พิมพ์หน้านี้ - ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Boy_Image ที่ 11-03-2007 20:17:17

หัวข้อ: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 11-03-2007 20:17:17
เรื่องนี้ก็เคยเขียนไว้นานแล้วครับ ที่ Boyonthenet เอามาลงที่นี่อีกครั้งเพราะมีคนส่ง หลังไมค์มาให้ลงให้ครับ
ยังไงก็อ่านกันดูนะครับ
=================================================================

ตอนที่ 1
====================

"501 502 503 นี่แหละ" ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ เมื่อเดินมาถึงห้องพักพร้อมกับของพะรุงพะรัง... เอะ! มีใครอีกคนอยู่ด้วย ผมว่าผมมาก่อนแล้วนะ ยังมีคนมาล่วงหน้าผมอีก ผมก็เลยเรียกเค้าให้ช่วยเปิดประตู

   "หวัดดี นายเป็นรูมเมทเราหรอ" เค้าทักทายผม
   "ใช่ เราอยู่ห้องนี้แหละ"ผมบอกพร้อมกับขนของเข้ามาในห้อง
   "ชื่อพัดนะ อยู่ ComSci"
   "อ้าว! คณะเดียวกันหรอ เราชื่อบอย"

ผมสังเกตห้องทันทีที่เข้ามาถึง ห้องหน้ากว้าง 3 เมตร ยาวประมาณ 6 เมตรดูๆแล้วก็น่าอยู่ดีนะครับ หอของผมอยู่ชั้น บนสุดของหอพักเลย มีดาดฟ้าไว้ตากผ้าด้วย ทำให้มีห้องพักเพียงแค่ 5 ห้องเท่านั้นบนชั้นนี้

"บอย นายบอกว่านายอยู่คณะเดียวกับเราหรอ"   "อืมใช่  เออโทษทีนะ รบกวนช่วยเราขนของหน่อยได้มั้ย"  "ไปดิ ป่ะ"แล้วพัดก็เดิมตามผมออกมาจากห้อง ผมก็เล่าให้พัดฟังแล้วนะ ว่าจริงๆแล้วผมให้พี่ๆที่บ้านมาช่วยคนด้วยแต่เจ้าหน้าที่หอไม่ให้ขึ้นมา จนพัดบ่นว่า "ไม่น่าเลยเนอะ แค่ขนของ ยายอ้วนเนี่ยจริงๆเลย" แล้วพวกเราก็หัวเราะกันทั้งคู่ พัดช่วยเบาแรงผมไปได้เยอะทีเดียวครับ

หลังจากที่ผมจัดของเข้าที่เสร็จแล้ว ก็เย็นพอดีเลยกะจะไปหาอะไรกินซักหน่อย

   "คือเย็นแล้วอะ เราหิวแล้ว จะไปหาไรกินด้วยกันมั้ย" พัดถามขึ้น
   "ไปดิ กำลังหิวเลย ท้องร้องจ๊อกๆแล้ว" ผมเห็นดีเห็นงามด้วย
   "ไปกินที่ไหนดี ในมหา'ลัย หรือจะไปกินข้างนอก"
   "ใน ม. ก็ได้ไม่ต้องไปข้างนอกหรอก หรือจะไปข้างนอกก็ตามสะดวก"
   "บอยนายมีจักรยานมั้ยหละ"
   "เหอๆ ไม่มี ไม่ได้เอามาด้วย"
   "งั้นนายก็ซ้อนเราไปละกัน จะพาไปกินหน้า ม.ดีกว่า"

ผมก็ตามพัดลงไป จักรยานเค้าก็เป็นเสือภูเขาธรรมดา เบาะนั่งก็แสนจะนิ่ม....!!!!

   "อย่าขับเร็ว เราไม่ชอบซ้อนท้ายรถเร็วๆ"
   "ทำไมหละ สนุกออก..."

แล้วพัดก็เพิ่มความเร็วรถจักรยานด้วยความเร่ง...

   "โอ๊ย...อย่าเร็วดิ...กลัว..."
   "โถ่ แค่นี้ก็กลัวด้วย"
   "ก็เราไม่ได้ขี่เองนิ....ระวังข้างหน้า...เนิน!!! "
   "ความเสียวมาแล้ว ระวังนะถ้าไม่ยกก้นขึ้น...เจ็บแน่ๆ"
   "โอ๊ย........"

แล้วพัดก็หัวเราะผม ผมเองก็ร้องไปตลอดทาง มันน่ากลัวมากเลยนะครับ พัดขี่จักรยานจนผมเมารถได้...

   "ขี่ช้าลงหน่อย..." พัดยังเงียบไม่ตอบสนองผม
   "งั้นจี้เอวละนะ..." เค้าก็ยังเงียบ ผมเลยจี้เอวเค้า...
   "เฮ้ย...เอาจริงหรอ...โอ๊ย....อย่า..หยุด"

แล้วสุดท้ายรถจักรยานที่มีทั้งผมและพัดก็ล้มลงข้างทาง....

   "รู้ไรมั้ย.."
   "มีอะไรหรอพัด"
   "ตัวหนักจัง ตัวก็นิดเดียวไม่น่าจะหนักเลย"
   "โห...ปากหรอเนี่ย..."

แล้วผมกับพัดก็หัวเราะพร้อมกัน..มันเป็นเรื่องสนุกของผมในวันแรกที่ได้รู้จักกับพัด

   "บอย ชอบกินไรเป็นพิเศษมั้ย"
   "ไม่นะ อะไรก็ได้"

ผมตอบเพราะตอนนั้นไม่คิดอยากกินอะไรมากไปกว่าข้าวเลย และเหมือนเค้าจะรู้ใจผมนะ พาไปกินร้านที่มี ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวฯลฯ เต็มไปหมด

   "พัดเป็นคนจังหวัดไรอะ"
   "กทมนะ แต่ทางบ้านเป็นคนเหนือ"
   "มิน่า ขาว แต่ก็พูดภาคกลางชัดนะ"
   "อืม แหงสิ เกิด กทมนิ แล้วบอยคนจังหวัดไร"
   "เราก็ กทมเหมือนกัน"

หลังจากที่ทานกันเรียบร้อย เค้าก็พาผมซ้อนท้ายจักรยานกลับมาหอพัก เค้าบอกผมว่าเค้ามาอยู่ได้ อาทิตย์นึงแล้ว รู้จักคนเยอะเลย
   
   "วิศวะ ข้างๆห้องพวกเรานะ เอาคอมพ์มาด้วยนะ ไปเล่นที่ห้องเค้าได้นะ"
   "หรอ ไปสิไปก็ไป"
   
ผมตื่นเต้นที่เค้าจะพาผมไปรู้จักกับคนในหอ เพื่อนๆต่างคณะกัน ผมชอบนะครับรู้จักคนเยอะๆเนี่ย จนกระทั่งดึกแล้ว เลยต้องกลับห้องตัวเอง จะอยู่รบกวนเค้านานๆก็ไม่ใช่เรื่องอะครับ

   "บอย เปิดล๊อกห้องด้วย" พัดสั่งผม เดี๋ยวนี้กล้าสั่งแล้วนะ รู้จักกันไม่ถึงวันเลย
   "ได้ๆ" ผมก็ค้นกุญแจเพื่อเปิดห้อง อ้าว!!!  ไม่มี
   "เฮ้ย เราทำกุญแจหายอะพัด"
   "อ้าวจริงง่ะ โทรไปถามที่บ้านดูสิว่าลืมรึเปล่า"

แล้วก็เป็นอย่างที่พัดพูด ผมไม่ได้ทำหาย แต่ลืมไว้ที่บ้านของตัวเอง

   "เอางี้ละกัน ถ้านายจะเข้าห้องละก็นะ นายก็โทรมาเรียกเรา นายมีมือถือนิ"
   "เอางั้นหรอ ได้ๆ"

แล้ววันนั้น ผมก็นั่งคุยกับพัดหลายเรื่อง ทั้งเรื่องโรงเรียนเก่าของพัด โรงเรียนเก่าของผม ครูอาจารย์เค้า ครูอาจารย์ผมจนดึก สมควรเวลาที่จะเข้านอน เราก็ตกลงกันนะครับ ว่าตอนเช้าจะตื่นกี่โมงดี เพราะจะตั้งนาฬิกาปลุก

   "เข้าเรียน 8.40 ก็ปลุกซัก 6 โมงเป็นไง" พัดเสนอ ผมก็ยิ้มๆ
   "ปรกตินายตื่นกี่โมง" ผมถาม
   "แม่ไม่มาปลุก ไม่ตื่น" แล้วเรา 2 คนก็หัวเราะ กันในตอนค่ำคืนของวันนั้น

ในตอนเช้าของวันต่อมา หรือก็คือวันแรกของการเปิดเรียนในรั่วมหาวิทยาลัยของพวกผม ผมตื่นก่อนนาฬิกาปลุก ก็เลยลงมาจากหอพัก เพื่อมาออกกำลัง วิ่งซักหน่อยตอนเช้าๆ อากาศสบายๆ

   "อ้าว บอย ลงไปทำไร" พัดเรียกผมจากระเบียง ขณะที่ผมกำลังเดินจากหอออกไปวิ่ง
   "ไปวิ่งหน่อย จะไปด้วยกันมั้ย" ผมชวนเค้า

แต่พัดไม่ได้ตอบผม กลับเดินหายไปในห้อง ผมก็งงทำไมไม่ตอบ แต่ไม่ถึงนาทีเขาก็วิ่งตามผมลงมาข้างล่าง คงจะไปกับผมด้วยมั้ง แต่เค้าไม่วิ่ง เค้าขี่จักรยาน ส่วนผมสิ วิ่งตามจักรยานเค้าเหนื่อยสายตัวแทบขาด

   "เร็วหน่อยๆ ตามมาให้ทันนะ" พัดยียวนแล้วก็ขี่นำหน้าผมไป
   "เออ... อย่า.... ชวน... คุย...หายใจ.... ไม่ทัน...." ผมงี้วิ่งเร็วสุดๆแล้วยังไม่ค่อยจะทันเลย

เมื่อเห็นว่าถึงขีดจำกัดละผมก็หยุดวิ่ง ยืนพักหอบหายใจแฮกๆ

   "เหนื่อยแล้วหรอ มาซิ" เค้าขี่กลับมา แล้วมาบ่นข้างๆหู
   "ทำไร" ผมยังงงกับคำว่า มาซิ ของเค้า
   "ซ้อนไง สายแล้วไปๆ" อืมใช่ ตอนนี้สายแล้วนิ เดี่ยวต้องไปอาบน้ำอีก

ตอนผมนั่งซ้อนรถกลับมาเนี่ย ผมเพิ่งสังเกตว่าผมเองก็วิ่งมาไกลพอตัวเลยนะ เกือบๆรอบมหา'ลัยเลย ทำไปได้ยังไง
หัวข้อ: ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 11-03-2007 20:18:04
หลังจากเลิกเรียนแล้ว ผมได้ข่าวจากประธานคณะว่า วันนี้ให้ไปลงสมัครชุมนุมให้เสร็จใครสนใจจะลงอะไรก็ไปสมัครอันนั้น

   "นายสมัครอะไรหละ พัด" ผมถามเมื่อเราเดินกลับหอด้วยกันหลังจากแยกกับเพื่อนๆแล้ว
   "คงเป็น... ว่ายน้ำ แล้วนายเลือกอะไร" เค้าถามผมกลับ
   "ยิงธนู เราชอบอันนี้" ผมก็ตอบยิ้มๆ เพราะชอบจริงๆนะมันดูเท่มาก
   "ระวังมันจะตีหน้าเอานะ สายธนูนะ" ไอ้นี่หาเรื่อง
   "เออ ไม่มีทางหรอก" แล้วผมกับเค้าก็แยกกันไปสมัครเข้าชมรมกัน

ผมเดินไปยังโรงซ้อม ก็เห็นเค้ารับสมัครกัน คนมาเพียบเลย สงสัยชมรมนี้จะอบอุ่นน่าดู

   "พี่ครับ สมัครเข้าชุมนุมยังไงครับ" ผมถามที่โต๊ะที่รับสมัคร
   "กรอกใบสมัครนี่นะครับ จ่ายค่าสมัครด้วย 10 บาท แล้วก็เรียบร้อยแล้วครับ"
   "แล้วจะมาซ้อมเมื่อไหร่ครับ"
   "ทุกวันเลยนะน้อง ที่ห้องนี้แหละ เวลาก็ตั้งแต่ 6 โมงเย็น"
   
หลังจากที่ผมสมัครเสร็จ ผมควรจะไปไหนดีนะ จะกลับหอแต่ก็เข้าห้องไม่ได้ ต้องรอพัดก่อน แล้วถ้าจะไปกินข้าวก็ต้องไปกินคนเดียว...ไม่เอาดีกว่า... ผมเลยตัดสินใจที่จะเดินไปดูพัดที่สระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยแทน... ก็หวังว่าผมจะเจอเค้านะ แล้วทางจากโรงยิมไปสระว่ายน้ำก็ไม่ห่างกันมากนัก ผมก็จ้ำๆไป

   "น้องค่ะ" เสียงเรียกผมดังขึ้นมา ผมก็หันไปดู
   "น้องอยู่คณะ comsci ใช่มั้ยค่ะ" ผมก็ยิ้มๆๆก่อนจะพยักหน้าตอบไป
   "น้องค่ะ พี่สนใจจะให้น้องเป็นหลีดของคณะนะค่ะ"
   "อะไรนะครับ ให้ผมเป็นหลีด" ผมตกใจมากเลยนะครับ หน้าตาผมก็ใช่ว่าจะดี สูงก็ไม่สูง 168 เอง
   "เป็นนะค่ะน้อง" พี่เค้ายังไม่ยอมเลิก
   "ไม่เป็นไม่ได้หรอครับ ผมไม่อยากเป็นเลย..."
   "น้องก็คิดว่า ต้องทำเพื่อคณะเราสิค่ะ ต้องทำเพื่อพี่ และเพื่อนๆของน้องนะค่ะ"

   "อ้าว ก็เป็นไปดิ หลีดก็ดีออก" พัด มาตอนไหน มันมายืนพูดออกความเห็นเนี่ย
   "เราไม่เคยเป็นนิ" ผมพยายามบ่ายเบี่ยง แทนที่มันจะช่วยเพื่อน มันกลับยุยงแบบนี้
   "เห็นมั้ยค่ะน้อง หลีดพิธีการ ไม่เป็นยากหรอกค่ะ นะค่ะ"

ผมก็เงียบๆไป สงสัยจะต้องก้มหน้ารับกรรมของตนเองเสียแล้ว

   "ตกลงเป็นใช่มั้ยค่ะ" ผมก็พยักหน้า
   "งั้น น้องคนนี้ก็เป็นไปด้วยกันเลยสิค่ะ เพื่อนน้องยังเป็นเลย"
   "ผมเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก"
   "ไม่ต้องเลยพัด ทีเรานายยังให้เป็นเลย ทีตัวเองจะไม่เป็นได้ไง"
   "เป็นทั้งคู่นั้นแหละ จะได้ไปซ้อมด้วยกัน สนิทกันดีนิ"
   "เออ....." พัดพยายามจะหลีก
   "ไม่ต้องปฏิเสธเลยนะค่ะ เอาชื่อมาเลยค่ะ"

แล้วพัดก็เขียนชื่อตัวเองลงในกระดาษให้พี่เค้าไป แต่ทำไมถามแต่ชื่อพัด ชื่อผมไม่ถาม ผมก็ไม่เข้าใจ แต่ด้วยเหตุนี้ ตลอด 1 เดือนนี้ผมต้องไปซ้อมหลีดกับมันทุกวัน จนกว่าการแข่งขันกีฬาจะหมดไป นึกแล้วน่าสนุกดีไม่น้อยเลย แต่ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปยิงธนูของผมกันเนี่ย....T-T
หัวข้อ: ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 11-03-2007 20:18:35
เย็นของอีกวัน หลังจากที่ผมโดนบังคับให้เป็นหลีดแล้ว ผมก็ไปซ้อมกับเพื่อนๆที่เป็นหลีดด้วยกัน เค้าให้พวกผมไปซ้อมที่หลังอาคารเรียน ทุกคนที่มาซ้อมดูเหมือนจะรู้จักกันมาก่อนแล้ว เว้นแต่ผมกับพัด เหมือนจะเป็นเด็กใหม่เลย
เมื่อผมเดินมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ทุกคนต่างหันมาทางผมทั้ง 2 คน

   "อ้าว เด็กใหม่มาแล้วนายๆ นายชื่อไรอะ"ผู้หญิงคนนึงทักทายพวกผม
   "พัดคับ" พัดตอบเกร็งๆ
   "พวกนายใช่ป่ะ ที่พี่อีฟบอกว่า จะมาเป็นหลีดเพิ่ม" สาวอีกนางนึงก็ซักพวกผมต่อ
   "เออ...ใช่มั้งครับ" ผมตอบ
   "อืม...เราชื่อแอน แล้วนายอีกคนชื่ออะไร" แอน คือผู้หญิงคนแรกที่ทักทายพวกผม เธอถามมาที่ผม
   "ไอ้นี่หรอ มันเป็นรูมเมทเรา ชื่อบอย" พัดตอบ
   "อานะ เค้าไม่ได้ถามนายนิ เค้าถามเรา" ผมเหน็บ
   "พวกนายนี่ สนิทกันดีนะ อยู่ห้องเดียวกันหรอโชคดีจังนะ" คนนี้เป็นผู้ชายตัวสูงที่สุดในกลุ่ม
   "เรฟ ก็อยู่หอนิ ชั้นไหนหละ" แอนหันไปถามผู้ชายคนนั้น ทำให้ผมรู้ว่าเค้าชื่อเรฟ
   "ชั้น 5 ไง บนสุดเลย" เค้าตอบ
   "อ้าว ชั้นเดียวกันนิ" พัดตอบ
   "อืม ใช่ เราเห็นพวกนายออกจะบ่อย แต่พวกนายเคยเห็นเรามั้ยหละ"
   "ไม่เลย" ผมกับพัดแทบจะตอบพร้อมๆกัน
   "ก็นั่นสิ เพราะ เลิกเรียนก็มาซ้อมหลีดแล้ว ไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆหรอก"

   "บี โทรหาพี่อีฟยัง" ผู้ชายอีกคน ถามกับผู้หญิงคนที่สอง ที่ทักพวกผม
   "โทรแล้วจ้า พล พี่เค้าบอกว่า ออกมาแล้วอีกประมาณ 20 นาทีคงถึง" เธอตอบพร้อมดัดเสียงเล็กน้อย
   "เออ แล้วพวกนายรู้จักหมดทุกคนยังหละ" เรฟหันมาถามพัด

พัดส่ายหน้า แล้วก็หันมาทางผม ผมก็ส่ายหน้าเช่นกัน

   "คนนี้ ชื่อแอน รู้จักกันแล้วใช่มั้ย" เค้าชี้ไปที่ผู้หญิง คนแรกที่ทักทายพวกผม อืมๆ..ผมจะจำไว้ว่า ชื่อแอน
   "คนนี้บี" บีเป็นผู้หญิงคนที่สองที่ทักทายพวกผม และเป็นคนเดียวที่ตัดผมสั้น และออกอาการคล้ายๆกับ...
   "คนนี้ เม และสุดท้าย จิ๊บ"

เม เธอคนนี้ไม่ได้คุยกับพวกผมในตอนแรก แต่สุดท้ายกลับสนิทกับพวกผมอย่างมาก และจิ๊บ ผู้หญิงปากร้ายตัวเล็กที่สุด ผมกับเธอก็สนิทกันมากนะครับ

   "เหลือเราอีกคนนะ เราชื่อพล"

ตอนนี้ผมรู้จักเพื่อนๆที่ต้องร่วมงานด้วยกันทั้งหมดแล้ว ทุกๆคนเป็นคนดีนะครับ ตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยทำให้ผมเสียใจเลย โดยเฉพาะ เม เธอเป็น Co-Lab ของผมด้วย

หลังจากทำความรู้จักกันไม่นาน พี่อีฟ คนที่ซ้อมหลีดให้พวกเรา และเป็นคนที่(บังคับ)ให้ผมเป็นหลีด ก็มาซ้อมให้กับพวกเรา ในวันนั้น พี่คนอื่นๆไม่ว่างกันติดโปรเจก ส่วนพี่อีฟ แกโดนโบ้ยงานให้มาซ้อม

สิ้นสุดการซ้อมหลีดแล้ววันนั้น ผมกับพัดได้ท่าเพียงแค่ 2 เพลงเท่านั้น จากทั้งหมดที่มี 12 เพลง ในขณะที่คนอื่นๆเค้าได้ท่ากันมากกว่า 5 เพลงขึ้นไปแล้ว เพราะเค้าซ้อมกันมาตั้งแต่ปิดเทอม หลังจากไปกินข้าวที่หน้า ม.แล้ว พวกผมก็กลับขึ้นหอกัน ตอนขึ้นหอนี่เอง ที่ทำให้ผมรู้ว่า พวกเราทั้ง 4 คน (หมายถึง เรฟ พล พัด และผม) อยู่ชั้นเดียวกันหมดเลย เป็นเรื่องบังเอินมากเลยคับ

ผมวางของลงบนเตียงของตัวเอง เก็บหนังสือที่ใช้เรียนลงใน ลิ้นชักที่โต๊ะอ่านหนังสือ และไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ที่ระเบียง จะไปอาบน้ำ

   "บอย จะอาบน้ำแล้วหรอ" พัดถามผม ส่วนตัวเค้าก็กำลังเก็บของอยู่
   "อือ เหนื่อยมากเลยวันนี้ อยากนอนเร็วๆแล้ว"
   "อย่าเพิ่งเลย ไปซ้อมหลีดกันต่อเถอะ"
   "ซ้อมที่ไหนหละ ที่ระเบียงห้องหรอ หรือในห้อง แต่ที่มันแคบจะตาย กางแขน กรีดมือก็เต็มห้องแล้วเนี่ย"
   "ก็ดาดฟ้าข้างนอกไง"
   "นายไม่อายเค้าหรอ คนเดินผ่านไปผ่านมา"
   "ไม่อะ ถ้าวันจริงเราเต้นแล้วหลุด วันนั้นน่าอายกว่าเยอะเลย"

ที่พูดแบบนี้แสดงว่า จะชวนผมออกไปซ้อมใช่มั้ยเนี่ย ผมเอง หรือใครก็ตามที่ตกอยู่ในสภาพนี้ ผมเชื่อว่าคงอยากจะทำเพื่อเพื่อนๆ พี่ๆ และคณะของตนเองแน่นอน ผมโยนของในมือไว้บนเตียง พร้อมกับเดินตามพัดออกไปที่ดาดฟ้า
และเริ่มซ้อมท่าทั้งหมด ที่ได้เรียนมาวันนี้ แต่การซ้อมครั้งนี้ทุลักทุเลมาก เพราะเพลงพวกผมก็ยังไม่คล่อง และท่าก็ยังจำไม่ได้

   "เอ้า หลีดพร้อม" เสียงนี้ทำผมตกใจมากเลย เราทั้ง 2 คนหันควับไปดู เป็นเรฟ และคนอื่นๆ
   "อาไรเนี่ย มาซ้อมกันได้ไง 2 คน ร้องเพลงก็ผิด ทำนองก็ผิด ท่าก็ไม่ถูก" เรฟบ่นใหญ่ แต่ก็เดินตรงเข้ามา
   "เอ้า สั่งหลีดพร้อมแล้ว พร้อมสิ" เค้าสั่งอีกครั้ง พวกผมก็อิดออด
   "เรฟท่าน Head ของพวกเรานะ พวกนายไม่รู้หรอ"พลก็แทรกเข้ามา
   "ไปซ้อมซิ ยังนั่งอยู่อีก" เรฟตัดบท

พัดหันมามองหน้าผม ผมเองก็ยิ้มๆแล้วก็ลุกตามพัดไปซ้อมหลีด พร้อมกับพวกเรฟ ในวันนั้น พวกผมได้ซ้อมกันเพิ่มเติม จากที่ได้เพลง 2 เพลงก็กลายเป็น 4 เพลง เท่ากับที่พลได้ แต่กว่าจะซ้อมเสร็จ ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว
หัวข้อ: ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 11-03-2007 20:19:17

หลังจากวันที่เราซ้อมกันวันแรก เป็นเวลากว่า 25 วันที่ผมและพัดจะต้องไปขลุกอยู่กับพวกหลีด จนกระทั่ง 3 วันสุดท้าย ถึงได้มีการจัดให้ซ้อมร่วมกับ สแตนเชียร์ ในวันซ้อมวันสุดท้าย ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งการแปรอักษร การร้องเพลง จังหวะ และท่าเต้นของพวกผม ไม่มีอะไรที่หลุดเลย การต่อตัวก็เป็นไปอย่างดี เมื่อถึงวันพรุ่งนี้ จะเป็นวันชี้ชะตาแล้ว

ในตอนเช้าของวันแข่งขัน ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่ที่เป็นหลีดรุ่นพี่ว่า ให้ทำใจให้สบาย ไม่ต้องเครียด พวกพี่ๆเค้าไม่ได้หวังจะให้ชนะ แค่ทำให้ดี ตั้งใจให้มากเท่านั้นก็พอ แต่โทรศัพท์นี้ก็เป็นการปลุกพวกผมไปด้วยในตัว เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และออกไปซ้อมกัน

การขันแข่งจะเริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงวัน แต่ละคณะจะใช้เวลา 20 นาที ในการแสดงของตัวเอง และคณะของผมเป็นคณสุดท้าย จากทั้งหมด ก็ออกในเวลา 2 ทุ่มโดยประมาณ (มีทั้งสิ้น 21 คณะ ที่ส่งเข้าประกวด และหลังจากแสดงครบ 3 คณะจะเบรกให้ 10 นาที)

เพราะฉะนั้นพวกเราทั้ง 8 คนเลย ตั้งใจจะซ้อมกันเสียก่อนในตอนเช้า(วันนี้โดดเรียน) การซ้อมทุกอย่างเป็นไปด้วยดีทุกอย่าง จนสุดท้ายถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปเปลี่ยนชุดกันแล้ว และยังต้องไปร้านทำผมที่นัดเอาไว้ ซึ่งเป็นร้านหน้ามหา'ลัย ผู้หญิงทั้งหมด 4 คน เสียเวลาทำไปทั้งหมดก็ราวๆคนละ 1 ชั่วโมง ทั้งทำผม แต่งหน้า ส่วนผมนั้นแค่คนละ 30 นาทีเท่านั้นเอง (ทำไมเป็นธรรมจังเลย) เริ่มทำผมตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปเสร็จเอาเกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว

เมื่อแบบนี้พวกผมก็วิ่งกันตาเหลือกเลย กลัวว่าจะไปไม่ทันแข่ง และด้วยการที่รีบวิ่งนี่แหละครับ ที่ทำให้ พลเกิดอุบัติเหตุขึ้น เขาตกท่อ แล้วข้อเท้าแพลงนิดหน่อย พลใช้ผ้ายางยืดพันข้อเท้าเค้าไว้ แล้วก็ตามพวกผมไปที่สนามกีฬา

   "พลไหน ดูหน่อยเป็นไงบ้าง" รุ่นพี่คนนึงเข้ามาดูพล
   "ไหวอยู่ครับ" พลก็บอกไปงั้น

แต่ผมดูแล้ว เขียวขนาดนี้ไม่น่าไหวเลย แต่พลเองก็ไม่ยอมถอนตัวด้วย เลยจำเป็นต้องให้เค้าลง

พวกเราจัดขบวนเสร็จ ก็ถือธงคณะเดินเข้ามาในสนามกีฬา ท่ามกลางสายตาของรุ่นพี่ และเพื่อนๆในคณะที่อยู่บนสแตนเชียร์ ใจผมสั่นตึกๆเลย  รู้สึกหิวน้ำขึ้นมาทันที มือผมที่กำด้ามธงอยู่นั้นเปียกไปหมด คนอื่นๆก็คงไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นคณะสุดท้าย โดยมากจะเบื่อกันแล้ว แต่พวกผมก็เตรียมการมาแล้วเป็นอย่างดีในการเรียกร้องความสนใจ ด้วยเสียงกรีดที่ดังสนั่น และดอกไม้ไฟในมือ ขณะที่แสงในสนามกีฬาถูกหลี่ลงจากสว่างจ้าเป็นสลัวๆ

เมื่อสันยานมือดังขึ้น พวกเราก็จัดตำแหน่ง และแปรขบวนเป็นตัว V ตามที่ได้ซ้อมเอาไว้ เพลงแรกเริ่มร้อง เพลงประจำมหาวิทยาลัย... ตามด้วยเพลงคณะ...และอื่นๆ... ผมมีความรู้สึกว่า หูมันอื้อมาก จนไม่ได้ยินเสียงเรฟสั่งเลย แม้ว่าจะอยู่ใกล้มากก็ตาม และบางครั้งยังไม่ได้ยินเสียงจากสแตนด้วยซ้ำ แต่พยายามจำจากจังหวะเอา

จนกระทั่งถึงคิวสุดท้าย การต่อตัวขึ้นไปของพวกเรา ผม พัด กับเรฟ จะเป็นฐานให้กับ บี และ เม ส่วน พลนั่นจะเป็นฐานให้กับ จิ๊บ พลคงจะทนอาการอักเสบไม่ไหวแล้ว ตอนยกจิ๊บขึ้นไปนั่นดูขาเค้าสั่นมากทีเดียว เหงือแตกเต็มหน้าไปหมด เค้ากัดฟันจนแก้มป่องออกจนเห็นได้ชัดเจนเลย

   "ทนนิดนะพล" แอน ซึ่งไม่ได้ต่อตัว แต่ยืนในท่าที่พวกผมเรียกว่า "แอ๊คท่า" อยู่ทางขวามือ พูดให้กำลังใจ

พวกผมได้ยินกันหมดนั่นแหละ แต่ต้องทำใจ เพราะนี่คืองาน พวกเราต้องค้างในท่านี้กว่า 2 นาที จนสุดท้ายเพลงใกล้จบ จะต้องนั่งเรียงแถวจากขวาไปซ้าย เริ่มที่แอน พลกับจิ๊บ และพวกผม แต่พลคงย่อต่อไม่ไหวแล้ว เค้าแทบจะทรุดลง ผมนี่ใจหายวาบ มือสั่นไปหมดเลย แต่โชคยังดีที่จิ๊บไม่ตกลงมา และไม่ได้มีจุดให้สังเกตมากนัก

การแสดงในวันนั้นจบลงด้วยดี เมื่อคณะกรรมการเดินจากไป พวกผมก็โผกอดเข้าหากัน บ้างร้องไห้ บ้างหัวเราะ แม้แต่พลเองก็เช่นกัน เค้านี่หน้าแดงก่ำ ความรู้สึกในตอนนั้น ยากจะบรรยายนะครับ คุณต้องลองทำดูแล้วจะรู้...

