พิมพ์หน้านี้ - ผัวเก็บ {เรื่องสั้น} บทที่ึ8 THE END [9/5/56 ]
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: jubdong ที่ 15-04-2013 02:09:25
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ สรุปข้อสำคัญดังนี้ 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม 5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง 7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด 7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ 7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 ------------------------------------------------------------------------- "ผัวเก็บ" ผมกำลังขมวดคิ้วมองคนบ้าคนนึงไม่ใช่บ้าธรรมนะครับโคตรบ้าเลยละ มันมานั่งอ้อแอ้เมาหัวทิ่มบ่ออยู่หน้าห้องผมได้สักพักละครับเมาขนาดนี้ข้างตัวยังไม่วายมีกระป๋องเบียร์อยู่ด้วย "อะไรของมึงอีกเนี่ย"ไต้ฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองผม สายตาเหมือนเด็กขี้น้อยใจคนนึงมือมันชี้สะเปะสะปะ "อุ้มหน่อย" "เหี้ยไรของมึง ตัวอย่างควายสมองนิ่มฉิบหาย"ผมเดินเข้าไปเขกหัวมันสองทีติด มันร้องโอดโอยปากคว่ำทันทีเหมือนเด็กโดนขัดใจแต่ผมไม่สนใจเปิดประตูทิ้งไว้ให้มันเดินเข้ามาเองหรือจะคลานก็ได้นะไม่ว่ากัน "มึงอ่ะกูเป็นเมียมึงนะไม่ดูแลกูเลย"เอาเรื่องนี้มาพูดอีกละ "เมียเหี้ยไรแค่เพื่อนสนิท" "แล้วของหมาตัวไหนที่เสียบตูดกูอยู่เมื่อคืนว่ะ"มันพูดพร้อมเหวี่ยงกระเป๋าเอกสารของมันมาทางผม ผมนั่งกระดิกตีนมองหน้ามันในแสงสว่างชัดๆดวงตากลมที่เคยสดใสมีรอยช้ำเหมือนคนที่ร้องไห้มาอย่างหนัก ปากนี่ก็คว่ำเหลือเกิน หน้าตามันตอนนี้เหมือนคนที่พร้อมจะร้องไห้ได้ตลอดทุกเวลาทำให้คนข้างหน้าผมนี่ดูบอบบางลงไปอีกเท่าตัวและเพราะผมเป็นคนใจอ่อนถึงปากจะหมาแต่เอาเข้าจริงก็ไม่เคยสักครั้งที่จะปฏิเสธคนตรงหน้า "มานี่มา"ผมตบที่นั่งข้างโซฟา ไต้ฝุ่นเดินเข้ามาเหมือนคนไร้วิญญาณทันทีเขานั่งลงข้างผมร่างของไต้ฝุ่นก็โถมเข้าหาผมใบหน้าเขาจมอยู่กับอกผมปล่อยให้ผมลูบหัวเขาเบาๆ "ฮึก..."มีเพียงเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------- no drama หรือเปล่าไม่รู้ ฝากติดตามด้วยนะค่ะ
ติดตามค่ะ :katai5: :katai5: :katai5:
น่าสนุกกกกกกกกกก
รอตอนต่อไปคะ :mc4:
:katai4:
:hao6:
:mew3:
มาเพราะชื่อเรื่องครับ รอดูราชินีชี้นิ้วครับ :heaven
กร๊าซซ ชื่อเรื่องโดนมาก 55555 :o8: แนวเรื่องน่าสนใจ ติดตามนะคะ
ติดตามมมมมมมม
เข้ามาเพราะชื่อเรื่อง :laugh:
รอค่าาาาาาา ^^
บทที่ 1 "โยมมมาพักพระนะโยม พระไม่ทำอะไรนะโยม"เสียงร้องเพลงแบบเด็กนรกดังลั่นลานคณะ โดยไอคนสั่งนั่งหัวเราะก้ากอยู่บนอัฒจรรย์ "เฮ้ยแค่นี้เหนื่อยแล้วเหรอไง!"ไต้ฝุ่น ผู้ชายผอมสูงแต่ก็ไม่ได้เอวบางร่างน้อยเหมือนผู้หญิงนะครับก็เหมือนผู้ชายทั่วไปนี้แหละแค่ผอมกว่าเท่านั้นเอง มันกับผมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งไต้ฝุ่นเป็นเกย์ควีนเรื่องนั้นผมรู้ตั้งแต่เจอหน้ามันครั้งแรกมันก็ไม่ได้เก็บอาการนะครับประมาณอยากรู้ก็รู้ไป จากคำว่าเพื่อน...เป็นเพื่อนสนิทจนตอนนี้เลยเถิดมาเป็นคำว่าผัวมียไปได้ยังไงก็ไม่รู้ "เหนื่อยแล้วครับ!"ผมหันไปมองต้นเสียง ไม่ใช่ผมหรอกที่ตะโกนออกไปแต่เป็นพี่ไมโลต่างหากรุ่นพี่ปี4ที่พวกผมสนิทพี่ไมโลเป็นผู้ชายสูงขาวตาตี๋ๆจมูกโด่งๆตามแบบบอยแบนด์ทั่วไปและเพราะภาพลักษณ์เค้ามันก็ไม่แปลกที่ไต้ฝุ่นมันจะชอบ ฟังไม่ผิดหรอกครับไต้ฝุ่นหลงรักพี่ไมโลตั้งแต่รับน้องตอนที่พี่เค้ามาเป็นพี่เนียนแต่ดูท่าเพื่อนผมมันจะอกหักเพราะผมได้ยินมาว่าพี่ไมโลมีคู่หมั้นแล้วพอเรียนจบก็จะแต่งงานทันทีแต่เรื่องนี้มีแค่ไต้ฝุ่นเท่านั้นที่ไม่รู้ "พี่ไมโลมาทำไมตอนนี้ฝุ่นคุมน้องอยู่นะ"นั่นไงอาการแบบนี้ละหลายคนถึงเลือกที่จะเดินมาบอกรักไต้ฝุ่น ก็อาการปากคว่ำตาใสอย่างนี้ไงละน่ารักซะไม่มี "เอ้าจำไม่ได้เหรอว่าเมื่อคืนฝุ่นบอกพี่ว่าไง" "จริงสิพี่ไมโลนี่รักษาคำพูดจริงๆนะเนี่ย"มันทำท่ากอดอกสำรวจพี่ไมโลขนาดผมไม่ได้ร่วมบทสนทนาก็ยังอดยิ้มไปกับท่าทางมันไม่ได้ "จะไปกันหรือยังครับ" "ไอฟรานดูน้องให้กูด้วยนะ"ผมได้แต่ทำหน้าเหรอหราแต่ไอคนฝากงานมันไม่สนหรอกครับเดินสะบัดตูดไปโน้นแล้ว ผมถอนหายใจมองหน้ารุ่นน้องที่เงยหน้าผมอย่างรอคำสั่งต่อไป "ไปพักไป"ผมโบกมือไล่เหล่ารุ่นน้องพากันตะโกนอย่างดีใจ ผมมองตามหลังรถออดี้สีขาวที่เคลื่อนตัวไปถึงหน้าประตูมหาลัย มันคงมีความสุขมากดูจากใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของไอคนที่นั่งข้างคนขับก่อนมันไปก็ขอให้มึงไม่ต้องร้องไห้กลับมาละกันนะ ผมกำลังขมวดคิ้วมองคนบ้าคนนึงไม่ใช่บ้าธรรมนะครับโคตรบ้าเลยละ มันมานั่งอ้อแอ้เมาหัวทิ่มบ่ออยู่หน้าห้องผมได้สักพักละครับเมาขนาดนี้ข้างตัวยังไม่วายมีกระป๋องเบียร์อยู่ด้วย "อะไรของมึงอีกเนี่ย"ไต้ฝุ่นเงยหน้าขึ้นมองผม สายตาเหมือนเด็กขี้น้อยใจคนนึงมือมันชี้สะเปะสะปะ "อุ้มหน่อย" "เหี้ยไรของมึง ตัวอย่างควายสมองนิ่มฉิบหาย"ผมเดินเข้าไปเขกหัวมันสองทีติด มันร้องโอดโอยปากคว่ำทันทีเหมือนเด็กโดนขัดใจแต่ผมไม่สนใจเปิดประตูทิ้งไว้ให้มันเดินเข้ามาเองหรือจะคลานก็ได้นะไม่ว่ากัน "มึงอ่ะกูเป็นเมียมึงนะไม่ดูแลกูเลย"เอาเรื่องนี้มาพูดอีกละ "เมียเหี้ยไรแค่เพื่อนสนิท" "แล้วของหมาตัวไหนที่เสียบตูดกูอยู่เมื่อคืนว่ะ"มันพูดพร้อมเหวี่ยงกระเป๋าเอกสารของมันมาทางผม ผมนั่งกระดิกตีนมองหน้ามันในแสงสว่างชัดๆดวงตากลมที่เคยสดใสมีรอยช้ำเหมือนคนที่ร้องไห้มาอย่างหนัก ปากนี่ก็คว่ำเหลือเกิน หน้าตามันตอนนี้เหมือนคนที่พร้อมจะร้องไห้ได้ตลอดทุกเวลาทำให้คนข้างหน้าผมนี่ดูบอบบางลงไปอีกเท่าตัวและเพราะผมเป็นคนใจอ่อนถึงปากจะหมาแต่เอาเข้าจริงก็ไม่เคยสักครั้งที่จะปฏิเสธคนตรงหน้า "มานี่มา"ผมตบที่นั่งข้างโซฟา ไต้ฝุ่นเดินเข้ามาเหมือนคนไร้วิญญาณทันทีเขานั่งลงข้างผมร่างของไต้ฝุ่นก็โถมเข้าหาผมใบหน้าเขาจมอยู่กับอกผมปล่อยให้ผมลูบหัวเขาเบาๆ "ฮึก..."มีเพียงเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบ "มึงเป็นอะไรว่ะ"ผมลูบหลังมันเบาๆ ไต้ฝุ่นแนบหน้าสบกับอกผมอยู่มานานกว่าหนึ่งชั่วโมงมันไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ดูจากน้ำตามันก็คงเดาไม่ยากว่ามันเจ็บกับอะไรมา "พี่ไมโล...ฮึกเขามีคู่หมั้นแล้ววันนี้เขาพากูไปเจอคู่หมั้นเขาทำไมเขาไม่บอกกูอ่ะ ปล่อยให้กูคิดเองไปคนเดียวทำไม" "มึงตัดใจเหอะ"ผมกอดมันแน่นขึ้น คนในอ้อมกอดผมสะอื้นแรงมากขึ้นตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาผมไม่เคยเห็นมันเสียใจขนาดนี้มาก่อน "ไม่..กูรักเขากูรักพี่ไมโลมึงเข้าใจมั้ยไอฟรานกูรักใครไม่ได้อีกแล้วมึงได้ยินมั้ยฟรานกูรักเขา!"ไม่รู้ทำไมจู่ๆมือผมก็ตกลงข้างตัว คุณเคยเป็นมั้ยละความรู้สึกเหมือนไม่มีแรงจะทำอะไร "แล้วมึงจะทำยังไงเขาไม่รักมึงยังไงก็ไม่รักอยู่ดี"ไต้ฝุ่นเงยหน้ามองผมรอบตามันบวมจนเหมือนจะปิดลงมา มันลุกขึ้นจากตักผมแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนผม "มึงไม่เข้าใจหรอกฟรานเวลาที่มึงรักใครมากๆแล้วเขาไม่รักมึงมันเสียใจขนาดไหน" "ทำไมกูจะไม่รู้.."ผมได้แต่พูดกับตัวเองเบาๆ "กูรักมึงนะ.." ผมนั่งมองบานประตูสีขาวที่ปิดเงียบมาตั้งแต่เมื่อคืน ผมควรจะเข้าไปในห้องนั้นดีหรือเปล่านับสิบครั้งแล้วที่ผมเดินเข้าไปจับลูกบิดแต่ก็ได้แค่จับมันเอาไว้อย่างนั้นไม่กล้าเปิดเข้าไป ผมยังคงยืนอยู่หน้าประตูได้แต่ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้จะรู้มาตลอดว่าไต้ฝุ่นไม่เคยคิดกับผมเกินกว่าคำว่าเพื่อน ผิดกับผมที่ความรู้สึกมันเพิ่มขึ้นทุกวันๆ... "มาทำไรหน้าประตู...พระเอกเอ็มวีเหรอไงมึงหลบดิหิว!"จู่ๆไอตัวดีก็เปิดประตูออก ชุดมันถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอนผมเองตากลมๆก็อย่างที่คาดไว้บวมเหมือนโดนคนต่อย มันผลักอกผมแล้วรีบเดินออกไปที่ห้องครัว "เป็นไงบ้าง"ไต้ฝุ่นปากคว่ำเหลือกตามองผมในมือมีอาหารสำเร็จรูปเตรียมจะยัดเข้าไมโครเวฟ "แล้วเห็นกูเป็นไงละ" "ตาบวมเป็นเป็ดไงมึงอ่ะ" "ไอเลวมึงว่าใครเป็นเป็ดนี่แน่ะๆ"มันไม่ได้ด่าอย่างเดียวอ่ะสิครับ ผมยืนค้ำโต๊ะอยู่มันก็เตะเข้าที่เข่าเลยครับผมนี่แทบทรุด เดี๋ยวเถอะมึงที่กูเอาคืนมั้งผมก้มไปดึงขามันลงจากเก้าอี้กลายเป็นว่ามันล้มลงมาทับผมทั้งตัวเลยครับ "โอ้ย!ไอบ้าฟรานเล่นเหี้ยไรของมึงเนี่ยแล้วมาจับกูทำไมกูจะลุก"ไอฝุ่นแม่งดิ้นจนผมจุกเลย "มึงก็อย่าดิ้นดิว่ะ"ผมจับแขนมันไว้เพราะมันเอามือมายันอกไว้ผมละจุกฉิบหาย "มึงก็ปล่อยดิว่ะจะมากอดทำไม"นี่ผมกอดมันอยู่เหรอ เอ้ะ..แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วยว่ะผมละอดยิ้มไม่ได้จริงๆ "ยิ้มบ้าอะไรของมึงเนี่ยบ้าเหรอไงประสาทป่ะคนเขาด่าเสือกยิ้มปล่อยกูได้ยัง ไม่งั้นกูบีบไข่มึงแตกแน่"ไอนี่มันมือไวจริงๆเลยมือมันมาจับที่ลูกชายผมซะแล้ว "ชักให้กูดิ" "ชักเหรอ นี่แน่ะ" "โอ้ยย!ไอเหี้ยฝุ่น"ผมนอนบิดตัวไปมามองไอตัวดีกระโดดหยองแหยงบนเตียงด้วยท่าทางลั้ลล้ามากเหมือนเมื่อคืนมันไม่ได้ร้องไห้มาอย่างหนักเห็นแล้วก็เบาใจ กูละไม่ชอบเวลามึงร้องไห้เลยจริงๆไอฝุ่น --------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ ขออภัยหากมีคำผิด
ติดตามจ้า ไม่เอามาม่านะพลีสสส :hao5:
:mew3: :mew1:
รอติดตามด้วยคนจ้า :katai3:
แล้วสองคนนี้มีอะไรกันได้ไงเนี่ย ไม่ได้รัก---ก็แค่เซ็กส์ งั้นเหรอ เฮ้อ + เป็ดจ้า
มันเจ็บเพราะแอบรัก บวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ค่ะ :katai4: ปล. ฝากคนเขียนลงวันที่อัพด้วยนะคะ
ใต้ฝุ่น หันมามองคนข้างๆบ้างนะ :hao5:
อ่า..... จะสงสารใครดีน้า ไม่มั่นใจ.... ใต้ฝุ่นรักไมโลจริงๆหรือแค่ลองใจ.... ฟราน โน..โน...ดราม่า จริงหรา...
SexFriendหรอเนี่ยถ้าเป็นงี้ฟรานน่าสงสารมั่กๆอ่ะ
ฝุ่นเอ้ยย หันมองฟรานเถ้อออ
แค่บทแรกนะเนี่ยรอตอนต่อไปนะ
เรื่องนี้จะจบมั้ยอ่ะคะ เห็นเรื่องเก่า ๆ ยังค้างอยู่ห้องนิยายที่ไม่มาต่อให้จบอยู่เลย เราอยากอ่านนะเรื่องนี้ท่าทางสนุก
อุ้ย อะไรอะ มีคลำไข่กันด้วย
ถ้าฝุ่นคิดว่าตัวเองเป็นเมียฟราน แล้วจะไปรักคนอื่นทำไม หรือคิดว่าเป็นแค่ sex friend ธรรมดา
เสียบตอนไหน เสียบได้อย่างไร? แล้ว...แล้ว....ฝุ่นคลุ้ง(แอบตั้งเอง)รู้สึกอะไรบ้างไหม? :ruready
ไปได้เสียเป็นผัวเมียกันตอนไหนน้อ :haun4: แต่สถานะคนแอบรักมันช่างเจ็บจริงๆเลย :mew6:
เนื้อเรื่องแนวชอบเลย แบบนี้ แอบรักเพือนเนี่ย แต่ขอตินิดนึงนะคะ คำว่า ไอ เนี่ย ถ้าแก้ ให้ถูก ไอ้ จะดีมากเลยค่ะ
มาติดตามด้วยคนครับผม เนื้อเรื่องน่าสนุก ^^
ต่อๆๆๆๆๆๆ ^^
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป ฮือออออ
:serius2: สายตายาวนะฝุ่น
เอาหล่ะซิ o13
บทที่2 กลิ่นไรว่ะ...กลิ่นเหม็นไหม้ๆ ผมปรือตาขึ้นผมยังอยู่ในห้องเหมือนเดิมไม่ได้ถูกหิ้วไปไหนแต่อย่างใดแต่กำลังเกิดอะไรแปลกประหลาดกับห้องผมนั้นคือ ควันสีดำที่พวยพุ่งอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง "แค่ก..แค่ก"สิ่งที่ผมเห็นนี่ตะลึงมากกว่าไอควันบ้านี่ก็คือคนที่ทำให้มันเกิดต่างหาก กระป๋องขนมปี๊บที่ห้องไม่มีแน่นอนวางอยู่กลางระเบียงไอคนก่อเรื่องเอาม้านั่งซักผ้ามานั่งโยนอะไรบางอย่างลงไปในถัง "เฮ้ย!ไอฝุ่นทำเหี้ยไรเนี่ย"ผมวิ่งเข้าห้องน้ำเทน้ำใส่ถังแล้วราดมันเพื่อดับไฟในกระป๋อง "มึงนั้นแหละทำเหี้ยไรดูดิพังหมดเลย"ปากคว่ำ ตาเหลือกตลอดผมชะโงกหน้าไปดูในถังมีรูปพี่ไมโลที่ยังไหม้ไม่หมดนอนตายอยู่ในกระป๋อง "แล้วมึงกำลังทำอะไรละ"ผมยืนมองมันอยู่นานก็ไม่ยอมทำความสะอาดซะทีสุดท้ายผมนี้ละเป็นคนทำความสะอาดส่วนไอคนก่อเรื่องนะเหรอนั่งเหม่ออยู่ข้างในแล้ว "กูว่า...กูจะตัดใจแล้วว่ะ"ผมหันไปมองไต้ฝุ่นมันนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนโซฟาที่แม่งมาก่อไฟห้องผมก็เพราะอย่างนี้นะเหรอจะตัดใจจากคนๆนึงมันต้องทำลายความทรงจำที่เคยมีเขาอยู่เหรองั้นถ้าผมจะตัดใจผมจะต้องทำยังไงละ "อ้ะเอาไปของมึงอ่ะ"ผมยื่นรูปพี่ไมโลไปข้างหน้า ไต้ฝุ่นมองหน้าผมกับรูปสลับกันแล้วผมก็ทำไม่ได้ต้องเบือนหน้าหนีหยดน้ำใสๆที่กลิ้งตกมาที่ข้างแก้มมัน "ถ้ามึงรักเขาจริงตอนมึงจะเลิกรักมึงจะไปทำลายเขาทำไมว่ะ มึงอยากให้คนที่มึงรักเสียใจเหรอไง"มันไม่ยอมเอารูปไปซะทีผมเลยยัดใส่มือมันซะเลย "กูลงไปหากินจะเอาไรก็โทรลงไปแล้วกัน"ผมคว้ากระเป๋าตังกับโทรศัพท์แล้วก็รีบออกจากห้องมาเลย แม่งกูมันก็แค่คนปากดีเก่งแต่ปากแค่นั้นละโว้ย! ผมไม่ได้ลงมาหาอะไรกินหรอกครับเวลานี้แค่น้ำเปล่ายังกินไม่ลงเลยเพราะความรีบร้อนกุญแจรถผมก็ไม่ได้หยิบลงมาเลยต้องเดินไปเดินมาอยู่ในซอยพอเมื่อยก็ไปนั่งแช่อยู่ที่ป้ายรถเมล์มองคนขึ้นลงรถจนคนที่ขายของแถวนั้นคงคิดว่าผมบ้า ผมลงมาจากห้องตั้งแต่เที่ยงตอนนี้ก็จะห้าโมงเย็นแล้วครับแต่ไต้ฝุ่นก็ยังไม่โทรมาหาผม โทรศัพท์ผมยังนิ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้วกูมานั่งทำบ้าอะไรตั้งสี่ห้าชั่วโมงว่ะเนี่ย! Rrrr -ไต้ฝุ่น- คนที่ทำให้ผมต้องระเห็จจากห้องตัวเองมานั่งจับเจ๋าอยู่ที่ป้ายรถเมล์ คนที่ผมไม่เคยสักครั้งที่จะโกรธมันลง คนที่ผมไม่อยากได้มันเป็นเพื่อน "..." ผมกดรับไม่รู้จะพูดอะไรดี ไม่รู้ต้องปลอบใจมันหรือว่าควรถามอะไรมันออกไปดี ผมเงียบ...มันก็เงียบ - กูอยากกินบะหมี่หมูแดง ซื้อมาให้หน่อย - ผมแทบจะหลุดขำออกมากูถามตั้งแต่เที่ยงเพิ่งจะบอกกูตอนห้าโมงเนี่ยนะไส้มึงไม่ขาดแล้วเหรอไง "อืม แค่นี้นะ" - เดี๋ยว! - "มีอะไรอีก" - ... - "เงียบอีกกูวางละนะ" - รีบๆขึ้นมานะ ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด... - เป็นอีกครั้งแหละครับที่ผมต้องยิ้มให้กับคนที่ชื่อไต้ฝุ่นไม่ว่ามันจะทำอะไรใจร้ายกับผมขนาดไหนแต่ผมก็ไม่เคยสักครั้งที่จะไม่รักมัน "ชักช้าจริงๆเลยมึงอ่ะหายไปไหนมาตั้งนาน"ทันทีที่ก้าวขาเข้าห้องเสียงมันก็แว้ดขึ้นมาทันที ไอตัวดีนอนกระดิกขาดูทีวีสบายใจเฉิบแต่อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะตาแม่งบวมอีกแล้วร้องไห้อีกแล้วแน่ๆผมเดินเข้าไปใกล้มันมากขึ้น "อะไร ไหนบะหมี่กูอ่ะ อือ.."ผมกดจูบเบาๆที่ริมฝีปากมันโดยไม่มีการรุกล้ำใดๆผมค่อยๆกดตัวมันนอนลงกับโซฟา ไต้ฝุ่นยกมือขึ้นโอบต้นคอผมและเปลี่ยนมาขยุ้มผมตอนที่ผมสร้างความเสียวกระสันให้กับมัน ริมฝีปากผมและทุกปลายนิ้วที่สัมผัสกับร่างเปลือยเปล่าของมันให้ของรู้สึกอยากจะครอบครอง อยากจะได้มากกว่านี้อีก ผมเกือบจะถอดเสื้อมันออกซะแล้วถ้ามันไม่จับมือผมเอาไว้ "กูหิว.."ผมหลุดหัวเราะเบาๆพอเห็นแก้มมันแดงเรื่อขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มมันแรงๆอีกครั้งจนมันร้องโวยวายนั่นแหละถึงได้ปล่อยมันออกจากอ้อมกอด มันรีบวิ่งไปเทบะหมี่ใส่จานแก้มมันยังแดงอยู่เลยแม่งเขินบ้าอะไรก็ไม่รู้มากกว่านี่ก็ทำมาแล้ว ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะตรงข้ามมันไต้ฝุ่นแทบจะเอาหน้าจมไปกับชามมันไม่รู้เขินบ้าอะไรนักหนา "วันหลัง..อย่าหายไปแบบนี้นะ"ผมเงยหน้าจากการกินแล้วมองตามันถึงได้รู้ว่ามันมองผมมาตลอดมันหลบตาผมทำท่าจะลุกขึ้นแต่ผมก็จับมือมันไว้ "จะเก็บจานปล่อย" "บอกให้คนอื่นปล่อยเสียงหวานแบบนี้คิดว่าจะได้ไปเหรอไง"พูดจบผมก็ดึงมันมาจูบทันที มือผมก็ฉุดดึงมันให้ปีนข้ามโต๊ะมา มือผมล้วงเข้าไปในเสื้อยืดมันพร้อมกับกระชากเสื้อมันออก ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ส่วนไต้ฝุ่นนั่งคร่อมตักผมอยู่มือผมกำลังสาละวนกับการปลดกางเกงมันออกพอๆกับมันที่กำลังพยามถอดเสื้อผมออกแต่เพราะผมตัวใหญ่กว่ามันทำให้มันถอดได้ลำบากมันถึงได้ทำหน้ายู่ไม่ยอมให้ผมจูบ "เดี๋ยว..มึงถอดเสื้อเดี๋ยวกูถอดกางเกงเอง"ความอดทนมันคงสิ้นสุดหน้าบึ้งตาเหลือกปากคว่ำเชียว แม้แต่ตอนจะเข้าได้เข้าเข็มมันยังทำหน้าแบบนี้อีก ผมถอดเสื้อออกพร้อมกับที่ไต้ฝุ่นลุกขึ้นถอดกางเกงไม่ถึงหนึ่งนาทีเราสองคนก็โผเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอีก "อือ..อย่าตรงนั้น"ให้เดาเสียงตอนนี้ไต้ฝุ่นเซ็กซี่ขนาดไหน ผมซุกหน้าวนเวียนกับหน้าอกมัน ทุกตารางนิ้วของผิวเนื้อมันไม่มีตรงไหนที่ผมไม่เคยสัมผัสแม้จะเป็นตารางนิ้วภายในของมันผมก็สัมผัสมาแล้ว ผมขยับตัวสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปที่เนื้อนุ่มที่ตอดตุบอยู่ผมกระชับเอวของคนข้างบนจับมันให้ควบไปตามจังหวะที่ผมต้องการจนในที่สุดเราก็ถึงฝั่งแห่งความปราถนา "วันนี้มึงแปลกๆนะ/วันนี้มึงแปลกๆนะ"เราสองคนพูดขึ้นพร้อมกับหลังจากเสร็จกิจและผมก็พามันมานอนในห้องผมเชยคางมันขึ้นจูบเบาๆที่หน้าผากเนียน "กูมีเรื่องจะบอก" "นั่นไงกูว่าแล้วไอฟรานมึงต้องมีอะไรแน่ ว่าไงมึงแอบไปรักสาวที่ไหน"ไต้ฝุ่นห่อตัวเองด้วยผ้าห่มลุกขึ้นมาชี้หน้าผมพร้อมกับอมยิ้มหวานจ๋อย "เป็นแฟนกันนะ" "มึงกำลังล้อกูเล่นใช่มั้ย?"สายตาที่ไต้ฝุ่นมองมาที่ผมนั้นผมไม่รู้จะอธิบายมันยังไง แต่มันสามารถดูดพลังงานไปจากผมได้อย่างมากเลยทีเดียว ผมตลบผ้าห่มออกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาปิดกันอุบาทถ์แล้วโยนให้มันอีกหนึ่งผืน "ดึกแล้วมึงน่าจะกลับบ้านนะ" "จริงด้วย กูลืมไปว่านัดเล่นเกมส์กับพ่อ...ไปนะ"มันเดินตามเก็บเสื้อผ้าแล้วออกไปแต่งตัวข้างนอก ทิ้งให้ผมนั่งอยู่บนเตียงคนเดียวผมไม่ได้โกรธมันแค่กลัวว่าเราจะไม่เหมือนเดิม ความสัมพันธ์เราคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ------------------------------------------------------------------------------ to be continue
แล้วไงต่ออ้ะ ลุ้นๆๆๆ มาต่อเร็วๆนะ ขอให้ฝุ่นคบกะฟรานทีเหอะ :z1:
โอ้วววววว :hao4:
กีสสสสส อารายกันเนี่ย :katai5:
โอ๊ววว....เจ็บแทน
อ่ะ!!!! เค้าค้างงงอ่าค้าบบบบ ยางไงเนี่ยยย ห่วงจังง
ค้างๆอย่างแรงส์
ค่อยๆ...ปรับเข้าหากัน ดีครับของแบบนี้มันต้องหน่วงๆ
โถ่ลูกเอ้ย มาถึงขั้นนี้มาจงมีจูบกอดรักฟัดเหวี่ยงกันขนาดนี้แล้วไม่ดูแลกันแบบนี้จะเป็นเซ็กส์เฟรนหรอลูก แม่ไม่ยอมนะ
:hao5: :hao5:
:monkeysad: :m15: :sad11:
:katai4: ขออีกตอนได้มั้ย มันลุ้นอะ อยากให้เป็นแฟนกันสักที สงสารฟราน :hao5:
คบกันไปเหอะสงสารฟรานอ่ะค้างงงงงง
มันสั้นและมันก็ค้าง นางรู้บ้างม้ายยยยย หน่วงดี ชอบๆ 5555
จะเป็นไงต่อไปเนี่ย
สนุกดีจ้า รีบมาต่่อนะ จะรอจ้า :hao3:
บทที่ 3 "เฮ้ยไปกินข้าวกัน"วดี เพื่อนผู้หญิงที่พวกผมค่อนข้างสนิทชวนไปกินข้าว ผมเหลือบตามองคนที่นั่งข้างๆที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจดเล็คเชอร์ซะเหลือเกินทั้งๆที่ปกติเอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ "พวกมึงไปเหอะกูยังจดเล็คเชอร์ไม่เสร็จเลย"คนข้างผมพูดขึ้น "ของวดีเสร็จแล้วฝุ่นเอาไปลอกสิ"วดีเป็นคนเดียวที่ชอบเรียกแทนชื่อคนอื่นแทนที่จะเรียกเป็นสรรพนามปกติ แต่พวกผมก็ไม่ได้อึดอัดอะไรนะครับ ไต้ฝุ่นเหลือบตาขึ้นมองหน้าผมแล้วทำท่ากระอักกระอ่วน "วดีไปกินข้าวเถอะ ฟรานปวดหัวอ่ะว่าจะกลับไปนอน" "อ้าวเป็นงั้นไป"ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้วดีแล้วรีบเดินออกมาจากห้องไม่ได้หันไปดูว่าไต้ฝุ่นจะทำหน้ายังไง ค'มีแค่ผมคนเดียวที่บ้าพอจะมานั่งดื่มตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืดและท้องยังว่าง มีเพียงแต่แอลกอฮอร์แสนแพงลงไปหล่อเลี้ยง ผมแอบมองไปรอบบาร์ที่คนบางตาทุกคนล้วนแต่มาคนเดียวบาร์นี้มันสำหรับคนอกหักหรือเปล่านะ ผมเปิดโทรศัพท์ดูมาหลายรอบหวังสักนิดว่าจะมีเบอร์ของคนที่รอโทรเข้ามา..แต่ก็ไม่ "เช็คบิล"ผมเรียกเก็บเงินเมื่อคิดได้ว่าอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เหล้าที่กินเข้าไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น "อือ..พี่ไมโลพอก่อนอ้ะ!"ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากร้าน เสียงนี้ก็เข้ามากระแทกประสาทการได้ยินผมหันขวับไปที่ทางเข้าคนที่ผมรอกำลังยืนกอดรัดกับผู้ชายที่เขามีเจ้าของ ดูก็รู้ว่าพี่ไมโลกำลังเมาขนาดไหนมันก็ผิดที่คนของเราที่ยอมปล่อยให้เขากอดทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว "ทำอะไรกัน!"ผมกระชากพี่ไมโลออกจนเขาเซล้มไปแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ผมกระชากมือไต้ฝุ่นออกมาที่ลานจอดรถ "ปล่อยกู!"ไต้ฝุ่นสะบัดมือผมออก "ถ้าจะลากกูมาแล้วไม่พูดอะไรกูกลับนะ!"แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่ามันโมโหแค่ไหนที่ผมเข้าไปขัดจังหวะ "มึงกำลังทำอะไรรู้ตัวหรือเปล่าพี่ไมโลเขามีคู่หมั้นแล้วเขามีคนที่เขารักแล้ว!" "แล้วยังไงเขามีคนรักแล้วกูไม่มีสิทธิ์รักเขาเหรอไง มึงเองนะที่บอกว่าไม่ต้องลืมเขา!"ผมมองหน้ามันชัดๆสายตาที่มองกลับมาผมไม่รู้ว่ามันต้องการสื่ออะไรเพราะผมเห็นเพียงแต่น้ำใสๆที่คลอเต็มเบ้า "แต่เขากำลังจะหมั้นมึงจะไปทำลายความรักของพวกเขาเหรอไง" "มึงไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า กูสืบมาหมดแล้วผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักพี่ไมโลสักนิดมีแต่พี่ไมโลที่คอยตามเขาแล้วกูเชื่อว่าถ้าพี่ไมโลอยู่กับกูเขาก็ต้องรักกูเหมือนที่มึงรักกู!" "แค่กูรักมึงมันไม่พอเหรอไง?"ผมเริ่มไม่ใช่อารมณ์ เสียงผมเบาลงทันทีที่มันพูดประโยคนั้น ตอนนี้ผมเห็นชัดแล้วละว่าคนข้างหน้าผมก็คือคนๆหนึ่งที่ผมอาจจะไม่รู้จักมันเลยก็ได้ " ... " ผมถอนหายใจไม่มีใครพูดอะไรจากนั้นระยะทางของผมกันมันห่างกันแค่ก้าวเดียวจริงๆและใครจะรู้ว่าฉากที่กั้นระหว่างระยะทางก้าวเดียวมันคือความรู้สึกทั้งหมดของผม ผมกำลังจะก้าวเข้าไปกระชากตัวมันแล้วต่อยแรงๆสักทีสองทีที่มันกล้ามาหักอกผม หรือ ฉุดตัวมันเอาไว้เป็นของตัวเอง ไต้ฝุ่นยืนอยู่ข้างหน้าผมกอดอกร้องไห้เงียบๆดีแค่ไหนแล้วที่มันไม่วิ่งหนีไปเหมือนครั้งที่แล้ว ผมถอนหายใจหนักๆ...ก้าวขาผ่านฉากกั้นบางๆของความรู้สึกแขนทั้งสองของผมยื่นออกไป...สวมกอดมันเบาๆแต่หนักแน่น ผมกอดมันนานกว่าทุกครั้งและไต้ฝุ่นเองก็เงียบมาตลอดตั้งแต่เมื่อกี้ "ดูแลตัวเองด้วยนะ"พูดจบผมก็จูบเบาๆที่มุมปากของไต้ฝุ่น วันนี้เป็นอีกวันที่ผมไม่อยากมาเรียนเพราะผมไม่อยากมาเจอหน้าไต้ฝุ่นหลังจากที่ผ่านเรื่องวันนั้นมาสามสี่วันผมก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากไต้ฝุ่นเลยเหมือนมันจะหายไปจากผมได้ช่วงเวลาหนึ่ง "นี่ฟรานกับฝุ่นทะเลาะกันหรือเปล่า"วดีถามขึ้นตอนที่ผมมานั่งที่โต๊ะประจำของเราถึงแม้จะไม่อยากนั่งอยู่ก็ตาม "เปล่านิทำไมเหรอ" "เปล่าหรอกแค่เห็นช่วงนี้ไม่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆเหมือนจะเลี่ยงๆกันนะ"ผมแค่ยิ้มเจื่อนๆไม่ได้ตอบอะไรไป ผ่านไปสักพักไต้ฝุ่นก็มาถึงมันเห็นผมเหมือนกับที่ผมเห็นมันเหมือนมันจะลังเลที่จะมานั่งที่โต๊ะ "วดีเดี๋ยวฟรานไปก่อนนะว่าจะไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วเจอกันข้างบน"ผมหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเดินออกมา "อ้าวฝุ่นมาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้มาสายจัง"ผมแอบเห็นว่ามันทำหน้าโล่งใจขนาดไหนตอนผมเดินออกมา "วดีลืมไปว่าจะไปเอาหนังสือที่ห้องสมุดฟรานกับฝุ่นอยู่กันสองคนได้ใช่มั้ย"วดีกับฝุ่นยังไม่ทันได้นั่งเต็มก้นวดีก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองลืมหนังสือไว้ที่ห้องสมุด ผมกับฝุ่นเลยต้องอยู่ด้วยกันด้วยความจำเป็น "ไง"น่าแปลกที่ไต้ฝุ่นเลือกที่จะทักผมก่อน "ไง"ผมทักกลับไม่อยากมองหน้ามันให้ตัวเองอดใจไม่ไหวดึงมันมากอดเลยทำได้แต่หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง "คือ...กูมาคิดๆดูเรื่องวันนั้น.." "ไมเป็นไรกูเข้าใจ อาจาร์ยจะเข้าแล้วทำไมวดียังไม่มาอีกเดี๋ยวกูไปตามวดีก่อนนะ"ผมรีบลุกแล้วเดินออกมาจากห้องให้เร็วที่สุดผมรู้ว่ามันจะพูดอะไรผมเบื่อที่จะต้องฟังคำขอโทษผมอยากได้ยินคำอื่นแม้จะรู้ไม่มีวันนั้นเลยก็ตาม "อ้าววดีไม่ได้ไปห้องสมุดเหรอ"ผมเห็นวดีนั่งอยู่ที่บันไดมานั่งอะไรตรงนี้นะ "เอ่อคือ..วดีมาคุยโทรศัพท์นะสายเข้าพอดี"ผมหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด "คงไม่ใช่เปิดโอกาสให้ฟรานกับฝุ่นปรับความเข้าใจกันหรอกนะ"วดีตาเหลือก ดูร้อนรนเหมือนคนที่พยายามหาขอแก้ตัว "แล้วเป็นไง" "ก็ไม่เป็นไงปกติดีทุกอย่าง" "ฟรานวดีไม่รู้นะว่าฟรานทะเลาะอะไรกับฝุ่นแต่เมื่อสามวันก่อนฝุ่นมาหาวดีที่บ้านแล้วก็ร้องไห้ถามอะไรก็ไม่ตอบ พอวดีมาคิดๆดูบางทีต้นเหตุอาจจะเป็นฟราน...ฝุ่นอ่อนแอกว่าที่ฟรานคิดไว้เยอะแล้ววดีเองก็ไม่สามารถจับมือฝุ่นผ่านปัญหาไปได้เหมือนที่ฟรานทำ ฝุ่นต้องการฟรานนะ"วดีเดินมาจับมือผม ผมยิ้มให้วดีเจื่อนๆไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้ "ไปเถอะอาจารย์เข้าแล้วนะ"วดีพยักหน้าแล้วเดินตามผมมา แอบได้ยินเธอถอนหายใจเบาๆ พวกผมเข้าก่อนหน้าอาจารย์แค่ไม่กี่นาทีถึงแม้เนื้อหาของวันนี้มันไม่ได้ยากเลยแม้แต่น้อยแต่ผมก็ยังตั้งใจฟังเหตุผลนะเหรอ เมื่อไหร่ที่สมาธิผมหลุดจากการเรียนนั้นหมายถึงความคิดของผมมักจะวนเวียนอยู่กับไต้ฝุ่น.. "นี่มันเที่ยงแล้วเราควรจะไปกินข้าวด้วยกัน..สามคนใช่มั้ย?" "เอ่อ..โทษทีวดี.." "มุขปวดหัวจะใช้บ่อยเกินไปหรือเปล่า?"ผมหันไปมองคนพูดที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บของลงกระเป๋า ไต้ฝุ่นมองมาที่ผมด้วยสายตารู้ทัน ผมยักไหล่เบ้ปากทำเหมือนไม่สนใจ "ตามกูมาเราต้องคุยกัน"ไม่ได้พูดเปล่าเขายังดึงมือผมให้เดินตามมาด้วย ไต้ฝุ่นหยุดลงที่ห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดที่นานๆทีจะมีคนมาเปิด "มีอะไรรีบๆพูดมา"ผมไม่ได้จะเย็นชาหรือแกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาให้เขาเจ็บเล่นหรอกนะแต่การที่อยู่ในที่ลับตาคนสองต่อสองมันทำให้ผมไม่ไว้ใจตัวเองถึงแม้เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นอยู่หลายครั้งแต่ครั้งก่อนก็คนละสถานะกับตอนนี้ "มึงหมายความว่าไง?" "ก็หมายความว่าให้รีบพูดกูไม่ได้มีเวลาทั้งวัน.." "ไม่ใช่!กูหมายถึงเรื่องคืนนั้น"ผมยังพูดไม่ทันจบไต้ฝุ่นก็ตะโกนสวนกลับมา ผมเงียบละตั้งท่าจะเดินออกจากห้องนั้นแต่.. "อย่าไปนะ..ถ้าไปนั้นหมายความว่าเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก.."นานแล้วนะที่ผมไม่ได้ยินเสียงที่สั่นเครือและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าของฝุ่น และทันทีที่ผมกำลังจะหันไปพูดอะไรต่อฝุ่นก็โผตัวเข้ามากอดผมแน่น..แน่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา "ขอร้องฟราน...กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึงอย่าไปนะ"ฝุ่นกอดผมแน่นขึ้นและเริ่มที่จะตัวสั่น "จะให้กูอยู่กับมึงในฐานะอะไรในเมื่อมึงก็มีพี่ไมโลอยู่แล้ว" " ... "ฝุ่นเงียบ ผมดันตัวเองออกจากอ้อมกอดนั้นและในเวลาที่ผมกำลังจะเปิดประตูเขาก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจอีกครั้ง "ถ้ามึงรักกูจริงมึงจะไม่ถามกูสักคำว่ามึงอยู่ในฐานะอะไร" --------------------------------------------------------------------------------- to be continue ขอบคุณทุกกำลังใจและคำติชมค่ะ
:serius2: พูดออกมาก็ได้นะฝุ่น อย่าให้ตีความจากคำพูดใดๆทั้งๆที่ฝุ่นเองก็ไม่ชัดเจนซักอย่าง ว๊อยยฟรานมาหาป้ามาลูก55+
ฟรานอย่าไปยอม สู้สู้
แล้วฝุ่นอะ ไม่รักฟรานบ้างเหรอ T_T
ถ้าฝุ่นไม่รักฟราน แล้วฝุ่นจะเก็บฟรานไว้ทำไม :o12: :o12:
รักแต่ก็ต้องไม่เห็นแก่ตัวด้วยนะไต้ฝุ่น ฟรานก็มีหัวใจนะเออ จะบอกให้ดูการกระทำแทนคำพูดก็ยังไงๆอยู่นะ :z3:
เฮ้อ!! เศร้าแทนฟราน รักเพื่อนสนิทก็เป็นแบบนี้แหละ อ่านแล้วคิดถึงตัวเองเลย ทุกวันนีิ้ก็ยังคลุมเครืออยู่ ผม เพื่อน แฟนเพื่อน
มันดูเห็นแก่ตัวไปนะ เอาคำว่ารักมาเหนี่ยวรั้งเขาไว้ ทั้งๆที่ฝุ่นเองก็ไม่ได้รักฟราน ไม่อยากเสียที่พึ่งพิงสุดท้ายไปรึไง :beat:
รอลุันคำตอบของฝุ่น :hao3:
ฝุ่นใจร้ายนะ ทั้งที่ความจริงก็น่าจะคิดอะไรบ้างแหละ แต่แค่อาจจยังตัดพี่ไมโลไม่ขาด
ตามชื่อเรื่องเป๊ะ ผัวเก็บ .....แต่ยัง...ยังไม่ได้ขึ้นชื่อว่าผัวแค่เสียตัวกันนิดๆ :katai1: ความรักมันทำให้คนตาบอดครับคนเราก็จะมีช่วงเวลาที่ทำให้คนรักเราเจ็บเพราะมัวแต่รักคนอื่นอยู่^^" รออ่านครับ
พอเข้าใจฝุ่นนะ แต่ก็ยังมองว่ามันเห็นแก่ตัวอยู่ดีอ่ะ ฮะฮ่า! :katai5:
โหยยย ทำไมทำกับฟรานแบบนี้ ใจร้ายที่สุด ฟรานอย่ายอมๆๆๆๆ
สงสารฟรานอะ ฝุ่นก็เลิกรักพี่ไมโลได้แล้ว หันมามองฟรานดีกว่า
:เฮ้อ: เพราะฝุ่นยอมเป็นอะไรก็ได้สำหรับไมโล เลยคิดว่าถ้าฟรานรักตัวเองได้ก็ต้องยอมรับตำแหน่งอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แฟนเหมือนตัวเอง ฟรานอย่ายอม :fire:
:sad4: ทำไมฝุ่นใจร้ายจัง ถ้าขอเวลาให้ได้รักฟรานยังจะดีว่า คำที่พูดออกไปนะ ถ้าคนฟังเค้าเดินจากไปคือ ไม่รักใช่มั้ย นี่มันมัดมือชก ไม่รักอย่ากั๊กไว้ คนที่เค้ารักเรามันจะเจ็บปวดใจ :ling1:
ฝุ่นเห็นแก่ตัวอ่ะ
ฟรานนนน :กอด1: ฝุ่น นายเห็นแก่ตัวไปป่าวววว :ruready รอนะฮะ :')
ฝุ่นใจร้าย สงสารฟราน :hao5: น้องฝุ่นไม่อยากได้แฟน แต่อยากได้ผัวเก็บ =[]=' 5555 เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
บางอย่างผัวเก็บอาจจะทำได้ดีกว่าแฟน คริคริ
ฟรานไม่ต้องคิดมากนะ มามะ กอดกันๆๆ :hao5:
เรามองว่าฝุ่นแม่งโคตรเห็นแก่ตัว เลือกไม่ได้ก็อยู่คนเดียวเถอะแบบนี้
ฟรานน่าสงสารอ่ะเลิกรักไต้ฝุ่นเหอะคนโลเลอย่างนี้อ่ะคนดีๆมีอีกเยอะฟรานมาซบตรงอกพี่ก่อนไหมน้อง
แอบอ่านด้วยคน ฝากคำว่า วะ ว่ะ คะ ค่ะ อะไรพวกนี้นิดนะครับ เนื้อเรื่องดีแล้ว ติดเรื่องคำนิดหน่อยแค่นั้นเอง เป็นกำลังใจให้ครับ
ไต้ฝุ่นคะ :z6:
:เฮ้อ: ไต้ฝุ่นเห็นแก่ตัวไปนะ สงสารฟรานจัง :mew2:
ก็แล้วมันฐานะอะไรกันแน่ล่ะ ทำไมไม่พูดออกไปตรงๆๆๆๆๆ :hao5: :hao5:
ทำไมเห็นแก่ตัวขนาดนี้ ทั้งที่มีคนอื่นอยู่แล้ว แล้วมาทำยังงี้กับฟรานได้ไง เหอะๆ ชื่อเรื่องถึงได้ชื่อว่าผัวเก็บซินะ. เห็นแก่ตัว!!!!!
สนุกคะ ฝุ่นยังคงสับสนกับความรู้สึกตัวเอง ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ใจตัวเอง แต่ถ้านานไปคนที่รอิาจรอไม่ไหว สงสารฟราน
แรงอ่ะ เห็นแก่ตัวสุดๆ ฟรานก็เจ็บแย่ดิงี้ ฝุ่นทำไมมีแค่ฟรานไม่พอหรอ ก็ในเมื่อขาดไม่ได้อ่ะ หรือขาดไม่ได้มันจะแปลว่าไม่ได้รักแต่ขาดไม่ได้เฉยๆ :hao5:
:mew5: :mew5: เห็นแก่ตัวหว่ะ
โลภแฮะ :sad4:
กว่าจะรู้ใจตัว ระวังช้ำใจหนักกว่าเดิมนะฝุ่น
บทที่ 4 TYPHOON ถ้าคุณคิดว่ากำลังหมดแรงหรือท้อถอยอย่าคิดว่าจะไม่มีเพื่อน...เพราะผมคนนึงละที่กำลังจะหมดแรง Rrrr - พี่รอนานแล้วไม่เห็นมาเลยโทรมาตามนะ - "เอ่อ..ขอโทษครับคือมันเกิดเรื่องนิดหน่อยแล้วเอ่อ..."ผมมองโน๊ตบุ๊คที่เปิดหน้าเฟสบุ๊คทิ้งไว้ มีคนทักแชทมาและนั่นคือวดีผมกดเปิดดู = วันนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอฝุ่น ? = เกิดอะไรขึ้นวันนี้นะเหรอ ? หลังจากที่ผมตะโกนบอกประโยคที่โคตรเห็นแก่ตัวแล้วไม่น่าอภัยไป ฟรานได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพักเขาทำท่าจะหันกลับมาในขณะที่หัวใจผมกำลังพองโตมันก็ถูกเจาะลมออกฟรานกระชากประตูออก หลังจากนั้นห้องนั้นก็มีผมเพียงคนเดียว - แล้วไงต่อครับฝุ่น พี่รอฟังอยู่นะ - ผมเกือบลืมไปว่ากำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ "ผมกำลังไป"ผมพิมพ์ตอบข้อความของวดีและรีบออกจากห้องทันที = มันจบแล้ว = วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายจริงๆเพราะจู่ๆพี่ไมโลก็ขอนัดผมกินข้าวแต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้นัดผมที่ร้านอาหารแต่กลับนัดผมที่สวนสาธารณะที่นึง "ว่าไงครับ"ผมนั่งลงข้างเขาที่ม้านั่ง เพิ่งจะสังเกตว่าข้างตัวเขามีกาแฟวางอยู่กินกาแฟตอนสองทุ่มเนี่ยนะ..เดี๋ยวก็นอนไม่หลับหรอก "ฝุ่นคิดยังไงเรื่องพี่กับอเลน"เรียกมาถามเรื่องนี้เนี่ยนะผมถอนหายใจ "แล้วพี่คิดว่าไงละครับ" "คือพี่อยากได้ความเห็นของคนอื่นนะคือบางทีพี่ก็รู้สึกเหมือนเราห่างกันเกินไป"พี่คิดถูกแล้ว เพราะฉะนั้นเลิกกับเขาแล้วมาคบคนใกล้ตัวอย่างผมดีกว่า..อยากจะตะโกนบอกใจจะขาดถ้าทำได้นะ "ก็ถ้าพี่คิดว่าไม่ใช่แล้วพี่จะยื้อต่อไปทำไมละครับปล่อยให้ทั้งตัวพี่และตัวเขา..ไปเจอคนอื่นที่ดีกว่า ที่ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว.."อยู่ๆผมก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน "เดี๋ยวนะนี่พี่แย่ขนาดนี้เลยเหรอ"หน้าพี่ไมโลตอนนี้โคตรตลกเลยครับ ถึงเขาจะยิ้มอยู่แต่ดูก็รู้ว่าเขาอึ้งแค่ไหนนี่ผมพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย "เปล่าๆครับคือ..ผมหมายถึงคนรู้จักไม่ช่พี่นะคือพี่ไมโลดีแล้วครับเป็นผู้ชายที่ทุกคนอยากอยู่ด้วยและผมก็เชื่อว่าอเลนก็ต้องคิดแบบเดียวกับที่ผมคิด" ใช่..คิดแบบเดียวกันเพราะผมก็รักพี่เหมือนที่อเลนรักพี่เหมือนกัน แล้วผมเป็นบ้าอะไรเนี่ยผมควรจะเชียร์ให้เขาเลิกกันผมจะได้มีโอกาส สงสัยผมจะคิดมากเรื่องฟรานไปหน่อย "เอิ่มม..นั้นเป็นคำตอบที่ดีมากเลยนะมันให้กำลังใจดีมาก" "อ่าครับดีใจที่พี่ชอบคำตอบผม" คงเป็นผมเองที่ต้องยิ้มเจื่อนๆให้พี่เขาเพราะดันไปให้ความเห็นออกตัวช่วยเขาซะขนาดนั้น "เอาเป็นว่าเราไปให้อะไรกินกันเถอะ เดินไปกินไปชิวๆแบบพี่น้องเป็นไง?" เขาหันมามองผมด้วยความหวังว่าผมจะตอบตกลง ผมลืมบอกไปพี่ไมโลนี่ชอบอะไรชิวๆซึ่งบางทีมันก็ต่างไปจากผม ผมชอบที่จะนั่งอยู่บนโต๊ะที่ปูเรียบในโรงแรมหรือภัตตาคารดังๆมากกว่าที่จะนั่งกินอะไรข้างถนน แต่ในเมื่อเรารักคนที่เขาเป็นแบบนั้นความรักก็จะทำให้คุณเปลี่ยนไป "ว่าไงคร้าบบบคุณหนูไต้ฝุ่น"รอยยิ้มล้อเลียนกับการกระทำน่ารักๆของพี่เขานี่ละที่ทำให้ผมรักเขา "อดใจรอแทบไม่ไหว" นั่นละถึงผมจะไม่อยากไปกินอาหารง่ายๆแบบที่พี่เขาชอบแต่ผมก็ปฎิเสธไม่ลงอยู่ดี ผมกับพี่ไมโลฝ่าการจลาจรมาถึงเยาวราช แหล่งของกินสุดชิวและอากาศก็ร้อนซะจนอยากจะโบกแท๊กซี่กลับคอนโดแต่พอให้ไปมองรอยยิ้มหล่อๆบนหน้าพี่ไมโลที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับแสงสีที่เยาวราชทั้งๆที่พี่เขาไม่ได้มาที่นี่ครั้งแรกซะหน่อย "รู้มั้ยพี่มาที่นี่ครั้งแรกกับอเลน ตอนนั้นฤดูหนาวพอดีเลยเดินสบายกว่าตอนนี้หน่อย" มาเล่าให้ฟังทำไมเนี่ยไม่ได้อยากฟังสักนิด "แหะๆ คงสนุกน่าดู" "แน่นอนนี่ลองชิมปาท่องโก๋ร้านนี้ดูสิอร่อยมากเลย เวลาอเลนรู้ว่าพี่มาเธอจะฝากซื้อตลอด" นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ผมต้องยิ้มให้เขาแล้วทำหน้าตาให้ตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาเล่า ให้ตายเถอะผมมาทำอะไรที่นี่!มานั่งฟังเขาสาธยายถึงแฟนเขาแทนที่ตอนนี้ผมควรจะนอนเปิดแอร์เย็นดูหนังที่เพิ่งซื้อมามากกว่า "มานี่เร็ว!" และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พี่ไมโลลากผมไป เขาลากผมให้มาหยุดฟังอาแปะคนนึงที่เป่าขลุ่ยอยู่ข้างทางผมว่าอาแปะเขาเป่าเก่งดีนะเพราะมากด้วย "อเลนชอบมากเลยนะถึงขั้นถ่ายวิดีโอเก็บไว้ดูที่นิวยอร์คเลยนะ" เอาอีกแล้ว ผมหันมามองพี่เขากะจะบอกให้เขาเลิกพล่ามถึงยัยอเลนซะทีเพราะผมไม่อยากมีส่วนร่วมใดๆกับยัยนั้น แต่สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมต้องกลืนคำพูดเมื่อกี้ลงไป สายตาที่พี่เขามองขึ้นไปบนฟ้าดูก็รู้ว่าคิดถึงยัยนั่นมากแค่ไหน ถึงแม้พักนี่เขาสองคนจะทะเลาะกันบ่อยมากก็ตามแต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่พี่ไมโลจะไม่คิดถึงเธอและไม่เคยมีสักครั้งที่พี่ไมโลคิดจะนอกลู่นอกทางแม้แต่อยู่กับคนอื่นพี่เขายังใส่ใจทุกรายละเอียดที่พวกเขาเคยทำร่วมกัน "อเลนโชคดีมากเลยนะที่มีคนรักดีๆอย่างพี่ จนผมอิจฉาเลยนะ" นี่ผมพูดอะไรอออกไป บ้าหรือเปล่า "สักวัน..อ่อไม่สิตอนนี้ฝุ่นก็มีแล้วนะ"ผมเลิกคิ้ว ใครวะ? ผมไม่ได้คบกับใครเป็นพิเศษเลยนะแล้วพี่เขาหมายถึงใคร? "เอ้า..ก็ฝุ่นไม่ได้คบกับฟรานอยู่เหรอพี่เห็นสนิทกันนึกว่าคบกันซะอีก" "ห้ะ? พี่พูดเล่นป่ะเนี่ยฝุ่นกะฟรานเป็นเพื่อนสนิทกันเฉยๆไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก" ไม่ใช่!ลึกๆในใจผมก็แอบเถียง "เอ้าเหรองั้นพี่ขอโทษทีที่เข้าใจผิด เฮ้ย!นี่มันห้าทุ่มแล้วเหรอรีบกลับเถอะพี่จะกลับไปสไกป์กับอเลน"ยังคุยกันไม่ทันรู้เรื่อง พี่ไมโลก็ค้วามือผมไปเรียกรถแท๊กซี่ "เอ้ยพี่กลับเหอะ ฝุ่นกลับเองได้"ดูพี่เขารีบๆ ผมก็ไม่อยากจะรบกวนให้เขาต้องวนรถไปมา "เอางั้นเหรอ งั้นก็กลับบ้านดีๆนะพี่ไปก่อนนะ"ผมยืนโบกมือลาอยู่ริมข้างทางจนรถพี่ไมโลหายไปจากสายตาแล้วค่อยเรียกรถให้ตัวเองบ้างจริงๆแล้วผมก็ยังไม่อยากกลับหรอกแต่เยาวราชมันร้อนนิ รถจอดลงที่โรงแรมแถวสาธุที่ผมเสียเงินเช่าเป็นรายเดือนเพื่อซุกหัวอยู่ที่นี่มีทุกอย่างครบครันก็โรงแรมห้าดาวนิถ้ามีไม่ครบอย่างที่ผมอยากได้ผมคงไม่เสียเงินเช่ามันหรอก ผมขึ้นไปที่ชั้นของบาร์สั่งเครื่องดื่มมาดื่มนั่งทอดอารมณ์กับแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพ หลังจากดื่มพอให้แสบคอเล่นๆแล้วผมก็เดินขึ้นห้องค๊อกเทลแค่ไม่กี่แก้วไม่ทำให้ผมเมาหรอกแค่เบลอๆนิดหน่อยอย่างน้อยอาการเบลอๆก็ช่วยให้ผมหลับสบาย ไม่ต้องนอนเหงาอยู่คนเดียวเหมือนหลายๆวันที่ผ่านมาเพราะส่วนใหญ่แล้วผมก็ไม่ค่อยได้นอนห้องตัวเองเท่าไหร่เพราะผมชอบที่จะไปขลุกอยู่ที่ห้องฟรานแต่คงไม่ใช่ตอนนี้ผมไปไม่ได้ "คุณฝุ่นค่ะ นี่ค่ะเสื้อที่เคยส่งรีดพอดีทางเราเพิ่งจะหาเจอ"ผมมองเสื้อยืดที่ตัวเกือบหมื่นในถุงพลาสติกที่ทางโรงแรมจัดมาอย่างดี แต่เท่าที่จำได้ตอนนั้นผมเมาเละไปหาฟรานที่ห้องอ้วกใส่มันและมันก็บังคับให้ผมเอามาซักผมเลยเอาไปส่งซักแต่ทางโรงแรมทำเสื้อผมหายจำได้ว่าตอนนั้นฟรานโมโหมากโกรธผมไปตั้งสามวันแต่สุดท้ายฟรานเองนั้นแหละที่ต้องกลับมาง้อผม "คุณฝุ่นค่ะ"พนักงานสะกิดผม สงสัยผมจะคิดอะไรนานไปหน่อย "ครับ ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์หาให้"ผมรับเสื้อจากพนักงานแล้วไขกุญแจเข้าห้องที่สะอาดเนี๊ยบเพราะผมจ้างแม่บ้านมาทำตลอดเสื้อฟรานวางอยู่ในตู้รวมกับเสื้อตัวอื่นๆของมัน เสื้อมันในห้องผมก็เยอะพอๆกับเสื้อผมในห้องมัน สงสัยว่างๆคงต้องไปเอาคืนซะแล้วสิก่อนที่เจ้าของห้องจะจุดไฟเผามันซะก่อน หรือผมอาจจะไปพรุ่งนี้ดีนะ ? ------------------------------------------------- to be continue ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกความคิดเห็น คนอ่านดุเดือดมาก ขอบคุณนะค่ะ :mew1:
ไม่มีใครได้ครบทุกอย่างที่อยากได้หรอกนะฝุ่น ในเมื่อไม่ได้เป็นตัวจริงของพี่ไมโลอยู่แล้ว ทำไมต้องทำร้ายจิตใจฟรานแบบนั้นด้วย
:hao4: มารอฟราน
สงสารฟรานมากกว่าฝุ่นอีก
ฝุ่นเอ้ย เมื่อไรจะคิดได้
:hao4: :hao4: เออ รู้สึกว่าไต้ฝุ่นมันจะไม่ได้สำเหนียกอะไรเลยนะ ดีแล้วฟรานหาใหม่เถอะ
ฝุ่นที่พูดนี่เพื่อให้ฟรานจากเองใช่ไหม แต่เราสงสารฟรานมากกว่านะ
ฝุ่นก็เป็นเหมือนฟรานแต่ทำไมเราสงสารฟรานมากกว่าหว่า
ฟรานหายไปไหนน้อ
เห็นแก่ตัวดีจังเลย :-) ถึงฟรานจะรักแต่คนเราก็มีความอดทนนะ
:heaven ความรัก อธิบายยากจริงๆ
ชิส์!ชิส์!ชิส์!ไม่ชอบไต้ฝุ่นอ่ะไมคนดีๆอย่างฟรานต้องมาเจอคนอย่างนี้อ่ะ 'โอ้ลูฟี่ช่วยดีเถอะ'(เกี่ยว!!?)
ชอบๆ เรื่องสนุกดี ชอบคนบุคลิกอย่างไต้ฝุ่นนะ แต่ก็สงสารฟราน เฮ้ออออออ ปล. ไม่อยากให้เป็นเรื่องสั้นเลย ขอเป็นเรื่องยาวเลยนะคนเขียน
:call: :call: ขอให้ฟรานเจอคนดีๆที่รักฟรานเร็วๆ
ฟรานน่าสงสารอ่ะ เหมือนผมเลย,,,, ฝุ่นยังไม่รู้ใจตัวเอง...
ฟรานหาแฟนใหม่เหอะ อย่าไปแค์ฝุ่นเลย :m16:
บทที่ 5 หลังจากรวบรวมความกล้าอยู่หลายวันผมก็เอาชนะความกลัวได้ แต่เอาเข้าจริงเวลามาอยู่ที่นี่ หน้าประตูห้องฟรานกลับทำให้ผมใจสั่นมือที่แตะอยู่ที่ประตูมันชื้นเหงื่อมือผมสั่นเทาจนเหมือนจะไม่มีแรงเคาะประตู และในวินาทีที่ผมกำลังลงแรงไปที่ประตู ประตูบานนั้นก็เปิดออก "กูมาเก็บของ" ฟรานออกมาในสภาพเสื้อยืดกับบ๊อกเซอร์แถมใส่แว่นด้วยสงสัยกำลังอ่านหนังสืออยู่เพราะเวลาปกติมันไม่ค่อยใส่แว่น "เข้ามาดิ"มันพูดก่อนจะผลักประตูออกให้ผมเดินเข้าไป พอเข้าไปถึงห้องรับแขกผมก็พบว่ามีกองชีทมากมายวางอยู่แทบล้นห้องและตัวเจ้าของห้องก็ไม่ได้สนใจกับการมาของผมเลยมันนั่งอยู่กลางกองชีทกำลังขมักเขม้นอ่านหนังสืออยู่ ผมแอบมองมันหลายครั้งและก็ไม่มีทีท่าว่ามันจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มหรือสบตาผมเลย ผมกัดปากแน่นทำไมถึงได้รู้สึกแย่อย่างนี้นะทั้งๆที่ผมคิดมากแทบตายว่าเจอมันแล้วจะพูดว่าอะไรดีแต่มันกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา "กินข้าวยัง"คงเพราะบรรยากาศที่น่าอึดอัดผมที่ไม่ชอบอยู่ในอารมณ์แบบนี้เลยเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนคุยซะก่อนทั้งๆที่มันไม่ใช่สไตล์ของผมเลยซักนิด "อ่าฮะ"มันตอบแค่นั้น แค่นั้นจริงๆอ่ะนะไอบ้าเอ้ยไม่คิดแม้แต่จะถามต่อเลยเนี่ยนะ น่าหงุดหงิดชะมัด!ขณะที่ผมกำลังเก็บเสื้อตัวสุดท้ายลงกระเป๋าผมก็สะดุดกับเสื้อสเวตเตอร์สีกรมท่าที่ผมเคยซื้อให้มัน ผมจะเก็บมันไปดีมั้ยนะ? แต่คิดไปอีกทีผมอย่างน้อยผมก็ควรจะเหลือของเอาไว้เพื่อให้อย่างน้อย...ฟรานจะได้คิดถึงผมบ้าง "กูไปละนะ!"ผมบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทั้งๆที่ไม่ควรจะหงุดหงิดด้วยซ้ำ ผมหันหลังเตรียมจะก้าวไปที่ประตู "เดี๋ยว!"ผมว่าแล้วมันต้องรั้งผมไว้เพราะมันรักผม... "มึงลืมตัวนี้"รอยยิ้มของผมที่กำลังยิ้มให้มัน หุบลงฉับพลันจู่ๆภาพขนาดหน้าผมก็พร่าเลือนจนมองอะไรแทบไม่เห็นเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมที่ผมเคยซื้อให้มันเองเป็นของขวัญวันเกิดให้มัน "เอาไปดิ"ฟรานที่อยู่ห่างจากผมสักสามก้าวได้กำลังยื่นเสื้อตัวนั้นให้ผมพร้อมกับโบกมันไปมาเหมือนจะให้ผมรีบๆรับมันไปสักทีผมเงยหน้ามองฟราน มันเหลือบสายตามองไปที่อื่นไม่ยอมมองหน้าผมแต่ก็ดีเพราะผมไม่อยากให้มันเห็นน้ำตาของผมอีกแล้ว แปลกนะที่ผมกำลังรู้สึกว่าเสื้อตัวนี้เหมือนเป็นสิ่งเดียวที่มัดพวกผมไว้ไม่ให้พวกเราจากกันแต่ตอนนี้ฟรานกำลังยื่นกรรไกรให้ผมตัดมัน ทั้งๆที่ผมพยามที่จะยื้อมันไว้ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ พยามกระพริบตาให้น้ำตามันกลับเข้าไปแต่นั้นเหมือนช่วยให้มันไหลเร็วกว่าเดิมมากกว่ารอยยิ้มที่ผมคิดว่ามันสร้างยากเหลือเกินในเวลานี้แต่ผมคิดผิดมันยิ้มง่ายกว่าที่คิดเยอะเพราะมันเป็นยิ้มจากความสมเพศ..สมเพศความโง่ของตัวเอง.. "ข..ขอบคุณนะ"ผมเดินเข้าไปรับเสื้อแล้วค่อยๆเดินก้าวออกมาอย่างช้าๆเหมือนจะยืดเวลาให้ฟรานรั้งผมไว้อีกครั้งด้วยเหตุผลอื่น แต่ก็ไม่ "ฮึก.."ทันทีที่ประตูปิดลงน้ำตาผมก็ไหลลงมาอย่างทะลักทะลายผมมองเสื้อในอ้อมกอดตัวเองที่ตอนนี้มันชื้นไปแทบจะทั้งตัว ผมแทบไม่มีแรงเดิน ตัวผมเซไปชนกำแพงหลังจากที่เดินห่างออกมาได้ห้าหกก้าวตัวผมล้มลงกับพื้นผมมองแทบไม่เห็นว่าพื้นมันคือสีอะไรหรือมันสกปรกแค่ผมไม่สนแม้แต่กำแพงที่ผมคิดว่ามันค่อนข้างจะสกปรกหน้าของผมแทบจะแนบไปกับกำแพง ผมไม่สนแม้แต่เสียงเปิดประตูที่อาจจะมีคนอื่นออกมายืนดูและคิดว่าผมเป็นคนบ้าที่ไหนมานั่งร้องไห้ที่กำแพงห้องเขา ช่วยไม่ได้นิที่น้ำตาผมมันไม่หยุดไหลสักที.. FRAN นี่ผมทำบ้าอะไรลงไป! ผมมองมือของตัวเองที่ว่างเปล่าแต่ก็ยังให้ความรู้สึกอุ่นๆที่ปลายนิ้ว ทั้งๆที่ผมรู้ว่ามันกลับมาเพื่อพยามจะง้อผมทั้งๆที่มันไม่ใช่คนอย่างนั้นเลยแต่ผมก็ยังถือทิฐิคิดว่าจะต้องให้คนอย่างมันทำยังไงเหรอถึงจะพอใจ ทำเหมือนผมเองไม่รู้จักมันทั้งๆที่ผมรู้จักมันดีกว่าตัวมันเอง ผมรู้ดีว่ามันไม่เคยเอ่ยปากคุยกับใครก่อนถ้าคนๆนั้นทำให้มันไม่พอใจ ทั้งๆที่ผมแคร์มันและต้องการมันมากขนาดนี้แต่ผมกลับยื่นเสื้อสเวตเตอร์ตัวแรกและตัวสุดท้ายที่มันเคยซื้อให้ตั้งๆแต่เรารู้จักกันมาส่งคืนมันไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันแกล้งลืมทิ้งเอาไว้แต่ผมก็ยังส่งคืนมันไปผมจะไม่มีทางปล่อยให้มันเป็นแบบนี้! ขาผมแทบหมดแรงเมื่อเดินออกมานอกห้อง ผู้ชายรูปร่างผอมบางผมยาวระต้นคอตัวขาวจั้วะ ในอ้อมกอดมีเสื้อสเวตเตอร์ที่คงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา กำลังนั่งขดตัวอยู่กับพื้นที่มันเคยบอกว่าโคตรสกปรก นั้นทำให้ผมก้าวขาไม่ออกผมยืนอยู่ด้านหลังห่างจากมันเพียงแค่ห้าหกก้าวถ้าจะเดินไปจริงๆเวลาแค่ครึ่งวินาทีก็คงถึงตัวมันระยะทางแค่นี้เองจริงๆสินะที่ขวางเราเอาไว้ "เลิกร้องได้แล้วนะฝุ่น..เลิกร้องได้แล้ว..ฮึก"เสียงที่กำลังปลอบใจตัวเองโคตรสั่นจนผมไม่แน่ใจว่านั้นกำลังปลอบใจตัวเองหรือกำลังทำให้ตัวเองร้องหนักกว่าเดิม มันเช็ดหน้ากับเสื้อตัวนั้นตบหน้าเรียกความสดชื้นสองสามครั้งแล้วค่อยๆลุกขึ้น ไต้ฝุ่นไม่ได้หันหลังกลับมามองแต่ก้าวเดินออกไปด้วยความมั่นคง ในขณะที่ไต้ฝุ่นกำลังหันกลับมากดลิฟต์ความขี้ขลาดก็ส่งผลให้ผมรีบเดินเข้าห้องไปเพราะผมขี้ขลาดเกินกว่าจะทนมองใบหน้านั้นเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่ผมเป็นคนทำได้ ผมนั่งมองโทรศัพท์ของตัวเองอยู่กว่าชั่วโมงนึงหน้าจอโทรศัพท์ยังขึ้นเบอร์เดิม - ตืด..ตืด..ตืด..ขออภัยค่ะหมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ - ห้องที่เต็มไปด้วยชีทเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนถูกเก็บซะเกลี้ยงโดยฝีมือแม่บ้านของคอนโด มันดูโล่งตาและกว้างขึ้นกว้างขึ้นจนผมรู้สึกเหมือนได้อยู่คนเดียวจริงๆ ตู้เสื้อผ้าผมโล่งขึ้นเยอะตั้งแต่ไต้ฝุ่นกลับมาเอาเสื้อผ้าของเขาไปสงสัยผมต้องไปเดินหาซื้อเสื้อผ้ามาใส่ให้ตู้เต็มๆซักแล้วสิ ห้างวันนี้คนเยอะผิดปกติโดยเฉพาะชั้นหนึ่งที่กำลังจัดงานอีเว้นท์กันอยู่ ผมยืนดูแค่พักนึงก็เดินขึ้นไปดูเสื้อผ้าข้างบนชั้นสองนี่ค่อยยังชั่วเหมือนคนจะน้อยลงครึ่งนึง ผมเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี่มั่วไปหมดปกติผมไม่ชอบเดินนักหรอกมันเมื่อยแต่ช่วงนี้ผมไม่ไหวถ้าจะต้องอยู่คนเดียวในห้องโล่งๆ ปึ้ก! "ขอโทษครับ/ขอโทษครับ" "เอ่อ.."ผมพูดอะไรไม่ออก เพราะคนที่ผมเดินชนคือคนที่ผมคิดถึงมาตลอดให้ตายเถอะผมอยากยิ้มและหัวเราะกับความเป็นนิยายน้ำเน่านี่จริงๆหลบหน้ากันแทบตายแต่ก็ต้องมาเจอหน้ากันอยู่ดีด้วยเหตุบังเอิญ แต่รอยยิ้มนั้นก็ต้องหุบลงเพราะสายตาของไต้ฝุ่นที่มองมาทางผม ดวงตาฉ่ำน้ำที่พร้อมจะไหลอยู่ตลอดเวลาเหมือนกำลังจะสื่อให้ผมรู้ว่าผมควรหลบให้คนที่กำลังหมดแรงเดินออกไปก่อนที่เขาจะพังทลายไปต่อหน้าผม ผมเบือนหน้าหนีพร้อมกับหลบทางให้เขาทั้งๆที่อยากจะดึงเอาไว้ถามไถ่ถึงความเป็นอยู่หรือชวนไปกินข้าวดูหนังอย่างที่เราเคยทำแต่... ผมคงต้องปล่อยไป.. ผมกลับมาที่ห้องมองดูห้องที่ก่อนออกไปมันว่างเปล่ายังไง...ตอนนี้มันก็ยังว่างเปล่าเหมือนเดิม ตู้เสื้อผ้าที่อุตส่าห์ไปซื้อเสื้อมาใส่ให้มันเต็มและถึงแม้มันเต็มแล้วผมก็ยังไม่รู้สึกว่ามันเต็มเพราะจริงๆแล้วสิ่งที่มันไม่เต็มไม่ใช่ตู้เสื้อผ้าตามันคือ...หัวใจของผมที่ยังไม่เต็ม TYPHOON ใครว่าเรื่องบังเอิญเหมือนในละครน้ำเน่าไม่มีจริง.. "คุณฝุ่นค่ะนี่ค่ะเสื้อสเวตเตอร์ที่ส่งซักไปเราใส่ถุงให้เรียบร้อยแล้วนะค่ะ"พนักงานของโรงแรมคนเดิมที่ผมไม่คิดจะจำชื่อเขาส่งถุงเสื้อมาให้ผม ผมรู้ดีว่ามันคือตัวไหนทั้งๆที่ยังไม่ต้องเปิดออกดู ผมมองมันผ่านถุงใสสีมันยังสดเหมือนเดิมไม่มีวี่แววว่ามันเคยผ่านการเช็ดน้ำหูน้ำตาของผมมาแล้ว "เอามันไปทิ้งเลยครับ" "อ้าวทำไมละค่ะเสื้อก็ยังดีอยู่นิค่ะ"พี่พนังงานพยายามจะยัดถุงเสื้อคืนใส่มือผม แต่จะให้ผมอยู่กับสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดนะเหรอ ผมทำไม่ไหวหรอก "พี่จะเอาไปให้ใครหรือเอาไปทิ้งที่ไหนก็ได้"ผมรีบเปิดประตูแล้วเข้าห้องตัดบทแบบไม่อยากสนทนาต่อ ยังแอบได้ยินเสียงพี่พนังงานบ่นอุบอิบอยู่หน้าห้อง น่าฟ้องผู้จัดการจริงๆเลยนะ ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาวางถุงเสื้อที่เพิ่งซื้อมาใหม่วันนี้ไว้บนพื้นห้องผมยังสะอาดเหมือนเดิมจากฝีกมือของแม่บ้านประจำตึกทีวีวางอยู่ชิดผนังอีกห้องข้างๆกันนะมีแผ่นแม่เหล็กสำหรับแปะโน๊ตและหนึ่งในบรรดาโน๊ตกระดาษแผ่นเล็กแผ่นน้อยก็มีรูปนึงโผล่ออกมา ขอบไหม้ๆสีน้ำตาลเข้มแบบนี้ผมเกือบลืมมันไปซะสนิทว่าครั้งนึงเคยเผามันไปซะหมดห้องแต่เพราะมีคนนึงห้ามเอาไว้รูปนี้เลยไม่ถูกเผาให้ไหม้หมด "ถ้ามึงรักเขาจริงตอนมึงจะเลิกรักมึงจะไปทำลายเขาทำไมว่ะ มึงอยากให้คนที่มึงรักเสียใจเหรอไง" "เฮ้ยพี่เดี๋ยวก่อน!"ผมตะโกนเรียกพี่พนักงานที่กำลังถือถุงเสื้อของผมไปทิ้งที่ขยะกลาง เพราะกฏของโรงแรมนี้คือห้ามนำของลูกค้ามาใช้ต่อ พี่พนักงานคนนั้นหันมามองหน้าผมงงๆ "ว่าไงค่ะคุณฝุ่น?" "คือผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมขอเสื้อคืนแล้วกันทิ้งไปก็เสียดายแย่" "ได้ค่ะ เรียกซะพี่ตกอกตกใจหมดจริงๆคุณฝุ่นโทรลงมาก็ได้นะค่ะไม่ต้องลำบากลงมาถึงขยะกลาง" "แหะๆผมคงรีบนะ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ"นี่เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่าที่ผมพูดยาวๆกับพี่พนักงานและให้ความเป็นมิตรเพราะปกติผมจะไม่ค่อยสุงสิงกับคนที่อยู่ระดับล่างกว่าแต่หลังจากที่ผ่านเรื่องมากมายมาแล้วผมเองยังเคยแทบจะเกลือกกลิ้งกับพื้นกระเบื้องสกปรกๆโดยที่ผมไม่เห็นรังเกียจแล้วกับคนธรรมดาเดินดินอย่างเราๆผมก็ไม่เห็นจะต้องไปรังเกียจเขา นิ้วมือผมลูบผ่านใยผ้าของเสื้อไหมพรมเบาๆผมกวาดสายตามองเพื่อมันชำรุดตรงไหนจะได้เอาไปให้ช่างซ่อมผมยังจำได้ว่าครั้งแรกที่ฟรานเห็นเขาก็ไม่อยากใส่มันเพราะเขากลัวมันร้อนทำให้ผมต้องบังคับให้เขาใส่ถึงแม้หลังๆฟรานมักจะพกมันใส่กระเป๋าเอามาให้ผมใส่เวลาเข้าเรียนที่ห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำเหมือนอยู่ขั้วโลกทุกครั้ง แล้วผมมายืนคิดถึงอะไรที่มันจบไปแล้วทำไมนะบ้าจริงๆ ผมรูดซิบขึ้นปิดถุงเสื้อแล้วนำมันไปไว้ในตู้เสื้อผ้าผมคิดว่าคงไม่ได้หยิบมันออกมาใส่อีกแล้วละจนกว่าเจ้าของมันจะมาขอคืน... --------------------------------------------------------------------------- to be continue ขอบคุณทุกกำลังใจและคอมเม้นต์ค่ะ
ทิฐิทั้งคู่เลย :katai1:
ตอนนี้หน่วงๆหัวใจชอบกล
รู้ใจตัวเองสักทีเถอะฝุ่น
:ling1: :ling1: สงสารทั้งคู่เลย...คุยกันเหอะ.. มาต่อเร็วๆ นะคะ ค้างมากๆ
:katai1: :katai1: มาม่าเต็มจอเลยยย
ปวดใจกันทั้งคู่
ทำตามที่ใจคิดบ้างเถอะฝุ่นอย่าทำตามสมองมากเลยน่าสงสารฟรานอ่ะ
ห่างกันให้รู้ใจตัวเองนะว่าคิดถึงกันขนาดไหน คนที่อยู่ด้วยกันทุกวันอ่ะไม่มีวันรู้หรอก
ทำไมมีแต่ดราม่าน้ำตานองทั้งนั้นเลย :ling1: ขอหวานๆได้แล้ว :hao5:
เห้อ!! ปากแข็งทั้งคู่ คืนดีเร็วๆสิครับ
:ling2: :ling2: :ling2: อยากให้ฝุ่นโตกว่านี้อีกนิด เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ แล้วคนที่ไปง้อคือ ฟราน สุดท้ายคนที่เจ็บที่สุดก็คือ ฟรานคนเดียว เพราะฝุ่นยังไม่รู้ใจตัวเอง และยังไม่โต
มัวแต่หันหลังให้กัน ก็ไม่ทางรู้หรอกว่าอีกฝ่ายรักตัวเองมากแค่ไหน :mew6:
อิ่มมาม่า :hao7:
โหวววว เอาแต่เล่นแง่กันทั้ง 2 คน แ้ล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะเข้าใจกันได้ละเนี่ย
:hao5: เอาเข้าไป มาม่าเต็มท้องเลยอ่ะ :hao7:
ความรู้สึกเหมือนไต้ฝุ่นเป็นลูกคนเล็กอ่ะ ชอบให้คนง้อ ให้คนเอาใจ แต่ผิดก้อไม่กล้าขอโทษ อีโก้สูงอ่ะ กับฟรานคงคิดว่าเป็นเพื่อน ซึ่งช่วยคลายเหงา คอยเอาใจใส่ ยิ่งรู้ว่าฟรานชอบตัวเองเลยคิดว่าเป็นของตาย ถ้าไม่ลดอีโก้ลง ก้อเห็นทีว่าจะต้องระทมต่อไปอีกนานอ่ะ :mew5: :mew5:
หันหน้าเข้าคุยกันดิ อย่าถือทิฐิ เข้าใจไปกันเองฝ่ายเดียว ปรับความเข้าใจซะจะได้ไม่เจ็บ
ไม่ไหวจะกินมาม่า
ดราม่าน้ำตานอง :ling2:
โอ๊ยยหน่วงใจหลาย :hao5:
งื้ออออออ สงสารทั้งสองคนเลยอ่าาาาาาาาาาา :hao5: ทำไมไม่คุยกันดีๆน้ออออออ :katai5:
:pig4: :pig4: :pig4:
พึ่งเข้ามาอ่านคะ อยากบอกว่า ไต้ฝุ่นมันผิดดดด ตอนแรกหนูไม่น่าพูดงั้นทำงั้นเลยนะ ไปๆมาๆมันเลยกลายเป็นไม่มีใครเริ่มพูดอะไรก่อน กลายเป็นน่าสงสารทั้งคู่เลย
บทที่ 6 TYPHOON นี่มันผ่านมากี่เดือนแล้วนะที่ผมไม่ได้เจอหน้าฟราน ไม่รู้ว่าเหตุบังเอิญหรือใครจงใจจะหลบหน้าวดีบอกว่าฟรานไม่จำเป็นต้องลงวิชานี่แล้วผมเองก็ไม่รู้รายละเอียดชัดเจนเหมือนกันแต่ดูเหมือนหลังจากสอบเสร็จผมก็ไม่เจอหน้าฟรานในชั้นเรียนเลยและไม่เคยเดินชนกันเหมือนเหตุการณ์วันนั้น "น้องฝุ่นคืนนี้ว่างหรือเปล่า"ถึงแม้ผมยังยืนยันว่ายังรู้สึกกับพี่ไมโลเหมือนเดิมแต่จริงๆแล้วความรู้สึกของผมกับพี่ไมโลมันลดลงไปมากกว่าครึ่งจนบ้างครั้งผมยังแอบคิดเล่นๆว่าบางทีผมอาจจะลดฐานะของพี่ไมโลเป็นแค่พี่ชายก็ได้นะ "ว่างครับพี่ไมโลมีอะไรเหรอ?"น่าแปลกที่เดี๋ยวนี้ผมจะออกไปไหนมาไหนกับพี่ไมโลจะต้องมีเหตุผลเสมอ "พอดีว่าพี่จะชวนฝุ่นงานวันเกิดอเลนอ่ะเธอกลับมาพอดี วดีก็ไปด้วยนะ"และก็ไม่มีครั้งไหนที่พี่ไมโลจะมาหาผมโดยไม่มีเรื่องอเลนมาข้องเกี่ยว ผมยิ้มบางๆก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ ผมยังยืนยันคำเดิมว่าใครได้พี่ไมโลไปนี่โคตรจะโคตรดีเลยแต่ทุกอย่างมักจะมีข้อแม้เสมอและในเรื่องนี้ก็มีข้อแม้เช่นกัน เขาอาจจะดีพอสำหรับเราแต่ไม่พอดีสำหรับเรา และถ้าเมื่อไหร่คนที่พอดีสำหรับผมยอมเปิดใจรับผมอีกครั้งผมก็ยินดีที่จะเดินกลับเข้าไป "งั้นเป็นเย็นนี้หลังเลิกเรียนพี่มารับหน้าตึกนะ" "คร้าบบบบผม"ผมยิ้มให้พี่ไมโลอีกครั้ง พี่เขาเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วโยกหัวผมเบาๆ "เลิกทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลกได้สักทีนะ"จากเบาๆมันเริ่มแรงขึ้นแล้วสินะ หัวผมยุ่งหมดเลยไอพี่ไมโลบ้า! "อะไรของพี่เนี่ย ติ๊งต๊องป่ะคนเบื่อโลกอะไรกัน"ผมปัดมือที่ไมโลออก แอบเห็นวดีนั่งหัวเราะคิกคักด้วย หึ่มน่าโกรธจริงๆ "ก็ฝุ่นนะเวลาปกตินะจะชอบทำหน้าตึงๆไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยหัวเราะอะไรกับใครเลยทำเหมือนแบกโลกเอาไว้คนเดียวอย่างนั้นแหละ แต่เดี๋ยวนี้ฝุ่นดูเหมือนคนขึ้นเยอะเลย"ผมหัวเราะเบาๆในคำพูดของพี่ไมโล "ที่ผมดีขึ้นคงเพราะมีใครอีกคนกำลังช่วยผมแบกโลกอยู่ละมั้ง ผมกับคนนั้นคงยืนอยู่คนละซีกโลกเรากำลังรอเวลาวันนึงเราจะโคจรมาเจอกัน"ผมยิ้มบางๆให้พี่ไมโล พี่เขาเข้ามาขยี้ผมผมอีกครั้งคนบ้านี่ชอบเล่นหัวจริงๆนะผมเสียงทรงหมดวุ้ย "คนนั้นฝุ่นหมายถึงฟรานหรือเปล่า?"วดีถามขึ้นหลังจากที่พี่ไมโลเดินออกไปแล้ว ผมเปิดหนังสือผ่านๆเงยหน้ามองวดีแล้วส่งเสียงหัวเราะให้เบาๆ "ไปเรียนเถอะได้เวลาแล้วนะ"ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ผมกับวดีเดินเข้าไปนั่งที่ประจำในห้องเลคเชอร์จริงๆแล้วผมไม่ชอบอะไรร้อนๆชอบที่เย็นๆแต่ผมดันเป็นคนขี้หนาวซะงั้นผมละเซ็งตัวเองจริงๆ "ว่าจะถามหลายครั้งแล้ววดีลืมทุกทีเลย ฝุ่นมีเสื้อกันหนาวติดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ"วดีถามขึ้นหลังจากที่เห็นผมหยิบเสื้อกั้นหนาวตัวใหม่มาจากกระเป๋า "สักพักแล้วละวดีก็รู้ฝุ่นขี้หนาวจะตาย" "ก็รู้แหละแต่ปกติฟ..เอ้ย!"วดีคงรู้แหละครับว่าผมกับฟรานเราไม่มองหน้ากันมาหลายเดือนแล้ว "ไม่เป็นไรเรียนเถอะอาจารย์มาแล้ว"วดีพยักหน้าแล้วการสนทนาของเราก็หยุดลงแค่นั้น ผมยังเพ่งสมาธิไปยังกระดานแม้ตอนนี้หนังตาผมกำลังจะปิดแล้วก็ตาม คุณว่าความง่วงกับความตั้งใจอันไหนจะชนะ? ถูกเผง! ผมจำไม่ได้เลยว่าหลับไปตั้งแต่ช่วงไหนของการสอน แต่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เจอวดีกำลังเก็บอุปกรณ์เขียนหนังสือใส่กระเป๋าดินสอ "วดีซื้อมาให้เหรอขอบคุณนะ"ผมพยักเพยิดไปทางเบอร์ดี้กระป๋องที่เย็นจนไอน้ำเกาะ วดีหันมามองผมแล้วเบิกตากว้างเหมือนเจอเรื่องประหลาด "เปล่านะของใครก็ไม่รู้"ผมที่กำลังจะเปิดฝากินก็รีบวางทันทีของใครก็ไม่รู้เหรอแล้วทำไมเอามาวางไว้ตรงนี้ละ "อ้าวแล้วใครเอามาวางไว้อ่ะ วดีไม่เห็นเหรอ" "ไม่นิก็วดีออกไปเข้าห้องน้ำกลับมาก็เห็นมันวางไว้อยู่ ทีแรกนึกว่าฝุ่นลงไปซื้อเองซะอีก"ผมขมวดคิ้วถึงแม้ตอนนี้ร่างกายผมต้องการคาเฟอีนแต่ก็ไม่ไหวนะถ้าจะต้องเอาของคนอื่นมากิน ผมเลยตัดสินใจวางมันเอาไว้ที่เดิมแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมวดี วดีปฏิเสธไม่ไปงานวันเกิดเพราะแม่ของวดีให้พาไปทำธุระต่างจังหวัดเย็นวันนั้นเลย ผมเลยต้องมาคนเดียวตามแบบฉบับคนรวยงานเลี้ยงวันเกิดถูกจัดขึ้นในร้านอาหารกึ่งผับแบบค้อกเทล ทุกคนในงานมาพร้อมกับเพื่อนหรือแฟนและต่างก็เป็นคนที่ผมไม่รู้สึกคุ้นหน้าสักนิด ผมไม่น่ามาเลยอึดอัดชะมัด "ดีใจนะที่น้องฝุ่นมาได้ ไมโลเล่าเรื่องฝุ่นให้พี่ฟังเยอะแยะเลย"เจ้าของวันเกิดเดินมาคุยกับผมนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกันแบบตัวเป็นๆเพราะครั้งอื่นๆผมได้แค่เห็นพี่อเลนผ่านสไกป์ พี่อเลนเป็นผู้หญิงสูงรูปร่างปราดเปรียวแบบนางแบบฝรั่งเลยครับหน้าพี่เขาเหมือนฝรั่งละตินนั้นคงเป็นเพราะแม่เขาเป็นคนไทยเลยได้ความคมไป พี่อเลนมักจะเดินมาคุยกับผมเธอคงรู้ว่าผมตื่นเต้นและอึดอัดนั้นทำให้ผมรู้สึกละอายใจที่แอบรักพี่ไมโลและคิดที่จะแย่งพี่เขามา เวลาล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงคืน พี่ไมโลให้เพื่อนพี่อเลนเดินถือเค้กเข้ามาในตอนนั้นพี่อเลนเดินมาจับมือผมให้ไปยืนข้างพี่เขาตอนเขาเป่าเค้ก พี่อเลนยืนอยู่ข้างผมส่วนพี่ไมโลยืนอยู่ข้างพี่อเลน พวกพี่เขามีความสุขนั้นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา ผมไม่ควรอยู่ที่นี่ผมอาศัยจังหวะที่พี่อเลนปล่อยมือผมจึงปลีกตัวออกมา วันนี้ผมขับรถมาเพราะร้านนี้อยู่ค่อนข้างไกลผมขับรถออกมาเรื่อยๆเพราะไม่รู้จะไปไหนผมไม่อยากกลับบ้านและไม่อยากไปนั่งตามผับแบบพวกสิ้นคิด แล้วอะไรทำให้ผมมาที่นี่.. ผมเงยหน้ามองหน้าต่างของชั้นที่16มันยังเปิดไฟไว้แสดงว่าเจ้าของห้องคงยังไม่นอน ผมอยากขึ้นไปจังแต่ผมจะขึ้นไปทำไมละมันไม่มีเหตุผลให้ขึ้นไปแล้วของผมก็เก็บลงมาหมดแล้ว ถ้าจะขึ้นไปเพราะอยากเจอหน้าเจ้าของห้องคงได้โดนถีบออกมาแน่อีกอย่างผมก็ยังไม่พร้อมที่จะมองหน้ามัน มึงกำลังทำอะไรอยู่นะ? FRAN ทำไมมันน่าเบื่ออย่างนี้วะ ผมลุกขึ้นจากกองงานมากมายมองไปทั่วห้องมีแต่ความว่างเปล่ามีแต่ความเงียบเหงา ผมเดินออกมาที่ระเบียงเบื่ออากาศสังเคราะห์ ถึงแม้อากาศข้างนอกจะไม่เย็นออกจะร้อนแต่มันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปมันทำให้ผมรู้สึกสดชื่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมกวาดตามองวิวของกรุงเทพตอนกลางคืนมันดูสวยแต่ในขณะเดียวกันก็ดูเงียบเหงาอย่างไม่มีเหตุผล แต่เมื่อผมกวาดสายลงมาข้างล่าง คนที่ผมคุ้นตาและโหยหามาตลอดและพยามหลบหน้ามาตลอดกำลังเงยหน้ามองขึ้นมาข้างบนแต่มันคงไม่ทันเห็นเลยหมุนตัวกลับมันกำลังเดินออกไปและผมจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เร็วเท่าความคิดผมวิ่งออกจากห้องโชคดีที่ลิฟต์จอดอยู่ที่ชั้นผมพอดี ลิฟต์ลงมาจนถึงชั้นล๊อบบี้มองจากไกลๆผมเห็นรถของฝุ่นกำลังถอยรถออกมาจากซอง ไม่ผมจะไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว! เอี๊ยดดด! เสียงล้อบดถนนนั่นเป็นเสียงที่ผมได้ยินหลังจากวิ่งออกมาจากใต้ตึกรถBMWจอดอยู่ห่างจากผมแค่คืบเดียว คนหลังคนขับนั่งกำพวงมาลัยแน่นดวงตาเบิกกว้างอย่างคนตกใจสุดขีด ให้ตายเถอะเมื่อกี้ผมเกือบจะตายหรือเปล่า! "มึงทำบ้าอะไรเนี่ย!"กะแล้วเชียวไอคนที่เพิ่งเดินลงมาจากรถตะโกนใส่หน้าผม พอมองดีๆก็เพิ่งจะรู้ว่ามันน้ำตานองหน้าอีกครั้งและมันไหลออกมาก็เพราะเป็นห่วงผม ผมเดินเข้าไปใกล้ๆมันมันยังเป็นไต้ฝุ่นคนเดิมขี้วีนขี้เหวี่ยงขี้โมโหแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่เลิกรักมัน ผมจูบเบาๆที่ปากไต้ฝุ่นโดยไม่มีการล่วงล้ำอะไร "กูรักมึงและนั่นคือเหตุผลที่กูอยากให้มึงอยู่ต่อ"ผมมองลึกเข้าไปในดวงตามัน หยาดน้ำตารื้นขึ้นมาคลอบคลุม ผมรู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดที่เอวพร้อมกับความเปียกชื้นที่อกเสื้อ "กูเกือบฆ่ามึงแล้วนะทำไมต้องวิ่งมาขวางรถด้วยวะก็รู้ว่ามันอันตราย"ตอนนี้ผมพามันขึ้นมาที่ห้องแล้วครับ และตลอดทางมันก็ยังบ่นไม่เลิกว่านู้นว่านี้ "กูคิดว่าจะไม่ได้เห็นตาเหลือกๆกับปากคว่ำๆของมึงอีกแล้ว"ผมพูดแซวและหลังจากนั้นไม่นานแก้มขาวซีดก็แดงสุกขึ้นมาทันที ""มึงไม่โกรธกูแล้วเหรอ"ผมลุกขึ้นนั่งประคองหน้ามันด้วยฝ่ามือของผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่กำลังรอคำตอบผมจูบเบาๆที่หน้าผาก ถามว่าโกรธมั้ยผมก็ต้องบอกว่าโกรธแต่หลายเดือนที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้ว่าการที่ผมโกรธมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหนำซ้ำมันยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ผมมาคิดดูแล้วการที่มันไม่รักผมนั้นไม่ได้หมายควายว่าผมจะต้องเลิกรักมันหรือรักมันน้อยลง "ว่าไงตอบมาสิ"มันตีมือผมเบาๆ "เพราะกูรักมึงและกูจะไม่ยอมให้ความโกรธชั่วขณะมาทำให้กูเลิกรักมึงหรือรักมึงน้อยลง"ไต้ฝุ่นยกมือขึ้นมาจับมือผมที่กำลังประคองหน้ามันอยู่ ตอนนี้ความรู้สึกมันกำลังสื่อออกมาทางสีหน้าผมเดาออกว่ามันกำลังสับสนอย่างหนักผมค่อยๆดึงมือออก ชั่ววินาทีของการตัดสินใจผมรู้ว่ามันกำลังจะบอกอะไรและผมก็เชื่อมั่นในตัวมันแต่ในขณะเดียวกันผมก็กลัวใจของมัน ผมเดินตรงไปที่ประตูและไต้ฝุ่นก็เดินตามผมมาเงียบๆ "กูจะรอ"ผมยิ้มบางๆให้กับคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของประตู ไต้ฝุ่นหันมามองหน้าผมมันยิ้มให้ผมเหมือนจะให้ผมเชื่อใจมัน "กูจะกลับมา" ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง ห้องกลับมาเงียบเหมือนเดิมแต่มันให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปถึงแม้ห้องจะเงียบและมืดขนาดไหนแต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความเต็ม..ที่หัวใจของผม --------------------------------------------------------------------- to be continue ขอโทษที่หายไปนานค้าาา เผอิญเน็ตเกิดมีปัญหาเลยอัพไม่ได้ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะค่ะ
:hao5: :hao5: สู้ๆนะ เด็กๆ
:เฮ้อ: เมื่อไหร่ฟรานถึงจะได้เป็นผัวแบบเปิดเผยนะ
ดีกันแล้วสินะ ; w ;
ดีกันแล้ว ดีมากฟราน อย่าโกรธกันนานๆ :impress2: :impress2:
โอ้เย่ จงก้าวไปด้วยกัน !!!(เกี่ยว ?). สู้ๆนะฟราน
อภัยให้กันก็ดีแล้ว
เดี๋ยวก็ได้เป็นผัวเปิดเผยละฟราน เย้ๆๆๆ
NC!!!! จงเจริญ ฝุ่นนนนนนนน
ในที่สุดในที่สุดไต้ฝุ่นก็จะรู้ใจตัวเองซะทีฟรานจ๋ารอฝุ่นแป๊ปคึคึ>////<
ดีใจที่หันหน้ามาคุยกัน ค่อยๆปรับตัวกันไปเนอะ อิอิ
:hao6: นึกว่าฝุ่นจะค้างกับฟรานซะอีก คึคึ
เมื่อไหร่จะเปิดตัวกันสักที
ว๊าวๆๆ. ดีกันแล้วๆๆ เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ครับ!!
ดีกันแย้ววววว o13
ดูจากชื่อเรื่องแล้วคงอีกนานกว่าฟรานจะได้เปิดตัวเป็นสามีกะเขาซักที (เหรอ?)
:ruready มาถึงขนาดนี้ก็ดีกันซะเด็กๆ
ชอบตรงที่บอกว่า มีคนช่วยแบกโลกอ่ะ รู้สึกดีจังเลย..... คนนั้นๆ หมายถึงฟรานจริงๆ ใช่ไหม.... หวังว่าอะๆ จะดีขึ้น อยากให้ ฝุ่นทำตามคำพูด ถ้าคนหนึ่งมีหน้าที่รอ อีกคนก็ต้องมีหน้าที่กลับมานะ
โอยยยย กว่าจะดีกันได้ เล่นเอาลุ้นซะ นึกว่าฝุ่นจะค้างกับฟานนะเนี่ย อิอิ :z1:
ลุ้นสุดๆๆ ในที่สุดก็ดีกันแล้ววววว
บทที่7 วันนี้ผมต้องมาหาข้อมูลที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยมันเป็นอะไรที่ไม่อยากแม้แต่จะเดินเข้าจริงๆ ห้องสมุดที่ต้องเงียบๆแบบนั้นน่าเบื่อชะมัดถ้าไม่จำเป็นคงไม่มา ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากวันนั้นผมจะไม่เจอหน้าฟรานเลยและนั้นมันทำให้ผมรู้สึกคิดถึงมากกว่าเดิมผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย บ้าชะมัดเลย! "ขอโทษครับผมอยากได้หนังสือบนนู้นแล้วมันไม่มีบันได"ผมชี้ไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่เหนือหัวผมไปสองชั้นยอมรับเลยว่าผมหยิบมันไม่ถึงและตอนนี้ผมต้องการบันไดแล้วก็ไม่รู้ว่าใครเอาบันไดไปแย่ชะมัด "มันอาจจะอยู่แถวนี่คุณลองหาดูสิ"เฮ้!บรรณารักษ์ต้องคอยดูแลห้องสมุดสิ นี่มันแย่จริงๆด้วยแฮะผมไม่เห็นประโยคที่จะเสียเวลาคุยต่อ ผมเดินกลับมาที่ชั้นหนังสืออีกครั้งรายงานผมต้องส่งภายในอาทิตย์นี้นะไม่ได้ส่งเดือนหน้าผมต้องการหนังสือเล่มนั้น! ปึ้ก! "โอ้ยบ้าจริง!"ผมอยากจะสถบให้ดังกว่านี้ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ในห้องสมุด ผมหันไปมองหน้าไองั่งที่เดินมาชนผมจากข้างหลัง ฟรานนั้นเองพระเอกขี่ม้าขาวชัดๆ! "หาเล่มนี้อยู่เหรอ?"ตอนนี้หน้าผมกับฟรานห่างกันแค่คืบได้มั้ง แล้วผมเป็นบ้าอะไรเนี่ยถึงได้คิดว่ามันหล่อขึ้นทำไมเมื่อคืนไม่สังเกตนะ แต่เดี๋ยวนะนี้มันกำลังยิ้มเยาะที่ผมหยิบหนังสือไม่ถึงหรือเปล่า? "เปล๊า..เอิ่มม..อันที่จริงใช่"พอคิดดูอีกทีผมก็ขี้เกียจจะไปหาบันไดหรือหนังสือเล่มอื่นให้ยุ่งยากแล้วมันน่าเบื่อจริงๆนะกับการทำรายงาน "เป็นอะไรทำไมหน้าแดง"ไอบ้านี่น่าเตะให้ตายจริงๆเลยก็รู้อยู่ว่ากูเขิน จะมาถามนู้นนี่ทำไมวะ ผมปัดมือที่จับแก้มของผมออกแต่มันจับมือผมเอาไว้และหลังจากวินาทีนั้นผมก็แทบลืมไปเลยว่าเรากำลังอยู่ในห้องสมุด "อืมม..เดี๋ยวมีคนเห็น"ปากผมคงจะเจ่อก็งานนี่แหละเพราะหลังจากที่มันจับมือไว้ฟรานก็เริ่มเกมส์จูบทรหด หลังผมกระแทกกับชั้นหนังสือกี่รอบแล้วก็ไม่รู้มือฟรานกำลังหยอกเล่นกับยอดอกที่ไม่มีใครสัมผัสมานานนั้นทำให้ผมตื่นตัวง่ายกว่าเดิม "อยากให้หยุดเหรอ?"เสื้อนักศึกษาผมถูกปลดกระดุมหมด ผมยังเห็นมือฟรานจับอยู่ที่หน้าอกหน้ามันตอนนี้พนันได้เลยว่าถ้ามันไม่อยากแกล้งผมเราคงเสร็จกันไปยกนึงได้แล้ว "ไม่ อืมม"ผมกระชากคอฟรานเข้ามาจูบอีกครั้ง ปากของฟรานร้อนมากตอนสัมผัสที่ต้นคอผม เขาช้อนมือมาบีบก้นผมบ่งบอกอารมณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างนี้ฟรานสอดมือทั้งสองข้างอุ้มผมขึ้นมาเกาะเอวเขามึงคิดว่ากูตัวเบาเหรอไง? ปากของเราสัมผัสกันครั้แล้วครั้งเล่าและทุกครั้งมันจะมีเสียงจ๊วบให้ได้ยินตลอด "อ้ะฟรานอย่า.."ผมตั้งใจจะทำเสียงแข็งห้ามนะแต่ทำไมมันถึงอ่อนระทวยขนาดนั้นคงเพราะลิ้นร้อนๆที่กำลังตวัดผ่านยอดอกผม นี่มันห้องสมุดหรือเปล่านะ? "อะแฮ่ม!ไปโรงแรมดีกว่ามั้ยค่ะนักศึกษา"ฟรานกับผมหันไปมองแทบจะพร้อมกัน อาจาร์ยที่ผมไม่เคยเห็นน่าอาจจะเป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ก็ได้เธอยืนจ้องพวกผมอยู่พักนึงแล้วก็เดินออกไป ผมหันมามองหน้าฟรานอีกครั้งบ้าเอ้ยเมื่อกี้ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย "ปล่อยสิ!"ผมบอกพร้อมกับสะบัดตัวเล็กน้อยให้มันรู้ตัวว่ากำลังอุ้มผมอยู่ ฟรานยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมพร้อมทั้งหัวเราะเจ้าเล่ห์ด้วยไม่ใช่สิตอนนี้ภาพลักษณ์มันดูเจ้าเล่ห์มากไม่เห็นเหมือนหมาหงอยๆเมื่อหลายวันก่อนเลย ผมกลับมายืนแบบปกติรู้สึกเหมือนตัวเองจะหัวยุ่งและปากเจ่อผมรีบแต่งตัวให้เรียบร้อยให้เสร็จก่อนมันจะได้เดินหนีมัน อายเว้ย! "เดี๋ยวดิ"ขณะที่ผมกำลังจะวิ่งหนีมันออกมามันก็คว้ามือผมเอาไว้ก่อน และแน่นอนพอหันมาหน้าผมกับมันก็อยู่ห่างกันแค่ปลายจมูก โธ่!กูเกลียดโมเมนต์แบบนี้ "หนังสือมึง หึ"มันดันหนังสือใส่มือผมแล้วเดินจากออกไป โอ้ยยยน่าอารมณ์เสียอะไรอย่างนี้เหมือนผมกำลังโดนลูบคมเลยแฮะฟรานไม่เคยเป็นอย่างนี้กับผมเลยนะถึงเราจะมีอะไรกันบ่อยแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฟรานมีปฏิกิริยากับผมที่มหาลัยและที่หนักกว่านั้นคือนี่เป็นครั้งแรกที่มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนปั่นหัวเหมือนไม่เคยรู้สึกว่าต้องการมันมากขนาดนี้เลยแฮะ "เป็นอะไรหรือเปล่าฝุ่น"วดีทักตอนผมมาถึงร้านอาหารหน้ามหาลัยที่นัดวดีไว้ นั้นไม่ได้ทำให้ผมสงสัยว่าวดีรู้ได้ยังไงเพราะดูจากสภาพผมนี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนโดนหมาฟัดมา "ก็ไอฟ.."ผมกำลังจะพูดชื่อมันออกไปแล้วถ้าไม่ติดว่าไอคนที่นั่งยักคิ้วข้างเดียวพร้อมกับลูบริมฝีปากของตัวเองนั่นคือไอฟราน ผมหันกลับมามองวดีอีกครั้ง "ไม่มีอะไรสั่งอาหารเถอะ"ผมกับวดีสั่งอาหารเสร็จ แล้วระหว่างที่กำลังรออาหารคนที่ผมคอยมองอยู่ตลอดก็ลุกออกไป ไปไหนของมันนะ ผมเลยบอกวดีว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วก็เดินออกมา "ไปบอกเขาหรือยัง"ผมสะดุ้งเฮือกหันไปมองคนที่มากระซิบที่ข้างหูมันไม่ใช่แค่กระซิบนะสิ มือมันมาโอบอยู่รอบเอวผมทำเหมือนกูเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักไปได้ "ปล่อยเดี๋ยวคนเห็น"ผมดันมันให้ออกห่างไม่ใช่ไรหรอกครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองสั่นเทิ้มไปหมดเดี๋ยวมันจะรู้ว่าผมเขินมัน "ตอบมาก่อน" "ยัง พี่ไมโลบินไปอเมริกาพร้อมอเลนยังไม่กลับมาเลย" "โทรไปบอกสิ"เหตุผลที่ผมยังไม่บอกพี่ไมโลเพราะผมยังไม่พร้อมผมไม่รู้จะต้องบอกเขาว่ายังไงดี ฟรานหันมามองหน้าผมใบหน้าคมเข้มกำลังฉายแววไม่มั่นใจและกำลังกลัว มันปล่อยมือออกจากตัวผมแต่ผมก็คว้าเอาไว้ก่อนผมนี่มันแย่จริงๆแค่คิดว่าจะต้องปล่อยมือจากมันอีกครั้งผมก็น้ำตาจะร่วงแล้ว "มึงก็อย่างนี้ทุกที!"มันดึงมือผมออกแล้วดันตัวผมไปกระแทกกับผนัง เฮ้ยกูจุกนะ! ถ้าเป็นเวลาปกติคงกระโจนเข้าไปเตะต่อยมันแต่เวลานี้ถ้าผมทำแบบนั้นผมโดนฆ่าแน่ "ฟราน.." "..." "ไม่ต้องบอกได้มั้ย..เขาอยู่ส่วนเขาส่วนกูจะอยู่กับมึง...พี่ไมโลไม่เห็นต้องรู้เลยว่ากูรู้สึกยังไงกับเขาแค่มึงรู้คนเดียวก็พอแล้ว" "พูดมาสิแค่สามคำ"ฟรานมองหน้าผม มือมันลูบแก้มผมเบาๆพอเห็นมันอารมณ์เย็นกลับมาเป็นฟรานหมาน้อยของผมอีกครั้งก็ค่อยยังชั่วหน่อย "อย่ามาตลก หน้าห้องน้ำเนี่ยนะ"ผมปัดมือมันออก ไอบ้านี่พอถอดชุดหมาบ้าออกก็ประสาทแดกดีจริงๆก็รู้อยู่ว่าผมชอบความโรแมนติก แล้วกับการสารภาพรักหน้าห้องน้ำนี่มันงี่เง่าสิ้นดี "ฮ่าๆนิสัยไม่เปลี่ยนเลยนะ"มันเอานิ้วมาจิ้มๆปากผมไอบ้านี่เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ "โอ้ยปล่อยๆนี่เห็นว่าพูดดีด้วยอย่ามาเหลิงนะ"ผมตีมือมันแล้วก็ผลักมันออก แต่มันดึงมือผมเอาไว้ "เร็วเข้า บอกมาแค่สามคำเก้าตัวอักษร"มันดึงผมเข้าไปกอดไว้ คือมันจะต้องเป็นแบบให้ผมหันไปหามันแล้วจูบมันเบาๆแล้วพูดคำนั้นออกมาแต่นั้นมันเหมาะกับเราอยู่ในที่แสนโรแมนติกมีดอกไม้บานสะพรั่ง และผมก็เกือบจะเคลิ้มไปกับสายตาหวานๆการกระทำหวานๆของมันแล้วถ้า.. "โอ้ยยปวดขี้โว้ยย!"นั่นไงละที่ทำให้ผมหมดอารมณ์ซึ้งฟรานแอบหัวเราะเบาๆในขณะที่ผมกำลังเซ็งสุดขีด "รู้นะต้องทำไง"ผมบอกก่อนจะเดินออกมา บนโต๊ะเรามีอาหารมาวางรอไว้เรียบร้อยแล้ว "ท้องเสียเหรอไปซะนานเลย"ผมยิ้มให้วดี ไม่รู้ว่าจะบอกวดีว่าอะไรดีถึงเราสามคนจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะแต่ผมก็ไม่รู้ว่าวดีจะรับได้หรือเปล่าที่ผมกับฟรานจะคบกัน ยังไงเรื่องนี่ก็ต้องปรึกษากันก่อนอยู่ดี "อืมนิดหน่อยอ่ะ รีบกินเหอะฝุ่นต้องเข้าไปส่งงานด้วย" ตอนนี้ผมกำลังเดินเตร่อยู่หน้าห้องพักอาจารย์ผมไม่ได้มาสายนะแต่อาจารย์ต่างหากที่สอนเลทปล่อยพวกเด็กปีหนึ่งช้าผมเลยต้องมารอเสียเวลาจริงๆ ตอนแรกวดีก็อยู่เป็นเพื่อนผมแต่วดีมีธุระต้องไปทำเลยปล่อยผมอยู่คนเดียว ไอฟรานก็มีเรียนต่อสุดท้ายยังไงก็อยู่คนเดียวอยู่ดี ผมนั่งรอแล้วรออีกจะสอนคุ้มไปมั้ยครับอาจารย์ "เอ่อ..หวัดดีครับ"ผมสะดุ้ง ทำไมวันนี้มีแต่คนชอบมาเงียบๆว่ะเนี่ย ทันทีที่ผมหันมาก็เจอเด็กปีหนึ่งผูกไทด์ซะเรียบร้อยตอนผมปีหนึ่งยังไม่เรียบร้อยขนาดนี้เลยนะ ผมยิ้มให้น้องเขาคงมารออาจารย์เหมือนกัน "หวัดดีครับ"ผมเขยิบให้เหลือที่บนม้านั่งให้เขานั่งและเขาก็รีบนั่งทันทีเหมือนกลัวจะมีใครมาแย่งที่ไป "ผมชื่อจ้าวครับ" "อ่าเหรอพี่ชื่อ.." "ไต้ฝุ่น!เอ่อ..โทษครับคือผมรู้จักพี่มาก่อนแล้ว"ผมหัวเราะแห้งๆให้น้องเขา จ้าวตัวสั่นจนผมรู้สึกได้ผมเริ่มกลัวแล้วนะน้องเขาจะแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่า อาจารย์นี่ก็ไม่มาสักทีเว้ย "มารออาจารย์เหรอ"พอบรรยากาศมันเงียบๆผมก็ใจไม่ดีเลยกะจะชวนคุย "กาแฟอร่อยมั้ยครับ"เขาไม่ตอบคำถามผมแต่กลับถามผมแทน มันทำให้ผมนึกถึงกาแฟกระป๋องที่มีบุคคลลึกลับเอามาวางไว้ให้ "อ่ออน้องเป็นคนเอามาให้พี่เหรอเอ่อ..ขอบคุณนะแล้วก็พี่ไม่ได้กินโทษทีนะ" "ไม่เป็นไรครับคือผมต้องไปแล้วบางทีเราอาจได้เจอกันอีก"ผมแค่ยิ้มส่งเพราะยังไม่ทันจะได้เอ่ยลาจ้าวก็เดินหายวับเข้าไปในความมืดไม่ใช่เดินดิวิ่งหายไปต่างหาก "อ้าวกูนึกว่ากลับไปแล้ว"อีกครั้งที่ผมสะดุ้งไอคนพวกนี้นิมาแบบเสียงดังๆไม่ได้เหรอไง ฟรานกระโดดเข้ามากอดเอวผมแถมยังหอมแก้มผมอีกชักลามปามใหญ่แล้วนะไอคนนี่เนี่ย "ปล่อยดิ แล้วทำไมยังไม่กลับ"ผมหันไปมองหน้ามันดีๆ ทำไมเดี๋ยวนี้มันดูหล่อจังวะ "ตอบกูมาก่อน" "มาส่งรายงาน มึงอ่ะ"มันเลิกคิ้วมองหน้าผม "อาจารย์วันเพ็ญอ่ะนะ เขากลับไปแล้วนิเพิ่งเดินสวนกับกูตรงทางเข้านี่เอง"อ้าว!แล้วให้กูรอตั้งนานเพื่อหงุดหงิดเว้ย! "เอาน่าอย่าเพิ่งหงุดหงิดดิ วันนี้สองทุ่มครึ่งที่โรงแรม...จองโต๊ะไว้ชื่อมึงแล้วเจอกัน"ก่อนไปมันขโมยหอมแก้มผมด้วยมันเนี่ยนะชอบเล่นอะไรแบบนี้ตลอด มีแต่มันแค่คนเดียวละมั้งที่รู้ว่าเวลาผมหงุดหงิดต้องทำยังไง ผมชอบไปกินข้าวที่โรงแรมนั้นเพราะโรงแรมนั้นขนมหวานอร่อยมากเวลาไม่สบายใจทีไรก็ไปตลอดนี่ถ้าเป็นพี่ไมโลก็คงพาผมไปเดินหาอะไรกินที่เยาวราชไม่ก็แถวท่าพระหรือข้าวสารก็บอกแล้วว่าไม่ใช่แนวผมเลยนะแบบนั้น แต่ตอนนี้นะสิอาจารย์วันเพ็ญนะคนอุตส่าห์รอโวยคิดแล้วหงุดหงิด กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่าเว้ย! ------------------------------------------------------------ to be continue ตอนหน้าจบนะจ้าาา คนแต่งกำลังรอเปิดเรื่องใหม่ฝากติดตามด้วยเน้ออ
อาราย อาราย จะจบแล้วได้ไง น้องฝุ่นกับน้องฟรานยังไม่ทันออกตัวเรย :katai1: :katai1:
หวานไม่แคร์สื่อเลย
ิีัอ๊ะ จบไวไปไม๊
ห้องสมุดก็ไม่เว้นน ฮ่าาา
จะจบแล้วหรอยังหวานกันไม่ได้เท่าไรเลย
ชออีกซัก 5 ตอนเถอะนะ อยากอ่านตอนหวานๆของฟรานอ่ะ
จะจบแล้วหรอ ไวไปหรือป่าว กำลังได้ที่เลย
ตอนจบขอหวานๆนะ เอาให้ม้วนเกลียวกันหน้าคอมฯเลย :-[
อ๊ะ กำลังเพลินจะจบซะแล้ว
กำลังจะหวานแล้ววว
โหยยเริ่มหวานแล้ววววว
ถ้าจะหวานกันขนาดนี้ๆๆๆๆๆๆ :hao6:
ถ้าตอนหน้าจบ จ้าวจะโผล่มาทำไม ฟรานเป็นคนดีที่น่ารักจริงๆ
อ่านตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ รู้สึกเลยว่าไต้ฝุ่นอ่อนลง เขินฟรานบ่อยขึ้นด้วย 555 ที่ฟรานหล่อขึ้นในสายตาฝุ่นอจเพราะฝุ่นชอบฟรานแล้วก็ได้ ส่วนฟราน ทำไมรู้สึกว่าเจ้าเล่ห์ขึ้นนะ 555 จ้าวอีก เป็นใคร จีบไต้ฝุ่นหรอ??? รออ่านตอนต่อไปนะ
เป็นผัวเก็บ ที่รู้วิธีง้อ และเอาใจ เมีย มากกกกกก
:katai1: จะจบแล้วเหรอ :m13:
หวานกันซะ ฟรานได้กำไรเพียบบบ :laugh: รอนะฮะ :')
บทที่ 8 FRAN บรรยากาศบนชั้นที่20ของโรงแรมนี่ถูกจัดเป็นภัตตาคารอาหารนานาชาติผมมาก่อนประมาณสิบนาทีได้ โต๊ะผมจองไว้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดกับกระจกเห็นวิวกรุงเทพยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนพนักงานเอาเมนูมาให้ผม ผมจัดการสั่งอาหารทั้งของผมและของไต้ฝุ่นเพราะผมรู้ดีว่าตอนไต้ฝุ่นมาถึงคงจะหิวมากเพราะไต้ฝุ่นชอบมาเลทเพราะแต่งตัวช้าและการแต่งตัวช้าก็มักจะไม่มีเวลาหาอะไรรองท้องมาก่อนช่วงก่อนหน้านี้ที่เราไม่คุยกันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่ไมโลจะดูแลไต้ฝุ่นได้หรือเปล่าจากที่เคยไปเที่ยวกับพี่ไมโลดูเหมือนพี่เขาจะเป็นคนติดดินกินข้าวข้างทางบ้างละเดินกินไปเรื่อยๆบ้างละ ผิดกับไต้ฝุ่นรายนั้นถ้าไม่มีเหตุจำเป็นก็แทบจะไม่ไปถึงถิ่นที่ใครๆก็ว่าเจ้านี้อร่อยแต่ชอบให้คนไปซื้อมาให้ส่วนตัวเองนั่งรอกินอยู่บนคอนโดสูงเสียดฟ้าของตัวเองแทน ช่างเป็นคุณหนูเสียนี่กระไร "มานานแล้วเหรอ"เสียงที่ดังขัดความคิดผมขึ้นมาทำให้ผมหันไปมอง ไต้ฝุ่นยังคงคาแร๊คเตอร์เดิมเรียบหรูมีสไตล์ผมสีน้ำตาลเกือบดำของเขาไม่เคยทำสีผมสักครั้งเดียวเพราะเขาชอบบอกว่าทำสีผมฉูดฉาดแบบนั้นทำให้ดูเป็นเด็กแว๊นไอบ้านี่ชอบคิดอะไรประหลาดๆ เคยมีครั้งนึงที่ผมไปกัดผมสีทองแบบทองฟางหมอกเลยครับทองที่เกือบขาวอ่ะครับทั้งๆที่ผมเพิ่งไปทำมาได้แค่สองวันไอตัวดีก็ลากผมไปให้ช่างโกรกดำซะ จนถึงตอนนี้ผมผมก็ยังเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติเพราะสีดำมันหลุด "สั่งอาหารไปแล้วจะเอาไรเพิ่มป่ะละ" "สั่งไปนานยังหิวเว้ยเมื่อไหร่จะมา"นั้นไงปากคว่ำตาเหลือกอีกแล้ว ก็ตัวเองมาสายเองช่วยไม่ได้นี่นา ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรกำลังเล่นทวิตเตอร์ผ่านโทรศัพท์อยู่ดีๆ มันก็ฟาดให้ที่ต้นแขนดังเพี้ยะเลย "อะไรวะ!" "ก็มึงอ่ะชวนกูมาให้นั่งดูมึงเล่นโทรศัพท์เหรอไง ถ้าจะชวนมาแค่นี้กูกลับนะ"มันทำท่าจะลุกแต่ผมดึงมือมันไว้แล้วบีบให้นั่งลงและมันก็ส่งปากคว่ำๆกับตาเหลือกๆของมันมาให้ผมอีกผมยิ้มให้มันแล้วหันมาดูโทรศัพท์ต่อแต่ก็ยังจับมือมันไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมไม่ได้ชักมือหนี "ไอบ้าชอบโชว์ออฟเหรอไง"ผมไม่ตอบแต่ส่งยิ้มล้อเลียนไปให้มัน ถึงจะปากกล้าอย่างนั้นแต่ก็ไม่ดึงมือออกแถมยังแก้มแดงซะขนาดนั้น จากเหตุการณ์ตอนกลางวันทำให้ผมรู้เลยว่ายากมากที่จะง้างปากไอตัวดีให้พูดว่ารักผมและจากเหตุการณ์ที่เราฟันฝ่ากันมามันทำให้ผมรู้ว่าไม่จำเป็นต้องพูดหรอกว่ามันรักผมเพราะแค่ผมรู้ว่ามันรักผมก็พอแล้วแค่คำพูดมันไม่ชื่นใจเท่าการกระทำหรอกครับในเมื่อผมเลือกที่รักคนแบบนี้ผมก็ควรจะรักที่เขาเป็นแบบนี้ "อิ่มยัง"ผมถามขึ้นหลังจากเห็นมันเสร็จกับจานขนมหวานที่พ่อคุณเล่นเบิ้ลมาถึงสองจาน ไต้ฝุ่นพยักหน้าเร็วๆเช็ดปากเสร็จเตรียมจะลุกไปเข้าห้องน้ำมันไม่เคยสนใจค่าอาหารหรอกครับเพราะเป็นอันรู้กันว่าผมออกเสมอยกเว้นแต่เป็นวันพิเศษที่เกี่ยวข้องกับผมโดยตรงเท่านั้นละมันถึงจะยอมออก ผมดึงมือมันเอาไว้ก่อนที่มันจะเดินพ้นโต๊ะไปมันหันมามองหน้าผมงงๆก่อนจะทำหน้าปากคว่ำตาเหลือก "วันนี้ไม่ใช่วันเกิดมึงนิจะให้กูออกเหรอ รู้งี้ไม่มาดีกว่าเอาไปเลยกระเป๋าตังค์กูอ่ะเอาไปดิ!"นั้นไงไอบ้านี่ชอบจิตตกคิดอะไรในแง่ร้ายไปหมด ผมเก็บกระเป๋าตังค์มันเอาไว้แล้วยื่นกุญแจห้องที่ผมเช็คอินไว้ตั้งแต่เมื่อวานให้มัน "ไปรอกูที่ชั้น27ห้อง2715" "มึงจองห้องไว้เหรอเอาไว้ทำอะไรอ่ะงั้นก็คืนกระเป๋าตังค์กูมาดิ"ผมส่ายหัว "ขึ้นไปรอข้างบน"ไต้ฝุ่นทำหน้าหงิกใส่ผมอีกครั้ง แล้วเดินแยกออกไปผมจัดการจ่ายค่าอาหารทั้งหมดแล้วขึ้นไปที่ชั้น27 เพราะไต้ฝุ่นชอบความโรแมนติกผิดกับผมที่ทำโรแมนติกไม่เก่งส่วนใหญ่ที่ดูว่าผมโรแมนติกเพราะผมจะทำในสิ่งที่ใจสั่งมาเพราะผมอยากทำสิ่งนี่ให้มันมันเลยทำให้ผมกลายเป็นคนโรแมนติก ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องเข้าไปเดินผ่านโซนห้องรับแขกก็จะเจอกับประตูของห้องนอนในห้องรับแขกก็เหมือนปกติผมไม่ได้ทำเซอร์ไพรส์อะไร ในห้องนอนตอนนี้มีช่อดอกไม้สีสันสดใสช่อใหญ่กับตุ๊กตาหมีที่ตัวใหญ่เท่าคนวางอยู่คนที่มาก่อนผมยืนนิ่งอยู่ปลายเตียงผมเดินเข้าไปกอดมันจากข้างหลังมันสะดุ้งเล็กน้อย "กูรักมึงนะไต้ฝุ่น"ผมจูบมันเบาๆที่ขมับ ไต้ฝุ่นหันมามองหน้าผมแก้มแดงแปร๊ดแถมตัวก็สั่นมากคงจะเขินหหรือหนาวละมั้งมือลูบหน้าผมเบาๆ ผมจ้องริมฝีปากที่กำลังขยับเหมือนจะพูดคำๆนึงออกมาและก่อนที่มันจะพูดคำๆนั้นออกมาผมก็จูบลงไปเสียก่อนไม่ใช่ผมอดใจไม่ไหวแต่ผมจงใจ "ทำไมละ มึงรอฟังอยู่ไม่ใช่เหรอ"ผมยิ้มเอาหน้าผากดันหน้าผากมันไว้แล้วจูบปลายจมูกมันเบาๆ "วันนี้มึงบอกรักกูวันหน้ามึงอาจจะบอกเกลียดกูก็ได้ แค่ความรู้สึกกูรู้ว่ามึงรักกูก็พอแล้ว"ไต้ฝุ่นจับหน้าผมเอาไว้แล้วกดจูบลงมาอย่างนิ่มนวลลิ้นอุ่นๆแตะที่ริมฝีปากบนและล่างก่อนที่จะรุกล้ำเข้ามาภายใน มือผมล้วงเข้าไปใต้เสื้อมันอย่างรวดเร็วปลายนิ้มสัมผัสกับยอดอกนิ่มที่ผมชอบขย้ำเล่นบ่อยๆตัวไต้ฝุ่นค่อยๆถูกผลักลงไปนอนราบกับเตียงเดาว่าคงทับกุหลาบผมเละหมดแล้ว ผมอีกข้างของผมกำลังถอดกางเกงไต้ฝุ่นออกเช่นเดียวกับไต้ฝุ่นที่ถอดเสื้อผมออกปากนิ่มๆกำลังประทับอยู่ที่กระดูกไหปลาร้าผมและออกแรงดูดจนผมรู้สึกเจ็บผมสะบัดขาให้กางเกงที่ใส่อยู่หลุดออกไป และทันทีที่ตัวผมกับไต้ฝุ่นเปลือยเปล่าผมก็แยกขามันออกก่อนจะเข้าไปแทรกกึ่งกลางลำตัวของไต้ฝุ่นมือที่คล้องคอผมอยู่ออกแรงให้ผมก้มลงมาลิ้มรสมันอีกครั้ง ริมฝีปากผมกดประทับไปทั่วบริเวณยอดอกและฐานอกมือทั้งสองข้างของผมก็สัมผัสรูดรั้งกับแก่นกายของไต้ฝุ่น "อาส์..ใส่เข้ามาเลยสิ"เสียงที่ติดจะอารมณ์เสียอยู่หน่อยๆที่ยังได้ไม่ถึงจุดที่อยากได้ และมันก็แก้แค้นผมด้วยการงับเข้าที่ไหล่ผมอย่างจัง "เจ็บนะ เลือดไหลหรือเปล่าเนี่ย"ผมแทบจะปล่อยมือจากร่างกายมันมาดูแผลที่ไหล่และนั้นเป็นจังหวะที่ไต้ฝุ่นใช้โอกาสพลิกมาอยู่บนผม ก้นนิ่มๆแกล้งไถตั้งแต่หน้าท้องผมลงไปหยุดที่แก่นกายตอนนี้หน้าไต้ฝุ่นโคตรได้อารมณ์ ริมฝีปากแดงเจ่อกับหยาดเหงื่อที่ไรผมนั้นทำให้น้องชายผมแข็งเป๊กแต่ก็ไม่ได้ตั้งขึ้นเพราะไอตัวดีมันนั่งทับไว้ไม่ยอมลุกไต้ฝุ่นยิ้มเยาะผมเหมือนสะใจทั้งที่ตัวเองนั้นแหละที่กำลังทรมาณ ไต้ฝุ่นจับมือผมขึ้นมาวางไว้ที่ยอดอกมันก่อนจะยันมือไว้กับหน้าท้องผมแล้วลุกขึ้นจับน้องชายผมจ่อเข้ากับก้นตัวเอง "อื้อฟราน!"มันผวามากอดผมแน่น ตอนที่มันกระแทกตัวเองลงจนสุดลำทั้งที่ยังไม่ได้ขยายทางไว้และก่อนหน้านั้นเราก็ไม่มีอะไรกันมาเป็นเดือนแล้วช่องทางที่เคยเข้าออกอย่างสบายป่านนี้ก็คงปิดสนิท ไต้ฝุ่นหอบหายใจรุนแรงแก่นกลางลำตัวเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ผิดกับผมที่กำลังแข็งจนปวดหนึบในตัวของไต้ฝุ่น ผมก้มลงไปจูบมันอีกครั้งพร้อมกับรูดรั้งแก่นกายมัน "ฟรานขยับเลย อาส์"ใบหน้าไต้ฝุ่นบิดเบี้ยวด้วยแรงอารมณ์ผมประคองเอวคนที่ใกล้จะหมดแรงแล้วจำกระแทกลงมาจนสุดมือที่จิกไหล่ผมอยู่จิกแรงกว่าเดิม เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเสียวซ่านปะปนกับความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วห้องและหยุดไป "เจ็บมั้ย"ผมจูบปากมันเบาๆหลังจากเสร็จภารกิจไปยกแรก ไต้ฝุ่นนอนแผ่อยู่ที่เตียงทั้งๆที่ยังไม่เอาของผมออก น้ำสีขาวขุ่นไหลปะปนมากับเลือดที่คงเกิดจากการฉีกขาดเพราะความรุนแรงของไต้ฝุ่น "ไม่..อื้มม ขยับสิ"ดูเหมือนเจ้าของร่างกายนี่จะไม่มันอิ่มเอม ผมจัดการเดินเครื่องแล้วขยิบเอวเร็วสุดกำลัง ใบหน้าผมถูกไต้ฝุ่นกดไว้ให้จมกับแผ่นอก ผมช้อนตัวไต้ฝุ่นให้อยู่ในท่าคลานก่อนจะเดินเครื่องเร่งให้ไปจนสุดทาง "อาส์...ฟรานแรงอีกโอ้ย!"เสียงร้องของไต้ฝุ่นดังขึ้นพร้อมๆกับที่ผมฉีดน้ำเข้าช่องทางเขา ผมอ้าปากปล่อยยอดอกที่ผมดูดดึงอยู่เมื่อสักครู่ออก รอบยอดอกเป็นรอยฟันอยู่อย่างเห็นชัดเจ้าของร่างกายก็ฟาดเพี้ยะมาที่หน้าผมทันที "เจ็บนะบอกกี่ครั้งแล้วอย่ากับนมอ่ะรู้มั้ยว่ามันปฏิกิริยาเร็วอ่ะ"มันน่าตลกนะครับทั้งๆที่กำลังถ่างขาให้คนอื่นทำอยู่แท้ๆแต่กลับมานั่งลูบนมข้างที่ผมกัดตาเขียวใส่ผม ไต้ฝุ่นควานหาเสื้อที่ผมทำตกไว้มาปิดหน้าอกและทำท่าจะลุกขึ้นแต่ผิดแล้วที่รัก เกมส์นี่แค่สองรอบมันยังไม่อิ่มเลยนะ TYPHOON โอ้ยปวดเอวชะมัด ไอบ้าฟรานไปอดอยากมาจากไหนถึงได้ทำสักตั้งสี่ห้ารอบนี่สินะเพราะไม่ได้ทำมาหลายเดือนมันคงเก็บกดพอได้โอกาสเลยใส่ซะเต็มแม็กมันก็คงเหมือนคนอยากอาหารพออดมากๆก็เลยมูมมามเล่นเอาก้นผมแทบเคล็ด คิดดูสิครับตื่นเช้ามาผมยังนอนซบอกมันอยู่เลยก้นผมนี่เหนียวน้ำมันไปหมดเสียเวลาล้างตั้งนานแต่ที่น่าสงสารสุดคงเป็นแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดเพราะดอกไม้ช่อใหญ่ของผมกลีบมันหลุดกระจายซะเต็มห้องเต็มเตียง วันนี้ตื่นสายไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยต้องใส่เสื้อฟรานมาก่อนเพราะมันมักจะมีเสื้อผ้าสำรองเตรียมไว้ในรถเสมอแล้วก็โชคดีจริงๆที่ผมเคยทิ้งกางเกงในสำรองไว้ที่รถมันตัวนึงคงไม่ต้องนะครับว่าทิ้งไว้ทำไม "อ้าวฝุ่นเป็นไรไปหน้าซีดเชียวนอนไม่พอเหรอ" "แทบไม่ได้นอนเลยนะสิ"วดีทำหน้างง ก่อนที่ผมจะบอกอะไรไปไอฟรานก็โผล่มาซะก่อน "ก็เมื่อคืนฟรานกับฝุ่นนั่งเคลียร์กันทั้งคืนเลยนะสิ"มันนั่งลงแล้วก็กอดคอผมไว้ ไหนๆก็ไหนๆละก็ขอยืมไหล่หน่อยแล้วกัน "เคลียร์? เรื่องที่ทะเลาะกันนะเหรองี้ก็ดีกันแล้วสิ" "ใช่ดีกันแล้วดีกันสนิทแนบแน่นเลยด้วย"ผมละอยากจะชกหน้ามันจริงๆ เมื่อคืนก็เล่นแต่ท่าพิเรนท์ๆปวดเนื้อปวดตัวไปหมดถ้าไม่ติดว่ามีเทสย่อยนะจะไม่แบกสังขารมานั่งให้เมื่อยก้นหรอก ผมมองหน้าวดีที่แอบหน้าแดงหน่อยๆ "เอ่อ..ขอโทษครับพี่ไต้ฝุ่นคือว่าผม.."ผมกับฟรานหันหน้าไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน น้องจ้าวนั้นเองที่เดินมาหาพวกผมในมือน้องเขาถือถ้วยกาแฟเย็นกับทาร์ตไข่ชั่วขณะหนึ่งเขาหันมามองหน้าผมก่อนจะมองเลยมาที่มือของฟรานที่จับมือผมอยู่และวินาทีนั้นที่ทำให้ผมเห็นภาพตัวเองซ้อนทับกับภาพของจ้าว "ใครวะ?"เสียงที่ถามผมดูจะหงุดหงิดๆ ผมหันไปมองหน้าวดีอย่างขอความช่วยเหลือแต่วดีก็ได้แต่ส่ายหัวจริงสิผมลืมไปสนิทเลยนะว่ามีแค่ผมที่เคยเจอจ้าว ผมมองมือจ้าวที่เริ่มสั่นจนผมต้องลุกขึ้นแล้วดึงของทั้งหมดมาถือเองและนั้นทำให้ฟรานหันมามองหน้าผมด้วยสายตาไม่พอใจ "ทุกคนนี่จ้าวรุ่นน้องเราเอิ่ม...ทาร์ตไข่กับกาแฟเย็นนี่ให้พี่หรือเปล่า"ผมแกล้งถามทีเล่นทีจริงเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศแต่เหมือนทำให้มันแย่ลง ฟรานเริ่มออกอาการไม่พอใจดูทีเดียวก็รู้ว่าฟรานเริ่มไม่ชอบขี้หน้าจ้าวซะแล้วส่วนรุ่นน้องผู้มาใหม่ก็เอาแต่จ้องหน้าผมด้วยสายตาที่เหมือนกำลังผิดหวังจากบางสิ่ง "ครับ ผมซื้อมาให้พี่หวังว่าครั้งนี้พี่จะกินของที่ผมซื้อให้นะ" "แน่นอนพี่กินแน่แล้ว.." "ทำไมไม่ชวนน้องมากินข้าวเที่ยงด้วยกันละ"ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนสวนขึ้นซะก่อน ผมหันไปส่งตาเขียวให้ฟรานคนเขาอุตส่าห์จะรีบไล่ไปไกลๆยังจะมาทำให้เรื่องมันยุ่งยากอีก "มึงจะบ้าเหรอ!"ผมโพล่งออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจและก็ลืมคิดไปว่าผมกำลังทำให้คนๆนึงเสียหน้าอย่างรุนแรง "ทำไมครับ พี่ไต้ฝุ่นไม่อยากให้ผมไปด้วยเหรอ?"จ้าวเริ่มทำสีหน้าจริงจังใส่ผมเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน "เอ่อ..คือพี่คิดว่าจ้าวจะไปกินข้าวกับเพื่อนอ่ะแต่ถ้าไม่ไปก็มากับพวกพี่ก็ได้...อืมถ้าจะไปก็ไปเจอพวกพี่โรงอาหารกลางนะพี่ไปก่อนนะ"ผมดึงแขนฟรานลุกขึ้นก่อนจะขอแยกออกมาจากวดีโดยอ้างว่ามีธุระต้องจัดการ ผมลากฟรานมาที่ทางเดินหน้าห้องน้ำใต้ตึกเพราะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมา "มึงจะบ้าเหรอไปชวนน้องเขาทำไมกูไม่รู้จักเขานะเว้ย!" "แน่ใจเหรอว่ามึงไม่รู้จัก ถึงมึงไม่อยากรู้จักแต่มันก็สร้างสะพานรอมึงอยู่แล้ว"ผมเงียบ คงไม่มีเหตุผลอื่นที่ทำให้ผมเห็นภาพตัวเองซ้อนทับจ้าวเพราะผมก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วบางทีจ้าวอาจจะแอบชอบผมอยู่แต่ไม่กล้าบอกผมเหมือนที่ผมเคยเป็นกับพี่ไมโล "ก็รู้อย่างนี้แล้วจะดึงคนอื่นเขามาทำไมให้ยุ่งยากวะ"ผมผลักอกมันแรงๆ รู้สึกอารมณ์เสียยังไงชอบกลที่เกมส์ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ ทั้งๆที่ผมไม่อยากให้ใครมายุ่งหรือสร้างความร้าวฉานให้ผมกับฟรานอีกอุตส่าห์หลีกเลี่ยงแต่ทำไมมันยังดึงคนอื่นมายุ่งอีกผมไม่เข้าใจเลยสักนิด "เพราะกูจะทำให้มันรู้ว่ามึงเป็นของกู มันจะได้ตัดใจจากมึงซะตั้งแต่ตอนนี้ถ้ามึงยังคอบรับของจากมันทุกวันอย่างนี้ก็เท่ากับให้มันคิดว่ามึงมีใจให้มันมึงอยากให้จ้าวเจ็บแบบที่มึงเคยเป็นเหรอไงไม่ใช่ทุกคนนะที่จะมีคนรองรับไว้แบบมึง"มันขยับหน้าเข้ามาใกล้ผม สิ่งที่มันพูดทำให้ผมคิดได้ว่าไม่ควรทำแบบนั้นจริงๆถ้าหากผมไม่ทำให้อะไรๆมันชัดเจนปล่อยไว้นานเกินไปมันอาจจะนานเกินเยียวยาแล้วก็ถูกอย่างที่มันพูดว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคนรองรับแบบผม ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มีมันคอยรองรับผมเอาไว้และจะไม่ปล่อยให้ผมต้องเจอกับความเจ็บปวดอีก ผมจูบปากฟรานเบาๆก่อนจะผละออกมา "ขอบคุณนะที่ทำให้กูคิดได้"มันจูบผมอีกครั้งหลังจากที่ผมพูดจบ จากนั้นเราก็แยกย้ายกันไปเรียนเพราะผมกับมันยังลงเรียนคนละตัวอยู่ ผมไม่เคยอึดอัดขนาดนี้มาก่อน ก่อนหน้านี้เคยคิดว่านี้มันอึดอัดที่สุดแล้วในงานวันเกิดพี่อเลนแต่มาเทียบกับตอนนี้ไม่ได้เลย ผมนั่งมองหน้าจ้าวที่มองหน้าผมอยู่นานแล้วฟรานนั่งข้างผมส่วนวดีนั่งข้างจ้าว "เอ่อ..กูไปซื้อน้ำก่อนนะ" "เดี๋ยวผม../กูไปเอง"ทั้งสองคนอยู่ๆก็ลุกพรวดแล้วก็วิ่งไปที่ร้านขายน้ำ ผมกลับมานั่งเหมือนเดิมมีวดีที่คอยมองอยู่และหัวเราะออกมาเบาๆ "คนอื่นคงคิดว่าสองคนนั้นกำลังแย่งวดี แต่จริงๆแล้วพวกนั้นกำลังแข่งกับแย่งฝุ่นต่างหาก"จู่ๆผมก็แก้มแดงขึ้นจนหน้าร้อนไปหมดไม่คิดว่าวดีจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา "แล้วคิดว่าใครชนะละ"ผมแกล้งถามหยั่งเชิงดูว่าวดีจะรู้อะไรเกี่ยวกับผมและฟรานบ้าง หากวดีรู้และรับได้จะได้บอกไปเลยว่าผมกับฟรานเป็นอะไรกันแต่ถ้ารับไม่ได้ก็คงต้องเงียบเอาไว้แบบนี้ "ฟรานอยู่แล้ว..วดีเชียร์เพื่อนตัวเองยะ"สายตาล้อเลียนของวดีทำให้ผมอยากจะแทรกแผ่นดินหนีซะจริงๆ สายตาที่เหมือนคนมองอะไรทะลุปุโปร่งแบบนี้นะ "วดีรู้อะไรมาบ้างเนี่ย" "รู้หมดแหละ ไม่เหมือนใครบางคนเพิ่งจะรู้หัวใจตัวเองทำให้เกือบจะเสียคนที่รักไปซะแล้วมั้ยละ"อ๊ายยยย นี่วดีก็รู้เหรอเนี่ยไม่น่าละถึงรู้ว่าจังหวะไหนควรพูดถึงฟรานจังหวะไหนไม่ควร ให้ตายสิมีแค่ผมเหรอเนี่ยที่โง่งี่เง่าอยู่คนเดียวแบบนี้มันน่าอายชะมัดเลย ผมกับวดีคุยกันยังไม่ถึงไหนฟรานกับจ้าวก็เดินเร็วๆหน้าตื่นๆเข้ามาที่โต๊ะซะก่อนแล้วทั้งคู่ก็ยื่นน้ำมาให้ผมคนละแก้ว มีอยู่สี่คนพวกมึงซื้อน้ำมาแค่สองแก้วนี่นะบ้าหรือเปล่า "กาแฟเย็นกับน้ำแดง?" "เลือกเลยครับพี่ไต้ฝุ่น!"ผมสะดุ้งอยู่ใกล้กันแค่นี้จะตะโกนทำไมก็ไม่รู้ ผมหันมองหน้าฟรานกับจ้าวสลับกันแล้วคำพูดของฟรานก็ดังขึ้นในหัวผม ผมไม่ควรทำให้ทุกอย่างมันคลุมเครือผมควรจะตัดจ้าวออกจากชีวิตซะเพราะผมได้เลือกแล้วว่าผมจะอยู่กับใครผมไม่ควรรักษาน้ำใจจ้าวเพราะสุดท้ายนั้นจะกลายเป็นอาวุธย้อนกลับมาทำร้ายทั้งตัวผมและตัวจ้าวเอง "พี่ชอบน้ำแดง"ผมหยิบแก้วน้ำแดงมาวางไว้ข้างตัวแล้วฟรานก็ดึงมือผมไปกุมไว้หลวมๆ จ้าวมองหน้าผมอย่างผิดหวังผมทำได้แค่ยิ้มปลอบใจคงไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้ดีไปกว่านี้แล้ว "งั้นพี่ขอกินกาแฟเย็นหน่อยนะน้องจ้าวพอดีเกิดหิวน้ำขึ้นมา"วดีพยามทำลายบรรยากาศมาคุมึนตึงนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล "เดี๋ยวผมไปซื้อให้ใหม่ครับพี่วดี"จ้าวลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมจ้าวไม่เดินกลับมาแต่ฝากให้รุ่นน้องอีกคนเอามาให้แทน น้ำแก้วใหม่ที่จ้าวฝากมาให้คือน้ำแดงผมมองแล้วก็ได้แต่เศร้าใจรู้สึกผิดพิกลแฮะ "เหมือนแก้วนี้จะเป็นของฝุ่นนะ"วดีดันแก้วมาทางผม ยังไม่ทันจะพูดอะไรฟรานก็คว้าไปกินซะรวดเดียวหมด "กูกินเอง"กินไปแล้วเพิ่งจะมาพูดนะ ไอหมาหวงก้างถึงมันจะเป็นการกระทำที่ใจร้ายแต่เชื่อพี่เหอะนะน้องจ้าวมันจะเป็นผลดีต่อตัวน้องเอง เพิ่งรู้ว่าอาจารย์วันเพ็ญจะจ้างร้อยสอนล้านขนาดนี้อะไรจะทุ่มเทการสอนขนาดนี้ ผมชะโงกหน้ามองบรรดานักศึกษาที่ทำหน้าซังกะตายกับบทเรียนที่แสนยืดยาวของอาจารย์วันเพ็ญมันคงไม่น่าเบื่อขนาดนี้ถ้าอาจารย์แกไม่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบ่นและผลสุดท้ายคือปล่อยเลท และถ้าไม่มีนัดไปขนของที่ห้องผมกับฟรานผมคงไม่เสียเวลามานั่งรอมันนานขนาดนี้หรอกเมื่อไหร่จะออกมาวะเบื่อรอแล้วนะเว้ยย! tid tid = ผมรู้แล้วละครับว่าพี่รักใคร และพอผมรู้มันทำให้ผมรู้อีกอย่างว่าผมไม่มีทางชนะพี่ฟรานได้เลยต่อให้ผมจะหล่อกว่าหรือดีกว่าแค่ไหนแต่ถ้าหัวใจของพี่ไม่ได้อยู่กับผม ผมก็ยังคงเป็นผู้แพ้อยู่วันยันค่ำ ขอบคุณนะครับที่ไม่ให้ความหวังผมขอให้พวกพี่คบกันนานๆ [JAO] = "อ่านไรอยู่"ฟรานเดินเข้ามาประชิดตัวผมตอนไหนไม่เห็นรู้สึก ผมรีบเก็บโทรศัพท์ "ไม่มีอะไรรีบไปเหอะ ของกูที่จะขนไปห้องมึงเยอะนะเที่ยงคืนก็ไม่หมด"ผมกระโดดหอมแก้มมันแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยวนาทีนี่ใครจะพูดถึงหรือสงสัยในเรื่องของพวกเราผมก็ไม่สนใจทั้งนั้นครับ เพราะคนที่ผมต้องสนมีแค่คนๆเดียวนั้นก็คือคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมตรงนี้นี้ไง "กูรักมึงนะ" ------------------------------------------------------------------- THE END ขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านที่เข้ามาให้กำลังใจนะค่ะ คนเขียนดีใจมาที่เขียนเรื่องนี้จบจริงๆ
แฮปปี้เอนดิ้งงงงงงงงง แต่ฟรานนี่ทุ่มนะทั้งอาหารทั้งห้องเยี่ยมๆ555555555555
ฟรานเปิดห้องสวีท กะฟันเต็มที่เลยนะเนี่ย :hao6: จบซะแล้วเสียดายน่าจะเป็นเรื่องยาวเนอะ
ฟราน เจ๋งอ่ะ ทุ่มทุนสร้างงงงงงงงงงงงง 5555+ o13
แล้วงี้ไต้ฝุ่นจะไม่รักฟานได้ไง
ฟรานเปิดห้องเตรียมไว้ วางแผนมาแล้วอะดิ :hao6:
หวานๆๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: ขอบคุณคนเขียนค้าบบบบบ :pig4:
:hao6: :hao6: รีเควสตอนพิเศษคร่าา
วดีเป็นเพื่อนที่ดีนะนั่น
จบแล้วววววว แม้จะไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ (ก็มันแสดงออกไม่เก่ง) จะมีตอนพิเศษหวานบ้างไหมขอรับ ขอบคุณสำหรับเรื่องดๆที่แบ่งปัน
:impress2: จบแล้วอ่ะ อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ
อยากถามว่า ห้องสวีท ชั้น 27 มันเสียวต่างจากห้องที่คอนโดยังไง อร๊ายยยยย :oni1: วิ่งหนีไปด้วยใบหน้าที่ไหม้เกรียม
สงสารจ้าวอ่ะ แต่ ฝุ่นคู่กับฟรานน่ะดีแล้ว รักกันนานๆ นะ*-*
ลืมถามค่ะ ย้ายกระทู้ยังไงค่ะ
จบแบบหวานละมุน ดีแล้วที่ไม่ให้ความหวังน้องจ้าว แล้วจะมีเรื่องของน้องจ้าวบ้างไหมเนี่ย
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:จบแล้วเหรออออออออ :mew1: :mew1: :mew1:
น่ารักจัง ดีใจที่จ้าวยอมเข้าใจง่ายๆ ไต้ฝุ่นน่ารักอ้ะๆๆ ชอบๆๆๆๆ
หลายดอกครับ หลายดอกกกก ท่าอะไรมั้งอ่ะเนี่ย 5555
:pig4: :pig4: ขอบคุณค่ะ ดีใจกับฟรานนะ แล้วก็รอตอนพิเศษหวังว่าจะมีนะคะ :mew2: :mew2:
โหวตตอนพิเศษด้วยอีกคน แต่ขอเป็นไต้ฝุ่นเป็นคนหึงฟรานบ้างก็ดี :katai5: :katai5:
:mew6: :mew6: :mew6:
ว๊าวๆๆๆ จบแล้วๆๆ Happy Ending! ชอบๆๆๆครับ
แฮปปี้เอ็นดิ้ง o13
น่ารักดีค่ะ อ่านแรกๆก็โกรธน้องฝุ่นนะ แต่อ่านไปเรื่อยๆก็น่ารักดีค่ะ ไม่สั้น ไม่ยาว กำลังดี สนุกค่ะ (^^)
ในที่สุดก็ได้คู่กัน น่ารักดีค่ะ :pig4: คนเขียนค่ะ
นิยายสนุกมากเลยครับ เป็นเรื่องสั้นที่อ่านแล้วมีความสุขจริงๆ ตอนแรกคิดแค่ว่าจะมาอ่านncเรียกเลือด แต่พออ่านจนรู้สึกอบอุ่นกะความรักของทั้งสองคนมาก เป็นกำลังใจให้นักแต่งนะครับ แต่งนิยายสนุกๆแบบนี้มาให้อ่านอีกนะครับ ^^ โดนใจมากประโยคนี้!! "ถ้ามึงรักเขาจริงตอนมึงจะเลิกรักมึงจะไปทำลายเขาทำไมว่ะ มึงอยากให้คนที่มึงรักเสียใจเหรอไง"
ชอบมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณคนแต่งนะคะ ~^^ รักฟรานจัง อิอิ >.<
หื้ออ! ,, แค่ชื่อเรื่องก็แซ่บแล้วนะ ถึงจะเป็นผัวเก็บ แต่ก็เป็นรักแท้จริงได้นะเออ แอบบมาม่าเล็กด้วย ชอบๆๆ จะติดตามเรื่องต่อไปนะค่ะ :impress2:
สนุกมากค่ะ ชอบจ้าวอ่ะ น่ารักดี
น่ารักดีจ้ะ :katai2-1:ขอบคุณน่ะจ้ะสำหรับเรื่องดี ๆ แบบนี้น่ะ :mew1: ถ้าเปิดเรื่องใหม่ช่วยมาแจ้งในกระทู้เดิมได้ไหมจ้ะ เพราะไม่ค่อยได้ติดตามในหน้ากระทู้เปิดใหม่น่ะ
ชอบจัง ซึนๆ หน่วงๆ ดราม่าเอย จงเจ็บจี๊ด ยิ่งขึ้น
อึมครึมมานานมาหวานกันตอนจบ
สนุกมากค่า แต่มีที่เขียนผิดเยอะอยู่นะ โดยเฉพาะบทแรก ลองกลับดูเด้อ^^
สนุกค่ะ ชอบฟรานอ่ะ โดยส่วนตัวแล้ว ชอบลุคฟรานตอนจะขน่ำใต้ฝุ่นอ่ะ มันให้ความรู้สึกที่เจ้าเลห์ แง่มๆๆ เขิล นี่ชั้นพิมพ์อะไรลงไปนะ ฮ่าๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดี น่ารักมากๆ รอตอนพิเศษอยู่นะ :กอด1:
สนุกมากมาย :กอด1:
o13 อ่านแรกๆริ่มคิดว่า ใต้ฝุ่นแอบเห็นแก่ตัว กับคำที่บอกว่า ถ้าฟรานรักตัวเองจริงจะไม่ถามถึงสถานะที่คบกัน แอบอยากให้มีคนมาชอบฟรานให้ฝุ่นได้รู้สึกหึงบ้าง แต่จบแฮปี้ก็มีความสุขดี ^^
:mew1: :mew1: :mew1:
ขอบคุณคะ :pig4:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
สนุกมากเลย ฟรานน่ารักจังเลย ชอบตอนทำเจ้าเล่ห์ รู้สึกว่าดาร์กนิดๆ จะรออ่านเรื่องต่อไปนะ
น้องจ้าวมาหาป้ามะลูกเดี๋ยวป้าจะกอดรับขวัญเอง :hao6:
เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ อ่านไปยิ้มไป แอบลุ้นว่าจะลงเอยกันแบบไหน อยากให้มีตอนพิเศษจัง
:-[ :L2:
:mew2: สงสารฟรานอ่ะ แต่ดูฮีชอบนะ เอสเอมสุดๆ
o13 วดี เพื่อนที่เข้าใจทุกอย่าง
จบลงตัวอิอิ
อยากหาแบบนี้ไว้สักคน ถ้าจะดีไม่น้อย 555+
ฟรานน่ารักมาก
:pig4: :L1: :L2: :L2:
สนุกกมากเลย สงสารจ้าวแต่ถ้าปล่อยไว้ก็จะทำให้จ้าวหน้าสงสารกว่านี้
:sad4: หน่วงมากเลยยยยยยย ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่าาา :ruready
ขอบคุณคนแต่งมากคร้าาาาาาา
ขอบคุณค่ะ ชอบเรื่องสไตล์นี้นะ บีบหัวใจดี ^^
ชอบครับ ... ฟราน น่ารักมาก ขอบคุณครับ
สนุกคับ สนุก ยังดีที่ได้กลับมาคบกันเป็นแฟนนะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ไม่ว่าจะอ่านสักกี่รอบๆก็ยังชอบบบ :impress2: :pig4: :pig4:
กลับมาอ่านอีกรอบ ผู้ชายอย่างฟรานนี่จะแสนดีไปไหน ปลื้มมาก ^^
:pig4: :pig4:
:pig4: :pig4: :pig4: