พิมพ์หน้านี้ - Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: แอ๊บบี้ ที่ 01-05-2017 16:26:48

หัวข้อ: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 01-05-2017 16:26:48
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 01-05-2017 16:57:21
Spychosis โรคจิต

Intro

คุณเคยแอบชอบใครสักคนไหม ความชอบที่คุณเก็บไว้นานที่สุดมันนานมากแค่ไหน สำหรับผมที่แอบรักเขาคนนั้น 3 ปีแล้ว 1,095 วัน ที่ลมหายใจเขาออกของผม เป็นของเขา เขาคือคนที่ผมรัก คือคนที่ผมบูชา และบางครั้งผมอยากจะเก็บซ่อนเขาเอาไว้จากสายตาผู้คน เพราะผมไม่อยากให้ใครบนโลกนี้เห็นเขายกเว้นผมคนเดียว ความรู้สึกที่มีให้เขานั้น นับวันมันยิ่งรุนแรงขึ้น จากเริ่มแอบมอง แอบตาม ยิ่งเห็นยิ่งรัก ยิ่งตามยิ่งอยากเข้าใกล้

ผมชอบทุกครั้งที่เขาลุกจากโต๊ะกาแฟร้านประจำของเขา และจะเป็นผมที่ไปนั่งทับที่ของเขาคนนั้น กลิ่นน้ำหอมของเขามันลึกเข้าไปถึงสัมผัสข้างใน ทำให้​ครั้งผมจะก้มหน้าลงไปที่โต๊ะ เพื่อจะสูดกลิ่นกายของเขาที่มันยังหลงเหลืออบอวลอยู่รอบๆโต๊ะ มันทำให้ผมแทบคลั่ง ผมไม่กล้าจะเข้าหาเขาโดยตรง มันเป็นสิ่งที่ทำใจยาก แค่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ผมก็แทบบ้า ถ้าได้คุยกันสักครั้งละก็ ผมไม่รู้ว่าผมจะทนเก็บอารมณ์กับความรู้สึกของตัวเองต่อหน้าเขาได้ไหม?


##############################################################################
01/05/60
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 01-05-2017 17:16:41
โรคจิต1

Part ใหญ่
[/size]
ผมสะกดรอยตามผู้ชายคนหนึ่งมาเรื่อยๆขณะที่มันกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ซึ่งอีกไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อมันวิ่งมาถึงจุดอับผมก็เข้าไปล็อคคอมันจากทางด้านหลังแล้วลากเข้าไปทางหลังหินสูงที่จำลองเป็นน้ำตกของสวนนี้

"เห้ยอะไรวะ"

เสียงมันตะโกนออกมาด้วยความตกใจ และในนาทีต่อมามันก็ทำตาโตตัวแข็งเกร็งอยากเห็นได้ชัด ทำไมน่ะเหรอ เพราะผมกำลังเอามีดจ่ออยู่ที่คอมันยังไงล่ะ

"คะ...คุณๆอย่าทำอะไรผมเลยครับปล่อยผมไปเถอะผมไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาทเดียวผมมาวิ่งมีแต่โทรศัพท์กับนาฬิกาถ้าคุณอยากได้เอาไปเลย อย่าทำร้ายผม"

"หึๆ กูจะอยากได้ของเหลือเดนที่มึงใช้แล้วทำไม"

"ละ...แล้วคุณต้องการอะไรครับ ผมขอร้องอย่าทำอะไรผมเลย"

มันทำท่ายกมือไหว้ท่วมหัว เห็นแล้วยิ่งเพิ่มความน่าสมเพศในตัวเท่าทวีคูณในสายตาผม ไอ้สันดารตัวนี้น่ะเหรอ ไอ้ปอดแหกที่จะยืนเยี่ยวราดอยู่ทนโท่นี่นะที่ริอาจจะมาจีบคนนั้นของผม

ผมกดมีดลงไปในเนื้อที่คอมันเพิ่มอีกเล็กน้อย ทำให้ตอนนี้เลือดที่คอเริ่มไหลซึมออกมาแล้วจึงส่งสารให้มันฟัง

"มึงตั้งใจฟังกูให้ดีนะ เพราะกูจะพูดกรอกหูมึงแค่ครั้งเดียว อย่ามายุ่งกับรันน้ำหน้าคนอย่างมึงไม่เหมากับเค้าสักนิด มึงช่วยใสหัวไปไกลๆไปให้ไกลจากชีวิตของรัน ถ้ามึงไม่อยากตาย... กูไม่ได้ขู่แต่กูทำจริง อ่อ...แล้วมึงจงจำใส่กระบาลไว้ด้วยว่าถ้ามึงยังไม่เลิกตอแยรัน มึงจะไม่ใช่ศพแรกในชีวิตกู มึงเข้าใจไหม"

"ข...เข้าใจแล้วครับผมเข้าใจแล้ว ผมจะเลิกยุ่งกับรัน เลิกยุ่งเด็ดขาดเลยครับผมสัญญา อย่าทำอะไรผมเลยนะผมกลัวแล้วจริงๆ ผมจะอยู่ให้ห่างๆจากรันเลยครับ ...ฮึก"

มันรีบพ่นคำออกมาทันที ปอดแหกแบบนี้จะมาขอเป็นแฟนรันของกู ไม่คู่ควรไม่มีเหี้ยอะไรดีเลยน่าสมเพศสิ้นดีผมจึงพูดกรอกหูมันอีกครั้ง

"แล้วกูคงไม่ได้เห็นหรือรับรู้นะ ว่าเรื่องมึงกับกูเจอกันวันนี้จะถึงหูรัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น กูจะแวะไปเยี่ยมมึงที่บ้าน ได้ข่าวว่าอยู่กับหมาอีกสองตัวใช่ไหม"

"คับๆเลิกยุ่งจริงๆคับ"

ผมจับคอมันหันเข้าไปในโขดหิน กดหัวให้นั่งลงไปแล้วกระซิบบอกมันครั้งสุดท้ายว่า

"มึงนั่งนิ่งๆตรงนี้ แล้วนับหนึ่งถึงร้อยเล่นไปก่อนแล้วค่อยออกมาวิ่งต่อ ถ้ามึงไม่เจ็บคอจนทนไม่ไหวซะก่อน แล้วมึงจำสิ่งที่มึงพูดวันนี้แล้วทำตามซะ"

พูดจบผมเก็บมีดแล้วเดินออกจากสวนนั้นไปด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดีของผมกลับคืนมาปล่อยให้ไอ้ส้นตีนนั้น นั่งกุมแผลที่คอไปเรื่อยๆ มื่อมาถึงที่รถผมหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสีเทาอ่อนขึ้นมาดมฝังจมูกลงไป

"คนดีของพี่ วันนี้พี่จัดการไล่มันให้แล้วนะพี่รู้ว่ารันรำคาญหน้ามัน แค่มองตารันพี่ก็เข้าใจแล้ว พี่จะคอยดูแลรัน รันใช้ชีวิตอย่างสบายใจได้เลย ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะครับ ยิ้มให้พี่เห็นบ่อยๆนะคนดี"

ผมวางผ้าเช็ดหน้าไว้ที่เดิม แล้วขับรถแล่นออกไปตามท้องถนน ผมมีความสุขจังผมจัดการตัวเหี้ยไปอีกหนึ่งหวังว่ามันจะไม่ดื้อแพ่งนะ เพราะไม่อย่างนั้นมันคงได้ไปอยู่เป็นเพื่อนไอ้อาร์ทแน่นอน ผมขับรถกลับเข้ามาในบ้าน บ้านของผมเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวกำแพงสูงท่วมหัว เนื้อที่รอบบ้านกินพื้นที่กว้าง ตัวบ้านสร้างอยู่ตรงกลาง ผมชอบความสงบ เป็นส่วนตัวไม่สุงสิงกับใคร เพราะผมไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวเวลาให้ใครได้หรอก ซึ่งคุณคงรู้ดีว่าเพราะอะไร ผมเดินเข้ามาในบ้านสิ่งแรกที่เห็นคือรูปภาพของรันคนที่ผมรัก นี่เป็นรูปใหญ่ไซส์เท่ากับตัวจริงของเขา ทุกวันที่ผมเข้าหรือออกจากบ้าน ผมจะคุยกับรูปที่อยู่ตรงหน้าว่าผมกลับมาแล้ว และจะออกไปไหนในแต่ละวันเหมือนเช่นตอนนี้

"รันครับ คนดีพี่กลับมาแล้วนะ" ผมกดจูบไปที่กลีบปากของรูป

"วันนี้พี่ไปจัดการให้แล้วนะครับ ไอ้คนที่ไล่ตามตื้อรันเมื่อสามวันก่อน ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วพี่รักรันรักมากๆคนดีของพี่" ผมไล้จมูกไปตามโครงหน้าของรูปนั้น เรื่อยลงมาที่คอผมใช้ลิ้นเลียไล่ลงมาเลื่อยๆจากหน้าอกช่วงเอวสะโพก หัวเข่าลงมาถึงปลายรองเท้า ผมนั่งจมจ่อมใช้จมูกสูดดมรูปภาพ จินตนาการความหอมของกลิ่นตัวรัน จากจิตใต้สำนึก ผมอยากให้รันอยู่ที่นี่จริงๆ อยากให้เขามาเดินอยู่ในบ้าน อยากให้เขาพูดกับผม รับจูบผมรับความรักจากผม ผมต้องทำยังไงทำยังไงดีถึงจะทำให้เขาเป็นของผมทั้งกายและใจได้
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 01-05-2017 17:17:08
 รอตอนต่อไปจร้าาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่1 #P1 (01/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 02-05-2017 12:55:20
โรคจิต2 สิ่งกระตุ้น

Part ใหญ่


ผมหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวพรุ่งนี้ผมต้องบินด่วนไปคุยงานกับหุ้นส่วนที่สิงคโปร์ สามวัน มันจะมีอะไรแย่กว่านี้อีกไหม ไม่ได้เจอหน้ารัน สามวันเต็มๆ ผมกดเบอร์ต่อไปยังปลายสายทันที

"โยตามรันให้พี่ด้วยสามวันเริ่มพรุ่งนี้แต่เช้าเลยนะพี่มีบินไปดูงานที่สิงคโปร์"

"ได้เลยครับพี่ใหญ่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปดักตั้งแต่ หกโมงเช้าเลยครับ"

"อืมดูแลรันให้ดีอย่าให้คลาดสายตาเข้าใจไหม"

"ครับพี่"

โยเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนของผม ปัจจุบันเปิดร้านอาหารร้านเล็กๆกับภรรยาสองคน เมื่อสามปีก่อน และเป็นผมเองที่ซื้อร้านนั้นให้เขาต่อจากเจ้าของคนเก่า เพราะเมื่อเริ่มตกลงหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ในการตามดูรันซึ่งคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดก็คือโยนั่นเองดังนั้นผมจึงปูทางทุกอย่างให้กับโยเรียบร้อย

ผมบินมาคุยงานกับหุ่นส่วนที่สิงคโปร์ได้สองวันแล้วมันคือ48ชั่วโมงที่ยาวนานมากสำหรับผม ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้วพึ่งเสร็จจากการดูงานกลับเข้ามาในโรงแรมสิ่งแรกหลังจากเข้ามาในที่พักคือการกดดู ทวิสเตอร์ ig จนไปถึงเฟสบุ๊กของรัน ทวิสกับig ไม่มีอะไรเพิ่มเติมจากสองวันก่อนที่ผมจากมา แต่พอเปิดเฟสบุ๊คเพียงเท่านั้นใจผมเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะทันทีถ้าหัวผมเปรียบเป็นภูเขาไฟตอนนี้มันก็ใกล้จะระเบิดเต็มที่แล้วในเฟสบุ๊คของรันเมื่อ หนึ่งชั่วโมงก่อนมีคนแท็กรูปภาพมาซึ่งคนแท็กนั้นผมจำได้ว่าชื่อคิงเป็นเพื่อนรัน แต่ไอ้คนที่ถูกแท็กร่วมแล้วก็เสนอหน้านั่งข้างๆรันมันเป็นใคร ผมไล่อ่านคอมเม้นใต้โพสนั้นทันที

Like 32  Comment 7

พลอยสวย: หนุ่มคนกลางนั้น(ของ)ใครเอ่ย?Saratman: ของรันชัวร์หล่อๆแบบนี้ไม่เหมาะกับถึกๆแบบไอ้คิง

Kingclub: @Saratman หรอแมนมึงหล่อมากว่างั้น?

สรัญรุ่งเรืองกิจ: @Saratman พี่เถอะ

Saratman: @Kingclubหล่อกว่าผัวมึงทุกคนที่กูเคยเห็นแล้วกัน @สรัญรุ่งเรืองกิจ พี่น้องท้องติดกันรึเปล่าคร๊าบคุณรัน

อภิชาติ: ติดกันเสียงดังป๊าบๆๆเลยกูคอนเฟิร์ม

สรัญรุ่งเรืองกิจ: ตลกละไอ้อิฐเดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดหมด

ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่นกระบอกตาร้อนผ่าว กดโทรศัพท์ด้วยมืออันสั่นเทา

"คุณพิมพ์ เตรียมตั๋วเครื่องบินให้ผมด่วนบินภายใน 1-2 ชั่วโมงนี้ผมต้องรีบกลับไทย" ผมวางสายพร้อมเตรียมตัวเก็บกระเป๋ากลับทันที

"ไอ้โยมึงทำเหี้ยอะไรของมึงอยู่วะทำไมไม่โทรมาบอกกู"

สามทุ่มครึ่งตามเวลาประเทศไทย

"สิทธิ์ไปบ้านไอ้โยด่วน"

"ครับคุณใหญ่"

สี่สิบห้านาทีต่อมาสิทธิ์ก็มาจอดรถที่หน้าบ้านไอ้โย

"รออยู่ที่รถ"

"ครับ"

ผมเดินเข้าไปในร้านของไอ้โยเดินเข้ามาบริเวณข้างในเห็นลูกจ้างสองสามคนกำลังเก็บร้านกันอยู่จึงเดินตรงไปยังเค้าเตอร์ทันทีผมเห็นไอ้โยมันนั่งคุยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับเมียของมัน นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของผมพุ่งถึงขีดสุด

"ไอ้โย"

ผมพุ่งเข้าไปต่อยมันทันที ด้วยความที่มันไม่ทันตั้งตัวจึงโดนหมัดของผมเข้าไปเต็มๆ จากนั้นผมก็สาวหมันใส่มันไปหลายทีด้วยอารมณ์ที่เดือดพล่าน ผมได้ยินเสียงเมียมันร้องกรี๊ดด้วยความตกใจอยู่ข้างๆ ขณะที่ผมปล่อยหมันใส่ไอ้โยรัวๆสี่ห้าหมัด แล้วหมัดต่อไปที่ผมกำลังจะตะบันใส่หน้าเมียของไอ้โยก็เข้ามาแทรกกลางกอดตัวไอ้โยเอาไว้ แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กๆในร้านของมันวิ่งเข้ามาช่วยกันห้ามล็อคตัวผม

"ก...ก้อยอย่าถ...ถอยออกไป" เสียงไอ้โยบอก

"ไม่ๆอย่าทำพี่โย ก้อยขอร้องคุณใหญ่ อย่าทำพี่โยเลยเลือดเต็มไปหมดแล้ว ฮือฮือ"

ผมหยุดการกระทำทุกอย่างลุกขึ้นยืนเอามือปาดหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติอีกครั้ง

"พ...พี่ใหญ่ค...ครับผม" 

ไอ้โยมันกำลังจะพูดต่อแต่ผมก็พูดสวนมันขึ้นมา

"ทำไมมึงไม่ไปเฝ้ารันให้กู ทำไมฮะไอ้โยกูฝากมึงดูคนที่กูรักแค่สามวันมึงทำให้กูไม่ได้หรอ มึงรู้ไหมว่าวันนี้รันไปไหนถ่ายรูปคู่กับใคร มึงรู้ไหมไหนมึงบอกกูมา"

ไอ้โยลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ขอโทษผมพร้อมกับพูดออกมา

"พี่ใหญ่ผมขอโทษครับ วันนี้ผ...ผมไม่ได้ไปเฝ้าคุณรันตามคำสั่งพี่ผมขอโทษจริงๆครับ"

"มึงบอกเหตุผลมึงมาเพราะอะไรมึงถึงไม่ทำตามคำสั่งกู กูหวังว่าจะได้เหตุผลที่มันเข้าท่ามากกว่าคำว่ามึงลืมนะไม่งั้นกูจะกระทืบมึงซ้ำเดี๋ยวนี้เลย"

"คือผ...ผม"

"พี่โยเจ็บปากไม่ต้องพูดแล้วนะ เดี๋ยวก้อยจะเป็นคนเล่าทุกอย่างให้คุณใหญ่ฟังเองค่ะ แม็กมาพาพี่โยทำแผลก่อน"

เธอพูดพร้อมสั่งให้เด็กในร้านคนนึงที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังผม

"ครับเจ๊ มาเฮียไปทำแผลก่อน" หลังจากโยเดินไปข้างหลังร้าน ก้อยจึงเริ่มพูดต่อ

"คุณใหญ่คะ เรื่องนี้เป็นความผิดของก้อยเองค่ะ ก้อยรู้สึกไม่ค่อยสบายมาหลายวันแล้วค่ะช่วงนี้ เวียนหัวคลื่นไส้บ่อยๆ แล้วเมื่อเช้าก่อนที่พี่โยจะออกไปดูคุณรัน ก้อยเป็นลมตอนกำลังจะลงมาทำมื้อเช้าให้พี่โยค่ะ พี่โยเลยพาก้อยไปโรงพยาบาล คือ หมอบอกว่าก้อยกำลังมีน้องค่ะ"

"มีน้อง ก้อยท้องเหรอ" 

"สองเดือนแล้วค่ะ ก้อยไม่รู้ตัวเลยช่วงนี้ร้านขายดีก้อยนึกว่าตัวเองพักผ่อนไม่เพียงพอ พอรู้ตัวว่าท้อง พี่โยก็พาก้อยฝากท้องที่โรงพยาบาลเลยค่ะ กลับมาก้อยก็อาการไม่ค่อยสู้ดี มึนหัวตลอดเวลา พี่โยเลยต้องอยู่ดูแลก้อย คุณใหญ่อย่าโกรธพี่โยเลยนะคะ"

"..." , "..."

"อืมพี่ต้องขอโทษก้อยด้วยที่ต่อยไอ้โยมันไปหลายหมัดเลยพี่เข้าใจแล้วพี่ใจร้อนไปหน่อย ถ้าเป็นเรื่องของรันพี่จะคุมสติไม่ค่อยอยู่ทุกที"

"ค่ะคุณใหญ่ก้อยเข้าใจคุณใหญ่ค่ะ"

"งั้นพีีขอตัวเข้าไปดูไอ้โยมันหน่อยแล้วกัน"

ผมเดินเข้ามาทางหลังร้านเห็นเด็กที่ร้านกำลังทำแผลให้ไอ้โยอยู่

"ไอ้โย"   ทันทีที่ผมเรียกชื่อออกไป มันก็สะดุ้งเฮือกกระเด้งตัวยืนหันหน้ามาหาผมทันที

"ครับพี่"

"มึงนั่งลงทำแผลต่อเถอะ เมียมึงเล่าเรื่องให้กูฟังหมดแล้ว กูขอโทษที่ต่อยมึง มึงมีความจำเป็นกูเข้าใจแต่กูขอได้ไหมวะ ทีหลังอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกถ้ากูสั่งงานมึงแล้วมึงมีเหตุขัดข้องอะไรที่มึงจะทำให้กูไม่ได้ มึงบอกกูสักคำ ให้กูรู้ตัวก่อนว่าจะไม่มีใครคอยดูรัน ถ้ามึงรีบบอกกูตั้งแต่เช้า ป่านนี้กูก็กลับมาถึงนานแล้วมึงเปิดเฟสของรันดูแล้วมึงจะรู้ว่ารันของกู ไม่ควรให้คลาดสายตา"

"ครับพี่ใหญ่ผมขอโทษต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วครับผมสัญญา"

"อืม มึงก็ไปหายากินซะ กูต้องไปทำหน้าที่ของกูต่อ"

ผมเดินออกจากร้าน ด้วยอารมณ์ค่อนข้างเบาลงจากตอนที่เข้ามา แต่ใช่ว่ามันจะหายไปเสียทีเดียว ผมต้องสืบให้ได้ว่า ไอ้หน้าใหม่ที่เข้าหารันวันนี้เป็นใคร ผมให้สิทธิ์แวะจอดที่บริษัทซึ่งระยะทางจากร้านไอ้โยใกล้กว่าบ้านของผม ผมให้สิทธิ์ขนกระเป๋าเดินทางของผมขับรถอีกคันเอาไปไว้ที่บ้าน ส่วนผมขับรถไปตามเสียงหัวใจเรียกหา สี่ทุ่มสิบห้านาที ผมมาจอดรถที่หน้าคอนโดของรันผมนั่งมองขึ้นไปบนชั้น 9 ห้องริมซ้ายสุดห้องของคนที่ผมแอบรัก ผมมองเห็นแสงไฟจากห้องของรันแสดงว่าเขาอยู่ที่ห้องและยังไม่เข้านอน

"คนดีพี่กลับมาแล้วนะครับ วันนี้รันของพี่ถ่ายรูปคู่กับใครทำไมต้องไปถ่ายรูปกับผู้ชายคนอื่นด้วย ทำไมต้องปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้มันเข้ามานั่งใกล้ๆ ยิ้มให้มันด้วยใช่ไหม พี่โกรธมากเลยโกรธคนที่มันเข้ามาใกล้รัน รันรู้ไหมรันกำลังทำให้ความอดทนของพี่หมดลงไปเรื่อยๆจนตอนนี้มันแทบจะไม่เหลือแล้ว...รอพี่อีกสักหน่อยก็แล้วกัน อีกไม่นานพี่กับรันจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปเมื่อถึงวันนั้นจะไม่มีอะไรมาแยกเราจากกันได้พี่สัญญา"

ผมพูดจบพร้อมวางผ้าเช็ดหน้าสีเทาอ่อนลงที่เดิม
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่2 #P1 (02/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 02-05-2017 15:03:04
เย้ ๆ มาต่อแล้วววววว :m4:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่2 #P1 (02/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 02-05-2017 21:27:30
โรคจิต3 เพราะอะไร

Part รัน


รันพี่แม็คที่ขอเบอร์มึงหล่อว่ะ"

"เรื่องหล่อไม่เถียงเลยคิงแต่ถามดิจะจีบกูได้สักกี่วัน กูมันคนอาภัพ รายนี้เดี๋ยวมึงคอยดูไม่เกินเจ็ดวันเดี๋ยวแม่งก็หายต๋อมเหมือนทุกคนนั่นแหละกูเบื่อจะตื่นเต้นกับคนหล่อแล้ว"

"เออถูกของมึงกูแม่งไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่มาจีบมึงจีบๆแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆทุกรายเลย"

"ช่างเหอะชินแล้วกินเหล้าดีกว่าไม่อยากจะสนใจเรื่องความรักเท่าไหร่หรอกสมัยนี้มันก็มีแต่คนไม่จริงใจมาๆหายๆ ยิ่งเกย์อย่างเราเนี่ยยิ่งหายากมึงกูพูดเลย"

"อ่ะหืมรันมึงปลงชีวิตขนาดนี้เลยหรอ ถ้ามึงคิดได้แบบนั้นมึงก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกความรักห่าเหวอะไรเนี่ย ถูกใจใครหิ้วไปแดกก็จบ One night stand ไปเลยง่ายดี"

"มึงก็พูดไปคิงจะให้กูไป One night กับใครไอ้ห่าโรคถามหากูพอดี"

"เอ้าแล้วจะเก็บซิงไว้ชิงโชคเหรอคุณมึง"

"กูเก็บซิงไว้ให้คนที่จริงใจโว้ยไอ้คิง"

"อย่างพี่อาร์ทของมึงอ่ะหรอ อุ้ย กูขอโทษว่ะรันกูลืมตัว"

"อืม...ไม่เป็นไรหรอกมึงมันผ่านไปนานละกูลืมๆไปหมดแล้ว"

"ดีแล้วคนไม่รักจริงอยู่ๆก็ทิ้งไปแบบนั้นลืมไปเถอะไม่คู่ควรว่ะ"

"เออเลิกพูดเรื่องบ้าบอนี่ดีกว่ากินเหล้าย้อมใจไม่แน่นะเว้ยบางทีคืนนี้กูอาจจะคึกหนีไป One nightกับใครก็ได้ ฮ่าๆๆ"

"ฮ่าๆ เออเริศมึงสาธุขอให้ได้ขอให้โดนนะ"

สรุปวันนี้ผมก็ไม่ได้หิวจนต้องหิ้วใครไปกินเหมือนเดิม ผมชินกับชีวิตโสดเพราะผมโสดมานานม๊ากกกก  จะสามปีได้แล้วมั้ง หลังจากเลิกกับพี่อาร์ทไป จริงๆมีคนเข้ามาจีบผมมากหน้าหลายตาเลยนะ แต่น่าแปลกเพราะแต่ละคนที่เข้ามาจีบจะหายจากชีวิตผมไปเฉยๆซะอย่างนั้น เหมือนกับพวกเขาเหล่านั้นที่เคยมาคุยมาขอเบอร์ ไม่มีตัวตน

หลังจากดื่มกับคิงเมื่อวาน วันนี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการแฮงค์หน่อยๆ เมื่อมาถึงออฟฟิตก็เกือบเลยเวลาเข้างานแล้ว ด้วยความที่มีอาการเมาค้าง เที่ยงนี้ผมเลยสั่งข้าวต้มหมูร้อนๆมาซ๊ดให้เบาท้องหน่อย ในระหว่างที่ผมและเพื่อนกำลังทานข้าวกันอยู่นั้น เพื่อนในกลุ่มของผมชื่อแมนก็โพลงขึ้นมา

"เฮ้ยพวกมึงนั่นพี่ทอร์ชที่มาจีบรันเมื่ออาทิตย์ก่อนใช่ป่าววะ"

"เออใช่กำลังเดินมาทางนี้ด้วย" เสียงคิงเป็นคนตอบ

ผมเงยหน้าจากการซ๊ดข้าวต้ม ก็เจอพี่ทอร์ชจริงๆด้วย พี่ทอร์ชเป็นคนที่เข้ามาติดต่องานในบริษัทที่ผมทำงานอยู่แล้วก็มาทำท่าสนอกสนใจผมจีบผมออกนอกหน้า แต่ไม่ทันไรก็หายหน้าไปตามเคย

"รันมึงจะทักพี่เขาหรือเปล่า" อิฐเป็นคนถามขึ้นมา ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะทักพี่ทอร์ชดีไหมเป็นจังหวะเดียวกับที่พี่ทอร์ชหันมาเห็นผมพอดี พี่ทอร์ชทำท่าสะดุ้งแล้วหยุดเดิน ผมส่งยิ้มไปให้พี่ทอร์ช แต่พี่ทอร์ชก็หันหลังเดินกลับไปทางเดิมทันทีเหมือนกำลังหนีใครสักคน แล้วเขาหนีใครกันล่ะ ผมเหรอ? ท่าทางพี่เขาไม่ใช่แค่ผมที่งงนะ ยังมีพวกเพื่อนๆที่ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ทอร์ชทำเหมือนกัน

"อ่าวๆ ทำไมเดินอยู่ดีๆ พอเห็นหน้ามึงก็เดินหันหลังกลับอย่างไวเลยวะไอ้รัน"

คิงตั้งคำถามพร้อมมองหน้าผมสลับกับพี่ทอร์ชที่ตอนนี้เดินเลี้ยวไปอีกทางพ้นสายพวกผมไปแล้ว

"ถามกูแล้วกูจะรู้กับพี่เขาไหมหันมาเห็นหน้ากูก็ทำท่าตกใจเดินหนีไปเลยทำอย่างกับกูเป็นผู้ร้ายฆ่าคนอย่างนั้นแหละ"

"เฮ้ยกูงงกับอาการไอ้พี่ทอร์ชไรเนี่ยมากเลยนะจะหนีหน้ามึงทำไม แม่งแปลกแปลกมากอาการออกว่ากลัวมึงจนน่าแปลกใช่คนเดียวกับเมื่ออาทิตย์ก่อนที่มาทำตาเยิ้มอยากได้มึงเป็นเมียจนตัวสั่นรึเปล่าวะไอ้รัน"

"อย่าว่าแต่มึงงงเลยอิฐ กูงงยิ่งกว่ามึงอีกกูก็ไม่ได้ทำไรเลยนะพวกมึงก็เห็นอยู่

"กูเห็นมีผ้าพันแผลที่คอพี่แกด้วยไปโดนอะไรมา" แมนถาม

"กูว่าเรื่องนี้มีเงี่ยนงำ"

"เงื่อนเหอะไอ้คิงเขาจริงจังกันอยู่มึงก็นะ"

"ฮ่าฮ่า เออเงื่อนก็เงื่อน แต่เอาจริงๆนะกูว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาต้องมีอะไรแน่นอน คิดได้จากบรรดาคนที่เข้ามาจีบไอ้รันทุกคนหายหัวทุกราย ยิ่งมาเห็นพี่ทอร์ชห่าไรของมึงเนี่ยหนีมึงอย่างกับเห็นผี กูจารย์คิงฟันธงเรื่องนี้ต้องสาวให้เจอตอ"
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่3 #P1 (02/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 02-05-2017 21:46:47
โอ้รันไม่รู้เล้ย
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่3 #P1 (02/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 02-05-2017 22:03:39
ถ้ารันรู้ความจริงนี่จะเกลียดคนที่ชื่อใหญ่มั้ยน้อออ ปล.คนแต่งอย่าทิ้งเรื่องนี้น้าา นิยายแนวนี้หาอ่านยากอ่ะ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 04-05-2017 12:17:36
โรคจิต4 การพบเจอ

part รัน

วันนี้คืนวันศุกร์ วันนัดหมายค้นหาความจริง พวกเพื่อนผมมันไปสืบมาเรียบร้อยแล้วว่าคืนนี้พี่ทอร์ชจะไปเที่ยวผับxxx พวกผมไปถึงกันตั้งแต่หัวค่ำเลยครับ เลือกที่นั่งบนชั้นสองเพื่อคอยสอดส่องมีอิฐนั่งรอเชคพี่ทอร์ชเข้าผับ ตรงหน้าทางเข้า พอสามทุ่มกว่าอิฐไลน์มาบอกว่าเป้าหมายเข้ามาข้างในแล้วผมเห็นพี่ทอร์ชฉายเดี่ยวนั่งอยู่โซนขวามือติดกำแพงชั้นล่าง

"มาคนเดียวด้วยมึงสงสัยจะมาหาเอาที่นี่" แมนพูด

"มาคนเดียวดีแล้วมึง ทางสะดวกเดี๋ยวรอให้พี่มันกินให้กึ่มๆก่อนแล้วพวกเราค่อยเข้าไปชาร์ท กูลุ้นว่ะอยากรู้ว่าจะเจอคำตอบอะไร"

"คิงบางทีพวกเราอาจจะไม่เจอคำตอบอะไรแปลกไปจากเดิมก็ได้นะพี่เขาอาจจะเป็นอย่างที่พวกเราเข้าใจมาตลอดก็ได้ว่าเขาแค่จีบกูเล่นๆ ถ้าเป็นคำตอบนี้กูหน้าแหกไหม"

"แหกไรไอ้รันมึงเชื่อกู กูจารย์คิงถ้ากูบอกว่ามีมันต้องมีกูรู้กูเห็น"

"หลังจากนั้นพวกผมก็นั่งจิบเหล้าเบียร์กันชิวๆพร้อมกับคอยจับตาดูพี่ทอร์ชไปด้วย พี่แกตั้งใจมาหิ้วเด็กกลับบ้านแน่นอน ทั้งคุยทั้งเต้นเสียดสีคนนั้นทีคนนี้ที ดูเจ้าชู้ไก่แจ้เอามากๆ ถ้าผมไม่เห็นเขาคืนนี้แล้วถ้าเขายังคงจีบผมอยู่ มันจะเป็นยังไงนะไม่แคล้วผมอาจจะได้แฟนเจ้าชู้ก็เป็นได้

ใกล้เที่ยงคืนพวกผมก็เตรียมเริ่มภาระกิจของจริงพี่ทอร์ชเริ่มเลื้อยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง นี่พี่แกเป็นเสือใบหรอ ผมรู้สึกโชคดีสุดๆ เลยที่พี่แกไม่มาสานต่อความสัมพันธ์กับผมเนี่ย เห็นแบบนี้ผมยี้มากพูดเลย

"ป่ะพวกเราพี่ทอร์ชมันลากสาวออกนอกผับแล้ว" เสียงคิงบอกทุกคนให้ลุกขึ้นพร้อมเตรียมออกไปดักคุยกับพี่ทอร์ชที่ลานจอดรถ

"พี่ทอร์ชคับ" ขณะที่พี่ทอร์ชกำลังนัวเนียสาวอยู่ตรงประตูรถ ผมเรียกพี่ทอร์ช พี่ทอร์ชหันมาหาผมท่าทางเมามายยืนโยกเยกมาเลยครับ พี่ทอร์ชหรี่ตามองหน้าผมสักพักเหมือนสมองพี่แกจะประมวณผลได้แล้วว่าผมเป็นใครเพราะตอนนี้หน้าแกดูตื่นตกใจมากเลย

"ร...รัน" เสียงแผ่วมากครับ สะบัดตัวหลุดออกจากอ้อมกอดสาวทันทีพร้อมหันไปมองรอบตัวเห็นพวกผมยืนกันครบทีม

"พ...พี่...พี่ขอตัวก่อนนะ" เตรียมชิ่งเลยครับแต่เรื่องอะไรผมจะยอมลงทุนมาดักตั้งแต่หัวค่ำแล้วเว้ย ผมเข้าประชิดตัวพี่ทอร์ชทันที ดันสาวน้อยออกไปให้แมนช่วยพยุงท่าทางจะเมาจนแทบไม่รู้สึกตัวแล้ว

"เดี๋ยวสิครับพี่ทอร์ช ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่นิดหน่อยไม่นานหรอกครับ" พี่ทอร์ชดูลนลานมากเลยไม่สนใจตอบผมทำท่าล้วงกุญแจจะรถจะไปอย่างเดียวจังหวะที่พี่ทอร์ชรีบเขาทำกุญแจรถหลุดมือ ผมจึงก้มลงไปคว้ามาได้ก่อน

"พวกแกจะทำอะไรอีก พี่ขอร้องอย่าทำอะไรพี่เลยพี่ทำตามที่สัญญาทุกอย่างแล้วพี่ทำแล้วปล่อยพี่ไปเถอะ" พี่ทอร์ชยกมือไหว้ปรกแล้วพูดอะไรออกมาไม่รู้ซึ่งพวกผมสี่คนยืนงงแดกมาก

"พี่ทอร์ชผมคิงเองนะพี่ใจเย็นๆก่อนพวกผมไม่ได้มาทำร้ายอะไรพี่ ผมแค่อยากถามพี่เฉยๆว่าทำไมพี่ถึงต้องหลบหน้ารัน พวกผมแค่อยากรู้"

"ไม่...บอกไม่ได้ บอกไม่ได้พี่กลัว"

"กลัวอะไรพี่ใครทำอะไรพี่บอกพวกผมสิพวกผมอยากรู้"  คิงยังถามต่อ

"บอกไม่ได้จริงๆ"

"ถ้าพี่ทอร์ชไม่บอกงั้นเราก็ยืนกันอยู่แบบนี้แหละครับแล้วผมก็จะตามตื้อพี่จนกว่าจะได้คำตอบ" พี่ทอร์ชมองหน้าผมอึ้งไปเล็กน้อยเหมือนพี่แกกำลังใช้ความคิด

"ไม่ๆรันอย่ายุ่งกับพี่เลย แค่จีบรันคอพี่ก็แทบจะขาดแล้ว" พูดพร้อมเอามือขึ้นลูบแผลที่คอ ผมยืนนิ่งจ้องมองเขาอย่าคิดวิเคราะห์ไม่นานเขาก็พูดขึ้น

"โอเคพี่จะพูด แค่นิดเดียวนะขอร้องอย่าบังคับพี่มากกว่านี้เลย"

"พูดมาครับพี่พวกผมรอฟัง"

"มีผู้ชายคนหนึ่งเอามีดมาจี้คอพี่จนได้แผลนี้มาเขาขู่ให้พี่เลิกยุ่งกับรันเขาบอกว่ารันเป็นของเขาพี่กลัวพี่พูดได้แค่นี้แหละขอร้องนะต่างคนต่างอยู่เถอะ" พูดจบพี่แกก็ยื่นมือขอกุญแจรถจากผม ผมยื่นคืนไปแบบอึ้งๆ พี่ทอร์ชขับรถออกไปพร้อมกับหญิงสาว พวกผมสี่คนมองหน้ากัน

"นี่เรื่องจริงใช่ป่ะ กูไม่อยากจะเชื่อ"

"กูก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนพวกมึงนั่นแหละมีใครบ้าทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ"

"รันถ้าเป็นเรื่องจริงมึงโดนโรคจิตแอบตามอยู่แน่ๆมองซ้ายมองขวาก่อนห่าแอบอยู่แถวนี้รึป่าว"

"กูว่าคืนนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า กลับไปนอนพักกันก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาหารือกันใหม่ถ้านี่เป็นเรื่องจริง กูคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว"

"เออๆ เอาตามนั้นแยกย้ายว่ะ"  หลังจากสลายตัวกันเรียบร้อยผมก็ขึ้นมานั่งรถของคิงส่วนอิฐกลับไปกับแมนเหมือนขามา คิงจอดรถให้ผมหน้าคอนโด

"รันมึงโอเคป่าว ให้กูขึ้นไปส่งที่ห้องไหม"

"คิงกูโอเคตอนไม่รู้อะไรกูยังอยู่มาได้เหมือนปรกติเลย ตอนนี้ก็เหมือนกันแหละ ถ้ามีโรคจิตตามติดกูจริง ถ้ากูจะโดนลากไปฆ่าหรืออะไรกูคงโดนไปตั้งนานแล้ว กูไม่กลัวหรอกแค่อึ้งนิดหน่อยแหละ"

"แต่กูข้องใจอยู่เรื่องเดียวรันที่พี่ทอร์ชบอกว่าโดนเอามีดจี้คอมีคนกล้าทำขนาดนั้นด้วยเหรอวะ มึงคิดป่ะ"

"อาจจะแค่ขู่ให้กลัวมากกว่ามั้งมึงอย่าคิดมากคิง เดี๋ยวกูคิดตามกูไม่อยากมานั่งจิตตก"

"เออๆ งั้นมึงรีบขึ้นไปเหอะ"

"เคๆ ขอบใจมากมึง ขับรถกลับบ้านดีๆถึงแล้วไลน์มาบอกกกูด้วย"

ผมลงจากรถของคิงเดินมากดลิฟท์จะกลับขึ้นไปบนห้อง ระหว่างรอลิฟท์ผมก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นคืนนี้ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาจริงๆผมจะตั้งรับกับเหตุการณ์ทั้งหมดได้ยังไงนะ คิดแล้วกลุ้มใจ ระหว่างที่ผมกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นั้นผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาประชิดตัว ผมหลุดจากภวังค์หันหลังกลับไปมองเห็นวัยรุ่นสองคนยืนประกบผมอยู่ สัญชาติญาณบอกได้ทันทีว่าผมกำลังตกอยู่ในอันตราย

"มึงเงียบๆไว้แล้วส่งกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์มาให้กู"

ผมกำลังโดนปล้น จะมีอะไรแย่กว่านี้อีกไหมเนี่ย

"เอ่อใจเย็นๆนะค่อยๆคุยกันผมจะเอากระเป๋าตังให้แต่ผมขอบัตรประชาขชน บัตรพนักงานบัตรประกันของผมนะ จำเป็นต้องใช้บัตรพวกนี้ ส่วนเงินกับกระเป๋าเอาไปได้เลย โทรศัพท์ให้ได้แต่อย่าทำร้ายผมก็พอครับ"

"มึงรีบส่งมาให้พวกกูไวๆอย่าตุกติกนะมึงไม่งั้นกูแทงไส้ไหลแน่"  ผมรีบหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมากำไว้ส่งให้พวกมันแล้วล้วงโทรศัพท์ส่งให้มันจบๆไป ในกระเป๋าผมมีเงินอยู่ไม่ถึงหมื่น บวกกับโทรศัพท์ผมไม่ใช่ยี่ห้อดังอะไร ผมถือซะว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วกันดีกว่ายึกยักให้เสียทรัพย์แล้วแถมจะเจ็บตัวด้วย พอผมส่งกระเป๋าและโทรศัพท์ให้พวกมันไปแล้ว ไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็พูดขึ้นมาว่า

"เฮ้ย มึงลากมันไปตรงบันไดหนีไฟดิ๊ กูอยากเอาว่ะผิวแม่งขาวจั๊วเลยเห็นแล้วเงี่ยน"

"เฮ้ยอย่านะเว้ย ได้ของที่มึงต้องการแล้วปล่อยกูไปดิ"

"แต่กูอยากเอามึงด้วยอย่าคิดหือนะไม่งั้นกูให้เพื่อนกูแทงจริงไม่ได้ล้อเล่น กูขอเอามึงทีเดียวแลกกับมึงไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อมึงไปสนุกกับกูแค่แป๊บเดียวไอ้หน้าขาว"

"ช่วยด้วย ช่วย" พลั๊ก "อุก" ผมร้องให้คนช่วยได้แค่นั้นก็โดนมันปล่อยหมัดมาที่หน้าหนึ่งทีแรงมากผมถึงกับทรุดมึนและชาไปทั่วหน้าเลย แล้วพวกมันสองคนก็ช่วยกันลากผมไปทางบันไดหนีไฟ ผมพยายามขัดขืนพยายามตั้งสติ แล้วผมก็โดนมันต่อยท้องมาอีกที จุกมากและตอนนี้สติผมกำลังจะดับวูบลง ผมรู้สึกตัวแต่เหมือนคนแทบไม่มีสติ ผมรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของพวกมันที่กำลังปลดกระดุมเสื้อและปลดกางเกงของผม แต่ผมไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย หน้าผมชาและได้กลิ่นคาวเลือดโชยคลุ้งที่ปากและจมูก ใครก็ได้ช่วยผมทีนี่ผมจะต้องโดนข่มขืนใช่ไหมผมเป็นผู้ชายนะบัดซบที่สุดผมไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้ ช่วยผมทีใครก็ได้วินาทีนั้นผมนึกถึงคำว่าไอ้โรคจิตที่คิงพูด ผมภาวนาอยู่ในใจไอ้โรคจิตถ้ามึงมีตัวตนแอบตามกูจริงได้โปรดช่วยกูด้วย'

แล้วผมก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งแว่วเหมือนมาจากที่ไกลๆ

"ไอ้สัดพวกมึงสองตัวไม่ตายดีแน่"

ผมได้ยินแค่นั้น นั่นเสียงใคร มีคนมาช่วยผมใช่ไหมแล้วจากนั้นสติผมก็ดับวูบไป
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอน53#P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 04-05-2017 12:21:19
โรคจิต5 แรกพบ


Part รัน


ผมเริ่มรู้สึกตัวอีกทีที่ไหนสักแห่ง ค่อยๆกระพริบตาปรับโฟกัสมองตรงไปยังเพดานห้องสีขาวมองที่เตียงผมอยู่ที่โรงพยาบาลนี่เอง แล้วสติสุดท้ายก็ฉุขึ้นมาในหัว ผมกำลังจะถูกข่มขืน ผมรีบเอามือไปคลำที่ก้นทันทีก้นไม่เจ็บ เจ็บแต่บริเวณหน้ากับช่วงท้อง แสดงว่ามีคนมาช่วยผมทัน ผมรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตน้ำตามันเริ่มจะรื้นขึ้นมา ไม่คิดเลยว่าชีวิตตัวเองขนาดเกิดเป็นผู้ชายแล้วยังไม่พ้นเหตุการณ์แบบนี้ได้

"เป็นอะไรรึเปล่า"  หือเสียงใคร? ผมรีบหันควับไปหาต้นเสียงทันทีนึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวในห้องซะอีก แล้วผมก็เจอผู้ชาย  หน้าตาดีมากผิวสีแทนหน้าคมใส่สูทด้วย

"ร้องไห้? เป็นอะไรหรือเปล่าให้ผมตามคุณหมอให้ไหม"

ผมเอามือลูบแก้มตัวเอง อ่าวน้ำตาไหล คงจะตั้งแต่ตอนที่ผมตื่นขึ้นมาจำเหตุการณ์แย่ๆได้ แต่ตอนนี้กำลังตกอยู่ในภวังความหล่อเลยไม่รู้ตัว (อาการแบบนี้ยังไม่วายนะ)

"เอ่อ ม...ไม่ต้องครับไม่ได้เจ็บอะไรมากผมแค่ตื่นมาแล้วตกใจเท่านั้นเอง แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับเกิดอะไรขึ้นผมหมดสติไปจำอะไรไม่ได้เลย"

"คุณโดนทำร้ายผมเห็นเหตุการณ์พอดีเลยเข้าไปช่วยทัน ส่วนไอ้...เอ่อคนร้ายสองคนนั้นถูกจับส่งตำรวจเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวสายๆทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาขอสอบปากคำคุณอีกที หมอบอกว่าคุณไม่เป็นอะไรมาก มีแผลที่หน้ากับแผลช้ำบริเวณท้อง อวัยวะข้างในไม่มีอะไรเสียหายแต่อาจจะบอบช้ำเล็กน้อย ที่หมดสติไปเพราะคุณเลือดจาง ระหว่างนี้คุณคงต้องหยุดงานสักสองสามวันเพื่อรักษาอาการ"

มาเป็นชุดเลย แล้วพูดกับเราแต่ไม่ยอมสบตานี่หมายความว่าไง เออแปลกคนแต่หน้าตาดีมากสมควรให้อภัยแถมยังมาช่วยชีวิตผมอีกหนี้บุญคุณอันใหญ่หลวง ต้องทดแทนนนนน

"ครับขอบคุณมากๆเลยที่ช่วยผมไว้ ไม่งั้นป่านนี้ผมคง"

"ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปคนร้ายก็ถูกจับตัวไปแล้วด้วย เดี๋ยวอีกสักพักหมอคงเข้ามาตรวจร่างกายคุณอีกที น่าจะอนุญาติให้กลับได้วันนี้เลย เดี๋ยวผมรอทำเรื่องแล้วกลับพร้อมคุณทีเดียวเลยแล้วกัน"

"รบกวนรึเปล่าครับ ไม่ต้องรอก็ได้เดี๋ยวผมโทรให้เพื่อนมาทำเรื่องให้แทน คุณอยู่นี่มาทั้งคืนแล้วใช่ไหม? กลับไปพักผ่อนเถอะครับผมไม่เป็นไร ยังไงผมรบกวนขอเบอร์ติดต่อคุณไว้หน่อยนะครับ ผมหายดีเมื่อไหร่อยากจะขอเลี้ยงข้าวตอบแทนคุณสักมื้อ เพราะถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ผมคงแย่"

"ไม่รบกวนอะไรครับ ผมรอได้ อีกอย่างผมอยู่คอนโดเดียวกับคุณด้วยกลับพร้อมกันทีเดียวง่ายกว่า"

"อ่าวจริงเหรอครับ อยู่ที่เดียวกันเหรอ มาอยู่นานหรือยังครับผมไม่เคยเห็นหน้า"

"พึ่งย้ายมาได้สองวันครับ ยังไม่ได้จัดของอะไร

แล้วการสนทนาของผมกับผู้มีพระคุณก็จบเท่านั้นเมื่อคุณหมอเข้ามาตรวจดูอาการ ช่วงสายผู้ชายคนนั้นก็ออกไปจากห้อง แล้วสักพักก็มีนายตำรวจเข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน เมื่อให้ปากคำเสร็จพยาบาลก็มาแจ้งให้ผมเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะคุณหมออนุญาติให้กลับไปพักที่บ้านได้ แล้วเขาคนนั้นก็เข้ามาพร้อมกับถุง

"พยาบาลมาแจ้งแล้วใช่ไหม นี่เสื้อผ้า ผมเอาเสื้อผ้าของผมที่สำรองไว้ในรถมาให้คุณเปลี่ยนก่อนอาจจะหลวมหน่อยคุณโอเคนะ"

"คับผมขอบคุณมากเลยคุณ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับผมชื่อรัน"

"ใหญ่"

"ครับคุณใหญ่" ผมยิ้มกว้างไปให้เขาหนึ่งทีเพราะเขาดูใจดีกับผมมาก

"เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก่อนนะครับ"

"ลุกไหวไหมให้พี่ช่วยนะ...ผมขอแทนตัวเองว่าพี่ได้ไหม"

"ได้สิครับพี่ใหญ่"

เมื่อมาถึงคอนโดพี่เขาก็อาสามาส่งผมถึงหน้าห้อง เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดผมคงต้องชวนเขาเข้าไปดื่มน้ำสักแก้วสินะ

"เข้ามาก่อนไหมครับดื่มน้ำสักแก้ว"

"พี่...เข้าไปได้เหรอ"

"ได้สิครับเข้ามาข้างในก่อนก็ได้หรือว่าพี่มีธุระอะไร จัดห้องใช่หรือเปล่าครับเห็นว่าพึ่งย้ายเข้ามา"

"ไม่เป็นไรดื่มน้ำสักแก้วให้ชื่อใจแล้วค่อยลงไปที่ห้องก็ได้ครับ"

สรุปพี่ใหญ่แกอยู่ชั้น 7 พึ่งย้ายมาเมื่อสองวันก่อน แบบนี้ก็ดีผมจะได้ซื้อของเล็กๆน้อยๆไปขอบคุณพี่เขาได้ง่ายๆ



Part ใหญ่

วันนี้เป็นอีกวันที่ผมงานยุ่งเอามากๆจนต้องให้โยคอยดูรันให้  ตอนช่วงหัวค่ำโยโทรมารายงานผมว่ารันกับเพื่อนไปเที่ยวผับ ขยันไปเที่ยวกันจริงๆ ไม่รู้ทำไมถึงชอบไปกันนัก ไปทีไรก็มีแต่ผู้ชายมาจีบ ผมไล่ขู่ไล่กระทืบจนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ทำไมต้องมางานยุ่งวันนี้ด้วยนะใกล้เที่ยงคืนงานผมกำลังจะเสร็จตัวผมอยู่ที่ทำงานแต่ใจผมไปอยู่ที่ผับแล้ว กลัวว่าจะมีใครมายุ่งกับรัน แล้วโยก็โทรมาบอกผมว่ารันกับเพื่อนกำลังจะออกจากผับ โยรายงานผมตลอดเวลา ทั้งโทร ไลน์และคลิป เมื่อโทรมาบอกแบบนี้ผมก็ค่อยโล่งใจหน่อยเตรียมตัวจะกลับกันแล้วผมจะได้กลับบ้าง ผมได้ห้องชั้นคอนโดเดียวกับที่รันอยู่เมื่อวานก่อนนี่เองเมื่อผมรู้ตัวว่าต้องเข้าใกล้รันมากขึ้นทำให้ปีที่แล้วทั้งปีผมคอยเชคอยู่ตลอดว่าจะมีคนย้ายออกบ้างไหมแล้วเมื่อเดือนก่อนก็มีคนแจ้งเรื่องย้ายทำให้ผมได้อยู่คอนโดเดียวกับคนดี เมื่อถึงวันที่เราต้องคุย ต้องเจอหน้ากัน ผมไม่สามารถพารันไปบ้านผมได้ เพราะที่นั่นล้วนแล้วแต่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรันครอบครองไว้ทั้งหมด ผมไม่ต้องการย้ายของสิ่งใดออกจากที่ของมัน ผมจึงต้องหาที่อยู่สำรองใหม่ และคอนโดเดียวกันคือสิ่งที่ดีที่สุดผมกำลังจะเตรียมตัวขับรถกลับไปคอนโด สายเรียกเข้าของโยก็ดังขึ้นมา

"ว่าไงโย"

"พี่ใหญ่ คุณรันกับเพื่อนไปยืนคุยกับไอ้คนชื่อทอร์ช ผมไม่รู้ว่าคุยอะไรกันเข้าไปใกล้ไม่ได้มันเป็นที่โล่งลานจอดรถครับ"

"อะไรนะทำไมต้องไปยืนคุยกันด้วย นัดเจอกันเหรอ"

"ไม่ใช่ครับพี่ ในผับผมเห็นคุณรันอยู่แต่กับเพื่อนๆ ส่วนไอ้คนชื่อทอร์ชมันออกมากับสาว เดี๋ยวนะครับพี่ใหญ่ มันพาผู้หญิงขึ้นรถออกไปแล้ว พวกคุณรันยืนคุยกันอยู่ ตอนนี้กำลังแยกกันขึ้นรถผมจะขับตามไปเรื่อยๆนะพี่"

"อืม ตามดูห่างๆอย่าให้พวกรันเห็น"

"ครับพี่"

ผมขับมาใกล้จะถึงคอนโดอยู่แล้วตอนที่โยโทรมาบอกว่ารันลงจากรถของคิงกำลังจะกลับเข้าไปในตึก ผมจึงสั่งให้โยกลับบ้านไป เพราะผมก็ถึงแล้วเหมือนกัน"

เมื่อขับรถมาถึงคอนโดระหว่างที่ผมกำลังเดินไปกดลิฟท์ ผมได้ยินคล้ายกับเสียงคนคุยกันแว่วมาจากทางบันได

"ขาวซิบหายเลยว่ะไอ้เสก กูเอาตรงนี้เสร็จหิ้วกลับไปเอาที่บ้านอีกนะมึงถ่ายวีดีโอไว้ แล้วเดี๋ยวมึงค่อยไปเอาต่อจากกูที่บ้าน"

ผมเดินมาตามเสียงคนคุยกันจึงได้ยินคำพูดนี้ออกมาสมองผมสั่งการทันทีว่า คนที่พวกมันพูดถึงอยู่คือใคร ใช่รันของผมหรือเปล่า เพราะเขาพึ่งเดินเข้ามาในตัวตึกนี่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนแต่ถึงจะไม่ใช่รันผมก็ไม่ควรปล่อยผ่านไปได้ เมื่อคิดได้อย่างนั้นผมจึงวิ่งพุ่งไปที่บันไดหนีไฟทันทีแล้วภาพที่ผมเห็นทำเอาผมตัวชาไปทั้งร่าง ผมเห็นไอ้เหี้ยนรกส่งมาเกิดสองตัวกำลังถอดเสื้อผ้ารันคนหนึ่งอีกคนหนึ่งกำลังกดโทรศัพท์ซึ่งมันคงกำลังจะถ่ายวีดีโอเหมือนที่ผมได้ยิน ความโกรธของผมแล่นปี๊ดแล้วมันจะแตกในวินาทีนี่

"ไอ้สัดพวกมึงสองตัวไม่ตายดีแน่" ผมพุ่งเข้าไปถีบไอ้คนที่กำลังซุกไซ้รันอยู่ แล้วก็หันไปเตะก้านคอไอ้คนที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์ มันคงกำลังตกใจที่อยู่ดีๆผมก็วิ่งเข้ามามันเลยไม่ทันได้ตั้งตัวทั้งคู่ ผมเตะก้านคอไปสุดแรงที่ผมมีมันสลบไปทันที แล้วผมก็หันกลับมากระทืบไอ้ระยำที่มันจะทำร้ายคนของผมต่อ ผมไม่รู้ว่าผมเตะมันไปกี่ครั้ง สมองผมสั่งให้เตะมันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชดเชยสิ่งที่มันทำกับคนที่เป็นหัวใจของผมได้ ผมไม่รู้ว่ามันสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมมาได้สติอีกทีเมื่อมีคนมาดึงผมออกมา เป็นรปภ. ประจำคอนโดนี้นั่นเอง

"คุณๆหยุดก่อนมีเรื่องอะไรกันตั้งสติก่อนครับ เห้ยไอ้ปองช่วยกูล็อคผู้ชายคนนี้ก่อน อีกสามคนเดี๋ยวค่อยไปดูเร็วเดี๋ยวหลุด"

สามคน สามคน เมื่อคำนี้ผ่านเข้ามาในสมองผม ผมจึงหยุดตัวเองแล้วหันกลับไปมองรันทันที

"รัน ปล่อยกู ปล่อยสิวะกูจะไปดูคนรักของกูมึงปล่อย"

"คุณครับใจเย็นๆก่อนแล้วผมจะปล่อย ไอ้ปองโทรแจ้งตำรวจเร็ว1669 ด้วยมีคนบาดเจ็บ"

ผมหลับตาเพื่อเรียกสติตัวเองอีกครั้ง แล้วลืมตา

"ปล่อยผมก่อนผมจะไปดูแฟนผมเขานอนสลบอยู่ตรงนั้น ส่วนไอ้เหี้ยสองตัวนี้ มันเป็นโจร มันลากแฟนผมมาทำร้ายผมมาช่วยแฟนผมปล่อย"

ยามสองคนมองหน้ากันมองดูสภาพการแต่งตัวผม แล้วก็ปล่อยตัว ผมจึงถลาเข้าไปอุ้มร่างของรันขึ้นมาแนบอก

"คนดีของพี่ อย่าเป็นอะไรนะเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาลนะครับ  ผมจะพาแฟนไปโรงพยาบาล ผมกับแฟนพักอยู่คอนโดนี้ ส่วนไอ้สองตัวนี้ ฝากเรียกตำรวจมาจัดการด้วยแล้วเดี๋ยวผมจะให้คนติดต่อมา"

"อ่าวนี่คุณคนนี้ผมจำหน้าได้เห็นบ่อยๆเดี๋ยวผมไปเปิดประตูให้ครับ ส่วนเรื่องทางนี้เดี๋ยวผมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาจัดการให้ครับ"

ผมรีบพารันไปส่งโรงพยาบาลผมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะโดนอะไรมาบ้าง ผมเห็นบาดแผลเดียวคือที่ใบหน้า ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ด้วยผมไม่เข้าใจ ทำไมใครๆก็จ้องอยากจะครอบครองตัวเขา ผมเกลียดอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ของตัวเองมาก ไม่อยากให้เขาเจ็บ ไม่อยากให้ใครมาแย่งเขาไป เห็นไหมคลาดสายตาแต่นิดเดียวเขาก็ถูกทำร้ายแบบนี้ ผมไม่อยากเลย ไม่อยากทำให้สิ่งที่ผมตั้งใจทำมาโดยตลอดต้องพังหรือไม่เป็นไปตามที่ผมกำหนดไว้ แต่เมื่อเหตุการณ์บีบบังคับใจผมแบบนี้ ผมคงต้องรุกให้เร็วขึ้น เพื่อเขาคนที่ผมรักสุดหัวใจ[/color]
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 04-05-2017 14:09:34
5555 พี่ใหญ่มีความขี้โม้ว่ารันเป็นแฟนของตัวเองง กว่าจะรุกได้เนอะะ ตามเค้าเป็นพวกโรคจิตอยู่ตั้งนาน
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 04-05-2017 18:52:24
พี่ใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆ กว่าจะมา ลุ้นแทบตายยย รันเจ็บเลยอ่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-05-2017 00:12:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kimkidoy ที่ 05-05-2017 13:11:18
พี่ใหญ่น่าตาก็ดี ทำไมถึงไม่จีบน้องรันตรงๆๆๆๆละค่าาา
รอๆๆๆตอนต่อไปคะ :hao7: :katai4:
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 05-05-2017 18:36:30
มารอพี่ใหญ่จร้าาาา
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่4-5 #P1 (04/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 05-05-2017 19:11:44
ติดตามค่าาา
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่6 #P1 (08/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 08-05-2017 09:28:44
[size=24pt]โรคจิต6 เข้าใกล้

(ต่อ) ใหญ่
[/size]

ผมเฝ้าดูอาการของรันทั้งคืนเอื้อมมือไปสัมผัสรอยแผลที่มุมปากและรอยช้ำที่แก้มขวาของรันอย่างแผ่วเบาลูกกวางน้องของผมตอนนี้ดูบอบบางนัก ผมก้มลงไปสัมผัสกลีบปากของรันอย่างนุ่มนวล หัวใจมันเต้นแรงมาก ทั้งๆที่มีคนผ่านมือผมมากหน้าหลายตาแต่ไม่มีใครทำให้ผมมือสั่นเหมือนเด็กชายแรกรักแบบนี้เลยยกเว้นรัน แค่แอบขโมยจูบเขาก็ตื่นเต้นจนแทบบ้า ผมไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนนั่งมองรันอยู่แบบนั้นด้วยความรักพอฟ้าเริ่มสว่างผมพยายามนึกคำพูดร้อยแปดที่จะฟังแล้วดูปรกติที่สุดเพื่อที่จะพูดกับรันเมื่อเขาตื่นนอน และพอถึงเวลานั้นจริงๆ ปฏิกิริยาแรกที่เขาตื่นคือคลำก้นของตัวเองผมพอเข้าใจได้นะว่าเขากังวลแล้วเขาก็นั่งเหม่อมองไปข้างหน้าอยู่สักพัก นี่ผมนั่งเงียบเกินไปใช่ไหมเหมือนเขาจะไม่รู้ตัวว่ามีใครอีกคนจ้องมองเขาอยู่ตรงนี้

ผมเห็นน้ำตาของเขาไหล เขากำลังร้องไห้ เมื่อผมถามว่าเขาเป็นอะไรรึเปล่า ดูเขาจะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วมองมาทางผม ผมพยายามควบคุมตัวเองควบคุมทุกคำพูดที่เอ่ยออกมา เมื่อนี่คือครั้งแรกในการพบเจอกันสำหรับรัน แต่ไม่ใช่กับผม สักพักหมอก็เข้ามาตรวจร่างกายของรัน ผมรู้ว่าวันนี้รันจะได้ออกจากโรงพยาบาลผมรีบลงไปที่รถเพื่อหยิบเสื้อผ้าของตัวเองไปให้เขาเปลี่ยน แล้วมันคือภาพที่งดงามยิ่งกว่าที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้เสียอีก ผู้ชายตัวขาวๆปากแดงระเรื่ออย่างคนสุขภาพดี ดวงตากลมถึงวันนี้จะไม่สุกสดใสเหมือนทุกๆวัน แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความงามในตัวเขาไปได้เลยสักนิด ดูเขาใส่เสื้อผ้าของผมสิเหมือนเด็กชายตัวน้อยๆไม่มีผิด น่ารักจนอยากเก็บเอาไว้คนเดียวไม่อยากให้ใครได้เห็นเลย ผมรีบให้สิทธิ์จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย และรีบพารันไปส่งที่ห้อง ไม่ส่งถึงหน้าห้องผมคงนอนไม่หลับแน่เป็นห่วงเหลือเกิน แต่ก็นึกไม่ถึงนะว่าเขาจะชวนผมเข้าไปในห้อง เข้าไปในโลกส่วนตัวของเขา ถึงภายนอกผมจะดูขรึมแต่ในใจตอนนี้มันลิงโลดมากๆ ผมนั่งที่โซฟาสีครีมมองไปรอบๆห้องพยายามเก็บทุกรายละเอียดต่างๆไว้ให้มากที่สุด ถึงผมจะเป็นสต๊อกเกอร์  แต่ผมไม่นิยมเก็บของใช้แล้วจุกจิกของรันมาสะสมนะประเภทหลอดดูดน้ำแก้วน้ำกินทิ้งแล้วต่างๆ สิ่งที่ผมชอบคือรูปถ่าย คลิป ตามไปในที่ๆเขาชอบไป ทำในสิ่งที่เขาชอบทำ นั่นคือสิ่งที่ผมคลั่งไคล้ เขายื่นน้ำมาให้ผม เรานั่งคุยกันสองสามประโยคก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเพื่อนของตัวเองเรื่องนี้ แล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรและไลน์บอกเพื่อนในกลุ่ม วันนี้วันหยุดของพวกเขา อีกไม่นานก็คงมา ใจจริงผมอยากจะฝังตัวอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน แต่ด้วยความที่เมื่อคืนผมทำงานจนดึกแถมใช้แรงกระทืบไอ้โจรนั่นและนั่งเฝ้าคนดีทั้งคืน ตอนนี้ร่างกายผมต้องการพักผ่อนจริงๆแล้ว

"น้องรัน" (ใจกล้าเรียกน้องเพิ่มความใกล้ชิด

"ครับ" รันเงยหน้าจากโทรศัพท์ที่กำลังรายงานเรื่องราวต่างให้เพื่อนฟัง ระหว่างรอเพื่อนมาหา

"พี่คงต้องขอตัวกลับลงไปที่ห้องก่อนนะครับ พอดีพี่นัดให้คนมาลงฟอร์นิเจอร์เพิ่มวันนี้ นี่ก็ใกล้เวลานัดแล้ว"

"อ่อครับๆขอโทษที่รบกวนนะครับแล้วก็ขอบคุณพี่ใหญ่มากจากใจเลยส่วนเรื่องค่ารักษาใบเสร็จมาพี่บอกผมนะเดี๋ยวผมแวะไปเอาที่ห้องพี่ก็ได้ครับ ว่าแต่เย็นนี้พี่ใหญ่ติดธุระอะไรไหมครับ"

"เย็นนี้พี่ว่าง ไม่ได้ไปไหน รันอยากให้พี่ช่วยอะไรโทรตามได้เลย 24 ชั่วโมงพี่พร้อมให้บริการ"

"ฮ่าๆ เป็นเซเว่นหรอครับ ถ้าผมโทรไปตอนตีสองบอกว่าหิวเนี่ยจะทำไง"

"พี่ก็รับอาสาพาไปทานไงครับ"

"พี่ก็พูดไป"

"พี่พูดจริงถ้าหิวตอนดึกๆโทรหาพี่นะ พี่ไม่อยากให้รันออกไปไหนคนเดียวตอนกลางคืนมันอันตรายพี่เป็นห่วงรู้ใช่ไหม"

"เอ่อ...ครับ (-////-)  ขอบคุณพี่มากจริงๆ พี่ใหญ่กลับห้องไปเถอะครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมขอจองมื้อเย็นพี่นะ"

"ครับพี่จะรอ"



Partรัน

"ครับ พี่จะรอ"  คำนี้ลอยวนอยู่ในหัว คนอะไรช่างดูดีไปซะหมด ระหว่างนั่งคิดอะไรเพลินๆ พวกแก๊งของผมก็มาถึงกันแล้ว คราวนี้โดนรุมถามกันเยอะสิ่งไปหมดคำถามเบสิคนั่นแหละ เรื่องเป็นยังไง ผมเจ็บตรงไหนบ้างบลาๆ ผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดไปตามที่ผมเจอมา

"อะไรจะดวงซวยขนาดนั้นวะ ขนาดกูไปส่งเกยถึงหน้าคอนโดมึงก็ยังไม่วายโดนลากไปอีก แม่งน่ากลัวว่ะคนสมัยนี้ มึงกับกูต้องคอยระวังตัวให้ดีกว่านี้นะรัน เดี๋ยวนี้อะไรๆมันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วแม่งผู้ชายด้วยกันเองมันยังจะลากไปโคตรเหี้ยเลย"

"โถ่ไอ้คิง ให้รันมันระวังตัวไปคนเดียวเหอะ หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างมันนั่นน่าเป็นห่วงแต่ ควายๆอย่างมึงไม่ต้องกลัวใครลากไปหรอก กูว่าคนอื่นกลัวมึงมากกว่า"

"แหม ไอ้แมนกัดกูตลอดเวลาเลยนะ ปากดีกลัวกูทิ้งไปมีผัวมากกว่ามั้งถึงกูจะถึกแต่กูหน้าตาดีมึงจบป่ะ"

"ถุย  เอาจริงๆบรรดาหนุ่มๆที่เข้าหามึงกูเห็นมีแต่เกย์รับทั้งนั้นเลย หน้ากับหุ่นมึงให้เป็นรุกมากอ่ะ เกย์รุกที่ไหนมันจะตรัสรู้วะว่ามึงเป็นรับ กูเห็นตัวเล็กตัวน้อยมาจีบแล้วรู้ว่ามึงเป็นขุ่นแม่ แม่งเผ่นทุกราย ฮ่าๆๆ กูขำ"

"เออแม่ง กูหน้าตาดีไง หุ่นก็ดีถ้ากูแมนๆ  กูกลัวมึงจะดับต่างหาก กูหล่อกว่ามึงเยอะนี่กูเสียสละเป็นเกย์ให้มึงได้ชูคอนะยังไม่สำนึกบุญคุณ"

"แหม...ไอ้"

"เห้ย พอๆ พวกมึงสองตัวจะกัดกันทำไมนักหนาวะรำคาญไปนอกห้องโน่นเลยไป กูจะฟังไอ้รันเล่าต่อ" อิฐแทรกขึ้น

"สรุปมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย หน้าตาดี๊ดีชื่อใหญ่ แถมพึ่งย้ายมาอยู่ที่นี่อีกด้วย อยากเห็นหน้าหล่อเบอร์ไหนนะถึงทำให้ไอ้รันเพ้อได้"

"กูเพ้ออะไรไอ้อิฐมึงอย่ามามั่ว กูแค่บอกเฉยๆว่าพี่เขาดูใจดี แถมหล่ออีกต่างหาก"

"มึงชอบรึเปล่าหละ ไหนตอบกูมาดี๊"

"โว้ยยย ชอบไม่ชอบมันไม่สำคัญป่าววะ มึงลืมไปแล้วหรออิฐ จะมีผู้ชายคนไหนอยู่ใกล้กูเกินสามวันบ้าง ไม่มี๊ พี่ใหญ่ก็เหมือนกันเดี๋ยวพวกมึงคอยดู สามวันดีสี่วันหายแน่นอน"

"เฮ้ย ก็ไม่แน่นะรายนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม อาจจะจูนกันติดก็ได้นะมึงไม่ลองทอดสะพานดูรันเผื่อฟลุ๊ค"

"ไม่เอาหรอก เกิดไปทอดสะพานใส่แล้วเข้ามาแมนๆทั้งแท่ง แทนที่จะได้แฟน ได้ตีนมาแทนดิไม่ว่า"

"เอ้าไม่ลองไม่รู้เว้ยไอ้รัน เออจริงด้วยกูคิดอะไรออกละ ไอ้คิงไอ้แมนมาสุมหัวๆ"

"อะไรของมึงวะไอ้อิฐ"

"นั่นดิมีไร"

"พวกมึงทั้งสามคนฟังกูให้ดี พวกมึงอยากรู้ใช่ไหมว่าไอ้พี่ทอร์ชพูดเรื่องจริงหรือโกหก กูมีทางพิสูจน์ ไอ้รันเริ่มจากมึงจีบพี่ใหญ่อะไรเนี่ยมา ถ้ามึงไม่กล้ากลัวเขาแมนๆไม่กินดุ้น มึงก็แค่เข้าไปตีสนิทกับพี่เขาก็ได้ ส่วนพวกเราก็คอยตามดูว่ามีอะไรผิดปรกติไหมถ้ามีคนแอบตามมึงจริงยังไงก็ต้องเจอ ก่อนหน้านี้เราไม่รู้ตัวอาจจะไม่เคยสังเกต เห็น ถ้าเป็นตอนนี้เราอาจจะเจอตัวการก็ได้"

"เฮ้ยจะดีหรอ ถ้าเกิดพี่เขาโดนทำร้ายเหมือนพี่ทอร์ชล่ะ ไม่คุ้มนะเว้ยไม่เอาด้วยหรอก"

"แต่กูว่าความคิดไอ้อิฐใช้ได้นะรัน ถ้ามึงไม่ลองมึงจะไม่มีวันรู้เลย ว่าชีวิตมึงที่ผ่านมาเนี่ย ไม่มีใครเอาหรือไม่มีใครกล้าเข้าใกล้กันแน่ ก็แค่ตีสนิทจะเป็นอะไรไปไม่ได้ให้ไปนอนกับเขาสักหน่อย ลองเข้าใกล้อาทิตย์เดียวก็พอ เพราะส่วนใหญ่สามสี่วันหายทั้งนั้นแล้วเดี๋ยวกูกับไอ้อิฐไอ้แมนจะช่วยกันสอดส่อง" คิงเสริม

"เห้อ พวกมึงคิดว่าแผนนี้จะเวิร์คแน่หรอ"

"ไม่รู้วุ้ย ต้องลองเนี่ยนัดไปกินข้าวเลี้ยงตอบแทน หรือไม่ก็ซื้ออะไรไปให้เขาตีสนิทเข้าไป"

"เย็นนี้กูนัดพี่เขาเลี้ยงตอบแทนพอดีเลยว่ะ"

"โป๊ะเชะ มึงไปกินกันสองคน  กินแบบกินข้าวนะไม่ใช่กินอย่างอื่น"

"ไอ้ห่าคิงช่วยเป็นการเป็นงานด้วย"

"เออ แหมแซวขำๆ มึงไปเลี้ยงตอบแทนกับพี่เขาสองคน มึงเลือกร้านไว้เลยเอาร้านแบบที่มีมุมซุ่มดูหน่อยนะ อย่างเช่นร้านระเบียงไม้ก็ดีนะเว้ย ที่เราเคยไปกินเมื่อต้นเดือนจำได้มะ อาหารอร่อย บรรยากาศดีร้านกว้างมึงไปเลือกนั่งโซนระเบียงด้านนอกพวกกูอยู่ด้านใน แอบมองพวกมึงได้สบายๆถ้ามาจริงไม่รอดพ้นสายตาพวกกูสามคนแน่ๆ"
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่7#P1 (08/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 08-05-2017 09:31:50
โรคจิต7 หมดเวลาของคนในมุมมืด

ผมกำลังนั่งรถไปทานอาหารมื้อเย็นกับพี่ใหญ่ ยิ่งได้สังเกตใกล้ๆความหล่อของเขายิ่งพุ่งแรง(> <) พี่เขาหน้าจะอายุราวๆ 20ปลายๆ ผิวสีแทนคิ้วหนาโครงหน้ารับกันทุกสัดส่วนเลยสูงราวๆ 180 ได้มั้งเดาเอาเพราะเขาสูงมากผมสูง 170 ดูเตี้ยไปถนัดตาที่เดียวเชียว ผมเลือกร้านริมระเบียงไม้ตามที่คิงแนะนำ และพวกเพื่อนๆทั้งสามคนของผมก็นำไปที่ร้านนั้นแล้ว ผมเลือกที่นั่งริมระเบียงด้านนอกตามที่ตกลงกันไว้ระหว่างทางเดินผมเห็นพวกเพื่อนๆแล้วล่ะครับ นั่งกันหน้าสลอนเลยยังดีที่มีต้นไม้บังสายตาบ้างถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้ จริงๆคิงคะยั้นคะยอให้ผมจีบพี่ใหญ่นะออกแนวโยนหินถามทางอะไรแบบนั้น ความรู้สึกก็ก้ำกึ่งมองเผินๆพี่เขาก็ดูแมนๆปรกติทั่วไปดูไม่ออกว่าชอบแนวไหน แต่ผมเหมือนมีความรู้สึกบางอย่าง จะเรียกว่าเข้าข้างตัวเองได้ไหม เหมือนกับพี่ใหญ่จะชอบหันมามองผมบ่อยๆขณะขับรถ ถึงเราจะชวนคุยกันไปตลอดทางแต่บางครั้งเวลาเราหันมาสบตากันแววตาพี่เขาดูเชื่อมๆยังไงบอกไม่ถูก ระหว่างรอพนักงานมาจดเมนู

"พี่ใหญ่ไม่ทราบว่าพี่อายุเท่าไหร่เหรอครับ"

"ให้ทาย"

"อ่ะ!! 27"

"ผิด"

"29"

"ผิด"

"30"

"ผิด"

"โอเคผมยอมแพ้เฉลยมาเลยดีกว่าครับ"

"หึหึ 33 ครับ"

"ห๊ะ 33 เอาจริงดิ หน้าไม่ถึงเลย ผมนึกว่าพี่จะ 20 ปลายๆเถอะ"

"พี่ดูเด็กขนาดนั้นเลย? ก็ดีนะจะได้ไม่ดูห่างจากรันเยอะ ^^"

" (0 o 0") พี่รู้หรอว่าผมอายุเท่าไหร่"

"24"

"เฮ้ยรู้ได้ไง"

"อ่าวจริงเหรอพี่เดาๆเอาคิดว่าไม่น่าเกิน 25 ประมาณนั้น"

"แม่นมาก ยอม...ขออีกคำถามนะครับพี่สูงเท่าไหร่ตอบเลยนะไม่ต้องให้ผมเดา"

"182"

"โห182 ห่างจากผม 12เซ็น ตอนแรกผมเดาๆไว้ว่าพี่น่าจะสูงราวๆ 180 ไม่เกินนี้ผมก็ว่าเยอะแล้วนะ นี่ 182 สูงมากครับอิจฉา"

ยังไม่ทันจะพูดอะไรกันต่อพนักงานก็เดินมาที่โต๊ะเพื่อเตรียมจดเมนู

"พี่ใหญ่อยากทานอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะมื้อนี้ผมเลี้ยงไม่อั้น"

"รันสั่งสิครับพี่ทานได้หมด"

"ไม่เอาพี่สั่งเลยเอาแบบที่พี่ชอบนั่นแหละ"

แล้วพี่ใหญ่ก็ยิ้มหล่อๆส่งมาให้ผมพยักหน้าแล้วสั่งอาหารมา 4 อย่างแต่ละอย่างที่พี่เขาสั่งไม่อยากจะบอกเลยว่าของชอบผมทั้งนั้น

"พี่ใหญ่ชอบทาน แกงส้มผักกะเฉดหรอครับ"

"ใช่พี่ชอบทานรันหละชอบไหม"

"โหยของโปรดเลยแหละ ที่พี่สั่งมาสี่อย่างของโปรดผมทั้งนั้นเลย พี่ใหญ่ชอบทานเหมือนผมเลยสงสัยจะใจตรงกัน"

"ก็คงงั้นมั้งครับ"

ไม่ปฏิเสธแบบนี้แอบคิดลึกอีกแล้ว ไอ้รันเอ้ยใจร่มๆ พึ่งเจอกันสองวันเองใจร่มๆเอาไว้

"แหะๆ ชงเองเขินเอง"

"เขินน่ารักดีครับ"

"พี่ใหญ่อย่าหยอด ผมคิดจริงนะ ฮ่าๆๆ"  หยอดแรง(ผมนี่แหละ) พูดเสร็จคอแห้งเลยกินน้ำแก้เก้อหน่อย

"พี่พูดจริง พี่ชอบรันถ้าพี่จีบรันจะรังเกียจไหม"

'พรวด' ตกใจมากกำลังกระดกน้ำแก้เขินอยู่เลยจู่ๆก็มาพูดว่าอยากจีบ พ่นน้ำใส่หน้าพี่เขาไปเต็มๆ

"แค่กๆ พี่ใหญ่ขอ แค่กๆ ขอโทษครับ"  ผมรีบลุกขึ้นไปฝั่งตรงข้ามหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาเช็ดหน้าพี่ใหญ่

"ไม่เป็นไร รันทานน้ำก่อน ไอใหญ่แล้ว"

แล้วพี่ใหญ่ก็ส่งน้ำมาให้ผมดื่ม โอ้ย ดื่มเสร็จแล้วทำยังไงต่อล่ะเนี่ย เขินชะมัดนี่พี่เขาพูดจริงๆใช่ไหมผมไม่ได้หูเพี้ยนไปนะ

"พี่ขอโทษที่ทำให้ตกใจคือจริงๆพี่เคยเห็นรันก่อนหน้านี้ที่คอนโด ช่วงที่พี่แวะมาคุยเรื่องห้อง คืิอพี่เห็นรันน่ารักดีเวลาพี่ไปที่คอนโดพี่จะชอบมองหารันอยู่บ่อยๆ เผื่อจะได้เห็นรันอีกพี่เคยเจอรันสองสามครั้งได้ก่อนจะเกิดเรื่อง รันอาจจะคิดว่ามันเร็วไปแต่พี่เป็นคนตรงไปตรงมากับความรู้สึกตัวเอง ชอบก็บอกว่าชอบครับ พี่ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบอะไร ถ้าตอนนี้รันไม่ได้คบใครพี่อยากให้เก็บพี่ไว้พิจารณาสักคน พี่พร้อมพิสูจน์ตัวเองนานแค่ไหนพี่ก็รอได้"

ถ้าตัดภาพเป็นการร์ตูน ตอนนี้ผมก็กำลังยืนอ้าปากแล้วมีหัวใจกะเด้งออกมา ประมาณนั้นเลย

"เอ่อคือ จะพูดยังไงดี ตอนนี้ผมก็ไม่ได้คบใครแล้วก็ไม่ได้รังเกียจพี่ด้วยแต่ว่า"

"แต่ว่าอะไรครับ"

"เห้อ จะให้พูดยังไงดีหละครับ เอาแบบนี้แล้วกัน พี่คุยกับผมเกินหนึ่งอาทิตย์ให้ได้ก่อนแล้วเราค่อยมาคุยเรื่องนี้ดีกว่า คือชีวิตผมค่อนข้างจะซับซ้อนนิดหน่อยพี่อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้ไว้ผมพร้อมผมจะบอกพี่เองเอาเป็นว่าตกลงตามนั้นแล้วกันเน๊อะ"

"ตกลงครับ"

"แล้วพี่โสดใช่ไหม โสดแบบ โสดจริงๆ ไม่ได้แอบใครไว้ใต้เตียงอะไรแบบนั้นใช่ป่ะ"

"โสดครับ สามปีกว่าแล้ว"

"เอ้าจริงดิ เหมือนผมเลย ผมก็โสดมาสามปีได้แล้ว แบบว่าไม่มีใครเอา ฮ่าๆ"

"ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่ไม่มีใครเอา ไม่งั้นรันคงไม่ตกมาถึงพี่หรอก"

"หุหุ ตกเติกอะไรกันพี่ ผมยังไม่ได้ตกลงอะไรเลย พูดเหมือนหิวโหยไม่มีอะไรตกถึงท้องอย่างนั้นแหละ"

"ก็หิวอยู่นะ สามปีกว่าเรียกว่าโหยเลยก็ได้"

"เวอร์ไปครับ ไม่มีแฟนก็พอจะเชื่อแต่ไม่ผ่านใครเลยมาตลอดสามปีกว่าเนี่ย ใช่เหรอครับ"

"ไม่มีครับ หรือ รันโสดแต่มี"

"แหะๆ ไม่มีเหมือนกัน งั้นก็พอๆกันทั้งคู่หละมั้ง"

หลังจากจบมื้ออาหารด้วยบรรยากาศสีชมพูอ่อนๆ พี่ใหญ่ก็มาส่งผมที่หน้าห้องแล้วก็ขอตัวกลับไปที่ห้องของตัวเอง ผมปิดประตูห้องด้วยหัวใจที่พองโต ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่เขาจะขอจีบผมโต้งๆแบบนี้ในอาหารมื้อแรกของเราสองคน แต่หัวใจของผมที่พองโตไม่นานมันก็เหี่ยวแฟบลงไปเมื่อผมนึกถึงความจริงข้อหนึ่งในชีวิตได้ว่า พี่ใหญ่อาจจะเหมือนกับผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามา เพราะมันมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ

และผมภาวนาขออย่าให้มันเกิดขึ้นเลย เพราะผมรู้สึกดีกับพี่ใหญ่มากๆเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่6-7 #P1 (08/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 08-05-2017 11:41:01
กรี๊ดดด ในที่สุดเวลาที่พี่ใหญ่รอก็มาถึงงง น้องรันชอบคนง่ายไปมั้ยคะ 5555 #มีความรุกแรง
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่8 #หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 10-05-2017 08:00:50
โรคจิต8 ความจริงที่ซ่อนอยู่

(ต่อ)

ไม่นานหลังจากที่ผมมาถึงที่ห้องเหลาบรรดาเพื่อนๆตัวดีทั้งสามก็เข้ามาสุมหัวกัน

"ไอ้รันมึงพ่นน้ำใส่หน้าพี่เขาทำไมแม่งโคตรฮาพวกกูนั่งขำกันท้องแข็งเลยคุยกันอยู่ดีๆพ่นน้ำใส่เต็มหน้าเขาเลยแถมพี่แกยังทำท่าไม่สะดุ้งสะเทือนหลับตาพริ้มรับน้ำมนต์จากปากมึงอีกนะ"

"ฮ่าๆๆ"   เออหัวเราะประสานเสียงขำกันเข้าไป

"อิฐมึงเห็นตอนเขาลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มอ่อนให้ไอ้รันป่ะ นี้กูฮาสุดพูดเลยพี่เขานิ่งดีซิบหาย"

"เออหล่อได้อีก แล้วตกลงคุยอะไรกันบ้าง มึงเม้ามาอะไรทำให้มึงแสดงอาการแบบนี้ออกสู่ที่สาธารณะ"

"คือกูตกใจ พี่เขาขอจีบกูว่ะ"

"ห๊า อะไรนะ ขอจีบพึ่งเจอกันสองวันขอจีบบ้าอะไรเร็วแท้"

"จริงๆไม่งั้นกูจะตกใจจนพ่นน้ำใส่หน้าพี่เขาเหรอ อีกอย่างเขาบอกว่าเคยเห็นกูมาก่อนหน้านี้แล้วที่คอนโดนี่แหละช่วงที่เขามาดูห้อง แล้วเจอกูผ่านๆสองสามครั้งแล้วรู้สึกชอบอะไรประมาณนั้น"

"รักแรกพบ แค่เห็นหน้าผ่านๆก็เก็บเอาไปฝันแถมชะตาฟ้าลิขิตให้ได้ช่วยเหลือ แล้วก็มาสารภาพรักต่อหน้ากัน โอ้ยกูฟินพี่ใหญ่ของมึงหล่อไส้แตกมาก คิงอยากมีโมเม้นแบบนี้บ้างคิงจะหาได้ที่ไหนเนี่ย กะซิกๆ"

"มึงลองไปหาตามถังขยะเปียกสิ เชื่อกูไอ้คิงลองไปคุ้ยๆดูเนื้อคู่มึงอาจจะอยู่แถวนั้นก็เป็นได้"

"มึงหุบปากไปเลยแมนทำไมชอบเบรคไอ้คิงจังวะ" ผมบ่นขึ้นมา

"เออหุบปากเน่าๆของมึงไปเลย ไม่หล่อแล้วยังจะปากหมาอีก เน๊อะรันเพื่อนรัก"

"กูรำคาญพวกมึงสองคนจริงๆ กัดกันตั้งแต่ที่ร้านละให้มาช่วยกันหาตัวคนที่ตามไอ้รัน พวกมึงก็มานั่งกัดกันจนกูไม่มีสมาธิเลย" อิฐบ่น

"เอ้ากูไม่ผิดนะอิฐมึงไปด่าไอ้แมนโน่นชอบหาเรื่องกูก่อน"

"กูว่ามึงก็พอๆกันทั้งคู่แหละไม่ต้องเถียงกันหรอก ว่าแต่พวกมึงเห็นใครมีท่าที่แปลกๆบ้างรึเปล่า" ผมพูดตัดบทด้วยความรำคาญ

"เท่าที่กูสังเกตก็ไม่มีใครผิดปรกตินะกูมองคนที่เขามาในร้านทุกโต๊ะสลับกันไปเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นมีใครมองจ้องพวกมึงหรือมีปฏิกิริยาว่าสนใจโต๊ะมึงเป็นพิเศษเลย เห็นมีแต่เด็กเสิร์ฟสาวๆแอบมองพี่ใหญ่ตาเป็นมันก็แค่นั้น"

"แต่กูก็ยังเชื่อพี่ทอร์ชอยู่นะว่ามีคนไปคุกคามเขาจริงๆ ดูจากสีหน้าแววตากูว่าพี่เขาไม่ได้โกหก ไหนๆก็เดินตามแผนไอ้คิงมาแล้ว แผนต่อไปพวกเราคอยแอบติดตามดูพี่ใหญ่กันดีไหมวะพวกมึงว่าไง ถ้าจะตามตัวให้เจอ ต้องไปตามดูพี่ใหญ่ช่วงวันสองวันนี้แหละถ้าจะมีคนไปคุกคามจริงๆมันต้องมาหาพี่ใหญ่วันสองวันนี้แน่นอน พวกมึงคิดว่าไง"

"เออแผนดี กูเห็นด้วยกับไอ้แมน มึงหละรันเอาด้วยไหม"

"เอาดิไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองกรายร่างเป็นนักสืบดูสักที ถ้าเจอตัวการจะได้จับส่งตำรวจซะ กูจะได้คุยกับพี่ใหญ่แบบสบายใจ"

"ฮี้ว ออกตัวๆ กลัวแห้วเหรอเพื่อน"

">///////<"



Part ใหญ่

วันนี้ผมมีความสุขที่สุด รันนั่งรถของผม นั่งอยู่ข้างๆใกล้แค่เอื้อมเราไปกินข้าวด้วยกัน แถมผมสารภาพกับรันไปแล้วด้วยว่าชอบเขา หลังจากที่ส่งรันที่ห้องผมก็กลับลงมายังห้องของตัวเอง ยังมีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ และหนึ่งในนั้นคือเรื่องของคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับรัน

Rrrrrrrrrr

'ครับพี่ผมอยู่ลานจอดรถชั้นหนึ่งคอนโดพี่แล้วครับ'

"ขึ้นมาที่ห้องพี่วางคีย์การ์ดสำรองไว้ข้างล่างบอกกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อย"

'ครับพี่ใหญ่ มีอีกเรื่องผมพาลูกน้องมาด้วยคนหนึ่งแบบที่พี่ใหญ่ต้องการพี่จะให้ผมพาขึ้นไปให้พี่ดูเลยไหมครับ'

"อืม"

"เอ็มสวัสดีพี่ใหญ่"

"สวัสดีครับคุณใหญ่"

ผมรับไหว้ลูกน้องใหม่ของโยที่พามาอายุราวๆ 26ปีอาจจะน้อยกว่านี้แต่ไม่น่าเกิน ลักษณะท่าทางเป็นอย่างที่ผมอยากได้แต่นิสัยต้องคุยกันอีกทีว่าจะทำงานให้ผมได้ไหม

"พี่ใหญ่ลูกน้องผมชื่อเอ็ม คนนี้ไว้ใจได้ครับเป็นน้องที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ รู้ไส้รู้พุงกันอยู่"

"แล้วเรื่องไอ้คนชื่อแม็คที่ให้ไปจัดการเรียบร้อยหรือเปล่า"

"เรียบร้อยดีครับพี่รายนี้พวกผมไม่ได้ลงไม้ลงมืออะไร มันเป็นไบท์แต่มีเมียแล้วครอบครัวมันรวมถึงพ่อแม่ไม่มีใครรู้ผมเลยแค่เอาคลิปแอบถ่ายที่มันนัวกับเด็กหนุ่มๆหลังผับไปจัดการผมให้มันลบเบอร์คุณรันออกจากเครื่องมันรับปากแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับคุณรันอีกแล้วจะไม่พูดถึงเรื่องคืนนั้น"

"ดี แล้วที่พี่สั่งให้มันลบรูปที่กอดคอรันลงเฟสหละ ทำรึเปล่า"

"เรียบร้อยครับพี่แล้วนี่หนังสือที่พี่ให้ผมไปซื้อ ได้มาครบทุกเรื่องตามที่สั่งครับ"

"ขอบใจกลับไปดูแลร้านกับก้อยเถอะพี่ไม่มีอะไรแล้ว"

"ครับงั้นผมขอตัวกลับก่อนครับพี่ ไปเอ็ม"

"ผมกลับก่อนครับคุณใหญ่"

ระหว่างที่โยกับเด็กหนุ่มชื่อเอ็มกำลังจะออกจากห้องไปนั้น

"โย" ผมเรียกโยไว้พร้อมกับเดินเข้าไปหา

"เอ็ม ลงไปรอเฮียที่รถได้เลยเฮียขอคุยกับพี่ใหญ่ก่อน"

"ครับเฮีย"

พูดจบเอ็มจึงเดินออกไปในห้องจึงเหลือแต่ผมกับโยสองคน

"เด็กนี่ไว้ใจได้ใช่ไหมโย"

"ครับพี่ไว้ใจได้แน่นอนผมรับประกัน"

ผมเอามือลูบหัวโย

"ดีพี่ไว้ใจโย อย่าทำให้พี่ผิดหวังเข้าใจไหม"

"ครับพี่ ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอน"

"แล้วเรื่องบ้านในป่าหละไปถึงไหนแล้ว"

"ตัวบ้านเสร็จ90%แล้วครับเหลือเก็บรายละเอียดแล้วก็ถางต้นไม้รกๆรอบตัวบ้าน ไม่เกินสิ้นเดือนนี้เสร็จแน่นอนครับ"

"ให้มันได้อย่างนี้สิสมแล้วที่เป็นน้องรักของพี่ โยเป็นคนเดียวที่พี่ไว้ใจ เรื่องของพี่ทุกอย่างมีโยคนเดียวที่รู้ แล้วพี่ก็เชื่อว่าโยจะไม่มีวันหักหลังหรือหันหลังไปจากพี่ใช่ไหม"

"ครับพี่ ผมไม่มีวันหักหลังพี่แน่นอน ชีวิตของผมเป็นของพี่แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดจนกว่าผมจะหมดลมหายใจเลยครับ"

ไม่ต้องแปลกใจที่โยจะยึดติดกับผม นอกจากจะเป็นพี่น้องกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ผมยังเป็นผู้ชายคนแรกของโย ผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิต ถึงแม้ตอนนี้โยจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วแต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถึงเราจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางร่างกายหลังจากผมเรียนจบ แต่ความรักความเทิดทูนบูชาที่โยมีให้ผมยังคงเหมือนเดิมเสมอจนถึงวันนี้และผมรู้ว่าโยจะไม่เปลี่ยนใจตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่บนโลก หัวใจของโยคือของผม ชีวิตโยอยู่ในกำมือผม
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่8 #หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 10-05-2017 11:42:32
จอั่ยย่ะ ใหญ่นี่น่ากลัวกว่าที่คิด
ไม่กะคบกับนายเอกแบบคู่รักธรรมดาเลยซินะ
นี่จะพาไปขังไว้ในป่าหรือเปล่า

แต่ความรู้สึกเหมือนเดียวเด็กใหม่จะทำเรื่องยุ่งให้แต่ๆ
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่8 #หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 10-05-2017 14:54:16
 :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่8 #หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 10-05-2017 16:31:17
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่8 #หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 10-05-2017 19:46:22
มีความรู้สึกเหมือนพี่ใหญ่หลอกใช้โยอ่ะ แย่จัง
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่8 #หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 10-05-2017 21:06:22
โรคจิต9 เที่ยวทะเลลั้นลา


Part รัน


หลังจากวันนั้นที่พี่ใหญ่สารภาพว่าชอบก็ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาผมใจจดจ่ออยู่กับพี่ใหญ่ตลอดเวลา คอยลุ้นทุกวันว่าพี่เขาจะหายหน้าไปจากผมวันไหนหลังจากที่สองสามวันแรกผมกับพวกเพื่อนๆแอบติดตามดูชีวิตประจำวันของพี่เขาอย่างเงียบๆ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างดูปรกติ พี่ใหญ่โทรมาหาผมวันละสองครั้งคือช่วงเวลาก่อนเที่ยงและก่อนนอน การที่พี่เขายังแวะเวียนมาหาและโทรหาผมทุกวันอย่างสม่ำเสมอนั่นก็ช่วยเป็นเครื่องการันตรีให้ผมว่าพี่เขายังอยู่ดีไม่ได้หายเงียบไปเหมือนคนก่อนๆ

Rrrrrrrrrrrrr

บ่ายวันนี้หลังจากที่ผมรอสายโทรศัพท์เก้อโดยที่ช่วงเที่ยงพี่เขาไม่ได้โทรเข้ามาเหมือนทุกวันในขณะที่ผมกำลังนั่งมองโทรศัพท์แบบเซ็งๆนั้นเสียงเรียกเข้าของพี่ใหญ่ก็โทรเข้ามา

"สวัสดีครับพี่ใหญ่ทำไมวันนี้โทรมาผิดเวลาล่ะครับ"

"ครับรันรอโทรศัพท์พี่อยู่หรอขอโทษทีนะวันนี้พี่ติดประชุมด่วนพอดีตอนแรกนึกว่าจะจบทันก่อนเที่ยงแต่ดันลากยาวมาจนบ่ายเลย"

"เหรอครับ แล้วพี่ใหญ่ทานมื้อกลางวันรึยัง"

"ยังเลยครับพึ่งเลิกประชุมเสร็จพี่ก็โทรหารันก่อนเลย คิดถึงอยากได้ยินเสียง"

'-////-'

"หูยจะให้ผมเขินให้ตายเลยใช่ไหมเนี่ย"

"หึหึ พี่ชอบเวลารันเขิน น่ารักดีนี่นา"

"ผมเขินแรงนะจะบอกให้รอบที่แล้วไม่เข็ดอีกเหรอ"

"ครับก็พอได้อยู่นะถ้าพ่นน้ำเปล่าไม่มีผักอะไรติดออกมาด้วย"

"ฮ่าๆ พี่พูดซะผมนึกภาพออกเลย พี่ไปหาอะไรทานเถอะครับบ่ายมากแล้ว"

"พี่อยากทานฝีมือรันจัง เย็นนี้พอจะมีเวลาว่างทำให้พี่ทานได้ไหม"

"เย็นนี้เหรอครับ ก็พอได้อยู่แต่ผมออกตัวก่อนเลยนะว่าไม่เก่งเท่าไหร่"

"ไม่ต้องอะไรมากหรอกแค่ข้าวไข่เจียวก็ได้ขอแค่รันเป็นคนทอดให้พี่ทานก็พอ"

"ผมไปทำงานดีกว่าไม่คุยกับพี่ใหญ่แล้วชอบหยอดอยู่เรื่อยผมไม่ใช่ขนมครกนะไม่ต้องหยอดเยอะ"

"หึหึ ครับงั้นเย็นนี้เจอกันนะ พี่คงไปถึงช่วงหกโมงกว่าทำกับข้าวรอพี่ไปพลางๆนะครับคนดี"

ผมกดวางสายทันทีกดโทรศัพท์ไว้แนบอกอมยิ้มจนแก้มปริไม่ไหว ตั้งรับมุขที่พี่ใหญ่ขยันเอามาป้อผมไม่ทัน ไม่รู้เก็บกดหรือไงใส่ซะผมเขินไปหมดแล้ว

แล้วเรื่องราวระหว่างผมกับพี่ใหญ่ก็ผ่านมาร่วมสองเดือน ชีวิตของผมสองเดือนที่มีพี่ใหญ่เข้ามาในชีวิตต้องบอกว่ามันดีมากจริงๆ ทุกอย่างมันดูเรียบง่ายมีความสุขเราทานข้าวเย็นด้วยกันแทบทุกวันที่ว่างเที่ยวกันบ้างในวันหยุดผมยังไม่ได้ตกลงคบกับพี่เขานะครับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีมากแล้วไม่รีบร้อนไม่เร่งเร้า

หลังจากผ่านสองอาทิตย์แรกไป ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นทุกอย่างปรกติ ผมและเพื่อนเลิกสงสัยและติดตามไม่ว่าสิ่งที่พี่ทอร์ชพูดจะจริงหรือเปล่าถึงวันนี้มันคงไม่สำคัญสำหรับผมอีก

และวันนี้เป็นวันหยุดของเราสองคน ผมกับพี่ใหญ่นัดกันมาเที่ยวทะเลแบบค้างคืนสองคืนด้วยกันสองต่อสอง ผมตื่นเต้นมากแทบจะเป็นที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ผมไม่รู้ว่าสองคืนที่เราต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างไหม ถึงผมจะซิงไม่เคยผ่านมือใคร แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว เรื่องแบบนี้ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากจะมีอะไรกับพี่เขาหรอกนะ แต่อุปกรณ์ทุกอย่างสำหรับทำรักกันผมเตรียมพร้อมหมด คิงเอามายัดไว้ให้ผมใต้กระเป๋าลึกๆเลยพร้อมประโยคเด็ดที่ว่า

'ไม่อยากโดนแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่โดนแค่เผื่อไว้เกิดสถาการณ์จริงมันเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องเซฟเซ็กส์กันบ้าง'

'ติ๊งต่อง'   กำลังคิดถึงเรื่องเซฟเซ็กส์เพลินๆเสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น พี่ใหญ่คงจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว

'แกร๊ก!!'  ผมเปิดประตูมาเจอพี่ใหญ่ยืนส่งยิ้มหล่อมาให้ผมเหมือนมีลมความหล่อมากระแทกเบ้าหน้าจังๆ(หล่อไรนักหนาเนีืย)พี่เขาหล่อมากจริงๆเสื้อสีขาวสวมทับด้วยเสื้อแขนยาวลายทางสีฟ้าอ่อนๆ กางเกงสามส่วนสีขาว รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังสีขาวสลับฟ้า ฮ่อออออ

โคตรดูดีดูเด็กกว่าอายุจริงมาก ดูสะอาดสะอ้านถ้าวันนี้ผมควงพี่เขาเดินคงชูคอได้ยาวเหมือนยีราฟเลย

"รันเป็นอะไรรึเปล่า"

"หะ ปะ...เปล่าครับกำลังตะลึงความหล่อของพี่ใหญ่อยู่ วันนี้หล่อสุดๆไปเลยครับ" ผมชมไปตามตรงแถมยกนิ้วโป้งให้พี่เขาอีกต่างหาก  สิ่งที่พี่ใหญ่ตอบรับมาคือรอยยิ้มเขินๆ ยกมือมาจับต้นคอ โอ้ย พอเถอะครับผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

"รันก็น่ารักมากๆเลยวันนี้"  ผมก้มมองดูตัวเองจะว่าไปวันนี้เหมือนเราจะนัดกันใส่เสื้อผ้ากรายๆเลย ผมใส่เสื้อคอวีสีฟ้าอ่อน กางเกงสีครีมสว่างๆ รองเท้าผ้าใบสีขาว พร้อมเป้สะพายหลังหนึ่งใบ

"ฮ่าๆผมว่าเราเลิกยอกันเองแล้วไปกันดีกว่าครับ เดี๋ยวจะไปถึงสายเกิน"

ที่ๆพวกผมมากันคือหาดทรายแก้วจังหวัดระยอง ไม่ไกลมากแค่ ชลบุรีไประยอง

เมื่อมาถึงที่พักที่พี่ใหญ่จองไว้เรียบร้อย พี่ใหญ่ก็ทำการเชคอิน ผมจึงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ไม่ไกลจากพี่เขานัก

"รันปะเดี๋ยวพนักงานจะพาเราไปที่บ้านพักที่จองไว้"

"ครับ"

ระหว่างทีเดินกันอยู่นั้นบรรยากาศดีวิวสวยมากๆพนักงานเดินนำเราไปยังบ้านพัก ผมรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ตอนมาจนถึงตรงนี้ แล้วผมจะตื่นเต้นแค่ไหนกันนะถ้าได้อยู่กับพี่ใหญ่สองต่อสองในบรรยากาศแบบนี้ผมไม่อยากจะคิดเลยแหงนหน้าขึ้นไปมองก็เห็นแววตาส่องประกายของพี่ใหญ่พร้อมรอยยิ้มส่งมาให้ ก็นะไม่รู้จะทำยังไงเลยยกมือขึ้นมาเกาจมูกแก้เขิน เมื่อพนักงานเปิดบ้านให้เราเรียบร้อยแล้ว จากนี้ก็เหลือแค่สองคนจริงๆ

"ว้าว ที่นี่สวยมากๆเลยครับพี่ใหญ่บรรยากาศดีทะเลก็ใสบ้านพักก็สวยมองเห็นทะเลด้วยพี่ใหญ่เลือกที่พักเก่งมากเลยครับ"

"รันชอบพี่ก็ดีใจ เดี๋ยวเราเอาของไปเก็บในห้องกันก่อนดีกว่าครับที่นี่มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ รันเลือกเลยครับว่าจะอยู่ห้องไหน มองเห็นวิวทะเลทั้งสองห้องเลย"

"ห๊ะ นอนคนละห้องเหรอครับ" ผมเผลอพูดออกไปคือไม่ใช่ผิดหวังอะไรนะ แต่แบบผมแค่อยากนอนเตียงเดียวกับพี่เขามากกว่า(ไม่ได้จะอ่อยนะ) ผมไม่ชอบนอนคนเดียวในที่ๆไม่คุ้นชิน เวลาไปค้างที่ไหน ถ้าต้องนอนคนเดียวผมมักจะนอนไม่หลับเสมอ

"หืม กลัวเหรอถ้ากลัวนอนห้องเดียวกับพี่ก็ได้นะถ้ารันไม่รังเกียจที่มีพี่ร่วมเตียง"

"เอ่อ... ไม่มีอะไรครับนอนแยกห้องก็ได้ ผมไม่ได้รังเกียจพี่นะครับ"

เล่นตัวนิดนึงเดี๋ยวเขาจะหาว่าเราอยากถวายตัวให้ อีกอย่างถ้าพี่เขาเลือกสองห้องแสดงว่าเขาคงอยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างหละ ก็เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นา

"ใจจริงพี่อยากเลือกที่มีห้องเดียวนะ แต่พี่กลัวรันจะอึดอัดที่ต้องนอนเตียงเดียวกับพี่"

"ไม่อึดอัดหรอกครับพี่ใหญ่ไม่ต้องคิดมาก เรามาเที่ยวกันสองคน ตามสบายมาผ่อนคลายไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกครับ"

"ครับ"

ตอนนี้ผมกับพี่ใหญ่แยกกันเอาของมาเก็บในห้องของตัวเอง

Rrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ผมมีสายเข้าจึงหยิบขึ้นมาดู   'คิง'

"ว่าไงคิง"

'ว่าไงอะไรหละจ๊ะถึงไหนกันแล้ว'

"พึ่งถึงที่พักเนี่ยกำลังเอาของเก็บอยู่ในห้อง"

'กูไม่ได้ถามว่ามึงเดินทางถึงไหนกันแล้ว แต่กูหมายถึงว่ามึงกับพี่ใหญ่อ่ะ ถึงไหนกันแล้วเอ่ย มีซัมติงกันยังกูโทรมาขัดจังหวะอ๊ะเปล่า'

"มีซัมเตี่ยมึงสิคิง คนพึ่งจะมาถึงแถมนอนคนละห้องกันด้วย มึงอย่าลุ้นให้เหนื่อยเลย"

'อ่าวไหงนอนคนละห้องล่ะ'

"พี่ใหญ่เขาไม่กล้าจองบ้านห้องเดี่ยวกลัวกูอึดอัดใจ"

'โหเป็นพระเอกหลุดมาจากซีรีย์เกาหลีเรื่องไหนวะ เป็นกูหน่อยไม่ได้จะนอนห้องเดียวกันแล้วจับกดตั้งแต่วินาทีแรกที่ไปถึงเลย'

"มึงโทรไปหื่นใส่ไอ้แมนเถอะไป ไม่ต้องมาหื่นใส่กูเลยมีอะไรอีกรึเปล่า ไม่มีกูจะได้วางยังจัดเสื้อผ้าไม่เสร็จเลย"

"เดี๋ยวนะ ทำไมมึงต้องให้กูโทรไปหื่นใส่เชี่ยแมนด้วยหละ กูแค่โทรมาถามข่าวคราวมีคนรอเผือกอยู่โว้ย ยังไงมึงก็ถ่ายรูปมาให้พวกกูดูเยอะๆละกัน แล้วกูก็ขออวยพรให้มึงได้พี่ใหญ่เป็นผัวคืนนี้เลยนะเพื๊อนนนน  โชคดี บาย"

"ไอ้... อ่าวตัดสายไปแล้ว ห่าอวยพรมาได้"

ไม่รู้จะมาสะกิดต่อมผมทำไมสงสัยคืนนี้ผมนอนไม่หลับแหงๆเลย เห้อ
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่9#หน้า (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: The Empress ที่ 10-05-2017 21:48:23
แงงงง สั้นจัง มาต่อเร้วๆน้าา
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่10#หน้า 1(10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 11-05-2017 08:29:16
โรคจิต10 เป็นแฟนกันเถอะ

Part ใหญ่

วันนี้ผมพารันมาเที่ยวเขาน่ารักมากๆแววตาดูมีความสุขสดใสตลอดเวลาแต่เมื่อมาถึงที่ห้องพักตอนที่บอกให้รันเลือกห้อง คนดีของผมหน้าเสียไปเลยผมสังเกตได้และผมก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เขาไม่ชอบการนอนคนเดียวในที่ๆไม่คุ้นเคย ที่จริงผมจะเลือกที่พักที่มีแค่ห้องเดียวผมก็ทำได้และรู้ว่ารันเต็มใจนอนร่วมเตียงกับผมแน่นอน ผมแค่อยากทำให้เขารู้สึกเหมือนเขามีตัวเลือกและผมไม่ได้ล้ำเส้นก็เท่านั้น แต่เชื่อสิว่าถึงยังไงรันก็ต้องนอนห้องเดียวกับผมอยู่ดี

หลังจากที่เราเก็บข้าวของกันเสร็จเรียบร้อยผมพารันออกมาทานข้าวกลางวันที่ร้านอาหารของรีสอร์ท วันนี้อากาศดีมากแดดไม่แรงหลังจากนั้นเราจึงเดินย่อยอาหารและนั่งพักที่เก้าอี้ชมวิว

"รันทานน้ำอะไรไหมเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้ครับน้ำมะพร้าวไหมพี่เห็นร้านของทางรีสอร์ทวางขายอยู่ "

"น้ำมะพร้าวก็ได้ครับ"

"รันนั่งทาครีมอยู่ที่นี่ห้ามไปไหนนะเดี๋ยวพี่รีบไปรีบมาไม่นานหรอก"

"ครับ"

ผมลุกเดินออกจากจุดที่เรานั่งเล่นกันเพื่อขึ้นไปซื้อน้ำมะพร้าวสำหรับเราสองคน ระหว่างที่ผมซื้อเสร็จกำลังจะเดินกลับลงไปทางชายหาดผมมองผ่านไปเห็นร้านขายของที่ระลึก สายตาผมสะดุดกับสร้อยลายพระอาทิตย์กับพระจันทร์สองเส้นคู่กันที่แขวนโชว์อยู่หน้าร้าน ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดู

"สวัสดีค่ะคุณผู้ชายสนใจสร้อยทองคำขาวคู่นี้เหรอค่ะ สวยมากเลยเป็นลายที่พึ่งมาใหม่เมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เองค่ะ"

"ผมขอดูหน่อยได้ไหม"

"ได้ค่ะสักครู่นะคะ"

ผมมองสร้อยพระอาทิตย์กับพระจันทร์มันมีดีไซน์สวยงามจริงสร้อยรูปพระจันทร์ถ้าได้อยู่บนต้นคอขาวๆของรันคงสวยงามน่าดู

"ผมเอาสร้อยคู่นี้"  ผมไม่สนใจถามราคาด้วยซ้ำว่ามันเท่าไหร่ ในเมื่อมันถูกใจแพงแค่ไหนผมก็ซื้อได้ผมส่งบัตรเครดิตให้พนักงานรับไปจัดการ

"ช่วยเร็วหน่อยนะครับแฟนผมรออยู่"

"ค่ะจัดใส่กล่องครู่เดียวค่ะคุณลูกค้า"

แล้วผมก็เดินออกจากร้านพร้อมมะพร้าวสองลูก ผมให้พนักงานใส่สร้อยไว้ในกล่องใบเล็กขนาดใหญ่กว่ากล่องของแหวนไม่มาก ผมไม่อยากให้รันเห็นว่าผมซื้ออะไรมาให้เขา  แต่ขณะที่ผมกำลังเดินลงไปยังชายหาด ผมเห็นรันนั่งอยู่ที่เดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือมีผู้ชายคนหนึ่งยืนถือลูกบอลชายหาดคุยกับรันของผมอยู่ 'โถ่เว้ยเผลอไม่ได้เลย' ผมรีบเดินจ้ำไปอย่างเร็วแล้วหยุดยืนอยู่ข้างๆตัวรันมองไอ้ผู้ชายคนนั้นด้วยอารมณ์คุกรุ่น

"คุยอะไรกัน" น้ำเสียงบ่งบอกได้เลยว่าตอนนี้อารมณ์ผมไม่ดีเท่าที่ควร

"เอ่อ...ไม่มีอะไรครับพี่ใหญ่ เต้เขาเล่นบอลชายหาดอยู่กับเพื่อนแล้วกระเด็นมาทางนี้ครับเขามาเก็บลูกบอลเห็นผมอยู่คนเดียวก็เลยชวนคุยเฉยๆ"

"ครับผมเห็นนั่งอยู่คนเดียวเลยว่าจะชวนไปเล่นบอลด้วยกัน ไปไหมครับ รันกับพี่...."

'เยี่ยมไปแค่ไม่นานรู้จักชื่อแซ่กันเรียบร้อย'

"อ่อนี่พี่ใหญ่นะ พี่ใหญ่นี่เต้ครับ"

"สวัสดีครับพี่ใหญ่ ไปเล่นด้วยกันไหมครับ รันเล่นไหมป่ะ"

"พี่ใหญ่ไปเล่นกับพวกเต้กันไหมครับ"

'ไม่อยากไปอยากฉุดเด็กกลับห้องมากกว่า' ได้แต่คิดชีวิตจริงพูดไม่ได้

"รันอยากเล่นเหรอ"

"ก็น่าสนุกดีครับไปเล่นกันสักพักค่อยลงเล่นน้ำนะ"

ผมพยักหน้าตามอย่างเสียไม่ได้ ทั้งๆที่ในใจอยากจะลากรันกลับห้องแทบแย่ ผมปล่อยให้รันไปเล่นบอลชายหายกับพวกนั้น มากันเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้ชายแปดผู้หญิงสี่ ผมนั่งเฝ้ารันอยู่ใกล้ๆไม่อยากเล่นและไม่มีอารมณ์จะมาเล่นเลยบอกตรงๆใกล้ๆกับผมมีผู้ชายสองคนกับผู้หญิงสองคนนั่งดูอยู่ด้วยกัน บ้างก็ชวนคุยอ้อล้อกับผมทั้งตัวผู้ตัวเมีย น่ารำคาญที่สุดโดนเฉพาะพวกผู้หญิงผมไม่มีอารมณ์คุยกับใครหน้าไหนทั้งนั้นสมาธิผมจดจ่ออยู่ที่รันคนเดียว อารมณ์ผมกำลังไม่คงที่เพราะสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้ารันดูมีความสุขแต่ผมกำลังปะทุในอีกไม่นานนี้ ก็ไอ้เหี้ยคนที่มาชวนรันเล่นบอลชายหาด รู้สึกว่ามันจะจ้องรอชาร์จรันตลอดเวลารันล้มก็เข้าไปประคองรันเหงื่อออกออกเอามือสกปรกของมันเข้าไปปาดเหงื่อให้ ส่งน้ำ ส่งส้นตีนอะไรนักหนา ผมอยากจะพุ่งไปต่อยมันให้ร่วง แต่ผมมองหน้ารัน ถ้าผมเข้าไปทำแบบนั้นรันต้องไม่พอใจแล้วทุกอย่างอาจจะพังซึ่งผมไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้แน่ ผมคงต้องเดินหนีไปสงบสติอารมณ์ที่อื่นสักเดี๋ยว ขืนนั่งดูอยู่แบบนี้ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน แล้วผมก็ลุกขึ้นเดินหันหลังขึ้นไปทางโซนเก้าอี้ไม้ทางด้านบนไม่สนใจเสียงเรียกเจื้อยแจ้วของบรรดาสาวๆหนุ่มๆที่มานั่งห้องล้อมผมสักนิด ทั้งหงุดหงิดและน่ารำคาญ ขอไปตั้งสติก่อนค่อยว่ากัน

ระหว่างที่ผมกำลังมองหาที่นั่งไม่ไกลจากตรงที่รันเล่นบอลเพื่อสงบสติอารมณ์ ผมได้ยินเสียงรันเรียกผมแว่วๆตามมา อ่า!! ผมหาวิธีให้รันเลิกไปเล่นกับไอ้พวกนั้นได้แล้ว ผมจึงเลือกที่จะเดินดุ่มๆกลับไปยังบ้านพัก



Part รัน

ผมกำลังเล่นบอลกับเพื่อนใหม่สนุกๆอยู่เลย แล้วผมก็ได้ยินเสียงแว่วมีคนเรียกชื่อพี่ใหญ่ ผมหันไปมอง อ่าว!!  เดินไปโน่นแล้ว

"พี่ใหญ่ไปไหนเหรอครับ"   ผมหันไปถามพวกที่นั่งรวมอยู่กับพี่ใหญ่

"ไม่ทราบค่ะ อยู่ดีๆก็ลุกแล้วเดินไปเลย"

"อ่อเหรอครับ งั้นผมขอตัวไปตามพี่ใหญ่ก่อนนะครับ ขอบคุณที่ให้เล่นด้วยนะทุกคน สนุกมากเดี๋ยวผมขอไปดูพี่ใหญ่ก่อน อาจจะลงมาเล่นใหม่"

เมื่อผมลาทุกคนเสร็จจึงรีบวิ่งตามพี่ใหญ่มา โอ้ย ทำไมเดินไวแท้เห็นหลังไวไว หายไปไหนแล้ว สงสัยจะเดินกลับไปที่บ้านพัก  หรือว่าพี่เขาอาจจะปวดอึก็เป็นได้ไหนๆก็เดินจะถึงที่พักแล้วเข้าไปดูหน่อยดีกว่า แล้วผมก็เปิดประตูเข้าไปเห็นรองเท้าพี่ใหญ่ถอดวางอยู่แสดงว่าเข้ามาที่นี่จริงๆ อ่าวกลางห้องไม่อยู่แสดงว่าอยู่ในห้องนอนหรือจะปวดอึจริงๆอยากที่ผมคิด จะเข้าไปห้องนอนดีไหมหว่า จะดูน่าเกลียดไหม งั้นลองเคาะประตูดูก่อนแล้วกัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"พี่ใหญ่ครับอยู่ในห้องหรือเปล่า"

"เข้ามาได้เลยพี่ไม่ได้ล็อค"

"พี่ใหญ่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ปวดท้องเหรอผมเห็นรีบเดินกลับมา"

เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ผมเลยถือวิสาสะเดินเข้าไปใกล้กว่านี่

"พี่ใหญ่เป็นอะไรครับ ดูหน้าเครียดๆมีปัญหาอะไรหรือเปล่า หรือมีใครพูดอะไรให้พี่ไม่พอใจครับ"

"พี่ขอโทษ ไม่มีใครพูดอะไรแย่ๆหรอกแต่เป็นพี่เองที่รู้สึกแย่ๆเลยเดินเลี่ยงออกมา"

ผมนั่งลงข้างพี่เขาทันทีอะไรทำให้พี่เขารู้สึกแย่นะ

"ทำไมครับพี่ใครทำอะไรให้พี่รู้สึกแย่บอกผมได้ไหม"

พี่ใหญ่เงยหน้ามาสบตากับผมแววตาเขาดูอึดอัดใจไม่น้อย

"คือ...มันอาจฟังดูงี่เง่านะพี่เห็นรันมีความสุขพี่ก็ดีใจแต่พี่หึงรันน่ะ"

" ห๊ะ!! หึง หึงผมเหรอครับ ทำไมถึงหึง ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ"

"รันไม่ผิดหรอกแต่ไอ้คนที่ชวนรันไปเล่น พี่ไม่ชอบเลยสายตาท่าทางที่มันมองรัน พี่มองอยู่มันจะอยู่ใกล้รันตลอดคอยช่วยประคอง เช็ดเหงื่อ พูดคุยเข้าใกล้ส่งน้ำส่งท่าหาทางอยู่ใกล้จนมากไป พี่เห็นแล้วหงุดหงิดเลยเดินออกมาปรับอารมณ์ที่ห้องก่อน"

อ่อแบบนี้นี่เอง ถึงผมจะรู้สึกหน่อยๆนะว่าเต้เข้ามาประชิดผมตลอด แต่ด้วยความที่ไม่คิดอะไรผมเลยไม่สนใจ แต่พี่ใหญ่คงมองอยู่ตลอดเวลาสินะ

"พี่ขอโทษนะครับ พี่รู้ว่าพี่ไม่สมควรหึงแต่พี่ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆ"

"หึงก็บอกว่าหึงถูกแล้วนี่ครับ"

"แต่พี่ไม่มีสิทธิ์ พี่เป็นแค่ผู้ชายที่กำลังจีบรัน พี่ยังไม่ใช่แฟนรันพี่ควรเก็บอารมณ์มากกว่านี้ ไม่ควรแสดงอาการออกมาเลย"

"นั่นสินะครับ พี่ไม่มีสิทธ์จริงๆ ก็พี่ยังไม่ได้ขอผมเป็นแฟนนี่นา จะมาหึงได้ยังไง"

ผมใช้คำตอบแบบปลายเปิด จะพูดตรงๆก็เขินเหมือนกัน หวังว่าพี่เขาคงจะหัวไวคิดทันนะ พูดจบผมเลยลุกขึ้นหย่อนคำพูดให้เขาคิดแล้วจะเดินออกไปรอข้างนอก

พรึบ!! "อ๊ะ"  ผมอุทานมาด้วยความตกใจกำลังว่าจะให้เวลาพี่แกคิดแล้วลุกออกไปรอด้านนอก แต่พอยืนขึ้นแค่นั้นพี่ใหญ่ก็กอดเอวผมจากด้านหลังทันที

"รันถ้าเราเป็นแฟนกันพี่จะมีสิทธ์หึงหวงคนของพี่ได้เต็มที่ใช่ไหม"

"กะ...ก็คงอย่างนั้นมั้งครับ"

"รันเป็นแฟนกับพี่ได้ไหม"

ฉ่า (-////////-)  หูผมไม่ได้ฝาดใช่ไหมพี่ใหญ่ขอผมเป็นแฟน ด้วยความที่กำลังเขินพี่ใหญ่ค่อยๆจับตัวผมให้หันหน้าไปหาเค้า

"นะเป็นแฟนกับพี่นะครับ"

โอ้ยเขินจะแย่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าพี่เขาเลยพูดไม่ออกจริงๆ พี่ใหญ่จับปลายคางผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบตาผมพยายามขนความกล้าทั้งหมดที่มีเงยหน้าไปมองจ้องตากับพี่เขา พระเจ้าปรกติก็หล่อจะตายชักอยู่แล้ว ดูหน้าตอนนี้สิครับสายตาหวานฉ่ำดูอ้อนวอนจนผมทำอะไรไม่ถูกไปหมดแล้ว อยากจะตอบตกลงใจแทบขาด แต่ตอนนี้ใบ้แดกพูดไม่ออกจริงๆหน้าผมตอนนี้คงจะต้องแดงเป็นตูดลิงไปเรียบร้อย เพราะมันร้อนวูบวาบไปหมด

"ทำไมไม่ตอบพี่หละครับ ไม่ต้องกลัวคำตอบ ไม่ว่าตกลงหรือปฏิเสธพี่จะยอมรับทุกอย่าง"

"ครับ" อ้อมแอ้มตอบไปแล้วด้วยเสียงที่แผ่วจนเหมือนจะหมดแรง

"อะไรนะพูดใหม่ได้ไหมพี่ไม่ทันฟัง"    โอ้ย เขินตัวจะแตกแล้วช่วยกรุณาเข้าใจกันหน่อยเถอะครับ ไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้หรอก เดี๋ยวขอรวบรวมพลังชีวิตมาตอบอีกรอบ

"ครับ"

"ครับ คือ?"

เหอะๆ ครับคือครับไงพี่ จะไล่ต้อนผมทำไมเนี่ย

"คือตกลงไง แล้วก็เลิกถามคำถามผมสักทีผมเขิน"

"หึหึโอเคงั้นไม่ถามแต่อยากจูบงั้นพี่จูบเลยนะ"

ทันทีที่พี่ใหญ่พูดจบ เค้าก็ก้มลงมาใกล้ขึ้นและปากของเรากำลังจะสัมผัสกัน ผมตื่นเต้นมากๆหลับตาปี๋เมื่อปากของเราแตะกันมันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าผ่านมาทางสัมผัสนี้พี่ใหญ่ค่อยๆกดจูบลงมาอย่างแผ่วเบา เขากำลังไล้ปากขึ้นลงแล้วกดจูบลงมา

พี่ใหญ่ค่อยๆส่งลิ้นร้อนๆเข้ามาตามไรฟัน ผมกำลังตัวสั่นสองมือกำเสื้อที่หน้าอกพี่ใหญ่จนยับย่น ค่อยๆเผยอปากรับลิ้นร้อนๆของพี่เขาเข้ามา แค่ผมเปิดปากเท่านั้นลิ้นของพี่ใหญ่ก็เกี่ยวกวัดลิ้นของผมตอนนี้มันกำลังเพิ่มความวาบหวามในจิตใจของผม จูบของพี่ใหญ่มันชวนให้รู้สึกมวลท้องไปหมด เหมือนกับเขาจะกลืนกินผมเขาไปให้ได้ เราจูบกันอยู่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่ผมเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก เหมือนพี่ใหญ่จะรับรู้เขาค่อยๆผละออกจากผม จากนั้นผมก็สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ นี่แค่จูบนะยังรู้สึกเหนื่อยและสูญเสียพลังงานมากขนาดนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรปากของพี่ใหญ่ก็บรรเลงจูบเร่าร้อนมาให้ผมอีกครั้งและอีกครั้ง ผมกำลังมึนเมาในรสจูบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น พี่ใหญ่ผละออกจากปากของผมอีกรอบแต่คราวนี้ไม่ใช่การหยุดเข้าค่อยๆซุกไซ้ซอกคอของผมอย่างหิวกระหาย ทั้งกัดและขบเม้น ผมรู้สึกทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกัน ปากอยากจะบอกว่าอย่าให้เขาทำรอย แต่ตอนนี้ผมคิดคำพูดอะไรไม่ออกเลยสักอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่11#หน้า1 (10/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 11-05-2017 08:33:01
โรคจิต11 ความรักผลิบาน

Part รัน


อื้อ...พี่ใหญ่ อื้อ พอก่อนครับ"   ผมพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แต่เหมือนพี่ใหญ่จะไม่สนใจคำพูดผมเท่าไหร่ ยังคงตะโบมซุกไซ้ซอกคอไม่ยั้ง ไล่เลื้อยลงมาเรื่อยๆที่หน้าอกจุดพีค พี่ใหญ่ค่อยๆแทะเล็มตุ่มไตบนหน้าอกของผม ผมเริ่มไม่ไหวแล้วทั้งจั๊กกะจี้ทั้งเสียวไปหมด หายใจไม่ทั่วท้องเลย นี่ผมจะโดนปล้นสวาทตั้งแต่ตะวันยังแยงหัวแบบนี้เลยเหรอ

ผมกำลังมัวเมาในสิ่งแปลกใหม่ที่พี่ใหญ่ส่งมาให้กางเกงของผมหลุดออกไปแล้วเหลือเพียงปราการด่านสุดท้ายคือกางเกงในสีเทาของผมและมันกำลังจะถูกคนมือบอนรูดออกไป

"เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนครับพี่ คือผม"  ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อพี่ใหญ่ก็เงยหน้าขึ้นมาจูบผมอีกรอบพร้อมดึงกางเกงในของผมเหวี่ยงกระเด็นทันที คนอะไรมือไวปานวอก

"ไม่ต้องกลัวนะครับคนดี แค่ภายนอกเท่านั้น"  พี่เขาพูดหลังจากจูบผมจนหนำใจแล้วก็ค่อยๆใช้ลิ้นลากลงมาเรื่อยๆ ยังต้นคอหน้าอกลงมาถึงช่วงท้อง ผมขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัว พี่ใหญ่ใช้มือค่อยๆรูดแก่นกายของผมที่มันตั้งชูชันเย้ยสายตาเขาอยู่ มันน่าอายมากจริงๆนะเกิดมาผมไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนมาเห็นรันน้อยของผมเลยสักคน แล้วสิ่งที่ทำให้ความอายของผมพุ่งขึ้นไปถึงขีดสุดของชีวิต พี่ใหญ่ค่อยๆใช้ปากของเขาครอบลงมาที่แก่นกายอันแสนฉ่ำของผม

"ฮึก อื้อ พี่ใหญ่ ไม่ ไม่เอาครับพี่มันสกปรก"

"ให้พี่ช่วยนะ คนดีของพี่สวยงามมากที่สุดไม่มีส่วนไหนที่สกปรกเลยสักนิด"

"อ้า   อ้า ฮึก พอก่อนครับ ผม...เสียว"   ผมพยายามกลั้นเสียงครางเต็มที่ แต่ทนไม่ไหวจริงๆ มันเสียวมากจนผมมวลท้องปั่นป่วนไปหมดแล้ว พี่ใหญ่เริ่มขยับปากขึ้นลงด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น และผมก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันเต็มที่

"อื้อ...พี่เอาปากออกก่อน อ๊าผม...จะเสร็จแล้วเอาออกก่อนเดี๋ยวเลอะ"

"ปล่อยมาเลยไม่ต้องอั้น"

"ฮึกอื้อออ"   แทนที่พี่ใหญ่จะหยุดเขากลับยิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นผมพยายามจะกลั้นไว้เต็มที่อยากจะถอยหนีแต่ทำไม่ได้

"ฮ๊ะ จะออกแล้ว อ๊ะอ๊า  ออกแล้ว"   ตัวผมกระตุกรัวๆพร้อมกับปล่อยน้ำรักของตัวเองใส่ปากพี่ใหญ่อย่างสุดกลั้น ผมกลัวพี่ใหญ่จะขยะแขยงที่ต้องกินน้ำรักของผม ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะรู้สึกดีไหมที่ผมพ่นใส่ปากเค้าแบบนั้น แต่สิ่งที่ผมเห็นคือพี่ใหญ่ค่อยๆดูดเลียและกลืนกินน้ำรักของผม เลียทุกซอกทุกมุมเหมือนกับว่ามันเป็นน้ำหวานอันโอชะที่ไม่อาจให้ร่วงหล่นได้เลยสักหยดเดียว

"อื้อ พอแล้วครับเลิกดูดได้แล้วมันเสียว"  พี่ใหญ่ผละจากแท่งร้อนของผมที่ตอนนี้มันกลับคืนสู่สภาพเดิมกลายเป็นหนอนชาเขียวตัวจ้อยไปเรียบร้อยแล้ว

"พี่ใหญ่ไปล้างปากเถอะครับ ทำไมถึงกินเข้าไป มันสกปรกนะ"

พี่ใหญ่หอมแก้มผมฟอดใหญ่

"สกปรกที่ไหนกัน น้ำของรันออกจะรสชาติดี ดีซะจนพี่อยากกินมันทุกวันเลย"

จริงเหรอ ผมเคยได้กลิ่นเวลาช่วยตัวเองเสมอคือกลิ่นมันคาวๆมาก รสชาติมันจะดีจริงเหรอ ผมสงสัยไม่เคยกินของใคร จะลองจิ้มของตัวเองขึ้นมาชิมก็ไม่ใช่ที่

"เอ่อ....แล้วจะทำต่อไหมครับคือถ้าทำ ผมขอไปหยิบตัวช่วยในกระเป๋าก่อนได้ไหม"    อายสุดจะบรรยายแต่ไม่พูดก็ไม่ได้ จะทำแบบไม่มีตัวช่วยเลยมันคงเจ็บมากแน่ๆ (เพื่อนคิงเป่าหูมา)

"หึหึ พกตัวช่วยมาด้วยเหรอเรา"

"ป่าวนะครับไม่ได้ตั้งใจพก เพื่อนผมมันยัดเยียดมาให้ต่างหากหล่ะ"

"ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปเอาหรอกวันนี้พอแค่นี้ก่อนพี่พารันมากเที่ยวพักผ่อนอยากให้รันเที่ยวให้เต็มที่ ถ้าพี่ทำตอนนี้รันคงต้องนอนซมอยู่แต่ในห้องพอดีพี่ขอแปะเอาไว้นะกลับไปแล้วเราค่อยมาสานต่อจากวันนี้ก็ยังไม่สายจริงไหม^^ "

ผมกอดพี่ใหญ่ไว้แน่น คนอะไรจะดีป่านนี้นึกถึงความสุขของผมก่อนความสุของตัวเองเสมอ แบบนี้ไม่ให้หลงรักยังไงไหว โคตรหล่อโคตรเทคแคร์เลย

"รันเราเป็นแฟนกันแล้วนะ รันแทนตัวเองว่ารันเวลาคุยกับพี่ได้ไหม ไม่เอาผม"

"ได้ครับ"

"พี่รักรันมากนะครับ พี่เป็นผู้ชายขี้หึงขี้หวงมากๆนะรันเป็นแฟนกับพี่แล้ว ห้ามไปยุ่งกับใครเด็จขาดเข้าใจไหมรักพี่คนเดียวเป็นของพี่คนเดียวนะ"

หลังจากเสร็จภาระกิจปล่อยลูกๆนับล้านลงท้องพี่ใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้ท้องผมกำลังร้องประท้วงว่าหิวข้าว พวกเราเลยตัดสินใจออกไปเดินหาอะไรทานกันผมจึงได้โอกาสลุกออกจากอ้อมกอดของพี่ใหญ่มาเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดรันน้อยของผมสักที ใช้เวลาไม่นานทำความสะอาดร่างกายส่วนร่างเสร็จจึงเดินมาที่อ่างล้างหน้าเพื่อส่องกระจก

"หืมมม(O{}O) โอ้แม่เจ้า คอลายเป็นตุ๊กแกเลย ไม่นะลายขนาดนี้จะกล้าออกไปนอกที่พักได้ยังไงเนี่ย" มิน่าเล่าผมถึงรู้สึกเจ็บๆที่คอจากร่องรอยที่ผมเห็นได้จากตาเปล่า สี่ห้ารอยได้แล้วยิ่งคอผมขาวมันโคตรจะชัดเลย

ผมเดินหน้าบูดออกมาจากห้องน้ำ สภาพแบบนี้แทบไม่อยากออกไปเจอผู้คนเลย

"พี่ใหญ่"

"ครับ"   พี่ใหญ่ขานรับหันมามองหน้าผมแถมส่งยิ้มหล่อๆขยี้ใจ เดินเข้ามากอดเอวผมไว้

'แหมพอได้เป็นแฟนรู้สึกจะถึงเนื้อถึงตัวขึ้นมา10เลเวลเลยนะ'

"เป็นอะไรไปครับคนดี ทำไมทำหน้าบูดแบบนั้น"

"ก็เพราะพี่นั่นแหละดูนี่สิดูๆ รอยเต็มคอรันไปหมดเลย"

"ไหนดูสิ อืมสวย พี่ขอถ่ายรูปได้ไหม"

"เหอะๆ ไม่เอาไม่ให้ถ่ายให้ดูว่าพี่ทำรันเป็นรอยขนาดนี้แล้วจะกล้าออกไปเดินข้างนอนรึเปล่าไม่ใช่ให้มาชื่นชมตลกใหญ่แล้วนะครับ"

"ไม่เห็นต้องอายเลย ดูสิรอยคิสมาร์กจางๆที่คอขาวๆของรันออกจะน่ามอง"  เห้อนอกจากจะไม่สำนึกยังทำท่าละเมอเพ้อพกใส่ผมอีกต่างหาก

"ไปกันเถอะรันหิวข้าวจะแย่ท้องร้องจ๊อกๆแล้วเนี่ย"

ผมพูดตัดบทไปซะ

"รันแล้วจะไม่อึดอัดเหรอติดกระดุมแบบนั้น"

"ก็นิดนึงเพราะใครก็ไม่รู้"

"พี่ขอโทษถ้ารันไม่ชอบคราวหน้าพี่จะไม่ทำอีก"

นั่นทำเป็นตีหน้าเศร้า(เล่าความเท็จอยู่ป่าววะ)

"ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแต่ว่าอายครับ เดี๋ยวมีคนมองเยอะ อีกอย่างไม่เคยมีใครมาฝากรอยไว้ที่คอรันก็เลยไม่ชิน"

"งั้นก็ทำรอยเอาไว้บ่อยๆ พอจางก็ซ้ำเอาไว้ รันเห็นทุกวันจะได้ชิน"

"พี่ก็ดูดคอตัวเองไปสิครับ"

"แล้วพี่จะยื่นปากไปดูดคอตัวเองยังไง แต่ถ้าให้รันดูดให้ก็โอเคนะ"

"โว๊ะ พอเลิกพูด ไปกินข้าวดีกว่า"

"ฮ่าฮ่า"

"ชิ คนขี้แกล้ง"

ผมหันควับไปมองค้อนใส่ แล้วยังไม่วายมาขำใส่หน้าอีก ขี้แกล้งสุดๆผู้ชายคนนี้ อะไรที่ทำให้ผมเขินอายได้นี่ขยันทำจัง

สรุปแล้วเราสองคนก็มาทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารของรีสอร์ท ขณะที่ผมกับพี่ใหญ่กำลังนั่งคุยกันไปเรื่อยๆระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ ผมเห็นกลุ่มของพวกเต้กำลังเดินเข้ามาในร้านเหมือนกัน แล้วเต้ก็หันมาเห็นผมนั่นไงส่งยิ้มเดินตรงดิ่งมาแล้ว พี่ใหญ่นั่งหันหลังให้เขาจึงมองไม่เห็น

"อ่าวรันมาทานข้าวกลางวันที่นี่เหมือนกันหรอ พวกเต้พึ่งเลิกเล่นบอลกันเลยแวะมาหาอะไรกินลองท้องก่อนกลับที่พักเจอรันพอดีเลย"

ผมยิ้มแห้งๆตอบกลับไป ตอนนี้พี่ใหญ่ของผมหุบยิ้มเข้าโหมดหน้าตูมไปเรียบร้อยแล้ว

"รันคืนนี้พวกกลุ่มเต้จะขับรถไปเที่ยวบาร์แถวๆนี้รันสนใจไปเที่ยวกับพวกเต้ไหม ชวนพี่ใหญ่ด้วยนะครับ"

"เอิ่มม ไม่ดีกว่าเต้ พวกเต้ไปเที่ยวกันเถอะคืนนี้เรากับพี่ใหญ่มีโปรแกรมเที่ยวกันแล้ว"

แถไปมั่วๆ โปรกงโปรแกรมอะไรไม่มี๊

"เที่ยวไหนกันหรอ เผื่อสนุกเต้จะได้ขอติดล้อไปด้วย จริงๆแล้วเต้ไม่ค่อยอยากไปเที่ยวบาร์เท่าไหร่"

"ผมว่าคุณไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนนั่นแหละดีแล้ว เพราะผมกับรันเรามาทริปนี้เพื่อมาหาเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองตามภาษาคนรัก โปรแกรมเที่ยวผมคงไม่สนุกสำหรับคุณหรอกเพราะผมไม่ได้ไปไหนไกลแค่คิดไว้ว่าจะใช้เวลาอยู่กับรันที่ห้องทั้งคืนแค่นั้น"

ง้อออ พี่ใหญ่ของผมมาแล้วโหมดขี้หึง ออกตัวแรงมากอยู่ด้วยกันทั้งคืนอะไรกันเล้า แต่ผมก็ชอบนะฟินไปอีก

"เอ่อ...รันกับพี่ใหญ่เป็นแฟนกันเหรอครับ"

"เกรงว่าจะเป็นมากกว่านั้น"

แร๊งงง ผมอยากจะกรี๊ดให้แต๋วแตกไปเลยอารมณ์โดนคนรักหวงมันดีอย่างนี้นี่เอง ไม่ต้องพูดอะไรให้มากนั่งเก๋ๆคอยส่งยิ้มให้พี่ใหญ่จัดการทุกอย่างให้

"ครับขอโทษที่มาขัดจังหวะคู่รัก รันงั้นเต้ขอตัวไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกัน"

แล้วเต้ก็เดินลิ่วกลับไปที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อนทันที

"หึหึ ไว้ค่อยเจอกันงั้นเหรอ ไอ้เด็กอ่อนหัด"

"เอ้าไปว่าเขาทำไมครับพี่"

"ก็มันอ่อนจริงๆนี่ โง่ดูไม่ออกว่าพี่กับรันเป็นแฟนกัน ถ้าเป็นพี่ดูออกไปตั้งแต่แรกแล้ว"

"ค๊าบ ค๊าบ พ่อคนเก่ง เก่งจริงจริ๊ง"

"หึหึ ใช่พี่เก่งแล้วก็จะเก่งเพิ่มเป็นเท่าตัวด้วยถ้าเป็นเรื่องของเรา"
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่12#หน้า1 (15/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 15-05-2017 08:17:29
โรคจิต12 ความเป็นมา

Part ใหญ่


การมาเที่ยวทะเลครั้งนี้ของผมกับรัน มันช่างเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากที่สุด นอกจากจะได้รันมาเป็นแฟนสมใจอยากแล้ว ผมยังได้ทำในสิ่งที่ผมใฝ่ฝันอยากทำกับเขามาตลอด ถึงจะยังไม่ได้ครอบครองอย่าสมบูรณ์ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็อยู่ในเกณฑ์ที่หน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก

รันรักผมข้อนี้ผมรู้ดีและมั่นใจ ตั้งแต่ที่ผมเจอกับเขาและรู้ตัวว่าหลงรักเขาจนหัวปักหัวปำ ผมก็พยายามทำทุกอย่าง สืบค้นทุกๆเรื่องที่เค้าเป็น ทุกๆเรื่องที่เขาเคยผ่านมา และผมก็ได้รู้ว่าคนดีของผมใช้ชีวิตที่ผ่านมาอย่างโดดเดี่ยวมากแค่ไหน พ่อของรันทิ้งรันกับแม่ไปตั้งแต่รันยังเด็ก ส่วนแม่ก็มาจากรันไปเมื่อตอนที่รันเพิ่งจะอายุ 16 ปี และไม่มีญาติมิตรที่ไหนให้พึ่งพิงเด็กมากสำหรับการที่ต้องไม่เหลือใครและใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง

รันแข็งแกร่ง สู้ชีวิตมาด้วยลำแข้งของตัวเองพออายุ 19 รันมีแฟนคนแรกและก็เป็นผู้ชายคนเดียวกับที่ผมเกลียดมากที่สุดในชีวิต ผมเจอเขาตอนอายุ 20 ย่าง 21 ผมตกหลุมรักคนมีเจ้าของ ผมแอบติดตามพวกเขาสองคนนับแต่นั้นเป็นต้นมา ยิ่งพวกเขาดูรักกันมากเท่าไหร่ผมยิ่งรู้สึกเหมือนถูกบีบให้ไกลออกไปจากเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน เมื่อไหร่จะเลิกกันนั่นเป็นคำถามที่อยู่ในหัวผมมาตลอด

ผมพยายามคุกคามไอ้เวรนั่นทุกอย่าง ทุกๆทางแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่มันก็ยังไม่ยอมถอยห่างและผมก็หมดความอดทนในที่สุด ผมทำให้มันหายไป จากชีวิตรันตลอดกาล ผมเฝ้าติดตามรันในทุกๆวัน เมื่อไอ้ดื้อด้านนั้นหายไป แทนที่ผมจะได้มีโอกาสเข้าใกล้รันมากขึ้นแต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ยิ่งแย่ลง ผมยังคงเข้าไปไมถึงรันอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นมันเหมือนมีกำแพงสูงขึ้นมาจากตัวของรันที่ผมไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้ เป็นปีกว่าที่ผมจะรู้สึกว่ากำแพงนั่นเริ่มเบาบางลง รันเริ่มแสดงอาการโหยหาเรียกร้อง ผมพยายามขับไล่ทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา แต่ยิ่งทุกคนถอยห่างรันยิ่งแสดงความต้องการอยากมีใครสักคนเพิ่มมากขึ้น

สิ่งที่เขาแสดงออกทำให้ผมยิ่งพยายามทำให้เขาไม่เหลือใครไปเรื่อยๆ  ให้เขาโหยหาให้เขาต้องการ เมื่อถึงวันนั้นผมเองจะเป็นคนที่ยื่นมือนี้ไปให้เขากอบกุม

แล้วสิ่งที่ผมเฝ้ารอมาตลอดก็เกิดผล รันรับความรักที่ผมมอบให้อย่างเต็มใจ และยิ่งผมทำดีกับรันรักรันมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นตัวของรันเองที่ไม่อาจหลุดพ้นพันธนาการที่สร้างขึ้น จากน้ำมือของเราทั้งสองคน

3 ปีก่อน

ขณะที่ผมกำลังเดินกลับเข้าไปภายในตัวบ้าน วันนี้ผมตั้งใจมาทานข้าวเย็นกับพ่อแม่ที่บ้านใหญ่

"ทำไมคุณไม่ให้ฟองไปด้วยหละคะ"

"แขนคุณเจ็บอยู่นะฟอง ผมอยากให้คุณพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านมากกว่า อีกอย่างผมไปแค่อาทิตย์เดียวเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว"

"แต่ฟองไม่อยากนอนคนเดียว แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ฟองไปฟองไม่ไปก็ได้ค่ะ"

"มีอะไรกันเหรอครับ พ่อแม่" ผมเดินมาได้ยินบทสนทนาสั้นๆระหว่างพ่อกันแม่ผม

"ตาใหญ่ลมอะไรหอบมาได้ลูก มาให้แม่กอดเดี๋ยวนี้เลย"

ผมยกมือไหว้สวัสดีพ่อกับแม่พร้อมกับเดินเข้าไปให้มารดาสวมกอด

"ตาใหญ่อาทิตย์นี้มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้านได้ไหมลูก แม่ถูกผู้ชายใจร้ายทิ้ง"

"ฟอง ผมไม่ได้ทิ้งผมไปทำงานนะ"

"ทิ้งสิ คุณยศจะทิ้งฟองไว้ที่บ้านไงตั้งหนึ่งอาทิตย์  ใหญ่ว่างมานอนเป็นเพื่อนแม่หรือเปล่าลูกถ้าไม่ว่างไม่เป็นไรเดี๋ยวอาทิตย์หน้าแม่หาโปรแกรมไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนเล่นๆ ก็ได้"

"ผมไม่ให้คุณไปกับผม เพราะอยากให้คุณพักรักษาแขนที่เจ็บให้หายดีก่อน แต่คุณยังจะหนีไปเที่ยวต่างประเทศเนี่ยนะ จะไปโดยไม่มีผมอย่าได้หวังเลยฟอง ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนไกลสายตาหรอก"

"ไม่อยากให้ฟองไปเที่ยว ก็ให้ฟองไปด้วยสิคะ ไม่เห็นจะยากเลยนะ ฟองสัญญาจะไม่รบกวนเวลาคุณทำงาน ฟองเหงาฟองไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว"

"เห้ย เจ้าใหญ่ดูแม่แกทำสิ อายุไม่ใช่น้อยๆแล้วยังมาทำอ้อนเป็นเด็กสาวไปได้"

"ก็ไม่รู้สิคะ ได้ข่าวว่ามีตาแก่แถวนี้ชอบนี่นา"

"หึ โอเคอยากไปก็ไป"

"ไงลูกมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนนะจำไว้" แล้วแม่ก็มากระซิบกับผมเบาๆ แล้วรีบเดินปรี่ขึ้นไปชั้นบนทันที ผมสายหัวให้กับการกระทำของแม่ แม่น่ารักแบบนี้เสมอไม่เคยเปลี่ยน พวกเขาสองคนรักกันมากเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องความรักให้ผมมาตลอด

"ว่ายังไง วันนี้ทำไมถึงมาที่บ้านได้คิดถึงพ่อกับแม่ หรือมีปัญหาที่บริษัท"

"บริษัทเรียบร้อยดีครับพ่อ"

"งั้นก็เรื่องความรัก"

"ก็ไม่เชิงครับ"

"เดี๋ยวพ่อต้องคอลงานกับลูกค้าที่สิงคโปร์ ขึ้นไปคุยกับพ่อที่ห้องสิ"

"ครับ"

หลังจากผมนั่งฟังพ่อคุยงานเสร็จเรียบร้อย พ่อก็ยื่นแก้ววิสกี้ชั้นดีมาให้

"เล่าให้พ่อฟังสิ มีเรื่องอะไร"

"ผมรักคนๆนึงครับพ่อ"

"แล้วยังไง"

"คือ...เขาเป็น..."

"ผู้ชาย? "

"พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงครับ"

"ทำไมจะไม่รู้ ฉันเป็นพ่อแกนะใหญ่ ฉันให้แกย้ายออกไปอยู่คนเดียวตั้งแต่สมัยเรียน เพื่อให้แกเก่งช่วยตัวเองได้ในทุกๆด้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนใจลูกชายคนเดียวของตัวเองนะ  แล้วอีกอย่างสมัยเรียน คนที่แกนอนด้วยก็เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ"

"พ่อให้คนแอบตามดูผมเหรอครับ"

"ใช่ก็แกเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อจะให้ทิ้งขว้างแกได้ยังไง พ่อรู้เพราะเป็นสิ่งที่ควรจะรู้ พ่อไม่เคยว่าและไม่เคยก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของใหญ่ แค่ให้คนคอยดูบ้างเผื่อมีอะไรต้องช่วยเหลือ และจุดประสงค์หลักคือพ่อก็อยากรู้ว่าลูกตัวเองใช้ชีวิตแบบไหนผ่านอะไรมาบ้าง"

"แล้วพ่อรู้เรื่องของรันไหม"

"ก็รู้แค่ว่าแกคอยแอบตามเด็กผู้ชายคนนึง แค่นั้น"

"ครับ"

"แล้วแกมีปัญหาอะไรใหญ่"

"ผมรักเขาครับพ่อ รักมากแต่เขามีแฟนอยู่แล้ว ผมตามเขามาเกือบครึ่งปีเขายังรักกันดี ไม่มีแววจะเลิกกันสักทียิ่งผมตามยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกปวดใจ ผมควรทำยังไงดีครับพ่อ"

"รักเขามากเหรอเด็กคนนั้น ใหญ่มั่นใจแค่ไหนว่าใหญ่รัก"

"ผมไม่เคยมั่นใจความรู้สึกของตัวเองเท่านี้มาก่อนครับ"

"คิดว่าแกจะรักเขาได้ดูแลเขาไปจนแก่เฒ่าได้หรือเปล่า"

"ผมทำได้ครับ"

"งั้นก็ไปแย่งมา"

"ห๊ะ แย่งพ่อจะให้ผมแย่งแฟนคนอื่นเหรอครับ"

"อืม"

"แต่มันผิด"

"ในมุมมองของพ่อความรักคือการแย่งชิง ถ้าใหญ่คิดว่าใหญ่รักเขามากกว่าก็แย่งมาดูแลเอง แต่ถ้าใหญ่ไม่แน่ใจในตัวเองว่าจะรับผิดชอบความรักครั้งนี้ได้ไหม ก็ตัดใจซะพ่อให้แย่งเพื่อเอามารักและดูแลไปตลอดชีวิต แต่ถ้าใหญ่คิดว่ายังไม่มีความรู้สึกถึงจุดนั้นพ่อก็อยากให้ใหญ่ลองมองหาคนอื่นแทน"

"ผมมั่นใจว่าผมรักเขาผมอยากมีชีวิตครอบครัวที่ดีเหมือนพ่อกับแม่บ้าง"

"แม่แกฉันก็แย่งเขามานะเจ้าใหญ่"

"จริงเหรอครับพ่อ"

"อืม"

"ใหญ่รู้ไหมทำไมแม่ถึงไม่ชอบการอยู่ห่างจากพ่อ"

"เพราะว่าแม่รักพ่อมากไงครับ"

"นั่นก็ใช่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันคือผลจากการกระทำ ทำให้ไม่เหลือใคร ทำให้รักทำให้รู้ว่าสองมือของเราปลอยภัยและไม่มีวันจะปล่อยมือทิ้งกันไปไหน แค่นั้นใหญ่คือสิ่งที่พ่อทำ"

หลายเดือนต่อมา

"พ่อครับพ่อช่วยผมด้วย"

"ใหญ่เป็นอะไรตั้งสติแล้วค่อยๆพูด"

"พ่อมาหาผมที่บ้านเดี๋ยวนี้ได้ไหมครับ ผม...ผมฆ่าคน"

"เรื่องจริงใช่ไหม"

"พ่อ พ่อครับ"

"สงบสติอารมณ์ซะใหญ่ แล้วรอพ่ออยู่ที่นั่น พ่อจะรีบไป"

"รีบมานะครับพ่อ"

ไม่นานพ่อผมก็มาถึงพร้อมกับลูกน้องที่คอยติดตามสองคนและคนที่ผมไม่คุ้นเคยอีกหนึ่ง

"พ่อ ผมฆ่ามันฆ่ามันไปแล้ว"

"นั่งรอพ่อตรงนี้ใหญ่  สุน อ้วนแกสองคนจำกัดพื้นที่อย่าให้เลือดกระจายออกไปกว้างกว่านี้"

"ครับท่าน"

"ตู่ มึงจะจัดการยังไง"

"จับโยนลงบ่อครับเฮีย"

"อืม เอาเสื้อผ้าออกให้หมด โกนผมด้วย เสร็จแล้วเอาไปเผาทิ้ง แล้วแยกชิ้นส่วนลงบ่อให้ลูกๆมึงกินไป จัดการให้เรียบร้อยอย่าให้เหลือร่องรอยให้ตามได้ กูฝากด้วย"

"ครับ ผมจะเก็บกวาดให้เรียบร้อย"

"ใหญ่ถอดเสื้อผ้าออกเอามาให้พ่อแล้วไปอาบน้ำให้เกลี้ยง"

"พ่อ มันไม่ยอมเลิกกับรัน ผมสืบเจอว่ามันมีเมียมีลูกตั้งแต่มอปลายอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่มัน ผมบอกว่าจะบอกให้รันรู้ แต่มันก็ไม่ยอมเลิก"

"อืม ไปอาบน้ำซะ"

"พ่อโกรธผมหรือเปล่า ผมมันเลวผมขอโทษ"

"แกเลวตรงไหนใหญ่ คนที่มาหลอกลวงคนที่เรารักต่างหากที่เลว สมควรแล้ว"

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่13#หน้า2 (15/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 15-05-2017 08:19:55
โรคจิต13 แทนใจ

Part รัน


ผมกำลังยืนเก้ๆกังๆที่ห้องของตัวเอง หลังจากเมื่อบ่ายเราออกไปทานอาหารที่รีสอร์ท เดินย่อยกันไปเรื่อยๆตามชายหาดแล้วจบด้วยการเล่นน้ำทะเล น้ำทะเลที่หาดทรายแก้วนี่ใสมากครับ ผมเล่นจนเพลิน พี่ใหญ่ต้องลากกลับขึ้นมาช่วงเย็นเราสองคนเดินเที่ยวบริเวณรีสอร์ท แล้วแวะทานซีฟู๊ดกัน กุ้งหมึกตัวโตๆ สดมากเนื้อหวานสุดๆ ผมก็มีความสุขดีนะ

แล้วทำไมผมถึงมาเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้อง เรื่องของเรื่องคือตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว ผมอาบน้ำเสร็จไปอีกรอบ เดินออกมาข้างนอกไม่เห็นพี่ใหญ่เลย สงสัยกลับเข้าห้องนอนไปแล้ว จะออกมาอีกไหมนะ ผมไม่มีเพื่อนคุยและยังไม่อยากเข้าห้องนอนของตัวเอง และเหตุผลหลักของผมเลยก็คือ ......ไม่อยากนอนคนเดียว ทำไงดี จะขอนอนด้วยพี่เขาจะหาว่าเราไปอ่อยเขาไหม จะกลับไปนอนหลับตาที่ห้องก็ไม่กล้า กลัว

นอกจากจะไม่ชอบนอนแปลกที่ยังกลัวผีขึ้นสมองอีกต่างหาก เห้อ ถ้าข่มใจไปนอนแล้วดึกๆ มีผีมายืนจ้องหน้าหละจะทำไงหรือถ้าผีมาอำยืนทับหน้าอกพี่รันจะทำไง ว๊าก ไม่ไหวๆนอนคนเดียวไม่ได้ไม่เอาสมองมันพาคิดไปแล้วทำใจไปหลับในห้องคนเดียวไม่ได้จริงๆ ต้องขุดความน่าด้านในตัวแล้วไปขอนอนด้วยเหอะ พี่รันไม่ไหวจะเคลียร์

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"พี่ใหญ่ครับอยู่ในห้องไหม"

แกร๊ก  "ว่าไงครับรันพี่พึ่งอาบน้ำเสร็จกำลังจะออกไปหารันอยู่พอดี"

"พี่ใหญ่จะนอนแล้วเหรอครับ"

"พี่จะแวะมาส่งรันเข้านอนก่อน แล้วค่อยไปนอนที่ห้องตัวเอง"

"คือพี่... พี่ใหญ่รันขอนอนด้วยได้ไหม คือรันไม่ชอบนอนคนเดียวแปลกที่นอนไม่หลับครับ แล้วอีกอย่างรันกลัวผี แหะๆ"

'พี่ใหญ่ส่งยิ้มน้อยๆมาแล้วยกมือขึ้นมายีหัวผมเล่น เป็นงั้นไป แต่จะให้ยีหัวก็ได้นะ ถ้าให้เข้าไปนอนด้วย'

"ปะเข้าไปนอนกับพี่ ง่วงแล้วใช่ไหมเราตาปรือเชียวเล่นน้ำตั้งนาน"

"ขอบคุณครับ"

พี่ใหญ่พาผมมานอนแล้วห่มผ้าให้ พี่ใหญ่กำลังจะลุกขึ้นไปปิดไฟแต่ก็มีเสียงโทรศัพท์ของพี่เขาดังขึ้นมาเสียก่อน

จุ๊บ  "รันนอนพักไปก่อนนะพี่คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อพี่สักครู่เดี๋ยวพี่กลับมาไม่ต้องกลัวนะครับ"

ผมพยักหน้าหงึกๆ หลังจากโดนจุ๊บที่หน้าผากไปหนึ่งทีพี่ใหญ่หยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดังขึ้นมาเปิดประตูกระจกออกไปคุยยังนอกระเบียง

ผมไม่รู้ว่าพี่ใหญ่คุยโทรศัพท์นานแค่ไหน พอหัวถึงหมอนตาผมก็ปิดทันที ง่วงแล้วก็เพลียมาก จนผมรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนมีความรู้สึกว่าพี่ใหญ่กลับเข้ามานอนแล้วผมจำกลิ่นหอมๆจากตัวพี่เขาได้ รู้สึกยุกยิกเหมือนมีอะไรมาอยู่ตรงต้นคอ สักครู่หนึ่งก็หายไปผมไม่มีแรงจะเปิดเปลือกตาดูแล้ว กำลังง่วงถึงขีดสุดคงต้องขอลาไปเฝ้าพระอินทร์ก่อน

ช่วงสายของวันต่อมา

ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาลุกขึ้นนั่งเอามือขยี้ตาปรับโฟกัสสายตามองไปที่ระเบียงเห็นแดดอ่อนๆส่องเข้ามาในห้อง

'อ่าเช้าแล้วเหรอเนี่ย' มองไปข้างๆที่นอนตรงที่เคยมีพี่ใหญ่นอนอยู่ แต่ตอนนี้เตียงว่างเปล่า สงสัยพี่ใหญ่คงจะตื่นแล้ว

แกร๊ก เสียงประตูเปิดขึ้นผมมองไปยังต้นเสียงก็เห็นพี่ใหญ่ เดินเข้ามา

"ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงนอนอิ่มเลยไหม"

"กี่โมงแล้วครับพี่"

"10 โมงเช้า"

"หะ 10 โมงแล้วเหรอโห รันนอนตื่นสายจริงๆ ทำไมพี่ใหญ่ไม่ปลุกรันหละครับ"

"ก็อยากให้เรานอนพักผ่อนเต็มที่ ตื่นสายไม่เห็นจะเป็นไรเลย สั่งอาหารเช้าไว้ให้แล้ว กำลังมาส่ง รันไปอาบน้ำนะครับจะได้ออกมาทานข้าวกัน"

"ครับผม"

ผมหยิบผ้าคลุมเสื้อเดินตรงไปยังห้องน้ำ

ระหว่างที่กำลังถอดเสื้อผมรู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่คอของตัวเอง พอถอดเสื้อเสร็จผมจึงก้มลงมอง สิ่งที่เห็นคือสร้อย เหมือนจะเป็นสร้อยทองคำขาว แล้วมันมาอยู่ที่คอผมได้ยังไง ผมหยิบจี้ขึ้นมาดู เป็นจี้ลายพระจันทร์ลายสวยมากดูทันสมัย ต้องเป็นพี่ใหญ่เอามาใส่ให้ผมแน่ๆเลย

ผมถอดสร้อยออกจากคอแล้วเอาวางไว้ที่อ่างล้างหน้า พาตัวเองไปอาบน้ำด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ดีจนยากจะบรรยายผมเดินออกมาจากห้องหลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วเอาสร้อยออกมานอกเสื้อ เดินตรงไปหาพี่ใหญ่ที่กำลังหันหลังจัดโต๊ะอาหารอยู่

'หมับ' ผมกอดพี่ใหญ่จากด้านหลังซบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างด้วยรอยยิ้ม

"ว่าไงคนดีอ้อนอะไรพี่หืม"

พี่ใหญ่พลิกกลับหันหน้ามาหาผม ผมหยิบสร้อยขั้นมาโชว์ให้พี่ใหญ่ดู

"พี่ใหญ่รู้ไหมมีใครก็ไม่รู้เอาสร้อยมาใส่ให้รัน เนี่ยๆ สวยไหมครับ"

"สวยมากเลยใครให้มาตาถึงเน๊อะ"

"ผู้ชายให้มาครับ แอบให้ทีเผลอด้วย ว่าจะหอมแก้มขอบคุณสักหน่อย"

"หอมสิ หอมเลย" แล้วพี่ใหญ่ก็ทำแก้มป่องก้มลงมาจ่อแก้มใกล้ปากของผม

"อะไรกันครับรันบอกว่าจะหอมคนที่ให้สร้อยรันต่างหาก"

"ก็หอมพี่ถูกแล้วไง พี่เป็นคนใส่ให้รันเองกับมือเมื่อคืนนี้"

"แล้วทำไมแอบใส่ให้รันตอนหลับหละครับ"

"ก็รันบ่นว่าพี่ขี้แกล้ง ชอบทำให้รันเขิน พี่ก็เลยแอบใส่ให้ตอนหลับไง"

"ขอบคุณมากนะครับมันสวยมากเลยผมชอบมากๆ"

แล้วพี่ใหญ่ก็หยิบสร้อยจากใต้เสื้อของตัวเองขึ้นมา

"ของพี่ก็มีนะ"   ผมหยิบมาดูเป็นสร้อยแบบเดียวกันแต่ของพี่เขายาวกว่าเล็กน้อย จี้เป็นรูปพระอาทิตย์ สวยเหมือนกันเลย

"รูปพระอาทิตย์ ของผมพระจันทร์ สร้อยคู่เหรอครับ"

"ใช่ สร้อยคู่พี่เห็นว่ามันสวยดีเหมาะกับเราสองคนก็เลยซื้อมา"

"พี่ใหญ่น่ารักที่สุดเลย"  ผมพูดจบพร้อมใช้สองมือคล้องคอให้พี่ใหญ่โน้มตัวลงมา ผมหอมแก้มซ้ายแก้มขวา สลับไปมาไม่หยุด หมันเขี้ยวพี่เขามากเลย คนอะไรดี๊ดี ผมรู้สึกโชคดีจริงๆที่มีแฟนเป็นผู้ชายคนนี้

ตอนที่ผมหอมแก้มพี่ใหญ่เสร็จไปหลายฟอด กำลังจะปล่อยคอพี่เขา แต่ก็โดนจูบสวนขึ้นมา ผมรับจูบของพี่ใหญ่โดยไม่อิดออด เรายืนจูบกันอยู่สักพัก แล้วใช้หน้าผากชนกันสบตาซึมซับความรักที่ส่งผ่านมาจากแววตา

"สร้อยเส้นนี้ พี่ให้เป็นของแทนใจนะ รันเป็นเหมือนดวงจันทร์สำหรับพี่ พี่อยู่ใกล้รันพี่รู้สึกอบอุ่นมีความสุข พี่รักรันมากนะครับแล้วก็จะรักตลอดไปด้วย พี่สัญญา"

ผมกอดพี่ใหญ่ชิดหน้าไปที่แผงอกล่ำๆนี้ ซึมซับความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่เขาส่งมา ช่างมีความสุขเหลือเกิน

หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่12-13หน้า1 (15/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 15-05-2017 10:27:09
ไม่ได้เข้าหลายวัน ได้อ่านหลายตอนเลย ขอบคุณค้าบบบบ
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่12-13หน้า1 (15/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 17-05-2017 22:48:42
โอยยย เบาหวานขึ้นตา 5555
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่12-13หน้า1 (15/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: mokh2558 ที่ 17-05-2017 23:09:18
สนุกดีครับชอบ แต่ขออนุญาตครับ ความจริง โรคจิต ต้องเขียนว่า Psychosis ครับ ไม่ใช่ Spychosis แต่ก็รออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: Spychosis โรคจิต #upตอนที่12-13หน้า1 (15/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 17-05-2017 23:56:15
อุต๊ะ ใหญ่เป็นมากกว่าที่คิดนะเนี่ย ถึงขั้นฆ่าแฟนเก่ารัน
ถึงคนนั้นจะหลอกรันก็เถอะ :ling1:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่15หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 18-05-2017 08:23:54
โรคจิต14 หมดเวลาพัก


Part ใหญ่


ผมอดอมยิ้มกับพฤติกรรมของรันไม่ได้  ผมเดาออกตั้งแต่ได้ยินเสียงเคาะประตูแล้วว่ารันต้องการอะไร จริงๆผมอาบน้ำเสร็จมาพักหนึ่งแล้ว และกำลังนั่งรอว่าคนดีของผมจะทนได้อีกนานแค่ไหน

ผมเปิดประตูมาเจอสภาพรันที่ตาปรือคงเพลียจากการเล่นน้ำวันนี้ เขาขอเข้ามานอนกับผม และนั่นคือสิ่งที่ผมปรารถนา ผมพารันเข้ามานอนบนเตียง ขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นไปดับไฟในห้อง เสียงโทรศัพท์ก็ดึงขึ้นหยิบขึ้นมาดูเป็นเบอร์ของพ่อ ผมจูบหน้าผากและบอกให้รันนอนหลับพักผ่อนซะ ผมจึงเปิดประตูระเบียงออกไปรับโทรศัพท์

"พ่อครับ"

"ว่ายังไง ทุกอย่างราบรื่นดีไหม"

"ดีมากๆครับ รันตกลงเป็นแฟนกับผมแล้วนะพ่อ"

"ฮ่าฮ่า ใช้ไม้ไหนหละ เขาถึงได้ตกปากรับคำเป็นแฟนด้วย"

"ไม่ได้ใช้ลูกไม้อะไรเลยครับใช้ใจอย่างเดียว แต่มีคนมาทำท่าสนใจรันด้วย ผมหงุดหงิดชะมัด"

"เก็บความรู้สึกหึงหวงเอาไว้ให้มั่นนะใหญ่ อย่าให้มันหลุดลอดออกมา มันไม่เป็นผมดีกับใครเลยทั้งน้องรวมถึงตัวแกเองด้วย"

"ครับพ่อ ผมพยายามทำอยู่ ผมจำคำที่พ่อสอนได้เสมอครับ"

"ดี พ่อแค่จะโทรมาถามดูว่าโอเคไหม หนีพ่อไปชาร์จแบทแถมได้แฟนแบบนี้ กลับมาคงจะมีแรงมาช่วยงานที่บริษัทนะ แกไม่อยู่ พิมพ์ กับ สิทธ์ หัวปั่นกันหมดแล้ว แถมโยนงานมาให้พ่ออีก รีบกลับมาให้ทันดินเนอร์เข้าใจไหม พ่อนัดทานข้าวกับว่าที่หุ้นส่วนรายใหม่วันที่แกกลับพอดี อีกอย่างพ่อจะพาเมียไปเที่ยวบ้างคุณนายฟองร้องอยากจะไปเต็มแก่แล้ว"

"หึหึ ครับผมจะออกจากที่พักช่วงเที่ยง ทันแน่นอนครับพ่อ"

"อืมดี"

ผมวางสายจากพ่อ เมื่อกลับเข้ามาในห้อง คนดีของผมหลับไปซะแล้ว ผมหยิบกล่องสร้อยคู่ขึ้นมาอีกครั้ง ตอนแรกคิดไว้ว่าจะใส่ให้เขาคืนนี้ แต่ดันมาหลับหนีกันไปซะก่อน แต่หลับแล้วก็ใส่ให้ได้นี่ ตื่นมาจะได้เซอร์ไพรส์ ผมจึงใส่สร้อยให้รัน หวังว่าเขาคงจะชอบนะ ส่วนผมการได้มีเขามานอนในอ้อมกอดมันเป็นยิ่งกว่าฝันที่เป็นจริง

หลังจากจบทริปเที่ยวทะเล ผมพารันขับรถกลับเข้ายังตัวเมืองชลบุรี

"รันครับเหนื่อยไหม"

"นิดหน่อยครับ แต่สนุกมากกว่า" ^^

"พอดีเย็นนี้คุณพ่อพี่บอกให้พี่กลับไปทานข้าวที่บ้านมีหุ้นส่วนใหม่อยากให้พี่ทำความรู้จัก แล้วก็อาจจะคุยงานด้วย พี่อยากพารันไปทานมื้อเย็นที่บ้านรันไปกับพี่ไหมครับ"

"หะไปทานข้าวที่บ้านพี่ใหญ่เหรอครับ กับคุณพ่อคุณแม่พี่น่ะเหรอ ไม่เอาครับไม่อยากไป ไม่กล้าไป"

ผมเอามือยีหัวคนดีที่ตอนนี้ทำหน้าตาท่าทางลนลานไปเรียบร้อยแล้ว

"ทำไมหละพี่อยากพารันไปให้พ่อกับแม่พี่รู้จักนะ"

"แต่มันเร็วเกินไปผมยังไม่พร้อม คือเราพึ่งจะเริ่มคบกันเป็นแฟนได้วันสองวันเองนะ แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่พี่รู้เรื่องที่พี่ชอบผู้ชายด้วยกันรึเปล่าครับ"

"อืม พ่อพี่รู้นะ แต่แม่พี่ยังไม่ได้บอกเลย ก็พี่พารันไปเปิดตัวให้แม่พี่รู้เย็นนี้เลยไง ดีไหม"

"ไม่เอาครับ ไหนว่าจะไปเจอกับหุ้นส่วนใหม่ มันไม่ใช่เวลาพาผมไปเปิดตัวหรือเปล่า"

"ไม่เห็นจะเป็นไรเลย"

"พี่ใหญ่อ่ะพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายตลอด"

"พี่ก็ไม่เห็นว่าจะต้องทำให้มันเป็นเรื่องยากนี่ พี่โตแล้วนะครับ อายุสามสิบสามแล้วไม่ใช่เด็กๆ พี่สามารถตัดสินใจทุกเรื่องได้ด้วยตัวของพี่เอง ทั้งเรื่องงานรวมถึงเรื่องส่วนตัว คุณแม่ของพี่ท่านใจดี พี่รักใครเขาก็รักคนนั้นแหละ รันเชื่อพี่สิครับ มันไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด พี่อยู่ตรงนี้ ข้างๆรันนี่ไง"

"แต่ว่า ถ้าคุณแม่กับคุณพ่อพี่ไม่ชอบรันหละครับ รันไม่อยากโดนไล่ออกมาจากบ้าน  โดนคำพูดหรือท่าทางที่ไม่ยอมรับ รันกลัว เรื่องนี้เอาไว้ก่อนได้ไหมครับ รันอยากให้เราคบกันไปเรื่อยๆก่อน เรื่องของเรามันพึ่งจะเริ่ม รันไม่อยากรีบร้อน พี่ใหญ่ก็เหมือนกัน ใจร้อนเกินไป เอาไว้เราคบกันไปสักพักถ้าเราไปด้วยกันรอดแล้วค่อยไปเปิดตัวกับผู้ใหญ่ดีไหม"

ใจร้อนเหรอ? สำหรับพี่ช้าเกินไปด้วยซ้ำ

"โอเคๆ พี่ตามใจรัน ไว้คราวหน้าก็ได้ครับ"

เมื่อถึงคอนโด ผมจึงพารันแวะเอากระเป๋าของผมไปเก็บไว้ในห้องตัวเองแล้วเดินขึ้นมาส่งรันที่ห้อง

"คนดีแล้วเย็นนี้จะทานข้าวที่ไหนครับ"

"อืม รันว่ารันจะซื้ออะไรมาทานที่ห้องนี่แหละ ขี้เกียจออกไปไหนแล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานด้วย"

"คืนนี้พี่มานอนด้วยได้ไหม"

"เอ่อ..."

"นะครับให้พี่มานอนด้วยนะ พี่สัญญาพี่จะไม่ทำอะไรแน่นอนถ้ารันไม่เต็มใจ"

"ฮ่าฮ่า อ่อเหรอครับ งั้นพี่คงต้องรอไปอีกพ๊ากกกกใหญ่ๆเลย เอาเป็นว่าตกลงแต่ห้ามเกินเลยนอกจากนอนเฉยๆนะ"

"ขอกอดด้วย"

"ได้นิดหน่อย"

"จูบ"

"เยอะไปแล้วครับ"

"จูบราตรีสวัสดิ์ไง"

"หึหึ โอเคๆเรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยกันดีกว่าพี่ไปเถอะครับเดี๋ยวจะเกินเวลานัดของคุณพ่อพี่"

"ครับ พี่ไปก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา อย่าออกไปตะลอนที่ไหนนะรู้ไหม"

"ค๊าบบทราบแล้ว จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดครับผม"

ผมออกมาจากคอนโดหลังจากส่งรันเรียบร้อย ขับรถตรงไปยังบ้านใหญ่ของคุณพ่อ

เมื่อมาถึง ผมเห็นผู้ชายสองคนนั่งอยู่ คงเป็นหุ้นส่วนใหม่ของคุณพ่อ

"มาแล้วเหรอใหญ่"

"สวัสดีครับครับพ่อ"

"คุณวัตร นี่ใหญ่ลูกชายของผม ใหญ่นี่คุณวัตรกับวิทย์ ลูกชาย"

"สวัสดีครับ"

"สวัดดีผมได้ยินชื่อเสียงด้านฝีมือทางธุรกิจของลูกชายคุณยศมานานพึ่งจะได้เจอตัวจริงกันวันนี้เอง นอกจากจะเก่งแล้วยังหล่ออีกต่างหากนะครับ"

"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณวัตร"

"เรียกอาก็พอไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะ"

"ครับอาวัตร"

"คุณท่านคะ คุณนายให้มาเรียนตั้งโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ"

"อืม ขอบใจมาก พวกเราไปทานอาหารกันดีกว่าครับ"

ระหว่างทานอาหาร คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ทำความรู้จักคุยเรื่องธุรกิจ ผมสังเกตวิทย์ ลูกชายอาวัตร เขาเป็นผู้ชายผิวขาว หน้าตาดีบุคลิกดีทีเดียว

"ใหญ่ จะรังเกียจไหมถ้าอาอยากฝากวิทย์เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัทบ้าง ไม่ต้องหาตำแหน่งเป็นทางการให้หรอก แค่ให้เข้าไปเรียนรู้งานในส่วนที่จำเป็น"

"ได้ครับเรื่องนี้ไม่มีปัญหา ว่าแต่จะเข้ามาเรียนรู้งานเมื่อไหร่ก็แจ้งผมได้ทันทีครับ"

"ดี เดี๋ยวอาคุยกับวิทย์อีกทีแล้วจะบอกใหญ่นะ พอดีเขาพึ่งกลับมาจากอังกฤษ หลังเรียนจบก็หนีพ่อไปค้นหาชีวิตตามประสาวัยรุ่น นี่ดีนะที่ไปแค่สองปี"

"ผมจะเข้าไปบริษัทคุณใหญ่ พรุ่งนี้ครับป๊า"

วิทย์พูดขึ้นทันทีหลังจากพ่อของเขาพูดจบ

"พรุ่งนี้เลยเหรอ ใจร้อนไม่เบาไอ้ลูกคนนี้ ฮ่าฮ่า"

"เรียกพี่ก็พอ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก เข้ามาพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะให้ คนของพี่เตรียมเอกสารต่างๆเอาไว้ให้"

"ครับพี่ใหญ่"

"งั้นก็อาฝากน้องด้วยนะใหญ่ ส่วนวิทย์ตั้งใจเรียนรู้งานให้มากนะจะได้มาช่วยแบ่งเบางานป๊า"

"ครับป๊า"

"ตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ลงมือทานกันต่อดีกว่าครับ"

"พ่อครับ แล้วแม่ไม่มาทานด้วยเหรอ"

"เห็นว่าจะไปเป็นเพื่อนคุณวิไล ไปขอลูกสาวเจ้าสัวร้านทองให้ลูกชายคุณวิไลน่ะสิ ตื่นเต้นกันน่าดู ทำกับข้าวเสร็จก็รีบไปกันทันทีเลย"

หลังจากจบมื้ออาหาร และส่งแขกกลับเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ผมจะขอตัวกลับไปนอนกอดคนรักของผมบ้าง

"พ่อครับงั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ"

"รีบกลับเชียว ไม่อยู่จิบวิสกี้กับพ่อหน่อยเหรอ"

"เอาไว้วันหลังนะครับพ่อ วันนี้ผมรีบ"

"หึหึ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะรีบไปไหน"

"ครับพ่อ ผมกลับก่อนนะครับ"

"เดี๋ยวใหญ่ ดูออกใช่ไหม วิทย์น่ะ"

"ครับพ่อ"

"อืม วางตัวให้ดี ไม่ต้องตอบรับหรือปฏิเสธให้เสียเพื่อนทางธุรกิจ"

"เข้าใจครับพ่อ"

ผมขับรถกลับมาที่คอนโดขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตัวเองเรียบร้อย

ติ๊งต่อง  แกร๊ก

"มาแล้วเหรอครับ โห นี่อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนมาเลยเหรอ ฮ่าฮ่า"

"ขำพี่ทำไม ก็จะขอนอนด้วย เลยแวะอาบน้ำในห้องตัวเองเสร็จสรรพ หอมฟุ้งเลยนะไม่เชื่อดมสิ"

"อ่าครับๆ หอมก็หอม ไม่ต้องดมใกล้รันก็ได้กลิ่น"

"แล้วนี่รันทำอะไรอยู่นอนแล้วหรือยัง"

"ยังครับ นั่งดูหนังไปเรื่อยๆ รอเปิดประตูให้พี่อยู่"

"น่ารักที่สุด ป่ะดึกแล้วไปนอนกันดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะไปส่งรันที่ทำงานเองนะ ไม่ต้องขับรถไป ตอนเย็นเลิกงานโทรหาพี่เดี๋ยวพี่ไปรับ"

"ครับพรุ่งนี้รันเลิกห้าโมงครึ่งปรกติ แล้วพี่ใหญ่เลิกกี่โมง ถ้าไม่ทัน ก็ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวผมให้เพื่อนมาส่งได้ บ้านเพื่อนอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเราเท่าไหร่"

"ไม่ต้องให้ใครมาส่ง เดี๋ยวพี่ไปรับรันเองนะ  เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ไปรอรับที่หน้าบริษัทตอนห้าโมงครึ่ง โอเค?"