เสียงให้สัญญาณที่รุ่นพี่นำร้องลากเสียงยาวนำขึ้น...เป็นสัญญาณให้บูมคณะ เป็นการระบุว่าพวกรุ่นพี่รับพวกผมเป็นรุ่นน้องแล้ว เสียงพวกเราดังก้องสนามกีฬาในร่ม ท่ามกลางคณะอื่นๆที่พากันออกไปข้างนอก แต่พวกผม เพื่อนๆในคณะ และรุ่นพี่ ต่างพากันดีใจกับรุ่นน้อง เพื่อนๆของพวกเราหลายคนรีบตรงมาถ่ายรูปพวกผม ทั้งรุ่นพี่ที่เป็นคนสอน คนอื่นๆและบางคนที่มาจากต่างคณะก็กรูกันเข้ามา

พอคนเริ่มซาแล้ว ก็รีบหามไอ้พลไปส่งที่ห้องพยาบาล เพื่อทำการดูแลรักษาข้อเท้ามันต่อไป แต่ดูท่าตัวมันเองคงจะไม่เป็นอะไรแล้วมั้งครับ หน้าบานเป็นกระด้งขนาดนั้น

แม้ว่าคณะของพวกเราจะไม่ได้รับรางวัลอะไรเลยก็ตาม แต่พวกผมก็ภูมิใจในหน้าที่ที่ตัวเองได้ทำให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ และคณะของตัวเอง และเหนือสิ่งอื่นใด การที่รุ่นพี่ และเพื่อนๆบูมให้พวกเรานั้น มันยิ่งกว่าความภูมิใจอื่นๆแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-03-2007 20:52:47
หุหุ เรื่องใหม่  :5555:  :5555:
ติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 11-03-2007 21:03:51
 :myeye: :myeye:

อ่านแล้วคิดถึงตอนเรียนมหาลัย  :give2: :give2: :give2:

เป็นกำลังใจให้คับ  :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:  :loveu:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 11-03-2007 21:29:28
เป็นกำลังใจให้ครับเอาไปเลย1โหวต  :-[
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 11-03-2007 21:37:56
เรื่องใหม่ เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะครับ :give2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-03-2007 22:57:16
recomment เรื่องนี้เลยครับ
เยี่ยมมาก
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 11-03-2007 23:59:55
หุหุ เรื่องใหม่ เข้าเปงกำลังจายให้จ้า....
 :yeb:

เรย์ถึงขั้นการ์รันตีว่าเยี่ยมมาก แสดงว่าหนุกจริง แต่ท่าทางจาเศร้า
 :serius2:
ม่ายน๊า....
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-03-2007 00:17:25
เรื่องใหม่อีกเหรอ :yeb:

มาให้กำลังใจนะ :give2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-03-2007 04:44:54


ยังจำความรู้สึกตอนที่รุ่นพี่บูมให้เพื่อรับเราเป็นรุ่นน้องได้เลย

อ้า...........................ขนลุกซู่ส์

แล้วมาลงต่อบ่อยๆ นะเคอะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-03-2007 11:25:21
.........หลีดคณะหรอ........ :dont2: :dont2:.....แค่เกือบได้เป็น...... :เฮ้อ: :เฮ้อ:

................อ่านแล้วคิดถึงสมัยปี 1 จัง........... :loveu: :loveu:
หัวข้อ: ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 12-03-2007 13:39:31
เพียงแค่ 1 อาทิตย์หลังจากที่พวกเราแข่งกีฬาจบไป ผมก็ได้มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น ได้อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เล่นเกมส์ เข้าชมรม หรือทำอะไรก็แล้วแต่ ตามที่ใจอยากทำบ้าง

ในเย็นวันนั้น หลังจากเลิกเรียนแล้ว ประธานคณะได้แจ้งให้พวกผมไปเข้าประชุมที่ห้องเรียนใหญ่ ของมหา'ลัยเพื่อเข้าฟังคำชี้แจงการเข้าค่ายรับน้องของคณะเรา พวกผมก็ดีใจเนื้อเต้น เข้าไปถึงก็นั่งเมาท์กันไม่หยุดปาก จนกระทั่งพี่ๆเค้าเข้ามาดุ แล้วจึงเงียบกัน แต่ตามประวัติแล้ว คณะของผมไม่มีการ ..ว๊าก...น้อง และไม่มีการรับน้องแบบ ซาดิสถ์ เลย

การรับน้องของคณะผมเป็นเวลาทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืน ที่ชายหาดริมทะเลแห่งหนึ่ง ที่สวยงามมากในความคิดของหลายๆคน แต่คงไม่ใช่ของพวกผมแน่นอน เพราะมันมีแต่เลน บริเวณที่พวกผมไปเข้าค่าย เป็นค่ายฝึกทหารนะครับ มีการแบ่งน้องๆออกเป็นกลุ่มๆให้อยู่ตามเลขตัวหลัง เช่น รหัส 30 ก็อยู่กลุ่มที่ 10 และ 45 ก็อยู่กลุ่ม 5 เป็นต้นครับ แต่ละกลุ่มจะมี พี่กลุ่มคอยคุมอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ ไปนอน หรือเข้าซุ้ม

ในตอนเช้าของวันเดินทาง ตามตารางที่แจ้งไว้คือ เวลา 3 โมงเย็น ผมก็เห็นว่าตอนนี้ เที่ยงเลยจัดแจงนำเสื้อผ้า กางเกงใน มาทำการซักให้เรียบร้อย แล้วนำไปตาก แต่เมื่อผมกลับมา ห้องของผมมันถูกล๊อกเสียแล้ว กุญแจของผม (ผมเอากลับมาแล้วนะครับ เพราะผมกลับบ้านทุกอาทิตย์) โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าตังค์อยู่ในห้อง ผมจะทำไงดี
พัดไปไหน ทำไมถึงไม่บอกก่อน

ผมรีบเดินไปที่ห้องของเรฟ ที่อยู่ถัดไปไม่กี่ห้อง
   
   "เรฟ........." ผมตะโกนเรียก
   "ไม่อยู่ครับ ออกไปข้างนอกครับ" เสียงรูมเมทของเค้าบอกกับผม

และผมก็ยังไม่ยอมแพ้ ยังมีไอ้พลอีกคน

   "พล......"
   "มีไร...ว่ามาเลย"
   "ขอยืมมือถือหน่อย จะโทรหาพัด พัดมันล๊อกห้อง แล้วกุญแจกับกระเป๋าตังค์ และมือถือเราอยู่ในห้องหมดเลย เราก็เลยเข้าห้องไม่ได้"
   "เอาสิ" พลยื่นให้ผมพร้อมกับต่อเบอร์ให้เรียบร้อย

หลังจากจบบทสนทนาระหว่างผมกับพัด ผมแทบจะฉีกตัวเองเป็นชิ้นๆ พัดอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า เค้าออกไปซื้อของเตรียมไปค่าย แต่ผมยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลย แล้วเสื้อผ้าจะแห้งทันมั้ยผมก็ยังไม่รู้เลย ความกังวลของผมเพิ่มขึ้นเท่าตัว ในใจผมอยากไปนะครับเข้าค่ายเนี่ย ถ้าอดไปผมคงจะต้องร้องไห้ไปอีกหลายวันเลย

   "เอางี้ดิ นายก็ปีนเข้าทางข้างๆห้องสิ เข้าระเบียงหลังห้องนะ"

มันเป็นความคิดที่ดีมาก ถ้าไม่ใช่ชั้น 5 แบบนี้ และผมก็ไม่เคยปีนต้นไม้ ผมจะปีนได้มั้ย แน่นอน ไม่ได้

   "เราปีนไม่เป็นนะ"
   "โห....เออ มา...จะปีนให้"

และแล้วเค้าก็ทำให้จริงๆ ไม่นานนักพลก็ออกมาจากห้องผม พร้อมกับเปิดลูกบิดให้เรียบร้อย ผมเดินตรงเข้าไปหากุญแจภายในห้อง เพื่อจะเปิดตู้เสื้อผ้า

   "ไม่มีอะ กุญแจเราไม่เห็นมีเลย"
   "หาดูดีๆสิ ไม่มีได้ไง" พลก็เริ่มช่วยผมหาด้วย โต๊ะของผมนี่ เรฟเคยบอกว่า น่าจะมีงูอาศัยอยู่ได้

   "เฮ้ยเจอแล้ว" เสียงนี้ทำให้ผมดีใจมาก
   "ไหนหละพล"
   "ก็นั่นไง ที่หางแกนะ"

ที่พลบอกก็คือ มันเป็นเส้นที่ไว้ผูกกางเกงเล นะครับ และกุญแจมันก็ห้องอยู่ที่ปลายสาย วันนั้นผมโดนไอ้พล ล้อไปตลอดการเดินทางเลย

   "เคยเห็นลิงมั้ย ลิงมันเอากุญแจใส่หางไว้ แล้วก็หากุญแจไม่เจอ ทำหน้าจะร้องไห้..."

มันหัวเราะผมด้วยปากแหลมๆของมัน แม้กระทั่งนั่งอยู่บนรถ จนเพื่อนๆทั้งคันรถเค้ารู้ไปหมดแล้วว่าผมเกิดเรื่องอะไรขึ้น อ้อ ผมลืมเล่าการจัดกลุ่มให้ฟังสินะครับ ผมกับ พัดอยู่คนละกลุ่มกัน ผมอยู่กลุ่ม 2 พัดอยู่กลุ่ม 3 ในวันนั้นกว่าที่พวกผมจะถึงสถานที่รับน้องนั้น ก็เป็นเวลาเกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว

หลังจากลงรถกันแล้ว รุ่นพี่จะให้พวกผมทุกคน เข้าแถวกัน นำสัมภาระไปกองรวมกัน แล้วจึงให้พวกผมต่อแถวๆกันตามใจชอบ ไม่ได้ระบุว่าจะให้เป็นแถวตามกลุ่ม หรือตามรหัส พวกเราทั้ง 8 คนก็เลย มาร่วมหัวจมท้ายอยู่ด้วยกัน

   "น้อง หลับตาด้วยนะน้อง พี่จะปิดตาให้ น้องจะต้องจับมือคนข้างหน้าและข้างหลังให้ดีๆนะห้ามให้หลุด"

ผมก็หลับตา ข้างหน้าผมมี พัด ตามด้วยผม เม แอน บี จิ๊บ พล และ เรฟ เมื่อทุกคนทั้งคณะถูกปิดตาแล้ว และจับมือกันหมดแล้วก็คงจะมีพี่ซักคนนึง นำคนที่อยู่หัวแถวหน้าสุดไปตามทาง พวกผมในตอนนั้นไม่เห็นทาง ไม่รู้ว่าจะเดินยังไง สิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องเชื่อใจพี่ที่นำขบวนพวกเรา เชื่อใจในเพื่อนๆของเรา และทำให้เพื่อนๆของเราปลอดภัย

พัดทำหน้าที่เหล่านี้ได้ดีมาก จะคอยบอกตลอดเลยว่า

   "ข้างหน้า ทางสูงขึ้นนะ" พวกผมก็จะกระซิบๆ บอกๆกันไป

   "ตรงนี้มีหลุม ค่อยๆก้าว"

   "ค่อยๆเดินอย่าชนนะ กำแพงข้างหน้า"

สงสัยพัดจะเจ็บตัวไปเยอะไม่ใช่เล่น หลังจากที่เล่นครำทางกันไปมา ซักเกือบ 15 นาที คนอื่นผมไม่รู้นะว่าเป็นยังไง แต่ผมเกิดความรู้สึกไม่ดีเสียแล้ว คล้ายๆกับมันเดินไม่ถึงที่หมายเสียที เป็นการเดินทางที่ยาวนานเกินไปแล้ว

   "...แอบลุ้น ตั้งแต่วันที่ไม่รู้จัก อยากทักทุกทีที่ได้เห็นหน้า..."

เพลงอะไรซักอย่าง ดังแว่วๆเข้ามาในหูผม ทุกคนที่ก้าวเดินอยู่ พร้อมใจกันหยุดอย่างพร้อมเพรียงกัน ผมเริ่มตั้งใจฟังเสียงแผ่วเบานั้น จนจับเนื้อร้องได้

   "คนดี มาเป็นขวัญใจของพี่ ณ ที่แห่งนี้ยินดีต้อนรับเสมอ...
   โลกหมุนให้เราได้มาภบเจอ ไม่ใช่ละเมอเราได้เจอกันแล้วจริงๆ...
   ผูกพันธ์ดังสายไหมในโรตี จะคอยคอยลุ้นคนดีร่ำไป..."

ผมจำเนื้อร้องไม่ได้ แต่จำได้เท่านี้เพราะมันไพเราะมาก ผมนี้คลายความกังวลเมื่อครู่ได้หมดเลย และเสียงเพลงก็ดังขึ้นอีก พร้อมกับแสงที่เรืองๆ ผ่านผ้าปิดตาเข้ามา มันมีความรู้สึกอุ่นมากกว่าเมื่อกี้ด้วย

   "....อยากให้เธอเป็นเทียนเล่มน้อย ที่ส่องแสงสู่หนทางมืดมน...
   ....เทียนสว่างไสวอยู่ในใจผู้คน ตราบจนนิรันดร..."

เป็นอีกเพลงที่ผมได้ยินในคืนนั้น แม้ว่าพี่เค้าจะร้องไม่เพราะมาก แต่เป็นเพลงที่ผมฟังแล้วน้ำตามันซึมออกมาเอง และแล้ว ก็มีคนแกะผ้าปิดตาผมออก

   "...เทียบสว่างไสวอยู่ในใจผู้คน ตราบจนนิรันดร..."

เสียงใครไม่ทราบครับ แต่คุ้นหูผมมาก คงเป็นพี่หลีดคนไหนซักคนนึงแน่นอน ผมลืมตามองดู พี่อีฟอยู่ตรงหน้าผม พร้อมกับยิ้มหน้าบานกว่าทุกทีที่เจอกัน

   "บอย บอยเป็นน้องรหัสพี่อีฟนะค่ะ"

ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะน้ำตามันไหลออกมา และผมเองก็เริ่มร้องไห้แล้วด้วย

   "มาซิมาจะรับขวัญ มาร่วมกันประสานดวงใจ...
   ...ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ มอบรักจากใจไว้ให้แด่เธอ....
   ....มาซิมาอย่ารอช้า มารีบมาเถอะเราน้องพี่...
   ....ด้วยใจรักและภักดี รักมั่นสามัคคี รักนี้ไม่จืดจาง..."

เพลงยังดังต่อไป พี่อีฟ ดึงข้อมือผมขึ้นมา พร้อมกับใช้น้ำตาเทียนให้หยดลงบนแขน 1 หยดแล้วก็ผูกทับด้วยสายสิญ ไม่ใช่ผมคนเดียวนะครับในวันนั้นที่สะอื้นไห้ แต่เพื่อนๆเกือบทุกคนก็แทบจะร้องกันทุกคนเลย
หัวข้อ: ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 12-03-2007 13:40:04
"ตื่นๆ.... รีบตื่นเร็วเข้า แล้วลงไปเข้าแถว ตื่นๆ"

เสียงดังอย่างกับฟ้าผ่าของรุ่นพี่ผู้ชาย ที่ขึ้นมาเรียกพวกผมบนเรือนนอน ผมรีบลุกขึ้นปลุกเพื่อนๆแล้วก็รีบลงมาเข้าแถวข้างล่างกัน แต่ยังงัวเงียอยู่เลย มันง่วงนิครับ ผมยังนึกบ่นในใจ ไหนบอกคณะเราไม่มี ว๊าก ไง

   "ไหนใครรู้ตัวว่าอ่อนแอ เชิญออกมา..." เสียงดังขึ้นหน้าแถวของพวกเรา
   "ใครคิดว่ายอมแพ้แล้ว ออกมา..."
   "งั้นดีมาก ไป...วิ่งตามมา"

แล้วพี่เค้าก็พาพวกผมวิ่งไปยังสนามกีฬา หรือสนามหญ้าอะไรซักอย่างนี้แหละครับ พาไปวิ่งวนซักเกือบๆ 2 รอบ โดยไม่มีการวอร์มเลย อาการผมกำลังจะหน้ามืด มันหายใจไม่ทัน แล้วผมก็ล้มลงไปตรงนั้น แต่ไม่ได้ขาดสตินะครับ มีคนมาผยุงผมขึ้น พร้อมกับเอายาดมให้ดม มันยังมองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้วก็จำไม่ค่อยได้ ที่ผมจำได้มีอย่างเดียว มีพี่คนนึง เค้าจับผมยืดตัวขึ้น ยกแขนผมขึ้นทั้ง 2 ข้างแล้วก็ดัดไปกับตัวพี่เค้า

   "หายใจลึกๆนะครับน้อง ไม่เป็นไรหรอก"
   
   "ไหวมั้ยน้อง" พี่คนเดิมถามผมอีก ทั้งที่เค้ายังจับผมดัดตัวอยู่กับเค้าเลย

สิ่งที่ผมทำก็คือ พยักหน้าบอกว่าไหวเค้าจึงปล่อยให้ผมลงไปนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนๆ ทุกคนไม่เป็นไรเลย มีผมคนเดียวที่จะเป็นลม สงสัยเพราะช่วงหลังๆออกกำลังกายน้อยไป

   "น้องครับ พวกพี่ไม่มีเจตนาจะ ว๊าก น้องนะครับ แต่ถ้าไม่ปลุกแบบเมื่อเช้า น้องจะยอมมาออกกำลังกายกันหรอครับ" พี่เค้าพยายามอธิบาย
   "แล้วเช้าที่นี่ น้องลองดูสิครับ อากาศเวลาพระอาทิตย์ขึ้นน้องเห็นมั้ยครับ เห็นดาวชัดเจนมั้ยครับบนท้องฟ้า น้องไม่ได้มีโอกาสเห็นแบบนี้บ่อยๆในชีวิตหรอกนะครับ พี่ขอให้น้องๆนอนดูดาวให้ดีๆ หรือจะนั่งดูดวงอาทิตย์ขึ้นก็ตามใจ"

ผมทิ้งตัวลงนอนดูดาว มีรุ่นพี่คนนึงเดินเข้ามาหาผม พร้อมกับนั่งลงข้างๆ

   "เป็นไงครับ หายเหนื่อยยัง" ทำให้ผมรู้ว่าเป็นคนที่จับผมยืดตัวตะกี้นี้เอง
   "ก็หายแล้วครับ ขอบคุณนะครับ"
   "ทีหลังรู้ว่าไม่ไหว อย่าฝืนสิครับ น้องเป็นอะไรขึ้นมา พี่ไม่มีปัญญาไปหาคนมาแทนนะครับ"
   "ครับ ปรกติวิ่งแบบนี้ผมวิ่งไหวนะครับ แต่วันนี้ไม่ได้วอร์ม"
   "นั้นแหละครับ น้องบอย ตามพี่มาทางนี้สิครับ"

เค้ารู้จักชื่อผมได้ไง ผมยังไม่เข้าใจเลย ผมยังไม่ถามอะไร เดินตามต้อยๆไปอย่างนั้น

   "เป็นไงบอย เห็นเพื่อนพี่บอกว่าบอยเป็นลม" พี่อีฟ พี่รหัสผม มิน่าถึงรู้จักผม เค้าเป็นเพื่อนพี่รหัสผมนี่เอง
   "ก็นิดหน่อยคับ ตอนนี้หายแล้ว"
   "เนี่ย ถ้าน้องชั้นเป็นอะไรนะ แกจะไปหาที่ไหนมาให้ชั้นย่ะ"
   "แหม...หวงน้องรหัสจังเลยนะ"
   "อย่าไปสนใจไอ้ชัดมัน ไอ้ชัดมันก็เป็นแบบนี้แหละ ไอ้เมื่อเช้านี้นะ ที่ไปตะคอกๆก็มันนี่แหละ น้องจำไว้เลยนะ ไว้ไปเรียกเพื่อนๆมายำมัน" พี่อีฟใส่ไฟให้ผมหน้าดูเลย

ผมลาพวกพี่ๆแล้วเดินแยกตัวออกไป ตรงไปที่เรือนนอน เพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมไปทานอาหารตอนเช้าหลังจากกินกันเสร็จก็ไปเข้าซุ้มต่อเลย ซุ้มมีหลากหลายมากเลยครับ พี่เค้าไม่ได้ให้เข้าทุกซุ้มหรอกครับ แต่จะให้พี่กลุ่มเป็นผู้พาไป มีซุ้มอยู่ 1 ซุ้มเป็นซุ้มที่ 7 ที่ผมได้เข้า ซุ้มนี้จะต้องรับน้องกลุ่มทีละ 2 กลุ่มครับ กิจกรรมที่ให้ทำคือ "ชักเยอ" ครับ แต่มันไม่ธรรมดาที่ผู้แพ้จะต้องเล่นบทโหด...

กลุ่มที่เข้าซุ้มนี้กับผมก็คือกลุ่ม 3 กลุ่มของพัดนั่นเอง จากการชักเยอกับพวกนี้ ขนาดตัวได้เปรียบมากเลยครับ พวกผมนี่มีแต่ตัวบางๆ ผู้หญิงก็เยอะ สู้กลุ่มพัดไม่ได้อยู่แล้ว...

   "น้องกลุ่ม 2 แพ้แล้ว เย่....." พี่ซุ้มดูทำท่าทางดีใจมาก
   "นี่เป็นการลงโทษ ที่กลุ่ม 2 แพ้ คือ เราจะให้กลุ่ม 2 เลือกคนออกมาเต้น แมงมุม"....แมงมุม หา !!!!

ไอ้พวกกลุ่ม 3 วีดว้ายดีใจกัน สงสัยงานนี้พวกผมเสร็จแน่

   "พี่ขอให้สงวนสิทธิการเป็นแมงมุมให้ผู้ชายเท่านั่นนะคับ เลือกตัวแทนออกมาเลยครับ..."
   "ถ้าเลือกกันไม่ได้ พี่จะเลือกให้นะครับ..."
   "พี่ครับ ผมเลือกเองได้มั้ยครับ" พัดที่เป็นหัวหน้าของกลุ่ม 3 ต่อรองกับพี่ซุ้ม
   "ได้เลยน้อง พี่ให้..." พัดก็เลือกผม ทำไมต้องเป็นผมด้วย...

   "งั้น น้องคนนี้มาเลย ชื่ออะไรครับ น้องรหัสใคร"พี่เค้าถามผม
   "บอย ครับ น้องรหัสพี่อีฟ"ผมตอบ
   "น้องยายอีฟหรอ ยายอีฟหลีดเนี่ยนะ" ผมก็พยักหน้า
   "งั้นผมเลือกอีกคนนะ" พัดกำลังจะเลือก
   "เลือกทำไมหละ ก็น้องเลือกแล้ว พี่เลือกบ้างสิน้อง" พัดก็เลยหยุด
   "พี่เลือกน้องละกัน น้องชื่ออะไรครับ"
   "หา...พวกผมชนะนะครับ"พัดรีบแย้ง
   "อ้าว ก็น้องอยากเลือกเองนิ และพี่จะให้น้องเป็นแมงมุมตัวผู้ด้วย ไม่ต้องเลือกเลย"

หุหุหุ สะใจอย่างแรงในขณะนั้น ผมก็โดน มันก็โดนสะใจมาก...... ผมก็ไปโดนทำโทษให้นอนหงาย ใช้มือกับขา ยันพื้นเอาไว้ แล้วพัดจะต้องคร่อมผม และต้องโยกสโพกเข้าหากัน เวลาที่เนื้อเพลงร้องว่า "ขยุ้มๆ" (มีพี่สาธิตให้ดูแล้ว เป็นอะไรที่สุดยอดมาก)

   "...แมงมุมมันมี 4 ขา เดินไปเดินมา ขยุ้มๆ...
   ....แมงมุมตัวเมียเดินมา มันเดินทำท่า ขยุ้มๆ...
   ....แมงมุมตัวผู้เดินมา มาเจอตัวเมียกำลังขยุ้ม...
   ....แมงมุมตัวผู้เดินไป โดดใส่ทันได ขยุ้มๆ ขยุ้มๆ ขยุ้มๆ...
   ....แมงมุมตัวเมียเดินไป ท้องป่องทันใด ขยุ้มๆ..."

ผมไม่อยากคิดเลย ว่าภาพของตัวเองมันจะน่าเกลียดแค่ไหนที่ไปทำ "ขยุ้มๆ" กับพัด แต่เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งพี่กลุ่ม พี่ซุ้มได้เป็นอย่างดีเพราะพัดมันทำหน้าหื่นมากตอนมันทำ "ขยุ้มๆ"
หัวข้อ: ตอนที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 12-03-2007 13:40:43

หลังจากที่ขยุ้มๆกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซุ้มที่พี่กลุ่มจะพาผมไปอีกคือ ซุ้มริมชายหาด เป็นซุ้มของพี่อีฟ พี่รหัสผมเอง เป็นเลนไปทั้งหมดเลย คนที่ออกมาจากซุ้มพี่ของผมจะถูกหมักโคลน แบบว่าพออาบน้ำแล้ว ผิวจะใส เต่งตึงขึ้นทันตาเห็น เหอะๆ...

   "น้องๆค่ะ ลงไปตั้งแถวในทะเล เลยนะค่ะ" พี่อีฟสั่งเสียงหวาน ใครจะรู้บ้าง หน้าสวยๆแบบนี้โหดแค่ไหน
   "กิจกรรมที่พี่จะให้น้องๆเล่นก็คือ แข่งฟุตบอลกับพวกพี่ในโคลน ว่าไง...จะสู้มั้ย..." พี่ชัดก็อยู่ซุ้มนี้ด้วย

พวกผมไม่พูดมาก กล้าท้า ก็กล้ารับ พวกเราและรุ่นพี่ไปอยู่ในโคลนริมทะเลกันเรียบร้อย

   "พร้อมนะ..." แล้วพี่คนนึงก็ยืนลูกบอลชายหาดขึ้นไป ให้พวกผมแย่งกันตบ

มันไม่เหมือนฟุตบอลเลย ไม่เหมือนบาสเก็ตบอลด้วย มันเหมือนลูกหมีกำลังแย่งลูกบอลกันในโคลนมากกว่า

   "ส่งมาทางนี้..."
   "โดนเอาไปแล้ว..."
   "สกัดไว้ พุ่งไปเลย..."

เสียงดังของพวกผมดังไม่หยุด ตั้งแต่บอลถูกโยนขึ้น ผมว่ามันสนุกนะเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย

   "เฮ้ย บอย สกัดบอล" เสียงใครไม่ทราบ เรียกผม บอลมันพุ่งมาทางผมแล้ว

ผมเล่นบอลไม่เก่ง แต่ก็พอจะเล่นได้บ้าง มันเกินระยะที่ผมจะวิ่งไปทัน ก็เลยกระโดดพุ่งตัวออกไปรับแทน แต่ที่นี่เป็นทะเลโคลน ไม่ใช่สนามหญ้าอย่างทุกที มันมีความหนืด และหนัก... อย่างที่คิดเลยครับ ผมลอยไปได้นิดหน่อยแล้วก็จมลงไปในโคลนเลย ด้วยความที่ล้มลงพอดี โคลนเลยมิดหัวเลย หนักก็หนัก จะยืนขึ้นมันก็ลื่น...

และก็มีคนคว้าผมขึ้นมาจากโคลน กระชากแขนผมขึ้นมา แล้วก็รีบเช็ดหน้าเช็ดหู เช็กจมูกให้ผม

   "บอยๆ...เป็นไงบ้าง อย่าหายใจนะ พี่กำลังเช็ดโคลนออกให้"
   "พวกแกพาน้องขึ้นฝั่งนะ อีฟ ไปเอาชุดอุปกรณ์พยาบาลมา เอาแอลกอฮอร์กับคอตตอนบัด มาด้วย..."

กิจกรรมสนุกของผมหมดไปอย่างรวดเร็ว เมื่อผมจมลงในโคลน ทั้งที่ผมว่าผมไม่เป็นอะไรมากเลยนะ ทำไมต้องโวยวายขนาดนี้ด้วย พี่คนที่ดึงผมขึ้นมา พาผมไปล้างหน้าที่ริมสนามหญ้า พอล้างออกหมดผมถึงเห็นว่าเป็นพี่ชัดนี่เอง โคลนไม่ได้เข้าปาก เข้าจมูกผมหรอก หูก็ไม่เข้า แต่มันก็เหนอะๆหนะๆ

เมื่อพี่อีฟนำกล่องพยาบาลมาให้ พี่ชัดก็จัดการทำแผลให้ผมเลย แต่ผมยังไม่รู้เลยว่ามีแผลตรงไหน

   "คิ้วแตกเลยหรอเนี่ย" พี่อีฟบ่น
   "หา !!! คิ้วแตกเลยหรอ ไม่เห็นเจ็บเลย"
   "นี่ไง ไม่เจ็บหรอก แต่แสบแน่"

แล้วก็จริงอย่างที่พี่ชัดบอก เค้าเอา แอลกอฮอล์ทารอบๆแผล ผมรู้สึกเย็นวาบ แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นแผลขึ้นมาแล้ว แสบมาก ถึงมากที่สุดเลย...

   "เอาสมุดปั้มของเรามานี่" พี่ชัดสั่ง

ผมก็ยื่นให้ มันเป็นบัตรกระดาษมันๆ ที่ใส่อยู่ในซองพลาสติกที่ปิดได้นะครับ แต่ก็เรียกว่าสมุดเก็บลายเซ็นต์

   "ไม่ต้องไปเล่นซุ้มแล้ว ลายเซ็นต์พี่จะเขียนให้" แล้วเค้าก็ยึดสมุดผมไปเลย แล้วก็เซ็นต์อะไรไม่รู้ลงไป

เจ๊อีฟเอง ก็เห็นดีเห็นงามด้วย แล้วเค้าก็ไล่ให้ผมตามเพื่อนๆไป แต่ไม่ต้องลงซุ้ม แค่ไปนั่งมอง ....แต่เรื่องอะไร ของสนุก ผมจะเล่น...ใครจะทำไม.......

พวกเราก็เล่นซุ้มไปจนกระทั่งครบทุกฐาน ก็ถูกปล่อยให้ไปอาบน้ำ ทำความสะอาดกัน จำได้ว่าอาบน้ำซะหมดโรงอาบน้ำ น้ำปั้มไม่ทันเลย ขนาดอาบน้ำเสร็จแล้ว กลิ่นคาวของโคลนมันยังติดตัวผมอยู่เลย ฉีดด้วยสเปร์ดับกลิ่น ไปตั้งเยอะแล้ว ยังคาวอยู่อีก สงสัยคงต้องให้ถึงเวลาอาบน้ำอีกครั้งเห็นจะได้

ตอนเย็นหลังจากทานเข้าเสร็จแล้ว ก็มีกิจกรรมบทเวทีให้ดูกัน แบ่งออกเป็นชั้นปี พวกปี2 แสดงดนตรีกันครับ มีหลายวงด้วย ผมเห็นพี่ชัดเปงก็เป็นนักดนตรีด้วย เป็นนักร้องนำ .... น่าดูทีเดียว... แต่เสียงไม่น่าฟังเลย...หุหุ

   "...ทนกับตัวเองมานานเหลือเกิน ใครๆเขาก็ยังเมิน ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มี คู่ครอง...
   ....เธอ มีใครหลายคนหมายปอง ฉันเองก็ยังคอยมอง แต่ไม่กล้าเหมือนเดิมจะทำฉันใด..."

อืมก็ร้องดีนิ ผมคิดแค่นั้นนะ แล้วพัดก็มาชวนผมไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนๆ เพราะมื้อนี้เค้าจะปล่อยให้สบายๆ ไม่ต้องนั่งเป็นกลุ่มๆ ผมนั่งทานกับเพื่อนๆในกลุ่มของผมเอง คุยกันไปคุยกันมา กินจนหมดแล้ว อิ่มมากเพราะเพิ่งออกกำลังกายอย่างหนักมา ทำให้กินเยอะกว่าปรกติ...

   "บอย อีฟฝากขนมมาให้" พี่ชัดเอาขนม เป็นถุงใหญ่มาให้ผม

ผมก็ฝากขอบคุณกับพี่ชัดเค้าไป แล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนๆต่อ แต่พี่ชัดเค้าก็ยังนั่งอยู่ข้างๆผม เพราะผมนั่งด้านนอกสุด

   "จะไม่ลองกินหน่อยหรอ พี่เค้าซื้อมาให้เนี่ย...จะแบ่งเพื่อนๆกินด้วยก็ได้นะ"
   "อืม.....พี่ชัดกินด้วยกันดิ ดูท่าจะอร่อย"ผมแกะเสร็จก็พลางยื่นให้พี่เค้า แล้วก็เพื่อนๆ

พี่เค้าไม่กิน แต่ลุกขึ้นบอกว่าจะไปละ แล้วก็เอามือขยุ้มหัวผม บอกแต่ว่า อย่าให้แผลโดนน้ำนะ เดี่ยวจะไม่หาย งานบทเวทียังมีต่อไปอีก กว่าจะเลิกก็ราวๆเที่ยงคืนแล้ว ผมก็กลับมายังเรือนนอน อาบน้ำอีกรอบ เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกที มาทำกิจกรรมแบบนี้ต้องรักษาความสะอาดให้มาก เพราะผมแพ้ง่าย แล้วก็นอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
หัวข้อ: ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 12-03-2007 13:41:35
"เฮ้ย บอย แกเป็นอะไรเนี่ย ตื่นเร็ว"....เสียงเพื่อนๆผมปลุก
   "มีไรหรอ...เรายังง่วงอยู่เลย"
   "ก็ตัวแกอะ เป็นเอดส์หรอ จุดแดงทั้งตัวเลย"
   "ไอ้บ้า แค่เป็นผื่นขึ้น...หา!!! เป็นผื่นหรอ" ผมรีบสำรวจตัวเอง เป็นจริงอย่างที่เพื่อนๆบอก เป็นผื่นไปหมดเลย แสดงว่าผมทำความสะอาดไม่ดีพอ ผื่นบานเลย

ผมเดินไปหาประจำกลุ่มผม บอกเค้าว่าให้ติดต่องานพยาบาลให้หน่อยอยากได้ คาลาไมด์ แก้ผดผื่น พี่เค้าก็วอยด์ไปบอกให้
   "มีน้องกลุ่ม 2 เป็นผดผื่นครับ ช่วยส่งชุดปฐมพยาบาลให้ด้วย..."
   "น้องกลุ่ม 2 หรอ พักโรง 7 ใช่มั้ย เดี่ยวจะส่งไปให้..."
   "เร็วๆเลยนะครับ เป็นอาการหนักเลย"
   "อุปกรณ์พยาบาล ไม่ได้อยู่ที่นี่นะ ชัดเอาไปใช้เมื่อวาน ยังไม่ได้เอามาคืนเลย"
   "มีตั้งหลายกล่องนิ ไปไหนหมดหละ"
   "พวกผู้หญิงเอาไปใช้อยู่ วอยด์ไปบอกชัดเลยนะ...ชัดประธานนะ"
   "ชัดประธานนะ แค่นี้นะ"

แล้วเค้าก็หมุนๆอะไรไม่ทราบบนหัวเครื่อง แล้วก็เรียก

   "ชัดๆ มีน้องกลุ่ม 2 เป็นผดผื่น เอากล่องพยาบาลให้ที"
   "กลุ่ม 2 หรอ ชื่ออะไร"
   "น้องเค้าชื่อ ปวเรศ"
   "บอกน้องเค้านะ ทำใจดีๆไว้นะ...หายใจลึกๆ ต้องหา...."

มันเป็นอะไรซักอย่างนี่แหละครับ จำชื่อไม่ได้ เหมือนๆจะเป็น แอนติเจน เซรุ่ม หรือฮอร์โมน อะไรพวกนี้นะครับ ไม่นานนักก็มึคนวิ่งหอบๆ เอากล่องพยาบาลมาให้ที่เรือนนอน

   "ไหนๆ บอยอยู่ไหน"
   "นี่ครับ..."
   "จับนั่งขึ้น เดี่ยวจะพ่นยาให้"

คนที่วิ่งเอากล่องยามาก็คือ พี่ชัดครับ แล้วก็มาถึงก็โวยวายเลย

   "เป็นหอบหืดด้วยหรอ ทำไมไม่บอกก่อน"
   "เออ..ไม่ใช่นะชัด เป็นผดผื่น..."
   "อ้าว.....เราเป็นอะไรนะบอย" พี่ชัดหันมาถามผม
   "ผมบอกว่า เป็นผดผื่นนะ ขอคาลาไมด์หน่อย ไม่เห็นต้องใช้ไอ้...(อันที่จำไม่ได้นั้นแหละครับ) เลย"
   "โถ่ ทำพี่ตกใจหมด นึกว่าเป็นหอบ...เอ้านี่ คาลาไมด์"

แล้วพี่ชัดก็ทำหน้าวีนๆ แล้วก็วิ่งเอากล่องกลับไป ฟังกันยังไง ผดผื่นเป็น หอบหืด ผมยังงงเลย...
เหตุการณ์ตอนเช้าวันนี้ เป็นเรื่องให้หัวเราะทุกครั้งที่ผมมีเลี้ยง เป็นเรื่องยอดฮิตของพี่รหัสผมในการเผาเพื่อนชัดของเค้า ทั้ง2คนนี้สนิทกันดีนะครับ ผมไม่รู้ว่าพี่ชัดเคยเป็นหลีดมั้ยแต่สนิทตัวติดกันเลย...

รุ่นพี่เค้าให้ปี1ทุกคน ไปรวมตัวกันที่ห้องประชุม หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ให้พวกผมเข้าแถวเป็นวงกลมๆ หันหน้าออกข้างนอก แล้วพวกเราก็เต้นกันสุดๆไปเลย...พอใกล้เวลาเที่ยง พวกผมก็ถูกปิดตาอีกครั้งนึง แล้วพี่ๆเค้าก็ร้องเพลงกันครับ

   "...แอบลุ้นตั้งแต่วันที่ไม่รู้จัก... อยากทักเมื่อวันที่ได้เห็นหน้า...
   ....แรกพบอยากคุยอยากสบสายตา...สรรหาคำใดมาสื่อไมตรี..."

แล้วผมก็โดนจูงมืออกมาจากกลางวง เรียกเพลงจากคนอื่นๆค่อยๆเบาลง แต่เสียงที่ผมได้ยินมันดังมากขึ้น เค้าลากจนมาหยุดที่ที่นึง แล้วก็เปิดตาผมออก พี่อีฟกะพี่ชัด รอผมอยู่ตรงหน้า เค้าให้หนังสือรุ่นผมมาพร้อมกับ สร้อยคณะ พี่อีฟ อธิบายให้ฟังว่าสายรหัสเรา มีแค่ผมกับพี่อีฟ 2 คน ส่วนปี 3 ปี4 เค้าซิ่วกันไปแล้ว...

พี่ชัดเป็นสายโครหัสของพวกเราครับ เพราะพี่รหัสพี่ชัดเป็นคนดูแลพี่อีฟ และพอพี่ชัดไม่มีน้องรหัสเลยมาเทคผมแทน...นี่คือที่มาที่ว่า ทำไมพี่ชัดต้องมายุ่งกับผมเสียทุกเรื่องไป... ผมยังสนิทกับเฮียชัดมากกว่า เจ๊อีฟเสียอีก

ขากลับ ทุกคนก็ขึ้นรถบัสไป แต่ผมกับพี่รหัสและพี่โครหัส กลับพาผมไปกับพวกเค้า เฮียชัดเอารถมาเอง เลยลากผมไปกับพี่เค้า พาผมไปแวะซื้อของกินระหว่างทางตั้งหลายที่ พอมาถึงหอพัก ของกินผมเต็มห้องเลย...ชอบใจจัง...

ผมนอนลงบนเตียงที่คิดถึง แล้วนึกขึ้นได้ว่าควรจะโทรบอกกับที่บ้าน ผมกำลังจะโทรศัพท์ไปบอกกับทางบ้านว่า ผมกลับมาแล้วแต่มือถือของผมมันหายไปแล้ว...สงสัยว่าจะตกหล่นอยู่บนรถพี่ชัด ผมยืมมือถือของพัดมาแล้วโทรหาพี่ชัด

   "พี่ชัด มือถือบอย มันหล่นหายไม่แน่ใจว่าหล่นบนรถพี่ชัดรึเปล่า เห็นมั้ยครับ"
   "เดี่ยวนะ พี่จะดูให้ บอยเปิดเสียงไว้มั้ยหละ"
   "สงสัยไม่ได้เปิดนะครับ เปิดแต่ระบบสั่น"
   "แล้วพี่จะหาเจอมั้ยเนี่ย..."

บ่นแล้วก็วางมือถือไปเลย ผมก็ไปค้นมือถือในกระเป๋าเสื้อผ้า ในตู้เผื่อผมเอาใส่ไปแล้ว ตามกางเกงเก่าๆที่ใส่ไปแล้ว เกือบ เที่ยงคืนพี่ชัดก็มาถึง หอของผม...

   "บอยเจอยัง.."พี่เค้าเจอหน้าก็ถามเลย
   "ยังเลย...หายไปไหนเนี่ย พัดนายเจอมั้ย"
   "ไม่นะ หาตั้งนานยังไม่เจอเลย เดี่ยวจะไปตามพวกพลมาช่วยหานะ"

ในห้องผมตอนนี้คนเพียบเลย หามือถือเครื่องเดียวนี่แหละ ผมก็ว่าค้นกันทุกซอกแล้วนะ จนสุดท้ายผมท้อใจที่จะหาแล้ว ไว้ไปซื้อใหม่ดีกว่า ทุกคนก็เลยหยุดหา แล้วมานั่งวิพากวิจารย์กันว่าควรจะตกที่ไหน ทำหล่นที่ทะเลรึเปล่า พี่ชัดเองก็พยายามโทรเข้ามือถือผม แต่มันไม่เปิดเสียงแล้วจะรู้ได้ไงว่าอยู่ตรงไหน

   "ติ๊ดๆ" เสียงสัญญาณแบตหมดดังขึ้น ผมรีบหันควับไปดู มันดังมาจากบนเตียงของผม
   "พี่ชัดโทรต่ออีกทีนะคับ"

เค้าก็โทรให้ ผมก็รีบไปดูที่เตียง หาไปหามาไปดูตรงร่องเตียง เห็นแล้ว !!!ผมเจอมันแล้ว มันตกอยู่ในร่องเตียง ทุกคนนั่งหัวเราะผมกันจนท้องแข็ง และเมื่อพวกเค้าหัวเราะกันจนพอใจแล้ว เรฟ กับพลจึงแยกไปนอน ส่วนพี่ชัดก็เลยจำเป็นต้องค้างที่หอผมไปโดยปริยาย เพราะดึกมากแล้ว และเพราะห้องผมมี 2 เตียง ก็เลยต้องนอนเตียงเดียวกับพี่ชัด...
หัวข้อ: ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 12-03-2007 13:42:47
หลังงานรับน้องเพียงแค่ 4 วัน กิจกรรมต่างๆจะต้องถูกยุติลงที่นี่ เพราะเวลานี้คือการสอบมิดเทอม การเก็บคะแนนรอบแรกของคณะพวกผม มาถึงแล้ว

ในทุกวัน ผมกับเพื่อนๆ จะพากันไปจับกลุ่มติวในหอสมุด ซึ่งจะมีห้องเอาไว้ให้ติวด้วย นับว่าเป็นส่วนตัวดีมากเลยครับ เสียงไม่มีเล็ดลอดออกไปรบกวนคนภายนอกด้วย พวกเรานั้นจะมี ท่านเฮด (เรฟ)ที่เรียกได้ว่า เรียนเก่งไปหมดทุกวิชาเลยก็ว่าได้ เค้าติวพวกผมได้หมดทุกคนเลย ติวเก่งมากอีกด้วย จนพัดได้คะแนนบางวิชา เยอะกว่าตัวเรฟอีก...

การอ่านหนังสือ ความตั้งใจเรียน ของทุกคนในคณะเข้มข้นขึ้นแบบเห็นได้ชัด จวบจนคืนสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ ก่อนจะต้องเปิดศึกในวันจันทร์ วันพรุ่งนี้....

ขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสือที่ห้องอยู่ดีๆ ไฟฟ้าก็เกิดดับขึ้นมา ผมร้องขึ้นเบาๆว่า

   "เฮ้ย อะไรกัน..."
   "สงสัยไฟจะใช้เกินมั้ง ไฟเลยตก"

แต่ความสงสัยของผมกับพัดก็ทุกเปิดเผยให้ทราบ เมื่อมีเสียงตะโกนมาจากด้านนอกว่า

   "อ่านไม่ทันแล้วโว้ย...ในเมื่ออ่านไม่ทัน พวกมึงก็อย่าอ่านกันเลย..."

แบบนี้แสดงว่ามีคนแกล้งปิดไฟ และแน่นอน ย่อมมีเสียงโห่ตามมากมาย ทั้งที่เป็นเสียงด่าจริง และด่าหยอกกัน คงจะเป็นคณะวิศวะ คนใดคนนึงในหอ แต่เหตุการณ์มันไม่จบแค่นั้น เสียงกรีดร้องแหลมดังมาจากหอหญิงก็ดังขึ้น จากที่ซักครู่เป็นการทะเลาะด่ากันในหอ กับกลายเป็นการทะเลาะกันระหว่างหอเสียแล้ว

จนกระทั่งเดือดร้อนแม่บ้าน และเจ้าหน้าที่ หอพักต้องออกมาเป่านกหวีดไล่ เหตุการณ์นี้ทำให้พวกผมในหอทุกคน ได้รับ ทัณฑ์บน คนละ 1 ครั้ง ซึ่งใครที่ได้รับ 2 ครั้งจะต้องให้ออกจากหอพัก

ในเช้าวันต่อมา การสอบของผมวันแรก เป็นไปด้วยความทุลักทุเลมาก ตามปรกติแล้วผมจะสามารถทานกาแฟได้ แต่วันนี้คงเพราะความเครียดมาก ผมทานไปแล้วอาเจียนออกมาทั้งหมดเลย จนเปื้อนเสื้อผ้านิดหน่อย กับรองเท้า ทีนี้แหละครับ สนุกสนานเลย ขณะที่รอเข้าห้องผมก็ไม่กล้าคุยกับใครเลย และไม่อยากอยู่ใกล้ๆใครด้วยเพราะกลิ่นมันแรงมาก

จวบจนสอบเสร็จ ก็รีบกลับหอพักเพื่อเปลี่ยนชุดในทันที และเมื่อผมถึงหอแล้ว เลยว่าจะอ่านหนังสือซักหน่อย เวลาไปกินข้าว พวกพัดก็จะโทรศัพท์มาตามผมเอง

ผมนั่งอ่านหนังสือไปเพลินมาก มาหยุดกระทั่งเสียงมือถือผมดังขึ้น

   "บอย ไม่ไปกินข้าวหรอ..." เสียง เม ดังจากโทรศัพท์
   "ไปกินสิ ที่ไหนหละ..."
   "ว่าจะไปตรงประตู 4 นะที่มีร้านขายอาหารญี่ปุ่นนะ"
   "งั้น เม สั่งอุด้ง ให้เราซักชามนะ แล้วจะรีบตามไป"

ผมกะให้เวลาไปถึงจะได้กินพอดี... ผมเก็บหนังสือลงในโต๊ะ แล้วก็กำลังจะล๊อกห้อง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก

   "เป็นไงค่ะ ทำข้อสอบได้มั้ย"

พี่อีฟโทรหาผม ผมก็คุยกับพี่เค้าเพลินไปเลย หลังวางหูก็เห็นว่าคุยไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมจึงรีบปั่นจักรยานของพัดตามไปที่ประตูออก 4

เมื่อไปถึง ทุกคนมีสีหน้าเครียดแบบเห็นได้ชัด ผมไม่รู้หรอกครับว่าทำไม

   "บอย... มีอะไรไม่สบายใจก็บอกกันได้นะ" เม รีบทักผม ตอนที่ผมไปนั่งข้างๆเธอ
   "เปล่านิ..." ผมตอบ แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินอุด้งไป เพราะว่ามันทำมานานแล้ว สงสัยจะเซ็งหมดแล้วด้วย

แล้วพวกพัดก็คุยเรื่องข้อสอบวันนี้กัน โดยมากพวกเค้าก็ทำได้กันนะครับ ส่วนผมทำไม่ได้หรอก ผมไม่เก่ง เรียนก็ไม่เก่ง...

   "แล้วบอยหละ ทำได้มั้ย สบายๆเลยหละสิ" เม ถามผมต่อ
   "ไม่อะ ทำไม่ค่อยได้เลย สงสัยจะแย่" ผมตอบไปแบบนั้นจริงๆ

ทุกคนที่คุยกันอยู่ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่ นั่งมองผมทานให้เสร็จ หลังจากนั้นคงจะไปจ่ายตังค์แล้วก็กลับหอกัน

   "นายเป็นอะไรรึเปล่า.." พัดถามคำแรกขึ้นมา และทุกคนก็ยิงคำถามชุดใหญ่
   "ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้นิ...."
   "สอบได้ไม่ได้ เรายังไม่รู้ซักหน่อย...อย่าเพิ่งเครียดไปสิ"

และอีกหลายคำพูดที่รุมกันเข้ามา ทำให้ผมงงอย่างยิ่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น

   "พวกนายก็ทำกันได้หมดนิ ทำไมหละ มีอะไรกันหรอ"
   "แล้วบอยไม่เครียดกับการสอบวันนี้หรอ" เมยัง ถามต่อ
   "ไม่นิ ก็อ่านมาพอทำได้นะ"
   "อ้าว เมื่อเช้าเห็นเครียดมากจนไม่คุยกับใครเลย"
   "เมื่อเช้า อ้อ เราไปกินกาแฟแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ จนอาเจียนเปื้อนรองเท้า กับเสื้อนิดนะ ล้างแล้วมันก็กลิ่นไม่ออกก็เลยไม่กล้าเข้าใกล้ใคร"

   "แล้วพอหลังสอบก็รีบกลับไปหอ อ่านหนังสือเลย"
   "เปล่านะ รีบไปเปลี่ยนเสื้อ พอเปลี่ยนเสร็จก็อ่านหนังสือหน่อย"
   "แล้วตอนเราเรียกไปกินข้าวทำไมมาช้า"
   "พี่อีฟโทรมาคุยเรื่องสอบวันนี้นะ"
   "อ้าว !!!" เสียงเพื่อนๆผมทุกคนร้องอุทานมาพร้อมกัน

พวกเค้าคิดว่าผมเครียดกับการสอบมากจน ไม่พูดไม่จา แต่อยากจะบอกว่า ผมเนี่ยสอบตกจนชินแล้ว เรื่องแค่นี้ธรรมดามากเลยครับ
===============================

ตอนหน้าจะเป็น Climax ตอนแรกของเรื่องนะครับ จะมีคนมาสารภาพ "ความในใจ" กับบอย ครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 12-03-2007 13:45:24
ดูจิ๊บอยทามเพื่อนเป็นห่วง สอบตกเรื่องเล็ก  :laugh3:

นึกถึงท่าเเมงมุม เเล้วหยิ๋วกิ้ว  :kikkik:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-03-2007 14:29:20
 :5555:........อ่านแล้วเหมือนย้อนวัยเลยอ่ะ..... :give2: :give2:

.......อยากรับน้องอีกอ่ะ.........อยากเล่นแมงมุม..... :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-03-2007 19:48:12
คิดถึงตอนรับน้องจัง  :myeye:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 13-03-2007 03:37:56
เง้อออออ แมงมุมๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 13-03-2007 08:10:34
รอค้าบบบ :impress:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 13-03-2007 11:23:13
 :impress3: อ่านแล้ว ทำให้นึกถึงสมัยเรียนปี1เลยคับ กี่ปีแล้วนะ 1 2 3 4 เหอๆๆ ไม่นับแล้วดีกว่า  :kikkik:


ตอนหน้าจะมีใครมาบอกความในใจน๊า ผมเดาว่าพี่ชัดแน่เลย  ถูกป่าวน้ออ มาต่อไวๆนะครับ  :myeye:
หัวข้อ: ตอนที่ 10
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 13-03-2007 21:50:32
ในวันศุกร์นี้ จิ๊บ ชวนแกมบังคับให้พวกผมไปดูหนังกับเธอ ก็ดีครับเป็นการผ่อนคลายบรรยากาศจากกความตึงเครียดหลังประกาศผลสอบ...ที่คะแนนของผมนั้นสูงกว่า mean นิดเดียว...

หลังจากเลิกเรียนเสร็จ ผมรีบกลับมาหอพร้อมกับพัด เพราะผมกับเค้าจะต้องกลับบ้าน โดยปรกติแล้วผมกลับทุกอาทิตย์ แต่เค้าจะไม่กลับเลย แต่อาทิตย์นี้เค้าจะต้องกลับ เพราะที่บ้านสั่งให้กลับ...

จัดของเสร็จแล้วก็มารอเพื่อนๆที่ลานจอดรถตู้ ไม่นานนักก็มาถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว จิ๊บที่เป็นแม่งานในครั้งนี้เสนอให้พวกผมดูหนังที่ เมเจอร์ที่อยู่ตรงข้าม เธอให้ความเห็นว่า ใครเค้าอยากดูหนังในโรงหนังห้างกันบ้างหละ...

2 ชั่วโมงที่ผ่านไป กับหนังผีของจิ๊บ ทำให้พวกผมมีอาการขวัญผวาไม่น้อยเลย พวกคุณเธอทั้งหลายร้องแล่แห่กระเชิงกันลั่นโรงเลยครับ... หลังจากดูหนังจบ ผมกับพัดก็ขอแยกตัวจากเพื่อนๆ เพื่อจะได้กลับบ้านกันเสียที...

บ้านพัดอยู่ในเขตห้างพระเครื่องชื่อดัง ส่วนผมอยู่ออกมาทางชานเมือง ซึ่งมีรถสาย ปอ.อยู่สายนึง ผ่านบ้านของเราทั้งคู่พอดีครับ เรานั่งกันตรงเก้าอี้หน้าประตูเลย ผมก็นั่งคุยกับพัดไปเรื่อยเกี่ยวกับเรื่องโน้นเรื่องนี้... พัดเค้าก็บอกให้ผมอ่านหนังสือให้มากๆ เพระาผมสอบออกมาคะแนนน้อย อะไรอีกหลายๆเรื่องที่คุยกัน

จนกระทั่งถึงป้ายที่พัดจะต้องลงแล้ว เค้าก็หอบกระเป๋าสะพานบ่าแล้วเดินกำลังจะลงรถ ขณะลงยังไม่วายหันมาโบกมือให้ผมอีก แต่เค้าลืมมองด้านซ้ายมือ เสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับมาออกจะดัง ด้วยความที่ผมคิดไงไม่ทราบครับ ตะโกนเรียกชื่อเค้าซะดังเลย แล้วก้าวไปคว้าตัวพัดลากเค้ากลับเข้ามาในรถ เสียงแตรรถมอเตอร์ไซด์บีบดังลั่น......

คนในรถหันมามองเราทั้งคู่เลยครับ แต่รถมอเตอร์ไซด์มันไม่ได้วิ่งที่ด้านคนลงอะครับ มันวิ่งอีกด้าน มันบีบแตรใส่อะไรผมก็ไม่ทราบครับ แต่ผมเนี่ยมันหูไว มือไวเกินไป ผมงี้อายมากครับ อยากบอกว่าโทษทีที่วิตกจริตไปหน่อย แต่ทำไม่ได้แล้วครับ ผมไม่กล้านั่งรถคันเดิมต่อไปแล้ว เพราะคนในรถนั่งหัวเราะผมกันทั้งคันเลย...ก็เลยลงมาพร้อมกับพัด...

   "จะไปบ้านเราก่อนมั้ย ... ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ไปต่างจังหวัดกัน"
   "อ้าว แล้วจะอยู่กับใคร"
   "ชอบอยู่คนเดียว ไม่อยู่คนเดียวไม่กลับมาหรอก"

คนอะไรวะชอบอยู่คนเดียว ผมตัดสินใจเดินตามไปบ้านเค้า เดินทะลุจากป้ายที่จะลงหน้าห้างพระเครื่อง อ้อมตึกสูงเสียดฟ้า มาถึงหน้าโรงแรม เดินเลยไปอีกนิดหน่อย ก็ถึงบ้านพัดแล้ว เป็นทาวเฮาส์นี่เอง แต่ในเมืองแบบนี้ราคาสงสัยไม่ใช่น้อย

ตั้งแต่ก้าวย่างเข้าในบ้านของพัด บรรยากาศมันวังเวงพิกล  ถ้าเป็นบ้านผม ทันทีที่ก้าวเข้ามา เสียงทักทายจะมีไม่หยุด เสียงถามสารทุกข์สุกดิบมีไม่ได้ขาดสาย...เป็นบรรยากาศแบบที่บ้านของผมไม่เคยมี

   "เอาของวางไว้ก่อนนะ" พลางชี้ลงไปที่เก้าอี้ บริเวณโต๊ะกินข้าว
   "หิวยัง จะหาอะไรให้กิน"

ผมส่ายหนัา เพราะกำลังมองดูอะไรหลายๆอย่างในบ้านของพัด ผมกำลังจะหันไปถามพัดเรื่องที่บ้านเค้า แต่ก็เห็นเค้าอยู่หน้าตู้ปลาตู้ใหญ่ขนาด 6 ฟุต..ที่มีปลาทองอยู่เต็มตู้เลย

   "หิวกันแล้วใช่มั้ย..." พัดบ่นเบาๆ พลางให้อาหารพวกมัน

พัดในตอนนี้ น่ามองกว่าทุกครั้งที่ผมมอง แสดงว่าที่กลับมาบ้านเพราะเป็นห่วงปลาทองในตู้... พัดทำแบบนี้บ่อยๆ ตอนอยู่ที่วิทยาเขต เคยมีนกพิราบ ที่มันไม่บิน แต่กลับนั่งอยู่ที่โคนต้นไม้ ผมยังไม่สนใจเลย แต่เค้ากลับเดินไปอุ้มมันเฉย เค้านำมันไปปล่อยยังบริเวณที่เป็นป่าในวิทยาเขต เค้าบอกกับผมว่า มันคงจะโดนนกตัวใหญ่กว่าตีเอา เอาไปปล่อยไว้ อีกวันสองวันมันก็จะบินได้เอง...

   "บอย ถ้าต้องอยู่ในกรอบ ในตู้เพื่อให้คนอื่นๆชมและเห็นค่า นาย...จะทำมั้ย"
   "ไม่นะ ถ้าเป็นเรา ก็คงไม่ยอม" ผมหยุดซักครู่ก่อนตอบช้าๆ
   "หรอดีเลย...เราชอบอยู่แบบอิสระทำในสิ่งที่ใจคิด ดีกว่าอยู่เป็นหุ่นเชิดให้คนอื่นชม"

   "แล้วในชีวิตจริง นายคิดจะออกจากกรอบบ้างมั้ยบอย" ผมไม่ตอบ แต่ก็คิดอยู่
   "เรื่องความรัก ก็มีกรอบนายรู้มั้ย..."
   "พ่อแม่มักจะคาดหวังบางสิ่งในตัวลูก ทั้งที่ลูกไม่ได้อยากทำ..."
   "แทนที่จะให้ลูกทำในสิ่งที่ชอบ แต่กลับบังคับให้ลูกเลือกในสิ่งที่ตนเองชอบมากกว่า..."

สายตาพัดเย็นชากว่าทุกทีที่ผมพบเจอ เค้าดูสุขุมกว่าทุกครั้ง และดูดีกว่าปรกติในสายตาผม

   "หมายความว่าไงอะ นายมีแฟน หรือคนชอบแล้วทีนี้พ่อกับแม่ไม่ยอมรับหรอ"
   "ก็ราวๆนั้น...อยากรู้เรื่องมั้ย จะเล่าให้ฟัง"

ผมพยักหน้าช้าๆ...

   "เรามีคนที่ชอบคนนึง เค้าเป็นคนนิสัยซุ่มซ้าม ขี้หลงขี้ลืม..." แล้วเค้าก็หยุดแล้วถอนหายใจยาวๆ
   "เค้าคนนี้ เป็นคนที่ทนอยู่กับเราได้อย่างน่าประหลาดเลย..."
   "เป็นคนที่กล้าด่าเราตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า ยอมไปกินข้าวเป็นเพื่อนเรา...ทุกๆวัน"
   "เราเคยทำเรื่องให้เค้าต้องอายด้วยนะ เค้าไม่โกรธเราเลย ไม่โกรธไม่ว่า กลับหัวเราะจนเราขำตามไปด้วย"

พัดหันมามองหน้าผมอีกที ผมกำลังตั้งใจฟังเลย ดูแล้วเค้าทั้งคู่ก็ดูเหมาะสมกันดีนะครับ น่ารักมาก...

   "เล่าต่อนะๆ...พัดนะ เราจะฟังต่อ" ผมรีบอ้อน อยากจะฟังต่อ แบบนี้มีเรื่องไปเม้าท์ให้เพื่อนๆฟังอีกแน่เลย
   "แต่เค้าคนนี้เป็นคนขี้แยนะ ร้องไห้บ่อย... เจออะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้... ทำของหายก็ร้องไห้... แต่พอได้ของคืนนะ หัวเราะออกได้ในทันทีเลย เป็นคนที่อารมณ์เปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก"

ยิ่งฟังผมก็ยิ่งสนุก ลุ้นๆ ผมอยากรู้จักคนคนนี้เสียแล้ว...

   "เป็นคนที่เล่นกีฬาไม่ค่อยได้เรื่อง ชมรมก็หนีไม่ยอมซ้อมเลย..."
   "แต่ถ้ามีใครซักคนเดือดร้อนนะ เค้าจะเป็นคนที่พยายามช่วยอย่างเต็มที่เลย..."
   "เพื่อนๆจะรักเค้ามากเลย เพราะเวลาอยู่กับเค้าแล้วสบายใจ..."
   "ว่าไง จะฟังต่อมั้ย ?"
หัวข้อ: ตอนที่ 11
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 13-03-2007 21:51:03
ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังต่อไป

   "เราเล่าเรื่องของเค้าให้พ่อกับแม่เราฟังตอนแรกเค้าก็ยินดี..."
   "แต่พอเราบอกเค้าบางอย่างเกี่ยวกับคนคนนี้...เค้ากลับว่าเราว่าไม่มีความคิด"
   "เป็นนาย จะทำยังไง บอย..."
   "ถ้าเป็นเรา จะคุยกับพ่อแม่ดีๆ แต่ถ้าในที่สุดแล้ว..."
   "คิดดีๆก่อนจะตอบนะ" ผมยังไม่ทันจะตอบเค้าก็ตัดตอนผม

   "...เราก็จะเลือกตามที่เราเลือก..."
   "นายบอกเราเองนะ... เราจะบอกให้ นายรู้จักดีเลย"
   "อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราหรอ..." เค้าพยักหน้า ใบหน้าของพัดเรียบเฉย
   "จิ๊บหรอ หรือ แอน หรือ...."

พัดไม่ตอบผม เดินตรงเข้ามาหาผม แล้วใช้ทั้ง 2 แขนโอบกอดผม แล้วพูดเบาๆว่า

   "นายต่างหากหละ บอย"

ผมทั้งงง และทั้งตกใจ บางอย่างที่พัดคิดกลับไม่เหมือนอย่างที่ผมคิด ผมไม่เคยนึกชอบพัดมาก่อนเพราะคิดแต่ว่าเค้าเป็นเพื่อนผม พัดเป็นคนนิสัยดี จะต้องมีคนมาชอบเยอะแยะ ในใจตอนตลอดเวลาที่รู้จักกันคิดเพียงเท่านี้เอง

   "แล้วนาย ชอบเราบ้างมั้ย ถ้าไม่ชอบเราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ...." ผมยังไม่คิดตอบ

เสียงผมหายไป และรู้สึกว่าคอแห้งผาก ไม่รู้ว่าจะตอบพัดไปอย่างไรดี

   "เราคิดว่ามันออกจะกระทันหัน... ไปหน่อยที่จะมาเลือกคบเรา..."
   "ถ้านายยังไม่พร้อม... เราก็กลับไปเป็นเพื่อนกันนะ... แล้วนายก็จะได้เลือกคบคนที่นายพอใจ... "

   "นายเป็นเกย์หรอ..."คำถามคำถามเดียวที่ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไป มันติดไปหมด
   "ไม่ใช่หรอก เพียงแค่ไม่สนใจว่าคนที่ชอบ... เป็นใครก็ตาม... เป็นหญิง เป็นชาย ถ้าชอบก็คือชอบ..."

ผมยังยืนนิ่งให้เค้ากอดอยู่แบบนั้น มันให้ความรู้สึกดีนะครับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย

   "เอาเถอะ นายกลับบ้านก่อนแล้วกัน วันนี้ก็เย็นแล้ว...."

คำพูดนั้นเป็นคำพูดสุดท้ายที่พัดได้พูดกับผมในวันนั้น ผมจึงเริ่มรู้ตัวว่า ควรจะทำอะไร ทำอย่างไรต่อไป

ในตอนค่ำๆ ขณะที่ผมนอนอยู่บนห้องด้วยความสับสน พัดเองเป็นคนดีนะแต่จะใช่คนที่ผมต้องการรึเปล่า ผมไม่กล้าที่จะลงทุนเสี่ยงกับความรัก เพราะถ้าเสียใจแล้วมันก็เจ็บทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผม หรือฝ่ายเค้า เสียงโทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น ก็เอื้อมๆไปหยิบมากดคุย

   "เป็นไงบอย...วันนี้เป็นไงบ้าง" พี่ชัดนั่นเองที่โทรมาหา แต่ตอนนี้ดันโทรมาตอนที่ไม่อยากคุยกับใครเลย
   "บอยกำลังคิดบางเรื่องอยู่ครับพี่ชัด... เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากสำหรับบอยในตอนนี้..."

   "นั้นสิครับ เสียงเหงาๆจังเลย...ทำตัวรื่นเริงหน่อยสิครับ ไหนมีปัญหาอะไรให้พี่ช่วยแก้มั้ย...
   ...นั้นสินะ บอยจะมีเรื่องอะไรกลุ้มใจนะ....เรื่องผลคะแนนหรอ ก็ไม่ใช่นิ หรือว่าเรื่องเพื่อน..."

   "ไม่เชิงนะคับ..."
   "งั้นก็เรื่องแฟนใช่มั้ย...." ผมร้อนที่หน้าขึ้นมาในทันที
   "เออ... คง..."
   "คงใช่ ใช่มั้ยหละ...เค้าเป็นคนแบบไหนหละ น่ารักหละสิ คณะเดียวกันป่ะคับ"
   "ก็...ใช่อยู่ครับ เค้ามาบอกว่าชอบนะคับ" พี่ชัดเองก็เงียบไปซักครู่เลย แล้วตามมาด้วยเสียงถอนหายใจ

   "พี่อยากจะบอกว่า ให้บอยเลือกตามที่ชอบนะคับ ถ้าคิดว่าดี คิดว่าน่าคบ บอยก็คบไป แต่ถ้าคิดว่าไม่ดี ไม่พร้อมที่จะคบ บอยก็ไม่ต้องก็ได้คับ บอกกับเค้าดีๆ ว่าเราไม่พร้อม...เข้าใจมั้ยที่พี่พูดแบบนี้"

   "คับ..."
   "ดีมาก แล้วพี่จะบอกอะไรให้นะบอย ถ้าคนที่ชอบเราไม่ถูกใจนะแล้วมาบอกพี่... "
   "คับ"
   "พี่รู้จักคนนึงที่ชอบบอยมาก... เค้าชอบเราตั้งแต่แรกเห็น อยากจะไปดูแลใกล้ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้แต่ดูอยู่ห่างๆ พร้อมคอยปลอบใจตัวเองไปวันๆ"

คำตอบของพี่ชัด ไม่ได้ช่วยให้ผมสบายใจขึ้นซักเท่าไหร่เลย กลับทำให้ผมตัดสินใจได้ลำบากมากกว่าเก่า เพราะตอนนี้ผมไม่รู้ว่าอีกคนที่ชอบผม เค้าเป็นใครแล้ว ถ้าผมตอบตกลงกับพัด เค้าจะเสียใจขนาดไหน แล้วถ้าผมไม่ตกลงกับพัดไปเลือกอีกคนซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ พัดจะคิดอย่างไร ถ้าผมไม่เลือกทั้งคู่เลยจะดีกว่ามั้ย

   "พี่อยากฝากไว้คำพูดนึงนะ พี่อยากให้เราเสียใจกับผลที่เกิดขึ้นมากกว่า เสียใจเพราะไม่ได้ทำนะคับ..."
   "แม้ว่า เราจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันหน้า แต่ก็ดีกว่าต้องเสียใจเพราะไม่ได้ทำ..."

   "ไม่ว่ายังไงก็ตาม พี่ก็ขอให้เรามีความสุขกับคนที่ชอบนะคับ..."

แล้วพี่ชัดเองก็วางสายไป... ทิ้งผมไว้คนเดียวในห้องที่มืดสนิท กับความวังเวงในใจของผม
หัวข้อ: ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 13-03-2007 21:51:43
ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนๆในวันอาทิตย์ ว่าวันจันทร์ตอนเย็นจะมีงาน Meeting ของห้องผม ให้กลับจากวิทยาเขตด้วย เพราะงานนี้ต้องไปทุกคน จะขาดไม่ได้ แสดงว่าตอนเช้าผมต้องไปวิทยาเขต แล้วก็ต้องกลับบ้านมาในตอนเย็นอีก...

ผมถึงห้องเรียนในเวลาเกือบๆ 9 โมง การเดินทางวันนี้รถติดมากครับ เวลาเข้าเรียนปรกติของพวกเราคือ 8.40 ทำให้ผมสายไปถึง 20 นาที แต่อาจารย์ไม่เคยล๊อกห้องก็เลยไม่ใช่ปัญหาที่จะเข้าสาย

ผมเดินไปหาเพื่อนๆในกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้นั่งติดกับพัดแบบทุกที เพราะปรกติแล้ว ผมกับพัดจะมาพร้อมกัน และมาก่อนคนอื่นๆ มาถึงก็จองที่ให้เพื่อนๆ แต่วันนี้ผมเข้าสายก็เลยต้องนั่งติดกับคนอื่นแทน...

เค้าเองก็มองมาทางผมนะ ส่วนผมก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง ถ้ายิ้มไปเค้าอาจจะคิดว่าตกลงเรื่องที่เค้าถามผม แต่ถ้าไม่ยิ้ม หรือไม่มองเค้า เค้าจะคิดยังไงนะ... ผมเองสังเกตเค้านานไม่ได้หรอกครับ ต้องหันกลับไปมองที่กระดานแล้ว โจทย์แคลคูลัสข้อใหญ่กำลังแสดงวิธีทำอยู่ ผมก็ต้องสนใจการเรียนเป็นหลัก...

กว่า 3 ชั่วโมงที่เรียนไป พอหมดแล้วจะเป็นเวลาพักแล้วครับ พวกเราก็ยกพลกันไปหาอาหารกิน ตามที่สาวๆเสนอ วันนี้พวกเค้าจะเลี้ยงพวกผมเอง เพราะเค้าถูกหวยใต้ดิน...มาเกือบหมื่นอะคับ...(ไม่รู้ว่าแม่พวกนี้ไปหาคนขายเจอได้ยังไง)

เราตกลงจะไปร้านที่เป็นแบบ บุฟเฟ่ต์ที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ทุกคนก็ยังคุยยังเล่นกันปรกติ เพีนงแต่วันนี้ผมคนนึงที่ไม่ค่อยจะพูดเพราะเหนื่อยจากการเดินทางเมื่อเช้า และไม่รู้จะตอบพัดอย่างไรดี ตัวเค้าเองก็เหล่มองผมบ่อยๆ แต่เมื่อผมหันไปเจอเค้าสบตากันพอดี ก็มักจะหันหน้าหนี ก็ไม่เข้าใจตัวเองหรอกนะครับแต่ว่ามัน เขิน...ก็คงใช่

ถึงที่ร้านแล้วผมตรงไปเข้าห้องน้ำก่อนเลย เพื่อนก็คงจะไปหาโต๊ะนั่งกัน

   "บอย...เออ เราขอโทษนะ" พัดตามผมมา
   "เออ เรายังไม่..."
   "ยังไม่ต้องตอบหรอก เรารู้ว่านายหนักใจ อย่าฝืนใจเลยนะ..."
   "อืม ขอบใจที่เข้าใจนะ..."
   "เรากลับมาเป็นเพื่อนกันนะ.."

   "ไป...ออกไปได้แล้ว คนจะเข้าห้องน้ำ"

แล้วผมก็ดันหลังเค้าให้ออกไปพ้นประตูห้องน้ำ ปิดประตูและลงกลอน...

อาหารที่นี่หลากหลายมากเลยครับ แต่พวกผมไม่ได้มีปัญญากินกันแบบนี้ทุกวันแน่นอน มันแพง คนละ 350 บาทนะครับ...แพงอย่างมากสำหรับเด็กอย่างพวกผม...

ตอนนี้ผมก็คุยกับพัดได้ตามปรกติแล้ว ดูเค้าจะเข้าใจผมนะว่า ผมยังไม่อยากจะตัดสินใจคบใครเป็นแฟน เพราะผมต้องการมาเรียน...

   "อ้าว บอย นายจะไม่กลับหอหรอ" พล ทักผมตอนที่ผมขอแยกตัวจากเพื่อนๆ เพราะต้องกลับไปโรงเรียน
   "มีงาน Meeting เพื่อนที่ รร.นะ เลยต้องกลับไปงาน"
   "โห ไม่เหนื่อยแย่เลยหรอ..."

ผมก็ยิ้มๆ ก่อนจะแยกตัวออกมาจากเพื่อนๆ... ผมกำลังรอรถประจำทาง มันก็ไม่มาซะที...เฮ้ย... เสียงแตรบีบดัง
ปี้นๆ และก็มีรถมาจอดหน้าผม พร้อมกับเลื่อนกระจกลงมา

   "ขึ้นมา... จะกลับบ้านใช่มั้ย...จะไปส่งให้"

ผมก็รีบขึ้นไปเพราะที่พัดจอดคือป้ายรถเมย์ ถ้ามีรถมาละก็ โดนด่าแหลกเลย..

   "รถใครเนี่ย..."
   "ของเราสิ ของคนอื่นเอามาขับก็ขโมยสิ"
   "แล้วทำไมต้องเอารถมาด้วยหละ"
   "เราก็ต้องกลับบ้านนิ ไปให้อาหารปลา...เพราะยังไม่กลับกันเลย"

วันนั้นผมตกลงกับพัดไว้ว่า จะไปลงที่บ้านเค้าก่อน แล้วเค้าจะไปส่งผมที่ รร.เก่า แล้วเราจะค้างคืนที่บ้านของผมกัน ผมก็ว่าดีนะครับ เค้าจะได้ไปดูบ้านผมบ้าง ผมเคยแต่มาดูบ้านเค้าแบบนี้ไม่ค่อยดีเลย...

ผมบอกทางให้เค้าเอารถไปจอด แล้วก็พากันขึ้นมาที่ห้องโสตของโรงเรียน ที่หัวหน้าห้องผมได้เช่าจากโรงเรียนไว้ครับ เพื่อนๆหลายคนก็ยังมาคนเดียว บางคนก็พาแฟนมาด้วย บางคนก็คบกันเอง...ห้องของผมมีความแปลกใหม่ แปลกตามากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย จากคนที่อ้วนก็ผอมลงแบบไม่น่าเชื่อ บางคนดำมาก บางคนก็ขาวขึ้น...

   "ว่าไง บอย..พาใครมาหละ" หัวหน้าห้องผมทักทาย

ผมกับมันสนิทกันมากเลยคับ เพราะผมเป็นรองหัวหน้าห้อง

   "คนนี้เป็นรูมเมทเรานะ...ชื่อพัด หลีดคณะเราเชียวนะ"
   "ไหนๆ...คนไหน.. หรอ.. น่ารักดี...เป็นหลีดใช่มั้ย..."

สาวๆเพื่อนผม ก็ลากพัดไปคุยด้วย ปล่อยให้ผมได้คุยกับเพื่อนรักกัน 2 คน

   "แก มีอะไรเตรียมมามั้ย" หัวหน้าห้องมันถามผม
   "มีสิ ไว้ตอนคนมาครบแล้วนะ เอาแผ่นนี้ไปเปิด...เพลง2 แล้วปิดไฟให้เราด้วยนะ"
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 14-03-2007 01:51:33
อย่างน้อยก็ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจนะคับพัด :give2: :impress: :give2:  มะเหมือนผมจามองหน้าคนที่ชอบยังมะกล้ามองตรงๆเลย :try2: :try2: :try2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 14-03-2007 02:09:28
เชียร์พัดครับ รีบๆใจอ่อนน๊าบอย :give2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 14-03-2007 09:40:57
ที่แท้ใครคนนั้นก็คือพัด คนที่อยู่ใกล้ๆมาตลิด แต่ไม่มีวี่แววและท่าทางบอกมาก่อนเลย :-[


แต่ที่พี่ชัดพูดมันก็แหม่งๆนา หรือว่าอีกคนที่พี่ชัดบอกคือตัวพี่ชัดเอง  :haun5:


งานนี้มีลุ้นมาบอยจะลงเอยกะใครน๊อออออออ...... มาต่อไวๆนะครับ  :impress3:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-03-2007 20:05:43
"แม้ว่า เราจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันหน้า แต่ก็ดีกว่าต้องเสียใจเพราะไม่ได้ทำ..."
 :เฮ้อ: บางทีหากรู้ว่าจะต้องเสียใจในวันหน้า ก็สู้เสียใจตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า  :monkeysad:
หัวข้อ: ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 15-03-2007 00:46:52
เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว ตอนนี้เริ่มมีอาหารมาเซิฟกันแล้วครับ รายการอาหารมีอะไรบ้างไม่ทราบครับ รู้แต่ว่าอร่อยมาก งานMeeting รอบนี้ หมดเงินกองทุนไปเกือบหมื่นอะครับ สาหัสเลย ทั้งค่าเช่าห้อง เครื่องเสียง อาหาร แต่ก็เป็นสิ่งที่พวกผมคุ้นเคย ห้องโสตทัศนศึกษา เครื่องเสียงที่ใช้กัน (ผมอยู่ชมรมงานโสตฯ ตอน ม.ปลาย) อาหารจากแม่ครัวของโรงเรียน ทุกอย่างทำให้พวกผมทุกคนหวนเวลา นึกถึงม.ปลาย เวลาที่ทุกเช้าจะได้เจอหน้าเพื่อน...

พอกินกันเสร็จ พวกผู้หญิงก็แย่งกันไปหยิบไมค์มาร้องเพลงกันแล้วครับ... ก็เฮฮากันตามประสา ผมเพิ่งเคยเห็นว่า วิชาร้องเพลงที่ รร.ผมมีสอน(พิเศษ)เนี่ย มันเพิ่งได้ใช้ประโยชน์ตอนนี้แหละครับ...

หัวหน้าห้องผมเดินมาให้สัญญาณกับผมว่า จะเริ่มแล้วนะ...ผมเลยเดินไปขอไมค์จากสาวๆ เธอจะไม่ยอมให้เลย เพราะผมนั้นก็จะว่าไป ถือไมค์แล้วไม่วางเช่นกันครับ...^-^!

แล้วไฟก็ดับลง เป็นอย่างที่ผมวางแผนไว้.... ทุกคนในห้องเงียบเสียงกันหมด มีแสงจาก Downlight เพียง 1 ดวงบนกลางเวทีของห้องโสต และภาพบนโปรเจ็กเตอร์ก็ขึ้นเป็นสีดำ... ผมเดินไปตรงที่มีแสง

   "พวกเราจากกันไปก็เกือบ 2 เดือนแล้วนะ ถ้าบอยนับไม่ผิด...
   ...อยากรู้จัง เวลาที่ไม่เจอหน้ากัน ทุกคนเหงากันบ้างมั้ย...
   ...บอยอยากเจอหน้าทุกคนเลยนะ... อยากให้เวลาที่พวกเรากลับมาอยู่ด้วยกันมีอีกครั้งแบบวันนี้...
   ...เรารอวันนี้มานานแล้วหละ...คิดถึงทุกคนจังเลย...
   ...แล้วพวกเราคิดถึงเราบ้างมั้ย คิดถึงเวลาเก่าๆบ้างมั้ย...ถ้าคิดถึงนะ ร้องเพลงนี้พร้อมกับเรานะ..."

Intro ของเพลงก็ขึ้นทันทีที่ผมพูดจบ...

   "...ให้เธอได้รู้ตลอดไป ว่าทุกเวลา...ที่เราห่างกันแสนไกล... ยังมีอีกคำในหัวใจ... ที่จะบอกเธอ...
   ....ให้เธอได้รู้และเข้าใจ... ว่าคิดถึงเธอ.... เมื่อเราห่างกันแสนไกล...มีคำหนึ่งจะพูดไป...ให้เธอได้รู้...จะแทนความหมายความห่วงใย....ชั้นคิดถึงเธอ..."

ทุกๆคนช่วยผมร้องเพลง มันเป็นความสุขนะครับ ผมเดินลงจากเวที เพื่อนๆปรบมือกันเล็กน้อย...Downlight ทุกดวงถูกเปิด ห้องสว่างเป็นปรกติ Show ของผมจบลงแล้ว... ผมไม่ได้อยากอวดตัวเอง แต่แค่อยากให้เพื่อนทุกคนยังคิดถึงกัน และรู้ว่าพวกเค้าทุกคนยังมีกันและกันเสมอ...

   "เสียงร้องตกไปเยอะเลยนะ...ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย แสดงว่าไม่ขยันซ้อมใช่มั้ย..."

เสียงคนคนนี้... ทำให้ผมหันกลับไปดูเพราะไม่คิดว่าเค้าจะมาด้วย...แต่เค้าก็มา

   "ภูมิ...มาได้ยังไงนะ กลับจากสิงค์โปร์เมื่อไหร่"
   "ตอนเย็นนี้เอง ลงปุ๊บก็มาปั๊บ..."

ผมกับภูมิ เคยเป็นแฟนกันมาก่อน... เพราะทำวงดนตรีด้วยกัน แต่ตอนนั้นคงจะไม่เหมือนแฟนหรอกครับ เพียงแค่เช้ามาก็กัดกัน เที่ยงก็กัดกัน เย็นก็กัดกัน....ทุกเช้า ภูมิจะมารอผมหน้าบ้าน ตอนเย็นไปส่งผมที่บ้าน...อะไรแบบนี้คงจะเหมือนแฟนอยู่ครับ แต่ตอนนั้นเราทั้ง 2 คนไม่ได้สนใจ จนกระทั่งเรียนจบ ภูมิไปเรียนต่อสิงค์โปร์...ผมถึงรู้ว่า ผมเสียดายที่ไม่มีเค้าแล้ว...

   "อ้าวเพื่อนๆ...มีใครจะฟังเพลงจากวง Minus-1 บ้าง.."
   "ฟัง....เราฟัง..."เสียงเรียกจากเพื่อนๆ ผมก็เลยต้องกลับขึ้นบนเวทีอีกครั้ง

Minus-1 เป็นวงที่ผมและเพื่อนอีก 2 คนร่วมกันทำขึ้นครับ เพื่อนผมอีก 2 คนจะต้องเล่นดนตรีด้วย แต่วันนี้ไม่ได้เช่ามาก็เลย ได้มีโอกาสจับไมค์ร้องเพลงกันทั้ง 3 คน

   "...ลา ลา ลัล ลา... ลา ลัล ลา คำว่าเพื่อน นั้นมีความหมาย...ไม่ยิ่งใหญ่แต่จริงใจ...ให้เธอ...เก็บรักษาเอาไว้ให้นาน...เผื่อซักวันกลับมาพบเจอ...ขอให้เธอโชคดี...เพื่อนเอย..."

เพลงนี้เก่ามาก...ดำน้ำไปหลายจุดเพราะจำเนื้อร้องไม่ได้...และเนื่องจากไม่ได้เตรียมกันมาทั้ง 3 คนเลยร้องแบบ Unison เลย...ก็สนุกไปอีกแบบ...

   "...ว้าว วันนี้เรามีแขกพิเศษ มาด้วยหรอครับ....ขอเชิญขึ้นมาบนนี้หน่อยครับ" ภูมิเรียกพัดขึ้นมาบนเวที
   "ขอทราบชื่อด้วยครับ ผมชื่อภูมินะครับ"
   "พัดครับ มากับบอยนะครับ" ผมลืมไปแล้วว่า พัดก็มากับผม...
   "อ้อ มากับบอยนี่เอง...เป็นแฟนของบอยรึเปล่าครับ"

พัดหน้าแดงกลางเวทีเลยครับ และตามด้วยเสียงโห่จากประชากรห้องผม

   "แล้วทำไมถึงคิดว่าผมจะชอบบอยหละครับ..."
   "แล้วไม่ชอบจะตามมาทำไมคับ..."
   "ก็มาส่งเฉยๆครับ"
   "มาส่งเฉยๆทำไมต้องหน้าแดงด้วยครับ"
   "ห้องร้อนกับอาหารเผ็ดนะครับ..."
   "อ้อ...ห้องร้อน แอร์ 12000 บีทียู 7 ตัวยังร้อนอีกนะครับ..."

ภูมินี่เป็นอีกคนที่กวนประสาทเก่งมาก ไล่ต้อนพัดซะจนมุมไปเลย....

   "แล้วมีอะไรจะฝากไว้กับเพื่อนๆของบอยมั้ยครับ จะเผาบอยเวลาอยู่ที่หอมั้ยครับ...
   ...เช่น นอนละเมอ น้ำลายไหล...ฉี่รดที่นอนอะไรแบบนี้อะครับ..."

พัดก็ยังเงียบ แต่ก็ส่ายหัวแล้วก็หัวเราะ...

   "ไม่มีจริงๆหรอครับ หรือมีอะไรจะบอกบอยมั้ยครับ เช่นสารภาพรักนะครับ..." และตามมาด้วยเสียงโห่จากเพื่อนๆจนดังก้องห้องโสต

   "จะจีบบอยใจกล้าๆหน่อยสิครับ...ไม่งั้นพวกผมเอาตายเลยนะ ผมเนี่ยแฟนเก่าบอยนะ"

พัดก็หยิบไมค์จากมือผมไป...เดินไปข้างหน้า...

   "...บอย...เราบอกแล้วใช่มั้ยว่าชอบนายนะ..." ตอนนี้ในห้องเงียบกริบ...
   "ที่นายปฏิเสธคงเพราะนายมีแฟนอยู่ก่อนแล้วใช่มั้ย"
   "ใช่ครับ...."ภูมิตอบหน้าตาเฉย

   "ตอนนี้เลิกกันแล้วด้วยครับ" ไอ้ภูมิก็บอกอีก...
   "ถ้างั้น บอย จะไว้ใจเราได้มั้ย...ลองคบกันเรานะ...ถ้าทำให้ผิดหวังนะ จะยอมให้เพื่อนๆนายอัดเลย"

ผมนี่หูอื้อไปแล้ว...ทำไมนะ ผมนึกว่าเค้าจะเข้าใจผมนะ...เฮ้ย....

   "ว่าไงบอย...." ผมก็เงียบ
   "ไม่ตอบหละ ปวเรศ..." ผมเดินไปหยิบไมค์จากมือของเพื่อนอีกคน เพราะเบื่อการเซ้าซี้ของไอ้ภูมิ

   "เรายังมีคนอื่นที่ชอบอยู่นะ..."
   "ที่ชอบใช่มะ แสดงว่าเรายังมีโอกาสใช่มั้ย"

พวกผู้ชายทำไมคิดเค้าข้างตัวเองแบบนี้ก็ไม่รู้...เบื่อจัง

   "งั้นแสดงว่า บอย ให้โอกาสคุณพัดแล้ว คุณก็รีบๆจีบเค้านะครับ ไม่งั้นอดจะเสียดายแบบผมนะคร้าบ..."

หลังจากนั้นผมก็ลงมานั่งที่โต๊ะของผม นั่งคุยกับเพื่อนเก่าทุกๆคนของผม สมาชิกในกลุ่มเดียวกัน...ผมยังโดนแซวตลอดงาน ว่าทำไมใจแข็งนัก ยังชอบภูมิอยู่หรอ หรืออะไรทำนองนี้... แต่พอหมดจากงาน ภูมิก็เป็นคนเดียวที่มาพูดกับผมว่า "ไม่ชอบก็ไม่ต้องสนใจหรอก...แต่ถ้าไม่ลองแล้วจะมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะ" มีเค้าคนเดียวจริงๆนะครับที่รู้ว่าในใจผมคิดอะไร...

และคืนนั้น ผมกับเค้าก็ได้นอนเตียงเดียวกันเป็นครั้งแรก...ในห้องนอนของผมเอง...แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ...
หัวข้อ: ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 15-03-2007 00:47:26
กิจกรรมสุดท้ายก่อนที่จะสอบ ไฟนอลของพวกผมก็คือ แข่งขันดนตรีครับ รุ่นพี่คณะวิศวะเป็นผู้จัดการแข่งขึ้น แต่ก็ให้สิทธิทุกคณะลงแข่งขันได้ครับ...ผมก็ลงแข่งขันในวงตัวแทนของคณะของเราเช่นกัน เป็นนักร้องคู่กับเพื่อนในคณะอีกคนนะครับ

การซ้อมของพวกผมก็เป็นไปตามสบาย เพื่อนๆทุกคนไม่ได้คาดหวังว่าจะชนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่พวกเราทุกคนอยากทำ คืออยากแสดงความสามารถ อยากใช้ความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น...

เนื่องจากในบางทีผมไม่ได้ร้องนาน การหายใจ การบังคับกล้ามเนื้อก็ติดขัด เสียงออกมาไม่ชัดบ้าง เพื่อนๆก็จะช่วยกันแก้ไขครับ เป็นเรื่องที่สนุกมากเลยครับ บางคนบอกให้ผมเปลี่ยนลักษณะการออกเสียงในท่อนนั้นท่อนนี้ ท่อนนี้เอาต่ำอีกหน่อย ตรงนี้สูงอีกนิด...มันเป็นความสนุกมากเลยนะครับ

6โมงเย็นแล้ว งานดนตรีเริ่มแล้ว วงของผมแข่งกันเป็นวงแรกเลยครับ เป็นที่รู้กันว่าในการแสดงใดๆก็ตาม ถ้ากรรมการไม่ใช่ผู้มีความรู้ในทางนั้นอย่างเพียงพอ ก็จะติดสินผู้เข้าแข่งขันในรายการต่างๆด้วยการนำไปเปรียบเทียบกับผู้ที่เข้าแข่งคนแรก....แต่พวกผมไม่ได้เสียใจเลยครับที่จับฉลากออกมาแบบนี้...ผมกลับดีใจด้วยซ้ำไป เพราะพวกเราต้องการแค่ความสนุกและอยากแสดงความสามารถ ไม่ได้อยากได้รางวัลนะครับ...

   "...แม้โลกกว้างใหญ่ ผู้คนตั้งมากมาย...เรายังได้มาพบ...หืมๆ...
   ....สองคนที่ต่าง สองคนที่เหินห่าง...เรายังได้เรียนรู้..."

   "...ฉันแค่เพียงอยากจะอยู่ใกล้ๆเธอ...เพราะไม่เคยจะสุขใจเหมือนยามนี้...
   ....แม้ฉันอาจจะดูไม่เหมือนใคร...แต่ฉันก็รู้ใจที่ฉันมี....."

เมื่อการแสดงของพวกเราจบลง เสียงปรบมือก็มีมาให้ ผมคิดว่าทุกคนที่เข้าแข่งก็ย่อมมีคนปรบมือให้เป็นของธรรมดา เลยไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากนัก...วงที่เข้าประกวดต่อไปก็มาแสดง เค้าเล่นได้ดีกว่าพวกผมอีก...ทั้งดนตรี และเสียงร้อง...ผมชื่นชมพวกเค้ามากเลยครับ เพราะเค้าดูจะตั้งใจในการแสดงอย่างมาก แต่พวกผมก็ไม่เสียใจเลยนะเพราะทำดีที่สุดแล้ว...

จน 5 ทุ่มแล้วงานประกวดก็ยังไม่จบ เพื่อนๆที่มารุมดูก็เริ่มจะกลับหอพักกันเสียแล้ว...แต่ผมก็ยังอยากดูอยู่...

   "กลับหอได้แล้วมั้ง พรุ่งนี้มีเรียนนะ" พัดเริ่มท้วงผม
   "เราอยากดูให้จบก่อน..."
   "คืนนี้อากาศเย็นนะ...ลมหนาวพัดแล้วนะ"

มันเป็นจริงอย่างที่พัดพูดเลยครับ อากาศเย็นจริงๆ เพราะตอนบ่ายๆมีฝนตกด้วยนะครับ นากจากจะเย็นแล้วยังชื้นด้วย...ผมลุกจากลานที่นั่งดู ไปหาที่มุมๆนั่ง ที่โต๊ะม้าหินอ่อน โต๊ะนี้ในเวลากลางวันคนจะแน่นไปหมด ทั้งมาทานขนม วางของ นั่งเล่นนั่งคุย หรือนัดเจอเพื่อนๆ แต่ในเวลานี้ กลับไม่มีคนเสียเลย บรรยากาศมันผิดกับตอนกลางวันลิบลับ...

คนที่ยังสนใจดูก็เห็นจะมีแต่คนที่ประกวดและรอผลลุ้นรางวัลทั้งนั้น...ส่วนเพื่อนๆในวงของผมนั้นกลับไปนอนกันหมดแล้ว...ที่อยู่ต่อเพราะผมอยากดูให้ครบทุกทีม อยากจะฟังเสียง ทักษะ เทคนิค จะได้ใช้พัฒนาตัวเองต่อไป...

   "หนาวแล้วหรอ..."พัดมาหาผมอีกที นี่คงจะไปเปลี่ยนชุดมาแล้ว
   "กำลังดูอยู่..."
   "ไม่ไปดูข้างหน้าหละ มาหลบที่มืดๆทำไม ยุงไม่กัดหรอ"
   "ยุงที่นี่อยู่ตรงไหนมันก็กัด อีกอย่างตอนนี้น้ำค้างลงแล้ว"
   "อืม...เฮ้ย...."

แล้วพัดก็นั่งลงข้างๆผม เอาคางมาวางบนไหล่ซ้ายมือของผม แล้วก็กอดผมซะงั้น...

   "ทำไร...เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น..."
   "ไม่หรอก เค้าไม่สนใจเรา 2 คนหรอก นายก็ดูต่อไปเหอะ เราจะนอน"
   "ก็ไปนอนที่หอสิ..."
   "นอนคนเดียวในห้องน่ากลัว..."
   "อายุตั้งเท่าไหร่แล้วเนี่ย....ยังกลัวผี ...ไปนอนกับพวกพลก็ได้นิ..."
   "เอาน่า...ขอยืมไหล่นอนหน่อยนะ"

ผมดูจนจบการแข่งขัน และประกาศผล ทั้งคณะกรรมการ ทั้งคนรอก็แทบจะหลับกันไปทั้งนั้น...ไม่รู้ว่าทำไมต้องบังคับให้จบในวันเดียวด้วยนะ....กว่าจะจบก็เกือบตี 3 แล้ว...ผมหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย... จนไม่สามารถไปเรียนในตอนเช้าได้เลย...ก็ได้พัดนะแหละครับ ที่เอา แลคเชอร์มาให้ผมลอก...
หัวข้อ: ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 15-03-2007 00:48:10
การสอบปลายภาคใกล้เข้ามาทุกขณะ...พี่ชัดและพี่อีฟ พี่รหัสและโครหัสของผม ได้โทรหาผมในตอนเช้าวันนึงในช่วงสัปดาห์ที่เรียกว่า "เข้าตู้" หรือนั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่ออ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียดนั่นเองครับ

เค้าทั้งสองตกลงกันว่าจะให้พี่ชัดมาติวหนังสือให้ผม เพราะผมไม่ถนัดฟิสิกส์ กับ เลข ซึ่งพี่รหัสของผมเองก็ไม่ถนัดด้วยเช่นกัน เลยไม่สามารถมาติวให้ได้...ส่วนพี่ชัดก็ไม่ได้ดีไปกว่าพี่รหัสผมซักเท่าไหร่ แต่ยังมาติวให้...

ตลอดเวลา ในช่วงที่พี่เค้าว่าง ผมจะต้องอยู่ในหอสมุดกับพี่เค้าตลอดเวลาเลยครับ...จนบางทีเลยเวลากินข้าว พี่เค้าก็จะพาผมไปเลี้ยงข้าวข้างนอกมหาลัย หรือถ้าบางวันมันดึกมาก พี่ชัดจะค้างที่ห้องผมเลย...

จนกระทั่งคืนนึงที่เป็นวันศุกร์ ผมไม่ได้กลับบ้าน แต่พัดต้องกลับ...พี่ชัดก็เลยอยู่กับผมเพียง 2 คนในหอพัก...หลังจากที่สั่งโจทย์ให้ผมเป็นแถวแล้ว ก็ไปนั่งเล่น NoteBook ของผมสบายใจเลย...(ผมเอามาใช้ประมาณกลางเทอม) ผมเองไม่ได้ไม่รู้เรื่องขนาดต้องสอนใหม่ เพียงแค่ในบางทีที่หาคำตอบไม่ได้ ผมต้องการคำอธิบาย ไม่ใช่แค่ตัวเลขคำตอบ เพราะมันไม่มีวิธีทำ หรือบางอย่างมีวิธีทำก็ต้องการว่าทำไมต้องทำแบบนี้...

พี่ชัดช่วยผมได้มากเลยนะครับ บางทีเค้าตอบไม่ได้ก็ไปถามเพื่อนเค้ามาให้ด้วย ช่วงนี้เองครับที่ผมสนิทกับพี่ชัดได้เร็วมาก มากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย

   "บอย ตกลงเรื่องแฟนบอยเลือกรึยัง" พี่เค้าถามขณะที่ผมทำโจทย์แคลคูลัสอย่างเอาเป็นเอาตาย
   "ก็ยังไม่ได้เลือกนะ..." ผมตอบไปแบบนั้น

เพราะผมไม่ได้บอกชอบพัด ยังไม่ได้ตอบพัดเป็นทางการ แม้ว่าในใจมันก็เริ่มพอใจบ้างแล้วก็เถอะ...

   "อย่าลืมนะครับว่า มีคนชอบเราอยู่..."
   "ใครหละครับ บอกหน่อยได้มั้ย.."
   "ทำไมจะไม่ได้ ก็นี่ไงคับ"..แล้วเค้าก็ชี้ตัวเอง

ผมไม่ตกใจมากอย่างคราวของพัดแล้วครับ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี...

   "ถ้าบอยไม่ชอบพี่ชัด พี่ชัดจะโกรธมั้ย..."
   "ไม่โกรธครับ..."
   "แล้วจะเสียใจมั้ย..."
   "...เสียใจครับ..."

   "..งั้นบอยขอโทษนะครับ บอยไม่ได้ชอบพี่ชัด..."
   "พี่รู้นานแล้วครับ...พี่รู้ด้วยว่าตอนนี้บอยกำลังชอบพัดอยู่..."

ผมหันไปมองหน้าพี่ชัด จากที่กำลังทำโจทย์บนสมุด...

   "ถ้าเลิกชอบมัน ก็มาบอกพี่นะคับ"

ผมก็ไม่รู้จะให้ผมตอบว่าอะไร ผมแค่ยิ้มให้พี่ชัดก็ละมือจาก touchpad แล้วมานั่งข้างๆผม ที่กำลังนอนอ่านหนังสือที่เตียง...แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆผม...

   "ขอรางวัลให้พี่ซักทีนะครับ...แค่ครั้งเดียวก็ยังดี"

ผมก็ไม่ว่าไร แค่ก้มหน้าไปจูบพี่ชัด อย่างที่เค้าอยากได้....จบเค้าพอใจ ผมก็หันไปทำโจทย์ของผมต่อ แล้วพี่เค้าก็ขอตัวไปห้องน้ำ...ผมก็ทำโจทย์ต่อไป อ่านหนังสือต่อไปจนไม่รู้หลับไปตอนไหน...รู้แต่ตื่นมาอีกที ก็มีผ้าห่มห่มให้ผม แล้วพี่เค้าก็นอนอยู่ข้างๆ...

   "ขอบคุณนะครับ...พี่ชัด..."ผมกระซิบที่ข้างหูเค้าเบาๆ...ยังไม่อยากให้เค้าตื่น

จูบเค้าอีกที แล้วจึงลุกไปจัดการธุรตอนเช้าของผม พอเข้ามาในห้องก็ถูกแซวเลยว่า

   "นั่นแน่...แอบทำอะไรพี่... พี่รู้นะ...ติดใจเมื่อคืนหละสิ..."

แล้วเราก็หัวเราะกันในห้องแคบๆ...ที่ปรกติจะมีพัดอยู่ แค่ในวันนี้กลับไม่ใช่พัด...ผมไม่รู้ว่าถ้าเป็นพัดความรู้สึกจะเปลี่ยนไปจากที่เป็นพี่ชัดหรือไม่...
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-03-2007 01:33:51
บอยจะเลือกใครนะ :confuse: พัดก็ดีนะ

เชียร์พัดละกัน :yeb:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ฿oomb@b@ ที่ 15-03-2007 04:24:07
หนุกดี   : 222222:   เลือกใครเอ่ย?  :เฮ้อ:
แต่ขอเชียร์ ทั้งสองล่ะกัน (พัด กะพี่ชัด)
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-03-2007 08:58:09
 ชีวิตจริงต้องเลือกให้ได้นะ คิกคิก
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-03-2007 09:42:36
ว่าแล้วต้องเป็นพี่ชัด ว่าแต่บอยจะเลือกใครหล่ะคับบบ  :interest:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 15-03-2007 10:01:01
เลือกใครดีเนี่ย

หรือว่า อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน

 :haun5:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-03-2007 10:19:44


นั้นสิ  จะเลือกใครดีนะ

แต่เจ้หนับหนุนพี่ชัดนะ  เพราะเจ้ชอบคนแก่กว่าเคอะ

อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เขิน  :-[
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-03-2007 19:52:57
เหอ เหอ รอดูไปก่อนดีกว่า เผื่อมีตัวเลือกที่สาม  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 16-03-2007 04:33:47
เชียร์ใครดีหว่า  :really2:

เชียร์พัดแล้วกันนะ เป็นเมทกันด้วยน่ารักดี :-[
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 16-03-2007 17:48:06

..............ชิวิตคนเสน่ห์แรงก็เงี้ย..... :เฮ้อ: :เฮ้อ:

........................มีแต่คนมารุมชอบ...แล้วก็ต้องลำบากใจที่ต้องเลือก.... :laugh5: :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:13:23
ใกล้ๆนี้ผมต้องสอบแล้ว ก็คงจะอีก 3 วันเท่านั้นเอง ก็เกิดเรื่องขึ้นกับพวกผม เรื่องที่ทำให้พวกเราเห็นถึงความสำคัญของเพื่อน และกำลังใจที่ให้แก่กัน เรื่องมันเริ่มต้นจาก พล..

ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 วันที่แล้ว พวกผมไปทานอาหารกันแถวห้างที่อยู่ใกล้กับ ม.มากที่สุดมา ในวันนั้นทำให้กระเป๋าสตางค์ของพวกผม เหล่านักศึกษาแบมือขอตังค์พ่อแม่ใช้นั้นแหกไปตามๆกัน แล้วในเวลาใกล้ๆกันนั้น ยังมีการเก็บเงินของคณะเพื่อจัดงาน บายเนียร์ อีก เงินพวกผมเริ่มจะขาดมือกันเป็นว่าเล่นเลย...

จนกระทั่งวันพฤหัส พล ไม่อยู่ให้ผมเห็นที่คณะ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกอยู่เหมือนกัน ว่าเค้าไปไหน

   "แอน พลไปไหนหนะ" ผมทามทันทีที่เจอหน้ากัน
   "ไม่รู้สิบอย แอนไม่เห็นเลยตั้งแต่เช้า ธรรมดาตอนเช้าจะมาทานข้าวกับพวกเราก็ไม่มานะ ใช่มั้ยบี"
   "นั่นสิไม่เห็นเลยแหละ ไม่รู้ไปไหน" เธอตอบพลางวางสัมพาระลงข้างๆที่นั่ง
   "เรฟเห็นมั้ย"

ผมยังพยายามหันไปคุยต่อ เพื่อหาสาเหตที่ พลไม่เข้าเรียนให้ได้

   "แทนที่จะ ตั้งใจเรียน เอาแต่คุย.."

ผมโดนเรฟดุประจำ บางทีเค้าอาจจะรำคาญพวกผมมากก็ได้นะ พัดเองก็นั่งหัวเราะที่ผมโดนดุ ก็เลยต้องก้มหน้าก้มตาเรียน ทั้งที่เรื่องมันคาใจ หลังจากเรียนจบแล้ว ก็รีบวิ่งไปยังหอพักทันที และแน่นอนว่าตรงไปยังห้องของพล

จากการเขย่งดูที่หน้าห้อง ผมไม่เห็นมีใครอยู่เลย ตัดสินใจเคาะเรียก พล ๆๆ ก็ไม่มีเสียงตอบ ไปไหนหละเนี่ย โทรเข้ามือถือก็ปิดเครื่อง อุตส่าห์วิ่งมาหา แต่กลับต้องเดินคอตกกลับไป

   "เค้ามีธุรส่วนตัวมั้ง บางทีคนเราก็มีเรื่องของตัวเอง" พัดพูดเพื่อให้ผมสบายใจ
   "ไม่ต้องบอกก็รู้นะ..."

ผมบ่นพึมพัมกับพัด แล้วผมก็แยกทางกับเพื่อนๆไปเรียน เพราะวิชานี้จะต้องแยกเรียนกัน และผมเองก็เรียนห้องเดียวกับ พล แต่ดันไม่เห็นพลมาเลย ไม่รู้ว่าเค้าไปไหนจนกระทั่งหมดคาบเรียน ผมก็เดินออกมาเจอกับพลโดนบังเอินที่หน้าห้อง

   "พล ไปไหนมา หายไปหลายวันเลย"
   "อืม...โทษที มีงานต้องทำนิดหน่อยนะ" น้ำเสียงของพลนั้นไม่สู้ดีนัก เหมือนเหนื่อยๆชอบกล
   "งานอะไรหละ พล มันจะสอบแล้วนิ" เค้าก็ก้มหน้า ไม่มองตาผมเลย

พลไม่ตอบอะไร แต่กลับฝากของให้ผมไว้ บอกว่าให้เอาให้เพื่อนๆ แล้วเค้าก็เดินออกไป เป็นถุงกระดาษสวยๆใบกลางๆ (ไม่ใช่ถุงแม่ค้ากล้วยแขกนะ) ปิดผนึกอย่างดี แล้วก็เดินตรงไปยังห้องเรียนคาบต่อไป ซึ่งเป็นห้องเรียนรวม ตามปรกติแล้ว พัดจะเลิกเรียนก่อนคนอื่นก็จะไปจองที่ให้แล้ว วันนี้ก็คงจะเช่นกัน

ผมทิ้งสัมภาระลงข้างๆโต๊ะ แล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งในเก้าอี้ แลคเชอร์ และพยายามแกะของในถุงออกมาดูโดยไม่ให้ถุงขาด (เสียดายอะ มันสวย)

   "อะไรนะ บอย" พัดยื่นหน้ามาใกล้ๆ ทำท่าทางสนใจในถุงกระดาษในมือผม
   "ไม่รู้สิพัด พล เค้าฝากมาให้ตะกี้อะ"
   "เจอพลแล้วหรอ เป็นไงอะ หายไปไหนมา" น้ำเสียงตื่นเต้นของพัดออกมาทันทีที่ได้ยิน
   "เค้าบอกว่า มีงานต้องทำแล้วก็ให้ถุงนี้มา บอกว่าให้เอามาแบ่งเพื่อนๆ....
   .... แกะไม่ออก อะไรมันจะติดเทปอะไรมากมายขนาดนี้เนี่ย"
   "เอานี่สิ" พัดก็ยื่น คัตเตอร์ให้ผม

เพียงแค่นี้ก็จบเรื่อง หลังจากดูข้างในก็เห็นเป็น ที่ขั้นหนังสือ เป็นตัวตุ๊กตาไม้ไผ่ มีข้อความเขียนไว้ว่า "ขอให้สอบได้ A เยอะๆนะ" เหมือนๆกันเลย น่ารักจัง

   "ใครให้อะไรมาหนะ บอย" เสียงแอนเรียกมาแต่ไกล

พวกสาวๆมากันแล้ว ผมก็เอาให้พวกเค้าดูแล้วก็อธิบายให้ฟังถึงที่มา

   "แล้วตอนนี้พลไปไหนหละ" บียิงคำถามนี้ทันที
   "เค้า ออกไปแล้วอะ บอกมีธุรด่วน" ผมตอบบีไป ดูเธอจะทำหน้าตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่...

ในวันต่อมา เป็นวันศุกร์ วันนี้หนักกว่าเมื่อวานอีก พล ก็หายไป บีเองก็หายไป... หายไปไหนกันหว่า พัดก็ให้ความเห็นว่า เค้าคงจะไปอ่านหนังสือเองมั้ง นี่ก็ใกล้จะสอบแล้ว ก็คงอยากจะทบทวนอะไรทำนองนี้ ทุกอย่างในวันนี้ดูเงียบๆไปผิดปรกติ ผมไม่มีคนปากหมามาแซว มันให้ความรู้สึกไม่ดีเลย

ในตอนเย็น บีโทรศัพท์เข้ามือถือผม เรียกให้ไปหาหน่อย บอยก็ออกไปกะจะถามด้วยว่า ทำไมถึงไม่มาเรียนกันในวันนี้ แต่พอเจอหน้าปั๊บ สีหน้ายุ่งยากของบี ทำให้ผมเกิดความรู้สึกใจไม่ดีเอาเลย เธอก็เริ่มเล่าอะไรบางอย่างให้ผมฟัง... และผมก็บอกเรื่องนี้กับพัด พัดเองก็บอกว่าเรื่องไม่ใช่ใหญ่โตอะไรมากมายนะ แต่ทำไมพลเองจะต้องพยายามขนาดนั้นด้วย และที่สำคัญทำไมไม่บอกกับพวกผมซักคำ.... ผมกับพัดจึงพากันออกไปข้างหน้าวิทยาเขตเพื่อทำอะไรบางอย่าง...

ขณะที่พวกผมนั่งอ่านหนังสือกันในตอนดึก ธรรมดา ผมไม่นอนดึกขนาดนี้หรอก แค่คืนนี้ไม่ได้ จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินผ่านหน้าห้อง ก็รู้แล้วว่าคือพล เพราะไม่มีใครอีกแล้วหละครับที่จะกลับเข้ามาตอน ตี3 แบบนี้ พัดลากผมเดินตรงไปหาพลที่ห้อง แต่ในห้องผมกลับเห็นว่า พล กับ เรฟกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็เลยหยุดดูซักหน่อย

   "แก ทำไมไม่บอกที่บ้านวะ มานั่งทำงานแบบนี้อยู่ได้ เมื่อไหร่จะพอ"

เสียงดังของเรฟดังออกมา จนพวกผมตกใจ เลยรีบเข้าไปดูสถานะการ (ลืมบอกไปครับ ว่ารูมเมท ของพล ย้ายออกไปอยู่หอเอกชน เรฟเลยมาสิงอยู่ห้องพลด้วย)

   "พล บอยเองนะ เปิดหน่อยดิ"

ประตูเปิดออก พวกผมทั้ง 2 คนก็ก้าวเท้าเข้าไปในห้องของพล ดูแล้วรกกว่าห้องผมอีก

   "เออ พล..."

ผมกำลังจะพูด แต่พัดกลับปิดปากไว้ แล้วก็พูดเอง ผมดูแล้ว ไม่เคยเห็นว่าพัดเองจะโกรธใครขนาดนี้เลยตั้งแต่คบกันมา ผมกับเรฟ ถึงกับเป็นอันงง ที่คนอย่างพัด คนที่ขี้เล่น แกล้งชาวบ้านไปทั่ว จะโกรธได้รุนแรงขนาดนี้ มีคำพูดคำพูดนึงออกมาจากปากของพัด มันแรงมากจนผมเองก็ตกใจ น้ำตามันไหลออกมาอาบแก้มของพล พัดหยุดพูดซักหน่อย ดูจากสีหน้าแล้วคงจะอารมณ์เย็นขึ้นแล้ว

เค้าเดินไปหาพลที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง พัดจับไหล่ของพลแล้วก็พูดด้วยคำพูดช้าๆ แต่หนักแน่น ทุกคำมีความหมายมากมาย และสุดท้ายเค้าก็ส่งซองสีน้ำตาลที่พวกผมไปเอามาเมื่อตอนเย็นให้กับพล ดูท่าเค้าจะปฏิเสธเล็กน้อยในการรับ แต่สุดท้ายพัดก็ทำให้พลรับของจนได้

   "ไว้ค่อยคืน หลังจากเจอกันตอนเปิดเรียนก็ได้"

เป็นคำพูดสุดท้ายที่พัดพูด ก่อนจะพาผมออกมาจากห้องของพล
หัวข้อ: ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:14:09

   "เสร็จแล้วโว้ย......." บอยตะโกนสุดเสียงทันทีที่ก้าวเท้าออกนอกห้องสอบ
   "นักศึกษาครับ ออกไปนอกตึกเลยครับ"

ผมก็ก้มหน้าก้มตา ขอโทษขอโพย แล้วก็เดินออกมาข้างนอกตึกเรียนที่วันนี้มันกลายเป็นตึกนรก สำหรับการสอบไปแล้ว ผมแค่ดีใจมากไปหน่อยที่สอบเสร็จแล้ว ก็แค่นั้นเอง ทำไมต้องดุผมด้วยเนอะ....^-^!

   หลังจากสอบเสร็จผมก็ออกมานั่งรอเพื่อนๆที่โรงอาหาร...นัดกันที่นี่ทุกวันสำหรับวันสอบ พัดเดินตามผมมาในเวลาไม่นานเท่าไหร่ ท่าทางคงทำได้แน่ๆ มีแต่ผมนี่แหละที่โง่นัก.. ซักพักเพื่อนๆก็มากันครบแล้ว พวกเราตกลงพากันไปกินอาหารที่พวกเรามองกันบ่อยๆ(ได้แต่มอง ไม่ได้กินมันแพงมาก)

   "นี่ๆ มีใครไม่กลับบ้านบ้างมั้ยหละ" แอนถามคำถามขึ้นมา ระหว่างกำลังดูเมนู
   "แอนนี่ก็ถามแปลกๆนะ จะมีใครไม่กลับบ้านหละปิดตั้ง เดือนกว่าๆ"

เรฟตัดบท แล้วก็หัวเราะ ส่วนคนอื่นๆกำลังก้มหน้าก้มตาสั่งอาหารกัน... ถึงจะแพงแต่วันนี้ก็จะกิน...เพราะเป็นมื้อสุดท้ายแล้วครับที่จะได้กินด้วยกันในเทอมนี้ ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่พูดตามภาษาพวกผมว่า ไฮโซ มาก [Hizo- ต้องออกเสียง โซ แบบตัว Z ด้วยนะจะได้อารมณ์มากเลยครับ].. มีนักร้อง ร้องเพลงตลอดเวลา...ชอบจังเลยครับ...และแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้แน่นอน

กินกันเสร็จ จ่ายตังค์ แล้วก็เดินกลับหอพักกัน เตรียมของกลับบ้าน ผมกับพัดก็ตรงเข้ากรุงเทพ ขณะที่คนอื่นๆก็ทยอนกันไปตามทางของตน ในใจของผมมันหายวาบ เมื่อกี้ ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก่อน พวกเรายังสนุกกันในร้านอาหารอยู่เลย แต่ตอนนี้เหลือแค่พัดคนเดียวที่อยู่ข้างๆ และเมื่อพัดถึงบ้านเค้า ก็จะเหลือแค่ผมคนเดียว ผมตัวคนเดียว นี่แหละคือสิ่งที่ผมกลัว

ในเวลา 3 ชั่วโมงต่อมา ผมก็ถึงบ้านผมซะที ขนกระเป๋าใบใหญ่เป็นบ้าเข้าบ้าน ของส่วนใหญ่ผมเอาไว้ที่หอนั้นแหละ มีแต่เสื้อผ้ากับหนังสือเท่านั้นที่เอากลับมาบ้าน (หวังว่าจะ)เอามาอ่าน พออยู่ในห้องของตัวเอง ห้องผมที่เงียบๆ มันก็รู้สึกเหงาๆ ถ้าปรกติแล้วผมจะต้องโม้กะพัดตลอดเลย แต่นี่ต้องนั่งอยู่คนเดียว ก็เลยเดินไปเอาเมโทรโนม มากดเล่น ให้มันดังติ๊กๆ แก้เครียดเปิดคอมพ์นั่งเล่นเน็ตไปเรื่อยๆ

ทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอดทั้งเทอมนี้ พัดเคยทำอะไรให้ผมบ้าง พี่ชัดทำอะไรให้ผมบ้าง เพื่อนๆ และคนอื่นๆ และมีบางอย่างที่ผมคิดว่าควรจะทำได้ซะทีก็คือ ทันทีที่ผมได้เจอหน้าพัด ผมจะบอกรักเค้าเสียที จะไม่เล่นตัวแล้ว เค้าเองคงรอคำตอบจากผมมานานแล้ว

พัดไม่กลัวว่าผมจะตอบเค้าไปว่าไม่รัก แต่ผมสิกลับกลัวถ้าตัวเองจะตอบว่า รัก หรือไม่รัก ถึงบอยจะเป็นคนที่ไม่เคยเสียใจเลยถ้าจะมีใครซักกี่คนผ่านมาแล้วมีเซ็กส์กัน เพราะบอยเองก็ชอบประเภท น้ำแตกแล้วแยกกัน แต่การล้อเล่นกับหัวใจมันไม่ใช่การล้อเล่นกับน้ำกาม ที่แค่ล้างออกกลิ่นคาวมันก็หมดไป กลัวว่าถ้าพัดกับบอย เข้ากันไม่ได้จริงๆ หรือมีเรื่องทะเลาะกัน จนในที่สุดแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็รักษาไว้ไม่ได้ คงจะเป็นเรื่องที่เสียใจไม่น้อย

มือถือที่ดังขึ้น ดังกว่า เมโทรโนมเยอะ บอยหันไปหยิบมาแล้วกดปุ่มรับ

   "บอยพูดครับ..."
   "บอยๆ เราเองนะ" เสียงคุ้นเคยดังมาจากหูโทรศัพท์
   "มีอะไรหรอ..."
   "ปิดเทอม มีอะไรทำมั้ย จะไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่า"
   "ไม่มีนะพัด ช่วงนี้ที่บ้านยุ่งๆ คงไม่ได้ไปไหนมั้ง"
   "อยากหางานทำมั้ย จะมาชวนไปทำงานหนะ" บอยไม่รอช้า โอกาสมาแล้ว จะไม่ปล่อยมันไปอีก...

วันจันทร์ผมกับพัดนัดเจอกันที่ สถานีรถไฟฟ้าตอนเที่ยง หลังจากที่เราทั้ง 2 คนสมัครทำงานได้แล้ว(สมัครงานวันศุกร์) แต่ผมกับพัดนั้นทำงานกันคนละที่ บอยทำที่ รร.สอนกราฟฟิค แต่พัดสอนที่ รร.สอนโปรแกรมมิ่ง แต่มันไม่ไกลกันหรอกครับ

   "เราน่าจะสอนเสร็จก่อนบอยนะ จะมารอแล้วกัน แล้วตอนเย็นไปหาอะไรกินกัน"

ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะยังหนักใจหน่อยๆที่จะบอกพัด แต่ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะบอก พอหันมาอีกทีพัดกลับเดินหายไปแล้ว ผมเลยต้องเดินเข้าไปในตึก เซ็นต์ชื่อ แล้วจึงไปเตรียมการสอนเล็กน้อย เมื่อเข้าห้องก็ทักทายผู้เรียน ทุกคนดูจะแปลกใจที่เห็นผมอายุน้อย บางคนที่มาเรียนอายุเท่ากับผม หรือมากกว่าด้วยซ้ำไป

แต่การสอนที่ผมเตรียมมาเป็นอย่างดี ทำให้พวกเค้าก็เริ่มยอมรับในตัวผมเองบ้าง วันแรกผมไม่ทำอะไรมากมายนัก ผู้เรียนเองก็ดูจะชอบใจไม่น้อยหน้าชื่นตาบานกัน จนกระทั่งหมดเวลาสอน บอยเดินลงมาเซ็นต์ชื่อ แล้วมีมือใครก็ไม่รู้มาดึงหนังสือที่ถืออยู่ออกไป

   "เดี่ยวถือให้... จะไปได้ยัง" เสียงคนที่ดึงหนังสือของผมออกไป

ผมยิ้มๆ พัดพาผมออกไปข้างนอกชวนกันไปหาร้านอาหารกิน พัดกำลังจะพาเข้าร้านอาหาร แต่ผมกลับดึงเค้าออกมาแล้วบอกว่าเดี่ยวพาไปเอง แล้วพาเค้าไปนอกเมืองหน่อยๆ เจอกับตลาดเล็กๆ แล้วหาอะไรกินกันนิดหน่อยจนอิ่มกันแล้ว ผมถึงพาเค้าเดินออกมาข้างนอก เพราะบรรยากาศแบบนี้ทำให้ใจผมสงบได้ดี เดินไปเรื่อยๆ แถบชานเมืองนี่สบายนะครับ มีทุ่งหญ้า ต้นไม้เยอะแยะ

ถ้าผมไม่ได้ทำดูเหมือนว่าจะผิดสัญญากับตัวเอง เพราะงั้นเลยจะไม่อยู่เฉยอีกแล้ว ผมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อคลายความประหม่า ตอนนี้แหละที่ผมตัดสินใจแล้ว ผมเดินเข้าไปใกล้ๆต้นไม้ใหญ่แล้วเรียกพัดมาดู เค้าก็ดูจะงงๆกับผม งงกับท่าทางของผมวันนี้

   "พัดดูข้างบนต้นไม้นั่นดิ" บอยชี้ให้เค้าดู เค้าก็แหงนหน้าขึ้นไปมองตามนิ้วที่ชี้ ผมสบโอกาสสวมกอดเค้า พัดเองก็ตกใจเล็กน้อย

   "ทำอะไรเนี่ย เป็นอะไรบอย" ผมกอดพัดแน่น ใจมันเต้นระทึกไม่เป็นจังหวะเลย เหมือนกับตอนขึ้นเวทีร้องเพลงครั้งแรกก็ไม่ปาน

   "พัด...ขอกอดหน่อยนะ..." พัดไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับโอบผมแล้วค่อยๆดึงผมนั่งลงที่โคนต้นไม้ เค้าคลายกอดลงเล็กน้อย ผมเองก็เหมือนกัน

   "วันนี้เป็นอะไรหรอ"
   "วันนี้เราจะตอบคำถามนาย....ไม่ได้บอกซักทีคงไม่ดี..."
   "อืม...ก็บอกมาสิ..."
   "...XXXXXX...." มันเป็นคำพูดที่ผมพิมพ์ก็ไม่ลง เขียนก็ไม่ออก แล้วยังไม่รู้เลยว่าพูดไปได้ยังไง...เขิลลลล

วันนั้นตอนเย็นดวงอาทิตย์กำลังตกดิน ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ ผมได้บอกสิ่งที่คาใจมานานกับเค้าคนนั้นไปแล้ว
หัวข้อ: ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:14:52
ในช่วงที่ผมทำงานอยู่ตอนปิดเทอม มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นระหว่างผมกับพัด ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ผมกับเค้า เข้าใจกันมากขึ้น เหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน

หลังจากเราทั้งสองคนเริ่มทำงานกันไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ผมก็พบกับปัญหาหนึ่งที่ตามมา คือบ้านผมจะอยู่ไกลที่ทำงานกว่าเมื่อเทียบกับพัด และพัดก็จะต้องมารับผมแล้วค่อยย้อนกลับไปทำงาน หรือถ้าจะให้ผมเอารถไปเอง พัดเองก็ดูท่าจะไม่ยอมเหมือนกันครับ แต่จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมาย ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนัก ส่วนพัดเองสภาพแบบนี้ก็ดูเค้าจะพอใจเหมือนกัน

   ในช่วงวันอังคาร พัดก็โทรมาหาผมตั้งแต่เช้า
   "บอย... อาทิตย์หน้า ที่บ้านเราเค้าจะไปเที่ยวเมืองนอกกันที่บ้านไม่มีใครอยู่อะ มาอยู่กับเราหน่อยดิ"
   "ไปกันกี่อาทิตย์หละ"
   "คงจะซักสองอาทิตย์ ... มาอยู่ด้วยกันหน่อยก็ดีนะ"

บอยเองก็ไม่ได้ตอบอะไรไป แต่ในใจคิดทันทีเลยว่า ไปแน่ๆ พร้อมกับให้นัดให้พัดมารับผมตอนบ่ายๆของวันศุกร์ ผมจัดเตรียมข้าวของเล็กน้อยที่จะต้องนำไปใช้ ก็เช่นของใช้ส่วนตัว หนังสือบางเล่มที่ยังอ่านคาอยู่ เสื้อผ้าสำหรับอยู่บ้าน ชุดนอน และที่สำคัญ เสื้อใส่ไปทำงาน รวมไปๆมาๆก็ได้กระเป๋าใบใหญ่ๆ 2 ใบพอดิบพอดี

เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่า ใกล้เวลานัดเข้าไปทุกทีละ จึงไปหาอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสียหน่อย แล้วบอกกับที่บ้านว่าจะไปพักบ้านพัดซัก 2 อาทิตย์ ผมยังโดนแซวเลยว่า "อยู่ด้วยกันมาทั้งเทอมแล้วไม่เบื่อกันบ้างหรอ" ทั้งผมและพัดก็ทำได้แต่หัวเราะ

เสียงรถของพัดเข้ามาจอดแล้ว  เค้าเข้ามาทักทายคนในบ้านของผมตามปรกติ จะว่าไปพัดเองมาบ้านผมบ่อยกว่าที่ผมจะไปบ้านของเค้าอีก ผมจึงขนเอากระเป๋าไปใส่ท้ายรถของพัด บอยแปลกใจที่เค้าติดเครื่องไว้  ผมมองผ่านกระจกที่ติดฟิล์มกรองแสง เห็นเด็กคนนึง นอนอยู่ข้างหลังรถอายุน่าจะราวๆ 2-3 ขวบได้ จะบอกว่าน้องก็ไม่ใช่ เพราะผมจำได้ว่าพัดเป็นลูกคนเดียว

   "พัด ใครกันหรอที่นอนอยู่หลังรถหนะ" ผมหันไปถาม เมื่อพัดเดินออกมาจากตัวบ้าน
   "อ้อ หลานเรา" พัดตอบเรียบๆ พลางเปิดประตูขึ้นรถ พลางกวักมือให้ผมขึ้นตามไป
   "แล้ว พ่อแม่น้องเค้าหละ"
   "ก็กำลังติดงานยุ่งๆเลยเอามาฝากให้เลี้ยงเมื่อเช้านี้เอง ไม่มีใครอยู่บ้านเลยด้วยเนี่ย"

ผมชักเกิดอาการ... เพราะปรกติแล้ว บอยจะไม่ชอบเด็กซักเท่าไหร่ มันทั้งซนทั้งดื้อ และดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

   "พัด แล้วหลานนายชื่ออะไรหละ" ผมถามตอนที่เค้าอุ้มหลานเค้าลงจากรถ แล้วก็พาเข้าไปนอนต่อในบ้าน
   "แอมแปร์ ชื่อน่ารักมั้ย"
   "ทำไมชื่อแบบนี้หละ พ่อเป็นวิศวะช่างไฟหรอ"
   "อืม ... ถูกต้องนะคร้าบบบ"
   "แล้วนี่ถ้าเป็นลูกนายไม่ตั้งว่า ปาสคาล หรือ วิชวล หรอกหรอ"

แล้วพัดก็หัวเราะ อุ้มเด็กน้อยเข้าบ้านไปด้วย ปล่อยทิ้งผมให้แบกกระเป๋าเข้าไปในบ้านคนเดียว วันนี้อากาศร้อนมากทีเดียว แค่ขนกระเป๋า 2 ใบก็เหงื่อแตกเต็มหลังแล้ว กระเป๋าทั้งหมดถูกขนไปไว้ที่ห้องของพัด ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นห้องของบอยครึ่งนึงแล้ว

หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ก็มานอนพักบนโซฟาหน่อย แต่ไม่นานนักสิ่งที่ผมกลัวก็มาถึง เสียงเด็กร้องไห้ สงสัยจะตื่นแล้ว บอยหละกลัวเด็กร้องไห้ที่สุดเลย

   "บอยๆ ดูน้องให้ทีนะ เราจะทำอาหารหน่อย" แต่เจ้าตัวอยู่ไหนผมยังไม่เห็นเลย

ผมยันตัวเองขึ้นมา ไปดูต้นเสียงที่ร้องดังทั่วบ้าน

   "แอมแปร์ เป็นอะไรหรอครับ" ผมถามแล้วก็เดินเข้าไปหา แทนที่จะเงียบ หรือจะตอบผมกลับร้องหนักกว่าเก่า แล้วจะทำยังไงดีถึงจะเงียบ ผมทำไม่ได้แล้วหละ ก็เลยเดินไปบอกพัด เค้าก็เลยให้ผมไปทอดปลาแทน ส่วนตัวเองก็ไปดูหลาน ทอดปลายังง่ายกว่าเลย เมื่อเทียบกับดูเด็ก

   "ดูอาบอยทอดปลาสิคับ ไหม้หมดแล้ว" พัดอุ้มหลานเค้าเข้ามาในครัว
   "เงียบแล้วหรอ ทำไงอะ"
   "ก็อุ้มขึ้นมาดิ แล้วก็ตบก้นเบาๆ ก็เงียบแล้วเนี่ย"

   "เรียกอาบอย สิคับ แอมแปร์" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบอะไรกลับมา ทีอย่างนี้เงียบสนิทเลย
   "หลานนายอายุเท่าไหร่ละ"
   "2 ขวบครึ่งเนี่ย ปรกติมันพูดเก่งนะ มันเพิ่งตื่นนอนเลยโยเย"

ผมก็หันไปทอดไส้กรอกต่อ แล้วพอพองๆ แล้วก็ช้อนขึ้นมาพักใส่จานไว้ สองคนนั้นก็ยังโอ๋กันอยู่ข้างหลังผม

   "พัด" เสียงเรียกสั้นๆ แต่ชัดมาก
   "เรียกอาพัดก่อน แล้วจะเอาอะไรจะเอาให้"
   "อาพัด"
   "ดีมาก ไหนๆ จะเอาอะไรชี้ๆ ... ไส้กรอก"

บอยก็เอื้อมมือไปหยิบซ่อมจากกล่องใส่ช้อนข้างๆ แล้วก็จิ้มไส้กรอกส่งให้กับแอมแปร์ เค้าก็รับนะครับ

   "ขอบคุณยัง...ขอบคุณก่อน... แอมแปร์" เสียงพัดดุ ทำไมต้องดุเด็กด้วยหว่า
   "ขอบคุณ"
   "ครับด้วย"
   "ขอบคุณคับ"

แต่ก็ถือไว้อย่างนั้นแหละ ไม่กินซักทีผมก็มองดูอยู่

   "ทำไมไม่กินหรอ หรือไม่กินของคนแปลกหน้า" ผมถามเบาๆ
   "มันร้อนนิเด็กที่ไหนจะกิน .... ส่งมานี่แอมแปร์ อาจะเป่าให้"

ไส้กรอกเสียบซ่อมก็ถูกส่งไปอยู่ที่หน้าพัด แล้วก็เป่า บอยเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เรื่องเลยในการดูแลเด็ก

   "เอาไปกินได้แล้ว เย็นแล้ว... บอยๆ จิ้มอันใหม่มาด้วย" สั่งผมนะ แต่ตาไม่ได้มองผมเลย มันเกิดความรู้สึกน้อยใจนะครับ
   "อะนี่" ผมก็ยื่นให้อีกอัน แล้วพัดก็รับไป เป่าๆสองสามทีแล้วก็กินเอง
   "อ้าว แย่งเด็กกิน" ผมรีบโวยวาย
   "เราจะกินเองอะ ทำไมหละ" แล้วก็หัวเราะ เดินออกไปจากครัว

ซักพัก พัดก็เข้ามาในครัวอีก

   "ไปไหนแล้วหละ หลานนายหนะ"
   "กินนมนอนหลับไปแล้ว เด็กนี่ดีออก กินกับนอน" พัดบ่นพึมพัม

อาหารมื้อนี้เป็นมื้อแรกที่ผมได้กินกับพัดแล้วรู้สึกแปลกๆ ทั้งที่ปรกติแล้วเราทั้ง 2 คนกินข้าวด้วยกันไม่รู้กี่มื้อแล้ว แต่วันนี้มันให้ความรู้สึกที่ผิดแปลกออกไป
หัวข้อ: ตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:15:44
"พัด รับโทรศัพท์หน่อย" ผมสั่งพัดแบบลืมตัวไป ว่าตอนนี้เราทั้งคู่ไม่ได้อยู่หอพักแล้ว ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าพัดไปอยู่ตรงไหน เสียงมือถือของผมยังดังอยู่ก็เลยต้องลุกไปเองไปรับโทรศัพท์ที่โทรมาผิดเบอร์ เมื่อคืนนี้ผมกับพัดแทบจะไม่ได้นอน เพราะคอยดูหลานเค้า ร้องแทบจะทั้งคืน

บอยเดินลงมาจากชั้นบน ออกไปหน้าบ้านก็เห็นทั้งคู่เลยกำลังวิ่งเล่นไล่กันอยู่หน้าบ้าน ถ้าบ้านพัดมีสนามหญ้าคงจะไปนอนกลิ้งกันแล้วหละ เสียงดังเจี้ยวจ้าวน่าดู เด็กนี่แหละเครื่องสร้างเสียงดังที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก วันนี้ผมกับพัดก็มีคิวสอน เมื่อเหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่า 10 โมงแล้ว คงจะต้องเตรียมตัวแล้วหละ ผมก็ร้องเรียกพัด

เราตกลงกันไว้ว่า จะให้แอมแปร์ไปกับพัด เพราะถ้าให้บอยเลี้ยงสงสัยจะไม่ได้สอน ก่อนจะออกรถพัดก็เปิดประตูแล้วก็ไปกดอะไรบางอย่างข้างๆประตู

   "ทำอะไรหรอ"
   "สวิตล๊อกประตูไม่ให้เปิดจากข้างใน ไม่งั้นเดี่ยวแอมแปร์มันเปิดออกมา"

ผมถึงได้รู้ว่าเด็กคนนี้มันซนจริงๆ พอขึ้นรถไม่ทันไร ก็ปีนจากที่นั่งข้างหน้ากับบอย ไปข้างหลัง ตัวลื่นอย่างกับปลาไหล แถมยังอ่อนตัวแบบไม่มีกระดูก จับไม่อยู่เลย พัดก็กดล๊อกกระจกไฟฟ้าอีกที เป็นการการันตีความดื้อของหลานเค้าได้เป็นอย่างดี

การสอนของบอยวันนี้ปรกติดีทุกอย่าง และเมื่อสอนเสร็จก็ต้องลงมาเซ็นต์ชื่อด้วยตามปรกติ และพัดก็น่าจะมาถึงแล้ว ผมเองเดาไม่ผิดจริงๆเพราะมีเสียงดังลั่นออฟฟิศเลย

   "ทางนี้ๆ... มาทางนี้"
   "มาเอานี่เร็ว ไล่เร็วๆๆ"

ตามด้วยเสียงกรีดของแอมแปร์ ที่วิ่งเล่นทั้งเด็กและเจ้าหน้าที่ จนมันเหนื่อยนะแหละถึงได้เดินมาเกาะขาพัด

   "เหนื่อยแล้วหรอ.." เค้าก็อุ้มเด็กซนขึ้นมา
   "น่ารักจริงๆนะคะคุณพัด" พี่ไก่ชม
   "เนอะๆ น่ารักเหมือนอาเลย" คำชมนี้ทำพัดหน้าบานไปทั้งวัน
   "น่ากอด..."
   "ว้าย เด็กอะไรเนี่ย....น่ารักจัง พูดได้รึยังเนี่ย"
   "..เรียกพี่ไก่ซิค่ะ..."
   "...เรียกน้าอ้อมก่อนนะ..."

กว่าผมจะพาทั้งคู่ออกมาได้ก็เหนื่อยไม่น้อยเลย ชุดเอี๊ยมสีน้ำเงินของแอมแปร์ มีกระเป๋าข้างหน้าใบใหญ่ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วย โอรีโอ ลูกอม ป๊อกกี้ และขนมอีกเพียบ ในมือก็ยังถือขนมอีก เค้าให้มากันเยอะเลย วันนี้ผมกับพัดจะต้องไปซื้อของใช้ในครัวนิดหน่อย และซื้อนมให้กับเด็กซนด้วย แต่เรื่องมากจริงๆกินยากเพราะจะกินแต่นมพลาสเจอร์ไรซ์ กินนมผงแล้วท้องเสีย

พัดอุ้มแอมแปร์ใส่ในรถเข็น แล้วก็เข็นไปในซูปเปอร์มาร์เก็ต ผมจะสังเกตเห็นเลยว่า เวลาที่พัดจะจอดรถเข็นแล้วเดินไปหยิบของพัดจะต้องจอดไว้กลางช่องทางเดิน เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้แอมแปร์รื้อของกระจายแน่ๆ

   "พัด เราจะไปดูขนมหน่อยนะ"ผมพูดพลางจับรถเข็น บอกพลางๆว่าจะเอาแอมแปร์ไปด้วย
   "ดูหลานเราด้วยละกัน ถ้าร้องต้องพากลับมาก่อนนะ" ผมก็พยักหน้าแล้วก็เข็นรถไป

เจ้าเด็กซนนี่ดูท่าจะชอบนั่งรถเข็นน่าดูเลยร้องเสียงแจ้วดังเชียว ดูจะหัดร้องเพลงได้ดี

   "แอมแปร์จะเอาขนมอะไรคับ" ผมหันไปถามเด็กในรถ
   "เอาช๊อกโกแลตยาวๆ" พลางขยับมือให้ดูว่ามันเป็นแบบยาวๆ แต่ผมก็ไม่รูอยู่ดีว่าอะไร

บอยหันไปหยิบ ไอ้ช๊อกโกแลตที่เป็นสาวเหลี่ยมยาวๆยี่ห้ออะไรผมก็ไม่แน่ใจครับส่งให้ แต่เจ้าหนูน้อยกลับส่ายหน้า

   "จะเอาช๊อกโกแลตยาวๆ" พูดซ้ำพลางทำมือให้ดูอีก
   "งั้นอาบอยจะอุ้มลง แล้วไปหยิบมาเองนะครับ"

ผมก็อุ้มเจ้าเด็กดื้อลงแล้วปล่อยให้ไปเอาขนม ส่วนผมก็หันไปหยิบคุ๊กกี้บนชั้นต่อ จนผมเห็นว่าไปนานแล้วทำไมถึงไม่มาเสียที ก็เลยเดินออกหาเด็กตัวนิดเดียวไม่น่าจะไปไหนได้ไกลเลย ผมเองพยายามปลอบใจตัวเองว่ายังไงก็หาเจอ แต่ไม่ว่าจะเดินหายังไงแถวๆนั้นก็ไม่เจอเลย กลับมาดูที่ล๊อกเดิมก็ไม่เจอ ผมตัดสินใจโทรหาพัดทันที

   "ใจเย็นๆนะ เดี่ยวก็เจอ อย่าใจร้อนไป" พัดปลอบผม แต่ผมกลับทำอย่างที่เค้าพูดไม่ได้แล้ว

ในใจผมเริ่มจะโทษตัวเองแล้ว ถ้าน้องเค้าหายไปจริงๆพัดจะทำยังไง พ่อแม่น้องเค้าอีก บอยเองก็เริ่มใจคอไม่ดี เดินไปดูที่ที่คิดว่าเด็กน่าจะไป ล๊อกหนังสือการ์ตูน ขนม ผลไม้ นม แต่ก็ไม่มีแววว่าจะเจอแอมแปร์เลย จะว่าไปก็หายไปนานจะ 10 นาทีได้แล้ว

   "พัดเราเดินหาหลายที่แล้วนะแต่ไม่เจอเลย" เสียงบอยเริ่มจะสั่นแล้ว
   "ทำใจเย็นไว้นะ ไปรอที่ล๊อกเดิมก่อนดีกว่า เผื่อแอมแปร์จะกลับมา"
   "อืม....เราจะรอไว้ละกัน"
   "นายไปดูที่ไหนมาแล้วหละ"
   "มีขนม ผลไม้ นม หนังสือนะ"
   "หรอ..งั้นแค่นี้นะ..."
   "เดี๋ยวพัด...."
   "มีอะไรหรอ"
   "...คือ ขอโทษนะ...บอยไม่ตั้งใจ..." แล้วผมก็ร้องไห้ออกมา

ปรกติแล้วบอยจะสวมแว่นตาสีชากันแสงไว้แต่ไม่รู้ว่าแว่นนี้จะปิดคราบน้ำตาของผมได้รึเปล่าเพราะไหลอาบทั้งหน้า

   "ไม่เป็นไรหรอก...อย่าร้องเลยนะ เดี่ยวเราไปดูเอง เงียบซะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อย"

ผมกดวางสายแล้วก็ไปรอที่ล๊อกเดิมที่ผมอุ้มแอมแปร์ลง เสียงประชาสัมพันธ์ห้างประกาศหาเด็กอายุ 2 ขวบ สวมเสื้อสีแดง เอี๊ยมยีนส์สีน้ำเงิน ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว คงจะเป็นพัดแน่ๆที่ไปประกาศ ผมไม่เข้าใจพัดซักเท่าไหร่ทำไมถึงได้ใจเย็นนัก คนหายทั้งคน

บอยยืนรอต่อไป ไม่มีทีท่าว่าเค้าจะมาเลย ตอนนั้นไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนแต่ในความรู้สึกของผมมันนานมาก มันเหมือนกันว่าเวลามันยืดออกไป ถ้าคุณอยู่ตรงนั้นคงจะเข้าใจในความคิดของผมนะครับว่าทำไมถึงกระวนกระวาย จนทนอยู่ไม่ไหวแล้ว ผมกดโทรศัพท์โทรออกหาพัด

   "พัด เจอแอมแปร์ยัง" บอยยิงคำถามทันทีที่พัดกดรับสาย แต่ไม่มีเสียงตอบเสียงเค้าเงียบไป
   "พัด เจอแอมแปร์มั้ย ... ฮัลโหล ได้ยินรึเปล่าพัด" ผมพูดเสียงดัง
   "อยู่นี่...อยู่นี่คับ" ผมได้ยินเสียงพัดแว่วๆว่า ต้องคับด้วย

ความรู้สึกมันดีใจยิ่งกว่าสอบผ่านไม่ตกซักวิชาอีก ดีใจจนหัวเราะออกมา

   "ไปเจอที่ไหนหละพัด" ทันทีที่เจอหน้าผมก็ยิงคำถามใส่แล้ว
   "ของเล่นไง นายนี่ไม่รู้ใจเด็กเลยนะ"แล้วพัดก็หัวเราะ ก่อนอุ้มเจ้าแอมแปร์ให้ผมอุ้มแล้วเข็นรถไปคิดเงิน

บอยถอดแว่นตาออกเช็ดน้ำตาบนหน้า เจ้าเด็กซนนี้มาทำตาแป๋วจ้องผมใหญ่เลย

   "เป็นไรหละ" คำถามสั้นๆที่ผมได้ยินแต่ทำให้ผมรักเค้ามากขึ้น
   "ต้องคับด้วยซิ" ผมเองเริ่มจะพูดแบบพัดแล้ว
   "คับ" ผมเห็นพัดหัวเราะเบาๆในคอ ก่อนจะเดินแบกถุง 3 ใบออกไปพร้อมกับทำหน้ายิ้มๆ

   หลังจากที่พัดอุ้มหลานของเค้าเข้าไปนอนแล้ว เค้าถึงกลับมานอนที่ห้องแววตาที่พัดมองผมตอนนั้นผมเองก็เข้าใจ มันคงจะถึงเวลาแล้วมั้ง ที่จริงแล้วมันควรจะเริ่มมานานแล้วด้วย เค้านั่งลงข้างๆ เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย พัดประกบปากบอย ผลักให้นอนลง สอดมือเข้าไปในเสื้อของบอย วนลิ้นในปากและเริ่มปลดกระดุม

เสียงร้องของแอมแปร์ดังขึ้นที่หน้าห้อง พวกผมทั้งสองคนเด้งออกจากกันเหมือนแม่เหล็กคนละขั่ว พัดเดินไปเปิดประตู หลานเค้ามายืนร้องไห้หน้าห้องคงจะเพราะว่าตื่นมาแล้วไม่เห็นใคร พัดก็เลยจะพาแอมแปร์ไปนอน

   "ไว้จะมาต่อ" ยิ้มๆแล้วเดินจูงหลานออกไป บอยก็เลย กร่อย แต่ช่างเถอะครับ วันนี้นอนก่อนก็ได้

ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมามีอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย เห็นพัดสาระวนกับการทำอาหาร เก็บเสื้อผ้า ทำความสะอาดบ้าน พัดนี่เป็นคนขยันมาก แต่สำหรับบอยคงจะขี้เกียจสุดๆ

   "หลานนายหละ" เสียงงัวเงีย แสดงอาการนอนไม่พอของผม
   "อยู่นี่.." เสียงดังชัดเจนเลย แต่ไม่ใช่เสียงของพัด

บอยเดินตามเสียงก็เห็นไอ้ตัวเล็กกำลังดูทีวี นั่งดูการ์ตูนอยู่ นานแล้วนะครับที่บอยไม่ได้ดูการ์ตูน ตั้งแต่ไปอยู่หอมาก็ไม่ค่อยจะได้ดูการ์ตูนเท่าไหร่เลย ผมเดินไปนั่งข้างแอมแปร์ เค้าเองก็มานั่งตักผมปีนไต่ไปมา จนผมอยากแกล้งเลยจับกอดไว้แน่น แต่เด็กคนนี้ลื่นอย่างกับปลาไหลเหมือนไม่มีกระดูกเลยไหลๆจนหลุด

   "บอย วันนี้แอมแปร์จะไปแล้วนะ" พัดบอกผม พลางวางจานอาหารลงบนโต๊ะ
   "ไปไหน..."
   "วันนี้พ่อเค้าจะมารับกลับ... เค้าจะพากันไปอยู่แคนาดาแล้ว..."
   "หา...เด็กอย่างนี้เนี่ยนะ"

ผมนึกเสียดาย ตัวเองเริ่มจะชอบแอมแปร์ซะแล้ว จะว่าไปเค้าน่ารักมากเลยนะครับ พัดเรียกพวกผมไปกินข้าว แต่บอยเองไม่มีอารมณ์จะกินเสียแล้ว ความรู้สึกในการจาก ลามันมาอีกแล้ว

สายๆหน่อย พ่อของเค้าก็มารับ พัดจับแอมแปร์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเองก็ไปเก็บของไว้ให้แล้วก็ลงมานั่งคุยกับพ่อของน้องเค้า คุณพ่อเค้าเล่าถึงความจำเป็นบางอย่างที่จะต้องพากันย้ายไปอยู่เมืองนอก จำได้ว่าตอนนั้นคุยกันหลายเรื่องทีเดียว จนพัดพาแอมแปร์ลงมาส่งให้กับพ่อเค้า

   "ไปแล้วนะ" เสียงเล็กบอกกับผมทั้งสองคน
   "ครับด้วยซิ" ผมและพัดดุพร้อมๆกัน จนทำให้เราทั้งคู่หัวเราะออกมา

เด็กน้อยเดินจากออกไปแล้ว น้ำตาผมจะไหลออกมาให้ได้

   "ไปแล้วหรอ" ผมบ่นพึมพัมคนเดียว

เด็กที่คอยพันแข้งพันขาผม ส่งเสียงรบกวนเวลานอน ทำให้ผมต้องวิ่งหาจนร้องไห้ และอื่นๆอีกมากมาย... เค้าเป็นคนสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งนึงในชีวิตของบอย...

พัดหันหน้ามามองผมโอบกอด ก่อนกระซิบเบาๆว่า "จะต่อจากเมื่อวานแล้วนะ"
หัวข้อ: ตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:16:29
หลังจากนั้นผมก็อยู่บ้านพัดอีก 1 อาทิตย์ แล้วทางบ้านก็โทรตามให้ไปงานที่บ้านใหญ่ ซึ่งผมก็ได้รู้จัก ปรเมศ ที่นั่น ผมไม่อยากอธิบายอะไรมากนัก อยากรู้กลับไปอ่านเอาเองก็ได้นะครับ....(ตอนขอเสียบซักวัน) ผมอยู่ที่บ้านใหญ่ อยู่กับเมศ จนถึงเวลาเปิดเทอม ซึ่งตอนที่อยู่ด้วยกัน ผมก็เล่าเรื่องพัดให้เค้าฟัง..ดูแล้วเค้าก็สนใจดีไม่น้อย

   ในวันเปิดเทอม ผมรีบจัดข้าวของลงในห้องให้เรียบร้อยก่อนเวลาเรียน ผมยังคงพักที่เดิม ห้องเดิมกับพัดที่ชั้น 5 ของตึก แต่เมศเค้าไปอยู่หอพักเอกชนหลังวิทยาเขต...ที่ที่พวกเราก็รู้ว่ามัน แพงมาก.... และจะว่าไปแล้ว พัดเองก็ไม่รู้เรื่องระหว่างผมกับเมศแม้แต่น้อย เพราะยังไม่มีโอกาสจะเล่าให้ฟัง

   เมื่อตอนเช้าวันนี้ ผมมากับเมศ ขับรถมาด้วยกัน ผมแวะไปส่งเมศที่หอก่อนที่ผมจะเอารถมาจอดแล้วก็เข้าหอผมบ้าง พอผมกำลังจะไปเข้าเรียนในวิชาแรกของวัน ผมได้ยินเสียงคนตะโกนลั่นดังจากข้างล่าง

   "ข้างบนมีใครอยู่มั้ยหนะ มาช่วยขอของหน่อยดิ" เสียงของพล ผมก็วิ่งลงไปช่วยขน ทันทีที่เจอหน้ากันก็ทักทายด้วยคำพูดตามประสา และโม้แตกเหมือนกับไม่ได้เจอกันมาซัก 10 ปี

   "เร็วนะโว้ยไอ้พล ข้างล่างอีกเพียบ" เสียงตะโกนมาจากด้านล่างเสียงทุ้มๆแบบนี้ คุ้นมากเลย

   "ใครนะพล" ผมกระซิบถาม
   "เรฟไง...เจอกันที่หน้า ม.พอดีเลย" พลตอบเบาๆขณะที่เข็นกล่องใบใหญ่เข้าไปในห้อง

ผมยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ ผมช่วยพล กับเรฟขนของอย่างสนุกสนาน

   "บอย...ให้เราช่วยมั้ย" ผมหันหน้าไปทางต้นเสียงและไม่คิดว่าเค้าจะมาเร็วขนาดนี้
   "เมศ ของนายจัดเสร็จแล้วหรอ..."
   "อืม...กระเป๋าใบเดียวเองเอาอะไรมากมาย" เค้าเดินมาช่วยผมยกของชิ้นโตของพลเข้าห้อง

   "คนนี้ใครนะบอย..." พลทักเมื่อเห็นเมศเดินเข้าไปในห้องของเค้า
   "อ้าว พลแกไม่รู้จักหรอ.."
   "ก็ ท่านชาย ของคณะเราไง ออกจะดัง" เรฟบอกแล้วก็โยนกล่องใบโตๆไว้หน้าห้องพลางทำสัญญาญมือให้พวกเราไปขนเข้ามาข้างใน
   "หรอ...บอยก็เพิ่งรู้นะ.." ผมบ่นเปรยๆ
   "..เราเองก็เพิ่งรู้.."  เมศก็หัวเราะ เค้าเป็นคนอารมณ์ดีนะครับ แม้ว่าบางทีจะทำตัวดูแล้วน่ารำคาญมาก

   "แล้วบอยไปรู้จักเค้าได้ยังไง" เรฟถามแต่มือยังคงเป็นระวิงกับการแกะเชือกฟางสีแดง

ที่ต้องเป็นสีแดงเพราะ เรฟ ชอบบอกว่า เชือกฟางสีแดง มันทนทานที่สุด ทนกว่าสีอื่นๆ แต่ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า

   "ก็เค้าเป็นญาติห่างๆกะเราไง" ผมส่งกรรไกรให้กับเรฟและตอบไปพร้อมๆกัน
   "อ้อ..." เสียงทั้ง 2 คนร้องขึ้นพร้อมๆกัน แล้วก็ช่วยกันเก็บของ

สัมพาระของทั้ง พลและเรฟนี้เยอะชะมัด.. พวกผมลืมไปเลยว่า จะต้องเข้าเรียนคาบแรกแล้ว ในตอนนั้นขนของกันสนุกกว่าเรียนอีกครับ พวกพล ก็เล่าเรื่องตอนอยู่ต่างจังหวัดซะมันส์เลย ยิ่งคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนอย่างเมศนี่ยิ่งชอบฟังใหญ่เลย..

   "นี่ๆข้างบนนะ มีใครอยู่บ้างช่วยเราขนของหน่อยเร็ว"

น้ำเสียงที่คุ้นเคย ผมมองจากระเบียงลงไปเจอกับเค้าคนนั้น คิดถึงจังเลยไม่เจอหน้ากันมาเกือบๆ 3 อาทิตย์

   "เดี๋ยวลงไปช่วยนะพัด รอแป๊บนะ" ผมตะโกนสุดเสียง โบกไม้โบกมือ เพื่อให้เค้ารู้ว่าผมรับรู้แล้ว

พวกเรากรูกันลงไป ของพัดเองก็ไม่เยอะเท่าไหร่และด้วยกำลังของพวกผม 5 คนแป๊บเดียวก็เรียบร้อย

   "นี่พวกนายโดดเรียนคาบแรกกันหมดเลยหรอ" พัดถามแล้วเปิดประตูขนเสื้อผ้าเข้าไปในห้อง
   "อ้าว...เลยเวลาแล้วหรอ งั้นโดดกันเลยดีกว่า" เป็นครั้งแรกที่คนเคร่งเรียนแบบ เรฟ จะชวนพวกผมโดด

เรฟหยิบมือถือ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กดหมุนโทรหาใครไม่ทราบ ผมหันกลับไปสนใจพัด เมื่อเห็นเค้ามองเมศด้วยความ งง

   "คนนี้ ปรเมศ รึเปล่า เราเคยเห็นในหนังสือรุ่น"
   "ครับ..." เมศตอบ แล้วก็อมยิ้มหน้าขาวมีเลือดฝาดแบบเมศนะ บอยว่าบอยน่ารักแล้วนะยังยอมแพ้เลย...

   "เค้าเป็นญาติของบอยนะพัด"
   "เค้าเรียนคณะเรานิ...เป็นญาตินายหรอ แล้วทำไมเทอมที่แล้ว..."
   "เราก็เพิ่งรู้ว่าเมศเป็นญาตินี่แหละ..." ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เรฟก็รีบเรียกพวกเรา

   "อ้าวเพื่อนๆ พวกสาวๆเค้าก็โดดเรียนกัน...พวกเราไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า.."

แล้วเรฟก็ลากพวกผมลงจากตึกไป และไปเจอกับสาวๆที่โรงอาหารทุกคนล้วนแต่ถามถึงเมศกันทั้งนั้น

   "บอยจะกินอะไรหละ เดี๋ยวไปดูให้" เป็นคำถามที่คุ้นหูดังขึ้นแบบทุกที
   "เอาไรดีหละ แล้วพัดจะกินอะไร" ผมตอบแบบนี้ทำให้พัดรู้ว่า อะไรก็กินได้ถ้าซื้อมาให้
   "งั้นเราดูมาให้ละกัน.."

ผมพยักหน้ารับ.. พวกนั้นทุกคนมองมาที่บอย บอยก็เลยจ้องกลับเค้าถึงจะเดินไปหาซื้อของกินกัน... บอยยังนึกถึงตอนที่ไปทำงานพิเศษได้เลยครับเวลาไปหาข้าวกินนี่คนจะเยอะมาก ผมจะต้องคอยจองโต๊ะแล้วให้พัดไปหาซื้อของมาให้กิน ไม่อย่างนั้นจะอดทั้งคู่

หลังจากนั่งรอนอนรออยู่ซักครู่ อาหารของทุกคนก็วางจนเต็มโต๊ะไปหมด

   "บอยๆ น้ำหละจะเอาอะไร..จะไปซื้อให้..."
   "...เอาแบบเดิมละกัน..." ผมทำหน้าครุ่นคิดอยู่แล้วก็ตอบออกไป

พัดพยักหน้ารับ แล้วก็เดินไปซื้ออีก สงสารจังเลย...จะว่าไปตอนนี้ไม่ต้องแย่งที่นั่งกันซักหน่อยทำไมต้องทำเหมือนตอนทำงานด้วยก็ไม่รู้... และเมื่อหันกลับมาก็พบว่าสายตาทุกคู่จ้องมาที่ผมอีกครั้ง ไอ้เจ้าเมศเริ่มทำเสียงอึกอักในลำคอ

   "มีอะไรกันหรอ...หน้าเรามีอะไรติดรึไง"
   "เปล่า...."
   "พร้อมใจกันตอบเลยนะพวกนี้อะ" พวกนั้นก็มองหน้ากันเล็กน้อย ในที่นั้นคงจะมีแต่ผมที่ไม่เข้าใจ

พัดวางแก้วน้ำลงต่อหน้าผม แล้วก็มานั่งข้างๆ ตรงข้ามบอยเป็นสาวๆทั้ง 4 คน และเรฟ ส่วนพล กะ เมศก็นั่งข้างบอย ทำไมมันให้ความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก

   "มีอะไรกันหรอ" ผมพยายามถามอีกครั้ง
   "คือ...พวกเราเห็นว่านายสองคนแปลกไปนะ" แอนจ้องมองที่หน้าผม ทำทีท่าจับพิรุด
   "แปลกยังไงหรอ แอน"
   "ปรกติ บอยจะวางกระเป๋าโครม...แล้วก็วิ่งปรู๊ดไปซื้อข้าวแล้วนิ ทำไมวันนี้นั่งรอได้หละ..."
   "แล้วพัดเองก็แปลกๆนะ" จิ๊บเริ่มทำท่าไต่สวนพัดอีกคน
   "ยังไงหละจิ๊บ..."
   "นายรู้ด้วยหรอ ว่าบอยมันชอบกินน้ำอะไรหนะ พวกเรายังไม่รู้เลยนะ"
   "ตอนปิดเทอมไปทำงานด้วยกันมาหนะ ก็เลยติดนิสัยมามั้ง"

ผมตอบไป พัดก็พยักหน้ารับอย่างไม่มีอะไร ผมเองก็เริ่มจะงง ว่าเพื่อนๆจะหมายถึงอะไรกันแน่ พวกนั้นก็ยังคงมองหน้ากันเหลือแต่ผมเท่านั้นหละมั้งที่ไม่รู้เรื่องราวเท่าไหร่

จนมาถึงตอนนอน ผมถามพัดถึงเมื่อกลางวันพวกนั้นทำไมต้องถามอะไรแปลกๆด้วย พัดเองก็หัวเราะแล้วอธิบายให้ฟัง อ้อ..แสดงว่าพวกนั้นเริ่มจะสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพัดแล้วสินะ ส่วนตัวของบอยนั้น ถ้ารู้ก็ไม่ว่าอะไร แต่คิดว่าไม่รู้อาจจะดีกว่าก็ได้ครับ
หัวข้อ: ตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:17:12
หลังจากเปิดเรียนมาได้ 3 วัน ตอนนี้อะไรอะไรก็ดูเปลี่ยนไปจากเดิม ... พล กับเรฟ ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และ พล ก็ตกลงเป็นแฟนกับ บีไปแล้ว แบบเงียบๆ แต่ผมก็รู้เพราะ ผมกับพวกสาวๆ จะสนิทกันมาก...^-^

เมศ จากเดิมที่อยู่ตัวคนเดียวตลอด ก็เริ่มมาสิงสู่อยู่ห้องของผมทุกๆวัน จะต้องมานั่งร้องเพลงเล่นกีต้าด้วยกัน รวมทั้งมีหลายๆคนมาจีบเค้าเยอะขึ้น เป็นสาวๆทั้งนั้น... ผมกับพัด เส้นบางๆที่กั้นผมกับเค้าไว้ ตอนนี้มันหายไปแล้ว เราดูจะเข้าใจกันและกันมากขึ้น เรฟยังคงเป็นคนในคณะที่มีสาวๆมาติดพันด้วยเยอะที่สุด เพราะทั้งหล่อ ทั้งเรียนเก่ง

แอน หาแฟนเป็นหนุ่มมาดเซอร์ คณะข้างเคียง จิ๊บ กับ เม สองสาวนี้ยังคงชวนกันปั่นจักรยานไปยังสนามบาสเก็ตบอลทุกวัน เพราะมันเป็นสถานที่รวมพลคนขี้เก๊ก และขี้หลีตามแบบที่พวกเธอทั้งคู่ชอบ

เทอมสองนี้ ภารกิจใหม่ๆเริ่มเข้ามาในชีวิต งานต่างๆมีมากมาย การเรียนที่ยากมากขึ้น สิ่งเหล่านี้มีเพียงอย่างเดียวที่จะช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ คือ กำลังใจ จากใครซักคน ไม่ว่าจะเพื่อน ญาติ คนใกล้ตัว หรือ คนที่ชอบก็ตาม...

บอยกำลังนั่งสงบๆคิดถึงความเปลี่ยนแปลงของคนเราอยู่บนระเบียงชั้น 5 ของหอพัก เทอมนี้จะเป็นเทอมสุดท้ายที่ผม และเพื่อนๆ จะได้อยู่รวมกันแบบเดิม เพราะตั้งแต่เทอมหน้าพวกเราจะต้องแยกกันตามสาขาที่ถนัดกันแล้ว

   "บอย...ทำไรอยู่ มานั่งทำอะไรคนเดียวบนนี้...เพื่อนๆไปไหนหมดหละ" เสียงคนบางคนที่คุ้นเคย ผมกำลังคิดถึงเจ้าของเสียงนี้อยู่พอดี

   "ก็กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ครับ" ผมตอบเรียบๆ หันหน้าไปหาพี่ชัดซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า
   "หนังสือเทอมนี้พี่เอามาให้ พี่อีฟกำลังสอบซ่อมอยู่เลยไม่ว่าง ไว้อีฟมันว่างๆจะพาไปเลี้ยงข้าว"
   "พี่ชัด..." ผมกำลังจะหลุดปากบอกออกไป เรื่องผมกับพัด
   "ว่าไง มีอะไรหรอ"
   "ขอบคุณครับ"

พี่เค้าก็ยิ้มๆ แล้วก็มานั่งเล่นข้างๆผม นั่งคุยกันหลายเรื่องอยู่ ตอนนี้เวลาคุยผมไม่กล้าจะสบตาพี่เค้าเลยมันเหมือนกับว่าเรากำลังทำผิดอะไรซักอย่างนึง แล้วพี่เค้าก็ขอตัวกลับ ผมนั่งมองรถที่จอดอยู่หน้าหอกำลังวิ่งออกไป นี่ก็คงเป็นอีกคนนึงที่เปลี่ยนไป...

มือถือผมดังขึ้น พัดโทรตามผม ให้ลงไปกินข้าว วันนี้สาวๆจะพากันไปกินร้านหน้าวิทยาเขต ให้รีบๆตามไป ผมก็จัดแจงปิดประตูห้อง เอากระเป๋าตังค์ มือถือ แล้วก็วิ่งลงตึกไป เดินไปเรื่อยๆจนไปสะดุดตากับป้ายประกาศแผ่นใหญ่ "ชมรมเทควันโด" นั้นสินะ เลือกชมรมอีกแล้ว ปีที่แล้วธนูได้ยิงไป 12 ดอก แล้วก็ไม่ได้ยิงอีกเลย ปีนี้คงไม่ลงแบบเดิมแล้ว

   "อ้าว อยู่กันครบเลยหรอเนี่ย" ที่เห็นตรงหน้าก็คือเพื่อนๆกลุ่มผมกับ เมศอีกคน
   "บอยมาช้าจัง...ส้มตำเพิ่งจะมาเนี่ย" เจ้าคนแปลกหน้าบ่นพึมพัม
   "เมศ เดี่ยวนี้นายมาสนิทกับเพื่อนๆเราตั้งแต่เมื่อไหร่ หา..." ผมจับเก้าอี้ของเค้าเขย่าไปมาๆ
   "เออ...อันนี้บอกไม่ได้ครับ" แล้วเค้าก็ยิ้มๆ

   "นี่เมศขอเลยนะ อย่ายิ้มแบบนี้ได้ป่ะ" เม บอกกับเมศ
   "ทำไมหละครับ"
   "น่าจะเข้าใจความเหงาใจของหญิงสาวหน่อยนะ" เม ลากเสียงเหงาๆ ทั้งใบหน้าและท่าทาง

ทำให้พวกผมฮากันลั่นร้านจนท้องแข็ง มือถือผมก็ดังอีกครั้ง เฮียชัดโทรเข้ามา บอกว่าซื้อของมาให้ ผมก็เลยชวนมาที่ร้านมานั่งกินด้วยกันเลย...

   "พี่ชัดนี่ ที่เป็นประธานปี 2 หรอครับ" สงสัยเมศจะยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องราวในคณะของตัวเองซักเท่าไหร่
   "เมศ ไม่รู้หรอ พี่ชัดเค้าเป็นสายโค ของบอย" ผมก็บอกกับเค้าไป เค้าก็ทำท่าพยักหน้าไปมา

   "จะว่าไปนะ หน้าตาเมศก็ดีนะ ทำไมถึงไม่ได้มาเป็นหลีดหละ" เม ดูจะสนใจเมศมากเป็นพิเศษ
   "นั่นสิ ไม่รู้ สองตัวนี้เข้ามาได้ไง หน้าตาก็ไม่ได้ดูดีเลย" จิ๊บ หมายถึงผมกับ พัด ซึ่งเข้ามาสองคนสุดท้าย

   "คงต้องถามเจ๊อีฟเอาหละ บอยไม่รู้หรอกนะ"
   "อ้าว ไม่รู้หรอ บอยนะ เด็กเส้น..." พัดแหย่
   "วู้..." เสียงโห่จากเพื่อนๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะ

   "จริงๆแล้ว ผมก็โดนเลือกเป็นนะ แต่หนีหละ"
   "อ้าว...ไอ้นี่เองที่ทำให้เราต้องมาเป็นหลีด" พัดโวยวาย แล้วก็หัวเราะกัน

ตอนนี้ผมว่าเป็นช่วงเวลาที่ผมคิดว่ามีความสุขจริงๆ ผมกำลังนั่งหัวเราะอยู่ดีๆก็มีคนมาปิดตาผม ผมก็จับแขนคลำๆโดนนาฬิกา โดนมือ ก็จำได้แล้วว่าใคร มือคู่นี้แหละที่ดึงผมขึ้นมาจากทะเลโคลน

   "พี่ชัด...รู้หรอก ปล่อยได้แล้ว" มือที่ปิดตาอยู่ก็แกะออก
   "รู้ทันอีกแล้ว เบื่อจัง" พี่เค้าก็เดินไปนั่งที่หัวโต๊ะเพราะยังว่างอยู่
   "พี่ชัด คนนี้เมศ เรียนอยู่คณะบอย"
   "หรอ...พี่เคยเห็นอยู่ จำได้ว่าเป็นคนแรกเลยที่อีฟมันเลือกเป็นหลีดนิ..."
   "ครับ แล้วก็หนีคนแรกเลยครับ" เมศยิ้มแล้วก็หัวเราะเบาๆ

   "เราเป็นน้องรหัสใครหละ"
   "พี่ซิ่วไปแล้วอะครับ ก็เลยไม่มีใครดูแล"
   "อ้าว งั้นหรอ...ทำไมไม่บอกพี่หละ จะหาสายโค ให้" สองคนนั้นนั่งคุยกันไป

ผมกับเพื่อนๆก็จ้วงๆเอาๆ ส้มตำ ลาบ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง คอหมูย่าง ฯลฯ เกลี้ยง

   "อะไรเนี่ย...ยังไม่ทันได้กินเลยหมดแล้ว"

เมศโวยวาย เดี่ยวนี้รู้สึกว่าจะปากมากกว่าตอนเจอกันครั้งแรกเยอะทีเดียว เค้าก็เลยหันไปสั่งไก่ย่างกับข้าวเหนียวมาอีก พวกผมที่อิ่มแล้วก็นั่งคุยกันบ้าง ผมเห็นสาวๆเค้าหันมาสุมหัวกัน ระหว่างที่สองคนนั้นกำลังกินกันอยู่ บอยก็เอียงๆหูฟังไปด้วย

   "นี่ๆ...พี่ชัดกับท่านชาย เลือกใคร" แอนถาม
   "เลือกพี่ชัด เมศเหมือนเกย์เลย" จิ๊บบอก

แล้วก็อะไรอีกทำนองใครหน้าตาดีในคณะเรา อะไรพวกนี้หละ พวกสาวๆเค้าชอบคุยกัน แต่ที่แน่ๆ ไม่มีชื่อของผม และ พัด อยู่ในกลุ่มพวกนั้นหรอก...แหงสิ...บอยมันพวกหน้าตาไม่หล่อนิ ชอบกันเข้าไปเมศนะ ชอบกันเข้าไป พี่ชัดอีกคน เหอะๆ...หารู้ไม่...

มื้อนั้น พี่ชัดเลี้ยงพวกผมเอง พวกเราทั้ง 8 คน พากันเดินกลับหอพัก ส่วนเมศพี่ชัดจะไปส่งให้ เพราะอยู่หอนอก คิดแล้วอิจฉา.....
หัวข้อ: ตอนที่ 22ช่วงนี้เป็นช่วงที่วิทยาเขตของผมฝนตกบ่อยๆ ตกมา 2 วันแล้ว วันนี้ก
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:18:50

   ช่วงนี้เป็นช่วงที่วิทยาเขตของผมฝนตกบ่อยๆ ตกมา 2 วันแล้ว วันนี้ก็เช่นกันแต่ไม่หนักเท่า 2 วันแรก ฟังจากข่าวมาว่ามีพายุเข้าหรืออะไรซักอย่าง

   "พอเที่ยงๆแล้ว ไปกินหน้า ม.นะ เราเจอร้านอาหารใหม่ๆหละ" บีชวนพวกผม

ซึ่งก็แน่นอนว่า ไม่มีใครปฏิเสธหรอก พวกเรามันร่วมหัวจมท้ายกันอยู่แล้ว และร้านที่เธอพามาก็ยังไม่เคยมีใครมากินจริงๆนั้นแหละ ถึงบีจะบอกว่าหน้าวิทยาเขต แต่จริงๆแล้วมันไปอยู่ซะจะข้างๆแล้ว

   "ช่วงบ่ายวันนี้ไม่มีเรียน งั้นเรามากินให้หนักๆเลยมั้ย" แอนเสนอ
   "หนักๆหนะ กินอะไรหนักจ๊ะ สาวแอน"
   "ก็ Lกฮ นิดๆหน่อยๆ ไงสาวจิ๊บ อยากลองมั้ย"
   "เฮ้ยๆ...หาเรื่อง เดี่ยวพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเรียนกันหรอก มัวแต่เมาค้าง" เรฟรีบห้ามเลย
   "เอาน่า...ผู้หญิงยังกินเลย ผู้ชายซะเปล่าอย่าบ่นเลย ใช่มั้ย หญิงแอน"
   "ใช่เลย หญิงเม" รับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

   "เดี่ยวนี้เริ่มเรียกกันแปลกๆแบบนี้แล้วหรอ" ผมหันไปถามบี
   "อืม ก็เรียกเมศว่า ท่านชายนิ ก็เลยเรียกกันแบบนี้แหละ  จริงมั้ยจ๊ะ หญิงจิ๊บ"
   "จริงจ๊า หญิงบี" แล้วพวกเธอก็ทำท่าทางแบบถือพัดป้องปาก หัวเราะด้วยเสียงโซปราโน่

คุณหญิงทั้งหลายเดินไปตู้เครื่องดื่ม หยิบบาคาดี้ มาคนละขวด ถือสีได้ไม่ซ้ำเลยพวกผมก็กินกัน สำหรับบอยแล้วมันก็น้ำอร่อยๆ ไม่มึนเท่าไหร่ แต่ถ้าบางคนก็ดูจะมึนๆ ไปๆมาๆ ก็เริ่มกินเบียร์กันต่อ หุหุ คราวนี้เมาแอ๋กันเลย แต่บอยไม่กินเบียร์นะครับ เพราะพัดสะกิดบอกว่า อย่ากินเดี่ยวต้องขนเพื่อนๆกลับเข้าหอ

ผมดูนาฬิกาก็ 5 โมงแล้ว กินกันมาราธอนดีจังเลย ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง ยัน 5 โมงเย็น ตอนนี้หลับกันเกลี้ยง พัดก็ออกไปเอารถที่จอดอยู่ที่หอ ส่วนผมเองก็ไปจ่ายตังค์ ไม่นานนักพัดก็มาถึง

   "พวกสาวๆนี่นายจะทำยังไงดีบอย" พัดถามขณะหิ้วปีกเพื่อนๆเข้าไปในรถ
   "ไว้ที่หอของเมศก็ได้ พาไปนอนห้องเมศให้หมดเลย"
   "หอนอกข้างหลัง วิทยาเขตใช่มั้ย"
   "อืม...นั้นแหละ"

ผมพาพวกสาวๆ ไปก่อน แล้วก็เมศอีกคน เพราะต้องให้เมศเปิดประตูห้อง แล้วถึงไปขนอีก 2 หนุ่มมา ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ตกใจหน่อยๆ เพราะเห็นเมศไปนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้อง ทั้งที่ตอนแรกผมพาเค้าไปนอนบนเตียง เราปล่อยพล กับเรฟลงเพราะแบกไม่ไหวแล้วมันตัวหนักมาก พัดปิดประตูห้องแล้วออกไปข้างนอก คงจะขับรถไปเก็บที่หอ เครื่องปรับอากาศก็ทำงานตามปรกติ แต่ตอนนี้ฝนมันตกลงมาแล้ว

ผมเดินไปหาเมศ ยังแปลกใจอยู่ว่าเค้าไปนั่งทำอะไรตรงนั้น

   "หายเมาแล้วหรอ" ผมเขย่าแขนเค้าไปด้วย
   "ทำไมต้องเป็นนายด้วย... ทำไมกัน" เสียงของเมศฟังแล้วว้าเหว่มาก

   "เรื่องอะไรเมศ อธิบายมาสิ เรางง" ผมก้มหน้าลงไปคุยกับเค้า

   "พี่ชัดเค้าไม่ชอบเรา เค้าบอกว่ายังชอบนายอยู่... พัดก็ยังชอบนาย...
   ....เพื่อนๆทุกคนสนิทกับนาย... ญาติพี่น้องก็สนิทกับนายทุกคน...
   ....ทำไมนายต้องแย่งพวกเค้าไปจากเราด้วย..."

แล้วเค้าก็ร้องไห้ออกมา ทำให้ผมเองยืนทำอะไรไม่ถูก

   "...เราบอกชอบพี่ชัดแล้ว เค้าก็ยังบอกว่ายังชอบนายอยู่ ทำไมเค้าไม่คิดจะชอบเราบ้าง.."

บอยเองทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เค้าโกรธอะไร แต่มันเสียใจ น้ำตามันไหลออกมาจนภาพเป็นฝ้า ผมลงไปนั่งข้างๆเค้า เมศดึงแขนผมไปกอดแล้วร้องไห้ใหญ่ ผมเองก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย เสียงเค้าร้องไห้สะอื้นมาก ในห้องนั้น เวลานั้นบรรยากาศมืดมัว ท้องฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆ ผมนอนกอดกับเค้า เราทั้งคู่ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างไม่มีหยุดหย่อน

เสื้อผ้าผมยับไปด้วยรอยขยำจากมือของเมศ เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาของเราทั้งคู่ ผมเริ่มจะหายใจไม่ออก และเริ่มจะเหนื่อย ไม่นานนักเราทั้งคู่ก็หลับไปโดยที่ใจของผมยังคงนึกถึงแต่คำพูดของเมศ

   "กรีด !!!!!!!! ที่นี่ที่ไหน พวกเราถูกจับมาขายตัวหรอ" จิ๊บร้องโวยวาย ทำเอาผมตื่นขึ้นมา
   "อะไรกันๆ โวยวายอะไรกันแต่เช้า" เสียงพลถาม มือก็ขยี้ตา
   "ก็ดูสิ ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย..." จิ๊บยังโวยวายไม่เลิก

บอยเองก็ตื่นขึ้นมาดู จิ๊บเล่นวิ่งไปปลุกชาวบ้านไปทั่วเลย

   "เออ ห้องนี้ห้องเมศหนะ เห็นเมาเละเลยพามานอนกันที่นี่" ผมบอก
   "อ้าว... มานอนห้องเรากันหมดเลยหรอ" เมศพูดพึมพัมพลางลุกขึ้นยืน

พวกเราโวยวายกันในห้องพักเพียงซักพักหนึ่ง พัดก็โผล่เข้ามาในห้อง

   "ตื่นกันแล้วหรอ" พัดเดินเข้ามาในห้อง
   "กี่โมงแล้วหนะพัด"
   "6 โมงเช้า เดี่ยวจะต้องไปเรียนแล้ว เร็วๆด้วย"
   "แล้วนายไปไหนมาพัด" ผมหันไปถาม
   "ไปนอนที่หอสิ"

   "โธ่ ทำตกใจหมดเลย นึกว่าถูกจับมาขาย..." จิ๊บบ่นใหญ่ พวกสาวๆก็หัวเราะกัน
   "เดี่ยวจะพาไปส่งที่หอ สาวๆ ตามมาเลย" พัดเรียก พวกนั้นก็ตามพัดลงไป

ผมหันไปดู พล กับ เรฟยังหลับกันอยู่เลย เหลือแต่เมศนั่งตาลอยอยู่บนเตียง ผมก็หันไปมองเค้าแล้วนึกถึงเรื่องที่เค้าพูดกับผมเมื่อวาน

   "นี่..จะจ้องอะไรเรานักหนา บอย"
   "เมื่อคืนนายพูดอะไรกับเราไว้บ้าง"
   "เปล่านิ...รู้แต่หลับสบาย" แล้วก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

   "อ๋อนี่ ที่มึงบ่นสารพัดบ่น ร้องไห้ ตัดพ้อนี่มึงเมาใช่มั้ย" ผมพูดแบบทีเล่นทีจริง พูดไปหัวเราะไป
   "อ้าว เราเมาด้วยหรอ จำไม่ได้แฮะ เมื่อคืนนี้พูดว่าอะไรหละ"
   "เปล่าๆ ไม่มีอะไร" ผมไม่ได้บอกกับเค้า แล้วก็หัวเราะอยู่คนเดียว.... น่ากลัวจริงๆ คนอะไรเมาแล้วเป็นแบบนี้ ดีที่ไม่ฆ่าตัวตาย...
หัวข้อ: ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:19:43
   "บอย รับโทรศัพท์ให้เราด้วยนะ" เมศตะโกนออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเสียงโทรศัพท์ของเค้าดังขึ้น

วันนี้ผมกับเพื่อนๆมานอนเล่นกันที่หอของเมศ เพราะนอกจากจะกว้างกว่าห้องพวกผมแล้ว ยังเข้าได้ทั้ง ญ ทั้ง ช ด้วย และที่สำคัญมันติดแอร์พวกผมเลยชอบใจเป็นพิเศษ

   "อาฮั่ว หรอ อาม่าเองนะ" อาม่าไหนหว่า แล้วอาฮั่วนี่ใครกัน
   "บอยๆ ของเราเอง" เมศนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ

ผมของเค้ายังเปียกๆเพราะไม่ได้เช็ด ตัวก็ยังเปียกๆ เป็นหยดน้ำพราวไปทั้งตัว

   "อาม่า ฮั่วพูดคับ" แล้วก็เดินออกไปข้างนอก ซักพักก็กลับมา

   "หน่อย อาฮั่ว รีบทำตัวลึกลับเลยนะ" ผมเริ่มแซว เพื่อนๆผมก็นั่งหัวเราะกันคิกๆ
   "อ้าว.. ก็อาม่าเราก็เรียกเราแบบนี้หละ" เค้าตอบเขินๆ
   "ว่าแต่เค้า อาม่านายก็เหมือนกันหนิ เพราะอาม่านายก็พี่สาวอาม่าเรานั้นแหละ" เค้ายื่นหน้ามาจ้องตาบอย
   "อาม่าเราหรอ เรียกว่าไรหว่า" แล้วผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เรื่องอะไรจะบอก

เมศเดินไปหาพัด แล้วเค้าก็เดินมาหาผม

   "จะทำอะไรพัด นายจะทำอะไรเรา" พัดรีบจับตัวผมไว้ กอดไว้แน่นเลย
   "เอ้าเมศ เอาเลย" พัดร้องบอก

เมศหยิบเอามือถือของตัวเอง แล้วกดโทรศัพท์ เค้าเล่นโทรไปหาอาม่าผมและถามความจริงมาจนได้

   "ว่าไง อาเสียง....นายไม่ต้องดิ้นเลยอาเสียง ฮึฮึๆ" แววตาอย่างมีเลศนัยของเมศน่ากลัวมาก
   "ชื่อเราไม่ตลกแบบนายหรอก อาฮั่ว" ผมพยายามดิ้นแต่พัดก็จับไว้แน่น ไม่ขยับเลย
   "อาเสียง คิดว่าหน้าตาดีนักหรอ เดี่ยวจะแกล้งให้"
   "ใครว่าหน้าตาดี โอ้ย อย่าจี้ ...ฮ่าฮ่าๆๆ" เค้าแกล้งจักจี้ผม

พวกเพื่อนๆในห้อง นั่งหัวเราะกันใหญ่ ผมกับเมศนั่งเล่นกันเกือบๆ 10 นาทีถึงได้เลิกทะเลาะกัน

   "เออ นี่อาเสียง อาม่าเราเรียกให้เรากลับไปบ้านใหญ่" เค้าบอก เมื่อเห็นผมประกาศยอมแพ้นอนหอบเหนื่อยเพราะโดนจี้ หัวเราะแทบตาย

   "เออ...พอแล้ว ไม่เล่นแล้วเมศ เรียกแล้วไม่ชินปาก" ผมนั่งลงผิงผนังห้อง
   "อาม่าบอกว่า คิดถึง ให้กลับไปให้เห็นหน้าหน่อย" แค่นี้เองหรอ
   "บอยๆ พวกเราก็ไปกันหมดเลยเอามั้ย" เมศเสนอ
   "ไปเชียงใหม่หรอ ไปดิ" พวกสาวๆรีบตอบทันที

   "เออ แล้วไปกัน 9 คนจะพอมั้ยหละบ้านพวกนายหนะ" เรฟหันมาถาม
   "เหลือเกินพอเลยหละ" ผมกับเมศก็ยิ้มๆ

และแล้ว การเดินทางไปท่องเที่ยวของผมกับเพื่อนๆครั้งแรกมันเริ่มขึ้นในวันนั้นแหละพวกเรามีกำหนดการที่จะโดดเรียนกัน เป็นเวลา 1 อาทิตย์  การเดินทางก็คือรถทัวร์นั้นแหละครับ เพราะทั้งผมและพัด ไม่ชินเส้นทางต่างจังหวัดอย่างมาก เดินทางจากตัวจังหวัดไปไม่นานก็ถึงบ้านญาติพวกผมแล้ว

เมศเข้าไปคุยกับคุณย่าของเค้า ดูแล้วเค้าจะดีใจน่าดูเมื่อเจอหน้าหลาน อาม่าของผมเองก็เหมือนกันดีใจที่เห็นผม เมศก็เลยอ้อนๆขอบ้านพักหลังใหญ่สุด ซึ่งก็แน่นอนว่าสำหรับเมศแล้วคงไม่ยากอะไรหลานสุดโปรด ต่างกับบอย หลานสุดชังมั้ง

   "บ้านพักนี้ 4LDK นะค่ะคุณเมศ" พนักงานในออฟฟิศบอก
   "อืม..แล้วกุญแจห้องมันแยกกันมั้ยครับ" เมศถาม
   "แยกค่ะ"

   "อาม่าครับ พวกบอยจะอยู่ซัก 7 วันหนะคับ จะสะดวกมั้ยครับ" ผมถามคุณย่าของผม
   "เอาสิดีเลย อยู่กันนานๆเลยก็ได้นะ ทั้งอาฮั่ว อาเสียงนั้นแหละ" คุณย่าผมตอบ
   "เอ มากัน 9 คน แล้วจะพอได้ยังไง มี 4 ห้องนอนเอง" คุณย่าของเมศถาม

   "ก็คงจะแบ่งๆกันนอนหนะครับ สาวๆ 4 คน เค้าคงจะนอนด้วยกัน" เมศบอก
   "แล้วพวกเราจะนอนในห้องเล็กกันก็คงพอมั้งเนอะ" ผมหันไปถามเมศ เค้าก็พยักหน้ารับ

เมื่อติดต่อเรียบร้อย ก็มีพนักงานมาขนกระเป๋าไปที่บ้านพักของพวกผม ซึ่งก็เป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มพอดี

   "บอยอธิบายให้ฟังหน่อย 4LDK คืออะไร" บีหันมาถามผม
   "มันเป็นรหัสเรียกบ้านพักนะ มี 4ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และห้องครัว" ผมตอบ
   "บางคนเค้าก็อยากได้แค่ 2ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นก็เป็น 2L แบบนี้หละ เอาไว้ใช้ในการบุ๊คเฉยๆไม่ใช่คำทางการหรอก" เมศเสริม

เมื่อของมาถึงบ้านพักก็ให้พนักงานเค้าวางไว้ แล้วพวกเราก็เริ่มแบ่งห้องนอนกัน

   "พวกสาวไปนอนห้องใหญ่ชั้น 2 ข้างหน้านะ แล้วพล กับ เรฟก็ไปอยู่ห้องเล็ก พัดกับบอยก็ไปอยู่ห้องเล็กอีกห้อง เราก็ไปอยู่อีกห้องนะ" เมศสั่งเป็นชุดๆ
   "อ้าว แล้วนายอยู่คนเดียวหรอ" ผมถาม
   "อืม ก็เราชอบอยู่คนเดียวมากกว่ามั้ง" เค้าแยกกุญแจออกแจกให้แต่ละคน

ห้องของผมกับพัดนั้นอยู่ริมสุดของตัวบ้านซึ่งจะมีกำแพงที่จะโดนแดดส่องในตอนเช้า ทำให้อากาศช่วงเช้าๆไม่น่าจะอยู่บนห้องเลยเพราะจะร้อนมาก แต่ก็ดีกว่าห้องของพวกเรฟที่จะโดนแดดในตอนเย็น แต่จะว่าไปมีแอร์ยังไงก็ไม่ใช่ปัญหา

พัดเปิดประตูเข้าไปในห้อง มืดสนิทเค้าก็คลำหาสวิตซ์ไฟซึ่งน่าจะอยู่ใกล้ๆกับประตู เสียงกดเปิดสวิตซ์ก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายของพัด

   "บอย ทำไมไฟไม่ติด สงสัยหลอดจะขาดแน่ๆเลย"
   "ไม่ใช่หรอกพัด นายต้องเอาบัตรเนี่ยเสียบลงที่เก็บนี่ก่อน" ผมก็หยิบกุญแจจากมือพัดเสียบลงในที่เก็บข้างๆสวิตซ์ไฟ ไฟทุกดวงในห้องก็สว่างขึ้นเอง เสียงเครื่องปรับอากาศก็ดังขึ้นเช่นเดียวกัน

   "บอย...ทำไมไฟไม่ติดหละ" เสียงตะโกนออกมาจากห้องของเรฟ
   "ห้องเราก็ไม่ติด" พวกสาวๆบ่นกันโครมใหญ่
   "เออ เอากุญแจเสียบที่ที่เก็บข้างๆประตูก่อนดิไม่งั้นไม่ติดหรอก" พัดตะโกนบอก

ผมเพิ่งจะรู้วันนี้เองว่า พัดไม่เคยใช้บริการโรงแรม หรือที่พักตากอากาศมาก่อน เชยมาก..เสียงกรีดลั่นดังมาจากห้องสาวๆ คงจะสนุกกับการขย่มที่นอนสปริงกันมั้งครับ บอยตอนเด็กยังชอบนอนขย่มเลยมันจะตอบรับการสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยมจริงๆ

   "พัด...อาบน้ำไปก่อนก็ได้นะ วันนี้มันก็ดึกแล้วหละ เดี่ยวบอยจะไปหาเมศซักหน่อย" เค้าอืมๆ ตอบผม

   "เมศๆ..มีเรื่องอยากจะคุยด้วยนะ" ผมเคาะประตูห้องของเค้า เค้าก็เปิดพรวดออกมาเลย ในสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนข้างล่างใส่กางเกงขาสั่นสีขาวที่ทำด้วยผ้าดิบซึ่งเป็นแบบที่เมศชอบใส่

   "มีอะไรหรอ แต่เข้ามาก่อนดิ" แล้วเมศก็เปิดทางให้ผมเข้าไปคุย
   "วันก่อน ตอนนายเมาๆหนะเมศ เราได้ยินนายบอกกับเราว่า นายไปบอกพี่ชัดว่านายชอบเค้าหรอ" ผมนั่งลงที่เตียงสีขาวในห้องของเมศ
   "ก็ทำนองนั้นแหละ เราเห็นนายกับพัดแล้ว จะให้เราคิด...ไปแย่งนายมางั้นหรอ" เมศตอบผมแต่กลับไม่มองหน้าเลย
   "แล้วทำไมต้องเป็นพี่ชัดด้วยหละ ไม่สนใจอย่างเรฟหรอ" มันเข้าตำราที่ว่าหมาหวงก้างขึ้นมา แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่า ผมนั้นหวงเมศ หรือหวงพี่ชัดกันแน่
   "นายเองน่าจะพอใจกับพัดแล้วนะ แล้วควรจะตัดใจจากคนรอบๆเสียที" เมศกดผมลงกับเตียงนอนของเค้า
   "ก็คงจะต้องพยายามหละ เราจะพยายามทำนะเพราะการเป็นคนหลายใจมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่"
   "เอาหละ วันนี้ดึกแล้วหละ เหนื่อยแล้วด้วยเราอยากนอน" เค้าก็เดินหันหลังให้กับผม
   "ถ้านายคิดจะชอบพี่ชัดจริงๆนะ เราจะช่วยหละ" ผมเดินไปเปิดประตูเตรียมจะออกจากห้อง
   "ขอบใจนะ...เออ บอย นายช่วยไปดูเพื่อนๆด้วยนะว่าใช้ห้องกันเป็นมั้ย" ผมไม่ทันดูสีหน้าของเมศหรอกแต่เดินออกนอกห้องไปแล้ว

   "พลๆ เปิดหน่อย" ผมเดินไปเคาะห้องพล ตามที่เมศบอกไว้
   "ว่าไง มีอะไรหรอ" คนเปิดประตูเป็นเรฟ ไม่ใช่พล
   "มาดูหนะ ว่าใช้ห้องกันได้มั้ย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ผมตอบ เรฟก็หลีกให้ผมเดินเข้าไปในห้อง

   "โอ้ย ร้อน...อู้ว" เสียงพลร้องตะโกนดังลั่นจากห้องน้ำ ผมรีบวิ่งไปดู
   "เป็นอะไรมั้ยพล" เรฟเคาะเรียก เค้าก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัว
   "ทำไมมันร้อนแบบนี้หละ หลังแดงหมดเลย ลวกไปทั้งหลังเลย" พลบ่นพลางหันหลังให้พวกผมดูรอยแดงๆ
   "มันเป็นก๊อกน้ำร้อนนะ แล้วมันจะมีก๊อกน้ำเย็นอีกอัน ให้เปิดผสมกันจะได้อุ่นๆ" ผมบอกพลางหมุนๆให้ดู

   "ทำไมไม่บอกก่อนหละ โดนซะพองเลย"
   "ก็ไม่คิดว่าจะใช้ไม่เป็นกัน แล้วก็อ่างนี่นะมันจะมีสต๊อปเปอร์เห็นป่ะ นายวางจุกอุดน้ำลงที่ช่องระบายน้ำนะ แล้วหมุนสต๊อปเปอร์แค่นี้มันก็จะขังน้ำแล้ว เวลาจะเปลี่ยนน้ำก็หมุนอีกด้านจุกจะถูกดันขึ้นมาเองนะ ที่อ่างล้างหน้าก็ก๊อก 2 อันแบบเดียวกันนะ แล้วนี่สำคัญมากใต้อ่างล้างหน้าจะมีเครื่องทำน้ำร้อนอยู่ อย่าสาดน้ำเข้าไปนะ"

ผมบอกให้เรฟ เดินไปบอกพวกสาวๆด้วย เพราะไม่งั้นอาจจะมีอีกรายที่โดนน้ำร้อนลวก ส่วนพล ผมพากลับไปที่บ้านใหญ่ไปเอายาทาที่โดนน้ำร้อนลวก

   "พัด เราอยากนอนจะตายแล้วง่วงนอนจังเลย" ผมบอกเมื่อเจอหน้า มันไม่ง่วงได้ไง นี่มัน 5 ทุ่มกว่าแล้ว
   "ก็ไปอาบน้ำดิ แล้วก็ไปนอน" พัดกำลังสาระวนกับการดูริ้วรอยบนใบหน้ามั้งครับ เห็นนั่งส่องกระจก

ผมก็ไปอาบแต่ไม่ได้แช่น้ำเพราะไม่งั้นอาบยาว แค่อยากจะรีบๆอาบให้จบๆไป

   "นายเลือกเตียงที่จะนอนแล้วใช่มั้ยพัด" ผมถามเมื่อออกมาจากห้องน้ำ และแน่นอนว่าพร้อมชุดนอน
   "อ้าว ทำไมต้องเลือกหละ" เค้าหันมาถาม
   "ก็มันเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงนิพัด" ผมเอาผ้าเช็ดตัวซับผมให้แห้งๆ
   "ก็ให้นายเลือกไง แล้วเราจะนอนกับนาย..."

คำตอบสั้นๆของพัด ทำให้ผมตาสว่าง ห้องพักที่นี่เก็บเสียงนี่นา แถมเตียงยังเด้งสะบัด...งานนี้สนุกแล้ว
หัวข้อ: ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:20:46
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเสร็จหมดแล้ว ที่ห้องอาหารในคลับพวกผมก็ทำตัวเหมือนกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่งเคยมาเชียงใหม่ เพราะทั้งผมและเมศ ล้วนแล้วแต่ไม่เคยออกมาเที่ยวข้างนอกเมือง พัดก็ไม่ใช่คนเชียงใหม่ แต่เป็นคนลำพูน พวกสาวๆทั้ง 4 คนภาคกลางกันหมด เรฟนั่น กทมโดยกำเนิด พลนี่ถ้าไม่บอกใครจะเชื่อว่าคนขอนแก่น

แต่บอยไม่เล่ามาก ละกัน เพราะว่าไม่ใช่การแนะนำการท่องเที่ยว จว.เชียงใหม่ อยากจะบอกว่าเป็นการเที่ยวที่สนุกมากเลย แต่มีบางสิ่งที่พวกผมเองไม่เคยรู้เลยในวันนั้นว่ามันเป็นวันอะไร

ช่วงบ่ายโมง เฮียชัดโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของผม บอกอะไรบางเรื่องที่สำคัญให้กับผมรู้

   "แสดงว่าเจ้าตัวเค้าไม่ได้บอกอะไรบอย"
   "ครับ ว่าแต่พี่ชัดไปรู้มาได้ไงครับ" ผมยังนึกสงสัย
   "พี่ก็ไปเปิดทะเบียนดูสิ" ผมลืมไปพี่ชัดเป็นประธานของปี 2

   "บอยๆ มานั่งทำอะไรข้างบนคนเดียว เพื่อนๆเค้าจะไปสปอร์ตคลับกันหมดแล้ว" พัดเดินขึ้นมาตามผม
   "เออ มาก็ดีเลย นายไปคอยดูเมศไว้นะ อย่าให้กลับมาที่บ้าน และห้ามไปที่บ้านใหญ่ด้วย"
   "ทำไมหรอ มีอะไร"

ผมอธิบายให้พัดฟังง่ายๆ เค้าดูจะเห็นชอบด้วย เราทั้งคู่จึงแยกกันทำงานตามอย่างที่วางแผนไว้ ผมตรงกลับไปที่บ้านใหญ่ บอกให้พี่ๆพนักงานให้ช่วยทำโน่นทำนี่ให้ (ผมไม่เรียกคนงาน แต่เรียกพี่ หรือพนักงาน) ผมเตรียมงานทุกอย่างเสร็จในเวลาประมาณ 5 โมงเย็น คุณย่าของผม และของเมศ เดินมาพร้อมๆกันเจอผมเข้าพอดี ผมก็เลยถามท่านว่ารู้หรือไม่วันนี้วันอะไร

   "รู้สิ" นั่นคือคำตอบ ท่านบอกกับผมเบาๆว่า วันนี้ทั้งสองคนจะต้องไปธุระตอนเย็น อยู่ด้วยไม่ได้แต่ฝากของให้ผมไว้แทน...กล่องกำมะหยี่สีแดง ดูแล้วคงเป็นของมีราคาไม่ใช่น้อย

ผมโทรกลับหาพัดซึ่งน่าจะอยู่ที่คลับ

   "เจ้าตัวยังเล่นเทควันโดอยู่เลย สงสัยจะสนุกใหญ่" พัดตอบกลับมาเมื่อผมถามว่า เมศทำอะไรอยู่
   "พัดนายบอกทุกคนรึยัง"
   "บอกหมดแล้วหละ"
   "ก็ดี งั้นแอบๆออกมานะ กลับมาได้แล้ว ทางนี้เตรียมงานเสร็จแล้ว"

บอยวางหูโทรศัพท์ แล้วกดหมุนไปที่อีกเบอร์ การสนทนาของผมเริ่มขึ้นกับอีกหนึ่งคนในคู่สาย

   "คือจะให้คุยกับเค้า ก็ได้นะ แต่เรื่องจะให้ชอบ มันแล้วแต่เจ้าตัวเค้า"
   "แล้วพอใจกับเค้ามั้ยหละ ถ้าชอบก็บอกได้ง่ายๆอยู่แล้วนิ ทีบอกกับบอย ยังพูดหน้าตาเฉย"
   "มันไม่เหมือนกัน กับบอยมันสนิทกัน กับเค้า พี่ไม่มั่นใจ แล้วทำไมต้องเป็นพี่ด้วยหละ"
   "อ้าว ก็รู้ไม่ใช่หรอครับ ว่าเค้าชอบพี่นะ"
   "บอย ชอบ กับ รัก มันใช้แทนกันไม่ได้นะ กับเราพี่นะทั้งรักทั้งชอบ"
   "จะไม่ลองให้โอกาสเค้าดูหน่อยหรอครับ"

   "... ถ้าอย่างนั้น อยากให้พี่พูดอะไรกับเค้าบ้าง..." คำพูดนี้เป็นเครื่องหมายว่า คู่สนทนาของผม ยินยอม

ตอนนี้บอยตื่นเต้นมาก เจ้าตัวจะรู้สึกยังไงนะ บอยไม่รู้ว่าของที่คุณย่าฝากให้เมศ กับของที่บอยจะให้เมศ เค้าจะชอบอันไหนมากกว่ากัน

เมื่อทุกคนมารวมตัวกันแล้วก็เริ่มแบ่งหน้าที่ของใครของมัน ใครจะอยู่ตรงไหน ใครจะจุดเทียน ใครจะคอยเปิดไฟ ในความรู้สึกตอนนั้น มันตื่นเต้นสุดๆ เมศเค้าจะทำหน้ายังไง เวลาที่เจอกับเรื่องประหลาดใจแบบนี้

พัดขึ้นไปยืนดูเมศจากห้องบนชั้น 2 ส่วนพวกผมใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆอยู่ข้างล่าง ประตูหน้าต่างพวกเราปิดเรียบ ห้องพักข้างล่างแอร์ก็ไม่มี ร้อนมากเลยครับ แต่ก็ต้องทน เหงือแตกกันเยอะมาก

   "มาแล้ว..." เสียงพัดตะโกนบอก ไล่ตามมาด้วยเสียง เจ้าตัววิ่งลงบรรไดลงมา สวิตซ์ไฟในบ้านทั้งหมดถูกปิดลง ทำให้สภาพภายนอกดูแล้วไม่ต่างกับไม่มีคนอยู่

ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็บ่นไม่หยุดเลย

   "อะไรเนี่ย เย็นจนป่านนี้แล้วยังไม่กลับกันมาอีกหรอ แถมยังทิ้งเราไว้คนเดียวอีก มือถือก็ไม่เปิด ใจร้ายจัง"

ดูเหมือนเค้าจะน้อยใจอะไรบางอย่าง

   "ใครเค้าปล่อยนายทิ้งเอาไว้หละ" ผมเริ่มพูดขึ้นเงียบๆ เรฟเปิดไฟสว่างขึ้น

งานวันเกิดเล็กๆที่ผมเตรียมให้กับเพื่อนก็ได้อวดโฉมให้เค้าได้เห็นแล้ว เค๊กเป็นกลิ่นใบเตยขนาดพอที่พวกผมจะทานกันหมด แล้วก็ต้องเป็นแบบที่ไม่มีหน้าด้วย เพราะเจ้าตัวไม่ชอบ

   เมื่อเปิดฝาครอบเหล็กออก เทียนทั้ง 19 เล่ม แสดงถึงอายุของเค้า ก็ติดขึ้น ส่วนเจ้าตัวนั้นหยุดอยู่นิ่งๆเลย

   "พวกนายรู้มั้ยว่า เราฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่..."

แต่ไม่มีใครตอบ เมศยืนก้มหน้า ทุกคนไม่มีคำตอบแต่กลับนึกปลื้มอยู่ในใจ

   "เมื่อ ตอนเรา...อายุ ... อายุ 10.. ขวบ..." เสียงเค้าดูสั่นๆ
   "9 ปีเลยหละ.. ที่ไม่มีใคร... สนใจ ...ในวันเกิด ....ของเรา ขอบคุณนะ" แล้วเค้าก็ร้องไห้

เม เดินเข้าไปกอดเมศ

   "พอแล้วนะ อย่างร้องสิ วันเกิดนะ" เม พูดกับเมศเบาๆ
   "เอานี่นะ คุณย่าพวกเราฝากมาให้" เค้ารับกล่องเล็กๆที่ผมยื่นให้

   "ส่วนอันนี้ของเรานะ" ผมโยนมือถือของผม ให้กับเมศ ซึ่งมีสายสนทนาอยู่ เค้ารับสายแล้วก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง ผมหวังว่านี่คงจะเป็นความสุขเล็กที่พอจะช่วยเค้าได้บ้าง

   "เมื่อกี้ โทรศัพท์นายนิ" เรฟหันมาถาม
   "อืม โทรศัพท์เรา ให้เค้าคุยกับคนที่เค้าอยากคุยนะ" พวกนั้นทำหน้า งง กัน

   "เฮ้ย ... สงสัยจะได้ซะทีนะ ชอบมานานนิ" เม พูดให้ผมฟังเบาๆ ก่อนจะเทน้ำอัดลมดื่ม

เธอยิ้มๆ ผมเองก็ยิ้มตอบ จะมีใครที่รู้บ้างว่าสายนั้นเป็นของใคร และจะมีใครรู้บ้างมั้ยว่าเมศจะมีความสุขขนาดไหน คงจะต้องรอให้เจ้าตัวเป็นคนมาบอก เพราะไม่มีใครหรอกครับ ที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้ทั้งหมด

   "เอ้า กิน กิน กิน" พัดเรียกพวกผมให้กิน สงสัยเจ้าตัวจะหิวแล้ว
   "อร่อยดีนะ ไม่มีหน้าก็ไม่เลี่ยนดี" จิ๊บเองก็ชอบแบบไม่มีหน้า ไม่มีครีม

   "ตัดไว้ครึ่งนึงนะ เอาไว้ให้เจ้าของงาน" พล ตัดชิ้นที่ใหม่ที่สุดออกไปแล้ว

   "งั้น จ้วงเลยได้มั้ย" แอนถามเบาๆ หลังจากนั้นช้อนใครต่อใครก็รุมโทรมเค๊กชิ้นนั้น จนมันหายไปหมด ด้วยเสียงรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ คราบน้ำตา

ผมแอบย่องๆ ขึ้นไปที่ชั้น 2 พวกข้างล่างยังคงเสียงดังกันอย่างสุดเหวียง เสียงของใครบางคนดังเบาๆให้ผมได้ยิน

   "ไว้ผมจะซื้อของไปฝากนะครับ" ผมไม่อยากจะแอบฟังเค้าหรอก แต่มันได้ยินเองนะ...

หลังจากนั้น พวกเราก็เที่ยวเตร่กันอีกจนกระทั่งได้เวลากลับ เป็นช่วงเวลาที่ผมคิดว่าผมมีความสุขมากกับรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ
หัวข้อ: ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:21:32
ปล..ถ้ายังจำได้ ตอนที่ผมลง นอกรอบตอนแรก อันนั้นมันเป็นช่วงก่อนผมสอบกลางภาคของเทอม 2 แต่งานปีใหม่จริงๆมันเกิดหลังจากที่ผมสอบกลางภาคเสร็จแล้ว ถ้า งง ยังไงก็กลับไปอ่านดูอีกทีก็ได้นะครับ

ภูมิโทรมาแจ้งล่วงหน้า(ตั้งแต่ผมยังสอบไม่เสร็จ)แล้วว่า ปีใหม่จะมีมีทติ้งแน่นอน และเมื่อเร็วๆนี้หัวหน้าห้องผมก็โทรมาบอกอีกว่า จัดงานที่สวนอาหารของเพื่อนผม ส่วนเวลาก็คือ 2 ทุ่มของวันพุธ ถึงเช้าของวันพฤหัส ซึ่งเป็นวันปีใหม่พอดี พวกเราจะได้ร่วมกันนับถอยหลังด้วย

หลังจากสอบกลางภาคไม่นานนัก ช่วงนี้พัดกลับบ้านทุกวันไม่เคยอยู่หอกับผมเลย ผมถามเค้าก็ตอบว่ามันมีธุระที่บ้าน แค่นั้น และพอผมชวนเค้าไปงานปีใหม่คำตอบที่ได้ก็คือ "ไปไม่ได้" ทำให้ผมเกิดอาการงอนเค้าเล็กน้อย

ส่วนตอนนี้ถ้าบอยไม่ได้ฝันหวานไปเอง เมศ ก็คงจะกำลังสานต่อความสัมพันธ์ของเค้ากับใครซักคน ผมก็ขอให้มันจบลงด้วยดีสำหรับเมศ

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนสายๆ ของวันพุธ วันนี้วันที่จะต้องไปมีทติ้ง บอยก็ไปจัดแจงหน้าตา ทรงผมเล็กน้อยไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่ และก็คิดจะเปลี่ยนมุมมองให้เพื่อนๆดูซักนิด บอยเลือกชุดทำงานลายสก๊อตสีม่วงอ่อนมาใส่แล้วก็ใส่ยีนส์แข็งสีดำอีกตัวนึงเป็นอันเรียบร้อย

ผมขับรถออกจากบ้านแล้วนึกเปลี่ยนใจจากที่จะตรงไปยังงานเลย กลับไปที่คาเฟ่ของที่บ้านผมก่อน ผมจะไปหยิบเอากีต้าโปร่งของภูมิมาด้วยเผื่อที่ว่าเค้า หรือผมอาจจะได้ใช้มันก็ได้ทำกิจกรรมสนุกๆ

อีกเพียงชั่วโมงกว่าๆก็ถึงงานพอดี ข้างนอกก็เริ่มจะมืดๆแล้ว เพิ่งจะทุ่มเศษๆ คนอื่นๆคงยังไม่มีใครมากันมากนัก

   "อ้าว บอยมาถึงแล้วหรอ ภูมิก็เพิ่งมาตะกี้เอง" เพื่อนอุ้มของผมทักเมื่อเห็นหน้า
   "อ้าว อุ้ม เป็นไงหละ วันนี้จัดงานหมดงบไปเท่าไหร่หละ"
   "อืม...ป๋าบอกว่าให้จัดให้ฟรีๆนะ อุ้มก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่แต่ที่คาดๆดู คง 3-4 พันได้มั้ง นับเฉพาะค่าอาหาร ไม่นับดนตรีนะ เพราะยังไงก็ต้องจ้างประจำร้านอยู่แล้ว"
   "แล้วตอนนี้ภูมิอยู่ไหนแล้วหละ อ้อ ไอ้กิจ มารึยัง"
   "กิจนะหรอ มาแล้วกำลังสาระวนเตรียมอะไรเล็กๆน้อยๆให้เพื่อนๆดูกับภูมินะ บอยไปดูที่หลังเวทีได้นะ"

ห้องซ้อมหลังเวทีหรอ ผมก็ขอลาอุ้มตรงนั้น ตรงไปหากิจ ซึ่งเป็นหัวหน้าห้องของพวกผม และจากที่อุ้มบอก ภูมิก็คงจะอยู่ที่นั่นด้วย ผมถือกีต้าของภูมิเดินตรงเข้าไปในห้องพักหลังเวที

   "เฮ้ย พวกแกจะเตรียมอะไรแสดงกันบ้างมั้ย" ผมถามทันทีที่ภูมิเห็นหน้า ดูเค้าจะตกใจเล็กน้อย
   "อ้า... อ้าว บอยมาแล้วหรอ ก็คงไม่มีอะไรมั้ง เห็นกิจบอกอาจ จะให้ภูมิ หรือบอยร้องเพลงกันเล็กน้อยแล้วก็คงจะพอแล้วมั้ง วันนี้หัวหน้าอยากให้เน้นกิน" ภูมิพูดไปก็หัวเราะไป แต่หน้ายังซีดๆอยู่ เค้าตกใจอะไรของเค้า

   "อันนี้ของนาย เราเอามาให้" ผมส่งกีต้าโปร่งให้กับเค้า เค้าก็ยิ้มๆแล้วเอาไปวางเก็บไว้ที่มุมห้อง
   "เออ ภูมิวันนี้เราไม่ได้เตรียมอะไรมาหรอกนะ นายเล่นไปเลยคนเดียว" ผมบอกกับเค้า
   "อ้าว ..." ผมไม่ทันได้ฟังอะไรมากนักก็เดินออกมา ตรงไปอยู่กับเพื่อนๆที่สนิทของผม

ไม่นานนักคนก็เริ่มเยอะ เสียงคุยกันเจี้ยวจ้าวไปหมด 2 ทุ่มครึ่งเพื่อนผมคนสุดท้ายก็มาถึงงานแล้ว

   "เออ คุณหญิง อร ขอรับ ขอเชิญบนเวที เดี่ยวนี้เลยขอรับ" กิจเรียก อร ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง
   "เออ คุณหญิง อร มีอะไรจะพูดมั้ยครับที่มาซะคนสุดท้ายเลย" ภูมิเซ้าซี้
   "..ไม่มีค่ะ พอดีรถมันติด..." แล้ว อรก็เดินลงเวทีไปเลย อร กับ ภูมิเป็นบุคคลที่เกลียดกันอย่างแรง

เสียงหัวเราะของเพื่อนๆดังลั่น ทุกๆคนเข้าใจว่าทำไมอรทำทีท่าแบบนั้น

   "งั้น...ภูมิขอตัวร้องเพลงเพราะให้ฟังกันซักเพลงก่อนนะครับ" แล้วดนตรีก็ดังขึ้น นักดนตรีร้านของอุ้มฝีมือเจ๋งมากทีเดียวครับ ภูมิร้องเพลงได้ดี เดี๋ยวนี้ฝีมือพัฒนามากกว่าบอยเสียอีก

ผมหันไปนั่งคุยกับเพื่อนๆ เพราะคราวที่แล้วที่เจอกันแทบจะไม่ค่อยได้คุยเลย วันนี้จริงๆแล้วกะพาพัดมาเปิดตัวซักหน่อย ในเมื่อพัดไม่มาบอยเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรดี...

   เสียงร้องของภูมิจบลง ตามด้วยเสียงปรบมือเกรียวของเพื่อนๆ
   "เอาหละ ภูมิร้องเพลงไปแล้วมีใครอยากจะพูดอะไรหน่อยมั้ยครับ อ้าวอุ้ม มาเลย" อุ้มเดินไปบนเวทีรับไมค์จากภูมิมาพูด

   "เออ วันนี้พวกเราว่าแปลกมั้ย" เธอทิ้งระยะให้พวกเราหยุดคิด
   "ทุกทีในห้องจะมีหมาสองตัวแข่งกันเห่า วันนี้ตัวนึงมันเห่า แต่อีกตัวไม่ยอมเห่า" เพื่อนๆหัวเราะกันอีก

   "ทั้งที่แรกๆ เห่าไม่เพราะเลยเนอะก็ยังอยากเห่า แต่ตอนนี้ร้องได้เพราะแล้ว ไม่คิดจะร้องหน่อยหรอบอย"
   "เอาเลย...เอาเลย ร้องหน่อยดิ" เอาหละร้องก็ร้อง ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปบนเวที

   "อุ้มจ๋า อุ้ม บอยขอไมค์เหน็บหน่อยมีมั้ย" ผมถามอุ้ม เธอเดินไปหลังเวที แล้วก็ส่งไมค์เหน็บคอเสื้อให้
ผมเอาตัวส่งสัญญาณหนีบไว้ข้างหลัง

   "ฮัลโหล 1 2 3 โอเคได้ยินชัดเจนดีนะ เพื่อนๆทำตามบอยนะครับ ปรบมือ แล้วก็ตบที่ขา" ผมก็ทำท่าปรบมือ สลับกับขาเป็นจังหวะ จะได้เสียงปรบมือ ดัง-เบาสลับกัน
   "ทำต่อไป อย่างนั้นแหละ" เมื่อผมเห็นทุกทำกันพร้อมเพรียงแล้วก็ นั่งห้อยขาลงที่หน้าเวที
   "เอ้า...นึกถึงวันนั้นสิ เธอลืมไปรึยัง ฉันยังจำได้ดี..." ผมเริ่มร้องเพลง ภูมิได้ยินก็เริ่มเอากีต้าโปร่งมาเล่นเสริมให้ทันที
   "ทบทวนความรู้สึก  เรื่องราวที่มี ที่เราเคยร่วมกัน...วันนี้โลกของฉันและเธอดูเปลี่ยนไป อะไรจึงดูไม่เหมือนเก่า.... ยิ้มให้กันอย่างวันนั้นได้รึเปล่า.... " เสียงตบมือเข้ากับจังหวะ ดูแล้วทุกๆคนจะมีความสุข
   "ขอให้รู้ว่าใจฉันไม่เคยเปลี่ยน .... หวังว่าใจเธอจะคิดเหมือนกับฉัน .... คืนและวันที่มันยังหมุนไปเก็บใจเผื่อเอาไว้บ้าง .... ไว้ให้เรากลับมาพบกัน..."

   "ขอบคุณครับผม...ที่ให้ความร่วมมืออย่างดี" ผมกระโดดลงจากเวที เดินไปที่โต๊ะเหมือนเดิม เพื่อนๆก็ยังแซวตามปรกติ ภูมิกับกิจ ก็ดำเนินรายการกันต่อ

   "เอาหละ ตอนนี้เพื่อนๆก็ได้ฟังเพลงจากนักร้องของ Minus-1 ไป 2 คนแล้ว หนุ่มเปียว..จะขึ้นเวทีมั้ยเปียว" เปียวเป็นอีกคนในอดีตวงของผมกับเพื่อนๆ
   "เอ้า ส่ายหน้าเสียแล้ว สงสัยช่วงนี้หนุ่มเปียวไม่ยอมเตะบอล อ้วนขึ้นเยอะ" ตามมาด้วยเสียงหัวเราะจากคำพูดของภูมิ
   "งั้นเอายังไงดีหละ คุณภูมิ" กิจหันมาถาม
   "เอายังงี้ดีมั้ย ผมจะหาอะไรมามาให้ดูกันนิดๆดีกว่า" ภูมิพูดพลางยักคิ้ว
   "วันนี้กระผมเห็นคุณภูมิควงหนุ่มๆมาด้วยนี่นา คนนั้นสาวๆหลายคนคงอยากจะรู้จัก" คงจะหมายถึงแฟนใหม่ของภูมิ บอยไม่คิดว่าเค้าจะพามาด้วย
   "อ้อ หนุ่มคนที่พามาหรอ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าแฟนกระผมนะครับ ผมยังโสด" ภูมิเก๊กท่าหล่อ
   "อ้าว แล้วท่าอย่างนั้นหนุ่มคนนั้นเป็นใครกันหรอครับ"
   "หลายๆคนคงจะเคยเห็นแล้วหละครับ เพียงแต่ยังจำไม่ได้ เค้าคนนี้เป็นลูกศิษย์กระผมเองขอรับ"
   "ว้าว ไปเรียนมาไม่นานมีลูกศิษย์แล้วแบบนี้อนาคตไกลแน่เลยครับคุณภูมิ งั้นไม่พูดให้เสียเวลาแล้ว เชิญพบกับลูกศิษย์คนแรกของคุณภูมิกันเลย"

ดูเพื่อนๆจะสนใจดูกันมากเลย ไฟทุกดวงบนเวทีดับลง มีใครบางคนใส่ชุดสีเข้มๆ เดินขึ้นไปตรงกลางเวที

   "วู้....อยากถามว่าเธอจะไปกับฉันไหม..." เสียงร้องนุ่มๆดังขึ้น   สปอร์ตไลท์ทั้ง 3 ดวงฉายลงมาที่คนๆนั้น

ผมไม่เชื่อกับสายตาตัวเอง ว่านั้นคือ พัด ดนตรีก็ดังขึ้น พัดจำไมค์ด้วยท่าทีมาดมั่นแตกต่างกับที่เคยเห็น ขนาดไปร้องคาราโอเกะด้วยกันยังไม่กล้าร้องเพลง

   "...เมื่อเอ่ยถึงรักเราที่เป็นอยู่ตอนนี้... เริ่มต้นดูเข้าทีดูดีและสวยงาม..." สาวๆกรี้ดกันเกรียว เสียงพัดนุ่มดีนะครับ... ไม่คิดว่าจะนุ่มแบบนี้
   "....แต่ต่อจากนี้สิ ชีวิต..เมื่อคิดและตรองดู สิ่งที่เราเห็นอยู่ก็คือทางที่มีแต่ขวากหนาม...
   .....อยาก อยากที่จะลองถาม ว่าเธอพร้อมร่วมทาง เคียงข้างกันกับคนอย่างฉันหรือเปล่า...
   ....มันอาจจะเหน็บหนาว ในคืนที่แสนหนาว ไม่พร่างพราวเหมือนวันก่อน อาจเดือดร้อน ในบางครั้งที่เราต้องลำบาก... เธอจะเสีย ใจบางมั้ยในวันที่ทุกข์ยาก อยากถามว่าเธอจะไปกันฉันไหม...."

เสียงของพัดถ้าเดาไม่ผิด เป็นเสียงช่วง เบส ที่ฟังแล้วให้อารมณ์อบอุ่นสบายๆ ต่างกับเสียงของผมและ ภูมิ ที่เป็น บาริโทน กับ ทีนอร์ ซึ่งจะสูงกว่าเบส ผมไม่คิดว่าในเวลาสั้นๆ พัดจะทำได้ดีขนาดนี้ แต่ก็คงจะเป็นเพราะเพลงที่ใช้ ไม่มีการโหนเสียง และระดับเสียงสูงสุดและต่ำสุดไม่ต่างกันมากด้วย

   "เอาหละครับ... ขอเชิญแนะนำตัวกันหน่อย แหม..ลูกศิษย์คุณภูมินี่ร้ายจริงๆ เอายังงี้ดีกว่ามาเฉลยกันดีกว่าครับ ว่าเค้าคนนี้เป็นใคร" กิจเริ่มดำเนินปาหี่ของเค้าต่อ
   "ว่าแต่ มีบางคนอาจจะอยากเฉลยเองแล้วมั้งครับ" ภูมิหันมามองที่ผม

แน่นอนผมเดินขึ้นไปหาทันที เมื่อเจอหน้า เหงื่อบนหน้าพัดพราวไปหมด สงสัยจะลำบากไม่ใช่น้อย

   "คุณบอยครับ ไหนๆก็มาแล้ว แนะนำลูกศิษย์ผมให้เพื่อนๆรู้จักทีซิครับ" ภูมิหันมาพูดกับผม บอยเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไมค์เหน็บที่ข้างเข็มขัด

   "เออ คนนี้คือพัดหนะครับ เป็นรูมเมทของบอย ที่หอครับเพื่อนๆ" ผมอธิบาย
   "แหม..น่าน้อยใจจังนะครับ เป็นแค่รูมเมทหรอครับ น่าน้อยใจจังเลยนะครับคุณพัด" ภูมิเริ่มสาวไส้ผมอีก
   "เออ...เค้าเป็น...." ผมไม่พูดแล้ว

บอยเอื้อมมือไปรั้งคอของพัดเข้ามาจูบ เอาตรงนี้แหละกลางเวทีเลย เพื่อนๆโห่กันลั่น...ผมคลายแขนออกตอนนี้หน้าแดงวูบวาบไปหมดแล้ว..

   "กรี้ด....ยายบอย...แกหา.... มาได้แล้วนะย่ะ" อีนังจิว กระเทยคนเดียวในห้องของผมมันตะโกนว่า เพื่อนๆหัวเราะกัน บอยเองยังหัวเราะจนน้ำตาไหล

จิววิ่งขึ้นมาบนเวทีอีกคน แย่งไมค์จากมือของภูมิมา เดินไปที่พัดด้วยท่าทางหิวผู้ชายของมัน พร้อมกับเต้นยั่วสวาทพัด แล้วร้องเพลง ล่ำบึ้ก ไปด้วย ทำพวกผมฮากันไม่หยุด....

   "เอาหละครับ เพื่อนๆ ตอนนี้ก็ได้เวลาที่พวกเราจะรับถอยหลังด้วยกันแล้ว...ขอให้เพื่อนๆ ยืนขึ้นด้วยนะ" กิจสั่งกับเพื่อนๆ พวกเราก็ลงจากเวทีมาที่โต๊ะของตัวเอง

   "10 9 8 7 6 5 4 3 2 1  ในวันปีใหม่นี้ขอให้เพื่อนๆมีความสุข สอบไม่ติด F กันนะครับ"

คำอวยพรของ ภูมิทำให้เพื่อนๆหัวเราะกันอีกครั้ง เรายังมีความสนุกกันตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเช้า ถึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน บอยยืนมองเพื่อนๆขับรถออกไปทีละคน ทีละคน ช่างต่างกับสมัยมัธยมเหลือเกิน ตอนนั้นพวกเราเดินออกจากโรงเรียนพร้อมๆกัน แล้วพรุ่งนี้เช้าก็เจอกันใหม่แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
หัวข้อ: ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_Image ที่ 18-03-2007 07:23:37
ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายที่ผมเขียนแล้ว เพราะว่าเรื่องราวที่ผมจะเขียนในตอนแรกนั้นตั้งใจจะเขียนเพียงแค่ 1 เทอม แต่ทำไปทำมามันหยุดไม่ได้ ผมก็เลยเขียนไปตลอดทั้งปี ก็คงจะต้องมีบางอย่างที่อยากจะขอโทษ และบางอย่างที่อยากจะขอบคุณ

ในบางส่วนที่ผมไม่สามารถบอกได้ บอยก็เปลี่ยนรายละเอียดในส่วนที่ควรจะเปลี่ยน คงจะพอเข้าใจนะครับว่าทำไมต้องทำ  และบอยเองก็มีบางเรื่องอยากบอกไว้คือ อยากให้ทุกๆคนอ่านแล้วจำความรู้สึกที่ได้อ่านไว้ จำความประทับใจต่างๆเอาไว้ อย่าไปใส่ใจกับเนื้อหามันเลย แล้วก็อย่าไปพยายามค้นหาเลยว่า มันเกิดขึ้นที่ไหน ข้อมูลจริงๆเป็นอย่างไร อยากให้ทำเหมือนกับอ่านนิยายซักเรื่องแล้วคุณก็ประทับใจ เมื่อไหร่ที่อยากหวนรำลึกความประทับใจนั้นก็กลับมาอ่านได้ที่เว็บแห่งนี้

และขอขอบคุณทุกๆคนที่อ่าน ทุกๆข้อแนะนำ และ อีเมล์ที่เข้ามานะครับ ขอขอบคุณ(และขอโทษที่อ้างชื่อโดยไม่บอก) นักแสดงหลักที่ผมเอ่ยชื่อไว้ด้วย ไว้นะที่นี้ด้วย ทุกๆคนเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่น้องที่สำคัญทุกคน

เส้นทางเดินชีวิตของพวกผมทั้ง 9 คนมันแยกกันไปตามความถนัดในสาขา วิชา อาชีพ ซึ่งแต่ละคนจะต้องแยกทางเดินกันไปตามทางของตัวเอง เมื่อวานนี้ผมยังเพิ่งเห็นพวกเราซ้อมหลีดกัน แต่มาวันนี้พวกเราทุกคนแยกทางเดินมุ่งสู่อนาคตของตัวเอง แต่จะมีบางสิ่ง บางอย่างที่อยู่ในความทรงจำของพวกเรามันจะอยู่ตลอดไป

"ผมบอกไม่ได้ว่าเราทั้งคู่จะแยกทางกันตอนไหน แต่ถ้าผมไม่พบกับเค้า ชีวิตของผมคงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้"

=====================================================
วันนี้วันเปิดเรียนของภาคเรียนที่ 1 ในปี 2 ของชีวิตการเป็นนักศึกษาของบอย ขณะที่ผมกำลังนั่งรถไฟฟ้าไปยังคณะ โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นมา ขึ้นว่า Poramets อืม เค้าคนนั้นมีอะไรกับผมอย่างนั้นหรือ

   "ฮัลโหล...ทำไมรับสายช้าจังเลย ปรกติแป๊บเดียวเองนิ" เมศบ่นทันทีที่รับ
   "อืม กำลังดูว่าใครโทรมาหาหนะ ว่าแต่มีอะไรหรอเมศ"
   "ก็เรื่องจะนัดกันไปเลี้ยงน้องรหัสด้วยนะ เดี่ยวเพื่อนๆจะนัดมาเจอกัน ไปที่วิทยาเขตเลยนะ ตอนเย็นบ่าย 3 โมง" เค้าสั่งมาเป็นชุดๆ
   "อืม...จะว่าไปถ้าแค่นี้โทรบอกกันก็ได้นิ...กว่าจะถึงบ้านเราไกลนะเมศ"
   "คือ เรามีเรื่องสำคัญอีกอย่างจะบอกพวกนายด้วย มาด้วยแล้วกันนะ" แล้วเมศก็วางหูไปเฉยๆ

ผมถอนหายใจยาวๆ กว่าจะถึง 2 ชั่วโมงกว่าตายแหง..กลับไปเอารถที่บ้านแล้วค่อยขับไปดีกว่า

   "อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  Victory Monument" เสียงประกาศถึงสถานีก็ดังขึ้น บอยเดินออกจากรถไฟฟ้า

ลงตามบันไดไปเรื่อยๆ แล้วก็เลยแวะซื้อน้ำบนสถานีเล็กน้อย

   "บอย...บอย" มือใครบางคนวางลงบนบ่าของผม
   "อ้าว พัด..." ผมก็ยิ้มๆ เพราะช่วงปิดเทอมนี้ผมเองก็ไม่ได้ทำงาน พัดเองก็ไม่ได้ทำงานเลยไม่เจอกันเลย
   "เมศโทรหาบอยรึยัง"
   "ก็นะ บอกให้ไปวิทยาเขต กว่าจะถึงก็พอดีเลิก"
   "ติดรถเราไปมั้ยหละ เราก็ต้องไป" อืม นั่นสิทำไมลืมไปได้ไง

ผมตกลง บ้านพัดก็อยู่ใกล้ๆ ไปเอารถก็ง่ายกว่าผม ขับไปไม่นานก็ถึง... วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดเรียน การเรียนก็ไม่มีอะไรมากมายผมเลิกเรียนตั้งแต่ เที่ยงแล้ว ซึ่งพัดก็คงจะเลิกในเวลาใกล้เคียงกัน เรานัดเจอกันแถวๆหน้าคณะของผม ยืนรออยู่ประมาณครึ่ง ชม. พัดก็จอดรถข้างหน้าผมแล้ว และก็อีก 1 ชั่วโมงต่อมาเราทั่งคู่ก็มานั่งอยู่ที่โรงอาหารของวิทยาเขต สถานที่พวกเรากินทั้งมื้อเช้า เที่ยง เย็น และรอบดึก ตลอด 1 ปี

ผมไม่เจอปรเมศเลย ทั้งที่เลยเวลามาไกลแล้ว กำลังจะกดมือถือโทรหา

   "พัด...บอย...ทางนี้" เสียงเรียก พวกเราก็เลยตามไป เป็นพวกเพื่อนๆมากันครบแล้วแต่เจ้าตัวคนเรียกดันไม่อยู่ บอยเลยกดโทรตามเมศ

   "นายอยู่ไหนเนี่ย" บอยเดินออกมาคุยห่างๆ เพราะพวกนั้นเม้าท์กันแบบไม่เจอกันมา 10 ชาติ
   "เออ พวกนายถึงไหนแล้วหละ"
   "ก็โรงอาหาร"
   "งั้นหรอ อืม นายจำร้านอาหารที่พวกเราชอบไปกินกันได้มั้ย มาที่นั่นแหละ"

พวกเราทั้งหมด ติดรถของพัดไปพร้อมๆกัน แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก เมศเป็นแบบนี้ซะเรื่อยเลย แต่เมื่อถึงร้านผมก็ยังไม่เจอเมศอีกอยู่ดี ตอนนี้เริ่มจะมีอารมณ์หงุดหงิดแล้ว

   "นายอยู่ไหนกันเนี่ย พวกเรามาถึงร้านแล้วนะ"
   "รอแป๊บ" แล้วเมศก็วางหูไป

   "บอย...ทางนี้" เสียงเรียกมาจากอีกด้าน ซึ่งเป็นอาคารพานิชย์อีกหลังที่อยู่ตรงข้ามกัน

เมศ อยู่ที่นั่นเอง ใส่ในชุดทำความสะอาดสีขาว อยากบอกเลยว่าน่ารักมาก

   "นายมาทำอะไรที่นี่เมศ พนักงานทำความสะอาดหรอ" พล เริ่มปาก...
   "เอาน่า เข้ามาก่อนๆ มาช่วยกันหน่อย" เค้าดันพวกผมทุกคนเข้าไปในตึกห้องนั้น

เข้ามาก็ถึงจะรู้ว่าเป็นร้านเช่าแผ่นซีดี นั่นเอง

   "ว่าแต่ ร้านนี้ทำไมหรอ" เรฟถามเค้า ดูจากสภาพเหมือนเพิ่งจะทำร้านขึ้นมาใหม่ หรือว่า
   "ร้านนี้ เป็นของเราเองหละ...ช่วยกันจัดของ ทำความสะอาดหน่อยดิ แล้วก็เราบังคับพวกนายทุกคนนะ เป็นพนักงานของร้านนี้นะ ช่วยๆกันทำเวลาว่างๆ" เค้าจัดแจงเก็บแผ่นไปเรียงบนชั้น พลางอธิบายให้พวกผมฟัง

ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็จะได้เจอกันบ่อยๆที่นี่ใช่มั้ย...นายเป็นคนเข้าใจคิดมากเลยนะเมศ เสียงหัวเราะ รอยยิ้มของเพื่อนๆ ผมจะได้เห็นอีกครั้งที่นี่...
=============================================
ทั้งหมดนี้ เรื่องราว ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย ที่เป็นของบอย กับ พัด ผมขอนำเสนอเพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือพวกคุณสามารถเขียนเรื่องราวชีวิตรักของคุณได้ด้วยตนเอง และคงเป็นการดีไม่ใช่น้อยถ้าจะนำมาแชร์ประสบการณ์ร่วมกันนะครับ...../ Pawarets Intaradecha /
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-03-2007 21:58:08
จบแล้ว  :impress:
ขอบคุณคุณ Boy_Image สำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 18-03-2007 23:55:42
อ่านจนตาลายเลย :really2:

ขอบคุณมากๆนะครับที่เอาเรื่องมาลง สนุกมากครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-04-2007 23:05:44
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวยอดเยี่ยมนี้ครับ
ว่างๆเอามาฝากกันอีกนะครับ
 :yeb:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 07-04-2007 12:53:15

..............ขอบคุณอีกครั้งนะครับ........ :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหมาหยอกไก่ ที่ 21-04-2007 19:56:11
 :pigha2: :pigha2:

น่ารักดีนะครับ เรื่องนี้
ผมอ่านตั้งแต่สมัยอยู่ บอยออนเดอะเน็ต
กับอีกเรื่องนึง
ถ้าจำไม่ผิด ก็จะเป็น บลูสตอรี่ อะ
ยังอ่านไม่จบเลย เวปก็เปลี่ยนไปซะก่อน

คิดถึงเรื่องเก่าๆคับ
อิอิ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Simba_rella ที่ 11-05-2008 03:33:18
 :m1:

สนุกมากคะ

เนื้อเรื่องน่ารักดี

พัดก็เป็นคนใจเย็นดี

บอยก็เป็นพวกเอ๋อๆ หน่อย

อยากให้เมศกะพี่ชัดได้คู่กันอะ

สนุกมากค้า
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 19-07-2008 21:53:45
ง่าๆๆๆๆ จบสั้นจังเลย ยังไม่ไปถึงไหนเลยอ่ะ มาต่อตอนพิเศษให้ก้อดีนะฮับ รออ่านอยู่ฮับ :bye2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 22-07-2008 01:01:01
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะ

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ppangg ที่ 22-07-2008 13:27:10
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 06-08-2008 02:36:30
 :pig4:

 o13
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Bessonova ที่ 26-01-2009 22:19:30
เยี่ยมมากๆ o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: poffy ที่ 12-09-2009 21:19:45
ก่อนอื่นให้คุณบอย ผู้แต่งค่ะ  :L2: :L1: :pig4:
อ่านแล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศต่างๆรอบกายในรั้วมหาวิทยาลัยได้จริงๆเลยล่ะคะ
นึกภาพตามไปด้วยยังอดยิ้มไม่ได้จริงๆแหละ
ทั้งตอนที่ไปรับน้อง ไปเที่ยว และเรื่องของความรัก
ชอบฉากเซอร์ไพรส์ของพัดจริงๆ
ชอบเพลงเธอจะไปกับฉันมั้ยมากๆเลยล่ะค่ะ เลยไปเปิดมาฟังด้วยเลย  :o8:
เพื่อนๆในกลุ่ม ภูมิ และ พี่ชัดก็น่ารักมากๆเลยค่ะ
พี่ชัดนี่เป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ ให้พี่ชัดค่ะ  :กอด1:
เมศที่พึ่งมาใหม่ก็น่ารักดีนะคะ ชอบอีกคน  :กอด1:
เป็นเรื่องสั้นที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยนะคะ สั้นๆง่ายๆ ได้ใจความ และน่ารักดีค่ะ   o13
ขอบคุณคุณบอยมากๆเลยค่ะ สำหรับเรื่องเล่าเรื่องนี้  :pig4: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 04-02-2010 13:24:35
 o13

สนุกมากเลยค่ะ

พัดกะบอยน่ารักจัง... :-[

ขอบคุณมากค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 21-02-2010 17:28:38
เป็นเรื่องราวที่สนุกมากครับ
สักวันหนึ่งชีวิตของผมก็อาจจะมีวันนั้นนะ
ขอขอบคุณคนพิมพ์มมมมมมากกก
:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Lunaeve ที่ 06-03-2010 01:29:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: jantaro ที่ 06-03-2010 19:33:00
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: thehackzzi ที่ 30-08-2010 17:17:10
ชอบครับผม

เก็บไว้อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: pidoma ที่ 02-09-2010 01:12:50
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 19-04-2011 01:10:01
น่ารักมากมาย

สื่อออกมาได้อย่างลึกซึ้งมาก

ชอบมากครับ

ทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตที่น่ารักได้แบบนี้บ้าง?
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-04-2011 15:50:43
 :กอด1:
ยังเรียนไม่ถึงมหาลัยเลย แต่พอมาอ่านแล้วคิดว่าสังคมในรั้วมหาลัยนี่ดีจริง ๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 26-09-2011 17:53:32
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ แม้จะงงๆไปหน่อย แต่ก็สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 28-09-2011 13:22:51
ฮื้อ~น่ารักจังเลย ><~♥
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: zeeds ที่ 09-05-2012 03:21:57
ขอบคุณครับชอบจังเลย สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต่างมีชีวิตของตัวเอง แต่ก็ยังคงมีศูนย์รวมกันไว้เสมอ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 30-11-2012 18:45:33
เพิ่งได้อ่านก้นึกถึงตอนที่

มันกว่ากันเยอะเลย

 :laugh5: :laugh5: :haun1:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 08-12-2012 21:37:20
ขอบคุณคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 10-12-2012 23:28:21
น่ารักอ่ะ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 11-12-2012 03:22:06
น่ารักมากเลยค่ะ อ่านแล้วคิดถึงตอนอยู่ปีหนึ่ง เรื่องราวสนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: inblue ที่ 24-05-2013 20:14:55
ขอบคุณมากๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตรักในมหาวิทยาลัย
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-09-2016 07:32:59
อ่านแล้ว คิดถึงชีวิตในมหาวิทยาลัย :mew1: :mew1: :mew1:
ไม่อยากให้จบเลย
บอย น่าจะอัพเดท ของต้วเอง เพื่อนๆ
พี่ชัด เมศ ก่อนจบนะ คนอ่านอยากเผือกมากๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: