พิมพ์หน้านี้ - ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MiSS-U ที่ 14-06-2012 00:51:43

หัวข้อ: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-06-2012 00:51:43
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เีดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ขอนำ "เสน่ห์รักปักใจ" ฉบับปรับปรุงมาลงให้อ่านกันนะคะ
และเป็นฉบับที่ใช้รวมเล่มค่ะ  ใครที่เคยอ่านแล้วก็อ่านได้อีก
ใครที่ไม่เคยอ่านเลยก็ฝาก กัสวิน ไว้ในอ้อมใจด้วยค่ะ^^

 :กอด1:

เรื่องนี้จัดอยู่ในซีรีย์ "เสน่ห์รัก" โดยยังมีอีกสองเรื่องที่อยู่ในซีรีย์นี้ด้วย
ซึ่งมีตัวละครและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกัน  แต่มองคนละมุมตามแต่ว่า
ใครเป็นคนดำเนินเรื่อง  จึงขอเสนอให้คนอ่านที่สนใจตามไปอ่านกันได้ค่ะ

เรื่องนี้อัพทุกวันค่ะ

สารบัญ
 • ตอนที่ 1-2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.)
 • ตอนที่ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.)
 • ตอนที่ 3-4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.30)
 • ตอนที่ 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.30)
 • ตอนที่ 5-8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.60)
 • ตอนที่ 7  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.60)
 • ตอนที่ 8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.60)
 • ตอนที่ 9-10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.90)
 • ตอนที่ 11-12  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.120)
 • ตอนที่ 13-15  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.150)
 • ตอนที่ 16-17  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.180)
 • ตอนที่ 18-19  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.210)
 • ตอนที่ 20-21  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.240)
 • ตอนที่ 22-24  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.270)
 • ตอนที่ 25-27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.300)
 • ตอนที่ 28-30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.330)
 • ตอนที่ 31-32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.360)
 • ตอนที่ 33-36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.390)
 • ตอนที่ 37-38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.420)

เรื่องนี้อัพทุกวันค่ะ

เรื่องนี้จัดอยู่ในซีรีย์ "เสน่ห์รัก" โดยยังมีอีกสองเรื่องที่อยู่ในซีรีย์นี้ด้วย
ซึ่งมีตัวละครและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกัน  แต่มองคนละมุมตามแต่ว่า
ใครเป็นคนดำเนินเรื่อง  จึงขอเสนอให้คนอ่านที่สนใจตามไปอ่านกันได้ค่ะ

ชุดเสน่ห์รัก

"เสน่ห์รักปักใจ" (กัส+วิน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832)

"เสน่ห์มัดใจนายเพลย์บอย" (มิค+ฟิน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29669.0)

"เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก" (ธี+ภีม)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0)

ชุดบ่วงรัก

"บ่วงรักพญามังกร" (ธัช+ตี้หลง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34158.msg2075608#msg2075608)

"บ่วงหงส์" (เฟิงหวง+หลี่จวิน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36733.msg2279179#msg2279179)

ชุด LOVER

"รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง" (ธันว์+หลี่ผิง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38212.msg2405104#msg2405104)

"รักต้องเคลียร์" (เบส+นน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40461.msg2569586#msg2569586)

"รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ" (ฝูหรง+พอล)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2711850#msg2711850)

เมื่อหนุ่มมาดกวนปากร้ายดีกรีหนุ่มร้อนแห่งปีที่ใครๆก็เรียก "ป๋าธัช"
ต้องมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตและมีผลต่อหัวใจ
จนเกิดความวุ่นวายตามมา  เมื่อตัวต้นเหตุที่เจ้าตัวแอบค่อนแคะ
และเปลี่ยนสัญชาติจากมังกรเป็นกิ้งกือมาตามติดเพราะติดใจ
จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างต้องติดตามใน "บ่วงรักพญามังกร" ค่ะ

:pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-06-2012 00:54:18

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 14-06-2012 00:55:50
แวะมา วู้ววววววว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-06-2012 00:57:42
ตอนที่ 1

วิน


“ โอ้ววว  อื้ม  แรง  แรง  แรง  กว่านี้ ”

“ สุดยอดดด  แน่นเป็นบ้า  ดี  อื้อออ”

สองเสียงประสานครางกระเส่าบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าของเป็นอย่างดีว่าคนทั้งคู่กำลังอยู่ในอารมณ์พิศวาส  ผมที่ยืนฟังอยู่หน้าประตูห้องได้แต่กำหมัดแน่นอดทนอย่างรอคอยว่าสงครามพิศวาสจะจบลงเมื่อไร 

“ใกล้แล้ว อ๊ะๆๆ  ระ  เร็วกว่านี้หน่อย  อื้อ”

“อืมมม  ได้เลย  เต็มที่เลยที่รัก”

“อ๊าๆๆๆๆๆ”

“ซี้ดดดด  อืมมมม”

และแล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงเมื่อเสียงครางสุดท้ายสิ้นสุดลง  หัวใจที่ร้อนลุ่มเมื่อแรกกลับสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ  ความโกรธที่ผมมีกลับเจือจางเหลือเพียงความ ‘เสียดาย’ เสียดายวันเวลาที่คบหา  เสียดายความรู้สึกดีๆที่มีให้  เสียดายความไว้ใจที่มีให้คนที่ผมเรียกว่า ‘แฟน’  และ  ‘เพื่อน’

“แอ๊ดดดด  ปัง”

ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏต่อสายตาผมยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ฝัน  ร่างสองร่างของแฟนและเพื่อนที่กำลังกอดก่ายกัน  หันมาทางที่ผมยืนอยู่ก่อนจะผงะออกจากกันทั้งๆที่หอบตัวโยน  คนตัวเล็กหน้าซีดเผือดจ้องผมกลับตาโตอย่างตกใจ  ก่อนปากแดงๆจิ้มลิ้มนั้นจะเอ่ยเรียกชื่อผมแผ่วเบาเหมือนละเมอและค่อยๆดังขึ้น

“พี่วิน...พี่วิน...พี่วิน!” สายตาละห้อยหาเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา  พยายามผลักร่างที่อยู่เคียงข้างกันบนเตียงออกห่างและตะเกียกตะกายมาปลายเตียง 

ผมได้แต่ยืนนิ่งสบตาคู่สวยที่มีแววตาสำนึกผิดคู่นี้นิ่งๆ  โดยไม่คิดจะเข้าไปหาอย่างที่ร่างเล็กเรียกร้องไม่ขาดปาก  ถ้ามีใครถามว่าเจ็บมั้ยผมบอกเลยว่า ‘เจ็บ’ แต่ไม่มากอย่างที่ควรเป็น  ให้สมกับการที่ได้รับรู้ว่าแฟนและเพื่อนของตัวเองสวมเขาให้

“ไอ้วิน” เสียงห้าวของคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนดังขึ้นและเรียกสายตาของผมให้หันไปมอง 

ไอ้แซ็คมองผมด้วยแววตาสำนึกผิดนิดๆก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบติดท้าทาย  เมื่อเสียงเล็กๆปนเสียงสะอื้นไห้ของคนข้างตัวมันเรียกแต่ชื่อผมและพยายามแกะข้อมือตัวเองให้เป็นอิสระ  เพื่อจะเข้ามาหาผมที่ยืนอยู่หน้าประตู  ผมดูก็รู้ว่ามันหวงคนตัวเล็กที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของผมมากทั้งๆที่มันไม่มีสิทธิ์  ผมพ่นลมหายใจระบายความตรึงเครียดที่สะสมมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน  และเงยหน้าสบตาคนทั้งคู่สลับไปมาอย่างตัดสินใจ

“คือพี่วิน  ฟัง ..ฮึก.. ก่อนนะ ..ฮึก...อธิบายได้  ฮึก ฮือออ”

เจ้าของเสียงหวานปนสะอื้นพูดปะติดปะต่อพยายามให้เป็นประโยคได้อย่างน่าสงสาร  จนคนที่มองแบบผมเริ่มใจอ่อนแต่ก็ไม่คิดจะเข้าหา  ยิ่งทำให้เป็นการกระตุ้นให้คนตัวเล็กคลุ้มคลั่งออกแรงดึงข้อมือจนหลุดจากการเกาะกุม  ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น 

“ตุ้บ / รัน / เฮ้ย!” ร่างบอบบางเปลือยเปล่านอนอยู่ที่พื้นหน้าเตียงหลังเจ้าของเสียหลักตกเตียง  ดวงหน้าหวานของรันเต็มไปด้วยคราบน้ำตาเงยสบตาผมด้วยแววตาเว้าวอน  พยายามกระเถิบตัวเข้าหาทั้งๆที่ดูก็รู้ว่ารันเจ็บตัวมากแค่ไหน 

ผมตัดสินใจเดินเข้าหาร่างบางเพราะความสงสารแต่ต้องชะงักเท้าอยู่ที่เดิม  เมื่อไอ้แซ็คถลาเข้าหารันก่อนโอบประคองด้วยความทะนุถนอม  แม้มันจะโดนรันปัดป้องและโวยวายใส่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ  ผมที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักยังเห็นชัดถึงแววตารักใคร่ของมันที่มีต่อรันได้  อะไรๆที่หนักอึ้งอยู่ในใจค่อยๆเบาขึ้น 

“พี่ ..ฮึก.. วิน ...ฮึก..ฮือ..  ฟังก่อน นะ” เจ้าของเสียงสะอื้นขอร้องได้อย่างน่าสงสาร  สายตาจับจ้องมาทางผมไม่วางแม้ตัวเองจะตกอยู่ในอ้อมกอดของอีก
คนที่รัดไว้จนแน่นอย่างหวงแหน  และผมก็ตัดสินใจได้ซึ่งคิดว่าดีสำหรับทุกฝ่าย

“รัน  หยุดร้องเถอะครับ  มาถึงขั้นนี้แล้วอะไรๆมันก็ชัดเจนเกินกว่าที่เราจะกลับไปเหมือนเดิม” ผมพยายามใช้น้ำเสียงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ  ด้วยไม่ต้องการให้ความหวังและไม่อยากให้คนที่เคยคิดว่ารักได้ฟูมฟายไปมากกว่านี้

“แต่  แต่...ฮือออออ...รันขอโทษ  ฮึกๆ  ให้โอกาสรันอีกครั้งได้มั้ย” คำขอโทษและคำอ้อนวอนที่รันเอ่ยช่างดูน่าสงสารจนผมอยากจะหยิบยื่นโอกาสให้เจ้าตัวแบบที่ร้องขอ  แต่เมื่อผมใคร่ครวญดีแล้วผมว่ามันควร ‘จบ’ เพื่อผลดีของทุกฝ่ายยิ่งเฉพาะกับรันเอง  ผมส่งยิ้มปลอบใจไปให้ร่างบางจนแววตาฉ่ำเปล่งประกายมีความหวังขึ้นทันตา  จนนึกเห็นใจคนตัวเล็กขึ้นมาเพราะผมพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากคำพูดที่ผมกำลังจะเอ่ยออกไป 

“พี่รับคำขอโทษนะ  เพราะพี่เข้าใจว่าเรารู้สึกยังไง”

“พี่วิน  ฮือออ  พี่ยกโทษให้รันใช่มั้ยครับ  พี่แซ็คปล่อยรัน  ฮึก  ฮืออ  รันจะไปหาพี่วิน  ปล่อยเซ่  ฮือออ” จบคำผมรันคลี่ยิ้มทั้งน้ำตาพยายามผลักไอ้แซ็คออกเพื่อเข้ามาหาผม  แต่ไอ้แซ็คก็ไม่ปล่อยจึงโดนรันทั้งทุบทั้งตีใส่

“พี่ขอโทษที่ตลอดมาทำตัวไม่ดีพอ  รันเจอคนที่ดีกว่าพี่แบบไอ้แซ็คก็ดีแล้ว  ต่อไปนี้พี่ก็ขอให้รันโชคดีกับคนที่เลือกนะครับ” สายตาตกตะลึงพร้อมด้วยอาการนิ่งค้างของรันเป็นภาพสุดท้ายที่ผมได้เห็นก่อนจะหมุนตัวเดินจากมา

ขาผมยังก้าวไม่พ้นประตูห้องก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของรันดังลั่นจนอดรู้สึกอดสูและเห็นใจไม่ได้  แต่ผมก็ไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองในเมื่อตัดสินใจแล้วผมก็ไม่คิดจะย้อนกลับ  และเชื่อว่าไอ้แซ็คที่คอยปลอบประโลมอยู่ข้างรันนั้นมันดีพอสำหรับรัน 

“รัน!  หยุดร้องได้แล้ว  ต่อไปนี้พี่จะดูแลเราเอง  พี่รักรันนะ” เสียงตะคอกของไอ้แซ็คยังดังไล่หลังผมออกมา  ก่อนที่ผมจะปิดประตูห้องจนเผลอถอนใจออกมา  และยิ่งตอกย้ำว่าผมตัดสินใจไม่ผิด

สายลมเอื่อยๆพัดโชยปะทะหน้าให้พอรู้สึกสดชื่น  หลังผ่านเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นทำให้ใจผมสงบได้อย่างน่าประหลาด  ผมลืมตามองก่อนเงยหน้าขึ้นไปยังตำแหน่งห้องที่เพิ่งจากมา  ผมคลี่ยิ้มและกระซิบแผ่วอวยพรฝากสายลมไปให้คนทั้งคู่อย่างจริงใจ 

เมื่อสองชั่วโมงก่อนนั้นผมตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ให้แฟนตัวเล็กได้ตกใจและดีใจเล่นแต่ต้องกลับมาเซอร์ไพรส์ซะเอง  ด้วยว่าผมบอกรันไปว่าวันนี้ติดประชุมที่บริษัทมาหาไม่ได้  แต่การประชุมนั้นกลับต้องเลื่อนออกไปเพราะลูกค้ายังตัดสินใจที่จะทำกับบริษัทไม่ได้   เมื่อว่างซะแล้วผมจึงตัดสินใจมาหาคนของตัวเองเพราะก่อนหน้าผมได้เอ่ยปากปฏิเสธไปเมื่อรันโทรมาชวนให้มากินข้าวเย็นด้วยกัน  แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อค  อดจะแปลกใจและนึกตำหนิคนรักไม่ได้ว่าทำอะไรไม่ระวังตัว  แต่ผมก็ต้องหยุดความคิดทั้งหมดลงด้วยเสียงแปลกๆที่ดังขึ้น  ฟังจนแน่ใจแล้วว่ามันคือเสียงอะไรก็เดินเข้าหาต้นเสียง  และใจก็ต้องหล่นวูบเมื่อสมองผมจดจำได้ว่าน้ำเสียงเร้าร้อนที่คุ้นเคยนี้เป็นของใคร  ความโกรธโมโหทำให้ผมมายืนอยู่หน้าห้องมือจับลูกบิดไว้แน่น  จะเปิดเข้าไปก็หลายทีอยู่แต่ผมพยายามระงับอารมณ์และรอ  เพราะด้วยรู้นิสัยที่ไม่ดีของตัวเองดีว่าขืนผมทำโวยวายเข้าไปทั้งๆแบบนั้น  ผมคงซัดทั้งคู่ไม่เลี้ยงแน่และคงไม่จบได้แบบนี้
     
“สุดท้ายก็จบแบบนี้สินะ  เฮ้ออออ” ผมถอนใจเฮือกใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนหมุนตัวเดินจากมา  ก่อนควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง

หลังจากผ่านเหตุการณ์เซอร์ไพรส์มาผมรู้สึกว่าตัวเองแปลกมากที่ไม่ได้เสียใจมากมายอะไร  ผมโกรธนะตอนที่เห็นภาพคนทั้งคู่แต่ตอนนี้ความโกรธหายไปเปลี่ยนเป็นเข้าใจแทน  ไม่คิดจะฟูมฟายแม้แต่น้ำตาก็ยังไม่มีให้แค่รู้สึก ‘เซ็ง’ เท่านั้น  ถ้าถามว่าผมรักอดีตแฟนมั้ยผมคงตอบว่าแค่ ‘ชอบ’  ถึงจะคบกันมาเกือบปีแต่ไม่ได้รัก  แค่เอ็นดูชอบเวลาที่รันยิ้ม  หัวเราะ  และชอบที่สุดตอนที่รันเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียกับร่างกายผม  แต่สรุปก็ ‘ไม่ได้รัก’  ใช่แล้วผมคงแค่ชอบรันเท่านั้น  และด้วยเหตุนี้การเอาใจใส่ดูแลหรือแม้แต่การปฏิบัติตัวที่พึงมีต่อคนที่เป็นแฟนสำหรับผมมันจึงดูน้อยเกินไป  รันคงรับรู้ได้ซึ่งคงทำให้รันเหงาไม่น้อยยามที่ผมไม่ใส่ใจ  เปรียบได้กับการที่ผมเลี้ยงแมวสักตัวเพื่อแก้เหงา  ผมจะเข้าไปเล่นไปคลอเคลียกับมันและชอบให้มันออดอ้อนใช้ขนนุ่มๆไซร้ตัวไปมาตามเนื้อตัว  แต่พอหายเหงาก็หมดความสนใจทิ้งเจ้าแมวขี้อ้อนและต้องการความเอาใจใส่ไว้เพียงลำพังไม่เหลียวแล  ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดว่าแมวตัวนั้นจะเหงาเป็นเหมือนกันถ้าผมไม่ได้ไปอุ้มชูเลี้ยงดูและให้ความรักความอบอุ่นกับมัน  ก็คงเหมือนรันที่คงอยากได้ไออุ่นอยากได้คนให้ความรักความเอาใจใส่ในเวลาที่รันต้องการ  แต่ผมก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างคอยทำหน้าที่แฟนที่ดี  และมันก็ไม่แปลกอะไรที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา  จะโทษก็ต้องโทษที่ตัวผมเองด้วย

“ไง  มึงอยู่ไหน....เออ....เออ....เดี๋ยวกูไปหา” ผมกดวางโทรศัพท์เมื่อได้รู้ว่าพวกเพื่อนสนิทมันอยู่ที่ไหน 

วันนี้ผมเซอร์ไพรส์มาพอแล้วไม่อยากจะเซอร์ไพรส์อะไรอีกแล้ว  ขอไปกินเหล้าให้หายเซ็งท่ามกลางคนสนิทที่รู้ใจเราดีที่สุดดีกว่าครับ  แม้ต้องเตรียมใจว่าจะต้องโดนพวกมันซักไซ้ก็ตามแต่เพื่อนก็ไม่เคยต้องทำให้เราต้องรู้สึกแย่ได้แบบนี้

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ฝากกัสวินด้วยนะคะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 14-06-2012 01:07:04
แล้วก็ตามมาอ่านอีกรอบ อิอิ o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-06-2012 01:14:40
กัสวิน เวอร์ชั่นใหม่ เย้ๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-06-2012 01:49:45
รออ่านเวอร์ชั่นใหม่ละกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 14-06-2012 01:54:59
ตามมาเสพเรื่องนี้อีกรอบนึง คึคึ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 14-06-2012 01:59:18
เอ๊ะโอ่ ! :3123:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 14-06-2012 03:42:17
>-< ว้าวๆ เวอร์ชั่นใหม่ รอติดตาม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 14-06-2012 08:31:46
เค้าอยากใด้หนังสืออาตี๋กับเฮียภีมจองด้วยคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ryokame ที่ 14-06-2012 09:07:47
ตามมาเม้นค่า อ่านอีกรอบด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 14-06-2012 09:32:35

ติดตามอีกรอบกับฉบับใหม่ค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 14-06-2012 09:34:25
ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ครับ   น่าติดตามอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 14-06-2012 09:45:35
เย้ กัสวินฉบับปรุง :mc4:

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 14-06-2012 10:51:53
ตามมาอ่านอีกรอบ ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 14-06-2012 11:07:46
ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลย อ่านมา 2 เรื่องแล้ว
เหลือเรื่องนี้เรื่องเดียว อิอิ จะได้ตัดสินสั่งจองหนังสือถูก ^_^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-06-2012 11:26:03
โอ้เย้กัสวินเวอร์ชั่นใหม่ :L2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 14-06-2012 14:45:23
เข้ามาต้อนรับคู่รักเก่าเวอร์ชั่นใหม่ ไฉไลกว่าเดิม :laugh:
ขอบคุณมากๆค่ะ :L1:
+1และเป็ด ต้อนรับพี่มาศค่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 14-06-2012 15:42:35
ยังไม่เคยอ่านคู่นี้เลยค่ะ ติดตามๆ  :mc4: :mc4:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-06-2012 16:25:08
ขอต้อนรับกัสกะวินอีกครั้ง
รอตอนต่อไปจ้า ขอตามมาด้วยคน :)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ammlovey ที่ 14-06-2012 16:41:19
ตามอ่านอีกรอบ อิอิ
พล็อตเรื่องจะต่างจากเดิมมั้วยน้าาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 1 (14/6/55) P.1 เปิดตัวอีกรอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 14-06-2012 18:57:44
บวกอีกรอบ
+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-06-2012 07:15:18
ตอนที่ 2

วิน

เสียงเพลงดังเข้าหูเมื่อผมเปิดประตูผับที่เป็นสถานที่ที่ผมตามมาเจอเพื่อนสนิท  เป็นที่ๆคุ้นเคยนักท่องราตรีบางคนในนี้ยังเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับผมแล้วด้วยซ้ำ  แต่ใจผมเองนี่สิที่แปลกไป  ‘แค่เซ็งและเริ่มเบื่อหน่าย’

“เฮ้ย  ไอ้วิน ทางนี้ๆ”

ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมสองเม็ดบนสวมกางเกงยีนส์สีดำโบกมือให้ผมพร้อมตะโกนแข่งกับเสียงเพลงและผู้คนในผับแห่งนี้  โต๊ะอยู่ด้านในเยื้องไปด้านข้างเกือบชิดเวทีที่มีนักร้องและวงดนตรีกำลังเล่นอยู่  ผมที่สอดส่ายสายตาหาเพื่อนสนิทอยู่แล้วจึงเห็นได้ชัดเจนเพราะว่าโต๊ะนี้มันเด่นพอสมควร  จึงไม่ได้ยากอะไรที่จะเจอบรรดาเพื่อนสนิทที่นัดไว้  ผมเดินฝ่าผู้คนไปจนถึงที่หมายได้ในที่สุด  อีกเหตุผลที่ทำให้โต๊ะนี้สะดุดตาก็เพราะเพื่อนแต่ละคนของผมนั้นหน้าตาพวกมันไม่ธรรมดาสามารถดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้างได้เสมอ  ประกอบไปด้วยสี่ชายหนุ่มและหนึ่งหญิงสาว  ไอ้คนที่ตะโกนเรียกผมแต่แรกนั้นคือ ‘ไอ้ธี  หรือ  นายธีรนัย’ ผู้มีใบหน้าอินเทรนด์ขาวตี๋  ตัดผมสไลด์จัดทรงชี้โด่เด่ทั้งหัว  ส่วนนิสัยมันก็ร่าเริงและขี้โวยวายเป็นที่หนึ่ง  รักเพื่อนเป็นที่สุดออกแนวเพื่อนไม่ต้องข้าจัดการเอง  โดยเฉพาะเรื่องชกต่อยกับคนอื่นไอ้นี่มันไปก่อนเจ้าของเรื่องซะอีก  แต่ถ้าไม่มีมันกลุ่มของผมก็คงจะเหงาไปไม่น้อยทีเดียว

“เออ  ไงมึง” ไอ้ตี๋ธีทักขึ้นทันทีที่ผมมาถึงโต๊ะ

“อืม” ผมก็แค่ตอบรับสั้นๆพยักหน้านิดหน่อยทักทายไอ้ธีมันไป  ก่อนหันไปมองคนอื่นๆรอบโต๊ะ

ชายหนุ่มใส่แว่นไร้กรอบหน้านิ่งคนที่นั่งติดกันกับไอ้ธีด้านซ้ายมือนั้นกำลังจิบเหล้าในแก้วตัวเองพร้อมปรายตามาทางผม  มันคนนี้คือ ‘ปรัช หรือ คุณปรัชญา’  ไม่ต้องสงสัยที่ผมแอบเรียกเพื่อนคนนี้โดยมีคุณนำหน้า  เพราะทั้งบุคลิกท่าทางและการแต่งตัวนั้นเนี้ยบกว่าเพื่อนคนไหนในกลุ่ม  วันนี้ไอ้ปรัชใส่เสื้อเชิ้ตดำเหมือนไอ้ธีแต่ไม่ได้ปลดกระดุมและสวมกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำเข้ารูปแต่ไม่ถึงกับฟิตแนบเนื้อมากนัก  ผมผ่านการเซ็ทมาอย่างดีออกแนวเรียบร้อย  และสวมรองเท้าหนังขัดมันวาววับ  เพื่อนผมคนนี้เปรียบเสมือนกุนซือของกลุ่มปัญหาหลายๆอย่างของเพื่อนๆ  ก็ได้มันคนนี้นี่แหละครับช่วยชี้ทางสว่างให้ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัว  แต่ก็อย่าหลงเชื่อในสิ่งที่เห็นมากนักเพราะหญิงสาวหลายคนหลงกลเข้าหาเพราะคิดว่ามันนิ่งเหมือนจะง่ายและดูไม่เรื่องมากไม่เจ้าชู้ที่สุดในกลุ่มแล้ว  แต่ตัวจริงมันน่ะเจ้าชู้ไม่เป็นรองใครในกลุ่มหรอกครับ  หลอกสาวที่หลงผิดเข้าหามันให้รักให้หลงแล้วตีจากมานักต่อนักแล้ว

“ไง” เสียงนิ่งเรียบถูกส่งออกมาจากปากไอ้ปรัชเป็นการทักทาย
 
ผมตอบรับมันเป็นการพยักหน้าให้แทน  แต่ก็ไม่เป็นที่ติดใจอะไรกันเพราะเป็นพฤติกรรมปกติของพวกเราครับ  จะต้องมีพิธีอะไรให้มากความกัน  ส่วนคนที่นั่งถัดจากไอ้ปรัชเป็นชายหนุ่มตัวใหญ่พอๆกับผม  มันนั่งพิงพนักมือหนึ่งถือแก้วเครื่องดื่มซึ่งแขนอีกข้างก็วางพาดบ่าไอ้ปรัชไว้  ชื่อของเพื่อนคนนี้ของผมคือ  ‘ไอ้ฟิน หรือ นายชินกรณ์’ เป็นคนที่มีเครื่องหน้าคมเข้มไม่ต่างจากผมมากนัก  แต่จะมีผิวสีแทนกว่ามากเพราะมันเป็นคนใต้ผิวเลยเข้มกว่าใคร  ไอ้ฟินมันมีร่างกายที่หนากว่าผมนิดหน่อย  ส่วนนิสัยก็เงียบๆแต่ฉลาดมากเหมือนเสือซ่อนเล็บซุ่มหลบตัวเตรียมตะปบเหยื่อ  มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากมายที่ถูกใจในความแมนเข้มของมันครับ  ดังนั้นเรื่องเจ้าชู้ไม่ต้องพูดถึงระดับตัวพ่อเลยล่ะมันคนนี้น่ะ  แต่ส่วนใหญ่จะมีคนเข้ามาหามันเองโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องออกแรงอะไร  มันไม่มีการเอาใจ  ไม่เคยง้อใคร  งอนเองได้ก็ต้องหายเองได้  ถ้าไม่ถูกใจก็ไปซะและไม่เคยเอ่ยปากบอกเลิกใครก่อนเหมือนกัน  เพราะมันถือคติว่าไม่เคยออกปากขอคบนั่นเอง  ไอ้ฟินหันมาพยักหน้าทักทายผมและยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นชักชวน

“มาได้นะมึง” เสียงเข้มดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มมุมปากแบบที่สาวๆและหนุ่มน้อยในสต็อกของมันชอบนักหนา

“อืม  เลื่อนประชุมไปเลยว่าง” ผมตอบมันไปก่อนจะรับแก้วเครื่องดื่มมาจากไอ้ธีที่ยื่นมาให้จนแทบจะทิ่มเข้าตา

“อ้าว  ไอ้วิน  มึงไม่ได้ไปหาเด็กมึงเหรอวะถึงมานี่ได้” เสียงเรียบนิ่งของผู้หญิงหนึ่งเดียวดังขึ้นจนผมต้องหันไปมองคนพูด

ประโยคสุดท้ายนี้เอ่ยมาจากหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มนามว่า ‘มน หรือ  หญิงมนทิชา’ ประโยคที่พูดไม่มีคำลงท้ายเหมือนหญิงสาวคนอื่น  ถ้อยคำก็ออกจะดูหาเรื่องส่วนเสียงที่ใช้ก็ไม่ได้อ่อนหวานเอาซะเลย  ซึ่งเพื่อนผมคนนี้มีใบหน้ารูปไข่  คิ้วโกงเข้ม  ตาคมขนตางอนยาว  จมูกไม่โด่งมากนักปลายงอนเชิดขึ้นนิดๆซึ่งบ่งบอกถึงความรั้นและมั่นใจในตัวเองสูงมาก  ปากแดงระเรื่อตามธรรมชาติตอนนี้ออกวาวนิดๆหลังดื่มมาซักพักแล้ว  ดูโดยรวมแล้วจัดได้ว่ามนเป็นสาวหน้าหวานได้เลยครับ  เพียงแต่แววตาที่ไม่ได้หวานตามไปด้วยเลย  ออกจะติดดุและเอาแต่ใจไม่ยอมใคร  ซึ่งมนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงศอกแบะปกเสื้อออกนิดหน่อย  ชายเสื้อถูกสอดในกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำเข้ารูป  มนคงยังไม่ได้กลับไปเปลี่ยนชุดเพราะน่าจะเป็นชุดทำงานที่ถอดสูทตัวนอกออกก่อนแล้วจึงมาเจอเพื่อนๆเลย

“ไปมาแล้ว  และก็มาหาพวกมึงนี่แหละ” ผมตอบมนแบบเลี่ยงๆยังไม่อยากเอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา

“อ้าว  เห็นเพื่อนเป็นตัวสำรองนะมึง  ไงล่ะเด็กมึงมันไม่อยู่หรือออกไปกับชู้วะถึงไม่ได้มาด้วย”

‘ไอ้ธีมึงเป็นหมอดูรึไงวะถึงพูดเหมือนตาเห็น’ ผมได้ฟังถึงกับอึ้งเสยกแก้วเครื่องดื่มกระดกเข้าปากทีเดียวหมดแก้ว  และเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบกลับเพื่อนปากดีพร้อมหัวเราะในคอไปด้วย

“ฮึๆๆๆ  มึงมันแสนรู้  รู้ได้ไงวะ” พูดจบผมก็มองหน้าพวกเพื่อนๆยิ้มๆเหมือนเป็นเรื่องขำๆทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่

“อ้าว  ไอ้เชี่ยวินมึงหลอกด่ากูนี่  แต่เดี๋ยวไอ้ที่ว่ากูฉลาดเนี่ยคือเด็กมึงไม่อยู่หรือออกไปกับชู้วะ” ไอ้ตี๋ขี้โมโหคงเพิ่งนึกได้ว่าโดนหลอกด่า  ก่อนที่ไอ้ธีจะถามผมกลับเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้
เห็นมั้ยเพื่อนของผมคนนี้มันพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของตัวเองได้เร็วขนาดไหนจากแสนรู้เป็นฉลาดได้  ทำเอาผมนึกขำแล้วตอบเพื่อนๆที่ตอนนี้หันมามองผมเป็นตาเดียวอยู่อย่างรอคอยคำตอบ

“อยู่กับชู้ว่ะ” ตอบพวกมันไปยิ้มๆพยายามไม่ให้พวกมันเครียดเพราะเจ้าของเรื่องแบบผมแค่เซ็งเท่านั้นเอง

ผมลอบสังเกตหน้าตาเพื่อนแต่ละคนพวกมันทำหน้าต่างกันออกไปมีทั้งอึ้ง  ทั้งตกใจ  ทั้งมองมาแบบจับผิด  ทั้งอ้าปากหวอปากพะงาบๆพูดไม่ออก  ผมก็ได้แต่นึกขำเพื่อนสนิทแค่เมียเพื่อนมีชู้จะตกใจอะไรนักหนา  อืมใช่แค่มีชู้ไม่เห็นต้องตกใจเพราะตอนนี้ความรู้สึกของผมเองนั้นแทบจะไม่ได้รู้สึกอะไรต่อคนๆนั้นแล้วด้วยซ้ำ  คงเพราะบรรยากาศที่คุ้นเคยกับคนที่คุ้นเคยนั่นเอง  ทำให้สบายใจและผ่อนคลายมากขึ้น

“เรื่องจริงดิมึง หา” ไอ้ธีพูดออกมาได้ในที่สุดหลังหาคำพูดเจอ  ตาตี่ๆของมันเบิกกว้างจ้องรอคำตอบจากผม

“เออดิ  เรื่องแบบนี้เอามาพูดเล่นได้ไง  เมียมีชู้นะมึงไม่ใช่เมียแอบโทรหากิ๊ก” ผมก็ตอบกลับมันกวนๆยักคิ้วให้มันหนึ่งทีด้วย 

“กูยังไม่อะไร  มึงก็ไม่ต้องคิดมากก็ได้ไอ้ตี๋” ผมเรียกไอ้ธีว่าไอ้ตี๋มันจึงเอื้อมมือมาตบหัวผมทันที  ไอ้นี่มันมือเร็วครับเหมือนปากมันนั่นแหละ

“ปากดีแบบนี้อาการคงไม่ได้แย่อะไรมั้ง  ฮึๆๆ” ไอ้ฟินพูดขึ้นมาพร้อมหัวเราะในคอเบาๆ 

ส่วนไอ้ธีที่พยายามจะถามอะไรอีกต้องหยุด  เพราะโดนคุณปรัชของเพื่อนๆยกมือห้ามให้มันหยุดพูดหยุดถาม  ไอ้ธีมันหน้ามุ่ยทันทีส่วนมนก็ยกมือเอื้อมตบไหล่มันเบาๆแทนการปลอบใจ

“พอ  ไอ้ธีไม่ต้องถามแล้ว  วันนี้พวกเรามากินเหล้าไม่ใช่มาตะโกนคุยกันอย่างนี้” เสียงนิ่งเรียบของคุณชายปรัชดังขึ้น

พอโดนคุณชายปรัชห้ามเข้าเพื่อนๆที่ทำท่าจะถามต่อก็หยุดกันได้เพราะต่างลืมตัวว่าตัวเองตะโกนคุยกันอยู่  ผมว่าแล้วว่าคนที่เข้าใจเพื่อนที่สุดคือไอ้ปรัชนี่แหละ  มันคงอยากให้ผมได้สบายใจกว่านี้ก่อน  เพราะเรื่องเพิ่งเกิดแผลยังสดมันคงคิดว่าผมคงต้องการเวลา  แต่เชื่อเถอะหลังจากคืนนี้ไปจะเป็นเพื่อนคนนี้นี่แหละที่จะซักทุกรายละเอียดจากผมจนหมด  แม้ไอ้ปรัชจะเป็นคนเงียบๆก็ตามแต่ถ้าเพื่อหาทางช่วยเพื่อนหรือแม้แต่การซ้ำเติมถ้าเราคิดจะทำอะไรโง่ๆลงไป  มันนี่แหละที่จะเป็นคนจัดการพวกเราได้อย่างอยู่หมัดแต่เพียงผู้เดียว

“เอ้า  ของมึง” เสียงใสจากมนดังขึ้น

หญิงมนยื่นแก้วเหล้าที่เติมมาใหม่มาให้ผมคนที่โดนหักหลังหมาดๆมา  พร้อมชนแก้วของตัวเองกับแก้วของผมอย่างแรง  ทำให้เพื่อนคนอื่นต่างยกแก้วแล้วมาชนกับแก้วผมตามทันที  เหมือนพวกมันตั้งใจจะปลอบผมด้วยการกระทำและย้ำว่ายังมีพวกมันเป็นเพื่อนอยู่  ทำเอาผมซาบซึ้งที่มีเพื่อนสนิทแบบพวกมันอยู่ข้างกายเสมอ

“วินมึง  ดื่มว่ะ”

“ชนมึง”

“ด้วยๆ  แด่ความโชคดีของเพื่อนกูที่รู้ว่าเมียมีชู้ก่อนจะปล่อยให้เขายาวไปกว่านี้  ไอ้วิน  ฮ่าๆ”

เพราะประโยคหยอกเย้าตามสไตล์กวนๆของไอ้ธีนี่แหละที่ทำให้เพื่อนๆต่างพากันหัวเราะออกมา  จากที่คนอื่นเค้าเครียดกันอยู่ไอ้นี่มันกลับประชดตอกย้ำผมซะได้ครับ ‘กวนจริงๆ’

“ฮ่าๆๆๆ”

“ไอ้ธี  มึงนี่นะจริงๆเลย”

หญิงเดียวในกลุ่มพูดหลังจากหัวเราะไปแล้วกับประโยคนั้นแต่กลับหันมาถลึงตาใส่ไอ้ตัวดีนี่แทน  แต่ก็ทำให้ไอ้ธีมันหยุดแซวผมไปได้  อย่างที่บอกไว้ว่าถ้าไม่มีไอ้ตี๋ธีคนนี้กลุ่มผมคงเงียบและเครียดแน่ๆกับเหตุการณ์ที่เกิดกับผมคืนนี้  หลังจากนั้นก็แทบไม่มีบทสนทนาอะไรอีก  เพราะแต่ละคนคงไม่อยากตะโกนคุยกันและที่สำคัญอยากให้เวลาผมที่น่าจะเศร้าได้ทำใจและทบทวนตัวเองท่ามกลางเสียงเพลงดังสนั่น  ที่สลับสับเปลี่ยนจากนักร้องบนเวทีเป็นการเปิดแผ่นจากดีเจแทน  แต่ไม่ได้ทำให้ความมันความสนุกของผู้คนในนี้ลดน้อยลง  เพราะยิ่งดึกก็ยิ่งสนุกลุกขึ้นมาเต้นตามจังหวะเพลงกันมากขึ้น 

ซึ่งก็มีแค่กลุ่มผมห้าคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ได้พร้อมจิบเครื่องดื่มในมือตนเองไป  และโยกตัวตามจังหวะบ้างเมื่อได้เพลงถูกใจ  ทำแค่นี้ก็มีแต่คนอยากเข้ามาทำความรู้จักกับพวกเราทั้งห้าคนแล้วครับ  มีทั้งหญิงและชายที่สลับสับเปลี่ยนเข้ามาทักทายพยายามทำตัวตีสนิทหวังได้ใกล้ชิด  แต่วันนี้พวกผมคงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ผิดหวังไปตามๆกัน  เพราะเพื่อนของผมทั้งสี่คนนั้นแค่ยิ้มทักทายและเก็บเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกหยิบยื่นมาให้แล้วเท่านั้น  ไม่ได้คิดจะสานสัมพันธ์ต่อในคืนนี้  ใช่แล้วครับพวกคุณฟังไม่ผิดหรอกที่คืนนี้มันต่างออกไปเพราะไอ้พวกเพื่อนผมมันคงเกรงใจอยากปลอบใจเพื่อนในแบบของตัวเองแบบนี้ที่นานๆครั้งพวกมันคิดจะทำกัน  แต่ลับหลังเชื่อผมเถอะครับว่าไอ้เบอร์ที่พวกมันได้มานั้นต้องมีผู้โชคดีได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนผมแน่ๆครับ  โดยเฉพาะไอ้ธีไอ้ตี๋จอมเจ้าชู้

คืนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีเพื่อนสนิทอยู่ด้วยแบบนี้  ถึงแม้ผมจะไม่ได้เครียดหรือเศร้าแล้วก็ตาม  แถมความเซ็งก็ปลิวหายไปจนเกลี้ยง  เพียงเพราะ ‘เพื่อนสนิท’ ทั้งสี่คนที่เรียกได้เต็มปากว่า ‘เพื่อนแท้’ และคืนนี้ทั้งคืนพวกเราทั้งห้าคนก็นั่งฟังเพลงกันในสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา  พร้อมบรรยากาศอันคึกคักด้วยเสียงเพลง  จิบเครื่องดื่มที่ชงบางๆไปตลอดคืนจนกระทั่งผับปิด  และต่างแยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง  พวกมันทุกคนเดินเข้ามาตบบ่าผมจนคนสุดท้ายคือ ‘ไอ้ปรัช’ ที่มันตบบ่าผมแต่ยังไม่ปล่อยกลับบีบเบาๆ  จนผมหันไปสบตามันก่อนที่มันจะพูดด้วยสีหน้านิ่งๆไม่แพ้เสียง

“พรุ่งนี้  กูต้องรู้เรื่องของมึงที่เกิดขึ้นในคืนนี้ทั้งหมด” พูดจบไอ้ปรัชก็เดินหันหลังไปขึ้นรถตัวเองทันที

ผมได้แต่ยืนมองตามหลังไอ้จอมบงการด้วยสีหน้ายิ้มๆ  เพราะเข้าใจความเป็นห่วงของไอ้ปรัชที่มันมีให้ผมครับ  และได้แต่ทำใจพร้อมเตรียมตัวตอบคำถามมันทุกเรื่องก็เท่านั้น

................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ดีใจจังคนอ่านคนคุ้นเคยมาต้อนรับกัสวินพร้อมหน้าเลย
ขออนุญาตไม่ตอบเม้นท์นะคะ  ขอตอบรวมๆเนอะ
เรื่องนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาค่ะ แต่จะเปลี่ยนในส่วน
ของบทบรรยาย และบทสนทนานิดหน่อยจ้า

+1 ให้ทุกเม้นท์เช่นเดิมค่ะ  :กอด1:

ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 15-06-2012 07:47:24
รอคะอยากใด้หนังสือต้องทำงัยคะเพราะอ่านจากโทรศัพท์ :o8:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 15-06-2012 08:01:05
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:เป็นกำลังใจให้วิน :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 15-06-2012 08:48:07
จำได้ว่าตอนนั้นลุ้นแทบตายกว่า
วินจะเจอกัส  5555 
แล้วก็ต้องมาลุ้นต่อให้วินง้อสำเร็จ  อิอิ

สนุกมากๆ  เหมือนได้มารู้จักเหล่าผองเพื่อนๆใหม่อีกรอบ
+1 รีไรท์ใหม่แต่ยังสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 15-06-2012 09:05:54
รอๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 15-06-2012 09:13:00
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 15-06-2012 09:32:57
วิน :interest:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 15-06-2012 10:44:11
 :กอด1: วินแน่นๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-06-2012 11:03:47
มีเพื่อนแท้มันก็ดีแบบนี้แหละ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 15-06-2012 12:17:22
ตามมาอ่านฉบับปรับปรุงค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 15-06-2012 15:05:22

วินมีเพื่อนดีจริงๆ o13
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 15-06-2012 17:53:57
ตอน 2 นายเอกยังไม่โผล่มาเลย

รอนายเอกค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-06-2012 18:04:16
วินนี่ :a2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 15-06-2012 20:56:00
 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 15-06-2012 22:43:58
รอฉบับรีไรท์จ้าาาาา
จำได้ว่าอ่านก่อนหน้านั้นเคยร้องไห้ด้วยอ่ะ TT
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 15-06-2012 23:07:11
มาตามอ่าน กัสวิน

รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 2 (15/6/55) P.1 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-06-2012 07:43:25
รอตอนต่อไปนะครับ

 :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 เปิดจอง & โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-06-2012 08:03:36
ตอนที่ 3

วิน

‘Rrr  Rrr  Rrr’

“โอ๊ย!  ใครวะ”

ผมสบถอย่างหัวเสียหลังจากต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่ว่างไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงนั่นเอง  พยายามฝืนเปิดเปลือกตาดูชื่อว่าใครมันกล้าโทรมาหาผมตอนนี้กันแน่ ‘เออให้มันได้อย่างนี้สิ’  หลังเห็นว่าเป็นใครผมก็กดรับและกรอกเสียงแหบๆหลังตื่นนอนใส่ไป

“ครับ  คุณปรัช  กระผมนายวินจะไปรายงานตัวแล้วครับ”

เพื่อนที่เป็นกุนซือของกลุ่มโทรมาแต่เช้าแบบนี้มีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องของผมเอง ‘เรื่องเมีย(เก่า)คบชู้’ แล้วคนอย่างคุณชายปรัชถ้าคิดจะพูดจะซักใครก็ห้ามช้าหรือขัดใจมันเป็นอันขาด  ผมจึงตอบรับว่าจะรีบไปหาทันทีแต่ขอออกคำสั่งกับมันอีกหน่อยครับ 

“อืม  อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน  พร้อมข้าวเช้า” ผมรีบกดวางทันทีที่พูดจบกลัวโดนมันสวนกลับครับ

ทั้งๆที่ผมเพิ่งได้นอนไปไม่ถึงห้าชั่วโมงหลังกลับจากเที่ยวเมื่อคืนแต่ก็ต้องรีบไปตามคำบัญชา  ผมตั้งสติสักครู่ก่อนพยุงตัวลุกจากเตียงและบิดขี้เกียจไล่ความง่วงนอน  ก่อนเดินไปทางห้องน้ำทั้งๆที่เปลือยท่อนบนซึ่งท่อนล่างสวมเพียง     บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้น  ซึ่งถ้าสาวๆหรือหนุ่มน้อยน่ารักมาเห็นภาพนี้เข้าคงต้องรีบตะครุบตัวผมไว้แน่ๆครับ  ฮึๆ  นี่ผมไม่ได้หลงตัวเองนะแต่พูดเรื่องจริงต่างหาก

    

ผมก้าวลงจากรถเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าอย่างคนคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี  จะไม่ให้คุ้นได้ยังไงในเมื่อผมมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว  เดินมาถึงบริเวณส่วนที่ใช้นั่งเล่นและรับแขกแล้ว  ผมก็ไม่แปลกใจเลยที่จะพบบรรดาเพื่อนสนิททั้งสี่คนอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  เพราะคงโดนเจ้าของบ้านที่ใส่แว่นนั่งหน้านิ่งรออยู่ที่โซฟาหนังนิ่มตัวกลางนั่นแหละเป็นคนตามตัวพวกมันมา  และมีโซฟาที่ซึ่งเว้นที่ไว้ใกล้ตัวไอ้ปรัชเจ้าของบ้านสำหรับผมว่างอยู่  เพราะเพื่อนทุกคนนั่งประจำที่กันหมดแล้ว  ผมจึงอดเอ่ยปากประชดเพื่อนๆไม่ได้ครับ

“เฮ้อ  กระผมพร้อมให้การแล้วครับ  ทุกท่าน”

“รู้ตัวแล้วก็รีบมาเลย  กูรอมึงนานแล้ว  โดนตามแต่เช้าเลย”

ไอ้คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ‘ไอ้ธี’ รีบรับคำพร้อมบ่นไปตามเรื่องที่โดนปลุกมาแต่เช้า  ใจมันก็คงอยากรู้เรื่องผมมากอยู่ถึงได้มาทันเวลาแบบนี้ได้  เพราะปกติมันจะสายตลอดเมื่อมีการนัดหมายของเพื่อนฝูง
“แต่กูหิวว่ะ  กินก่อนได้มั้ยแล้วทีนี้อยากรู้อะไรกูเล่าหมด” ผมต่อรองพวกมันไปครับ  ไม่ใช่ไม่อยากเล่าแต่กระเพาะมันเรียกร้องอาหารแล้วจริงๆ  เพราะถ้าขืนปล่อยพวกมันซักถามคงยาวแน่และผมคงหิวตายไปซะก่อน

 “พวกเรากินกันก่อนก็ดีนะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน”

สาวสวยเพียงคนเดียวพูดขึ้นพร้อมหันไปหาเจ้าของบ้านที่เริ่มขมวดคิ้วมุ่นหน้าเครียดที่โดนขัดใจ  แต่ไอ้ปรัชก็ยอมพยักหน้าเห็นด้วยกับมนจนได้  ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันย้ายไปที่ห้องอาหารแทน  ผมผู้เป็นเจ้าของเรื่องจึงอาศัยจังหวะที่ทุกคนเดินไปก่อนแล้วนั้น  ถอนหายใจออกมาและเรียกพลังให้ตัวเองก่อนต้องเล่าเรื่องทั้งหมด  ไม่ใช่เศร้าเสียใจอะไรแต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับกลับการโดนซักไซ้ของเพื่อนในกลุ่ม

“เฮ้ออออ”

    

“เฮ้ออออ”

ผมถอนใจยาวเพราะเหนื่อยกับการอธิบายจากการซักถามเหตุการณ์ทั้งหมดจากเพื่อนสนิทจบลง  ผมคิดไว้ไม่ผิดหลังจากกินข้าวเสร็จพวกเราก็พากันกลับมายังห้องรับแขกห้องเดิม  นี่ก็กินเวลาไปแล้วเกือบสองชั่วโมงทั้งเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น  เรื่องความรู้สึกของตัวเองว่าผมรู้สึกอย่างไงกับแฟนเก่า  เรื่องที่ว่าทั้งสองคนนั้นเจอกันตอนไหน  เรื่องที่ว่าทั้งสองคนนั้นแอบมีอะไรลับหลังผมนานรึยัง  ซึ่งผมตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง  หรือแม้แต่เรื่องที่มันทั้งสองคนเอากันท่าไหน  ไอ้คำถามบ้าๆพวกนี้ก็จะใครถามถ้าไม่ใช่ ‘ไอ้ธี’ ล่ะครับ  ในที่สุดทุกคำถามก็จบลงจะไม่ให้ผมถอนใจได้ยังไงกัน  มันยิ่งกว่าตอนผมสอบจบซะอีกนะครับเนี่ย

“มึงแน่ใจนะว่าตอนนี้ความรู้สึกมึงกับเด็กเก่ามึงมันจบแล้วจริงๆ”

ส่วนคำถามนี้มาจากไอ้ฟินมันคงแอบกังวลว่าผมจะทำปากแข็งว่าไม่เสียใจว่าจบแล้วจริงๆกับคนนี้  ซึ่งผมก็ต้องยืนยันกับเพื่อนอย่างหนักแน่นกลับไปให้พวกมันมั่นใจ

“จบจริงๆว่ะ  กูไม่ได้รักเค้าก็เท่านั้น  พอเกิดเรื่องนี้กูก็แค่เซ็ง  อาจโกรธในตอนแรกแต่กูก็เข้าใจรันว่ะ” เกิดความเงียบขึ้นทันทีเมื่อผมพูดประโยคนี้จบลง  และคนที่เอ่ยออกมาเป็นคนแรกก็คือสาวมน

“มึงคงแค่ชอบ  ถูกใจ  หรือว่าไอ้เด็กนี่มันเหมือนกับคนนั้นของมึงวะ” มนเอ่ยเสียงจริงจังเหมือนใบหน้า

“ใช่  ไอ้รันมันคล้ายว่ะ  ตัวเล็กๆขาวๆ  ปากแดงแก้มแดงน่าจูบ  เฮ้ยยยยย  มึงปากูทำไมเนี่ย” ไอ้ธีมันทำหน้าเพ้อฝันเมื่อพูดถึงเด็กเก่าผม  และมันต้องร้องตกใจเมื่อโดนกล่องกระดาษทิชชู่ที่ตั้งบนโต๊ะลอยไปที่หัว

“หุบตูดมึงไปเลย  ไอ้หมาธี” เสียงนิ่งเรียบดังขึ้นให้ไอ้ธีมันเงียบปาก

คนที่สั่งให้ธีหุบตูด เอ๊ย! ปากคือไอ้ปรัชเพราะประโยคที่มันขยายต่อจากมนนั้นทำเอาคนต้นเรื่องอย่างผมอึ้งไปเหมือนกันครับ  ผมคิดตามไอ้ธีและออกจะเห็นด้วยกับเพื่อนหน้าตี๋ว่า ‘รัน’  อตีตแฟนผมนั้นเหมือนกับใครบางคนด้วยรูปร่างที่ตัวเล็กผิวขาว  จนน่าฝังทั้งปากและจมูกไปที่แก้มแดงระเรื่อ  ส่วนหน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารักก็คล้ายคลึงกัน  นิสัยก็ขี้อ้อนเหมือนกันแต่คนๆนั้นจะอ้อนกับผมตอนอยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น 

ดังนั้นเมื่อหกเดือนก่อนที่รันเข้าหาผมก่อนตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันผมถึงไม่ปฏิเสธ  สถานที่ก็ไอ้ผับเมื่อคืนนั่นแหละครับ  รันมาขอเบอร์ซึ่งผมก็ให้ไปง่ายๆเพื่อนคนอื่นที่ไปด้วยกันมันยังงงเพราะผมไม่ได้ให้เบอร์ใครง่ายๆขนาดนั้น  มีก็แต่ให้ทิ้งเบอร์ไว้แล้วจะติดต่อไปเอง  ผมยอมรับว่าถูกใจรันมากจึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคนตัวเล็กนั่นพัฒนาเป็นแฟนไปเร็วมากจนเพื่อนๆมันยังตกใจ  เพราะหลังจากผมเลิกกับคนๆนั้นก็ไม่เคยมีใครเป็นตัวเป็นตนอีกเลย  นอกจากการคบกันเพื่อต้องการปลดปล่อยแรงขับเคลื่อนตามธรรมชาติแล้วก็จากกันไป  แต่ก่อนจากกันผมก็ตอบแทนให้คนเหล่านั้นอย่างคุ้มค่าทีเดียวครับ  ซึ่งต่างจากรันที่ผมรู้สึกอยากใกล้ชิดผูกพันด้วยคำว่า ‘แฟน’  แต่ผมมันก็ผู้ชายนิสัยเสียคนหนึ่งอยากเจอจึงนัดเจอ  แต่ถ้ามีงานยุ่งก็ไม่เคยคิดถึงรันเลยด้วยซ้ำครับจึงทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับรันมันจบลงแบบนี้

“เออๆๆ  ขอโทษว่ะ  มึงอย่าไปแคร์มันเลยรันมันเป็นฝ่ายเข้าหามึงก่อน ไม่แปลกที่มันจะเข้าหาคนอย่างไอ้แซ็คก่อนเหมือนกันว่ะ” ตี๋อินเทรนด์กล่าวขอโทษออกมาและวิจารณ์ถึงคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่  และอีกคนที่เป็นคู่กรณีที่เป็นเพียงเพื่อนต่างคณะที่เจอกันตอนเล่นบาสแค่รู้จักแบบผิวเผินเท่านั้นครับ

“จบเหอะว่ะพวกมึง” ผมมองหน้าพวกมันนิ่งแบบรายตัว  อยากให้ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปถือว่าผมกับรันเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่อยากให้แล้วต่อกันไปครับ

“จริงว่ะกูเริ่มหิวอีกรอบแล้ว” ไอ้ปรัชมันพูดขึ้นหลังทุกคนเงียบไปนาน  และคงเข้าใจถึงเจตนาของผมล่ะว่าคิดยังไงและต้องการอะไรในตอนนี้  ผมไม่อยากให้พวกมันรื้อฟื้นจนทำให้ผมกลับไปคิดถึงคนๆนั้นที่ผมพยายามจะลืม

“พวกเราไปหาไรกินข้างนอกเหอะ  ใครไม่ว่างก็ไม่ต้องไป” สาวมนที่รับช่วงต่อจากไอ้ปรัชก็เปลี่ยนเรื่องได้เร็วทันใจ

“โห  มนครับไม่คิดจะง้อเพื่อนเลยนะ” ไอ้ตี๋ธีที่เริ่มรู้ตัวก็กระเซ้าเพื่อนซี้ทันที

“เรื่องของมึงๆ  ใครว่างลุกไปขึ้นรถกู” มนก็หาสนใจไอ้ธีไม่เพราะเธอลุกขึ้นเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูดทันที

“อ๊า  อย่าทิ้งเค้าสิตัวเอง  รอเค้าด้วยเค้าว่างสำหรับพวกมึงๆเสมอ” คู่ซี้ของมนมันก็รับมุกส่งเสียงกวนๆอย่างน่ากระทืบและรีบเดินตามร่างโปร่งของมนออกไป

บทสนทนาที่ตอบโต้กันระหว่างเพื่อนตี๋กับหญิงเดียวในกลุ่ม  ทำให้บรรยากาศตอนนี้กลับมาเป็นปกติยามกลุ่มเพื่อนสนิทอยู่ด้วยกันอีกครั้ง  ผมมองตามหลังเพื่อนๆที่เดินตามไอ้สองคนแรกไปด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า  ไม่ต้องมีคนรักก็ได้ขอแค่มีเพื่อนเข้าใจก็เพียงพอแล้วครับ

    

 ‘Rrr  Rrr  Rrr…..’

“เฮ้อออ” ผมขอถอนหายใจให้กับชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอหน่อยครับ  และปล่อยให้มันดังต่อไป

ไอ้ปรัชที่ขับรถอยู่มันหันมามองหน้าผมนิ่ง  ก่อนหันกลับไปขับรถต่อแต่เราก็ยังไม่พูดอะไรกัน  แต่ปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังอยู่แบบนี้ไปครับ  จนมันคงทนไม่ไหวเพราะความพยายามของคนต้นสายที่โทรมาอย่างต่อเนื่องเหมือนจะตื๊อให้ผมรับสายให้ได้

“ทำไมไม่รับวะ  ใครโทรมา  อย่าบอกนะเด็กเก่ามึง” ไอ้ปรัชมันถามเรียบๆโดยที่หน้ามันยังมองตรงไปที่ถนนเบื้องหน้าอยู่

“รันน่ะ  กูไม่อยากรับว่ะเรื่องมันจบไปแล้ว” ผมตอบมันไปโดยสายตาก็จับจ้องไปเบื้องหน้าเช่นกัน  พลางนึกถึงคนต้นสายที่โทรมาคงร้อนใจและฟูมฟายน่าดู  แต่ผมก็ไม่อยากรับสายรันตอนนี้ครับไม่ใช่ว่าโกรธแต่ผมเชื่อว่าเราจะคุยกันไม่รู้เรื่องมากกว่า

“รับไปเถอะน้องมันคงโทรจนกว่ามึงจะรับน่ะแหละ  ลองฟังดูว่ารันมันมีอะไรกับมึงอีก” ไอ้ปรัชให้คำแนะนำผมสมแล้วที่มันเป็นกุนซือประจำกลุ่ม 

ผมคิดตามสิ่งที่ไอ้ปรัชพูดเพราะถ้าผมยังไม่รับรันก็คงโทรหาผมตลอดเวลาจนกว่าผมจะรับ  จึงตัดสินใจรับสายนี้ไปก่อนถ้ารันพูดไม่รู้เรื่องค่อยนัดคุยกันใหม่ก็ยังได้
“รัน  ว่าไงครับ” ผมกรอกเสียงนิ่งใส่โทรศัพท์

“พี่วินมาเจอกับรันอีกครั้ง  เราคุยกันก่อนได้มั้ย” เสียงแหบเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักและสั่นเครือเหมือนกำลังจะเริ่มร้องอีกครั้ง  ทำเอาผมอดสงสารเด็กคนนี้ไม่ได้จริงๆแต่เรื่องมันมาถึงขนาดนี้จะให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมย่อมไม่มีทาง

“พี่ว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะครับ  เรื่องของเรามันจบแล้ว” ผมตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดไปส่วนผลที่ตามมาคือเสียงร้องไห้โฮทันที

“ฮือๆๆๆ  รันไม่ยอม  มันยังไม่จบ  ฮึกๆ  รันรักพี่วินนะ  ฮือๆๆๆ” รันร้องไห้ปนสะอึกสะอื้นและพยายามพูดเพื่อรั้งผมไว้  สิ่งที่รันบอกว่ารักมันคงไม่จริงเพราะคนที่รักกันคงไม่ทำกันได้แบบนี้

“เรื่องนี้มัน  ฮึกๆ  ไม่ใช่ความผิดของรัน  ฮึก  คนเดียว  พี่วินไม่มีเวลาให้รัน  ฮึก  รันก็แค่เหงาแต่รันรักพี่วินคนเดียวนะ  ฮือ” รันโทษว่าเป็นเพราะผมทำให้เหงาแล้วไปมีคนอื่น  เหตุผลแบบนี้มันใช้ไม่ได้กับความรักที่รันยกขึ้นมาอ้าง  ผมถอนใจยาวเพราะหนักใจกับสิ่งที่รันคิด  แต่ก็ยอมรับว่าความผิดครั้งนี้มันเป็นของผมด้วยครับ

“ครับ  พี่ก็ผิดอย่างที่รันพูดจริงๆ  แต่มันไม่ได้หมายความว่ารันจะไปแอบคบใครแบบนั้นได้  เฮ้อออ  จบนะครับรัน  พี่ขออย่าให้รันโทรมาอีก  ขอพี่เก็บความทรงจำดีๆของเราไว้แทนนะ” ผมยอมรับผิดและพยายามตัดรอนอย่างนุ่มนวลที่สุดครับ  ถึงยังไงเราก็มีช่วงเวลาที่ดีๆร่วมกันมา

“รันขอโทษ  ให้ทำยังไงก็ได้  ฮือออ  พี่วินกลับมานะครับ ฮึก  นะ....... ‘รันคุยกับใคร  ตึงๆ  เอามานี่  ไอ้วินเหรอ  โว้ยยยย  รันเป็นของพี่’.........”

เสียงจากปลายสายเหมือนว่ารันถูกอีกคนแย่งโทรศัพท์ไปทั้งๆที่เจ้าของไม่ยินยอม  เรื่องระหว่างผมกับคนร่างบางมันจะไม่จบง่ายๆสินะครับถ้าอีกฝ่ายยังพยายามจะรั้งกันไว้แบบนี้  ผิดกับเหตุการณ์ครั้งอดีตที่คล้ายกันแค่มีฝ่ายที่ยอมจบเพราะรู้ว่าทำให้อีกคนเจ็บและทุกข์มากขนาดไหน

“มึง  ไม่เป็นไรนะ” เสียงไอ้ปรัชแทรกความคิดของผมขึ้นมา  ผมที่กำลังนึกถึงใบหน้าของคนที่ตัวเองทำให้เจ็บไว้

ไอ้ปรัชละมือจากพวงมาลัยรถมาตบบ่าผมที่นั่งข้างกันพร้อมออกแรงบีบเหมือนเป็นการให้กำลังใจกัน  ผมพยักหน้ารับรู้ให้กับความห่วงใยและกำลังใจของเพื่อนที่ส่งมาให้  พร้อมย้อนกลับไปคิดถึงอดีตที่เต็มไปด้วยความสุขและความรู้สึกผิดที่มีต่อคนๆนั้น

.....................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

เรื่องนี้จะลงให้ทุกวันจนกว่าจะจบนะคะ
ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ

 :L1:

รายละเอียดการจองหนังสืออยู่หน้า 1 นะคะ
ปล.โอนเงิน 50 ท่านแรกมี magnet แจกน้า (เหลือน้อยแล้วค่ะ)

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 16-06-2012 08:39:54
^
^
^
ได้จิ้มอ๊ะป่าวน้าาาา

ตอนนี้ก็ยังไม่ปรากฏหมอกัสอยุดี
รอเจอคุณหมอฟันแสนน่ารักจ้าาา

+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 16-06-2012 09:49:15
ป่านนี้รันจะเป็นไงบ้างหนอ หวังว่าคงมีความสุขดีใช่มั้ย?

สงสารวินเบาเบา >_<
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-06-2012 10:15:09
รอเจอหมอกัส
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-06-2012 10:22:58
ไปดีเถอะนะรัน :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 16-06-2012 12:10:17
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 16-06-2012 14:43:01
รอกัสอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 16-06-2012 16:55:37


จบเถอะนะจ๊ะหนูรัน
รอหมอกัส
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 16-06-2012 18:29:35
แอบสงสารรัน  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

+1 ให้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 16-06-2012 18:41:36
เเอบสงสารรันเเบบเบาๆ

เเต่รันก็ทำคัวเองด้วยเเหละ

รอตอนต่อไปนะคะ

+1 ให้ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเง
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 16-06-2012 20:31:46
อ่านหลายรอบแล้วก้อยังสนุกเหมือนเดิม :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 3 (16/6/55) P.2 [เปิดจอง&โอนเงิน]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 16-06-2012 21:09:58
อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-06-2012 08:09:21
ตอนที่ 4

กัส

“คุณหมอคะ  ขอบคุณค่ะ” เด็กหญิงใส่ชุดนักเรียนพนมมือไหว้ขอบคุณอย่างน่ารักด้วยรอยยิ้มแจ่มใสแววตาใสซื่อ  ผมจึงยกมือลูบหัวทุยให้อย่างเอ็นดูกับคนไข้ตัวน้อยก่อนเอ่ยรับคำ

“ครับลูก” ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆที่หมุนตัวเดินจากไปด้วยใบหน้าที่ประดับยิ้มไม่คลาย  ผมที่กำลังมองร่างที่เพิ่งจากไปเพลินๆก็ต้องหันมาตามน้ำเสียงเกรงใจที่ดังขึ้นข้างตัว
 
“หมอกัสคะ  เด็กนักเรียนที่ต้องทำฟันหมดแล้วค่ะ  เก็บของเลยนะคะ” หญิงสาวในชุดทำงานที่ปกปิดตั้งแต่ศีรษะลงไปเหลือเพียงลูกตาแวววาวขี้เล่น  แต่ผมก็ยังรู้ว่าภายใต้ผ้าปิดจมูกนั้นใบหน้าของเธอคนนี้คงเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง  ผมจึงพยักหน้าให้แทนคำตอบพร้อมถอดผ้าปิดจมูกก่อนคลี่ยิ้มไปให้ผู้ช่วยทันตแพทย์สาวที่ยืนรอรับคำสั่ง

“ครับ  เดี๋ยววันนี้หมอจะพาทุกคนไปเลี้ยงข้าวนะ  เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” หลังคำพูดของผมประกายตาที่ผมได้สบก็ส่องแสงวิบวับอย่างถูกใจมาให้ได้รู้ว่าเจ้าของถูกใจแค่ไหน  ก่อนที่เธอจะหันกลับไปเก็บของอย่างกระตือรือร้น  ผมเองก็ถอดเสื้อคลุมทำงานออกจากตัวหลังเสร็จสิ้นภารกิจออกหน่วยโรงเรียนประจำอาทิตย์แล้ว

งานประจำของผมในตอนนี้ก็คือการเป็นทันตแพทย์ตัวเล็กๆประจำในโรงพยาบาลชุมชนที่ห่างไกลความเจริญ  นอกจากการให้บริการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นปกติแล้ว  ผมมีหน้าที่ที่ต้องออกหน่วยบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ตามโรงเรียนที่ห่างไกลด้วย  แม้จะเหนื่อยกว่าปกติแต่ความอิ่มใจและความสุขที่ได้รับจากเด็กตัวเล็กๆนั้นมันต่างกันมาก  ‘ยิ่งเหนื่อยยิ่งสุขใจ  ยิ่งเหนื่อยยิ่งอิ่มใจ’  ที่ทำให้เด็กน้อยกลับมายิ้มเต็มหน้าได้อีกครั้ง

“คุณหมอครับวันนี้ต้องขอบคุณมากเลยครับที่มาให้บริการถึงที่โรงเรียนของเรา” เจ้าของน้ำเสียงปรานีที่ผมได้ยินเป็นชายวัยใกล้เกษียณหน้าตาใจดีมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน  ผู้มีรูปร่างผอมไม่สูงนักในชุดสีกากีใบหน้าประดับยิ้มอ่อนโยนแววตาใจดี

“ครับ  ไม่เป็นไรครับ  เพราะการออกหน่วยแบบนี้ถือเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่เด็กๆซึ่งหมอถือว่าเค้าเป็นลูกเป็นหลานอยากให้มีสุขภาพฟันที่ดีน่ะครับ” ผมส่งยิ้มละมุนให้แก่ครูใหญ่ใจดีที่เดินเข้ามาคุยด้วย  ก่อนจะพูดถึงปัญหาสุขภาพช่องปากของนักเรียนเพื่อให้ทางผู้อำนวยการท่านได้รับรู้และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน  เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยได้เก็บของเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยขอตัวกลับ

“วันนี้ผมคงต้องขอตัวนะครับเพราะเดี๋ยวจะต้องไปเลี้ยงข้าวเด็กๆต่อ” จบประโยคที่พูดกับครูใหญ่ผมก็หันไปกระเซ้าเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในฐานะลูกน้อง  และได้รอยยิ้มอายๆตอบกลับจากบรรดาลูกน้องที่ยืนเคียงข้าง  ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ครูใหญ่อีกครั้งซึ่งท่านก็ยังยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี 

หลังจากนั้นผมรวมทั้งลูกน้องก็เอ่ยล่ำลาครูใหญ่และคุณครูอีกสองคนที่เดินมาส่งถึงรถที่สตาร์ทเครื่องรอพร้อมอยู่แล้ว  ก่อนพวกเราทุกคนจะยกมือทำความเคารพเพื่อเอ่ยลา

“ครับขอบคุณอีกครั้งนะครับ” เสียงอ่อนโยนไม่แพ้ดวงตาที่ผมได้สบของครูใหญ่  ยิ่งทำให้ผมฉีกยิ้มกว้างได้มากกว่าเดิม

“ครับ”

หลังจากนั้นรถโรงพยาบาลที่บรรจุเครื่องมือและเหล่าบุคลากรที่มาออกหน่วยก็ออกตัว  เพื่อเดินทางกลับไปยังสถานที่ที่เป็นทั้งที่ทำงานและที่พักของผม

    

“กัสไปรึยังอ่ะ  มิคหิวแล้วน้า” เสียงหวานของคนคุ้นเคยดังขึ้นหน้าประตู  โดยที่เจ้าของเสียงถือวิสาสะเปิดเข้ามาเอง  ผมก็หันไปส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทที่กำลังส่งยิ้มกว้างตาปิดมาให้อย่างเอาใจ  ก่อนเจ้าของความสูงที่ไม่ต่างจากผมนักจะเดินเข้ามาในห้องและหย่อนตัวนั่งลงบนเตียง

เพื่อนสนิทของผมคนนี้เป็นหนุ่มตัวเล็กผู้มีผิวขาวผ่อง  มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยุ่งไม่เป็นทรงเพราะเจ้าตัวไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่เมื่อเทียบกับของกิน  ผู้ที่สวมแว่นกรอบหนาบดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง  ทั้งๆที่เครื่องหน้าออกจะลงตัวไปหมด  ด้วยตากลมโตที่มีกรอบขนตายาวงอนเป็นแผง  ทั้งจมูกเรียวแหลมที่มีแว่นปิดทับไว้อย่างน่าเสียดาย  ริมฝีปากแดงอวบอิ่มที่กำลังคลี่ยิ้มกว้างนั้นก็ยิ่งน่ามอง  ประกอบกับผิวแก้มใสที่น่าฝังจมูกสูดกลิ่นนั่นอีก  ถ้าใครมาเห็นเพื่อนสนิทของผมตอนถอดรูปเชื่อได้ว่าต้องหลงในความน่ารักเข้าเป็นแน่ครับ  คุณสมบัติเหล่านี้เป็นของเพื่อนผมที่ชื่อ ‘น้องมิค  หรือ ศรันย์’ ชื่อแรกนั้นคุณแม่คนสวยของมิคเรียกได้คนเดียวเท่านั้น  เพราะถ้ามีใครเผลอเรียกโดยมีคำว่าน้องนำหน้าชื่อเล่นเมื่อไหร่มิคจะโกรธจนไม่คุยด้วยเลยต้องใช้เวลาง้อเป็นอาทิตย์กว่าจะยอมใจอ่อนคุยด้วยได้  ขนาดผมที่เป็นเพื่อนสนิทเผลอเรียกไปว่า ‘น้องมิค’  ตอนนั้นมิคงอนผมนานกว่าจะยอมคุยด้วยต้องเสียเงินเลี้ยงข้าวไปหลายมื้อทีเดียวครับ  แต่มิคก็เป็นคนที่เข้มแข็งและเป็นที่พึ่งยามทุกข์ของผมได้เสมอ

“อะไรกันมิค  ดูสิทำหน้าแบบนี้ไม่น่ารักเลยน้า” หลังจากผมพิจารณาใบหน้าคนน่ารักไปพักใหญ่ก็ต้องเอ่ยแซวขึ้นมา  เมื่อเห็นว่ามิคเริ่มทำหน้างอนปากยื่นซะแล้ว  ด้วยที่ว่าเห็นผมเงียบไปนานทั้งๆที่เจ้าตัวเค้าทักมานานมั้งครับ  จึงขอเย้าให้เพื่อนอารมณ์ดีขึ้นมานิด  แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลเพราะมิคส่งค้อนเล็กๆก่อนแลบลิ้นส่งมาให้  ‘นี่เริ่มงอนแล้วล่ะสิ’ อารมณ์อยากแกล้งเพื่อนปะทุขึ้นเล็กๆ 

“แต่จริงๆแล้วกัสตั้งใจเลี้ยงแค่เด็กๆในห้องเท่านั้นนะ  มิคไม่เกี่ยวซะหน่อย  ฮิๆๆ” นั่นไงครับย่นจมูกใส่ผมแล้ว  ปากแดงๆก็เริ่มเม้มแน่นพร้อมกอดอกฉับทันที  ดูสิครับมิคออกจะน่ารักจะให้ผมอดใจไม่แกล้งได้ยังไง

“โฮ  ไรอ่ะ  มิคก็เป็นลูกน้องกัสเหมือนกันนะสองมาตรฐานชัดๆ” เสียงกระเง้ากระงอดถูกส่งมาให้ผมพร้อมแววตาน้อยใจ  และผมต้องรีบกลับตัวเลิกแกล้งเพื่อน  เพราะถ้ามิคงอนขึ้นมาผมคงต้องง้ออีกนานเลย  ผมจึงเดินเข้าไปนั่งข้างมิคบนเตียงและสวมกอดร่างบางไว้หลวมๆก่อนส่งเสียงง้องอน

“แหม  หมอมิคไม่งอนนะ  ป่ะเดี๋ยวหมอกัสเลี้ยงเอง” ใบหน้าบึ้งตึงของมิคค่อยๆคลายลงผมจึงกอดมิคแน่นขึ้นและโยกตัวไปมา  จนกระทั่งมิคหลุดเสียงหัวเราะออกมานั่นแหละผมถึงโล่งใจได้  หลังจากนั้นเราสองคนก็พากันไปยังร้านอาหารที่นัดกับบรรดาลูกน้องในฝ่ายไว้ 

    

โต๊ะอาหารนอกชานของร้านอาหารที่มีขนาดไม่ใหญ่นักมีผู้ร่วมโต๊ะด้วยทั้งหมดหกคนประกอบด้วยชายหนุ่มสามคนและหญิงสาวสามคนนั้น  ต่างพูดคุยกันเบาๆหลังจบมื้ออาหาร  ผมที่กวาดมองไปโดยรอบก็เห็นว่าทุกคนทานกันเสร็จแล้วและได้เวลาสมควรที่จะกลับบ้าน  จึงหันไปทางหญิงสาวที่นั่งใกล้ตัวและพยักหน้าส่งสัญญาณให้ 

“คิดเงินด้วยค่ะ” เสียงหญิงสาวที่ผมพยักหน้าส่งสัญญาณให้เรียกเก็บเงินดังขึ้น  ก่อนที่ผมจะหันกลับมาไล่มองผู้ร่วมโต๊ะอาหารคนอื่นอีกครั้ง  ซึ่งก็พบกับรอยยิ้มละไมและสายตาเปิดเผยที่เจ้าของนั่งอยู่ตรงหน้า  จนผมต้องเสหลบตาหันมาทางมิคที่นั่งข้างกันแทน

“เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงเองนะครับน้องกัส  อย่าปฏิเสธพี่เลย” ผมพยายามปฏิเสธเมื่อรู้ความหมายที่เจ้าของประโยคต้องการ

“แต่.....อ๊ะครับ  ขอบคุณครับหมอพจน์” ผมที่ยังปฏิเสธได้ไม่เต็มคำก็ต้องจำใจยอมรับความหวังดีของหมอหนุ่มรุ่นพี่ตรงหน้าไปด้วยรอยยิ้มแหยอย่างลำบากใจ   เพราะโดนเพื่อนสนิทสะกิดด้วยเท้าใต้โต๊ะให้ยอมรับเลี้ยงจากหมอพจน์คนที่พยายามมาตีสนิทผมอยู่ตอนนี้

“ขอบคุณครับพี่พจน์ / ขอบคุณค่ะคุณหมอ” สี่เสียงประสานขอบคุณหมอหนุ่มร่างหนาผิวขาวตาตี่ที่เห็นว่าหัวหน้าอย่างผมยอมรับเลี้ยงแล้ว  และผมก็หันมาส่งค้อนให้หมอมิคตัวแสบที่ยังยิ้มร่าอย่างถูกใจที่ได้กินฟรีในมื้อนี้ 

ไม่รู้ว่ามิคจะรู้มั้ยว่ามิคน่ะดีใจอยู่บนความลำบากใจของเพื่อนแบบผมอยู่  ผมนั้นรู้จุดประสงค์ที่หมอพจน์เข้ามาตีสนิทด้วย  แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะรับไมตรีจากใครทั้งนั้น  ไม่อยากให้ความหวังใครในขณะที่ตัวเองไม่พร้อมแบบนี้เลย  และการที่หมอพจน์มาทานอาหารมื้อนี้ด้วยนั้นเป็นความบังเอิญแท้ๆเชียวครับ  เพราะผมเจอหมอพจน์ตอนที่กำลังเดินไปขึ้นรถพร้อมมิคพอดี  พอหมอพจน์รู้ว่าจะมาที่นี่จึงขอมาทานข้าวด้วยและผมก็ไม่มีเหตุผลดีพอที่จะปฏิเสธจึงต้องเลยตามเลย  เหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว  ผมก็พยายามเลี่ยงมาตลอดเวลาหนึ่งปีที่เรารู้จักกันเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเพราะอะไรหมอพจน์ถึงมีพฤติกรรมแบบนี้ 

“ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ  ไปมิค  พวกเรากลับกันดีๆนะครับ” เมื่อหมอพจน์รับเงินทอนแล้ว  ผมก็เอ่ยปากชักชวนทุกคนให้กลับบ้าน  เพราะผมนั้นห่วงเรื่องการเดินทางของลูกน้องยิ่งดึกยิ่งเดินทางลำบาก

“ค่ะคุณหมอ  พรุ่งนี้เจอกันนะคะหมอกัสหมอมิค” ผู้ช่วยสาวหันมายกมือไหว้ผมและมิคด้วยรอยยิ้มขอบคุณ  ก่อนจะหันไปขอบคุณเจ้ามือตัวจริงที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ข้างกายผม 

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณหมอพจน์” ทำให้อีกสองสาวที่เหลือทำตามทันทีและต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน  เหลือเพียงผม  มิค  และหมอพจน์ที่ยืนส่งสามสาวที่ขี่มอเตอร์ไซค์กลับจนลับตา

“งั้นเดี๋ยวมิคกับกัสไปแล้วนะครับ” เสียงใสๆของมิคดังขึ้นทำลายความเงียบและอาการกระอักกระอ่วนภายในใจของผมลง  ผมเงยหน้าสบตาวาวหวานของหมอพจน์  ก่อนจะรีบขอบคุณตามเพื่อนสนิทและหลบสายตาคู่นั้น  ผมจับข้อมือมิคให้เดินตามกันมาที่รถแต่แล้วก็ต้องชะงักเท้าเพราะเสียงนุ่มที่ไล่หลังมา

“เอ่อน้องกัส  ขับรถดีๆนะครับ” ผมหันไปส่งยิ้มจืดเจื่อนให้หมอพจน์นิดหน่อยและรับคำ  ก่อนหมุนตัวเร่งฝีเท้าจากมาแต่ก็ยังอดรู้สึกผิดนิดๆไม่ได้เมื่อได้เห็นแววตาละห้อยของคนข้างหลัง

    

“น่าสงสารหมอพจน์จริงๆน้า  พยายามมาเป็นปีแต่ก็ไม่เป็นผล  โอ๊ยยยย  กัสอ่ะ” ดูคำพูดคำจาของเพื่อนสนิทผมสิครับ  ทำไมถึงกล้าพูดแบบนี้ขึ้นมานะผมยังไม่กล้าคิดประเด็นนี้เลย 

ผมจึงจัดการตีแขนมิคไปเบาๆแต่ที่เจ้าตัวก็ร้องซะดังคงด้วยแกล้งร้องเกินจริงไปอย่างนั้นเอง  หลังจากนั้นผมก็แกล้งตีหน้าดุชี้นิ้วคาดโทษเพื่อนจอมทะเล้นเพื่อปรามไม่ให้พูดเล่นอีก

“ครับ  กลัวแล้วครับ  น้องมิคไม่พูดแล้วครับ  ฮ่าๆๆๆ” มิคฉีกยิ้มกว้างก่อนเข้ามากอดแขนประจบเอาใจอย่างน่ารัก  จนผมเผลอยิ้มคลายดุให้เจ้าตัวดีต้องหัวเราะคิกคักออกมา  แต่ก่อนที่เราจะแยกย้ายเข้าห้องเสียงโทรศัพท์ของมิคก็ดังขึ้น

“จ้า  ว่าไงมายเดียร์.... กินแล้วเพิ่งกลับมาเนี่ย.....อยู่ด้วยกันเนี่ยแหละ.....คงลืมเอาไปมั้ง”

เท่าที่ผมจับใจความได้นั้นคนที่มิคคุยด้วยคงเป็นเพื่อนสาวคนสนิทอีกคนในกลุ่มเราที่เรียนมาด้วยกันตลอดหกปี  ชื่อ ‘มาย  หรือ  ดวงกมล’ เพื่อนสาวคนสวยที่มิคมักจะติดปากแซวเรียกมายว่า ‘มายเดียร์’ เสมอ  แรกๆเจ้าตัวก็โวยวายแต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้หนุ่มจอมซนประจำกลุ่มจนได้  มายเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักเครื่องหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยแถมมีเขี้ยวมุมปากด้านขวาด้วยยิ้มทีหนุ่มๆแทบละลาย  ประกอบกับเสน่ห์เรื่องรูปร่างที่แม้มายจะมีส่วนสูงไม่มากนัก  พอๆกับผมและมิคแต่ด้วยทรวดทรงองค์เอวที่อวบอิ่มดั่งนาฬิกาทราย  เดินไปทางไหนคนเหลียวหลังจนคอแทบเคล็ด  ให้มิคต้องเหนื่อยคอยตีหน้ายักษ์กันหนุ่มๆที่เข้าหาเพื่อนสาวคนสวยตลอด  และเมื่อเรียนจบถึงเวลาใช้ชีวิตทำงานมายหญิงเดียวในกลุ่มกลับโดนคุณแม่ขอร้องให้ชดใช้เงินแทนการมาใช้ทุนทำงานตามโรงพยาบาลรัฐบาลแทน  เพราะความเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กสุดสวยคนนี้ทำให้เราไม่ได้มาใช้ชีวิตทำงานร่วมกันเหมือนตอนเรียน

“ได้ครับ  เดี๋ยวมิคเปิดสปีคเกอร์โฟนให้นะ” มิคพยักหน้ามาให้ผมก่อนวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะหน้าโซฟา  ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงหวานๆของเพื่อนสาวคนสนิทดังออกมา

“คิดถึงกัสกับมิคจังเลย  เนี่ยมายเพิ่งถึงบ้านเองอ่ะรถติดมากๆเลย” ได้ยินแบบนี้ผมจึงอมยิ้มก่อนเหลือบมองหน้ามิคซึ่งก็มีอาการไม่ต่างกัน  ที่นึกเอ็นดูคนปลายสายที่ทำเสียงกระเง้ากระงอดได้อย่างน่ารัก

“อยู่กรุงเทพก็ยังงี้แหละหมดเวลาไปกับการเดินทางซะเยอะ  แล้วมายทานข้าวรึยังจ๊ะ”

“ยังเลยจ้ะกัส  เนี่ยคุณแม่บ่นใหญ่ว่ากลับช้า  น่าจะให้มายไปทำงานที่เดียวกับกัสกับมิคเนอะ  อากาศก็ดีรถก็ไม่ติดด้วย”

“แหม  มายเดียร์จ๊ะทำเป็นพูด  ถ้ามาอยู่จริงๆเนี่ยลูกคุณหนูอย่างมายเดียร์จะอยู่ได้เหรอ”

“มิคอ่ะ  อย่ามาดูถูกมายนะ”

เอาล่ะสิครับปล่อยให้สองคนนี้คุยกันทีไรเป็นอันจะทะเลาะกันทุกที  ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรหรอกครับแค่หยิกแกมหยอกด้วยความคิดถึงก็เท่านั้นเอง  แต่ทางที่ดีผมรีบห้ามศึกก่อนดีกว่า 

“นี่ๆทั้งสองคนอย่าเถียงกันเลย  มายโทรมามีธุระอะไรกับกัสรึเปล่าจ๊ะ”

“เอ่อ  จะว่ามีก็มีอ่ะนะ  แต่ไม่อยากเล่าเลยอ่ะกลัวกัสไม่สบายใจน่ะ” น้ำเสียงลำบากใจอย่างชัดเจนของมายทำผมเริ่มเป็นกังวล  หันไปมองหน้ามิคก็มีสีหน้าสงสัยแววตามีร่องลอยแห่งความกังวลไปต่างจากผมนัก

“แหม  ขนาดนี้แล้วเล่าเถอะจ้ะมายเดียร์  กัสทำใจก่อน  เอ้า  หายใจเข้าลึกๆ  ฮิๆ” เอาสิครับดูคนแสบซนซะก่อนขนาดเพิ่งทำสีหน้าเครียดขรึมเมื่อครู่ยังเปลี่ยนมาหัวเราะคิกคักได้ในเวลารวดเร็ว  จนผมเริ่มคลายกังวลเก็บเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่

“ฮ่าๆๆ  มิคเซี้ยวใหญ่แล้ว  เล่ามาเถอะมาย” ผมเอ่ยเร่งสาวมายด้วยความอยากรู้

“จ้ะ  คือ....มายเจอปรัชเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอ่ะ” เสียงรัวเร็วของมายที่พยายามพูดให้จบรวดเดียว  เหมือนกลัวว่าจะมีคนขัดก่อนจะพูดจบ  จนเกิดความเงียบขึ้นทั้งสองฝ่าย 

ผมอึ้งค้างด้วยใบหน้าที่กำลังยิ้มก่อนจะค่อยๆหุบยิ้มลงกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับ  เห็นเพียงแววตาแสดงความเป็นห่วงชัดเจนจากมิค  ก่อนที่มิคจะส่งมือมากุมทับมือผมไว้และออกแรงบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจ  ผมรับรู้ทุกการกระทำของเพื่อนสนิทนะ  แต่เหมือนร่างกายมันช็อคจนไม่สามารถตอบโต้กลับให้มิคสบายใจได้ว่าผมไม่เป็นอะไร  แม้แต่จะยกยิ้มผมยังไม่มีแรงเลยครับ 

‘เจอปรัชก็หมายความว่าต้องเจอคนๆนั้นสินะ’

....................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ใครที่รอหมอกัสอยู่สมใจแล้วน้า
พรุ่งนี้เจอกันใหม่ค่ะ  :กอด1:

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วน้า  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ

ใครสนใจรวมเล่ม "ซีรีย์เสน่ห์รัก" ติดตามหน้า 1 นะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 17-06-2012 10:00:31
กัสจังออกมาแล้ว น่ารักมากๆ นายเอกผู้แสนอ่อนโยนและน่ารักของเรา
คิดถึงมากๆเลยค๊า วินกับกัส สู้ๆ
+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 17-06-2012 12:08:17
เอ๋ วินกับกัส สองคนนี้มีความหลังอะไรกันนะ  :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-06-2012 13:00:40
มาลงให้ทุกวันเลยน๊า :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 17-06-2012 15:18:45
รออ่านตอนต่อไปน่ะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-06-2012 15:28:33
 o13

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 17-06-2012 15:59:42

หมอกัสมาแล้ว
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-06-2012 17:01:56
รอตอนต่อไปจ้า ;)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 17-06-2012 21:48:51
รอตอนหน้าครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 17-06-2012 22:05:34
หมอกัสมาแล้วววววว :กอด1:ส่วนอีกคนขอให้ไปดีไปดีเถอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-06-2012 22:05:52
รอหมอกัสตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 4(17/6/55)P.2 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 20-06-2012 22:09:13
ในที่สุดก็เม้นได้สักที  5555

เจอกันก้อจับจูบเลยทีเดียวเชียวนะ  55
ดีที่กัสไม่ตบกลับ  ไม่งั้นจะกลายเป็นตบจูบๆๆ  อิอิ

+1 ให้จ้าา
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-06-2012 23:55:17
ตอนที่ 5

กัส

ผมรับรู้ถึงแสงสีส้มจากไฟหัวเตียงที่เปล่งแสงนวลให้ความสว่างเพียงจุดเดียวในห้อง  สายตาผมจับจ้องเพียงฝ้าเพดานสีขาวมานับชั่วโมง  หลังจากจบการสนทนาทางโทรศัพท์ผมก็พาร่างกายที่หนักอึ้งกลับขึ้นห้อง  คำบอกเล่าของเพื่อนสาวคนสวยเมื่อหัวค่ำส่งผลให้ผมต้องนึกถึงคนๆนั้น  สับสน  ฟุ้งซ่าน  โกรธ  เสียใจ  เศร้า  อารมณ์ตอนนี้บรรยายไม่ถูกจริงๆ  เหตุการณ์นั้นผ่านมาเกือบสองปีแล้วผมที่คิดว่าตัวเองน่าจะลืมไปแล้ว  แต่พอถึงวันนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าผมยังลืมคนๆนั้นไม่ได้จริงๆ



สองปีก่อน

เสียงดนตรีดังอึกทึกครึกโครมทำให้ต้องยื่นหน้าไปแนบหูคนข้างกายเพื่อตะโกนคุยถึงจะสื่อสารกันรู้เรื่อง  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครอารมณ์เสียหรือไม่สบอารมณ์ที่ต้องทำ  กลับชอบที่อยู่กับสถานที่แห่งนี้  สนุก  ตื่นเต้น  เร้าใจ  ได้ปลดปล่อย  คงเป็นความรู้สึกนี้ต่างหากที่เป็นแรงดึงดูดผู้คนให้มารวมตัวกัน  รวมทั้งผมและเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ต้องการหาประสบการณ์แปลกใหม่ชวนตื่นเต้นจากผู้คนรอบตัวและสถานที่แปลกใหม่แห่งนี้  มันช่างน่าค้นหายิ่งนักสำหรับพวกเราที่เพิ่งมาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก

“เสียงเพลงดังจังเลยแต่น่าสนุกดีนะ  กัส  มิค” เสียงหวานของหญิงสาวคนเดียวดังขึ้นทำให้ผมหันมาสนใจกับคนพูดทันที

“ใช่ๆ  เฮ้ย!  นั่นเค้ากอดกันด้วย  ไมไม่จูบกันเลยอ่ะ” หนุ่มตัวเล็กใส่แว่นหน้าเด็กกว่าอายุทำท่าตกใจและชี้ชวนให้เพื่อนหันไปมองคู่รักข้างๆที่กำลังกอดกัน  ใบหน้าใกล้กันจนแทบจะจูบกันอยู่แล้ว  ผมหันหน้าหนีภาพตรงหน้าก่อนจะพูดกับมิค

“มิคอย่าไปมองเค้าสิ  มาหันมานี่” ผมกลัวว่าจะโดนมองแปลกๆได้ที่พวกเรามัวแต่มองคนอื่นเขาจู๋จี๋กันแบบนั้น

“แหมกัสอ่ะ” มิคส่งเสียงเล็กๆทำหน้างอนปากยู่มาให้ผมทันทีที่ผมเอ่ยปราม

“อย่าไปห้ามมิคเลยกัส  คนไม่เคยมีก็ยังงี้แหละ  ฮิๆๆ” เสียงมายดังเอ่ยแซวมิคพร้อมเสียงหัวเราะอย่างถูกใจ

หลังจากสำรวจจนพอใจแล้วพวกเราก็หันกลับมาคุยกันเองพร้อมขยับตามจังหวะเสียงเพลงไปด้วย  ทำให้เป็นจุดดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างทั้งหญิงและชายแบบไม่รู้ตัว  เปรียบเสมือนกวางน้อยเนื้อหวานที่มีเหล่าเสือสิงห์จ้องเขมือบ  เพียงแต่รอจังหวะและคุมเชิงกันอยู่เท่านั้น

“ว้ายยย” เสียงร้องอย่างตกใจของสาวมายดังขึ้นทำให้ผมกับมิคต้องหันไปมองอย่างตกใจ

พบว่ามีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใส่แว่นหน้าเครียดกำลังจับข้อศอกของมายอยู่และจ้องตากับมายไม่กระพริบ  ผมที่กำลังจะเข้าไปช่วยเพื่อนสนิทที่ถูกคนแปลกหน้าจับไว้ก็ต้องชะงักกับเสียงของมายที่ทักชายหนุ่มตรงหน้า

“น้องปรัช” สรรพนามที่มายใช้เรียกหนุ่มแว่นตรงหน้าทำให้ผมรู้ว่าทั้งคู่รู้จักกัน  จึงเริ่มเบาใจได้บ้างแต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีที่มายโดนผู้ชายถูกเนื้อต้องตัว

ส่วนคนที่มายเรียกว่า ‘น้องปรัช’ ไม่มีทีท่าจะคลายแรงจับมายลงเลย  แถมหน้าตาก็ช่างเคร่งเครียดอย่างน่ากลัวด้วยอาการถลึงตาและขมวดคิ้วมุ่นจนเหมือนโกรธเกลียดกันมาก่อน  ผมที่สังเกตทั้งคู่อยู่ก็เริ่มไม่พอใจนายปรัชอะไรนี่ขึ้นมาบ้างแล้วที่ทำกิริยารุนแรงกับเพื่อนผมแบบนี้  ส่วนมายก็เริ่มหน้าตาเหยเกคงด้วยเจ็บจากแรงบีบของนายปรัช  แต่ก่อนที่ผมจะได้ห้ามปรามอะไรก็มีเสียงแทรกขึ้นซะก่อน

“นี่นายเป็นใครมากระชากเพื่อนเราทำไม” มิคที่คงไม่พอใจมากเข้าใกล้ทั้งคู่และตะคอกออกมาด้วยหน้าตาจริงจัง  ก่อนที่มิคเข้าไปแทรกและพยายามดึงแขนมายออกจากมือของนายปรัช  แต่ไม่เป็นผลเพราะรูปร่างที่ต่างกันเกินไป  ผมที่เห็นท่าไม่ดีก็เตรียมเข้าไปช่วยอีกแรง

“กัส  มิค  ไม่เป็นไรจ้ะคนรู้จักมายเอง” เสียงใสเอ่ยห้ามทุกคนรอบกายเมื่อเห็นเค้าลางแห่งความวุ่นวาย  พาลทำให้ผมกับมิคหยุดการกระทำทั้งหมด  แต่เรายังคงจ้องหน้าผู้มาใหม่อย่างเอาเรื่องก่อนที่มายจะโดนนายปรัชดึงข้อมือให้ไปยืนข้างๆ
 
“แล้วนายนี่เป็นใครล่ะทำแบบนี้ตกใจหมด” มิคเอ่ยเสียงดังทั้งๆที่หน้าตายุ่งเหยิงอย่างอารมณ์ไม่ดีและจ้องหน้าปรัชอย่างเอาเรื่อง

“นี่ปรัชจ้ะ  ปรัชจ๊ะนี่กัสกับมิคเพื่อนสนิทมายเอง” สาวมายแนะนำพวกเราสามคนให้รู้จักกันทันทีที่เห็นทุกคนหน้าตาไม่ดีพร้อมมีเรื่อง

พวกเราสามคนมองหน้ากันและพยักหน้าทักทายแต่ยังประเมินอีกฝ่ายอยู่ว่าจะมีท่าทางแบบไหน  ยิ่งมิคที่ตัวเล็กกว่านายปรัชนั้นแทบจะกระโดดกินหัวนายนั่นด้วยซ้ำครับ  ตัวผมแค่มองประเมินทั้งปรัชและมายอยู่จึงรู้ว่าทั้งคู่คงสนิทกันพอดู  เพราะมายยอมให้ปรัชจับมือถือแขนได้โดยไม่คิดปัดป้อง  ส่วนมายก็มองมิคกับปรัชสลับกันไปมาแบบหนักใจคงกลัวว่าทั้งคู่จะมีเรื่องกัน  ส่วนนายปรัชก็มองมิคและผมนิ่งๆไม่มีอารมณ์โกรธในแววตาแบบแรกเจอแล้วครับ

“มายมานี่ได้ยังไง” นายปรัชหันไปถามคนที่ตัวเองจับข้อมือไว้ด้วยเสียงนิ่งเรียบและจ้องรอคำตอบจากมายเขม็ง

“ก็ขับรถมาสิจ๊ะ  ถามได้” มายตอบตรงแต่แอบประชดเสียงแผ่วท้ายประโยคที่เจ้าตัวคงไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน  จนผมแอบขำที่สาวน้อยเค้ารู้จักยอกย้อนด้วย  แต่นายปรัชนี่ก็หูดีมีประสิทธิภาพมากและคงได้ยินคำท้ายที่มายเอ่ย  หน้าตานายนั่นถึงกับขมึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง

“มาย!  มานี่เลยนะตามมา” เสียงห้าวเรียกชื่อเพื่อนสาวของผมเสียงดังลั่น  ก่อนจับจูงข้อมือบางลากออกจากโต๊ะไป

“เฮ้ยยยย  นายปรัชจะพามายเดียร์ไปไหน” มิคลากเสียงยาวและถลาตามทั้งคู่ออกไปทันที

ผมที่มองภาพคนทั้งหมดอยู่ก็ตกใจที่เพื่อนสาวคนสนิทโดนลากออกไปโดยผู้ชายแปลกหน้าสำหรับตัวเอง  แต่ข้าวของบนโต๊ะของเพื่อนๆและของผมนั้นยังอยู่ทำให้ผมเสียเวลาเก็บทุกอย่างมาถือไว้  หันมาอีกทีสามคนนั้นก็ไม่อยู่ในสายตาแล้วครับ  เจอแต่คนแปลกหน้าอยู่รอบกาย

“ขอทางด้วยครับ  โอ๊ะ  ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมที่พยายามเบียดเสียดผู้คนเพื่อจะตามเพื่อนๆออกไปนอกผับก็ชนเข้ากับใครก็ไม่รู้ที่อยู่ตรงหน้าเข้า

“เฮ้ยยย  ไรวะชนแล้วแค่ขอโทษไม่พอหรอกนะเห็นมั้ยเลอะเต็มเสื้อเลย” คนที่ผมชนเขาโวยวายเสียงดังใส่ผมใหญ่เลยครับ  แถมสะบัดเสื้อตัวเองไปมาให้ผมเห็นหลักฐานว่ามีเหล้าเปื้อนเสื้อเขาด้วยฝีมือผมเอง

“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เห็นดังนั้นผมก็รีบเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดออกไปอีกครั้ง

“อืม  ฮึๆๆ  ไม่เป็นไรน่ารักแบบนี้พี่ให้อภัย” ไอ้ผู้ชายที่ผมชนมันถึงกับหัวเราะชอบใจ  ด้วยใบหน้ายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยหลังได้มองหน้าผมแล้ว  แต่แววตาวาวๆนั่นทำเอาผมขนลุกจนต้องรีบเอ่ยออกไป

“ขอบคุณครับ” ผมเดินเลี่ยงจากผู้ชายตรงหน้าหลังเอ่ยขอบคุณแล้ว  แต่ต้องตกใจและใจหายวาบเมื่อมันเข้ามากอดรัดผมไว้ทั้งตัว

“เฮ้ย!  ปล่อยนะทำบ้าอะไรของนายเนี่ย” ผมตะโกนและดิ้นรนออกจากอ้อมกอดที่แสนน่ารังเกียจนี้  แต่แรงผมน้อยกว่ามันมากทำให้มันได้ใจรัดร่างผมแน่นกว่าเดิม

“ให้อภัยแต่ต้องไปกับพี่นะจ๊ะหนุ่มน้อย  ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะอย่างถูกใจของมันดังขึ้นใกล้หู  ทำเอาผมขนลุกเพราะความรังเกียจปนขยะแขยง

“ไอ้บ้า  ปล่อยนะ  ช่วยด้วย” ผมทั้งด่าทั้งโวยวายและขอความช่วยเหลือจากคนที่ยืนอยู่รอบข้าง  แต่ไม่มีใครคิดจะช่วยผมเลยครับ  น้ำตาเริ่มมาคลอที่หน่วยตาเพราะความกลัวแล้ว

“เฮ้ย!  มึงทำไรวะ” เสียงห้าวดังขึ้นข้างตัวผมพร้อมแรงกระชากที่สามารถทำให้ผมลอยตามแรงมือใหญ่คู่นี้ออกจากอ้อมกอดที่แสนน่ารังเกียจมาได้

หน้าผมชนเข้าอกแกร่งของคนที่เข้ามาช่วยและกลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆสำหรับผู้ชายก็ลอยเข้าโสตประสาทรับกลิ่นทันที  ‘สดชื่นหอมจัง’ นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิด  แต่ผมก็ไม่สามารถเห็นหน้าผู้ที่มาช่วยตัวเองไว้ได้เพราะหลังจากโดนกระชากหน้าซุกอกแกร่งแล้ว  เจ้าของอกก็ดันผมไปซ่อนไว้ด้านหลังที่มีแผ่นหลังกว้างขวางกั้นผมไว้อย่างปกป้อง

“ฉวยโอกาสกับเด็กนะมึงอ่ะ  หา!” เสียงห้าวของคนตรงหน้าผมดังหาเรื่องขึ้นทันที

“ฉวยโอกาสไร  นี่แฟนกู” ไอ้คนหน้าด้านนั่นมันพูดออกมาได้ยังไงว่าผมเป็นแฟนมัน  แต่ผมยังไม่ทันปฏิเสธเจ้าของร่างสูงใหญ่ตรงหน้าผมก็สวนไอ้คนหน้าด้านไปซะก่อนครับ

“มึงอย่ามามั่ว  กูเห็นตั้งแต่ต้นที่มึงลวนลามเค้าแล้ว  หรือมึงจะมีเรื่องกับกู” เสียงเข้มดุอย่างน่ากลัวดังขึ้นจนผมอดจะสะดุ้งนิดๆไม่ได้  ส่วนไอ้ผู้ชายฉวยโอกาสนั่นผมก็ไม่รู้ว่ามันจะนึกกลัวแบบผมมั้ยนะ   

“เอ่อ  ไม่  มึงเอาไปเลย” ดูท่าทางไอ้ผู้ชายคนนั้นมันคงนึกกลัวขึ้นมาแล้ว  เพราะมันถึงกับเอ่ยปากยอมยกผมให้คนที่มาช่วยผมไว้อย่างง่ายๆ  ผมถึงกับโล่งใจและรู้สึกปลอดภัยอีกครั้ง

“มึงระวังตัวให้ดีนะ  อย่ามาหาเรื่องที่นี่อีกแล้วอย่าหาว่ากูไม่เตือน”

จบบทสนทนาระหว่างไอ้เลวนั่นที่พยายามลวนลามผมกับ ‘อัศวินหนุ่ม’ ที่เข้ามาช่วยไว้แล้ว  ผมคิดว่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นซะแล้วครับ  แต่ไอ้เลวนั่นกลับไม่แน่จริงมันคงไม่กล้าหือกับชายหนุ่มร่างสูงคนนี้  และเขาคนนี้เป็นใครกันนะทั้งๆที่ไม่รู้จักกลับยื่นมือมาช่วยผมไว้  แต่ผมต้องหยุดความคิดทั้งหมดลงเมื่อโดนคนตัวใหญ่ที่มาช่วยลากข้อมือให้เดินตาม

“อ๊ายยยย  วินจริงๆด้วย  นั่นหล่อนวันนี้วินมาด้วย”

“วินไปไหนคะ  กลับแล้วเหรอ”

ตลอดทางเดินที่เราสองคนเดินเพื่อออกนอกผับก็มีทั้งสาวๆและหนุ่มน้อยน่ารักทักคนที่จูงมือผมเดินนำหน้าอยู่ไม่ขาด  และนั่นทำให้ผมรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า ‘วิน’ อัศวินของผม

อากาศปลอดโปร่งรอบตัวพร้อมแสงไฟส่องสว่างยามค่ำคืนข้างนอกนี้ทำให้ผมยิ่งเห็นชัดว่าคนที่ลากตัวเองออกมานั้นสูงใหญ่กว่าผมมากขนาดไหน  วินมีแผ่นหลังกว้างไหล่หนาก้าวเดินด้วยขายาวมั่นคงด้วยความเร็วไม่มากนัก  แต่กลับทำให้คนที่ตัวเล็กกว่าแบบผมถึงกับต้องซอยเท้าเดินให้ทันร่างสูงข้างหน้าถึงกับเหนื่อยหอบเลยครับ

“นี่ๆๆๆ  คุณช้าๆหน่อยครับ  ผมเดินไม่ทัน” ผมที่เริ่มเหนื่อยเอ่ยท้วงคนข้างหน้า  ส่งผลให้ร่างสูงชะงักกึกหยุดเดินซะเฉยๆทำให้ผมที่ไม่ทันระวังชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างไปเต็มๆหน้าเลยทีเดียว

“โอ๊ยยย  เจ็บจัง” ผมลูบคลำจมูกตัวเองป้อยๆเพราะความเจ็บที่แล่นจี๊ด  และรู้สึกได้ว่ามีน้ำตาซึมออกทางหางตาตัวเองด้วย

ทันใดนั้นรู้สึกว่าแสงสว่างที่เคยมีถูกปกคลุมด้วยเงาดำทะมึนจากร่างตรงหน้าที่ชะโงกตัวก้มเข้าหาบดบังแสงไฟไปสิ้น  พร้อมเสียงห้าวทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน

“เป็นยังไงบ้าง  เจ็บมากมั้ย” เสียงนุ่มแสดงความห่วงใยมาในประโยคที่เอ่ยถามจนคนที่ได้ยินแบบผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง

คิ้วเข้ม  ตาคมดุ  จมูกโด่งเป็นสัน  ปากหนาแดงสด  ‘หล่อมาก’  เป็นใบหน้าที่ผมเห็นเมื่อเงยหน้ามองคนที่ช่วยตัวเองไว้  ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนและเวลาผ่านไปเท่าไหร่เพราะเผลอจ้องคนตรงหน้าซะเพลินตา  แต่สติของผมคงไม่อยู่กับตัวนักเพราะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีฝ่ามืออุ่นยื่นมาลูบหน้าลูบจมูกตัวเองเข้าแล้ว  ตามมาด้วยเสียงนุ่มอ่อนโยนสอบถามอาการผมอย่างห่วงใย  ก่อนใบหน้าหล่อเหลานั้นจะส่งยิ้มน้อยๆมาให้มีแววตาล้อเลียนอยู่ด้วย  ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าความร้อนวิ่งลามไปทั้งหน้าและใบหูของตัวเอง  และเอ่ยตอบกลับอย่างยากลำบาก

“มะ  ไม่เป็นไรแล้วครับ  ขอบคุณที่ช่วยผมไว้” ผมก้มหน้าหลบสายตาคมคู่นี้ขณะตอบไม่อยากเห็นสายตารู้ทันเลย ‘น่าอายจัง’ ที่เผลอจ้องผู้ชายแปลกหน้าอยู่ได้ตั้งนานสองนาน

“ผมวินครับยินดีที่ได้รู้จัก” เสียงนุ่มดังแนะนำตัวเองขึ้นมา  ผมรวบรวมความกล้าก่อนเอ่ยออกไป

“เอ่อ  คือ  ผมกัสครับ” ผมก็ได้แต่ตอบไปทั้งๆที่ก้มหน้าซ่อนหน้าแดงๆของตัวเองไว้

“ชื่อน่ารักจังน้า ‘กัส’ เหรอเหมาะสมกับตัวดี” เสียงล้อเลียนขี้เล่นเอ่ยเย้าผมยิ่งทำให้ผมต้องก้มหน้าชิดอกมากกว่าเดิม

ผมสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วอุ่นที่ถูกยื่นมาเชยคางตัวเองขึ้นให้สบตาคมหวานคู่นั้นและเหมือนต้องมนต์  ทำให้จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมดุแต่มีเสน่ห์อย่างไม่รู้ตัว  ก่อนจะรับรู้ถึงสัมผัสแผ่วเบา  นุ่ม  และเปียกชื้นบริเวณริมฝีปากของตัวเอง  ผมสะดุ้งตกใจจะผละออกแต่กลับมีแรงกดจากท้ายทอยไว้ด้วยฝ่ามือหนาของคนที่ ‘จูบ’ ผมอยู่ 

กลีบปากหนาของร่างสูงพยายามหยอกล้อบดเบียดปากของผมซึ่งเริ่มขัดขืนให้กลับมาเคลิ้มอีกครั้ง  พร้อมเลาะเล็มไปตามขอบปากเพื่อให้ผมเปิดรับเรียวลิ้นของอีกฝ่ายเข้าไป  ผมที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้จึงเผลอตัวเปิดกลีบปางนุ่มให้อีกฝ่ายเข้ามาชิมความหวานภายในอย่างทั่วถึง  ไม่รับรู้ว่าตอนนี้รอบตัวมีใครอยู่บ้างและตัวเองกำลังอยู่ที่ไหนเพราะเคลิ้มไปกับสัมผัสแรกที่ได้รับกับคนแปลกหน้าที่ช่วยผมไว้

“อืมมม”

เสียงครางอย่างพอใจจากร่างสูงที่ชิมความหวานจากปากของผมและเจ้าของมันก็กำลังโอบกอดผมอยู่ดังขึ้น  ซึ่งตอนนี้ผมไม่มีแรงจะยืนด้วยตัวเองต้องอิงแอบอกกว้างเพื่อช่วยพยุงตัว  แต่เหมือนผมตกจากสวรรค์เมื่อรับรู้ถึงแรงกระชากร่างของตัวเองออกจากอกหนาพร้อมเสียงของเพื่อนสนิทที่โวยวายขึ้นมา  ผมยังจับใจความไม่ได้เพราะสติยังกลับมาไม่ครบถ้วน  ก่อนจะเริ่มรับรู้ถึงอ้อมกอดนุ่มนิ่มกลิ่นคุ้นเคยของเพื่อนสาวตัวเล็กที่โอบประคองตัวผมไว้  และกลับมารู้ถึงเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง

“นายเป็นใครเนี่ย  หา  มาทำแบบนี้กับเพื่อนเราทำไม”

“ใจเย็นมิคนั่นเพื่อนปรัชจ้ะ  ชื่อวิน”

“นายทำแบบนี้กับเพื่อนเราได้ยังไงกันเนี่ย ”

เสียงมิคกับมายโต้ตอบไปมาทำให้ผมที่สติรับรู้กลับมาครบถ้วนแล้ว  รู้สึกอายมากกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นจนไม่กล้าแม้จะจะมองรอบตัวว่ามีใครอยู่บ้าง  ตอนนี้คิดได้เพียงแต่อยากออกไปจากสถานการณ์ตรงหน้าให้เร็วที่สุดเท่านั้นครับ

“เอ่อ  มิค  มาย  เรากลับกันเถอะ  นะ” ผมเอ่ยขอร้องกับเพื่อนตัวเล็กอีกสองคน  มิคกับมายมองหน้าผมอย่างห่วงใยและพยักหน้าให้กันเอง

“แต่.....  อืมก็ได้  ส่วนพวกนายอย่ามาให้พวกเราเห็นหน้าอีกนะ” มิคหันไปพูดกับใครบ้างผมก็ไม่รู้ครับเพราะได้แต่มองหน้าเพื่อนทั้งสองคนเท่านั้น  ไม่กล้าหันหลังกลับไปมองอีกฝ่ายที่มิคคุยด้วยเลย

แต่ถ้าผมจะหันไปมองก็คงจะต้องตกใจและอายมากกว่านี้  เพราะด้านหลังนั้นมีชายหนุ่มและหญิงสาวรวมกันถึงห้าคนยืนจับกลุ่มกันอยู่  ผมและเพื่อนอีกสองคนก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อกลับไปที่รถ  แต่ต้องชะงักกับเสียงห้าวที่ดังขึ้นข้างหลัง

“ไม่รับปากหรอกนะว่าจะไม่ให้เห็นหน้าอีก ‘กัส’ เราต้องเจอกันอีกแน่ครับ”

ใจความที่อีกฝ่ายสื่อมาให้ได้ยินทำให้ผมยิ่งหน้าร้อนกว่าเดิม  ไม่กล้าจะมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนด้วยซ้ำ  ได้แต่คว้าข้อมือมิคและมายเดินลิ่วแทบเป็นวิ่งกลับไปที่รถเท่านั้น 

‘นี่ผมจะยังได้เจอคนแปลกหน้าที่จูบผมและทำให้ได้อายมากที่สุดในชีวิตอีกเหรอครับเนี่ย’

......................................