"โอเคครับ"

ผมกดจูบที่หน้าฝากของรัน ฝังจมูกลงแก้ม

ซ้ายขวาอย่างมันเขียว ไม่อยากทำมากไป

กว่านี้ กลัวใจตัวเอง ถึงผมจะเป็นคนเลวแค่

ไหน แต่สำหรับรัน ผมต้องเป็นผู้ชายที่ดี

ที่สุดในสายตาเขา

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่14-15หน้า2 (18/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 18-05-2017 08:27:22
โรคจิต15 พาเข้าบ้าน

Part ใหญ่


ชีวิตรักของผมราบลื่นไปด้วยดีหลังจากผ่านช่วงระยะเวลาที่เราคบหาดูใจกันมาล่วงเข้าเดือนที่สาม ตอนนี้ผมจัดการย้ายข้าวของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันบางส่วนเข้ามาแฝงตัวอยู่ที่ห้องรันแบบเนียนๆ

เรียกได้ว่าผมสิงอยู่ที่ห้องรันเป็นหลัก วันนี้ผมมีนัดทานข้าวกับครอบครัวที่บ้านใหญ่ ทำไมถึงต้องนัด? ก็เพราะผมจะพารันไปทำความรู้จักพ่อกับแม่ หลังจากที่ออดอ้อนและหลอกล่อรันสารพัดกว่าเขาจะยอมใจอ่อนไปเจอกับครอบครัวผมในวันนี้

"พี่ใหญ่ครับมาดูนี่สิ เลือกเสื้อให้หน่อยรันใส่สีไหนดี ขาวหรือฟ้า หรือจะสีเทาดีครับ"

"สีไหนก็ได้ รันใส่ก็ดูดีเหมือนกันหมดทุกสีนั่นแหละ"

"อ่ะ ไม่เอาดิ ช่วยเลือกมาสักสีหนึ่งเถอะ รันเลือกไม่ถูกแล้วเนี่ย"

"อืม สีฟ้าแขนยาวตัวที่รันถือก็ได้ ดูสบายตาดี"

"สีฟ้าเหรอครับ โอเคสีฟ้าก็สีฟ้า กำลังลังเลสีขาวกับสีฟ้าอยู่เลย งั้นรันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"

ผมก้มลงดูงานผ่านไอแพดเหมือนเดิม ดูท่าทางคนดีของผมจะตื่นเต้นไม่น้อย ระหว่างที่ผมขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านใหญ่ รันชวนคุยและถามถึงพ่อแม่ผมในเรื่องต่างๆตลอดเวลา ผมจับมือของรันบอกให้เขาลดความเครียดลง

"ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะดีหรือร้ายพี่จะอยู่ข้างๆรันเสมอ" ผมเลี้ยวรถเข้าไปยังเขตรั้วของบ้านรันดูตกใจไม่น้อยเมื่อได้เห็นบ้านใหญ่หลังนี้

"โอ้โห พี่ใหญ่ นี่บ้านหรือวังครับ ทำไมใหญ่โตแบบนี้ รันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมดเข้าไปทุกที เรามาใหม่วันหลังได้ไหม ผมรู้สึกใจแป้วยังไงไม่รู้"

"ได้ยังไงครับ พ่อกับแม่พี่รออยู่นะเราจะผิดนัดท่านเหรอ"

"เฮ้ยยย  เป็นไงเป็นกันวะ ไม่ตายวันนี้วันหน้าก็ตายอยู่ดี สู้โว้ย"

ผมขำกับท่าทางการให้กำลังใจตัวเองของรันมาก เมื่อลงจากรถ แม่บ้านก็มาแจ้งว่าพ่อกับแม่ผมรออยู่แล้วที่ห้องรับแขก ผมจับมือพารันไปยังห้องนั้น และเมื่อผมเข้ามาสิ่งที่เห็นคือพ่อผมใครคนหนึ่งกำลังนั่งคุยกันอยู่ และวินาทีที่เดินเข้าไปใกล้เหมือนจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยอีกคน  'วิทย์'

"สวัสดีครับพ่อ วิทย์มาทำอะไรที่นี่เหรอ"

"ใหญ่มากันแล้วเหรอ วิทย์เขามาหาเราที่บ้าน เห็นว่าลืมเซ็นเอกสารที่ต้องเข้าประชุมช่วงเช้าวันพรุ่งนี้"

"ผมขอโทษครับพ่อ ผมรีบกลับไปรับรันมาที่นี่เลยลืม ขอบใจวิทย์มากนะที่เอาเอกสารมาให้"

"ไม่เป็นไรครับ พอดีไม่ทราบว่าพี่ใหญ่ไม่ได้อยู่บ้านนี้ เลยแวะมาให้ที่นี่เจอคุณลุงยศท่านบอกว่าพี่จะมาทานข้าวที่บ้านเย็นนี้พอดีผมเลยนั่งรอครับ"

"อืม พี่พักอยู่กับแฟนที่คอนโดน่ะ"

"แล้วนั่นแกจะไม่แนะนำคนที่หลบอยู่ข้างหลังหน่อยรึ ยืนขาแข็งแล้วป่านนี้"

"ขอโทษครับพ่อ รันนี่พ่อพี่ส่วนนี่วิทย์ ลูกคุณอาวัตรหุ้นส่วนของบริษัท พ่อครับนี่รันคนรักของผม"

"สวัสดีครับ"

"อืม ไหว้พระเถอะ นั่งลงก่อนยืนนานๆเดี๋ยวจะเมื่อยเอา"

"ขอบคุณครับ"

วิทย์ดูอึ้งไปไม่น้อยที่ได้รู้ว่าผมมีคนรักเป็นผู้ชาย ผมดูออกตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากันที่บ้านหลังนี้เมื่อช่วงสามเดือนก่อน ความรู้สึกของคนเราปิดบังกันได้ แต่แววตาไม่สามารถซ่อนสิ่งที่อยู่ในใจได้หรอก

แต่ด้วยเราต้องมีเอี่ยวด้านธุรกิจกัน นั่นทำให้ผมต้องวางตัวปรกติ วิทย์ก็เช่นกัน เขาวางตัวดีไม่น้อย ถึงจะเป็นเด็กหนุ่มที่รุ่นราวคราวเดียวกันรัน แต่ความคิดความอ่านดูจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่า และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมสลัดเขาไม่หลุดจากชีวิตสักที ไม่แสดงตัวอย่างโจ่งแจ้งว่าสนใจ แต่คำพูดกับการกระทำบางครั้งแฝงความในมาด้วยเสมอ

"อ่าวตาใหญ่มาแล้วเหรอลูกไหนๆ คนไหนแฟนพามาให้แม่ดูเร็วๆอยากเห็นจะแย่ "

"สวัสดีครับแม่ นี่รันแฟนผม รันนั่นแม่ของพี่เอง"

"สวัสดีครับ"

"เอ่อ... คนนี้เหรอแฟนลูก ผู้ชายนะ"

"ใช่ครับแม่ รันเป็นแฟนผม"

"นี่ล้อแม่เล่นอยู่ใช่ไหมตาใหญ่ แม่ไม่ขำนะ"

"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"

"นี่จะบอกว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จะมาบอกแม่ว่าลูกเป็นเกย์เหรอ"

"ครับ"

"โอ้ย คุณยศ ฟองจะเป็นลม นี่เรื่องไม่จริงใช่ไหมคะ รวมหัวกันมาอำฟองเล่นกันใช่ไหม มีอย่างที่ไหนอยู่ดีๆจะมาบอกว่าเป็นเกย์ เมื่อก่อนยังเห็นควงสาวๆสวยๆอยู่เลย"

ผมหันกลับไปมองคนข้างกายทันที สายตาของเราทั้งคู่ประสานกัน ผมสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองในตัวของคนรักไม่น้อยจึงต้องรีบแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วน

"แม่ครับนั่นมันหลายปีมาแล้ว ผมกับรันเราเป็นคนรักกันจริงๆครับ"

"แต่ว่า"

แม่ของผมกำลังจะพูดอะไรบางอย่างต่อแต่พ่อก็พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน

"ฟอง ใหญ่ ลุกไปคุยกันที่ห้องทำงานของพ่อ ทั้งคู่เลย"

ผมกับแม่ยุติการพูดระหว่างกัน ด้วยคำพูดและน้ำเสียงที่ได้ยินจากพ่อ ตีความหมายได้ว่านี่คือคำสั่ง แม่เดินนำไปที่ห้องทำงานของพ่อก่อนแล้ว ผมกำลังจะเดินไปหารันเพื่อพาเขาไปด้วย

"ใหญ่ปล่อยน้องไว้นี่ เข้าไปคุยกับแม่ให้รู้เรื่องซะ เดี๋ยวพ่อจัดการตรงนี้ให้เอง"

"ครับพ่อ"

ผมรับคำอย่างไม่อิดออด ส่งสายตาเป็นกำลังใจให้คนรักของผมที่ตอนนี้ นั่งตัวลีบแทบจะจมไปกับโซฟาเต็มที แล้วจึงเดินตามแม่เข้าไปยังห้องทำงาน

"วิทย์จะกลับก่อนก็ได้นะขอโทษที่วันนี้บ้านลุงกำลังเกิดปัญหานิดหน่อย คงไม่สะดวกเอาไว้ค่อยพูดคุยกันวันหลัง"

"ครับคุณลุง ผมขอตัวลาก่อนนะครับ"

"ส่วนเรา นั่งรอพี่เขาอยู่ที่นี่ได้ไหม"

"ค...ครับ"

"ไม่ต้องกลัว เรื่องทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี นั่งรออยู่ตรงนี้ อย่าหนีไปไหน"

"ครับผม"

ภายในห้องทำงาน

"ทำไมเป็นแบบนี้หละตาใหญ่ ทำไมถึงชอบผู้ชายด้วยกัน ผู้หญิงสวยๆมีให้เลือกตั้งเยอะ ทำไมไม่เลือก"

"ผมเลือกความรักของผมแล้วครับแม่ ผมไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ผมรักรัน รักมานานมากแล้ว และมันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"

"แม้แต่คำขอของแม่เหรอ"

"แม่ครับ อย่าทำแบบนี้เลย"

"แบบไหนล่ะใหญ่ แบบที่ใหญ่พาผู้ชายเข้ามาที่บ้านแล้วบอกว่าเป็นแฟนลูกน่ะเหรอ แม่ควรทำใจยอมรับแล้วยิ้มแย้มอย่างมีความสุขที่ลูกชายคนเดียวของตัวเอง มีแฟนเป็นเพศเดียวกันแล้วเรื่องทายาทสืบสกุลหล่ะจะทำยังไง คบกันผู้ชายด้วยกันจะมีหลานให้แม่ได้ชื่นใจได้ไหม"

"แม่ครับ"

"แล้ว ณ เวลานี้ คุณรักใครหรือฟองลูกแท้ๆของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงหน้า หรือหลานในอนาคตที่ยังไม่มีจริง"

"คุณยศ คุณเข้าข้างตาใหญ่เหรอคะ คุณรับได้เหรอ"

"ทำไมผมถึงจะรับไม่ได้ ความรักมันเลือกกันได้ด้วยหรือ ถ้ามันเลือกได้ ทำไมผมถึงต้องแย่งชิงคุณมาทำทุกอย่างเพื่อให้มีคุณอยู่ด้วยกันทุกวันนี่ ถ้าเลือกได้จากความคิดจากความถูกต้อง ผมคงไม่เลือกรักคนที่มีเจ้าของหรอกจริงไหม มันไม่เกี่ยวกับว่าเป็นหญิงหรือชายไม่ว่าเพศไหนๆถ้าลองได้รักแล้ว ต่อให้เป็นใครพิกลพิการมารักก็คือรัก"

"แต่เรามีหน้ามีตาทางสังคมนะคะ ทั้งคุณกับลูกไม่กลัวใครๆเขานินทาเหรอ แล้วธุรกิจของครอบครัวเราต่อไปในอนาคตหมดจากใหญ่ใครจะรับช่วงต่อคะ คบกับผู้ชายลูกหลานก็ไม่มี"

"ฟองหน้าตาทางสังคมสำคัญมานักหรือ ความรู้สึกของคนอื่นสำคัญกว่าลูกกว่าครอบครัวใช่ไหม ไม่มีคนสืบทอดแล้วยังไง เมื่อถึงวัยที่ต้องปล่อยวาง ธุรกิจร้อยล้านพันล้าน มันก็ไม่มีความหมาย ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้

คุณมองหน้าลูกชายของตัวเองแล้วหาคำตอบให้ใจคุณดู ถ้าคุณรับไม่ได้กับความรักของลูกคุณ คุณก็บอกต่อหน้าเขาให้เลิกกันไปซะ แต่ถ้าคุณรักลูกก็จงเลือกยอมรับความสุขของเขา เหมือนที่ผมเลือกแล้ว วันนี้คุณมีสิทธิ์เลือกว่าอยากจะเป็นแม่แบบไหนในสายตาของลูก"

พ่อพูดทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้แล้วเดินออกจากห้องไป แม่ผมยืนร้องไห้น้ำตาไหลอาบหน้าผมเข้าไปโอบกอดมารดาของตัวเอง ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาในหัวใจ

"แม่ครับผมขอโทษที่ทำให้แม่ต้องผิดหวัง ตลอดชีวิตผมที่ผ่านมา ผมไม่เคยทำให้แม่ต้องเสียใจ แต่วันนี้ผมอยากขอร้อง ผมขอเลือกชีวิตคู่ของผมเองได้ไหม ผมรักน้องเขามากครับแม่ อย่าขอให้ผมต้องเลิกกับเขาเลยนะครับ"

"ฮือ ฮือ ใหญ่ มันจะดีเหรอลูก ความรักแบบนี้มันจะยั่งยืนเหรอ"

ผมกอดแม่แน่นขึ้น หอมแก้มของแม่พร้อมกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู

"มันจะยั่งยืนตลอดไปครับแม่ ถ้าแม่ให้โอกาสผมกับน้องได้รักกัน"

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่14-15 หน้า2 (18/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 19-05-2017 08:39:58
โรคจิต16 ปัญหาที่ผ่านพ้นไป

Part รัน

ผมนั่งกุมมือตัวเองอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่โตนี้ ปล่อยให้น้ำตาที่มันรื้นไหลลงมาอย่างสุดกลั้น นี่ไงสาเหตุที่ผมไม่อยากมา อยากจะวิ่งหนีออกไปให้ไกลจากที่ตรงนี้ แต่ขาทั้งสองข้างก็ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะยืน ไม่รู้ว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีเมื่อมีฝ่ามือของใครสักคนแตะมาที่หัวไหล่ซ้ายของผม  'พี่ใหญ่'  ผมรีบหันควับกลับไปแต่เจ้าของมือนั้นไม่ใช่พี่ใหญ่ แต่เป็นคุณพ่อ

"ไปนั่งรอพวกเขาที่โต๊ะอาหารกับพ่อก่อน"

"...ครับ"

ผมพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ลุกขึ้นเดินตามหลังพ่อของพี่ใหญ่ไปยังโต๊ะอาหาร

"ตั้งโต๊ะเลยไหมคะคุณท่าน"

เสียงแม่บ้านถามขึ้น

"อืมเตรียมเลย อีกเดี๋ยว สองคนแม่ลูกคงลงมา"

ผมรู้สึกอึดอัดใจมาก จนพูดไม่ถูก จะให้ผมมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ทำไมนะ ถ้าคุณแม่ของพี่ใหญ่ออกมาเจอผมจะเป็นยังไง จะโดนไล่ตะเพิดออกจากโต๊ะแทบไม่ทันหรือเปล่า ใจกังวลไปสารพัด อยากกลับคอนโดพื้นที่ของตัวเองเต็มทีแล้ว ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะต้องทำตัวยังไงต่อไปดี พี่ใหญ่กับคุณแม่ของเขาก็เดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร คุณแม่ของพี่ใหญ่นั่งตรงข้ามกับผมส่วนพี่ใหญ่เดินมานั่งข้างๆ พี่ใหญ่จับมือผม เราทั้งคู่สบตากันพี่ใหญ่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้แต่ไม่พูดอะไร แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้ทุกคนเรียบร้อย คือผมกินไม่ลงจริงๆ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคุณแม่ของพี่ใหญ่เลยสักนิด

"น้องทานข้าวเยอะๆนะ ลองชิมอาหารฝีมือแม่ครัวบ้านนี้ดูว่าอร่อยไหม"

"ครับ"

เมื่อคุณพ่อของพี่ใหญ่พูดจบผมพยายามเงยหน้าเล็กน้อยเอาแค่พอมองเห็นอาหารตรงหน้าเป็นพอ จะตักอะไรกินดี อยากจะร้องไห้แล้ววิ่งหนีกลับบ้านมากกว่า แม่ของพี่ใหญ่เงียบมาก ตั้งแต่เข้ามาผมไม่ได้ยินเสียงเลยสักนิด

"รันลองทานผัดวุ้นเส้นสิอร่อยนะ"

พี่ใหญ่พูดพร้อมกับตักผัดวุ้นเส้นใส่ในจานข้าวผม

"ขอบคุณครับ"

ผมตักผัดเข้าปาก ถึงรสชาติจะอร่อย แต่ต่อมความอยากอาหารผมฝืดไปแล้วตอนนี้ ได้แต่พยายามก้มหน้าก้มตากินให้มันหมดๆไป

"อร่อยไหม"

"อร่อยมากครับ"

"นี่ปลาผัดขิง ก็อร่อย"

แล้วก็โน่นนี่นั่นบลาๆ เอาเป็นว่ากับข้าวหกเจ็ดอย่างทั้งโต๊ะพี่ใหญ่จัดการตักมาให้ผมชิมหมด

"สงสัยกับข้าวบ้านนี้คงอร่อยถูกปากแฟนเรานะใหญ่ เห็นเคี้ยวตุ้ยๆไม่เงยหน้ามองใครเลย"

เสียงพ่อของพี่ใหญ่พูดขึ้น

"อึก แค๊ก แค๊ก แค๊ก"

ผมกำลังกินอยู่ถึงกับสำลักเพราะคุณพ่อพี่ใหญ่พูดขึ้นมา นี่ผมไม่ได้ห่วงเรื่องกินนะ แค่ผมไม่กล้าเงยหน้ามาประจัญหน้ากับแม่ของพี่ใหญ่เท่านั้นเอง

"ขอโทษครับ"

"รันทานน้ำก่อน"

พี่ใหญ่ยื่นแก้วน้ำมาให้ผมที่กำลังสำลักอาหารไอโขกๆ น่าอายชะมัด ทำไมไม่ทำตัวกินนิ่งๆให้มันจบๆไปนะ โอ้ย เครียด

หลังมื้ออาหารอันแสนกระอักกระอ่วนใจนี้จบลง ผมกับพี่ใหญ่ก็ขอตัวลา กลับเสียที อื้อ ขอบคุณสวรรค์ช่วยพาผมออกไปจากที่ตรงนี้โดยเร็วด้วยเถอะ ได้โปรดผมยกมือไหว้ลาพ่อกับแม่ของพี่ใหญ่ เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านกำลังจะเดินไปที่รถ เสียงของคุณแม่พี่ใหญ่ก็ดังขึ้น

"เดี๋ยวตาใหญ่"

ผมกับพี่ใหญ่หันไปตามเสียงเรียก ผมคิดว่าเขาสองคนคงมีเรื่องคุยกัน ผมจึงจะขอปลีกตัวไปรอที่รถจะดีกว่า

"พี่ใหญ่งั้นผมไปรอที่รถนะครับ"

ขณะที่ผมกำลังจะเดินเลี่ยงออกไปนั้น

"ใครบอกให้ไป แม่เรียกเราทั้งคู่นั่นแหละ"

'แม่' งั้นเหรอ!! ผมหันกลับไปตามเสียงเรียกของคุณแม่พี่ใหญ่

"แม่จะบอกใหญ่ว่า อาทิตย์หน้ามีงานเลี้ยงที่โรงแรมxxx งานของคุณ ปฐมพงษ์ เจ้าพ่อส่งออกรายใหญ่ระดับประเทศ แม่อยากให้ใหญ่ไปที่งานด้วยกัน จะได้แนะนำให้รู้จักคนในแวดวง เผื่อจะมีประโยชน์กับบริษัทของเราไม่มากก็น้อย"

"ครับแม่"

"จะพาน้องไปด้วยก็ได้ แม่ไม่ว่า"

"ขอบคุณครับแม่"

"ไม่ได้หยิ่งหรือรังเกียจนะ แค่อยากขอเวลาปรับตัวสักหน่อยในเมื่อเลือกเดินทางนี้กันแล้ว  ส่วนเราถ้าอยากให้แม่ยอมรับ ก็พาตาใหญ่มาทานข้าวกับพ่อแม่ที่นี่บ่อยๆลำพังเรียกมาเอง ชอบทำอิดออด ติดงานตลอด จะชนะใจแม่บ้านนี้ ก็พาลูกชายเขากลับมาให้พ่อแม่เห็นหน้าบ่อยๆ ไม่งั้นก็อย่าหวังว่าจะยอมยกลูกชายคนโปรดให้"

"ท่าทางจะอึ้งที่คุณแม่กลับลำเร็วไปหน่อย"

แล้วพี่ใหญ่ก็ก้มหน้าลงมากระซิบที่หูผมเบาๆ

"คนดี แม่พี่บอกว่าถ้าจะเอาชนะใจแม่ได้ต้องพาพี่มาที่บ้านนี้บ่อยๆ ได้ยินไหมครับ"

"อ่ะ...เอ่อ ทราบแล้วครับ ผมจะพยายามพาพี่ใหญ่มาทานข้าวที่นี่บ่อยๆ ขอบคุณคุณแม่มากนะครับ ที่ให้โอกาสผม ขอบคุณมากครับ"

ผมกลับมาถึงที่ห้องด้วยอารมณ์ที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว ก่อนไปกำความกังวลไปอย่างท่วมท้น ระหว่างอยู่ที่บ้านใหญ่หลังนั้น ก็แทบอยากจะกระชากร่างของตัวเองให้หลุดจากสถานที่ที่ทำให้รู้สึกแย่โดยไว แต่กลับมาที่ห้องผมพบกับความอุ่นวาบข้างในหัวใจ ผมรู้สึกคิดไม่ผิดจริงๆที่รักผู้ชายตรงหน้า ช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่เราคบกัน เขาสามารถทำให้ผมหลงรักได้อย่างหมดหัวใจ ทุกสิ่งทุกอย่างในแต่ละวัน สิ่งที่เขาส่งมาถึงผมมีแต่ความรัก ความหวังดีที่มอบให้เสมอ

หมับ!!

"เหม่ออะไรอยู่ หืม คนดีพี่เรียกไม่ได้ยิน"

พี่ใหญ่นั่งลงบนเตียงสวมกอดผมจากทางด้านหลัง

"ไม่ได้เหม่อครับ แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย"

"คิดเรื่องอะไร เรื่องวันนี้หรือเปล่า"

"ก็ด้วยครับ รันรู้สึกโล่งใจ เหมือนยกภูเขาลูกโตออกจากอกเลย"

ฟอดดดด  พี่ใหญ่จับแก้มผมฟัดไปฟัดมา

"อืออ พี่ใหญ่อย่าเล่นสิครับ"

"ใครว่าพี่เล่น ทำจริงตลอด"

" ( -///////-) "

"ไหนบอกพี่สิว่านอกจากเรื่องที่พาไปบ้านวันนี้มีเรื่องอะไรอีกที่รันคิดอยู่"

"เอ่อ ..."

"คิดอะไร หรือว่าคิดถึงผู้ชายคนอื่น"

"อ่าวๆ ว่างมากหรอครับอยู่ดีๆ ก็หางานให้รัน มีกับผีสิครับ เลิกงานมาก็ตัวติดกับพี่เนี่ยตลอดเวลา ถ้าจะคิดถึงผู้ชายคนไหนก็มีแต่คนที่มานั่งเกาะเป็นตุ๊กแกคนเนี้ยแหละ"

"ฮ่าฮ่า ก็ดีแล้วไง คิดถึงแต่พี่คนเดียวก็พอ พี่ไม่ยอมให้สมองของรันมีคนอื่นหรือคิดถึงคนอื่นนอกจากพี่หรอก"

"ค๊าบ ค๊าบ ท่านผู้นำ ผู้กุมอำนาจบาทใหญ่ที่สุดในห้องของผู้อื่น"

"ผู้อื่นที่ไหน นี่แฟนว่าที่สามีในอนาคตด้วย"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ให้รันเป็นสามีไม่ได้เหรอ"

"จ่อย ตัวแค่นี้คิดว่าจะกดพี่ลงได้ไหมล่ะ"

"ไหนใครจ่อยครับ ดูด้วยสูง170 มาตรฐานชายไทยนะ พี่สูงเวอร์เกินเองอย่าว่าคนอื่นเลย ระวังตัวเถอะวันไหนเมาๆกลับมารันจะกดพี่ทำเมียให้ดู"

"ทำไมต้องเป็นวันที่เมา"

"ก็วันปรกติไม่มีปัญญากดไงครับ ฮ่าฮ่าฮ่า "

"อ่อเรียกว่าเก่งเป็นบางโอกาส แต่พี่ว่ายากหน่อย ยังไงเราก็ต้องเป็นเมียพี่อยู่ดี"

"โว๊ะดูถูก เดี๋ยวยืมคำช่างแอร์มาใช้ก่อน อะแฮ่ม (เก๊กหน้าขรึม)  ผมไม่เล็กนะครับ"

"ฮ่าฮ่าฮ่า"

"เออจริงสิครับพี่ใหญ่ รันลืมถามไปเลยมัวแต่คิดเรื่องคุณพ่อคุณแม่พี่จนเกร็งไปหมด คนที่มาที่บ้านวันนี้อ่ะครับ"

"รันมีอะไรรึเปล่า"

"เปล่าครับ รันแค่รู้สึกว่าเขามองรันแปลกๆ"

"แปลกยังไง"

"ก็ไม่รู้สิบอกความรู้สึกไม่ถูก รู้แค่ว่ามันแปลกๆ เหมือนเขาไม่ค่อยชอบหน้ารันเท่าไหร่ เขาทำงานอยู่ที่บริษัทพี่นานแล้วเหรอครับ"

"พ่อพี่กับพ่อวิทย์เป็นหุ้นส่วนกัน คุณอาวัตรขอให้วิทย์มาขอเรียนรู้งานในบริษัท ประมาณสามเดือนได้แล้ว"

"เหรอครับ แล้วฝึกงานอยู่กับพี่เหรอ แล้วเจอกันบ่อยไหม"

"ก็เจอทุกวันนะ ถามทำไม หึงเหรอ"

"เปล๊า ไม่ได้หึงสักหน่อย"

"หึหึ"

"ก็แค่ถามดูเท่านั้นเองแหละครับไม่มีอะไรหรอก"

"อืม มันไม่มีอะไรนอกจากเรื่องงานเท่านั้นแหละ เขามาฝึกงานหาความรู้กับประสบการณ์ เมื่อเขาพร้อมเขาก็ต้องไปทำงานที่บริษัทพ่อของตัวเอง"

"ครับ"

ก็คงจะไม่มีอะไร ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สายตาที่เขามองมาอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ผมอาจจะคิดมากไปเอง เท่านั้น หวังว่านะ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 16 หน้า2 (19/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 21-05-2017 22:54:34
อืมมมม ดีจังที่ไม่มีปัญหาทางครอบครัว หวังว่าคุณวิทย์คงจะไม่ร้ายหรอกนะคะ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 17หน้า2 (22/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 22-05-2017 06:35:42
โรคจิต17  ความในใจของโย

Part ใหญ่


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"เชิญ"

"พี่ใหญ่ครับยุ่งอยู่หรือเปล่าวิทย์เอาเอกสารมาให้เซ็นสองฉบับครับ"

"อืม เอาวางไว้เลยเดี๋ยวพี่อ่านรายละเอียดแล้วเซ็นให้ แล้วนี่ทำไมถึงมาเดินเอกสารเองได้ล่ะ"

"วันนี้วิทย์เข้าไปดูงานที่ฝ่ายจัดซื้อครับ พอดีเห็นว่าใกล้จะเที่ยงแล้วกำลังจะขึ้นมาชวนพี่ใหญ่ไปทานกลางวันด้วยกัน ก็เลยติดเอกสารที่ฝ่ายจัดซื้อมาให้เซ็นด้วยเลย ว่าแต่เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ"

"อืม ก็ดีพี่ว่าจะแวะไปดูสาขาในห้างxxxที่กำลังจะเปิดใหม่ ไม่รู้ว่างานเดินไปถึงไหนแล้ว จะได้ให้วิทย์ ไปดูรายละเอียดการทำร้านคร่าวๆด้วยเลย"

"ครับ งั้นวิทย์ไปเก็บข้าวของรอพี่ที่โต๊ะนะครับ"

"อืม เดี๋ยวพี่ขอดูงานตรงนี้อีกนิดหน่อย จะตามออกไป"

ผมเคลียร์งานเสร็จเป็นช่วงเวลาเที่ยงพอดี ผมขับรถพาวิทย์ไปยังห้างที่บริษัทเรากำลังจะขยายกิจการตัวใหม่ ผมพาวิทย์เข้าร้านอาหารไทยในตัวห้างเลือกที่นั่งของร้านในส่วนที่ติดกระจกซึ่งสามารถมองเห็นบรรยากาศคนเดินผ่านไปมานอกร้าน เพื่อเชคจำนวนคนเดินห้างคร่าวๆสำรวจโน่นนี่นั่นไปเรื่อยตามประสา ในระหว่างกำลังนั่งทานกันอยู่ สายตาผมก็หันไปเจอกับโย โยเดินถือถุงของประมาณสามสี่ถุงกำลังเดินตรงมาทางร้านอาหาร เมื่อเขาหันมาเจอกับผม ผมจึงใช้คำพูดที่ไม่ออกเสียงบอกให้เขารออยู่หน้าร้าน

"วิทย์ทานไปก่อนนะพี่ออกไปทักน้องที่หน้าร้านสักครู่"

"ครับ"

วิทย์รับคำ ผมจึงเดินออกมาจากร้าน

"พี่ใหญ่สวัสดีครับ มาทานข้าวกับคุณรันเหรอ"

ด้วยมุมที่โยยืนอยู่ทำให้เห็นวิทย์จากทานด้านหลังแค่ช่วงหัวที่เลยเบาะขึ้นมาเล็กน้อย

"เปล่าพี่มากับลูกชายเพื่อนพ่อที่มาฝึกงานที่บริษัท โยบ้านในป่าเรียบร้อยหรือยัง"

"ครับเรียบร้อยหมดทุกอย่าง ตามที่พี่ต้องการ พี่ใหญ่จะต้องใช้บ้านแล้วเหรอ"

"ยังหรอก ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ตอนนี้ เผลอๆอาจจะไม่ได้ใช้เลยก็ได้ แต่ยังไงพี่ก็อยากให้มันเสร็จเรียบร้อย อะไรๆมันก็ไม่แน่เสมอไป วันดีคืนดีพี่อาจจะต้องไปที่นั้นแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้"

"เดี๋ยวสักสองสามวันผมจะให้ช่างถ่ายรูปบริเวณบ้านทั้งหมดมาให้พี่ใหญ่ดูนะครับช่วงก่อนหน้ามีพายุเข้า เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา"

"ดี ขอบใจมาก ว่าแต่วันนี้มาซื้อของคนเดียวเหรอ ก้อยล่ะ"

"ก้อยเดินไม่ค่อยไหวครับผมเลยให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน พอดีวันนี้วันเกิดผม ผมก็เลยมาหาซื้อของว่าจะไปทำทานกับพวกเด็กในร้านน่ะครับ"

"หืม วันนี้วันเกิดเหรอ พี่ลืมสนิทเลย ทำไมไม่บอกพี่"

"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่กล้ารบกวน แค่วันเกิดเอง^^"

"อยากได้อะไร พี่จะซื้อให้"

"ไม่เป็นไรจริงๆนะครับพี่ ผมไม่อยากได้อะไร ทุกวันนี้ที่พี่ให้ก็มากเกินพอแล้ว"

"โย"

โยนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมา

"ไม่ใช่สิ่งที่ผมกล้าขอ"

"ลองดู คนอย่างโยเคยกลัวอะไรด้วยเหรอ ก็แค่ขอ ทำไมพี่จะให้ไม่ได้"

"..."

"อืม จะเริ่มปาร์ตี้กันกี่โมง"

"คงจะช่วง ทุ่มกว่าๆครับวันนี้ว่าจะปิดร้านเร็วหน่อย"

"ทุ่มนึงพี่จะแวะไป ที่สวน"

"ครับ"

"ไปซื้อของต่อเถอะ"

"ครับสวัสดีครับพี่ใหญ่"

หลังจากคุยกับโยเสร็จ ผมเดินกลับมานั่งทานอาการต่อ

"พี่ใหญ่คนนั้นใครเหรอครับ"

"รุ่นน้องตั้งแต่สมัยเรียนน่ะ"

"อ่อครับ"

ผมรู้สึกได้ว่าวิทย์กำลังจ้องมองผม ผมจึงมองกลับไป

"สนใจเหรอ มีภรรยาแล้วนะกำลังท้องแก่เลย"

"หึหึ ไม่สนหรอกครับ สนคนที่ไม่มีลูกมากกว่า"

"ยังไงก็เป็นคนมีเจ้าของอยู่ดี"

"ก็ไม่ได้คิดจะแย่ง แค่รอเวลาเขาอาจจะเลิกกัน"

"คงไม่มีวันนั้น"

"ก็สร้างมันขึ้นมาสิครับ จะยากอะไร"

"หึ พี่ว่าอย่าเสี่ยงดีกว่า เพราะจุดจบมันคงไม่สวยแน่ๆ"

ผมส่งยิ้มบางๆไปให้วิทย์ แสร้งทำเหมือนว่าทุกอย่างเป็นแค่เรื่องขำๆ แต่อย่าได้คิดเชียว ถ้าจะมาสร้างความร้าวฉานให้ผมกับคนรักได้ง่ายๆ คงทำได้แค่ในความฝันเพราะชีวิตจริง กว่าที่ผมจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ นั่นเพราะผมไม่ง่ายและไม่ได้โง่

หลังจบมื้อเที่ยงผมกับวิทย์ต่างคนต่างแยกกันไปทำงานในส่วนของตัวเอง เมื่อถึงเวลาเลิกงานผมจึงขับรถออกจากบริษัทเพื่อไปรับคนรักของผม วันนี้รถค่อนข้างติดมากกว่าทุกวันผมจึงมาถึงช้าไปสิบกว่านาที เมื่อเข้ามาถึงที่จอดรถ ผมเห็นรันกำลังเดินคุยคู่มากับผู้ชายคนนึง มันเป็นใคร??? ไม่ใช่เพื่อนรัน และเป็นคนที่ผมไม่คุ้นหน้ามาก่อน ช่วงหลังมานี่ตั้งแต่ผมคบกับรัน ผมไม่ค่อยได้สั่งให้ใครติดตามรันเหมือนเคย ซึ่งผมคิดผิดสินะ ผมรีบจอดรถแล้วลงไปดักที่หน้าของรันกับคนหน้าใหม่ทันที

"พี่ใหญ่มานานรึยังครับ พอดีรันพึ่งเลิกประชุมเลยลงมาช้า"

"พี่พึ่งมาถึง"

"อ่อลืมแนะนำพี่ใหญ่ครับนี่คุณโชค หัวหน้าแผนกคนใหม่ของบริษัทครับคุณโชคนี่พี่ใหญ่ แฟนผมเองครับ"

"แฟนเหรอ?"

"ใช่ครับ"

"มีแฟนแล้วเหรอ มาทำงานเป็นอาทิตย์ไม่เคยได้ยินสรัญพูดถึงเรื่องแฟน ผมนึกว่าโสดเสียอีก"

"อ่อครับ อยู่ที่ทำงานผมไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวมากเท่าไหร่"

"งั้นที่ผมชวนไปทานข้าวเย็นนี้คงไม่ได้แล้วสินะ"

"เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับหัวหน้า ไว้รออยู่กันครบทีมค่อยไปเลี้ยงต้อนรับหัวหน้านะครับ วันนี้ผมคงต้องขอตัวกลับบ้านก่อน สวัสดีครับ"

"เดินทางกลับบ้านดีดีนะ"

"เฮ้ย!! เดี๋ยวนะรันลืมโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ พี่ใหญ่รันวิ่งไปเอาโทรศัพท์ก่อนแป๊บนึง สามนาทีเดี๋ยวรันรีบมานะครับ"

ผมพยักหน้ารับคำพร้อมกับยืนรอรันอยู่ที่เดิม กับไอ้หัวหน้าแผนกที่ยังยืนเสร่ออยู่ไม่ยอมไปไหน ผมยืนอยู่ครู่เดียวรู้สึกไม่ถูกชะตากับไอ้หมอนี่ผมเลยจะเลี่ยงเดินไปรอที่รถ แต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนมันก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

"สรัญน่ารักดีนะครับ ตอนแรกผมนึกว่ายังโสดเสียอีก"

"ทำไม ถ้ารู้ว่าโสดอยากจะจีบ?"

"อ่า จีบสิครับ ถ้าโสดต้องจีบอยู่แล้วน่ารักซะขนาดนี้ ขอโทษทีนะครับผมเป็นคนชอบพูดตรงๆ"

"งั้นกูก็คงไม่ต้องอ้อมค้อม เพราะกูก็เป็นคนตรงๆ เหมือนกัน กูไม่ชอบให้ใคร มายุ่งกับคนของกู เก็บความต้องการกลับเข้าสมองไปได้เลย"

"เห้ย ถึงกับต้องขึ้นกูมึงเลยเหรอ แค่พูดว่า อยากจีบถ้าเขาโสด ก็แค่นั้นส่วนสมองผมมีเยอะ ผมจะคิดอะไรจะทำอะไรก็เรื่องของผมจริงไหม แปลกใจจังนะ รันก็ดูน่ารักสุภาพเรียบร้อยดี ไหงชอบผู้ชายพูดจาถ่อยๆแบบนี้ได้"

"หึ สันดารกูจะเป็นยังไงไม่เกี่ยวกับมึง กูเตือนด้วยความหวังดี มึงจะรับฟังหรือไม่ก็แล้วแต่มึง แต่อย่ามายุ่งกับคนของกู"

มันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่รันก็วิ่งมาถึงหน้าเราสองคนพอดี

"แฮก แฮก มาแล้วครับ โอ้ยเหนื่อยเลย ปะกลับบ้านกัน อ่าวหัวหน้ายังไม่กลับอีกเหรอครับ "

"กำลังจะกลับครับ พรุ่งนี้เจอกันนะ"

"ครับสวัสดีครับหัวหน้า"

ผมกัดฟันกรอด พยายามเก็บอารมณ์ไว้เต็มที่ มันบอกกับรันว่าพรุ่งนี้เจอกัน แต่สายตา

มันมองเย้ยมาที่ผม เกลียดจริงไอ้ประเภทชอบลองของ อยากจะเล่นนักใช่ไหม

ได้เดี๋ยวกูจัดให้

ผมพารันไปส่งที่ห้อง เป็นเวลาหกโมงกว่า และก็ขอปลีกตัวออกมาโดยให้เหตุผลว่า ผมมีธุระกับลูกค้านิดหน่อย คงไม่น่าเกินสองทุ่มครึ่งจะกลับมา

ผมขับรถไปยังร้านขายเครื่องดนตรี แวะซื้อกีตาร์โปร่ง เลือกตัวที่มีเสียงดีที่สุดในร้าน ผมขับมาหาโยที่สวน เป็นเวลาหนึ่งทุ่มพอดี โยรอผมอยู่ก่อนแล้ว ผมเปิดประตูออกไปคุยกับโย

"มารอนานรึยัง"

"ไม่ครับพึ่งมาถึงก่อนหน้าพี่นี่เอง"

"โย มีคนมาติดรันอีกแล้วว่ะ เป็นหัวหน้าแผนกคนใหม่ของรัน ดูท่าทางกวนตีนเอาเรื่องซะด้วยนะรายนี้"

"ผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับพี่"

"ไม่ต้อง คนนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง ดูเหมือนมันจะอยากจะลองดีกับพี่อยู่ไม่น้อย ให้ลูกน้องคอยดูให้พี่เหมือนเดิมก็พอ"

"ได้ครับ"

"อืม พี่แวะเอาของขวัญมาให้ อยู่เบาะหลังรถพี่ ไปเอามาสิ"

โยเดินไปเปิดรถผมทันทีอย่างไม่อิดออด พร้อมยกกล่องใส่กีตาร์ขึ้นมา ผมไม่ได้ห่อของขวัญเป็นพิธีรีตองอะไรมากมาย แค่ผูกโบว์มาเท่านั้น

"พี่ใหญ่ พี่ให้ผมเหรอครับ"

"อืม ก็ให้ไปเอาไม่ใช่ของโยแล้วจะของใครล่ะ"

"แต่พี่ กีตาร์รุ่นนี้แพงมากเลยนะครับ ผมเคยเดินดูที่ร้านอยู่ สองหมื่นกว่าบาทแพงมากผมจำได้"

"เหรอ แล้วใช่ตัวที่อยากได้รึเปล่าล่ะ พี่ไม่รู้ว่าจะถูกใจโยไหม เลยให้เจ้าของร้านเลือกตัวที่มีเสียงใสๆ เขาเลยหยิบตัวนี้มาให้"

"พี่ครับนี่   DX2AE Macassar กีตาร์โปร่งตัวแจ่มของ Martin แบรนด์ดังเป็นกีตาร์ทรง Dreadnought ที่ทำจากไม้สปีลี่เกรดพรีเมียมงานประกอบเนี๊ยบสุด ๆให้เสียงใสเว่อร์"

"หึหึ รู้ดีขนาดนี้แสดงว่าถูกใจ"

"ถูกใจครับ ผมของคุณพี่ใหญ่มาก ตัวนี้ผมเล็งมานานแล้วแต่ไม่อยากซื้อเพราะราคามันสูง เสียดายเงิน"

"ต่อให้มันแพงกว่านี้หรือหายากกว่านี้ แค่โยอยากได้พี่ก็หาให้ได้เชื่อสิ"

"พี่ใหญ่ ผมขอบคุณจริงๆครับ"

"ไม่เป็นไร น้องรักของพี่ โย ไม่โกรธพี่ใช่ไหมที่พี่ให้โยได้แค่นี้ 'แค่น้อง'"

"สำหรับผม แค่นี้ก็เกินพอแล้ว"

"อืม กลับไปที่งานเถอะ เดี๋ยวทุกคนจะรอนาน แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ น้องชาย"

"ครับ"

ผมแยกกับโย ตรงกลับไปยังคอนโด รังรักของผมกับรัน นับจากวันนี้ผมคงจะทำตัวเฉื่อยแฉะเหมือนที่ทำมาหลายเดือนก่อนหน้าไม่ได้เสียแล้ว ผมลืมไปได้ยังไงนะว่า ลูกกวางตัวน้อยของผม สวยงามจนใครๆก็อยากได้ เหมือนกัน

Part โย

"ก้อยออกมายืนนอกร้านทำไมมืดๆ ไม่เข้าไปข้างใน"

ผมจอดรถหยิบกล่องกีตาร์ที่พี่ใหญ่ให้มากำลังจะเดินเข้าตัวบ้านแต่เจอก้อยยืนอยู่เสียก่อน

"พี่โย คุณใหญ่ให้มาเหรอคะ"

"อืม"

"พี่โย"

แค่ผมมองสีหน้าของก้อยผมก็ทราบทันทีว่าเขารู้สึกอะไร และอยากจะพูดอะไร

"ก้อย เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้ว เราจะไม่พูดซ้ำ ก้อยเข้าใจพี่เหมือนเดิมใช่ไหม พี่ไม่เคยผิดสัญญาที่ให้ไว้กับก้อย พี่จะอยู่ดูแลก้อยกับลูกไปตลอดชีวิตของพี่ ไม่ต้องคิดมากนะ"

"พี่โย ก้อยเข้าใจ ก้อยไม่ได้โกรธพี่โยหรืออิจฉาคุณใหญ่ แต่ช่วยตอบคำถามก้อยสักข้อหนึ่งได้ไหม"

"ครับ"

"ถ้าวันหนึ่งพี่ใหญ่ขอให้พี่โยไปอยู่ข้างๆเขา พี่โยจะทิ้งก้อยกับลูกไหม"

ก้อยตามผมเสียงสั่นเครือ ผมโอบกอดก้อยจูบซับขมับปลอบปละโลมส่งแผ่ความรักและความจริงใจที่ผมมีให้ ตลอดเวลาที่ผมกับก้อยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ผมไม่เคยปิดบังสิ่งใดกับก้อยเลยแม้แต่เรื่องของพี่ใหญ่ ก้อยรับได้ที่ผมมีใครอีกคนอยู่ในใจ ก้อยเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตผมที่ผมจะหาได้

"ก้อยระหว่างพี่กับพี่ใหญ่เรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น ก้อยสบายใจได้ และถ้าเกิดโชคชะตาฟ้าเล่นตลกให้พี่ใหญ่ต้องการพี่ พี่ก็ไม่มีวันทิ้งก้อยกับลูก พี่รักก้อย พี่เลือกแล้วที่จะใช้ทั้งชีวิตกับก้อย พี่รักก้อยแบบที่ชายหญิงพึงมีให้แก่กัน ไม่เหมือนกับพี่ใหญ่ มันต่างกัน พี่รักและเทิดทูญเขา ก้อยเข้าใจพี่ใช่ไหม"

"ก้อยขอโทษ ก้อยงี่เง่าเอง ไม่ควรพูดเรื่องนี้เลย"

"พูดออกมาเถอะ รู้สึกอะไรก็พูดออกมาอย่าเก็บเอาไว้ เราก็เหมือนคนๆเดียวกันไม่เอาไม่ร้องไห้งอแงนะ ดูสิตาแดงหมดเลยใกล้จะเป็นแม่คนแล้วต้องเข้มแข็งสิครับ ปะวันนี้วันเกิดพี่นะ เข้าไปฉลองข้างในกันดีกว่า"

ผมไม่สามารถบรรยายความรู้สึกระหว่างผมกับพี่ใหญ่ได้ออกมาเป็นคำพูดที่ชัดเจนหรอก เรื่องบางเรื่องมันก็ซับซ้อนมากเกินจะบอกให้ใครเข้าใจความรู้สึกของเรา  ผมยึดติดกับพี่เขาผมรู้และเข้าใจตัวเองดี แต่ก็ไม่เคยคิดจะดึงตัวเองออกจากพันธะนี้เลยสักครั้ง ไม่เคย
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 16 หน้า2 (19/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 22-05-2017 06:38:32
โรคจิต18 นอกใจกันหรือเปล่า


Part รัน


คืนนี้หลังจากพี่ใหญ่กลับมาจากคุยกับลูกค้า เรานั่งทานข้าวด้วยกันเหมือนปรกติทุกวัน เมื่อทานข้าวด้วยกันเสร็จ ระหว่างที่พี่ใหญ่เข้าไปอาบน้ำ ผมเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้ากำลังจะหยิบชุดนอนของพี่ใหญ่ออกมาวางไว้ให้เขา พร้อมทั้งชุดนอนของตัวเองเตรียมออกมารออาบน้ำต่อจากพี่ใหญ่ ผมสังเกตเห็น กระดาษแผ่นนึงตกอยู่ข้างตะกร้าใส่เสื้อผ้าที่สวมแล้ว กระดาษนั่นน่าจะตกลงมาจากชุดของพี่ใหญ่ที่เขาถอดออกก่อนเข้าห้องน้ำ ผมเลยหยิบมันขึ้นมาดูว่ามันเป็นกระดาษอะไรสำคัญไหม ถ้าเป็นแค่สลิปซื้อของธรรมดาผมจะได้เอาไปทิ้ง แล้วกระดาษที่ผมหยิบขึ้นมาดูมันคือสลิปจริงๆ แต่ที่น่าแปลกก็คือ สลิปนี้มีราคา 26,500 บาท หืม พี่ใหญ่ซื้ออะไรมานะทำไมราคาตั้งสองหมื่นกว่าบาท ผมหยิบเข้ามาดูใกล้ๆ

"กีตาร์???"

พี่ใหญ่ซื้อกีตาร์ พี่ใหญ่เล่นกีตาร์ด้วยเหรอ ผมไม่ยักรู้ แล้วไหนล่ะกีตาร์ ผมรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ พี่ใหญ่บอกว่าจะออกไปพบลูกค้า ผมพับใบเสร็จเก็บใส่กระเป๋าสตางค์เอาไว้ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากที่พี่ใหญ่ออกมาจากห้องน้ำ ผมจึงเข้าไปอาบน้ำต่อจากพี่ใหญ่ ความคิดในหัวผมกำลังว้าวุ่นผมควรถามเขาไหม เมื่อผมออกจากห้องน้ำมาก็เจอกับพี่ใหญ่ที่นั่งรอผมอยู่ที่เตียงพร้อมกับนมหนึ่งแก้วพี่ใหญ่ทำแบบนี้ทุกวันด้วยการอุ่นนมมาให้ผมทานก่อนนอนตลอด

"คนดีวันนี้ทำไมอาบน้ำช้าจังครับ นมจะเย็นหมดแล้วนะ มาทานก่อนเร็ว"

"ครับ"

ผมรับแก้วนมขึ้นมากระดกดื่มรวดเดียวจนหมด

"เด็กดีของพี่ เก่งมากครับเดี๋ยวพี่เอาแก้วไปเก็บก่อน จะมานอนกอดนะ"

พี่ใหญ่จูบหน้าผากแล้วหอมแก้ม ก่อนจะเดินออกจากห้อง นำแก้วนมเปล่าไปเก็บ

หลังจากที่เราปิดไฟนอนกันเรียบร้อยแล้ว ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความมืด มีแต่ดวงตาของผมเท่านั้นที่มันยังตื่นโพรงอยู่

"พี่ใหญ่หลับหรือยังครับ"

"หืม... ยังครับรันยังไม่หลับอีกเหรอ"

"ผมนอนไม่หลับ"

"มีอะไรหรือเปล่า หืม"

"เปล่า วันนี้ผมทานกาแฟไปตอนเย็นเลยตาแข็งไปหน่อย"

"เอ้า ทำไมทานกาแฟตอนเย็นล่ะ เปิดไฟก่อนไหมเดี๋ยวพี่นั่งคุยเป็นเพื่อน"

"ไม่ต้องหรอกครับ นอนคุยกันแบบนี้ก็ได้รันอยากนอนกอดพี่มากกว่า พี่ใหญ่ครับ เมื่อเย็นไปหาลูกค้ามามีเรื่องด่วนเหรอ"

"ก็...นิดหน่อยครับ ไม่มีอะไรมาก"

"เหรอครับ นึกว่ามีเรื่องเร่งด่วนอะไรเห็นรีบออกไป รู้งี้รันขอตามออกไปด้วยก็ดีหรอก ตอนแรกนึกว่าพี่จะไปนาน กะว่าจะไปคุมสักหน่อย กลัวแอบหนีเที่ยว"

"หึหึ อย่างพี่เนี่ยนะหนีเที่ยว รีบทำธุระที่บริษัทเสร็จก็รีบกลับมาหารันทันทีเลย จะไปแวะที่ไหนได้ มีแฟนน่ารักขนาดนี้ ต้องกลับมาตายรังอย่างเดียว"

"ครับ นอนกันดีกว่า ผมเริ่มจะง่วงนิดๆละ"

"อ่าวไหนเมื่อกี๋บอกตาแข็งนอนไม่หลับ"

"ผมล้อเล่น ง่วงนอนแล้ว หาเรื่องคุยก่อนจะหลับต่างหาก"

"งั้นก็นอนเถอะฝันดีนะ ที่รักของพี่"

"ฝันดีครับ"

ผมได้คำตอบแล้ว คำตอบทีไม่มีเรื่องของสลิปค่ากีตาร์อยู่เลย พี่กำลังโกหกผมอยู่ใช่ไหม

ขณะที่ผมกับเพื่อนๆกำลังนั่งทานมื้อกลางวันกันที่ร้านบริเวณด้านหน้าบริษัทหัวหน้าแผนกคนใหม่ก็เดินเข้ามา

"อ่าววันนี้มาทานที่นี่กันเหรอ แหม ไม่มีใครชวนผมเลยสักคน"

"อ้าวหัวหน้า มาคนเดียวเหรอครับ มานั่งทานกับพวกเราไหม"

แมนถามหัวหน้าพร้อมชวนให้นั่งทานที่โต๊ะเดียวกัน แล้วเขาก็ไม่ปฏิเสธ แถมเลือกที่นั่งติดกับผม

"ทุกคนเรียกผมว่าพี่โชคก็พอ ไม่ต้องเรียกหัวหน้าหรอก คนกันเองทั้งนั้น จะได้สนิทกันเวลาทำงานด้วย เออจริงสิ สรัญ เมื่อวานตอนเย็นพี่ไปออกกำลังกายพี่เจอแฟนสรัญด้วยนะคนที่มารับสรัญเมื่อวานเจอที่สวนสุขภาพ เห็นยืนคุยอยู่กับผู้ชายคนนึง"

เมื่อเขาบอกให้ทุกคนเรียกเขาว่าพี่ สรรพนามในการพูดกับผมก็เปลี่ยนทันที

แต่เดี๋ยวนะ เจอพี่ใหญ่งั้นเหรอที่สวนสุขภาพเนี่ยนะ

"หัวหน้า เจอพี่ใหญ่เหรอครับจำผิดคนหรือเปล่า"

"ไม่ผิดนะพี่จำได้ ตอนช่วงสักประมาณทุ่มกว่า พี่กำลังจะกลับพอดี แต่เห็นมีคนยืนคุยกันอยู่สองคนพี่เลยหันไปมอง มืดหน่อยแต่พอมีแสงไฟ ไม่ผิดหรอกใส่สูทสีเทาชุดเดิมยืนคุยกันที่รถออดี้สีดำที่มารับสรัญเมื่อเย็นนั่นแหละ"

"อ่อ เหรอครับ"

ผมเงียบไป ไม่อยากจะซักไซ้เขาต่อ แต่ผมส่งสายตาให้คิง คิงหันมามองสบตาผม เหมือนเขารู้ว่าผมต้องการจะสื่ออะไร เขาจึงตั้งคำถามกับหัวหน้า

"หัวหน้า เอ่อ...พี่โชคครับ แล้วสองคนนั้น ยืนทำอะไรกันเหรอครับ"

"พี่เห็นเขายืนคุยกัน เห็นผู้ชายอีกคนยืนถือกล่องใบใหญ่ๆน่าจะเป็นของขวัญ เพราะมีโบว์ผูกเอาไว้ แต่พี่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะ เห็นเขาเปิดๆดูอยู่เหมือนกันแต่มันไกลพี่มองไม่ชัดเท่าไหร่คุยกันสักพักพอพี่เดินขึ้นรถ กำลังจะขับออกก็เห็นพวกเขาขึ้นรถแล้วก็ขับแยกกันกันออกไป คือตอนแรกพี่นึกว่าสรัญอยู่ในรถซะอีก แต่มองไปเห็นรถดับเครื่อง แสดงว่าไม่ได้มาด้วย"

"ครับพี่ใหญ่เขาไปเอาของให้ลูกค้าน่ะ ผมอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปด้วย"

"อ่อ  อ่าวข้าวพี่มาละ เอาทานๆกันเดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง"

หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จกลุ่มผมแยกออกมาจากหัวหน้า ยังไม่ถึงเวลาเข้างานพวกเราเลยนั่งคุยกันในกลุ่ม

"มึงตกลงทุ่มกว่าๆเนี่ย พี่ใหญ่ไม่ได้อยู่บ้านกับมึงใช่มะ"

คิงถาม

"อืม เขามาส่งที่คอนโด แล้วก็ออกไปบอกว่ามีธุระคุยกับลูกค้านิดหน่อย"

"แล้วเขากลับมาตอนกี่โมง"

"ก็เกือบๆสองทุ่มได้"

"มึงว่าที่หัวหน้าเห็นจะใช่พี่ใหญ่ปะ แล้วนัดกับลูกค้าทำไมเจอกันที่สวนวะ"

"หัวหน้าเขาคงจำคนผิดมากกว่า "

"เหรอ ก็คงงั้นล่ะมั้ง พี่ใหญ่คงไม่บ้าไปนัดคุยกับลูกค้าที่สวนสุขภาพหรอกจริงมะ กูว่าหัวหน้าแผนกตาฝาดชัวร์ มั่วนิ่มชิปหาย"

อืม ใครมันจะไปบ้านัดเจอกับลูกค้าที่สวนสุขภาพ นอกเสียจากคนที่นัดเจอไม่ใช่ลูกค้า แล้วกล่องใบใหญ่ๆ ที่หัวหน้าเห็น คงเป็นกีตาร์ด้วยสินะ

ผมไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงดี ผมไม่กล้าแม้แต่จะถามพี่ใหญ่ถึงเรื่องที่สงสัย ผมกลัว กลัวว่าเราจะต้องทาเลาะกัน กลัวว่าเขาจะโกหกกลัวว่าจะเจอความจริงที่ผมรับไม่ไหว กลัวไปหมดทุกอย่าง

"รัน เป็นอะไรรึเปล่า พี่เห็นเงียบๆตั้งแต่กลับจากที่ทำงานแล้ว มีปัญหาเรื่องงานเหรอ"

"เปล่าครับ รันแค่รู้สึกเหนื่อยๆ เท่านั้นเอง"

"ไม่สบายเหรอครับ"

"ป่าวหรอกครับ ผมแค่อยากจะพักสายตาสักหน่อย"

"อืม งั้นวันนี้รันนอนเร็วหน่อยนะ จะได้พักผ่อนได้เต็มที่"

"ครับ"

Rrrrrrrrrrrrrr

หลังจากพูดจบ เสียงโทรศัพท์ของพี่ใหญ่ก็ดังขึ้น

"รันนอนพักก่อนนะครับ พี่ไปรับโทรศัพท์ กับลูกค้าก่อน เดี๋ยวมานะครับ"

พี่ใหญ่เดินออกจากห้องนอนไป ผมลุกขึ้นจากเตียง ค่อยๆเปิดประตูอย่างเบามือที่สุด ผมมาหยุดยืนอยู่หลังกำแพงที่ขั้นระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น

"อืม พี่เปิดดูแล้ว ใช้ได้ ตรงตามแบบที่พี่อยากได้ เดี๋ยวพี่จะริสรายการของที่ต้องใช้ไว้ให้......... อืมไม่ต้องหรอกพี่อยากให้มันเป็นธรรมชาติมากกว่า เอาแค่เตียง กับโต๊ะ ก็พอ ของอย่างอื่นฟุ่มเฟื่อยก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปลง โยเอาแบบมาให้พี่ดูก็แล้วกัน เอาไม้โทนเดียวกับสีไม้ของบ้านนะ เออ พี่เกือบลืม วันเสาร์แวะไปหาพี่ที่บ้านหน่อยพี่จะเลือกของบางส่วนไปไว้ที่บ้านในป่าด้วย เดี๋ยวเวลาพี่จะโทรบอกอีกที มีอะไรเพิ่มอีกไหม............ อืม พี่จ้างช่างที่ร้านเขาสลักชื่อย่อให้ที่กีตาร์ ถูกใจไหม..............ตัววายสองตัวจะแปลว่าอะไรได้นอกจาก ใหญ่กับโย..........หึหึ อืมได้ไว้พี่จะรอฟังแค่นี้ก่อนนะ"

ผมยืนเอามือกุมอกข้างซ้ายของตัวเองไว้แน่น ความรู้สึกเหมือนกับหายใจไม่ออกมันเป็นแบบนี้เองเหรอ พี่ใหญ่โกหกผม เมื่อวานเข้าไม่ได้ไปพบลูกค้า แต่เขาไปหาคนชื่อโยสลิปค่ากีตาร์ ก็เป็นของคนชื่อโย ใหญ่กับโย อย่างนั้นเหรอแล้วผมล่ะ ผมยืนขาแข็งอยู่ตรงนี้ชั่วขณะนึง จึงค่อยๆพาร่างที่แทบไร้แรงเดินของตัวเองกลับเข้าไปที่ห้องนอน โชคดีที่พี่ใหญ่ไม่ได้เดินออกมาจากครัวหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมได้ยินเสียงล้างจาน พี่ใหญ่คงยืนล้างจานต่อหลังจากวางโทรศัพท์ ผมล้มตัวซุกหน้าลงกับหมอน ไม่รู้ว่าผมจมจ่อมกับความคิดของตัวเองนานแค่ไหน ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อพี่ใหญ่ ลงมานอนข้างๆแล้วรวบผม เข้าไปกอดไว้แนบอกผมหลับตานอนซบอกกว้างของผู้ชายคนนี้ คนที่ผมรักหมดหัวใจ วันเสาร์นี้ ผมคงจะได้รู้ความจริง เมื่อถึงวันนั้นผมคงหาคำตอบให้กับชีวิตตัวเองได้ล่ะมั้ง

ในห้วงแห่งความฝัน

'พี่ครับช่วยกอดผมแบบนี้ตลอดไปได้ไหม อย่าทิ้งผมไปไหนเลยนะ โปรดอยู่กับผมตรงนี้ต่อไปด้วยเถอะอย่าทิ้งผมไปเหมือนเขาคนนั้น เพราะผมคงทนรับมันอีกครั้งไม่ไหว
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 17-18 หน้า2 (22/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 25-05-2017 21:39:23
คนแต่งหายไปไหนนน T^T
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 17-18 หน้า2 (22/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 26-05-2017 00:44:39
เริ่มสงสัยว่ามีคนโรคจิตกี่คนในเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 17-18 หน้า2 (22/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 26-05-2017 02:28:49
จะเกิดจำเลยรักแล้ว
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 26-05-2017 06:39:00
โรคจิต19 Special(แมนxคิง)

ต่อ(รัน)


ผมปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนๆ เพราะไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้ยังไง พรุ่งนี้ก็จะถึงวันเสาร์แล้ว

"มึงอย่าพึ่งคิดมากนะรันอะไรที่เรายังไม่รู้แน่ชัดอย่าพึ่งไปธสรุปคิดเอาเอง พี่ใหญ่กับคนนั้นอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิดก็ได้ พรุ่งนี้มึงโทรหากู ตอนที่พี่ใหญ่จะออกไปข้างนอกเดี๋ยวกูกับแมน จะขับตามพี่เขาไปเอง ส่วนมึงรอให้เขาออกมาก่อนแล้วค่อยนั่งรถไปกับไอ้อิฐ มึงโอเคนะอย่าพึ่งคิดมากยังไงซะมึงก็ยังมีพวกกูอยู่ มึงไม่ได้อยู่คนเดียวนะเว้ย เข้าใจรึเปล่า"

คิงพูดปลอบใจผม

"อืมตกลงตามนั้นขอบใจพวกมึงมากที่ช่วยกู"

"เออ ก็เพื่อนกันนี่หว่าส่วนมึงไอคิง คืนนี้กูไปนอนที่คอนโดมึงไม่ต้องออกไปแรดไหนล่ะ"

"เชี่ยแมนจะมานอนที่คอนโดกูทำไมไม่ทราบ"

"อ่าวก็เผื่อพรุ่งนี้พี่ใหญ่เขาออกไปปุ๊บปั๊บ แล้วเราจะตามทันได้ไงไอ้โง่ กว่ากูจะมารับมึงที่คอนโดอีก พอดีพลาดไม่ต้องรู้เรื่องกัน กูไปนอนที่คอนโดมึงนั่นแหละเวิร์คสุด"

"แล้วทำไมต้องห้ามกูเที่ยวด้วยล่ะ"

"ไอ้เวร เพื่อนมึงมีเรื่องทุกข์ใจขนาดนี้มึงยังจะห่วงเที่ยวอีกเหรอ"

"เออๆ แหมกูแค่ถามไปงั้นไม่ได้จะไปเที่ยวไหนสักหน่อยด่ากูอยู่ได้"

"ก็มึงกวนส้นตีนไม่ได้คิดจะไปแล้วยังจะเสือกเถียงขึ้นมาอีก"

"เออด่ากูเข้าไป ใช่ซี๊ กูมันเมียน้อยนิ"

"ทะลึ่งแล้วสัด"

"พวกมึงสองตัว เอาไว้ไปกัดกันบนเตียงต่อคืนนี้เถอะ กูขี้เกียจฟังว่ะ ไปรันไปหาไรกินกันดีกว่า"

"อิฐมึง พูดให้มันดีๆกูเสียหายมากมายเลยนะแบบนี้ เสียเครดิตหมดเดี๋ยวใครเขานึกว่าไอ้แมนเป็นผัวกู"

"แหมทำอย่างกับกูอยากเป็นผัวมึงตายแหละ"

"เอ๊อ อย่ากลืนน้ำลายตัวเองแล้วกันเดี๋วคืนนี้กูจะโชว์หุ่นแน่นเปี๊ยะทุกสัดส่วนให้มึงชมดูดิ๊มึงจะอดใจได้ไหม"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ถุย เออกูจะคอยดู"

"พวกมึงสองคนชอบทำเป็นเล่น ระวังผีกลักนะเดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือน" อิฐเย้า

"ไม่มีทาง"  (ประสานเสียง)

Special (แมนxคิง)

Part แมน

"ไอ้แมนมึงนอนโซฟานะ"

"เรื่องไรกูจะนอนเตียง มึงอย่ามาเยอะเรื่อง"

"มึงไม่กลัวกูปล้ำ มึงก็นอนไปแล้วกัน"

"หึหึ กูไม่ได้เป็นง่อยป่าววะจะได้ไม่มีแรงกระทืบมึง"

"ชิ ตามใจมึง กูไปอาบน้ำก่อนละไม่ไหว ร้อน เหนื่อยด้วย"

Rrrrrrrrrrrrrrr

เสียงโทนศัพท์ไอ้คิงดังขึ้นหลังจากมันเดินไปอาบน้ำได้ไม่นาน ผมจึงหยิบขึ้นมาดู

'วีจ๋า'

พิมพ์ชื่อกูว่าตัวเหี้ย ทีผู้ชายคนอื่นพิมพ์ วีจ๋า หึ ได้วีจ๋าเดี๋ยวรู้จัก

"ฮัลโหล"

"...เอ่อ นี่ใช่เบอร์ของคิงหรือเปล่าครับ"

"ใช่"

"ผมรบกวนขอสายคิงหน่อยครับ"

"ไอ้คิงมันอาบน้ำอยู่ มีธุระอะไรด่วนไหม ฝากผมได้"

"เอ่อ...งั้นฝากบอกคิงทีครับว่า วีกำลังจะไปหาที่คอนโดจะรับคิงออกไปทานข้าวนะครับ อีกประมาณสิบนาทีผมจะถึง"

"อืม แล้วจะบอกให้"

ผมกดวางสายทันทีขี้เกียจเสวนาด้วย อีกสิบนาทีจะมาเหรอ หึหึ ได้เวลาเอาคืนแล้วมึง ไอ้คิงจ๋า

"ไอ้แมนมึงนั่งยิ้มอะไรวะเป็นอะไรมากรึเปล่า กูยืนดูมึงนั่งโปรยยิ้มอ่อนนานละ ไปอาบน้ำสักทีกูง่วงนอนละ"

อ่าวนี่ผมนั่งคิดอะไรเพลินไปหน่อย มันอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอเนี่ย

"เดี๋ยวดิคิงมึงมานี่หน่อย ดูหลังให้กูทีคันว่ะดูดิ๊มีตัวไรกัดอยู่ป่าว"

ไอ้คิงเดินตรงมาหาผมพร้อมผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่ที่เอวเท่านั้น

"ไหนมึงไม่เห็นมีอะไรเลยวะ"

"เออไม่รู้ดิคันว่ะ เกาให้กูหน่อย ทั่วๆหลังเลย"

ติ๊งต่อง ยังไม่ทันที่คิงจะได้นั่งเกาหลังผม เสียงกริ่งก็ดังขึ้น

"ใครมาวะ"

"มึงนั่งนี่แหละไม่ต้องลุกไปเดี๋ยวกูไปเปิดให้เอง อาจจะเป็นไออิฐก็ได้"

"เออๆ"

มันพยักหน้าให้ผมๆจึงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูด้วยสภาพเปลือยท่อนบน เพราะพึ่งถอดเสื้อจะให้ไอคิงเกาหลัง

แกร๊ก

"เอ่อ....."

"หาไอ้คิงใช่มะ เข้ามาดิพึ่งเสร็จพอดี"

ฮ่าฮ่าฮ่า หย่อนขี้ไว้หนึ่งกอง

"สะ เสร็จอะไรเหรอครับ"

ผมไม่ตอบพลางเดินน้ำหน้าไอ้วีจ๋าของเหี้ยคิงเข้ามา ผมนี่แทบจะกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ไอ้วีจ๋าหน้าเสียทันทีที่เห็นคิง นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่ที่โซฟา ส่วนผม เปลือยท่อนบนไม่ต้องสืบเลยว่าในหัวมันคิดอะไรอยู่

"อ่าว วีมาได้ไง มีธุระอะไรหรือเปล่า"

"คิง ค...คือวีตั้งใจจะมารับคิงไปทานข้าว วีโทรมาก่อนแล้วรอบนึงนะ"

ไอ้คิงเหล่มองผมอย่างคาดโทษ

"ที่ไหนวีคิงไปไหนไกลๆไม่ได้นะพรุ่งนี้คิงมีธุระแต่เช้า"

"เหรองั้นออกไปทานข้าวกับวีได้ไหมแล้วเดี๋ยววีมาส่ง ก่อนเที่ยงคืนแน่นอน"

"ก่อนเที่ยงคืนนี่พึ่งสองทุ่ม กินข้าวเหี้ยไรสามสี่ชั่วโมง ไอ้คิงมึงบอกกูว่าคืนนี้มึงจะไม่ออกไปเที่ยวไหน"

"เออ แบบว่าไปไม่นานได้ป่าววะ"

"มึงยังมีแรงเที่ยวอีกเหรอไหนบอกกูว่าเหนื่อย"

"เอ่อ วีๆ นั่งรอคิงตรงนี้แป๊บนึงนะ เดี๋ยวคิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน"

"ครับ"

พูดจบไอ้คิงก็วิ่งเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนชุดทันที

"ไอ้คิงไอ้สัดตอแหลตลอด" ผมตะโกนเสียงดังไล่หลังมันไป

"มึง แดกข้าวคนเดียวไม่ได้เหรอไง ถึงต้องเอาเมียกูไปนั่งแดกด้วย"

"ห๊ะ เมีย คิงเมียคุณเหรอครับ"

"เออสิเหี้ย ไม่เห็นสภาพพวกกูเหรอแทบจะแก้ผ้ากันอยู่แล้วเป็นเพื่อนมั่งสัด กูไม่อยากทาเลาะกับเมียกู เพราะงั้นมึงช่วยกรุณาย้ายก้นออกจากห้องกูโดยด่วน แล้วอย่ามายุ่งกับเมียกูอีก เข้าใจไหม"

"ห๊ะ เข้าใจไหม ที่กูพูดเนี่ย"

"อ่ะ ครับๆ เข้าใจผมขอโทษด้วยครับ ไม่ทราบว่าคิงมีแฟนแล้วงั้นผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันครับ ขอโทษจริงๆ"

แล้วไอ้วีจ๋า ก็รีบพุ่งออกจากห้องของไอ้คิงทันที พร้อมกับที่ไอ้คิงเปิดประตูออกมา

"เสร็จแล้ว  อ่าว วีล่ะ วีไปไหน"

"มันกลับไปแล้ว"

"อ่าวไหงงั้นอ่ะ ทำไมกลับไปแล้วไหนว่าจะพากูไปกินข้าว"

"ห่วงแดกเหรอไม่มีปัญญาหาแดกเองถึงต้องให้คนอื่นพาไปแดก"

"เอ้า มึงนานๆจะมีผู้ชายมารับไปแดกสักที กูก็ต้องรีบสนองดิ เดี๋ยวนะเพราะมึงใช่มะไอ้แมน มึงไล่วีใช่ป่าว ตอบกูมา"

"ฮ่าฮ่า เออ กูไล่มันไปเอง มีไรปะ"

"เหี้ยตลอดศกอ่ะมึง กูอดแดกข้าวฟรีแถมอดแดกผู้ชายด้วย เสียอารมณ์อุส่าแต่งตัว แล้วมึงไล่วีไงวะ ถึงได้ยอมไป"

"กูก็บอกมันไปว่ากูเป็นผัวมึง ฮ่าฮ่า โคตรขำหน้าแม่ง เหวอเลยรีบถอยทัพกลับอย่างไว"

"ไอ้เลว มึงนี่เลวหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ คืนนี้กูอดทั้งของคาวทั้งของหวานเลยแม่ง"

"กับกูก็ได้นะ"

"หืม!! มึงพูดว่าอะไรนะไอ้แมน"

"กูบอกว่ากับกูก็ได้นะ ถ้ามึงอยาก"

"เหอะๆ ไม่เอาหรอกมึงมาไม้ไหนของมึง จะแกล้งกูอีกดิกูยอมอดอยากตายดีกว่าเอามึงอ่ะจริง"

"ก็ตามใจมึง อยากอดตายไปทั้งชีวิตก็ตามใจ เพราะกูไม่ปล่อยให้มึงไปเอากับใครอีกเหมือนกัน"

ผมทิ้งระเบิดตูมใหญ่ ใส่ทั้งตัวเองและก็ไอ้คิง แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ

ที่เขาว่ากันว่า เกลียดอย่างไหนได้อย่างนั้นเห็นจะจริงสินะ เพราะเมื่อก่อนผมเกลียดความเป็นเกย์ของมันสุดๆ แต่ว่าตอนนี้ อยากกลับลำ กลืนน้ำลายตัวเองแทบทุกวัน แต่ไม่รู้จะทำได้ไง ในเมื่อเป็นเพื่อนกันมาตลอด
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 26-05-2017 06:51:05
โรคจิต20 ไม่รักก็บอกมา

Part รัน


เช้าวันเสาร์ผมตื่นนอนขึ้นมาแต่เช้าตรู่ ทั้งๆที่เมื่อคืนนอนแทบไม่หลับ ผมหันไปมองพี่ใหญ่ที่นอนอยู่ข้างๆ เขายังไม่ตื่นเลยผมจึงลุกขึ้นมา ทำมื้อเช้าง่ายๆ แล้วก็ไปอาบน้ำออกมานั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องนั่งเล่น เปิดไปเรื่อยเปื่อยไม่มีกระจิตกระใจจะดูสักเท่าไหร่หรอก แค่เปิดให้ห้องมันดูไม่เงียบเหงาเกินไปเท่านั้นแล้วพอถึงเวลาเก้าโมงกว่าพี่ใหญ่ก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอน ทักทายกับผมปรกติเหมือนทุกวันถ้าไม่มีเรื่องของคนชื่อโยเกิดขึ้น วันนี้ก็คงเป็นอีกวันที่ผมมีความสุขทุกอย่างราบเรียบ ตลอดมื้ออาหารเช้าได้ไม่นานสิ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ก็กำลังจะเกิด

"รันครับ เดี๋ยวอีกสักพักพี่ต้องออกไปธุระข้างนอกหน่อยนะ เดี๋ยวบ่ายๆพี่กลับมา วันนี้รันจะออกไปไหนหรือเปล่า"

"ไม่ครับ ไม่ได้ไปไหน อยู่ที่ห้องนี่แหละ งพี่ไปเถอะรีบไปรีบกลับนะ"

"โอเคครับ พี่จะรีบไปรีบกลับนะคนดี"

"ครับ"

หลังจากที่พูดกันเสร็จพี่ใหญ่ก็กลับเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะออกไปข้างนอกระหว่างนั้นผมจึงไลน์ไปบอกกับคิงว่าให้เตรียมออกมารอได้แล้ว คอนโดของผมกับคิงอยู่กันไม่ไกลมากไม่ถึงสิบนาที

แล้วเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก คิงก็ไลน์มาหาผม ว่าอยู่ลานจอดรถของคอนโดเรียบร้อยแล้ว รวมถึงอิฐด้วยผมจึงเตรียมพร้อม ทั้งตัวทั้งใจเพื่อจะไปเผชิญกับความจริงวันนี้ เมื่อพี่ใหญ่แต่งตัวเสร็จสักพักเขาจึงออกไปผมยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องตัวเองอยู่พักใหญ่ อิฐจึงโทรบอกให้ผมเดินลงมาเมื่อผมเปิดประตูเข้าไปที่รถ อิฐจึงบอกกับผมว่า แมนกับคิงขับรถตามพี่ใหญ่ออกไปแล้ว ผมนั่งอยู่ในรถช่วงเวลาประมาณเกือบสามสิบนาทีได้ อิฐก็ขับเข้ามาจอดในซอยแห่งหนึ่ง

"รันโอเคไหม"

"อืม"

"สูดหายใจลึกๆ ใจเย็นๆนะ"

"ขอบใจมากอิฐ ไปเถอะ"

ผมลงมาจากรถ เดินไปที่รถของแมนซึ่งคิงกับแมนยืนรออยู่ก่อนแล้ว

"รัน พี่ใหญ่ขับรถเข้าไปบ้านเดี่ยวที่รั้วสูงๆสุดทางเดินนั่น"

คิงชี้ให้ผมดูรั้วบ้านสีขาวสูงเห็นหลังคาบ้านโผล่พ้นมา ไม่ไกลนัก

"มึงจะเอาไงต่อ คือกูแอบเดินไปส่องดูเมื่อกี๋ เห็นมีรถจอดอยู่อีกคันนึง"

"รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวกูเข้าไปเอง"

"มึงไหวแน่เหรอวะ ให้กูเข้าไปเป็นเพื่อนไหม"

"คิงกูขอเข้าไปคนเดียว ไม่เป็นไร"

"อืม งั้นพวกกูเดินไปส่งมึงที่รั้ว แล้วรออยู่แถวหน้าบ้านเนี่ยแหละ มีอะไรไม่ดีก็ตะโกนเรียกพวกกูแล้วกัน"

ผมพยักหน้า แล้วเดินตรงไปยังบ้านหลังดังกล่าว ทุกก้าวย่างที่ผมเดิน หัวใจผมสั่นและเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงหน้าประตูรั้วของบ้านคิงอิฐและแมนจึงหยุดเดินแล้วรอผมอยู่ตรงนั้น

ผมเดินไปหยุดยังหน้าประตูรั่วของบ้าน ใช้มือผลักบานประตูรั้วบานเล็กสำหรับเดินเข้าไปแทน มันไม่ได้ล็อคเอาไว้  ผมหันไปสบตาเพื่อนๆ ทุกคนส่งผ่านความห่วงใยมาให้ ผมรับรู้ได้พยักหน้าใส่พวกเขาแล้วเดินเข้าไปข้างในบ้าน เห็นรถพี่ใหญ่จอดอยู่คู่กับรถอีกคันพี่ใหญ่อยู่ที่นี่กับคนนั้น ผมยืนนิ่งมองประตูบ้านหลังนี้ ผมควรเดินไปลองเปิดมันแต่ขาผมไม่มีแรงจะขยับไปไหนได้เลยตัวสั่นไปหมดพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เต็มที่แล้วแต่ก็ทำไม่ได้จริงๆ

ระหว่างที่ผมกำลังพยายามสู้กับตัวเองอยู่นั้นประตูบ้านก็เปิดขึ้น สายตาของผมประสานกับสายตาของใครอีกคน ผู้ชายคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนคนนี้ใช่ไหมที่ชื่อโย

"คุณรัน"

ผู้ชายคนนี้เรียกชื่อผม เขารู้จักผมด้วยเหรอ?

"มาที่นี่ได้ยังไงครับ"

"คุณ ชื่อโยใช่ไหมพี่ใหญ่อยู่ในบ้านนี้ใช่หรือเปล่า"

ในขณะที่ผมถามคำถามออกไปจากปาก แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบ ผมก็ได้ยินเสียงพี่ใหญ่พูดขึ้นมาจากในบ้าน

"โย เอาแคตตาล็อกเสร็จแล้วหยิบกรอบรูปที่เบาะหลังรถพี่มาด้วยนะ"

แล้วสิ่งที่ผมเห็นคืน พี่ใหญ่ที่เปลือยท่อนบน มีแค่กางเกงยีนส์ตัวเดียว พูดพร้อมเปิดประตูออกมาทำให้ประตูกระแทกเข้ากับคนที่กำลังยืนอึ้งมองหน้าผมอยู่

"เฮ้ยโย เจ็บหรือเปล่า มายืนทำไมตรงนี้ ไหนมาให้พี่ดูสิ๊"

พี่ใหญ่พลักจากประตูแล้วเดินไปดูคนที่เขาเปิดประตูกระแทกใส่หน้า ทำไมต้องทำท่าทางเป็นห่วงมากขนาดนั้น พี่คิดว่ามีแค่เขากับพี่สองคนบนโลกใบนี้เหรอ หันมามองทางนี้สักนิดสิ ผมยืนโง่อยู่ตรงนี้หันมามองกันบ้าง

"พี่ใหญ่ คุณรัน"

ผู้ชายคนนั้นปัดมือพี่ใหญ่ออก พร้อมทั้งบอกว่าผมยืนอยู่ตรงนี้

"รัน"

"รันมาที่นี่ได้ยังไงครับ"

"ผมตามพี่มา ไหนพี่บอกว่ามีธุระไงครับ นี่เหรอธุระของพี่"

"คือ....คนดีกำลังเข้าใจพี่ผิด พี่อธิบายได้นะครับ"

แล้วพี่ใหญ่ก็พุ่งตัวเข้ามาหาผม

"หยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องเดินเข้ามาหาผม ผมกำลังเข้าใจผิดใช่ไหม งั้นช่วยตอบคำถามอะไรผมสักสองสามข้อได้หรือเปล่า"

"ครับ"

"นี่บ้านของใครครับ"

"รัน...บ้านของพี่เองครับ"

"บ้านของพี่ หึ พี่มีบ้านหลังใหญ่โต ทำไมถึงย้ายไปอยู่ที่คอนโดแคบๆล่ะครับ"

"...."

"ผู้ชายคนนี้ชื่อโยใช่หรือเปล่า"

"รันรู้จักโยด้วยเหรอ"

"ผมรู้แค่ว่าเขาคือธุระของพี่มาตลอด คือคนที่พี่มาหาตอนบอกกับผมว่ามีธุระ คือคนที่พี่โทรคุยด้วยตอนบอกกับผมว่าคุยกับลูกค้าผมพูดถูกใช่ไหม เมื่อวานพี่ไม่ได้ไปพบลูกค้าแต่พี่ไปหาเขาที่สวนสุขภาพ ซื้อกีตาร์ให้เขาราคา 26,500 ใช่รึเปล่าครับ"

"รันรู้"

"วายวาย คือใหญ่กับโย ผมคือส่วนเกินใช่ไหม"

"รันไม่ใช่แบบนั้นนะพี่กับโยเราไม่ได้มีอะไรกัน รันเชื่อพี่นะครับ พี่รักรันแค่คนเดียวจริงๆพี่สาบานได้ "

"รักผมแล้วทำไมต้องโกหกผมมาตลอดด้วย พี่มีบ้านหลังนี้ทำไมพี่ไม่เคยบอกผม พี่นัดเจอกับเขาที่บ้านหลังนี้แล้วดูสภาพพี่สิ ถอดเสื้อทำไมครับ อย่าบอกนะว่าแค่มาคุยธุระ ผมขอเข้าไปในบ้านได้ไหม เข้าไปดูให้ชัดๆไปเลย ว่ามันจริงหรือไม่จริง"

"ไม่ได้เข้าไปไม่ได้ คือพี่...พี่"

"งั้นก็พอเถอะครับ พอแค่นี้เถอะ เลิกโกหกผมสักที ผมโง่กับพี่มาพอแล้ว เชิญคุยธุระกันต่อตามสบาย ผมขอตัว"

"รันไม่ ไม่ พี่ไม่ให้ไป อย่าทำแบบนี้รันพี่ขอร้อง"

พี่ใหญ่วิ่งพุ่งเข้ามากอดผมจากด้านหลัง หลังจากที่ผมกำลังหันหลังเดินออกจากบ้าน  พี่ใหญ่กอดผมแน่นมากจนผมเจ็บไปหมด ตอนนี้ผมกำลังเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ ชาไปหมดแล้ว

"ปล่อยผมเถอะ พี่ไม่มีความจริงใจให้ผม พี่มีใครอีกคนทำแบบนี้ได้ยังไง พี่มีเขาพี่จะมารั้งผมไว้เพื่ออะไร ไม่มีผมสักคนพี่จะได้ไม่ต้องมาคอยสร้างเรื่องโกหกแล้วแอบมานัดเจอกันให้มันยากลำบากแบบนี้อีก"

"ไม่รัน ไม่พี่ไม่ปล่อย อย่าทำแบบนี้ พี่ยอมแล้วรัน พี่ยอมแล้วครับ จะเข้าไปข้างในบ้านก็ได้ ขอร้องอย่าเดินหนีพี่ อย่าหนีพี่ไม่ยอม"

"งั้นก็ปล่อยผม"

พี่ใหญ่ค่อยๆคลายอ้อมกอดที่รัดแน่นออก ผมหันไปสบตากับเขา ตอนนี้ผมไม่เห็นพี่ใหญ่คนเดิมของผมอีกแล้ว สิ่งที่ผมเห็นคือผู้ชายที่กำลังหลอกลวงผม ผมหันกลับไปมองผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน

"ผมขอถามคุณ ถ้าผมเดินเข้าไปในบ้านผมจะเห็นอะไร"

"เห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็น"

"อย่างนั้นเหรอ"

"ผมกับพี่ใหญ่ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ถ้าคุณเข้าไปในบ้านคุณจะไม่เห็นอะไรที่เกี่ยวกับผม ผมเป็นรุ่นน้องพี่ใหญ่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย และผมมีภรรยาแล้ว ผมมาที่นี่เพราะพี่ใหญ่ขอให้ผมช่วยเหลือ ไม่ได้มาทำอะไรไม่ดีอย่างที่คุณรันกำลังเข้าใจผิด ผมแค่ขอให้คุณเชื่อใจพี่ใหญ่ เขารักแค่คุณคนเดียว ผมอยากจะขอไม่ให้คุณเดินเข้าไปในบ้านเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่คุณควรจะรู้ ผมบอกได้แค่ว่าข้างใน มีแค่เรื่องของคุณกับพี่ใหญ่ เท่านั้น ถ้าคุณรักพี่ใหญ่ผมขอให้คุณเชื่อใจเขา พี่ใหญ่จะไม่มีวันหักหลังคุณ บ้านหลังนี้คือของเขากับคุณ เมื่อถึงเวลา พี่ใหญ่จะพาคุณมาด้วยตัวของเขาเอง

เรื่องของพี่ใหญ่กับผม อย่างนั้นเหรอ

"ผมจะเข้าไป"

"ได้แต่สัญญากับพี่ก่อนว่าเข้าไปแล้วจะไม่โกรธพี่"

"ถ้าไม่ใช่เรื่องนอกใจ ผมสัญญาว่าจะไม่โกรธ"

"รับปากแล้วนะ ห้ามโกรธ เดี๋ยวพี่พาเข้าไปเอง โยกลับไปก่อนพี่ขอโทษด้วยนะ"

"ครับ ไม่เป็นไร คุณรัน ว่างๆให้พี่ใหญ่พาไปนั่งทานอาหารที่ร้านของผมกับภรรยาสิครับ ร้านผมรอต้อนรับ แฟนพี่ชาย...เสมอ"

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 27-05-2017 09:13:40
โรคจิต21 ขอเวลา

Part ใหญ่


ผมกุมมือรัน พาเขาเดินเข้าไปภายในบ้าน สิ่งแรกที่รันเห็นเมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็คือรูปขนาดใหญ่ ของรันเอง

"นี่รูปผม ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมต้องติดไว้กับผนังทางเดินเข้าบ้านแบบนี้"

"ใช้รันแบบเดิมได้ไหม อย่าใช้คำว่าผมคุยกับพี่เลยนะ มันดูห่างเหินเกินไป"

"...."

รันเดินเข้าไปภายในบ้านต่อ โดนไม่ตอบรับคำพูดของผม

"...."

อึ้งไปเลยทีนี้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นหลังจากเดินเข้าไปในตัวบ้าน ทุกผนัง ทุกโต๊ะ ชั้นวางของ ล้วนแล้วแต่มีกรอบรูปของรันอยู่ในทุกๆที่ของบ้านหลังนี้

"นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย ทำไมรูปผมถึงได้เต็มบ้านพี่ไปหมดขนาดนี้"

"...."

"รูปนี้พี่ได้มายังไง"

รันถามพร้อมกับหยิบกรอบรูปหนึ่งขึ้นมา มันเป็นรูปที่รันยืนซื้อขนมอยู่ที่ตลาดน้ำแห่งหนึ่งเมื่อปีก่อน ไม่แปลกที่เขาจะตกใจเพราะทุกๆรูปในกรอบล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเจอกับผมทั้งสิ้น

"พี่ถ่ายเอง"

"นี่รูปรับปริญญา , นี่ตอนไปออกค่ายอาสา , นี่ตลาดน้ำ , ที่งานวัดเกิดของเพื่อน , ทริปภาคเหนือ นี่มันอะไรกันครับ ทำไมพี่มีรูปพวกนี้ได้ รูปแอบถ่ายทั้งนั้นเลย พี่อธิบายมาเดี๋ยวนี้"

"รูปทั้งหมดพี่เป็นคนถ่ายเอง พี่โกหกรันว่าพึ่งเคยเจอครั้งแรกที่คอนโด ที่จริง พี่รู้จักรันมาก่อนหน้านี้ คือพี่ชอบรันมานานแล้วพี่แอบตามถ่ายรูปรันมาตลอด พี่ขอโทษที่โกหก"

"แอบตาม? พี่คือไอ้โรคจิตคนนั้นใช่ไหม พี่แอบตามผมมานานเท่าไหร่แล้ว เป็นเพราะพี่หรือเปล่าที่ทำให้คนอื่นที่มาจีบผมหายไปหมด พี่ทำร้ายพี่ทอร์ชใช่ไหม ตอบผมมาสิ ตอบมา"

"ใช่พี่ทำเองทั้งหมด เพราะพวกมันทุกคนไม่คู่ควรกับรัน ไอ้ทอร์ชมันก็ไม่คู่ควรมันไม่จริงใจ ไม่มีใครรักรันได้เท่าพี่อีกแล้ว ไม่มีหรอก พวกมันโกหกยิ่งกว่าพี่เสียอีก"

"พ...พี่เป็นคนเอามีดไปปาดคอพี่ทอร์ชเหรอ"

"มันเจ้าชู้มักมาก มันไม่ควรมายุ่งกับรัน พี่แค่ทำให้มันเอาตัวกับความคิดเลวๆของมันออกไปให้ห่างๆรัน"

"แล้วทำไมพี่ต้องคอยแอบตามด้วย ถ้าพี่คิดว่าพี่ดีเลิศที่สุดแล้ว ทำไมพี่ไม่เข้ามาซะเองตั้งแต่แรก ทำไมต้องคอยมาแอบตาม มาทำให้ผมมีปมด้อย มีคนมาจีบตั้งมากมายแต่สุดท้ายผมก็ไม่เคยมีใครสักคน"

"เพราะว่าเมื่อก่อนรันเก็บตัว ไม่เปิดใจรับใครเป็นปีๆ รันจำได้ใช่ไหม"

"พี่แอบตามผมมานานแค่ไหนแล้ว เรื่องพี่อาร์ทล่ะฝีมือพี่ด้วยรีเปล่า"

"พี่ไม่รู้ พี่มาหลังจากที่รันเลิกกับแฟนไปแล้ว"

"ผมไม่เข้าใจ แล้วทำไมต้องโกหกเรื่องคนที่ชื่อโย ทำไม่ต้องแอบคุย แอบนัดเจอกัน"

"คือพี่ไม่อยากให้รันรู้จักกับโย พี่กลัวรันจะจำหน้าโยได้ เมื่อก่อนพี่วานให้โยคอยตามดูรันให้พี่ตลอดตอนที่พี่ติดงาน พี่ไม่อยากให้รันรู้จักโยเพราะแบบนี้ เพราะต่อไปนี้รันจะจำโยได้ พี่จะไม่มีใครตามรันให้พี่อีก"

"นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ ทำไมต้องใช้ให้คนอื่นคอยตามผมพี่ไม่ไว้ใจผมขนาดนั้นเลยรึไง เราจะคบกันยืดไหม ถ้าพี่ยังทำตัวแบบนี้ไม่เลิก อ่อ ขออีกคำถามนะวันที่พี่ช่วยผมจากไอ้พวกโจรนั่นน่ะ เป็นแผนพี่ด้วยรึเปล่า"

"ไม่ พี่ไม่เคยมีความคิดทำเรื่องเลวๆแบบนั้นกับรันเด็ดขาด ถ้าอยากเข้าหารันพี่มาเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องตัวของรันเพื่อแลกกับการได้เข้ามารู้จักหรอก พี่ไม่เคยคิดจะทำร้ายรัน พี่รักรันมากนะ รักมากจริงๆ รันให้อภัยพี่ได้ไหม นะครับ"

"ผมขอเวลา"

"......"

"ผมอยากให้พี่กลับไปนอนที่ห้องของตัวเองสักพัก ผมขอเวลาคิดทบทวนเรื่องก่อนได้ไหม ตอนนี้ผมสับสนไปหมด แค่ขอเวลาคิดให้ผมได้หรือเปล่า"

"นานไหม คือพี่....ไม่อยากห่างจากรันนานๆ"

"ผมไม่รู้ ยังตอบไม่ได้ ถ้าพี่ไม่ทำตามที่ผมขอ เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก"

"โอเคๆ พี่จะกลับมานอนที่ห้องของตัวเอง พี่จะให้เวลารัน แค่อย่าเลิกกับพี่ก็พอ"

"งั้นผมขอตัวกลับก่อน ไม่ต้องไปส่งเพื่อนผมรออยู่ด้านนอก อ่อแล้วรบกวนอย่าให้ใครแอบตามผมอีกนะ"

หลังจากพูดจบ รันก็เดินออกจากบ้านไป ผมนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง โมโหตัวเองที่โง่บัดซบทำให้รันจับได้ ผมใช้มือข้างขวาต่อยหมัดลงไปยังโต๊ะกระจกที่ใช้วางของ ปล่อยหมัดออกไปเรื่อยๆจนกระจกแตก ผมมองมือตัวเองที่ตอนนี้อาบไปด้วยเลือดสีแดงสดไหลลงมาที่ช่วงแขน

สมควรแล้วคนโง่อย่างผม สมควรโดนแล้ว

ผมใช้มืออีกข้างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในเวลาที่ผมอ่อนแอแบบนี้ ไม่มีใครช่วยผมได้ดีไปกว่า

"พ่อครับ พ่อรันรู้เรื่องทั้งหมดที่ผมแอบตามเขาแล้วพ่อ เขา...ขอเวลา ตัดสินใจ ผมควรทำยังไง ถ้าเขามาบอกเลิกผม ผมจะต้องทำยังไงครับ พ...พ่อ...ช่วยผม...ด้วย"

Part ยศ

ผมรับโทรศัพท์ไอ้ลูกชาย ฟังมันพูดไปร้องไห้ไป ช่วงประโยคสุดท้ายก่อนสายตัด เสียมันเหมือนคนหมดแรง ...ไม่ได้ทำร้ายตัวเองใช่ไหม?

ผมรีบวางโทรศัพท์ แล้วโทรหาลูกน้อง ให้ออกตามหาลูกชายตัวดี สายตัดไปก่อนที่จะรู้ว่ามันอยู่ไหน จึงสั่งลูกน้องให้ไปทั้งที่บ้านและคอนโด ผมกดเบอร์ของโย เด็กที่ผมสั่งให้คอยอยู่ช่วยเหลือลูกชายมาตลอด

"สวัสดีครับคุณลุงยศ"

"อยู่กับใหญ่หรือเปล่า"

"เปล่าครับ แต่ผมอยู่ไม่ไกลจอดรอดูอยู่ที่ปั้มเลยหน้าปากซอยบ้านพี่ใหญ่มาหน่อยครับ"

"อืมฉันรู้เรื่องแล้ว อยู่แถวนั้นก็ดี รีบเข้าไปดูใหญ่ที่บ้านด่วน มีอะไรโทรมาบอกด้วยฉันกำลังไป"

"ครับ"

หลังจากวางสาย ผมรีบให้คนขับรถขับตรงไปยังบ้านของลูกชายทันที

Rrrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าจากเด็กที่ชื่อโยดังขึ้น

"ว่ายังไง"

"คุณลุงยศครับพี่ใหญ่ ทำร้ายตัวเอง ผมคิดว่าน่าจะต่อยโต๊ะกระจกนะครับ มือมีแต่รอยแผลแล้วก็เสียเลือดมาก ผมกำลังพาไปส่งโรงพยาบาลครับ"

"ยังมีสติอยู่ไหม"

"ครับยังมีสติอยู่ แต่คงได้อีกไม่นาน เสียเลือดเยอะอยู่ครับ น่าจะหมดสติเร็วๆนี้ ผมวางก่อนครับกำลังขับรถไปโรงพยาบาลxxx คุณลุงยศ ไปเจอกันที่โน่นเลยครับ"

"อืม"

ผมกดวางสายโทรศัพท์ไป แล้วบอกให้คนขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลทันที

ไอ้ลูกโง่ หายไปอยู่กับเขาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งอ่อนแอทั้งโง่ คงต้องจับมาเคาะสนิมกันหน่อยแล้ว

"ไงไอ้ลูกโง่ ยังไม่ตายใช่ไหม"

ผมถามขึ้นตอนที่เดินเข้าไปยังห้องพักในโรงพยาบาล

"พ่อ"

"ทำไมถึงทำร้ายตัวเอง ใครสั่งใครสอนให้ทำเรื่องแบบนี้"

"ผมขอโทษ"

"ทำร้ายตัวเองไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ปัญหามีไว้ให้ใช้สมองแก้ ไม่ใช่ใช้กำลังเอามาทำเรื่องโง่ๆ เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นจะดีกว่า"

"....."

"ใหญ่ ยังมีอีกหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องที่แกเจออยู่ตอนนี้มันเล็กน้อย ถ้าน้องเขารักแกจริง เขาต้องให้อภัยแกถึงวันนั้นถ้าเขาปฏิเสธแก แกค่อยลากเขาเข้าป่าไป หึหึ ได้ข่าวว่ามีโครงการทำบ้านไว้ไม่ใช่เหรอ"

"พ่อ มีอะไรที่พ่อไม่รู้บ้าง"

"มีบ้าง เช่นเรื่องที่แกทำร้ายตัวเองแบบโง่ๆนี่ไง ที่พ่อไม่รู้"

"ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำอีก"

"คนเราถ้าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล วันนั้นแหละความล่มจมจะมาเยือน รบร้อยครั้งก็แพ้มันทุกครั้ง เข้าใจไหม"

"เข้าใจครับ"

"กลับไปอยู่ในที่ของตัวเองซะ เรื่องน้องไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวพ่อให้คนดูแลให้เอง ส่วนแกอยู่เฉยๆ รอคำตอบจากน้อง"

ไอ้ลูกชาย พยักหน้ารับคำเมื่อคุยเสร็จผมจึงออกมาชีวิตของผม อยู่เพื่อภรรยาและลูกทำหน้าที่ปกป้องดูแลเขาสองคนมาตลอด และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำให้พวกเขาต้องเสียใจ ผมจะจัดการให้หมดไม่เว้นแม้แต่เด็กที่ชื่อรันถ้าเลือกที่จะปฏิเสธความรักลูกชายผมเมื่อไหร่ ก็เตรียมหมดลมหายใจเมื่อนั้น
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 27-05-2017 22:53:01
อืมมม เป็นพ่อที่ดีแหะ แต่รู้สึกจะดีแบบผิดๆ ยังไงก็ขอให้รันยกโทษให้ด้วยเถอะะ เรายังไม่อยากเห็นรันตาย
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 28-05-2017 08:24:38
อืม โรคจิตจริงๆ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 29-05-2017 15:24:17
Fc คุณพ่อค่ะ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 04-06-2017 06:32:19
ฮือออ คนแต่งหายไปไหนนน เราคิดถึงน้องรันแล้วน้าาา  :sad4:  :o12:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 04-06-2017 06:56:44
ฮือออ คนแต่งหายไปไหนนน เราคิดถึงน้องรันแล้วน้าาา  :sad4:  :o12:
เดี๋ยวลงให้วันนี้สายๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #update ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 04-06-2017 13:30:09
โรคจิต22 วันเหงาๆเมื่อเขาไม่อยู่

Part รัน


ผมเดินออกจากบ้านหลังนั้นของพี่ใหญ่ โดยมีเพื่อนๆรออยู่ที่เดิม

"รันเป็นไงบ้าง โอเคป่าววะ"

"ไม่โอเคเลยว่ะคิง กลับไปเล่าที่คอนโดมึงได้มะ"

"เออๆ ไปกลับคอนโดกู"

ผมเดินกลับมาขึ้นรถอิฐ เมื่อมาถึงที่คอนโดของคิง จึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนๆฟัง

"อะไรวะ กูไม่อยากจะเชื่อหู พี่ใหญ่เนี่ยนะที่เป็นโรคจิตแอบตามมึงมาตลอด" คิงพูด

"เออ ก็ว่าแล้วว่ามันแปลกๆ อยู่ดีๆก็เข้ามา รู้จักกันไม่กี่วันมาบอกชอบเฉยเลย ที่แท้แอบชอบมานานแล้ว กูก็ว่าอยู่พอพี่ใหญ่เข้ามาราบรื่นเหลือเกินไม่เห็นหายหัวเหมือนคนอื่นๆ ที่แท้ตัวพ่อมาเอง แล้วนี่มึงตกลงจะทำยังไงต่อรัน"

"กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แมนกูกำลังงงกับชีวิตอยู่เนี่ย แต่กูขอเวลาให้พี่เขาย้ายกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองก่อน คือกูอยากมีเวลาคิดสักหน่อย พวกมึงว่ากูควรทำยังไง"

"อืมพูดยากเรื่องนี้ พี่เขาดูน่ากลัวไปหน่อยว่ะ แอบตามมึงมาตั้งนานเป็นปีๆ แถมยังไล่กำจัดผู้ชายที่เข้ามาจีบมึงซะเกลี้ยง กูไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาใช้วิธีไหนบ้าง แต่ดูจากพี่ทอร์ช กูว่าโหดไม่ธรรมดาเล่นปาดคอกันเลยถึงจะแค่ขู่ให้กลัวก็เถอะ น่าขนลุกเหมือนกันว่ะ"

"เออเห็นด้วยกับมึงอิฐ พี่ใหญ่แม่งน่ากลัว หล่อ ดิบ เถื่อน ไปอีก" คิงเสริม

"แต่กูเห็นต่างว่ะ กูว่าการที่ใครสักคนนึง แอบมองแอบตามมึงขนาดนี้ เขาบอกว่ามาตอนมึงเลิกกับพี่อาร์ทสภาพมึงตอนนั้น ผู้ชายคนไหนก็เข้าหน้ามึงไม่ติดจริงอย่างที่เขาบอก มึงเฮิร์ทนานเป็นปีๆ พี่เขาก็ยังรอมึงที่เขาไม่เข้าหา เป็นเพราะเขาตามมึงจนเคยชินหรือเปล่าอยู่ในมุมมืดซะเคยเลยไม่กล้าเปิดเผยตัว อีกอย่างตอนมึงคบกับพี่เขา เขาก็ดีกับมึงมากไม่ใช่เหรอวะไม่ว่าบทสรุปมันจะเป็นยังไง ต้นเหตุของเรื่องนี้ก็มีแค่เขารักมึงแค่นั้น"

"โห ไอ้แมนใจหล่อมากมึง พูดซะกูโอนเอียงมาทางมึงเลย รันมาคิดๆแล้วไม่ว่าเมื่อก่อนมันจะเป็นยังไง ณ ตอนนี้พี่เขาก็รักและก็ดีกับมึงมาก กูว่ามึงลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งเถอะ แล้วก็ปรับนิสัย เรื่องที่ให้คนคอยตามดูมึง ถ้าเป็นหนักก็ควรพาไปพบจิตแพทย์ดูสักหน่อย กูว่าแค่นี้ก็น่าจะเวิร์คนะ"

"...อืมแล้วกูจะคิดดู แต่คืนนี้กูขอนอนกับมึงนะคิง กูไม่อยากกลับไปที่คอนโดตอนนี้"

"เออ ตามสบาย"

"งั้นคืนนี้กูกลับไปนอนบ้านตัวเอง แล้วกันไม่ต้องมาเฝ้ามึง เพราะมึงต้องอยู่เป็นเพื่อนรัน"

"เฝ้าเหี้ยไรของมึง ไม่ต้องมาเฝ้ากูไปไป๊ กลับบ้านมึงไปเลย ชิ้ว~"

"ปากดี รันกลับเมื่อไหร่กูจะไปนอนเฝ้ามึงทุกคืนเลยคอยดู"

"ไอ้แมนไอ้คิง พวกมึงสองคนซุบซิบอะไรกันวะ เดี๋ยวนี้พวกมึงสองคนแปลกๆนะ"

"แปลกไรไอ้อิฐ ไม่มี๊"

"เสียงสูงไปอีก ฮ่าฮ่า"

คืนนี้ผมนอนค้างที่คอนโดของคิง โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ผมจึงนอนเหยียดยาวอยู่ที่นี่จนบ่าย ผมให้คิงกลับมาส่งที่คอนโดเดินเข้าไปในห้อง ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะยังอยู่ไหม เปิดเข้าไปเจอแต่ความเงียบ ไม่อยู่สินะผมเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เสื้อผ้าของใช้ของพี่ใหญ่ยังอยู่ครบ นี่พี่เขาไม่ได้เข้ามาเอาเสื้อผ้าของใช้อะไรกลับไปเลยเหรอ

ตลอดทั้งบ่าย ผมใช้เวลาอยู่กับการทำความสะอาดห้องไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนเย็น ผมอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้ง เพื่อที่จะออกไปหาอะไรทานข้างนอก รู้สึกไม่ชินเลยการที่ต้องอยู่คนเดียว พี่ใหญ่มีอิทธิพลต่อหัวใจของผมมากจริงๆ ผมลงลิฟท์ไปยังชั้นล่าง ระหว่างที่ลิฟท์เปิดคนที่อยู่ตรงหน้าผมคือ ผู้ชายที่ชื่อโย

"คุณรัน จะไปไหนเหรอครับ" เขาทักผมทันที

"เอ่อ....ผม จะออกไปหาข้าวกิน คุณมาหาพี่ใหญ่เหรอ"

ถามออกไปแล้วก็รู้สึกคันๆในหัวใจ

"ผมแวะมาเอาเสื่อผ้าให้พี่ใหญ่น่ะครับ"

"อ่อ...เหรอ งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน"

"เดี๋ยวครับ"

ในขณะที่ผมกำลังเดินเลี่ยงออกไป เขาก็เรียกผมเอาไว้

"จะเป็นไรไหม ถ้าผมจะขอให้คุณรันช่วยหาชุดให้พี่ใหญ่สักชุดนึง"

"ก็เข้าไปเอาที่ห้องพี่เขาสิครับ เขาให้มาคุณมาเอาให้ไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นคุณคงไม่มีคีน์การ์ดห้องพี่เขาหรอกจริงไหม"

"คือผมอยากรบกวนให้คุณจัดให้สักชุด คุณเป็นแฟนพี่ใหญ่น่าจะเลือกเสื้อผ้าได้ถูกใจเขามากกว่า ผมมีเวลาน้อยต้องเอาชุดไปให้พี่ใหญ่ที่โรงพยาบาล แล้วต้องกลับไปรับแฟนที่บ้านอีก วันนี้มีนัดตรวจครรภ์ด้วย ผมกลัวจะไปไม่ทัน"

"ทำไมเอาชุดไปให้พี่ใหญ่ที่โรงพยาบาลล่ะ พี่ใหญ่เป็นอะไรรึเปล่า"

"เขาต่อยโต๊ะกระจกจนแตก หลังจากที่คุยกับคุณเมื่อวาน ผมโทรกลับไปหาพี่ใหญ่เพื่อจะถามว่าคุณสองคนตกลงกันได้ไหม แต่ไม่มีใครรับสาย ผมเอะใจเลยกลับเข้าไปดู เห็นพี่ใหญ่นั่งจมกองเลือดตัวเอง ก็เลยรีบพาส่งโรงพยาบาล ต้องนอนพักเพราะเสียเลือดมาก ที่จริงหมอบอกให้พักฟื้นอีกสักสองวัน แต่พี่ใหญ่ไม่ยอมพรุ่งนี้จะออกให้ได้ ผมก็เลยต้องมาเอาชุดให้พี่เขาไว้เปลี่ยน"

"เรื่องจริงเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปเอาเสื้อผ้าให้เอง คุณรอผมอยู่ตรงนี้ก่อนนะ แป๊บเดียวครับ"

ผมรีบกลับเข้าไปในห้องอย่างเร็ว หยิบชุดของพี่ใหญ่ลงกระเป๋าเป้ และรีบลงไปทันที ขับรถไปยังโรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ

คนบ้าเอ้ย อย่าให้เจอนะพ่อจะทุบให้น่วมเลย ไม่มาตามง้อตามตื้อ แถมยังทำตัวเองให้เจ็บจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อแบบนี้มันน่านัก
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 19-20 หน้า2 (26/05/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 04-06-2017 13:34:08
โรคจิต23 กันและกัน

ต่อ


ผมมาถึงที่โรงพยาบาลขึ้นลิฟท์ตรงไปยังห้องที่พี่ใหญ่นอนพักอยู่ ณ ห้อง 701 ผมเปิดประตูเข้าไป เห็นร่างที่คุ้นเคยนอนเอาผ้าปิดตาอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าหลับอยู่หรือเปล่าผมจึงวางกระเป๋าลงที่โซฟา และเดินเข้าไปใกล้เตียงนั้น

"โยกลับไปเถอะไม่ต้องอยู่เฝ้าพี่หรอก"

ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่ใหญ่ แล้วเดินออกนอกห้องไปยังหลังตึก ผมเห็นมีตลาดนัดเล็กๆ อยู่กะว่าจะเดินลงไปหาซื้ออะไรมาทานลงท้องก่อน หิวจะแย่ เมื่อเดินซื้อของกินเรียบร้อย ผมจึงกลับเข้าไปที่ห้องพักฟื้นของพี่ใหญ่ อืม ยังนอนท่าเดิม ผมเทข้าวใส่จานแล้วตักทานคนเดียวเงียบๆ จนหมดเอาจานไปล้างคว่ำเรียบร้อย จึงเอาผลไม้มาจัดใส่จานเดินไปตรงหน้า พี่ใหญ่เหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว ผมเห็นพี่เขากระดุกกระดิกอยู่ในผ้าห่ม

"โยพี่บอกไม่ต้องเฝ้าไงพี่อยู่คน ด...เดียว รันมาได้ยังไงครับ"

"ขับรถมา พอดีไม่ได้ชื่อโย ก็เลยไม่ไปแต่ถ้าอยากอยู่คนเดียว"

"ไม่ ไม่อยากดูคนเดียว พี่อยากอยู่กับรัน มานานแล้วเหรอ"

"ก็ตั้งแต่รอบแรกที่โดนไล่"

"พี่ขอโทษ พี่นึกว่าเป็นโย เลยไล่กลับไป พี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก อยากให้โยกลับไปดูก้อยมากกว่า"

"ก้อยนี่แฟนคุณโยเหรอครับ"

"อืม"

"ไหนบอกว่าไม่เป็นอะไรมากไง สายน้ำเกลือห้อยระโยงระเยง ดูมือสิพันเป็นมัมมี่ขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก"

"....."

"ทำไม่พี่ต้องทำร้ายตัวเองด้วย ไม่รักตัวเองเลยเหรอ"

"หึ รักรันมากกว่า"

"....พี่ใหญ่ พี่เจ็บผมก็เจ็บนะ เจ็บที่ใจเนี่ยพี่รู้รึเปล่า ทำไมต้องทำร้ายตัวเอง พี่ทำพี่ไม่ได้เจ็บคนเดียวรู้ตัวบ้างไหม"

"พี่ขอโทษ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก"

"เอาเถอะ ไหนผมขอดูมือคนบ้าหน่อย ดูดิ ต่อยเข้าไปได้กระจก เย็บรึเปล่า"

"24 เข็ม"

"เฮ้ย!! คืนนี้ผมจะนอนเฝ้าแล้วกัน จะลุกเข้าห้องน้ำ หรืออะไรก็เรียกนะ ขอนอนพักตาหน่อย เหนื่อยทำความสะอาดห้องมาทั้งวัน"

"กลับไปนอนพักที่บ้านก็ได้คนดี พี่อยู่ได้ครับอีกแค่คืนเดียวเอง"

"ไม่ หมอบอกสองคืนก็คือสองตามนั้นแยกย้ายกันไปนอน"

"....."

หลังจากนอนโรงพยาบาลครบตามที่คุณหมอสั่ง ผมจึงพาพี่ใหญ่กลับมาที่คอนโด ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์

"รัน ห้องของพี่ชั้น 7 เลยแล้วครับ"

"อื่อฮื้อ"

"ให้พี่ไปส่งรันที่ห้องเหรอ"

"...."

ผมเปิดประตูเข้าห้อง โดนที่พี่ใหญ่ยังยืนขาแข็งไม่ยอมเข้ามา

"เข้ามาสิ ไม่ต้องลงไป นอนนี่แหละ แผลยังใหม่ทำอะไรไม่สะดวกหรอก"

"(^______^)"

"คนดี ไม่โกรธพี่แล้วใช่ไหมครับ ให้อภัยพี่แล้วใช่ไหม"

"......ถ้าพี่สัญญาว่าจะไม่ให้ใครแอบตามผมอีก อย่าแอบทำอะไรลับหลังผม ห้ามโกหก ถ้าพี่ทำได้ระหว่างเราก็เหมือนเดิม"

"พี่สัญญา แต่ห้ามพูด ผมผม พี่ไม่ชอบเลย"

วันนี้ผมลาหยุด เพื่อพาพี่ใหญ่ออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่ตกลงทุกเรื่องได้ เราสองคนก็ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักปรกติ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวผม เวลาเรานั่งทานข้าวหรือดูหนัง ผมจะไม่อ้อนพี่ใหญ่เหมือนแต่ก่อน เว้นระยะห่างเล็กน้อย ไม่รู้ดิ ความรู้สึกของผมเหมือน ได้ตีบวก อัพเลเวล ความกล้า ตั้งแต่ที่รู้ว่าพี่ใหญ่ทำทุกอย่างเพราะรักผมมาก ทำให้ตอนนี้คนที่กลายเป็นลูกแมวเชื่อง ไม่ใช่ผมอีกต่อไป

"รันพี่อาบน้ำก่อนนะครับ"

"อืมมม"

"รันว่างอยู่รึปล่าเข้ามาในห้องหน่อยสิ"

ผมเดินเข้าไปตามเสียงเรียกของพี่ใหญ่

"ช่วยพี่ถอดเสื้อหน่อย มือพี่ติด"

ผมเดินไปหาพี่ใหญ่ที่นั่งอยู่บนที่นอน พร้อมช่วยเขาถอดเสื้ออย่างไม่คิดอะไร แต่เดี๋ยวนะ เดี๋ยวๆ นั่นกล้ามท้องใช่หรือไม่ มาเป็นลอนเลย ผมยังยืนตาค้างกับกล้ามงามๆอยู่ๆพี่ใหญ่ก็ดึงกางเกงทั้งตัวในตัวนอนออก,เผยให้เอ่อ...ซัมทิงที่เหมือนของตัวเอง แต่ใหญ่กว่า

"เฮ้ยพี่ ทำอะไรแก้ผ้าทำไมเนี่ย"

"อ่าวก็พี่จะไปอาบน้ำ"

"แล้วทำไมไม่ไปถอดในห้องน้ำเล่า"

"ก็มันลำบาก นั่งถอดบนที่นอนง่ายกว่า"

"โอเคพอๆ หยุดเถียงแล้วไปอาบน้ำเลย"

"อาบให้พี่หน่อยได้ไหม"

"เหงกดิ ไม่เอาหรอกไปอาบเอง เร็วๆเลย"

"อือ แผลพี่เปียกแน่ๆเลยแบบนี้ มือเดียวจะอาบไงนะ"

ผมถอนหายใจพรืดใหญ่ ไม่อยากจะเชื่อเลย คนอะไรหน้าด้านชะมัด ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนแล้วก็ถาม ผมก็ยังรักษาระยะห่างเสมอ แต่ตอนนี้คงต้องละทิ้งความอายไว้ก่อน ต้องไปช่วยพี่ใหญ่อาบน้ำไม่งั้นแผลเปียกแน่ๆ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจากนี้จริงๆนะ แค่ก แค่ก

ผมเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ เห็นพี่ใหญ่ยืนหันหลัง ทำท่าเก้ๆกังๆอยู่ตรงฝักบัว ก้น ก้นคือจะบอกว่าก้นฟิตมาก มองจากด้านหลังหุ่นดีสุดๆ

"เข้ามาช่วยพี่อาบน้ำเหรอครับ(^___^)"

โฮกกกกกกกก อย่าหันหน้ามา โอ้ยเดินออกไปทันไหม ไม่ไหว อายจนหน้าจะระเบิดอยู่แล้ว คนแก้ผ้าต่อหน้านี่ด้านจริง หันมาไม่คิดจะปิดบังอะไรเลย ปล่อยโทงเทงอยู่ได้

"รัน รันครับ เข้ามาสิ"

"เออ....ครับๆ คือช่วยถือฝักบัวอย่างเดียวนะ พี่อาบเองโอเคป่าว"

"จ้า"

ผมพยายามเบนหน้าหนีสายตาของพี่ใหญ่ที่จ้องมองมา รีบๆอาบให้เสร็จๆทีเถอะ ภาวนาอยู่ในใจ

"เฮ้ยรัน น้ำจะโดนแผล"

"หะ"

ผมตกใจรีบหันกลับไปมองตอนนี้ฝักบัวชี้ไปที่หัวของพี่ใหญ่เต็มๆ ผมตกใจรีบชักลง กลัวว่าจะโดนแผล แต่ดันทำเปียกตัวเองซะได้

"โอ้ยเสื้อเปียกเลย"

ขณะที่ผมกำลังปิดน้ำฝักบัว พี่ใหญ่ก็ลุกขึ้นมากอดผมไว้แนบอก

"พ....พี่ใหญ่ทำอะไรครับปล่อยรันก่อนเปียกหมดแล้ว"

"เปียกก็ช่าง ถอดเสื้อผ้าแล้วอาบน้ำพร้อมพี่ไปเลยสิ"

"บ้าเหรอ ปล่อยรันเดี๋ยวนี้นะ"

"พี่ไม่ปล่อย ขอจูบก่อน นะคิดถึงไม่ได้จูบเลยตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาล คิดถึงจะแย่"

"โหยยเดี๋ยวค่อยไปจูบข้างนอกได้ไหมล่ะ ปล่อยรันก่อน"

พี่ใหญ่ไม่รอให้ผมได้ประท้วงอะไรต่อทั้งสิ้น ก้มลงมาฉกปากขโมยจูบผมทันที

"อื้อ อื้อ"

เราจูบกันอยู่นานกว่าพี่ใหญ่จะปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ

"คนฉวยโอกาส รันยังไม่ได้อนุญาตเลยนะ"

พูดยังไม่ทันจบ พี่ใหญ่ก็ขโมยจูบผมซ้ำๆอยู่อย่างนั้นอย่างหื่นกระหาย เขาค่อยๆลิ้มชิมรสปากของผมเรื่อยๆค่อยๆไล้ลงมาที่ซอกคอ ขนผมลุกเกรียวไปทั้งตัว เขาทั้งดูดและขบเม้น จนผมเสียวซ่านไปหมด สมองกำลังเบลอไปกับสิ่งที่พี่ใหญ่ทำ พี่ใหญ่ค่อยๆสอดมือเข้ามาใต้เสื้อ ใช้มือขึ้นมาสัมผัสที่ยอดอกของผม

"อื้อ อย่า"

พี่ใหญ่ใช้มือขยี้เบาๆที่ยอดอก

"ถอดเสื้อออกหน่อยคนดี"

ผมทำตามที่พี่ใหญ่ขออย่างว่าง่าย (ได้ข่าวว่าเมื่อครู่มีคนร้องอย่า)

"สวยจัง พี่ขอชิมหน่อยนะ"

แล้วเขาก็เริ่มซุกไซ้พรมจูบไปทั่วไล่ลงไปเรื่อยๆ แล้วก็มาหยุดที่ยอดอกของผม

"อ๊ะ พี่....ตรงนั้น"

พี่ใหญ่ทั้งกัดทั้งขบลิ้มชิมรสยอดอกของผมไม่ยอมหยุด มือก็ค่อยๆไต่ลงไปตามเรียวขา พี่ใหญ่ลูบไล้ไปตามแนวสะโพกแล้วขยำก้นของผมอย่างไม่ยั้งมือ ตัวผมอ่อนระทวยไม่สามารถทนกับการเล้าโลมของพี่ใหญ่ได้อีกต่อไป

กางเกงของผมค่อยๆ ถูกรูดให้ร่วงหล่นโดนฝีมือของคนตัวโตตรงหน้า ตอนนี้ผมทำได้เพียงส่งเสียงครางเบาๆ เพราะความวาบหวาม ตัวผมกำลังสั่น แต่สัมผัสที่เร่าร้อนและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน มันช่างชวนเคลิบเคลิ้มสิ้นดี แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเตลิดไปไกลผมรวมรวมสติครั้งสุดท้าย

"พี่....ใหญ่ อื้อ หยุดก่อนครับ หยุด"

"รัน..พี่ขอได้ไหม"

"ต...แต่มือของพี่เจ็บ"

"พี่ทำได้ เป็นของพี่นะครับ"

ฉ่า....ดูสายตาของพี่ใหญ่สิช่างเว้าวอนเสียจริง ผมยอมแพ้ แพ้ให้กับผู้ชายตรงหน้านี้

"ที่เตียงได้ไหม...พะ...พี่ใหญ่ไปรอรันก่อนนะครับรันขอทำความสะอาดก่อน"

ผมอ้อมแอ้มตอบกลับไป

ถึงเวลาที่ผมจะต้องเรียนรู้ความรักแบบผู้ใหญ่แล้วสินะ

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 22-23หน้า2 (04/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 04-06-2017 14:33:42
เขาจะกินกะนแล้วววว
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 22-23หน้า2 (04/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-06-2017 16:08:27
 :katai5:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 22-23หน้า2 (04/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 04-06-2017 16:41:20
 o13
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 22-23หน้า2 (04/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 04-06-2017 16:48:17
ว้ายยย เค้าจะได้กันเเล้วว -///-
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 22-23หน้า2 (04/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 04-06-2017 20:53:11
ไม่ได้รอตอนหน้าเลยจริงจริ้งงงงง

(เกาะผนังฟังอยู่ห้องข้างๆ)
 
:z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 24หน้า2 (08/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 08-06-2017 13:42:12
โรคจิต24 คนแรก

Part ใหญ่


ผมย่อตัวช้อนคนรักขึ้นพาดบ่า พาเดินกลับไปยังห้องนอน หลังจากที่เห็นเขายืนก้มหน้าตัวแดงไม่ยอมขยับอยู่หน้าห้องน้ำ

"เฮ้ย พี่ใหญ่ปล่อยเดี๋ยวรันตก"

คนรักของผมยังคงร้องเจื้อยแจ้วขอให้ผมปล่อยตัวเขาลงจากบ่า

ผมย่อตัวลงกับเตียงค่อยๆปล่อยรันลงบนที่นอน ก้มลงไปจูบกลีบปากสีแดงช้ำ จูบแล้วจูบเล่า ยิ่งได้ชิมยิ่งหิวกระหาย เมื่ออยู่ในห้วงอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้น รสสัมผัสของผมก็เริ่มรุนแรงเร่าร้อน ผมเริ่มซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอหอมๆอีกครั้ง ทั้งกัดและดูด ขมเม้น จนรอยขึ้นเต็มคอแทบไม่เหลือที่ว่างในคอขาวๆนี้ ทุกตารางนิ้วมีแต่รอยรักสีกุหลาบ ช่างเป็นภาพที่น่าหลงไหลยิ่งนัก ผมใช้ลิ้นลากลงมา จนถึงยอดอกสีแดงสด ดูดเม้นไปเรื่อย คนตัวเล็กใต้ร่างส่งเสียงครางเบาๆ สร้างความปั่นป่วนปลุกความต้องการภายในตัวเพิ่มขึ้นไปอีก มือซ้ายที่ใช้การได้เพียงข้างเดียว ค่อยๆรูดแก่นกายของคนรักอย่างแผ่วเบาหยดน้ำใสๆไหลออกมาจากแก่นกายของคนตัวเล็ก ผมไม่รอช้าที่จะได้ลิ้มชิมรสมันอีกครั้ง ใช้ลิ้นทั้งลากและดูดไปตามลำตัว ไล่มาจนถึงแก่นกาย

สีหวานนี้ ค่อยๆใช้ปากครอบครอง ดูดกินอย่างหิวกระหาย

"อ๊า....ซี๊ด...เบาๆหน่อย..."

"พี่ใหญ่อย่าดูดแรง อื้อ จะเสร็จแล้ว อ๊า อ๊า แบบนั้นแหละครับ อย่าพึ่งหยุดนะรัน....อ๊า....จะเสร็จ.....อ๊าาาา"

คนตัวเล็กตัวกระตุกสั่นเทาพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมาผมดูดกลืนทุกหยาดหยด ภาพใบหน้าของรันตอนที่เสร็จแล้ว ไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลยว่า มันสวยงามน่ามองมากขนาดไหน

ผมแยกขาของรันทั้งสองข้างออก เผยให้เห็นรอยจีบสีชมพูหวาน หุบเข้าออกเย้ยสายตา แล้วแบบนี้ใครจะทนไหวผมใช้ลิ้นเลียไปยังรอยจีบสีสวยนี้ เลียไล้ไปรอยๆจนตอนนี้คนรักของผม ร้องครางเสียหลงไปแล้ว ผมค่อยๆสอดนิ้วเข้าไประหว่างรอยจีบเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น รันก็ร้องประท้วงขึ้นมาทันที

"โอ้ย เจ็บ เจ็บ พี่ใหญ่รันเจ็บ"

"อดทนหน่อยนะคนดีรันไม่ได้ทำมานาน มันอาจจะเจ็บหน่อย พี่จะนุ่มนวลที่สุดนะครับ"

"โอ้ย เอาออกไปก่อน ไม่ได้ทำนานบ้าอะไรเล่า ไม่เคยทำเลยต่างหาก"

คนตัวเล็กโวยวายใส่หน้า เดี๋ยวไม่เคยอย่างนั้นเหรอ

"รันยังไม่เคยหรอ"

"อ....อื้อ"

"แล้วกับแฟนเก่า"

"ก็...เลิกกันไปก่อน ส่วนที่เหลือคงไม่ต้องบอกล่ะมั้ง โดนพี่ไล่ตะเพิดไปหมดนี่ จะไปเคยกับใครได้ล่ะ"

"พี่เป็นคนแรก"

"อื้อ รู้แล้วก็....ช่วยเบาๆกับรันหน่อย... รันกลัวเจ็บ"

"รัน...พี่รักรันมากนะครับ พี่จะทำให้ดีที่สุดนะ"

จะมีอะไรน่ายินดีกว่านี้อีกไหม ไอ้เวรนั่นมันไม่เคยได้สัมผัสรัน ผมต่างหากที่จะได้เป็นคนแรก

ผมเริ่มจูบเขาใหม่ สร้างความคุ้นเคยเรื่อยๆ ค่อยๆใช้นิ้วสอดอย่างนุ่มนวล นิ้วแรกผ่านไปด้วยดี ผมเพิ่มอีกนิ้ว ร่างกายรันต่อต้านเล็กน้อย ผ่านไปสักพักจึงเริ่ม ผ่อนคลาย

"คนดี มีถุงยางไหม"

รันเอี้ยวตัวลุกขึ้นหยิบถุงบางอย่างออกจากลิ้นชักข้างหัวเตียงแล้วส่งมาให้ผม

"คิงให้มา"

แก้มแดงสุกปรั่ง ท่าทางเอียงอายแบบนี้ รอให้ชินก่อนเถอะพ่อจะขย้ำให้ตายคาเตียงเลยคอยดู

ผมรับถุงจากมือรัน ในนี้มีอุปกรณ์ทำรักครบ ทั้งถุงยาง เจลหล่อลื่น ทิชชู่เปียก แถมมียาแก้ปวด แก้อักเสบ ยาทาด้วย เพื่อนรันไม่ธรรมดา ผมฉีกถุงยางเอามาใส่แก่นกายของตัวเอง พร้อมเปิดหลอดเจลหล่อลื่น มาเป็นตัวช่วยให้รันเจ็บน้อยลง ผมสอดนิ้วเข้าไปอีกครั้งเพื่อเตรียมความพร้อมรอบสุดท้าย เมื่อทุกอย่างพร้อม จึงเอานิ้วออกแล้วจ่อแก่นกายของตัวเองที่รอยจีบ

ของรันค่อยๆกดส่วนหัวเข้าไปทีละนิด รับรู้ได้ถึงการเกร็งตัว ช่องทางที่ตอดรัดคับแคบทำให้เข้าไปได้เพียงส่วนหัว

"เจ็บ พี่ใหญ่รันเจ็บ"

"ทนไหวไหมคนดี ให้พี่เอาออกก่อนไหม"

"อื้อ ไม่เป็นไรครับ แต่ค่อยๆเขามานะ มันเจ็บ"

"คนดีผ่อนคลายหน่อย พี่เอาเข้าไปไม่ได้"

ผมแช่ส่วนหัวเอาไว้สักพักรอจนรันค่อยๆผ่อนคลาย จึงเบียดเสียดยัดเยียดความใหญ่โตนี้เข้าไปจนสุด

"ฮึ่มม คนดีอย่ารัดพี่แรงนัก เดี๋ยวพี่ทนไม่ไหว"

ผมหยุดนิ่งแช่แก่นกายเอาไว้ในช่องทางรักของรัน เพื่อให้เขาลดอาการตอดรัดลง เมื่อรันเริ่มคลายตัว ผมจึงค่อยๆขยับตัวเข้าออกช้าๆเพื่อเป็นการวอร์ม

"อื้อ...อื้อ"

"โอเคไหม ยังเจ็บอยู่รึเปล่า"

"เจ็บนิดหน่อย แต่..."

"แต่อะไรครับ"

"อื้อ....เสี่ยวมากกว่า" (*////////*)

"โอเคงั้นพี่ต่อยาวๆเลยนะ"

เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ผมจึงเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันด้วยความเร็วที่เพิ่ม มันเพิ่มความดิบในตัวได้ดี ผมซอยไปเรื่อยๆไม่อยากจะหยุดการกระทำนี้เลย ผมยกขาของซ้ายรันขึ้นมาพาดไว้ที่บ่าส่วนข้างขวาต้องปล่อยไปเพราะมือไม่เอื้ออำนวย ขยับเข้าออกด้วยความเร็วไม่มีตก

ยิ่งทำยิ่งมัน ยิ่งหยุดไม่ได้ ยิ่งมองเห็นสีหน้าของรันที่ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำใสๆ ตัวสั่นไปมาตามแรงกระแทกของผม ผมยิ่งทำไม่หยุด ความเหนื่อยเป็นยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่า ไม่อยากให้ศึกรักครั้งนี้จบลงไปเลย

ด้วยความที่มือเจ็บ จึงไม่สามารถเปลี่ยนท่าได้มากนัก ผมจึงทำได้แค่ท่าเดียวไปตลอดเกมส์ ช่วงล่างขยับขึ้นลงถี่ๆ ปากก็พร่ำบอกรัก ทั้งกัดทั้งเลียต้นขาขาวเนียนของคนรักอย่างบ้าคลั่ง ไม่ยอมปล่อยให้ศึกรักครั้งนี้จบลงง่ายๆ

"อ๊า...อ๊า...อื้อ พี่ใหญ่...จะเสร็จรึยัง....ผมเสียวจะไม่ไหวแล้ว..."

"ฮึ่มม เสี่ยวก็ปล่อยออกมาเลยที่รัก พี่ขออีกนิดนะ อ๊า...แน่นดีจริงๆ"

ไม่นาน รันก็กระตุกปลดปล่อยน้ำรักของตัวเองอีกครั้ง

"ฮื่อออออ คนดีขออีกนิดพี่ใกล้จะเสร็จแล้ว"

และเมื่อความเสียวของผมใกล้ถึงขึดสุด จึงเร่งความเร็วเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ผมปลดปล่อยตัวเองเข้าไปในตัวรันผ่านถุงยางอนามัย ผมค่อยๆถอนแก่นกายดึงถุงยางออกหยิบทิชชู่มาทำความสะอาดทั้งของผมและ ของรัน ช่องทางสีชมพู เปื้อนไปด้วยคราบปนสีแดงของเลือด

คนดีของผมหมดแรง ฟุบหน้าหลับไปแล้ว จึงหยิบเสื้อของผมใส่ให้เขาเพียงตัวเดียว

ผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดโปรแกรมกล้องถ่ายรูป กดถ่ายคนรักขณะนอนหลับ เสื้อหนึ่งตัว พร้อมรอยรักทั่วร่างกาย ไม่มีภาพอะไรจะสวยมากไปกว่านี้อีกแล้ว ถ้าผมไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ก็โง่เต็มที

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 25หน้า2 (08/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 08-06-2017 13:47:16
โรคจิต25 รอยรัก

Part รัน

ตื่นขึ้นมาหลังจากผ่านสงครามรักครั้งแรกระหว่างผมกับพี่ใหญ่ ทำไมถึงได้เรียกว่าสงครามรู้ไหม ก็ผมโดนจัดหนักจัดเต็มเลยน่ะสิ ถึงจะมีความรุนแรงอยู่ในทุกจังหวะ แต่โชคดีที่พี่เขาเตรียมความพร้อมให้ผมได้ดีมากทำให้sexครั้งแรกถึงจะมีความเจ็บ แต่ก็ประทับใจมากเช่นกันแต่ตอนนี้ ผมระบมไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลยโดยเฉพาะที่ก้น ไม่ต้องสืบเดี้ยงไปเรียบร้อยแล้ว หันไปมองข้างตัวไม่มีพี่ใหญ่นอนอยู่หายไปไหนนะ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมา อยากจะเข้าไปอาบน้ำเต็มแก่

'แกร๊ก'

ผมมองไปตามเสียงประตูที่เปิดขึ้น พี่ใหญ่เดินยิ้มแฉ่งเข้ามาในห้อง อื้อหือ ออร่าความหล่อฟุ้งกระจาย หน้าใสเด้งขึ้นมาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ผิดกับผมลิบลับ

"ตื่นแล้วเหรอที่รักเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม"

" -///////- "

หุ้ย เขินจังทำอะไรไม่ถูกมือไม้เกะกะ ลิ้นพันกันวุ่นไปหมด มองหน้าสามีหมาดๆ แล้วใจสั่น (อ๊ากกกก สามี แหมช่างคิดได้ไม่อายสมองตัวเองเลย) ก้มหน้าก้มตานั่งเฉยๆไปนี่แหละ

"รัน โอเครึเปล่า เจ็บมากเหรอมีไข้ไหมขอพี่ดูหน่อย"

แล้วพี่ใหญ่ก็นั่งลงข้างๆ พร้อมใช้หลังมือขึ้นมาสัมผัสหน้าผากวัดอุณหภูมิร่างกายของผม

"...ไม่ได้เป็นอะไรครับ เจ็บนิดหน่อยไม่มีไข้หรอก"

พยายามเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าไม่สบายอะไรหรอก แต่เขินตัวจะแตกอยู่แล้วพ่อคู้ณ

"อืม พี่สั่งข้าวต้มมาเดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้นะ"

แล้วพี่ใหญ่ก็หอมแก้ม ฟอดใหญ่ๆ แล้วส่งยิ้มหล่อกระชากวิญญาณ ลุกเดินออกจากห้องไป โอ้ยวันนี้สายตาเป็นอะไรไปนะ มองพี่ใหญ่หล่อเซ็กซี่กว่าทุกวันเป็นเท่าตัวเลย ความคิดเริ่มฟุ้งซ่าน ภาพร่วมรักที่พึ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงประดังเข้ามาในหัว  แล้วพี่ใหญ่ก็กลับเข้ามาพร้อมถาดข้าวต้มหอมๆ น่ากินชะมัด (คนถือข้าวต้มนะ)  แค่กๆ

"มันอุ่นพอทานได้แล้ว เดี๋ยวพี่ป้อนนะครับ"

"ไม่เป็นไรเดี๋ยวรันทานเอง"

"ไม่เอาพี่อยากป้อนข้าวเมียตัวเองหน่อย ทำเขาลุกแทบไม่ไหวต้องดูแล"

" -//////-  พูดอะไรของพี่เนี่ย"

ด้วยความเขินระดับแม็ก  จึงส่งฝ่ามือฟาดเข้าไปที่ไหล่พี่ใหญ่หนึ่งป๊าบ

"โอ้ย คนดีตีพี่ทำไมเนี่ย เดี๋ยวข้าวต้มหกนะ"

"ก็พี่อย่าพูดแบบนี้สิ"

"แบบไหนเหรอครับ หืม"

"ก็แบบที่กำลังพูดอยู่เนี่ยแหละ ไม่ต้องมาทำหน้ายิ้มใส่เลย เจ้าเล่ห์"

"โอเคๆ พี่ไม่ยิ้มก็ได้ แต่ให้พี่ป้อนนะพี่อยากป้อน"

ผมนั่งทานข้าวต้มที่พี่ใหญ่ป้อน โดยไม่อิดออด ยังกะราชา พี่ใหญ่น่ารักรู้งานดีที่สุดทำเราเจ็บก็ต้องดูแลสิใช่มะ เมื่อทานข้าวต้มหมด พี่ใหญ่ก็เอายาแก้ปวด และแก้อักเสบมาให้ผมทาน ของไอ้คิงทั้งนั้น

"รันลุกไปอาบน้ำไหวไหม ให้พี่ช่วงพยุงรึเปล่า"

"ไหวครับไหว"

ผมค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง มีอาการเจ็บเสียดปานกลาง ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ไหว แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช้สบู่ล้างก้นชัวร์ๆ กลัวแสบไปอีก

"รัน เอาน้ำยานี้ไปล้างก้นนะ อย่าใช้สบู่"

หืมมมม พี่ใหญ่ยืนขวดน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นมาให้ผม เป็นงานขนาดนี้เชียวแสดงว่าเมื่อก่อนโชคโชนไม่ใช่เล่น อดไม่ไหวที่จะจิกกัดเบาๆ

"รู้ดีจังเลยนะครับ สงสัยเคยทำบ่อย"

"เอ่อ.....คือเมื่อก่อนก็มีบ้าง แต่พอมาหลงรันเนี่ย ไม่ได้ทำกับใครเลย"

"จริงเหรอ แอบชอบเค้ามาตั้งนานเป็นปีๆ ไม่เคยวอกแว๊กไปจิจ๊ะกับใครเลยเหรอ"

"ไม่เคยครับ อยากก็...ช่วยตัวเองแล้วคิดถึงหน้ารันอย่างเดียว"

ฉ่าาาาาาา

"ไปอาบน้ำละ เข้าตัวตลอด"

"ให้พี่ไปช่วยอาบไหม"

"ม่ายยยยยย"

"หึหึ"

เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ ผมก็เจอเดจาวูอีกครั้ง รอบก่อนที่ไปเที่ยวทะเล ก็ตกใจกับรอยดูดที่คอไปแล้วครั้งนึง แต่วันนี้ มันต่างจากครั้งก่อนเอามากๆ ทั้งตัวผมแทบไม่มีที่ว่างเหลือเลย มีแต่รอยที่พี่ใหญ่ทำไว คอนี่ไม่ต้องพูดถึง เป็นสิบๆรอย ไล่ลงมาหัวไหล่ หน้าอกแขน หน้าท้อง แม้แต่ขาข้างซ้ายของผมก็มีแต่รอยดูด รอยฟันลายพร้อยเต็มไปหมด โอ้ยอยากจะบ้าพี่แม่งบ้าสุดๆ ผมมองตัวเองในกระจกเหมือนคนเป็นโรคอะไรสักอย่างเลย ทั้งตัวมีแต่รอยสีแดงๆ มิน่าเล่าผมถึงได้รู้สึกเจ็บๆตามเนื้อตามตัวไปหมด ก็ห้อเลือดซะขนาดนี้

ผมอาบน้ำชำระร่างกาย รู้สึกกระชุ่มกระช่วยขึ้นเล็กน้อย ตามเนื้อตัวรวมถึงก้น ก็คลายปวดลงไปบ้าง คงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ที่ทานเข้าไป เมื่ออาบน้ำเสร็จผมจึงเดินออกมา เห็นพี่ใหญ่นั่งรอผมอยู่บนเตียงพร้อมกับหลอดครีมอะไรสักอย่าง

"รันยังไม่ต้องใส่เสื้อผ้านะ มาทาครีมก่อน"

"ครีมอะไรเหรอครับ?"

"ครีมทาแผล"

"แผลที่ไหนตามตัวน่ะเหรอ ดูๆ ดูผลงานตัวเอง พี่ดูดอะไรมากมายขนาดนี้ ตัวรันไม่มีที่ว่างเหลืออยู่เลย ดูคอสิครับ พรุ่งนี้จะเอาอะไรปิดบังได้บ้างเนี่ย ไปทำงานมีหวังโดนเพื่อนล้อแน่ๆเลย แขนก็ด้วย ขาก็ด้วย ทำรอยขนาดนี้ตุ๊กแกเจอรันยังอายอ่ะ"

"ฮ่าฮ่า โอเคๆ พี่ขอโทษครับ พี่อดใจไม่ไหวทั้งขาวทั้งหอม ดูดีไปหมดทั้งตัวขนาดนี้ ไม่ให้ทิ้งรอยทำไม่ได้จริงๆ คราวหน้าพี่จะระวัง ให้น้อยลงโอเคไหม แต่ตอนนี้เดินมาหาพี่เร็วทายาก่อน"

ผมเดินส่งค้อนตาเหลือกไปให้เขา ลงนั่งข้างๆแบบตะแคงก้นเล็กน้อย

"นอนคว่ำลงไปเลย"

"นอนคว่ำ คว่ำทำไมครับ ไม่ได้จะทายาตามตัวเหรอ"

"ป่าว พี่จะทาที่ก้นให้ต่างหาก"

"ห๊ะทาที่ก้น โนววววววว ไม่เอาๆ ไม่ทาที่ก้น"

"ทาสิต้องทา ครั้งแรกๆ ร่างกายยังไม่คุ้นเคย มีบาดแผลต้องทายานะรู้ไหม ไว้ชินเมื่อไหร่ ค่อยเลิกทา"

"งั้น....งั้นก็เอายามา เดี๋ยวรันทาเอง"

"ถนัดเหรอ มองก็ไม่เห็น"

"ไม่เอาๆ จะทาเอง"

"ไม่ได้ นอนลงไปเดี๋ยวพี่ทาให้ อย่าดื้อ ไม่ต้องอายหรอกพี่เห็นหมดทั้งตัวแล้ว"

" -//////-  พี่ใหญ่อ่า ให้รันทาเองไม่ได้เหรอ เห็นหมดแล้วไง ก็อายอยู่ดีนั่นแหละ"

"ให้พี่ทาให้เถอะนะ แป๊บเดียว จะได้หายไวไว"

พี่ใหญ่พูดเสร็จ พลิกตัวผมลงไปนอนคว่ำ เอาวะอยากทานักก็ทาไปเลย ไม่ทำให้ชินตอนนี้ จะไปชินเอาตอนไหน อยากทาอยากถูอยากทำไรตามสบายเลย ไอ้รัน อายจนหน้าหมดความรู้สึกไปแล้ว

พี่ใหญ่เอาเนื้อครีมมาป้ายที่ร่องก้นของผม อื้ออออ การที่มือคนอื่นมาแตะโดนจุดอ่อนไหวของเราเนี่ย มันขนลุกบอกไม่ถูกจริงๆนะ ถึงจะแค่ทายาก็เถอะ จั๊กกะเดี่ยมเป็นบ้า

"คนดี อย่าทำหน้าแบบนั้น"

"หือออ แบบไหนครับ"

"ก็แบบที่กำลังทำอยู่ตอนนี้นี่ไง จะยั่วพี่เหรอ"

"อื้อ ไม่ได้ยั่วสักหน่อย พี่ก็รีบๆทาสิวนๆอยู่ได้จั๊กจี๋ รันง่วงด้วยอยากจะนอนแล้ว"

"เสร็จแล้วครับ ทำหน้ายั่วๆใส่พี่แบบนี้ฝากไว้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะมาเอาคืนแน่นอน"

"โห่ยยยย หื่นเองอย่ามาโทษรันนะ เสร็จแล้วก็ลุกเลย จะใส่เสื้อผ้านอนแล้ว"

ผมต้องทนเจอลูกอ้อน ลูกหื่นของพี่ใหญ่ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ ทุกวันนี้หัวใจผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ตลอดเลยเมื่อได้อยู่กับเขา

ผมตื่นมาทำงานในวันใหม่ ด้วยสภาพที่ไม่เต็มร้อยนัก อาการเจ็บปวดยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง ถึงจะไม่มากก็เถอะ วันนี้ผมติดกระดุมเสื้อทุกเม็ด ปกคอเสื้อตั้งตรงชิดติดคอมาก รอยจูบที่ส่วนอื่นไม่มีปัญหาอะไรเพราะอยู่ในรมผ้าทั้งสิ้น แต่ไอ้ที่โชว์เด่นหลาที่คอนี่สิ คิดหนักส่วนไหนที่แพมออกมาก็ใช้พลาสเตอร์แบบใสแปะไป

"ไอ้รัน แฟนขาโหดมึงเป็นไงบ้างวะ"

"อือ ก็ดีพักรักษาแผลอยุ่ที่ห้อง ยังทำงานไม่ได้"

"เดี๋ยวทุกคน หยุดเดิน หยู๊ดดด"

"อะไรของมึงไอ้คิง"

"มึงสองตัวกรุณาโฟกัสที่ต้นคอไอ้รัน"

"เออรันคอมึงไปโดนไรมาแปะพลาสเตอร์เต็มเลย"

"โถ่ไอ้อิฐ ไอ้ควายแดกถามโง่ๆ แปะพลาสเตอร์ที่คอจะมีอะไร๊ นอกจากปิดร่องรอยบางอย่างไว้อ่ะดิ ไหนๆมานี่ ขอกูดูหน่อยเยอะขนาดไหนกันเชียว"

"อะไรเล่ามึงเนี่ยอย่าดึงเสื้อกูเดี๋ยวยับ"

"จะแกะกระดุมให้กูดูดีๆ หรือจะให้กระชากบอกมา กูรู้ถ้าที่คอมึงมี ในตัวมึงต้องมี"

"โว้ ไม่เอาไม่ให้ดู ไม่มีไรทั้งนั้นแหละ"

"สะตอ อมพระมาทั้งวัดกูก็ไม่เชื่อ"

ไอ้คิงเพื่อนเลว พูดจบก็จัดการล็อคคอของผมแล้วแกะกระดุมสองเม็ดแรกออกอย่างว่องไว

"โอ้ โห.....มึงๆสองตัวมาดูๆ กูพูดไม่ออก เร็วๆ"

แล้วความลับในตัวผมก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป

"ไหนบอกว่าไปดูแลคนเจ็บไง ไหงโดนคนเจ็บฟาดเรียบมาแบบนี้ล่ะคร๊าบคุณรัน"

"พี่ใหญ่ของมึงแม่งsexจัดแน่นอนกูฟันธง"

"เฮ้ยเพื่อนเราออกเรือนจริงๆแล้วโว้ย"

และคำแซวอีกบลาๆๆที่พวกเพื่อนตัวดีทั้งสามของผม กระหน่ำส่งกันไปมาสนุกปากเลย อืม!เอาที่สบายใจพวกมึงเลยแล้วกันเพื่อน อายกว่านี้ก็เจอมาแล้วคำล้อของพวกมึงคนอย่างไอ้รัน สิวๆโว้ย

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 26หน้า3 (08/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 08-06-2017 13:50:58
โรคจิต26 Special (แมนxคิง)ไม่อยากเป็นเพื่อน

Part แมน

หลังจากที่ผมปล่อยระเบิดลูกใหญ่ใส่คิงไปเมื่อหลายวันที่แล้ว  จนถึงตอนนี้ผมก็ตามเทียวเฝ้าเทียวจิกไม่ให้มันออกไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน

อย่างที่คุณรู้ ผมแอบชอบคิงมานานเป็นปี จากที่เคยไม่ชอบที่มันเป็นเกย์ ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนม ทำให้ผมเห็นมุมมองชีวิตของคิงเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อยจากไม่ชอบก็เริ่มคุย เริ่มทำความรู้จักเริ่มสนิทกันมากขึ้น ทำให้ผมเริ่มรู้ใจตัวเองว่ากำลังคิดกับคิงเกินเพื่อน แต่ผมมันคนปอดแหกไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำว่าชอบออกไปด้วยซ้ำ ทำได้แค่หาเรื่องทาเลาะกับคิงมันไปทุกวัน เพื่อให้ได้ยินเสียงพูดเสียงหัวเราะ ได้อยู่ข้างๆกันแบบนี้ผมก็พอใจ แต่พักหลังๆมานี้คิงดูห่างออกไป พักเที่ยงก็เอาแต่คุยโทรศัพท์ บางเย็นหลังเลิกงาน ก็มีผู้ชายแปลกหน้ามารับบ้าง ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเหมือนเมื่อก่อน ผมรู้คิงมันคงกำลังจะศึกษาใครสักคนอยู่และไม่ชอบเลย กับการที่มันกำลังจะห่างเหินผมออกไปที่ละนิด วันที่ผมรับโทรศัพท์แล้วไล่ผู้ชายของคิงออกจากคอนโด ภายนอกผมดูสนุกกับสิ่งที่ทำ แต่จริงๆแล้วข้างในหัวใจผมมันกำลังร้อนลุ่ม คิดมาเสมอว่าแค่ได้เป็นเพื่อนรักที่อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงผมกำลังหลอกตัวเอง ความโลภผมมีมากเกินกว่าที่จะอยากเป็นแค่เพื่อนกับคิง ผมคิดว่าตัวเองเก็บความรู้สึกมานานเกินไปแล้วและมันไม่มีอะไรดีขึ้น ในเมื่อใจมันไม่รักดี ความใกล้ชิดแค่นี่มันไม่เพียงพอ ผมคงต้องเดินหน้าหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองจริงจังสักที

หลังมื้อเที่ยงของวันศุกร์ที่แสนจะธรรมดา พวกผมทั้งสี่คน พึ่งอิ่มจากการทานกลางวันแล้วมานั่งตบกาแฟกินทิ้งท้ายก่อนกลับเข้าไปทำงาน พวกผมสามคนนั่งดูดกาแฟไปมองหน้ารันไปแบบลุ้นๆว่าการขอไปเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าแผนกคืนนี้ สามีสุดหล่อดีกรีรองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งภาคตะวันออก จะยอมให้ไปไหมไม่ต้องบอกพวกผมก็ทราบดีเรื่องความหวงของพี่ใหญ่ ที่เลี้ยงเพื่อนรันของผมยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมกันเลยทีเดียว

"เฮ้ยยยย"

"ไงมึงสามีสุดหล่อมึงอนุมัติไหม"

"ยังไม่ตกลงเลยว่ะ"

"โอ้ยไอ้ห่า นี่มึงคุยกับพี่เขามาจะครึ่งชั่วโมงได้ละ ยังตกลงกันไม่ได้อีกเหรอ พวกกูแดกกาแฟรอจนน้ำแข็งละลายหมดแก้วแล้วเนี่ย"

"คิงมึงอย่าทับถมกูดิ ก็คืนนี้พี่ใหญ่ติดงานต้องไปดูโรงแรมส่วนที่ขยายเพิ่มที่บางแสน เขาไม่อยากให้กูไปเพราะเขาไม่ว่างไปด้วย"

"เวรเอ้ย มึงก็บอกไปดิว่าไม่ต้องห่วงมีพวกกูสามคนเดี๋ยวดูแลเมียแสนรักของเขาให้"

"ก็บอกแล้ว แต่...วุ้ย ช่างเถอะยังไงกูก็จะไปเรื่องไรจะให้พวกมึงสามตัวไปเที่ยวกันหนุกหนานแล้วตัวเองต้องอยู่เป็นผีเฝ้าคอนโดฝันไปเถอะ"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกว่ะมึง อุส่าห์ได้ผัวหล่ออลังการล้านแปดขนาดนี้ แทนที่มึงจะตามเกาะเขาเป็นตุ๊กแก กลายเป็นพี่ใหญ่เกาะนี่แบบแทบจะสิงร่างมึงอยู่แล้ว"

"เชื่อสิเดี๋ยวอีกหน่อยกูว่าพี่ใหญ่ต้องให้มึงลาออกแล้วไปทำงานเป็นเลขาเอาโต๊ะตั้งไว้ในห้องนั่งจ้องตากับพี่ใหญ่เหมือนในละครแน่เลย ฮ่าฮ่า"

"สนตีนสิครับคุณแมน ผมไม่มีทางลาออกจากที่นี่เด็ดขาด ผมจะอยู่กับพวกคุณตลอดไปเย้~"

"เย้พ่องดิ ไปจัดการเรื่องขอผัวให้เรียบร้อยก่อนเถอะค่อยมาร้องเย้เย้"

"อิฐมึงมารับกูทีดิ เดี๋ยวถ้าพี่ใหญ่ไม่ให้กูไปเขาต้องยึดกุญแจรถ กูจะหนีตามมึงไปเที่ยว"

"เหอ เหอ ไปไกลๆตีน อย่าลากกูไปลงเหวกับมึงเลยคร๊าบ เดี๋ยวพี่ใหญ่สืบรู้ว่ากูเป็นคนพามึงหนีเที่ยว กูจะโดนปาดคอเอา"

"ชิส์ ถ้าไม่มารับ กูนี่แหละจะปาดคอมึงอิฐ"

"กูไม่กลัวมึงไม่กล้าแต่ผัวมึงอ่ะของจริงแน่นอน"

"โว๊ะ คบเพื่อนปอดแหกทั้งนั้นต้องทำใจ ไปทำงานดีกว่า"

"ฮ่าฮ่าฮ่า"

แล้วบทสนทนาที่ร้านกาแฟก็จบลง ในระหว่างที่กำลังเดินกลับเข้าออฟฟิต รันกับอิฐเดินทาเลาะกันนำไปก่อนแล้ว ผมจึงเดินเขาไปกระซิบบอกคิง

"มึงเย็นนี้เดี๋ยวกูไปรับนะ"

"อะไรจะมารับกูทำไมกูมีรถขับไปเองได้"

"เออน่าไปคันเดียวกันเนี่ยแหละจะขับไปทำไมหลายคัน ทางผ่านกูด้วยคอนโดมึงอ่ะเอาตามนี้นะ"

"เออๆก็ได้ดีเหมือนกันคืนนี้จะได้เมาเต็มที่ซะหน่อย ไม่ได้กินมาหลายวันละเปรี้ยวปาก"

"น้อยๆหน่อย อย่าแดกเยอะเมาแล้วเรื้อนจะตายมึงอ่ะ"

"สัดมึงดีตายเมาเรื้อนเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ต้องกลัว คืนนี้กูจะออกไปล่าเหยื่อ กินพอกรึ่มๆเว้ย"

ผมเอามือล็อคต้นคอคิงให้หันกลับมาหาทันที

"โอ้ยไอ้แมนส้นตีนนี่ปล่อยคอกูเจ็บนะเหี้ย"

"กูบอกแล้วไงให้เลิกมั่ว อยากมากมายไรขนาดนั้นวะ"

"อะไรของมึงเล่า ก็กูโสด กูจะไปกับใครก็เรื่องของกู มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่า กูป้องกันตัวเองตลอด โรคไม่ถามหาแน่นอนเพื่อน"

"กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าถ้าอยากให้บอกกูเดี๋ยวกูช่วยมึงเอง ไม่ต้องออกไปหาใคร"

"ไอ้เหี้ยยังไม่เลิกพูดเล่นแบบนี้อีก มึงคิดว่าเพื่อนกับเพื่อนจะมานั่งช่วยเหลือกันได้ด้วยเรื่องแบบนี้หรือไง มึงคิดให้เยอะๆก่อนพูดไอ้แมน กูไม่ตลกแล้วก็ไม่ชอบที่มึงพูดแบบนี้ด้วย ไม่ต้องเสนอตัวอยากจะช่วยกู"

"แต่กูไม่ได้พูกเล่น กู..."

"เห้ย มึงสองตัวผัวเมีย กระซิบกระซากไรกัน จะเข้างานไหมครับ หรือจะลาครึ่งวันไปหาที่นอนคุยกันให้เรียบร้อย กูสองคนจะได้เข้าออฟฟิต กันเลยไม่ต้องรอ"

"ไอ้อิฐตอนเด็กๆแม่ไม่รักหรือไงไอ้กวนตีน ผัวเมียพ่องดิ ทะลึ่งใหญ่โตแล้วเดี๋ยวกูเตะก้านคอแม่ง"

"โว้ โว้ ทำมาเป็นโหด ทีเมื่อก่อนหมาตัวไหนพูดว่ะ ว่าไอ้แมนผัวกู โถ่โถ่ ทำเป็นลืม"

"เชี่ยมึงอย่าให้กูจับได้นะไอ้อิฐ ไอ้หน้าปลาไหล"

"ฮ่าฮ่า"

คิงวิ่งไล่เตะอิฐเข้าไปในออฟฟิต เหลือแต่ผมกับรันที่เดินเข้าไปพร้อมกัน

จริงสินะ เมื่อก่อนยังเห็นยัดเยียดความเป็นผัวให้ผมอยู่เลย ที่พอจะเอาจริงบ้างเสือกหนี ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะไอ้คิง

21.00น. ณ ผับแห่งหนึ่ง

ตอนนี้พวกผมรวมกับเพื่อนในแผนก สิบกว่าชีวิต เข้ามานั่งจิบเหล้าเคล้าเบียร์ กันเรียบร้อย ไอ้รันจนแล้วจนรอดก็สามารถกล่อมแฟนมันจนเขาให้มา ส่วนไอ้คิงวันนี้เสื้อผ้าหน้าผม มาเต็ม มันเป็นผู้ชายที่เรียกว่าหล่อมากคนนึงได้แบบไม่ต้องอายปาก ความสูงที่ไม่เป็นรองใคร หน้าตาที่ออกไปทางขาวตี๋ หุ้นไม่ผอมและไม่หนาจนเกินพอดี เรียกได้ว่า ดูดีไปทั้งตัวไม่แปลกใจที่ทั้งหนุ่มน้อยสาวน้อย คอยวิ่งแจ้นเข้ามาหามันอยู่เสมอๆ ขนาดเมื่อก่อนตอนที่ผมรู้จักคิงกับรันใหม่ๆ ยังนึกว่ามันเป็นผัวเมียกันซะอีก ที่แท้ก็เป็นขุ่นแม่ทั้งคู่ กินกันเองไม่ได้ วันนี้ผมเลยนั่งประกบไอ้คิงเต็มที่ ถึงมันจะออกปากไล่ บ้างไรบ้างผมก็หน้ามึนทำเป็นไม่สนใจ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีกินเหล้าคุยเต้นกันตามประสา จนเวลาล่วงเลยไปเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เพื่อนในแผนกหลายคนขอตัวกลับกันไปบ้าง จึงเหลืออยู่ที่โต๊ะแค่6-7 คนไม่นานสวรรค์ของรันมันก็จบลงเมื่อพี่ใหญ่มารับกลับถึงที่ แถมหวิดจะมีเรื่องกับหัวหน้าแผนกอีกต่างหากดีที่รันลากคนของมันออกไปก่อน หลังจากที่รันกลับไปแล้ว งานเลี้ยงก็เหมือนจะจบลงโดนปริยาย ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับส่วนผมน่ะเหรอ ก็ต้องลากไอ้ตัวดีกลับเหมือนกัน

"แล้วบอกว่าจะไม่เมานี่อะไร แทบจะเลื้อยกลับขึ้นรถอยู่แล้ว"

"อ้ายแม๊นนนน กูม่ายเมานะเว้ยฟังรู้เรื่องนะเมิง กูไม่ช่ายงูจะได้เลื้อยกลับนะสาด"

"เออไอ้คนไม่เมา ขึ้นรถไปเลยไม่ต้องพูดมาก"

กว่าจะพามันขึ้นมาถึงเตียงได้เนี่ย เหนื่อยแทบลาก

"ไอ้คิง มึง ไปอาบน้ำก่อนจะได้สร่างเมาเร็ว"

"อื้อ ไม่อาวกูจะนอน"

"ลุกสัดไปอาบน้ำอย่ามาหมกเหม็นเหล้าสกปรก"

"ม่ายยยย"

ด้วยความรำคาญ ผมจึงจับมันแก้ผ้าให้เรียบ ถึงจะใจเต้นตึกตักมากแค่ไหน ก็ต้องสะกดกลั้นเอาไว้ แบกมันขึ้นมาจากที่นอน ลากไปอาบน้ำ

ซ่าาาาาา

"โอ้ยไอ้เวร กูหนาวเล่นเหี้ยไรเนี่ย ปล่อยกู๊จาไปนอน"

"อาบน้ำล้างหน้าหน่อยมึง จะได้สร่างนอนหลับสบาย"

ผมไม่สนใจอาการต่อต้านพร้อมคำด่าสารพัดที่มันส่งมา รีบอาบน้ำแบบลวกๆให้เสร็จ จึงพามันลุกออกไปแต่งตัว คิงมันนั่งรอผมหยิบเสื้อผ้าให้อยู่ปลายเตียงพร้อมผ้าขนหนูพันรอบเอวเพียงผืนเดียว แม่งเอ้ยเซ็กซี่เข้าไปอีก ผมควรรีบหยิบให้มันใส่แล้ว กลับบ้านไปนอนสักที อยู่ใกล้มันทีไรเหนื่อยหัวใจชิบ

"เอ้ามึงใส่ซะจะได้นอนพักกูจะกลับบ้านแล้วเหมือนกันง่วงนอน"

"จะกลับทำไม....นอนนี่แหละ"

"สร่างเมาขึ้นหน่อยแล้วใช่มะ พูดจาภาษาคนพอรู้เรื่องละ มึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนพักเถอะ กูกลับไปนอนบ้านตัวเองดีกว่า"

"แต่กูยังไม่ง่วง อยู่เป็นเพื่อนกูก่อนได้ไหม"

"อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย"

"มึงกูถามอะไรมึงหน่อยดิ"

คิงหันหน้ากลับมามองผมพร้อมคำถาม

"มึงอยากถามอะไร ก็ถามมา"

"ทำไมมึงถึงไม่อยากให้กูไปยุ่งกับคนอื่น"

"กูเป็นห่วง"

ผมตอบส่งๆไป

"เหรอ แล้วที่มึงพูดว่าถ้ากูอยากให้บอกมึงล่ะ"

"มึงอยาก?"

"ถ้ากูตอบว่าใช่มึงจะ...ทำกับกูหรือเปล่า"

"กูว่ามึงไปนอนพักเถอะคิง มึงกำลังเมาสติไม่ครบถ้วนกูจะถือซะว่ามึงพูดเพราะว่าเมา"

"..."

"..."

ความเงียบปลกคุมเราสองคนชั่วขณะ แล้วจู่ๆไอ้ขี้เมาตรงหน้าก็ก้มลงไปหยิบกางเกงของตัวเองที่ผมถอดทิ้งไว้ข้างๆเตียง

"มึงจะทำอะไรคิง"

"กูหาโทรศัพท์ มึงกลับไปได้ละ"

"มึงจะเอาโทรศัพท์โทรหาใคร?"

"กูจะโทรหาใครก็เรื่องของกู มึงกลับไปซะ แล้วต่อไปนี้มึงไม่ต้องมาพูดกรอกหูกูว่าห้ามกูไปยุ่งกับใคร มึงเลิกพูดว่าอยากจะช่วยกู...กูไม่อยากได้ยินอีก ถ้ามึงไม่รู้สึกอะไรมากกว่าคำว่าเพื่อนมึงอย่า..."

ผมปัดโทรซัพท์ในมือมันทิ้ง ออกจากหูขณะที่มันกำลังโทรหาใครอีกคน

"กูพูดตามที่ใจกูคิด ถ้ากูไม่อยากให้มึงยุ่งกับใครนั่นมาจากใจกู จากความรู้สึกของกูมึงเข้าใจไหม"

"งั้นคืนนี้มึงนอนค้างกับกูสิ กูอยากมีคนนอนกอด กูอยากทำกับมึงได้ไหม"

"คิงมึงรู้รึเปล่าว่ามึงพูดอะไรออกมา ถ้ากูนอนกับมึงแล้วพรุ่งนี้มึงตื่นมา มึงลืมคำพูดตัวเอง แล้วสรุปว่ามีอะไรกับกูเพราะว่าเมาผลมันจะเป็นไงมึงกับกูจะมองหน้ากันติดไหม"

"กูจะไม่ลืม"

"มึงแน่ใจนะ เพราะพรุ่งนี้ระหว่างมึงกับกูมันจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก ไม่มีแม้แต่ความเป็นเพื่อน"

"กูเบื่อจะเป็นเพื่อนกับมึงแล้วแมน"

(-//////-) ,, (-//////-)

"มึงชอบกู"

"..."

"ใช่ไหมคิง"

"..."

"กูถามเพราะต้องการคำตอบอย่าเงียบ"

"เอ่อ...แล้วๆมึงล่ะ ชอบกูใช่ป่าวที่สั่งให้กูห้ามไปนอนกับคนอื่น ชอบกูใช่ไหม...ต้องใช่ดิไม่งั้นมึงจะห้ามกูทำไม...ถ้ามึง"

"เออกูชอบมึง ชอบมากนานแล้วด้วยมึงจบป่ะ"

"อ่ะ...อะไรมึงพูดจริงเหรอชอบมานานแค่ไหนแล้ว"

"กูไม่รู้ เป็นปีแล้วมั้งกูไม่ได้ว่างมานั่งนับ ตกลงมึงยังไง ชอบกูด้วยไหมจะได้ใจตรงกัน ตอบมาอย่ามาทำเป็นสาวน้อยติดอ่าง"

"มึงนี่แม่งหยาบจริงๆบอกชอบกูได้ถ่อยมาก"

"กูก็เป็นของกูแบบนี้นานละ"

"เออกูรู้ แต่ก็เสือกชอบเข้าไปได้"

"^__^"  "-///-"

.

.

.

.

.

"หึหึ ไอ้เวรเดี๋ยวคืนนี้กูจะเลื่อนสถานะให้นะเพื่อน"

" ^_____^"

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 24-25-26(08/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 12-06-2017 20:50:26
ฮือออ คนเขียนหายอีกแล้วว T-T
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 24-25-26(08/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 12-06-2017 21:28:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 27(13/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 13-06-2017 07:50:08
โรคจิต27 หึง

Part ใหญ่


วันนี้เด็กดื้อโทรมาอ้อนขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ผมจะไม่อะไรมากเลยถ้าไม่ใช่งานเลี้ยงต้อนรับไอ้หัวหน้าแผนกจอมกวนตีนนั่น แค่ได้ยินชื่อนิ้วเท้าก็กระตุกแล้ว ชวนดูงานด้วยกันก็ไม่ไปดูทรงแล้วถ้าไม่ให้ยังไงก็คงแอบไปอยู่ดี จนแล้วจนรอดก็ปล่อยให้ไปแต่อย่าหวังว่าจะให้ไปโดยไม่มีใครคุม ผมไม่เสี่ยงให้โยไปเฝ้าเพราะถ้ารันเกิดเห็นขึ้นมาเรื่องใหญ่แน่นอน แต่กลัวอะไรไม่มีโยลูกน้องของน้องชายผมยังมีให้ใช้งานอีกไม่อับจนหนทางง่ายๆหรอก

ผมมาดูงานส่วนต่อเติมของโรงแรมหนึ่งในธุรกิจของครอบครัว ด้วยความที่ช่วงนี้ผมยุ่งกับ โปรเจคโรงแรมใหม่ที่พัทยา จึงเจียดเวลาช่วงค่ำ ไปดูงานที่บางแสนระหว่างคุยงานผมก็คอยเช็คโทรศัพท์ไปเรื่อย เอ็มลูกน้องของโยที่เคยตามรันแบบนี้ให้ผมบ่อยจนรู้งาน เขาคอยรายงานผมตลอดระหว่างที่รันสนุกอยู่กับเพื่อนๆ

ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง

เสียงข้อความจากโปรแกรมไลน์ในโทรศัพท์ของผมดังขึ้นในขณะที่ผมเดินสำรวจงานในส่วนที่จะต่อเติม ผมหยุดการพูดคุยทุกอย่างไว้พร้อมโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันคือภาพสามภาพที่ถ่ายจากมุมด้านหลังของคนสองคนในผับ แผ่นหลังทางซ้ายคือคนที่ผมคุ้นเคยดีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเมียตัวเอง แต่อีกคนนั่นแค่เห็นหลังลางๆผมจำได้ทันที่ว่าเป็นไอ้หัวหน้าแผนกนั่น นั่งอยู่ติดกับรันท่าทางในการนั่งดูเหมือนมันจะเข้าใกล้รันมากเกินไปท่าทางที่มันนั่งพร้อมวางมือไว้ทางที่นั่งด้านหลังของรันหันหน้าเข้าหารันเหมือน....

"เหี้ยเอ้ย"

ผมสบทออกมาโดนไม่สนใครหน้าไหนแม้แต่พนักงานและลูกน้องที่กำลังยืนรอผมสั่งงานต่างๆอยู่ไม่ไกล ผมสูดหายใจเข้าออกลึกๆ  หันหน้ากลับไปยังกลุ่มคนที่กำลังรอผมอยู่

"ขอโทษที วันนี้พอแค่นี้ก่อนพอดีผมมีธุระด่วนต้องรีบไป งานส่วนที่เหลือส่งต่อให้คุณสิทธิ์เลขาผมได้เลย สิทธิ์ฝากด้วยนะ"

"ได้ครับคุณใหญ่"

ผมขับรถออกมาทันทีโดยไม่รั้งรอ เผลอไม่ได้เชียวไอ้แมวขโมย ผมขับรถไปได้เพียงครึ่งทาง ข้างหน้ารถติดแทบไม่ขยับเขยื้อน ตำรวจและมูลนิธิ ช่วยส่งสัญญาณบอกว่าข้างหน้ามีอุบัติเหต ผมหัวเสียมาก แทนที่อีกไม่ถึง20นาทีผมก็จะไปถึงผับที่พวกรันเที่ยวกันอยู่แล้วแท้ๆ แต่นี่ดูท่าทางกว่าจะผ่านไปได้คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมง ระหว่างที่ผมต้องรอพวกมูลนิธิเคลียร์คนเจ็บและตำรวจเคลียร์เส้นทางผมจึงไลน์บอกกับเอ็มลูกน้องที่โยเคยเอามาฝากฝังผมเมื่อหลายเดือนก่อน ให้เฝ้าดูอย่าให้คลาดสายตา

เมื่อมาถึงที่ผับก็กินเวลามากใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ผมเดินเข้าไปข้างในหันไปเจอเอ็มนั่งมองผมอยู่ก่อนและพยักหน้าให้ผมมองเข้าไปยังโต๊ะของรันผมถึงกับหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธไอ้เวรนั่นเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้วมันยังไม่เลิกนั่งประกบเมียของผมอีกหนำซ้ำภาพที่ผมเห็น มันก้มหน้าลงมาพูดกับหูของรัน นั่นมันใกล้เกินไป พวกเขามองไม่เห็นผมเพราะนั่งหันหลังให้ผมอยู่ ผมตรงดิ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อมันให้หน้าออกห่างจากรันทันที

"เฮ้ยอะไรวะ...มึงอีกแล้วเหรอ"

"พี่ใหญ่ผลักพี่โชคทำไมครับ"

"รันพี่มารับกลับบ้าน"

ผมดึงมือรันให้ลุกออกจากโต๊ะทันที

"โอ้ย เดี๋ยวครับผมขอบอกเพื่อนก่อน พี่โชคผมขอโทษแทนพี่ใหญ่ด้วยนะครับ"

"ขอโทษแทนทำไมรันคนทำยังไม่คิดจะขอโทษเลย เสียมารยาทชิบหาย ทำไมมีแฟนนิสัยแบบนี้ได้"

"ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดกูจะเตะปากให้พูดไม่ได้ไปอีกหลายวันเลย"

"พี่ใหญ่...ทำไมพูดแบบนี้"

"กลับ"

"ไอ้หมาบ้า"

ผมหันกลับไปกระชากคอเสื้อมันกำลังจะสาวหมัดงามๆส่งใส่ปากสักทีให้มันหลับสบาย

"หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ใหญ่ ถ้าไม่หยุดผมจะไม่คุยด้วยอีกต่อไป"

ผมชะงักทันทีกับคำพูดของรัน

"กลับ"

รันดันผมให้ออกจากผับนั้นทันทีระหว่างทางที่อยู่ในรถไม่มีเสียงพูดคุยของเราทั้งสองคนมีแต่ความเงียบมที่ปลกคลุม ไม่มีแม้แต่เสียงเพลง เมื่อกลับถึงห้อง ผมจึงจับแขนรันให้หันกลับมาพูดคุยให้รู้เรื่อง

"รันโกรธพี่เหรอ"

"...."

"รันคุยกับพี่สิอย่าเงียบ"

"ผมไม่มีอะไรจะพูด"

"ผมอีกแล้ว พูดแบบนี้แสดงว่าโกรธ"

"รู้ตัวก็ดี"

รันสะบัดแขนออกหลังจากพูดจบ ผมเอื้อมมือไปดึงอีกครั้งหวังจะพูดกันให้เข้าใจ

"รันอย่าทำแบบนี้คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน พี่ขอโทษที่อารมณ์ร้อน แต่พี่โกรธที่มันมาใกล้ชิดกับรันพี่ไม่ชอบ"

"เหอะ พี่ก็ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ผมสักคนนั่นแหละ"

"รันอย่าประชด พูดกับพี่ดีๆได้ไหม"

"แล้วพี่ทำตัวดีให้ผมอยากจะพูดด้วยไหมล่ะ พี่ทำแบบนั้นทำไม ไปกระชากคอเสื้อพี่โชคทำไม หาเรื่องเขาเพื่ออะไร ผมกับเขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันสักหน่อย เขาเป็นหัวหน้าผมนะ ถ้าพี่ต่อยเขาผมจะมองหน้าเขาติดได้ไง"

"แล้วรันไม่รู้ตัวบ้างเหรอว่ามันชอบรัน รันไม่รู้ตัวเลยว่าที่มันนั่งใกล้ชิดสนิทสนมกันที่ผับเพราะอะไร หัวหน้ากับลูกน้องจำเป็นต้องก้มหน้าคุยกันแนบเนื้อขนาดนั้นด้วย แทบจะนั่งเกยตักกันอยู่แล้วจะให้พี่ทำเฉยๆเหมือนไม่รู้สึกอะไรงั้นเหรอ"

"แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขา"

"รันไม่คิดแต่มันคิด รันอย่าบอกนะว่ารันดูไม่ออกว่ามันคิดกับรันแบบไหนแล้วการที่รัน ทำตัวไม่คิดอะไรปล่อยให้มันเข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัว แบบนั้นมันใช่รึเปล่า"

"พี่ใหญ่คิดมากเกินไป พี่กำลังทำให้ผมเข้าหน้าพี่โชคไม่ติด"

"คำก็พี่โชคสองคำก็พี่โชคถ้ายุ่งยากมากนักก็ลาออกมาทำงานกับพี่สิทุกอย่างจะได้จบ"

"เหอะ คิดก่อนพูดแล้วใช่ไหมคำนี้"

"รัน"

"ถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่รู้สึกว่าพี่ทำอะไรผิดบ้างใช่ไหม ความหึงของพี่มันมากเกินไปพี่รู้รึเปล่า ความรักของพี่มันกำลังทำให้ชีวิตผมอยู่ยากขึ้น ไม่ว่าผมจะทำอะไร จะออกไปไหนพี่ก็ห้ามตลอด ใครเข้ามาใกล้นิดหน่อยพี่ก็พาลหาเรื่องไปหมด"

"..."

"พี่กลับไปนอนที่ห้องก่อนเถอะ คืนนี้ผมอยากอยู่คนเดียว"

"รันไม่..."

"ผมอยากอยู่คนเดียว"

แล้วคนดีของผมก็เดินกลับเข้าห้องนอนไปทิ้งผมไว้ให้อยู่ตรงนี้คนเดียว

"โถ่เว้ย"

ผมเดินกลับออกมาจากห้องของรัน ขับรถออกมาตามถนนอย่างไม่มีจุดหมายผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอยากจะโทรหาพ่อใจจะขาด แต่นี่ไม่ใช่เวลาเอาเรื่องไปรบกวนท่านผมทราบดี ผมจึงกดโทรหาโยน้องชายคนเดียวที่สามารถรับฟังปัญหาทุกอย่างของผมได้

"โยเปิดบ้านให้พี่หน่อย อีก 15 นาทีพี่ไปหา"

'ครับ'

เมื่อผมขับรถมาถึงหน้าบ้านของโยเวลาก็ล่วงเลยมาตีสองครึ่งแล้ว ผมเดินเข้าไปเจอกับโยและก้อยที่นั่งรออยู่

"สวัสดีครับพี่ใหญ่" "สวัสดีค่ะคุณใหญ่"

"อืม...ก้อยทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ กลับไปนอนพักผ่อนเถอะพี่ไม่ได้มีเรื่องอะไรจะให้โยออกไปทำแค่อยากนั่งคุยเฉยๆ"

"ก้อยไม่ง่วงแล้วค่ะคุณใหญ่ ก้อยนอนตั้งแต่หัวค่ำเต็มอิ่มแล้ว อันที่จริงก้อยตื่นก่อนคุณใหญ่จะโทรหาพี่โยซะอีก กำลังนอนเล่นรอเวลาอยู่พอดี ก็เลยขอลงมาด้วย ว่าแต่มีธุระอะไรสำคัญต้องคุยกันสองคนไหม ก้อยไปอ่านหนังสือรอที่ห้องก็ได้นะคะ"

"ไม่เป็นไรอยู่เถอะพี่ไม่มีความลับอะไร"

"พี่ใหญ่มีปัญหากับคุณรันเหรอครับ เอ็มโทรมาบอกผมว่า พี่จะมีเรื่องกับผู้ชายที่โต๊ะ"

"ก็ไอ้หัวหน้าตัวดีนั่นแหละ เอ็มได้เล่าให้ฟังรึเปล่าว่ามันนั่งเกาะเมียพี่เป็นปลิงตลอดเวลา"

"ทราบครับ"

แล้วผมก็เล่าเรื่องราวต่างๆในค่ำคืนที่พึ่งผ่านมา

"พี่ควรทำยังไงดีวะโย"

"ผมจัดการหัวหน้าแผนกของคุณรันให้จะได้จบๆ พี่ใหญ่อยู่เฉยๆก็พอครับ"

"แต่ก้อยว่าไม่เวิร์ค"

"..."

"..."

"...เอ่อ ขอโทษค่ะคือก้อยว่าแผนพี่โยไม่โอเค ขอก้อยออกความเห็นได้ไหมคะ"

"อืม...เอาสิ"

"ถ้าพี่โยไปทำกับหัวหน้าของคุณรันเหมือนกับทุกคนที่ผ่านๆมา หัวหน้าคนนั้นต้องรู้ตัวว่าใครเป็นคนสั่งและก้อยว่าเรื่องต้องถึงหูคุณรันแน่นอน ในเมื่อคุณรันรู้เรื่องทั้งหมดที่คุณใหญ่เคยทำคราวนี้แหละเรื่องมันจะยิ่งแย่ คุณใหญ่จะดูแย่ในสายตาคุณรันเพิ่มขึ้นไปอีก ก้อยว่าคุณรันกำลังรู้สึกเหมือนถูกบังคับจิตใจมากเกินไป คุณใหญ่ทำให้เขารู้ว่ารักเขามากมายแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่คุณรันคิดว่าตัวเองเหนือกว่า เรื่องนี้ก้อยว่าผิดทั้งคู่ คุณใหญ่ก็ผิดที่ไม่ระงับอารมณ์ คุณรันก็ผิดที่ไม่แสดงตัวชัดเจนปล่อยให้คนอื่นเข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัวเกินไป ในเมื่อเขาทำให้คุณใหญ่หึง ก้อยคิดว่า เขาต้องรู้ว่ายังไงคุณใหญ่ก็กลับมาตายรังหาเขาอยู่ดี แทนที่จะไปไล่ตามกระทืบตามขู่คนนั้นคนนี้ ลองเปลี่ยนวิธีดูบ้างสิคะ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ทำให้เราหึง เราก็ทำคืนบ้างแบบเนียนๆ เหมือนที่เขาทำ ถ้าเขาหึงเขาจะได้รู้สึกตัวว่า สิ่งที่เขาทำเราก็เคยไม่โอเคเหมือนกัน"

"อืม ก็ดีนะ แต่พี่ไม่อยากไปยุ่งกับใคร"

"ก็อย่าไปยุ่งกับคนอื่นสิคะ เอาคนของเรารู้กันไม่ลำบากใจ"

"ก้อยหมายถึงพี่เหรอ"

โยชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยสีหน้าตกใจ

"ไม่ พี่โยของก้อยคนเดียว ก้อยแนะนำเอ็มพี่โยเอาเอ็มเลย รับลองได้ผล เอ็มหน้าตาดี จับแต่งตัวเป็นเกย์เก้เจ้าสำอางค์หน่อยรับรองคุณรันหึงแน่นอน"

"ไอ้เอ็มเนี่ยนะ จะไหวเหรอ"

"พี่โยเชื่อก้อยสิ ไม่รู้อะไรซะแล้ว เอ็มเนี่ยแหละตัวร้ายเลยรับรองงานนี้ลื่นไหล คุณใหญ่คิดว่าไงคะ"

"เอ่อ....คือ พี่ไม่รู้สิ ถ้าใช้เอ็มจะต้องทำไง"

"เรื่องเอ็มไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก้อยจัดการเอง ขอเวลาไปเตี๊ยมเอ็มก่อน คุณใหญ่ตกลงใช่ไหมคะวิธีของก้อย"

"โยว่าไง"

"น่าลองครับพี่ เมียผมอุบายร้อยเล่มเกวียนอันนี้ผมรับลองได้"

"^____^อันนี้ชมใช่ไหมคะ"

"ชมจ๊ะคุณแม่"

"แล้วพี่ต้องทำยังไง"

"ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ คุณรันให้คุณใหญ่กลับมานอนที่ห้องตัวเองก็ตามนั้น"

"แต่พี่คิดถึงรัน"

"คุณใหญ่ต้องยอมแลกนะ เชื่อก้อยสิมันต้องเวิร์ค ถอยออกมาก่อน ไม่งั้นก็กลับไปนอนที่บ้านก็ได้ค่ะไกลหน่อยจะได้อดใจไหว ก้อยขอเวลาวันเดียวพรุ่งนี้จะขุดเอ็มให้พร้อม"

"อืม เอาก็เอา เดี๋ยวพี่กลับไปนอนบ้านใหญ่แทนแล้วกัน หางานทำกับพ่อพี่จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ฝากด้วยนะก้อย ถ้าทำสำเร็จ สปาชุดใหญ่สำหรับคนท้อง พี่จะจัดให้งามๆ

"จบดีลค่ะ^_^"
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 28(13/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 13-06-2017 07:53:57
โรคจิต28 หวง

Part รัน


ผมโกรธพี่ใหญ่มากเรื่องเมื่อคืน ผู้ใหญ่ไม่มีเหตุผล พูดเหมือนกับว่าผมไปอ่อยให้ท่าพี่โชคหัวหน้าแผนก คิดได้เน๊อะ ไม่รู้ว่าพี่เขาจะจำได้ไหม ว่าตัวเขาเองหล่อใส้แตกขนาดไหน ให้ผมเทียบกันตรงๆนะ พี่โชคเนี่ยไม่มีอะไรเทียบพี่ใหญ่ได้สักอย่างความหล่อความรวยทิ้งกับแบบไม่เห็นฝุ่น ผมคงจะโง่เต็มทีถ้ามีของพรีเมียมขนาดนี้อยู่กับตัวแล้วยังไม่พอ เฮ้ย คิดแล้วเครียดเมื่อคืนก็ไล่เขากลับไปนอนที่ห้อง จนป่านนี้เย็นย่ำแล้วก็ไม่มีวี่แววจะโผล่มาง้อเลย

มีแค่ข้อความที่ส่งมาสั้นๆ ว่าจะไปช่วยคุณพ่อทำงานแล้วก็จะนอนที่บ้านใหญ่ อ่านะ ไม่ง้อกันสักนิด เอหรือว่าเรื่องนี้ผมเป็นคนผิด ก็ไม่นะพี่ใหญ่ต่างหากที่ผิด หรือเขาจะให้ผมอยู่คนเดียวจริงๆอยากที่ผมขอ คิดแล้วอยากตบปากตัวเองสักสามที พออารมณ์โกรธจางหายไป ก็พึ่งจะคิดได้ว่าทาเลาะกันขนาดไหนก็ไม่ควรจะไล่เขาไปนอนที่อื่น

"เฮ้ย เครียด เครียด เครียดโว้ยยยย"

Rrrrrrrrrrrrrr

ผมรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีที่เสียงดังขึ้น

'อิฐ'

"โถ่นึกว่าพี่ใหญ่"

"ฮัลโหลว่าไง"

'ว่าไงมึงนั่นแหละเป็นไงบ้างกูเห็นพี่ใหญ่จะมวยใส่พี่โชคเมื่อคืน สรุปแล้วยังไงวะ'

"เออทาเลาะกันไปดิ พี่เขาว่ากูไปทำตัวสนิทชิดเชื้อพี่โชคเกินไป เขาหึง"

'เออก็น่าอยู่หรอก ถ้าเป็นเมียกูกูก็หึงเหอะ ส้นตีนนั่งประกบมึงยังกับผัวมาคุมเมียเที่ยว'

"ห๊ะ ขนาดนั้นเลยเหรอมึง กูไม่ได้อะไรเลยนะเว้ย"

'มึงไม่อะไรเพราะ มัวแต่นั่งแดกอย่างเดียวสิ พี่โชคนั่งซะติดแทบจะสิงร่างมึงอยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัว'

"ก็...ก็โต๊ะมันแคบอ่ะมึงก็เห็น กูนั่งริมในสุดคนอื่นมันก็เบียดๆกันมาป่ะวะ"

'ตอนแรกใช่ แต่หลังจากกระจายกันไปคนละทิศละทาง เขาก็ยังนั่งเบียดมึงไม่เลิก มึงสังเกตมั่งป่าว ไอ้กร๊วก'

"เอ่อ...นี่กูผิดใช่ไหมวะ เมื่อคืนพี่ใหญ่ก็ว่ากูแบบนี้ หาว่ากูไปนั่งให้เขาเบียดอยู่ได้"

'เออ ก็น่าดูชมอยู่ เป็นกูโดดเตะก้านคอแม่งละ คนเหี้ยไรรู้ว่าเขามีแฟนแล้วยังม่อใส่ กูมองจนกูรำคาญ นั่งบริการโน่นนี่นั่นให้มึงไม่ขาดสาย เบียดซะยังกะผับคนแน่นซะเต็มประดามึงก็เหมือนกันนั่งบื้อเป็นกระบือขาดน้ำมัวแต่นั่งเมาระวังนะ วันไหนพวกกูไม่อยู่มันจะหิ้วมึงไปแดกไม่รู้ตัว'

"ไอ้อิฐมึงอย่าตอกย้ำสิ มึงพูดซะกูดูเป็นคนผิดมากมายเลย เมื่อคืนกูก็ทาเลาะกับพี่ใหญ่ ว่าเขาไปซะเยอะด้วยแถมไล่ไปนอนที่อื่นอีก ฮืออออออ ตายๆ"

'ระวังนะมึงไล่เขาเดี๋ยวเขาไปนอนที่อื่นสมใจมึงแล้วจะหนาว'

"หยุดเลยเดี๋ยวกูต่อยปากแตก"

'แล้วนี่มึงทำไรอยู่ กูจะชวนไปลากไอ้คิงออกจากเตียงโทรไปไม่รับตั้งแต่ตอนสายๆละ แม่งสงสัยเมาหลับหรือไหลตายก็ไม่รู้ ไอ้แมนอีกคน โทรไม่รับทั้งคู่ ไปกับกูไหมจะชวนไปหาข้าวกิน'

"เออๆไป เดี๋ยวเจอกันหน้าคอนโดไอ้คิง"

'อืม'

กำลังเบื่อเซ็งได้ที่ แถมเครียดเรื่องพี่ใหญ่อีกต่างหาก สรุปรอบนี้ผมคงผิดจริงใช่มะต้องเป็นฝ่ายไปง้อแน่แล้วสินะแต่ก่อนจะง้อไปหาเพื่อนขอความคิดดีๆในการง้อสามีสุดหล่อขี้น้อยใจก่อนละกันครับ

ผมมาถึงคอนโดคิงไล่ๆกับอิฐจึงขึ้นลิฟท์ไปพร้อมๆกัน ผมกะว่าจะมาลากสังขารไอ้คิงเรียบร้อยแล้วเลยไปลากไอ้แมนต่อที่บ้านแล้วไปหาอะไรกินกันกองทัพต้องเดินด้วยท้อง

ติ๊งต่อง...ติ๊งต่อง..........ติ๊งต่อง

ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง

'เออมาแล้วเหี้ยกดไรรัวนักวะ'

เสียงไอ้คิงแว่วขึ้นมาจากข้างในห้อง

แกร๊ก

"...เชี่ยพวกมึงมาได้ไง"

ไอ้คิงทำท่าจะปิดประตูใส่พวกผมดีที่ผมกับอิฐยืนติดประตูจึงเอามือดันเอาไว้ทัน

"อะไรของมึงไอ้คิง พวกกูไม่ใช่เจ้าหนี้มึงนะ ทำเป็นลนลานปิดประตูหนี"

อิฐพูดจบผมก็แหวกตัวเข้าห้องคิงได้สำเร็จ

"เอ่อ...พวกมึงทำไมไม่โทรบอกกูก่อนว่าจะมาวะ"

"พวกกูโทรจนสายจะไหม้แล้วติดต่อไม่ได้ทั้งมึงทั้งไอ้....เหี้ยไอ้คิงมึงไปโดนใครดูดมาวะเต็มตัวเลยสัด"

ผมหันขวับกลับไปมองคิงทันที คิงมันใส่กางเกงวอร์มขายาวตัวเดียวเสื้อไม่ใส่ ก็อยากที่อิฐร้องออกมาแหละครับ รอยตามตัวเป็บสิบ

"โหหหหหห พระเจ้าจ๊อด แล้วว่าแต่กูตัวลายเป็นตุ๊กแก ดูตัวมึงดิอื้อหือใช่ย่อยว่ะ"

ไอ้คิงเหมือนจะรู้สึกตัวตอนที่พวกผมแซวมันเรียบร้อยแล้ว มันรีบเอาหมอนอิงที่โซฟามาปิดรอยตามตัวทันที

"เอ่อ...พวกมึงมีอะไรรึเปล่าวะมาหากูเนี่ย"

"กูจะมาชวนมึงไปกินข้าว โทรหาไม่ติดไอ้แมนด้วย กูจะชวนมึงไปลากมันที่บ้านเนี่ย ว่าแต่เมื่อคืนโดนจัดหนักมาเหรอวะ ฮ่าฮ่าฮ่า ไปเกี่ยวใครมา หล่อป่ะ"

"เออหล่อไม่หล่อเรื่องของกู พวกมึงออกไปรอกูร้านกาแฟหน้าคอนโดก่อนดิคือเขายังอยู่ในห้องคนที่กูพามา เดี๋ยวเขาจะตกใจ"

"อ่าวยังอยู่เหรอ โห ตั้งแต่เมื่อคืนอยู่ยันเย็นวันนี้เลย ไม่ธรรมดา"

"เออ ไอ้รันหุบปากไปเลยลากไอ้อิฐไปรอกูข้างล่างก่อน 15 นาทีเดี๋ยวกูตามลงไป ปิดประตูห้องให้กูด้วยนะกูไปอาบน้ำก่อน"

"เออๆอย่าช้านะกูหิวข้าว"

แล้วผมกับอิฐก็กำลังจะเดินออกจากห้องแต่สายตาผมดันหันไปเจอกับรองเท้าคุ้นเคยคู่หนึ่งเข้า

"อิฐนี่ใช่รองเท้าไอ้แมนป่าววะ"

"เออใช่คู่เมื่อคืนที่มันใส่ไป"

"..."

"..."

ผมกับอิฐหันมาสบตากันโดนไม่ได้นัดหมาย

"รันมึงคิดแบบที่กูคิดป่าว"

"เอ่อ คิดนิดๆวะ แต่คงไม่หรอกมั้ง"

"เดี๋ยวมึงก็รู้ หึหึ ตามกูมาเงียบๆเร็ว"

ผมกับอิฐเดินวกกลับไปที่กน้าห้องนอนของคิง แล้วอิฐก็กระซิบกลับมา

"เดี๋ยวกูนับ หนึ่ง สอง สาม แล้วเปิดประตู มึงผลักเข้าไปแรงๆ แล้วยืนจังก้าในห้องเลยนะ"

"อือๆ มึงนับช้าๆกูตื่นเต้น"

"หนึ่ง......สอง......สาม"

แกร๊ก

"เหี้ยยยยยยยยย"

คำอุทานสีเหี้ยประสานเสีย

เหมือนเวลาในห้องจะหยุดเดิน มีมนุษย์ตัวแข็งสี่ตัวอยู่มุมห้องฝั่งละสอง

"อะ อะ ไอ้แมน ไอ้คิง พวกมึงๆไม่จริงใช่มะกูตาฝาดใช่ป่าววะรัน"

"เออ ถ้ามึงฝาดกูก็ฝาดเหมือนกัน"

"เออไอ้พวกตัวเหี้ยไม่ฝาดทั้งคู่นั่นแหละกูบอกให้ไปรอข้างล่างเสือกทะลึ่งวิ่งเข้ามาในห้องอีก หมดกันแม่งรู้หมด"

"เดี๋ยวๆๆมึงสองคนนี่แอบลักลอบได้เสียเป็นเมียผัวกันเหรอวะ นานหรือยังทำไมกูสองคนไม่รู้"

"มึงจะรู้กันได้ไง กูพึ่งเอากันเมื่อคืน"

"เฮ้ยไอ้แมนมึงพูดจริงอ่ะ กูไม่อยากจะเชื่อหู เป็นไงล่ะกูบอกแล้วว่าอย่าเล่นกันให้มากระวังผีผลัก ดูๆโดนผลักไปกระแทกกันซะรอยดูดรอยข่วนเต็มตัวเลยห่า sexกันหรือไล่กระทืบกันวะสภาพดูไม่ได้ทั้งคู่เลย โอ้ยรันพยุงกูไปข้างนอกทีกูจะเป็นลม เพื่อนแอบกินกันเอง อิฐรับบ่ได้"

แล้วคิงก็ปาหมอนใส่หน้าอิฐที่กำลังแสร้งจะเป็นลมทันที

"ไอ้ควายอย่าสำออย พวกมึงเลิกล้อสักที ออกไปรอข้างนอกเลย กูสองคนจะอาบน้ำ เดี๋ยวค่อยคุย เหนียวตัวเหี้ยๆแล้ว" คิงด่าอิฐ

"กรรมศึกหนักอ่ะสิ"

"ไอ้ควายยังไม่เลิกแซวเดี๋ยวกูถองให้ไส้แตกเลย"

"โหดดดดดดด ได้เพือนเป็นผัวฟอร์มโหดเชียว กูไปรอข้างนอกก็ได้แว๊ฟฟฟ"

"แม่งกวนตีน"

"เออรีบๆไปอาบน้ำไวไว พวกกูรอซักฟอกมึงสองคนอยู่"

"อือ"

ต่อ

"หุหุ เดินกันมาโน่นละ"

อิฐพยักหน้าให้ผมหันกลับไปมอง แมนกับคิง ที่เดินมาพร้อมกัน

"เอ่อ...คือ"

"เดี๋ยวๆยังไม่ต้องเล่า ไปหาร้านนั่งกินข้าวให้เรียบร้อยก่อนกูถามหมดเปลือกแน่"

"เออ จะกินไรก็ไป กูหิวแล้วเหมือนกัน"

"กูเสนอบุฟเฟ่เลยเป็นไง ดูท่าทางมึงสองคนคงจะหิวโซ ได้ออกมาหาอะไรแดกกันบ้างป่าว"

"ไอ้รันปากดี จะไปแดกไหนก็ไปอย่าพูดเยอะ"

"อ่ะ โอเคครับๆเพื่อนคิง ใจร่มๆ เดี๋ยวผมพาไปหาอะไรกินอย่าพึ่งพ่นไฟใส่กันดิกลัวนะเว้ย"

"เอออย่ามัวแพ่ม ไปรถไอ้อิฐคันเดียวกันนี่แหละ"

แล้วพวกผมสี่คนก็พากันเดินไปยังรถของอิฐ ระหว่างเดิน อิฐกับผมก็กระซิบคุยกันไปมา

"ไอ้คิงแม่งฟอร์มเสียงดังกลบเกลื่อนว่ะ"

"ฮ่าฮ่า มึงก็ให้เวลามันปรับตัวหน่อยดิอิฐ แล้วนี่ยังไม่รู้เลยว่าจะยังไงต่อ"

"เออกูว่างั้นห่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแถมเป็นคู่กัดกันมาตลอดแล้วอยู่ดีๆ"

"พวกมึงจะกระซิบกระซากกันอีกนานไหมกูสองคนจะได้ไปหาแดกกันเอง"

"ไปแล้วค๊าบบบ~~"

สรุปพวกผมสี่คนก็มาทานบุฟเฟ่ภายในห้างแห่งหนึ่งไม่ไกลจากคอนโดของคิงมากนักหลังจากนั่งประจำที่กันเรียบร้อยผมสองคนกับอิฐก็ทำการซักฟอกคิงกับแมนครั้งใหญ่ ผลสรุปออกมาคือ แมนมันแอบชอบคิงมานานแล้ว (ง้อออ) ส่วนคิงก็แอบมีใจให้เช่นกัน คุยกันรู้เรื่องก็ซ่ำกันเลยไม่ต้องมีพิธีรีตองกันมากมาย แต่คือผมก็ยังนึกสภาพมันสองคนคบกันเป็นแฟนไม่ออกเลย แต่บางทีมันอาจจะเป็นคู่ที่สมกันก็ได้นะ เป็นเพื่อนสนิทรู้ใจกันทุกอย่าง แทบไม่ต้องบอกเลยว่าอีกฝ่ายชอบอะไรไม่ชอบอะไรบ้าง รู้ใส้รู้พุงกันหมด  ไม่เหมือนผมกับพี่ใหญ่ คิดเรื่องตัวเองขึ้นมาได้ ผมก็เปลี่ยนหัวข้อในวงสนทนามาเป็นเรื่องของตัวเองบ้าง ทั้งสามคนออกเสียงตรงกันว่า ผมผิดควรไปขอโทษพี่ใหญ่ ก่อนจบมื้ออาหารผมเลยกดโทรศัพท์หาพี่เขาเพื่อจะบอกให้กลับมานอนที่ห้องคืนนี้

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr

'สวัสดีฮะ'

หืมมมม เสียงใคร?ผมหยิบโทรสัพท์ออกจากหูเพื่อดูเบอร์ให้แน่ใจว่าผมไม่ได้กดผิด ก็เป็นเบอร์พี่ใหญ่นี่นาแล้วใครรับ

'ฮัลโหลๆยังอยู่ไหมฮะ'

"ค...ครับ ขอสายพี่ใหญ่หน่อยครับ"

'อ่อรบกวนรอแป๊บนนะฮะพี่ใหญ่เข้าห้องน้ำอยู่ เดี๋ยวผมเรียกให้'

'พี่ใหญ่~~~~พี่ค๊าบโทรศัพท์ เร็วๆเขารอสายอยู่'

"......"

'ครับรัน'

"...พี่ใหญ่ทำอะไรอยู่เหรอครับ"

'ทานข้าวอยู่ครับ'

"...ทานที่ไหนครับแล้วใครรับโทรศัพท์พี่"

'พี่มาทานที่ห้างxxxพอดีเจอรุ่น้องก็เลยชวนมานั่งทานด้วยกัน'

หืมมมอยู่ห้างเดียวกันนี่

"เหรอครับพี่ทานที่ร้านไหน"

'อยู่ซานตาเฟ่ชั้นสองครับ รันทำอะไรอยู่เหรอทานข้าวหรือยัง'

"อ่อผมเอ้ยรันออกมาทานข้าวกับพวกคิงครับ เอ่อ...คือ วันนี้พี่จะกลับมานอนที่ห้องรันไหม"

'...รันคืนนี้พี่จะไปพักโรงแรมที่บางแสนนัดกับทีมช่างไว้คงจะค้างสองคืนกลับวันจันทร์รันหายโกรธพี่แล้วเหรอ'

"ครับ งั้นพี่รอรันอยู่ที่ร้านได้ไหมเดี๋ยวรันไปหา"

ผมวางโทรศัพท์ทันทีโดยไม่รอคำตอบ ผมบอกกับเพื่อนทุกคนให้ทานต่อกันไปเลย ผมจะลงไปหาพี่ใหญ่ที่ชั้นสอง ผมเดินมาถึงหน้าร้านซานตาเฟ่ ชะเง้อคอมองหาพี่ใหญ่แล้วผมก็เจอ พี่ใหญ่นั่งหันหน้าออกนอกร้านพอดีและเขาไม่เห็นผม ผมเห็นพี่เขานั่งยิ้มคุยอยู่กับผู้ชายอีกคน เห็นแค่ส่วนหัวถึงช่วงไหล่ คงเป็นคนที่รับโทรศัพท์พี่ใหญ่เมื่อสักครู่ ผมเดินเข้าไปหาเขาที่โต๊ะทันที

"อ่าวรันทำไมมาเร็วจัง"

"อ่อ พอดีรันกำลังหาไรกินกับเพื่อนที่ชั้นสามอยู่พอดีก่อนจะโทรหาพี่"

"มานั่งลงก่อน กินอะไรหรือยัง ถ้ายังก็สั่งเลยเพราะพวกพี่พึ่งจะสั่งไปเมื่อครู่ อ่อพี่เกือบลืมแนะนำ รันนี่เอ็มรุ่นน้องพี่ เอ็มนี่รันแฟนพี่เอง"

"สวัสดีฮะ" "สวัสดีครับ"

เมื่อทักทายทำความรู้จักผมก็นั่งลงข้างพี่ใหญ่สั่งอาหารมาทานพร้อมกัน

"พี่ใหญ่แล้วตกลงพี่จะไปบางแสนกี่โมง"

"เดี๋ยวกินเสร็จพี่ไปส่งรันที่คอนโด แวะเอาเสื้อผ้าที่ห้องพี่แล้วไปเลย"

"โอเคๆ เอ็มจะได้แยกไปเก็บเสื้ออผ้าบ้าง"

"อืม"

"แล้วนี่แฟนพี่ใหญ่ไปด้วยรึเปล่าครับ"

คนชื่อเอ็มหันมาถามผม

"เอ่อ..."

"รันเขาไม่ได้ไป วันจันทร์ต้องทำงาน"

"เหรอว้า อดเที่ยวเลย งั้นเอ็มไปคันเดียวกับพี่ใหญ่นะ ขี้เกียจขับรถเดี๋ยวเอ็มเอารถไปจอดที่บ้านพี่โยนะฮะ"

"เดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้านก็ได้ บ้านเราทางผ่านไปบ้านโยอยู่แล้ว"

"งั้นโอเคเลย วู้ ตื่นเต้นไม่ได้ไปเล่นน้ำทะเลนานเป็นปีละ แวะไปไหว้เจ้าแม่สามมุขกันด้วยนะ เอ็มอยากย้อนอดีต ตอนที่พวกเราไปเที่ยวด้วยกัน ต้องสนุกแน่ๆเลย"

ผมนั่งฟังนานเข้าเริ่มไม่ชอบขี้หน้าเอ็มเอิมไรนี่เท่าไหร่เลย หูตาแพรวพราวยังไงชอบกล

แล้วคุยส้นteen อะไรกันก็ไม่รู้ย้อนอดีตกันอยู่ได้ ตกลงอยู่สองคนเหรอครับผมอยากถาม

แล้วผมนั่งหัวโด่เป็นวิญญาณเร่ร่อนเนี่ยสัมผัสกันได้ไหม หงุดหงิดใจ ผมเก็บคำถามทุกอย่างเอาไว้ ได้แต่นั่งฟังพี่ใหญ่กับรุ่นน้องคุยกันสนุกปาก หลังจากมื้ออาหารที่แสนฝืดคอจบลง พวกเราก็แยกย้ายกัน โดยผมกลับกับพี่ใหญ่ พอขึ้นรถได้คำถามก็พร่างพรูออกมาจากปากของตัวเอง

"พี่ใหญ่ไปเที่ยวกันเหรอ"

"เปล่าพี่ไปทำงาน แต่พวกโยก้อยแล้วก็เอ็ม ติดสอยห้อยตามพี่ไปเที่ยวพักผ่อน"

"แล้วพักที่ไหนกันเหรอครับ"

"ก็โรงแรมของพี่ไง"

"รันตกลงหายโกรธพี่แล้วเหรอ"

"ครับพี่รันขอโทษ รันผิดเองที่อารมณ์เสียใส่พี่ ขอโทษที่พูดแรงๆแล้วก็ไล่พี่ไปนอนที่อื่น"

"พี่ก็ต้องขอโทษ ที่ใจร้อน ทำตัวไม่ดี บีบบังคับรันทุกอย่าง หึงหวงมากเกินไป ต่อไปนี้พี่จะทำตัวใหม่ พี่จะไม่เอาแต่ใจตัวเอง จะให้อิสระรันทุกอย่างที่อยากทำ"

ผมเอนหัวซบลงกับไหล่ของพี่ใหญ่ ทำไมผมถึงรู้สึกใจหวิวแปลกๆนะ ทั้งๆที่ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี ตรงที่เราเข้าใจกัน พี่ใหญ่คลายอ้อมกอดที่รัดแน่นให้เบาลง ผมควรยินดีสิ

ติ้ง เสียข้อความไลน์ของพี่ใหญ่ดังขึ้น ผมมองไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ในช่องวางของข้างๆมือผมจึงหยิบขึ้นมาดู

"ใครส่งไลน์มา เดี๋ยรันดูให้นะ"

ฟอร์มเป็นคนดีที่แท้อยากเผือกว่าใครส่ง

'พี่ใหญ่อย่ามาช้านะเอ็มรออยู่'

'อยากไปเที่ยวทะเลกับพี่ไวๆทริปในฝัน อิอิ'

และแถมมาด้วยสติ๊กเกอร์ เขิลอาย

เหอะๆ เหอะๆ ตลกเน๊อะ นี่มันไม่ได้คิดว่าพี่ใหญ่เป็นรุ่นพี่มันแน่นอน อยากจะอัพเลเวลจับพี่ใหญ่ผมทำผัวชัวร์เลย มาสไตล์นี้ ผมไม่ยอมเด็ดขาดพูดเลย คิดแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองพิมพ์บอกคิงลางานวันจันทร์ให้ทันที

หึหึ ทริปในฝัน กูนี่แหละจะทำให้มึงฝันสลายร้องไห้กลับบ้านแทบไม่ทันเลยคอยดู
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 27-28(13/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 13-06-2017 11:25:58
แผนเจ๊ก้อยน่าจะได้ผลดีเลยทีเดียว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 27-28(13/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 18-06-2017 11:57:26
คนแต่งจ๋าา เรารอคนแต่งมาต่ออยู่น้าา
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่29
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 18-06-2017 12:40:05
โรคจิต29 แผนลวง

Part ใหญ่


ทุกอย่างเป็นไปตามแผน พวกผมเอ็มและโยตามกลุ่มของรันมายังห้าง ผมกับโยนั่งรออยู่ที่สตาร์บัค ส่งแค่เอ็มคอยเดินตาม ผมกับโยเปิดเผยตัวตนไปแล้วเป็นการเสี่ยงถูกจับได้ถ้าหากแอบตามไปด้วย แผนของก้อยวันนี้คือความบังเอิญ พวกผมกำลังรอจังหวะที่จะทำให้พวกเขาเห็นผมกับเอ็ม จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เริ่ม เมื่อพวกเขาเข้าไปยัง

ร้านบุฟเฟ่แห่งหนึ่ง ก็ดันเข้าไปนั่งข้างใน อย่างนี้เดินผ่านหน้าร้านไม่เห็นแน่ จะแสร้งเข้าไปทานร้านเดียวกันก็ดูบังเอิญเกินไป  ในขณะที่พวกผมนั่งรอเวลาอยู่นั้น โอกาสดีๆก็เข้ามา รันโทรเข้ามา ผมจึงแอ๊บไปว่ากำลังทานอาหารอยู่กับรุ่นน้อง เมื่อถามว่าร้านไหน จึงตอบส่งๆไปยังซานตาเฟ่ร้านข้างๆกับสตาร์บัคที่ผมนั่งอยู่กับโย พอรันบอกจะมาหาผมเท่านั้นแหละ แผนการจึงเริ่มต้น ผมเด้งตัวเข้าร้านซานตาเฟ่ทันที และให้โยโทรตามเอ็มเข้าไปที่ร้าน เอ็มวิ่งหน้าตั้งมาเลยครับ เพราะตอนที่เขากำลังลงบันไดเลื่อนมาเห็นรันเดินออกนอกร้านตามมาไม่ไกล เป็นมิชชั่นที่ไฟรนก้นมาก มีเวลาปรับสีหน้าท่าทางเพียงไม่กี่นาที แต่ทุกอย่างก็ผ่านได้ด้วยดี เอ็มไม่หลุด และรันไม่สงสัย ผมไม่รู้ว่าแผนของก้อยต่อไปเป็นยังไงแล้วอยู่ดีๆไลน์ในโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น คนข้างๆตะครุบอย่างไว พร้อมฟอร์มว่าจะเปิดดูให้ อันนี้คือการมีปฏิกิริยาโต้ตอบของแผนนะผมรู้ดี

ปล่อยเลยตามน้ำไป รันบอกแค่ว่า เอ็มไลน์มา แล้วก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดแล้วก็หันมามองหน้าผมพร้อมส่งยิ้มร้ายๆที่มุมปาก

รันอาสาจะจัดกระเป๋า ให้ผมไปอาบน้ำจะได้ไม่เสียเวลา ผมเดินเข้าไปอาบน้ำด้วยความหงุดหงิด แผนทุกอย่างก็ดี แต่ทำไมเมียผมไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย แถมยังจะช่วยจัดกระเป๋าให้อีกเหมือนอยากจะให้ไปเต็มแก่ หรือว่าคิดจะแอบหนีเที่ยวตอนที่ผมไม่อยู่ ถ้ากับไอ้หัวหน้านั่นรับรองรอบนี้ผมเอาตายแน่

คิดแล้วพาลมีอารมณ์ หรือผมควรยกเลิก แล้วเฝ้าเมียอยู่บ้านวันหยุดไหนๆก็ดีกันแล้ว

และเมื่อผมอาบน้ำเสร็จ ออกมาเจอรันยิ้มแป้นเตรียมเสื้อผ้าให้ผมใส่ รวมทั้งกระเป๋าเดินทางใบย่อม เสร็จเรียบร้อย

"ทำไมอาบน้ำชาจังครับ รีบแต่งตัวเลยเดี๋ยวน้องๆพี่จะรอนานนะ"

"..."

หงุดหงิด ผมแต่งตัวไปเงียบๆ ก้อยนะก้อยไหนว่าเวิร์คอย่างนั้นเวิร์คอย่างนี้ ดูสิ แทบจะใส่พานถวายให้เลย

"พี่ใหญ่ มานี่รันพับแขนเสื้อให้ครับ"

"รันพี่ไปทำงานอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม อย่าออกไปเที่ยวไหนตอนกลางคืนนะ พี่เป็นห่วง"

"^___^"

Rrrrrrrrrrrrrrr

"อ๊ะโทรศัพท์พี่ดัง เดี๋ยวรันรับให้เอง"

"สวัสดีครับ...อ่อพี่ใหญ่พึ่งจะแต่งตัวเสร็จกำลังจะออกไปแล้วครับ...ได้ครับเดี๋ยวรันบอกพี่ใหญ่ให้..ครับสวัสดีครับ"

"เอ็มโทรมาเหรอ"

"รู้ดีจังนะ"

"...."

"เอ็มโทรมาบอกว่า ไม่ต้องมารับที่บ้านเดี๋ยวเอ็มจะขับรถไปเองต้องแวะซื้อของก่อน เดี๋ยวไปเจอกันที่บ้านพี่โยเลย"

"อืม"

"เสร็จแล้วใช่มะ ปะ"

รันพูดจบพร้อมสะพานกระเป๋าเป้สีแดงขึ้นบ่า และถือกระเป๋าเดินทางใบย่อมของผมออกไป

"เอ้าไปเร็วสิครับยืนงงอยู่ได้เดี๋ยวพวกเขาก็รอนาน"

"รันจะไปด้วยเหรอ"

"อ่าฮะ เรื่องอะไรจะให้พี่ได้ไปเที่ยวคนเดียวแล้วรันต้องทำงานล่ะ"

"พี่ไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย แล้วพี่กลับวันจันทร์นะ"

"อ่าฮะ เค้าลางานแล้วไม่ต้องห่วง น๊าขอไปด้วยได้ป่าว อยากเที่ยวทะเลกินปูตัวใหญ่ๆนะครับ"

โอ้ยผมจะบ้า ปรับอารมณ์ไม่ถูกอยู่ดีๆเมียก็มากอดมาอ้อนพูดจาน่ารักใส่ แทบอยากจะกดให้จมเตียงตอนนี้เลย ผมก้มลงไปจูบปากเมียขี้อ้อนให้หายคิดถึง ส่งลิ้นเข้าไปทักทายอย่างหยอกเย้า นานจนคนตัวเล็กร้องประท้วง

"อื้อ...พอแล้วมัวแต่จูบเดี๋ยวก็ไม่ได้ไปกันพอดี"

"ไม่ต้องไปสิพี่...ไม่อยากไปแล้ว"

ผมก้มลงไปเพื่อจะจูบรันอีกรอบแต่เขาเบี่ยงหน้าหนี พร้อมดันตัวผมออก

"อื้อ ไม่เอาครับพอก่อน ไม่ไปได้ไงต้องไปสิ  จะเกงานเหรอ แก่แล้วนะทำแบบนี้ไม่ได้ห้ามเบี้ยวงานนะคนแก่"

"หึ ว่าพี่แก่เหรอ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะกดเด็กจนต้องร้องขอชีวิตเลยคอยดู"

"ลุง บ้ากาม พอเลยไม่คุยด้วยแล้ว ดูหน้าตัวเองดิ หื่นมาก"

"ก็หื่นกับเมียคนเดียวเนี่ยแหละ"

-//////-

"ดูสิดูดปากรันเจ่อเหมือนเป็ดเลย ดูดแร๊งแรง"

"ก็มันเขี้ยว อยากทำมากกว่าดูดด้วยซ้ำ"

จบประโยค รันก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นมาคล้องคอผมไว้

"เด็กดี อดทนหน่อยนะครับ ไม่ดื้อไม่ซนนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่รันจะตามใจทุกอย่างเลย"

ฟอดดดดดด จับแก้มผมไปหอมแรงๆหนึ่งที แล้วเดินสะบัดก้นออกนอกห้อง ทิ้งให้ผมยิ้มค้างอยู่คนเดียว

"ร้ายนักนะ คอยดูเถอะพ่อจะจัดให้ยันสว่างเลย"

ผมออกรถไปยังบ้านของโย ทุกคนเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว เหลือก้อยที่เชคร้านตัวเองนิดหน่อยรันจึงอาสาไปช่วยทำ ระหว่างนั้นพวกผมสามคนจึงนึ่งรอกันอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน ที่เป็นส่วนร้านอาหารของโย

"ไอ้เอ็มไปทำอีท่าไหน คุณรันถึงได้ตามมาคุมพี่ใหญ่เนี่ย"

"ฮ่าฮ่า ผมทำไรเฮีย ก็ทำอย่างที่เจ๊ก้อยสอนทุกอย่างเลย ผมว่าคุณรันปี๊ดแตกตรงข้อความไลน์แหง ฝีมือเจ๊ก้อยนะเฮียใหญ่ เจ๊แม่งร้าย"

"หึหึ แผนก้อยเวิร์คจริง สงสัยต้องจัดครอสพิเศษให้ซะแล้ว"

"แล้วผมล่ะเฮีย ผมก็งานดีนะครับ"

"ไอ้เอ็มมึงได้ค่าจ้างรอบนี้เอาไปจ่ายค่าแต่งรถซิ่งของมึงสบายๆยังไม่พออีกหรอไง"

"โหเฮียโย งานหินราคาก็ต้องโหดเป็นธรรมดาดิครับ เฮียคิดดูถ้าลูกน้องผมมาเห็นสภาพผมตอนนี้มันต้องเอาไปล้อยันลูกบวชแน่ ดูเจ๊จับผมแต่งตัวดิ เกาหลงเกาหลีอ่ะไร แต๋วแตกมากเลย"

"ฮ่าฮ่าฮ่า เออหล่อไปอีกแบบน่า"

"เห้อ ผมไม่เข้าใจอีกอย่างทำไมเจ๊ต้องให้ผมพูดฮะฮะ แทนครับก็ไม่รู้ ผมฟังผมยังแสลงหูน้ำเสียงตัวเองเลย พี่ใหญ่ฮะ พี่ใหญ่ฮะ ตลอดเวลา ผมไม่ใช่ทัดดาวนะเฮีย ที่พูดว่าเจ้าฮะเจ้าฮะ แล้วจะดูน่ารัก"

"เออบ่นไรมากวะ ก็คำพูดมึงมันกระด้างไง ไอ้ฮะๆไรเนี่ยช่วยให้มึง ดูสาวขึ้น"

"นี่ถ้าไม่ใช่เฮียใหญ่กับเฮียโย ผมไม่มีทางทำให้เด็ดขาดเลย จริงๆ"

"หึหึ ช่วยเฮียถ้าสำเร็จ เฮียตอบแทนให้งามๆ"

"จริงน๊าเฮีย เฮียใจดีผมร๊ากเฮียที่สุดเลย ถ้าเป็นเฮียให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนบอกมาได้เลย ไอ้เอ็มคนนี้พร้อมพลีชีพ"

"โถ่ไอ้เอ็ม มึงรักเฮียหรือรักเงินเฮียกันแน่ฮะ"

"รักเฮียสิครับ รักเฮียทั้งคู่เลย อ่ะมากันแล้วเฮีย ผมทำสมาธิก่อนนะฮะ  ฮ่าฮ่าฮ่า"

"อย่าให้หลุดนะมึง"

"หายห่วงน่า"

เมื่อของทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เราจึงเริ่มออกเดินทาง รถสองคัน คือคันของโยและก้อย กับอีกคันคือของผม รัน และเอ็ม ในระหว่างทาง เอ็มนั่งทางด้านหลังฝั่งเดียวกับผม ผมพูดตรงๆเลยนะ เอ็มเป็นอะไรที่รู้งานสุดๆ อยู่ต่อหน้าพวกผมเอ็มเป็นเด็กห้าวติดพูดจากวนๆไปเรื่อย แต่เวลาต้องแสดงเป็นหนุ่มน้อยแบบเนี้ย เขาทำได้ดีเลยเชียวล่ะ ชวนผมคุยจ้อไม่หยุดไปตลอดทาง แถมนั่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีก และตอนนี้ผมว่าเอ็มสะกิดโดนต่อมหึงเมียผมบ้างแล้วล่ะ ดูจากสีหน้าที่ยิ้มฝืนๆของรันแล้ว แทบจะรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหว ก้อยบอกว่ามีแผนต่อไป แต่ไม่พูดว่าคืออะไร แค่บอกให้ผมไหลไปตามน้ำที่เอ็มทำก็พอ

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 18-06-2017 12:42:42
โรคจิต30 คนในอดีต

Part รัน


ผมล่ะหมันไส้รุ่นน้องของพี่ใหญ่คนนี้จริงๆ ผีเจาะปากมาพูดหรือไงก็ไม่รู้ พล่ามมาตลอดทางเลย ทำท่ากระแซะพี่ใหญ่ตลอด แหมนั่นแฟนผมนะแฟนผม เก็บอาการคันไว้หน่อย ผมนี่ทำหน้าเหม็นเบื่อแกล้งหลับแม่งเลยรำคาญ ใช้เวลาเดินทางไม่นานพวกเราก็เดินทางถึงโรงแรมของพี่ใหญ่ ผมพึ่งมาโรงแรมนี่ครั้งแรก อยากบอกว่ามันสวยและอลังการมากครับ โรงแรมอยู่ติดทะเลมากเลย มีแค่ถนนกั้นข้ามฝั่งไปก็เป็นผืนทรายและทะเลแล้ว เท่าที่ผมมองผ่านๆมา โรงแรมพี่ใหญ่เนี่ย อลังการสุด แถวเรียบชายหาดส่วนมากจะเป็นโรงแรมเล็กๆชั่วคราวหรือไม่ก็บังกะโลหลังน้อยเรียงรายอยู่รอบๆ โรงแรมใหญ่ๆหน่อยก็มีสองสามโรงแรมที่ผ่านตามา ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าได้แล้ว พวกเราทุกคนแยกย้ายกันเอาของไปเก็บในห้องของตัวเอง ห้องที่ผมกับพี่ใหญพักคือสวยมากครับ เปิดเข้าไปก็เห็นฝั่งของทะเล กระจกบานใหญ่ เห็นสุดลูกหูลูกตาเลย

"ว้าวววว เห็นทะเลด้วย บรรยากาศดีจัง"

"ชอบไหม"

"ชอบสิครับ ห้องสวยบรรยากาศก็ดี ดูๆไฟตรงโน้นสิครับ ยาวเป็นทางเลยตรงนั้นคืออะไร"

"นั่นสะพานปลา ส่วนแสงไฟที่อยู่ไกลๆโน่น พัทยา"

"โห มองจากตรงนี้เห็นไกลไปถึงพัทยาเลยเหรอ พี่ใหญ่มาที่นี่บ่อยไหม รันไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเลย นานทีปีหน แถวนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้างครับ"

"ก็มีทุกอย่างผับ บาร์ ร้านอาหาร คืนนี้มีถนนคนเดินด้วยนะ ตรงแหลมแท่น อยากไปเดินไหมพี่จะพาไป"

"ไปครับไป"

"งั้นเดี๋ยวพี่โทรบอกพวกโยก่อน"

หลังจากเอากระเป๋าไปเก็บกันเรียบร้อย พวกเราทั้งห้าคน ก็ตกลงจะไปถนนคนเดินพร้อมกัน แต่เดี๋ยวนะ ไอ้รุ่นน้องขี้แพ่มของพี่ใหญ่ เหมือนตำแหน่งที่เดินอยู่นะมันของกู๊

แม่งเดินประกบพี่ใหญ่ตั้งแต่ลงจากรถยันข้ามถนนมาถึงที่แล้วดูสามีผม หน้ามึนได้อีก คุยมันเข้าไป ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ รู้ว่าไม่เจอกันนาน แต่แบบสนใจแฟนบ้างดิโว้ย รมเสีย ถนนคนเดิน ทางไม่กว้างมากนักคนเดินสวนกันไปมา พี่ใหญ่กับเอ็ม อยู่ข้างหน้า ผมอยู่ด้านหลัง ตบท้ายด้วยคู่ผัวเมีย พี่โยพี่ก้อย ห้าคนเนี่ย ไอ้รุ่นน้องควรเป็นชิ้นเนื้อส่วนเกินที่เดินฉายเดียวสิ ไม่ใช่ผม หงุดหงิดๆ ไม่มีใครสนใจก็ช่าง ไม่สนใจบ้างละ เดินดูของคนเดียวก็ได้ คอยดูเถอะคืนนี้อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเลย ชิส์ ด้วยความเซ็งบวกหมันไส้ ผมจึงแยกเดินไปอีกทางซะเลย เดินดูของโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ขณะที่ผมกำลังแวะยืนซื้อไอศครีมโคนอยู่นั้นสายตาผม หันไปเจอผู้ชายคนนึง คนที่หายไปจากความทรงจำของผมเมื่อนานมาแล้ว ผมรีบเดินไปหาเขาทันที ด้วยคนที่ค่อนข้างเยอะ สายตาของผมจึงคลาดจากเขาไป เมื่อหลุดออกจากทางที่คนพลุกพล่านได้ ผมจึงยืนมองหาไปรอบๆแล้วก็เห็นเขากำลังเดินออกจากถนนคนเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ผมวิ่งตามไปจนทันเห็นหลังเขาอยู่ข้างหน้าผมนี้

"พี่อาร์ท"

พี่เขาหันมาตามเสียงเรียก

"รัน"

ผมโผเข้าไปกอดพี่อาร์ทแน่น ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอและมันกำลังทำให้ผมหายใจไม่ออก

"รันมาที่นี่ได้ยังไง"

"ผม...ผม"

"พี่โอมคะ นี่ใครเหรอ"

ผมหันไปมองตามเสียงเห็นผู้หญิง อายุน่าจะไล่เลี่ยกับผมข้างๆยังมีเด็กสาวตัวน้อยอยู่ด้วย ผมคลายกอดจากพี่อาร์ท ทำไมผู้หญิงคนนี้เรียกพี่เขาว่าพี่โอมล่ะ

"แก้ว พาน้องออยไปรอพี่ที่รถก่อน พี่ขอคุยธุระกับน้องเดี๋ยวนึง"

"ค่ะ"

"รันมากับใคร"

ผมเอื้อมมือไปจับมือพี่อาร์ทไว้แน่น

"พี่อาร์ท พี่...ฮึก หายไปไหนมาครับ"

"รัน คือพี่"

"ทำไมพี่ถึงทิ้งรัน เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ นั่นเมียกับลูกพี่อาร์ทใช่ไหม"

"ใช่ แต่ ไม่ใช่ลูกของพี่ คือรันตั้งสติแล้วฟังพี่ก่อนนะ"

"รัน"

ผมหันหน้าไปตามเสียงเรียกทันที เห็นพี่โยวิ่งมาข้ามถนนมาโดยมีพี่ก้อยรออยู่อีกฝั่ง

"รันมีอะไรกันรึเปล่าปล่อยมือผู้ชายคนนี้ก่อน ถ้าพี่ใหญ่มาเห็นเดี๋ยวเป็นเรื่อง ปล่อยมือก่อนครับ"

ผมค่อยๆปล่อยมือพี่อาร์ทออก

"รันกลับไปกับพี่เถอะพี่ใหญ่ตามหารันให้ทั่วเลย"

"แต่ผม"

"เชื่อพี่นะ ไปก่อนเถอะ พี่ไม่อยากให้พี่ใหญ่มาเห็น"

"รันพี่ขอเบอร์ ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรไป เรื่องทุกอย่างพี่อธิบายได้นะ"

"...088xxxxxxx"

"ครับ แล้วเดี๋ยวพี่จะโทรหานะ พี่ต้องไปแล้ว"

พี่อาร์ทเดินหันกลับไป พร้อมกับที่พี่โย จูงมือผมให้เดินข้ามถนน กลับมายังถนนคนเดินอีกครั้ง

"ก้อยดูรันก่อนพี่ไปซื้อน้ำให้รันล้างหน้าแป๊บนึง"

"ค่ะ"

แล้วพี่โยก็กลับมาพร้อมขวดน้ำเปล่าหนึ่งขวด พี่เขาให้ผมล้างหน้าล้างคราบน้ำตา

"ก้อยดู หน้ารันโอเคยัง ยังเหมือนคนร้องไห้อยู่ไหม"

"ดีขึ้นแล้วพี่โย"

"รันเดี๋ยวพี่โทรตามพี่ใหญ่มานะ ตอนนี้คงร้อนใจมากแล้ว ตามหารันไม่เจอ พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างรันกับผู้ชายคนนั้น แต่อย่าให้พี่ใหญ่รู้ว่าร้องไห้นะ เดี๋ยวจะเป็นเรื่อง"

"ครับ"

ผมนั่งรออยู่ไม่นานนัก พี่ใหญ่ก็วิ่งมาจากทางไหนสักทาง ผมก้มหน้าอยู่และไม่ได้มองเพราะคนเยอะ

"รันหายไปไหนมาพี่ตามหาซะทั่วเลย เดินไปไหนทำไมไม่บอกพี่ล่ะ"

"..."

"คนเยอะจะเดินไปไหนบอกพี่สักคำสิ"

"..."

"รันได้ยินไหมที่พี่พูดฮะ"

"ผมได้ยิน ได้ยินทุกคำนั่นแหละ ผมขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง พอดีว่าผมไม่เห็นพี่จะสนใจผมสักนิด ผมเลยไม่นึกว่าพี่จะตามหา ผมขอโทษ ขอโทษ พอใจรึยัง"

"รัน เป็นอะไร ไม่ต้องขอโทษพี่ไม่ได้โกรธ พี่แค่เป็นห่วง"

เสียงพี่ใหญ่แผ่วลงทันที

"เป็นหวงแต่ไม่หันมามองผมสักนิดเลย ใครๆก็ชอบพูดแต่ว่าคำว่าเป็นห่วงผม แต่ไม่มีใครสนใจผมจริงๆซักคน ทิ้งผมกันไปหมดพี่ก็ด้วย พี่ทิ้งผม ไม่สนใจผมเลย ผมมันคนไม่ดีใช่ไหม ทำไมใครๆก็เอาแต่ทิ้งผมไปหมด"

ผมรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ผมไม่คงที่ ผมกำลังพาลใส่พี่ใหญ่และทุกคน แต่ผมไม่รู้จะหยุดความรู้สึกบ้าๆนี้ได้ยังไง

"ชูววว ชูว คนดี ไม่ต้องพูดแล้วครับ ไม่เป็นไร พี่ขอโทษที่ละเลยรันนะ พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกพี่สัญญา ไปกลับห้องกับพี่ดีกว่า ไปอยู่กับพี่สองคนนะ โอเคไหม พี่จะไม่ทิ้งรันไปไหนไม่มีวัน"

"พี่ใหญ่...อย่าทิ้งผมนะ"

"ไม่ทิ้งครับ ไม่เคยคิดเลยสักนิด"

ผมกอดพี่ใหญ่เอาไว้แน่น ความรู้สึกแน่นอกคลายลง พี่ใหญ่พาผมกลับไปที่ห้อง รวบผมไปกอดที่โซฟา ให้ผมซุกหน้าอยู่กับเขาแบบนั้น ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากเราทั้งสองคน ไม่รู้พวกเรานั่งกันอยู่แบบนี้นานแค่ไหน ไม่มีแสงไฟ มีแต่แสงสลัวจากภายนอก ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมีแต่เสียงลมหายใจของเราทั้งคู่

ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ใหญ่เราสบตากัน ผมมีผู้ชายที่แสนดีอยู่ตรงหน้านี้แล้ว เรื่องพี่อาร์ทผมควรจะปล่อยเขาให้เป็นอดีตเหมือนที่ผ่านมา ในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งผมไปเมื่อครั้งก่อน ผมควรตัดเขาออกจากใจให้หมดสิ้น ผู้ชายตรงหน้าผมคนนี้ต่างหาก ที่ผมจะเหนี่ยวรั้งเขาไว้ตลอดกาล ผมใช้มือทั้งสองข้างจับแก้มเขาก้มลงมารับจูบจากผม เรามีเซ็กส์กันตรงโซฟา ลามไปแทบทุกส่วนของห้อง ค่ำคืนนี้เราทั้งสอง คงไม่มีใครยอมหยุดไฟรักนี้ลงง่ายๆ

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 18-06-2017 18:51:47
ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องเข้านี่ อาร์ทคงจะเจ็บหนัก 5555
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: xหยกน้อยx ที่ 18-06-2017 23:46:30
อาร์ทนี่ไม่ใช่โดนฆ่าไปแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 19-06-2017 09:21:53
คิดว่าอาร์ทตายแล้วซะอีก
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 19-06-2017 11:08:07
ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องเข้ามีหวัง  ...   เละ  ...   :sad3: :sad3: :sad3:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 19-06-2017 12:35:02
โรคจิต31 ความจริงที่ไม่เคยรู้

Part รัน


อดีตที่ผ่านมา

"เปี๊ยก ตื่นได้แล้ววันนี้มีสอบนะเดี๋ยวก็ไปไม่ทัน"

เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหู ขณะที่ผมกำลังลุกจากที่นอนเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวายนี้

ปัง ปัง ปัง

"ตื่นรึยัง เปิดประตู ไอ้เปี๊ยกถ้าไม่ตื่นทิ้งจริงๆนะ"

"ตื่นแล้วครับ ตื่นแล้ว"

แกร๊ก

"รีบไปอาบน้ำเลย วันนี้มีสอบปลายภาคนะ จะทันไหม ตั้งนาฬิกาปลุกรึเปล่าเนี่ย"

"ครับๆพี่อาร์ทรอแป๊บนึง ห้านาทีนะเดี๋ยวรันรีบอาบ เมื่อคืนทบทวนแนวข้อสอบจนดึก ลืมตั้งนาฬิกาปลุกซะสนิทเลย"

"เร็วๆเข้า วันนี้พี่มีเรียนเช้าด้วยเดี๋ยวไปไม่ทัน"

ผมไปถึงทันก่อนเวลาสอบ ส่วนพี่อาร์ทหลังจากส่งผมลงหน้าโรงเรียนเขาก็ขี่ฟีโน่คู่ใจออกไปทันที หลังสอบเสร็จ ก็นั่งรอพี่อาร์ทมารับอยู่ในโรงเรียน นี่คือกิจวัตรประจำวันในชีวิตผม หลังจากที่เสียแม่ไป ผมขายทาวน์เฮ้าที่อยู่กับแม่สองคน มันใหญ่เกินไปสำหรับเด็กผู้ชายตัวคนเดียวอย่างผม ได้เงินหนึ่งล้านสองแสนบาทจากการขายบ้าน เงินก้อนนี้บวกกับเงินในบัญชีที่แม่สะสมเอาไว้สองแสนกว่าบาท จะเป็นทุนในการเรียนและการใช้ชีวิตของผมต่อไปในอนาคต เพียงลำพัง ผมย้ายมาเช่าห้องเช่าหลังเล็กๆ เดือนละพันกว่าบาท และการย้ายมาอยู่ห้องเช่านี้ทำให้ผมได้รู้จัก พี่อาร์ท

เขาเป็นรุ่นพี่ผมสี่ปีพี่อาร์ทเรียนอยู่หมาลัยปีหนึ่ง เราเช่าห้องเช่าอยู่ห่างกันเพียงสองหลัง พี่อาร์ทคอยช่วยเหลือผมมาตลอดไม่ว่าผมจะทำอะไรในชีวิตต่อจากนี้มักจะมีพี่อาร์ทคอยอยู่ข้างๆช่วยเหลือเสมอ

เขาช่วยผมทุกอย่างจริงนะ สอนผมทำอาหารง่ายๆ สอนซักผ้า สอนการบ้าน ช่วยติวข้อสอบ เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเล่น ผมติดพี่อาร์ทมาก เหมือนกับได้ที่พึ่งพิงได้ที่พักใจหลังจากที่เสียแม่ไป เมื่อเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนในที่สุด ผมก็สามารถสอบเข้ามหาลัยเดียวกับพี่อาร์ทได้ ผมเข้าบริหาร ส่วนพี่อาร์ทเรียนแพทย์ เราจึงได้มีโอกาศได้เจอกันที่มหาลัยบ้างบางครั้ง เวลาว่างของเราสองคนคือการได้อยู่ด้วยกัน ความผูกพันตลอดสี่ปีที่ผ่านมา มันหล่อหลอมผมกับพี่อาร์ท ให้เป็นเหมือนจิ๊กซอร์ส่วนที่ขาดหายของกันและกัน

ในวันเกิดผมเมื่อตอนอายุครบ19 ปี เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุด เราฉลองวันเกิดด้วยกันสองคนในห้องเช่าหลังเล็กของผม พี่อาร์ทเอาเค๊กแอบมาเซอร์ไพรส์ เมื่อเป่าเทียนอธิฐาน ผมพูดออกมาว่าขอให้พี่อาร์ทอยู่กับผมตลอดไป แล้วคืนนั้นพี่อาร์ทก็ขอคบกับผมเป็นแฟน ผมตอบตกลงทันทีแบบไม่ลังเล ผมรักพี่อาร์ทมาก ผมมีความสุขทุกวินาทีที่เราสองคนได้ใช้ร่วมกัน เมื่อผมเข้าปีหนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัย ผมเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ หาเงินส่งตัวเองเรียน ผมยังมีเงินเหลืออยู่ จากการขายบ้าน แต่ตอนนี้ผมโตพอที่จะทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนได้แล้ว เราสองคนคบกันในฐานะแฟนได้ปีกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุข พี่อาร์ททำให้ผมไม่ต้องทนทุกข์ จากการที่ต้องเสียแม่และเหลือตัวคนเดียว

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมไม่เคยถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง มีเขาอยู่คียงข้างเสมอ แล้ววันนึงก็เหมือนกับฟ้าผ่าเข้ามาตรงกลางหัวผมอีกครั้ง พี่อาร์ทหายไป อยู่ดีๆเขาก็หายออกไปจากชีวิตของผม ไม่มีแม้การเอ่ยลาใดๆ มีเพียงรูปถ่ายสี่ห้าใบ ที่ในรูปมีพี่อาร์ทอุ้มเด็กอยู่ในอ้อมแขน รูปพี่อาร์ทเดินประครองผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอุ้มทารกอยู่ และรูปคล้ายๆกันอีกสองสามรูป มันคืออะไร ทำไมถึงมีรูปพวกนี้

พี่อาร์ท....ผมพยายามตามหาเขาทุกที่ ทั้งมหาลัย บ้านเพื่อน ตามร้านประจำที่พี่เขาเคยไป แต่ก็หาไม่เจอ ผมไม่รู้จักบ้านของพี่อาร์ทเลยไม่รู้จะตามที่ไหนอันที่จริงผมแทบไม่รู้เรื่องครอบครัวเขาเลยสัดนิดทุกๆวันผมทำได้แค่ รอ รอว่าสักวันพี่อาร์ทจะกลับมาหาผม แต่รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เคยเลยที่พี่อาร์ทจะกลับมาหา ผมต้องกลับมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง ไม่มีใครให้พึ่งพิง ไร้ที่พักใจ นอนกอดตัวเองร้องไห้ทุกคืน ทำไมชีวิตผมต้องเจอแต่การสูญเสีย คนที่ผมรักทำไมต้องจากผมไปหมด ผมไม่เหลือใครเลย ผมเหนื่อย เหนื่อยจริงๆ

ปัจจุบัน

ติ้ง ติ้ง

เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นปลุกสติของผมให้ตื่นจากการนอนหลับ พอเริ่มรู้สึกตัว ความปวดระบบตามร่างกายก็แผ่ซ่านตามมา เมื่อคืนผมกับพี่ใหญ่ เรามีเซ็กส์กันแทบทั้งคืน มันเป็นคืนที่เยี่ยมที่สุดทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหว ผมรู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงหาที่พี่ใหญ่ส่งมาให้ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นพี่ใหญ่ยังนอนหลับอยู่ข้างๆ ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

'รันพี่เองนะ พี่อยากคุยกับรัน'

'เรานัดเจอกันได้ไหม พี่มีเรื่องอยากบอกรันมากมายเลย'

ข้อความไลน์จากพี่อาร์ท ผมกำโทรศัพท์แน่น บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง รักเหรอ คงไม่ใช่มันเลือนลาง จนจางหายไปนานแล้ว ความผูกพันธ์ล่ะมั้งที่ยังเหลืออยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ

ผมควรจะทำไง? ควรไปเจอพี่อาร์ทอีกครั้งไหม  หรือควรปล่อยให้เขาเป็นเพียงแค่ความทรงจำ ผมลุกเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านร่างกายไปเรื่อยๆ แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีมือเข้ามากอดรัดจากด้านหลัง

"ตกใจหมดเลย ตื่นแล้วเหรอครับ"

พี่ใหญ่ กอดแล้วหอมซอกคอ หัวไหล่ของผมไปทั่ว

"อย่าเล่นสิ รันไม่ไหวแล้วนะ เมื่อคืนก็เยอะแล้ว ขอพักก่อนได้ไหม"

"แค่หอมเฉยๆก็ไม่ได้เหรอ เมียพี่ตัวหอมนี่นา"

"แค่หอมอ่ะได้ แต่มากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว"

"ครับ"

"พี่ครับ เมื่อคืนรันขอโทษนะ ที่วีนใส่พี่ วีนใส่ทุกคนเลย ไม่รู้ว่าพวกพี่โย จะโกรธรันไหม รันทำตัวแย่ๆลงไปตั้งเยอะ"

"ไม่ต้องคิดมากนะ ไม่มีใครโกรธรันหรอกเชื่อพี่สิ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเมื่อคืนพี่ทำให้รันรู้สึกแย่"

"รู้สึกแย่ที่ไหน รู้สึกดีมากต่างหาก พี่ใหญ่ดีกับรันทั้งคืนเลย ^__^"

"ก็ง้อไง ง้อเมียทำเมียเสียใจ"

"พี่ใหญ่ ต่อไปพี่ต้องไม่ทำแบบนี้อีกได้ไหม อย่าทำเหมือนไม่สนใจรัน รันรู้สึกเหมือน...ถูกทิ้ง รันไม่ชอบเลย"

"คนดี พี่จะไม่ทำให้รันรู้สึกแบบนี้อีก พี่รักกันมากนะ อาจจะมากกว่าที่รันรู้ก็ได้ พี่จะไม่มีวันทิ้งรันไปไหน พี่จะไม่มีวันนอกใจรัน จะรักรันคนเดียวตลอดไป รันก็ห้ามทิ้งพี่นะ ห้ามนอกใจ อย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น เข้าใจรึเปล่า"

"...พี่ใหญ่ เมื่อคืน"

ผมอยากบอกพี่ใหญ่ว่าเมื่อคืนผมเจอใคร แต่คิดไปคิดมา ไม่พูดจะดีกว่า

"หืม"

"ไม่มีอะไรครับ อาบน้ำกันเถอะหันหลังมาเดี๋ยวรันถูหลังให้ รีบอาบรีบออกไปหาอะไรกินกัน รันหิวม๊ากกเลย"

"^___^ จ้า"

ผมกับพี่ใหญ่ลงมาทานอาหารเช้าที่ล๊อบบี้ของโรงแรม เสร็จแล้วพี่ใหญ่ก็พาผมไปอยู่กับพวกพี่โย ส่วนพี่ใหญ่เขาก็แยกตัวออกไปทำงาน ผมขอโทษขอโพยเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานที่ผมทำตัวงี่เง่า ขอโทษทุกคนรวมทั้งรุ่นน้องขี้แพ่มคนนั้นด้วย ไม่รู้ว้าเขาจะเคืองผมไหม เพราะเช้านี้ที่เจอหน้ากัน เอ็มดูเปลี่ยนไป การแต่งตัวก็ต่างไปจากที่เคยเห็นคือจะว่ายังไงดี ดูแมนขึ้นว่าง่ายๆ คำพูดคำจาท่าทางก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย ดูไม่ค่อยอ้อน หรือว่าเขาจะทำกับพี่ใหญ่แค่คนเดียว

เขาจะคิดยังไงไม่รู้แหละ เอาเป็นว่าผมจะพยายามเปลี่ยนตัวเอง ลดความระแวงหึงหวงให้น้อยลง ผมควรมั่นใจในคนรักของผมให้มากกว่านี้ ช่วงบ่าย พวกผมสี่คน รวมตัวกันลงมาเดินเล่นบริเวณริมหาด อากาศวันนี้แดดไม่จัดมากนัก เราเดินเล่นซื้อขอที่ระลึกกันแล้วก็แวะนั่งเก้าอี้ชายหาดโต๊ะเหมาสำหรับสี่คน และก็บรรเลงสั่งของกินมานั่งโซ้ยกัน ทั้งหมึก กุ้ง ตัวโตๆ ส้มตำ ต้มยำทะเล ข้าวผัด ยำต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ ไก่ย่างข้าวเหนียว ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น บรรยากาศดี อาหารสดอร่อย พูดคุยกันสนุกสนานออกรส ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกดีกับเอ็มขึ้นมานิดๆแล้วนะ เอ็มเป็นคนตลกโปกฮา นิสัยกวนๆดี แต่ที่เหมือนเดิมคือ ขี้แพ่มมากๆครับ กินไปจ้อไปไม่หยุด ผมล่ะนับถือจริงๆ

Rrrrrrrrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดูมองไปยังตัวเลขบนมือถือที่ยังไม่ได้บันทึก  เบอร์เดียวกับที่ส่งไลน์มาเมื่อเช้า

"เดี๋ยวผมรับโทรศัพท์คุยธุระแป็บนึงนะครับ"

"ช้ากินหมดไม่รอนะ"

เอ็มแซวขึ้นมา หลังจากที่เราเริ่มสนิทกันเล็กน้อย  ผมเดินเลี่ยงเดินตรงไปยังทะเล

"ฮัลโหล"

"ฮัลโหล รันนี่พี่อะ....พี่เองนะรันทำอะไรอยู่ครับ"

"รันนั่งเล่นที่ชายหาดอยู่"

"เหรออยู่ตรงล็อกไหน พี่ไปหาได้ไหม มีเรื่องอยากจะคุยกับรันเยอะเลย"

"...คือตอนนี้ผมอยู่กับเพื่อนๆ ไม่สะดวกเลยครับ"

"เหรอ แล้วรันพอมีเวลาช่วงไหนให้พี่ได้บ้างไหม พี่อยากคุยจริงๆนะ มีบางอย่างที่รันควรได้รู้"

"เรื่องอะไรครับ เรื่องลูกกับเมียพี่ใช่หรือเปล่า"

"พวกเขาไม่ใช่ลูกกับเมียพี่นั่นเมียน้องชายพี่ เด็กก็คือหลาน มีหลายเรื่องที่รันควรได้รู้ มาเจอกับพี่ได้ไหม แล้วพี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง"

ผมตัดสินใจนัดกับพี่อาร์ทอีกสองชั่วโมงข้างหน้า หลังจากวางโทรศัพท์ผมก็ขอตัวกลับขึ้นห้องอ้างว่าจะไปพักผ่อน ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ และขับรถไปยังร้านเค๊กไม่ไกลจากโรงแรมที่ผมพักมากนัก ร้านเค๊กแห่งนี้เป็นร้านใหญ่พอสมควร โต๊ะที่นั่งทานจัดไว้เป็นมุมตามสวน  ค่อนข้างเป็นส่วนตัว พี่อาร์ทโบกมือให้ผม ตรงโต๊ะหัวมุมติดกับบ่อน้ำเล็กๆ

"รัน ทางนี้"

"มานานรึยังครับ"

"มาก่อนรันสิบนาทีได้ เป็นยังไงบ้างไม่ได้ข่าวตั้งหลายปีแล้ว"

เหอะ!! นี่เป็นคำถามที่ผมควรจะถามเขามากกว่าไหม

"คำถามนี้ของผมมากกว่า พี่ต่างหากที่อยู่ๆก็หายไป เป็นยังไงบ้างครับ ครอบครัวสุขสบายดีพี่ดูมีความสุขดีนะ"

"คือ...รันจริงๆแล้วพี่ไม่ใช่อาร์ทน่ะ"

"ไม่ตลกนะครับไม่ใช่พี่อาร์ทแล้วจะใคร ฝาแฝดหรือไง"

"ใช่พี่เป็นแฝดกับอาร์ทชื่อโอม"

"มุกใช่ไหมผมไม่ขำนะ"

"แล้วเห็นพี่หัวเราะเหรอ งั้นดูนี่"

พี่อาร์ทหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาพร้อมกับควักรูปใบนึกออกจากกระเป๋ายื่นมาให้ผมเห็นพี่อาร์ท วัยเด็กน่าจะไม่เกิน 10 ปีและที่สำคัญข้างๆยังมีเด็กอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ

"นี่...พี่อาร์ทมีฝาแฝดจริงๆเหรอ ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย"

"ก็ไม่แปลกที่รันจะไม่รู้ อาร์ทน่ะ หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 15แล้ว มีปัญหากับที่บ้าน อาร์ททำผู้หญิงท้อง คนเมื่อวานที่รันเห็นนั่นแหละ ชื่อแก้ว แต่อาร์ทไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงบังคับให้รับผิดชอบ จะให้แต่งงาน อาร์ทเลยหนีออกจากบ้านไป พี่ไม่รู้ว่าอาร์ทหายไปอยู่ไหน จนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ อาร์ทแค่ติดต่อกับพี่ ทางโทรศัพท์ เราคุยกันตลอด อาร์ทเล่าเรื่องของรันให้พี่ฟังบ่อยๆ ส่งรูปมาให้พี่ดูด้วยนะ พี่ถึงได้จำรันได้ตอนที่เข้ามาทักพี่เมื่อคืน พี่ไม่กล้าพูดถึงอาร์ทต่อหน้าแก้ว พี่อยากถามหาอาร์ท น้องชายพี่ขาดการติดต่อไปสามปีกว่า พี่ไม่รู้ว่าเราสองคนเลิกคบกันไปแล้ว"

"ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าพี่อาร์ทหายไปไหน อยู่ๆเขาก็หายไป คงช่วงเดียวกับที่ไม่ได้ติดต่อกับพี่โอมนั่นแหละ ผมตามหาเขาตลอดทุกๆที่ แต่ผมไม่รู้จักบ้านของพี่อาร์ท จริงแล้ว ผมไม่รู้อะไรสักอย่างเลยเกี่ยวกับพี่อาร์ท เขาให้ผมรู้เท่าที่เขาอยากให้รู้"

"รันยังรักอาร์ทอยู่ไหม"

"ไม่รู้สิครับ มันนานมากแล้วผมไม่อยากขุดคุ้ยหาคำตอบ"

"มีแฟนแล้วใช่ไหม"

"ครับ พึ่งจะคบกันไม่ถึงปี ชีวิตผมตอนนี้โอเคทุกอย่างแล้ว ขอบคุณนะที่พี่ความจริงผม ผมไม่รู้ว่าพี่อาร์ทหายไปไหน แต่ผมหวังว่าสักวันพี่เขาจะกลับไปหาพี่หาครอบครัวนะครับ"

"แล้วนี่รัน อยู่แถวนี้เหรอ"

"ป่าวครับผมมาเที่ยวน่ะ ผมอยู่ตัวเมือง ย้ายจากกรุงเทพฯหลังเรียนจบ ย้ายตามเพื่อนมาน่ะครับ"

"แล้วพี่โอมล่ะมาเที่ยวเหรอ"

"ป่าวบ้านพี่อยู่ที่นี่ พี่มีห้องพักรายวันกับรายเดือน อยู่ซอยตรงเซเว่นที่รันผ่านมา กิจการของที่บ้านพี่รับช่วงต่อจากพ่อ"

ที่นี่เองเหรอ บางแสนบ้านของพี่อาร์ท บ้านที่เมื่อก่อนผมแทบพลิกแผ่นดินหาแต่ก็ไม่อาจเจอได้

"รันรีบไปไหนไหม ไปเที่ยวดูที่บ้านพี่รึเปล่า"

"เอ่อ...เดี๋ยวผมคงต้องกลับแล้วครับ คือออกมาไม่ได้บอกใครเลย เดี๋ยวจะเป็นห่วงกัน ผมขอบคุณพี่มากนะครับ"

ผมกล่าวลาพร้อมยกมือไหว้พี่โอมไป พี่เขาแก่กว่าผมและไม่ใช่แฟนเก่าเหมือนที่ผมเข้าใจ ไปลามาไหว้ถูกแล้ว ขณะที่ผมกำลังลุดขึ้น พี่โอมก็จับมือผมเอาไว้

"เดี๋ยวรัน พี่...ยังโทรหารันได้ไหม หลังจากวันนี้ได้หรือเปล่า"

"ปล่อยมือจากเมียกูเดี๋ยวนี้"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ลมหายใจแทบจะหยุดลงตรงวินาทีนี้ พี่ใหญ่ที่กำลังยืนกำหมัดแน่นอยู่ไม่ไกล พร้อมเอ็มและพี่โย พวกเขาตามผมมาใช่ไหม แล้วผมจะทำยังไงดี แอบมานัดเจอกับผู้ชายคนอื่น ถึงจะไม่ใช่แฟนเก่า แต่ก็มาเรื่องเขาอยู่ดี ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ แทบไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 20-06-2017 15:53:17
โอยยย ลุ้นๆ ก็ว่าอยู่ว่ามีอยู่ตอนหนึ่งเล่าว่าอาร์ทถูกฆ่าตาย แล้วอยู่ๆก็โผล่มา 555
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 28-06-2017 06:56:19
คนแต่งงงง อย่าหายไปไหนสิค้าา กำลังสนุกเลยย
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 28-06-2017 07:30:46
งานจะงอก?
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 32
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 28-06-2017 08:14:43
โรคจิต32 ไม่อาจทนไหว

Part ใหญ่


ผมตื่นก่อนรันนานเป็นชั่วโมงแล้ว ได้แต่นอนมองหน้าเมียตัวเองอย่างรักใคร่ เมื่อคืน หลังจากที่รันเพลียหลับไป ผมโทรคุยกับโยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โยบอกผมว่ารันคุยอยู่กับผู้ชายคนนึง เหมือนรู้จักกันมาก่อน มันเป็นใคร? บรรดาผู้ชายที่เคยมาจีบรันเหรอ แต่ลึกๆผมรู้สึกว่ามันมากกว่านั้น เมื่อคืนผมไม่ถามรันสักคำถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนเสียงข้อความไลน์จากโทรศัพท์รันดัง ปลุกให้คนในอ้อมแขนตื่น ผมแสร้งทำเป็นหลับ เมื่อเห็นว่ารันลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมจึงหยิบโทรศัพท์รันมาเปิดข้อความดู

'รันพี่เองนะ พี่อยากคุยกับรัน'

'เรานัดเจอกันได้ไหม พี่มีเรื่องอยากบอกรันมากมายเลย'

ผมกำโทรศัพท์ไว้แน่น ใครวะที่ทำให้รันเสียสูญแบบเมื่อคืนได้ ผมข่มอารมณ์ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง เดินเข้าห้องน้ำไปหาคนรัก ผมกกกอดเข้าไว้แน่น รู้สึกกลัวบางอย่างกลัวว่าคนรักของผมจะหายจากผมไป

ผมต้องไปสะสางงานเล็กน้อย ในโรงแรมได้แต่สั่งให้โยและเอ็มคอยดูรัน ผมไม่รู้ว่าเขาจะตอบไอ้นั่นว่ายังไง จนบ่ายแก่ๆ โยโทรมารายงานผมว่า รันรับโทรศัพท์สายนึงแล้วก็ขอตัวกลับห้องพักไป ผมสั่งให้โย ดักรอทันทีด้วยความไม่ไว้ใจ ผมสั่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนั่งรอเคลียร์งานอยู่ในห้องประชุมเล็กของโรงแรม ผ่านไปราวชั่วโมงเศษในขณะที่ผมกำลังเดินออกจากห้องประชุมเพื่อเตรียมกลับเข้าห้องพัก ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองคงจะหวาดระแวงมากเกินไป รันอาจจะอยากขึ้นไปพักผ่อนจริงๆก็ได้ แต่แล้วโยก็โทรกลับมาบอกว่ารันกำลังออกไปนอกโรงแรม หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมาทันที ผมรู้ว่าเขาจะออกไปไหน ที่ไม่รู้คือคนที่รันจะออกไปพบเป็นใคร

ผมขับรถตามไปยังร้านที่โยบอก เดินเข้าไปยังส่วนของสวน แล้วก็เห็นรัน ผมหลบทันทีพร้อมดันมือไปขวางเอ็มกับโยที่เดินตามมา ด้วยความที่ว่าตรงนี้เป็นสวน และที่นั่งจัดไว้ตามมุมต่างๆค่อนข้างเป็นสัดส่วน รันจึงไม่ทันสังเกตุเห็นพวกผม  ผมนั่งลง มองรันผ่านม่านต้นไม่และดอกไม้ ผมอยากรู้ว่าผู้ชายที่นั่งหันหลังให้มันเป็นใคร ทำไมรันต้องแอบผมมานัดคุยกับมัน ทำไมต้องปิดบังผม

ผมเกลียด เกลียดความรู้สึกแบบนี้เป็นบ้า ผมกำลังระแวง และกำลังจะทนไม่ไหว

"พี่ใหญ่อย่าพึ่งวู่วามนะครับ ไม่งั้นทุกอย่างที่เราทำมามันจะพังไม่เป็นท่า ผมสืบได้ว่ามันเป็นใคร อย่าลุกออกไป"

"ใจเย็นๆนะเฮีย เราจัดการทีหลังได้"

น้องสองคนพยายามปลุกปลอบผม เขาทั้งสองคงเห็นอาการผมไม่สู้ดีนัก คงกลัวว่าผมจะพุ่งไปเอาเรื่องอีก ผมไม่ทำหรอก ผมอดทนมาขนาดนี้แล้วจะไม่ยอมเสียแผนเด็ดขาดถ้าบังเอิญสายตาของผมไม่เห็นเข้ากับภาพที่ไอ้เวรนั่นกำลังจับมือรันอยู่ความอดทนผมขาดสะบั้นในวินาทีนั้น สมองอื้ออึงไปหมด ทั้งโกรธทั้งกลัวจนไม่รู้จะบรรยายออกมาได้ยังไง  'มันเป็นใครบังอาจแตะต้องคนรักของกูได้ยังไง ใครก็อย่าหวังมาสัมผัสแม้แต่ปลายเล็บถ้ากูไม่อนุญาติ'

"ปล่อยมือจากเมียกูเดี๋ยวนี้"

ผมพุ่งเข้าไปอย่างเร็ว พร้อมกับตวาดเสียดังลั่น รันตกใจมากที่เห็นผมเขารีบสะบัดมือออกทันที แล้วผู้ชายคนนั้นก็หันหน้ากลับมา วินาทีต่อจากนี้ทำให้ผมช็อค 'เป็นไปไม่ได้ มันจะยืนอยู่ตรงหน้าผมอีกได้ยังไงในเมื่อ'

"มึง ไม่จริงเป็นไปไม่ได้ มึงๆตายไปแล้วนี่"

"พี่ใหญ่หยุด"

ผมถูกโยเอามือปิดปากและล็อคตัวผมจากด้านหลัง

"รันกลับเถอะก่อนจะมีเรื่อง"

เป็นเอ็มที่เดินไปบอกรัน

"พี่ใหญ่ รู้จักพี่อาร์ทด้วยเหรอ ไหนพี่บอกรันว่า"

"พี่บอกให้หยุดออกไปคุยกันที่อื่นนะรันพี่ขอร้อง"

ผมถูกโยลากกลับขึ้นรถ ผมนั่งก้มหน้ากุมมือตัวเอง ตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก ไอ้อาร์ท คนที่ผมแทงมันจนยับนอนจมกองเลือดเมื่อสามปีก่อน มันมายืนอยู่ต่อหน้าผมได้ยังไง

"รันรันล่ะรันอยู่ไหน โยเมียกูอยู่ไหน"

"อยู่คันเอ็ม พี่ใหญ่ตั้งสติก่อน อย่าทำแบบนี้  พี่กำลังคุมตัวเองไม่ได้ เจอกับรันไม่ได้"

"พ่อ กดโทรหาพ่อให้กูหน่อย กูจะคุยกับพ่อกู"

"ครับ"

โยต่อสายคุยกับพ่อผมสักพักก็ยื่นโทรศัพท์มาให้

"พ่อครับ มันกลับมา มันกลับมาทวงรันคืนจากผมพ่อ"

'ไม่มีทางเป็นไปได้ใหญ่ตั้งสติมันไม่ใช่แน่นอน'

"พ่อลูกน้องพ่อได้จัดการมันรึเปล่า ลูกน้องพ่อโกหกพ่อแน่ๆเลย มันยังไม่ตายมันกลับมา กลับมาแย่งรันผมจะฆ่ามันอีกฆ่าอีกรอบให้มันตายคามือผม ผมไม่ยอมให้มันเอารันไป"

'ไอ้ใหญ่พ่อบอกให้ตั้งสติมันเป็นไปไม่ได้ เพราะพ่อเป็นคนมองลูกน้องตัวเองโยนศพมันลงไปในบ่อจระเข้ที่ละชิ้น พ่อเห็นเต็มสองตาจะเชื่อพ่อไหม'

"จริงเหรอครับพ่อ แต่ๆที่ผมเห็นวันนี้"

'พี่น้องมันหรือเปล่าหรือมันอาจจะมีแฝด ทำไมมึงไม่ตั้งสติฮะ หลุดปากพูดอะไรไปบ้างไอ้ลูกโง่ กลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้'

"ไม่พ่อ ผมจะหารันจะเอารันไปด้วย"

'หยุดบ้าเดี๋ยวนี้นะใหญ่ไม่งั้นอย่าหวังจะได้เจอกับน้องมันอีก'

"..."

'ดูสภาพตัวเองตอนนี้รึเปล่า สติแบบนี้คุยกับเขารู้เรื่องเหรอ กลับมาบ้าน พ่อจะเอาน้องกลับมาด้วย แต่ใหญ่ต้องมาคุยกับพ่อก่อน เข้าใจไหม'

"..."

'เชื่อใจพ่อหรือเปล่า พ่อเคยทำให้แกผิดหวังด้วยเหรอ'

"ครับพ่อ ผมจะกลับไปพ่อต้องอย่าให้รันหนีไปได้นะผมขอแค่นี้ ผมขอโทษ"

'อืม ส่งโทรศัพท์ให้โย แล้วแกนั่งสงบสติอารมณ์ซะ'

เมื่อรถเคลื่อนมาถึงบ้านใหญ่ ผมลงจากรถและกำลังเดินเข้าบ้านผมเห็นรถของตัวเองที่เอ็มขับเข้ามา ผมจึงหันหลังกลับกำลังจะวิ่งไปที่รถ แต่โยก็มาดักหน้าเอาไว้

"หลบโย กูจะไปหาเมียกู"

"ผมให้ไปไม่ได้ คุณลุงสั่งให้พี่เข้าไปหาท่าน พี่อยากให้เรื่องมันแย่ลงไปอีกใช่ไหม"

ผมจำต้องหันกลับเข้าไปข้างในบ้านเปิดประตูห้องทำงาน ก็เจอกับพ่อยืนหันหลังมองออกไปยังหน้าต่างบานใหญ่เบื้องหน้า

"นั่งลง"

ผมนั่งลงตามที่พ่อสั่งอย่างสำนึกผิด

"ทำไมถึงชอบปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล พ่อไม่เคยเห็นแกทำตัวโง่เท่านี้มาก่อน หมดแล้วใช่ไหมสติปัญญาปล่อยให้แรงอารมณ์ครอบงำ สุดท้ายมีแต่เสียกับเสีย"

"..."

"แกจะทำยังไงต่อ"

"ผมอยากคุยกับรัน"

"หาคำตอบดีๆให้เขาได้แล้วรึไง"

"..."

"ถามก็ตอบ"

"ผม...ผมอยากคุย อยากอธิบายให้รันเข้าใจ พ่อให้ผมเจอรันหน่อยนะ ผมขอร้อง"

"ถ้าแกแน่ใจ?"

"ครับพ่อผมควบคุมตัวเองได้"

"งั้นก็ไปสิแกเลือกทางเดินของแกเองนะใหญ่"

"ขอบคุณครับ"

ผมรีบเดินออกจากห้องทำงานของพ่อ ตรงมายังส่วนของห้องรับแขก ผมเจอเอ็มกับโยนั่งอยู่

"เอ็มโยรันล่ะรันไปไหน"

"ขึ้นไปบนห้องนอนของพี่ครับ"

ผมวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้านเปิดเข้าไปในห้องนอน ผมเห็นรันกำลังรื้อค้นข้าวของต่างๆภายในห้อง เราหันมาสบตากัน

"รันหาอะไร"

"อะไรก็ได้ที่พี่ซ่อนไว้"

"พี่ไม่ได้ซ่อนอะไร"

"เหรอ คนขี้โกหกอย่างพี่เชื่อได้ด้วย"

"รัน"

"ไหนบอกว่าไม่รู้จักพี่อาร์ทไง พูดว่าพี่อาร์ทตายไปแล้วหมายความว่าไง"

"..."

"พูดดิเงียบทำไมพูดออกมาดิ หรือคิดคำโกหกไม่ออก"

รันพูดพร้อมเข้ามาผลักหน้าอกของผม

"รันฟังพี่ก่อนได้ไหม"

"จะพูดอะไรก็พูดมารอฟังอยู่ มองตาผมนี่อย่าหลบตามีอะไรพูดออกมาเลยลูกผู้ชายหรือเปล่า กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ อย่าตอแหลนะว่าไม่รู้จัก"

"ทำไมต้องกดดันพี่ด้วย ทำไมต้องอยากรู้เรื่องอดีตทำไมฮะรัน แค่ทุกวันนี้อยู่กับพี่พี่ให้ความสุข ให้ความรักกับรันไม่พอเหรอ ทำไมต้องอยากถามหามันด้วย"

"ผมอยากรู้ พี่ทำอะไรพี่อาร์ทพี่ทำอะไรเขาตอบผมมาสิวะ ตอบผมมา เอาพี่อาร์ทของผมไปไว้ไหน"

"...พี่อาร์ทของผมอย่างนั้นเหรอ? มันไม่ใช่ของรัน ไม่เคยใช่ของรันตั้งแต่แรกแล้ว รู้เอาไว้ด้วย มันมีลูกมีเมียที่มันทิ้งขว้างมาแอบคบกันรันไอ้คนที่รันคิดว่าดีเลิศนักน่ะ มันหลอกรันทำไมไม่เข้าใจอะไรเลย โง่ให้มันหลอกได้ตั้งหลายปีอย่าได้พูกคำว่าของรันให้พี่ได้ยินอีก ชีวิตรันห้ามมีใครนอกจากพี่ที่เป็นของรันแค่คนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์"

"ฮึก...แล้วเอาพี่อาร์ทไปไว้ไหน บอกมาสิวะ แล้วผมจะเลิกพูดถึงเขา ถ้าไม่บอก ผมจะพูดถึงเขาทุกวันผมจะบอกรักเขาทุกวัน ทนฟังได้ไหมฮะ"

"หยุดๆ โถ่เว้ย มันตายไปแล้วชัดไหมตายไปแล้ว กูนี่แหละแทงมันเองกูแทงมันเพราะมันไม่ยอมเลิกกับมึงไง พอใจรึยังรันมึงพอใจรึยัง ศพมันไม่ต้องไปหากูโยนให้ไอ้เข้แดกไปแล้ว ชัดไหมมึงอย่าพูดว่ารักคนอื่นต่อหน้ากูอีก กูทนไม่ไหวอย่าบังคับกูนะรัน"

"..."

"..."

ภายในห้องเงียบกริบ มีแค่เสียงลมหายใจของผมและรัน อยู่ใกล้แค่นี้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ารันกำลังห่างจากผมไปทุกที

"ทำไมวะรัน ความรักของพี่มันยังไม่พอใช่ไหม พี่ต้องทำยังไงบอกพี่มา พี่ทำทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับรัน ทำทุกอย่างแล้วนะเว้ยยังขาดอะไรอีกบอกมาสิ อยากให้ทำอะไรบอกมาเลย ยอมทุกอย่างแล้ว ขอเหอะลืมมันไปได้ไหม มีแค่พี่ได้รึเปล่า"

"ผม...อยากขอเลิก"

"..."

"เพราะคนที่เจอวันนี้ใช่ไหม ถึงได้พูดคำนี้ออกมา เพราะมันหน้าเหมือนไอ้เหี้ยนั่นใช่ไหม ถึงได้คิดจะไปจากพี่ จะเลิกกับพี่งั้นเหรอ ได้...ก็ต่อเมื่อเราตายจากกัน เลือกเอาถ้ารันไม่ฆ่าพี่ พี่นี่แหละจะฆ่ารันถ้าพี่ไม่ได้รักรันก็อย่าหวังว่าชาตินี้ใครจะมีสิทธิ์"
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 29-30(18/06/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 28-06-2017 08:17:43
โรคจิต33 หนีไปให้ไกล

Part รัน


ผมพูดว่าขอเลิกกับพี่ใหญ่ออกไปแล้ว ตอนนี้ความคิดในหัวสับสนเอามากๆ ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ยิ่งตอนที่พี่ใหญ่บอกให้ผมเลือกทางเดินต่อไปข้างหน้าว่าจะให้ผมฆ่าเขาหรือเขาฆ่าผม นี่มันไม่ควรเป็นคำพูดที่ออกมาจากคนปรกติแน่ๆ ความกลัวจับขั้วหัวใจทันที ที่คำพูดนี้จบลง ผมมองใบหน้าคนรักของผม เขาเป็นคนเดี๋ยวกันกับคนเมื่อวานหรือเปล่า ผมยืนนิ่งบอกตรงๆเลยว่าขาแข็ง จ้องมองใบหน้า ที่ขึงตึงไปด้วยโทสะของพี่ใหญ่ น่ากลัวมากจริงๆ ผมอยากออกไปจากห้องนี้ ผมกลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว

และเมื่อความอดทนของผมถึงขีดสุด สมองสั่งให้หนีออกจากที่นี่ ตรงที่ผมยืนขวามืออยู่ริมหน้าต่างซ้ายคือที่นอนข้างหลังคือกำแพงข้างหน้าหน้าคือพี่ใหญ่ รู้สึกยิ่งกว่าหมาจนตรอกก็วันนี้ ไม่รู้จะทำไงแต่ก็ต้องหนีผมจึงใช้จังหวะตอนที่พี่ใหญ่เผลอ วิ่งพรวดขึ้นไปยังที่นอนหวังจะข้ามเพื่อไปยังประตู แต่ก็ได้เท่านั้น ยังไม่ทันจะพ้นจากขอบเตียงเลยด้วยซ้ำ ตัวผมก็โดนรวมให้ล้มลงโชคดีที่พี่ใหญ่รวบผมไว้ตั้งแต่ช่วงเอว ผมจึงล้มลงกับที่นอน ถ้ารวบแค่ขาผมล่ะก็ หัวผมฟาดพื้น ตายของจริงแน่

"ปล่อยนะ ปล่อยยยยย"

"จะหนีพี่ไปไหน"

"ปล่อยผมสิวะ ปล่อย"

"ไม่"

พี่ใหญ่โถมตัวเข้ามาทับผม  ผมพยายามดิ้นรนทุกทาง ทั้งต่อยทั้งถีบ แถมกัดที่หัวไหล่ของเขาจนจมเขี้ยว ได้กลิ่นคาวเลือดจนผมอยากจะอวก พี่เขาก็ยังนิ่ง ไม่ร้องออกมาสักคำ ผมดิ้นอยู่นาน จนรู้สึกหมดแรง จึงเลิกต่อต้าน เหนื่อยมาก สู้แรงเขาไม่ไหวจริงๆ เหนื่อยไปหมดเลยทั้งกายทั้งใจ เมื่อพี่ใหญ่เห็นผมนิ่งไป เขาจึงปล่อยมือของผมที่ล็อคไว้ไม่ต่างจากคีมเหล็ก ทันทีที่ถูกปล่อยมือ มือผมชาทันทีทั้งสองข้าง เพราะโดนกดจนมือซีด ผมค่อยๆยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ไม่รู้จะต้องทำไงแล้วตอนนี้

"ฮือออออ ฮือออออ ฮึก"

"คนดี พี่...พี่ขอโทษ ไม่เอาไม่ร้องนะครับ ไม่ไม่ทำอะไรแล้ว อย่าหนีพี่นะ ไม่เอาไม่ร้อง ชูวว"

"ฮืออออ ฮึก ฮึก พี่...ครับปล่อย ฮึก ปล่อยผมไปเถอะ ผมกลัวแล้ว ปล่อยผมเถอะ ผมอยากกลับบ้าน ฮืออออ"

"กลับสิกลับ กลับไปที่บ้านของเรานะโอเคไหม ไปอยู่บ้านพี่นะ อยู่กับพี่สองคน ลืมคนอื่นไปซะ มีพี่คนเดียวก็พอ นะคนดี อยากได้อะไรบอก พี่จะหาให้ทุกอย่างเลย ขออย่างเดียว อย่าทิ้งพี่ นะครับ พี่อยู่ไม่ไหวถ้าไม่มีรันอยู่ข้างๆ"

พี่ใหญ่พูดพร้อมทั้งก้มลงซบไปกับอกของผม ตัวของเขาสั่นเทา เขากำลังร้องไห้ ผมรู้สึกได้  ผมสงสารเขานะ แต่จะให้ผมใช้ชีวิตอยู่กับคนที่อารมณ์และจิตไม่ปรกติแบบนี้ ผมจะทนอยู่ได้เหรอ ถึงผมจะรักเขามาก แต่ผมก็รักตัวเองเหมือนกัน กลัวจริงๆ กลัวว่าสักวัน ความรักที่มากเกินไปของพี่เขามันจะแว้งกลับมาทำร้ายเราทั้งคู่

ในเมื่อ ณ เวลานี้ไม่เหลือทางเลือกอะไรให้เดิน ผมจึงจำใจยอมรับ โอนอ่อนผ่อนตามพี่ใหญ่ไปก่อน เพราะขืนผมดื้อดึงไม่ยอมก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักจะพูดขึ้นมา

"ลุกเถอะครับ ไปล้างหน้าแล้วกลับบ้านกันเถอะ"

พี่ใหญ่เงยหน้าขึ้นมา ในตาแดงก่ำพร้อมคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

"จะกลับไปอยู่กับพี่ใช่ไหม กลับไปบ้านของพี่ ไม่ใช่สิบ้านของเราใช่ไหม ไม่โกรธพี่แล้วใช่ไหม"

"โกรธครับ พี่กับผมควรสงบสติอารมณ์ ขืนเป็นอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ผมจะกลับไปที่คอนโด ไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น"

"แต่"

"หยุด...แล้วฟัง"

"..."

"ผมจะไม่ย้าย แต่จะไม่ห้ามถ้าพี่จะกลับเข้ามา ผมขอเวลาคิดสักหน่อย พี่หยุดเร่งเร้าหยุดสั่งให้ผมทำตามอย่างที่พี่อยากให้ผมเป็นสักที พี่คิดว่ามันง่ายมากหรือไงสำหรับผม ที่จะต้องมารับรู้ว่าคนรักของตัวเอง ฆ่าคนรักเก่าตายต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากตัวผม พี่รู้ไหม พี่อาร์ท เขาไม่ใช่แค่แฟนตลอดหลายปี เขาเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งพี่ และเพื่อนให้ผมมาตลอด  พี่อาร์ทคือรักแรกของผม แต่พี่คือผู้ชายคนสุดท้ายที่ผมอยากใช้ชีวิตด้วย แต่ผมอยู่กับพี่แบบนี้ไม่ได้พี่เข้าใจรึเปล่า ถ้าเราจะยังคบกัน ผมมีเรื่องอยากจะขอ ได้ไหม"

"จะขออะไรให้ได้ทุกอย่างเลย ถ้าไม่ใช่ขอเลิก ขอห่าง พี่ทำให้ได้หมด"

"พี่สัญญาสิ"

"พี่สัญญา"

"ผมจะขอให้พี่เข้าบำบัด ผมจะพาพี่ไปหาจิตแพทย์ อยาก..."

"พี่ไม่ได้เป็นบ้านะรัน"

"คนที่พบจิตแพทย์ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนบ้าเสมอไปนะครับ"

"มันก็ไม่ต่างกันอยู่ดี"

"สรุปคือจะไม่ไป...งั้น"

"โอเคๆ หยุดไม่ต้องพูด พี่รู้ว่ารันจะพูดอะไร ไปก็ไป ตามใจรันมีแค่นี้ใช่ไหมที่จะขอ งั้นกลับคอนโดของเรากันเถอะ"

"พี่ผมมีเรื่องอีกอย่างที่อยากจะขอ"

"อะไรอีก"

"พาผมไปที่ฝังศพพี่อาร์ทหน่อยได้ไหม"

"จะไปทำไม"

"ผมแค่อยากเอาดอกไม้สักช่อไปวาง แค่อยากไปลาครั้งสุดท้าย"

"คือ  ศพคงไม่เหลือโยนลงบ่อไปแล้ว"

"ห๊ะ โยนลงบ่อจระเข้จริงๆน่ะเหรอครับ"

"อืม"

" T_T เพราะผม"

"มันทำตัวมันเอง พี่ไม่เคยคิดจะฆ่ามัน"

"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังได้ไหม"

พี่ใหญ่นิ่งอยู่นานกว่าจะเปิดปากพูดออกมา

"...พี่สืบรู้ว่ามันมีลูกเมียอยู่แล้ว พี่บอกให้มันเลิกกับรัน ขู่มันว่าจะบอกเรื่องนี้กับรัน มันคงจะแอบตามพี่ไปที่บ้าน รุ่งอีกวันมันเข้ามาหาพี่ เรามีปากเสียงกัน มันไม่ยอมเลิกแล้วมันก็พกความมั่นใจมาเต็มร้อยด้วย ว่าถึงรันจะรู้เรื่อง รันก็ไม่มีวันจะเลิกกับมัน มันพูดสารพัดเหมือนว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตของรัน พี่ทนไม่ไหวเลยชกหน้ามันจนล้ม แล้วเราก็แลกหมัดกัน  มันสู้พี่ไม่ได้ แล้วก็นอนจมตีนพี่ พี่บอกกับมันครั้งสุดท้ายว่าพี่จะบอกรัน

พี่หยุดแล้วนะรัน แต่มันไม่มันพกมีด ลุกมาจะแทงพี่ แต่แรงมันก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว พี่หลบได้มันตั้งใจแทงพี่จริงๆมีดที่มือมันแทงถากมาโดนสีข้างพี่ รันเคยสังเกตุรึเปล่าว่าสีข้างด้านขวาพี่มีรอยแผลเป็น พี่พยายามแย่งมีดคืนจากมัน มันเจ็บหนักอยู่แล้วพี่ล็อคตัวเอาไว้พอพี่แย่งมาได้ มันก็ตะโกนใส่หน้าพี่ว่าพี่ไม่มีวันจะได้รัน ไม่มีวันที่คนอย่างรันจะมารักพี่ มันจะบอกให้รันเกลียดพี่ พี่ก็เลย...แทงมันจนล้มลง แล้วมันก็ตาย ถ้ามันไม่พูดคำนั้นออกมา คำว่าจะบอกให้รันเกลียดพี่ ป่านนี้มันอาจจะยังมีชีวิตรอดอยู่ รู้ไหมเพราะคำๆนั้น ทำให้ลมหายใจของมันมีค่าเป็นศูนย์"

หลังจากวันที่พี่ใหญ่เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมตกลงกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับพี่เขาเหมือนเดิม ที่สัญญากันไว้ว่าจะไปพบจิตแพทย์ด้วยกัน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น พี่ใหญ่ให้เหตุผลว่างานยุ่ง แต่เอาจริงๆตัวพี่เขาแทบจะติดกับผมตลอดเวลา เอาเถอะผมไม่อยากจะสนใจแล้วว่าเขาอยากจะทำอะไร ทุกวันนี้ผมเหมือน ถูกโซ่ที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ตีตรวจชีวิตเอาไว้ 'รัก' แต่ไม่มีความสุขเลยสักนิด ผมอดทนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ไหว ผมขอให้คิงช่วยหาที่พักชั่วคราวให้ คิงเสนอให้ผมไปอยู่กับแม่ออย แม่ของคิงที่อำเภอบ้านบึงก่อน ผมลางานไว้ล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ รอดูว่าถ้าพี่ใหญ่คลั่งหรืออาละวาดหนัก ผมจะลาออกจากบริษัททันทีแล้วย้ายที่อยู่หางานใหม่ หนีออกไปจากชีวิตพี่ใหญ่อย่างถาวร ผมขอให้คิงซื้อยานอนหลับมาให้ วันนี้วันเสาร์ ผมใช้ชีวิตคู่รักไม่รู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายรึเปล่า ของผมกับพี่ใหญ่ร่วมกัน ผมพยายามกอบโกยความรักช่วงเวลาที่ดีให้มากที่สุด ตกเย็นผมเตรียมทำอาหารมื้อคำของโปรดของพี่ใหญ่หลายอย่าง เราทานไปคุยกันไป พี่ใหญ่ดูมีความสุขมากๆ จนจบมื้ออาหาร ผมถือแก้วไวน์ออกมาสองแก้ว ผมยื่นให้พี่ใหญ่หนึ่งแก้ว และทานเองอีกแก้ว ต่างคนต่างจิบ ค่อยๆลิ้มชิมรสที่หอมหวาน พี่ใหญ่ที่ดื่มหมดแล้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้ขอชิมไวน์จากปากของผม เราจูบกันเนินนาน พี่ใหญ่แย่งไวน์จากในโพรงปากของผมไปจนหมดทุกหยาดหยด ตัวผมสั่นระรัวไปหมด ใจนึงก็อยากจะอยู่ข้างๆไม่จากไปไหน แต่อีกใจก็สั่งให้หนี เพราะความรักของผู้ชายตรงหน้านี้มันช่างอันตราย พี่ใหญ่นอนหลับแน่นิ่งไปแล้ว หลังจากยาออกฤทธิ์ิ์ ผมเดินไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า ก่อนจะจากไป ผมก้มลงไปจูบซับที่หน้าผากของพี่ใหญ่

"ลาก่อนนะครับหัวใจของผม ผมรักพี่นะ แต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ชีวิตของเราจะดิ่งลงเหวด้วยกันทั้งคู่ พี่เข้าใจผมใช่ไหม ผมหวังว่าพี่จะเข้าใจนะ ผมรักพี่ และจะรักตลอดไป"

ผมเดินลากกระเป๋าออกมาพาร่างที่แทบไร้ความรู้สึก เข้าไปในลิฟท์กดลงมายังชั้นล่างเดินไปที่ลานจอดรถ เอากระเป๋าเก็บหลังรถเรียบร้อย ขณะกำลังจะเปิดประตูฝั่งคนขับเข้าไปนั้น ผมรู้สึกถึงกลิ่นอะไรฉุนๆทำให้ผมหายใจไม่ออก แล้วสติผมก็ดับวูบไป

"อุ้มขึ้นไปรอที่รถ  แกมีเวลาแค่สองเดือนเข้าใจใช่ไหม"

"ครับ"

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
เริ่มหัวข้อโดย: ่KEI_jry ที่ 28-06-2017 11:57:13
เรื่องเริ่มจะเข้มข้นแล้วสินะๆๆ :katai1:

ไม่มาม่าหนักน้าาาาา เดี๋ยวปวดท้อง  :katai5:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 28-06-2017 14:36:37
แผนซ้อนแผนไปอีก
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 29-06-2017 12:34:45
สงสารพี่ใหญ่เลยค่ะ ณ จุดๆนี้
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 31-32
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 03-07-2017 18:41:41
คนแต่งเมื่อไหร่จะมาต่อออ เรารอนานแล้วน้าาา คิดถึงง
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 06-07-2017 09:32:08
โรคจิต34 ใกล้เหมือนไกล

Part ใหญ่


เมื่อผมตกลงกันรู้เรื่องแล้วว่าทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม ผมพารันมานั่งรออยู่กับโยและเอ็ม ส่วนตัวเองเข้าไปคุยกับพ่ออีกครั้ง

"นั่งลงสิ"

ผมนั่งลงตามที่พ่อบอก

"..."

"ไงไม่ราบลื่น?"

"ดีกันแล้วครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป"

ผมค่อยๆเล่าเรื่องทุกอย่างที่อยู่ภายในห้องให้พ่อฟัง

"อืม"

"ผมควรทำไงต่อครับพ่อ"

"ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น น้องมันระวังตัวแจแน่นอนต่อจากนี้ ใช้ชีวิตไปเหมือนปรกติ ไม่ต้องคิดมากให้ฟุ้งซ่าน แล้วเดี๋ยวจะพาลเป็นเรื่องขึ้นมาอีก แค่คอยสังเกตุ ตาไม่มองแต่หูต้องฟัง เข้าใจที่พ่อพูดไหม"

"ครับพ่อ"

"แล้วเรื่องที่น้องบอกให้ไปพบจิตย์แพทย์ล่ะว่าไง"

ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ นี่พ่อก็คิดว่าผมบ้างั้นเหรอ ทำไมต้องไปหาจิตแพทย์ด้วย ใครจะมารักษาเรื่องความรักของผมที่มีให้รันได้ ไม่มีหรอก จะมารักษายังไง ทำให้ผมรักรันน้อยลงงั้นเหรอ หึ ฝันไปเถอะอย่าหวังว่าไอ้ใหญ่จะยอม

"ผ่านไปสักพักค่อยดูว่าจะเอาไงต่อไปครับ"

"ถ้าจะหา ไม่ต้องไปหาที่ใคร อาหมอที่พ่อรู้จักรักษาได้ดีลองคุยดู"

"ครับ แล้วพ่อให้ผมอยู่เฉยๆอย่าไปวอแวกับน้องมาก แล้วถ้าเกิดน้องหนีไปล่ะพ่อ"

"ไม่ต้องกลัว คนของพ่อจะดูแลให้เอง กลับไปทำอย่างที่พ่อบอก อีกไม่นานก็รู้ ว่าเรื่องนี้จะจบง่ายจริง หรือง่ายไป"

"งั้นผมลากลับก่อนครับพ่อ"

ผมยกมือไหว้บอกลาพ่อ ขณะที่กำลังจะลุกออกจากห้องไปผมพึ่งนึกถึงบางคนขึ้นมาได้

"พ่อครับ แม่ไปไหนผมไม่เห็นแม่เลย"

"จินลูกของอาฟ้า กำลังจะคลอดลูก แม่เลยขอไปอยู่ที่เชียงใหม่ช่วยดูแล จนกว่าจะคลอด แล้วก็จะช่วยเลี้ยงช่วงเดือนแรกๆ ไม่ต้องห่วงแม่แกจะไม่รู้เรื่องนี้หรอก"

"ดีแล้วครับ ผมไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจเรื่องของผม"

ผมพารันกลับมายังคอนโด เรายังใช้ชีวิตคู่รักด้วยกันแต่ผมรู้ ว่ามันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก รันเปลี่ยนไปถึงจะพยายามทำว่าทุกอย่างเป็นปรกติแค่ไหน แต่ผมก็รู้ดีว่าเขากำลังแสร้งทำ ยิ้มฝืนๆที่ส่งมาให้ ในตาแห้งผากไร้ซึ่งความสุขสดใสเหมือนที่เคย ผมพยายามมองข้ามสิ่งเหล่านี้ พยายามประคับประครองให้ความรักของเรายังดำเนินไปได้ ผมควรให้เวลาเขาทำใจและปรับตัวไปอีกสักระยะ ผมรู้ว่ารันกำลังพยายามเพื่อเราอยู่ และผมรอได้ รอได้เสมอไม่ว่าจะนานแค่ไหน ขอแค่มีเขาอยู่ข้างๆแค่นั้นก็เพียงพอ

แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดฝันและกลัวมันก็เกิดขึ้น พ่อโทรมาบอกผมว่า รันกับเพื่อนแวะร้านขายยาก่อนกลับบ้าน คนของพ่อไปถามเภสัชว่าเขาสองคนเข้ามาซื้อยาอะไร คำตอบที่ได้คือ ยานอนหลับ ผมไปหาพ่อ ไปเอายาตัวที่มีลักษณะคล้ายกันกับยานอนหลับที่รันซื้อ ทั้งแบบเม็ด และผง ส่วนซองที่เป็นผงเป็นแค่คอลาเจนชนิดละลายน้ำดื่มเท่านั้น ผมรับเอามากำไว้ในมือ ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว

"วันนี้พาน้องมาทานข้าวบ้านพ่อ จะได้เหลือเวลา ให้โยเข้าไปสลับยา ถ้าน้องเอาติดตัวไว้ ก็เป็นหน้าที่ใหญ่ต้องหาทางแก้ไขเอง โอกาสสุดท้ายนะใหญ่"

"ขอบคุณมากครับพ่อ แล้วถ้าสลับยาสำเร็จมันจะเป็นยังไงต่อไปครับ"

"พ่อมีข้อเสนอให้แก แค่สองทางเลือก ถ้าเลือกข้อเสนอพ่อ พ่อจะให้เวลาแกสองเดือน พิสูจน์ตัวเองว่าแกสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องความรักของแกได้ แล้วพ่อจะไปเอาคำตอบจากปากน้องในอีกสองเดือนข้างหน้า ว่าตกลงเขายังอยากใช้ชีวิตร่วมกับแกต่อรึเปล่า ถ้าไม่แกต้องปล่อยมือน้อง ให้มาอยู่ในความดูแลของพ่อส่วนแกใหญ่  แกต้องไปเข้ารับการรักษากับอาหมอที่เยอรมัน หรือถ้าไม่รับข้อเสนอ พ่อก็จะไม่ยื่นมือมาช่วยเหลืออะไรแกอีกต่อไป แต่จำคำพ่อไว้ แกยิ่งไล่ต้อนน้องยิ่งหนี แกยิ่งหวงน้องจะยิ่งแหกกฏ ถ้าวันนึงน้องรู้สึกว่าทางเลือกหมดลง บางที่อาจจะเลือกหนีไปในทางที่เราคาดไม่ถึงก็ได้"

"พ่ออออ..."

"พ่อไม่ได้ขู่ แค่พูดตามหลักทางแยกที่มันอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหนีไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน คนเรามันไม่แน่หรอก จริงไหม"

"...ผมตกลงครับ"

"ดี"

"แล้วถ้าเกิด ครบสองเดือน รันไม่เลือกอยู่กับผม ผมจะต้องไปรักษานานแค่ไหนกี่เดือนครับ"

"บอกไม่ได้ช้าหรือเร็วมันขึ้นอยู่กับแกเอง"

"ถ้านานละ นานเกินไปรันไปคบคนใหม่ จะทำยังไง"

"ถ้าคบ นั่นก็แสดงว่าเขาหมดรักแกไปแล้ว แกคิดว่าไง จะมีใครรู้จักตัวตนของน้องไปมากกว่าแก แกหาคำตอบให้กับคำถามนี้ได้ด้วยตัวเอง"

"ครับพ่อ ผมฝากด้วย ชีวิตผมกับน้องฝากไว้ในกำมือพ่อแล้ว"

"มันจะต้องดีกว่านี้ เชื่อพ่อ"

ผมพารันมาทานอาการมื่อเย็นที่บ้านใหญ่ และเอาคีย์การ์ดของตัวเองให้โยกับเอ็มเข้าไปค้นหายาที่รันซ่อนไว้  ก่อนมื้ออาหารจะจบลง โยโทรมาบอกว่าเจอยาที่ซ่อนและสลับเรียบร้อย เช้าวันเสาร์ รันดูแปลกไปจากหลายๆวันโดยสิ้นเชิง เขากลับมาเป็นคนเดิม เหมือนที่ก่อนจะรู้เรื่องราวของผมทั้งหมด เขาน่ารัก ขี้อ้อน และอยากอยู่ใกล้ชิดผมตลอดเวลา ผมควรดีใจแต่ไม่เลย ความรู้สึกผมบอกได้เลยว่า เขาตั้งใจทำมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไป เรานั่งทานข้าวด้วยกันปรกติ อาหารทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของชอบผมทั้งสิ้น แต่ผมเกลียดอาหารมื้อนี้มาก เมื่อทานเสร็จ ผมช่วยรันยกจานไปเก็บ ช่วยกันล้างจานผมยืนอยู่ด้านหลังสอดมือทั้งสองข้างเข้าไปข้างตัวรัน หอมหัวหอมแก้ม ด้วยความรักเรามีความสุขแกล้งกันไปมา จนเมื่อเสร็จ รันจึงบอกให้ผมออกมารอที่โซฟา เขาจะเอาไวท์ที่คิงซิ้อมาฝากเอามาให้ลองชิม ผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ผมจิบไวน์กับรันสองคนเมื่อแก้วของผมหมด ผมจึงจูบรันและลิ้มชิมรสไวน์ในปากเขา เราจูบกันเนิ่นนาน นานจนผมรู้ตัวว่าสมควรจะต้อง ทำตามแผนของรัน ผมแสร้งทำเป็นง่วงนอนและฟุบหลับไป ผมได้ยินเสียงรันเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมลืมตาขึ้น นอนอยู่นิ่งๆปล่อยให้น้ำตาร่วงหล่นลงมา ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องนอนเปิด ผมค่อยๆปิดเปลือกตาลง หูก็ฟังเสียงรันล่ำลาครั้งสุดท้าย ไม่มีใครรู้ว่าผมต้องสะกดกลั้นตัวเองมากแค่ไหนไม่ให้ลุกขึ้นมาคว้าตััวรันเอาไว ลืมตามารั้งแล้วจะได้อะไร มันจริงอย่างที่รันพูดใช่ไหม ว่าเราอยู่ด้วยก็รังแต่จะดิ่งลงเหว ผมปล่อยให้เขาเดินออกไปจากห้องแล้วยืนตัวลุกขึ้น รู้สึกเหมือนใจจะขาด เอามือขึ้นมาลูบหน้าเพื่อเรียกสติ จึงเดินออกไปจากห้องลงตามรันไปยังลานจอดรถ เมื่อลิฟท์เปิดขึ้น ผมเดินออกมาตามทางเดินหันไปหาพ่อที่ยืนรออยู่แล้วและรันที่หลับอยู่ในอ้อมแขนลูกน้องของพ่อ

"อุ้มขึ้นไปรอที่รถ แกมีเวลาแค่สองเดือนเข้าใจใช่ไหม"

"ครับ"

ผมตัดสินใจแล้ว ภายในสองเดือนผมต้องทำให้รัน กลับมารักผมเหมือนเดิมให้ได้ ผมภาวนาขอให้รันคนเดิมกลับมา เพราะผมไม่อยากเลือกทางที่ต้องห่างจากเขาเลย

หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 35
เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊บบี้ ที่ 06-07-2017 09:35:42
โรคจิต35 ที่นี่ที่ไหน

Part รัน


ผมตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งปวดหัวและสายตาพร่ามัวไปหมด ลุกขึ้นนั่งสะบัดหัวเบาๆไล่อาการมึนนี้เสีย ที่นี่ที่ไหน ผมมองไปรอบๆยังสถานที่ๆไม่คุ้นเคย ผมอยู่ที่บ้านไม้หลังหนึ่ง บ้านหลังเล็กๆ ไม่มีห้องหับเป็นสัดส่วน ผมนั่งอยู่บนเตียงนอนที่ติดกับผนังห้องชิดกำแพงทั้งหัวเตียงและทางซ้ายมือ จากตรงเตียงนี้ไม่ไกลผมเห็นโต๊ะกลมๆพร้อมเก้าอี้สองตัว ข้างหัวนอนมีโต๊ะวางของตู้เสื้อผ้า ริมของอีกฝั่งเป็นเหมือนครัวขนาดย่อม มองปราดเดียวก็เห็นเนื้อที่ภายในบ้านทั้งหมด

"ที่นี่ที่ไหน มาอยู่ที่นี่ได้ไง"

สติสุดท้ายผมค่อยๆผุดขึ้นมา ผมกำลังหนีพี่ใหญ่ ใช่ ผมเอากระเป๋าเก็บในกระโปรงรถด้านหลัง พอจะขึ้นรถก็เหมือนสติจะดับวูบไป

"พี่ใหญ่ ต้องเป็นเขาแน่ๆ" ผมลุกพรวดขึ้นจากเตียงหวังจะเดินออกไปยังด้านนอก

"แกร๊ง"

เสียงของหนักกระทบลงบนพื้นไม้ พร้อมกับความรู้สึกหนักบริเวณข้อเท้าข้างขวา ผมก้มลงไปมองทันที แล้วสิ่งที่ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง ก็อยู่ตรงหน้า ข้อเท้าขวาผมโดนโซ่ล่ามเอาไว้

"อะไรวะเนี่ย ใครล่ามโซ่กูวะไอ้เหี้ย"

ผมรวบโซ่ขึ้นมา สาวไปยังต้นตอของโซ่ มันโยงไปทางปลายเตียงโซ่คล้องอยู่กับห่วงเหล็กที่ฝังตัวอยู่ในฝนังของบ้าน  ผมพยายามจะแกะโซ่เหล็กที่ครอบข้อเท้าออก ไม่ต่างจากการเอาไม้ซีกงัดไม้ซุง เจ็บทั้งมือเจ็บทั้งเท้าไปหมด ผมเดินวนเวียนไปมาเหมือนหนูติดจั่น มองเห็นมีดสามเล่มเสียบอยู่ในช่องใส่มีด วางอยู่บนเคาเตอร์ครัว แต่ผมไม่สามารถเดินไปหยิบได้เพราะความยาวของโซ่พาให้ผมเดินมาได้ไกลสุดเพียงโต๊ะกลมกลางตัวบ้าน ซึ่งคนเป็นโต๊ะที่เอาไว้นั่งทานข้าวนั่นแหละ

"แม่งเอ้ย"

ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย เปลี่ยนไปยังโต๊ะข้างหัวเตียงเปิดลิ้นชักดูทุกช่องว่างเปล่า เดินมาเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นกระเป๋าของผมวางอยู่ ผมรีบหยิบออกมารื้อหาอะไรที่พอจะมีประโยชน์เพื่อป้องกันตัวได้บ้าง แต่ก็มีเพียงเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวอีกนิดหน่อยเท่านั้น แทบอยากจะทึ้งหนังหัวตัวเอง ผมเปลี่ยนไปเปิดหน้าต่าง ชะโงกมองออกไปนอกตัวบ้าน หันซ้ายหันขวา ไม่เห็นสิ่งก่อสร้างใดๆเพิ่มเติมเลย นอกจากต้นไม้ใบหญ้า นี้มันป่าชัดๆ นี่ลากผมเข้ามาอยู่ในป่าเลยเหรอ เมื่อสำรวจทุกอย่างรอบตัวแล้ว ไม่เห็นทางรอดสักทาง จำต้องก้มหน้าร้องไห้ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ทำไมเขาถึงทำแบบนี้นะ นี่ยังไงคือเหตุผลที่ผมควรออกห่างจากเขา รักจนไม่สนอะไรความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวพี่ใหญ่คงไม่เหลืออีกแล้วตอนนี้ ไม่มีแล้วคนรัก มีแต่ปีศาจในคราบมนุษย์เพียงเท่านั้น

ผมร้องไห้จนเหนื่อย ล้มตัวลงไปกับที่นอนอีกครั้ง สมองเฝ้าแต่คิดหาทางหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วผมก็ได้ยินเสียงบางอย่างแว่วมาจากด้านนอก ผมหยุดร้องไห้ลุกขึ้นนั่งนิ่งแล้วฟังเสียงที่ผ่านรอดเข้าหูมา

สวบ สวบ สวบ

เสียงใบไม้ตามพื้น มีคนกำลังเดินตรงมาทางนี้ผมลุกขึ้นยืน เดินถอยหลังไปสุดกำแพง ใครกำลังเข้ามา

แอ๊ดดดดดด

ทันทีที่เสียงประตูบ้านเปิด คนที่ผมคุ้นเคยก็เดินเข้ามา เขาชะงักเล็กน้อยที่เห็นว่าผมตื่นขึ้นมาแล้ว และก็เดินเอาของบางอย่างวางไว้ที่โต๊ะกลมกลางบ้าน เพียงเท่านั้น ผมก็พุ่งตัวเข้าไปหาพร้อมสาวหมัดใส่เขาทันทีแบบไม่ยั้ง

"ไอ้เหี้ยจับกูมาทำไม ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ไอ้โรคจิต ปล่อยกู มึงมันบ้าไปแล้ว"

ผมไม่เคยหยาบคายกับพี่ใหญ่แบบนี้มาก่อนแต่เชื่อสิถ้าเป็นคุณ คุณไม่สติหลุดแบบผมก็แปลกแล้ว

ปากก็ด่าทอพ่นคำหยาบสารพัดออกมาด้วยความคับแค้นใจ มือทั้งสองข้างรัวต่อยโดยที่คนตรงหน้าได้แต่ยกมือขึ้นมาเป็นการ์ดบังใบหน้า แต่ไม่ตอบโต้ มือผมทั้งเจ็บทั้งชา ที่ต่อยไปเต็มๆแรง เหมือนกระดูกตามข้อนิ้วจะหักออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อผมเหนื่อย ผมสะบัดมือไล่ความเจ็บพี่ใหญ่ก็เข้ามากอดผมเอาไว้ ผมดิ้นจนสุดแรง ไม่ยอมอีกต่อไป ไม่แล้วผมรวบรวมแรงกำลังขัดขืนเขา จนเกือบจะหลุด แต่ผมเสียหลักถอยร่นจนล้มไปกับเตียงนอน พี่ใหญ่โถมตัวเข้ามาทับผมไว้ ขาเขาล็อคขาของผมไม่ให้ดิ้น มือทั้งสองข้างก็โดนกดจนเจ็บ แต่ผมยังไม่หยุดอาละวาด จนที่สุด พี่ใหญ่หยิบกุญแจมือออกมาจากไหนไม่รู้คล้องกุญแจกับมือข้างซ้ายผมติดกับหัวเตียง มือซ้ายโดนล็อค ขาขวาก็ถูกล่ามโซ่ มีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกไหม ผมคิดอยู่ในใจ แล้วบางสิ่งก็ทำให้ผมต้องเบิกตาค้าง เขาควักเข็มออกมาเอาปากกัดที่ครอบออก

"อ่ะ ไอ้เหี้ยปล่อยกูนะมึงจะทำอะไร จะฆ่ากูใช่ไหมปล่อยกู อย่าทำกูเลยกูกลัวแล้ว ปล่อยกู"

ผมดิ้นรนเหมือนคนบ้า แต่ก็ไม่อาจสู้แรงไหว แขนข้างซ้ายที่โดนกุญแจมือล็อค ถูกเข็มทิ่มมลงไปในเนื้อ ความเจ็บวิ่งปร๊าดเข้ามาในร่างกาย ความกลัวจับขั้วหัวใจ ไม่นานผมก็หมดแรงสู้แม้แต่จะเอ่ยปากพูดยังไม่ไหว แล้วผมก็หลับวูบไป

พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แค่ลืมตาปรับโฟกัส ทุกสิ่งทุกอย่างก่อนที่จะหลับไปหวนกลับมา ผมลุกขึ้นเอามือแตะไปยังข้อพับที่โดนเข็มจิ้ม สัมผัสได้ถึงความเจ็บ โดนฉีดจริงๆด้วยไม่ได้ฝันไป ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ บ้ามากเกินไปแล้ว ผมมองไปรอบบ้านเขาไม่อยู่ มองผ่านหน้าต่างท้องฟ้าก็มือสนิท มีแสงไฟจากตะเกียงสามใบภายในบ้าน โต๊ะตรงกลางมีชามข้าววางอยู่ ท้องผมร้องทันทีที่เห็น ไม่รู้ว่าอดข้าวมากี่ชั่วโมงแล้ว ผมลุกไปนั่งโต๊ะ ได้กลิ่นข้าวต้มหมูหอมๆ จึงรีบทานจนเกลี้ยงเมื่อทานหมด จึงลุกไปยืนเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าต่างใจก็ครุ่นคิดไปต่างๆนาๆ เพื่อนๆผมจะรู้ไหมว่าผมหายไป จะตามหากันหรือเปล่า จะถูกพี่ใหญ่หลอกอีกไหม ไม่รู้ว่าจมจ่อมกับความคิดไปนานแค่ไหน จวบจนรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำปวดฉี่อยากอาบน้ำนี่แหละถึงได้หลุดจากภวัง

ผมเดินไปนั่งอยู่ที่โต๊ะอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อ สายตาก็หันไปเห็นลูกบิดประตูอันเล็กข้างตู้เสื้อผ้า เมื่อเช้าตอนค้นตู้เสื้อผ้าพอเจอกระเป๋า ก็รีบเอามาเปิดดูไม่ได้สนใจอะไรต่อเลย ผมลุกขึ้นไปเปิดมันคือห้องน้ำจริงๆด้วย ขอบคุณสวรรค์ดีที่ยังไม่ให้ผมต้องถ่ายหนักเบาโต้งๆในบ้านหลังนี้ ผมรีบหยิบเสื้อผ้าข้าวของเข้าไปอาบน้ำทันที มืดตื๊ดตื๋อ เดินออกมาหยิบตะเกียงหนึ่งใบเข้าไปแขวนในห้องน้ำ ต้องเปิดประตูแง้มไว้เพราะติดโซ่ที่เท้าปิดไม่ได้ อากาศก็หนาว รีบอาบรีบออกไปดีกว่าไม่ชินที่อีกแล้ว ไม่ชอบเลย ขณะที่ผมอาบน้ำจนเสร็จกำลังแต่งตัวในห้องน้ำได้ยินเสียงเปิดประตูบ้าน เห็นเงาคนเดินไปเดินมา ผมรีบแต่งตัวแล้วเปิดประตูออก เห็นพี่ใหญ่ยืนหันหลังล้างจานอยู่  ผมหยุดอาละวาดเพราะกลัวจะโดนจับฉีดยาอีก แต่อย่าหวังว่าผมจะญาติดีด้วย

"ที่นี่ที่ไหน"

"..."

"ผมอยากกลับบ้าน"

"..."

"ผมอยากกลับบ้านคุณได้ยินที่ผมพูดรึเปล่า"

"..."

"จะเล่นบทเป็นคนใบ้เหรอ มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ หันหน้ามาคุยกันดิวะ"

จบประโยคพี่ใหญ่หันหน้ากลับมาทันที ผมผวาเฮือกด้วยความตกใจ

"..."

"..."

แล้วเขาก็เดินผ่านผมไปยังห้องน้ำ ได้ยินเสียงอาบน้ำอยู่สักพัก ก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันเอว ตึกตัก ตึกตัก  ใจแม่งไม่รักดีจะเต้นแรงทำไมวะ ผมเบือนหน้าหนีกับภาพที่เห็น เดินไปยืนมองภาพที่หน้าต่าง บรรยากาศวังเวงชวนขนลุก มีแต่ป่ากับป่า จะมีผีไหมนะ หรือจะมีสัตว์ร้ายรึเปล่า คิดไปสารพัด แล้วผมก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อพี่ใหญ่นั่งลงบนเตียงมีเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว กำลังก้มลงจับโซ่ค่อยๆดึงเข้าหาตัว

"ทำบ้าอะไร"

"..."

ดึงจนตึงถึงขาผม 'จะเล่นมุกโรคจิตให้กลัวใช่ไหม เออกลัวฉี่จะราดแล้ว' ตัดสินใจเดินเข้าไปหายืนอยู่ตรงหน้าคนบ้า หลับตาอย่างไม่อยากจะคิดว่าจะโดนทำเรื่องอะไรให้หลอนอีก พี่ใหญ่ดึงมือผมพร้อมรวบเอวให้ลงไปนั่งที่ตัก สองแขนโอบรัดรอบตัวผมใบหน้าซุกลงกับซอกคอ ผมลืมตาขึ้นนั่งนิ่งปล่อยให้เวลาค่อยๆเดินไป จนสักพักพี่ใหญ่จึงจับผมให้นอนลงซุกกับอกของเขา แต่ผมขัดขืน และพลิกกลับไปนอนหันหลังให้ เขาจึงนอนกอดผมจากด้านหลังไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย ดีแล้วล่ะที่ผมทำแบบนี้ จะให้ไปนอนซุกอกเขาเหมือนเมื่อก่อน ผมทำใจไม่ได้หรอก แค่โดนกอดเนี่ยก็ฝืนเต็มทน
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 06-07-2017 10:25:32
ถ้ายอมไปรักษาแต่แรกคงไม่เป็นงี้อะ :ruready
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 09-07-2017 22:30:27
รอคับ :3123:
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 10-07-2017 11:37:55
โอยยย เค้าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันได้มั้ยเนี่ยย
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: natchaya ที่ 31-07-2017 19:51:49
คนแต่งอย่าหายสิ เรารออ่านอยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: gakuen ที่ 15-05-2018 23:45:27
สวยพี่สวย
หัวข้อ: Re: Psychosis โรคจิต #upตอนที่ 34-35 (06/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: SNB479 ที่ 23-07-2018 22:04:18
รออ่านอยู่นะคะ พี่ใหญ่กับน้องรัน ่ฮื่อๆๆๆๆๆจะกลับมาเหมือนเดิมไหม