอาผมไม่กล้าสู้สายตา  เลยต้องงุดหน้าลงไปมองยังพื้นทรายแทน

“ อ๊ะ ! “

สัมผัสแผ่วเบาจากปลายนิ้วที่เอื้อมเข้ามาปาดบริเวณริมฝีปากผม  ทำให้ผมสะดุ้งตัวอยู่เล็กน้อย

“ เรานี่นะ...  กินเป็นเด็กไปได้  เลอะปากหมดแล้วยังไม่รู้ตัวอีก “

พี่เขาว่ามาครับ  ก็คงจะตอนที่ผมรีบดื่มให้หมดนั่นแหละ  เลยไม่ทันจะได้ระวังสักเท่าไหร่

“ พี่กิจ... “

“ ว่าไง... “

“ นั่งเป็นเพื่อนผม..  จนหมดแก้วนี้ได้มั้ย “

พี่กิจมองหน้าผมเล็กๆ  ก่อนจะยิ้มให้ที่มุมปาก

“ อื้ม... “

ไม่รู้ว่าผมยิ้มออกมาตอนไหน  ราวกับเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ  เมื่อได้รับการตอบรับคำขอจากคนๆ นี้

มันเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างวังเวง  จะมีก็เพียงเสียงลมทะเลและเสียงผู้คนดังมาไกลๆ จากทางด้านหลังก็เท่านั้น 

ผมควรจะรู้สึกเหงา  กลัว..  หรือโดดเดี่ยว...  ทว่าความรู้สึกเหล่านั้นกลับไม่มีเลย 

ผมรู้สึกอุ่นใจมาก..  ที่มีคนๆ นี้อยู่ข้างกายแบบนี้

ผม...  อยากมีพี่เขาอยู่เคียงข้างผมแบบนี้ตลอดไปจัง...


........


“ คิดอะไรอยู่อะ “

จู่ๆ พี่เขาก็ถามขึ้นมาครับ  หลังจากที่เรานั่งปล่อยใจมองทะเลที่มืดมิดอยู่ได้สักพักหนึ่ง

“ เปล่าครับ...  ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอะ  เห็นทะเลแล้ว...  มันก็อดคิดถึงบ้านเก่าขึ้นมาไม่ได้อะ “

“ เหงามั้ย “

“ ถ้าให้พูดจริงๆ  แบบไม่โกหกตัวเองก็...  เหงาครับ “

แล้วพี่กิจก็มองผมด้วยสายตาที่อ่อนโยน  ก่อนจะเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ

“ โตแล้ว...  เราต้องเข้มแข็งนะ  รู้มั้ย “

“ ครับพี่... “

“ แต่ว่า...  อ่อนแอบ้างก็ได้  ยิ่งเวลาอยู่กับพี่อะ  อย่าฝืนตัวเองเพื่อที่จะเข้มแข็ง  พี่เคยสัญญากับเราไว้แล้วจำได้มั้ย  ว่าจะเป็นคนดูแลเราเอง “

ใช่ครับ  พี่กิจเคยให้สัญญากับผมไว้  ตอนที่ผูกข้อมือให้ในวันสุดท้ายของการเชียร์  และพี่เขาก็ทำอย่างนั้นมาโดยตลอด...

“ ขอบคุณนะครับพี่กิจ... “

พี่เขายิ้มรับมาให้เล็กๆ  ก่อนที่ผมจะเริ่มพูดต่อ

“ แต่จะว่าไป...  ใครจะคิดละครับว่า...  พี่จะมาดีกับผมแบบนี้ได้ “

ผมเปลี่ยนบรรยากาศมาแกล้งถามพี่เขาบ้าง  เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศแบบเมื่อกี้  ผมกลัวใจตัวเองมันจะเตลิดไปไกลอะครับ

“ ทำไมอะ “  พี่กิจร่นคิ้วถามมา

“ ก็แรกๆ ที่เราเจอกัน  พี่อะโครตดุเลย  จำไม่ได้เหรอ “

“ ก็...  ได้เป็นคนพิเศษกว่าคนอื่น  ไม่ชอบรึไง “

เชี่ย...  พี่พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงครับ  ผมคิดไปไกลเลยนะ  รู้มั้ย...

“ พิเศษยังไงอะ “

ผมทำใจดีสู้เสือลองถามกลับไป  ก่อนจะแอบกลืนน้ำลายเล็กๆ อย่างคาดหวังในคำตอบ

ทว่าพี่กิจกลับไม่ตอบอะไรมา  จะได้ยินก็เพียงแค่เสียง ‘ หึ ‘  ในลำคอเล็กๆ เท่านั้น  ก่อนที่พี่เขาจะหันกลับไปมองยังทะเลตรงหน้าและจิบกาแฟที่ถืออยู่ต่อไป

สักพักใหญ่พี่เขาก็บอกให้ผมไปเข้านอนได้แล้ว  ผมอิดออดอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้ผล  ผมเลยได้แต่พ่นลมออกจมูก  และทำหน้ายู่ส่งให้ไป

แต่ว่า...  แค่นี้ก็ดีมากแล้วล่ะครับ  สำหรับคืนนี้....



..................................



เช้าวันต่อมา 

ผมตื่นมาแต่เช้า  ก่อนจะออกมาเดินเล่นน้ำทะเลที่ชายหาด  ดูโน่นดูนี่บนพื้นทรายไปเรื่อยเหมือนอย่างเด็กๆ

“ ตื่นเช้าจัง “

เสียงพี่กิจดังมาจากทางด้านหลัง  ให้ผมหันกลับไปมองครับ  ก่อนจะเห็นพี่เขาที่สวมเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงวอร์มสีเทา  มีผ้าขนหนูสีขาวพาดอยู่ที่บ่า  ดูท่าแล้วพี่เขาคงจะไปวิ่งตอนเช้ามาอะครับ 

คนอะไรฟิตเป็นบ้าเลย  ขนาดมาเที่ยวยังตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้าได้อีก

“ ก็ใครทำให้ผมติดนิสัยตื่นเช้าอะ “

“ ว่าพี่เหรอ “

“ ก็ใช่เปล่าล่ะ “

แล้วพี่เขาก็อมยิ้มเล็กๆ  ส่งมาให้

“ ไปเดินเล่นกันมั้ย “

พี่กิจชวนมาครับ  ผมมองหน้าพี่เขาอย่างแปลกใจเล็กน้อย  ก่อนจะรีบตอบตกลงไปอย่างอดที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้

เช้านี้อากาศดีมากครับ  แดดไม่ค่อยมีเท่าไหร่  ลมก็เย็นกำลังเย็นสบาย  เหมาะแก่การเดินเล่นเป็นที่สุด

“ เมื่อคืนพี่กิจได้อยู่เวรเฝ้าน้องมั้ยครับ “

“ อืม...  กว่าจะได้นอนก็ตี 3 เลย “

“ ทำไมดึกอะพี่ “

“ ก็พวกนั้นตั้งวงกินเหล้ากัน  แต่ก็กินกันไปได้ไม่เท่าไหร่นะ  เพราะพวกผู้หญิงออกมาด่า  คือจริงๆ แล้ว  เขาไม่ให้กินเหล้ากันไงเมื่อคืนนี้  แต่ว่า...  คืนนี้อะเต็มที่ได้ “

“ นั้น...  คืนนี้จะมีงานเลี้ยงเหรอพี่ “

“ อืม...  ส่วนเราน่ะ  กินได้...  แต่ห้ามเยอะ “

พี่กิจหันมาเตือน  ซึ่งผมก็ได้แต่ยู่หน้าพ้นลมออกจมูกส่งให้ไปเท่านั้น  พอพี่เขาเห็นแบบนี้ก็ยิ้มขำออกมาให้ทันที

มีความสุขจังครับเวลาที่มีพี่เขาอยู่ข้างๆ ด้วยแบบนี้  ผมที่เคยโดดเดี่ยวกลับได้มาสัมผัสกับความรู้สึกอบอุ่นอีกครั้ง  ก็เพราะพี่เขาเนี่ยแหละ

ถึงจุดนี้...  ผมก็ไม่ปฏิเสธหัวใจตัวเองแล้วละครับว่าผมรักพี่กิจ  แถมยังรักมากๆ ด้วย

บางที...  ภายใต้บรรยากาศดีๆ และอยู่กันตามลำพังแบบนี้  ผมควรจะบอกความรู้สึกตัวเองให้พี่เขาได้รับรู้... 

มันจะดีมั้ยนะ....?

เปอร์เซ็นอันน้อยนิดที่คิดว่าพี่เขาจะรู้สึกเหมือนกันกับผม  ถ้ามันพอจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้...  ผมก็อยากจะลองเสี่ยงดูนะครับ

“ พี่กิจ.... “

“ หือ... “

“ .... “

“ มีอะไรเรา... “

“ เปล่าครับ... “

พี่เขามองหน้าผมอย่างงงๆ  ผมเลยยิ้มเก้อๆ ส่งให้ไปแทนคำพูดที่อยู่ในใจ

ผมยังไม่กล้าพูดมันออกไป...  ให้พูดตรงๆ ก็คือ...  ผมกลัวครับ

กลัวว่าพี่เขาจะรับไม่ได้  แล้วเรื่องดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้มันจะหายไป 

ถ้ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น  ผมขอเวลาทำใจและเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ แบบนี้เอาไว้ให้มากที่สุดเสียก่อน 

แล้วจากนั้น...  ผมก็จะบอกมันออกไป  อย่างพร้อมรับกับผลที่มันจะเกิดขึ้นแน่นอน....

และผมจะไม่เสียใจเลยที่เลือกทำแบบนั้น...

แค่สักครั้งที่ได้ลองเสี่ยงดู  มันคงจะดีกว่าการที่ปล่อยให้โอกาสมันเลยผ่านไป.... ว่ามั้ยครับ....


..................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 24/03/2561 update chapter 32 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 01-04-2018 22:19:05
หลังมื้อเช้า

วันนี้ไม่มีกิจกรรมใดๆ ครับ  พี่ๆ เขาให้เราพักผ่อนกันให้เต็มที่  และเตรียมการแสดงของแต่ละกลุ่มไว้สำหรับงานเลี้ยงตอนกลางคืน  ส่วนตอนเย็นจะมีการแข่งฟุตบอลชายหาดระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องครับ  ซึ่งผมก็ไม่ได้ลงแข่งด้วยหรอกครับ  นั่งเชียร์อยู่ข้างสนามจะดีกว่า

ก็คนมันเล่นบอลไม่เก่งนี่ครับ....

แถมตอนเชียร์...  ผมก็ไม่ค่อยได้ดูทีมตัวเองสักเท่าไหร่หรอกครับ  มัวแต่มองดูพี่กิจซะเพลินเลย  มารู้ตัวอีกที...  ทีมของพวกเราปี 1 ก็แพ้ราบคราบไปเรียบร้อยแล้ว

ก็จะไม่ให้แพ้ได้ไงละครับ  ตัวนักกีฬาอยู่ฝั่งนู้นเพียบเลย  ทั้งพี่กิจ  พี่พี  พี่คิม  ตัวโหดๆ ทั้งนั้น...



……



ช่วงค่ำ

คืนนี้เรามีปาร์ตี้ส่งท้ายกันก่อนกลับในวันพรุ่งนี้ครับ  มีการแสดงต่างๆ จากพวกปี 1 จากนั้นก็จะเป็นการบายศรีภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นของพวกรุ่นพี่รุ่นน้อง  ก่อนจะตบท้ายด้วยปาร์ตี้แบบเต็มตัว  ซึ่งคืนนี้เราได้รับอนุญาตให้กินเหล้ากันได้ครับ



“ มึง....  กูว่า...  กูชอบพี่เขาว่ะ “

ผมที่กำลังกรึ่มๆ  เอียงคอไปพูดกับไอ้เรย์มันเบาๆ ครับ

มันหันหน้ามามองผมแบบแปลกใจอยู่เล็กน้อย  ที่จู่ๆ ผมก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา  ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงกล้าพูดขึ้นมาได้แบบนี้  อาจจะเพราะแอลกอฮอล์ละมั้งครับ  ถึงทำให้สิ่งที่อยู่ในใจมันหลุดออกมาเป็นคำพูดได้

“ นั้นมึงก็บอกพี่เขาดิ “

“ ใครจะไปกล้าวะ “

“ เอ๊าไอ้นี่...  แล้วมึงจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เหรอวะ  ไม่อึดอัดรึไง “

ที่มันพูดมาก็ถูกครับ  ยิ่งรู้ใจตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่  ก็ยิ่งอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น 

“ มึงเชื่อกูนะ...  กูว่า...  พี่เขาก็คิดอะไรกับมึงเหมือนกันแหละ  กูดูออก “

“ เหรอวะ...  ถ้างั้น...  กูควรจะบอกพี่เขายังไงดี  แล้ว...ตอนไหนดีวะ “

“ ก็ไม่ต้องยังไง  มึงก็บอกไปตรงๆ นั่นแหละ  แค่นั้น...  ส่วนตอนไหนนั้น...  กูบอกเลยว่าวันนี้ “

ได้ยินมันว่ามาแบบนี้  ผมนี่แทบสร่างเมาเลยครับ  คือเอาเข้าจริง  ผมก็ยังไม่ค่อยกล้าและยังไม่ได้เตรียมใจมาด้วย

“ วันนี้เหรอ...  ไม่ดีมั้ง “

“ ดีดิวะ  บรรยากาศก็ดีอีกต่างหาก  เชื่อกู “

ว่าจบมันก็ลุกขึ้นยืน  ก่อนจะจับแขนผมกึ่งลากกึ่งเดิน  บังคับให้ผมเดินเข้าไปยังโต๊ะที่พวกพี่กิจนั่งกันอยู่

“ พี่กิจ...  เพื่อนผมมันมีอะไรจะคุยด้วยอะ “

มาถึงมันก็พูดขึ้นพร้อมกับดันผมมาเผชิญหน้ากับพี่เขา
 
พี่กิจมองผมด้วยสีหน้าสงสัยถามมา

“ ปะ..เปล่าพี่  ไอ้นี่มันเมาแล้วมันบ้า “

ผมรีบอ้างไป  เพราะต่อหน้าพี่เขา  ความกล้าทุกอย่างที่มีมามันก็แทบจะละลายหายไปจนหมด

“ เอ๊ามึง....  กล้าๆ หน่อยดิว้า “

“ กล้าบ้าอะไร  มึงอะเมามากแล้ว  ไปๆ กลับโต๊ะ! “

ผมรีบดันหลังไอ้เรย์กลับไปที่โต๊ะทันทีครับ 

“ อ่อนว่ะ  อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่มึงจะรู้วะ “

“ ก็มันไม่กล้านี่  มึงไม่เป็นกูมึงไม่เข้าใจหรอก “

ว่าจบผมก็ยกเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อย้อมใจต่อ  แล้วจู่ๆ พี่กิจก็เดินมาที่โต๊ะครับ

“ กันต์..  ไปเป็นเพื่อนพี่ซื้อเหล้าหน่อยดิ “

ผมมองหน้าพี่เขาเหวอๆ  พลางกลืนน้ำลายรสขมจากเหล้าเมื่อกี้ลงคอไปด้วย 

ไอ้เรย์มันกระทุ้งสีข้างผม  ก่อนจะเอียงหน้ามากระซิบข้างหูผมว่า “ โอกาสดีแล้วนะมึง “  ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมันไปครับ  ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินตามพี่เขาออกไปจากโต๊ะ



....................



ระหว่างทางเดินไปยังร้านขายของหน้าปากทางเข้ารีสอร์ท

“ เมายังเนี่ย “

พี่กิจถามขึ้นมาครับ  ตอนนี้บริเวณโดยรอบค่อนข้างเงียบและมืดพอสมควร  เพราะมันดึกมากแล้ว  ซึ่งระยะทางจากรีสอร์ทไปยังร้านขายของตรงปากทางเข้าก็ไกลอยู่พอสมควร  โดยมีไฟส่องสว่างจากเสาอยู่เป็นระยะๆ

“ ยังเลยพี่  แค่กรึ่มๆ อะ “

“ ดีแล้ว  อย่าเมาให้มากนะ  เรายิ่ง... “

พี่กิจพูดค้างไว้  พอผมหันไปรอฟังพี่เขาพูดต่อ  พี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก  จากนั้นเราก็เดินต่อกันไปเงียบๆ

ตอนนี้ในหัวผมยังลังเลใจเรื่องที่จะบอกความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่เขา  ว่าจะบอกดีหรือไม่บอกดีนะ...  เพราะตอนนี้  บรรยากาศมันก็ดีจริงๆ อย่างที่ไอ้เรย์มันว่ามานั่นแหละ

“ พี่กิจ... “

“ หืม... “

“ เอ่อ...  เปล่าครับ  ไม่มีอะไร “

แล้วผมก็ยิ้มแหยๆ พร้อมกับหัวเราะเก้อๆ ส่งให้ไป  พี่เขาร่นคิ้วมองมาอย่างสงสัย  แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อครับ


พี่กิจซื้อเหล้าและเครื่องดื่มอีกหลายอย่างพร้อมทั้งขนมขบเคี้ยวมาอีกเพียบ  เพราะว่าตอนนี้ร้านขายของในรีสอร์ทมันปิดไปแล้ว  และดูท่าว่าคืนนี้พวกพี่เขาคงจะกินกันอีกยาว

ผมช่วยพี่กิจถือถุงขนม  ส่วนของหนักๆ พี่เขาเอาไปถือคนเดียวจนหมด  แล้วเราก็พากันเดินกลับมาตามทางเดิมครับ


เวลาที่เรามีเรื่องอะไรอยู่ในใจแล้วอยากจะพูดมันออกไป  แต่กลับไม่สามารถพูดมันออกไปได้  โครตเป็นอะไรที่อึดอัดมากๆ เลยครับ


“ พี่กิจ...  พี่กลับไปก่อนเลยนะ  ผมว่าผมจะนั่งเล่นรับลมอยู่แถวหาดสักหน่อยอะครับ “

ผมหยุดเดินก่อนจะยื่นถุงขนมส่งให้พี่เขาไปครับ  พี่เขารับของพร้อมกับพยักหน้ารับเล็กๆ  แล้วเดินกลับเข้าไปในรีสอร์ท  ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้

ผมออกมาเดินเรียบชายหาดเพื่อรับลมทะเล  ก่อนจะนั่งลงบนพื้นทรายท่ามกลางความมืดสลัวที่มีเพียงแสงไฟจากเสาส่องสว่างอยู่ไกลๆ

บรรยากาศก็ดี...  แต่กลับไม่มีความกล้าพอที่จะบอกพี่เขาไป

ก็เลยต้องมานั่งเป็นหมาหงอยอยู่แบบนี้แหละครับ

เห้อ....


........


ผมนั่งตากลมเย็นๆ จนอาการมึนๆ เริ่มจางหายไป  และก็กำลังจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินกลับเข้าไปกินต่อกับเพื่อนๆ  ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ร่นตัวลงมานั่งข้างๆ ผมทันที

“ อ้าว...  พี่กิจออกมาทำไมเนี่ย  ไม่ไปกินกับเพื่อนเหรอ “

“ พวกนั้นกินกันทั้งคืน  ไม่ต้องรีบหรอก  ว่าแต่เราเหอะ...  ทำไมไม่กลับไปสักที  มานั่งทำอะไรมืดๆ ตรงนี้  อันตรายนะรู้มั้ย ”

ผมมองหน้าพี่กิจก่อนจะหลุดคำถามหนึ่งขึ้นมา  ซึ่งอยู่ๆ ผมก็อยากรู้ครับ

“ พี่..  เป็นห่วงผมเหรอ “

พี่กิจเงียบคิดอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะตอบผมมาครับ

“ ก็...  เออดิ “

ทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น  ผมก็ยิ้มออกมาทันที  ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ผมได้ใจกับความคิดที่ว่า  พี่เขาอาจจะชอบผมอยู่เหมือนกันก็ได้

“ เอ่อ..พี่กิจ “

“ ว่า...  “

“ เอ่อ...  เห็นได้ข่าวว่าเมื่อก่อนพี่เจ้าชู้มาก  แล้ว... “

พี่กิจทำหน้าสงสัยและกำลังรอผมพูดต่อ

“ แล้ว...  ทำไมตอนนี้  ผมไม่เห็นพี่จะคบใครเลย “

“ อืม...  ก็คงจะเพราะเบื่อๆ ละมั้ง  เหมือนกับว่าช่วงปี1 ปี2 ที่ผ่านมา  มันใช้เวลากับอะไรพวกนั้นไปเยอะแล้ว...  และอีกอย่าง...  “

ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ  อย่างคาดหวังว่าเหตุผลนั้นมันจะเป็นผม...  ที่ทำให้พี่เขาไม่อยากจะมีใครก็ได้

ก็แค่แอบคิดเข้าข้างตัวเองนั่นแหละครับ

“ ขึ้นมาปี 3 แล้วมันมีอะไรที่ต้องทำ  ต้องรับผิดชอบเยอะอะ  ทั้งเรื่องเรียน  เรื่องกิจกรรม  แถมยังต้องเริ่มมาเรียนรู้งานที่บริษัทพ่ออีก  แค่นี้ก็ไม่มีเวลาแล้ว “

ผมแอบผิดหวังอยู่เล็กๆ  แต่ก็แค่เล็กๆ เท่านั้นนะครับ  เพราะเอาเข้าจริง  ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้ว 

“ แล้วถ้ามีคนมาชอบพี่ล่ะ  พี่จะว่าไงอะครับ “

“ อืม...  มันก็ต้องดูก่อนว่าใคร  สวยมั้ย  นิสัยเป็นยังไง  ก็คงจะไม่เรื่อยเปื่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะ “

ผมนี่สลดเลยครับกับคำตอบของพี่เขา...  สวยก็ไม่สวย  นิสัยก็ใช่ว่าจะดี  ดูแล้วคงจะไม่มีอะไรที่พี่เขาชอบเลยสักอย่าง

“ มีไรป่าว..  ทำไมจู่ๆ ถึงได้มาถามพี่เรื่องนี้ “

“ ป่าวครับ... “

สุดท้ายผมก็ไม่กล้าเหมือนเดิม....


“ นั้น...  เรากลับกันเลยมั้ย “

พี่กิจทำท่าจะลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวกลับ  ผมเลยฉวยโอกาสคว้ามือพี่เขารั้งเอาไว้เสียก่อน  พี่กิจก้มลงมามองผมเหมือนจะถามว่ามีอะไร  ในขณะที่ผมได้แต่อ้ำอึ้งพร้อมกับนัยน์ตาที่สั่นระริก  แต่กลับลังเลใจที่จะบอก

“ ...... “

“ .... “

“ ผมชอบพี่นะ.... “


สุดท้าย...  ผมก็พูดออกไปโดยไม่ต้องเตรียมใจอะไรเลย

จากใบหน้าสงสัยของพี่กิจในตอนแรก  กลับเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าที่เรียบเฉยแทน

มันเรียบเฉยซะจนทำให้ผมเสียความมั่นใจ  และเริ่มคิดไปแล้วว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมันผิด

ผมละมือออกมาแทบจะในทันทีอย่างเกรงๆ  พี่กิจนิ่งอยู่ได้ไม่นาน  ก็กลับลงมานั่งข้างๆ ผมต่อ  ก่อนจะถามผมขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า

“ ที่ว่าชอบนี่...  เราหมายถึงชอบแบบไหน “

ผมทำท่าอึกอักลังเลใจอยู่เล็กน้อย  คือจะแก้ตัวดีหรือว่าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาให้หมดเลยดีกว่า 

พี่กิจมองผมด้วยสายตาคมๆ อย่างเร่งเร้าในคำตอบ  สายตาที่ทำให้ผมเย็นวาบไปจนถึงสันหลัง

เพียงแต่....

ผมเองก็ไม่อยากให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกนี้ไปอีกนาน....  และไหนๆ มันก็มาถึงจุดนี้แล้ว  แม้ว่าจะมีเปอร์เซ็นของความเป็นไปได้ไม่ถึง 1 เปอเซ็นก็ตามที  แต่ผมก็ไม่อยากโกหกและหลอกตัวเองต่อไปอีกแล้ว 

“ ชอบแบบคนรักกันอะครับ “

ผมบอกออกไปแล้ว...  ในที่สุดผมก็กล้าพูดมันออกไปแล้ว

ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของพี่กิจอีกต่อจากนั้น....


มันเป็นความเงียบที่กดดันเอามากๆ  มีเพียงแค่เสียงลมและคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งเท่านั้นให้ได้ยิน

ผมไม่อาจจะพูดอะไรต่อไปได้  ที่ทำได้ตอนนี้... ก็คือรอคำตอบจากคนตรงหน้านี้เพียงเท่านั้น


“ นี่เรา...  เมาแล้วใช่มั้ย “

“ เปล่าพี่...  ผมมีสติดีทุกอย่าง  แล้วก็อยากบอกพี่มานานแล้วด้วย “

ผมตอบกลับไปอย่างหนักแน่น  ทว่าภายในใจกลับอ่อนไหวและหวาดหวั่นเป็นที่สุด



พี่กิจเงียบไปอีกครั้งก่อนจะยิ้มและพูดกับผมมา

“ ขอบคุณนะ...  พี่เองก็ชอบเราเหมือนกัน “

ทันทีที่ได้ยิน  ผมก็ยิ้มกว้างออกมาแทบจะในทันที




…..


“ แต่...  แบบน้องชายนะ...  คือ...  พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายอะ “


.....


....


....


....


“ อื้ม...  ผมเข้าใจครับ...  แค่ผมได้บอกพี่  ผมก็พอใจแล้ว “

ผมยิ้มส่งให้ไป  ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยของพี่กิจ


.....


ผม...  ไม่ได้เสียใจเลย....


....


...


...


จริงๆ นะ....




TBC.



---------------------------------------------

มันก็จะอึนๆ หน่อยนะครับจากนี้ไป...  มันกำลังเข้าสู่โหมดดราม่าสุดท้ายอันแสนยาวนานของซีซั่น1 แล้ว....
แต่มันก็ไม่เครียดนะครับ  แค่อึนๆ 
และนับไปอีก 3 ตอนเชื่อว่าหลายคนจะไม่ชอบอิพี่กิจแน่เลย  แต่อย่าพึ่งเกลียดนะครับ  เขาก็มีเหตุผลของเขาอะ  บางอย่างมันก็จำเป็นต้องใช้เวลา...
ซึ่งตอนที่ผมเขียนไว้ล่าสุดนี้  บอสใหญ่ของซีซั่น1 ถือกำเนิดแล้ว  เชื่อว่าหลายคนถ้าอ่านถึงต้องเกลียดเธอแน่ๆ 55+  แถมDamage โหดซะด้วย  สงสารกันต์สุดๆ :mew6:
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามนะครับ  เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะคร้าบ

^______________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 01-04-2018 22:41:32
บอสหรือเราว่าชะนีเหมือนคู่แข่งมากกว่า OP แล้วไงเจอสวนกลับหนักๆก็ตายได้นี่
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-04-2018 22:53:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-04-2018 00:37:39
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-04-2018 00:57:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-04-2018 01:05:53
 :freeze: กันต์ ไปไม่ถูกเลยใช่ไหมลูก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 02-04-2018 02:06:43
 :m20:  ดูเหมือนเมฆฝนจะมา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-04-2018 02:27:15
พลิก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-04-2018 08:07:00
 :เฮ้อ: :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 03-04-2018 06:17:58
รอเสพดราม่าและความหน่วงค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 14-04-2018 21:11:44
 :sad4: :sad4: :z3: พี่กิจทำไมทำกับน้องกันต์แบบนี้ละคะ น้องกันต์ต้องหายไปสักพักเพื่อทำใจ และให้เวลาพี่กิจได้คิดสักนิด ว่าที่ผ่านมาคืออะไรคิดแบบไหน สู้ๆนะคะ คนเขียนเป็นกำลังให้อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-04-2018 08:04:57
Chapter 34



กิจ's  Part




กลับมาจากหาด  ผมกับกันต์ก็แยกย้ายกันไปคนละโต๊ะทันที

น้องมันดูเหมือนจะไม่เสียใจอะไรมาก  ที่ถูกผมปฏิเสธไปแบบนั้น  เห็นมันยังยิ้มและพูดคุยกับเพื่อนได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ซึ่งต่างจากผมโดยสิ้นเชิง...  ที่ลำบากใจตั้งแต่ตอนที่ได้ยิน  จนมาถึงเดี๋ยวนี้….

ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบมันหรอกนะครับ  คือ... ถ้าจะให้พูดกันตามตรง  ผมบอกได้เลยว่า  ผมรู้สึกดีกับมันเป็นพิเศษเลย...  แถมยังพิเศษกว่าคนอื่นๆ อีก

เพียงแต่....

ผมไม่ใช่เกย์  ผมไม่ได้ชอบผู้ชายอะครับ....


....................


ตั้งแต่ที่ผมถูกเซอร์ไพส์ด้วยการสารภาพรักจากคนที่ผมคาดไม่ถึง  จนถึงเดี๋ยวนี้...  ก็ผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว 

ผมกินเหล้าไม่สนุกเลยครับ  ได้แต่มองน้องมันที่ตอนนี้นั่งกินเอาๆ อย่างน่าเป็นห่วง

มันจะไหวมั้ยเนี่ย...

ไม่นานมากมันก็ฟุบหน้าลงที่โต๊ะครับ  ผมเลยรีบลุกออกจากโต๊ะเดินเข้าไปหามันทันที

“ กันต์...  ไหวมั้ย... “

ผมถามขึ้นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะมันครับ  ซึ่งมันก็ได้แต่ปรือตามองหน้าผมยิ้มๆ  ก่อนจะพยักหน้าและบอกว่าสบายมาก 

แต่นี่กลับทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงมันหนักมากขึ้นไปอีก  เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่า  เวลาที่มันเมาจะเป็นยังไง 

ที่สำคัญ...  ผมไม่อยากให้มันไปใกล้ชิดกับใครแบบนั้น....  นอกจากผมด้วย

“ ไปนอนได้แล้ว  เดี๋ยวพี่พาไป “

“ ม่ายอาว....  ผมจากินต่อ  กาลางซาหนุกเลย “

“ กันต์...  อย่าดื้อดิ  นี่เราเมามากแล้วนะ “

ผมพูดจบ  มันก็เอาหน้ามาคลอเคลียที่แขนผมทันทีเลยครับ  ซึ่งอาการขี้อ้อนแบบนี้  บ่งบอกได้ชัดเลยครับว่า...  มันเมามากสุดๆ แล้ว

“ เดี๋ยวผมพามันกลับไปเองครับพี่ “

เสียงไอ้เรย์ที่นั่งข้างๆ มันพูดขึ้นเสียงเรียบ  ผมหันไปมองมัน  สีหน้ามันนิ่งๆ เหมือนมีเรื่องเครียดอยู่ไม่น้อย  เพราะปกติมันจะเป็นคนที่เฮฮาเอามากๆ  ยิ่งเวลากินเหล้าแบบนี้ด้วยแล้ว  ยิ่งไม่ควรจะนิ่งแบบนี้เลย

“ มึงกินต่อเหอะ  เดี๋ยวพี่จัดการเอง “

“ อย่าเลยพี่  ผมรู้จักนิสัยมันดี “ 

มันเอื้อมมือมารั้งแขนผมเอาไว้  ก่อนที่ผมจะมองมันนิ่งและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ พี่ก็รู้จักนิสัยมันดี... “

มันมองผมเหมือนกำลังชั่งใจ  ก่อนจะละมือออก  และยอมให้ผมพาตัวกันต์ที่ยังคงดื้อดึงจะกินต่อ  แต่ผมไม่ยอมให้มันกินต่อแล้วล่ะครับ  คงต้องออกแรงพามันกลับไปได้แล้วละครับตอนนี้

ผมพามันกลับมาที่บ้านพักของผมแทนที่จะเป็นห้องของมันเอง  เพราะคิดว่าคืนนี้พวกเพื่อนๆ ผมมันคงจะไม่กลับมาที่ห้องกันแน่ๆ  เต็มที่ถ้ามีคนมา  ผมก็คงจะให้ไปนอนยังห้องอื่นของบ้านพักแทน  คงไม่ให้ใครเข้ามานอนกับมันในนี้ได้หรอกครับ

ผมจับมันนอนดีๆ  ซึ่งมันก็ว่าง่ายเหมือนเคยเวลาที่หัวถึงหมอนแล้วแบบนี้  ผมนั่งมองดูหน้าและหูแดงๆ ของมันอยู่ครู่หนึ่ง  ไม่นานมันก็เริ่มหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ  ท่าทางคงจะหลับไปแล้วละครับตอนนี้

ผมลุกเดินไปล็อคประตูห้องก่อนจะเข้ามานอนข้างๆ มัน  รู้สึกอยากกอดมันเหมือนทุกที  แต่ก็ไม่กล้าเหมือนเช่นทุกครั้ง

ผมเกิดความลังเลใจที่จะทำแบบนั้นขึ้นมา...

คือ... ผมไม่ใช่เกย์นะ....

เพราะถ้าผมทำแบบนั้น...  บางที...  มันอาจจะหมายความว่า...  ผมชอบมันอย่างที่มันชอบผมก็ได้... 

แต่ผม...  ไม่ได้ชอบผู้ชายนะครับ...



...................



เกือบจะฟ้าสางแล้วที่ผมยังคงนอนไม่หลับ  เสียงอึกทึกจากลานกิจกรรมก็จางหายไปแล้ว  ซึ่งพวกเพื่อนๆ ผม  มันก็ไม่ได้กลับมานอนที่ห้องเหมือนอย่างที่คาดไว้

ผมยังคงมองกันต์ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในตอนนี้  พร้อมกับคอยห้ามความรู้สึกตัวเองอยู่ตลอดเวลา  ด้วยตรรกะเดิมๆ  ที่ว่าผมไม่ใช่เกย์

แต่นั่นกลับยิ่งเป็นการห้ามความรู้สึกตัวเองอย่างถึงที่สุด  ความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปสัมผัสกับร่างตรงหน้านี้.....

สุดท้ายผมก็เลยเอื้อมือผมเข้าไปกุมมือมันเอาไว้แทน  ซึ่งแค่นี้ก็คงจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ...

ผม...  ขอแค่นี้...  มันคงจะไม่ผิดอะไรใช่มั้ย....



....................................



กว่า 9  โมงเช้า

ผมปรือตาตื่นขึ้นมาจากแสงแดดจ้าที่สาดส่องเข้ามาจากภายนอก  ผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ครับ  ซึ่งปกติผมเองก็ไม่ค่อยจะนอนตื่นสายแบบนี้สักเท่าไหร่  อาจจะเพราะเมื่อคืนนี้ที่ผมกว่าจะได้หลับมันก็เกือบจะเช้าเลย

ว่าแต่...

กันต์...  มันหายไปไหนนะ

ผมมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่พบใคร  ก่อนจะถอยหายใจให้กับตัวเอง  แล้วลุกขึ้นเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำธุระส่วนตัวต่อไป


.....................


จากนั้นผมก็ออกมาหามื้อเช้าทานครับ  ซึ่งผมได้ไข่ดาว 2 ฟอง  แฮม  ไส้กรอก  และกาแฟร้อนอีกแก้ว  ก่อนจะหาที่นั่งว่างๆ  นั่งทาน

ผมมองออกไปยังชายหาด  มีผู้คนมากมายอยู่ที่นั่น  ทั้งถ่ายรูป  เดินเล่น  และกิจกรรมอื่นๆ  เพราะวันนี้พวกเราจะต้องเดินทางกลับกันแล้ว  ซึ่งก็น่าจะเป็นช่วงเที่ยงๆ นี่แหละครับ

ผมนั่งทานไปมองอะไรไปเรื่อย  ไม่นานสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่กันต์มันครับ  ซึ่งมันกำลังเดินเล่นอยู่คนเดียวไกลๆ  แล้วจากนั้นสายตาผมก็ไม่ได้ไปโฟกัสที่อื่นอีกเลย  แม้กระทั่งแก้วกาแฟที่กำลังจะยกเข้าปากตรงหน้า

ซึ่งถ้าเป็นปกติ  ผมก็คงจะรีบกินแล้วเดินเข้าไปหามันแล้วละครับ
 
แต่ตอนนี้...   ถ้าผมทำแบบนั้นมันก็อาจจะหมายความว่า..

ไม่ๆๆ...  อย่าฟุ้งซ่านซิวะไอ้กิจ  มึงไม่ใช่เกย์นะเว้ย!!!


...................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 1/04/2561 update chapter 33 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 16-04-2018 08:24:16
กันต์’s  Part



“ นี่มึง...  โอเคจริงๆ เหรอวะ “

ไอ้เรย์ที่นั่งรอผมจัดกระเป๋าอยู่บนเตียงถามขึ้นมาครับ  ส่วนไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์มันออกไปจองที่บนรถบัสเรียบร้อยแล้วตอนนี้

“ เออดิ  แค่กูได้บอกพี่เขาไป  กูก็พอใจแล้ว...  ที่เหลือก็...  คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย  เดี๋ยวกูก็คงเลิกชอบพี่เขาไปได้เองนั่นแหละ...  มึงไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอก “

ผมบอกไป  ซึ่งมันออกจะดูเครียดอยู่ตลอดเวลาหลังจากที่ผมเล่าเรื่องนั้นให้มันฟัง...  ซึ่งมันก็ได้แต่บ่นโทษตัวเองที่แนะนำผมไปอย่างนั้น

แต่ผมไม่เป็นอะไรจริงๆนะ

ผม... 

ไม่ได้เสียใจเลย....

เพียงแต่...  ผมอาจจะต้องขอระยะห่างระหว่างผมกับพี่เขาให้มากขึ้นกว่านี้  และเวลาอีกสักหน่อย...  ก็.. เท่านั้นเอง



...................



ผมขึ้นรถบัสคันที่มีไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คนั่งโบกมือไหวๆ เรียกอยู่ที่หน้าต่าง  ซึ่งพอขึ้นมาบนรถ  สายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่เบาะยาวหลังสุด  ซึ่งมีแก๊งค์ของพวกพี่กิจกำลังนั่งกันอยู่พอดี

พูดตรงๆ....  ตอนนี้ผมก็ยังคงไม่ค่อยกล้าสู้หน้าพี่เขาเท่าไหร่  แต่จะให้ลงรถไปขึ้นคันอื่นมันก็คงจะดูไม่ดี  เพราะไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์มันก็จองที่เอาไว้ให้แล้ว 

ที่สำคัญ... 

สายตาที่พี่กิจมองผมมาตอนนี้  มันทำให้ผมไม่กล้าที่จะทำอะไรแบบนั้น  ผมเลยได้แต่ตีหน้าซื่อยิ้มตอบกลับไปให้ก่อนจะละสายตาไปแทบจะในทันที  แล้วรีบเดินเข้าไปนั่งบริเวณกลางรถ  ยังที่ที่พวกมันจองเอาไว้ให้ผมกับไอ้เรย์

“ มึงโอเคเปล่าวะ  ย้ายไปคันก็ได้นะเว้ย...  เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน “

ไอ้เรย์มันถามมาหน้าเจื่อนๆ ครับ

“ บ้าเหรอมึง...  กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  มึงเห็นหน้ากูเศร้าปะล่ะ “ 

ผมแสร้งยิ้มตอบกลับมันไป  แต่เหมือนสายตามันจะไม่เชื่อครับ  ผมเลยตีหัวมันไปเบาๆ ทีนึง

“ อย่าเยอะ...  กูบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรดิวะ “

พูดจบผมก็หันหน้าออกไปมองยังภายนอกหน้าต่าง  ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับเมื่อรถกำลังเริ่มเคลื่อนตัวออกไปจากรีสอร์ท  ทว่าพยายามยังไงมันก็ไม่ยอมหลับเสียที  เพราะหูมันคอยแต่จะฟังเสียงที่ดังมาจากกลุ่มพี่กิจอยู่ตลอดเวลา....

มันคงต้องใช้เวลาสักหน่อยใช่มั้ยครับ  กับการรักษาโรคทางใจแบบนี้...

ผมไม่เป็นไรจริงๆ...
 
ก็แค่...  เจ็บแปลบๆ นิดหน่อย  ก็เท่านั้น...



............................



ที่มหาลัยฯ

เย็นแล้วกว่าที่รถจะเข้ามาถึง 

ผมกำลังเอากระเป๋าขึ้นมาสะพายหลังเพื่อเตรียมตัวลงจากรถ  แต่ก็ยังไม่วายอดที่จะมองไปยังบริเวณหลังรถไม่ได้อยู่ดี  ก่อนจะต้องชะงักไปเล็กน้อย  เมื่อเจอสายตาคมๆ ของพี่กิจที่มองกลับมา  ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้มเล็กๆ ส่งให้ไป  จากนั้นก็รีบลงมาจากรถทันที

พอลงมาถึง  ไอ้เรย์ที่ตามหลังผมมาติดๆ ก็เข้ามากอดไหล่ผมไว้อย่างให้กำลังใจ  จากนั้นไม่นานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา  พร้อมกับคนที่ผมคาดไม่ถึงว่าจะเจอที่นี่ในเวลานี้...

ไอ้ธันครับ... 

มันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า  ทำเอาหลายๆ คนบริเวณนี้มองมันอย่างแปลกใจทันที  เพราะว่ามันไม่ได้อยู่ในภาควิชานี้  แล้วมันมาทำอะไรที่นี่เวลานี้ละเนี่ย

“ มาได้ไงวะ “ 

ผมทักขึ้นครับ

“ ก็...  เห็นแพรบอกว่าพวกกันต์กลับมากันวันนี้อะ  เราก็เลยมารอรับ “

รอรับอะนะ  เพื่อ...  ไม่เข้าใจมันจริงๆ เลยครับ  สงสัยจะว่างมาก

“ พอดีกูคุยกับแพรน่ะ  ว่าเราจะกลับถึงมอกันเย็นนี้ “ 

ไอ้เรย์อ้อมแอ้มบอกมาครับ  ผมเลยพยักหน้าเล็กๆ เข้าใจไป

“ แล้วนี่มารอรับ... “

ผมไม่พูดต่อ  แต่เลือกที่จะชี้นิ้วมาที่ตัวเองแทนเป็นเชิงถาม  ซึ่งมันก็พยักหน้ารับตอบมา  ผมเลยได้แต่ยิ้มแฮ่ๆ ส่งให้มันไปแค่เท่านั้น

แปลกๆ นะมึง.... 

หรือว่า... ที่ไอ้เรย์มันเล่ามาจะเป็นความจริง...?

“ ไปกันเลยมั้ย “

มันถามต่อครับ  ผมเลยหันไปมองยังไอ้เรย์  ซึ่งมันก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“ กู...  มีนัดกับแพรว่ะ  พวกมึงสองคนกลับกันเลยนะ “

อ้าว...  นัดหญิงแล้วทิ้งเพื่อนนะมึง

ว่าแล้วผมก็หันไปมองหาไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์ที่ลงมากันก่อนแล้วครับ  ซึ่งตอนนี้มันกำลังหม้อสาวอยู่ไกลๆ โน่นเลย

ไอ้สองตัวนี้ก็ทิ้งเพื่อนอีกเหมือนกัน....  แม่ง…

คือไม่ใช่อะไรหรอกครับ  ผมแค่รู้สึกแปลกๆ  ที่จู่ๆ ไอ้ธันมันก็มาเทคแคร์ผมซะขนาดนี้  คือผมคงจะไม่คิดอะไรมากหรอก  ถ้าไม่รู้เรื่องที่ไอ้เรย์มันบอกว่าไอ้ธันมันชอบผม....

ผมที่กำลังลังเลใจอยู่ในตอนนี้  แต่แล้วคนที่พึ่งจะลงรถมาก็ทำให้ผมตัดสินใจได้...

“ กันต์...  จะกลับกันเลยมั้ย “

เสียงพี่กิจถามมาเรียบๆ ครับ  พอผมหันไปมอง  ก็เห็นพี่เขาที่ยืนข้างๆ พี่คิมมองผมมาเรียบๆ  ซึ่งผมก็ยังคงสู้หน้าพี่เขาไม่ติดอยู่ดี

“ พี่กิจกลับก่อนเลยครับ...  เดี๋ยวผมกลับกับไอ้ธันมัน “

พี่เขาร่นคิ้วหันไปมองยังไอ้ธันอย่างแปลกใจ  ซึ่งไอ้ธันก็ทำท่าอึกอักเล็กน้อยและกำลังจะตอบมา  แต่ผมก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ พอดี...  เราจะไปธุระกันต่ออะครับ “

ว่าจบผมก็ยิ้มให้อย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ...  ทั้งๆ ที่ผมเองก็รู้ว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ไม่ปกติ

ผมก็แค่อยากขอเวลาและระยะห่างระหว่างผมกับพี่เขาให้มากกว่านี้อีกหน่อย...  ก็เท่านั้นเอง

จากนั้นผมก็จับมือไอ้ธันลากมันออกไปจากตรงนี้แทบจะในทันทีเลยครับ


.......................


“ วันนี้รถเรารกหน่อยนะ  พอดีกำลังย้ายหอใหม่อยู่น่ะ “

มันว่ามาก่อนที่ผมจะเปิดประตูรถเข้าไปครับ  พอหันไปมองยังเบาะหลัง  ก็เห็นกล่องใส่ของเต็มไปหมดเลยครับ

“ อ้าวเหรอ..  ย้ายไปไหนวะ  เดี๋ยวเราช่วยขน “

มันที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัยคนขับหันมายิ้มแห้งๆ ให้ก่อนจะตอบมาครับ

“ ก็คอนโดเดียวกันกับกันต์นั่นแหละ “

ผมชะงักไปเล็กน้อย  คืออดแปลกใจขึ้นมาไม่ได้อะครับ  แต่จะว่าไป...  มันก็ดีนะครับ  ผมจะได้มีเพื่อนอยู่ที่นั่นด้วย

“ เหรอ... ก็.. ดีเลย  เราจะได้มีเพื่อนด้วย  นั้นเดี๋ยวเราช่วยขนของเข้าห้องละกันนะ “

“ เห้ย...  ไม่เป็นไรกันต์   กันต์พึ่งกลับมาอะ  น่าจะเหนื่อย...  กลับไปพักเหอะ  เราขนคนเดียวได้ “

มันว่ามาอย่างเกรงใจครับ  แต่ผมก็เต็มที่จะช่วยมันจริงๆ นะ 

อีกอย่าง...  ผมเองก็ยังไม่อยากรีบกลับเข้าห้องไปเจอพี่กิจด้วย  ก็เลยเป็นว่า...  เย็นนี้ผมเลยถือโอกาสช่วยไอ้ธันมันย้ายหอใหม่ฆ่าเวลาไปละกันครับ


.....................................


ที่คอนโด

ไอ้ธันมันย้ายมาอยู่ห้องที่อยู่ชั้นล่างห้องพี่กิจไปแค่ชั้นเดียวเองครับ  แต่ไม่ใด้เป็นห้องใหญ่สุดแบบห้องพี่กิจนะครับ  มีห้องนอน 1 ห้อง  ครัว  และก็ห้องนั่งเล่นขนาดกำลังพอดี

“ อันนี้เอาไว้ไหนอะ “

ผมถามขึ้นขณะกำลังถือกล่องใส่หนังสือเดินเข้ามาในห้อง

“ แถวชั้นตรงนั้นก็ได้  เดี๋ยวเราจัดเอง “
 
ไอ้ธันมันชี้ไปยังชั้นหนังสือใกล้ๆ โต๊ะทำงานในห้องนอนครับ  ขณะที่ตัวมันเองกำลังง่วนอยู่กับการลำเรียงกล่องอีกหลายใบเข้ามาในห้อง

“ มาเดี๋ยวกูช่วย “

ผมบอกไปก่อนจะเข้าไปช่วยมันประคองกล่องหลายใบที่ถูกวางซ้อนกันจนสูงเลยหัวมันเข้าไปในห้อง  มันไม่ค่อยหนักเท่าไหร่หรอกครับ  แต่เพราะมันถูกซ้อนกันจนสูง  เลยทำให้ไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่
 
“ เห้ย!! “

โครม !

นั่นไง....


โชคดีนะครับที่ของข้างในมันไม่ได้หนักอะไร  และผมเองก็ล้มลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง  เลยไม่เจ็บอะไร 

แต่ที่มันแย่ก็ตรงที่ไอ้ธันซึ่งประคองอยู่อีกฝั่ง  มันดันล้มตามผมลงมาด้วยน่ะสิครับ  กลายเป็นว่าตอนนี้มันกำลังคร่อมร่างผมไว้อยู่บนเตียง  ซึ่งหน้ามันกับหน้าผมก็อยู่ใกล้กันมาก  เห็นสายตาที่มันมองมาแล้ว...  ผมนี่ไม่กล้าสบตามันต่อเลยครับ

คือเขินอะ...

แต่มันไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเหมือนที่เกิดขึ้นกับพี่กิจนะครับ  แค่ไม่ชินกับการถูกจ้องตาจากผู้ชายด้วยกันในระยะประชิดแบบนี้ก็เท่านั้นเอง

“ เอ่อ...  มึงขยับออกไปหน่อยดิ “

ผมอ้อมแอ้มบอกไป  เมื่อเห็นมันนิ่งค้างไว้แบบนี้อยู่นานแล้ว

“ โทษทีๆ  กันต์เจ็บตรงไหนมั้ยอะ “

มันยิ้มแหยๆ ว่ามา  ก่อนจะผละตัวขึ้นมาจากร่างผม

“ ไม่อะ... “

แล้วก็เกิดมีเดธแอร์ขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างผมกับมัน  ผมเลยรีบชิงพูดต่อทันที  เพื่อทำลายบรรยากาศที่เกิดขึ้นนี้

“ นั้นเดี๋ยวกูช่วยเรียงหนังสือเข้าชั้นให้ละกันนะ “

ว่าจบผมก็รีบเดินไปยังชั้นหนังสือ  ก่อนจะนั่งลงข้างๆ กล่องใส่หนังสือ  ซึ่งผมพึ่งจะยกเข้ามาเมื่อกี้นี้เอง

เท่าที่ดูจากหนังสือแล้ว  ไอ้ธํนมันน่าจะเป็นคนชอบแต่งบ้านหรืออะไรทำนองนี้มากนะครับ  เห็นมีหนังสือเกี่ยวกับบ้านตั้งหลายเล่ม  ไม่เหมือนผมเลย  ที่ส่วนมากนอกจากหนังสือเรียนก็จะเป็นหนังสือการ์ตูนเสียมากกว่า

ผมหยิบหนังสือเรียนมันขึ้นมาพลางเปิดดูผ่านๆ  โห...  มันเขียนตัวหนังสือสวยมากครับ  แถมยังจดงานเป็นระเบียบดีด้วย  ไม่แปลกใจเลยที่มันจะเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดในกลุ่ม...

เปิดดูไปได้ไม่นานผมก็มาสะดุดที่ชื่อมันครับ...  ก่อนจะเหวอไปนิดๆ  เพราะแปลกใจกับสิ่งที่พึ่งรู้เกี่ยวกับตัวมันขึ้นมา

“ เห้ยธัน... ทำไมคำนำหน้าชื่อมึงถึง... “

ผมหยุดถามต่อเพื่อรอคำตอบจากมันครับ  มันยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะตอบกลับมาให้

“ ก็ตามนั้นแหละ.... “

ตามนั้นอะไรกันครับ...  ก็คำนำหน้าชื่อมันไม่ได้เป็น นาย ธันวา...  แต่เป็น  มล. ธันวา   นะครับ 

“ จริงๆ ก็มีแต่แพรเท่านั้นแหละที่รู้  ก็ทำไงได้ละ  คนเราเลือกเกิดไม่ได้นี่.... “


จากนั้นมันก็เล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า  พ่อมันมาแต่งงานกับแม่มันซึ่งเป็นแค่คนธรรมดา  แถมยังเป็นภรรยาคนที่สอง   หลังจากที่ภรรยาคนแรกซึ่งมีฐานอันดรสูงเสียไป  มันเลยไม่ได้เป็นหลานรักที่ถูกใจหม่อมย่ามันเหมือนอย่างกับพี่ชายและพี่สาว  ซึ่งเป็นลูกของภรรยาคนแรกสักเท่าไหร่...  และด้วยเหตุนี้  ตัวมันและแม่ก็เลยขอแยกตัวออกมาอยู่กันตามลำพัง  นานๆ ทีพ่อมันถึงจะมาหา...  แต่มันก็บอกนะว่าพ่อมันก็รักมันมากนะ  มันถึงได้พอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่  และไม่เคยสนใจยศถาบรรดาศักดิที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดเลยสักนิด


กว่าที่จะจัดของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย  ฟ้าข้างนอกก็มืดลงไปแล้วละครับ 

พี่กิจโทรเข้ามาหาผมเมื่อตอนเย็นรอบหนึ่ง  ซึ่งผมก็บอกไปแค่ว่ากำลังช่วยไอ้ธันมันย้ายหออยู่ก็เท่านั้น  เหมือนว่าพี่เขาจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่  เมื่อฟังจากน้ำเสียง  แต่ก็คงเพราะผมเป็นคนในปกครองของพี่เขาละมั้งครับ....


มันคงจะแค่นั้นจริงๆ...


“ กันต์หิวยัง..  ไปหาอะไรกินกัน  เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง “

“ เห้ย..  ไม่ต้องเลี้ยงหรอก “

“ ได้ไง  ก็กันต์อุตส่าห์ช่วยเราขนของและจัดห้องจนเสร็จแบบนี้...  ยังไงเราก็ให้เราเลี้ยงนะ “

มันยิ้มหล่อว่ามาครับ  ผมก็เลยเออออตามไป  ก่อนจะพามันไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยแถวหน้าคอนโด  เพื่อแนะนำให้มันรู้ว่าแถวนี้มีร้านไหนบ้างที่อร่อย  สำหรับผู้ที่มาอยู่ใหม่อย่างมันครับ



............................



กว่าจะกลับเข้าห้องตัวเองมาก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว

พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นพี่กิจที่นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก  มองดุมายังผมทันที  ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้มเล็กๆ ส่งให้ไป  เพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ดูตรึงเครียดมากเกินไป

ผมบอกไม่ถูกเลยครับว่าตอนนี้รู้สึกยังไงมากกว่ากัน  ระหว่างกลับดึก (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะผมบอกพี่เขาไปแล้ว )  หรือ... ทำตัวไม่ถูกเวลาที่ต้องเจอหน้ากับพี่เขาแบบนี้

“ ทำไมถึงดึกขนาดนี้ “

“ ก็ผมบอกพี่ไปแล้วไง  ว่าช่วยไอ้ธันมันย้ายหออะ “

“ ที่ไหน... “

ทำไมรู้สึกเหมือนเรากำลังคุยกันในช่วงแรกๆ ที่เจอกันเลยครับ  ไม่เหมือนช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เลย  อาจจะเพราะความรู้สึกมันได้เปลี่ยนไปแล้วละมั้งครับ  เพราะการกระทำไม่คิดให้ดีของผม  ที่บอกพี่เขาไปอย่างนั้น

“ ที่นี่ครับ  ไอ้ธันมันย้ายมาอยู่ที่นี่...  ชั้นล่างเรานี่เอง “

ผมบอกไปตามตรง  แล้วจู่ๆ พี่กิจก็ร่นคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่  ซึ่งผมเดาใจพี่เขาไม่ถูกเลยครับตอนนี้

“ แล้วทำไม  มันถึง.. “

“ ถ้าพี่กิจไม่มีอะไรแล้ว  ผมขอเข้าไปพักก่อนนะครับ  วันนี้ผมเหนื่อยมามากแล้ว “

ไม่ทันที่พี่เขาจะพูดจบ  ผมก็รีบพูดออกมาก่อนทันที 

คือมัน... อึดอัดกับบรรยากาศในตอนนี้มากอะครับ 

ขอเวลาและระยะห่างสักหน่อยนะครับพี่  เพื่อที่ผมจะได้ทำใจได้

แล้วจากนั้น...  ผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง...

พี่กิจเหมือนจะดูเหวอๆ ไปเล็กน้อย  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ  รีบเดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องของตัวเองทันที  ก่อนจะโยนเป้สะพายไปบนเตียง  และทิ้งตัวตามลงไป


ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ... 

ผมไม่ชอบเลยกับความรู้สึกและบรรยากาศแบบนี้

ไม่ชอบเลยจริงๆ.....




TBC.


-------------------------------------------

ขอโทษทีนะครับที่ลงช้า  พอดีมีช่วงที่ผ่านมาเคลียร์ปัญหารอบๆตัวเยอะหน่อย  แทบไม่ว่างเลยอะครับ

พึ่งเขียนจบตอนที่ 38 เอง  จี้มาติดๆแว้ว o22 :katai4: :serius2:

อย่าเกลียดอิพี่กิจเลยนะครับ  เพราะ....ยังมีให้เกลียดอีกเยอะเลย  แต่สุดท้ายจะเข้าใจและไม่เกลียดครับ

ส่วนธัน..  อย่าเทใจให้นะครับ  แม้ต่อไปจะน่ารักมากๆก็ตาม  กันต์เอ้ย...(ส่วนตัวผมกะชอบตัวละครนี้ แต่ใน SS2จะมีบทบาทเยอะมากๆ)

ถ้าจำไม่ผิด  ตอนหน้าบอสใหญ่ภาคแรกจะเกิดแล้วล่ะครับ...

ส่วนตอนที่ผมเขียนอยู่ก็น่ารักอึนๆนะครับ  พ่อแง่แม่งอนหน่อยๆ

มาลุ้นและช่วยกันปราบบอสด้วยกันนะครับ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและการติดตามเสมอมานะครับผม  แฮ่ๆ

ปล. อีก 2 - 3 วันจะลงตอนต่อไปให้นะครับผม

^______________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-04-2018 09:10:49
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-04-2018 09:21:06
 :pig4: :pig4: :pig4:

โถๆๆๆๆๆๆ เหตุผลเดิม ๆ ที่ว่าไม่ใช่เกย์  เลยชอบไม่ได้

บอสใหญ่?  หมายถึง  ตัวร้าย ใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-04-2018 12:16:06
รอให้พี่กิจยอมรับใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-04-2018 13:54:14
ไม่ชอบก็อย่ามาหวงก้างนะพี่ ตอนนี้เชียร์ธันวาแล้ว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 16-04-2018 15:57:59
มาต่อถี่ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-04-2018 20:18:25
อึนไปกันหมด  :ling1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 16-04-2018 21:42:53
...

ฉากนี้มีธันมาเป็นตัวเร่ง catalyst 

เอ้า. แล้วฉากหน้ามีบิ๊กบอส มาเสริมด้วยอีกเหรอ

รอ รอ และ ติดตามจ้าาาา

..

  :katai5: :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:

..

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 16-04-2018 21:58:00
หน่วงดีชอบมากค่ะ
 รอดราม่าเล็กน้อย  :z2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: benicezii ที่ 16-04-2018 23:40:58
สนุกมากค่ะ อ่านวันนี้รวดเดียวเลย อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ   :z13:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-04-2018 23:42:21
ยังไม่ค่อยหน่วงเท่าไหร่นะ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-04-2018 23:43:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 17-04-2018 22:06:34
อะไรคือบอสตัวใหญ่แล้วใครจะเป็นบอสนั้นนั้นลุ่นอีกล่ะๆๆๆ555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 18-04-2018 01:17:49
พี่กิจต้องมีอะไรในใจแน่เลย ถึงได้ตั้งแง่ขนาดนี้
รอลุ้นจร้ ว่าใครจะมาเป็นบอสนร้อ :hao5: :mew5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-04-2018 04:41:48
คือเรากดเข้ามาอ่าน คุณหมีขาวเขียนได้ดีมาก
ไม่ติดขัดตรงไหนเลย คำผิดน้อยมาก
ตัวละครทุกตัวดูมีมิติ
เป็นกำลังใจให้นะคะทั้งเรื่องนิยายและเรื่องสุขภาพ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 20-04-2018 13:28:48
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 20-04-2018 13:38:22
 :z3: :z3:พอมีธันมาอยู่ใกล้ กันต์ ก็มีที่พึ่ง แต่กันต์ จะคิดได้หรือไม่ว่าเค้าแอบรักตัวเองอยู่นะ
พอธันมาพี่กิจอาจจะหวั่นไหวมากกว่านี้ก็ได้นะนะ สู้ๆนะกันต์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-04-2018 15:08:45
สู้ๆครับผม ผมก็เป็นแบบคุณนะ คุณไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-04-2018 15:46:22
ปูเสื่อรอจ้ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 20-04-2018 15:47:59
ไม่มีใครผิดนะ จะบังคับพี่กิจให้ชอบตอบก็ไม่ได้
ในเมื่อตอนนี้ชอบแบบน้อง (แต่ความรู้สึกในอนาคตอาจจะเปลี่ยนแปลงก็ได้)
น้องกันต์ก็หาเวลาทำใจก่อนนะ ดูอึดอัดดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-04-2018 16:17:15
Chapter 35




กิจ’s Part




เมื่อคืนผมโครตหงุดหงิดเลยครับ  ที่กันต์มันกลับดึกอย่างนั้น  แถมมันยังไปอยู่กับไอ้น้องธันนั่นอีกด้วย  ยิ่งไม่น่าไว้เข้าไปใหญ่
ถึงขนาดย้ายมาอยู่ที่นี่เลยเหรอ  มันชักจะยังไงๆ แล้วนะ.....

ผมที่กำลังคิดเรื่องเมื่อวานวกไปวนมาขณะออกกำลังกายในตอนเช้าอยู่  จนลืมไปเลยว่า  สายป่านนี้แล้ว...  กันต์มันยังไม่ได้ออกจากมาห้อง  เพื่อมาออกกำลังกายในตอนเช้ากับผมเหมือนเช่นทุกทีเลย

หรือว่ามันจะไม่สบายกันนะ  เพราะเมื่อวานตอนที่มันกลับมาก็ดูจะเหนื่อยๆ อยู่ 

หรือว่าบางที... 

มันอาจจะอยากหลบหน้าผมอยู่ก็ได้....

โอ้ย!!! 

ไม่คิดมันแล้ว...  เดินไปเรียกมันเลยดีกว่าครับ

ว่าแล้วผมก็ลุกเดินไปยังหน้าห้องมันทันที  แต่ไม่ทันที่ผมจะได้เคาะเรียก  ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากคนข้างในเสียก่อน

กันต์ในสภาพชุดนักศึกษาที่พร้อมจะไปเรียนแล้ว  ชะงักตัวเล็กน้อยพร้อมกับทำหน้าเหวอทันทีที่เห็นผม

อยากจะถามนะครับว่าทำไมวันนี้ถึงตื่นสาย  แต่เท่าที่ดูจากสภาพแล้ว  มันไม่ได้ตื่นสายเลย  ออกจะเช้ากว่าปกติเสียด้วยซ้ำ  เพราะไม่อย่างนั้น  มันคงไม่พร้อมที่จะไปเรียนขนาดนี้หรอก  ผมเลยเปลี่ยนจากการถาม  มาเป็นการบอกมันให้รอผมอาบน้ำสักแปบนึงแทน

“ ไม่ต้องรีบก็ได้พี่  พอดีว่า.... ผมจะไปกับไอ้ธันมันอะครับ  ไหนๆ เวลาเรียนก็ตรงกัน  ตึกเรียนก็ที่เดียวกัน  จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพี่กิจ “

มันว่ามาอย่างนี้ครับ  แล้วผมจะทำไงได้ละ....  เลยได้แต่เงียบไป 

ครั้นจะยื้อไว้... 

แล้วผมจะยื้อมันด้วยเหตุผลอะไร  และเพื่ออะไร....

เพียงแต่... 

ผมไม่ชอบเลยที่มันไปกับคนอื่นแบบนี้...

จากนั้นมันก็เดินเลยผมไป  ในขณะที่ผมยังคงยืนนิ่งเฉย  ทั้งๆ ที่ใจอยากจะหันกลับไปรั้งแขนมันเอาไว้เสียตอนนี้เลยแท้ๆ
และเมื่อเสียงประตูห้องถูกปิดลง  ผมถึงได้หันหลังกลับไปมองตาม....  แต่ตอนนี้....  มันก็ไม่มีใครเหลือให้ผมเห็นอีกต่อไปแล้ว...



......................................



ที่ตึกภาควิชา  อุตสาหการ  คณะวิศวกรรมศาสตร์

ผมเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยใบหน้าไม่สนโลกเหมือนเช่นทุกที  แต่ที่ต่างออกไปจากทุกครั้งก็คือ...  อารมณ์ผมที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นักในเช้าวันนี้ รู้สึกว่ามองอะไรมันก็ขวางหูขวางตาไปหมด

ผมโยนเอกสารการเรียนลงไปบนโต๊ะ  ก่อนจะเข้าไปนั่งอย่างเซ็งๆ ความคิดเรื่องกันต์มันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดเวลา

“ มึงดูนี่  อย่างแจ่มอะ “

ไอ้คิมมันมาสะกิดผม  พร้อมทั้งยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดูครับ

มันเป็นเพจ Cute Boy & Girl ของมหาลัยฯ ผมครับ  ซึ่งจะรวบรวมเอาคนหน้าตาดี  คนน่ารัก  หรือ  คู่จิ้นที่กำลังดัง  มาโพสต์เอาไว้ในนั้น  ให้พวกสมาชิกหรือแฟนคลับได้กรี๊ดกร๊าดกัน  ซึ่งไอ้คิมถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของเพจอย่างเป็นทางการ  แต่มันก็เป็นขาประจำที่ชอบแวะเวียนเข้าไปส่องดูสาวน่ารักๆ อยู่ตลอดเวลา  และครั้งนี้ก็เช่นกัน

น้องมิว  คณะวิทยาศาสตร์ปี 1  คือภาพและข้อมูลบนหน้าจอมือถือของมันตอนนี้  ท่าทางมันจะกระดี๊กระด๊ามากเลยครับ  ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของมันอยู่แล้วเวลาเจอสาวๆ สวยๆ แบบนี้

“ แล้ว... “

ผมทำหน้าเนือยๆ ถามกลับไป  ก่อนจะละสายตามาเปิดเอกสารการเรียนตรงหน้านี้แทน

“ ก็น่ารักไง  มึงไม่ชอบรึไงวะ “

มันทำหน้างงๆ ถามกลับมา  เมื่อเห็นปฏิกิริยาไม่สนใจของผมในตอนนี้  ส่วนผมก็ได้แต่พยักพเยิดหน้าส่งให้มันไปเล็กๆ ทีนึง  เพื่อเป็นการตอบกลับไปว่า...  ก็น่ารักดี...  แค่นั้น...

“ เห้ย...  เป็นไรมึงเนี่ย  ไม่เห็นสนใจเหมือนทุกทีเลย “

มันทำหน้าแปลกใจถามมาครับ 

แต่จะว่าไป...  ก็จริงของมันนะ  เพราะถึงผมจะอารมณ์ไม่ดียังไง  แต่ลึกๆ ในใจแล้ว  เวลาเห็นอะไรสวยๆ น่ารักๆ แบบนี้  ผมก็จะต้องรู้สึกขึ้นมาบ้างสิ  แต่ตอนนี้กลับไม่เลยครับ  หรือเพราะในหัวผมมัวแต่คิดถึงแต่กับเรื่องของกันต์มันรึเปล่านะ...

เห้ย!!!   อย่าบอกนะว่า...  ผมให้ความสนใจกับกันต์มันมากกว่าคนน่ารักๆ ตรงหน้านี้เสียอีก

บ้าไปแล้ว...  นี่ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนะครับ…

“ กูว่า...  มึงคงห่างเหินเรื่องพวกนี้นานเกินไปรึป่าววะ  ห๊ะไอ้กิจ...  ถึงได้เริ่มด้านชาเหมือนไอ้บิวมันเข้าไปทุกทีแล้วแบบนี้ “

ไอ้คิมพูดจบก็โดนไอ้บิวตบหัวไปหนึ่งที  ก่อนจะแย้งว่ามันไม่ได้ด้านชาเหมือนที่โดนกล่าวหาเลยสักนิด

บางที...  อาจจะจริงของมันก็ได้นะครับ  เรื่องที่ว่าผมห่างเหินนานเกินไปกับเรื่องผู้หญิง 

ถ้าผมกลับไปเป็นเหมือนเดิม  บางที...  ผมอาจจะไม่รู้สึกอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้นะครับ


นั่นสินะ....



....................................



ตอนเที่ยงที่โรงอาหารคณะ

พวกผมที่กำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารคณะกันตามปกติ  ก่อนที่สายตาผมจะเหลือบไปมองยังนักศึกษาปีหนึ่งกลุ่มหนึ่งที่ผมคุ้นเคย

ใช่ครับ  ก็กลุ่มกันต์มันนั่นแหละ...

เพราะต้องบอกเลยครับว่า  มันเป็นกลุ่มที่ดึงดูดสายตาผู้คนได้มากมายเลยจริงๆ  แต่ส่วนตัวผมแล้ว...  ก็มีแต่กันต์มันเท่านั้นแหละ  ที่ดึงดูดสายตาไม่สนโลกของผมได้...

ผมมองมันที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับพวกเพื่อนๆ ได้ไม่นาน  ไอ้น้องธันก็เดินถือน้ำสองแก้วเข้ามานั่งข้างๆ มันครับ   เห็นกันต์มันหันหน้ามายิ้มและรับแก้วน้ำนั้นไว้  ผมก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที  ก่อนจะเดินดุ่มๆ แยกจากพวกเพื่อนๆ เข้าไปหาพวกมันทันที


“ วันนี้จะกลับกี่โมง “

ผมถามไปด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์  พวกน้องๆ ทั้งโต๊ะเลยหันมามองผมกันเป็นตาเดียวเลยครับ

“ ก็...  หลังซ้อมแบดที่ชมรมอะครับ “

กันต์มันว่ามาครับ  ก่อนจะหลบสายตาผมไป 

“ ถ้างั้นรอ..  “

“ ผมว่าจะกลับกับไอ้ธันอะครับ “

ไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค  กันต์มันก็ชิงพูดสวนขึ้นมาก่อนครับ

“ ก็...  ยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว  พี่จะได้ไม่ต้องเสียเวลา... “

มันอ้อมแอ้มว่ามาครับ  ผมร่นคิ้วสบตามันได้ไม่นาน  มันก็ทำหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะเลี่ยงสายตาผมไป 

โครตไม่ชอบเลยครับกับความรู้สึกระหว่างผมกับมันตอนนี้... 

ไม่ได้โกรธมันเลยนะครับ  แต่มันแค่ไม่ชอบอะ.....  ยิ่งมีไอ้น้องธันเข้ามาเกี่ยวด้วยแล้ว  ผมยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่

“ กันต์! “

ผมพูดเสียงเข้ม  มันหันมามองผมอีกรอบด้วยหน้าเจื่อนๆ  ผมเม้มปากหงุดหงิดเล็กน้อย  และกำลังจะพูดให้มันกลับกับผมค่ำนี้  แต่ไอ้คิมมันดันเอามือแตะไหร่ผมเสียก่อน

“ เฮ้ย!!  ไอ้กิจ...  วันนี้ไปกินเหล้ากัน  เด็กใหม่กูโทรมาชวนเว้ย...  แถมน้องเขาจะพาเพื่อนๆ มาด้วยนะ  บอกเลยแจ่มๆทั้งนั้น “

ไม่นานมันก็ตบไหล่ผมถี่ๆ  เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้ตอบรับอะไรกับสิ่งที่มันพูดมาเลยสักนิด

ซึ่งก็จริงครับ  ผมไม่ได้สนใจอะไรที่มันพูดมาเลย  เพราะตอนนี้ผมมัวแต่มองหน้าคาดโทษไอ้เด็กดื้อตรงหน้านี้อยู่

“ ว่าไงมึง ?  ไปกัน...  เดี๋ยวกูแนะนำเด็กน่ารักๆให้  มึงจะได้หายด้านชาสักที “

มันว่ามาต่อครับ  แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรอยู่ดี  ตอนนี้ไม่ว่าจะเด็กที่ไหนผมก็ไม่สนใจทั้งนั้น  จะมีก็แต่ไอ้เด็กดื้อตรงหน้านี้เท่านั้น  ที่กำลังทำผมหัวปั่นอยู่ในตอนนี้

“ เออกันต์  นั้นขากลับไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเมื่อวานกันอีกเนอะ  อร่อยดี “

ไอ้น้องธันมันยิ้มว่ามาครับ  แถมกันต์มันก็เออออตามเขาไปด้วย

สนิทกันจังเลยนะ....  แม่งเอ้ย....!!!

“ ไอ้กิจ...  ว่าไงเนี่ย “

ไอ้คิมมันถามย้ำอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ครับ  เพราะตอนนี้ผมไม่ได้สนใจที่มันพูดเลยแม้แต่น้อย...

“ เออ!  กูไป..  แดกเหล้ากันวันนี้!! “

ว่าจบผมก็เห็นกันต์มันหันขวับมามองผมเล็กน้อย  ผมเลยได้แต่มองมันเคืองๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปแทบจะในทันที


หงุดหงิดครับ.....



...................................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 16/04/2561 update chapter 34 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-04-2018 16:33:45
ค่ำนี้ที่ร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ

หลังจากซ้อมบาสเสร็จ  ผมก็กลับมาที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว  แล้วก็ออกไปที่ร้านเลยครับ  ซึ่งตอนที่กลับมาห้องนั้น  กันต์มันยังไม่ได้เข้าห้องมาเลยครับ

เหลวไหลที่สุด... 


โอ้ย!!!  หงุดหงิดโว้ย!!!

แถมยังไปกับไอ้น้องธันนั่นอีก  แล้วผมจะไว้ใจได้มั้ยเนี่ย !!!


“ เป็นไรมึงวะ  กูเห็นหน้าบูดเป็นตูดมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว “ 

ไอ้พีที่นั่งข้างๆ ถามขึ้นครับ

“ เปล่า... “

ผมบอกไปเซ็งๆ ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากไปอีกหนึ่งอึก


กว่า 3 ทุ่มแล้ว  ไอ้คิมมันก็เข้ามาพร้อมกับเด็กใหม่ของมันและเพื่อนสาวของเธออีก 2 คน  ซึ่งถามว่าน่ารักมั้ย  บอกเลยครับว่าน่ารักกว่าเด็กของไอ้คิมมันเสียอีก  เพียงแต่... มันก็ยังไม่สามารถดึงดูดผมให้หลุดออกมาจากความไม่สบอารมณ์ในตอนนี้ได้อยู่ดี

“ นี่ลูกพีช  แล้วนี่ ฮานะ กับ เจน “

ไอ้คิมเริ่มแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จัก  โดยเริ่มจากเด็กใหม่ของมัน  และตามมาด้วยเพื่อนทั้งสองเธอ  ซึ่งจากที่คุยกัน  จึงรู้ว่าพวกเธอเรียนอยู่คณะบัญชีชั้นปีที่ 2 ครับ



......................



กินไปได้ไม่ถึงเที่ยงคืน  ผมก็เริ่มจะมึนๆ แล้วละครับ  คือมันไม่ได้สนุกเหมือนที่มาทุกครั้งเลย  ออกจะน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำไป  ทั้งๆ ที่โต๊ะผมก็ออกจะคึกคักไปด้วยเสียงหัวเราะกันอยู่แท้ๆ  จะมีก็แต่ผมที่เบื่อและก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวเท่านั้นอะครับ

“ พี่กิจดูไม่ค่อยสนุกเลยนะคะ “ 

น้องฮานะถามขึ้นมาครับ  ผมเลยได้แต่ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากตอบไปเท่านั้นครับ

“ เดี๋ยวนี้เพื่อนพี่มันด้านชาไปแล้ว  มัวแต่ทำกิจกรรมอยู่นั่นแหละ “

ไอ้คิมมันแซวผมมาครับ

“ เกี่ยวไรวะ...  กูแค่ไม่ค่อยมีเวลา  ไม่ได้ด้านชาสักหน่อย “

มันได้แต่ยิ้มพร้อมกับยักไหล่เหมือนจะตอบว่า...ก็ไม่รู้สินะ...  แค่นั้น

ช่างแม่งครับ  ไร้สาระ...

ว่าแต่ตอนนี้..  กันต์มันจะกลับห้องมารึยังนะ...

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู  พร้อมกับชั่งใจอยู่เล็กน้อย 

จะโทรหามันดีมั้ยนะ... 

แต่สุดท้ายผมก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงไปเหมือนเดิม...

ไม่สนุกอะครับ  กลับดีกว่า...  จะได้ไปดูกันต์มันด้วยว่ากลับห้องมาแล้วรึยัง  ถ้ายังนะ...น่าดู !!

“ กูกลับก่อนนะ...”

ผมควักตังค์ 2000 ทิ้งไว้ให้บนโต๊ะก่อนจะทำท่าจะลุกขึ้นครับ

“ เห้ย!  ไรวะ  ยังไม่เที่ยงคืนเลย  จะรีบกลับไปไหน “ 

ไอ้คิมมันว่ามาครับ

“ นั่นดิ...  เป็นไรปะเนี่ยมึง  วันนี้ดูแปลกๆ ทั้งวันเลยนะ “
 
ไอ้พีวางแก้วเหล้าลงก่อนจะถามขึ้นมาบ้างครับ

“ กู...  ง่วงว่ะ...  อีกอย่าง..  ไม่อยากทิ้งกันต์มันอยู่ห้องคนเดียวด้วย “

เหตุผลแรกผมโกหกครับ  ส่วนเหตุผลที่สองคือความจริง  แต่ก็จริงแบบไม่ทั้งหมดนะครับ  เพราะนอกจากผมจะไม่อยากทิ้งให้มันอยู่ห้องคนเดียวแล้ว  ผมยังอยากเห็นกับตาตัวเองด้วยว่า  มันกลับมาถึงห้องแล้วตอนนี้...

แบบนี้มันเรียกว่าห่วง...  หรือหวงกันแน่ครับ...

“ ถ้างั้น...  ฮานะขอติดรถพี่กิจออกไปด้วยได้มั้ยคะ  เริ่มไม่ค่อยไหวแล้ว...  แถมพรุ่งนี้ยังต้องมีเรียนแต่เช้าด้วย “

น้องเขาว่ามาครับ  ผมมองอย่างชั่งใจ  เพราะไม่ค่อยเข้าใจในความหมายจริงๆ ของเธอ  คือมันค่อนข้างจะผิดวิสัยของผู้หญิงที่มาเที่ยวด้วยกันกับเพื่อนแบบนี้อะครับ  ที่จะขอกลับกับคนที่พึ่งจะรู้จักกัน  แล้วทิ้งเพื่อนๆ ไว้แบบนี้  แต่ว่า...  น้องเขาก็ดูเป็นคนเรียบร้อยดีนะครับ  ไม่น่าจะคิดแย่ๆ แบบที่ผมเคยเจอมาก่อน  เซ้นต์ของผมมันเหมือนจะพังไปแล้วตอนนี้  เมื่อในหัวผมมันกำลังวุ่นวายอยู่แต่กับเรื่องของกันต์มันเอย่างเดียว

ผมมองหน้าเป็นเชิงถามไอ้คิมมันเล็กน้อย  เผื่อบางทีมันอาจจะตอบแทนผมได้บ้าง  ซึ่งมันก็พยักพเยิดเหมือนมีเลศนัยส่งมาให้เล็กๆ  นั่นยิ่งทำให้ผมอึดอัดเข้าไปใหญ่  เพราะบอกตามตรงเลย  คือตอนนี้.... ผมไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้นแหละครับ....

“ ถ้าพี่กิจไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ “

แล้วน้องเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ มาครับ 

เห็นแบบนี้แล้ว....  จะไม่ช่วยก็ใช่ที่  ผมเลยพยักหน้าตอบรับไปเล็กๆ  ก่อนที่น้องเขาจะยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ  และเปลี่ยนอารมณ์จากเมื่อกี้ไปแทบจะในทันที


.................................


ภายในรถ

“ แล้วนี่...  น้องฮานะจะให้พี่ไปส่งที่ไหนเหรอ “

“ คอนโดฮานะอยู่แถวๆ หน้ามออะค่ะ  รบกวนพี่กิจแย่เลย “

“ ไม่เป็นไร  แถวนั้นทางเดียวกันกับพี่อยู่แล้ว “

“ จริงๆ แล้ว..  ฮานะเองก็ไม่ค่อยชอบดื่มเหล้าเท่าไหร่หรอกค่ะ  แต่เพื่อนมันคะยั้นคะยอก็เลยต้องมา “

ผมหันมายิ้มรับให้เล็กๆ  ก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้าต่อ

“ ว่าแต่พี่กิจนี่ไม่หยิ่งเหมือนอย่างที่คิดไว้เลยนะคะ “

“ หยิ่งยังไง “

“ ก็...  ฮานะเห็นพี่กิจหลายๆ ครั้งที่มหาลัยฯ  ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ ไม่ค่อยสนใจใครแบบนั้น  ก็เลย... ขอโทษนะคะ “

“ เห้ย...  ไม่เป็นไรหรอก  หลายคนก็คิดแบบนั้นกันทั้งนั้นแหละ  แต่พี่ไม่ได้หยิ่งนะ  แค่นิสัยพี่ไม่ค่อยสนใจอะไรก็เท่านั้นเอง “ 

ผมหันมายิ้มบอกไปอีกครั้ง  ซึ่งน้องเขาก็ยิ้มตอบมาให้ด้วยเช่นกัน

“ ฮานะก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ  พอได้สัมผัส...  ถึงได้รู้ว่าพี่กิจ...  น่ารักจะตาย “

ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ตอบไปแค่นั้น  ไปไม่เป็นเลยครับงานนี้

ไม่นานก็มาถึงที่คอนโดของน้องเขา  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของผมสักเท่าไหร่  เมื่อส่งเสร็จ  ผมจึงรีบเหยียบคันเร่งไปยังจุดหมายปลายทางที่ผมตั้งใจเอาไว้อย่างเร็วที่สุด


………


ที่คอนโด

เข้ามาภายในห้อง  ทุกอย่างมันช่างมืดราวกับว่าไม่มีใครอยู่เลย  แต่กระนั้นแสงไฟเล็กๆ ที่ลอดออกมาจากช่องประตูห้องกันต์มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น  เมื่อรู้ว่าคนที่ผมอยากเจอได้กลับมาถึงห้องแล้วในตอนนี้

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง  ทำท่าว่าจะเคาะประตูเรียก  แต่ก็ชะงักมือค้างเอาไว้อย่างนั้น....

ไม่รู้ว่าจะเรียกมันออกมาคุยอะไร  เอาเป็นว่า...  พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน...  จากนั้นผมจึงเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป
รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วครับ  ที่เห็นมันอยู่ใกล้ๆ ตัวผมแบบนี้....



...................



วันรุ่งขึ้น

เช้านี้ผมตื่นไวกว่าปกติ  เพื่อที่จะจัดการกับกิจกรรมยามเช้าให้เสร็จเร็วขึ้น  จะได้รอไปส่งไอ้เด็กดื้อที่ป่านนี้มันยังไม่ยอมออกมาจากห้องเลย

ดูซิว่า...  ถ้าผมพร้อมที่จะออกจากห้องไปพร้อมกับมันแล้ว  มันจะยอมไปกับผมมั้ย

ถ้าไม่...  ก็แสดงว่ามันต้องการจะหลบหน้าผมจริงๆ นั่นแหละ....

ผมนั่งรอมันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นอย่างใจจดใจจ่อได้ไม่นาน  มันก็เปิดประตูออกมาในสภาพที่พร้อมจะไปเรียนแล้วเหมือนกับเมื่อวาน  ผมเลยรีบเดินเข้าไปหามันทันที

“ จะไปเรียนแล้วใช่มั้ย “

ผมถามไปเสียงเรียบ  ซึ่งมันก็ดูจะแปลกใจเล็กน้อยกับสภาพผมในตอนนี้  ก่อนจะกลับมาทำตัวตามปกติอีกครั้ง

“ ครับ..  วันนี้พี่รีบไปเช้าเหรอ  แต่งตัวเสร็จไวจัง “ 

มันยิ้มถามมาครับ

“ อืม...  นั้นไปเลยมั้ย “

มันอ้ำอึ้งไปเล็กน้อย  ก่อนจะตอบมาว่า....  วันนี้มันก็ยังคงจะไปกับไอ้น้องธันนั่นอีก 

ถึงจุดนี้..  ผมก็ถึงกับฟิวส์ขาดขึ้นมาทันทีเลยครับ..

“ กันต์ !!!   นี่เรากำลังทำอะไรอยู่เนี่ย..  หลบหน้าพี่ทำไม!!! “

ผมเริ่มขึ้นเสียง  กันต์มันเลยตกใจขึ้นมาเล็กน้อย  ก่อนจะผลุบตาต่ำลง  แล้วฝืนยิ้มเล็กๆ เงยหน้าขึ้นมามองผม

“ พี่ก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่...  แล้วพี่ยังจะทำแบบนี้อีก...  พี่ไม่สงสารผมบ้างเหรอ.... “

พอได้ยินอย่างนี้  จากที่กำลังหัวเสียอยู่  กลับมาเป็นผมเองที่อึ้งไปครับ

“ ขอเวลา...  และระยะห่างให้ผมได้ทำใจบ้าง...  ไม่ได้เลยเหรอครับ.... “

ผมอ้าปากค้างขึ้นมาเล็กน้อย  อย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ  คิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ ครับตอนนี้

“ นะครับพี่...  เพื่อทางออกที่ดีสำหรับเราสองคน “

กันต์มันพูดจบ  ก็ฝืนยิ้มเล็กๆ ส่งมาให้  ก่อนจะผละตัวแยกออกไปจากผม

เสียงประตูห้องถูกปิดลง  ผมยังคงยืนนิ่งอย่างไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองอยู่ที่เดิม

มันจะดีจริงๆ อย่างที่มันว่ามาอย่างนั้นเหรอ

ถ้าดีจริง...  แล้วทำไมผมถึงไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย

และถ้าวันนึง...  มันไม่รู้สึกอะไรอย่างนั้นกับผมแล้ว.....

ผมจะชอบอย่างนั้นเหรอ...


.......


ผม.....





TBC.


-----------------------------------------------------------------------

อย่างแรกเลย......

ขอโทษทุกๆ คนนะครับที่เมื่อวานลงไม่ทัน....  พอดีวันนี้ต้องไปหาหมอ  มีตรวจเลือดและสุขภาพประจำปี  เลยต้องงดข้าวและรีบพักผ่อนแต่หัวค่ำอะครับ

ขอบคุณทุกๆ คนมากนะครับ  สำหรับกำลังใจและการติดตาม  มันคือสิ่งที่มีค่าจริงๆสำหรับผม...  มันมีค่ามากกว่าเงินทองมากครับ  กับคำว่า "กำลังใจ"

ตอนนี้  กิจยังคงสับสนอยู่มากครับ  ส่วนบอสใหญ่นี่ยังอยู่ในร่างแรกอยู่ครับ  ยังไม่โหดเท่าไหร่..  แต่รอดูไปก่อนนะครับ  ร้ายกาจมากๆ เลย  ><  สงสารกันต์อะ

อีก 2 - 3 วันจะลงตอนต่อไปให้นะครับ  จะมาลงถี่ๆให้เหมือนเดิมละครับ  เริ่มเคลียร์อะไรได้มากขึ้นแล้วครับผม

ปล. ขอบคุณอีกครั้งนะครับ  ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะครับ  ว่าซีซั่น 1 จะลงเอยยังไง  แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับโผม

^_______________________________________________^


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-04-2018 17:15:04
กิจเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วใช่ไหม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-04-2018 17:31:03
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-04-2018 17:32:34
 :pig4: :pig4: :pig4:

กิจก็ยังไม่รู้ถึงจิตใจตัวเองว่าคิดอย่างไรกับน้องกันต์

ว่าแต่ "บอสใหญ่" คือใครหว่า?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 20-04-2018 17:36:20
ระวังใจตัวเองนะพี่กิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 20-04-2018 18:11:19
พี่กิจสับสนสินะ อาการแบบนี้ใช่เลย
ขอให้รู้ใจตัวเองไวๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 20-04-2018 19:21:56
...

น้องกันต์ทำดีแล้วอ่ะ. เขาไม่มีใจ ก้อต้องทิ้งระยะห่างไว้ ไม่ตื้อ ไม่สน

ให้พี่กิจรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันเนอะ

ว่าแต่...บอสใหญ่ใครหว่า…ฮานะไหม…เดาเดา



 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 20-04-2018 23:05:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-04-2018 23:31:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-04-2018 02:41:49
อีพี่แกอย่าบ่นมากนักนะ ที่ผ่าน ๆ มาเป็นอย่างนี้ ตัวแกทำตัวเองนะ แถมทำอีน้องเสียใจหลาย ๆ ด้วย  :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 21-04-2018 22:26:30
เอาใจช่วยน้องกันต์ค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 21-04-2018 23:37:42
ฮืออ เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 22-04-2018 00:12:50
 :hao5: :hao5:รอครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 22-04-2018 02:52:12
พี่กิจน่าจะเริ่มรู้ตัวแล้ว ใช้ใจหาคำตอบ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 22-04-2018 23:20:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-04-2018 23:46:08
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 23-04-2018 13:44:11
อย่ารู้ตัวช้าสิกิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 23-04-2018 15:32:35
เอาใจช่วยพี่กิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 23-04-2018 15:48:48
Chapter 36



กิจ’s  Part



ตอนเที่ยง  ที่โรงอาหารคณะ

“ เป็นไรวะมึง  กูเห็นมึงแปลกๆ ไปตั้งแต่กลับมาจากรับน้องแล้วนะ “

ไอ้พีที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมถามขึ้น  เมื่อมันเห็นผมกำลังนั่งเขี่ยข้าวในจานไปมาอยู่พักหนึ่งแล้ว

“ เปล่า “

ผมตอบไปเรียบๆ  ก่อนจะเห็นมันสบตากับไอ้บิวอยู่เล็กน้อย  และไม่ทันที่ผมจะก้มลงไปสนใจยังอาหารตรงหน้าต่อ  สายตาผมก็ถูกดึงไปยังผู้ที่เข้ามาใหม่

ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละครับ...  ที่ทำอย่างนั้นได้....

กันต์มันคงพึ่งจะเรียนเสร็จอะครับ  และกำลังเดินมากับเพื่อนมันอีก 3 คน  ผมเห็นมันยืนมองซ้ายแลขวาเพื่อหาโต๊ะว่างอยู่  ก่อนที่สายตาเราจะมาประสบกัน  มันดูชะงักตัวไปเล็กน้อย  ก่อนจะเสไปมองยังทางอื่นต่อ

“ กันต์ๆ  ทางนี้ครับน้อง  โต๊ะพวกพี่ยังว่างอยู่ “

เสียงไอ้คิมที่นั่งข้างๆ ผมดังขึ้น  พร้อมกับโบกมือไหวๆ เรียกน้องมันครับ  จากนั้นไอ้เรย์ก็เป็นคนเดินนำกลุ่มมา  โดยมีกันต์ที่ทำหน้าเบื่อๆ เดินรั้งท้ายอยู่

พอมาถึง  พวกนั้นก็ยกมือไหว้และทักทายพวกผมกันตามปกติ  จะมีก็แค่กันต์มันครับ  ที่ดูจะเงียบๆ ไปจากทุกที  ก่อนจะขอตัวแยกออกไปสั่งข้าวมาทาน

เมื่อคนเยอะขึ้น  บรรยากาศที่โต๊ะก็ดูจะครึกครื้นขึ้น  ทว่ากลับมีผมกับกันต์เท่านั้น  ที่ยังคงนั่งเงียบไม่คุยอะไรกับใครสักเท่าไหร่ 
มันเป็นความอึดอัด....ท่ามกลางเสียงหัวเราะ….

แต่ว่า...  ถึงแม้ผมจะเงียบ  แต่ผมก็คอยมองมันอยู่บ่อยๆ นะครับ  ต่างกับมัน...  ที่ไม่เคยหันมามองผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว...



.....................................



ออกมาจากโรงอหาร  พวกผมก็มาเจอกลุ่มน้องๆ เด็กของไอ้คิม  ที่เราเจอกันเมื่อคืนนี้ครับ 

พวกน้องเขากำลังนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนห่างออกไปไม่ไกลมาก  น้องลูกพีชที่เห็นพวกเราเป็นคนแรกก็โบกไม้โบกมือพร้อมทั้งร้องเรียกไอ้คิมให้หันไปมองทันที  ก่อนที่พวกเราจะพากันเดินเข้าไปหา

“ พี่คิม...  ฮานะสะดุดล้มเมื่อกี้  ข้อเท้าน่าจะพลิกอะ  แย่เลย...ทำไงดีคะ “

น้องลูกพีชพูดขึ้นทันทีที่พวกเราเดินมาถึง  ผมเลยเหลือบตาไปมองยังน้องฮานะที่ท่าทางเหมือนจะเจ็บที่ข้อเท้าอยู่ในตอนนี้  ซึ่งเธอกำลังเอามือลูบไปมาอยู่บริเวณนั้น

“ อ้าว... นั้นไปห้องพยาบาลกันมั้ย  เดี๋ยวพี่ไปส่ง “ 

ไอ้คิมมันขันอาสาขึ้นครับ  ก่อนจะถูกน้องลูกพีชดึงข้อมือเอาไว้  และเตือนเรื่องที่ต้องรีบออกไปซื้อของในตอนบ่าย  ตามที่สองคนนี้ได้นัดกันเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้

“ ไม่เป็นไรค่ะพี่คิม  ฮานะยังไหว  ไม่เป็นไรมากหรอก “

แล้วน้องเขาก็ทำท่าเหมือนจะลุกขึ้น  ก่อนจะร้องอุทานด้วยความเจ็บ  แล้วกลับลงไปนั่งต่อเหมือนเดิม

“ ท่าจะไม่ไหวนะฮานะ...  เอาไงดีอะ... “ 

น้องลูกพีชว่ามาครับ  พลางทำท่าคิดอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะเอ่ยออกมาต่อ

“ นั้นจะเป็นไรมั้ย...  ถ้าจะรบกวนพี่กิจ.... ให้ช่วยไปส่งฮานะที่คอนโดให้หน่อยอะค่ะ “

“ บ้าเหรอลูกพีช  เกรงใจพี่เขา “
 
ทันทีที่ลูกพีชพูดจบ  ฮานะก็รีบทักท้วงขึ้นมาทันทีด้วยความเกรงใจ

“ มึงเอารถมาไม่ใช่เหรอ  นั้นไปส่งน้องเขาให้หน่อยได้มั้ยวะ “

ไอ้คิมมันหันมาถามผมครับ  ผมเลยได้แต่พยักหน้าเล็กๆ ตอบรับไป  ซึ่งจริงๆ แล้ว  มันก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรนักหรอก  เพียงแต่...  ผมในตอนนี้มันได้ไม่มีอารมณ์อยากจะทำอะไรทั้งนั้นอะครับ  ถ้าเป็นไปได้  ผมอยากจะอยู่เฉยๆ ซะมากกว่า

“ แล้วนี่ลุกไหวมั้ย...  รถพี่จอดอยู่หน้าตึกภาคอะ “

ผมถามขึ้น  น้องเขาก็พยักหน้ารับ  แต่พอทำท่าจะลุกขึ้นเท่านั้นแหละ...  เหมือนเดิมครับ...  สุดท้ายผมก็เลยต้องเข้าไปช่วยประครองไว้  และให้น้องเขาจับแขนผมเพื่อพยุงตัวเดิน

ผมทำหน้าเซ็งๆ ขณะที่กำลังพาน้องฮานะเดินไปที่รถ  กลับต้องชะงักเท้าลงทันที  เมื่อเห็นกันต์กับเพื่อนๆ ของมันกำลังดินออกมาจากโรงอาหารพอดี

กันต์มันชะงักเท้าลงมองผมหน้าเหวอ  ไม่ต่างอะไรกับผมในตอนนี้...

ก้าวเท้าไม่ออกเลยครับ....  ทำตัวไม่ถูกเลย  ทำไมมันต้องมาประจวบเหมาะกันแบบนี้ด้วยนะ

มองมันได้ไม่นาน  ผมก็เห็นไอ้เรย์มันเข้ามากอดไหล่เพื่อนมันไว้  แล้วพาเดินแยกออกไปจากบริเวณนั้น


โครตรู้สึกแย่เลยครับ...


“ มีอะไรเหรอคะพี่กิจ “

เสียงน้องฮานะถามขึ้น  ผมเลยได้แต่ยิ้มเล็กๆ ส่ายหน้าให้ไปเป็นคำตอบ  ก่อนจะประคองน้องเขาเดินต่อไปที่รถครับ



......................



ที่คอนโดของน้องฮานะ

ผมช่วยประคองน้องเขามาจนถึงในห้อง  ก่อนจะยื่นถุงใส่ยานวดที่แวะซื้อมาส่งให้ไป  และทำท่าว่าจะกลับเลยในทันที

“ ขอบคุณนะคะพี่กิจ  รบกวนพี่แย่เลย “

“ ไม่เป็นไรหรอก  บ่ายนี้พี่ว่างน่ะ  ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว...  นั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว  พี่ขอกลับก่อนนะ “

“ เอ่อ.... “ 

น้องเขาทำท่าอ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไรต่อ  ผมเลยตั้งหน้ารอฟัง  แต่จนแล้วจนรอด  น้องเขาก็ยังไม่พูดอะไรออกมาสักที

“ …… “

“ …… “

“ ไม่มีอะไรค่ะ  ขอบคุณนะคะพี่กิจ “

ผมทำหน้างงๆ พร้อมทั้งยิ้มรับไป  ก่อนจะออกจากห้องน้องเขามาครับ  จากนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา  พลางเลื่อนหาชื่อของกันต์มัน  แต่พอเจอชื่อแล้ว....  ผมกลับไม่กล้าที่จะโทรออกไป...

ก็แค่อยากจะบอกมันว่า...  สิ่งที่มันเห็น...  อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่มันคิดก็ได้.. 


ว่าแต่.. 


แล้วนี่ผมทำไมต้องมาคิดที่จะอธิบายเรื่องอะไรพวกนี้ให้มันรู้ด้วยวะเนี่ย...

ว่าแล้วผมก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงไปอย่างรู้สึกขัดใจต่อความรู้สึกของตัวเอง



.............................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 20/04/2561 update chapter 35 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 23-04-2018 16:05:44
กันต์’s  Part




กว่า 4 โมงเย็น  ที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

“ กันต์... “



“ กันต์ ! “

“ หะ..ห๊ะ !... “

ผมสะดุ้งตัวขึ้นมาจากภวังค์ที่ผมเผลอหลุดเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  จนกระทั่งได้ยินเสียงของไอ้ธันมันเรียกขึ้นมาเนี่ยแหละครับ

“ ว่าไง  มีไรเหรอ “

“ เปล่า...  เราเห็นกันต์เหม่อๆ อะ  เนี่ยดูดิ...  กาแฟจืดหมดแล้ว “

มันว่าจบ  ผมก็ก้มลงดูแก้วกาแฟตรงหน้า  ที่ตอนนี้น้ำแข็งมันละลายกลบรสกาแฟไปจนหมดแล้ว  จากการเอาหลอดคนแก้วกาแฟไปมาของผมก่อนหน้านี้อย่างไม่ทันจะรู้ตัว

“ โทษที  มัวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ...  แล้วนี่ไอ้เรย์กับแพรยังไม่มาเหรอ “

ผมถามขึ้น  เพราะตอนนี้ผมกับไอ้ธันกำลังรอแพรที่ไปคืนหนังสือห้องสมุดกับไอ้เรย์อยู่  และนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาซ้อมแบดที่ชมรมแล้วด้วย..

สงสัยไอ้เรย์พาไปเถรไถลตามนิสัยมันแน่เลย...

“ ยังเลย  แต่เมื่อกี้แพรไลน์บอกนะว่า  กำลังจะออกจากห้องสมุดละ  อีกเดี๋ยวก็คงถึง “

ไอ้ธันบอกมา  ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับเล็กๆ

ว่าแต่..  พี่กิจกับพี่ผู้หญิงคนนั้น..  เป็นอะไรกันนะ..


....


เห้ย!!  ไม่ได้ๆ  เผลอคิดเรื่องนี้อีกแล้ว...

มัน... ไม่ใช่เรื่องของผม  อย่าคิดๆ...

เรา..  ต้องลืมและกลับไปเป็นคนเดิมให้ได้...


.....


“ แหม....  พวกแก..  ดูคนป่วยสิ  เดินปร๋อมาเชียวนะ... “

เสียงพี่ผู้หญิงโต๊ะใกล้ๆ ดังขึ้นมาครับ  จนผมอดที่จะเหลือบไปมองตามด้วยไม่ได้  ก่อนจะต้องชะงักไปเล็กน้อย  เมื่อสาวสวยที่เดินเข้ามาใหม่ในร้าน  เป็นคนเดียวกันกับที่ผมเจอเมื่อตอนเที่ยงที่ผ่านมา....  และยังเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจขึ้นมาทุกทีที่นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่กิจ

“ ไหนยะหล่อน...  เจ็บเท้าไม่ใช่เหรอ... “

พี่อีกคนทักขึ้น  เมื่อเพื่อนของเธอเดินเข้ามาถึงโต๊ะแล้ว

“ อุ๊ย!...  เจ็บจังเลยอะ  อิอิ “

พี่เขาทำท่าเหมือนเจ็บที่เท้า  ก่อนที่จะพากันหัวเราะไปทั้งโต๊ะ

ผมไม่รู้ว่าผมให้ความสนใจที่จะอยากรู้ไปทำไม  ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ใช่วิสัยของผมเลยสักนิดกับการยุ่งเรื่องของชาวบ้าน  แต่คงเป็นเพราะพี่สาวคนนี้ละมั้งครับ  ที่ทำให้ผมอยากรู้ไปโดยไม่รู้ตัว

พอตั้งสติได้  ผมก็สะบัดหน้าเล็กๆ  ก่อนจะหันกลับมามองยังคนตรงหน้าที่กำลังพิมพ์ไลน์ในมือถืออยู่

“ กันต์...  แพรบอกว่าไปเจอกันที่คอร์ดเลยนะ  เรย์มันไปส่งแพรที่นั่นแล้วอะ “

ผมพยักหน้ารับรู้เล็กๆ  จากนั้นพวกเราก็ลุกออกจากโต๊ะไป  ซึ่งผมก็อดที่จะเหลือบไปมองยังกลุ่มพี่ๆ  เขาเล็กๆ ไม่ได้  ก่อนที่จะออกจากประตูร้านไป



...................................



ที่คอร์ดแบด

“ เฮ้ยพวกมึง  วันนี้ไปกินเหล้ากับพวกกูข้างมอกันมั้ย  เดี๋ยววันนี้กูกับเพื่อนเลี้ยงเอง “

ไอ้เคที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ  เดินโชว์หุ่นล่ำๆ มาเปิดล๊อคเกอร์ข้างๆ ผม  ทักขึ้นครับ

ผมหันไปมองไอ้ธันเพื่อขอความเห็น  มันก็ได้แต่ทำหน้างงๆ  ก่อนจะยิ้มเล็กๆ ส่งมาให้  เป็นการบอกว่ายังไงก็ได้

“ ไปด้วยกันนะ..  กูยังไม่ได้เลี้ยงขอบคุณมึงเลยกันต์ “

“ ขอบคุณ... เรื่อง...? “

“ ก็เรื่องไอ้เสือไง “

มันหมายถึงไอ้ไทเกอร์ครับ  ซึ่งเป็นชื่อเก่าที่มันตั้งให้ไว้ก่อนที่มันจะหายไป

“ เห้ย...  ไม่เป็นไร... “

“ เอาน่า  ให้กูได้ตอบแทนมึงบ้างเหอะ  ตกลงนะ “

ผมหันไปขอความเห็นไอ้ธันอีกครั้ง  ก่อนจะหันหน้ากลับมาตอบตกลงมันไปครับ



.....................................



ที่คอนโด

ผมพ่นลมหายใจออกมาเพื่อเตรียมใจก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป  คือยังไม่ค่อยกล้าเจอหน้าพี่กิจเลยครับ  แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเจอนะ...  แค่มันยังไม่พร้อมก็เท่านั้นเอง...

สักวันผมต้องทำใจได้  และกลับมาเป็นไอ้กันต์คนเดิมให้ได้....

ผมเปิดประตูเข้ามา  พี่กิจที่นั่งอยู่ที่โซฟาหันหน้ามามองผมแทบจะในทันที  ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้มเล็กๆ ส่งไปให้เท่านั้น

ถึงผมจะฝืนแสดงไปเหมือนว่าไม่ได้เป็นอะไรก็ตาม  แต่ลึกๆ ในใจแล้ว  มันก็ยังคงรู้สึก...  ยิ่งเวลาเจอหน้ากันด้วยแล้ว....


มัน... เจ็บครับ.....


“ เดี๋ยวคืนนี้ผมออกไปกินเหล้ากับเพื่อนนะครับพี่ “

พูดจบพี่กิจก็ถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาทันที  รู้สึกบรรยากาศมันเหมือนช่วงแรกๆ ตอนที่ผมเข้ามาอยู่ที่นี่เลยครับ

“ ไปกับใคร “

“ ก็กลุ่มผม  แล้วก็กลุ่มไอ้เคมันอะครับ  พอดีมันจะเลี้ยงขอบคุณเรื่องไอ้ไทเกอร์ “

และก่อนที่ผมจะทำตัวไม่ถูกไปมากกว่านี้  ผมเลยรีบชิงหนีเข้าห้องไปเสียก่อน  เพื่ออาบน้ำ  แต่งตัว  และออกไปร้านพร้อมกับไอ้ธันมัน



...........................



กว่าที่ผมจะออกจากห้องมาได้  ก็โดนถามแล้วถามอีก  ว่าจะกลับกี่โมง  กินร้านไหน  และอื่นๆ อีกมากมาย

เห้อ.....

ว่าแล้วก็รีบลงไปหาไอ้ธันมันดีกว่า  ป่านนี้มันคงจะรอผมนานแล้ว



........................



ที่ร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ

“ เอ้า! ชน..... “

คืนนี้ไอ้เคมันมากับเพื่อนมันอีก 2 คนครับ  ส่วนพวกผมนี่มากันครบเลย...  แต่พวกนั้นมันก็ช่วยพวกไอ้เคหารนะครับ  ไม่อย่างนั้นไอ้เคมันคงกระเป๋าฉีกแน่ๆ

“ ตัวเองอย่ากินเยอะนะ “

ไอ้เรย์บอกแพรครับ 

“ รู้แล้วน่า  เห็นแพรเป็นคนยังไงเนี่ย  เรย์ก็เหมือนกัน  ห้ามกินเยอะเด็ดขาด “

“ รับทราบครับผม “

ถึงจุดนี้..  ทั้งผม  ไอ้แน๊ค  และไอ้เจมส์ต่างก็มองหน้ากันโดยไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจว่า.... แม่ง... น่าหมันไส้สุดๆ เลย ไอ้เรย์
หลังจากนั้นไม่นาน  ราวกับว่าโลกมันกลมหรือเพราะความบังเอิญกันแน่  ที่ผมได้เจอกับพวกพี่ผู้หญิงกลุ่มนั้นอีกแล้ว  ซึ่งพวกพี่เขาพากันมานั่งยังโต๊ะใกล้ๆ กับโต๊ะของกลุ่มพวกผม

“ มองไรวะ “

ไอ้แน๊คถามขึ้นมาครับ  ก่อนจะมองตามสายตาผมไป

“ เช็ด!!!  พึ่งเคยเห็นมึงสนใจสาวๆ นะเนี่ย  ปกติแม่งเห็นมีแต่ผู้ชายมารุม “

มันพูดจบผมก็ตบหัวมันไปทีนึงครับ  เริ่มจะปากหมาเหมือนไอ้เรย์เข้าไปทุกทีแล้วเนี่ย  สงสัยมันจะเป็นโรคติดต่อกันได้แน่ๆ

“ ไม่ได้สนใจเว้ย !  กูก็แค่รู้สึกคุ้นหน้าพี่เขาเฉยๆ “

“ ไหนวะ... “
 
ไอ้เรย์อดที่จะอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้างไม่ได้  ก่อนจะมองตามมือที่ไอ้แน๊คมันชี้นำไป

“ ดื่มเว้ยๆ !!!   วันนี้มาดื่ม...  ก็ดื่มกัน! “ 

ไอ้เรย์รีบพูดขึ้นมาทันที  ก่อนจะโน้มน้าวให้เพื่อนทุกคนกลับมาสนใจยังโต๊ะของตัวเองต่อ

จากนั้นไอ้เรย์มันก็ชายตามามองยังผมอยู่เล็กน้อย  มันคงจะจำพี่ผู้หญิงคนนั้นได้  ไม่อย่างนั้น...  ตอนนั้นมันคงไม่เข้ามากอดคอผม  แล้วพาเดินออกไปจากหน้าโรงอาหารแบบนั้นหรอก



……………………



เกือบจะเที่ยงคืน  ก็ถึงเวลาอันสมควรที่พวกเราจะกลับกันได้แล้วละครับ  เพราะนี่ยังไม่ใช่สุดสัปดาห์  พรุ่งนี้ยังต้องมีเรียนแต่เช้าด้วย  คงอยู่ดึกไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

“ กลับดีๆ นะเว้ย “

ผมเอ่ยลาพร้อมกับโบกมือเล็กๆ บอกพวกไอ้เคมันครับ  ก่อนจะมองเลยออกมายังหน้าร้าน  และพบกับพี่กิจที่กำลังยืนพิงรถหันหน้ามามองทางผมตาเขม็งเลย

ว่าแต่...  พี่เขามาทำอะไรเนี่ย...

และไม่ต้องให้คิดมากไปมากกว่านี้  พี่เขาก็เดินดุ่มๆ ตรงเข้ามาหาพวกผมทันทีเลยครับ

“ พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ  ทำไมกลับดึก “

พี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ  พร้อมกับสีหน้าดุๆ ว่ามาครับ

“ ก็..  กำลังจะกลับกันแล้วอะครับ  ว่าแต่.. นี่พี่กิจมาทำอะไรอะ “

“ ก็.. “

“ พี่กิจ ! “

แล้วเสียงผู้หญิงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังผมครับ  พอผมหันไปมอง  ก็เห็นกลุ่มพี่ผู้หญิงกลุ่มนั้นกำลังพากันเดินออกมาพอดี

ผมหันหน้ามามองพี่กิจอีกครั้งหนึ่ง  ตอนนี้ถึงพี่เขาจะไม่ตอบอะไร  ผมก็พอจะเข้าใจแล้วละครับ  ว่าพี่เขามาทำอะไรที่นี่...  เวลานี้....

“ ปะไอ้ธัน  กลับกัน “

พูดจบผมก็จับมือไอ้ธันเดินเลยพี่เขาไปแทบจะในทันที  โดยไม่หันหน้าไปมองพี่เขาเลยแม้แต่น้อย...

ที่สำคัญ...  ผมไม่อยากอยู่ที่นี่นานไปมากกว่านี้... 

บอกตรงๆ ผมยังทำใจไม่ได้หรอกครับ  หากต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจไปมากกว่านี้

ขอเวลาผมอีกสักหน่อยเถอะนะ...  แล้วผมจะกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง


......


ผมนี่มัน....  งี่เง่าจริงๆ...

ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวพี่เขาเลยแท้ๆ..




…..



ที่คอนโด

ผมเดิมซึมๆ เข้ามาภายในห้อง  หลังจากที่แยกกันกับไอ้ธันไปเมื่อสักครู่

คืนนี้...  พี่กิจจะกลับห้องมามั้ยนะ...

พี่เขากับพี่ผู้หญิงคนนั้น...  คืนนี้...

......

......

......

.....

ไม่สิ...  มันก็เป็นสิทธิ์ของพี่เขานี่นะ  ฮะๆๆ

ผมไม่ได้เสียใจอะไรเลยจริงๆ....

ฮะๆๆ.....


.....


ผม...


.....


....


...


...


...


ไม่ได้เสียใจเลย...





TBC.



-------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจและการติดตามที่ล้นหลามขนาดนี้  ขอบคุณจริงๆ ครับ

มันก็จะอึนๆ อะครับ  แต่...  มันยังจะจมดิ่งไปมากกว่านี้อีกอะ :serius2:

เป็นกำลังใจให้กันต์กันด้วยนะครับ  มันคือการหลอกตัวเองไปวันๆ ที่เจ็บปวด...

สำหรับบอสท้ายภาคแรกนี้ก็อย่างที่หลายคนคิดไว้อะครับ  ใช่แล้ว  ฮานะนั่นเอง...

แต่นี่บอสยังร่างแรกนะครับ...  ไม่ได้ร้ายกาจอะไรเลย 

บอกได้เลยว่า...  ต่อไปกันต์น่าสงสารมาก...

แต่..ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดีครับ  แฮ่

แล้วอีก 2 - 3 จะมาต่อตอนต่อไปให้นะครับ

ปล. ตอนหน้าอิพี่กิจก็มีความพยายามจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้อยู่นะครับ  แต่ว่า... ( สปอยไม่ได้ >< :serius2: )  ต้องรอติดตามกันนะครับ

^_______________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-04-2018 16:31:56
 :z3: :เฮ้อ:

เฮ้ออออออ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-04-2018 16:33:11
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-04-2018 18:03:12
เราต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้...สู้ๆนะกันต์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 23-04-2018 19:20:48
พี่กิจนะพี่กิจ ปากหนักชะมัดเลย อย่างนี้ต้องถึงหูหญิงแม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 23-04-2018 19:29:35
เฮ้อ พี่กิจ มันก็อึนๆหน่อยนะ

ยัยฮานะนี่สตอทั้งสวนคงไม่พอ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-04-2018 20:23:04
เป็นไงเฮีย โดนชะนีหลอก   :laugh:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-04-2018 21:10:06
 :pig4: :pig4: :pig4:

โถๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   น่าสงสารนะที่มองไม่ออกว่านางฮานะอ่ะ  สะตอ!
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 23-04-2018 21:44:35
บ๊ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 23-04-2018 22:13:43


โอ้ยยยยย. สงสารน้องกันต์. เข้มแข็งไว้นะ หน้าเริ่ดเชิดไว้

ย้ายออกมาซะเลย…เชอะ

 :z10:  :z10:  :z10:  :z10:  :z10:  :z10:



.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-04-2018 23:04:06
น้องกันต์ สงสารน้อง~ :o12:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-04-2018 23:13:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Jang Wachira ที่ 25-04-2018 15:50:42
อยากได้ nc ข่มขืนงี้อ่ะ ถ้าได้จะสนุกขึ้นไปอีกกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 25-04-2018 18:46:31
ยังติดตามอยู่นะ  จงเสพดราม่ากันต่อไป  อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 25-04-2018 20:19:18
อดทนนะกันต์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 26-04-2018 14:38:53
สู้ๆนะกันต์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-04-2018 20:13:19
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 26-04-2018 22:26:25
รอๆๆติดตามค้าาาาา   :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 27-04-2018 22:03:27
Chapter 37




กิจ’s  Part




นี่มันวันอะไรกันวะเนี่ย....

ไม่รู้ว่าป่านนี้กันต์มันจะเข้าใจผิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ  ตั้งแต่เมื่อตอนเที่ยง...จนมาถึงตอนนี้....

ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปรับน้องฮานะเลยนะครับ  อันที่จริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องเขาไปที่นั่น...  ขาก็เจ็บอยู่แท้ๆ  ไม่รู้จะไปทำไม...

ส่วนที่ผมไปที่นั่นก็เพราะผมจะไปรับกันต์มันต่างหาก... 

แต่พอเห็นมันจับมือไอ้น้องธันนั่นเดินผ่านผมไปโดยไม่สนใจผมเลย  แล้วผมจะพูดอะไรได้ละครับ 

หงุดหงิดก็หงุดหงิดนะ...  แต่จะทำอะไรได้ล่ะ  เพราะมันก็ไม่ได้ผิดอะไร  หนำซ้ำ..  ผมยังรู้สึกว่าตัวผมเองมากกว่าที่ผิด....

เป็นอะไรวะเนี่ย!!!  ผม....

เมื่อคิดอะไรไม่ออก  สุดท้ายผมที่ได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องมัน  หลังจากที่ไปส่งน้องฮานะและกลับเข้ามาถึงห้องแล้ว  เลยได้แต่หันหลังกลับเดินเข้าห้องตัวเองไปอย่างเซ็งๆ....



...............................



เช้าวันต่อมา

วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติครับ  ไม่ได้มาออกกำลังกายอะไรหรอกนะ  แต่เพราะจู่ๆ ก่อนนอนเมื่อคืนนี้  ผมก็คิดได้ว่า...  มันไม่โอเคเลยกับการที่กันต์มันทำตัวห่างเหินผมไปแบบนี้  ผมยังอยากจะมีมันอยู่ใกล้ๆ เหมือนเมื่อก่อนนะ

ใช่ครับ...  ผมยอมรับนะว่ารู้สึกดี  แต่ผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกนะครับ...  ก็แค่อยากมีมันอยู่ข้างๆ เหมือนเมื่อก่อนก็แค่นั้นเอง  มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก...  ใช่มั้ยครับ

ถ้าอย่างนั้น  สิ่งที่ผมควรจะทำในตอนนี้ก็คือ...  ทำไงก็ได้ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม....


“ ก็อกๆๆ !! “


ผมรวบรวมความกล้าเพื่อเคาะประตูห้องมัน  รู้สึกแปลกๆ แฮะ  ทำตัวไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้สิครับ  บอกตรงๆ เลยนะว่า  ผมไม่เคยไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย

ผมเคาะย้ำไปอีกรอบ  และไม่นานมันก็เปิดประตูห้องออกมาด้วยใบหน้าที่งัวเงียและตาปรือๆ 


น่ารักดีแฮะ... 


มันมองหน้าผมเหมือนจะถามว่ามีอะไร...  ถึงได้ปลุกมาแต่เช้าแบบนี้  ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรหรอกครับ  เพราะนี่มันก็เช้ามากจริงๆ นั่นแหละ  ขนาดฟ้าข้างนอกมันยังมืดอยู่เลย


“ ... “


เหมือนมันทำท่าจะถามอะไรขึ้นมาสักสักอย่าง  แต่มันก็เลือกที่จะไม่ถามขึ้นมาเสียอย่างนั้น  เลยกลายเป็นผมเองที่ต้องมาตอบคำถามจากสายตาของมันในตอนนี้แทน

“ เอ่อ...  พอดีวันนี้พี่มีไปดูงานที่โรงงานน่ะ “

กันต์มันทำหน้าเป็นเชิงถามว่า...  แล้วไงต่อครับ

“ แล้ว... เอ่อ..  แถวนั้นมันไม่ค่อยมีอะไรกินน่ะ รอบที่แล้วที่ไป  อาจารย์ก็พาไปกินข้าวแถวนั้น  แล้ว... เอ่อ...  คือมันไม่ค่อยจะอร่อยน่ะ “

“ แล้ว... “

“ ทำข้าวกล่องให้พี่หน่อยนะ “

กันต์มันทำหน้างงๆ สงสัยถามมาครับ  คืออย่าว่าแต่มันเลย  ผมเองก็งงเหมือนกันที่มาขออะไรมันแบบนี้

“ น้า...  ทำให้พี่หน่อยนะ “

“ ...... “

“ นะคร้าบ “

สุดท้ายกันต์มันก็พยักหน้ารับเบาๆ  ก่อนจะขอเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อยก่อน


…..


ที่ห้องครัว

“ แล้วพี่อยากกินไรอะ “   

กันต์มันถามขึ้นมาทันทีที่เดินเข้าครัวมาครับ  ส่วนผมแทนที่จะไปออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกที  กลับเปลี่ยนมานั่งจ้องมันอยู่ที่โต๊ะกินข้าวในครัวนี้แทน

“ อะไรก็ได้  เราทำอะไรมาพี่กินได้หมดแหละ “

ผมยิ้มบอกไปครับ  สายตามันมองผมอย่างระแวงอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ยอมหันหลังเปิดตู้เย็นและหยิบนู่นหยิบนี่ออกมาเรื่อยๆ

จริงๆแล้ว  วันนี้ผมไม่ได้มีไปทัศนะศึกษาดูงานอะไรที่ไหนหรอกครับ  ก็แค่อยากใช้เวลาร่วมกับมันเหมือนอย่างเมื่อก่อน  อยากจะพูดคุยด้วย  โดยที่มันไม่ต้องหลบหน้าผม  แล้วไปใช้เวลาร่วมกับคนอื่นอย่างนั้น  เผื่อว่าบางที...  อะไรๆ ระหว่างผมกับมัน  อาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ

...........

“ เมื่อคืน... “

ผมเริ่มพูดขึ้น  ขณะที่มันกำลังหันหลังทำอาหารอยู่ในตอนนี้

“ มันไม่ได้มีอะไรนะ  พี่แค่ไปส่งน้องเขาเฉยๆ ส่งเสร็จก็กลับเข้าห้องมาเลย “

เหมือนกันต์มันจะหยุดมือลงฟังผมอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะเริ่มทำอาหารต่อไป

“ จริงๆ แล้ว...  พี่ตั้งใจจะไปรับเราต่างหาก... “

ถึงจุดนี้...  มันก็หันหน้ากลับมามองผมด้วยสีหน้าแปลกๆ

“ แต่เห็นเราอยากจะกลับกับคนอื่น  แล้วจะให้พี่ทำไงอะ “

ผมทำหน้ามู่บอกไป  (ซึ่งมันไม่ใช่วิสัยของผมเลย )  คือมันอดน้อยใจขึ้นมาไม่ได้นี่ครับ  เวลาที่นึกถึงภาพนั้น

“ ก็เลยไปส่งสาว “

“ ก็น้องเขาขอมา...  แล้วพี่เห็นว่าน้องเขาขาเจ็บอยู่....  ก็เลยปฏิเสธไปไม่ได้ “

“ ขาเจ็บ... ? “

มันทำหน้าแปลกใจถามมาครับ  ผมเลยได้โอกาสอธิบายต่อเลย

“ ก็เมื่อวานตอนเที่ยงที่เราเห็นนั่นแหละ  น้องเขาล้มแล้วข้อเท้าพลิก  พี่ก็เลยต้องไปส่งเขาที่หอน่ะ “

“ แต่.... “

เหมือนมันจะพูดอะไรต่อ  แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงคอไป  แล้วเปลี่ยนมาเป็นตั้งคำถามที่ทำเอาผมสะอึกขึ้นมาแทบจะในทันที  ด้วยใบหน้านิ่งๆ

“ แล้ว...  พี่มาบอกผมทำไม “

“ ก็...  พี่ไม่อยากให้เราเข้าใจผิดไง “

“ มันก็เรื่องส่วนตัวของพี่..  ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว....  พี่ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายอะไรให้ผมฟังก็ได้... “


ไปไม่ถูกเลยครับ....


แล้วเราก็เงียบกันอยู่พักหนึ่ง  ก่อนจะเป็นผม ( อีกเหมือนเดิม )  ที่เริ่มทำลายบรรยากาศอึมครึมในตอนนี้

“ เช้านี้ให้พี่ไปส่งนะ  ยังไงก็ออกห้องพร้อมกันอยู่แล้ว  จะได้ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นเขาด้วย “

“ แต่... “

“ ไม่รู้ล่ะ  พี่บังคับ... “

ผมยิ้มหน้าตายบอกไป  โดยไม่สนใจท่าทีขัดขืนของคนตรงหน้านี้เลยแม้แต่น้อย



………………………….



ตอนเที่ยง  ที่โรงอาหารคณะ

จริงๆ แล้ว  ผมพยายามชวนพวกเพื่อนๆ  ให้ไปกินข้าวกันที่โรงอาหารกลางครับ  แต่มันไม่ยอมไปกัน  บอกแค่เพียงว่ามันไกลไป  ส่วนที่ผมอยากไปกินที่นั่นก็เพราะเรื่องเมื่อเช้าที่ผมโกหกกันต์มันไปนั่นแหละ...  คือถ้ามันมาเห็นผมกับพวกเพื่อนๆ อยู่ที่นี่ละก็...  มีหวังความแตกแน่  แล้วคราวนี้มันก็จะแย่ยิ่งไปกว่าเดิม

“ เป็นเชี่ยไรมึงเนี่ย  ทำหน้าเป็นตูดเลย “

ไอ้คิมมันว่ามาขณะที่เรากำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารคณะกัน

“ เปล่า.... “

“ ดูมัน...  ตกลงนี่มึงเบื่ออาหารคณะเรา  หรือมึงเบื่อสาวๆ คณะเรากันแน่วะ   ถึงได้อยากไปแดกที่โรงอาหารกลางน่ะ “

ไอ้พีแดกดันผมต่อ

“ อาหารเว้ย ! “

“ แหม...  ก็นึกว่านัดเด็กคณะบัญชีเอาไว้ “ 

ไอ้คิมมันว่ามาต่อครับ  แถมยังทำหน้าราวกับรู้ดีเสียอย่างนั้น

“ คณะบัญชีไรวะ... “

ผมทำหน้าไม่เข้าใจถามกลับไปครับ

“ ก็น้องฮานะไง   ตกลงนี่...  พวกมึงถึงขั้นไหนกันแล้ววะ “

“ ถึงไหนกันล่ะ  กูไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขาสักหน่อย  เชี่ยคิมมึงก็เชียร์กูจัง  อย่าคิดว่ากูไม่รู้อะ “

พูดจบมันก็อมยิ้มกวนบาทาส่งมาให้ครับ  แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีอารมณ์จะไล่เตะมัน  เพราะกำลังลุ้นอยู่ว่าจะเจอกันต์มันที่นี่รึป่าว
ผมเลือกที่จะนั่งโต๊ะตรงมุมสุดของโรงอาหารเลยครับ  แอบๆ หน่อยน่าจะดีกว่า

“ เชี่ย...  ข้าวกล่อง  ใครทำมาให้วะ “

ไอ้คิมมันทักขึ้นเสียงดังอย่างแปลกใจ  เมื่อผมหยิบเอากล่องข้าวจากถุงกระดาษที่ผมหิ้วติดตัวไปมาตลอดเวลาตั้งแต่เช้าขึ้นมา

“ สาวแน่.. “

ไอ้บิวว่ามา  พร้อมทั้งหันหน้าไปขอเสียงสนับสนุนจากไอ้พีอีกคน
 
“ น้องฮานะชัวร์ “

“ มึงนี่ก็ไม่เลิกนะไอ้คิม...  กูขอย้ำอีกรั้งนะ...  ว่ากูไม่ได้ชอบน้องเค้า  แล้วอีกอย่าง...ข้าวกล่องนี่กันต์มันก็เป็นคนทำมาให้... “


“ หือ..!! “


นี่พวกมึง 3 ตัวจะหน้าตาตื่นกันทำไมวะ  แถมยังอุทานเสียงดังขึ้นมาซะพร้อมกัน  มันน่าแปลกตรงไหนกัน...

“ กูขอชิมหน่อยได้มั้ยวะ  ว่าแต่..  ทำไมอยู่ๆ น้องเขาถึงทำข้าวกล่องมาให้มึงได้อะ “

เร็วเลยนะมึงไอ้พี...  ผมเลยต้องหาเหตุผลจอมปลอมโกหกมันไป  ส่วนเรื่องขอชิมนั้น...  ฝันไปเถอะมึง....

“ ของเหลือน่ะ...  กูกินเมื่อคืนแล้วเห็นว่ามันอร่อยดี  ก็เลยเอาใส่กล่องมากินเนี่ย “

“ เหรอวะ..  แต่ดูจากสภาพและการจัดแต่งแล้ว..  เหมือนมันไม่ใช่ของเหลือเลยนะ  และอีกอย่าง..  คนอย่างมึงเนี่ยนะ  จะมาพิถีพิถันอะไรกับเรื่องพวกนี้ “

ไอ้บิวมึงก็ช่างจับผิดกูจังนะ

“ ก็.... “


“ ….. “


“ กูไปซื้อน้ำละ  เดี๋ยวมา “

ไม่แค่นโกหกต่อจะดีกว่าครับ  เพราะไอ้พวกนี้มันไม่ได้โง่เลย  เดี๋ยวมันจะยิ่งสงสัยไปมากกว่าเดิม  ทางที่ดี...  ควรปลีกตัวออกมาก่อนจะดีกว่า

“ ห้ามแอบกินด้วยนะเว้ยพวกมึง  ไม่งั้น... หึ! “

ผมหันหลังมากำชับไว้ก่อนครับ  เพราะไม่อย่างนั้นมีหวังเกลี้ยงแน่  ยิ่งเป็นฝีมือกันต์มันด้วยแล้ว  รับรองพวกนั้นมันต้องอยากกินแน่นอน


.........................


ผมเดินไปซื้อน้ำ  พลางเหลียวซ้ายแลขวามองหากันต์มันไปในตัว  ซึ่งก็ยังไม่เห็น...  บางทีถ้าผมรีบกินและรีบออกจากโรงอาหารให้ไว  ก็อาจจะไม่ต้องเจอมันก็ได้นะครับ 

พอผมเดินกลับโต๊ะมา  ก็พบว่าสมาชิกที่โต๊ะมันเพิ่มขึ้นมาอีก 3 คน  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ 

น้องฮานะและเพื่อนๆ ของเธอนั่นเอง...

“ พี่กิจ ! “

น้องเขายิ้มทักขึ้นมาทันทีที่เห็นผมกำลังเดินมาถึงโต๊ะ  ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้มเล็กๆ ทักตอบไปให้เท่านั้น

“ น้องลูกพีชมาหาไอ้คิมมันเหรอครับ “

ผมเลือกที่จะทักน้องลูกพีชแทนที่จะเป็นน้องฮานะ  เพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกใครมาโยงระหว่างผมกับน้องฮานะอีก

“ ป่าวค่ะ  คือฮานะมันซื้อของมาฝากพี่กิจน่ะ “

นั่น...  สุดท้ายก็โยงเข้ามาจนได้

“ คือ...  พวกเราไปกินข้าวร้านอร่อยมา  ฮานะก็เลยซื้อกลับมาฝากพี่กิจอะค่ะ “

น้องฮานะยิ้มว่ามาครับ  ก่อนจะยื่นของส่งมาให้ผม

ผมรับมาพร้อมกับยิ้มให้เล็กๆ พอเป็นพิธี  ก่อนจะเปิดออกดู  ซึ่งข้างในก็เป็นอาหารค่อนข้างมีราคา  ซึ่งถูกสั่งให้ห่อกลับ  และไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรต่อ  ไอ้คิมมันก็ล้วงเอาออกมาทีละอย่างๆ

“ น่ากินทั้งนั้นเลยว่ะ  แหม... มีคนดูแลดีจังเลยนะมึง “

มันว่ามาครับ...  ซึ่งผมว่ามันชักจะยังไงๆ แล้วนะ  ไอ้คิมมันถึงได้เชียร์ผมกับน้องเขาซะขนาดนี้

“ เห็นละอยากกินเลย  แต่....  ไม่แย่งมึงดีกว่า..  เดี๋ยวน้องฮานะเขาจะเสียน้ำใจเอา “

มันยิ้มทะเล้นว่ามาครับ  ผมเลยได้แต่มองกลับไปตาขมึง

“ ถ้างั้น...  ข้าวกล่องมึง...  กูขอกินนะไอ้กิจ “

เชี่ย!!!  ไอ้นี่ก็อีกตัว...  หาโอกาสได้ตลอดเลยนะ  กูยังไม่ได้อนุญาตเลย  มึงหยิบเอาไปได้ไงวะไอ้พี!

ที่สำคัญ...  ผมหวง...  และจะไม่ให้ใครกินทั้งนั้น....

“ อ้าว...  พี่กิจมีข้าวกล่องมาด้วยเหรอคะ “

แล้วน้องฮานะก็พูดเสียงอ่อยถามมาครับ  โครตจะลำบากใจเลย

“ ไม่หรอกฮานะ  ไอ้กิจมันไม่กินข้าวกล่องหรอก  น้องอุตส่าห์ซื้อมาให้ขนาดนี้...  จริงมั้ยวะเพื่อน “

ไอ้คิม....  นี่มึงจะออกนอกหน้าเกินไปแล้วนะ  สงสัยผมคงต้องคุยกับมันจริงๆ จังๆ ซะแล้วละครับ  ว่าผมไม่ได้สนใจน้องเขาเลย  และผมก็เลิกไอ้นิสัยเจ้าชู้พวกนั้นไปแล้วด้วย

“ ถ้าพี่กิจลำบากใจ..  ก็ไม่เป็นไรนะคะ  ฮานะไม่รู้เองแหละ...  ว่าพี่กิจมีข้าวมากินแล้ว... “

พูดมาซะขนาดนี้  แล้วผมจะทำไงได้ละครับ  ลำบากใจสุดๆ เลย

“ เสียน้ำใจน้องเขานะเว้ยไอ้กิจ “

ไอ้พีนี่ก็...

แม่งเอ้ย....

“ ครับๆ..  นั้นเดี๋ยวพี่กินของฮานะแทนก็ได้ “

ผมตอบไป  ไอ้คิมมันก็ตีมือดังฉาดใหญ่อย่างถูกใจ  ในขณะที่น้องเขาก็ยิ้มกว้างออกมาแทบจะในทันที  ก็คงจะมีแค่ผมละมั้งครับที่รู้สึกอึดอัดและไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด


เซ็งครับ....




....
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 23/04/2561 update chapter 36 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 27-04-2018 22:21:42
“ พลาดละมึงไอ้กิจ !  อร่อยสัด “

“ ไหนวะ  กูชิมหน่อย “

ไอ้บิวว่าจบมันก็เอื้อมมือไปตักข้าวกล่องที่อยู่กับไอ้พีเข้าปากมันทันที

“ เชร็ดดด!!!  อย่างที่ไอ้พีว่า  มึงพลาดละ “

ก็แน่ล่ะ...  กันต์มันทำนี่  แล้วพวกมึงยังจะมาตอกย้ำให้กูต้องปวดใจอีกนะ  แม่งเอ้ย!!!

เห้อ...  เวรกรรมอะไรวะกู...



“ อ้าวพี่ๆ หวัดดีครับ “

เสียงไอ้เรย์ดังมาจากทางด้านหลังของผม  ซึ่งทำให้ผมถึงกับเสียวสันหลังวาบขึ้นมาแทบจะในทันที

“ อ้าวพี่พี  วันนี้พวกพี่ไม่ต้องไปดูงานที่โรงงานกันเหรอครับ “

นั่นไง...  เสียงกันต์มันถามขึ้นต่อทันที  ไอ้พีเองก็ทำหน้างงๆ  แต่ก่อนที่มันจะพูดอะไรให้ผมซวยไปมากกว่านี้  ผมเลยรีบชิงพูดสวนขึ้นมาก่อน

“ คือวันนี้อาจารย์เขางดกะทันหันน่ะ  พอดีที่โรงงานเขาไม่สะดวกให้นักศึกษาไปดูงานในวันนี้ “

ผมพูดจบกันต์มันก็พยักหน้าเล็กๆ  เหมือนจะเข้าใจ  ในขณะที่พวกเพื่อนๆ ผม  หันขวับมามองยังผมกันเป็นตาเดียวเลย ว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่....

ผมเลยทำหน้านิ่งไม่รู้ไม่ชี้ไปแค่นั้น  ขอแค่รอดจากกันต์มันได้ก็พอแล้วละครับ...  คนอื่นผมสนที่ไหนล่ะ.... 

แต่แล้ว... 

สิ่งที่แย่ที่สุด  มันก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้วล่ะครับ  เมื่อสายตาของกันต์มันหันไปโฟกัสยังข้าวกล่องที่อยู่ตรงหน้าไอ้พีมันตอนนี้...

ซวยแล้วไงไอ้กิจเอ้ย!!!!

บอกไว้ก่อนเลยนะครับ  ว่าผมไม่เคยหัวปั่นขนาดนี้เพราะใครมาก่อนเลย  จะมีก็แต่กันต์มันเนี่ยแหละครับ  ที่ทำผมได้ถึงขนาดนี้
ในที่สุด...  มันก็เบนสายตาจากกล่องข้าวมามองยังผมแทน... 

สายตาเย็นชาสุดๆ เลยครับ...

และไม่ถึง 3 วินาที  มันก็เมินไปจากผม...  สกิลเดียวลาสช็อต...  ลาตายก่อนนะครับทุกคน.....

“ ข้าวกล่องกันต์อร่อยมากเลยนะ  พี่ขอไอ้กิจมา “

ไอ้พีว่ามาครับ  กันต์มันก็ยิ้มเล็กๆ ส่งให้ไป  ส่วนผมนี่....นั่งเงียบตัวลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย

“ พอดีไอ้กิจมันมีสาวมาส่งข้าวให้ถึงที่  เลยโชคดีของพี่อะ...  นี่เรารู้มั้ยว่าเราทำอาหารอร่อยกว่าทุกเจ้าในโรงอาหารเลยนะ “

เอากันเข้าไป...  ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ เลยวะเนี่ย

“ อ่อครับ..  แต่ก็คงจะอร่อยสู้ของที่พี่กิจกินอยู่ไม่ได้หรอกครับ “

ฮือๆๆ  พี่ขอโทษกันต์...  พี่โดนมัดมือชกนะคร้าบ.....

“ กันต์!  พึ่งมาเหรอ “

แล้วไอ้หน้าหล่อเดือนคณะปีนี้ที่พึ่งจะมาถึง  ก็รีบเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหามันครับ  ผมเลยหันไปจ้องมันตาเขม็ง  ชักเริ่มไม่ถูกชะตากับมันซะแล้วสิ

“ อืม..  พึ่งมาอะ  กำลังหาโต๊ะนั่งกันอยู่เลย “

กันต์มันตอบไปครับ

“ พี่กิจนี่มีน้องชายด้วยเหรอคะ “

แล้วจู่ๆ น้องฮานะก็ถามขึ้นมาครับ  ในขณะที่ทุกคนต่างก็หันไปให้ความสนใจกับเธอต่อในทันที

“ เอ่อ..  ใช่...  ทำไมเหรอ “

“ แหม  ถึงว่า... หน้าตาดีเหมือนกันเลยนะคะ  พี่น้องคู่นี้...  แถมยังทำข้าวกล่องให้พี่ชายด้วย “

น้องฮานะพูดจบ  ไอ้คิมมันก็หลุดขำขึ้นมาแทบจะในทันทีเลย  ดูท่าแล้วน้องเขาคงจะเข้าใจอะไรผิดเป็นแน่

“ ฮานะเข้าใจผิดแล้วน้อง  ไอ้กิจกับน้องกันต์นี่ไม่ใช่พี่น้องกันหรอกนะ “

ไอ้คิมอธิบายแทนผมที่ขี้เกียจจะอธิบายอะไรมาก  ให้คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมฟังสักเท่าไหร่

“ อ้าวเหรอคะ...  ก็ฮานะเห็นมีทำข้าวกล่องให้กันด้วย  ก็เลย... น่าอายจังค่ะ “

“ คือน้องกันต์เขาพักอยู่กับไอ้กิจมันน่ะ “ 

ไอ้คิมเสริมต่อ  ไม่รู้ว่ามันจะต้องมาอธิบายอะไรละเอียดให้คนนอกฟังด้วยนะ

“ แล้วน้องเขากับพี่กิจ... “

ฮานะเหมือนจะยังคงสงสัยต่อ  ก่อนที่กันต์มันจะสวนตอบขึ้นมาแทนไอ้คิมมันครับ

“ เป็นแค่คนรู้จักกันอะครับ  พอดีผมมาขออาศัยพี่เขาอยู่... ก็เท่านั้นเองครับ “

อึ้งเลยครับกับคำตอบนี้...  คือถ้าเป็นเมื่อก่อนมันก็อาจจะใช่ที่ผมจะคิดแบบนั้น  แต่ว่าตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว  เพราะกันต์มันมีความหมายมากกว่านั้นนะครับ

“ จริงๆ แล้ว... “

จากที่ไม่คิดจะอธิบายอะไร  แต่พอได้ยินกันต์มันพูดประชดมาแบบนี้  ผมก็คงจะอยู่เฉยไม่ได้ซะแล้วล่ะ

“ นั้นพวกผมไปก่อนนะครับพี่ๆ  เดี๋ยวจะหาที่นั่งกันไม่ได้ “

อ้าวเวร....  ไม่ทันที่ผมจะได้อธิบายอะไร  เจ้าตัวดีก็เดินลิ่วๆ แยกออกไปแล้วละครับ  ไม่มีความหมายอะไรที่ผมจะต้องแก้ต่างต่อไปแล้วล่ะ


เบื่อ...


เซ็ง...


ซวยสุดๆ เลยโว้ย!!!!!!!!




......................................





กันต์’ s  Part




ที่ห้องของธัน

“ เสร็จยังวะมึงไอ้กันต์  กูหิวแล้วนะเว้ย! “

เสียงไอ้เรย์ดังมาจากทางห้องนั่งเล่นครับ  ท่ามกลางเสียงหยามหยันกันระหว่างไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คที่กำลังเล่นเกมฟุตบอลแข่งกันอยู่ในตอนนี้

คือเย็นนี้เรามีติววิชา material ที่จะมีควิชในวันพรุ่งนี้กันครับ  ก็เลยของดซ้อมกีฬาที่ชมรมกัน  แล้วมาติวกันที่ห้องของไอ้ธันมันครับ 

ซึ่งตอนนี้ผม แพร และก็ไอ้ธัน  ต่างก็กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารค่ำ  คือไอ้พวกนี้มันเห็นข้าวกล่องที่ผมทำให้พี่กิจไปเมื่อตอนกลางวัน  มันก็เลยมาคะยั้นคะยออยากกินฝีมือผมบ้าง  ซึ่งผมเองยังไงก็ได้ครับ  เพราะผมก็ชอบทำอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  แถมยังมีแพรกับไอ้ธันมาช่วยกันทำอีก  มันก็เลยสนุกดีครับ  ที่สำคัญ...  มันทำให้ผมลืมเรื่องพี่กิจไปได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว

วันนี้เราทำสเต๊กกันครับ  มีแพรมาทำสลัดให้  ส่วนไอ้ธันมาช่วยเป็นลูกมือผม



…….



“ ถ้ามีกันต์อยู่ด้วยนี่...  เราคงจะไม่กินข้าวที่อื่นแล้วล่ะ “

ไอ้ธันมันว่ามาครับ  ในขณะที่เรากำลังนั่งทานมื้อค่ำกันอยู่  ผมเลยได้แต่ทำหน้างงๆ ถามมันกลับไปครับว่าทำไม…

“ ก็..  เราจะให้กันต์ทำให้กินทุกวันเลยไง “

“ อะนะ...  เดี๋ยวก็เบื่อ "

“ ไม่เบื่อหรอก...  ทุกมื้อเลยก็ได้ “

มันพูดจบ  พวกเพื่อนตัวดีของผมมันก็โห่แซวขึ้นมาเป็นขบวนเลยครับ 

นี่มึง...  ไม่อายชาวบ้านเขาบ้างเลยเหรอวะไอ้ธัน  ถึงพูดมาซะขนาดนี้เนี่ย.....

“ แล้วปกตินี่กันต์ต้องทำให้พี่กิจกินทุกวันเลยรึเปล่าอะ “

คราวนี้แพรถามมาบ้างครับ

“ เปล่าหรอก..  ก็แค่บางครั้งน่ะ  ส่วนมากถ้าไม่กินมาจากข้างนอก  ก็จะมีพวกอาหารสำเร็จรูปในตู้อยู่แล้วน่ะ  แต่ว่า...  ช่วงนี้ก็คงจะไม่ต้องทำอะไรให้พี่เขาแล้วล่ะ “

“ ทำไมอะ “

แพรถามต่อครับ

“ ก็..  ท่าทางพี่เขาจะมีคนคอยดูแลอยู่แล้วช่วงนี้ “

นั่นสิ...  อีกหน่อยผมก็คงจะไม่จำเป็นอะไรแล้ว...  ขนาดข้าวกล่องที่ผมตั้งใจทำให้  ยังโยนไปให้คนอื่นซะขนาดนั้นเลย....


แล้วจะเรียกให้ผมมาทำให้ทำไมวะ....  แม่ง...


“ นั้น..  มาทำให้เรากินบ่อยๆ นะ “

ไอ้ธันมันยิ้มหล่อว่ามาครับ  ผมเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ส่งให้ไปเท่านั้น

“ แล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนใหม่พี่กิจเหรอวะมึง “

ไอ้แน๊คมันถามมาบ้างครับ

“ไม่รู้ดิ...  ใช่มั้ง..  ก็ดูสนิทกันซะขนาดนั้น “

“ อ้าว..  แล้วมึงอยู่ห้องเดียวกับพี่เขา  นี่มึงไม่รู้อะไรเลยเหรอวะ “

มันถามต่อครับ

“ ไม่รู้เว้ย!  มันก็เรื่องของพี่เขา  กูไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้นแหละ “

คือเมื่อไหร่พวกมึงจะเปลี่ยนเรื่องคุยกันสักทีวะ   ผมเบื่อและไม่ไหวกับเรื่องพวกนี้แล้วนะ...

“ พวกมึงก็ไปกวนใจมัน  รีบๆ แดกกันได้แล้ว  จะได้รีบติวรีบกลับกัน  เดี๋ยวดึก... “

กูรักมึงจริงๆ เลยว่ะ  ไอ้เรย์เพื่อนรัก...



...................................



เกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว  ที่ผมเดินสะโหลสะเหลกลับขึ้นมาบนห้อง  เพราะเบลอกับความรู้มากมายที่ตอนนี้มันดูจะยัดลงไปในหัวอีกไม่ได้แล้ว...  ถ้าได้นอนเลยตอนนี้ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย..

ผมเดินตาปรือๆ เปิดประตูห้องเข้ามา  ป่านนี้พี่กิจคงจะเข้าห้องนอนไปแล้วละมั้งครับ...


แต่ทว่า... 


มันไม่ใช่ครับ...

 
ที่สำคัญ...


จากที่ผมตาปรืออยู่  กลับต้องเบิกโพรงขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ  ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง  ความง่วงที่มีมามันได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง  เมื่อภาพตรงหน้าที่เห็นคือ พี่กิจกำลังคร่อมอยู่บนร่างของพี่สาวคนนั้นที่โซฟายาว  แม้จะดูเหมือนยังไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมาก  จากเสื้อผ้าของทั้งสองฝ่ายที่ยังคงสวมใส่กันอยู่...

แต่...

อีกไม่นาน... มันก็คงจะเกิดขึ้น  และผม...  ก็เป็นเพียงแค่ส่วนเกินที่เข้ามาผิดจังหวะพอดี...

ผม...


“ ขะ...  ขอโทษครับ “



ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไร  กำลังพูดอะไร...   มารู้ตัวอีกที...  ผมก็เข้ามายังประตูทางลงบันไดหนีไฟแล้ว  และก็หยุดยืนอยู่อย่างนั้น ไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวขาต่อ...

จากที่คิดว่าจะต้องทำใจได้...  และมันก็กำลังจะดีขึ้นอยู่แล้วแท้ๆ...

แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า  ที่ผ่านมา... มันแทบจะไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

ผมก็แค่หลอกตัวเองไปวันๆ เท่านั้น   ว่ามันจะดีขึ้น...  และผมก็ไม่ได้เสียใจอะไรเลย... 


ผม....


ปวดที่หัวใจจังเลยครับ....


………


…..


ตอนนี้น้ำตามันกำลังเริ่มก่อตัวขึ้นและเอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตา  ผมเลยได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเพดาน  เพื่อรั้งมันไว้ไม่ให้ไหลลงมา
จะร้องไห้ไม่ได้นะกันต์....  ก็สัญญากับพ่อไว้แล้วไม่ใช่เหรอ  ว่าจะต้องเข้มแข็งและไม่ร้องไห้....

ผมพยายามข่มนัยน์ตาที่กำลังสั่นระริก  พลางกำหมัดเอาไว้แน่น  เพื่อให้ความเจ็บที่มือมันมาแทนที่ความรู้สึกที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาจากตา....

จะร้องไห้ไม่ได้นะกันต์...  จะมาร้องไห้กับเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะ....


จะร้อง...


ไม่ได้....


....................

....................

....................

....................

เมื่อพยายามข่มใจและเคลียร์ตัวเองได้แล้ว  สักพักผมก็เปิดประตูออกมาจากทางลงหนีไฟของอีกชั้น  ผมไม่กล้ากลับขึ้นไปบนห้องนั้นอีก 

บางที... ผมอาจจะต้องไปขอพักกับไอ้เรย์มันคืนนี้ก่อน...  เพื่อทำใจและไปให้ไกลจากที่นี่...


……….



“ กันต์.... “



ไอ้ธันที่กำลังยืนรอลิฟท์อยู่  หันหน้ามาเห็นผมพอดีที่ผมเปิดประตูออกมา...

สีหน้ามันดูตกใจมาก  ทว่าแววตากลับดูห่วงใยและสงสารผมเป็นที่สุด...

คงจะเพราะสภาพน่าสมเพสของผมตอนนี้ล่ะมั้งครับ....

แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว  จู่ๆ น้ำตาที่ผมพยายามฝืนเก็บมันเอาไว้  ก็เหมือนจะเอ่อล้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง...


จะพูดอะไรดี  จะอธิบายยังไงดี... 

ผม..

จะทำยังไงดี....


.....


แล้วจู่ๆ ร่างสูงตรงหน้าก็เข้ามาสวมกอดผมเอาไว้อย่างอ่อนโยน


“ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น....  เราอยู่ตรงนี้แล้วนะ... “





TBC.




-----------------------------------------------------------

ขอบคุณนะครับสำหรับทุกๆกำลังใจและการติดตาม....

ตอนนี้เหมือนยาจะเริ่มออกฤทธิ์กำลังมึนเลย :really2:  อีกแปบจะต้อง shut down ตัวเองแล้วละครับ

มันก็หน่วงๆ เนอะ...  แต่อยากบอกว่าตอนหน้า...  มันหน่วงกว่านี้อีกอะ...ทำไงดีอ้าาาาาา

คนจะรักธันและเกลียดอิพี่กิจแน่เลย T T  ใจเย็นๆกันนะครับ  ให้โอกาสอิพี่กิจเขาหน่อยนะ  อย่าพึ่งไปตัดสินพี่แกเขา >< :katai1:

แต่ตอนหน้ามันมีเรื่องที่หน่วงจริงๆ ครับ  เพราะฮานะจะแปลงร่าง 2 แล้วด้วย  คราวนี้กันต์โดนหนักเลยครับบอกเลย :mew2:

ปล. ส่วนเรื่อง NC  มีนะครับ  แต่ขอปิดไว้ก่อนนะครับ  แต่คร่าวๆน่าจะอยู่ช่วงตอนที่ 40กว่าๆเนี่ยแหละครับ (ซีซั่นแรกจะมีประมาณ 60ตอน บวกลบนิดหน่อยอย่างที่เคยบอกไว้นะครับ )

ยังไงก็ช่วยติดตามและเป็นกำลังใจให้ทั้งกันต์และคนเขียนด้วยนะคร้าบผม  ขอบคุณคร้าบบบบบ

เดี๋ยวจะรีบมาต่อตอนต่อไปให้ครา้บโผมมมม

^___________________________________________^


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-04-2018 22:49:49
 :pig4: :pig4: :pig4:

แล้วอีพี่กิจ  ไปคร่อมทำไม  ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยอ่ะ?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-04-2018 23:15:38
ลาขาดจ้ะพี่กิจ เปลี่ยรพระเอกได้อิฉันจะยินดีมากๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2018 23:20:45
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-04-2018 23:46:35
ปลง
นอกจากจะมองไม่ออกว่าฮานะสายสตอ ทำไมพี่กิจดูโง่
ยังไม่เห็นความสำคัญของน้องอีก
เฮ้อออออ เปลี่ยนพระเอกได้ไหม
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-04-2018 03:30:41
เอ่า.............. โยกซ้าย  โยกขวา........  :z2: เตรียมร่างกายให้พร้อมออกศึก ทำหลานกันต์ฉันเมื่อไหร่ เตรียมกลับบ้านเก่าได้นังวอก  :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Jang Wachira ที่ 28-04-2018 03:52:05
ค้างไปอีกกกกกกกกกก รีบมาต่อน้าาาาาา :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-04-2018 05:03:08
รออ่านพี่กิจแก้ตัวตอนหน้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 28-04-2018 07:45:19
รอตอนต่อไปจ้า  :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 28-04-2018 07:50:58
เฮ่ออออ อะไรมันจะขนาดนี้นะ เตรียมคำอธิบายให้น้องมันด้วยค่ะพี่กิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-04-2018 07:51:46
อย่าบอกนะว่ายัยฮานะมอมพี่กิจ
ฉันจะดักตบแก~
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 28-04-2018 09:02:01
อะไรของพี่กิจเนี่ย  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: gif11 ที่ 28-04-2018 21:29:54
กำลังเกลียดพี่กิจได้ที่เลยค่ะ สงสารกันต์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-04-2018 08:59:40
โอ้ยๆ แย่แน่
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 01-05-2018 02:53:29
โอ้ยยยย คือไรเนี้ยย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 02-05-2018 17:28:09
กิจเลิกหลอกตัวเองสักทีคุณพี่  :ling3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-05-2018 17:51:57
อยากรู้ตอนต่อไปใจจะขาดแล้วว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 02-05-2018 18:38:13
อยากรู้ตอนต่อไปอ่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-05-2018 18:56:50
OMG  o22 ไอ้พี่กิจเอ็งทำอาร้ายยยยยยยย

 :เฮ้อ: เปลี่ยนตัวพระเอกไปเลย เอานุ้งธัญดีกว่า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 02-05-2018 23:37:27
พี่กิจดูโง่ววว ฮือออ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Helloworld1188 ที่ 02-05-2018 23:38:54
มาต่อไวๆน้า

เป็นกำลังใจให้นะงับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-05-2018 19:52:20
Chapter 38




กันต์’s  Part




ที่ระเบียงของห้องธัน

“ แล้ว...  มึงไม่ลงไปซื้อน้ำกินแล้วเหรอ “

ผมถามขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกโอเคขึ้นมาบ้างแล้ว  หลังจากที่พวกเรานั่งเงียบกันอยู่อย่างนี้มาพักใหญ่

ตอนนี้เรากำลังนั่งกันอยู่บนพื้นระเบียงหลังห้อง  พิงราวระเบียงและกำลังมองเข้าไปยังภายในห้องที่มีเพียงแสงสลัวๆ จากดาวไลท์เพียงเท่านั้น

“ ไม่ไปแล้วล่ะ  ว่าแต่ตอนนี้...  กันต์โอเคขึ้นบ้างมั้ย “

“ อื้ม..  เราโอเค..  ไม่เป็นไรแล้วล่ะ “

ผมฝืนยิ้มบอกไป  หลังจากที่น้ำตาได้หยุดไหลลงไปพักหนึ่งแล้ว  จะหลงเหลือไว้ก็เพียงแค่รอยแดงๆ ที่ตาเพียงเท่านั้น

“ มีอะไรอยากจะเล่าให้เราฟังมั้ย... “

มันหันมาถามด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกได้ถึงความเป็นห่วง  แต่ผมก็ยังคงเงียบเพราะลังเลที่จะพูดเรื่องนั้นมันออกไป 

ใจหนึ่งก็ยังไม่อยากเล่าให้มันฟัง  เพราะเอาจริงๆ แล้ว  ผมก็ยังไม่ค่อยสนิทกับมันมากเหมือนอย่างกับไอ้เรย์  ดังนั้นการที่จะมาบอกเรื่องที่เรารู้สึกยังไงกับผู้ชายสักคน...  ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันจะรับได้แค่ไหน... 

แต่อีกใจก็อยากจะมีใครสักคนที่ให้ผมได้ระบาย  ไม่รู้สิครับ  ผมรู้สึกได้ว่าไอ้ธันมันมีอะไรที่ทำให้คนรอบข้างสบายใจขึ้นได้เสมอที่อยู่ใกล้  และที่สำคัญ... มันเป็นคนที่มีความจริงใจมากๆ คนหนึ่งเลยล่ะครับ


“ เรื่องพี่กิจใช่มั้ย... “


จู่ๆ มันก็ถามขึ้นมาราวกับอ่านใจผมออกเสียอย่างนั้น  ผมอ้าปากค้างอย่างแปลกใจ  ทำไมมันถึงรู้ได้ว่าเป็นเรื่องพี่กิจกันนะ...

“ เราขอถามตรงๆ นะกันต์.... “


มันสูดลมหายใจเล็กๆ เข้าปอด  ก่อนจะถามผมขึ้น

   
“ กันต์...  ชอบพี่กิจใช่มั้ย “



ผมเงียบอยู่ครู่หนึ่ง  แต่เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว  ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดบังมันอีก  แต่ก่อนอื่นเลย...  ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน  ว่าทำไมมันถึงรู้เรื่องนี้ได้....

“ ทำไม...  มึงถึงคิดอย่างนั้นวะ “

“ จริงๆ...  เราก็พอดูออกแหละ...  “

แล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ  ได้แต่พยักหน้าเล็กๆ  ตอบไปให้เท่านั้น

“ แล้ว...  นี่มีเรื่องอะไรกันเหรอ “

“ จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรหรอก....  คือเมื่อกี้เราแค่ไปเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นก็แค่นั้นเอง “

พูดจบไอ้ธันมันก็ทำหน้าสงสัยถามมาต่อครับ

“ คือ..  พี่กิจพาสาวเข้าห้องน่ะ  แล้ว... “

ผมหยุดไว้แค่นี้  ซึ่งไอ้ธันมันก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว

“ มันน่าตลกเนอะ  ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวพี่เขาเลยแท้ๆ  แต่กับทำตัวเหมือนว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่เขาซะอย่างนั้น  แฟนก็ไม่ใช่  ขนาดแค่บอกชอบไปก็ยังถูกปฏิเสธเลย  น่าสมเพชตัวเองสุดๆ  หึ.... “

แล้วธันมันก็เอามืออุ่นๆ มาลูบที่ต้นขาผมไปมาอย่างให้กำลังใจเบาๆ ครับ

“ ไม่เห็นน่าสมเพชเลย  คนที่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเอง.... มันไม่น่าสมเพชหรอก “

“ คิดงั้นเหรอ “

“ อื้ม... “

มันยิ้มให้เล็กๆ แต่อบอุ่นส่งมา  จากนั้นเราก็เงียบกันไปอีกพักหนึ่ง  ภายใต้ความเงียบและบรรยากาศเย็นๆ บนตึกสูง 

ถึงจะไม่มีคำปลอบโยนใดๆ  แต่ผมก็อุ่นใจที่มีมันอยู่เป็นเพื่อนในตอนนี้...

ขอบคุณจริงๆ นะ... 

ไอ้ธัน....



............................



กว่าพักใหญ่ที่เรานั่งซึมซับบรรยากาศเงียบปนเศร้ากันอยู่แบบนี้  แต่ผมก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างนะครับ 

เพียงแต่... 

มันก็ยังคงรู้สึกเจ็บอยู่เหมือนเดิม  เมื่อนึกถึงว่าตอนนี้พี่กิจกับพี่คนนั้นเขา...

ผมพยายามที่จะไม่คิดต่อ  ไม่อย่างนั้นผมคงจะเจ็บมากไปกว่านี้...

ไม่นานเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้  ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเลือกที่จะไม่รับสาย  ผมไม่รู้หรอกว่าใครโทรมา  เพราะตอนนั้นผมยังไม่พร้อมที่จะสนทนากับใครทั้งนั้น

ผมล้วงมือเข้าไปหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะเห็นว่าสายที่โทรเข้ามานั้นคือพี่กิจ  ผมลังเลใจที่จะกดรับ  ภายใต้สายตาของไอ้ธันที่กำลังมองมาข้างๆ ผม

สุดท้าย...  ผมก็ปล่อยให้มันตัดสายไป...  ก่อนจะกดปิดเครื่องต่อในทันที

ผม...  ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยอะไรทั้งนั้นกับพี่เขา

อันที่จริงแล้ว...  คงเพราะผมกลัวความจริงที่จะได้รับฟัง  เพราะลึกๆ ในใจแล้ว  ผมก็ยังคงแอบหวังว่าความจริงมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมเห็น 

“ มึง...  คืนนี้กูขอนอนที่นี่ด้วยได้มั้ย “

ผมหันมาถามเจ้าของห้องด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา  ซึ่งมันก็ยิ้มตอบกลับมาให้ด้วยเล็กๆ เช่นกัน

“ ได้อยู่แล้ว  จะเมื่อไหร่ก็ได้ที่กันต์ต้องการ  ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ... “

“ ขอบใจนะ... “


……………………….



ค่ำคืนอันแสนยาวนานผ่านพ้นไปโดยที่ผมไม่สามารถข่มตาให้หลับลงไปได้เลย  สุดท้ายผมก็ลุกขึ้นจากเตียงเมื่อฟ้าเริ่มสาง

“ จะกลับแล้วเหรอ “

ไอ้ธันมันถามขึ้นเสียงใสครับ  ราวกับมันเองก็ยังไม่ได้นอนเหมือนกันกับผม

“ อื้ม  ได้เวลาแล้วล่ะ  ยังไงเราก็ต้องไปเผชิญหน้ากับความจริงอยู่ดี “

“ แล้ว...  กันต์โอเคมั้ย... “

“ แน่นอน..  เราโอเค “

ผมฝืนยิ้มบอกไปครับ  แต่สีหน้ามันยังดูเหมือนเป็นกังวลอยู่  ผมเลยได้แต่บอกไปว่าอย่าคิดมาก  ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว..  ผมเองก็ยังทำสิ่งนั้นไม่ได้เลยสักนิด

“ นั้น..  เดี๋ยวเราไปรับนะ “

“ อื้ม...  แล้วเจอกันนะ “

ผมแสร้งยิ้มบอกไป  แต่เมื่อประตูห้องถูกปิดลงเท่านั้นแหละ  รอยยิ้มที่มีบนใบหน้าก็ได้จางหายไปแทบจะในทันที 

เมื่อหนีความจริงไม่พ้น  การจะเผชิญหน้าตอนไหนมันก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ..  คิดได้อย่างนี้ผมก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  ก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไปในทันที


......................


เมื่อมาถึงหน้าห้อง  ผมลังเลใจอยู่นานมากครับ  กว่าที่จะกล้าเปิดประตูห้องเข้าไป  ภายในห้องมันเงียบมาก  ราวกับว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน 

บางที...  ถ้าผมยังไม่เจอพี่เขาและออกห้องไปก่อนที่จะเจอ  มันอาจจะดีกว่ารึเปล่านะ...

ไม่รู้ล่ะ...  เอาแบบนี้ดีกว่า...

ว่าแล้วผมก็รีบรุดเข้าห้องไปทำธุระส่วนตัว  อาบน้ำและแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการเรียนในเช้าวันนี้ 

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยในเวลาเพียงไม่กี่นาที  ผมก็รีบเปิดประตูห้องของตัวเองออกมา  ซึ่งก็พอดีกับที่ประตูห้องของพี่กิจถูกเปิดออกมาด้วยเช่นกัน  ทว่าผู้ที่เปิดออกมานั้นกลับเป็นพี่สาวคนเมื่อคืนแทนที่จะเป็นพี่กิจ  ซึ่งภาพที่ผมเห็นนี้  มันทำให้ใจของผมเหมือนตกลงไปอยู่ในก้นเหวที่มืดมิดจนเกินกว่าแสงจะส่องไปถึง... 

เพราะเพียงแค่นี้...  แม้จะไม่มีคำพูดใดๆ บอกมา  มันก็ชัดเจนอยู่ในตัวแล้ว  ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่กิจกับพี่สาวคนนี้ไปถึงขั้นไหน....

ทำไมมันถึงได้ปวดใจแบบนี้กันนะ...  การรักใครสักคน  มันทรมานได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ...

“ อ้าวเรา...  กลับมาแล้วเหรอ “

เธอทักมาครับ  ผมเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ตอบไปให้เท่านั้น  เพราะแค่นี้...  ผมก็ฝืนตัวเองอย่างถึงที่สุดแล้ว..   
 
ถ้าเลือกได้..  ผมก็อยากจะวิ่งออกไปจากตรงนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยละครับ

“ ไม่รู้ว่าพี่กิจออกไปไหนแต่เช้ากันนะ  นี่เรารู้รึเปล่า  ได้เจอกันบ้างมั้ย “

ผมจะไปรู้เหรอ  ผมไม่ได้อยู่กับพี่เขาทั้งคืนแบบ...  พี่นี่ครับ

“ ไม่รู้สิครับ “

“ สงสัยคงไปหาซื้ออะไรมาให้พี่กินตอนเช้าละมั้ง...  พี่กิจนี่น่ารักจริงๆ “

ยิ่งได้ยิน...  มันก็ยิ่งเจ็บปวดครับ  ทำไมผมต้องมารับรู้เรื่องอะไรพวกนี้ด้วยครับ

“ ว่าแต่...  เราชื่ออะไรนะ “

“ กันต์ครับ “

“ พี่ชื่อฮานะ นะ..  อีกหน่อยเราคงจะได้เจอกันบ่อยๆ “

เจอกันบ่อยๆ อย่างนั้นเหรอ....  ถ้างั้นก็หมายความว่า  พี่กิจคงจะคบกับพี่เขาจริงๆ จังๆ แล้วน่ะสิ....

“ นั้น..  ผมขอไปเรียนก่อนนะครับ “

“ อ้าว..  จะไปแล้วเหรอ  นี่ยังเช้าอยู่เลยนะ “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ฝืนยิ้มเจื่อนๆ ส่งไปให้เท่านั้น  มันรู้สึกไม่ไหวแล้วครับที่จะอยู่ตรงนี้...

ผมไม่รอและไม่ฟังที่พี่ฮานะจะพูดต่อ  ผมรีบเดินไปที่ประตูและเปิดมันออกในทันที


“ ปะ..  ไปเรียนกัน “


ไอ้ธันกำลังยืนยิ้มให้กำลังใจผมอยู่ที่หน้าห้องในตอนนี้  ราวกับมันจะรู้ว่าตอนนี้ผมต้องการกำลังใจอย่างถึงที่สุด  ภาพที่เห็นนี้มันเลยทำให้ผมถึงกับน้ำตาคลอขึ้นมาเล็กๆ 

ผมนี่มัน...  อ่อนแอจริงๆ เลยครับ

ไอ้ธันพยักหน้าเล็กๆ  เหมือนเป็นการบอกให้ผมเข้มแข็ง  ผมเลยหลับตาและสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด  ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ตอบกลับไป

ผมจะต้องเข้มแข็ง....

ขอบคุณนะ... 

ไอ้ธัน...



...............................................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 27/04/2561 update chapter 37 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-05-2018 20:07:09
กิจ’s  Part



ย้อนไปก่อนหน้านั้น....

เชื่อคิมเอ้ย!!!   นี่มันต้องมีแผนอะไรแน่ๆ  ถึงหาโอกาสให้ผมกับฮานะได้ตลอดเลยแบบนี้  แต่ไม่ว่าจะเป็นแผนอะไร  สุดท้ายแม่งก็ทำผมลำบากไปซะทุกทีเลยสิน่า

แล้วนี่ก็อีกคน...  กินอะไรกันนักกันหนา  ถึงเมาได้ขนาดนี้....  เป็นผู้หญิงแท้ๆ...

อย่าหาว่าผมขี้บ่นเลยนะครับ  คือที่ไม่ชอบใจขนาดนี้  ก็เพราะจู่ๆ ไอ้คิมมันก็โทรเรียกผมให้ไปหาที่ร้านเหล้า  บอกว่ามีเรื่องด่วนมาก  ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไร  ที่แท้แม่งก็จะใช้ให้ผมไปส่งฮานะที่เมาไม่ได้สติอยู่ในตอนนี้  ที่สำคัญ  พอผมขับมาส่งถึงที่คอนโด  คุณเธอก็บอกว่าเข้าห้องไม่ได้  จำไม่ได้แล้วด้วยว่าเอากระเป๋าไปไว้ที่ไหน  พอผมโทรกลับไปถามไอ้คิม  แม่งก็อยู่กับน้องลูกพีทที่ห้องเรียบร้อยแล้ว  ส่วนเรื่องกระเป๋าของฮานะมันก็ไม่รู้ไม่เห็นอีก...  สุดท้ายผมก็เลยต้องแบกกลับมาที่ห้องของผมก่อนแบบนี้  ไว้ตอนเช้ารอให้น้องเขาสร่างเมาก่อน  แล้วจะจัดการยังไงค่อยว่ากันอีกที


ผมประคองน้องเขามาที่โซฟายาวของห้องนั่งเล่น  คืนนี้คงต้องให้นอนตรงนี้แหละครับ  เพราะไม่ว่าจะห้องผมหรือห้องของกันต์มัน  ก็คงจะดูไม่เหมาะสมทั้งนั้นแหละ 
 
ที่สำคัญ...  เจ้าตัวดีนี่ก็ยังไม่กลับห้องมาเลยครับ  ไม่รู้ไปติวกันถึงไหน  ครั้นจะลงไปตาม  ผมก็ไม่รู้ว่าห้องของไอ้น้องธันมันอยู่ห้องไหนอีก  แต่ไม่ว่าจะยังไง  กลับมาละน่าดู...

“ พี่กิจ....  จะไปไหนคะ... “

ผมที่กำลังทำท่าว่าจะลุกขึ้นยืน  กลับถูกน้องฮานะเอาแขนมาคล้องรอบคอรั้งเอาไว้เสียก่อน

“ อยู่กับฮานะก่อนนะค้า.... “

ผมพยายามจะขัดขืน  แต่ก็ไม่กล้าจะออกแรงมาก  เพราะน้องเขาเป็นผู้หญิง  ซึ่งนั่นก็ทำให้น้องเขาดึงตัวผมให้เข้าหาได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้หญิงอะไร..  ไม่รู้จักหวงตัวบ้างเลย  นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ...  ผมก็อาจจะเล่นด้วยก็ได้นะครับ  กับคนที่สวยขนาดนี้  แถมยัง...  ง่ายซะขนาดนี้...

เพียงแต่... ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกอยากจะทำอะไรแบบนั้นเลย  ไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็ตาม  เพราะตอนนี้เรื่องเดียวที่ผมคิดและเป็นกังวลใจอยู่ก็คือ  เรื่องไอ้เด็กดื้อที่ป่านนี้มันยังไม่กลับเข้าห้องมาเลยครับ  ส่วนคนตรงหน้านี้... สำหรับผมก็เป็นแค่...  ภาระเท่านั้นเอง...

“ เห้ย!!  “
 
จู่ๆ ไม่รู้ว่าคุณเธอไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน  ถึงได้ดึงผมที่กำลังเผลอคิดถึงเรื่องกันต์มันอยู่  ลงไปล้มทับบนตัวเธอทันที

ผมรีบออกแรงยันตัวขึ้นมา  แต่ทว่ามันก็สบายไปแล้ว  เมื่อจู่ๆ เสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออก


“แกร๊ก!! “


ชิบหายละไงไอ้กิจ  คราวนี้มึงตายแน่ๆ !!!


ผมเงยหน้าขึ้นมองกันต์ที่กำลังมีสีหน้าตกใจอย่างสุดๆ  ก่อนจะกล่าวขอโทษแล้วรีบรุดออกไปจากห้อง

ผมพยายามแกะมือไม้ที่เกี่ยวไปมาอย่างไม่ยอมลดละของน้องฮานะอยู่ครู่หนึ่ง  ในที่สุดก็หลุดออกมาจนได้  ก่อนจะรีบวิ่งตามกันต์มันออกไปในทันที

ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันจะไปที่ไหน  ผมได้แต่กดลิฟท์ลงไปยังชั้นล่างสุดก็แค่นั้น 

เมื่อลงมาถึง  ผมก็วิ่งตามหามันจนทั่วทั้งล๊อบบี้  ก่อนจะออกมายังนอกตัวตึก  แต่ก็ยังไม่เจอ  ผมวิ่งวนไปมาอย่างนั้นอยู่พักใหญ่  เมื่อไม่เจอก็เลยคิดว่ามันคงจะออกไปจากที่นี่แล้วล่ะครับ  คิดได้อย่างนั้นผมจึงรีบกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง  เพื่อเอากุญแจรถและขับออกตามหามันในทันที

ไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจผิดไปมากแค่ไหน  แต่ก็คงจะมากสุดๆ นั่นแหละครับ  เพราะที่เห็นจากสีหน้า  แววตาและน้ำเสียงของมันแล้ว......
 
บ้าที่สุดเลยโว้ย!!!

ผมไม่อยากให้มันเสียใจเลยครับ  ไม่รู้ล่ะครับ  ยังไงผมก็ต้องหามันให้เจอ  และอธิบายความจริงให้มันฟังให้ได้....

ผมค่อยๆ ตระเวนมองหาตามแถวข้างทาง  แต่ก็ยังไม่เจอ

สถานการณ์แบบนี้มันจะไปที่ไหนกันนะ...  ถ้าเป็นผม  ผมจะไปที่ไหนกัน...

ร้านเหล้า..... 

ใช่...  บางทีมันอาจจะไปร้านเหล้าที่ไหนสักแห่งก็ได้

คิดได้อย่างนั้น  ผมก็เริ่มตระเวนหาตามร้านเหล้ารอบๆ มหาลัยฯ เท่าที่คิดว่ามันจะไปได้  แต่ก็ยังไม่เจอครับ  และนั่นยิ่งทำให้ผมหัวปั่นมากขึ้นไปกว่าเดิม

ความสุขุมของผมที่มีมาโดยตลอด  มันได้หายไปจนหมดแล้วในตอนนี้  เมื่อปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมันเกี่ยวข้องกับกันต์

นี่มันมีอิทธิพลกับสภาพจิตใจผมขนาดนี้เชียวเหรอ...

บ้าน!!!  ใช่  บางทีมันอาจกลับไปที่บ้านผมก็ได้

ว่าแล้วผมก็รีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้ากลับบ้านไปในทันที... 



..............................



รุ่งเช้า...  ที่ลานจอดรถหน้าอาคารเรียนรวมของคณะ

ผมเปิดประตูกลับเข้ามานั่งในรถอย่างหมดแรง  พร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา  จนถึงตอนนี้ผมก็ยังหามันไม่เจอเลยครับ  ผมพยายามติดต่อมัน  แต่มันก็ไม่ยอมรับสาย  จนตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อมันได้แล้ว  รวมทั้งเพื่อนสนิทของมันอย่างไอ้เรย์ก็ด้วยอีกคน  ที่เสือกมาปิดโทรศัพท์เอาอะไรเวลาสำคัญอย่างนี้

ตอนนี้ผมแทบจะคลั่งแล้วละครับ  ผมตระเวนหาไปทุกที่เท่าที่พอจะคิดได้  แต่ก็ยังไม่เจอ  ฟ้าเริ่มรางแล้วละครับ  ผมว่าจะลองวกกลับไปดูที่หอของไอ้เรย์มันอีกรอบดูดีกว่า

ผมที่ไม่รู้เลยครับว่าไอ้เรย์มันพักอยู่ที่ห้องไหน  ก็ได้แต่ถามคนแถวนั้นไปทั่ว  กว่าจะรู้ก็เกือบจะ 8 โมงแล้วล่ะครับ  แต่สุดท้าย  สิ่งที่ผมได้รู้ก็คือ...  กันต์มันไม่ได้มาที่นี่ครับ 

ในขณะที่ไอ้เรย์เองมันก็มีท่าทีตื่นตกใจอยู่ไม่ใช่น้อย  และทำท่าว่าจะช่วยผมตามหา  ผมเลยขอเบอร์ห้องของไอ้น้องธันจากมัน  ก่อนจะบอกมันว่า  ถ้ามันเจอกันต์แล้ว...  ก็ให้รีบโทรหาผมด่วนเลย


ผมกลับเข้ามาที่คอนโดอีกครั้ง  แม้จะไม่คิดว่ากันต์มันจะเลือกมาที่นี่เมื่อเทียบกับเพื่อนสนิทอย่างไอ้เรย์ก็ตามที  แต่มันก็น่าที่จะลองดูนะครับ  แม้ที่นี่จะเป็นที่ที่ผมไม่อยากจะให้มันมามากที่สุดก็ตามที 

ผมเคาะประตูและร้องเรียกอยู่นาน  แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าบานประตูตรงหน้าจะถูกเปิดออกมาเลย  ผมก้มดูนาฬิกาซึ่งตอนนี้มันบอกเวลาว่ากว่า 8 โมงครึ่งแล้ว  ผมเลยต้องตัดใจและเลือกที่จะกลับขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุด  เพื่อที่จะไปดักรอมันที่คณะ  เพราะผมคิดว่า  ยังไงกันต์มันก็ไม่เหลวไหลขนาดโดดเรียนด้วยเรื่องแบบนี้หรอกครับ

ผมเปิดประตูกลับเข้าห้องมาอีกครั้งหลังจากที่ออกไปตั้งแต่เมื่อคืน  จนลืมเรื่องฮานะไปเสียสนิท....

ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป  น้องฮานะที่นั่งอยู่ที่โซฟาในชุดล่อแหลมที่เธอใส่อยู่เมื่อคืนนี้  ก็หันหน้ามามองยังผมทันที

“ อ้าวพี่กิจ..  ไปไหนมาคะ “

เธอยิ้มถามด้วยท่าทีปกติ  ซึ่งผมก็ได้แต่มองตาเขม็งสวนกลับไปเท่านั้น  และก็ไม่ได้ตอบอะไรเธอทั้งสิ้น...

นี่น้องเขาจะไม่แปลกใจบ้างเลยเหรอ...  ว่าตัวเองตื่นขึ้นมาที่ไหน ?

รู้ได้ยังไงว่านี่คือห้องผม ?

แถมยังรู้อีกว่าผมไม่ได้อยู่ห้อง ?

และเท่าที่ดูจากท่าทางแล้ว  น้องดูจะชิลเกินไปรึป่าวครับ  กับสถานการณ์แบบนี้....

ผมว่า... เธอคงไม่ได้อ่อนต่อโลกเหมือนอย่างท่าทีของเธอที่แสดงออกมาอยู่บ่อยๆ แล้วล่ะครับ

แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง...  มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมทั้งนั้นแหละ.... 

สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ...  ผมต้องหาตัวกันต์มันให้พบก่อนครับ  ว่าแล้วผมก็รีบรุดเดินเข้าห้องไปในทันที  โดยไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย 

ไม่ถึง 15 นาที  ผมก็ออกห้องมาในสภาพที่พร้อมจะเข้ามหาลัยฯ แล้ว  ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าเนื่องจากไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยก็ตาม

“ พี่กิจ...  จะไปเรียนแล้วเหรอคะ “

เสียงน้องฮานะทักขึ้นมาครับ

“ ครับ...  เอ่อ..  ฮานะ..  ถ้ายังไม่กลับ  พี่ฝากล็อคห้องตอนออกไปให้ด้วยนะ  เช้านี้พี่รีบน่ะ “

“ นั้นฮานะขอออกไปพร้อมพี่กิจเลยละกันนะคะ  แค่นี้ก็รบกวนพี่มากแล้ว “

“ แล้ว... เรื่องกระเป๋าเราล่ะ “

ผมถามถึงเรื่องกระเป๋าที่หายเมื่อคืนนี้ครับ  เพราะถ้ามันหายจริงๆ น้องเขาคงต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยไปเสียก่อน

“ กระเป๋า....?  อ๋อ..  เอ่อ..  เดี๋ยวฮานะจัดการเองค่ะ  พี่กิจไม่ต้องเป็นห่วงหรอก...  ฮานะนี่แย่จริงๆ เลย  เมื่อคืนไม่น่าถูกมอมเหล้าซะขนาดนั้นเลย  ยัยลูกพีชนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ “

ฟังเธอพูดจบ  พวกเราก็ออกจากห้องมาพร้อมกันครับ  ผมรีบเดินดุ่มๆไปที่ลิฟท์ทันที  อย่างน้อยก็จะได้ไปถึงมหาลัยฯ ก่อนที่จะเริ่มเรียนในคลาสเช้าของ Sec กันต์มันครับ


ภายในลิฟท์

“ พี่กิจกับน้องกันต์ออกห้องเช้าอย่างนี้ตลอดเลยเหรอคะ “

ฮานะถามขึ้นทำลายบรรยากาศเงียบๆ ภายในลิฟท์ครับ  ซึ่งคำถามนี้มันก็สะกิดใจผมในทันทีที่ได้ยินชื่อของกันต์มัน

“ กันต์ ? “

“ ใช่ค่ะ  ก็น้องกันต์ไงคะ  เมื่อเช้าเห็นเข้าห้องมาแล้วก็รีบแต่งตัวออกไปเรียนเลย “

นั้นก็แปลว่ากันต์มันกลับเข้าห้องมาแล้ว... 

ค่อยยังชั่ว...  อย่างน้อยมันก็ปลอดภัย  และผมก็รู้แล้วละครับว่าจะเจอมันได้ที่ไหน

“ ว่าแต่...  น้องกันต์นี่..  ไม่ค่อยกลับมานอนที่ห้องเหรอคะ  ถึงได้กลับมาเอาเช้าเลยแบบนี้ “

ก็เพราะใครกันล่ะ...

“ เปล่าหรอก  พอดีกันต์มันเข้าใจผิดน่ะ “

“ เข้าใจผิด ? “

“ ก็มันคิดว่าพี่กับ... ฮานะน่ะ  มีอะไรกันเมื่อคืนนี้  มันก็เลยออกห้องไปนอนที่อื่นแทน “

“ ตายแล้ว...  แบบนี้ก็แย่เลยสิคะ...  นี่ฮานะไม่น่าทำให้ทุกคนต้องลำบากขนาดนี้เลย... “

น้องเขาว่ามาเสียงอ่อยครับ... 

เฮ้อ...  ก็ไม่ว่ากัน....  ทำไงได้ล่ะ  ก็คนมันเมานี่.... 

“ ไม่เป็นไรหรอก..  ไม่ต้องคิดมาก  เรื่องสุดวิสัยน่ะ “

“ นั้น... เอาอย่างนี้มั้ยคะพี่กิจ...  เที่ยงนี้ชวนน้องกันต์มากินข้าวด้วยกัน  เดี๋ยวฮานะจะอธิบายให้น้องเขาฟังเอง  จะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดกันแบบนี้  อีกอย่าง...  ฮานะจะได้ถือโอกาสเลี้ยงขอบคุณพี่กิจด้วย  เพราะที่ผ่านมาพี่กิจช่วยเหลือฮานะไว้ตั้งหลายอย่างเลย “

ผมนิ่งคิดอยู่นิดนึง  บางทีถ้ามีฮานะมาช่วยอธิบายด้วยอีกคน  มันก็น่าจะมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้กันต์มันเข้าใจได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้

คิดได้อย่างนี้  ผมก็เลยยิ้มตอบรับไปในทันที

“ ขอบใจนะฮานะ “

“ไม่เป็นไรค่ะพี่กิจ...  เดี๋ยวเรื่องนี้..  ฮานะ... จัดการเอง...? “




TBC.




--------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นเลย....

ขอโทษคร้าบบบบบบ!!!!!

ตั้งใจจะลงมะวานครับ  แต่มีไข้  อากาศที่นี่แย่มากครับฝนตกทุกวันเลย(ยิ่งสุขภาพผมแย่อยู่ด้วย  แย่เลย)

ตอนนี้มันออกแนวเวิ่นเว้อหน่อยนะครับ  แต่อยากให้เห็นใน 2 มุมมองที่เข้าใจผิดกัน..

แต่ว่า...  ตอนหน้าฮานะร้ายมากครับ

ความจริงผมตัดออกไปนิดหน่อยนะครับ  แล้วเอาไปรวมกับตอนหน้า (ซึ่งผมยังเขียนมะจบเลย แต่จะจบตอนละครับ) :katai4:

แต่ว่า..  ต่อๆไป  ธันจะเป็นตัวละครที่ทำให้พี่กิจชัดเจนและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองมากขึ้นครับ  พูดง่ายๆเลย  กิจจะหึงมาก..

ในขณะที่ตอนหน้ามันจะเป็นจุดเปลี่ยนความรู้สึกกันต์ด้วย  เห้อ.....

ยังไงก็รอติดตามดูกันนะครับผม

ขอบคุณมากๆเลยนะครับ  สำหรับทุกๆกำลังใจและการติดตาม :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง  ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคร้าบผม

ปล.อีกที  อีก 2-3 วันจะมาต่อตอนต่อไปให้นะคร้าบ

^___________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 04-05-2018 20:17:13
งูพิษชัดๆ :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-05-2018 20:20:12
 :เฮ้อ:

ไม่ชอบเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-05-2018 20:38:01
นังอสรพิษ ฉันจะดักตบแก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2018 20:58:45
 :z6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: numberll ที่ 04-05-2018 21:11:29
เริ่มไม่ชอบใจกิจและ ความชัดเจนคืออะไร อะไรคือให้ผู้หญิงพูดให้
ยังเป็นผู้ชายอยู่รึป่าว ก้อเห็นอยู่ว่าน้องเข้าใจผิด แทนที่จะอธิบายชัดๆ บอกผู้หญิงไปเลยตรงๆ
ยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิดพระเอก ย๊ากกกกๆๆๆๆ อยากจะตบความแอ๊บของฮานะ #เกรียดดดด  #อินจัด :m31:
หวังว่าจะเครียตัวเองได้เร็วๆ นะกิจ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 04-05-2018 21:15:11
เจ็บจี๊ดๆตรงหัวใจ สงสารกันต์สุดสุด ทำไมต้องมาเจออะไรขนาดนี้ลูกกกก!!
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-05-2018 21:17:09
 :pig4: :pig4: :pig4:


ทำไมตัวละครทั้งหลายแหล่  ถึงมองไม่ออกว่า...ฮานะ...อ่ะสตอ

โง่จริง ๆ สู้คนอ่านก็ไม่ได้  ชิส์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-05-2018 21:24:06
ฮานะจงใจให้กันต์เข้าใจผิดล่ะสิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 04-05-2018 21:38:23
เห้อ ฮานะพูดแบบนั้น เป้นใครก็เข้าใจผิด
เรื่องชักวุ่นไปใหญ่  รู้ใจแล้วรีบเคลียนะพี่กิจ

ปล. เห็นคำว่าสมเพส คนแต่งสะกดผิด
สมเพส = สมเพช ต้องสะกดแบบนี้เปล่า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-05-2018 23:02:56
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-05-2018 23:24:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชายหมูตอน ที่ 05-05-2018 01:00:23
ผมว่านักเขียน นี้เขียนต้นแบบพระเอกได้เหมือน
นิสัยผู้ชายส่วนใหญ่มาก นิสัยที่แบบเชื่อคนอื่นคนกว่าคนตัวเอง ไม่ชอบแต่กับมาหวงเอาไว้
และสำคัญมองไม่ออกเหรอว่า ฮานะ จ่องงาบตัวเองยังไปขอบคุณอีกที่เข้าจะมากินข้าวกับน้อง
พอเลิกเชียร์พระเอก เชียร์ธันดีกว่า
โอ้ย อินมากกก #รอนักเขียนอยู่ครับรีบมานะfcใจจะขาด ติดเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 05-05-2018 01:53:07
ไปๆมาๆพระเอกกับโง่เนอะเหมือนละครหลังข่าวเลย
ปล.เปนกำลังใจให้ผู้แต่งนะคัฟ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-05-2018 02:23:26
นังฮาจะจัดการเอง จัดการให้เละกว่าเดิมนะซิ มันน่าเสยปลายคางเสียจริง ๆ  :m19:

ปอลอ   ผู้ใดเอา + เป็ด ไป รบกวนเอามาคืนด้วยจ้า   :m5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 05-05-2018 06:53:28
สั่นจัง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 05-05-2018 21:43:46
พี่กิจคือกระจอกมาก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 07-05-2018 14:04:50
นางเริ่มป่วนแล้วอ่าแต่เหมือนว่าเพิ่นพี่กิจก็รู้นะว่าพี่กิจรักกัน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 10-05-2018 15:46:29
 :beat: :beat: ชะนีต้องเจอหมอนทอง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 10-05-2018 18:28:40
พี่กิจทำไมโง่จัง ระบบความคิดแย่มาก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 10-05-2018 18:35:16
พี่กิจคงไม่คาดคิดว่าฮานะนิสัยแบบนี้
คงเห็นมุมเดียวแหละมั้ง ไม่เหมือนคนอ่านที่เห็นทั้งหมดเลยรู้ว่านางสตอ!!
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 10-05-2018 20:44:37
ต้องให้เข้าใจผิดไปถึงไหนคะพี่กิจ
น้องมันต้องเสียใจเพราะพี่ไปถึงเมื่อไร // อินมากค่ะ

รอนะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 10-05-2018 21:32:48
รออ่านอยู่นะจ๊ะ :katai4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 11-05-2018 23:37:23
Chapter 39




ที่คณะบัญชี

สาวสวยผมยาวอารมณ์บูดกำลังเดินเชิดเข้าไปยังห้องเรียนด้วยท่าทีปกติของเธอ  ก่อนจะตรงไปยังที่นั่งประจำเพื่อรวมตัวกับแก๊งค์เพื่อนสาว

“ ไงยะหล่อน  เมื่อคืนกับพี่กิจเป็นไงบ้าง  ฟินอย่างที่เขาร่ำลือกันมั้ย “

ลูกพีช  หนึ่งในเพื่อนสาวทักขึ้นด้วยรอยยิ้มแฝงเลศนัย  ทว่าเจ้าตัวกลับได้แต่ถอนหายใจ  ก่อนจะเลิกตามองบนเล็กๆ อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์กับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไหร่

“ ฟินอะไรล่ะ.. “

ทันทีที่เธอตอบ  เพื่อนสาวทั้งสองคนของเธอก็หันหน้ามามองกันทันที  ราวกลับเห็นเป็นเรื่องที่ผิดปกติ  จากนั้นเจน  เพื่อนสาวอีกคนของเธอก็เลยถามขึ้นต่อ

“ พี่เขาไม่เวิร์คเหรอ... “

และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย  เมื่อทุกคำถามจากเพื่อนมันไปกระตุ้นอารมณ์บูดที่มีมาตั้งแต่เช้าของเธอ

“ ท่าทางอย่างนี้...  อย่าบอกนะว่าเมื่อคืน...  เธอยังไม่ได้... “

ลูกพีชจี้ถามต่อทันที  เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนตัวเองในตอนนี้

“ ก็ใช่น่ะสิ...! ดันมีก้างขวางคอมาซะก่อน... “

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด  จากอารมณ์ที่เก็บกดไว้ภายใต้ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มมาตลอดเช้านี้ของเธอ

“ ใคร ?   ฉันอุตส่าห์ขอพี่คิมให้ช่วยเคลียร์คนอื่น  และสร้างโอกาสให้แกแล้วนะ “

ลูกพีชทำหน้าสงสัยถามมา

“ ก็ไอ้เด็กที่พักอยู่กับพี่กิจน่ะสิ  ดันเข้าห้องมาตอนที่ฉันจะได้พี่เขาอยู่แล้วแท้ๆ  พี่กิจก็เลยไม่สนใจฉัน  แล้วตามไอ้เด็กนั่นหายออกไปจากห้องทั้งคืน...  มารผจญซะจริง “

ฮานะพูดจบ  เพื่อนทั้งสองของเธอต่างก็พากันหัวเราะขึ้นทันที 

“ ฝีมือตกไปนะแก...  ขนาดนี้แล้วยังพลาดได้อีก “

เจนว่ามา

“ แล้วนี่แกจะเอายังไงต่อ  ดูท่าพี่กิจจะเห็นไอ้เด็กร่วมห้องนั่นสำคัญกว่าแกนะ “

“ ก็ไม่ยังไง...  ถ้ามันเป็นอุปสรรคมาก..  ก็แค่กำจัดออกไป...  ก็เท่านั้น “

คำพูดมีนัยของเธอ  ทำเอาเพื่อนทั้งสองคนต่างมองหน้ากันอย่างค่อยไม่เข้าใจนัก  แต่ถึงกระนั้น..  พวกเธอก็ไม่ได้แปลกใจกับท่าทีดังกล่าวสักเท่าไหร่  เมื่อเนี่ยแหละ...  คือตัวตนที่แท้จริงของเธอ…



................................................................




กิจ’s  Part




ผมเดินดุ่มๆ ด้วยตาขวางๆ เข้ามายังภายในห้องเรียน  หลังจากที่ผมไปไม่ทันคลาสของกันต์มัน  ซึ่งได้เริ่มเรียนไปเรียบร้อยแล้ว 
เอาไว้ใกล้ๆ เที่ยงผมค่อยไปดักรอมันที่หน้าห้องเลยละกัน  จะได้ไม่ต้องคลาดกันอีก


“ ผัวะ!!! “


“ เชี่ย.!  ไอ้กิจ...  มึงมาตีหัวกูทำไมวะเนี่ย “

เสียงไอ้คิมมันร้องลั่นทันทีที่ผมเอาชีทเรียนม้วนๆ เป็นแท่งกลม  ก่อนจะเอามาฟาดหัวมันแรงๆ ครับ

“ ก็เพราะมึงเลย  ทำกูงานเข้า... “

“ อะไรของมึงเนี่ย “

มันร่นคิ้วถามมา  พลางลูบหัวตัวเองที่โดนตีไปด้วยป้อยๆ

“ ก็เรื่องฮานะไง  กูรู้นะว่ามึงคิดจะทำอะไร...  กูขอย้ำตรงนี้เลยนะว่า...  กูไม่ได้ชอบหรือสนใจอะไรน้องเขา….!!   แล้วถ้ามึงยังเสือกมายุ่งอะไรไม่เข้าเรื่องอีก...  อย่าหาว่ากูไม่เตือน.. “

ผมทำเสียงเข้มบอกไปครับ  ซึ่งมันก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยก่อนจะขานรับ ’เออ’ กระแทกใส่หน้าผมมาทีนึง  แต่แค่นี้มันก็ไม่กล้ายุ่งอะไรต่อแล้วละครับ


……


การเรียนในช่วงเช้าดำเนินไปเรื่อยๆ  โดยที่ความรู้แทบจะไม่ได้เข้ามาในหัวผมเลยสักนิด  เพราะผมมัวแต่คิดเรื่องที่ว่าจะเริ่มต้นอธิบายกับกันต์มันยังไงดีถึงเรื่องเมื่อคืนนี้  เพื่อให้มันยอมฟังและเชื่อในคำพูดของผมมากกว่าสิ่งที่มันเห็น

ผมมองดูนาฬิกา  ซึ่งบอกเวลาว่าอีก 40 นาทีก็จะเที่ยงแล้ว  ทว่าตอนนี้ผมคงต้องออกจากห้องเรียนเพื่อไปดักรอมันก่อนแล้วละครับ  ไม่อย่างนั้นเราอาจจะคลาดกันอีกก็เป็นได้

ผมทิ้งเอกสารการเรียนไว้บนโต๊ะ  และฝากไอ้คิมมันเก็บไว้ให้  ก่อนจะขออนุญาตอาจารย์ผู้สอนออกไปเข้าห้องน้ำ  ซึ่งแน่นอนว่าผมคงจะไม่กลับเข้าห้องมาแล้วแน่ๆ

ผมรีบตรงไปยังห้องเรียนของ Sec กันต์มัน  และก็เป็นโชคดีของผมที่ยังทัน  เมื่อยังคงได้ยินเสียงอาจารย์ผู้สอนดังออกมาจากภายในห้อง 

ผมนั่งไขว่ห้างรออยู่ด้านนอกซึ่งไร้ผู้คนในเวลานี้  ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น  และเห็นไลน์ของน้องฮานะที่เธอขอแอดเอาไว้เมื่อเช้านี้เด้งขึ้น  เพื่อบอกถึงเรื่องร้านที่เรานัดกันเอาไว้เที่ยงนี้  ซึ่งก็เป็นร้านอาหารแถวหลังมอนั่นแหละครับ

ผมนั่งรออยู่ได้ไม่นาน  ก็เห็นอาจารย์ผู้สอนเปิดประตูออกมา  และตามด้วยเสียงอึกทึกมากมายจากภายในห้อง  ผมยกมือไว้อาจารย์ทันทีที่ท่านเดินผ่าน  จากนั้นผมก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงและทำท่าว่าจะลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างใน  แต่ประจวบเหมาะกับที่กันต์และพวกเพื่อนๆ ของมันเดินออกห้องมาพอดี

กันต์ที่เดินรั้งท้ายชะงักเท้าทันทีที่เห็นหน้าผม  และไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงต่อ  ผมก็เดินตรงเข้าไปหามันทันทีครับ

“ กันต์...  พี่มีเรื่องจะคุยด้วย “

“ เอ่อ..  แต่ผมกำลังจะไปกินข้าวกับเพื่อนอะครับ  เอาไว้... “

“ ไม่!  ตอนนี้เลย  พี่มีเรื่องจะคุยด้วย “

ผมทำเสียงเข้มบอกไป  แต่ก็ไม่ได้โหดเหมือนตอนเชียร์หรอกนะครับ  แค่อยากให้มันรู้ว่าผมกำลังจริงจังอยู่ก็เท่านั้น

“ นั้น...  พวกกูไปรอที่โรงอาหารก่อนนะ “

ไอ้น้องแน๊คเพื่อนมันว่ามาอย่างเกรงๆ ผมครับ  ในขณะที่ผมยังต้องใช้สายตาออกคำสั่งไปที่ไอ้เรย์  เมื่อมันทำท่าว่าจะยังไม่ยอมไป  แต่พอเห็นสายตาผม  สุดท้ายมันก็ยอมไปแต่โดยดี...

ในขณะที่ระเบียงทางเดินตอนนี้ค่อนข้างจะปลอดคนแล้ว  เมื่อนักศึกษาปี 1 Sec นี้พากันเดินออกไปจนหมด  พอผมเห็นว่าสะดวกแล้ว  ผมจึงเริ่มพูดขึ้น


“ เรื่องเมื่อคืนนี้อะ “

ผมอ้ำอึ้งไปเล็กน้อย  ในขณะที่ปฏิกิริยาของคนตรงหน้าดูเหมือนจะมีความประหม่าอยู่ในแววตาไม่ใช่น้อย

“ มัน...  ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นนะ “

จากแววตาสั่นไหวของคนตรงหน้า  ตอนนี้กลับกลายมาเป็นสายตาตั้งคำถามขึ้นมาแทน

“ คือ..  มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ “

“ พี่กิจ...  ทำไม... “

ไม่ทันที่ผมจะได้อธิบายอะไร  มันก็สวนขึ้นมาเสียก่อน  แล้วก็อ้ำอึ้งไปเล็กน้อย  ซึ่งกดดันผมเป็นที่สุด

“ ทำไมพี่ถึงต้องมาอธิบายอะไรพวกนี้ให้ผมฟังด้วย... “

เอ่อ....

นั่นสิครับ...  ปกติผมที่ไม่เคยแคร์ใคร  ไม่สนใจเลยว่าคนรอบข้างจะเข้าใจผิดแค่ไหน  กลับต้องมาร้อนใจและเป็นกังวล  กลัวว่าคนตรงหน้านี้จะเข้าใจผมผิด  โดยที่ผมเองไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่...

“ ก็..  พี่ไม่อยากให้เราเข้าใจพี่ผิดน่ะ “

ใช่เหรอ....

ผมรู้สึกแค่นี้จริงๆ เหรอ...

“ มัน...  สำคัญด้วยเหรอครับ “

สำคัญสิ...

ใช่แล้ว... 

จริงๆ แล้ว  สิ่งที่ผมกลัวมากกว่าการที่กันต์มันจะเข้าใจผิดก็คือ...

ผมกลัวว่า... 

ผมจะต้องเสียมันไป....


“ จริงๆ..  พี่จะคบใคร  จะทำอะไร..มันก็เป็นสิทธิของพี่นะครับ  ห้องของพี่  พี่มีสิทธิทุกอย่าง...  ผมต่างหากที่ไม่ควรจะเข้าไปวุ่นวายในความเป็นส่วนตัวของพี่ตั้งแต่แรก....  มัน....  ผิดตั้งแต่แรกที่ผมเข้ามาในชีวิตพี่แล้วล่ะ “

ไม่นะ..  มันไม่ใช่สิ่งที่ผิด...  ผมไม่เคยนึกเสียใจเลยที่มีมันเดินเข้ามาในโลกส่วนตัวของผม...

“ กันต์...  กันต์ฟังพี่นะ... “

สายตาที่สั่นระริกของคนตรงหน้า  มันทำให้ผมรู้สึกใจแป้วขึ้นมาทันที  ราวกับว่าคำพูดที่ผมจะเอ่ยต่อไป  มันอาจจะทำให้น้ำตาใสๆ ของคนตรงหน้านี้ไหลรินออกมาก็เป็นได้

ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันช่างบอบบางและน่าทะนุถนอมได้ถึงขนาดนี้  ถ้าทำได้...  ผมก็อยากจะเข้าไปกอดและปลอบมันเสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

แต่ผมก็ไม่กล้า...  และที่สำคัญ...  ผมไม่รู้ว่ามันกำลังกลัวอะไรอยู่  จากแววตาที่สั่นไหวคู่นี้...

“ เมื่อคืนน่ะ  พี่กับฮานะไม่ได้มีอะไรกันนะ “

“ แต่ที่ผมเห็น  และ... “

“ มันไม่ได้มีอะไรทั้งนั้นแหละ  กันต์เชื่อพี่นะ “

ผมมองมันด้วยสายตาเว้าวอนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน  เพียงขอให้คนตรงหน้านี้เชื่อคำพูดของผมสักครั้งก็เท่านั้น  ทว่าแววตานั้นกลับเปลี่ยนมาเป็นความสงสัยเคลือบแคลง  ซึ่งผมก็เข้าใจนะ  เพราะเป็นใครก็มีสิทธิที่จะคิดได้ว่าคำพูดของผมมันเป็นเพียงคำโกหกที่ใช้ในการแก้ตัวก็เท่านั้น  หลักฐานอะไรก็ไม่มี...  ที่จะมีก็แค่...

พยาน....

“ ถ้ากันต์ไม่เชื่อพี่..  พี่ให้ฮานะมาช่วยยืนยันก็ได้นะ... “

“ ไม่จำเป็นหรอกครับ...  จริงๆ แล้ว...  ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง  ผมก็ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น... “

“ ทำไม... “

“ พี่ก็รู้นี่ครับ..  ว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่...  แล้วถ้าเป็นพี่ล่ะ...  พี่อยากจะรับรู้เรื่องอะไรพวกนี้มั้ย... “


อึ้งครับ...  ก็จริงของมันนะ  รับรู้แล้วได้อะไร...  การไม่ต้องรับรู้อะไรเกี่ยวกับผมเลย...  มันก็อาจจะดีกว่าก็ได้...

แต่....

ถ้ามันจะไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมเลย  ถ้ามันอยากจะลืมผม...

ผม... 

ไม่ยอมแน่ๆ…


“ แต่ยังไง...  พี่ก็จะทำให้เราเชื่อพี่ให้ได้  ว่าสิ่งที่พี่พูดมามันคือความจริง “

พูดจบผมก็คว้าข้อมือมันทันที

“ จะทำไรอะพี่กิจ “

“ ก็ทำให้เราเชื่อไง “

พูดจบผมก็ทำท่าว่าจะลากมันไป  ซึ่งมันก็พยายามรั้งตัวเอาไว้  และจะแกะมือหนาของผมออกในตอนนี้

“ พี่จะพาผมไปไหน “

“ ก็ไปหาฮานะ...  แล้วเราจะได้รู้ความจริง “

“ ไม่พี่..!!  ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น “

“ อยากอายชาวบ้านก็โวยวายไป...  รู้ใช่มั้ยว่าพี่ไม่สนใจใครอยู่แล้ว “

ผมพูดความจริงครับ  ก่อนจะออกแรงลากมันไปที่รถ



......................................



ร้านอาหารหลังมหาลัยฯ

ผมลากกันต์มันเดินเข้ามายังภายในร้านที่นัดกับน้องฮานะเอาไว้  ซึ่งน้องเขาก็มาถึงอยู่ก่อนแล้ว  และกำลังนั่งส่งยิ้มมาให้จากที่โต๊ะ

จนถึงตอนนี้  กันต์มันก็ยังคงไม่ค่อยเต็มใจที่จะมาด้วยสักเท่าไหร่  ผมเลยต้องบังคับมัน  อย่างน้อยขอแค่ให้มันได้รู้ความจริงก่อน  ส่วนเรื่องง้อ...  เดี๋ยวผมจัดการทีหลังได้ไม่ยาก ( คิดว่างั้นนะครับ )

“ พี่กิจ  น้องกันต์  นั่งกันก่อนค่ะ “

เมื่ออยู่ต่อหน้าน้องฮานะแล้ว  กันต์มันก็ดูจะว่าง่ายขึ้นมาหน่อยครับ  พอเรานั่งลงเรียบร้อยกันแล้ว  น้องเขาก็ส่งเมนูมาให้เราสั่งอาหารกันก่อน  จากนั้นก็เริ่มเข้าเรื่องต่อทันที

“ คือเรื่องเมื่อคืนนี้น่ะ...  คือ...พี่กับพี่กิจ..  เรา... “

อย่าค้างนานสิครับน้อง  แถมสีหน้าแบบนั้นอีก...  ไอ้คนข้างๆ พี่มันจะคิดไปกันใหญ่นะ

“ เอ่อ...  เราไม่ได้มีอะไรกันหรอกนะ “

น้องเขาพูดจบ  ผมก็รีบหันไปมองยังคนข้างๆ ต่อทันที  แต่ไหงสีหน้ามันกลับนิ่งเฉย  เหมือนจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฮานะพูดมาเลยสักนิด


“ ก็พี่บอกแล้วไงว่าไม่ได้มีอะไร  เราก็ไม่เชื่อ... “


ผมย้ำต่อทันที  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไร  เมื่อดูจากสีหน้าและแววตาของมันแล้ว


“ ครับ...  จริงๆ...  พวกพี่.. ไม่ต้องลำบากมาอธิบายให้ผมฟังก็ได้นะครับ... “


เหมือนมันจะฝืนยิ้มและพูดออกมา 

เห้อ...  ถึงขนาดนี้แล้วผมควรจะทำยังไงให้มันเชื่อได้วะเนี่ย

“ แต่พี่กิจเขาห่วงน้องกันต์มากเลยนะ  ถึงได้ให้พี่มาช่วยพูดให้แบบนี้ “

เดี๋ยวนะ...  จริงๆ แล้วเป็นน้องไม่ใช่เหรอที่เสนอตัวมาช่วยพี่อะ  แล้วอย่าพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ แบบนี้จะได้มั้ย...  เพราะไอ้เด็กดื้อนี่มันคิดไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้!!!

“ กันต์... “

จะพูดยังไงต่อดีนะให้มันเชื่อผม...

“ ครับ...  ผมเข้าใจแล้ว... “

เข้าใจตรงไหน..  สีหน้าแบบนี้มันไม่ได้เข้าใจอะไรเลย....

ท่ามกลางความเงียบที่มาคุ  จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของน้องฮานะก็ดังขึ้น

“ เออใช่!  ฉันลืมซะสนิทเลย  ทำไงดีล่ะ...  ได้ๆ  เดี๋ยวฉันจะรีบไปส่งให้  ทันแน่ๆ “

เมื่อวางสายแล้ว  เธอก็หันมามองหน้าผมอย่างประหลับประเหลือก

“ ฮานะลืมไปว่าต้องส่งรายงานกลุ่มให้ทันก่อนบ่ายโมงนี้อะค่ะพี่กิจ... “

ผมทำหน้านิ่งรับฟังไปครับ  คือถ้าน้องเขาจะกลับไปตอนนี้เลย  ก็ไม่มีผลอะไรกับผมทั้งนั้น  เพราะที่เหลือจากนี้  เดี๋ยวผมคงต้องจัดการเองแล้วล่ะ

“ พี่กิจคะ...  จะเป็นไรมั้ย...  ถ้าจะรบกวนพี่กิจช่วยขับรถไปส่งฮานะส่งงานที่คณะสักแปบนึง  แล้วเราค่อยกลับมากินกันต่อ...  จะได้มั้ยคะ...  คือ...  ฮานะกลัวจะไปส่งงานไม่ทันอะค่ะ “

น้องเขาพูดจบ  ผมเลยหันหน้าไปมองยังคนข้างๆ  เพื่อขอความเห็น

“ น้องกันต์รออยู่ที่นี่ก่อนได้มั้ย  พี่กับพี่กิจคงไม่นานหรอก... “

เอ่อ...  นี่ผมยังไม่ได้ให้คำตอบน้องเลยนะครับว่าจะไปส่ง...

“ ครับ...  ไม่เป็นไร  ผมรอได้  พวกพี่ไปทำธุระกันให้เสร็จก่อนเถอะ “

กันต์มันตอบไปครับ  ซึ่งก็ไม่ได้หันหน้ามามองผมเลยสักนิด  สุดท้ายผมก็ต้องลุกออกจากโต๊ะไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก  แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญของน้องเขาอะนะ  ทำไงได้...  รีบไปรีบมาดีกว่า  ผมไม่อยากทิ้งให้กันต์มันต้องอยู่ที่นี่คนเดียวสักเท่าไหร่




..............................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-05-2018 23:52:37
 :pig4: :pig4: :pig4:

พอนางออกไป  นางก็ส่งเพื่อนนางเข้ามาปล่อยข่าวเท็จว่าเรื่องจริงไม่เป้นดังที่พูด หรือไม่ก็ส่งคนมาลากนุ้งกันต์ไปปู้ยี่ปู้ยำ  ชิมิ นังตัวอิจฉาหนังไทย   ข้าเดาสันดานแกออก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 12-05-2018 00:07:41
กิจนี่พระเอกในนิยายไทยที่แท้ทรู  โง่ 
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 12-05-2018 00:08:07
กันต์’s  Part



สุดท้ายก็เหลือผมอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว...  นี่ผมมาทำบ้าอะไรที่นี่วะเนี่ย!!! 

ลากผมมาแล้วก็ทิ้งขว้างเอาไว้แบบนี้  ถึงจะเข้าใจเหตุผลและบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ตาม  แต่ลึกๆ ในใจแล้ว  มันก็อดน้อยใจขึ้นมาไม่ได้อยู่เหมือนกันนะครับ

ยิ่งเห็นพวกเขาสองคนไปไหนมาไหนกันอย่างสนิทสนมแบบนี้ด้วยแล้ว..  มันยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่ผมกลัวมากขึ้นไปทุกที

ถึงพี่กิจจะพูดมาถึงขนาดนี้  และพาผมมาพบกับพี่ฮานะ  แต่จากน้ำเสียงและสีหน้าของพี่ฮานะแล้ว...  ทำไมผมถึงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดออกมาเลยสักนิด

พี่กิจกับพี่ฮานะเขา...  ไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ อย่างนั้นเหรอ...?


และไม่ต้องให้คิดนาน  ผมก็ได้คำตอบ  เมื่อพี่ผู้หญิงสองคนที่พึ่งจะเข้าร้านมาและนั่งยังโต๊ะด้านหลังของผมเริ่มพูดคุยกัน


“ สงสารฮานะว่ะแก...  ที่ถูกพี่กิจให้มาบอกรูมเมทว่าเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรกัน  ทั้งๆ ที่สองคนนั้นไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว “

เสียงหนึ่งดังขึ้น  และผมก็คุ้นด้วยว่าเหมือนจะเป็นเสียงของเพื่อนของพี่ฮานะ  แต่ดูท่าพวกเธอคงจะไม่รู้ว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้

“ นั่นสิ...  ฉันนี่ไม่เข้าใจพี่กิจเลยจริงๆ  ไม่รู้ว่าจะไปเกรงใจรุ่นน้องคนนั้นทำไม  หรือว่าจะเป็นแค่ข้ออ้างที่จะไม่รับผิดชอบยัยฮานะกันนะ “

“ ไม่มั้ง...  ก็เขาดูออกจะรักกันซะขนาดนั้น  ฉันว่าน่าจะเป็นผลมาจากรุ่นน้องคนนั้นมากกว่า “

“ ไม่รู้พี่เขาจะต้องไปเกรงใจทำไม  ห้องก็ห้องของพี่เขา  เด็กนั่นก็แค่คนมาขออาศัยอยู่  เป็นฉันนะ  ถ้ารู้ว่าต้องมาสร้างความลำบากใจให้คนอื่นเขาแบบนี้  ฉันย้ายออกไปตั้งนานแล้ว “

“ นั่นสิ  ฉันคงไม่หน้าด้านอยู่เหมือนกัน... “


มัน...  เป็นอย่างนี้เองเหรอ...

นี่ผม...  สร้างความลำบากใจให้กับทุกคนขนาดนี้เชียวเหรอ....

ผมหยิบเอาเป้มาสะพายที่บ่าก่อนจะลุกขึ้นยืน  หัวมันตื้อไปหมดเลยครับ  ผมไม่ได้สนใจว่าใครจะมองอยู่รึป่าว  ได้แต่เดินดุ่มๆ ก้มหน้าก้มตาออกจากร้านไปด้วยหัวใจปวดร้าว  กับความจริงที่ได้รับรู้....



............................



ที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

จบจากควิชในตอนบ่าย  พวกเราก็มานั่งชิลๆ กันที่นี่ครับ  ซึ่งควิชรอบนี้ผมคงทำคะแนนออกมาได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่  ทั้งๆ ที่อ่านหนังสือมาจนพร้อมแล้วก็ตาม  คือหัวมันตื้อไปหมดเลยครับ  คิดอะไรไม่ค่อยออก  แถมยังรู้สึกแย่เอามากๆ เลยด้วย

พี่กิจโทรมาถามว่าผมหายไปไหนเมื่อตอนเที่ยง  ซึ่งผมก็ได้แต่บอกไปว่า  ต้องรีบมาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสำหรับควิชเก็บคะแนนในช่วงบ่ายก็เท่านั้น

ในเย็นวันนี้คณะผมกับคณะเกษตร (ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน)  จะมีการแข่งบาสนัดกระชับมิตร (รึเปล่า)  ซึ่งจะมีประจำในทุกๆ ปี  และไอ้เรย์ก็เป็นปี 1 เพียงคนเดียวที่ได้ลงเป็นตัวจริงกับเขา  มันเลยขอ (แกมบังคับ) ให้พวกเราไปเชียร์มันด้วย

แต่กว่าจะถึงเวลาแข่งก็ยังพอมีเวลาให้ผมได้งีบสักหน่อย  เพราะตั้งแต่เมื่อคืนผมก็ยังไม่ได้นอนเลย...  จนตอนนี้ผมค่อนข้างจะเพลียเอามากๆ เลยละครับ

ขอพักสักหน่อยละกันนะ.....



…….



กว่า 5 โมงเย็น 

ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอย่างเบลอๆ  จนลืมไปเลยว่าตัวเองงีบหลับอยู่ที่ร้านกาแฟ  ที่สำคัญ  ไหงกลายเป็นว่าทั้งโต๊ะเหลือแค่ผมกับไอ้ธันอยู่กัน 2 คนเท่านั้นเอง

แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดล่ะเนี่ย...?

“ อ้าว...  ตื่นแล้วเหรอ “

ไอ้ธันมันถามขึ้น  พลางวางหนังสือการ์ตูนลงเมื่อเห็นผมขยับตัวขึ้นมาจากโต๊ะอย่างงัวเงีย

“ อืม...  กี่โมงแล้วอะ  แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดวะ “

“ 5 โมงกว่าแล้ว  พวกนั้นก็ไปสนามบาสกันหมดอะ “

“ อ้าว...  แล้วทำไมไม่ปลุกกูวะ “

“ เราบอกพวกนั้นเองแหละ  ว่าไม่ต้องปลุกกันต์.. “

“ ทำไมวะ “

“ ก็...  เมื่อคืนกันต์ไม่ค่อยได้พักผ่อน..  เราเลยอยากให้กันต์ได้นอนสักหน่อยอะ “

“ แล้ว...  มึงไม่ไปกับพวกนั้นเหรอ “

“ ถ้าเราไป..  แล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนกันต์ล่ะ “

มันยิ้มว่ามาครับ  ทำไมมันช่างเป็นคนดีอย่างนี้เนี่ย...

“ ขอบใจนะ...  ว่าแต่...  นี่เรายังไปทันกันอยู่มั้ย “

“ อื้ม..  แต่กันต์... โอเคแล้วใช่มั้ย "

“ อืม...  ได้นอนพักก็ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว  นอนน้อยก็เลยเพลียๆ อะ “


แล้วจากนั้นพวกเราก็รีบตรงไปยังสนามบาสกันทันที

ตอนนี้ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยนักศึกษาของทั้งสองคณะ  มากมายจนแทบจะไม่มีที่นั่งเลยละครับ 

คือจริงๆ แล้ว  มันเหมือนเป็นนัดแห่งศักดิ์ศรีที่ทุกปีจะมีแค่ 1 ครั้งสำหรับสองคณะนี้  และแน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างที่จะไม่ยอมแพ้ให้แก่กันแน่ๆ

ผมกับไอ้ธันหันซ้ายแลขวามองหากลุ่มของพวกเราอยู่ได้ไม่นาน  ก็เห็นพวกนั้นตระโกนพร้อมทั้งโบกไม้โบกมือเรียกให้ไปหา  และพวกมันก็ได้จองที่เอาไว้ให้พวกเราแล้วด้วย  ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของสแตนด์เชียร์เลยละครับ

การแข่งดำเนินไปอย่างดุเดือด  แต่ก็เป็นคณะเรานะครับที่นำห่างอยู่  ซึ่งก็มีการผลัดเปลี่ยนตัวลงมาสลับกันบ้างในบางคน  แต่ตัวหลักที่ผมเห็นยืนทั้งเกมเลยก็คือ พี่กิจ  พี่คิม  พี่เอ็กซ์  และก็ปี 1 คนเดียวของเราก็คือไอ้เรย์ครับ  แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ต่างคณะกันก็ตาม  แถมยังเป็นคู่แข่งตลอดกาลกันซะขนาดนี้  ทว่าสาวๆ ของทั้งสองคณะต่างก็พร้อมใจกันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด  ในทุกๆ ครั้งที่พี่กิจทำแต้มได้

ในระหว่างการแข่ง  เหมือนพี่กิจจะหันมามองผมอยู่บ่อยๆ  และถ้าผมไม่คิดไปเอง  ผมว่าพี่เขาส่งยิ้มมาให้ด้วยนะ  ซึ่งทำเอาสาวๆ ด้านหน้าผมแทบใจละลายกันเลยทีเดียว  แต่กระนั้นผมก็ไม่ได้ยิ้มหรือแสดงท่าทีใดๆ ตอบกลับไปทั้งนั้น

เพราะผมรู้ว่ารอยยิ้มนั้น  มันไม่ได้มีความหมายอะไรเกินเลยไปกว่า....แค่คำว่าพี่น้อง...

มันคือความจริงที่ผมต้องยอมรับ  และไม่พยายามที่จะหลอกตัวเองอีกต่อไป...


ไม่นานการแข่งขันก็จบลง  ซึ่งคณะเราก็เป็นฝ่ายชนะอย่างที่พอจะเดาผลได้อยู่ก่อนแล้ว  เพราะตลอดช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา  ด้วยการนำทีมของพวกพี่กิจ  คณะเราก็ไม่เคยแพ้ให้กับคณะไหนอีกเลย ( จากข้อมูลที่ไอ้แน๊คมันได้มาครับ )

จากนั้นไม่นาน  ผู้คนก็พากันทยอยเดินออกไปจากสนาม  จะเหลือก็เพียงบางส่วนเท่านั้น  ซึ่งก็เป็นพวกเพื่อนๆ ของนักกีฬา  และบางส่วนที่มาขอถ่ายรูป  และแน่นอนว่าพี่กิจก็ยังคงขายดีอยู่เหมือนเดิม..

“ อ้าวน้องธัน...  มาดูด้วยเหรอคะ “

เสียงพี่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งทักขึ้น  ก่อนจะเดินมาคุยอะไรสักอย่างกับมัน  และจบด้วยการขอถ่ายรูปไปลงเพจอะไรสักอย่างเนี่ยแหละครับ  ในขณะที่สายตาผมกำลังมองตามแพรที่กำลังถือน้ำเดินเข้าไปหาไอ้เรย์  พร้อมกับไอ้แน๊คและก็ไอ้เจมส์  ซึ่งผมก็คงจะไม่ตามเข้าไปด้วยหรอกครับ 

ทำไมน่ะเหรอ....

ก็เพราะตรงโซนที่นักกีฬาอยู่นั้น  กลุ่มพวกพี่กิจกำลังได้รับน้ำและพูดคุยกันอยู่กับกลุ่มของพวกพี่ฮานะอยู่น่ะสิ...

แล้วผม...  จะเข้าไปเป็นส่วนเกินทำไมล่ะ...



“ นี่....  น้องกันต์ใช่มั้ยคะ “

“ เอ่อ..  ใช่ครับ “

เสียงพี่ผู้หญิงกลุ่มที่คุยและถ่ายรูปไอ้ธันมันเมื่อสักครู่นี้ทักขึ้นมาครับ  ซึ่งผมเองก็ไม่ได้รู้จักพวกพี่เขาเลยแม้แต่คนเดียว
 
“ ว่าละ...  น่ารักแบบนี้ต้องใช่น้องกันต์แน่ๆ “

พี่เขาว่ามาต่อ  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไปเท่านั้น

“ ไหนๆ ก็เจอน้องกันต์แล้ว  พวกพี่ขอถ่ายรูปไปลงเพจหน่อยนะคะ “

พี่เขาขอมา  ผมเลยได้แต่เออออตามไป  สุดท้ายผมถึงได้รู้ว่า  กลุ่มพวกพี่เขาเป็นแอดมินเพจดังของมหาลัยฯ เรา  ชื่อเพจ Cute Boy & Girl อะไรเนี่ยแหละครับ  ซึ่งผมก็ไม่เคยเข้าไปดูสักที  แต่ก็เคยเห็นผ่านๆ นะครับว่ามีรูปผมอยู่ในนั้นด้วย  จากการที่ไอ้แน๊คมันเคยเอามาให้ผมดูอยู่ครั้งหนึ่ง


“ เดี๋ยวพี่ขอรูปคู่ของน้อง 2 คนด้วยได้มั้ยคะ “

พี่เขาว่ามาต่อ  หลังจากที่ถ่ายรูปผมไปแล้วหลายรูป


“ เนี่ยแก...  ถ้าน้องเขาสองคนได้จิ้นกันนะ  รับรองคนต้องตามกันเพียบ “

“ ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ  คนนึงก็หล่อระดับเดือนมหาลัยฯ  ส่วนอีกคนก็น่ารักโครตๆ  พอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้แล้ว...  ฉันคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย “

เสียงพี่ๆ คนอื่นๆในกลุ่มเริ่มแซวขึ้นมาให้พอได้ยินอยู่บ้างครับ  ซึ่งผมก็ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปเท่านั้น



“ เอ่อ... ขอโทษนะครับ  ผมขอตัวกันต์มันไปก่อนนะครับ  พอดีเราต้องไปกินเลี้ยงกันต่ออะครับ “


และไม่ต้องรอให้ใครอนุญาต  พี่กิจก็จับแขนผมลากออกไปด้วยสีหน้าดุๆ  โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

พอออกมาจากกลุ่มคนได้  ผมก็สะบัดแขนขึ้นมาทันที  แต่ก็ไม่เป็นผลครับ  เพราะมือใหญ่นี้แข็งแรงและกำผมเอาไว้แน่นมาก

“ อะไรอะพี่  ทำไร... “

ผมเริ่มโวยวายต่อ  ก่อนที่พี่กิจจะหยุดเท้าลง  แล้วหันหน้าดุมาจ้องผม

“ ทำไม...  ชอบรึไงให้คนมาจับคู่เนี่ย “

“ จับคู่อะไร... “

“ นี่เราดูไม่ออก...  หรือว่าแกล้งไม่รู้ห๊ะ “

ผมเงียบคิดอยู่เล็กน้อย  ก็ผมไม่เข้าใจจริงๆ นี่ครับ  ว่าผมผิดอะไร  ทำไมถึงต้องมาโวยวายขึ้นเสียงกับผมแบบนี้ด้วย

“ ช่างเหอะ...  ปะ..  ไปได้แล้ว “

“ จะไปไหนอะพี่ “

“ เลี้ยงของชมรมที่ชนะบาสเมื่อกี้นี้ไง “

“ ไม่ไปอะ  ผมจะกลับกับเพื่อน  อีกอย่างผมก็ไม่ได้อยู่ชมรมบาสด้วย  จะไปได้ไงอะ “

“ มากับพี่ทำไมจะไปไม่ได้  และอีกอย่าง...  พวกน้องแพรกับเพื่อนเราก็ไปกันด้วย  ไอ้เรย์มันขอเอาไว้ให้แล้ว “

“ แต่... “

“ ไม่มีแต่... “


สิ้นเสียงพี่เขาก็ลากผมไปยังรถที่จอดอยู่ไปไกลมากจากตรงนี้ทันที  โดยที่ไม่สนใจเสียงโวยวายของผมเลยแม้แต่น้อย

ซึ่งเมื่อพวกเรามาถึงที่รถ  ก็พบว่าที่ตรงนี้มีคนรออยู่ก่อนแล้ว  และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  พี่ฮานะนั่นเองครับ

ถ้าพี่เขาจะไปด้วยกันแบบนี้...  แล้วจะลากผมมาทำไมวะเนี่ย....

“ อ้าวฮานะ...  ยังไม่กลับอีกเหรอ “

“ ก็... เห็นว่าที่ชมรมมีกินเลี้ยงกันต่อ  พี่คิมเลยชวนพวกเราไปด้วย  แต่รถพี่คิมเขาเต็มแล้ว...  ฮานะก็เลยว่าจะมาขอไปกับพี่กิจอะค่ะ “

นั้นก็แปลว่า...  พวกพี่เขาไม่ได้นัดกันไว้อยู่ก่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ...

พี่กิจหันมามองผมอยู่เล็กน้อย  ราวกับจะขอความเห็น  ทว่าผมคงไม่สามารถออกความเห็นอะไรไปให้ได้ทั้งนั้น

เพราะตอนนี้...  สภาพผมมันก็เหมือนส่วนเกินนั่นแหละครับ

อยากเดินออกไปจากตรงนี้จัง

“ แต่ถ้าพี่กิจไม่สะดวก... “

เหมือนจะเห็นพี่กิจถอนหายใจอยู่เล็กๆ  ก่อนจะขานรับในลำคอตอบตกลงไป  ซึ่งนั่นก็ทำให้พี่ฮานะถึงกับยิ้มหน้าบานออกมาแทบจะในทันทีเลย

ทนเอาหน่อยเว้ยไอ้กันต์...  ถึงร้านเมื่อไหร่ค่อยรีบแยกตัวออกไปเลยละกัน

ผมที่ทำท่าว่าจะเข้าไปนั่งยังเบาะหลัง  กลับต้องชะงักตัวทันทีเมื่อถูกพี่กิจทักขึ้น...

“ กันต์นั่งหน้า... “

พี่กิจว่ามาเสียงเรียบด้วยใบหน้าคมๆ ที่เรียบเฉย

“ แต่... “

ทันทีที่ผมจะเอ่ยต่อ  พี่เขาก็ร่นคิ้วดุมองผมตอบกลับมาทันที  ผมเลยไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ

พอผมหันกลับไปมองยังพี่ฮานะทางด้านหลัง  ก็พบว่าเธอกำลังหน้าเหวออยู่เล็กน้อย  ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามาเรียบเฉย  หากแต่แววตากลับมองผมดุตอบกลับมาเสียอย่างนั้น

อึดอัดเป็นบ้าเลยครับกับสถานการณ์ในตอนนี้

ผม...  ไม่เข้าใจใครเลยสักคน 

กระทั่ง...

ตัวของผมเอง....





TBC.



--------------------------------------------------------------

ขอโทษนะครับที่มาต่อช้า....

พอดีมันมีปัญหานิดหน่อยอะครับ... คือปกติผมจะพิมพ์ใส่ word  ด้วยฟอร์น Angsana New ขนาด 14 ตอนนึงจะประมาณ10หน้า

แต่ตอนนี้ผมลบทิ้งไป 5- 6 หน้าเลยครับแล้วเขียนใหม่...  เพราะตรรกะนั้นผมว่ามันไม่ make sens เลยลบทิ้งแล้วเขียนใหม่

ถึงเนื้อเรื่องยังคงอยู่ในLineเดิม  แต่ทีนี้ผมต้องมาหาmomentที่มันจะดึงเข้าไปยังแรงจูงใจสำคัญให้ได้ด้วย  ก็เลยเสียเวลาทั้งคิดและเขียนใหม่อะครับ :katai4:

แต่โอเคละครับ  แฮ่ๆ  เกริ่นนิดนึงว่าไม่น่าจะเกิน  4 - 5 ตอนนี้จะมี NC นะครับ  และเป็นเหตุการณ์สำคัญด้วย  ยังไงรอติดตามต่อไปนะครับ

มะไหวแล้วตอนนี้...  ตาลาย55+ยาออกฤทธิ์  มึนๆ  อยากพิมพ์ต่อแต่มะไหวละครับ

ปล.1 อย่าพึ่งเกลียดอิพี่กิจกันน้าาาาาาาา เขากำลังสับสนเลยโง่เป็นธรรมดา(ที่ไม่ธรรมดาเพราะโง่มาก) + ด้วยความที่เป็นสุภาพบุรุษด้วยแหละ  เลยทำอะไรมากไม่ได้
ปล.2 ขอบคุณนะครับที่แนะนำ  ผมอ่านคอมเม้นละแก้คำผิดทันทีที่แนะนำเลยครับ  ถ้ามีอีกรบกวนช่วยผมด้วยน้าาาขอบคุณมากๆนะครับ  ยินดีแก้ไขและปรับปรุงเสมอครับเพื่อการพัฒนา  ช่วยๆไรท์ด้วยนะครับ :pig4:
ปล.3 ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจนะครับผม  ยิ่งมีกำลังใจผมนี่ปั่นสุดชีวิตเลยครับ 555+ :katai4:
มะไหวแล้ว  อ้ากกกกก  นอนก่อนคร้าบบบบบ
ฝานดีครับทุกๆคน

^_______________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4/05/2561 update chapter 38 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-05-2018 00:13:32
ตบกันมั้ยคะฮานะ
นี่คันมือมาก สงสารน้อง !!!!!
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-05-2018 00:38:01
นังฮากับเพื่อน ๆ นี่ไม่เลิกเนอะ มันน่าจะฝากรอยเท้าไว้ที่หน้า 3-4 รอย ตามตัวไม่ต้องนับ  :katai1: :z6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 12-05-2018 00:52:43
เก่งนัััักนะ อานะตบมะต่อให้ตบก่อนสองที
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-05-2018 01:14:47
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...ตรูน่าจะไปซื้อหวยนะเนี่ย   เดาแผนนางได้เลย

แต่...ชักเริ่มเกลียดอีตาคิมแระ  อะไรจะเป็นใจนังฮานะตลอด ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 12-05-2018 01:16:19
รับความโง่ของ "พี่กิจ" ไม่ไหวแล้วค่ะ
โง่มากกกกกก โง่ล้นเหลือ ...

ไว้กลับมาอ่านตอนแปะ END แล้วจริง ๆ ดีกว่าค่ะ
ไม่ไหวกับพระเอกแบบนี้ ...
เหลือจะรับได้
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-05-2018 01:54:44
 :เฮ้อ:

เราก็คนไม่หยาบคายนะ แต่อย่างกิจคือโง่อะมองไม่ออกว่าผู้หญิงคิดอย่างไรหรอ คือโง่ไปไหม ไหนคือเชี่ยวมาก่อน โง่กะสุภาพ เป็นคนละเรื่องในความคิดของเราอะ ทำไมเราจริงจัง :a5: ถามว่ากิจ ที่ปกติไม่ได้สุภาพ ไม่สนใจใคร เชี่ยว ผญ มาก่อน ไม่ได้คิดอะไรกะ ฮานะ ...แต่กลายมาเป็นมองไม่ออกว่าผู้หญิงอ่อย สุภาพเกรงใจเวอร์ ถนอมน้ำใจทุกอย่างกะคนนี้ มันใช่หรอ  มันเชื่มโยงกับความสับสนตรงไหน  หรืออยากลองกะฮานะ คือตอนถัดไป

การให้คนที่คิดว่าสำคัญรอ กะสุภาพและเลือกไปกับคนที่ไม่คิดอะไร คืออะไร  ของตาย หรือสิ้นคิด
เฮ้อออออ ขอเปลี่ยนน้องที่ชัดเจน พยายาม ไปรักคนอื่นได้ไหม ถ้าเป็นเราคงย้ายออกไปแล้ว

อย่าเคืองเรานะ
 :pig4: :L2:

 


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-05-2018 03:34:11
ฮานะ คะ เดินมารับฝ่ามือเราหน่อย เราหมั่นไส้เธอ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 12-05-2018 08:30:15
พี่กิจโคตรน่ารำคาญ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 12-05-2018 10:02:05
เจอแบบนี้ก็น่าอึดอัดนะ เข้าใจกันต์เลย
ฮานะน่ารำคาญมากๆ พี่กิจควรปฎิเสธบ้าง
ไม่ต้องรักษาน้ำใจหรอก หึ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 12-05-2018 10:03:25
พี่กิจต้องชัดเจนกว่านี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-05-2018 11:41:45
รำคาญพี่กิจ มัวแต่สุภาพบุรุษอยู่นั่นแหละ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-05-2018 13:49:51
 :z6: :z6: :z6: :z6: อีฮานะกะเพื่อนนี้น่าโดนจริงๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-05-2018 17:42:28
คิมเป็นเพื่อนประสาอะไร ยัดเยียดผู้หญิงแบบนี้ให้เพื่อน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-05-2018 22:52:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 15-05-2018 16:36:38
อึดอัดแทนกันต์ หัวร้อน :katai4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-05-2018 16:37:39
รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 15-05-2018 18:51:25
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: nutii2541 ที่ 17-05-2018 09:31:21
รอตอนต่อไปค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: -PCH- ที่ 17-05-2018 11:25:16
รู้สึกหิวเบคอนตาม555555
สู้ๆนะจ้ะ รออ่านตอนต่อไปเด้ออออ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 17-05-2018 21:11:45
Chapter 40




กิจ’s Part




ตลอดทางที่มาร้านหมูกระทะหลังมหาลัยฯ  นอกจากฮานะแล้ว  ก็แทบจะไม่มีใครพูดอะไรเลย  คือตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะเสวนาอะไรกับใครทั้งนั้น ( นอกจากคนข้างๆ )

ผมมักจะเหลือบมองไปยังคนข้างๆ อยู่บ่อยๆ  ทว่าเจ้าตัวกลับเสมองออกไปนอกหน้าต่างเพียงอย่างเดียว  หงุดหงิดนะครับที่เห็นมันถ่ายรูปคู่กับไอ้น้องธันนั่น  ในขณะที่คนอื่นๆ ยังไปเชียร์พวกมันซะขนาดนั้น...   แถมเจ้าตัวก็ยังดูไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยสักนิด

แม่งเอ้ย!!! 

แต่จะไปหงุดหงิดกับมันก็ใช่ที่  เพราะเอาเข้าจริงแล้ว  เรื่องเมื่อตอนกลางวันก็ยังไม่ได้เคลียร์กับมันให้ชัดเจนเลย 
ผมไม่รู้จริงๆ นะครับว่าตอนนี้คนข้างๆ ผมกำลังคิดอะไรอยู่  แต่ถึงกระนั้น...  ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดในทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเลยครับ


…….


ที่ร้านหมูกระทะหลังมหาลัยฯ

พอกันต์มันลงมาจากรถได้  มันก็รีบเดินดุ่มๆ แยกตัวออกไปทันทีเลยครับ  ผมมองตามหลังมันไปจนเห็นว่ามันเข้าไปนั่งรวมกับพวกเพื่อนๆ มันที่มาถึงกันอยู่ก่อนแล้ว

“ พี่กิจ  เราไปนั่งกับพวกพี่คิมกันค่ะ “

เสียงน้องฮานะดังมาจากทางด้านหลังผมครับ  ผมเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ  เอาตรงๆ เลยนะครับ...  ผมว่าผมก็ชัดเจนในท่าทีแล้วนะครับ  ว่าไม่ได้คิดที่จะเล่นด้วย  แต่น้องเขาก็ยังเกาะติดผมแจอยู่แบบนี้  โครตน่ารำคาญเลยครับ..

ผมเดินดุ่มๆ ตรงเข้าไปยังโต๊ะของพวกปีหนึ่งกลุ่มกันต์มัน  แทนที่จะเป็นกลุ่มของพวกผมเหมือนเช่นทุกที  ก่อนจะร่นตัวเข้าไปนั่งข้างๆ กันต์มันครับ

มันหันมามองผมด้วยสีหน้าตกใจอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ทำไม...  ผมนั่งตรงนี้แล้วจะทำไม...

ลองย้ายไปนั่งที่อื่นดูสิ  ผมก็จะตามมันไปทุกที่เลย...  ดูซิจะดื้อได้สักแค่ไหน...

“ นึกว่าพี่กิจจะไปนั่งกับพวกพี่คิมซะอีก “

ไอ้เรย์มันถามขึ้นมาเป็นคนแรกครับ

“ ไม่อะ  อยากนั่งตรงนี้ “

ผมตอบไปเสียงเรียบ  ก่อนจะปรายตาเข้มมองไปยังมัน  เพื่อให้รู้ว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับผมอีก  ซึ่งมันก็ดูท่าจะรู้ตัว  และไม่กล้าที่จะเซ้าซี้อะไรผมอีก

“ กูไปตักของก่อนนะ “

กันต์มันว่ามาพลางลุกขึ้นยืนอย่างไม่สนใจผมเลยครับ

“ พี่ไปด้วย “

มันชายตามองผมอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่  แต่ผมไม่แคร์หรอกครับ  เอาสิ..  หนีได้แค่ไหน  ผมก็จะตามไปถึงนั่น

พวกเราเดินผ่านโต๊ะกลุ่มของพวกผม  ซึ่งพวกมันต่างก็ร้องเรียกให้ผมมาสนุกกับพวกมันตรงนี้...  แต่ผมไม่สนครับ....


“ พี่กิจ...  พี่จะกินอะไร  พี่ก็ไปตักสิ  จะมาตามผมทำไมเนี่ย.. “

มันทำเสียงรำคาญว่ามาครับ

“ ไม่ได้ตาม...  ก็พี่จะกินนี่ “

ผมตอบไปเสียงเรียบและสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้  ทว่าแววตากลับท้าทายคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ

“ ชิส์ “

มันทำท่าฟึดฟัดอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะเดินตักของกินใส่จานมันจนพูน  โดยไม่สนใจผมเลยสักนิด

“ แน่ใจเหรอว่าจะกินหมด “

“ หมดไม่หมดมันก็เรื่องของผมป่ะ “


เมื่อจานของมันเต็มและไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีก  สุดท้ายมันก็ยอมเดินกลับโต๊ะไป  ทว่าที่โต๊ะยาวตอนนี้กลับมีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 3 คน  ซึ่งเป็นคนที่ผมไม่อยากให้มาเลย  ไม่ว่าจะเป็นไอ้น้องธันที่พึ่งจะมาถึง  ไอ้พีที่แม่งย้ายมาจากกลุ่ม  และที่น่ารำคาญที่สุดก็คือน้องฮานะ... 

นี่น้องจะไม่อยู่กับเพื่อนๆ ของน้องหรอกเหรอ...  เก่งเนอะ... มานั่งกับคนที่ไม่รู้จักได้ทั้งโต๊ะแบบนี้

“ นี่มึงจะมานั่งเบียดอะไรโต๊ะนี้วะเนี่ย  ไอ้พี... “

ผมที่แทรกตัวเข้ามานั่งและวางจานลงบนโต๊ะพูดขึ้นทันที  ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่าจากที่ว่างๆ  กลับเต็มไปด้วยรุ่นพี่รุ่นน้องจนเต็มโต๊ะไปหมด  โดยที่ทางขวาของผมคือกันต์  ทางซ้ายคือฮานะ  ตรงข้ามผมคือไอ้พี  และข้างๆ ไอ้พีก็คือไอ้น้องธันที่นั่งตรงข้ามกับกันต์มันพอดี... 

แม่งเหมาะเจาะกันดีแท้  อย่างกับนัดมาเสียอย่างนั้น

“ ก็กูอยากมาคุยกับพวกน้องๆ บ้าง  นานๆ ได้มีโอกาสมานั่งกินกันแบบนี้ทั้งที  ส่วนไอ้พวกนั้นเจอกันแม่งทุกวันอยู่แล้ว “

“ ตรงนั้นคนมันเยอะแล้วอะค่ะพี่กิจ  มานั่งกับพี่กิจตรงนี้ดีกว่า “

ตรงนั้นกับตรงนี้มันไม่ได้ต่างกันเลยนะครับน้อง....


“ เออกันต์  ปิดเทอมนี้พี่จะกลับบ้านที่พังงาอะ  สนใจอยากจะไปเที่ยวมั้ย  กินอยู่ฟรีนะ  เดี๋ยวพี่จะพาเที่ยวด้วย “

ไอ้พีพูดจบไอ้คนข้างๆ ผมมันก็ถึงกับชะงักตะเกียบที่กำลังคีบหมูใส่กระทะลงทันที  แถมยังตาวาวมองไปยังไอ้พีอีกต่างหาก

“ น่าสนอะพี่...  นี่กันต์ก็ว่าจะเก็บเงินสักก้อนไว้ไปเที่ยวช่วงปิดเทอมอยู่พอดีเลย  จะได้ไม่ต้องมาแก่วอยู่แต่กับห้อง “

อะไร..  ทำไมเรื่องนี้ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย  มันไม่คิดจะบอกผมเลยรึไง

“ ปิดเทอมแม่พี่ให้เรากลับไปอยู่บ้าน “

“ อะไร...  คุณป้าไม่เคยบอก “

“ ก็ฝากพี่มาบอกนี่ไง “

แล้วผมกับมันก็จ้องหน้ากันเหมือนจะไม่ยอมกันง่ายๆ  ก่อนที่มันจะเป็นคนเริ่มพูดออกมาก่อน

“ ถ้าผมจะไปจริงๆ  ผมขอคุณป้าได้อยู่แล้ว “

ก็จริงของมันนะครับ..  และจริงๆ แล้ว  เรื่องที่แม่ผมบอกให้มันกลับบ้านนี่ผมก็คิดมาสดๆ เลย  คือไม่อยากให้มันไปเที่ยวอะครับ ( เว้นก็แต่จะมีผมไปด้วย )

“ แต่จริงๆ ช่วงปิดเทอม1  ผมก็อยากจะขึ้นเหนือเหมือนกันนะครับ  อากาศน่าจะดี  อีกอย่าง...  ทีแรกตั้งใจว่าจะไปเชียงใหม่อะครับพี่  แต่พี่พีชวนมาแบบนี้  ก็อยากจะไปเหมือนกันนะ  เอาไงดี..  อยากจะไปมันทั้งสองที่เลยอะ “

มันเมินผมแล้วหันไปคุยกับไอ้พีต่อครับ

“ แล้วปิดเทอมพี่กิจจะไปเที่ยวไหนเหรอคะ “

เสียงของคนอีกข้างผมดังขึ้น  แต่ผมก็ไม่ได้หันไปสนใจหรอกครับ  กำลังมองไปมาระหว่างไอ้พีกับกันต์มันอยู่

“ ถ้ากันต์จะไปเชียงใหม่  ไปด้วยกันกับเรามั้ย  เราก็ว่าจะหาที่เที่ยวอยู่เหมือนกัน  มีกันต์ไปด้วยคงจะสนุกน่าดู “

แล้วไอ้น้องธันมันก็เข้าร่วมวงสนทนาหัวข้อนี้ด้วยอีกคน 

จะฮอตเกินไปมั้ยห๊ะ!!!    ถึงได้มีแต่คนอยากให้ไปด้วยแบบนี้

“ จริงดิ...  เอาไงดีอะ...  เครียดเลยงานนี้  น่าจะแยกร่างได้เนอะ  จะได้ไปมันทั้งสองที่เลย “

เอาสิ...  ตามสบายเลย... แต่มันไปไหนผมก็จะตามไปด้วย  ดูซิจะว่ายังไง

“ ยังพอมีเวลาให้ตัดสินใจ  ค่อยๆ คิดก็ได้น้อง “

ไอ้พีว่ามาครับ

“ แล้วพวกผมไปด้วยได้มั้ยพี่ “

ไอ้น้องแน๊คที่นั่งตรงมุมโต๊ะตระโกนถามขึ้นมาบ้างครับ  ซึ่งไอ้พีก็ดูเหมือนจะคิดอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะตอบตกลงไป


“ ฮานะก็ว่าจะไปญี่ปุ่นกับคุณพ่ออยู่พอดี  พี่กิจสนใจจะไปด้วยกันมั้ยค่ะ  พักที่บ้านคุณพ่อที่นั่นด้วยก็ได้  เดี๋ยวฮานะจะเป็นคนพาพี่กิจเที่ยวเอง “


ผมมองกันต์ที่กำลังเล็งจะคีบหมูที่มันบรรจงย่างไว้เป็นอย่างดี  แต่กลับถูกไอ้เรย์แย่งไปกินหน้าตาเฉย  มันเลยสบถด่าเพื่อนสนิทของมันแทบจะในทันที  แต่ดูท่าว่าจะทำอะไรคนอย่างไอ้เรย์ไม่ได้เลยสักนิด

“ อะกันต์ “

แล้วไอ้น้องธันมันก็คีบหมูที่กำลังสุกพอดีตรงหน้าส่งเข้าไปให้กันต์มันในถ้วย  แต่ไม่ใช่แค่ไอ้น้องธันเท่านั้นนะครับ  ไอ้พีเองก็เช่นกัน  พอเห็นไอ้น้องธันมันทำได้  มันเลยคีบส่งไปให้อีกเท่าตัว  เหมือนว่าไอ้น้องธันมันจะหันหน้ามามองไอ้พีอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะส่งเบคอนเพิ่มเข้าไปในชามของกันต์มันอีกชิ้น

ฮอตจังโว้ย!!

ถ้าผมจะทำบ้างเนี่ย...  มัน...  จะแปลกมั้ยครับ...

ว่าแล้วผมก็ยื่นตะเกียบไปคีบหมูตรงหน้าเพื่อจะส่งไปให้กันต์มันบ้าง  แต่แล้วก็ต้องชะงักมือลงทันที  เมื่อจู่ๆ ฮานะก็เปรยขึ้นมาเล่นๆ ว่า

“ แหม... พี่พีกับน้องธันนี่แย่งกันจีบน้องกันต์รึเปล่าคะเนี่ย  ดูแลกันเป็นพิเศษเลยนะคะ  เห็นแล้วฮานะล่ะอิจฉาเลย “

ไม่กล้าเลยครับ  สุดท้ายผมก็คีบกลับเข้ามาในชามของตัวเอง....

ว่าแต่...  ไอ้สองคนนั้นไม่คิดจะแก้ต่างอะไรกันเลยรึไง  แถมยังนั่งยิ้มราวกับว่ามันเป็นเรื่องจริงซะอีก...

“ อะกันต์  กินอีกนะ “

ไอ้น้องธันกำลังจะคีบหมูตรงหน้าใส่ชามให้กันต์มันอีกชิ้นแล้วล่ะครับ  ไม่ได้การละ....

“ พอแล้วมั้งน้อง  เดี๋ยวมันก็กินไม่หมดหรอก  จะล้นชามอยู่แล้วเนี่ย “

ผมพูดขึ้นพลางจ้องมันตาเขม็ง  ซึ่งมันก็ดูจะเหวอๆ กับท่าทีของผมอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ยอมเอาหมูชิ้นนั้นกลับเข้าชามของตัวเองไป

“ ล้นอะไร  ยังใส่ได้อีกเยอะ  อีกอย่างน้องมันก็ตัวแค่นี้เอง  กินเยอะๆ อะดี  จะได้โตไวๆ “

ไอ้พีพูดจบมันก็คีบหมูใส่ชามให้กันต์มันทันทีเลยครับ  โดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้นตามนิสัยของมัน

“ กูว่าแม่งจะได้เป็นมะเร็งก่อนโตรึป่าววะ  ดูดิ... ไหม้จะตายไป  มึงก็ยังจะให้เด็กมันแดกอีกเนอะ “

ว่าจบผมก็คีบหมูชิ้นนั้นในชามของมันออกมา  ก่อนจะส่งเข้าปากตัวเองไปในทันที

“ สัดนี่!  กูให้น้องมันกินไม่ใช่ให้มึงแดก  แถมหมูก็ไม่ได้ไหม้อะไรเลยสักนิด “

แล้วไง...  ผมได้แต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  พลางยกน้ำขึ้นมาดื่มอย่างไม่ใส่ใจ

“ ช่างมัน...  เอาใหม่นะกันต์  เดี๋ยวพี่คีบให้ “

“ เอ่อ..  ไม่ต้องก็ได้ครับพี่  เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่า  ขอบคุณนะครับ “

เออ...  รู้จักปฏิเสธคนซะบ้าง...

“ ท่าทางน้องกันต์นี่คงจะมีคนเข้ามาจีบเยอะแน่ๆ เลย “

ฮานะว่ามาต่อครับ  จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงตระโกนของไอ้น้องแน๊คตอบกลับมาทันที

“ ก็เยอะอยู่นะพี่  แต่ส่วนมากจะเป็นผู้ชายซะมากกว่า  ก็เพื่อนผมแม่งเสือกน่ารักซะขนาดนี้ “

พูดจบกันต์มันก็หยิบเอาผักบุ้งที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาปาหัวเพื่อนมันทันที  ในขณะที่กลุ่มเพื่อนมันต่างก็พากันหัวเราะให้กับภาพที่เห็นตรงหน้า

ว่าแต่...  นี่มันมีคนเข้ามาจีบเยอะจริงๆ เหรอเนี่ย  ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย...

ไม่ได้การละ...  แบบนี้ไว้ใจไม่ได้แล้ว...


“ เอ...  อย่าบอกนะคะว่า...น้องกันต์... ‘ เป็นเกย์!!! ’ “


ทันทีที่ฮานะพูดจบ  ก็ดูเหมือนว่าทั้งโต๊ะจะเงียบลงไปในทันที  ท่ามกลางสายตาที่ต่างจับจ้องมายังเธอ  กับคำพูดที่เน้นคำว่า..” เกย์ ”... ภายใต้รอยยิ้มใสซื่อไม่รู้ไม่ชี้ของเธอ....

“ ผมว่า... “

ไอ้น้องธันทำท่าว่าจะแก้ต่างให้กันต์  ซึ่งตอนนี้ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ อยู่เท่านั้น 

แต่ว่า...

“ จะเป็นหรือไม่เป็นแล้วไงอะ  สมัยนี้แล้ว...  เขาไม่เหยียดกันด้วยเรื่องพวกนี้หรอก...  เผลอๆ คนที่เหยียดอะ  จะโดนสังคมเหยียดเอาซะเอง “

ผมหันไปพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่กลับดูจริงจังด้วยแววตาที่ส่งให้ไป  จนน้องเขาไม่กล้าที่จะสบตาของผมตอบกลับมาเลย  ก่อนจะแกล้งยิ้มกลบเกลื่อนและพูดขึ้น

“ ฮานะก็แค่พูดเล่นเอง...  ทำไมทุกคนดูจริงจังจังเลยคะ  ฮะๆๆ “

การพูดเล่นกับการตั้งใจถากถาง  บางทีน้ำเสียงมันก็สามารถแยกแยะออกได้นะครับ  เพราะไม่อย่างนั้น...  ทุกคนบนโต๊ะคงจะไม่หันมามองที่น้องกันเป็นตาเดียวแบบนี้หรอก
 
“ ไอ้นี่มันจะเป็นอะไรก็ช่าง  แต่ผมขอบอกไว้เลยนะว่า  มันป๊อบมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ทั้งในหมู่ผู้หญิงและผู้ชาย  แถมยังฮอตกว่าผู้หญิงหลายคนเลยด้วยซ้ำ  ที่สำคัญ... นิสัยมันดีกว่าหน้าตาซะอีก “

ไอ้เรย์มันกอดคอเพื่อนมันว่ามาครับ  แต่ผมบอกได้คำเดียวเลยครับว่า... 

เฉียบมาก!

จากนั้นบรรยากาศบนโต๊ะก็กลับมาครึกครื้นกันอีกครั้ง  ทว่าฮานะกลับเป็นฝ่ายที่เงียบไปราวกับไร้ตัวตน  ถึงกระนั้นก็ไม่ได้มีใครสนใจอะไรเธอเลยสักนิด... 

ซึ่งนั่นก็รวมถึงผมด้วย....



……………………
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/05/2561 update chapter 39 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 17-05-2018 21:23:05
ขากลับน้องฮานะที่ทำท่าว่าจะขอติดรถผมกลับไปด้วย  ผมเลยวานให้ไอ้บิวมันช่วยไปส่งน้องเขาแทนผมหน่อย 

ไม่ใช่ว่าขี้เกียจนะครับ...  แต่หลายๆ อย่างผมว่ามันเริ่มจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่แล้ว  เมื่อท่าทีของน้องเขาดูจะชัดเจนมากซะขนาดนี้  ทั้งๆ ที่ผมเองก็ชัดเจนในท่าทีของผมด้วยเช่นกัน...  ว่าไม่ได้สนใจอะไรน้องเขาเลย

ที่สำคัญ...  ผมอยากจะเคลียร์กับกันต์ให้มันจบๆ ไปสักที  เพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเดี๋ยวนี้  เราก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยครับ


เราเงียบกันมาตลอดทางจนถึงคอนโด  และเมื่อมันออกจากรถได้  มันก็รีบเดินดุ่มๆ ขึ้นห้องไปโดยไม่รอผมเลย


“ นี่ไม่คิดจะรอพี่เลยเหรอ “

ผมที่เอามือมาขวางประตูลิฟท์พูดขึ้น  ก่อนจะแทรกตัวเข้ามายังภายใน  ซึ่งตอนนี้ก็มีเพียงแค่เราสองคน  จากนั้นประตูลิฟท์ก็ปิดลง

“ ว่าไง.. “

“ อะไรพี่..  ผมก็แค่ง่วง  เลยอยากจะรีบขึ้นไปนอน “

“ แน่ใจ..? “

“ ก็แน่ใจดิ  หรือพี่คิดว่าไง “

มันหันหน้ามาจ้องผมเหมือนจะไม่ยอม  แต่สุดท้ายก็หลบสายตาผมไปเหมือนเดิม...

“ โอเคกันต์...  เรามาคุยกันดีๆ นะ “

“ เรื่องไรอะครับ “

“ ก็เรื่องที่เราเข้าใจผิดกันไง “

“ เรื่อง...? “

“ ก็เรื่องเมื่อคืนนี้ไง “

“ เรื่องนั้นผมเข้าใจแล้วล่ะครับ “

มันเหลือบตามามองผมที่กำลังจ้องมันอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะเบนสายตาหนีไปเหมือนเดิม

“ เข้าใจว่าไง... “

“ ก็เข้าใจว่า... “


ติ้ง!!!



ไม่ทันที่ผมจะได้คำตอบอะไร  ประตูลิฟท์ก็เปิดออกมาเสียก่อน  มันเลยได้โอกาสเร่งฝีเท้าเดินหนีผมออกไปในทันที

คิดจะหนีอีกใช่มั้ย...   เอาสิ... เข้าห้องแล้วก็เหมือนทางตัน  จะหนีไปได้สักกี่น้ำ

ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง  ผมก็รีบกระโจนเอามือเข้าไปขวางประตูห้องมันก่อนที่ประตูจะถูกปิดลง  และก็...


“ โอ้ย!!! “


“ เห้ยพี่กิจ!  ผมขอโทษ  ผมไม่ได้ตั้งใจ  เป็นไรบ้างพี่  ไหนผมขอดูหน่อย “

มันพูดมาเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด  ภายใต้น้ำเสียงร้อนรนที่รู้สึกได้ถึงความห่วงใย  มันไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองผมเลย  ได้แต่พยายามจับและดูมือที่เจ็บของผม  ในขณะที่ผมได้แต่ก้มมองคนตรงหน้าอย่างรู้สึกดีกับท่าทีในตอนนี้ของมัน

เจ็บนะครับไม่ใช่ไม่เจ็บ  แต่ถ้าเทียบกันแล้ว  ผมว่ามันคุ้มนะ...  ที่ทำให้ผมได้รู้ว่ามันยังคงห่วงใยผมอยู่เหมือนเดิม

“ เข้ามาก่อนพี่  เดี๋ยวผมทำแผลให้ “

ว่าจบมันก็จูงมือผมเดินเข้ามาภายในห้องและนั่งลงบนเตียง  ก่อนจะรีบรุดออกไปจากห้อง...  นี่มันคงลืมไปละมั่งครับว่ากำลังงอนผมอยู่  แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะครับ


กันต์มันเดินกลับเข้ามาภายในห้องอีกครั้งพร้อมกับเจลเย็นที่เอาออกมาจากตู้เย็น  ก่อนจะส่งมาให้ผมประคบไว้  จากนั้นมันก็เดินเลยไปหยิบเอากล่องปฐมพยาบาลของมันมา

“ ไม่เป็นไรแล้ว  แค่ประคบก็พอ “

“ ได้ไงพี่...  มันมีแผลถลอกด้วยไม่เห็นเหรอ  ยื่นมือมาเร็ว...  เดี๋ยวผมทำแผลให้ก่อน “

“ ไม่อะ  มันเจ็บ... “

“ อย่าดื้อดิพี่...  ตัวก็โตทำใจปลาซิวไปได้  เร็วๆ! “

มันทำเสียงเข้มดุผมครับ  ทำอย่างกับเป็นแม่ผมเสียอย่างนั้น...  แต่ผมก็ชอบนะ... 

ผมยื่นมือส่งไปให้มันทำแผล  ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว  แต่นั่นมันก็มาจากความรู้สึกจริงๆ ของผมนะครับ

คุ้มนะ....  ถึงแม้จะต้องเจ็บตัวแบบนี้ก็ตาม...

ผมมองมันที่บรรจงทำแผลให้ผมอย่างเบามือ  รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนและห่วงใยของคนตรงหน้า  แล้วแบบนี้ใครจะยอมเสียมันไปได้ละครับ


“ กันต์... “


มันเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างประหม่าเล็กน้อยในแววตา  พร้อมกับชะงักมือที่กำลังทาเบตาดีนให้ผมลง


“ เราไม่เชื่อสิ่งที่พี่พูดจริงๆ น่ะเหรอ “


มันไม่ได้ตอบอะไรครับ  หากแต่ก้มหน้าลงไปบรรจงทาแผลที่โคนนิ้วให้ผมต่อ

“ พี่รู้ว่ามันคงจะเชื่อได้ยาก  วันนี้พี่ถึงได้พาไปพบฮานะเพื่อที่จะให้มาช่วยยืนยัน  แต่ก็ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี  แล้วพี่ควรต้องทำยังไง...  เราถึงจะเชื่อพี่ได้... “



“ พี่กิจ...  ผมถามพี่จริงๆ นะ “

มันว่ามาขณะที่กำลังแกะพลาสเตอร์ออก  ก่อนจะเปรยตาขึ้นมามองผมเพื่อถามอย่างจริงจัง

“ มันสำคัญด้วยเหรอ... ว่าผมจะเข้าใจยังไง... “




“ สำคัญสิ...  เพราะพี่เห็นเราเป็นคนสำคัญไง...  ดังนั้นความรู้สึกของเรา.... มันเลยสำคัญกับพี่เสมอ.. “


“ ....... “


“ โอ้ย!! “



จู่ๆ มันก็บีบนิ้วผมที่พันพลาสเตอร์เอาไว้ครับ

“ เจ็บนะ...  เบาๆ กับพี่หน่อยสิ “

แล้วผมก็ทำเป็นแกล้งมองมันเคืองๆ


“ ครั้งนี้ผมจะเชื่อพี่สักครั้งก็ได้... “


มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ว่ามาครับ  แต่จากที่ดูแล้ว  ผมว่าตอนนี้มันดูเหมือนจะเชื่อผมแล้วล่ะครับ  จากนั้นมันก็ปิดกล่องปฐมพยาบาลและเตรียมเอาไปเก็บ

“ แต่...  ผมขอถามพี่อีกสักอย่าง... จะได้มั้ย “

“ ได้สิ “



“ พี่กิจ... พี่...  ชอบพี่ฮานะรึเปล่า... “


ผมหลับตาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ  ก่อนจะลืมตามองคนตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ



“ ไม่เลยสักนิด... “




........................................



เช้าวันต่อมา

เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นกว่าหลายๆ วันที่ผ่านมาเลยครับ  ถึงแม้ว่าปัญหาระหว่างเราจะยังคงเคลียร์ไม่หมดทุกเรื่องก็ตาม  แต่ผมเชื่อว่า... จากนี้ไป  อะไรๆ ระหว่างเรามันก็คงจะค่อยๆ ดีขึ้นมาอย่างแน่นอน

ผมมาออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนเช่นทุกที  และกำลังรอให้กันต์มันออกมาจากห้องอย่างใจจดใจจ่อ  เพราะหลายวันแล้วครับที่มันไม่ได้มาออกกำลังกายตอนเช้ากับผม

แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่ออกมาสักที  กระทั่งผมออกกำลังกายเสร็จนั่นแหละ  จึงเห็นมันงัวเงียเปิดประตูห้องออกมา

ไม่เป็นไรครับ...  อย่างน้อยก็ยังดีกว่าการที่มันออกห้องมาในสภาพที่พร้อมจะไปเรียนแล้วเหมือนเช่นหลายวันที่ผ่านมา

“ ทำมื้อเช้าเผื่อพี่ให้ด้วยน้า.... “

ผมบอกไปเสียงใส  พร้อมกับเดินตามหลังมันเข้าไปในครัว  มันหันมามองผมตาปรือก่อนจะพยักหน้ารับเล็กๆ  แล้วเปิดเอาน้ำในตู้เย็นออกมาเทใส่แก้วดื่ม

ระหว่างที่มันกำลังเลือกของออกมาจากตู้เย็นอยู่นั้น  ผมก็เดินเข้าไปเตรียมชงกาแฟใกล้ๆ มันครับ

“ กาแฟมั้ย..  เดี๋ยวพี่ชงให้ “

มันส่ายหน้าส่งมาให้  ผมเลยได้แต่พยักหน้ารับไปเล็กๆ

“ เช้านี้ให้พี่ไปส่งนะ “

“ แต่ผมบอกไอ้ธันไปแล้วอะ  ว่าจะไปกับมัน “

“ ก็โทรไปบอกดิ  ว่าพี่จะไปส่ง “

เหมือนมันจะลังเลคิดอยู่เล็กน้อย  แต่สุดท้ายมันก็ยอมพยักหน้าตอบตกลง  ซึ่งผมก็ถึงกับยิ้มแป้นออกมาแทบจะในทันที

“ พี่ไม่ไปอาบน้ำแต่งตัวอะ  จะมายืนโชว์หุ่นแบบนี้ทำไม “

“ ก็..  พี่จะกินกาแฟก่อนอะ...  ทำไม..  ไม่ชอบเหรอ... “

ผมละมือออกจากแก้วกาแฟที่พึ่งจะชงเสร็จ  แล้วหันมาพูดยั่วมันครับ  ไม่ใช่แค่น้ำเสียงนะ  แต่สายตาที่มองไปยังคนตรงหน้ากลับยั่วยวนอย่างที่ผมไม่ได้ทำกับใครมานานแล้ว  ซึ่งมันก็ถึงกลับหน้าเหวอและรู้สึกได้ถึงความหวั่นไหวในแววตาที่มองตอบกลับมา

จะหาว่าผมแกล้งมันก็ได้นะครับ  แต่ในใจลึกๆ แล้ว  ผมก็อยากจะทำแบบนี้จริงๆ นั่นแหละ

“ บ้า...  คะใครจะชอบ...  ไปไกลๆ เลยพี่กิจ “

มันพูดจบก็เอามือมาดันตัวผมออก  พร้อมกับเบี่ยงหน้าหลบไปในทันที  ซึ่งผมก็รีบคว้ามือที่มาสัมผัสกับแผ่นอกหนาของผมไว้และปล่อยให้มันค้างอยู่อย่างนั้น..  ก่อนจะลากมือมันลงมายังบริเวณหน้าท้อง 

คือ.. อยากจะแกล้งมันอะครับ  หมันเขี้ยว...  ไม่ได้แกล้งมันซะตั้งนาน

มันหันกลับมามองผมด้วยสายตาประหม่า  หน้าตาเหวอๆ ของมัน  ดูยังไงก็ยังคงน่ารักไม่เคยเปลี่ยน  คนอะไรน่ารักเป็นบ้าเลยครับ...

ตอนนี้ผมกับมันมองตากันราวกับต้องมนต์สะกด  และไม่รู้ว่ามือมันที่วางอยู่บนตัวเลื่อนๆ ของผมจากเหงื่อที่ยังไม่แห้งสนิท  มันได้ลื่นไหลลงไปด้านล่างตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้  ซึ่งมารู้สึกตัวอีกทีก็...


“ เห้ย!!! “


กันต์มันอุทานลั่นพร้อมกับชักมือกลับไปในทันที  หน้ามันแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  แต่ผมนี่สิ...

อายเป็นบ้าเลยครับ...

ความวาบหวามจากเรียวมือบางที่ไล้ลงผ่านหน้าท้องไปยังกางเกงบาสตัวบาง  ที่ตอนนี้บูดโบนขึ้นมาเป็นลำตระหง่าน  โดยที่ผมไม่ทันจะรู้สึกตัวเลย  ขณะที่กำลังจ้องตากับมันอยู่


“ พี่กิจ....  โครตหื่นอะ..  ไปไกลๆ เลย “


อายสิครับ  แถมมันก็ยังแข็งอย่างไม่ยอมจะสงบลงมาง่ายๆ เลยด้วย 

ผมเอามือลูบท้ายทอยตัวเองป้อยๆ  ก่อนจะยิ้มแหยๆ  แล้วรีบเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป...



และ....


จัดการกับตัวเองให้สงบลง.....


เพียงแต่... 

ภายใต้ความคิดหมกมุ่นวาบหวามมากมาย  ทว่าปลายทางของความคิดนั้นกลับเป็นใบหน้าและรอยยิ้มเย้ายวนของกันต์มัน   พร้อมกับจินตนาการที่มือเรียวบางนั้นสัมผัสไปบนเรือนร่างของผมเหมือนเมื่อสักครู่อย่างไม่ทันที่จะรู้ตัว  ความเคลิบเคลิ้มที่เกิดขึ้นนี้  มันทำให้ภายในหัวของผมว่างเปล่า  จนกระทั่ง...


“ อ๊ะ!  อาห์….! “


นี่ผม... 

มาถึงจุดนี้...  ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย....




TBC.



---------------------------------------------------

อย่างแรกเลย...  คือจริงๆแล้ว  ตอนแรกผมคิดว่าอาจจะไม่ได้ลงแล้วล่ะครับ
ไม่ใช่ไม่เขียนต่อนะครับ  เพราะผมก็ยังคงเขียนต่อไปเรื่อยๆ (ซึ่งตอนนี้ผมเขียน CH-41เกือบจบแล้ว)  แต่เพราะคิดว่าอยากจะลงแบบรวดเดียวให้จบไปเลย
ซึ่งแน่นอนว่า...ในภาคแรกที่น่าจะมีประมาณ 60 ตอนบวกลบนิดหน่อย  ดังนั้นมันไม่มีทางเสร็จทันใน 2 เดือนก่อนที่จะถูกทางเล้าลบกระทู้ตามกฎแน่นอน
ส่วนสาเหตุที่ผมอยากจะลงแบบรวดเดียวทั้งหมดเลย...  เพราะผมไม่อยากให้ความสนุกของนิยายเรื่องนี้มันเสียไป
เคยเป็นมั้ยครับเวลาที่เราไม่ชอบดาราคนไหน  เราก็ไม่อยากจะดูละครที่เขาเล่น..  นี่ก็เหมือนกันครับ...  เพราะดราม่าสุดท้ายของภาคนี้มันยังอีกยาวเลย  และถ้าผมยังทยอยลงไปแบบนี้  ภาพลักษณ์และความเชื่อถือในตัวละครหลักมันจะหมดไป  แล้วทำให้นิยายไม่มีความน่าติดตามอีกต่อไป...
ข้อผิดพลาดในเชิงการเขียน  ผมพร้อมที่จะแก้ไขเสมอ 
แต่สิ่งที่ผมไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้เลยก็คือ เนื้อหาและโครงเรื่องที่ผมวางไว้  เพราะถ้าผมเปลี่ยนมันไปตามกระแส...  มันก็คงจะไม่ใช่นิยายที่ผมตั้งใจจะเขียน....
จนถึงตอนล่าสุดที่ผมเขียนไว้แล้ว  ผมก็ยังคงเดินตามความคิดและเนื้อเรื่องเดิมไม่เปลี่ยนแปลง...
ยังไงก็ขอโทษที่ทำให้หลายๆคนรู้สึกผิดหวังนะครับ...
ลองดูอีกสักครั้ง  ถ้ามันไม่เวิร์คยังไง  ค่อยลองกลับมาคิดใหม่อีกครั้ง  แต่ยังไงผมก็จะเขียนมันต่อไปนะครับ  ถึงมันจะไม่สนุกแล้วก็ตาม  แต่มันก็เป็นความตั้งใจของผม  ก็แค่อยากทำให้มันสำเร็จ...  ก็แค่นั้นอะครับ
 :pig4: :pig4: :pig4:
^_______________________________________________^

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-05-2018 21:31:51
 :pig4: :pig4: :pig4:

นังชะนีฮานะ  นี่เจ๋อแจ๋นโนะ  ไม่รู้จักใครเลยแต่ยังสะเออะมานั่งด้วยอีก 



หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 17-05-2018 22:24:57
พี่กิจหื่นจริงจังมาก เหมือนคนเขียนป่าว คนเขียนหื่นก็เลยเอาพระเอกหื่อ. (เค้าล้อเล่นนนนะ) อย่าโกดเค้านะคนเขียน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-05-2018 22:28:22
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 17-05-2018 23:48:43
อยากให้ฮานะและเพื่อน2ตัวร้อยเจอรุ่นพี่ผู้หญิงที่แรงๆแล้วตบแทนไปเลยหน้าด้านไม่พอพยายามถ่างให้ผู้แต่ผู้ก็ไม่คือแบบไม่โดนสวนนี่ไม่ถึงกับว่าชีเป็นบอสนะถ้าบอสกระจอกขนาดนี้อย่าเป็นเลยค่ะ
นักล่าบอสตามดันผิดหวังมาก  :beat:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-05-2018 00:05:10
เป็นกำลังใจให้คุณหมีขาว  ขอแค่มาอัพลงให้เราได้อ่าน เราก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ   :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-05-2018 02:04:53
อีพี่แสดงออกว่าไม่สนนังวอกขนาดนี้แล้ว นังวอกยังไม่รู้ตัว แสดงว่าสมองฝ่อไปแล้ว ควรไปหาหมอได้แล้วนะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 18-05-2018 10:49:49
ตายแล้ววววววว พี่กิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-05-2018 11:47:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: nutii2541 ที่ 20-05-2018 23:17:50
รอ  :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 22-05-2018 16:31:59
Chapter 41




กิจ’s  Part




ที่ตึกภาควิชาอุตสาหการ  คณะวิศวกรรมศาสตร์

ผมกำลังเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเข้ามาในห้องเรียน  หลังจากที่แวะส่งกันต์มันเข้าเรียนไปเรียบร้อยแล้ว  ผมเดินเข้ามานั่งยังบริเวณหลังห้องอันเป็นที่ประจำของกลุ่มผม  ซึ่งตอนนี้ก็มากันครบทีมแล้ว

“ เป็นไรมึง  วันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะ “

ไอ้บิวที่นั่งข้างๆ ผมปิดชีทเรียนที่มันกำลังอ่านอยู่  พร้อมกับหันหน้ามาถามผมทันที  เมื่อเห็นท่าทีของผมในตอนนี้  ซึ่งต่างไปจากหลายๆ วันที่ผ่านมา

“ เปล๊า... “

ผมตอบไปพร้อมกับเลิกคิ้วส่งให้ด้วย  จนมันถึงกับทำหน้าแหยงๆ สวนกลับมาทันที

“ เสียงสูงก็เป็นด้วยเหรอวะมึงอะ..  ห๊ะไอ้กิจ... “

ไอ้พีที่นั่งข้างหน้าไอ้บิวหันหลังกลับมาถาม  จากนั้นพวกมันทั้งสามตัวต่างก็พากันจ้องหน้าผมอย่างสงสัย  พร้อมกับสายตาที่คาดคั้นส่งมาให้

ผมได้แต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะคว้าเอาการ์ตูนเล่มใหม่ที่อยู่ในมือไอ้คิมมาอ่านโดยไม่ได้ขออนุญาต  พร้อมทั้งผิวปากเล่นไปด้วย  ซึ่งไอ้คิมมันก็โวยวายด่าผมขึ้นมาทันที  แต่ผมสนใจที่ไหนล่ะครับ

ว่าแต่...  วันนี้ผมดูอารมณ์ดีจนออกนอกหน้าขนาดนี้เชียวเหรอ…

“ เออมึงไอ้กิจ...  น้องฮานะที่มึงให้กูไปส่งเมื่อวานนี้อะ  ไม่ธรรมดาเลยนะเว้ย “

จู่ๆ ไอ้บิวก็พูดขึ้นมาครับ  ซึ่งเรื่องนี้ผมเองก็พอจะรู้อยู่แล้วล่ะ

“ อืม... “

ผมขานรับในลำคอไปแค่นั้น  ก่อนจะพลิกการ์ตูนไปหน้าต่อไปอย่างไม่ได้สนใจ

“ ทำไมวะไอ้บิว “

ไอ้พีถามต่อ

“ ก็เมื่อคืนตอนที่กูไปส่งน้องเขาน่ะ  แม่งสารพัดจะอ่อยกูเลย  นี่กูเห็นว่าคั่วอยู่กับไอ้กิจนะเว้ย  กูถึงได้ไม่อะไร “

“ เดี๋ยวนะ..  เกี่ยวอะไรกับกู  กูบอกแล้วไงว่าคนนี้กูไม่ยุ่ง  ไอ้คิมโน่น.... แม่งเสือกมายัดเยียดให้กับกู “

ผมรีบแก้ต่างไปครับ  ย้ำพวกมันบ่อยๆ จะได้ชัดเจนกันไปสักที

“ ถ้ามึงไม่เอา...  นั้นกูขอสานต่อนะ “

แล้วเสียงไอ้คนที่ชักนำเธอคนนั้นเข้ามาก็พูดสวนขึ้น  นี่คุณมึงยังคบกับเพื่อนเขาอยู่นะเว้ย  ไอ้คิม...ไอ้เลว

“ แล้วแต่มึงเหอะ...  แต่นี่มึงยังคบกับลูกพีชอยู่ไม่ใช่เหรอวะ  ระวังจะไปทำให้เพื่อนเขาแตกคอกันเองนะเว้ย “

“ เออ...กูรู้น่า...  กับลูกพีชเดี๋ยวกูก็จะเลิกแล้วเนี่ย... ไม่เกินสัปดาห์นี้หรอก “

“ ไอ้เลว!!! “

แล้วพวกผม 3 คนก็ด่ามันขึ้นพร้อมกันทันที  มีอย่างที่ไหนละครับ  เลิกกับคนนึงแล้วไปคบกับอีกคนนึงที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน  แถมยังในเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้อีก...

“ เดี๋ยวก่อน...!!!!  ไอ้พีกับไอ้บิวอะด่ากูได้  แต่มึงไอ้กิจ..  ช่างกล้านะ... เมื่อก่อนมึงอะยิ่งกว่ากูอีก  สัด!! “

“ กูเลิกแล้ว!!! เดี๋ยวนี้กูเป็นคนดีตามหารักแท้แล้วเว้ย “

“ เหรอ... “

สัดคิม...  อย่ามาทำสายตาและน้ำเสียงแบบนี้นะเว้ย

“ ถ้างั้น..  เกียร์ที่มึงเก็บไว้...?  ก็ใกล้จะมีเจ้าของแล้วดิ “

ไอ้บิวถามขึ้นมาครับ...  ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป  ได้แต่ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากขึ้นมาก็เท่านั้น

“ เออ.. ส่วนเรื่องฮานะ  มึงจะยังไงก็ช่าง  แต่อย่าให้มาวุ่นวายอะไรกับกูอีกนะ “

ผมชี้หน้าไอ้คิมย้ำมันไปอีกรอบครับ

“ เออ...กูรู้แล้ว...  ที่กูช่วยดันก็เพราะลูกพีชเขาขอให้กูช่วยเพื่อนเขาก็แค่นั้น  แล้วกูก็เห็นว่าช่วงนี้มึงจืดไปหน่อย  กูก็เลยอยากหาผู้หญิงมาให้  แต่ถ้ามึงไม่ชอบ... กูก็จะไม่ยุ่งแล้ว “

ดีมาก....  ผมจะได้สบายตัวสักที  บอกตรงๆ นะ  ถ้าผมไม่ชอบใคร  ผมจะรำคาญมากกับคนที่มาตามตื๊อผมไม่เลิกแบบนี้


.......................


ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา  นอกจากไอ้บิวแล้ว  กลุ่มผมก็ไม่มีใครที่จะสนใจฟังอาจารย์พูดเลยสักคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นไอ้พีที่นั่งเท้าคางสัปหงก  ไอ้คิมที่เลื่อนดูภาพสาวๆ ในเพจอะไรของมันไปเรื่อย  ส่วนผมเองก็กำลังอ่านการ์ตูนที่แย่งจากไอ้คิมมาเมื่อเช้าจนเกือบจะจบแล้วในตอนนี้  แต่ถึงจะเห็นอย่างนี้นะครับ  สุดท้ายพวกผมก็เอาตัวกันรอดทุกคนอยู่ดีนั่นแหละ  แม้ว่าบางคนอย่างไอ้พีกับไอ้คิมจะต้องหัวฟูทุกครั้งเวลาที่สอบก็ตาม

“ เชร็ดดดด...  ไอ้กิจมึงดูนี่ “

ไอ้คิมมันอุทานขึ้นมาเบาๆ  เพราะไม่อยากจะโดนอาจารย์ดุ  ก่อนจะหันหลังมาหาผมพร้อมกับเอาโทรศัพท์ยื่นมาให้  ผมรับมาก่อนจะปรายตามองไปอย่างเบื่อๆ  เพราะรู้ว่ามันคงจะเอารูปสาวๆ น่ารักๆ ที่ไหนสักคนมาให้ดูอีกเหมือนเคย 

แต่ทว่า...  คราวนี้มันไม่ใช่

ผมเบิกตาโพรงขึ้นมาทันที  เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า  เป็นภาพของกันต์ที่กำลังฟุบหลับอยู่ในร้านกาแฟ  โดยที่ข้างๆ มีไอ้น้องธันกำลังนั่งจ้องมันตาเยิ้มอยู่  พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า  “ คู่จิ้นคู่ใหม่... “

ผมเลื่อนดูภาพต่อไปเรื่อยๆ อีกเกือบ 10 ภาพ  ซึ่งก็เป็นภาพที่สองคนนั้นอยู่ด้วยกันทั้งในร้านกาแฟ  และที่สนามบาสเมื่อวานนี้  แต่จากหลายๆ ภาพที่เห็นไอ้น้องธันมันมองกันต์แล้ว  บอกได้คำเดียวเลยละครับว่า  ไอ้น้องธันมันต้องชอบกันต์แน่ๆ 

ผมปิดหนังสือการ์ตูนลงทันที  เพราะไม่มีอารมณ์จะอ่านต่อแล้ว  อย่างนี้ชักไม่ได้การซะแล้วล่ะครับ...

ถ้าไอ้น้องธันนั่นมันทำสำเร็จขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็...  ผมคงต้องเสียกันต์มันไปอย่างแน่นอน 

จะให้แววตา  สีหน้าและสัมผัสเหล่านั้นไปเป็นของคนอื่นได้ยังไงกัน...  ใครจะยอม.... 

นี่มันคนในปกครองของผมนะ...

ยังไงผมก็ต้องขัดขวางให้ถึงที่สุด...




.........................................





กันต์’s  Part




ที่ห้อง Lab ภาควิชาเคมี

“ เออมึงไอ้กันต์...  พี่ฮานะนั่นน่ะ  ตกลงยังไงวะกับพี่กิจ... “

จู่ๆ ไอ้แน๊คมันก็ถามขึ้นมา  ขณะที่ผมกับไอ้เจมส์กำลังช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ทำการทดลองเมื่อสักครู่นี้อยู่

“ อะไรยังไง...  กูไม่เข้าใจ “

“ ก็กูหมายถึงว่า  เป็นคนที่พี่เขากำลังคบอยู่ตอนนี้รึเปล่าวะ “

“ ไม่รู้ดิ  มึงก็ไปถามพี่เขาเองสิวะ “

ผมบอกไปแค่นั้น  เพราะจะว่าไป...  ลึกๆ แล้ว  ผมเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเลยกับสิ่งที่พี่เขาพูดมาเมื่อคืนนี้สักเท่าไหร่  ถ้าไม่ใช่เพราะน้ำเสียงและแววตาคู่นั้นละก็...  ผมคงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน  ถ้าเทียบกับสิ่งที่ผมได้ยินจากปากของเพื่อนพี่ฮานะที่ร้านอาหารเมื่อวานนี้..  แต่ว่า..  ผมก็อยากจะลองเชื่อใจพี่เขาดูอีกสักครั้งนะครับ 

“ ใครจะกล้าวะ  ยิ่งเป็นพี่กิจด้วยแล้ว  ก็มีแต่มึงเท่านั้นแหละที่ทำได้ “

“ อะไร...  ไอ้เจมส์นี่...  น้องรหัสพี่เขาเลย  มึงอยากได้ข้อมูลอะไรมึงก็ถามมันนี่..  ไม่ใช่กู “

ผมปัดภาระไปให้ยังคนข้างๆ ครับ

“ ถึงกูจะเป็นน้องรหัส  แต่พี่เขาดูแลมึงดีกว่ากูซะอีก  อย่าให้กูต้องพูดนะ... “

ดูแลดีตรงไหน  ใครจะรู้ละครับว่าเบื้องหลังผมกับพี่เขาทะเลาะกันมาตั้งกี่ครั้ง

“ ใช่...  มึงอะไปสืบมาเลยไอ้กันต์  ว่าตกลงมันยังไงกันแน่  เพราะกูอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วเกียร์ทองมันจะเป็นของใคร “

แล้วไอ้แน๊คมันก็มอบหมายงานที่ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันมาให้  เพียงแต่... ผมคงจะไม่ทำตามมันหรอกครับ...  ว่าแต่...  เมื่อกี้มันพูดเรื่องอะไรนะ...  เกียร์ทองอะไร...?

“ เดี๋ยวนะมึงไอ้แน๊ค  อะไรคือเกียร์ทองวะ “

“ เอ๊า..  นี่มึงอยู่กับพี่เขาประสาอะไร  ถึงไม่รู้เรื่องสำคัญแบบนี้ “

“ คืออะไร..  กูไม่เข้าใจ “

ผมพูดจบทั้งไอ้เจมส์และไอ้เรย์ต่างก็เสนอหน้าอยากรู้อยากเห็นเข้าเหมือนกัน  ซึ่งนั่นก็แปลว่าคงจะไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวแล้วละครับที่ยังไม่รู้

“ ก็เกียร์ทองไง  นี่พวกมึงไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าของคณะเรารึไงวะ “

มันพูดจบพวกผมทั้งสามคนต่างก็พากันส่ายหน้าขึ้นมาพร้อมกันทันที

“ ก็...  อย่าที่พวกมึงรู้กันไง  ว่าสัญลักษณ์แทนใจของพวกเราชาววิศวะก็คือเกียร์  ซึ่งพวกเรามักจะเอาไปให้กับสาวที่เราชอบ  แต่ว่า...  ตั้งแต่ที่มีพี่กิจเข้ามาเรียนที่นี่อะ  ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าใครกันที่จะได้เป็นเจ้าของเกียร์ของพี่เขา  ซึ่งจนถึงทุกวันนี้  ก็ยังไม่มีใครเลยที่ได้..  แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ  มันมีเรื่องเล่ากันว่า...  พี่กิจอะสั่งทำเกียร์ขึ้นมาเองเป็นพิเศษ  ไม่ใช่เกียร์ทองเหลืองอย่างที่พวกเราจะได้กันหรอกนะ...  แต่เป็นทอง  กูหมายถึงทองคำจริงๆ นะเว้ย...  แต่ก็ยังไม่เคยมีใครได้เห็นหรอกนะ  มันเลยเป็นแค่เรื่องเล่าที่มีมูลความจริงมาจากคนวงในอะ “

กูว่ามึงเหมาะที่จะไปเป็นนักข่าวมากกว่าวิศวกรนะไอ้แน๊ค...  แม่งรู้ซะทุกเรื่องเลย...  แต่จะว่าไป  เรื่องนี้ผมเองก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะครับ  มันจะมีจริงอย่างที่ว่ามาเหรอ  หรือบางที... อาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าจริงๆ ก็ได้ 

“ เชร็ดดดด  เท่ห์ว่ะพี่กิจกู “

ไอ้เรย์มันว่ามาตาเป็นประกายครับ  เพราะถึงไงสำหรับมันแล้ว  พี่กิจก็ยังคงเป็นไอดอลของมันอยู่ดีนั่นแหละ  ถึงมันจะชอบบ่นถึงความโหดของพี่กิจตอนอยู่ที่ชมรมให้พวกผมฟังอยู่บ่อยๆ ก็เถอะ 

“ ข่าวลือรึเปล่าก็ไม่รู้... “

ผมพูดออกไปอย่างเซ็งๆ ครับ  เพราะถึงไงผมก็คงจะไม่มีสิทธิ์ได้ใส่ของแบบนั้นหรอก  ถ้ามันจะมีอยู่จริง...  อย่างนั้นแล้ว...  สู้ให้มันไม่มีจริงเลยซะยังจะดีกว่า  หากต้องเห็นใครได้มันไป  ผมคงจะรู้สึกแย่น่าดู

“ แต่ก็ไม่แน่นะ  เพราะกูเหมือนเคยจะได้ยินพี่เอ็กซ์พูดมาผ่านๆ อยู่เหมือนกัน “ 

ไอ้เจมส์เสริมขึ้นมาบ้าง...

“ แต่กูว่านะ...  พี่ฮานะแม่ง..  ไม่เหมาะกับพี่กิจเลยว่ะ  ถึงจะสวยก็เถอะ  แต่ทัศนะคติพี่แกแม่งแย่ว่ะ  อย่างตอนที่พี่เขาแขวะมึงเมื่อวานนี้ไง “ 

ไอ้แน๊คพูดจบ  คนอื่นๆ ก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยตาม



…………………….



4 โมงเย็น

“ เดี๋ยวมึงไปไหนต่อวะ “

ไอ้เรย์มันถามผมขึ้นมาขณะที่เรากำลังเก็บของใส่กระเป๋าหลังเลิกเรียนครับ

“ กลับห้อง  ไม่รู้จะไปไหนว่ะ  เดี๋ยวไปนั่งรอไอ้ธันมันที่ใต้ตึกอะ  มันไลน์มาบอกว่าใกล้เลิกละ  จะได้กลับพร้อมกัน “

ผมตอบไปเพราะวันนี้ไม่มีซ้อมที่ชมรมครับ  เบื่อๆ ด้วยแหละ  กลับห้องเลยดีกว่า  ส่วนไอ้เรย์มันต้องไปซ้อมบาสต่อ  ไม่รู้ชมรมนี้มันจะขยันซ้อมอะไรกันนักหนา  แต่ถึงมันจะซ้อมหนัก  เดี๋ยวนี้แม่งก็ไม่บ่นแล้วล่ะครับ  ก็เล่นมีแพรไปนั่งให้กำลังใจอยู่ข้างสนามทุกวันเลยแบบนี้...

เห้อ...  อิจฉาคนมีแฟนจัง...  พอมองดูตัวเองแล้ว....  ก็ได้แต่ถอนหายใจครับ  รักแรกแท้ๆ...  ยังลืมไม่ได้เลยเนี่ย...

“ ไปดูหนังกับพวกกูมั้ย “

ไอ้เจมส์ชวนมาครับ  แต่ผมก็ปฏิเสธไป  ไม่ค่อยมีอารมณ์บันเทิงสักเท่าไหร่เลยครับช่วงนี้  กลับห้องอะดีที่สุดแล้วผมว่า



หลังจากที่แยกกับทุกคนแล้ว  ผมก็มานั่งเล่นโทรศัพท์รอไอ้ธันที่ม้านั่งยาวใต้ตึกครับ  ไม่นานก็เห็นมันเดินหล่อมาแต่ไกลพร้อมกับแพร 

“ รอนานมั้ย “  มันทักขึ้น

“ ไม่อะ.. “

“ นั้นเดี่ยวเราไปหาเรย์ก่อนนะ  ไว้เจอกันนะทั้งสองคน “

พอแพรแยกตัวไป  ผมก็เตรียมจะลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อเตรียมตัวกลับครับ  แต่พอมองไปรอบๆ แล้ว  ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือว่ามันผิดปกติจริงๆ ที่เห็นหลายๆ คนจับจ้องมาที่พวกเรามากกว่าปกติ  แถมบางคนยังเหมือนจะซุบซิบอะไรกันอีกด้วย


“ แฮ่ม!!! “


แล้วจู่ๆ เสียงกระแอมที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง   

ไอ้ธันยกมือไหว้พี่กิจ  ซึ่งพี่เขาก็รับไว้ด้วยสีหน้าแปลกๆ  ก่อนจะพูดขึ้นกับผม

“ เลิกแล้วใช่มั้ย “

“ เอ่อ..  เลิกแล้วครับ  ทำไมเหรอพี่ “

ผมทำหน้างงถามกลับไป  เพราะปกติก็ไม่เคยเห็นจะมาถามอะไรแบบนี้เลย

“ นั้นปะ “

“ ไปไหน... “

“ ธุระ.... “

“ ธุระอะไร  ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย  แล้วพี่ไม่ต้องไปซ้อมบาสเหรอ “

พี่กิจถือวิสาสะเดินมาจับมือผมและกำลังจะลากไปครับ  แต่ผมรั้งเอาไว้ก่อน

“ ก็มีธุระไง...  ไม่ซ้อม...  แล้วเราก็ต้องไปกับพี่ด้วย “

“ เห้ย...อะไร...  ผมกำลังจะกลับห้องกับไอ้ธันมันอยู่เนี่ย “

“ กลับกับพี่...  จะไปรบกวนคนอื่นเขาทำไม...  ส่วนน้อง...กลับไปก่อนได้เลยนะ “

แล้วพี่กิจก็ไม่ฟังอะไรอีก  เดินลากผมออกไปทันที  ทิ้งให้ไอ้ธันได้แต่ยืนทำหน้างงอยู่ตรงนั้น


...............


ภายในรถ

“ ธุระอะไรอะพี่  ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย  แล้วทำไมผมถึงต้องไปด้วยล่ะ “

ผมเริ่มโวยวายขึ้นมาครับ  พี่กิจเลยเหลือบตามามองผมเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก  ก่อนจะตอบมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“ ก็ไปกินข้าวเย็นไง... “

“ อ้าวเห้ย!! “

สายไปแล้วล่ะครับกว่าที่จะรู้ว่าถูกหลอก...  เมื่อพี่กิจเหยียบคันเร่งออกรถไปแล้วในตอนนี้...

นี่มันแกล้งกันชัดๆ เลยนี่หว่า....  ไอ้พี่บ้า!!!!



......................



มื้อนี้พี่กิจพามาร้านอาหารหรูบนตึกสูงครับ  และดูเหมือนว่าพี่เขาจะจองโต๊ะเอาไว้แล้วด้วย  เมื่อบริกรเดินนำเราไปยังโต๊ะตรงริมระเบียงสำหรับสองที่กับวิวดีๆ ที่มองออกไปได้กว้างเกินกว่า 180 องศา

ท่ามกลางผู้คนที่ดูท่าทางจะมีฐานะจากการแต่งตัวที่ดูภูมิฐาน  คงจะมีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นแหละครับที่ใส่ชุดนักศึกษาธรรมดาๆ  ไม่สิ...  อีพี่กิจหนักกว่าผมอีก  เพราะใส่แค่เสื้อยืดพอดีตัวสีดำกับกางเกงยีนส์เพียงเท่านั้น (เพราะถอดช็อปออกไปพาดไว้ที่เบาะรถ)

พี่กิจสั่งอาหารนู่นนี่นั่นอย่างชำชาญผิดกับผมที่ดูจะเกร็งๆ กับร้านอาหารหรูๆ แบบนี้  ซึ่งหลังจากที่บริกรออกไปพร้อมกับเมนูแล้ว  ผมก็เอ่ยถามกับพี่กิจที่กำลังนั่งมองไปไกลๆ ยังวิวด้านข้างขึ้นมาทันที

“ ทำไมพี่ต้องลากผมมาด้วยล่ะ...  อีกอย่าง...จะมาร้านหรูๆ แบบนี้  ทำไมไม่บอกกันก่อน “

“ ก็พี่ต้องมาดูงานให้พ่อ  แต่นี่แวะมากินข้าวกันก่อนไง “

“ งานไรอะ  ทำไมต้องมาถึงที่นี่ด้วย “

“ ก็โรงแรมที่อยู่ด้านล่างนี่ไง  แต่พี่อยากพาเรามาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง  เลยพามากินที่ร้านด้านบนนี้ดีกว่า “

“ จริงๆ ไม่ต้องสิ้นเปลืองก็ได้...  ผมอะกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว “

“ ก็รู้....  แต่นานๆ ทีพี่ก็อยากให้เราได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไง  ไม่ชอบเหรอ...  แล้วอีกอย่าง  ช่วงนี้เราสองคนก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเลยนะ... “


เห้อ...  เห็นสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้ของพี่เขาแล้ว...  แบบนี้เมื่อไหร่ผมถึงจะตัดใจได้ละเนี่ย  ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมถึงได้มีแต่คนมาชอบ  เพราะถึงแม้ว่าพี่เขาจะไม่ได้รวยล้นฟ้าขนาดนี้  แต่ด้วยหน้าตา  บุคลิกภาพและการดูแลเอาใจใส่  มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้คนมาหลงใหลได้ง่ายๆ แบบนี้


“ ทำไมยังต้องมาทำดีกับผมอีกล่ะ  ทั้งๆ ที่พี่ก็รู้ว่าผม.... คิดยังไง “

“ แล้วไง...  ไม่ชอบเหรอที่พี่ทำดีด้วย...  หรือเราชอบแบบซาดิสต์... ห๊ะ... “

ทำหน้าอย่างนี้ถามมา  มันหมายความว่าไงห๊ะ  ไอ้...  ไอ้หื่น  ไอ้บ้ากาม ไอ้...

“ โรคจิต  ใครจะไปคิดอะไรแบบนั้น “

“ นี่ๆ  รู้เหรอว่าพี่หมายถึงเรื่องอะไร  ใครกันแน่ที่หมกมุ่น “

“ ...  ชิส์ “

อยากจะด่านะครับเมื่อเห็นท่าทียั่วโมโหและสีหน้ากวนบาทาของพี่เขาในตอนนี้  แต่ก็ด่าไม่ออก  คือไม่รู้จะด่าอะไรดี

อาหารน่ากินถูกทยอยเสริฟมาทีละอย่าง  พร้อมกับไวน์ที่ผมพึ่งจะลองกินเป็นครั้งแรก  ซึ่งรสชาติมันก็แปลกๆ ดีนะครับ  แต่พอกินไปเรื่อยๆ มันก็...  เริ่มอร่อยดีแฮะ....

“ แล้วนี่พี่กิจต้องทำงานอะไรให้ที่บ้านบ้างอะ “

“ จริงๆ ก็เกือบทุกอย่างนั่นแหละ  ต้องเข้าใจระบบงาน  ต้องเริ่มสร้างความน่าเชื่อถือของตัวเองให้กับองกร  และอีกหลายอย่าง  ทำไงได้ล่ะ...ก็มันไม่มีทางเลือกนี่  แต่เราเองก็โตแล้วด้วย...  20 กว่าแล้ว  ถึงเวลาต้องเริ่มปรับตัวเข้าสู่วัยทำงานได้แล้วล่ะ  แถมธุรกิจที่บ้านก็มีตั้งเยอะ ถ้าไม่เริ่มซะตั้งแต่ตอนนี้  ต่อไปมันก็จะลำบาก “

“ เหนื่อยแย่เลยดิแบบนี้  แค่เรื่องเรียนก็หนักมากพอแล้ว “

“ ก็ใช่นะ..  แต่พี่เก่งไง  แค่นี้จิ๊บๆ “

“ แหวะ... คนอะไรชมตัวเองก็เป็น “

“ ก็ถ้าพี่ไม่ชมตัวเองแล้ว...เราจะชมพี่รึไง “

อย่ามาทำตาเยิ้มใส่ผมนะ  ผมไม่ใช่สาวๆ ของพี่สักหน่อย

“ บ้าดิ  ไม่มีทาง “

พูดจบผมก็เสหันไปมองยังนอกระเบียงทันที  ทำตัวไม่ถูกเลยครับเวลาเจอสายตาแบบนี้ของพี่เขา

“ เอ๊า...  นี่เรา... ไม่ชอบพี่แล้วเหรอ “

“ แคกๆ!! “

ผมถึงกับสำลักขึ้นมาทันที  ก่อนจะหันกลับมามองยังคนตรงหน้า

“ อะไรของพี่เนี่ย...  อย่ามาแกล้งผมอย่างนี้นะ  ผมไม่ชอบ... “

ก็รู้อยู่ว่าผมรู้สึกยังไง  ยังจะมาพูดแบบนี้อีก  โหดร้ายเกินไปแล้ว  ไอ้คน....  บ้า....

พูดจบพี่เขาก็ยิ้มขำผมครับ  ก่อนจะจิบไวน์ตรงหน้าต่อ


บรรยากาศพลบค่ำตอนนี้มันดีมากเลยครับ  เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นกรุงเทพฯในมุมที่สูงขนาดนี้  แสงไฟที่เริ่มสว่างไสวยามราตรีในเมืองใหญ่  เมื่อมองจากมุมนี้... มันก็สวยดีเหมือนกันนะครับ...

ดูจากท่าทีของพี่กิจแล้ว...  แม้พี่เขาจะไม่ได้รับรักผมตอบกลับมาก็ตาม  แต่อย่างน้อย...  พี่เขาก็ไม่ได้รังเกียจผมเลย...  แถมดูจะเอาใจใส่และพยายามจะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันอีกครั้ง....

กลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม... 

แต่ขอเวลาผมอีกสักหน่อยนะครับ  ถ้าผมทำใจได้แล้ว... เราจะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม..



...........................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 22-05-2018 16:46:15
หลังจากมื้อค่ำ...  พวกเราก็ลงลิฟท์มายังโซนของโรงแรมที่อยู่ชั้นล่างลงไป  ซึ่งพี่กิจต้องไปคุยงานต่อครับ  ส่วนผมที่กำลังกรึ่มๆ  มึนหัวอยู่เล็กน้อยจากฤทธิ์ของไวน์ที่ดื่มเข้าไปหลายแก้ว  พี่กิจเลยให้พนักงานโรงแรมพาผมไปนอนพักในห้องพักห้องหนึ่งของโรงแรมระหว่างที่รอพี่เขาคุยงานอยู่

พอประตูห้องพักถูกปิดลง  ผมก็เดินตาปรือๆ  ผ่านห้องรับแขกเข้าไปยังห้องนอน  ก่อนจะทิ้งตัวลงไปทั้งอย่างนี้เลย

ร้อนจังแฮะ...  ว่าแล้วผมก็ปลดกระดุมก่อนจะละชายเสื้อออกมานอกกางเกงทันที 

คงเพราะมันกินง่ายและไม่รู้สึกถึงแอลกอฮอล์เหมือนเหล้า  ผมก็เลยซัดมันไปซะเยอะเลย...  สุดท้ายก็หมดสภาพแบบนี้แหละครับ...

งีบสักหน่อยดีกว่า...  เผื่อจะดีขึ้นเวลาที่พี่กิจมารับกลับ....




......................................................




กิจ’s  Part





กว่าจะเคลียร์งาน( ที่พ่อสั่งมา) เสร็จ  ก็ปาไปเกือบ 2 ชั่วโมงเลยครับ  ป่านนี้กันต์มันคงจะรอผมแย่แล้วล่ะ  แถมดูท่าว่ามันคงจะอยากกลับไปพักเต็มที่แล้วด้วย

คอก็อ่อนแท้ๆ  ยังจะกินเยอะอีก...

ผมเข้ามายังห้องพักที่เงียบกริบราวกับไม่มีใครอยู่  ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ท่ามกลางแสงสลัวจากดาวไลท์

กันต์มันกำลังหลับอยู่ครับ  แถมท่าทางจะหลับสบายเอามากๆ เลยด้วย  เพียงแต่...  สภาพมันในตอนนี้แม่ง....

ผมพิจารณาสภาพคนตรงหน้าที่นอนเผยอปากออกมาเล็กๆ และหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ  หน้ามันแดงระเรื่อหน่อยๆ ขับกับผิวขาวใสให้ดูน่ารักเกินกว่าที่ผู้ชายปกติเขาจะเป็นกัน  มันปลดกระดุมเสื้อออกมาจนหมด  เผยให้เห็นร่างขาวได้สัดส่วนที่ไม่สะโอดสะองอย่างผู้หญิง  และก็ไม่ได้กำยำเหมือนอย่างกับผม  แต่คงจะนุ่มน่าดูถ้าได้สัมผัส  เสื้อขาวถูกละชายออกมานอกกางเกงและแหวกกว้างยาวไปจนสุด  เผยให้เห็นเรือนร่างส่วนบนที่เย้ายวนอารมณ์ต่อผู้พบเห็น  ราวกับภาพถ่ายในนิตยสาร  ยอดอกสีชมพูบนอกที่ไม่ได้หนามาก  สร้างความสะดุดตาที่โดดเด่นบนผิวขาวเนียน  หน้าท้องเรียบแม้จะไม่ได้มีซิกแพคแบบผม  แต่ก็ไม่ได้มีส่วนเกินใดๆ เลยแม้แต่น้อย  ถึงจุดนี้... จู่ๆ ความพลุ่งพล่านในอารมณ์ของผมมันก็เหมือนจะประทุขึ้นมาจากการแข็งตัวของแก่นกายใหญ่จนแน่นคับกางเกง

ผมกลืนน้ำลายลงเล็กน้อยอย่างพยายามจะสะกดอารมณ์เอาไว้ให้อยู่  แต่ก็ดูจะเป็นไปได้ลำบาก  เมื่อแก่นกายร้อนของผมมันดูจะไม่ยอมสงบลงเลยแม้แต่น้อย  แต่กลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกในตอนนี้

ไม่ได้การละ  แบบนี้ผมแย่แน่....

ผมที่เริ่มใจคอไม่ดี  หายใจเข้าออกถี่และแรงขึ้นอย่างไม่สม่ำเสมอ  รีบเดินเข้าไปเขย่าตัวกันต์มันทันทีครับ  แล้วมันที่ไม่ได้เมามากมายเหมือนอย่างเช่นทุกทีที่ผ่านมา  ก็ปรือตางัวเงียขึ้นมามองผม...

เชี่ย…!!!   ตาปรือๆ หวานเยิ้มซะขนาดนี้  มันจะทำให้ผมห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วนะโว้ย...

“ เสร็จแล้วเหรอพี่ “

“ อะ..อะไรเสร็จ..???   เอ้ย...!!  เอ่อ  เสร็จแล้ว... นี่เราไหวมั้ยเนี่ย  จะกลับห้องหรือว่านอนที่นี่คืนนี้ “

ผมพูดจาตะกุกตะกัก  พยายามตั้งสติถามมันไปครับ  มันทำท่าคิดอยู่เล็กน้อยภายใต้อาการเบลอๆ ของมัน  แล้วสุดท้ายมันก็เลือกที่จะกลับไปนอนที่ห้อง  ก่อนจะค่อยๆ ประคองตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง  โดยมีผมคอยช่วยอยู่ข้างๆ....  แต่พอมันยืนขึ้นมาเท่านั้นแหละ  มันก็เซล้มลงไปบนเตียงอีกรั้งหนึ่ง  แถมยังดึงแขนผมตามลงไปด้วยอีกคน

เราล้มลงมาจนหน้าเกือบจะชิดกัน  ตอนนี้ผมกำลังคร่อมอยู่บนตัวกันต์โดยที่มือเล็กข้างหนึ่งของมันกำลังจับแขนผมไว้  ผมมองตาหวานเยิ้มที่สั่นระริกตรงหน้าอย่างประหม่าด้วยหัวใจที่เต้นแรง  ดูเหมือนผมคงจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ต่อไปไม่ได้แล้ว...


ไม่มีการไตร่ตรอง...  และก็ไม่มีเหตุผล...

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมาจากความรู้สึกข้างในของผมล้วนๆ...


ผมใช้ริมฝีปากกระจับได้รูปของผมทาบทับอย่างแผ่วเบาลงบนริมฝีปากบางของคนตรงหน้า

ทั้งๆ ที่นี่คือริมฝีปากของผู้ชายแท้ๆ...  แต่ผิดคลาดแฮะ...  กับคนตรงหน้านี้...  ผมกลับไม่รู้สึกรังเกลียดเลยแม้แต่น้อย  กลับชอบใจมากจากสัมผัสที่นุ่มนวลตรงหน้า  รู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่กำลังได้ของหวานที่โปรดปราน  กลิ่นน้ำหอมผสมกลิ่นกายเฉพาะตัวและแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้ผมถลำลึกลงไปอีก  โดยการสอดปลายลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปยังภายในปากที่เผยออยู่เล็กน้อย  เหมือนมันจะพยายามยื้อรั้งไว้ด้วยปลายลิ้นของตัวเองและสัมผัสบีบแน่นของมือเล็กที่ดึงรั้งแขนใหญ่ของผมเอาไว้  แต่สุดท้ายความเชี่ยวชาญของผมก็เอาชนะมันลงได้  ผมใช้ลิ้นร้อนเคล้าคลอชี้นำให้อีกฝ่ายคล้อยตามและเคลิบเคลิ้ม  ซึ่งก็ดูมันจะเริ่มว่าง่ายขึ้น...  จากนั้นมันก็หลับตาพริ้มราวกับพร้อมที่จะปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองให้พลุ่งพล่านออกมาตามการชี้นำของผม


สักพักหนึ่งที่ผมเคล้าคลออารมณ์ของคนตรงหน้าด้วยลิ้นร้อนภายในปาก  ก่อนจะละริมฝีปากขึ้นมาเล็กน้อย  ให้คนตรงหน้าได้แต่เผยอปากบางตามอย่างขัดใจและเว้าวอนให้กลับไปทำใหม่...  แต่สกิลผมมันเทพกว่านั้นเยอะครับ  ว่าแล้วผมก็ซุกหน้าเข้าไปที่ซอกคอ  ใช้ริมฝีปากเล้าโลมและปลายลิ้นบางเบาสัมผัสอย่างเอื่อยเฉื่อยและดุดันในบางจังหวะ  ไล้โลมไปตามซอกคอและขึ้นไปยังใบหู  ท่ามกลางการบิดส่ายไปมาของร่างเล็กกว่า  มือไวของผมก็ทำงานอย่างช่ำชองในการปลดเสื้อขาวออกและโยนมันทิ้งไปที่ไหนสักแห่ง

เมื่อไร้ซึ่งอาภรส่วนบน  ผมก็ขยับตัวไล้โลมไล่ลงมายังหน้าอกนุ่ม  ก่อนจะค่อยๆใช้ปลายลิ้นอุ่นสากตระวัดไปมาบนยอดอกสีชมพู  ในขณะที่มือนึงกำลังลูบไล้ไปตามเรือนร่างเนียนเพื่อกระตุ้นความต้องการตามสัญชาตญาณดิบให้ทวีคูณมากขึ้นไปอีก

ผมเปลี่ยนจากอกซ้ายมายังอกขวา  ในขณะที่มือหนาได้ไล่ลงมายังขอบกางเกงของคนด้านล่าง  ผมปลดตะขอและรูดซิปลง  ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแก่นกายขนาดเล็กกว่าที่กำลังชูชันดันชั้นในนุ่มให้ปูดโปนขึ้นมาจากอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า

ผมยันตัวขึ้นมาเล็กน้อย  ก่อนจะถอดเสื้อยืดของตัวเองออกไปอย่างเร่งรีบ  ราวกับไม่อยากจะปล่อยให้ร่างเล็กกว่าตรงหน้าต้องคอยนาน  และเพียงแค่ชั่วอึดใจร่างกายผมก็เหลือเพียงแค่ชั้นในสีดำยี่ห้อดังทรงบ๊อกเซอร์ที่ถูกดึงรั้งด้วยแก่นกายขนาดใหญ่ที่พร้อมสำหรับการใช้งานแล้วในตอนนี้

ผมหายใจถี่ๆ  มองหน้าและสบตากับคนด้านล่างอยู่ครู่หนึ่ง  ราวกับจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น  ซึ่งไม่รู้ว่าจากตัวของผมเองหรือว่าคนตรงหน้า  สายตาหวาดหวั่นและประหม่าที่เห็นนี้  แสดงให้รู้ถึงความเดียงสากับเรื่องพรรณนี้  และนั่นก็ยิ่งไปกระตุ้นสัญชาตญาณดิบในตัวผมให้สูงขึ้นไปกว่าเดิม  จนตอนนี้ผมแทบจะไร้ซึ่งสติยั้งคิดใดๆ ไปเสียแล้ว  จากนั้นผมก็เริ่มจู่โจมไปยังซอกคอของคนตรงหน้าต่อทันที


แต่ทว่าคราวนี้มันกลับต่างออกไป....


“ พะ..พี่กิจ “

น้ำเสียงและแขนอ่อนแรงที่กำลังพยายามเหนี่ยวรั้งขัดขืน  ทำให้ผมชะงักตัวขึ้นมาเล็กน้อย  สติที่กำลังเตลิดไปเหมือนจะค่อยๆ กลับคืนมาทีละนิด  เมื่อได้เห็นคราบน้ำตาที่เกราะอยู่บนแก้มของคนตรงหน้า

ผมใจหายวูบขึ้นมาทันที  รู้สึกผิดที่ทำให้คนตรงหน้านี้เจ็บช้ำในความรู้สึก  ตอนนี้ผมพยายามใช้สติที่มีอันน้อยนิดข่มร่างกายที่กำลังตอบสนองต่ออารมณ์เร้าอย่างถึงที่สุด

“ พอเถอะครับ... “

กันต์มันกำลังพยายามพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ....

“ เรา...  เป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ “

ประโยคเดียวกันกับที่ผมเคยเอ่ยให้ไว้ตอนที่ไปรับน้องที่ทะเล  แต่ทว่าความรู้สึกมันกลับต่างกันออกไป  กลายเป็นว่าผมเองเนี่ยแหละที่เจ็บและอึดอัดกับคำว่าพี่น้อง....

แม้ผมจะรับรู้ว่าร่างกายของเราทั้งคู่ต่างก็ยังคงตอบสนองต่อความรู้สึกวาบหวามในตอนนี้อยู่  ทว่าเรากลับต้องพยายามหักห้ามใจอย่างถึงที่สุด 

ต้องพยายามใช้เหตุผลไม่ใช่ความรู้สึก....

……

พี่น้องอย่างนั้นเหรอ...

ผมคิดกับมันแค่นี้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ...

หรือว่านี่มันจะเป็นแค่เหตุผลที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อปิดบังความรู้สึกลึกๆ ของตัวเองที่มีต่อมัน...

เป็นเพียงแค่....


เหตุผลที่จอมปลอม....



ผมหลับตาสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด  ก่อนจะผละตัวเองลงไปนอนหงายข้างๆ มัน...

ผมได้ยินเสียงมันสะอื้นเล็กน้อยอย่างพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ใครได้ยิน

ผมรู้ว่าที่มันพูดมาเมื่อกี้  คงจะเป็นความพยายามฝืนหัวใจตัวเองอย่างถึงที่สุด....  ภายใต้ความสัมพันธ์ที่ผมเคยให้ไว้ 

ทั้งๆ ที่มันเองก็ชอบผม  แต่กลับเลือกที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์ที่หลายคนพึงปรารถนา...

มันคงจะรู้สึกแย่และบอบช้ำน่าดูที่ผมทำกับมันแบบนี้  ในขณะที่เราต่างก็ยืนอยู่บนความสัมพันธ์แค่พี่น้อง  โดยที่เป็นผมเองเนี่ยแหละ  ที่ห้ามไม่ให้มันก้าวข้ามเกินไปมากกว่านี้.... 

โครตรู้สึกเกลียดตัวเองเลยครับ...

ผมขยับตัวนอนตะแคงหันมาหามัน  ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปปาดน้ำตามันออกอย่างเบามือ

“ พี่ขอโทษนะ... “

“ ไม่เป็นไรครับ...  ต่างคนก็ต่างเมานี่...  ผมเข้าใจ... “


ไม่...  ผมไม่ได้เมา...


“ กันต์... “


ผมเอ่ยเรียกคนข้างๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน  แต่หนักแน่นไปด้วยความจริงใจในคำพูด  มันหันหน้ามามองผมด้วยตาแดงๆ และประหม่า


“ พี่ไม่ได้เมานะ... “


พูดจบผมก็เอื้อมมือเข้าไปกอดกระชับคนข้างๆ ขึ้นทันที

“ พะ..พี่กิจ... “

มันพยายามจะแกะรั้งเพื่อออกจากอ้อมกอดของผมไปให้ได้  แต่ผมก็ไม่ยอม....

“ พี่ขอแค่นี้..  คืนนี้พี่ขอแค่นี้จริงๆ... “

เหมือนมันจะหยุดดิ้นลงไปเล็กน้อย

“ แค่กอดก็พอ...  ได้มั้ย.... “

มันไม่ได้ตอบอะไร  แต่ก็ยอมผงกหัวเล็กๆ ส่งมาให้เป็นคำตอบ  ผมกระชับตัวให้แน่นขึ้นอีกหน่อยตามความต้องการของหัวใจ  ก่อนจะซุกไซร้หน้าเข้าไปยังซอกคอหอม  และปล่อยมันไว้อยู่อย่างนั้น....



พี่น้องเหรอ....

ไม่ใช่...


พี่น้องที่ไหนเขาจะทำกันอย่างนี้..  จะมารู้สึกกันแบบนี้....

จะให้มาเป็นพี่น้องกันต่อไปอีกอย่างนั้นเหรอ...


ไม่....


ไม่มีทาง...




TBC.



---------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณนะครับที่ยังติดตามและให้กำลังใจนิยายเรื่องนี้อยู่  ขอบคุณจริงๆ ครับ

กิจอาจจะปลดล๊อคตัวเองชั้นแรกไปแล้ว...  แต่ฮานะไม่ได้จบง่ายๆ แบบนี้หรอกครับ...  จะเป็นไงฝากติดตามต่อนะครับ  ซึ่ง SS1 เหลือไม่ถึง 20 ตอนก็จบแล้ว...

ยังไงก็ขอขอบคุณอีกรอบนะครับผมที่ยังคงติดตามกันอยู่
 :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-05-2018 17:41:27
ฮานะเหมือนเจ้ากรรมนายเวร จะเกาะพี่กิจให้ได้เลยใช่ไหม  คนเขาจะรักกันก็มาขัดขวาง  :m31:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-05-2018 18:32:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-05-2018 18:37:07
ใครจะเป็นคนจัดการกับนังวอกฮานะสำเร็จอยากเห็นๆ  o18
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 22-05-2018 18:49:10
พี่น้องไม่ทำแบบนี้
พี่กิจถ้ารู้หัวใจตัวเองแล้วก็รีบบอกน้องมันละ
โอกาสมาถึงแล้ว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 17/05/2561 update chapter 40 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 22-05-2018 19:14:03
ขอบคุณค่า  พี่กิจสายหยอด  อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 22-05-2018 20:36:42
………

น่านนนนน แล้วพี่กิจก้อไม่สามารถปิดกั้นใจตัวเองอีกต่อไปแล้ว

คราวนี้แหละ น้องกันต์  เชิดหน้าไว้ แล้วให้พี่กิจเป็นคนทลายกำแพงเองซะ

เออออ แล้วน้องธันคนดีของพี่ละ. ยังไงดีนะ

……

 :katai2-1:   :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:

……
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 22-05-2018 22:22:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-05-2018 23:00:08
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 22-05-2018 23:49:10
 :pig4: :pig4: :pig4:

อะไรนะ?  นังชะนีฮานะ  ยังออกฤทธิ์ไม่หมดอีกเหรอเนี่ย?

 :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-05-2018 00:18:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 23-05-2018 00:41:01
101010
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: -PCH- ที่ 23-05-2018 04:55:15
สู้ๆนะคุณเป็นกำลังใจให้เด้อออ
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-05-2018 10:08:24
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 24-05-2018 19:54:21
พี่กิจ จะเอายังไง ถ้าไม่พูดน้องมันจะเสียใจเอานะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 24-05-2018 20:10:38
โอ๊ยยใต้ความพี่น้อง ติดตามต่อไปค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 25-05-2018 02:47:48
รอติดตามความพี่กิจ รู้สึกตัวจริงๆสักทีนะคะเกือบทำน้องเสียใจครั้งใหญ่จนได้  :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 25-05-2018 14:28:05
สงสารน้อง  :ling1: ไอ้พี่ใจร้าย ถ้าไม่รับความจริงก็อย่ามายุ่งกับน้องนะ :mew6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-05-2018 19:33:33
Chapter 42




กิจ’s  Part




กว่า 8 โมงเช้า

วันนี้ผมตื่นสายกว่าทุกวันครับ  แต่เพราะมันเป็นวันเสาร์  ก็เลยไม่ต้องรีบร้อนอะไร  กันต์มันเข้าไปอาบน้ำได้สักพักแล้วละครับ  คือพอมันตื่นขึ้นมา  ก็ผละตัวออกจากผมลุกไปเข้าห้องน้ำทันที  ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกันกับมัน

เกือบตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา  ผมแทบจะไม่ได้นอนเลยล่ะครับ  เพราะกว่าที่ความหื่นกระหายของผมมันจะจางลงไปได้  ผมก็ต้องเทียวเข้าเทียวออกห้องน้ำอยู่กว่า 3 รอบเลยละครับ เพื่อจัดการกับตัวเอง  คือถึงจะเห็นผมนิ่งๆ อย่างนี้นะครับ  ใครจะรู้ละว่าความต้องการในเรื่องอย่างว่าของผมมันสูงมากถึงมากที่สุด  แถมยิ่งได้นอนกอดคนอุ่นๆ ผิวเนียนๆ  กลิ่นยั่วยวนแบบนี้อีกด้วยแล้ว... 

โอ้ย!!!   แข็งขึ้นมาอีกจนได้....!

แต่ที่นอนไม่หลับก็ไม่ใช่เพราะหมกมุ่นคิดอยู่แต่กับเรื่องพวกนั้นอย่างเดียวหรอกนะครับ  แต่เพราะผมยังคิดด้วยว่า...  จะเอายังไงต่อไปดีกับความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน....  ถึงแม้ว่าผมจะยอมรับใจตัวเองได้แล้วก็ตาม...  แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจเลยครับว่าจะคบกับผู้ชายด้วยกันแบบนี้ได้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ 

คือถามว่าชอบมั้ย...  บอกตรงๆ เลยครับว่า  ถ้าไม่ใช่กันต์... ผมก็ไม่มีทางทำอะไรหรือรู้สึกอะไรแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นได้แน่ๆ  คือไม่ได้รังเกียจนะ  แต่ก็ไม่ได้ชอบเหมือนอย่างกับผู้หญิงอะ  ซึ่งพอลองนึกภาพดูว่าถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่กันต์แล้ว  ผมก็จะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาทันที  ออกแนวจะขนลุกเสียด้วยซ้ำไป  จนไม่สามารถจะนึกภาพต่อไปได้อีก...  ผิดกับกันต์..  ที่ไม่ว่าจะยังไง  ก็ทำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นมาได้ทุกทีเลยสิน่า...

แม่งโครตสับสนเลยครับ....  นี่ผมเป็นอะไรกันวะเนี่ย....

แต่ว่า...  อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ชัดเจนเลยก็คือ...  กับกันต์...   ผมคิดว่าผมไม่ได้แค่ชอบ...

แต่.....

ผมรักมันเลยละครับ.....

ความรู้สึกชอบนั้น...  ผมเองก็เคยมีมาหลายครั้งแล้ว  ซึ่งส่วนมากก็มักจะเป็นแค่แบบชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น...  แต่ว่า...ความรู้สึกที่ผมมีต่อกันต์มันมากไปกว่านั้น  ผมไม่ได้ต้องการเพียงแค่ร่างกาย  แต่ผมอยากจะดูแล  อยากทำให้มันมีความสุข  เพราะทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของมัน  ผมก็จะมีความสุข  มันทำให้ผมเป็นตัวของตัวเอง  แถมยังสร้างรอยยิ้มให้ผมได้มากกว่าใครๆ  แค่มีมันอยู่ใกล้ๆ  ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว...  ก็แค่..  อยากอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลลอดไป... ก็แค่นั้น

ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน  มารู้ตัวอีกที..  ผมก็ขาดมันไปไม่ได้ซะแล้ว....


ผมนึกย้อนเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเราสองคน  ตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรกจนกระทั่งมาถึงตอนนี้...  ผมก็ไม่แปลกใจเลยละครับว่าทำไมผมถึงได้รักมันมากซะขนาดนี้ 

ทั้งๆ ที่มันก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ  แต่กลับมีความทรงจำดีๆ มากมายเกิดขึ้นมาระหว่างเรา....

แต่จะว่าไปแล้ว  พอนึกขึ้นมามันก็น่าตลกดีนะครับ  จากวันแรกๆ ที่ทะเลาะกันแทบตาย  แต่มาดูตอนนี้สิ...  ผมกลับกอดมันเอาไว้ซะแน่นเชียว...  จากที่เคยคิดจะไล่มันออกไปจากห้อง  ตอนนี้กลับไม่อยากให้มันไปไหนไกลจากตัวผมเลยแม้แต่น้อย...


กันต์มันไม่ใช่แค่เป็นคนที่หน้าตาน่ารักเท่านั้นนะครับ  แต่ยิ่งพอได้รู้จักมันมากขึ้น  ถึงได้รู้ว่ามันเป็นคนที่พิเศษมากๆ คนนึงเลยละครับ  รักพวกพ้องก็ที่หนึ่ง..  แถมยังมักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ...  เป็นคนอ่อนโยนแต่กลับมีจิตใจที่เข้มแข็ง...  ดูอย่างตอนที่รถล้มสิครับ  ใครจะไปคิดกันละครับว่ามันจะทำได้ถึงขนาดนั้น..  ซึ่งเรื่องไม่ยอมแพ้นี่ก็ที่หนึ่งด้วยเช่นกัน  ทะเลาะกันมาทีช่วงหลังๆ มานี้  สุดท้ายก็กลายเป็นผมเองที่ต้องคอยไปง้อมัน  หรือตอนที่แข่งกีฬานั่นก็ด้วย... มันพยายามจนมันสามารถเอาชนะคนที่มันไม่มีทางจะเอาชนะได้เลยแท้ๆ...  ทำอาหารก็เก่ง  แถมยังอร่อยอีกต่างหาก...  แต่ก็บ่อยครั้งนะครับที่ผมถูกมันแกล้ง..  แต่พอผมแกล้งมันคืนบ้างเท่านั้นแหละ  แม่งงอน..  ขี้เกียจก็ที่หนึ่ง  ตื่นก็สาย..  เรื่องเรียนก็งูๆ ปลาๆ...  แต่....

ผมก็รักทุกอย่างที่เป็นมันเลยนะครับ.....

พอคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว  ผมก็เผลอยิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัว....

ถึงได้บอกไงละครับ  ว่าผมไม่ได้แค่ชอบ...

 แต่....

ผมรักมันไปซะแล้ว.....



..............



เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออก  พร้อมกับร่างขาวใสภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำของโรงแรม

กันต์มันผงะตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมกำลังจ้องมันตาเป็นมันอยู่  แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไรออกมา  ก่อนจะเลือกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินไปยังเสื้อผ้ายับๆ ที่ถูกผมโยนทิ้งไปข้างเตียงเมื่อคืนนี้...

“ จะรีบใส่ไปทำไม..  เสื้อผ้ามันยับแล้ว  เดี่ยวพี่ให้แม่บ้านเข้ามาเอาไปซักแห้งให้  หรือว่าเราจะเอาชุดใหม่เลย  เดี๋ยวพี่ให้เขาจัดการให้..  แต่ตอนนี้....   ยังไม่ต้องใส่นะ.. “

มันทำหน้ายุ่งพร้อมกับตาดุๆ มองมาที่ผมครับ

“ มานี่มะ...  เร็ว... “

ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ว่าไป  พลางเอามือตบลงไปบนเตียงข้างๆ ตัว  มันทำหน้าแหยงๆ สวนกลับมาทันที  คงอยากจะด่าผมล่ะสิ  แต่ก็คงไม่รู้จะด่าว่าอะไร...  แถมดูท่าว่ามันจะอายๆ กับสายตาผมที่มองมันอย่างไม่ลดละในตอนนี้   

แหม.. หน้าแดงเชียวนะ...  น่ารักชิบ...

จากนั้นมันก็พ่นลมออกจมูกพร้อมกับทำหน้ายู่ส่งมาให้  ก่อนจะก้มลงไปหยิบเสื้อกับกางเกงขึ้นมาโดยไม่สนใจผมที่นอนจ้องมันอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง

กันต์มันชะงักตัวลงไปเล็กน้อย  ขณะที่กำลังจะเตรียมตัวถอดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาว  ก่อนจะค่อยๆ หันมามองผมอย่างระแวงในแววตา  แล้วมันก็เปลี่ยนใจหอบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปทันทีเลยครับ

เซ็งเลย...

ว่าแล้วผมก็รีบลุกเดินตามมันเข้าไปในห้องน้ำต่อทันที

“ เข้ามาทำไมอะ  ผมจะแต่งตัว... “

“ พี่ปวดฉี่...  ไม่ไหวแล้ว “

พูดจบผมก็มองลอดผ่านเสื้อคลุมอาบน้ำที่คลุมอยู่อย่างหลวมๆ เข้าไปสะดุดยังยอดอกสีชมพูสดตัดกับผิวกายขาวใส  ผมเผลอกัดริมฝีปากตัวเองเล็กๆ อย่างหมันเขี้ยวไปโดยไม่รู้ตัว 

เห็นแบบนี้แล้วก็อยาก....

คงเพราะหน้าตาหื่นกระหายของผมที่ปิดเอาไว้ไม่มิดละมั้ง  เลยทำให้หน้ามันแดงระเรื่อไปด้วยเลือดฝาด  ก่อนจะเบี่ยงสายตาหลบหน้าผมเสลงไปมองยังด้านล่างแทน  ทว่านั่นกลับยิ่งทำให้มันเขินอายหนักขึ้นไปกว่าเดิมเสียอีก  เมื่อสังเกตจากหูที่เริ่มแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด


“ พี่กิจนี่แม่ง !!  จะหื่นไปถึงไหนเนี่ย..  ไอ้...  โอ้ย!!! “


แล้วมันก็ทำท่าหงุดหงิดเดินเลยผมไปเลยครับ  ถึงจุดนี้ผมถึงได้รู้ว่า  ที่มันเขินหนักกว่าเก่าก็เพราะช่วงล่างของผมที่มันผงาดง่ำดันบ๊อกเซอร์จนนูนซะไม่เกรงใจสายตาใครเลย...



สักแปบผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ  ซึ่งก็พอดีกับที่มันใส่กางเกงเสร็จเรียบร้อยแล้ว  แต่ยังคงเผยร่างกายขาวเนียนส่วนบนน่าสัมผัสให้ผมได้มองเป็นอาหารตาในตอนนี้

“ จะรีบไปไหน  วันหยุดแท้ๆ    กินข้าวกันก่อนเนอะ  เดี๋ยวพี่โทรไปสั่งพนักงานให้เอามาให้  อยากกินอะไรเช้านี้... “

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ  ก่อนจะก้มลงถามคนตรงหน้าในระยะประชิด  จนมันถึงกับประหม่าในแววตาอย่างเห็นได้ชัด

มีความสุขจัง...  ที่ได้แหย่ได้แกล้งมันแบบนี้....

“ นี่พี่แกล้งผมอยู่ใช่มั้ยเนี่ย...  นี่เรายังไม่ได้เคลียร์เรื่องเมื่อคืนกันเลยนะ... “

มันทำหัวเสียกลบเกลื่อนว่ามาครับ

“ เมื่อคืน...ทำไมเหรอ...  ฮึ... “

แล้วผมก็ทำหน้าตายถามมันกลับไป

“ ก็... “

“ ….  “

“ ช่างมันเถอะ...  ถือว่าไม่ได้เกิดขึ้นละกัน “

แล้วจู่ๆ น้ำเสียงมันก็ดูหงอยลงไปทันทีครับ  จนผมต้องปรับสีหน้าให้ดูจริงจังก่อนจะพูดขึ้นต่อ


“ เรื่องเมื่อคืนนี้น่ะ... “

ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร  เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน  แล้วมันก็ผละตัวออกจากผมไปนั่งอยู่ที่ปลายเตียง ( จนลืมไปแล้วมั้งว่าตัวเองยังไม่ได้ใส่เสื้อ ) 

ผมเดินไปหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู  ก่อนจะเห็นว่าเป็นไอ้คิมที่โทรเข้ามา


“ เชี่ยไรมึงเนี่ย!  โทรมากวนกูแต่เช้าเลย “

<  อะไรมึง...  อย่าบอกนะว่ามึงลืมเรื่องรายงาน Envir… > 

“ เออว่ะ!!  ชิบหายละ!!  กูลืมเลย.. “

ซวยแล้วครับ  ผมดันลืมเรื่องรายงานวิชา Environment ที่อาจารย์สั่งเสียสนิทเลย  ที่สำคัญผมต้องไปเก็บข้อมูลจริงและภาพประกอบที่โรงงานในวันนี้ซะด้วยสิ  แถมต้องไปไกลถึงระยองอีกต่างหาก  ครั้นจะไม่ไปก็ไม่ได้  เพราะผมนัดกับเจ้าหน้าที่ที่จะให้ข้อมูลกับทางเราไว้แล้ว ( โดยเส้นสาย...  เลยทำให้สามารถไปกันได้ในวันหยุดที่มี OT แบบนี้ )

< เร็วเลยมึง...  ตอนนี้พวกกูจะถึงคอนโดมึงแล้วเนี่ย  เดี๋ยวพวกกูจะรออยู่ที่ล๊อปบี้นะ >

“ เฮ้ยมึง....  ตอนนี้กูไม่ได้อยู่ที่คอนโดว่ะ  พอดีมาทำงานให้พ่อเมื่อวานนี้อะ  เลยยังไม่ได้กลับห้อง  รอกูแปบนะ...  เดี๋ยวกูจะรีบกลับ “

< เชี่ย....  กว่ามึงจะมาถึง  และกว่าจะออกไปอีก  รถมันติดนะเว้ย....  นัดเขาไว้บ่ายโมง  ไม่ทันแน่...  เอางี้  มึงรอนั่น  เดี๋ยวพวกกูไปรับเองดีกว่า  ส่วนมึงรีบแต่งตัวมารอเลย >

“ ที่นี่กูไม่มีชุดนักศึกษา “

< เออ!!  เดี๋ยวกูแวะซื้อไปให้  เร็วๆ เลยมึงอะ... >



หลังจากที่ผมวางสายและแชร์โลเคชั่นไปแล้ว  ผมก็หันมามองยังคนที่นั่งหน้าหงอยอยู่ที่ปลายเตียง

“ กันต์...  เดี๋ยววันนี้พี่ต้องไประยองกับพวกเพื่อนๆ นะ  พอดีมีทำรายงานกลุ่มอะ   เดี๋ยวพวกมันจะมารับพี่ที่นี่เลย  แล้ว...วันนี้พี่คงจะไม่ได้กลับมานอนที่ห้องนะ “

มันได้แต่พยักหน้าหงอยๆ ตอบมาให้อย่างเข้าใจ  เห็นแบบนี้แล้วก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้เลยครับ

“ พี่กิจ.... จะไม่กลับมาห้องเหรอวันนี้... “

“ ก็...  อืม...  คือไอ้พวกนั้นมันหาเรื่องกินเหล้าริมหาดกันต่อน่ะ  นัดกันไว้แล้วด้วย...  พี่ก็เลย...  “

มันพยักหน้าอีกครั้งอย่างเข้าใจในเหตุผล  ก่อนจะเสลงไปมองยังพื้นห้อง

“ แต่พรุ่งนี้พี่จะรีบกลับมานะ...  แล้ว..  ไว้เรามาคุยกัน...  เรื่องนั้นต่อนะ... “

มันหันมามองผมอย่างแปลกใจ  คงจะเพราะเรื่องที่ผมจะคุยกับมันพรุ่งนี้นั่นแหละครับ...

เอาจริงๆ แล้ว...  ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่า  ตัวเองจะตัดสินใจยังไงกับเรื่องระหว่างเราต่อไปดี  แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ที่จะพูด  เพราะผมไม่อยากที่จะคุยเรื่องสำคัญขนาดนี้ในเวลาที่รีบเร่งแบบนี้.... 



.......
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 22/05/2561 update chapter 41 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-05-2018 19:51:40
พอออกมาจากห้องพัก  ผมก็เดินมาสั่งพนักงานที่ฟรอนให้จัดการเอารถผมที่ขับมาขับไปส่งกันต์มันที่คอนโดครับ  เพราะกันต์มันขับรถยนต์ไม่เป็น  และเพื่อความสะดวกสบายของมันด้วย  จะได้ไม่ต้องไปหาเรียกแท็กซี่กลับ  ยิ่งมันไม่ค่อยชินกับถนนหนทางในกรุงเทพแบบนี้ด้วยแล้ว

“ กันต์... พวกนั้นมันถึงแล้วอะ  นั้นพี่ไปก่อนนะ...  แล้วพรุ่งนี้พี่จะรีบกลับ  รอพี่นะ... “

กันต์ที่ค่อนข้างจะเงียบตั้งแต่ออกมาจากห้องแล้ว  พยักหน้าตอบรับผมมาเบาๆ  ผมเลยเอามือไปลูบหัวมันอย่างให้กำลังใจ  พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ  อย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

จากนั้นผมก็เดินแยกออกไปยังลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกลมาก  แต่ก็อดที่จะหันกลับมามองมันอีกครั้งก่อนที่ประตูลิฟท์จะถูกเปิดออกไม่ได้
ไม่อยากไปเลยครับ...  แต่จะทำไงได้.... เฮ้อ....



.....................................



เกือบ 4 โมงเย็น  งานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย  ทั้งข้อมูล  เอกสสารและภาพถ่าย  จากนั้นพวกเราทั้ง  4  คน (รายงานกลุ่ม 4 คนครับ )  ก็มุ่งหน้าตรงไปยังรีสอร์ทติดชายหาดที่ไอ้คิมมันโทรไปจองไว้แล้วตั้งแต่ต้นสัปดาห์

ที่นี่เป็นรีสอร์ทธรรมดาๆ  เหมาะแก่การนั่งชิลๆ  กินเหล้า  ซึมซับบรรยากาศตามประสาเพื่อนฝูงครับ คือไหนๆ  ก็มาแถวทะเลทั้งที  พวกเราก็เลยแพลนกันเอาไว้ว่า  จะหาที่นั่งกินเหล้าคุยกันชิลๆ  สักคืนก่อนกลับอะครับ

ทันทีที่ลงมาจากรถ  ผมก็รีบกดโทรศัพท์โทรไปหากันต์มันทันทีเลยครับ  เพื่อเช็คความเรียบร้อย  ก่อนจะเดินรั้งท้ายตามไอ้พวกนั้นเข้าไปติดๆ เพื่อเช็คอิน


“ เป็นไง... ถึงห้องเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย “

< ครับพี่  ถึงตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้วอะ >

“ พอดีพี่พึ่งเสร็จงานน่ะ  เลยไม่ว่างโทรหาเลย “

< ไม่เป็นไรครับ  จริงๆ แล้ว... พี่ไม่ต้องโทรมาก็ได้นะ >

“ ได้ไง...  ก็พี่เป็นห่วงเรานี่  ว่าแต่ทำไรอยู่เนี่ย “

<  Drawing ที่อาจารย์สั่งอะ  ไม่ทันแน่เลย  โครตเยอะ  >

“ อืม...  เอาไว้พรุ่งนี้พี่กลับไปแล้วเดี๋ยวจะช่วยทำ “

< ไม่ต้องเลย....  งานของผม...  ทำเองได้ >

“ ก็ใครว่าพี่จะทำให้เราฟรีๆ ล่ะ “

< เอ๊า....  ไม่ฟรีใครจะมีปัญญาจ่ายละคร้าบ >

“ แค่มื้อค่ำพรุ่งนี้ก็พอ  ทำกับข้าวไว้รอพี่นะ “

< แล้ว... พี่กลับมาค่ำเลยเหรอ >

“ จริงๆ ก็น่าจะเย็นๆ น่ะ  ทำไม...  คิดถึงพี่เหรอ “

< บ้าดิ...ใครจะไปคิดถึง >

“ หือออ  ให้จริงเหอะ.. “

< ไอ้... >

“ เอาน่า  แล้วพี่จะรีบกลับนะ.. “

< อื้อ.. >

“ กันต์.. “

< ว่า... >

“ คิดถึงนะ... “


มันเงียบไปและไม่พูดอะไรต่อ  ก่อนจะกดวางสายไป  มันคงจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของผมละมั้งครับ  แต่อย่าว่าแต่มันเลย  ผมเองก็ยังรู้สึกแปลกใจกับตัวเองอยู่เหมือนกัน 

เพียงแต่...  ผมไม่ได้รู้สึกฝืนตัวเองเลยสักนิด  กลับชอบที่ได้พูด.. ได้ทำ.. ตามที่หัวใจตัวเองรู้สึกซะมากกว่า...

พอคุยโทรศัพท์เสร็จ  ผมก็เดินยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดีเข้าไปหาไอ้พวกนั้นยังบริเวณรับแขกของทางรีสอร์ท  ก่อนจะต้องผงะตัวไปเล็กน้อยกับภาพที่เห็นตรงหน้า


“ พี่กิจ! “


เสียงของน้องฮานะดังขึ้น  ก่อนที่เธอและเพื่อนอีกสองคนจะลุกขึ้นจากโซฟาและเดินตรงเข้ามายังกลุ่มของพวกผม

ผมหันขวับไปมองยังไอ้คิมมันทันที  ทว่ามันกลับโบกมือปฏิเสธมาถี่ๆ  พร้อมด้วยสีหน้าที่แปลกใจไม่แพ้กัน 

เซ็งเลยครับ  นี่ผมตั้งใจมาเที่ยวกับเพื่อนแบบชิลๆ กันแท้ๆ  รู้งี้กลับห้องไปหากันต์มันยังจะดีกว่าซะอีก

“ ลูกพีช... มาได้ไงเนี่ย “
 
ไอ้คิมขมวดคิ้วเข้มถามเด็กของมันไปครับ

“ ก็เมื่อคืนที่โทรคุยกัน  เห็นพี่คิมว่าจะมาพักที่นี่คืนนี้  พวกเราก็เลยตั้งใจว่าจะมาเซอร์ไพส์พวกพี่กันไง...  นานๆ ทีจะได้มาพักผ่อนด้วย “

ลูกพีชว่ามาครับ

“ เซอร์ไพส์สัดๆ... “

ไอ้บิวมันประชดมาเสียงเบาให้พอได้ยินครับ

“ เนี่ยพวกเราก็กำลังรอพวกพี่อยู่เลย  ทำไมมากันช้าจัง “

แล้วไอ้คิมมันก็ทำหน้าปะหลับปะเหลือกปรายตามามองยังพวกผมทันทีที่ลูกพีชเข้ามานัวเนียเกาะแขนของมันไว้

สุดท้ายคืนนี้ไอ้คิมมันเลยต้องนอนกับน้องลูกพีช (ที่กำลังจะเลิก ) ของมัน  ส่วนพวกผมสามคนก็นอนด้วยกันครับ



ภายในห้องพัก

“ ไอ้คิมทำเรื่องอีกละ “

ไอ้บิวมันบ่นขึ้นมา  ก่อนจะโยนกระเป๋าลงไปบนเตียง

“ เออ...!  นี่กูกะมาเมาเต็มที่กับเพื่อนเลยนะเว้ย  อย่างนี้ก็ไม่สุดสิวะ...แม่ง!! “

ไอ้พีว่ามาต่อ  ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเพราะขับรถมาตลอดทั้งวัน

“ เงียบอย่างนี้  มึงไม่เซ็งรึไงวะไอ้กิจ “

ไอ้บิวมันหันมาถามผมต่อ  ขณะที่ผมกำลังเอาเสื้อผ้าสองสามชุดที่พึ่งซื้อมาใหม่ออกจากถุงไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า  แต่พอผมหันหน้าไปมองมัน  ไอ้สองตัวนั้นก็ถึงกับหลุดขำขึ้นมาพร้อมกันทันที

“ เออๆ  กูรู้ละว่ามึงเซ็ง.... ฮ่าๆๆๆ “

ไม่ต้องพูดอะไรมาก  เพราะสีหน้าเบื่อโลกอย่างถึงที่สุดของผม  มันก็ตอบชัดทุกคำถามแล้ว.... 

ไม่สนุกแล้วอะ...  อยากกลับแล้วเนี่ย  นี่ถ้าไม่ได้มารถคันเดียวกันนะ  ผมกลับไปตั้งนานแล้ว....


ผมเปลี่ยนชุดมาใส่กางเกงขาสั้น  เสื้อกล้ามสีขาวและทับด้วยเสื้อฮาวายสีขาวบาง  ก่อนจะออกไปนอนเล่นที่เตียงผ้าใบริมชายหาด 

ลมเย็นดีครับ  แถมคนก็น้อยด้วย  คงเพราะไม่ใช่รีสอร์ทใหญ่อะไร  และก็ไม่ได้อยู่ในช่วงไฮซีซั่น  แบบนี้แหละครับที่ผมต้องการ  ส่วนตัวดี...

ผมเอาโทรศัพท์ที่หยิบติดมือมาด้วย  เซลฟี่ตัวเองบนเตียงผ้าใบพร้อมกับยิ้มหวาน ก่อนจะกดส่งไลน์ไปให้กันต์ดู



                                                                                           
                                                                                                            อ่านแล้ว     ถ่ายมายั่วคนปั่นงานหัวฟู
                                                                                                             17.20
                                                                                                            อ่านแล้ว     อยากมาเที่ยวด้วยกันป่าว                                   
                                                                                                           17.20

GunT
อ่านแล้ว    ว่างเหรอคนเรา  เดี๋ยวจะโดน...
17.21


ผมยิ้มให้กับมือถือก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปทันที  ได้คุยกับมันแบบนี้  ค่อยลืมเรื่องน่าเบื่อเมื่อกี้ขึ้นมาหน่อย
 

                                                                                                              อ่านแล้ว     ว่างที่ไหน....
                                                                                                              17.23
GunT
อ่านแล้ว     เอ๊า...  ก็ไหนว่างานเสร็จแล้วไง  แถมยังถ่ายรูปมายั่วคนอื่นอีก
17.24
                                                                                                               อ่านแล้ว      ก็นั่งคิดถึงอยู่นี่ไง
                                                                                                              17.24
GunT
อ่านแล้ว    ........
17.25
                                                                                                             อ่านแล้ว       เป็นไร  เงียบแบบนี้
                                                                                                              17.27
GunT
อ่านแล้ว    ไม่ได้เงียบ  กลัวไปขัดจังหวะคุณกรกิจคิดถึงสาวๆ
17.28
                                                                                                             อ่านแล้ว    5555  หึงเหรอคร้าบ
                                                                                                              17.28
GunT
อ่านแล้ว    บ้าดิ  มีสิทธิ์หึงด้วยเหรอ.....
17.29
                                                                                                             อ่านแล้ว   แล้วอยากมีปะล่ะ
                                                                                                             17.29
GunT
อ่านแล้ว    ........
17.30
                                                                                                             อ่านแล้ว    จุดๆ แบบนี้แปลว่าอยาก ?
                                                                                                           17.30
GunT
อ่านแล้ว    พอเลย  เลิกแกล้งกันได้แล้ว....  ทำงานต่อละ
17.31


                                                                                                                                แกล้งที่ไหนล่ะ…..



                                                                                                                               อ้าวหายเลย  ทำงานอยู่เหรอ...



                                                                                                                               นั้นไว้ค่ำๆ พี่โทรหาใหม่นะ  อย่าลืมหา
                                                                                                                               อะไรกินด้วยล่ะ   อย่ามัวแต่ปั่นงานนะ



                                                                                                                               กันต์...   พี่คิดถึงนะ





TBC.


------------------------------------------------------------

ขอบคุณนะคร้าบสำหรับทุกๆ กำลังใจและการติดตาม

ตอนหน้าจะมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยนะครับ

ส่วนธันนี่เดี๋ยวจะเข้ามามีบทบาทละครับ  แต่เอาจริงๆ  สำหรับตัวละครธัน  จะมีบทชัดๆเลยใน SS2  ซึ่งที่คิดไว้นั้นจะมี Part ของเขาสัก 10 ตอนได้ครับ  เกี่ยวกับความรักของตัวเอง  ซึ่งคู่องธันจริงๆ  ที่วางไว้จะอยู่ต่างคณะนะครับ  แต่ขออุ๊ปไว้ก่อน (แต่ตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัวนะ )  ตัวละครอื่นๆ ก็เหมือนกันครับจะมีบทชัดเจนขึ้นใน SS2  เพราะ  SS1 ใกล้จบแล้วอะครับ  เหลืออีกไม่ถึง 20 ตอนละครับ

ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ  ขอบคุณมากๆ ครับ
 :pig4: :pig4: :pig4:

^___________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 26-05-2018 20:25:56
เบืออีชะนีฮานะมากกกกกกกกกอ่ะ :serius2: :ruready
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-05-2018 20:28:33
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-05-2018 20:46:58
ใครก็ได้เอานังฮานอยไปฝังกลบหน่อย  :m16:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 26-05-2018 20:55:31
 :mew1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 26-05-2018 22:07:54
กันต์ พี่คิดถึงนะ... น้องกันต์คงมีสมาธิในการปั่นงานค่ะ โอ้ย!! เอาอิฮานะออกไปที อ่อยขนาดนี้้ค้าไม่เอาก็น่าจะถอยได้แล้วนะ ยางหน่ะมีไหมคะยางหน่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-05-2018 23:19:14
รำคาญแก็งค์ลูกพีช
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-05-2018 00:46:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-05-2018 02:35:04
เอายัยฮานามิไปทิ้งที รำคาญ :z6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 27-05-2018 10:58:52
เอาอิชะนี 3 ตัวนี่ไปฆ่าทิ้งได้ไหมอะ
รำคาญมากผู้ไม่เอาถ่างขาให้อยู่นั่นเหม็น  :beat:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-05-2018 15:59:05
 :pig4: :pig4: :pig4:

skip ข้ามบทนังฮานะ ได้ป่ะ?

เบื่อนางอ่ะ  นี่ถ้าเป็นการดูซีรีส์นะ  กดปุ่ท skip ไปหาฉากอื่นที่ไม่มีนังฮานะแล้วหล่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Chatcha ที่ 28-05-2018 14:42:58
เอาชะนี้ไปโยนทิ้งได้ไหมคะ
เขาไม่ได้นัดพวกแก ยังกล้ามาเนอะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 30-05-2018 23:17:53
สนุกมากค่ะ พี่กิจรู้ใจตัวเองแล้ว รีบบอกน้องนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 31-05-2018 05:24:39
 :mew5: เมื่อไหร่จะเขี่ยนุงฮานะทิ้งซะที เซ็งว้อย  :mew5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 01-06-2018 01:10:49
 :pig4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Krataibin ที่ 01-06-2018 22:24:23
รำคาญนังหายนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-06-2018 00:53:30
Chapter 43




กิจ’s Part




ผมนั่งซึมซับบรรยากาศสบายๆ  ริมหาดได้ไม่นาน  ไอ้พีมันก็เดินเข้ามานั่งที่เตียงผ้าใบข้างๆ ผมครับ

“ ไงมึง  วันนี้ดูอารมณ์ดีจังนะ “

มันหันหน้ามาถามทันทีที่นั่งลงครับ

“ อารมณ์ดีเหี้ยไร  เซ็งอยู่เนี่ย...  ตามเกาะกูอยู่ได้... ไม่ยอมปล่อยสักที “

“ ฮ่าๆๆ เรื่องนั้นกูรู้  แต่กูหมายถึงว่า...  ตั้งแต่เช้าจนมาถึงที่นี่อะ... “

“ ก็.... เปล่า... “

“ เหรอ...  อืมๆ.... “

มันขานรับมาในลำคอเบาๆ อย่างไม่คาดคั้น  ก่อนจะมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้าเช่นเดียวกันกับผม

คือ... บางเรื่องมันก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายยังไงดีอะครับ

 
แต่มาคิดดูอีกที... 

บางที... ถ้าเป็นไอ้พีที่ดูจะชอบกันต์มันอยู่บ้าง  อาจจะพอมีคำแนะนำดีๆ ให้กับผมบ้างก็ได้..


“ เออมึง...  สมมุติว่า...  ถ้ามีรุ่นน้องคนนึงมาชอบมึง...  แต่ตอนนั้นมึงยังไม่แน่ใจเลยว่ามึงชอบน้องเขารึเปล่า...  แล้วมึงก็ปฏิเสธน้องเขาไป...  แล้ว.... เอ่อ... จู่ๆ วันนึงมึงดันมารู้ตัวทีหลังว่ามึงเองก็ชอบน้องเขาเหมือนกัน....  มึงคิดว่า...  มึงจะทำไงวะ “

พอผมถามจบ  มันก็หันหน้ามามองผม  พร้อมกับแววตาแฝงความสงสัยอยู่กลายๆ

“ มันจะยากตรงไหนวะ  ถ้าเป็นกูนะ  กูก็จะจีบน้องเขาไปเลย  ยิ่งถ้าน้องเขาชอบมึงอยู่แล้ว..  เอ้ย..!ไม่ใช่..  กูหมายถึงว่า...  ถ้าน้องเขาชอบกูอยู่แล้ว  มันก็ยิ่งไม่มีอะไรต้องให้คิดเลยไม่ใช่รึไงวะ “

ใช่ครับ..  ถ้ามันแค่นั้น...  ก็คงไม่ต้องคิดอะไรอยู่แล้ว  เพียงแต่...

“ แล้วถ้าแบบ..  มันเป็นความสัมพันธ์ในแบบที่มึงไม่เคยมาก่อนล่ะ “

“ ยังไง.. “

“ ก็..  แบบ..  เอ่อ... “

จะพูดยังไงดีล่ะครับ...

“ ผู้ชายกับผู้ชาย... “

เชี่ย!!  นี่มึงเข้ามานั่งในหัวกูรึไงวะไอ้พี !!!

“ ก็..  อืม...  “

“ แล้วมึงรับได้มั้ยล่ะ  ถ้ามึงรับได้มันก็โอเคนี่ “

“ กูไม่รู้ว่ะ... ก็มันไม่เคยนี่ “

มาถึงจุดนี้... ผมถึงได้มารู้ว่า  ได้ถูกมันหลอกให้ยอมรับไปแล้ว.... ไอ้เชี่ยพี !

นั่นไง  ดูมันยิ้มส่งมาให้สิครับ  กวนตีนอย่างถึงที่สุด  พลาดแล้วไงผม....

“ เออ !!!  ไม่ต้องมามองกูอย่างนี้เลย  เดี๋ยวมึงจะโดนตีนอะ “

“ ฮ่าๆๆๆ  กูว่าละ...  ให้กูเดาต่อมั้ยว่าใคร “

สัด !!  มึงจะเก่งเกินไปละ  แต่ก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะรู้จริงอย่างที่คุยไว้มั้ย

“ นั้นใคร “

“ ก็จะมีใครละที่ทำเอาหนุ่มๆ วิศวะเราครึกครื้นได้ถึงขนาดนั้นในวันประกวดดาเดือนคณะ  เพราะขนาดกูเองก็ยังชอบน้องเขาเลย... “

อ้าว...  ยังไงมึง.. 

คือถึงผมจะรู้ว่ามันชอบก็เถอะนะ  แต่พอมาได้ยินจากปากของมันตรงๆ อย่างนี้  มันก็อดหวงขึ้นมาไม่ได้อยู่เหมือนกันอะครับ

“ สัดนี่! ไม่ต้องมามองหน้ากูอย่างนี้เลยนะ  กูไม่ได้จะจีบน้องมันแข่งกับมึงหรอก “

มันว่ามาเมื่อเห็นสีหน้าและคิ้วที่ร่นเข้าหากันของผมครับ  ว่าแต่...ผิดคลาดแฮะที่ว่ามันจะไม่จีบกันต์อย่างที่ผมเข้าใจ

“ อ้าว...  ทำไมไม่จีบวะ  ก็กูเห็นมึง..  เข้าหาน้องมันซะขนาดนั้น  กูก็นึกว่ามึงจะจีบน้องมันซะอีก “

“ ก็น้องมันน่ารัก... กูก็แค่เอ็นดูน้องมันก็เท่านั้น  เพราะถ้ากูจะจีบจริงๆ กูก็คงจะไม่ทำแค่นี้หรอก  มึงเองก็น่าจะรู้ “

ก็จริงของมันนะครับ

“ ส่วนที่กูไม่จีบน้องมันก็เพราะกูเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันจะยืดยาวได้แค่ไหน  กูไม่อยากทำให้น้องมันต้องมาเสียใจเพราะกู  กูก็เลยไม่ทำอะไรไปมากกว่านั้น  “

“ ถ้างั้น...  มึงว่ากูควรทำไงดีวะ  เอาจริงๆ นะ  คือกูก็ไม่ได้ชอบผู้ชายไง  กูเลยไม่รู้ว่ากูจะเดินไปยังไงบนความสัมพันธ์แบบนี้ “

“ ไอ้กิจ....  มึงอะรู้จักน้องมันดีกว่ากูซะอีก  ใจมึงเองต่างหากที่จะตอบตัวเองได้ดีที่สุด “

“ คือกูไม่แน่ใจไง...  ว่ากูจะหนักแน่นพอที่จะเดินไปบนความสัมพันธ์แบบนี้ได้ตลอดรึเปล่า  แต่อย่างหนึ่งที่กูมั่นใจเลยนะ  คือกูว่า...  กูรักมันว่ะ... “

“ เชร็ดดดด!!!  ตั้งแต่รู้จักกับมึงมา  นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเว้ย  ที่มึงบอกว่ารักใครอะ...  มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ “

ไอ้พีทำตาโตและน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน  ส่วนผมก็ได้แต่ขานรับตอบมันไปในลำคอเบาๆ ให้เท่านั้น

“ อืม...  กูคิดทบทวนดีแล้วล่ะ “

“ อย่างนั้นแล้วมึงยังจะรออะไรอีกล่ะวะ  เพราะคนอย่างมึงเรื่องสังคมก็ไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้วนี่..  “

“ มันก็ใช่...  แต่กูไม่เคยไง  มึงเข้าใจปะ...  คือกูกลัวว่ามันจะไปกันไม่รอด  แล้วถ้าเกิดมันไปไม่รอดกันขึ้นมาจริงๆ ล่ะ  กูกับน้องมันจะมองหน้ากันได้ยังไงวะ  ที่สำคัญ...  กูไม่อยากจะเสียมันไปนะเว้ย “

“ ฮ่าๆๆๆๆ “

“ ขำเชี่ยไรมึงเนี่ย  กูซีเรียสอยู่นะเว้ย “

“ ก็กูพึ่งเคยเจอคนที่ทำให้มึงไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ขนาดนี้อะ  กูเชื่อละว่ามึงตกหลุมรักน้องมันแล้วจริงๆ  ไม่อย่างนั้นคนอย่างมึงคงไม่มีทางเป็นถึงขนาดนี้ได้หรอก “

“ สัดนี่ !!!   มึงยังจะขำอีกนะ “

ผมขยับตัวยกขาทำท่าว่าจะเอาเท้าไปถีบมันครับ  ก่อนที่มันจะยกมือกันท่าเอาไว้ก่อน  แล้วพยายามกั้นขำตัวเอง

“ แต่เอาจริงๆ นะ  เรื่องพวกนี้มึงเองเท่านั้นแหละที่รู้ดีที่สุดว่าควรจะทำยังไง  มันก็อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง  แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ...  ถ้ามึงรักน้องมันจริงๆ แล้วอะ  และมึงยังไม่คิดจะทำอะไรอีกนะ  รับรองได้เลยว่า...  มึงได้เสียน้องมันไปจริงๆ แน่  เพราะอย่างกันต์เนี่ยมีแต่คนจ้องจะเข้าหา  โดยเฉพาะไอ้ธันเพื่อนมันเนี่ยแหละที่น่ากลัวที่สุด  มึงเองก็น่าจะดูออก  ว่ามันเอาจริงแน่ๆ “

พูดอีกก็ถูกอีกครับ  เรื่องนี้ไม่ใช่ผมจะไม่รู้  ไม่อย่างนั้นที่ผ่านมาคงจะไม่กันท่ามันซะขนาดนั้นหรอก

“ ที่เหลือมึงก็คิดเอาเองละกันนะว่าจะเอายังไงต่อ...  แต่ว่า..  มาลองคิดๆ ดูแล้ว  ถ้ากูเป็นมึงนะ  แล้วน้องมันก็ชอบกูแบบนั้นด้วยแล้ว  เป็นกู.. กูก็อาจจะเดินหน้าต่อว่ะ  ลองดูสักครั้งมันก็คงจะไม่เสียหายอะไรมั้ง  ถือว่าหาประสบการณ์ใหม่ก็แล้วกัน...  แถมน้องมันก็น่ารักออกซะขนาดนั้นด้วย  คิดแล้วก็น่า.....  เชี่ย!!! “

ไม่รอให้มันฝันหวานไปมากกว่านี้  ผมก็ตบหัวมันไปแรงๆ ทีนึงครับ  จะได้หยุดฝันลมๆ แล้งๆ ไปสักที

“ สัดนี่ก็หึงไม่เข้าเรื่องนะ !!  กูไม่แย่งมึงหรอก  กูแค่คิด !! “

“ คิดก็ไม่ได้ ! “

“ เชี่ย...!   ถ้ามึงจะเป็นเอามากซะขนาดนี้นะ  กูว่ามึงจีบน้องเขาเหอะเชื่อกู  สัด!! “


“ ฮานะ!!  ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น...  ไปซื้อของกัน “


เสียงเจนดังขึ้นมาจากทางด้านหลังไกลๆ ผมกับไอ้พีเลยเหลียวหลังหันกลับไปมองทันที  ก่อนจะเห็นฮานะยืนอยู่ด้านหลังพวกเราไปไม่ไกลมาก  น้องเขาเหมือนจะมีสีหน้าปะหลับปะเหลือกอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาแล้วพูดขึ้น

“ เอ่อ..  พี่ๆ อยากกินอะไรกันคะเย็นนี้  นอกเหนือจากอาหารของรีสอร์ท  พอดีฮานะกับเพื่อนๆ กำลังจะออกไปซื้อของสดมากันค่ะ “

น้องเขาถามมาอย่างนี้ครับ  ซึ่งผมกับไอ้พีก็ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มไปอีก
 
ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าน้องเขาจะแอบฟังหรือว่าได้ยินเรื่องที่ผมคุยกับไอ้พีมากน้อยแค่ไหน  แต่เพราะผมไม่ได้แคร์อยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไง  ที่ผมเป็นกังวลในหัวก็แค่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับกันต์ที่จะไปกันรอดรึเปล่ามากกว่า  กับการที่ผมจะเลือกตัดสินใจทำอะไรออกไป



......................................................



ช่วงค่ำ....

ปาร์ตี้ปิ้งย่างเล็กๆ แต่กลับคึกคักเกินกว่าที่พวกเราตั้งใจกันเอาไว้มาก  ด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวของของบรรดาสาวๆ ทั้งหลาย  ซึ่งจริงๆ มันก็ควรจะสนุกอยู่หรอกนะครับ  ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่เราอยากจะให้มาด้วย  แต่กับน้องๆ กลุ่มนี้  บอกตามตรง เลยครับว่า  พวกผมไม่ค่อยจะสนิทใจด้วยสักเท่าไหร่  ยิ่งถ้าเทียบกับน้องๆ กลุ่มของกันต์มันแล้ว  พวกผมคงจะไม่ดูหงอยกันไปซะอย่างนี้หรอก

ตอนนี้ที่โต๊ะไม้ยาวริมหาด  มีพวกผม 4 คนกับเหล้า 2 ขวด ( ซึ่งน้อยกว่าที่เตรียมเอามา )  และของทะเลปิ้งย่างหลายอย่างที่พวกน้องๆ เขาจัดมาให้  มันก็ควรจะน่าสนุกอยู่นะครับ  แต่ทว่าพวกเราก็ยังคงเงียบและพูดคุยกันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าเบื่ออย่างนี้  เชื่อว่าพวกเราคงกินกันไม่ต้องถึงกับเมาหรอกครับ  อย่างมากก็แค่มึนๆ  จากนั้นก็คงกลับเข้าห้องแล้วนอนกันเลย... 

ผมหยิบเอาโทรศัพท์ออกไปเดินโทรหากันต์มันที่ชายหาดแก้เซ็งครับ  คุยกับมันค่อยได้หัวเราะขึ้นมาหน่อย  ตอนนี้มันกินข้าวเรียบร้อยไปแล้ว  และกำลังนั่งปั่นงานต่อ  มันถามผมว่าพรุ่งนี้อยากกินอะไร  ซึ่งผมก็แล้วแต่มันครับ  เพราะจะเป็นอะไรก็ได้  ถ้าเป็นฝีมือมันแล้ว  รับรองเลยว่าอร่อยทุกอย่าง

ผมเลือกที่จะไม่เล่าเรื่องของพวกน้องฮานะ  เลยโกหกมันไปว่าตอนนี้พวกเราอยู่กันแค่ 4 คนเท่านั้น  คือไม่อยากให้มันคิดมากอะครับ....  สู้ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปโดยที่มันไม่รู้อะไรเลยจะดีกว่า....


สักพักหนึ่งผมก็วางสายไปและปล่อยให้มันทำงานต่อ  ส่วนผมก็เดินกลับเข้ามาหาพวกเพื่อนๆ ที่โต๊ะ  ซึ่งตอนนี้พวกน้องๆ ก็มานั่งรวมกันที่โต๊ะจนเต็มแล้ว  หลังจากที่เมื่อกี้กำลังสุมหัวกันอยู่ที่เตาปิ้งย่าง


“ เดี๋ยวฮานะชงเหล้าเพิ่มให้นะคะพี่กิจ “

ฮานะพูดขึ้น  และไม่รอให้ผมอนุญาตอะไร  เธอก็หยิบเอาแก้วเหล้าที่เหลืออยู่แค่ก้นแก้วของผมไปชงเพิ่มให้ทันที  และมันก็เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง  จนผมเริ่มจะรู้เจตนาของเธอแล้ว  และยิ่งไอ้พีมันเข้ามากระซิบบอกผมที่ข้างหู  มันก็ยิ่งชัดเจนเลยว่าน้องเขาต้องการจะมอมเหล้าผม  แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับ  เพราะเหล้าแค่นี้ทำอะไรพวกผม 4 คนไม่ได้หรอก


“ พี่กิจนี่หุ่นดีจังเลยนะคะ  ดูแลตัวเองดีจังเลย “

ทันทีที่ผมถอดเสื้อตัวนอกออกมาวางไว้บนที่นั่งข้างๆ ตัว  เหลือเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวตัวเดียวเท่านั้นที่ใส่อยู่  ฮานะก็พูดขึ้นมาพร้อมกับเอามือมาจับที่ต้นแขนผมพร้อมบีบมันอย่างเบามือเพื่อปลุกเร้าอารมณ์

ผมเหลือบมองด้วยสายตาเนือยๆ จนไอ้บิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับหลุดขำออกมา  ไม่นานผมก็เบี่ยงแขนให้หลุดออกจากมือของเธออย่างรู้สึกรำคาญ

สำหรับผมนะครับ  ผู้หญิงคนไหนยิ่งง่ายก็ยิ่งไม่มีคุณค่า  มันน่าเบื่อและไม่ท้าทายอะไรเลย  เท่าที่ผ่านมาคนประเภทนี้  อย่างมากก็เป็นได้แค่ของเล่นระยะสั้นของผมก็เท่านั้นเอง

อย่างนึงที่ผมกับไอ้คิมต่างกันในเรื่องของความเจ้าชู้ก็คือ  ผมจะไม่คบซ้อน...  ซึ่งตอนนี้ในใจของผมก็มีอยู่แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น  ซึ่งนั่นก็คือ กันต์...  คนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกได้มากกว่าทุกคนที่ผมเคยเจอ  ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนที่เข้ามา  ผมก็จะไม่สนใจทั้งนั้น


ระหว่างการสังสรรค์  ฮานะเองก็ดูจะเปลี่ยนลูกเล่นไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าการมอมเหล้าผมนั้นดูท่าจะยาก  ในขณะที่ปริมาณเหล้าที่เหลืออยู่ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ  เธอเริ่มเข้ามาเนียนสัมผัสตัวผมมากขึ้น  ไม่ว่าจะลูบต้นแขนหรือเอามาวางไว้ที่หน้าขาด้วยท่าทีพลั้งเผลอหรือไม่ได้ตั้งใจ  แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผล  เพราะผมไม่ได้เกิดอารมณ์อะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย

เมื่อถึงที่สุดแล้ว  เธอจึงเอนหัวลงมาซบที่ไหล่ผม  ทำราวกับว่าเมามากและไม่ค่อยจะไหวแล้วในตอนนี้  ก่อนจะใช้ลูกเล่นเดิมๆ ที่แท็คทีมกับเพื่อนของเธอเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“ ฮานะ... ฉันว่าแกดูจะไม่ไหวแล้วนะ “

เจนว่ามาในขณะที่ฮานะเองก็ทำทีคอพับคออ่อนอยู่บนไหล่ผม  ทั้งๆ ที่ดื่มไปยังไม่ถึง 2 แก้วเสียด้วยซ้ำ  ส่วนน้องลูกพีชที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองก็กำลังนัวเนียไอ้คิมอยู่ในตอนนี้...

ใครจะไปคิดกันละครับ  ว่าจากตอนแรกที่เห็นหน้าตาสวยๆ ทำราวกับว่าอ่อนต่อโลก  ตอนนี้จะมาพากันทำตัวเหมือนเด็กนั่งดริ้งไปซะอย่างนั้น

ฮานะทำท่าว่าจะลุกขึ้นแต่ก็แกล้งทำเป็นยืนไม่ไหว  แล้วจึงล้มลงมากอดผมเอาไว้เสียอย่างนั้น  จนทั้งไอ้พีและก็ไอ้บิวต่างพากันขำออกมาราวกับดูละครลิง....  ส่วนผมน่ะเหรอ..  ทั้งหน้าและสายตา... เซ็งโครตๆ เลยครับ

นี่น้องเขาคงจะประเมินพวกเราต่ำไปนะครับ  ว่าจะดูละครเด็กๆ ที่พวกเธอกำลังแสดงอยู่ในตอนนี้ไม่ออก  แต่เพราะมันก็เป็นแค่เรื่องเด็กๆ นั่นแหละ  พวกเราถึงไม่ได้พูดอะไร  อย่างมากก็แค่ขำให้กับการแสดงตรงหน้านี้เท่านั้น ( ยกเว้นผม )

“ ท่าทางฮานะจะกลับห้องไม่ไหวนะคะพี่กิจ “

นั่นไง.. ลูกพีชว่ามาด้วยมุขเดิมๆ  ซึ่งก็คงตามมาด้วย...

“ รบกวนพี่กิจช่วยพามันกลับไปนอนที่ห้องทีได้มั้ยคะ “

“ ได้สิ...  พี่ว่าพี่ก็จะกลับไปนอนแล้วเหมือนกัน “

ผมตอบรับไป  ก่อนจะหยิบเสื้อข้างๆ ตัวขึ้นมา  พร้อมกับประคองน้องเขาลุกขึ้นตาม

“ อ้าวจะนอนแล้วเหรอวะ...  ไวสาด!! “

ไอ้คิมมันทักขึ้นมาครับ  ซึ่งผมก็ได้แต่ขานรับในลำคอส่งให้ไปเท่านั้น  คือมันไม่สนุกเลยครับ  ออกจะน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำไป  ไม่สุดอย่างที่คิดเอาไว้เลย  แบบนี้สู้กลับไปนอนที่ห้องยังจะดีซะกว่า


..........................................


ผมพาฮานะมาส่งถึงหน้าห้อง  ทว่าเธอกลับยังคงรั้งให้ผมพาเธอเข้าไปส่งให้ถึงข้างใน  ซึ่งผมก็เล่นตามน้ำให้ด้วยเช่นกัน  มันก็น่าสนุกดีนะครับว่าน้องเขาจะทำอะไรต่อไป

ผมค่อยๆ ประคองโน้มตัวเธอลงไปนอนบนเตียง  ในขณะที่มือเรียวที่คล้องคอผมอยู่นั้น  ก็เริ่มไล้ผ่านต้นแขนเปลือยเปล่าของผมไล่ยาวลงมาถึงมือที่ผมถือเสื้อนอกของผมเอาไว้  เธอพยายามคลายมันออกและจับมือผมให้เลื่อนเข้ามาสัมผัสที่เอวของเธอ  ซึ่งผมก็ว่าตามไปอย่างง่ายดาย  ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเธอก็ยกสูงขึ้นมาสัมผัสแผ่นอกหนาภายใต้เสื้อกล้ามบางของผม  ก่อนจะไล้สัมผัสแผ่วเบาไล่ลงมายังขอบกางเกงเพื่อปลุกเร้าในอารมณ์

ผมมองเธอตาเคลิ้มพร้อมกับยิ้มกริ่มอยู่ที่มุมปาก  ก่อนที่จะ...



“ หลับให้สบายนะครับน้อง... “


ผมยันตัวลุกขึ้นมายืนอย่างรวดเร็ว  ทิ้งให้เธอนอนหน้าเหวอและค้างในอารมณ์ไปอย่างนั้น....

น่าเบื่อ..  ไร้อารมณ์  และไม่มีคุณค่าอย่างถึงที่สุด...

ผมที่ไม่สนใจอะไรอีก  ก็เดินหน้าเฉยออกจากห้องของเธอไปในทันที...

...................

โทษฐานที่ทำผมหมดสนุกกับทริปในครั้งนี้  ก็เชิญผิดหวังนอนอารมณ์ค้างต่อไปเถอะน้อง.... 

ส่วนผม....  คงต้องรีบนอนแล้วล่ะครับ  จะได้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ  อยากกลับไปหาคนที่อยากจะเจอแล้วล่ะครับ....




................




เช้าวันต่อมา

ผมที่ไม่ได้เมาอะไรเลยเมื่อคืนนี้  ออกจากห้องแต่เช้าเพื่อมาวิ่งออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกทีที่มาทะเล  ในขณะที่ไอ้บิวกับไอ้พีที่ไม่รู้ว่ากลับห้องมากันกี่โมง  ยังคงหลับสนิทไม่ยอมตื่นอีกตามเคย

หลังจากออกกำลังกายเสร็จ  ผมก็มานั่งทานอาหารเช้าพร้อมกับจิบกาแฟมองละครดราม่าระหว่างไอ้คิมกับน้องลูกพีชอยู่ไกลๆ  ก็คงเป็นการบอกเลิกกันในแบบเดิมๆ ของมันนั่นแหละ  แต่คราวนี้ไอ้คิมเจ็บตัวหน่อยครับ  เพราะโดนน้องเขาตบหน้าไปหนึ่งที  จากนั้นพวกสาวๆ ก็พากันกลับไปเลย  โดยไม่ได้เข้ามาลาอะไรกับพวกผมเลยสักคน

จบแบบนี้ก็ดีแล้วครับ  หวังว่าเราคงจะไม่ต้องมาเจอกันอีกแล้วนะ...





...........................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/05/2561 update chapter 42 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 04-06-2018 01:09:24
กันต์’s  Part



กว่าบ่าย 3 โมง  ผมวางดินสอกดลงเพื่อพักงานที่ทำใกล้จะเสร็จแล้วลง  ก่อนจะออกจากห้องและโบกรถไปยังซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ไม่ไกลมากจากคอนโด  เพื่อหาซื้อของมาเตรียมทำอาหารสำหรับมื้อเย็นของวันนี้

ผมนี่มันใจง่ายจังเลยนะครับ  แค่พี่เขามาพูดมาทำดีด้วยหน่อย  ก็ไปไหนไม่รอดอีกจนได้  คือมันอดคิดไม่ได้อะครับ  ว่าพี่เขาเองก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกันกับผมแล้วก็เป็นได้ 

แต่ก็แค่คิดอะนะ...  เพราะความเป็นจริงมันก็ชัดเจนมาจากปากของพี่เขาอยู่แล้วแท้ๆ


.....................


ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต

เมนูวันนี้ผมว่าจะทำต้มยำปลากะพง กับ ผัดบล็อคโคลี่ใส่กุ้งครับ  ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเลือกบล็อคโคลี่อยู่  หลังจากที่ได้เนื้อสัตว์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อกี้พี่กิจเองก็พึ่งไลน์มาบอกว่าอีกไม่เกินชั่วโมงนึงก็คงมาถึงแล้ว  แถมยังซื้อของมาฝากผมอีกด้วย  ดูพี่เขาจะเอาใจผมมากกว่าปกติเลยนะครับ  ถึงกระนั้นผมก็ยังคงหวั่นๆ ในเรื่องที่พี่เขาจะคุยกับผมอยู่ดี 

แต่ช่างเหอะ...  ผมมันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียไปมากกว่านี้แล้ว  บอกชอบก็บอกไปแล้ว  โดนปฏิเสธก็โดนมาแล้ว  เมื่อมาถึงจุดที่ต่ำที่สุดแบบนี้  ยังจะมากลัวอะไรอีกล่ะ...อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดไปเถอะ  ว่ามั้ยละครับ



ผมกลับมาถึงห้องอีกทีก็เกือบจะ 5 โมงเย็นแล้วละครับ  จากนั้นก็เริ่มเตรียมของสำหรับมื้อเย็นทันที  เพราะน่าจะพอดีกับที่พี่เขาจะมาถึง  แต่ผิดคลาดครับ  เพราะไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรเลย  เสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มหล่อๆ ที่หอบถุงของฝากเข้ามามากมาย

ผมเผลอหันไปยิ้มต้อนรับให้อย่างไม่ทันจะรู้ตัว  พอนึกขึ้นได้ก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน  เมื่อเจอสายตากรุ่มกริ่มของพี่เขาที่มองมา 

“ พี่ไม่อยู่หนึ่งวันคิดถึงกันรึเปล่า “

“ อะไร...  บ้าเหรอ  แค่วันเดียวใครจะไปคิดถึง “

พูดจบจู่ๆ คุณชายท่านก็ทำหน้าหงอยลงไปทันที....  เพียงแต่....


เล่นละครชัดๆ  ผมรู้ทันพี่หรอกน่า!!!


“ แต่พี่คิดถึงเรานะ...  ไหนทำอะไรให้พี่กินบ้างฮึ...  หอมเชียว... “

พี่กิจที่เดินเข้ามาทางด้านหลังเอาคางมาเกยที่ไหล่ผมแล้วพูดขึ้น...  จะบ้าตาย....  จิตใจของผมไม่ได้จะทนทานกับพฤติกรรมแบบนี้ของพี่ได้มากนักหรอกนะ 

โอ้ยไอ้พี่กิจ!!!  ไอ้พี่บ้า!!!  ทำอะไรของพี่เนี่ย!!!!

“ ไปไกลๆ เลย  เดี๋ยวไม่ทำให้กินหรอกนะ “

พูดจบผมก็เอาข้อศอกกระทุ้งสีข้างพี่เขาไป  ได้ยินเสียงพี่เขาขำเล็กๆ ในลำคอ  ก่อนจะยอมถอยออกไปแต่โดยดี  แล้วเอาถุงของฝากไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว


“ แล้ว... มานั่งทำอะไรตรงนี้อะ “

ผมถามขึ้นเมื่อหันมาเห็นพี่กิจนั่งเท้าคางจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลาแบบนี้

“ ทำไม...  นั่งไม่ได้เหรอ “

“ ก็...  มันกวนสมาธิผม “

“ จริงอะ... “

ฟังจากน้ำเสียงแล้ว  ตั้งใจกวนกันชัดๆ เลยนี่หว่า

“ พี่กิจ...  กวนมากๆ ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวไม่ให้กินนะ “

“ อ่าว...  ใจร้ายจัง...  นั้นมา...  จะให้ทำไรเดี๋ยวพี่ช่วย “

ผมแกล้งยิ้มให้ก่อนจะทำหน้าดุๆ ตอบกลับไปทันที

“ อยากช่วยใช่มั้ย...  โน่นเลย.... โมเดลภาพคลี่ในห้องผม “

“ ไม่อะ  จะอยูช่วยตรงนี้ “

“ อ่าว...  ก็พี่บอกเองนี่  ว่าจะช่วยงานผมแลกกับมื้อเย็นไง  นั้น...  ถ้าพี่ไม่ทำ... ก็อด... “

“ เดี๋ยวนี้ร้ายนะเราอะ  พี่กลับมาเหนื่อยๆ แท้ๆ ยังจะไล่ให้ไปทำงานอีก “

ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตอบไปครับ  แต่พอลับหลังพี่เขาไปแล้ว  ผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เสียอย่างนั้น... 

คือต่อหน้ามันก็ต้องมีฟอร์มกันบ้างอะครับ....


สักพักใหญ่มื้อค่ำก็เสร็จเรียบร้อย  พี่กิจเองก็ทำโมเดลจากแบบภาพคลี่ของผมเสร็จไปกว่า 4 ชิ้นแล้ว  ไวโครต..  แถมงานก็ออกมาเนียบอีกด้วย  อย่างนี้ให้ทำจนหมดเลยดีกว่า  อิอิ

จากนั้นผมก็เรียกพี่กิจมาทานข้าวครับ  และนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่คุณชายท่านตักข้าวให้ผม ( ไม่นับตอนที่ผมป่วยนะ )  ชักเริ่มรู้สึกว่าพี่เขาเอาใจผมแปลกๆ แล้วสิเนี่ย  หวังผลอะไรรึเปล่านะ

“ อะ... “

ทันทีที่เริ่มลงมือทาน  พี่กิจก็ตักบล็อกโคลี่กับกุ้งส่งมาในจานให้ผมครับ  ทำเอาผมมองหน้าพี่เขาอย่างระแวงทันที

“ ปกติไม่เคยเห็นจะทำให้  มีไรปะเนี่ย “

“ อะไร...  ไม่ชอบรึไง  ที่พี่เอาใจแบบนี้ “

“ ก็มันแปลกนี่... “

“ วันนี้อาจจะแปลก  แต่ต่อไปเดี๋ยวก็ชิน “

“ หมายความว่าไง.... “

“ ก็... “

แล้วพี่กิจก็วางช้อนกับซ้อมลงทันที  ก่อนจะเริ่มพูดต่อด้วยใบหน้านิ่งๆ  แต่กระนั้นผมกลับเห็นความประหม่าในแววตา

“ เรื่องที่พี่จะพูดกับเราไง... “

มาถึงตรงนี้ผมเองก็ถึงกับวางช้อนและส้อมลงบนจานด้วยเช่นกัน  อดหวั่นใจขึ้นมาไม่ได้อยู่เหมือนกันนะครับ  เพราะผมยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลย  แต่เป็นไงเป็นกัน  ผมเองก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้วนี่

“ คือ..  ไม่รู้จะพูดยังไงดี...  คือ..  พี่ลองมาคิดดูแล้วนะ..  บางที...  เอ่อ...  พี่อาจจะชอบเราแล้วก็ได้ “


อะไรนะ...  ชอบผมอย่างนั้นเหรอ...

ไม่จริงใช่มั้ย....  มัน...  เป็นไปได้ยังไงกัน...


“ ถ้ากันต์ยังชอบพี่อยู่...  เรา...  เอ่อ... “

“ …… “


……

…..


“ มาลอง....  คบกันดูมั้ย “

“ …. “

“ …. “


....


...


...


“ จะดีเหรอครับพี่...  จริงๆ แล้ว.. พี่เองก็ยังไม่แน่ใจกับสิ่งที่พี่พูดมาเลยไม่ใช่เหรอ... “

ทั้งๆ ที่ผมควรจะดีใจกับคำพูดเหล่านี้แท้ๆ... 

แต่ว่า...

น้ำเสียงที่ประหม่าและแววตาที่ผลุบต่ำลงแทนที่จะมองหน้าผมอย่างมั่นคง  มันทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความไม่แน่ใจในความรู้สึกของพี่เขา...

ผมน่ะ...  อยากจะตระโกนตอบรับไปดังๆ เลยแท้ๆ  แต่ก็ทำไม่ได้...

เพราะบนความไม่แน่ใจนี้...  มันไม่ใช่แค่ตัวผมเท่านั้นนะที่อึดอัด  แต่เป็นเราทั้งคู่ที่อาจจะต้องมาเจ็บปวด...  หากยังไม่แน่ใจและไม่คิดให้ดีเสียก่อน

พี่กิจเหลือบตาขึ้นมามองผมอย่างประหม่า  ก่อนจะเอื้อมมือเข้ามากุมมือผมที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว

“ กันต์.... ไม่ใช่ว่าพี่ยังไม่ชัดเจนในความรู้สึกนะ  แต่แค่พี่ยังไม่แน่ใจ.... ว่าเราจะคบกันไปยังไงในความสัมพันธ์แบบนี้...  คือพี่ไม่เคย...  เอ่อ...  ถ้ายังไง..  เรา...มาลองคบกันดูก่อนมั้ย... “

ได้ยินอย่างนี้แล้วผมก็เข้าใจพี่เขานะครับ  จากผู้ชายแท้ๆ  จะให้มาคบกับผู้ชายด้วยกันแบบนี้...  มันก็ไม่แปลกหรอกครับที่พี่เขาจะกังวล  เพียงแต่....

“ ถ้าพี่กิจยังไม่แน่ใจจริงๆ  เรา..  อย่าพึ่งเลยดีกว่าครับ  เพราะถ้าพี่ทำอย่างนั้น  แล้ววันนึงมันไม่ใช่สำหรับพี่ขึ้นมาจริงๆ....  ถ้าเราต้องมาเลิกกัน...  การไม่ได้คบกันเลยตั้งแต่แรก  มันคงจะรู้สึกดีซะกว่า.... “

“ แต่... “

“ เอาไว้พี่พร้อมและแน่ใจจริงๆ ก่อน  แล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่ดีกว่าครับ “

“ .... “

“ … “

“ จะเอาอย่างนั้นก็ได้นะ...  แต่...  พี่ไม่ขอเป็นพี่น้องแล้วนะ...  เพราะจะให้พี่กลับไปรู้สึกแค่นั้นมันคงทำไม่ได้หรอก “

“ แล้ว... ความสัมพันธ์ของเรามันจะเป็นแบบไหนกันล่ะ... “

“ ก็ถ้าเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน  มันสำคัญด้วยเหรอว่าจะเรียกว่าอะไร “

“ มันก็จริง... “

“ ขอแค่ให้เรารู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับเราก็พอ...  รอพี่อีกหน่อยนะ...  เพราะฉะนั้นตอนนี้  ถือว่าพี่จองไว้แล้วนะ “

“ อย่างนี้ก็ได้ด้วยเหรอ “

“ แน่นอน...  ดังนั้นห้ามให้ใครเข้ามาเกาะแกะด้วยล่ะ...  นอกจากพี่ “

“ อันนี้ก็ไม่รับประกันนะ  เพราะถ้าพี่ปล่อยให้ผมต้องรอไปนานๆ แล้ว.... “

“ ไม่ต้องห่วง...  พี่ไม่ให้เรารอนานนักหรอก... “

“ แต่พี่กิจ...  ไม่ว่าคำตอบที่พี่ได้มันจะเป็นยังไง..  ขอให้บอกความจริงกับผมนะ... “

“ แน่นอนครับ... “



....................


ภายในห้องนอนของผม

มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ  ที่รู้ว่าพี่กิจเองก็รู้สึกอย่างเดียวกันกับผม... ต่อให้ความเป็นจริงเราจะไม่สามารถคบกันในฐานะคนรักได้ก็ตาม... แต่แค่ได้รู้ว่ารักกัน  สำหรับผมมันก็มากเกินฝันไปแล้วละครับ...

ผมวางดินสอกดลงบนโต๊ะเขียนแบบ  เมื่อลงชื่อในกระดาษปอนด์ใบสุดท้ายเสร็จ  ก่อนจะหันหน้าไปมองยังพี่กิจที่นั่งทำโมเดลให้ผมอยู่บนพื้นห้องอย่างตั้งใจ

“ แอบมองแบบนี้...  อยากให้พี่.... ช่วยทำไรให้อีกรึเปล่า... “

“ มองอะไร...  ใครมอง  แค่พักสายตาเฉยๆ  แล้วคิดว่าผมอยากให้ทำอะไร  ฮึ... “

จมูกไวเป็นสุนัขเลยครับ  รู้ตัวไปซะทุกครั้งที่ผมแอบมองเลยสิน่า

“ ก็...  ทำอะไรในแบบที่คืนก่อนเราทำกันไง “

พี่กิจวางชิ้นงานที่กำลังทำลง  ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

“ บ้าเหรอ..  ฝันไปเหอะ “

พอผมพูดจบพี่กิจก็เลิกคิ้วให้อย่างไม่สนใจและท้าทายส่งมา  หน้าหมันไส้จริงๆ เลยครับ

ผมลุกออกจากเก้าอี้ที่โต๊ะเขียนแบบไปหยิบเอาการ์ตูนที่อ่านค้างไว้เมื่อวันก่อน  แล้วจึงทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงใกล้ๆ กับพี่กิจที่นั่งทำงานให้ผมอยู่ข้างๆ เตียง  พี่กิจเหลือบตามามองผมอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ผมเลยนอนอ่านการ์ตูนต่อได้ยาวเลยครับ

รู้สึกดีจังเลยแฮะ  ถึงแม้ว่าจะยังอยู่บนความสัมพันธ์ที่คลุมเครือแบบนี้อยู่ก็ตาม 

ความรู้สึกที่มีคนที่เรารักและเขาก็รักเราอยู่ใกล้ๆ แบบนี้  ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน....  มันช่าง... 

อบอุ่นและมีความสุขจริงๆ เลยครับ.....




............................




วันต่อมา....

ทำไมความรู้สึกดีๆ สำหรับคนอย่างผม...  มันช่างผ่านไปไวจริงๆ เลยนะ....  หรือว่านี่อาจจะเป็นชีวิตที่ถูกสาปกันแน่

เมื่อหญิงสาวที่ผมรู้จักดีส่งยิ้มมาให้จากทางหน้าห้องเรียน  ขณะที่ผมและเพื่อนๆ กำลังจะออกจากห้องเพื่อไปหามื้อเที่ยงทานกัน

“ น้องกันต์!   เลิกเรียนแล้วเหรอจ้ะ...  พอจะมีเวลาว่างสักแปบมั้ย “


“ เอ่อ... ครับ...  พี่ฮานะ... “






TBC.


---------------------------------------------------------------

ขอโทษนะครับที่ตอนนี้มาลงช้ามาก  วุ่นวายกับงานอะครับช่วงนี้  ไม่มีเวลาเลยครับอาทิตย์ที่ผ่านมา (ดูจากเวลาที่ลงได้งับ ตี1 :heaven)
แต่ต้องอดทนข่มตาไว้เพื่อทุกๆคนที่ติดตาม :pig4: :pig4: :pig4:

วันนี้คงจะไม่ได้พูดคุยมากนะครับ  มะไหวแว้วอะครับ  ต้องตื่นเช้าด้วย :heaven

ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจ  คำแนะนำ  และการติดตามนะครับ  :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. ใกล้ๆนี้จะเป็น NC นะครับ และไม่น่าจะเกิน 5 ตอนบอสใหญ่ก็จะถูกกำจัดละครับ( ฆ่ามานนนนนน) :angry2: หลังจากนั้นฟ้าก็จะเริ่มเปิด  จะเป็นการง้องอนที่น่าร้ากมากๆ  ก่อนจบในภาคแรก
ปล.อีกที  อีก 3 - 4 วันจะมาต่อตอนต่อไปให้นะคร้าบโผม

^____________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 04-06-2018 01:34:49
จริงๆนะอิฮานะโกรุโดะนี่กับเพื่อน2ตัวไม่ถึงร้อยนี่ทำตัวเหมือนแถวพัทยาแถมทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอีก
อย่าเรียกว่าบอสเลยเรียกโสไม่มีอย.ผู้ไม่ซื้อแค่นั้นเองอ่อยขนาดนี้ผู้ก็ไม่เอา  :beat:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-06-2018 01:44:13
เบื่อฮานะจริงๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-06-2018 01:49:26
ไงนังพี่กิจ สุดท้ายนังฮานอยก็ยังมีฤทธิ์อยู่ดี แล้วอีกตั้ง 5 ตอนกว่ามันจะ....... หวังว่าสุดท้ายมันต้องไม่ตายดี อาการต้องไม่ครบ 32 และต้องทำต่อหน้าสาธารณะชนด้วย ทำได้ไหม  :angry2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-06-2018 02:31:18
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยังไม่เลิกราอีกเหรอ  ยัยฮานะจอมแรด
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-06-2018 03:11:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 04-06-2018 08:38:47
ชอบตอนพี่กิจคุยกับพี่พี :)

แต่ฮานะนี่มีความด้าน
ผู้ชายแสดงออกขนาดนั้นยังไม่เลิกอีก หึ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-06-2018 08:44:51
อิฮานะฉันจะจ้างคนไปยิงแก  ฉันจะไม่ทนแล้วนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-06-2018 08:45:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 04-06-2018 10:32:51
ฮานะนี่ยังไม่เลิกยุ่งใช่ไหม? เด๋วจะโดนไม่ใช่น้อย


คบกันแล้วพี่กิจน้องกันต์ น่ารักค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 04-06-2018 11:35:07
ฮานะเหมือนหลุดออกมาจากในละครหลังข่าว55555 :katai4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 04-06-2018 12:16:20
ขอให้น้องกันต์ฉลาดๆ อิพี่กิจโง่คนเดียวพอละ 555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 04-06-2018 13:11:01
ว้ายฮานะต้องนางนี้ร้ายย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: HerBerry ที่ 09-06-2018 23:35:04
รออยู่จ่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 12-06-2018 08:20:14
มารึยังเอ่ยนอนานแล้วเด้อ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 12-06-2018 14:58:02
โว้ย ชัดเจนสักทีสิพี่กิจ  :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 12-06-2018 21:05:45
Chapter 44



กันต์’s  Part



ที่ม้านั่งยาวใต้ตึกเรียน

หลังจากที่ผมบอกให้พวกเพื่อนๆ ไปหาข้าวทานกันก่อนแล้วผมจะตามไปทีหลัง  ผมกับพี่ฮานะก็ลงมานั่งคุยกันที่ใต้ตึกครับ

“ คือ...  พี่มีเรื่องจะถามอะไรเราสักหน่อยน่ะ “

ไม่รอช้า  พี่เขาก็เริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาทันทีครับ

“ เรื่องอะไรเหรอครับ “

“ ก็...  เรื่องของพี่กิจน่ะ  คือพี่เห็นว่าเราใกล้ชิดกับพี่กิจมากที่สุด  พี่ก็เลยอยากรู้ว่าตอนนี้พี่เขามีใครหรือคุยกับใครอยู่รึเปล่า “

จู่ๆ ก็โดนถามมาอย่างนี้ แล้วจะให้ผมตอบยังไงดีล่ะ

“ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ  ทำไมพี่ฮานะไม่ลองไปถามพี่กิจตรงๆ ดูเลยล่ะครับ “

“ พี่ไม่กล้าหรอก...  แถมพี่กิจเขาเจ้าชู้จะตาย  พี่กลัวว่าเขาจะไม่บอกความจริงกับพี่น่ะ “

“ ไม่หรอกครับ  พี่กิจเขาไม่ใช่คนชอบโกหกหรอก “

“ แต่ประวัติพี่เขาที่ผ่านมา  ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละว่าพี่เขาเจ้าชู้มาก  ถ้าเขาจะแอบมีใครเพิ่มอีกสักคน..  พี่ก็คง... “

แอบคบใครเพิ่ม... หมายความว่าไง  ก็ไหนพี่กิจบอกว่าพี่เขากับพี่ฮานะไม่ได้มีไรกันนี่

“ เอ่อ..  พี่ฮานะครับ..  ผมขอถามอะไรสักอย่างจะได้มั้ย “

“ ได้สิจ๊ะ.. ว่ามาเลย “

ผมสูดลมหายใจเข้าปอดเล็กๆ  เพื่อเตรียมพร้อมกับคำตอบที่อาจจะไม่ถูกใจสักเท่าไหร่

“ พี่กิจกับพี่ฮานะ...  เอ่อ...  คบกันอยู่เหรอครับ “

ทันทีที่ผมถามจบ  พี่เขาก็ยิ้มกริ่มขึ้นมาทันที

“ แหมน้องกันต์ก็...  ถามแบบนี้แล้วพี่จะตอบยังไงดีล่ะ...  ไว้รอให้พี่กิจชัดเจนมากกว่านี้อีกหน่อย...  พี่ก็คงจะพูดอะไรได้มากกว่านี้ “

ราวกับหูผมอื้อไปชั่วขณะ  ใจมันหายอย่างบอกไม่ถูกครับ  อะไรคือความจริงกันแน่ระหว่างพี่กิจกับพี่ฮานะ...

“ เออใช่...  ฝากนี่ให้พี่กิจทีนะ “

แล้วพี่ฮานะก็หยิบเอาถุงกระดาษยื่นมาให้ผมบนโต๊ะ  พอผมรับมาก็แง้มออกดูสิ่งที่อยู่ข้างในทันที  ก่อนจะเห็นว่าเป็นเสื้อฮาวายสีขาวตัวหนึ่งอยู่ข้างใน

“ อะไรเหรอครับ “

“ อ๋อ...  พอดีคืนก่อนที่ไประยองกัน  พี่กิจเขาลืมเสื้อไว้ที่ห้องพี่น่ะ “

พูดจบพี่เขาก็ยิ้มกริ่มเป็นนัยให้ผมได้เข้าใจความหมาย....

ตัวชาไปหมดเลยครับ...  รู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย...  ก็ไหนพี่กิจว่าไปกันแค่ 4 คนไง....  แล้วทำไม...

ทำไมพี่ต้องโกหกผมด้วย...



“ น้องกันต์ ! “

“ คะ..ครับ “

“ เหม่ออะไรเหรอจ๊ะ  พี่เรียกตั้งนานแน่ะ   อิอิ “

“ ปะ..เปล่าครับ  พี่ฮานะมีอะไรเหรอ “

“ คือพี่จะขอเบอร์หรือไลน์น้องกันต์ไว้หน่อยน่ะ  เผื่อว่ามีอะไรพี่จะได้ติดต่อหาได้ “


ผมลังเลใจอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ยอมให้แต่โดยดี  ภายใต้สีหน้าขอร้องของพี่เขาที่ส่งมา 

จากนั้นเราก็แยกย้ายกันไป  ในขณะที่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรต่อดี  ผมกำถุงที่ใส่เสื้อฮาวายของพี่กิจเอาไว้อย่างสั่นๆ  ความสับสนหลั่งไหลเข้ามามากมายในหัว  ผมอยากจะรู้ความจริงจากปากของพี่เขาเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ  แต่ก็ยังไม่กล้า...

ผมเดินเบลอๆ เข้าไปยังห้องเรียนต่อไปในช่วงบ่าย  ทั้งๆ ที่เป็นเวลาพักและยังไม่มีใครเข้ามาเลยแท้ๆ  ตอนนี้ความหิวที่เคยมีมามันได้หายไปหมดแล้วละครับ  ทานอะไรไม่ลงเลยจริงๆ  ผมสับสนและอยากจะรู้ความจริงเป็นที่สุด...  เพียงแต่...

ความจริงจากปากของพี่เขา...  มันจะเชื่อได้แค่ไหนกันนะ....



......................................


“ ไงมึง...  เป็นไรเนี่ย...  ข้าวปลาไม่ยอมแดก  หรือว่าพี่ฮานะมาทำไรมึงวะ “

ไอ้เรย์ที่พึ่งเข้ามาถึงสะกิดผมที่กำลังฟุบหลับอยู่ (แต่ก็หลับไม่ลงนะครับ) พร้อมทั้งพูดขึ้นมาทันที  ท่าทางมันจะพึ่งทานข้าวกันเสร็จและยกโขยงกันมาทั้งหมดเลย  รวมทั้งไอ้ธันและก็แพรด้วย  ซึ่งจริงๆ แล้ว  ก่อนหน้านี้มันก็โทรมาหาผมไปแล้วนะครับ  เมื่อเห็นผมยังไม่ตามพวกมันไปทานข้าวที่โรงอาหารสักที  ซึ่งผมก็อ้างกับมันไปว่าติดธุระอยู่นิดหน่อย  ไว้ค่อยเจอกันที่ห้องเรียนเลยละกัน  ในขณะที่มือถือผมก็คอยจะส่งเสียงเตือนข้อความไลน์ออกมาเรื่อยๆ อีกกว่า 10 ครั้ง  ซึ่งก็เป็นของพี่กิจล้วนๆ เลย  กระนั้นผมก็ยังคงไม่ยอมที่จะเปิดเข้าไปอ่านมันอยู่ดี


“ ไม่ได้เป็นไร  กูไปธุระมา... “

ผมตอบไปเนือยๆ ครับ  มันก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้เล็กๆ  ก่อนจะยื่นถุงอะไรบางอย่างมาให้ผมบนโต๊ะ

“ อะ..  พี่กิจฝากมาให้  พอดีเจอพี่เขาที่โรงอาหาร  เห็นเขาตามหามึงอยู่นะ  บอกว่าไลน์ไปก็ไม่ยอมอ่าน  แต่กูบอกไปแล้วว่ามึงติดธุระอยู่  พี่เขาก็เลยซื้อของพวกนี้มาให้มึงแดก  เขากลัวว่ามึงจะยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงน่ะ “

มันว่าจบผมก็แหวกถุงออกดูทันที  ซึ่งข้างในก็เป็นพวกไส้กรอก ขนมปังและก็นมครับ

“ กันต์เป็นไรมั้ยเนี่ย  ไม่สบายรึเปล่า  ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ “

ไอ้ธันมันถามมาต่อครับ  แต่ผมก็ปฏิเสธไป  จากนั้นพวกไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์ก็พากันคาดเดาไปต่างๆ นานา  ว่าต้องเป็นฝีมือของพี่ฮานะแน่ๆ  ซึ่งก็ถูกของมันนะครับ  แต่ผมก็ไม่ได้ตอบรับอะไรออกไป  ได้แต่นอนหดหู่อยู่ที่โต๊ะเรียนอยู่อย่างนั้น


...................................


ตอนค่ำที่คอร์ดแบด

“ กันต์...  วันนี้มึงเป็นไรวะ  ดูมึงเหม่อๆ ไปนะ “

ไอ้เคที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินมาถึงล็อคเกอร์ข้างๆ ผมถามขึ้นมาทันที  หลังจากที่มันพึ่งไปอาบน้ำหลังซ้อมเสร็จมาใหม่ๆ

“ เหรอวะ “

“ ก็เออดิ... “

มันพูดจบก็มองเลยผมไปถามไอ้ธันที่กำลังใส่เสื้ออยู่เป็นเชิงถามว่ามีอะไรรึเปล่า  แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ กลับมา  ผมเดินหงอยๆ ออกมาพร้อมกับไอ้ธัน  ก่อนจะมานั่งอยู่ที่นั่งข้างสนามเพื่อรอให้พี่กิจมารับ  อยากจะกลับกับไอ้ธันนะครับวันนี้  แต่ก็ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะบอกกับพี่เขา

“ กันต์...  โอเคมั้ยอะวันนี้ “

ไอ้ธันที่นั่งรออยู่ด้วยกันเป็นเพื่อน  ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง  ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้มเจื่อนๆ ส่งให้ไปเท่านั้น  แล้วบอกไปเหมือนเดิมว่าไม่ได้เป็นอะไร

“ ถามจริงๆ นะ  กันต์มีปัญหาอะไรกับพี่กิจรึเปล่า “

ทันทีที่ได้ยินชื่อพี่กิจก็เหมือนว่าจะถูกแทงใจดำ  ผมเลยหันไปมองยังคนถามทันทีราวกับปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ

“ คือช่วงนี้เราเห็นกันต์กับพี่กิจก็ดูโอเคกันดี  แต่พอไอ้เรย์มาเล่าให้ฟังว่าพี่ฮานะมาคุยอะไรกับกันต์สักอย่าง  แล้วหลังจากนั้นกันต์ก็ดูจะเปลี่ยนไป...  เราก็เลยคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องพี่กิจก็ได้ “ 

ใช่ครับ  ที่มันวิเคราะห์มาก็ถูกแหละ  แต่เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะช่วยอะไรได้ละครับ 

“ คือ...  ถึงเราจะแก้ไขอะไรให้ไม่ได้นะ  แต่เราก็พร้อมรับฟังเสมอนะ  กันต์รู้อะไรมั้ย...  จริงๆ  แล้วเวลาที่คนเรามีปัญหาน่ะ  บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาช่วยแก้ไขอะไรให้เราหรอกนะ  แค่ได้มีใครสักคนที่พร้อมจะเข้าใจและรับฟังเรา  มันก็เพียงพอแล้ว....  และเรา...  ก็จะเป็นคนตรงนั้นให้กันต์เสมอนะ “

นั่นสินะ...

ผมยิ้มส่งให้มันไปเล็กๆ  ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้มันฟัง  รวมถึงเรื่องที่ผมกับพี่กิจได้ตกลงกันเอาไว้ด้วย  อาจจะเพราะมันเป็นคนที่ไว้ใจได้ละมั้งครับ  ถึงทำให้ผมกล้าเล่าให้ฟังได้อย่างหมดเปลือกไปแบบนี้


.................


“ เราว่าบางทีพี่เขาอาจจะมีเหตุผลที่ไม่อยากจะบอกให้กันต์ฟังก็ได้นะ “

พอผมเล่าจบ  มันก็พูดขึ้นมาครับ

“ เหตุผลอะไรอะ  บอกความจริงกับกูก็ได้นี่  ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย  ไม่เห็นจำเป็นต้องปิดบังกันเลยนี่  ที่สำคัญ...  กูก็ไม่ใช่จะไม่มีเหตุผลอะไรขนาดนั้น... “

“ ก็ถ้าในมุมมองของกันต์มันก็อาจจะใช่...  แต่กันต์ลองนึกถึงว่าถ้ากันต์เป็นพี่เขาดูสิ  การจะบอกว่าไปต่างจังหวัดกับผู้หญิงที่มาชอบตัวเองกับคนที่เราแคร์มากๆ  เป็นเรา..  เราก็อาจจะทำแบบพี่กิจก็ได้ “

ได้ยินมันอธิบายมาอย่างนี้  ผมก็เข้าใจนะครับถ้ามันจะเป็นเหตุผลนี้จริงๆ  แต่มันก็อดนอยด์ขึ้นมาไม่ได้เหมือนกันนี่ครับ  กับการที่มาถูกหลอกแบบนี้

“ แต่การมารู้ทีหลังจากคนอื่น  มันไม่เสียความรู้สึกมากกว่าเหรอ “

“ ก็จริง...  แต่ไม่ว่าจะยังไง  ลองคุยกับพี่เขาดูก่อนน่าจะดีที่สุด  ส่วนเรื่องที่ว่ากันต์จะเชื่อใครนั้น  กันต์เองนั่นแหละที่รู้ดีที่สุด  เพราะว่ากันต์รู้จักพี่เขาดีกว่าใครทั้งนั้น... “

“ แล้วถ้าสิ่งที่เราคิดว่าใช่.. มันกลับไม่ใช่ล่ะ  คือกู..ไม่อยากจะเป็นคนโง่หรอกนะ “

“ แล้วความรู้สึกกันต์.... คิดว่าพี่เขาเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ เหรอ... “

“ ก็...  เปล่าอะ.. “

“ กันต์... ความไว้ใจอะ...  เราควรมอบให้กับคนที่รู้จักก่อนคนที่เราไม่รู้จักนะ...  ลองคุยกับพี่เขาดีๆ ดูก่อน..  โน่น....เดินมาโน่นแล้ว “

ไอ้ธันพูดจบก็ลิ่วตาให้ผมหันไปมองยังพี่กิจที่กำลังเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหาผมอย่างไม่สนใจสายตาผู้คนมากมายที่กำลังจับจ้องหน้าตาและหุ่นอันเซ็กซี่ภายใต้ชุดบาสนั้นอยู่เลย

“ พี่ไลน์ไปทำไมไม่ตอบ  โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย “

พอมาถึงพี่เขาก็ถามผมเสียงเข้มขึ้นมาเลยทีเดียว  ก่อนจะเหล่สายตามองไปยังไอ้ธันมันอยู่เล็กน้อย

“ เรียนอยู่อะครับ  ตอนที่โทรมาผมก็ไม่ได้ยิน  สงสัยคงซ้อมแบดอยู่ “

ผมตอบไปเสียงเรียบครับ  แต่ก็ดูเหมือนว่าเหตุผลของผมคงพอจะทำให้พี่เขาเข้าใจได้  จากนั้นพี่กิจก็ช่วยผมถือกระเป๋า  ก่อนจะเดินนำผมออกไปจากโรงยิม  ผมหันมาขอบใจและก็ลาไอ้ธันมัน  ก่อนจะรีบเดินตามพี่เขาไปติดๆ


ภายในรถ

ไม่ทันที่พี่กิจจะได้สตาร์ทเครื่อง  ผมก็ตัดสินใจถามในสิ่งที่รบกวนจิตใจของผมตลอดมา  ช่างมัน...  อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดครับ  อย่างน้อยก็จะได้รู้ความจริงสักที  ไม่ต้องมามัวอึดอัดใจอยู่อย่างนี้

“ พี่กิจ.. “

“ หือ... “

“ ผมถามจริงๆ นะ  วันที่พี่ไประยอง  พวกพี่ไปกันแค่ 4 คนจริงๆ เหรอ “

พี่กิจเหมือนจะอึ้งไปเล็กน้อย  และเหมือนว่าจะลังเลใจที่จะตอบอยู่เหมือนกัน  ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมหวั่นใจมากขึ้นไปอีก

“ ทำไมเราถึงถามแบบนี้ล่ะ “

“ ผมก็แค่อยากรู้เฉยๆ อะครับ “

พี่กิจก็เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น

“ ก็ตามที่พี่บอกเรานั่นแหละว่าไปกันแค่ 4 คน  แต่... “

พี่กิจชะงักไปเล็กน้อย  ในขณะที่เราต่างก็จ้องตากันอย่างประหม่าด้วยกันทั้งสองฝ่าย  ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปก่อนจะกลั้นใจฟังพี่เขาพูดต่อ

“ กลุ่มของน้องลูกพีชเขาตามไปด้วย... “

ทั้งๆ ที่เตรียมใจเอาไว้แล้ว  แต่พอมาได้ยินจากปากของพี่เขาตรงๆ แบบนี้  มันก็อดรู้สึกแย่และผิดหวังขึ้นมาไม่ได้อยู่นะครับ

“ แต่ว่าพวกพี่ไม่ได้รู้เรื่องกันด้วยนะ  ลูกพีชเขาตามไอ้คิมมันไปเอง  พวกพี่ก็ไม่ได้ชอบนักหรอกที่พวกน้องเขาตามไปที่นั่น... “

“ พี่ไม่ชอบจริงๆ เหรอ... “

“ ก็ใช่สิ...  กันต์เชื่อพี่นะ “

พี่กิจพูดพร้อมกับจ้องตาผมด้วยสายตาเว้าวอน  ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของผมเอาไว้

“ ผมไม่รู้ว่าอะไรมันคือความจริงอะ  เพราะพี่เองก็ไม่พูดความจริงกับผม  แล้วพี่ฮานะก็ยังบอกอีกอย่าง... “

“ อะไรนะ..  ฮานะ...?  ฮานะมาพูดอะไรกับเรา “

ผมมองหน้าพี่เขาเคืองๆ  แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป  ก่อนจะหยิบเอาถุงเสื้อที่พี่ฮานะฝากมาให้พี่กิจยื่นส่งไปให้แทนคำตอบ

“ พี่เขาฝากมาคืนพี่อะ  บอกว่าพี่ลืมไว้ในห้องเขาคืนนั้น “

พี่กิจเปิดถุงออกดูก่อนจะทำหน้าเหวอแล้วรีบพูดขึ้นมาทันที

“ เดี๋ยวนะกันต์  มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดนะ  พี่อธิบายได้ “

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ  ได้แต่ทำหน้านิ่งจ้องพี่เขาไปอย่างนั้น  พี่กิจโยนถุงเสื้อทิ้งไปยังเบาะหลัง  ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างเข้ามากอบกุมมือของผมเอาไว้

“ คือ...  วันนั้นฮานะเขาเมามาก  พี่ก็แค่พาไปส่งที่ห้องเพราะเพื่อนเขาขอให้ช่วยก็แค่นั้นเอง...  มันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้นจริงๆ นะ  และคืนนั้นพี่ก็นอนกับพวกไอ้บิวไอ้พีกันสามคน  ถ้ากันต์ไม่เชื่อให้พี่โทรหาพวกมันตอนนี้เลยก็ได้  “

“ ไม่ต้องก็ได้ครับ    แล้ว...เรื่องเสื้อล่ะ  ทำไมมันถึงไปอยู่กับพี่เขาได้ “

“ พี่คงลืมไว้ตอนประคองน้องเขาไปส่ง  คือมันไม่ใช่เสื้อที่พี่ใส่ประจำไง  พี่ก็เลยไม่ได้สนใจ “

“ แล้วทำไมพี่ต้องโกหกผมด้วยว่าไปกันแค่นั้น “

“ ก็พี่กลัวเราจะคิดมากไง...  ก็เลยคิดว่าไม่บอกจะดีกว่า.. “

คำตอบเหมือนที่ไอ้ธันมันคาดการณ์เอาไว้เลยครับ...
 
“ พี่แคร์เรามากนะ...  ถ้าเป็นคนอื่น.. พี่ก็คงไม่มานั่งคิดแบบนี้หรอก  เราเองก็รู้ว่าคนอย่างพี่สนใจความรู้สึกใครที่ไหน  แต่เพราะนี่เป็นเราไง..     พี่แคร์ความรู้สึกเราจริงๆ นะ “

ผมควรจะเชื่อดีมั้ย....  แต่แววตาของพี่เขามันดูจริงเหมือนสิ่งที่พูดเลยนะครับ...

“ นั้น..  ผมขอถามคำถามสุดท้าย “

“ ได้สิ...  รับรองพี่จะตอบเราทุกอย่างตามความจริงเลย “

“ ครั้งนี้...   ผม... จะเชื่อพี่ได้จริงๆ ใช่มั้ย “

พี่กิจสูดลมหายใจไปเข้าเล็กน้อยก่อนจะตอบมาด้วยน้ำเสียงที่ละมุนแต่กลับหนักแน่นผ่านแววตาที่ส่งมาให้


“ แน่นอนครับ “


มีคนบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด....  ซึ่งมันก็คงจะจริงอะครับ  เพราะสุดท้ายต่อหน้าคนๆ นี้  ผมก็ยังคงเชื่อพี่เขาอยู่ดี  ผมนี่มัน..  เป็นคนโง่รึเปล่าครับ  ที่เลือกจะเชื่อความรู้สึกของตัวเองมากกว่าสิ่งที่ได้ยินจากคนอื่นไปแบบนี้

เพียงแต่...

มันก็ไม่ได้สนิทใจเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา  หวังแต่เพียงว่า...วันเวลาจะทำให้ผมกลับมาเชื่อใจพี่เขาได้เต็มร้อยเหมือนเดิมอีกครั้ง


“ เอาเป็นว่า...  พี่ขอโทษนะ.... ที่พี่โกหกเราไปอย่างนั้น “

พี่กิจพูดไปพลางเอามือมาขยี้หัวผม  เมื่อเห็นว่าท่าทีของผมดูจะอ่อนลงแล้ว  ผมเอามือพี่เขาออกไปก่อนจะทำหน้ามู่ใส่  แล้วจึงจัดทรงผมให้เข้าที่ไปเหมือนเดิม  ในขณะที่พี่กิจกลับอมยิ้มส่งมาให้อย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก

นี่..!!  ทำผิดแล้วแท้ๆ  ยังจะมาทำหน้าแบบนี้ให้อีกนะ  ไม่สำนึกบ้างเลยนะคนเรา...

“ นั้นพี่ขอถามเราบ้างนะ  ไอ้ที่เราไม่ตอบไลน์  ไม่รับสายพี่  แล้วก็ไม่มากินข้าวเที่ยง... นี่เรา... หึงพี่เหรอ.. “

พี่เขาทำตาเจ้าเล่ห์ถามมาครับ  น่าหมันไส้จริงๆ เลย...

“ อะไรใครหึง...  ไม่ได้หึงสักหน่อย.. “

“ จริงอ๊ะ... “

“ จริงดิ “

“ เหรอคร้าบ... ไม่หึงสักนิดเลยเหรอ “

“ ก็..  บอกว่าไม่ไง  ออกรถได้แล้ว  หิว... แล้วก็เลี้ยงด้วย “

“ หึๆ...  คร้าบๆ  อยากกินอะไรวันนี้  ว่ามาเลย... “


..........................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 4(ตี1)/06/2561 update chapter 43 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 12-06-2018 21:18:37
หลายวันหลังจากนั้น

ช่วงนี้รู้สึกว่าชีวิตมันดีจังครับ  พี่กิจเอาใจผมแบบสุดๆ เลย  แถมยังทำตัวหน้ารักมากๆ ด้วย  แต่ผมก็ยังคงไม่ได้คำตอบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเราจากพี่เขาอยู่ดี... 

ถึงกระนั้น.. แม้ความสัมพันธ์ของเรามันจะยังไม่พัฒนาไปจนถึงจุดที่พี่เขาจะมั่นใจได้  แต่ตอนนี้เราก็เข้ากันได้ดีและพี่เขาเองก็ดูจะมีความสุข  หัวเราะและยิ้มได้อยู่บ่อยๆ  ผิดจากมาดขรึมที่ใครๆ รู้จักกันเลยทีเดียว

ในส่วนของเรื่องพี่ฮานะก็ดูจะเงียบไป  เห็นพี่กิจเล่าให้ฟังว่า  พี่คิมที่เลิกกับพี่ลูกพีชนั้นได้หันไปคบอยู่กับพี่ฮานะ  แต่เพราะแบบนั้นเห็นพี่กิจบอกว่า  กลุ่มของพี่ฮานะเขาถึงกับเลิกคบพี่เขาไปเลย  ซึ่งมันก็พอจะเข้าใจในเหตุผลได้อยู่นะครับ....


“ อ้าว.. ทำไมวันนี้พี่จะขับมอไซต์ไปอะ “

ผมถามขึ้นทันที  เมื่อบิ๊กไบต์สีขาวลูกรักของพี่กิจขับเข้ามาจอดเทียบที่หน้าคอนโดเพื่อรับผมไปเรียนด้วยกันในเช้านี้

“ อยากรู้ก็ขึ้นมาก่อนสิ “

ผมทำหน้างง  แต่ก็ยอมขึ้นไปซ้อนท้ายแต่โดยดี

“ ก็เพราะ...  เช้านี้อยากให้บางคนกอดพี่หน่อยอะ “

พูดจบพี่เขาก็เอามือมากระชับแขนผมที่กำลังกอดพี่เขาอยู่ให้แน่นขึ้นไปอีก

“ ฉวยโอกาสตลอดอะ “

“ เอ๊า...  ก็ทีเมื่อคืนพี่ขอนอนด้วยก็ไม่ไห้นี่ “

“ ก็พี่มาแกล้งผมก่อนทำไมละ “

“ รักหรอกจึงหยอกเล่น  ทำเป็นงอนไปได้... “


หลังๆ มานี้  พี่กิจชอบมานอนที่ห้องของผมอยู่บ่อยๆ ครับ  อาทิตย์นึงก็ไม่ต่ำกว่า 4 ครั้งเลย  แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยนะครับ  แม้พี่กิจจะชอบฉวยโอกาสอยู่บ่อยๆ ก็ตามที คนบ้าอะไร...  หื่นเกิ๊น!!!

ช่วงนี้ก็ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วละครับ  เวลามันช่างผ่านไปเร็วจริงๆ  บางรายวิชาก็ปิดคลาสกันไปแล้ว  ในขณะที่กลุ่มพวกผมก็เริ่มไปสุมหัวอ่านหนังสือกันตามสถานที่ต่างๆ บ้างแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นหอสมุด  ร้านกาแฟ  ใต้ตึก  และที่อื่นๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

เย็นนี้พวกผมมีนัดประชุมของชมรมจิตอาสากันครับ  ซึ่งก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ทางชมรมนัดสมาชิกมาประชุมกันในปีการศึกษานี้  เห็นพี่กิจบอกว่า  เพราะมันค่อนข้างจะให้อิสระกับสมาชิก  ไม่เหมือนอย่างพวกชมรมกีฬาที่ต้องมาซ้อมกันเป็นประจำ  ซึ่งอันนี้ใครว่างก็ค่อยมาช่วยกันได้อะครับ

5 โมงเย็น ที่ห้องชมรมจิตอาสา

เย็นนี้พี่กิจกับพี่คิมไม่ได้เข้ามาประชุมด้วย  เห็นพี่พีบอกว่าไปทำธุระกัน  ส่วนพวกผมนี่มากันครบเลยครับ  บรรยากาศภายในห้องชมรมก็ดูครึกครื้นดีนะครับ  คนเยอะดี  นี่ขนาดพี่พีบอกว่ายังมากันน้อยนะครับเนี่ย

การประชุมวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก  ซึ่งก็จะเป็นการแนะนำตัวสมาชิกทั้งเก่าและใหม่ซะมากกว่า  รวมถึงกิจกรรมที่เราจะเริ่มทำกันในช่วงเปิดภาคเรียนที่สอง  และการหาสถานที่ต่างๆ เพื่อมาโหวตสำหรับการออกค่ายอาสาในปีนี้


……..


“ กันต์...วันนี้กลับไง  พี่กิจจะมารับมั้ย “

ไอ้ธันมันถามขึ้นมาครับ  ซึ่งผมก็ปฏิเสธไป  เพราะจนป่านนี้แล้วพี่กิจก็ยังเงียบหายอยู่เลย  อีกอย่าง...ผมเองก็ต้องไปทำธุระก่อนกลับห้องอีกด้วย...?

“ ป่าวอะ  พี่เขาไปทำธุระ “

“ นั้นกลับกับเรามั้ย “

“ ไม่เป็นไร  คือกูต้องไปทำธุระก่อนอะ  ไม่รบกวนจะดีกว่า “

“ เห้ย...  ไม่เป็นไร  เราไปส่งได้  อีกอย่าง...เราก็ว่างไม่ได้ทำอะไรด้วย “

มันว่ามาครับ  สุดท้ายผมก็เลยตอบตกลงไป

จากนั้นไอ้ธันมันก็ขับรถพาผมมาที่คอนโดของพี่ฮานะตามที่ผมบอก  คือที่ต้องมาที่นี่ ( ทั้งที่ไม่อยากมาเลย )  ก็เพราะพี่เขาโทรมาบอกเมื่อตอนบ่ายว่ามีของฝากจากญี่ปุ่นมาให้ผม  และให้ผมมาเอาไปให้ได้เย็นนี้  ครั้นผมปฏิเสธไปก็โดนลูกตื้อให้ไปเอาให้ได้อยู่ดี  ก็เลยตัดปัญหาตอบตกลงไปแบบนี้แหละครับ

เมื่อมาถึงที่คอนโดพี่เขา  ผมก็กดโทรศัพท์โทรออกทันที  ซึ่งไม่นานมากเธอก็รับสาย


 << น้องกันต์มาถึงแล้วเหรอ..  ขอโทษนะ  ช่วยรอพี่ที่ล๊อบบี้สักแปบได้มั้ย  รอพี่กิจกลับแปบนึง >>


ทันทีที่ได้ยินพี่เขาว่ามา  ราวกับหูผมดับ  สมองเหมือนจะไม่รับรู้อะไรเลย  พี่กิจอย่างนั้นเหรอ...  ทำไม..อะไรกัน....


<< น้องกันต์  เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ  ถ้าพี่กิจกลับแล้วเดี๋ยวพี่ลงไปเปิดประตูให้ >>


จากนั้นสายก็ถูกตัดไปก่อนจะมีข้อความไลน์ที่ไม่เคยจะได้คุยกันเลยระหว่างผมกับพี่ฮานะเด้งขึ้นมา

มันเป็นรูปด้านหลังของพี่กิจที่นั่งอยู่ที่โซฟา...  พร้อมกับข้อความว่า  รอพี่สักสิบนาทีนะ

ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  มันชาไปทั้งตัวเลย  ทุกอย่างที่พี่กิจเคยบอกมา  มันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้นเลยเหรอ  แล้วที่ผ่านมาระหว่างเรามันคืออะไร...

เจ็บจังเลยครับ...  สุดท้ายก็เป็นผมเองที่โง่ไม่เคยเปลี่ยน...


เสียงไอ้ธันดังขึ้นเพื่อดึงสติผมกลับมา  ก่อนจะถามว่าผมเป็นอะไรมั้ย  ซึ่งผมก็ได้แต่ฝืนอารมณ์ตัวเองและยิ้มตอบไปว่าไม่เป็นอะไร 

ผมอ้างว่าพี่เขามีแขกมาห้อง  เลยยังไม่สะดวกจะให้ขึ้นไปตอนนี้  ซึ่งมันก็ได้แต่พยักหน้าเข้าใจเล็กๆ มาให้แค่นั้น


เรารอกันอยู่ในรถไม่นานมาก  ไอ้ธันมันก็สะกิดผม  พร้อมทั้งส่งสายตาให้ผมหันไปมองยังพี่กิจที่กำลังเดินดุ่มๆ ออกมาจากคอนโด  และตรงไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้

“ พี่กิจมาทำอะไรที่นี่อะกันต์ “

ผมไม่ได้ตอบอะไรไปครับ  ได้แต่มองพี่เขาขับบิ๊กไบต์หายออกไปจากคอนโด  แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาต่อจากนั้น  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ  พี่ฮานะนั่นเอง....

พี่เขาบอกว่ากำลังนั่งรอผมอยู่ที่ล๊อบบี้  ซึ่งตอนนี้...  ผมไม่อยากเข้าไปเลยครับ...  แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว  จะไม่ไปก็ไม่รู้จะอ้างเหตุผลอะไร  อีกอย่าง...  ผมเองก็อยากจะรู้อะไรให้มันชัดเจนไปเลยเหมือนกัน

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และแสร้งทำตัวให้เข้มแข็ง  ทั้งๆ ที่ภายในกลับอ่อนแออย่างถึงที่สุด  ก่อนจะออกมาจากรถและตรงเข้าไปในคอนโด


“ ขอโทษนะน้องกันต์  รอพี่นานมั้ย... “

“ ไม่หรอกครับ  แล้ว... “

“ อ๋อ..  พอดีพี่ลืมหยิบมาด้วยน่ะ  รีบมาส่งพี่กิจก็เลยลืมไป  เดี๋ยวเราขึ้นไปเอาบนห้องกับพี่นะ “

ผมได้แต่เออออรับไปอย่างนั้น  ก่อนจะเดินตามพี่เขาไปติดๆ  อยากจะถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่เขากับพี่กิจอยู่เหมือนกัน  แต่คงยังไม่ใช่ตอนนี้  ไว้รอขึ้นไปถึงบนห้องก่อนจะดีกว่า  เพื่อที่ผมจะได้รู้ความจริงของเรื่องนี้สักที

“ ของอยู่ในถุงสีกระดาษสีขาวนะ  เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้ “

ทันทีที่เข้ามาภายในห้อง  พี่เขาก็ชี้ไปยังข้าวของที่วางรวมกันอยู่บนโต๊ะกลางหน้าทีวี  ก่อนที่พี่เขาจะเดินเข้าไปในครัว  เพื่อหยิบน้ำออกมาจากตู้เย็น

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่โซฟาตัวเล็กหน้าทีวี  ก่อนจะชะงักไปอย่างทำอะไรไม่ถูกกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า  กล่องถุงยางสีดำยี่ห้อหนึ่งวางไว้อยู่บนโต๊ะ  ไม่ไกลมากบนโซฟาสีขาวก็เป็นซองถุงยางที่ถูกฉีกแล้วทิ้งเอาไว้  และเมื่อละสายตามองไปยังถังขยะใกล้ๆ  ก็พบก้อนกระดาษชำระมากมายทับอยู่บนถุงยางสีเหลืองที่ถูกใช่แล้ว....

“ ตายแล้ว!!!  น่าอายจัง...  ขอโทษนะน้องกันต์...  พอดีพี่กิจเขารีบกลับน่ะ  พี่ก็เลยไม่ทันจะได้เคลียร์อะไร  รอแปบนะเดี๋ยวพี่จัดการให้ “

พี่ฮานะโพล่งขึ้นมา  ก่อนจะรีบตั้งหน้าตั้งตาเก็บสิ่งที่ไม่สมควรเห็นออกไป

“ ถุงนี้ใช่มั้ยครับ...  ที่จะให้ผม... “

“ อ๋อจ้ะ.. “

“ ขอบคุณนะครับ  นั้นผมขอตัวแล้วนะครับ “

เหมือนจะได้ยินเสียงพี่ฮานะทักท้วงตามมา  แต่หูผมอื้อฟังอะไรไม่ได้ศัพท์ไปหมดแล้วละครับ  ราวกับว่าหัวใจมันไม่ได้อยู่กับตัวไปเสียแล้วในตอนนี้  อยากจะร้องอยากจะโวยวายเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น  แต่เพื่ออะไรล่ะ...  ผมมันก็แค่คนโง่ซ้ำซากคนนึงที่ถูกคำหวานหลอกล่อตลอดมา... สุดท้ายถึงได้มาเจ็บแบบนี้ไง 

นี่ใช่มั้ยจุดจบของคนโง่...

ภายในลิฟท์ที่ปราศจากผู้คน  จู่ๆ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามตัวเองได้อีก  แต่กระนั้นผมก็ไม่ได้ฟูมฟายอะไรนะครับ...  เพราะที่ผ่านมามันเป็นการเชื่อและตัดสินใจด้วยตัวของผมเอง  แล้วจะโทษใครได้ล่ะ....  ช่างน่าสมเพชตัวเองซะจริงๆ


“ ติ้ง! “

ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก  ผมก็รีบปาดน้ำตาที่แก้มออกทันที  ไม่อยากให้ใครได้เห็นสภาพน่าสมเพสของตัวเองในตอนนี้

ผมกดโทรศัพท์โทรไปบอกไอ้ธันให้กลับไปก่อน  โดยอ้างว่าผมคงต้องอยู่ที่นี่อีกนานกว่าจะกลับ  จากนั้นผมก็มานั่งอยู่ที่ล๊อบบี้สักพักหนึ่งเพื่อตั้งสติ

คิดอะไรไม่ออกเลยครับ  และก็ยังไม่พร้อมที่จะกลับห้องด้วย  ผมไม่พร้อมที่จะเจอใครทั้งนั้นในตอนนี้


สักพักผมก็เดินเตร็ดเตร่ออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย  เดินมันไปเรื่อยๆ  รู้ตัวอีกทีผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าหอประชุมคณะแล้ว

ผมมองไปยังอาคารตระหง่านที่อยู่ตรงหน้า  ก็อดหวนนึกถึงครั้งที่เคยต้องมาเข้าเชียร์อยู่ไม่ได้  และสิ่งเดียวที่ทำให้ผมจำได้ดีที่สุดก็คือ... ประธานเชียร์สุดโหดแต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล

ทว่าพี่กิจในตอนนั้นกับพี่กิจที่ผมสัมผัสได้ในตอนนี้...  มันช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ  ราวกับเป็นคนละคนกันเลย 

หรือความจริงแล้ว... พี่เขาอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยก็ได้  แต่เป็นผมเองต่างหากที่ไม่เคยรู้จักพี่เขาเลยมาตั้งแต่แรก....

เมื่อผมละสายตามายังลานจอดรถที่อยู่ใกล้ๆ กันนี้  ที่ที่พี่เขาเคยสัญญาไว้ว่าจะดูแลผมในวันสุดท้ายของการเชียร์  แต่ตอนนี้... ผมคงจะไม่สามารถเชื่อคำสัญญาเหล่านั้นได้อีกต่อไป...

สุดท้ายก็เป็นผมเองที่โง่และหลงเชื่อมาโดยตลอด  กี่ครั้งกันแล้วนะ...  ที่ผมเชื่อความรู้สึกของตัวเองโดยที่ไม่มองความเป็นจริงที่เห็นด้วยตาของตัวเองเลย

ผม...ไม่อยากเป็นคนโง่และอ่อนแอแบบนี้อีกต่อไปแล้ว


บางที....  มันคงถึงเวลาแล้ว  ที่ผมจะต้องออกไปจากชีวิตพี่เขา  ออกไปจากห้องนั้นเสียที...  จะได้ไม่ต้องมาเจอกันบ่อยๆ เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้  และเมื่อผ่านไปได้สักพักหนึ่ง  ผมก็คงจะทำใจได้... 

แน่นอนว่ามันคงจะต้องเจ็บอยู่แล้วล่ะครับกับการตัดสินใจหักดิบไปแบบนี้  แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้น  ผมก็คงจะเอาตัวเองออกมาจากพี่เขาไปไม่พ้นเสียที...

ผม... ตัดสินใจแล้ว... 

ฮือ..  ฮือ...




TBC.


---------------------------------------------------------

อย่างแรกเลย  ขอโทษนะครับที่มาลงช้าไปมากครับ  ช่วงนี้มีอะไรหนักๆเข้ามาในชีวิตเยอะเลยครับ  ขอโทษทีนะครับที่ทำให้รอนาน

ตอนต่อไปเป็น NC นะครับ  และตอนถัดไปจากนั้นอีก  ฮานะที่ทุกคนรักก็จะถึงกกาลอวสานละครับ  แต่จะเป็นยังไงก็ต้องติดตามนะครับ

ส่่วนที่เหลือหลังจากนั้นในภาคแรกก็จะเป็นความสามารถของพี่กิจแล้วละครับว่าจะแก้ไขสถานการณ์ยังไง  ตัดสินใจยังไง ง้อยังไง  แต่เป็นช่วงที่น่ารักๆ ไม่หดหู่ดราม่าแบบนี้แล้วครับ  แต่ก็ไม่ได้ง่ายๆ นะครับ

ขอบคุณนะครับที่ยังติดตามและให้กำลังใจเสมอมา  ขอบคุณจริงๆครับ...

^___________________________________^"
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 12-06-2018 21:31:07
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-06-2018 21:40:14
อยากฆ่าชะนี  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-06-2018 21:50:25
 :pig4: :pig4: :pig4:

โอ๊ย...อีงูพิษ    แผนเยอะนักนะ

ฉันจะรอดูกรรมตามสนองแก   นิสัยไม่ดี
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-06-2018 21:55:58
เฮ้อออ อีชะนี ขยันสร้างเรื่องจริงๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-06-2018 22:03:17
ขอตบสักทีเหอะยัยฮานะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-06-2018 23:10:33
ขอเดาว่า

NC นี่กันต์เป็นคนเริ่มป่ะครับ จากนั้นพอเช้ามา ข้าวของใช้ส่วนตัวของกันต์ก็หายไปพร้อมจะเจ้าตัว

รึเปล่าครับ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-06-2018 23:35:59
คือรำคาญฮานะ หงุดหงิดกันต์ ทำไมไม่ลงไปถามพี่กิจไปเลย เอาให้รู้ดำรู้แดง คิดเองเออเองแล้วก็เศร้าเอง อยากจะกรี๊ดด
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 12-06-2018 23:43:26
ถ้าแบบนี้ในชีวิตจริงก็คงต้องมีสักคนที่สังเวยด้วยเลือดชั่วๆๆตบล้างน้ำเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ฟาร์มไก่ ที่ 12-06-2018 23:46:33
 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: น่าเบื่อนายเอก ฉลาดนิดหน่อย ก็ได้ เลิกอ่านก่อนแล้วกัน  :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 13-06-2018 07:26:16
 :L2:   รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 13-06-2018 17:43:52
คือทั้งๆที่พี่กิจก็รู้ว่าฮานะเป็นอย่างไร น้องกันต์ก็ยังไม่วางใจ พี่กิจก็ยัง
ไม่ระมัดระวังอะไรเลย เทไปเลยน้องกันต์ เอาให้หนัก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 13-06-2018 18:03:10
ฮานะ ร้าย

       :132
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 13-06-2018 23:54:08
นางร้าย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 14-06-2018 01:46:58
ทำไมทุกอย่างมันตามเกมฮานะไปซะหมด
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 14-06-2018 19:58:49
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: P_Methayot ที่ 15-06-2018 06:56:57
 :pig4: :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-06-2018 23:02:50
หายไปนานจังเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-06-2018 22:27:55
Chapter 45




กันต์ ‘s  Part




ที่คอนโด

ผมกลับมาถึงห้องในช่วงหัวค่ำ  ซึ่งภายในห้องมืดและเงียบมาก  ไม่ต่างอะไรกับใจที่ว่างเปล่าของผมในตอนนี้เลยละครับ  และจนถึงตอนนี้..  ผมก็ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรมาจากพี่เขาเลยสักครั้ง
 
น้ำตาผมแห้งไปนานแล้วละครับ  ร้องไห้จนคิดว่าร่างกายจะผลิตน้ำตาออกมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว  แต่ถึงกระนั้น...  แม้น้ำตาจะหยุดลงไปแล้วก็ตาม  แต่จิตใจมันก็ยังคงบอบช้ำอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง... 

ผมทยอยขนเสื้อผ้าอออกมาจากตู้เรื่อยๆ  โดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหน  แต่ก็คงจะไม่พ้นห้องของไอ้เรย์เป็นแน่  เอาไว้ให้พ้นคืนนี้ไปก่อน  แล้วค่อยหาหอพักแถวๆ นั้นอยู่ก็แล้วกัน

ผมรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินกลับมายังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอย่างไงอย่างงั้นเลย  ซึ่งจริงๆแล้ว... นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องมาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้  ที่ผิดก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาเสียมากกว่า...  มันก็แค่ความฝันเท่านั้นแหละครับ  คงถึงเวลาที่ผมจะต้องตื่นขึ้นมาได้แล้วล่ะ  ตื่นมาพบกับความเป็นจริง  และการอยู่เพียงลำพังเหมือนที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก...


สำหรับในคืนนี้  ผมก็คงจะขนออกไปได้เพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้าเท่านั้นแหละครับ  ไว้ค่อยมาทยอยขนต่ออีกทีในวันหลังก็แล้วกัน  ทว่าทันทีที่ผมถือกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบเดินออกมาจากห้อง  พี่กิจก็กลับเข้าห้องมาพอดี

“ กันต์.. อะไรอะ...  กำลังจะไปไหน “

ผมมองพี่กิจนิ่งด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ระคนกันไป  ทั้งหวั่นใจกับคำตอบที่จะให้ไป  น้อยใจกับการถูกหลอกลวง  เสียใจกับความจริงที่พบเจอ  แต่ก็แน่วแน่กับการตัดสินใจในตอนนี้...

“ ผม... “

ผมหลับตาลงเล็กน้อย  รวบรวมความกล้าที่ยังพอมีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด  ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วตอบพี่เขาออกไป

“ ผมว่า... ผมจะย้ายออกจากที่นี่แล้วล่ะครับ “

“ อะไรนะ...!!  พี่ไม่เข้าใจ..  เราหมายความว่าไง “

พี่กิจทำหน้าตาตื่นทันทีที่ได้ยิน  ก่อนจะขมวดคิ้วเข้มถามผมมาอย่างร้อนรน

“ ผมก็หมายความอย่างที่บอกนั่นแหละครับ...  ผมว่ามันถึงเวลาแล้ว  ที่ผมจะต้องย้ายออกไปจากที่นี่จริงๆ สักที “

“ เดี๋ยวนะกันต์...  นี่มันเรื่องอะไร...  มีอะไรเราก็บอกพี่สิ !  คุยกันก่อน  พี่ไม่ยอมให้เราทำอย่างนี้หรอกนะ “

พูดจบพี่กิจก็เดินเข้ามาแย่งกระเป๋าไปจากผม  แม้ผมจะพยายามยื้อไว้  แต่ก็สู้แรงพี่เขาไม่สำเร็จ

“ เอามาพี่กิจ ! “

ผมพยายามจะแย้งคืน  แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล  ก่อนจะถูกพี่เขาคว้าแขนเอาไว้ด้วยมืออีกข้าง  แล้วลากผมไปยังโซฟาของห้องรับแขก

“ ปล่อยผมนะพี่กิจ !! “

“ พี่ปล่อยแน่ !   แต่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องซะก่อน !! “

พี่กิจดันผมลงไปนั่งยังโซฟายาว  ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาประจันหน้าผมด้วยใบหน้าเข้มๆ เจือความดุดันและปราศจากความอ่อนโยน

“ ไหนว่ามาซิ  มีเรื่องอะไร “

“ ไม่มีอะไรทั้งนั้น !  ผมก็แค่อยากออกไปจากที่นี่  อยากจะมีอิสระกับเขาบ้าง ! “

“ กันต์ !! “


เสียงพี่กิจดังคำรามจนน่ากลัว  จากนั้นเราทั้งคู่ก็หยุดลงทุกการเคลื่อนไหว  ได้แต่จ้องตากันเขม็งอย่างไม่ยอมลดละ  แต่ไม่นาน...  ภายใต้ความอ่อนแอภายในจิตใจและความอัดอั้นที่มีมานาน  นัยน์ตาของผมก็เริ่มสั่นระริกด้วยน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมา  ถึงจุดนี้..  ผมจึงโพล่งออกมาอย่างหมดความอดทน


“ ก็ได้ !!  อยากรู้ผมจะบอกให้ก็ได้ !!  ผมเบื่อ  !!  ผมเบื่อกับคำโกหกของพี่  เบื่อความโง่ของตัวเอง  และถ้ายังอยู่ที่นี่  ผมก็ต้องเจ็บไปมากกว่านี้  ผมไม่อยากจะรู้สึกแบบนี้อีกต่อไปแล้ว  พี่เข้าใจมั้ย !! “


สิ้นเสียงผม  พี่กิจก็ดูจะอึ้งๆ ไปอยู่เหมือนกัน  ส่วนผมเองก็หายใจหอบถี่ขึ้นมาเล็กน้อย  จากการออกแรงตะเบ็งเสียงใส่พี่เขาไปอย่างนั้น  ก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงและพูดออกไปเสียงเรียบ


“ ดังนั้น...  ปล่อยผมไปเถอะนะ.. “

ตอนนี้พี่กิจหน้านิ่งมาก  นิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์อะไรไม่ถูกเลย  แต่ไม่นานพี่เขาก็เริ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ กันต์...  พี่ไปโกหกอะไรเรา... “

ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว  คงไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังกันอีก  ถ้าอย่างนั้นแล้ว...ก็พูดให้มันหมดเปลือกไปเลยดีกว่า

“ ก็เรื่องพี่ฮานะไง...  พี่คบกับเขาอยู่  พี่ไปมีอะไรกับเขา  ทำไมพี่ต้องมาโกหกผมด้วย  บอกความจริงกับผมก็ได้นี่...  แล้วการที่พี่มาทำดีกับผม...  บอกว่ารักผม..  พี่ทำเพื่ออะไรวะ ! “

“ อะไรนะ...  ฮานะทำไม..   รึว่าเขามาพูดอะไรกับเราอีก “

“ เปล่าเลยพี่...  ถ้าแค่ฟังมา..  ผมก็ยังพอจะเชื่อคำพูดที่พี่เคยพูดไว้ได้อยู่หรอก...  แต่นี่ผมเห็นมากับตา..! “

“ แล้วเห็นอะไร.. “

“ ก็สิ่งที่พี่ทำวันนี้ไง  พี่ไปไหนมา...  พี่ไปทำอะไรมาเมื่อตอนเย็น “

“ กันต์..  นี่เรา.. “

“ ใช่..  ผมเห็นมากับตาของตัวเอง  ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้อะ..  พี่เห็นผมกับพี่ฮานะเป็นอะไร  ถึงได้มาล้อเล่นกับความรู้สึกของเราแบบนี้ “

“ เดี๋ยวนะ..  พี่ไม่เข้าใจ...  พี่กับฮานะเราไม่ได้มีอะไรกัน  จะต้องให้พี่ย้ำอีกสักกี่รอบว่าพี่ไม่ได้ชอบเขาเลยแม้แต่น้อย  ตอนนี้คนที่พี่ชอบก็มีแต่เราคนเดียวเท่านั้น... “

“ ไม่ได้ชอบอย่างนั้นเหรอ...  มีผมแค่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ...  แล้วที่พี่ไปให้ความหวังเขา...  ไปมีอะไรกับเขา...  มันคืออะไร...!! “

พอยิ่งเถียงกัน  อารมณ์มันก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นมาเรื่อยๆ  พร้อมกับน้ำเสียงที่เริ่มดังของพวกเรา 

“ แล้วพี่ไปมีอะไรกับฮานะตอนไหน..! “

“ ก็วันนี้ไง..  หรืออาจจะ... “

“ จะอะไร !  พูดให้มันจบสิ “

“ ............. “

ทำไมต้องให้ผมพูดเรื่องที่รู้สึกเจ็บแบบนี้ด้วย  แค่นี้น้ำตาที่ไหลอยู่ของผมมันยังไม่สาแก่ใจของพี่อีกเหรอ


“ กันต์...! ฟังพี่นะ...  ใช่...วันนี้พี่ไปพบฮานะมาก็จริง..  แต่ก็เพราะว่ามันมีสาเหตุ...  และพี่ก็ไม่ได้มีอะไรกับเขาด้วย  ทั้งวันนี้และก็ก่อนหน้านี้ ! “

ไม่มีอะไรกันอย่างนั้นเหรอ...  คิดว่าผมจะเชื่ออย่างนั้นเหรอ  จะให้ผมเชื่อว่าพี่ไปนั่งคุยเล่นกันเฉยๆ ท่ามกลางเศษซากของอุปกรณ์ร่วมรักกันอย่างนั้นเหรอ

“ จะให้ผมเชื่อพี่อย่างนั้นเหรอ... “

“ ก็ใช่ไง...  เราต้องเชื่อพี่นะ  ไม่ใช่ไปเชื่อคนอื่นแบบนี้... “

“ นั้นบอกผมหน่อยซิว่าวันนี้พี่ไปทำไม... “

พี่กิจเหมือนจะหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะยอมเปิดปากพูดออกมา



“ เรื่องไอ้คิม... “

“ เห๊อะ...  เรื่องพี่คิม...  แต่ให้พี่เข้าไปคุยเนี่ยนะ  มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ... “

“ ก็ใช่ไง...  ฮานะเขาบังคับให้พี่ไปเคลียร์แทน  เพราะเขาไม่อยากจะคุยกับไอ้คิม “

“ แล้วเรื่องอะไรล่ะ  ถึงต้องทำอะไรขนาดนั้น  เพราะปกติพี่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบจะยุ่งเรืองของชาวบ้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ “

“ ก็ไอ้คิมมันจะเลิกกับฮานะ  แต่ถูกแบล็คเมลขู่ว่าถ้าไม่ยอมชดใช้ให้กับสิ่งที่ทำไว้  เขาก็จะเอาคลิปที่แอบถ่ายไว้ไปปล่อยในเน็ต  พี่ก็เลยต้องเข้าไปเคลียร์ให้ไง “

น่าตลกจังครับ  จนถึงป่านนี้พี่เขาก็ยังสร้างเรื่องขึ้นมาโกหกผมได้อยู่อีก

“ แล้วคุยกันอีท่าไหน..  ถุงยางถึงได้เกลื่อนห้องแบบนั้น !!  “

ผมตระคอกใส่ไปสุดกำลังก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง

“ ถุงยางอะไร..  นี่เราเข้าห้องของฮานะมาเหรอ “

“ ก็ใช่ไง..  หลังจากที่พี่ออกไป  ผมก็ขึ้นไปเอาของที่ห้องของพี่ฮานะ  แล้วก็เห็น... “

ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของผมอีก  มีเพียงน้ำตาใสๆ ที่แสดงถึงความเจ็บปวดต่อสิ่งที่อยู่ในความทรงจำไหลออกมาจากสายตาที่แข็งก้าวเพียงเท่านั้น

“ พี่ว่าเราสองคนต้องถูกปั่นหัวแล้วล่ะ.. กันต์ฟังพี่นะ.. “

“ พอเถอะครับพี่...  อย่าให้ผมต้องรู้สึกแย่กับพี่ไปมากกว่านี้เลย “

“ ไม่..!  เรากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ.. “

“ ปล่อยผม... “

“ ไม่..กันต์ “

“ ผมบอกให้ปล่อยผม... “

“ ไม่! “

“ ผมบอกให้ปล่อยผม!! “


เมื่อคำขู่ไม่เป็นผล  ผมก็ตระคอกเสียงดังใส่ก่อนจะออกแรงมากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการของคนตรงหน้า  แต่ทว่ายิ่งดิ้นรนกลับยิ่งแน่นหนามากขึ้นไปอีก  ผมทั้งสบถด่าพร้อมทั้งขัดขืน  ท่ามกลางการเหนี่ยวรั้งจากมือของพี่กิจและการปฏิเสธคำขอทุกอย่างของผม...  จนในที่สุด....



“ พี่อย่าดึงผมเข้าไปในวงจรอุบาทว์ของพี่จะได้มั้ย !!  ผมต้องการความรัก !!  ไม่ใช่เซ็กส์ !!  อย่าคิดว่าผมจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของพี่นะ !!! “



สิ้นเสียงของผม  เราทั้งคู่ก็ชะงักตัวกันไปเล็กน้อย  ในขณะที่มือของพี่กิจก็เริ่มบีบแรงขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บไปกว่าทุกๆ ครั้ง  ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนไปฉายแววแห่งความดุร้ายป่าเถื่อนอย่างที่ผมไม่เคยจะพบเห็นมาก่อน


“ ได้ !!  ถ้าคำพูดพี่มันจะทำให้เราเชื่อไม่ได้...  ถ้าพี่มันจะเลวขนาดนั้นแล้วละก็... “

“ จะ... จะทำอะไรอะพี่กิจ “


ผมที่กำลังถูกพี่กิจดันไปติดพนักพิงหนังของโซฟายาว  โดยที่มือทั้งสองข้างถูกรั้งไว้ด้วยแขนแข็งแรงของคนตรงหน้า  ที่ตอนนี้แววตาฉายแววดุร้ายราวกับสัตว์ป่าออกมาให้เห็น  และไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้  พี่กิจก็ดันผมลงไปนอนหงายลงบนโซฟายาวทันที  ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามเข้ามาคร่อมร่างของผมเอาไว้  แล้วซุกหน้าเข้ามาไล้ริมฝีปากที่ซอกคอของผมทันทีอย่างดุดัน  มันไม่ใช่ความอ่อนโยนเหมือนอย่างที่เคยได้สัมผัสมาเมื่อครั้งก่อน  อย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว  ผมพยายามจะขัดขืน  แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า  ถ้าพี่กิจจะเอาจริงแล้ว  คนอย่างผมไม่มีทางเลยที่จะขัดขืนพี่เขาไปได้


“ ยะ...อย่า... ปล่อยผม!! “

ผมตระโกนร้องขอออกมาท่ามกลางน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย  ทว่าคราวนี้กลับไม่เป็นผลเหมือนอย่างครั้งก่อน  เพราะพี่กิจดูจะไม่มีทีท่าว่าจะชะงักลงไปเลยแม้แต่น้อย  กลับยังคงเร้าโรมอย่างดุดันต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้เสียงหอบหายใจถี่กระชับ

ตอนนี้ริมฝีปากรูปกระจับของพี่เขาไล้โลมจากซอกคอเลื่อนเข้ามายังริมฝีปากบางของผม  ขบเม้มก่อนจะพยายามดึงดันสอดลิ้นอุ่นหนาเข้ามายังภายใน  ผมพยายามต่อต้าน  แต่สุดท้ายมือหนาที่ลูบไล้ไปมาก็มาหยุดกระตุ้นยังยอดอกผมผ่านเสื้อนักศึกษาตัวบางจนทำให้ผมเผลอเผยอปากอ้าออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  ลิ้นอุ่นหนาใช้จังหวะนี้สอดเข้ามายังภายในโพรงปากของผมทันที  ก่อนจะเคล้าคลอชี้นำหยอกล้อให้ผมเล่นด้วย  และแม้ว่าเริ่มแรกผมจะพยายามขัดขืน  แต่สัมผัสอุ่นสากที่เคล้าคลอไปมามันก็ทำให้ผมอดเคลิ้มและว่าตามการชี้นำนี้ไปด้วยไม่ได้

เมื่อพยายามจะควบคุมสติไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้  มือที่ยังว่างอยู่อีกข้างของผมก็พยายามจะดันตัวพี่เขาออกไป  แต่ก็ทำได้ไม่นาน  ก่อนจะถูกมือพี่กิจจับออกไปไว้ยังเหนือหัว  แล้วใช้มือแข็งแรงเพียงมือเดียวจับรวบข้อมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้  จากนั้นมือข้างที่เหลือของพี่เขาก็ไม่รอช้าที่จะออกแรงเพียงครั้งเดียวกระชากจนกระดุมชุดนักศึกษาของผมหลุดออกมาจนหมด  และเผยร่างขาวนวลของผมออกมาให้เห็น

พี่กิจยังคงหยอกเย้าเคล้าคลอลิ้นอุ่นภายในโพรงปากของผมอยู่อย่างต่อเนื่อง  จนผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความอึดอัดของร่างกายที่พร้อมจะตอบสอนงต่อการปลุกเร้านี้มากขึ้นไปอีก  จากแก่นกายของผมที่มันแข็งตัวจนคับกางเกงชั้นในอยู่ในตอนนี้  ทว่าร่างกายกลับไม่อาจจะตอบสนองอะไรไปได้มากสักเท่าไหร่  เพราะการถูกพันธนาการไว้ด้วยมือแข็งแรงที่อยู่เหนือหัว   สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ตอนนี้  ก็มีเพียงการบิดส่ายเอวไปมาเพียงเท่านั้น  และเหมือนกับว่าคนตรงหน้าจะพอสังเกตได้ถึงการตอบสนองนี้ของผม  พี่กิจจึงละริมฝีปากออกมา  ก่อนจะได้ยินเสียง ” หึ “ ในลำคอเบาๆ  และรอยยิ้มกริ่มชอบใจให้ผมได้เห็น

อายเป็นบ้าเลยครับ...  ที่เผลอทำตัวน่าอายแบบนี้ออกมา  และถึงจะรู้สึกตัว...  แต่ผมก็คงจะทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้หรอกครับ  ภายใต้สภาวะจำยอมที่เป็นอยู่

จากนั้นไม่นาน  ริมฝีปากรูปกระจับก็เข้ามาจู่โจมยังยอดอกสีชมพูของผมที่แข็งขึ้นเป็นไตจากอารมณ์ที่ประทุออกมา  ลิ้นอุ่นสากไล้วนไปมาหนักบ้างเบาบ้าง  ผสมกับการขบเม้มเบาๆ ให้รู้สึกเสียวซ่านและสะดุ้งขึ้นมาเป็นจังหวะ  ถึงจุดนี้...  ร่างกายของผมก็เริ่มอ่อนระทวยจนแทบจะไม่มีแรงอีกต่อไปแล้ว  ราวกับเป็นลูกไก่ที่อยู่ในกำมือของพี่เขาไปแล้วเสียอย่างนั้น

พี่กิจใช้มืออีกข้างไล้ลงมายังขอบกางเกงสแลค  ก่อนจะลูบเบาๆไปมาที่เป้านูน  และไม่นานก็ปลดตะขอและรูดซิปออก  จากนั้นก็ล้วงเข้าไปเคล้าคลึงยังแก่นกายแข็งเกร็งขนาดพอดีมือที่ถูกปิดบังไว้ด้วยชั้นในสีขาวนุ่ม

“ อะ...อาห์...  หยะ..อย่า... “

เสียงอันแผ่วเบาของผมดูจะไม่สามารถห้ามปรามการดึงเอาชั้นในที่เป็นปราการด่านสุดท้ายของผมออกไปได้  และเมื่อแก่นกายขนาดพอดีมือดีดเด้งออกมาจากอาภรชิ้นสุดท้าย  ผมก็ถึงกับอายจนต้องเบนหน้าหนีออกไปด้านข้าง  ก่อนจะได้ยินเสียงขำเล็กๆ อย่างชอบใจในลำคอของพี่กิจ

มาถึงจุดนี้...  ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของผมมันได้ถูกใจและตอบสนองต่อการปลุกเร้าของพี่กิจอย่างถึงที่สุด  แต่กระนั้นก็ใช่ว่ามันจะไม่มีความย้อนแย้งในความรู้สึกของตัวเองเกิดขึ้น  เมื่อผมรู้สึกว่าตัวเองมันช่างไร้ค่าและถูกทำราวกับเป็นของเล่นที่ไม่มีราคาของพี่กิจเพียงแค่นั้นเอง

หลังจากที่พอใจกับการหยอกเย้าบนยอดอกทั้งสองข้างของผมแล้ว  พี่กิจก็ยันตัวขึ้นพร้อมกับละมือที่พันธนาการผมเอาไว้ออก  แต่ถึงกระนั้น  ตอนนี้ผมก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะไปขัดขืนพี่เขาเสียแล้วล่ะ

ที่น่าอายที่สุดก็คือ...  ลึกๆ ในใจแล้ว  ผมกลับพอใจต่อความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นนี้เป็นอย่างมาก

จากนั้นพี่กิจก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาอะไรไปมากกว่านี้  พี่เขารีบถอดเสื้อยืดพอดีตัวสีดำออก  ก่อนจะโยนมันหายไปหลังโซฟา  แล้วเข้ามาจู่โจมยังบริเวณหน้าท้องของผมอย่างหื่นกระหาย  ผมพยายามเอามือดันหัวพี่เขาออกไป  เพราะความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย  แต่เมื่อไม่เป็นผล  สิ่งที่ผมทำได้ก็เพียงแค่จิกหัวพี่เขาแล้วบิดเอวไปมาก็เท่านั้นเอง  ในขณะที่มือพี่เขาข้างหนึ่งกำลังลูบไล้อยู่ที่หน้าอกของผม  และอีกข้างก็เลื่อนเข้ามากอบกุมแก่นกายของผมที่พร้อมใช้งานอย่างถึงที่สุด  ก่อนจะขยับมันขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ  และนั่นก็ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับผมมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว  จนตอนนี้ผมไม่อาจจะอดกลั้นเสียงแห่งความพึงพอใจได้อีกต่อไป...

” อะ..อาห์!!! “

“ หึ... “

พี่กิจเหลือบตาขึ้นมามองผมเล็กน้อยอย่างถูกใจ  จนผมที่รู้ตัวว่ากำลังหน้าแดงจากความอายถึงกับต้องเบือนหน้าหนี  และในตอนนี้...  ไม่ว่าจะเพราะความใจง่ายของผมที่มีต่อพี่กิจ  หรือเพราะอารมณ์ที่มันพาไป  ผมก็ไม่อาจจะควบคุมตัวเองให้ขัดขืนพี่เขาได้อีกต่อไปแล้ว...

พี่กิจยันตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง  ก่อนจะเร่งถอดกางเกงและบ๊อกเซอร์สีดำออกไปอย่างไว  เผยให้เห็นแก่นกายขนาดใหญ่ที่แข็งตัวในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  มันใหญ่โตจนทำให้ผมถึงกับหวั่นใจในความรู้สึกหากจะต้องรับมันไว้โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาก่อนแบบนี้

พี่กิจละมือออกจากแก่นกายผม  ก่อนจะก้มลงมาใช้ปลายลิ้นเรียวไล้ไปตามความยาวของแก่นกายร้อนของผม  สัมผัสที่ไม่เคยถูกกระทำมาก่อนแบบนี้  มันทำให้ผมถึงกับร่นตัวขึ้นจนหัวไปชิดเข้ากับขอบโซฟา  ทว่าปลายลิ้นเรียวนั้นกลับยังคงหยอกล้อตวัดไปมาที่ปลายสุดของแก่นกายผมอย่างไม่สนใจในท่าทีของผู้ถูกกระทำเลยแม้แต่น้อย

“ ยะ..อย่า...  มัน...เสียว.... “

แม้จะร้องบอกไปอย่างนั้น  แต่ลึกๆ ในใจกลับปรารถนาให้ส่วนอ่อนไหวนั้นถูกกอบกุมเข้าด้วยโพรงปากอุ่นของพี่กิจ  ทว่าพี่เขากลับยังคงไม่มีท่าทีที่จะทำแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย  กลับยังคงหยอกเย้าอยู่เช่นเดิมอย่างให้รู้สึกขัดใจและทรมานกับผู้ถูกกระทำอย่างถึงที่สุด

“ อ๊ะ!!! “

ระหว่างที่กำลังลืมตัวจากอารมณ์ที่กำลังกระเจิงอยู่  จู่ๆ ช่องทางด้านหลังก็รับรู้ได้ถึงปลายนิ้วเปียกลื่นที่กำลังพยายามกดดันเข้ามายังภายใน

ผมเกร็งตัวและพยายามฝืน  แต่ก็สู้แรงพี่เขาไม่ไหว  เมื่อปลายนิ้วนั้นได้ถูกดันเข้ามาแล้ว  มันให้ความรู้สึกแปลกๆ  แม้จะไม่ได้เจ็บมาก  แต่ก็รู้สึกคับและอึดอัดอยู่เหมือนกัน  พี่กิจค่อยๆ ขยับมันเข้าออกอย่างช้าๆ และเบามืออย่างที่สุด  ในขณะที่ผมยังคงร้องครางออกมาอย่างไม่หยุด  จนในที่สุดก็รู้สึกเหมือนว่ามันดูจะเริ่มคล่องตัวมากขึ้น  พี่เขาจึงเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นมาอีกหน่อย  จนผมถึงกับต้องจิกต้นแขนของพี่เขาข้างที่กำลังลูบไล้ยอดอกผมอยู่จนแน่น

“ พะ..พอแล้ว..  มะ..มันเสียว..อะ  อาห์... “

ราวกับว่าเสียงกระเส่าของผมนั้นดูจะไม่มีความหมายอะไรต่อหน้าความหื่นกระหายของพี่เขาในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย  แถมกลับยิ่งดูเหมือนจะไปกระตุ้นให้มันเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีกเสียด้วยซ้ำ  เมื่อจังหวะเข้าออกมันเริ่มถี่ขึ้น  จนผมถึงกับร้องครางออกมาอย่างไม่เป็นภาษาเลยในตอนนี้

“ อ๊ะ!!   จะ..เจ็บ..  เอาออกไป... “

ผมร้องห้ามขึ้นมาทันที  เพราะจากที่ตอนแรกมันมีเพียงแค่นิ้วเดียว  แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่เขากำลังจะพยายามเพิ่มเข้ามาอีกนิ้วจนผมรู้สึกเจ็บมากขึ้น  ทว่าการยิ่งฝืนต่อต้านมันเอาไว้นั้น  มันกลับยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก  ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ...  การยอมให้มันเข้ามาได้แต่โดยดีเพียงเท่านั้น


“ โอ้ย!! “

เมื่อสองนิ้วลื่นเข้ามายังภายในได้  ผมก็ร้องออกมาเสียงหลงพร้อมกับน้ำตาที่เล็ดออกมาจากความเจ็บปวดและอึดอัดอย่างถึงที่สุด  เมื่อพี่เขาเห็นท่าทางที่ไม่ไหวของผม  พี่กิจก็เลื่อนตัวขึ้นมาดูดดุนที่ยอดอกผมทันทีเพื่อสร้างความผ่อนคลายและเบี่ยงเบนความสนใจ  ในขณะที่นิ้วเรียวยาวยังคงทำหน้าที่ของมันโดยการขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้าและเบามืออย่างถึงที่สุด  ผมขยับมือมาจิกยังแผ่นหลังของพี่กิจจนแน่น  ซึ่งเชื่อว่ามันคงจะเจ็บมาก  แต่กระนั้นพี่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะร้องหรือสะดุ้งเลยแม้แต่น้อย

ผ่านไปสักครู่หนึ่ง  ก็ดูเหมือนว่าช่องทางด้านหลังของผมมันจะเริ่มปรับสภาพได้  และไม่เจ็บมากเหมือนเมื่อสักครู่  จากนั้นพี่กิจก็เริ่มเร่งจังหวะเข้าออกให้ถี่มากขึ้นไปอีก  แล้วใช้มือข้างที่เหลือเลื่อนเข้ามากอบกุมแก่นกายของผมเอาไว้  พร้อมกับขยับมันขึ้นลงไปมาตามจังหวะ...   เกิดเป็นความอึดอัดที่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกมากๆ เลยล่ะครับในตอนนี้


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-06-2018 22:36:07
ผ่านไปสักพักพี่กิจก็ถอนนิ้วออกพร้อมกับยันตัวเองขึ้น  ก่อนจะจ้องมาที่ผมตาเยิ้ม  หากแต่แฝงไว้ซึ่งความหื่นกระหายที่ไม่อาจจะควบคุมได้อีกต่อไปแล้วในตอนนี้  พี่เขาขยับตัวลงไปยังหว่างขาของผมพร้อมกับถ่างมันออกกว้าง  โดยที่ผู้ถูกกระทำก็พอจะเดาได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้  ผมที่กำลังหอบถี่จากการร้องครางและบิดส่ายไปมาเมื่อสักครู่  ถึงกับมองตามอย่างหวาดหวั่นและเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  เมื่อแก่นกายผงาดง้ำตรงหน้ามันเทียบไม่ได้เลยกับสองนิ้วที่ผ่านมา

ในขณะที่ผมกำลังลังเลและทำท่าว่าจะต่อต้าน  เมื่อนึกถึงความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้  โดยที่ไม่ให้ผมได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาก่อนเลย  มันก็สายเกินไปเสียแล้วละครับ...  เมื่อส่วนปลายของแก่นกายใหญ่กำลังพยายามดันเข้ามายังปากทางเข้าด้านหลังของผมแรงขึ้นมาทุกขณะ  และแม้ว่ามันจะถูกชโลมลื่นไปด้วยน้ำลายจนทั่วและปากทางเข้าด้านหลังของผมก็ดูเหมือนจะเริ่มคลายตัวมากขึ้นแล้วก็ตาม  แต่ใจที่ไม่พร้อม... มันเลยทำให้ผมเกร็งและรั้งที่จะตอบรับมันเอาไว้

“ อย่าเกร็ง...  ไม่งั้นจะเจ็บนะ “

พี่กิจบอกมาเสียงเรียบ  แต่ก็ยังคงดึงดันที่จะทำต่อไป  โดยไม่สนใจมือผมที่กำลังรั้งแขนแข็งแรงที่กำลังจับแก่นกายใหญ่กดดันเข้ามาทุกขณะเลยแม้แต่น้อย

“ ไม่เอา...  ยะ..อย่า.. มันเจ็บ...โอ้ย!!  อย่าพี่กิจ.!!! “

ผมพยายามใช้มืออันไร้เรี่ยวแรงผลักพี่เขาออกไป  พร้อมทั้งร้องขออยู่เนืองๆ  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไรกับอารมณ์ของพี่กิจในตอนนี้เลย  ราวกับว่าคนตรงหน้านี้เป็นดังสัตว์ป่าที่หื่นกระหายอย่างที่ผมไม่เคยจะได้รู้จักมาก่อนเลยแม้แต่น้อย


“ โอ๊ะ... โอ้ย!!! “


ผมร้องลั่นพร้อมทั้งน้ำตา  เมื่อส่วนปลายนั้นถูกบดเบียดเข้ามาได้บ้างแล้ว  ผมเจ็บราวกับว่าร่างกายมันจะฉีดขาดออกจากกัน  ผมเลยไม่พยายามที่จะขยับตัวเลยแม้แต่น้อย  ได้แต่กัดฟันแน่นทนต่อความเจ็บและความรู้สึกอึดอัดอย่างถึงที่สุด

พี่กิจปล่อยมันคาไว้เพียงแค่นั้น  โดยไม่พยายามที่จะฝืนดันมันเข้าไปต่อ  ก่อนจะเลื่อนตัวลงมาจูบผมอย่างแผ่วเบา  แล้วใช้ลิ้นเรียวปลุกเร้าและซุกไซร้เข้ามายังภายในปากทันที  ซึ่งไม่อายจะพูดได้เต็มปากว่า  ผมชอบสัมผัสและลีลาการจูบของพี่กิจเป็นที่สุด... 

ผมตอบรับมันไปอย่างคุ้นเคยและคล้อยตามอย่างว่าง่ายด้วยปลายลิ้นที่ดูจะเริ่มชำนาญมากขึ้น  และด้วยการกระทำนี้เอง  มันเลยทำให้ผมลืมและผ่อนคลายจากการฝืนช่วงล่างของตัวเองนี้ลงไปได้โดยไม่รู้ตัว  เมื่อเริ่มสนุกกับลิ้นซุกซุนหยอกเย้านี้มากขึ้น  พี่กิจก็ค่อยๆ ขยับแก่นกายเข้ามาทีละนิดๆ อย่างเชื่องช้าและแนบเนียนที่สุด  จนกระทั่ง...


“ โอ๊ย!! “


มันทั้งจุกและแน่นมากครับ  ถึงจุดนี้... ผมถึงได้รู้ว่าร่างกายของผมกับพี่เขามันได้แนบสนิทกันไปเสียแล้ว 

พี่กิจยังคงคามันไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้ขยับอะไรไปมากกว่านี้  แต่ก็ยังคงปลอบประโลมผมด้วยการจูบอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นไม่นาน  พี่กิจก็เริ่มขยับบั้นท้ายเข้าออกอย่างเชื่องช้า  มันยังคงจุก  แน่น  และเจ็บอยู่เลยครับ  ผมละริมฝีปากออกมาร้องเล็กน้อยเพื่อให้ผ่อนคลายจากความรู้สึกอึดอัดที่เกิดขึ้นนี้  ก่อนจะถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากรูปกระจับเหมือนเดิมต่ออีกครั้ง  ในขณะที่การสอดใส่เข้าออกยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้า  และไม่นานทุกอย่างก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มดีขึ้น  ความเจ็บปวดได้ลดน้อยลงไปบ้างแล้ว  จากนั้นพี่กิจก็ยันตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย  ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเข้าออกให้เร็วมากขึ้นไปกว่าเดิม


“ อ๊ะ!!  มะ..ไม่ไหว.. สะ..เสียว.. อ๊ะ..!! “


แม้ว่าจะเจ็บและจุกหน่วงบ้างในบางจังหวะเข้าออก  แต่กระนั้นมันก็เทียบไม่ได้เลยกับความวาบหวามที่รู้สึกดีเกินกว่าที่ผมจะคาดถึง  มันช่างเคลิบเคลิ้มและทำให้ผมลืมตัวกันไปเลยทีเดียว  นี่หรือครับเซ็กส์... ที่ใครหลายๆ คนได้ลุ่มหลง  และจากการสั่งสอนของคนตรงหน้านี้ต่อผู้ไร้ประสบการณ์อย่างผม  มันก็มากพอที่จะทำให้ผมได้เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายๆ คนถึงได้ติดใจกับมันมาก

การเข้าออกด้วยจังหวะที่ไม่ตายตัวและลูกเล่นต่างๆ มากมาย  ไม่ว่าจะการบดส่าย  หรือจังหวะหนักเบา ทั้งหมดล้วนสร้างความรู้สึกดี  วาบหวาม  และแปลกใหม่ให้กับผมได้อยู่ตลอดเวลา  จนผมถึงกับครางเสียงหลงได้อย่างไม่หยุดจนกระทั่งตอนนี้

ผมถูกพี่กิจชี้นำท่วงท่าต่างๆ ราวกับหุ่นเชิดอย่างว่าง่าย  ภายใต้พื้นที่ที่จำกัดของโซฟา  แต่กระนั้น...  มันก็ดูจะไม่เป็นอุปสรรคอะไรเลยสำหรับพี่เขา  จนเมื่อกลับมายังท่าทางพื้นฐานที่เราได้เริ่มต้นกันมา  พี่เขาก็เหมือนจะเร่งจังหวะและความหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น  จนเสียงกายเนื้อของเรากระทบกันดังแข่งกับการครางของผมและเสียงลมหายใจกระเส่าของพี่กิจ  ถึงจุดนี้พี่กิจจึงใช้มือเข้ามากอบกุมแก่นกายร้อนของผมที่ถูกปลุกเร้าอารมณ์จนแข็งเกร็งอยู่ตลอดเวลา  ก่อนจะขยับมันถี่จนผมไม่อาจจะทานทนต่อไปได้แล้ว

“ พะ..พอก่อน..  มัน..จะ..ไม่ไหวแล้ว.. อ๊ะ!!..  อ๊า!!!! “

สิ้นเสียงของผม  ของเหลวอุ่นสีขาวก็ทะลักออกมาจนถึงหน้าอก  แถมยังมากกว่าทุกครั้งที่เคยมีมา  คงจะเพราะอารมณ์และการถูกกระตุ้นจากช่องทางด้านหลังไปพร้อมกันล่ะมั้งครับ

พี่กิจเริ่มครางพร้อมทั้งซอยบั้นท้ายแรงขึ้นและถี่ไล่ตามผมที่ได้ไปถึงยังจุดสูงสุดแล้ว  และไม่นานพี่เขาก็ครางออกมาเสียงดัง  ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ถึงการกระตุกของแก่นกายใหญ่ภายในตัวผม

ผมมองใบหน้าคมที่กำลังหอบหายใจเหนื่อยถี่ราวกับได้ไปวิ่งมาเป็นกิโล  และแม้ว่าภายในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วก็ตาม  แต่ทว่าร่างกายของเราทั้งสองกลับยังสัมผัสได้ถึงความลื่นไหลของหยาดเหงื่อที่ผุดออกมา  พี่กิจมองผมด้วยสายตานิ่งๆ ที่ทำให้ผมหลงใหลได้อยู่ตลอด  ก่อนที่ผมจะต้องยอมแพ้และเบือนหน้าหนีไป  กระนั้นพี่กิจก็ยังคงไม่ยอมถอนแก่นกายขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะยังคงไม่ได้อ่อนลงไปเลยแม้แต่น้อยภายในร่างกายของผม  ก่อนจะก้มหน้าเข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของผมต่อ


“ พะ...พอใจยัง..   ถ้าพอใจแล้วก็.. “

“ ใครว่าพอล่ะ... “


เสียงพี่กิจดังสวนขึ้นมาที่ข้างหู  จนผมต้องเบิกตาโพรงอย่างแปลกใจ

อะไรนะ.. อย่าบอกนะว่า...  ที่ทำไปเมื่อกี้มันยังไม่พอใจพี่อีก...

พี่กิจยันตัวขึ้นมาพร้อมทั้งมองผมด้วยสายตาราวกับเจ้าป่าที่เห็นอาหารอยู่ตรงหน้าเสียอย่างนั้น  จนผมแปลกใจและคาดไม่ถึงว่าความหื่นกระหายของพี่เขามันจะมีมากได้ถึงเพียงนี้

พี่กิจถอนแก่นกายออกมาจากตัวผม  และไม่ทันที่ผมจะได้ขยับตัวหนี  พี่เขาก็อุ้มผมขึ้นมาก่อนจะพาไปยังห้องนอนของพี่เขาต่อทันที  โดยมีผมออกแรงทุบประท้วงอยู่ที่หน้าอกกว้างของพี่เขาอยู่เนืองๆ...





......................




หมดสภาพเลยครับทั้งผมและก็พี่กิจ  ตอนนี้ร่างใหญ่กอดรัดอยู่บนตัวผมในสภาพที่ใบหน้าซุกไว้ที่ต้นคอ  พร้อมทั้งหอบหายใจกระเส่าอยู่บางๆ...  ผมไม่รู้เลยครับว่าตอนนี้มันกี่โมงกันแล้ว  แต่ก็คาดว่าน่าจะเกือบๆ เที่ยงคืนแล้วล่ะครับ  บอบช้ำไปหมดเลย  แถมไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแล้วด้วย....


“ กันต์... “


เสียงนุ่มนวลดังขึ้นที่ข้างหูอย่างอ่อนโยน  โดยที่ผมไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ยินมันในคืนนี้


“ พี่...  ขอโทษนะ “


จากที่น้ำตามันได้แห้งเหือดลงไปแล้ว  แต่พอมาได้ยินแบบนี้  จู่ๆ น้ำตามันก็เอ่อล้นออกมาอีกครั้ง  แถมคราวนี้ยังดูเหมือนว่ามันจะออกมามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ 

คือถ้าจะร้ายไปเลย.... มันก็คงจะดีกว่าการกลับมาพูดดีๆ กับผมแบบนี้อีกครั้ง


“ ทำถึงขนาดนี้แล้ว...  พี่ยังต้องมาขอโทษอะไรอีกเหรอ... “

“ พี่...  ไม่มีอะไรจะแก้ตัว...  แต่ที่พี่ทำ...  ก็เพราะว่าพี่รักเรานะ “

“ นี่เหรอครับคือความรักของพี่..  การกระทำแบบนี้น่ะเหรอที่เรียกว่ารัก... “

พี่กิจขยับตัวมานอนข้างๆ ผมก่อนจะเอามือมาปาดน้ำตาผมออกอย่างเบามือแล้วพูดต่อ

“ พี่ยอมรับนะว่าตอนแรกพี่โมโหมาก  และอาจจะใช้อารมณ์ไปบ้าง  แต่ตอนหลังพี่บอกตรงๆ นะว่าพี่ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วจริงๆ  พี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผู้ชายมาก่อนนะ  และก็ไม่คิดจะทำด้วย  แต่เพราะว่าเป็นเราไง....  ถ้าพี่ไม่รักเราจริงๆ  พี่คงไม่มีทางทำอะไรแบบนี้กับผู้ชายด้วยกันแน่ๆ “

“ พอเถอะครับพี่...  ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว  เพราะถึงยังไงเรื่องในครั้งนี้...  เรามันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละครับ..  ถ้าอย่างนั้นแล้ว....  พี่ก็ลืมๆ มันไปเถอะ  แล้วปล่อยให้มันผ่านไป... “

“ จะทำอย่างนั้นได้ไง...  พี่ผิด..  พี่ก็ต้องรับผิดชอบเราสิ... “

ผมพลิกตัวหันหน้ามามองพี่กิจด้วยสายตาที่แน่วแน่กับสิ่งที่กำลังจะพูดออกไป  แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่โครตจะฝืนกับความรู้สึกของตัวเองเลยก็ตามที  แต่มันก็เป็นทางออกเดียวที่ผมจะยุติเรื่องทุกอย่างระหว่างเราได้

“ ถ้าพี่คิดจะรับผิดชอบ...  นั้นผมขออะไรพี่สักอย่างจะได้มั้ย.. “

พี่กิจมองตาผมอย่างลังเลและไม่แน่ใจที่จะตอบท่ามกลางแสงสลัวภายในห้อง

“ อะไรเหรอ... “

“ แค่ได้หรือไม่ได้... “

ผมยังคงถามแกมบังคับไปอย่างหนักแน่นในน้ำเสียง  ซึ่งพี่กิจก็ยังคงไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่มองผมนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น  ซึ่งผมเองก็เช่นกัน...

แต่เมื่อสายตาคาดคั้นในคำตอบของผมที่มองพี่เขาไปอย่างไม่ยอมลดละ  ในที่สุดที่เขาก็ยอมตอบออกมา

“ ได้... “


ผมหลับตาเล็กๆ เพื่อตั้งสติและสูดหายใจเข้าปอด  ก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยน้ำตาที่กำลังล้นเอ่อ  แล้วจึงพูดขึ้น

“ ผมขอ...  ให้พี่ช่วยปล่อยผมไป...  ให้ผมได้ออกไปจากชีวิตของพี่สักที... “

“ ไม่!!  ไม่เอานะกันต์  อย่าทำอย่างนี้สิ “

“ แต่พี่สัญญากับผมแล้วนะ...  ผมขอพี่แค่เรื่องเดียว... แค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่พี่จะไม่ผิดสัญญากับผม...  พี่ยังจะให้ผมไม่ได้เลยเหรอ.... “


พูดจบน้ำตาผมก็เอ่อล้นออกมาจากเบ้าตาแดงๆ  มันยากนะครับกับการพูดอะไรที่มันขัดต่อความรู้สึกจริงๆ ของเรา  แต่ถ้าผมไม่ทำอย่างนี้  ผมก็คงจะไม่สามารถออกไปจากชีวิตของพี่เขาได้เสียที  และผมก็คงจะต้องเจ็บอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ


“ กันต์... “


พี่กิจย้ำชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา  และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นนัยน์ตาสั่นระริกจากของเหลวใสที่อยู่ภายในของพี่เขา

“ นะครับ..  นะครับพี่กิจ...  ถ้าพี่สงสารผม...  พี่ช่วยปล่อยผมไปเถอะ “

ในที่สุดน้ำตาหยดแรกของพี่กิจที่ผมได้เห็น  มันก็หยดลงผ่านแก้มมาเช่นเดียวกับหัวใจของผมที่ได้หลุดหายออกไปจากร่างกาย  แต่กระนั้นผมก็ยังคงต้องทำใจให้แข็งเข้าไว้...

“ ถ้าพี่ไม่ตอบอะไร..  ผมถือว่าพี่โอเคนะครับ “

เมื่อพี่กิจเลือกที่จะไม่ตอบ  เอาแต่จ้องหน้าผมด้วยสายตาเว้าวอน  ผมก็จำเป็นต้องหักดิบไปแบบนี้  ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไร  หรือว่าผมเข้มแข็งหรอกนะครับ...  แต่เพราะผมไม่อยากจะเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว  สู้เจ็บและให้มันจบไปเลยตอนนี้จะดีกว่า  มันอาจจะยากสักหน่อย...  แต่ผมก็ต้องผ่านมันไปให้ได้....

ผมทำท่าว่าจะขยับตัวลุกออกไปจากเตียง  แต่กลับถูกพี่เขากระชับอ้อมแขนเอาไว้จนแน่นแทบจะในทันที

“ ไม่ใช่คืนนี้จะได้มั้ย...  อยู่กับพี่...  อีกสักหน่อยจะได้มั้ย... “

ผมมองพี่กิจนิ่ง  พร้อมทั้งชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะขยับตัวลงไปนอนต่อเหมือนเดิม  ในขณะที่พี่กิจเองก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก  ราวกับกลัวว่าผมจะหนีหรือเปลี่ยนใจไปจากตอนนี้

สุดท้าย... ก็ใจผมเองด้วยแหละ  ที่ยังไม่พร้อม... 

มันไม่ใช่แค่พี่เท่านั้นที่ขอเวลา  แต่ตัวผมเองก็เช่นกัน..

ขอแค่สักคืนนึงกับความสุขสุดท้ายที่ผมจะได้รับจากพี่เขา.... 

เพราะหลังจากคืนนี้ไป....  มันก็คงจะไม่มี... 

อีกต่อไปแล้ว.............




...................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 12/06/2561 update chapter 44 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 26-06-2018 22:43:07
กิจ’s  Part




“ พี่กิจ...  ตื่นได้แล้ว...  ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงชอบตื่นสายห๊ะ.. “


ผมปรือตาขึ้นมา...  ก่อนจะพบกับใบหน้าขาวใสที่คุ้นเคย  ซึ่งทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา

“ ไม่ออกกำลังกายเหรอเช้านี้ “

กันต์กำลังก้มหน้าลงมาถามผมพลางเลิกคิ้วรอคำตอบ  ผมมองหน้าใสๆ ปากแดงๆ ผมเพร่าที่ไม่เข้าทรง  มันช่างน่าหมันเขี้ยวจริงๆ เลยครับ  ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ผมก็ไม่เคยเบื่อกับใบหน้าของคนคนนี้เลยล่ะครับ  ว่าแล้วผมก็คว้าตัวมันล้มลงไปนอนต่อบนเตียงทันที  ก่อนจะพลิกตัวผมขึ้นมาคร่อมร่างของมันเอาไว้

“ จะทำไรอะ...  อย่าบอกนะว่า.. “

“ ก็เราบอกให้พี่ออกกำลังกายตอนเช้าเองนี่... “

“ บ้าเหรอ...  นี่มันใช่การออกกำลังกายที่ไหนล่ะ..  พอเลย “

“ ใครว่าไม่ใช่ล่ะ...  มันก็ออกแรงเหมือนกัน  แถมยังทำไปพร้อมกันได้ทั้งสองคนเลยด้วย “

พูดจบผมก็ก้มลงไปหอมแก้มไอ้เด็กน้อยคนนี้ฟอดใหญ่ทันที  มัดจำไว้ก่อนครับ....  ขณะที่มันเองก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาไม่ต่างอะไรไปจากเด็กๆ เลยล่ะครับ  แล้วแบบนี้... ผมจะปล่อยให้มันรอดไปได้ยังไงกันล่ะครับเช้านี้....

“ ปากเหม็น  ฟันก็ยังไม่ได้แปรง.. “

มันยิ้มว่ามาครับ

“ เหม็นจริงอะ..  นั้นลองใหม่นะ “

พูดจบผมก็ก้มลงไปหอมแก้มมันอีกข้างฟอดใหญ่ทันที  และมันก็ได้แต่หัวเราะคิกคักให้เหมือนเดิม

“ มีเรียนเช้านะพี่  แถมผมยังมีควิชด้วย  สายไม่ได้นะ... “

มันว่ามาก่อนจะเอามือเล็กสองข้างดันอกผมไว้ครับ  ผมก้มลงมาจูบมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะละริมฝีปากออก  เผยให้เห็นริมฝีปากบางเผยอออกอย่างเว้าวอนกับสัมผัสเมื่อสักครู่นี้

“ นั้นพี่มัดจำไว้ก่อนนะ...  ไว้คืนนี้กลับห้องมาแล้ว...  เราต้องชดเชยให้พี่ด้วยนะ “

“ คนบ้าอะไร...  โครตหื่นอะ... “

“ ถ้าพี่จะบ้า  ก็คงบ้าเพราะรักคนตรงหน้านี้แหละ หึๆ “

“ พอเลย.. ไปได้แล้ว...  เดี๋ยวผมจะทำอะไรให้กินตอนเช้า “ 

มันยิ้มว่ามาพร้อมทั้งออกแรงผลักผมออกไปครับ  ซึ่งผมก็ยอมเบี่ยงตัวออกมานอนข้างๆ มันอย่างว่าง่าย

ผมนอนเท้าหัวมองมันลุกออกจากเตียงด้วยท่าทีเขินอายตามนิสัย  ก่อนจะเห็นมันหันกลับมามองผมที่กำลังยิ้มกว้างให้กับมันอยู่บนเตียง  ไม่ได้อยากจะแกล้งมันหรอกนะครับ  ก็มันน่ามองจะตายไป  คนบ้าอะไรน่ารักสุดๆ...

“ โอ้ย.. “

ยิ้มได้ไม่นาน  แม่งก็หยิบเอาหมอนมาตีผมไปทีนึงซะงั้น



ผมออกจากห้องมาออกกำลังกายตอนเช้าตามปกติ  ท่ามกลางเสียงทำครัวที่คุ้นเคย  ก่อนจะได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูก...
รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขจังครับ  มันให้ความรู้สึกของครอบครัวจริงๆ  ผมเลือกไม่ผิดเลยครับที่หยุดทุกอย่างไว้ที่มันเพียงคนเดียว...



“ กันต์..  พี่หิวแล้ว... “

ผมกำลังเดินเช็ดเหงื่อเข้าไปในครัว  ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหามัน แต่ก็ไม่เจอครับ...  สงสัยคงจะอยู่ในห้องล่ะมั้ง

ผมเปิดประตูเข้าไปดูในห้องทันที  แต่ก็ไม่เจอเหมือนเดิม...  ในห้องน้ำก็ว่างเปล่า...  มันไปไหนกันนะ..

“ กันต์...  อยู่ไหนเนี่ย...  เดี๋ยวจะสายนะ “

เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ กลับมา  ผมก็เริ่มรู้สึกผิดสังเกต  ก่อนจะรีบออกมาจากห้องและกลับเข้ามาดูที่ครัวอีกครั้งหนึ่ง  แต่ก็ไม่มีใคร  ไม่มีแม้กระทั่งอาหารเช้าที่เคยส่งกลิ่นหอมอยู่เมื่อสักครู่นี้  ทุกอย่างดูว่างเปล่าราวกับผมได้อยู่เพียงคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนที่ผ่านมา

คนที่ผมรัก..  ครอบครัว..  และความอบอุ่นที่ผมสัมผัสได้  มันหายไปไหนกันนะ..

“ กันต์ !!  กันต์!! “





……….




” กันต์ !!! “


ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที.... พร้อมกับใจที่หล่นหายไปกับความฝัน

ที่แท้มันก็แค่ฝันเท่านั้นเอง  ว่าแต่...

ผมรีบหันขวับไปมองยังที่นอนข้างๆ  แต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า...  ไม่ต่างอะไรไปจากใจของผมในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย

มันเป็นครั้งแรกที่หัวผมตื้อคิดอะไรไม่ออก  ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี  ใจหายจังเลยครับ...  เมื่อรู้ว่าจากนี้ต่อไป  ผมจะไม่มีกันต์อยู่ร่วมในชีวิตด้วยกันอย่างนั้นอีก...

เจ็บที่สุดเลยครับ  นี่ใช่มั้ย... ความเจ็บที่ใครต่อใครได้รับจากความรัก.... 

และยิ่งพอนึกถึงความฝันที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้...  มันช่าง....  โหดร้ายกับผมมากเลยจริงๆ .. 

เพราะหากว่าความเป็นจริงตอนตื่นขึ้นมา....  มันจะแตกต่างจากความฝันนั้นโดยสิ้นเชิงแล้วล่ะก็....

ความฝันแบบนั้น....

ผมไม่ต้องการ......





TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-06-2018 22:57:44
 อย่างเศร้าเลย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-06-2018 23:00:30
นังฮานะ แกต้องโดน~ :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-06-2018 23:05:15
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใจนึงก็สงสาร  อีกใจนึงก็สมน้ำหน้าให้กับความโง่ ไร้สติ ที่ไปหลงกล หลงคารม หลงเชื่อ อีชะนี-ีสั่นตัวร้าย  แค่แผนตื้น ๆ ก็ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขนาดย่อมได้

ป.ล. แผนของอีชะนี-ีสั่นตัวร้ายมันดูง่าย ดูตื้น แต่ดันเสือกใช้ได้ผลซะงั้น  ถ้ามีสติหน่อยนะ  ไปหยิบถุงยางมาพิสูจน์เลยว่ามีร่องรอยการใช้งานและหลักฐานนั้นยังใหม่สดซิงหรือเปล่า   อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-06-2018 23:11:03
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-06-2018 23:32:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 26-06-2018 23:51:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 27-06-2018 01:18:15
รีบจัดการฮานะซะ กิจ


         :amen:


 
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-06-2018 03:25:40
น้องหายไปแล้ว เหลือชะนีให้จัดการตัวนึง กิจจะจัดการไหมนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 03-07-2018 12:56:48
ถึงเวลาที่จะต้องเคลียร์ปัญหาจริงๆจังๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 05-07-2018 15:12:41
ขอบคุณครับ กด +1 ให้นะครับ :a9:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-07-2018 20:42:31
รอตอนต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Jang Wachira ที่ 21-07-2018 16:58:11
เทใช่ม้ายยย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-07-2018 20:45:20
อย่าหายไปนานนะ ใจคอไม่ดี อย่าทิ้งกันน๊าาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 26/06/2561 update chapter 45 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 22-07-2018 15:14:35
ขอโทษนะครับที่อาจทำให้บางคนผิดหวัง

ผมไม่ได้หายไปไหนหรือเลิกเขียนนะครับ

ก็ยังคงเขียนต่อไปเพราะตั้งใจไว้แล้ว  แต่คงจะไม่ได้โพสต์แล้วล่ะครับ

คือผมดันทุรังมาไกลมาก....
 
ยิ่งดันทุรังไปตามความคิดของตัวเองก็ยิ่งจะทำให้หลายคนผิดหวังและไม่ชอบผมมากขึ้น

แต่ผมมันเป็นพวกหัวแข็งอะครับ55+  บางอย่างถ้าเปลี่ยนแล้วมันไม่ใช่ตัวเรา  ผมก็จะไม่เปลี่ยน... 

กระนั้นผมก็ไม่ได้เข้มแข็งมากพอ..  หากปราศจากซึ่งกำลังใจ  แม้ว่าจะมีความตั้งใจก็เถอะ  แต่เราต้องยอมรับว่ากำลังใจมันเป็นสิ่งสำคัญ

( ยิ่งผมมาเขียนแบบนี้ก็ยิ่งจะมีคนไม่ชอบผมมากขึ้นไปอีก55+ )

ผมเสียกำลังใจมาเรื่อยๆ  แต่ก็ยังบ้าดันทุรังต่อไปอีก  ทั้งๆ ที่รู้ว่ายิ่งทำก็จะยิ่งมีคนไม่ชอบผมมากขึ้น  ก็แค่เพียงหวังว่าถ้าถึงจุดหนึ่งของนิยายแล้ว...  ทุกอย่างมันคงจะดีขึ้นเอง

จนถึงจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามันไม่สบายใจเลยที่จะเขียนตามแนวทางของตัวเอง  หากต้องไปแย้งบนความคาดหวังของบางคนเข้า...  เพราะการทำให้ใครผิดหวังเราเองก็รู้สึกแย่เหมือนกัน

ดังนั้นผมเลยคิดว่าไม่ลงแล้วจะดีกว่า...  เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย  สำหรับส่วนตัวผมแล้ว..  ถึงจะเขียนต่อไปโดยไม่มีคนอ่านไม่มีคนชอบแล้วก็ตาม  แต่ผมก็มีความสุขนะกับการเขียนนิยายของตัวเองจบสักเรื่องหนึ่ง เราก็แค่กลับไปจุดเริ่มต้นที่เราตั้งใจเอาไว้  แล้วทำมันให้สำเร็จ  ถึงจะไม่มีใครรู้มันก็ไม่เป็นไร  แต่นิยายของเรามันก็จะจบ  และจบในแนวทางที่เราตั้งใจเอาไว้
ผมเองก็ยังไม่รู้หรอกว่าถ้าจบแล้ววันข้างหน้าผมจะเอาลงที่ไหนยังไง  หรือจะไม่ลงเลยก็ตาม  แต่วันนี้ผมก็ยังคงเขียนมันต่อไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ ( ตอนนี้กำลังเริ่มCh-48 ) 


ขอบคุณนะครับที่ติดตามกันมา  ขอบคุณมากจริงๆ  และผมก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่ากำลังใจสำหรับการก้าวเดินของคนเรามันเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ  ดังนั้นที่ผ่านมาผมขอขอบคุณมากๆ นะครับ

ปล. ที่มาบอกเพื่อไม่อยากให้บางคนต้องรออีกอะครับ  และกระทู้นี้สามารถแจ้งแอดมินลบออกได้เลยนะครับ

ปล.อีกที  ในบอร์ด  ผมคงจะผันตัวเองมาเป็นคนอ่านอย่างเดียวพอแล้วละครับ

ปล.อีกทีนะ  สุดท้าย  ผมขอส่งท้ายด้วย Ch-47 บางส่วนที่เขียนเอาไว้แล้ว ( แค่อยากให้รู้ว่ามันยังคงดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ แม้ผมจะไม่ได้ลงแล้วก็ตาม )  แต่มันเป็น Draft ที่ยังไม่ได้กรองประโยคและคำ  ( คือผมจะพิมพ์ยาวๆไปก่อนอะครับ  แต่ก่อนลง..  ผมจะกลับมากรอง  เรียบเรียงประโยค  และคำอีกรอบ  เชื่อเถอะครับว่าผมตั้งใจทำจริงๆ  ถึงมันจะเป็นนิยายที่ไม่ได้เรื่องก็ตามที  แต่กว่าที่มันจะออกมาได้แต่ละตอน  ผมตั้งใจทำมันมากจริงๆนะครับ )


……………………………………..



เที่ยงนี้ผมเลยนัดประชุมสมาชิกในชมรมบาส  เกี่ยวกับเรื่องการงดซ้อมสำหรับเทอมนี้เพื่อให้สมาชิกได้เตรียมตัวอ่านหนังสือกันครับ  และผมเองก็จะได้มีเวลาว่างมากพอที่จะไปติวหนังสือให้กับธันมันด้วย  ซึ่งผลสรุปที่ได้ก็คือ  เราจะซ้อมกันวันนี้เป็นวันสุดท้ายและจะแจ้งให้สมาชิกในชมรมทราบเรื่องหลังซ้อมเสร็จ
เป็นการจบไปอีกหนึ่งภารกิจ.....

.............................

ค่ำนี้ที่ริมระเบียงห้อง

ผมไม่รู้ว่าชอบมาอยู่ที่ริมระเบียงตั้งแต่ตอนไหนครับ  มารู้ตัวอีกทีก็ยืนเกาะขอบระเบียงมองวิวออกไปไกลๆแล้ว  ในขณะที่หูก็คอยฟังเสียงจากคนห้องข้างๆ  และเฝ้ารอเวลาที่มันจะออกมาที่ระเบียงด้วยเช่นกัน

คงจะเป็นเพราะที่ตรงนี้มันคงเป้นที่เดียวในตอนนี้ที่ผมสมารถที่จะคุยกับกันต์มันได้ใกล้ชิดเหมือนเดิม  แม้ว่าผมจะอยู่ในคราบของคนอื่นก็ตาม  แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็ยังได้พูดคุยกับมันได้เหมือนเมื่อก่อน

เสียดายเวลาแบบนั้นจัง  ผมไม่น่าทำให้มันเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้เลย  ไม่อย่างนั้นผมคงจะได้นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆมันยู่ตอนนี้ก้ได้

“ แกร๊ก! ครืด… “

เมื่อเสียงประตูบานเลื่อนหลังห้องเปิดออก  ผมก็ถอยตัวเองออกมาจากขอบระเบียงไปยืนพิงอยู่ที่ข้างกำแพงแทน  ซึ่งพอฟังจากเสียงก็พอรู้ได้ว่ามันกำลังตากผ้าอยู่ครับ

“ เป็นไงบ้างเราวันนี้ “

ผมทักขึ้นมา  ขณะที่มันกำลังสะบัดผ้าเสียงดังอยู่  ก่อนจะตอบผมมาด้วยน้ำเสียงรื่นหูที่ผมรอฟังมาตลอดทั้งวัน

“ ก็ดีพี่  บางวิชาก็จบคลาสลงไปแล้ว  ช่วงบ่ายวันนี้เลยว่างครับ  ไปอ่านหนังสือกับเพื่อนที่หอสมุดกลางมา  โครตมึนเลย... “

“ ฮะๆๆ  ชีวิตช่วงใกล้สอบก็แบบนี้แหละ  เขาเรียกสัปดาห์นรก “

“ นั่นดิพี่  นี่คืนนี้ผมก็ต้องมานั่งทำ Drawing ต่ออีกนะครับ  งานชุดสุดท้ายแต่อาจารย์สั่งมาแบบไม่ห่วงว่าเด็กต้องเตรียมตัวสอบกันบ้างเลย “

“ ตอนรุ่นพี่ก็เจอ  แถมส่งหลังเส้นตายนี่แกไม่รับงานด้วยนะ “

“ จริงอะ !   โอ้ย...  ตายแน่ไอ้กันต์ “

ได้ยินเสียงมันบ่นขึ้นมาก็นึกหน้ามันออกเลยครับ  จนผมเผลอยิ้มขำขึ้นมาเล็กๆ อย่างไม่รู้ตัว

“ ให้พี่ช่วยมั้ย “

“ ไม่เป็นไรพี่  ผมยังไหวอยู่ “

“ แต่ถ้าไม่ทันก็บอกพี่นะ  Drawing พี่ถนัด “

“ คร้าบผม  ขอบคุณนะครับพี่นิก “



เช้วันต่อมา

ผมยังคงตื่นเช้าเหมือนเดิมตามปกติ  จะต่างก้ตรงที่ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกกำลังอะไรมากสักเท่าไหร่  นอกจากการวิดพื้นและซิทอัพเพียงเท่านั้น

ผมซื้อโจ๊กแถวๆ หอสำหรับมื้อเช้า  และก้ไม่ลืมที่จะซื้อมาแขวนไว้ที่ประตูห้องข้างๆเหมือนเดิม  แต่วันนี้ผมใส่พวกเครื่องดื่มบำรุงสายตาให้มันลงไปด้วย  เพราะการอ่านหนังสือหนักๆ ทำงานเขียนแบบดึกๆ มันน่าจะต้องบำรุงกันเอาไว้บ้าง


“ ก๊อกๆๆ ! “


ผมเคาะประตูห้องบอกมันก่อนจะเดินจากไปตั้งแต่ 7 โมงเช้า.... ทิ้งไว้เพียงโพสต์อิทสีฟ้าที่ถุงโจ๊ก





ซื้อมาฝาก...  บำรุงร่างกายบ้างนะ  อย่าหักโหมให้มาก...

                                                                   พี่ข้างห้อง...

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

^_________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 22-07-2018 15:39:39
นึกว่าหายไปไหนนน ยังรออ่านนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 22-07-2018 16:52:04
ชอบเรื่องนี้ คงจะคิดถึง :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-07-2018 17:13:33
สู้ๆนะเป็นกำลังใจให้ไรท์ นะ  คงคิดถึงเรื่องนี้มากๆ
ถ้าไรท์ไม่อัพต่อแล้ว  ไรท์เขียนสนุกนะ เราชอบ
สู้ๆนะ o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 22-07-2018 17:52:59
รออ่านอยู่นะคะ ติดตามเสมอค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ice.moshi ที่ 22-07-2018 17:56:25
คือเราอยากอ่านต่ออ่ะ ถ้าไม่มาโพสต์ในนี้แล้ว เราจะอ่านได้ที่ไหนบ้างอ่ะ เขียนสุนกนะ น่าติดตามออก เราอยากอ่านต่อจริงๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-07-2018 18:33:50
นิยายที่แต่งมาสนุกดีนะ แต่เพราะคอมเม้นท์บางรายทำหลานคนแต่งเขว่  จนหมดกำลังใจจะลงนิยายต่อ แต่อย่าลืมว่านิยายเกิดจากความคิด, โครงเรื่องและสำนวนของหลานคนแต่งเอง เลยอยากให้หลานทำใจร่มๆ ไม่ต้องสนใจคนที่คิดลบกับหลาน หันมาสนใจคนที่คิดบวกกับหลานดีกว่า เป็นกำลังใจให้จ้า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 22-07-2018 18:42:02
เราอยากจะบอกว่า ผู้แต่งบางคน นิยายยาวเรื่อง เจอมาเยอะกว่านี้มากนัก ลงนิยาย 1 ตอน โดนวิพากษ์ วิจารณ์ 3-4 หน้านิยายนะคะ นิยาย 30 กว่าตอน แต่รวมแล้ว 150 กว่าหน้าลงนิยาย ท่านนั้นยังผ่านมาได้เลยค่ะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: -PCH- ที่ 22-07-2018 20:20:06
แงงงงงงงงง คุณหมีนึกว่าหายไปไหน
ติดตามอยู่ สู้ๆเด้อออ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: goorooo123 ที่ 22-07-2018 21:14:12
ปกติเป็นสายแอบอ่านตลอดไม่ค่อยเม้นอะไร
แต่อยากให้คุณหมีมาต่อนะครับ เชื่อว่ามีหลายคนอยากอ่านรวมถึงผมด้วย
เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 22-07-2018 21:41:07
รออ่านอยู่นะค่ะ. อยากให้ลงตอนต่อไป ชอบเรื่องนี้อ่านสนุกค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆค่ะ ใครไม่ชอบก็ปล่อยเขาไป คนที่ชอบและติดตามยังมีอยู่นะค่ะ
 :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Naesuka ที่ 22-07-2018 22:33:38
รออ่านอยู่นะค่ะ. อยากให้ลงตอนต่อไป ชอบเรื่องนี้อ่านสนุกค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆค่ะ ใครไม่ชอบก็ปล่อยเขาไป คนที่ชอบและติดตามยังมีอยู่นะค่ะ
 :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 23-07-2018 12:00:46
มันอึดอัดนะ พี่กิจก็บื้อน้องกันต์ก็ไม่ฟังห่าอะไรเลย สำคัญสุดอิน้องฮานะเนี่ย ...ไม่มีอะไรจะพูดแดกจุดไป
กิจน่าจะทำอะไรให้เด็ดขากเหมือนตอนจัดการคนที่ม่ซ้อมน้องนะ แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง แต่สันดารเลวแบบนี้ อย่าเอาไว้นะพี่กิจ
ส่วนน้องกันหัดฟังพี่เขาบ้างจะดีกว่านี้ ฟังคิดแล้ววิเคราะห์แยกแยะด้วย
ส่วนคนเขียนอ่ะ.  รีบๆมาต่อคนอ่สนจะขาดใจตายแล้ว :z3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: pim14 ที่ 23-07-2018 13:54:35
 เอาใจช่วยคนเขียนนะคะ เราเป็นคนนึงที่ติดตามอ่านมาตลอดค่ะ แต่ละเรื่องก็มีเสน่ห์ต่างกัน ยังรอติดตามตอนต่อไปค่ะ อยากเห็นพี่กิจกระอักเลือด หุหุ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 23-07-2018 23:35:51
รอตอนต่อไปจ้า

มาต่อเถอะนะ อย่าเทเลย

อยากอ่านจนถึงตอนจบเลย ทำไงดี  :mew6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 24-07-2018 00:06:42
การที่เข้ามาแต่งนิยายแล้วให้มีแต่คนชื่นชมอย่างเดียวผมว่าคุณคิดถูกแล้วที่จะแต่ไว้อ่านเพียงผู้เดียว และขอนะอย่าไปแต่งนิยายลงที่ไหนอีกถ้าคุณไม่มีจิตสำนึกในการเปนนักเขียนกับเค้า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 25-07-2018 04:12:10
 :mew2: อย่าเพิืงเทกันจิ่ เราชอบพล็อตเรื่อง การเดินเรื่อง
เราว่าเป็นนิยายที่สนุกนะคะ เเนื้อหาก็ไม่ยืด เราค่อยๆซึมซับว่าทำไมำพี่กิจ
ถึงได้รักน้องกันต์์ มีมาตอนหลังนี่เเหละที่พระเอกดูว่าโง่ ไม่ชัดเจน
แต่มันก็เป็นดราม่าใหญ่เพียง ััเดียวของเรื่อง สู้ๆนะคะ  :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 27-07-2018 10:23:32
อย่างแรกเลย...  ต้องบอกว่าผมนี่งี่เง่ามาก

พอได้กลับมาอ่านคอมเม้นต์แล้ว  ผมถึงคิดได้ว่า..

ผมลืมให้ความสำคัญกับคนที่เขาแคร์เรา  และมัวไปให้ความสำคัญกับอะไรก็ไม่รู้...

จริงอยู่ที่ผมอาจจะไม่เหมาะที่จะเขียนนิยาย  แต่ถ้ายังมีคนที่อยากอ่านอยู่  ผมก็จะหน้าด้านลงมันต่อไป

ถึงจะมีคนเกลียดเป็นพัน  แต่ถ้ามีคนชอบสักคน  มันก็พอแล้วเนอะ...

จากนี้ไป  ผมจะลงต่อจนจบซีซั่นเพื่อคนที่เขาอยากอ่าน  ส่วนใครไม่อยากอ่านก็...  ไม่ต้องอ่าน  ซึ่งเขาก็คงไม่เข้ามาอ่านอยู่แล้วล่ะ  ใครอยากว่าอะไร  อยากโหวตลบแค่ไหน  ตามสบายเลยครับ  ผมไม่ได้สนยอดคนอ่านอยู่แล้วเพราะไม่ได้ทำธุรกิจ  ตอนนี้ผมสนใจแค่คนที่เขาอยากอ่านแค่นั้น  เพราะผมควรจะแคร์คนที่เขาแคร์เรามากกว่า

ฟังดูแรงนะครับ55+  สงสัยผมคงเป็นสายDark ไปซะแล้ว ( เหมือนช่อง Gladiuz KB เลย (ช่องนี้ผมชอบ))

แต่ทุกกำลังใจและการสนับสนุน  ผมให้ความสำคัญมาก  ผมถึงได้กลับมาลงต่อ

ทุกกำลังใจและการเข้าใจที่ทุกคนให้มา  มันมีความหมายจริงๆ นะครับ  ผมถึงกล้าลุกขึ้นแล้วเดินต่อ(แบบ Lv up) Defence สูงขึ้น  ทนขึ้นละครับ55+

OK พร้อมละ  ต่อกันเลยนะครับ !!!
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 27-07-2018 10:30:41
Chapter 46




ที่ภาควิชาอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์

ทั้งๆ ที่มันเป็นวันธรรมดาและท้องฟ้าสดใสแท้ๆ  ทว่าชายหนุ่มที่เดินโดดเด่นมาแต่ไกลกลับมีสีหน้าที่หงอยเหงาและไม่มีชีวิตชีวาอย่างเป็นที่สุด

กิจกำลังเดินเข้าห้องเรียนมาในสภาพที่ต่างไปจากทุกที  ทุกอย่างมันไม่ได้ดูเนียบเหมือนอย่างเช่นทุกครั้ง  ไม่ว่าจะทรงผม  หน้าตา  หรือแม้กระทั่งเสื้อช็อปยับๆ ที่ม้วนถือเอาไว้อยู่ในมือ

“ เห้ย!  ตื่นสายรึไหงวะ...  ถึงได้มาเรียนในสภาพนี้เนี่ย “

พีถามขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นถึงสภาพความผิดปกตินี้  ทว่าเจ้าตัวกลับได้เพียงแค่ฟังมันผ่านๆ ไปเท่านั้นเอง  ก่อนจะแทรกตัวเข้ามานั่งยังเก้าอี้เรียนตัวข้างๆ  ซึ่งอันที่จริงแล้ว..  วันนี้เขาแทบไม่อยากจะมาเรียนเสียด้วยซ้ำไป  เพราะสภาวะจิตใจที่ห่อเหี่ยวราวกับว่าทุกอย่างบนโลกนี้มันช่างปราศจากซึ่งความสุขไปเสียหมด

บิวหันหน้ามามองยังพีเป็นเชิงถามถึงสาเหตุของความผิดปกตินี้  ทว่าพีเองก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบให้ไปเพียงเท่านั้น  และไม่นานเพื่อนคนสุดท้ายของกลุ่มก็เดินเข้ามายังห้องเรียนด้วยท่าทางที่อารมณ์ดี  ซึ่งต่างไปจากคนก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว....

“ ไอ้กิจ...  ขอบใจมึงมากนะเว้ย  แค่นี้กูก็หลุดพ้นจากยัยฮานะไปได้สักที  ผู้หญิงอะไรวะ  ร้ายกาจเป็นบ้าเลย “

เมื่อคิมเดินเข้ามาถึงกลุ่มก็พูดขึ้นพร้อมกับตบไหล่กิจทันที  โดยไม่ได้สังเกตถึงอาการผิดปกติของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย

“ แล้วนี่ตกลงมึงจ่ายไปเท่าไหร่วะ “

บิวถามขึ้นขณะที่คิมกำลังแทรกตัวลงมานั่งข้างๆ

“ 5 หมื่นว่ะ...  แม่งไม่คุ้มเลย  แต่ถ้าเทียบกับการที่เขี่ยยัยนี่ออกไปได้  กูก็ยอมว่ะ...  ยังไงกูก็ขอขอบใจมึงจริงๆ นะเว้ยไอ้กิจ  ที่เข้าไปเคลียร์ให้....  อ่าว... “

เมื่อคิมสังเกตเห็นสายตาเหม่อลอยที่ผิดปกติของเพื่อนได้  เขาก็หยุดพูดต่อทันที  ก่อนจะหันไปพยักพเยิดถามบิวที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน  แต่ก็ได้รับเพียงแค่การส่ายหน้ามาให้เป็นคำตอบเพียงแค่นั้น  และไม่ทันที่จะได้ถามไถ่อะไรไปมากกว่านี้  อาจารย์ผู้สอนก็เดินเข้าห้องเรียนมาเสียก่อน  จากนั้นทุกคำถามก็เลยถูกกลืนลงคอไป  จะเหลือก็เพียงแค่ความห่วงใยผ่านทางสายตาส่งไปให้เพื่อนคนสนิทเพียงแค่นั้น  เพื่อนผู้ซึ่งปกติจะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือทุกคนในกลุ่มอยู่เสมอ  ทว่าคราวนี้สถานการณ์เหมือนดูจะต่างออกไป.....


.............................................


พอหมดคาบเรียนในช่วงเช้า  ทุกคนในกลุ่มต่างก็หันหน้ามาหากิจแทบจะในทันทีที่อาจารย์ผู้สอนได้เดินพ้นออกไปจากประตูห้อง  ก่อนจะยิงคำถามมากมายขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง  ทว่าคำพูดประโยคเดียวที่ออกมาจากปากของกิจและทำให้ทุกคนนิ่งเงียบกันไปตามๆ กัน  โดยไม่มีใครคิดที่จะถามอะไรต่อก็คือ.... 

“ กันต์....  ย้ายออกไปจากห้องแล้วว่ะ “

จากน้ำเสียงที่พูดออกมา  พวกเพื่อนๆ ต่างก็รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยังไงก็ไม่ควรจะไปเซ้าซี้อะไรให้มากกว่านี้...  ไม่มีใครเคยเห็นท่าทีและแววตาเศร้าสร้อยเช่นนี้ของกิจมาก่อนเลยตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมา  ที่สำคัญ...  ทุกคนต่างก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถทำให้ผู้ชายอย่างกิจเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงเพียงนี้...

และแน่นอนว่า...  ตอนนี้พวกเขาทุกคนต่างก็รู้ดีว่า... กันต์คือคนที่มีอิทธิพลต่อสภาพจิตใจของกิจมากแค่ไหน


..................................................


ที่โรงอาหารคณะ

กิจที่กำลังเดินเหม่อๆ นำพวกเพื่อนๆ ที่กำลังเดินตามหลังเขาอยู่ด้วยสายตาที่เป็นห่วงเข้ามายังภายในโรงอาหารของคณะ  เขาไม่ได้รู้สึกหิวเลยแม้แต่น้อย  ไม่อยากจะกินหรือทำอะไรเลยทั้งนั้นในตอนนี้  แต่ทันทีที่สายตาที่เลื่อนลอยของเขาไปสะดุดยังใครบางคน  หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรงขึ้น  ราวกับว่าเลือดมันกำลังสูบฉีดกลับเข้ามายังร่างอันไร้วิญญาณเพื่อให้มีชีวิตใหม่ขึ้นมาได้อีกครั้ง

เขายืนนิ่งมองดูกันต์อยู่ไกลๆ  ในขณะที่กันต์กำลังนั่งหงอยเขี่ยข้าวในจานไปมาเรื่อยๆ  และเท่าที่ดู... พวกทั้งสองต่างก็มีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ไม่แพ้กันสักเท่าไหร่

เพื่อนทั้ง 3 คนของกิจมองหน้ากันไปมาอย่างเข้าใจเมื่อเห็นท่าทีของคนตรงหน้า  ก่อนที่พีจะเป็นตัวแทนเดินเข้ามาจับไหล่ของกิจแล้วพูดขึ้น

“ เอาไงมึง..  จะเข้าไปหาน้องมันมั้ย  เผื่อจะได้.. “

“ อย่าดีกว่า... “

กิจพูดสวนขึ้นมาเสียงเรียบ  ซึ่งขัดกับความรู้สึกของตัวเอง  ก่อนจะผลุบตาลงต่ำไป  ประจวบกับที่กันต์เงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาเห็นพอดี  ก่อนจะชะงักมือที่เขี่ยข้าวอยู่อย่างตกใจและประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย  จนเพื่อนที่นั่งข้างๆ อย่างเรย์จับสังเกตได้และมองตามสายตาเพื่อนสนิทของเขาไป

“ โอเคมั้ยวะมึง... “

น้ำเสียงที่ดูจะเป็นห่วงของเรย์ถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะพบว่าคนข้างๆ ได้แสร้งยิ้มขึ้นมาพร้อมกับขานรับในลำคอส่งมาให้เล็กๆ เพียงแค่นั้น

ตอนนี้เรย์รู้เพียงแค่ว่าสองคนนี้กำลังมีปัญหากัน  และกันต์ก็เลือกที่จะไม่ทนต่อสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว  และได้หอบกระเป๋ามาหาเขาในเช้าวันนี้ 

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างกันต์กับกิจเมื่อคืนนี้  กันต์ยังคงเลือกที่จะไม่เล่าให้เพื่อนสนิทของเขาได้รับรู้  เขาอยากจะปล่อยผ่านและให้เรื่องพวกนั้นมันได้หายไปกับกาลเวลาเลยทั้งอย่างนั้น

และก่อนที่กลุ่มของกิจกำลังจะเดินผ่านมาถึงโต๊ะ  กันต์ก็เลือกที่จะลุกออกไปโดนอ้างว่าจะไปซื้อน้ำแทบจะในทันที

กิจที่มีสีหน้านิ่งเฉยแต่แววตาแสดงถึงความรู้สึกผิดอยู่ในทุกขณะ  เขามองตามคนที่เขาสนใจอยู่ในทุกกิริยาบท  และสังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น  เขาเห็นท่าทางที่ขยับตัวไม่ค่อยสะดวกและสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยในบางจังหวะ  ซึ่งเขาก็พอจะรู้ว่ามันคงจะเป็นผลมาจากการที่เขาใช้ความรุนแรงในช่วงคืนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน  กระนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปถามไถ่และดูแลอยู่ดี  เพียงเพราะความรู้สึกผิดและสัญญาที่เขาไม่ยินยอมเลยแม้แต่น้อย  ที่ทำได้ก็เพียงแค่การมองตามไปอย่างเป็นห่วงก็เท่านั้น

ทันทีที่เขาได้โต๊ะนั่งห่างออกไปจากโต๊ะของกลุ่มรุ่นน้องคนสนิท  กิจก็หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไลน์ถามไปยังเรย์ทันทีถึงเรื่องของกันต์  เพราะเขาเองก็พอจะรู้ว่าคนเดียวที่กันต์คงจะนึกถึงเป็นคนแรกในสถานการณ์แบบนี้ก็คือเพื่อนสนิทอย่างเรย์แน่นอน  ซึ่งก็ทำให้เขาได้ข้อมูลมาว่า  ตอนนี้กันต์ได้หอบเอากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปไว้ยังห้องของเรย์  และคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะหาหอพักใหม่แถวๆ นั้นอย่างแน่นอน 

“ เฮ้ยพวกมึง...  เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแปบนะ  ปวดขี้ว่ะ “

เรย์พูดขึ้นพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะไป  หลังจากที่เขาได้รับข้อความไลน์จากกิจ  ซึ่งเรียกเขาให้ออกมาหาที่ข้างโรงอาหาร


.........


“ ครับพี่ ”

เรย์ทักกิจที่กำลังยืนพิงกำแพงขึ้นทันทีที่เดินมาถึง  ก่อนจะมองสภาพรุ่นพี่ที่เป็นเหมือนไอดอลของเขาที่มีสีหน้าอมทุกข์ไม่ต่างอะไรไปจากเพื่อนของเขาเลยสักนิด

“ กันต์เป็นไงบ้าง... “

“ ก็แย่อะพี่  แล้วนี่ตกลงพี่กับมันมีเรื่องอะไรกันอะ  เพราะมันเองก็ไม่ยอมเล่าให้ผมฟังสักเท่าไหร่ “

“ เอาจริง...กูเองก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ เท่าไหร่หรอก   รู้แค่ว่าต้นเรื่องมันมีฮานะเข้ามาสร้างเรื่องเอาไว้ให้กันต์มันเข้าใจผิด “

“ แล้วทำไมพี่ไม่เคลียร์กับมันให้รู้เรื่องล่ะ  ทำไมมันถึงต้องย้ายออกมาด้วย “

“ กูก็อยากเคลียร์  แต่...  ตอนนี้ก็คงสายไปแล้วล่ะ...  ว่าแต่..  กันต์มันดูป่วยด้วยใช่มั้ย... “

“ ใช่พี่... ท่าทางมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่  เมื่อเช้าก็ดูจะมีไข้ด้วยนะ “

พอได้ยินมาอย่างนี้  กิจเองก็ดูจะยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก  เพราะความบ้าคลั่งของตัวเขาเองแท้ๆ  เขาล้วงเอากระเป๋าตังออกมา  ก่อนจะหยิบแบงค์พันออกมา 3 ใบส่งให้เรย์ไป

“ เอานี่ไป  แล้วพามันไปหายากิน  แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็พาไปโรงพยาบาลเลยนะ  ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ให้มาบอกที่กู  มึงต้องดูแลมันให้ดีที่สุดนะ  แล้วอย่าลืมหาของกินที่มีประโยชน์ให้มันด้วย  หรือถ้ามันอยากกินอะไรมึงก็ไปซื้อให้มันเลย...  เอานี่..  เผื่อว่าจะไม่พอ “

กิจทำท่าจะควักเงินออกมาเพิ่มให้อีก  แต่ก็ถูกเรย์ห้ามเอาไว้ก่อน

“ พอแล้วพี่...  เยอะไปแล้ว...  อีกอย่าง...  มันก็เพื่อนผมนะ  ผมดูแลมันได้อยู่แล้ว  พี่ไม่ต้องเป็นห่วงมันมากไปหรอก “

แม้จะได้ยินมาอย่างนี้  แต่กิจเองก็ยังไม่สามารถจะวางใจได้  ถ้าไม่ใช่เขา  ไม่ว่าใคร...เขาก็ไม่วางใจทั้งนั้นแหละ  และเหมือนว่าเรย์เองก็พอจะจับสัญญาณนี้ได้เช่นกัน  เขาเลยย้ำอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนตรงหน้า

“ ไม่ต้องห่วงพี่  ไว้ใจผมได้...  ผมจะทำตามที่พี่บอกทุกอย่าง...  แต่ว่า...  พี่อย่าปล่อยเรื่องเอาไว้นานนะ  ถ้ามีอะไรกันก็รีบๆ ไปเคลียร์กันให้จบ  คือ...ผมสงสารเพื่อนผมอะ “

กิจไม่ได้ตอบอะไรออกมา  แต่ก็ยอมพยักหน้าตอบรับไปเล็กๆ  ก่อนจะทิ้งท้ายให้เรย์คอยรายงานสถานการณ์ทุกอย่างให้เขารู้โดยตลอด  รวมถึงเรื่องที่ว่ากันต์จะไปหาหอพักที่ไหนด้วย



.....................................



ช่วงเย็นที่หอพักของเรย์

“ โชคดีนะมึง...  ที่มีห้องว่างพอดี  เพราะปกติหอนี้แม่งเต็มตลอด  นี่ถ้าแฟนพี่นิกไม่เลิกกับแกไป  ก็คงไม่มีห้องว่างหรอก “

“ ยังไงวะ “

กันต์ทำหน้าสงสัยถามมา  ขณะที่กำลังหอบกระเป๋าขึ้นไปยังชั้น 5 ของหอพัก  ซึ่งอยู่สูงกว่าห้องของเรย์ไปหนึ่งชั้น  และเป็นชั้นบนสุดของหอพักนี้ด้วย

“ เอ้า!  ก็พี่นิกพี่ปี 2 คณะเราไง  แกพึ่งเลิกกับแฟนแก  แล้วแฟนแกที่พักอยู่ห้องข้างๆ กัน  พอเลิกปุ๊บก็แยกกันปั๊บเลย  ถึงได้มีห้องว่างแบบนี้ไง “

กันต์พยักหน้าเข้าใจตามเล็กๆ

“ แล้วนี่จะให้กูไปขนของที่เหลือให้ใช่มั้ย “

เรย์หมายถึงข้าวของที่ยังเหลืออยู่ที่คอนโดของกิจ  เพราะสิ่งที่กันต์ขนออกมาเมื่อเช้านี้ก็มีเพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้าเพียงเท่านั้น
 
“ ฝากทีนะ  กู..  ยังไม่พร้อมจะกลับไปว่ะ “

“ เออ...  เดี๋ยวกูจัดการให้  กูบอกไอ้ธันไว้แล้วด้วย “

“ แล้ว..  มึงอย่าลืมขอพี่กิจเขาก่อนนะ  ปกติพี่เขาไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้าห้องน่ะ  แล้วนี่... คีย์การ์ด  ถ้าเสร็จแล้วก็ฝากเอาไปคืนพี่เขาด้วย “

“ เออน่า  กูรู้แล้ว...  เมื่อเย็นกูโทรไปบอกพี่เขาแล้ว  พี่เขาก็บอกว่าให้เข้าไปได้เลย  เพราะวันนี้คงจะกลับห้องดึก “

“ พี่เขา...ไปไหนวะ “

สิ้นเสียงของกันต์  เรย์ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ

“ เอาจริงๆ นะมึงไอ้กันต์..  ถ้ามึงยังตัดใจจากพี่เขาไม่ได้  ยังห่วงเขาอยู่แบบนี้ล่ะก็นะ  กูว่ามึงไปเคลียร์กับพี่เขาให้รู้เรื่องเหอะ  ทำแบบนี้มีแต่จะยิ่งเจ็บไปซะเปล่าๆ “

“ แต่ถ้ายังอยู่อย่างนั้น  กูก็เจ็บเหมือนกัน...  แถมเจ็บแบบไม่มีที่สิ้นสุดอีกต่างหาก...  กูไม่อยากทรมานแบบนั้นอีกแล้วว่ะ “

น้ำเสียงที่เศร้าพร้อมกับสายตาผลุบต่ำลง  มันทำให้เรย์ไม่คิดจะพูดโน้มน้าวอะไรต่อและอดสงสารเพื่อนขึ้นมาไม่ได้  เขาตบไหล่กันต์เบาๆอย่างให้กำลังใจแล้วพูดขึ้น

“ เอาน่า...  เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง  ยังไงมึงก็ยังมีกูอยู่นะ “

เขายิ้มบอกไป  ก่อนที่กันต์จะฝืนยิ้มเจื่อนๆ ตอบมาให้ด้วยเช่นกัน

“ อืม.. ขอบใจนะมึง “


........................................................


ยามเย็นก่อนที่แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์จะหายไป  กันต์เดินออกมายังระเบียงห้องหลังจากที่เรย์พึ่งจะออกไป 

สายตาเขาเหม่อมองออกไปไกลๆ อย่างไร้จุดหมาย  และก็เป็นอีกครั้งที่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันหวนกลับมาทำร้ายจิตใจของเขาอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วของวัน  แต่ไม่นานเขาก็ดึงสติกลับมาก่อนจะสะบัดหน้าไปมาเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิดวูบนั้นให้ออกไป

เขาไม่ควรจะปล่อยใจให้มันล่องลอยไปแบบนี้อยู่บ่อยๆ  เขาควรจะทำตัวเองให้ไม่ว่างพอที่จะมาคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้อีก  เมื่อคิดได้อย่างนั้น  เขาก็เดินกลับเข้ามายังภายในห้องอีกครั้ง  เพื่อเอาเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าและจัดเรียงมันเข้าไว้ในตู้เสื้อผ้าต่อทันที

ต้องไม่ให้ตัวเองว่าง...  ใช่...  จะได้ไม่มีเวลามาคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนั้นอีก...

เขาทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ เท่าที่พอจะทำได้  เพื่อรอให้เรย์ที่ไปขนของกับธันกลับมา  ก่อนจะลงไปหาซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วกลับขึ้นห้องมาอีกครั้งในช่วงหัวค่ำ

ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดยังชั้น 5  ปลายสายตาของเขาก็เห็นเข้ากับรุ่นพี่ที่อยู่ห้องข้างๆ  ซึ่งกำลังเปิดประตูออกและเข้าไปยังภายในด้วยสีหน้าเศร้าๆ   ซึ่งกันต์เองก็ดูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ในท่าทีนี้  เมื่อคิดถึงสิ่งที่เรย์เล่าให้ฟังว่าพี่เขาพึ่งจะเลิกกับแฟนมาได้ไม่นาน  เพราะจากสภาพจิตใจแล้ว... มันก็คงจะไม่ต่างอะไรกับเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่หรอก

กันต์กลับเข้าห้องมาอีกครั้งก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาดห้องอย่างตระกุกตระกักไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่ จากสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยดีในวันนี้  เพราะจากสิ่งที่ได้รับเมื่อคืน... มันได้ส่งผลกับเขาในตอนเช้าทันที  เขาปวดเนื้อปวดตัว  รู้สึกขัดและเจ็บบริเวณช่องทางด้านหลังอยู่บ้างเล็กน้อย  แถมยังมีไข้อ่อนๆ ตลอดทั้งวัน  ดีหน่อยที่เรย์พาเขาไปหาซื้อยามาทานในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

สักพักใหญ่เรย์ก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับธัน  ทั้งสองช่วยกันขนข้าวของใส่รถมากันคนละคัน  และแม้ว่ากันต์จะพยายามดื้อดึงจะไปช่วยขน  แต่ก็ถูกห้ามเอาไว้ก่อน  เพราะพวกเขารู้ดีว่าสภาพร่างกายในวันนี้ของกันต์ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่


………..


เวลาตี 2 ที่คอนโดของกิจ

ภายในห้องดูจะเงียบสงัดจนเจ้าของห้องที่พึ่งจะเปิดประตูเข้ามาถึงกับใจหายทันที  ทั้งๆ ที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้  บรรยากาศแบบนี้ก็ดูจะเป็นเรื่องปกติหรับเขาแท้ๆ 

ทันทีที่กิจปิดประตูห้องลง  เขาก็เดินเข้ามาเปิดยังประตูห้องนอนของกันต์  โดยหวังว่าทุกอย่างมันจะยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา  แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย  เมื่อทุกอย่างภายในห้องดูโล่งเกินกว่าที่ควรจะเป็น  แม้เขาจะรู้อยู่เต็มอกแล้วก็ตามว่าตอนนี้เจ้าของห้องไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว  แต่ภายในใจก็ยังแอบหวังไม่ได้ว่าบางทีกันต์อาจจะเปลี่ยนใจขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้

เขาเดินสะโหลสะเหลมึนๆ จากการดื่มเหล้าที่ร้านประจำข้างมหาลัยฯ มายังห้องรับแขก  ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งอย่างหมดสภาพ  พลางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา 

น่าละอายในความคิด... ที่แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่แย่มาก  แต่มันกลับตราตรึงในความรู้สึกของเขาอย่างไม่จางหาย  แม้ว่าจะเกิดกับผู้ชายด้วยกัน...  แต่เพราะว่าคือกันต์  ไม่ว่าจะเรือนร่าง  ความน่ารัก และความเดียงสา  มันทำให้เขามองข้ามเรื่องของเพศสภาพและดูดดื่มไปกับความรู้สึกนั้นได้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา

ทว่า...  จากนี้ไปเขาคงไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว



.............................



เช้าวันต่อมา

กิจไม่รู้ว่าเขาเผลอหลับไปตอนไหน  แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าไปเสียแล้ว  เขายันตัวลุกขึ้นมานั่งพลางนึกทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ในสภาพแฮงค์ๆ ของตัวเอง  ก่อนจะมองไปยังรอบๆ บริเวณที่ยังคงเงียบสงัดอยู่เช่นเดิม  เขารู้สึกได้ถึงการขาดหายไปของความมีชีวิตชีวา  ที่เหลือไว้ก็แค่เพียงความทรงจำตามมุมต่างๆ ที่สายตาเขากวาดไปเห็น...

กันต์ที่อิดออดทุกทีที่เขาปลุกให้มาออกกำลังกายในตอนเช้า...
 
เสียงอ้อนน่าฟังเวลาที่จะขออะไร….

หรือแม้แต่อาการฟึดฟัดพ่นลมออกจมูกเวลาที่ถูกขัดใจ...

ทุกภาพจำมันได้ปรากฏอยู่ในทุกๆ มุมของห้องนี้ตลอดเวลา....


กิจเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อทำธุระส่วนตัวพร้อมกับแต่งตัวเพื่อไปเรียน  และปิดท้ายด้วยการดึงเอากระเป๋าใบใหญ่ออกมา  ก่อนจะทยอยขนเสื้อผ้าบางส่วนภายในตู้เสื้อผ้าใส่ลงไปในนั้น  ด้วยความคิดที่จะออกไปจากห้องนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อไม่มีใครบางคนแล้ว...  ห้องนี้ก็ไร้ซึ่งความน่าอยู่อีกต่อไป  หากแต่เต็มไปด้วยภาพจำที่คอยแต่จะทำร้ายจิตใจของเขาอยู่ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น....



…………………..

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 27-07-2018 10:42:20
ตลอดทั้งสัปดาห์หลังจากที่กันต์ย้ายออกไป  ทุกคืนกิจก็ใช้ชีวิตอยู่แต่กับร้านเหล้า  ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนฝูงก็ตาม  เขาไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลย  แม้กระทั่งจะดูแลตัวเองเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา  ความรู้สึกผิดที่ขืนใจและการสูญเสียคนที่เขารักมันยังคงฝังลึกอยู่ในความคิดของเขาตลอดเวลา  จะมีก็พียงแค่เวลาที่เมาและไม่ค่อยมีสตินั่นแหละที่พอจะทำให้เขาลืมเรื่องพวกนี้ลงได้บ้าง


...................................


ในคืนวันศุกร์สุดสัปดาห์

ที่คอนโดของคิม

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาให้เจ้าของเครื่องที่นั่งทำรายงานอยู่หยิบขึ้นมาดูอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก  ก่อนจะวางปากกาลงพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ


<< พี่คิม  นี่ลูกพีชนะ >>

เสียงปลายสายดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงอึกทึกที่ดังมาจากทางด้านหลัง  ให้เขาพอประมาณการณ์สถานที่ที่ปลายสายกำลังโทรเข้ามาได้ว่าไม่น่าจะพ้นจากร้านเหล้าเป็นแน่

“ ว่าไง... “

<< คือลูกพีชไม่ได้จะมาเซ้าซี้อะไรพี่อีกนะ  แต่..  ลูกพีชมีเรื่องสำคัญจะมาบอก... >>


……………………………..


ที่ร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ

วันนี้กิจมานั่งกินเหล้าเพียงลำพัง  เพราะเพื่อนในกลุ่มต่างก็ติดงานและธุระกันหมด  ซึ่งการมานั่งเพียงลำพังและมีสมาธิจดจ่ออยู่แต่กับแก้วเหล้าเพียงอย่างเดียวนั้น  มันเลยทำให้ไม่ถึงเที่ยงคืนเขาก็เริ่มที่จะมึนหัวขึ้นมาบ้างแล้ว  และแม้ว่าจะมีสาวๆ มากมายแวะเวียนเข้ามาพูดคุยทักทายอยู่บ่อยครั้ง  แต่เขาก็หาได้สนใจไม่  แถมยังมองตอบกลับไปด้วยสายตาแสนรำคาญส่งไปให้พวกเธออีกต่างหาก  จนหลายคนไม่กล้าที่จะพูดคุยหรือนั่งอยู่ด้วยได้นาน

ทว่าท่ามกลางผู้คนมากมายที่ต่างเข้ามาหาความสนุกสนานยามค่ำคืน ณ ที่แห่งนี้  ก็ยังคงมีสายตาคู่หนึ่งที่คอยจับจ้องกิจอยู่ไกลๆ มาโดยตลอด  ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาแล้วในช่วงหัวค่ำ  และที่สำคัญ... มันไม่ใช่ความบังเอิญ...  แต่กลับเป็นการเตรียมการมาเป็นอย่างดีก่อนหน้านั้น

เธอเป็นหญิงสาวที่สวยและมีเสน่ห์สำหรับใครหลายต่อหลายคน  แต่กับกิจแล้ว...เธอกลับไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย  ยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้ด้วยแล้ว  เมื่อบวกกับสิ่งที่เธอได้ทำเอาไว้  มันก็ยิ่งทำให้เธอดูไร้คุณค่ามากขึ้นอย่างถึงที่สุด

ทว่ายิ่งยากเท่าไหร่...  มันกลับยิ่งสร้างความท้าทายและอยากจะเอาชนะของเธอมากขึ้นตามไปด้วย.....

ฮานะคิดไว้แล้วว่า  ไม่ว่าเธอจะทำยังไง  หว่านเสน่ห์แค่ไหน  กิจก็คงจะไม่หลวมตัวเข้ามาหาเธอง่ายๆ อยู่แล้ว  ซึ่งต่างจากผู้ชายทั่วๆ ไปที่ผ่านมา 

หากแต่ว่า...  ถ้าเกิดกิจกำลังอยู่ในสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่แล้วล่ะ...  บางที...  มันก็อาจจะไม่แน่ก็เป็นได้...

ทุกอย่างมันได้ถูกวางไว้ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจเริ่มคบกับคิมแล้ว  ซึ่งเธอเองก็รู้ว่าคนเจ้าชู้อย่างคิมไม่มีทางหยุดอยู่ที่เธออย่างแน่นอน  และก่อนที่เธอจะถูกเขี่ยทิ้ง  เธอก็เลือกที่จะใช้เขาเป็นบันไดเพื่อสร้างโอกาสขึ้นไปหายังเป้าหมายหลักจริงๆ ของเธอจะดีกว่า

ฮานะรู้ถึงความรู้สึกหวั่นไหวและไม่แน่ใจของกิจที่มีต่อกันต์  จากการที่เขาแอบได้ยินกิจกับพีคุยกันที่ทะเล  ดังนั้นเธอจึงคิดว่าทางเดียวที่อาจจะทำให้จิตใจของกิจอ่อนแอลงได้  ก็คือการพุ่งเป้าไปที่กันต์  ซึ่งมันก็ดูจะได้ผลเกินคาดกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก
ตลอดทั้งสัปดาห์เธอตามติดชีวิตยามราตรีของกิจอยู่ห่างๆ มาโดยตลอด  และรอเวลาที่เหมาะสมอย่างใจเย็น  จนกระทั่งวันนี้มาถึง...

ฮานะย่างกายด้วยรอยยิ้มกริ่มราวกับผู้มีชัยเดินเข้าไปยังโต๊ะตรงมุมสุดของร้าน  ที่ซึ่งมีเป้าหมายของเธอนั่งอยู่เพียงลำพังในสภาพที่มีสติสัมปชัญญะไม่เต็มร้อย  ก่อนที่จะถือวิสาสะเข้าไปนั่งข้างๆ เขาทันทีที่ไปถึง


“ พี่กิจมาคนเดียวเหรอคะ “

กิจไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่มองเธอด้วยหางตาเพียงแค่นั้น  ทว่าธอกลับไม่แคร์ในท่าทีรังเกียจของเขาเลยแม้แต่น้อย  กับเลือกที่จะรุกเข้าไปสัมผัสยังร่างของคนข้างๆ ต่อทันที  กิจขยับตัวออกห่างและจับมือเธอที่วางอยู่บนตักของเขาออกอย่างรู้สึกหน่าย  เขาเริ่มจะทนไม่ไหวกับการกระทำแย่ๆ ของผู้หญิงคนนี้มากขึ้นไปทุกทีแล้ว  เพราะแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับกันต์มันจะมาจากอารมณ์ชั่ววูบของเขา  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็รู้ว่าต้นสายปลายเหตุจริงๆ มันมาจากใคร... 

นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชาย....  เขาก็คงจะชกคว่ำไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง...

“ ออกไปไกลๆ.. “

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยและสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน  ทว่าคนข้างๆ กลับยิ้มและหัวเราะร่าขึ้นมาเล็กๆ แทนที่จะรู้สึกตัวและถอยห่างเหมือนอย่างกับคนอื่นๆ

“ แหมพี่กิจก็...  พูดจาไม่รักษาน้ำใจกันเลยนะคะ...  คนเคยรู้จักกันอยู่แท้ๆ  ดูท่าพี่คงจะเมามากแล้ว  ยังไงให้ฮานะ... “

เธอทำท่าจะใช้ปลายนิ้วเรียวมาสัมผัสที่ต้นแขนของกิจต่อ  ทว่าเจ้าตัวกลับเบี่ยงตัวออกอย่างรู้สึกรังเกียจและพูดย้ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มกว่าเดิม

“ บอก..ให้..ออกไป...! “

“ ก็ได้ค่ะ  ฮานะอยู่ห่างๆ พี่ก็ได้   แต่...  ฮานะขอนั่งอยู่เป็นเพื่อนพี่สักครู่นะคะ  ดูท่าพี่จะเหงา... “

ความกร้านโลกอย่างน่าไม่อายของฮานะดูจะทำให้กิจเหลืออด  แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยคิดจะใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้หญิงเลยสักครั้ง 

กิจที่ยังไม่รู้สึกอยากจะกลับห้องเลยตัดสินใจเลือกที่จะนั่งต่อไปโดยไม่สนใจเธออีกต่อไป  เมื่อเห็นแล้วว่าการพูดเตือนดูท่าจะไม่เป็นผลอะไรกับความด้านทนของเธอ  แต่ถ้าเขาไม่เล่นด้วยเสียอย่าง  มันก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว....


ทว่าผ่านเที่ยงคืนมาได้ไม่นาน  กิจก็ดูจะซึมและเริ่มไม่มีสติ  เขารู้สึกง่วงจนแทบจะนอนได้เลยแม้กระทั่งตรงนี้  มันเป็นความผิดปกติเมื่อเทียบกับปริมาณเหล้าที่ดื่มเข้าไป  ซึ่งปกติเขาจะไม่ดื่มจนถึงขั้นขาดสติสัมปชัญญะหากไม่ได้มากับเพื่อนฝูง  เพราะมันจะมีผลต่อการขับรถกลับที่พักของเขา  ทว่าคราวนี้มันกลับต่างกันออกไป... 

เขาตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะเพื่อเตรียมตัวกลับทันทีก่อนที่จะไร้ซึ่งสติไปมากกว่านี้  ทว่าทันทีที่ลุกขึ้น  เขาก็ถึงกับเซถลาจนเกือบจะทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่  หากไม่มีฮานะเข้ามาช่วยประคองเอาไว้ได้ทัน  กิจสะบัดตัวเธอออกไปก่อนจะเดินโซซัดโซเซออกมานอกร้าน  โดยมีฮานะที่กำลังยิ้มกริ่มเดินตามหลังมาติดๆ

สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถเอาชนะสภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้ได้  ก่อนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นและเอาหลังพิงกับรถหรูเมื่อเดินมาถึง

“ แหมพี่กิจ...  มานอนหลับตรงนี้.... มันไม่ดีนะคะ “

ฮานะที่เดินตามหลังมาห่างๆ  เข้ามานั่งลงตรงหน้า  ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเรียวไล้ตามหน้าคมที่ไร้สติ  ซึ่งจากที่เธอสังเกตท่าทีของคนตรงหน้าแล้ว  ทุกอย่างดูจะเป็นไปตามแผนการของเธอทั้งหมด  ยานอนหลับอย่างแรงที่เธอซื้อมาจากเพื่อนชายต่างคณะดูจะได้ผลดีเกินคาด  หลังจากที่เธอแอบใส่ลงไปในแก้วเหล้าในช่วงที่กิจเดินไปเข้าห้องน้ำ

เธอจัดการประคองร่างสูงอย่างทุลักทุเลไปยังที่นั่งข้างคนขับ  ก่อนจะใช้กุญแจรถของเขาขับรถหรูนี้ออกไปจากาลนจอดรถ  เพื่อตรงไปยังห้องพักของเธอทันที



ที่คอนโดของฮานะ

การประคองร่างอันไร้สติของคนที่ตัวใหญ่กว่าดูจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะพาขึ้นไปบนห้อง  แต่เพราะเวลาที่ดึกมากขนาดนี้  มันเลยค่อนข้างจะสะดวกและปลอดจากสายตาของผู้คนทั่วทั้งบริเวณ

เมื่อเข้ามาถึงห้องได้  เธอก็ไม่รอช้าที่จะรีบพากิจเข้ามานอนบนเตียงภายในห้องนอนของเธอ  ฮานะมองร่างสูงใหญ่ที่มีใบหน้าหล่อเหลาจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของใครหลายต่อหลายคน  ซึ่งตอนนี้กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงของเธออย่างไร้สติ  รอยยิ้มราวกับผู้มีชัยปรากฏขึ้นบนใบหน้า  แต่กระนั้นเธอก็รอบคอบพอที่จะเดินไปยังโต๊ะข้างเตียงเพื่อที่จะตั้งกล้องมือถือของเธอเอาไว้  เพราะเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางกายแค่นี้  มันคงจะไม่สามารถมัดตัวชายคนนี้เอาไว้ได้  ดังนั้นการมีหลักฐานแบบนี้มันดูจะรัดกุมมากขึ้นในความคิดของเธอ  เพราะขอแค่ให้ได้มีคลิปวีดีโอเก็บเอาไว้  การตัดต่อเลือกเฉพาะช่วงที่สำคัญเพื่อให้คนเข้าใจผิดมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับเธอ 

เมื่อทุกอย่างจัดเตรียมจนเสร็จเรียบร้อย  เธอก็เดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง  ก่อนจะใช้นิ้วเรียวไล้จากใบหน้าคม  ไล่ลงมายังแผ่นอกกว้าง  เรื่อยไปจนถึงขอบกางเกงยีนต์อย่างเบามือ  เธอใจเย็นและไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย  เมื่อรู้ว่าตลอดทั้งคืนนี้  ชายผู้เป็นที่ต้องการของผู้คนมากมาย  ยังไงก็ต้องตกเป็นของเธออย่างแน่นอน  ซึ่งมันก็คงจะเป็นจริงตามนั้น.... หากว่าจะไม่มีใครเข้ามาก่อกวนแผนการของเธอเอาไว้เสียก่อน...




“ แก๊ก!!! “


เสียงลูกบิดประตูห้องเธอดังขึ้น  ทำให้เธอหันกลับไปมองด้วยความตกใจ  ก่อนจะหน้าถอดสีเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาภายในห้องของเธอคือใคร...

 “ แหมน้องฮานะ.. น้องนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ เลยนะ  เพราะตั้งแต่ที่พี่รู้จักไอ้กิจมันมา  พี่ไม่เคยเห็นมันพลาดท่าได้ขนาดนี้มาก่อนเลย  อย่างนี้พี่ต้องขอปรบมือให้น้องซะแล้วล่ะ “

“ พี่คิม!!! “

สิ้นเสียงของเธอ  คิมก็ปรบมือส่งให้เบาๆ ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และแววตาดูถูก  ในขณะที่พีและบิวต่างก็พากันเดินเข้ามาหากิจที่เตียงทันที  โดยได้ไม่สนใจฮานะที่กำลังนั่งอึ้งอยู่ข้างๆ เลยแม้แต่น้อย

“ นี่มันห้องของฮานะนะ  พวกพี่บุกรุกเข้ามาได้ยังไงกัน !! “

“ ก็ง่ายๆ..  พี่ก็แค่ไปเอาคีย์การ์ดสำรองที่นิติฯ ไง “

คิมเลิกคิ้วพร้อมกับยักไหล่ให้ราวกับว่าสิ่งที่พูดนั้นมันดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ  หากแต่มันไม่ใช่ในความคิดของฮานะเลยแม้แต่น้อย

“ นิติบุคคลไม่มีทางให้มาได้แน่  นี่มันคือการบุกรุกนะ  ฮานะจะแจ้งความ “

“ มันก็ใช่นะ...  เพราะถ้าเป็นปกติ  นิติฯ ก็คงไม่มีทางให้มาอย่างแน่นอน  แต่ว่า...  ฮานะไม่รู้เหรอว่าพวกพี่เป็นใคร...  เรื่องพวกนี้มันไม่ได้ยากอะไรเลย “

คิมยิ้มกริ่มบอกไป  ซึ่งฮานะเองก็พอจะเข้าใจได้ว่าระดับคนกลุ่มนี้คอลเน็กชั่นและอิทธิพลสูงมากแค่ไหน  มันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่จะทำได้

“ ส่วนเรื่องที่ว่าจะแจ้งความ...  พี่ว่าน้องคิดใหม่จะดีกว่านะ  เพราะบางทีน้องอาจจะเจอฟ้องกลับขึ้นมาก็ได้  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว  พี่ว่าน้องจะแย่เอานะ  เพราะระดับน้องไม่มีทางเอาชนะได้แน่ๆ  ที่สำคัญ.. ยิ่งถ้าพวกพี่มีหลักฐานสำคัญแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็.... “

บิวพูดขึ้นพลางลุกออกจากเตียงตรงไปยังชั้นวางทีวีที่อยู่ปลายเตียง  ก่อนจะหยิบเอากล้องที่เขาซ่อนเอาไว้ในระหว่างที่เธอไม่อยู่ห้องออกมา  พร้อมทั้งโชว์มันขึ้นมาให้เธอดู  เพื่อจะได้รู้ถึงการเตรียมการไว้เป็นอย่างดีของพวกเขา  หลักฐานที่จะมัดตัวเธอให้จนมุมถึงความผิดที่เธอได้กระทำลงไป

“ โอะ!...  ใช่เล่นนะเนี่ยฮานะ...  แต่วางกล้องไว้ตรงมุมเดิมที่เคยแอบถ่ายพี่เอาไว้  มันดูจะเดิมๆ ไปหน่อยนะกับแผนแบบนี้อะ “

คิมเดินมาที่โต๊ะตัวที่เธอตั้งโทรศัพท์ไว้เพื่อถ่ายคลิปสำหรับการแบล็คเมล  ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ที่กำลังบันทึกภาพต่างๆ ไว้ขึ้นมาดู

“ แล้วไงคะ  ฮานะกับพี่กิจก็แค่มาต่อกันที่ห้องตามประสาผู้ชายผู้หญิงทั่วไป “

เธอยังคงปฏิเสธเสียงแข็งต่อ  พร้อมทั้งพยายามฝืนยิ้มเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอเองก็ไม่กลัวคำขู่เหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย

“ ต่อกันในสภาพที่ไอ้กิจไม่ได้สติแบบนี้เนี่ยนะ... “

พีพูดขึ้นพลางประคองเพื่อนของเขาที่ไร้สติขึ้นมาจากเตียง  โดยที่มีบิวเดินเข้ามาช่วยหิ้วปีกอีกข้างหนึ่งเอาไว้

“ ก็ใช่นะสิ  พี่กิจก็แค่เมามาก  แล้ว.. แล้ว... เอ่อ  ฮานะก็เลยพากลับมาที่ห้อง “

“ แต่สภาพนี้พี่ว่าไอ้กิจมันน่าจะถูกวางยาซะมากกว่านะคร้าบ...น้อง... “

คิมแย้งขึ้น

“ วางยาอะไร  อย่ามาใส่ความกันนะคะพี่คิม “

ไม่มีการโต้แย้งใดๆ ออกมาจากใบหน้าทะเล้นของคิม  จะมีก็เพียงแค่เสียงขำเล็กๆในลำคอส่งให้ไปเท่านั้น

จากนั้นแขกผู้ไม่ได้รับเชิญอีกสองคนก็เดินเข้ามาสมทบอีกในห้อง


“ ลูกพีช...  เจน !  นี่พวกแก “

ฮานะดูจะตกใจมากเมื่อเห็นอดีตเพื่อนเก่าทั้งสองคนของเธอ  ซึ่งถูกเธอหักหลังมาหลายต่อหลายครั้งแล้วเดินเข้ามายังภายในห้อง

“ คิดไม่ถึงละสิฮานะ...  แต่ที่แกคิดไม่ถึงมากกว่าก็คือยาที่แกไปซื้อมาจากกอล์ฟนั่นไง  พวกฉันมีทั้งภาพและคลิปเสียงในโทรศัพท์เลยล่ะ “

ลูกพีชพูดขึ้นพลางชูโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นให้รู้ว่าหลักฐานทั้งหมดได้อยู่ในนี้

“ ไอ้กอล์ฟมัน... “

ฮานะพูดอะไรต่อไม่ออก  เพราะไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้อีกต่อไป

“ แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่ากอล์ฟมันคบกับเจนอยู่ในตอนนั้น  แล้วแกยังจะแอบไปหว่านเสน่ห์ใส่มันอีก  แถมยังไปมีอะไรกับมันลับหลังเจนที่เป็นเพื่อนสนิทของแกได้  จนสองคนนี้ต้องมาเลิกกันเพราะการเปลี่ยนไปของกอล์ฟ  ทั้งๆ ที่แกเองก็รู้ว่าเจนมันรักกอล์ฟมากแค่ไหน  แกก็ยังกล้าทำเรื่องน่าอายขนาดนั้นได้  ฉันเลยไม่แปลกใจเลยในเรื่องของพี่คิม  แกนี่มัน....!  “

“ ช่างเถอะลูกพีช  ผู้หญิงคนนี้เราพูดอะไรไป  มันก็ไม่เข้าใจหรอก “

เจนพูดห้ามลูกพีชขึ้นมาอย่างใจเย็น  ทว่าแววตากลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถให้อภัยกับคนตรงหน้านี้ได้  จากนั้นลูกพีชก็เริ่มพูดต่อโดยพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด

“ เธอคงคิดไม่ถึงล่ะสิ..  ว่ากอล์ฟมันจะกลับมาคบกับเจนอีกครั้ง  มันขอโทษและสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทั้งหมด  ซึ่งพวกฉันรู้มาตลอดนะว่าแกมันคือนางงูพิษ  แต่เพราะพวกฉันเห็นว่าแกเป็นเพื่อน... เลยไม่คิดจะรื้อฟื้นอะไรขึ้นมาอีก  แต่ก็ไม่คิดเลยว่าแกยังจะกล้าหันกลับมาทำร้ายพวกฉันได้ใหม่อย่างหน้าตาเฉย!! “

ลูกพีชดูจะมีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง  ซึ่งต่างจากฮานะที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย  แต่แววตากลับดูร้ายกาจขึ้นมาอย่างน่ารังเกียจ

“ และเรื่องในครั้งนี้  กอล์ฟมันเล่าให้เจนฟังหมดแล้วตั้งแต่วันที่แกไปขอให้มันช่วยหายาให้  ดังนั้นเรื่องชั่วๆ ของแกน่ะ  อย่าคิดว่าจะไม่มีใครรู้นะ “

“ หึๆ...  ถึงขนาดต้องวางแผนมาเล่นงานฉันกันเลยเหรอ  พวกแกนี่มันน่าสมเพสจริงๆ....  ก็แล้วไง...  ก็พวกนั้นมันเลือกที่จะเข้ามาหาฉันเองนี่  ต่อให้ฉันทำอะไร.... ถ้าพวกนั้นไม่เล่นด้วย  มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว  ถ้ามันจะผิด  ก็ผิดที่ไอ้พวกนั้น..และก็พวกแกเองที่ไม่สามารถมัดใจใครเอาไว้ได้ “



“ เผี๊ยะ!! “


เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังลั่นขึ้นมา  ทำให้ทุกอย่างภายในห้องเงียบลงแทบจะในทันที  ฮานะเอามือจับแก้มของเธอไว้ก่อนจะหันกลับมามองยังลูกพีชด้วยแววตาที่เกี้ยวกราด  แต่ก็เลือกที่จะไม่โต้ตอบอะไร

“ คนอย่างแกนี่มัน....  สำนึกไม่ได้เลยจริงๆ  ถึงพวกฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร  แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำเรื่องเลวๆ ได้ขนาดแกหรอกนะ “

ลูกพีชพูดเสียงเข้มด้วยแววตาที่โกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุดต่อคนตรงหน้า  ก่อนที่เจนจะเดินเข้ามากอดไหล่เธอเอาไว้


“ พอเถอะลูกพีช...  เจน...  พี่ว่าพาลูกพีชกลับไปก่อนดีกว่า  เดี๋ยวที่เหลือพวกพี่จัดการต่อเอง “

คิมพูดขึ้น  ก่อนที่เจนจะพยักหน้ารับ แล้วประคองเพื่อนของเธอให้เดินออกไปจากห้อง  แต่ก่อนที่พวกเธอทั้งสองจะก้าวพ้นประตูออกไป  ลูกพีชก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ โดยไม่หันหน้ามามองยังคนในห้องเลยแม้แต่น้อย

“ ฮานะ.. คนอย่างแกนะ...  แม้แต่คำว่าเพื่อน...  ทั้งชีวิตแกก็ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนหรอก... “



........



หลังจากที่ลูกพีชกับเจนออกไปจากห้องแล้ว  พีกับบิวก็ช่วยกันประคองกิจไปนอนยังโซฟาด้านนอก  ก่อนจะเดินเข้ามาสมทบกับคิมที่กำลังทำศึกกับเจ้าของห้องผ่านทางสายตา

“ พี่ขอสรุปง่ายๆ เลยนะน้อง  เรื่องนี้พวกพี่จะไม่เอาเรื่องอะไรก็ได้  แต่..  น้องต้องเลิกเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกพี่ในทุกๆ เรื่อง  โดยไม่มีข้อแม้ “

คิมเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาทันที  แต่ฮานะเองกลับไม่ดูจะหวั่นไหวเลยกับข้อเสนอดังกล่าว  ก่อนจะตอบเขากลับมาแบบยิ้มๆ

“ แล้วทำไมฮานะต้องทำตามที่พี่บอกด้วยล่ะค่ะ  ฮึ... “

“ ก็ง่ายๆ  ถ้าน้องไม่อยากให้เรื่องไปถึงตำรวจเพราะคลิปนี้ล่ะก็  มันก็เป็นเหตุผลที่มากพอที่น้องจะยอมได้ไม่ใช่เหรอ... “ 

คิมพูดขึ้นต่อ  ถึงจุดนี้ก็ดูเหมือนว่าเธอเองก็เริ่มจะขมวดคิ้วเข้าหากันบ้างเล็กน้อย  เพราะหลักฐานที่มัดตัวจนดิ้นไม่หลุดขนาดนี้  ซึ่งถ้าเป็นใครดู  ก็คงจะรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนี้มันไม่ได้เกิดจากความสมยอมของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ อ้อ...  แล้วอีกอย่าง...  น้องอาจจะไม่รู้นะ  ว่าพี่มันเลวกว่าไอ้กิจที่ไม่คิดจะทำร้ายผู้หญิงมาก  ดังนั้นถ้าพี่จะลงมือแล้วล่ะก็...  คลิปนี้มันก็คงจะไม่ได้แค่ถูกส่งไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้นหรอกนะ  เพราะบางทีพี่อาจจะเผลอเซฟไว้ในโทรศัพท์แล้วเกิดดันทำโทรศัพท์หายขึ้นมา...  พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าใครจะเป็นคนเอาคลิปนี้ไปปล่อยในเน็ต  แต่แน่นอนว่าถ้ามันเข้าไปในโลกโซเชี่ยลแล้วล่ะก็...  จากนี้ไปน้องเองก็คงจะอยู่ยาก  ที่สำคัญ....คนเดียวที่จะเสียหายก็คือน้อง  ส่วนไอ้กิจมันก็แค่.. ผู้เคราะห์ร้ายที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน...   ก็แค่นั้น... “

“ พี่คิม !!!  นี่จะขู่กันใช่มั้ย... “

“ พี่ไม่ได้ขู่นะ...  ก็บอกแล้วไงว่าพี่มันสายเลว  แต่ว่านะน้อง...  พี่ขอเตือนเอาไว้ก่อนเลย  ถ้าน้องยังคิดจะมาวุ่นวายกับไอ้กิจมันมากๆ จนมันเหลืออดและคิดจะทำอะไรขึ้นมาแล้วล่ะก็...  น้องหายนะแน่...  เพราะอิทธิพลมันสูงมาก  กับอีแค่ธุรกิจปั้มน้ำมันที่มีสถานะง่อนแง่นอยู่ทุกวันนี้ของที่บ้านน้อง  มันก็อาจจะไม่เหลือเลยก็ได้.... “

ฮานะที่ได้ยินคำขู่ดังกล่าวถึงกับชะงักพูดอะไรไม่ออก  เพราะบางทีมันอาจจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำขู่  คือถ้าถึงขนาดรู้เรื่องความระส่ำระส่ายของสถานะทางการเงินของที่บ้านเธอได้อย่างนี้แล้วล่ะก็....

“ ไม่ต้องแปลกใจนะครับน้อง  ข้อมูลของน้องน่ะ  พวกพี่สืบกันได้ไม่ยากเลย  และก็ละเอียดมากด้วย “

บิวพูดขึ้นพลางยิ้มกริ่มโดยที่เธอเถียงอะไรไม่ได้  ก่อนที่คิมจะพูดปิดท้ายกับภารกิจในคืนนี้

“ ถ้าน้องเข้าใจแล้วว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร  น้องก็คงจะรู้นะ...  ว่าไม่ควรทำอะไรอีก...  ถ้าเข้าใจแล้ว...  พวกพี่ไปกันก่อนนะคร้าบ “


เสียงประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับเจ้าของห้องที่นั่งอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง  ว่าทุกอย่างที่พยายามทำมามันจะพังทลายลงไปจนหมดเพียงแค่ชั่วเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น

ความรู้สึกอัดอั้นและโกรธทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาภายในใจ  ทว่าเธอกลับไม่สามารถจะทำอะไรไปได้มากกว่าการนั่งอยู่เฉยๆ และยอมรับชะตากรรมไปเพียงเท่านั้น  ไม่มีทางเลยที่เธอจะสามารถเอาชนะคนพวกนี้ไปได้...  ไม่มีทางเลยจริงๆ...


................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 27-07-2018 10:56:36
เช้าวันต่อมา...

ที่คอนโดของคิม

พวกเพื่อนๆ พากิจที่ยังคงไม่ได้สติกลับมายังคอนโดของคิมในคืนที่ผ่านมา  เนื่องจากคอนโดที่เขาพักอยู่ในช่วงนี้ค่อนข้างอยู่ไกลจากมหาลัยมาก( คอนโดใหม่ )  จึงไม่ค่อยสะดวกกับสถานการณ์ในตอนนั้น 

กิจค่อยๆปรือตาขึ้นมาด้วยอาการมึนและปวดหัวอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะรู้ตัวว่าเขาไม่ได้กลับไปนอนยังคอนโดของเขาในคืนที่ผ่านมา  เขาออกจะสับสนเล็กน้อยและพยายามคิดถึงสิ่งสุดท้ายที่พอจะนึกได้  แต่มันก็ดูจะเลือนรางเอามากๆ  ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขารู้ในตอนนี้ก็คือ  เขารู้ว่าห้องนี้มันคือที่ไหนและเป็นห้องของใคร...

เขาเอื้อมมือไปเขย่าตัวคนข้างๆ ด้วยแรงที่น้อยกว่าปกติกับสภาพในตอนนี้  แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เจ้าของห้องงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างหัวเสีย

“ อะไรมึงเนี่ย  ปลุกกูแต่เช้าเลย !! “

“ ไอ้คิม...  กูมานอนห้องมึงได้ยังไงวะ “

“ เอ๊า.. สรุปนี่มึงจำอะไรได้บ้างเนี่ย  หรือหลับไปตั้งแต่ร้านเหล้า “

กิจทำท่าพยายามนึกอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนที่จะจำได้ว่าเขาพยายามจะพาตัวเองไปยังรถ  แต่ทว่าหลังจากนั้น..  เขากลับจำเรื่องราวอะไรไม่ได้อีกเลย

“ ดูท่ามึงจะโดนหนักนะเนี่ย...  นี่ถ้าพวกกูไม่ไปช่วย  ป่านนี้มึงคงจะตกเป็นเหยื่อของฮานะไปแล้วล่ะ...  แต่เอ....  มาคิดอีกที...  ถึงมึงจะพลาดมึงก็คงไม่สนใจและแก้ปัญหาเองได้อยู่แล้วนี่หว่า...  จะว่าไป..  นี่กูไม่น่าเสียเวลาทำรายงานไปเลยนะเนี่ย  โอ้ย!!! “

คิมเวิ่นเว้อกับตัวเองอยู่นาน  จนคนข้างๆ เริ่มทนไม่ไหวก่อนจะตบหัวเพื่อนเขาไปทีนึง

“ สัด!!  มึงทำร้ายผู้มีพระคุณอย่างนี้เหรอวะ “

“ พูดมาก..  ตกลงยังไงมึง “

จากนั้นคิมก็เริ่มเล่าทุกอย่างตั้งแต่ที่ลูกพีชโทรมาบอกถึงแผนการของฮานะจากกอล์ฟเพื่อนต่างคณะให้เขาฟัง  จนกระทั่งแผนการและเรื่องราวที่เข้าไปช่วยเหลือกิจที่คอนโดของฮานะจนออกมาได้


เมื่อฟังจบ  กิจก็เหมือนจะอึ้งไปเล็กน้อย  เพราะไม่คิดว่าฮานะจะสามารถทำเรื่องร้ายกาจได้ถึงขนาดนั้น  จากนั้นไม่นานพีกับบิวที่นอนอยู่ที่โซฟานอกห้องก็เปิดประตูห้องนอนเข้ามา  เมื่อรู้ว่าคนข้างในนี้ได้ตื่นกันหมดแล้ว

“ ไอ้กิจ...  นี่กูถามมึงจริงๆ นะ...  ตกลงมึงจะเอายังไงต่อวะ  จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน “

พีถามขึ้นเสียงเข้มพร้อมกับจ้องหน้ากิจที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงรับฟังเรื่องราวไปด้วยท่าทีที่เฉยเมย

“ ใจมึงรู้สึกยังไง  อยากทำอะไร  ทำไมมึงไม่ทำไปตรงๆ วะ  นี่มึงใช่ไอ้กิจเพื่อนกูจริงๆ รึป่าววะเนี่ย “

พีดูจะหัวร้อนขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนสนิทในตอนนี้  จนบิวต้องเอามือมาตบไหล่เขาเบาๆ เพื่อให้ใจเย็นลง

“ พวกมึงไม่เข้าใจอะ  กูมัน...  เลว..  กูทำเรื่องแย่ๆ กับน้องมันไปเยอะ  แล้วตอนที่น้องมันจะไป  มันก็ขอให้กูสัญญากับมันไว้ข้อหนึ่ง  ว่าให้กูปล่อยมันไป  และอย่าได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมันอีก “

กิจเล่ามาขณะที่ได้แต่ก้มหน้ามองลงไปยังเตียงที่ว่างเปล่า

“ แล้วมึงก็เลือกที่จะปล่อยน้องมันไปอย่างนั้นจริงๆ เหรอวะ “

“ แล้วมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ  บางที..  ถ้าน้องมันไม่ได้อยู่กับกู...  น้องมันก็อาจจะ... มีความสุขมากกว่านี้ก็ได้นะเว้ย...”

ทันทีที่กิจพูดจบ  พีก็เข้ามากระชากคอเสื้อของกิจขึ้นทันที  ท่ามกลางการห้ามปรามของเพื่อนอีกสองคนที่อยู่ใกล้

“ เชี่ย...!!  มึงรู้มั้ยว่าตอนนี้มึงมันอะแม่ง....เหมือนหมาขี้แพ้ !!  มึงอะเก่งมาตลอด  แต่เสือกมาโง่กับเรื่องความรักแบบนี้เนี่ยนะ !!  แม่งเอ้ย!!  กูล่ะผิดหวังกับมึงจริงๆ... “

สิ่งที่พีพูดมา  มันก็จริงทั้งหมดในความคิดของกิจ  ซึ่งเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรพีเลยสักนิด  เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนทุกคนต่างก็เป็นห่วงเขามากถึงได้พูดแรงขนาดนี้ 

“ ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้อยู่นะ  กูบอกเลยนะว่า.... กูจะจีบน้องมันเอง “

สิ้นเสียงของพี  กิจก็ถึงกับหันไปมองตาขวาง  ก่อนจะเอามือจับข้อมือของพีที่กระชากคอเสื้อของเขาออกไปทันที

“ มึงว่าไงนะ.. “

“ มึงฟังไว้นะ  กันต์มันไม่เหมาะกับไอ้พวกขี้แพ้แบบนี้หรอก  และถ้ากูเป็นมึงนะ  กูจะไม่ยอมแพ้ด้วยเรื่องแค่นี้แน่นอน  ต่อให้กูต้องผิดสัญญาหรืออะไรก็ตาม  กูคงไม่ยอมปล่อยให้ทุกอย่างมันจบลงไปทั้งอย่างนี้แน่ “

กิจคลายมือออกทันทีที่พีพูดจบ  มันไม่ผิดแม้แต่น้อยเลยกับสิ่งที่พีได้บอกมา  ถึงจุดนี้มันก็ทำให้เขาคิดขึ้นมาได้ว่า  เขามัวทำอะไรกันอยู่ในตอนนี้  คนหัวแข็งอย่างเขากับมาหัวอ่อนให้กับเรื่องของความรักได้แบบนี้  มีชีวิตที่หนีปัญหามากกว่าที่จะกล้าเผชิญหน้ากับมัน  ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับหมาขี้แพ้จริงๆ นั่นแหละ...

ใช่แล้ว...  แทนที่จะมานั่งทำเรื่องไร้ค่าอยู่แบบนี้  ทำไมไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและหาทางแก้ไขมัน....

ดังคำกล่าวที่ว่า...  การไม่แก้ไขข้อผิดพลาด  คือความผิดพลาดที่แท้จริง....

“ ว่าไงมึง...  จะเอายังไง “

พีถามย้ำมาเสียงเข้ม  ก่อนที่ผู้ถูกถามจะหลับตาลงเล็กน้อย  แล้วเผยยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาที่มุมปาก  ราวกับว่ากำลังเจอเรื่องน่าขำเป็นที่สุด 

ใช่...  เพราะเขากำลังหัวเราะให้กับความงี่เง่าของตัวเองที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  เขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น  แต่นั่นก็แสดงให้ตัวเขาได้รู้แล้วว่า  ใครบางคนนั้นสำคัญกับเขามากขนาดไหน  ถึงได้มีผลต่อสภาพจิตใจของเขาได้ถึงเพียงนี้

“ กูกลับห้องละ “

กิจว่ามาด้วยน้ำเสียงที่ปกติ  ไร้ซึ่งความหมดอะไรตายอยากเหมือนอย่างที่เป็นมาตลอดทั้งสัปดาห์  ในขณะที่เพื่อนๆ ทั้งสามต่างก็มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจในท่าทีของเขาในตอนนี้

“ ยังไงมึง...  จะไปไหนวะไอ้กิจ “

คิมร้องทักขึ้นเมื่อกิจกำลังจะเดินพ้นประตูห้องออกไป

“ ก็ไปทำในสิ่งที่กูควรจะทำมาตั้งนานแล้วไง “

เขาหันมายิ้มบอกไป

“ เชร็ด!!!  ไอ้กิจเพื่อนกูมันกลับมาแล้วเว้ย !! “

คิมตะโกนว่ามา  ก่อนที่พีจะพูดต่อ

“ ให้มันได้อย่างนี้สิวะ  ต้องให้ถึงมือกูตลอด “

“ แล้วจะให้พวกกูช่วยอะไรมั้ย “

บิวถามขึ้นมาปิดท้าย  ก่อนที่กิจจะยิ้มที่มุมปากเล็กๆ แล้วตอบไป

“ สำหรับเรื่องนี้...  มันต้องเป็นกูคนเดียวเท่านั้นที่จะจัดการได้  แต่ยังไง...  กูก็ต้องขอบใจพวกมึงมากนะ  กับทุกๆ เรื่องเลย  ส่วนเรื่องที่เหลือต่อจากนี้  พวกมึงคอยดูฝีมือของกูก็ละกัน “

สิ้นเสียง...  พวกเพื่อนๆ ของเขาก็โห่ร้องให้กับการกลับมาของเพื่อนคนสำคัญของพวกเขาจนลั่นห้อง   ก่อนที่กิจจะปิดประตูห้องลงแล้วเดินจากไป  พร้อมกับล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ามากดหา เรย์ รุ่นน้องในชมรมทันที



<< ครับพี่....  มีไรให้ผมรับใช้แต่เช้าคร้าบ >>




TBC.


-----------------------------------------

เนื้อหาที่เหลือหลังจากนี้ไม่เครียดแล้วล่ะครับ  ส่วนฮานะจะเป็นไงต่อไปต้องรอดูนะครับ  เพราะกิจจะทำให้มันชัดเจนใน CHหน้า  ส่วนผลหลังจากนั้นต้องรอดูกันต่อไปนะครับ  ส่วนวิธีการง้อก็ต้องรอติดตามด้วยนะครับผม (โมเม้นต์หลังๆจะน่ารักๆส่งท้ายซีซั่นหน่อย)
เหลืออีกแค่สิบกว่าตอนก็จะจบซีซั่นแล้วละครับ  หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีเนาะว่าจะลงต่อที่ไหนอะไรยังไง
วันหยุดยาวว่าจะนั่งเขียน CH48ให้จบครับ  แล้วจะมาลงCH47ให้ท้ายๆ วันหยุดยาวนี้นะครับ
ขอบคุณเสมอมาครับ

หมีขาว...

^_________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-07-2018 11:10:26
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณและดีใจ  ที่ยังนึกถึงคนอ่านที่ชื่นชอบผลงานเขียน และกลับมาแบ่งปันงานเขียนให้กับพวกเขา

ป.ล.  จะคอยดูว่า  อีนังฮานะ จะโดนอะไรบ้าง ให้สาสมกับความเลวระยำของนางที่ทำลงไป
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( แจ้งข่าวส่งท้ายครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 27-07-2018 12:17:31
ขอบคุณค่ะ
ติดตามต่อไปค่ะ
ซีซั่นหน้าขอความอนุเคราะห์ลงให้อ่านที่เล้าป็ดด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 27-07-2018 14:06:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-07-2018 15:14:40
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 27-07-2018 16:44:16
เย้ๆ มาต่อแล้ว  ขอบคุณที่กลับมาค่ะ  รอติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

 :hao7:   :hao7:   :3123:   :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 27-07-2018 17:50:49
 :hao3:  ดีใจที่กลับมานะคะ

มานั่งรอดูอีพี่กิจตามง้อน้องงงง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 27-07-2018 18:19:51
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราเชื่อว่าคุณแต่งได้ดีนะคะ ทำให้ผู้อ่านอินได้ เราคิดว่าส่วนหนึ่งที่คอมเม้นท์ต่อว่าไปเพราะไม่ได้ดั่งใจ ก็กลับมาอ่านต่อค่ะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: kakilover ที่ 27-07-2018 19:40:06
ดีใจและขอบคุณคนแต่ง ที่ยังไม่ทิ้งกันไปไหนและกลับมาลงนิยายที่สนุก ๆ ให้ได้อ่านกันอีก สัญญาว่าจะคิดตามต่อไป สู้ สู้ นะคับ :pig4: :mew1: o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-07-2018 20:14:51
 :angry2: ขอหนักๆ โหดๆ แหกๆ จัดให้ชะนีในตอนหน้า จะรอดู  :fire:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 27-07-2018 20:38:00
 :L2: :a2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 27-07-2018 21:46:53
ฮานะเธอร้ายนะ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ 555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 27-07-2018 22:16:11
นังฮานะไปตายซะ :fire: :fire: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 28-07-2018 06:41:05
เป็นกำลังใจให้จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 28-07-2018 17:00:09
เย้.. เย้.. เย้.. ในที่สุด ก้อ ได้ อ่าน ต่อ.... สู้ สู้ ทั้ง ไรท์ แล้ว ก้อ กิจ...
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-07-2018 10:07:55
สะใจกับผลกรรมของฮานะมากก  กด+รัวๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-07-2018 10:29:48
ฮานะนี่มันย้ายจริงๆ
ปล. พี่กิจสู้ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: Naesuka ที่ 30-07-2018 01:20:50
รอน้องตลอดนะครับเป็นกำลังใจนะคร้าบ รออ่านตลอดๆๆๆ :hao7: :mew2:อย่าลืมพวกเราน้าาาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 30-07-2018 02:05:30
ครบทุกรสเลยครับ


            :o12:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 31-07-2018 11:52:12
Chapter 47



กิจ’s  Part



ที่คอนโดย่านใจกลางเมืองของกิจ

เย็นนี้ผมกลับเข้ามาเก็บของยังคอนโดที่ผมใช้เงินเก็บส่วนตัวซื้อไว้จากโครงการของพ่อครับ  ที่ซึ่งผมย้ายเข้ามาพักอยู่ในช่วงที่ผมดูจะไม่เป็นผู้เป็นคนและงี่เง่าอยู่อย่างนั้น

แต่จากนี้ไป...  ผมจะต้องมีสติและไม่คิดที่จะทำอะไรเป็นบ้าเป็นหลังอย่างนั้นอีกแล้ว  เพราะผมยังไม่ได้พยายามทำอะไรสักอย่างเลยเพื่อแก้ไขในเรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้น  ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้วล่ะก็  ผมก็ไม่เคยพยายามเพื่อใครในเรื่องของความรักมาก่อนเลย  อาจจะเพราะที่ผ่านมา....ผมยังไม่เคยเจอคนที่ใช่ล่ะมั้งครับ  ทว่าตอนนี้ผมเจอแล้ว  และจากนี้ไป  ผมจะพยายามเพื่อเอาความรักของผมกลับคืนมาให้ได้อีกครั้ง

ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา  ผมมัวแต่วุ่นอยู่กับการหาข้อมูลเกี่ยวกับกันต์ว่าน้องมันพักที่ไหน  อยู่กับใคร  หรือเป็นยังไงบ้างจากไอ้เรย์  และเข้าไปขอความช่วยเหลือจาก นิก รุ่นน้องปี 2 ในคณะ  สำหรับที่อยู่ใหม่ของผมนับจากวันนี้เป็นต้นไป


ที่คอนโดของเรย์

ผมหอบเอากระเป๋าเสื้อผ้า  หนังสือ  และของใช้จำเป็นเพียงบางส่วนเข้ามาพักยังห้องของนิกรุ่นน้องในคณะ  โดยที่ระหว่างนี้  ผมก็ยกคอนโดแถวหน้ามหาลัยที่ซึ่งผมเคยใช้ชีวิตร่วมกับกันต์มาเกือบตลอดทั้งเทอมให้น้องเขาพักไปก่อน

แน่นอนครับว่าการแลกห้องกันแบบนี้  ความสะดวกสบายสำหรับผมแล้วมันดูจะลดน้อยลงไปมาก  แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับผมเลย  เพราะเอาเข้าจริงผมก็ไม่ใช่คนที่ติดหรูอะไรเหมือนภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเข้ามาเลยแม้แต่น้อย  มิเช่นนั้นผมคงไม่ไปนอนกลางดินกินกลางทรายเพื่อเข้าไปอยู่ชมรมจิตอาสาเวลาที่ต้องออกค่ายแบบนั้นหรอกครับ  ที่สำคัญตอนนี้...  ผมก็แค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ กับคนที่ผมรักและได้คอยดูแลอยู่ข้างๆ แบบนี้ก็พอแล้ว  ในช่วงภารกิจการง้อและขอความรักของผม

หลังจากจัดแจงเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นให้เข้าที่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ผมก็เดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียงห้อง  ก่อนจะได้ยินเสียงประตูบานเลื่อนจากห้องข้างๆ เปิดออกตามมาด้วยเช่นกัน

บอกตามตรงนะครับว่า...  ผมอดที่จะรู้สึกประหม่าขึ้นมาเสียไม่ได้  เพราะผมรู้ดีครับว่าคนที่อยู่ห้องข้างๆ ของผมตอนนี้คือใคร....  ที่สำคัญ  ผมคงจะให้กันต์รู้ไม่ได้หรอกครับว่าตอนนี้คนที่อยู่ข้างห้องมันไม่ใช่รุ่นพี่ปี 2 อย่างที่มันเข้าใจ  ไม่เช่นนั้น...  บางทีมันอาจจะย้ายหนีผมไปอีกรอบก็เป็นได้

แม้จะมีผนังกว้างกว่า 1 เมตรกั้นเอาไว้ระหว่างระเบียงห้องของเรา  แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะไปยืนเกาะตรงราวระเบียงหรอกนะครับ  เพราะกลัวว่ามันจะหันมาเจอเข้า  ทั้งๆ ที่อยากจะเห็นหน้ามันแทบใจจะขาดเลยแท้ๆ  แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้  และที่ทำได้ก็เพียงแค่ยืนพิงกำแพงหนาที่กั้นเราเอาไว้อยู่เพียงแค่นั้น 

ตอนนี้ผมรู้สึกราวกับว่าเป็นเด็กน้อยที่กำลังเริ่มหัดจีบใครสักคนอยู่เลยครับ  คิดได้อย่างนี้ก็อดยิ้มขำให้กับตัวเองขึ้นมาเสียไม่ได้  นายกรกิจที่ไม่เคยประหม่ากับใครเลยแท้ๆ  กลับต้องมาแพ้ให้กับคนตัวเล็กกว่าคนนี้ไปได้เสียอย่างนั้น


“ เห้ย! ไม้แขวนเสื้อไม่พอ...  ก็ว่าซื้อมาเยอะแล้วน้า... “

เสียงกันต์มันดังมาจากอีกฝากหนึ่งของกำแพงครับ  นึกแล้วก็ขำนะครับ  ถึงยังไงมันก็ยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะมีความรอบครอบอยู่เหมือนเดิม  เพราะแบบนี้ไง  ถึงต้องมีผมคอยกำกับอยู่ด้วยตลอดเวลา  หึๆ

“ น้องครับ  เอาของพี่ไปใช้ก่อนมั้ย “

ผมหยิบเอาไม้แขวนเสื้อที่ยังว่างอยู่  ยื่นผ่านกำแพงหนาส่งให้ไป  โดยไม่ได้ยื่นหน้าออกไปจนพ้นขอบระเบียงเลยแม้แต่น้อย  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยเอาไว้ก่อนครับ....

กันต์มันเหมือนจะเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะถามผมกลับมา

“ พี่....  นิกรึเปล่าครับ “

ได้ยินมันถามมาอย่างนี้  ผมก็อดกลัวไม่ได้ครับว่าความจะแตก  เพราะมันเองก็คงจะผิดสังเกตกับน้ำเสียงของผมแน่ๆ  แต่ทำไงได้ล่ะ  พูดออกไปแล้วนี่  ก็คงต้องเลยตามเลยแล้วล่ะครับ

“ อา...ใช่  น้องกันต์เอาของพี่ไปใช้ก่อนก็ได้นะ  พี่มีเยอะ “

ผมว่าไปครับ  และไม่นานมันก็ยื่นมือมารับไปจากมือผม

“ พึ่งจะได้คุยกับพี่ก็วันนี้แหละ  รู้สึกแปลกใจเลยตอนที่ได้ยินเสียงพี่...  ผมก็นึกว่าเป็น... “

“ พี่กิจ... “

“ ใช่ครับ  เสียงพี่เหมือนเสียงพี่เขามากเลยอะ “

“ ใครๆ เขาก็ชอบว่ากันอย่างนั้นแหละ  ว่าแต่เราย้ายมานานแล้วเหรอ “

“ ก็ประมาณอาทิตย์นึงแล้วล่ะครับพี่  เห็นไอ้เรย์มันบอกว่าพี่เป็นรุ่นพี่ที่คณะด้วยเหรอครับ “

“ อ๋อใช่...  ก็ถ้ามีอะไรที่พี่พอช่วยได้ก็บอกมานะ “

“ ขอบคุณครับพี่นิก “

ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีครับ  เพราะนี่ถือเป็นการคุยกันครั้งแรกในรอบอาทิตย์เลยก็ว่าได้  ตั้งแต่ที่กันต์มันย้ายออกไป  แม้มันจะเข้าใจว่าผมคือคนอื่นก็ตาม  แต่การได้คุยกับมันอีกครั้ง  ผมก็โครตที่จะรู้สึกดีเลยล่ะครับ

จากนั้นผมก็ยืนพิงกำแพงอยู่อย่างนั้น  รอจนกระทั่งมันตากผ้าเสร็จแล้วเดินกลับเข้าห้องไป  ตอนนี้ผมรู้สึกราวกับว่าผมกำลังเป็นฝ่ายที่เริ่มจีบมันใหม่อย่างไงอย่างนั้นเลยละครับ  ทั้งๆ ที่ในแง่ของความรู้สึกแล้ว  เราทั้งคู่ต่างก็เลยจุดนั้นมากันมากแล้วแท้ๆ.....


เช้าวันต่อมา

ผมตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาหาซื้ออะไรกิน  แม้จะไม่ได้ตื่นมาเพื่อออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกที  แต่การตื่นเช้ามันก็ได้กลายมาเป็นกิจวัตรประจำวันของผมไปเสียแล้ว

ผมซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งและปลาท่องโก๋แถวหน้าปากซอยกลับเข้ามา 2 ชุด  โดยชุดหนึ่งสำหรับผม  และอีกชุดซึ่งมีน้ำเต้าหู้เพิ่มเข้ามาด้วยอีก 1 ถุงสำหรับกันต์  ผมห้อยมันไว้ที่หน้าประตูห้อง  พร้อมกับโพสต์อิทแปะไว้  โดยทิ้งข้อความเอาไว้ว่า….



แวะซื้อมาฝาก...
                         พี่ข้างห้อง



เที่ยงนี้ผมมีธุระที่คณะบัญชีครับ  หลังจากที่ถามหาคนอยู่ไม่นาน  ผมก็ตรงมายังโรงอาหารของคณะเพื่อพบกับใครบางคน  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  ฮานะนั่นเอง...

คือที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรมากนักหรอกครับ  ผมก็แค่อยากจะมาพูดกับเธอให้ชัดเจนไปเลย  เพื่อที่ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างและยุ่งเกี่ยวกันอีก

“ คุณครับ...  ผมขอคุยอะไรด้วยสักหน่อยสิ “

ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสรรพนามที่ดูห่างเหินเป็นที่สุด  นี่ไม่ใช่เพราะว่าผมไม่สนิทกับเธอหรอกนะ  แต่เป็นเพราะความรังเกียจ  ที่แม้แต่การเป็นแค่คนรู้จักผมก็ไม่ต้องการ  จากทุกอย่างที่เธอได้ทำเอาไว้

ฮานะที่นั่งทานข้าวอยู่เพียงลำพังมองขึ้นทันทีด้วยท่าทางที่ตกใจเมื่อเห็นผม  ซึ่งผมก็ได้แต่ทำหน้านิ่งมองตอบกลับไปให้เพียงเท่านั้น  ก่อนจะเริ่มพูดถึงสิ่งที่ต้องการให้เธอได้รับรู้

“ เรื่องแย่ๆ ที่คุณทำไว้เมื่อคืนก่อน....  ผมจะไม่เอาเรื่องคุณและถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน  แต่ว่า....  จากนี้ต่อไป  ห้ามคุณเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตของผมอีก  ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม  โดยเฉพาะ... “

เธอมองผมด้วยสายตาประหม่าในท่าทีที่ผมแสดงออก  ในขณะที่ผู้คนในโรงอาหารต่างก็เริ่มพากันจับจ้องมายังโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ทันทีเมื่อสิ้นเสียงเย็นๆ หากแต่หนักแน่นของผมลง  แถมบางคนยังหยิบเอามือถือมาถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย  แต่ผมไม่แคร์หรอกครับ  ไม่เคยสนใจภาพลักษณ์ของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วด้วย 

“ กันต์...  ห้ามคุณเข้าไปยุ่งกับเขาอีกเป็นอันขาด  ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ... “

“ แล้วพี่กิจจะทำอะไรคะ..  คนๆ นั้นสำคัญกับพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ “

เธอถามกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นๆ  หากแต่แฝงไว้ด้วยความเกรี้ยวกราดในแววตา  ซึ่งมันได้แสดงให้เห็นถึงท่าแท้และนิสัยของเธอได้อย่างชัดเจน

ความรุ่มร้อนภายในใจ....ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูสุขุมเยือกเย็น…

ผมหลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจออกเบาๆ  ก่อนจะเปรยตาขึ้นมามองด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก

“ ที่ผ่านมา...  เพราะผมเห็นว่าคุณเป็นผู้หญิง  ผมถึงมองข้ามเรื่องแย่ๆ ของคุณ  และไม่คิดจะทำอะไรมาโดยตลอด  แต่ถ้าคุณยังมาสร้างความเดือดร้อนให้กับผมและกันต์มากไปกว่านี้อีกล่ะก็...  ผมบอกได้เลยนะว่า...  ผมจะไม่อยู่เฉยอีกต่อไปแล้ว...ซึ่งผมทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ  เชื่อเถอะว่า...  คุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน “

ผมเตือนไปด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่น้ำเสียงกลับหนักแน่นและเยือกเย็นจนผมสังเกตได้ถึงแววตาสั่นระริกด้วยความประหม่าของคนตรงหน้าอย่างชัดเจน  สิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น  ผมไม่ได้ขู่นะครับ  เพราะว่านี่ถือเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายโดยตรงจากผม

เธอดูไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรกลับมาอีก  ผมเลยหันหลังกลับและทำท่าว่าจะเดินจากไปเมื่อหมดธุระของผมแล้ว  ก่อนที่จะได้ยินเธอตะแบงเสียงออกมาด้วยความกล้าสุดท้ายที่เธอมี

“ แต่ฮานะชอบพี่นะ !!  ฮานะไม่ดีตรงไหน  สู้เขาไม่ได้ตรงไหน !! “

ผมหันกลับมามองเธอที่ตอนนี้ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะอย่างไม่สนใจภาพพจน์ของตัวเองอีกต่อไป  ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่ต่างจับจ้องมาทางพวกเราอย่างให้ความสนใจ

“ คุณเป็นคนที่หน้าตาดีนะ...  แต่ว่า...  จิตใจคุณมันอัปลักษณ์มาก....  มันต่ำและน่าขยะแขยงจนผมไม่เคยคิดจะชายตามองเลยสักครั้ง  และไม่ว่าคุณจะทำยังไงก็ตาม...ผมขอย้ำไว้ตรงนี้เลยนะว่า  คุณจะไม่มีทางได้อยู่ในสายตาของผมอย่างแน่นอน...  ดังนั้น...  เลิกพยายามซะ  และเอาเวลาไปปรับปรุงตัวเองจะดีกว่า  บางทีคุณอาจจะได้เจอกับอะไรที่ดีสำหรับคุณก็ได้... “

เมื่อไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว  ผมก็ตัดสินใจเดินออกไปจากตรงนี้แทบจะในทันที  พร้อมกับเสียงหวีดร้องอย่างขัดใจของเธอดังขึ้นมาจนลั่นโรงอาหาร  ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของผู้คนทั่วทั้งบริเวณ  ทว่าสิ่งที่ผมทำก็เพียงแค่การเดินชิลๆ ออกไปจากบริเวณนี้ก็เท่านั้น


สนใจที่ไหนกันล่ะครับ....
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 31-07-2018 12:11:15
 :เฮ้อ: ต้องตัดให้เด็ดขาด ระวังฮานะไปทำร้ายน้องด้วยนะกิจ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( CH-46 )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 31-07-2018 12:12:20
เย็นวันเดียวกัน…

ผมเลิกซ้อมบาสที่ชมรมไวกว่าปกติจนพวกสมาชิกคนอื่นๆ พากันแปลกใจ  เพราะปกติคนที่เข้มงวดอย่างผมไม่น่าจะปล่อยให้เลิกไวเกือบตั้งครึ่งชั่วโมงแบบนี้

“ ไอ้เรย์ ! ก่อนกลับมึงอย่าลืมไปรอรับเพื่อนมึงกลับหอด้วยนะ  อยู่หอเดียวกันก็ให้กันต์มันกลับด้วย  ห้ามปล่อยให้มันกลับคนเดียวดึกๆ เป็นอันขาด  เพราะกูจะตามไปดู ! “

“ โหพี่  ถ้าคิดจะตามกันขนาดนั้น  พี่ไม่ไปรับมันเองเลยล่ะ “

มันทำหน้าอิดออดว่ามาครับ

“ ก็ถ้ากูทำได้...  กูทำไปนานละ  แล้วมึงก็ห้ามไปบอกมันด้วยว่ากูเป็นคนสั่งมา “

“ ถึงผมไม่ไป...  ไอ้ธันมันก็คงอาสาไปส่งให้อยู่แล้วแหละ  แต่เสียใจด้วยนะพี่...ชมรมแบดเค้าพักการซ้อมของเทอมนี้กันหมดแล้ว  มันจะปลายภาคแล้วนะพี่...  มีแต่ชมรมเราเนี่ยแหละที่ยังซ้อมกันอยู่ “

“ อ้าวเหรอ.... “

ผมขานรับเสียงแผ่วไปอย่างไม่รู้ครับ  แถมยังแอบรู้สึกผิดด้วยที่โหมซ้อมกันมากจนเกินไป  ท่าทางผมคงต้องนัดประชุมกับสมาชิกปีสูงของทีมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วล่ะครับ

“ แต่ว่า...  ค่ำนี้พวกผมนัดกันกินข้าวหลังมอนะ  ถ้าเฮียอยากเจอมันละก็....  ตามผมมาได้นะ “

มันทำหน้าเป็นต่อว่ามาครับ  ผมเลยตบหัวมันไปเบาๆ ทีนึงก่อนจะพูดขึ้น

“ ทำเป็นรู้ดีนะมึง  อีกอย่าง...  กูเป็นเฮียมึงไปตั้งแต่ตอนไหน “

“ อ้าว...  ไหงทีพี่เอ็กส์ยังเรียกเฮียได้เลย “

“ ก็ไอ้เอ็กส์มันน้องรหัสกู... “

“ แต่ไอ้กันต์มันเพื่อนผมนะ  เพื่อนสนิทแฟนเขานับเป็นน้องนะ  เฮียไม่รู้เหรอ....  โอ้ย!! “

ผมแกล้งตบหัวมันไปอีกรอบ  ซึ่งมันก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ ลูบหัวตัวเองไปมาป้อยๆ

“ กูบอกละไงว่ากูไม่ใช่เฮียมึง...  แต่ถ้ามึงช่วยจนกันต์มันยอมใจอ่อนได้ละก็...  กูจะยอมเป็นเฮียมึงให้ก็ได้ “ 

“ ตกลงกันแล้วนะเฮีย.. “

“ เออ... !! “


...............................


ที่ร้านอาหารตามสั่งร้านประจำหลังมหาลัยฯ

สุดท้ายผมกับไอ้พีก็มาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ ร้านประจำของพวกเรา  ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นร้านประจำของกลุ่มของกันต์มันด้วยนะครับ  ทว่าครั้งนี้ผมกลับไม่กล้าที่จะเข้าไปนั่งกินเหมือนเช่นทุกที  เพราะกลัวว่ากันต์มันจะรู้สึกอึดอัดและก็ทำตัวไม่ถูกเอา

“ ป๊อดว่ะ... “

ไอ้พีมันทำหน้าหน่ายๆ ว่ามาครับ  ซึ่งก็ถูกของมันนะ  คือตอนนี้ผมยังไม่กล้าสู้หน้ากันต์มันสักเท่าไหร่  เพราะเรื่องแย่ๆ ที่ผมได้ทำเอาไว้กับมันในคืนนั้น  ก็เลยว่าจะรอเวลาอีกสักหน่อย  เพื่อให้ความรู้สึกของมันที่มีต่อผมได้ดีขึ้นมากกว่านี้  ไม่อย่างนั้น... ผมกลัวว่ามันอาจจะหนีหรือยิ่งเกลียดผมมากไปกว่าเดิมเสียมากกว่า..

“ ตกลงจะเอายังไง  ลากกูมาแดกข้าวแต่เสือกไม่กล้าเข้าร้าน  ไอ้อ่อน... “

“ เออ...  กูมันอ่อน..  แต่ก็แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละ  แล้วมึงคอยดูต่อไปก็แล้วกัน “

สุดท้ายผมก็เลือกที่จะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางยังฝั่งตรงข้ามกับร้านประจำ  พร้อมทั้งคอยมองกันต์มันอยู่ห่างๆ จากตรงนี้ตลอดเวลา  จนเห็นมันออกมาจากร้านและกลับหอกับไอ้เรย์และน้องแพรนั่นแหละผมถึงวางใจได้

ผมขับรถตามกลับมาถึงหอไม่นานหลังจากนั้น  และก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อขนมที่มันชอบติดไม้ติดมือกลับเข้ามาด้วย  ผมเอาของที่ซื้อมาห้อยไว้ที่ลูกบิดประตู  ก่อนจะเคาะเรียกมันแล้วรีบกลับเข้าห้องของตัวเองไป  จากนั้นก็คอยฟังอยู่หลังประตู เพื่อรอดูว่ามันจะเปิดออกมาเอาไปมั้ย  ซึ่งก็ไม่นานครับ  ก่อนที่เสียงจะเงียบไป  แล้วตามมาด้วยเสียงเคาะประตูห้องของผมต่อในทันที

ผมทำตัวเงียบที่สุดราวกับว่าไม่ได้อยู่ในบริเวณนี้  และไม่นานเสียงเคาะประตูห้องก็ดูจะเงียบลง  ผมเดินยิ้มๆ อย่างสบายใจที่ได้ดูแลมันแบบนี้เข้าไปภายในห้อง  โยนกระเป๋าลงบนเตียง  ก่อนจะเดินเลยออกมายังนอกระเบียงเพื่อสูดอากาศเย็นๆ  จากนั้นไม่นานผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องของกันต์มันเปิดออก

“ พี่นิก...  อยู่มั้ยครับ “

เสียงกันต์มันทักขึ้นผ่านผนังกำแพงหนาจนผมต้องถอยหลังกลับเข้ามาจากขอบระเบียงทันทีเพื่อความปลอดภัยครับ

“ อื้ม...  มีอะไรเหรอครับน้องกันต์ “

ผมที่กำลังยืนพิงกำแพงซึ่งกั้นระหว่างเราอยู่พูดขึ้น

“ ขอบคุณนะครับที่ซื้อขนมมาฝาก “

“ อ๋อ..  ไม่เป็นไรหรอก “

“ แต่จริงๆ....  พี่ไม่ต้องซื้อมาก็ได้นะครับ  ผมเกรงใจอะ “

“ เห้ย!  ไม่เป็นไร  ไม่ได้ลำบากอะไรพี่สักหน่อย  พี่ก็กินเหมือนกัน  เลยซื้อมาเผื่อเฉยๆ  อีกอย่างเราก็เป็นรุ่นน้องที่คณะด้วย  ดูแลได้ก็ดูแลกันไป “

“ แต่... “

“ นั้นถ้าเกรงใจก็ต้องกินให้หมดนะ  จะได้ไม่เสียน้ำใจพี่ “

“ เอ่อ...  ก็ได้ครับ...  ขอบคุณอีกครั้งนะครับพี่ “

“ อื้ม..  ไม่เป็นไร  ว่าแต่ช่วงนี้เป็นไงบ้าง  ใกล้จะสอบแล้วนี่ “

อดห่วงมันเรื่องเรียนไม่ได้ครับ...  ยิ่งไม่มีผมคอยจ้ำจี้จ้ำไชด้วยแล้ว  มันจะอ่านหนังสือมั้ยล่ะเนี่ย...

“ ก็หนักใจอยู่เลยพี่  ผมยิ่งเรียนไม่ค่อยจะเก่งอยู่ด้วย  คงต้องให้เพื่อนมาช่วยติวให้อะครับ “

มันว่ามาถึงตรงนี้  ผมก็นึกถึงสิ่งที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้ขึ้นมาได้ทันที....



...............


เช้าวันต่อมา 

เช้านี้สิ่งแรกที่ผมทำก่อนเข้าเรียนก็คือ  การไปดักรอไอ้น้องธันมันที่หน้าห้องเรียน  และถึงแม้ว่ามันออกจะไม่ค่อยน่าไว้วางใจสักเท่าไหร่  แต่เท่าที่ดูแล้ว... ก็มีแต่ไอ้น้องธันเนี่ยแหละที่พอจะช่วยกันต์มันเรื่องเรียนได้

“ พี่กิจมีธุระอะไรเหรอครับ  มาหาผมได้ถึงที่นี่เลย “

มันทักมาราวกับเห็นเป็นเรื่องผิดปกติ  หลังจากที่ผมขอมันแยกมาคุยเป็นการส่วนตัวที่หน้าห้องเรียน

“ คือพี่เป็นห่วงกันต์มันเรื่องเรียนน่ะ...  เราพอจะมีเวลาว่างช่วงเย็นมั้ย  พี่จะได้ช่วยติวและเกร็งข้อสอบที่มันเคยออกมาให้  แล้ว...  พี่ฝากเราไปช่วยติวให้กันต์มันแทนพี่ที “

มันร่นคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ  แต่สุดท้ายก็ยอมตกลงครับ  ซึ่งมันบอกว่าช่วงนี้ไม่ได้มีซ้อมแบดที่ชมรมเลยว่างตลอด  ถ้าผมว่างเมื่อไหร่ก็ให้โทรมานัดได้เลย  จากนั้นเราก็แลกเบอร์กันก่อนที่มันจะขอตัวไปเรียนต่อ

สำหรับเที่ยงนี้....  ผมได้นัดประชุมสมาชิกปีสูงของชมรมบาสเกี่ยวกับเรื่องการหยุดพักการซ้อมสำหรับเทอมนี้  เพื่อให้สมาชิกของชมรมได้เตรียมตัวอ่านหนังสือสอบกัน  และผมเองก็จะได้มีเวลาว่างมากพอที่จะไปติวหนังสือให้กับไอ้น้องธันมันด้วย  ซึ่งผลสรุปที่ได้ก็คือ  เราจะซ้อมกันวันนี้เป็นวันสุดท้ายและจะแจ้งให้น้องๆ ในชมรมทราบกันหลังจากซ้อมเสร็จ

ถือเป็นการจบไปอีกหนึ่งภารกิจสำหรับวันนี้.....


.............................


ค่ำนี้ที่ระเบียงห้อง

ผมไม่รู้ว่าตัวเองชอบมาอยู่ที่ระเบียงห้องตั้งแต่เมื่อไหร่  มารู้ตัวอีกทีก็ยืนเกาะขอบระเบียงมองวิวออกไปไกลๆ แล้วละครับ  ในขณะที่หูก็คอยแต่จะฟังเสียงจากคนห้องข้างๆ  และเฝ้ารอเวลาที่มันจะออกมายังระเบียงห้องด้วยเช่นกัน

อาจจะเพราะว่าที่นี่มันเป็นที่เดียวที่ผมจะสมารถคุยกับกันต์มันได้อย่างใกล้ชิดเหมือนอย่างเคย  แม้ว่าผมจะอยู่ในคราบของคนอื่นก็ตามที  แต่อย่างน้อยที่สุด  ผมก็ยังสามารถคุยกับมันได้เหมือนเมื่อก่อน

พอมานึกๆ ดูแล้ว  คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นจังเลยครับ  ผมไม่น่าทำให้เรื่องมันเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้เลย  ไม่อย่างนั้นผมคงจะได้นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ มันตอนนี้อยู่ก็ได้


“ แกร๊ก! ครืด… “

เมื่อเสียงประตูบานเลื่อนหลังห้องถูกเปิดออก  ผมก็ถอยตัวเองออกมาจากขอบระเบียงไปยืนพิงกำแพงอยู่อย่างเคย  และพอฟังจากเสียงก็พอจะรู้ได้ว่ามันกำลังจะตากผ้าอยู่ครับ

“ เป็นไงบ้างเราวันนี้ “

ผมทักขึ้น  ขณะที่มันกำลังสะบัดผ้าเสียงดัง  ก่อนจะตอบผมมาด้วยน้ำเสียงระรื่นหูที่ผมรอฟังมาตลอดทั้งวัน

“ ก็ดีพี่  บางรายวิชาก็จบคลาสไปแล้ว  ช่วงบ่ายวันนี้ก็เลยว่างครับ  ไปอ่านหนังสือกับเพื่อนที่หอสมุดกลางมา  โครตมึนเลยอะ... “

“ ฮะๆๆ  ชีวิตช่วงใกล้สอบก็แบบนี้แหละ  เขาเรียกว่าสัปดาห์นรก “

“ นั่นดิพี่  แถมคืนนี้ยังต้องมานั่งทำ Drawing ต่ออีกนะ  งานชุดสุดท้ายแล้ว  แต่อาจารย์สั่งมาแบบ..ไม่ห่วงเด็กอ่านหนังสือเตรียมสอบกันเลย “

“ ตอนรุ่นพี่ก็เจอ  แถมส่งหลังเส้นตายนี่แกไม่รับงานด้วยนะ “

“ จริงอะ !   โอ้ย...  ตายแน่ไอ้กันต์ “

ได้ยินเสียงมันบ่นขึ้นมาก็พอจะนึกหน้ามันออกเลยครับ  จนผมเผลอยิ้มขำเล็กๆ ขึ้นมาเสียไม่ได้

“ ให้พี่ช่วยมั้ย “

“ ไม่เป็นไรพี่  ผมยังไหวอยู่ “

“ แต่ถ้าไม่ทันก็บอกพี่นะ  Drawing พี่ถนัด “

“ คร้าบผม  ขอบคุณนะครับพี่นิก “



เช้าวันต่อมา

ผมยังคงตื่นเช้าเหมือนเดิมตามปกติ  จะต่างออกไปก็ตรงที่ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกกำลังกายอะไรมากนัก  นอกจากการวิดพื้นและซิทอัพเพียงแค่นั้น

ผมซื้อโจ๊กแถวๆ หอสำหรับมื้อเช้า  และก็ไม่ลืมที่จะซื้อมาเผื่อกันต์เหมือนเดิม  แต่วันนี้ผมใส่พวกเครื่องดื่มบำรุงสายตาให้มันลงไปด้วย  เพราะการอ่านหนังสือหนักๆ ทำงานดึกๆ มันควรจะต้องบำรุงกันเอาไว้บ้าง



“ ก๊อกๆๆ ! “


ผมเคาะประตูห้องบอกมันก่อนจะเดินจากไปในตอน 7 โมงเช้า.... และทิ้งไว้เพียงแค่โพสต์อิทสีฟ้าที่ถุงโจ๊ก




พี่ซื้อมาฝาก...  ดูแลสุขภาพด้วยนะ  อย่าหักโหมให้มาก...
                                                                           พี่ข้างห้อง...



บ่ายนี้ผมว่างครับ  เลยไปหาซื้ออุปกรณ์เขียนแบบมาไว้ที่ห้อง  ก่อนจะโทรบอกให้ไอ้เรย์มันเนียนไปว่างานมันเสร็จแล้ว  และจะช่วยกันต์มันทำงาน  โดยให้มันเอางาน Drawing บางส่วนมาให้ผมช่วยทำที่ห้องในช่วงค่ำ ( นอกจากนิกและเพื่อนในกลุ่มของผมแล้ว  ก็มีแต่ไอ้เรย์นี่แหละที่รู้ว่าผมพักอยู่ที่นี่ )

ในช่วงเย็นผมนัดไอ้น้องธันที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยเพื่อติวแคลให้  ผมขุดเอาทุกอย่างที่มี  ทั้งเลคเชอร์เก่าๆ  แนวทางข้อสอบและทุกอย่างที่พอจะนึกได้บอกไป  ซึ่งมันที่ค่อนข้างจะฉลาดอยู่แล้วก็ดูจะเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก 

ในขณะที่ติวกันอยู่  มันก็ถามผมมานะครับว่าผมมีปัญหาอะไรกับกันต์มันรึเปล่า  และทำไมผมถึงไม่ไปขอโทษมันเสียเลยล่ะ  ซึ่งผมก็ได้ไม่ตอบอะไรไปนะครับ  ได้แต่ยิ้มๆ  และบอกออกไปว่า  ถ้าผมไปตอนนี้  ยังไงกันต์มันก็ไม่มีทางยกโทษให้ผมหรอก  แทนที่จะทำให้มันหนีผมไปอีกครั้ง  สู้อยู่ดูแลมันห่างๆ แบบนี้ไปก่อนน่าจะดีกว่า...


“ ที่พี่ทำได้ตอนนี้ก็แค่  คอยดูแลมันอยู่ห่างๆ ก็เท่านั้น... แต่พี่ก็ยินดีที่จะทำแบบนี้นะ  ไว้รอให้อะไรๆ  มันดีขึ้นอีกหน่อยแล้วกัน  ถึงเวลานั้นพี่ก็จะเข้าไปเคลียร์กับมันอย่างแน่นอน “




TBC.


.......................................


อย่างแรกเลย...  ไม่คิดว่าจะมีกำลังใจเยอะขนาดนี้จริงๆ ขอบคุณมากๆ นะครับ ( กะว่าจะเป็นไรท์สายติดลบซะแว้ว แฮ่... )

และผมจะไม่ลืมเลย  อย่างที่บอกไว้อะครับ  ต่อให้มีคนอยากอ่านแค่คนเดียว  ผมก็จะทำเพื่อคนเหล่านี้....

สำหรับฮานะ... รอดูไปนะครับ  เธอจะได้รับผลกรรมตามที่เธอได้ทำเอาไว้เอง  ส่วนจะเป็นไงก็ต้องรอติดตามดูไปนะครับ  แต่เธอคงไม่กล้าเข้ามายุ่งอีกแล้วล่ะ  เพราะหลังจากนี้จะเป็นโมเม้นต์น่ารักๆ ละครับ

ส่วนในตอนหน้า...  สนุกมาก...  เพราะจะเห็นถึงความพยายาม(กินแห้ว)ของกิจ  คือเขียนเองยังนั่งขำเองเลยครับ55+

ไว้อีก3-4วันจะมาลงต่อให้นะครับ  ขอโทษทีที่เมื่อวานลงไม่ทันอะครับ

 :pig4:

^__________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 31-07-2018 13:01:21
สู้ๆครับ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: Kirana9165 ที่ 31-07-2018 13:46:24
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: tang ที่ 31-07-2018 14:32:00
สู้ๆ ทั้งพี่กิจ ทั้งไรต์ เลยน้าาา
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 31-07-2018 14:47:28
พี่กิจสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 31-07-2018 14:54:31
 :L1: :L1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 31-07-2018 16:20:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-07-2018 16:48:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-07-2018 18:10:35
สู้ๆนะไรท์  รออ่านนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 31-07-2018 19:06:57
ดูท่าชะนีจะไม่เข็ด จัดชุดใหญ่ไปเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-07-2018 19:35:03
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยัยฮานะ  จะยังกล้าแผลงฤทธิ์อีกไหม?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: tegomass ที่ 08-08-2018 01:01:54
 :hao4: :hao4: อยากอ่านต่อแล้วอะ สู้ๆนะคะคนอ่านคนนี้ชอบนิยายเรื่องนี้ค่ะ เขียนสนุกน่าอ่านไม่เครียด(รึป่าว) คอมเม้นท์ อันไหนติก็ปรับทีละนิดกำลังใจเยอะกว่ายุแล้วค่ะ อย่าคิดมากนะคะ
คุณหมีขาว :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 08-08-2018 01:29:09
 :katai1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 08-08-2018 11:15:28
Chapter 48



กันต์’s  Part



เหลืออีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะสอบปลายภาคแล้วล่ะครับ  ช่วงนี้ก็เลยต้องเร่งเคลียร์งานที่ต้องส่งให้เสร็จ  แถมยังต้องอ่านหนังสือกันหัวฟูแทบจะทุกวัน  โชคดีหน่อยที่ในกลุ่มเรามีคนหัวดีสุดๆ อย่างไอ้ธันคอยช่วยติวให้เพื่อนๆ

วันนี้ผมกลับมาถึงห้องก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้วละครับ  และก็เหมือนเดิม...  ที่มีถุงของกินห้อยไว้ที่ลูกบิดประตูพร้อมกับโพสต์อิทสีฟ้าจากพี่ข้างห้อง

ผมนี่โครตจะเกรงใจพี่เขาเลยจริงๆ  เพราะไม่ได้สนิทอะไรกันมากขนาดนั้น  คือเอาเข้าจริง...  ผมก็เคยเห็นพี่เขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเองครับ  ก็ในวันที่ผมย้ายเข้ามาที่นี่เป็นวันแรก  หลังจากนั้นเราก็ได้แต่คุยกันผ่านทางระเบียงห้องมาโดยตลอด 

แต่ที่น่าแปลกก็คือ...  ผมกลับรู้สึกคุ้นเคยกับพี่เขายังไงก็ไม่รู้สิครับ  อาจจะเพราะน้ำเสียงของพี่เขาที่คล้าย...  ไม่สิเรียกว่าเหมือนกันเลยก็ว่าได้กับพี่กิจ  แถมไม่ใช่แค่นั้นนะครับ  ทั้งวิธีการพูดและมุมมองความคิดก็ยังเหมือนกันด้วย  นี่ถ้าผมไม่รู้มาก่อนล่ะก็...  ผมมั่นใจเลยว่าคนที่อยู่ข้างห้องก็คือพี่กิจ

แต่ว่า...  มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ.....


……


ผมเปิดประตูห้องก่อนจะวางข้าวของต่างๆ ไว้ที่โต๊ะแล้วตรงออกไปยังระเบียงห้อง  ด้วยความรู้สึกว่าจะได้คุยกับพี่เขาเหมือนเช่นทุกที

แต่ว่า...  ผมไม่ได้ชอบพี่เขาหรอกนะครับ  ก็แค่รู้สึกว่ามันสบายใจเวลาที่ได้คุยกัน.... ก็แค่นั้น   


“ ขอบคุณนะครับพี่นิกสำหรับขนม  ของเก่าผมยังกินไม่หมดเลย “


ผมทักขึ้นมาลอยๆ  ด้วยความรู้สึกว่าพี่เขาอาจจะอยู่ที่ระเบียงห้องเหมือนเช่นทุกคืนก็เป็นได้  และก็เป็นจริงตามนั้นครับ

“ ก็เอาไว้กินเผื่อหิวตอนดึกไง  ยิ่งช่วงนี้เราต้องอยู่ดึกอ่านหนังสือด้วยไม่ใช่เหรอ “

“ ครับพี่...  แล้วพี่ล่ะ...  กันต์ไม่ค่อยจะเห็นพี่อ่านหนังสือบ้างเลย “

“ รู้ได้ไงว่าพี่ไม่อ่าน “

“ ก็ตอนดึกๆ เวลาผมออกมาที่ระเบียงห้องทีไร  ก็เห็นไฟในห้องพี่ดับแล้วตลอด “

“ นั่นแน่...  แอบดูพี่เหรอ “

“ ป่าวพี่...  ก็แค่สังเกตเฉยๆ “

“ ฮะๆๆ  คร้าบๆ   คือพี่ไม่ค่อยอ่านเยอะหรอกเวลาที่กลับมาถึงห้องแล้วอะ  ส่วนมากก็จะอ่านที่มอกับเพื่อนซะมากกว่า “

ดูท่าแล้วพี่เขาน่าจะเรียนเก่งเหมือนกันนะครับเนี่ย  เพราะขนาดผมที่พึ่งกลับมาจากการติวหนังสือกับพวกเพื่อนๆ  ยังต้องมานั่งอ่านต่ออีกหน่อยเลยคืนนี้  พอเห็นพี่เขาแบบนี้แล้วก็ชวนให้นึกถึง.... 

พี่กิจ...

ว่าแต่...  ตอนนี้พี่เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ...

ไม่ได้ๆ  เราต้องไม่คิดถึง...

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดนี้ออกไปทันที  ก่อนที่จะหาเรื่องอื่นคุยกับพี่นิกต่อ  จะได้ไม่ต้องนึกถึงคนที่ผมยังไม่สามารถสลัดออกไปจากหัวใจได้เสียที

“ นั้นแบบนี้เดี๋ยวพี่นิกก็จะนอนแล้วอะดิ “

“ ก็... ยังหรอก  ทำไม...  จะไล่ให้พี่ไปนอนแล้วเหรอ  ยังคุยกันไม่เท่าไหร่เลย “

“ เปล่าพี่...  ผมก็แค่เห็นว่ามันดึกแล้ว  ก็นึกว่าพี่จะรีบเข้านอน “

“ ยังหรอก...  ว่าแต่เราเหอะ  เหนื่อยมั้ยวันนี้ “

“ โครตๆ เลยครับพี่ “

“ เอาน่า...  ทนเอาหน่อย  อีกสองอาทิตย์ก็สอบเสร็จแล้ว “

“ ครับพี่  ถ้าผมยังมีชีวิตรอดจนถึงวันนั้นนะ “

“ ฮ่าๆๆๆ  เรานี่ก็เวอร์ไป  มันไม่ขนาดนั้นหรอก  ว่าแต่.... ถ้าปิดเทอมแล้ว  เรามีแพนจะไปที่ไหนรึเปล่า “

“ ก็ยังคิดอยู่เลยพี่  ถ้าไม่กลับบ้านที่กระบี่  ก็อาจจะไปเชียงใหม่กับเพื่อน  เพราะไอ้ธันมันก็ชวนอยู่เมื่อเย็นนี้ “

ผมบอกไปตามจริงครับ  เพราะเมื่อเย็นตอนที่มันมาช่วยติวแคลให้ก็ชวนอยู่  เห็นมันว่าจะไปขึ้นดอยด้วยนะครับ  ท่าทางน่าจะสนุกดี

“ ว่าแต่พี่ล่ะครับ  จะไปไหนรึเปล่า “

“ ก็คงต้องตามง้อแฟนให้สำเร็จก่อนอะ  แล้วค่อยว่ากันทีหลัง ”

“ อ่อครับ...  สู้ๆ นะพี่   มีไรที่ผมพอช่วยได้ก็บอกมานะ “

“ อืม.... แต่จะว่าไปมันก็มีนะ..  คือพี่มีเรื่องอยากจะขอคำปรึกษาเราหน่อยอะ “

“ ได้สิครับพี่..  ว่ามาเลย “

ผมขานรับไป  เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยนะครับที่พี่เขามาขอความช่วยเหลือจากผม.... ก็ดีเหมือนกันนะ  จะได้แทนคำขอบคุณสำหรับขนมอร่อยๆ ของพี่เขาด้วย

“ คือ... พี่อยากรู้อะ  ว่าปกติแล้ว....  เวลากันต์โกรธใครมากๆ  แล้ว...  เอ่อ...  คืออีกฝ่ายจะต้องทำไง  กันต์ถึงจะยอมยกโทษให้เขาได้อะ “

“ มันก็ต้องดูว่าเป็นเรื่องอะไรอะพี่  เพราะแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน  คือถ้าพี่จะวัดจากผม... มันก็อาจจะไม่ได้อะ  เพราะผมไม่ค่อยจะโกรธใครหรอก  ฮ่าๆๆ  แถมยังเป็นพวกที่โกรธง่ายหายเร็วอีกต่างหาก “

“ จริงอะ  แปลว่าถ้าใครมาง้อเดี๋ยวเดียวก็หายอะดิ “

“ ปกติก็ใช่นะ  แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สุดๆ จริงๆ แล้วล่ะก็  ผมก็เป็นพวกโกรธชนิดหัวชนฝาเลยเหมือนกัน “

“ อ่าว.... “

“ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครทำให้ผมโกรธได้ขนาดนั้นหรอกครับ “

“ แล้วถ้ามีล่ะ  ทำยังไงเราถึงจะหายโกรธได้ “

“ ไม่รู้สิพี่  นึกไม่ออกเหมือนกัน....  แต่ถ้าเขาตั้งใจมาขอโทษผมจริงๆ แล้วล่ะก็  ผมก็น่าจะใจอ่อนได้ไม่ยากนะ  ยิ่งถ้ามีขนมที่ผมชอบมาชดเชยให้ด้วยแล้วก็ยิ่งหายไว ฮ่าๆๆๆ  อันนี้ผมล้อเล่นนะ...  แต่จริงๆ แล้ว  ผมว่าพี่ลองไปขอโทษแฟนพี่ตรงๆ เลยน่าจะดีกว่านะ....  คือถ้าพี่ทำให้เขาเห็นว่าพี่รู้สึกผิดและตั้งใจจะขอโทษเขาจริงๆ แล้วล่ะก็  ผมว่ายังไงเขาก็น่าจะยกโทษให้พี่ได้ไม่ยากหรอก “

“ อืม...   ขอบใจนะ  แล้วพี่จะลองดู...  “




………………………….




กิจ ‘ s  Part



เช้านี้ผมออกจากหอมาแต่เช้าเลยครับ  เพื่อไปหาซื้อขนมที่กันต์มันชอบกิน  ผมตระเวนหาซื้อไปเรื่อยๆ จนเมื่อใกล้ถึงเวลาเรียน  ก็รีบกลับเข้ามหาลัยฯทันที  เพื่อไปดักรอมันที่หน้าห้องเรียนครับ

ผมรอมันอยู่นานพอสมควร  ท่ามกลางนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งมากหน้าหลายตาใน Sec เดียวกับกันต์ที่เดินผ่านผมไปพร้อมกับรอยยิ้มและการทักทายต่างๆ นานา  ทั้งแบบที่เกรงๆ จากการที่ผมเคยเป็นประธานเชียร์มาก่อน  หรือแบบที่ดูเป็นกันเองเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องทั่วไปในคณะ  แต่ผมก็ยิ้มตอบและทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเองนะครับ  เพราะตอนนี้มันไม่ได้มีหัวโขนของประธานเชียร์เหมือนช่วงนั้นอีกต่อไปแล้ว

ผมมองเข้าไปภายในห้องเรียนที่มีนักศึกษาจนเกือบจะเต็มห้องอยู่แล้วในตอนนี้  ทว่าผมก็ยังไม่เห็นวี่แววของกันต์มันเลยครับ  ท่าทางวันนี้มันคงจะมาสายแน่ๆ  นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่อยู่ด้วยกันนะ  ผมรับรองได้เลยว่ามันไม่มีทางมาสายอย่างแน่นอน  เพราะผมเนี่ยแหละที่จะเป็นคนคอยปลุกมันทุกเช้าหากเห็นว่าสายผิดปกติ

ไม่นานมากเสียงฝีเท้าถี่ๆ และท่าทางกระหืดกระหอบก็ปรากฏให้ผมเห็นอยู่ไกลๆ  ก่อนที่มันจะชะงักเท้าลงเมื่อมองเห็นผมด้วยเช่นกัน

ผมลุกขึ้นยืนในขณะที่มันทำหน้าปะหลับปะเหลือกค่อยๆ เดินมาอย่างเชื่องช้า  และก่อนที่มันจะเดินผ่านหน้าผมไปโดยที่ไม่คิดจะหันมามองเลยแม้แต่น้อยนั้น  ผมก็รีบคว้าข้อมือมันเอาไว้ก่อนทันที

“ กันต์.... “

“ ……. “

“ เอ่อ....  พี่ซื้อขนมมาฝากอะ... ของชอบของเราทั้งนั้นเลยนะ... “

“ …… “

มันเลือกที่จะนิ่งและไม่ตอบอะไร  ก่อนจะพยายามบิดข้อมือออกจากพันธนาการของผม

“ คือพี่มีเรื่องจะคุยด้วย... “

“ แต่ผมไม่มี...  และผมก็กำลังจะรีบไปเรียน “

“ คือกันต์...  เราฟังพี่นะ...  คือว่าพี่.. “


ในที่สุดมันก็สะบัดมือหลุดออกจากมือผม  และทำท่าว่าจะเดินจากไปโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก  ทั้งขนมที่ชอบหรือคำพูดจากผม


“ พี่ขอโทษ.. “


สิ้นเสียงผม...  มันที่กำลังก้าวเท้าออกไปก็หยุดชะงักลงทันที  หากแต่ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะหันกลับมาสนใจผมเสียแต่อย่างใด

“ พี่คงไม่มีข้อแก้ตัวอะไรให้กับเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้น  พี่ก็แค่อยากจะขอโทษในทุกๆ เรื่องที่พี่ได้ทำเอาไว้กับเรา “

“ …… “

มันไม่ได้ตอบอะไร  และผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ  ได้แต่รอดูปฏิกิริยาของคนตรงหน้าเพียงเท่านั้น 

“ แค่นี้ใช่มั้ยครับที่อยากจะพูด  นั้นผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ...  สายมากแล้ว “

จากนั้นมันก็เดินจากผมไปเลย  โดยไม่ได้หันกลับมามองผมที่ทำหน้าเป็นหมาหงอยเลยสักนิด

ใจแข็งเป็นบ้าเลยไอ้เด็กคนนี้....

ผมมองดูถุงขนมที่อุตส่าห์แหกขี้หูขี้ตาตื่นแต่เช้าไปหาซื้อให้อย่างหงอยๆ  ดูท่าคงจะเป็นหม้ายซะแล้วขนมเรา...

สุดท้ายประธานเชียร์มาดเข้มอย่างผมก็เดินหางลู่หูตกกลับเข้าคลาสเรียนของตัวเองไปอย่างจำยอม...

แต่เพียงแค่นี้...  คนอย่างผมไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ อยู่แล้ว  ยังไงก็จะตามตื้อมันจนกว่าจะสำเร็จให้ได้เลยล่ะครับ....



....................................



กันต์’s  Part


กว่า 4 ทุ่มที่หอพัก

หลังจากที่ไปนั่งอ่านหนังสือเล่นที่ห้องไอ้เรย์ได้สักพักใหญ่  ผมก็กลับขึ้นห้องของตัวเองมาครับ  พร้อมกับความรู้สึกไม่สบายใจที่ติดตัวมาตั้งแต่เช้ากับพฤติกรรมแย่ๆ ที่ทำเอาไว้กับพี่กิจ

ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรจากท่าทีเย็นชาที่แสดงออกมาเลยนะครับ  ตรงกันข้ามกัน...  ขาผมแทบจะไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ  กับสัมผัสและน้ำเสียงของพี่เขาที่ผมไม่ได้ยินมานานแล้ว  ยิ่งคำว่าขอโทษในตอนท้าย...  มันยิ่งทำให้กำแพงที่ผมพยายามสร้างขึ้นมาแทบพังทลายลงไปเลยก็ว่าได้  ดังนั้นผมจึงต้องพยายามยื้อหัวใจของตัวเองเอาไว้ให้ได้มากที่สุด  โดยการไปให้พ้นจากจุดนั้นโดยเร็ว...

ทั้งๆ ที่คิดว่าเริ่มทำใจได้บ้างแล้วแท้ๆ  แต่เอาเข้าจริง  ต่อหน้าพี่เขาแล้ว...  ความรู้สึกทุกอย่างของผมมันกลับยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

ผมเดินออกมายังระเบียงห้องเพื่อสูดอากาศเย็นๆ ให้หัวปลอดโปร่งขึ้นมาหน่อย  บางที...ถ้าโชคดีผมอาจจะมีเพื่อนคุยจากห้องข้างๆ ก็เป็นได้

เอาจริงๆนะ  ผมรู้สึกว่าเราคุยกันถูกคอดีอะครับ  แม้ว่าจะเป็นการคุยกันผ่านทางระเบียงห้องแบบนี้ทุกครั้งไปก็ตาม....

และไม่รู้ทำไม  พอยิ่งคุยกันนานเข้า  ผมกลับยิ่งรู้สึกว่าพี่เขามีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกับพี่กิจมากเลย  นั่นเลยทำให้ผมชอบเวลาที่ได้คุยด้วย  แต่ผมไม่ได้คิดจะเอาพี่เขามาแทนที่พี่กิจหรอกนะครับ  เพราะถึงไงก็ไม่มีใครแทนใครได้อยู่แล้ว  แค่รู้สึกว่ามันสบายใจ  ก็แค่นั้นเอง....


“ กลับมาซะดึกเลยนะ “

เสียงพี่นิกดังขึ้นจากอีกฝากหนึ่งของกำแพงครับ  ทำเอาผมเผลอยิ้มออกมาได้อย่างไม่รู้ตัวทันที

ก็นึกว่าจะไม่ได้คุยกับพี่เขาแล้วซะอีก....

“ ไปอ่านหนังสือห้องไอ้เรย์มาอะครับ “

“ อ่อ...  แล้วเป็นไงบ้าง  อาทิตย์หน้าก็เริ่มสอบแล้วนะ  พร้อมยังเรา “

“ ให้ตอบจริงๆ ก็ยังเลยอะพี่  นี่ขนาดมีคนเก่งๆ อย่างไอ้ธันมาช่วยติวให้ด้วยนะ  ผมยังไม่รู้เลยว่าจะรอดรึป่าว  คิดแล้วก็กลุ้ม...  นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ...  ผมคงให้พี่กิ.... “

ผมชะงักขึ้นมากลางครัน  ก่อนจะกลืนคำพูดที่เหลือทั้งหมดลงคอไป....  แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยแทบจะในทันที  เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องกลับมาคิดถึงพี่เขาอีกรอบ

“ เอ้อ... ว่าแต่พี่นิกล่ะครับ  เป็นไงบ้าง...  ง้อแฟนสำเร็จมั้ย “

“ เฮ้อ... “

ได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจมาก็พอจะรู้คำตอบแล้วล่ะครับ

“ ยังเลยอะ...  แถมเขาดูไม่มีทีท่าว่าอยากจะคุยกับพี่เลยด้วย  ใจแข็งสุดๆ “

“ นั้นก็ต้องหาวิธีใหม่อะพี่ “

“ ก็คงต้องอย่างนั้น  ว่าแต่เราพอมีวิธีไหนมาแนะนำพี่อีกมั้ย “

“ โห...  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอะพี่  เอาจริงๆ นะ  ผมเองก็ยังไม่เคยมีแฟนกับเขาเลยสักครั้ง “

“ แต่พี่อยากให้เราช่วยคิดจริงๆ นะ  เพราะพี่เชื่อว่าความคิดของเราต้องทำให้พี่ง้อสำเร็จแน่ๆ “

“ ฮ่าๆๆ  ขนาดนั้นเลย....  ว่าแต่แฟนพี่นี่ใครเหรอ  เผื่อว่าผมอาจจะรู้จัก...  จะได้ช่วยพี่ได้ไง “

คือผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน  ว่าใครกันนะที่ใจแข็งกับพี่เขาได้ซะขนาดนี้...

“ ความลับ...  แต่ว่า...  เราน่ะรู้จักแน่นอน “

พอได้ยินพี่เขาว่ามาแบบนี้แล้ว  มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากรู้มากขึ้นไปอีกอะครับ....

สรุปแล้ว....  ใครกันว้า!!!!!!


“ แต่อย่าเดาให้เหนื่อยเลย  มาช่วยพี่คิดดีกว่าว่าควรจะทำไงต่อไปดี “

“ นั้น... ก็ถ้าเขาเอาแต่หนี  พี่ก็ต้องหาวิธีหรือสถานที่ที่เขาจะหนีไปไหนไม่ได้ดิ “

“ อืม...  ก็น่าสนใจนะ... “

“ เชื่อผม...  ตื๊อบ่อยๆ เดี๋ยวเขาก็ยอมใจอ่อนเองแหละครับ “

“ จริงนะ.... “

“ ก็..  ไม่รู้สิครับ  ฮ่าๆๆๆ “



...............................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 47 )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 08-08-2018 11:31:21
กิจ’s  Part 



วันต่อมา

จากที่คุยกับกันต์มันไปเมื่อคืนนี้  ผมเลยเกิดไอเดียให้ไอ้เรย์มันชวนแก๊งของพวกมันไปเล่นแบดในตอนเย็นเพื่อพักผ่อนสมอง  ซึ่งผมตั้งใจว่าจะไปดักเจอกันต์มันที่ห้องล็อคเกอร์ตอนมันเปลี่ยนเสื้อผ้า  แต่คงต้องให้ไอ้เรย์มันช่วยทำให้กันต์ได้อยู่ตามลำพังในนั้นด้วย  เพราะถ้าเป็นที่นั่นซึ่งมีเฉพาะสมาชิกของชมรมที่เข้าไปได้แล้ว  มันก็น่าจะสะดวกถ้าผมจะไปดักเจอ  แถมยังเป็นที่ที่มันจะหนีผมไปไหนไม่ได้ด้วย  และคราวนี้แหละ... ผมจะไม่ยอมให้พลาดเหมือนเมื่อวานไปอย่างแน่นอน

จนถึงตอนเย็น...  ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดีตามแผน  ซึ่งเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าไอ้น้องธันมันเองก็พอจะเดาได้ว่าผมกับไอ้เรย์นั้นมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง  แต่ทว่ามันก็เลือกที่จะทำเป็นไม่รู้และไม่เข้ามายุ่งหรือขัดขวางอะไรทั้งนั้น  ซึ่งสำหรับผมแล้ว...  ผมถือว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี  และมันก็ทำให้ผมมองมันเป็นศัตรูหัวใจน้อยลงได้อีกหน่อย ( แม้จะยังวางใจไม่ได้ก็ตาม )

กันต์ดูจะมาช้ากว่าทุกๆ คนในกลุ่ม  เพราะต้องเอางาน Drawing ที่พึ่งจะทำเสร็จเมื่อช่วงบ่ายไปส่งก่อนจะตามมาที่คอร์ดครับ  แต่จนแล้วจนรอดตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นมันสักที...

ผมนั่งคอยอยู่ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างๆ จากคอร์ด  และกำลังเฝ้ามองหามันอยู่ตลอดเวลา  ในขณะที่ท้องฟ้าดูจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทามากขึ้น  ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าฝนคงใกล้จะตกในอีกไม่นาน

สุดท้ายด้วยความเป็นห่วง  ผมจึงตัดสินใจขับรถออกไปตามหามันที่คณะ  และทันทีที่ขับออกมาได้ไม่นาน  ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักราวกับว่ากำลังจะสั่งลาฟ้าเป็นครั้งสุดท้าย  เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนฤดูกาลในอีกไม่นานนี้

วิชา Drawing อาจารย์ผู้สอนนั้นประจำอยู่ภาควิศวกรรมโยธาครับ  ซึ่งจากลานจอดรถไปยังตึกภาคก็ดูจะไกลโขอยู่  แถมเอารถเข้าไปไม่ได้ด้วย 

ผมกดโทรศัพท์หาเรย์มันอีกรอบ  แต่มันก็ยังคงไม่รับสายผมเหมือนเดิม  สงสัยกำลังเล่นแบดอยู่ล่ะมั้งครับ  สุดท้ายด้วยความเป็นห่วง  ผมก็เลยตัดสินใจที่จะวิ่งฝ่าฝนเข้าไปครับ  โดยใช้เสื้อช็อปบังหัวเอาไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องเปียกมาก

คือถ้ากันต์มันไม่เงียบหายไปเลยแบบนี้  ผมก็คงไม่ทำเรื่องบ้าๆ วิ่งตากฝนอยู่แบบนี้หรอกครับ

ทว่าไม่ทันที่จะวิ่งไปถึงตึก  สายตาของผมก็พลันเหลือบไปเห็นเข้ากับใครบางคนที่ผมกำลังตามหาอยู่  ซึ่งกำลังหลบฝนอยู่บริเวณหน้าร้านถ่ายเอกสารซึ่งตอนนี้ได้ปิดร้านลงไปเรียบร้อยแล้ว

ผมวิ่งตรงเข้าไปที่นั่นทันทีด้วยใจที่ชื้นขึ้น  เมื่อเห็นว่าคนที่เรากำลังตามหาอยู่นั้นปลอดภัยดี  กันต์มองผมอย่างตกตะลึงพร้อมทั้งเผยอปากบางออกมาเล็กน้อยอย่างน่าสัมผัส  ผมมองชุดนักศึกษาที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนจนแนบเนื้อ  เผยให้เห็นร่างขาวน่าสัมผัสสุดเซ็กส์ซี่  ซึ่งตอนนี้บริเวณโดยรอบก็ใกล้จะมืดลงเต็มทีแล้วและปราศจากซึ่งผู้คน  จะมีก็เพียงแค่เราสองคนเท่านั้นท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย



“ เอ่อ... “


พูดอะไรไม่ถูกเลยครับ  จะเริ่มยังไงดีล่ะ...  จะบอกว่าผมมาตามหามันก็ใช่ที่...
 
แต่จะว่าไป...  นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสเหมาะที่เราจะได้พูดคุยกันด้วยนะครับ  แม้จะอยู่นอกเหนือแผนการและเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริง  แต่ทว่า...  ทุกอย่างดูจะเป็นใจอย่างถึงที่สุด  ทั้งความเป็นส่วนตัวและสายฝนที่ทำให้กันต์มันไม่สามารถหนีผมไปไหนได้อย่างแน่นอน

“ เรามาทำอะไรที่นี่เหรอ “

“ มาส่งงานครับ... “

“ อ๋อ..  งั้นเหรอ...  เอ่อ.. เอ่อ...    ฝนตกหนักเลยเนอะ “

“ ครับ.. “

“ เอ่อ..  แล้ว...  เดี๋ยวเราจะไปไหนต่ออะ  ให้พี่ไปส่งมั้ย  รถพี่จอดอยู่ไม่ไกลนี่เอง “

“ ขอบคุณครับ  แต่ไม่รบกวนจะดีกว่า...  ว่าแต่พี่มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ “

“ เอ่อ...  พอดีพี่มา... เอ่อ... มาหาเพื่อนน่ะ..  ใช่ๆ มาหาเพื่อน “

โอ้ย...  ไอ้กิจ  ใจเย็นๆ  เป็นตัวของตัวเองหน่อย  ใจเย็นเข้าไว้ๆ  มึงมันไม่ใช่เด็กมอปลายที่พึ่งหัดจีบสาวนะเว้ย!!!

“ อ่อ..ครับ “

“ ฝนตกหนักจังเนอะ   แหะ... “

“ ครับ..  พี่พึ่งพูดไปเมื่อกี้เอง “

“ อ้าวเหรอ... “


ไม่บ่อยนะครับที่คนอย่างผมจะรู้สึกอายและทำหน้าแหยๆ อย่างไปไม่ถูกเอาซะเลยแบบนี้


“ เอ่อ... กันต์... “


มันมองผมมาด้วยสายตานิ่งๆ  ชักเริ่มประหม่าที่จะพูดซะแล้วสิ...


“ วันนั้นที่พี่พูดไป...  พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ  พี่ไม่มีอะไรจะแก้ตัวหรอก  แต่พี่อยากจะขอโทษเราจริงๆ นะ “

“ เหรอครับ..  นั้นถ้าผมยกโทษให้  พี่ก็จะสบายใจและก็จบมันไปได้สักทีใช่มั้ยครับ “

“ เห้ย!!  พี่...  พี่ไม่ได้คิดอยากจะจบกับเรานะ  ตอนนี้พี่มั่นใจตัวเองแล้วว่าพี่....  เอ่อ...  พี่ชอบเรา.... ไม่สิ... พี่ว่าพี่...  รักเราเข้าให้แล้ว... “


มันดูจะอึ้งๆ ไปเล็กน้อย  และเราทั้งคู่ก็เงียบกันไปอยู่ครู่หนึ่ง  โดยทีผมกำลังเฝ้ารอปฏิกิริยาตอบสนองจากคนตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ  ซึ่งไม่นานมันก็ยอมเปิดปากพูดกับผมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย


“ ขอบคุณนะครับที่พี่รู้สึกดีกับผม   แต่..  ถึงยังไงผมก็ยังไม่สมารถเชื่อในตัวของพี่ได้อยู่ดี “

“ แล้วพี่ต้องทำยังไง...  เราถึงจะกลับมาเชื่อในตัวของพี่ได้อีก “

“ เพราะผมไม่รู้ไงครับ  ผมถึงต้องออกห่างจากพี่มาแบบนี้  ผม...ไม่อยากจะรู้สึกเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว  พี่คงเข้าใจผมนะ... “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่มองหน้ากันต์มันด้วยสายตาที่มั่นคงและไม่มีความประหม่าอีกต่อไป  แม้ก่อนหน้านี้ท่าทีของผมจะดูราวกับเด็กมัธยมที่พึ่งเข้ามาคุยกับสาวที่ตัวเองชอบเป็นครั้งแรก  แต่ทุกสิ่งที่ผมพูดและรู้สึกมันคือความจริง  หวังแค่เพียงว่า...  สายตาของผมคู่นี้มันอาจจะพอทำให้กันต์มันเริ่มเชื่อในตัวของผมได้บ้างก็ยังดี

แต่เปล่าเลยครับ....  เพราะตอนนี้มันไม่แม้แต่จะมองตาของผมเลย   ไม่ว่าผมจะถ่ายทอดความรู้สึกส่งผ่านไปให้มากแค่ไหนก็ตาม

“ ผมว่า...  ไหนๆ ผมก็เปียกแล้ว...  นั้น... ผมไปก่อนนะพี่ “

“ แล้วจะไปยังไง  ฝนตกหนักขนาดนี้ “

“ ก็ฝ่าไปสิครับ  ยังไงผมก็เปียกไปหมดแล้ว “

มันยิ้มเจื่อนๆ ว่ามาครับ  และขณะที่มันทำท่าว่าจะผละตัวออกไป  ผมก็เอื้อมมือไปคว้าแขนมันเอาไว้เสียก่อน

“ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ  จากนี้ไป..  ถ้าเราอึดอัดมาก...  ให้เป็นพี่เอง  ที่เป็นคนออกไป..  แต่ว่าครั้งนี้.... “

พอพูดมาถึงตรงนี้...  ผมก็ถอดเสื้อยืดพอดีตัวสีดำที่ไม่ค่อยเปียกอะไรมากของผมออก  ก่อนจะพาดมันเอาไว้บนบ่า  แล้วเอื้อมมือไปยังชุดนักศึกษาตัวบางของกันต์ต่อทันที

“ ไม่ต้องกลัว...  พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก “

ผมพูดขึ้นเมื่อมันทำท่าตกใจและผงะตัวออกไปเล็กน้อย  แต่ผมก็รั้งเอาไว้ได้ทัน  ก่อนจะค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อมันออกอย่างเบามือด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนตามความรู้สึกที่อยากดูแลและทะนุถนอมคนตรงหน้านี้อย่างจริงใจ

“ เอาเสื้อพี่ไปใส่นะ  เดี๋ยวจะไม่สบายเอา... “

มันไม่ได้ตอบอะไรและก็ไม่ได้ขัดขืนด้วย  กันต์ยอมให้ผมปลดกระดุมและถอดเสื้อเชิร์ตสีขาวที่เปียกออกแต่โดยดี  จากนั้นผมก็ส่งเสื้อยืดของผมให้มันไป

“ แล้วพี่ล่ะ... “

ผมอมยิ้มตอบไปก่อนจะพูดขึ้น

“ พี่ไม่เป็นไรหรอก  พี่แข็งแรงจะตายไปเราก็รู้  เดี๋ยวเรารออยู่ที่นี่นะ  พี่เจอไอ้เรย์มันเล่นแบดอยู่ที่คอร์ดน่ะ  เดี๋ยวพี่จะบอกมันให้มารับเราที่นี่ละกัน “

ผมอมยิ้มส่งให้ไปอีกรอบ  ก่อนจะผละตัวออกไปจากใต้ชายคา  และแม้ว่าสายฝนเย็นๆ ที่มากระทบกับกายเปล่าจะทำให้รู้สึกหนาวขึ้นมาทันทีที่ได้รับสัมผัส  แต่ผมกลับรู้สึกดีและอบอุ่นหัวใจมากกับการที่ได้ดูแลคนที่ผมรักแบบนี้

ซึ่งที่ผ่านมา...  ผมอาจจะเคยถูกกันต์มันเข้ามาดูแลอยู่บ่อยๆ  แต่จากนี้ไป...  ผมคนนี้เนี่ยแหละที่จะคอยอยู่ดูแลมันไปตลอด


กว่าจะกลับเข้ามาในรถได้ก็เล่นเอาซะเปียกโชกเลยล่ะครับ  แถมในรถก็ไม่มีผ้าขนหนูหรือเสื้อผ้าสำรองเตรียมเอาไว้ด้วย  ผมขับรถต่อไปยังคอร์ดแบดและเดินเข้าไปมันทั้งอย่างนั้นเลย  ในสภาพที่เปียกปอนและเปือยท่อนบนอยู่อย่างนั้น  คนมองกันเพียบเลยครับ  ไม่รู้ว่าสนใจที่รูปร่างหรือว่าสภาพที่น่าตลกตอนนี้กันแน่

ผมบอกให้ไอ้เรย์มันรีบไปรับกันต์ทันที  ซึ่งมันก็รีบรุดออกไปแต่โดยดีครับ  ด้วยเพราะว่ามันเอาโทรศัพท์ทิ้งไว้ในกระเป๋าเลยทำให้มีสายที่ไม่ได้รับทั้งของกันต์และของผมเกินกว่าสิบสาย



ที่หอพัก

กว่าที่ผมจะอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จและออกจากห้องน้ำมา  ฟ้าภายนอกก็มืดไปหมดแล้วล่ะครับ  ผมเอาผ้าเช็ดตัวออกไปตากที่ระเบียงห้อง  ซึ่งก็พอดีกับที่กันต์มันกลับเข้าห้องมาพอดี

หวังว่ามันคงจะไม่เป็นหวัดเอานะครับ...

ผมยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยที่ริมระเบียง  ไม่นานมากเสียงเปิดประตูระเบียงห้องมันก็ดังขึ้น  สงสัยว่าจะพึ่งอาบน้ำเสร็จล่ะมั้งครับ


“ ไงเรา... วันนี้กลับมาเร็วนะ “

ใช่ครับ  ถ้าเทียบกับทุกวันที่ผ่านมาแล้ว  วันนี้ถือว่ามันกลับมาไวกว่าปกติ  แต่ก็คงเพราะสาเหตุเดียวกันกับผมนั่นแหละครับ....
 
“ รีบกลับมาอาบน้ำอะพี่  เปียกฝนมาเดี๋ยวจะไม่สบายเอา... “

แปลกแฮะ....  ทำไมวันนี้น้ำเสียงมันฟังดูเศร้าๆ จังครับ

“ เป็นไรรึเปล่า  วันนี้เสียงดูไม่สดใสเลยนะ “

ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามไปครับ 

“ เปล่าพี่...  แค่รู้สึกแย่ๆ อะครับ “

“ เรื่องไรเหรอ  เล่าให้พี่ฟังได้นะ”

มันเงียบไปครู่หนึ่ง  ผมเลยชิงพูดขึ้นมาแทน

“ ถึงพี่จะช่วยอะไรไม่ได้  แต่การที่เราได้ระบายเรื่องที่ไม่สบายใจออกมานั้น  มันก็ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้นะ “

ผมเงียบรอฟังคำตอบ  และไม่นานเสียงอ่อยๆ ของมันก็ดังขึ้นมาจากอีกหนึ่งฝากของกำแพง

“ คือวันนี้ผมพึ่งไปทำเรื่องแย่ๆ กับใครบางคนมาอะครับ  ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว  ผมไม่ได้อยากทำอย่างนั้นเลยสักนิด  แถมไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้าง... “

“ ห่วงเขาเหรอ “

“ ครับ.. “

“ ถ้าห่วง...  แล้วทำไมไม่ไปดูด้วยตาตัวเองล่ะว่าเขาเป็นยังไงบ้าง “

“ ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกพี่...  เพราะที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะหนีเขามา  ผมคงไม่สามารถกลับไปได้หรอกครับ  ถึงจะห่วงแค่ไหน  แต่ก็คงได้แค่อยู่ห่างๆ แบบนี้ก็แค่นั้น “

ได้ยินมันพูดมาอย่างนี้  ผมนี่โครตจะรู้สึกดีเลยล่ะครับ  ที่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันเองก็ยังแคร์ผมอยู่เหมือนเดิม

“ ดูเราจะรักเขามากนะ “

“ …… “

“ …… “

“ ก็ใช่อะพี่  จนถึงตอนนี้ผมก็ยังรักเขาอยู่เหมือนเดิม  ถึงจะพยายามหลอกตัวเองว่าทำใจได้แล้ว  แต่จริงๆ ..  ผมก็ยังคงรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน  มันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย “

“ ถ้างั้นทำไมเราไม่กลับไปหาเขาล่ะ  ไม่แน่นะ...  บางทีทุกอย่างมันอาจจะดีขึ้นก็ได้ “

“ ความเชื่อใจอะพี่...  ถ้ามันหมดไปแล้ว  ผมก็คงต้องอยู่กับความหวาดระแวงตลอดเวลา  ว่าอะไรมันคือความจริง  สภาวะแบบนั้นมันแม่ง..  ทรมานสุดๆ  แถมเขายิ่งเป็นคนที่เจ้าชู้มากๆ มาก่อน  ไม่มีทางที่เขาจะมาหยุดอยู่ที่ผมได้อย่างแน่นอน...  ผมไม่อยากเป็นคนที่นั่งรอวันเสียใจอะครับ...  สู้เจ็บมันไปเลยตอนนี้น่าจะดีกว่า... “

ผมเข้าใจน้องมันนะครับ  เพราะตอนนั้น... ผมเองแหละที่ไม่ชัดเจนและยังไม่กล้าพอที่จะคบกับมันเป็นแฟน  การให้มันรออยู่อย่างนั้น  มันคงจะรู้สึกแย่เอามากๆ  ยิ่งมีเรื่องที่มาทำให้เราเข้าใจผิดกันด้วยแล้ว  การที่มันจะหมดความเชื่อถือในตัวผมมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร


แต่ว่านะ...  ตอนนี้ผมชัดเจนและกล้ายอมรับกับความรู้สึกของตัวเองแล้วล่ะครับ  และไม่ว่ายังไง  ผมก็จะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน...  ไม่ว่าจะต้องถูกปฏิเสธอีกสักกี่ครั้งก็ตาม...




TBC



....................................................

ก่อนอื่นเลย....  ปุ่มกดขอโทษล้านรอบ  อยู่ตรงไหนคร้าบ  ปมจาไปกดอ้าาาา
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :heaven

ขอโทษทุกคนจริงๆ ครับ  อาทิตยที่แล้ว  มหกรรมงานเลยครับ :katai4:  กลับถึงบ้านกินยาเสร็จ สลบเลย :heaven

สำหรับตอนหน้า...  จะเป็นบทสรุปของฮานะ  และความจริงของพี่นิก....  แต่ยังมะจบนะครับ  แอบสปอยว่าไม่ได้ง้อกันที่ กทม.หรอก (เพราะตอนหน้าสอบเสร็จแว้ว)  ส่วนจะเป็นไงติดตามต่อไปนะครับ  ไม่มีดราม่าครับหลังจากนี้  จะออกแนวน่ารักละครับ  ใครเอาคืนกันบ้างต้องรอติดตามดูนะครับ

สุดท้ายนี้  ขอรีบไปทำงานต่อละคร้าบบบ แว่บมาลง :z3:  ผมขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจนะครับผม :mew1:
ปล. ใครมีอะไรอยากถามหรือสงสัยเกี่ยวกับนิยายถามได้น้าาาา  หรือจะตั้งสมมุติฐานเนื้อเรื่องก็ได้งับ  ผมชอบอ่าน  เผื่อเป็นแนวทางสำหรับ SS2 ด้วย
ปล. อีกที  คู่ของธันจะโผล่ใน SS2 นะครับ  บอกได้เลยว่าเเป็นรุ่นพี่ชื่อ  หมอตุลย์  แต่แสบมาก :hao6: 
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-08-2018 13:10:51
พี่กิจทำน้องใจบางมาก ผู้ชายอะไรละมุ๊น ละมุน~
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-08-2018 15:43:59
มันเป็นเรื่องของคนสองคน ตอนนี้หลักฐานอะไรก็มี
เพื่อนก็ยืนยันได้ ทำไมไม่เปิดใจ พี่ไม่ชัดเจน น้องก็ไม่ฟังอะไรเลย แล้วก็ฟังคนอื่นสะเยอะ

สวีสดีคุณหมีขาว เราไม่ได้มาคอมเม้นนานเลย
ช่วงเศร้าของหนังสือคือยาขมของเราเลย นิสัยเสียชอบอ่านตอนต้น แล้วก็ตอนจบที่มีความสุขแล้ว ตอนเศร้า เอาไว้อ่านท้ายสุด แย่เนาะ

เป็นอีกกำลังใจ  :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-08-2018 16:18:48
เฮ้ออออ จริงๆกันต์ก็ไม่ยอมฟังอะไรเลย เห็นแค่ภาพจัดฉากก็เชื่อแล้ว คนที่ไม่เชื่อใจคือกันต์เองต่างหากละ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-08-2018 18:34:34
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-08-2018 20:31:10
จะรอนะฮานะ เจอกันตอนหน้า  :laugh5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-08-2018 22:46:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 08-08-2018 23:44:40
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 09-08-2018 07:36:27
ตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-08-2018 09:39:48
 :pig4: :pig4: :pig4:

งุย ๆ  จะมีเฉลยแล้ว

ป.ล. คอยลุ้นยัยร่านฮานะ จะรับผลกรรมอย่างไร
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 19-08-2018 15:23:33
Chapter 49



กันต์ ‘s  Part



1 วันก่อนสอบปลายภาค  ที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

ไม่ไหวครับ....  หัวมันรับอะไรต่อไปไม่ได้อีกแล้ว !!!

ทั้งๆ ที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่า  ช่วงใกล้สอบเราต้องทำหัวมันให้โล่งๆ  เพื่อที่เวลาสอบจะได้หัวไม่ตื้อ  แต่ในความเป็นจริงแล้ว  สำหรับคนที่หัวปานกลางค่อนไปทางแย่อย่างผม  มันทำแบบนั้นไม่ได้เลยครับ...  ขืนลองไม่อ่านดูนะ....  มีหวัง... 

เฮ้อ...ไม่อยากจะคิด....

บ่ายนี้ไอ้ธันมาช่วยติวแคลให้แก๊งเราที่ร้านกาแฟครับ  เพราะเสาร์ - อาทิตย์อย่างนี้ที่หอสมุดมันปิด  ส่วนในมหาลัยฯ ก็ร้อนโครต  ช่วงบ่ายพวกเราเลยย้ายมานั่งตากแอร์พร้อมกับหาขนมและเครื่องดื่มทานกันที่นี่  ซึ่งพี่ทามเจ้าของร้านก็ใจดีมากครับ  ไม่ว่าอะไรพวกเราเลยสักคำที่มาใช้สถานที่นานขนาดนี้  หนำซ้ำแกยังบอกว่าให้มากันได้ทุกเมื่อเลย  เพราะว่าเขาทำร้านนี้มาก็เพื่อให้ทุกคนได้มาพักผ่อนและนั่งเล่นกันโดยไม่ได้หวังเอากำไรอะไรมากมาย

โอ้แม่เจ้า !!!  อย่างนี้ก็ได้เหรอ.... 
 
แต่จะว่าไป  ถ้าผมมีเงินมากๆ ผมก็อยากจะทำเหมือนกับพี่เขานะครับ  เพราะถ้ามันเป็นสิ่งที่เราชอบ  มันก็คงจะมีความสุขมากเลยที่ได้ทำ  แม้ว่าค่าตอบแทนมันจะไม่ได้สูงมากก็ตาม

ผมตักเค้กช็อคโกแลตเข้าปากไปคำนึงก่อนจะตามด้วยลาเต้ที่เหลืออยู่อีกกว่าครึ่งแก้ว  เห้อ.... ค่อยยังชั่ว....  พอได้กินแบบนี้แล้วฟินดีจังเลยครับ....

คือถ้าหัวมันไม่รับแล้ว  มันก็ต้องหาอะไรเพื่อมาผ่อนคลายใช่มั้ยล่ะครับ  และการกินของอร่อยๆ เนี่ยแหละ  สำหรับผมถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดเลยล่ะ

“ เชร็ดดดด  พี่กิจแม่ง...เด็ดเวอร์ “

ไอ้แน๊คที่นั่งดูโทรศัพท์อะไรของมันไปเรื่อย  จู่ๆ ก็อุทานขึ้นมาด้วยชื่อที่ทำให้ผมแทบจะสำลักกาแฟที่พึ่งดื่มเข้าไปเมื่อสักครู่นี้ทันทีเลย

“ อะไรวะมึง “

เสียงไอ้เจมส์ที่นั่งข้างๆ ถามขึ้นมาอย่างอยากรู้ครับ ( ซึ่งผมเองก็เช่นกัน ) ไอ้แน๊คยื่นโทรศัพท์ไปให้มันดู  พร้อมกับเสียบหูฟังเข้าที่หูให้ด้วย  และแม้ว่าผมจะไม่เห็นหรือได้ยินเสียงอะไรด้วยก็ตาม  แต่ดูจากสีหน้าและแววตาของไอ้เจมส์แล้ว  ท่าทางมันจะชอบใจมากกับสิ่งที่ได้ยินได้เห็นอยู่ตรงหน้านี้เป็นอันมาก

“ อะไรมึง “

คราวนี้ไอ้เรย์ถามไอ้แน๊คขึ้นมาบ้าง  จากนั้นมันก็เริ่มเล่าเรื่องราวให้เราฟังว่า   

เพจข่าวสารและเรื่องซุบซิบนินทาต่างๆ ที่มีในรั้วมหาลัยฯ ( มันมีเพจแบบนี้ด้วยเหรอ  ผมพึ่งจะรู้นะครับเนี่ย ) ได้มีคนลงคลิปหนึ่งเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้  ซึ่งเป็นคลิปที่พี่กิจได้เข้าไปคุยกับพี่ฮานะที่คณะมา  เห็นว่าเหมือนจะมีปากเสียงกันด้วยนะครับ  ถึงขั้นที่ว่าพี่ฮานะวีนแตกขึ้นมาเลยทีเดียว

“ แต่จากที่กูอ่านหลายๆ คอมเม้นต์มานะเว้ย  รู้สึกว่าเจ้แกจะร้ายมาก  และทำเรื่องแย่ๆ เอาไว้เยอะเลย  โดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย...  คือพอมีคนเอาคลิปนี้มาลง  ก็เริ่มมีคนเข้าไปขุดคุ้ยต่อ  รวมทั้งบางคนที่เข้ามาแฉพฤติกรรมแย่ๆ ของเจ้แกด้วย “

ไอ้แน๊คเริ่มเม้าท์ต่อหลังจากที่เล่าจบครับ  และแม้ว่าข้อมูลที่ได้มานั้น  เราจะไม่รู้ว่ามันจริงแท้แค่ไหนจากเพจสายดาร์กที่สมาชิกต่างก็เป็นร่างอวตาลกันทั้งนั้น  แต่มันก็ดึงความสนใจของผมไปได้มากเลยทีเดียว

หลังจากที่ไอ้เจมส์ดูคลิปจบ  คราวนี้ไอ้แน๊คมันเลยเปิดคลิปให้ทุกคนที่โต๊ะได้ดูกันครับ  ซึ่งจกคลิปที่เห็นนั้น  เหมือนว่าพี่กิจจะเข้าไปเคลียร์กับพี่ฮานะเพื่อที่จะให้เลิกยุ่งกับเขา  ซึ่งเท่าที่ผมดู..  รู้สึกว่าพี่ฮานะจะไปก่อเรื่องใหญ่เอาไว้ด้วย  และจากท่าทีของพี่กิจที่แสดงออกมาให้เห็นนั้น  มันก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่พี่เขาเคยบอกเอาไว้ว่าไม่ได้คิดอะไรกับพี่ฮานะนั้น  มันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็เป็นได้ 


“ โห..  ถ้าในคอมเม้นต์พวกนี้เป็นจริงนะ  เจ้แกร้ายมากเลยนะเว้ย  ขนาดแฟนเพื่อนยังไม่เว้นเลยอะ “

ไอ้เจมส์สมทบขึ้นมาบ้าง

“ ก็สมชื่อแล้วไง  ฮานะแปลว่าดอก...ไม้ “

คราวนี้แพรครับ  เล่นเอาพวกเราแปลกใจกันเลยทีเดียว  เพราะปกติเธอไม่เคยว่าใครเลยนะครับ  พึ่งจะเห็นก็คราวนี้แหละ

“ ตัวเอง...  แรงจัง “

ไอ้เรย์ที่นั่งข้างๆ หันไปบอกอย่างหงอๆ

“ ก็เราไม่ชอบพี่คนนี้นี่... “

“ จ้า...  ถ้าตัวเองไม่ชอบเค้าก็ไม่ชอบเหมือนกัน “

“ แหวะ!! “

ถึงจุดนี้  พวกเราที่เหลือต่างก็ส่งเสียงให้มันอย่างหมันไส้ทันที ( โดยพร้อมเพรียง )

“ ท้องกันรึไง  พวกมึงอะ “

แหม...ทีกับคนอื่นทำเป็นเสียงเข้มเชียวนะมึง....

“ แต่จะว่าไป...  ตอนแรกกูก็คิดว่าเจ้แกกับพี่กิจแม่งมีซัมติงกันไปแล้ว  แต่จากคลิปกูว่าน่าจะยัง...  แถมดูจะเป็นเจ้แกเองมากกว่าที่จ้องจะเอาพี่กิจ “

ไอ้เจมส์ดึงพวกเรากลับเข้าเรื่องมาต่อครับ

“ ก็ตามนั้นเลย...  เรื่องนี้กูฟันธง “

ไอ้เรย์พูดขึ้นทันทีราวกับว่ารู้อะไรมาเสียอย่างนั้น

“ มึงรู้อะไรมาวะ “

ไอ้แน็คถามต่อทันที  จากนั้นไอ้เรย์ก็เริ่มเล่าให้พวกเราฟัง  ด้วยเพราะการที่มันอยู่ชมรมบาสและค่อนข้างสนิทกับกลุ่มของพวกพี่กิจ  เลยทำให้ได้รู้ข้อมูลดีๆ จากพี่คิมมา

ไอ้เรย์เริ่มเล่าสิ่งที่มันรู้มา (ไม่นาน) ให้พวกเราฟังเรื่อยๆ  ตั้งแต่เรื่องที่พี่ฮานะแอบแบล็คเมลพี่คิมจนกระทั่ง...

“ แล้วเจ้แกก็มอมยาพี่กิจเว้ย  ดีนะที่พวกพี่คิมไปช่วยไว้ได้ทัน  ไม่อย่างนั้นเฮียกูเสร็จเจ้แกแน่นอน “

ถึงจุดนี้ผมก็รู้แล้วล่ะครับว่าสิ่งที่พี่กิจพยายามจะบอกมานั้นมันคือความจริง  อดห่วงและรู้สึกผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่เขาในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เลยครับ 

แต่ถึงกระนั้น...  ผมก็คงไม่กลับไปหาพี่เขาอยู่ดี... 

คือตอนนี้มันไม่ใช่เพราะอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะครับ  แต่เป็นเพราะใจของผมเองต่างหาก... ที่มันไม่เข้มแข็งมากพอที่จะเผชิญกับอะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นมาบนความสัมพันธ์ของเราได้...

ผมไม่มั่นใจเลยครับว่าพี่เขาจะรักผมจริง...  ไม่มั่นใจเลยว่าเราจะไปกันรอด...  ผมไม่อยากจะต้องเสียใจอีกต่อไปแล้ว... ก็แค่นั้น


“ ว่าแต่...  ข่าวฉาวซะขนาดนี้  พี่ฮานะเขาจะอยู่มหาลัยฯได้ยังไงวะ “

ไอ้ธันที่นั่งฟังอย่างเดียวถามขึ้นมาบ้างครับ

“ นี่แก...  เป็นห่วงเขาเหรอ “
 
แพรแอบกัดเพื่อนสนิทต่อทันที  ดูท่าแพรคงจะไม่ชอบพี่เขาจริงๆ นั่นแหละ

“ บ้าดิ   แกก็รู้... ว่าเราชอบใคร “

ไอ้ธันรีบสวนขึ้นมาทันที  ก่อนที่ทั้งสองคนจะพยักพเยิดกันอย่างเข้าใจ

“ เรื่องนี้กูสืบมาแล้วเว้ย...  ตอนนี้เจ้แกไม่ได้เข้ามาเรียนเลย  และก็ไม่มีใครคบแกแล้วด้วย  คาดว่าเดี๋ยวก็ต้องซิ่วไปเรียนที่อื่นอย่างแน่นอน “

ไอ้แน๊คว่ามาครับ  ซึ่งถ้ามันเป็นจริงก็อดสงสารพี่เขาไม่ได้เหมือนกันนะครับ  แต่จะทำไงได้ล่ะ...   เพราะผลทุกอย่างมันเกิดจากการกระทำของตัวเขาเองแท้ๆ...




...........................................




การสอบปลายภาคเริ่มขึ้นอย่างหฤโหดตลอดทั้งสัปดาห์  ชนิดที่เรียกว่าไม่เป็นอันได้ทำอะไรเลยนอกจาก...  อ่านหนังสือแล้วก็สอบ... 

กลับมาอ่านหนังสือ...  แล้วก็สอบต่อ 

กลับมาอ่านหนังสือ...  แล้วก็สอบต่อ

กลับมาอ่านหนังสือ...  แล้วก็สอบต่อ

กลับมาอ่านหนังสือ...  แล้วก็สอบต่อ


โอ้ย!!!!!!!!  จะบ้าตายแล้วคร้าบโผม!!!!!!


และแล้ววันศุกร์สุดสัปดาห์ก็มาถึง...

ผมวางปากกาลงทันทีหลังจากที่เขียนอธิบายและวิเคราะห์สำหรับคำถามสุดท้ายลงในสมุดเสร็จ  ขอย้ำนะครับว่าสมุด.....  คือวิชานี้เป็นปรนัย 60 ข้อ และ อัตตานัย 5 ข้อกับสมุด 1 เล่ม  สำหรับวิชา Material

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาให้กับวิชาสุดท้ายของเทอมนี้  ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปส่งกระดาษคำตอบและออกจากห้องไปก่อนเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่ม 

จบไปสักทีครับกับสัปดาห์นรก  ส่วนทำได้รึเปล่านั้น...  ค่อยว่ากันอีกทีตอนเกรดออกก็แล้วกัน  แต่สำหรับในตอนนี้....


กูสอบเสร็จแล้วโว้ย!!!!!!!!


ผมลงมานั่งรอพวกเพื่อนๆ ที่ใต้ตึกครับ  เพราะเย็นนี้เรามีนัดไปฉลองสอบเสร็จกันที่ร้านหมูกระทะใกล้ๆ มหาลัยฯ

ผมนั่งรออยู่ได้ไม่นานก็เห็นพี่ซีพี่รหัสผมเดินลงมาจากตึกครับ  ก่อนจะร้องทักพี่เขาขึ้นมาทันที  ซึ่งจะว่าไป..  ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอพี่เขาสักเท่าไหร่เลยครับ

“ พี่ซี !  หวัดดีครับพี่ “

“ อ้าวกันต์  สอบเสร็จแล้วเหรอเรา “

“ เสร็จแล้วพี่  แต่ทำไมค่อยได้หรอก  ฮ่าๆๆ “

“ เอาน่า....  ว่าแต่...แล้วเพื่อนๆ เราล่ะ “

“ พวกนั้นมันยังไม่เสร็จกันเลยครับ  ผมเลยลงมานั่งรอข้างล่างนี้ก่อน “

“ อ๋อ..  นั้นเดี๋ยวพี่นั่งรอเป็นเพื่อน...  เพราะไอ้เอ็กซ์กับพวกเพื่อนพี่มันก็ยังไม่เสร็จเหมือนกัน  ไม่รู้ว่ามั่วกันไปถึงไหนแล้ว  หนังสือก็ไม่ค่อยจะอ่าน  แล้วก็มาบ่นเอาตอนสอบเสร็จแบบนี้ทุกที “

“ ดูพี่กับพี่เอ็กซ์สนิทกันจังเลยนะครับ “

เอาจริงๆ พี่ซีก็ไม่เคยบอกผมจากปากของพี่เขาเองเลยนะครับว่ากำลังคบอยู่กับพี่เอ็กซ์  แต่กระนั้นผมก็พอจะดูออก  เพราะพี่เขาก็ไม่มีท่าทีจะปิดบังอะไร  จะว่าไปผมก็แอบอิจฉาพี่เขาอยู่เหมือนกันนะครับ  นี่ถ้าผมกับพี่กิจสามารถแสดงความรู้สึกต่อกันได้แบบนี้บ้าง....  มันจะเป็นยังไงกันนะ...

โอ้ย !!  คิดเพ้อฝันไปอีกแล้วนะไอ้กันต์....

“ ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ “

“ เอ่อ..  พี่ซี...  แบบว่า..  พี่กับพี่เอ็กซ์...  เอ่อ... ผมถามได้มั้ยครับ “

พี่ซีร่นคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ  แต่ก็ยิ้มๆ แล้วตอบรับมา

“ ได้สิ...  จะถามว่าพี่กับพี่เอ็กซ์เป็นแฟนกันรึเปล่าใช่มั้ย “

“ แฮ่...  ก็ประมาณนั้นอะครับ “

พี่ซียิ้มขำขึ้นมาทันที  ราวกับว่าเรื่องที่ถามอยู่นี้  ดูจะเป็นเรื่องชิลๆ สำหรับพี่เขาเลย 

นี่ถ้าเป็นผมนะ...  ผมจะชิลแบบพี่เขามั้ยเนี่ย...  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  ผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับแฟนของเราด้วยแหละ  ว่าจะทำให้เรามั่นใจในความสัมพันธ์ได้มากน้อยแค่ไหน

“ อื้ม...  พี่กับพี่เอ็กซ์เป็นแฟนกัน...  ตั้งแต่ปี1 แล้ว... “

“ มิน่าละ  ดูพี่เอ็กซ์เอาใจพี่ซีสุดๆ  ผมนี่โครตอิจฉาเลย “

“ ฮะๆๆ  เอาจริงๆ นะ  ก่อนที่เราจะมาคบกันเนี่ย  พี่กับพี่เอ็กซ์...คือเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน  และมันก็ไม่เคยจะมาทำดีอะไรแบบนี้กับพี่เลยนะ  ออกจะถูกเอาเปรียบซะด้วยซ้ำไป “

“ อ้าว....  แล้วไหงกลายมาเป็นแฟนกันได้ละครับ “

พอฟังพี่เขาว่ามาแบบนี้  ผมก็ชักอยากจะรู้เรื่องราวของพวกพี่เขาขึ้นมาแล้วสิครับ
 
ก็มัน...  น่าสนใจออกนี่...  ว่ามั้ยครับ...


“ ก็.. ไม่รู้เหมือนกันนะ  ว่ามันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน  แต่ที่จำได้แน่ๆ ก็คือ...  พี่เองนี่แหละที่ไปเริ่มชอบมันก่อน...  ทั้งๆ ที่ตอนนั้นมันเองก็มีแฟนอยู่แล้วด้วยนะ “

“ โห...  แล้วแบบนี้พี่ไม่รู้สึกแย่เอาเหรอครับ “

“ ไอ้แย่มันก็แย่จริงๆ นั่นแหละ...  แต่เพราะมันไม่มีทางเลือกนี่  จะถอยก็ถอยไม่ได้แล้ว  ที่ทำได้ก็แค่อดทน...  กันต์ลองนึกดูนะ...  ว่าการที่เราไปชอบคนที่เขาไม่ชอบเรา  แถมจะพูดไปก็อาจจะต้องเสียเพื่อนไปอีก  หลบหน้าก็ไม่ได้เพราะเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน  เลยต้องทนดูเขาสวีทกันกับแฟนอยู่บ่อยๆ  มันโครตแย่เลยนะความรู้สึกตอนนั้น... “

พูดอะไรไม่ออกเลยครับ...  พอได้ยินพี่ซีเล่ามาแบบนี้....  เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว...  เรื่องของผมมันช่างเล็กน้อยมากๆ เลยหากเทียบกับสิ่งที่พี่เขาเจอมา  แต่ทว่าความพยายามและความอดทนของผมกลับน้อยกว่าพี่เขาเสียอีก...  ขนาดแค่เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย  ผมก็เลือกที่จะยอมแพ้และก็กลัวมันไปซะทุกอย่าง  ช่างน่าอายจริงๆ....

“ แล้ว...  ทำยังไงพี่เอ็กซ์ถึงมาชอบพี่ได้ล่ะครับ “

“ อืม...  พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรนะ  คงเพราะความสนิทและความใกล้ชิดกันมั้ง  เพราะจู่ๆ มารู้ตัวอีกที  มันก็มาชอบพี่เข้าให้แล้วอะ... “

“ ว้าว..  แบบนี้พี่ก็โครตดีใจเลยดิ “

“ มันก็ไม่เชิงหรอกนะ...  เพราะถึงจะชอบกันแต่เราก็เปิดตัวกันไม่ได้  เพราะตอนนั้นเอ็กซ์มันก็ยังไม่ได้เลิกกับแฟนที่มันคบอยู่  แล้วก็ยังมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ  แต่จะว่าไป... พอมานึกๆ ดูแล้ว  พี่ก็ไม่คิดนะว่าเราจะผ่านกันมาได้จนถึงทุกวันนี้ “

“ โห...  แล้วนี่...  พวกพี่ผ่านปัญหาต่างๆ มากันได้ยังไงอะ “

“ ก็ถ้ารักกันมากพอ  เราก็ต้องอดทน...ที่สำคัญ.... อย่าสูญเสียความเชื่อใจระหว่างกันไปโดยเด็ดขาด... “

ราวกับสวรรค์มาโปรดเลยครับ  ที่ทำให้ผมเข้าใจและคิดได้กับเรื่องง่ายๆ ที่ผมมองไม่ออกแบบนี้...  ขอบคุณนะครับพี่ซี...  ขอบคุณพี่มากจริงๆ

“ ว่าแต่...  นี่เราแอบไปชอบใครเข้าปะเนี่ย  ถึงได้ถามเอาๆ แบบนี้... “

พี่ซียิ้มถามมาพร้อมสายตาคาดคั้นอยู่กลายๆ  ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มแก้เก้อตอบไปให้เท่านั้น

“ ก็...ไม่รู้เหมือนกันสิครับพี่...  แต่ว่า...ได้ยินพี่เล่ามาแบบนี้แล้ว  มันก็ทำให้ผมรู้สึกอยากจะลองลุกขึ้นมาพยายามใหม่อีกครั้งเลยนะครับ  ขอบคุณนะครับพี่... ที่ทำให้ผมรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาได้... “

“ ขนาดนั้นเลย... “

พี่ซีทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อ  แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ  เลยได้แต่อมยิ้มพยักหน้ารับไปเขินๆ

“ ซี..... ! “

แล้วเสียงพี่เอ็กซ์ก็ดังขึ้นมาแต่ไกลให้พวกเราหันไปมองกันครับ  พี่เอ็กซ์เดินเร่งๆ เข้ามาหา  ก่อนจะนั่งลงข้างๆ พี่ซี  พร้อมกับเอนหัวลงมาพิงไหล่พี่เขาไว้อย่างหมดแรง....

“ จะรอดมั้ยเนี่ย... เอ็กซ์ทำไม่ได้เลยอะ “

“ ก็บอกให้อ่านหนังสือก็ไม่เชื่อ  แล้วมาอ่านเอาเมื่อคืน...  มันจะไปทันได้ไง “

พี่ซีทำเสียงเข้มดุไปครับ  ในขณะที่พี่เอ็กซ์ได้แต่ทำหน้ามุ่ยอย่างเถียงไม่ออก

ดูๆ แล้วก็น่ารักดีนะครับ  อิจฉาสุดๆ อะ

ลากับพี่เอ็กซ์พี่ซีไปได้ไม่นาน  ผมก็พบกับอีกคนหนึ่งที่ทำให้ความรู้สึกผมแทบจะดับวูบไปในทันทีที่เข้าไปทักทาย  เมื่อเห็นพี่เขาเดินลงบันไดมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ

“ หวัดดีครับพี่นิก...  ไม่ได้เจอกันในมอเลยนะครับ “

พี่เขาทำหน้างงๆ ก่อนจะร่นคิ้วถามผมกลับมา..

“ น้อง...  กันต์ใช่มั้ยครับ...  เอ่อ...  น้องรู้จักพี่ด้วยเหรอ.... “

น้ำเสียงและข้อความที่ผมได้รับกลับมา...  มันทำให้ผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก... 

นี่พี่เขาไม่ใช่คนที่อยู่ข้างห้องและพูดคุยกับผมอยู่บ่อยๆ หรอกเหรอ....

หรือว่าบางที....




.............................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 48 ขอโทษครับมาช้าสุดๆ T T )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 19-08-2018 15:33:33
กิจ ‘s  Part 




กว่า 5 โมงเย็น  ที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

“ เอาอันนี้ครับ  แล้วก็ชิ้นนี้ด้วย  อืม...  อันนี้ด้วยครับ “

ผมบอกพี่ทามเจ้าของร้านถึงขนมในตู้ที่ผมกำลังเลือกอยู่  คือผมไม่ใช่สายขนมหวานหรอกนะครับ  แต่มาเลือกซื้อเอาไปให้กันต์มันอะครับ  เพราะสอบเสร็จแล้วแบบนี้  เผื่อว่ามันอยากจะพักผ่อนด้วยการกินของอร่อยๆ เหมือนที่มันชอบก็เป็นได้

“ โหเฮีย....  ซื้อไปจีบสาวที่ไหนเนี่ย “

ไม่ทันที่ผมจะเลือกเสร็จ ( ซึ่งก็ปาไปกว่า 6 ชิ้นแล้ว ) เสียงน้องรหัสสุดกวนของผมก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังพร้อมกับน้องซีแฟนของมันครับ
 
“ อะไรของมึง...  กูจะไปจีบใครล่ะ  ซื้อกินเองไม่ได้รึไงวะ “

“ เหรอ....  อย่างเฮียเนี่ยนะกินของหวาน  แถมแต่ละอย่างนี่...  ไม่ใช่สไตล์เฮียเลยสักอย่าง “

แสนรู้จริงๆ  แต่เจอมันก็ดีละ  ผมเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับมันอยู่พอดี

“ ช่างกูเหอะ  ว่าแต่มึงรีบไปไหนป่าววะ... “

“ ไม่อะเฮีย  นี่ว่าจะมานั่งเล่นกับซีก่อนกลับห้องอะ  แต่คืนนี้ผมไม่ว่างนะ  เพราะไอ้พวกนั้นมันจะมากินเหล้าที่ห้องผม “

“ เออ... แล้วแต่มึงเลย  เพราะกูเองก็มีนัด “

ผมหมายถึงนัดของกลุ่มพวกผมที่จะไปฉลองสอบเสร็จกันที่ร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ อะครับ

“ ว่าแต่เฮียมีไรเหรอ “

“ กูมีเรื่องจะปรึกษามึงหน่อยอะ “

มันทำหน้าแปลกใจราวกับไม่เชื่อหูของตัวเองขึ้นมาทันที  คือปกติด้วยนิสัยของคนอย่างมันแล้ว  ไม่มีทางเลยที่ผมจะมาขอคำปรึกษาอะไรจากมัน  แต่คราวนี้คงเป็นข้อยกเว้น....

“ อะไรมึง...  ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง “

“ เปล๊า...  ก็แค่แปลกใจ... “

นี่มึงแปลกใจได้กวนตีนมาก...  น้องรหัสใครวะเนี่ย....

จากนั้นผมกับมันก็เดินมานั่งที่โต๊ะตรงมุมสุดของร้าน  ในขณะที่แฟนของมันกำลังยืนสั่งขนมและเครื่องดื่มอยู่ที่เค้าท์เตอร์

“ มีเรื่องอะไรอะเฮีย... “

พอนั่งลงปุ๊บมันก็ถามปั๊บทันทีเลยครับ

“ ก็ไม่มีอะไรมาก....  กูก็แค่อยากรู้เฉยๆ ว่า  ปกติเวลาที่มึงทำให้ซีโกรธมากๆ อะ  มึงง้อเขายังไงวะ “

“ ทำไมเฮีย...  ไปทำสาวที่ไหนโกรธมาเหรอ  ว่าแต่...  อย่างเฮียเนี่ยนะจะไปง้อสาว...  ไม่อยากจะเชื่อ... “

มันทำหน้าสงสัยแต่ค่อนไปทางกวนตีนว่ามาครับ  น่าหมันไส้จริงๆ เลย....

“ เรื่องของกูดิ  เร็วมึง...ตอบมา  มึงทำไงวะ “

“ ผมก็...  ไม่ได้ทำไรนะเฮีย  เพราะคนดีๆ อย่างผมไม่เคยทำแฟนเสียใจเลยสักครั้ง.. “

เห็นมั้ยล่ะครับ... เชื่อยังว่าน้องรหัสผมมันกวนตีนมาก  นี่ขนาดผมเป็นพี่มันนะครับเนี่ย... 

“ เหรอ....  ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ย... “

แล้วน้ำเสียงเย็นๆ ของน้องซีก็ดังขึ้น  ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงมายังที่ว่างข้างๆ ไอ้เอ็กซ์มันครับ  ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวได้เปลี่ยนสีหน้าจากที่กวนตีนมาเป็นเจื่อนๆ ไปซะแล้วครับ

อ่อนเอ้ย...  ไอ้พวกกลัวเมีย...

ว่าแต่...  ถ้าลองเปลี่ยนเป็นกันต์บ้างล่ะ...  อืม....

ไม่คิดต่อแล้วกัน  เพราะแค่ทุกวันนี้ผมก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลยล่ะครับ  เฮ้อ.....


“ ก็...  เอ็กซ์เคยทำซีเสียใจด้วยเหรอ... “

“ จ้ะ...  ไม่เคยเล้ย... “

รอยยิ้มของน้องซีกับน้ำเสียงแบบนี้  ผมนี่เข้าใจอารมณ์ไอ้เอ็กซ์มันเลยครับ  เพราะลองถ้ากันต์มันทำแบบนี้มาบ้างแล้วล่ะก็... 

ไม่หือแล้วล่ะคร้าบ....


“ อย่าไปเชื่อมันนะพี่กิจ  ผมเสียน้ำตาให้มันไปตั้งหลายครั้ง “

“ อะไรซี...  ตอนไหน... “

“ ยังจะพูดอีก...  เงียบไปเลย.. “

นานๆ ทีเห็นไอ้เอ็กซ์มันหงอแบบนี้ก็ตลกดีนะครับ  เพราะปกติคนอย่างไอ้เอ็กซ์ที่มีนิสัยคล้ายๆ กันกับผม  คือไม่ค่อยจะยอมใครสักเท่าไหร่  ต้องมาแพ้ราบคาบซะขนาดนี้...

“ ฮะๆๆ  หงอเลยนะมึง “

“ แล้ววันนึงเฮียจะเข้าใจ... “

เงียบเลยครับ  เพราะไม่ต้องรอให้ถึงวันนั้นหรอก  ตอนนี้ผมก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะครับ... 

ไม่นานเครื่องดื่มก็ถูกเสิร์ฟมาที่โต๊ะ  โดยมีอเมริกาโน่ร้อนของไอ้เอ็กซ์และที่น้องซีสั่งมาเผื่อผม  ลาเต้ร้อนของน้องซีและขนมอีก 2 ชิ้น

“ ว่าแต่...  พี่ขอถามอะไรเราสองคนหน่อยจะได้มั้ย “

คือจากตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะมาฟังวิธีการของไอ้เอ็กซ์มัน  เผื่อสามารถนำไปปรับใช้ในแบบของผมเองได้  แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วครับ  เพราะดูท่าแล้ว... มันคงไม่น่าจะได้ผลสักเท่าไหร่  แต่มันก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากรู้มากๆ อยู่นะครับ  คือไม่ใช่ว่าผมไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของตัวเองหรอกนะ  ผมก็แค่อยากรู้เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของผมบ้างก็เท่านั้นเอง


“ คือ...  ที่เราสองคนคบกันอะ...  ชีวิตมัน.... โอเคมั้ย... “

สองคนนั้นมองหน้ากันเล็กน้อย  ในขณะที่น้องซีไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้มๆ ส่งมาให้  และเป็นไอ้เอ็กซ์ที่ตอบออกมาแทน  จนทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีแทบจะในทันทีที่ได้ยิน....


“ โครตมีความสุขเลยอะเฮีย..... “


เนอะ...  ผมก็รู้สึกอย่างนั้น

ไม่ใช่เพราะว่าผมเห็นหรือสัมผัสได้จากความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนี้นะครับ

แต่เป็นเพราะผมรู้สึกได้...  และรู้สึกมาโดยตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา...  ช่วงเวลาที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน...

ผมเสียเวลาไปมากเลยกับการยึดติดในข้อจำกัดเรื่องเพศสภาพ  ทั้งๆ ที่ความรักมันไม่ได้มีข้อจำกัดอะไรเลยแท้ๆ....

เฮ้อ... สบายใจจัง  ว่าแล้วก็คิดหาวิธีง้อมันตอนช่วงปิดเทอมนี้ต่อดีกว่า... 

เชื่อผมนะ...  ยังไงก่อนเปิดเทอม  ผมก็ต้องง้อมันได้สำเร็จอย่างแน่นอน 

ไว้ใจผมได้...



TBC.


......................................................


ขอโทษนะครับผม  มาช้าอีกตามเคย...  ช่วงนี้งานเยอะขึ้น..เวลาเลยน้อยลง  นอนดึกก็ไม่ได้เพราะต้องตื่นเช้า+ยาประจำตัวทำให้ม่ามารถนอนดึกได้  T T โครตเหนื่อยเลยครับ...

แต่เพราะมีพ่อกับแม่และหมาอีก 7 ตัวต้องดูแล  ถึงเราจะไม่แข็งแรงแต่ก็ต้องอดทนอะเนอะ  ทำไงได้ล่ะเราเลือกแล้วที่จะอยู่จุดนี้และทำแบบนี้  ซึ่งต่อจะให้เลือกอีกกี่ครั้งผมก็ยังคงเลือกคำตอบเดิม...

แม่ผมชอบบ่นว่า  รู้ตัวว่าสุขภาพตัวเองไม่ดีต้องพักผ่อนเยอะๆ  ตอนเช้าก็น่าจะนอนไปเลยยาวๆ เดี๋ยวแม่จะไปซื้อของให้เอง  ให้ผมลิสรายการทิ้งเอาไว้  แต่ผมก็ไม่ให้แกทำนะ...และก้ไม่ให้เหตุผลอะไรด้วย คือผมเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดหรือแสดงออกสักเท่าไหร่อะ  ทุกอย่างผมมักใช้การกระทำเป็นตัววัด
 
ส่วนเหตุผลที่ผมไม่อยากให้แม่ผมไปซื้อของก็คือ...  ผมไม่อยากให้แกขับรถครับ...  ผมไม่ไว้ใจกับทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้  ทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นถ้าเลือกได้ผมเสี่ยงเองดีกว่า  ถึงจะตื่นเช้าหน่อยเพลียหน่อยก็มะเป็นไร...
ซึ่งผมก็ไม่คิดจะบอกเหตุผลทุกอย่างที่ผมทำอยู่ดี55+....

ใกล้จบละนะครับ SS1  ส่วนจะเป็นไงต้องรอติดตามนะครับ  สำหรับตอนหน้าจะเป็นการออกต่างจังหวัดนะครับ  จะพ่อแง่แม่งอนกันแค่ไหน  หรือจะเอาคืนกันยังไงต้องรอติดตามน้าคร้าบบบบ

ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับการติดตาม  อาจมาช้าหน่อย  แต่มาแน่นอนนนน  แง่ม

^_____________________________________________^


@Leenboy  ต่อไปจะละมุนก่านี้อีกน้าคร้าบ
@Billie ขอบคุณน้าคร้าบ แค่ยังติดตามผมก็ดีใจละคร้าบผม  ผมก็แนวเดียวกันเลยไม่ค่อยชอบอ่านอะไรที่ดราม่าเยอะๆ อะ  แต่พอมาเขียนเองมันเลยจำเป็นต้องหยิบใส่ลงไปเพื่อให้มันไม่จืดเกินไปอะครับ( ออกขมๆเนอะครับ)
@iceman555 ใช่เลยครับ(คิดเหมือนกัน)  เอาจริงๆนะ ไอ้นิสัยแบบกันต์ตอนนี้  มันเป็นนิสัยที่ผมไม่ชอบเอาเลย  แต่ผมจำเป็นต้องสร้างดราม่าอะจิครับ  เง้อ...  แต่อีกหน่อยกันต์จะค่อยๆได้เรียนรู้ไปเองกับเรื่องของความเชื่อใจงับผม  แฮ่
@warin  ขอบคุณเช่นกันครับ ตามตลอดเลยจนผมจำชื่อได้แว้วเนี่ย แง่ม....
@areenart1984 จริงๆเหมือนโดนน้อยเนอะครับ  แต่ถ้าเราลองนึกว่าการถูกสังคมแบนมันก็หนักอยู่นะครับสำหรับยัยฮานะ 
@yowyow ขอบคุงง้าบ
@lune ขอบคุงคับผม
@Nus@nT@R@ ขอบคุณน้าครับ  แล้วตามกันต่อไปน้า แฮ่
@DrSlump ขอบคุณคร้าบ  ตอนนี้กันต์รู้ละครับว่าคนที่อยู่ข้างห้องไม่ใช่นิก  แต่ยัยฮานะนี่ไม่รู้ว่าผมเขียนเบาไปป่าวนะครับ  แต่การถูกสังคมแบนไม่มีเพื่อนคบ  ถ้าเอาเข้าจริงมันก็หนักอยู่กับสภาพจิตใจนะครับ


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 19-08-2018 16:08:29
ขอบคุณค่ะ. ติดตามจ้า
สมหวัง หวานชื่นกันไวๆนะคะ
มีคำผิดค่ะ. ราบคราบ----------)ราบคาบ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-08-2018 16:58:26
 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-08-2018 18:13:23
คู่รองหวานแซงคู่หลักไปแระ อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-08-2018 19:29:41
นี่จัดการชะนีขั้นเด็ดขาดแล้วใช่ไหม น่าจะแรงกว่านี้นะ  :m16:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-08-2018 01:01:46
ความแตกเรื่องหนุ่มข้างห้องแล้วละม้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 20-08-2018 05:11:56
เราเพิ่งเจอเรื่องนี้อะเลยอ่านมาทั้งคืนเลยพอมาเจอตอนที่คุณหมีขาวบอกว่าจะไม่ลงแล้วตกใจเลยนะ เราชอบเรื่องนี้นะแต่ก็อยากจะเบิ๊ดกะโหลกกิจซักทีเหมือนกัน  o18 เสียลุคนักเลงบนเวทีมวยในตอนแรกๆเลยแต่ตอนนี้คิดได้แล้วก็ให้อภัยกันไปนะ ไม่ว่ายังใงเราก็เป็นกำลังใจให้คุณหมีขาวนะเวลาไม่สบายใจก็พักไม่อยากให้กดดันตัวเองนะเฮ่อยิ่งเขียนก็เหมือนจะยิ่งไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าเราเป็นกำลังใจให้แล้วเราก็ชอบนิยายเรื่องนี้นะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 20-08-2018 12:29:17
มาต่อ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-08-2018 13:13:57
สู้ๆนะพี่กิจ ง้อให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 20-08-2018 23:35:28
ยินดีต้อนรับ  :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 27-08-2018 14:09:26
ดูแลรักษาสุขภาพดีๆขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-08-2018 22:38:16
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 06-09-2018 22:37:42
เค้าจะดีกันแล้ววววววว เย้ :mc4:
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะะะะ อ่านรวดเดียวติดกันเลยสามวัน ติดนิยายเรื่องนี้งอมแงม สนุกมากๆเลยค่ะ o13
แอบเห็นคุณคนเขียนพูดบ่อยๆตอนท้ายๆแบบนอยด์ๆ เราอยากจะบอกว่าเราเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะติดตามผลงานของคุณนะคะ ไม่ต้องไปแคร์คำพูดที่มันบั่นทอนจิตใจมากดีกว่า ยังไงก็จะติดตามอยู่ตลอดๆเลย รอตอนต่อไปอยู่นะคะ //กอดๆ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-09-2018 23:55:44
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 09-09-2018 20:37:26
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 10-09-2018 09:28:10
Chapter 50



กิจ’s  Part



ที่หอพัก

ผมกลับเข้ามาถึงห้องก็ช่วงหัวค่ำแล้วล่ะครับ  ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวและออกจากห้องไปทันที  เพื่อไปยังร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ ตามที่ได้นัดหมายเอาไว้กับพวกเพื่อนๆ ในกลุ่ม  แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะห้อยขนมที่พึ่งซื้อมาเมื่อเย็นนี้  พร้อมกับโพสต์อิทไว้ที่ลูกบิดประตูห้องของกันต์มันนะครับ



กินให้อร่อยนะ..  สอบเสร็จแล้ว
                                          พี่ข้างห้อง...


สายของวันต่อมา

ผมเดินอารมณ์ดีกลับเข้ามาที่หอพัก  เพราะเมื่อคืนนี้ผมไปค้างที่ห้องของไอ้คิมมันมาครับ  เนื่องด้วยเพราะว่าผมดื่มหนักไปหน่อย  ก่อนจะพบว่าถุงขนมที่ผมได้ห้อยเอาไว้เมื่อคืนนี้ที่ห้องกันต์มันยังคงอยู่สภาพเดิม  ผมหยิบมันขึ้นมาดูอย่างแปลกใจและพบว่าของทุกอย่างในนั้นก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม  หรือว่าบางทีมันอาจจะยังไม่ได้กลับเข้าห้องมากันนะ  ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์เพื่อโทรออกไปหาเพื่อนสนิทของมันทันทีเลยครับ


“ เห็นเมื่อวานมันว่าจะไปเที่ยวกับไอ้ธันที่เชียงใหม่นะพี่ “

“ อ่าว...  ไปวันนี้เลยเหรอวะ  มันเร็วไปมั้ยเนี่ย “

“ ผมก็ไม่รู้...  เห็นมันพูดอยู่เมื่อคืนตอนไปกินหมูกระทะ “

“ เออๆ ขอบใจมาก  นั้นแค่นี้ก่อนนะ “

เร็วดั่งใจคิด  ผมก็กดโทรศัพท์โทรหาไอ้น้องธันมันทันทีเลยครับ  แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่ยอมรับสายสักที  ผมเลยตัดสินใจวกกลับออกมาจากหอทันทีโดยไม่แม้แต่จะทันได้เข้าห้องของตัวเองเลยด้วยซ้ำ  เพื่อไปหาไอ้น้องธันมันที่คอนโด  เพราะผมกลัวว่ามันจะไม่ทันการ  คืออย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ผมได้รู้จุดหมายปลายทางที่พวกนั้นกำลังจะไปก็ยังดีครับ


ที่คอนโด

ผมเคาะประตูเรียกเจ้าของห้องอยู่ได้ไม่นาน  ไอ้น้องธันมันก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าที่งุนงง  เพราะปกติถ้าผมไม่มีธุระอะไรที่สำคัญมากจริงๆ  ผมก็คงไม่มาหามันถึงที่ห้องแบบนี้หรอกครับ  แถมตอนนี้ก็พึ่งจะ 8 โมงเช้าเท่านั้นเอง

“ พี่กิจมีธุระอะไรเหรอครับ  มาหาผมแต่เช้าเลย “

“ คือ...  พี่ได้ข่าวว่าเราจะไปเชียงใหม่กันใช่มั้ย  แล้ว... “

“ กันต์ใช่มั้ยครับ... “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  เพียงแค่พยักหน้ารับไปเล็กๆ เท่านั้น

“ กันต์ไม่ได้ไปกับผมหรอกครับ “

“ ก็...  พี่เห็นไอ้เรย์มันบอกว่า... “

“ เอาจริงๆ นะพี่  ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะว่ากันต์กำลังคิดอะไรอยู่... แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  ผมบอกพี่ก็ได้ว่า...  กันต์อะไม่ได้คิดจะไปกับผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  แต่เพราะอะไรบางอย่าง...  กันต์เลยมาขอให้ผมแกล้งทำเป็นว่าเราจะไปด้วยกัน  เพื่อให้เรย์มันเข้าใจไปอย่างนั้น  ซึ่งผมว่า...  พี่เองก็คงพอจะรู้นะว่าเพราะอะไร “

ผมพยักหน้ารับไป  เพราะถ้าเป็นอย่างที่น้องมันว่ามา  ผมก็พอจะรู้ว่ากันต์มันคงอยากจะให้ผมเข้าใจไปอย่างนั้น  โดยผ่านตัวกลางคือไอ้เรย์อย่างแน่นอน   เพียงแต่ผมก็ยังคงไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่กันต์ต้องทำอย่างนั้นอยู่ดี

“ แล้ว...  ถ้าเป็นอย่างนั้น  ทำไมเราถึงยอมบอกกับพี่ตรงๆ ล่ะ “

“ จริงๆ ผมก็ไม่อยากจะทำอะไรแบบนี้หรอกครับ  ถ้าผมไม่เห็นว่าที่ผ่านมาพี่เองก็ตั้งใจที่จะง้อและทำอะไรให้กันต์ไปตั้งมากมาย...  ที่สำคัญ... ผมเองก็คงจะไม่เลิกพยายามหรอก  ถ้าหากว่าพี่เองไม่ได้รู้สึกอะไรกับกันต์เลย  เพราะผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งผมอาจจะเปลี่ยนใจกันต์เขาได้  แต่พอมาเห็นว่าพี่เองก็รู้สึกกับกันต์เหมือนกับผม  จะต่างกันก็ตรงที่....  กันต์เลือกพี่ไม่ใช่ผม...  ดังนั้น....  มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ผมจะต้องมาขัดขวาง  เพราะถ้าสิ่งนั้นมันจะทำให้คนที่ผมชอบเสียใจ...  ผมจะไม่มีทางทำแบบนั้นอย่างแน่นอน... “

คาดไม่ถึงเหมือนกันนะครับว่าน้องมันจะมีความคิดได้ถึงขนาดนี้  ทั้งๆ ที่มันเองก็ชอบกันต์เหมือนกับผม  แต่กลับเลือกที่จะหลีกทางให้โดยไม่มีข้อแม้อะไรเลย

ขอบคุณนะ....

บางทีหลังจากนี้  ผมอาจจะต้องมองมันใหม่แล้วล่ะครับ

“ แต่ว่า...  ถ้าพี่ทิ้งกันต์เมื่อไหร่แล้วล่ะก็...  ผมบอกไว้เลยนะว่า  ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กันต์มารับรักผม  และพี่ก็จะไม่มีทางได้คืนไปอีกครั้งอย่างแน่นอน “

อ่าวไอ้นี่....  พึ่งชมอยู่หยกๆ

“ พี่รู้... แต่เราไม่ต้องเป็นห่วงหรอก  เพราะว่ามันจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน... “

“ ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นนะพี่  และก็อีกเรื่องที่พี่ควรรู้ไว้นะ... “

ผมร่นคิ้วมองไปเป็นเชิงถามขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน

“ กันต์...  มันยังรักพี่อยู่นะ... “

“ เรื่องนั้นพี่รู้.... “

“ ถ้างั้นพี่ก็... อย่าทำพลาดอีกล่ะครับ “

ผมยิ้มรับไป  ก่อนจะจบเควสและได้รับข้อมูลสำคัญมาอีกอย่างหนึ่งจาก NPC  ซึ่งก็คือ...

“ กันต์เขากลับบ้านที่กระบี่อะพี่...  เรื่องนี้ไม่มีใครรู้  แม้กระทั่งเรย์ “

“ ขอบใจมากนะ...  ที่เหลือหลังจากนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง  รวมทั้งเรื่องความสุขต่อไปจากนี้ของกันต์มันด้วย  เราไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้วล่ะ.... “


ผมจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม  รู้สึกราวกับว่ามันจะไม่มีอุปสรรคอะไรอีกต่อไปแล้ว  และหลังจากนี้...  สิ่งที่ผมจะต้องทำก็เพียงแค่...การเผชิญหน้า.....  ก็เท่านั้นเอง

แต่ก่อนหน้านั้น  ผมคงยังไม่สามารถไปหากันต์มันได้เลย  เพราะจะต้องไปเคลียร์งานที่ได้รับมอบหมายเอาไว้ให้เสร็จเสียก่อน  แล้วจากนั้น.... ค่อยขออนุมัติวันหยุดยาวจากพ่อเพื่อไปง้อว่าที่แฟนในอนาคตต่อไปก็แล้วกัน

ว่าแล้วก็รีบเข้าออฟฟิตไปเคลียร์งานเลยดีกว่า....   




....................................




กันต์’s  Part


ช่วงค่ำที่กระบี่...

ผมกำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางเข้ามายังถนนของหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดสักเท่าไหร่  พร้อมทั้งกำลังมองและซึมซับกับบรรยากาศเดิมๆ ที่คุ้นเคย  และถึงแม้ว่าตอนนี้ตามรายทางจะมืดไปบ้าง  แต่ก็ยังพอมีแสงไฟจากบ้านเรือนอยู่เป็นระยะๆ ให้ได้รู้สึกอุ่นใจ

หลังจากที่เดินเข้ามาได้ไม่นาน  ผมก็เห็นบ้านของผมซึ่งตั้งอยู่ตรงสุดซอยติดกับชายหาดที่ห่างออกไปไม่ไกลมาก  เพียงแต่...  ทั้งๆ ที่มาถึงบ้านแล้วแท้ๆ  แต่ผมกลับรู้สึกเหงากว่าเดิมขึ้นมาเสียอย่างนั้น  อาจจะเป็นเพราะจากนี้ไป  ทุกอย่าง.... มันคงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว  เพราะว่าตอนนี้..  ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ตัวผมคนเดียวเท่านั้น....  แต่ถึงกระนั้น  มันก็เป็นที่เดียวที่ผมจะสามารถกลับมาพักหัวใจได้เสมออยู่ดี  และจากนี้ไป...  ผมก็ต้องอยู่กับมันให้ได้  เพื่อตัวของผมเองและคนที่จากไป.....


“ อ้าว!!  กันต์ใช่มั้ยลูก “

ไม่ทันที่จะเดินมาถึงหน้าบ้าน  คุณป้าที่อยู่ข้างบ้านแกก็ทักขึ้นมาทันทีพร้อมกับท่าทางตื่นเต้นที่ไม่ได้เจอผมมาเสียนาน 

ป้าภาแกเป็นคนใจดีมากครับ  แกเปิดโฮมสเตย์เล็กๆในบ้าน  ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศแนวนี้เข้ามาใช้บริการที่นี่อยู่บ่อยๆ

“ หวัดดีครับป้าภา  ไม่ได้เจอกันนานเลย  คิดถึงป้าจังครับ...  ป้าภาสบายดีนะครับ “

“ ไม่ต้องมาทำปากหวานเลย  ไปอยู่กรุงเทพฯ มาซะตั้งนาน  ไม่ส่งข่าวคราวมาให้ป้ารู้บ้างเลย “

“ โอ๋.... ป้าภาก็..  กันต์ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยอะ  เข้าปีหนึ่งที่นั่นทั้งเรียนทั้งกิจกรรมมากันให้เพียบเลย  ไหนจะเรื่องการปรับตัวอีก  มีแต่ปัญหาเข้ามารอบด้านเลย “

“ แล้วนี่เราสบายดีมั้ย  ดูผอมลงไปนะ “

ป้าภาถามมาด้วยความเป็นห่วงครับ  ผมเลยอมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะตอบมาเพื่อให้แกสบายใจ

“ สบายดีครับ  ป้าภาไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ  ยังไงกันต์ก็ต้องอยู่ได้ครับ “

“ แต่อย่าลืมนะว่าที่นี่เรายังมีป้าอยู่ทั้งคน  ป้าน่ะรักเราเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึงเลยนะ “

“ ผมรู้ครับป้า  ขอบคุณป้าภามากๆ นะครับ “

“ แล้วนี่ปิดเทอมแล้วใช่มั้ย “

“ ครับ  กันต์เลยกลับมาพักผ่อนที่บ้านอะครับ  ห่วงบ้านด้วย  แล้วก็...คิดถึงป้าอีกต่างหาก “

ผมยิ้มกว้างบอกไปให้แกชื่นใจครับ  ซึ่งก็ดูจะได้ผล  เมื่อดูจากรอยยิ้มที่เปื้อนหน้าในตอนนี้

“ แล้วนี่กลับมาเหนื่อยๆ กินข้าวกินปลามาแล้วรึยัง “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ยิ้มแหยๆ  พร้อมกับส่ายหน้าส่งให้ไปแทนคำตอบ

“ นั้นก็ดีเลย  เดี๋ยวมากินข้าวด้วยกันกับป้านะ  เจ้าฟลุกมันต้องดีใจแน่ๆ  พอเราไม่อยู่ก็บ่นคิดถึงแต่เราอยู่ตลอดเลย “

“ เอ่อ.. ได้ครับ  นั้นเดี๋ยวกันต์เข้าบ้านไปเก็บของก่อนนะครับ  แล้วเดี๋ยวจะมาขอฝากท้องด้วยคน “

“ ได้เลยจ้า  แล้วป้าจะรอนะ “

ลากับป้าภาเสร็จผมก็เดินเลยมายังหน้าบ้านของผมซึ่งอยู่หลังถัดไปและยังเป็นหลังสุดท้ายของซอยด้วย  ซึ่งมีพื้นที่ด้านข้างเป็นทุ่งหญ้าเตี้ยๆ และถัดไปหน่อยก็จะเป็นพื้นทรายของชายหาดทอดยาวออกไป  ซึ่งทำให้บ้านผมได้รับลมเย็นๆ จากทะเลอยู่ตลอดเวลา

คิดถึงจังเลยครับ...  ไม่ได้กลับมาซะนานเลย  แม้จะอดใจหายไม่ได้ที่หลังจากนี้ไป  ที่นี่....จะเหลือเพียงแค่ผมอยู่เพียงลำพัง  แต่เพราะว่าเป็นบ้านของเรา  มันจึงอุ่นใจเสมอที่ได้กลับมา

ผมมองไปยังรอบๆ บริเวณบ้านทันทีที่ก้าวพ้นรั้วเข้ามา  ท่าทางพรุ่งนี้คงต้องเหนื่อยหนักกันแล้วล่ะครับ  ไม่ว่าจะเป็นหญ้าที่รกขึ้นมาก  ใบไม้ที่เกลื่อนกราดไปทั่วบริเวณ  และการทำสะอาดบ้านครั้งใหญ่

ผมเอากระเป๋าเข้ามาไว้ในห้องและเปิดไฟในบ้านทิ้งไว้  จากนั้นก็รีบออกไปหาป้าภาทันทีครับ  ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องคอยนาน


“ พี่กันต์ !! “

เสียงชายหนุ่มวัย 15 ปีดังขึ้นทันทีด้วยความดีใจเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาภายในบ้าน  ก่อนจะกระโดดขึ้นมาจากโซฟาแล้วโผเข้ามากอดผมราวกับเด็กน้อยเสียอย่างนั้น  ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็ตัวสูงพอๆ กับผมแล้วแท้ๆ

“ พอเลยเจ้าฟลุก  พี่เขามาเหนื่อยๆ  โตแล้วแท้ๆ ทำเป็นเด็กประถมไปได้ “

ป้าภาที่กำลังเดินถือจานกับข้าวเข้ามาถึงก็ดุขึ้นทันที   ก่อนที่เจ้าตัวจะคลายกอดผมออกและหันไปทำหน้ามุ่ยให้กับยายของตัวเอง

“ ยายอะ...  ก็คนมันคิดถึงนี่ “

“ เป็นไงบ้างห๊ะเรา  ดื้อกับยายปะเนี่ย “

“ ไม่เลยพี่กันต์  ผมอะเป็นหลานที่ดีอยู่แล้ว  ช่วยงานยายตลอดเลยด้วย “

“ เหรอจ๊ะ....  แหม...  แต่ต้องให้ยายบ่นตลอดเลยนะพ่อคู้น... “

ถึงฟลุกจะทำหน้ามุ่ย  แต่ไม่นานก็ยอมหัวเราะออกมาง่ายๆ  น้องเขาเป็นเด็กน่ารักครับ  แถมยังติดผมงอมแงมเลย  แต่เพราะพ่อและแม่ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ก็เลยได้ป้าภาซึ่งเป็นยายแท้ๆ เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก  น้องเขาเลยรักป้าภามากถึงมากที่สุด  แม้ว่าการแสดงออกมันจะไม่มากตามประสาของผู้ชายก็เถอะ

ผมทานมื้อค่ำพร้อมกับการสนาทนาและเสียงหัวเราะยืดยาวจนเกือบจะ 3 ทุ่มเลยล่ะครับกว่าจะได้กลับเข้าบ้าน  ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ  แต่ไม่ว่ายังไง.... มันก็ยังอบอุ่นไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเลยล่ะครับ  กับการได้อยู่กับคนที่เรารักแบบนี้....

เหนื่อยมาทั้งวันเลยครับกับการเดินทางในวันนี้  พอหัวถึงหมอนผมก็หลับเป็นตายไปเลยทีเดียว  ขอพักก่อนก็แล้วกันครับสำหรับวันนี้ 

ฝันดีนะครับ.....


...............................


เช้าวันต่อมา....

วันนี้ตลอดทั้งวันผมใช้เวลาอยู่กับการทำความสะอาดบ้าน  โดยมีฟลุกเข้ามาช่วยผมทำด้วยอีกแรง  แถมยังมีอาหารอร่อยๆ จากป้าภาที่ทำมาให้ทานสำหรับมื้อกลางวันอีกด้วย  ส่วนมื้อเย็นผมก็ยังคงไปทานข้าวกับป้าภาเหมือนเดิมจากการเร้าหรือของฟลุก  ซึ่งป้าภาเขาก็บอกนะครับว่าช่วงที่ผมกลับมาอยู่บ้าน  เขาก็อยากจะให้ผมมาทานข้าวด้วยทุกเย็นเลย  แต่เพราะความเกรงใจส่วนหนึ่งและการอยากสัมผัสความรู้สึกเดิมๆ ในบ้านของตัวเอง  มันเลยทำให้ผมบอกไปแค่ว่าจะพยายามมาทานด้วยบ่อยๆ เพียงแค่นั้น

ถัดมาอีกวัน... 

วันนี้ผมก็ยังคงจัดการกับบ้านของตัวเองอยู่เหมือนเดิม  เพราะการที่ไม่มีคนอยู่และไม่ได้กลับมานาน  มันเลยมีอะไรให้ผมต้องทำอีกมาก  ซึ่งวันนี้ผมก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับบริเวณภายนอกตัวบ้าน  และไปเสร็จเอาในช่วงเย็น

ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ที่ชิงช้าไม้ข้างบ้าน  ซึ่งสามารถมองออกไปยังทะเลเบื้องหน้าได้  ชิงช้าที่พ่อทำให้และผมก็มักจะมานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ที่นี่บ่อยๆ  เรียกได้ว่าเป็นมุมโปรดที่ผมชอบที่สุดของบ้านเลยก็ว่าได้

ท้องฟ้ายามอาทิตย์อัสดงแบบนี้  การอยู่เพียงลำพังและนั่งมองทะเลที่กำลังจะกลายเป็นสีดำจากการลับขอบฟ้าของดวงอาทิตย์  มันก็ทำให้ใจอดที่จะรู้สึกเหงาขึ้นมาไม่ได้เลยนะครับ  คิดถึงพ่อ  คิดถึงแม่...  และยังคิดถึง...

ใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ...  เขาจะ...  ตามหาผมอยู่มั้ยนะ....

ตอนนี้ถ้าถามว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่เขาเป็นยังไงบ้าง  บอกได้เลยครับว่าทุกอย่างมันยังคงเหมือนเดิม

แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่เขาจะยังรู้สึกเหมือนเดิมกับผมอยู่รึป่าวนะ...

หลังจากที่สอบเสร็จวันสุดท้าย  ผมก็ได้รู้ความจริงอยู่สองอย่าง  ซึ่งก็คือ..  การหนักแน่นในความรู้สึกระหว่างกันจากพี่ซี  และ  ความจริงที่ว่าคนข้างห้องของผมนั้นไม่ใช่พี่นิก...  ซึ่งคงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก..... พี่กิจ…

ถามว่าผมโกรธพี่เขามั้ย... 

ก็ถ้าเป็นก่อนหน้าที่จะได้คุยกับพี่ซีก็อาจจะมีบ้าง  แต่ว่าตอนนี้มันก็ไม่ถึงขั้นโกรธอะไรขนาดนั้นหรอกครับ  แต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีนะครับกับการถูกหลอกไปแบบนั้น...  ผมก็เลยต้องเอาคืนโดยการทำทีว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับไอ้ธันมัน  เผื่อว่าบางที...  ถ้าพี่เขายังคิดอะไรกับผมอยู่เหมือนเดิมแล้วล่ะก็...  จะได้รู้สึกบ้างอะไรบ้างก็เท่านั้นเอง...

อีกอย่าง...  ผมเองก็อยากจะรู้ว่า  พี่เขายังสนใจผมอยู่บ้างมั้ย...

แต่ดูสิครับ  เงียบหายไปเลย  ไม่คิดจะตามหากันบ้างเลยคนเรา

ชิส์...  ไม่มาก็ไม่ต้องมาเลยนะ...  ไอ้พี่บ้า



.....................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 49 แฮ่.... มาละคร้าบ )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 10-09-2018 09:39:51
วันต่อมา... 

เมื่อไม่มีอะไรที่บ้านให้ทำแล้ว  ว่างๆ ผมก็เลยแวะมาช่วยป้าภาที่โฮมสเตย์ของแกครับ  และแม้ว่าจะเป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ที่มีห้องพักเพียงแค่ 3 ห้อง  แต่เชื่อมั้ยครับว่ามันเต็มแทบจะทุกวันเลย  แถมช่วงไฮซีซั่นนี่ไม่ต้องพูดถึง  เพราะถึงกับต้องจองกันล่วงหน้าเลยทีเดียว

“ ไปนั่งดูทีวีก็ได้นะลูก  ป้าทำเองได้ “

ป้าภาบอกมา  ขณะที่ผมจะอาสาเอามื้อเที่ยงไปส่งให้แขกที่พึ่งจะมาพักใหม่เมื่อเช้านี้ครับ

“ ไม่เป็นไรครับป้าภา  กันต์เบื่ออะ  อีกอย่าง...  เมื่อก่อนกันต์ก็มาช่วยป้าอยู่บ่อยๆ  ไม่เห็นจะเป็นไรเลย “

“ ก็ได้จ่ะ  นั้นป้าฝากด้วยนะ “

ป้าภายิ้มส่งมาให้  จากนั้นผมก็ยกถาดอาหารที่เจ้าของห้องสั่งไปส่งให้ครับ

“ อย่างกับดาราเลยพี่  แขกคนนี้ “

ฟลุกเข้ามากระซิบบอกผมที่ข้างหูอย่างตื่นเต้น  ซึ่งก็น่าจะจริงครับ  ไม่อย่างนั้นแมนๆ อย่างฟลุกคงไม่ออกปากชมขนาดนี้ได้หรอก

ผมเคาะประตูห้องก่อนจะแจ้งถึงบริการที่มาส่ง  ซึ่งไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก....


เชี่ย....!

หล่อจริงครับ....  ไม่บอกผมก็นึกว่าเป็นดาราเหมือนอย่างฟลุกว่าเลย

เพียงแต่...  ลึกๆ แล้ว  ผมกลับอดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กๆ เสียไม่ได้  เพราะอดคิดไม่ได้ว่า  บางทีพี่กิจอาจจะตามผมมาบ้างก็ได้

ช่วงบ่ายผมกลับไปนอนอืดที่ระเบียงไม้หลังบ้าน  ซึ่งสามารถมองออกไปยังชายหาดและทะเลสุดลูกหูลูกตาได้ครับ  ก่อนจะหลับไปโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับสายลมอุ่นๆ จากทะเลที่พัดเข้ามากระทบร่างในยามบ่าย

ผมตื่นมาอีกทีก็เย็นแล้วครับ  ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ มาเช็คข้อความไลน์  เพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ ของพวกเพื่อนๆ

ตอนนี้ไอ้ธันมันขึ้นดอยที่เชียงใหม่กับเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายของมันไปแล้วครับ  เห็นภาพที่มันส่งมาให้ดูในกลุ่มไลน์แล้วก็อยากไปบ้างจัง....  ส่วนไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์ก็ใช้ชีวิตนั่งๆ นอนๆ ไปวันๆไม่ต่างอะไรไปจากผม  แพรเองก็พึ่งไปดูหนังกับไอ้เรย์มาเมื่อบ่ายนี้..... 

ชิส์  เหม็นความรัก…  หรือแปลอีกนัยต์นึงก็คือ...  อิจฉาเขานั่นแหละครับ


............................


วันต่อมาผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านป้าภา  โดยเฉพาะเวลาเข้าครัว  ซึ่งมันทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ๆ ในการทำอาหารมาอีกเพียบ  ก็อย่างที่บอกอะครับว่าการทำอาหารมันเป็นงานอดิเรกที่ผมชอบและพยายามฝึกพัฒนาฝีมือตัวเองเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ  ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีร้านอาหารเล็กๆ น่ารักๆ เป็นของตัวเองสักร้าน  แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องฝึกฝีมือและเก็บเงินเอาไว้สักก้อนก่อนล่ะครับ

ค่ำนี้ผมมีนัดกินหมูกระทะกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม  ซึ่งวันนี้ไอ้เรย์มันก็กลับมาถึงที่นี่แล้วด้วย  และจะว่าไป  ผมก็ไม่ได้เจอกับเพื่อนเก่ามานานแล้วล่ะครับตั้งแต่ที่ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ  จะมีก็แต่ไอ้เรย์นั้นแหละครับที่ผมได้เจอตลอด ( จนเบื่อขี้หน้ามันไปละ )


ที่ร้านหมูกระทะ

“ กูไม่เชื่อเด็ดขาด !!  หน้าอย่างไอ้กันต์เนี่ยนะจะไม่มีแฟน  แต่หน้าเหี้ยๆ อย่างมึงเสือกมีแฟนเป็นดาวมหาลัยฯ อย่ามาอำกูซะให้ยาก “

ไอ้โอ๊ตครับ  โวยวายทันทีเมื่อฟังเรื่องเล่าจากไอ้เรย์จบ

“ ทำไมวะ  หน้าอย่างกูทำไม !  อย่างมึงอะมีตาหามีแววไม่..  ไม่มีทางมองเห็นของดีหรอกเว้ย “

ไอ้เรย์ไม่ยอมแพ้ครับเมื่อโดนดูถูกไปแบบนั้น  มันเลยโพร่งสวนขึ้นมาแทบจะในทันที

“ จริงเหรอวะไอ้กันต์ “

ไอ้โอ๊ตหันมาถามผมเพื่อขอคำยืนยัน  ซึ่งผมก็ได้แต่ทำหน้าเบื่อๆ แกมอิจฉาก่อนจะพยักหน้าและขานรับไปในลำคอ

ก็มันน่าอิจฉาจริงๆ นี่ครับ  คืออารมณ์ผมตอนนี้บอกเลยนะครับว่า  ใครที่มีความรัก...  ผมจะหมันไส้มันทุกคนนั่นแหละ  ชิส์...

“ แนนๆ ทางนี้ !! “

เสียงไอ้โอ๊ตตระโกนเรียกเพื่อนสาวในกลุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อม ‘ ปุ้ย ‘ คู่หูที่พากันไปเรียนต่อถึงที่เชียงใหม่ครับ

ทีนี้ก็ครบกลุ่ม 6 คนของพวกเราแล้วล่ะครับ  ซึ่งประกอบไปด้วย  ผม ไอ้เรย์ ไอ้โอ๊ต ไอ้น๊อต แนนและปุ้ย  จากนั้นเรื่องเล่าและหัวข้อสนทนาก็พรั่งพรูออกมามากมายอย่างไม่ขาดสาย  ราวกับว่าพวกเราไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปีเสียอย่างนั้น  แต่ก็สนุกดีนะครับ  มันทำให้ผมคิดถึงชีวิตวัยเรียนช่วงมัธยมปลายเมื่อก่อนนี้เลย

“ เออใช่  เมื่อกี้ตอนเข้ามาฉันเจอพี่คนนึงอะ  หล่อม๊าก... !  เห็นแล้วฉันอยากเลิกกับแฟนมาคบด้วยเลย “

ปุ้ยเล่ามาถึงเหตุการณ์หน้าร้านหมูกระทะ  ก่อนจะถูกคู่หูเบรกขึ้นมาแทบจะหัวทิ่มกันเลยทีเดียว

“ สวยเลือกได้นะมึง  เดี๋ยวกูจะไปฟ้องโอม “

“ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ...  ฉันแค่พูดเล่น...   ห้ามเรื่องนี้รู้ไปถึงหูโอมเด็ดขาด...  ไม่อย่างนั้น... “

ปุ้ยกำชับขึ้นมาทันที  ถึงแฟนคนปัจจุบันที่พึ่งเจอกันที่เชียงใหม่

“ หูผึ่งเลยนะมึง.... คิดว่าเป็นพี่กิจอยู่เหรอวะ “

ไอ้เรย์เข้ามากระซิบที่ข้างหูผมครับ  ก่อนที่ผมจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อปฏิเสธ

“ แสนรู้ดีนะมึง..  ใครจะไปคิดถึงกันล่ะวะ “

แล้วมันก็พยักหน้ารับอย่างไม่เชื่อในคำพูดผม  แต่จะว่าไปมันก็จริงนะครับ  ที่ผมแอบอดคิดไม่ได้ว่าบางทีอาจจะเป็นพี่เขาก็ได้  ทั้งๆ ที่ผมเองเนี่ยแหละ  ที่เป็นคนสับขาหลอกให้พี่เขาเข้าใจผิดคิดว่าผมไปเที่ยวกับไอ้ธันมัน  ก็แค่...อยากเห็นความพยายามของพี่เขาบ้างก็เท่านั้นเอง  แต่นี่ก็หลายวันแล้วนะ...  ไม่เห็นพี่เขาจะตามมาเลย  ใช่สิ... ผมมันไม่ได้สำคัญอะไรนี่...
 
ว่าแต่...  แล้วนี่ผมจะมาคิดเยอะวุ่นวายไปทำไมเนี่ย  ไม่มาก็อย่ามานะ  ไอ้พี่บ้า!!!


“ นั่นไงพวกมึง  พ่อเทพบุตรของไอ้ปุ้ยมัน “

แนนพยักพเยิดไปยังเป้าหมาย  และก็เป็นผมคนแรกเลยครับที่หัวขวับไปมองตามสายตาอย่างรวดเร็ว....


เฮ้อ....

มันจะไปใช่ได้ยังไง....  พี่เขาคงไม่มาที่นี่หรอกครับ  เผลอๆ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกลับมาที่บ้านแล้วแบบนี้

“ ผิดหวังล่ะสิมึง “

ไอ้เรย์ยังคงแสนรู้ตามเคย

“ ผิดหวังพ่องมึงดิ  กูก็แค่อยากเห็นหน้าคนที่แนนมันกรี๊ดก็แค่นั้น “

“ ให้มันจริงเห๊อะ... “

“ เออ!!! “



ออกจากร้านหมูกระทะมาก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้วล่ะครับ  ไอ้เรย์มันอาสาจะไปส่งผมที่บ้านตามเคย  มันเดินไปเอารถที่ลานจอดรถ  ส่วนผมก็แวะเข้าไปซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ ไว้สำหรับมื้อเช้าในวันพรุ่งนี้ที่ร้านสะดวกซื้อ  เพราะที่บ้านไม่มีอะไรในตู้เย็นเลยล่ะครับ

พอออกจากร้านสะดวกซื้อ  ที่อีกฝั่งของถนนก็มีไอ้เรย์กับกลุ่มเพื่อนๆ ผมที่กำลังยืนคุยกันอยู่และรอผม  ก่อนที่เราจะพากันแยกย้ายกลับบ้านไป

“ เร็วเลยมึง!!  เดี๋ยวกูไม่ทันคลอไปคุยแพร “

ไอ้เรย์มันตระโกนเร่งผมจากอีกฝั่งของถนน  เมื่อเห็นว่าผมออกมาจากร้านสะดวกซื้อแล้วในตอนนี้

“ เออ!!  แต่เวอร์ไปแล้วนะมึงอะ  เดี๋ยวกูจะยุให้แพรเลิกกับมึงเลยคอยดู... “

หมันไส้จริงๆ เลยคร้าบ   ไอ้พวกมีความรักเนี่ย....  อย่าให้ผมได้มีบ้างล่ะนะ

ไม่ทันที่จะคิดไปได้ไกลกว่านี้  ผมที่กำลังเดินเหม่อมองไปข้างหน้าเพียงกลุ่มเพื่อนผม  จนลืมดูรถที่กำลังขับมาตามทาง  แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที  ก็เมื่อเห็นสีหน้าแตกตื่นของพวกเพื่อนๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม  พร้อมกับเสียงแตรรถและการตระโกนกลับมาบอกให้ผมระวัง...

เมื่อสายตาปะทะเข้ากับแสงไฟรถจักรยานยนต์ที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา  มันก็ดูจะสายเกินไปเสียแล้วที่ผมจะสามารถหลบมันได้ทัน
และแล้วก็...


“ อยากตายรึไงวะ !! “


เสียงเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวตระโกนส่งมาให้  ก่อนจะขับเลยหน้าผมห่างออกไป

มันแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ ที่ผมเกือบจะได้รับอันตรายอย่างถึงที่สุด  แม้ว่าจะตกใจและทำอะไรไม่ถูกที่รอดมาได้จากการถูกใครบางคนกระชากแขนกลับเข้ามาที่ริมฟุตบาทและปะทะเข้ากับร่างสูงตรงหน้า  ผมก็ถูกสวมกอดเอาไว้ด้วยกลิ่นกายที่คุ้นเคย...  ถึงจะยังไม่ทันเงยหน้าขึ้นไปมองว่าใคร  แต่ผมก็รู้สึกได้ครับว่ามันคือคนเดียวกันกับที่ผมรอคอยมาโดยตลอด....


“ อย่าทำให้พี่ต้องเป็นห่วงตลอดสิ “


ผมที่กำลังอยู่ภายในอ้อมกอดอบอุ่นเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมที่คุ้นเคยด้วยหัวใจที่เต้นแรงกว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อีก  น้ำเสียง  สัมผัส  และกลิ่นกายที่ผสมกับกลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่ผมคุ้นเคย  มันทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากตาค้างและเผยอปากออกมาเล็กน้อย

จากที่เลิกคาดหวังไปแล้วแท้ๆ...  แต่กลับมาเจอจนได้...  นี่พี่เขาตามผมมาจริงๆ เหรอเนี่ย....


“ พี่กิจ...  นี่พี่... มาได้ไงอะ... “

ผมพูดจบพี่เขาก็ยิ้มละมุนให้พร้อมกับแววตาที่อ่อนโยน  ก่อนจะพูดขึ้น


“ พี่ก็มาเที่ยวสิ...  ทำไม...?  หรือเราคิดว่า... “


หมดกัน....  ความประทับใจแรกที่เจอ... 

ใช่สิ... คนอย่างคุณชายคงไม่ลดตัวลงมาตามหาคนอย่างผมหรอก  ไม่น่าหลงคิดเข้าข้างตัวเองเลยไอ้กันต์เอ้ย.... 

คิดได้อย่างนั้นผมก็เริ่มออกแรงดันตัวออกห่าง  ซึ่งพี่เขาก็ยอมคลายวงแขนออกมาแต่โดยดี

ผมทำตาดุๆ มองตอบไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่  แต่แทนที่พี่เขาจะรู้สึกอะไร  กลับยิ้มกริ่มเล็กๆ ที่มุมปากขึ้นมาเสียอย่างนั้น...

มันน่าขำตรงไหนเนี่ย!!!   คอยดูนะ...  ถ้าจะมาง้อแล้วล่ะก็....  ฝันไปเถอะ...!

ผมหันหลังให้และทำท่าว่าจะเดินข้ามถนนไปหากลุ่มพวกเพื่อนๆ ที่ตอนนี้ต่างจ้องมาทางผมกันเป็นตาเดียวอย่างตกตะลึง  และไม่ทันที่ผมจะได้ข้ามถนนไปก็ถูกมือแข็งแรงคว้าเอาไว้เสียก่อน  ผมหันขวับกลับไปมองในทันที  แต่ก็พบเพียงสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของพี่กิจเพียงเท่านั้น

“ ให้พี่ไปส่งที่บ้านเอามั้ย “

“ ไม่อะ...  จะกลับกับไอ้เรย์ “

“ แน่ใจนะ... “

“ อือ! “

แล้วทำมาเป็นขำในลำคอด้วยนะ

“ ไอ้กันต์...  นั้นกูกลับก่อนนะเว้ย!! “

เสียงไอ้เรย์มันตระโกนข้ามมาครับ 

“ กลับก่อนมึงตาย...  เชี่ยเรย์ “

“ ถ้ากูไม่กลับ... กูก็ตายเหมือนกันโว้ย!!  ไอ้สัด!! “

ได้ยินมันสวนกลับมาอย่างนั้นผมเลยหันกลับไปมองยังคนข้างหลังพลางร่นคิ้วและทำหน้าดุใส่ไปทันที  ทว่าสีหน้าที่ตอบกลับมามีเพียงหน้าระรื่นพร้อมรอยยิ้มส่งมาให้เพียงเท่านั้น  และไม่ทันที่ผมจะได้คุยอะไรกับไอ้เรย์ต่อ  มันก็ชิ่งขับรถหนีผมไปแล้วล่ะครับ

ไอ้เพื่อนเลว !!!

“ นั้นเอาเป็นว่า... เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ “

น้ำเสียงสบายๆ ว่ามา  เมื่อเห็นว่าผมดูจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้

“ ม้าย!!  ผมกลับเองได้ “

“ แต่ดึกแล้วน้า....  ไม่กลัวโดนฉุดเหรอ “

“ ถิ่นผม..!  ไม่กลัวอยู่แล้ว... “

“ เฮ้อ...  ปะๆ  ดื้อนะเราอะ “

และไม่รอให้ผมตอบอะไร  พี่กิจก็ลากผมไปที่รถซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้  ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...  ผมก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยไม่พูดไม่จาอะไรไปตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน

อยู่ๆ ก็มา  พอมาก็กวนตีน  ไอ้หน้าสลดๆ เหมือนตอนที่อยู่กรุงเทพฯ มันหายไปไหนหมดแล้วว้า!!! 

คนบ้าอะไรไม่เจอกันหน่อยเดียวก็ลืมแล้ว...  นี่คงไม่คิดจะง้อกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย...  ได้.....  นั้นก็ไม่ต้องคุยกันอีก...  ไอ้....


เฮ้อ....


ผมลงจากรถมาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดทันทีที่รถหรูเข้ามาจอดเทียบยังหน้าบ้าน

ว่าแต่...  พี่เขารู้จักบ้านผมได้ไงอะ  เพราะจะว่าไป... ตลอดทางผมก็ไม่ได้ตอบอะไรที่พี่เขาถามมาเลยนี่นา  หรือบางทีอาจจะเป็นไอ้เรย์ก็ได้ที่เป็นคนให้ข้อมูล....  ร่วมมือกันดีนักใช่มั้ยพวกนี้....

“ ฝันดีนะคร้าบ  แล้วอย่างลืมฝันถึงพี่ด้วยน้า.... “

“ ไม่!!  ไอ้....  โอ้ย!!! “

สติแตกเลยครับ  ไม่คิดว่าจะมาด้วยท่าทีกวนๆ แบบนี้  อยากจะทำ อยากจะพูดอะไร ก็ทำตามใจตัวเองเหมือนตอนช่วงแรกๆ ที่เราเจอกันเสียอย่างนั้น  นี่คงจะลืมไปแล้วล่ะมั้งครับ  ว่าตัวเองทำอะไรเอาไว้กับผมบ้าง.... 

แม่งเอ้ย!!!     ผิดคลาดทุกอย่าง !!!!




TBC.


--------------------------------------------------------------

ขอโทษนะคร้าบที่มาช้าอีกแล้ว(บ่อยเลยแฮ่...)

อยากบอกว่าเหนื่อยมากครับ  ใช้ร่างกายหนักกว่าตอนสุขภาพดีซะอีกครับ  3 อาทิตย์แล้วผมยังไม่ได้หยุดงานเลย...

วันนี้พึ่งได้พัก  เลยรีบเอามาลงต่อเลยครับ  อย่าพึ่งเบื่อกันไปน้าคร้าบทุกๆคน

และก็ขอบคุณสำหรับทุกๆความห่วงใยด้วยนะครับ  ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงเหมือนกันนะคร้าบผม

ส่วนตอนต่อไป  ผมจะลงให้ได้ภายในอาทิตย์นี้ครับ  ฮึบๆ  วันนี้หยุดเดี๋ยวจะรีบปั่นทิ้งเอาไว้ก่อน  แฮ่ๆ :katai4:

 :pig4: :pig4: :pig4:

Warin  ขอบคุณนะครับ  แนะนำปุ๊บแก้ไขปั๊บเลยครับ  ถ้าเจออีกรบกวนแนะนำผมด้วยนะครับ ขอบคุงง้าบ
DrSlump  ขอบคุงเหมือนกานคร้าบ
Iceman555  ช่ายมะ  แต่เดี๋ยวหลักก็หวานละครับ แฮ่...
Areenart1984  จริงๆไรท์ก็อยากแรงกว่านี้เหมือนกันครับ ><
Nus@nT@r@  ช่ายแล้ว...  ตอนนี้รู้ละครับว่าคนข้างห้องคือใคร
O-RA DUNGPRANG  ขอบคุณมากครับ  ช่วงนี้มะได้พักเลยครับเลยมะได้มาลงต่อ  แต่ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง  ยังไงอย่าพึ่งเบื่อไปน้าคร้าบ
Maxtorpis  มาแว้วงับ  ขอโทษทีนะครับที่มาช้า  แต่ไม่มีเทแน่นอนคร้าบผม  แหะๆ   
Leenboy  ไม่น่าจะเกิน 4 ตอนครับรับรองได้ชัวร์  ไรท์ฟันธงเบย
Patsakon  ขอบคุณนะครับ  และก็ขอโทษด้วยที่ตัวเองงี่เง่าไปพักนึง  จนลืมคนอ่านที่สำคัญไป  แต่กลับมาละครับผม
Yowyow  ขอบคุงง้าบผม
Sky  รับทราบคร้าบผม  ยังไงฝากงานเขียนง่อยๆของผมด้วยน้า  มีอะไรก็แนะนำได้ตลอดเลยครับ  ขอบคุงคร้าบบบ

^__________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-09-2018 11:05:04
ได้เวลาหวานละ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-09-2018 13:12:09
เล่นตัวให้เต็มที่เลย เอาให้หนัก   :laugh:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-09-2018 14:32:19
งอนกันแบบนี้เขาว่าลูกจะดกนะ5555

รักษาสุขภาพด้วยนะไรท์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 10-09-2018 19:25:26
ตามมาถึงบ้านแล้ว ตามมาง้อ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-09-2018 19:28:39
 :pig4: :pig4: :pig4:

หนีเขามา  สับขาหลอกเขา  แอบคิดถึงเขา  คาดหวังให้เขาตามมา

แหม่...ร้ายนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-09-2018 21:35:46
ดีกันไวๆนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 10-09-2018 22:12:09
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 10-09-2018 22:50:25
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: P_Methayot ที่ 11-09-2018 07:27:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: Kuayyai ที่ 11-09-2018 22:48:18
อ่านจนถึงตอนปัจจุบันแล้ว
ก่อนอื่นดีใจมากๆ ที่คนแต่งกลับมาแต่งและลงต่อ
เพื่อนๆในนี้เป็นกำลังใจให้เยอะนะครับ

ซึ้งมาก สงสารพี่กิจด้วย ตอนฉากที่ติดฝนอ่ะ
ก็เข้าใจน้องมันแหละ ที่คิดมาก
แอบชอบตอนที่อยู่ข้างห้องกันแล้วคุยกัน

เอาจริงๆ ทางที่ดีหันมาคุยกันตรงๆเนอะ
ในเมื่อทั้งสองใจตรงกัน

ล่าสุด อ่านแล้วยิ้มมาก คนน้องยังงอลอยู่
คืนดีกันไวๆนะ 
รอติดตามตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-09-2018 22:58:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 07-10-2018 20:02:40
Chapter 51



กันต์ ‘s Part



ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะนอนไม่ค่อยหลับสักเท่าไหร่  แต่ผมก็ยังคงตื่นเช้าขึ้นมาอยู่ดี  คือมันเคยชินแล้วอะครับ  จากการโดนปลุกมาออกกำลังกายตอนเช้าอยู่บ่อยๆ  แต่ไม่ว่าจะยังไง  ตอนนี้ผมก็ออกมาเดินเล่นรับลมยามเช้าที่ชายหาดแล้วล่ะครับ

ไม่รู้ว่าที่พี่เขาบอกเมื่อคืนมันจะจริงรึเปล่านะ  ที่ว่าพี่เขาแค่มาเที่ยวเฉยๆ เท่านั้น  เพราะผมก็ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองมากเกินไปเหมือนกัน...  แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้ก็คือ  เรื่องนี้ไอ้เรย์มันต้องรู้เรื่องอย่างแน่นอน  เพราะไม่อย่างนั้น....  พี่กิจคงรู้จักบ้านผมไม่ได้หรอก

เดี๋ยวสายๆ ค่อยไปบุกถึงบ้านมันเพื่อเค้นเอาความจริงก็แล้วกัน....

เช้านี้ป้าภาทำข้าวต้มกุ้งแสนอร่อยครับ  โดยให้ฟลุกมาตามผมไปทานด้วย  ดีเลยครับกำลังหิวอยู่พอดี  เพราะพวกอาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาทิ้งไว้เมื่อคืนนี้เอาเข้าจริงแล้วผมก็โครตจะเบื่อมันเลยครับ


ที่บ้านป้าภา

“ กันต์...  ป้าฝากเอาข้าวต้มนี่ไปให้พ่อรูปหล่อห้องสุดท้ายทีนะ  เจ้าฟลุกมันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย “

“ ได้ครับ  เดี๋ยวกันต์จัดการให้ “

ว่าแล้วผมก็ยกถาดข้าวต้มกุ้งพร้อมเรื่องปรุงตรงไปยังห้องพี่หน้าหล่อคนเดิม  ก่อนจะเคาะประตูเรียกและรอให้เขาเปิดรับ
ทว่าทันทีที่ประตูถูกเปิดออกผมก็ถึงกับหน้าเหวอขึ้นมาทันที  เมื่อแขกที่พักอยู่ตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมกับที่ผมเข้าใจอยู่  แต่เป็น...

“ ไหนว่ามาเที่ยวไง...  แล้วนี่อะไร  ตามผมมาทำไมเนี่ย “

คงรู้กันแล้วใช่มั้ยครับว่าใคร.....

“ อ้าว... ก็เที่ยวไง  พี่มาพักที่นี่มันผิดตรงไหน  แถมยังมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วด้วย “

อ่าว...  ทำไมผมไม่รู้อะ  แต่จะว่าไป...   เมื่อวานผมก็ไม่ค่อยได้มาที่ด้วยสิ

“ แล้วมาคนเดียวรึไง  ทำไมพี่ๆ คนอื่นถึงไม่มาด้วยเหมือนทุกครั้ง “

“ ไม่หนักเหรอ...  ส่งมานี่ “

“ เฉไฉอีกนะ  ว่าไงพี่กิจ “

“ ปิดเทอมนี่เราทำพาร์ททามด้วยเหรอเนี่ย  ไม่ยักรู้ “

ดูสิครับ  ไม่สนใจที่ผมถามเลยสักนิด  แถมยังตีหน้ามึนมายกถาดข้าวต้มจากมือผมไปอีกต่างหาก

“ ไม่ได้ทำ  มาช่วยป้าเขาเฉยๆ “

ผมทำหน้ามุ่ยตอบไปครับ  ว่าแต่...  แล้วนี่ผมจะตอบไปทำไมเนี่ย...

“ อืม... งั้นเหรอ...  แล้วนี่กินข้าวยัง  กินกับพี่มั้ย “

“ ม้าย!! “

พูดจบผมก็เดินหน้าบูดออกไปทันทีเลยครับ  แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะจากคนกวนประสาทด้านหลังตามมาด้วย


หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ  ผมก็รีบเดินกลับบ้านไปในทันที  ก่อนจะกดโทรศัพท์หาไอ้เรย์มัน 

ร่วมมือกันดีนักนะ...  ถ้าไม่มีคำอธิบายดีๆ ให้  รับรองเจอดีแน่


<<  เออ...  เดี๋ยวกูไปหามึงที่บ้านแล้วจะเล่าให้ฟังเอง  มึงรอกูอยู่ที่นั่นแหละ >>

มันพูดจบก็ตัดสายทิ้งไปเลยครับ  คือยังไม่ทันจะได้คุยกันรู้เรื่องเลย  เอาไว้มันมาก่อน..  แล้วค่อยชำระบัญชีให้หมดทุกอย่างเลยก็แล้วกัน


<< ติ๊งต่อง >>


เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นให้ผมเดินออกไปดูครับ  ไม่รู้ว่าใครมากันนะ  เพราะถ้าเป็นฟลุกก็คงจะไม่กดหรอก  แต่จะใช้การตะโกนเรียกเข้ามาแทน

ผมเปิดประตูออกไปดูก่อนจะร่นคิ้วจนแทบจะชนเข้าหากัน  เมื่อหน้าประตูรั้วเป็นหนุ่มหล่อตัวสูงที่ตอนนี้ผมเริ่มชักจะเหม็นขี้หน้ามากขึ้นมาทุกทีแล้วสิครับ  กำลังยืนยิ้มแป้นรอให้ผมไปเปิดประตูให้อยู่ในตอนนี้

ฝันไปเถอะ...

“ พี่ร้อนนะ  มาเปิดเร็วๆ  คุณป้าเขาฝากของมาให้เนี่ย “

พี่กิจว่ามาครับ  แต่ฝากอะไรล่ะ...  เพราะปกติป้าภาไม่น่าจะใช้แขกมาแบบนี้แน่ๆ  คือถ้าฟลุกไม่ว่างป้าเขาก็จะเป็นคนเอาของมาให้เองเลยล่ะครับ  มันน่าสงสัยมั้ยล่ะแบบนี้..

แต่สุดท้ายผมก็ยอมเดินออกมาหน้าบ้านและเปิดประตูออกดู  พี่กิจยื่นถุงขนมที่ดูเหมือนจะเป็นของฝากทั่วไปส่งมาให้  และผมก็รับมันไว้แต่โดยดี  ว่าแต่...  แล้วทำไมป้าเขาไม่เอามาให้ผมตั้งแต่เมื่อเช้าตอนที่ไปทานข้าวด้วยกันนะ

“ พี่กิจ...  นี่อะไร “

เมื่อไม่แน่ใจผมก็ถามขึ้นมาทันทีครับ  และยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร  เจ้าตัวก็เดินแทรกผมเข้ามายังภายในรั้วบ้านทันที  คนอะไรไม่มีมารยาท...

“ ก็ของฝากไง  พี่แวะซื้อข้างทางตอนขับรถมาอะ “

นั่นไง  โดยหลอกแล้วไงไอ้กันต์!!!

“ หลอกผมเหรอ  นั้นเอาคืนไปเลย “

“ เสียน้ำใจหมด  มารยาทอะรู้จักมั้ย “

“ เดี๋ยวนะ...  แล้วไอ้ที่บุกรุกเข้ามาบ้านคนอื่นนี่เขาเรียกว่ามีมารยาทอย่างนั้นเหรอ...  นี่พี่กิจ!!  ฟังอยู่มั้ยเนี่ย!!!  “

นั่นไง  ไม่ฟังผมพูดเลยครับ  เดินเหลียวซ้ายแลขวาตรงเข้าไปในบ้านผมทันทีครับ  ผมเลยเร่งฝีเท้าตามเข้าไปติดๆ  ก่อนจะไปดักอยู่ที่หน้าประตูบ้านเพื่อกันไม่ให้พี่เขาเข้าไป

“ บ้านเรานี่น่ารักดีนะ   น่าอยู่จัง...  หลีกไปดิ๊ “

“ ม้าย... ! “

พี่เขาส่ายหัวเล็กๆ  ก่อนจะใช้แขนแข็งแรงดันผมทีเดียวแทบจะกระเด็นไปเลยล่ะครับ

ไอ้ป่าเถื่อน  ไอ้แรงเยอะ  ไอ้คนไม่มีมารยาท  ไอ้...  โอ้ย!!

นั่น ! เข้ามาถึงก็มองนั่นมองนี่  ทิ้งให้ผมที่กำลังหัวเสียมองตามอยู่อย่างนั้น

เออ...  เชิญบุกรุกให้สาแก่ใจเลย  อยากจะทำอะไรก็ทำ  ผมไม่สนละ !

ว่าแล้วผมก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหัวเสีย  ก่อนจะหยิบเอาไอแพดที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาเล่น  และพยายามจะไม่สนใจไอ้คุณชายท่าน  แต่ทว่า...  เอาเข้าจริงแล้ว  มันก็ทำไม่ได้หรอกครับ  เพราะสายตาผมมันไม่ได้โฟกัสอยู่ที่หน้าจอไอแพดเลยสักนิด  หากแต่เหลือบมองตามคุยชายท่านที่กำลังเดินดูนั่นดูนี่ไปทั่วอย่างไม่วางตา  ทำราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเองเสียอย่างนั้น

เมื่อสาแก่ใจคุณชายท่านแล้ว  พี่เขาก็เดินเข้ามาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ ผม  ซึ่งผมก็รีบขยับตัวออกห่างแทบจะในทันที

“ ไหนว่ามาเที่ยวไง  แล้วนี่อะไร  ตามมาทำไม “

“ ก็เที่ยวอยู่นี่ไง... “

“ เที่ยวยังไง  อย่างนี้เขาเรียกว่ากำลังบุกรุกบ้านคนอื่นอยู่ชัดๆ “

“ งั้น...  เราก็... “


ตึกตัก...  ตึกตัก...


พูดเฉยๆ ก็ได้  ไม่เห็นต้องยื่นหน้าเข้ามาเลย  และยังแววตาแบบนั้นอีก.....  เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้กันต์!!!

“ มาทำให้ไม่เป็นคนอื่นกันเถอะนะ “


ฟุบ!!


ก่อนที่ใบหน้าคมและริมฝีปากรูปกระจับสวยได้รูปจะเข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้  ผมก็รีบเอาไอแพดที่อยู่ในมือเข้ามากันไว้แทบจะในทันที

เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ...  ไอ้กันต์เอ้ย !!!

แล้วนี่ดูสิครับ  เสียงหัวเราะขำเล็กๆ นี่แปลว่าอะไร  ไม่สำนึกกันเลยใช่มั้ย !!!

“ จะกลับไปได้ยังเนี่ย ! “

ผมไล่ไปเสียงห้วน  ทว่าตัวเองกลับไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคนข้างๆ แล้วในตอนนี้

“ ไปไหนอะ  วันนี้พี่จะอยู่ที่นี่ “

“ ใครอนุญาตมิทราบ “

“ ต้องอนุญาตด้วยเหรอ...  ถ้างั้นพี่ขออยู่ด้วยคนน้าคร้าบ “

“ ม้าย ! “

“ ขอบคุณ “

“ เห้ย...! “

ผมเอาไอแพดที่บังหน้าออกก่อนจะหันไปมองตาเขม็งอย่างเอาเรื่อง  แต่ก็พบเพียงสีหน้าไม่สนใจ  แถมยังเลิกคิ้วซ้ายส่งมาให้ผมอีกต่างหากครับ

ผมถอนหายใจแรงๆ ส่งให้ไปอย่างเซ็งๆ เมื่อทำอะไรผู้บุกรุกไม่ได้เลยสักนิด  ครั้นจะออกจากบ้านไปก็ไม่ได้  เพราะเดี๋ยวไอ้เรย์มันจะมาหาผมที่นี่ 

“ กันต์.. “

ไม่สนใจครับ  เรียกไปเถอะ  ผมทำท่าดูอะไรไปเรื่อยในไอแพดต่อ

“ กันต์...  พี่ว่านะ... “

ว่า....

“ เรามาดีกันเถอะเนอะ  นี่มันก็นานแล้วนะ  แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้วเราเองก็ไม่ได้โกรธพี่จริงจังอะไรด้วย  ส่วนเรื่องที่เข้าใจผิดกันก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ “

ไม่ตอบครับ...  ก็จริงที่ว่าเรื่องพี่ฮานะผมอาจจะผิด  ดังนั้นเรื่องนี้ปล่อยผ่านได้  แต่เรื่องที่พี่เขามาหลอกผมว่าเป็นพี่นิก  กับเรื่อง...คืนนั้น....  ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด !!!!  ชิส์!!

“ ไหน  หันหน้ามาหน่อยซิ  คุยกันจริงๆ หน่อย “

“ ไม่.. “

“ กันต์... “

ผมยังคงจับจ้องอยู่แต่กับไอแพดตรงหน้า  ทั้งๆ ที่หูกลับคอยฟังอยู่ตลอดเวลาว่าพี่เขาจะพูดอะไรต่อ

“ แล้วต้องให้พี่ทำไงอะ  เราถึงจะหายโกรธพี่ “

“ ก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น  อยากทำอะไรก็ทำไป  เพราะปกติเวลาที่พี่ทำอะไรไม่เคยสนใจความรู้สึกของผมอยู่แล้วนี่ “

เด็ดขาดจริงๆ น้ำเสียงปนความน้อยใจของผม  ถ้าตัดพ้อไปขนาดนี้แล้วไม่รู้สึกบ้างก็ให้มันรู้ไป

“ พี่ก็มีเหตุผลของพี่อะ  แต่เกือบทุกเหตุผลก็เพราะว่าพี่คิดถึงความรู้สึกของเราตลอดนะ “

ได้ผล...  น้ำเสียงพี่เขาดูอ่อนลงไปเยอะเลยครับ  สมน้ำหน้า...  ให้รู้สึกผิดอย่างนี้บ้างแหละดีแล้ว

“ ยังไง...  “

พูดจบผมก็เหลือบไปมองพี่เขาเล็กน้อย  เห็นสีหน้าสลดแล้วสะใจครับ  ใครจะไปคิดกันละครับว่าคุณกรกิจจะมีโมเม้นต์แบบนี้กับเขาด้วย

“ แล้วเรื่องพี่นิกอะ  ผมรู้นะ... “

ได้ทีต้องยิงซ้ำครับ...  เอาให้ตายเลยคอยดู

“ อ่าว...  นี่เรารู้มานานแล้วเหรอ “

“ ก็ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ  แค่อยากดูเฉยๆ ว่าพี่จะมาไม้ไหน “

ผมโม้ทำเก่งไปอย่างนั้นแหละครับ  ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผมเองก็พึ่งรู้เอาวันที่สอบเสร็จวันสุดท้ายนั่นแหละครับ  แต่ถ้าปล่อยไก่ออกไป  เดี๋ยวจะกลายเป็นตัวตลกกันไปพอดี

“ ก็พี่เป็นห่วงเรานี่  คิดถึงด้วย...  เลยอยากมาดูแลอยู่ใกล้ๆ “

ก็.....  เอ่อ... 

ไม่ยิ้มหรอกนะ....

เอาเป็นว่าเรื่องนี้อภัยให้ได้ก็แล้วกัน...

ถ้างั้นก็เหลือแค่เรื่องเดียว...  เรื่องคืนนั้น...  แต่เอาเข้าจริงผมเองก็จำยอมพี่เขาไปด้วยนั่นแหละ....

ถ้าอย่างนั้นแล้ว...  ผมจะมาโกรธอะไรพี่เขาอยู่อีกล่ะ... 

อืม....

ไม่เอา... อภัยง่ายๆ เดี๋ยวได้ใจ  คนอย่างพี่กิจผู้ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใคร  มันต้องได้เจอแบบนี้บ้าง

“ แล้วเรื่องคืนนั้น...  ที่พี่...  ผมไม่ลืมหรอกนะ “

“ เรื่องไหนอะ... “

“ ยังจะมาถามอีกนะ  ก็เรื่อง... “

“ อ๋อ... “

ยิ้มทำไม...  รู้สึกผิดสิ  รู้สึกผิด !!!

“ นี่เรา...  ไม่ลืมจริงๆ เหรอเรื่องคืนนั้นอะ “

แล้วน้ำเสียงอ่อยๆ นี่คืออะไรวะ  ไอ้คนเลว!!!

“ก็ใช่อะดิ  ใครจะไปลืมได้กัน “

“ ที่ไม่ลืมก็เพราะ...  ติดใจใช่มะ “

ยังจะมาพูดพร้อมกับกัดปากอีกนะ

“ ไอ้พี่บ้า!!!  ไม่คุยด้วยแล้ว “

“ ถ้าไม่คุยนั้น...  อยากทำอย่างอื่นเหรอคร้าบ... “

“ ม้าย!!!  แล้วก็ขยับไปห่างๆ ผมด้วย “

บ้าเอ้ย  คนอะไรวะหน้าด้านสุดๆ  ไม่พูดด้วยแล้ว ( เพราะยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว )

ในเมื่อพี่เขาไม่ยอมขยับ  นั้นผมขยับเองก็ได้ครับ  ก่อนจะไม่สนใจคนข้างๆ และเลื่อนดูทวิตเตอร์ไปเรื่อยๆ  หากแต่ในหัวกลับไม่มีสมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับหน้าจอเลยแม้แต่น้อย  และยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะ หึๆ ในลำคอของพี่กิจด้วยแล้ว  อยากจะเอาไอแพดทุบหัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเสียด้วยซ้ำ

แต่....  แพงไป...ไม่เอาดีกว่า...  ว่าแล้วเปลี่ยนมาเล่นเกมแทนจะดีกว่า  จะได้มีสมาธิและเลิกสนใจคนข้างๆ นี้ไปเสียที


...................................


นี่ผมเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย  ไม่อยากตื่นเลยครับ...  คือเวลาได้นอนตอนบ่ายๆ  มันก็ชอบเป็นแบบนี้ทุกทีเลย  แต่ว่า...  ไม่มีอะไรที่ต้องทำนี่นา  นั้นนอนต่อดีกว่า  สบายดีแฮะ...

แต่เอ๊ะ...  เดี๋ยวนะ...


เอ๊ะ....

เอ๋....

เอ่...

มัน...ไม่ใช่.. ใช่มั้ย..  แต่พอมองดูดีๆ แล้วก็...


เห้ย!!!


ผมรีบยันตัวลุกขึ้นมาแทบจะในทันทีที่รู้ตัวว่ากำลังนอนอยู่ในสภาพไหน

ใช่ครับ...  ผมลงไปนอนหนุนตักพี่กิจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...

“ ผมมานอนนี่ได้ไงเนี่ย “

“ เอ๊า....  ก็ลงมานอนเองนะ  พี่เปล่าทำไรเลย “

“ แล้วทำไมไม่ปลุกผมล่ะ “

“ ก็เห็นท่าทางเราหลับสบาย  ใครจะกล้าปลุกล่ะ  และอีกอย่าง... “

จะพูดก็พูดเร็วๆ สิ  แล้วก็ไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เลยด้วย..

“ พี่ก็ชอบด้วย... “

ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างไม่รู้ตัวกับน้ำเสียงที่ได้ยิน  เพราะแผ่วเบาและยั่วยวนอย่างถึงที่สุด 

“ พอเลย !! “

พูดจบผมก็หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลาทันที  เพราะจะว่าไปนี่มันก็นานมากแล้วนะครับ  ทำไมไอ้เรย์มันยังไม่มาอีกสักทีล่ะเนี่ย

เชี่ย!!  4 โมงเย็นแล้วเหรอ  แล้วนี่มันหายหัวไปไหนกันล่ะคร้าบ  ไหนบอกว่าจะรีบมา  ว่าแล้วผมก็กดโทรออกไปหามันทันทีเลย  ซึ่งไม่นานมันก็รับสายครับ


“ กูขอโทษ !!!   แต่กูไปไม่ได้จริงๆ อะมึง “

“ อะไรของมึงเนี่ย  แล้วเสือกมาบอกให้กูรอ “

“ ก็กูโดนสั่งเอาไว้ว่าอย่างนั้น... “

โดนสั่ง...?  นี่มันกำลังจะบอกว่าพี่กิจรู้เรื่องนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ  เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด...

“ ใครสั่ง... “

“ ก็ใครล่ะที่ตามง้อมึงอยู่ตอนนี้อะ... “

“ นี่มึงโทรไปรายงานด้วยเหรอ  ไอ้เพื่อนเลว ! “

“ สัด...  อย่าพึ่งด่ากูดิ  กูป่าวนะ  พี่เขาโทรมาสั่งให้กูบอกมึงอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว “

เป็นไปไม่ได้  นี่พี่เขาเป็นหมอดูรึไงเนี่ย  ถึงสามารถคาดการณ์อนาคตเอาไว้ได้แม่นขนาดนี้

“ มึงฟังนะ  กูบอกเลย...  อย่างมึงอะไม่ทันพี่กิจเขาหรอก  เพราะทุกอย่างที่มึงจะทำ  มันอยู่ในการคาดการณ์ของพี่เขาไว้แล้วทุกอย่าง  ดังนั้นมึงก็ยอมๆ พี่เขาไปเหอะ  เพราะกูเหนื่อยแทนมึงแล้วเนี่ย... “

“ นี่มึงเป็นเพื่อนกูนะเว้ย  ไอ้เพื่อนเลว...!! “

“ ก็กูเพื่อนมึงไง  ถึงรู้ว่าความสุขของมึงคืออะไร  แล้วมึงยังจะมาตั้งแง่และวิ่งหนีอีกทำไมวะ “

“ ม้าย!!!  มันเรื่องของกู!!! “

ว่าจบผมก็ตัดสายทิ้งไปทันทีเลยครับ  ตั้งแง่แล้วไง....  ก็คนเรามันก็ต้องมีเวลาเอาคืนกันบ้างสิ  ดังนั้น... จะให้มาคืนดีง่ายๆ อะ  ฝันไปเถอะ !!

แต่พอหันมามองยังตัวการใหญ่ที่กำลังยิ้มกริ่มพร้อมกับเลิกคิ้วขวาส่งมาให้แล้วก็...  น่าหมันไส้สุดๆ !!


“ พี่กันต์ ๆๆ !!! “


แล้วจู่ๆ เสียงฟลุกก็ดังขึ้นพร้อมกับการกดกริ่งรัวๆ อย่างที่เจ้าตัวไม่เคยทำมาก่อน  ซึ่งบ่งบอกได้ชัดเลยว่ามันต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน

หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 07-10-2018 20:07:11
ผมรีบรุดออกจากบ้านไปเปิดประตูรั้วทันที  และภาพที่เห็นตรงหน้าก็คือฟลุกที่มีอาการลนลาน  อีกทั้งตามเนื้อตัวก็ยังมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่ว  จากสภาพที่เห็นมันทำให้ผมถึงกับใจหายขึ้นมาทันทีพร้อมกับแววตาตื่นตระหนกราวกับว่านี่มันจะต้องเป็นที่เรื่องร้ายแรงแน่ๆ

“ เกิดอะไรขึ้นฟลุก!!  เกิดอะไรขึ้น... !! “

“ ยายอะ...  ยาย... “

“ ป้าภาเป็นอะไร !! “

“ อยู่ๆ ยายก็เป็นลมหัวกระแทกพื้นอะพี่  และตอนนี้ยายก็ยังไม่ได้สติเลยอะ  ทำยังไงกันดีพี่กันต์ !! “

ทันทีที่ฟลุกเล่าจบ  ผมก็รีบวิ่งไปยังบ้านป้าภาทันที  คิดไม่ออกหรอกครับว่าจะต้องทำยังไงในตอนนี้  แต่สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการพาป้าภาไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

กลัวจังเลยครับ... ป้าภาก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของผม  ซึ่งผมก็ไม่อยากจะต้องมารู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว...

ความรู้สึกสูญเสียที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว...


เมื่อเข้ามาถึงห้องรับแขกของบ้าน  ผมก็เห็นป้าภาในสภาพที่ไม่ได้สติและมีเลือดออกจากหัวเปรอะเปื้อนไปทั่วตัวกำลังนอนอยู่บนพื้นบ้าน  หัวใจผมแทบจะหล่นหายไปในทันทีที่เห็นภาพนี้  ความกลัวแล่นเข้ามาในหัวใจ  ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  ถึงกระนั้นผมก็ไม่สามารถจะยืนช็อคอยู่ได้นาน  ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาร่างตรงหน้าพร้อมทั้งเขย่าและร้องเรียกป้าภาให้ได้สติ  แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล  ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมทั้งลนและกลัวจนแทบจะประคองสติเอาไว้ไม่อยู่

“ กันต์หลบไป  เดี๋ยวพี่จะอุ้มป้าแกพาไปที่รถเอง  เราเอากุญแจนี่ไปเปิดรถรอเอาไว้เลย “

“ ค่ะครับ “

ถึงจะขานรับพี่กิจไป  แต่ผมก็ยังคงอึ้งและทำอะไรไม่ถูกอยู่ดี  จนเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆ ของพี่กิจอีกครั้งนั่นแหละ  ถึงดึงสติผมให้กลับมาได้

“ กันต์ !! มีสติหน่อย !! “

“ ค่ะครับพี่ “

ผมรีบวิ่งไปยังที่รถพี่กิจซึ่งจอดอยู่นอกรั้วบ้าน  ก่อนจะกดรีโมทปลดล็อคพร้อมทั้งเปิดประตูเพื่อรอพี่กิจที่กำลังอุ้มป้าภาตามมาติดๆ  ไม่นานพี่กิจก็เหยียบคันเร่งออกรถไปตามทางที่ผมบอก  เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ผมพยายามรวบรวมสติทุกอย่างสำหรับการนำทางที่ใกล้และเร็วที่สุดให้พี่กิจ  ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของฟลุกที่ดังมาจากทางด้านหลัง

ผมกลัวจังเลยครับ...  และคิดว่าฟลุกเองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างไปจากผมสักเท่าไหร่

ผมหันหลังกลับไปมองภาพฟลุกที่กำลังร้องไห้และเรียกป้าภาที่กำลังนอนหนุนตักอยู่เนืองๆ  ก็อดนึกถึงสภาพตัวเองในวันที่พ่ออาการโคม่าขึ้นมาไม่ได้

เพราะผมรู้ไงครับ....  ว่าความรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียคนที่เรารักมันเจ็บปวดเพียงใด  และผมเองก็ไม่อยากจะให้น้องที่ผมรักต้องมารู้สึกแบบเดียวกันกับผมในตอนนั้น...

“ ไม่เป็นไรนะฟลุก..  ป้าภาจะต้องปลอดภัย... “

ผมบอกไปพร้อมกับพยายามฝืนยิ้มส่งให้ด้วย  เพื่อให้เด็กน้อยตรงหน้านี้รู้สึกอุ่นใจและมีกำลังใจมากขึ้น  หลังจากนี้....  ผมจะต้องมีสติให้มากขึ้น  แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน  ที่สำคัญ...  ผมจะร้องไห้ไม่ได้โดยเด็ดขาด  ไม่เช่นนั้นความอ่อนแอของผมมันอาจจะไปทำให้ฟลุกเสียขวัญและกำลังใจมากขึ้นไปอีกก็เป็นได้... 

เพื่อให้คนตรงหน้ารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ  ผมจะอ่อนแอไม่ได้โดยเด็ดขาด....



ที่โรงพยาบาล

ทันทีที่มาถึงป้าภาก็ถูกพาเข้าไปยังห้องฉุกเฉินทันที  ในระหว่างนั้นผมก็นั่งเฝ้ารออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อพลางรีบมือที่กุมไว้ด้วยความหวาดหวั่น  ในขณะที่พี่กิจพาฟลุกไปจัดการเรื่องเอกสารกับเจ้าหน้าที่  ซึ่งไม่นานก็พากันกลับมา

“ ยายเป็นไงมั้งอะพี่กันต์ “

คำถามที่ผมเองก็ไม่รู้และไม่อยากที่จะตอบ  แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคงฝืนยิ้มส่งไปให้ก่อนจะพูดให้กำลังใจกับคนตรงหน้า

“ ไม่ต้องกลัวนะ  ถึงมือหมอแล้ว  ยังไงป้าภาก็ต้องปลอดภัย  เชื่อพี่นะ... “

พอพูดจบผมก็เอามือไปกุมมือฟลุกไว้เพื่อให้กำลังใจ  แม้ว่าตัวผมเองก็กำลังรู้สึกแย่ไม่ต่างกันเลยก็ตาม  แต่ไม่นานบนไหล่ขวาของผมก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นและการบีบเบาๆ  พร้อมรอยยิ้มจากคนข้างๆ  ผมเชื่อว่าพี่กิจเองก็คงพอจะดูออกว่าผมกำลังแสร้งทำเป็นเข้มแข็งทั้งที่ข้างในมันไม่ใช่เลย  ถึงได้กำลังส่งกำลังใจให้ผมอย่างอ่อนโยนเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา

จากความกลัวและการแบกรับความรู้สึกไว้อย่างโดดเดี่ยว  กลับรู้สึกดีขึ้นได้เพียงแค่สัมผัสที่แผ่วเบานี้ 

เพราะผมรู้ไงครับ  ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  พี่เขาก็จะคอยอยู่ข้างๆ ผมแบบนี้ไปเสมอ....

ขอบคุณนะครับพี่กิจ....



ผ่านไปสักพัก  ป้าภาที่นอนอยู่บนเตียงเข็นและยังคงไม่ได้สติก็ถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉินพร้อมกับเจ้าหน้าที่และแพทย์ผู้รักษา  ก่อนจะเรียกขอพบญาติ  ซึ่งพี่กิจก็รีบขานรับขึ้นมาทันที  ก่อนจะหันหน้ามาหาผมแล้วพูดขึ้น

“ อยู่กับฟลุกนะ  น้องเขาต้องการกำลังใจในตอนนี้  เรื่องที่เหลือเดี๋ยวพี่จะเป็นคนจัดการเอง “

ผมมองหน้าพี่กิจราวกับกำลังมองกระจกสะท้อนเงาตัวเองที่กำลังให้กำลังใจฟลุกอย่างไงอย่างนั้นเลย  ผมพยักหน้ารับไปเล็กๆ   เพราะหน้าที่ของผมที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการอยู่เป็นเพื่อน  คอยปลอบและให้กำลังใจฟลุก  ส่วนเรื่องที่เหลือนั้น  ผมก็เพียงแค่...  ไว้ใจพี่กิจ...  ก็เท่านั้นเอง...

ผมไว้ใจพี่นะครับ  ที่เหลือ...  ผมขอฝากพี่ด้วยนะ...


ผ่านไปสักพักใหญ่พี่กิจก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความวิตกอยู่เล็กน้อย  แต่พอพี่เขาเห็นว่าผมกำลังมองมา  พี่กิจก็ปรับสีหน้าให้ดีขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ป้าภาเป็นไงบ้างครับพี่ “

“ ยายเป็นยังไงบ้างครับ “

“ เอ่อ.. ใจเย็นๆ นะ  ตอนนี้คุณป้าแกปลอดภัยดีแล้ว  แต่คุณหมอเขาขอให้นอนดูอาการต่ออีกสักหน่อยอะ  ก็คงจะต้องแอดมิทนะ “

พอได้ยินพี่กิจว่ามาอย่างนี้  ผมกับฟลุกก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างเล็กน้อย  จนฟลุกเองก็พอจะยิ้มออกมาได้บ้าง  ทั้งๆ ที่ตายังคงแดงก่ำจากการเสียน้ำตามาเป็นเวลานาน

พี่กิจพาเราไปยังห้องพิเศษที่ป้าภานอนพักอยู่  ซึ่งตอนนี้แกก็ยังคงไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิม

ฟลุกนั่งกุมมือป้าภาเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง  เพราะถึงแม้ว่าที่ผ่านมาน้องเขาออกจะดื้อกับป้าภาแกไปบ้าง  แต่ลึกๆ แล้วฟลุกก็รักป้าภาไม่ต่างจากแม่ผู้ให้กำเนิดเลยแม้แต่น้อย

พี่กิจสะกิดบอกผมให้ออกไปคุยกับพี่เขาข้างนอกห้อง  ซึ่งผมก็ยอมเดินตามออกไปแต่โดยดี  เพราะดูท่าแล้วพี่เขาคงมีเรื่องอะไรที่ยังบอกพวกเราไม่หมด

“ ว่าไงครับพี่  ป้าภาแกเป็นอะไร “

เมื่อออกมานอกห้องแล้วผมก็ยิงคำถามขึ้นมาทันที

“ หมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะความดันเลยทำให้หน้ามืด  คือจากที่ทำซีทีสแกนแล้วก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ  แต่ว่า...  เรื่องของโรคประจำตัวแกน่ะ  หมอเขาอยากให้ระมัดระวังเรื่องการทำงานและการดูแลสุขภาพให้มากขึ้นเป็นพิเศษ “

“ ป้าภา.. มีโรคประจำตัวด้วยเหรอ  ผม...  ไม่เห็นจะรู้เลย “

“ อ้าว...  นี่กันต์ไม่รู้หรอกเหรอ...  ว่าป้าเขาเป็นเบาหวานและความดันอะ  และยังต้องกินยาเป็นประจำด้วยนะ  จากประวัติการรักษาที่ผ่านมา “

“ ผม...  ไม่รู้หรอกครับพี่เรื่องพวกนั้น  ที่ผ่านมาป้าแกก็ไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของแกให้ผมฟังเลย  ผมเห็นแกออกจะขยันทำงานและดูแข็งแรงซะด้วยซ้ำไป  ไม่คิดว่า... “

“ ยายป่วยมากเหรอ....  ทำไม....  ยายไม่เคยบอกอะไรผมเลย “

เสียงฟลุกดังขึ้นมาจากทางด้านหลังให้ผมกับพี่กิจรีบหันขวับกลับไปมองทันที  ก่อนจะเห็นหน้าเสียๆ ของคนตรงหน้าพร้อมความวิตกกังวลในแววตาฉายออกมาให้เห็น

“ ฟลุก...  ฟังพี่นะ.. โรคที่ยายเป็นน่ะ  มันไม่ได้อันตรายมากนักหรอกถ้าดูแลตัวเองดีๆ  อย่างน้อยยายของฟลุกก็ไม่ได้เป็นโรคร้ายเหมือนอย่างที่พ่อพี่เป็นนะว่ามั้ย...  ดังนั้น...  ฟลุกไม่ต้องคิดมากนะ  ที่สำคัญ  ยิ่งรู้ว่ายายฟลุกป่วยแบบนี้แล้ว ต่อไปฟลุกก็ต้องปรับปรุงตัวเองให้ขยันขึ้น  จะได้ดูแลยายได้มากขึ้น..  เพราะเราโตแล้วนะ  นี่ก็จะขึ้นมอปลายแล้วใช่มั้ย  ดังนั้นห้ามขี้แยแล้วก็ต้องเข้มแข็งขึ้นเพื่อยายนะรู้มั้ย... “

ถึงจะบอกไปอย่างนั้น  แต่ผมก็รู้ดีว่าโรคพวกนี้ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีมันจะอันตรายมาก  แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกวิตกกังวลเหล่านั้นไว้ภายใน

“ จริงนะพี่กันต์  ถ้าฟลุกทำตัวดีขึ้นยายจะปลอดภัยใช่มั้ย “

“ จริงดิ  พี่เคยหลอกเราเหรอ “

“ ออกจะบ่อย.. “

แม้จะเป็นการแขวะเล็กๆ แต่เท่าที่ดูแล้ว  ฟลุกก็พอจะโอเคขึ้นมาบ้าง  ผมเอามือไปขยี้หัวน้องมันพร้อมกับยิ้มให้  ไม่นานฟลุกก็เดินกลับไปยังห้องพัก

“ เก่งจัง... “

เสียงพี่กิจดังขึ้นจากทางด้านหลังในระยะประชิด  ก่อนที่มือทั้งสองข้างของคนที่สูงกว่าจะมาสัมผัสบนไหล่ของผมอย่างเบามือ

“ นั่นสิครับ...  แต่ผมเชื่อนะว่าจากนี้ไปฟลุกคงจะดูแลป้าภาได้ดีมากขึ้นแน่ๆ “

“ พี่ไม่ได้หมายถึงฟลุก  พี่หมายถึงเราต่างหาก.... “

ผมหันกลับไปมองยังคนด้านหลัง  ซึ่งตอนนี้กำลังยืนแทบจะชิดกับตัวของผมอยู่แล้ว  พี่กิจส่งยิ้มมาให้อย่างละมุนก่อนจะเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ  ราวกับรู้ว่าผมเองก็ต้องการกำลังใจมากด้วยเช่นกัน

“ เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ...  ว่าเวลาอยู่กับพี่อะ  ไม่ต้องแกล้งทำเป็นเก่งก็ได้  รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาได้เลย “

ได้ยินมาอย่างนี้แล้ว  จู่ๆ นัยน์ตาของผมมันก็สั่นระเรื่อขึ้นมาทันที...

เฉพาะกับคนๆ นี้เท่านั้นที่ผมไว้ใจ  และกล้าพอที่จะเผยความอ่อนแอในใจออกมาให้เห็น...

เพราะผมรู้ไงครับ...  ว่าเขาจะอยู่ข้างกายและคอยปกป้องผมเอาไว้เสมอ....


“ ฮึกๆ...ฮึก... “

ผมสะอื้นตัวโยนพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย  เมื่อตอนนี้ผมไม่ต้องเก็บกดอะไรอีกต่อไปแล้ว

ผมกลัว  ผมกังวล  ผมไม่ได้เข้มแข็งเหมือนอย่างที่พยายามแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย...

ไม่นานพี่กิจก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้หลวมๆ ให้ผมได้ร้องไห้อยู่บนอกกว้างของเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย....




TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-10-2018 20:10:29
ดีๆ กันไว้นะเด็กๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 07-10-2018 20:14:18
Chapter 52



กันต์’s Part



เช้าวันต่อมาที่บ้านป้าภา

“ ไม่ได้หั่นอย่างนั้น....  นี่ดูนะ  ผมไม่สอนเป็นครั้งที่สิบแล้วนะ “

ป้าภาฟื้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ  แต่หมอยังให้นอนพักเพื่อดูอาการอีกสักสองวัน  ผมเลยอาสามาดูแลบ้านและแขกที่มาพักแทนให้ครับ  ส่วนฟลุกก็ไปนอนเฝ้าป้าภาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

“ เวอร์ไป  สอนพี่แค่ครั้งเดียวเอง  อีกอย่าง...  ก็พี่ทำอาหารไม่เป็นนี่ “

ผมกำลังเตรียมอาหารเช้าตามออเดอร์ที่แขกขอมาครับ  โดยมีพี่กิจมาคอยช่วยเป็นลูกมือ  แต่ใครจะไปคิดกันล่ะครับว่าคนที่เก่งไปซะทุกอย่างแบบพี่เขาจะมาตายง่ายๆ กับเรื่องในครัวแบบนี้

“ ห้องไหนนะ “

“ ก็ข้างห้องพี่อะ... เร็วๆ ด้วยเขารอนานแล้ว “

“ จ้าๆ...  บ่นเป็นแม่เลย “

“ อะไรนะ... “

“ เปล๊า....  พี่บอกว่าน่าอร่อยเหมือนแม่ทำเลย “


กว่า 8 โมงเช้าทุกอย่างก็เรียบร้อย  ผมทำข้าวต้มกุ้งไว้สำหรับผมและก็พี่กิจทานด้วย  โดยไม่ลืมที่จะแยกไว้สำหรับไปเยี่ยมป้าภาที่โรพยาบาลในช่วงสาย

“ อร่อยเหมือนเดิม..  เนี่ย... พี่ฝันไว้เลยนะว่าถ้าพี่มีแฟน  พี่อยากได้คนที่ทำอาหารอร่อยๆ  จะได้ขุนให้พี่อ้วนๆ ไง “

“ พูดมาก...  แต่ก็อย่างว่านะ  คนเจ้าชู้ก็มักจะคิดได้แต่กับเรื่องหาแฟนแค่นั่นแหละ “

“ เลิกไปนานแล้ว....  ไม่รู้เหรอ...?  หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้...ฮึ.... “

“ จะไปรู้ได้ไงล่ะ  ก็มันเรื่องของพี่นี่ “

“ ให้จริงเห๊อ... “

ผมทำหน้ายักษ์ใส่ก่อนจะก้มลงสนใจอาหารตรงหน้าต่อครับ  แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักตามมาด้วย  นี่ถ้าไม่ติดว่ามาช่วยผมในหลายๆ เรื่องนะ  รับรองมีด่ายับ  ชิส์

จริงๆ ผมก็ทำเป็นดุไปอย่างนั้นแหละครับ  เอาเข้าจริงแล้ว...  แหะ...ไม่กล้าหรอก  ก็อย่างที่รู้ๆ กัน  ว่าพี่กิจอะน่ากลัวจะตาย...
ช่วงสายเรามาเยี่ยมคุณป้าที่โรงพยาบาลกันครับ  พี่กิจแวะซื้อของเยี่ยมไปเพียบเลย  ก็ตามประสาคนรวยอะแหละ  ส่วนผมนี่ข้าวต้มทำเองกับมือเลยครับ  อร่อยกว่าแน่นอน

“ ไม่ต้องลำบากซื้อมาก็ได้  พรุ่งนี้ป้าก็ออกโรงพยาบาลแล้ว “

“ ใช่มั้ยครับ  นี่ผมก็บอกเขาไปแล้วนะป้าภา... “

ได้ทีผมก็แขวะให้พร้อมกับยู่หน้าใส่คนข้างๆ ครับ

“ กันต์ก็ไปว่าพี่เขา  นี่ถ้าป้าไม่ได้พี่เขาช่วยไว้  ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างเลย  ยังไงป้าก็ขอขอบใจเราอีกรอบนะ “

พี่กิจหันมาเลิกคิ้วใส่ผมบ้าง  ในขณะที่ผมก็ได้แต่จิ๊ปากตอบกลับไปได้แค่นั้น  เพราะต่อหน้าผู้ใหญ่มันก็ต้องเรียบร้อยเอาไว้ก่อนครับ

“ จริงๆ ถ้าเราบอกป้าว่าเป็นคนรู้จักกับกันต์ก่อน  ป้าจะได้ไม่คิดค่าห้องพัก  เพราะเจ้ากันต์ก็เหมือนหลานของป้าคนหนึ่งนั่นแหละ “

“ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า  ผมมาที่นี่ก็ไม่ได้บอกให้กันต์เขารู้ล่วงหน้าไว้ก่อนอยู่แล้ว “

“ แล้วตอนอยู่ที่กรุงเทพฯ พวกพี่สองคนพักอยู่ห้องเดียวกันเลยเหรอ “

ฟลุกที่กำลังนั่งกินข้าวต้มที่ผมทำมาเผื่อถามขึ้นมาบ้าง

“ ใช่.. “

พี่กิจขานรับไปครับ

“ แต่พี่ก็เป็นแค่ผู้อาศัยเขาน่ะฟลุก  ไม่มีสิทธิอะไรที่นั่นหรอก  ออกจะเป็นคนรับใช้ด้วยซ้ำไป “

“ ใครว่าล่ะ...  มีสิทธิทุกอย่าง...  รวมทั้งเจ้าของห้องด้วย “

ประโยคสุดท้ายนี่พี่กิจพูดเบาๆ ที่ข้างหูผมนะครับ  ผมเลยให้รางวัลไปโดยการบิดเข้าให้ที่สีข้างไปทีนึง

เห็นสีหน้าพี่เขาแล้วสะใจครับ  รู้ว่าเจ็บนะ  แต่เก็บอาการ...  พวกมีฟอร์มก็อย่างนี้แหละครับ 

“ นี่ถ้าฟลุกเข้ามหาลัยฯ ก็อยากลองเข้ากรุงเทพบ้างนะ  แต่ก็อดห่วงยายไม่ได้อยู่เหมือนกัน “

“ ไม่ต้องมาห่วงยายเลย  ตั้งใจสอบเข้าให้ได้ก็พอแล้ว  ยายแข็งแรงจะตายดูแลตัวเองได้ “

ป้าภาว่ามาครับ  ฟลุกก็เลยวางช้อนลงก่อนจะรีบกลืนข้าวลงคอและพูดขึ้นต่อ

“ ไม่ได้หรอก  ฟลุกบอกพี่กันต์แล้วว่าจากนี้ไปฟลุกจะเป็นคนดูแลยายเอง   ฟลุกก็ต้องทำให้ได้ดิ “

ได้ยินน้องมันว่ามาอย่างนี้แล้วผมก็หมดห่วงครับ  เพราะฟลุกเป็นคนที่มีนิสัยแน่วแน่มาก  คือเวลาจะทำอะไรสักอย่าง  ถ้าบอกว่าจะทำแล้ว  เขาก็จะต้องทำให้ได้เสมอ 

“ จ้ะ..  แล้วยายจะรอดูนะว่าพ่อคนเก่งจะทำได้เหมือนอย่างที่ปากว่ามั้ย  แต่ยังไงยายขอบอกไว้ก่อนเลยนะ  ว่ายังไงก็ต้องตั้งใจเรียนและสอบเข้ามหาลัยให้ได้  ส่วนเรื่องสุขภาพยายก็ไม่ต้องเป็นห่วง  ถ้าเราขยันขึ้นยายสัญญาว่าจะดูแลสุขภาพให้มากขึ้นตามไปด้วย “

“ สัญญาแล้วนะยาย  ดังนั้นต่อไปห้ามหักโหมทำงานด้วยล่ะ “

“ นั้นเอาไว้ถ้าฟลุกได้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ แล้วก็ติดต่อพี่มานะ  เดี๋ยวพี่จะช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ “

พี่กิจว่ามาครับ  ซึ่งถ้าพี่กิจรับปากมาแบบนี้แล้ว  บอกได้เลยครับว่า... สบายแน่ฟลุกเอ้ย....

“ จริงนะพี่  นั้นอีก 4 ปีผมจะตามพวกพี่ไปแน่ๆ “

“ เรานี่ก็เอ๊อ.... ไปรบกวนพี่เขา “

ป้าภาเอ็ดขึ้นมาครับ

“ ไม่เป็นไรครับคุณป้า  ฟลุกเป็นเด็กน่ารัก  ผมเองก็เต็มใจช่วยอยู่แล้ว “

“ เห็นมั้ยยาย  ใครๆ ก็ชมผมว่านิสัยดี “

“ จ้ะ...  ดีให้ตลอดนะเจ้าตัวดี “

จากนั้นพวกเราก็พากันหัวเราะกันยกใหญ่  ซึ่งจะว่าไปอุบัติเหตุคราวนี้ก็มีเรื่องดีในความโชคร้ายนะครับ  เพราะอย่างน้อยฟลุกเองก็จะได้เข้าใจอะไรมากขึ้นและตั้งใจทำอะไรเพื่อใครสักคน  จากที่เมื่อก่อนได้แต่ใช้ชีวิตเล่นๆ ไปวันๆ เพียงแค่นั้น

สักพักผมกับพี่กิจก็ต้องพากันกลับครับ  เพราะที่บ้านป้าภาไม่มีคนอยู่เลย  ช่วงนี้ผมเลยต้องมาทำหน้าที่ดูแลให้ไปพลางๆก่อน  จนกว่าป้าภาจะหายดี  แต่ว่า...  ไม่ใช่มีแค่ผมนะครับที่ขันอาสา  พ่อคุณชายเองก็ด้วย  งานนี้ผมขอแกล้งหน่อยก็แล้วกัน  อยากรู้เหมือนกันครับว่าคุณชายที่ปกติไม่ค่อยได้ทำอะไร  จะมาทำงานบริการแบบนี้ได้มั้ย  อิอิ



.............................


ช่วงบ่าย...

“ ห้องนั่งเล่นรวมก็เหมือนล๊อบบี้โรงแรมนะพี่  ต้องทำให้สะอาดนะ  เนี่ยๆ... ตรงนี้ยังไม่ได้เช็ดเลย.. “

“ จ้า.... “


….


“ พี่กิจ  ห้องน้ำอะ  มันต้องทำความสะอาดทุกวันนะพี่  นี่มันโฮมสเตย์นะไม่ใช่โรงแรม  ห้องน้ำมันมีจำกัดและก็ใช้ร่วมกัน  มันเลยต้องสะอาดตลอด “

“ จ้า.... “


….


“ พี่กิจ..  ระเบียงนั่งเล่นหลังบ้านอะ  ใบไม้เกลื่อนเลย “

“ แต่พี่พึ่งกวาดไปเมื่อกี้เองนะ “

“ ก็ใบไม้มันตกมาเพิ่มอะ....  จะทำไม่ทำ...  ไหนว่าทำได้ทุกอย่างไง... “

“ จ้าๆ  ไปทำให้ละคร้าบ... “

อิอิ


....


ช่วงค่ำ

หลังจากจัดการเรื่องมื้อค่ำของแขกแล้ว  ผมก็กลับเข้ามาในครัวเพื่อเตรียมทำมื้อพิเศษให้กับบางคนเสียหน่อย  ก็อุตส่าห์โดนผมแกล้ง...เอ้ย! ช่วยงานผมซะขนาดนั้น  ก็ควรจะทำอะไรตอบแทนให้เขาบ้างใช่มั้ยล่ะครับ  ซึ่งเมนูที่ผมคิดเอาไว้ก็จะมี  ไข่เจียวหมูสับ  ผัดผักรวมใส่กุ้ง  และต้มยำปลากะพง  ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ผมก็ตั้งใจซื้อมาเตรียมไว้ให้แล้วเมื่อตอนเย็นที่ไปตลาด

แต่พอจะเริ่มทำเท่านั้นแหละครับ.... 

เชี่ยไข่ไม่มี...  คือพอดีแขกที่มาพักดันขอไข่เจียวเพิ่ม  และดันเป็นสองฟองสุดท้ายที่เหลืออยู่  ครั้นจะใช้พี่กิจไปซื้อให้ก็เกรงใจครับ  เพราะเอาเข้าจริง  พี่เขาก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว  และตอนนี้ก็กำลังนอนเอกเขนกอยู่ที่ห้องนั่งเล่นดูทีวีอยู่เพลินๆ เลยไม่อยากจะรบกวนเวลาพัก  ถ้าอย่างนั้นผมออกไปซื้อเองจะดีกว่า

“ พี่กิจ  ผมไปซื้อไข่ที่ร้านหน้าปากซอยแปบนะ “

“ ให้พี่ไปซื้อให้มั้ย “

“ ไม่ต้องหรอก  พี่อยู่นี่แหละ  ไม่มีคนอยู่บ้าน “

ผมบอกไปอย่างนั้น  ทั้งๆ ที่ความจริงคือไม่อยากให้พี่เขาเหนื่อยไปมากกว่านี้แล้วล่ะครับ

สักพักหนึ่งหลังจากที่ออกบ้านมา  ผมก็ได้ไข่มาจากร้านขายของชำตรงหน้าปากซอย  ซึ่งไกลจากบ้านป้าภาไปกว่า 500 เมตรเห็นจะได้  อาจจะดูเหมือนว่าไกลนะครับ  แต่เพราะว่ามันชินแล้วกับเส้นทางนี้ที่ผมใช้มาตั้งแต่ผมยังเด็ก  มันเลยดูเหมือนไม่ไกลเลยในความคิดผม  ซึ่งแม้ว่าช่วงค่ำแบบนี้มันออกจะมืดไปสักหน่อยเพราะบ้านแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันไปเป็นระยะๆ  แต่บอกได้เลยครับว่าอากาศเย็นๆ จากลมที่พัดเข้ามากระทบร่างตลอดเวลาแบบนี้  มันทำให้ผมสามารถเดินได้เพลินจนลืมความเหนื่อยไปเลยล่ะครับ

เดินชิลๆ มาได้สักพัก  เรื่องไม่คาดคิดว่าจะเจอในพื้นที่ที่คุ้นเคยแบบนี้ก็เกิดขึ้น  เมื่อจู่ๆ มีมือหนาสกปรกเข้ามาล็อคตัวผมเอาไว้จากทางด้านหลัง  ก่อนที่บริเวณลำตัวจะสัมผัสได้ถึงวัตถุปลายแหลมบางอย่างจี้เอาไว้ให้ผมหยุดที่เคลื่อนไหวแทบจะในทันที

“ เงียบๆ! ห้ามส่งเสียงดังนะ  มีของมีค่าอะไรก็ส่งมาให้หมด “

เชี่ย...  ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย...  เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับผมได้ยังไง

“ จะ..ใจเย็นๆ ครับพี่ คือผมไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวมาเลยอะครับ “

“ กูไม่เชื่อ! จะส่งมาดีๆ  หรือว่าอยากเจ็บตัวก่อน “

ทันทีที่เขาพูดจบผมก็สัมผัสได้ถึงปลายมีด( ซึ่งผมคิดว่าเป็นมีดนะครับ  เพราะผมไม่กล้าหันกลับไปมอง)  ขยับเข้ามาจิ้มตัวผมผ่านเสื้อมากยิ่งขึ้น

“ โอเคๆ ครับ  พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ  เดี๋ยวผมเอาของที่มีอยู่ให้ “

“ เร็วๆ  อย่าคิดตุกติกนะมึง  ไม่งั้นกูแทงแน่ “

ผมค่อยๆ เอามือข้างที่ยังว่างอยู่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง  เพื่อหยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมา  ก่อนจะชูขึ้นและถูกหยิบออกไปอย่างรวดเร็วจากคนด้านหลัง

“ โอเคแล้วนะครับ  ถ้างั้นพี่ก็ปล่อยผมไปนะ “

“ โทรศัพท์  นาฬิกา  เอามาให้หมด “

“ ผมแค่ออกมาซื้อของเองครับ  เลยไม่ได้พกโทรศัพท์ติดมาด้วย  ส่วนนาฬิกานี่ก็ไม่ได้มีราคาอะไรเลย  เอาไปพี่ก็ขายไม่ได้หหรอกครับ “

“ กูบอกให้เอามาเร็ว ! “

“ คะครับ “

เมื่อปลายมีดกดลงมามากกว่าเดิมจนราวกับว่ามันจะทะลุเสื้อเข้ามาได้แล้ว  ผมก็เริ่มกลัวและตัวสั่นมากขึ้น

นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วนะครับ...  ผมกำลังถูกจี้จริงๆ !!

ผมเอามือล้วงเข้าไปเอาโทรศัพท์ออกมาก่อนจะถูกชกออกไปจากมือแทบจะในทันทีที่พ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกง  จากนั้นผมก็กำลังจะปลดนาฬิกาออก  เพียงแต่ว่า...  ถ้าผมทำตามคำสั่งทุกอย่างแล้ว  ผมจะปลอดภัยจริงๆ อย่างนั้นเหรอ...  อะไรจะมาการันตีได้ละครับว่ามันจะไม่คิดทำร้ายผมเพื่อปิดปาก

“ ผมถอดไม่สะดวกอะครับ  พี่ล็อคผมเอาไว้ซะแน่นขนาดนี้  ขยับตัวออกนิดนึงได้มั้ยครับ “

“ อย่าลูกเล่นนะมึง “

“ พี่มีมีด  ผมไม่กล้าหรอกครับ “

ว่าแล้วมันก็ขยับตัวออกจากด้านหลังเล็กน้อย  และคลายวงแขนที่ล็อคตัวผมออกมาอีก  แต่มีดก็ยังคงจ่ออยู่ที่สีข้างของผมอยู่เหมือนเดิม

ผมปลดนาฬิกาออก  ก่อนจะแกล้งทำมันตกลงไปบนพื้น

“ ทำอะไรของมึงวะ “

“ ขอโทษครับ  มือมันสั่นอะ... “

จากนั้นผมก็รู้สึกได้ว่ามันกำลังย่อตัวลงเพื่อหยิบนาฬิกาที่ตกอยู่บนพื้น  และปลายมีดก็ดูเหมือนว่าจะห่างจากตัวผมอยู่พอสมควร  และไม่ต้องคิดนานไปมากกว่านี้  ผมก็ใช้แรงที่มีทั้งหมดสะบัดตัวและผลักมันล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นทันที  ก่อนจะได้เห็นใบหน้าเถื่อนๆ ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน  และแน่นอนว่ามันไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน  มันถลึงตามองผมพร้อมกับสบถออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด  ไม่รอช้าผมก็รีบวิ่งออกไปแทบจะในทันทีท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากเสาส่องสว่างที่อยู่ห่างออกไปเป็นระยะๆ  ซึ่งบ้านหลังที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นก็อยู่ห่างออกไปอีกกว่าหนึ่งร้อยเมตรข้างหน้า 

ผมจะหยุดวิ่งไม่ได้โดยเด็ดขาดครับ  ไม่อย่างนั้นผมอาจจะกลายเป็นศพอยู่แถวนี้ก็ได้

ขณะที่เสียงฝีเท้าด้านหลังไล่ตามผมมาติดๆ  ไม่ไกลมากข้างหน้าก็เห็นแสงไฟจากหน้ารถสาดเข้ามากระทบร่างให้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาแทบจะในทันที  และยิ่งพอได้เห็นว่ารถที่เข้ามาจอดเทียบข้างๆ เป็นรถหรูสีดำที่คุ้นเคย  นั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกถึงความปลอดภัยมากขึ้นไปอีก

พี่กิจรีบลงมาจากรถทันที  ทว่าคนร้ายที่ไล่ตามมาก็ไม่คิดจะหนีไปแต่อย่างใด  ยังคงวิ่งตรงเข้ามาหาอย่างไม่หยุด

“ ชะช่วยด้วยพี่กิจ.. “

ผมจับแขนพี่กิจเอาไว้  ก่อนที่พี่เขาจะดันผมออกห่างไปด้านหลังเพื่อความปลอดภัย  แล้วรีบยันเท้าไปที่คนตรงหน้าที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดพับเล่มเล็กทันที

ผลัก!!!

เสียงร่างเถื่อนกระแทกพื้นดังสนั่น  ไม่รอช้าพี่กิจก็รีบเข้าไปเตะซ้ำเข้าที่ข้อมือขวาซึ่งกำมีดพับนั้นไว้อยู่   จนคนร้ายที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวถึงกลับละมือออกจากมีด  และปล่อยให้มันกระเด็นออกไปห่างจากตัวพร้อมกับเสียงโอดครวญที่แสดงถึงความเจ็บปวด
เมื่อไร้ซึ่งอาวุธพี่กิจก็ไม่รอช้าเข้าไปคร่อมร่างนั้นไว้ก่อนจะตามด้วยหมัดหนักๆ อย่างที่ผมจินตนาการถึงความเจ็บปวดนั้นไม่ออกอีกกว่า 3 ถึง 4 หมัด  จนโจรคนดังกล่าวมีสภาพที่เห็นได้ชัดว่าคงจะไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  ไม่ว่าจะหน้าที่แตก  เลือดกำเดาที่ออกจมูก  และปากที่แตกจนเลือดเกรอะกรังไปทั่วใบหน้า

พี่กิจกระชากคอเสื้อคนร้ายซึ่งดูเหมือนจะไร้ซึ่งสติไปแล้วขึ้นมา  พร้อมทั้งทำท่าง้างหมัดสุดท้ายที่ผมคิดว่ามันคงจะหนักมากอย่างถึงที่สุด จนผมต้องเข้าไปรั้งแขนแข็งแรงนั้นเอาไว้ก่อน  เพราะกลัวว่าถ้าทำอะไรไปมากกว่านี้  มันอาจจะเป็นเรื่องร้ายแรงขึ้นมาก็เป็นได้

“ พอเถอะครับพี่ !!!  แค่นี้มันก็ดูจะไม่ไหวแล้ว  เดี๋ยวมันจะตายซะก่อนนะ  แล้วพี่จะเดือดร้อนเอา “

พี่กิจเหลือบกลับมามองที่ผมด้วยสายตาดุคมตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น  ก่อนจะหันกลับไปมองสภาพของคนตรงหน้าที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปแล้ว  และผลักมันลงไปนอนกองอยู่บนพื้นตามเดิม

พี่กิจลุกขึ้นมาจากร่างของคนร้าย  ก่อนจะหันมาหาผมด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงและอ่อนโยนอย่างเทียบไม่ได้กับเมื่อสักครู่นี้  พร้อมทั้งเอ่ยถามผมขึ้นทันที

“ เป็นอะไรมั้ย  มันทำอะไรรึเปล่า  ได้แผลตรงไหนมั้ย  แล้วเกิดอะไรขึ้น “

“ มะไม่เป็นไรครับพี่  ผมปลอดภัยดี  แต่ของๆ ผม... “

“ รอนี่นะเดี๋ยวพี่ไปเอาให้ “

ว่าจบพี่กิจก็เข้าไปค้นตัว  และเอาของๆ ผมคืนมาได้จนครบ  ก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งตำรวจ  ซึ่งระหว่างนั้นพี่กิจก็เข้ามาสำรวจตัวผมเพื่อดูว่าได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหนรึเปล่า  แต่ก็ไม่พบ  จะมีก็เพียงแค่อาการตัวสั่นที่ยังคงหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย..

“ ไม่เป็นไรแล้วนะ  พี่อยู่ตรงนี้แล้ว.... ไม่ต้องกลัวนะ “

อ้อมกอดอบอุ่นและปลอดภัยที่สุดได้เข้ามาโอบอุ้มร่างผมเอาไว้  แล้วจู่ๆ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น

ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้กันต์  เวลาที่พี่เขามาทำแบบนี้ทีไร  ทำไมจิตใจของผมถึงได้อ่อนแอกว่าปกติไปซะทุกทีเลย... ให้ตายสิ...
แต่ผมก็ไม่สนอะไรแล้วครับในตอนนี้  ใครจะเห็นหรือว่าอะไรก็ช่าง  ผมก็เลือกที่จะโอบกอดร่างสูงกว่าตรงหน้ากลับในทันที  ก่อนจะทำให้เสื้อยืดสีขาวต้องเปียกไปด้วยน้ำตาที่มันไหลออกมาอย่างไม่หยุดในตอนนี้

แต่ทว่า...  หนังฝรั่งมันก็มักจะมีตอนจบที่หักมุมอยู่เสมอ  และเรื่องนี้เองก็เช่นกัน..

“ ระวัง!!!  โอ้ย!! “

เสียงพี่กิจร้องขึ้นก่อนจะเบี่ยงตัวผมออกไปด้านข้างเพื่อหลบมีดพับที่พุ่งตรงเข้ามา  แต่ตัวเองกลับถูกคมมีดบาดเข้าให้ที่ต้นแขนแทนที่จะเป็นตัวผม

“ พี่กิจ!! “

ผมร้องเสียงหลงในทันทีที่รู้ว่าพี่กิจได้รับบาดเจ็บ  ทว่าพี่เขากลับดูจะมีสติมากกว่าที่ใช้มือซ้ายข้างที่เจ็บคว้าเอาข้อมือที่กุมมีดไว้ของคนร้ายก่อนจะบิดมันจนผู้ถูกกระทำร้องเสียงหลงและปล่อยมีดตกลงบนพื้น  จากนั้นหมัดขวาที่รวดเร็วก็สวนเข้าให้ที่ขมับของคนร้ายจนแน่นิ่งลงไปนอนกองบนพื้น

“ เป็นยังไงบ้างพี่กิจ.... “

ผมถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นเลือดแดงฉานไหลลงอาบแขนซ้ายของพี่เขา

“ ไม่เป็นไรหรอก  แผลแค่นี้เอง  เข้าไม่ลึกหรอก “

“ ไม่ลึกอะไรพี่  เลือดออกเยอะซะขนาดนี้ “

“ พี่ไม่เป็นไรจริงๆ  ไม่ต้องห่วงนะ...  “

ถึงพี่เขาจะพูดมาอย่างนั้น  แต่ผมก็อดกังวลใจไม่ได้อยู่ดี  ประจวบกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถเข้ามาถึงยังที่เกิดเหตุ  แล้วเรื่องทุกอย่างก็ดูจะคลี่คลายลง  คนร้ายถูกจับกุม  พี่กิจถูกพาไปทำแผลที่โรงพยาบาลใกล้ๆ  ก่อนจะไปที่ สน. กับผมเพื่อให้ปากคำ  ถึงจุดนี้พวกเราถึงได้รู้ว่าคนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่  แต่มีหมายจับข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายติดตัวอยู่  ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการหลบหนี

หลังจากที่ให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อย  บรรดานักข่าวมากมายที่ประจำอยู่ที่ สน. ต่างก็เข้ามารุมถ่ายรูปพวกเราขณะที่กำลังเดินออกจาก สน.  ซึ่งพี่กิจก็เลือกที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น  ซึ่งจุดนี้ผมก็เข้าใจนะครับ  แม้ว่าคดีจะไม่ใช่คดีใหญ่โตอะไร  แต่เพราะหนึ่งในผู้เสียหายเป็นนาย กรกิจ พานิชยไพศาล  รับรองได้ว่าถ้าเป็นข่าวออกไปจะต้องเป็นที่สนใจของสังคมอย่างแน่นอน

พี่กิจจูงมือผมกลับเข้ามาภายในรถก่อนจะกดโทรศัพท์หาใครบางคน  แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียด

“ ยังไงผมฝากพี่สิทธิช่วยเคลียร์ข่าวให้ด้วยนะครับ  แล้วเรื่องนี้...  ขออย่าให้พ่อกับแม่รู้นะครับ...ผมไม่อยากให้เป็นห่วง    โอเคครับ  ขอบคุณนะครับพี่สิทธิ “

จบประโยคพี่กิจก็วางสายไป  ก่อนจะหันมาอมยิ้มให้ผมแล้วพูดขึ้น

“ หมดเรื่องแล้วนะ  กลับบ้านกัน... “



...............
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 07-10-2018 20:17:38
ที่บ้าน...

“ นอนที่บ้านป้าภาก็ได้นี่  ห้องที่นั่นสบายกว่าที่นี่ตั้งเยอะ “

ผมที่กำลังเปิดประตูบ้านพูดขึ้นมาครับ  เพราะก่อนหน้านี้พี่เขาเอาแต่อ้อนขอมานอนกับผมด้วยที่นี่

“ ก็บอกแล้วไงว่าพี่เจ็บแผลมาก  ต้องการคนดูแลนะ “

“ ไหนว่าไม่เป็นไรไง  แถมดูแล้วก็ไม่น่าจะเจ็บอะไรมากด้วย “

“ ก็ตอนนั้นมันไม่เจ็บนี่  แต่ตอนนี้ท่าทางจะเริ่มอักเสบแล้วอะ โอ้ยๆ... “

“ สำออย!!! “

แม้จะรู้ว่าพี่เขาแกล้งเจ็บ  แต่ผมก็ต้องตามใจไปอย่างนั้นแหละ  เพราะถึงยังไงพี่เขาก็เป็นคนช่วยผมเอาไว้  และยังต้องมาเจ็บตัวเพราะผมอีก  ยังไงช่วงนี้ก็คงต้องยอมตามใจคุณชายท่านหน่อยแล้วกันครับ


..................


ที่ห้องนอนผม

“ บ้านผมมีตั้ง 3 ห้อง  ทำไมพี่ต้องมานอนเบียดผมด้วยเนี่ย  เตียงก็มีอยู่แค่นี้ “

ผมพูดขึ้นหลังจากที่พึ่งอาบน้ำเสร็จและเดินกลับเข้ามาภายในห้อง  ก่อนจะพบคุณชายที่ใส่เสื้อยืดสีเทากับบ๊อกเซอร์สีขาวกำลังนั่งเล่นไอแพดอยู่บนเตียง

“ ก็ถ้าพี่นอนที่อื่นแล้วใครจะดูแลพี่ล่ะ  นี่เราติดหนี้พี่อยู่นะ ไม่สนใจคนป่วยบ้างเลยเหรอ “

“ ชิส์  น่าจับไปนอนโรงพยาบาลซะเลย “

“ ใจร้ายที่สุด “

ผมเอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ระเบียงห้อง  ก่อนจะกลับเข้ามาเห็นพี่กิจที่วางไอแพดลง  และกำลังยิ้มหวานส่งมาให้  ก่อนจะตบเตียงเบาๆ เพื่อเรียกผมให้ไปนอนด้วย

“ อนุญาตแค่นอนนะ  ห้าม.. “

ไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดอยู่เลยครับ...

“ ห้าม...? “

แหมทำเป็นอินโนเซ้นต์...  ทั้งๆ ที่ตัวเองออกจะโชกโชนเลยแท้ๆ

“ ก็...  ห้ามทุกอย่างไง.. “

“ อื้ม... “

“ อื้มนี่ถือว่าสัญญาแล้วนะ “

“ หืม.... “

ดูสิครับ  กวนตีนที่สุดอะคนเรา   

ผมปิดไฟก่อนจะแทรกตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับพี่กิจ  ก่อนจะนอนตะแคงหันหลังให้และหลับตาลง  แต่ทว่า...  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน  มันก็ไม่ยอมหลับลงไปได้สักที

“ นอนไม่หลับเหรอ “

เสียงพี่กิจดังขึ้นมาจากในความมืดครับ

“ รู้ได้ไงว่านอนไม่หลับ “

“ พี่เก่ง... “

“ ตัวเองก็นอนไม่หลับเหมือนกันนั่นแหละ “

“ ไม่ใช่นอนไม่หลับ  แต่แค่ยังไม่อยากนอนเฉยๆ “

“ อ้างตลอด “

“ ว่าแต่เราเหอะ  ทำไมถึงนอนไม่หลับ “

“ ไม่รู้ดิ อาจจะเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ล่ะมั้ง... “

“ กลัวเหรอ  ไม่บอกพี่ล่ะ  พี่จะได้.. “

พี่กิจขยับตัวเข้ามาใกล้และทำท่าว่าจะเข้ามากอดผมครับ  แต่ถูกผมห้ามเอาไว้เสียก่อน

“ หยุดเลย...!   บอกแล้วไง  อนุญาตให้แค่นอนด้วยเฉยๆ “

“ คร้าบๆ... ไอ้เราก็อุตส่าห์หวังดี “

“ หวังดีหรือฉวยโอกาสกันแน่  ชิส์ “

จากนั้นเราก็เงียบกันไปอีกครู่หนึ่ง  ก่อนจะเป็นผมเองที่เริ่มพูดขึ้นก่อนบ้าง

“ พี่กิจหลับยัง.... “

“ ทำไม... เปลี่ยนใจอยากให้พี่มากอดแล้วเหรอ “

ผมถอนหายใจออกให้อย่างหน่ายๆ กับความหื่นกระหายของคุณชายท่าน  ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนคงคาดไม่ถึง  จะมีก็แต่ผมเนี่ยแหละที่รู้ดีที่สุด  ว่ามาดสุขุมเย็นชาตาร้ายของพี่แกจริงๆ แล้วนั้น  ข้างในมันมีแต่ความหื่นกระหายล้วนๆ เลยครับ

“ บ้าดิ  แค่อยากจะบอกว่า...  ขอบคุณนะที่ช่วยผมวันนี้ก็เท่านั้น “

“ ไม่ใช่แค่วันนี้หรอก  แต่ต่อจากนี้ไปต่างหาก...  พี่จะเป็นคนที่คอยอยู่ปกป้องเราเองนะ “

โชคดีนะครับที่อยู่ในความมืดและผมก็นอนหันหลังให้อยู่  ไม่เช่นนั้นพี่เขาคงเห็นว่าผมได้เผลอยิ้มออกมาจนหุบมันลงไปไม่ได้แล้วล่ะครับ

“ กันต์...  พี่ว่า...  เราเลิกงอนกันได้แล้วนะ  กลับมาดีกันเหมือนอย่างเก่าเนอะ “

“ ……. “

“ พี่รู้นะ.... ว่าจริงๆ แล้วเราเองก็หายโกรธพี่มานานแล้ว  ดังนั้น... เราจะมามัวตั้งแง่กันไปทำไม  แทนที่จะได้ใช้เวลาต่อจากนี้เพื่อหาความสุขกันไม่ดีกว่าเหรอ “

“ ก็พี่อะ...  แกล้งผมตลอด  คราวนี้ผมจะเอาคืนพี่บ้างไม่ได้เลยรึไง “

“ ได้สิ  จากนี้ต่อไปพี่จะยอมเราตลอดเลย  ขอแค่กลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะ “

“ แน่ใจนะที่พูดอะ “

“ ที่สุดเลย... “

“ ถ้างั้นก็..  อย่าทำให้ผมเสียใจอีกนะ “

“ นั้นก็แปลว่า...  หายโกรธพี่แล้วนะ “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่พยักหน้ารับไปในความมืดแค่นั้น

“ นั้นเราดีกันแล้วใช่มั้ย “

ผมก็ยังคงพยักหน้ารับไปเหมือนเดิม

“ ถ้างั้นเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะ “

“ อือ....  พูดมาก... “

ผมพูดตัดรำคาญให้กับน้ำเสียงและท่าทีตื่นเต้นของพี่กิจที่นอนอยู่ข้างๆ  ก่อนจะสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ที่ผมไม่ทันจะได้ตั้งตัว

“ อ่าวเห้ย !  ทำไรของพี่อะ “

“ ก็เป็นเหมือนเดิมไง  เราบอกเองนะ...  ดังนั้นพี่ก็สามารถกอดเราได้เหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ “

“ ใช่ที่ไหน... “

“ แต่เราเป็นคนพูดเองนะ “

“ เขยิบไปเลย.... ไอ้คนฉวยโอกาส “

“ อุ่นจัง  นุ่มด้วย  หอมด้วย  ไม่ได้กอดแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วน้า... “

“ ฟังกันบ้างสิเห้ย... “

“ ดิ้นไปก็เท่านั้น...  ไม่หลุดหรอก... “

ก็จริงครับ...  ถ้างั้นก็เลิกดิ้นจะดีกว่า  แต่จะว่าไป  ลึกๆ ในใจแล้ว  ผมก็รอคอยอ้อมกอดนี้มาโดยตลอดด้วยเช่นกัน...

ดังนั้นตอนนี้ก็เลย....
 
ไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วล่ะครับที่จะหนี.....





TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 07-10-2018 20:24:55
Chapter 53



กันต์’s  Part



เช้าวันต่อมา..

ผมที่กำลังนอนขดตัวซุกอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นสบาย  ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างไม่ค่อยอยากจะตื่นสักเท่าไหร่  จนลืมไปเลยว่า...

“ หลับสบายมั้ย “

เสียงพี่กิจดังขึ้นมาอย่างนุ่มนวลอยู่เหนือหัวผม  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่า.... ตอนนี้ผมกำลัง...

ชัดเลยครับ...
 
ซุกอยู่บนแผ่นอกกว้างของพี่เขา...

ผมผละตัวออกมาทันทีโดยอัตโนมัติ  ก่อนจะบ่นอุบขึ้นมาพร้อมกับมองไปยังหน้าทะเล้นตรงหน้า

“ ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกอะ  เช้านี้ต้องรีบไปบ้านป้าภาเตรียมอาหารเช้าให้แขกนะ “

“ ยังไม่ 6 โมงเลย  อีกตั้ง 10 นาที  จะรีบไปไหน “

“ ก็... มันต้องใช้เวลา  เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี  แล้วนี่ก็ลุกเลย  ไปช่วยผมด้วย “

“ คร้าบ...   อีกนิดก็ไม่ได้  กำลังสบายเลย  โอ้ย! “

ว่าแล้วผมก็หยิบเอาหมอนที่อยู่ใกล้ๆ มาตีพี่เขาไปเบาๆ ทีนึง  ก่อนจะแอบยิ้มแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไป


หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ ที่โฮมสเตย์เสร็จ  ช่วงสายผมกับพี่กิจก็ต้องไปรับป้าภาที่โรงพยาบาลครับ  พี่กิจอาสาจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้  แม้ว่าป้าภาจะปฏิเสธด้วยความเกรงใจก็ตาม  แต่คุณชายท่านก็บอกเพียงแค่ว่าไม่เป็นไรครับ  แหงล่ะ..  ถึงจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนแต่ระดับคุณชายท่าน  แค่นี้ขนหน้าแข็งไม่กระดิกเลยด้วยซ้ำ

ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ให้ป้าภาฟัง  แกดูจะเป็นห่วงและตกใจมาก  แถมยังย้ำไม่ให้พวกเราออกไปไหนมาไหนตอนดึกๆ ในช่วงนี้ด้วย  แม้ผมจะบอกไปว่าคนร้ายเป็นคนต่างถิ่นที่แอบหนีเข้ามากลบดานอยู่ที่นี่ก็ตาม  แต่แกก็ยังคงไม่วางใจอยู่ดีครับ
ทุกอย่างดูจะผ่านไปได้ด้วยดี  และช่วงนี้ผมก็ขอให้ป้าภาพักผ่อนไปก่อน  ส่วนเรื่องงานต่างๆ พวกผม 3 คนจะช่วยกันจัดการให้เอง  แต่ดูท่าแล้วแกเองก็คงเกรงใจบวกกับคนที่เคยทำงานอยู่เป็นประจำ  พอจะให้มานั่งๆ นอนๆ อย่างเดียว  มันก็คงจะรู้สึกไม่ชินนั่นแหละ  แกเลยลุกมาทำบ้าง  แต่ก็เป็นอะไรที่มันไม่หนักมาก  เพราะพวกเราโดยเฉพาะฟลุกสั่งห้ามเอาไว้โดยเด็ดขาด  จนกว่าสุขภาพของแกจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

ตลอดทั้งวันพี่กิจคอยเอาแต่นัวเนียเกาะติดผมตลอดเลย  ไม่ว่าผมจะไปไหน  ทำอะไร  ก็จะตามมาด้วยเสมอ  จนถึงตอนเย็นที่ผมกลับเข้าบ้านตัวเองมา  พี่เขาก็ยังคงตามมาด้วยเหมือนเดิม

“ กันต์...  ค่ำนี้เราไปหาข้าวข้างนอกกินกันเนอะ “

พี่กิจที่นั่งเล่นอยู่ที่ชิงช้าว่ามา  ในขณะที่ผมกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่

“ ยังไงก็ได้พี่  แต่ต้องบอกป้าภาก่อนนะ กลัวแกจะรอกินข้าวอะ “

“ พี่บอกไปแล้ว...  แถมยังบอกด้วยว่าพี่จะย้ายมานอนที่บ้านเราด้วย  ส่วนห้องนั้นก็ปล่อยให้ว่างได้เลย “

“ ใครอนุญาตไม่ทราบ “

“ อ่าว...  พี่ยังต้องขออีกเหรอ... “

แหมทำเสียงอ่อนพร้อมกับตาตกซะด้วยนะคนเรา  เดี๋ยวนี้รู้สึกพี่เขาจะเล่นละครเก่งขึ้นมากเลยล่ะครับ

“ ก็ได้ๆ...  แหม...ยิ้มทันทีเชียวนะ “

“ เอ๊า...  ก็คนมันดีใจนี่  จะให้พี่ร้องไห้เหรอ “

กวนดีนักนะคร้าบคุณชาย....  นั้นต้องเจอแบบนี้....

ว่าแล้วผมก็หันสายยางเปลี่ยนเป้าหมายจากต้นไม้ตรงหน้าไปยังพี่กิจทันที  พี่เขาโวยวายและลุกหนีทันที  แต่คนอย่างพี่กิจมีหรือจะยอมคนง่ายๆ  ก่อนจะเร่งฝีเท้าพรวดพราดเข้ามาหาผมในทันที

“ จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย... หึๆ  ได้.... “

พี่กิจยื้อสายยางจากมือผมไป  แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยให้ง่ายๆ หรอกครับ  ไม่งั้นไม่รอดแน่...

“ ฮะๆๆ  ไม่เอาพี่กิจ  มันเปียก “

“ เด็กดื้อก็ต้องเจอแบบนี้...  “

“ พอแล้ว...... “

สุดท้ายก็เปียกกันไปทั้งคู่ครับ  ไม่น่าเลยผม....

จากนั้นผมก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  ส่วนพี่กิจเองก็เช่นกัน  กลับไปอาบน้ำและเห็นว่าจะขนกระเป๋าย้ายเข้ามาพักอยู่ที่นี่เลยด้วย

หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ  ผมก็ยังไม่เห็นพี่กิจเลยครับ  ผมจึงออกมานั่งเล่นรับลมทะเลอยู่ที่ชิงช้ามุมโปรดที่สุดของผม
บรรยากาศตอนนี้บอกได้เลยครับว่าโรแมนติกมากสำหรับคนมีคู่  ท้องฟ้ายามอาทิตย์อัสดงยังให้เห็นแสงสีส้มแดงตัดกับสีครามกับน้ำเงินเข้มของท้องฟ้าและน้ำทะเล  พร้อมกับสายลมเย็นที่พัดมากระทบกับร่างอย่างไม่ขาดสาย  มันทำให้ผมหยุดคิดทุกอย่างและปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศที่น่าพิสมัยนี้

ไม่นานพี่กิจในชุดลำลองสบายๆ  ก็มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ  เย็นนี้พี่กิจสวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเชิ้ตสีฟ้าอ่อนและกางเกงขาสั้นสีขาว  ซึ่งทำให้บุคลิกดูอ่อนโยนมากขึ้นไปอีก

“ บรรยากาศดีอย่างที่เคยเล่าให้พี่ฟังเลย  แล้วนี่ใช่มั้ย...  ชิงช้ามุมโปรดที่เคยบอก “

“ ใช่พี่...  ผมชอบมานั่งเล่นและมองออกไปยังทะเลไกลๆ แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  ผมสามารถนั่งอยู่ที่นี่ได้เป็นชั่วโมงๆ เลยนะ “

ผมเล่าไปพี่กิจก็เดินอ้อมมาทางด้านหลังพร้อมกับแกว่งชิงช้าเบาๆ ส่งให้เรื่อยๆ  สักพักหนึ่งจู่ๆ พี่กิจก็พูดขึ้นมาเสียงนุ่ม

“ กันต์... “

“ ครับพี่.. “

ผมเงยหน้าขึ้นมอง  พลางร่นคิ้วอย่างสงสัยเมื่อดูเหมือนว่าพี่กิจกำลังจะพูดอะไรสักอย่างกับผม  ก่อนจะหยุดมือและดึงชิงช้าเอาไว้ไม่ให้มันเคลื่อนที่ต่อ

“ พี่พร้อมแล้วนะ... “

ก็นึกว่าเรื่องอะไร  ที่แท้ก็เรื่องที่จะออกไปกินข้าวเย็นกันคืนนี้  ซึ่งจะว่าไป  ผมก็เริ่มหิวขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกันนะครับ

“ พร้อมตั้งนานแล้ว  ไปกันเลยมั้ย “

“ พี่ไม่ได้หมายถึงเรื่องมื้อค่ำ “

“ แล้วเรื่องไรอะ “

ผมทำหน้าสงสัยถามไป  เมื่อตอนนี้พี่กิจเดินอ้อมมานั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าผม  จนระดับสายตาของเราเท่ากันแล้วในตอนนี้

“ พี่หมายถึงว่า...  พร้อมที่จะมาคบกับพี่แล้วรึยัง “

ราวกับหัวใจหายออกไปจากร่างกายทันทีที่ได้ยินประโยคนี้  ความฝันที่เคยละทิ้งมันไปแล้ว  กลับถูกคนตรงหน้าเก็บคืนมาให้
มันเป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ....?

“ พี่หมายความว่าไง... “

ผมที่กำลังอึ้งๆ ถามกลับไปในทันที

“ ช่วงเวลาที่ผ่านมา.... พี่ทบทวนความรู้สึกตัวเองดีแล้ว  และก็มั่นใจแล้วด้วยว่าพี่รักเรามากนะ  ดังนั้นพี่จึงตัดสินใจแล้ว  ซึ่งไม่ว่าต่อไปข้างหน้าเราจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรก็ตาม  พี่ก็พร้อมจะรับมันไว้และเผชิญหน้ากับมัน “

ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  ผมควรจะตอบพี่เขาไปยังไงดี..  ผม... ผม...

“ พี่รักเราจริงๆ นะ  ตลอดเวลาที่พี่ใช้ชีวิตร่วมกับเรา  พี่โครตมีความสุขเลย  และพี่ก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นตลอดไป  ดังนั้น... “


ตึกตัก....


ตึกตัก...


ตึกตัก...


“ กันต์... จะรับรักพี่ได้มั้ย.... “




ผมไม่รู้ว่าน้ำตาที่มันไหลออกมานี้.... มันเกิดจากความรู้สึกอะไร  เพราะมันมีหลายความรู้สึกเหลือเกินที่อัดแน่นอยู่ภายในอก  จนผมไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้  ซึ่งการร้องไห้ในตอนนี้  มันเลยกลายมาเป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำและแสดงความรู้สึกออกมาได้


“ เห้ย... เป็นอะไรกันต์  พี่พูดอะไรผิดไปเหรอ...  ไม่เอานะ... อย่าร้องไห้นะ... “

“ ฮึก....ฮึก... “

ผมเริ่มสะอื้นตัวโยนขณะที่พี่กิจกำลังเอามือมาปาดน้ำตาผมออกอย่างเบามือ

“ อย่าร้องนะ... ถ้าเรายังไม่พร้อมพี่รอได้  และก็จะรอตลอดไปด้วย  ดังนั้นอย่าร้องนะครับ... “

ทันทีที่พี่กิจพูดจบผมก็ส่ายหน้าป้อยๆ ทันที

“ ไม่เอา... ฮึก...ฮึก... “

“ คร้าบ... ไม่เอาก็ไม่เอา “

“ ไม่...  ไม่เอาแบบนั้นดิ ฮึก.. “

“ อ่าว...  แล้วกันต์อยากได้แบบไหนล่ะ “

“ ก็...  ก็ได้.... “

“ ก็ได้หมายความว่า...? “

“ ก็ตามนั้น... “

“ แปลว่ายอมคบกับพี่แล้วนะ “

“ อืม... “

“ แปลว่าจากนี้ไปเราจะเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย “

“ อื้ม... ทำไมเข้าใจยากจัง “


“ เย้!!!!     วู้ว!!! “


“ เสียงดังทำไม !! “

“ ก็พี่ดีใจนี่... “

“ เวอร์ไป...  ปกติขอใครเป็นแฟนต้องดีใจขนาดนี้เลยรึเปล่า “

“ ไม่อะ...  ไม่เคยขอใครคบเป็นแฟนจริงจังแบบนี้เลยสักคน  เราอะคนแรกเลยนะ... และจะเป็นคนสุดท้ายเลยรู้ป่าว..”

พอพี่เขาพูดจบ  ผมก็ยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ  และไม่สามารถจะหุบมันลงไปได้เลย

“ แนะ..  ยิ้มๆ “

“ บ้าดิ  อย่ามาแซวนะ “

“ คร้าบ...  แล้ว...  พี่ก็มีของอย่างหนึ่งจะให้เราด้วยนะ “

ผมทำหน้าสงสัยพร้อมกับมองพี่กิจที่ล้วงเอากล่องกำมะหยี่สีดำขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะเปิดมันออกพร้อมกับส่งยิ้มละมุนมาให้

“ นี่มัน... “

ผมเบิกตากว้างขึ้นพร้อมกับอ้าปากค้างเล็กๆ  ไม่คิดว่าเรื่องเล่าสนุกๆ ของไอ้แน๊คมันจะเป็นความจริง

“ มัน...  เป็นเรื่องจริงเหรอพี่  เรื่องที่เขาลือกัน “

ผมมองดูสร้อยสีเงินที่มีเกียร์สีทองห้อยอยู่อย่างคาดไม่ถึงว่ามันจะมีอยู่จริง  สัญลักษณ์แทนใจของพี่กิจที่สาวๆ หลายคนปรารถนาที่จะได้มันมาไว้ในครอบครอง 

เรื่องเล่าที่ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นความจริง....

“ เขาลือกันว่าไงอะ “

“ ก็เขาบอกว่า  ใครก็ตามที่ได้เกียร์ทองจากพี่ไป  แสดงว่า...  คนคนนั้นคือคนเดียวที่พี่จะจริงจังด้วย “

“ หืม.... สงสัยว่าไอ้คิมมันต้องปากพล่อยไปแน่ๆ  เพราะนอกจากเพื่อนในกลุ่มของพี่แล้ว  พี่ไม่เคยบอกใครเรื่องเกียร์ทองนี้เลยนะ  แต่ก็นั่นแหละ... เกียร์ของพี่มันมีแค่อันเดียว  และก็จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้ไป  ซึ่งก็คือเรานะ...กันต์... ”

ถึงจุดนี้ผมก็ยิ้มเขินขึ้นมาอีกรอบ  และสงสัยว่าหน้ากับหูของผมมันคงกำลังแดงอยู่ด้วย  เพราะผมรู้สึกว่ามันดูจะร้อนผ่าวๆ ไปทั้งหน้าเลยตอนนี้

“ แหม... เขินแล้วน่ารักนะเนี่ย..  มาๆ เดี๋ยวพี่ใส่ให้  เอ้อ..ลืมบอกไป  เกียร์นี้อะ... จะสลักชื่อพี่ที่ขอบฟันเฟืองสามซี่ด้านซ้ายด้วยนะ “

พี่กิจหันด้านข้างมาให้ผมดู  ซึ่งพอมองดีๆ แล้วจะเห็นตัวอักษร K I J อยู่ที่สันฟันแต่ละซี่อย่างประณีต

“ ของแท้ต้องเป็นแบบนี้นะรู้มั้ย... “

พี่กิจพูดจบก็ขยับตัวเอาสร้อยเข้ามาใส่ให้ผม  ก่อนจะละหน้าที่อยู่เกือบจะชิดกับหน้าของผมออกมาเล็กน้อย  และเมื่อใบหน้าเราใกล้กันขนาดนี้  ผมก็อดจ้องตาคมที่แน่วแน่และมั่นคง  หากแต่แฝงไว้ซึ่งความหวานและอ่อนโยนอย่างที่พี่เขาไม่เคยมองใครให้เห็นมาก่อน  และก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่พ่ายแพ้และไม่อาจจะมองมันไปได้นานมากกว่านี้

เมื่อพี่กิจไม่ขยับตัวออกไป  หัวใจผมก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง


ตึกตัก...


ตึกตัก...


ไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว  ริมฝีปากรูปกระจับสวยก็เข้ามาทาบทับลงบนริมฝีปากบางของผม  ก่อนจะไล้สัมผัสดูดดื่มเบาๆ และนุ่มนวลจนผมต้องหลับตาพริ้มตามไป

ไม่นานพี่กิจก็ละริมฝีปากออกมา  ผมจึงได้กล้าลืมตาขึ้นพร้อมกับมองพี่เขาอย่างอายๆ

“ ชอบจัง...  ขออีกครั้งได้มั้ยอะ “

“ บ้าเหรอ... มะไม่เอา...  เดี๋ยวคนมาเห็น “

“ น้า...... “

“  ม่าย.. “

พี่กิจมองเจ้าเล่ห์ตอบกลับมา  ก่อนจะดันทุรังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ อีกครั้ง  และก็...

ไม่ฟังกันบ้างเลย.....



.............



ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมหาดสวย

“ พี่ถามไอ้เรย์...  เห็นมันแนะนำว่าร้านนี้อาหารอร่อยและบรรยากาศดี “

พี่กิจว่ามาขณะที่เรากำลังนั่งรออาหารที่สั่งอยู่ครับ

“ เดี๋ยวนะพี่  อย่างนี้ก็แปลว่าไอ้เรย์มันรู้เรื่องที่พี่...  เอ่อ...  จะมาขอผมเป็นแฟนอะดิ “

“ ป่าว...  พี่แค่บอกมันไปว่าจะพาเรามากินข้าว  เลยให้มันช่วยแนะนำร้านอาหารให้หน่อยอะ “

ผมพยักหน้าเข้าใจไปเล็กๆ  แต่จะว่าไป  หลังจากที่เราตกลงคบกันแล้ว  พี่กิจก็ดูจะยิ้มบ่อยขึ้นมากกว่าปกติเลยนะครับ  และเชื่อเถอะครับว่าใบหน้าแบบนี้อะ....  แทบจะไม่มีใครเคยได้เห็นหรอก 

เพียงแต่ว่า....

“ ยิ้มไรกันนักหนาห๊ะพี่... “

“ ทำไมอะ  ก็วันนี้พี่มีความสุขนี่ “

“ แต่คนเขามองกันเต็มไปหมดแล้วเนี่ย....  ชอบบริหารเสน่ห์นักรึไง “

เชี่ย...ไอ้กันต์  เผลอหลุดพูดความคิดขึ้นมาจนได้

“ ทำไม...  หึงพี่เหรอ... “

พี่กิจยิ้มเจ้าเล่ห์มองมาครับ  แต่ผมไม่ตอบอะไรหรอก  เดี๋ยวเสียฟอร์มกันพอดี

“ นอกจากเราพี่ไม่สนใครหรอก  สบายใจได้... “

“ จริงอะ... “

“ สัญญาเลยคร้าบโผม.... “

“ อื้ม...  จะเชื่อใจก็แล้วกัน “

ผมเลยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเล็กๆ ตอบรับไป

อาหารค่ำมื้อนี้นอกจากจะอร่อยและบรรยากาศดีแล้ว  พี่กิจยังดูแลผมดีมากด้วย  แต่ถึงแม้ว่าสถานะของเราตอนนี้จะเป็นแฟนกันแล้วก็ตาม  แต่เราก็ยังคงทำตัวไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่  และถึงอย่างนั้นก็ตาม  แต่ในตอนนี้...  ผมบอกได้คำเดียวเลยครับว่า... 


โครตมีความสุขเลยล่ะครับ....



หลังจากมื้อค่ำ.... 

ก่อนกลับเข้าบ้านพี่กิจจอดรถแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ  เห็นบอกว่าจะซื้อของใช้ที่จำเป็นนิดหน่อยอะครับ

“ รอนี่นะ  จะเอาอะไรมั้ย  เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้ “

“ เอาขนม  แต่เดี๋ยวผมลงไปเลือกด้วยดีกว่า.. “

“ เห้ยไม่ต้อง..  พี่ไปซื้อให้ก็ได้  อยากกินไรว่ามาเลย “

“ มีพิรุธนะเนี่ยเรา... “

“ ป๊าว...  พิรุธอะไร..  ก็แค่เห็นเราดูง่วงๆ  พี่ก็เลยอยากให้เรานอนรออยู่ในรถเฉยๆ .. “

ผมร่นคิ้วมองพี่เขาอย่างสงสัยกับท่าทีแปลกๆ  แต่พี่กิจก็ตีหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไร  หรือว่าผมจะคิดมากไปเองนะ

“ นั้นรอพี่แปบนะ  เดี๋ยวพี่มา “

“ เร็วๆ น้า “

“ จ้า... “

พี่กิจยิ้มแป้นส่งมาให้ก่อนจะปิดประตูรถและหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อทันที  แต่จะว่าไป  ผมน่าจะเข้าไปหาซื้ออะไรเผื่อไว้ทำมื้อเช้าให้พี่กิจกินพรุ่งนี้ด้วยจะดีกว่า  ว่าแล้วผมก็ออกจากรถและเดินตามพี่เขาเข้าไปทันที

เมื่อเข้ามาในร้านแล้ว  ผมก็เห็นพี่กิจกำลังเลือกซื้อของบางอย่างอยู่ใกล้ๆ บริเวณเค้าท์เตอร์  ผมเลยเดินเข้าไปสะกิดพร้อมกับร่นคิ้วและกระซิบถามขึ้นมาเสียงเบา

“ ทำไรอะ..  ไหนว่าจะซื้อของใช้จำเป็นไง “

“ แหะ..  ไม่รอพี่ที่รถล่ะ “

“ ตอบมาเร็วๆ..”

“ ก็มาซื้อนี่อะ... “

พี่กิจยื่นกล่องยาวๆ มาให้ผมดู  ซึ่งทันทีที่ผมเห็น  ผมก็บิดเข้าให้ทีสีข้างของพี่เขาแรงๆ ทันทีเลยครับ

คนบ้าอะไร...  หื่นเป็นที่สุด….

ก็ไอ้กล่องที่พี่เขายื่นมาให้ผมดูไม่บอกก็รู้ครับว่ามันคือเจลหล่อลื่น... 

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...  โอ้ย!!!!

แล้วผมก็รีบเดินออกจากร้านไปแทบจะในทันที  อายเป็นบ้าเลยครับ  แถมพอนึกถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้ด้วยแล้วมันก็..

โอ้ย!!!  เอาไงดีวะเนี่ยไอ้กันต์!!!

ไม่นานพี่กิจก็กลับเข้ามาในรถพร้อมกับถุงขนม  เครื่องดื่มและของกินถุงใหญ่  ผมรีบคว้ามาก่อนจะค้นดูเพื่อหาของสิ่งนั้น  และก็เจอมันรวมอยู่ด้วยกับของพวกนี้  นั่นก็หมายความว่า...  พี่กิจเอาจริงแน่ๆ ครับคืนนี้ !

“ ก็บอกแล้วว่าให้รออยู่นี่ก็ไม่เชื่อ “

“ ซื้อมาทำไม  ไอ้นี่อะ “

“ ก็...  ยังจะถามอีก “

“ ไม่ต้องมายิ้มเจ้าเล่ห์เลย  ผมบอกตอนไหนว่าจะ...  ยอมพี่อะ “

“ โถ่กันต์...  คนเป็นแฟนกันเขาก็...  ทำกันเป็นเรื่องปกตินะ ”

“ แต่ผมยังไม่พร้อมเลย  ยังไม่ได้ทำใจเลยด้วย  ครั้งที่แล้วพี่ก็... “

“ ไม่แล้วคร้าบ  ตอนนั้นพี่ขอโทษ  พี่หน้ามืดไปหน่อยอะ แต่คราวนี้พี่จะนุ่มนวลนะคร้าบ  สัญญาเลย...  เนี่ยพี่ถึงได้ซื้อเจลมาไง  เราจะได้ไม่เจ็บ  รับรอง...  เราจะต้องติดใจและบอกว่า...  พี่กิจขออีกสิ...  โอ้ย!!  “

“ ไอ้คนบ้า !!!! ”



………………….
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 50 มาละคร้าบ ผ่ามพาม!!! )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 07-10-2018 20:34:11
ที่บ้าน…


“ ง่วงจังเลย  นอนกันเลยเนอะพี่วันนี้ “

ผมที่เดินกลับเข้าห้องมาหลังจากที่ออกไปตากผ้าเช็ดตัวที่ระเบียงห้องเสร็จพูดขึ้นมาทันที  ขณะที่พี่กิจซึ่งนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงก็หันหน้ามามองพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ และพยักหน้าป้อยๆ อย่างเห็นด้วย

คือผมหมายถึงนอนหลับจริงๆ นะพี่  คงไม่ได้ตีความเป็นอย่างอื่นใช่มั้ย…

“ ผมหมายถึงนอนหลับกันนะพี่ “

พี่กิจไม่ได้ตอบอะไร  แต่ยังคงอมยิ้มพยักหน้าป้อยๆ อยู่เหมือนเดิม  โครตไม่น่าไว้ใจเลยล่ะครับ

จากนั้นผมจึงเดินไปปิดไฟ  ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างลังเลในความปลอดภัย  แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น  สุดท้ายผมก็ต้องเดินกลับมาที่เตียงอยู่ดี

ผมล้มตัวลงนอนก่อนจะรีบนอนตะแคงหันหลังให้พี่เขา  และก็ถูกวงแขนแข็งแรงภายใต้ผ้าห่มเลื่อนเข้ามาโอบกอดเอาไว้ในทันที  พร้อมกับเจ้าของร่างใหญ่ที่เลื่อนเข้ามาจนแนบชิด  พี่กิจสูดดมที่ซอกคอจนผมอดจั๊กจี้ขึ้นมาไม่ได้  จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า..

“ กลัวเหรอ... “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ให้ไปเพียงเท่านั้น  คือผมเข้าใจนะว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกัน  แต่ว่า... มันเร็วไปมั้ยในวันนี้  คือผมยังไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาเลยอ้า.....

“ มันจะไม่เหมือนครั้งที่แล้วหรอกนะ  พี่สัญญาเลย  พี่จะทะนุถนอมเราให้ดีที่สุด  และอีกอย่าง...  สงสารพี่หน่อยนะคร้าบ  คือเวลาที่อยู่กับเราแล้วต้องห้ามใจ...  มันโครตอึดอัดเลยอะ.... “

“ แต่ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลยนะพี่ “

ผมขยับตัวหันหน้าเข้าหาพี่เขาซึ่งอยู่ห่างผมไม่ถึงคืบ

“ ก็ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้นแหละ  ว่าตามพี่ไปก็แล้วกัน...  นะคร้าบคนเก่ง... “

“ แต่... “

ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ  พี่กิจก็เข้ามาประกบปากผมเอาไว้  ก่อนจะค่อยๆ ขบเม้นเบาๆให้ผมคล้อยตามไป  และใช้มือหนาจะค่อยๆ ลูบไล้ไปตามตัวผมอย่างแผ่วเบา

ปลายลิ้นอุ่นค่อยๆ สอดเข้ามาก่อนจะเคล้าคลอชี้นำให้ผมว่าตามไป  ซึ่งก็ไม่ยากอะไรสำหรับผมที่เริ่มจะประสามากขึ้นแล้ว  ผมคราง ‘อือ’ ในลำคออย่างพอใจเพราะชอบในรสสัมผัสนี้  จากนั้นการจูบก็ดูจะเริ่มดูดดื่มมากยิ่งขึ้น  ในขณะที่มือซนก็เริ่มรุกไล้เข้ามายังภายในเสื้อ  ซึ่งไม่นานพี่กิจก็ละริมฝีปากออกมาพร้อมกับมองผมด้วยสายตาเซ็กซี่อย่างถึงที่สุด  ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างหมันเขี้ยวเฉกเช่นเจ้าป่าที่กำลังจะล่าอาหาร

ไม่นานเสื้อผมก็ถูกถอดออกและโยนลงไปข้างเตียง  ก่อนจะตามไปด้วยเสื้อยืดของพี่กิจตามลงไปติดๆ เผยให้เห็นอกหนากว้างและหุ่นเพอร์เฟคที่ช่วยทำให้อารมณ์ของผมเตลิดไปมากยิ่งขึ้น  พี่กิจไม่ปล่อยให้ผมได้มองนานไปมากกว่านี้  ก็เข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของผมทันที  แรกๆ ก็ออกจะจั๊กจี้ไปสักหน่อย  แต่ไม่นานก็กลายเป็นความเคลิบเคลิ้มและกระตุ้นอารมณ์ผมให้เตลิดไปมากยิ่งขึ้น  จนแก่นกายของผมแข็งตัวดันบ็อกเซอร์จนรู้สึกอึดอัด

เสียงหายใจฟืดฟาดของพี่กิจทำให้ผมสติแทบกระเจิงและตอบสนองโดยการลูบไล้บนแผ่นหลังกว้างไปมา  แต่ก็ไม่ลืมที่จะระวังผ้าพันแผลบริเวณต้นแขนซ้ายของพี่เขา

พี่กิจบดเบียดร่างกายส่วนร่างที่ตอนนี้สัมผัสได้ถึงแก่นกายใหญ่แข็งเกร็งซึ่งดันบ๊อกเซอร์ตัวบางจนปูดโปนราวกับว่ามันจะทะลุออกมาให้ได้เสียอย่างนั้น  ซึ่งยิ่งพี่เขาบดเบียดช่วงล่างไปมาหนักมากขึ้นเท่าไหร่  อารมณ์ของพวกเราทั้งคู่ก็ดูจะยิ่งกระเจิงไปมากขึ้นเท่านั้น  จนตอนนี้คงไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งพวกเราทั้งคู่เอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

ไม่นานยอดอกสีชมพูอ่อนของผมก็ถูกดูดดุนและขบเม้มจากริมฝีปากรูปกระจับให้ขนลุกซู่  จนต้องเอามือมากดหัวพี่เขาไว้อย่างห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่  หลังจากที่ละเลงยอดอกทั้งสองข้างของผมจนหนำใจแล้ว  พี่กิจก็เงยหน้ามองผมก่อนจะส่งยิ้มและมองผมตาเยิ้มจนผมอดอายและเบนหน้าหนีออกไปไม่ได้

พี่กิจพลิกตัวเองลงมานอนหงายและดันผมให้ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนร่างบ้างครับคราวนี้  ก่อนจะส่งสายตาราวกับกำลังจะบอกให้ผมลองทำตามบ้าง  ตอนแรกผมก็ประหม่าตามประสาคนที่ไม่เคยนั่นแหละครับ  แต่พอเห็นสายตาและการพยักหน้าบอกให้ผมลองทำดูของพี่เขา  ผมจึงตัดสินใจที่จะลองดู  เผื่อว่าสิ่งนี้มันอาจจะทำให้พี่กิจมีความสุขมากขึ้นไปอีกก็เป็นได้  ว่าแล้วผมก็ก้มลงดูดดุนที่ยอดอกสีคล้ำกว่าบนแผ่นอกกว้าง  ก่อนจะใช้ความทรงจำจากสัมผัสที่เคยได้รับมาแล้วลองทำตามดูบ้าง

“ อา....  แบบนั้นแหละ...  เก่งมากครับ  อาห์ “

พอได้ยินเสียงพึงใจของพี่กิจ  มันก็ยิ่งทำให้ผมมีกำลังใจและมั่นใจมากขึ้นกับสิ่งที่ทำ

สักพักพี่กิจก็ดึงหน้าผมออกก่อนจะมองผมอย่างสื่อความนัยน์  ซึ่งจุดนี้มันก็ไม่ยากเลยที่จะเข้าใจ  ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวใช้ปลายลิ้นสัมผัสอย่างแผ่วเบาจากแผ่นอกไล้ลงมายังหน้าท้องที่แข็งเป็นรอน

ผมชะงักตัวทันทีเมื่อถึงขอบบ๊อกเซอร์สีดำที่ถูกรั้งตึงจนนูนเด่นอย่างเห็นได้ชัดจากแก่นกายแข็งขนาดใหญ่  พี่กิจบอกให้ผมถอดมันออกไป  ซึ่งผมก็ว่าตามแต่โดยดี  ก่อนจะค่อยๆ ถอดมันออกและพบเอ็นแข็งดีดเด้งออกมาจนน่าตกใจกับขนาดและรูปร่างของมัน  ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปในทันที  เพราะวันนี้ไม่ว่ายังไงผมคงต้องโดนเจ้าสิ่งนี้เสียดแทงเข้ามาในร่างกายอย่างแน่นอน.....

“ นะคร้าบ...  ทำให้พี่หน่อยนะ “

พี่กิจอ้อนเสียงหวานให้ผมทำในสิ่งที่ใครๆ ก็พอจะเดาได้  ทว่าผมกลับยังไม่เคยทำมันเลยสักครั้ง  เพราะที่ผ่านมาขั้นตอนนี้ก็ถูกข้ามไปโดยตลอด  ดังนั้น...  จะไหวมั้ยเนี่ย...  แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว  จะถอยก็คงจะไม่ได้ซะแล้วล่ะ

ผมใช้ปลายลิ้นลองหยั่งเชิงบริเวณส่วนปลายดูก่อน  ทันทีที่สัมผัส...  พี่กิจก็ครางออกมาอย่างพึงพอใจ  จากนั้นผมก็กำแก่นกายร้อนแข็งจนเต็มมือก่อนจะขยับมันขึ้นลงไปมาอย่างเชื่องช้า  สักพักพี่กิจก็เอามือมาจับที่หัวผมพลางขยำผมนุ่มเบาๆ  ราวกับกำลังจะบอกถึงสิ่งที่ปรารถนาให้ผมทำต่อไปจากนี้

ผมชั่งใจอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ตัดสินใจลองทำดู  โดยการอ้าปากกว้างๆ รับเอาแก่นกายร้อนตรงหน้าเข้ามาภายใน  ก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นลงแทนมือที่เคยทำหน้าที่ของมันอยู่

“ โอ๊ะ...! “

จากที่กำลังครางเสียงเอื่อยอยู่  พี่กิจก็ร้องขึ้นมาเบาครับ  ผมเลยละปากออกจากแก่นกายใหญ่ในทันที

“ โดนฟันอะครับ “

“ และใครสั่งให้เกิดมาใหญ่ล่ะ  ไม่ทำมันแล้ว... “

“ เห้ย!!!  พี่ไม่ได้ว่าอะไรนะคร้าบ ครั้งแรกทำได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว  ทำใหม่นะคร้าบ  ค่อยๆ ฝึกไป  เดี๋ยวก็เก่งเอง...  น้าคร้าบ  คนเก่ง... “

แอบหมันไส้ครับ  แต่พอเห็นสีหน้าอ้อนๆ และน้ำเสียงแบบนี้แล้ว... มันก็อดใจอ่อนขึ้นมาไม่ได้

ผมลองใหม่อีกครั้ง  แต่คราวนี้ผมทำมันอย่างช้าๆ และระมัดระวังมากขึ้นสำหรับมือใหม่หัดขับอย่างผม

“ อาห์.......อือ...  แบบนี้แหละครับ  เก่งนะเราเนี่ย  เรียนรู้ไวจริงๆ..  อ่าห์... “

แหงอยู่แล้ว  นี่ใครล่ะ...

นานพอสมควรพี่กิจก็จับหน้าผมออก  ก่อนจะขยับตัวพลิกผมลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง  แล้วเริ่มทำการเล้าโลมผมจนร้องเสียงหลงและบิดเอวไปมาอย่างสุดทน  ซึ่งขณะที่ผมกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ได้รับ  ผมก็สัมผัสได้ถึงนิ้วแข็งเกร็งที่ลื่นและเย็นจากเจลหล่อลื่นกำลังพยายามรุกล้ำเข้ามายังช่องทางด้านหลังของผม  แม้มันจะไม่ได้เจ็บอะไร  แต่มันก็ให้สัมผัสที่แปลกและไม่เคยชินมาก่อน 

นิ้วหนาเคลื่อนที่เข้าออกไปมาจนผมเริ่มชิน  ก่อนจะเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเมื่อถูกเพิ่มเข้ามาภายในอีกหนึ่งนิ้ว

“ อ๊ะ ! “

ผมสะดุ้งตัวพลางร้องขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อนิ้วทั้งสองถูกเลื่อนเข้ามาจนสุด  พี่กิจจึงเลื่อนตัวขึ้นมาจูบผมเอาไว้  ก่อนจะเคล้าคลอเพื่อดึงดูดความสนใจจากจุดนั้นไป  และมันก็ดูจะได้ผลดีเสียด้วย 

“ ไม่ต้องกลัวนะ  พี่จะค่อยๆทำ  รับรองไม่เจ็บเหมือนอย่างครั้งที่แล้วแน่ “

พี่กิจละตัวขึ้นมาก่อนจะบอกผมเสียงเบา  ภายใต้สายตาประหม่าของผม  หัวใจมันได้เต้นแรงอย่างถึงที่สุด  เมื่อเวลานั้นกำลังจะมาถึง

พี่กิจค่อยๆ กดแก่นกายใหญ่ที่ชโลมไปด้วยเจลหล่อลื่นลงที่ช่องทางด้านหลังของผม  และแม้ว่ามันจะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปได้เพียงเล็กน้อย  แต่ผมก็ยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ดี  ราวกับว่าส่วนนั้นมันกำลังจะฉีกขาดออกจากกัน  ผมดันตัวพี่กิจเอาไว้ทันที  ซึ่งพี่เขาเองก็ยอมหยุดที่จะดึงดันล้ำเส้นเข้ามามากกว่านี้

“ ไม่เป็นไรน้า...  อย่าเกร็ง...  พี่จะค่อยๆ ทำนะครับ “

พี่กิจเอนตัวลงมาจูบผมอีกครั้งพร้อมกับใช้ลิ้นซุกซนดึงดูดความสนใจของผมไปเหมือนเดิม  ก่อนจะค่อยๆ ดันแก่นกายเข้ามาภายในอย่างเชื่องช้าและแนบเนียน  ถึงแม้ว่ารอบนี้มันจะไม่ได้เจ็บมากเหมือนครั้งที่แล้วเพราะเจลหล่อลื่นและการทำอย่างทะนุถนอมของพี่กิจ  แต่ผมก็ยังคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแน่นและอึดอัดบ้างอยู่ดี  จนต้องใช้มือจิกหลังพี่เขาเอาไว้จนแน่น  ซึ่งเชื่อเถอะครับว่าพรุ่งนี้มันจะต้องเป็นรอยแดงอย่างแน่นอน

“ อ๊า!! “

ผมร้องเสียงหลงเมื่อแก่นกายร้อนถูกเลื่อนเข้ามาจนสุด  ทำให้ร่างกายของเราแนบสนิทกันราวกับว่าเป็นคนๆ เดียวกันแล้วในตอนนี้

พี่กิจยังคงใจเย็นไม่รีบร้อนทำอะไรมาก  เพื่อให้ผมได้เจ็บน้อยที่สุด  ก่อนจะค่อยๆ ขยับบั้นท้ายเข้าออกอย่างเชื่องช้า

เมื่อความเจ็บเริ่มจางหายลง  และถูกแทนที่ด้วยความวาบหวิวและเสียวสะท้านในทุกครั้งที่ถูกร่างใหญ่เข้ามากระทบ  ผมก็เริ่มครางออกมาอย่างต่อเนื่องและห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่  พี่กิจที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้จึงยันตัวขึ้นพร้อมกับเร่งจังหวะเข้าออกให้หนักหน่วงมากขึ้นไปกว่าเดิม  จนในที่สุดผมก็ถึงกับร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษากันเลยทีเดียว

ค่ำคืนอันแสนสุขผ่านไปอย่างดูดดื่มและเชื่องช้าภายใต้รสรักพิศวาสที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้แก่กัน  จนในที่สุดผมก็หมดสภาพลงอย่างไร้เรี่ยวแรงภายในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของพี่กิจ....



..............................



เช้าวันต่อมา...

ไม่อยากจะตื่นเลยครับ  แต่แสงที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวบางเข้ามา  มันแยงตาซะจนผมหลับต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

ผมขยับตัวเล็กน้อยภายในอ้อมกอดของร่างเปลือยเปล่าข้างๆ  ซึ่งจะว่าไป...  ผมอะชอบกลิ่นกายของพี่กิจมากเลยนะครับ  แถมยิ่งอยู่ในวงแขนแบบนี้ด้วยแล้ว  มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างถึงที่สุด

“ ตื่นแล้วเหรอ... “

เสียงหวานข้างหูดังขึ้นมาอย่างสดชื่น  ดูท่าแล้วพี่เขาคงจะตื่นมานานแล้วล่ะครับ  นี่ขนาดว่าเมื่อคืนจัดผมไปตั้งสองดอกเลยแท้ๆ  แต่ท่าทางดูจะไม่อ่อนเพลียอะไรเลยสักนิด  ซึ่งต่างจากผมโดยสิ้นเชิง....

“ ยัง....  จะนอนต่อแล้ว “

“ เช้าแล้วนะ  นอนอะไรมากฮึ “

“ ไม่ต้องมาพูดเลย  ก็เพราะใครกันล่ะ... “

“ นั่นสินะ...  ว่าแต่....  เห็นมั้ยล่ะ...  พี่บอกแล้วว่าเราต้องติดใจ “

“ อะไร... ใครติดใจไม่ทราบ “

“ เอ๊า....  แล้วใครกันที่บอกว่า  ดีจังเลยครับพี่กิจ...  ทำอีกสิครับ... “

พี่กิจเอามือมาบีบจมูกผมพร้อมทั้งโยกไปมาอย่างเอ็นดู  ผมเลยตีเข้าที่ต้นแขนก่อนจะดึงมือพี่เขาออกไป

“ อะไร....  ใครพูด...  มั่วละ..  ไม่เคยพูดเลยว่าเอาอีก “

“ จริงอ๊ะ... “

แล้วพี่เขาก็มองมาด้วยสายตาคาดคั้นในคำตอบพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ

“ ก็...  มั้ง...  เรื่องแบบนั้นใครจะไปจำกันเล่า... “

“ ฮะๆๆๆๆ “

“ ยังจะหัวเราะอีกนะไอ้พี่บ้า “

“ นี่...  จะบอกอะไรให้นะ  ชอบอะไรตรงไหนก็ให้บอก...  เป็นแฟนพี่อะ  เรื่องแบบนี้.. “

พูดมาถึงตรงนี้พี่กิจก็เอานิ้วมาไล้ที่หน้าอกผมเรื่อยมาจนถึงหน้าท้อง  ให้อดรู้สึกสยิวขึ้นมาเสียไม่ได้

“ รับรองไม่ผิดหวัง  ที่สำคัญ...  พี่ขยันมากด้วย  ว่าแล้ว...  เช้านี้เราก็มา... “

ตึกตัก...  ตึกตัก....

เมื่อพี่กิจเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น  หัวใจของผมก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง....  และก่อนที่อะไรจะล่วงเลยไปมากกว่านี้


---.ติ๊งต่อง.—


เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นมาห้ามทัพเอาไว้เสียก่อน  ทันทีที่สติกลับมา  ผมก็ดันตัวพี่กิจออกห่างไปในทันที  พี่เขาเลยขำขึ้นมาในลำคอเล็กๆ  ผมจึงยู่หน้าส่งให้ไปทีนึง  ก่อนจะหยิบเอาบ๊อกเซอร์ที่อยู่ข้างเตียงและเสื้อยืดขึ้นมาใส่  แล้วเดินไปแง้มผ้าม่านที่หน้าต่างดูว่าใครกันที่มาหาผมตั้งแต่เช้าเลยแบบนี้

“ เชี่ยเรย์...  มาทำไมตั้งแต่เช้าวะเนี่ย “

ผมพึมพำกับตัวเองขึ้นมา  เมื่อรู้ว่าใครที่มายืนรออยู่ที่หน้ารั้วบ้าน

“ ไอ้เรย์มาอะพี่ “

ผมหันมาบอกคนที่กำลังนอนมองผมตาเยิ้มอยู่บนเตียงครับ

“ นั้นก็ปล่อยมันดิ  เรา...  มาต่อกันดีกว่า “

“ พอเลย  จะหื่นไปไหนห๊ะเราอะ  ลุกเลย... สายแล้วเนี่ย... “

“ ไม่เอา...  โอ้ย...!   เรานี่ชอบรุนแรงก็ไม่บอกนะ “

พี่กิจอิดออดครับ  ผมเลยเอาหมอนไปตีเข้าที่แขนทีนึง  แต่ไม่ได้เจ็บอะไรหรอกครับ  คนมันสำออยไปอย่างนั้นแหละ

“ จะเอาอีกมั้ย.. “

ผมง้างหมอนนุ่มขึ้นมาทำท่าว่าจะทุบลงไปอีก

“ ดุจัง...  แฟนใครเนี่ย... “

ผมวางหมอนลงบนเตียง  ก่อนจะเดินออกจากห้องไปในทันที  ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับพวกไม่เคยพอ...  ชิส์

ผมเปิดรับไอ้เรย์เข้ามาภายในบ้าน  ก่อนจะเดินนำมันเข้ามายังห้องรับแขก

“ เชี่ยไรมึงเนี่ย...  มาหากูแต่เช้าเลย “

“ ก็กูพึ่งได้เข้าเฟสเมื่อเช้านี้  เลยพึ่งรู้ว่ามึงโดนปล้นอะ  แล้วเป็นไงบ้างวะ  โดนทำร้ายตรงไหนมั้ย “

“ ไม่อะ... ปลอดภัยดี  แต่ถ้าไม่ได้พี่กิจมาช่วยไว้  กูก็คงไม่ได้มายืนต่อหน้ามึงแบบนี้หรอก “

ผมบอกไปพร้อมกับเดินไปยังโซนห้องครัวและเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรสำหรับทำมื้อเช้านี้ครับ

“ เห็นมึงโพสต์แบบนั้น  ทำเอาใจกูตกลงไปตาตุ่มเลยรู้มั้ย  กูก็เลยต้องรีบมาดูให้เห็นกับตาว่ามึงโอเคดีรึเปล่า “

“ เออ...กูโอเค  ขอบใจมาก  แล้วนี่มึงกินไรมายัง “

“ ยังเลยว่ะ  กูรีบออกบ้านมาก่อน “

“ นั้นมึงก็อยู่กินพร้อมกูเลยละกัน “

“ แต๊งกิ้วมากเพื่อนเลิฟ “

ผมปิดประตูตู้เย็นพร้อมกับหอบเอามื้อเช้าที่สามารถเตรียมได้ง่ายๆ จากของที่พี่กิจซื้อมาไว้เมื่อคืนนี้  ในขณะที่มองเลยไปยังห้องนั่งเล่นใกล้ๆ ก็เห็นไอ้เรย์กำลังทำท่าจะเหยียดขานอนยาวไปบนโซฟา  แต่ไม่ทันที่หลังมันจะได้แตะเบาะ  มันก็ผงะตัวขึ้นมานั่งตามเดิมพร้อมกับสายตาที่เบิกโพรงราวกับได้เห็นอะไรที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น  ผมจึงหันไปมองตามสายตาคู่นั้น  ก่อนจะเห็นพี่กิจในสภาพที่สวมเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว  เผยให้เห็นหุ่นเพอร์เฟคอันน่าหลงใหล  และแม้ว่าผมเผ้าจะดูยุ่งเหยิงไปบ้าง  อีกทั้งสายตาปรือๆ ที่มองโลกอย่างไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่  แต่บอกได้คำเดียวเลยครับว่า....  โครตเซ็กซี่เลยล่ะครับ...

ตอนนี้ไอ้เรย์ดูจะช็อคไปแล้ว  ไม่ใช่เพราะว่าหลงเสน่ห์ของพี่กิจหรอกนะครับ  แต่เพราะการที่มันได้เห็นพี่เขาอยู่ในบ้านของผมตอนเช้าๆ แบบนี้  ที่สำคัญ...ในสภาพแบบนี้...

แม่งเอ้ย....  ทำอะไรไม่คิดถึงจิตใจของผมบ้างเลย  ถึงแม้ไอ้เรย์มันจะเป็นคนสนิทกันก็ตาม  แต่เชื่อเถอะครับว่า....  เรื่องนี้มันหยิบเอามาล้อกันได้ยันลูกบวชเลยล่ะครับ...

“ แบบนี้ก็แปลว่า... “

ไอ้เรย์ทำหน้ายิ้มๆ ถามมาครับ  พร้อมทั้งชี้นิ้วไปมาระหว่างผมกับพี่กิจ

“ สัด!  แปลว่าอะไรมึงพูดดีๆ “

“ ก็แปลว่ามึงกับพี่กิจ.... “

“ สัด!! คิดอกุศลนะมึงอะ  นี่ก็อีกคน...  แขกมาก็แต่งตัวดีๆ ลงมาหน่อยดิ “

ด่าไอ้เรย์เสร็จผมก็หันไปว่าพี่กิจต่อครับ  ซึ่งจ้าตัวก็หาได้รู้ร้อนรู้หนาวไม่  ตามสไตล์เดิมๆ ของคุณชายท่านนั่นแหละ

“ ก็พี่หิวนี่...  เมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะ  อีกอย่าง... ไอ้เรย์มันก็คนกันเองอยู่แล้ว  ว่าแต่มีอะไรให้พี่กินบ้างอะ  พี่หิวแล้วคร้าบ “

“ ชัวร์เลยมึง...  เมื่อคืนนี้อะไร  ทำอะไรกันถึงต้องใช้พลังงานเยอะ  มึงบอกกูมาเลยนะไอ้กันต์ “

“ เชี่ยเรย์....  มึงนี่ก็ขี้เสือกเรื่องชาวบ้านนะ  หาแดกเองเลยมึง  กูจะไปอาบน้ำแล้ว “

พูดจบผมก็ละมือจากมื้อเช้าที่กำลังจะเตรียมทันที  ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ....  เถียงไม่ออก...  อาย...  และก็สู้หน้าใครไม่ไหวแล้วล่ะครับในตอนนี้....

“ อ้าวกันต์...  ของพี่ด้วยเหรอ “

“ ใช่ !!  ทำกินเองเลย “

ผมพูดทิ้งท้ายให้ก่อนจะตบเท้าขึ้นบันไดไปในทันทีด้วยความอาย  ก่อนจะได้ยินเสียงพี่กิจคาดโทษไอ้เรย์ดังขึ้นมาเล็กๆ ให้ได้ยิน

โอ้ย!!!  แบบนี้ต้องโดนล้อไปตลอดชีวิตแน่ๆ เลย  ไอ้กันต์เอ้ย !!!!





TBC.

---------------------------------------------------------------------

หายไปนานเลยครับ  แฮ่.....  แต่เขียนเรื่อยๆนะครับ  แต่มันมีปัญหานิดหน่อยเลยไม่ได้ลงอะครับ  พอโอเคแล้วก็เลยลงทันทีรวดเดียว 3 ตอนไปเลยครับ...
ก็เหลืออีกแค่ 2 ตอนก็จะจบแล้วนะครับ  ขอบคุณมากๆ นะครับทุกคนที่ทนอ่านกันมาจนถึงตรงนี้
ขอบคุณมากๆ นะครับ

^________________________________________________^
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-10-2018 22:06:04
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี่กิจสายหื่นจริง ๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 07-10-2018 22:34:00
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 07-10-2018 23:23:47
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-10-2018 23:48:08
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 08-10-2018 00:44:35
เขารักกันใจตรงกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-10-2018 02:23:19
รักเรย์จังเลย พอรู้ว่าเพื่อนโดนจี้ รีบมาหาทันทีทันควัน แต่กลับได้รับรู้อีกเรื่อง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-10-2018 07:37:26
งุ้ยยยย  เก๊าฟินมากเยยยย :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 08-10-2018 14:48:12
 :o8: ดีกันปุ๊บ็เสร็จพี่มันเลยนะน้องกันต์
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-10-2018 00:12:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-10-2018 20:03:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 10-10-2018 20:26:54
รอ  54. 55. 56.  นะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 15-10-2018 23:19:32
ใกล้จะจบแล้วหรอเนี่ย  :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-10-2018 05:48:32
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับการเขียนนิยายสนุกๆให้เราได้อ่าน ตอนนี้หวานมากพอเป็นแฟนปุ๊บอิพี่ก็จะกินน้องปั๊บ หื่นมาก :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-10-2018 22:52:24
Chapter 54



กันต์’s  Part



หลังจากวันที่เราตกลงคบกันเป็นแฟนแล้ว  อะไรๆ มันก็ดูจะทำให้ผมมีความสุขไปได้ซะทุกอย่างเลยล่ะครับ
 
ตลอด 4  - 5 วันที่ผ่านมา  หลังจากที่ช่วยงานที่บ้านป้าภาเสร็จ  พี่กิจก็มักจะให้ผมพาไปเที่ยวต่อแทบจะทุกวันเลยล่ะครับ  ทั้งนั่งเรือดูนั่นดูนี่  ดำน้ำ  เดินเล่นตามหาดต่างๆ  และอื่นๆ จนเรียกได้ว่าไปกันเกือบจะทุกสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเลยก็ว่าได้  แต่วันมะรืนนี้พี่กิจก็ต้องกลับแล้วล่ะครับ  เพราะมีงานที่ต้องทำต่อที่บริษัท  ซึ่งตอนแรกพี่เขาก็อ้อนจะให้ผมกลับพร้อมกันเลยนะครับ  แต่ผมก็ให้เหตุผลไปว่าจะรอให้ป้าภาแข็งแรงขึ้นอีกหน่อย  ผมถึงจะค่อยกลับครับ  ซึ่งตอนนั้นก็คงจะใกล้เปิดเทอมแล้วล่ะมั้ง  อีกอย่าง... นานๆ ทีได้กลับมาบ้าน  ผมก็อยากจะอยู่ให้คุ้มสักหน่อยอะครับ  ซึ่งพี่เขาก็เข้าใจดีและก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากไปกว่านี้


คืนก่อนวันที่พี่กิจจะกลับ

 “ แน่ใจนะว่าจะยังไม่กลับพร้อมพี่อะ “

พี่กิจที่นอนเล่นอยู่บนเตียงถามขึ้นมาครับ  ในขณะที่ผมซึ่งกำลังนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยูที่โต๊ะใกล้ๆ ก็หันหน้ากลับมามองยังคนถาม

“ อื้ม...  ยังอยากอยู่ต่ออะ  พี่กลับไปก่อนเลย  เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมจะตามไป “

“ คิดถึงแย่เลย  แล้วแบบนี้พี่จะนอนคนเดียวได้ไงเนี่ย “

“ เวอร์ไปละ...  แล้วตอนผมที่ไม่อยู่เนี่ย  ห้ามไปเจ้าชู้กับใครด้วย...  ไม่งั้นน่าดู!! “

“ ใครจะไปทำอย่างนั้นกัน  คนอย่างพี่อะ...  รักเดียวใจเดียว  ยังไม่รู้อีกเหรอ... “

“ ม่ายรู้....  โอ้ย... “

พี่กิจลุกเอามือมาตีหัวผมเบาๆ ครับ  ก่อนจะโอบคอผมไว้แล้วเอาคางมาเกยไว้ที่บ่า

“ เล่นไรฮึ... “

“ เปล่า..  ส่องเฟสเพื่อนๆ อะ  พี่ดูนี่ดิ  น่าไปเนอะ  ไอ้ธันมันไปมาอาทิตย์ที่แล้ว “

“ อยากไปเหรอ “

“ อืม... อยากไปกางเต้นท์นอนแบบนี้บ้างอะ  ผมยังไม่เคยไปเลย “

“ เอาไว้มีวันหยุดยาว  แล้วพี่จะพาไป “

“ สัญญาแล้วนะ “

“ อื้ม...  “

ผมหันไปมองยังใบหน้าข้างๆ  ก่อนจะยิ้มและจุ๊บให้เบาๆ เป็นรางวัลในการทำตัวน่ารักๆ แบบนี้

“ ให้รางวัลล่วงหน้า “

ผมอ้อมแอ้มบอกไปครับ  อดเขินไม่ได้ที่คราวนี้เป็นผมเองที่เป็นคนเริ่มก่อน

“ อะไร...  ไม่นับ...  แล้วนี่ก็เลิกเล่นได้แล้ว  เวลายิ่งมีน้อยๆ อยู่ “

พูดจบพี่กิจก็เอื้อมมือออกไปทำท่าว่าจะปิดโน๊ตบุ๊คผมครับ

“ อะไร...  นี่พึ่งจะ 2 ทุ่มเอง “

“ ก็เดี๋ยวจะไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน  ดังนั้นคืนนี้พี่ขอ... ตุนเอาไว้ก่อนนะ... “

แล้วพี่เขาก็หันมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่  จนผมอดหัวเราะคิกคักเพราะจั๊กจี้ขึ้นมาไม่ได้

“ อย่าดึกมากนะ “

“ อันนี้ก็... ไม่รู้สินะ... “

ครั้งนี้ผมไม่เล่นตัวมากครับ  เพราะเดี๋ยวก็จะไม่ได้เจอกันอีกตั้งหลายวัน  ก็เลยอยากจะใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง...ก็เท่านั้นเอง...

แต่อย่าว่าผมหื่นนะ...  นานๆ ที....  ก็อยากจะเอาใจพี่เขาบ้างอะครับ



............................................................



หลังจากที่พี่กิจกลับไปแล้ว  จากที่เคยอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด  อยู่ๆ มันก็เหงาและคิดถึงพี่เขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น  ผมเลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กลับงานที่บ้านป้าภา  หรือถ้าไม่มีอะไรทำ  ผมก็จะไปสิงอยู่ที่บ้านไอ้เรย์มันแทน  พร้อมทั้งเริ่มนับวันที่จะได้กลับกรุงเทพฯ ขึ้นมาแล้วล่ะครับ

ผมเอากุญแจหอให้พี่กิจเขาไปเพื่อจัดการย้ายข้าวของของผมกลับมายังคอนโดเหมือนเดิม ( คือพี่เขาอาสามาเองนะ )  ส่วนตอนกลับกรุงเทพฯ ผมจะกลับพร้อมกับไอ้เรย์มันครับ  เพราะมันเองก็อยากจะมีเพื่อนนั่งรถกลับไปด้วยเหมือนกัน

ในที่สุดก็ถึงวันที่ผมต้องเดินทางกลับ  ซึ่งป้าภาตอนนี้สุขภาพก็กลับมาแข็งแรงดีเหมือนเดิมแล้ว  แต่ก็คงจะทำงานได้น้อยลงเพราะถูกผมกับฟลุกห้ามเอาไว้  เราลากันที่หน้าบ้านในตอนเช้าเมื่อไอ้เรย์ขับรถมาถึง  ป้าภาหอบของฝากมาให้ไปกินที่กรุงเทพฯเพียบเลยครับ  และที่เยอะขนาดนี้ก็เพราะป้าเขาบอกให้เอาไปเผื่อพี่กิจด้วย  ซึ่งตอนนี้พี่เขาเองก็รอผมกลับอย่างใจจดใจจ่อเลย  ที่รู้ว่าเป็นอย่างนั้นก็เพราะพี่เขาโทรมาถามนู่นนี่นั่นตั้งแต่เช้าตรู่เลยล่ะครับ  ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็วีดีโอคลอกันจนดึกแล้วแท้ๆ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะพี่เขาเป็นห่วงนั่นแหละ  แถมยังโทรไปกำชับกับไอ้เรย์มันอีกด้วยว่าให้ขับรถช้าๆ



ช่วงค่ำที่กรุงเทพฯ

ทันทีที่รถเข้ามาจอดเทียบที่หน้าคอนโด  พี่กิจที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วก็รีบเดินเข้ามาหาทันที  ก่อนจะช่วยผมถือของฝากทั้งหมดเอาไปไว้ในมือ  และให้ผมลากกระเป๋าเดินทางขึ้นไปเพียงใบเดียวเท่านั้น  ซึ่งจะว่าไปผมก็ไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้วนะครับ  ก็ตั้งแต่วันที่ย้ายออกไปนั่นแหละ  ลึกๆ แล้วผมก็อดคิดถึงไม่ได้นะ  เพราะจะว่าไป...  ที่นี่ก็เป็นที่ที่ผมอยู่แล้วรู้สึกสบายใจมากที่สุดตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ มา  เรื่องเยอะแยะมากมาย  ทั้งความสุข  น้ำตา  เสียงหัวเราะ  ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นภายในห้องนี้ทั้งนั้น...

“ เย้..! ถึงสักที  โครตเหนื่อยเลย “

ผมพูดขึ้นทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องเข้ามา  ในขณะที่พี่กิจซึ่งเดินตามหลังมาก็หัวเราะขำในนิสัยเด็กน้อยของผม

ผมเดินลากกระเป๋าตรงไปยังห้องเก่าของผมทันที  ไม่ได้กลับมาตั้งนานไม่รู้ว่าพี่เขาจัดห้องผมให้เหมือนเดิมรึเปล่านะ  แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปถึงประตูห้อง  ไอ้คนตัวสูงกว่าด้านหลังก็คว้าคอเสื้อผมไว้ทันทีจนเกือบจะหงายหลังเลยล่ะครับ

“ ไปไหน.... “

“ ก็เอากระเป๋าไปเก็บในห้องดิ  ถามแปลก... “

“ ห้องไหน... “

“ ก็ห้องผมดิ “

“ แล้วนั่นมันใช่มั้ยล่ะ  โน่น... “

พูดจบพี่กิจก็หลิ่วตาไปยังประตูห้องพี่เขาทันที  ผมเลยมองกลับไปอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

“ อะไรอะพี่ “

“ เอ๊า....ซื่อบื่อไม่เปลี่ยนเลยนะ “

จากนั้นพี่กิจก็เดินมาแย่งกระเป๋าผมไปทันที  พร้อมกับเดินนำไปยังห้องของตัวเอง  ซึ่งผมก็เดินตามเข้ามาด้วยติดๆ

พี่กิจเปิดห้องออกก่อนจะเดินนำผมเข้าไป  ทุกอย่างในนี้ยังคงดูไม่ค่อยต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่  จะมีก็แค่ของเล็กๆน้อยๆ ของผมเพิ่มเข้ามานิดหน่อยก็แค่นั้น

“ หมายความว่าไงอะพี่ “

“ ก็เป็นแฟนกันแล้วจะนอนแยกห้องกันทำไมล่ะ  จากนี้ไป....  ห้องนี้คือห้องของ ’เรา’ “

ไม่ค่อยคุ้นเลยครับ...  เพราะที่ผ่านมาห้องของพี่กิจถือว่าเป็นเขตหวงห้ามที่ยากจะได้เข้ามา  แต่ตอนนี้มันกลับกลายมาเป็นห้องนอนของผมไปด้วยอีกคน และแม้ว่าตลอดช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาเราจะนอนด้วยกันมาโดยตลอดก็ตาม  แต่พอมาเป็นที่นี่แล้ว...  มันก็อดรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาไม่ได้ครับ  คือมันไม่ชินอะ  แต่ถึงกระนั้นผมก็เผลอหลุดอมยิ้มออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ

“ ตู้เสื้อผ้าพี่แยกโซนเอาไว้ให้แล้วนะ  ส่วนของอย่างอื่นพี่ก็เอามาเท่าที่จำเป็น  ถ้าขาดเหลืออะไรก็อยู่ในห้องเก่าของเรานะ “

ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ  อย่างละเอียดอีกครั้ง  ก่อนจะพบว่าหลายๆ อย่างในห้องนี้มันก็ดูจะไม่เหมือนเดิมไปซะทีเดียว  ต้นไม้ที่ผมเฝ้าดูแลมา (ต้นแพนซี) ก็ถูกเอามาแต่งให้ห้องเรียบหรูดูมีชีวิตชีวามากขึ้น  ชั้นหนังสือก็แบ่งที่ให้สำหรับหนังสือของผมด้วย  โต๊ะทำงานตัวยาวก็มีเก้าอี้เพิ่มเข้ามาให้อีกตัว 

“ เอาของไปเก็บแล้วออกมากินข้าวกัน  พี่ซื้อของมารอเราเพียบเลยนะ “

พี่กิจยิ้มบอกมาครับ  จากนั้นผมก็ไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเอาของในกระเป่าไปเก็บ  ส่วนพี่กิจก็ออกห้องไปเตรียมมื้อค่ำใส่จานไว้รอ
ใครจะไปคิดกันละครับว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้  วันแห่งความสุขที่ผมเฝ้ารอมาโดยตลอด....


..........................


เสร็จจากมื้อค่ำ เราก็ไปอาบน้ำกันครับ  ที่ใช้คำว่าเรานั้นไม่ผิดหรอกครับ...  เพราะอีพี่กิจอ้อนจะขอตามไปอาบด้วย  บอกว่าคิดถึงอยากอาบด้วยวันนี้  ซึ่งผมเห็นว่าวันนี้พี่เขาทำอะไรๆ ให้ผมตั้งหลายอย่าง  ก็เลย...  อะๆ  ยอมง่ายๆ ก็ได้...

ทั้งๆ ที่ใจจริงผมนี่ยิ้มกริ่มเลยล่ะครับ...  ก็คนมันคิดถึงนี่...  ทำไมล่ะ !

“ เออกันต์  เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องกลับบ้านกันนะ  แม่พี่สั่งมา  บอกให้พาเราไปด้วยอะ  และก็พักที่นั่นจนถึงใกล้ๆ ตอนจะเปิดเทอมเลย “

ผมที่กำลังนั่งพิงอกกว้างของพี่กิจในอ่างน้ำพยักหน้าและขานรับตอบไปในลำคอเบาๆ  พี่เขาเลยเอามือมาขยี้หัวผมอย่างหมันเขี้ยวให้ทันที  ก่อนจะเล่นหัวผมต่อราวกับเห็นผมเป็นเด็กน้อยเสียอย่างนั้น  แต่ก็เพลินดีนะครับ  น้ำก็อุ่นกำลังดี  ที่สำคัญความรู้สึกในตอนนี้มันอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ...

กว่าจะอาบน้ำกันเสร็จก็พักใหญ่เลย  เพลียสุดๆ เลยครับกับการเดินทางมาตลอดทั้งวัน  ผมกระโดดลงบนเตียงราวกับเด็กน้อยทันทีที่แต่งตัวเสร็จ  และทำท่าว่าจะนอนต่อเลย

แต่เชื่อมั้ยครับ...  ว่ากว่าจะได้นอนจริงๆ ก็...

โครตดึก....

คงไม่ต้องถามหรอกนะครับว่าทำไม....

เฮ้อ....  ไม่มีแรงจะเล่าต่อแล้ว  ขอนอนเอาแรงก่อนก็แล้วกันครับ....



.......
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-10-2018 22:58:32
วันต่อมาที่บ้านพี่กิจ

“ พี่กันต์มาแล้ว ! “

น้องกานต์พูดขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นผมกับพี่กิจเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นในช่วงบ่าย  ซึ่งมีคุณป้ากำลังนั่งดูโทรทัศน์ส่วนน้องกานต์ก็นั่งเล่นเกมในไอแพดอยู่

“ ป้าอรหวัดดีครับ “

“ ไม่เจอตั้งนานลูก....  มานั่งนี่มา  เห็นตากิจบอกว่าเรากลับไปบ้านมาเหรอ “

ผมเดินไปนั่งข้างๆ ป้าอรบนโซฟายาวสีขาว  ส่วนพี่กิจก็ตามลงมานั่งที่โซฟาเดี่ยวใกล้ๆ ครับ

“ ครับ  ไม่ได้กลับไปตั้งนานแล้ว  อดคิดถึงบ้านไม่ได้ “

“ โอ๋ลูก...  ไม่เหงาน้า  นี่ป้าโทรคุยกับแม่เรามาเมื่อครั้งที่แล้ว  เห็นว่าสิ้นปีนี้จะกลับไทยมาเยี่ยมเราด้วยนะ  รู้แล้วรึยัง “

“ ครับป้าอร  ก็ได้คุยกับแม่อยู่บ้างครับ “

“ แต่ปิดเทอมเที่ยวนี้มาอยู่กับป้านานๆ เลยนะ  จะได้หายคิดถึง “

“ ครับ  ก็ว่าจะขอมาอยู่จนใกล้ๆ จะเปิดเทอมเลยล่ะครับ “

พูดจบป้าอรก็ยิ้มให้ก่อนจะเอามือมากุมมือผมไว้พร้อมกับลูบไปมาเบาๆ

“ พี่กันต์มาแบบนี้ดีเลย  ค่ำนี้ไปดูหนังกันพี่  ชวนพี่กิจแล้วแต่ไม่ยอมไปกับผมอะ “

น้องกานต์ว่ามาครับ

“ ได้ๆ “

“ แต่ต้องอยู่กินข้าวเย็นกับป้าก่อนนะ  วันนี้ป้าตั้งใจเตรียมอาหารไว้รอเราเลย “

ป้าอรว่ามาครับ

“ ครับ  นั้นเดี๋ยวเย็นๆ กันต์จะเข้าไปช่วยด้วยนะครับ “

“ ได้สิจ้ะ “

พูดคุยกันไปสักพักหนึ่ง  ผมก็ขึ้นไปบนห้องที่ป้าอรเตรียมไว้ให้แล้ว  โดยมีพี่กิจเดินถือกระเป๋าตามมาส่งให้  ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ  ภาพแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน  การที่คุณชายใหญ่ของบ้านจะถือกระเป่าตามผมต้อยๆ มาด้วยรอยยิ้มแบบนี้

“ เฮ้อ.....  สบายจัง “

ผมกระโดดขึ้นมานอนแผ่หลาบนเตียงนุ่มทันทีที่พี่กิจปิดประตูห้องลง  ก่อนจะมองหน้ายิ้มๆ ของพี่เขาที่กำลังบริการเอาเสื้อผ้าผมออกมาแขวนไว้ให้ที่ตู้เสื้อผ้า
 
น่ารักจริงๆ เลยครับ  แฟนใครเนี่ย...  อิอิ

ไม่นานพี่กิจก็เดินมาที่เตียง  ก่อนจะเข้ามานอนหนุนอยู่บนท้องของผมครับ

“ น่าจะนอนห้องพี่  สบายกว่านี้ตั้งเยอะ  ไปมะ “

“ บ้าเหรอ...  ทำอย่างนั้นได้ไงเล่า  เดี๋ยวเขาก็รู้กันหมดหรอก “

“ แล้วไง...  พี่ไม่เห็นจะแคร์เลย “

จากน้ำเสียงและสีหน้าของพี่เขา  ผมเชื่อครับว่าพี่เขาคิดแบบนั้นจริงๆ เพียงแต่ว่า  ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมสักเท่าไหร่ครับ  คือ...  มัน...  อายอะครับ...  ขอเวลาผมอีกสักหน่อยก็แล้วกันนะ

“ แต่ผมแคร์นี่  ขอเวลาผมอีกหน่อยนะ “

“ คร้าบ...  พี่แล้วแต่เราเลย “


ก๊อกๆๆ !!


เสียงเคาะประตูห้องผมดังขึ้น  ผมจึงตีไหล่พี่กิจรัวๆ ให้ลุกขึ้นไปได้แล้ว  ทว่าคนตรงหน้ากลับทำท่าอิดออดอย่างถึงที่สุด  แต่สุดท้ายก็ยอมลุกออกไปแต่โดยดี  ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก  และพบน้องกานต์ที่กำลังเดินยิ้มร่าเข้ามาหาผมครับ

“ พี่กันต์  ไปเล่นเกมห้องกานต์กัน “

“ นี่.. พี่เขามาเหนื่อยๆ นะ  ปล่อยให้พี่เขาพักบ้างสิ “

“ อะไรพี่กิจ  แล้วพี่ล่ะ  มาอยู่นี่ทำไม  ปกติไม่เห็นจะชอบอยู่ห้องคนอื่นเลย “

พี่กิจไม่ตอบอะไร  แต่เลือกที่จะเลิกคิ้วซ้ายส่งให้แทนคำตอบด้วยใบหน้าเหนือๆ อย่างน่าหมันไส้  ก่อนจะเห็นผู้เป็นน้องแยกเขี้ยวตอบกลับมา  แล้วเดินยิ้มหวานมาชวนผมต่อที่ข้างเตียงครับ

สุดท้ายตลอดช่วงบ่ายผมก็ไปเล่นเกมอยู่ที่ห้องของน้องกานต์  โดยมีพี่กิจตามไปด้วยครับ  แต่ก็ไม่วายเป็นผมที่ง่วงหลับไปก่อน  จะเหลือก็แต่สองพี่น้องที่นั่งแข่งเกมกันเสียงดังราวกับเด็กน้อยเสียอย่างนั้น  ซึ่งจะว่าไปพี่กิจลุคนี้ก็ไม่เคยจะได้เห็นเลยนะครับ  ถ้าไม่ได้กลับมาที่บ้านแบบนี้

ช่วงค่ำพี่กิจก็พาพวกเราไปดูหนังกันครับ  ถึงจะโดนน้องกานต์กระแนะกระแหนว่ามาทำไมทั้งๆ ที่ไม่อยากดู  แต่พี่กิจก็ยังดึงดันบอกว่าจะตามมาด้วยอยู่ดี  ด้วยเหตุผลสารพัดที่พี่แกหยิบยกขึ้นมาอ้างได้ตลอด

กว่าจะอาบน้ำเสร็จและทิ้งตัวลงมานอนบนเตียงก็เลยเที่ยงคืนไปแล้วล่ะครับ  แต่ยังไม่ทันที่จะได้หลับ  เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมาให้ผมต้องเดินไปเปิดดู  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครครับ  พี่กิจในสภาพที่อาบน้ำแล้วสวมเสื้อยืดสีเทากับกางเกงขาสั้นสีขาวได้แทรกตัวเข้ามาภายในห้องของผมทันที

“ อะไรพี่.... มาทำไมเนี่ย  ดึกแล้วนะ “

ผมโวยวายขึ้นมาเสียงเบา  ก่อนจะปิดประตูลงเพราะกลัวคนเห็น ( ซึ่งจริงๆ แล้วดึกขนาดนี้ก็คงไม่มีใครมาเห็นหรอกครับ )

“ นอนด้วย “

พี่เขายิ้มน่าเป็นว่ามาครับ

“ บ้าเหรอ  ไม่เอา... นี่มันที่บ้านนะ “

“ แล้วไงอะ... “

“ ก็...  ไม่ได้ไง...  ไปเลยไปนอนได้แล้ว... “

“ น้า... สัญญาว่าจะแค่นอนด้วยเฉยๆ “

ผมมองพี่เขานิ่งด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ  ก่อนจะพบสีหน้าอ้อนๆ ของคนตรงหน้าภายใต้แสงสลัวจากดาวไลท์ให้ผมอดใจอ่อนขึ้นมาเสียไม่ได้

“ น้าคร้าบ  ไม่ได้นอนกอดเราพี่นอนไม่หลับอะ “

“ แล้วก่อนหน้านี้ตอนที่ผมยังไม่กลับมาทำไมนอนได้ “

“ นั่นก็นอนไม่ค่อยหลับ...  นะๆ  พรุ่งนี้พี่ต้องเข้าออฟฟิตกับพ่อแต่เช้าด้วย  เดี๋ยวไม่มีมีแรงนะ  ไม่สงสารพี่เหรอ “

ได้ยินน้ำเสียงอ่อยๆ มาแบบนี้แล้ว  ใครล่ะจะกล้าปฏิเสธได้ลงคอ....


………….


บนที่นอนนุ่มและแอร์ที่เย็นฉ่ำ

“ พี่กิจ  เห็นไอ้ธันมันบอกในไลน์ว่าพรุ่งนี้เกรดจะออกแล้วอะ  ตื่นเต้นจัง “

ผมที่กำลังนอนกอดบนอกหนาของพี่เขาพูดขึ้น

“ ไม่เห็นน่าตื่นเต้นเลย “

“ แหงล่ะ...  ก็ตัวเองเก่งนี่ “

หมันไส้พวกเกรดไม่เคยต่ำกว่า 3.9 ครับ

“ โอ๋... ไม่งอแงนะ  นั้นเอางี้มั้ย...  ถ้าเกรดเราไม่ต่ำกว่า 3 เดี่ยวพี่มีรางวัลให้ “

“ จริงอะ ! “

ผมผงะตัวขึ้นมาถามพี่เขาในความมืดทันทีที่ได้ยิน

“ ทันทีเลยนะ... “

“ แต่ก็คงไม่ได้หรอก...  2.5 สำหรับผมก็หรูแล้ว “

ว่าแล้วผมก็กลับลงไปนอนกอดพี่เขาเหมือนเดิมอย่างหมดหวัง....  พี่กิจเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ  ไม่นานเราสองก็พากันหลับไปในราตรีที่แสนอบอุ่นเหมือนในทุกคืนที่เราอยู่ด้วยกัน


เช้าวันต่อมา…

พี่กิจออกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ครับ  ตื่นมาก็ไม่เห็นพี่เขาแล้ว...

เช้านี้น้องกานต์พาผมไปเดินชมบ้านมาครับ  ที่นี่เกินคำบรรยายจริงๆ  มีห้องเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  ขนาดฟิตเนตหรือห้องสมุดก็ยังมีเลย  ซึ่งห้องสมุดที่นี่กว้างและมีชั้นลอยสำหรับอ่านหนังสือด้วย  ช่างเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผมมากเลยล่ะครับ  คือผมไม่ใช่คนที่ชอบอ่านหนังสืออะไรหรอกนะครับ (ยกเว้นการ์ตูน)  แต่บอกได้เลยครับว่าบรรยากาศมันช่างน่านั่งเล่นหรือทำอะไรไปเรื่อยเปื่อยมากเลยครับ  ดังนั้นหลังมื้อเที่ยงผมเลยยืมโน้ตบุ๊คของพี่กิจมานั่งลุ้นเกรดอยู่ที่นี่ดีกว่า ( พี่กิจวันนี้เข้าออฟฟิตครับ )

และ....


“ เย้!!! “


3.00 พอดีครับ  หน้าอย่างผมก็ทำได้นะเนี่ย  เหลือเชื่อจริงๆ  โครตจะดีใจเลยครับ  งานนี้มีเกรดเอาไปอวดพี่กิจแล้วล่ะคร้าบ อิอิ

จากนั้นไม่นานไลน์กลุ่มของผมก็เด้งกันเป็นว่าเล่นเลย  ซึ่งแต่ละคนในกลุ่มก็ได้ไม่น้อยหน้ากันเท่าไหร่  โดยมีไอ้เรย์รั้งท้ายที่ 2.75  ส่วนไอ้ธัน 3.5 นำโด่งไปเลยครับ  ซึ่งผลลัพธ์แบบนี้เอง  เลยทำให้ไอ้เรย์มันโดนแพรขู่ว่าถ้าเทอมหน้ามันได้เกรดต่ำกว่านี้อีกล่ะก็  แพรจะไปหาแฟนใหม่ครับ  และแม้ว่าจะเป็นแค่การหยอกกันเล่นขำๆ  แต่ไอ้เรย์มันจริงจังมากเลยนะครับ  ซึ่งไลน์นี่เด้งขึ้นมาเป็นร้อยเลย  และส่วนมากก็จากผม ไอ้เจมส์ และก็ไอ้แน๊คนั่นแหละ  ที่เป็นฝ่ายยุแพรและซ้ำเติมไอ้เรย์มัน  ฮ่าๆๆ


มื้อค่ำนี้ผมก็ยังคงเข้าไปช่วยในครัวเหมือนครับ  คือผมชอบทำอาหารจริงๆ นะ  และอีกอย่าง...  อยากทำอะไรไว้รอพี่กิจด้วยอะครับ


“ เก่งจัง  แบบนี้เดี๋ยวลุงกับป้าคงต้องมีของรางวัลให้แล้วล่ะ “

คุณลุงว่ามาในขณะที่เรากำลังทานมื้อค่ำกันอยู่  หลังจากที่พี่กิจถามผมเรื่องเกรดในวันนี้

“ ขอบคุณครับคุณลุง  แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ  กันต์เกรงใจอะ  อีกอย่าง....เกรดแค่นี้เอง  ไม่ได้เยอะอะไรเลย “

“ ว่าไปนั่นลูก  3.00 ของที่นี่ไม่ใช่จะได้มากันง่ายๆ หรอกนะ “

คุณป้าว่ามาครับ  ซึ่งก็จริงนะครับ  เพราะผมเองก็ยังไม่คิดเลยว่าจะได้สูงขนาดนี้

แต่ว่า...  ไอ้คนข้างๆ ผมนี่สิครับ... 

4.00

.......  ทำไปได้ยังไงครับเนี่ย!!!!!




TBC.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-10-2018 23:13:01
Chapter 55



ฝน...



มันเป็นวันหยุดสุดท้ายก่อนเปิดภาคเรียนที่สอง  และทั้งๆ ที่ควรจะเข้าสู่ฤดูหนาวได้แล้วแท้ๆ  ทว่าวันนี้สายฝนกลับยังคงไม่อยากจากฟ้าไปไหน....

คิดถึงฟ้า...  หรือว่า...  ยังมีบางเรื่องที่ต้องทำอยู่กันนะ....




ที่คอนโดหรูใกล้มหาลัยฯแห่งหนึ่ง

“ พี่กิจอะ  ก็ไหนว่าวันนี้จะไปดูกันไง “

“ ก็ฝนมันตกนี่  มันช่วยไม่ได้ “

“ แต่มันจะออกโรงแล้วนะพี่ “

“ ออกอะไร...  พึ่งเข้าพฤหัสฯ ที่แล้ว "

เสียงโวยวายของคนตัวเล็กกว่าดังขึ้น  เมื่อรู้ว่าแฟนตัวเองกำลังจะเบี้ยวนัดดูหนังที่คุยกันไว้เมื่อสองวันก่อน  ว่าหลังจากกลับจากบ้านมาที่คอนโดแล้ว  จะไปดูหนังที่เขารอเข้าโรงมาโดยตลอด
 
คือถ้าเป็นปกติกิจก็คงจะตามใจกันต์อยู่หรอก  แต่มันดันเป็นหนังแนวที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย  หนังตลกที่ไม่เคยจะทำให้เขาหัวเราะได้เลยสักครั้งนอกจากนั่งหาวและเสียเวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงอย่างน่าเบื่อ  ดังนั้นถ้ามีโอกาสเลี่ยงได้  เขาก็ไม่รอช้าเลยที่จะคว้าโอกาสนั้นเอาไว้

“ แต่ผมจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องนะ “

“ นี่กันต์...  พี่บอกเลยนะว่าเรื่องนี้อะ  พวกนั้นไม่ดูกันหรอก  จะมีก็แต่เราเท่านั้นแหละที่ดู “

พูดจบกิจก็หันกลับมาสนใจที่หน้าจอไอแพดตรงหน้าต่อ  เกมต่อสู้ที่เขาจะละสายตาไปนานไม่ได้  ไม่อย่างนั้นจะถูกเพื่อนๆ ในกลุ่มโดยเฉพาะคิมและพีด่าให้อย่างไร้ปราณีหากว่าทำทีมแพ้

“ แต่พี่สัญญาแล้วนะ...  ใช่สิ  คืนนั้นได้ดั่งใจแล้วก็ลืมเรื่องที่เคยพูดไว้แล้วใช่มะ “

กิจยังคงไม่ตอบอะไร  อันที่จริงสมาธิเขาแทบจะไม่ได้ออกจากหน้าจอเกมเลยด้วยซ้ำ

“ ได้...  นั้นคืนนี้นอนคนเดียวเลย  แล้วห้าม.... เข้ามายุ่งกับผมด้วย “

“ อ่าว.... ได้ไงอะ..  มันเกี่ยวกันที่ไหน  ฝนมันตกไม่เห็นเหรอ  อยู่ห้องแหละดีแล้ว  พรุ่งนี้ก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย  เสื้อผ้าอะรีดเตรียมไว้แล้วรึยัง “

“ ม้าย!! ไม่ทำอะไรทั้งนั้นอะ  คนผิดคำพูด “

พูดจบกันต์ก็หยิบเอาหมอนนุ่มใบเล็กตีเข้าที่ต้นแขนของกิจทันทีก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดกลับเข้าห้องไป

ไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกมาอีกครั้ง  และพบว่ากันต์กำลังหอบหมอนและผ้าห่มออกมาจากในนั้นด้วย

กิจเหลือบตามองไปยังร่างเล็กกว่าทันที  ก่อนจะอุทาน ‘ เห้ย! ‘ ขึ้นมาเมื่อรู้ถึงเจตนา  พร้อมทั้งรีบวางเกมที่ยังคงเล่นค้างไว้ลง  และทิ้งให้เพื่อนในทีมไปช่วยเหลือกันเอง  เพราะตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญกว่าจะต้องทำ  คือถ้าเขาไม่ตามไปง้อก็คงได้นอนเหงาอยู่ในห้องตามลำพังเป็นแน่คืนนี้




...................................




ช่วงเที่ยงที่ห้างสรรพสินค้า

“ เรย์...  เล่นทั้งวันเลยนะ  นี่มันเวลากินข้าว... “

“ แปบนะแพร  จะจบเกมแล้วเนี่ย  เดี๋ยวออกตอนนี้ไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์มันจะด่าเอา “

“ แต่บอกแพรมาแบบนี้หลายรอบแล้วนะ “

เรย์ยังคงไม่สนใจสีหน้าหงุดหงิดของแฟนสาวตรงหน้าในร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้า  ซึ่งถ้าเป็นปกติเธอก็คงจะไม่หงุดหงิดเขามากหรอก  หากแต่ช่วงนี้เรย์เอาแต่ติดเกมจนไม่รู้เวลา  ทั้งๆ ที่ตัวเองยังมีเรื่องเกรดเป็นชะงักติดหลังอยู่เลยแท้ๆ  และวันนี้ก็เช่นกัน  ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ไม่ยอมรับสายเพราะติดพันอยู่กับการเล่นเกม  จนกระทั่งได้มาเจอกัน  จองตั๋วหนังและมานั่งรออาหารอยู่ในร้านอาหารแบบนี้  เรย์ก็ยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่กับหน้าจอมือถือ  โดยลืมที่จะสนใจคนตรงหน้าที่มาด้วยกันไปเสียสนิท

“ เรย์...  ยังไม่จบอีกเหรอ  อาหารมาแล้วนะ  จะกินมั้ยเนี่ย “

“ จะจบแล้วๆ “


5 นาทีต่อมา

“ เรย์... “

“ เชี่ย!  ไอ้แน๊คเอ้ย!!! “

แพรถอนหายใจออกอย่างเบื่อหน่ายกับท่าทีของแฟนหนุ่มตรงหน้า

“ ว่าไงนะตัวเอง “

แพรไม่ได้ตอบอะไร  หากแต่เขม็งตาส่งมาให้แทนคำตอบ  และเหมือนว่าเรย์คงจะเข้าใจถึงความหมาย  เขาจึงรีบทานอาหารตรงหน้าทันที  โดยหารู้ไม่ว่าที่แพรกำลังไม่พอใจนั้นคือเรื่องที่เขามัวแต่เล่นเกมและไม่สนใจอะไรกับชีวิตเลยต่างหาก


ที่หน้าโรงหนัง

ระหว่างนั่งรอเวลาเข้าโรง  เรย์ก็ยังคงไม่วายหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมอีกจนได้  จากการรบเร้าของเพื่อนขี้เหงาทั้งสองคนอย่างแน๊คและเจมส์

“ จะไปซื้อขนม  เอาอะไรมั้ย... “

น้ำเสียงห้วนๆ ของแพรถามขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์

“ อืม... “

“ ป๊อปคอร์นมั้ย “

“ อืม.... “

“ เอารสไร “

“ อืม... “

เมื่อเกินจะอดทน  แพรจึงตัดสินใจเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันที  ทิ้งให้เรย์ที่ยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์นั่งอยู่เพียงลำพัง  ด้วยความเข้าใจว่าแฟนสาวคงกำลังเดินออกไปซื้อขนมมาให้

จนในที่สุดเกมก็จบลงด้วยชัยชนะ  เขาอุทานขึ้นมาด้วยความดีใจ  ก่อนจะกวาดสายตามองหาแพร  แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็หาไม่พบ  เขารีบกดโทรศัพท์หาเธอทันที  แต่ก็ถูกตัดสายทิ้งไปโดยตลอด  จนเขาเองเริ่มจะรู้สึกตัวแล้วว่าได้ทำเรื่องที่ไม่สมควรทำลงไป  และแพรคงจะโกรธเขาเอามากๆ  จนบางทีเธออาจจะหนีกลับไปก่อนแล้วก็ได้

ว่าแล้วเขาก็รีบลุกออกจากที่และเร่งฝีเท้าออกตามหาเธอทันที.....




..........................................




ท่ามกลางการจราจรที่แออัด  บนรถแท็กซี่คันหนึ่งหญิงสาวหน้าตาดีกำลังเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่เลื่อนลอย

เธอพึ่งกลับมาจากการช๊อปปิ้งที่แทบจะไม่ได้ซื้ออะไรติดมือกลับมาเลย  ด้วยขีดจำกัดทางด้านการเงินที่ดูจะมีปัญหา  แต่เพราะความเหงาที่ต้องอยู่ตามลำพังโดยปราศจากเพื่อนฝูงเฉกเช่นเมื่อก่อนหน้านี้  มันเลยทำให้เธอพยายามทำทุกเรื่องที่เธอเคยทำแล้วมีความสุข  แต่จนแล้วจนรอด...  การรับรู้ความจริงว่าตัวเองเป็นคนที่น่ารังเกียจและไร้ซึ่งการยอมรับจากสังคม  มันเลยทำให้เธอไม่สามารถสะบัดความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ฝังลึกอยู่ในใจลงไปได้เลยแม้แต่น้อย

ฝนที่ตกลงมาทำให้เธอติดอยู่บนการจารจรที่ติดขัดนี้มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว  จนกระทั่งรถได้เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ไม่ไกลจากแยกไปแดงใหญ่ข้างหน้า

ฮานะกวาดสายตาด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เด็กน้อยสองสามคนที่กำลังเดินถือพวงมาลัยแวะเวียนไปตามรถทีละคันๆ แต่ก็มักจะถูกปฏิเสธโดยตลอด....

ท้องฟ้าสีเทายังคงทิ้งหยาดฝนลงมาอย่างไม่ขาดสาย  เด็กน้อยที่ไม่มีแม้แต่ร่มสักคันยังคงถือพวงมาลัยด้วยตัวที่เปียกปอนเดินขายพวงมาลัยต่ออย่างไม่ลดละ  ภาพดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้เกิดมาอยู่ในสภาพแบบนั้น....

ทว่า...  มันกลับไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกภูมิใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย.....

เธอไม่เคยได้หยุดมองภาพแบบนี้นานๆ เลยสักครั้งในชีวิต....  หากว่าวันนี้ฝนไม่ตก  เธอก็คงจะไม่ได้หยุดมองสิ่งรอบข้างได้นานๆ แบบนี้  เพราะทุกวันที่ผ่านมา  เธอมองเห็นแต่เพียงแค่ตัวของเธอเอง... ก็เท่านั้น

เด็กน้อยที่เธอเห็น  เขาไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถเทียบเธอได้...  ทั้งหน้าตาและฐานะ...  ทว่าด้านหัวใจ...  เธอกลับไม่สามารถเอาชนะเด็กน้อยเหล่านั้นได้เลยแม้แต่น้อย....  เพราะว่าพวกเขาแม้จะอยู่ในฐานะที่ต่ำกว่ามาก  แต่พวกเธอกลับทำให้ตัวเองดูเป็นคนที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อทั้งตนเองและครอบครัว....

แล้วเธอล่ะ...?

ที่ผ่านมาได้ทำอะไรหรือเพื่อใครบ้างรึเปล่า...

ใช้เงินฟุ่มเฟือยก็เท่านั้น...

หักหลังเพื่อก็เท่านั้น...

ดูถูกคนอื่นก็เท่านั้น...

และยังทำเรื่องแย่ๆ เอาไว้อีกมากมาย...

แล้วจะแปลกตรงไหนล่ะที่จะไม่มีใครต้องการ  จนต้องมาเจ็บลึกในหัวใจอยู่แบบนี้

ทั้งๆ ที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นเขาแล้วแท้ๆ  แต่กลับเลือกที่จะเดินเข้าหาแต่สิ่งที่ทำให้ตัวเองดูมีคุณค่าต่ำลงไปเรื่อยๆ...

ไม่รู้ว่าน้ำตาของเธอมันเอ่อล้นขึ้นมาตอนไหน  แต่เธอก็ยกมือขึ้นมาปาดมันออกไปก่อนที่มันจะล่วงหล่นลงมา


ก๊อกๆๆ !


เสียงเคาะกระจกรถบริเวณคนขับดังขึ้นให้ลุงแท็กซี่หันไปสนใจ  ก่อนจะเบือนหน้าหนีและปัดมือตอบไปอย่างไม่แยแส  เมื่อเด็กน้อยในสภาพเปียกปอนและมอมแมมยกพวงมาลัยขึ้นมาเป็นเชิงถามว่าสนใจจะรับมั้ย  แต่เมื่อถูกปฏิเสธเธอก็ไม่ดึงดันที่จะเร้าหรือ  หากแต่แววตากลับฉายแววแห่งความผิดหวังออกมาให้เห็น

ทันทีที่เด็กน้อยกำลังจะก้าวเดินจากไปด้วยใบหน้าที่แสนเศร้า  ฮานะก็ลดกระจกลงก่อนจะตระโกนร้องเรียกขึ้นเสียงดัง  ให้เจ้าของร่างเล็กต้องหยุดเท้าลงและหันกลับมามอง

“ น้องคะ  พวงมาลัยพวกนั้นมีกี่อัน  พี่ขอซื้อทั้งหมดเลยนะ.... “

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอใช้เงินเกินความจำเป็น  ด้วยความรู้สึกที่อยากจะทำเพื่อใครสักคน  แม้มันจะไม่ได้มาซึ่งเสื้อผ้าสวยๆ  แต่กลับรู้สึกอิ่มเอมใจมากกว่า  หากเด็กน้อยคนนี้จะสามารถกลับไปบ้านได้เร็วขึ้น...

เด็กน้อยมองเธอกลับมาอย่างแปลกใจราวกับไม่เชื่อหูของตัวเอง  แต่ไม่นานรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้า  ก่อนจะเดินกลับเข้ามาหาเธอที่รถ

.......

“ อันนี้หนูแถมให้พี่ค่ะ  ไม่คิดเงิน “

เด็กน้อยส่งพวงมาลัยพวงสุดท้ายให้ฮานะไปพร้อมกับพูดขึ้น  ซึ่งเธอเองก็หันกลับไปหยิบเอาถุงขนมของร้านอร่อยที่เธอซื้อกลับมาด้วยส่งให้เด็กน้อยคนนี้ไปด้วยเช่นกัน

“ อันนี้พี่ให้.... เอากลับไปกินนะ... “

เธอยิ้มให้....  รอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจ  ก่อนจะได้รับการยกมือไหว้ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มและสีหน้าดีใจอย่างที่ทำให้ผู้ให้รู้สึกตื้นตันทันทีที่ได้เห็น

“ ขอบคุณนะคะ  พี่คนสวยใจดีจัง.... “

ใจดีจัง....

ถ้อยคำจากใจที่ไร้ซึ่งความเสแสร้งของเด็กน้อย....

ถ้อยคำที่เธอคิดว่าคนเช่นเธอไม่สมควรจะได้รับมันเลยสักครั้งในชีวิต....



ขอบคุณนะสายฝน.....  ที่ทำให้เราได้ ‘หยุด’ เพื่อที่จะมองโลกได้กว้างขึ้น  และเห็นอีกด้านหนึ่งที่เรายังไม่เคยได้สัมผัส....



ความคิดของเธอในตอนนี้  มันไม่มีคำว่าสายไปหรอกสำหรับการเริ่มต้นใหม่  เพียงแค่ยอมรับความผิดพลาดและกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่....  แล้วชีวิตก็คงจะมีคุณค่าในตัวของเราเอง...  ไม่มากก็น้อย....





...





ที่คอนโดของกิจ…

“ ไม่เอา...!  ไม่เล่นแล้ว!! “

“ นั้นถือว่าพี่ชนะนะ “

“ ก็พี่ขี้โกงนี่  สัญญากันแล้ว...  จู่ๆ มากลับคำ  แล้วนี่มาให้ผมเล่นเกมอะไรอีกเนี่ย  ใครมันจะไปชนะพี่ได้ล่ะ “

หลังจากที่กันต์พยายามอยู่พักใหญ่เพื่อที่จะเล่นเกมให้ชนะกิจเพียงแค่หนึ่งตา  เพื่อแลกกับการถูกพาไปดูหนัง  แต่จนแล้วจนรอด  เขาที่ไม่ถนัดเรื่องเกมเอาเสียเลย  ก็ไม่สามารถเอาชนะกิจได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

“ ถ้างั้นก็เล่นอีกตา “

“ ม้าย...!  จริงๆ  พี่ไม่มีสิทธิมาต่อรองนะ  นี่ถือว่าผมปราณีสุดๆ แล้วนะ “

“ ก็เราไม่ชนะพี่นี่  แล้วดูดิฝนตกแบบนี้รถติดจะตาย  รับรองเลยไปไม่ถึงก็อยากกลับแล้ว “

“ ก็กันต์อยากดูนี่...  น้าพี่น้า..... “

กันต์เอามือมาเขย่าแขนกิจพร้อมทั้งทำเสียงอ้อนจนคนตัวโตกว่าอดอมยิ้มในความน่ารักของเด็กคนนี้ไม่ได้

“ นั้น.... ทำอะไรให้พี่กินก่อนดิ  พี่หิวแล้ว... และถ้าฝนหยุดตกเดี๋ยวพี่จะพาไป “

“ จริงนะ.. “

สิ้นเสียงกันต์ก็ทำตาลุกวาวราวกับเด็กน้อยที่สามารถอ้อนซื้อของเล่นได้สำเร็จ 

“ อื้ม...  แต่ต้องฝนหยุดตกก่อนนะ “

แม้จะไม่สามารถการันตีได้เต็มร้อยว่าจะได้ไป  แต่ถ้าพี่เขาพูดมาแบบนี้แล้ว  มันก็มีแนวโน้มสูงที่เขาจะได้ไปหากว่าฝนหยุดตก  ว่าแล้วเขาก็ลุกพรวดออกจากโซฟาห้องรับแขกเข้าครัวไปหาอะไรทำมาให้แฟนหนุ่มทานในทันที





....................................................................





ที่ห้างสรรพสินค้า....

เรย์จากที่เดินไวๆ มองซ้ายมองขวา  ตอนนี้กลับกลายมาเป็นวิ่งตามหาแพรจนจะเรียกได้ว่าแทบจะทุกชั้นของห้างแล้วก็ว่าได้  แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังคงไม่เจอแพรอยู่ดี

เขาเดินหอบช้าๆ เรื่อยมาจนถึงบริเวณหน้าห้างซึ่งมีผู้คนยืนออกันอยู่บ้างประปราย  ก่อนที่สายตาเขาจะเห็นด้านหลังของหญิงสาวคนหนึ่ง  ซึ่งเขาจำได้แม่นเลยว่าคือใคร ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตรงเข้าไปหาในทันที

“ แพร....  เรย์ตามหาตั้งนานเลยนะ “

แพรไม่ได้ตอบอะไร  ก่อนจะเบือนหน้าออกไปยังบริเวณหน้าห้างที่มีฝนตกอยู่อย่างไม่ขาดสายเหมือนเดิม  ซึ่งจะว่าไปแล้วหากวันนี้ฝนไม่ตก  เธอก็คงจะได้นั่งรถกลับบ้านไปเองเสียตั้งนานแล้ว  ในเมื่อแฟนหนุ่มที่มาด้วยกันให้ความสำคัญกับเธอน้อยกว่าที่ควรจะเป็นกับการมาออกเดทด้วยกันแบบนี้

“ เค้าขอโทษ... “

“ รู้เหรอว่าผิดอะไร... “

ในที่สุดเธอก็ยอมปริปาก  เพราะแพรไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่เอาแต่ใจจนเกินไป  ถ้าจะคุยกันด้วยเหตุผลแล้ว  เธอก็พร้อมที่จะคุยด้วยเสมอ

“ ก็...  ที่เรย์เอาแต่เล่นเกมไง...  ใช่ป่ะ “

แพรจ้องเขาตาเขม็งก่อนจะถอนหายใจออกก่อนจะพูดขึ้น

“ ไม่ใช่... “

“ อ้าว...  แล้วเรย์ทำผิดอะไรอะ  ตัวเองบอกเค้ามาสิ “

“ ถ้าเรย์เป็นแค่วันนี้แพรจะไม่ว่าเลยนะ  แต่เรย์เป็นมาตลอดเลยอะ  ที่แพรโกรธก็คือการที่เรย์ทำตัวไม่ค่อยใส่ใจเรื่องที่ควรต้องใส่ใจ...  ไม่ใช่แค่แพรนะ  แต่รวมถึงการเรียนและเรื่องอื่นๆ ด้วย  เรย์ควรจะสนใจมันให้มากกว่านี้... “

ได้ยินแพรว่ามาถึงตรงนี้  เขาก็เข้าใจทันที  เพราะขนาดเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตเขา  เขายังทำเป็นเล่นและไม่สนใจมันอยู่เลย

“ กับแพรอะ  ที่สุดเราก็แค่เลิกกัน  แต่เรื่องอื่น...  มันทั้งชีวิตของเรย์เลยนะ...  แพรก็แค่อยากให้คนที่แพรรักใส่ใจกับชีวิตของตัวเองให้มากกว่านี้หน่อย...  ก็แค่นั้นเอง “

เมื่อแพรไม่มีอะไรจะพูดต่อ  เรย์ที่ผลุบตาต่ำลงอย่างรู้สึกผิดก็เอามือเข้ามากอบกุมมือบางตรงหน้าไว้อย่างนุ่มนวล  เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลย  เพราะสิ่งที่แพรเตือนมามันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องทั้งหมด  สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็เพียงแค่การกล่าวคำขอโทษออกมาจากใจอย่างสำนึกผิดเพียงแค่นั้น

“ ขอโทษนะตัวเอง...  เรย์เข้าใจแล้วล่ะ  จากนี้ไปเรย์จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นนะ  เพื่อตัวเองและก็..  เพื่อ ‘เรา‘ด้วย “

แพรมองเขาอย่างชั่งใจ  ซึ่งเธอก็พอจะรู้ได้ว่าตอนนี้เรย์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ จากสีหน้าและน้ำเสียงที่ส่งผ่านมาถึง

“ อื้ม... “

เธอพยักหน้ารับให้ไปเป็นคำตอบ  ก่อนที่คนตรงหน้าจะยิ้มกว้างออกมาให้เห็นแทบจะในทันที....

“ ถ้างั้น...  เราไปดูหนังกันต่อนะ... “

“ แต่มันเลยเวลาเข้าโรงมานานแล้วนะ “

“ จะเป็นไรไปล่ะ  ก็แค่ซื้อตั๋วใหม่...  เรย์มีเวลาว่างให้แพรทั้งวันเลยนะวันนี้.... “

“ นั้น.... ปะ... “




ขอบคุณนะสายฝน....  ที่ทำให้เราได้ ‘หยุด’ เพื่อที่จะรอ...  และปรับความเข้าใจกันมากขึ้น.....





..................................................................................
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-10-2018 23:22:17
 :pig4: :pig4: :pig4:

ถ้าพ่อแม่พี่กิจรู้ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปรของสองคนนี้  จะเป็นยังไงนะ?
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 51 / 52 / 53 รวดเดียวเบย )
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขาว ที่ 20-10-2018 23:27:04
ที่คอนโดกิจ....

“ ทำไมฝนยังไม่หยุดตกอีกอ้า....  นี่เย็นแล้วน้า.... “

เสียงกันต์เริ่มโวยวายขึ้นมาเล็กๆ ในขณะที่นอนหนุนตักกิจและเอามือกอดหมอนนุ่มใบเล็กไว้ที่อก  พลางดูหนังแอ๊กชั่นตรงหน้าที่เขาไม่ค่อยจะชอบมันสักเท่าไหร่  แต่เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร  เลยเลือกที่จะมานอนหนุนตักของกิจดูไปเรื่อยๆ เพื่อฆ่าเวลา  พร้อมกับคอยมองออกไปยังนอกกระจกใสกว้างอยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่าฝนข้างนอกนั้นมันจะหยุดตกลงเมื่อไหร่

“ อดไปแน่... หึๆ “

“ ไม่เอา...  ผมจะดู... “

กิจทำเป็นเลิกคิ้วไม่สนใจเสียงประท้วงของคนตัวเล็กกว่าที่นอนหนุนตักอยู่  ก่อนจะเอามือมาขยี้หัวอย่างหมันเขี้ยวในความเป็นเด็ก

“ อยากดูมากขนาดนั้นเลยเหรอ “

กิจถามต่อเสียงนุ่ม  ในขณะที่คนตัวเล็กกว่าก็ได้แต่พยักหน้ารับป้อยๆไปเท่านั้น

“ อะๆ นั้นเดี๋ยวดูเรื่องนี้จบแล้วพี่จะพาไป “

“ จริงนะ “

ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น  กันต์ก็ยันตัวขึ้นมาแทบจะในทันทีด้วยความตื่นเต้น

“ อืม.... “

กิจขานรับในลำคอตอบไปเพียงแค่นั้น  ก่อนจะเอามือไปดึงกันต์ให้กลับลงมานอนที่ตักของเขาต่อเหมือนเดิม....

และไม่นาน....

คนตัวเล็กก็หลับไป.....





.........................................





ที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ

เพราะฝนที่ตกต่อเนื่องนานขนาดนี้  เลยทำให้ตั้งแต่ช่วงบ่ายมาคนภายในร้านก็เริ่มลดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนเย็นก็เหลือแค่แขกคนสุดท้ายที่นั่งอยู่ตามลำพังและกำลังมองผ่านกระจกใสออกไปยังบริเวณหน้าร้าน

เขามองเลยผ่านสนามหญ้าสีเขียวไปยังถนนที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำฝน  และปล่อยใจไปกับบรรยากาศสลัวยามเย็นและท้องฟ้าสีเทาที่ปล่อยหยาดฝนลงมาอย่างไม่ขาดสาย  โดยมีเสียงดนตรี Piano Jazz ในร้านคลอเบาๆให้อารมณ์ได้สงบอย่างน่าอัศจรรย์

ธันนั่งอยู่ที่ร้านมานานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว  พร้อมทั้งกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และหนึ่งในความคิดนั้นก็รวมถึงเรื่องของกันต์ด้วย  เพราะตั้งแต่เกิดมา  กันต์เป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เขาสนใจ  โดยที่เขาไม่ได้สนในเรื่องเพศสภาพของกันต์เลยแม้แต่น้อย  แค่ความน่ารักมันก็ดึงสายตาของเขาให้จับจ้องมาที่คนๆ นี้ได้ตั้งแต่แรกเห็น  และยิ่งพอได้มารู้จักมากขึ้น  ความซื่อ  ความอดทน  และหัวใจที่รักคนรอบข้างของกันต์  มันยิ่งทำให้เขาถลำลึกในความรู้สึกมากขึ้นไปกว่าเดิม

เพียงแต่...

หัวใจของคนเรามันบังคับกันไม่ได้....  เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามทำยังไง  สายตาของกันต์ก็ยังคงจับจ้องไปที่กิจไม่เคยเปลี่ยนแปลง  และคงไม่มีวันมองเห็นสายตาของคนข้างๆ อย่างเขาที่คอยมองอยู่เสมอได้

เพราะความสุขของกันต์ไม่ได้อยู่ที่เขา  และเขาก็ไม่อยากที่จะขโมยความสุขนั้นมาไว้กับตัวเอง.... 

ที่ทำได้ก็แค่ฝืนยิ้มให้ด้วยความเต็มใจ  ที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข  แม้ว่ามันอาจจะยากไปสักหน่อย  แต่เวลาคงจะช่วยสมานความเจ็บนี้ให้เบาบางลงไปได้

ดังนั้นตลอดช่วงเวลาปิดเทอมที่ผ่านมา  เขาจึงออกไปเที่ยวกับเพื่อนเก่า  หาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้หัวสมองไม่ต้องคิดถึงใครบางคน  ซึ่งมันก็ดูจะได้ผลอยู่บ้างพอสมควร 

แต่เมื่อต้องกลับมาอยู่ลำพังกับตัวเองแล้ว  ความคิดเหล่านั้นมันก็หวนกลับมาทำร้ายหัวใจเขาอยู่เสมอ.....

จนกระทั่งวันนี้ที่เขามานั่งจิบกาแฟเหม่อมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยนอกกระจกใสของร้าน  จากความพลุกพล่านที่เคยมี  สายฝนกลับทำให้ทุกอย่างดูสงบลง  เช่นเดียวกับใจของเขาในตอนนี้  เขาเฝ้ามองธรรมชาติที่เรียบง่าย  ไม่ต้องรีบเร่ง  ไม่ต้องฝืน....  และปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ....


การไม่พยายามฝืนคือการพยายามที่ดีที่สุด...


สายฝนและความสงบของธรรมชาติตรงหน้า  มันทำให้จิตใจตลอดช่วงเวลาที่เขามานั่งมองนี้สงบลง  คิดทบทวนในความเป็นจริง  ยอมรับและเข้าใจ  ไม่ฝืนหรือเร่งรีบความรู้สึกอีกต่อไป  ปล่อยให้ทุกอย่างจางหายและผ่านไปเองตามธรรมชาติ

ธันเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือซึ่งบอกเวลาว่ากว่า 6 โมงเย็นแล้ว  เขาจึงตัดสินใจที่จะออกจากร้านเพื่อนกลับคอนโด  เพราะยังมีอะไรต้องทำอีกมากก่อนที่จะเปิดเรียนในวันพรุ่งนี้


ผลัก!!!


ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือเปิดประตูร้านออกไป  ร่างหนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาชนเข้าที่ไหล่ขวาของเขาให้ผงะตัวเซออกไปเล็กน้อย

“ ขะ... ขอโทษครับ  พอดีผมรีบไปหน่อย “

ชายคนดังกล่าวทำหน้าแหยๆ ผงกหัวป้อยๆ และกล่าวขอโทษขึ้นมาทันที  น่าแปลกที่ภาพตรงหน้านี้กลับทำให้เขาอดขำคนตรงหน้าในท่าทีตลกๆ นี้ขึ้นมาเสียไม่ได้

“ ไม่เป็นไรครับ “

เขาอมยิ้มให้ตอบรับไป  ก่อนจะเดินผ่านไปยังประตูร้านทันที


“ อ้าวตุลย์  มาทำไมอีกเนี่ย “

“ ลืมของอะพี่ทาม น่าจะวางไว้อยู่ที่หลังเค้าท์เตอร์อะพี่ “

“ ไหวมั้ยเนี่ยคุณหมอ....เปียกม่อลอกม่อแลกมาเชียว “

“ หมออะไรกันพี่  จะเรียนจบรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลยเนี่ย  ยิ่งเรียนก็ยิ่งเหนื่อย.... “

“ บ่นๆ  มาๆ  กาแฟสักแก้วมั้ย  เดี๋ยวพี่ชงให้ “

“ ผมเกรงใจอะ  แต่ขอแบบเดิมนะ  ขอบคุณคร้าบพี่ทาม.... “


ธันที่หันกลับมามองต่ออีกเล็กน้อย  ได้เผลออมยิ้มขึ้นมาเล็กๆ โดยไม่รู้ตัว  กับท่าทีเด๋อๆ ของคนตรงหน้า  ก่อนจะออกจากร้านไปด้วยความรู้สึกสงบ...
 
และเกิดมีความสุขเล็กๆ ขึ้นมาในหัวใจ....



ขอบคุณนะสายฝน...  ที่ทำให้เราได้ ‘หยุด’ ที่จะอยู่และทบทวนกับตัวเอง...  ได้คิดและเข้าใจอะไรมากขึ้น

และก็ขอบคุณอีกครั้ง...  ที่ทำให้เราได้ ‘หยุด’ เพื่อที่จะได้พัก....  และมองหาเส้นทางใหม่....  สำหรับการก้าวเดินในครั้งต่อไป...?







...............................................................................





กันต์’s  Part



ผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ครับ  มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้าห้องมา  ผมได้ยินเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์ไปด้วยในขณะที่ปิดประตูห้องลงและเปิดไฟสลัวจากดาวไลท์  ทำให้ห้องยังคงไม่สว่างมาก….



ผมยังคงสะลึมสะลือและไม่ขยับตัวมากในความมืด  รู้สึกราวกับว่าฝันมายาวนานเสียอย่างนั้น....

หรือว่าที่ผ่านมามันคือความฝันกันนะ....



ผมเดาว่าคนที่เข้ามาคงจะเป็นพี่กิจแน่ๆ  และพี่เขาก็คงจะไม่เห็นผมเพราะความมืดที่สลัวและขอบโซฟาที่บังผมอยู่  รู้สึกใจเต้นตึกตักๆ  ขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิครับ....



ราวกับว่าทุกอย่างมันได้กลับมายังจุดเริ่มต้น....

หรือว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น  มันคือความฝันกันนะ  และถ้าเป็นจริง....  มันก็เป็นฝันที่ดีเอามากๆ เลยล่ะครับ....



ไม่นานพี่กิจก็เดินออกมาจากห้องนอนในสภาพที่ถอดเสื้อออก  ใส่เพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียว  เผยให้เห็นหุ่นสมบูรณ์แบบที่ผมเชื่อว่าละลายใจสาวๆได้แทบจะทุกราย
 
“ เดี๋ยวนะมึง... “

พี่เขามองมาทางผม  ก่อนจะวางสายโทรศัพท์และเก็บมันเข้าไว้ในกระเป๋ากางเกง  ใบหน้าหล่อๆ มองผมมาด้วยความแปลกใจจนผมทำตัวไม่ถูก  หวังว่าพี่เขาคงจะไม่คิดว่าผมเป็นขโมยหรอกนะครับ...

“ เห้ย!!! “

พี่เขาตวาดเสียงดัง  พลางถลาตัวเข้ามาหาผมด้วยความรวดเร็ว  ผมตกใจมาก  ผงะตัวออกไปเล็กน้อย  ก่อนจะถูกแขนแข็งแรงคว้าข้อมือ  ล็อค  และกดผมหน้าติดเบาะโซฟาจากทางด้านหลัง  มันไวและแข็งแรงมากจนผมตั้งตัวไม่ทัน  ซึ่งผมในตอนนี้ก็แทบจะขยับตัวอะไรไม่ได้เลย...

“ มึงเป็นใครวะ!!! “ 

เสียงตวาดดังขึ้นมาอย่างดุดัน…




สุดท้ายแล้ว....  เรื่องที่ผ่านมามันก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้นเอง.....

ถ้าเป็นไปได้...  ผมไม่อยากจะตื่นเลยล่ะครับ  แต่เพราะโลกของความเป็นจริงคนเรายังคงต้องเดินหน้ากันต่อไป  และผมก็กำลังจะเริ่มต้นก้าวเดินต่อไปอีกครั้งหลังจากที่หยุดพักมานาน...




“ ผม... ผม... “



แล้วก็คงจะตามมาด้วยคำว่าขโมยเหมือนในความฝันอีกล่ะสิ.... 



“ ขโมย!! “



นั่นไง  เดจาวูจริงๆ....




“ เปล่านะพี่กิจ.... “

“ เปล่าอะไร....  ขโมยหัวใจพี่ไปยังบอกว่าเปล่าอีกเหรอ...  แต่ว่า...  ห้ามเอามาคืนนะ.... “



เอ๋.....  นั้นก็แปลว่า....  มัน...

ไม่ใช่ความฝันน่ะสิ.....




“ ปล่อยเลย.... “

“ คร้าบ  ปล่อยก็ได้.... “

“ เล่นอะไรเนี่ย... “




ดีใจจังครับที่มันไม่ใช่ความฝัน...

ดีใจจัง... ที่คนๆ นี้คือความจริง....




“ แหย่นิดเดียวเอง “

“ แล้วไปไหนมาอะ.... “

ผมพลิกตัวมานอนหงายมองหน้าคนที่คร่อมร่างผมอยู่ทางด้านบน  และกำลังมองผมด้วยสายตาที่หวานเยิ้มเลยทีเดียว

“ ลงไปซื้ออะไรมาให้กินไง  เห็นเราหลับอยู่พี่ก็เลยไม่อยากปลุก...  ทำไม... กลัวพี่หายไปเหรอ  ทำหน้าแบบนี้อะ... “

“ เปล่า... “

แล้วผมก็ทำหน้ายู่ พร้อมกับเบนสายตาหนีไป

“ บอกแล้วอย่านอนกลางวัน  ตื่นมาแล้วก็เป็นแบบนี้แหละ...  ปะกินข้าวกัน  ไว้กินเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่จะพาไปดูหนัง “

“ ฝนหยุดตกแล้วเหรอ... “

“ ยังหรอก...  แต่เห็นเราอยากดู  ก็เลยอยากตามใจ... “

พี่กิจทำท่าจะลุกขึ้น  ผมเลยเอามือไปรั้งแขนเอาไว้ให้พี่เขาหันกลับมามองอย่างสงสัย...

ผมมองตาพี่เขาอย่างพยายามถ่ายทอดความรู้สึกยินดีที่ได้รู้จัก  ได้รักและได้ครอบครอง  ขอบคุณที่อยู่และดูแลผมมาโดยตลอด 
และ...  ขอบคุณมากนะครับที่รักผม....

จากแววตาสงสัยของพี่เขากลับกลายมาเป็นสายตาอบอุ่นและรอยยิ้มละมุนเกิดขึ้นมาแทน

เรื่องของความรู้สึก..  บางทีมันก็ไม่ต้องบอกออกมาเป็นคำพูด...  เราก็สามารถเข้าใจกันได้....  ว่ามั้ยครับ....


“ ไม่อยากไปแล้ว.... “

“ อ้าว...  ทำไมล่ะ... “

“ อยากอยู่กับพี่แบบนี้มากกว่า... “

“ อ้อนแบบนี้...  อยากได้อะไรรึเปล่าเนี่ย... “

“  ก็....  ไม่รู้สินะ... “




ขอบคุณครับสายฝน...  ที่ทำให้วันธรรมดาๆ ดูมีความหมายมากขึ้น  เพื่อที่เราจะได้ ‘หยุด’

ใช้เวลา....และอยู่กับคนที่เรา ‘รัก’  มากยิ่งขึ้น....





End.
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-10-2018 23:36:25
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าวววว  จบแล้วววว

แทงคิ้วนาคับ

แต่...ก็นั่นหล่ะ  ชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป 

อนาคตจะเป็นอย่างไร?

คงต้องรอซีซั่นสองใช่ไหม?  ถ้าจำไม่ผิด
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-10-2018 23:56:24
 :L2: :3123: :L1: :L2: :3123: :L1: :3123: :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-10-2018 00:30:52
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 21-10-2018 01:20:31
 :กอด1: :katai2-1:  กว่าจะรักกัน คนอ่านลุ้นมาก
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-10-2018 01:34:08
ขอให้อยู่กันแบบสุขสันต์กะละมังหม้อนะเด็ก ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-10-2018 02:31:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 21-10-2018 09:15:53
จบแล้ว ขอบคุณคนเขียนค่ะที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่าน  :mew2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-10-2018 12:03:13
 เกือบช้อกที่น้องนึกว่าฝันไป5555
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-10-2018 12:48:23
ขอบคุณค่ะ เป็นตอนจบที่เห็นภาพมาก อ่านไปท่ามกลางสายฝนเลยเรา5555 ดีนะที่แม้แต่ฮานะก็ยังคิดได้ถ้าปรับปรุงตัวก็ไม่สาย ส่วนพี่กิจสายหื่นก็ยังน่ารักกับน้องเหมือนเดิม รอซีซั่นสองนะคะ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-10-2018 12:59:06
จบด้วยดีทุกคู่  หวังว่าคุณหมีขาวจะมีนิยายออกมาให้อ่านอีกนะครับ จะรอติดตาม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-10-2018 01:28:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-10-2018 13:17:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-10-2018 21:50:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 27-10-2018 13:38:20
นิยายสนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่เขียนนิยายดีๆ ให้อ่าน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 29-10-2018 23:53:05
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 31-10-2018 08:19:19

สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-11-2018 08:22:11
สนุกมากเลย ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 04-11-2018 18:05:15
ขอบคุณค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 04-11-2018 19:24:12
……


ในวันฝนตกพรำ……

ฮานะคิดได้ที่จะปรับตัว. เรย์กับแพรเข้าใจกันมากขึ้น และธันก้อพร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน

แล้วพี่กิจกับกันต์ได้อยู่ด้วยกันในห้องรักห้องเดิม


……

 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:


……
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 05-11-2018 17:27:28
 :hao5:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: dolbyelf ที่ 07-11-2018 09:36:00
เยี่ยม +1
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 27-11-2018 00:13:43
อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: pistolsbear ที่ 29-11-2018 09:37:18
 :impress2: นิยายสนุกดีครับ ดึงสุดในมุมเศร้า น่ารัก หื่น  :o8:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 14-01-2019 07:33:50
 :pig4: ดีต่อไต
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 15-01-2019 21:23:14
 :กอด1: :o8: :katai2-1: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 24-01-2019 18:05:50
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 04-02-2020 10:18:02
 :-[
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 05-02-2020 17:41:36
ขอบคุณ สนุกมากๆ ตาแฉะ เลย มีความสุข สุขภาพแข็งแรงจร้า
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 08-02-2020 21:39:40
สนุกค่ะ :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Angpungkung ที่ 22-02-2020 14:25:35
 :sad4:
ชอบอะคับ อยากให้มีภาคสอง
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: biber008 ที่ 08-03-2020 08:24:26
สนุกมากครับ เป็นกำลังใจให้เด้อ  o13
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 08-03-2020 13:32:14
เจ้าชายไม่ได้เย็นชาเลย แต่เหมือนเสือที่รอกินเหยื่อเสียมากกว่า เห็นนิ่งๆ พ่อพระกินเรียบนะ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 08-03-2020 21:14:05
 :z13:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 14-03-2020 08:04:06
เป็นนิยายที่ยาวมาก5555 ก่อนอื่นขอบคุณคนเขียนค่ะ อ่านสนุกอ่านเพลินเลย เราอาจจะไม่ได้อ่านทุกบรรทัดขนาดนั้นเพราะอยากจะรู้บทสรุปเร็วๆ ก็สมหวังกันไป ดีใจกับน้องกันด้วยกับความรักที่พึ่งจะเริ่มต้นขึ้นกับคนที่ใช่ ส่วนพระเอกไม่เย็นชาอย่างที่คิด แต่โดนปั่นโดยนางร้ายมากไปหน่อยเลยไม่สมาร์ท(ในสายตาเรา)เท่าที่ควร


มีน้องไทเกอร์อีกตัวที่มาขโมยซีนเล็กๆในช่วงกลางเรื่อง ชอบอะค่าอยากให้น้องอยุ่กับน้องกันด้วยซ้ำ ฮรือ
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 09:55:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 14/01/2561 update chapter 9 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 10-09-2020 14:35:35
 
 บทที่10หายไปไหน มีบทที่9 บางส่วนของบทที่26 แล้วมาบทที่11


หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( 21/02/2561 update chapter 26 ครับ )
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 10-10-2020 22:13:03

“ นี่เธอ!  พนักงานใหม่ใช่มั้ยเนี่ย “

“ เอ่อ..  “

“ ตรงนี้เป็นที่นั่ง V.I.P นะ  สำหรับผู้บริหารระดับสูงและครอบครัว  เธอต้องไปหาที่นั่งตรงอื่นนะ “

“ คือว่า... “

“ ยังจะเถียงอีก!!  แผนกไหนเนี่ย !! “ 

คุณป้าแกทำเสียงดุขึ้น  ผมเลยไม่กล้าที่จะอธิบายอะไรต่อ  สุดท้ายก็เลยต้องรีบลุกออกไปจากที่นั่งแทบจะในทันที

 
ขนาดใส่เสื้อผ้าแพงๆแล้วนะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 14-10-2020 23:26:00
เนื้อสนุกน่ารักดีค่ะ
แต่กลางเรื่องพระเอกดันมาโง่เรื่องผู้หญิง
ทั้งทีแรกๆดูเก่งไปสะทุกเรื่อง และดูโนสนโนแคร์คนอื่น
มาตกม้าตายกับผู้หญิบคนเดียวสะได้
แต่ก็จบแบบแฮกปี้ทุกคู่ทุกคน
หัวข้อ: Re: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 18-10-2020 18:34:05
ชอบมากครับ  น่ารักดีครับ  คนโสดอย่างผม ตายเลย 555