ลงซ่อมค่ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 21-06-2012 00:02:22
ตอนที่ 6

วิน

ภาพถ่ายในมือผมนั้นเป็นภาพของผู้ชายสองคนที่คนหนึ่งส่งยิ้มกว้างส่วนหนุ่มอีกคนยิ้มแค่มุมปาก  แต่แววตาทั้งคู่ส่องประกายแห่งความสุขออกมาไม่ต่างกันทำให้คนที่นั่งมองภาพแบบผมต้องยิ้มออกมาและคิดย้อนถึงอดีตที่ผ่านมา

อดีตของผมที่เคยมีคนสำคัญในภาพเคียงข้างแต่ตอนนี้ข้างกายกับไร้ซึ่งผู้ใดเคียงกัน  แม้คนที่ผมคิดว่าคล้ายกับหนุ่มตัวเล็กในภาพคนที่คิดว่าใช่จะใช้แทนกันได้แต่เปล่าเลย  ผมกลับโดนหักหลังแต่ก็ไม่เชิงหักหลังสินะแต่มันเป็นกรรมตามสนองมากกว่า  หลังจากได้เจอเพื่อนสนิทของคนๆนั้นโดยบังเอิญทำให้อดีตที่พยายามลืมย้อนกลับมา  ผมอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอดีตถึงกับหยิบรูปนี้ที่เก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงโดยมีกล่องกำมะหยี่ใบเล็กทับอยู่ออกมาดูจนได้  คิดถึงอดีตกับ ‘จูบ’ ครั้งแรกกับคนๆนั้น



สองปีก่อน

“กวางน้อยน่ารักโต๊ะนั้นถ้าจะไม่รอดว่ะ  ฮ่าๆๆๆ”

เสียงเพื่อนสนิทหน้าตี๋พูดพร้อมพยักพเยิดใบหน้าไปทางเป้าหมายที่มีสามหนุ่มสาวตัวเล็กขยับโยกตามจังหวะเพลง  ซึ่งขณะนี้โดนจ้องจากเสือร้ายที่อยู่รอบข้างและเตรียมจะขย้ำกวางน้อยยามเผลอเหมือนที่เพื่อนหน้าตี๋ของผมเปรียบเปรยไว้เลย  แต่ผมก็ไม่แปลกใจกับคำเปรียบนี้ของเพื่อนนักขนาดพวกผมนั่งไกลจากโต๊ะนั้นพอควร  ผมยังเห็นถึงเสน่ห์ไร้สิ่งปรุงแต่งเป็นแรงดึงดูดให้เข้าหาจากกลุ่มนั้นเลยครับ

“ตอนนี้ไอ้ปรัชถึงไหนแล้ววะ” เสียงเข้มของไอ้ฟินดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากภาพกวางน้อยมาให้ความสนใจมันแทน

“เมื่อกี้มันส่งข้อความมาว่ามีอุบัติเหตุข้างทางคงมาช้าหน่อยแต่ใกล้ถึงแล้ว” คนที่ตอบเป็นสาวเท่ประจำกลุ่มที่ไอ้ปรัชมันคงส่งข้อความมาให้ก่อนหน้าแล้ว

“อ้าววว  ตายยากจริงมันเดินมานู่นแล้ว  เฮ้ยยยย  มันรู้จักกับโต๊ะนั้นเหรอวะ” ไอ้ธีมันตะโกนแข่งกับเสียงเพลงเมื่อเห็นไอ้คนที่เพื่อนรอ  แต่ท่าทางตกใจปนสงสัยของมันทำให้ทั้งกลุ่มเราหันไปมอง

ผมเห็นไอ้ปรัชหนุ่มมาดนิ่งประจำกลุ่มกำลังดึงรั้งลากสาวน้อยตัวเล็กหนึ่งในกวางน้อยที่พวกผมพูดถึงไปที่ทางออก  และมีหนุ่มน้อยตัวเล็กสวมแว่นก้าวตามทิ้งไว้เพียงหนุ่มน้อยอีกคนที่โต๊ะ  คนตัวเล็กหน้าหวานที่ละล้าละลังเก็บของอยู่ไม่ทันได้ก้าวตามเพื่อนทั้งสองไป

“ปรัชลากผู้หญิงออกไปแล้วว่ะ  นี่มันเรื่องอะไรกันวะ  ตามไปดูกันหน่อยเร็ว”  มนบ่นอย่างตกใจปนหัวเสียที่ไอ้ปรัชทำแบบนี้กับผู้หญิงเพราะปกติไอ้ปรัชเป็นคนที่นิ่งที่สุดในกลุ่มแล้ว  ไม่เคยเห็นมันทำรุนแรงป่าเถื่อนกับผู้หญิงเลย  เอาแค่เสียงดังด้วยยังไม่มีให้เห็น 

ตอนนี้ในสายตาผมคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดกับเป็นหนุ่มตัวเล็กที่โดนทิ้งไว้ต่างหาก  เพราะคนตัวเล็กนั่นกำลังโดน ‘ไอ้แมน’ นักเที่ยวขาประจำที่นี่กอดรัดอยู่  ผมตัดสินใจไม่ตามเพื่อนคนอื่นๆออกไปแต่กลับเดินแหวกผู้คนไปหากลุ่มคนมุงเบื้องหน้าแทน  และทันได้ยินคนตัวเล็กขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครกล้าเข้าช่วยคงเพราะรู้ว่าไอ้แมนมันเป็นนักเที่ยวตัวแสบที่ทุกคนรู้จักดีกับความซ่าของมัน  ไปถึงผมดึงคนที่ถูกไอ้แมนกอดไว้มาแนบอก  สัมผัสแรกของคนตัวเล็กที่ผมรับรู้คือความนุ่มนิ่มเรียบตึงของผิวกาย  ตามมาด้วยกลิ่นหอมอ่อนหวานที่โชยมาจากร่างนุ่มในอ้อมกอด  และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมประทับใจเมื่อแรกเจอจากร่างนิ่มหอมกรุ่นในอ้อมแขน 

ผมดันคนตัวเล็กที่สร้างความประทับใจให้ผมไปแอบด้านหลังตัวเอง  ไอ้แมนมันโกรธที่ผมเข้ามายุ่งเรื่องของมันและมันยังกล้าอ้างว่าคนตัวเล็กเป็นแฟนมันด้วย  ผมซึ่งเห็นเหตุการณ์แต่แรกก็ตอบโต้กลับไป  คิดว่ามันจะแน่แต่ที่สุดมันก็ยอมรามือจากหนุ่มน้อยคนนี้ไป  ซึ่งถ้าไอ้แมนกล้าจะลองดีผมจะจัดให้มันสักชุดใหญ่อยู่แล้วครับ  ขาประจำแบบมันต้องรู้อยู่แล้วครับว่าที่นี่เป็นถิ่นของใครเพราะเจ้าของผับแห่งนี้เป็นญาติของไอ้ปรัช  ใครคิดจะหาเรื่องอะไรก็ต้องดูดีๆก่อน  เรื่องรูปร่างผมก็ได้เปรียบไอ้แมนอยู่มาก  มันจึงยอมง่ายๆคงไม่ยากเจ็บตัวฟรีหรอกครับ 

เมื่อหมดเรื่องผมก็ลากข้อมือคนตัวเล็กที่ผมได้ช่วยไว้ให้ตามออกมาเพื่อหาเพื่อนกลุ่มเราทั้งสองคน  ระหว่างทางก็มีผู้หญิงเรียกชื่อผมมาตลอด  บางคนใจกล้าหน่อยก็เข้ามาจับแขนผมด้วยซ้ำ  แต่ผมไม่ได้สนใจแค่ส่งยิ้มให้และเดินต่อเพราะใจผมนั้นเป็นห่วงหนุ่มน้อยคนที่เดิมตามหลังคนนี้มากกว่า  ผมมารู้ตัวอีกทีเมื่อคนตัวเล็กที่ตามมาร้องทักด้วยเสียงเหนื่อยๆเหมือนหายใจไม่ทัน

“นี่ๆๆๆ  คุณช้าๆหน่อยครับ  ผมเดินไม่ทัน” เสียงหอบเหนื่อยของคนข้างหลังทำให้ผมหยุดเท้าที่ก้าวเดินทันที  ตามมาด้วยแรงกระแทกเข้าใส่หลังจากร่างเล็กที่คงหยุดเท้าตัวเองไม่ทัน  เสียงร้องตกใจแสดงความเจ็บปวดทำให้ผมหมุนตัวกลับไปมองทันที

ภาพกลุ่มผมดำสนิทตรงหน้าที่มีเจ้าของเป็นหนุ่มร่างเล็กตัวหอมกำลังเอามือคลำจมูกตัวเองป้อยๆ  ที่หน้าคงกระแทกเต็มแรงเข้ากับแผ่นหลังผมนั่นเอง  ทำให้ผมมองไม่เห็นใบหน้าเจ้าของผิวนุ่มนิ่มเพราะมือขาวนั้นบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง

“เป็นยังไงบ้าง  เจ็บมากมั้ย”

ผมเอ่ยถามร่างบางอย่างเป็นห่วงทำให้คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมองก่อนค่อยๆทิ้งแขนลงข้างตัว   ผมจึงได้เห็นดวงตากลมโตมีน้ำตาซึมทางหางตา  ปลายจมูกโด่งแดงช้ำ  เครื่องหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อย  แก้มแดง  ผิวเนียน  ใบหน้าคนน่ารักให้ความรู้สึกเหมือนทอมมากกว่าผู้ชาย  ให้ผมมองเพลินกวาดสายตาไล่ไปทุกส่วนบนใบหน้าหวาน  ตอนนี้ริมฝีปากบางของคนตัวเล็กตรงหน้าเผยอออกน้อยๆและมีดวงตาเคลิ้มฝัน  ทำให้ผมอดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าคนน่ารักคงหลงเสน่ห์ในความหล่อของผมเข้าแล้ว  อดที่จะภูมิใจตัวเองไม่ได้จนต้องคลี่ยิ้มออกมาตามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะในคอให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูที่ได้เห็น

“มะ  ไม่เป็นไรแล้วครับ  ขอบคุณที่ช่วยผมไว้”

คนตัวเล็กตรงหน้าผมเค้าคงอายมากเพราะหน้าขึ้นสีระเรื่อทันตาลามไปถึงใบหู  เมื่อผมเผลอทำตาล้อเลียนส่งไปให้ ‘น่ารักมาก  และ  อยากรู้จัก’ คิดได้ดังนั้นปากก็เร็วทันใจเอ่ยถามออกไปทันที

“ผมวินครับยินดีที่ได้รู้จัก” ผมคลี่ยิ้มหวานใส่ตาคนหน้าแดง  ผลก็คือคนน่ารักทำตาโตกว่าเดิมและอ้าปากหวอ ‘คนอะไรน่าฟัดชะมัด’

“เอ่อ  คือ  ผมกัสครับ” กว่าคนน่ารักน่าฟัดจะเอ่ยชื่อออกมาได้ก็ใช้เวลาพักหนึ่ง  แต่ก็สมกับที่รอคอยเพราะชื่อหลุดออกมาจากปากจิ้มลิ้มน่าสัมผัสนั้น

“ชื่อน่ารักจังน้า ‘กัส’ เหรอเหมาะสมกับตัวดี” เหมือนผมจะละเมอพูดอะไรไปสักอย่างยามจ้องมองปากแดงระเรื่อตรงหน้า

‘อยากสัมผัส  อยากใกล้ชิดกว่านี้  อยากรู้ว่าริมฝีปากนั้นจะนุ่มอย่างที่คิดมั้ย’ ระหว่างที่คิดเหมือนผมต้องมนต์สะกดจากเจ้าของปากแดงตาโตให้เคลื่อนหน้าเข้าหา

ผมรู้สึกดีมากยามที่ได้สัมผัสริมฝีปากนุ่นนิ่มที่มีกลิ่นหอมจางๆ ‘จูบ’ นี้มันเกิดขึ้นเร็วมากอย่างที่ผมก็ไม่ทันตั้งตัวแค่คิดว่าอยากสัมผัสริมฝีปากแดงของคนน่ารัก  ร่างกายไปก่อนสมองสั่งการหลังได้รู้ว่าคนตัวเล็กชื่อ ‘กัส’   ผมรับรู้ได้ว่าร่างบางตรงหน้าสะดุ้งเตรียมผลักไสผมออกอย่างตกใจ  แต่ผมยังรู้สึกไม่พอยังไม่เต็มอิ่มจากสัมผัสที่ได้รับจึงยกมือรั้งศีรษะทุยไว้  อีกมืออ้อมมากอดรอบตัวคนร่างบางให้แนบชิดขึ้นเพื่อลดการดิ้นรนของอีกฝ่าย  ริมฝีปากก็ทำหน้าที่บดเบียดเคล้าคลึงรอบขอบปากเพื่อให้คนน่ารักเคลิบเคลิ้มยอมเปิดปากรับเรียวลิ้นของผมเข้าไปเพื่อจะได้ชิมรสหวานภายในได้  ผมรับรู้ได้ว่าคนที่โดนกอดเริ่มโอนอ่อนเคลิบเคลิ้มและยอมเปิดปากรับเรียวลิ้นของผมที่รอชิมความหวานอยู่  ผมสำรวจทั่วโพรงปากหวานดูดกลืนน้ำหวานรสชาติดีก่อนลัดเลาะไปตามแนวฟันเรียงสวยของคนตรงหน้า  เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสไร้เดียงสาที่เริ่มตอบโต้กลับมา  เผลอคางอย่างพอใจกับสิ่งที่ได้รับแต่สวรรค์ล่มเป็นยังไงผมพึ่งรู้ในตอนนี้  เพราะแรงที่มากระชากคนน่ารักให้หลุดจากอ้อมกอดของผมไปพร้อมเสียงดังโวยวายที่ตามมา

“นายเป็นใครเนี่ย  หา  มาทำแบบนี้กับเพื่อนเราทำไม”

ตามมาด้วยฝ่ามือทั้งสองข้างของเจ้าของเสียงนั้นผลักเข้าที่อกผมอย่างแรง  แต่ผมไม่ได้หันไปมองหรอกว่ามันเป็นใคร  เพราะสายตาของผมตอนนี้มีเพียงคนน่ารักที่โดนแยกออกจากอ้อมกอดเท่านั้น  กัสหนุ่มตัวเล็กตกอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวที่เป็นคนเดียวกับคนที่โดนไอ้ปรัชลากออกไปก่อนเกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมานั่นเอง  ผมได้ยินไอ้คนที่ผลักผมออกถามอะไรมากมายและหญิงสาวที่กอดกัสอยู่คงแนะนำว่าผมเป็นเพื่อนกับไอ้ปรัช  แต่คงยังไม่เป็นที่พอใจของหนุ่มแว่นตัวเล็กตรงหน้าเพราะยังมองผมอย่างกับแค้นเคืองกันมานาน  ผมเบนสายตากลับไปที่เดิมก็เห็นว่าตอนนี้หนุ่มน้อยที่เพิ่งโดนผมจูบไปหน้าแดงก่ำทำหน้าไม่ถูก  กัสคงอายมากเพราะทั้งเพื่อนของผมและเพื่อนของกัสเองต่างอยู่กันครบและคงไม่พลาดช็อตเด็ดของเราเป็นแน่

“เอ่อ  มิค  มาย  เรากลับกันเถอะนะ” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาทำลายความเงียบขึ้นมา  ทั้งๆที่เจ้าของยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากพื้นดินตรงหน้าเลย  จนผมอยากจะเข้าไปเชยคางมนขึ้นเพื่อสบตาให้ได้เห็นตาคู่สวยนั้นอีกครั้ง

“แต่.....  อืมก็ได้  ส่วนพวกนายอย่ามาให้พวกเราเห็นหน้าอีกนะ” หนุ่มแว่นขมวดคิ้วมุ่นเม้มปากแน่นจ้องมองกัสอย่างตัดสินใจก่อนยอมตามใจเพื่อน  และหันมาสั่งพวกผมที่ยืนอยู่ด้วยเสียงแข็งๆ

ตอนนี้ผมคงต้องปล่อยให้กวางน้อยทั้งสามได้กลับไปก่อน  เพราะขืนทำอะไรมากกว่านี้คงโดนเกลียดแทนรับรักแน่ ‘รับรัก’ เหรอ  ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดกับผมมาก่อนไม่น่าเชื่อว่าผมจะเป็นเอามากขนาดนี้  แต่สัมผัสที่เพิ่งผ่านผมรู้เพียงว่ามันไม่พอ ‘อยากได้มากกว่านี้’ ใช่แล้วผมต้องการคนๆนี้มาเป็น ‘คนของผม’ ให้ได้  ผมตัดสินใจแล้วจึงเอ่ยประโยคหนึ่งตามหลังร่างเล็กทั้งสามไป

“ไม่รับปากหรอกนะว่าจะไม่ให้เห็นหน้าอีก ‘กัส’ เราต้องเจอกันอีกแน่ครับ” หลังคำพูดของผมก็ได้เห็นว่าทั้งสามคนที่เดินออกไปแล้วชะงักเท้า  แต่กลับโดนร่างบางที่อยู่ตรงกลางดึงรั้งข้อมือให้เดินต่อ  และผมมั่นใจว่ากัสต้องได้ยินสิ่งที่ผมพูด  เพียงแต่ตอนนี้ผมทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้  แต่หลังจากนี้ผมจะทำทุกวิถีทางให้ได้คนน่ารักที่ชื่อ ‘กัส’ มาเป็นคนของตัวเองให้ได้ 

“ไอ้วิน  มึงไปจูบเค้าทำไมวะ  หรืออัดอั้นมากไม่ได้เอาออกนานล่ะสิ” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงดังข้างตัวในความหมายกวนๆทันทีที่ไอ้ธีพูดจบด้วยความหมั่นไส้  แต่ไม่ทันได้ตอบโต้มันก็โดนสำเร็จโทษโดยผมไม่ต้องเสียงแรงแม้แต่น้อย

“ป้าบบบ / โอ๊ย!  มนอ่ะ  ธีเจ็บนะ” ไอ้หนุ่มตี๋หน้ากวนโดนตบหลังจากสาวเดียวของกลุ่มเพื่อปรามไม่ไห้พูดเล่น  ไอ้ธีทำหน้ามุ่ยส่งสายตาออดอ้อนใส่มนและลูบหลังตัวเองป้อยได้อย่างน่าหมั่นไส้  จนคนที่ได้เห็นอย่างผมอยากเข้าไปซ้ำอีกสักทีในความปากดีของมัน  แต่ผมก็ต้องหันมาตามเสียงเรียบนิ่งที่ดังขึ้น 

“คนนี้แค่เล่นๆเหมือนเคยรึเปล่า” ไอ้ปรัชทำหน้านิ่งจริงจังไม่แพ้น้ำเสียง  สายตามันจับจ้องมาที่ผมเขม็งอย่างรอคอยคำตอบ  ส่วนผมก็กำลังค้นหาความรู้สึกของมันในแววตาว่าไอ้ปรัชกำลังรู้สึกยังไงถึงถามผมมาแบบนี้  ในเมื่อตลอดมาพวกเราจะไม่ยุ่งเรื่องที่ว่าเพื่อนจะสนใจใครจะจีบใครมาก่อน  เพราะต่างรู้กันดีว่าแต่ละคนสามารเอาตัวรอดได้

“เพราะถ้ามึงแค่เล่นๆ  คนนี้กู ‘ขอ’ อย่ายุ่งกับเค้า” คำ ‘ขอ’ ของไอ้ปรัชครั้งนี้ทำผมฉุนขาด  มันกล้าดียังไงมาขอคนที่ผมคิดว่าตัวเองกำลังสนใจแบบที่ไม่เคยสนใจใครได้เท่านี้มาก่อน

“มึงหมายความว่าไง  มึง ‘ขอ’ เค้าจากกู  มึงเป็นอะไรกับเค้า  หา” ผมเข้ากระชากคอเสื้อและจ้องตาไอ้ปรัชอย่าเอาเรื่อง

“เฮ้ยยย  พวกมึงอย่าทะเลาะกัน  คุยกันดีๆ” เสียงสาวเดียวตะโกนขึ้นพร้อมเพื่อนที่เหลือจับแยกเราทั้งคู่ออกจากกัน  ผมจ้องตากับไอ้ปรัชก็พบว่าแววตามันไม่ได้สื่อว่ามัน ‘ขอตัวกัส’ ในแบบที่ผมคิด  มีแต่แววตาเข้าใจและไม่มีแววโกรธขึ้งที่โดนผมหาเรื่องเลยสักนิด  ผมยกมือลูบหน้าลูบตาก่อนจ้องตาไอ้ปรัชอย่างแน่วแน่อีกครั้ง

“กูขอโทษ” ผมเอ่ยขอโทษไอ้ปรัชก่อนเพราะเพิ่งได้สติหลังความหึงบังตาไปชั่วขณะ  ส่วนไอ้ปรัชก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ
   
“กัสเป็นแค่เพื่อนสนิทกับคนรู้จักของกู  ไม่ได้เป็นอะไรกัน  กูเพิ่งรู้จักกับเค้าวันนี้แต่ไม่อยากมีปัญหา  ถ้ามึงคิดจะเล่นๆกับเค้า” ไอ้ปรัชทำหน้านิ่งสายตาจริงจังยืนยันคำพูดของมัน  ซึ่งผมเข้าใจมันนะและอยากให้มันเข้าผมด้วย

“คนนี้กูจริงจังว่ะ  กูจะเอากัสมาเป็นคนของกูให้ได้” หลังคำพูดของผมเกิดความเงียบขึ้นมาทันที  เพราะพวกมันคงคิดไม่ถึงว่าคนที่ไม่คิดจริงจังกับใครทั้งหญิงและชายที่มาเกี่ยวข้องด้วยแบบผม  จะคิดจริงจังกับหนุ่มหน้าหวานคนที่เพิ่งเจอได้ไม่ถึงสองชั่วโมง

“วันนี้หมดอารมณ์เที่ยวแล้ว  กูจะกลับแล้วพวกมึงจะเอาไง” ไอ้ฟินหนุ่มร่างสูงผิวเข้มทำลายความเงียบขึ้นมาหลังจากที่เพื่อนๆทุกคนพากันอึ้งกับคำพูดของผมที่อยากสละโสดกะทันหัน

“อืม  กลับดิ  ไอ้วินมึงน่าจะถามรายละเอียดของน้องกัสกับไอ้ปรัชนะ  เพราะเป็นเพื่อนสนิทกับ ‘คนรู้จักของมัน’ แต่กูแปลกใจว่ะ  ไอ้ปรัชมึงแค่คนรู้จักกับน้องมายเหรอ  กูเห็นมึงลากเค้าออกมาน่ะมีไรที่พวกกูไม่รู้รึเปล่า” ถึงคราวที่ไอ้ธีหนุ่มตี๋อินเทรนด์จะมีสาระกับเค้า  มันก็สามารถเรียกความสนใจของเพื่อนทั้งหมดได้เหมือนกัน  ว่ามีอะไรระหว่างไอ้ปรัชหนุ่มที่เป็นกุนซือของกลุ่มกับสาวน้อยร่างอวบอิ่มที่โดนมันลากออกมาแต่กลับให้นิยามแค่ ‘คนรู้จัก’ เท่านั้น

“สามคนนั้นมึงไปเรียกเค้าว่าน้องไม่ได้” ไอ้ปรัชยังโยกโย้ไม่ตอบแต่กลับเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง

“ทำไมเรียกไม่ได้  หรือเป็นรุ่นเดียวกันวะแต่ไม่น่านะ  หน้าตาท่าทางเด็กออก” ไอ้ธีทำหน้างงใส่คิ้วขมวดมุ่นหลงกลไอ้ปรัชไปเต็มๆ

“เค้าอายุมากกว่าเรา 2 ปี”

“หา! / อะไรนะ! / เฮ้ย! / อืม”

หลากหลายคำอุทานที่เกิดจากเพื่อนที่ได้ฟังเรื่องอายุของกลุ่มคนที่จากไป  ก็แปลกใจไปตามๆกันกับหน้าตาที่ไม่สมกับอายุเลย  แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่หนุ่มแว่นแสนฉลาดอยากให้เกิดเพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้ใครถามเรื่องที่ไม่อยากพูดถึงสาวน้อยคนนั้นอีก  และหนุ่มตี๋อินเทรนด์ก็ยังไม่แน่พอในการเค้นความลับจากเพื่อนออกมาได้  และตอนนี้ทุกคนก็ลืมเรื่องของหนุ่มแว่นไป  กลับมาสนใจกับหนุ่มสาวทั้งสามที่จากไปแทน 

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

เมื่อวินตั้งใจจะลงมือจีบกัสแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คนน่ารักอย่างหมอกัสจะเป็นยังไง ติดตามต่อตอนหน้าค่ะ

 :pig4: ทุกการติดตามนะคะ

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

สนใจการรวมเล่มซีรีย์ "เสน่ห์รัก" ติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-06-2012 00:12:06
รอตอนต่อไปจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 21-06-2012 06:15:39
จะรอติดตามตอนต่อไปขอรับ
วินจะรุกกัสจังแล้ว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-06-2012 07:35:18
หมอกัสจะโดนจีบแล้ว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 21-06-2012 08:47:40
จองเสน่ห์ร้ายพ่ายรักคะขอรายระเอีดยการโอนเงินด้วยคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 21-06-2012 09:41:58
เข้ามาวิ่งเล่นแล้วก็มาส่องวินกัสด้วยจ้ะ
กัสน่ารักอ่ะ คุณหมอตัวน้อยๆของวิน
เดี๋ยวรออ่านเป็นหนังสืออีกที  :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-06-2012 12:25:31
วินนี่เราจะรุกจีบ
หมอกัสแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 21-06-2012 13:21:01

มาลุ้นคนน่ารักโดนจีบ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-06-2012 15:06:13
มาอ่านใหม่อีกรอบค่ะ

+1+เป็ดให้กำลังใจคุณ MISS-U
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 21-06-2012 16:40:18
อยากเห็นคนน่ารักโดนคนหล่อจีบค่าา  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-06-2012 21:34:08
รอตอนต่อไปจ้า :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่5-6(21/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 21-06-2012 22:02:32
รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-06-2012 06:51:07
ตอนที่ 7

กัส

หลังจากเลิกประชุมคณะกรรมการบริหารของโรงพยาบาลแล้ว  ผู้เข้าร่วมประชุมต่างแยกย้ายกันกลับซึ่งรวมถึงผมด้วย  วันนี้ช่างเป็นวันที่หนักหน่วงสำหรับผมมากนัก  ทั้งงานที่ต้องให้การรักษาและต้องเข้าประชุมตลอดบ่ายของวัน  ทำให้พลังงานชีวิตของผมลดฮวบ  ผมเดินหอบแฟ้มงานมาด้วยสีหน้าอิดโรยผ่านส่วนให้บริการต่างๆ  เจอทั้งเจ้าหน้าที่ที่คุ้นเคยประจำห้องต่างๆและคนไข้ที่นั่งรอต่างยกยิ้มทักทาย  ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนผมก็ตอบรับไมตรีเหล่านั้นรอยยิ้มกลับไป  เมื่อผมเปิดประตูห้องฟันเข้ามาได้เพื่อนสนิทที่นั่งรออยู่ก็ทักทายขึ้นทันที

“กัส  การประชุมเป็นไงบ้างหนักมากเลยเหรอสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” มิคเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนแสดงความห่วงใย  พร้อมกับลุกขึ้นเดินมาใกล้ผมและวางมือลงบนไหล่  ผมจึงส่งยิ้มให้คนขี้กังวลได้สบายใจขึ้น

“ไม่หนักหรอกมิค  ไปเรากลับบ้านพักกันเถอะได้เวลาเลิกงานแล้ว” หลังคำพูดของผมมิคคิ้วขมวดมุ่นสายตาแสดงความห่วงใยชัดเหมือนจะพูดอะไรออกมา  แต่ก็กลับพยักหน้าให้แทนก่อนระบายยิ้มน้อยๆ  และตบที่ไหล่ผมเบาๆเหมือนต้องการให้กำลังใจและรอให้ผมเป็นคนเอ่ยปากเองมากกว่าจะซักไซ้  แม้เจ้าตัวจะอยากรู้มากแค่ไหนก็ตาม

ผมรับรู้ได้ว่าเพื่อนสนิทเป็นห่วงผมเรื่องอะไร  เพราะข่าวคราวจากมายเมื่อคืนแท้ๆที่ทำให้ผมดูน่าเป็นห่วงในสายตามิคแบบนี้  ด้วยเมื่อคืนกว่าจะได้นอนเพราะมัวแต่คิดถึง ‘อดีต’ ทำให้นอนไม่หลับ  ส่งผลให้ผมดูอิดโรยจนน่าเป็นห่วง

    

“เอ้าดื่มน้ำแอปเปิ้ลก่อน  อากาศที่นี่ดีจริงๆคิดไม่ผิดที่มาทำงานที่นี่”

ผมที่นั่งอยู่รับเครื่องดื่มจากมิคที่มีน้ำใจเอามาให้  พร้อมหันไปมองวิวตรงหน้าและอดเห็นด้วยกับเพื่อนในใจไม่ได้  บริเวณที่เรานั่งกันอยู่เป็นหน้าบ้านพักของเราในโรงพยาบาล  พอมองออกไปจะพบกับทางเดินที่ทอดยาวผ่านหน้าบ้านหลังนี้ทางเดินนั้นวนผ่านไปยังบ้านพักหลังอื่นด้วย  และมีวิวของภูเขาสูงเป็นจุดเรียกสายตาอยู่ตรงหน้า  ประกอบด้วยลมเย็นเอื่อยๆพัดผ่าน  ทำให้ใจผมเริ่มผ่อนคลายขึ้น

“คิดมากเรื่องที่ยัยมายเดียร์เล่าเมื่อคืนเหรอ” สมแล้วที่มิคเป็นเพื่อนสนิทของผม  เราคบกันมานานจนรู้ว่าผมกังวลเรื่องอะไรอยู่  ผมหันหน้าหนีสายตาจับผิดทันทีก่อนเสียงเยาะของมิคจะตามมา   

“ฮึ  กรรมนี่มันไม่ต้องรอนานนะตามมาทันซะแล้ว” ผมรู้ว่ามิคหมายถึงใครพอได้คิดถึงหน้าคนๆนั้นก็อดจะรู้สึกเจ็บในอกแทนไม่ได้  แม้คนๆนั้นจะทำกับผมไว้อย่างสาหัสแค่ไหนก็ตาม


“อยากให้มายเดียร์มาอยู่ด้วยกันจังคิดถึงสมัยเรียนอ่ะ  เฮ้ออออ เดียวมิคไปดูเอกสารในห้องก่อนนะกัสมีอะไรก็เรียกแล้วกัน” มิคขอตัวเข้าห้องพักส่วนตัวคง
เพราะอยากให้ผมได้คิดอะไรเงียบๆคนเดียว 

ผมไม่อยากจะหวนคิดถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดเลย  แต่ไม่ว่าจะทำยังไงผมก็สลัดความคิดถึงคนๆนั้นไม่หลุดซะที 



สองปีก่อน

ในห้องพักนิสิตทันตแพทย์ชั้นปีที่หกมีคนนั่งอยู่ประปรายเพราะตอนนี้ส่วนใหญ่ออกลงปฏิบัติงานรักษากันอยู่  แต่มุมหนึ่งของห้องกลับมีสองหนุ่มสาวนั่งคุยกันอยู่เบาๆพอให้ได้ยินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“พวกนั้นมากันจริงๆนะกัส  เนี่ยมายเพิ่งวางโทรศัพท์จากปรัชอ่ะ  เราจะทำไงดี  มิคก็ทำงานอยู่ด้วยสิ” ใบหน้าติดร้อนรนของมายจ้องมองผมไม่กระพริบอย่างต้องการช่วยหาทางออก 

ผมนั้นทั้งตกใจและพะวักพะวงไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้ยังไงดี  ถ้าตอนนี้มีเพื่อนสนิทอีกคนอยู่ด้วยคงจะดีไม่น้อย  เพราะยามคับขันแบบนี้มิคมักจะมีวิธีดีๆแก้ไขปัญหาได้เสมอ  ใบหน้าผมยามนี้คงเคร่งเครียดไม่แพ้จิตใจ  จนมายถึงกับยกมือมาลูบระหว่างคิ้วให้  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป  บุคคลที่ถูกกล่าวถึงนั้นผมน่ะไม่อยากเจอเลย  ยิ่งเมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์น่าอายที่เพิ่งผ่านมายิ่งลำบากใจ
 
“เอางี้  กัสหนีกลับก่อนดีมั้ย” เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะหนีก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน  ผมพยักหน้าให้มายและเตรียมหมุนตัวกลับไปเก็บของ  แต่แล้วเสียงประกาศที่ดังขึ้นก็เป็นอันทำให้ความตั้งใจล่มสลาย

“นิสิตทันตแพทย์กรณ์กวินทร์  ชั้นปีที่หกติดต่อที่ห้องตรวจด้วยค่ะ”

เสียงประกาศที่เรียกชื่อผมวนซ้ำอีกรอบแล้วแต่ผมก็ยังยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิม  ส่วนสาวมายเพื่อนสนิทก็ยืนนิ่งยกมือทั้งสองขึ้นปิดปากตาคู่สวยเบิกกว้างจับจ้องมาทางผมอย่างตื่นตระหนก ‘หนีไม่ทันซะแล้วสิ’

    

“หมอกรณ์กวินทร์  เดี๋ยวคุณรับผู้ป่วยรายนี้นะเพราะผู้ป่วยระบุมาว่าต้องเป็นคุณ”

“ครับอาจารย์”

ผมยื่นมือรับแฟ้มประวัติคนไข้ที่ถูกส่งมาให้จากอาจารย์ที่รับแฟ้มมาจากห้องทำประวัติก่อนหน้า  ผมไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะผู้ป่วยสามารถเลือกหมอที่จะรักษาแต่หมอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธผู้ป่วยได้  ยิ่งรายนี้ ‘นายอัศวิน  สกุลทรัพย์ไพศาล’ ยิ่งยากปฏิเสธ   ผมคงต้องทำใจสินะใจจริงอยากเดินหนีให้พ้นมากกว่า

“คุณตรวจเสร็จแล้วก็ทำการนัดรักษาต่อได้เลยนะ” อาจารย์พูดเตือนผมขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นผมเงียบไปนาน  ผมจึงได้แต่รับคำก่อนท่านจะเดินจากไป 

ผมเดินถือแฟ้มประวัติกลับมาหามายที่ยืนรออยู่ด้านหลัง  เราสบตากันก่อนมายจะส่งยิ้มให้กำลังกลับมา  ผมสูดหายใจลึกหนึ่งเฮือกเพื่อสร้างความมั่นใจสยบใจที่สั่นไหว  เพราะรับรู้ได้ว่าผมต้องไปเผชิญหน้ากับใคร ‘คนที่ทำให้หัวใจผมหวั่นไหวแบบที่ไม่เคยเป็นเพียงแค่พบกันครั้งแรก’ 

    

“คุณอัศวินครับเดี๋ยวผมนัดวันเพื่อเข้ารับการรักษาต่อให้เลยนะครับ” หลังตรวจชายหนุ่มที่ผมเอ่ยชื่อเสร็จแล้วจึงบอกกล่าวถึงการนัดหมายต่อไป  ผมพยายามก้มหน้าให้ความสนใจในการเขียนผลตรวจบนแฟ้มประวัติ  แทนสายตาพราวระยับที่จับจ้องอยู่

“ครับ  กัสนัดมาเลย  ผมพร้อมเสมอ” เสียงนุ่มสุภาพที่ได้ยินมันใกล้เกินจำเป็นรึเปล่านะ  ผมจึงขยับเก้าอี้ล้อเลื่อนออกห่างเจ้าของเสียงแต่ก็ยังทำเป็นไม่สนใจ  ใครจะกล้าเงยหน้าขึ้นทั้งๆที่รู้ว่าใบหน้าร้อนผ่าวและใจที่เต้นโครมครามจนกลัวอีกฝ่ายได้ยินด้วยซ้ำ  ผมหวังว่าอาการเหล่านี้ของผมจะไม่เป็นที่สังเกตของ ‘วิน’ เข้าซะก่อน

“กัสครับ  เป็นอะไรหน้าแดงเชียว” ความหวังของผมไม่เป็นผลซะแล้วสิ  โดนจับได้ซะแล้วต้องทำอะไรสักอย่าง  ผมพยายามเก๊กขรึมหันไปดุคนที่กำลังตอแยผมอยู่ทั้งๆที่หน้าแดงนี่แหละครับ

“นี่นายวิน  ควรเรียกผมว่าพี่กัสนะ” สิ้นคำของผมคนที่สมควรเกรงใจกันบ้างนั้นกลับยิ้มกว้างตาพราวใส่ตาผมซะงั้น

“อืม  แอบสืบประวัติกันด้วยเหรอครับพี่กัสสนใจกันรึเปล่าน้า  แต่ไม่เอาหรอกขอเรียกชื่อเฉยๆก็พอนะเพราะตัวเล็กแบบนี้เป็นพี่ไม่ได้หรอก  ฮึๆๆ” เสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ที่ผมเริ่มไม่ชอบใจหลุดออกมา  จนผมเลิกอายแต่เริ่มโกรธขึ้นมาแทน  เหมือนผมเป็นตัวตลกให้นายวินคนนี้มาหัวเราะเยาะเลย

“นี่นาย!” ผมยังไม่ทันได้ต่อว่าวินไปมากกว่านี้  แต่ด้วยท่าทางยกนิ้วจรดริมฝีปากและหันหน้ามองรอบตัวของวิน  ทำให้ผมต้องเก็บเสียงเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและเผลอส่งเสียงดังเกินจำเป็นออกไป

“ชู่ๆๆๆๆ  เบาๆครับ  เดี๋ยวอาจารย์หมอก็มาว่าหรอก  หมอดุคนไข้จังน้า” สีหน้าทะเล้นที่ส่งมาล้อเลียนทำให้ผมต้องสะบัดหน้าหนี  ด้วยไม่อยากมองหน้าคนเจ้าเล่ห์ขี้แกล้งเอาซะเลย

เรื่องที่นายวินแกล้งล้อเลียนผมว่าไปแอบสนใจเจ้าตัวนั้น  จริงๆผมไม่ได้ตั้งใจสืบประวัติหรอกก็ได้รู้จากเพื่อนสาวคนสนิทนั่นแหละ  เพราะหลังเกิดเหตุการณ์น่าอายขึ้นผมโดนซักซะขาวสะอาดจากเพื่อนสนิททั้งสองคน  หลังจากนั้นประวัติคนตรงหน้าโดยย่อก็ถูกมายตีแผ่ให้ได้รู้ว่า  วินนั้นดังไม่ใช่เล่นด้วยความสมบูรณ์แบบของเจ้าตัว  ทั้งหน้าตาและฐานะที่ดึงดูดให้ทั้งหญิงและชายเข้าหามากมาย  ทำให้ภาพของวินในสายตาผมดูเป็นผู้ชายเจ้าชู้มากแถมตอนนี้มาทำเป็น ‘จีบ’ ผมอีกด้วยยิ่งไม่น่าไว้ใจ  การที่ผมรู้สึกหวั่นไหวกับวินมากเท่าไหร่ผมคงต้องกันวินให้ออกห่างเท่านั้น

“เรียบร้อยแล้วครับนี่บัตรนัดของคุณครับ” อยากตัดบทสนทนากับวินเร็วๆเพราะไม่อยากเห็นหน้าอีก  ผมจึงรีบยื่นบัตรนัดให้แล้วจะได้ขอตัวไปจากที่นี่ซะที  แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเดินออกไปกลับรู้สึกถึงสัมผัสที่แก้มพร้อมเสียงดังฟอด

“เฮ้ยยย” ผมยกมือกุมแก้มทันทีพลันเกิดความร้อนกระจายทั่วใบหน้าจนเหมือนหน้าแทบระเบิด  ส่วนคนที่กระทำการอันอุกอาจกลับยิ้มกว้างเต็มหน้าตาพราวระยับอย่างถูกใจ  สายตาวินจับจ้องผมไม่คลายจนต้องเสหลบตา  ใจอยากจะก้าวหนีออกจากจุดเกิดเหตุแต่ขากลับไม่มีแรงซะอย่างนั้น
 
“เดี๋ยวผมรอรับหมอกัสไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับ  อ๊ะ  ห้ามปฏิเสธถึงปฏิเสธก็จะบังคับ” คนขี้บังคับพูดจบก็เดินจากไปไม่รอคำตอบของผมเลย 

มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ครั้งแรกที่เจอกันวินก็ขโมยจูบแรกของผมไป  ครั้งที่สองก็มาฉวยโอกาสหอมแก้มผมซะฟอดใหญ่  ทำไมมันถึงผิดขั้นตอนไปหมดอย่างนี้  ไม่อยากคิดว่าถ้าไปกินข้าวด้วยจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง  ‘แล้วทำไมใจผมต้องเต้นแรงแทบทะลุอกและปากถึงได้ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่แบบนี้ด้วยนะ’

    

“สั่งเลยครับหมอ  วันนี้ไอ้วินมันเลี้ยงเต็มที่ครับ  เต็มที่เลย” ชายหนุ่มหน้าตี๋ส่งยิ้มกวนๆชักชวนให้ผมและเพื่อนๆสั่งอาหาร  ส่วนผมที่กำลังยื่นมือไปรับเมนูจากคนตาตี่ก็ชักกลับแทบไม่ทัน  เพราะวินนั้นแย่งไปซะก่อนแต่กลับเปิดเมนูให้และยื่นกลับมาบริการให้ผมถึงที่  พร้อมรอยยิ้มหวานอย่างเอาใจจนผมไม่กล้าต่อตาด้วย

“ไอ้ธีมึงนี่จริงๆเลย  เดี๋ยววันนี้กูปล่อยให้จ่ายเองซะเลยนี่” เสียงเข้มดังขึ้นแต่ผมก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงหรอก  เพราะตากำลังจับจ้องรายการอาหารต้องหน้าอยู่

“อ้าว  ไอ้นี่  มึงนั่นแหละจ่าย  กูไม่ได้ ‘จีบ’ หมอกัสนี่แต่เป็นมึง” ถ้าคนหน้าตี๋เป็นเพื่อนของผมนะคงได้โดนฝ่ามือพิฆาตข้อหาทำให้ผมได้อายแล้วครับ  แต่ในเมื่อไม่ใช่ผมจึงทำได้เพียงแค่ยกเมนูในมือขึ้นบังใบหน้า  ปิดร่องรอยความร้อนที่กำลังแผ่กระจาย  ไม่กล้าแม้แต่มองหน้าคนร่วมโต๊ะเลย

“เออ  กู ‘จีบ’ กูจ่าย” เสียงเข้มที่กระแทกในตอนต้นเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานในคำที่มีความหมาย  เหมือนต้องการสื่อให้ผมได้รู้ว่าคนพูดต้องการอะไร  ผมลดเมนูในมือลงเพื่อแอบมองหน้าคนพูดที่นั่งฝั่งตรงข้าม  แต่ต้องตกใจและยกเมนูมาบดบังใบหน้าไว้ดังเดิม  เมื่อเจอเข้ากับสายตาเจ้าเล่ห์และรอยยิ้มกรุ่มกริ่มเข้า

คราแรกนั้นผมจะไม่มาทานข้าวกับวินแล้ว  แต่อีกฝ่ายกลับยื่นข้อเสนอให้พาเพื่อนมาด้วยได้  บวกด้วยสีหน้าอ้อนวอนทำผมใจอ่อนจึงรับนัดครั้งนี้  ซึ่งผมก็ขอเลือกร้านอาหารเองวินก็ตกลงยอมแบบไม่มีข้อแม้  พวกเราจึงได้มานั่งที่ร้านอาหารติดแอร์เล็กๆใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่  ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยนี้ทั้งนั้น  ด้วยเป็นร้านเล็กๆจึงมีไม่กี่โต๊ะแต่อาหารอร่อยราคาไม่แพงลูกค้าแน่นทุกวันและผมก็เป็นลูกค้าประจำร้านนี้ด้วย  ตอนที่มาถึงพวกเรานั่งกันอยู่สี่คนแต่ยังไม่ทันสั่งอาหาร  เพื่อนหน้าตี๋ของวินนามว่า ‘ธี’ ก็เข้ามาทักเพราะจำรถที่จอดหน้าร้านได้  แถมโทรตามเพื่อนในกลุ่มตัวเองมาจนครบ  ผมแอบฟังได้ความว่าให้มาเจอว่าที่ ‘คนของไอ้วิน’ กัน  ได้ฟังถึงกับอึ้งทำตัวไม่ถูกก็ไม่รู้ว่าผมเป็นคนของวินตั้งแต่ตอนไหน  ส่วนวินคนขี้ตู่กลับยิ้มกว้างไม่ทักท้วงเพื่อนตัวเองสักนิดเลย  จนผมล่ะแอบหมั่นไส้แต่ก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้

“หมอกัส  หมอมิค  หมอมาย  สั่งอาหารเถอะค่ะ  อย่าไปสนใจพวกมันเลย” เสียงอ่อนๆของหญิงสาวเพื่อนสนิทของวินเอ่ยชวนและปรามเพื่อนตัวเองไปในตัว  พร้อมช่วยแก้สถานการณ์ให้ผมที่อายจนทำตัวไม่ถูกได้ผ่อนคลายลง  พร้อมกับเสียงแซวของหนุ่มหน้าตี๋ว่านานมากแล้วที่ไม่ได้ยินสาวเท่คนนี้พูดจาไพเราะแบบนี้  ซึ่งสาวเท่ก็ตอบแทนคำแซวของธีโดยการฟาดฝ่ามือใส่ไหล่หนาๆเสียงดังจนผมเองยังตกใจ  หันไปมองมิคและมายก็ตกใจตาโตไม่ต่างกัน

“ขอบคุณครับ  จริงๆมนไม่ต้องเรียกหมอนำหน้าหรอกครับ  เรียกชื่อพวกเราก็พอ  เนอะ” มิคเอ่ยพร้อมหันหน้ามาขอความเห็นจากผมและมาย

“ใช่ครับ / ตามนั้นค่ะ” เราจึงประสานเสียงกันพร้อมส่งยิ้มไปให้สาวเท่เพื่อยืนยันคำพูด  จนมนเผยยิ้มสวยมาให้ได้เห็น

จากนัดทานข้าวครั้งแรกที่คิดว่ามีแค่สองคนแต่กลับมีถึงแปดคน  บรรยากาศที่คิดว่าจะโรแมนติกและทำตัวไม่ถูกกลับเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยสลับเสียงหัวเราะนั้น  กลับทำให้ผมชอบและผ่อนคลายมาก  และมีความคิดว่าคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวหรือไม่น่าคบเหมือนที่คิดไว้  ผมรู้สึกสนุกพูดคุยได้อย่างเป็นธรรมชาติกับทุกคน  ยกเว้นก็แต่วินที่นั่งตรงข้ามกับผมนั้นแทบไม่ได้คุยด้วยเลย  แต่ผมก็รู้ตัวว่าอยู่ในสายตาของวินตลอดเวลา  แล้วแบบนี้ใครจะกล้าหันไปคุยด้วยกันเล่า  ผมคงต้องทำตัวให้ชินซะแล้วกับสายตาที่แทบจะกลืนกินคู่นี้ของวิน

“วันนี้แค่นี้ก่อน  แต่เตรียมตัวเตรียมใจไว้นะครับกัส  ผมจะรุกหนักกว่านี้แน่ๆ”

ผมที่เดินเกือบถึงรถแล้วกลับโดนดึงรั้งข้อศอกเบาๆ  พร้อมเสียงนุ่มที่กระซิบข้างหูและสัมผัสถึงลมร้อนขณะที่อีกคนกระซิบบอก  แม้จะผละออกมานานแล้วแต่ผมยังรู้สึกถึงลมอุ่นๆที่ปะทะใบหูนั้นอยู่เลยพร้อมด้วยหัวใจที่เต้นแรง

........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ

สนใจการรวมเล่มซีรีย์ "เสน่ห์รัก" ติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 22-06-2012 07:06:16
^
^
^
^
^
^
คิดถึงคนนี้
คิดถึง  MiSS-U
กอดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :กอด1: :กอด1:
^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 22-06-2012 07:31:31
น่ารักจริงๆเลยยยยยยย :o8:

 :call: :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-06-2012 09:05:01
หมอกัสไม่รอดแน่
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 22-06-2012 11:25:33
วินรุกแล้ว ดูแล้วยังไงกัสจังก็ไม่รอดแน่ๆ ฮ่าๆ
+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 22-06-2012 11:28:25
โดนรุกหนักเลยหมอกัส :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-06-2012 12:39:22
รักชั่วนิรันดร์ :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-06-2012 13:23:22
วินรุกหนักมากอย่างนี้กัสก็หวั่นไหวแย่
ตอนนี้ฟินยังไม่สนใจหนูมิคใช่ไหมเนี่ย

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 22-06-2012 14:04:48
วินรุกหนักจิง ๆ 5555+ กัสรับมือไหวมะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 22-06-2012 14:10:39
วินรุกหนักเลย หมอกัสเสร็จแน่ๆ คึคึ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 7 (22/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 22-06-2012 14:43:48
เอาใว้สิ้นเดือนเค้าจะไปโอนเงินให้นะคะรอเงินเดือนออกก่อน :bye2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-06-2012 07:58:21
ตอนที่ 8

วิน

บริษัท ‘เอสเอสพีคอนสตรัคชั่น’ เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดกลางที่แตกสาขากิจการมาจากบริษัทแม่ที่ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่  ซึ่งผู้บริหารเป็นหนุ่มไฟแรงที่เป็นลูกชายคนที่สองของเจ้าของบริษัทแม่ที่ตอนนี้รามือให้ลูกชายคนโตบริหารงานแทน  ภายในห้องทำงานกว้างสำหรับผู้บริหารด้านหนึ่งมีกระจกใสตั้งแต่พื้นจรดเพดาน  ม่านถูกดึงไปด้านข้างเปิดให้คนในห้องเห็นทิวทัศน์ด้านนอกและรับแสงสว่างภายนอกเข้ามาทำให้บรรยากาศภายในน่าทำงาน   ผนังด้านอื่นทาสีครีมยิ่งเพิ่มความสว่างยิ่งขึ้น  ขณะนี้มีชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มนั่งหน้าขรึมจับจองอยู่ที่โต๊ะทำงานกว้างที่ถูกวางชิดไปทางผนังด้านหนึ่ง  ตรงข้ามเป็นประตูบานใหญ่  บนโต๊ะกว้างมีเอกสารวางอยู่เต็มพร้อมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 

‘Rrr  Rrr  Rrr’

เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะการทำงานของผมที่กำลังนั่งดูสัญญาที่ต้องเซ็นในอาทิตย์หน้า  ผมจึงต้องละสายตาจากตัวหนังสือตรงหน้าพร้อมยื่นมือรับโทรศัพท์ข้างตัว  อีกมือยกขึ้นนวดระหว่างคิ้วเพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียด

“คุณวินคะ  คุณฟินโทรมาค่ะให้ออยโอนเข้าไปเลยนะคะ” เสียงเลขาส่วนตัวดังขึ้นเพื่อขออนุญาตโอนสายเพื่อนสนิท  ผมจึงตอบรับกลับไปให้เธอโอนสายเข้ามาเลย

“วินวันนี้ไปฉลองเปิดร้านใหม่เฮียศาลกัน” ไอ้ฟินไม่พูดพร่ำทำเพลงมันตรงเข้าประเด็นเรื่องเที่ยวทันที  มันจะรู้บ้างมั้ยว่าผมกำลังเคร่งเครียดกับงานตรงหน้ามากแค่ไหน 

“โทรมานึกว่าธุระสำคัญอะไร  ที่แท้ชวนไปกินเหล้าแล้วทำไมไม่โทรเข้ามือถือกูวะ” ผมเปิดตามองผ่านกระจกปล่อยสมองให้ผ่อนคลายและรอฟังคำตอบโต้ของไอ้วิน

“มึงดูโทรศัพท์มึงสิ  แบตมึงหมดป่ะไอ้นี่”

หลังคำพูดไอ้วินผมจึงคว้าโทรศัพท์มาดูและได้เห็นว่าแบตหมดจริงๆ  เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เข้าวันใหม่ไปแล้ว  จึงลืมสนใจเรื่องอื่นแม้แต่โทรศัพท์ตัวเอง  ถ้าผมปล่อยให้ตัวเองว่างเมื่อไหร่ความคิดมันมักจะลอยไปหาใครอีกคนเสมอ  ผมเป็นอะไรไปนะทั้งๆที่พยายามลืมมาตลอดแท้ๆ

“อืม  หมดจริงว่ะ  โทษที”

“ช่วงนี้กูเห็นมึงไม่ค่อยไปไหนกับพวกกูเลยอยากเจอหน้า  งานยุ่งมากเหรอวะ”

“เออ  นิดหน่อยว่ะ  แล้วนัดกันกี่โมง  ใช่ที่เฮียศาลเคยบอกมั้ยวะ”

“ที่นั่นแหละ  ไปถึงสักทุ่มหนึ่งนะ”

“ได้  แล้วเจอกัน”

หลังวางสายจากเพื่อนสนิทผมถอนใจเฮือกใหญ่  และพยายามรวบรวมสมาธิให้กลับมาจดจ่อกับงานตรงหน้าอีกครั้ง  พยายามปัดใบหน้าหวานของคนๆนั้นออกไป  วันนี้ได้ไปผ่อนคลายเจอเพื่อนบ้างก็ดีเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น

    

“ขอบใจพวกมึงมากที่มากันครบเซ็ตขนาดนี้  วันนี้มึงเต็มที่กันเลยนะเดี๋ยวกูไปดูเพื่อนกูทางโน้นก่อน” ชายหนุ่มร่างท้วมเจ้าของร้านมาทักทายตบหลังตบไหล่บรรดารุ่นน้องที่สนิทที่วันนี้กะล้มทับเจ้าของร้าน

“แน่อยู่แล้วเฮียเดี๋ยวผมสนองความต้องการเฮียเอง  ฮ่าๆๆ” ไอ้ธีหนุ่มตี๋อารมณ์ดีประจำกลุ่มตอบรับน้ำใจของรุ่นพี่เจ้าของร้านอย่างกวนๆ  มันจึงได้รับแรงตบที่หลังแรงกว่าใครๆ  แล้วเฮียศาลก็เดินไปหาเพื่อนกลุ่มอื่นๆแทน 

บรรยากาศของร้านอาหารกึ่งผับขณะนี้ก็คึกคักสนุกสนานมีทั้งหญิงและชายน่าตาดี  ที่สำคัญคนเหล่านั้นกำลังแอบมองมาที่โต๊ะกลุ่มของผมที่มีห้าหนุ่มหนึ่งสาวที่โดดเด่นทั้งหน้าตาและการแต่งกาย 

“ช่วงนี้มึงเครียดๆไปนะวิน” มนเอ่ยทักผมทันทีที่ในโต๊ะเหลือเพียงเพื่อนสนิทในกลุ่ม  สายตามนจับจ้องผมอย่างเป็นห่วงแม้หน้าตาจะยังคงนิ่งไม่เปลี่ยน  ผมจึงส่งยิ้มให้มนได้รู้ว่าผมไม่ได้เป็นอะไรก่อนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ

“นั่นดิ  หรืออัดอั้นได้เอาออกมั่งป่ะเนี่ยหลังจากเลิกกับเด็กเก่ามึงอ่ะ  วันนี้ก็สอยไปซักคนดิเผื่อจะดีขึ้น” ผมหันหน้ามามองไอ้ฟินทันทีที่มันพูดจบ  ก็เจอเข้ากับหน้าตาเจ้าเล่ห์พร้อมรอยยิ้มเก๊กหล่อของมันเข้า 

ไอ้ฟินคงไม่ได้ตั้งใจกวนผมหรอกเพราะรู้นิสัยกันอยู่  มันคงห่วงใยผมในแบบของมัน  ช่วงนี้ผมเครียดและคิดถึงอดีตมากไปจริงๆ  ถ้าวันนี้จะทำตามคำแนะนำของเพื่อนคงไม่ผิด  เพราะผมก็เพิ่งเลิกกับแฟนไปและเป็นผู้ชายธรรมดาสุขภาพแข็งแรงคนหนึ่งจะปลดปล่อยบ้างก็คงไม่เสียหาย  คิดมาถึงตรงนี้ผมจึงมองไปรอบๆเผื่อจะเจอใครที่ถูกใจบ้าง

“มนจ๋า  ทำไมไม่ตีไอ้ฟินมั่งอ่ะ  ทีเวลาธีพูดแนวนี้ยังไม่ทันจบประโยคก็โดนแล้ว” ไอ้ธีส่งเสียงประท้วงเล็กๆและทำท่าทางออดอ้อนกับคู่ซี้  ภาพตรงหน้าผมนี้มันช่างน่าหมั่นไส้มาก

“ก็วันนี้กูเห็นด้วยกับความคิดไอ้ฟินมัน  หรืออยากโดนล่ะ” พอเจอคำเชิญชวนของมนเข้าไอ้ธีก็แกล้งทำหน้างอนใส่สะบัดหน้าพรืด  เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆได้ทันที  ไอ้ธีมันก็แกล้งทำแกล้งพูดไปแบบนั้นเองครับ  และมันก็กล้าทำแต่กับมนเท่านั้น  ขืนมันมาทำตัวเป็นสาวน้อยกับพวกผมคงได้กินบาทาแทนข้าวไปแล้ว

“พี่ครับโต๊ะโน้นฝากเครื่องดื่มมาให้ครับ” แก้วเครื่องดื่มสีอำพันถูกยื่นมาตรงหน้าผมพร้อมเสียงบริกรของร้านนำเครื่องดื่มมาให้ขัดเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้น  พร้อมชี้มือไปทางโต๊ะที่ถัดไปสองโต๊ะที่เป็นเจ้าของเครื่องดื่มแก้วนี้

ผมมองไปทางเจ้าของเครื่องดื่มแก้วนี้  เป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหวานขาวใสตัวบางและไม่น่าจะสูงนัก  นั่งอยู่กับเพื่อนที่มีทั้งชายและหญิง  กำลังส่งสายตาเชิญชวนมาให้ผมอย่างชัดเจนพร้อมยกแก้วขึ้นอย่างเชื้อเชิญ

“สอยคนนี้ไปเลยมึง  ถ้ามึงไม่เอากูเอาเอง  ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้ฟินกระซิบบอกพร้อมหัวเราะต่อท้าย  มันคงแค่ต้องการแซวผมเพราะอย่างไอ้ฟินนั้นมีทั้งชายและหญิงที่อยู่ที่นี่ส่งสายตาให้อยู่หลายคนแล้ว  มันไม่จำเป็นต้องมาสนใจผู้ชายตรงหน้านี้ก็มีให้มันสอยกลับคืนนี้อยู่แล้ว 

ผมหันหน้ากลับไปสบตาหนุ่มน้อยใจกล้าแล้วยกแก้วที่ได้มาขึ้นจิบเครื่องดื่มในมือเป็นการตอบรับ  จึงได้รับรอยยิ้มกว้างตอบกลับก่อนคนร่างบางจะลุกขึ้นเดินมาทางโต๊ะที่ผมนั่งอยู่  โดยรวมแล้วหนุ่มน้อยคนนี้ก็ไม่เลวนักท่าทางเชิญชวนนี้คงทำให้คืนนี้ผมหลับสบายไม่ต้องคิดถึงอดีตอีก

    

“แกร๊ก  ปัง” เสียงไขประตูและปิดอย่างแรงเหมือนไม่ทันใจเจ้าของห้องนักดังขึ้น

“อืมมมม  อ๊ะ  ใจเย็นสิครับ”

เสียงครางตามมาด้วยเสียงปรามที่ไม่จริงจังนักหลุดมาจากหนุ่มน้อยหน้าใสที่ตอนนี้โดนประกบปากจูบทันทีหลังพูดจบ  โดยมีผมตามประกบไม่ห่าง  มือไม่ว่างเพราะกำลังลูบไล้สัมผัสร่างบางตรงหน้า  พร้อมดันร่างนั้นถอยหลังไปที่เตียงแต่ปากไม่ได้ห่างจากกันยังจูบกันอย่างดูดดื่ม  จนร่างบางหงายหลังลงไปกับเตียงผมจึงผละออกพร้อมดึงชายเสื้อร่างด้านล่างออกทางหัวและทิ้งไปอย่างไม่ใยดี  เราสบตากันไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาเพราะต่างสื่อสารผ่านทางสายตา  ดวงตาคู่สวยที่มีไฟปรารถนาลุกโชน  คนร่างบางไม่ปล่อยให้ผมได้ถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเอง  เพราะยื่นมือมาช่วยปลดพันธนาการที่ติดตัวผมออก  จนเหลือแต่ชั้นในสีดำที่ตอนนี้ปกปิดสิ่งที่อยู่ภายในไม่มิดมีส่วนหัวโผล่มาทักทายพร้อมน้ำใสซึมออกมา

“ขอเต้ยได้มั้ยฮะ” เจ้าของเสียงหวานช้อนตามามองอย่างออดอ้อนพร้อมรอยยิ้มยั่วยวน  ผมสบตาและลูบหัวทุยเป็นการอนุญาต

หนุ่มเต้ยยิ้มกว้างอย่างถูกใจก่อนร่างบางจะส่งมือลูบไล้สัมผัสแท่งร้อนที่เริ่มขยายตัวนอกกางเกง  ผมพยักหน้าพร้อมกดหัวร่างบางลงต่ำเป็นสัญญาณให้เริ่มลงมือ  เจ้าของมือบางไม่รอช้าดึงขอบกางเกงในลงต่ำและผลักร่างผมให้นอนราบลงกับเตียง  ก่อนเต้ยจะเอื้อมมือมากำรอบแท่งร้อนและขยับขึ้นลง  นิ้วอุ่นสัมผัสส่วนปลายเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผมให้สูงขึ้น  จนผมที่ได้รับสัมผัสปลุกเร้าอย่างชำนาญต้องกัดฟันแน่นระงับความพลุ่งพล่านไว้  หลังจากเต้ยทำความคุ้นเคยกับแท่งร้อนในมือแล้วจึงก้มหัวลงเลียหยาดน้ำจากส่วนปลายและครอบปากรูดลงตามความยาว 

“ซี้ดดด  อืมมมม” ผมสูดปากระบายอารมณ์เสียวซ่านจากการปรนเปรอของเจ้าของปากนุ่ม

เสียงครางคงไปกระตุ้นให้ร่างบางได้ใจจึงเพิ่มความเร็วขยับหัวขึ้นลงตามความยาวของแท่งร้อนในปาก  โดยมีผมคอยกดหัวทุยคุมจังหวะเพื่อให้แท่งร้อนนั้นเข้าไปให้ลึกอย่างที่ใจต้องการพร้อมสวนสะโพกเข้าหา  พักเดียวเต้ยผละปากออกมาใช้ลิ้นเลียจากโคนสู่ปลายพร้อมปากที่ดูดเม้มปลายยอดเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของผมให้สูงขึ้น  จนผมแทบทนไม่ไหวด้วยว่าช่วงนี้ไม่ได้ปลดปล่อยมานาน  จึงจับไหล่ร่างบางไว้ก่อนจะเตลิดไปไกลกว่านี้  ผมพลิกร่างเต้ยให้นอนหงายคว้าแท่งร้อนของอีกฝ่ายไว้ก่อนขยับขึ้นลงเร็วๆอีกมือไล้ลงต่ำควานหาทางเข้า  เพื่อเตรียมพร้อมและปลุกอารมณ์ให้ร่างบาง

“อ๊ะ  อือออ  พี่วินฮะ  เร็วอีกนิดฮะ  อ๊า” เสียงหวานครางอย่างชอบใจและเร่งให้ผมขยับมือตอบสนอง

เต้ยที่นอนตาฉ่ำตัวแดงเถือกจ้องตาผมอย่างเชิญชวนก่อนจะยื่นมือลูบไล้ยอด อกตัวเอง  ส่วนนิ้วมืออีกข้างถูกส่งเข้าปากแดงฉ่ำและดูดนิ้วให้อย่างยั่วยวน  ผมที่จ้องทุกการกระทำอย่างมีชั้นเชิงของเต้ยถึงกับคลี่ยิ้มให้อย่างถูกใจ  ผละมือจากช่องทางรักที่กระหน่ำตอดรัดออกมา  ก่อนส่งนิ้วทั้งสามเข้าปากร่างบางที่เผยอรออยู่แล้ว  และหมุนข้อมือวนนิ้วไปทั่วโพรงปากร้อนอีกมือยังขยับอย่างต่อเนื่อง  เมื่อได้สารหล่อลื่นธรรมชาติแล้วจึงผละออกเพื่อเปิดช่องทางรักเตรียมพร้อมให้ร่างข้างใต้

“อ๊ะ  อ๊า นะ นั่น  พี่วิน  นั่นแหละ  อ๊า” เสียงครางหวานหูอย่างถูกใจดังขึ้นพร้อมกายที่บิดเร่าอย่างยั่วตา

ผมสอดนิ้วจบครบสามนิ้วก่อนบิดหมุนเพื่อขยาย  นิ้วคงไปโดนจุดที่ไวต่อสัมผัสผมจึงกดเน้นย้ำและได้รับเสียงครางหวานหูตอบกลับมา  ควงนิ้วเข้าออกรั่วถี่ยิบเพื่อเตรียมรับสิ่งที่ใหญ่กว่า  เมื่อเห็นว่าร่างบางพร้อมแล้วผมจึงถอนนิ้วออกยกสะโพกมนขึ้นเพื่อเอาหมอนมารองไว้  จับแท่งร้อนของตัวเองที่พร้อมรบขยายเต็มที่แล้วสวมถุงยางและขยับขึ้นลงอีกนิดไปจ่อที่ปากทางเข้า  ออกแรงดันจนส่วนหัวเข้าไป

“ซี้ดดด  อย่าเกร็งครับมันรัดพี่”

“อ๊ะ  เข้ามาทีเดียวเลยครับ  เต้ยรับได้  อ๊าๆๆๆ”

หลังคำพูดอนุญาตของคนด้านล่างผมก็ส่งสะโพกฝังแท่งร้อนเข้าไปจนมิดแท่งในครั้งเดียว

“อ๊าๆๆๆ / ซี้ด  โอ้วววว”

ผมเริ่มขยับสะโพกเข้าออกฝากฝังในช่องทางร้อนจังหวะจากช้าเป็นเร็วและเร็วขึ้น  ร่างข้างใต้ก็ไม่ยอมแพ้ขยับสะโพกเด้งรับสวนเข้ามาอย่างเมามัน  เสียงร้องอย่างเสียวซ่านดังออกมาจากเราทั้งคู่จนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ผมเป็นฝ่ายกระแทกจับยึดสะโพกมนไว้ใบหน้าเชิดหงายแดงกล่ำหลับตาแน่น

“พี่ครับกระแทกแรงๆครับ  อ๊ะ  ซี้ดดดด  อย่างนั้นฮะ  เต้ยชอบฮะ  อ๊า” เสียงกระตุ้นเร่งเร้าของร่างบาง  ทำผมตอบสนองให้อย่างใจ  สะโพกซอยถี่หัวใจเต้นเร็วตาพร่าเลือนและรับรู้ได้ว่าใกล้ถึงฝั่งฝัน  พลันใบหน้าหวานที่ฝังใจก็ปรากฏชัดขึ้นในห้วงคำนึง

“กัส  กัส  โอ้วววว  อ๊าๆๆๆ”

เมื่อถึงปลายทางแห่งความสุขเราต่างปลดปล่อยธารรักออกมา  ของร่างบางถูกฉีดพ่นเปรอะเปื้อนตามหน้าท้องขาวและอกบาง  ส่วนผมก็ถอดถอนแท่งร้อนจากความอุ่นร้อนและเอนซบลงบนเตียงข้างร่างของเต้ย  ไร้ซึ่งการสัมผัสผิวกายกันและกัน  เราต่างหอบหายใจจนตัวโยนหลังกิจกรรมที่เพิ่งผ่านพ้น  จนลมหายใจกลับมาปกติอีกครั้ง

“กัสนี่ใครฮะ” เกิดคำถามจากร่างที่นอนข้างกันขึ้น  เต้ยถามหาชื่อของคนที่ผมเผลอเรียกออกมาเมื่อถึงจุดแห่งความสุขสม

ผมได้แต่มองหน้าเต้ยนิ่งๆและไม่คิดจะตอบคำถามนี้  ไม่อยากเป็นคนใจร้ายต่อว่าคู่นอนที่ไม่มีสิทธิ์ซักไซ้กัน  แม้ผมจะรู้ตัวว่าเสียมารยาทแค่ไหนที่ร้องเรียกชื่อคนอื่นต่อหน้าคนที่ให้ความสุขเราก็ตาม  ผมลุกจากเตียงเงียบๆและหันหลังเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย  กลับออกมาเต้ยนั่งพิงหัวเตียงมีผ้าห่มคลุมแค่สะโพกมองมาตรงมาที่ผมด้วยแววตาตัดพ้อ

“เต้ยขอโทษฮะ” เสียงหวานเว้าวอนเอ่ยขอโทษด้วยแววตาสำนึกผิดปนน้อยใจ  ผมจึงฝืนยิ้มส่งไปให้ก่อนเดินเข้าหา

“อืม  นี่รับไปครับ” ผมยื่นแบงค์สีเทาปึกหนึ่งไปให้ร่างตรงหน้า  เต้ยเงยหน้ามองด้วยหยาดน้ำตาคลอหน่วยและไม่ยอมยื่นมือมารับสินน้ำใจที่ผมหยิบยื่นให้ 

ผมไม่ได้คิดดูถูกอีกฝ่ายเลยแค่คิดว่านี่เป็นสิ่งตอบแทนที่ผมจะให้ได้  อยากจะให้กับคนที่มอบความสุขให้กันจะได้ไม่ติดค้างกันอีก  เพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้าหาผมก่อนนั้นก็เต็มใจและยอมที่จะมีอะไรกับผมอยู่แล้วแม้ไม่ได้สิ่งตอบแทนกลับก็ตาม

“อย่าคิดว่าพี่ดูถูกนะครับ  รับไปนะพี่จะได้สบายใจ  พี่ไปล่ะ  โชคดีครับ”

หลังจากผมพูดจบอีกฝ่ายจึงยื่นมือมารับพร้อมทำหน้าเศร้าน้ำปริ่มตา  ผมจึงยื่นมือไปลูบหัวและกล่าวคำลาก่อนเดินออกมาจากห้องนั้น  ผมให้ได้แค่นี้จริงๆแม้จะน่าสงสารหรือน่าสนใจขนาดไหน  เมื่อได้ชิมแล้วก็ไม่ติดใจอะไรมันก็แค่วิถีทางหนึ่งที่ต่างฝ่ายก็ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน  และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผมได้รู้แน่ชัดว่ายังไม่สามารถลืมคนในอดีตที่ฝังใจคนนั้นได้เลย

....................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ตอนนี้เป็นมุมดาร์กๆของนายวินมุมหนึ่ง
แต่ความรู้สึกในใจก็ยังลืมรักปักใจแบบกัสไม่ได้ค่ะ
ตอนหน้าเราจะได้รู้กันว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่
ที่ทำให้ต้องเลิกรากันไป  จะมาในมุมมองของกัสนะคะ

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ

ฝากติดตามการรวมเล่มด้วยนะคะ  รายละเอียดที่หน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-06-2012 09:11:02
ดีแล้วที่วินยังไม่ลืมกัส
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 23-06-2012 09:30:25
เห้อ รักแต่ไม่ไปง้อเน้อ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 23-06-2012 14:25:09

ยังไม่ลืมก็รีบไปง้อไม่ใช่ใช้คนอื่นแทน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 23-06-2012 15:48:49
ทั้งคู่ยังรักกันแล้วทำไมถึงเลิกกันนะ

อยากรู้อดีตว่ามันเกิดอะไรขึ้นนน  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-06-2012 18:55:19
ไม่ไหวนะวินทำแบบนี้ :m16:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 23-06-2012 21:16:23
หมอกัสยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 23-06-2012 21:58:51
รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 23-06-2012 22:52:12
แวะมาเยี่ยมกัสวิน  พระนายคู่แรกที่แจ้งเกิดจ้า
อิอิ 

วินรักกัส  กัสรักวิน  (คนอ่านก็รักทั้งสองคนนะเออ  555)
เพราะฉะนั้น  ก็อย่าได้มีอะไรมาขัดเลยน้าา 
ลุ้นๆ(อีกครั้ง  55)
+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 23-06-2012 23:06:53
เเอบสงสารเต้ยเบาๆนะนี่  :z3:

กัสมีอิทธิพลกับวินพอตัวเลย

รอตอนต่อไปค่ะ +1 ให้ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 8 (23/6/55)P.3 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 24-06-2012 06:14:32
ติดตามรอตอนต่อไป อย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-06-2012 08:56:18
ตอนที่ 9

กัส

“น้องกัส  น้องมิค  เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ” เสียงหมอพจน์ดังมาจากข้างหลังขณะที่ผมกับมิคกำลังเดินมาคู่กัน  จนเราต้องชะลอฝีเท้าลงเพื่อรอให้เจ้าของเสียงตามมาทัน

ใบหน้าประดับยิ้มกว้างแววตาสดใสของหมอพจน์ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็คงอดจะยิ้มตามหมอหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ไม่ได้  แต่สำหรับผมกลับต้องเบือนหน้าหนีและอดรู้สึกเสียใจลึกๆไม่ได้เช่นกัน  ผมหันมามองหน้ามิคก็พบว่ามิคกำลังส่งยิ้มให้หมอพจน์อยู่แถมชำเลืองสายตาเจ้าเล่ห์มาทางผมด้วย  จนผมเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจเพื่อนจอมซนคนนี้ซะแล้ว  ‘มิคคงไม่คิดจะตอบตกลงคำชวนหรอกนะ’

“ได้ครับ  แต่พี่พจน์เลี้ยงน้า” นั่นไงว่าแล้วเชียวถ้าเป็นเรื่องกินทีไรมิคเป็นอันเห็นดีด้วยยิ่งมีคนเลี้ยงนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเพื่อนแสนซนของผมจะปฏิเสธ  จนผมต้องปรามโดยการเรียกชื่อพ่อตัวดีสักหน่อย

“มิค!” เจ้าของชื่อทำปากยื่นใส่ผมทันทีจนผมต้องกลั้นขำเพราะต้องพยายามรักษามาดดุไว้ให้เพื่อนได้เกรงบ้าง  แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะพอหมอพจน์เอ่ยว่ายินดีเป็นเจ้ามือเท่านั้น  คนหน้ามุ่ยก็ฉีกยิ้มกว้างตาปิดอย่างถูกใจแจกจ่ายไปทั่วเลย

ผมได้แต่ส่ายหัวอมยิ้มขำเพื่อนตัวดีพอเบนสายตามาทางอีกคนก็เจอยิ้มละไมตาพราวจ้องอยู่แล้ว  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆกลับคืนให้หมอพจน์อย่างเกรงใจ  ก่อนจะเอ่ยชวนและลากมิคให้เดินมาทางโรงอาหารของโรงพยาบาล  มาถึงหมอมิคจอมซนก็ตรงดิ่งพาผมกับหมอพจน์มาเลือกอาหารและพากันมานั่งรอที่โต๊ะ  ระหว่างรออาหารก็ไม่อึดอัดอย่างที่ผมนึกกลัวเพราะได้มิคคนช่างพูดชวนคุยไปเรื่อยจนกระทั่งอาหารมาเสิร์ฟ

“วันนี้น้องกัสเหนื่อยมั้ยครับ  คนไข้เยอะมั้ยเอ่ย” ยำทะเลที่มีหมึกชิ้นโตถูกตักมาวางให้ในจานข้าว  ก่อนคนตักอาหารจะเอ่ยถามอย่างอาทรด้วยรอยยิ้มเอาใจ  ทำผมชะงักมือที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มและมองสบตาหมอพจน์ก่อนตอบ   

“นิดหน่อยครับ  คนไข้ก็มาเรื่อยๆครับ” พยายามตอบให้สุภาพไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป  แม้ใจผมนั้นออกจะเห็นใจคนตรงหน้ามากที่มีความจริงใจและความสม่ำเสมอให้กับผมมาตลอด  แต่ไม่อยากให้ความหวังหมอพจน์เลย  เพราะรู้แก่ใจว่าผมนั้นไม่สามารถลืมคนที่พยายามลืมมาตลอดได้  ไม่อยากลากคนดีๆให้มาเสียเวลากับคนที่ฝังใจในรักแรกเลยครับ

“เย็นนี้พี่ว่างไม่ได้อยู่เวรน้องกัสน้องมิคไปทานข้าวกับพี่มั้ยครับ” หลังคำถามของหมอพจน์ผมวางมือบนต้นขามิคที่นั่งข้างกันและออกแรงบิดเนื้อนิ่มๆนั้นเบาๆ  เพราะรู้ว่าขืนผมไม่จัดการอะไรสักอย่างคนที่เห็นแกของฟรีคนนี้ต้องเอ่ยปากรับแน่ๆ

“โอ๊ย!  กัสอ่ะ” มิคลูบขาตัวเองป้อยๆและส่งค้อนให้ผมอีกที  ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อแบบงอนๆ  ผมจึงหันไปหยิบเหยือกน้ำใกล้ตัวมารินใส่แก้วน้ำของมิคที่พร่องแล้วให้  เจ้าของแก้วแค่เหลือบตาก่อนหลบตาตามเดิม  แต่ผมแอบเห็นว่ามิคอมยิ้มนิดๆแล้วจึงเบาใจได้ว่าเพื่อนสนิทไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง  ผมจึงหันมาส่งยิ้มขอโทษให้หมอพจน์ที่จ้องหน้าผมรอคำตอบอยู่แล้วเพื่อเอ่ยปฏิเสธ

“ขอบคุณครับแต่วันนี้ผมไม่ว่าง  ต้องทำรายงานนิดหน่อย” หมอพจน์หน้าเสียนิดหน่อยแต่ก็กลับมายิ้มกว้างได้ตามเดิมจนผมต้องลอบถอนใจ

“โฮ  พี่เสียใจนะเนี่ยเมื่อไหร่น้องกัสจะยอมใจอ่อนไปทานข้าวกับพี่ซะที” คำพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก  หันหน้ามองหาตัวช่วยที่นั่งข้างกันมิคระบายยิ้มให้ผมนิดหน่อยก่อนหันไปตอบโต้คนตรงข้าม

“แหมวันนี้พี่พจน์รุกหนักนะครับ” คำแซวของมิคดูเหมือนจะยิ่งเปิดช่องให้คนที่คิดจะรุกได้ยิงตรงเป้ามากขึ้น 

“ก็เพื่อนน้องมิคไม่ยอมใจอ่อนกับพี่ซะทีนี่ครับ” ผมก้มหน้าหลบสายตาออดอ้อนเสตักข้าวเข้าปาก  ทำเหมือนว่าไม่สนใจไม่อยากรับรู้  ดูเหมือนผมเป็นคนใจร้ายนะครับแต่ผมไม่อยากให้ความหวังและอยากตัดไฟเสียแต่ต้น  เจ็บตอนนี้เดี๋ยวก็หายดีกว่าเป็นแผลเรื้อรังอย่างที่ผมเป็น

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงเมื่อผมไม่คิดจะรับไมตรีที่ถูกยื่นมาให้  จนกระทั่งเสียงใสของมิคดังทำลายความเงียบขึ้นมา

“กัสศุกร์นี้เราจะเอารถเข้าไปเองดีหรือนั่งรถโดยสารล่ะ” เรื่องที่มิคถามนั้นช่วยลดความอึดอัดที่กำลังแผ่ซ่านไปรอบตัวได้  จนผมต้องส่งยิ้มขอบคุณให้เพื่อนที่น่ารักคนนี้  ก่อนตอบคำถามของมิคที่ช่วยเบี่ยงเบนประเด็นร้อนออกจากตัว

“นั่งรถไปดีกว่ามิคขับทางไกลเหนื่อย  แล้วไหนต้องกลับมาทำงานอีก” ก่อนหน้านี้เราได้คุยกันไว้ว่าวันหยุดยาวที่จะถึงนี้เข้ากรุงเทพเพื่อกลับบ้านกัน  แต่ยังไม่ได้ตกลงว่าจะกลับโดยวิธีไหน  และผมเห็นว่าระยะทางจากที่โรงพยาบาลถึงกรุงเทพค่อนข้างไกลเลือกเดินทางโดยรถโดยสารจะสะดวกกว่า

“จะไปไหนกันครับ” หลังคำถามของหมอพจน์ทำให้ผมกับมิคหันไปมองหน้าคนถาม  จึงพบเข้ากับใบหน้าที่กำลังฝืนยิ้มแววตาเศร้าสร้อย  จนผมต้องเผลอกัดปากและเบนสายตาหนีพยายามทำใจแข็งเข้าไว้ 

“กลับเข้ากรุงเทพครับ  จะไปฉลองวันเกิดให้เพื่อนสนิทครับ” มิคตอบคำถามหมอพจน์พร้อมเอื้อมมือมากุมทับมือผมไว้ใต้โต๊ะและบีบให้กำลังใจ

“พอดีเลยอาทิตย์นี้ติดหยุดยาวด้วย  พี่ว่าจะกลับศุกร์นี้เหมือนกัน  แต่คงเข้ามาก่อนเพราะต้องขึ้นเวร  น้องกัสน้องมิคไปกับพี่นะครับ  เพราะรถโดยสารคนต้องแน่นแน่ๆ” น้ำเสียงอ่อนหวานพยายามหว่านล้อมถูกส่งมาจากคนตรงหน้า

ผมที่ตั้งท่าจะปฏิเสธก็ต้องชะงักเพราะแรงบีบมือจากมิคพร้อมสายตาขอร้องที่เจ้าตัวคงนึกสงสารหมอพจน์เพราะรู้ว่าผมต้องเอ่ยปฏิเสธ  ‘วันนี้ผมคงใจร้ายมาเกินพอแล้ว’  ผมถอนใจยาวก่อนจะพยักหน้ารับคำชวนของหมอพจน์  การตอบรับครั้งนี้ทำให้สายตาเศร้าสร้อยปลิวหายเหลือแต่แววตาปรีดาเต็มหน่วยตา  หวังว่าผมคงตัดสินใจไม่ผิดนะครับคงไม่ได้สร้างความหวังให้ใครใช่มั้ย

    

“ขอบคุณครับพี่พจน์ / ขอบคุณครับหมอพจน์” หลังจากรถยนต์ที่ผมกับมิคนั่งมาหลายชั่วโมงหยุดลงที่จุดหมาย  เราจึงเอ่ยขอบคุณคนขับกิตติมศักดิ์ที่มาส่งอย่างปลอดภัย 

หมอพจน์ฉีกยิ้มกว้างอย่างยินดีมองมิคก่อนจะหันมาทางผมส่งสายตาเปิดเผยว่าเจ้าตัวคิดยังไงกับผมมาให้  ผมเบือนหน้าหนีและก้าวขาลงจากรถทันที  ก่อนจะได้ยินเสียงมิคเปิดประตูตามมา  มีเสียงคนวิ่งมาจากในบ้านทำให้ผมต้องหันไปมองและต้องฉีกยิ้มกว้างให้กับเจ้าของฝีเท้าคนสวยที่ยิ้มร่าโชว์เขี้ยวอย่างน่ารักมาให้  จนกระทั่งมายเดินมาใกล้ผมและคว้ามือผมไปจับก่อนจะทักทายออกมา 

“กัส  น้องมิค  ดีใจจังคิดถึงมากเลย  อุ๊ย! สวัสดีค่ะนี่เอ่อ  หมอพจน์รึเปล่าคะ” มายทักทายเสียงใสและต้องอุทานเมื่อเห็นหมอพจน์ที่เดินถือกระเป๋ามาส่งให้ผมและมิค

“ยัยมายเดียร์  นี่หมอพี่พจน์  พี่พจน์ครับนี่มายครับเพื่อนสนิทของเรา” มิคทำหน้าที่แนะนำโดยมีผมยืนเฉยๆอยู่เคียงข้าง  หนึ่งสาวกับอีกสองหนุ่มทักทายกันอย่างถูกคอ 

จนกระทั่งมายเอ่ยชวนหมอพจน์เข้าบ้านแต่หมอพจน์ก็ปฏิเสธเพราะเห็นว่าดึกแล้ว  มายจึงเอ่ยชวนมาร่วมงานฉลองวันเกิดในวันพรุ่งนี้แทนและเอ่ยล่ำลาก่อนแยกย้ายกัน  แต่ก่อนที่หมอพจน์จะกลับยังหันมาเอ่ยลาผมโดยตรงพร้อมรอยยิ้มหวาน  ผมจึงได้แต่รับคำและรีบหมุนตัวเดินนำเพื่อนเข้าบ้าน  ที่ผมทำไปทั้งหมดไม่ใช่ว่าผมสบายใจหรืออยากทำนะครับแต่ผมต้องฝืนใจทำต่างหาก

    

“กัสกับมิคเตรียมของขวัญมาให้มายมั้ยจ๊ะ”

“แหม  ไม่ค่อยงกเลยนะมายเดียร์”

ตอนนี้พวกเราเพื่อนสนิททั้งสามคนนอนเรียงกันบนเตียงคิงไซส์ภายในห้องของเพื่อนสาวคนสนิท  โดยที่สองเพื่อนซี้ที่กลับมาเจอกันอีกครั้งอดจะต่อปากต่อคำด้วยความเคยชินไม่ได้  แต่ก็ด้วยความรักของเพื่อนช่วยบรรยากาศขณะนี้ให้ดีขึ้นมาก  จนผมหลุดหัวเราะก็หลายครั้งพาลให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆสมัยที่เรายังอยู่ด้วยกัน  แต่แล้วมิคก็หลุดพูดถึงเหตุการณ์เมื่อปีก่อนในช่วงวันเกิดของมายเข้าทำให้ผมเงียบกริบ  และคิดไปถึงเหตุการณ์นั้นที่สร้างประสบการณ์เลวร้ายให้กับผม  มันเปลี่ยนผมคนที่ร่าเริง  เข้ากับคนง่าย  เชื่อใจคนง่าย  ให้เป็นคนเงียบขรึมและไม่ไว้ใจใครง่ายๆอีก  เป็นสาเหตุของแผลเป็นในใจที่ไม่มีวันหาย  เหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นมันเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อนหลังผมกลับจากฝึกงานมาถึงกรุงเทพ


หนึ่งปีก่อน

“กัสไม่ได้บอกวินให้มารับเหรอ”

“เปล่ากะกลับไปเซอร์ไพรส์อ่ะ  เนี่ยของฝากเต็มเลย” ผมที่กำลังหอบหิ้วข้าวของเต็มมือทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าและขนมของฝาก  ยื่นโชว์เพื่อนสนิทที่ส่งคำถามมาให้

“แหม  น่าอิจฉาคนมีแฟนแบบกัสจัง  มายก็อยากมีมั่งอ่ะ” เสียงแซวของมายทำผมยิ้มเขินหลบสายตาเพื่อน  และให้นึกถึงใบหน้าของคนที่มีสถานะเป็น ‘แฟน’ ของผมขึ้นมายิ่งคิดหน้าก็ยิ่งร้อนฉ่า

“ไม่ได้นะมายมีแฟนแล้วมิคอ่ะจะอยู่กับใคร  แค่นี้ก็โดนคนมีแฟนทิ้งอยู่เรื่อยแล้ว” เสียงกระเง้ากระงอดบ่นน้อยใจจากมิคทำให้ผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง  จึงได้รู้ว่าโดนเพื่อนแกล้งซะแล้วเพราะใบหน้าหวานที่กำลังโชว์ยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ได้เข้ากับน้ำเสียงและความหมายของประโยคเมื่อครู่เลย

“มิคนี่  อย่างอนน้าเดี๋ยวพรุ่งนี้กัสเลี้ยง  กินให้เต็มที่เลยน้า” ผมแกล้งตบมุกกลับให้มิคอย่างเนียนๆส่งเสียงออดอ้อนและโปรยยิ้มหวานใส่  ทำให้ใบหน้าประดับยิ้มกว้างค่อยๆหุบลงคิ้วขมวดมุ่นปากยื่นนิดๆให้ได้รู้ว่ามิคจับไต๋ผมได้แล้ว

“พรุ่งนี้วันเกิดมายเดียร์นี่  หมายความว่าให้กินเต็มที่ในงานยัยมายเดียร์อ่ะเหรอ  โฮ  จะง้อเค้ายังงกอีก” มิคพูดจบก็ส่งค้อนทำแก้มป่องใส่ผมได้อย่างน่ามันเขี้ยว  จนมายต้องเข้ามาหยิกแก้มแดงๆของมิค  ก่อนเจ้าตัวแสบจะร้องโวยวายขึ้นมาเป็นที่น่าเอ็นดู  จนผมต้องวางของในมือและเข้าไปโอบไหล่ลูบหลังบางเป็นการง้องอน

“ฮ่าๆๆๆ  มิคอย่างอนน้าเดี๋ยวกัสชดเชยให้ทีหลัง  แต่ตอนนี้ต้องไปล่ะ  เดี๋ยวไม่ทันวินจะไปเรียนซะก่อน” เมื่อเพื่อนแสบซนของผมเลิกงอนแล้ว  ผมจึงเอ่ยขอตัวเพราะต้องรีบไปเซอร์ไพรส์ตามแผนที่วางไว้  กลัวแต่ว่าคนที่ไม่รู้ตัวจะหนีไปเรียนซะก่อน

“กัสจ๊ะอย่าลืมพาวินมางานด้วยนะ” เสียงมายตะโกนตามหลังผมมา  ผมจึงต้องหันกลับไปมองและโบกมือพร้อมตอบรับให้เพื่อนสนิท

“ครับๆ  เจ้าหญิงน้อยตามบัญชา”

ตอนนี้ผมคบกับวินมาหกเดือนแล้วจากจูบแรกวันนั้น  วินพยายามตีสนิทตามตื้อเอาใจใส่ผมทุกอย่าง  จากแรกๆที่กลัวไปสารพัดในกิตติศัพท์เรื่องความเช้าชู้ของวิน  แต่วินก็พิสูจน์ให้ผมเห็นถึงความจริงใจและความสม่ำเสมอ  ทำเอาผมเริ่มใจอ่อนสุดท้ายผมก็ตอบรับรักและขยับฐานะให้เราเป็น 'แฟน' กัน  ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีผู้ชายคนนี้มาเคียงข้างผมรับรู้ถึงความรักที่วินมีให้ผม  แม้เราทะเลาะกันบ้างเหมือนคู่อื่นๆแต่ส่วนใหญ่มาจากนายวินนั่นแหละที่หึงไม่เข้าเรื่อง  ผมจะคุยกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้เลยตามหึงหวงตลอด  ทั้งๆที่วินกลับคุยกับสาวๆหนุ่มๆที่เข้าหาได้  และมาให้เหตุผลที่ไร้น้ำหนักกับผมว่า

‘วินรักกัสมากกว่าที่กัสรักวิน  เพราะฉะนั้นวางใจได้ว่าวินจะไม่มีใครนอกจากกัส’   

คิดดูสิครับไม่รู้ว่าวินคิดได้ยังไง ‘ความรัก’ ไม่มีมาตรวัดซะหน่อยจะรู้ได้ยังไงว่ารักของวินกับรักของผมใครมีมากกว่ากัน  จริงๆผมก็แอบหึงหวงวินเหมือนกันนะเพียงแต่ไม่คิดจะโวยวายเหมือนวินเท่านั้นเอง  ดังนั้นการทะเลาะเล็กๆของเราส่วนใหญ่มาจากวินนั่นแหละ  แล้วคนที่ต้องง้อก็เป็นผมไอ้ตอนง้อเนี่ยเปลืองตัวจะแย่โดนทั้งกอดทั้งหอม  วินบอกว่าเป็นบทลงโทษและเป็นการปลอบใจที่ผมทำให้วินใจหายผมล่ะหมั่นไส้  แต่ผมก็แอบภูมิใจในตัวเองนะว่าวินนั้นแสดงออกว่ารักผมมาก  และผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่วินมาหอมมากอดผมด้วยความรักแบบนั้น  ถึงจะคบกันมาหกเดือนนอกจากการกอดหอมแก้มและจูบแล้วเราก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันกว่านี้  วินยังเคยแซวผมเลยว่าถ้าเป็นคนอื่นนี่เสร็จวินไปตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว  ผมจึงแกล้งยุให้วินกลับไปหาคนๆนั้นเลยและงอนวินอยู่เป็นอาทิตย์  หลังจากนั้นวินก็ไม่พูดถึงคนเก่าๆอีกเลยและบอกว่าไม่คิดจะเร่งรัดผมเรื่องที่เราต้องมีอะไรกันขอแค่วินยังมีผมอยู่อย่างนี้ก็พอแล้ว  ได้ฟังแบบนี้เข้าทำเอาผมเป็นปลื้มมากๆ  ผมจึงทั้งรักทั้งหลงวินขึ้นไปอีกอันนี้ยอมรับแค่กับเพื่อนสนิทที่เคยถามผมว่ารักวินแล้วใช่มั้ย  เพราะเพื่อนผมทั้งคู่ก็แอบเป็นห่วงผมจากกิตติศัพท์ของวินที่ได้ฟังมาเหมือนกัน  และคำตอบของผมคือ ‘ใช่ผมรักวิน’

“แกร๊ก / เอ๊ะทำไมถอดเสื้อผ้าทิ้งไม่เป็นที่เลย”

ผมมาถึงห้องพักของวินพร้อมใช้กุญแจที่วินให้มาไขเข้าไปวางของและกระเป๋าไว้ข้างประตู  และให้นึกแปลกใจกับเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเรี่ยราดตามพื้นห้อง  ซึ่งมันดูไม่ธรรมดาซะแล้วยิ่งสิ่งที่ผมเห็นมันมีเสื้อผ้าผู้หญิงรวมอยู่ด้วยนี่สิ  ผมก้าวตามเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเป็นทางไปสู่หน้าห้องนอน 

“วิน  อยู่รึเปล่า  วิน”

ผมเห็นแล้วเริ่มใจเสียคิดไปต่างๆนานาแล้วขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย  เดินตรงไปที่ประตูห้องนอนที่แง้มอยู่  และภาวนาในใจว่าขอให้เป็นเรื่องที่ผมคิดมากไปเอง  ผมสูดหายใจลึกเรียกกำลังใจก่อนจับลูกบิดประตูและออกแรงผลัก

“แอ๊ดดดด................. ตึก”

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาผมชาวาบตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าจนไม่มีแรงจะยืน  ผมทรุดนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงส่วนตายังมองภาพเบื้องหน้าไม่ละไปไหน  บนเตียงกว้างที่ผมเคยนอนเล่นและเคยหลับไปกับอ้อมกอดอุ่นของวิน  ตอนนี้มีคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของผมนอนเปลือยเปล่ากอดรัดร่างๆหนึ่งที่ผมยังไม่แน่ใจว่าหญิงหรือชาย  เพราะโดนวินกอดตะแคงตัวบังอยู่  รอบเตียงมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไม่รู้ของใครเป็นของใคร  ภาพที่มองเริ่มพร่าเลือนจากม่านน้ำตาที่คลอเต็มหน่วยตา  ส่วนของหัวเตียงและพื้นห้องมีซากถุงยางที่ใช้แล้ววางอยู่  จะว่าเป็นการเข้าใจผิดด้วยเมาแล้วถอดเสื้อผ้าและหลับไปก็ไม่ได้เพราะทั้งคนและของที่ใช้แล้วมันยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคนทั้งคู่มีอะไรกัน ‘วินนอกใจผมแล้ว’

“ฮึกๆ  ฮือออออ”

คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลเป็นทางพร้อมเสียงสะอึกสะอื้นที่สะกดไว้ก็หลุดออกมา  ผมพยายามใช้มือปิดกั้นแล้วแต่มันกลั้นไม่ไหวจริงๆ  ไม่อยากมองภาพตรงหน้าไม่อยากเห็น  แต่ผมไม่มีแรงจะลุกและออกวิ่งหนีภาพที่ทำให้ใจสลายอยู่ขณะนี้  สมองคิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า ‘เสียใจ’ มันวนเวียนอยู่ในหัว  ความเจ็บปวดใจตรงอกซ้ายมันล้นทะลักจนแผ่ซ่านไปทั้งกายมันเจ็บแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  และเสียงสะอื้นไห้ของผมคงดังมากไปจึงรบกวนคนบนเตียงให้เริ่มรู้สึกตัวขยับตัวหาที่มาของเสียง

“ฮึกๆๆๆ  ฮือๆๆๆๆ”

“อืม  ใคร  กัส  กัส!  มาไงครับแล้วร้องไห้ทำไม  เฮ้ยยย!!!”

.......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ตอนนี้น่าสงสารหมอกัสที่สุด  หัวใจสลายเลย  :monkeysad:

นายวินทำไมทำแบบนี้  :m16:

แต่ยังไงรอฟังความจริงจากวินก่อนนะคะ

เจอวินมาเล่าเหตุการณ์ได้ตอนหน้าพรุ่งนี้ค่ะ

+1 ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ฝากเรื่องรวมเล่ม ชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ รายละเอียดอยู่หน้า 1 ค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-06-2012 11:20:44
รอว่าวินจะแก้ตัวว่าไง  โอ๋ๆหมอกัสไม่ร้องไห้นะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-06-2012 11:31:49
ไม่เคลียร์โดนแน่
นายวิน :m16:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 24-06-2012 11:49:32
 :a5: วินนนนนนนน

เธอทำอันใดไว้ล่ะเนี่ย

สงสารกัส  :เฮ้อ:

+ เป็ดให้ค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 24-06-2012 12:40:45
อ่านตอนนี้แล้วอยากตบวินซักฉาดใหญ่ๆ
ทำให้กัสร้องไห้ ปวดใจขนาดนี้ได้ยังไง
รอตอนหน้าว่าวินจะแก้ตัวยังไง (ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นมีเฮ)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 24-06-2012 12:41:16
วินนน แกทำกัสเสียใจ มันน่า  :z6: :z6: :z6:

+เป็ดให้น้าา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 24-06-2012 17:01:36

วิน :beat:
สงสารกัส
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 24-06-2012 20:15:41
ค้างอะ..ยิ่งอ่านไม่เข้าใจเพราะตัดไปตัดมา

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 24-06-2012 20:17:52
สงสารกัสจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่ 9 (24/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 24-06-2012 21:27:52
เคลียร์ด่วนครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 25-06-2012 07:22:12
ตอนที่ 10

วิน

“พรุ่งนี้มึงจะไปแน่เหรอวะไอ้วิน”

“ไปสิวะกูอยากเจอเค้าว่ะ  เค้ามาแน่ใช่มั้ย  แค่เห็นหน้าก็ยังดี”

ใช่ครับขอแค่ผมได้เห็นหน้าคนที่ผมไม่เคยลืมอีกสักครั้งก็ยังดี  ไอ้ปรัชมองหน้าผมนิ่งๆก่อนมันจะพยักหน้าและตะปบเข้าที่ไหล่ของผมก่อนออกแรงบีบ  เหมือนว่ามันส่งกำลังใจมาให้ก่อนมันจะลุกเดินออกไปทิ้งผมให้นั่งอยู่ที่เดิมคนเดียว  ไอ้ปรัชบอกผมว่า ‘กัส’ จะกลับมางานฉลองวันเกิดของเพื่อนสาวคนสนิทในวันพรุ่งนี้  ผมแค่อยากเห็นอยากเจอหน้าว่าหนึ่งปีที่ห่างกันกัสจะเป็นยังไงบ้างจะยังสบายดีอยู่มั้ย  ไม่ได้หวังให้อีกฝ่ายยินดีเมื่อพบหน้าเพราะแค่ตั้งใจจะไปแอบมองเท่านั้น  ไม่อยากเห็นกัสมีปฏิกิริยาว่ารังเกียจกัน  ไม่ใช่ว่าผมคิดมากไปเองแต่หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ผมไม่ได้เจอหน้าคนตัวเล็กอีกเลย  ไม่ใช่ไม่อยากเจอแต่เพราะอีกคนไม่ยอมให้เจอกันต่างหาก  จะใช้เหตุผลใดแก้ตัวก็ไม่ได้เพราะหลักฐานมัดตัวขนาดนั้น  แม้มันจะเกิดจากความผิดพลาดแต่ผลก็คือผมนอกกายกัสไปแล้ว  ใช่! มันแค่นอกกายแต่ใจของผมยังเป็นของกัสคนเดียวจนถึงตอนนี้



หนึ่งปีก่อน

วันนี้ ‘กัส’ คนรักของผมนั้นฝึกงานเป็นสัปดาห์สุดท้ายอยู่ที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัดซึ่งใช้เวลาหนึ่งเดือนในการฝึกงาน  และเป็นปีการศึกษาปีสุดท้ายของเราทั้งคู่  กัสนั้นเรียนอยู่ปีหกส่วนผมก็เรียนอยู่ปีสี่  หลังกัสกลับมาจากฝึกงานแต่ผมเองก็ต้องไปฝึกงานต่อทำให้เวลาที่เราจะเจอกันน้อยมาก  ตัวกัสเองนั้นจะกลับมาบ้างในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์แต่ก็ไม่ใช่ทุกสัปดาห์  ผมอยากจะไปหานะแต่หาวันไปยากมากมีรายงานต้องทำมากมายก่อนออกฝึกงาน  ดังนั้นอาทิตย์นี้เราจะมีโอกาสอยู่ด้วยกันห้าวันเต็มก่อนผมต้องไปฝึกงานต่อ  ผมจะกอบโกยช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ให้เต็มที่เลย  คิดแล้วก็อยากกอดอยากหอมอยากจูบและอยากทำอะไรๆมากกว่านั้น  แต่ผมก็รู้ว่ากัสยังไม่พร้อมเราเคยเกือบจะมีอะไรกันอยู่แล้ว  แต่กัสที่กลัวและประหม่ามากทำผมต้องหยุดเพราะเห็นแล้วก็ใจอ่อนยวบไม่อยากฝืนใจคนที่รัก  ผมทำไม่หลงหรอกถ้ากัสไม่เต็มใจ  แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่อยากจะผูกพันทางกายอย่างลึกซึ้งกับคนที่ตนรัก  แล้วผมก็มีความต้องการเหมือนผู้ชายทั่วไปแต่ผมก็ไม่คิดจะไประบายกับใครอื่นนอกจากอุ้งมืออรหันต์ของตัวเอง  เฮ้อ  คิดแล้วก็อยากเจอคนตัวเล็กเร็วๆจังครับ  ผมแอบหวังลึกๆว่าครั้งนี้กัสจะยอมร่วมรักกับผมสักที  ส่วนเพื่อนในกลุ่มเมื่อได้รู้พวกมันเห็นใจปนสะใจผมมากที่เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างผมต้องยอมศิโรราบให้กับผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง  ด้วยผมนั้นระบายถึงความทุกข์เล็กๆนี้ให้เพื่อนๆได้ฟังเพราะพวกเราไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอยู่แล้ว  ซึ่งพวกมันก็แนะนำสารพัดวิธีพิชิตคนตัวเล็กให้แต่ผมไม่เคยเอามาใช้หรอกครับ  และตอนนี้พวกมันคงเห็นผมเครียดมากที่ห่างแฟนมานาน  จึงชวนไปเลี้ยงฉลองโสดชั่วคราวคืนสุดท้ายกัน  จริงๆผมไม่นึกอยากจะโสดเลยแต่อยากมี ‘เมีย’ ชื่อกัสต่างหาก

“ไงมึง  ทำไมดูไม่สนุกเลยวะ  คิดถึงเมียมากเหรอ” ไอ้ตี๋ปากไม่สุขแซวผมทันทีที่ผมหย่อนก้นนั่ง  ผมหันไปถลึงตาใส่มันทันที 'ไอ้บ้าคนยิ่งคิดถึงแฟนอยู่พูดมาให้กูคิดถึงมากกว่าเดิม'

“ไอ้เชี่ยธี  มึงหยุดปากเลยนะกัสยังไม่ใช่เมียกูให้เกียรติคนของกูด้วย” ด่าไปไม่มีสะเทือนไอ้ตี๋ธีมันยังยิ้มได้  จนผมเท้ากระตุกคันยิกๆอยากเหวี่ยงใส่ตูดมันสักที

“คร้าบบบ  ไอ้เชี่ยยยยยวิน  แตะไม่ได้เลยนะมึง” มันยังลอยหน้าลอยตาจนน่าหมั่นไส้  ไม่ว่าไอ้ธีจะว่ายังไงก็แล้วแต่ผมก็รักของผมมากจนไม่อยากให้กัสดูไม่ดีในสายตาใครๆ  แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วก็ค่อยว่ากันอีกที

“ก็กูรักของกู” ผมยอมรับกับเพื่อนได้อย่างเต็มปากเพราะมันเป็นเรื่องจริง  จึงลอยหน้ายิ้มเย้ยใส่ไอ้ตี๋หน้าทะเล้นไปทีก่อนยักคิ้วให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่รอบตัว  และตามมาด้วยเสียงแซวสนั่นแต่ก็ไม่ทำให้ผมหุบยิ้มได้

“อยากอ้วกว่ะ  เลี่ยนเกิน  ฮ่าๆๆๆ”

ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหารกึ่งผับไม่ห่างจากที่พักมากนัก  เพื่อนสนิทมาเกือบครบยกเว้นไอ้ปรัชที่มันให้เหตุผลว่าไปซื้อของกับคุณแม่ที่รักอยู่  เพราะต้องการทำหน้าที่ลูกกตัญญูพาท่านแม่ไปช้อปปิ้ง  เห็นว่าคุณแม่จะไปซื้อของขวัญให้เด็กข้างบ้านที่ท่านรักเหมือนลูกตัวเองอีกคน  และมันก็แอบบ่นให้เพื่อนๆฟังว่าลูกตัวเองท่านน่ะไม่เคยซื้อให้หรอกเห็นลูกคนอื่นดีกว่าลูกตัวเองตลอด  ซึ่งผมก็แอบแปลกใจเหมือนกันโดยปกติแม้คุณแม่ของเพื่อนผมคนนี้จะหาเหตุผลมาอ้างหรือคะยั้นคะยอให้ลูกชายไปด้วยมากขนาดไหน  แต่ไอ้ปรัชก็ไม่เคยไปปฏิเสธด้วยท่าทางนิ่งๆของมันจนคนเป็นแม่เลิกตื๊อไปเอง  ในครั้งนี้มันกลับอาสาพาท่านไปด้วยตัวเองแสดงว่าคนที่เป็นเจ้าของวันเกิดเนี่ยต้องมีอิทธิพลกับเพื่อนผมไม่มากก็น้อยแน่ๆ  น่าสงสัยจริงๆสักวันผมต้องรู้ให้ได้ว่าเด็กข้างบ้านคนนั้นเป็นใคร  แต่ตอนนี้ผมคงต้องหยุดสนใจเรื่องไอ้ปรัชไปก่อน  เพราะสาวเท่ประจำกลุ่มนิ่งไปและมองไปทางด้านหลังของผมด้วยใบนิ่งสายตาก็จ้องเขม็งจนผิดปกติ  ผมจึงหันไปมองตามสายตาของมน

“เป็นอะไรไปมน  มองใครน่ะ” ผมได้ยินเสียงไอ้ธีถามมนแต่ผมคงไม่ต้องรอคำตอบมนแล้วครับ  เพราะสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ในเดรสสั้นสีดำที่นั่งโต๊ะทางด้านหลังผมถัดไปสองโต๊ะ  อยู่กับเพื่อนสาวที่สวยสู่สีกันอีกหลายคนเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี 

“อ้าวนั่นแนทไม่ใช่เหรอ” เสียงไอ้ฟินหนุ่มหน้าเข้มดังขึ้นก่อนผมจะส่งยิ้มให้เจ้าของชื่อที่ไอ้ฟินเอ่ย  และหันกลับมาทางกลุ่มเพื่อนตามเดิม

‘แนท หรือ ดุจดาว’ เป็นเพื่อนในคณะและชั้นปีเดียวกับพวกผม  เธอเป็นสาวสวยหุ่นสูงโปร่งรูปร่างไปทางนางแบบ  ผิวไม่ขาวมากนักออกจะเป็นสีแทนเนียนสวยตาคมจมูกโด่งปากอวบอิ่ม  แม้ไม่ใช่พิมพ์นิยมของสาวๆสมัยนี้แต่ก็สวยคมเซ็กซี่มากมีคนให้ความสนใจแนทมากมาย  ส่วนนิสัยก็ร่าเริงเข้ากับคนง่ายที่สำคัญตอนปีหนึ่งหญิงสาวสวยคนนี้เคยเข้ามาขอคบกับผมด้วย  แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากคบเพื่อนในรุ่นเดียวกันมันใกล้กันเกินไป  เดี๋ยวพอเลิกกันจะมีปัญหาเข้าหน้ากันไม่ติดได้เพื่อนๆจะพลอยลำบากใจไปด้วย  ซึ่งแนทก็ไม่ได้ตื๊ออะไรต่อยอมรับการตัดสินใจของผมอย่างยิ้มแย้มจนผมอดจะนับถือน้ำใจเธอไม่ได้  และเราก็คบกันแบบเพื่อนมาตลอด

“เดี๋ยวกูกลับแล้ว  ที่นี่ชักเริ่มบรรยากาศไม่ดี  ไอ้วินโทษทีว่ะ  มึงฉลองไปกับพวกนี้แล้วกัน” อยู่ๆมนก็เอ่ยขอตัวกลับทำท่าลุกจากโต๊ะทันทีที่พูดจบ  ผมเหวอไปนิดหน่อยก่อนจะหันไปทางไอ้ธีที่นั่งใกล้มน

“อ้าว  เออๆ  ไอ้ธี  มึงมากับมนใช่มั้ยพาเพื่อนกูส่งถึงบ้านล่ะ  ขับกลับดีๆนะ” ผมกำชับมันเสร็จสรรพด้วยไม่อยากให้มนกลับคนเดียว  ถึงมนจะดูห้าวและแข็งเกินหญิงแต่ก็เป็นผู้หญิง  ปัจจุบันนี้อันตรายที่มองไม่เห็นรอบตัวผมไม่อยากให้เพื่อนเป็นอะไรไป

“ครับ  ถึงมึงไม่บอกมนก็เพื่อนกู  เดี๋ยวกูไปล่ะ  อ้าววว  เดินไปไหนแล้ววะเร็วไปมั้ยเพื่อน” หลังจากไอ้ธีทำเสียงกวนๆแล้วมันก็มองเลิกลั่กรอบตัวเมื่อไม่เจอคนที่มันต้องไปส่ง  ก่อนมันจะถลาตามมนไปที่ทางออกของร้าน

นี่อาจเป็นเหตุการณ์แปลกๆได้ถ้าคนอื่นมาเจอสาวเท่ของกลุ่มที่เป็นคนเงียบๆปกติจะไม่ยุ่งกับใคร  จะหุนหันลุกไปเหมือนกับเกลียดจนไม่อยากอยู่ใกล้กับใครสักคน  ซึ่งมนก็จะเป็นแต่กับสาวสวยโต๊ะข้างๆคนนี้คนเดียวเท่านั้น  ผมเคยคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังกับมนด้วยว่าเพราะอะไรมนถึงมีอาการแบบนี้กับแนท  เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าถึงดูโกรธเกลียดกันได้ขนาดนี้  แต่คำตอบที่ได้กลับทำเอาทั้งกลุ่มเงียบไม่กล้าถามอีกเลย

‘กูไม่มีเหตุผลให้พวกมึงว่ะ  แค่ไม่ถูกชะตาไม่อยากอยู่ใกล้รู้แต่ว่ามันเฟค  พวกมึงก็ระวังแล้วกัน  ต่อไปอย่าถามอีกถ้ากูทำอะไรแปลกๆออกไปเพราะมัน’ มนคงไม่ถูกชะตาแนทมากเพราะคนที่เงียบๆกับพูดซะยาว  และครั้งนั้นถ้าผมจะฟังที่เพื่อนเตือนบ้างก็คงจะดี 

หลังจากเพื่อนสองหนุ่มสาวกลับไปแล้วก็เหลือผมกับไอ้ฟิน  เราเป็นแรงดึงดูดอย่างดีมีสาวๆและหนุ่มน้อยเดินมาทักทายไม่ขาด  ไอ้ฟินก็ตอบรับอย่างคนโสดด้วยใบหน้าระรื่นโปรยยิ้มเสน่ห์จนคนที่เข้ามาเขินหน้าแดงไปตามๆกัน  ส่วนผมมันคนมี ‘แฟน’ แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรแค่ยิ้มทักบ้างไม่ให้น่าเกลียด  แม้แต่เพื่อนสาวอีกโต๊ะที่ผมเพิ่งเห็นก็ไม่เว้นแนทเดินเข้ามาทักถึงโต๊ะ

“หวัดดีจ้ะ  วิน  ฟิน  ทำไมวันนี้มาแค่สองคนล่ะ” เสียงหวานอ้อนจนผมรู้สึกได้  ผมรู้ว่าแนทต้องเห็นพวกเราแต่แรกแล้วว่าไม่ใช่มีเพียงแค่ผมกับไอ้ฟินที่เคยนั่งโต๊ะนี้  แต่ผมก็เลือกที่จะตอบในสิ่งที่แนทถามมาเพื่อไม่ให้แนทรู้สึกไม่ดี

“ธีกับมนมีธุระเพิ่งกลับไปครับ” ผมส่งยิ้มนิดๆให้เธอแต่แนทกลับยิ้มกว้างกลับมา

“เหรอคะ  งั้น....แนทกับเพื่อนอีกคนขอนั่งด้วยได้มั้ยเอ่ย  คนอื่นๆจะไปต่อที่อื่นน่ะแต่แนทไม่อยากไป  นะคะ  นะวินนะ” แนททอดเสียงออดอ้อนตาเว้าวอนและคว้าท่อนแขนผมไปเขย่า  จนผมต้องแกะมือเธอออกก่อนพยักหน้าอนุญาตกลับไป 

ผมเหล่ตาไปมองหน้าไอ้ฟินที่ไม่คิดจะช่วยอะไรผมเลย  แต่กลับมีหน้ากอดอกยักคิ้วและส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ผมได้อย่างน่าหมั่นไส้  จนผมต้องแอบเตะขามันใต้โต๊ะไปทีให้ได้รู้ตัวบ้าง  ผมตัดใจเลิกคิดมากเพราะถือว่าแนทเป็นแค่เพื่อน  ซึ่งคนอื่นอาจจะมองผมว่าเจ้าชู้แต่เมื่อบริสุทธ์ใจและรู้แก่ใจว่ารักอยู่แค่คนๆเดียวก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากมาย  หลังจากที่มีสองสาวสวยมาร่วมโต๊ะด้วยพวกเราก็คุยกันไปฟังเพลงกันไป  แต่ใจผมก็คอยคิดถึงแต่กับอีกคนที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะได้นอนรึยัง  จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาคนรักสอบถามเรื่องว่างานเลี้ยงส่งเป็นยังไงบ้างกลับบ้านพักรึยัง  เพราะวันนี้กัสไปงานฉลองที่จัดขึ้นเพื่อเลี้ยงส่งเหล่านิสิตฝึกงานที่ทางพี่ๆทันตแพทย์จัดให้  สักครู่ผมก็ได้รับข้อความตอบกลับมาว่ากำลังกลับถึงบ้านพักแล้วและให้ผมขับรถกลับดีๆ  ด้วยกัสรู้ว่าวันนี้ผมมาที่ผับแห่งนี้กับเพื่อนสนิท  เพราะผมรายงานตัวทุกเรื่องกับกัสอยู่แล้ว  อยากให้คนรักสบายใจให้ได้รู้ว่าผมจริงใจและไม่มีอะไรต้องปิดบังไปไหนผมบอกหมด  เพื่อนๆมักล้อว่าผมน่ะเป็นโรค ‘เกลียมัว’ ขึ้นสมอง  ความจริงผมไม่ได้กลัวแค่ไม่อยากให้กัสกังวลและเข้าใจผิดจนมาทะเลาะกันทีหลัง ‘ผมรักคนของผมมากนี่ครับ’ ไม่อยากให้กัสคิดมาก  ผมคงอยู่ในโลกส่วนตัวนานไปหน่อยจนโดนเขย่าแขนจากสาวสวยข้างๆจึงเพิ่งรู้ตัว

“วิน  วินคะ”

“ครับแนท  มีอะไร” ผมหันไปมองหน้าแนททันทีและหน้าผมคงตลกมากเธอถึงหัวเราะคิกคักทันตา

“ฮิๆๆ  แหมไม่ฟังแนทเลยนะ  แล้วยิ้มอะไรเหรอ  ข้อความในโทรศัพท์มีอะไรให้ยิ้มคะ” แนทชะโงกตัวเข้าใกล้ผมมากจนได้กลิ่นน้ำหอมปะทะจมูก  จนผมต้องขยับตัวออกแบบไม่ให้น่าเกลียดมากนัก

“อืม  แฟนผมส่งมาหาน่ะ” แนทยืดตัวกลับไปนั่งตามเดิมและถ้าผมตาไม่ฝาดผมเห็นแววตาอิจฉาแวบหนึ่ง  ก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นหยาดเยิ้มเหมือนเดิม

“น่าอิจฉาแฟนวินจังน้า” แนทแซวผมพร้อมรอยยิ้ม 

หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่น  หันมาทางไอ้ฟินที่ตอนนี้กำลังคลอเคลียกับเพื่อนของแนทที่มานั่งด้วยอย่างถึงพริกถึงขิง  ‘ไอ้นี่ไม่ทิ้งลายเจ้าชู้จริงๆ’  ผมก็หมดความสนใจมันนั่งไปสักพักผมก็ว่ามันได้เวลากลับแล้วเพราะพรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าและเย็นต้องไปรับกัสด้วย  ‘เฮ้อ  คิดถึงคนตัวเล็กของผมจังครับ’

“ไอ้ฟินกูว่าจะกลับแล้วว่ะ  แนทเดี๋ยวผมคงต้องขอตัวก่อนนะ” ผมหันไปบอกไอ้ฟินที่พอได้ยินเสียงผมมันก็ผละหน้าจากซอกคอขาวๆมามองหน้าผม  ก่อนที่ผมจะหันไปทางแนท

“เออดีเหมือนกันกูจะได้ไปจัดการธุระต่อว่ะ  แต่เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน  มึงไปป่ะ” ไอ้ธุระที่ว่าของไอ้ฟินไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืออะไร  เพราะสาวเจ้าก็ยิ้มให้เอียงอายแม้ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ

“เออ  งั้นกูไปจ่ายเงินก่อน  เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะ  วันนี้แนทไม่ต้องจ่ายนะเดี๋ยวผมเคลียร์เอง” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้ฟินก่อนจะเอ่ยขอเป็นเจ้ามือกับแนท  ไม่ใช่หน้าใหญ่ใจป๋าอะไรยังไงแนทก็เพื่อนให้ผู้หญิงจ่ายมันดูไม่ดีครับ

“ขอบคุณค่ะวิน” คำขอบคุณมาพร้อมรอยยิ้มหวานตาระยับ  ผมก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆกลับคืนก่อนหมุนตัวเดินไปจัดการธุระต่อ

ผมเดินไปบอกให้ทางร้านคิดเงินและเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับมาจ่ายเงิน  และผมก็หาโทรศัพท์ไม่เจอขณะล้วงหาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อต้องการโทรตามไอ้ฟินที่หายหัวไปไหนไม่รู้  ผมตัดสินใจเดินกลับมาที่โต๊ะเดิมเพื่อถามหาโทรศัพท์จากแนท

“นี่ค่ะ  แนทเห็นวางอยู่ที่โซฟาค่ะ  วินคะดื่มอีกนิดนะ  เนี่ยจะหมดแล้วช่วยกันนะ  แล้วแนทก็ชงไว้ให้แล้วด้วย  น้า  นะคะ” ผมรับแก้วมาจากแนทพลางส่ายตามองหาไอ้เพื่อนตัวดีที่หายหัวไปไหนก็ไม่รู้

“แล้วไอ้ฟินล่ะครับ  แนทเห็นมั้ย” ผมเอ่ยปากถามแนทและต้องยกแก้วในมือขึ้นดื่มเพราะสายตาออดอ้อนที่มองตรงมาจนอดใจอ่อนด้วยไม่ได้

“กลับไปกับยัยจิ๊บแล้วค่ะ” แนทตอบกลับผมเสียงใสอย่างดีใจด้วยรอยยิ้ม  ผมจึงรีบกระดกเหล้าให้หมดเพราะอยากกลับแล้วและไม่อยากลำบากใจไปมากกว่านี้ 

หลังดื่มหมดแก้วผมเอ่ยลาหญิงสาวตรงหน้าทันที  ตอนเดินออกจากผับผมรู้สึกมึนๆและร้อนวูบวาบแปลกๆ  พอถึงรถที่จอดไว้ผมก็แทบพยุงตัวเองไม่ไหวมันร้อนไปทั้งตัวยิ่งกึ่งกลางลำตัวยิ่งร้อน  ผมรู้ตัวได้ว่าตัวเองโดนวางยาและ ‘ต้องการ’ ปลดเปลื้องความใคร่มาก  ระหว่างที่ผมยืนโงนเงนอยู่นั้นก็มีผู้สาวเข้ามาจับตัวผมบริเวณที่โดนจับนั้นร้อนผ่าว  พยายามเพ่งมองหน้าเจ้าของสัมผัสและเจ้าของเสียงหวานที่กำลังพูดอะไรบางอย่าง  แต่ผมจับใจความไม่ได้ส่วนใบหน้าเธอก็พล่าเบลอรู้เพียงแต่ว่าผมต้องการการสัมผัสที่มากกว่านี้

    

“กัส  กลับมาแล้วเหรอ  อืมมมม” สัมผัสอ่อนโยนที่ไล้ไปทั่วใบหน้าและลำตัวทำผมรู้สึกดี  จนจินตนาการว่าคนที่สัมผัสผมนี้เป็นคนที่ผมเฝ้ารักและคิดถึง  ใบหน้าประดับยิ้มหวานที่กำลังขวยเขินช่างน่ารักน่าใคร่นัก  จนความอุ่นร้อนหยุ่นนุ่มเข้าครอบครองผมไว้ทั้งตัว  จนผมต้องครางยาวออกมา

“ซี้ดดดด  รัก  อ๊า  วินรักกัสนะ” สัมผัสเร่าร้อนของคนรักทำผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไป  เผลอตอบโต้ลีลารักร้อนแรงอย่างเต็มอกเต็มใจ

“อ๊าๆๆ  โอ้  ไม่ไหวแล้ว  รักนะครับ  กัสสสส” สุขจนล้นมันเป็นยังไงผมเพิ่งได้รู้  การร่วมรักกับคนที่เรารักมันช่างสร้างความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ภาพใบหน้าหวานของกัสยังคงลอยละล่องในห้วงฝันของผมจนเคลิ้มหลับไป

    

เสียงใครร้องไห้นะมาร้องอะไรกันตอนนี้  นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย  แล้วทำไมผมถึงปวดหัวขนาดนี้ทั้งๆที่เมื่อคืนไม่ได้ดื่มมากมายอะไร  แต่เดี๋ยวนะเมื่อคืนผมไม่ได้เมาแต่โดนมอมยานี่หว่า  ผมสะบัดหัวพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาแต่เสียงร้องไห้ก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง  ผมหันไปยังที่มาของเสียงและต้องตกใจปนดีใจที่รู้ว่าเป็นใคร

“อืม  ใคร  กัส  กัส!  มาไงครับแล้วร้องไห้ทำไม  เฮ้ยยย!!!”

แต่แล้วผมก็ต้องตกใจแทบช็อคเมื่อพบว่าตัวเองเปลือยเปล่าและนอนอยู่บนเตียงกับผู้หญิงที่ผมเรียกว่าเพื่อน  พลันคำเตือนของเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นมาในหัว  ผมไม่น่าไว้ใจผู้หญิงคนนี้เลยและก็ต้องโกรธตัวเองมากที่ไม่รู้จักระวังตัวจนทำให้คนที่ผมบอกว่ารักร้องไห้เสียใจขนาดนี้

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ได้รู้กันแล้วเนอะว่าวินไม่ได้ตั้งใจเลย แค่แพ้เล่ห์กลของคนที่คิดว่าเป็นเพื่อน
แต่อยากได้เพื่อนมาเป็นแฟน   :เฮ้อ:
ตอนหน้าตามต่อค่ะว่าหมอกัสจะจัดการยังไง

เรื่องนี้จะเล่าสลับกันระหว่างวินกัสนะคะ และปัจจุบันกับอดีตจะถูก
ถ่ายทอดผ่านทั้งคู่ คนอ่านจะได้รับรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ เรื่องอาจดำเนินช้านิดหนึ่งเนอะ
ทั้งคู่ใกล้เจอกัน(ในปัจจุบัน)แล้วค่ะ

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: สำหรับการติดตามค่ะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 25-06-2012 07:35:25
ประมาทเองช่วยไม่ได้ :เฮ้อ:

 :call:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 25-06-2012 07:52:15
วินเชื่อใจเพื่อนมากเกินไป เลยทำให้กลายเป็นแบบนี้
แต่ก็นะ จะโทษวินอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพื่อนวินร้ายเกินไป
กัสกับวินสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-06-2012 08:56:19
วินไม่ได้ตั้งใจทำให้กัสเสียใจนะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 25-06-2012 09:31:05
 :เฮ้อ:ทำไมไม่ระวังเลย :เฮ้อ:


เป็นใครก็โกรธทั้งนั้นอะเห็นแบบนี้ :m16:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-06-2012 10:36:46
เซงแทนเลยอ่ะ
ไม่น่าไปไว้ใจเพื่อนเล๊ย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-06-2012 10:38:19
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-06-2012 12:04:20
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 25-06-2012 14:52:17

มีเพื่อนร้ายก็เลยแย่แบบนี้
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 25-06-2012 20:05:55
 :m31:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 25-06-2012 21:12:03
ติดตาม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 25-06-2012 22:05:43
เฮ้อ วินพลาดแล้ว ไม่น่าไปไว้ใจชะนีนางนั้นเลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่10 (25/6/55)P.4 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-06-2012 00:43:17
เคยอ่านแล้ว แต่ก็ต้องกลับมาอ่านอีก สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-06-2012 07:20:44
ตอนที่ 11

กัส

“สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะมาย”

“มีความสุขมากๆนะน้องมายเดียร์   ฮิๆๆ”

“มิคอ่ะ  ให้เรียกได้แค่มายเดียร์นะไม่เอาน้องนำหน้า  วันนี้วันเกิดมายทั้งกัสและมิคต้องตามใจมายสิ  ชิ”

เจ้าของวันเกิดรับของขวัญและคำอวยพรจากผมและมิคด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างน่ารัก  ก่อนจะเริ่มงอนแก้มป่องส่งค้อนน้อยๆให้มิคที่แกล้งเรียกชื่อมายโดยมีคำนำหน้าที่เจ้าตัวไม่ชอบ  มิคที่รู้ตัวว่าขืนปล่อยไว้ไม่รีบง้อเจ้าของวันเกิดคงจะได้เจอมายงอนจริงจังแน่  จึงเข้าไปกอดแขนและยิ้มออดอ้อนหวังให้มายใจอ่อน

“จ้ามายเดียร์มิคไม่แกล้งแล้วไม่งอนน้า  อ่ะเพิ่มคำอวยพรให้อีกข้อ  อืม  อ่ะรู้ล่ะ  ขอให้มายเดียร์มีแฟนเร็วๆนะครับ” ท่าทางง้องอนและคำพูดถูกใจของมิคทำให้มายค่อยๆคลี่ยิ้มหวานใส่พ่อคนขี้แกล้ง

“แหมมิคอ่ะ  งั้นมายขอแกะเลยนะว่าอะไรอยู่ในกล่อง”

ผมที่นั่งอยู่ใกล้ๆคนทั้งคู่ไม่ได้ออกความเห็นอะไรหลังจากเอ่ยอวยพรแก่เพื่อนสาวไปแล้ว  ได้แต่นั่งมองเพื่อนสนิทคุยกันด้วยรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่  เพราะอดีตของวันคล้ายวันเกิดเพื่อนสาวคนตรงหน้านี้มันมีความทรงจำเลวร้ายสำหรับผมอยู่ไม่น้อย  ขณะที่ผมนั่งคิดหมกมุ่นอยู่คนเดียวนั้นผมไม่รู้ตัวหรอกว่ามีสายตาอีกสองคู่มองอย่างเป็นห่วง

“กัส  กัส  ดูนี่สิ  นี่กล่องของขวัญใคร  ใครให้มายเดียร์มาน้า  ห่อซะสวยเชียว” เสียงมิคที่ดังขึ้นทำผมหลุดจากภวังค์และหันมามองกล่องของขวัญที่อยู่ในมือเพื่อน

กล่องของขวัญห่อด้วยกระดาษมันวาวสีเงินแซมดอกไม้เล็กๆสีชมพูกล่องนี้มันน่ารักมาก  หลังผมพิจารณาเจ้ากล่องนี้แล้วทำให้ได้รู้ว่าเจ้าของมันคงพิถีพิถันเป็นพิเศษ  และคงต้องรู้ใจเจ้าของวันเกิดมากด้วยที่เลือกลายและสีที่มายชอบ  กล่องนี้ใครให้มายมานะเพราะเมื่อเช้าที่ผมตื่นนอนนั้นยังไม่มี  ผมเหลือบมองเพื่อนสาวคนสนิทก็ได้เห็นว่ามายหน้าแดงท่าทางอึกอักอย่างมีพิรุธ 

“เอ่อออ  อืม  ของเพื่อนข้างบ้านเอามาให้น่ะ” กว่ามายจะตอบมาได้เล่นเอาผมกับมิคลุ้นจนเหนื่อย  ซึ่งคำตอบนั้นไม่สมกับที่ผมสองคนลุ้นเลย  กับแค่ ‘เพื่อนข้างบ้าน’ ทำไมถึงทำให้มายมีท่าทางเขินอายได้ขนาดนี้กัน  เพื่อนบ้านคนนี้คงไม่ธรรมดาอย่างที่คิดแล้วล่ะครับ

“ใคร  แล้วมิคกับกัสรู้จักมั้ย  แล้วทำไมมายเดียร์ต้องหน้าแดงด้วย  น่าสงสัยจังน้า  จริงมั้ยกัส” มิคทำเสียงเล็กเสียงน้อยส่งสายตาล้อเลียนใส่มาย  ก่อนจะหันมาพยักพเยิดขอเสียงสนับสนุนจากผมด้วย 

ผมพยักหน้ารัวๆแทนคำตอบก่อนส่งยิ้มใส่ตาคนหน้าแดง  ดูสิหน้าเพื่อนสาวของผมแดงก่ำอย่างน่าเอ็นดูเชียวครับ  และมิคคงคิดเหมือนผมเลยยิ่งซักมายใหญ่ว่าเพื่อนข้างบ้านของมายเป็นใครกันแน่

“เราไม่เคยมีความลับต่อกันนะมายเดียร์  หรือเราไม่ใช่เพื่อนสนิทกันแล้ว” มิคทำแก้มป่องสายตาคาดคั้นใส่มายทันทีที่พูดจบ  เล่นเอาสาวมายถึงกับร้อนรนเข้าจับมือมิคเขย่าก่อนหันมาส่งสายตาเว้าวอนใส่ผมอย่างน่าสงสาร

“มิคจ้ะมายบอกก็ได้  อย่าทำเสียงแบบนี้สิ  อืม  ก็  เฮ้อ  ปรัชจ้ะ  ปรัชเอามาให้เมื่อเช้า” ผมที่กำลังแอบยิ้มกับท่าทางของสองเพื่อนสนิทมีอันต้องหุบยิ้มใจและหายวาบกับชื่อของคนที่มายเอ่ยมา

“ปรัชเพื่อนนายวินน่ะเหรอ  แล้วไปสนิทกันตอนไหนเนี่ยมายเดียร์” มิคเสียงสูงใส่มายหน้าตาสงสัยอย่างมาก  ส่วนผมก็นิ่งค้างไปเลยตั้งแต่ชื่อ ‘วิน’ หลุดมาจากปากมิค  ความเจ็บเล็กๆเกิดขึ้นในใจทันทีเมื่อภาพใบหน้าของคนที่พยายามลืมชัดขึ้นในความทรงจำ

“ไม่มีอะไรซะหน่อย  ไม่เอาแล้วมายไปดูสถานที่ข้างล่างก่อน”

“อ้าวหนีเลยดูสิ  ต้องรู้ให้ได้ว่ามีอะไรแอบแฝง  เดี๋ยวมิคมานะ”

ผมไม่ได้สนใจว่ามิคกับมายจะไล่จับกันได้มั้ยหรือมายจะมีคำตอบยังไงเรื่องปรัช  เพราะใจของผมมันลอยกลับไปยังอดีตเมื่อหนึ่งปีก่อนที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่ทำเอาผมเสียศูนย์




หนึ่งปีก่อน

ภาพที่เห็นตรงหน้าผมนี้มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยขอให้เป็นแค่ฝันทีเถอะ  น้ำตาที่ล้นทะลักไหลไม่ขาดทำให้ภาพเบื้องหน้าผมนั้นพร่าเลือนจนไม่เห็นในรายละเอียด  ‘วินอยู่กับใคร  ทำไมวินถึงทำกับผมแบบนี้  ไหนว่ารักกันไง  รอให้ผมพร้อมก่อนไม่ได้เหรอ  ผมไม่ดีตรงไหน’  คำถามมากมายวิ่งวนอยู่ในหัวผมไม่ได้พูดออกไปได้แต่กำลังร้องไห้และพยายามกลั้นสะอื้นไว้  ผมเจ็บร้าวในอกจนแผ่กระจายไปทั้งร่าง  ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะพยุงตัวพาตัวเองออกไปจากภาพบาดตาตรงหน้าและมันก็เริ่มชา  ผมได้ยินเสียงผู้หญิงไม่รู้ว่าพูดอะไรกับวิน  ใบหน้าเธอเลือนลางเห็นไม่ชัดหรอกว่าเธอจะหน้าตาเป็นยังไง  และตอนนี้ผมอยากหายตัวไปจากที่นี่ไม่อยากรับรู้ความจริงนี้  ผมอยู่กับความคิดของตัวเองนานขนาดไหนไม่รู้จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกชื่อและมีแรงมาเขย่าตัว  ผมค่อยๆหันหน้าไปมองและก็เจอกับผู้ชายที่บอกว่ารักผม  ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคนที่ ‘เคยรัก’ผมมากกว่า

“กัส  กัสครับ  กัสเป็นอะไร  มองมาที่วินสิครับ  โธ่  อย่าเป็นแบบนี้  วินใจไม่ดีเลย  ฟังวินอธิบายก่อนนะ”

เสียงของวินเรียกผมอย่างอ่อนโยนแกมห่วงใย  ความจริงผมจะเป็นอะไรมากขนาดไหนวินก็ไม่สมควรมาทำหน้าเป็นห่วงขนาดนี้  ทั้งๆที่วินกล้าทำกับผมได้ขนาดนี้แท้ๆ  วินออกแรงพยุงผมไปที่โซฟาข้างเตียงก่อนเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน  และพูดอะไรอีกมากมายแต่ตอนนี้ผมไม่อยากฟังจึงปิดการรับรู้ทั้งหมด

“กัสครับ  วินรักกัสนะ  คุยกับวินก่อนนะ”

ผมรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของร่างหนาตรงหน้า  ปกติทุกครั้งที่กอดกับวินผมจะรู้สึกอบอุ่นเสมอ  แต่ครั้งนี้กลับหนาวไปถึงใจเหมือนมีเข็มเป็นพันๆเล่มมาทิ่มแทงผิวที่โดนสัมผัส  ‘ไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้วไม่เอาแล้ว’  ผมออกแรงผลักร่างหนาออกห่างตัวจนหลุดจากอ้อมกอดนั้นได้เพราะเจ้าของไม่ทันตั้งตัว

“ผมจะกลับ”

“กัส  วินไม่ให้ไปจนกว่ากัสจะฟังวิน”

วินเอื้อมคว้ามือของผมไว้แต่พอได้สบตาว่างเปล่าของผมเข้าก็ยอมปล่อยแต่โดยดี  แววตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจปนเว้าวอนนั้นไม่ได้ทำให้ผมนึกเห็นใจ  ผมมองเมินไปทางอื่นพยายามกลั้นสะอื้นและพยายามสงบใจให้มากที่สุดแม้จะทำได้ยากก็ตาม  หลังจากนั้นวินยังไม่ให้ผมออกจากห้องพยายามต่อรองให้เพื่อนของผมมารับกลับแทนการกลับเอง  ในระหว่างรอมิคมารับหลังจากที่ผมโทรศัพท์ตามแล้ว  วินไม่ยอมห่างจากผมเลยทำให้เราต้องมานั่งบนโซฟาหนังหน้าโทรทัศน์ตัวเดียวกัน  วินพยายามจะจับมือผมไปกุมแต่ผมไม่ยอมผมจึงสะบัดออกและกุมมือตัวเองไว้แน่น  เราจึงนั่งกันเงียบๆโดยวินมองหน้าผมตลอดเวลา  ส่วนผมได้แต่มองตรงไปที่โทรทัศน์ตรงหน้านิ่งๆไม่แม้แต่จะหันไปมอง  จนได้ยินเสียงออดดังผมรู้ว่ามิคมาแล้วจึงลุกขึ้นเตรียมกลับทันที  แต่กลับถูกรั้งไว้โดยเจ้าของห้องคนที่เป็นต้นเหตุให้ผมเจ็บเจียนตาย

“กัสครับ  วินรักกัสคนเดียวนะ  วินจะรอให้กัสใจเย็นก่อนแล้วเราค่อยคุยกันนะครับ”

ผมพยายามดึงมือกลับทันทีแต่สู้แรงไม่ไหวจึงได้แต่ปล่อยให้มือตัวเองตกอยู่กับมืออีกฝ่าย  และยังคงมองเมินทำเป็นไม่สนใจ  ผมรอฟังจนจบประโยคและเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไป  ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกรู้แต่ว่าขอออกไปจากที่นี่ก่อน  ไม่อยากเห็นหน้าคนตรงหน้าเลย  การถูกทรยศหักหลังจากคนที่รักมันเจ็บ  เจ็บจริงๆ  หลังจากนั้นผมออกแรงดึงมือให้หลุดจากการจับกุมก่อนเดินไปเปิดประตู  เจอเพื่อนสนิทที่มารับอยู่หน้าประตูและทันทีที่มิคเห็นหน้าผม  มิคตกใจมากพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่โดนผมฉุดออกมาจากหน้าห้องซะก่อน  และผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยแม้แต่ตอนที่เรามาอยู่ในรถด้วยกันแล้วก็ตาม

“สบายใจแล้วกัสค่อยเล่านะ  อย่าเงียบแบบนี้  รู้ใช่มั้ยว่ามิคเป็นห่วง”

เมื่ออยู่ที่ห้องนอนของเพื่อนแล้ว  มิคก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมาทำเอาผมเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ยอมเล่าอะไรให้เพื่อนรับรู้  ทำให้เพื่อนเป็นห่วงผมมากมายขนาดนี้  น้ำตาที่แห้งไปแล้วตั้งแต่ออกมาจากห้องนั้นกลับไหลออกมาอีกครั้ง  ก่อนผมจะโผไปกอดเพื่อนสนิทตรงหน้า  จริงสินะผมยังมีเพื่อนอยู่และตั้งใจจะเล่าให้เพื่อนฟังหลังจากที่สามารถหยุดน้ำตาแห่งความเสียใจนี้ได้แล้ว

“มายเดียร์กำลังมานะ  เป็นห่วงกัสใหญ่เลย  เราเป็นเพื่อนสนิทกัน  กัสเป็นแบบนี้มิคก็ทุกข์ไปด้วยนะ  ฮือๆๆๆ” ผมเศร้าเสียใจคนเดียวไม่พอยังทำเอาเพื่อนเศร้าตามไปด้วยเหรอเนี่ยผมนี่แย่จริงๆ

    

“นายวินทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย  มันน่าจับมาซ้อมจริงๆ  โว้ยยยยย  อยากฆ่าคนจัง”

“มิคจ้ะใจเย็นสิ  กัสหน้าไม่ดีเลยเห็นมั้ย” หลังคำพูดของมายแล้วมิคก็ทำตาโตยกมือปิดปาก  ก่อนเข้ามากอดแขนผมแน่นหน้าตาสำนึกผิดสุดๆ

“กัส  มิคขอโทษ” เสียงอ่อนอ่อยที่ได้ยินจากมิคทำผมอารมณ์ดีขึ้นมา

“ฮึๆๆ  มิคจะขอโทษทำไม  กัสยังอยากทำแบบที่มิคว่าเลย”

“เฮ้อ  เห็นแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อยที่เริ่มหัวเราะได้  แต่มิคก็ไม่อยากเชื่อนะที่วินทำแบบนี้  เพราะนายนั่นดูรักกัสมาก” น้ำเสียงไม่แน่ใจจากมิคทำผมหุบยิ้ม  เพราะคำถามนี้ผมก็ต้องการคำตอบเหมือนกัน

“เวลาผ่านไปใจเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน”

“มายว่าเรื่องนี้เราอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็นเลยจ๊ะ  เพราะมายฟังแล้วแปลกๆ  มายเชื่อว่าวินรักกัสนะ  และตอนที่ไปฝึกงานก็ติดต่อกันตลอดแม้ไม่เจอใช่มั้ย  วินไม่มีทีท่าจะนอกใจด้วย  อย่างเมื่อคืนก็บอกนี่ว่าจะไปผับกับเพื่อนๆ  ถ้าคิดจะนอกใจจริงคงไม่บอกหรอกจริงมั้ย”

“มายเดียร์อย่าลืมสิ  วินไม่รู้นะว่ากัสจะเปลี่ยนเวลากลับมาเช้านี้  อาจจะตั้งใจพายัยผู้หญิงนั่นมานอนด้วย  ซึ่งกัสคงจะไม่รู้แน่ๆ  ถ้าไม่ได้กลับมาก่อนเวลาและไปเจอเข้าน่ะ”

บทสนทนาที่หารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  ทั้งมิคและมายก็มีเหตุผลมาถกกัน   ผมไม่ได้ออกความเห็นอะไรได้แต่ฟังเพราะมันตื้อไปหมด ‘ฝุ่นเข้าตา’ เป็นยังไงผมเพิ่งรู้ซึ้ง  มันต้องให้คนอื่นมาช่วยเขี่ยออกถึงจะหายเคือง  ระหว่างที่เพื่อนๆผมถกกันนั้นอยู่ๆสายตาผมก็ชำเลืองเห็นไฟโทรศัพท์ขึ้นว่ามีสายเข้า  ด้วยผมปิดเสียงไว้เพราะวินโทรมาตลอดแต่ผมไม่อยากคุยด้วย  แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยจึงเกิดความสงสัยขึ้นมา

“ใครโทรมา  นายวินเหรอยังกล้าโทรมาอีก” เพื่อนหนุ่มคนสนิทเอ่ยถามอย่างประชดคนที่เป็นประเด็นตอนนี้  ผมจึงส่ายหน้าปฎิเสธก่อนจะกดรับสาย 

“กัสๆ  ใครโทรมาแล้วทำไมนิ่งไปแบบนี้  นายวินเหรอมันโทรมาทำไม  กัสตอบมิคสิ” มิคทำหน้าเป็นกังวลมากแต่ผมยังคงพูดไม่ออกจึงได้แต่จ้องหน้ามิคนิ่งค้าง

“กัสจ๊ะเป็นอะไร” มายลูบแขนผมเรียกสติด้วยสีหน้าเป็นห่วง  ผมพยายามตั้งสติก่อนมองหน้าเพื่อนทั้งคู่ไปมา

“ผู้หญิงที่นอนกับวินโทรมา.....” ตอนนี้ความรู้สึกของผมมันสับสน  ใคร่รู้  และอึ้ง  ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร  ต้องการอะไร  และรู้เบอร์ผมได้ยังไง  แล้วนัดผมไปเจอทำไม  ผมที่ยังไม่ได้รับปากผู้หญิงคนนั้นเจอแต่ฝ่ายนั้นรวบรัดนัดเวลาสถานที่และตัดสายไป

    

แก้วกาแฟเบื้องหน้ามีหยดน้ำเกาะพราวจากความเย็นของน้ำแข็งในแก้วที่ละลายเกือบหมดแล้ว  เก้าอี้ตรงข้ามไม่มีคู่สนทนานั่งอยู่มีแต่แก้วลักษณะเดียวกันวางอยู่  ผมนั่งตรงนี้มาตลอดหลังจากผู้หญิงคนนั้นจากไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้  สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นมาพูดกับผมก็คือเรื่องของวิน  ผู้ชายที่คิดว่ารักผมแต่จริงๆแล้วสิ่งที่ทำมาทั้งหมดมันคือการหลอกลวง  ความจริงที่ผู้หญิงคนนั้นเล่าคือได้คบเป็นแฟนวินก่อนที่วินจะมาจีบผม  เธอไม่รู้ว่าวินแอบมาจีบผมลับหลังและมาโกหกผมว่าไม่มีแฟน  ส่วนเธอได้ใช้ชีวิตกับวินเหมือนคู่รักมาตลอด  ผมที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยโง่ที่ถูกนายวินนั่นหลอกทำดีด้วยทำให้คิดว่ารักกัน  และเธอเล่าว่าวินเป็นแบบนี้แหละมีหลายรายแล้วที่เธอต้องมาจัดการให้คู่ขาของวินรับรู้ความจริง  แต่ผมน่ะพิเศษหน่อยที่เธอเพิ่งมารู้หลังจากแอบคบกันลับหลังเธอนานถึงเกือบหกเดือน 

ตอนแรกที่เธอเล่ามาทั้งหมดนั้นผมยังไม่เชื่อหรอกเพราะพูดใครก็พูดได้  เธอจึงหยิบหลักฐานคือรูปถ่ายระหว่างเธอกับวินในอิริยาบทต่างๆในสถานที่ต่างกันไป  รูปส่วนใหญ่ทั้งคู่ไม่ได้มองกล้องแต่ก็รู้ว่าสนิทกันและใกล้ชิดกันมาก  แม้บางรูปจะมีเพื่อนในกลุ่มวินอยู่ด้วยก็ตาม  หลังจากเห็นภาพทั้งหมดผมใจเสียไปเกือบครึ่งแต่ก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อย  เพื่อนๆผมเตือนมาว่าอย่าเชื่อเธอคนนี้ง่ายๆอาจมาแอบอ้างก็ได้  ดังนั้นผมจึงยังไม่ยอมเชื่อเธอคนนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ที่มีรูปคู่ของเธอกับวินมาให้พร้อมให้กดไปที่กล่องข้อความ  เมื่อได้อ่านข้อความที่เป็นเบอร์ของวินที่มีแต่ข้อความเป็นห่วงเป็นใยแล้ว  แม้ไม่เห็นคำรักหวานๆแบบที่วินส่งมาให้ผมก็ตาม  แต่ข้อความพวกนี้ก็ไม่ได้ต่างกันนักในเมื่อข้อความเหล่านี้เค้าใช้กับคนที่คิดพิเศษด้วยเท่านั้น  ตอนนั้นผมใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอกกับหลักฐานที่เห็น  ผมโกรธที่ถูกหลอกจากคนที่คิดว่ารักกัน  และเหมือนเธอคนนั้นยังไม่พอใจที่เห็นผมเป็นแบบนี้  เธอส่งหลักฐานชิ้นสำคัญมาให้และมันเป็นดาบสุดท้ายที่ฟันลงมาให้สายสัมพันธ์ระหว่างผมกับวินให้ขาดสะบั้นลง  มันคือต่างหูแบบห่วงที่มีลักษณะแค่ครึ่งวงไม่ได้วนครบรอบมีที่เสียบสำหรับใส่รูหูที่เจาะไว้ติดกับฐานด้านหลัง  ซึ่งมีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่บนแผ่นทองคำขาวด้านล่างมีตัว ‘W’ นูนออกมามันมาจากชื่อของวินนั่นแหละ  ซึ่งต่างหูข้างนี้เหมือนกับข้างที่ผมใส่อยู่เลย  หมายความว่าวินทำต่างหูที่เหมือนกันนี้ให้ทั้งเธอคนนั้นและผมพร้อมกันสินะ  หลังจากนั้นเธอได้พูดอะไรมาอีกรึเปล่าหรือทำอะไรต่อผมก็ไม่รับรู้แล้ว  ได้สติอีกทีก็ไม่เห็นเธอแล้วแต่ผมก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมตรงนี้  แต่ใจผมนั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้ว  วินทำกับผมถึงขนาดนี้ได้ยังไงทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรให้เลยหรือเห็นผมเป็นของแปลกกัน  มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่แล้วมันคงตื่นเต้นไม่พอสินะเลยมาหาประสบการณ์ในการคบกับผู้ชาย  บังเอิญผู้ชายที่วินเลือกลองกลับเป็นผมคนนี้

“พอกันทีกับความรักที่หลอกลวง”

ผมวางเงินที่โต๊ะสำหรับค่ากาแฟและเดินจากไปพร้อมตัดสินใจว่าจะไม่ขอพบเจอกับผู้ชายหลอกลวงคนนั้นอีก

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

น่าสงสารคู่รักสุดสวีทคู่นี้จริงๆค่ะ ดูสิคนมันอยากได้ผู้ชายถึงขนาด
วางแผนมาอยากดิบดี  จนหมอกัสที่น่าสงสารตกหลุมเลย  :เฮ้อ:

ตอนหน้ามาดูกันเนอะว่านายวินจะจัดการยังไง ตามเอาใจช่วย
กัสวินด้วยนะคะ และขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ฝากการรวมเล่มครั้งนี้ด้วยนะคะ รายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 26-06-2012 07:37:09
จิ้มๆ
ผู้หญิงคนนี้ร้ายจริงๆ ให้ใครก็ได้เอาไปเก็บที
รอติดตามตอนหน้าวินจะจัดการยังไง
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-06-2012 07:56:48
สงสารกัสนะ แต่ฟังความข้างเดียวไม่ดีนะรู้ไหม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 26-06-2012 08:38:54
 :m16: :fire: :m31:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 26-06-2012 09:01:53
 :3125: :3125: :3125:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-06-2012 09:49:17
เฮ้อ หมอกัสอย่าเพิ่งเชื่อสิ ฟังวินก่อน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 26-06-2012 09:53:57
กัสอย่าหูเบา รอฟังวินก่อนเด้อ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 26-06-2012 10:08:02
ง่ะ ยัยชะนีแนท สร้างเรื่องมาปั่นหัวกัสอีก เลวจิง ๆ (อินจัด)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-06-2012 10:16:09
กัสอย่าหูเบา
วินยังไม่เคลียร์เลย :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-06-2012 12:27:15
เฮ้อออ เพราะชะนีแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 26-06-2012 13:02:07

ร้ายจริงๆผู้หญิงคนนี้
สงสารกัสนะแต่รอคุยกับวินก่อนเถอะ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 26-06-2012 14:19:30
สงสัยแนทจะวางแผนมานาน 

ทำให้คนรักเขาแตกแยก มันต้อง :angry2: :angry2: :beat: :beat: :z6: :z6: :jul1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 26-06-2012 19:18:37
เน่าสนิทนางเอกต้องเชื่อตัวร้าย :เฮ้อ:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่11 (26/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 26-06-2012 21:12:15
อะไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 27-06-2012 07:18:42
ตอนที่ 12

วิน

เสียงใครร้องไห้นะมาร้องอะไรกันตอนนี้  นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย  แล้วทำไมผมถึงปวดหัวขนาดนี้ทั้งๆที่เมื่อคืนไม่ได้ดื่มมากมายอะไร  แต่เดี๋ยวนะเมื่อคืนผมไม่ได้เมาแต่โดนมอมยานี่หว่า  ผมสะบัดหัวพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาแต่เสียงร้องไห้ก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง  ผมหันไปยังที่มาของเสียงและต้องตกใจปนดีใจที่รู้ว่าเป็นใคร

“ฮึกๆๆๆ  ฮือๆๆๆๆ”

“อืม  ใคร  กัส  กัส!  มาไงครับแล้วร้องไห้ทำไม  เฮ้ยยย!!!”

นี่มันเกิดอะไรขึ้น!  ผมนอนอยู่กับใครกัน  ร่างขาวเนียนของผู้หญิงบนเตียงไม่ได้ทำให้ผมเป็นห่วงได้เท่ากับคนตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังทรุดตัวอยู่ตรงช่องประตู  กัสตาแดงก่ำน้ำตาไหลพรากเต็มหน้าสะอื้นไห้เหมือนจะขาดใจ  ผมที่ได้เห็นภาพคนรักที่ร้องไห้ตัวโยนอย่างน่าสงสารจับใจแล้ว  ก็ได้แต่เจ็บปวดและเจ็บใจตัวเองมาก  ที่พอจะเดาออกว่าผมเองนั้นเป็นสาเหตุให้กัสต้องเป็นแบบนี้  แต่เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  และก่อนที่ผมจะได้ทบทวนหรือหาความจริงใดๆผมขอดูคนรักของผมก่อน  ผมตรงไปที่ร่างเล็กโอบประคองและเรียกชื่อคนในอ้อมกอดไปด้วย  กัสน้ำตาเปื้อนเต็มหน้าเสียงสะอื้นเบาลงดวงตาเหม่อลอย  แม้ผมจะเรียกชื่อและเขย่าตัวเท่าไหร่กัสก็ไม่รู้สึกตัว  เหมือนว่ากัสกำลังพยายามจะตัดขาดจากโลกแห่งความจริงที่แสนเจ็บปวด  จนผมรู้สึกผิดมากจนอยากจะทำร้ายตัวเองที่ทำให้เจ้าของหัวใจเศร้าโศกขนาดนี้

“กัส  กัสครับ  กัสได้ยินวินมั้ย  กัสคุยกับวินนะครับ” ผมเขย่าร่างบางที่เหม่อลอยน้ำตานองหน้าพร้อมลูบแก้มลูบหลังให้กัสได้รู้สึกตัว  แต่ทำเท่าไหร่กัสก็ยังนิ่งเหมือนเดิมจนผมเริ่มใจหายกลัวกัสจะเป็นอะไรไป  แต่เสียงแหลมบาดหูจากคนบนเตียงก็ดังขึ้น

“วิน  นี่มันอะไรกันคะ” ผมหันไปมองหน้าเจ้าของเสียงก็เจอเข้ากับแนทเพื่อนในคณะ  พลันทุกอย่างก็กระจ่างว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น  ผมปล่อยกัสจากอ้อมกอดก่อนหันไปยืนประจันหน้ากับคนบนเตียง 

“อะไรงั้นเหรอ” หลังผมตะคอกใส่แนทตัวต้นเหตุของเหตุการณ์เลวร้าย  เธอหน้าซีดแววตาไหวระริกอย่างคนที่กำลังตกใจ

ยิ่งเห็นแบบนี้ผมยิ่งโมโหเมื่อนึกถึงคนข้างหลังที่โดนผู้หญิงคนนี้ทำร้ายจิตใจโดยมีผมเป็นเครื่องมือ  ไฟกำลังเผาไหม้ใจอกร้อนระอุจนแทบระเบิดเพราะตัวต้นเหตุตรงหน้า  ผมจึงเดินไปกระชากร่างบนเตียงที่ใช้มือจับผ้าห่มปิดหน้าอกบังเรือนกายที่เปลือยเปล่าและระเบิดอารมณ์ออกมา

“อะไรงั้นเหรอ  หา  กูต้องถามมึงมากกว่า  ว่าเกิดอะไรขึ้น” คนบนเตียงเบิกตากว้างหน้าซีดปากสั่นกับอารมณ์ร้ายที่คงไม่เคยเห็นจากผมมาก่อน  แต่ผมไม่นึกเห็นใจสักนิดใจจริงไม่อยากถามเลยด้วยซ้ำ  อยากจะบีบคอสวยๆให้เจ้าของมันขาดใจมากกว่า  ผมถลึงตาใส่ผู้หญิงร้ายกาจพร้อมบีบต้นแขนและเขย่าร่างบางแบบไม่ออมแรง 

“คือ  แนท  เอ่อ” เสียงตะกุกตะกักที่อยู่เพียงในคอทำผมยิ่งหงุดหงิด  จึงเหวี่ยงร่างบางจนคว่ำไปกับเตียงก่อนยืนจ้องหน้าแนทไม่วางตา

“ว่าไงมึง  ทำไมไม่ตอบ  มึงมาอยู่ห้องกูได้ยังไง  หรือมึงมอมเหล้ากู  เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น  หา  ตอบสิโว้ยยย” อารมณ์ผมยากเกินจะควบคุมเพราะโกรธทั้งแนทและตัวเอง  ร่วมกับเป็นห่วงกัสที่ปิดการรับรู้ไปแล้ว  จึงได้แต่ตะคอกนางมารร้ายจนร่างบางเริ่มน้ำตาปริ่มตัวสั่นเหมือนลูกนก  แต่ผมไม่คิดจะสนใจเพราะต้องการรู้ความจริงทั้งหมด

“ฮือๆๆๆ  วินทำไมต้องตะคอกแนทด้วยล่ะ  ฮือ  ฮึก  ฮือๆๆ” แนทร้องไห้โฮอย่างหมดมาดและส่งสายตาอ้อนวอนมาทางผม  มันไม่ได้ทำผมเห็นใจแต่มันเหมือนลมที่เข้ามาโหมกระพือให้ไฟในอกลุกโชนกว่าเดิม

“โว้ยยย  มึงนี่มัน” ผมดึงทึ้งหัวตัวเองแต่เสียงร้องไห้ของแนทยิ่งทำผมใกล้บ้า  จนผมหมดความควบคุมตัวเองเดินเข้าหาคนบนเตียงก่อนเงื้อมือขึ้นหมายจะเข้าทำร้าย  ร่างตรงหน้าผงะห่างพร้อมหยุดเสียงสะอื้นไห้แต่ไม่ทันแล้วเพราะหมัดได้ถูกปล่อยออกไปแล้ว

“พลัก / กรี๊ดดดด” เสียงกรีดร้องอย่างตกใจดังขึ้นเรียกสติที่แตกกระเจิงผมกลับมา

ภาพนางมารร้ายที่นั่งตัวสั่นยกมือปิดหน้าเป็นภาพแรกที่ผมจับภาพได้ ‘ช่างน่าสมเพชนัก’  ผมแสยะยิ้มร้ายใส่ตาแนทที่เงยสบด้วยแววตาสั่นไหวฉายชัดถึงความกลัว  ก่อนก้มมองข้อนิ้วมือช้ำแดงของตัวเองจากการปล่อยหมัดอย่างแรงไปที่ผนังข้างเตียง  ผมเกือบจะทำร้ายผู้หญิงไปแล้วแต่จิตใจฝ่ายดีเตือนให้ยั้งมือไว้ได้ทัน  จึงชกไปเต็มแรงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ร้ายที่เกิดขึ้น  หลังจากนั้นเกิดความเงียบชั่วขณะหนึ่งขึ้น  ผมพยายามสงบใจไม่เข้าไปทำร้ายผู้หญิงร้ายกาจตรงหน้า  ถึงแม้ผมจะตบตีทำร้ายไปก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว  ยังไงผมก็ยังเป็นคนที่ทำให้คนรักเสียใจและผิดหวังอยู่ดี  เมื่อสติผมกลับมามั่นคงแล้วจึงหันไปสบตาคู่ที่นองน้ำตาตรงหน้าอย่างเย็นชาและเกลียดชัง  ถึงซักไซ้ไปคงไม่ได้คำตอบง่ายๆผมควรให้ความสนใจกับคนรักที่นั่งอยู่ข้างหลังก่อนดีกว่า

“มึงรีบออกไปจากห้องกู  ก่อนที่กูจะทำอะไรมึง  ไป!  แต่เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆแน่” ผมพูดเสียงเข้มข่มขู่ร่างบนเตียงที่กำลังทำตัวให้น่าเห็นใจโดยการร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ  ก่อนมองเมินและหมุนตัวเดินตรงเข้าหาร่างคนรัก  และไม่รับรู้อีกเลยว่าผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ 

ผมโอบกอดกัสอย่างทะนุถนอมเข้าหาอกและเขย่าร่างบางเพื่อเรียกสติ  พลางลูบไล้ใบหน้าหวานเพื่อเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน  ถ้ากัสเป็นอะไรไปเพราะผมเป็นสาเหตุผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย ‘อย่าเป็นอะไรนะที่รักกลับมาหาวินเถอะ’  ผมภาวนาในใจก่อนออกปากเรียกชื่อคนรัก  และดูเหมือนคำภาวนาของผมจะเป็นผลเมื่อกัสเงยหน้าสบตาผมแล้ว

“กัส  กัสครับ  กัสเป็นอะไร  มองมาที่วินสิครับ  โธ่  อย่าเป็นแบบนี้  วินใจไม่ดีเลย  ฟังวินอธิบายก่อนนะ” ดูท่าทางกัสจะโกรธผมมากอาจถึงขั้นเกลียดกันไปแล้วก็ได้  เพราะกัสเบือนหน้าหนีและน้ำตาก็หยุดไหล  ผมเริ่มใจไม่ดีแค่คิดว่ากัสจะตัดขาดกัน

ผมพยุงร่างคนรักมานั่งบนโซฟาหน้าโทรทัศน์ก่อนหันมาจัดการกับตัวเองหาบอกเซอร์ที่หล่นอยู่มาใส่อย่างรีบร้อน  และเดินกลับไปหาร่างที่นั่งบนโซฟาพร้อมนั่งลงกอดปลอบ  เช็ดคราบน้ำตาที่เหลือออกจากใบหน้าเนียนใส  ที่ตอนนี้กลับซีดเซียวปากสั่นอย่างน่าเห็นใจ  ดวงตาแดงช้ำมองไปข้างหน้าไม่แม้แต่จะเหลือบมองหน้ากัน

“กัสครับวินรักกัสนะ  คุยกับวินก่อนนะ” หลังคำพูดผมแรงจากฝ่ามือก็ปะทะอก  ผมที่ไม่ทันระวังตัวจึงคลายอ้อมกอดปล่อยร่างบางหลุดจากวงแขน  กัสลุกขึ้นยืนและหมุนตัวไปทางประตู  ผมจึงผวาตามร่างบางไปติดๆและคำพูดที่ได้ยินทำผมเร่งฝีเท้าขึ้นไปดักหน้า

“ผมจะกลับ” ผมที่กำลังตกใจรีบคว้าแขนคนรักไว้แน่นพยายามสบตาก่อนเอ่ยเสียงเว้าวอนออกไป

“กัส  วินไม่ให้กัสไปจนกว่ากัสจะฟังวิน” แววตาที่ผมได้สบแสดงความเสียใจแต่เพียงวูบเดียว  ก่อนเปลี่ยนเป็นความเย็นชาจนใจผมเจ็บแค่คิดว่าคนที่ผมรักจะมองด้วยแววตาแบบนี้ไปตลอดมันก็เจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว  และผมก็ต้องยอมปล่อยมือทั้งๆที่อยากยื้อไว้เพราะไม่อยากโดนกัสมองเหมือนว่าผมไม่มีตัวตนสำหรับกัสอีก  ซึ่งผมก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าตอนนี้กัสคงแค่สับสนและโกรธแต่คงไม่ถึงขั้นเกลียดกันหรอก  ถึงแม้ตอนนี้ผมอยากจะอธิบายใจแทบขาดแต่ก็หาคำตอบให้กัสไม่ได้แน่ๆถ้าเกิดกัสถามว่า ‘มันเกิดอะไรขึ้น’ และผมได้แต่พยักหน้าแทนการตอบรับที่กัสขอกลับ

“ให้มิคมารับกลับนะครับ  วินเป็นห่วง” ผมลองเสี่ยงต่อรองกับกัสดูด้วยการรับรู้ของคนที่ผมรักนั้นยังไม่สมบูรณ์  ผมไม่อยากให้กลับไปคนเดียวอย่างน้อยให้เพื่อนสนิทของกัสมารับกลับก็ยังดี  เพื่อความปลอดภัยของกัสเองและผมก็ไม่ต้องกังวลมากไปกว่านี้ด้วย 

ผมมองไปที่ร่างบางที่ยืนโทรศัพท์เพื่อขอให้เพื่อนมารับอยู่ที่หน้าประตู  พลางคิดไปว่าทำไมมันต้องเกิดเหตุการณ์บ้าๆนี้ขึ้นมาด้วย  กัสเดินกลับมานั่งที่เดิมมองตรงไปที่โทรทัศน์เบื้องหน้านิ่งไม่แม้แต่จะเหลือบมามองหน้ากัน  กัสจะรู้มั้ยนะว่าผมก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าเจ้าตัวเลยบางทีความเจ็บของผมอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ  เพราะรู้ตัวว่าผมเป็นต้นเหตุของความเจ็บนี้  และที่เจ็บที่สุดคือเจ็บใจตัวเองที่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น  ผมพยายามเอื้อมมือไปเกาะกุมมือนิ่มแต่กลับโดนสะบัดออกทันที  ใจหายวาบก่อนเริ่มปวดใจขึ้นมาเรื่อยๆ  กัสคงไม่อยากให้ผมถูกตัวสินะ  ผมคงต้องอดทนต้องรอๆจนกว่าจะรู้ความจริงทั้งหมดว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง  แต่ผมแน่ใจอย่างหนึ่งว่าผมไม่ได้เต็มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแน่  ผู้หญิงร้ายกาจนั่นกล้าดียังไงมาสั่นคลอนความสัมพันธ์นี้ของผมกับคนที่ผมรักคนนี้  ผมรู้สึกได้ถึงแรงสั่นเกร็งจากมือที่เกาะกุมกันไว้ที่เข่าของตัวเองได้  ผมรู้สึกสำนึกผิดและเสียใจที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ให้กับความรู้สึกที่เสียไปแล้วของกัส  เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นคงเป็นเพื่อนสนิทของคนรักผมเอง  กัสลุกขึ้นทันทีผมจึงรีบเอื้อมมือไปคว้าข้อมือบางมาจับไว้แน่น

“กัสครับวินรักกัสคนเดียวนะ  วินจะรอให้กัสใจเย็นก่อนแล้วเราค่อยคุยกันนะครับ” ผมรีบบอกสิ่งที่คิดก่อนที่คนรักจะกลับไปและจ้องตาเว้าวอนอย่างรอคอยคำตอบ  หลังจากนี้ให้กัสยอมคุยยอมเคลียร์ด้วยก็พอ  ถึงจะมีบทลงโทษอะไรมาผมก็ยอมทั้งนั้นขอแค่ผมยังมีกัสเคียงข้างอย่างเดิมเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว 

ร่างตรงหน้ามองกลับมานิ่งๆหลังฟังผมพูดจบก่อนกัสจะเบือนหน้ากลับไปทางเดิม  และกัสก็สะบัดข้อมือให้หลุดจากการจับกุม  ผมไม่รู้หรอกว่าคำตอบของกัสจะเป็นยังไงเพราะไม่มีสิทธิ์คาดคั้นหรือเรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้  ได้แต่ภาวนาให้คนรักนึกเห็นใจผมขึ้นมาบ้าง  ร่างบางเดินไปถึงประตูผมจึงเดินตามไปส่ง  ทันเห็นหนุ่มน้อยเพื่อนสนิทของกัสเบิกตาโตเมื่อได้เห็นใบหน้าของเพื่อนตัวเองเข้า  มิคมองหน้าผมกับกัสสลับไปมาอย่างสงสัยก่อนจะโดนกัสลากออกไป  ผมได้แต่ยืนส่งอยู่ที่หน้าประตูจนลับร่างบางทั้งสองไปแล้วจึงดึงประตูให้ปิดลง 

ผมเดินกลับไปยังห้องนอนที่เปิดประตูค้างไว้ด้วยใจที่ไม่ได้อยู่กับตัวเพราะมันได้ตามเจ้าของไปแล้ว  กวาดตามองสภาพภายในห้องที่ตามพื้นยังคงมีเสื้อผ้าของผมที่ถอดทิ้งเกะกะอยู่  และที่ทำเอาปวดใจที่สุดคือซากถุงยางใช้แล้วทั้งบนพื้นและโต๊ะข้างหัวเตียง  ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นดียืนยันว่าเมื่อคืนนี้ผมมีอะไรกับผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นแล้วจริงๆ  ไม่อยากจะคิดถึงตอนที่คนรักของผมมาเห็นสภาพห้องนี้ครั้งแรกเลย  ขนาดผมที่เห็นสภาพห้องขณะนี้ยังปวดใจมากแล้วกัสล่ะจะแย่แค่ไหนกัน  ความเจ็บปวดใจมันก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่ผมรู้สึกถึงความชื้นที่สองข้างแก้ม  ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาจากใบหน้าของตัวเองแรงๆและสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจให้กลับมาอีกครั้ง  แม้มันจะยากแค่ไหนผมก็ต้องทำให้ได้ผมต้องยับยั้งความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจนี้ไปก่อน  เพราะต้องกลับมาหาทางคิดแก้ไขปัญหานี้ให้ได้  ขอเพียงกัสยอมให้อภัยผมเท่านั้นจะให้ทำอะไรผมก็ยอม

    

“ไม่น่าเชื่อว่าแนทจะทำได้ถึงขนาดนี้ว่ะ”

“คนสวยทำไมร้ายกาจขนาดนี้นะ  เฮ้อ  น่าเสียดาย / ผัวะ”

ไอ้ฟินพื่อนสนิทผิวเข้มเริ่มบทสนทนาคนแรกหลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากผม  ตามมาด้วยไอ้ธีหนุ่มตี๋ที่พูดเหมือนเสียดายสาวเจ้าเล่ห์นักหนาก่อนจะโดยมนตบหลังอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้  ผมไม่มีแรงจะโต้ตอบอะไรอีกหลังเล่าจบ  ได้แต่มองเหม่อคิดถึงแต่ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยน้ำตาของกัส 

“สัญชาตญาณกูนี่แม่นจริงๆว่ะ  ที่ไม่ถูกชะตายัยนั่นแต่แรก  กูเคยเตือนพวกมึงแล้วแต่กลับหลงในความสวยของนังงูพิษนั่น” มนพูดใส่อารมณ์หน้าตาถมึงทึงอย่างน่ากลัว  ถ้าปกติผมคงได้กลัวกันบ้างแล้วแต่ตอนนี้ความเสียใจเศร้าใจของผมมันบดบังไปสิ้น

“โห  ใครจะแสนรู้  เฮ้ย!  อย่าเพิ่งตี  ใครจะฉลาดเหมือนมนล่ะครับ” ไอ้ธียังปากดีแซวเพื่อนสาวคนสนิท  พลันต้องรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นมนเงื้อฝ่ามือพิฆาตขึ้น  ก่อนมันจะทำเสียงหวานประจบประแจงเข้าใส่

“มึงอย่าพูดดีไปไอ้ธีเดี๋ยวจะโดนมากกว่านี้” สาวเท่ขู่ไอ้ตี๋ปากเร็วอย่างจริงจังจนไอ้ธีนั่งหงอยเม้มปากแน่น  มันน่าขำกับใบหน้าของไอ้ตี๋นักแต่ผมไม่มีอารมณ์รื่นเริงขนาดนั้นหรอกครับ

คำพูดมนทำผมเสียใจนี่ถ้าผมเชื่อเพื่อนสักนิด  ผมคงจะระวังตัวเองมากกว่านี้และคงไม่เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นแน่ๆ  แต่ใครจะคิดกันว่าสาวสวยที่ดูไม่มีพิษมีภัยกับใครจะวางแผนทำกันได้แบบนี้  ด้วยตอนที่ผมปฏิเสธไปครั้งนั้นแนทก็ยอมรับง่ายๆไม่ได้มาวุ่นวายเซ้าซี้อะไรผมออกจะนับถือในน้ำใจเธอด้วยซ้ำ  จนผมตายใจเห็นเธอเป็นเพื่อนอย่างสนิทใจ
 
“แล้วมึงจะทำยังไงต่อไปไอ้วิน  มึงคิดไว้รึยัง” ไอ้ปรัชที่นั่งนิ่งมานานถามความเห็นผมเข้า  ผมจ้องสายตาจริงจังตรงหน้าก่อนถอนใจระบายความเครียดและตอบกลับไป

“กูต้องการหลักฐานว่ะ  ว่าที่กูกับแนทมีอะไรกันเพราะโดนวางยาและกูไม่เต็มใจ” ไอ้ปรัชพยักหน้าให้มันนิ่งคิดพักหนึ่งและแววตาก็วาววับอย่างคิดอะไรดีๆขึ้นมาได้

“งั้นกลับไปที่ร้านเดี๋ยวกูไปดูกล้องวงจรปิดที่ร้านให้  แต่หลักฐานแค่นี้มันยังไม่พอ  ฟิน  มึงรู้ที่อยู่เพื่อนสาวของแนทที่มึงหิ้วไปใช่มั้ย  เพราะเราต้องการพยานบุคคลด้วย” ไอ้ปรัชร่ายสิ่งที่มันจะทำให้พวกเราฟังก่อนหันไปขอคำตอบจากไอ้ฟิน

“เออ  รู้เพราะกูไปกกกันที่นั่น” ไอ้ฟินรับคำจริงจังและพูดอย่างไม่อาย  ความเจ้าชู้ของมันก็เป็นประโยชน์สำหรับผมเหมือนกันนะครับ

หลังจากนั้นไอ้ปรัชก็ร่ายยาวถึงแผนการหาหลักฐานเพื่อเอามายืนยันความ  บริสุทธ์ใจของผม  ให้คนรักของผมได้รับรู้ความจริงและให้เชื่อใจในความรักที่ผมมีให้  ซึ่งผมก็ไม่ผิดหวังในตัวเพื่อนคนนี้เลยที่แนะนำให้หาพยานบุคคลเพิ่มอีกอย่าง  เฮ้อ  แต่งานนี้ไม่รู้จะจบแบบไหนกัน  แม้ผมจะบริสุทธิ์ใจแต่ก็ไม่บริสุทธิ์กายไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่กัสไปแล้ว  ผมขอเพียงกัสให้โอกาสผมได้อธิบายสักครั้งเถอะ  ถึงกัสจะไม่เชื่อใจกันดังเดิมขอแค่รับฟังและอภัยให้กันก็พอ  จากนั้นผมจะพยายามสร้างความมั่นใจของรักที่ผมมีให้กัสกลับมาให้ได้อีกครั้ง

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

วินมีเพื่อนๆดีจังเลยเนอะ เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน  :impress2:

ตอนหน้ากัสวินเจอกันแล้วค่ะ มาตามลุ้นกันว่าหมอกัส
จะยอมคุยดีๆด้วยมั้ยน้อ

+1ทุกเม้นท์แล้วนะคะและ  :pig4: ที่ติดตามกันค่ะ

ฝากการรวมเล่ม "ซีรีย์เสน่ห์รัก" ด้วยค่ะหน้าแรกน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 27-06-2012 07:26:46
ร้ายจริงๆ ผู้หญิงที่ชื่อแนทอะไรนี้ ลงทุนขนาดวางยาวินเลยอ่ะ
กัสจังน่าสงสารมากๆเลย ยิ่งอ่านยิ่งเศร้า (แต่ก็ยังอยากอ่านต่ออยู่ดี โฮ่ะๆ >o<)
ตอนหน้าวินกับกัสจะเจอกันแล้ว จะเป็นยังไงน๊า รอลุ้น
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 27-06-2012 07:32:59
ทำไมรู้สึกสมน้ำหน้าวะ

ชอบคนที่ความสวยสมน้ำหน้า

แต่สงสารกัสอ่ะ  :monkeysad:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 27-06-2012 07:36:57
ว่าจะถามตั้งแต่ตอนที่แล้วละ

ถุ ถุ ถุ ถุ ถุ  มันคืออะไรคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 27-06-2012 09:13:10
 :เฮ้อ: เหนื่อยแทนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 27-06-2012 09:24:25
คุณน้องวินทำคุณพี่กัสเสียใจอ่า

แต่ไหนๆก็ผ่านไปตั้งเป็นปีแล้ว  ง้อให้สำเร็จนะ  อิอิ

+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 27-06-2012 10:12:54
สงสารกัสจังเลยอะมาเห็นภาพแบบนี้ :monkeysad:


หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-06-2012 10:15:52
แนทร้ายมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 27-06-2012 10:45:06
อ่านแล้วอยากตบชะนีจริงๆ :beat:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-06-2012 10:55:17
วินสู้สู้หาหลักฐาน
มาได้ไวไว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-06-2012 11:10:04
รอหมอกัสเจอกับวิน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 27-06-2012 12:54:58
ถ้าเจอกันแล้วจะยังไงน๊า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 27-06-2012 14:28:31

สงสารกัส
ตอนหน้าจะเจอกันแล้ว
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่12 (27/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 27-06-2012 21:16:58
รอครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.5 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-06-2012 07:22:47
ตอนที่ 13

กัส

งานวันเกิดของเพื่อนสาวคนสนิทของผมนั้นจัดขึ้นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน  ถูกเนรมิตขึ้นโดยคุณหญิงแม่ของมายเองมีไฟประดับส่องแสงกระพริบตามต้นไม้และพุ่มไม้อย่างสว่างไสว  สนามหญ้าจัดวางโต๊ะอาหารทั้งของคาวของหวานตั้งอยู่หลายตัว  มีซุ้มเครื่องดื่มบริการส่วนใหญ่เน้นไปทางน้ำหวานและน้ำผลไม้  คนที่มายเชิญมางานนั้นก็มีบรรดาเพื่อนสมัยเรียนที่เจ้าตัวยังติดต่ออยู่  เพื่อนสนิทของครอบครัว  ญาติๆ  และที่ขาดไม่ได้คือเพื่อนสนิทที่สุดอย่างผมกับมิคนั่นเอง  ที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างตัวเจ้าของงาน

“อืม  บ้านมายเดียร์ทำอาหารอร่อยมาก  อร่อยทุกอย่างเลย” มิคอมยิ้มแก้มตุ่ยตาพราวอย่างถูกใจมือยื่นคอกเทลกุ้งให้มายลองชิม  แต่มายส่ายหน้ายิ้มสวยไปแทนก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ผม  ปล่อยให้คนช่างกินมีความสุขกับของในมือต่อไป

“แล้วกัสล่ะเงียบจัง  บาร์บีคิวนี่อร่อยมั้ยจ๊ะ” มายชี้มาที่จานในมือผมและเอียงคอยิ้มน้อยๆให้  ผมจึงคลี่ยิ้มให้เพื่อนสาวคนสนิทและพยักหน้าให้ก่อนตอบ

“อร่อยครับมาย” หลังคำตอบผมแล้วมายยิ้มหวานให้พร้อมเข้ามาคล้องแขนด้วยท่าทางน่ารัก  ส่วนมิคก็ชะเง้อคอมองบาร์บีคิวในจานผมก่อนเงยหน้าส่งสายตาออดอ้อนมาให้  ดูก็รู้แล้วว่าเพื่อนจอมซนของผมเค้าอยากชิมผมจึงยื่นให้ทั้งจาน  มิคยิ้มกว้างอย่างถูกใจก่อนเอื้อมมือรับไป  จนมายต้องเรียกเด็กรับใช้ไปเอามาเพิ่มให้และแกล้งหยอกคนช่างกินให้ได้งอน  เรียกเสียงหัวเราะจากผมได้เมื่อได้เห็นใบหน้ามีความสุขของเพื่อนสนิททั้งสองคน 

บรรยากาศรอบตัวกำลังดีมีลมพัดผ่านอาหารก็อร่อยเครื่องดื่มก็เยี่ยมดนตรีก็ไพเราะ  แต่ใจผมนี่สิอดจะแอบกังวลไม่ได้หลังจากรู้มาว่าชายหนุ่มข้างบ้านหลังนี้จะมาร่วมงานด้วย  ผม ‘กลัว’ กลัวว่าเขาคนนั้นจะตามมาด้วยแต่ผมอาจจะคิดมากไปเอง  ก็คนมันเลิกกันไปนานแล้ววินคงเลิกสนใจผมไปแล้วล่ะ  สั่งตัวเองให้เลิกคิดมากแล้วหันมาสนุกและร่วมฉลองงานวันเกิดให้เพื่อนคนสวยดีกว่า

“น้องมายจ๊ะ  ใกล้ได้เวลาเป่าเค้กแล้วลูกไปเตรียมตัวกันค่ะ  น้องกัสกับน้องมิคไปด้วยกันค่ะ เร็วเด็กๆ” เสียงของคุณหญิงแม่คนสวยที่ยังสวยไม่สร่างเรียกให้ลูกสาวไปเตรียมตัวเป่าเค้กวันเกิด  พร้อมส่งรอยยิ้มสวยเผื่อแผ่มาที่ผมกับมิคด้วย 

พวกเราจึงเดินตามคุณหญิงแม่ไปบริเวณที่จัดเตรียมเค้กก้อนใหญ่ตั้งไว้กลางงาน  แขกในงานคนอื่นๆเมื่อเห็นเจ้าภาพของงานเดินไปที่โต๊ะกลางงานต่างก็ลุกขึ้นเดินมาร่วมเตรียมร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับเพื่อนสาวของผม  ซึ่งมายเองก็ดูตื่นเต้นและมีอาการแปลกๆร่วมด้วยเพราะคอยชะเง้อมองไปที่หน้าประตูทางเข้าบ้านเป็นระยะ  สงสัยมายจะรอเพื่อนข้างบ้านเจ้าของกล่องของขวัญใบสวยนั่นแน่ๆ  ‘เฮ้อ! มายนะมายบอกไม่มีอะไรแต่ตอนนี้ล่ะหาเชียวเพราะนายนั่นยังไม่มานั่นเอง’

“น้องมายเป็นอะไรลูก  รอใครอีกรึเปล่า” คุณหญิงแม่ของมายคงเห็นอาการแปลกๆของลูกตัวเองเข้าแล้ว  ผมจ้องมายยิ้มๆเมื่อเห็นว่าใบหน้าสวยหวานขึ้นสีระเรื่อและหลบตาผมทันทีที่เห็นว่าผมจ้องอยู่

“เปล่าค่ะคุณแม่ไม่มีอะไร  เราเริ่มกันเลยค่ะ” มายก้มหน้าปฏิเสธทันทีอย่างมีพิรุธ  ก่อนจะเข้าไปเกาะแขนคุณแม่คนสวยอย่างออดอ้อนเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น 

ผมหันไปมองมิคก็พบว่ากำลังแอบขำส่งแววตารู้ทันมาให้  ผมที่กำลังเม้มปากกลั้นขำอาการของมายอยู่นั้นก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้น  เป็นเสียงชายหนุ่มที่นุ่มและกังวานใสดังออกจากลำโพงที่ติดตั้งไว้รอบงาน  เสียงที่ได้ยินนี้มันคุ้นหูผมมากเหมือนเคยได้ยินมาก่อน  ผมและคนทั้งงานต่างหันไปมองต้นเสียงที่ตอนนี้เดินถือไมโครโฟนตรงเข้ามายังกลุ่มคนที่ยืนอยู่  เจ้าของเสียงเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งตัวไม่หนานักและใส่แว่นไร้กรอบ  ใบหน้าที่คุ้นเคยนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพื่อนข้างบ้านของเจ้าของงาน ‘นายปรัช’ นั่นเองครับ  เสียงร้องเพลงของปรัชไม่ได้เข้าหูผมเลยเพราะตอนนี้สายตาผมนั้นจดจ้องไปยังชายหนุ่มอีกคนที่เดินตามมาหลังสุดของกลุ่มเพื่อน  หนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาคุ้นตาและคุ้นใจไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากสองปีก่อนเลย  ‘วิน’ ทำให้ผมใจสั่นระรัวเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เราได้เจอกัน  ผมพยายามสั่งใจให้หยุดสั่นแต่ใจคนเรานี่มันบังคับไม่ได้จริงๆ  ผมไม่รู้ว่าเผลอตัวจ้องตาคมสวยอยู่นานเท่าไหร่แต่มารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อมิคจับมือของผมกุมกระชับ  ผมจึงเบนสายตาออกมาจากสายตาคมวาวคู่นั้น  ก่อนได้สบกับแววตาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างชัดเจนจากมิค  เวลาต่อมามืออีกข้างของผมก็ถูกเกาะกุมจากเพื่อนสาวคนสวยซึ่งส่งสายตาห่วงใยมาให้ไม่ต่างจากมิค

“กัสเราไปนั่งทานเค้กกันนะจ๊ะ  เนี่ยมายตัดมาชิ้นใหญ่เลยเรามาแบ่งกันกินดีกว่า” เสียงหวานๆของมายลอยมาเข้าหูพร้อมแรงจับจูงให้ออกเดินจากเพื่อนทั้งสอง  ผมเดินใจลอยเท้าไม่ติดพื้นมายังห้องรับแขกที่อยู่ภายในตัวบ้านแทนการนั่งที่โต๊ะบริเวณสนามด้านนอก  หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราทั้งสามคน

“กัส  ไม่เป็นไรนะ  อย่าเงียบสิ  พวกเราเป็นห่วงกัสนะ” มิคส่งเสียงแผ่วเศร้าจนผมรู้สึกตัวว่าทำให้เพื่อนไม่สบายใจอีกแล้ว  จึงพยายามคลี่ยิ้มส่งให้มิคและมายเพื่อให้เพื่อนได้สบายใจขึ้น 

แต่ใจของผมตอนนี้มันสับสนไปหมดและเกิดคำถามว่า ‘วิน’ มาที่นี่ทำไมมาให้ผมเห็นหน้าเพื่ออะไรกัน  ในเมื่อเรื่องมันผ่านมาเป็นปีแล้ว  ผมอยากหนีไปให้ไกลไม่อยากเจอหน้าไม่อยากเห็น ‘คนโกหกหลอกลวง’ อีก  แต่อีกใจหนึ่งนั้นกลับอยากพูดคุยกันได้แบบเพื่อนก็ยังดี  เพราะ ‘ความคิดถึง’ ผมคิดถึงวินเหลือเกินอยากรู้ว่าที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้างตอนที่ไม่มีผมอยู่เคียงข้าง  ‘วินจะยังเหงาและคิดถึงกันบ้างมั้ย’

“พวกนายพานายนั่นมาทำไม  พากลับไปซะ” เสียงตะโกนของมิคทำให้ผมต้องหันไปมองทางต้นเหตุ 

ใจผมกระตุกวาบเมื่อเจอเข้ากับสายตาที่จับจ้องของวิน  แววตาคู่คมที่ผมได้สบมันแสดงออกหลากหลายความรู้สึก  ทั้งความไม่มั่นใจ  เสียใจ  และคิดถึง  มันทำผมใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง  เราสบตากันนานและไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรออกมาหลังประโยคของมิค  เพราะเพื่อนๆคงคอยดูว่าเราทั้งสองคนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อกันก่อนจะตัดสินใจทำอะไรต่อ  และแล้วผมก็เห็นว่าวินขยับปากเตรียมพูดจนผมเผลอกลั้นใจรอประโยคแรกในรอบหนึ่งปีของวินที่ผมจะได้ฟังอีกครั้ง

“กัส  กัสสบายดีมั้ยครับ” เสียงยังคงนุ่มและปนไปด้วยความห่วงใยเหมือนเดิม  แต่สถานะของเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว

ผมไม่คิดจะตอบคำถามของวินยังคงใช้ความเงียบกดดันคนตรงหน้า  หน้าตาของคนที่ผมมองอยู่สลดลงทันทีผมรีบเบือนหน้าหนีสายตาออดอ้อนคู่นั้น  และได้รู้ว่าวินยังคงมีอิทธิพลต่อใจผมอยู่  เพราะเพียงแค่เห็นสีหน้าแววตานั้นก็ทำผมใจหวิวได้  ตลอดหนึ่งปีที่เราห่างกันผมคิดว่าสามารถลืมวินได้แล้ว  และคอยใช้ความเจ็บกับเหตุการณ์นั้นมาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ลืมก็ตาม  แต่การพบกันครั้งนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ‘ผมไม่เคยลืมวินได้เลย’

“เอ่อ  ปรัชจ๊ะ  มายขอบคุณมากสำหรับของขวัญและที่ปรัชมาอวยพรให้  แต่ตอนนี้มายว่าปรัชพาเพื่อนกลับก่อนดีกว่ามั้ยจ๊ะ  ทุกคนคะอย่าว่ามายเสียมารยาทเลยค่ะ  แต่พวกเรารู้กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร” เพื่อนสนิทคนสวยของผมคงนึกเห็นใจและเป็นห่วงผมมากถึงกับเอ่ยปากไล่ทางอ้อมกับกลุ่มเพื่อนของวิน  ทั้งๆที่มายออกจะเป็นสาวขี้เกรงใจยามปกติคงไม่คิดจะทำ

“ผมสบายดีครับ” ผมตัดสินใจตอบคำถามที่ถูกทิ้งไว้นานเพราะไม่อยากให้มายลำบากใจไปมากกว่านี้  แต่ผมก็นึกอยากเรียกคำพูดคืนด้วยหมั่นไส้ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังมองผมอยู่นั้นยิ้มจนแก้มปริตาพราวอย่างดีใจ  และแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสินะที่ทุกคนจะได้สบายใจขึ้นไม่อึดอัดกับบรรยากาศกดดันจากตัวผมอีก 

“เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ผมก้มหน้าเอ่ยขอตัวจากคนทั้งห้องไม่เจาะจงใคร  พร้อมลุกขึ้นเตรียมเดินไปทางห้องน้ำแต่กลับถูกเพื่อนสนิททั้งสองคนจับแขนไว้

“มายไปด้วย / เดี๋ยวมิคไปเป็นเพื่อน” มิคและมายพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง  ผมนึกดีใจที่มีเพื่อนคอยเป็นห่วงและอยากจะขอบคุณทั้งสองที่ไม่เคยทิ้งกันนัก  แต่ผมทำได้เพียงส่งยิ้มเล็กๆและส่ายหน้าปฏิเสธให้ทั้งคู่เท่านั้น

ตอนนี้ผมอยากขอเวลาอยู่คนเดียวสักพักด้วยทำตัวไม่ถูกจริงๆ  ผมเดินออกมาหลังถูกปล่อยแขนเป็นอิสระขณะเดินไปทางห้องน้ำที่อยู่อีกส่วนของบ้านและต้องเดินผ่านวิน  ผมจึงตั้งใจว่าจะเดินผ่านให้เร็วที่สุดและไม่คิดจะมองหน้า  ใจคิดแต่ตากลับเงยขึ้นสบตาคมของวินขณะที่ตัวเองกำลังจะเดินผ่าน  ก่อนผมจะตัดใจก้มหน้าหลบตาและเดินตรงไปทางห้องน้ำต่อทันที

    

จิตใจที่เริ่มสงบลงและใจที่หายสั่นรัวทำให้ใบหน้าที่มองตอบกลับมาจากกระจกของผมไม่มีรอยกังวลมากนักดีกว่าตอนที่ผมเพิ่งเข้ามาในห้องน้ำแห่งนี้ใหม่ๆ  และผมก็พร้อมแล้วที่จะออกไปข้างนอก  แม้จะไม่แน่ใจตัวเองนักว่าถ้าได้สบตาคู่นั้นอีกครั้งจะมีอาการกลับมาอีกมั้ย  แต่คนเราหนีไม่ได้ตลอด ‘ใช่แล้วครับ  ผมหนีวินมาตลอด’ หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น  ซึ่งวันนี้คงถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากันจริงๆซะแล้ว  ผมสูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเองพร้อมยื่นมือไปที่ลูกบิดเพื่อเปิดประตูออกเผชิญความจริง

“กัส  คุยกับวินนะครับ  วินให้เวลากัสมานานแล้ว”

ทันทีที่ผมเปิดประตูออกมาความจริงที่เตรียมใจเผชิญหน้าไว้แล้วกลับมายืนอยู่ตรงหน้า  แม้จะทำใจแล้วแต่เมื่อมาเจอกันระยะประชิดขนาดนี้ทำเอาอึ้งและใจก็เต้นระรัวอีกจนได้  ผมหาคำพูดตอบกลับไม่เจอจึงได้แต่พยักหน้าตอบรับไป  ก่อนเดินเบี่ยงตัวออกมาจากร่างหนาที่ขวางทางไว้  ผมเดินนำมาที่สวนหลังห้องครัวที่ตอนนี้เงียบสงบเพราะทุกคนต่างไปช่วยงานกันด้านนอกที่หน้างาน  และรับรู้ถึงเสียงฝีเท้าที่ตามหลังผมมาไม่ห่างแต่ยังคงไม่มีเสียงพูดระหว่างกัน  ตลอดทางเราต่างหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง  ผมทรุดตัวนั่งด้านหนึ่งของม้านั่งตัวยาวที่มีพนักพิงหลัง  อีกคนที่ตามมานั่งอีกข้างปล่อยให้มีพื้นที่ว่างระหว่างเรา  ตรงกับความรู้สึกของผมในตอนนี้ที่รู้สึกมีช่องว่างในใจ  เหมือนว่าเราไม่รู้จะเริ่มกันยังไงแม้มีสิ่งที่อยากพูดอยากถามมากมาย  จนกระทั่งวินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน

“กัสครับ  วินคิดถึงกัสนะครับ” ผมคิดไม่ถึงว่าประโยคนี้จะเป็นประโยคแรกที่วินจะพูด  เคยคิดอยู่บ้างว่าถ้าผมได้กลับมาเจอวินสิ่งที่วินจะพูดกับผมน่าจะเป็นคำอธิบายเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อน  ด้วยตอนนั้นผมไม่คิดจะฟังคำแก้ตัวใดๆทั้งนั้นแม้อีกฝ่ายจะพยายามขนาดไหนก็ตาม  ทำเอาผมอดหัวเราะในคอไม่ได้จนวินถึงกับจ้องมาเขม็งแววตาแปลกใจชัดเจน  และน่าแปลกที่ความอึดอัดในใจผมปลิวหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
 
“วินไม่อยากอธิบายเรื่องวันนั้นกับกัสแล้วเหรอ” ผมใช้น้ำเสียงสบายๆถามออกไปจนได้จนตัวเองยังนึกทึ่ง  แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมองวินหรอกว่าจะมีสีหน้าแบบไหน

“อยากสิครับวินรอวันนี้มาตลอดวันที่กัสจะฟังวิน  ถึงแม้จะรอมาเป็นปีก็ตาม” น้ำเสียงกระตือรือร้นที่ได้ยินจากวิน  ทำผมอารมณ์ดีขึ้นมาได้จนถึงขั้นหัวเราะแผ่วเบาออกมา

“ฮึๆ  ขนาดรอนะเนี่ยยังมีข่าวว่าวินอกหักเลยนะ” ผมแซวถึงข่าวล่าสุดที่ได้ยินมาและจ้องไปยังดวงไฟสีส้มนวลตาตรงหน้า  ผมไม่เคยคิดว่าจะมีบรรยากาศสบายๆระหว่างผมกับวินขึ้นได้  เมื่อเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง  แม้มีเรื่องสำคัญที่เราต้องคุยกันคือสิ่งที่วินคงอยากอธิบายกับผมมาตลอดหนึ่งปี  แต่มันกลับยังไม่ถูกหยิบยกมาพูด 

“ข่าวไวจริงน้า  สงสัยมีสายจากกลุ่มวินไปบอกล่ะมั้ง” น้ำเสียงล้อเลียนที่ได้ยินทำผมจินตนาการออกทันที  แม้ไม่ต้องหันไปมองว่าวินจะมีสีหน้าแบบไหน

“อืม” ผมรับคำในลำคอและรอสิ่งที่วินจะพูดออกมาให้ผมได้รู้

“มันคงเป็นกรรมตามสนองวิน  กรรมที่เคยทำให้คนที่รักเสียใจเพราะตัวเอง  แม้ไม่ตั้งใจแต่มันก็เกิดขึ้นจริง  แต่ที่ว่าอกหักคงไม่ใช่ก็แค่คนที่วินใช้แทนกัสเท่านั้น”

บรรยากาศเบาสบายเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นหนักขึ้นมา  เมื่อประโยคที่วินต้องการสื่อว่าจะเริ่มเข้าเรื่องเพื่ออธิบายถึงความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว  ทำเอาผมต้องเรียกกำลังใจเหมือนเคยคือการสูดอากาศเข้าปอดก่อนหันไปสบตาชายหนุ่มที่ผมคิดถึงมาตลอดทั้งเรื่องดีและไม่ดีของคนๆนี้

“กัสพร้อมฟังวินแล้วมีอะไรก็พูดมาให้หมด”

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ในที่สุดกัสก็พร้อมจะฟังวินแล้วนะคะ แม้จะผ่านมาเป็นปีก็ตาม
รักแท้คงต้องผ่านบททดสอบของอะไรสักอย่าง เพื่อให้เจ้าของ
สิ่งที่เรียกว่าความรักเห็นคุณค่าของมัน เมื่อเข้าใจกันแล้ว
ความหวานจะมาเยือนคู่นี้ไม่แพ้คู่อื่นๆค่ะ  :impress2:
เจอกัสวินได้พรุ่งนี้นะคะ

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: ทุกการติดตามและแรงสนับสนุนค่ะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-06-2012 07:39:30
เคลียร์กันสักทีก็ดีเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 28-06-2012 08:06:05
นี้ล่ะน๊าที่เขาเรียกว่า บททดสอบความรัก ถึงแม้จะผ่านไป 1 ปี
แต่ใช่ว่าความรักที่มีให้กันจะลดน้อยลง ถึงบางทีอาจจะมีนอกลู่นอกทางไปบาง
แต่ยังไงหัวใจก็ยังมอบให้คนเดิมอยู่ดี ดีจริงๆเลยน๊าความรัก
ในที่สุดกัสก็พร้อมที่จะฟังจากปากวินซักที
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 28-06-2012 09:16:26
วินสู้ๆ :interest:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 28-06-2012 09:24:08
ไม่เจ๊อะกันนาน มาเม้นท์ได้สักที :try2:
วิ่งตามอ่านกัสวินด้วยความเร็วแสง
ไม่มีอะไรมากนอกจากรักเหมือนเดิม
ในทีสุดความอดทนของวินก็สำเร็จ
กัสพร้อมแล้วที่จะรับฟังสิ่งที่ผ่านมา
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะรักนั่นแหละนะ
แวะมา +1 และเป็ดให้พี่มาศค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-06-2012 09:36:00
วินสู้สู้ :ped149:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 28-06-2012 09:37:33
อืม  ถ้าเราเป็นกัสก็โกรธมากเหมือนกันนะ
เรื่องผู้หญิงคนนั้นก้ออีกเรื่อง
แต่ยังง้อกัสไม่สำเร็จด้วยซ้ำ  มีคนใหม่ซะแล้ว

น่าตีจริงๆนะนายวิน  กัสงอนซะให้เข็ด
+1
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 28-06-2012 10:23:11
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-06-2012 10:30:23
กัสพร้อมจะฟังวิน  เราก็พร้อมจะรออ่าน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 28-06-2012 14:31:35
อยากอ่านคู่นี้หวานๆบ้างแล้ววว  :laugh: :laugh:

ขอให้กัสเชื่อวินนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 28-06-2012 15:12:40

กัสพร้อมที่จะฟังแล้ว...จะได้เคลียร์กันซักที
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 28-06-2012 16:46:00
เคลียกันให้จบๆไปเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่13 (28/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 28-06-2012 20:55:37
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-06-2012 07:32:51
ตอนที่ 14

วิน

“กัสพร้อมฟังวินแล้วมีอะไรก็พูดมาให้หมด” ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผมอยากได้ยินจากร่างบางที่นั่งข้างกันนี้มาตลอดหนึ่งปี  ผมหันไปทั้งตัวเพื่อมองภาพคนที่ผมยังรักได้อย่างเต็มตา 

“เรื่องที่เกิดเมื่อคืนนั้นมันเกิดขึ้นจริงกัสไม่ได้เข้าใจผิดหรอก” ผมพยายามพูดอย่างระวังที่สุดและคอยจับสังเกตถึงความผิดปกติเมื่อได้พูดจบประโยคนี้  แต่ยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าด้านข้างที่ผมจับจ้องอยู่นี้  ผมกลืนน้ำลายไล่ความฝืดคอและสูดอากาศเข้าปอดเรียกกำลังใจ  ก่อนเริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

“วินมีอะไรกับแนทคืนนั้น  แนทเป็นเพื่อนคณะเดียวกันกับวิน  เจอกันคืนที่วินไปผับ  ถ้ากัสยังจำได้วินบอกกัสว่าคืนนั้นเพื่อนในกลุ่มนัดเจอกัน  เราเจอกันโดยบังเอิญแนทมาขอนั่งด้วยเมื่อเห็นวินกับฟินนั่งอยู่แค่สองคน  ส่วนคนอื่นกลับกันไปก่อนแล้ว  เราคุยกันเรื่องทั่วๆไปและวินยืนยันได้ว่าวินไม่เคยคิดกับแนทเกินเพื่อน”

ผมจับตามองกัสตลอดขณะที่ตัวเองเล่าเรื่องในอดีต  ด้วยกลัวว่ากัสจะลุกหนีก่อนที่ผมจะพูดจบ  แต่ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากร่างบาง  ยังคงนั่งนิ่งมองตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม  ใจชื้นขึ้นเยอะกำลังใจผมเริ่มมาแล้วขอแค่กัสฟังจนจบผมเชื่อว่ากัสจะเข้าใจ  ถ้าผมขอให้เรากลับมาคบกันอาจถึงขั้นยอมคืนดีด้วยก็ได้  ผมขยับตัวร่นระยะทางระหว่างเราแต่ก็ยังเว้นช่องว่างไว้อยู่

“จนได้เวลากลับ  คืนนั้นวินกลับเร็วกว่าปกติ  เพราะวันรุ่งขึ้นมีเรียนเช้าและเย็นต้องไปรับกัส  จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำและเคลียร์บิล  กลับมาที่โต๊ะตามหาไอ้ฟินมารู้จากแนทว่ากลับไปกับเพื่อนแนทที่มานั่งด้วยกันก่อนแล้ว  แนทคะยั้นคะยอให้วินดื่มเครื่องดื่มที่เหลือ  วินไม่คิดอะไรมากก็ดื่มๆไปจะได้รีบกลับห้องซะทีและอีกอย่างแนทก็เป็นเพื่อนจึงไว้ใจ  หลังดื่มหมดวินก็ลากลับจนเดินไปที่รถ  ตอนนั้นวินร้อนวูบวาบแปลกๆและเริ่มมึนหัว  หลังจากนั้นก็มารู้สึกตัวจริงๆก็ตอนที่ได้ยินเสียงกัสร้องไห้”

เล่าถึงตอนนี้ความเจ็บแล่นเข้ามาที่อกของผมเหมือนเมื่อครั้งที่เห็นคนตัวเล็กคนนี้ร้องไห้ในวันนั้น  ผมสังเกตเห็นแววตาด้านข้างของกัสไหววูบมีน้ำตาวาวแต่สักพักก็จางหายไป  อยากจะเอื้อมมือไปโอบกอดแต่ผมนั้นยังไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นกับกัสได้

“วินเจ็บมากนะกัสที่เห็นกัสร้องไห้เพราะวิน  วินมีอะไรกับคนอื่นจริง  แต่วินไม่เคยนอกใจกัสนะครับ”

น้ำตาของร่างบางไหลมาตามแก้มเป็นสาย  จากการสังเกตกัสพยายามสะกดกลั้นน้ำตาจนตาคู่สวยแดงก่ำ  ส่วนมือก็จิกเกร็งลงไปที่หน้าขาของตัวเอง  ทำให้ผมอดใจไม่ได้ต้องเอื้อมมือคว้ามือนุ่มทั้งสองมากอบกุมไว้ไม่ให้ร่างบางทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว  ใจจริงผมไม่อยากเห็นกัสต้องเจ็บปวดเพราะผมอีกเลย  ผมรู้ว่าการรื้อฟื้นอดีตที่เจ็บปวดจนอยากลืมก็เหมือนการกรีดเปิดแผลเพื่อเอาหนองในแผลออกมันเจ็บปวดมากแค่ไหน  แต่ถ้าไม่เอาหนองออกแผลก็ไม่หาย  ผมต้องการเอาหนองออกให้หมดเพื่อแผลนี้จะได้หายหลังเป็นแผลเรื้อรังมาเป็นปี  ในเมื่อผมเป็นคนทำให้เกิดแผลผมก็ต้องเป็นคนรักษามันด้วยตัวเอง  กัสที่โดนผมกุมมือไม่ได้สะบัดมืออกจากการเกาะกุม  มีเพียงน้ำตาที่ไหลรินไร้ซึ่งเสียงสะอื้นผมเห็นแล้วก็เจ็บปวดใจไม่แพ้กัสเลย  ผมใช้มือข้างหนึ่งจับปลายคางคนที่ผมยังรักไม่ลืมให้หันมาสบตากันพร้อมเช็ดคราบน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา

“วินนอกกายกัสแต่วินไม่เคยนอกใจซักครั้ง  ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม” ผมจ้องตากัสนิ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในสิ่งที่พูดไป  ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับจากร่างตรงหน้าแต่แววตาที่ผมเห็นนั้นส่งคำถามมาโดยที่กัสไม่ต้องพูดผมก็สามารถเข้าใจได้  ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมให้กัสที่ยังจ้องตาไม่มีหลบ

“วินโดนวางยาจากแนทครับ  วินเลยมีอะไรกับแนทไปโดยไม่เต็มใจ  จนกัสมาเห็นนั่นแหละวินถึงเพิ่งรู้สึกตัว  ตอนนั้นวินยังงงๆอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น  วินรู้ ครับว่าถึงวินไม่เต็มใจให้เกิดแต่มันก็เกิดขึ้นและทำร้ายใจกัสอย่างร้ายกาจ  หลังจากวินส่งกัสกลับแล้ว  วินโทรตามเพื่อนทุกคนในกลุ่มมาปรึกษาว่าจะทำยังไงต่อดี  กัสรู้มั้ยตอนนั้นวินรักและซึ้งใจในน้ำใจพวกมันมาก  ไอ้ปรัชตามเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพตอนที่แนทใส่ยาในแก้วเหล้ามาให้  ส่วนไอ้ฟินไปตามเพื่อนของแนทมาเป็นพยานว่าแนทมีแผนมอมยาวินจริงมาได้ด้วยนะ  ฮึๆๆๆ  แถมมนยังไปคาดคั้นความจริงจากปากแนทเองกับตัวด้วย  ตอนแรกเรื่องแนทนี่วินจะจัดการเอง  แต่มนบอกว่าถ้าวินทำเองจะเหมือนรังแกผู้หญิง  และอีกอย่างถ้าวินไปเองในตอนนั้นวินก็ไม่แน่ใจว่าจะอดใจไม่ทำร้ายแนทได้มั้ย  ส่วนไอ้ธีช่วยถ่ายภาพช่วงที่แนทโดนมนคาดคั้นแถมตัดต่อมาให้ยังกับละครเลย”

คิดถึงมาตรงนี้แล้วผมว่าผมโชคดีมากที่มีเพื่อนรักคอยอยู่เคียงข้างยามมีปัญหา  และอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยด้วย  ส่วนกัสก็น้ำตาหยุดไหลแล้วและจ้องผมตาแป๋วอย่างน่าเอ็นดู  ใจร่ำๆอยากจะกดจมูกเข้ากับแก้มแดงตรงหน้าแต่ต้องอดใจไว้และตั้งสมาธิเล่าต่อ

“ตอนนั้นวินอยากเอาหลักฐานทั้งหมดที่มีไปคุยกับกัสมาก  เพราะกว่าหลักฐานจะครบก็กินเวลาไปสองวันแล้ว  แต่กัสไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย  วินไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่  ถามจากเพื่อนกัสก็ไม่มีใครยอมบอกว่ากัสไปไหน  แถมโกรธวินแทนกัสมากเลยรู้มั้ย  หมอมิคแทบจะต่อยหน้าวินเลยตอนเจอกันน่ะ  และวินทายว่ากัสคงหนีกลับบ้านแต่วินไม่เคยไป  เลยไม่รู้ว่าจะตามไปที่ไหน” เล่ามาถึงตรงนี้ให้กลับมาอึดอัดใจเหมือนตอนนั้น  ผมที่ตามตัวคนรักไม่ได้อยากพูดอยากบอกแต่เจ้าตัวก็ไม่เปิดโอกาสให้เลย

“ตอนนั้นวินต้องเตรียมตัวไปฝึกงานและเคลียร์งานอีกมากแถมมีเรื่องกัสด้วย  ทำเอาวินแทบบ้าดีที่มีเพื่อนๆช่วยจึงผ่านมาได้  ไอ้ตอนนั้นที่ว่าแทบบ้าแล้วมาเจอจดหมายกับต่างหูที่วินเคยให้กัสไป  ที่เพื่อนกัสส่งมาคืนวินทำเอาวินไปไม่เป็นเลยนะเสียศูนย์ไปเลย  คิดเสียใจปนน้อยใจสารพัดที่กัสไม่ยอมฟังวิน อธิบายกลับบอกเลิกกันอีก  วินต้องไปฝึกงานต่างจังหวัดและยอมรับคำตัดสินจากกัสให้เราห่างกันจนวันนี้วินถึงได้มีโอกาสเจอกัสอีกครั้ง”

อาการเสียศูนย์ตอนนั้นของผมเกือบทำให้จบช้าเพราะผมเกือบไม่ได้ไปฝึกงาน
กับเพื่อนๆ  ด้วยงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ก็ทำไม่ทัน  ดีที่ไอ้ปรัชเพื่อนคนเก่งของผมลงมือช่วย  แถมได้ไอ้ธีไปขอร้องอาจารย์ให้ผ่อนผันให้ผมได้ส่งช้ากว่าคนอื่นมันอ้างเหตุว่าผมไม่สบายมาก  และอาจารย์คงเห็นใจเพราะผมนั้นรับผิดชอบเรื่องเรียนด้วยดีมาตลอดท่านจึงยอมผ่อนผันให้  เมื่อผมเล่าจบจึงหันมามองหน้ากัสที่เหมือนต้องการจะพูดอะไร  แต่เหมือนว่ากำลังหาคำพูดอยู่กัสจึงยังไม่พูดออกมาและแววตาก็เหมือนกำลังสับสนกับข้อมูลที่ได้รับรู้จากผม 

................................

กัส

หลังเกิดเหตุการณ์คืนนั้นเมื่อผมใช้สติคิดแล้ว  ผมตั้งใจว่าต้องคุยกับวินให้รู้เรื่องแต่ผมกลับได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้นที่อ้างว่าเป็นแฟนของวิน  และหลักฐานมันฟ้องทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นนำมา  เชื่อได้ว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริง  ผมจึงตัดสินใจบอกเลิกกับวินทันทีโดยส่งจดหมายบอกเลิกและส่งต่างหูข้างนั้นคืนแกเจ้าของเหมือนผมเป็นคนใจร้ายนะ  แต่ตอนนั้นผมเจ็บมากจริงๆเพราะเชื่อว่าตัวเองโดนหลอกจากคนที่คิดว่ารักกัน  จึงไม่อยากรับรู้อะไรแล้วอยากหนีไปจากความจริงที่เกิดขึ้น  พอดีว่าเป็นช่วงที่วินไม่อยู่มหาวิทยาลัยต้องไปฝึกงานสามเดือน  ส่วนผมที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยโดยไม่คิดจะติดต่อและหลบเลี่ยงวินทุกวิถีทาง  จนกระทั่งเรียนจบถึงเวลาที่ผมต้องออกมาใช้ชีวิตทำงาน  จึงเลือกโรงพยาบาลที่อยู่ต่างจังหวัดและทำงานที่นั่นจนถึงปัจจุบัน  สิ่งที่วินพูดมาทั้งหมดผมไม่อยากจะเชื่อแต่ท่าทางและแววตาที่ส่งมาให้นั้นมันจริงจังเกินกว่าจะคิดว่าคนๆนี้โกหกได้  เพราะทางผมก็มีหลักฐานจากผู้หญิงคนนั้นมายืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันซึ่งผมก็เห็นมันกับตามาแล้วด้วย

“วิน  กัสถามจริงๆนะวินไม่ได้โกหกกัสใช่มั้ยกับเรื่องที่พูดมาทั้งหมดนี่” หน้าคนโดนถามนิ่งดวงตาสบตรงมาที่ผมเขม็ง  และมีแววน้อยใจโผล่มาให้เห็นก่อนจางหายไป

“วินยืนยันในสิ่งที่พูดทั้งหมดว่าเป็นความจริง  ถ้ากัสอยากเห็นหลักฐานไปที่ห้องวินตอนนี้ได้เลยมันอยู่ที่นั่นทั้งหมด” น้ำเสียงมั่นคงไม่มีวี่แววว่าจะโกหก  ทำผมต้องหลบตาและระบายลมหายใจเพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียด  ด้วยไม่รู้จะเชื่อวินได้มั้ยเพราะตลอดหนึ่งปีความเจ็บปวดและสิ่งที่ได้รู้มันฝังอยู่ที่ใจมาตลอด

“เฮ้อออ  วินต้องเข้าใจนะว่าตอนนี้กัสไม่สามารถเชื่อใจวินได้เต็มร้อยถึงวินจะพูดมาแบบนี้  เพราะก่อนที่กัสจะส่งจดหมายกับต่างหูข้างนั้นไปคืนวิน  กัสก็มั่นใจว่าวินไม่ได้รักกัสจริงแค่มาหลอกกัน  ไม่ต้องทำหน้าบึ้งเลย” ผมต้องทำเสียงเข้มดุใส่คนตัวโตที่ทำหน้าตาบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินผมพูดว่าไม่ได้รักกันจริงและมาหลอกกัน

“ทำไมกัสคิดว่าวินไม่รักกัสและหลอกกัสล่ะ  ในเมื่อที่ผ่านมาตอนเราคบกันวินแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำให้กัสเห็น  กัสอย่าบอกนะว่าไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งนั้นเลย” วินพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อพร้อมกุมมือผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิม 

สิ่งที่วินพูดมาก็ถูกแต่ตอนนั้นผมที่หวั่นไหวง่ายอยู่แล้วกับความรักครั้งแรกที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง  พอมารู้ว่าสิ่งที่วินทำให้หรือแสดงออกมามันหลอกลวงจึงเสียใจและผิดหวังมากจนไม่คิดจะคุยกับวินอีก  ผมกลัว ‘กลัวที่เจ็บมากกว่านี้’ ถ้าได้ยินวินพูดออกมาเองว่าไม่ได้รักผมเลย  ผมสบตาวินนิ่งและเราคงต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องให้ได้เพราะเริ่มจับได้ถึงข้อมูลที่ไม่ตรงกันกับที่ผมรับรู้มาจากผู้หญิงคนนั้นที่อ้างว่าเป็นแฟนวิน

“วินเป็นแฟนกับแนทแล้วแอบมาจีบกัสเพราะเห็นเป็นของแปลกใช่มั้ย” หลังคำถามของผมวินที่กุมมือผมอยู่  ตาโตอย่างตกใจก่อนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยคงสงสัยกับข้อมูลที่ได้ยิน 

“กัสหมายความว่ายังไงและทำไมถึงถามแบบนี้  วินไม่เคยเป็นแฟนกับแนทเราเป็นเพื่อนกัน  แนทเคยมาบอกชอบวินแต่วิน ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากคบกับเพื่อนในคณะเดี๋ยวมีปัญหาถ้าเลิกกันทีหลัง  หลังจากนั้นแนทวางตัวเป็นเพื่อนมาตลอดไม่ได้เกินเลยกันกว่านั้น  มีก็แค่ทำงานคู่กันแต่ก็ทำที่คณะไม่เคยไปไหนกันสองคนเลย”

เมื่อวินพูดมาถึงตรงนี้ทำให้ผมย้อนกับไปนึกถึงภาพถ่ายที่เห็นวันนั้น  มันเป็นรูปคู่ที่สองคนใกล้ชิดกันแต่อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆหรือว่าวินโดนแอบถ่ายกันแน่

“ตอนนั้นวินมีกัสเป็นแฟนเท่านั้นครับ” วินกุมกระชับมือผมแน่นก่อนใช้สายตาแน่วแน่จ้องตาผม  เรื่องที่ได้รู้มาเริ่มสั่นคลอนดูเหมือนว่าผมมีแนวโน้มที่จะโดนหลอก  แต่ยังไงคงต้องเคลียร์กันทุกประเด็นผมจึงหยิบยกเรื่องต่างหูขึ้นมา

“เรื่องต่างหูวินได้ทำที่เหมือนกับของกัสไปให้แนทรึเปล่า” วินทำหน้างงพักเดียวก่อนเปลี่ยนเป็นตกใจตาเบิกกว้าง

“เอ๊ะ  กัสอย่าบอกนะว่าแนทมีต่างหูที่เหมือนกับของวินที่ให้กัสไปน่ะ” ผมพยักหน้ารับทันทีต่างหูที่เคยเห็นจากผู้หญิงคนนั้นมันเหมือนกับข้างที่ผมคืนให้กับเจ้าของตรงหน้านี้ไปแล้ว  ทั้งขนาดของต่างหู  ขนาดเม็ดเพชรหรือแม้แต่ตัว ‘W’ ยังเป็นตัวอักษรแบบเดียวกันเลย

“โธ่เอ๊ย!  วินนี่โง่มากที่โดนยัยนั่นย้อนมาทำร้ายแบบนี้  กัสรู้มั้ยต่างหูที่วินเคยให้กัสไป  วินทำมาคู่เดียวข้างหนึ่งมีตัว ‘W’ อีกข้างมีตัว ‘G’ ที่วินใส่คู่กับกัส   วินทำแค่นั้นแต่ที่กัสเห็นแนทคงไปทำเอง  เพราะร้านที่สั่งทำเป็นร้านที่แนทแนะนำวินน่ะครับ  ตอนนั้นวินกำลังคิดหาของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กัสอยู่  แนทเข้ามาคุยด้วยพอดีจึงรู้ว่าวินจะเตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์แฟน  จึงแนะนำร้านเครื่องประดับที่แนทเป็นลูกค้าอยู่มาให้  และคงแอบไปทำมาให้เหมือนกับข้างที่วินให้กัสไป”

สิ่งที่วินพูดออกมาทำให้ผมนิ่งงัน  ตอนนี้เหมือนว่าผมถูกปิดตาให้มืดบอดมองอะไรไม่เห็นมานาน  แต่อยู่ๆก็มีคนมาคลายผ้าผูกตาออกพลันแสงสว่างก็แยงเข้าตา  จึงต้องปิดตาลงอีกครั้งเพื่อปรับสายตาให้สามารถมองอะไรๆได้ชัดเจนดั่งเดิม  ทั้งหมดนี้หมายความว่าที่ผมต้องเลิกกับคนรักไปเพราะเป็นแผนการของผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นเพียงคนเดียวใช่มั้ย  เกิดความเงียบครอบคลุมเราทั้งคู่เมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่ในภวังค์ของตัวเอง  แต่เราคงคิดไม่ต่างกันที่ได้รู้ว่าความรักเมื่อหนึ่งปีก่อนนั้นต้องขาดลงเพราะยัยผู้หญิงคนนั้นที่วางแผนทั้งหมดขึ้นมา

“หลังจากกัสกลับจากห้องวินวันนั้นแล้ว  กัสก็คิดนะว่าเราต้องคุยกัน  แต่กัสได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้นให้ออกไปเจอ  บอกว่าเค้าเป็นแฟนของวินต้องการเคลียร์เรื่องของวินกับกัส” ผมพยายามเรียบเรียงความคิดเมื่อครั้งอดีตเล่าให้วินได้ฟัง

“ไปถึงเค้าบอกว่าเป็นแฟนกับวินอยู่แล้ว  แต่วินมาจีบกัสเพราะเห็นเป็นของแปลกแค่อยากลองดูเล่นๆ  ตอนนั้นกัสยังไม่เชื่อหรอกแต่เค้าเอารูปถ่ายที่มีวินกับตัวเค้ามาให้ดู  ในรูปวินดูสนิทและใกล้ชิดกับเค้ามากเกินเพื่อน  และรูปถ่ายที่กัสเห็นมันมีหลายสถานที่หลายสถานการณ์ด้วย  วินรู้มั้ยกัสเริ่มใจเสียเลยที่เห็นภาพวินกับผู้หญิงคนนั้นแต่ก็ยังแอบหวังว่ามันไม่จริง  ผู้หญิงคนนั้นจึงหยิบต่างหูข้างนั้นมาให้กัสดูเหมือนโลกถล่มเลยวิน  กัสคิดแต่ว่าวินหลอกกัสจริงๆมันเจ็บจนชา  กัสนั่งอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าผู้หญิงนั่นลุกไปเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ”

สายตาที่ผมได้สบด้วยมีแววโกรธขึงก่อนเปลี่ยนเป็นเสียใจและรู้สึกผิดในท้ายที่สุด  ผมดึงมือข้างหนึ่งออกมาจากการเกาะกุมและเอื้อมไปสัมผัสผิวหน้าด้านข้างของวิน  วินพลิกหน้ากลับมาที่ฝ่ามือของผมก่อนพรมจูบและหลับตานิ่งนาน  นี่ผมและวินเราเสียเวลาไปนานกับความเข้าใจผิดและจมอยู่กับความเสียใจ  สาเหตุมาจากผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นเพียงคนเดียวหรือนี่

“ช่วงที่เราห่างกันกัสรู้มั้ยครับว่าวินไม่เคยเลิกคิดถึงกัสได้เลย  วินน้อยใจที่กัสไม่ให้โอกาสวินอธิบายและเสียใจมากที่กัสตัดวิน ไปจากชีวิตได้ง่ายๆ  ไม่ติดต่อไม่ให้เห็นหน้าแถมหนีไปทำงานต่างจังหวัดทันทีที่จบอีก  วินรู้นะว่ากัสอยู่ที่ไหนแต่ความเสียใจและทิฐิในตอนนั้นทำให้วินไม่ไปหากัส  พอคิดจะไปก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรถ้าโดนกัสถามว่าทำไมเพิ่งมาหากัน  วินมันก็ไอ้คนขี้ขลาดดีๆนี่เอง” วินสบตาผมอย่างจริงจังขณะพูดก็มีแววน้อยใจและเสียใจออกมาให้เห็นเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว  จนผมอดจะรู้สึกเสียใจและเห็นใจไม่น้อยด้วยที่ไม่ยอมฟังวินอธิบายเลย

“ขนาดบอกว่าคิดถึงกัสแต่วินก็มีคนอื่น  อย่าบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริงนะ” ผมดึงมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายเมื่อพูดมาถึงประโยคนี้  แม้จะเห็นใจเสียใจแค่ไหนแต่เรื่องนี้เมื่อแรกรู้ผมก็อดน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน

“วินไม่เถียงครับว่ามีคนอื่น  แต่คนที่วินเลือกคบด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาเหมือนกัสมากรู้มั้ย  วินอาจจะเลวที่หาคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องมาแทนที่คนที่วินโหยหาให้มาคบด้วย  แต่กัสครับวินยอมรับนะว่าไม่ได้นึกรักคนนั้นเลยแค่อยากได้ใครซักคนที่เหมือนกัสมาอยู่เคียงข้างให้เหมือนว่าวินยังมีกัสอยู่  วินมันเลวจริงๆ”

วินเอื้อมมือมากุมมือผมอีกครั้งและยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าผมอย่างแผ่วเบาและโหยหา  เริ่มจากคิ้ว  จมูก  แก้ม  และอ้อยอิ่งลูบไล้แผ่วเบาอยู่ที่ริมฝีปาก  มาถึงตรงนี้ใจผมเต้นแรงมากกับสัมผัสที่ห่างหายไปนานแต่ยังจำได้ว่ารู้สึกดีขนาดไหนที่ได้ใกล้ชิดกับคนๆนี้

“และกรรมก็ตามทัน  ฮึๆๆ  วินโดนคนที่วินเลือกและไว้ใจให้อยู่เคียงข้างหักหลัง  เค้ามีคนอื่นตอนคบกับวินน่ะ  คืนนั้นที่วินเห็นเค้าบนเตียงกับผู้ชายคนอื่น  วินเศร้าเสียใจโกรธที่โดนทำอย่างนั้นจากคนที่เราไว้ใจแม้วินจะไม่ได้รักเค้าก็ตาม  หลังจากนั้นวินก็เข้าใจเค้านะมันหายโกรธไปเลย  เมื่อคิดถึงวันที่กัสมาเจอวินที่ห้องกับแนท  และรับรู้ได้ว่าเรารู้สึกไม่ต่างกันแต่กัสต้องเจ็บกว่าวินมากแน่ๆ  ส่วนคนอื่นนอกจากนี้ก็มีบ้างไม่ได้จริงจังอะไรครับ  วินมันก็ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่โดนกัสทิ้งไป  กัสจะให้โอกาส
วินอีกครั้งได้มั้ยครับ”

......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ทุกอย่างก็เคลียร์กันไป และต้องตามลุ้นในตอนหน้า
ว่าเมื่อวินขอกลับมาคบกับกัสอีกครั้ง กัสจะตกลงเลยมั้ย
และเตรียมตัวรับความหวานกันดีๆน้า  :laugh:

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 29-06-2012 07:52:27
^-^ เฮ้อออ ในที่สุดก็ได้ปรับความเข้าใจกันซักที
กัวจะได้รู้สักที่ว่าแนทอะไรนั้นไม่ใช่แฟนวิน แล้ววินก็ไม่ได้เห็นกัสเป็นของแปลกด้วย
ที่วินทำเพราะโดนวางยา กัสรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว หลังจากที่ทนทุกข์มา 1 ปีเต็ม
จะรอลุ้นตอนหน้าว่า กัีสจะทำยังไงต่อไป สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-06-2012 09:10:56
ปรับความเข้าใจแล้ว น่ารัก ดี กันนะจ๊ะ :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 29-06-2012 09:29:31
ในทีสุดก้อเข้าใจกันสักที  :sad4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-06-2012 10:08:24
กัสจะตอบตกลงมั้ยนะ??
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 29-06-2012 11:25:09
อืมจะให้ก็เดี๋ยวได้ใจอะ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

จะไม่ให้ตัวเองก็เสียใจเอาไงดีกัสจัง :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-06-2012 11:31:14
เคลียร์กันได้สักที :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 29-06-2012 12:17:02
เคลียกันได้และ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 29-06-2012 14:40:48

เคลียร์กันแล้ว จะได้หวานกัน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-06-2012 17:39:26
เวรกรรม เพราะผู้หญิงคนเดียวแท้ๆ   :m16:


แต่ทั้งคู่ก็เสียใจกันมามากพอแล้ว มีความสุขกันได้แล้วมั้ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 29-06-2012 17:55:27
 :เฮ้อ: เคลียร์กันได้ซะที
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 29-06-2012 18:08:40
เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว  :angry2:

แต่เรื่องทุกอย่างก็เคลียแล้ว รอตอนหวานๆนะค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่14 (29/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 29-06-2012 21:44:51
สนับสนุนให้"ผู้ชาย"รักกัน  ฮ่าๆๆ  รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-06-2012 05:52:34
ตอนที่ 15

วิน

“......................กัสจะให้โอกาสวินอีกครั้งได้มั้ยครับ” ผมคว้ามือร่างบางตรงหน้ามากุมไว้พร้อมสบแววตาหวั่นไหวของกัส  หวังให้คนที่ผมยังรักไม่เปลี่ยนแปลงตอบตกลงกลับมาคบกัน  และหวังอยากจะกลับมารักกันโดยมีกัสคอยเคียงข้างเหมือนเคย  แต่ยังไม่ทันที่กัสจะได้ตอบอะไรก็มีเสียงโวยวายดังขึ้น  ทำเอาทั้งผมและกัสต้องหันไปมองอย่างตกใจ

“เย้ / ยินดีด้วยไอ้วิน / ดีใจด้วยที่กลับมาดีกันแล้ว” ผมไม่เคยคิดอยากจะตัดไอ้เพื่อนกลุ่มนี้มากเท่านี้มาก่อนเลย  ดูสิพวกมันโผล่มาโวยวายตอนที่กัสกำลังจะเอ่ยปากตกลงกลับมาคบกับผมแล้วเชียว  แถมตอนนี้ร่างตรงหน้าทำหน้าตกใจตาโตและดึงมือออกจากการเกาะกุมของผมด้วย  ถ้าผมจะทำร้ายเพื่อนตัวเองตอนนี้คงไม่ผิดมากใช่มั้ยครับ  ผมหันขวับไปมองเพื่อนตัวแสบส่งสายตาคาดโทษก่อนชี้นิ้วใส่หน้าพวกมันรายตัว

“อย่าอยู่เลยพวกมึง!” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เคยนั่งอยู่และไล่เตะเพื่อนสนิทตัวเอง  แต่พวกมันก็ไม่ได้ยืนนิ่งให้ผมได้ทำร้ายง่ายๆ  แถมยังไปแอบด้านหลังของคนที่ผมรักอีก  ผมถลึงตาใส่พวกมันแต่ไม่มีใครนึกกลัวกลับหัวเราะลั่นแววตาเยาะเย้ยอย่างน่าเตะ

“ฮ่าๆๆๆ  แน่จริงมึงเข้ามาสิ  หมอกัสช่วยพวกเราด้วยน้า” ไอ้หนุ่มหน้าตี๋มันเอามือวางบนไหล่ของกัสพร้อมเอ่ยปากฉอเลาะได้อย่างน่าหมั่นไส้  ผมรีบเดินเข้าใกล้กัสก่อนโอบเอวบางเข้าหาตัว

“พวกมึงไปไกลๆเลย  มึง  ไอ้ตี๋แสบใครอนุญาตให้แตะต้องกัสวะ” ผมไล่พวกมันไปไกลๆจากคนของผม  ยิ่งไอ้ธียิ่งไม่น่าไว้ใจไม่รู้มันคิดเกินเลยกับกัสของผมบ้างมั้ย  แต่ด้วยสายตาและท่าทางโอบประคองของผม  คงทำให้พวกมันหมั่นไส้ไม่น้อยวัดได้จากเสียงสรรเสริญที่ดังขึ้น

“ฮิ้ววววว  ไอ้วินมึงหลอกแต๊ะอั๋งหมอกัสนี่” ไอ้ตี๋ปากมากมึงจะพูดทำไมดูสิกวางน้อยเริ่มรู้ตัวซะแล้วว่าโดนผมโอบเอวอยู่  ผมจึงกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเพราะกัสทำท่าจะขืนตัวออก  ก่อนหันไปโวยวายใส่บรรดาเพื่อนสนิทที่ยืนยิ้มหน้าบานอยู่รอบตัวเรา

“พูดมาก  นี่คนของกู  กูมีสิทธิ์โว้ย” ใบหน้าขาวใสของกัสขึ้นสีระเรื่อทันตา ‘น่าฟัดเป็นบ้า’ ผมได้แต่คิดแต่ยังไม่กล้าทำขนาดนั้นหรอกครับ  ที่ทำคือส่งยิ้มออดอ้อนเอาใจคนน่ารักเท่านั้น

“นี่  กัสไม่ใช่คนของวินนะ  กัสยังไม่ตกลงหรอก  ชิ” เสียงหวานที่ดังขึ้นจากคนในอ้อมกอดทำผมเหวอไปเลย  ‘กัสที่รักหมายความว่าไงเนี่ย’ ผมที่ยังเอ๋ออยู่ต้องตกใจกับเสียงที่ดังขึ้น  และคว้าตัวกัสไว้ไม่ทันเมื่อมีแรงมากระชากร่างบางออกจากอ้อมแขน ‘เหตุการณ์นี้มันคุ้นๆมั้ยครับ’
 
“ใช่  ปล่อยเลยนายวินนายยังไม่มีสิทธิ์มาตู่แบบนี้กับเพื่อนเรานะ” หมอมิคหนุ่มตัวเล็กที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนมาดึงคนของผมออกไป  พร้อมประโยคกีดกันและแววตาเจ้าเล่ห์มาก  นี่หมายความว่างานนี้ผมต้องเริ่มจีบคนที่ผมรักใหม่ใช่มั้ยเนี่ย

“วินห้ามมาถึงเนื้อถึงตัวกับกัสของมายแบบนี้อีกนะ  จนกว่าจะจีบกัสติดและกัสยอมคบด้วยน่ะ” หมอมายสาวตัวเล็กเข้าโอบกอดคนของผมไว้ทั้งตัว  แถมประโยคที่ทำเอาผมเหวอหนักกว่าเดิม

คนที่โดนเพื่อนปกป้องยิ้มแก้มปริมองตรงมาที่ผมหน้าแดงปลั่งอย่างน่ารัก  ผมเห็นแบบนี้แล้วอยากกอดอยากหอมแก้มแดงระเรื่อและเอากัสกลับมาเป็นของตัวเองเร็วๆ  งานนี้ผมไม่ถอยแน่เมื่อได้เคลียร์เหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องเลิกกันเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ได้มาคุยปรับความเข้าใจกันทำให้เสียเวลาไปนานแล้ว  ทั้งๆที่ถ้าช่วงเวลาที่เราห่างกันนั้นจะสามารถสร้างความทรงจำดีๆระหว่างกันมากมาย  ต่อจากนี้ผมจะเริ่มเวลาของเราขึ้นมาใหม่และจะมีแต่ความทรงจำที่ดีๆระหว่างเราเท่านั้น  ผมขอสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่มีวันปล่อยมือกัสไปอีกแน่

“วิน  มึงต้องจีบหมอกัสใหม่แล้วว่ะ  ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ฟินพูดไปตบบ่าผมไปแถมหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก  ไอ้นี่มันเป็นเพื่อนของผมจริงๆรึเปล่าเนี่ยแทนที่จะเห็นใจกันกับสะใจซะได้ 

“แน่นอนอยู่แล้ว  และคราวนี้วินจะไม่ปล่อยกัสให้หนีไปจากชีวิตวินอีกแน่”

ประโยคแรกผมตอบเพื่อนตัวเองแต่ประโยคหลังจงใจพูดและส่งสายตาแน่วแน่ไปให้คนที่รักได้มั่นใจว่าผมเอาจริง  ใบหน้าที่ผมจ้องอยู่พลันแดงกว่าเดิมก่อนกัสจะหลบตา  แต่ผมก็ยังเห็นรอยยิ้มเขินอายบนหน้าคนหน้าหวาน  พาให้ผมมีกำลังใจเดินหน้าจีบกัสอีกครั้งเพราะรู้ว่าผลลัพธ์นั้นแสนคุ้มค่าแค่ไหน  ที่จะได้กัสกลับมาเคียงข้างตัวข้างใจกันอีกครั้ง  แม้กัสจะยังไม่ได้ตกลงกลับมาคบกันแต่ก็เป็นโอกาสที่ผมเฝ้ารอจากกัสมาตลอด  วันนี้เมื่อปีก่อนมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายเกิดกับเราทั้งคู่ทำให้ต่างฝ่ายต่างเจ็บปวดและต้องห่างกัน  แต่วันเดียวกันนี้ตอนนี้ความสุขกำลังคืนกลับมา  และผมจะเป็นคนปัดเป่าสิ่งเลวร้ายที่ยังอยู่ในใจกัสให้หมดไป  แม้ต้องใช้เวลาแต่ผมก็สามารถให้เวลาทั้งหมดที่ผมมีกับกัสได้

...............................

กัส

“แน่นอนอยู่แล้ว  และคราวนี้วินจะไม่ปล่อยกัสให้หนีไปจากชีวิตวินอีกแน่” ประโยคนี้มีอิทธิพลกับผมเหลือเกินจนใจผมเต้นรัวเลือดสูบฉีดแรง  และเชื่อว่าใบหน้าของผมคงเห่อแดงทั้งหน้าแน่ๆ  ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนตอนที่ผมเจอวินครั้งแรกเลย  เป็นอาการของคนตกหลุมรักอีกครั้งกับคนๆเดิม 

จากเมื่อเช้าโลกของผมมันหม่นหมองมองไปทางไหนก็เป็นสีเทาไปหมด  แต่ตอนนี้เวลานี้มันเปลี่ยนไปแล้วโลกกลายเป็นสีชมพูสดใสมองไปทางไหนก็มีความสุข  ไม่น่าเชื่อว่าตลอดหนึ่งปีที่เราห่างกันมันเป็นเพราะผมเองที่ไม่ยอมฟังสิ่งที่วินอยากพูดอยากบอก  แต่ตอนนั้นผมก็เจ็บจนไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น  ทำให้เราสองคนต้องเสียเวลาไปมากและผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้โอกาสคนที่ผมไม่เคยลืมคนนี้  ‘วิน’ คนที่ยังอยู่ในใจของผม  และที่สำคัญที่สุดคือผมให้โอกาสตัวเอง  โอกาสที่จะให้ตัวเองกลับมามีความสุขอีกครั้งกับคนที่ไม่ลืมคนนี้

“มายว่าพวกเรากลับไปในงานดีกว่าค่ะ  หายกันมานานแล้ว”

“ดีค่ะมาย  คืนนี้พวกเราจะขอฉลองการคืนดีของวินกับกัส  และฉลองวันเกิดมายพร้อมกันเลย”

สองสาวต่างสไตล์สนทนาเชิงชักชวนทุกคนกลับไปในงาน  ผมโดนสาวมายจับจูงและอีกข้างถูกประกบด้วยมิคเพื่อนหนุ่มน่ารักพาเดินกลับไปยังส่วนบริเวณงานจัดเลี้ยง  ผมรับรู้ได้ว่าวินเดินตามมาไม่ห่างรู้สึกถึงการจับจ้องที่ด้านหลังของตัวเอง  ทำให้ผมนึกถึงประโยคที่วินพูดไว้ว่าจะไม่ปล่อยผมไปไหนอีก  ผมสุขใจจนต้องแอบอมยิ้ม ‘ดีจังที่มีคนที่รักอยู่เคียงข้างแบบนี้’  ซึ่งผมก็สัญญากับตัวเองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราที่เริ่มใหม่นี้  ผมจะรักษาและดูแลมันอย่างดีไม่ให้ใครมาทำลายได้ง่ายๆอีก  จะค่อยเป็นค่อยไปสร้างรากฐานของความรักให้มั่นคงและสร้างความไว้ใจระหว่างกันให้มากๆ

“ผมนายธีขอเป็นตัวแทนอวยพรวันเกิด  ขอให้หมอมายมีความสุขมากๆ  และยินดีกับนายวินเพื่อนรักที่หมอกัสให้โอกาส ‘จีบ’ อีกครั้ง  ฮ่าๆๆ”

“ขอบคุณค่ะ / เอ่อขอบใจว่ะครับคุณเพื่อนธี” มายและวินเอ่ยหลังได้รับคำอวยพรและคำยินดีจากหนุ่มตี๋อารมณ์ดี  ผมที่ถูกดึงเข้าไปร่วมในคำอวยพรของธีก็อดจะกระดากอายไม่ได้  ยิ่งเจอสายตาพราวระยับของคนที่นั่งตรงข้ามยิ่งแล้วใหญ่  ให้ผมต้องหลบตาพัลวันหน้าแทบไหม้กับสายตาล้อเลียนของเพื่อนๆรอบตัว 

พวกเรากลับมาที่งานและนั่งโต๊ะร่วมกัน  แขกในงานกลับกันไปมากแล้วเหลือแต่ญาติสนิทของมายไม่กี่คน  และที่นั่งกันอยู่นี้ก็เหลือแค่ไม่กี่โต๊ะแล้ว  บนโต๊ะมีอาหารว่างเอาไว้ทานเล่นพร้อมเครื่องดื่มซึ่งแม้พวกเราจะกินเท่าไหร่ก็คงไม่เป็นปัญหาเพราะไร้แอลกอฮอล์ทั้งสิ้น 

“นี่นายวินอย่าว่าเราทำให้เสียบรรยากาศเลยนะ  แต่ขอถามหน่อยเถอะก่อนที่นายจะกลับมายุ่งกับกัสอีกน่ะ” อยู่ๆมิคที่นั่งข้างผมก็โพล่งออกมาและจากประโยคคำถามก็ทำผมสงสัยไม่ได้ว่ามิคจะถามอะไร  วินเหลือบมองผมและส่งยิ้มให้กำลังใจมาให้  และเบือนหน้าไปทางคนถามก่อนเอ่ยปาก

“เรื่องอะไรครับมิคถามได้เลย”

“เรื่องยัยแนทผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นน่ะ  ยัยนั่นวางแผนยังไงแล้วนายจัดการอะไรกับยัยนั่นบ้าง”

คำถามที่เพื่อนสนิทผมถามทำเอาบรรยากาศเฮฮาเมื่อครู่เงียบลง  มันเป็นคำถามที่ผมก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน  ผมจึงสบตากับวินเพื่อรอฟังคำตอบที่จะออกมาจากปากอย่างรอคอย  เพราะถึงผมจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของแนทแต่เหตุการณ์ตอนนั้นที่เกิดมันลงล็อคไปหมดทำเอาผมเชื่อสนิทใจและไม่คิดจะฟังคำจากคนรัก

“แนทเป็นคนวางยาในเหล้าตอนที่วินไปที่ผับในคืนนั้นอาศัยจังหวะที่วินกับฟินลุกออกจากโต๊ะ  มีภาพจากกล้องวงจรปิดในผับยืนยันได้  และคืนนั้นแนทเป็นคนขับรถวินไปที่ห้อง  วินมามีสติเต็มที่ตอนที่กัสมาเจอ” วินหยุดเล่าและจับจ้องมาทางผมอย่างสังเกตคงกลัวว่าผมจะคิดมาก

“ยัยแนทโทรมานัดกัสออกไปและเอารูปของนายกับยัยนั่นตอนสวีทกันมาโชว์  และมีต่างหูข้างนั้นที่เหมือนกับที่นายให้กัสด้วยมันมายังไง” มิคยังคงซักถึงสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“วินไม่เห็นรูปพวกนั้นที่กัสได้เห็นนะครับมิค  แต่วินยืนยันว่าไม่เคยใกล้ชิดกับแนทเกินเพื่อนจริงๆ” แม้วินจะตอบมิคแต่สายตาจริงจังกลับถูกส่งมาให้ผมแทน

“อืม  ประเด็นนี้พวกเรายืนยันได้ / ใช่  ไอ้วินไม่เคยกิ๊กกับแนทจริงๆ / รูปแอบถ่ายสร้างขึ้นได้ให้ดูเหมือนทั้ง 2 คนใกล้ชิดเกินเพื่อนได้นะ” คำถามที่มิคถามเป็นสิ่งที่ผมรู้จากวินแล้วและพอมีเพื่อนๆของวินยืนยันยิ่งทำให้ผมมั่นใจในตัววินมากขึ้น

“ส่วนเรื่องต่างหูแนทคงไปจ้างทำที่ร้านเดียวกับวิน  เพราะร้านนั้นเป็นร้านที่แนทแนะนำให้ครับ” วินคลี่ยิ้มส่งให้ผมเมื่อเห็นว่าผมจ้องวินตาแป๋วอยู่  จนผมต้องเสหลบตามามองมิคที่นั่งข้างๆแทน

“ยัยนี้มันร้ายมากโดนไปแค่นั้นมันยังน้อยไป  มันน่านักกูเตือนพวกมึงแล้ว  เฮ้อ” มนพูดเสียงเครียดใส่หน้าวินและไล่สายตาไปที่เพื่อนสนิทรายคน  ผมจึงได้รู้ว่ามนคงไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นมาแต่แรก  และเคยเตือนเพื่อนตัวเองไว้แล้วด้วยแต่ไม่มีใครคิดระวังตัว

“แหม  มนครับ  แค่นั้นก็ไม่น้อยนะนั่น  และต่อไปถ้ามนเตือนอะไร  ธีเชื่อว่าคราวนี้ทุกคนเชื่อแน่ๆ”

“เออ  ทำให้ได้ยังที่พูดนะพวกมึง”

“ฮ่าๆๆๆ / ฮิๆๆๆ” มิคคงพอใจในคำตอบของวินเพราะไม่ได้เอ่ยถามต่อ  แถมยังหัวเราะคิกคักตามบทสนทนาหยอกล้อของเพื่อนๆวินอีกด้วย  จึงทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง

“ที่ว่าจัดการยัยแนทนั่นไปไม่น้อยคืออะไรล่ะ” มิคคงยังติดใจเรื่องผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นว่าโดนจัดการอะไรไปบ้างจึงเอ่ยถามออกมาและมันก็ตรงใจผมด้วย

“เรื่องนี้ให้คนจัดการเค้าเล่าเองดีกว่านะครับ  เชิญครับมน” ฟินเอ่ยกระเซ้าเพื่อนสาวเท่จึงได้รับค้อนวงโตอันเป็นกิริยาที่ยากจะได้เห็นจากมน  และผมก็อดจะอมยิ้มไม่ได้ก่อนเหลือบตาไปทางวินแบบไม่ตั้งใจ  นายนี่ก็ขยันส่งตาหวานมาให้อยู่ได้  แล้วทำไมผมต้องเขินกับสายตาคู่นี้ทุกทีด้วยนะ

“มนไม่เคยถูกชะตากับแนทเลยตั้งแต่เจอครั้งแรกๆแล้ว  เตือนไอ้พวกนี้ก็ไม่เคยเชื่อ  แล้วเป็นไงก่อเรื่องจนได้  เฮ้อ  ไอ้ที่ทำไปก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมายหรอก  เพราะถ้าปล่อยไอ้วินไปจัดการเองในตอนนั้นยัยนั่นคงโดนหนักกว่านี้  คนอื่นก็จะว่ามันได้ว่ารังแกผู้หญิงเพราะงั้นมนจึงต้องลงมือเอง  ก็แค่ไปขู่นิดหน่อยให้สารภาพทั้งหมดที่ไปมอมยาไอ้วินไว้  พร้อมถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน” มนกอดอกนั่งหลังพิงพนักด้วยท่วงท่าสบายๆและเล่าไปเรื่อยๆ  ในสายตาของผมมนเป็นสาวเท่ที่มีเสน่ห์มากเลยครับ

“ที่ว่าขู่นี่มนคงไม่ได้ทำร้ายร่างกายแนทไปใช่มั้ยจ๊ะ” มายตาโตแววตาตกใจปิดไม่มิดคงเพราะจินตนาการไปไกลแล้วแน่ๆ

“ไม่หรอกค่ะหมอมาย  ก็แค่เอาคลิปที่ยัยนั่นกำลังมีอะไรกับผู้ชายไปขู่  ถ้าไม่บอกมนก็จะเอาไปปล่อยน่ะ  คลิปพวกนั้นได้มาจากคู่นอนยัยนั่นที่เป็นลูกของเพื่อนพ่อของมนเอง”

“โฮ้  สุดยอด” ได้ยินคำตอบของมนทำเอาผมและเพื่อนๆอึ้ง  และแอบเกรงในความฉลาดของสาวเท่คนนี้ไม่ได้

“นายวินนายนี่โชคดีที่มีเพื่อนแบบนี้นะ” มิคเอ่ยชื่นชมวินที่มีเพื่อนๆคอยช่วยและหวังดีกับวินอยู่ข้างๆ 

ผมก็คิดไม่ต่างกันจึงส่งยิ้มให้กับเพื่อนทุกคนของวิน  ผมนับถือน้ำใจคนพวกนี้มากเลยที่ไม่ทิ้งเพื่อนยามเพื่อนเดือดร้อน  จนผมได้สบตาหวานคู่เดิมที่ไม่เคยละไปจากใบหน้าผมเลย  ก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆให้เจ้าของได้ชื่นใจบ้าง  ทันได้เห็นวินยิ้มค้างตาโตจ้องผมเขม็งจนต้องกลั้นขำกับท่าทางตลกๆของวิน  หลังจากนั้นเราก็เลิกสนใจเรื่องของเหตุการณ์วันนั้น  ส่วนผมเองก็ขอลืมอดีตที่ทำให้ผมและวินเจ็บปวดไปให้หมด  ด้วยตอนนี้ผมเชื่อว่าวินพร้อมที่จะกลับมาอยู่เคียงข้างกันแล้ว  และก่อนที่วินจะกลับบ้านได้ทิ้งประโยคหนึ่งไว้พร้อมความอุ่นวาบที่แก้มทำเอาผมนอนไม่หลับเหมือนกับคืนแรกที่ได้เจอวิน

“วินสัญญาว่าจะไม่ปล่อยกัสห่างสายตาวินอีกเลยครับ”

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

เอาล่ะสิงานนี้ในเมื่อนายวินมุ่งมั่นซะขนาดนั้น(มีสัญญาด้วย)
ไม่ให้กัสห่างสายตา  เชื่อเถอะว่ามันจะเป็นไปตามนั้น  :laugh:
ความหวานได้มาเยืยนคุณแล้วค่ะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ  :pig4: และ  :กอด1: รวบทุกการสนับสนุนค่ะ

ปล.วันนี้เดินทางท่องเที่ยวไม่รู้พรุ่งนี้จะอัพได้มั้ย ถ้าเอื้ออำนวยไม่พลาดจะลงให้ค่ะ  :3123:

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0


เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 30-06-2012 06:09:58
ู^-^ ในที่สุดก็กลับมาแฮปปี้เหมือนเดิมแล้ว
หวังว่าจะไม่มีอะไรมาำให้คู่นี้แตกกันอีก สนุกมากๆ
มนเท่ขาดใจไปเลย เฉียบขาดมากขอบอก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 30-06-2012 06:36:34
 o13 o13 น่ารักมากเลย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-06-2012 07:08:05
ทำให้ได้ตามสัญญาด้วยนะวิน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 30-06-2012 07:56:59
เพื่อนสาวผู้น่ารัก

รักน้อง มน :L2:

 :call:
 
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-06-2012 08:08:34
รอจ้ารอ :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-06-2012 11:13:53
เที่ยวให้สนุกน๊า
เดินทางปลอดภัยจ้า :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-06-2012 11:37:39
รอความหวานของทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 30-06-2012 11:42:43
อ่านกี่รอบก็ยังสนุก o13

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 30-06-2012 12:04:55
รอความหวานของทั้งคู่ในตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 30-06-2012 13:37:14
ดีใจด้วยน่ะวิน :mc4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-06-2012 14:56:21
ได้คืนดีกันแล้ว วินต้องทำตัวดีๆหน่อยนะคราวนี้
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-06-2012 16:07:27
รอจ้ารอ :)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 30-06-2012 16:19:38
เย้ๆๆ คืนดีกันแล้ว  :mc4: :mc4:

ปล.+1+เป็ดให้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 30-06-2012 16:38:44

ดีกันแล้วความหวานกำลังจะมา
เพื่อนมนยอดมาก
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 30-06-2012 17:41:28
ในทีสุดก้อคืนดีกันวินต้องเริ่มจีบหมอกัสใหม่อีกที :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 30-06-2012 18:09:11
น่ารักอ่ะ  อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 30-06-2012 20:48:51
อีแนทไม่เห็นโดนอะไรเลยแค่ขู่สารภาพมันสะใจตรงไหนอ่ะเห็นพูดซะยังกะโดนหนักที่แท้ไม่โดนอะไรเลย แล้วสงสัยอ่ะค่ะที่ว่าฉบับปรับปรุงมันปรับอะไรคะปรับคำผิดเหรอ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-06-2012 21:22:13
อีแนทไม่เห็นโดนอะไรเลยแค่ขู่สารภาพมันสะใจตรงไหนอ่ะเห็นพูดซะยังกะโดนหนักที่แท้ไม่โดนอะไรเลย แล้วสงสัยอ่ะค่ะที่ว่าฉบับปรับปรุงมันปรับอะไรคะปรับคำผิดเหรอ


ขอชี้แจงนะคะ^^

แนทแค่โดนขู่เพื่อให้พูดความจริงค่ะ  และถ่ายคลิปไว้เพื่อเอามาเป็น
หลักฐานยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนที่แนทจัดขึ้น  แต่ไม่ได้โดนทำร้ายอะไรจริงๆนั่นแหละค่ะ  อาจจะไม่ได้ความสะใจเมื่อได้อ่าน เพราะในมุมมองที่แต่งไม่ได้ต้องการเอาคืนแนทมากอะไรซึ่งดูไม่สมจริงนัก  แค่อยากชี้แจงรายละเอียดให้ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่า  ร่วมกับว่าเรื่องนี้แต่งเป็นเรื่องแรกด้วยอาจจะมองไม่รอบด้านนักค่ะ ต้องขออภัย 

ส่วนเรื่องการปรับปรุงนั้นเป็นการปรับเรื่องภาษาในการบรรยายและอารมณ์ตัวละครรวมคำผิดด้วยค่ะ ซึ่งจะปรับปรุงในช่วงแรกๆมากหน่อย(เพราะมันอ่อนด้อยนัก)ส่วนตอนหลังๆนั้นเกลาให้มันกลมกลืนขึ้นเท่านั้นค่ะ  แต่เรื่องบทสนทนาและการดำเนินเรื่องไม่ได้ปรับค่ะ

ที่นำฉบับปรับปรุงมาให้อ่านเพราะเป็นฉบับที่จะรวมเล่มก็อยากให้คนที่เคยติดตามหรือมาอ่านใหม่ได้อ่านอะไรที่มันดีขึ้นกว่าฉบับแรกค่ะ อยากแบ่งปันสิ่งที่เราคิดว่าดีกว่าให้ได้อ่านกันค่ะ^^

ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ มีข้อสงสัยถามได้นะคะยินดีชี้แจงจ้า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่15 (30/6/55)P.6 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 30-06-2012 21:43:19
จบแบบมีความสุขอิอิ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-07-2012 07:08:13
ตอนที่ 16

วิน

วันนี้อากาศแจ่มใสมากยิ่งใจของผมที่นั่งรอคนตัวเล็กอยู่บริเวณโซฟารับแขกตัวนุ่มนั้น  หัวใจมันเบ่งบานอยากพบหน้าคนที่ตัวเองโหยหาเร็วๆ  ผมได้แต่ชะเง้อคอว่าเมื่อไหร่กัสจะออกมา  เมื่อคืนก็นอนไม่หลับอยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆเพื่อจะได้มานั่งรออยู่ตรงนี้

‘วินสัญญาว่าจะไม่ปล่อยกัสห่างสายตาวินอีกเลย’ ประโยคที่ผมพูดเมื่อคืนไม่ได้เกินจริงไปเลยมันมาจากใจล้วนๆ  ซึ่งผมสัญญากับตัวเองไว้แบบนั้นจริงๆ 

จุดที่สายตาผมจับจ้องอยู่นี้คือทางเข้าห้องรับแขก  ผมเฝ้ารอว่าร่างเล็กคนของหัวใจผมจะออกมาเมื่อไหร่  พลันก็ปรากฏหนุ่มน้อยตัวเล็กผิวขาวแก้มอมชมพูในชุดเสื้อยืดคอปกสีฟ้ากับกางเกงสีขาวพอดีตัวกำลังเดินตรงมาทางผม  เราสบตากันผิวแก้มคนน่ารักก็ขึ้นสีเข้มทันตา  ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองส่งสายตาแบบไหนไปให้กัส  รู้แค่อยากจะกักเก็บคนน่ารักตรงหน้านี้ไว้กับตัวไม่ให้ไปไหน  ไกลตาด้วยไม่อยากให้ใครเห็นถึงความน่ารักที่กัสมีเหมือนที่ผมได้เห็น

“ทำไมวินมาเช้าจัง  ไม่เกรงใจคนที่บ้านมายเลยนะ” กัสเดินเข้ามานั่งโซฟาตัวที่ใกล้กับของผม  และแกล้งส่งเสียงดุแก้เขินทั้งๆที่แก้มยังแดงระเรื่อ

“วินคิดถึงกัสครับ  เมื่อคืนนอนไม่หลับพอเช้าก็รีบมาหากัสเลย” ผมเริ่ม ‘จีบ’ คนน่ารักด้วยประโยคธรรมดาแต่กลับเรียกสีที่แก้มใสให้เข้มขึ้นอีก  พร้อมด้วยอาการก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของกัส  จนผมอยากจะจับคนน่ารักมาฟัดแก้มสักที  ใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อยั่วตาค่อยๆชัดขึ้นๆสู่สายตาผม  จนกระทั่งเห็นเส้นเลือดฝาดใต้ผิวใสและกลิ่นหอมอ่อนๆที่ผมไม่เคยลืม

“ฟอดดดด!” เฮ้ย! ผมทำอะไรไปเนี่ย  แค่คิดว่าอยาก ‘ฟัดแก้ม’ คนน่ารัก  ผมก็ขยับตัวไปหอมแก้มกัสแบบไม่รู้ตัว  ทำเอาคนน่ารักทำหน้าเหวออ้าปากค้างยกมือกุมแก้มเลยทีเดียว  และใบหน้ากัสก็แดงจัดลามไปยังหูและคอขาวๆนั่นทันตา  แต่ไหนแต่ไรมาสำหรับกัสแล้วไม่รู้ผมเป็นอะไรมันเหมือนมีแรงดึงดูดให้ผมอยากเข้าใกล้มาตลอด  แม้ก่อนเจอกัสผมเคยเจอคนที่หน้าตาดีกว่ากัสมามาก  แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอยากเข้าใกล้อะไรก็แค่ชื่นชมในความหน้าตาดีเท่านั้น

“วินทานข้าวมารึยังคะ  มาทานด้วยกันมั้ย” เสียงชักชวนของสาวตัวเล็กผู้เป็นเจ้าของบ้านดังขึ้น  ทำให้ผมได้สติผละตัวออกจากใบหน้าหวานที่กลิ่นแก้มหอมยังติดจมูกอย่างเสียดาย  ก่อนหันไปมองหน้าหมอมายและหมอมิคที่มายืนด้านหลังของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  จึงส่งยิ้มเป็นทัพหน้าให้กับความหาญกล้าที่มาขโมยหอมแก้มเพื่อนรักของคนทั้งคู่เผื่อมายกับมิคจะเห็นใจผมบ้าง
 
“ขอบคุณครับมาย  งั้นวินไม่เกรงใจนะครับขอร่วมโต๊ะด้วยคน” พูดจบผมลุกขึ้นจูงมือกัสที่ยังก้มหน้าพยายามซ่อนใบหน้าแดงๆให้พ้นจากสายตาผม  กัสพยายามดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของผม  แต่ใครจะไปยอมกันนี่ดีแค่ไหนแล้วที่ผมแค่จับมือใจจริงอยากโอบประคองซะด้วยซ้ำครับ  ผมแอบมองไปที่เพื่อนทั้งสองคนของกัสที่ยืนนิ่งเหมือนอึ้งที่ผมกล้าถึงเนื้อถึงตัวกับกัส  แต่ในเมื่อเราเข้าใจกันดีแล้วผมก็ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีก  อยากจะใช้เวลาต่อจากนี้ชดเชยเวลาหนึ่งปีที่เสียไป

“วันนี้กัสไปเดินเที่ยวซื้อของที่ห้างใกล้ๆกับวินนะครับ” เมื่อพวกเรานั่งประจำที่โต๊ะอาหารแล้วผมก็เอ่ยปากชวนคนน่ารักออกเดทซะเลย  กัสเหลือบตาจากจานข้าวขึ้นมองผมอมยิ้มนิดๆก่อนเหลือบไปมองหน้ามิคกับมาย  ‘นี่คงหาตัวช่วยล่ะสิ’ แต่ผมไม่คิดจะปล่อยโอกาสที่จะอยู่กับกัสหรอกครับ  ถึงแม้จะมีเพื่อนสนิทของกัสไปด้วยก็ตาม ‘ผมยอม’ ขอแค่มีกัสอยู่เคียงข้างก็พอ

“แหม  ไม่คิดจะชวนมิคกับมายเดียร์เหรอนายวิน” มิคคิ้วขมวดมุ่นส่งเสียงประชดใส่  ผมต้องกลั้นขำให้กับความหวงเพื่อนของคนตัวเล็กตรงหน้า  ก่อนจะคลี่ยิ้มเอาใจส่งให้มิคและมายเพื่อนสนิทของคนที่ผมรัก

“มิคกับมายไปด้วยกันนะครับ” ผมเอ่ยชวนอย่างจริงใจ  เพราะถึงสองคนตัวเล็กจะไปด้วยก็ไม่ได้ทำให้ความสุขที่ผมมีระหว่างที่ได้ใกล้ชิดกัสลดลงเลย

“กัสยังไม่ได้ตอบว่าจะไปเลยนะวิน” เสียงค้านที่มาจากคนน่ารักของผมดังขึ้น  ทำให้ผมต้องหันกลับมามองกัสที่แกล้งทำหน้าบึ้งใส่ผม  แต่ปิดบังประกายตาพราวระยับไม่อยู่  เหมือนคนน่ารักเค้าถูกใจที่ได้แกล้งผมเล็กๆน้อยๆ

“ถึงกัสปฏิเสธวินก็จะลักพาตัวไปกับวินให้ได้  ฮึๆๆ” ผมหัวเราะให้กับคนน่ารักที่เรียกชื่อผมเสียงดังก่อนทำหน้าบึ้งอย่างขัดใจที่ถูกผมแกล้งกลับ

“มายกับมิคไม่ไปหรอกจ้ะไปกันสองคนเถอะ  คนไม่มีแฟนเค้าก็ต้องอยู่ด้วยกันสิจริงมั้ยกัส  แต่ต้องซื้อขนมมาฝากนะไม่งั้นไม่ยอมด้วย” มายหันไปหยอกเย้ากัสที่นั่งอยู่ข้างผมด้วยรอยยิ้มพราวสายตาล้อเลียน

“ฮิๆๆ  มายอ่ะ ใครเป็นแฟนกันไม่ใช่ซะหน่อยยังไม่ได้เป็นจริงมั้ยวิน” ผมแค่ส่งยิ้มให้กับกัสที่เลิกงอนแล้วหลังโดนเพื่อนสนิทแซว  แต่ผมไม่คิดจะรับคำด้วยไม่อยากขัดใจคนน่ารักอีก  เดี๋ยวจะโดนกัสงอนยาวแล้วจะแย่  และแอบหมายมั่นว่าถึงตอนนี้ไม่ใช่แฟนแต่เร็วๆนี้ตำแหน่งแฟนกัสนั้นผมไม่พลาดแน่

.................................

การมีคนที่รักเคียงข้างมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง  แม้ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองในวันหยุดคนจะเยอะเดินเข้าร้านไหนก็มีผู้คนพลุกพล่าน  แต่มันก็ไม่ได้ทำผมหงุดหงิดใจไปได้  การได้กุมมือกัสไว้แล้วเดินเคียงข้างกันช่วยกันดูของเหมือนอดีตที่เราเคยทำร่วมกัน  สามารถเรียกความสุขแบบเดิมๆกลับมาได้

“กัสครับดูเรื่องนี้มั้ยเป็นแนวที่กัสชอบเลย”

ผมชี้ชวนหนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เข้าโรงอยู่ตอนนี้  ชักชวนให้กัสเลือกแนวโปรดของตัวเอง  เมื่อกัสพยักหน้ารับผมจึงให้นั่งรอที่เก้าอี้ข้างจุดขายตั๋วไม่อยากให้ไปยืนต่อแถวคอยยิ่งวันหยุดคนยิ่งเยอะ  ส่วนผมรีบเดินไปต่อแถวซื้อตั๋วด้วยตัวเอง  ขณะที่ผมรอซื้อตั๋วอยู่ตาก็คอยหันไปมองกัสที่นั่งอยู่  คนของผมนั่งอ่านหนังสือที่เราเพิ่งไปซื้อมาด้วยกันไปพลางๆระหว่างรอ  สายตาผมไม่อยากจะเคลื่อนไปจากคนน่ารักเลย  และต้องแอบส่งสายตาพิฆาตไปให้ไอ้คนที่มานั่งเก้าอี้ข้างๆกัส  เหมือนมันพยายามจะชวนกัสคุยด้วย  ผมล่ะอยากจะเข้าไปดึงกัสออกมาแต่ถึงคิวพอดีจึงรีบหันไปเลือกที่นั่ง  เมื่อได้ตั๋วหนังแล้วผมเดินปรี่เข้าหาคนทั้งคู่ทันที

“กัสครับวินได้ตั๋วแล้ว  เราไปซื้อของทานเล่นก่อนเข้าโรงหนังกันครับ” ปากผมพูดกับกัสแต่ส่งสายตาพิฆาตส่งไปให้คนที่มานั่งข้างกัสแทน  ก่อนเอื้อมมือไปโอบเอวบางเข้าหาตัว   

ไอ้ผู้ชายใจกล้าไม่ดูตาม้าตาเรือริอาจเข้ามาจีบคนของผมมันเหลือบตาขึ้นมามอง  ผมถลึงตาจ้องหน้ามันเขม็งอย่างให้รู้กันไปว่าคนนี้น่ะของใคร  มันหน้าเจื่อนขึ้นทันตาพลางหลบสายตาผมพัลวัน  ให้ซะรู้บ้างว่า ‘คนนี้ของกู’  ผมพากัสเดินออกมาก่อนกัสจะเงยหน้าขึ้นมองตาผมพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้  คนน่ารักก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนจะเข้ามาจีบ  เฮ้อ  แบบนี้ยิ่งปล่อยให้ห่างสายตาไม่ได้ซะแล้ว

“กัสครับอย่าทำตัวน่ารักกว่านี้นะ  วินหวง  ดูสิไอ้นั่นจะจีบรู้ตัวรึเปล่า  หืม” ผมหันหน้าเข้าหาร่างบางระหว่างยืนเข้าแถวรอซื้อของ  และพูดประโยคนี้เพื่อให้คนตัวเล็กได้รู้ตัวพร้อมใช้หลังมือลูบแก้มเนียนแผ่วเบา 

กัสได้ฟังแล้วทำหน้าเหวอตาโตเผยอปากน้อยๆแก้มแดงขึ้นทันตา  ถ้าเราไม่อยู่ท่ามกลางผู้คนผมจับกัสฟัดแก้มไปแล้วนะเนี่ยข้อหาทำตัวน่ารักเกินเหตุ  เมื่อกัสรู้สึกตัวว่าเราใกล้ชิดกันเกินไปจึงหันหนีไปอีกด้าน  ซึ่งผมแอบเห็นใบหูเล็กๆตรงหน้าแดงระเรื่อไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทำคนน่ารักให้ได้อายซะแล้ว  แต่เรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาเห็นใบหน้าน่ารักน่าใคร่ที่ผมแสนหวงนี้กันผมจะขอเก็บไว้ดูคนเดียว  เพราะแค่กัสทำหน้านิ่งๆไม่ได้โชว์ยิ้มหวานยังมีคนมาสนใจกัสเลยนี่ครับ  ผมจึงจับไหล่บางทั้งสองข้างไว้ก่อนหมุนร่างบางกลับมาและเอาหน้ากัสซุกเข้าหาอกตัวเอง

“อื้อ  วินทำอะไร” กัสคงตกใจที่อยู่ๆผมก็ทำอะไรโจ่งแจ้ง  เจ้าของใบหน้าหวานตกใจตาโตผิวแก้มขึ้นสีระเรื่ออย่างเขินอายก่อนเงยขึ้นมามองกัน  ผมจึงก้มลงกระซิบข้างใบหูหอมเบาๆ

“ก็วินหวงไม่อยากให้ใครเห็นหน้ากัสตอนเขินนี่ครับ  ถ้าอายซุกหน้าไว้กับอกวินนะ” ระหว่างที่ผมกระซิบก็แอบสูดกลิ่นหอมข้างแก้มใสแผ่วเบาไม่ให้เจ้าของเค้าจับได้ว่าผมขโมยหอมแก้มแบบเนียนๆ  ‘ชื่นใจจัง’ 

ผมเงยหน้าขึ้นจากแก้มใสก็ได้สบตาเข้ากับคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลัง  เป็นกลุ่มหญิงสาววัยรุ่นที่ยืนอึ้งอ้าปากค้างไปตามๆกัน  สาวๆคงได้เห็นภาพสวีทเล็กๆของเราทั้งคู่เข้าผมจึงส่งยิ้มกว้างไปทักทาย  ไม่ว่าใครจะคิดยังไงผมไม่แคร์อยู่แล้ว  ขอแค่มีคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกผมก็พอแล้วครับ  เมื่อถึงคิวเข้าซื้อของเราก็ได้น้ำอัดลมสีแดงแก้วใหญ่และข้าวโพดคั่วรสหวานของโปรดกัสมาไว้ในมือ  กัสเลิกสนใจสิ่งรอบตัวหันมาสนใจของกินในมือแทน  หลังได้ของครบผมจึงกุมมือนุ่มไว้ก่อนหมุนตัวออก  จึงได้สบตากับกลุ่มสาวๆที่ต่อแถวด้านหลัง  พวกเธอต่างส่งยิ้มกว้างมาให้พร้อมยื่นลูกอมรูปหัวใจห่อใหญ่มาให้กัสด้วย  กัสทำหน้าเหวอมองสาวๆตาไม่กระพริบด้วยคงสงสัยว่าไม่ได้รู้จักกันมาก่อน  และไม่ได้รู้เลยว่าสาวๆกลุ่มนี้เค้าเห็นฉากสวีทเล็กๆของเราเข้าให้แล้ว

“หนูให้พวกพี่ค่ะ  พี่น่ารักมาก  พวกหนูเป็นกำลังใจให้นะคะ” กัสยื่นมือรับของมาอย่างงงๆแต่ก็ยังไม่ลืมขอบคุณ  ส่วนผมก็ระบายยิ้มและก้มหัวให้สาวๆเค้านิดหน่อยแทนคำขอบคุณ  ก่อนเราจะพากันเดินออกมารอบริเวณใกล้ประตูเข้าโรงหนัง

“วินรู้จักกับเด็กๆกลุ่มนั้นเหรอ” กัสที่ยังติดใจสาวๆกลุ่มนั้นอยู่จึงเอ่ยถามผมอย่างสงสัย  และหันไปมองกลุ่มเด็กสาวที่เพิ่งจากมา  โดยที่สาวๆพวกนั้นยังมองตรงมาที่คู่ของเราอยู่พร้อมโบกมือให้ด้วย 

“ไม่รู้จักครับ” หลังคำตอบของผมกัสหน้าเหวอสะบัดหน้ามาจ้องผมอย่างสงสัยหนักกว่าเดิม  ‘คนน่ารักนี่  ทำอะไรก็ยังดูน่ารักไม่เปลี่ยนจริงๆ’ ดูท่าผมคงเป็นเอามากนะครับ  หลงคนน่ารักไม่ลืมหูลืมตาเลย

“อ้าว  แล้วเค้าให้เราทำไมอ่ะ”

“คงเห็นคู่เรารักกันดีมั้งเลยอยากเป็นกำลังใจให้” ผมคลี่ยิ้มหวานใส่ตาคนน่ารักหลังตอบข้อสงสัยแล้ว

กัสเปลี่ยนจากงุนงงเป็นเขินอายแทนหลังมีสีหน้าครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผมพูด  และไม่หันกลับไปที่กลุ่มเด็กสาวอีกเลย  คนน่ารักคงอายที่มีคนรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราเข้า  แต่จะมีใครไม่รู้บ้างล่ะครับผมแสดงออกมากขนาดนี้  เอาให้รู้กันไปเลยว่าคนนี้เป็นคนของผมใครอย่ามายุ่งเชียว ‘ผมจองแล้ว’  เมื่อได้เวลาเปิดประตูให้คนดูได้เข้าโรงหนัง  ผมจึงจับจูงมือนุ่มข้างที่ว่างของกัสเดินเข้าโรงหนังอย่างไม่รีบร้อนนัก  ให้คนอื่นได้เข้าไปก่อนไม่อยากให้ใครมาเบียดมาใกล้กัสเลย ‘ผมหวง’  เราเดินเข้ามานั่งตามที่นั่งที่ผมได้เลือกไว้เป็นที่นั่งสำหรับคู่รักที่อยู่ชั้นบนสุดด้วยเบาะนุ่มยาวไม่มีที่กั้นระหว่างกัน  แบบนี้สิที่ผมต้องการได้นั่งใกล้ชิดอิงแอบเกาะกุมมือระหว่างดูหนังเป็นความสุขที่ผมหวังไว้  ใครจะว่าผมเจ้าเล่ห์ก็ว่าไปครับเพราะผมไม่เคยต้องทำแบบนี้กับใคร  จะมีก็แต่คนน่ารักข้างๆนี่คนเดียวที่ผมจะเจ้าเล่ห์ใส่ด้วย

“วิน  ทำแบบนี้อย่าคิดว่ากัสตามไม่ทันนะ” กัสหันมาหาก่อนพูดกับผมนิ่งๆเมื่อเรานั่งกันเรียบร้อยแล้ว  และคงรู้ว่าผมคิดอะไรที่เลือกที่นั่งแบบนี้  ‘คนอะไรทั้งน่ารักทั้งฉลาดเหมาะแล้วกับคนรูปหล่อแบบผม’   ผมคว้ามือนุ่มมากุมไว้ก่อนยื่นหน้าไปพูดใกล้หู  อย่าว่าผมฉวยโอกาสนะครับก็เราอยู่ในโรงหนังใครเค้าพูดเสียงดังกัน 

“แล้ววินทำอะไรล่ะครับ” ผมแกล้งไม่เข้าใจสิ่งที่ร่างบางพูดและถามกลับดูสิว่ากัสจะตอบกลับยังไง 

‘โอ๊ย!  จะน่ารักไปไหนที่รัก’ แม้ตอนนี้ไฟในโรงหนังจะมืดลงแต่แสงจากจอฉายหนังที่กำลังฉายก็ส่งแสงมากระทบหน้าเนียน  ทำให้รู้ว่าประโยคที่ผมถามไปได้เรียกสีเลือดที่แก้มจากคนน่ารักได้  การหยอกให้กัสเขินได้ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผม  เพราะแสดงให้รู้ว่าผมยังมีอิทธิพลต่อใจกัสอยู่

“ฟอดดด” อดใจไม่ไหวแล้วขอหอมอีกสักครั้งเถอะ  นี่ถ้าอยู่กันสองคนผมจับกัสทำมากกว่านี้แล้วครับ

“โอ๊ยยย” แต่ผมก็ต้องร้องลั่นเพราะแรงบิดเต็มแรงที่หน้าขาจากคนน่ารักที่โดนผมฉวยโอกาสด้วย  ทำเอาคนที่นั่งข้างๆหันมาให้ความสนใจทันที  ผมได้แต่ยิ้มแหยยกมือและผงกหัวขอโทษให้  ก่อนหันกลับมามองกัสซึ่งเจ้าตัวแอบอมยิ้มสะใจที่เอาคืนผมกลับได้ 

ตอนนี้หนังเริ่มฉายแล้วผมจึงคว้ามือบางมากุมไว้  คราแรกเจ้าของมือจะดึงกลับแต่เรื่องอะไรผมจะยอมจึงยื้อไว้  จนกัสอ่อนใจปล่อยให้มือนุ่มตกเป็นเชลยของผม  เรื่องราวของหนังเป็นยังไงไม่รู้เพราะผมไม่ได้สนใจ  ตาผมจับจ้องเพียงเสียวหน้าด้านข้างของกัสที่เดี๋ยวก็ยิ้มกว้าง  เดี๋ยวขมวดคิ้ว  เดี๋ยวหัวเราะตามเรื่องราวตรงหน้า   ใบหน้าที่หลากหลายอารมณ์ของคนน่ารักทำให้ผมอยากจะเก็บมันไว้กับตัวไม่อยากให้ใครได้เห็น  และผมก็รู้สึกเมื่อยหน้ามากไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าผมคงยิ้มกว้างมานานแค่ไหนแล้ว  คนที่ทำให้ผมยิ้มได้กว้างปากแทบฉีกได้ก็มีแค่คนตรงหน้านี้คนเดียวเท่านั้น  ภาพใบหน้าของกัสมีน้ำตาไหลอาบแก้มทำผมสะดุ้ง  แม้มันจะเกิดจากเรื่องราวบนจอภาพแต่ทำเอาผมใจหายวาบ  ผมรีบควักผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาที่รินไหลออกมาทันที  กัสสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมาทำหน้าตกใจใส่  แต่เมื่อเห็นว่าผมยิ้มปลอบใจให้กัสจึงคลี่ยิ้มหวานกลับคืน  คนน่ารักคงรับรู้ได้ว่าผมกังวลกับน้ำตาที่อาบอยู่บนหน้าหวาน  ก่อนที่มือขาวจะยื่นมากุมทับมือผมที่ถือผ้าเช็ดหน้าอยู่และบีบเบาๆอย่างรู้ใจ  ผมขอสัญญากับตัวเองอีกข้อว่าต่อไปจากนี้ถ้ากัสจะมีน้ำตาต้องเกิดจากความดีใจ  และคนที่จะทำให้กัสดีใจได้ก็ต้องเป็นผมคนเดียวเท่านั้น  ผมกุมมือบางขึ้นจรดริมฝีปากเหมือนเป็นดั่งสัญญากับคนที่ผมรักแทนคำสัญญา  ก่อนรอยยิ้มหวานตรงหน้าจะกว้างขึ้นเหมือนเจ้าของเค้ารับรู้  ทำให้ผมที่จับจ้องอยู่ใจเต้นรัวเหมือนผมได้ตกหลุมรักกัสอีกครั้งและมันคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสำหรับผมเป็นแน่

.......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

รับรู้ได้ถึงระดับความหวานที่เพิ่มขึ้นแล้วใช่ม้า  :-[
และมันจะหวานไปอีกค่ะ

บวกเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.เขาค้อหนาวมาก  :กอด1:

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ หน้าแรกเลยค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 01-07-2012 07:10:28
ู^-^ หวานกันจนมดขึ้นจริงๆเลยคู่นี้ ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
ขอให้ทั้งคู่รักกับแบบนี้ไปเรี่อยๆ  และรักกันยิ่งๆขึ้นไปอีกนะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 01-07-2012 08:00:25
วินใด้ทีเอาใหญ่เลยนะเผลอไม่ใด้ :o12:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 01-07-2012 09:58:52
เป็นกำลังใจให้กับความรักกกกก

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 01-07-2012 10:01:45
หวาน หวาน รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-07-2012 10:26:19
ก็หวานหวานกันไป
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 01-07-2012 16:47:32
วิน นี่แกจีบกัสนะ ยังไม่เป็นแฟนกัน

หอมเอาๆเชียว (คนอ่านแอบชอบ) :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-07-2012 16:56:17
วินนี่ได้ใจใหญ่เลยนะ :z1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่16 (1/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 01-07-2012 19:28:31

หวาน หวาน :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-07-2012 07:06:16
ตอนที่ 17

กัส

“กัสจ๊ะวินจะไปส่งจริงๆเหรอ”

“อืม”

“แหม  ไม่ยอมห่างกันเลยน้า”

สาวมายเพื่อนสนิทเอ่ยแซวผมที่กำลังเก็บของลงกระเป๋าเตรียมรอคนที่เมื่อวานอยู่กับผมทั้งวันมารับเพื่อพากลับไปทำงานที่โรงพยาบาล  เมื่อวานนี้หลังออกจากโรงหนังวินก็พาผมไปหาข้าวทานในร้านบรรยากาศร่มรื่นแถวชานเมือง  เรียกบรรยากาศเก่าๆระหว่างเรากลับมา  ซึ่งวินยังจำได้ว่าผมชอบอะไรสั่งอาหารมาซะเต็มโต๊ะเลย  เรากินกันไปคุยกันไปเวลาก็ผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว  และกว่าผมจะมาถึงบ้านมายได้ก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าไปแล้ว  เพื่อนสาวคนสนิทถึงกับโทรศัพท์ตามตัวผมใหญ่ว่าอยู่ไหนแล้วด้วยความเป็นห่วง  และมายก็อยู่บ้านคนเดียวด้วยส่วนมิคกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว

“กัสจ๊ะเจ้าชายมารับแล้ว  รออยู่ข้างล่างแน่ะ” มายเข้ามาเรียกผมหลังจากขอตัวไปดูแลเรื่องอาหารเช้า  ซึ่งก่อนหน้านี้มายนั่งช่วยผมเก็บของลงกระเป๋าพักหนึ่งแล้ว 

ผมจึงส่งยิ้มให้สาวช่างแซวเสียหนึ่งทีก่อนที่มายจะจับมือผมเดินนำออกจากห้อง  โดยมีสาวใช้ของเพื่อนมาช่วยถือกระเป๋าของผมตามลงมาให้  บริเวณห้องอาหารมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วหัวโต๊ะเป็นคุณแม่ของเพื่อนสาวที่เดินเคียงข้างกันมา  ด้านซ้ายจากหัวโต๊ะได้เว้นที่ไว้หนึ่งที่ถัดไปเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งอยู่  วินส่งยิ้มกว้างตาพราวระยับมาให้ทำเอาผมเริ่มใจสั่น

“มาจ้ะน้องมาย  น้องกัส  มาทานข้าวลูก” พอผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ว่างไว้แล้วคุณแม่ของมายก็เอ่ยปากชวนทานข้าวเช้าทันที  ผมจึงตอบรับคำและส่งยิ้มหวานให้ท่านแทนคำขอบคุณ 

ชายหนุ่มข้างตัวผมรีบเลื่อนชามข้าวต้มกุ้งควันกรุ่นตรงหน้ามาให้  และเอื้อมมือแตะข้อศอกผมอย่างเชิญชวนให้เริ่มทานแถมด้วยการช่วยเติมกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เพราะเห็นว่าเป็นของชอบของผมด้วย  จนผมต้องอมยิ้มให้กับความรู้ใจและช่างเอาใจของวินซึ่งดูท่าเจ้าตัวก็รู้ว่าผมแอบยิ้ม  วินถึงกับใจกล้าเอื้อมมือมาแตะหลังมือผมที่อยู่บนตักให้ได้รู้ตัว  เล่นเอาผมหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตาคมเลย  ระหว่างมื้ออาหารเช้าคุณแม่ชวนวินคุยตลอดแถมซักประวัติหนุ่มหล่อข้างตัวผมซะละเอียดยิบ  ตอนหลังท่านแอบมากระซิบบอกผมว่าต้องสืบประวัติว่าที่ลูกเขยแม่ไว้ก่อน  ส่วนผมก็เขินไปตามระเบียบให้กับสายตารู้ทันของท่าน  คุณแม่นับผมเป็นลูกไม่ต่างจากมายเลยครับ  เพราะช่วงเรียนมหาวิทยาลัยผมมาค้างที่บ้านนี้บ่อยมากเกือบทุกเสาร์อาทิตย์ด้วยซ้ำถ้าไม่มีรายงานเร่งด่วน  ท่านเอ็นดูผมมากทำให้คุณแม่นับรวมผมเป็นลูกไปด้วย  สาเหตุมาจากบ้านผมอยู่ต่างจังหวัดจึงกลับบ้านไม่บ่อยนัก

“เดินทางปลอดภัยนะลูกถึงแล้วโทรมาบอกด้วยนะจ๊ะ  วินลูกขับรถดีๆนะดูแลลูกกัสของแม่ด้วย” คุณแม่เอ่ยกับผมก่อนหันไม่ทางวินขณะโอบกอดผมไว้หลังจากพวกเราเดินมาถึงรถของวินแล้ว 

“ครับแม่ไม่ต้องห่วงยังไงผมก็ต้องดูแลหัวใจตัวเองอยู่แล้วครับ” วินตอบคุณแม่ก่อนหันมาส่งสายตาหวานให้ผมเมื่อจบประโยค  ตาคนนี้ก็ไม่รู้จะหวานเรี่ยราดอะไรขนาดนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ยังทำได้  เล่นเอาผมเขินจนไม่กล้าสบตาใครเลย

“ฮ่าๆๆๆ  วินพูดถูกใจแม่มากเลย  ไปลูกเดินทางได้แล้วเดี๋ยวจะถึงเย็นเกิน  ต้องไปรับน้องมิคอีกใช่มั้ย”

“ครับแม่  งั้นกัสลานะครับ  เดี๋ยวถ้ากัสว่างจะมาให้แม่เลี้ยงอีกครับ”

ผมเอ่ยลาพร้อมยกมือไหว้แนบอกคุณแม่ของเพื่อนรักก่อนจะโอบกอดรอบเอวเอาใจท่านแถมด้วย  ใครจะว่าผมขี้อ้อนขี้ประจบก็ได้แต่ผมก็รักคุณแม่ของมายไม่ต่างจากแม่ตัวเองเลย  คุณแม่คงมันเขี้ยวผมมากท่านหอมแก้มผมฟอดใหญ่และหัวเราะชอบใจออกมา  ตามมาด้วยแม่เพื่อนรักตัวดีที่แกล้งโอดโอยใส่แม่ตัวเองว่ามีลูกใหม่ลืมลูกสาวไปแล้ว  พาเอาวงสนทนาฮาครืนกับการหยอกเย้าของแม่ลูกคู่นี้  หลังจากเราล่ำลากันแล้วผมกับวินก็ออกเดินทางโดยมีวินเป็นคนขับรถ  และมุ่งหน้าไปรับเพื่อนสนิทอีกคนที่โทรมาว่าพร้อมแล้วและรอราชรถไปรับอยู่  ระหว่างทางเราสองคนแทบไม่มีคำพูดต่อกันมีเพียงเสียงเพลงรักที่เปิดคลอเบาๆ  ส่วนมือของผมถูกเกาะกุมด้วยเจ้าของมือหนาที่ว่างจากการจับพวงมาลัย  เพลงถัดมาที่ผมได้ยินทำให้ต้องตั้งใจฟังเมื่อมือหนาผละจากมือผมเพื่อเร่งเสียงให้ดังขึ้นพร้อมหันมาสบตากัน  ปากวินขยับแบบไม่มีเสียงและผมอ่านปากได้ว่า ‘ให้กัสครับ’

*จะบอกอีกทีว่าฉันรักเธอ                     จะบอกให้ฟังว่าฉันค้นเจอ
ความหมายของการมีชีวิตอยู่                ก็รู้จากเธอไม่ใช่ใคร
จะบอกอีกทีถ้าไม่เชื่อกัน                     จะบอกอีกทีว่าความสำคัญ
เธอนั้นเป็นที่หนึ่ง เหนือผู้ใด                 และไม่มีใครนอกจากเธอ
อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา               อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา     รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร        ถ้าใจเรายังผูกกัน
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน            รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน               จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ
จับผิดระแวงกันทุกวี่วัน                      นั่นมันยิ่งทำให้ความสัมพันธ์
มันเริ่มที่จะจืดจางหายไป                    แค่ไว้ใจกันได้ไหมเธอ
อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา               อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา      รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร         ถ้าใจเรายังผูกกัน
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน             รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน               จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ

(*เพลง “ไม่มีตรงกลาง” ของจิรากร)

เนื้อหาของเพลงที่ได้ฟังทำเอาผมน้ำตาซึมเบือนหน้ามองวินที่ตอนนี้มองตรงไปข้างหน้าเพื่อขับรถ  แต่แอบเหลือบมองมาทางผมเป็นระยะผมจึงพลิกมือขึ้นจับกระชับกับฝ่ามือหนา  และออกแรงบีบเพื่อให้รู้ว่าผมเข้าใจที่อีกฝ่ายต้องการสื่อด้วยเพลงนี้  แม้เราจะเคยจากกันทั้งที่ยังรักกันเพราะคนที่ไม่หวังดีต้องการแยกเราออกจากกัน  แต่ในที่สุดเราก็กลับมาเคียงข้างกันได้  อุปสรรคที่ผ่านมาช่วยพิสูจน์รักที่วินมีต่อผมได้เป็นอย่างดี  วินคงเห็นน้ำตาที่ซึมออกมาทางหางตาของผมเข้า  จึงรีบจอดรถข้างทางแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าค่อยๆซับน้ำตาให้

“กัสร้องไห้ทำไมครับ  หืม” เสียงนุ่มอ่อนโยนไม่ต่างจากท่าทางที่ทะนุถนอมผม  เหมือนว่าผมเป็นแก้วที่บอบบางพร้อมจะแตกได้ทุกเมื่อ  จนผมต้องยิ้มทั้งน้ำตาให้กับคนขี้กังวล

“อืม  นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอก” ผมยึดผ้าเช็ดหน้าสีเข้มมาไว้ในมือและใช้ซับรอยน้ำตาให้แห้ง ‘น่าขายหน้าจัง’ ที่อยู่ๆผมก็ร้องไห้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้  ด้วยผมนั้นอินกับเพลงที่วินเปิดให้ฟัง

“หรือซึ้งที่วินเปิดเพลงนี้ให้ครับ” วินยิ้มกว้างที่ได้รู้ว่าผมแอบปลื้มกับเพลงนี้  ตามมาด้วยสายตาล้อเลียนอย่างน่าหมั่นไส้  แต่ก่อนที่ผมจะแกล้งงอนประโยคถัดมาของวินทำเอาผมอึ้งก่อนใจจะเต้นแรงด้วยความซาบซึ้ง

“กัสร้องไห้เพราะซึ้งหรือดีใจได้นะครับ  แต่วินจะไม่ยอมให้กัสร้องเพราะเสียใจอีกแล้วนะครับคนดี” วินก้มหน้ามาหาและขโมยหอมแก้มผมตอนที่กำลังเผลอตัว  ‘คนเจ้าเล่ห์นี่จะแอบตอดเล็กตอดน้อยไปถึงไหนกันนะเมื่อวานนี้ก็เหมือนกันแก้มช้ำไปหมดแล้ว’  ก่อนผมจะพยายามเบี่ยงเบนประเด็นไม่อย่างนั้นหน้าผมคงระเบิดไปแล้ว

“วินอ่ะ  เน่ามากกกกก  อี๊” ผมย่นจมูกใส่ประกอบคำพูดก่อนจะรีบยกมือกุมหน้าตัวเองไว้ทั้งสองข้าง  ด้วยกลัวโดนขโมยหอมแก้มอีกแต่ผมดันลืมตำแหน่งสำคัญไป 

“จุ๊บ!!” คนที่ขโขยจุ๊บปากผมฉีกยิ้มยิงฟันส่งสายตาล้อเลียนมาให้  ผมที่ทำอะไรไม่ถูกต้องเก๊กหน้าดุผลักหน้าหล่อให้ห่างตัวทั้งๆที่หน้าร้อนฉ่าแทบไหม้  ก่อนปรับเสียงให้เข้มที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อดุคนเจ้าเล่ห์

“วินอ่ะ  รีบออกรถเลยเดี๋ยวมิคก็บ่นหรอก” ผมรับรู้ถึงความร้อนที่ลามจากใบหน้าไปใบหูลงไปที่ลำคอได้ขณะที่พูดกับวิน  หลังจากนั้นผมก็เบือนหน้าหนีไปนอกรถหลังได้สบสายตารู้ทันของวินเข้า

ผมยังแอบได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนข้างๆด้วย  ส่วนมือผมข้างที่อยู่ในมืออีกฝ่ายถูกยกขึ้นพร้อมสัมผัสอุ่นวาบที่ข้อนิ้ว  เรียกใบหน้าผมให้หันกลับไปมองจ้องตาวินอีกครั้ง  ‘อ๊ากกก  วินจะทำให้ผมอายไปถึงไหนเนี่ย’  ผมจะดึงมือออกก็ไม่ได้เพราะโดนยึดมือไว้ซะแน่นจากคนเจ้าเล่ห์ที่ยังยิ้มกว้างไม่กลัวว่าตีนกาจะขึ้น  รถออกตัวอีกครั้งพร้อมมือหนาที่ผละไปแต่ไม่นานก็กลับมาจับดังเดิม  เพลงรักเมื่อครู่ก็ถูกเปิดฟังวนซ้ำอีกครั้ง

...................................

บริเวณหน้าบ้านพักสองชั้นภายในโรงพยาบาล  พวกเราสามคนช่วยกันขนของจากรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน  ซึ่งมีทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าและถุงขนมของฝากหลายถุง  ถ้าผมต้องนั่งรถโดยสารมากันเองกับมิคคงแย่แน่ๆ  เพราะเพื่อนเล็กข้างตัวผมนี่แหละที่ขนซื้อของมามากมาย  มิคบอกว่าเป็นของฝากพี่พยาบาลคนนั้น  น้องเภสัชคนนี้  ให้วุ่นไปหมด  และยังอ้างอีกว่ามีราชรถมาส่งถึงที่แล้วก็ต้องขนมาให้คุ้ม  ดูสิครับข้ออ้างอันน่าเชื่อถือจากหนุ่มนักช็อป

“กระเป๋าใบนี้ของกัสเหรอ  มิคไม่เคยเห็นอ่ะ” มิคหันมาถามผมเมื่อเราช่วยกันขนของออกจากรถมาไว้ในบ้านหมดแล้ว  และชี้ไปที่กระเป๋าหิ้วใบเล็กที่ตัวเองสงสัย  ผมมองไปที่กระเป๋าน่าสงสัยใบนั้นทันทีก่อนส่ายหัวแทนคำปฏิเสธ

“ของวินเองครับมิค” ผมและมิคหันไปหาคนที่เป็นเจ้าของน้ำเสียงอ่อนหวาน  ก่อนส่งสีหน้าแววตาสงสัยไปให้แทนคำถามว่าวินเอามาทำไม

“อ้าว  วินยังไม่ได้บอกเหรอว่าจะมาเที่ยวที่ทำงานกัสน่ะ” ผมส่ายหน้าหวือผมยุ่งไปเลย  วินเอาอะไรมาพูดเมื่อวานอยู่ด้วยกันทั้งวันไม่เห็นจะได้ยินนี่หน่า  แล้วไหงมาตู่กันแบบนี้ได้  แล้วนี่อะไรทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมส่งยิ้มซื่อๆมาอีก

“ไม่อ่ะ  วินอย่ามาตู่ไม่เคยบอกกัสซะหน่อยว่าจะมาเที่ยวที่นี่” ผมส่งสายตาจับผิดไปให้คนเจ้าเล่ห์

“นี่ก็จะเย็นแล้วให้วินขับกลับไม่สงสารวินเหรอครับ  หืม” วินทำมาพูดออดอ้อนแถมเดินมาประชิดตัว  ผมผงะถอยหลังนิดให้กับแววตาออดอ้อนที่ไม่น่าไว้ใจ  ‘อย่ามาทำหน้าอ้อนแบบนี้นะเดี๋ยวใจอ่อนเลย  ชิ’ วินคงรู้สินะว่าผมแพ้แววตาออดอ้อนของวินมาแต่ไหนแต่ไรแล้วถึงขยันใช้กับผมจัง

“นี่หวานกันก็มีลิมิตหน่อยนะ  สงสารบุคคลที่สามตรงนี้ด้วย  ชิ  ไม่อยู่แล้วไปเก็บของดีกว่า” มิคเอ่ยแซวเราสองคนขึ้นก่อนที่วินจะเข้ามาใกล้ผมมากกว่านี้  ‘โอ๊ย!  วันนี้ผมจะหน้าไหม้กี่รอบกันเนี่ย’  เพราะวินคนเดียวเลย 

“ไปครับกัส  วินอยากเห็นห้องของกัสแล้วน้า” ถ้าผมมองไม่ผิดเหมือนเห็นหูแหลมๆโผล่ออกมาจากหัววินเลย  ‘ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์  เอ๊ย!’ 

ผมโดนวินจับข้อมือจูงขึ้นบันไดไปเหมือนจะรู้ว่าห้องผมอยู่ไหนซะงั้น  จนเราเข้ามาในห้องเรียบร้อยวินวางของไว้ข้างตู้เสื้อผ้าพร้อมสำรวจไปทั่วทั้งห้องก่อนเดินไปนั่งบนเตียง  ส่วนผมก็เดินไปเก็บของออกจากกระเป๋าระหว่างที่เก็บของก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องจากข้างหลังจึงหันไปสบตาคู่คม  เจ้าของดวงตาที่จับจ้องผมพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆกำลังเอนตัวลงนอนตะแคงข้างท้าวศอกกับที่นอนพยุงศีรษะไว้และหันมาทางผม  พอวินเห็นผมจ้องกลับคนเจ้าเล่ห์ก็พลิกตัวคว่ำหน้า  ก่อนกดหน้าลงกับหมอนพร้อมสูดกลิ่นจากหมอนของผมและหันมาส่งสายตาให้

“กลิ่นเดียวกับแก้มกัสเลย” ผมหน้าร้อนอีกแล้วขยันหยอดจริงๆเลยผู้ชายคนนี้  แบบนี้ต้องจัดการเอาคืนซะบ้าง

“คืนนี้วินนอนห้องกัสนะ  เดี๋ยวกัสไปนอนกับมิคเอง  วินจะได้นอนสบายๆ” ผมพูดพร้อมจ้องหน้าส่งสายตาจริงจังไปให้คนที่นอนอยู่แต่ปากอมยิ้มน้อยๆ  ทำเอาวินกระเด้งตัวลุกขึ้นพร้อมส่งเสียงโอดโอย

“ไม่เอานะครับกัสนอนห้องนี้กับวินนะ” ร่างสูงผลุดลุกขึ้นเตรียมเดินตรงมาหาผมหน้าตาเดือดร้อนหนักหนา

“หยุดอยู่ตรงนั้นนะวิน  คืนนี้กัสจะนอนกับมิคส่วนวินต้องนอนห้องนี้คนเดียว  หรือว่าถ้าวินไม่ตกลง  กัสจะให้วินกลับวันนี้เลย” วินทรุดตัวกลับไปนั่งตามเดิมหันหน้าหนีทำปากยื่น  ตัวโตขนาดนี้ยังกล้าทำตัวเป็นเด็กอีกเหรอดูไม่ได้เอาซะเลย  แต่ผมก็แอบสะใจเล็กๆที่ได้แกล้งพ่อคนเจ้าเล่ห์คืนบ้าง  นี่ผมแค่เอาคืนเล็กๆน้อยๆนะเพราะสองวันมานี้วินทำผมอายหน้าไหม้ไปหลายรอบแล้ว

“ครับ  วินนอนห้องนี้คนเดียวก็ได้  กัสใจร้ายอ่ะ” นั่นยังกล้าทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่ผมอีก  จนผมต้องก้มหน้าเก็บของเพื่อซ่อนรอยยิ้มถูกใจให้ไกลตาคนแกล้งงอน 

‘พ่อคนเจ้าเล่ห์แสนงอนของผม’

..............................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ชอบเพลงไม่มีที่ตรงกลางมากเลยค่ะ ได้ฟังครั้งแรกก็นึกถึงกัสวินเลย
เฮ้อ ชอบจัง <<< เพ้อไปแล้ว 555

+1และเป็ดให้แล้วนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ^^

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ หน้าแรกเลยค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 02-07-2012 08:49:01
^_^ ใช่เราก็คิดเหมือนกันว่าเพลงนี้เหมาะกับคู่นี้สุดๆ
ไม่มีตรงกลาง เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ ถ้าไม่มีตรงกลางสักอย่าง
ใครก็ไม่สามารถแทรกเข้ามาได้ สุดยอด
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 02-07-2012 10:25:28
วินงอนได้เหมือนจะน่ารักมากอ่ะ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 02-07-2012 10:32:33
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-07-2012 11:03:00
วินมาทำเป็นงอนนะ :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-07-2012 12:37:46
รอจ้ารอ :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-07-2012 14:34:57
หวานเบาเบา
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 02-07-2012 15:37:16
หมอกัสยังน่ารักเหมือนเดิม :man1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 02-07-2012 17:11:24
รักหมอกัสสสสสสสสส

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 02-07-2012 17:18:59

น่ารัก :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-07-2012 17:49:16
วินแสดงความหวงโดยไม่สนใจใครเลย กัสก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 02-07-2012 21:02:16
รักเรื่องนี้มากขึ้นก็ตรงที่มีเพลง "ไม่มีตรงกลาง" นี้แหละ คนอ่านชอบเพลงนี้ม๊วากๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 02-07-2012 22:18:19
จะหวานไปไหนเนี๊ยคู่นี้
ตาร้อนหมดแย๊ว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 02-07-2012 22:36:03
ให้วินนอนด้วยก็ไม่ได้ กัสใจร้ายอ่ะ  :m17:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่17 (2/7/55)P.7 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PrAeW ที่ 02-07-2012 23:11:53
หวานๆๆ
 :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-07-2012 07:08:57
ตอนที่ 18

วิน

“ครับ  วินนอนห้องนี้คนเดียวก็ได้  กัสใจร้ายอ่ะ”

หลังคำพูดผมคนน่ารักแต่ใจร้ายอมยิ้มแก้มตุ่ยเหลือบมองมาทางผมด้วยสายตาแวววาวเจ้าเล่ห์  เหมือนว่ากัสจะสะใจที่สามารถแกล้งผมได้โดยที่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย  ผมน่ะอยากงอนมากกว่านี้อยากให้กัสมาง้องอนแต่ดูท่าแล้วจะยาก  ดูสิครับกัสทำเป็นเก็บของทำหน้าไม่รู้ไม้ชี้แต่อมยิ้ม ‘อย่างนี้มันแกล้งกันชัดๆ’  กัสมัวแต่เก็บของทำให้ผมแอบมองคนน่ารักได้ถนัดตา  ทั้งผิวแก้มเนียนอมชมพู  ปากแดงระเรื่อ  ไหล่บาง  เอวคอด  หน้าท้องขาวเนียนที่โผล่มาให้เห็นวับๆแวมๆตอนเจ้าตัวเอื้อมมือเก็บของ  ก้นกลมยั่วมือ  ขาเรียวเล็ก  ทั้งหมดที่รวมเป็นกัสทำเอาผมแทบคลั่ง ‘หมับ’

“อ๊ะ  วินทำอะไร” กัสแหงนหน้ามามองผมอย่างตกใจด้วยตาโตๆปากแดงเผยอค้างเมื่อผมเข้าโอบกอดร่างบางจากข้างหลัง 

ผมอดใจไม่ไหวแล้วอยากแสดงความรักกับร่างบางในอ้อมกอดมาตลอด  หลังจากแอบตอดเล็กตอดน้อยมาตั้งแต่วันที่เราคืนดีกัน  กัสแทบไม่ต้องทำอะไรก็ทำให้ผมแทบคลั่งทุกครั้งที่อยู่ใกล้  ยิ่งเราห่างกันไปนานความรักความคิดถึงที่ผมมีต่อกัสยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม  ผมส่งสายตาออดอ้อนไปให้คนน่ารักที่พอได้สบตาผิวแก้มใสก็ขึ้นสีจัด  อยู่ๆใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาจึงเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มนุ่มทั้งสองข้างอย่างใจคิดก่อนใช้ปลายนิ้วไล้เกลี่ยไปมาอย่างเพลินมือ  แก้มกัสยังนุ่มและเนียนมือไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยครับ  ผมก้มหน้าจรดจมูกไปที่แก้มนุ่มกลิ่นหอมกรุ่นเป็นกลิ่นกายหอมที่ผมคุ้นเคย  เลื่อนต่ำลงมาสัมผัสกลีบปากนุ่มแดงฉ่ำที่อยากครอบครองมาตลอด  แตะเพียงแผ่วเบาผมก็รับรู้ถึงกายสั่นสะท้านจากร่างในอ้อมกอด  ผมจึงกระชับร่างบางเข้าหาตัวโอบประคองลูบหลังบางแผ่วเบาปลอบใจให้กัสได้ผ่อนคลาย  ก่อนเลาะเล็มกลีบปากบางให้เจ้าของยินยอมเปิดทางให้ผมได้เข้าไปชิมความหอมหวาน  มือเริ่มไต่จากเอวบางเข้าไปลูบผะแผ่วกลางหลังร่างบาง  จนกัสหายสั่นจากการตื่นกลัวและยินยอมเปิดปากรับเรียวลิ้นผมเข้าไป  ผมส่งลิ้นไปทักทายลิ้นเล็กในโพรงปากจนเจ้าของมันสะดุ้งที่รับรู้สัมผัสจากลิ้นที่ส่งเข้าไป  หยอกล้อเรียวลิ้นจนลิ้นเล็กเริ่มตอบสนองอย่างคุ้นเคย  ลิ้นเราทั้งสองเกี่ยวพันกันและปรับมุมเปลี่ยนองศาให้จูบนั้นลึกซึ้งขึ้น 

จากความอ่อนหวานเปลี่ยนเป็นร้อนแรงร่างบางเอื้อมมือมาโอบรอบคอผมเพื่อพยุงตัวและลูบปลายนิ้วเรียวไปกับต้นคอทำเอาผมขนลุกเกรียว  ตอนนี้ผมแทบคลั่งจนอยากจะกดร่างบางลงกับพื้น  ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปกว่านี้ผมจึงรีบผละออกจากปากแดงด้วยความเสียดาย  ได้สบตาหยาดเยิ้มเชิญชวนตรงหน้าก่อนกดปากเข้าแตะปากเจ่อแดงแรงๆเพื่อหักห้ามใจ  พร้อมเปิดยิ้มกว้างส่งให้กัสที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับจูบของเรา  ผมย่อตัวช้อนขาโอบอุ้มร่างบางที่ยังอยู่ในอารมณ์อ่อนหวานที่ผมเป็นคนก่อก่อนเดินไปวางกัสแผ่วเบาบนเตียง  แอบกวาดมองร่างบางที่นอนระทวยตาฉ่ำหวานผิวแก้มระเรื่ออย่างนึกเสียดายจับใจ  จนกัสเริ่มรู้ตัวว่าโดนผมขโมยจูบซึ่งตัวกัสเองก็เคลิ้มไปกับผมด้วย  ถ้าผมไม่คิดจะหยุดซะก่อนเราคงไปกันไกลกว่านี้แล้ว   พลันใบหน้ากัสก็แดงก่ำขึ้นทันตาหลบตาผมให้วุ่นไม่พอยังพลิกตัวหันหลังให้ผมอีกด้วยทำเอาผมนึกมันเขี้ยวขึ้นมา

“ฮึๆๆๆ /  ฟอด”

ผมหัวใจพองโตที่เห็นกิริยาเขินอายของคนที่ผมรักซึ่งเกิดจากการกระทำของตัวเอง  จึงโน้มตัวหอมหน้าผากเนียนของร่างบางที่อายม้วนไปหนึ่งทีอย่างอดใจไม่อยู่  ก่อนผมจะเอนตัวลงนอนเข้าโอบกอดร่างบางจากด้านหลังและซบหน้าไปกับซอกคอหอมๆของกัส  นาทีนี้มันสุขจนบรรยายไม่ถูกจริงๆครับ

“ขอวินอยู่แบบนี้ก่อนนะครับ” บอกร่างในอ้อมกอดเมื่อไม่ได้รับการปฏิเสธผมจึงถือว่าเจ้าตัวยินยอม  ก่อนจะกระชับหลังบางให้แนบกับแผ่นอก  จนเราเผลอหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน

“ก๊อกๆๆ” ทั้งผมและกัสหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีเสียงเคาะประตูห้อง  คนน่ารักในอ้อมกอดผมขยับตัวดิ้นน้อยๆและพยายามขืนตัวออกทั้งๆที่ถูกผมโอบกอดอยู่  ผมจึงแกล้งรัดร่างบางแน่นเข้าจนกัสทนไม่ไหวหันหน้ายุ่งๆมามองกัน

“ปล่อยเลยวิน  มิคมาเคาะห้องเรียกแล้ว  เร็ว” ผมส่ายหน้าส่งยิ้มกว้างไปยังคนที่อยู่ในอ้อมกอด  แปลได้ว่าไม่ยินยอมปล่อยร่างนิ่มๆหอมๆไปง่ายๆและต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันก่อน  จึงชี้มือมาที่แก้มตัวเองส่งสายตาออดอ้อนไปให้  กัสส่ายหน้าปฏิเสธเม้มปากแน่นตาดุทั้งๆที่ผมแอบเห็นแววสั่นไหวในดวงตา  ผมกลั้นยิ้มอย่างได้ใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นต่อและแกล้งทำหน้างอส่ายหน้าประกอบเลียนแบบคนน่ารักบ้าง  และได้ยินเสียงเรียกซ้ำจากอีกคนของฝั่งประตู

“กัสๆ  ได้ยินมิคมั้ย”

“เดี๋ยวมิค  แป๊บนึงนะ” ร่างบางหันกลับมาที่ผมและส่งค้อนมาให้  ก่อนผมจะรับรู้ถึงแรงสัมผัสที่มากระทบที่ผิวแก้มอย่างแรงเพราะกัสคงรู้สึกว่าโดนขัดใจจากผมนั่นเอง  ผมได้ใจชี้นิ้วไปที่แก้มอีกข้างกัสมองอย่างหมั่นไส้แต่ก็ยอมยื่นหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่

“ปล่อยได้แล้ววิน  ถ้าขออะไรอีกนะกัสจะโกรธจริงๆด้วย” กัสส่งสายตาจริงจังประกอบคำพูดจนผมต้องยอมทำตามด้วยรู้ว่าคนน่ารักเอาจริงแน่  ขืนผมยังดื้อไม่ยอมปล่อยอยู่แบบนี้  ผมจึงคลี่ยิ้มหวานเอาใจให้กัสก่อนค่อยๆคลายแรงกอดรัดลง

“ปล่อยแล้วครับ” ร่างบางที่ได้รับอิสระก้าวลงจากเตียงเพื่อไปเปิดประตูให้เพื่อนที่ยืนรออยู่ 

มิคมองเพื่อนที่มาเปิดประตูให้และเหล่กลับมามองผมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง  ก่อนหันกลับไปอมยิ้มล้อเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้คงเขินจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว

“พี่หมอพจน์มาหาน่ะ  ตอนนี้นั่งรออยู่ข้างล่าง” มิคมาส่งข่าวแล้วก็ขอตัวลงไปเพื่อดูแลแขกข้างล่างให้ก่อนเพราะปล่อยให้นั่งอยู่คนเดียวนานแล้ว  กัสปิดประตูตามหลังมิคก่อนหมุนตัวเดินกลับมาที่เตียง

“เดี๋ยวกัสลงไปข้างล่างวินจะไปด้วยมั้ย” สีหน้าลำบากใจของกัสทำผมฉุกคิดว่าคนที่มาหากัสนั้นมันเป็นใคร  จึงเอ่ยปากถามอย่างใจคิดกับคนน่ารักที่เสหลบตาอย่างมีพิรุธทันที

“กัสครับ  หมอพจน์นี่เป็นใครครับ”หลังคำถามของผมแล้วกัสหันหน้ามามองเม้มปากแน่นแววตาไม่แน่ใจ  ปฏิกิริยาของกัสที่ผมได้เห็นทำเอาสัญชาติญาณของคนมีแฟนน่ารักมันลุกโชน

ไอ้หมอพจน์ที่นั่งรออยู่ข้างล่างนี่มันเป็นใครกันถึงได้มาหาคนของผมถึงบ้าน  และมันมีธุระอะไรนักหนาถึงต้องมาคุยกันในวันหยุดด้วย  ขอลงไปดูหน้าหน่อยเถอะว่าหน้าตามันเป็นยังไง

..............................

“หมอพจน์ครับนี่วิน  วินนี่หมอพจน์” หนุ่มน้อยร่างบางที่นั่งข้างกันเอ่ยแนะนำชายหนุ่มในเสื้อกาวน์หน้าตี๋ใส่แว่นที่นั่งโซฟาเดี่ยวข้างๆเรา 

ผมผงกศีรษะพร้อมยิ้มน้อยๆแทนการทักทาย  จากการสังเกตของผมไอ้หมอหน้าตี๋มันมองกัสไม่วางตาเลย  แถมพยายามส่งสายตาออดอ้อนให้อีกด้วยอย่างนี้ผมปล่อยผ่านไม่ได้แล้ว  ถ้าตอนที่ผมไม่ได้อยู่ใกล้กัสกลัวว่ามันจะแอบมาทำคะแนนตีท้ายครัวผมน่ะสิ  ผมจึงเอื้อมแขนไปโอบเอวบางก่อนก้มหน้าไปชิดใบหูของกัส  เมื่อแรกคนน่ารักขืนตัวนิดหน่อยอย่างตกใจแต่ยังดีกัสไม่กล้าดิ้นมากเพราะอยู่ต่อหน้าคนอื่น  จึงเป็นโอกาสให้ผมกระซิบชิดใบหูหอมเพื่อหวานโชว์ไอ้หมอตาตี่ซะเลย

“กัสครับวินหิวแล้ว  เราไปทานที่ไหนดีเอ่ย”

ผิวแก้มขาวเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อขึ้นทันตาและมีแรงหยิกมาที่มือผมที่โอบเอวบางอยู่  ทำเอาผมสะดุ้งกับเล็บคมๆที่กดลงมาบนหลังมือ  แต่ผมไม่ยอมปล่อยก่อนจะดึงเอวบางเข้าหาตัวมากยิ่งขึ้น  ไอ้หมอหน้าตี๋ตกตะลึงมองตาค้างไปแล้ว  เอาให้รู้กันไปเลยว่าผมกับกัสเราเป็นอะไรกัน  ผมจ้องตามันส่งสายตาท้าทายไปให้   ก่อนจะมีเสียงกระซิบลอดไรฟันออกมาจากร่างบางย้ำให้ผมปล่อยแถมส่งสายตาดุมาให้อีกด้วย

“กลัวแล้วคร้าบบบบที่รัก  ปล่อยก็ได้” ผมแกล้งทำท่าทางเกรงกลัวใส่กัสและคลายอ้อมกอดลง  พลางยิ้มยั่วใส่ตาคนน่ารักให้อย่างล้อเลียน  ก่อนผมจะได้ค้อนวงโตเป็นรางวัล

“มิคอยากไปทานข้าวร้านไหนล่ะ  นี่ก็ได้เวลาทานข้าวแล้ว” คนน่ารักหันไปหาเพื่อนสนิทที่เพิ่งเดินเข้ามา  หลังจากมิคขอตัวไปแจกของฝากพี่ๆข้างบ้าน

“อืม  ร้านพี่หนิงละกันอร่อยบรรยากาศดี  ต้อนรับนายวินด้วย” พูดถึงเรื่องกินขึ้นมาทีไรเพื่อนของกัสคนนี้จะกระตือรือร้นขึ้นทันทีแถมยังส่งยิ้มกว้างแจกจ่ายไปทั่ว 

ก่อนกัสจะหันไปหาไอ้หมอตี๋ข้างๆชักชวนไปด้วยกันมันก็ยิ้มหน้าบานอย่างดีใจ  ไม่รู้ที่รักจะชวนมันไปทำไมดูสิยิ้มจนตาปิดไปแล้ว  ไอ้ที่ได้เห็นเมื่อกี้ยังไม่พอใช่มั้ย  เดี๋ยวคอยดูนะจะหวานโชว์จนต้องวิ่งหางจุกตูดไปเลย  ผมหันไปคว้ามือนุ่มมากุมไว้ทำให้ร่างบางพยายามกระตุกดึงมือออกแต่สู้แรงผมไม่ได้อยู่แล้ว

“กัสครับ  งั้นไปกันเลยนะครับ  วินหิวแล้ว  ไปครับมิค” ผมพูดจบก็ออกแรงดึงฉุดร่างบางออกไปทางประตูเพื่อไปขึ้นรถหน้าบ้าน  และไม่คิดจะหันไปมองข้างหลังว่าจะมีใครตามมาด้วยรึเปล่า

“เพี้ยะ / โอ๊ย” แรงตีที่ต้นแขนของผมเต็มแรงจากกัสที่โดนผมลากมา  ทำเอาผมแกล้งร้องเสียงดังทำหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวดมาก  เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากคนที่ลงมือทำร้ายกันก่อนส่งสายตาออดอ้อนไปให้

“วินทำไมทำตัวแบบนี้นะ  วินไม่อายแต่กัสอายนะ” ใบหน้าหวานบึ้งตึงแววตาโกรธขึ้งของกัสทำผมเริ่มใจไม่ดีกลัวคนน่ารักจะโกรธเข้า  จึงเลิกเสแสร้งแกล้งเจ็บก่อนเอื้อมมือไปจับมือนุ่มไว้

“ก็วินหวงกัสนี่  วินรู้นะไอ้หมอตี๋นั่นมันมาชอบกัส” ผมก้มหน้าเข้าใกล้หน้าหวานพร้อมแกล้งทำหน้างอนและน้อยใจร่างบางที่ทำร้ายร่างกายกันได้ลงคอ

“ฮิๆ  ไอ้เด็กโข่งเอ๊ย  ไม่ต้องมางอนเลย  ไม่ง้อนะ” ดูสิครับคนอะไรมาทำร้ายกันแล้วไม่คิดจะง้ออีก  กัสยื่นนิ้วมาคีบจมูกผมไว้ก่อนออกแรงบีบส่ายไปมา  ก่อนจะหัวเราะน้อยๆอย่างถูกใจที่เห็นผมเจ็บจนร้องออกมาได้ 

“เอ้า! สองคนนี่มาหวานอะไรกันหน้าบ้านล่ะ” มิคหนุ่มน้อยที่ตามมาเอ่ยปากแซวเราทั้งคู่แบบหมั่นไส้

ผมจึงส่งยิ้มกลับสายตาก็เหลือบมองไปทางด้านหลังมิค  แอบสะใจว่าไอ้หมอตี๋คงได้เห็นฉากสวีทเล็กๆที่ผมต้องแลกมาด้วยการเจ็บตัวเข้าแล้ว  ไอ้หมอพจน์ซึมไปเลยและมันก็จับตามาที่ร่างบางตรงหน้าผมนิ่งนานอย่างกับว่ามันกำลังน้อยใจ  แต่กัสที่คุยกับเพื่อนอยู่จึงไม่ได้สังเกตเห็นเลย  และกัสก็หันมาชวนพวกเราขึ้นรถเพื่อไปที่ร้านอาหารกัน

“กัสครับ  พี่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานค้างเอาไว้โอกาสหน้านะ  พี่ขอตัวก่อนนะครับ” หมอตี๋ผู้น่าสงสารเปลี่ยนใจไม่ไปด้วย  มันคงคิดได้ว่าขืนดันทุรังไปคงได้มองภาพคนที่ตัวเองแอบชอบกับผู้ชายคนอื่นสวีทกันแน่ๆ  ผมไม่นึกสงสารคนที่คิดจะมาแย่งคนน่ารักของผมไปหรอกครับ  ได้แต่ถูกใจที่ไม่มีมันไปขวางหูขวางตา

“อ่ะ  ครับ  ตามสบายครับ” คนน่ารักที่อยู่ข้างตัวผมตอบกลับหลังหมอตี๋เอ่ยขอตัวแล้ว 

ผมก้มหน้าแอบซ่อนยิ้มพอใจที่ไม่มีมารมาขัดขวางอีกให้รู้กันไปว่าผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวคนน่ารักคนนี้เพราะกัสเป็นของผมคนเดียว

....................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

นายวินคงคอนเซ็ปหวงหื่น  :laugh:
ตอนหน้าตามลุ้นกันว่ากัสจะใจอ่อน
ยอมนอนห้องเดียวกับหมาป่า(ที่รัก)มั้ย  :z2:

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: ทุกการสนับสนุนค่ะ

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ หน้าแรกเลยค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-07-2012 08:27:16
ร้ายนะวิน  :m12:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 03-07-2012 08:36:59
วินนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ ฮ่าๆ ยอมเจ็บนิดหน่อยเพื่อกำจักศัตรูหัวใจไปให้พ้นทาง
จะรอติดตามดูตอนหน้่าว่ากัสจะยอมใจอ่อนไหม สาธุ ขอให้ใจอ่อน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-07-2012 12:07:29
วินขี้หวงว่ะ กัสคืนนี้นอนกับมิคเลยนะ หมั่นใส้วิน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-07-2012 12:23:24
ร้ายนะนายวิน  :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 03-07-2012 14:33:54

วินทั้งหื่นทั้งหวงเลย :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-07-2012 17:35:10
วินไม่ต้องแสดงความหวงกัสขนาดนั้นก็ได้
กัสเขาไม่มองคนอื่นหรอก หนูมิคชอบของกินที่สุดล่ะคนนี้

+1กะแจกเป็ด
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 03-07-2012 17:36:48
วินร้ายอ่ะ  :laugh: :laugh:

แอบสงสารหมอพจน์นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 03-07-2012 21:37:03
รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่18 (3/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 03-07-2012 22:40:59
น่ารักกกกกกกกกก

คนมาทีหลังต้องทำใจ :เฮ้อ:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-07-2012 07:12:15
ตอนที่ 19

กัส

เสียงรายการโทรทัศน์ที่ดังมาจากปลายเตียงไม่ได้รับความสนใจจากผมมากนัก  แค่เปิดให้มีเสียงคลอเบาๆเพื่อไม่ให้ห้องนั้นเงียบจนเกินไป  ด้วยความสนใจตอนนี้ของผมอยู่ที่โน้ตบุ๊คบนตักจากการท่องโลกอินเตอร์เน็ตเว็บไซด์ยอดฮิตที่สามารถพูดคุยกับเพื่อนผ่านหน้าจอแค่เสี้ยววินาที  จวบจนรับรู้ถึงสัมผัสเย็นชื้นที่ผิวแก้มผมจึงเงยหน้ามองต้นเหตุที่มายืนอยู่ใกล้เตียงในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันท่อนล่างไว้  ‘ชิ  น่าหมั่นไส้ทำมายิ้มกว้างตาเยิ้มโชว์กล้ามใส่’  วินจะรู้มั้ยว่าการที่ผมส่งค้อนให้นั้นเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตัวเองอยู่  จะไม่ให้อายได้ยังไงครับ  กับการที่มีคนรู้สึกดีด้วยมากๆมาโชว์ซิกแพคแน่นๆกับรอยยิ้มเชิญชวนใส่กันขนาดนี้

“คนน่าไม่อาย  รีบไปแต่งตัวเลยไป” แอบดุร่างเกือบเปลือยตรงหน้าให้ออกไปจากสายตาด้วยรู้ว่าใบหน้าผมเกือบจะไหม้แล้ว 

วินหัวเราะในคอตาพราวอย่างถูกใจคงรู้ว่าผมอายที่ได้เห็นหุ่นของวิน  ก่อนเจ้าของซิกแพคแน่นๆจะเดินออกไปแต่งตัว  ไอ้ตาผมนี่ก็เป็นอะไรไม่รู้คอยแต่แอบชำเลืองดูร่างแกร่งที่หันหลังให้  ไม่อยากให้พ่อตัวดีรู้เลยเดี๋ยวจะได้ใจว่าผมหลงหุ่นวิน  แค่นี้ผมก็โดนเอาเปรียบขาดทุนจนย่อยยับไปหมดแล้ว 

“นั่นแน่  แอบมองวินเหรอ  กัสอยากดูอะไรบอกวินสิครับที่รักเดี๋ยววินจัดให้” อยู่ๆเจ้าของร่างสูงก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและล้อเลียนให้ผมได้อายวินคงรู้ว่าผมแอบดูอยู่  ผมที่หลบไม่ทันได้แต่อ้าปากหวอด้วยไม่ทันตั้งตัวว่าจะถูกจับได้   วินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วยเสื้อกล้ามและบอกเซอร์พร้อมนอนก็เดินมาถึงตัวผมก่อนยื่นหน้ายื่นตามาใกล้อย่างยียวน

“ฮึ  ใครอยากดูกันก็แค่....นั่นแหละ  วินอาบน้ำเสร็จก็นอนนะ  เดี๋ยวกัสไปนอนห้องมิคแล้ว” ผมยังไม่ทันได้ลุกจากเตียงวินก็แกล้งล้มทับมากอดผมไว้ทั้งตัว
 
“ฮือ  วินไม่เอานะอย่าแกล้งกัสสิ” ผมพยายามผลักอกหนาออกจากตัวแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากพ่อตัวดีเลย  วินกระชับร่างผมแน่นขึ้นก่อนลมอุ่นๆจะถูกพ่นมาโดนแถวซอกคอจนผมขนลุกซู่

“วินไม่ได้แกล้งซะหน่อย  แค่ขอกอดหน่อยเดียวนะ / จุ๊บ” ปากยังพูดไม่ทันจบดีวินก็ขโมยจุ๊บที่ปากผมแล้ว  แบบนี้มันน่าเชื่อถือได้ตรงไหนกัน

“อ๊ะ  ไหนบอกแค่กอดไง  ขี้โกงอ่ะ” จะไม่ให้ผมโวยได้ยังไงกันไอ้คนเจ้าเล่ห์ปากว่าอย่างทำอีกอย่างชัดๆ  ผมรีบเบือนหน้าหนีเมื่อคนข้างบนที่ทำท่าจะก้มลงมาอีก

“ฮึๆๆ  ครับวินไม่แกล้งแล้ว  ขอนอนกอดกัสหน่อยนะคิดถึงจัง  เดี๋ยวค่อยไปหามิคนะครับ  นะ” เสียงออดอ้อนของวินส่งมาทำผมใจอ่อน  วินคงรู้ว่าผมแพ้เสียงอ้อนของเจ้าตัวจึงขยันอ้อนให้ผมใจอ่อนซะเรื่อยเลย  ซึ่งผมก็ไม่อยากขัดใจสิ่งที่เป็นความสุขเล็กๆของวินและของตัวเอง  จึงยอมให้พ่อคนเจ้าเล่ห์ได้กอดไปมันก็อุ่นดีนะครับ ‘อุ่นทั้งตัวอุ่นทั้งใจ’  วินซุกหน้ามาที่อกผมนิ่งๆจนได้ยินแต่เสียงโทรทัศน์ที่ปลายเตียง

“กัสครับวินรักกัสนะ  วินขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา” ผมสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นที่กลางอกทำเอาตกใจ  เมื่อได้รู้ว่าคนตัวโตที่ซบอกผมอยู่นั้น ‘ร้องไห้’  ผมพยายามพลิกหน้าวินออกจากอกแต่ก็ทำไม่ได้  เมื่อวินฝืนตัวไว้คงไม่อยากให้ผมเห็นน้ำตา

“วิน” ผมเรียกชื่อคนตัวโตแต่ขี้แยอย่างอ่อนโยนพร้อมลูบผมนุ่มไปมาเพื่อปลอบใจ  ด้วยรู้ว่าวินอยากขอโทษผมเพราะรู้สึกผิดจริงๆ

“วินอยากเจอหน้ากัส  อยากขอโทษ  อยากแก้ตัวกับสิ่งที่ทำโดยไม่ตั้งใจ  แต่วินรู้ว่าวินเลวจนกัสไม่อยากเจอวินอีก  รู้ทั้งรู้ว่ากัสอยู่ไหนแต่ไม่กล้าไปหา  ได้แต่รอให้กัสคลายความโกรธยอมเจอวินให้โอกาสวินได้แก้ตัว  จนวันนั้นที่วินได้รับโอกาสจากกัส  วินดีใจมากรู้มั้ยครับ  ตอนนี้วินมีความสุขมากจนภาวนาขออย่าได้เป็นแค่ฝันที่มีกัสอยู่ข้างกัน  ได้กอดกันสัมผัสได้ถึงไออุ่นของกัส  กลิ่นหอมๆจากตัวกัส  วินขอแค่นี้ขอมีแค่กัสเท่านั้น”

คนตัวโตที่ซบอกผมอยู่พูดความรู้สึกที่เจ้าตัวคงอัดอั้นมานาน  ต้นเหตุก็คงมาจากผมที่ทำให้วินเป็นทุกข์แต่เราก็ทุกข์กันมาทั้งคู่  และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะให้โอกาสวินและตัวผมเองอีกครั้งให้เราได้มีความสุขร่วมกัน  ในรักครั้งนี้ที่เราจะค่อยๆสร้างให้มั่นคงและแข็งแกร่งกว่าครั้งก่อน  ที่แค่มีคนมาสะกิดก็พังครืนไม่เป็นท่า  แต่รักครั้งนี้แม้มีพายุใหญ่เราจะจับมือกันและฝ่าฟันมันไปให้ได้  ผมสอดมือเข้าสางผมนุ่มพร้อมพูด

“วินครับ  เราจะเริ่มกันใหม่เรามาลืมเรื่องเก่ากันนะ  เพราะครั้งนั้นไม่ใช่แค่วินที่ผิด  กัสก็ผิดที่ไม่ยอมฟังความจากวินและเราก็เจ็บกันทั้งคู่  เพราะงั้นกัสให้สัญญากับวินว่าเราจะคุยกันทุกเรื่องมีอะไรก็จะถามไม่เก็บให้คาใจ  วินเตรียมโดนซักได้เลยน้า  คิกๆ”

“ฮึๆ  วินก็ให้สัญญาว่าจะรักกัสคนเดียวและให้กัสเชื่อใจวินด้วยนะครับ” วินเงยหน้าเมื่อเอ่ยปากสัญญากับผมแววตาที่สบมานั้นจริงจังและผมก็จะเชื่อในคำสัญญาที่วินให้ไว้ 

วินก้มหน้าเข้าหาริมฝีปากเราสัมผัสกันแผ่วเบาเนิ่นนาน  จูบนี้ไม่ได้ลึกซึ้งแต่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและมั่นคงที่วินคงอยากสื่อมาให้ผมรับรู้  เราผละออกจากกันและต่างส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้อีกฝ่าย ‘ผมมีความสุขจัง’  เราสบตากันเนิ่นนานก่อนวินจะเอนตัวลงมาอีกครั้งและดึงผมเข้าไปซบอกกว้างที่อุ่นและคุ้นเคย  ผมนอนอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของวินอยู่นานและไม่มีเสียงพูดระหว่างกัน  แค่ซึมซับความสุขระหว่างกันไม่ต้องมีบทสนทนาก็สามารถสื่อถึงความรักที่เรามีให้กันได้ 

“กัสครับ  หมอพจน์นี่มาจีบกัสเหรอ  หืม” อยู่ๆวินก็ส่งคำถามที่ทำเอาผมแปลกใจจนต้องเงยหน้าขึ้นมอง  แววตาคาดคั้นถูกส่งมาให้แต่ผมก็ไม่นึกโกรธเพราะรู้ว่าวินกำลังคิดอะไรอยู่  เพราะเมื่อเย็นที่วินและหมอพจน์เจอกันวินทำตัวหาเรื่องมากและแสดงความเป็นเจ้าของผมอย่างออกนอกหน้า  ด้วยคงจับสังเกตพฤติกรรมของหมอพจน์ได้มั้งว่าคิดอะไรกับผมอยู่

“ฮึๆๆๆ  แล้ววินคิดว่าไงล่ะ” ผมส่งคำถามแทนคำตอบที่วินต้องการ  แค่อยากจะแกล้งพ่อตัวดีดูบ้างด้วยอยากจะรู้อารมณ์คนขี้แกล้งว่าจะรู้สึกยังไง  และผมก็ได้รู้ว่ามัน ‘สนุก’ ที่ได้เห็นคนหน้าหล่อคิ้วขมวดมุ่นอย่างคนไม่ได้ดั่งใจแต่ทำอะไรไม่ได้

“หมอพจน์นั่นมาชอบกัสแน่ๆ  ส่งสายตามาให้กัสซะหวานขนาดนั้นไม่รู้ก็แย่แล้ว” วินกระแทกเสียงใส่ในประโยคพร้อมจ้องตาผมอย่างจริงจังออกแนวหวงแหน  ทำเอาผมนึกหมั่นไส้ปนขำในพฤติกรรมที่ไม่เคยเปลี่ยนนี้ของวินเลย

“วินก็รู้แล้วนี่  แต่ไม่ต้องแสดงออกมากเหมือนเมื่อเย็นนี้ก็ได้สงสารหมอพจน์เค้า” หลังคำพูดผมวินหน้าบึ้งหนักกว่าเดิมและรัดร่างผมซะแน่นจนหายใจแทบไม่ออก  ก่อนจะก้มมาฟัดแก้มผมหลายฟอดอย่างต้องการลงโทษกัน

“โห  ก็วินหวงกัสนี่มีไอ้หนุ่มตี๋มาแอบจีบด้วย  ตอนที่ไม่มีวินอยู่ใกล้นี่ห้ามใจอ่อนนะรู้มั้ย  กัสเป็นของวินคนเดียวและวินก็รักกัสมากกว่าใครๆนะครับ” แววตาขี้เล่นหายไปเหลือแต่แววตาแน่วแน่จริงจัง  จนผมต้องยิ้มกว้างให้กับคำบอกรักของคนรักที่ขยันบอกกันเหลือเกิน

“รู้แล้วครับว่าวินน่ะหวง  แล้วรู้ไว้ซะถ้ากัสจะใจอ่อนนะ  ป่านนี้วินไม่ได้มาอยู่ตรงนี้หรอกรู้มั้ย” หลังคำพูดของผมที่แฝงความในใจออกไป  ผมก็โดนวินคว้าตัวไปกอดแถมโดนฟัดหัวหอมแก้มอีกหลายรอบจนช้ำไปหมด  ผมโวยวายจนเหนื่อยสุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี  หลังเรานอนกอดกันเงียบๆพักหนึ่งผมก็นึกสงสัยขึ้นมา

“วิน  พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานเหรอ  หยุดมานี่ที่ทำงานไม่วุ่นรึไง” วินระบายยิ้มให้และเกลี่ยเส้นผมของผมให้พ้นหน้าผาก

“ไม่หรอกครับที่รัก  มีระบบงานไว้อยู่แล้วแต่ถ้ามีปัญหาเร่งด่วนก็คงโทรมาปรึกษาเอง” ผมแอบเขินเล็กๆให้กับคำว่า ‘ที่รัก’ จึงเสหลบตาแวววาวตรงหน้า  ก่อนพูดกับอกแกร่งแทนหน้าเจ้าของมัน

“แล้วจะอยู่ถึงวันไหนล่ะ” เสียงผมแผ่วปลายอย่างไม่รู้ตัว  เพราะแอบใจหายเมื่อคิดว่าจะต้องห่างจากเจ้าของอ้อมกอดอุ่นนี้

“นี่ยังไม่ได้ค้างสักคืนก็โดนถามวันกลับแล้ว  กัสไม่อยากให้วินอยู่ใกล้ๆเหรอ” เสียงน้อยใจที่ได้ยินทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นสบตาวินที่มีแววน้อยใจไม่ต่างจากน้ำเสียงนัก

“แหมวินก็  กัสห่วงงานแทนวินนะ  เจ้าของไม่อยู่เดี๋ยวบริษัทเจ๊งพอดี” วินฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนรวบตัวผมขึ้นมานอนทับบนตัววินทั้งตัว

“งั้นกัสกลับไปอยู่กับวินที่โน่นนะ  วินจะตั้งใจทำงานหาเงินมาได้เท่าไหร่ให้กัสหมดเลย  นะครับนะ” เสียงออดอ้อนแววตากระตือรือร้นของวินทำผมปลื้มใจ  ที่รู้ว่าพ่อตัวดีเค้าทุ่มเทให้ผมแค่ไหนถึงกับเอ่ยปากยกเงินให้ทั้งหมดเลย  จนผมอดที่จะหยอกเย้าพ่อบุญทุ่มไม่ได้

“ให้กัสหมดเลยเหรอแล้ววินจะเอาอะไรกินล่ะ” ผมเอามือมาประสานวางทับกันบนอกวินก่อนวางคางลงไป  และจ้องตารอคำตอบของพ่อคนรูปหล่อด้วยรอย
ยิ้มกว้าง

“ก็ให้กัสเลี้ยงวินสิครับ  วินเลี้ยงง่ายนะขอแค่กัสไปอยู่กับวิน  วินอะไรก็ได้อยู่แล้ว” พูดมาอย่างนี้จะให้ผมทำหน้ายังไงกันนอกจากอายจนหน้าร้อบวูบ  ที่วินพูดมันเหมือนการขอแต่งงานเลยนี่หน่าไอ้ประโยคที่ชวนไปอยู่ด้วยกันเนี่ย

“วินครับ  ตอนนี้กัสยังไปไม่ได้ต้องทำงานใช้ทุนที่นี่ก่อน  แต่วินห้ามมาพูดนะว่าจะใช้เงินแทนกัสแล้วพากัสไปอยู่ด้วยน่ะ  เพราะกัสตั้งใจทำงานที่นี่ก่อน  อีกหนึ่งปีค่อยลาเรียนต่อไปอยู่ในกรุงเทพฯ  เพราะกัสชอบและรักที่นี่มากยังไม่อยากย้ายไปไหน” วินมีสีหน้าผิดหวังนิดหน่อยก่อนจะคลี่ยิ้มด้วยแววตาเข้าใจส่งมาให้ผม

“ก็ได้ครับวินตามใจกัส  แต่อีกหนึ่งปีกัสต้องไปอยู่กับวินนะ  เฮ้อออ  แล้ววิน   จะอยู่ยังไงเนี่ยห่างกัสขนาดนี้  แถมมีหมอหน้าตี๋จ้องจีบกัสอีก” วินแกล้งถอนใจยาวด้วยใบหน้าล้อเลียน  นี่วินคิดว่าจะทำเนียนรวบรัดกับผมได้เหรอ

“คิกๆๆๆ  วินขี้ตู่มากใครบอกว่ากัสจะไปอยู่กับวิน  กัสบอกว่าจะกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯต่างหาก  แล้วอย่าไปเรียกหมอพจน์ว่าหมอตี๋สิน่าเกลียดออก” ผมแกล้งดุคนขี้ตู่ไปแบบนั้นเองครับเพราะรู้ว่าวินไม่กลัวผมหรอก

“ไม่รู้ล่ะอีกหนึ่งปี  วินจะเอากัสไปอยู่กับวินด้วยแน่ๆ  และวินสัญญาจะอดทนรอกัสนะครับ” วินผนึกสัญญาด้วยการกดจมูกมาที่หน้าผากผม  จนผมต้องหัวเราะแก้เขินให้คนขี้ตู่ที่ชอบทำหวานให้ใจสั่นอยู่เรื่อย

“คนขี้ตู่เอ๊ย  ฮิๆๆ  เราอยู่ไกลกันวินจะอดทนได้ซักกี่น้ำน้า” คำถามหยอกเย้าแต่แฝงคำท้าทายของผมทำวินชะงัก  เราจ้องตากันนิ่งๆอย่างวัดใจก่อนวินจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา

“รอดูได้เลยครับที่รัก  และวินจะมาหากัสให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยคอยดู  เพราะวินต้องมากันท่าหมอพจน์นั่น  ให้รู้ว่าอย่ามาใกล้กัสเพราะกัสน่ะมีเจ้าของแล้ว  และเจ้าของก็หวงคนน่ารักคนนี้มากๆ”

“แล้วกัสจะคอยดู  ว่าวินจอมเจ้าเล่ห์จะทำได้อย่างปากว่ารึเปล่า” เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเราสองคนดังกลบเสียงอื่นๆไปหมด 

ผมจะคอยดูสิว่าคนที่ให้สัญญากันไว้จะทำได้อย่างที่พูดมั้ย  ถ้าทำไม่ได้นะผมจะโวยทวงสัญญากลับไปแน่ๆจะไม่ยอมนิ่งเฉยหรอก  และต่อไปนี้อย่าได้หวังว่าผมจะปล่อยวินหลุดมือหรือหายหน้าไปจากผมได้อีก  ผมจะทำให้วินหลงจนไม่เหลียวมองใครอีกเลย  จะว่าผมเจ้าเล่ห์หรือเห็นแก่ตัวกับคนรักก็ว่าไปเถอะ  เพราะผมถือว่าวินให้สัญญาและเอ่ยปากบอกรักกันแล้วและยึดผมไปเป็นคนของตัวเอง  ดังนั้นผมจึงถือว่าวินก็เป็นคนของผมเหมือนกัน  การที่ผมหวงแหนคนรักก็ถือว่าไม่ผิด
 
“คืนนี้กัสนอนกับวินนะครับ  วินสัญญาว่าแค่กอดตอนนี้วินรู้ว่ากัสยังไม่พร้อม  วินไม่บังคับขอแค่กอดเท่านั้นเอง  นะครับ”

จะเอายังไงดีน้อคนที่กอดอยู่ก็อ้อนซะทำเอาผมใจอ่อนไปกว่าครึ่งแล้ว  แต่ถ้ายอมนอนให้วินกอดกลัวว่าเราจะไปกันไกลกว่านั้น  ผมไม่ได้กลัวว่าวินจะบังคับหรอกแต่กลัวใจตัวเองมากกว่า  ดูอย่างเมื่อเย็นแค่วินจูบผมก็เตลิดไปไกลแล้วถ้าวินไม่หยุดผมก็ไม่มีแรงต้านทานหรอก  แต่ใจผมนี่สิตอบรับไปก่อนปากแล้ว  เอาน่าเมื่อใจเรียกร้องก็ทำตามใจแล้วกันเพราะฝืนใจตัวเองมานานแล้ว  ผมจึงพยักหน้าตอบรับกับอกกว้างไป  แหมใครจะกล้ามองหน้ากันแค่นี้ผมก็อายจะแย่แล้วครับ

“ไชโย  ขอบคุณครับกัส  คืนนี้วินคงนอนหลับสนิทและมีความสุขมากที่สุดเลย” วินพูดจบก็ลุกไปปิดไฟและโทรทัศน์  ก่อนกลับมานอนและรวบกอดผมเข้าหาอก

“ฝันดีนะครับที่รัก”
 
ผมสัมผัสได้ถึงริมฝีปากหยุ่นที่หน้าผากตัวเองหลังวินเอ่ยอวยพรให้หลับฝันดี  คืนนี้ก็คงเป็นคืนที่ผมจะหลับได้อย่างมีความสุขมากที่สุดตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา  เสียงหัวใจของวินเต้นใกล้หูดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอทำเอาผมเคลิ้มหลับไปพร้อมอ้อมกอดอุ่นที่โหยหา

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ในที่สุดกัสก็ใจอ่อนให้วินนอนกอดจนได้
แต่ก็รักนี่เนอะ จะเล่นตัวไปทำไม เสียเวลามานานแหละ :laugh:

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 04-07-2012 08:07:43
น่ารักกกกกกกกก :o8:

ดีกันแล้ว

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 04-07-2012 10:10:25
หวานกันซักที ขอให้เรื่องร้ายๆต่างๆอย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับคู่นี้อีก
วินเวลาอ้อนกัสน่ารักมากๆ กัสจังก็น่ารักกกก ชอบคู่นี้จริงๆ
(แต่ที่จริงก็ชอบทุกคู่เลยอ่ะ กิ๊บก๊าบ >///<)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 04-07-2012 10:15:30
หวานจนเป็นน้ำตาล :pighaun:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-07-2012 10:54:50
หวานๆกันไป ^  ^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 04-07-2012 11:33:09
หวานอ่ะ  ชอบ    อยากอ่านอีกครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-07-2012 11:38:58
หวานซ๊าาาาา :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 04-07-2012 13:55:27

หวานๆ :-[
ขี้อ้อนจริงนะวิน
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 04-07-2012 15:01:04
ยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-07-2012 17:47:35
หวานกันน่าดู วินอ้อนกัสใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-07-2012 17:50:29
รอจ้ารอ :t3:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 04-07-2012 22:54:15
กำลังหนุกเลย อิอิ วินกับกัสเริ่มหวานแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่19 (4/7/55)P.8 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-07-2012 02:22:36
วินขี้หวงอ่ะ  :m12:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 05-07-2012 07:31:22
ตอนที่ 20

วิน

“กัสครับวินใกล้ถึงแล้วนะ  ครับๆ  เดี๋ยววินไปหาที่ห้องฟันเลยนะ  ไม่ดื้อนะครับเดี๋ยววินไป” ผมกดวางสายแล้วนั่งยิ้มกริ่มหลังพวงมาลัยรถยนต์  หลังโทรไปรายงานแฟนหนุ่มน้อยน่ารักแล้วว่าผมกำลังจะถึงโรงพยาบาลที่กัสทำงานอยู่แล้ว

วันนี้เป็นวันศุกร์ผมรีบขับรถออกจากรุงเทพฯเพื่อมาหาคนรัก  ซึ่งผมทำแบบนี้เกือบทุกสัปดาห์หรือไม่บางสัปดาห์กัสก็จะเป็นฝ่ายที่เข้าไปกรุงเทพฯถ้าผมไม่ว่างที่จะออกต่างจังหวัด  แต่ผมไม่ได้ให้กัสเหนื่อยขับรถไปเองนะครับ  ผมให้คนขับรถที่บ้านขับมารับกัสไปหาผมต่างหาก  มันเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ไปแล้วที่ผมรอคอยจะเจอกัส  หลังเราคืนดีกันมันก็ผ่านมาเกือบสามเดือนได้แล้ว 

เมื่อครู่กัสที่อยู่ปลายสายไม่อยากให้ผมไปหาเจ้าตัวที่ห้องทำงานนัก  เพราะทุกครั้งที่ผมมาถึงนั้นจะค่อนข้างมืดแล้ว  จึงยังไม่เคยไปถึงห้องทำงานแต่วันนี้แหละผมจะไปหาคนน่ารักถึงห้องเลย  จะได้ให้คนอื่นรู้กันไปซะทีว่าหมอกัสคนน่ารักน่ะมีแฟนแล้ว  ด้วยผมรู้จากมิคที่แอบมาเล่าให้ฟังว่านอกจากไอ้หมอตี๋ที่มาคอยตามจีบกัสออกนอกหน้าแล้ว  ยังมีคนอื่นอีกที่เป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงแอบตอดเล็กตอดน้อยคนของผมอยู่  แต่ยังดีที่กัสไม่ได้สนใจนักว่าใครจะเข้าหาหรือมาสนใจตัวเองและให้ความสนิทแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น  เพราะฉะนั้นวันนี้ผมถึงต้องมาดูให้เห็นกับตาว่ามีไอ้หน้าไหนบ้างที่มาสนใจกัส  และจะทำให้พวกมันได้รู้ว่าอย่าได้มาหวังในตัวคนรักของผมอีก

“ขอโทษครับ  ห้องทันตกรรมไปทางไหนครับ” ผมส่งคำถามพร้อมโปรยยิ้มไปให้สาวน้อยที่นั่งโต๊ะประชาสัมพันธ์  ก่อนจะได้รับรอยยิ้มกว้างกับผิวแก้มระเรื่อส่งกลับมา

“เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ  จะมีป้ายบอกทางเหนือศีรษะค่ะ”

“ขอบคุณครับ” ผมกล่าวขอบคุณสาวน้อยตรงหน้าและเดินมาตามทางที่ได้รับการบอกมา 

ระหว่างทางเจอผู้คนไม่มากนักเพราะใกล้เวลาเลิกงานแล้ว  ผมเดินผ่านเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลก็โปรยยิ้มผูกมิตรไว้ก่อน  เดี๋ยวเราก็คงจะต้องรู้จักกันเพราะผมก็คงได้มาที่นี่บ่อยๆ  จนต้องคุ้นทั้งคนและสถานที่แน่ๆ

“ขอพบหมอกัสหน่อยครับ” ผมเอ่ยบอกหญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ห้องทันตกรรม  เธอเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มก่อนเอ่ยถามกลับมา

“ใครต้องการพบคะ”

“อืม  คนพิเศษของหมอกัสครับ” ผมใช้วิธีบอกถึงสถานะของตัวเองไปแทนการบอกชื่อ  ทำเอาสาวร่างบางตรงหน้าร้องตกใจตาโตขึ้นทันที

“หา!! คะ คนพิเศษของหมอกัสเหรอคะ” ผมต้องกลั้นขำกับอาการของสาวตรงหน้าและนึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้ว่ากัสคงไม่เคยเล่าให้ใครฟังสินะว่ามีแฟนแล้วและแฟนก็เป็นผู้ชายด้วย

“ใครมาครับจ๋า  อ้าววินมาแล้วเหรอ  กัสบอกว่าไม่ต้องมาให้ไปรอที่บ้านก็ไม่เชื่อ” พอผมเห็นว่าเจ้าของประโยคเป็นคนรักจึงเดินเข้ามาในห้องแบบไม่ต้องให้มีใครเชิญทันที  เมื่อผมเดินมาถึงตัวคนพูดกัสก็พูดจบประโยคพอดี

“โธ่  ก็วินอยากมาเห็นที่ทำงานของหมอกัสนี่ครับ” ระหว่างที่ผมพูดออดอ้อนใส่คนน่ารัก  เราก็เดินเข้ามาที่ห้องพักที่กั้นเป็นห้องแยกออกมาจากส่วนที่ให้บริการคนไข้ไปด้วย 

ในห้องมีคนนั่งกันอยู่แล้วสี่คนและหนึ่งในนั้นก็มีมิคนั่งรวมอยู่ด้วย  คนที่เหลือเป็นผู้หญิงและน้องผู้หญิงที่ชื่อจ๋าก็ตามเข้ามา  ตอนนี้ทุกคนมองมาที่ผมยิ้มๆและคงรอการแนะนำตัวจากหัวหน้าตัวเองอยู่  ก่อนสาวๆจะเบนสายตาไปที่กัสแทนพร้อมส่งสายตาเป็นคำถามไปให้

“ฮ่าๆๆ  ทุกคนอยากรู้จักนายวินแล้วครับหมอกัส” มิคหัวเราะเสียงดังกับท่าทางของกัสที่มีใบหน้าแดงระเรื่อ  ก่อนกัสจะหันไปส่งค้อนให้มิคที่ส่งคำถามล้อเลียนมาให้

“เอ่อ  ทุกคนครับนี่วินนะครับเป็นเอ่อ......” เสียงหวานของคนรักหยุดชะงักลงเมื่อจะเอ่ยถึงสถานะของผม  ส่วนผมได้แต่ยืนลุ้นให้กัสพูดออกมา  เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของคนรักแล้วจึงตัดสินใจแนะนำตัวเองซะเลย

“ครับ  ผมวินเป็นคนพิเศษของหมอกัสครับ” ผมรีบแสดงสถานะให้บรรดาลูกน้องของคนรักได้รู้พร้อมส่งยิ้มกว้างอย่างภูมิใจไปให้ทุกคน 

สาวๆในห้องตาโตท่าทางตกใจกันน่าดูก่อนเปลี่ยนมาเป็นยิ้มกว้างส่งสายตาล้อเลียนไปให้กัสแทน  ผมหันกลับไปมองหน้าหนุ่มน้อยข้างกายจึงได้เห็นว่าใบหน้าขึ้นสีอมชมพูเปลี่ยนเป็นแดงก่ำอย่างน่ากลัวก่อนลามไปที่ใบหู

“แฟนหมอกัสเหรอคะหล่อมาก / ทำไมหมอไปเคยพามาล่ะคะน่าจะพามาตั้งนานแล้ว / อิจฉาหมอกัสจัง / คุณวินนั่งก่อนค่ะ”

สารพัดคำถามที่ส่งมาพร้อมคำเชื้อเชิญแสดงว่าผมได้รับการยอมรับจากลูกน้องของกัสแล้วสินะ  แต่ก็นะคนมันหน้าตาดีแถมมีแฟนน่ารักเนี่ยใครก็รักก็เอ็นดู  ผมหันไปมองหน้ากัสที่ยังไม่หายแดงจึงเอื้อมจับข้อมือพร้อมฉุดให้นั่งลงข้างกันบนโซฟาตัวยาว  นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนอื่นนะผมให้กัสนั่งตักไปแล้วครับ  ยิ่งเราห่างกันมาห้าวันผมยิ่งคิดถึงคนตัวเล็กมาก  หลังจากนั้นผมก็ต้องตอบคำถามจากสาวๆในห้องที่ช่างสงสัยทั้งหลาย  จนมิคต้องปรามออกมาให้ผมได้นั่งพักเพราะขับรถมานาน  สาวๆจึงต่างแยกย้ายกันไปบ้างก็เดินไปข้างนอกบ้างก็นั่งทำงานเอกสารเล็กๆน้อยๆ  จึงเหลือเพียงผมกัสและมิคนั่งที่โซฟาตัวเดิม

“กัสครับไม่โกรธวินนะที่มาแบบนี้  กัสไม่อายใช่มั้ยที่คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน” กัสหันมามองหน้าผมนิ่งๆและสบตาด้วยอย่างจริงจัง

“แล้ววินจะโกรธมั้ย  ถ้ากัสแนะนำวินกับคนอื่นว่าเป็นแฟนกัส  กัสมีคำตอบให้วินเหมือนที่วินจะตอบกัส” ผมถึงกับยิ้มกว้างให้คนน่ารักที่พูดออกมาได้ถูกใจทำให้หัวใจของผมพองฟูคับอก   

ผมไม่เคยอายที่จะบอกใครๆว่าผมนั้นมีคนน่ารักข้างๆคนนี้เป็นแฟน  และกัสที่คิดเหมือนกันนั้นยิ่งทำให้ผมรักและภูมิใจในคนตัวเล็กของผมเข้าไปใหญ่  จนอยากเข้าไปกอดร่างหอมๆและฟัดแก้มนุ่มๆของกัส  แต่สถานที่ไม่อำนวยให้ทำอย่างนั้นผมขอเก็บไว้ทบต้นทบดอกเมื่ออยู่กันสองคนก็แล้วกัน  กัสที่ส่งยิ้มน้อยๆแววตาอ่อนหวานมาให้นั้นทำให้ผมต้องเพิ่มความอดทนไม่เข้าไปขย้ำกวางน้อยช่างยั่ว  ‘อ๊ากกก  คนอะไรน่ารักอย่างนี้’  ผมไม่เคยนึกเบื่อกัสเลยยิ่งนานวันยิ่งใกล้ชิดยิ่งรักมากกว่าเดิม

“นี่ทั้งสองคน  ไม่อยากขัดคอนะแต่อยากเตือนว่ามดมันเดินมาแล้ว  ระวังโดนกัดล่ะ  อ้าว!  กัสทำไมต้องตีมิคด้วยล่ะ  มิคพูดเรื่องจริงนี่  ไปๆไม่เอาแล้วได้เวลากลับบ้านแล้ว” มิคคงทนความหวานของเราไม่ไหวจึงรีบเบรกด้วยการแซวและชวนกันกลับ 

เราสามคนจึงบอกลาสาวๆในห้องและเดินออกมาพร้อมกัน  ผ่านห้องตรวจที่ตอนนี้มีพยาบาลจับกลุ่มนั่งอยู่หน้าห้องหันมาทางกลุ่มของเราที่กำลังเดินผ่านพอดี

“หมอกัสคะ  ใครเอ่ยหล่อมากไม่แนะนำให้พี่รู้จักเหรอคะ” พยาบาลที่สาวเหลือน้อยแล้วหันมาแซวคนรักของผม  ท่าทางเธอคงรู้ล่วงหน้าแล้วว่าผมเป็นใครเพราะมีหนึ่งสาวจากห้องฟันรวมอยู่ในกลุ่มด้วย 

กัสจึงพาผมเดินไปใกล้กลุ่มคนที่นั่งอยู่และแนะนำไปกลางๆไม่ได้บอกสถานะชัดเจนนัก  เพราะกัสคงสังเกตจากคำพูดและสายตาที่ส่งมาทางเราทั้งคู่ก็รู้ว่าพยาบาลกลุ่มนี้คงรู้แล้วว่าเราเป็นอะไรกัน  แค่กัสไม่ปฏิเสธที่เค้าแซวกันก็เท่ากับยอมรับแล้ว  จะให้มาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันหน้าห้องตรวจโรคก็ยังไงอยู่  ผมเข้าใจคนรักนะครับด้วยรู้ว่ากัสก็ยังมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่ที่นี่

“กัส  เอ่อ  สวัสดีครับคุณวิน”

“ครับ / สวัสดีครับหมอพจน์”

เราสองคนหันไปทางต้นเสียงของหมอหนุ่มที่เข้ามาทักก่อนทักกลับไป  ไอ้หมอหน้าตี๋มันส่งยิ้มเล็กน้อยมาให้ผมและส่งสายตาเศร้าๆไปทางกัส  ส่วนกัสก็เสมองไปทางกลุ่มพยาบาลพลางเอ่ยปากขอตัว  ก่อนก้มหัวและส่งยิ้มไปให้ไอ้หมอพจน์ที่ตอนนี้กลับมาทำหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์และเอ่ยขอตัวเดินจากไป  แวบหนึ่งผมรู้สึกสงสารหมอพจน์เหมือนกันที่มาชอบกัส  แต่ที่กัสทำแบบนี้ก็ดีแล้วหมอตี๋นั่นจะได้รีบตัดใจยิ่งนานจะยิ่งผูกพันและยิ่งเจ็บ  และผมก็รู้สึกภูมิใจที่มีคนรักเป็นหนุ่มร่างเล็กน่ารักคนนี้ที่ไม่คิดให้ความหวังใคร 

หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่บ้านพักหลังโรงพยาบาล  มาถึงผมก็ขนของเข้าห้องของกัสที่ยอมให้ผมนอนร่วมห้องด้วยหลังจากคืนแรกที่เรานอนกอดกันจนหลับไป  จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่มีอะไรกันนอกจากกอดจูบบ้างแต่ยังไม่มีอะไรลึกซึ้ง  ผมยังอยากให้เวลากัสปรับตัวหลังจากเราห่างกันไปนาน  อยากให้กัสไว้ใจและเชื่อใจผมมากๆก่อน  ส่วนกัสก็หายเกร็งไปมากแล้วยามผมเข้าใกล้และแสดงความรักเล็กๆน้อยๆออกไป  แต่อาการเขินอายยังมีอยู่ทุกครั้งที่ใกล้ชิดกัน  เมื่อผมอาบน้ำเสร็จก็ลงมาตามหากัสข้างล่างที่ไม่รู้ว่าลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ช่วงที่ผมอยู่ในห้องน้ำ  พ้นกรอบประตูหลังบ้านที่เป็นส่วนของห้องครัวเล็กๆที่เปิดโล่งมีเตาไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหารง่ายๆ  เครื่องปรุงต่างๆ  ตู้เก็บของวางตั้งอยู่  ในส่วนนี้พอให้สองหมอหนุ่มเจ้าของบ้านได้ทำอะไรกินเล็กๆน้อยๆได้  แต่จากสภาพที่เห็นนั้นสะอาดเรียบร้อยเพราะคงไม่ได้ถูกใช้งานจากเจ้าของบ้านเลยด้วยทั้งคู่ทำอาหารไม่เป็น  จะได้ใช้ก็ต่อเมื่อผมมาซึ่งผมก็ได้ตำแหน่งพ่อครัวเอกมาครอง 

“อ้าววินอยู่นี่เอง  กัสกับมิคไปซื้อของสดที่ตลาดมาให้น่ะ” กัสส่งยิ้มกว้างและยื่นถุงหิ้วมากมายมาให้ 

ผมจึงส่งยิ้มกลับและรับถุงมาวางไว้  ก่อนจัดการตามคำบัญชาของคนรักที่คิดเมนูที่ตัวเองอยากกินมาให้ผมทำ  แค่นี้สบายมากสำหรับผมแค่เห็นกัสยิ้มขณะกินของที่ผมทำผมก็มีความสุขไปด้วยแล้ว  หลังจากนั้นมิคอาสาเป็นคนเก็บล้างให้เพราะอ้างว่าไม่ได้ช่วยออกเงิน  แถมมีคนทำให้อีกเลยอยากช่วยทำความสะอาดแทน  ตอนแรกผมว่าจะไม่ยอมแต่มิคก็ดุกลับมาว่าไม่งั้นจะไม่ให้มาที่นี่อีกพร้อมจะไม่ส่งข่าวใดๆของกัสมาบอก  ผมจึงยอมให้มิคได้ทำตามต้องการ  ดังนั้นเราสองคนจึงกลับขึ้นมาบนห้องผลัดกันอาบน้ำ  ซึ่งตอนนี้ผมสบายตัวแล้ว  กำลังนั่งพิงหัวเตียงพร้อมหยิบนิยายฆาตกรรมเล่มโปรดของกัสมาอ่านฆ่าเวลารอคนรัก  สักพักร่างเล็กก็เดินตัวหอมออกมาพร้อมใช้ผ้าเช็ดผมที่เพิ่งสระมาด้วย  ผมเห็นจึงกวักมือกัสเรียกให้มานั่งบนเตียงก่อนลงมือเช็ดผมให้และก้มหน้าลงจรดจมูกที่ปลายผมหอม

“หอมจัง  วินใช้ไม่เห็นหอมเหมือนกัสเลย  ตรงนี้ก็หอม”

“คิกๆ  วินอ่ะ  จั๊กจี้น้า  คิกๆ”

ผมก้มลงหอมแก้ม  ซอกคอ  ลาดไหล่ของคนตัวหอมเล่นจึงได้เสียงหัวเราะคิกคักตอบกลับมา  และยิ่งอยากแกล้งกัสให้หัวเราะดังกว่านี้  ผมจึงระดมหอมทุกส่วนที่โผล่จากเสื้อผ้าของกัสจนเราล้มไปที่เตียงด้วยกัน  ปากผมชนกับปลายจมูกของร่างบางเรานิ่งและสบตากัน  ดวงตาสวยของกัสที่มีแววตาอ่อนโยนเปล่งแสงแห่งความสุขออกมา  จนผมหลงใหลและไม่อาจละสายตาตัวเองไปไหนได้  ก้มลงจุมพิตเปลือกตาทั้งคู่ไล่มาที่แก้มนุ่มหอมกรุ่นและปิดท้ายที่ริมฝีปากบางสีสดที่คลี่ยิ้มอ่อนๆ  ผมกลับมาสบตาคู่เดิมแต่ประกายต่างออกไป  กัสจะรู้มั้ยนะว่าส่งสายตาแบบไหนมาให้ผมกันเพราะมันทั้งยั่วยวนและอ่อนหวาน  พลันใจผมก็เต้นแรงอยากเก็บภาพแบบนี้ไว้คนเดียวไม่อยากให้ใครได้เห็นแบบที่ผมได้เห็นเลย

“อย่าส่งสายตาแบบนี้ให้ใครนะครับที่รัก  วินหวง  รักกัสนะ  รักที่สุด”

ผมอดใจไม่ไหวกดจูบที่ปากสีสดที่กำลังยิ้มกว้างกับคำพูดของผม  กัสที่ยังไม่ทันตั้งตัวโดนผมขบเม้มกลีบปางล่างอย่างหยอกเย้า  จนกัสหัวเราะออกมาผมจึงได้โอกาสแทรกปลายลิ้นไปชิมความหวานภายในไล่ต้อนหาลิ้นนุ่มจนเจอ  เราเกี่ยวพันดูดกลืนปลายลิ้นชื้นกันและกันอย่างเชื่องช้าเปลี่ยนมุมปรับองศาเพื่อให้จูบนั้นลึกซึ้งขึ้น  เราดูดซับความอ่อนหวานของกันและกันจนเผลอครางออกมาด้วยความเคลิบเคลิ้ม

“อืม / อ๊า วิน”

ผมจูบนานจนกัสเริ่มหมดลมหายใจจึงผละออกมาให้กัสได้สูดอากาศ  ส่วนผมไล่ชิมความหวานจากสองข้างแก้มที่สุกปลั่งหอมหวาน  กัสยังคงหอบเอาอากาศเข้าปอดปากบางแดงเห่อช้ำจากการบดจูบเผยอหอบอย่างยั่วยวน  ผมสอดมือผ่านชายเสื้อลูบไล้ผิวเรียบลื่นข้างเอวบางและสบตาว่ากัสจะมีปฎิกิริยาอย่างไร  ก่อนส่งสายตาออดอ้อนไปให้เมื่อเห็นว่ากัสหลบตาหน้าแดงซ่าน  ไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธจึงก้มลงฟัดแก้มนุ่มอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว
 
“ขอบคุณครับ  วินรักกัสนะ”

ผมละมือออกมาเพื่อดึงชายเสื้อของกัสขึ้นให้พ้นศีรษะ  จึงปรากฏภาพร่างขาวผ่องอมชมพูจากอาการเขินอายของเจ้าของ  ยอดอกสีแดงหดชูชันอย่างน่าลิ้มลอง  ผิวเรียบเนียน  หน้าท้องแบนราบ  ทำเอาอยากครอบครองร่างข้างใต้นัก  ผมก้มไปที่ซอกคอหอมแลบเลียชิมผิวขาวก่อนเคลื่อนมาฝังจูบที่ลาดไหล่ขาวเนียน  ไล่มาที่ยอดอกชูชันเลียด้วยปลายลิ้นดูดดุนหยอกล้อจนกัสแอ่นอกเข้าหาและได้ยินเสียงครางหวาน

“อ๊า  วินๆ  กัสเสียว”

ผมยิ่งได้ใจก้มลงดูดดึงลงลิ้นระรัวที่ยอดอกแดงฉ่ำ  ส่วนอีกข้างได้รับการปรนเปรอลูบไล้ด้วยปลายนิ้วก่อนใช้เล็บสะกิดปลายยอด  ทำเอากัสบิดตัวเร่าดิ้นหนีจนผมต้องกดตัวไว้  ผละลงต่ำไล่จูบดูดดึงผิวเนียนให้ขึ้นสีแดงเป็นจ้ำไปตลอดทางอยากประทับตราไว้ว่าร่างนี้มีผมเป็นเจ้าของ  มือที่ลูบไล้ข้างลำตัวเลื่อนต่ำลงอยู่ที่ขอบกางเกงนอนเนื้อบางที่ไม่สามารถปกปิดความนูนเด่นกลางลำตัวของร่างบางใต้ร่างผมได้

“วินๆครับ  อ๊ะ  กัสไม่ไหว  อ๊า”

ผมก้มลงจูบส่วนอ่อนไหวที่เหลือเพียงกางเกงในสีขาวตัวจิ๋วที่ปิดแทบไม่มิด  เลียมันผ่านเนื้อผ้าตามความยาวและกัดเบาๆที่ปลายยอดทำเอาเจ้าของกรีดร้องออกมาและพยายามผลักหัวผมออก  ผมจึงเอื้อมมือมารวบจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะมืออีกข้างก็ลูบไล้แผ่นอกบางพร้อมสะกิดที่ยอดอกชูชัน

“อ๊าๆๆ  วิน  เสียว  อย่าแกล้ง  อ๊ะ  อา”

ร่างบางร้องอย่างเสียวซ่านพลางบิดตัวไปมาเพื่อลดทอนความเสียว  ผมดึงขอบกางเกงในให้พ้นปลายเท้าส่วนที่ผมหยอกล้อเมื่อครู่ตั้งผงาดท้าทายอย่างรอคอย  เหลือบมองตากัสที่ส่งสายตาเชิญชวนมาให้และนอนหอบจนอกกระเพื่อมขึ้นลง  ผิวบางใสอมชมพูน่ากัดชิมไปซะหมด  โดยเฉพาะกลางลำตัวของร่างบางที่ปลายยอดแดงก่ำเรียกร้องให้ผมเข้าไปทักทาย  กัสรู้ใจผมมากอ้าขากว้างเปิดทางให้เข้าหา  ผมว่ากัสคงทำไปตามสัญชาติญาณไม่ได้ตั้งใจยั่วยวนแต่อย่างใด  ก้มหน้าแตะปลายลิ้นทักทายส่วนหัวแดงและจูบเบาๆ  ก่อนออกแรงดูดเม้มปลายยอดที่เป็นจุดรวมเส้นประสาท  จึงได้รับเสียงกรีดร้องจากร่างข้างใต้มือบางทั้งสองขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับย่นสะโพกยกลอยดันเข้าหาปาก  ผมครอบปากลงตามความยาวจนสุดโคนในครั้งเดียว

“โอ้ววว  วิน  อ๊า”

ขยับหัวขึ้นลงรูดดูดตามความยาวและเม้มเมื่อถึงส่วนปลายยอด  สะโพกมนขยับสวนขึ้นเข้าลึกตามแรงอารมณ์  มือบางขยุ้มหัวผมและกดลงพลางร้องเรียกชื่อผมไปด้วย  ก่อนกัสจะดึงผมขึ้นมารับจูบที่เจ้าตัวคงอยากระบายความเสียวซ่านผ่านจูบนี้  ตามมาด้วยเสียงกระซิบแหบพร่าเร้าอารมณ์

“กัสไม่หวะ  ไหวแล้ว  อ๊ะ  ครับที่รัก  ฮึก  อ๊า  ช่วยกัสทีนะ  นะครับ”

ปลายหางตาของร่างบางมีน้ำตาซึม  ผมที่เห็นภาพนี้แล้วอยากแกล้งทรมานให้กัสเสียวซ่านนานกว่านี้อยากยืดเวลาสุขสมของกัสออกไปอีก  แต่กัสที่ทนไม่ไหวถึงขนาดเอ่ยปากขอออกมาแล้วผมจะใจแข็งอยู่ได้ยังไง  จึงจูบซับน้ำตาให้ก่อนจะถอดปราการด้านล่างของตัวเองออกจนหมด  และก้มลงครอบปากที่ความต้องการของร่างบางขยับหัวขึ้นลงเร็วๆพร้อมดูดเม้มแรงก่อนเร่งจังหวะ  กัสขยับสะโพกสวนเข้าหาปากผมอย่างลืมตัว  ผมส่งฝ่ามือลูบไล้และดึงยอดอกบางเร่งอารมณ์  มืออีกข้างของผมก็ขยับช่วยปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาของตัวเองในจังหวะเดียวกัน
 
“วินๆ  ซี้ดดด  อ๊า  เร็วๆกว่านี้  โอ้ว  กัสไม่ไหวแล้วววว”

สายธารรักพวยพุ่งเข้ามาเต็มคอผมจึงรู้ว่ากัสถึงจุดแห่งความสุขแล้ว  กัสกระตุกอีกสองครั้งและนิ่งไป  ส่วนผมก็เก็บกลืนน้ำหวานจากร่างบางจนหมดดูดเม้มจนหยดสุดท้าย  ก่อนเงยหน้ามองร่างเปลือยที่นอนหอบหายใจแรงตัวแดงเถือกตาปรือปรอยมองตอบผมอยู่  ผมยกตัวขึ้นและก้มหน้าลงเอาจมูกฟัดแก้มแดงอย่างมันเขี้ยว  เตรียมผละเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะอารมณ์ปรารถนาของผมยังค้างอยู่  วันนี้ที่ทำไปก็เพียงพอแล้วกัสยอมให้ผมได้ใกล้ชิดมากกว่าที่เคย  ถ้าทำต่อกัสคงไม่ขัดขืนแต่เป็นผมเองที่ยังไม่อยากทำให้ถึงที่สุด  แต่อยากทำ ‘ภารกิจบางอย่าง’ ก่อนเพื่อให้กัสรู้ว่าผมจริงจังกับกัสมากในเรื่องของเรา  แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นเตียงก็สัมผัสถึงแรงฉุดรั้งที่ข้อมือ  ผมจึงหันกลับไปมองหน้ากัส

“วินจะไปไหน  ก็.....วินยังค้างอยู่เลย”

กัสคงข่มความอายอย่างมากขณะถามหน้าก็แดงจัด  ส่วนตาก็เหลือบไปมองความปรารถนากลางลำตัวของผมและก้มหน้างุด  ‘อย่าน่ารักไปกว่านี้ได้มั้ย  แค่นี้วินก็หลงจะแย่แล้ว’ ไอ้ที่หักห้ามใจไว้มันจะทำไม่ได้เพราะเจ้าตัวนี่แหละ  ผมยื่นมือไปลูบหัวทุยผมนุ่มลื่นตรงหน้าและก้มกระซิบบอกข้างหู

“เดี๋ยววินไปจัดการตัวเองในห้องน้ำนะครับ”

แอบจูบแก้มนุ่มอีกทีก่อนตัดใจเดินไปเอาไอ้ลูกชายที่ปวดตุ๊บๆลง  จะได้มานอนกอดคนตัวหอมผู้น่ารักคนนี้ซะที  ก่อนถึงห้องน้ำผมโดนรวบกอดจากข้างหลังพร้อมเสียงแผ่วเบาของเจ้าของอ้อมกอด  ทำเอาตกใจและเปลี่ยนเป็นดีใจอย่างลิงโลด

“ให้กัสช่วยนะ” ผมหันกลับมาโอบกอดร่างนุ่ม  ก่อนก้มหน้าไปหอมฟัดผมนิ่มอย่างยินดี 

“แค่มือก็พอครับ  กัสช่วยวินได้ใช่มั้ย”

หลังจากนั้นผมก็คว้ามือนุ่มมากำรอบแก่นกายกลางลำตัวที่แค่โดนมือนุ่มก็แข็งโป๊กชี้หน้าสู้เจ้าของมือ  ทำเอากัสที่มองตาโตหน้าแดงจัดเงยหน้าขึ้นสบตา   มือที่กุมทับมือกัสเริ่มช่วยอีกฝ่ายขยับขึ้นลงตามความยาวเล่นเอาเสียวปรี๊ดขึ้นหัว  แค่นี้ที่กัสทำให้ก็สุขมากมายแล้วครับ

“โอ้ว  ยังงั้นครับที่รัก  อ๊า  เร็วกว่านี้นะ”

ผมปล่อยมือที่กุมทับมือบางออกมาก่อนเอื้อมมาจับที่ไหล่บอบบางแทน  และดูเหมือนกัสจะเริ่มมั่นใจในการให้ความสุขผมมากขึ้น  แถมกล้าจ้องเขม็งไปที่น้องชายผมไม่วางตา  มือนุ่มทั้งสองข้างขยับเร็วรับกับสะโพกที่ขยับสวนเข้าออกทำเอาผมใกล้ระเบิดเต็มทน  กัสเงยหน้าสบตาหลังได้ยินเสียงครวญครางเร่งเร้าจากผม  สายตาที่ส่งมามันยั่วยวนมากจนเผลอขยับสะโพกถี่ขึ้น  จับใบหน้าคนน่ารักเงยรับจูบผมดูดดุนริมฝีปากบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่ใกล้ถึงจุดหมายเต็มที

“อืมมมม  อ๊าๆๆๆๆ  กัสๆ”

ในที่สุดก็ถึงปลายทางแห่งความสุขสายน้ำขาวขุ่นฉีดพุ่งออกมาอย่างแรงกระเด็นเต็มหน้าอกขาวเนียน  บางส่วนติดถึงปลายคางของร่างบางที่ตอนนี้ซบหน้ากับซอกคอผมอยู่  ผมก้มลงแลบเลียของตัวเองที่ปลายคางมนรสชาติฝาดเฝื่อน  ก่อนวกกลับมาฉกจูบที่ปากแดงให้เจ้าของได้รู้รสชาติของตัวเองบ้าง  และได้รับแรงทุบมาที่อกเบาๆเป็นการเอาคืน  ผมผละหน้าออกมาเพื่อกระซิบชิดหูหอม

“ขอบคุณครับที่รัก  แค่นี้วินก็สุขมากแล้ว” ส่งยิ้มกว้างแววตาล้อเลียนไปให้กัสที่ยืนหน้าแดงก้มมองมือตัวเองที่เพิ่งผละออกจากแท่งร้อนของผม  ใบหน้ากัสตอนนี้มันทำเอาน้องชายผมที่เพิ่งปลดปล่อยไปเริ่มกรึ่มสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

“ไปล้างตัวกันในห้องน้ำนะครับ  แล้วเราจะได้นอนกันนะ”

ผมจับจูงมือร่างบางเปลือยเปล่าที่ยังก้มหน้าก้มตาให้เดินตามมาที่ห้องน้ำ  ขณะล้างตัวผมสังเกตเห็นว่าผิวขาวผ่องของกัสมีรอยรักสีแดงที่ผมเป็นคนทำกระจายไปทั่ว  มันน่าภูมิใจชะมัดที่สามารถประทับรอยบนผิวขาวๆแสดงความเป็นเจ้าของกัสได้  แม้เราจะยังทำกันไม่ถึงที่สุดแต่ผมก็มีความสุขมากแล้วที่กัสยอมผมถึงขนาดนี้  เราสองคนออกมาจากห้องน้ำพร้อมกันก่อนผมจัดการแต่งตัวให้คนน่ารักที่ตอนนี้มีหน้าตาสดชื่นผิวแก้มอมชมพูยิ้มน้อยๆและแอบมองผมเป็นระยะ  ก่อนผมจะพากัสมานอนที่เตียงและเดินไปปิดไฟความมืดเข้าครอบคลุมทั้งห้อง  ต่างจากใจผมที่สว่างสดใสไปทั้งดวงอิ่มเอมกับความสุขที่ได้รับจากคนรัก

“ฝันดีครับที่รัก”

กระซิบชิดริมหูหอมกรุ่นและจูบแก้มเนียนก่อนโอบกอดรอบตัวคนรักให้มาซุกแนบอก  เป็นท่านอนประจำเมื่อเราอยู่ด้วยกัน  มันทำให้อบอุ่นทั้งกายและใจสามารถหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า  ทั้งๆที่หลับตาแต่ใจกลับวางแผนอะไรบางอย่างอยู่  ถ้าสำเร็จผมจะพากัสไปฮันนีมูนให้ฉ่ำปอดเลยทีเดียว  คิดแล้วก็มีแต่ความสุขขอแค่มีร่างบางในอ้อมกอดแบบนี้ตลอดไปก็พอแล้วครับ

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

แหะๆๆ พากัสวินมาปล่อยของแบบไม่รู้ตัว:z1:
ตามนั้นเลยขอคู่นี้เค้าร้อนแรงองศาเดือดบ้างไรบ้างเนอะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แทนคำขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ฝากติดตามการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 05-07-2012 07:34:28
ู>.,< กัสน่ารักมากๆ มีช่วยวินด้วย
วินก็นะรักกัสสุดใจไปเลย
ทั้งคู่ห่วงความรู้สึกของกันและกันมากๆ
นี้ซินะคู่รัก กิ๊บก๊าบ หวานจนมดขึ้น
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-07-2012 07:58:20
อดทนหน่อยนะวิน ต้องมีซักวัน  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 05-07-2012 09:05:58
เมื่อไหร่กัสจะพร้อมซะที  สงสารวินอ่ะ   (แอบหื่น หึ หึ)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 05-07-2012 09:08:58
คู่นี้เข้าใส่ใจกันและกันดีเนอะ ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 05-07-2012 10:19:43
รักกันเบา เบา
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 05-07-2012 11:42:27
เลือดแทบหมดตัว :haun4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 05-07-2012 14:37:46
 เลือดกระฉูด :pighaun: :pighaun: :pighaun:

วินน่ารักอ่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 05-07-2012 14:58:37

กัสน่ารักเนอะ
ช่วยกัสทีนะ ให้กัสช่วยนะ :impress2:
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 05-07-2012 15:55:04
โอยยยย พี่มาศศศศ ตามอ่านซะตาลายหมดเลยอ่ะ :really2:
มัวแต่ไปวิ่งเล่นที่อื่นซะเพลิน มาอ่านอีกที โอ้วววว ตอนที่ 20 แล้ว :a5:
อ่านอีกครั้งหมอกัสก็ยังคงน่ารักคงเส้นคงวา ไม่รู้จะน่ารักไปไหน
ส่วนพ่อเทพบุตรของเราก็....... :-[ ยังหล่อและเป็นเทพบุตรเหมือนเดิม
ลงเร็วปานติดจรวดอย่างนี้ อีกไม่นานก็คงจะจบใช่มั๊ยคะ
พี่มาศสู้ๆนะคะ จะตามอ่านไปเรื่อยๆค่ะ
ขอบคุณพี่มาศมากๆค่ะ :กอด1:
+1 ให้หมอกัสคนขี้อาย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-07-2012 16:12:59
วินนี่เว่อร์มากขอบอก กลัวใครเขาไม่รู้ประกาศตัวซะเลย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-07-2012 16:16:57
ขนาดยังไม่จัดเต็มนะเนี่ย :pighaun:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 05-07-2012 20:23:27
ตายยยยยยยยยย :m25:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-07-2012 20:52:49
รอจ้ารอ o18
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 05-07-2012 21:28:45
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ฟินนาเล่มาก :haun4:

รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่20 (5/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 06-07-2012 06:20:47
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-07-2012 07:11:31
ตอนที่ 21

กัส

วิวทิวทัศน์ข้างทางที่ผ่านตาเป็นความคุ้นชินสำหรับผมและมิคที่นั่งอยู่บนรถยนต์ตอนหลัง  สัปดาห์นี้วินไม่ว่างมารับผมเพราะต้องไปพบลูกค้าเพื่อคุยงานและต้องพาไปเลี้ยงต่อในช่วงเย็น  ดังนั้นเราสองคนจึงต้องนั่งรถที่วินให้คนขับรถที่บ้านมารับแทน  มันเป็นความเคยชินไปแล้วที่ตลอดเกือบห้าเดือนนี้ไม่วินก็ผมที่ต้องไปหาอีกคน  แรกๆนั้นผมก็พูดกับวินไปว่าถ้าสัปดาห์ไหนไม่ว่างหรือเหนื่อยก็ไม่ต้องมาหาผมก็ได้  แต่คำตอบที่ได้รับจากวินทำเอาผมอึ้งและแอบดีใจเล็กๆไม่ได้

“จะว่างไม่ว่างยังไงวินก็เต็มใจและมีความสุขที่จะทำ  เพราะทั้งสัปดาห์ที่ไม่ได้เห็นหน้ากัส  วินคิดถึงกัสมากรู้มั้ย  จะไม่ให้มาเจอได้ขาดใจตายแน่ๆ  อดทนกับความคิดถึงของวินหน่อยนะครับกัสที่อยากเห็นหน้าอยากอยู่ใกล้  วินอยากทดแทนเวลาที่เราเสียไป”

แค่คิดก็อยากยิ้มให้กับคำพูดเลี่ยนๆนั่นจริงๆ  ที่ผมพูดกับเจ้าตัวไปแบบนั้นก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าวินจะเหนื่อยเกินไปที่ต้องเดินทางมาหาผมประจำ  ความจริงผมก็คิดถึงอยากเห็นหน้าวินเหมือนกันครับ  ความรักทำให้คนเราเรียนรู้หลายอย่างทั้งความสุข  ความเศร้า  เสียใจ  ผิดหวัง  และให้อภัย  ผมได้เรียนรู้มันทั้งหมดจากวิน  และสิ่งที่เรียกว่า ‘รัก’ นี้ก็ทำให้ผมยอมลงให้แค่วินคนเดียว  เริ่มตั้งแต่คืนนั้นที่เราร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ทางกายแต่เราก็ยังไม่ลึกซึ้งไปกว่านั้นหรอก  เพราะดูเหมือนวินตั้งใจยังไม่ให้มันเกิดขึ้นคิดแล้วก็อายมาก ‘ผมกล้าทำขนาดนั้นได้ยังไงนะ’  ตอนแรกก็สงสัยที่วินทำไม่ถึงที่สุดจนอดน้อยใจไม่ได้ว่าที่วินไม่ทำเพราะผมมีอะไรบกพร่องไม่ดีรึเปล่า  ผมข่มความอายหลังเรามีความสุขไปด้วยกันแล้วถามหาคำตอบถึงข้อสงสัยนั้น  วินตกใจมากที่ผมคิดไปไกลขนาดนั้นและบอกถึงความตั้งใจว่าจะพาผมไปเปิดตัวกับครอบครัวก่อน  เพื่อให้ผมมั่นใจในตัววินว่ารักที่มีให้นั้นจริงจังมากแค่ไหน  ในคืนนั้นผมจึงโดนลงโทษไปอีกรอบวินให้เหตุผลว่าข้อหาที่คิดมากเกินไปว่าวินไม่อยากมีอะไรด้วย  ทั้งๆที่วินต้องข่มใจมากๆที่จะไม่มีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้และอยากให้มันมีความหมายกับเราทั้งคู่  แต่จะว่าไปถึงไม่มีอะไรที่ลึกซึ้งผมก็โดนหากำไรจากวินจนแทบหมดตัวแล้ว  เพราะรักอ่ะนะผมก็ ‘ยอม’ ล่ะ 

“แหมๆ  กัสหน้าแดงและก็ยิ้มอยู่คนเดียวเนี่ยคิดอะไรอยู่ล่ะ  ฮ่าๆ  หรือว่า....”

“หยุดเลยมิคไม่ต้องแซวกัสเลยนะ  เอ้า  นี่ขนมกินแล้วก็นอนซะพ่อหนูน้อย”

ได้ยินคำแซวจากเพื่อนก็ยิ่งอายที่แอบคิดไปไกลคิดถึงอีกคนที่ตอนนี้คงยุ่งอยู่กับลูกค้า  ผมจึงรีบเอาขนมมาหลอกล่อมิคเพื่อหยุดคำแซวที่จะตามมาให้ผมได้อายมากกว่านี้  และมันก็ได้ผลซะด้วยก็มิคหันไปสนใจขนมที่ผมส่งให้ซะแล้ว  เพื่อนผมนี่เด็กจริงๆอยากรู้ว่าถ้ามีแฟนมิคจะเปลี่ยนไปมั้ยนะคงต้องดูกันต่อไป  วันนี้นอกจากที่ผมเข้าไปหาวินตามปกติที่เคยแล้วยังมีภารกิจสำคัญและเป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจอยู่นานว่าจะทำตามคำขอของวินดีมั้ย  แต่สุดท้ายมันคงถึงเวลาแล้วมั้งที่ผมจะเข้าไปที่บ้านวินไปพบครอบครัวของวิน  ไม่รู้ว่าครอบครัววินจะยอมรับความสัมพันธ์ของเราได้มั้ย  ถึงแม้วินจะบอกว่าทางบ้านไม่มีใครว่าเมื่อวินบอกว่าจะพาผมเข้าไปในฐานะคนรัก  แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้เพราะเราเป็นผู้ชายทั้งคู่  ผมยังไม่เคยไปที่บ้านวินไม่เคยพบหน้าคนในครอบครัว  เคยเห็นแต่รูปถ่ายครอบครัวที่อยู่ในคอนโดที่พักของวินเท่านั้น  ซึ่งทุกคนในรูปทั้งพ่อแม่พี่ชายของวินหน้าตาดีทั้งบ้านเลยหวังว่าคนหน้าตาดีคงจะใจดีด้วยนะ

...........................

“เป็นไงบ้างครับ  วินเหนื่อยมั้ย  อ่ะดื่มน้ำก่อน”

“ฟอด / ขอบคุณครับกัส  วินคิดถึงกัสจัง”

วินกลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนแล้วผมที่รออยู่ก็เกือบหลับด้วยเพลียจากการเดินทาง  แต่ได้ยินถึงการกลับมาของวินผมจึงรีบออกมารับก็คนมันคิดถึงอยากเห็นหน้าก่อนนอนนี่หน่า  หลังโดนหอมแก้มฟอดใหญ่วินก็กอดผมไว้ทั้งตัว  เราคงคิดถึงกันและกันไม่ต่างกันนัก  หลังจากนั้นผมก็ให้วินรีบไปอาบน้ำเพราะเห็นว่าเพลียมากแล้ว  แอบขู่ว่าถ้าช้าจะหลับก่อนด้วย  วินรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลยและเราจึงได้มานอนกอดกันบนเตียง

“พรุ่งนี้เราเข้าบ้านวินช่วงเย็นนะคุณแม่โทรมาบอกว่าจะเตรียมอาหารไว้ให้เพียบ  ส่วนคุณพ่อและพี่จักรก็อยากเจอกัสมากรู้มั้ย”

“อืม”

“ทำไมครับกังวลเหรอ  อย่ากังวลเลยนะครับเชื่อวินนะคนดี  ครอบครัววินน่ารักนะและอยากเจอกัสมานานแล้วด้วย  แต่เป็นวิน เองแหละที่ยังไม่ได้พาไปเพราะหวงกัสน่ะ” เสียงนุ่มแผ่วลงในตอนท้ายยิ่งทำให้ผมสงสัย

“ทำไมต้องหวงล่ะ  กัสงงนะเนี่ยวิน”

“ตอนนี้กัสอย่ากังวลไปเลยเดี๋ยวก็รู้ว่าทำไมวินต้องหวงด้วย  อืม  พรุ่งนี้สายๆเราไปหาอะไรทานกันนะวินจำได้ว่ากัสบ่นอยากทานอาหารญี่ปุ่นนี่  เดี๋ยววินพาไปนะครับ  เย็นค่อยไปบ้านวินกัน  นอนกันครับดึกแล้ว  ฝันดีครับที่รัก  วินรักกัสนะ”

จบประโยควินก็ก้มมาจุ๊บแก้มผมทั้งสองข้างก่อนรวบตัวผมเข้าสู่อ้อมกอด  ผมจึงซุกหน้าเข้าหาอกกว้างท่าประจำยามหลับของเรา  คืนนี้ผมคงหลับฝันดีแน่ๆ

............................

ภายในร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนหน้านั้นมีกระจกใสกั้นร้านบานใหญ่ที่ผู้คนทั้งในและนอกสามารถมองเห็นกันได้  โต๊ะอาหารแต่ละโต๊ะถูกกั้นออกจากกันด้วยฉากไม้ไผ่เลียนแบบธรรมชาติให้คนในโต๊ะรู้สึกเป็นส่วนตัว  ตอนนี้ผู้คนไม่ค่อยมีนักเพราะเลยเวลาอาหารกลางวันมาแล้ว  กว่าวินและผมจะตื่นก็สายมากแล้วอาหารเช้าและกลางวันเลยรวบมาเป็นมื้อนี้ทีเดียว  เมนูอาหารภายในมือมีหลากหลายเมนูน่ากินทั้งนั้น  เมื่อบริกรมารับออเดอร์ผมจึงสั่งไปหลายอย่างเผื่อวินด้วย  เพราะวินไม่ยอมสั่งเลยบอกให้ผมจัดการให้ด้วยและแอบหยอดมาอีกว่า


‘แล้วแต่กัสเลยครับ  กัสสั่งอะไรให้วินก็กินทั้งนั้นแหละ’  มั่นน่าสั่งแต่ชาเขียวให้ดื่มอย่างเดียวจริงๆ

“อาหารที่สั่งมาแล้วค่ะ”

อาหารมาหลังจากเราสั่งไปไม่นานเพราะไม่ค่อยมีลูกค้า  และเป็นสิ่งที่ดีเพราะตอนนี้เราทั้งคู่หิวมากแล้ว  วินจัดการคีบทั้งซูชิ  เทมปุระ  ของชอบของผมมาวางให้ในจานพร้อมรอยยิ้มหวานแถมมาให้อีกด้วย  เรานั่งทานอาหารไปคุยกันไปถึงเรื่องครอบครัว วินว่าแต่ละคนเป็นยังไงกันบ้าง  เรื่องกิจการของครอบครัววินที่ตอนนี้พี่ชายของวิน ‘พี่จักร’ ที่เข้าบริหารงานบริษัทขายวัสดุก่อสร้างของครอบครัวที่คุณพ่อสร้างมาแทนแล้ว

“พี่วินครับ  เราไม่เจอกันนานพี่เป็นยังไงบ้างครับ”

“รัน  เอ่อ  มาได้ไงเนี่ย”

มีหนุ่มน้อยน่ารักมายืนอยู่ข้างโต๊ะที่เรานั่งอยู่  คงเป็นคนรู้จักของวินและท่าจะสนิทกันมากด้วย  เพราะหลังเอ่ยปากทักยังไม่ทันที่วินจะตอบอะไรกลับไปนั่งฝั่งเดียวกับวินและกอดหมับเข้าที่แขน  วินออกอาการตกใจและรีบดึงแขนออกก่อนหันมาทางผมที่กำลังงงว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร  ผมส่งคำถามผ่านสายตาระหว่างที่เราจ้องตากันหนุ่มน้อยที่เพิ่งมาคนนั้นก็หันกลับมามองทางผมและเอ่ยออกมา

“ผม ‘รัน’ เป็นแฟนพี่วินครับ”

“เฮ้ย!  ไม่ใช่นะกัส  นี่รันคนที่วิน ‘เคยคบ’ ไงครับ”

หลังคำตอบของวินทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าคงเป็นคนที่วินเคยเล่าให้ฟังว่าคบด้วยหลังเราเลิกกันคราวนั้น  ผมจึงหันกลับไปพิจารณาคนตรงหน้าอีกครั้ง  รันเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายผมอยู่มากด้วยผิวขาวและใบหน้าที่ออกหวาน  เราสองคนจ้องตากันซึ่งผมต้องประเมินว่าการเข้ามาทักและแสดงตัวของรันนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ในเมื่อทั้งคู่ก็เลิกกันไปแล้ว

“รัน! อย่ามาพูดแบบนี้ให้แฟนพี่เข้าใจผิดนะ  เราเลิกกันไปแล้วหรือรันจำไม่ได้ว่าทำอะไรกับพี่ไว้”

วินที่หันกลับไปพูดและตัดรอนอย่างจริงจังกับรันที่ตอนนี้หน้าซีดหลังได้ยินสิ่งที่วินพูดไป  จนผมเริ่มสงสารรันขึ้นมาแม้จะทราบสาเหตุที่รันต้องเลิกกับวินก็ตาม  ส่วนวินหลังพูดจบก็คงนึกสงสารคนข้างๆเหมือนกันประโยคต่อมาน้ำเสียงจึงอ่อนลง

“พี่ขอโทษครับ  แต่รันอย่าทำแบบนี้  อย่าทำให้พี่กับกัสผิดใจกัน  ถึงเราจะเลิกกันไม่ดีนักแต่พี่ไม่ได้เกลียดรันนะ  เป็นพี่เองต่างหากที่ไม่ดีเป็นผู้ชายเลวๆที่โดนแฟนทิ้ง  พอได้มาเจอคนที่เหมือนกัสซึ่งคือรันพี่เลยคิดที่จะมีรันทดแทนกัสคนที่พี่รัก”

“เพี้ยะ / ฮือๆๆๆ”

หน้าวินข้างที่โดนรันตบขึ้นสีแดงเป็นรอยมือทันตาหลังรันได้ฟังประโยคนั้นจบ  ผมได้ฟังก็เข้าใจความรู้สึกของรันนะที่วินให้รันเป็นตัวแทนผมแต่กลับไม่ได้รัก  แม้ตอนจบกันรันจะหักหลังวินแอบไปมีคนอื่นก็ตาม  ซึ่งรันน่าจะพอรู้ตัวอยู่บ้างว่าวินก็ไม่ได้รัก  เหมือนตัวเองเป็นเงาของใครบางคนอยู่เลยรู้สึกเหงา  และอาจพลาดพลั้งไปกับอีกคนที่น่าจะดีกับรันมาก  คิดมาถึงตรงนี้ก็ให้หงุดหงิดในความเจ้าชู้ไม่รู้จักพอของวินจริงๆ  ไอ้ที่รักผมก็รักนะแต่คงต้องลงโทษกันบ้างแล้ว  ผมจึงลุกขึ้นจากที่นั่งไปประคองร่างของรันที่กำลังร้องไห้น้ำตาไหลพรากให้ลุกมานั่งด้วยกัน  ซึ่งรันไม่ได้ขัดขืนคงมัวแต่ร้องไห้เสียใจอยู่  ผมกอดปลอบร่างที่สั่นเทิ้มจากการร้องไห้และเหลือบมองรอบๆร้าน  ที่ตอนนี้ทุกคนต่างหันมามองเหตุการณ์อย่างสนใจก่อนจ้องเขม็งไปที่วิน

“วินเรียกพนักงานมาเก็บเงินเถอะ” วินที่นั่งมองและหันมาสบตาผมส่งแววตาสำนึกผิดมาให้  ก่อนหันไปเคลียร์ค่าอาหารจนเสร็จ  ตอนนี้รันหยุดร้องไห้แต่ตาแดงก่ำมองไปทางวินอย่างน่าสงสาร 

“เดี๋ยวให้เราไปส่งที่ที่พักของรันนะครับ”

ประโยคนี้เรียกสายตาของรันให้กลับมาทางผมได้  แววตาที่รันส่งมานั้นคล้ายประเมินว่าผมคิดจะทำอะไรในเมื่อก็รู้ว่ารันนั้นเป็นแฟนเก่าวิน  ผมผละไปสบตากับวินอีกครั้งและพยักหน้าให้วินทำตามที่พูด  วินถอนใจก่อนจะลุกขึ้นผมจึงเข้าไปประคองร่างรันให้ลุกตาม  แต่เจ้าตัวกลับสะบัดออกและลุกเดินตามหลังวินไป  พวกเราเดินกันมาถึงรถที่จอดในที่จอดรถด้านนอก  วินเปิดประตูรถเพื่อให้รันนั่งข้างหลังตอนแรกรันก็ทำท่าไม่ยอม  สุดท้ายผมก็ได้มานั่งคู่กับวินที่ตอนหน้าของรถ  ระหว่างทางนั้นไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นมีแต่เสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ  ผมแอบมองไปทางด้านหลังเห็นรันเหม่อมองออกนอกรถตลอดเวลา  และผมก็รับรู้ถึงมืออุ่นที่ยื่นมากุมกระชับจากสายตาวินที่ส่งมาให้ก็เว้าวอนมากจนน่าสงสาร  ผมจึงส่งค้อนให้อย่างหมั่นไส้แต่ไม่ได้ชักมือกลับ  คิดว่าอดีตมันแก้ไขไม่ได้แต่ปัจจุบันเรารักกัน  แม้ในอดีตตอนที่เราเลิกกันแล้ววิน จะกลายเป็นผู้ชายเลวๆที่หาคนอื่นมาแทนผม  แต่ผมก็มีส่วนผิดอยู่ที่ไม่คิดจะฟังคนที่ผมรัก  และอดีตที่วินก่อไว้กำลังย้อนกลับมาให้วินร้อนใจ  และวินคงคิดว่าตอนนี้ผมคงโกรธวินมากแน่ๆ  ไอ้โกรธมันก็โกรธนะเมื่อแรกรู้ว่าวินมีคนอื่นแต่ความโกรธมันจางไปมากแล้ว  ยิ่งตอนนี้เรากลับมาคบกันความสุขที่เรามีร่วมกันนั้นมันมีมากกว่าที่ผมจะยึดติดกับอดีตหรือคิดโกรธแค้นวิน 

“รันพี่อยากขอโทษรันจริงๆกับสิ่งที่พี่ทำไป  อยากให้รันยกโทษให้พี่นะครับ  ลืมผู้ชายเลวๆอย่างพี่ซะ  และให้รันหันไปมองคนที่เค้าดีกับรันมากกว่าพี่”

เมื่อรถได้มาจอดหน้าคอนโดแห่งหนึ่งที่เป็นที่พักของรัน  วินก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาด้วยท่าทางสำนึกผิดและอยากขอโทษรันจากใจจริง  ผมยังรับรู้ได้ถึงความจริงใจนั้นหวังว่ารันคงรู้ได้เหมือนกัน  ตอนนี้รันอาจยังไม่ยอมรับแต่ผมก็หวังว่าเวลาจะทำให้รันยอมรับมันได้  เพราะตอนนี้มีผู้ชายร่างไม่หนานักตัวสูงผิวเข้มยืนกระวนกระวายอยู่หน้าคอนโด  วินจับตามองไปที่ผู้ชายคนนั้นและรันคงรับรู้ได้ว่าวินพยายามสื่อถึงอะไร

“ผมเข้าใจที่พี่พูดนะ  ถึงตอนนี้ผมยังลืมพี่ไม่ได้  แต่ผมก็คงไม่เอาแล้วล่ะกับผู้ชายเลวๆแบบพี่”

รันพูดจบก็เปิดประตูรถลงไปทันทีและผมก็ได้ยินเสียงถอนหายใจจากพ่อตัวดีที่โดนเด็กว่าเป็น ‘ผู้ชายเลวๆ’ ออกมาเฮือกใหญ่  ผมไม่ได้หันไปมองเพราะมัวแต่ดูรันที่เดินกลับไปที่หน้าคอนโด  และโดนผู้ชายที่ยืนรออยู่ตรงเข้ามาหารันก่อนโอบกอดไว้แน่นพร้อมซักถามใหญ่เลย

“กัสครับ  กัสโกรธวินใช่มั้ย” ผมหันกลับมามองหน้าวินที่พอพูดจบก็กุมมือผมไว้ทั้งสองข้าง

“กัสสมควรโกรธวินแล้ว  วินมันแย่อย่างที่รันว่าจริงๆ  ฮึๆ  คิดจะหาคนมาแทนที่กัส  วินรู้จริงๆมันแทนกันไม่ได้หรอก  วินมันก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง  อยากให้กัสให้อภัยนะครับจะให้วินทำอะไรชดเชยก็ได้”

“กัสโกรธวินจริงๆ  แต่อดีตกลับไปแก้ไม่ได้ขอแค่ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกก็พอ  เรื่องชดเชยเนี่ยวินได้ทำแน่  แต่ตอนนี้เราไปบ้านวินกันได้แล้วมั้งจะได้เวลานัดแล้ว”

หลังประโยคของผมวินยิ้มขึ้นมานิดๆแต่แววตายังเศร้าอยู่  วินคงสำนึกผิดแล้วจริงๆ  ส่วนเรื่องบทลงโทษนั้นมีแน่แต่ตอนนี้ขอรวบรวมแรงใจเพื่อไปพบครอบครัววินก่อนแล้วกัน  ไม่รู้ว่าผมจะเจอกับอะไรบ้าง

...............................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

รันแฟนเก่าก็ด่าวินได้เจ็บแสบเนอะ  :laugh:
แต่อดีตก็คืออดีตเราดูที่ปัจจุบันดีกว่าเนอะ
ตอนหน้าตามมาให้ำลังใจกัสกันนะคะ
เข้าบ้านวินครั้งแรกด้วยสิ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ต้องติดตามค่ะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แทนคำ  :pig4: นะคะที่ติดตามให้กำลังใจกัสวิน

ฝากติดตามการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะรายละเอียดหน้าแรกค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 06-07-2012 07:13:42
ู^-^ ใช่แล้ว อดีตมันก็คืออดีต อย่าให้อดีตร้ายๆเหล่านั้นมาส่งผลกับปัจจุบัน
จงดูที่ปัจจุบัน แล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ต่อไปในภายหน้า ปัจจุบันที่ดีในวันนี้ จะกลายเป็นอดีตที่ดีในวันหน้า
รันพูดได้ใจจริงๆ ฮุฮุฮุ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงิน
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 06-07-2012 07:46:28
งานเข้าวินแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 06-07-2012 09:11:41
รอเป็นกำลังใจให้กัสครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-07-2012 10:55:22
เป็นกำลังใจให้กัสดีกว่า :L1:
ปล่อยนายวิน
รับกรรมไป :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-07-2012 12:35:59
มาให้กำลังใจกัส สู้ๆ ^o^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 06-07-2012 13:39:33
ให้กำลังใจกัสกับวินนะ

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 06-07-2012 22:19:33
ใช่แล้วกัส อดีตก็คืออดีต แต่ก็ยังอดสงสารรันไม่ได้อยู่ดี  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รอตอนหน้า วินพาลูกสะใภ้ไปเปิดตัวนะค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 06-07-2012 22:30:07

แอบสงสารรันนิดๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 07-07-2012 00:44:33
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่21 (6/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-07-2012 00:55:09
กัสก็ใจดีเนอะ

 o12


มาตบแฟนคนอื่นเค้าได้ไง ที่ตัวเองไปมีคนอ่ะล่ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.9 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 07-07-2012 08:15:11
ตอนที่ 22

วิน

รถยนต์คันสวยจอดสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่  ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างกันที่ผมกำลังกอบกุมมือนุ่มอยู่  ก่อนบีบมือและส่งยิ้มให้กำลังใจไปให้กัส  ที่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆกลับคืนด้วยคนน่ารักคงเกร็งมาก  ผมบอกกัสไปแล้วว่าไม่ต้องกลัวต้องเกร็งเลยครอบครัวของผมไม่น่ากลัวสักนิด  การที่ผมเป็นแฟนกับใครจะหญิงหรือชายก่อนหน้าคบกับกัสนั้นที่บ้านไม่เคยว่า  คุณพ่อคุณแม่แค่เตือนให้ดูแลตัวเองและรับผิดชอบเรื่องเรียนเรื่องงานให้ดี  ส่วนเรื่องคู่นั้นแทบไม่มีมาก้าวก่ายเลย  จะมีก็แต่ตอนที่ผมเสียศูนย์เรื่องที่เราเลิกกันตอนนั้นเกือบทำผมเรียนไม่จบ  จึงถูกท่านทั้งสองเรียกพบและตักเตือนให้รู้ตัวในหน้าที่ของตัวเองก่อนที่จะมาสนใจเรื่องรักที่ผิดหวัง 

เมื่อเร็วๆนี้ครอบครัวของผมมารู้ว่าผมกลับมาคบกับกัสคนที่เคยทำผมอกหักหมดรูปคราวนั้น  จึงโดนตามตัวมาสอบถามซะละเอียดว่าเรื่องราวตั้งแต่ครั้งก่อนเป็นยังไงจนกลับมาคบกันอีก  ทำให้ผมโดนคุณแม่เล่นงานซะแย่ว่า ‘ตัวเองเลี้ยงลูกชายมาไม่ดีทำไมถึงได้เจ้าชู้ขนาดนี้’ โดนงอนไปหลายวันกว่าท่านจะยอมมาพูดด้วยอีก  และตั้งแต่นั้นมาท่านก็คะยั้นคะยอให้ผมพากัสมาเจอเร็วๆ  ท่าทางคงนึกถูกใจกัสเข้าให้แล้วว่ามีดีอะไรผมถึงฝังจิตฝังใจกับกัสนัก  ที่ผมเพิ่งพากัสมาก็เพราะหวงกัสนั่นแหละครับ  ไม่ได้คิดหรอกว่าไม่กล้าเปิดเผยว่าตัวเองคบกับผู้ชายให้ทางบ้านรับรู้เหมือนที่กัสคิดกังวลในตอนแรก  ผมแค่หวงเพราะใครได้เจอกัสต้องหลงรักง่ายๆแน่  ทีนี้ผมจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่กัสสองต่อสองน่ะสิ  เพราะคนที่บ้านต้องให้ผมพามาหาบ่อยๆแน่นอน  เวลาสองวันอันน้อยนิดที่มีต้องถูกแบ่งไปจากผมอีก  แต่เมื่อผมต้องการให้กัสรู้ว่าจริงจังและให้มั่นใจในรักของผมจึงต้องพากัสมาพบครอบครัวของตัวเอง

“เลิกกังวลนะครับ  เดี๋ยวเราเข้าบ้านวินกัน  ทุกคนคงรอเจอกัสแล้วล่ะ”

กัสพยักหน้าและแอบสูดหายใจหนึ่งเฮือกก่อนส่งยิ้มบางมาให้  ผมลงจากรถและมาเปิดประตูให้กัสก่อนเอื้อมมือกุมมือบางไว้บีบกระชับพาเดินเข้าบ้าน  ในบ้านตอนนี้เงียบกว่าที่เคยไม่เหมือนบรรยากาศที่ผมคิดไว้  ว่าคุณแม่ต้องดีใจที่จะได้เจอว่าที่ลูกสะใภ้จนออกมารับซะด้วยซ้ำ ‘แปลกแฮะ’ ผมพาร่างบางที่กุมมือไว้มั่นมายังส่วนห้องรับแขก  ซึ่งบนโซฟามีคนในครอบครัวผมอยู่ครบ  คุณพ่อและคุณแม่นั่งโซฟาตัวใหญ่ส่วนพี่จักรนั่งตัวเล็กข้างๆคุณพ่อ  ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมาที่กัสนิ่งใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ  ทำให้ผมต้องหันไปส่งสายตาให้พี่ชายตัวเองแต่พี่จักรไม่ได้มองกลับมาแต่ยังคงจับจ้องอยู่ที่กัส  ผมรีบหันกลับมามองกัสทันทีคนน่ารักต้องใจเสียแล้วแน่ๆ ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนในครอบครัวผมกัน’ ผมคิดผิดที่ไหนกันกัสใบหน้าซีดเผือดเม้มปากแน่นก่อนก้มหน้าหลบทุกสายตา

“วินพาแฟนลูกมานั่งนี่สิ” คุณแม่ทำเสียงนิ่งเอ่ยชวนให้พาคนรักไปนั่งเก้าอี้ข้างท่าน  ผมจึงกระชับมือนิ่มเพื่อส่งกำลังใจไปให้กัสและพามานั่งข้างๆกัน  เมื่อเรานั่งเรียบร้อยแล้วผมจึงเอ่ยแนะนำกัสกับทุกคน

“ทุกคนครับนี่กัสคนรักผมครับ  กัสครับนี่คุณพ่อคุณแม่และพี่จักรครอบครัวของวินครับ”

หลังการแนะนำของผมแล้วกัสยกมือไหว้ทุกคนอย่างนอบน้อม  และได้รับการรับไหว้ตอบกลับจากคนในครอบครัวผม  แต่ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา  จนกระทั่งผมทนไม่ไหวต้องเอ่ยออกมาเพราะสงสารกัสมากที่เหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว  มันเกิดอะไรขึ้นกับคนในครอบครัวของผมกัน

“ทุกคนเป็นอะไรไปครับ  อย่าทำแบบนี้เห็นมั้ยกัสกดดันจนจะร้องไห้อยู่แล้ว” ผมพูดไปก็โอบเอวร่างบางด้วยเพื่อปลอบใจ  กัสคงใจเสียและคิดไปไกลถึงไหนแล้วก็ไม่รู้  ผมนั้นทั้งสงสารกัสและมึนงงกับคนในครอบครัวตัวเอง 

“โธ่  กัสลูก  อย่าร้องไห้นะครับมานี่มา  นี่คุณคะฉันไม่เล่นละครบ้าๆนี่กับคุณกับตาจักรแล้วนะ  เห็นมั้ยลูกจะร้องไห้แล้ว” คุณแม่ที่นั่งข้างๆเอื้อมมือมาฉุดกัสออกไปจากอ้อมกอดของผม  เพื่อให้ไปนั่งข้างตัวท่านก่อนโอบประคองหลังบางลูบไหล่ลูบหัวปลอบโยนกัสที่กำลังร้องไห้  ผมได้ฟังประโยคนั้นของคุณแม่ก็ให้ถึงบางอ้อว่าที่ผ่านมาทุกคนเล่นละครกันแกล้งแฟนผมนี่เอง

“อ้าวลูกร้องไห้เลยเหรอ  จริงๆพ่อไม่ได้คิดแกล้งกัสนะ  พ่ออยากแกล้งไอ้ลูกชายตัวดีนี่ต่างหาก”

“ใช่  พี่หมั่นไส้ไอ้น้องชายพี่คนนี้ที่ท่ามาก  ไม่ยอมพากัสมาพบพวกเราซะทีน่ะ  แต่กลับทำน้องร้องไห้ได้  เฮ้ออออ”

“หยุดร้องนะครับกัส  โอ๋ๆ  คนดีของแม่ดูสิเดี๋ยวตาบวมแล้วจะหมดหล่อน้า”

คุณแม่ที่ปลอบกัสอยู่เอ่ยแซวหวังให้กัสหยุดร้องไห้และมันก็ได้ผล  เมื่อร่างบางเปลี่ยนมาเป็นหน้าแดงเขินอายแต่ยังไม่กล้ามองหน้าใครอยู่ดี  กัสคงทำตัวไม่ถูกที่เจอกันครั้งแรกก็เป่าปี่ไห้เห็นแล้ว  ครอบครัวผมนี่ก็ยังไงจะแกล้งลูกแกล้งน้องตัวเองกลับมาทำให้อีกคนร้องไห้ซะได้  แต่กลายมาเป็นแบบนี้ผมค่อยสบายใจหน่อย  ผมหันไปดูกัสที่เงยหน้ามาสบตากันด้วยรอยยิ้มหวานใบหน้าแดงระเรื่ออย่างน่ารัก  ซึ่งกัสคงสบายใจแล้วผมจึงยิ้มกว้างตอบกลับไป

“นี่ตาวิน  ไม่ต้องมาส่งตาหวานขนาดนั้นให้ลูกกัสของแม่มากนะ  แม่หวง” อ้าวนั่นไงครับสิ่งที่ผมกังวลมาแล้ว  คุณแม่เริ่มอยากครอบครองคนของผมซะแล้วและเหมาว่ากัสเป็นลูกตัวเองหน้าตาเฉย  ผมเริ่มเห็นอนาคตตัวเองรำไรแล้วว่าคุณแม่ต้องแย่งเวลาของกัสไปจากผมแน่ๆ

“แม่ครับนั่นแฟนวินนะ  ขอวินหวานกับแฟนบ้างเถอะครับ” เอาสิครับยิ่งคุณแม่เริ่มรักเริ่มหลงลูกชายคนใหม่  ผมก็ขอทวงสิทธิ์ความเป็นแฟนหน่อยเถอะแถมได้แหย่แม่ตัวเองด้วยยิ่งน่าสนุก

“ย่ะ  ต่อไปให้เบาๆบ้างให้รู้บ้างว่านี่ลูกแม่  แม่หวง”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะประสานขึ้นมาอย่างขบขันในถ้อยคำของคุณแม่ที่คงหลงลูกชายคนใหม่น่าดู 

ผมสบตากัสที่กำลังยิ้มกว้างแววตาระยับอยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่  ก็รู้ว่ากัสกำลังมีความสุขซึ่งผมก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก  และรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีพ่อแม่ที่รักและเข้าใจลูกเมื่อลูกรักใครท่านก็รักด้วย  หลังจากนั้นคำถามต่างๆก็ถูกส่งจากคนในครอบครัวไปที่คนน่ารักที่โดนคุณแม่ยึดไปนั่งด้วยแล้ว  กัสตอบทุกคำถามด้วยใบหน้าระบายยิ้มตลอดเวลา  แต่มีคำถามหนึ่งที่ทำเอาผมสะดุ้งไปเหมือนกัน

“วินดีกับลูกใช่มั้ยครับ  ถ้าเกิดวันไหนวินทำให้กัสเสียใจให้กัสมาบอกพ่อกับแม่นะ  เดี๋ยวพ่อจัดการมันให้เองไม่ต้องถึงมือกัสหรอกลูก” คุณพ่อผมก็เป็นไปกับเค้าด้วยท่านคงหลงกัสเข้าแล้ว  ทั้งๆที่ท่านไม่ค่อยได้ถามคำถามแต่พอเอ่ยออกมาทีทำเอาผมเสียววาบไปเลย 

“โฮ  พ่อครับผมไม่กล้าทำอะไรลูกรักของพ่อกับแม่หรอกครับ  และไม่คิดจะทำให้กัสเสียใจแน่นอน”

ผมตอบคุณพ่อไปแล้วก็ขอหันไปหยอดแฟนตัวเองสักนิดส่งตาหวานสักหน่อย  ทำให้ผมได้รับยิ้มน้อยๆตาหวานๆตอบกลับมา  ‘เฮ้อ  อยากจับคนน่ารักมาฟัดแก้มจัง’ แต่อยู่กับพ่อแม่ขี้หวงขืนผมทำอย่างที่คิดได้โดนแน่ๆ  พวกเราคุยกันไปสักพักคุณแม่ก็ชวนทุกคนไปทานอาหารที่บอกว่าวันนี้ลงครัวทำให้กัสโดยเฉพาะและเป็นรายการโปรดของกัสทั้งนั้น  เมื่อวานคุณแม่โทรมาถามอาหารจานโปรดของกัสเพื่อจะทำให้คนน่ารักได้ชิม  และกัสก็ไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวังเพราะทานได้มากกว่าทุกวันและชมไม่ขาดปาก  ทำเอาคุณแม่ผมปลื้มยิ้มแก้มปริไปเลยที่ลูกชายคนใหม่ชอบอาหารที่ตัวเองทำ  แต่มีเรื่องให้ผมขัดใจเล็กๆบนโต๊ะอาหาร

“กัสครับ  นี่น่องไก่ทอดน้ำแดงอบซอสอร่อยมากพี่ชิมแล้ว / เติมข้าวอีกมั้ยเดี๋ยวพี่เรียกเด็กตักให้ / กัสน่ารักจังครับไม่น่าเป็นแฟนนายวินเลยเปลี่ยนใจยังทันนะมาเป็นแฟนพี่จักรดีกว่ามั้ย”

ประโยคเหล่านี้มาจากพี่จักรพรรดิพี่ชายของผมที่แอบจีบน้องสะใภ้ต่อหน้าต่อตากัน  ‘พี่จักรแอบคิดจริงจังมั้ยครับเนี่ย’  ซึ่งผมก็ตามตักอาหารที่พี่จักรตักให้กัสมากินเองและตักเมนูเดิมด้วยตัวเองให้ใหม่  พร้อมส่งสายตาขึงขังไปให้พี่ชายที่ก็ไม่ได้สนใจกันเลย  พอหันกลับมาทางกัสก็เห็นว่ากำลังยิ้มขำเราสองพี่น้อง  แต่กัสกลับหันมาดุผมคนเดียวซะได้ว่าเล่นอะไรเป็นเด็กๆ  และเพราะแบบนี้ผมจึงได้ฟังประโยคที่น่าโมโหประโยคสุดท้ายที่พี่จักรชวนกัสให้ไปเป็นแฟนตัวเองซะได้  ผมล่ะอยากเก็บกัสที่นั่งทานข้าวข้างๆกันไปเก็บในห้องตัวเองจริงๆเลย  หลังมื้ออาหารเราสองคนจึงเดินไปนั่งให้อาหารย่อยที่ริมสระว่ายน้ำที่อากาศกำลังเย็นสบาย  เมื่อได้อยู่กันสองคนหลังจากที่คุณแม่เอ่ยปากว่า

‘ปล่อยให้แฟนเค้าได้อยู่ด้วยกันบ้างเดี๋ยวลูกวินของแม่จะน้อยใจไปกว่านี้’ แถมหัวเราะถูกใจที่ได้แกล้งลูกชายตัวเองสำเร็จ

“กัสสบายใจรึยังครับ  หืม”

“ครับ  ครอบครัววินน่ารักมาก  ทุกคนดีกับกัสจังเลย”

กัสส่งยิ้มกว้างกลับมาให้และดวงตานั้นก็เปล่งประกายแห่งความสุข  เห็นแบบนี้แล้วผมก็มีความสุขตามไปด้วย  ผมเอื้อมมือไปลูบใบหน้าหวานอย่างหลงใหลและสัญญากับตัวเองว่าผมจะรักษารอยยิ้มแบบนี้ของกัสไว้ให้อยู่ตลอดไป  แก้มใสๆตาวาวๆทำให้ผมอดใจไม่อยู่จึงขยับตัวก้มหน้าลงหอมแก้มนุ่มแต่กัสก็เบี่ยงหน้าหนี  ผมจึงชะงักไปก่อนเงยหน้าขึ้นสบตาทันเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่นานๆจะได้เห็นสักครั้ง
 
“ห้ามหอม  ห้ามจูบ  ห้ามทุกอย่าง  ยกเว้นจับมือได้เท่านั้น  เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

“กัส  นี่มันอะไรครับ” หลังคำห้ามมากมายจากคนน่ารักทำผมงงเป็นไก่ตาแตก  ว่าทำไมกัสถึงต้องห้ามไม่ให้ผมได้ชื่นใจเล็กๆน้อยๆด้วย  ใบหน้าผมคงตลกมากคนใจร้ายถึงหัวเราะคิกคักตายิบหยี

“คิกๆ  นี่เป็นบทลงโทษกับเรื่องของรัน” ผมชะงักไปเมื่อได้ยินคำตอบของกัส

หนึ่งเดือนคนอื่นอาจว่าแป๊บเดียวแต่สำหรับผมที่โดนห้ามแสดงความรักทุกรูปแบบกับคนรักจะไม่ขาดใจไปซะก่อนเหรอครับ  แต่จะไม่ยอมก็ไม่ได้เพราะดีเท่าไหร่แล้วที่กัสลงโทษผมแค่นี้  คนที่มีแฟนจะรู้ดีว่ามันเหมือนตายทั้งเป็นที่มีคนรักอยู่ใกล้ๆแต่แสดงความรักผ่านร่างกายกับคนรักไม่ได้

“เฮ้อ  ครับวินรับคำบัญชาที่ท่านชายกัสสั่งทุกอย่างเลย  แต่ขอแค่หอมแก้มสักอย่างก็ไม่ได้เหรอครับ”

“ไม่!  ห้ามต่อรอง  ไม่งั้นมือก็จะไม่ได้แตะนะ  แถมจะห้ามเจอตลอดหนึ่งเดือนด้วยต่างคนต่างอยู่เลย” กัสส่งเสียงดุๆที่ขัดกับแววตาเจ้าเล่ห์มาให้  เมื่อสามารถหาบทลงโทษมาให้ผมทรมานได้  เอาน่ะ! แค่เดือนเดียวต้องอดทนเพื่อชดเชยในความผิดของตัวเอง  ผมจับมือบางไว้และยกขึ้นจูบหลังมือนุ่มที่เจ้าของไม่ทันขัดขืน  ผมจึงฝังปากและจมูกสูดกลิ่นจนพอใจ

“เอ๊ะ! วิน  กัสบอกห้ามไง  เดี๋ยวเถอะ” กัสส่งเสียงดุไม่แพ้ดวงตา  ผมจึงรีบส่งสายตาออดอ้อนพร้อมคลึงหลังมือบางไปด้วยเพื่อหวังให้คนน่ารักคลายโกรธลง

“อื้อ  ขอแค่นี้นะครับ  ครั้งนี้ครั้งเดียวขอมาเป็นกำลังใจที่วินต้องรับโทษตั้งเดือนไงครับ” กัสถอนใจยาวตาอ่อนแสงลงและคลี่ยิ้มน้อยๆให้ผมได้เบาใจว่าคนน่ารักไม่คิดจะโกรธกันแล้ว  ก่อนใบหน้าหวานที่ผมจับจ้องอยู่จะเบือนไปทางสระว่ายน้ำตรงหน้าเราแทน

“วินโชคดีนะที่มีครอบครัวที่อบอุ่น  ทุกคนรักวินมากเลยเนอะ” ใบหน้าด้านข้างของกัสนั้นเศร้าจนผมนึกสงสารจับใจ  ผมจึงกุมมือบางให้แน่นขึ้นเพื่อส่งกำลังใจไปให้  ใจจริงอยากจะโอบกอดร่างบางเข้าหาอกแต่ผมต้องรักษาสัญญาที่ให้กัสไว้ 

“โธ่ที่รักอย่าคิดมากนะ  ต่อไปครอบครัววินก็เป็นครอบครัวกัสเหมือนกันนะครับ”

เรื่องครอบครัวของกัสผมได้รู้จากกัสเองตอนที่เรากลับมาคบกันอีกครั้ง  ว่ากัสสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปตั้งแต่ช่วงที่เรียนชั้นมัธยมปลายเพราะอุบัติเหตุทางเครื่องบินตก  เมื่อพ่อแม่เสียกัสจึงมาอยู่กับคุณยายที่ต่างจังหวัดและมีมรดกของพ่อแม่มาบ้างหลังจากนั้นยายก็มาเสียเมื่อสองปีก่อน  กัสจึงต้องมาอาศัยกับป้าแทนได้อาศัยเงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้จนเรียนจบ  จึงออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่  นานๆครั้งถึงจะกลับไปเยี่ยมป้าบ้างไม่ใช่ว่าป้ากัสจะร้ายแต่ด้วยความที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาแต่แรกทำให้ไม่ค่อยผูกพันกันนัก  แต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดที่กัสเหลืออยู่ก็มีแค่ครอบครัวของป้าเท่านั้น  ดังนั้นกัสจึงเหมือนอยู่ตัวคนเดียวยังดีที่มีเพื่อนสนิทอย่างมิคและมาย  ที่รักและใส่ใจกัสอย่างจริงใจทำให้กัสไม่เหงาและมีความสุขได้ในช่วงที่เรียนอยู่ 

ใบหน้าเศร้าๆของกัสก็หันกลับมาและส่งยิ้มน้อยๆมาให้ผม  ให้รู้ว่าเจ้าตัวเค้าไม่ได้เป็นอะไรเพื่อให้ผมได้สบายใจ  ก่อนกัสจะเข้ามาโอบกอดตัวผมไว้ทำเอาผมสะดุ้ง ‘นี่ผมไม่ได้ผิดสัญญาใช่มั้ยครับ  ในเมื่อคนน่ารักเข้ามากอดผมเอง’  ผมจึงโอบประคองคนตัวนิ่มที่หอมกรุ่นเข้าหาตัวและโยกตัวกัสเบาๆ  เพื่อส่งกำลังใจไปให้และผมก็หวังว่ากัสจะรับรู้ถึงสิ่งที่ผมส่งไปให้  ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างให้ความรักความอบอุ่นแก่คนในอ้อมกอดคนนี้เอง  ไม่ให้รู้สึกเหงาหรือว้าเหว่เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

...................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

น่าสงสารหนูกัสนิดๆเนอะ ครอบครัวนี้ขี้แกล้งจัง  :sad11:
แต่ไม่เป็นไรสุดท้ายทุกคนก็รับสะใภ้เล็กอย่างเต็มตัวเต็มใจ
ส่วนนายวินก็เนียนตลอดๆ  :laugh:

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :กอด1:เจอกันพรุ่งนี้จ้า

ฝากติดตามการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 07-07-2012 08:21:20
อ่านตอนนี้แล้วสงสารกัสจังเลย แต่ไม่เป็นไรเนอะยังมีวินอยู่
แถมครอบครัววินก็น่ารักมากๆอีกตั้งหาก (ขี้แกล้งจริงๆ ฮุฮุฮุ)
เล่นเอากัสร้องไห้เลย แม่วินสุดยอดเลย วินโดนแม่ยึดกัสไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 07-07-2012 08:44:14
หนูกัสน่าสงสาร

โชคดีเจอครอบครัวที่น่ารัก :กอด1:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 07-07-2012 08:55:49
กัสน่ารัก+น่าสงสารอ่ะ
วิน เนียนตลอดเลยนะ

รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 07-07-2012 09:37:39
ครอบครัวนี้น่ารักอ่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 07-07-2012 09:43:05
ดีนะที่ครอบครัววินน่ารัก กัสไม่เป็นไรนะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-07-2012 09:48:35
ดีน๊าที่คุณแม่ใจอ่อน
เลิกแกล้ง :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-07-2012 10:36:06
ที่จริงรันไม่มีสิทธิมาว่าวินนะ ก็ตัวเองไม่ดีเองนะ อันนี้กัสน่าจะเห็นใจวินมากกว่า

+1+เป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 07-07-2012 10:52:31
วินเลยอดไปเลยหนึ่งเดือนแล้ววินจะไม่ใจขาดเหรอน่าสงสาร555 :m20:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 07-07-2012 11:56:10
รักครอบครัวนี้เนอะ

น่ารักมากเลย  :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 07-07-2012 12:31:11
ครอบครัววินน่ารักจัง  :o8: :o8:

แต่แอบสงสารวิน จะขาดใจตายก่อน 1 เดือนไหมเนี่ย  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 07-07-2012 18:24:02


กัสน่าสงสารจัง
ตอนนี้มีครอบครัววินแล้วนะ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่22 (7/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 07-07-2012 20:29:49
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-07-2012 08:24:38
ตอนที่ 23

กัส

ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของวินที่ได้รับครั้งนี้มันอุ่นไปถึงใจ  ผมรับรู้ถึงความรักความห่วงใยที่วินส่งผ่านกอดนี้ได้  ผมตกอยู่ในอ้อมกอดของวินอยู่นานเวลาผ่านไปเรื่อยๆจนอารมณ์ผมกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว  ถึงเพิ่งนึกได้ว่าผมผิดกฎที่ตัวเองตั้งไว้กับวินเสียเอง  ผมจึงผลักอกวินออกเบาๆและเอ่ยแก้เขิน

“ได้ทีกอดใหญ่เลยนะวิน  กัสไม่ลืมที่บอกกับวินไปหรอกนะ” วินทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยส่งกลับมาให้ก่อนกระชับมือผมแน่น

“ครับ  วินรู้ว่ากัสไม่ลืม  วินยอมกัสทุกอย่างนั่นแหละ  เราเข้าบ้านกันเถอะครับ  วินแอบเห็นคุณแม่ชะเง้อมองออกมาจากห้องดูทีวีหลายรอบแล้ว” ผมหันไปทางที่วินบอกว่าเป็นห้องดูทีวีที่ตอนนี้มีคุณพ่อและคุณแม่ของวินนั่งอยู่  ห้องนั้นมีกระจกใสกั้นอาณาเขตแต่ไม่สามารถกั้นสายตาสองคู่ที่จ้องมาได้

ผมสบตาคุณแม่ที่นั่งอมยิ้มอยู่ไม่ไกลก่อนส่งยิ้มเขินๆไปให้  เพราะรู้ว่าคุณแม่ต้องเห็นตอนที่เรากอดกันแน่ๆ  วินนี่ยังไงเห็นท่านแล้วก็ไม่รีบบอกกันปล่อยให้ผมกอดอยู่ตั้งนานมันน่าต่อเวลาลงโทษอีกสักเดือนนักเชียว  ผมจึงหันมาส่งค้อนให้พ่อตัวดีที่ตอนนี้ส่งยิ้มกว้างปากฉีกถึงหูแล้ว  ‘ให้ค้อนแล้วยังยิ้มอยู่ได้คนอะไรเนี่ย  ฮึ  ผมจะงอนแล้วนะ’  ผมโดนวินลากกลับมาในบ้านตรงไปทางห้องที่คุณพ่อคุณแม่นั่งอยู่  เมื่อเราเข้าไปถึงคุณแม่ก็กดปิดทีวีและเรียกให้ไปนั่งตรงพื้นต่อหน้าท่านทั้งสอง  ก่อนเรียกเด็กรับใช้ไปตามพี่จักรมาที่ห้องนี้  ผมส่งสายตาเป็นคำถามให้กับคนที่นั่งพื้นข้างๆกันและได้อาการส่ายหน้าจากวิน  จึงหันกลับไปมองหน้าคุณแม่อีกครั้งที่ยิ้มละไมแววตาเอื้อเอ็นดูมาให้  ผมจึงส่งยิ้มหวานตอบกลับและเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งพี่จักรเข้ามา

“ได้เวลาแล้วเหรอครับแม่” พี่จักรพูดยิ้มๆและนั่งลงที่โซฟาข้างคุณพ่อ  ส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผมกับวินที่กำลังงงมากไม่รู้ว่าถึงเวลาอะไรกัน  คุณแม่เอื้อมมือมาดึงมือผมไปกุมทั้งสองข้างและตบหลังมือเบาๆ  ก่อนท่านจะเอ่ยเสียงหวานออกมา
 
“กัส  แม่อยากให้ลูกคิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ  ทั้งพ่อแม่และพี่จักรก็คิดว่ากัสเป็นลูกเป็นน้องของพวกเรา  และแม่เชื่อว่านายอัศวินลูกแม่คนนี้รักกัสมากนะลูก  เพราะแม่ไม่เคยเห็นวินเป็นแบบนี้กับใคร  แม่อยากขอกัสให้โอกาสวินพิสูจน์ความรักที่วิน มีนะลูก  ตอนนี้แม่ก็อยากรับกัสมาเป็นคนในครอบครัวอยากจองกัสให้วินไว้ก่อน”

ประโยคของคุณแม่ทำให้ผมอึ้งและซาบซึ้งใจไปพร้อมๆกันจนถึงขั้นน้ำตาซึม  ด้วยผู้หญิงคนนี้ที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผมเลย  แต่ท่านก็รักผมโดยแสดงออกทั้งท่าทางและคำพูด  ทำให้ผมอดจะคิดถึงแม่ของตัวเองที่เสียไปแล้วไม่ได้  และประโยคสุดท้ายของท่านทำผมอึ้งมากจากการที่ท่านเอ่ยปากขอจองตัวผมให้ลูกชายตัวเอง  คุณแม่ยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้วินที่ขณะนี้ยิ้มกว้างตาพราวอย่างถูกใจ  เมื่อวินเปิดกล่องออกผมจึงเห็นแหวนทองคำขาววงเกลี้ยงสองวง

“วินสวมให้กัสสิลูก  แม่ขอจองกัสไว้ก่อนนะลูก  แม่รู้ว่าลูกแม่น่ะใจร้อนเหมือนแม่  ใช่มั้ยวิน  ฮึๆ  ส่วนเรื่องผู้ใหญ่กัสพร้อมเมื่อไหร่บอกแม่เดี๋ยวแม่ไปคุยกับป้าหนูทันทีเลยลูก”

หลังคำพูดของคุณแม่ไม่ต้องมีใครบอกซ้ำ  วินเอื้อมมาจับมือข้างซ้ายของผมไว้พร้อมส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้  ก่อนจะก้มหน้าลงและบรรจงสวมแหวนลงมาที่นิ้วนางข้างซ้าย  ผมรู้สึกได้ถึงความเย็นของเนื้อทองคำขาวตั้งแต่แหวนสัมผัสปลายนิ้วจนมันถูกสวมจนสุด  พร้อมความอบอุ่นที่คืบคลานเข้าครอบคลุมหัวใจทั้งดวง  วินเงยหน้าขึ้นก่อนที่เราจะสบตากันและวินก็คลี่ยิ้มหวานได้ไม่แพ้สายตาที่ผมได้สบ 

“กัสสวมแหวนให้วินด้วยสิครับ  ทีนี้กัสเป็นของวินและวินก็เป็นของกัสแล้วนะครับ” ผมหยิบแหวนที่เหลืออีกวงมาสวมให้ที่นิ้วนางข้างเดียวกันให้กับวิน 

ความรู้สึกของผมตอนนี้คืออึ้งและมีความสุขล้นใจ  แม้เรื่องนี้จะไม่มีใครสอบถามความเห็นผมก่อนเลย  แต่ใจจริงผมก็เต็มใจและไม่คิดปฏิเสธให้ผู้ใหญ่เสียหน้าอยู่แล้ว  และวินก็คงไม่ได้รู้ล่วงหน้าเหมือนกัน  วินแค่มีคุณแม่ที่ใจร้อนและเข้าใจลูกมากที่สุดก็แค่นั้นเองครับ  จนผมอดแอบหมั่นไส้พ่อตัวดีตรงหน้านี้ไม่ได้ไม่รู้วินจะโชว์ยิ้มหล่ออีกนานมั้ย  วินจับมือผมข้างที่นั่งติดกันและก้มลงกราบคุณแม่ที่ตัก  ตามมาด้วยคุณพ่อที่ไม่ได้พูดอะไรได้แต่โชว์ยิ้มหล่อได้ไม่แพ้ลูกชาย 

“ต่อไปนี้วินห้ามทำให้กัสเสียใจและต้องรักกัสให้มากรู้มั้ย  แต่ถ้าวินทำกัสเสียใจมาบอกพี่จักรนะครับ  พี่จะจัดการมันเองและจะให้กัสมาเป็นแฟนพี่แทน  ฮ่าๆๆๆ”

“โฮ  พี่จักรขู่ผมใหญ่เลยนะ  แต่เลิกหวังในตัวกัสได้เลยเพราะผมจะไม่ทำให้กัสเสียใจแน่  ก็รักซะขนาดนี้แล้ว”

“ฮ่าๆๆๆ / ให้มันจริงเถอะไอ้วิน / ดีแล้วเนี่ยแม่อุตส่าห์เตรียมแหวนไว้ให้เพื่อจองว่าที่ลูกสะใภ้อย่าให้แม่ผิดหวังนะวิน”

เสียงหัวเราะของคุณพ่อตามมาด้วยการขู่ของพี่จักรจบที่คุณแม่ที่รักลูกมากและอยากมีลูกสะใภ้น่ารักเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างผม บรรยากาศในห้องนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคนในครอบครัวพาให้ใจผมสดชื่น  ทำให้ผมต้องยิ้มตามทั้งๆที่หน้าร้อนผ่าวและไม่กล้าสบตาใครสักคนในห้อง  ผมที่มีคู่หมั้นแบบไม่รู้ตัวแต่เต็มใจและได้ครอบครัวใหม่ที่อบอุ่น  ซึ่งรักผมเหมือนลูกแท้ๆทำให้ชีวิตผมนี้มีความหมายขึ้นมากเลยครับ

“วันนี้พ่อว่าเราแยกย้ายกันได้แล้ว  วินกับกัสนอนที่นี่เลยนะไม่ต้องกลับไปที่คอนโดหรอก”

“จริงด้วยลูกพรุ่งนี้แม่จะได้อยู่กับกัสอีกสักวัน”

“ว่าไงครับกัส  วินแล้วแต่กัสเลยครับ”

“แหมไอ้วิน  แกนี่ถ้าจะมีแวว ‘เกลียมัว’ เนอะ”

คำตอบตกลงที่ผมจะบอกออกไปทำเอาชะงักค้างอยู่แค่ริมฝีปากเพราะประโยคสุดท้ายของพี่จักร  ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับวินถึงขั้นนั้นซะหน่อยแม้จะมีอะไรๆไปบ้างก็เถอะ  ‘ร้ายจริงพี่น้องคู่นี้’  พี่แซวน้องแต่ผลกลับทำให้ผมอายได้  ผมนั้นไม่กล้ามองหน้าใครในห้องอีกเลยแถมหน้าก็ร้อนผ่าวแทบไหม้เป็นจุลแล้ว

“เพี้ยะ /  ตาจักรแซวน้องทำไมหึ” คุณแม่เหมือนจะเข้าข้างผมและปรามพี่จักรนะ  แต่สายตาที่ผมได้สบด้วยนี่สิกลับมีแววล้อเลียนเต็มหน่วยตา  ‘ครอบครัวนี้เค้าทำงานกันเป็นทีมจริงๆขยันทำให้ผมได้อายนัก’  ก่อนคุณแม่จะดึงผมเข้าไปกอดจนแน่นและหอมแก้มผมฟอดใหญ่เสียงดัง  เรียกเสียงโวยวายจากวินทำนองว่าหวงผมด้วย

“แม่ล้อเล่นลูก  ตาวินไม่ต้องทำหวงกัสเลยนะถ้าไม่ได้แม่น่ะ  แกจะมีคู่หมั้นแบบนี้มั้ย” คุณแม่พูดกับผมเสียงอ่อนก่อนหันไปเอ่ยกับลูกชายคนเล็กเสียงแข็ง  และหันมาส่งยิ้มหวานให้ผมด้วยแววตาพราวเหมือนถูกใจที่ได้แกล้งวิน  ส่วนวินก็แกล้งส่งค้อนให้คุณแม่แต่สายตากลับแพรวพราวราวสมใจ ‘เหมาะสมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน’

“กัสจ๊ะ  แม่จัดห้องที่ติดกับห้องวินให้แล้วนะลูก” พูดจบท่านแอบเหล่มองไปทางวินแต่ใบหน้ายังยิ้มพรายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนผมต้องกลั้นขำเม้มปากแน่น

“ขอบคุณครับคุณแม่” วินหน้าเลิกลั่กหันมองหน้าผมกับคุณแม่ไปสลับมาและเหมือนวินจะเพิ่งได้สติ  วินเข้ามารวบเอวผมไว้ต่อหน้าทุกคนจึงเป็นผมเองที่ตกใจตาโตทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

“แม่ครับจัดทำไมให้ยุ่งยาก  ปกติกัสต้องนอนห้องเดียวกับวินอยู่แล้ว” ผมพยายามแกะมือปลดแขนที่เกาะเอวผมออก  แต่ยิ่งขืนวงแขนนี้ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นด้วยความหมั่นไส้เจ้าของอ้อมกอดผมจึงตอบรับคุณแม่ไป

“วันนี้กัสจะนอนห้องที่คุณแม่จัดให้ครับ” หลังคำตอบผมนั้นวินออดอ้อนเสียงหวานเรียกชื่อผมใหญ่  แต่ผมทำเป็นไม่สนใจพยายามแกะมือปลาหมึกออกจนสำเร็จ

“ฮ่าๆๆๆ  ไอ้วินสมน้ำหน้า” พี่จักรหัวเราะก้องและซ้ำเติมน้องชายอย่างถูกใจ 

ส่วนวินไม่สนใจใครเลยเพราะมัวแต่เขย่ามือผมและส่งสายตาอ้อนวอนมาให้  แต่ครั้งนี้ผมไม่แพ้ทางให้สายตาคู่นี้แน่ครับ  เพราะมาที่นี่ครั้งแรกก็จะให้นอนห้องเดียวกับลูกชายเจ้าของบ้านเลยก็ยังไงอยู่  ถึงแม้จะหมั้นอย่างไม่เป็นทางการแล้วก็เถอะ  แต่ถ้าผมได้มาที่นี่บ่อยๆก็ค่อยว่ากันอีกที  หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องตัวเอง  เหลือผมกับวินที่ยังนั่งกุมมืออยู่บนพื้นที่เดิมและยังไงวินก็ไม่ยอมให้ผมแยกห้องนอนพยายามตื๊ออยู่ได้

“กัสครับนอนห้องวินนะ  นะครับ”

“ไม่อ่ะ  คุณแม่อุตส่าห์จัดให้แล้ว”

“ถ้ากัสกับวินไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ  อีกอย่างนานๆเราจะเจอกันนะ  ถ้าแยกกันนอนแล้วคืนนี้วินจะหลับยังไงกันครับ”

“ทุกคืนวินก็นอนได้นี่หน่า  อ๋อ  จริงด้วยวินยังอยู่ในช่วงโดนลงโทษนะ”

“ขอแค่นอนใกล้ๆและได้กลิ่นก็ยังดี”

“บ้า  เห็นกัสเป็นอะไรเนี่ย  ไปแล้วไม่เอาห้ามต่อรอง  วันนี้เที่ยวทั้งวันแถมมีเรื่องให้ตื่นเต้นมากมาย  กัสอยากพักแล้วครับ  นะ” อ้อนกลับซะหน่อยแล้วก็ได้ผล 

วินถอนใจเฮือกขมวดคิ้วปากยื่นใส่ผม ‘มันน่าขำนัก’ ถ้าเพื่อนสนิทวินมาเห็นเวอร์ชั่นนี้เข้านะพวกนั้นคงแซวเจ้าตัวไม่เลิกแน่ๆ  ก่อนวินจะพาผมเดินขึ้นบันไดไปทางฝั่งซ้ายของบ้าน  และหยุดที่หน้าห้องหนึ่งคงเป็นห้องที่ผมจะได้พักในคืนนี้

“ไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอครับกัส”

“กัสขอยืมชุดนอนวินหน่อยนะ  แล้ววินค่อยให้เด็กรับใช้มารับชุดนี้ไปจัดการให้กัสได้มั้ย  พรุ่งนี้จะได้มีใส่”

ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องไปเพื่อให้วินเลิกเซ้าซี้  มองหน้าวินที่เปลี่ยนจากงอนเป็นหงอยไปซะแล้ว  ‘เหมือนเด็กเลย  ไอ้เด็กโข่งเอ๊ย’ วินที่เป็นชายหนุ่มมาดแมนไม่ยอมใครมีแต่คนอื่นที่ต้องยอมตัวเองมาตลอด  ถึงคราวนี้เจ้าตัวคงขัดใจไม่น้อยที่ผมไม่ยอมทำตามที่ตัวเองต้องการ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้คงไม่กล้าบังคับเพราะกลัวผมโกรธ  ผมก้มหน้าซ่อนยิ้มให้กับคนหน้าหงอยเกือบหมดหล่อ  เห็นแล้วก็นึกสงสารงั้นปลอบสักนิดล่ะกันครับ  ผมเงยหน้าจับบ่าทั้งสองข้างของวินและทิ้งน้ำหนักไปที่ไหล่คู่นั้นก่อนยกตัวขึ้น

“ฟอดดด / ฝันดีนะครับ” หลังวิธีปลอบใจของผมแล้ววินมองผมตาโตยืนนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม  จนผมหลุดขำออกมาและรีบหมุนตัวเพื่อเปิดประตูเข้าห้อง  ก่อนปิดประตูผมหันกลับไปมองอีกครั้ง  ก็รู้ว่าวินเรียกสติกลับมาแล้วและกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้

“ครับ  กัสก็ฝันดีนะ  ฝันถึงวินด้วยนะครับ”

ผมส่งยิ้มหวานกลับพร้อมยกมือข้างซ้ายของตัวเองที่สวมแวนอยู่ขึ้นจรดริมฝีปากและช้อนตาขึ้นมองวิน  ไม่รู้ว่าตัวเองส่งสายตาแบบไหนไปให้วินแต่ใบหน้าวินพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นทันตาและตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง  เห็นดังนั้นผมจึงรีบปิดประตูทันที  คืนนี้ได้แกล้งวินแค่นี้คงพอแล้วไม่งั้นจะเป็นผมซะเองที่จะโดนหนักกว่าที่ได้แกล้งไป  หลังปิดประตูผมได้ยินเสียงวินจากอีกฝากของประตู

“โอ๊ย  กัสแกล้งยั่วกันแบบนี้แล้วจะให้วินนอนหลับได้ยังไง  พรุ่งนี้เจอล่ะน่าดู”

ได้ฟังผมอดขำไม่ได้นี่แสดงว่าหน้าตาที่ผมส่งไปให้วินมันยั่วยวนอีกฝ่ายเหรอเนี่ย  วันหลังแกล้งยั่ววินแบบนี้อีกดีกว่าวินที่อยู่ในช่วงโดนลงโทษมันน่าสนุกน้อยที่ไหนกัน  เพราะวินคงไม่กล้าผิดสัญญาแน่ๆ  หลังจากนั้นผมก็ได้รับเสื้อผ้าที่ขอวินไว้จากเด็กรับใช้ที่วินคงให้นำมาให้ผม  ผมอาบน้ำเสร็จก็เอาชุดที่ใส่แล้วไปวางหน้าห้องซึ่งเด็กคนเดิมจะขึ้นมาเอาไปจัดการต่อ

‘ตี๊ดๆ  ตี๊ดๆ’

เสียงข้อความเข้าถูกส่งมาจากวิน  มีเรื่องอะไรนะเพิ่งแยกกันเองผมจึงรีบเปิดดูอย่างนึกสงสัย

“ห้ามส่งสายตาแบบนั้นให้ใคร  หมดช่วงหนึ่งเดือนเมื่อไหร่ล่ะก็กัสเตรียมตัวเตรียมใจได้เลย  คืนนี้หลับฝันดีครับที่รัก”

ข้อความนี้มันขู่กันชัดๆ  ใครกลัวไม่มีซะล่ะยังมีเวลาตั้งเดือนที่จะเตรียมตัว  และผมจะแกล้งยั่วให้หนักขึ้นกว่าเดิมอีก  แต่ถ้าหมดหนึ่งเดือนไปแล้วผมจะโดนอะไรบ้างน้า

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

กัสก็ช่างยั่วเนอะไม่รู้พอพ้นโทษ1เดือนจะเจออะไรบ้าง  :laugh:
จะเจออะไรก็ไม่สำคัญ แต่ที่รู้บ้านนี้เค้ารู้ใจลูกชายคนเล็กกันจังเลย
หมั้นกัสให้วินเสร็จสรรพดิ้นไม่หลุดแล้ว

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แทนคำขอบคุณแล้วนะคะ  :กอด1: เจอกัสวินพรุ่งนี้ค่ะ

ฝากติดตามการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 08-07-2012 08:58:31
โดนหนัก :z1:

รอดูคนโดนลงโทษ

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 08-07-2012 09:45:03
จะโดนโทษไรหนอ? คึคึ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-07-2012 10:06:40
กลัวจะไม่ถึง
1 เดือนน่ะสิ
โดนก่อนแน่ๆ
ช่างยั่วดีนักนะกัส :z1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 08-07-2012 11:16:40
ดูท่าทางแบบนี้แล้วไม่พ้นเดือนแน่ๆ กัสขยันยั่ววินขนาดนี้
วินจะทนไหวได้ไง จริงไม ปกติวินก็จ้องจะกดกัสอยู่แล้ว ฮุฮุฮุ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงิ
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 08-07-2012 11:35:46
กัสแก้ลงวินบ่อยๆระวังโดนเอาคืนนะ :m20:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-07-2012 11:51:00
รอตอนต่อไปนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 08-07-2012 14:52:04

กัสครบ1เดือนโดนจัดหนักแน่ๆ :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-07-2012 15:16:48
รอคนช่างยั่วโดนลงโทษ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-07-2012 19:12:58
ดันหน่อย :3059:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 08-07-2012 22:26:26
อยากให้ครบเดือนไวๆ

อยากเห็นกัสโดนลงโทษ  :laugh:

รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่23 (8/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-07-2012 23:04:55
สงสารวินอ่ะ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-07-2012 07:17:34
ตอนที่ 24

วิน

‘พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันศุกร์แล้วสินะ’ ผมกำลังนั่งเอนหลังพิงโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องนอนคลึงแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายพลางนึกถึงใบหน้าคนรักไปด้วย  ผมนั้นอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ  ตั้งแต่วันที่ได้รับบทลงโทษจากกัสให้แค่จับมือก็ผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว  ผมที่ไปหากัสทุกสัปดาห์ก็ได้แค่นอนจับมือและมองหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่จับต้องมากกว่านี้ไม่ได้  ผมอึดอัดใจมากที่ถ่ายทอดได้เพียงแค่คำพูดว่า ‘รัก’  มีบ้างที่ผมแอบขโมยหอมแก้มนุ่มเมื่อเจ้าของหลับสนิทให้พอเป็นแรงใจ  แต่อย่าให้กัสได้รู้เชียวไม่งั้นผมคงได้รับโทษเพิ่มแน่ๆ  กำลังคิดถึงคนรักเพลินๆก็ถูกขัดจังหวะจากสายเรียกเข้าทางโทรศัพท์มาจากเพื่อนหนุ่มผิวเข้ม ‘ฟิน’

“ไงมึงโทรมาซะดึกมีอะไรรึเปล่า”

“ไม่มีโทรมาไม่ได้เหรอไอ้วิน  พอมีคู่หมั้นเนี่ยไม่สนใจเพื่อนฝูงเลยนะ”

“น้อยใจไปได้ไอ้นี่มีไรว่ามาเลย  อย่าช้าเดี๋ยวต้องโทรหากัสอีก”

“เออๆ  พรุ่งนี้มึงต้องไปหากัสใช่มั้ย  ขอกูตามไปด้วยสิอยากไปสูดอากาศต่างจังหวัดบ้าง”

“อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย  เออ  อยากไปก็ได้แต่กูจะไปออกหน่วยเคลื่อนที่กับกัส  พื้นที่มันลำบากหน่อยนะ  มึงจะไปด้วยหรือจะรอในตัวจังหวัดล่ะ”

“กูไปด้วย  ดีเหมือนกันเบื่อๆว่ะ”

“ตามใจพรุ่งนี้มาเจอกูที่บ้านสักบ่ายสามโมงละกัน”

คุยกันเสร็จผมก็วางหูไปนึกสงสัยเหมือนกันว่าไอ้ฟินมันเบื่ออะไรนักหนา  แต่ก็ไม่แปลกใจมากนักเพราะไอ้ฟินเคยเอ่ยปากว่าจะขอตามไปเที่ยวเหมือนกัน  แต่ที่ผ่านมามันยังไม่ว่างและมันคงเบื่อแสงสีกลางคืนแล้วมั้ง  เพราะในกลุ่มผมนั้นไอ้ฟินใช้ชีวิตหนุ่มโสดได้คุ้มที่สุดแล้วมันเที่ยวได้ทุกคืนแต่งานมันก็ไม่เคยทิ้ง  แต่เป็นแบบนี้ก็ดีผมจะได้มีเพื่อนร่วมเดินทางและช่วยขับรถด้วย  อ้าว  เลยเวลาโทรหาที่รักแล้วมัวแต่คุยกับไอ้ฟิน  เดี๋ยวโดนคนน่ารักงอนผมจะแย่เอาและคงต้องบอกกัสเรื่องที่ไอ้ฟินจะตามไปด้วย  แต่กัสคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะอย่างน้อยก็ได้ไอ้ฟินเป็นลูกมือเพิ่ม  ส่วนผมก็จะได้มีเวลาสวีทเล็กๆกับกัสเพิ่มด้วย

...................................

ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านถูกใช้ประโยชน์ให้เป็นสถานที่รับบริการทางการแพทย์ชั่วคราว  โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมาให้การตรวจรักษาโรคและให้บริการตรวจรักษาฟันให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ห่างไกลแห่งนี้  กลุ่มคน
ทำงานเหล่านี้ยอมเสียสละตัวในช่วงวันหยุดมาออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่ผมรักและคิดถึงมากรวมอยู่ด้วย  เวลาล่วงเลยมาบ่ายมากแล้วอากาศค่อนข้างร้อนแต่กัสก็ยังตั้งใจให้บริการรักษาคนไข้อยู่  แม้ต้องทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้วส่วนผมและเพื่อนสนิทที่ติดมาด้วยก็มีหน้าที่เรียกคิวคนที่มานั่งรอให้เข้ารับการรักษาหรือช่วยหยิบจับของที่พอช่วยได้  ผมเห็นกัสทำงานไม่ได้หยุดเลยก็รู้สึกเหนื่อยแทนเพราะคนมารอรับบริการเยอะพอสมควร  เมื่อผู้คนรู้ข่าวว่ามีหมอมารักษาถึงที่ต่างจูงลูกหลานมาตรวจรักษา  แต่กัสก็ยังยิ้มให้คนไข้ทุกครั้งเมื่อรักษาคนนั้นๆเสร็จแล้ว 

“กัสครับพักดื่มน้ำหน่อยนะ  เหลือคนไม่มากแล้วเดี๋ยวหมอกัสเป็นลมไปคนไข้จะใจเสียเอาน้า”

กัสจึงถอดผ้าปิดจมูกและเสื้อคลุมตัวยาวออกก่อนส่งยิ้มหวานมาให้  ก่อนหันไปบอกเพื่อนสนิทตัวเล็ก ‘มิค’ ที่นั่งพักให้มาแทนที่ตน  มิคหันมายกมือแตะเปลี่ยนตัวและยิ้มให้กับกัสอย่างล้อเลียน  กัสรับน้ำจากผมและเดินมานั่งพักตรงส่วนนั่งพักที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่  ขณะกัสยกน้ำดื่มผมสังเกตเห็นเหงื่อซึมตามไรผมและจมูกเล็กๆนั่น  ผมจึงเอื้อมมือใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปตามผิวชื้นเหงื่อ  กัสคงร้อนและเหนื่อยมากแต่ก็ไม่ปริปากพูดอะไร  จนกัสดื่มน้ำหมดแก้วแล้วจึงหันมาส่งยิ้มให้ผม

“วินเบื่อมั้ยออกมาไกลแบบนี้”

“ไม่หรอกครับที่ไหนมีกัส  วินก็ไม่เบื่อแล้ว  กัสนั่นแหละเหนื่อยมั้ยทำงานแต่เช้าได้พักแค่ตอนเที่ยงนิดเดียวเอง”

“ก็เหนื่อยนิดหน่อยนะ  แต่กัสอยากรีบทำให้ชาวบ้านน่ะมานั่งรอกันตั้งแต่เช้าแล้ว  พวกเค้าอยู่ไกลจากโรงพยาบาลพอพวกเรามาเค้าคงดีใจที่มีหมอมารักษาถึงที่น่ะ”

“กัสเนี่ยน่ารักและยังใจดีอีกน้า  แฟนใครเนี่ย  แฟนกัสโชคดีจังที่ได้กัสเป็นแฟน”

“ฮิๆๆๆ  พูดเข้าข้างตัวเองก็เป็น  คนอะไรเนี่ย”

“แหมๆๆ  ไอ้วินมึงเกรงใจคนอื่นมั่งเหอะเค้าทำงานกันอยู่กลับแอบมาสวีทกันสองคน”

หลังคำแซวของไอ้ฟินทำเอากัสตาโตมองไปรอบๆตัวซึ่งผมก็มองตามเห็นพี่พยาบาลที่วัดความดันอยู่  พี่เภสัชที่จ่ายยา  และไอ้หมอตี๋พจน์ที่คนไข้เพิ่งลุกไปหันมามองทางเราส่งยิ้มแซวมาให้  แต่ไอ้คนสุดท้ายนี่กลับมองเฉยและหันกลับไปทันที  มันคงเห็นภาพบาดตาล่ะสิ  แต่ช่วยไม่ได้แอบมาหลงคนมีเจ้าของแล้วเองนี่หว่า  ผมหันกลับมามองหน้ากัสที่ใบหน้าขึ้นสีเพราะคงอายเพื่อนร่วมงานคนอื่นนั่นเอง  ผมเคยถามกัสเหมือนกันว่าอายมั้ยที่มีผมเป็นแฟน  จำได้ติดตาว่าตอนนั้นกัสทำหน้ามุ่ยและตอบว่าไม่อาย  แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศและถ้ามีใครถามก็จะบอกความจริงไป  คนที่ทำงานกัสหลายคนก็รู้แล้วว่ากัสมีผมเป็นแฟนแต่ก็ไม่มีใครรังเกียจหรือตำหนิอะไร  กลับเป็นว่าคนเหล่านั้นต่างอิจฉากัสที่มีแฟนหน้าตาดีหรือออกแนวแซวซะมากกว่า  เมื่อแรกรู้ทำผมยิ้มปลื้มไม่หุบอยู่นานเลยล่ะ  หลังจากเราเป็นที่จับตากัสลุกขึ้นบอกว่าจะไปดูมิคที่ทำงานแทนคงอายสายตาพี่ๆที่ส่งมาล้อตัวเอง  ผมนึกเอ็นดูคนขี้อายอยากหอมสักฟอดแต่คนเยอะแบบนี้ไม่กล้าหรอกก็ได้แค่คิด  จึงหันกลับมาที่
เพื่อนตัวเองที่ตอนนี้นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ถึงความผิดที่ทำให้ผมอดสวีทกับแฟนตัวเอง

“มึงนี่นะมันน่าโดนเตะสักที  แล้วไปไหนมาเนี่ยหายไปตั้งแต่บ่าย”

“แค่นี้ทำเป็นโกรธมึงก็สงสารกูมั่งเถอะไม่มีแฟนมาด้วยนี่หว่า  ที่หายไปกูไปถ่ายรูปแถวๆนี้แหละ  ธรรมชาติที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่เลยไม่ได้เห็นแบบนี้นานแล้ว”

“ไอ้ฟินมึงไม่เบื่อแบบนี้ก็ดีแล้ว  เดี๋ยวจะหาว่ากูพาเพื่อนมาลำบาก”

“กว่าจะเสร็จวันนี้เจ้าหน้าที่ที่มาเนี่ยคงเหนื่อยมากนะมึง  แค่เห็นกูยังเหนื่อยแทนเลย  นับถือพี่ๆแกว่ะเดินทางก็ไกลต้องมาตรวจรักษาให้คนที่รอตรวจ  คนก็มาเยอะมาก”

“อืม  ใช่ดีใจแทนชาวบ้านที่นี่ว่ะ  ไอ้ฟินกูเพิ่งเคยเห็นกัสทำงานแบบนี้ครั้งแรกว่ะ  กูภูมิใจในตัวกัสมาก”

“ใช่กูก็ภูมิใจ”

ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทมันกำลังมองไปทางกลุ่มคนที่ทำงานตรงหน้าสายตามันจับจ้องไปที่คนๆหนึ่ง  เฮ้ย! มันมองหมอมิคยิ้มๆแบบนี้หมายความว่าไงวะ

“ฟิน  มึงมองหมอมิคแบบนี้หมายความว่าไง  อย่าเชียวนะมึง”

“ไร  กูก็มองคนอื่นด้วยไม่ใช่หมอมิคคนเดียวซะหน่อย  คิดมากน่า”

“กูเพื่อนมึงนะ  กูคิดมากดีกว่าคิดน้อยว่ะ  แต่ขออย่างอย่ามาเล่นๆนะโว้ย  คิดให้ดีคนนี้มึงเล่นๆไม่ได้”

รีบเตือนเพื่อนสนิทที่น่าจะคิดไม่ซื่อกับมิคแน่ๆผมเป็นเพื่อนไอ้ฟินมานาน  มันสนใจใครทำไมจะไม่รู้แต่มันเริ่มสนใจมิคตอนไหนมากกว่า  ไอ้ฟินสนใจได้แต่ต้องจริงจังแต่ไอ้คนโสดเจ้าชู้แบบมันจะจริงจังกับมิคจริงเหรอ  ถ้ามันแค่เล่นๆผมต้องแย่แน่ๆเพราะต้องโดนกัสโกรธที่ปล่อยให้ไอ้ฟินไปทำเล่นๆกับมิคนั่นเอง  ไอ้ฟินหันกลับมามองผมเราสบตากันเงียบๆ

“กูยอมรับว่าเริ่มสนใจ  แต่มึงสบายใจได้ตอนนี้กูยังไม่แน่ใจแต่ถ้ายังรู้สึกแบบนี้ก็จะไม่เริ่มแน่ๆ  กูจะรอจนแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองก่อนถึงจะเริ่ม” ผมส่งมือไปตบหลังเพื่อนอย่างเข้าใจในความรู้สึกของมัน  ก็ไม่รู้ว่ามันสนใจมิคตอนไหนเพราะคู่นี้ก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้นานแล้วเท่าๆกับที่ผมรู้จักกับกัส 

ไอ้ฟินลุกขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศการออกหน่วย  ส่วนผมก็ลุกมาช่วยหยิบจับของและเรียกคิวคนที่นั่งรอที่เหลือไม่มากนัก  จนเสร็จสิ้นการทำงานอันแสนเหนื่อยของวันเจ้าหน้าที่ต่างเก็บของขนขึ้นรถ  หลังจากนั้นก็มีคนพาพวกเราไปยังสถานที่พักที่เป็นสถานีอนามัยของหมู่บ้าน  เพราะคืนนี้เราต้องพักกันที่นี่เดินทางกลับโรงพยาบาลไม่ทัน  ด้วยระยะทางไกลและหนทางที่ลำบากพอควร  สถานที่พักเป็นอาคารสำหรับรักษาคนไข้มีห้องโถงว่างอยู่  ส่วนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนอื่นต่างแบ่งไปพักที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่อนามัยคนอื่นด้วย  ดังนั้นคนที่พักที่นี่ก็จะมีผม  กัส  มิค  ฟิน  และไอ้หมอตี๋พจน์  พี่เจ้าหน้าที่นำฟูกนอนหมอนผ้าห่มเท่าจำนวนคนมาให้  และจัดอาหารเย็นไว้ให้ที่หน้าสถานีอนามัยกลางลานหญ้า  โดยมีชาวบ้านนำอาหารมาเพิ่มให้บางส่วนแสดงถึงน้ำใจเพื่อตอบแทนที่หมอมารักษาถึงที่  พวกเราทั้งหมดที่มาต่างมารวมตัวกันเพื่อทานอาหารที่มีไม่มากแต่ก็มาจากน้ำใจของพี่เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน  ซึ่งมีการพูดคุยกันบ้างระหว่างทานอาหาร

“หมอกัสนี่โชคดีจังน้ามีแฟนแบบนี้  ตามมาดูแลถึงที่เลย  หาจากไหนเนี่ย  ฮิๆๆๆ” พี่พยาบาลที่นั่งตรงข้ามกัสเอ่ยแซวขึ้นทำเอาคนน่ารักข้างๆผมนั่งหน้าแดงระเรื่อก้มหน้าก้มตาตักข้าวแต่ไม่ยอมตอบอะไร

“พี่บุษครับ  ตรงนี้ยังมีอีกคนสนใจมั้ยครับ”

“แหมน้องฟินเนี่ยอย่ามาพูดเล่นนะพี่บุษเอาจริงนะคะ  ยิ่งห่างสามีกับลูกมาแบบนี้ด้วย”

บทสนทนาระหว่างไอ้ฟินและพี่บุษพี่พยาบาลที่เป็นคนแซวกัสเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้  ยกเว้นก็แต่ไอ้หมอตี๋คนเดียวที่นั่งเงียบและลุกขึ้นขอตัวไปพักผ่อนทันทีหลังกินเสร็จ  กัสมองตามหลังมันที่เดินจากไปพร้อมถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา  หันกลับมาสบตาผมที่มองกัสอยู่ก่อนแล้วแววตาลำบากใจที่ฉายออกมาทำให้ผมเข้าใจว่ากัสคงลำบากใจทำตัวไม่ถูกเรื่องไอ้หมอพจน์อยู่  ผมเข้าใจนะเรื่องความรักนี่จะให้ตัดทันทีนี่ทำไม่ได้หรอกมันคงต้องใช้เวลา  ผมก็ไม่ได้โกรธที่ไอ้หมอพจน์นั่นมาชอบกัสแค่หมั่นไส้นิดหน่อยแค่นั้น  เรานั่งทานกันคุยกันไปซักพักกัสก็ขอตัวไปพักผ่อน  ผมจึงเตรียมลุกตามแต่ถูกห้ามไว้ก่อนโดยกัสกระซิบบอกข้างหูว่า

“กัสขอเวลาคุยกับหมอพจน์หน่อยนะครับ” ฟังทีแรกก็ว่าจะไม่ยอมก็ใครล่ะอยากให้แฟนตัวเองไปอยู่กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง  แต่เมื่อนึกถึงหน้าไอ้หมอตี๋นั่นที่ทำหน้าหงอยๆเมื่อมองมาที่เราสองคนตอนใกล้ชิดกันก็นึกเห็นใจขึ้นมาจึงพยักหน้าตอบกลับไป

“วินให้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที  ถ้านานกว่านี้วินจะไปตามนะครับ” กัสส่งยิ้มน้อยๆอย่างขอบคุณมาให้และเดินไปทางที่พักที่ไอ้หมอพจน์เพิ่งเดินเข้าไป  เมื่อลับร่างบางผมจึงหันกลับมาที่โต๊ะตอนนี้เหลือเพียงไอ้ฟินและมิค  ส่วนคนอื่นขอตัวกลับที่พักแล้ว  และเจอสายตาเป็นคำถามของไอ้ฟินที่ส่งมาให้ผมจึงส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร

“ก็ต้องสงสารอีกฝ่ายบ้างนะ  คนเค้าแอบมองมานานและก็เป็นคนดีด้วย  นายโชคดีมากรู้มั้ยที่กัสกลับมาคบด้วยทั้งๆที่มีคนที่ดีกว่าเข้ามาแท้ๆ” หลังคำพูดมิคผมก็ได้คิดว่าผมน่ะโชคดีมากที่กัสยังให้โอกาสเราได้คบกันอีกครั้ง  ก่อนนี้ถ้ากัสจะเลือกหมอพจน์ผมก็ไม่มีสิทธิ์โวยวายอะไร  ไอ้ฟินตบหลังให้กำลังใจมันคงเข้าใจหัวอกผมตอนนี้ล่ะครับก็เรามันเพื่อนสนิทกันนี่หน่า

“อาทิตย์หน้าหยุดหลายวันมิคมีโปรแกรมไปไหนมั้ย”  ไอ้ฟินหันไปถามหมอตัวเล็กที่นั่งตรงข้ามกัน

“ว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่น่ะ  แต่ยังไม่มีโปรแกรมเที่ยวนายมีอะไรล่ะ”

“ผมอยากชวนไปเที่ยวอัมพวาน่ะไปด้วยกันมั้ย  เฮ้ย  ไอ้วินมึงทำหน้าตกใจทำไมกูก็จะชวนเพื่อนๆไปกันหมดนั่นแหละ  อยากหาที่เที่ยวว่ะช่วงนี้เบื่อๆ
กรุงเทพ”

ผมตกใจหมดไม่นึกว่าเพื่อนผมคนนี้จะรุกเร็วขนาดชวนหนุ่มน้อยออกเที่ยวซะแล้ว  เมื่อช่วงบ่ายเพิ่งสังเกตว่ามันสนใจหนุ่มน้อยข้างๆนี่เองชวนมิคเที่ยวซะแล้วท่าทางมันจะเอาจริงแฮะ  แต่ก็ดีเหมือนกันสัปดาห์หน้าก็ครบเดือนพอดีไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ถือว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูนกับกัสละกันครับ

“ยังไม่เคยไปเหมือนกันคนที่เคยไปมาเค้าติดใจกันใหญ่มีทั้งร้านขายของเลียบริมน้ำ  ยิ่งของกินที่ทั้งแปลกและก็อร่อย  นายฟินนายจัดการเรื่องที่พักได้เลยนะเราไปด้วย  อืม  นับมายเดียร์ด้วยนะรายนั้นถ้าจะดีใจใหญ่บ่นอยากไปมานานแล้ว” หมอกัสยิ้มตาหยีเมื่อคิดถึงที่เที่ยวและของกิน  ส่วนเพื่อนผมยิ้มน้อยๆจ้องมิคไม่กระพริบ  เอาล่ะสิงานนี้ไอ้ฟินมันหวังทำคะแนนแน่ๆ

“ได้ครับ  เดี๋ยวผมจัดการให้” ไอ้ฟินยิ้มตอบแต่ท่าทางงานนี้มันได้เจองานหินแน่  เพราะท่าทางหมอมิคไม่ได้รับรู้เลยว่าตนได้รับความสนใจจากเพื่อนของผมแล้ว  ผมว่าไอ้ฟินเป็นรองของกินซะแล้วครับ  เพราะมิคเลิกสนใจมันและหันไปนั่งทานขนมหวานที่วางอยู่ตรงหน้าแทนยิ้มหวานๆที่ไอ้ฟินส่งไปให้

“คุยอะไรกันอยู่ได้ยินว่าจะไปเที่ยว  ไปไหนกันเอ่ย” เสียงหวานที่นำมาก่อนร่างบางจะเดินมานั่งที่เดิมข้างผม 

สีหน้าของกัสเป็นปกติมียิ้มน้อยๆประดับหน้าแต่ตามีแววเศร้าจางๆ  ผมหวังว่าทุกอย่างที่กัสไปคุยคงเรียบร้อยด้วยดี  แต่ผมคงไม่ถามกัสว่าคุยอะไรกับไอ้หมอพจน์บ้าง  ด้วยเชื่อว่ากัสคงจัดการเรื่องหมอพจน์ได้อย่างดีที่สุดและมั่นใจในรักที่กัสมีให้ผม  เพราะถ้ากัสจะชอบไอ้หมอพจน์ก็คงคบกันไปแล้วก่อนที่เราจะคืนดีกัน  และเชื่อว่าถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้กัสจะต้องบอกผมแล้วเราจะหาทางออกด้วยกัน  ผมกอบกุมมือบางมาบีบแน่นและส่งยิ้มให้กำลังใจคนน่ารัก  ส่วนกัสกระชับมือตอบพร้อมส่งยิ้มให้ผมได้สบายใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

“เราคุยกันว่าจะไปอัมพวาอาทิตย์หน้าที่หยุดยาวกัสห้ามปฏิเสธนะ  เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว” มิคเอ่ยชวนและรวบรัดเพื่อนให้ตกลงไปเที่ยวด้วยกัน  ทำเอากัสอดหัวเราะเพื่อนตัวเองไม่ได้

“ฮึๆๆ  คร้าบ  กัสไปด้วยอยู่แล้วชวนมายไปด้วยนะเห็นอยากไปมานานแล้ว”

“แน่นอน  ถ้าไม่ชวนเราสองคนโดนบ่นหูชาแน่ๆ  คิกๆๆ” เพื่อนกลุ่มนี้นี่เค้ารักและรู้ใจกันจริงๆไปไหนไปด้วยกันตลอด 

บรรยากาศของเราสี่คนที่นั่งอยู่ชื่นมื่นขึ้นมาทันตาเมื่อคุยเรื่องไปเที่ยว  ต่างวางแผนกันว่าจะไปที่ไหนบ้างแวะซื้อของฝากอะไร  นี่ขนาดยังไม่ได้ไปนะสงสัยถ้าไปจริงๆคงวุ่นวายน่าดู  ส่วนผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรแต่แอบวางแผนเรื่องซ้อมฮันนีมูนอยู่ในใจคนเดียว

“วินเป็นอะไร  ยิ้มคนเดียวอยู่ได้กัสจะเข้าบ้านแล้วนะ”

อ้าว  ที่รักทำไมเดินไปถึงนู่นแล้วล่ะทิ้งกันเฉยเลย  แค่แอบคิดอะไรๆนิดเดียวเอง  ผมรีบลุกและก้าวเข้าหาคนรักที่ยืนรอด้วยใบหน้าหน้าประดับยิ้มละไม  ‘คนอะไรน่ารักได้ทุกอิริยาบถเลย’

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมิคฟินนะคะใครคิดถึงยกมือขึ้น  :laugh:
และชิวๆกันไป ติดตามกัสวินต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ

บวกเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ

ปล.เหลืออีก 1 สัปดาห์จะปิดโอนและจองแล้วใครสนใจรับหนุ่นๆไปกอดรีบหน่อยน้า

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 09-07-2012 09:10:50
ติดตาม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-07-2012 10:24:12
หวานไม่แคร์สื่อ
จริงๆนายวิน :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-07-2012 10:57:49
หวานกันเข้าไป ชิชิ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 09-07-2012 14:11:39
ขอยกมือสูงๆด้วยคน คิดถึงมิคฟินมากๆ กิ๊บก๊าบ
กัสวินหวานกันจริงๆ >///<
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-07-2012 16:57:11
อีกอาทิตย์เดียววิน  :z1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 09-07-2012 17:35:09
อีกอาทิตย์เดียวรอ :z1:

 :z10: :z10:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 09-07-2012 18:06:14

หวานกันจริงๆ
คิดถึงมิค-ฟิน
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่24 (9/7/55)P.10 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 09-07-2012 20:16:09
กัสนี่ก็คิดแต่จะซ้อมฮันนีมูนอย่างเดียวเลย  :laugh: :laugh:

คิดถึงมิคฟิน +เป็ดให้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-07-2012 06:58:00
ตอนที่ 25

กัส

หลังกลับมาจากการออกหน่วยเคลื่อนที่ก็ผ่านมาครบหนึ่งสัปดาห์แล้ววินได้ กลับไปกรุงเทพฯในเย็นของวันต่อมา  ชีวิตผมก็ดำเนินมาตามปกติในเรื่องของการทำงานก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากเดิม  แต่ที่ต่างออกไปก็คือคนต่างหากหลังจากที่ผมได้คุยกับหมอพจน์ในวันที่เราไปออกหน่วยในหมู่บ้านด้วยกันแล้ว  หมอพจน์ที่แต่ก่อนต้องมารับมาส่งหรือรอทานข้าวด้วยแม้จะน้อยลงกว่าก่อนที่จะรู้ว่าผมคบกับวินก็ตาม  แต่มาตอนนี้หมอพจน์วางตัวกับผมเหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ  ซึ่งทำให้ผมสบายใจเพราะนั่นหมายความว่าหมอพจน์ได้พยายามเลิกคิดกับผมเกินเพื่อนร่วมงานแล้ว  และมันก็ดีกับตัวหมอพจน์เองที่จะได้เปิดโอกาสให้ได้พบคนที่ใช่ไม่ต้องมาหยุดที่ผม  ซึ่งผมคงตอบรับไม่ได้เพราะมีวินอยู่แล้วทั้งคน  และที่สำคัญผมแคร์ความรู้สึกของวินไม่อยากให้คิดมากกับเรื่องนี้ 

ส่วนวินเองก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในเรื่องของความสม่ำเสมอในการปฏิบัติตัวให้เห็นว่าวินจริงจังกับผมมากแค่ไหน  นี่ก็ใกล้เวลาที่วินจะมารับแล้วสัปดาห์นี้พิเศษตรงที่เราจะไปเที่ยวอัมพวากับเพื่อนๆกันคนที่ตื่นเต้นมากๆก็ไม่พ้น ‘มิค’ ที่เตรียมคิดแผนท่องเที่ยวไว้ซะมากมายและต้องคอยรับโทรศัพท์จาก ‘ฟิน’ บ่อยๆก็สองคนนี้เค้าเป็นผู้จัดทริปร่วมกัน  เห็นว่าทริปนี้เราจะเลยไปเที่ยวถึงหัวหินกันด้วยมิคให้เหตุผลว่าไหนๆก็ไปแล้ว  ไปต่ออีกนิดก็ได้เที่ยวอีกหลายแห่งและนานๆได้ไปกันสักทีขอไปให้คุ้มหน่อย  ผมและคนอื่นๆไม่มีใครขัดหรอกเพราะงานนี้ก็หวังเที่ยวให้เต็มที่อยู่แล้ว  เสียงโทรศัพท์จากวินดังขึ้นว่ามาถึงแล้วผมจึงเดินไปเรียกมิคที่ห้องเพื่อลงไปที่รถกันเลย

“วินจะลงมาเข้าห้องน้ำก่อนมั้ย  อ้าวฟินมาได้ไง  ทำไมถึงมากับวินได้ล่ะ” ผมเปิดประตูรถมาเจอฟินก็ออกแปลกใจที่มีฟินมาพร้อมวินด้วยแบบนี้

“ไม่เข้าครับกัส  ส่วนไอ้ฟินมันมาช่วยขับรถน่ะ”

“หวัดดีครับหมอกัส  แล้วหมอมิคล่ะครับอยู่ไหน”

“เข้าห้องน้ำอยู่เดี๋ยวคงออกมา  นั่นมาแล้ว” 

ฟินเดินไปช่วยมิคขนกระเป๋าที่เจ้าตัวเตรียมสำหรับไปเที่ยว  ส่วนของผมไม่เยอะเท่าเพื่อนเพราะเดี๋ยวไปจัดเพิ่มที่ห้องวินต่อได้  ผมก็ยังแปลกใจเรื่องฟินอยู่ไอ้ข้ออ้างที่มาช่วยขับรถเนี่ยก็ไม่หนักแน่นพอเพราะแต่ไหนแต่ไรวินก็ขับเองได้  และไอ้ท่าทีที่คอยดูแลมิคช่วยขนของและแววตาหวานๆที่มองเพื่อนผมอีกมันชักแปลกๆแล้วสิ  จึงหันไปทางวินส่งสายตาเป็นคำถามไปให้เมื่อเราเข้ามานั่งตอนหน้าของรถด้วยกันแล้ว  วินส่งยิ้มน้อยๆมาให้ก่อนเอ่ย

“เดี๋ยววินค่อยตอบสิ่งที่กัสอยากรู้ที่ห้องนะ”  วินพยักพเยิดไปทางคนสองคนที่กำลังเปิดประตูรถเข้ามา  หลังจากใส่ของหลังรถแล้วคงกลัวสองคนนี้ได้ยินว่าเราแอบพูดถึง 

หมายความว่าฟินต้องคิดอะไรกับมิคเหมือนที่ผมคิดไว้สินะ  ส่วนมิคนั้นคงไม่รู้ตัวหรอกเพราะความสนใจส่วนใหญ่นอกจากเรื่องงานเรื่องเพื่อนและครอบครัวแล้วก็มีแต่เรื่องของกินนั่นแหละ  นายฟินนี่ตาถึงชะมัดเพราะเพื่อนสนิทคนนี้ของผมจริงๆเป็นคนน่ารักตัวเล็กใกล้เคียงกับผมเลย  ส่วนผิวก็ขาวแต่เสียอย่างไม่ค่อยสนใจตัวเองเท่าไหร่  มิคเหมือนเด็กเส้นผมบนหัวมักจะฟูฟ่องแถมมีแว่นหนาบนใบหน้าบดบังหน้าตาน่ารักไปหมด  ถ้าลองจับมิคมาแต่งตัวสักหน่อยนะคนคงมองกันเหลียวหลังและหลงในความน่ารักแน่ๆ  นายฟินไปเห็นความน่ารักที่ซ่อนอยู่นี่ตอนไหนกันทั้งๆที่รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว 

บรรยากาศบนรถในตอนแรกก็เฮฮาสนุกสนานดีเพราะได้มิคที่ช่างพูดชวนคุยตลอด  และคนที่สนใจตอบคำซักถามมิคก็จะใครถ้าไม่ใช่นายฟิน  แต่พลังขนมที่มิคทานไปคงหมดเพราะตอนนี้เงียบเสียงลงแล้ว  ผมหันไปก็เห็นมิคหลับพิงไหล่ฟินอยู่แล้วจึงมองสบตาตรงๆกับฟินที่ตอนแรกไม่ได้มองผมเลยเพราะมัวแต่ก้มมองหน้ามิคที่ไหล่ตัวเอง  สายตาของผมที่มองไปนิ่งๆก็ทำให้ฟินรู้ตัวและขยับให้มิคหนุนนอนที่ตักตัวเองแทนก่อนมองสบตาผมกลับอย่างแน่วแน่

“กัสครับผมยังไม่ค่อยแน่ใจแต่ก็รู้สึกพิเศษกับมิคมากกว่าใครที่เคยพบ  ขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์อีกนิดแล้วจะมีคำตอบให้แน่ๆครับ  และระหว่างนี้ผมจะไม่ทำให้มิคลำบากใจเลย”

เมื่อได้ฟังพร้อมได้เห็นสายตาที่จริงใจของฟิน  ผมก็ได้แต่ถอนใจออกมาคงต้องแล้วแต่พรหมลิขิตล่ะนะ  ถึงผมจะห้ามหรือขัดขวางถ้าคนเค้าคู่กันทำไปก็ไม่มีประโยชน์เหมือนคู่ของผมกับวินนั่นแหละ  แม้ผมจะรู้และออกจะขัดใจว่าฟินนั้นเจ้าชู้มีทั้งหญิงและชายมาติดพันมากมายก็ตามคงได้แต่คอยจับตาเท่านั้น  ระหว่างทางเราก็แวะเข้าห้องน้ำตามปั๊มบ้างและอาศัยทานของว่างที่ซื้อมากันบนรถ  ฟินผลัดไปขับรถแทนวินผมจึงมานั่งข้างหลังคู่กับมิคแทนและตอนนี้เจ้าเพื่อนสนิทผมคนนี้ก็ตื่นมานั่งจ้อข้างๆกันแล้ว

“พรุ่งนี้เราออกเดินทางกันสายหน่อยก็ได้สักสิบโมงเช้าดีมั้ย  เพราะวินกับฟินจะได้พักก่อนวันนี้ก็ขับรถเดี๋ยวจะเหนื่อยไป” มิคหันมาขอความเห็นจากผมและสบตากับฟินทางกระจกส่องหลัง  ฟินก็พยักหน้าตกลงตอนนี้ฟินก็คงไม่กล้าขัดมิคหรอกออกจะเต็มใจปฏิบัติตามอยู่แล้ว

“แล้วตกลงเราไปไหนกันบ้างล่ะมิค  นอกจากอัมพวาน่ะ”  ผมหันไปถามรายละเอียดการเดินทางจากมิค

“กว่าจะไปถึงแถวสมุทรสงครามก็คงใกล้เที่ยงเราจะยังไม่เข้าไปที่พัก  แต่จะเลยไปให้ถึงดอนหอยหลอดแวะทานข้าวที่ร้านอาหารทะเลริมชายหาด  มีอยู่ร้านหนึ่งนะกัสขายแฮมเบอร์เกอร์ปลาทูด้วยน่าอร่อยมิคอยากลองอ่ะ  หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พักที่จองไว้ใกล้ตลาดน้ำอัมพวาพักผ่อนตามอัธยาศัย  ช่วงเย็นก็ว่าจะเหมาเรือนั่งไปตลาดน้ำช่วงเย็นกัน  หาข้าวทานกันที่ตลาดเลยเค้าว่าของกินเพียบเนี่ยมิคก็เตรียมท้องรอแล้วนะ”

“ฮ่าๆ  ขนาดนั้นเลยหรอครับหมอมิค  งั้นเดี๋ยวผมจะไปสืบดูว่าร้านไหนเค้าชวนชิมบ้าง  แต่อืมเหมือนมีไอศกรีมดอกไม้ขายด้วยนะ” นายฟินเอาของกินเข้าล่อมิคให้ติดกับตัวเองรึเปล่านะ  ดูท่าจะได้ผลเพราะเพื่อนสนิทผมสนใจใหญ่  นั่นเอามือเกาะบ่านายฟินและถามอย่างตื่นเต้นด้วย

“แล้วไงต่ออ่ะมิค  เราจะไปไหนหลังจากนั้นล่ะ” ผมจับมือเพื่อนออกจากบ่าของฟิน  ผมขอหวงเพื่อนหน่อยเถอะครับ  แม้มิคจะไม่ได้รู้เรื่องด้วยก็ตามและแอบได้ยินเสียงหัวเราะในคอจากวินด้วย  คนนี้ก็รู้ทันผมไปซะทุกเรื่องเชียว  ผมจึงส่งค้อนผ่านกระจกไปให้วินเจ้าตัวกลับยิ้มซะกว้างแถมขยิบตามาให้อีกแน่ะ  ผมกลับมาสนใจเพื่อนตัวเองที่ร่ายโปรแกรมเที่ยวต่อดีกว่า

“ค่ำๆเราก็นั่งเรือไปดูหิ่งห้อยกัน  เค้าว่ามีเพียบเลยนะกัสต้องสวยมากแน่ๆ  มิคอยากไปเห็นเร็วๆจัง” มิคหันมาส่งยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นให้ผม  หน้าตาเหมือนเด็กๆเลยเชียวล่ะแบบนี้สินะที่ทำเอานายฟินมาหลงได้  ผมแอบหันไปมองคนขับรถที่ไม่ได้มองมาทางเราสองคนหรอกครับ  แต่ปากนายฟินนี่จะยิ้มกว้างไปไหนกันนะ

“วันต่อไปมิคว่าจะชวนไปเที่ยวต่อถึงหัวหินนอนริมทะเลอีกหนึ่งคืน  อืมมีตลาดเพลินวานที่เค้าไปถ่ายรูปกันด้วยมิคเห็นจากรูปภาพสวยเชียวล่ะ  และตอนเย็นค่อยไปหาของอร่อยที่ตลาดหัวหินกันของกินเพียบเหมือนเดิมหรือจะหาของทะเลมาทำเองหน้าบ้านพักก็ได้  แล้วค่อยกลับมาเล่นน้ำทะเลตอนเย็นๆ  ทริปนี้ได้ทั้งเที่ยวตลาดน้ำและทะเลควบกับไปเลย  ฮิๆๆ  โอเคมั้ยกัส” มิคหัวเราะปากกว้างแววตาระยิบอย่างถูกใจ  ก่อนจะเหลือแค่คลี่ยิ้มหวานส่งคำถามมาให้ผม

“เท่าที่ฟังมากัสว่าโอเคเลยล่ะ  น่าสนุกเพราะทั้งที่เที่ยวที่กินครบเลย  กัสวางใจมิคอยู่แล้วเรื่องเที่ยวเนี่ย”

“โห  เนี่ยกัสชมมิคใช่มั้ย  แต่ถ้าเกิดไม่ชอบไม่ถูกใจให้ไปว่านายฟินนะ  มิคไม่เกี่ยว”

“อ้าวทำไมเป็นแบบนี้ล่ะครับมิค  ความดีเข้าตัวความชั่วมาให้ผมซะงั้น  ฮึๆๆ”

“อ้าว  ก็นายช่วยเราคิดนี่หน่าก็ต้องรับไปสิ”

“สิ่งดีๆให้มาชมผมแทนไม่ได้เหรอครับมิค” ฟินพูดพร้อมส่งสายตาหวานวิบวับให้มิคแต่มิคไม่รู้เรื่องด้วยเลย  ผมล่ะอยากขำออกมาให้กับความน่าหมั่นไส้ของนายฟิน

“ไม่อ่ะนายรับคำติไปส่วนเราจะรับคำชมเท่านั้น”

หลังจากนั้นบทสนทนาในรถก็มีแต่เสียงของสองคนนี้  ส่วนผมและวินต่างนั่งเงียบคอยฟังมากกว่าและผมได้สบตาหวานๆที่ส่งมาจากวินบ้าง  หันมาสนใจบทสนทนาจากฟินและมิคบ้างจนมาถึงกรุงเทพฯ  พวกเรากลับมาที่คอนโดของวินซึ่งฟินจอดรถทิ้งไว้และมีทุ่มเถียงกันนิดหน่อยเรื่องไปส่งมิคที่บ้าน  แต่ผมก็ต้องยอมแพ้ให้ฟินไปส่งเพื่อนตัวเล็ก  ด้วยเหตุผลที่มิคบอกว่าไม่อยากให้ผมกับวินขับไปขับมาเสียเวลาพักผ่อน  และพรุ่งนี้พวกเราก็ต้องไปเที่ยวกันด้วย  หลังจากส่งมิคขึ้นรถฟินแล้วผมกับวินจึงขึ้นห้องเพื่อพักผ่อนบ้าง  ตอนแรกคุณแม่ของวินชวนให้ผมไปค้างที่บ้านด้วยแต่วินปฏิเสธไปเพราะว่ากว่าจะถึงก็ดึกแล้วไม่อยากรบกวนเด็กรับใช้ให้มาคอยเปิดประตู  พรุ่งนี้เช้าเราค่อยไปทานข้าวต้มฝีมือคุณแม่ที่ย้ำแล้วย้ำอีกให้ผมไปทานให้ได้  เพราะท่านอยากเจอผมก่อนไปเที่ยวและถึงยังไงเราต้องไปขึ้นรถที่บ้านวินกันอยู่แล้ว  ขนของขึ้นมาถึงห้องได้วินก็หาซุปร้อนๆมาทานเพราะเจ้าตัวทานของในรถไม่มากนักและวินก็ทำเผื่อผมอีกด้วยเลยสบายท้องไป  หลังจากทานเสร็จผมก็ไล่วินไปอาบน้ำทีแรกก็อิดออดเข้ามานัวเนียกอดรัด  จนผมต้องขู่ไปวินถึงยอมเพราะวันนี้วินเหนื่อยมาทั้งวันแล้วอยากให้พักผ่อนพรุ่งนี้เราต้องไปเที่ยวกันอีก  วินทำหน้างอนเข้าไปอาบน้ำส่วนผมรีบมาจัดของทั้งของผมและวินเพื่อใช้ตอนไปเที่ยวก่อนจัดเก็บไว้ในกระเป๋าใบเดียวกันจะได้สะดวกในการขนของด้วย  อยู่ๆก็มีความเย็นชื้นมาสัมผัสที่แก้มของผมไม่บอกก็รู้ว่าโดนขโมยหอมแก้มจากวินซะแล้ว

“กัสรู้มั้ยกว่าจะครบเดือนวินแทบขาดใจ” ตามมาด้วยการระดมหอมทั้งแก้มทั้งคอจนผมทั้งขำและจั๊กจี้ไปหมดกับไรหนวดของวินที่เริ่มโผล่มามีแสบผิวนิดๆด้วยสิ

“พอแล้ววิน  ฮ่าๆๆ  หยุดนะกัสเจ็บแล้วอ่ะ  ฮิๆๆ”  วินจึงยอมปล่อยผมเราสบตากัน  ก่อนวินจะโน้มหน้าลงมาใกล้ริมฝีปากของเราเกือบชนกัน  แต่ผมเบี่ยงหน้าหลบซะก่อน  ริมฝีปากวินจึงชนกับแก้มผมแทน

“เดี๋ยวกัสไปอาบน้ำแล้ว  วินก็แต่งตัวให้เรียบร้อยจะได้พักผ่อนนะครับ”

เอื้อมมือลูบใบหน้าวินและส่งยิ้มอ้อนๆไปให้  ก็ผมไม่อยากโดนจับกินตอนนี้นี่เพราะพรุ่งนี้เรามีโปรแกรมเที่ยวเพียบเลย  ผมก็พอรู้ตัวหรอกตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นแกล้งยั่ววินไปมากเพราะแน่ใจว่าวินไม่กล้าทำอะไรผมแน่     วินต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้  มันก็สนุกดีหรอกตอนที่ได้แกล้งแต่ตอนนี้ขอเอาตัวรอดไปก่อนแม้จะไม่แน่ใจนักว่าจะรอดมั้ย  สายตาวินตอนนี้มันเจ้าเล่ห์มากเหมือนจะจับผมกินให้ได้ซะงั้น

“ฮึๆ  กัสไม่ต้องอ้อนวินเลยนะวินรู้หนึ่งเดือนที่ผ่านมากัสแกล้งยั่ววินไว้เยอะนะครับ  รู้มั้ยวินอดทนแค่ไหน  หืมคนดี” ผมส่งยิ้มหวานอ้อนๆไปให้ให้วินใจอ่อนแต่มันไม่ได้ผล

“ยิ่งทำหน้าแบบนี้ยิ่งหน้าฟัดมากรู้มั้ยครับ”

จบประโยควินโน้มหน้าเอาริมฝีปากมาสัมผัสริมฝีปากผมแผ่วเบาเป็นสัมผัสบางเบาไม่ได้บีบบังคับ  วินคลอเคลียดูดเม้มที่ปากล่างหลายทีพรมจูบมาที่มุมปากแลบเลียขอบปากเพื่อชิมรสชาติความหวาน  จนผมเผลอเปิดปากออกลิ้นร้อนอ่อนนุ่มฉกเข้ามาในโพรงปากกวาดต้อนหาลิ้นผมเพื่อดูดกลืนหยอกเย้า  ขยับเปลี่ยนองศาของปากเพื่อจะได้ดูดกลืนกันและกันได้ลึกซึ้งขึ้น  ผมเผลอตอบโต้ลิ้นที่รุกรานนี้กลับจนได้รับเสียงครางอย่างพอใจจากวิน

“อืมมม”

มือโอบรอบคอวินเพื่อพยุงตัวที่ตอนนี้ผมเริ่มยืนไม่อยู่โอนน้ำหนักไปที่วินทั้งตัวและได้รับการโอบประคองที่แผ่นหลังและต้นคอ  วินผละจากจูบแสนหวานพาเอาผมขัดใจก็มันยังไม่พอยังเคลิบเคลิ้มกับรสจูบที่คุ้นเคยนี้  ปรือตามองอีกฝ่ายที่ละมาจูบคลอเคลียแก้มผ่านไปหลังหูดูดเม้มติ่งหูฝังจูบที่หลังใบหูเล่นเอาผมเข่าอ่อนหมดแรงยืน  ได้วินพยุงร่างไปนั่งขอบเตียงเราสบตากันสายตาที่วิน ส่งมาให้นั้นหวานเยิ้มจนผมต้องหลบตา  ก่อนผมจะยื่นหน้ากระซิบข้างหูวิน

“แค่ข้างนอกนะ  พรุ่งนี้กัสยังอยากไปเที่ยว”

ผมซุกหน้าที่ซอกคอหอมๆของวินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ  ได้ยินเสียงหัวเราะในคอวินด้วย  ถ้าเป็นเวลาปกติคงต้องทำให้เจ็บตัวกันบ้างแต่เวลานี้แค่แรงจะยืนยังไม่มีเลย  วินสูดความหอมที่ซอกคอและดูดเม้มแผ่วเบาลงมือปลดกระดุมเสื้อผมทั้งหมด  ลูบมือผ่านผิวเนื้อข้างลำตัวขึ้นมาจนถึงหน้าอก  สะกิดยอดอกจนผมสะดุ้งเพราะความเสียวแผ่ซ่านเผลอแอ่นอกรับฝ่ามือร้อนที่ลูบไล้  ลิ้นร้อนเลียชิมผิวเนื้อผมตั้งแต่ลาดไหล่ถึงตุ่มไตแข็งนูนก่อนดูดกลืนพร้อมขบกัดแผ่วเบา

“ซี้ดดดด  วิน  อ๊ะ”

ตะขอถูกปลดและซิบถูกรูดลงกางเกงถูกถอดออกจากตัว  ฝ่ามือหนาสัมผัสผมผ่านกางเกงในเนื้อนุ่มที่ตอนนี้ตั้งรับฝ่ามือที่หยอกล้อลูบไล้ตามความยาว  ริมฝีปากไล่จากยอดอกมาที่หน้าท้องเรียบแบนที่หดเกร็งเพราะความเสียวซ่าน  ผมรู้สึกได้ว่าถูกดูดผิวอย่างแรงจนรู้สึกเสียววาบตั้งแต่หน้าท้องยันปลายเท้า

“อ๊า  เจ็บ  ซี้ดดด  วินๆ”

จูบร้อนไล่ต่ำมาที่ขอบกางเกงในสีขาวจูบปลายยอดผ่านเนื้อผ้า  วินเหลือบตามองขึ้นสบตาผมที่มองการกระทำที่เสียวซ่านนี้อยู่  สายตาวินยั่วยวนเจ้าเล่ห์มากแถมเลียมุมปากตัวเองอีกทำเอาผมทนไม่ไหวจับหน้าวินขึ้นมารับจูบดูดดื่มเพื่อบรรเทาอาการเสียวซ่านและกัดแรงๆไปที่ริมฝีปากล่างของคนช่างแกล้ง  แทนที่วินจะร้องเจ็บกลับหัวเราะในคออย่างถูกใจ  ผละจากจูบผมเห็นเจ้าของริมฝีปากที่บวมเจ่อส่งยิ้มกลับมาและจูบกลับเบาๆที่ปากผม  มือวินก็ไม่ละไปจากส่วนล่างของผมที่ตอนนี้ไม่มีเจ้ากางเกงในตัวน้อยปิดแล้ว  ร่างกายผมเหลือเพียงเสื้อที่ถูกปลดกระดุมเท่านั้นส่วนวินมีแค่ผ้าขนหนูพันกายและส่วนนูนกลางลำตัวก็ตั้งชันให้เห็นชัด  ผมเลื่อนสายตากลับมามองวินที่ยิ้มล้อเลียนด้วยรู้ทันว่าผมแอบมองสำรวจตัววินอยู่ 

“อ๊ะ  วิน  อย่าแกล้งกัสสิ  โอ๊ะ  มันเร็วไปแล  ว  วว น้า  ซี้ด”

วินขยับมือรูดรั้งให้ผมแรงและเร็วเหมือนแกล้งกัน  ผมจึงเอื้อมมือปลดผ้าขนหนู ออกและคว้าหมับที่เจ้าหนูน้อยที่ตัวไม่น้อยของวินทันที

“โอ๊ะ  ซี้ด  กัสอย่าบีบครับ  อ๊า”

วินขยับมือช้าลงเพราะแรงบีบจากผม  เราสบตากันผมจึงส่งยิ้มยั่วยวนไปให้พร้อมรั้งร่างวินให้มานั่งด้วยกับบนเตียง  เราหันหน้าเข้าหากันชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างในมือต่างมีแท่งร้อนของกันจะกันต่างขยับรูดรั้งในจังหวะเดียวกัน  ผมซบหน้าฝังรอยจูบที่ลาดไหล่ดูดเม้มอย่างแรงเพื่อระบายความเสียวซ่านจากการขยับมือของวินซึ่งผมก็ทำสิ่งเดียวกันตอบแทน

“อ๊าๆๆ  กัส  ครับ  อืม / อื้ออ  ซี้ดด  วิน  กัสจะไม่ไหวแล้ว”

เสียงของเราสองคนต่างส่งออกมาเพื่อปลดปล่อยบรรเทาความเสียวซ่านที่ต่างปรนเปรอให้กันในจังหวะรักจังหวะเดียวกัน  จนกระทั่งถึงจุดหมายในเวลาต่อมา

“อ๊าๆๆๆๆ  วินๆ /  อื้มมม  พร้อมกันครับ  อ๊าๆๆ  กัสสส”

เราต่างปลดปล่อยสายธารรักขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเต็มฝ่ามือและหน้าท้องของกันและกัน  ขยับมือเบาๆอีกไม่กี่ครั้งก็หมดสิ้นเรียวแรงต่างซบไปที่ซอกคอของกันและกันอย่างเหนื่อยอ่อน  วินจูบซอกคอและขมับผมแรงๆก่อนเอ่ยคำรักกระซิบข้างหู

“ขอบคุณครับที่รัก  วินรักกัสนะ”

ผมตอบรับคำรักกลับอย่างแผ่วเบาข้างหูว่า ‘รัก’ กลับเหมือนกัน  หลังจากนั้นวินก็อุ้มผมไปส่งที่ห้องน้ำทีแรกจะอาบให้ผมด้วยซ้ำแต่ผมไม่ยอม  วินจึงออกมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนที่เลอะเทอะจากฝีมือเราทั้งคู่  ผมรู้เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วและวินจึงกลับไปเข้าห้องน้ำอีกครั้งก่อนออกมานอนกอดกันบนเตียง  ผมหลับไปพร้อมคำอวยพรและจูบอ่อนโยนที่ริมฝีปากก่อนนอนจากวิน

“ฝันดีครับที่รัก  ฝันถึงวินด้วยนะ”

....................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

 :-[ หนูกัสช่างน่ารักแสนดี และเอาใจขนาดนี้
วินไปไหนไม่รอดแล้ว
 
ตอนหน้าเราจะพาไปเที่ยวอัมพวา&หัวหินกันนะคะ
ใครอยากไปเตรียมตัวไว้ค่ะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ

ปล.อีกเพียงอาทิตย์เดียวก็หมดเวลาพาหนุ่มๆของเรา
ไปนอนกอดแล้วนะคะ ใครสนใจรีบจับจ้องเข้าน้า

ติดตามรายละเอียดการรวมเล่มได้ที่หน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-07-2012 07:08:24
คราวนี้ รอดตัวไปนะกัส

  :z1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 10-07-2012 07:33:33
เบาๆ ไปเที่ยวคงไม่รอด :z1:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 10-07-2012 07:54:13
ถ้าเราเป็นเบาหวานตายคงเพราะเรื่องนี้แน่ๆ หวานกันจริงๆ >///<
ไม่น่าเชื่อว่าวินจะอดทนรอได้ขนาดนี้ นายมันสุดยอดไปเลยวิน
กัสน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-07-2012 08:20:00
วินเก็บความหวานความหื่นบ้างก็ได้นะ หนูมิคก็น่ารักจนฟินมาหลงชอบ  ก็คนมันน่ารักหนิ อิอิ

+1+เป็ดค่ะ

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 10-07-2012 09:10:29
รอตอน :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-07-2012 09:52:45
รอตอนไปเที่ยว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 10-07-2012 09:53:40
วินหื่นอ่ะ >/////<
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 10-07-2012 18:06:35

วินความอดทนดีเยี่ยม
หนูมิคน่ารักอ่ะ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-07-2012 19:16:42
วินความอดทน
เป็นเลิศจริงๆ :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 11-07-2012 00:47:50
อิอิ ครบเดือนรวบยอด
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่25(10/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 11-07-2012 01:11:29
อ๋อยยยยย
หวานเกินบรรยาย
หวานจนมดไม่กล้าขึ้น
หวานจนน้ำตาลปี๊บยังต้องยอมแพ้
และหวานจนน่าอิจฉา
เอิ๊กๆ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 11-07-2012 07:15:52
ตอนที่ 26

วิน

รถตู้จอดนิ่งสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่รอเพียงผู้โดยสารที่กำลังจับกลุ่มเตรียมขึ้นรถมีชายหนุ่มหกคนและหญิงสาวสองคนยืนอยู่เพื่อล่ำลากับหญิงวัยกลางคนที่ยังสวยพริ้ง

“เที่ยวให้สนุกนะลูกเที่ยวเผื่อแม่ด้วยนะจ๊ะ  เนี่ยถ้าแม่ไม่ติดนัดกับคุณฉัตรแก้วนะแม่จะทิ้งพ่อไปเที่ยวกับลูกเลยเชียว”

“ถ้าคุณพ่อรู้ได้งอนแม่แน่ๆนะครับ  แม่ครับเดี๋ยวผมเที่ยวเผื่อและจะซื้อของมาฝากนะครับ”

คุณแม่โอบกอดลูบหลังผมเบาๆและผละไปกอดลูกชายคนใหม่แถมหอมแก้มนุ่มอีกฟอดใหญ่  ก่อนสั่งความกับกัสเหมือนกับว่าพวกเราจะไปกันเป็นเดือนๆ  ทำเอาบรรดาเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่รอบตัวคนน่ารักยิ้มกว้างบางคนถึงกับหัวเราะออกมาก็มี  แต่ก็ไม่ดังนักเพราะกลัวคุณแม่หันมาเอ็ดเอา  จริงๆเพื่อนทุกคนที่สนิทกับผมจะคุ้นชินกับภาพคุณแม่ที่แสดงความรักกับลูกชายและเพื่อนของลูกชายแบบนี้อยู่แล้ว  แต่กับกัสนี่พิเศษหน่อยที่เป็นลูกรักคนพิเศษที่คุณแม่คงทั้งรักทั้งหลงมากกว่าลูกชายแท้ๆซะอีก  ใครได้อยู่ใกล้กัสจะรู้ถึงเสน่ห์ที่เจ้าตัวไม่ได้ปรุงแต่งแต่เป็นตัวตนจริงๆที่แสดงออกมาถึงนิสัยที่น่ารักและอ่อนโยน  ยิ่งกับผู้ใหญ่กัสจะยิ่งวางตัวอ่อนน้อมน่าเอ็นดูสังเกตได้จากทั้งคุณแม่ของผมและคุณแม่หมอมายยังรักเหมือนลูกตัวเองเลยพออยู่ใกล้แล้วแทบไม่ให้ห่างสายตาเลยด้วยซ้ำ

“กัสดูแลตัวเองดีๆนะลูก  เตรียมร่มเตรียมหมวกไปแล้วใช่มั้ย  แม่กลัวลูกไม่สบายช่วงนี้แดดแรงมากผิวหนูยิ่งบอบบางอยู่”

“แม่ครับแม่ไม่ต้องห่วงนะวินดูแลกัสอย่างดีแน่นอนครับ  เราต้องไปแล้วครับเพราะเดี๋ยวถึงที่นู่นบ่ายเกินกัสจะหิวนะครับ” 

แอบแซวแม่ตัวเองนี่คงไม่บาปมากนักใช่มั้ย  แต่ที่ได้กลับมาคืออาการค้อนวงใหญ่จากคุณแม่ผมนั่นเอง  จึงส่งยิ้มกว้างไปให้คุณแม่ยังสาวเอาใจซะหน่อย  และการล่ำลาก็สิ้นสุดลงพวกเราต่างยกมือไหว้คุณแม่กันอีกครั้งก่อนเดินขึ้นรถตู้ของที่บ้านที่มีคนขับพร้อม  ซึ่งได้รับอภินันทนาการมาจากคุณพ่อที่กลัวว่าลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้จะลำบากเพราะทีแรกพวกเราว่าจะขับกันไปเองแล้วเชียว  ภายในรถนั้นที่นั่งหลังคนขับมีผมนั่งชิดกระจกด้านในถัดมาเป็นกัสและมิค  แถวถัดไปเป็นมาย  มน  และไอ้ฟิน  ส่วนแถวสุดท้ายเป็นไอ้ปรัชและไอ้ธี  พวกเราพร้อมสำหรับการเดินทางแล้วจึงให้พี่ศรคนขับรถเคลื่อนรถสู่จุดหมายปลายทางที่ดอนหอยหลอด  ระหว่างทางในรถนั้นครึกครื้นจากเสียงพูดคุยที่สอบถามถึงโปรแกรมจากมิคและไอ้ฟินที่เป็นคนจัดทริปนี้ขึ้น  มิคก็ร่ายรายละเอียดเหมือนเมื่อวานที่เรานั่งรถมาให้เพื่อนๆฟังกันอีกรอบ  คนข้างตัวผมที่ฟังมิคไปก็อมยิ้มตามไปด้วยแถมแอบส่งสายตาไปสังเกตไอ้ฟินที่นั่งถัดไปข้างหลังมิค  กัสก็คงหวงเพื่อนเพราะตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่คนน่ารักเค้าจับได้ถึงความผิดปกติของไอ้ฟิน  ไอ้ฟินนี่ก็เปิดเผยมากขอไปรับกัสกับมิคพร้อมผมทั้งๆที่ไม่เคยไปเลยแถมตามดูแลมิคตลอดจะไม่ให้กัสผิดสังเกตได้ยังไง  ถ้าผมโดนกัสมองนิ่งๆแบบเมื่อวานเหมือนไอ้ฟินโดนผมคงหนาวเยือกไปทั้งตัวแล้ว  แต่ไอ้ฟินมันก็ใจกล้าแสดงความจริงใจเข้าสู้เลยรอดมาได้  กัสก็ไม่ได้กันท่ามันจากมิคมากนักหรอกก็แค่เป็นห่วงเพื่อนเท่านั้น  ส่วนไอ้ฟินก็ออกนอกหน้ามากแต่ดูท่าจะเป็นงานหนักของมันแล้ว  เพราะมิคยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวเลยว่าไอ้ฟินสนใจ  ผมก็ได้แต่เอาใจช่วยจะช่วยออกหน้ามากก็ไม่ได้เดี๋ยวที่รักเขม่นเอา  กลับมาสนใจที่รักที่นั่งข้างๆดีกว่าผมส่งห่อขนมมันฝรั่งทอดรสที่กัสชอบไปให้  กัสหันมารับไปพร้อมรอยยิ้มหวานๆแทนคำขอบคุณ  อดใจไม่อยู่คว้ามือนุ่มมาจุ๊บเร็วๆอย่างมันเขี้ยวผมว่าไม่มีใครทันสังเกตแล้วนะแต่ก็ยังไม่วาย

“แหมๆ  ไอ้วินจะหวานก็เกรงใจเพื่อนมั่งเหอะ”  ไอ้ธีที่อยู่เบาะหลังสุดดันตาดีแซวขึ้นทำเอากัสเขินหน้าแดงแต่ยังไม่ชักมือกลับจากการเกาะกุมของผม

“มึงอย่ามาเป็นเด็กขี้อิจฉานะ  ไม่มีก็หาซะ”

“โฮ่ๆๆๆ  / ฮ่าๆๆๆ / ชิ”  ตามมาด้วยเสียงแซวเสียงหัวเราะและเสียงหมั่นไส้จากเพื่อนตี๋หลังจากคำพูดของผม

หลังจากนั้นหัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนไปแต่มือนุ่มที่ผมจับกุมก็ยังอยู่ในอุ้งมือ  เมื่อผมเห็นว่ากัสไม่ถนัดหยิบขนมทานผมจึงหยิบและป้อนให้ถึงปาก  ทีแรกกัสส่ายหน้าไม่ยอมคงเพราะยังเขินอยู่แต่ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน  ผมตื๊ออยากป้อนขนมที่รักนี่ครับ  จึงจ่อขนมที่ปากเจ้าตัวอยู่อย่างนั้นจนกัสยอมรับขนมเข้าปากไปเคี้ยวทั้งๆที่แก้มแดงปลั่งแถมส่งค้อนมาให้กันอีกวง

“ฟิน  นายไปนั่งข้างหลังไปเดี๋ยวเราจะนั่งแทน  ตรงนี้มดมันกัดอ่ะ  ฮิๆๆๆ” กัสโดนเพื่อนสนิทที่นั่งข้างกันแซวก่อนมิคจะลุกไปนั่งแทนที่ไอ้ฟินที่ลุกไปนั่งด้านหลังตามคำสั่งคนน่ารักของมัน  ส่วนผมก็ต้องสะดุ้งและร้องออกมาลั่นรถ

“โอ๊ย!!  เบาๆครับกัส  วินเจ็บ” โดนกัสหยิกมาที่เอวก็คงเป็นข้อหาหวานเกินจนโดนเพื่อนแซวทั้งคันนั่นแหละครับ  จะว่าไปผมก็ไม่ได้หวานมากอะไรนี่แค่แสดงสิ่งที่อยากทำให้กันก็เท่านั้น 

กัสหันหน้าหนีแก้มป่องอย่างคนขี้งอนและหันไปเรียกมิคกลับมานั่งด้วยกัน  แต่เพื่อนที่ย้ายไปแล้วก็ส่ายหัวจนผมยุ่งกว่าเดิมและส่งยิ้มล้อๆมาให้ว่าอยากนั่งนี่มากกว่าเพราะไม่อยากโดนมดกัดมากกว่านี้  ทีนี้ความซวยมาตกที่ผมแทนด้วยกัสเล่นตีลงมาอีกทีที่แขนและดึงมือออกจากการเกาะกุมของผมเพื่อทานขนมเอง  เอาล่ะสิงานนี้ผมต้องง้อชุดใหญ่ซะแล้ว  ผมเอื้อมมือหยิบน้ำเปิดขวดใส่หลอดคอยยื่นบริการกลัวแฟนคอแห้ง  และหยิบไอพ็อดเปิดเพลงเสียบหูฟังให้เจ้าตัวอารมณ์ดีขึ้น  กัสก็ยังทำไม่สนใจจนการเดินทางของเราผ่านมาครึ่งทางเสียงในรถเริ่มเงียบลง  คนน่ารักเริ่มเอาหัวมาพิงไหล่ด้วยกัสคงหลับไปแล้ว  ผมก้มหน้ามองคนขี้งอนที่ตอนนี้หลับตาพริ้มคงเพราะกัสต้องตื่นเช้าเพื่อมาพบคุณแม่ก่อนออกเดินทาง  แถมเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกแล้วเพราะกิจกรรมรักที่เราทำร่วมกัน  คิดมาถึงตรงนี้ก็ทำเอาผมยิ้มแก้มปริดีใจที่กัสยอมลงให้ผมขนาดนั้นด้วยเดินทางกันมาก็เหนื่อยยังต้องมาตามใจผมอีก  คิดถึงหน้าตาตอนนั้นของกัสใบหน้าที่แดงปลั่งปากเผยอบวมเจ่อจากการบดจูบตาปรือปรอยผิวเนื้อที่เรียบลื่นแดงก่ำ  ยิ่งเมื่อถึงจุดแห่งความสุขชื่อผมที่ออกมาจากปากสีชมพูนั่นทำเอาผมแทบคลั่งตาย  แค่จินตนาการถึงเรื่องเมื่อคืนไอ้ที่สงบอยู่กลับตื่นมาซะงั้น  ผมต้องเลิกคิดหันไปสนใจวิวข้างทางแทนขอสงบใจก่อนดูท่าที่ตื่นจะไม่ยอมลงง่ายๆซะแล้ว

...............................

อาหารบนโต๊ะส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลวางเรียงอยู่หลายเมนู  วิวด้านนอกเป็นชายหาดที่มีน้ำทะเลสีฟ้าลมทะเลพัดมาต่อเนื่องยังบริเวณที่พวกเรานั่งอยู่

“อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยมิค  นี่เบอร์เกอร์ปลาทูที่มิคบอกใช่มั้ยขอมายถ่ายรูปก่อนนะจะเอาไปอวดคุณแม่”

สาวสวยน่ารักนามว่า ‘มาย’ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างตื่นเต้นทำเอาใครบางคนที่มองอยู่อมยิ้มตาเป็นประกายใต้แว่นใส  เพื่อนสนิทของผม ‘ไอ้ปรัช’ มันช่างแตกต่างจาก ‘ไอ้ฟิน’ มากนักไอ้ปรัชคงแอบชอบสาวน้อยคนนี้มานานมันไม่ทำอะไรนอกหน้า  แต่กลับจริงจังทุกการกระทำและเพิ่งสารภาพกับเพื่อนในกลุ่มเมื่อไม่นานมานี้ว่าผูกพันกับมายมาแต่เด็กเริ่มตีตัวออกห่างช่วงมายเป็นวัยรุ่น  เพราะเห็นว่าตัวเองเด็กกว่าและมีคนเข้ามาสนใจมายเยอะมันจึงคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับมาย  ก็แค่มองห่างๆคอยดูแลเท่าที่ทำได้เปิดโอกาสให้มายได้เลือก  แต่ถึงตอนนี้มายก็ยังไม่มีใครไอ้คนที่ตีตัวออกห่างก็เริ่มกลับมาเพราะคงถึงเวลาที่ว่าไอ้ปรัชเองตอนนี้มันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร  และพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกให้กับผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบได้พิจารณา  ซึ่งมันมีแววดีกว่าไอ้ฟินด้วยซ้ำเพราะดูท่ามายก็น่าจะมีใจให้เพื่อนของผมอยู่  การที่มายไม่มีใครนั่นอาจหมายความว่ามายอาจจะรอไอ้ปรัชพร้อมอยู่ก็ได้ 

หลังมหกรรมการถ่ายภาพผ่านไปเพราะการที่มายเริ่มถ่ายทำให้คนอื่นๆต่างควักโทรศัพท์กันให้วุ่นอ้างว่าเพื่ออัพสถานะในสื่ออินเตอร์เน็ต  เราต่างเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้ากันผมเอื้อมมือตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของชอบของกัสมาใส่ที่จาน  และหยิบปูนึ่งตัวโตมานั่งแกะเอาเนื้อขาวๆออกมาให้ก่อนวางบนจานใบเดิมตักราดน้ำจิ้มพร้อมทาน  จึงได้รับยิ้มหวานๆแทนคำขอบคุณส่งมาให้  ผมเหลือบตาไปที่ไอ้ตี๋ ‘ธี’ ที่กำลังอ้าปากเตรียมแซวด้วยรู้ทันไอ้คนขี้เสือกนี่ว่ามันต้องแซวแน่ๆ  ผมจึงถลึงตาส่งไปให้ก่อนเพราะไม่อยากให้กัสได้อาย  ผมแค่ต้องการบริการแฟนตัวเองมันจะแซวอะไรนักหนา  ไอ้ธีหน้าบึ้งแยกเขี้ยวใส่เมื่อโดนผมห้ามผ่านทางสายตาแต่ก็ทำให้มันไม่พูดอะไรออกมาได้  เมื่อแกะปูเสร็จหันมาหยิบกุ้งเผาตัวโตมาแกะต่อแต่มีช้อนยื่นมาขัดจังหวะถึงปาก

“มัวแต่แกะอยู่นั่น  วินไม่หิวเหรอ  อ่ะ” กัสอมยิ้มนิดๆส่งมาให้ผมพร้อมมือที่จับช้อนเตรียมป้อนข้าวจ่อที่ปาก  คราวนี้ผมห้ามเสียงแซวไม่ทันแล้วเพราะมัวแต่อ้าปากรับข้าวคำที่อร่อยที่สุดอยู่

“โอ๊ยยย  อิจฉาจัง  อยากมีคนป้อนมั่ง / ฮิๆๆ / หวานเกิน / กัสป้อนมายมั่งสิ”

เสียงแซวของใครบ้างไม่รู้เพราะตอนนี้ผมไม่ได้มอง  มองแต่หน้าคนป้อนที่ขึ้นสีอย่างน่ารักและเสตักข้าวเข้าปากตัวเองอยู่  ส่วนหน้าผมตอนนี้ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าหน้าบานขนาดไหน  ผมไม่สนใจเสียงแซวจากเพื่อนๆกลับหันไปยิ้มกว้างส่งให้ทุกคนและกลับมายักคิ้วใส่ไอ้ธีที่นั่งตรงข้ามกันเหมือนเยาะเย้ยไปให้ว่ามันไม่มีใครป้อนแบบนี้ล่ะสิ  เสียงหัวเราะและพูดคุยภายในโต๊ะยังดังต่อเนื่องและคงเป็นจุดสนใจภายในร้าน  เพราะทั้งเสียงที่ดังและคนที่นั่งอยู่เรียกความสนใจจากรอบข้างไม่ยากนัก  ส่วนผมก็นั่งแกะทั้งปูและกุ้งให้กับกัสอย่างต่อเนื่อง  และมีหน้าที่แค่อ้าปากก็อิ่มได้แล้วมื้อนี้ผมมีความสุขชะมัด  ผมกินไปก็ยิ้มไปเรียกสายตาล้อเลียนจากเพื่อนๆที่ส่งมาให้  กัสคงอายมากแต่ก็ยอมป้อนผมต่อคนๆนี้ช่างน่ารักซะจริง  ผมแกะปูและกุ้งจนพอสำหรับเราสองคนแล้วจึงละมือมาเช็ดทำความสะอาดรอกัสป้อนข้าวต่อแต่กัสกลับส่งค้อนมาให้

“วินมือว่างแล้วก็ทานเองได้แล้ว”

“อ้าว  ทำไมล่ะครับเนี่ยจะหมดแล้วกัสป้อนต่อไม่ได้เหรอครับ  น้า”

“ไม่  ทานเองเลยนะ”

กัสขู่เบาๆพร้อมชี้นิ้วมาที่หน้าเพื่อปราม  ผมรู้ว่าตัวเองคงเอาแต่ใจมากไปหน่อยและกลัวร่างบางงอนด้วย  จึงยอมตักข้าวกินเองแต่ยังแกล้งงอนยื่นปากส่งให้กัสแบบเล่นๆทำเอากัสหัวเราะออกมา  ก็แค่นี้แหละที่ผมอยากเห็นใบหน้าที่ประดับยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของกัส  เราทานกันจนอิ่มและมิคก็สั่งเบอร์เกอร์ปลาทูมาครบจำนวนคนเพื่อเป็นของว่างเผื่อมีใครหิวซึ่งเจ้าตัวคงติดใจมากบอกว่าเมดอินไทยแลนด์คนไทยทำแต่รสชาติอินเตอร์  เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากทุกคนส่งให้คนช่างกินได้ยิ้มอายๆ  ยิ่งไอ้คนตัวสูงผิวเข้มถึงกลับเอื้อมมือมายีหัวที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งไปอีกเรียกเสียงโวยวายจากมิคได้แถมส่งค้อนให้อีกหนึ่งวง  และคงเป็นที่ถูกใจไอ้ฟินมากมันถึงกับหัวเราะเสียงดังออกมาเลย  หลังจากนั้นเราจ่ายค่าอาหารและเตรียมออกเดินทาง  ตอนแรกว่าจะเข้าพักที่  รีสอร์ทที่จองไว้เลยแต่มิคและมายขอเก็บรูปแถวหาดของดอนหอยหลอดก่อน  ถึงแม้ชายหาดจะไม่ได้สวยมากนักแต่ลมทะเลเย็นๆและผู้คนที่มีแต่รอยยิ้มที่ได้ออกมาเที่ยวกับครอบครัวในวันหยุดต่างทำให้พวกเราที่เห็นมีรอยยิ้มตามและถ่ายภาพแห่งความทรงจำร่วมกันกลับมามากมาย  หลังจากนั้นก็แวะซื้อของแห้งกินเล่นที่ขายแถวนั้นและคนที่ซื้อเยอะที่สุดก็เป็นหนุ่มตัวเล็กใส่แว่นที่มีความสุขกับการช็อปปิ้งในทุกที่  ได้ของกินกันพอหอมปากหอมคอก็นั่งรถย้อนกลับมาที่รีสอร์ทแถวตลาดน้ำอัมพวา 

สถานที่ตั้งของรีสอร์ทนั้นต้องขับรถเข้าไปจากถนนใหญ่  จึงพบว่ารีสอร์ทแห่งนี้อยู่ติดริมน้ำมีชานยื่นออกไปด้านนอกริมน้ำ  ต้นไม้ใหญ่หลายต้นให้ร่มเหงามีหญ้าเขียวชอุ่ม  บ้านพักปลูกซ่อนหลังต้นไม้เรียงห่างๆกัน  อีกส่วนเป็นตึกสองชั้นห้องติดกันหลายห้องแต่ส่วนระเบียงถูกกั้นออกจากกันด้วยไม่ไผ่เรียงถี่กันสายตาที่สามารถเปิดออกหากันได้  ส่วนที่เราพักเป็นตึกหลังนี้เราพักกันชั้นล่างมิคให้เหตุผลว่าจองทั้งชั้นได้ความเป็นส่วนตัวดี  เพราะมีสี่ห้องพอดีจำนวนคนสามารถเดินหากันได้  ถ้าบ้านเป็นหลังก็พักได้แค่สองคนไม่สะดวกในการติดต่อพูดคุยกัน  ตอนแบ่งห้องทำเอาผมต้องหงุดหงิดเล็กๆเพราะผมไม่ได้นอนห้องเดียวกับกัสผมถูกจับแยกกับที่รัก  พอหันไปท้วงกับไอ้ฟินมันก็พูดไม่ได้แต่พยักพเยิดไปทางหนุ่มแว่นตัวเล็กที่เป็นคนจัดห้อง  มิคแบ่งห้องให้ผมนอนกับไอ้ฟิน  กัสกับมิค  มายกับมน  และไอ้ธีกับไอ้ปรัชได้นอนคู่กัน

“ก็ลงตัวแล้วนี่นายวิน  ถ้าไม่จับคู่แบบนี้นายจะให้เราไปนอนกับนายฟินน่ะเหรอ”

“ก็ดีนะมิค  มิคมานอนกับฟินก็ได้ครับ” ไอ้ฟินส่งสายตาดีใจเปิดเผยออกมา  แต่ไม่ได้รับความสนใจจากมิคเลย

“ไม่เอาหรอกเรายังไม่สนิทกันขนาดนั้นนะ  กัสไม่ว่าอะไรใช่มั้ย” มิคปฏิเสธไอ้ฟินแล้วหันมาขอความเห็นจากกัสแทน  ผมพยายามส่งสายตาอ้อนวอนให้คนรักรอลุ้นว่ากัสจะตอบว่าอะไร

“ไม่ว่าหรอก  กัสนอนกับมิคนั่นแหละ” หลังคำตอบกัสทำใจผมห่อเหี่ยวพยายามสบตาคนน่ารักแต่ใจร้าย  แต่เหมือนกัสจะแกล้งผมไม่ยอมหันมามองกันแต่กลับเปิดยิ้มกว้างให้มิคแทน

“ฮ่าๆๆ  อดไอ้วินอด  ฮ่าๆๆๆ / ฮึๆๆๆ”  เสียงหัวเราะเยาะที่ได้ยินจากเพื่อนตัวเองยิ่งทำเอาอยากโวยวาย  แต่พอหันมาเห็นหน้าที่รักก็ได้แต่ทำหน้าหงอยๆส่งไปให้เผื่อว่ากัสจะเปลี่ยนใจ  รอยยิ้มหวานที่ผมได้รับจากกัสทำเอาเริ่มมีกำลังใจขึ้น

“วันนี้กัสขอนอนห้องเดียวกับมิคนะครับ  ยังไงห้องเราก็ติดกันเดินไปมาถึงกันได้อยู่แล้วนะ” จะทำยังไงได้ในเมื่อกัสพูดแบบนี้แถมยังมีมิครอฟังคำตอบอยู่อีกด้วย  ผมจึงพยักหน้าอย่างจำยอมกัสจึงส่งยิ้มกว้างตาหยีมาให้เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจ 

มิคหันไปรับกุญแจจากพนักงานที่ส่งมาให้และแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ  ส่วนผมคว้ามือบางมากุมและเดินตามเพื่อนๆไปทิ้งระยะห่างออกมาก่อนพากัสมาหลบมุมใต้ต้นไม้  ก้มหน้าส่งสายตาละห้อยอย่างน่าสงสารไปให้คนน่ารัก  ก่อนกุมมือนุ่มทั้งสองขึ้นแนบอก

“กัสไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอครับ  กัสไม่สงสารวินเลยเหรอครับ  หืม” กัสส่ายหน้าอมยิ้มน้อยๆแทนคำตอบ
 
ผมยกมือที่แนบอกมาจูบนิ่งๆและเริ่มทำใจว่ายังไงคืนนี้ได้นอนมองหน้าเถื่อนๆไอ้ฟินแทนหน้าหวานๆของคนรักแน่แล้ว  ก่อนที่ผิวแก้มผมจะได้รับสัมผัสที่ทำเอาหัวใจพองโต  เมื่อมองไปที่ต้นเหตุที่ตอนนี้คนใจกล้าเค้าหน้าแดงส่งยิ้มอายๆให้และสบตาผมอยู่

“เป็นรางวัลสำหรับเด็กดีที่ยอมเชื่อฟังน้า” ประโยคที่ได้ยินทำเอาผมนึกมันเขี้ยวอยากกดจูบไปที่ปากช่างพูดนี้จริงๆ  ผมโน้มหน้าเข้าหาปากแดงตามใจคิด  แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่คิดก็มีเสียงมาขัดซะก่อน

“กัส  กัส  อยู่ไหน  ก็เดินตามกันมาแท้ๆนี่หน่า  กัส  ฮู้ๆๆๆ”

มิคหนุ่มน้อยตัวแสบเพื่อนสนิทกัสนี่เองที่มาขัดจังหวะ  ต่อจากนี้ผมต้องยุไอ้ฟินให้รีบรุกหนักๆได้แล้วจะได้ไม่มีเวลาตามเพื่อนสนิทแบบนี้อีก  เฮ้อ!  แผนซ้อมฮันนีมูนของผมล่มไม่เป็นท่าเลย

.......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

โสมน้าน่า(สมน้ำหน้า)นายวินเนอะ โดนหนูมิคขัดจังหวะ  :laugh:
เจอกัสวินพรุ่งนี้นะคะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ  :pig4: จากใจที่ติดตามกัน^^

ปล.เหลือไม่ถึงอาทิตย์แล้วใครอยากได้หนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยน้าติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0


เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-07-2012 09:02:00
เอาน่าวินอดเปรี้ยวไว้กินหวานน้า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 11-07-2012 09:10:48
สงสารวินอ่ะ   
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 11-07-2012 10:04:11
555+ ไม่เป็นไรวิน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน โอกาสยังมีอีกเยอะ
ถึงจะชวดคราวนี้ แต่คราวหน้ายังมี >.,<
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 11-07-2012 10:11:57
แวะมาเยี่ยมคนคุ้นเคย  อิอิ

คิดถึงทั้งสามพระนาย  รวมตัวละครทั้งหมดเลย  อยากอ่านเรื่องใหม่แล้วอ่า 
จะมีอีกมั้ยน้อ   555

+1 เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 11-07-2012 10:42:41
สมน้ำหน้าวินอยากซ้อมฮันนีมูนก่อน เจอหนูมิคแย่งกัสไปนอนด้วย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 11-07-2012 11:45:25
แวะมาเยี่ยมคนคุ้นเคย  อิอิ

คิดถึงทั้งสามพระนาย  รวมตัวละครทั้งหมดเลย  อยากอ่านเรื่องใหม่แล้วอ่า 
จะมีอีกมั้ยน้อ   555

+1 เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณค่ะที่ยังคิดถึงกัน

ส่วนเรื่องใหม่มีเตรียมๆอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าพร้อมจะนำมาลงให้อ่านกัน
รอนิดนะคะ  เพราะยังอยู่ในช่วงลูกผีลูกคนอยู่ค่ะ  แหะๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 11-07-2012 12:22:33
วินผู้น่าสงสาร

น้องมิคเป็นก้างชินโตจริงๆ :laugh:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 11-07-2012 17:51:52

เจอก้างแบบหนูมิค...อดเลย :laugh:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-07-2012 18:02:08
กัสกับฟินต้องร่วมมือกันแล้วนะ  :interest:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่26(11/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 11-07-2012 22:56:29
ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าวินดี  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-07-2012 07:35:34
ตอนที่ 27

วิน

หลังจากเอาของเก็บที่ห้องพักเรียบร้อยแล้วผมก็ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเตรียมออกไปหากัสที่อยู่ห้องข้างๆกัน  เพราะต้องไปเอาเสื้อผ้าข้าวของจากกระเป๋าที่กัสจัดใส่รวมกันในใบเดียวออกมา  ถ้าเราได้พักด้วยกันก็ไม่ลำบากแล้วคิดแล้วก็ช้ำใจ  ออกมาเจอไอ้ฟินที่นั่งเอนหลังพิงหัวเตียงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับกล้องถ่ายรูปในมือ  ถ้าให้เดาคงไม่พ้นดูรูปหนุ่มน้อยแว่นหนาที่พักห้องติดกันนี้แน่ๆ

“ไอ้ฟินยิ้มเป็นคนบ้าเลยนะมึง” มันเงยหน้ามาส่งยิ้มที่ยังค้างบนหน้าอยู่ให้และก้มหน้าก้มตาดูรูปต่อ

“มึงเอาจริงใช่มั้ยงานนี้  ไหนบอกขอเวลาพิสูจน์ใจตัวเองก่อนไง  ทำไมออกหน้าออกตาจังวะ”

“เออ  ก็จริงจังกว่าทุกคนที่เคยเจอแค่อยู่ใกล้ๆมิคแล้วกูรู้สึกสบายใจว่ะ  มิคเหมือนเด็กไม่เสแสร้ง  แสดงออกให้รู้ว่าคิดยังไงไม่ต้องตีความมาก  สรุปกูมีความสุขดีว่ะและคงชอบมากไปแล้ว”  ไอ้ฟินสรรหาคำพูดบรรยายถึงคนที่อยู่ในกล้องทำสีหน้าครุ่นคิดและยิ้มกว้างเมื่อจบประโยคได้อย่างน่าหมั่นไส้คนมองแบบผมมาก

“นี่ขนาดแสดงออกไปจนกัสเขม่นกูทั้งวัน  เจ้าตัวเค้ายังไม่รู้เรื่องเลยว่ะ” มันพูดจบก็ถอนหายใจแรง  ผมก็ได้แต่ตบบ่าเพื่อนซี้ให้กำลังใจไปด้วยเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง  คนที่มองแบบผมยังหนักใจแทนเลย

“รอให้มึงแน่ใจกว่านี้ว่ามิคใช่สำหรับมึง  แล้วค่อยบอกออกไปตรงๆดีกว่ามั้ง  เพราะมิคคงไม่มีวันรู้ถึงความรู้สึกมึงแน่  ถ้ายังเป็นแบบนี้” ไอ้ฟินพยักหน้าตอบตามองไปที่กล้องทำสีหน้าครุ่นคิดตามสิ่งที่ผมพูด

“มึงพักผ่อนที่ห้องไปก่อนนะเดี๋ยวกูไปหากัสก่อน”

“ห่างกันไม่ได้เลยนะมึงคืนนี้จะนอนหลับมั้ย  ไม่ใช่เผลอมาปล้ำกูน้า  ฮ่าๆๆ”

“ไอ้ฟินมึงหยุดพูดไปเลยกูขนลุกว่ะ  ไปแล้ว” ผมหันไปคว้าหมอนขว้างใส่มันที่พูดอะไรน่าขนลุก  ก่อนออกจากห้องยังได้ยินเสียงหัวเราะก้องตามหลังมา

ผมเดินออกไปที่ระเบียงที่ถูกกั้นด้วยกระจกใสจากด้านนอกและผลักบานไม้ไผ่ที่กั้นระเบียงจากห้องติดกันให้เปิดกว้าง  เมื่อมองผ่านกระจกใสของห้องเป้าหมายจึงได้เห็นเจ้าของห้องหนุ่มน้อยทั้งสองและสองสาวของห้องถัดไปรวมตัวกันอยู่  จึงเคาะกระจกเบาๆเรียกสายตาของคนในห้องให้มามอง  พอคนในห้องเห็นว่าเป็นใครมนก็กวักมือเรียกเป็นสัญญาณให้ผมเข้าไป  ผมจึงเปิดบานกระจกเลื่อนให้ตัวเองเข้าไปในห้อง  สิ่งที่ทุกคนรุมดูเป็นรูปที่ถ่ายมาและมีกองขนมเต็มเตียงไม่บอกก็รู้ว่าของใคร  ซึ่งเจ้าของก็เคี้ยวตุ้ยดูรูปไปยิ้มไปอย่างมีความสุข

“วินจ๊ะ  มาทานด้วยกันมั้ย”  มายเอ่ยชวนผมทานขนมแถมยื่นมาให้กันถึงมือ

“ไม่เป็นไรครับ  ขอบคุณครับมาย” ปฏิเสธไปเพราะอยากกินห่ออื่นมากกว่าและเป้าหมายคือห่อที่อยู่ในมือของคนรัก

ผมเอ่ยขอบคุณสาวน้อยน่ารักไปและมายืนซ้อนหลังกัสที่กำลังก้มหน้าดูรูปจากโน้ตบุ๊คอยู่  ก่อนวางมือบ่นบ่าบอบบางและก้มตัวลงไปใกล้  กัสหันมามองและส่งยิ้มให้พร้อมยื่นขนมมาตรงหน้า  แต่แทนที่ผมจะยื่นมือไปรับมากินเองผมขอใช้ปากรับแทนแล้วกันและแอบสัมผัสนิ้วเรียวเป็นกำไรอีกด้วย  กัสชักมือกลับและชี้นิ้วขู่มาให้  ผมก็เงยหน้าออกมาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนชวนมนคุยแทน

“ไงมน  ไม่พักล่ะไม่เหนื่อยเหรอ”  มนหันมาส่งสายตารู้ทันให้ผมแถมคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

“แล้วมึงล่ะไม่เหนื่อยเหรอถึงมาห้องนี้ทำไมไม่พัก”

“ก็กำลังใจกูอยู่ที่นี่  ขอแค่มาเห็นหน้าก็หายเหนื่อยแล้ว”

มนทำหน้าเหมือนเลี่ยนจะอ้วกเมื่อฟังจบแต่ผมหาได้ใส่ใจ  ขอแค่หยอดแฟนตัวเองเล็กๆน้อยๆให้ชื่นใจก็พอ  ผมเลิกสนใจเพื่อนก่อนจะก้มหน้ามองคนที่ผมตั้งใจหยอดไว้  ใบหน้าด้านข้างของกัสขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยคงได้ยินที่ผมพูดแต่ทำเป็นไม่สนใจกัน  ผมจึงทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังวางคางบนบ่าบาง  กัสก็ไม่ขยับแต่แก้มได้แดงจัดไปแล้วน่ารักน่าฟัดที่สุด  เหลือบตาไปที่เพื่อนสนิทกัสอีกสองคนข้างๆซึ่งทั้งคู่ก็ส่งยิ้มน้อยๆมาให้และหันกลับไปดูรูปกันต่อ  คนอื่นก็คงเข้าใจผมล่ะก็คู่หมั้นทั้งคนนี่ครับขอชิดใกล้หน่อยล่ะกัน  จนกระทั่งดูรูปเสร็จผมก็ฉุดมือร่างบางไปที่ระเบียงด้านที่ติดกระจก  เปิดออกไปพากัสมานั่งที่เก้าอี้นอนตัว
ใหญ่ที่ปรับพนักให้เป็นกึ่งนั่งกึ่งนอนไว้แล้ว

“กัสเหนื่อยมั้ย  หืม” ว่าพลางเอามือลูบหน้าใสแผ่วเบา

“ไม่หรอกกัสชินแล้วกับการเดินทาง  ที่นี่บรรยากาศดีจังต้นไม้ร่มรื่นแถมใกล้แม่น้ำด้วย”

กัสมองออกไปนอกระเบียงที่ทางรีสอร์ทจัดสวนได้ร่มรื่น  มีลมเย็นพัดผ่านสายน้ำที่ไหลผ่านด้านข้างรีสอร์ทเข้ามาให้เย็นสบายตัว  ผมจึงจับร่างบางพิงอกซ้อนไว้ด้านหน้าขณะที่ผมเอนหลังพิงไปกับพนักด้านหลัง  และใช้แขนข้างที่ว่างจากการโอบกอดกัสมาหนุนแทนหมอน  ไม่มีคำพูดระหว่างเราสายตามองตรงไปด้านหน้าซึมซับกับบรรยากาศร่มรื่นอากาศเย็นสบายจนเผลอหลับไปพร้อมคนในอ้อมกอด

...........................

ผู้คนพลุกพล่านที่เดินดูของตามร้านค้าที่เปิดเลียบทั้งสองฝั่งของสายน้ำ  กลุ่มของพวกเราปะปนอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้  หลังจากที่พักผ่อนในรีสอร์ทจนถึงสี่โมงเย็นไอ้ฟินจัดการเหมาเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ให้พวกเรานั่งชมแม่น้ำมาจนถึงตลาดน้ำอัมพวาโดยใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที  และทำการนัดแนะกับคนขับเรือเพื่อขึ้นเรืออีกครั้งตอนหนึ่งทุ่ม  ความตื่นตาจากผู้คนและร้านค้าที่ขายทั้งของเล่นโบราณเสื้อผ้าเครื่องประดับนั้นได้รับความสนใจจากกลุ่มของพวกเราแวะกันเกือบทุกร้าน  โดยเฉพาะสะพานข้ามฝั่งแม่น้ำที่เราต้องเดินข้ามนั้นพวกเราใช้เวลาไปกับการถ่ายรูปอยู่นาน  แต่ก็คุ้มค่าเพราะภาพที่ได้เป็นภาพแห่งความทรงจำที่สวยงาม  ด้วยภาพบนสะพานที่สามารถเห็นสายน้ำทอดยาวร้านรวงทั้งสองฝั่งคลอง  ซึ่งได้ทั้งวิวของร้านค้ามุมสูงที่มีแม่น้ำอยู่กลางภาพ  รูปเรือยนต์ที่จอดเทียบท่ารับส่งผู้คน  รูปรอยยิ้มของผู้คนที่หลั่งไหลมาเที่ยว ณ ตลาดน้ำแห่งนี้  หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จพวกเราก็เจอร้านขายโปสการ์ดที่เจ้าของร้านทำขึ้นมาเองแตกต่างจากร้านอื่นๆสอบถามได้มาว่า  เจ้าของถ่ายภาพมุมต่างๆของตลาดน้ำแห่งนี้เองซึ่งทำให้ภาพที่ได้แปลกตาไปกว่าที่อื่น 

“กัสชอบรูปนี้เหรอครับ  วินว่ามันดูสวยดีนะให้บรรยากาศตลาดน้ำสมัยก่อนเลย”

“อืม  เดี๋ยวกัสจะเขียนถึงเราที่กรุงเทพฯ” ผมได้ฟังก็นึกสงสัยกัสถึงกับคลี่ยิ้มและเฉลยออกมา

“เป็นที่ระลึกไงวินว่าเราได้มาเที่ยวที่นี่ด้วยกันแล้ว  วินอาจจะเขียนถึงความรู้สึกในทริปนี้ความประทับหรืออะไรแบบนั้นน่ะ  พอถึงกรุงเทพฯเราคงได้รับพอดีและมันจะขลังมากที่มีรอยปั๊มตราไปรษณีย์ ปณ.อัมพวาอ่ะ”  คนน่ารักส่งยิ้มหวานมาให้หลังพูดจบ

เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันที่เราจะมีของที่ระลึกร่วมกันจากการมาเที่ยวครั้งนี้  ผมจึงช่วยกัสเลือกรูปสวยๆอีกหลายใบ  ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็ดูของฝากพวกเสื้อพิมพ์ลายชื่อสถานที่ ‘อัมพวา’  คงได้เสื้อกันมาหลายตัวหลายแบบเพราะแบบเสื้อของร้านนี้เค้าทำได้เก๋ไก๋กว่าร้านอื่นจริงๆ

“กัสซื้อโปสการ์ดอีกแล้วเหรอจ๊ะ  อย่าลืมส่งมาให้มายด้วยนะ”

“อืมๆ  ใช่เผื่อมิคด้วย  ลืมมีเคืองนะ”

เสียงเพื่อนรักของกัสดังขึ้นขณะกัสเขียนโปสการ์ดอยู่เจ้าตัวส่งยิ้มกว้างและพยักหน้าให้ว่าไม่ลืมแน่  ทำให้เพื่อนคนอื่นของผมหันมาสนใจเดินเข้ามาดูและสอบถามกันยกใหญ่  ทีนี้ทุกคนก็อยากได้ไอ้เจ้าโปสการ์ดจากกัสทุกคน  กัสยิ้มกว้างให้อย่างเต็มใจเลือกแบบอื่นๆมาเพิ่มและคงต้องใช้เวลานานกว่าจะเขียนเสร็จ  ผมจึงให้คนอื่นไปนั่งรอที่ร้านไอศกรีมข้างๆแทนถ้ากัสเขียนเสร็จเราค่อยตามไป  เพื่อนๆเห็นด้วยจึงไปรอที่ร้านนั้นแทน  หันกลับมามองร่างเล็กที่ตั้งใจเขียนใบที่เราช่วยกันเลือกไว้  ผมลอบมองใบหน้าด้านข้างของกัสที่ระบายยิ้มน้อยๆแก้มแดงระเรื่อเพราะอากาศและผู้คนที่พลุกพล่าน  แววตาสดใสมีความสุขเปล่งประกายออกมาจนอดยิ้มตามไม่ได้  เผลอแตะนิ้วไล้แก้มแดงเรียกสายตาสงสัยของกัสให้หันมามอง  ผมส่ายหน้ายิ้มๆและพยักพเยิดไปที่โปสการ์ดในมือบางเป็นสัญญาณให้เขียนต่อ  กัสหน้ามุ่ยลงนิดหน่อยก่อนหันกลับไปเขียนต่อ  คนน่ารักคงเพลินจนไม่รู้ว่าผมโอบเอวบางและก้มหน้าชิดแกล้งสนใจสิ่งที่กัสเขียนและแอบสูดกลิ่นผมหอมละมุนไปด้วย 

“เสร็จแล้ว  อ๊ะ” แก้มของกัสมาชนจมูกผมเมื่อเจ้าตัวหันมาหา  เรียกเลือดฝาดขึ้นเป็นริ้วที่หน้าใส

“ไปครับเดี๋ยววินจัดการให้” ผมจูงมือบางที่เจ้าของแก้มแดงมาทางเจ้าของร้านให้คิดเงิน

“นี่ครับเรียบร้อยแล้ว  แฟนน้องน่ารักนะ” พี่เจ้าของร้านส่งเงินทอนมาให้ส่วนโปสการ์ดทางร้านจะจัดส่งให้เอง  และเอ่ยชมกัสให้ผมฟังยิ้มๆ

“ขอบคุณครับพี่และผมก็หวงมาก” ผมยิ้มพร้อมยักคิ้วทะเล้นไปให้พี่คนขาย  พี่แกคงถูกใจและยิ้มกว้างตอบมาส่วนกัสได้ฟังก็ยิ่งหน้าแดงกระตุกข้อมือที่ผมกุมไว้เร่งให้ออกจากร้าน 

ผมจึงพากัสมายังร้านไอศกรีมที่เพื่อนๆนั่งทานรอกันอยู่แล้ว  กุมมือกัสให้เดินไปเลือกรสไอศกรีมเราเลือกได้รสมะยมและรสนมอัญชันถ้วยเดียวกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อน  ในร้านคนนั่งเต็มทุกโต๊ะเพราะอากาศที่ยังร้อนแม้เป็นช่วงเย็นแล้วก็ตามไอศกรีมเย็นๆจึงขายดี  กัสตักไอศกรีมเข้าปากแล้วทำยิบหยีกับรสชาติเปรี้ยวจี๊ดของมะยมทำเอาผมและคนอื่นๆหัวเราะกับตาหยีหน้ายู่ของกัส  เจ้าตัวคงอายมากจึงตักไอศกรีมรสมะยมคำโตมายื่นถึงปากคงหวังได้ผมเป็นพวกให้รับรู้ความเปรี้ยวเหมือนกัน  ผมยอมอ้าปากรับเพราะไหนๆก็มีแฟนป้อนให้ทั้งที  เมื่อลิ้นรับรสเปรี้ยวจี๊ดขึ้นหัวทำเอาหลับตาปี๋เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งกลุ่มที่ดังกว่าเดิม  ลืมตาไล่มองหน้าทุกคนที่มีสีหน้าสดใสยิ้มกว้างและคนที่ป้อนก็ยิ้มจนตาปิดที่ได้ทีแกล้งกัน  เราทานไอศกรีมถ้วยเดียวกันจนหมดจึงชวนกันไปเดินให้ทั่วตลาดน้ำแห่งนี้  เมื่อมาถึงฝั่งที่ขายอาหารโดยมีเรือแจวหลายลำลอยเลียบฝั่งภายในเรือมีขายทั้งอาหารทะเลปิ้งย่าง  ผัดไทยกุ้งสดตัวโต  ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำข้นน้ำใส  กุ้งอบวุ้นเส้น  ทำเอาทุกคนตื่นตาส่วนคนที่ตื่นเต้นกว่าเพื่อนคือมิคที่ร้องว่าน่ากินไปซะทุกอย่าง  และชอบใจใหญ่ให้ไอ้ฟินเก็บภาพทั้งเรือทั้งอาหารซึ่งในกล้องไอ้ฟินคงมีแต่นายแบบหนุ่มแว่นหนาตัวเล็กเป็นส่วนใหญ่แน่ๆ  ผมให้มนพาสามหมอตัวเล็กไปหาที่นั่งก่อนส่วนผมและเพื่อนที่เหลือจะช่วยกันซื้ออาหารเกือบทุกอย่างที่ขายไปให้ทานที่โต๊ะเอง  ซื้อแล้วจึงยกกลับมาที่โต๊ะบางร้านยังไม่ได้อาหารมาแต่เจ้าของร้านจะมาเสิร์ฟให้เองเมื่อปรุงเสร็จแล้ว  เมื่อวางอาหารบนโต๊ะเสร็จผมก็ก้าวไปนั่งข้างกัสที่กำลังเทน้ำใส่แก้วอยู่  ไอ้ฟินก็ตามมานั่งข้างกันเพราะอีกข้างนั้นเป็นมิค  และมิคก็บ่นเบาๆขึ้นมาว่าที่มีตั้งเยอะจะมาเบียดทำไมไอ้ฟินก็ยิ้มเข้าสู้แต่ไม่พูดหรือขยับไปไหน  ผมจึงหันไปส่งยิ้มให้กัสและมองเพื่อนคนอื่นที่ตอนนี้คงรู้ความรู้สึกไอ้ฟินกันหมดแล้ว  เหลือก็แต่มิคและมายที่สนใจแต่อาหารตรงหน้าเท่านั้น  ผมหันมาทำหน้าที่เดิมคือบริการแฟนตัวเองตักอาหารใส่จานแกะกุ้งตัวโตตรงหน้าให้และรอบนี้ไม่มีใครแซวแล้ว  เพราะคงคิดได้ว่าถึงแซวไปผมก็ไม่สนใจยังไงก็ทำให้กัสอยู่ดี 

“แหมอยากได้กุ้งที่แกะแล้วมั่งจัง  เนอะมายเดียร์เนอะ”  มิคหันมาแซวกัสและพยักพเยิดกับเพื่อนสาวคนสนิทที่ก็รับมุกพยักหน้าเห็นด้วยยิ้มๆ

“นี่ครับกุ้ง / กุ้งครับ” สองเสียงของหนุ่มเพื่อนสนิทของผมดังขึ้นพร้อมกับกุ้งที่แกะแล้ววางบนจานของมิคและมาย

ผมเห็นทั้งไอ้ฟินและไอ้ปรัชมองหน้ากันอึ้งๆพักเดียวก่อนส่งยิ้มให้กันอย่างรู้ทัน  พวกมันก็คงอยากเอาใจคนที่ตัวเองชอบนั่นแหละครับ  ส่วนสองหนุ่มสาวที่โดนเอาใจอาการนั้นต่างกัน  มายส่งยิ้มขอบคุณอย่างเอียงอายไปให้ปรัชและก้มหน้าทานกุ้งแต่หนุ่มน้อยอีกคนนี่สิ

“อืม  ขอบใจๆแกะอีกๆ  ทำดีมากนายฟินเราไม่อยากมือเปื้อนพอดีเลย  ฮิๆๆ” มิคที่ยังไม่รู้ตัวก็ได้โอกาสใช้ไอ้ฟินแกะกุ้งให้

ไอ้ฟินหน้าเหวอและทำหน้าปลงๆผมเห็นแล้วทั้งขำทั้งสงสารก็คงต้องยุให้ไอ้ฟินเปิดใจกับมิคตรงๆแล้วล่ะ  ตอนนี้มันทำได้แค่แกะกุ้งบริการมิคเท่านั้น  หันมาทางกัสที่มองภาพเดียวกับผม  คนน่ารักยิ้มถูกใจที่มิคได้แกล้งไอ้ฟินแบบไม่รู้ตัว

“กัสครับสนใจวินหน่อย  กัสป้อนวินเหมือนเมื่อกลางวันนะเดี๋ยววินแกะกุ้งให้อีก” 

ผมอ้อนแฟนตัวเองให้ป้อนอาหารให้  กัสส่งค้อนน้อยๆให้แต่ก็ยอมป้อนสลับกับตักทานเองไปด้วย  อาหารที่สั่งทยอยมาเสิร์ฟจนครบและเรานั่งทานกันจนอิ่ม

“อืมจะทุ่มนึงแล้วเดี๋ยวเราต้องไปขึ้นเรือต่อใช่มั้ย” มนสาวเท่เอ่ยปากถาม

“ครับ  โปรแกรมต่อไปคือขึ้นเรือชมหิ่งห้อยน่ะ” มิคตอบตาพราวอย่างถูกใจเมื่อคิดว่าจะได้เห็นหิ่งห้อยตัวจริง

หลังจากนั้นเราพากันเดินมาลงเรือที่เดิมตามเวลานัดที่ตกลงกันไว้แล้ว  คนเรือขับเรือพาเราไปจุดชมหิ่งห้อยด้วยวันนี้ฟ้ามืดสนิทยิ่งทำให้แสงระยิบระยับเหนือผิวน้ำใกล้ต้นลำพูใหญ่ส่องแสงชัดเจนเหมือนดาวที่ตกมาอยู่บนผิวน้ำ  ผมจับมือบางที่วางอยู่บนหน้าขาตั้งแต่ลงเรือคลึงหลังมือแผ่วเบาก่อนมองดวงหน้าหวานที่ตาจับจ้องไปยังกลุ่มหิ่งห้อยเป็นประกาย  ไอ้ฟินยกกล้องมาปรับเพื่อเก็บภาพหิ่งห้อยเป็นที่ระลึกได้หลายภาพ  คนขับเรือจอดเรือให้เราชมธรรมชาติของหิ่งห้อยกลางสายน้ำอยู่พักหนึ่งจึงออกเรือไปยังจุดอื่นซึ่งก็พบหิ่งห้อยส่งแสงมากมาย  จนได้เวลากลับเรือจึงมาส่งเราที่ท่าขึ้นเรือของรีสอร์ทที่พัก  ผมจับจูงพยุงร่างบางขึ้นจากเรือเป็นคนสุดท้ายและจูงออกมาห่างจากกลุ่มเพื่อนที่ต่างพากันเดินนำหน้ากลับห้อง  เราเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของรีสอร์ทที่เงียบสงบมีไฟประดับไปตามทางเดินและพุ่มไม้ให้แสงสว่างนวลตา  ผมจับกุมมือบางไว้แนบอกและสบตากัส

“คืนนี้กัสไม่เปลี่ยนใจมานอนด้วยกันเหรอครับ  หืม” ผมได้รับอาการส่ายหน้ายิ้มๆจากกัส

“วินครับเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ”

“วันนี้กัสมีความสุขมั้ยครับ”

“อืม  มีสิ” กัสพยักหน้าตอบและยิ้มหวานตาพร่างพราวไม่แพ้แสงหิ่งห้อยที่ได้ดูก่อนหน้า

“งั้นวินขอรางวัลปลอบใจหน่อยนะ  วินจะได้นอนหลับฝันดีไงครับ”

กัสตาโตกับการเอ่ยขอรางวัลจากผมก่อนส่ายหน้าเหมือนเอือมระอากับเด็กที่พูดไม่รู้เรื่อง  และสูดหายใจลึกเขย่งปลายเท้าจูบแตะริมฝีปากผมอยู่เนิ่นนานสัมผัสจากกัสไม่ได้เป็นจูบที่ลึกซึ้งแต่ทำเอาใจผมสั่นเต้นรัวและเต็มตื้นในอก  เมื่อริมฝีปากนุ่มผละออกกัสก็เงยหน้าสบตากันและยกมือลูบแก้มผมแผ่วเบา
 
“คืนนี้หลับฝันดีนะครับ”  กัสส่งยิ้มกว้างมาให้หลังพูดจบจนผมต้องยิ้มตามและกุมมือทับมือนุ่มที่แก้มตัวเอง  แค่จูบเบาๆและคำอวยพรจากกัสคนที่ผมรักมันก็เพียงพอแล้วสำหรับคืนนี้ที่จะทำให้ผมหลับฝันดีได้โดยไม่มีร่างนุ่มให้กอด

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

เจอกัสวินพรุ่งนี้นะคะ
 :pig4:สำหรับการติดตามค่ะ

+1และเป็ดให้เช่นเคย

ปล.เหลือไม่ถึงอาทิตย์แล้วใครอยากได้หนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยน้าติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 12-07-2012 08:18:58
น่ารัก เขิน ชอบบบบบบบบ :o8:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 12-07-2012 09:03:50
วินก็ยังขยันหวานเหมือนเดิม ดูแลทุกอย่าง แต่ก็ยังมีแอบอ้อนกัส
กัสจังก็ยังน่ารักเหมือนเดิม ช่วยฟินสู้ๆ เอาชนะใจมิคให้ได้น๊า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 12-07-2012 09:04:57
รอ ตอนหน้า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-07-2012 09:10:42
สงสารฟินอ่ะ  :m20:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 12-07-2012 10:13:34
หวานกันเข้าปายยยยยย...
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 12-07-2012 12:07:46
วินหวานเว่อร์อ่ะ เขินนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-07-2012 14:00:26
หวานกานเข้าปายยยยยยยยยย
อิจฉานายวินจริงๆ :o8:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 12-07-2012 18:00:48

วินมากเลยอ่ะ :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 12-07-2012 18:21:38
วินนี่หวานใส่กัสตลอด แต่หนูมิคของพี่นี่ไม่ได้สนใจนายฟินเลย 5555
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 12-07-2012 23:07:34
กัสน่ารักได้อีก  :o8:

มิคนี่ก็ไม่ได้รู้อะไรกับเค้าเลยจริงๆ  :laugh: :laugh:

+เป็ดให้น้า  :man1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่27(12/7/55)P.11 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 13-07-2012 01:18:42
 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-07-2012 07:36:53
ตอนที่ 28

วิน

แสงแดดยามเช้าส่องกระทบผิวน้ำระยิบระยับเมื่อเรือหางยาวแล่นผ่านส่งให้เกิดเป็นระลอกคลื่นเคลื่อนกระทบริมฝั่งน้ำ  กระดานไม้ปูเป็นลานยื่นเหนือผืนน้ำเพื่อรองรับผู้คนขึ้นลงเรือ  ผมและกลุ่มเพื่อนนั่งมองจากเรือนไม้ไร้ซึ่งผนังกั้นเปิดโล่งทั้งสี่ด้านรับแสงแดดอ่อนและลมเย็นสดชื่นยามเช้า  แต่ละคนมีแก้วกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นวางเบื้องหน้า  เว้นก็แต่ไอ้หนุ่มตี๋ขี้เล่นที่นั่งหลับตาพิงพนักให้รู้ได้ว่ายังไม่ตื่นเต็มตาแต่มันโดนเพื่อนร่วมห้องอย่างไอ้ปรัชลากออกมาเพื่อมารอตักบาตรในช่วงเช้า  ส่วนคนอื่นๆที่แม้ไม่ชินในการตื่นเช้าแต่ก็ออกอาการสดชื่นเมื่อจะได้ทำบุญร่วมกัน

“อ่ะธี  มึงมากินกาแฟก่อนจะได้ตื่นเต็มตาเดี๋ยวพระก็มาแล้ว”  สาวเท่ของกลุ่มวางกาแฟลงตรงหน้าเพื่อนสนิท

“ขอบคุณคร้าบบบ” แม้ง่วงต่อมขี้เล่นของไอ้ธีก็ยังทำงานอยู่มันลืมตามายิ้มกว้างให้มนและจิบกาแฟตรงหน้า

“อาหารใส่บาตรทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้แล้ว  ห้องละชุดนะครับ”  พนักงานของรีสอร์ทเดินมาแจ้งที่กลุ่มของผมให้ทราบ

“กัสใส่คู่กับวินนะครับ  วินอยากทำบุญคู่กับกัสนะ” ผมส่งสายตาออดอ้อนไปให้คนร่างบางข้างกายที่นั่งจิบกาแฟชมสายน้ำเบื้องหน้า  กัสหันมามองผมและพยักหน้าให้ยิ้มๆ ‘อืม  คนอะไรน่ารักจัง’ วันนี้ผมยังไม่ได้ชื่นใจคนน่ารักตรงหน้าเลย  ขนาดรีบตื่นแต่เช้าและมาหากัสที่ห้องเพื่อชวนกันออกมารอใส่บาตรเช้าแต่ยังไม่มีโอกาสอยู่ตามลำพังเลย  ขณะที่ผมมองหน้าใสเพลินก็มีเสียงดังขึ้นจนผมต้องหันมามองต้นเสียง

“อ้าวกัสใส่กับวินเหรอ  งั้นมายเดียร์มาใส่คู่กับมิคนะ” มิคหน้ามุ่ยมองผมอย่างขัดใจก่อนหันไปชวนมายด้วยเสียงออดอ้อน  ส่วนสาวที่โดนอ้อนก็อมยิ้มพยักหน้าน้อยๆอย่างยินดี   

ผมเหลือบมองเพื่อนสนิททั้งสองคนไอ้ปรัชกับไอ้ฟินมองหน้ากันเองก่อนคิ้วขมวดฉับ  ถ้าให้ผมเดามันสองคนก็คงอยากใส่บาตรทำบุญร่วมกับคนที่ตัวเองมีใจให้แน่ๆ  ผมจึงเอาขาเขี่ยขาเพื่อนใต้โต๊ะพวกมันหันมามองหน้าผมทันที  เราปรึกษากันทางสายตาอยู่พักไอ้ปรัชก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์หน้าตาแบบนี้แสดงว่ามันคงมีแผนสำหรับแก้ไขสถานการณ์นี้ได้แล้ว  ผมหันกลับมามองที่โต๊ะยังไม่มีใครสนใจเราสามคนเพราะสามหมอตัวเล็กมัวแต่สนใจชี้ชวนกันถ่ายรูปเรือที่แล่นผ่านไปมา  และเพื่อนอีกสองคนของผมก็มัวแต่เถียงกันเรื่องความขี้เซาของไอ้ตี๋ธี  มนถึงขั้นลงไม้ลงมือเรียกสติไอ้ตี๋ให้ตื่นเต็มตาจนมันร้องโอดโอย  เพื่อนผมสองคนนี้มักหยอกกันแรงๆแบบนี้เสมอกับเพื่อนคนอื่นในกลุ่มมนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ด้วยอย่างมากก็แค่เสียงดังใส่เท่านั้น

“เรือของพระท่านมาใกล้แล้วครับ  เชิญพวกคุณได้เลยครับ”  พนักงานคนเดิมเดินมาตามพวกเราไปที่ชานไม้ที่ใช้ขึ้นลงเรือ
ไอ้ปรัชส่งสายตาและพยักหน้ามาให้ผมกับไอ้ฟินให้ลุกตามไป  เราสามคนเดินไปที่พนักงานที่จัดเตรียมชุดอาหารไว้รอแล้ว  ก่อนไอ้ปรัชจะหยิบชุดอาหารที่จัดวางบนกระจาดเล็กๆแยกเป็นชุดไว้แล้วส่งมาให้ผมและไอ้ฟินคนละชุด  เมื่อไอ้ธีเดินมาก็ส่งอีกชุดให้ส่วนผมก็เดินเข้าหากัสยืนรออยู่ด้านหลัง

“ตั้งจิตอธิษฐานด้วยกันก่อนนะครับ”  ผมจับมือบางมากุมช่วยกันประคองกระจาดบรรจุอาหารและนั่งลงยกกระจาดขึ้นจบระดับศีรษะตั้งจิตอธิษฐานร่วมกัน

“อ้าวแล้วของเรากับมายเดียร์ล่ะ  นายฟินนายส่งมาให้ชุดหนึ่งสิ” เสียงมิคทวงของใส่บาตรจากไอ้ฟินที่ยืนยิ้มเจ้าเล่ห์และไม่ยอมส่งให้ตามที่คนน่ารักของมันร้องขอ

“นี่ของฟินครับ  มิคอยากมาช้าเองถ้าจะใส่ต้องมาใส่กับฟินนะ” ไอ้ฟินฉวยข้อมือของมิคเดินออกมาตามมาด้วยเสียงโวยวายไม่ยอมจากมิค  แต่ไอ้ฟินมันก็แน่จับแน่นไม่ปล่อยฉุดให้นั่งลงและตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันจนได้

“อย่าทำหน้ามุ่ยสิครับมิค  เดี๋ยวไม่ได้บุญนะมาอธิษฐานก่อนเร็วพระมาแล้ว” มิคหน้ามุ่ยจ้องไอ้ฟินอย่างเอาเรื่องแต่ก็จำใจยอมทำตาม  ส่วนไอ้หนุ่มขี้บังคับมันยิ้มกว้างอย่างสมใจ  เราสบตากันก่อนมันจะยักคิ้วให้อย่างกวนๆ  และเราก็ต้องเหลือบตาไปทางไอ้ปรัชเมื่อได้ยินเสียงมันพูดกับสาวน้อยข้างกาย

“มายครับมาใส่กับปรัชนะเหลือที่ปรัชชุดสุดท้ายแล้วนะครับ” มายสบตาไอ้ปรัชที่ทำหน้านิ่งจริงจังไม่ยิ้มแต่มีแววตาอ่อนโยนให้  ทำเอาสาวน้อยต้องก้มหน้าแก้มแดงไม่เอ่ยรับหรือปฏิเสธ  ไอ้ปรัชส่งกระจาดใบเล็กให้และจับข้อศอกมายส่งสัญญาณให้นั่งลงตั้งจิตอธิษฐานร่วมกัน 

แผนการลุล่วงไปด้วยดีงานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้กุนซือปรัชมันครับ  พระสงฆ์นั่งบนเรือรอรับของใส่บาตรพวกเราต่างทยอยลงบันไดไปทีละคู่จนครบและนั่งพับเพียบพนมมือบนชานไม้เพื่อรอรับพรจากพระท่าน ‘อายุ วรรณะ  สุขขัง  พลัง’  พวกเรามองพระสงฆ์พายเรือออกไปจนลับสายตาจึงลุกขึ้น  ผมหันกลับไปมองสีหน้าเพื่อนแต่ละคนนั้นอาบไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขเพราะวันนี้เราเริ่มด้วยการทำบุญมันทำให้เราอิ่มเอิบใจอะไรที่จะทำในวันนี้คงราบรื่นและเริ่มต้นอย่างมีความสุข  พนักงานมาแจ้งให้เราไปทานอาหารเช้าในเรือนไม้ที่เรานั่งกันเมื่อเช้าได้เลยเพราะอาหารจัดเตรียมพร้อมแล้ว  ผมจึงหันไปยิ้มให้กัสที่ยืนเคียงข้างก่อนจับจูงไปทางเรือนไม้เพื่อทานอาหารร่วมกันกับเพื่อนๆที่รออยู่  หลังจากนั้นพวกเราต่างแยกย้ายไปเก็บของเพื่อเดินทางต่อไปยังหาดหัวหิน

...........................

พวกเราเดินทางมาถึงที่พักยังหาดหัวหินเป็นบังกะโลหลังใหญ่ที่มีสี่ห้องนอนและห้องน้ำในตัว  บริเวณส่วนหน้าของบังกะโลเป็นหาดส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนักมีแต่ลูกค้าของที่นี่เท่านั้น  ต่างคนต่างขนของเก็บยังห้องพักส่วนตัวซึ่งจับคู่กันนอนเหมือนเมื่อคืน  ซึ่งผมก็ปลงแล้วเพราะถึงแย้งไปก็คงไม่ได้ผล  แผนที่คิดไว้ดิบดีว่าจะได้นอนกอดคนตัวหอมมีอันชวด

“เป็นอะไร  หืม  หน้ามุ่ยเชียววิน”  มือนุ่มบีบจมูกผมเบาๆอย่างหยอกเย้า  คนน่ารักยังกล้ามาถามด้วยหน้ายิ้มๆแบบนี้อีกรู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นอะไร  มันน่าจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยวนักเชียว

“วินก็นั่งปลงสิครับ  ทริปนี้ไม่ได้นอนกอดกัสเลย  กัสทริปหน้าเราไปกันสองคนนะครับ” โอบรอบเอวบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าและซบหน้าไปกับอกกัสเผื่อเจ้าของจะใจอ่อนกับผมบ้าง  กัสหัวเราะในคอก่อนส่งมือมาลูบหัวผมให้อย่างอ่อนโยนจนผมต้องกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

“ไปกันได้แล้วครับ  เดี๋ยวเที่ยวไม่คุ้มน้า” ไอ้ปรัชเรียกทุกคนให้มารวมตัวกันเพื่อไปเที่ยว ‘เพลินวาน’ กันต่อ

ผมกดจูบไปที่อกบางก่อนผละออกจากอ้อมกอดหอมๆจับจูงมือนุ่มไปขึ้นรถร่วมกับเพื่อนๆ  เพลินวานเป็นสถานที่ที่เราต้องมาเมื่อถึงหัวหินซึ่งเปิดให้ชมมาไม่นานนัก  เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปเพราะมีมุมให้ถ่ายภาพมากมาย  ทั้งร้านที่ตกแต่งเป็นร้านขายของเล่นสมัยก่อน  ร้านถ่ายรูปเก่า  โรงหนังที่มีโปสเตอร์ภาพยนตร์สมัยคุณแม่ยังสาว  แม้แต่ห้องน้ำยังให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปสมัยก่อนเลย  คนมาเที่ยวค่อนข้างเยอะทำให้ยากต่อการถ่ายรูปแต่ไม่พ้นความสามารถของไอ้ฟินที่ตามจับภาพของเพื่อนทุกคนโดยเฉพาะหนุ่มน้อยน่ารักของมัน

“กัส  มาย  มิคอยากกินไอศกรีมกะทิร้านนั้นอ่ะ  ท่าจะอร่อยคนต่อเยอะเชียว” 

“อืม  เอาแบบนี้นะเดี๋ยวฟินกับเพื่อนไปซื้อมาให้พวกมิคนั่งรอก่อน  ไปพวกมึงเดี๋ยวซื้ออย่างอื่นมาด้วยเลย” ไอ้ฟินรีบเอาใจเสนอตัวไปซื้อของกินให้คนตัวเล็ก 

ผมเห็นดีด้วยจึงพากัสมานั่งที่โต๊ะว่างและออกมาซื้อของไปบริการคนของตัวเอง  ที่โต๊ะจึงเหลือกัส  มิค  มาย  และมนรอการบริการจากหนุ่มๆ  พวกผมที่ออกมาซื้อของกินต่างแยกย้ายไปหาของมาให้ 

“ไอ้วินมึงรีบกลับโต๊ะเร็ว  โน่นมีไอ้หน้าปลวกที่ไหนไม่รู้มาคุยที่โต๊ะ” หลังคำพูดไอ้ฟินผมแทบจะทิ้งของในมือที่ซื้อมา  เมื่อเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งดูท่ายังเรียนอยู่มาทำท่าจีบแฟนผมอยู่  เมื่อเดินมาถึงโต๊ะจึงใช้ไหล่กระแทกเปิดทางกลุ่มที่ยืนขวางอยู่  และวางของกินที่ซื้อมาอย่างแรงก่อนหันไปจ้องหน้าผู้ชายแปลกหน้ารายตัว

“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ  น้อง” ผมหันไปจ้องหน้าไอ้คนที่ทำท่าจีบกัสอย่างเอาเรื่อง  มันมีสีหน้าสงสัยในคราวแรกก่อนเปลี่ยนเป็นตกใจตาโตเมื่อรับรู้ถึงรังสีพิฆาตจากผมเข้า

“เอ่อ  ไม่มีครับพวกเราแค่เข้ามาทักทายพี่กัสกับเพื่อนๆ  ว่าจะไปเที่ยวกันที่ไหนต่อ”  ชายหนุ่มตรงหน้าตอบและส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้  ผมจึงยิ่งถลึงตาเข้าใส่ก่อนวางมือบนไหล่บางของกัสที่นั่งอยู่

“พวกเราไม่ไปไหนต่อแล้วล่ะจะกลับที่พักกันเลย  น้องมีอะไรจะถาม ‘แฟน’ พี่อีกมั้ย” ประกาศให้รู้กันไปว่าคนนี้น่ะของใคร  ไอ้หน้าปลวกตรงหน้ายังไม่ทันตอบผมก็ต้องก้มหน้ามองคนที่กระตุกชายเสื้อผมแทน

“วิน  ไม่เอาน่าน้องเค้าแค่เข้ามาคุยเฉยๆ” กัสเอ่ยปรามเบาๆส่งสายตาดุๆมาให้ผม  ถ้าเราอยู่กันสองคนผมคงแกล้งงอนคนน่ารักไปแล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรู หัวใจจึงทำได้แค่คลี่ยิ้มให้กัสก่อนเงยหน้าส่งตาดุให้ไอ้เด็กตาไม่มีแววแทน

ไอ้หนุ่มตรงหน้ามันพยักหน้าและทำหน้าเซ็งๆก่อนเอ่ยขอตัวจากไปพร้อมเพื่อน  ผมหันไปมองหน้ากัสที่กำลังทำหน้ายุ่งเริ่มไม่พอใจที่ผมทำตัวกันท่า  แต่จะไม่ให้ผมกันท่าแสดงความเป็นเจ้าของกัสได้ยังไงกัน  แค่เดินไปซื้อของแป๊บเดียวก็มีไอ้หนุ่มที่ไหนไม่รู้มาจีบซะแล้ว  ผมนั่งลงแตะหลังมือนุ่มและส่งสายตาขอโทษแทนการพูดเรามองตากันสักพักจนกัสเอ่ยออกมา

“อย่าทำแบบนี้อีกนะวิน  ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะ” กัสพูดเสียงเข้มก่อนถอนใจออกมาทำให้ผมอดรู้สึกผิดไม่ได้จึงพยักหน้าอย่างยอมจำนน

“กัสอย่าโกรธไอ้วินมันเลย  มันรักมากก็หวงมากน่ะ” มนพูดแทรกเพื่อช่วยผม  ผมจึงพยักหน้ารัวๆก่อนยิ้มกว้างยืนยันสิ่งที่มนพูด

“อืม  เรามาทานกันเถอะแล้วไหนไอศกรีมล่ะวิน  กัสอยากชิมอ่ะ” กัสพูดอย่างอ่อนใจด้วยคงยกโทษให้ผมแล้ว  ผมจึงรีบกลับไปซื้อไอศกรีมมาให้ทันทีก่อนกัสจะโมโหอีกรอบ 

พวกเรานั่งทานกันจนเรียบร้อยจึงกลับมายังที่พักซึ่งแดดยังจัดอยู่มากและต่างแยกย้ายกันพักผ่อน  ไอ้ฟินชวนมิคที่เหมือนยังมีแรงเหลือเฟือไปเดินถ่ายรูปกันสองคน  ไอ้ธีกับมนนั่งฟังเพลงจากสเตอริโออยู่หน้าทีวีจอใหญ่  มายกับไอ้ปรัชนั่งดูภาพถ่ายจากโน้ตบุ๊คที่เอาภาพลงแล้ว  ส่วนผมกับกัสน่ะเหรอเราออกมานอนรับลมทะเลใต้ต้นมะพร้าวหน้าบังกะโลที่มีเปลญวนผูกไว้กับต้นมะพร้าวสองต้น  กัสนอนหนุนอกผมในมือถือหนังสืออ่านเล่นที่พกมา

“เย็นนี้กัสจะลงเล่นน้ำมั้ย” ปากพูดนิ้วก็เกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากมนไปด้วย

“เล่นสิมาทะเลทั้งที  และก็สัญญากับมิคไว้แล้วว่าจะสอนว่ายน้ำให้” กัสตอบผมโดยที่ตาไม่ได้ละไปจากหนังสือตรงหน้า

“งั้นรอวินกลับมาจากซื้อของสดก่อนนะแล้วค่อยลงพร้อมกัน” ผมต้องไปซื้อของสดเพื่อจะทำบาร์บีคิวคืนนี้

“อืม  แต่มิคจะไม่ยอมน่ะสิ  เพราะดูท่าอยากเล่นน้ำจะแย่แล้ว” ถูกของกัสเพราะเมื่อมาถึงบังกะโลในตอนสายมิคทำท่าจะลงทะเลเลยด้วยซ้ำ  แต่โดนเพื่อนห้ามซะก่อนเพราะมีโปรแกรมไปเที่ยวต่อ  ผมไม่อยากให้กัสและเพื่อนลงน้ำกันตามลำพังเลยเกิดมีอะไรขึ้นจะไม่มีใครช่วยได้ทันตัวก็แค่นี้  จะว่าผมเป็นห่วงจนเกินเหตุก็ได้ก็คนรักทั้งคนนี่ครับผมน่ะทั้งห่วงทั้งหวงเลย

“งั้นเดี๋ยววินไปชวนเพื่อนรีบออกไปซื้อเลยดีกว่าจะได้กลับมาอยู่กับกัส” กดจมูกที่หน้าผากคนในอ้อมกอดพร้อมส่งยิ้มให้และไม่รอคำตอบ  อยากรีบไปรีบกลับจริงๆไม่อยากห่างนักแต่ที่ตลาดสดนั้นทั้งร้อนและแฉะไม่อยากให้กัสไปลำบาก

ผมออกตามหาไอ้ฟินและไอ้ปรัชให้ไปด้วยกันปล่อยไอ้ธีให้ดูแลคนที่เหลือ  พวกเราใช้เวลาเดินซื้อของทะเลกันค่อนข้างนานเพราะต้องซื้อหลายอย่างและต้องเลือกของที่สดด้วย  กลับมาถึงรีสอร์ทก็ให้ทางพนักงานดูแลบังกะโลไปจัดการเตรียมของให้เพื่อทำบาร์บีคิวซีฟู้ดเป็นอาหารเย็น  พวกเรารีบกลับมาที่บังกะโลแต่ไม่เจอใครเลยคงหนีไปเล่นน้ำกันแล้วแน่ๆ

“สงสัยลงทะเลกันแล้วว่ะ” ไอ้ปรัชเอ่ยออกมาและชวนกันไปที่หาดหน้าบังกะโล  กลุ่มคนในทะเลท่าทางสนุกกับการเล่นน้ำไม่ได้สนใจพวกผมสามคนที่ยืนบนหาดทรายเลย  ไอ้ธีหันมาเห็นก็เดินเข้ามาหา

“กูบอกแล้วว่าให้รอพวกมึงแต่ไม่มีใครเชื่อกูอ่ะ  โดยเฉพาะเด็กมึงไอ้ฟิน” ไอ้ธีหน้ามุ่ยรีบแก้ตัวก่อนมันคงกลัวโดนพวกผมเล่นงานที่อุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแลแต่ก็ห้ามไม่ได้  มันจึงต้องเลยตามเลยและลงมาดูแลที่ทะเลแทน  ก่อนมันจะโบ้ยไปให้หนุ่มน้อยที่เหมาให้เป็นของไอ้ฟินไปแล้ว  ไอ้ฟินมันคงถูกใจคำพูดไอ้ตี๋ธีจึงยิ้มซะกว้างไม่คิดจะเล่นงานเพื่อนตัวเองเลย 

ผมหันไปโบกมือตอบกัสที่เพิ่งเห็นผมก่อนรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้นมีเชือกผูกที่เอวไม่ใส่เสื้อโชว์กล้ามอกและกล้ามท้องแน่นๆ  ไอ้ฟินก็ไม่ต่างจากผมนักมันมีแค่กางเกงขาสั้น  เรามีหุ่นใกล้เคียงกันแต่ไอ้ฟินมีผิวสีแทนส่วนผมจะผิวขาวกว่ามัน  เมื่อออกมาเจอเข้ากับไอ้ปรัชที่มาด้วยเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงขาสั้น  พวกเรามองหน้ากันยิ้มๆ

“มึงสองคนจะโชว์ไรหนักหนาวะ” ไอ้ปรัชแสยะยิ้มใส่ผมและไอ้ฟินก่อนเดินนำออกไปที่หน้าหาด

“ฮ่าๆ  อิจฉาที่พวกกูมีกล้ามมากกว่ามึงดิ” ไอ้ปรัชที่หุ่นบางกว่าแต่ใช่ว่าจะไม่มี  มันหันมาตบที่หัวผมและไอ้ฟินอย่างหมั่นไส้เรียกเสียงฮาจากเราทั้งคู่  เราสามคนออกมาที่หน้าหาดอีกครั้ง  เรียกสายตาจากคนที่เล่นน้ำทะเลให้หันมามอง  ผมสบตาสีดำสนิทคู่ที่เจ้าของลอยคออยู่ในทะเล  ก่อนเดินเข้าหากัสและโอบเอวบางเข้าหาตัว

“หนีวินมาเล่นน้ำได้ไงครับ  วินให้รอไงไม่รู้เหรอว่าเป็นห่วงน่ะ” กัสมองมาและเปิดยิ้มอ้อนๆมาให้ก่อนวางมือมาที่อกผมทั้งสองข้าง  ผมก้มมองไปที่คนน่ารักที่ตั้งใจอ้อนและต้องใจหายวาบ  ด้วยสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาความหวงของผมพุ่งสูง  เพราะเสื้อยืดสีเหลืองอ่อนที่กัสสวมพอโดนน้ำมันก็แนบเนื้อตัวบอบบางของกัสแถมยอดอกสีสดก็ดันเสื้อออกมาให้เห็นรำไร

“กัสทำไมใส่เสื้อตัวนี้ครับ  ดูสิโป๊หมด” กัสเลิกคิ้วทำตาโตยังงงกับสิ่งที่ผมพูดและก้มมองตามสายตาผมก่อนเงยสบกันอีกครั้ง

“ไม่เห็นโป๊เลยวินคิดมาก  และกัสก็เป็นผู้ชายนะใครจะมาสนใจ” โฮ! ที่รักไม่รู้อะไรซะแล้ว  ถึงกัสจะเป็นผู้ชายแต่ไอ้เสื้อผ้าที่โดนน้ำแนบร่างบางให้เห็นสรีระและผมที่เปียกน้ำลู่ลงกับศีรษะตาโตแก้มแดงเรื่อจากแดดอ่อนๆยามเย็นแบบนี้  มันทำเอาคนที่เห็นแบบผมแทบคลั่งคนอื่นไม่ต้องพูดถึง  จนอยากจะหนีบกัสกลับไปขังที่ห้องไม่ให้ใครเห็นเลย

“ซ่าๆๆ /  ฮิๆๆ  คนคิดมาก  มาวินมาเล่นน้ำกัน” กัสสาดน้ำใส่หน้าผมและสลัดตัวออกจากอ้อมกอดก่อนว่ายหนีห่างออกไป

“เล่นแบบนี้เหรอกัส  อย่าให้จับตัวได้นะ  มานี่อย่าหนี” ผมรีบว่ายน้ำตามจับร่างบางที่หนีไป  เพื่อนคนอื่นๆก็สนุกกับการว่ายน้ำเล่นหยอกล้อกันไปมาเรียกเสียงหัวเราะก้องทะเล  พวกเราเล่นน้ำกันจนหมดแสงแดดยามเย็นและท้องเริ่มหิวจึงชวนกันขึ้นจากน้ำ

“กัสรออยู่ในน้ำก่อน  เดี๋ยววินไปเอาผ้ามาให้”

“ไม่ต้องหรอกขึ้นไปพร้อมกันนั่นแหละ”

“อย่าดื้อครับ  นะรอก่อน” กัสหน้ามุ่ยที่โดนขัดใจแต่ก็พยักหน้าอย่างจำยอม 

ผมจึงรีบกลับไปเอาผ้าเช็ดตัวที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้มาหลายผืน  ก่อนกลับมายื่นให้หญิงสาวและหนุ่มน้อยทั้งสามคน  และหันไปคลุมผ้าให้คนของผมที่ยืนกอดอกรออยู่แล้ว  กัสคงจะหนาวเพราะลมทะเลผมรีบห่อตัวให้และพากัสไปอาบน้ำที่ห้องผมส่วนห้องกัสให้มิคใช้แทน  หลังอาบน้ำกันเรียบร้อยพวกเราก็มาย่างบาร์บีคิวซีฟู้ดที่ถูกจัดเตรียมไว้หน้าบ้านพัก  บรรยากาศเป็นที่สนุกสนานและผ่อนคลายจากเสียงเพลงที่ไอ้ธีเป็นคนเล่นกีต้าร์โปร่งที่พกติดมาด้วย  ทริปนี้แม้จะไม่หวานเหมือนที่คิดไว้แต่ก็สนุกเพราะมีเพื่อนและคนที่รักอยู่เคียงข้าง  แต่ถ้าทริปหน้าผมตั้งใจจะพากัสไปกันแค่สองคนอยากสวีทหวานกับคนรักบ้าง  ผมหันกลับไปมองคนข้างกันที่ไม่ได้รู้เรื่องถึงแผนการของผม  กัสกำลังนั่งฟังเพลงอมยิ้มน้อยๆหันไปคุยกับเพื่อนสนิทข้างๆไม่ได้หันมาสนใจกันเลย  ผมจึงเอื้อมมือกุมมือบางเรียกร้องความสนใจ  เรียกสายตาพราวระยับอย่างคนมีความสุขให้หันมามองกันได้  ผมจึงยิ้มตอบเจ้าของตาสวยที่มองสบกันก่อนก้มลงกระซิบข้างหูหอม

“ทริปหน้าไปกับวินแค่สองคนนะครับ”

...........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

หวานกันไปเบาๆนะคะ  :o8:

เจอกัสวินพรุ่งนี้ค่ะและมีเรื่องวุ่นๆนิดหน่อยด้วย
อย่าลืมมาให้กำลังทั้งคู่นะคะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ  :pig4: ทุกการติดตามน้า

ปล.เหลืออีกสามวันแล้วใครอยากได้หนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยน้าติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 13-07-2012 09:09:07
ตอนใหนจะหวานแบบหื่นๆซะที
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 13-07-2012 10:10:18
หวานกันเบาๆ ทำบุญด้วยกันด้วยวี๊ดวิ้ว
แต่วินก็ยังแอบหื่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ฮุฮุฮุ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-07-2012 10:27:45
รักกันเบา เบา
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-07-2012 10:33:48
ทั้งรักทั้งหวง
ล่ะคนเนี่ย
กัสของนายวิน :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 13-07-2012 10:45:05


หวานกันจัง
วินทั้งหวงทั้งหื่นเลย
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 13-07-2012 20:12:28
วินผู้น่าสงสาร :z1:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 13-07-2012 20:51:00
วินนี่หวงกัสมากจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 13-07-2012 21:31:03
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่28(13/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-07-2012 23:23:50
ของเค้าดีก็หวงเป็นธรรมดา

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่29(14/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-07-2012 08:08:53
ตอนที่ 29

วิน

หลังกลับจากทริปอัมพวาก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วที่วินขอไว้ว่าทริปหน้าจะไปกันแค่สองคนนั้นเราก็ยังไม่ได้ไปกันหรอก  แค่จะเจอหน้ากันตามปกติทุกอาทิตย์ยังยากเลย  เพราะวินมีงานที่ต้องไปคุมเองถึงต่างจังหวัดมีแต่เสียงที่มาตามสายให้รู้ว่าเจ้าตัวยังอยู่ดี  ผมก็ได้แต่เป็นห่วงวินที่ต้องเทียวไปกลับกรุงเทพฯและต่างจังหวัด  นี่ก็เลยเวลาที่วินต้องโทรมาแล้วไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง  จะนั่งอ่านหนังสือก็ไม่มีสมาธิดูทีวีก็ไม่รู้เรื่องหรือเป็นไปได้ว่าวินจะไม่สบายเพราะวินไม่เคยผิดเวลาแบบนี้  คิดได้ผมจึงหยิบโทรศัพท์กำลังจะกดเบอร์วินแต่ก็มีเสียงเรียกเข้าจากคนที่ผมรออยู่จึงกดรับทันที

“วินเป็นอะไรรึเปล่า  ทำไมวันนี้โทรมาช้าจัง”

“ขอโทษครับกัส  งานเพิ่งเสร็จเพราะมีปัญหาเรื่องงานโครงสร้างตึกน่ะ” 

“แล้วทานข้าวรึยัง” 

“ยังครับผม  ไม่ต้องห่วงนะวินให้เด็กจัดการให้อยู่”

“จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงล่ะออกไซด์งานและทำงานจนค่ำแบบนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย  ดูแลตัวเองหน่อยสิ”

“ครับผม  วินจะดูแลตัวเองนะครับกัสก็ดูแลหัวใจวินที่ฝากไว้ดีๆล่ะ  แค่กๆ”

“ฮิๆๆ  วินเวอร์ไปแล้ว  อืมแล้วพรุ่งนี้วินจะมาหากัสรึเปล่าล่ะ”

“เฮ้อออ  วินคงไปไม่ได้ครับ  แค่กๆ  อืมคงต้องคุมงานที่ให้แก้ก่อนครับ  แค่ก”

“วินไอใหญ่เลยไม่สบายรึเปล่าเนี่ย  หืม  แล้วมียากินมั้ยครับ” ผมเริ่มเป็นห่วงคนปลายสายแล้วสิ  มีอาการไอแห้งๆแบบนี้และวิน คงเจ็บคอด้วยแน่ๆ

“วินไม่เป็นอะไรมากหรอกมีไอกับแสบคอน่ะ  เดี๋ยวค่อยหายากินก็ได้ครับ”

“รีบหายามากินก่อนที่จะเป็นมากกว่านี้รู้มั้ย  งั้นวินไปทานข้าวและก็หายาทานซะนะ”

“คุยกับกัสแป๊บเดียวเองอ่ะ  แค่กๆ  ยังไม่อยากวางเลย  หน้าก็ไม่เห็นเป็นเดือนแล้วด้วย  เฮ้ออ” ปลายสายถอนใหญ่เฮือกใหญ่อย่างพยายามอดทน  อย่าว่าแต่วินเลยที่ต้องอดทนผมก็ไม่ต่างจากวินนัก  คนเคยเห็นหน้ากันทุกอาทิตย์พอไม่ได้เห็นไอ้ความคิดถึงก็ถามหา  และพ่อตัวดียิ่งมีอาการไม่ปกติแบบนี้ด้วยผมจึงเพิ่มความเป็นห่วงเข้าไปอีก

“อย่าดื้อสิ  ทานข้าวทานยาแล้วเข้านอนนะครับจะได้หายเร็วๆ” ผมต้องดุบ้างไม่งั้นต้องคุยจนไม่ได้กินไม่ได้นอนเสียเวลาพักผ่อนของวินแน่ๆ  และไอ้ที่ไอก็จะไม่หาย

“ครับที่รัก  วินคิดถึงกัสนะ  อะฮึ่มๆ  หลับฝันดีนะครับที่รักของวิน” คนอะไรขนาดไม่สบายยังมาหยอดหวานให้ผมได้อีก  วินไอตลอดเลยอดเป็นห่วงไม่ได้ไม่รู้ว่าจะเชื่อผมแล้วหายากินเลยมั้ยนะ  เฮ้อสัปดาห์นี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วคิดถึงวินจัง

...........................
 
‘ทำไมถึงไม่โทรมานะ  วินจะเป็นอะไรรึเปล่า’ ความเป็นห่วงคนรักเกาะกุมในใจ  ผมพยายามติดต่อวินมาครึ่งชั่วโมงก็ติดต่อไม่ได้เลย  เมื่อทำอะไรไม่ได้ผมจึงเดินถือโทรศัพท์วนไปมาอยู่หน้าทีวี  ตาจับจ้องหน้าจอมือก็พยายามกดโทรออก  จนมิคที่นั่งมองมาสักพักคงนึกแปลกใจกับอาการร้อนรนของผมเข้า  จึงเดินมาจับมือผมและฉุดให้นั่งลง  หน้ามุ่ยคิ้วขมวดปากยื่นของมิคช่างน่าขำนักในยามปกติผมคงได้แซวเพื่อนจอมซนแล้วล่ะครับ

“กัสเป็นอะไรหน้าไม่ดีเลยอ่ะ” มิครวบมือผมไปกุมไว้และส่งสายตาแสดงความห่วงใยมาให้  เพื่อนคนนี้ไม่เคยทิ้งให้ผมเผชิญหน้ากับความทุกข์คนเดียวเลย  ผมส่งสายตาขอบคุณไปให้มิคก่อนหลับตาลงเพื่อตั้งสติ
 
“เฮ้อออ  ก็วินน่ะสิมิคเป็นอะไรไม่รู้  กัสโทรไปหลายครั้งแล้วก็ไม่รับ  ไม่รู้ว่าจะไม่สบายจนนอนซมแล้วไม่ได้ยินเสียงรึเปล่า” ปกติวินไม่เคยเป็นแบบนี้ถึงวินไม่ว่างยังไงก็จะรับสายแล้วบอกว่าจะโทรกลับทีหลังเสมอ  วินไม่เคยเงียบให้ผมคิดมากขนาดนี้มาก่อนเลย  หลังคำพูดของผมมิคคิ้วขมวดมีสีหน้าครุ่นคิด

“นั่นน่ะสิ  แล้วกัสโทรไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย”

“โทรมาตลอดครึ่งชั่วโมงแล้ว  เฮ้อทำไงดีล่ะมิค  กัสห่วงวินจัง” เช้านี้ผมถอนใจหลายรอบแล้วตั้งแต่เริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนที่ตัวเองติดต่อไม่ได้  กังวลไปสารพัดว่าวินจะมีไข้นอนซมหมดสติไปแบบไม่มีใครรู้

“ลองโทรอีกรอบสิกัส” ผมพยักหน้าให้มิคและลองกดหาคนที่ตัวเองเป็นห่วงอยู่อีกครั้ง  และครั้งนี้ผมรอสายอยู่ไม่นานก็มีคนกดรับ  นึกดีใจที่สามารถติดต่อวินได้แล้วและอาการวินคงไม่หนักมากอย่างที่คิด  ผมคลี่ยิ้มกว้างให้มิคก่อนเพื่อนตัวเล็กจะพยักหน้าถอนใจอย่างโล่งอก  แต่แล้วเสียงที่ตอบรับกลับเปลี่ยนความเป็นห่วงของผมเป็นความสงสัยแทน

“ค่ะ” เสียงผู้หญิงรับทำผมอึ้งก่อนได้สติและเหลือบดูเบอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์เพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้กดผิด  ‘เอ๊ะ! ก็ถูกนี่แล้วผู้หญิงที่ไหนมารับกัน’

“เอ่อ  นี่เบอร์วินใช่มั้ยครับ” ผมถามอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจสายอาจจะพันกันก็ได้

“ค่ะ  ของวิน  ใครโทรมาคะเพราะวินคงมารับสายไม่ได้  ตอนนี้นอนไม่สบายอยู่ค่ะ” ผมตกใจกับข่าวที่ว่าวินไม่สบายจึงละความสนใจจากผู้หญิงที่รับสายอยู่นี้  เพื่อสอบถามหาคนป่วยว่ามีอาการอย่างไรบ้าง

“ผมเป็น...เอ่อ  แฟนวินครับ  แล้ววินเป็นอะไรมากมั้ย  และเอ่อ  คุณเป็นใครครับ”  มิคที่อยู่ข้างกันทำหน้าตาสงสัยว่ามีอะไรที่ปลายสายกันแน่

“หา  แฟน  แฟนหรอ.....แต่คุณนี่ถามมากจริงฉันจะเป็นใครแล้วยังไงล่ะ  เป็นแฟนแต่ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้มั้ง  ถ้าฉันไม่สนิทกับ วินคงไม่มาอยู่ในห้องเค้าตอนนี้หรอก  คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะแฟนคุณมีฉันดูแลแล้ว  แค่นี้นะวินเค้าเรียกแล้ว” 

ประโยคตอบโต้ยาวๆของผู้หญิงปริศนาคนนี้ทำให้ผมได้แต่ฟังที่เธอพูดไม่ได้แม้แต่จะโต้กลับเลยด้วยซ้ำ  ด้วยผมกำลังประมวลผลถึงสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูด

“กัส  วินเป็นอะไรไป  แล้วคุยกับใคร  กัสๆ” น้ำเสียงตกใจและแรงเขย่าจากมิคปลุกผมออกจากภวังค์  ผมเบือนหน้ามาทางเพื่อนตัวเล็กด้วยสติยังไม่เต็มร้อยนัก

“วินไม่สบายแต่มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มารับสายล่ะมิค” ผมตอบมิคไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิวด้วยใจแกว่งหัวอกวูบโหวง  คำถามต่างๆวิ่งวนในหัวแต่ไม่สามารถหาคำตอบได้ 

“เฮ้ย  ใครอ่ะผู้หญิงที่ไหนกัน” มิคบ่นด้วยหน้าตายุ่งเหยิงแต่คำถามของมิคผมก็อยากรู้คำตอบเหมือนกันว่าผู้หญิงปริศนานั้นเป็นใคร 

ผมจะทำยังไงดีทั้งเป็นห่วงวินและสงสัยเรื่องคนที่รับสายว่าเกี่ยวข้องยังไงกับวินกันแน่  และคงต้องหาทางไปให้เห็นกับตาก่อนที่จะตัดสินใจอะไรไปเพราะผมได้สัญญากับตัวเองและวินไว้แล้วว่าจะเชื่อใจกัน  ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ขอฟังจากปากเจ้าตัวก่อน  เมื่อตัดสินใจได้ผมจึงหันไปทางเพื่อนสนิท

“มิค  กัสจะไปหาวินไปเป็นเพื่อนกัสหน่อย”  มิคเผยอปากน้อยๆอย่างตกใจก่อนพยักหน้าตกลง  หวังว่าผมคงไม่ได้ทำเพื่อนลำบากนะครับ 

หลังจากนั้นเราจึงรีบเก็บของและขับรถไปหาวินทันที  ระหว่างทางผมยังพยายามโทรกลับไปที่เครื่องวินแต่โทรศัพท์ถูกปิดไปแล้ว  จึงยิ่งเพิ่มความร้อนใจไปอีกเท่าตัวแต่มือเย็นๆของเพื่อนรักก็ดึงสติผมกลับมา  ผมหันไปมองหน้ามิคที่ส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้

“กัสใจเย็นๆ  ไปถึงอย่าวู่วามนะคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” 

“อืม  กัสก็ตั้งใจแบบนั้นอยู่แล้ว  ยังไงก็แล้วแต่  กัสจะฟังจากปากวินเท่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้น”  มิคพยักหน้ายิ้มกว้างตาปิดอย่างถูกใจมาให้ก่อนกดรับสายที่โทรเข้ามา

“ตอนนี้อยู่บนรถ....ไปหานายวินเพื่อนนายน่ะสิ....เฮ้อ  ก่อเรื่องอีกแล้วมีผู้หญิงรับสาย...ใช่  มากับกัส..ไม่รู้..ไปได้..จะตามไปก็ได้แล้วเจอกันที่โน่นนะ” ได้ฟังผมก็รู้แล้วว่าเป็นนายฟินโทรมาและคงรู้เรื่องของวินจากมิคแล้วฟินคงจะตามเราไปที่โน่นด้วย  ผมว่าก็ดีเหมือนกันเกิดอะไรขึ้นจะได้มีคนช่วยเหลือ 

‘วินนะวินไม่รู้เป็นไงมั่งไม่รู้จักระวังตัวเลย’  ตอนนี้ใจผมสงบลงมากแล้วหลังไตร่ตรองบทสนทนาที่ได้คุยกับผู้หญิงปริศนา  ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าเธอสนิทกับวินก็ได้

“เดี๋ยวนายฟินจะตามไปด้วย  บ่นใหญ่เลยว่าไม่รีบบอกจะได้มารับ  และให้ขับรถระวังๆ  บ่นเป็นพ่อไปได้  หึ”  ถึงมิคจะบ่นฟินแต่ทำไมถึงต้องยิ้มไปด้วยล่ะ  เวลาที่ผ่านมาผมพลาดอะไรไปกับเรื่องของมิคกันน้า  หมดเรื่องวินเมื่อไหร่ผมต้องรู้เรื่องของคู่นี้ให้ได้เลย 

เราขับรถกันอีกพักใหญ่จึงมาถึงที่ทำงานของวิน  ผมได้โทรไปสอบถามคุณแม่ของวินเรื่องที่พักชั่วคราวที่วินพักเมื่อมาทำงานที่นี่  ซึ่งเป็นคอนโดที่เปิดให้เช่ารายเดือนโดยวิศวกรคุมงานและสถาปนิกของบริษัทจะใช้พักกัน

“ห้อง  507  มิคนี่ไงเจอแล้ว  แต่ล็อคอ่ะ” ผมหมุนลูกบิดห้องตรงหน้าที่รู้เลขห้องมาจากคุณแม่วินอีกที

“เคาะดังๆเลยกัส / ก๊อกๆๆๆ”  ผมลุ้นว่าใครจะเป็นคนมาเปิดประตูห้องจะเป็นผู้หญิงคนที่รับสายคนนั้นรึเปล่า  ผ่านไปสักครู่ประตูก็เปิดออก  ผมพิจารณาคนตรงหน้าเธอเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งผิวขาวหน้าหมวยและมีแววตามั่นใจ  ดูแล้วเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่งถ้าเธอคิดจะยิ้มสักนิด

“มาหาใครคะ” ผู้หญิงตรงหน้าจ้องผมก่อนหันไปทางมิคด้วยแววตาสงสัย 
 
“เรามาหาวิน  นี่ห้องวินใช่มั้ย” หลังคำพูดมิคเธอจ้องมิคเขม็งอย่างเอาเรื่องก่อนแสยะยิ้มให้
 
“อ้อ  ใช่ผู้ชายที่โทรมาและอ้างว่าเป็นแฟนวินใช่มั้ย  แล้วคนไหนล่ะ” เธอมองผมกับมิคสลับไปมา

“ใช่! คนนี้เป็นแฟนวิน  แล้วคุณล่ะเป็นใครถึงมาอยู่ห้องแฟนคนอื่นแบบนี้”  มิคชี้มือมาทางผมและโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้

“หึ  ถึงไม่ใช่แฟนแต่คงดีกว่าแฟนมั้งที่ไม่อยู่ดูแลแฟนตัวเองตอนไม่สบาย  หรือว่าวินจะเบื่อไปแล้วก็ไม่รู้ถึงมาอ้อนฉันให้มาดูแลน่ะ” เธอคนนี้พูดอย่างยียวนกวนโมโหเราทั้งคู่  มิคทำท่าจะเถียงต่อแต่ผมจับมือไว้ก่อนไม่อยากให้มีเรื่องกันตรงนี้  เพราะใจผมเป็นห่วงคนไม่สบายที่นอนอยู่ข้างในมากกว่า

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม  ขอผมเข้าไปข้างในก่อน  ยืนคุยกันตรงนี้ห้องอื่นจะรำคาญ” ผมพูดกลับด้วยใบหน้าและน้ำเสียงนิ่งเรียบ  ต้องการจะเข้าไปดูวินว่าเป็นอะไรมากมั้ย  แต่เธอกลับเดินออกมาจากห้องและปิดประตูไม่ให้เราเข้าไป

“ไม่  ฉันไม่ให้พวกเกย์แบบคุณเข้าไปหรอก  มาแอบอ้างว่าเป็นแฟนวิน  เป็นจริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้” เธอทำหน้าตาและน้ำเสียงได้ยียวนกวนโมโหผมมาก  แต่ผมจะแสดงออกโดยใช้กำลังก็ไม่ได้เพราะยังไงก็เป็นผู้หญิง  ผมกำมือแน่นพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้เข้าไปทำร้ายผู้หญิงร้ายกาจตรงหน้า

“นี่คุณ  พูดแบบนี้ได้ยังไง”  มิคทนไม่ไหวสะบัดมือผมออกและเดินเข้าหาผู้หญิงคนนั้น

“นี่แกจะทำอะไรฉัน  จะทำร้ายร่างกายเหรอ” น้ำเสียงโวยวายท่าทางเอาเรื่องของคนตรงหน้า  ทำให้ผมรีบเข้าไปห้ามมิคที่เหมือนจะทำแบบที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจริงๆ

“เพี้ยะ / กัส!  เป็นอะไรรึเปล่า” หน้าผมชาไปข้างหนึ่งเพราะแรงจากฝ่ามือของผู้หญิงตรงหน้า  ขณะที่ผมเข้าไปกันมิคด้วยช่วงชุลมุนเธอก็ตบเต็มแรงเข้าที่แก้มผมจนหน้าผมสะบัดไปตามแรง

“อุ๊ย  ไม่ได้ตั้งใจอยากเข้ามาขวางเองนี่” มิคลูบแก้มผมใหญ่ถามอย่างห่วงใยว่าเป็นยังไงบ้าง  แต่เหมือนเสียงมิคไม่ได้เข้าหัวผมเลย  ด้วยแรงอารมณ์ที่ขึ้นสูงจนปิดกั้นเสียงและปิดกั้นการรับรู้ทั้งหมด  ผมหันหน้ากลับมาช้าๆจ้องกลับไปยังผู้หญิงร้ายกาจที่กำลังยิ้มเยาะเย้ยให้อย่างเป็นต่อ  ผมเดินเข้าหาเธอช้าๆจ้องตากลับอย่างเอาเรื่องและง้างมือขึ้น

“ปัง / เปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้  ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ผมตบไปที่ประตูจนเกิดเสียงดังโดยเฉียดใบหน้าสวยไปเพียงนิด  ก่อนส่งเสียงขู่ตะคอกออกไปทำเอาใบหน้าสวยซีดเผือดทันตา  เธอคงคิดว่าจะโดนผมทำร้ายเป็นแน่ซึ่งก็ดีจะได้เลิกขวางประตูสักที

“จี  เกิดอะไรขึ้น  พวกคุณเป็นใคร” ผมจ้องตาขวางไปยังเจ้าของเสียงที่เป็นชายหนุ่มร่างหนาผิวคล้ำที่กำลังเดินมาใกล้พวกเราสามคน  สงสัยนายนี่จะเป็นพวกเดียวกันกับผู้หญิงคนนี้  งานนี้ถ้าคิดจะขวางผมจะไม่ยอมถึงยังไงผมก็เป็นผู้ชายไม่ยอมถูกเอาเปรียบหรอกครับ

“พลช่วยจีด้วย” ผู้หญิงชื่อ ‘จี’ หนีไปหลบข้างหลังผู้ชายที่เพิ่งมาใหม่ 

ผมจึงได้โอกาสเปิดประตูเข้าไปในห้องไม่สนใจเสียงร้องของจีและมิคที่อยู่ด้านหลัง  กวาดตาไปรอบห้องผ่านชุดรับแขกไปมีประตูห้องน่าจะเป็นห้องที่วิน พักอยู่จึงรีบเดินไปเปิดประตูทันที  ภาพที่เห็นบนเตียงเป็นวินนอนใบหน้าแดงก่ำเหงื่อซกเพราะพิษไข้ไม่รู้สึกตัว  ยิ่งแสงแดดผ่านกระจกใสเข้ามายิ่งทำให้เห็นชัดว่าเจ้าตัวนอนกระสับกระส่ายคิ้วขมวดยุ่งไม่สบายตัว  ขาพาผมมาถึงเตียงอย่างไม่รู้ตัวยื่นมือแตะหน้าผากร้อนเหงื่อชุ่ม  ผมลูบเบาๆไปที่แก้มอย่างนึกสงสารคนรักที่นอนไม่รู้ตัวแม้ว่าผมจะมาอยู่ข้างๆ  พลันมือหนาก็เข้าประกบทับมือผมส่วนคนป่วยก็ลืมตาขึ้นสบ

“กัส” วินส่งยิ้มเพลียๆมาให้ก่อนปิดตาลงอีกครั้ง  เหมือนคนละเมอลืมตาตื่นมากกว่ารู้สึกตัวจริงๆ  ผมลูบผมเปียกชื้นให้เข้าที่ก่อนถอนใจโล่งอกที่รู้ว่าวินไม่เป็นอะไรมากนัก

ก็แค่นี้ที่ผมต้องการขอแค่ได้เห็นกับตาว่าคนรักไม่ได้เป็นอะไรมาก  ส่วนเรื่องผู้หญิงที่ชื่อ ‘จี’ คงต้องรอพ่อเสน่ห์แรงรู้สึกตัวก่อนถึงจะเคลียร์ได้  ผมล่ะอยากรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนและทำไมถึงมาอยู่ในห้องวินได้  ถ้าวินไม่มีคำตอบที่ดีให้งานนี้เราคงได้เห็นดีกันแน่  ผมจะขอดเกล็ดพ่อปลาไหลให้แสบไปถึงทรวงเลยทีเดียว

...................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

วินเกือบงานเข้าซะแล้วเนอะ  แต่จีจะเป็นใครมาจากไหน
ติดตามได้พรุ่งนี้ค่ะ  ส่วนใครที่รอฉากหวานๆหื่นๆก็ไม่นานแล้วค่ะ
อดใจอีกนิดนะ  :-[

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ  :pig4: ทุกการติดตามน้า  :กอด1:

ปล.เหลืออีกสองวันแล้วใครอยากได้หนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยน้าติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่29(14/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 14-07-2012 08:49:36
จีคือใคร ทำไมมาอยู่ในห้องของวิน
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่29(14/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-07-2012 09:03:32
ชะนีโผล่อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่29(14/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 14-07-2012 09:08:23
เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่29(14/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-07-2012 09:20:01
ก่อนหวานก็ขอบู๊หน่อย :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่29(14/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 14-07-2012 10:06:32

รอพ่อเสน่ห์แรงตื่นขึ้นมาเคลียร์
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-07-2012 08:29:49
ตอนที่ 30

กัส

“กัส  นายวินเป็นยังไงบ้าง” มิคเข้ามายืนถามชิดเตียงขณะที่ผมกำลังเช็ดตัวให้วินเพื่อลดไข้

“มีไข้น่ะมิค  แต่ไม่รู้สึกตัวเลย” หลังเช็ดตัวเสร็จผมจึงหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนให้โดยมีมิคเป็นคนช่วย  เล่นเอาหมดแรงไปเหมือนกันก็ผู้ชายตัวโตๆที่ไม่รู้สึกตัวต้องจับถอดและใส่เสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด

“เฮ้อ  เล่นเอาหมดแรงเลย” มิคว่าพลางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างร่างหนาของวิน ผมจึงส่งยิ้มขอบคุณไปให้  ก่อนหันกลับมามองหน้าคนป่วยและยื่นมือลูบแก้มแดงจากพิษไข้  วินดูดีขึ้นมากแล้วไม่กระสับกระส่ายเหมือนตอนแรกที่เห็น  พ่อตัวดีนอนไม่รู้เรื่องแบบนี้ถ้ามีใครคิดจะลักหลับก็คงไม่ยากเลย  ผมนึกถึงผู้หญิงที่ชื่อ ‘จี’ ขึ้นมาได้จึงหันกลับมาหามิคที่นั่งข้างกัน

“มิคแล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ  ตอนนี้อยู่ไหน”

“กลับไปแล้วมั้ง  แต่คนชื่อ ‘พล’ รออยู่ข้างนอกน่ะ” คงเป็นผู้ชายที่เข้ามาตอนที่ผมยืนเถียงกับจีอยู่หน้าห้องสินะ

ผมจึงชวนมิคออกไปนอกห้องเพื่อไปคุยกับคนที่รออยู่  ซึ่งน่าจะมีคำตอบให้ผมได้ในเรื่อง ‘จี’  ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะสนิทกับวิน  ก็ในเมื่อคู่กรณียังนอนไม่รู้เรื่องแบบนั้นคงให้คำตอบผมไม่ได้แน่  คนที่รออยู่นอกห้องนั่งอยู่ที่ชุดโซฟากลางห้องเงยหน้าขึ้นมองเมื่อรู้ตัวว่ามีคนเดินมาใกล้  ผมและมิคนั่งลงใกล้กับพลที่นั่งรออยู่จึงได้รับรอยยิ้มจริงใจกลับมา

“สวัสดีครับ  ผมพลเป็นหัวหน้าวิศวกรที่นี่ครับ” หนุ่มร่างหนาผิวเข้มแนะนำตัวยิ้มๆแววตาสดใส  ดูท่าทางพลจะเป็นคนจริงใจไม่น้อย

“สวัสดีครับ  ผมกัสและนี่มิคเพื่อนผมเอง” ผมก้มหัวทักทายก่อนแนะนำตัวเองกับเพื่อนสนิทให้พลรู้จัก

“อ้อ  หมอกัสที่เป็นแฟนคุณวินนี่เอง” พลยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าผมเป็นใคร  ผมไม่นึกว่าวินจะเล่าเรื่องของเราให้ลูกน้องได้ฟัง  หน้าผมคงแสดงอาการตกใจมากพลถึงรีบพูดขึ้นมา

“ตั้งแต่คุณวินต้องมาดูงานที่นี่ด้วยตัวเอง  ผมได้ยินคุณวินบ่นคิดถึงแฟนตลอดเลย  ว่าไม่ได้เจอหน้ากันเพราะต้องมาแก้ไขงานที่ผิดพลาดที่นี่แทนการไปหาหมอกัสที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง  และเร่งโหมงานให้เสร็จเร็วๆเพื่อจะได้ไปเห็นหน้าหมอกัสน่ะครับ” พลพูดยิ้มๆท่าทางจะเป็นคนอารมณ์ดีเหมือนกัน  ผมจึงยิ้มตอบกลบเกลื่อนความอายที่เกิดขึ้นฉับพลัน  พาลนึกหมั่นไส้คนนอนซมเพราะพิษไข้ที่เปิดเผยไม่นึกอายใคร

“คุณพลครับ  ผมอยากรู้เรื่องผู้หญิงที่ชื่อ ‘จี’ เธอเป็นใครครับ  ถึงมาดูแลนายวินที่นี่” มิคคงอยากรู้มากจึงถามขึ้นมาตรงๆซึ่งก็คงไม่ต่างจากผมนัก

“ก่อนอื่นผมคงต้องขอโทษแทนจีด้วยครับ  จีเป็นเพื่อนของผมเองที่เอ่อ...มาชอบคุณวิน  ผมขอโทษจริงๆครับที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น  จีเป็นคนในจังหวัดนี้ตั้งแต่รู้ว่าผมมาทำงานที่นี่เราก็มาเจอกันตามประสาเพื่อนฝูงที่รู้ว่าเพื่อนมาทำงานใกล้ๆน่ะครับ  จนจีมาเจอคุณวินเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนมาเยี่ยมผมที่นี่ตั้งแต่นั้นมาจีก็มาตอแยตามติดคุณวิน  ผมก็เตือนจีไปแล้วนะครับว่าอย่าไปยุ่งกับคุณวินมากเพราะคุณวินน่ะมีคุณกัสแล้ว  แต่ดูเหมือนว่าจีจะถูกใจคุณวินมากเลยตามตื๊อตลอด  คุณวินก็เลี่ยงแล้วนะครับแต่ด้วยงานที่ต้องเร่งให้เสร็จตามสัญญาจึงปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย”

“แล้วเรื่องที่เธอว่ามาดูแลวินที่ห้องล่ะครับ  ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้” เป็นผมเองที่ถามเพราะอยากรู้เรื่องนี้มาก

“คุณวินเริ่มไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืนให้ผมซื้อยามาให้  แต่คงไม่ได้กินเพราะยังเห็นว่าซองยายังอยู่สภาพเดิม  คุณวินคงเพลียและหลับไปก่อน  ตอนเช้าผมไม่เห็นคุณวินมาดูงานจึงมาตามที่ห้องประตูก็ไม่ได้ล็อค  ผมจึงเดินเข้าห้องนอนเห็นคุณวินนอนซมเพราะพิษไข้แล้ว  ผมก็เลยไปหาข้าวมาให้ทานและให้ทานยา  แต่ผมเฝ้าคุณวินไม่ได้ต้องไปดูงานต่อ  จีมาเคาะห้องผมจึงฝากให้เฝ้าคุณวินแทนน่ะครับ  เพราะตอนนั้นคุณวินหลับไปเพราะฤทธิ์ยาแล้ว”

“ฝากปลาย่างไว้กับแมวแท้ๆเชียว”  มิคบ่นเบาๆให้ผมได้ยินแต่ห้องที่เงียบอยู่แล้ว  ไอ้ที่ตั้งใจให้ได้ยินแค่สองคนจึงเป็นไปไม่ได้  ผมสบตาพลที่ยิ้มเก้อๆมาให้และมีสีหน้าลำบากใจ  จึงส่งยิ้มเข้าใจไปให้พลที่เจ้าตัวก็คงเป็นห่วงวินด้วยความจริงใจ  แต่อยู่เฝ้าไม่ได้เพราะมีงานที่ต้องรับผิดชอบ  และผู้หญิงที่ชื่อจีก็คงรอโอกาสใกล้ชิดวินอยู่แล้วด้วยจึงไม่อิดออดที่จะยื่นมือเข้าช่วยพล  เท่าที่ฟังมาเธอคงไม่ทำอะไรคนนอนไม่รู้ตัวเพราะพิษไข้หรอกมั้ง  นอกจากแอบตอดเล็กน้อยเท่าที่ทำได้

“ผมคงต้องขอโทษคุณกัสจริงๆครับ  ที่เพื่อนผมทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้  แต่ผมยืนยันอย่างหนึ่งนะครับว่าคุณวินไม่ได้คิดอะไรกับจีจริงๆ  แต่เห็นว่าจีเป็นเพื่อนของผมจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงไป  ผมคุยกับจีแล้วครับว่าไม่ให้มาวุ่นวายที่นี่อีก” ผมได้ฟังก็ตกใจถึงไม่พูดว่าตัดเพื่อนแต่ก็มีความหมายไม่ต่างกันนัก

“ไม่ต้องรุนแรงขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ”

“กัส  ทำไมพูดแบบนั้นล่ะก็ดีแล้วนะ  เธอจะได้ไม่มาวุ่นวายที่นี่อีก” มิคขัดขึ้นเมื่อรู้นิสัยขี้ใจอ่อนของผม

“จีกับคุณพลเป็นเพื่อนกัน  ผมไม่อยากให้ถึงขั้นแตกหัก  รอวินหายแล้วค่อยพูดคุยกันดีๆก็ได้นะครับ”

“ผมแล้วแต่คุณวินและคุณกัสครับ  ตอนนี้คุณวินเป็นยังไงบ้างครับ” 

“หลับอยู่น่ะครับไข้เริ่มลดแล้ว  อืม  แถวนี้มีอาหารขายมั้ยครับ  ผมว่าจะปลุกวินมาทานข้าวและให้ทานยาด้วย”

“แบบนี้ดีกว่าครับ  เดี๋ยวผมจัดการเองทั้งของคุณวินและคุณสองคนด้วย” พลว่าแล้วก็ขอตัวออกไปซื้ออาหารเย็นมาให้  ในห้องจึงเหลือแค่ผมกับมิคและคนป่วยที่หลับไม่รู้ตัวในห้องนอน

“ค่อยเบาใจได้หน่อย  นี่ดีนะที่นายวินไม่เล่นด้วยถ้าขืนเล่นด้วยเนี่ย  คราวนี้มิคจะจัดการเอาเลือดหัวออกแทนกัสเลย  ฮ่าๆๆ” มิคว่าไปก็หัวเราะให้อย่างถูกใจซึ่งผมก็คิดไม่ต่างจากมิคนัก  อะไรๆที่หนักอกก็โล่งขึ้นเหลือก็แต่รอดูอาการของคนป่วยเท่านั้น

“หายป่วยเมื่อไหร่คงต้องมาเคลียร์กับจีอีก  เฮ้อ  พ่อคนเจ้าเสน่ห์นี่ยุ่งจริงทำเอาวุ่นไปหมด  หายเมื่อไหร่ต้องคุยกันอีกที  กัสต้องขอบใจมิคนะที่นั่งรถมากับกัสตั้งไกลขนาดนี้” ผมจับมือเพื่อนมากุมแน่นและส่งสายตาขอบคุณไปให้

“เฮ้  กัสอย่าพูดแบบนี้เราเป็นเพื่อนกันนะ  ถ้ามิคปล่อยให้กัสมาคนเดียวเนี่ยก็เป็นเพื่อนที่แย่มากเลยรู้มั้ย  เพราะถ้ากลับกันมิคเชื่อว่ากัสก็ต้องทำแบบเดียวกับที่มิคทำถูกมั้ย” ฟังสิ่งที่มิคพูดก็ทำเอาซาบซึ้งกับสิ่งที่เพื่อนรักทำให้กัน  ผมพยักหน้ารัวยิ้มกว้างให้กับสิ่งที่มิคพูด  เพราะถ้ามิคมีเรื่องร้อนใจผมก็ไม่สามารถนิ่งดูดายได้  ต้องช่วยเพื่อนรักให้ถึงที่สุดอยู่แล้ว

“ก๊อกๆๆ”  เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น  เราสบตากันอย่างสงสัยว่าใครมาหรือว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นย้อนกลับมาหาเรื่องอีกกันแน่  ผมจึงเดินไปเปิดประตูโดยมีมิคตามมาติดๆ

“อ้าว  ฟินน่ะเอง  เข้ามาก่อนครับ” ผมลืมเพื่อนสนิทของวินคนนี้ไปเลยว่าฟินจะตามมา  หลังฟินรู้เรื่องของวินจากการคุยโทรศัทพ์กับมิค

“ไอ้วินเป็นยังไงบ้างครับกัส  แล้วเรื่องผู้หญิงที่รับสายล่ะอยู่ไหน” ฟินที่เพิ่งมาถึงคงเป็นห่วงวินมากเพราะแค่เดินเข้าประตูมายังไม่ได้นั่งก็ถามหาเพื่อนและมองไปรอบห้องเพื่อหาผู้หญิงที่ถูกกล่าวถึงทันที

“นายวินหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้องนอนนู่น  ส่วนเรื่องผู้หญิงน่ะเค้าเคลียร์กันไปแล้วนายน่ะมาช้ามากกกกก”  มิคแจงให้ฟินฟังอย่างหมั่นไส้  ผมก็ได้แต่ยิ้มๆและคอยสังเกตคนทั้งคู่

“โธ่  มิคครับฟินรีบสุดแล้วนะไม่รอใครเลย  เนี่ยตอนแรกธีกับมนจะมาด้วยนะ  แต่ฟินให้มันรอข่าวอยู่ที่กรุงเทพฯแทน  เพราะเป็นห่วงมิค  เอ๊ย  ห่วงวินและกัสน่ะครับ” อ้าว  ที่ฟินมาเนี่ยตกลงเป็นห่วงใครกันแน่มิคหรือวิน  หลังมิคได้ฟังก็ทำหน้าไม่ถูกไปเลยจะยิ้มก็ไม่ใช่จะบึ้งก็ไม่เชิง  ดูท่าแล้วทั้งคู่คงมีอะไรมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะแล้วสิ 

“กัสหน้าเป็นอะไรครับ  ทำไมหน้าแดงช้ำแบบนี้” หลังคำพูดฟินเรียกสายตาจากมิคให้หันมาจ้องหน้าผมได้  ก่อนมิคจะตาโตและไล้มือที่แก้มเบาๆแววตากังวลจนเห็นชัด

“กัส  แย่เลยหน้าเป็นรอยแดงบวมนิดๆด้วย  มิคลืมไปเลยว่าโดนยัยจีนั่นตบเอาน่ะ” ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำเรื่องที่โดนตบ  พอมิคพูดขึ้นผมก็รู้สึกตึงๆแก้มขึ้นมาทันที  แต่ต้องตกใจกับเสียงของนายฟินที่ร้องออกมาซะดังลั่น

“หา  กัสโดนตบเหรอ  แล้วจีเป็นใครครับ  ใช่ผู้หญิงที่รับโทรศัพท์รึเปล่า” สีหน้าร้อนรนท่าทางเอาเรื่องของฟินทำผมกังวลกลัวว่าคนหน้าเข้มจะใจร้อนตามไปเอาเรื่องคนต้นเหตุให้เรื่องใหญ่ขึ้นไปอีกผมจึงรีบเอ่ย

“กัสไม่เป็นไรไม่เจ็บแล้วล่ะมิค  ฟิน” ผมส่งสายตาจริงจังไปให้ทั้งคู่ว่าผมไม่เป็นอะไรจริงๆ

“ห้องนี้ท่าจะไม่มียาทานะ  เดี๋ยวมิคไปหาซื้อยาให้  รู้สึกว่าข้างล่างจะมีร้านขายยาอยู่” มิคถอนใจยาวก่อนพยักหน้ายอมรับและอาสาไปซื้อยาให้  ระหว่างที่มิค ลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้องก็โดนฟินรั้งไว้และขอตามไปด้วย  ก่อนฟินจะหันมาบอกผมให้รออยู่ที่ห้อง

.................................

หลังผมเช็ดตัวให้วินอีกรอบแล้วคนบนเตียงที่นอนนิ่งก็ดูดีขึ้นกว่าตอนที่ได้เห็นครั้งแรกมากเพราะไข้เริ่มลดจนเกือบไม่มีแล้ว  เหตุการณ์คราวนี้ก็เป็นบทเรียนสำหรับผมอีกบท  ดีที่เชื่อใจ  ดีที่ตัดสินใจมาหา  ดีที่วินยังมั่นคง  และดีที่เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดไปในทางร้ายๆ  เพราะบทเรียนครั้งก่อนนั้นมีส่วนให้ผมไม่วู่วามด่วนตัดสินใจ  ขณะที่ผมกำลังมองหน้าคนหลับเพลินๆเปลือกตาที่ปิดสนิทก็ลืมขึ้น  แต่เหมือนวินยังรู้สึกตัวไม่เต็มที่จึงมองมาที่ผมอย่างเลือนลอย  จนกระทั่งผมเห็นประกายตาดีใจที่เปล่งออกมาจึงรู้ว่าวินรู้สึกตัวเต็มที่แล้ว  ผมจึงส่งยิ้มน้อยๆทักทายไปให้

“กัส  มาได้ไงครับ  หืม” วินส่งเสียงแหบมาทักทายและเอื้อมมืออุ่นมากุมทับมือผมที่แก้มตัวเองพร้อมรอยยิ้มเซียวๆ

“ขับรถมากับมิคครับ  รีบมาหาคนป่วยน่ะสิ  ที่ป่วยเนี่ยเพราะไม่ดูแลตัวเองดีๆใช่มั้ย” ผมแกล้งปั้นหน้าบึ้งๆใส่วินให้รู้ว่าไม่พอใจที่ไม่ฟังกันจนต้องมานอนป่วยแบบนี้  ทำเอาวินหน้าหงอยและส่งสายตาง้องอนมาให้

“ไม่ต้องพูดแล้ว  เดี๋ยวทานข้าวก่อนค่อยนอนต่อนะ” ผมพยุงวินขึ้นพิงหมอนที่หัวเตียงและหยิบชามข้าวต้มที่เตรียมไว้มาเป่าให้คลายความร้อน  ก่อนป้อนคนป่วยที่ยิ้มให้และอ้าปากรับข้าวต้มที่ผมจ่อถึงปากอย่างเต็มใจ  อยู่ๆคนที่นั่งเคี้ยวข้าวก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยคงสังเกตเห็นร่องรอยบนแก้มผมเข้าแล้ว  ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาลูบไล้แผ่วเบาที่ข้างแก้ม 

“กัสครับหน้าไปโดนอะไรมา  ทำไมช้ำแบบนี้” สายตาห่วงใยพร้อมคำถามที่ต้องการคำตอบของวินทำให้ผมต้องคลี่ยิ้มให้ก่อนตอบ

“เฮ้อ  ก็ผู้หญิงที่ตามตื๊อวินอยู่ตอนนี้เป็นคนทำน่ะสิ” หลังคำตอบผมแล้ววินมีสีหน้างงงันก่อนจะปลี่ยนเป็นตกใจเหมือนเพิ่งคิดได้ว่าใครที่ผมพูดถึง

“จีเป็นคนทำกัสเหรอครับ  เกิดอะไรขึ้น  กัสเล่ามาเลยนะ  แล้วกัสโดนทำร้ายที่อื่นอีกมั้ย” คนร้อนรนบนเตียงเข้ามาจับแขนจับหน้าผมพลิกไปมาอย่างสำรวจ

“ใจเย็นวิน  ทานข้าวให้หมดและทานยาก่อน  เดี๋ยวกัสเล่าให้ฟัง”

วินทำหน้าขัดใจแต่ก็ยอมให้ผมป้อนข้าวต้มจนเกือบหมดชาม  ส่วนตาก็จ้องมาที่ผมเขม็งอย่างรอคอยคำตอบ  จนผมอดยิ้มขำพ่อคนใจร้อนไม่ได้  ผมยื่นยาไปให้วินก็รีบดื่มน้ำตามทันทีก่อนทำหน้าเหยเก  ด้วยวินเป็นคนที่กินยายากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  นี่ถ้าไม่ได้อยากรู้เรื่องผมมากขนาดนี้คงต่อรองอีกนานกว่าจะยอมกินยา  หลังจากนั้นผมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้วินฟังเริ่มตั้งแต่ผมโทรมาแล้วจีรับสาย  จนผมร้อนใจต้องขับรถมาหาวินถึงที่นี่และมามีเรื่องกับจีที่หน้าห้อง  มาถึงตอนนี้วินโมโหใหญ่ที่จีแต่งเรื่องให้ตัวเองและวินดูเหมือนว่าสนิทสนมกันเกินเพื่อนแถมมาทำร้ายผมด้วย

“วินไม่ได้เป็นแบบที่จีบอกกัสนะครับกัสเชื่อใจวินนะ” วินร้อนรนกุมมือผมเขย่าแรงๆ

“ครับ  กัสเชื่อใจวินถึงมาหาถึงนี่ไงและคุณพลก็อธิบายให้กัสฟังแล้ว”

“เรื่องจี  วินคิดว่าต้องเคลียร์กับเจ้าตัวให้รู้เรื่องอีกทีและจะเอาเรื่องที่มาทำกัสให้เจ็บตัวแบบนี้ด้วย”

“กัสเห็นด้วยนะที่วินจะเคลียร์  แต่เรื่องเอาคืนที่เค้ามาทำร้ายกัสน่ะไม่ต้องหรอก  กัสไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นไปกว่านี้น่ะ”

“แต่ว่า  เฮ้อ  ตามใจกัสนะครับ  วินดีใจนะที่กัสมาหาและเชื่อใจวินและก็อยากขอโทษกัสด้วยที่เป็นต้นเหตุให้เจ็บตัวแบบนี้” วิน จับมือผมขึ้นไปจรดริมฝีปากตัวเองและยื่นหน้ามาจูบแก้มผมบริเวณรอยช้ำอย่างแผ่วเบาแทนคำขอโทษ

“วิน  ต่อไปนี้นะถ้ามีใครก็แล้วแต่เข้ามาหาวินแบบจีอีก  ต้องบอกกัสทุกครั้งเข้าใจมั้ย  กัสจะได้รู้เราจะได้ไม่เข้าใจผิดกัน”

“ครับที่รัก  วินให้สัญญาว่าจะบอกกัสทุกเรื่องเลย  ตอนแรกที่ไม่บอกเพราะวินคิดว่าวินทำตัวชัดเจนกับอีกฝ่ายไปแล้ว  และงานที่นี่ก็จะเสร็จแล้วด้วยคงไม่ได้เจอกันอีก  ที่สำคัญวินไม่อยากให้กัสคิดมาก  แต่ที่ไหนได้เรื่องเกือบบานปลายไปแล้ว” วินพูดไปตาเริ่มปรือจากฤทธิ์ยาที่ทานเข้าไป  และตั้งแต่ตื่นมานี่ก็ใช้พลังงานไปเยอะร่างกายคงต้องการการพักผ่อนแล้ว

“ครับ  กัสรู้แล้ว  เป็นอันว่าครั้งนี้กัสให้อภัยนะแต่ต้องไม่มีครั้งหน้ารู้มั้ย” วิน พยักหน้าตาปรือคงฝืนลืมตาอย่างมากแล้ว

“อ่ะ  นอนพักได้แล้ว” ผมประคองให้วินลงนอนหนุนหมอนและโดนวินจับมือไว้ส่งสายตาออดอ้อนมาให้ด้วยคงอยากให้ผมอยู่ด้วย  ปกติวินก็อ้อนมากอยู่แล้วพอป่วยก็อ้อนหนักกว่าเดิม 

“นอนนะครับ  กัสอยู่กับวินตรงนี้แหละ  ไม่ไปไหนหรอก”

วินยิ้มบางและหลับใหลไปแล้วแต่มือที่จับกุมไว้ก็ยังไม่คลายออก  ผมยิ้มเอ็นดูคนป่วยที่หลับไปแล้วและคิดถึงประโยคที่พูดกับ  วินว่าจะอยู่ ‘ตรงนี้’ ไม่ไปไหนนั้นมีสองความหมายคืออยู่กับวินในตอนนี้ที่นี่และเราจะอยู่เคียงข้างกันแบบนี้ตลอดไป

...............................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ก็ได้รู้กันแล้วเนอะว่าจีเป็นใคร ตอนหน้าได้เคลียร์สมใจ
แต่จะออกมาแบบไหนต้องติดตามค่ะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ

ปล.พรุ่งนี้ปิดโอนแล้วใครอยากได้หนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยน้าติดตามรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0


ปล.2 เร็วๆนี้เจอเรื่องราวความรักของอีกหนึ่งหนุ่มหน้าตี๋นามว่าเฮียธัชได้ที่เล้านะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 15-07-2012 09:02:39
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ  รวมทั้งรอความรักของ "เฮียธัช" ที่จะเข้าเล้า นะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-07-2012 09:47:55
เค้าจะเคลียร์กันยังไงน้า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-07-2012 10:03:54
พอป่วยก็อ้อน
หนักเชี่ยวน๊า
นายวิน :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 15-07-2012 11:04:29
น่ารักที่สุดดดดดดดดด :impress2:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 15-07-2012 11:15:53
อยากรู้จริงๆว่าจะจัดการยังไง
เรื่องต่อไปเป็นเรื่องของเฮียธัชหรือนี้ ฮุฮุฮุ น่าสนุกจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 15-07-2012 11:35:32

เค้าจะเคลียร์กันยังไงเนี่ย
เฮียธัชกำลังจะมาแล้ว
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: achiradan ที่ 15-07-2012 12:07:52
แจ้งโอนแล้วนะค่ะ แต่ถ้าไม่ขึ้นก็บอกนะจะได้ส่งไปใหม่ achira_danอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 15-07-2012 14:10:32
 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่30(15/7/55)P.12 [เปิดจอง&โอนเงินP1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 15-07-2012 20:48:54
ดีนะเนี่ย ที่กัสเชื่อใจวิน  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.12[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-07-2012 07:01:52
ตอนที่ 31

วิน

ร้านอาหารห่างตัวจังหวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ถูกใช้เป็นสถานที่นัดพบ  บรรยากาศเย็นสบายจากสายลมและอาหารรสเลิศที่วางอยู่เต็มโต๊ะไม่ได้ทำให้ความเคร่งเครียดของผู้ร่วมโต๊ะลดลงเลย  ผมมองผ่านคู่ชายหญิงตรงหน้าไปจับจ้องยังสายน้ำที่ไหลผ่านเบื้องหลังอย่างเย็นใจ  ส่งมือเข้ากอบกุมมือของคนรักที่นั่งข้างกันไว้และไล้หลังมือนุ่มแผ่วเบาให้ได้รู้ว่ากัสยังมีผมเคียงข้าง  ภาวะกดดันที่ผมเป็นคนสร้างให้คู่กรณีอย่างผู้หญิงตรงหน้าได้รับรู้เริ่มได้ผล  เมื่อใบหน้าสวยเริ่มเปลี่ยนคิ้วโก่งขมวดมุ่นมีแววตาหงุดหงิดฉายชัดก่อนส่งเสียงฮึดฮัดในคอออกมา   

“ฮึ  วินคะไหนบอกว่าอยากพบจีไง  แล้วทำไมต้องพาสองคนนี้มาด้วย” จีที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมโพล่งออกมาเมื่อหมดความอดทนด้วยหน้าบึ้งตึงและใช้หางตา มองกัสอย่างเหยียดหยาม  จนผมนึกอยากเข้าไปบีบคอขาวๆนั่นที่เจ้าของมันกล้าใช้สายตารังเกียจคนของผมต่อหน้า  แต่ผมต้องอดทนไว้เพราะแรงบีบจากฝ่ามือนุ่มที่ส่งมาเตือนสติกัน

“ครับ  ผมอยากพบคุณเพื่อคุยกันให้รู้เรื่องและสองคนที่คุณพูดถึงนี่  หนึ่งในนี้ก็คู่หมั้นผม  นี่ ‘กัส’ ครับ” ผมเลื่อนมือโอบไหล่กัสตอนแนะนำให้จีรู้จักและให้ได้รู้ถึงสถานะของคนในอ้อมกอดผมด้วย  จีสะบัดหน้าเบะปากและจ้องกัสตาเขม็งอย่างเอาเรื่อง  จนผมต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและเพิ่มความระวังตัว  กลัวว่าคนรักจะโดนทำร้ายจากผู้หญิงตรงหน้า

“ฮึ  คู่หมั้นที่เป็นผู้ชาย  จะดีกว่าผู้หญิงได้ยังไงกัน  วินคิดดีแล้วเหรอคะ  จีชอบวินนะเลิกกับคนๆนี้ซะแล้วมาคบกับจีเถอะ”

“นี่คุณ / จี  หยุดพูดอะไรบ้าๆแบบนี้นะ” ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่ทำไมถึงกล้าคิดอะไรแบบนี้ได้  ทั้งๆที่ผมก็บอกอยู่ว่ากัสเป็นอะไรกับผม  จะไม่ให้ผมตะคอกใส่ได้ยังไงกันครับ 

ส่วนพลที่นั่งข้างจีก็เข้าไปกระชากแขนอย่างแรงจนเธอร้องโวยวายออกมา  ซึ่งผมไม่คิดจะห้ามใจจริงอยากให้จับผู้หญิงไม่รู้จักคิดคนนี้โยนลงธารน้ำข้างๆนี่ด้วยซ้ำ  ผมเหลือบตามองกัสก็ได้เห็นว่ากัสมองจีด้วยสายตานิ่งเรียบอย่างอ่านไม่ออก  และไม่มีอาการเดือดร้อนในสิ่งที่จีต่อว่าเลย  ผมกุมกระชับมือนุ่มกัสจึงหันหน้ามามองกัน  ก่อนคลี่ยิ้มน้อยๆมาให้ผมจึงเบาใจได้ว่าคนน่ารักไม่ได้คิดมากอะไร 

“นี่พลปล่อยนะมันเจ็บและไม่ต้องมาตะคอกเลยด้วย  โอ๊ย!” พลยังไม่ยอมปล่อยแขนแต่กลับเพิ่มแรงบีบเข้าไปอีก  ผมมองคนทั้งคู่นิ่งๆรอดูว่าจีจะแผลงฤทธิ์อะไรขึ้นมาอีก

“ไม่ปล่อยหรอก  จะจับหักแขนซะเลยถ้าขืนยังจะพูดบ้าๆแบบเมื่อกี้อีก  คิดได้ยังไงกันเนี่ย  หา” พลตะคอกใส่จีหน้าตาหงุดหงิดด้วยทำอะไรเพื่อนไม่ได้มากไปกว่านี้ 

“คุณพลครับผมว่าปล่อยเธอเถอะครับ  เรามาพูดกันดีๆ  ดีกว่านะ” กัสที่นั่งข้างผมเอ่ยห้ามคงเพราะสงสารที่เห็นจีเจ็บจนน้ำตาคลอ  ส่วนผมนั้นไม่นึกสงสารผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามกันนี้เลย  เพราะจีก่อปัญหาให้ผมจนเกือบทำให้กัสเข้าใจผิดและไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกเลย  ถ้าไม่มีกัสอยู่ด้วยตอนนี้ผมอาจจะเข้าไปทำร้ายจีแล้วก็ได้

“เชอะ  ไม่ต้องมาทำเป็นคนดีหรอก  แต่ไหนๆก็จะคุยดีๆแล้ว  งั้นฉันขอได้มั้ยผู้ชายคนนี้” จีสะบัดหน้ามาทางกัสก่อนส่งสายตาท้าทายมาให้  ผมเห็นแบบนี้แล้วทำเอาควันออกหูจนอยากเข้าไปบีบปากที่กำลังยิ้มเยาะนั้นให้แตก  สมมุติว่ากัสเอ่ยปากยกผมให้จีขึ้นมาแต่ผมก็ไม่เอาหรอกครับ  ‘ผู้หญิงอะไรร้ายกาจ  เห็นแก่ได้ที่สุด’  ผมถลึงตาคาดโทษใส่จีที่หันมาส่งสายตายั่วยวน

“จี  โอ๊ย! กูจะทำยังไงกับมึงดีเนี่ย” พลคงโมโหเพื่อนตัวเองมากแต่ทำอะไรไม่ได้ถึงกับหลุดกูมึงออกมา  และพลคงคิดว่าเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุที่เป็นคนแนะนำให้ผมกับจีรู้จักกันจนเกิดเรื่องขึ้น  เมื่อโวยวายเสร็จพลนั่งกุมขมับก่อนลุกเดินออกไปจากโต๊ะด้วยคงหาที่สงบสติอารมณ์
 
ดังนั้นที่โต๊ะจึงเหลือพวกเราสามคนที่แสดงสีหน้าต่างกันไป  จียิ้มยั่วยวนแววตาสะใจเหมือนว่าได้แกล้งให้คนอื่นว้าวุ่นใจได้ตัวเองมีก็ความสุขแล้ว  กัสหน้าตาสงบนิ่งแววตาจ้องเขม็งไปที่จีแต่ผมอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่   ส่วนผมนั้นโกรธจนพร้อมที่จะฆ่าคนได้  แต่ในความเป็นจริงกลับต้องนั่งนิ่งกัดฟันข่มอารมณ์อยู่ที่เดิม

“จี  คุณเลิกคิดกับผมแบบนี้ได้เลยเพราะผมไม่มีทางสนใจคุณแน่  ตั้งแต่แรกที่เราเจอกันผมแน่ใจนะว่าไม่เคยให้ความหวังอะไรกับคุณเลย  และที่สำคัญผมรักกัสคู่หมั้นผมคนนี้คนเดียว  ส่วนเรื่องที่คุณทำไว้ช่วงที่ผมไม่สบายผมจะไม่ใส่ใจแล้วก็แล้วกันไป  แม้มันเกือบทำให้กัสเข้าใจผิดผมก็เถอะ” หลังผมสงบอารมณ์ลงได้จึงฝืนพูดในสิ่งที่คิดไว้  แต่ดูท่าคำพูดดีๆจะใช้ไม่ได้กับผู้หญิงคนนี้

“เอ๊ะ  แค่เกือบหรอ  ไม่ใช่เข้าใจผิดไปแล้วหรอ  ฮึๆๆ  เสียดายจังน้า  แต่วินคะคุณยังไม่เคยลองคบกับจีเลยนะจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะไม่ชอบจี  ไม่ลองดูหน่อยเหรอเพราะดูท่าคู่หมั้นคุณเนี่ยเค้าอ่อน  คงไม่กล้าว่าเราหรอกถ้าคุณจะลองอ่ะนะ  ฮิๆๆๆ” จียังยิ้มแย้มและหัวเราะได้กวนอารมณ์คนมองแบบผมให้ขุ่นมัวได้ 

“คุณนี่มันเป็นผู้หญิงที่  ที่ร้ายกาจมาก” ผมไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาเปรียบผู้หญิงแบบจีได้  ไอ้ที่จะว่ากันแรงๆก็ยังเกรงใจว่าเป็นเพื่อนของพลแถมยังเป็นเพศแม่  ถ้าเป็นผู้ชายเหมือนกันผมจะต่อยให้คว่ำก่อนกดน้ำซ้ำแล้วครับ

ตอนที่เจอกันครั้งแรกในสายตาผมนั้นจีเป็นผู้หญิงที่น่าคบคุยเก่งหน้าตาน่ารักแถมยังเป็นผู้หญิงทำงานเก่งอีกด้วย  เพราะเธอเป็นเจ้าของคุมกิจการตลาดสดขนาดใหญ่ของครอบครัวตัวเอง  แต่ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียวด้วยที่อยากได้อะไรนั้นต้องได้ไม่มีคำว่า ‘ไม่ได้’  ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าครั้งแรกที่เห็นมันเป็นแค่เปลือกที่เจ้าของต้องการให้ผมรู้เห็นแต่สิ่งที่ดีที่อยู่ข้างนอกเท่านั้น  เมื่อได้รู้ได้เห็นพฤติกรรมแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะคุยด้วยอีก  ถึงคุยไปก็คงไม่รู้เรื่องจึงอยากจะตัดปัญหาโดยเร็ว  ที่สำคัญที่สุดผมเป็นห่วงแต่ความรู้สึกของกัสเท่านั้น  เพราะคำพูดแต่ละคำที่จีเอ่ยมาผมยังทนไม่ได้เลยแล้วกัสล่ะจะรู้สึกยังไง  ผมไม่อยากเป็นสาเหตุในการทำร้ายความรู้สึกของคนที่ผมรักอีกแล้ว

“ปัง / จีคุณหยุดพูดไปเลยดีกว่า  ผมว่านะ..” ผมทุบโต๊ะระบายอารมณ์ที่ไม่สามารถลงกับต้นเหตุที่นั่งยิ้มกวนอารมณ์มาให้ได้  เตรียมพูดเพื่อตัดปัญหาทั้งหมดแต่ยังไม่จบประโยคก็โดนกัสจับมือไว้  หันไปสบสายตานิ่งเรียบของคนรักที่ผมอ่านมันไม่ออกว่ากัสรู้สึกยังไง  กัสหันกลับไปมองทางจีแต่มือยังกุมทับมือผมอยู่

“คุณจีคุณหยุดพูดแบบนี้เถอะครับ  เพราะยิ่งพูดคุณจะยิ่งดูแย่ในสายของวิน คนที่คุณบอกว่าชอบ  ผมเชื่อนะที่คุณบอกว่าชอบ   วินเพราะผมก็ใช้เวลาไม่นานเหมือนกันที่รู้ว่าผมชอบผู้ชายคนนี้  ถ้าเราสลับตัวกันแล้วผมรู้ว่าวินมีคนที่รักอยู่แล้ว  ผมก็คงบอกชอบวินแต่ไม่คิดจะแย่งมาเป็นของตัวเองหรอก  เพราะความรักของผมแค่เห็นคนที่เรารักมีความสุขก็พอแล้ว  และถ้าเกิดแผนที่คุณวางไว้มันทำให้เราสองคนเข้าใจผิดถึงขั้นเลิกรา  แต่ผมเชื่อนะว่าคุณจะไม่ได้เขาไปและถึงวินจะหลงผิดตกลงคบกันคุณ  คุณก็จะได้ไปแต่ตัวแต่ใจเขายังเป็นของผม ‘ผมมั่นใจ’  และคุณไม่คิดต่อไปล่ะคุณจีเมื่อคุณยังแย่งวินมาได้จะไม่มีใครเชียวรึที่เก่งกล้ากว่าคุณมาแย่งไปอีกที  ในเมื่อคุณผูกพันกับเขาแค่ร่างกายแต่ใจเขาไม่ได้ผูกไว้กับคุณ  ฮึๆ  ในสายตาคุณอาจจะมองว่าความรักระหว่างผู้ชายด้วยกันมันฉาบฉวยไม่ยั่งยืน  แต่คู่ผมกับวินนี่แหละจะพิสูจน์ให้เห็นว่ารักของเราไม่ได้ต่างไปจากรักของชายหญิงเลย  และคุณเองก็เป็นผู้หญิงที่พร้อมทั้งหน้าตาและฐานะไม่เห็นต้องมาแคร์กับผู้ชายที่เขาไม่ได้สนใจตัวเองสักนิดเลย  ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีดีพอผมว่าคุณหาผู้ชายคนอื่นที่ดีกว่า ‘ผู้ชายของผม’ ดีกว่ามั้ยครับ”

ประโยคยาวๆที่กัสพูดและสั่งสอนจีนั้นทำเอาผมอึ้งไปเลยไม่คิดว่าคนรักของผมจะพูดอะไรแบบนี้  มันรู้สึกทั้งตกใจและดีใจจนตัวลอยเปิดยิ้มกว้างแบบไม่รู้ตัว  ไม่มีคำไหนที่กัสเอ่ยปากว่ารักผมแต่ประโยคเหล่านั้นมันแสดงว่ากัสเชื่อมั่นในรักของเรา  และพร้อมที่จะพิสูจน์ความรักที่มั่นคงนี้ไปพร้อมกัน ดอกไม้แห่งความสุขมันเบ่งบานหอมอบอวลอัดแน่นอยู่ในใจ  ผมกุมทับมือบางกระชับแน่นแสดงให้กัสรู้ว่าผมรับรู้สิ่งที่กัสพูดออกมา  กัสยังจ้องนิ่งไปที่จีซึ่งอีกฝ่ายก็นิ่งเงียบไปไม่โต้ตอบกลับมาแม้ประโยคเดียว  จีคงอึ้งหรือไม่ก็อาจจะคิดได้แล้วถึงสิ่งที่กัสพยายามบอกไป

“ฮึๆ  ปกติคุณนี่พูดยาวๆแบบนี้บ่อยมั้ย  รู้มั้ยคำพูดนี่ทำเอาชั้นเจ็บแสบไปหมดยิ่งกว่าโดนมีดกรีดอีกนะ” ในที่สุดจีก็หาเสียงตัวเองเจอ  แต่ประโยคนี้ทำเอาเราสองคนอดแปลกใจไม่ได้เพราะสิ่งที่คาดไว้ไม่ใช่แบบนี้  จีน่าจะโวยวายกรีดร้องมากกว่าที่จะพูดประโยคนี้ออกมาพร้อมกับหัวเราะในคอแม้หน้าจะยังไม่มีรอยยิ้มก็ตาม  เราสองคนคงทำหน้าตาตกใจได้ขัดใจในสายตาของจีเจ้าตัวถึงกับเอ่ยออกมา

“คุณสองคนหุบปากได้แล้วตกใจอะไรนักหนาเนี่ย” เธอหน้ายุ่งกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่มีเคล้าของความโกรธก็แค่ไม่พอใจเล็กๆเท่านั้น

“ไม่เคยมีใครพูดกับฉันตรงๆแบบนี้มาก่อน  จงภูมิใจไว้ว่าคุณเป็นคนแรก” จีชี้นิ้วมาที่กัสและแสยะยิ้มมาให้ด้วยยังไม่สบอารมณ์นิดหน่อยเพราะเราสองคนยังคงอึ้งหาคำพูดโต้ตอบไม่เจอ

“ฉันยอมรับนะว่าถูกใจวินตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน  แม้จะรู้ว่าวินมีคนรักอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากลองดูว่าจะแย่งมาได้มั้ย  แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่สามารถจริงๆเพราะดูท่าคู่หมั้นจะหวงมาก  ไอ้นิสัยที่อยากได้อะไรต้องได้เนี่ยมันติดตัวจนแก้ไม่ได้ไปแล้ว  อยู่บ้านแค่เอ่ยปากว่าอยากได้อะไรมันก็มากองอยู่ตรงหน้าทุกอย่างไม่เคยผิดหวังเลย  เฮ้อ  แต่สิ่งของเหล่านั้นที่พ่อแม่หามาให้น่ะมันต้องแลกกับเวลาที่ท่านสองคนไม่มีให้  ฉันอาจดูเป็นเด็กมีปัญหาในสายตาพวกคุณ  แต่ฉันก็รู้ว่าท่านทั้งสองรักฉันมากไอ้ตลาดที่สร้างมาก็เพื่อฉันและมันก็ได้เวลาที่ฉันเสียไปจากท่านทั้งสอง  ตอนนี้จึงพยายามดูแลตลาดที่พ่อแม่ยอมที่จะทิ้งฉันไว้กับของที่ท่านประเคนมาให้เพื่อสร้างมันขึ้นมาเพื่อฉันอ่ะนะ  เหนื่อยที่จะยืนคนเดียวพอเจอคนที่ใช่ก็อยากได้มาครอบครองจนลืมไปว่าเขาเป็นคนไม่ใช่สิ่งของที่ชั้นร้องอยากได้แล้วพ่อแม่ก็หามาประเคนให้เหมือนตอนเด็กๆ”

วันนี้คนใกล้ตัวจะทำเอาผมอึ้งกี่รอบกันนะเพราะเรื่องของจีที่เจ้าตัวพูดออกมามันทำให้ผมนึกสงสารไม่ได้  จีที่มีชีวิตวัยเด็กอยู่กับสิ่งของที่พ่อแม่คิดว่ามันจะทดแทนอ้อมกอดของพวกท่านได้  แม้จะรู้ว่าท่านรักแต่เด็กก็ต้องการความอบอุ่นมากกว่าสิ่งของที่ไม่มีชีวิต  ผมจึงไม่แปลกใจที่จีจะทำตัวแบบนี้กับเรื่องของผมในครั้งนี้เธอก็แค่เด็กเอาแต่ใจ  มาถึงตรงนี้ผมคิดว่าลึกๆแล้วจีไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร  และสิ่งที่ผมเห็นจีในครั้งแรกก็คงเป็นตัวตนของจีจริงๆสินะ  อีกอย่างจีเป็นเพื่อนสนิทของพลด้วย  ถ้าจีนิสัยแย่จริงๆพลคงไม่คบด้วยมานานขนาดนี้หรอก  และดูท่าพลเองก็ยังงงกับเพื่อนตัวเองว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น

“เรื่องวินฉันคงไม่มีหวังสินะ  และก็ขอให้คุณรู้ไว้คุณเป็นคนแรกที่ปฏิเสธฉัน” จีชี้นิ้วมาที่ผมด้วยใบหน้าระบายยิ้มน้อยๆ

“ครับ  ผมอยากให้คุณตัดใจจากผู้ชายหล่อๆแบบผมซะ  เพราะคนที่อยู่ในใจผมมีแค่คนน่ารักนี้เท่านั้น” ผมคลี่ยิ้มกว้างใส่จีก่อนหันมาโอบกอดร่างบางที่นั่งฟังนิ่งๆไม่พูดจา  แต่กัสก็มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าและแววตาสดใสกว่าตอนแรกมากนัก

“เชอะ  คอยดูฉันจะหาผู้ชายที่ดีกว่าหล่อกว่าคุณให้ได้เลย  แต่คุณกัสคุณเปลี่ยนใจยังทันนะ  เอางี้เดี๋ยวฉันหาให้ใหม่ดีกว่าคุณ  วินอีก  เอามะ” จียิ้มกว้างมองหน้ากัสก่อนส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ผม  นี่ถ้าไม่ติดว่าเพิ่งปรับความเข้าใจกันได้ผมคงจับเธอโยนลงน้ำแล้วครับ

“เฮ้ๆๆๆ  อย่าพูดแบบนี้สิคุณจี  ผมไม่ยอมปล่อยกัสไปไหนแน่  และไอ้หน้าไหนคิดมายุ่งกับกัสนะผมไม่เอามันไว้หรอก” หันไปโวยวายอย่างไม่จริงจังกับจีเพราะรู้ว่าเธอล้อเล่น  และถือโอกาสโอบรอบตัวกัสไว้แน่นแถมเอาปากเฉียดแก้มใสผ่านๆไม่ให้กัสรู้ตัวไปหนึ่งที  แค่นี้ก็สุขใจแล้วและเรื่องราวที่น่าหนักใจก็กลับตาลปัดเปลี่ยนเป็นว่าเหมือนเราจะได้เพื่อนเพิ่มอีกคนแทน

“ฮึๆๆ  วินปล่อยได้แล้วอย่านึกว่ากัสไม่รู้นะว่าเมื่อกี้แอบทำไรอ่ะ  คุณจีเรียกชื่อเราแทนดีกว่าครับไม่ต้องมีคุณนำหน้าหรอก” กัสส่งสายตารู้ทันมาให้จนผมแอบสะดุ้ง ‘ก็ว่าเนียนแล้วเชียว’ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานที่ผมชอบให้เพื่อนใหม่

“ได้ค่ะ  งั้นกัสกับวินเรียกจีว่าจีนะไม่ต้องมีคุณเหมือนกัน” จีส่งยิ้มจริงใจมาให้เราสองคน 

“อ้าว  เกิดอะไรขึ้นเนี่ยตอนเดินออกไปยังเป็นนางยักษ์อยู่เลย  นี่อะไรเปลี่ยนมาเป็นนางฟ้าในพริบตา  โอ๊ยยย ” พลเดินมาถึงโต๊ะทำหน้าแปลกใจก่อนหันไปแหย่จีที่กำลังยิ้มหน้าบาน  และผลจากการแซวพลก็ต้องร้องออกมา  เป็นผมก็คงไม่ต่างจากพลหรอกก็บรรยากาศเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้ 

“นี่โทษฐานที่ทำจีเจ็บ  ดูสิยังเป็นรอยแดงอยู่เลย  หยิกแค่นี้ยังน้อยไป” หลังลงแรงหยิกไปที่สีข้างพลเต็มแรงจีก็บ่นพร้อมยื่นแขนไปตรงหน้าเพื่อนให้เห็นหลักฐานรอยแดงรอบแขนขาว

“นี่แสดงว่าเคลียร์กันได้แล้วเหรอ  เฮ้อโล่ง  ตอนเดินกลับมานี่คิดไว้ว่าถ้ายังเห็นว่าจียังเป็นนางยักษ์อยู่นะ  พลว่าจะจับโยนลงน้ำข้างๆไปเลยเผื่อจะได้เย็นลง  โห  อดออกแรงเลย” พลยังหันไปแซวเพื่อนสาวที่นั่งส่งค้อนวงใหญ่ไปให้หลังฟังจบประโยค

“ผมต้องขอโทษคุณวินและคุณกัสนะครับที่จีทำเรื่องลำบากใจให้  ผมรู้สึกผิดมากเพราะยังไงจีก็เป็นเพื่อนของผม”  พลเปลี่ยนเป็นจริงจังและหันมาขอโทษเราสองคนเล่นเอาสาวหมวยหน้าเจื่อนลง

“พลไม่ต้องขอโทษหรอกครับ  แบบนี้ก็ดีนะทำให้กัสได้เพื่อนเพิ่มอีกตั้งคนแน่ะ  แล้วยังได้คนคอยเป็นหูเป็นตาแทนกัสตอนวินยังอยู่ที่นี่ด้วย” กัสส่งยิ้มกว้างไปให้สองคนที่นั่งตรงข้ามกันเพื่อให้สบายใจขึ้น  และทำให้ได้รับรอยยิ้มจากทั้งคู่ตอบกลับมา

“ฮึๆๆ  จีคงเหนื่อยเปล่านะครับเพราะวินไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากกัสคนเดียว  และผมต้องขอบคุณคุณจีนะที่ทำให้รู้ว่ากัสรักและหวงผมมากขนาดไหน  ฮ่าๆๆ  หน้าแดงแล้วครับที่รักเขินหรอ  หืม” กัสหน้าแดงปลั่งหลังผมพูดจบคงนึกถึงสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ก่อนหน้านี้  กัสน่ารักจนผมอยากฟัดแก้มแดงคู่นั้นเลย  แต่ที่ผมทำได้คือการกระชับมือนุ่มและไล้มือไปที่ผิวแก้มแดงๆตรงหน้าแทน

“จีรู้แล้วว่าทำไมวินถึงหลงรักกัสมากขนาดนี้  ฮิๆๆ” จีส่งเสียงแซวมาให้เราสองคนยิ่งทำให้คนที่หน้าแดงอยู่แล้วยิ่งแดงกว่าเดิมลามไปถึงหูและคอขาวก่อนเจ้าของจะก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียน  แตกต่างจากกัสคนที่พูดจริงจังก่อนหน้านี้ลิบลับเลย

“ผมว่าเราอย่าแกล้งคุณกัสเลย  เดี๋ยวผมเรียกพนักงานมารับอาหารไปอุ่นใหม่ดีกว่าครับเพราะมันเย็นชืดหมดแล้ว” พลขัดขึ้นหลังปล่อยให้กัสโดนแซวอายม้วนอยู่นาน  ผมเห็นด้วยจึงพยักหน้าให้เพราะไม่อยากให้ที่รักอายจนหน้าระเบิดไปซะก่อน

เหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านไปอย่างสวยงามเราได้เรียนรู้ว่ารักครั้งนี้ของเรามั่นคงเพราะเราไว้ใจซึ่งกันและกัน การเผชิญปัญหาร่วมกันทำให้เรามีพลังแก้ไขปัญหาไปได้  และรู้ว่าไม่มีอะไรจะแยกเราจากกันได้ถ้าเรามีกันอยู่แบบนี้  ที่สำคัญมิตรภาพที่เกิดขึ้นใหม่กับผู้หญิงตรงหน้านี้ที่เราจะเรียกเธอว่า ‘เพื่อน’ ได้

................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ปัญหามีไว้แก้อุปสรรคมีไว้ข้าม ความรักก็ต้องมีบทพิสูจน์ถึงความเชื่อใจ
และกัสวินก็ผ่านมาได้ด้วยดี  o18

ตอนหน้าเป็นตอนที่ทุกคนรอคอย!? เตรียมตัวไว้ให้ดี  :z1:

+เป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ  :pig4:

ปล.ใครที่สนใจรับหนุ่มๆไปนอนกอดรีบหน่อยนะคะเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วค่ ติมตามหน้าแรกค่ะะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55  

(http://i48.tinypic.com/2pz9zlw.jpg)
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 16-07-2012 08:15:43
ถึงก่อนหน้านี้จีจะร้ายไปหน่อย แต่ดูไปดูมาจีก็แค่คุณหนูผู้แสนเอาแต่ใจเท่านั้นซินะ
คงเพราะแค่อยากเอาชนะ เลยจะแย่งมาก เรื่องแฮปปี้แล้ว ดีใจ ได้เพื่อนใหม่มาอีกคน
กัสพูดได้เจ็บมาก คมสุดๆไปเลย วินก็นะ หวานได้ทุกเวลา ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 16-07-2012 08:26:08
ผ่านไปได้ซะที
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-07-2012 10:22:01
ยัยจีตัวร้ายโดนกัสว่าเข้าหน่อยกลายเป็นคนดีเลย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-07-2012 10:27:43
จะมีผู้หญิงแบบนี้
ในโลกสักกี่คน
ที่เข้าใจง่าย :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 16-07-2012 10:29:27
ไว้ใจกันดีที่สุดเนอะวิน กัส
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 16-07-2012 10:40:25

เข้าใจกันแล้ว
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-07-2012 10:43:43
ตอนหน้า คึคึ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 16-07-2012 14:17:47
รอตอนต่อไป อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 16-07-2012 16:27:32
โอ้โห จี เธอเป็นผู้หญิงที่ดูน่ากลัวมากในตอนแรก แต่เพราะมีปมนิเอง กัสก็ใจเย็นได้อีก คุมสถานการณ์ได้ดีเยี่ยม ^^ โล่งงงงงงง
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่31(16/7/55)P.13[ปิด&โอน วันนี้!!P1]
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 16-07-2012 20:36:22
อิจฉากัสกับวินที่สุด เค้าอยากมีแบบนี้บ้างง  :laugh: :laugh:

ตอนนี้ได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกคน แต่นึกไม่ถึงว่าจะลงเอยแบบนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-07-2012 06:43:24
เรียบร้อย o13

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-07-2012 06:48:42
ตอนที่ 32

วิน

หลังกลับจากร้านอาหารเพื่อจัดการเรื่องของจีเรียบร้อยแล้ว  จากตอนแรกเหมือนเป็นเรื่องหนักใจแต่กลับทำให้เราได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมาแทน  และผมคงโดนจับตาจากจีที่อ้างว่าจะคอยเป็นหูเป็นตาให้กัสตอนผมทำงานอยู่ที่นี่อีกด้วย  ส่วนกัสเมื่อได้ยินก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คงไม่ได้คิดว่าผมจะมีใครหรอกแต่คงดีใจที่ได้จีเป็นเพื่อนมากกว่า  ตอนนี้คนที่ผมคิดถึงกำลังโทรศัพท์คุยกับเพื่อนสนิท ‘มิค’ ที่กลับไปก่อนตั้งแต่สองวันแล้วเพราะต้องกลับไปทำงาน  ส่วนกัสที่อยู่เฝ้าไข้ผมนั้นต้องฝากมิคลางานให้และทำงานในส่วนของกัสเองด้วย  ตอนแรกกัสก็เป็นห่วงมิคที่ต้องขับรถกลับคนเดียว  แต่ไอ้เพื่อนสนิทผม ‘ไอ้ฟิน’ ที่ตามมาด้วยมันไม่ยอมให้ขับกลับเอง  แต่มันจะขับไปส่งมิคให้ถึงที่โรงพยาบาลจึงโดนมิคโวยวายใส่ด้วยไม่อยากให้ทิ้งรถไว้เพราะตอนกัสกลับผมก็ต้องไปส่งอยู่แล้ว  ผมจึงตัดปัญหาและแอบช่วยเพื่อนให้ได้อยู่กับมิคตามลำพังบ้าง  โดยบอกว่าเดี๋ยวให้คนขับรถขับตามรถผมตอนกลับไปส่งกัส  และขากลับให้ขับรถผมแทน  มิคและกัสจึงยอมเห็นด้วยส่วนไอ้ฟินน่ะเหรอยิ้มหน้าบานใหญ่แล้วยักคิ้วส่งกลับมาให้ผมอย่างถูกใจ

“ใช่มิค  เราเป็นเพื่อนกันแล้ว....ฮิๆ  กัสก็ยังไม่อยากเชื่อเลย...อืม...ฝากงานหน่อยนะขอบใจมากมิค  เดี๋ยวกัสซื้อขนมไปฝาก...ครับหวัดดีครับ” กัสวางสายจากมิคหลังเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้เพื่อนสนิทฟัง

“วิน  โทรบอกคุณแม่รึยังเดี๋ยวท่านเป็นห่วง  เนี่ยท่านคุยกับกัสว่าจะมาจัดการให้เลยนะ” กัสพูดไปยิ้มไปเมื่อนึกถึงคุณแม่ที่รู้เรื่องของจีแล้วแทบจะมาช่วยเคลียร์ถึงที่นี่ด้วยตัวเอง

ผมห้ามซะก่อนเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต  คุณแม่ที่ตอนแรกคงเป็นห่วงกัสมากคงคิดแค่ไม่อยากให้กัสกังวลใจเรื่องผู้หญิงคนอื่นที่มาวุ่นวายกับผมและอยากจัดการให้ด้วยตัวเอง  จนผมยืนยันว่าสามารถจัดการด้วยตัวเองได้ตอนหลังท่านจึงยอมแต่ยังเป็นห่วงอยู่ดีว่าได้เรื่องแล้วต้องรายงานทันที  ซึ่งระหว่างที่กัสคุยกับมิคนั้นผมโทรรายงานคุณแม่เรียบร้อยแล้ว  และโดนท่านอบรมเรื่องการวางตัวกับผู้หญิงที่เข้ามาสนใจผมยกใหญ่  ก่อนจบด้วยการข่มขู่ว่าห้ามหาเรื่องมาให้ ‘ลูกกัสของแม่’ กังวลหรือเป็นทุกข์อีกเด็ดขาด  ผมคงกลายเป็นลูกนอกไส้คุณแม่ไปแล้ว  แต่คิดแล้วก็ขำแม่ตัวเองที่รักกัสมากกว่าลูกชายที่คลอดออกมา  ผมภูมิใจในตัวคนรักมากที่ใครเห็นใครก็รักด้วยเสน่ห์ที่ไม่ปรุงแต่งของกัส

“เรียบร้อยแล้วครับ  กัสรู้มั้ยคุณแม่น่ะขู่วินด้วยว่าห้ามทำให้กัสเสียใจ  ไม่งั้นจะโดนตัดจากกองมรดกเลยนะ  คุณแม่รักกัสมากกว่าวินแล้วรู้มั้ย” ผมเข้าโอบกอดร่างบางจากข้างหลังและโน้มตัวกดจมูกไปที่แก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยว  ใครเข้าใกล้คนน่ารักคนนี้เป็นอันต้องรักต้องหลงไปซะทุกคนสิน่า

“ฮิๆ  ให้วินเชื่อคำคุณแม่ไว้นะไม่งั้นถ้าทำกัสเสียใจเมื่อไหร่วินเหลือแต่ตัวแน่” กัสกอดกระชับกลับมาที่แขนของผมที่โอบรอบเอวบาง  มือนุ่มกุมทับมือผมทั้งสองข้าง  ผมจึงแนบแก้มเข้ากับแก้มใสที่รู้ว่าหอมกรุ่นแค่ไหน

“วินขอโทษนะครับที่ทำให้กัสคิดมากเรื่องจี  แต่วินดีใจนะที่กัสเชื่อใจวิน  ดีใจมากที่กัสยืนหยัดจะอยู่เคียงข้างกัน  วินรักกัสนะครับ” ก้มหอมแก้มนุ่มอีกฟอดใหญ่เพื่อยืนยันคำรัก

ผมพลิกตัวกัสกลับมาเผชิญหน้าก่อนโอบประคองแก้มนุ่มไว้ทั้งสองข้าง  จ้องลึกที่ตาคู่สวยถ่ายทอดความรักผ่านแววตาให้กัสได้รับรู้  จึงได้รอยยิ้มหวานตอบกลับมา  ตอนนี้กัสคงมั่นใจในตัวผมแล้วและความรักครั้งนี้ของเราคงไม่มีใครหรืออะไรมาแยกเราได้  จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองนักพิสูจน์ได้ว่ากัสคงไม่ยอมเสียผมให้ใครเหมือนที่ผมก็จะไม่ยอมเสียคนรักให้ใครเหมือนกัน 

“กัสก็รักวินครับ”

ประโยคบอกรักทำให้ผมใจพองโตคับอกและเต้นไม่เป็นจังหวะ ‘รัก’ คำที่กัสไม่ค่อยจะเอ่ยให้ได้ยินบ่อยนักผิดกับผมจะพูดทุกครั้งที่มีโอกาส  แต่ตอนนี้กัสกลับพูดชัดเจนพร้อมแววตาจริงจังที่ส่งมาแถมรอยยิ้มหวาน  รวมถึงถ้อยคำบอกรักจากคนที่รักนี้ทำผมแทบคลั่งอยากจับกดกัสลงตรงนี้  แต่ต้องหักห้ามใจในเมื่อครั้งแรกกับคนที่รักก็อยากให้ประทับใจที่สุด  ผมจับจูงข้อมือบางเข้าห้องไปที่เตียงนุ่มก่อนก้มกระซิบชิดริมหู

“วินรักกัสมากนะครับ” ส่งสายตาออดอ้อนจนกัสก้มหน้าแดงก่ำซ่อนสายตาอ่อนหวานที่เปล่งออกมา  ผมเชยคางมนขึ้นเพื่อสบตาหวานที่สั่นไหวเหมือนไม่แน่ใจ

“เชื่อใจวินนะครับที่รัก  วินสัญญาว่าวินจะทำให้กัสมีความสุขไปทั้งชีวิต  ขอแค่กัสอยู่เคียงข้างกันเท่านั้น” จูบประทับสัญญาไปที่ตาหวานที่หลับพริ้มอย่างยินยอม 

เลื่อนริมฝีปากประทับจูบปากบางแผ่วเบาเคล้าคลึงอ่อนโยนให้คนในอ้อมกอดยินยอมพร้อมใจ  ไล่แตะรอบขอบปากนุ่มชิมรสหวานจนทั่ว  มือไล่ปลดกระดุมจนถึงเม็ดสุดท้ายส่งปลายนิ้วลูบผ่านผิวบางจากหน้าท้องเรียบลื่นถึงไหล่บอบบางก่อนปลดเสื้อออกจากลาดไหล่  ร่างบางสั่นระริกจากการปลุกเร้า  จนเผลอเปิดกลีบปากให้ลิ้นผมเข้าไปหยอกล้อลิ้นนุ่ม  ผมตามชิมกวาดต้อนหยอกล้อจากปลายลิ้นเล็กและดูดกลืนเกี่ยวกระหวัดตอบโต้จนกัสครางออกมา

“อืมมม / อ๊าๆ”

ส่งฝ่ามือลูบไล้เวียนวนที่ยอดอกแข็งชันและสะกิดปลายยอดเพื่อปลุกเร้า  จนเจ้าของอกบางแอ่นรับตอบโต้ฝ่ามือทั้งสองตามมาด้วยเสียงครางหวาน  ผมจูบซับน้ำหวานจากปากนุ่มไล่แตะชิมมาถึงมุมปาก  ไล้ปลายลิ้นร้อนตามแนวคางกลับมาจูบดูดดึงริมฝีปากล่างที่เผยออ้าครางเสียงพร่า  ผมไล่จูบดูดชิมลำคอขาวและจับประคองให้คนรักเอนหลังลงบนเตียงนุ่ม  ก่อนสบตาหวานเยิ้มของกัสที่ส่งมาให้  ผมยิ้มตอบและจูบปากที่เห่อบวมแรงๆอย่างมันเขี้ยว  ลำคอระหงและอกบางถูกริมฝีปากผมสำรวจอีกครั้ง  กัสส่งมือเกาะกุมที่ท้ายทอยกดให้ใบหน้าผมแนบชิดยอดอกด้วยความเสียวซ่าน  ส่วนอีกข้างถูกผมปรนเปรอด้วยฝ่ามือนวดคลึงและสะกิดปลายยอดสีสวยด้วยปลายเล็บ

“ซี้ดๆๆ  วิน  อ๊ะ” ทำเอายิ่งได้ใจเมื่อมีเสียงหวานหลุดออกมา  ผมจึงยิ่งลงลิ้นระรัวสลับทำทั้งสองข้างไม่ให้น้อยหน้า  อกบางยกลอยมือนุ่มกดท้ายทอยผมตรึงแน่น

“อ๊าๆๆ  กัสเสียว  ซี้ดๆๆๆ  วิน”

ผมส่งมือลูบไล้สีข้างร่างเนียนลงไปถึงเอวบางที่ยกเกร็ง  ผ่านหน้าท้องขาวเนียนลงมือปลดตะขอและรูดซิบเพื่อเปลื้องกางเกงให้หลุดไปทางปลายเท้า  ร่างอมชมพูของกัสเรียกร้องให้เข้าไปจูบซับผิวเนื้อพร้อมดูดดึงฝากร่องรอยสีกุหลาบตามทาง  จนถึงขอบกางเกงในสีขาวที่ปิดส่วนปรารถนาที่โป่งนูนดันจนแทบปิดไม่มิด  เตรียมปลดเปลื้องปราการชิ้นสุดท้ายแต่มือบางกลับยื่นมากุมทับ  ผมเงยหน้าขึ้นจึงได้สบตาที่สั่นไหว  กัสคงเริ่มไม่มั่นใจและหวั่นกลัวเพราะคงรู้ว่าครั้งนี้ผมต้องทำให้ถึงที่สุดแน่  ผมจึงยิ้มปลอบใจและยกตัวขึ้นสบตา

“ไว้ใจวินนะครับ  วินจะทำให้กัสมีความสุข  เป็นของวินนะ” ก้มประทับจูบหน้าผากมนเพื่อยืนยันสิ่งที่พูด  ร่างบางหน้าแดงก่ำเม้มปากแน่นก่อนพยักหน้าตอบเบาๆเป็นสัญญาณให้เดินหน้าต่อได้  ใจผมนั้นเต้นแรงอดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้ครอบครองร่างกายของคนรัก  จึงมอบจูบดูดดื่มเพื่อให้ร่างบางผ่อนคลายจนกัสเริ่มตอบสนองจูบกลับมาและผมต้องครางอย่างพอใจ

“อืมม  กัส / อ๊า”

ผละหน้าออกจากจูบเคลื่อนไปยังเป้าหมายที่เปลือยเปล่าเพราะถูกผมปลดปราการชิ้นสุดท้ายไปแล้ว  แท่งร้อนสีสวยขยายภายอุ้งในมือ  ผมเปิดขาขาวแยกกว้างก่อนแทรกตัวเข้าหาและก้มหน้าชิมปลายยอดสีแดงสด  สัมผัสแรกจากผมเรียกเสียงกรีดร้องจากเจ้าของที่ผมละเลียดชิม  มือบางขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นสะโพกมนยกเกร็ง

“โอ้วว  ซี้ด  วะ  วิน  มันสะ  เสียว”

หลังจากผมละเลียดชิมจนพอใจจึงครอบปากรูดรั้งไปถึงโคนดูดชิมรสหวานขยับขึ้นลงปรนเปรอคนรัก  ส่งมือสะกิดที่ยอดอกจนเจ้าของกรีดร้องไม่เป็นภาษา  มือบางเปลี่ยนมาขยุ้มหัวผมบังคับจังหวะอย่างที่เจ้าตัวต้องการ  ผมยอมขยับตามใจทั้งดูดเม้มห่อปากเพื่อส่งอารมณ์ของกัสให้ถึงขีดสุดและพบความสุขสมในที่สุด  กัสเกร็งกระตุกปลดปล่อยสายธารรักอุ่นร้อนลงคอ  ผมเก็บกลืนน้ำหวานของคนรักจนหยดสุดท้าย  ร่างอมชมพูนอนระทวยหอบหายใจแรงตาหวานเยิ้มหน้าแดงก่ำปากเผยอยั่วตา  ภาพที่เห็นทำเอาผมแทบคลั่งแท่งร้อนกลางลำตัวขยายเต้นตุบดุนดันเนื้อผ้าออกมา  ผมลุกปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองแต่ตายังจับจ้องร่างบางที่นอนระทวยบนเตียงกว้าง  จนถึงชิ้นสุดท้ายที่ปิดความต้องการของผมไม่มิด  สายตากัสจับจ้องวินน้อยที่คึกคักทักทายสายตา  ยิ่งกัสมองมันยิ่งขยายทำให้คนน่ารักหน้าแดงก่ำแทบไหม้ก่อนหันหน้าหนีไปอีกทาง  ผมก้าวขึ้นเตียงแยกขาขาวให้กว้างก่อนแทรกตัวไปกึ่งกลาง  กัสสะดุ้งตกใจหันหน้ากลับมามองกันตาโต

“ฮึๆๆ  ยิ่งกัสทำหน้าแบบนี้เจ้านี่มันยิ่งคึกนะรู้มั้ย” ผมจับมือบางมาเกาะกุมเจ้าวินน้อยที่ตื่นเต้นสู้มือ  กัสดึงมือหนีทันทีผมจึงจับมือบางมาประทับจูบส่งสายตาเว้าวอนไปให้  เลื่อนใบหน้าประกบจูบปากที่เห่อบวมอีกครั้งก่อนดูดดึงและขบริมฝีปากเบาๆอย่างมันเขี้ยว

“อื้อออ  วิน  เจ็บนะ” เจ้าของเสียงหวานประท้วงผมจึงได้โอกาสสอดลิ้นทักทายดูดดึงลิ้นเล็กมาเกี่ยวกระหวัดดูดดื่ม  เริ่มปลุกอารมณ์ของร่างข้างใต้อีกครั้ง  ส่วนมือเอื้อมเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบหลอดเจลที่เตรียมไว้  และรวบขยับรูดรั้งแก่นกายที่เพิ่งปลดปล่อยไปแล้วกับแท่งร้อนของตัวเองให้ความต้องการของเราทั้งสองได้ใกล้ชิดกัน

“อ๊าๆๆ  วิน / อืม  ชอบมั้ยครับ  หืม”

กระซิบถามที่หูหอมก่อนขบเม้มติ่งหูส่งลิ้นแลบเลียปลุกอารมณ์ของกัสให้เตลิดและพร้อมสำหรับการร่วมรักของเรา  กัสครางปากแดงเผยอหันหน้าหนีลิ้นของผม  แต่กลับเปิดโอกาสให้ผมได้สำรวจลำคอขาวที่อยู่ตรงหน้าได้ถนัด  ผ่านไปลาดไหล่ลงมาถึงหน้าท้องแบนราบ  แวะวนรอบหลุมเล็กกลางตัวแหย่ลิ้นลงหยอกล้อ

“ซี้ด  หยะ  อย่าแกล้ง  มันสะ  เสียว  อ๊า” เอวบางยกลอยขนลุกชันทั่วตัวตามมาด้วยเสียงครางหวานหู

ผมขยับมือปรนเปรอแท่งร้อนของร่างบางไม่ขาด  ปากจูบซับปลายยอดแดงและลงลิ้นลากยาวถึงโคน  จับขาขาวอ้ากว้างกว่าเดิมจนเห็นช่องทางสีสวยชัดตา  ก่อนจูบซับเป้าหมายแลบเลียลิ้นเข้าทักทาย

“โอ้ว  อื้อ  ไม่  ไม่เอาวิน  มะ  มันสกปรก  อื้ม” เจ้าของเสียงพร่าพยายามผลักหัวผมออก  จึงจับมือบางไว้ก่อนเงยจูบประทับกลางฝ่ามือ  และส่งมือบางไปกอบกุมกัสน้อยที่กำลังเรียกร้องหาความอบอุ่นจากเจ้าของแทน

“ไม่ครับ  ตรงนี้ของวิน  กัสอย่าห้ามวินเลย” คลี่ยิ้มออดอ้อนขอไปให้กัสที่ใบหน้าแดงก่ำแววตาไหววูบ  ก่อนคนขี้อายจะเมินหลบตากันไปดื้อๆ

ผมกุมทับมือบางให้ขยับตามความปรารถนาของตัวเอง  ก่อนก้มหน้าปฏิบัติภารกิจเชยชมช่องทางสีสวยอีกครั้ง  ขณะที่ร่างบางพยายามหนีบขาปิดไว้  ผมส่งมือลูบไล้หน้าขาให้เจ้าของเปิดทางให้  จนขาขาวค่อยๆผ่อนแรงอ้ากว้างให้เห็นช่องทางสีสวยที่บีบเกร็ง  เพราะเจ้าของตื่นเต้นและเขินอายเกินกว่าจะให้สิ่งใดล้วงล้ำได้ง่ายๆ  ผมก้มลงจูบปากทางสีสดซ้ำๆก่อนแลบเลียรอบๆให้เจ้าของคล้อยตามเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ออกมา  และส่งมือลูบไล้อกบางที่ยอดอกหดเกร็งสู้มือช่วยอีกทาง 

“ซี้ดๆๆ  อ๊า”

เสียงครางหวานดังก้องด้วยเจ้าของเริ่มมีอารมณ์ร่วม  กัสเปิดทางอ้าขากว้างให้ผมสมใจห่อลิ้นสอดแทรกกระตุ้นอารมณ์คนรักให้ไต่ระดับขึ้น  มือบางขยับรูดรั้งแท่งร้อนของตัวเองถี่เร็วจนผมต้องยับยั้งไว้กลัวว่าที่รักจะทิ้งกันไปอีกรอบ  เพราะครั้งนี้ผมต้องการให้เรามีความสุขพร้อมกัน

“ช้าครับที่รัก  รอวินก่อน” กัสส่งสายตาขัดใจมาให้ผมจึงส่งยิ้มปลอบโยน  ก่อนปลดมือบางออกจากร่างกายตัวเองให้มาเกาะที่ไหล่ของผมแทน  และรีบบีบเจลป้ายไปที่ช่องทางรักที่ผมจะฝากฝังตัวในคืนนี้  กัสสะดุ้งก่อนชะโงกหน้ามามองและเงยหน้าแดงๆตาโตๆใส่ตา  ผมประกบจูบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของกัสไม่ให้ตื่นกลัว  และค่อยๆดันนิ้วที่ชุ่มไปด้วยเจลแทรกผ่าน  กัสสะดุ้งอีกครั้งผมจึงบดคลึงริมฝีปากนุ่มเรียกร้องความสนใจ  ระหว่างนั้นก็ดันนิ้วเข้าไปจนสุดและขยับเข้าออกช้าๆ

“อ๊าๆๆ  อืมๆๆ  วิน” กัสครางแผ่วและเริ่มขยับสะโพกสวน  ผมไล่จูบมาที่ยอดอกแดงก่ำก่อนเพิ่มนิ้วที่สองและสามตามไป  ตามมาด้วยการปรนเปรอร่างบางด้วยปากทำให้ได้ยินเสียงครางหวานดังไม่ขาด

“อ๊าๆ  วิน  กัสเสียว  เร็ว  เร็วอีก” เจ้าของเสียงหวานและสะโพกที่ลอยขยับสวนนิ้วทั้งสามเร่งเร้าให้ผมได้รู้ว่าที่รักพร้อมแล้ว  จึงดึงนิ้วออกเพื่อเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่า  กัสชะงักทิ้งสะโพกลงเตียงก่อนเงยหน้าส่งสายตาเว้าวอนน้ำตาปริ่มหางตาจนผมนึกสงสาร  กัสคงขัดใจและคงต่อว่าผมว่าใจร้ายที่ไม่ยอมให้กัสได้ปลดปล่อยแน่เลย

“ฮึกๆๆ  วินอย่าแกล้งกัสสิ  ฮือ” คนน่ารักน้ำตาไหลพรากเสียงสั่นและมีแววตาตัดพ้อจนผมใจไม่ดี

“โอ๋  คนดีอย่าร้องนะครับ” ผมเข้ากอดปลอบและจูบซับน้ำตาให้คนรัก

ขยับมือที่แท่งร้อนของคนขี้แยเพื่อเบี่ยงเบนให้หายจากความน้อยใจ  และได้ผลกัสครางอย่างถูกใจคาปากผม  ส่วนช่องทางรักที่เตรียมไว้คงพร้อมแล้ว  ผมจับวินน้อยที่พร้อมรบรูดรั้งและบีบเจลให้ชุ่มไปจ่อที่ปากทาง  และพยายามดันตัวแทรกความอุ่นร้อนแต่โดนต่อต้านบีบเกร็งจากร่างข้างใต้  ตามมาด้วยเสียงเครือแผ่วของกัส

“อื้อ  วิน  กัสเจ็บ” ผมหยุดสะโพกก้มมองกัสที่หน้าแดงก่ำปากเม้มแน่นมือบางดันหน้าท้องผมไว้  จนต้องสูดอากาศผ่านปากและครางแผ่วเพราะแรงบีบรัด  พยายามใจเย็นให้กัสได้ปรับตัวก่อนยกมือบางมาเกาะกุมไหล่ของผมไว้

“ซี้ดดด  กัสผ่อนคลายนะครับ  ให้วินรักกัสนะ  เจ็บก็จิกที่ไหล่วินเลย” ผมกดจูบไปที่ปากบางอีกครั้งและขยับมือที่แท่งร้อนที่เริ่มอ่อนลงเพราะความเจ็บ  รอให้กัสผ่อนคลายและค่อยๆดันวินน้อยเข้าหาช่องทางร้อน

“อ๊ะ  เจ็บวิน  ช้าๆ  อื้อ / โอ้วว  กัสครับ” เสียงครางของเราดังลั่น  ก่อนกัสจะลงเล็บที่ไหล่ลากยาวไปตามแผ่นหลังของผมเพื่อระบายความเจ็บ  ปากเจ่อแดงเผยอสูดอากาศเข้าปอดลึกจนอกกระเพื่อม  ก่อนเจ้าของมันจะยกตัวกอดคอผมแน่นและพูดในสิ่งที่ทำให้ผมดีใจ  เพราะได้รู้ว่าคนรักเค้าพร้อมเป็นของผมโดยสมบูรณ์แล้ว

“วินเข้ามาเลย  มะ  มันแน่น  ช้าๆนะ  อื้ออ” หลังได้ฟังผมจึงค่อยๆส่งความต้องการที่เหลือเข้าไป  กัสจับหน้าผมไว้ก่อนดึงเข้าหาเพื่อรับจูบดูดดื่ม  ผมตอบโต้ลิ้นนุ่มอย่างดุดันให้สมกับที่เจ้าของมันใช้ฟันคมๆขบกระตุ้นอารมณ์ร้อน  จนผมส่งวินน้อยเข้าหาความอุ่นร้อนได้หมด  ผมอดทนไม่ขยับรอให้กัสผ่อนคลายและปรับตัว  ตาจับจ้องผิวหน้าแดงก่ำเปลือกตาปิดสนิทคิ้วขมวดมุ่นปากเม้มแน่นของคนรัก  ผมส่งนิ้วเกลี่ยผิวแก้มแดงอย่างหลงใหลก่อนก้มลงสูดความหอม  จนกระทั่งกัสลืมตาขึ้นสบและขยับปากอนุญาต

“ขยับ  วินขยับ  อ๊า” สิ้นเสียงพร่าหวานผมยกขาเรียวข้างหนึ่งพาดบ่าอีกข้างโอบรัดรอบเอวของตัวเองไว้  ก่อนวางร่างบางลงกับเตียงและเริ่มขยับสะโพกจากช้าจนเริ่มถี่เร็วขึ้น  ก่อให้เกิดเสียงครางก้องจากเราทั้งคู่

“อ๊าๆๆ  วินๆ  อ๊ะ / โอ้ว  กัส  ซี้ด” ผมสบตาหวานที่ยั่วยวนปากแดงเผยอครางไม่ขาดปาก  ร่างบางขยับโยกไหวตามแรงกระแทกที่ผมส่งไป  ภาพที่ผมได้เห็นยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์ให้อยากฝังวินน้อยให้ลึกกว่าเดิม  จึงจับสะโพกมนไว้แน่นและกดสะโพกเข้าหาแรงเร็วและถี่กระชั้นขึ้น  โน้มตัวบดปากเข้าหาปากแดงเพื่อเก็บกักเสียงหวานมาไว้กับตัว  ด้วยอยากจะกลืนกินสิ่งที่เป็นของกัสไว้กับตัวทั้งหมด

“อื้อ  อืม” กัสจูบตอบได้อย่างดูดดื่มครางเครือก่อนละจูบโดยเบือนหน้าหลบและเอ่ยปากเร่งเร้า

“ฮื้อ  ระ  เร็ววิน  กัส  ฮือ  ไม่ไหวแล้ววว” เมื่อได้ฟังผมจึงเร่งสะโพกระรัวตามใจคนรัก  และเอื้อมมือรูดรั้งกัสน้อยที่โดนละเลยไปอย่างเร่งเร้าเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกที่กระแทกเข้าออกในความอุ่นร้อนเจียนระเบิด

“วินๆ  โอ้ว  กัสจะไปแล้ว  อ๊าๆๆๆ” หลังเสียงครางหวานช่องทางรักบีบรัดแน่นจนผมต้องสูดปาก  ก่อนสายธารรักจะปลดปล่อยมาเต็มฝ่ามือผมที่รูดรั้งให้  ผมต้องกัดฟันอดทนกับความแน่นรอบด้าน  ค่อยๆขยับสะโพกถอยห่างและส่งสะโพกเน้นๆเข้าหา  ผมกระแทกอารมณ์ร้อนไปที่ร่างบางอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยออกมา

“โอ้วๆๆ  กัส  อ๊าๆ” ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงแรงฉีดจากสายน้ำภายในตัวที่ผมปลดปล่อยออกมา  ผมฟุบหน้ากับซอกคอหอมที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อและกลิ่นกายกรุ่นจากกิจกรรมรักที่ผ่าน  เราสองคนนอนหอบตัวโยนโอบกอดกันและกัน  จนจังหวะหายใจกลับมาปกติอีกครั้ง  ผมขยับพลิกตะแคงตัวลงนอนข้างกัสก่อนโอบกอดร่างบางเข้าซุกอกและส่งมือไปลูบหลังชื้นเหงื่อ

“ขอบคุณครับที่รัก / ฟอดดด” ก้มจูบแก้มแดงฟอดใหญ่ที่เจ้าของเอาแต่ซุกหน้ากับอกผมไม่ยอมให้เห็นใบหน้าหวานได้ง่ายๆ  ผมจึงเชยคางมนขึ้นสบตากัสหน้าแดงก่ำเม้มปากแน่นเสหลบตาด้วยท่าทางเขินอายอย่างน่ารัก

“กัสเป็นของวินอย่างสมบูรณ์แล้วนะครับ  วินรักกัสนะ”

“พูดว่า ‘รัก’ อยู่ได้  กัสรู้แล้วน่า” หลังคำบอกรักของผมรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน  กัสก็ตอบรับเบาๆแกล้งเอ็ดเสียงแข็งทั้งๆที่หน้าแดง  สำหรับผมแล้วยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากจะต่ออีกสักรอบ  แต่ครั้งแรกของกัสขืนผมเอาแต่ใจกัสคงรับไม่ไหวแน่ๆ  ผมจึงค่อยๆถอนตัวเองออกจากความอุ่นสบาย  ก่อนที่มันจะสู้ขึ้นมาอีกครั้งเดี๋ยวคนรักจะแย่เอาได้

“อ๊ะ / ฮึๆ”  กัสอุทานเบาๆเมื่อวินน้อยหลุดออกมาทำเอาผมหัวเราะให้อย่างเอ็นดูด้วยคนน่ารักหน้าแดงหูแดงไปหมด

“เดี๋ยววินอาบน้ำให้นะครับ” ผมอุ้มร่างบางขึ้นก่อนเดินไปทางห้องน้ำ  แต่กัสส่ายหัวรัวเงยหน้าทำตาโตมีแววตื่นตระหนกเต็มหน่วยตา

“ไม่!  เดี๋ยวกัสอาบเอง  นะครับ” เจ้าของน้ำเสียงอ้อนหวานในอ้อมกอดผมทำสีหน้าสีตาอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร  ได้เห็นผมก็ใจอ่อนยวบด้วยกัสคงอยากได้เวลาส่วนตัวบ้าง 

ผมยิ้มและพยักหน้าตอบไปก่อนวางร่างบางลงกับพื้นห้องน้ำและโอบกอดไว้จนแน่ใจว่ากัสยืนได้มั่นคง  หันกลับมามองหน้าแดงๆของกัสที่มัวแต่ก้มมองต่ำ  ผมจึงเหลือบมองตามเห็นน้ำขาวขุ่นไหลลงตามหน้าขาขาวเนียน  กัสคงอายมากจึงยิ่งก้มหน้างุดและพยายามปิดประตูห้องน้ำกันผมออกมา  ผมฝืนตัวเพื่อรั้งร่างบางไว้และโอบประคองไปที่ชักโครกปิดฝาลงและให้ร่างบางได้นั่งพัก

“ไม่ต้องอายนะครับที่รักเดี๋ยววินล้างออกให้” เอื้อมจับสายยางเตรียมทำให้ตามที่พูด  แต่โดนมือบางกุมไว้ก่อนเจ้าของจะส่ายหน้ารัวเร็ว

“เดี๋ยวกัสจัดการเอง  นะ” กัสทอดเสียงอ้อนแผ่วท้ายประโยคก่อนเงยหน้าสบตาและรีบก้มลงตามเดิม  ผมตัดใจด้วยยอมตามใจคนรักแล้ว  ก่อนก้มจูบปางแดงระเรื่อเบาๆเป็นรางวัลให้คนช่างอ้อน

“งั้นเดี๋ยววินไปเตรียมเสื้อผ้าให้นะครับ  มีอะไรเรียกวินนะ” ผมเดินออกมานอกห้องน้ำแต่ไม่ได้ล็อคแค่ปิดไว้เผื่อกัสต้องการให้ผมช่วย  จนกัสอาบเสร็จผมจึงอุ้มกลับมาที่เตียงที่ได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่แล้ว  และวางคนรักลงจัดการแต่งตัวให้จนเสร็จ  ส่งยาแก้ไข้แก้อักเสบให้ทานกันไว้ก่อนและจัดให้เอนนอนห่มผ้าให้ร่างบาง 

“กัสนอนก่อนเลยนะครับ  เดี๋ยววินไปอานน้ำก่อนไม่ต้องรอนะครับที่รัก  ราตรีสวัสดิ์ครับ” ก้มจูบหน้าผากมนเพื่อส่งให้คนรักได้เข้านอน  เพราะกัสคงทั้งเหนื่อยและเพลียจากการ ‘ร่วมรักครั้งแรก’ ของเรา  ผมยิ้มตอบรอยยิ้มบางที่ส่งมาให้จากคนตาปรือปรอยและปิดลงในที่สุด 

ผมจึงเดินเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจึงกลับมานอนข้างกัส  ก้มหน้าฝังจมูกสูดกลิ่นแก้มหอมก่อนจับร่างบางที่หลับตาพริ้มคลี่ยิ้มน้อยๆเข้าซุกอก  คืนนี้ผมหลับไปพร้อมรอยยิ้มจากความสุขใจ  ความสุขแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน  แต่ผมก็ได้รู้จักมันเพราะคนรักที่อยู่ในอ้อมกอดผมคนนี้  ‘ในที่สุดผมก็ได้ครอบครองคนที่ผมรักอย่างสมบูรณ์แล้วครับ’

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ไม่มีอะไรจะพูด  :-[ อิจฉานายวิน !?
ติดตามความหวานต่อได้พรุ่งนี้นะคะ

 :กอด1: และ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ
+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-07-2012 07:26:14
สิ่งที่ปรารถนาของวินบรรลัผล :z1:

น่ารักกกกกกกกก

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 17-07-2012 10:11:19
อิ่มเอม ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 17-07-2012 10:32:31
เข้ามาอ่านทีนึงตาลายเลยอ่ะ พี่มาศอัพเร็วมาก
อ่านทันตอนที่มีบทอัศจรรย์พอดีเลย :z1:
อดอิจฉาทั้งคู่ไม่ได้ กัสก็น่ารัก วินก็เทพบุตร
ตอนนี้เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์แล้ว
สงสัยจะหวงกันมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวทีเดียว
ขอบคุณพี่มาศมากๆค่ะ :กอด1:
ป.ล. +1และเป็ดค่ะ
ป.ล.2 ตอนที่แล้วมิคเป็นบอร์ดี้การ์ด :laugh:
ป.ล.3 อันนี้พิเศษหน่อย เห็นว่าเฮียธัชจะมา โอ๊ยยยยย ดีใจจะได้มีเรื่องอ่านต่อ :m3:
 
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-07-2012 10:36:54
นายวิน
ได้โอกาสเชี่ยวนะ :m25:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-07-2012 10:44:18
เสร็จวินจนได้นะกัส
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 17-07-2012 10:58:45
หวาน หวานมาก มดขึ้นจอเลย >////< เป็นเอ็นซีที่หวานหยดไปเลย
วินอ่อนโยนมากๆ กัสก็น่ารักสุดๆ ฮุฮุฮุ ชอบจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 17-07-2012 13:28:38
อั้ยยะ อ่านแล้วก็เขิลเหมือนเดิมมม :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 17-07-2012 14:04:17

เขิน :o8:
วินน่ารักอ่ะ อ่อนโยนมาก
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 17-07-2012 16:10:17
ในที่สุด วินก็มีวันนี้ซักที  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-07-2012 17:18:56
วินนอนหลับฝันดีแน่
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 17-07-2012 22:04:29
เป็นแฟนกันรอบที่ 2 แล้ว กว่าจะได้..กัส หึ หึ

รอตอนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-07-2012 22:34:31
ฟิน   :m2: :m2:



(ไม่ใช่ฟิน-มิคนะ ฮ่าๆ )
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่32(17/7/55)P.13 สมใจนายวิน^////^
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 17-07-2012 23:41:57
หวานๆได้อีกนายวิน หมอกัส
สมใจนายวินจริงๆ
อิจฉานะเนี้ย
^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-07-2012 07:19:49
ตอนที่ 33

กัส

“ตกลงกัสไม่ได้บอกนายวินใช่มั้ยว่าจะไปหาเนี่ย” มิคเดินมาส่งผมยังรถยนต์ที่จอดรอหน้าบ้านพัก

“อืม  อยากเซอร์ไพรส์วินน่ะ” ระหว่างที่ตอบมิคนั้นผมเดินไปส่งกระเป๋าเดินทางให้พี่ศรคนขับรถบ้านวินที่รอรับของอยู่

“แหม  ชอบจริงนะเซอร์ไพรส์เนี่ย  นิสัยไม่เปลี่ยนเลย  ฮิๆๆ” มิคแซวแกมหยอกถึงเหตุการณ์เซอร์ไพรส์นองน้ำตาครั้งก่อน  มันกระทบใจจนผมอยากจะโกรธเพื่อนตัวแสบสักครั้ง  แต่ก็รู้ว่ามิคแค่ล้อเล่นจึงแค่ทำหน้าบึ้งเหวี่ยงค้อนให้รู้ว่าผมจะงอนถ้ามิคไม่รีบง้อ

“โอ๋ๆๆ  มิคแซวเล่นน่ะไม่งอนนะ  นายวินไม่กล้าให้เกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมหรอก  ออกจะรักจะหวงคู่หมั้นตัวเองขนาดนี้  แต่ที่แน่ๆกัสคงต้องง้อวินหนักหน่อยละมั้ง  ก็เล่นไปโกหกว่าไม่ว่างไปอวยพรวันเกิดให้นี่  ระวังเถอะจะต้องง้อจนหมดตัวแน่  ฮิๆๆ  โอ๊ย!  มิคเจ็บนะกัส  ไม่เอาแล้วรีบไปเลยเดี๋ยวไม่ทันเวลาเซอร์ไพรส์นะ”

เพื่อนตัวแสบรีบเบี่ยงเบนความสนใจเพราะเจ็บตัวจากการถูกผมตีแขนที่มาแกล้งแซวให้ได้อาย  ก่อนผมจะเอ่ยลาและฝากฝังเรื่องงานให้มิคทำแทนช่วงที่ผมลาไปหาวิน  เหตุที่ต้องลางานครั้งนี้ก็เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของวิน  ซึ่งก่อนหน้านี้วินก็โทรมาขอร้องให้ผมลางานไปหากันที่กรุงเทพฯเพราะตัววินเองช่วงนี้งานยุ่งมากปลีกตัวมาหาผมไม่ได้  แต่เป็นผมเองที่ปฏิเสธไปอยากแกล้งให้เจ้าของวันเกิดกระวนกระวายใจเล็กๆบ้าง  ด้วยผมตั้งใจลางานไปหาคนรักอยู่แล้วเพราะเมื่อวันเกิดของผมวินก็ลางานมาอยู่ฉลองวันเกิดให้ถึงที่ทำงาน  วันนั้นวินตื่นเช้ามากเพื่อมาทำอาหารใส่บาตรให้ขณะที่ผมนอนอุตุไม่รู้ตัว  ก่อนจะปลุกผมให้มาใส่บาตรทำบุญด้วยกัน  แถมช่วงเย็นวินยังทำอาหารที่ผมชอบให้เองอีกทั้งๆที่ผมบอกว่าไปทานกันข้างนอกก็ได้แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม  จะว่าดีใจผมก็ดีใจนะที่วินมาอยู่ร่วมฉลองวันเกิดด้วยกัน  แต่ผมรู้สึกว่าวินจะมีความสุขมากกว่าตัวผมเองซะอีก  เพราะคืนนั้นผมต้องเปลืองตัวให้คนเจ้าเล่ห์ที่ให้เหตุผลมาว่า ‘วันเกิดกัสวินจะทำให้กัสมีความสุขที่สุด’ ส่วนผมก็ดันเคลิ้มไปกับคนมากเล่ห์จนได้ 

ทำให้วันต่อมาเราทั้งคู่ลงมาสายเพื่อนตัวแสบที่คอยจับผิดอยู่แล้วถึงกับเอ่ยแซว  และตั้งแต่นั้นมามิคก็จะแซวผมเรื่องนี้ตลอดจนได้อายไปหลายรอบแล้วอย่างวันนี้ก็ไม่เว้น  ผมไม่ต้องการปิดบังอะไรกับเพื่อนสนิทเพราะไหนๆเราก็หมั้นกันแล้ว  แต่ความอายมันห้ามกันไม่ได้นี่หน่า  คิดแล้วเริ่มไม่แน่ใจว่าที่ผมแกล้งวินครั้งนี้มันดีจริงๆรึเปล่า  เพราะท้ายสุดคงต้องเป็นผมที่เสียเปรียบให้วิน อยู่ดี  แต่ถึงไม่ทำแบบนี้ผลก็คงไม่ต่างกันนักหรอกมั้งครับ  ความสัมพันธ์ของเราสองคนก็ราบรื่นดีและออกจะหวานจนเลี่ยนหลังจากเรามีคืนแรกที่ลึกซึ้งกันแล้ว  วินพ่อคนเจ้าเล่ห์ที่แต่ก่อนตอดเล็กตอดน้อยกับผมอยู่แล้วกลับเป็นหนักขึ้นเมื่ออยู่กันสองคน  จนผมต้องปรามออกไปซึ่งเจ้าตัวก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง  วินไม่ได้มีแต่ความเจ้าเล่ห์หรอกครับเรื่องน่ารักๆก็มี  อย่างเช่นวินจะรีบมาหาผมทันทีที่ตัวเองว่างจะอยู่ด้วยหลายวันและคอยดูแลเอาใจใส่ตลอด  ผมแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย  และเรื่องคำรักคำหวานหูวินก็มีให้ไม่ขาด  ซึ่งผมก็เชื่อในสิ่งที่คนรักพูดเพราะเวลาได้พิสูจน์มาแล้ว 

พอวันเกิดวินเจ้าตัวก็เลยอยากให้ผมไปอยู่ด้วยแต่พอรู้ว่าผมไปไม่ได้  ปากก็บอกว่าเข้าใจแต่ผมรู้ว่าวินคงแอบน้อยใจอยู่  ก่อนผมออกมาได้โทรไปก็คุยด้วยแป๊บเดียวก็ขอวางวินอ้างว่างานยุ่งคงงอนผมไปเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งวินไม่ได้รู้เลยว่าผมกำลังไปหาและรถที่นั่งอยู่ก็เป็นรถที่คุณแม่วินส่งมารับ  โดยที่ผมโทรไปปรึกษาคุณแม่เรื่องฉลองวันเกิดให้วินและก็เป็นคุณแม่เองที่อยากแกล้งลูกชายช่วยวางแผนให้  แถมเป็นแม่งานจัดงานเล็กๆที่บ้านให้อีกต่างหาก  ตามแผนผมต้องไปรับเจ้าของวันเกิดถึงที่บริษัทซึ่งผมก็ไม่เคยไปซะด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง

....................................

ตึกสองชั้นทรงโมเดิร์นมีต้นไม้ใหญ่ปลูกโดยรอบ  โดยพุ่มไม้สูงแค่ระดับเอวและปลูกเป็นแนวรั้วกั้นอาณาเขต  มีที่จอดรถอยู่ด้านข้างตึกซึ่งมีรถจอดอยู่เต็มแล้ว  หนึ่งในนั้นก็มีรถของวินจอดอยู่ด้วยให้สบายใจว่าคนที่ผมตั้งใจมาเซอร์ไพรส์นั้นอยู่ที่นี่แน่  ผมเดินลงจากรถและให้คนขับรถกลับบ้านไปก่อนเลยเพราะตั้งใจจะกลับกับวินอยู่แล้ว  เมื่อเข้ามาในบริษัทก็สัมผัสถึงความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ  ภายในตกแต่งด้วยโทนสีครีมสบายตามีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นและตรงหน้าผมมีโต๊ะประชาสัมพันธ์ที่มีผู้หญิงนั่งก้มหน้าทำงานอยู่ 

“ขอโทษครับ  ผมมาขอพบคุณวินครับ” ผู้หญิงตรงหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เงยหน้าขึ้นมองผมนิ่งๆก่อนยกยิ้มมาให้

“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ  และนัดไว้รึเปล่า” เธอถามกลับเสียงนิ่งแต่หน้ายังประดับยิ้มน้อยๆอย่างไว้ตัว  ผู้หญิงคนนี้ดูดีไม่น้อยในสายตาของผมด้วยรูปหน้าเรียวยาวแต่งหน้าสวยยิ้มเก๋แม้จะดูหยิ่งนิดๆก็เถอะ

“เอ่อ  ไม่ได้นัดครับ  เรื่องชื่อผมไม่สะดวกจะบอกแต่ผมเป็นเพื่อนสนิทของคุณ วินนะครับ  ขอเข้าพบเลยได้มั้ยครับ” เธอได้ฟังแล้วหุบยิ้มทันทีก่อนขมวดคิ้วใส่ผม

“ดิฉันคงให้คุณเข้าไปพบไม่ได้หรอกค่ะเพราะคุณไม่ได้นัดไว้และไม่ยอมบอกชื่อด้วย  ดิฉันเลยไม่รู้จะแจ้งไปทางเลขาคุณวินได้ยังไงว่าใครมาพบ  ส่วนเพื่อนสนิทคุณวินดิฉันรู้จักทุกคนแต่ไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนนี่คะ  ไม่รู้ว่ามาแอบอ้างขอพบคุณวินรึเปล่า” ตอบอย่างขึงขังไม่ยอมให้ผมได้เจอวินง่ายๆและดูท่าทางเธอคงคิดว่าผมมาหลอกลวงอีกต่างหาก  ผมคงต้องโทรปรึกษาคุณแม่ก่อนแล้ว  เพราะถ้าผมบอกชื่อไปก่อนได้เจอวินก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ

“แต่ผมสนิทกับวินจริงๆนะครับขอเข้าพบไม่ได้หรอครับ” ผมพยายามดูอีกสักครั้งเผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ

“คงให้เข้าพบไม่ได้ค่ะ  คุณจะบอกชื่อมั้ยล่ะคะดิฉันจะแจ้งไปทางคุณเลขาให้  ว่าคุณวินจะให้คุณเข้าพบมั้ย  หรือจะนั่งรอจนคุณวินเลิกงานก็ได้ค่ะ  ทางนู้นมีโซฟารับแขกอยู่” แววตาเริ่มไม่พอใจที่ผมยังคงเซ้าซี้  ผมได้แต่ถอนใจที่สุดท้ายคงต้องรบกวนคุณแม่หาวิธีให้ได้เข้าไปพบวินโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวซะแล้ว

ผมเอ่ยขอบคุณประชาสัมพันธ์สาวที่ตอนนี้หน้าไม่รับแขกแบบผมซะแล้ว  และแอบได้ยินเธอบ่นเบาๆว่า ‘เจอมาหลายคนแล้วแบบนี้ที่อยากพบคุณวิน  จะมาตกเหยื่อคุณวินของฉันเหรอ  ฝันไปเถอะ  ชิ’  เฮ้อ  นี่อย่าบอกนะว่าลูกน้องสาวคนนี้หวงเจ้านายตัวเองและคอยกันคนที่มาสนใจวิน  ความจริงมันก็ดีที่คนอื่นที่มาสนใจวินเข้าหาวินยากเพราะเธอคนนี้คอยกันท่าให้  แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่มาติดต่องานจริงๆบริษัทคงเสียหายมากแน่ๆแต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน  ขอโทรบอกคุณแม่ก่อนเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา  ผมกดโทรศัพท์หาคุณแม่และบอกถึงปัญหาว่าเข้าพบวินไม่ได้  คุณแม่ร้อนใจทันทีจะขอคุยกับประชาสัมพันธ์สาวที่กำลังก้มหน้าทำงานต่อทำเป็นไม่สนใจผมทั้งๆที่เธอแอบมองผมเป็นระยะ  แต่ผมขอร้องท่านซะก่อนว่าอย่าเอาเรื่องเธอคนนี้เลยเพราะเธอแค่ทำตามหน้าที่  และตอนนี้ผมอยากเจอวินมากกว่าเพื่อทำตามแผนที่วางไว้  ซึ่งคุณแม่ก็ยอมและบอกว่าให้นั่งรอก่อนเดี๋ยวท่านจะจัดการให้เอง  ผมจึงวางสายและนั่งรอตามคำสั่งท่านและก็ยังเจอสายตาสอดส่องจากแม่สาวประชาสัมพันธ์ที่ขยันส่งสายตาไม่ไว้ใจมาให้   พักหนึ่งผมก็เห็นสาวสวยในชุดเดรสเข้ารูปสีกรมเข้มท่าทางกระฉับกระเฉงเดินส่งยิ้มตรงมาทางผม

“สวัสดีค่ะ  ใช่คุณกัสรึเปล่าคะ” ผมรีบยกมือรับไหว้หญิงสาวที่มาใหม่ทันทีและส่งยิ้มรับไปให้สาวสวยตรงหน้า

“ดิฉันชื่อ ‘ออย’ เป็นเลขาคุณวินค่ะ  คุณอิงอรโทรมาให้ดิฉันลงมารับคุณกัสค่ะ  และต้องขอโทษเรื่องพนักงานของเราด้วยนะคะ  เชิญทางนี้เลยค่ะ” อิงอรเป็นชื่อของคุณแม่วิน  ท่านคงโทรตามคุณเลขาให้มาพาตัวผมไปพบวินนั่นเอง

“ครับ  ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มให้คุณออยได้สบายใจว่าผมไม่ได้คิดอะไรมาก  เราเดินผ่านหน้าโต๊ะประชาสัมพันธ์ที่ตอนนี้คนที่นั่งหลังโต๊ะลุกขึ้นยืนมือกุมไว้ด้านหน้าทำหน้าตาสงสัยมองมาทางผม  และคุณอรก็หยุดตรงหน้าเธอก่อนเอ่ยเสียงนิ่งติดดุ

“จิ๊บ  นี่คุณกัสเป็นคู่หมั้นคุณวิน  ให้ทำความรู้จักไว้ต่อไปจะได้ไม่เสียมารยาทกับคุณกัสอีก”

“สะ สวัสดีค่ะคุณกัส” สาวจิ๊บยกมือไหว้หน้าซีดตกใจเมื่อคุณออยแนะนำผมแล้ว  ผมจึงยกมือรับไหว้และยิ้มอ่อนๆส่งไปให้  อดเห็นใจเธอไม่ได้เพราะรู้ว่าทำตามหน้าที่แม้จะดูมากเกินไปนิดในสายตาของผม

“พรุ่งนี้ขึ้นไปพบพี่ที่ห้องหน่อยนะ / ค่ะ” หลังคำสั่งคุณออยก็มีเสียงตอบรับของจิ๊บทันที  เธอก้มหน้าตอบเสียงสั่นจนผมเริ่มรู้สึกสงสาร

“เชิญทางนี้เลยค่ะคุณกัส  คุณวินเข้าประชุมกับฝ่ายศิลป์อยู่ค่ะแต่ใกล้เสร็จแล้ว” คุณออยพาผมขึ้นบันไดไปชั้นสองที่ซึ่งเป็นห้องทำงานของวิน  ให้ผมนั่งรอด้านในจัดหาเครื่องดื่มและของว่างมาให้เสร็จจึงออกไปนั่งทำงานต่อด้านนอก  อุณหภูมิเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศโซฟานุ่มน่านอน  พอได้เอนหลังพิงพนักบวกกับความอ่อนเพลียจากการเดินทำให้ผมหลับไปแบบไม่รู้ตัว

...............................

สัมผัสเปียกชื้นไล่จากเปลือกตาไปผิวแก้มจนมาถึงริมฝีปาก  ก่อนสิ่งนั้นจะรุกล้ำเข้ามาในโพรงปากทำให้ผมสะดุ้งตื่นและทันได้เห็นดวงตาคู่คุ้นเคยสบตากันนิ่งในระยะประชิด  แต่ริมฝีปากนุ่มก็ไม่ยอมผละออกกลับเพิ่มแรงกดบดคลึงเพื่อให้ผมยอมเปิดรับ  รวมกับแววตาออดอ้อนเว้าวอนที่ได้สบพาลทำเอาผมใจอ่อน  ยอมให้อีกฝ่ายควานหากวาดต้อนลิ้นนุ่มตามแต่ชอบใจ  สัมผัสเคลิบเคลิ้มที่ได้รับทำให้ผมโอบแขนรอบคอแกร่งเพื่อโน้มคอให้จูบได้ลึกซึ้งและลูบไล้ท้ายทอยอย่างเพลินมือ

“อืม” ผมหลุดครางเสียงหวานออกมาจนตัวเองยังสะดุ้ง  และเริ่มรู้สึกตัวถึงมือหนาที่สอดลูบไล้บริเวณหน้าท้อง  จึงจับใบหน้าคนปล้นจูบไว้และเบี่ยงหน้าออก

“พะ  พอก่อนนะครับ” เอียงหน้าซบโซฟาหลบมาหอบหายใจเพื่อหนีจูบร้อน  แต่ก็หนีปากซุกซนไม่พ้นยังโดนจูบร้อนไล่จากแก้มถึงซอกคอ

“วิน  พอก่อนนี่ที่ทำงานนะ” ลูบผมหนาให้เจ้าของได้รู้ตัวก่อนได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของคนข้างบนอย่างพยายามตัดใจ  วินซบหน้านิ่งกับอกผมจึงส่งมือลูบหลังปลอบโยน  จนกระทั่งคนหน้าหล่อทำใจได้เงยหน้าขึ้นสบตา  และดึงเราทั้งคู่ให้นั่งพิงโซฟา  ผมยิ้มใส่ตาเจ้าของดวงตาดุอย่างเอาใจก่อนเอื้อมมือลูบแก้มสากแผ่วเบา  และโน้มหน้าชิดหูเพื่อกระซิบ

“เซอร์ไพรส์ครับที่รัก” ผมพรมจูบที่ใบหูก่อนผละออกมาดูผลงาน  วินยังเก๊กหน้านิ่งทั้งๆที่แววตาสั่นระริกอย่างยินดีปิดไม่มิด  ดูก็รู้ว่าถ้าผมอ้อนอีกนิดคนขี้เก๊กคงทนไม่ไหวแน่นอน

“เลิกงอนกัสนะครับ  วินอยากให้กัสมาหาก็มาแล้วนี่ไง  หืม  เลิกหน้ายุ่งนะแฟนใครเนี่ยไม่หล่อเลย” เอื้อมมือบีบจมูกโด่งไปมาเบาๆอย่างมันเขี้ยวและส่งยิ้มหวานให้อย่างเอาใจ  ดูสิผมอุตส่าห์ง้อขนาดนี้แล้วถ้ายังไม่เลิกงอนก็ให้รู้กันไป  ผมย่นจมูกส่งเป็นสัญญาณให้วินรับรู้ว่าเลิกงอนได้แล้ว

“กัสแกล้งหลอกวินทำไมครับว่ามาไม่ได้  วินน้อยใจกัสมากเลยรู้มั้ยครับ” คนขี้เก๊กหลุดเสียงอ้อนออกมาจนได้ก่อนที่ผมโดนจูบแก้มไปฟอดใหญ่  และวินก็หันมาทำปากยื่นหน้างอนให้แทน  เห็นแบบนี้แล้วก็อยากจะหัวเราะดังๆให้กับคนตัวโตแสนงอนของผม

“คิกๆ  หน้าวินตลกจัง  เลิกน้อยใจนะถึงยังไงกัสก็มาหาวินถึงนี่แล้ว  อยากให้  วินตกใจเล่นนี่หน่าเมื่อเห็นกัสที่นี่  แต่ไม่น่าหลับเลยแถมโดนใครไม่รู้ลักจูบด้วย” วินยิ้มกว้างหายงอนและตาพราวระยับเมื่อโดนผมหยอกเรื่องจูบ

“วินตกใจจริงๆครับที่เห็นกัสนอนมาอยู่ที่นี่นึกว่าตัวเองตาฝาด  เลยจูบพิสูจน์ไงแล้วก็รู้ว่าเป็นกัสตัวจริง” วินส่งสายตาหวานมาให้เล่นเอาผมแก้มร้อนซู่ขึ้นมาเมื่อนึกถึงจูบเมื่อครู่  จนต้องรีบเปลี่ยนประเด็นและเป็นภารกิจหลักในการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ 

“สุขสันต์วันเกิดนะครับ  กัสขอให้วินมีความสุขและก็....ก็รักกัสให้มากๆด้วย” พูดจบซบหน้ากับบ่าแกร่งซ่อนอาย  ผมต้องข่มความอายอย่างมากกว่าจะพูดประโยคสุดท้ายไปได้  ท่าทางของผมทำให้เจ้าของบ่าหัวเราะเสียงดังอย่างถูกใจ

“ฮึๆๆ  ขอบคุณครับที่รัก  ถึงกัสไม่บอกวินก็รักกัสมากขึ้นทุกวันอยู่แล้ว” วินเชยคางผมขึ้นให้เราได้สบตากันก่อนประทับจูบนิ่งนานและกดริมฝีปากย้ำๆหลายที  จนผมเผลอหัวเราะก่อนดิ้นรนออกจากอ้อมกอดคนขี้แกล้ง

“ใครเป็นคนคิดแผนการแกล้งวินครับ  อย่าบอกนะว่าเป็นกัส  นั่นแน่ๆ  ต้องมีแม่ของวินด้วยแน่ๆใช่มั้ยครับ”

“คิกๆ” ผมพยักหน้าพร้อมกลั้วหัวเราะแทนการตอบ  วินทำหน้ายู่เพราะขัดใจได้ตลกมาก

“แม่นะแม่แกล้งลูกชายตัวเองได้  เห็นลูกเสียใจและหงุดหงิดที่เมียไม่มาคงมีความสุขล่ะสิ” วินบ่นพึมพำเบาๆกับตัวเองหน้ายุ่งแต่ผมก็ยังได้ยินคำแทนตัวผมว่า ‘เมีย’ ทำเอาเขินแกมโมโหพ่อตัวดีคนนี้จริงๆ  แม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะแต่ถ้าใครมาได้ยินเข้าผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน

“เพี้ยะ / วินพูดอะไรน่ะ  กัสได้ยินนะ” ผมฟาดแขนแกร่งเต็มมือด้วยใบหน้าร้อนฉ่า  ก่อนชี้นิ้วใส่หน้าคนเจ้าเล่ห์ที่ยกยิ้มกวนโมโหมาให้

“ครับๆ  แต่มันเป็นเรื่องจริงนี่  อ๊ะๆ  วินไม่พูดแล้วครับ  แล้วกัสหิวมั้ยกลับบ้านกันเลยดีกว่า” วินรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้ว่าขืนยังล้อผมมากกว่านี้ได้เจ็บตัวกว่าที่โดนไปแน่

“ยังไม่ค่อยหิวหรอกเพราะคุณออยหาของว่างมาให้เพียบเลย  แล้ววินทำงานเสร็จแล้วเหรอ” ผมชวนคุยขณะที่วินเข้ามาโอบตัวผมไปพิงอกและคลึงนิ้วมือที่หลังมือของผมเล่น

“เสร็จแล้วครับ  แต่ถึงไม่เสร็จก็เอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้แฟนมาหาไม่มีใจทำต่อแล้ว / ฟอด” คนข้างหลังโน้มตัวมาขโมยแก้มผมไปฟอดใหญ่หลังพูดจบ  ก่อนวินจะส่งยิ้มหล่ออย่างอ้อนๆมาให้
 
“วินครับ  กัสลืมเลย  นี่ครับสุขสันต์วันเกิดนะครับ” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมให้ของสำคัญ  จึงปลดแขนแกร่งก่อนเอื้อมตัวไปหยิบกล่องของขวัญที่ใหญ่กว่าฝ่ามือไม่มากส่งให้วิน  คนที่ได้รับของขวัญฉีกยิ้มกว้างแววตาพราวระยับอย่างดีใจจ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ 

“ขอบคุณครับกัส  จริงๆของขวัญไม่ต้องเลยแค่มีกัสอยู่กับวินในวันนี้ก็พอแล้ว  งั้นวินแกะเลยนะครับ” ผมพยักหน้าให้ผู้ใหญ่ตัวโตที่กำลังทำท่าดีใจเป็นเด็กๆ  ก้มหน้าแกะกระดาษห่อของขวัญอย่างทะนุถนอม  วินมองของขวัญในมือตาโตยิ้มพราวด้วยถูกใจกับของที่ได้รับ  คนให้แบบผมก็อดจะภูมิใจไม่ได้ที่คนรักชื่นชอบของขวัญที่ตัวเองพยายามสรรหามาให้

“กัสไปหานาฬิกาเรือนนี้มาจากไหนครับ  รู้มั้ยวินหานานมากเลย” วินยกนาฬิกาขึ้นส่องมองมันอย่างถูกใจและส่งยิ้มตาหยีมาให้  ก่อนจะส่งนาฬิกาเรือนใหญ่มาให้ผมเพื่อสวมให้และเอาไปเทียบคู่กับเรือนที่อยู่บนข้อมือของผม 

มันเป็นนาฬิกาคู่ที่ตัวเรือนหรูวาววับล้อแสงไฟด้วยหน้าปัดสี่เหลี่ยมแบบเข็มและสายหนังแท้  ซึ่งของผมสายหนังจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนของวินเป็นสีน้ำตาลเข้ม  ผมได้เรือนบนข้อมือมาจากวินเมื่อวันเกิดที่ผ่านมาคอลเล็กชั่นนี้บริษัททำออกมาสองสี  วินซื้อมาให้ผมเพราะถูกใจในดีไซน์ที่เรียบหรูแต่เรือนที่คู่กันนั้นขายไปก่อนแล้ว  ก่อนนี้วินพยายามตามหาอยู่หลายร้านแต่ก็ยังไม่เจอบ่นมาตลอดว่าอยากใส่คู่กัน  ผมนั้นได้เรือนนี้มาจากความช่วยเหลือของเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยที่ทางบ้านมีร้านขายนาฬิกาแบรนด์ดังหลายตัว  ซึ่งกว่าผมจะได้มานั้นต้องสั่งตรงถึงที่บริษัทแม่ในต่างประเทศเลยทีเดียว

“วินชอบมั้ยทีนี้เราก็ได้ใส่คู่กันแล้ว” วินพยักหน้าให้ผมระรัวราวกับเด็กๆที่กำลังถูกใจ  และยื่นข้อมือมาเทียบนาฬิกาตัวเองกับนาฬิกาที่ข้อมือผมก่อนยิ้มร่าอย่างภูมิใจ

“ขอบคุณครับที่รัก  วินรักกัสมากนะ” คนที่เพิ่งสนใจนาฬิกาหันมามองหน้าผมและบอกรักกันดื้อๆ  จนผมต้องยิ้มกว้างพยักหน้าให้คนปากหวานก่อนลูบแก้มสากของเจ้าของวันเกิด  และเอ่ยคำที่อยู่ในใจให้อีกฝ่ายได้ชื่นใจ

“กัสก็รักวินเหมือนกัน” หลังคำพูดผมเราต่างยิ้มให้กัน  ก่อนจะโน้มหน้าเข้าหากันจะจูบซ้ำๆย้ำๆยืนยันคำรักที่เรามีให้กัน

........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

หวานซ้า  :-[ และความหวานก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แถมตอนหน้าร้อนนิดๆด้วย 555 มาติดตามกันว่า
เพื่อนๆให้อะไรเป็นของขวัญวิน บอกได้คำเดียวว่า
วิน "ถูกใจมั่กมาก"  o18

+1และเป็ดให้นะคะ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 18-07-2012 07:55:20
น่ารักอ่ะเขินๆๆๆ :-[

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 18-07-2012 08:07:05
กัสน่ารักมากๆ มีเซอร์ไพร์วันเกิดด้วย >////< แค่ดันหลับซะนี้ ฮ่าๆ
เลยโดนวินลักจูบซะเลย คุณออยลงโทษจิ๊บให้หนักๆเลยนะ จะได้มีจิตสำนึกขึ้นมาบ้าง
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-07-2012 13:32:14
หวานกว่านี้มีมั้ย เชอะ อิจฉา
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 18-07-2012 13:37:26

น่ารักอ่ะ มีเซอร์ไพรส์ด้วย :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-07-2012 17:24:52
น้ำตาลเป็นน้ำเชื่อม
แล้วตอนนี้ :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-07-2012 17:32:07
เขินแทนคู่นี้จังเลย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่33(18/7/55)P.14 เซอร์ไพรส์วันเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 18-07-2012 21:32:21
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-07-2012 07:03:53
ตอนที่ 34

วิน

“ทำไมบ้านเงียบจังไปไหนกันหมดนะ” ผมเดินนำกัสเข้าบ้านมองรอบตัวแต่ไม่พบใครและเงียบผิดปกติอดไม่ได้ต้องเอ่ยปากออกมา  หันกลับไปหาคนรักที่ต้องเดินตามมาแต่กัสกลับหายตัวไป
 
“กัสๆ  อยู่ไหน  ก็เดินตามกันมานี่หน่า” มองไปรอบห้องรับแขกก็ไม่เจอคนที่เรียกหา  ทำเอางงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กัสและทุกคนในบ้านหายไปไหน

“วิน!!  ช่วยด้วย!” เสียงขอความช่วยเหลือจากคนรักดังขึ้นมาจากทางสระว่ายน้ำข้างบ้าน  ทำเอาผมตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรักจึงรีบวิ่งไปทางต้นเสียงอย่างร้อนใจ

“ปึกๆ  ฟู่  ปึกๆ  ฟู่ / สุขสันต์วันเกิดนะ / ยินดีด้วยแก่อีกปีแล้วโว้ย / ฮ่าๆๆ” เสียงดังสับสนเกิดขึ้นเมื่อผมมาถึงบริเวณสระว่ายน้ำ  ตั้งสติตัวเองได้แล้วก็พบว่าสายรุ้งจากกรวยกระดาษที่ทำให้เกิดเสียงเมื่อครู่มันอยู่เต็มหัว  กวาดตามองไปรอบๆก็พบเพื่อนสนิททั้งสี่คน  คนในครอบครัว  เพื่อนสาวคนสนิทของกัส  และคนรักที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างมาย  นี่คงเป็นอีกหนึ่งแผนเซอร์ไพรส์ในวันเกิดผมสินะ

“อึ้งไปแล้วลูกชายฉัน  เซอร์ไพรส์มั้ยจ๊ะลูกวินของแม่  ฮิๆๆ”  คุณแม่ยังสาวเดินมาดึงสายรุ้งบนหัวออกให้และตบแก้มผมเพื่อเรียกสติ  ผมจึงกอดเข้าที่เอวบางและหอมแก้มท่านหลายฟอดใหญ่
 
“อุ๊ย!  ตาวินพอแล้วแม่แก้มช้ำไปหมดแล้ว  ฮิๆ” คุณแม่ร้องตกใจก่อนเบี่ยงตัวหลบจมูกผมยกใหญ่  แต่ผมที่ยังอยากแหย่ท่านก็ยังยื่นหน้าเข้าหาแก้มนุ่มและกดจมูกซ้ำๆอยู่หลายที  เรียกเสียงหัวเราะอย่างถูกใจจากคุณแม่ยังสาวได้

“พอๆเจ้าวินนั่นเมียพ่อเดี๋ยวช้ำหมด  ฮ่าๆ” คุณพ่อเข้ามาดึงคุณแม่ออกจากผมก่อนโอบกอดอย่างหวงแหน  และแกล้งส่งยิ้มเยาะเย้ยยักคิ้วมาให้ผม  ส่วนคุณแม่ก็อมยิ้มแก้มแดงและตีเข้าที่แขนคนที่กอดเอวแก้เขิน  เป็นการทำโทษที่มาทำหวานต่อหน้าลูกๆจึงเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้

“นู่นคนของแก  ส่วนคนนี้ของพ่อโว้ย  ฮ่าๆ” คุณพ่อพยักพเยิดไปทางกัสที่ยืนหัวเราะปากกว้างอยู่จากการหยอกเย้าของท่านทั้งคู่  พอโดนโยนมุกมาให้เล่นเอาคนตัวเล็กชะงักก่อนหน้าจะขึ้นสีทันตาและมองมาทางผมอย่างอายๆ  ผมจึงรีบเดินไปโอบกอดซ้อนหลังกัสไว้ก่อนวางคางเกยไหล่และโยกตัวเบาๆเป็นการปลอบโยน

“แน่อยู่แล้วครับนี่คนของผม  ฟอด / วิน!” กดจมูกที่แก้มนุ่มฟอดใหญ่เรียกเสียงตกใจจากคนในอ้อมกอด  กัสตกใจตาโตหน้าแดงก่ำคงไม่คิดว่าผมจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น  แต่จะอายอะไรล่ะในเมื่อก็คนกันเองทั้งนั้น  เรียกเสียงแซว  เสียงเป่าปากจากบรรดาเพื่อนสนิทได้  เมื่อได้ชื่นใจคนช่างวางแผนบ้างแล้ว  ผมจึงคลายวงแขนออกแต่ยังโอบกอดเอวบางไว้หลวมๆ
“ขอบคุณทุกคนนะครับที่จัดงานเซอร์ไพรส์ให้ผม  โดยเฉพาะคุณแม่ที่ทำเอาลูกตัวเองเกือบตายจากการคิดว่าแฟนจะไม่มาวันนี้  ขอบคุณนะครับ” ผมไล่สบตาและส่งยิ้มขอบคุณทุกคนรอบตัว  ก่อนจบที่คุณแม่โดยแกล้งแหย่ท่านนิดหน่อยให้รู้ว่าผมรู้ทันที่ท่านมาแกล้งลูกชายสุดที่รักแบบผมเข้า  เล่นเอาคุณแม่ส่งยิ้มกว้างถูกใจที่รู้ว่าแกล้งลูกชายสำเร็จ

“แหม  แม่อยากให้วินเซอร์ไพรส์นี่หรือว่าไม่เซอร์ไพรส์ล่ะ  ดีเท่าไหร่แล้วที่หนูกัสว่างวันนี้ต้องขอบใจแม่ด้วยซ้ำนะเจ้าวิน” ผมโดนคุณแม่งอนกลับซะแล้วแต่ดีที่มีคุณพ่อที่รู้ใจลูกชาย  ท่านจึงเข้าง้อภรรยาแทนลูกชายอย่างผมโดยหวานโชว์ลูกๆอีกครั้งด้วยการหอมแก้มคุณแม่ขี้งอน  เรียกเสียงหัวเราะและเสียงแซวจากทุกคนได้  ก่อนแยกย้ายไปนั่งโต๊ะที่มีอาหารว่างเตรียมไว้พร้อมแล้ว 

บรรยากาศในงานวันเกิดเล็กๆแต่อบอุ่นเพราะมีแค่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิท  โต๊ะที่นั่งอยู่นี้มีเพียงเพื่อนสนิทและคนรักของผมร่วมโต๊ะ  อีกโต๊ะเป็นคนในครอบครัวของผม  และที่พิเศษคือวันนี้พี่จักรพาว่าที่พี่สะใภ้ ‘พี่แพม’ มาร่วมงานด้วยถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก  สาวสวยคนนี้สวยหวานน่ารักเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวเล็กผิวขาวตากลมโตจะว่าไปสเป็คพี่จักรก็ไม่ต่างจากตัวผมนัก  ก็คนรักของเราสองคนนั้นลักษณะภายนอกใกล้เคียงกันเลย  สรุปว่าเราพี่น้องมีแฟนน่ารักไม่ต่างกัน 

“แล้วของขวัญกูล่ะ  อย่าบอกนะว่าพวกมึงลืมนี่กะมากินฟรีบ้านกูอย่างเดียวเหรอ” ผมแกล้งเอ่ยทวงของขวัญจากเพื่อนและส่งยิ้มกวนไปให้  แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากได้ของขวัญจากพวกมันหรอกครับ  แค่อยากกวนอารมณ์พวกมันเล่นมากกว่า

“พวกกูไม่ลืมหรอกน่า  อ่ะนี่ของขวัญของมึง  อ๊ะๆ  แต่อย่าเพิ่งแกะตอนนี้เอาไว้คืนนี้ค่อยแกะ” กล่องใบเล็กน้ำหนักเบาในมือมันคืออะไรกัน  ผมไม่ค่อยไว้ใจพวกมันเลยยิ่งแววตาไอ้ฟินที่เป็นคนยื่นของมาให้มันแวววาวเจ้าเล่ห์มาก  กัสที่นั่งข้างกันนั้นแค่มองมาแต่ไม่ได้สนใจอะไรและหันไปคุยกับมายที่นั่งข้างๆแทน

“คืนนี้มึงค่อยเปิด  รับรองมึงต้องถูกใจแน่” ไอ้ธีที่นั่งถัดจากไอ้ฟินชะโงกหน้ามากระซิบข้างหูแล้วจับมือผมที่ทำท่าจะแกะกล่องออกเพราะความอยากรู้ร่วมกับไม่ไว้ใจเพื่อนตัวเอง  ผมมองไปที่หน้าเจ้าเล่ห์และเพื่อนคนอื่นที่ส่งยิ้มมาให้  ก่อนจ้องไปที่สาวมนที่ผมน่าจะได้คำตอบจากเพื่อนคนนี้มากที่สุด  แต่สิ่งที่ได้รับคือรอยยิ้มกว้างและอาการส่ายหน้าไม่ยอมบอกว่าอะไรอยู่ในกล่อง

“วินทานบาร์บีคิวเนื้อสิ  กัสชิมแล้วนุ่มมาก” คนรู้ใจส่งบาร์บีคิวของโปรดมาให้ถึงปาก  ผมจึงละความสนใจจากกล่องของขวัญและหันไปยิ้มหวานให้คนช่างเอาใจ  ผมจับมือนุ่มรั้งมางับเนื้อบาร์บีคิวเข้าปาก  เจ้าของมือแก้มระเรื่ออย่างน่ารักแต่ก็ยอมให้ผมกุมมือนุ่มข้างนั้นไว้  ก่อนเสียงหวานๆของมายจะแทรกขึ้นมาเรียกสายตาทุกคู่ให้หันไปมอง

“มิคน่าจะอยู่ด้วยนะขาดมิคอยู่คนเดียว” มายเอ่ยเสียดายด้วยใบหน้าหงอยๆอย่างน่าสงสาร  จนไอ้ปรัชที่มองอยู่ตาละห้อยก่อนยื่นมือมาแตะข้อศอกจนสาวมายหันไปมองและคลี่ยิ้มน้อยๆออกมาได้ในที่สุด

“เอาแบบนี้  เดี๋ยววันหยุดฟินไปรับมิคมาแล้วเราไปฉลองกันอีกรอบก็ได้” ไอ้ฟินเพื่อนสนิทของผมที่มีใจให้หนุ่มน้อยที่อยู่ไกลเอ่ยทำคะแนนกับเพื่อนสนิทมิคทั้งสองคน  เรียกเสียงหัวเราะรู้ทันจากเพื่อนๆและอาการค้อนน้อยๆจากกัสคนที่ยังหวงเพื่อนอยู่แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากมายได้  มายที่กลับมาร่าเริงได้อีกครั้งพยักหน้าตกลงกับแผนการของไอ้ฟิน  เป็นอันว่างานวันเกิดผมได้เลี้ยงกันอีกรอบเป็นแน่ 

หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันไปทานกันไป  พิเศษตรงที่วันนี้กัสเอาใจใส่ผมเป็นพิเศษทั้งตักอาหารให้เติมเครื่องดื่มให้ไม่ขาด  เห็นแบบนี้แล้วอยากให้ทุกวันเป็นวันเกิดของตัวเองจริงๆ  จนได้เวลาตัดเค้กกัสที่หายตัวไปกลับมาพร้อมเค้กช็อคโกแลตของโปรดของกัสพร้อมเทียนที่จุดขึ้นกระทบใบหน้าหวานที่ส่งยิ้มละไมมาให้  และเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดก็ดังขึ้นทุกคนเข้ามาล้อมรอบตัวผมเพื่อร้องอวยพรให้  จนจบผมอธิษฐานก่อนเป่าเทียนและขโมยจูบแก้มหอมคนถือเค้กอีกฟอดเรียกเสียงฮาได้อีกครั้ง  และกัสก็ทำอะไรผมไม่ได้ด้วยเพราะถือเค้กอยู่ได้กำไรเห็นๆ  งานวันเกิดปีนี้ผมมีความสุขมากกว่าทุกปีเพราะมีคนรักอยู่เคียงข้าง  และไม่ว่าจะกี่ปีต่อจากนี้เชื่อได้ว่าความสุขจะไม่จากผมไปไหนเพราะผมจะยึดคนน่ารักคนนี้เป็นของผมตลอดไป 

....................................

“เหนื่อยมั้ยครับ / ฟอด / กัสอาบน้ำก่อนเลยนะจะได้มานอนพักวันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ผมยิ้มให้คนตัวเล็กที่ส่งยิ้มอ่อนๆมาให้หลังโดนผมขโมยหอมแก้ม  และไล้นิ้วมือไปตามแก้มใสอย่างทะนุถนอมก่อนจับจูงข้อมือบางมาส่งถึงหน้าห้องน้ำ

กัสเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่ายคงเพราะเพลียจนอยากพักผ่อนแล้ว  ส่วนผมกลับมานั่งรอคนรักบนเตียงเปิดทีวีเป็นเพื่อนและรู้สึกถึงของบางอย่างที่ตุงอยู่ในกระเป๋ากางเกง  นึกขึ้นได้ว่าไอ้ตี๋ธีจับกล่องของขวัญยัดใส่กระเป๋ามาให้ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะผมดันลืมทิ้งไว้ที่โต๊ะทานอาหาร  พลันอยากรู้ขึ้นมาว่าข้างในมันคืออะไร  ผมแกะห่อกระดาษสีสวยออกเปิดกล่องมีกระดาษใบเล็กล่วงหล่นลงมา  จึงหยิบขึ้นมาอ่านอย่างสงสัยว่ามันมีข้อความสำคัญอะไร

‘แด่วินเพื่อนรัก  มึงมีทุกอย่างแล้วพวกกูไม่รู้จะให้อะไร  เพราะงั้นหาของขวัญที่ถูกใจมึงมาผูกริบบิ้นเส้นนี้เอาเองนะ  หวังว่ามึงคงชอบ’

ริบบิ้นสีแดงเส้นยาวหลุดทิ้งตัวเป็นทางบนผ้าปูสีขาว  สีที่ตัดกันนั้นส่งให้ริบบิ้นเส้นนี้เด่นชัดยิ่งขึ้น  ของขวัญที่เพื่อนๆให้ผมมานี้มีจุดประสงค์อะไรทำไมผมจะไม่รู้ว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ด้วยเป็นเพื่อนกันมานาน  ผมจ้องริบบิ้นสีแดงสดนิ่งๆไม่แม้แต่จะเอื้อมมือไปจับ  พลันให้จินตนาการว่าถ้ามันได้ไปพันอยู่บนร่างเปลือยขาวผ่องของคนรักคงยิ่งขับสีผิวขาวลออตาให้ยิ่งเด่นชัด  แค่คิดไอ้เจ้าลูกชายข้างล่างก็ผงาดขึ้นมาแล้ว  ‘โอ๊ย! ไอ้เพื่อนตัวแสบ  พวกมันเล่นงานผมเข้าให้แล้ว’  เมื่อเสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นผมรนรานเก็บริบบิ้นเจ้าปัญหาใส่กล่องลวกๆ

“อะไรน่ะวิน” กัสส่งเสียงถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นผมรุกรี้รุกรน

“เอ่อ  ไม่มีอะไรครับเป็นของขวัญที่ไอ้พวกนั้นให้มาน่ะ  งั้นวินอาบต่อเลยนะ” ผมเดินไปเก็บกล่องในลิ้นชักหัวเตียงก่อนเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำเพื่อหลบสายตาอยากรู้ของคนรัก  กัสขมวดคิ้วมุ่นยืนมองตามผมตลอดทางจนแอบเสียวสันหลังวาบๆ  ที่ผมไม่ตอบไม่ใช่คิดจะปิดบังอะไร  แต่ไม่รู้ว่าจะตอบกัสยังไงว่าทำไมเพื่อนๆถึงให้ริบบิ้น  จะให้ตอบว่าเอามาพันรอบตัวกัสเพื่อเป็นของขวัญน่ะเหรอ ‘เฮ้อ  แค่คิดก็ไม่กล้าแล้ว’ ผมกลัวโดนกัสโกรธจนอดนอนกอดคนน่ารักน่ะสิครับ

..................................

“นี่มันหมายความว่ายังไงวิน” กัสถามเสียงนิ่งพร้อมชูริบบิ้นสีแดงเส้นยาวขึ้นทันทีหลังผมเดินออกมาจากห้องน้ำ  มีแววว่างานเข้าผมแล้วล่ะครับ  นึกอยากไปถีบไอ้เพื่อนบ้าพวกนั้นเรียงตัวซะเดี๋ยวนี้ที่พวกมันดันหาเรื่องมาให้

“เอ่อ  คือเอ่อ  ริบบิ้นห่อของขวัญน่ะไอ้พวกนั้นให้มา” ผมก้มหน้าตอบกัสก่อนชำเลืองสายตาขึ้นมองคนรัก  ซึ่งคำตอบของผมคงไม่เป็นที่ถูกใจของกัสนักเพราะคนน่ารักยังจ้องเอาคำตอบจากผมด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่พูดอะไรออกมาสักคำ  ผมตัดสินใจเดินไปหยิบริบบิ้นเจ้าปัญหาออกจากมือคนรัก  และส่งยิ้มออดอ้อนไปให้เผื่อจะลดโทษลงได้บ้าง

“ไม่ใช่ความผิดของวินนะ  วินไม่รู้เรื่องเลย  จริงๆ” ส่งสายตาบริสุทธิ์ใจและพยักหน้าหนักแน่นยืนยันคำพูด  เราจ้องตากันสักพักกัสก็ถอนใจยาวออกมาจนผมผวา ‘อาการเกรงใจเมียกำเริบกะทันหัน’

“เฮ้อ  แน่ใจนะว่าไม่รู้เรื่อง” ผมพยักหน้ารัวยืนยันและสบตากัสแน่วแน่  แต่ในใจผมนั้นคิดไปไกลแล้วว่าถ้าได้ใช้มันกับคนรักมันจะดีแค่ไหนกัน  กัสพยักหน้าตอบรับเหมือนพอใจในคำตอบ  ผมถึงกับโล่งใจที่คนรักไม่เอาเรื่องและหันหลังเตรียมเอาไอ้ของขวัญเจ้าปัญหาไปเก็บให้ไกลตาคนรัก  แต่ต้องชะงักกับเสียงแผ่วเบาที่แม้จะเบาแต่ผมยังได้ยินชัดเจน

“วินอยากใช้มันมั้ยล่ะ” หันขวับไปมองคนรักที่ก้มหน้าซ่อนหน้าแดงก่ำไว้กับอกตัวเอง  ใจผมเต้นกระหน่ำตีความว่ากัสจะยอมให้ผมใช้มันกับตัวกัสใช่มั้ย  จินตนาการเพลิดไปไกล  และถลาไปใกล้ร่างบางเชยคางมนขึ้นให้สบตากัน

“มะ  หมายความว่ากัสยอมเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้วินเหรอ” กัสหน้าแดงหูแดงเห่อหลบตาผมทันทีแต่ไม่มีอาการปฏิเสธ  ก่อนเสียงพึมพำจะลอยมาเข้าหู

“เห็นว่าเป็นวันเกิดหรอกนะ” เสียงตอบกลับของกัสทำให้ใจผมลิงโลดอย่างดีใจที่จะได้รับของขวัญชิ้นพิเศษจากคนที่รักที่สุด  ผมยื่นริบบิ้นไปตรงหน้าร่างบางทันทีและได้รับค้อนวงใหญ่จากเจ้าของที่หน้ายังไม่หายแดง  กัสรับไปและเบี่ยงตัวหลบเดินตรงไปทางห้องน้ำ 

“เยส!” ผมกำมือชกลมกระโดดตัวลอยอย่างถูกใจ  ก่อนเดินกลับไปกลับมาอย่างกระวนกระวายจินตนาการไปไกลสุดกู่  วินน้อยกระดี้กระด้าดีใจไม่แพ้เจ้าของ 

ผมพยายามควบคุมอาการดีใจและกลับไปนั่งพิงหัวเตียงตาจับจ้องไปหน้าห้องน้ำที่ร่างคนรักหายเข้าไปนานแล้ว  ทันใดประตูก็เปิดออกหน้าหวานแดงก่ำยื่นออกมาสำรวจไปรอบ  กัสคงมองหาว่าผมอยู่ส่วนไหนของห้อง  เราสบตากันก่อนหน้าหวานจะผลุบหายกลับไปด้านใน  ผมอดทนด้วยใจลุ้นระทึกรอว่าภาพจริงกับในจินตนาการจะเหมือนกันมั้ย  ใจจริงอยากเข้าไปกระชากร่างบางออกมาแต่ถ้าทำแบบนั้นผมได้อดแน่จึงข่มใจรอคอย  และวินาทีแห่งการรอคอยก็หมดลงเมื่อร่างขาวที่ถูกพันด้วยริบบิ้นสีแดงสดก้าวออกมายืนหน้าประตูห้องน้ำ  ภาพในจินตนาการเทียบไม่ได้เลยกับของจริงตรงหน้า  กัสหันหน้าแดงก่ำไปอีกทางมือปิดกุมกลางลำตัวโดยมีโบว์ผูกที่ลำคอระหง  ผิวระเรื่ออมชมพูช่างเข้ากับสีแดงสดของริบบิ้น  สภาพของคนรักสะกดผมให้ตะลึงตาค้างก่อนจะพยายามกลืนน้ำลายไล่ความแห้งผาก  ส่วนวินน้อยก็ตื่นเต้นผงาดดุนดันอยู่ในกางเกงนอนเนื้อบางจนเห็นชัดตา  ผมเดินเข้าหาร่างบางเหมือนโดนสะกดใบหน้าหวานหันมาชำเลืองมองและรีบหันกลับทันทีที่โดนจับจ้อง  ผมก้มกระซิบชิดริมหูหอมเอ่ยด้วยเสียงกระเส่าตามอารมณ์

“กัสเป็นของขวัญที่วินถูกใจมากที่สุดตั้งแต่เคยได้รับมา  ขอบคุณนะครับ” หอมแก้มแดงฟอดใหญ่ให้เจ้าของแก้มได้รู้ว่าผมถูกใจอย่างที่พูดจริงๆ  ผมจูงข้อมือบางพาเดินมาที่เตียงก่อนนั่งลงและจับกัสมายืนกลางหว่างขา  เงยหน้าสบตาคนน่ารักและคลี่ยิ้มเอาใจไปให้

“งั้นวินขอแกะของขวัญเลยแล้วกันน้า  ฮึๆ” แววตาระริกไหวอย่างตื่นเต้นและใบหน้าเขินอายของกัสทำผมใจสั่น 

ผมส่งยิ้มยั่วเย้าให้ก่อนคนน่ารักจะมองต่ำและคงเห็นวินน้อยที่ตั้งผงาดรอท่าทำเอาร่างบางเงยหน้าขึ้นสบตา  กัสตกใจตาโตมองตะลึงจนผมนึกเอ็นดู  ผมเอื้อมมือปลดโบว์ที่คอขาวช้าๆและจับมือทั้งสองข้างของกัสมาวางที่บ่าของตัวเอง  ริบบิ้นที่โดนปลดปมออกค่อยๆทิ้งตัวลงลูบไล้ไปกับผิวอมชมพูของร่างที่อยู่ตรงหน้า  จนนึกอยากเปลี่ยนจากริบบิ้นเป็นมือของตัวเองที่ได้สัมผัสลูบไล้ผิวเนียนนุ่ม  ผมมองตามริบบิ้นแดงที่ค่อยๆระผิวนุ่มหลุดพ้นลงไปที่ปลายเท้าขาว  ก่อนเงยหน้าไล่สายตาช้าๆขึ้นมาที่น่องเรียว  ต้นขาขาว  จุดกลางลำตัวที่ไวต่อสัมผัสที่เริ่มตื่นตัวทักทาย  หน้าท้องขาวเนียน  อกบางที่มีเม็ดทับทิมสีสดหดเกร็งจากความเย็นและความตื่นเต้นของเจ้าของ  การกระเพื่อมขึ้นลงของอกบางบ่งบอกได้ว่ากัสตื่นเต้นและต้องข่มความอายมากแค่ไหนในการยอมทำตามใจผมครั้งนี้  จุดสุดท้ายที่ตรึงสายตาผมไว้คือตาคู่สวยที่มีแววเขินอาย  ผมรักในทุกๆส่วนที่ประกอบกันเป็นคนตรงหน้านี้  จนอยากครอบครองอยากมอบความรักและอยากทำทุกอย่างให้กัสมีความสุขมากที่สุด
 
“ขอหม่ำล่ะนะครับ” หลังเอ่ยขออนุญาตแล้วผมก็โน้มคอร่างบางที่ยืนอยู่ให้ก้มต่ำลงมาแนบริมฝีปากประกบดูดดึงกลีบปากแดงทั้งบนและล่างแรงๆอย่างมันเขี้ยว  ส่งมือไล้ผิวเรียบลื่นบริเวณแผ่นหลังเนียนไปจนถึงสะโพกกลมกลึงและออกแรงบีบเบาๆอย่างหยอกล้อ  ก่อนเสียงครางประท้วงจะผ่านริมฝีปากที่ผมกำลังบดจูบดูดกลืนอยู่ออกมา  ผมผละออกมองผลงานปากแดงบวมเจ่อขึ้นทันตา  อดใจไม่ไหวไล้นิ้วแตะปากแดงชื้นพร้อมรวบกอดเอวบางประชิดตัว  และขยับจัดท่ามาพิงหัวเตียงให้ร่างบางคร่อมทับต้นขาไว้

“ไหนๆวันนี้กัสก็ตามใจวินมาทั้งวันแล้ว  งั้นวินอยากให้อะไรตอบแทนกัสกลับบ้างนะครับ” กัสทำหน้าตาสงสัยด้วยตาโตจ้องไม่กระพริบและเอียงคอนิดๆได้อย่างน่ารักน่าฟัดนัก

“วินให้ตัวเองกับกัสนะครับ  กัสจัดการได้เต็มที่เลยวันนี้ให้เป็นหน้าที่กัสละกัน” ตอนแรกกัสยังงงอยู่ผมจึงเบียดวินน้อยเข้าหาสะโพกกลมด้านบน 

เมื่อกัสเข้าใจความหมายก็หน้าตื่นตาโตแก้มแดงก่ำเม้มปากแน่นหลบตาผมพัลวัน  แต่ผมไม่ปล่อยให้ตกใจนานจึงจับเอวบางเข้าหา  และโน้มใบหน้าเข้าหาปากแดงก่อนบดจูบให้อีกฝ่ายเคลิบเคลิ้ม  ผมเล้าโลมจนกัสยอมเป็นฝ่ายคุมเกมในครั้งแรกของคืนนี้  ส่วนเกมต่อไปก็เป็นหน้าที่ของผมที่เป็นฝ่ายมอบความสุขให้กับคนรักที่เริ่มหมดแรงกับการตามใจเจ้าของวันเกิดแบบผม  วันเกิดมีปีละครั้งผมจึงกอบโกยความสุขจากร่างบางเต็มที่จนคนน่ารักหลับคาอก  ผมคิดไว้ว่ารุ่งเช้าจะโทรไปขอบใจบรรดาเพื่อนๆผู้รู้ใจซะหน่อยแล้วที่มอบของขวัญชิ้นนี้ให้  เพราะมันถูกใจผมมากและมันจะอยู่ในความทรงจำของผมอย่างไม่ลืมเลือน  ฮึๆๆๆ

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ถูกใจนายวินเค้าล่ะ สำหรับของขวัญชิ้นนี้  o18
หาที่ไหนไม่มีในโลกอีกแล้ว

ตอนหน้ากัสย้ายเข้าบ้านวินแล้วน้า ติดตามต่อพรุ่งนี้ค่ะ

 :กอด1: และ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ

+1และเป็ดให้แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 19-07-2012 08:35:41
ู^_^ เป็นเพื่อนที่เข้าใจให้ของขวัญซะจริงๆเลย
ไม่ต้องจ่ายมาก แต่คนรับโคตรถู๊กใจ๊ๆ
เพื่อนสนิทมันดีอย่างนี้นี่เองเนอะ รู้ใจกันแม้กระทั้งของขวัญ
>.,< สุดยอด กัสก็น่ารักมากๆ วินก็ยังคงความหื่นไว้เหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-07-2012 09:31:15
เป็นเพื่อนที่รู้ใจ
นายวินกันจริงๆ :z2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-07-2012 10:18:49
หวานอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 19-07-2012 17:00:35

เพื่อนๆให้ของขวัญได้ถูกใจจริงๆ :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-07-2012 18:00:27
น่าอิจฉาวินนะ ได้ใช้ริบบิ้นกับของขวัญพิเศษอย่างกัส
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-07-2012 18:45:54
รอจ้ารอ ;)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 19-07-2012 20:44:49
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่34(19/7/55)P.14 ของขวัญชิ้นพิเศษฮุๆ
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 19-07-2012 21:10:09
เพื่อนรู้ใจเลยหวานกันไป
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 ครอบครัวอบอุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-07-2012 07:21:54
ตอนที่ 35

กัส

“ของครบนะครับ  ลืมอะไรอีกมั้ย” วินก้มหน้ามาถามเมื่อของทุกชิ้นได้ขนขึ้นรถหกล้อของบริษัทคุณพ่อของวินที่จัดมาให้  เพื่อใช้ย้ายของๆผมและมิคเพื่อนสนิทที่ตัดสินใจขอย้ายจากโรงพยาบาลที่เราทำงานมาสองปีเต็มแห่งนี้ 

ผมตัดสินใจย้ายไปทำงานในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ  ส่วนมิคตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางที่มหาวิทยาลัยที่เราจบมา  การที่ผมไม่ได้ไปเรียนต่อกับมิคนั้นเป็นเพราะทางครอบครัววินไม่อยากให้ผมเหนื่อยมาก  จึงเตรียมจะเปิดคลินิกให้ที่กรุงเทพฯหลังจากทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลครบในปีที่สาม  ซึ่งก็เหลืออีกแค่ปีเดียวผมก็จะลาออกจากราชการมาทำคลินิกที่จะเปิดแทน  ตอนแรกผมไม่ยอมเพราะการลงทุนเปิดคลินิกนั้นต้องใช้เงินค่อนข้างสูง  วินเองก็ไม่ยอมด้วยตั้งใจจะลงทุนเปิดให้ผมเองทั้งหมด  จึงได้คุณแม่มาช่วยหาทางออกว่าให้วินลงทุนให้ก่อนแล้วผมค่อยทยอยคืนเป็นงวดๆไป  ทีแรกวินก็ทำท่าไม่ยอมจนผมต้องขู่ว่าไม่งั้นผมจะไม่ย้ายเข้ากรุงเทพฯ  จนสุดท้ายพ่อตัวดีจึงจำใจยอมในที่สุด  ใจผมนั้นไม่อยากพึ่งพาวินให้มากนักเพราะเดี๋ยวจะเคยตัวทำอะไรทีก็ต้องหวังพึ่งคนอื่น  แม้วินจะเป็นคนรักก็ตามแต่ผมก็อยากยืนหยัดด้วยตัวเองบ้าง 

วันนี้จึงเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะอยู่ในที่ที่เคยใช้ชีวิตทำงานมาถึงสองปีตั้งแต่จบมาก็ย่อมมีความผูกพันกับคนและสถานที่  เมื่อคืนทางท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้จัดเลี้ยงส่งอำลาให้ผมกับมิคเป็นงานเล็กๆที่มีแต่คนในโรงพยาบาลเท่านั้น  บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานและซาบซึ้งคนที่สนิทคุ้นเคยทั้งลูกน้องในฝ่ายหรือพี่ๆน้องๆพยาบาลรวมทั้งผมกับมิคต่างน้ำตาซึมกับการจากลา  แต่มิตรภาพระหว่างพวกเรานั้นยังคงอยู่แม้ตัวต้องไกลกัน  กว่าจะล่ำลากันเสร็จก็เที่ยงคืนกว่าไปแล้วผมและมิคนั้นได้ของที่ระลึกมากมายกลับมา  ขณะนี้จึงมีเพียงลูกน้องในฝ่ายบางคนมาช่วยขนของเพราะที่เหลือต้องทำงาน  และเราได้น้องทันตแพทย์ที่เพิ่งจบปีนี้มาอยู่แทนเป็นน้องผู้หญิงที่น่ารักสองคน

“หมอกัสหมอมิคโชคดีนะคะ  ไปแล้วกลับมาเยี่ยมให้เราหายคิดถึงบ้างนะคะ” ตูนลูกน้องในฝ่ายเอ่ยลาเสียงสั่น  ผมจึงตบหลังเบาๆและส่งยิ้มไปให้พร้อมพยักหน้ารับ  และไม่สามารถพูดอะไรไปได้เพราะกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมา  ส่วนมิคพยักหน้ารัวยิ้มน้อยๆเอ่ยเสียงสั่น

“ตูนก็โชคดีเหมือนกันนะ  ว่างๆหมอจะซื้อขนมมาฝากครับ” ตูนยกมือไหว้เราสองคนจึงรับไหว้กลับไป  วินเดินมาแตะบ่าลูบเบาๆปลอบโยน  ผมหันไปสบตาจึงพบสายตาอ่อนโยนปลอบประโลมมาให้จึงยิ้มปากสั่นกลับไป  ส่วนมิคก็มีนายฟินยืนลูบหัวปลอบโยนก้มกระซิบชิดหู  ก่อนเพื่อนตัวเล็กของผมจะโดนฟินจูงมือนำไปที่รถของวินที่ขับมาพร้อมรถขนของที่ตอนนี้ขับนำไปก่อนแล้ว  ผมกับวินเตรียมเดินตามคนทั้งคู่ไปแต่เราต้องชะงักกับเสียงเรียกด้านหลัง

“น้องกัสครับรอก่อน” ผมหันกลับมาพบหมอพจน์ที่ยังใส่เสื้อกาวน์ตัวยาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางเรา  และหยุดยืนจ้องหน้าผมสายตาเศร้าสร้อยก่อนผินหน้าไปมองวินอยู่นานจึงเอ่ยออกมา

“ผมฝากคุณวินดูแลกัสและรักกัสให้มากๆนะครับ  กัสครับพี่ขอให้กัสมีความสุขมากๆและโชคดีนะครับ” เจ้าของประโยคจริงใจนี้ส่งยิ้มกว้างที่ดูดีและแววตายินดีมาให้  ผมจึงยิ้มกลับอย่างขอบคุณ

“ขอบคุณครับพี่พจน์” หมอพจน์ยิ้มกว้างและหัวเราะน้อยๆออกมา

“ฮึๆๆ  พี่ดีใจนะที่กัสเรียกพี่ว่าพี่พจน์แทนหมอพจน์ซะที” ผมส่งยิ้มเขินอายไปให้กับหน้าตาล้อเลียนของหมอหนุ่มตรงหน้า

“อะแฮ่มๆ  ถึงคุณหมอไม่บอกผมก็จะรักและดูแลกัสอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว” วิน หน้ายุ่งเล็กน้อยผมจึงหันไปส่งค้อนเล็กๆให้  ‘วินก็จะมาหึงอะไรกันตอนนี้  คนที่หวังดีเค้าแค่ล่ำลากันเอง’

“ครับผมเชื่อคุณและขอให้คุณโชคดีเหมือนกันครับ” หมอพจน์ส่งมือมาตรงหน้าวินและยิ้มจริงใจมาให้  ส่วนวินก็ยื่นมือไปจับกระชับเขย่าเบาๆและคลี่ยิ้มมุมปากกลับไปให้อีกฝ่ายเหมือนกัน ‘มิตรภาพใหม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ชายสองคนนี้แล้ว’ จนทั้งสองผละมือออกจากกัน  เราสามคนจึงหันไปทางมิคที่กำลังยืนคุยกับนายฟินที่มาพร้อมวินในครั้งนี้ด้วย

“น้องมิคโชคดีนะครับ  ทั้งสองคนถ้าว่างก็มาเยี่ยมเยียนกันบ้างนะ” หลังคำพูดหมอพจน์มิคก็ยิ้มกว้างพยักหน้าให้และเอ่ยปากอวยพรกลับให้หมอพจน์เหมือนกัน 

หลังจากนั้นพวกเราสี่คนก็ขึ้นนั่งบนรถเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ  จนรถวิ่งออกมาถึงประตูโรงพยาบาลภาพโรงพยาบาลที่ปรากฏอยู่ที่กระจกหลังนั้นทำเอาผมใจหาย  และมองไม่ละสายตาจนรู้สึกถึงมือที่ถูกกุมกระชับ  หันไปมองก็พบดวงตารื้นน้ำตาของเพื่อนสนิทที่สบมองอย่างเข้าใจในความรู้สึกของกันและกัน  ผมจึงเอื้อมมืออีกข้างกอบกุมมือบางของมิคบีบกลับส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้แก่กัน

....................................

ของเกือบทั้งหมดถูกส่งไปไว้ที่บ้านวินแต่มีบางส่วนที่เป็นเสื้อผ้าและของที่ต้องใช้ถูกส่งไปที่คอนโดของวิน  ในส่วนของมิคนั้นก็ถูกขนเสร็จเมื่อสักครู่แล้ว  ผมรู้เพราะมิคเพิ่งโทรมาบอกและเอ่ยปากฝากบอกขอบคุณคุณพ่อมาด้วยและมิคจะนำของมาแทนคำขอบคุณภายหลัง  ตอนนี้ผมมาเก็บของที่บ้านวินให้เข้าที่เข้าทางแต่ยังไม่รื้อออกจากกล่องคงต้องทยอยเก็บทีหลังแทน

“เสร็จรึยังครับกัส” วินเปิดประตูห้องนอนของผมที่เคยนอนในคืนแรกที่มาพักที่บ้านหลังนี้และใช้เก็บของส่วนตัวที่ขนมา

“เสร็จแล้วครับ  คุณพ่อคุณแม่กลับมารึยัง” ระหว่างที่ถามผมก็เดินไปล้างหน้าล้างมือในห้องน้ำ  วินยื่นผ้าขนหนูมาให้ทันทีหลังผมล้างหน้าเสร็จ  ผมจึงยิ้มขอบคุณให้คนรักก่อนยื่นมือไปรับ  แต่ผ้ากลับถูกส่งมาซับน้ำให้ที่หน้าแทนเราจ้องตากันนิ่งแววตาอ่อนหวานเปล่งแสงออกมาจากตาคมคู่ที่อยู่ตรงหน้า

“ท่านทั้งสองเพิ่งมาถึงครับ  คุณแม่ถามหากัสทันทีเลยนะที่เจอหน้าวิน  ไม่มีถามเลยว่าวินเป็นไงบ้าง  น่าน้อยใจชะมัด  ฮึๆ”  เสียงวินเหมือนน้อยใจแม่ตัวเองแต่แววตากลับแพรวพราวแถมหัวเราะปิดท้ายให้ได้ยิน

“คิกๆ  สมน้ำหน้าคนแม่ไม่รัก  อื้อ...” ผมโดนฉกจูบจากคนตรงหน้าริมฝีปากร้อนผ่าวกดแนบสนิทเบียดคลึง  จนเผลอครางทำให้ลิ้นร้อนถูกส่งเข้ามาสำรวจทั่วโพรงปาก  ก่อนกวาดต้อนดูดกลืนลิ้นผมอย่างหยอกเย้าเกี่ยวกระหวัดรุนแรงขึ้นเหมือนมันเขี้ยวและแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานในเวลาถัดมา 

ผมรู้สึกถึงฝ่ามือที่ท้ายทอยและอ้อมกอดที่โอบประคอง  จนใกล้หมดลมจึงทุบไปที่หลังแกร่งเบาๆเป็นสัญญาณให้วินปล่อยจากจูบที่แสนหวานนี้ซะที  พอได้รับอิสระจึงรู้ว่าจูบของวินยังส่งผลรุนแรงต่อผมไม่เคยเปลี่ยน  ผมเข่าอ่อนทรงตัวไม่อยู่ต้องทิ้งร่างพิงอกกว้างหอบอากาศเข้าปอดตัวโยน  เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นใกล้หูและรับรู้ถึงจูบซับที่กระหม่อม  เรี่ยวแรงผมเริ่มกลับคืนสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง  ก่อนผละออกจากอกแกร่งผมได้เห็นรอยยิ้มกว้างจากหน้าหล่อเป็นสิ่งแรกตามมาด้วยแววตาระยับอย่างถูกใจ  นิ้วเรียวยาวถูกส่งมาลูบไล้แผ่วเบาที่ริมฝีปากบวมเจ่อของผม  ตาวินจับจ้องที่กลีบปากของผมและเป็นผมเองที่คว้ามือหนาไว้ก่อนอารมณ์เราทั้งคู่จะเตลิดไปไกลกว่านี้

“วิน  เราลงไปกันเถอะคุณพ่อคุณแม่รออยู่นะ  นะครับ” ผมออดอ้อนให้วินใจอ่อนจนได้ยินเสียงทอดถอนใจก่อนวินจะก้มหน้ากุมขมับ  ด้วยวินคงพยายามระงับใจเป็นแน่  ผมอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้แต่ไม่กล้าให้วินเห็นหรอก  ถ้าเห็นจะหาว่าผมยั่วแล้วเรื่องจะยาวกว่านี้  สุดท้ายวินก็เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางพยักหน้ามาให้

“อยู่ใกล้กัสทีไรวินอดใจไม่ไหวทุกที  เฮ้อออ  ไปครับลงไปข้างล่างกัน” ผมโดนจับจูงมือพาเดินลงไปข้างล่าง  ซึ่งผมแอบส่งยิ้มให้แผ่นหลังกว้างที่เจ้าของมันคงต้องข่มใจอย่างมาก

เราเดินลงมาถึงห้องนั่งเล่นที่อยู่ใกล้สระว่ายน้ำภายในห้องมีคุณพ่อคุณแม่นั่งรออยู่แล้ว  เมื่อคุณแม่เห็นผมท่านรีบลุกจากโซฟายิ้มกว้างเข้ามาโอบกอดผมแน่นและหอมแก้มทั้งสองข้างของผมฟอดใหญ่  พอโดนปล่อยตัวผมจึงมีโอกาสยกมือไหว้ทำความเคารพท่านได้และหันไปไหว้คุณพ่อที่นั่งยิ้มกว้างส่งมาให้  ที่นั่งข้างคุณพ่อมีวินไปนั่งรอผมแล้ว  วินคงเดินไปตอนที่ผมโดนคุณแม่แสดงความรักเมื้อกี้นี้แน่ๆ

“แม่คิดถึงกัสมากเลยนะลูก  ดีใจที่กัสมาอยู่ที่กรุงเทพฯแบบถาวรแล้ว  เพราะแม่จะได้ไม่ต้องทนมองคนที่ร้อนรนและบ่นคิดถึงแฟนอยู่นั่น  เบื่อแล้ว” หลังคำพูดของคุณแม่เรียกเสียงหัวเราะจากคุณพ่อที่มองลูกชายตัวเอง  ที่กำลังนั่งหน้ามุ่ยแอบส่งค้อนไปให้แม่ตัวเองอยู่

“ไปๆ  เลิกงอนได้แล้วตาวิน” คุณพ่อลุกขึ้นและเดินเข้ามาโอบเอวคุณแม่ก่อนพาเดินไปทางห้องอาหารด้วยกัน  ส่วนผมก็โดนวิน
จับจูงข้อมือตามท่านทั้งสองไปติดๆ

เมื่อมาถึงโต๊ะอาหารที่ทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้วผมก็เพิ่งนึกถึงพี่จักรที่วันนี้ยังไม่ได้เจอเลยแม้ได้เวลาอาหารแล้วก็ตาม

“พี่จักรล่ะครับคุณแม่”

“อ้อ  วันนี้ตาจักรไปดินเนอร์กับหนูแพมจ้ะ  พี่เค้าฝากบอกกัสว่าเดี๋ยวจะพาไปฉลองต้อนรับน้องสะใภ้วันหลังนะ” คุณแม่ยิ้มกว้างตาพราวส่งมาให้ทำเอาผมหน้าร้อนวาบขึ้นทันที  ก่อนได้ยินเสียงหัวเราะถูกใจจากสองหนุ่มบนโต๊ะ  และที่ดังมากจนน่าหมั่นไส้ก็นายวินตัวแสบนั่นแหละครับ  วินหัวเราะจนตาปิดปากกว้างอย่างถูกใจไปแล้ว  ผมจึงเอื้อมมือหนีบเข้าที่เอวให้ได้เจ็บตัวกันบ้างเรียกเสียงโอดโอยเกินจริงจากวินขึ้นมา 

หลังจากนั้นเราก็นั่งทานอาหารกันไปคุยกันไปในเรื่องทั่วไปจนเสร็จแล้วย้ายกลับไปที่ห้องนั่งเล่น  และคุณแม่ก็บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย  เรื่องหลักก็คือคุณแม่อยากให้ผมกับวินย้ายจากคอนโดมาอยู่ที่บ้าน  แต่ติดที่ว่าที่ทำงานของวินไกลจากบ้านนี้มากวินจึงยังไม่อยากย้าย  คุณแม่ก็แย้งว่าคอนโดมันคับแคบไปสำหรับคนสองคน  แต่ถ้าเราอยากอยู่แบบส่วนตัวก็จะสร้างบ้านอีกหลังให้ในพื้นที่รั้วเดียวกัน  พอได้ฟังท่านแล้วผมซาบซึ้งในความรักที่ท่านทั้งสองมีให้และรู้ว่าท่านเอ็นดูในตัวผมมากทำให้ใจดวงเล็กๆฟูฟ่องขึ้นเต็มอก

“กัสช่วงก่อนเริ่มทำงาน  แม่จะหาวันว่างแล้วเราไปพบคุณป้าของกัสกันนะลูก” ผมจะเริ่มงานในอีกสองสัปดาห์นั่นหมายความว่าผมจะว่างตลอดก่อนเริ่มงาน  แล้วคุณแม่ต้องการไปพบคุณป้าผมทำไมกัน  หน้าตาผมคงแสดงออกชัดว่ากำลังสงสัยคุณแม่จึงยิ้มอ่อนหวานมาให้ก่อนเอ่ย

“แม่อยากไปพบผู้ใหญ่ของหนู  เพื่อให้ผู้ใหญ่ทางกัสรับรู้เรื่องวินกับกัสไงลูก  แม่จะขอกัสให้วินและค่อยจัดงานเลี้ยงพระทำบุญกันทีหลังและเชิญคุณป้าของหนูมาด้วย  ส่วนตอนเย็นแม่ตามใจเราสองคนนะว่าจะจัดใหญ่ขนาดไหนแล้วแต่เลยแม่พร้อมเสมอ  ฮิๆๆ” ผมที่ได้ฟังประโยคยาวๆนี้ก็ใจเต้นโครมคราม  นี่แสดงว่าคุณแม่จะให้ผมแต่งงานกับวินงั้นเหรอ  พอหันไปมองวินก็พบว่ากำลังฉีกยิ้มกว้างเข้าไปกอดแม่ตัวเองแน่นก่อนโยกตัวไปมา

“โฮ  แม่รู้ใจวินที่สุดเลย  รักแม่ที่สุดครับ  ฟอดดด” วินจบด้วยการหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่และยิ้มกว้างมาให้ผมพร้อมกวักมือเรียกให้เข้าไปใกล้  เพราะผมนั่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว  ผมค่อยๆคลานเข่าไปนั่งเคียงข้างวินต่อหน้าท่านทั้งสอง  ยกมือพนมไหว้กราบลงไปกับตักนุ่มอย่างขอบคุณและซาบซึ้งใจในความรักที่ท่านทั้งสองมีให้เราซึ่งวินที่นั่งข้างกันก็ทำตาม  มือบางของคุณแม่ลูบหัวของเราแผ่วเบา  ก่อนเราจะผละไปกราบคุณพ่อที่ตักบ้างและเงยสบตาที่เต็มได้ด้วยแววตาเอื้อเอ็นดูของท่าน

“ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่เอ็นดูและรักกัสนะครับ  ทำให้กัสคิดถึงพ่อแม่ถ้าท่านอยู่ก็คง...อึก  ฮือออ” ผมโผเข้ากอดเอวบางของคุณแม่แน่นร้องไห้กับอกอุ่นที่ทำให้ยิ่งคิดถึงอ้อมกอดของแม่ที่จากไป

“โอ๋ๆๆ  ไม่ร้องนะคนเก่งของแม่  ไม่ต้องคิดมากนะจ๊ะถ้าคิดถึงแม่  กัสก็มาหาแม่มากอดแม่ได้ตลอดเลยนะลูก  อย่าร้องๆ  เดี๋ยวแม่ร้องไห้ตามไปด้วยนะ” มือนุ่มถูกยื่นมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าผมก่อนท่านจะเช็ดน้ำตาที่ซึมจากหัวตาตัวเอง

“อ้าวๆ  สองแม่ลูกหยุดร้องไห้ได้แล้ว  ร้องไห้มากเป็นลางไม่ดีนะ  นี่ตาวินมัวแต่ทำอึ้งอยู่นั่นไปโอ๋ลูกสะใภ้พ่อไป” วินดึงผมมาโอบกอดและส่งเสียงปลอบโยนจนผมหยุดร้องไห้  ก่อนจะหันไปส่งยิ้มเอียงอายทางท่านทั้งสองที่ส่งยิ้มเอ็นดูมาให้

“วินพากัสไปพักผ่อนได้แล้วไป  เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” วินรับคำคุณพ่อแล้วพาผมขึ้นมาที่ห้องของวิน  เมื่อเรานั่งอยู่บนเตียงวินก็ยังโอบประคองตัวผมแน่นและโยกตัวไปมา

“ต่อไปนี้กัสอย่าร้องไห้แบบนี้อีกรู้มั้ยวินใจไม่ดีเลย  จำไว้นะครับถึงกัสไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แล้วแต่กัสยังมีวิน  มีครอบครัววิน  ทุกคนยอมรับกัสเข้ามาเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ” เสียงนุ่มดังต่อเนื่องอยู่เหนือหัวทำผมสบายใจและรับรู้ถึงความรักความจริงใจที่วินมีให้

“อืม  ก็คนมันตื้นตันนี่  คุณพ่อคุณแม่ดีกับกัสจังพาลคิดถึงพ่อแม่ตัวเองไม่ได้  แต่ต่อไปกัสจะไม่ร้องไห้แบบนี้อีกแล้ว  เดี๋ยวคุณแม่จะน้อยใจกัสที่มีท่านอยู่ทั้งคน  แต่กัสยังทำเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นแบบนี้” ผมโอบเอวหนาแน่นขึ้นและพูดอยู่กับอกแกร่งที่เชื่อว่าเจ้าของมันจะคุ้มครองผมได้และรักผมอย่างจริงใจ

“ฮึๆๆ  ใช่มีแนวโน้มว่าแม่จะน้อยใจลูกคนโปรดได้เพราะแม่รักลูกคนนี้มากกกก  ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะของวินทำผมอารมณ์ดีจนต้องหัวเราะออกมาตามและรู้สึกรักผู้ชายคนนี้มากขึ้น

หลังจากหายเศร้าอารมณ์กลับมาคงที่แล้วเราก็ผลัดกันเข้าห้องน้ำทำธุระ  และกลับมานอนกอดกันมอบความอบอุ่นให้แก่กัน    ก่อนวินจะจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผมพร้อมคำกระซิบให้หลับฝันดี  และเราก็เข้าสู่นิทราไปพร้อมกันด้วยหัวใจสองดวงที่เต้นด้วยจังหวะเดียวกัน

..............................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

 :กอด1: ครอบครัวนี้น่ารักเนอะ กัสโชคดี

เจอความหวานของทั้งคู่ได้อีกในวันพรุ่งนี้ค่ะ

+1และเป็ดแทนคำขอบคุณค่ะ  :L2:

ปล.เพิ่งได้รูปจากโรงพิมพ์ ด้วยความเห่อเลยนำรูปหนังสือ+boxมาให้ชมค่ะ

(http://u9.popcornfor2.com/show/RNr9b679.jpg)

หนังสือและที่คั่นที่ทางโรงพิมพ์ส่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

(http://u1.popcornfor2.com/show/JFj12040.jpg)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 ครอบครัวอบอุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 20-07-2012 08:51:16
^-^ ครอบครัวสุขสันต์ แฮปปี้ๆ
จะแต่งงานกันแล้ว วี๊ดวิ๊ว สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 ครอบครัวอบอุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 20-07-2012 09:12:00
เห็นด้วยว่ากัสโชคดี อิจฉาเบาเบา >_<
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 ครอบครัวอบอุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-07-2012 09:50:32
อบอุ่นจนร้อนเลย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 20-07-2012 14:32:21

กัสโชคดีจริงๆครอบครัววินน่ารักมากๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 20-07-2012 15:39:18
ก็กัสทั้งน่ารักและแสนดีอย่างนี้นี่เล่า ทุกคนถึงได้เอ็นดู
ตอนนี้ก็ได้อยู่ด้วยกันจริงๆแล้ว อบอุ่นทั้งกายและใจ :กอด1:
ขึ้นแท่นเป็นสะใภ้อย่างเต็มตัวแล้วสินะกัส :-[ น่าอิจฉาจัง
วินก็ทั้งรักทั้งหวงและห่วง พ่อแม่ก็ปลื้มซะขนาดนี้
มีความสุขกันถ้วนหน้า รวมถึงคนอ่านด้วยนะ นั่งยิ้มอยู่เนี่ย :o8:
ขอบคุณพี่มาศมากๆค่ะ อ่านแล้วอุ่นไปถึงหัวใจ :กอด1:
+1และเป็ดให้เบาๆ
ป.ล. พี่มาศเอาตัวอย่าง box มาให้ดูอย่างนี้ ยั่วกันใช่มั๊ย :serius2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-07-2012 17:23:15
ครอบครัวนี้
น่ารักกันจริง :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-07-2012 17:45:24
เป็นครอบครัวสุขสันต์จริงๆ ดีใจแทนกัสนะที่ครอบครัวสามีรักกัส
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-07-2012 18:11:11
เป็นลูกสะใภ้ที่โชคดีมากๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่35 (20/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 20-07-2012 21:40:08
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 21-07-2012 08:57:25
ตอนที่ 36

กัส

เช้าวันใหม่เริ่มต้นอย่างแจ่มใสบนที่นอนมีร่างชายหนุ่มผู้เป็นคนรักกำลังหลับสบาย  จนผมเผลอมองอยู่นานวินหลับตาพริ้มอมยิ้มน้อยๆ  ผมไม่รู้ว่าวินกำลังฝันถึงอะไรแต่ก็คงเป็นฝันดีไม่น้อย  ตั้งแต่มีวินก้าวเข้ามาในชีวิตทำให้ผมเรียนรู้เรื่องราวของความรักมากมายทั้งทุกข์ที่สุดและสุขที่สุด  รวมถึงการให้อภัยและการให้โอกาสกับคนที่ตัวเองรัก  ผมมัวแต่มองใบหน้าหล่อๆเพลินไปหน่อยจนลืมความตั้งใจแต่แรกว่าจะรีบลงไปข้างล่างไปดูว่ามีอะไรที่ผมพอจะทำได้บ้าง  การที่ผมเข้ามาอยู่ในบ้านของวินที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่ผมทั้งรักและเคารพเหมือนบุพการีของตัวเอง  การจะมานั่งทำตัวเป็นเจ้าของบ้านนั้นไม่ใช่นิสัยของผม  แม้ท่านทั้งสองเอ่ยปากว่ารับผมเป็นลูกแล้วก็ตาม  และที่สำคัญผมอยากดูแลวินในเรื่องส่วนตัวเล็กๆน้อยๆบ้าง  เพราะสถานะเราสองคนคือคนรักกันและในสายตาคนในครอบครัววินก็รู้ว่าเราใช้ชีวิตร่วมกันแล้วด้วย  อีกอย่างผมได้รับการดูแลจากวินมาซะเยอะแล้วอยากตอบแทนกลับบ้าง  ลงมาถึงข้างล่างผมไม่เจอใครเลยจึงเดินไปถึงห้องครัวบริเวณส่วนหลังของบ้าน  พบคุณแม่บ้านกำลังวุ่นกับการเตรียมอาหารเช้าอยู่กับเด็กรับใช้อีกคน

“ป้าวรรณครับ  มีอะไรให้กัสช่วยมั้ยเอ่ย” ส่งยิ้มล้อเลียนให้กับคุณแม่บ้านสาวเหลือน้อยที่ตกใจยกมือทาบอก  อีกมือยกทัพพีขึ้นสูงกับเสียงอุทานที่ปล่อยออกมา

“ยายชีตกกระโถน!!  โธ่  พ่อคุณ  คุณกัสนี่เองทำป้าตกใจหมด” หลังคำอุทานของป้าวรรณที่ทำผมต้องกลั้นขำ  คุณแม่บ้านใหญ่ก็ส่งค้อนเล็กๆมาให้หลังยกมือลูบอกและถอนใจเฮือกใหญ่  ผมเดินเข้าไปใกล้ป้าวรรณที่ยังทำหน้างอนอยู่  ก่อนยกมือขึ้นไหว้เพื่อขอโทษและจบด้วยรอยยิ้มหวานๆเอาใจ  แค่นี้คนตรงหน้าก็ถึงกับตกใจรีบจับมือที่ผมยกขึ้นพนมลง

“คุณกัสคะ  ไม่เอาค่ะไม่เอาอย่าไหว้ป้าแบบนี้  ป้าเป็นแค่แม่บ้านนะคะ” ป้าวรรณร้อนรนตอบกลับมายิ่งทำให้ผมยิ้มกว้างได้มากกว่าเดิม

“ป้าวรรณครับอย่าพูดแบบนี้ให้กัสได้ยินอีกนะครับ  กัสคิดว่าป้าวรรณเป็นเหมือนคุณป้ากัสคนหนึ่งเลยนะ” คนตรงหน้าเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าเช็ดน้ำตาปอยๆแต่ริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มน้อยๆ

“ไม่เอาครับอย่าร้องน้า  เดี๋ยวไม่สวยนะครับ  แล้วนี่ป้าวรรณทำอะไรเอ่ย  ให้กัสช่วยนะครับ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องให้ป้าวรรณหยุดร้องไห้และหันมาสนใจงานตรงหน้าแทน

“พ่อคุณของป้า  ป้าว่าคุณกัสไปรอข้างนอกดีกว่าค่ะเรื่องในครัวให้ป้าจัดการเองนะคะ” ผมสั่นหัวปฏิเสธทันทีเพราะตั้งใจลงมาดูแลเรื่องอาหารเช้านี้อยู่แล้ว  ครั้งนี้ผมขอดื้อกับคนแก่หน่อยล่ะกันครับ  จึงหมุนตัวไปดูหม้อที่ตั้งบนเตาดูจากหน้าตาแล้วน่าจะเป็นข้าวต้มทะเลแน่ๆ  แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรกลับโดนผลักเบาๆให้ถอยห่างจากข้าวต้มทะเลกลิ่นหอมตรงหน้า

“ไม่เอาค่ะ  ไม่เอา  เอางี้เดี๋ยวคุณกัสดูแลเรื่องขนมปังปิ้งนี่แทนและเตรียมน้ำส้มใส่แก้วนะคะ” ป้าวรรณมอบหมายหน้าที่ให้ผมและหันกลับไปยืนหน้าเตาหยิบเครื่องปรุงใส่ลงไปในหม้อเลิกสนใจผมไปเลย 

ผมก็ได้แต่ขำกับท่าทางของคุณแม่บ้านใหญ่  การที่ป้าวรรณมีท่าทางหวงครัวเป็นเพราะผมได้มาสร้างวีรกรรมถล่มครัวของแกมาแล้ว  เมื่อครั้งที่ผมอยากแสดงฝีมือทำข้าวผัดให้ครอบครัววินทาน  เมนูที่คนอื่นว่าง่ายแต่วันนั้นที่ผมทำมันไม่ง่ายเหมือนหลายคนเป็น  เพราะผมทำเละไปทั้งครัวพอป้าวรรณมาเห็นเข้าถึงกับลมจับเรียกหายาดมให้วุ่น  ท่าทางเรื่องการทำอาหารผมคงไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ซะแล้ว  ผมจำใจหยิบแผ่นขนมปังลงเครื่องปิ้งและกด  รอจนมันเด้งขึ้นมาก่อนคีบใส่จานเป็นอันใช้ได้  ระหว่างที่ผมทำภารกิจแสนยากที่ได้รับมอบหมายอยู่นั้น  ผมได้ยินเสียงวินตะโกนโวยวายมาจากข้างนอกพักเดียวเจ้าตัวก็มายืนหน้าบึ้งที่กรอบประตูครัว  สภาพหัวยุ่งใส่กางเกงนอนตัวเดียวโชว์แผ่นอกเปลือย  เรียกเสียงวี้ดว้ายจากสาวน้อยและสาวเหลือน้อยในครัวได้ทันที  ผมจึงรีบดึงแขนคนหน้าบึ้งออกมาให้พ้นครัว

“วิน  ทำไมแต่งตัวแบบนี้ลงมาล่ะ  ดูสิจะทำคนแก่หัวใจวายแล้วนะ” ผมดุเสียงเข้มใส่พ่อตัวดีที่พอได้ยินก็ยืนหน้าจ๋อยขึ้นทันตา

“ก็วินตกใจนี่ครับตื่นมากัสไม่อยู่ในห้อง  เลยรีบลงมาตามหาไม่ทันใส่เสื้อนี่  กัสครับ  กัสลงมาทำไมไม่ปลุกวินล่ะ  วินใจหายหมดเลยรู้มั้ย” เสียงอ้อนๆมาพร้อมวงแขนที่รั้งตัวผมเข้าหาอกเปลือยจนแก้มผมอิงแอบกับอกอุ่น

“กัสขอโทษ  ก็เห็นวินหลับสบายอยู่ไม่อยากปลุก  กัสแค่ลงมาดูเรื่องอาหารเช้าให้ทุกคน  ว่ามีอะไรที่กัสพอจะช่วยได้บ้างนี่หน่า” เสียงหัวเราะในลำคอจากเจ้าของอ้อมกอดที่เปล่งออกมาอย่างถูกใจ  ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองวินที่ส่งยิ้มกว้างตาระยับมาให้

“วินดีใจน้าที่กัสอยากดูแลวินเรื่องนี้  แต่วินว่า.....” วินทำหน้าเจ้าเล่ห์ตาพราวมาให้จนผมชักสงสัยถึงคำพูดที่วินทิ้งค้างไว้จึงเผลอจ้องตาอย่างรอคอย 

“ว่าอะไรวิน  พูดดีๆนะ” แกล้งเสียงแข็งขู่คนที่เริ่มมีท่าทางไม่น่าไว้ใจและไม่ยอมพูดออกมาสักที

“ให้เป็นหน้าที่ป้าวรรณเค้าเถอะครับ  เพราะดูท่าป้าวรรณจะเป็นลมอีกรอบได้น้า  ถ้ากัสลงมือเอง  ฮ่าๆๆ  โอ๊ยยย  พอแล้ววินล้อเล่นครับ” ผมฟาดฝ่ามือเต็มแรงไปที่ต้นแขนแกร่งหลายทีข้อหาแกล้งแซวให้ได้อาย  วินรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องนี้ผมอายแค่ไหนที่มาทำครัวบ้านวินเลอะครั้งนั้น

“อ้าว  ตาวินแกล้งอะไรหนูกัสล่ะ  กัสมานี่ลูก  แล้วดูสิแต่งตัวแบบนี้ลงมาได้ไง  ไปเลยไม่ต้องมาทำหน้าบึ้งใส่แม่  ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วลงมาทานข้าวจะได้ไปทำงาน” 

คุณแม่เดินมาดึงตัวผมออกจากวินและเอ็ดลูกชายตัวดีที่หน้ามุ่ย  ก่อนวินจะรับคำและเตรียมเดินขึ้นห้อง  ระหว่างที่วินเดินผ่านหน้าผมจึงแอบแลบลิ้นล้อเลียนไปให้ซึ่งวินก็ทำอะไรผมไม่ได้เพราะคุณแม่ยืนคุมพ่อตัวดีอยู่  วินได้แค่ชี้นิ้วอย่างหมายมาดคาดโทษมาให้ผมอย่างยิ้มๆ  หลังจากนั้นคุณแม่ก็ซักถามว่าเกิดอะไรขึ้นพอฟังจบท่านก็หัวเราะร่วนทำเอาผมได้อายก้มหน้างุด  คุณแม่เห็นผมเงียบก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงก่ำจึงเข้ามาโอบกอดปลอบโยน  พักเดียวคุณพ่อก็ลงมาร่วมวงสนทนาด้วยหัวข้อที่คุยจึงเปลี่ยนไป  เมื่อได้เวลาอาหารเช้าทุกคนก็พร้อมกันที่โต๊ะอาหารรวมทั้งพี่จักร  ที่พอเห็นผมก็คุยเล่นแกล้งหยอกให้วินโวยวายแกล้งหึงเรียกบรรยากาศสนุกสนานบนโต๊ะอาหารยามเช้าได้  คุยกันไปมาจบด้วยเรื่องของ ‘จิ๊บ’สาวประชาสัมพันธ์ที่บริษัทวินได้ยังไงไม่รู้  คุณแม่ถึงกับจะไปดูหน้าแม่สาวประชาสัมพันธ์ถึงที่ดูแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่  จนผมเริ่มหนักใจเมื่อผู้ใหญ่คิดจะจัดการให้ผมก็ห้ามได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก  แต่คุณแม่ก็พูดให้ผมสบายใจขึ้นว่าท่านแค่จะไปดูหน้าเฉยๆ  และถือโอกาสเข้าบริษัทครั้งนี้ไปเยี่ยมเยียนพนักงานด้วยเพราะท่านไม่ได้ไปมานานแล้ว  วินบีบมือผมส่งสัญญาณให้ยอมตามใจคุณแม่และให้รอไปบริษัทพร้อมท่านทีหลัง  เพราะท่านอยากให้ผมไปธุระเป็นเพื่อนก่อนเข้าบริษัท   หลังอาหารเช้าวินและพี่จักรก็ออกไปทำงาน  ซึ่งผมก็เดินไปส่งวินถึงรถส่วนพ่อตัวดียังแอบมาจุ๊บแก้มกันโชว์หวานต่อหน้าพี่จักรทำเอาพี่จักรแซวผมใหญ่เลย  ผมก็ได้แต่ส่งค้อนให้คนฉวยโอกาสก่อนหันหลังวิ่งกลับขึ้นบ้านเพื่อแต่งตัวเตรียมออกไปกับคุณแม่

...............................

คุณแม่พาไปพบเพื่อนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสปาโดยมี ‘คุณน้าอรณิช’ เป็นเจ้าของร้าน  คุณน้าเป็นรุ่นเดียวกับคุณแม่ที่ความสวยกินกันไม่ลงเลยทีเดียว  แรกเจอผมยังตะลึงกับหน้าตาที่อ่อนกว่าวัยและผิวพรรณผุดผ่องเหมาะสมกับเจ้าของธุรกิจสปา  หลังได้รับการแนะนำจากคุณแม่ว่าผมเป็นแฟนลูกชายคนเล็ก  คุณน้ามีสีหน้าตกใจในคราแรกจนผมแอบใจเสียว่าจะโดนผู้ใหญ่รังเกียจแล้ว  แต่กลับเป็นว่าคุณน้าอรณิชบ่นเสียดายใหญ่ว่าถ้าได้เจอผมก่อนวินจะฉกตัวมาให้ลูกชายของท่านเอง  เพราะท่านถูกใจในหน้าตาและต้องชะตากับผมมาก  ส่วนวินเองคุณน้ายังเคยคิดจับคู่ให้กับลูกสาวคนเล็กด้วยซ้ำเพราะท่านมีลูกถึงสี่คนเหลือสองคนนี้เท่านั้นที่ยังไม่มีครอบครัว  นอกนั้นมีหลานเล็กๆให้คุณน้าเชยชมไปแล้ว  คุณแม่ที่นั่งข้างๆผมยิ้มกว้างภูมิใจและมีชมผมต่อหน้าคุณน้าจนคุณน้าถึงกับถามว่าผมมีพี่น้องอีกมั้ยเพราะอยากได้แบบนี้อีกสักคน  จึงเรียกเสียงหัวเราะก้องอย่างถูกใจจากคุณแม่ส่วนผมได้แต่ยิ้มกว้างดีใจที่คุณน้าไม่รังเกียจกัน  หลังจากนั้นท่านทั้งสองก็จัดโปรแกรมนวดผิวแบบฟูลคอร์สให้  ผมออกปากปฏิเสธไปก็โดนคะยั้นคะยอให้ทำจนผมต้องจำใจเข้าไปนวดผิวนวดตัวจนได้  พอเสร็จผมเดินออกมาตัวเบาโล่งสบายแถมกลิ่นกายกรุ่นกลิ่นดอกไม้อ่อนๆทั้งตัวเลย  คุณแม่ชมใหญ่ว่าผมผิวผ่องใสน่ารักขึ้นอีกเป็นกองและถูกท่านฟัดแก้มจนเกือบช้ำ  เรียกเสียงหัวเราะจากคุณน้าอรณิชได้ก่อนท่านจะเข้ามาแย่งตัวผมจากคุณแม่ไปหอมแก้มอีกฟอดใหญ่  และบอกว่าอยากจะยึดตัวผมกลับบ้านด้วย  คุณแม่ก็รับมุกเพื่อนรีบเข้ามาดึงตัวผมมากอดไว้แน่นอย่างหวงแหน  ผมโดนดึงตัวไปมาพักใหญ่เหมือนผมได้กลายเป็นตุ๊กตาไปเลย  จนโทรศัพท์คุณแม่ดังขัดขึ้นมาซึ่งเป็นสายจากวินที่โทรมาตามว่าทำไมเราไปไม่ถึงบริษัทสักที

“แหมตาวินห่างแฟนไม่ทันไรโทรมาตามซะแล้ว  ฉันต้องไปก่อนนะอรแล้วเดี๋ยวพากัสมาหาใหม่  แต่บอกไว้ก่อนนี่ลูกสะใภ้คนโปรด  ห้ามมาแย่งกันเจ้าของหวงมาก  ฮ่าๆๆ” เมื่อคุณน้าได้ฟังก็ส่งค้อนน้อยๆแบบไม่จริงจังให้คุณแม่และกอดผมแน่นขึ้นก่อนหันมาส่งยิ้มหวานให้ผม

“มาเยี่ยมน้าอีกนะคะหนูกัส  เดี๋ยวน้าจัดโปรแกรมพิเศษให้ลูกอีก  ดูสิผิวผ่องกว่าเดิมแล้ว / ฟอดดด” ผมโดนคุณน้าอรณิชขโมยหอมแก้มอีกครั้งก่อนกลับ  ยังนึกแปลกใจว่าทำไมมีแต่คนชอบขโมยหอมแก้มผมอยู่เรื่อยเลย  ทั้งคุณแม่  คุณน้า  และวิน  จนแก้มช้ำหมดแล้ว  แอบคิดอยู่คนเดียวจนเผลอขำออกมาคุณแม่ที่นั่งข้างกันบนรถส่งยิ้มสายตามีคำถามมาให้  ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าและคลี่ยิ้มน้อยๆไปให้ท่านไม่รู้คุณแม่จะหาว่าผมบ๊องมั้ยนะ 

จนรถที่เรานั่งมาถึงหน้าบริษัทของวินที่ครั้งหนึ่งผมเคยมาแล้ว  แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเมื่อมี ‘คุณออย’ เลขาของวินลงมารับกันถึงรถพร้อมเปิดประตูฝั่งคุณแม่ให้ท่านอีกด้วย  เมื่อเราลงจากรถโดยมีคุณแม่เดินนำหน้าก่อนท่านจะหยุดลง  ผมนึกแปลกใจว่าท่านหยุดทำไม  จนกระทั่งเห็นว่าคนตรงหน้าคุณแม่นั้นคือใคร  ‘จิ๊บ’ ประชาสัมพันธ์สาวที่เกือบมีเรื่องกับผมเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน  จิ๊บยกมือไหว้คุณแม่อย่างอ่อนช้อยพร้อมยิ้มหวานจนเกินงาม  ผมที่เห็นก็ได้แต่กลั้นยิ้มเก๊กหน้านิ่งแต่ไม่รู้ว่าคุณแม่จะทำหน้าตาแบบไหนเพราะผมยืนอยู่ข้างหลังท่าน  แต่น้ำเสียงที่คุณแม่ใช้บวกสีหน้าของจิ๊บที่เปลี่ยนเป็นซีดสลดก็พอให้ผมได้รู้ว่าท่านคงทำหน้าตาน่าเกรงขามไม่น้อย

“คุณจิดาภาใช่มั้ยคะ  ฉันรู้เรื่องที่คุณปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดแต่วางตัวไม่เหมาะสมแล้ว  ต่อไปอย่าให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกนะคะ  เพราะถ้าคุณทำตัวแบบนั้นกับลูกค้าของบริษัท  บริษัทจะเสียหายได้  กว่าบริษัทจะมีชื่อเสียงขึ้นมาได้มันใช้เวลานานแต่การทำลายกลับใช้เวลาแค่นิดเดียว  และฉันคงต้องให้คุณพิจารณาตัวเองด้วย” 

ประโยคเชือดนิ่มๆจากคุณแม่ที่ได้ฟังทำให้ผมอดสงสารจิ๊บที่น้ำตาคลอเบ้าตัวสั่นไปแล้วไม่ได้  แต่เรื่องที่คุณแม่พูดมันเป็นเรื่องจริงและจะให้เกิดขึ้นกับลูกค้าไม่ได้เด็ดขาด  ผมได้แต่ส่งสายตาเป็นกำลังใจไปให้จิ๊บ  แม้เจ้าตัวจะไม่เห็นเพราะมัวแต่เช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นทาง  ก่อนมีเสียงถอนหายใจจากคุณแม่ดังขึ้นและท่านได้ยื่นกระดาษทิชชู่ให้หญิงสาวตรงหน้า

“หยุดร้องซะคุณจิ๊บ  ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกผิดแล้ว  ใช่มั้ย  เฮ้อ  บริษัทนี้เราอยู่กันอย่างพี่น้อง  ฉันอยากให้หนูคิดแบบเดียวกันและทำงานอย่างมีความสุข  ขอให้คิดซะว่าบริษัทนี้เป็นของหนูเองและทำงานอย่างเต็มความสามารถ  ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นกับบริษัทไม่ว่าจะจุดไหนมันก็ย่อมส่งผลถึงหนูด้วยใช่มั้ย  เอาล่ะเรื่องนี้ถือว่าจบฉันขอแค่ให้หนูคิดแบบที่ฉันบอกไป  ได้มั้ยจ๊ะ” จิ๊บที่หยุดร้องไห้ไปตั้งแต่คุณแม่เปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเธอแล้วพยักหน้ารัวตอบรับด้วยแววตามุ่งมั่น

คุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่ทั้งน่าเคารพและน่าเกรงขามสำหรับพนักงานที่นี่มากซึ่งบทจะใจดีก็ดีใจหายเลยทีเดียว  ดูได้จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนจากเคร่งขรึมน่ากลัวเป็นซาบซึ้งแทน  เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วคุณแม่หันมาชวนผมไปเยี่ยมเยียนพนักงานของบริษัทที่ทำงานกันอยู่ชั้นล่างนี้แต่อยู่ถัดไปที่ห้องด้านหลัง  ซึ่งตอนที่ผมมาครั้งแรกนั้นยังไม่มีโอกาสได้เดินไปดูหรือได้พบใครเลย  คุณแม่หันไปบอกคุณออยให้ไปเอาขนมคุกกี้ที่ท่านทำเองที่อยู่ในรถมาเพราะตั้งใจนำมาฝากพนักงาน  ก่อนเราจะผลักประตูกระจกใสเข้าไปในส่วนของออฟฟิศที่มีโต๊ะทำงานอยู่สักสิบตัวได้  แต่เจ้าของโต๊ะอยู่ไม่ครบคงออกไปทำงานข้างนอกด้วย  เมื่อพนักงานเห็นคุณแม่ต่างลุกขึ้นยกมือไหว้ส่งยิ้มกว้างมาให้แถมเผื่อแผ่มาทางผมด้วย  ผมจึงได้แต่ส่งยิ้มบางทักทายไป

“คุณป้าสบายดีมั้ยครับ  แล้วไม่มีขนมมาฝากผมบ้างเหรอครับ” หนุ่มหน้าทะเล้นสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ที่คงสนิทกับคุณแม่พอสมควรไม่งั้นคงไม่กล้าแซวท่านแบบนี้แน่

“สบายดีจ้ะ  ขนมน่ะมีอยู่แล้วล่ะคุณตุล  เนี่ยฉันให้คุณออยไปเอามาให้อยู่  แล้วทุกคนสบายดีมั้ย” คุณแม่หันไปถามคนอื่นๆที่ขยับมายืนใกล้กับที่เรายืนอยู่  และได้คำตอบเป็นการตอบรับว่าทุกคนสบายดีพร้อมรอยยิ้มกว้างเต็มหน้า  จากนั้นความสนใจของทุกคนถูกส่งมาที่ผมแทน

“แล้วนี่ใครครับ  จะมาเป็นพนักงานใหม่ของบริษัทเรารึเปล่า  ถ้าใช่บริษัทเราคงสดชื่นขึ้นเยอะเลย” ตุลหนุ่มขี้เล่นส่งสายตาแพรวพราวมาทางผมพร้อมเดินมาใกล้และก้มหน้าเกือบชิด  จนผมผงะถอยห่างอย่างตกใจ

“นี่  นายตุลมากไปแล้ว  ถอยออกไปห่างๆเลย” เสียงเข้มคุ้นหูดังขึ้นข้างหลังตามมาด้วยแรงโอบประคองรอบเอว  ผมหันไปมองหน้าเจ้าของอ้อมกอดที่หน้าบึ้งตึงจ้องเขม็งไปทางหนุ่มหน้าทะเล้น  หันกลับมาที่คนโดนจ้องก็หน้าเหวออ้าปากค้างไปแล้ว  จนเพื่อนผู้หญิงที่ยืนใกล้ตุลต้องดันคางขึ้น  ก่อนทุกสายตาจะถูกส่งมาจับจ้องทางเราทั้งคู่  วินเองก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอว  ผมพยายามขยับออกเพราะอายสายตานับสิบคู่ที่มองมา  และได้ยินเสียงหัวเราะของคุณแม่ดังขึ้น

“ฮิๆๆ  นี่คุณตุลอย่าได้ไปยุ่งกับคนนั้นเชียวเดี๋ยวจะตกงานไม่รู้ตัวนะจ๊ะ” ประโยคนี้ของคุณแม่ยิ่งทำผมอายหนักกว่าเดิมอยากหลุดจากอ้อมกอดนี้  แต่ดูท่าจะเป็นไปได้ยากเพราะแรงรัดรอบเอวที่ยังไม่คลาย  และยิ่งหนักใจขึ้นไปอีกด้วยคนกอดยังหน้าบึ้งตึ้งไม่เปลี่ยน  ระหว่างที่ผมเงยหน้ามองผ่านคางเขียวจางๆขึ้นไปก็มีเสียงแทรกขึ้นจนต้องหันไปมองหน้าคนพูดอย่างตกใจปนอายหนักกว่าเดิม

“อย่าบอกนะครับว่า  เอ่อ  คนนี้คือแฟนบอสที่เค้าลือกันน่ะ” ตุลมองหน้าคุณแม่ตาโตและชี้นิ้วมาทางผม

“ใช่แล้ว!  ทุกคนนี่กัสแฟนผม  แล้วนาย!  ไอ้ตุลอย่าให้เห็นอีกนะว่าทำแบบเมื่อกี้อีก  หวงโว้ย!” ทั้งการแนะนำตัวและทั้งประโยคที่วินพูดทำเอาผมอยากหายตัวได้ซะจริง  ไม่รู้ว่าชีวิตนี้ผมจะอายอะไรได้แบบนี้อีกมั้ย  เลยหยิกหมับไปที่ต้นแขนเจ้าของอ้อมกอดแทน  เรียกเสียงร้องโอดโอยจากวินได้แต่พ่อตัวดีก็ยังไม่ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ 

ผมเหลือบมองไปรอบๆตัวก็ได้เห็นว่าพนักงานบางคนยิ้มกว้าง  บางคนก็หัวเราะแบบไม่เกรงใจกัน  ทำให้ผมเชื่อแล้วว่าบริษัทนี้เค้าอยู่กันแบบพี่น้องจริงๆ  ทั้งเจ้านายลูกน้องเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว  เมื่อคุณออยมาถึงก็แจกจ่ายขนมคุกกี้ให้พนักงานทุกคน  ต่างรับมาแกะชิมและชมไม่ขาดปากจนคุณแม่เป็นปลื้มยิ้มกว้างไม่หุบและเอ่ยว่าคราวหน้าจะทำมาให้อีก  คุณแม่ที่พูดคุยทักทายพนักงานจนพอใจแล้วก็ชวนผมขึ้นไปห้องวินที่อยู่ชั้นบน  ผมที่ไม่กล้าคุยกับใครอยู่แล้วจึงรีบตกลงเพราะทนสายตาล้อเลียนจากพนักงานที่ผลัดกันส่งมาให้ไม่ไหวแล้ว  ด้วยพ่อตัวดีที่แม้ไม่ได้กอดกันแล้วแต่ตามติดยืนชิดจนแทบจะสิงร่างผมได้อยู่แล้วนี่ไงครับ

.....................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

หวานเบาๆ  :impress3:

ตอนหน้าโปรดเตรียมตัวดีๆค่ะเพราะมันจี๊ดดด มาก  :haun4:

+1และเป็ดให้แทนคำขอบคุณค่ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-07-2012 09:53:07
ก็อายกันไป น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 21-07-2012 10:29:04
>.,< รอติดตามตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 21-07-2012 10:35:24
จะพยายามไม่พลาดตอนหน้า =..=
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-07-2012 14:08:35
นายวินหวานไม่แคร์สื่อ :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-07-2012 14:19:27
รอจ้ารอ :)
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 21-07-2012 15:35:15

จะไม่พลาดค่ะ :impress2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่36 (21/7/55) P.14 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-07-2012 18:15:44
สงสารกัส  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-07-2012 08:11:39
ตอนที่ 37

กัส

หลังอาหารเที่ยงที่มีสปาเก็ตตี้มีทบอลกับทาร์ตไข่ราดคาราเมลหอมๆจากร้านอาหารใกล้บริษัทที่ได้รับการแนะนำจากคุณออยเลขาคนเก่งของวินแล้ว  ซึ่งมื้อนี้ผมเจริญอาหารไม่น้อยจนคุณแม่ยังแซวว่าผมคงได้มาบริษัทวินบ่อยๆเพราะร้านนี้แทนการมาหาลูกชายคุณแม่ล่ะมั้ง  คุณออยที่นั่งร่วมโต๊ะที่เป็นคนแนะนำยิ้มปลื้มแถมชี้ชวนรายการอื่นๆที่คุณออยชิมแล้วว่าอร่อยให้มาลองทานครั้งหน้าด้วย  ขณะที่ผมกำลังดูรายการอาหารในมือโดยข้างหนึ่งมีคุณออยนั่งประกบ  วินที่นั่งอีกข้างก็คว้ามือผมไปกุมก่อนเอ่ยออกมา
 
“ครั้งหน้ากัสมาหาวินที่บริษัทอีกนะครับ  เดี๋ยววินพามาทานอีก” สายตาอ้อนเอาใจที่วินส่งมาให้ทำผมเขินอย่างไม่ทันตั้งตัว  ก่อนที่ผมจะคลี่ยิ้มน้อยๆให้คนช่างอ้อนและแกล้งหลุบตากลับมามองเมนูในมือเหมือนเดิม

“แหมไม่ค่อยเอาใจกัสเลยนะตาวิน  ฮึๆ  เห็นแบบนี้แม่ค่อยเบาใจได้หน่อยว่าลูกกัสของแม่จะไม่เสียใจเพราะเรา  จริงมั้ยคุณออย” คุณแม่หันไปแซวลูกตัวเองที่ยังยิ้มร่าจ้องผมไม่คลาดสายตา  โดยดึงคุณออยเข้าพวกด้วยก่อนเธอจะรีบพยักหน้าเห็นด้วยกับท่าน  เรียกความร้อนในร่างกายวิ่งขึ้นมารวมกันที่แก้มทันที  ผมหันไปสบตาหวานของวินที่มองผมไม่กระพริบแล้วก็ยิ่งเขินหนัก

“คุณออยดูท่าแล้วเราจะเป็นส่วนเกินของคู่รักยังไงไม่รู้นะ  เอายังงี้ดีกว่า  เดี๋ยวแม่ไปชวนคุณพ่อไปทำบุญกับหลวงตาที่วัดและถือโอกาสหาฤกษ์หายาม  เอาไปบอกคุณป้าของกัสที่เราจะไปหาอาทิตย์หน้าทีเดียวเลย  ตายแล้ว! บ่ายกว่าแล้วรึเนี่ย  เดี๋ยวแม่เรียกตาศรมารับเลยดีกว่า” คุณแม่ผู้หญิงน่ารักที่ยังใจร้อนเหมือนเดิมเร่งให้คุณออยโทรตามพี่ศรคนขับรถให้มารับท่านทันที  และประโยคของท่านนั้นคงถูกใจลูกชายตัวเองมากแน่ๆเพราะวินคลี่ยิ้มกว้างตาพราวกุมมือผมไว้เขย่าเบาๆ  ผมจึงได้รู้ว่าพ่อคนเจ้าเล่ห์เค้าดีใจมากแค่ไหน 

จนเมื่อคุณแม่ไปแล้วเราสามคนก็กลับถึงบริษัท  หน้าบริษัทมีร้านกาแฟน่ารักเปิดอยู่แม้จะอิ่มแต่แค่คิดถึงกลิ่นหอมๆรสขมเมื่อแรกแต่มีรสหวานติดปลายลิ้นทำเอาผมนึกอยากชิมขึ้นมาเลย

“กัสอยากดื่มกาแฟเหรอครับ  เอาแบบนี้เดี๋ยววินส่งหน้าร้านและไปเก็บรถก่อน  และวินจะเดินกลับมารับนะครับ” เป็นคนรู้ใจกันก็ดีแบบนี้เองไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเราต้องการอะไร  ผมจึงยิ้มหวานไปให้วินแทนคำขอบคุณ 

เมื่อรถจอดหน้าร้านยังไม่ทันที่ผมจะเปิดประตูลงไป  กลับโดนฉุดแขนจนถลาไปหาอกแกร่งพร้อมโดนขโมยจูบแก้มฟอดใหญ่  ผมตกใจยกมือกุมแก้มข้างที่โดนขโมยจูบด้วยไม่คิดว่าวินจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าคุณออย  หันไปมองข้างหลังก็พบว่าคุณออยหันหน้าหนีไปทางหน้าต่างรถด้วยแก้มแดงปากคลี่ยิ้มนิดๆ  ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าคุณออยได้เห็นฉากสวีทที่พ่อตัวดีตั้งใจโชว์เข้าแล้ว  ผมหันกลับมาถลึงตาใส่วินที่ยิ้มรับและเอื้อมมือข้ามตัวผมไปเปิดประตูรถให้  พ่อคนเจ้าเล่ห์ทำเป็นหนีความผิดนะ ‘น่าหมั่นไส้ซะจริง’

“เดี๋ยววินมารับนะครับ” วินยิ้มกลบเกลื่อนความผิดมาให้จึงได้รับค้อนวงใหญ่จากผมไปแทน  ก่อนที่ผมจะลงจากรถตรงเข้าร้านกาแฟตรงหน้า

เมื่อผมผลักบานประตูกระจกใสของทางร้านเข้าไปก็มีเสียงกระดิ่งที่แขวนเหนือประตูดังขึ้น  และพบกับใบหน้ายิ้มแย้มของชายหนุ่มหน้าขาวตัวโตสวมผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเข้มชวนมองเข้า  ผมได้แต่ยิ้มตอบและมองไปรอบร้านซึ่งพบว่าในร้านไม่มีคนเพราะเลยเวลาอาหารเที่ยงไปแล้ว

“รับอะไรดีครับ” เสียงสุภาพชวนฟังเรียกสายตาผมให้หันกลับมาทางต้นเสียง  และต้องชะงักกับสายตาหยาดเยิ้มของชายหนุ่มตรงหน้า

“ขอคาปูชิโนกับอเมริกาโนอย่างละแก้ว  เทคโฮมนะครับ” หลังสั่งกาแฟที่ต้องการแล้วผมแกล้งมองเมินสายตาคู่ตรงหน้า  ไม่อยากคิดมากแต่ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองนักผมรู้ว่าเจ้าของสายตาคู่หวานนั้นคิดอะไร
 
ผมมองไปยังตู้โชว์เค้กด้านข้างที่มีเค้กตัดเป็นชิ้นวางเรียงรายหน้าตาน่าลิ้มลอง  จนอดคิดถึงมิคไม่ได้เพราะขนมเค้กเป็นของหวานที่โปรดปรานของเจ้าตัวจนผมเผลอยิ้มออกมา  ก่อนเงยหน้าเตรียมสั่งเค้กสำหรับตัวเองและคุณออยเลขาที่น่ารักของวิน  แต่กลับพบว่าผมถูกมองจากเจ้าของร้านกาแฟที่ทำหน้ายิ้มตาเยิ้มส่งมาให้  ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกแม้จะเคยชินกับสายตาหวานเยิ้มแสดงความชื่นชมแค่ไหน  แต่คนเดียวที่เห็นแล้วทำให้ผมรู้สึกดีจนเขินได้ก็มีแต่วินเท่านั้น  ส่วนคนอื่นๆที่ส่งสายตาแบบนี้มาให้ผมจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่อยากเข้าใกล้ไปซะทุกราย

“เอ่อ  ขอสตรอเบอรี่ชีทเค้กกับมอคค่าบลูเบอรี่อย่างละชิ้นด้วยนะครับ” เสียงผมคงทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ารู้สึกตัวก่อนเขาจะยิ้มเขินเมื่อรู้ว่าผมจับได้ว่าแอบมอง  จนมือไปปัดโดนแก้วกระดาษด้านข้างตกเกลื่อนพื้น

“คะ  ครับได้ครับ  สักครู่นะครับ” เจ้าของร้านก้มหน้ารับคำส่วนมือก็สาละวนเก็บแก้วให้เข้าที่  ผมจึงเดินเลี่ยงออกมานั่งรอที่โต๊ะใกล้ประตู  เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นเรียกสายตาผมให้หันไปมองและต้องยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นใคร  วินเดินตรงมาที่โต๊ะที่ผมนั่งรออยู่ด้วยรอยยิ้มหวานชวนมอง

“เป็นไงครับสั่งกาแฟเรียบร้อยรึยัง” ผมพยักหน้ารับก่อนวินจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม

“เอาไปดื่มที่บริษัทวินนะครับหรือกัสอยากทานที่นี่” วินเลิกคิ้วประกอบคำถาม  ซึ่งคำถามนี้ทำให้ผมรู้ว่าแม้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆวิน
ยังใส่ใจกันถ้ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผม

“อืม  กัสก็ตั้งใจแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ  วินอยากทานเค้กมั้ย  เนี่ยกัสสั่งเผื่อคุณออยแล้ว” วินส่ายหน้าให้ก่อนหันไปมองรอบร้านอย่างสำรวจ  ด้วยอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศและอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟทำให้วินเปิดยิ้มอย่างอารมณ์ดี  ก่อนวินจะหยุดสายตาและจับจ้องไปที่ชายหนุ่มเจ้าของร้านอยู่พักหนึ่ง  และหันกลับมามองผมหน้ามุ่ยก่อนหันไปที่หนุ่มคนเดิมอีกครั้ง

“กัสครับ  วินไปเก็บรถแป๊บเดียวเองนะ  รู้งี้ให้มาพร้อมกันก็ดีหรอก” ประโยคบอกเล่าของวินที่ไม่ได้สื่ออะไรมากมายแต่ผมรู้ว่า  วินต้องการสื่ออะไร  เพราะจากสายตาของวินที่หันไปจับจ้องชายหนุ่มที่ก้มหน้าชงกาแฟด้วยใบหน้านิ่งติดดุ  เมื่อชายหนุ่มคนที่โดนจับจ้องเงยหน้ามาเห็นสายตาวินเข้าถึงกับสะดุ้งรีบก้มหน้าเตรียมของต่อและไม่เงยมามองอีกเลย  จนของที่สั่งไว้ครบนั่นแหละถึงได้ยินเสียงเบาๆเอ่ยออกมา

“ของที่สั่งได้แล้วครับ” แถมปลายประโยคยังแอบสั่นนิดๆด้วยทำผมเริ่มสงสาร  ใครก็ตามที่โดนวินจ้องด้วยหน้าตาแบบนี้ก็คงกลัวกันทั้งนั้น  วินเป็นคนเดินไปจ่ายค่ากาแฟและเค้กเอง  ส่วนผมที่เดินตามหลังมาทันได้ยินประโยคของคนหน้ายุ่งแถมขี้หึงอย่างร้ายกาจเข้า

“คนนั้นแฟนผม  อย่ามองมากถึงไม่สึกหรอแต่ผมก็หวง” ผมโดนจับข้อมือหลังวินเอ่ยจบประโยค  ก่อนวินจะหมุนตัวพาผมเดินออกนอกร้านทันที

“วินช้าๆสิ  กัสเดินไม่ทันแล้ว” ร่างสูงตรงหน้าชะลอฝีเท้าลงและหันกลับมาทำหน้างอนๆปากยื่นส่งมาให้ผม

“กัสอย่าไปทำตัวน่ารักให้คนอื่นเห็นสิ  วินหวงนะครับ” คนอะไรใส่ร้ายกันชัดๆ  ผมทำตัวธรรมดาและไม่เคยอยากให้ใครมองด้วยสายตาแบบนั้นซะหน่อย

“กัสก็ทำตัวปกตินี่หน่าและไม่ได้อยากให้ใครมองด้วยสายตาแบบนั้นซะหน่อย  ชิ” ผมงอนซะเลยให้รู้บ้างว่าไม่ใช่ผมที่จะไปเริ่มหว่านเสน่ห์กับใครก่อน

“กัสครับอย่าทำหน้าแบบนี้  วินขอโทษวินรู้ว่าไม่ใช่กัสที่จะไปเริ่มก่อน  แต่รู้ตัวมั้ยเนี่ย  หืม  ว่ามีแต่คนมองและคิดจะเข้ามาหา  นี่ถ้าไม่มีวินคอยกันไว้นะ  ฮึม!!  อยากเก็บกัสอยู่แต่ในห้องเลยรู้มั้ย  วินหวงของวินนี่ครับ” พ่อตัวดีช่างกล้าพูดประโยคเลี่ยนๆหน้าบริษัทได้ยังไงกันรู้บ้างมั้ยว่าผมอาย  ผมจึงรีบเดินหนีเข้าบริษัทไปก่อน ‘ไอ้คนขี้หวง’ ที่หัวเราะได้แล้วหลังทำให้ผมได้อายและต้องหลบหน้าพ่อตัวดีออกมาก่อน

หลังจากที่ผมเอาเค้กมอคค่าบลูเบอรี่ให้คุณออยแล้วเราก็เข้าห้องทำงานของวินกัน  ซึ่งผมไปนั่งรอที่โซฟาส่วนคุณเจ้าของบริษัทก็นั่งทำงานและจิบอเมริกาโน่อย่างสบายใจ  เห็นดังนั้นผมจึงเริ่มแกะสตรอเบอรี่ชีทเค้กของโปรดขึ้นมาชิมพร้อมคาปูชิโน่เย็น  คนกำลังมีความสุขกับของหวานอย่างผมต้องชะงักกับสายตาของวิน  ที่จับจ้องผมด้วยสายตาหยาดเยิ้มแทนการก้มหน้าตั้งใจทำงาน

“ทำงานสิครับคุณวิน  แอบอู้นะเนี่ยเรา” ผมใช้ช้อนพลาสติกที่อยู่ในมือชี้ขู่ไปทางคนตาเชื่อมไม่ได้หวังให้กลัว  แต่อยากให้ละสายตากลับไปทำงานซะที  เล่นมองกันแบบนี้ผมจะกินลงได้ยังไงกันล่ะ  ผมย่นจมูกให้วินที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวกันแถมยังหัวเราะให้ได้ยินอีก  ผมเลิกสนใจคนตาพราวหันมาก้มหน้าตักเค้กเข้าปากแก้เขิน  สายตาหวานเชื่อมที่ได้สบมันแปลได้ว่าวินต้องการผม 

ผมเงยหน้าแอบมองอีกทีก็ยังเห็นว่าวินยังมองกันอยู่แถมกวักมือเรียกผมไปหาด้วย  ผมส่ายหน้าทันทีเรื่องอะไรจะเข้าใกล้ได้โดนจับกินกันพอดีก็ดูสายตาคู่นั้นสิไม่น่าไว้ใจเลย  วินชี้ไปที่แก้มผมก็ทำหน้างงใส่ ‘อะไรแก้มทำไมหรือมีอะไรติดแก้ม’ ผมจับไปที่แก้มตัวเองก็ได้ยินเสียงวินหัวเราะดังขึ้น  ผมจึงรีบลุกจะไปส่องกระจกในห้องน้ำแต่โดนคนเจ้าเล่ห์จับตัวได้ซะก่อน  หันไปเตรียมโวยกลับโดนนิ้วหัวแม่มือของวินป้ายครีมชีทที่มุมปากออกให้ก่อนใช้ลิ้นเลียตาม

“อร่อยจัง  มิน่ากัสถึงชอบ” ความร้อนแล่นพล่านไปทั้งหน้ากับท่าทางและแววตาระยับที่มองมา  นิ้วเดิมถูกส่งกลับมาที่ริมฝีปากล่างลูบไล้และจับเผยอแยกออก  วินก้มหน้าฉกลิ้นร้อนผ่านกลีบปากทั้งสองเข้ามาขณะที่ผมยังตั้งตัวไม่ทัน  ลิ้นร้อนเกี่ยวพันแตะไล้สำรวจทั่วโพรงปากจนพอใจก่อนละมาที่แก้มนิ่ม  จนผมได้ยินเสียงรำพึงจากวิน

“อืม  สตรอเบอรี่ชีทเค้กนี่ อร่อยจังน้า” ไอ้ที่ว่าอร่อยนี่วินคงหมายถึงแก้มผมมากกว่า  ก็ไอ้อาการที่แทบจะขย้ำและออกแรงสูดกลิ่นแก้มจนมันแทบจะหลุดติดไปกับจมูกวินอยู่แล้ว  จมูกโด่งไม่หยุดแค่นั้นแต่ลามไปที่ต้นคอขาวทำเอาผมขนลุกเกรียวจนต้องออกแรงผลักใบหน้าหล่อให้ห่าง  แต่แรงผมก็สู้แรงคนมากเล่ห์ไม่ไหววินยังดื้อรั้นก้มมาสูดกลิ่นที่ต้นคอผมต่อ

“หอม  เหมือนกลิ่นดอกไม้เลย  กัสเปลี่ยนน้ำหอมเหรอครับ  หืม” ปากขยับพูดแต่จมูกก็ไม่หยุดทำงานไล้ตามซอกคอต่ำลงเรื่อยๆ

“วินหยุดเถอะ  เดี๋ยวคุณออยเปิดเข้ามา” วินส่ายหน้าทำให้เส้นผมระมาโดนแก้มและคางส่วนปากก็พร่ำบ่น

“วินบอกไปแล้วว่าห้ามกวน / ฟอด / หอมจัง” เสียงเหมือนคนละเมอดังขึ้นพร้อมกับสติของผมที่เริ่มเลือนราง
 
“อ๊ะ  วิน” ผมถลาตามแรงคนตัวโตที่ฉุดให้ผมนั่งตักเมื่อวินนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าโต๊ะทำงาน

“ไม่เอาไม่เล่นแบบนี้นะ  อ๊ะ  วิน  นี่ยังไง  วิ......” ยังไม่ทันจะจับมือหนาที่สอดมาใต้เสื้อออกจากเอว  เอ่ยปากห้ามไม่ครบประโยคก็โดนมืออีกข้างมาจับปลายคางให้หันไปรับจูบดูดดื่มรุนแรง  ทำให้ผมเคลิ้มไปกับรสจูบที่วินมอบให้  และสะดุ้งแอ่นหน้าอกรับสัมผัสดึงรั้งที่ยอดอกความเสียวซ่านแล่นวาบจากยอด อกไปทั่วกาย

“อ๊า  อึก  เจ็บ  บะ  เบาๆ  ซี้ดดด” ปากเป็นอิสระแต่ยอดอกกับโดนรุกล้ำรุนแรง  ผมจึงต้องสูดปากปลดปล่อยอารมณ์ออกมา  ปากซุกซนไม่หยุดแต่ไล่จูบดูดดึงติ่งหูก่อนแลบเลียหยอกเย้าและแหย่ผ่านรูหูกระตุ้นความเสียวซ่านจนผมต้องคราง  มือหนาเริ่มปลดตะขอกางเกงและรูดซิบลง  ผมรู้สึกถึงความตึงแน่นด้านล่างที่สัมผัสถูไถกับสะโพกของตัวเอง
 
“ซี้ดดด  กัสครับวินไม่ไหวแล้ว  อืมม” เสียงแหบพร่าเร้าอารมณ์ข้างหูเป็นแรงขับให้อารมณ์เตลิด  ผมไม่ได้คิดแล้วว่าสถานที่จะเหมาะสมหรือไม่  ความเย็นวาบตลอดส่วนล่างที่ไม่รู้เสื้อผ้าผมหลุดหายไปตอนไหน  มือหนาแตะกำรวบความปรารถนากลางลำตัวรูดรั้งอย่างแรงเหมือนต้องการเร่งเร้าให้ผมได้พบความสุขสม  ผมขยับสะโพกให้สอดคล้องกับมือหนาที่ทำหน้าที่ขยับให้อย่างรู้ใจ  ซึ่งมันบดเบียดไปโดนแท่งร้อนข้างใต้ให้เบ่งบานขึ้นแบบไม่รู้ตัว

“ซี้ดดด  เสียว  กัส  สะ  เสียว  มะ  ไม่ไหวแล้ว  อ๊า  วินนนน” ผมกรีดร้องยาวนานเมื่อถึงจุดหมายแห่งความสุข  สายธารรักพุ่งเต็มมือหนาก่อนวินจะ     ขยับรูดรั้งเพื่อให้ผมปลดปล่อยออกให้หมด

ผมซบหน้าพิงอกแกร่งและหอบตัวโยนไร้เรียวแรงหลังปลดปล่อย  แต่แล้วต้องตกใจเมื่อถูกวินจัดท่าจับคว่ำหน้าลงไปบนโต๊ะตัวใหญ่ที่มือหนากวาดทุกอย่างลงพื้น  เพื่อเตรียมให้พร้อมกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น  ผมเหลียวมองกลับหลังก่อนสะโพกจะถูกยกลอยเด่นต่อหน้าวิน  ผมรีบเบือนหน้ากลับและสัมผัสได้ถึงจูบทักทายที่แก้มก้นทั้งสองข้างจนต้องเกร็งตัว  วินไล่จูบขึ้นมาตามแนวสันหลังส่วนเสื้อที่ผมใส่มาได้ถูกถลกมากองที่หน้าอก  และผมต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงนิ้วชุ่มชื้นที่ถูกสอดเข้ามาให้ตัวเพื่อขยายช่องทางเตรียมพร้อมกับของที่ใหญ่กว่า  ผมเกร็งขมิบอย่างต่อต้านเมื่อรู้สึกเจ็บปนเสียวก่อนจะขนลุกซู่เมื่อนิ้วยาวหมุนคว้าง

“อ๊า  วิน  อื้อ  เบาๆ” ยิ่งผมครางเหมือนวินยิ่งได้ใจเพราะวินเริ่มขยับนิ้วเข้าออก  และเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นเรื่อยๆจนครบสามนิ้วก่อนหมุนไปมา  วินสะกิดโดนจุดเร่งอารมณ์ภายในยิ่งทำเอาผมกรีดร้องและเริ่มขยับสะโพกสวนเข้าออกกับนิ้วยาวทั้งสาม

“อ๊า  วิน  ขะ  ขยับที  วินนน” ความอดทนผมหมดลงจึงเหลียวไปมองหน้าหล่อที่กำลังอดกลั้นหน้าแกงก่ำ  และอ้อนเสียงหวานเร่งให้วินขยับให้  ตอนนี้ใบหน้าของเราแนบสนิทกันตาหวานเชื่อมที่ได้สบเพราะแรงอารมณ์ที่ขึ้นสูง  ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมส่งลิ้นไปแลบเลียที่ริมฝีปากหนาและใจกล้าสอดลิ้นเข้าจูบดูดดื่มก่อนขยับสะโพกแรงเร็วสวนกับนิ้วยาวที่สอดใส่อยู่ อารมณ์ที่กำลังไต่ขึ้นสูงต้องหยุดชะงักเพราะวินถอดถอนนิ้วออกไป  ผมผละจูบส่งสายตาตัดพ้อไปให้คนใจร้ายที่แกล้งกันได้  ปากบอกว่ารักแต่ทำไมทำกับผมแบบนี้กัน  วินคลี่ยิ้มเอาใจมาให้ก่อนก้มมาฟัดแก้มและออกแรงกัดเบาๆ

“อย่ากัดปากตัวเองสิครับ / จุ๊บ / วินจะตามใจกัสหลังจากนี้แล้วที่รัก  ฮึๆ” คนขี้แกล้งยื่นนิ้วมาไล้กลีบปากผมให้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังกัดปากอยู่  ก่อนสายตาหยอกล้อจะทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าทำตัวได้น่าอายแค่ไหนที่ร้องขอออกไป  แต่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัววินก็ส่งแท่งร้อนมาจ่อที่สะโพกและขยับเสียดสี  ผมกลั้นลมหายใจแบบไม่รู้ตัวเพราะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น  ความตึงแน่นปนเสียวซ่านยิ่งทำให้ผมเกร็งตัว  แต่เสียงแหบพร่าที่กระซิบข้างหูบอกให้ผ่อนคลาย  ผมจึงผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายพร้อมรองรับความร้อนผ่าวใหญ่โตทางด้านหลัง

“ซี้ดดดด  ที่รักดีครับ  อืม  อีกนิดนะ  อ๊า” เสียงแหบพร่าได้อารมณ์ของวินเหมือนเป็นกำลังใจให้ผมอดทนเพื่อคนรัก  และรับเอาแท่งร้อนขนาดไม่เล็กเข้ามาได้หมด 

วินหยุดนิ่งให้ผมได้ปรับตัวกับสิ่งแปลกปลอมแต่คุ้นเคย  ผมซบหน้ากับต้นแขนและสูดอากาศเข้าปอดเพื่อคลายความคับแน่นที่เบื้องล่าง  ก่อนจะรับรู้ถึงจูบที่แผ่นหลังไล่ขึ้นมาถึงต้นคอและใบหน้าผมถูกดึงมารับจูบดูดดื่ม  เรียวลิ้นที่ขยับพลิ้วไปทั่วโพรงปากและมือหนาที่ขยับปรนเปรอส่วนกลางลำตัวให้ทำผมเคลิบเคลิ้มอีกครั้ง  สะโพกหนาเริ่มขยับจากช้าเปลี่ยนเป็นแรงเร็วจนผมต้องจับขอบโต๊ะรั้งไว้  และขยับสะโพกสวนตอบโต้ส่วนมือผมถูกวินนำไปจับชักพาความต้องการของตัวเอง  มือหนาถูกส่งมาตะปบเข้าที่สะโพกเพื่อยึดไว้ให้การขยับของวินหนักหน่วงและถี่รัวตามแรงอารมณ์ของเราที่ขึ้นสูง

“วิน  เร็วๆ  กะ  ใกล้  แล้ว  ซี้ด  อืมมม” อารมณ์หวามไหวทำให้ผมเอ่ยปากขออย่างใจต้องการ  และคนที่ถูกขอก็ใจดีขยับแรงเร็วให้พร้อมเสียงครางทุ้มที่พอได้ยินก็เป็นแรงกระตุ้นให้ผมได้ทำตามเช่นกัน

“กัส  ซี้ดด  ดีครับ  ขยับแบบนั้นแหละ  อ๊า  โอ้วว” เสียงเนื้อกระทบกันร่วมกับเสียงครางดังประสานจนแยกไม่ออก  วินสูดปากหน้าเริ่ดหงายไปข้างหลังแต่สะโพกยังรักษาจังหวะเร่งให้ถึงจุดหมาย  ผมผละจากใบหน้าได้อารมณ์ของวินมาจับขอบโต๊ะพยุงตัวและชักนำให้ตัวเองอย่างเร่งเร้า  เมื่อรู้ว่าเราทั้งคู่ใกล้ถึงจุดหมายแล้วและวินาทีที่เรารอคอยก็มาถึง

“จะถึง  ละ  แล้ว  วิน  อ๊าๆๆๆๆ  วินนนนน” ผมกรีดร้องเรียกชื่อคนรักเมื่อถึงจุดหมาย  ตาพร่าพราวก้มหน้าซบเข้ากับท่อนแขนและขยับมือให้ตัวเองปลดปล่อยธารรักจนหมด  ส่วนวินที่ใกล้ถึงจุดหมายก็ยังขยับสะโพกถี่รัวจนตัวผมโยกคลอนไปตามแรงกระแทก

“กัสสส  ซี้ดดด  อ๊าๆๆๆ  รัก  วินรักกัสนะครับ” วินครางยาวและเรียกชื่อผมพร้อมบอกรักก่อนปลดปล่อยเกร็งกระตุกเมื่อถึงจุดหมาย  ผมที่ได้ยินก็หันหน้าไปมองหน้าคนรักด้วยรอยยิ้ม  แม้คนที่ผมส่งยิ้มให้จะไม่เห็นเพราะกำลังแหงนเงยและปลดปล่อยธารรักอุ่นร้อนเข้ามาในตัวผม 

วินหมดแรงโน้มตัวมาโอบกอดผมไว้ทั้งตัว  ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ขมับและยกตัวผมจากโต๊ะให้มานั่งทับตัก  ผมหมดแรงพิงอกคนรักและถ้าวินคิดจะทำอะไรต่อจากนี้อีกผมก็ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน  มือหนาเริ่มลูบไล้จมูกเริ่มซอกซอนที่ซอกคอ  เสื้อที่แต่เดิมอยู่กับตัวถูกรั้งออกเหนือศีรษะเท่ากับตัวผมเปลือยเปล่า  ตรงข้ามกับวินที่ยังเหลือเสื้อสวมอยู่ส่วนกางเกงกองที่ข้อเท้า  ส่วนวินน้อยที่อยู่ในตัวผมเริ่มพองขยายเมื่อพ่อของมันเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง  ผมพยายามผละออกจากอกกว้างแต่กลับโดนวินรั้งไว้

“ไม่เอาแล้ววิน  กัสเหนื่อยแล้วนะ” ส่งสายตาอ้อนวอนไปให้เผื่อจะรอดพ้นพ่อคนเจ้าเล่ห์

“ต่อนะครับที่รัก  เพราะกัสนั่นแหละ / ฟอดดด / ที่ทำวินคลั่งแบบนี้” วินโยน ความผิดมาให้ผมพร้อมกดจมูกสูดกลิ่นแก้มไปด้วย

“กัสทำอะไรล่ะ  อ๊ะ  วิน  อย่าสิ  อ้า” ผมไม่ยอมรับความผิดที่ไม่ได้ก่อหรอกครับเลยพยายามขยับตัวออก  แต่กลับยิ่งทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะแรงเสียดสีที่เบื้องล่างทำเอาเสียววูบ

“กลิ่นดอกไม้จากตัวกัสมันหอมมาก  และผิวก็เนียนนุ่มมือ  วินเลยมีอารมณ์มากกว่าปกติ  อืมม” วินดันสะโพกกระแทกขึ้นยืนยันคำพูดอีกทางจนผมต้องครางออกมา 

“อ๊ะ  วิน  พอเถอะนะ  อุ๊บ..” ผมที่ยังพยายามฝืนเท่าที่ทำได้แต่คนเอาแต่ใจก็รั้งใบหน้าผมประกบจูบ 

หลังจากนั้นผมก็โดนจูบดูดวิญญาณที่ทำเอาหลงลืมจนต้องทำตามใจคนรักไปอีกรอบ  ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ผมจะมีหน้าไปมองหน้าคุณออยเลขาที่อยู่หน้าห้องได้ยังไงกัน  ที่มาทำเรื่องน่าอายกับเจ้านายของเธอในห้องทำงานอยู่แบบนี้

......................................

โปรดติดตามตอนสุดท้ายค่ะ ^O^

 :jul1: เลือดท่วมกันไปเลยใช่ม้า 555
ตอนหน้าตอนสุดท้ายของกัสวินแล้วค่ะ
เจอกันพรุ่งนี้นะคะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์ที่ติดตามกันค่ะ   :กอด1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 22-07-2012 08:55:48
>.,< สุดยอด ใครมีเลือดวายไหม ขอหน่อย เลือดพุ่งแทบหมดตัว
วินได้ทุกทีจริงๆ กัสก็เร่าร้อนสุดๆ สุดยอดจริงๆ
ชอบๆ แต่พรุ่งนี้ตอนสุดท้ายแล้วเหรอ T^T จะรอติดตามเรื่องค่อไปจ๊า
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 22-07-2012 09:06:01
อายอ่ะ :o8:

 :call:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 22-07-2012 09:21:22
เข้ามาเสียเลือดตอนเช้า แล้วกลับไปนอนต่อ =..=

ปล. เจอผิดจุดนึงค่ะ "อดกลั้นหน้าแกงก่ำ"
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 22-07-2012 09:59:54
ตอนหน้า ตอนสุดท้ายแล้วเหรอครับ
เป็นกำลังใจให้คนแต่เช่นเคยนะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-07-2012 11:22:00
นายวินหื่น
ไม่ดูสถานที่เลย :m25:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-07-2012 12:24:24
รอตอนสุดท้าย
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 22-07-2012 18:16:00
สั่งหนังสือยกเซตด้วยคนหนังสือน่ารักมากเลยอ่ะชอบ o13

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 22-07-2012 18:21:48


วินหื่นได้ทุกที่จริงๆ
รอตอนจบ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 22-07-2012 21:58:37
อยากเป็นเลขาวินบ้างจัง
เฮ่อๆ เผื่อจะได้รู้ได้เห็นอะไรดีๆกะเค้าบ้าง
ฮ่าๆๆๆๆๆ
^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่37 (22/7/55) P.15 [รูปหนังสือ+Box]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-07-2012 03:31:41
เลือดจางเลย  :m25:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-07-2012 07:24:00
ตอนที่ 38

วิน

หลังเหตุการณ์ที่ห้องทำงานในบริษัทวันนั้นที่ผมจัดเต็มถึงสองรอบใหญ่ให้กัสแล้ว  ผมโดนที่รักงอนมาสามวันแล้วและกัสจะยอมพูดด้วยก็แค่ที่จำเป็นเท่านั้น  ที่สำคัญกัสกลับไปนอนห้องตัวเองผมง้อเท่าไหร่ก็ไม่ยอมกลับมานอนด้วยกัน  ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มแม้แต่รอยยิ้มหวานๆผมก็ไม่ได้เห็น  และถ้าผมเดินไปใกล้คนน่ารักก็จะหันมาทำตาเขียวใส่แล้วใครจะกล้าแตะกัน  ผมรู้ตัวนะว่าตัวเองทำผิดที่เผลอใจกอดกัสในที่ทำงานถึงสองรอบแต่เป็นใครจะอดใจไหวกัน  ทั้งผิวเนียนผ่องลื่นมือและกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้จากร่างบางเมื่อยามใกล้ชิด  ผมมารู้ทีหลังว่าคุณแม่พากัสไปหาคุณป้าอรณิชและถือโอกาสให้ทำสปาทั้งตัว  กัสถึงออกมาผิวผ่องมีกลิ่นหอมอบอวลขนาดนั้น  ผมว่าจะลองติดต่อคุณป้าและขอจองคอร์สนวดตัวทำสปาให้กัสอีกสักคอร์สอยู่เหมือนกัน  ส่วนคนที่ได้ประโยชน์ก็จะใครล่ะถ้าไม่ใช่ผม  คิดแล้วอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงกัสหลังทำสปาคงจะเหมือนวันนั้นที่บริษัททำเอาผมคึกคักกว่าปกติ  แต่ก่อนอื่นต้องหาทางคืนดีกับที่รักให้ได้ซะก่อน  กัสคงอายมากที่เราร่วมรักกันในห้องทำงานเพราะพอสติกลับคืนมาเต็มที่กัสก็กังวลกลัวว่าคุณออยจะรู้ไม่กล้าออกไปเจอคุณออยเลยทั้งๆที่ผมก็บอกไปแล้วว่าห้องนั้นมันมิดชิดและเก็บเสียงได้  และไม่ใช่ว่าผมไม่ง้อที่รักนะครับ  ผมจัดเต็มทั้งดอกไม้ทั้งเค้กของโปรดหรือแม้แต่การอ้อนวอนที่เคยได้ผลก็ใช้ไม่ได้ในครั้งนี้  ตอนนี้ผมจะขาดใจอยู่แล้วด้วยไม่ได้กอดกัสนอนมาสามคืนแล้ว  ผมคงต้องหาตัวช่วยและคนที่ผมนึกถึงก็คือ ‘ไอ้ปรัช’ คิดได้ก็หยิบโทรศัพท์ต่อถึงเพื่อนสนิทคนนี้ทันที  รอสายไม่นานปรัชก็กดรับ

“ไงวิน  มีอะไรให้ช่วย” มันเหมือนนกรู้ว่าผมมีเรื่องขอความช่วยเหลือ

“อะไร  กูก็แค่คิดถึงมึง” ขอผมปากแข็งไปก่อนเพราะต้องรักษาฟอร์มกันบ้าง

“อย่ามา  อย่างคุณมึงเนี่ยไม่เดือดร้อนไม่โทรมาหรอก  ยิ่งมีเมียอยู่ด้วยแบบนี้เรื่องเพื่อนลืมไปได้เลย” ไอ้นี่รู้จริงสมแล้วที่เป็นเพื่อนรักกันมานาน

“ไอ้ปรัช  มึงนี่รู้ทันกูตลอดเลย  เออ  ยอมรับก็ได้ว่ะว่ามีเรื่องให้ช่วย” ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องทำเสียงอ่อยขนาดนั้นด้วย

“ก็แค่นั้น  พูดมาอย่าให้เสียเวลา” มันจะรีบไปไหนกันนี่ก็ยังไม่เที่ยง  ยังไม่ได้เวลาที่ต้องไปรับมายไปทานข้าวนี่หน่า  คู่นี้เค้าพัฒนาแล้วครับทั้งไปรับไปส่งแถมกินข้าวด้วยกันเกือบทุกมื้อ  ถึงยังไม่ใช่แฟนแต่ก็ใกล้เคียงแล้ว

ผมเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังว่ากัสโกรธไม่พูดด้วยให้ช่วยหาวิธีง้อให้หน่อย  แต่ไม่บอกหรอกว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกลัวมันจะซ้ำเติมก่อนหาทางช่วย  ไอ้ปรัชหยุดคิดไปเพียงครู่แล้วจึงบอกแผนการง้อแฟนมาให้  หลังฟังแผนการที่เพื่อนคิดแล้วผมจึงรีบขอวางสายจากไอ้ปรัช  ก่อนวางยังโดนมันกัดว่าพอได้เรื่องแล้วรีบชิ่งทันที  ผมได้ทีย้อนกลับว่ากลัวมันจะไปไม่ทันนัดกับหมอมาย  เรียกเสียงหัวเราะของเราทั้งคู่ได้เพราะต่างก็รู้ใจกัน  หลังวางสายผมก็เตรียมแผนการตามที่ไอ้ปรัชแนะนำมา  ตามแผนวันนี้ผมคงต้องออกจากบริษัทก่อนเวลาซะแล้วครับ

.................................

“วินจะพากัสไปไหน” เสียงที่เคยหวานกลับแข็งจนกำลังใจเริ่มหดหาย  แต่ผมต้องใจสู้ไว้ไม่งั้นได้นอนหนาวคนเดียวอีกนานแน่

“โธ่  ที่รักครับอย่าโกรธวินอีกเลย  แค่นี้วินก็เสียใจมากแล้วน้า” ผมหันไปส่งสายตาอ้อนวอนและกระพริบตาปริบๆให้น่าเอ็นดู  เผื่อว่าร่างบางจะหลุดขำกับท่าทางเหมือนสาวน้อยของผมบ้าง  แต่กัสกลับหันไปทางกระจกรถแทนเล่นเอาใจเหี่ยวแฟบลงกลัวกัสจะไม่พูดด้วยอีก  ผมแอบเห็นเงาสะท้อนจากกระจกรถว่าคนน่ารักเค้าแอบยิ้มทำเอาใจที่เหี่ยวพองฟูขึ้น  กัสคงใจอ่อนลงกว่าวันแรกมากแล้ว  ได้เห็นแบบนี้ผมก็มีกำลังใจง้อที่รักมากกว่าเดิม 

“แล้วเราจะไปไหนกัน  ขับรถมาไกลแล้วนะ  เอ๊ะ! นี่มันทางออกนอกเมืองนี่” กัสทำตาโตน้ำเสียงร้อนรนหันมองข้างทางสลับกับใบหน้าผมไปมาได้อย่างน่าเอ็นดู 

ผมจึงยิ้มโปรยเสน่ห์ที่สาวหรือหนุ่มอื่นเห็นคงละลายแต่กัสเคยบอกว่ามันดูไม่น่าไว้ใจมากกว่าน่าหลงไปให้  กัสหรี่ตาลงทำหน้าไม่ไว้ใจทันที  แต่ผมก็ใช้ความเงียบสยบความเคลื่อนไหว  เอื้อมมือเปิดเพลงรักคลอเบาๆจะเนียนจับมือนุ่มที่วางบนตักมากอบกุม  แต่ที่รักดันรู้ทันดึงมือออกและกอดอกฉับปิดช่องทางให้ผมคว้ามือมากุมได้  กัสหันหน้าที่ขมวดคิ้วมุ่นให้รู้ว่าไม่พอใจมาทางผมก่อนผินหน้ามองทาง  ผมไม่นึกกลัวแต่กลับนึกเอ็นดูคนน่ารักที่ทำอะไรก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปหมด  ผมแกล้งผิวปากตามเพลงทำไม่รู้ไม่เห็นบนรถจึงมีแต่เสียงเพลง  ผ่านไปครู่ใหญ่ผมจึงละสมาธิจากการขับรถหันกลับมามองร่างบางที่นั่งข้างกัน  ก็ได้เห็นว่าคนน่ารักหลับคอพับพิงกระจกรถไปแล้ว  ผมจึงหาที่จอดข้างทางก่อนหยิบผ้าห่มผืนบางจากเบาะหลังมาและปรับเบาะเอนลงห่มผ้าให้ร่างบาง  และแอบจูบแก้มขาวแผ่วเบาไม่ให้เจ้าของรู้ตัว  เดี๋ยวจากที่จะง้อได้ดันโดนงอนยาวล่ะเป็นเรื่อง  ผมหันกลับไปเตรียมออกรถแต่หางตาแอบเห็นกัสอมยิ้มจึงหันหน้าไปมองหน้าหวานอีกครั้งให้ชัดตา  แต่ใบหน้าของกัสที่ผมเห็นก็ยังหลับตานิ่งไม่ขยับหรือผมจะตาฝาดไปกันแน่   ผมไม่เสียเวลาคิดต่อเพราะต้องรีบไปให้ถึงจุดหมายเดี๋ยวแผนจะคลาดเคลื่อนง้อที่รักไม่สำเร็จจะยุ่งเอา 

.................................

รถจอดสนิทแต่คนที่นอนหลับอยู่ยังไม่รู้สึกตัว  ตาพริ้มหลับ  ปากบางสีแดงสดเผยอน้อยๆ  แก้มกลมอมชมพู  เป็นภาพที่น่ามองจนไม่อาจละสายตาได้  แต่ผมมีภารกิจง้อคนน่ารักอยู่จึงตัดใจจากภาพตรงหน้ากดส่งข้อความถึงผู้ช่วยในแผนนี้ให้เตรียมพร้อม  ก่อนหันกลับมาเอื้อมหยิบผ้าสีดำเส้นยาวจากหลังรถ  พยุงหัวคนรักขึ้นแผ่วเบาใช้ผ้ามัดปิดตาทำให้คนที่พิงอกเริ่มรู้สึกตัว

“อืม  วินทำอะไร  ตอนนี้ถึงไหนแล้ว” เสียงงัวเงียดังขึ้นก่อนกัสจะเงยหน้าจากอก  มือขาวยกขึ้นจับผ้าสีหน้าพลันตกใจเตรียมดึงผ้าออก

“ชู่ๆๆ  ไม่มีอะไรครับกัส  เชื่อใจวินนะ  นะครับ” ผมกอดร่างนุ่มและลูบหลังบางไปมาเพื่อปลอบกัสที่กำลังตกใจ  จนกัสนั่งนิ่งและพยักหน้ากับอกของผม

“ก็ได้  แต่อย่าเล่นบ้าๆนะวิน  ไม่งั้นกัสจะโกรธกว่าเดิมอีกนะ” ที่รักทำไมต้องขู่กันด้วยแค่นี้ผมก็กลัวมากแล้วคร้าบ

“ครับ  ไม่เล่นบ้าๆแน่นอน” ผมเปิดประตูฝั่งคนขับและอ้อมไปเปิดประตูด้านที่กัสนั่งอยู่  ก่อนพยุงร่างบางออกมาข้างนอกรถ  กัสชะงักเท้าและเงี่ยหูฟังเสียง

“เสียงคลื่น  กลิ่นเค็มน้ำทะเล  นี่วินพากัสมาทะเลทำไมล่ะ  แล้วตาปะ....” ยังไม่ทันที่กัสจะพูดจบประโยคผมใช้นิ้วปิดปากบางไว้ก่อนที่กัสจะถามมากไปกว่านี้ เพราะต้องทำตามเวลาเดี๋ยวแผนล่มซะก่อน

“ครับทะเล  แต่วินอยากให้กัสเดินตามวินมานะครับ  วินอยากให้กัสดูอะไรบางอย่างน่ะ”

ผมพาร่างบางที่โอบประคองไว้เดินช้าๆเรียบไปตามชายหาด  ก่อนก้มถอดรองเท้าให้กัสและของตัวเองมาถือไว้  น้ำทะเลที่ถูกคลื่นพัดกระทบฝั่งมาถูกเท้าของเราสองคนที่ย่ำผ่าน  แสงแดดยามเย็นไม่ได้แผดเผาร้องแรงมากนักและรู้สึกถึงลมทะเลพัดผ่านใบหน้าตีผมให้พอยุ่ง  บรรยากาศที่เป็นใจแบบนี้ผมหวังว่าแผนการทั้งหมดคงสำเร็จได้ด้วยดี  ผมพาร่างบางหยุดยืนเมื่อถึงที่หมายและส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยเดินเอาของมาให้  ผมหมุนตัวกัสหันหน้าออกทะเล

“วินจะเปิดผ้าให้นะครับ  แต่กัสค่อยๆลืมตานะเดี๋ยวแสบตา” แอบสูดความหอมข้างใบหูที่กระซิบใกล้  แอบแตะผิวอ่อนแผ่วเบาด้วยริมฝีปาก

เมื่อปมผ้าที่ผูกไว้ถูกปลดผ้าสีดำก็ค่อยๆหลุดละไปตามใบหน้าหวาน  ผมวางคางเกยไหล่เล็กของคนรักที่อยู่ด้านหน้าและโอบแขนรอบเอวบางเพื่อประสานมือที่หน้าท้องแบน  ก่อนเอียงหน้าเข้าหาหน้าหวานเพื่อมองความเปลี่ยนแปลงของคนรัก  กัสกระพริบตาปรับสายตาก่อนจับจ้องไปเบื้องหน้าอ้าปากตาโตดูท่าแล้วคงตกใจไม่น้อย  แต่ความตกใจเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างสว่างไสวและหันหน้ามาสบตากัน  แววหวานที่ส่งมาให้ผมคงด้วยกัสถูกใจกับภาพตรงหน้า  ใบหน้าหวานหันกลับไปมองภาพพระอาทิตย์ดวงส้มกลมโตที่ขอบฟ้ากำลังแตะผิวน้ำสะท้อนภาพผิวน้ำให้เกิดพระอาทิตย์อีกดวงไม่ต่างกัน  ฟ้าเปลี่ยนสีไล่เฉดจากสีแดงไปส้มและจางลง  รอบๆหาดไม่มีผู้คนมีเพียงเสียงคลื่นและสายลม  เราสองคนซึมซับกับความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์  ผมโอบกอดร่างนิ่มโยกตัวเบาๆก่อนคลายกอดและโอบประคองให้คนรักเดินไปข้างหน้า  จนเรามาหยุดหน้าผืนทรายที่มีช่อดอกไม้เล็กๆปักล้อมกรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีถ้อยคำเป็นประโยคอยู่ภายใน

‘I  AM  SORRY  DARLING
&
WILL  YOU  MARRY  ME ?’

เมื่อกัสเห็นข้อความก็ตกใจตาโตอีกรอบ  ผมจึงรวบมือบางทั้งสองข้างไว้และคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนผืนทรายอีกข้างชันขาขึ้นมองสบตาคู่สวยส่งสายตาเว้าวอนไปให้

“วินขอโทษกับเรื่องวันนั้นนะครับ  กัสยกโทษให้วินนะ  นะครับ” แก้มขาวขึ้นสีแดงเป็นริ้วกัสหลบตาหันไปทางอื่นและคงทนคำเว้าวอนอ่อนหวานไม่ไหวจึงพยักหน้ารับคำ 

ผมยิ้มกว้างอย่างดีใจที่ภารกิจง้อสำเร็จไปหนึ่งเหลืออีกหนึ่งภารกิจสำคัญ  ใจผมเต้นแรงมือเริ่มชื้นเหงื่อจับมือบางบีบแน่นจนสายตาคู่หวานหันกลับมาสบกันซึ่งความแดงของผิวหน้าก็ยังไม่จางลง  ผมส่งยิ้มให้คนรักก่อนจะได้ยิ้มเอียงอายตอบกลับมาเรียกแรงใจให้ผมกล้าที่จะขอคำตอบจากกัส  ผมหยิบกล่องกำมะหยี่แดงเปิดออกยื่นไปตรงหน้าคนรัก

“วินรักกัสครับ  แต่งงานกับวินนะครับที่รัก” ใจเต้นระรัวรอคอยคำตอบชั่วอึดใจ  กัสจึงพยักหน้ารับยิ้มหวานสบตากัน 

ผมหยิบแหวนสวมทับซ้อนไปที่นิ้วนางข้างซ้ายที่มีแหวนจากคุณแม่ที่ผมสวมให้ต่อหน้าผู้ใหญ่อยู่แล้ว  ก่อนก้มจูบประทับที่แหวนบนนิ้วทั้งสองวงและเงยหน้าจ้องตาหวานระยับ

“หัวใจวินอยู่ในกำมือกัสแล้วนะครับ  ช่วยดูแลมันแทนวินด้วยความรักของกัสด้วยนะ  เพราะถ้ากัสทอดทิ้งมันวินต้องตายแน่ๆ” ประโยคนี้ของผมทำเอาคนรักหลุดหัวเราะออกมา

“คิกๆ  รู้แล้วคร้าบบบ   ฮิๆๆ  วินอ่ะน้ำเน่ามาก  มาลุกขึ้นได้แล้ว” มือบางออกแรงฉุดให้ผมลุกขึ้นเมื่อใบหน้าเราอยู่ระดับเดียวกันแล้วผมจึงฉกจูบแตะริมฝีปากบาง  เราส่งยิ้มหวานให้กันเมื่อผละออก  การที่ผมลงทุนเตรียมทุกอย่างถือว่าคุ้มสุดๆ  แม้เวลาจะมีน้อยแต่ทุกอย่างก็ออกมาดี ‘ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว’ ทั้งง้อทั้งขอแต่งงาน  ครั้งนี้คงต้องยกความดีให้ไอ้ปรัชด้วย

“แล้วกัสต้องใส่สองวงเลยมั้ยวิน” กัสยกมือข้างซ้ายขึ้นมาส่องตาระยับด้วยรอยยิ้มที่ยังไม่จางไปจากใบหน้า  แหวนวงแรกเป็นทองคำขาวเกลี้ยงทั้งวงแบบเดียวกับที่นิ้วนางข้างซ้ายของผม  ส่วนวงที่ผมเพิ่งสวมให้กัสเป็นวงทองคำฝั่งเพชรเม็ดเล็กเสมอผิวเกลี้ยงของวงแหวน  ซึ่งดูแล้วถ้าใส่ทั้งสองวงก็ไม่น่าเกลียดอะไรเหมือนแหวนที่ดีไซด์เป็นสองวงเชื่อมติดกันก็ดูดีไปอีกแบบหนึ่ง

“กัสรำคาญมั้ย  วินว่าใส่สองวงก็สวยดีนะครับ  วินแล้วแต่กัสครับ” ผมจ้องตาคู่หวานและจับมือบางมากุมแน่นก่อนใช้นิ้วหัวแม่มือไล้ไปที่ตัวแหวน

“งั้นกัสใส่สองวงนี่แหละ” คนน่ารักยิ้มกว้างตาส่องประกายระยิบระยับ  ก่อนกัสจะเขย่งปลายเท้ายืดตัวมาจูบที่แนวคางและโอบกอดรอบคอผมไว้  กิริยาแบบนี้ของคนรักมันทำให้ผมใจพองโตมีความสุขแบบสุดๆ

“ขอบคุณวินนะที่รักกัส  และทำทุกอย่างเพื่อกัส  กัสรักวินนะครับ” ผมตะลึงตัวแข็งเมื่อได้ยินกัสบอกรัก  แม้จะเคยได้ยินมาแล้วแต่ครั้งนี้อารมณ์อ่อนหวานจากบรรยากาศการขอแต่งงาน  มันยิ่งทำให้คำบอกรักนี้มีความหมายและดูขลังมากยิ่งขึ้น  ผมโอบกอดร่างบางแน่นยกจนตัวลอยจากพื้นและหมุนร่างบางไปรอบๆอย่างดีใจ

“ครับ  วินก็รักกัสนะครับ  ฮ่าๆๆ”

“คิกๆ  วินเบาๆ  ฮ่าๆ  ยังอีก  กัสเริ่มเวียนหัวแล้วน้าๆๆ”

เสียงหัวเราะของเราสองคนก้องไปทั่วบริเวณกลบเสียงคลื่นลมทะเลจนแทบไม่ได้ยิน  ผมวางร่างบางลงบนพื้นทรายจ้องตาคู่หวาน  กอบกุมใบหน้าใสด้วยมือทั้งสองข้างและส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้  ก่อนโน้มใบหน้าลงให้ริมฝีปากเราแนบชิดกันและแตะจูบบางเบากระซิบถ้อยคำรักให้ตราตรึงเข้าไปในใจของคนรัก

“ผมรักคุณครับ  กัสที่รักของผม”

หลังคำบอกรักอ่อนหวานริมฝีปากเราแนบชิดกันบดเบียดเคล้าคลึงเชื่องช้า  ปากบางเผยอเปิดรับเรียวลิ้นร้อนอย่างเต็มใจให้ลิ้นที่รุกล้ำได้ควานหาดูดกลืนความหวานและมอบจูบอันอ่อนหวานและลึกซึ้งให้กัน  สองร่างบนผืนทรายโอบกอดชิดใกล้มีแผ่นฟ้าเจือสีส้มจากแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์และท้องทะเลกว้างเป็นฉากหลัง  เงาทอดยาวไกลเหมือนอนาคตของคนทั้งคู่ที่ต้องผ่านอะไรด้วยกันอีกมาก  แต่ขอแค่ยังมีรักให้กันไม่ว่าอุปสรรคใดก็มิอาจพรากให้แยกจาก

............THE  END..........

กัสวินขอจบแบบหวานๆนะคะ^^

ใครที่ต้องการอ่านตอนพิเศษที่พิเศษมากกก ติดตามที่ฉบับแรกเลยค่ะ

 :pig4: ทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงบทสรุปของคู่นี้นะคะ บวกเป็ดปิดท้ายค่ะ

ปล.รอติดตามความรักของเฮียธัชได้เร็วๆนี้ใน "บ่วงรักพญามังกร"

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-07-2012 07:33:22
เลือดแทบหมดตัวขนาดที่ทำงานยังไม่เว้นเลย
แต่ว่าวินหื่นแบบนี้กัสก็ยังรักใช่ไหม

โดนงอนแค่นี้ต้องให้เพื่อนช่วยเลยเหรอ
หวานกันมากเลยนะคู่นี้่
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 23-07-2012 07:57:01
หวานมาก มดขึ้นจอเต็สเลย >///< วินโรแมนติกมากๆ
จบซะแล้ว ถึงจะแอบเศร้านิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะ
ยังมีเรื่องที่น่าติดตามมาอีกเรื่องแล้ว บ่วงรักพญามังกร
แค่ชื่อก็น่าสนุกแล้วซิ ฮุฮุฮุ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-07-2012 11:51:42
จบหวานได้อีก ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-07-2012 12:16:54
จบได้หวานเวอร์ :L1:
 
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 23-07-2012 15:42:31
อยากเป็นกัสจังเลยอ่ะ >.< คนอะไรก็ไม่รู้น่ารักทุกวี่วัน
จะรอติดตามเรื่องราวของเฮียธัชนะคะ :กอด1:
บวกเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 23-07-2012 17:53:39


จบได้หวานมาก :o8:
รอติดตามเฮียธัชค่ะ
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 23-07-2012 18:28:50
จบหวานนนนนนนนนนนน

น่ารักกกกกกกก

รอซื้อหนังสือ

 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-07-2012 18:43:37
ขอบคุณนะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 24-07-2012 17:40:08
อ่านกี่รอบก็สนุกค่ะ o13

รอติดตามเรื่องเฮียธัช อั้ยยะ น่าสนใจมากกกกกก :z1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 25-07-2012 01:19:37
แอบเขินทั้งๆที่เค้าไม่ได้มาขอตัวเองแต่งงานซะหน่อย
ฮ่าๆๆๆๆ  แหม มันก็ต้องมีอารมณ์ร่วมบ้างอะไรบ้าง
หวานแหววน่ารักน่ากอดคนแต่งเนอะ เอิ๊กๆ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 26-07-2012 17:51:17
เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 26-07-2012 19:05:10
รออ่านเรื่องเฮียธัช >_<
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-07-2012 12:16:46
อยากอ่านเรื่องใหม่แล้ว
มาลงตอนไหนเอ่ยหรือว่า
รอส่งหนังสือก่อนถึงลงจ๊ะ :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 27-07-2012 16:50:15
อยากอ่านเรื่องใหม่แล้ว
มาลงตอนไหนเอ่ยหรือว่า
รอส่งหนังสือก่อนถึงลงจ๊ะ :L1:

 :กอด1: คิดถึงจังค่ะ  ขอบคุณที่แวะมาสอบถามนะคะ

เรื่องใหม่ของเฮียธัชมาแน่ค่ะ  รออีกนิดนะคะ

ตั้งใจว่าจะลงต้นเดือนฉลองเข้าพรรษาอ่ะ!?  o18

ด้วยช่วงนี้กำลังยุ่งกับภารกิจหลักส่วนตัวและเตรียมสต็ํอกเฮียธัชด้วยค่ะ

มาแน่ไม่ได้โม้  :laugh:

 :L1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 29-07-2012 19:31:28
รอเรื่องใหม่  :L2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 11-08-2012 15:32:35
โอ๊ะ โอ มาสูบความหวานจากเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อย

หวานกันมากๆครับ  :o8:

ขอบคุณมากครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: lukhia ที่ 01-10-2012 15:19:20
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 07-10-2012 01:47:21
หวานจนมดกัดเต็มไปหมดแล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: lukhia ที่ 11-10-2012 13:52:11
 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 05-12-2012 05:38:04
 o13 o13

 :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 15-01-2013 17:58:53
สงสารวิน แต่ไม่เป็นไรเนอะหาใหม่ๆ  :really2:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 15-01-2013 18:10:03
คนๆนั้น? ใครครับคุณหมอ?? ' '
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 15-01-2013 18:10:24
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 27-09-2013 16:09:17
พึ่งได้เข้ามาอ่านจ้ะ น่ารักดีน่ะ ทั้งกัสทั้งวิน ถึงแม้ช่วงแรก ๆ จะเครียดแล้วเริ่มโมโหตาวินน่ะ  :hao5: แต่วินก้อมาแก้ตัวได้ดีมาก ๆเป็นคู่รักที่น่ารักจริง ๆ ตอนนี้กำลังตามเรื่องคู่รักคู่อื่นอยู่น่ะจ้ะ
แล้วตอนพิเศษจะหาดูได้จากที่ไหนอ่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 28-09-2013 11:50:19
เย้ๆๆ อ่านจบแล้วเรื่องนึง ตะลุยอ่านมากมาย เดี๋ยวอ่านอีกเรื่องต่อเลย ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 25-10-2013 13:43:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: น่ารักมากกกกกก
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 25-01-2014 15:24:03
สนุกมากเลย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: miyuujung ที่ 20-03-2014 19:28:36
กัสวิน ดราม่าในตอนแรกๆ แต่ช่วงหลังเล่นหวานจนน้ำตาลยังเรียกพี่ 555+ วินขี้อ้อนชะมัด หมอกัสก็น่ารักซะ เหลืออีก 3 คู่ อิอิ ไปตามอ่านต่อแน่ๆๆ อยากรู้คู่ มิคฟิน มากๆๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 10-06-2014 07:56:04
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 01-07-2014 12:44:38
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: +zoLoMegWoz+ ที่ 08-07-2014 21:37:55
 :o8:
น่ารักมาก
ขอบคุณสำหรับนิยาย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง ตอนที่38 (23/7/55) P.15 .....จบ.....
เริ่มหัวข้อโดย: amito ที่ 02-08-2014 13:50:04
เพิ่งมาตามอ่านค่ะ กัสวินนี่หวานกันตา หลอด

สนุกดีค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง>>> @รีปริ้นท์@ "เสน่ห์รัก" & "บ่วงรัก"
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-09-2014 12:01:08
แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 1 ธ.ค. 57

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง>>> "เสน่ห์รัก" & "บ่วงรัก"
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 12-10-2014 13:17:29
หวานกันจิงคู่นี้  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง>>> @รีปริ้นท์@ "เสน่ห์รัก" & "บ่วงรัก"
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 30-11-2014 12:47:11
เรื่องนี้อ่านวันเดียวจบเลย หวานกันตลอดๆ อ่านไปก็ยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังคนเดียว
กัสมันน่ารักน่า น้องวินก็น่ากิน ขอบคุณคนเขียนมาก เขียนนิยายสนุกๆมาให้อ่าน
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัสวินฉบับปรับปรุง>>> @รีปริ้นท์@ "เสน่ห์รัก" & "บ่วงรัก"
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 01-12-2014 21:49:21
 :-[  :pig4:  :-[
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} >>> @รีปริ้นท์@ "เสน่ห์รัก" เหลือ 2 ชุดติดต่อด่วน!! [4/1/58]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-01-2015 13:58:45
ประกาศ!!

นิยายชุด "เสน่ห์รัก"  เหลือ 2 ชุด 
สามารถติดต่อเข้ามาขอรับหนุ่มๆไปดูแลได้เลยนะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} >>> @รีปริ้นท์@ "เสน่ห์รัก" เหลือ 2 ชุดติดต่อด่วน!! [4/1/58]
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 05-01-2015 21:33:26
 :z1:    o22 o13     :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: mosza201093 ที่ 07-03-2015 15:14:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 07-03-2015 23:02:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 07-03-2015 23:07:07
ขอบคุณสำหรับนิยายที่สนุกมากกกกกๆเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 09-03-2015 07:54:58
ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้มันหวานมากกกกกกกกกกก
เบาหวานจะขึ้น อิอิ  ^^
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 09-03-2015 15:22:56
จบได้หวานนาสรักมากเลย คริๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: vodkakoy ที่ 10-03-2015 09:25:51
 :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Kob17 ที่ 24-10-2015 15:45:45
 :impress2: :impress2:ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: noohxuehua ที่ 16-11-2015 11:50:49
หวานมากค่ะ วินอ่าเลี่ยนได้อีก 5555 หมอกัสน่ารัก
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 22-04-2016 18:23:03
น่ารักมากครับ หวานมากเลยหวานเข้าไส้เลย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 16-01-2018 20:49:19
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 02-03-2019 15:25:21
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 27-07-2019 23:20:21
น่ารักมาก หวานสุดๆ ดีใจที่กัสเปิดใจฟังวินในวันนั้น o13
หัวข้อ: Re: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Somsitwiegel ที่ 20-12-2019 01:09:49
 :mew1: สนุกมากค่ะ อ่านรอบสองแล้วนะคะ