ความรู้สึกส่วนตัว จริงๆหมอกก็ไม่มีมารยาทเหมือนกันนะ มาทานข้าวด้วยกันแต่ดันเอาเอกสารขึ้นมาอ่าน เอางานขึ้นมาทำ ถึงจะไม่อยากคุยกับผู้ร่วมโต๊ะก็เถอะแต่มันขัดแย้งที่บอกว่าภาพลักษณ์เลขาที่ดีจะทำให้เจ้านายดูดีนะ บุคลิกดียังไงแต่พฤติกรรมไม่ดีมันก็ทำให้เจ้านายดูไม่ดีเหมือนกันนั้นแหละ
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ น้องหมอกดูเป็นเคะราชินีสุดดดดด ติดตามเป็นแฟนคลับ :mew1:
ปล. พี่ว่าการเอางานขึ้นมาทำบนโต๊ะอาหารมันไม่ค่อยมีมารยาทเลยเด้อ ยังไงทั้งคุณจอมทัพคุณเมฆก็เป็นเจ้านายนะคะ..
นี่ยังเป็นตอนที่เชษฐ์ยังไม่เจอมีนใช่มั้ยเนี่ย
เป็นนิยายที่ผมหาจุดติแทบไม่ได้เลยนะครับ ยกเว้นเรื่องคำผิด (หัวเราะ) คุณลิตเติ้ลพิกเขียนดีมากครับ! ไม่เจอนิยายที่ให้ฟีล ‘นิยาย’ แบบนี้มานานมากๆแล้ว เด็กแพทย์นี่มีพรสวรรค์เขียนหนังสือดีแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่าเนี่ยครับ? (พูดไปนั่น ฮะๆ) แต่อย่างไรก็ดี มีบางจุดที่ผมอยากนำเสนอหน่อยนะครับ อย่าถือว่าเป็นเรื่องติเลยละกัน เพราะมันไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น
เรื่องแรกคือ Diversity ของตัวละครครับ ผมลองเปิดอ่านหลายเรื่องของคุณลิตเติลพิกแล้วนะครับ ตอนแรกน่ะผมลองอ่านเรื่องของน้องแว่นอยู่ แต่อ่านไปอ่านมา มันมีสะกิดใจหน่อยครับ คือถ้าสังเกตในเรื่อง Blind Side จะเห็นว่าแนวโน้มการสร้างคาแรกเตอร์ที่มี diversity หลากหลายและมีบทสำคัญๆต่อพล็อต คุณลิตเติลพิกจะให้ตัวละครพวกนี้อยู่แต่ในคณะแพทย์ แม้ว่าจะมีกล้ากับผองเพื่อนที่อยู่บริหาร แต่ถ้าไปดูการเกลี่ยบทจริงๆจะเห็นว่าน้ำหนักของมันห่างจากตัวละครคณะแพทย์เยอะมาก มันเลยดูโน้มเอียงไปทางคณะแพทย์และทำให้คนอ่านที่จับจุดได้เร็วจะเห็นว่าคนเขียนมี Bias ที่ดีต่อคณะแพทย์ครับ จุดนี้เลยทำให้สมดุลของการสร้างบทและการกระจายน้ำหนักบทสำคัญต่อการดำเนินพล็อตเสียไป ทุกอย่างจะอยู่แต่ในคณะแพทย์ชนิดที่ว่าเดินเข้ามาคณะเดียวคือจบพล็อตทุกอย่างได้เลย คีย์คาแรกเตอร์อยู่ในนี้หมด ซึ่งนี่ถือว่าแบ่งบทกระจายแบ็คกราวด์ตัวละครยังไม่ค่อยดีนะครับ ผมเลยหยุดอ่านเรื่องนั้นไป (และพอแวบไปลองอ่านเรื่อง Which one ก็ยังเห็นจุดบกพร่องตรงนี้อยู่)
เรื่องที่สอง Age Gap ครับ เรื่องนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็ก และเป็นเรื่องของรสนิยมคนเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่น่าคิดคือถ้าสร้าง age gap ระหว่างตัวละครสองตัวให้มากเข้า มันจะไปส่งผลกระทบต่อลักษณะของคาแรกเตอร์และการดำเนินเรื่อง รวมถึงการดึงพล็อตให้เข้ามาสมจริง ทั้งหมดนี้มันจะทำได้ยากขึ้นครับ เพราะว่าอายุที่ห่างจะส่งผลต่อลักษณะนิสัย ลักษณะกายภาพ รวมถึงการสร้างพล็อตเพื่อดึงตัวละครทั้งสองให้เข้ามาเจอกันและปรับเข้าหากันมันจะท้าทายมาก ถ้าทำไม่ดีมันจะทำให้คนอ่านจับจุดพลาดได้ง่ายครับผม ดังนั้น ผมจึงค่อนข้างนิยมชมชอบเรื่องนี้ (You Stranger) มากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะว่าอ่านง่าย
แต่สิ่งที่ต้องชมมากๆคือ คาแรกเตอร์ พล็อต ทักษะบรรยาย ทุกอย่างคุณลิตเติลพิกทำได้ตรงจริตผมนะครับ คือไม่พลาดองค์ประกอบใหญ่ๆเลยสักข้อ คาแรกเตอร์แน่น มีพื้นหลังชัดเจน ทุกการกระทำหรืออดีตมีผลต่อปัจจุบันได้อย่างมีระบบและมีหลักการ พล็อตมีความชัดเจน รวมถึงทักษะการบรรยายก็ช่วยส่งเสริมความหนักแน่นของอารมณ์ในแต่ละหัวข้อให้คนอ่านรับรู้ได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความคิด ความรู้สึกของตัวละคร หรือแม้แต่การบรรยายในมุมมองบุคคลที่สามเพื่อดำเนินพล็อต ก็ถือว่าทำได้ดีมากครับ ถ้าตัดเรื่องข้อบกพร่องสองจุดนั้นไป ทุกเรื่องของคุณลิตเติลพิกก็ถือว่าเป็นนิยายที่อ่านเพลินได้ดีครับ
ที่ต้องชมไม่ใช่อะไรครับ เพราะว่าเรื่องนี้ You Stranger เป็นเรื่องที่สำหรับผม ถือว่าสอบผ่านที่สุดในบรรดานิยายที่คุณลิตเติลพิกเขียน ถ้าไม่นับองค์ประกอบที่ผมชมไปในแล้วในย่อหน้าข้างต้น จุดบกพร่องทั้งสองอย่างก็เกือบจะเรียกได้ว่า ‘ไม่มี’ เลย เรื่องนี้มีความหลากหลายของความสามารถส่วนบุคคลเยอะมาก และด้วยสกิลของคุณลิตเติลพิกก็สามารถบริหารมันออกมาได้ดีและน่าสนใจ พระนางเรียนคนละคณะ(บริหาร/บัญชี) เพื่อนก็เรียนคนละคณะ(คหกรรม) เพื่อนของพระเอกก็เรียนต่างออกไปอีก(มาเฟีย) ความหลากหลายของตัวละครมันเยอะและน่าสนใจมากทีเดียวครับ การที่เรามีความหลากหลายมากๆนี้ทำให้เราเล่นกับเนื้อเรื่องได้เยอะมาก แตกเส้นพล็อตได้ดี และสามารถเจาะเข้าไปที่แต่ละตัวละครในด้านลอจิกการกระทำหรือเหตุผล มุมมอง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ครับ อีกทั้งนิสัยตัวละครทุกคนมีความแตกต่างกันอย่างโดดเด่น ซึ่งเกิดจากทักษะการสร้างคาแรกเตอร์ที่ดีของคุณลิตเติลพิก เรื่องนี้ผูกเรื่องได้ดีมาก พล็อตน่าสนใจมาก Age Gap ก็ไม่มี ทำให้เราเห็นพัฒนาการความใกล้ชิดของพระนางที่ค่อยๆ develop จากอดีต มาถึงจุดเปลี่ยนของเรื่อง และต่อเนื่องมาที่ปัจจุบัน ผมอ่านแล้วประทับใจครับ บอกตรงๆ
ตัวหมอกเองก็ถือว่ามีมิติ ลักษณะคาแรกเตอร์ตรงใจผมมาก เขาแสดงความเป็นมนุษย์ในหลายๆด้านได้อย่างสมเหตุสมผล มีบุคลิกหลักที่ไม่หลุด แต่ก็มีบ้างที่มีมุมหลุด(โดยมีเหตุผลรองรับ) ทำให้เป็นตัวละครที่น่าสนใจและสมเหตุสมผล คอยเชียร์ตามได้ไม่ยาก พล็อตก็น่าสนใจอย่างที่ผมบอกไปแล้ว การเล่นเรื่องความจำเสื่อมและใช้เหตุการณ์เพื่อสร้างสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่โดยมีอีเวนท์ต่างๆแทรกนี่เป็นพล็อตเบสิค แต่ด้วยเทคนิคการเขียนพล็อต สร้างอีเวนท์ของคุณลิตเติลพิก ก็สามารถทำให้มันแตกต่างจากพล็อตทั่วไปได้อย่างโดดเด่นครับ จุดที่เว้นไว้เพื่อเป็นปริศนาแก้พล็อตก็ทำได้ดีและบรรยายออกมาได้ลื่นไหล การบรรยายความรู้สึกและมุมมองส่วนบุคคลของแต่ละตัวละครก็ทำได้ดีจนผมอินไม่น้อยเลย ประกอบตัวตัวละครทุกตัวมี diversity และความมีเอกลักษณ์ ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจมากๆครับ
แต่ยังเรื่องนี้ก็ยังมีจุดที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผลักดันไปนิดนึงจนสังเกตได้ คือ การสร้างคู่รองอื่นๆให้ดูมีความเด่นจนเกือบจะกลบตัวละครหลักครับ (เช่น น้องชายของเมฆ-หัวหน้าฝ่ายการตลาด / คุณจอมทัพ-น้องขวัญข้าว) จะสังเกตว่าทั้งสองคู่เล่น age gap อีกแล้ว (ไม่นับว่าอนาคตจะมีคู่คุณเชษฐ์-น้องมีน อีก) จุดนี้เลยทำให้ผมรู้สึกว่าเริ่มมีความซ้ำของเคมีการจับคู่ครับ เริ่มเดาทางการจับคู่ได้ เลยทำให้บรรดาคู่รองสำหรับผม ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ (แม้ว่าตัวละครจะโดดเด่นมาก และพล็อตจริงๆคงจะต่างกันมาก ซึ่งโดยรวมก็คงน่าอ่านด้วยทักษะการเขียนที่ดีของคุณลิตเติลพิก แต่การคงลักษณะการจับคู่ที่ทำให้คนอ่านเดาทางได้ มันทำให้เห็นจุดบกพร่องเดิมๆครับ)
ยังไงก็รออ่านต่อนะครับ ถือว่าอ่านได้เพลินและน่าสนใจเลย ใช้เป็นตัวอย่างในการอ้างอิงก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว สำหรับคู่หลัก ทุกอย่างทำได้ดีมากครับ! ถ้าเป็นหนังสือนี่ผมคงเก็บเรื่องนี้แน่ๆ
พี่ครามเจอของนอกจ้า :laugh:
อดีตที่หวานซินะ.................ทำไมอ่านแล้วเศร้าอ่ะ
งงมากเลยรักขนาดนี้แล้วมีอะไรที่ต้องเลิกอยากรู้ๆๆๆ
รออ่านนะค่ะ
คือว่า...
ผมที่ร่วงเองตามธรรมชาติ มักไม่ค่อยมีรากผม = ไม่มีเซลล์มีชีวิต
= ไม่มีอะไรเอาไปตรวจ DNA
เราว่าเอาที่ซับซับแปรงสีฟัน ยังมีโอกาสได้มากกว่า
ทำไมเราคิดเหมือนกัน 555
นี่แอบคิดไปไกลถึงขนาดที่ว่า -เมฆา-
... จะพยายามทำให้(กลับมา)รักกัน(อีก)
....... แล้วพอฟื้นความจำ ก็จะมาขอเลิก (เหมือนครั้งที่แล้ว?)
แบบนี้มันดูใจร้ายไปนะสำหรับ –หมอก-
ปกติเรื่องนึงผมจะคอมเมนท์ไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่นี่เราอดไม่ได้ เห็นแล้วมันฟีดกู๊ดเหลือเกิน อ่านตอนง้อนี่โอ้โห สกิลคุณเชษฐ์เทิร์นโปรมากๆอะครับ จำได้ทุกอย่างของมธุวันที่เสียไปเพราะเรื่องของตัวเอง อื้อหือ ความใส่ใจนี้... เป็นผมโดนง้อแบบนี้ก็ระทวยครับ คนอะไรกันว้า สกิลง้อนี่อย่างเทพอะครับ
มีเรื่องอยากพูดเกี่ยวกับตัวพล็อตเรื่องเยอะเหมือนกัน คราวที่แล้วลืมพูดครับ (ฮา) เอาเรื่องเบาๆก่อน เรื่องเคมีคู่ อย่างตอน ‘ง้อ’ ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่าเคมีที่ควรจะเป็นนี่เป็นยังไง อย่างเมฆา เคมีที่เหมาะกับเขาคือมธุวันภาคน่ารักสมัยเรียน ซึ่งอ่านแล้วอิ่มใจมากครับ คาแรกเตอร์ของพวกเขาทั้งสองคนมัน fit-in together น่ะนะ แล้วอย่างคุณเชษฐ์ เคมีที่เหมาะกับเขาคือมธุวันภาคเลขาผู้หน้านิ่งเลือดเย็นนี่แหละครับ อันนี้อ่านแล้วสนุกครับ มันฟีดกู๊ดคนละแบบกับของเมฆาน่ะนะ อาจจะเพราะมีฉากต่อปากต่อคำ มธุวันงอนแล้วเหวี่ยงแบบนิ่งๆ ไม่สนไม่แคร์ จนสุดท้ายธีรเชษฐ์ก็ต้องยอม มาง้ออยู่ดีนี่ล่ะครับ (หัวเราะ)
ผมว่าคนปราบคุณเชษฐ์ได้นี่ต้องแบบหมอกตอนเป็นเลขาอะครับ ฮะๆ คือเอาจริงๆแบบน้องมีนคงไม่เวิร์คเท่าไหร่มั้งในชีวิตจริง อย่างคุณเชษฐ์นี่ถ้าจะประคองชีวิตคู่ให้รอดไปแบบไม่มีดรามา คงต้องแบบมธุวันภาคเลขาอะครับ ถ้าคุณเชษฐ์ได้คู่นิสัยแบบคุณเลขานี่ ชีวิตคู่ฮาเฮชัดๆ แต่ในเรื่องก็มีคู่แบบนี้อยู่นะครับ คุณนิโคไลกับคุณหมอคนนิ่งนั่นไง ดังนั้น เราไม่ได้จะชี้เป้าเปลี่ยนคู่เชียร์หรืออะไรนะครับ แต่บอกว่าเออ เรือผีลำนี้นี่...บันไดชวนขึ้นเรือตกแต่งยั่วยวนเหลือเกิน ใจสั่นไปหมด ฮะๆๆ (แบบอะไรนะ ไบรซ์มิวซ์ใช่ไหมครับ แต่คู่นี้แววเยอะกว่าคู่นั้นนะครับ (หัวเราะ)) แต่ว่าตรงที่บอกว่ารักเหมือนลูกกับรักเหมือนแม่นี่ฟังไม่ค่อยขึ้นนะครับ ผมว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้นิยามแบบนั้นนะเท่าที่รู้สึก เพราะธีรเชษฐ์คืออย่างน้อยต้องชอบนิสัยคนแบบมธุวันภาคเย็นชานิ่งๆอยู่ด้วยล่ะ อาจจะถูกใจแต่แรก แล้วทีนี้มธุวันดันช่วยธีรเชษฐ์แก้ปัญหาได้เยอะ ความรู้สึกดีๆเลยบวกเพิ่มเข้าไปอีก มันเลยต้องง้อ จะไปใช้อำนาจบังคับก็ไม่ได้เพราะว่ารู้สึกชอบอยู่เหมือนกัน คือมันไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่ก็ไม่ได้เป็นโทน Pure love ขนาดนั้นเหมือนกัน ลองสังเกตตอนที่มธุวันไปพบลูกค้าคือนิโคไลที่อายุพอๆกับธีรเชษฐ์สิครับ โอ้โห จัดหนักจัดเต็ม แทบจะสกัดกั้นทุกทางยังกับตัวร้าย (หัวเราะ) [เพิ่มเติมตรงจุดนี้ : ถ้าเป็นวรรณกรรมโลกสีเทา ความเข้ากันและพล็อตตรงนี้มันอาจ develop ไปสู่เชิงชู้สาวได้เหมือนกันนะครับ แต่ก็จะแตกประเด็นออกได้เป็นสองทาง คือไม่ดรามาไปเลย ก็จะออกแนวมุ้งมิ้งตลกแบบที่เราเห็นคุณเชษฐ์โดนหมอกข่มอยู่ในเรื่อง และจุดพวกนี้ที่เรามักจะเห็น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของคู่หลักในวรรณกรรมโลกสีเทาส่วนมากครับ]
พูดไปพูดมา แหม่ นี่ถ้าฉีกมธุวันออกมาเป็นสองคนได้นี่ก็ดีเนอะครับ จับให้คนพ่อกับคนลูกไปเลย คนละคาแรกเตอร์ คนอ่านแฮปปี้กันหมด (ฮา) แต่สรุปคือคุณลิตเติลพิกเลือกคาแรกเตอร์ได้ดีครับ (เอาเข้าจริงๆ ผมว่าเรื่องอื่น คุณลิตเติลพิกก็คิดคาแรกเตอร์ระหว่างพระ-นาง ที่เข้ากันได้ดีมากนะครับ แต่ปัญหาคือ diversity ของตัวละครด้านอื่นๆมันดันมีจุดร่วมกันอยู่ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นอะไรที่จงใจเกินไปและความสมเหตุสมผลไม่แน่น)
ทีนี้มาถึงเรื่องพล็อตของมธุวัน ผมอยากรู้นิดนึงตรงที่ว่า นิโคไลกับวรินทร์นี่ไม่ได้มีสายสัมพันธ์อะไรกันเลยหรือครับ? ถ้ามี การที่คุณนิโคลัสจะไปคู่กับพี่หมอ มันก็จะแปลกๆไปนิดหน่อยนะครับ ถ้าเราอิงจากหลักที่ว่าเรื่องของตระกูลอัลฟอนโซ่กับตระกูลเหลียนเกิดขึ้นมาเพราะความต้องการที่จะพันธนาการตระกูลทั้งสองนี้ไว้ด้วยกัน (ซึ่งผมว่าเหตุผล deep down ตั้งแต่เริ่มแรกที่ทำสัญญาอันนี้ คงเป็นเพราะความดรามาเรื่องความรักเนี่ยแหละครับ อาจจะเป็นชาย-ชายด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นชายหญิง สัญญาคลุมถุงชนคงถูกกำหนดขึ้นมาตั้งนานแล้ว) ทีนี้ถ้าเราอิงลอจิกตามความต้องการพันธนาการแบบนี้ คนทุกคนของตระกูลอัลฟอนโซ่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนตระกูลเหลียน ที่ดัน ‘อายุใกล้กัน’ ด้วยตลอดเวลา แล้วยิ่งตระกูลอัลฟอนโซ่เป็นผู้นำโลกมืด ทั้งอำนาจและความใกล้ชิดที่ต้องทำตามกฎพันธนาการนั้น มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องเกิดสายสัมพันธ์ทั้งทางกายและทางใจขึ้น
คือให้มองเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกันก็ได้ แต่มันต้องมีสตอรี่ปูมาก่อน และคาแรกเตอร์ของทั้งสองคนต้องเอื้อ เพราะถ้าเราอิงแบ็กกราวน์แบบปกติเข้ากับนิโคไลและวรินทร์ มันจะตีความได้แค่สองแบบครับ ไม่อัลฟอนโซ่เป็นตัวพระคู่กับฝ่ายรับคือตระกูลเหลียนที่ต้องอยู่ในเงามืดและมีกฎนี้ตราจองจำไว้ตลอดกาล ก็คืออัลฟอนโซ่เป็นตัวนางและตระกูลเหลียนต้องปกป้องเขาด้วยชีวิตแบบอัศวิน มันจะเข้าโรแมนติกพล็อตตลอดน่ะครับเพราะเนื้อหามันเอื้อจริงๆ (แต่โดยส่วนตัว พล็อตโลกมืดตรงนี้ของคุณลิตเติลพิกนี่ตรงใจผมใช้ได้เลยนะครับ มัน broaden สโคปเรื่องไปได้เยอะเลย แล้วก็สามารถสร้างนิยายเรื่องอื่นให้มาโยงต่อกับนิยายเรื่องนี้ก็ได้ด้วย สร้างเป็นจักรวาลย่อมๆได้เลย) อย่างมธุวัน ถ้าเขาเป็นน้องของนิโคไลจริงๆ เรื่องเขากับนาวินทร์ ผมว่าสตอรี่ของสองคนนี้มันถูกปูมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องเคมีเขากับนาวินทร์คงเลิกคิดไปได้ ดังนั้นถ้าเข้ากฎนี้จริงๆ เคมีมันก็จะเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่ไม่มี romantic issue ให้เราต้องกังวลครับ เพราะมธุวันเองก็เป็นคนหัวแข็งระดับหนึ่งนะในเรื่องของคนที่เขาใส่ใจ เขาคงไม่ไปจำกัดชีวิตของนาวินทร์ที่เป็นเพื่อนเขาขนาดนั้น และนาวินทร์ก็คงเข้าใจมธุวันในระดับหนึ่ง คงไม่เข้าไปยุ่งชีวิตส่วนตัวขนาดนั้นเหมือนกัน แต่นิโคไลกับวรินทร์สิครับ ปมสองคนนี้ยังไม่แน่เลย แล้ววรินทร์ก็รูปร่างกับคาแรกเตอร์น่าสนใจซะขนาดนั้นเสียด้วย แถมยังมีเรื่องของลูกนิโคไลอีก นับว่ามีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยครับ น่าสนใจมากๆ
ฉันสัมผัสได้ว่า part now ถ้าได้กลับมาคบกันอีก หมอกต้องแซ่บกว่าเดิม 100 เท่า :hao3:touchได้เช่นกันคะ มีความ...ที่แท้ทรู
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะแก้ไปแล้วเน้อ สงสัยไรท์ลืมแจ้งแน่เลย พอดีตอนนั้นพิมพ์ตกฮะ :mew2:
รู้สึกว่าคนสอนหมอกขับรถไม่ใช่เมฆานี่นา เมฆาไม่ให้หมอกขับรถเพราะบอกว่าตัวเองจะเป็นคนขับให้เอง
หรือเราจำผิด 5555
ทำไมเรารู้สึกว่าที่เมฆรถคว่ำคราวก่อนเพราะโดนคนไล่ตามแบบนี้แหละ
กลับไปอ่านซ้ำแล้วค่า ขอบคุณค่าขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะแก้ไปแล้วเน้อ สงสัยไรท์ลืมแจ้งแน่เลย พอดีตอนนั้นพิมพ์ตกฮะ :mew2:
รู้สึกว่าคนสอนหมอกขับรถไม่ใช่เมฆานี่นา เมฆาไม่ให้หมอกขับรถเพราะบอกว่าตัวเองจะเป็นคนขับให้เอง
หรือเราจำผิด 5555
ทำไมเรารู้สึกว่าที่เมฆรถคว่ำคราวก่อนเพราะโดนคนไล่ตามแบบนี้แหละ
แจ้งงดอัพนะคะ
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงไว้ทุกข์ ไรท์ขออณุญาตหยุดอัพนิยายจากวันนี้ไปจนถึงวันที่27นะคะ
จะกลับมาอัพตามปกติวันที่28 ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
:pig4: :pig4: :pig4:
Kunt : เห็นด้วยครับ ไม่อยากจะพูดว่า หมอกลองลาออกไปเลย แล้วรอดูซิว่า อีตาประธานนี่จะหาคนมาทำงานแทนได้ดีขนาดไหน อยากจะรู้นัก หาคนเก่งเท่าหมอกอะมีเยอะแยะครับ แต่จะหาคนจิตใจดีแบบหมอก มีความราชินีโหดในที่ทำงานแต่ก็แฝงความอ่อนโยนแบบรู้สึกได้ รวมถึงไม่ได้คิดจะจับเจ้านายด้วย ลองดูซิว่าจะมาทำงานกับธีรเชษฐ์แล้วจัดการสารพัดเรื่องเขาได้ขนาดไหน บริษัทมันจะวุ่นวายขนาดไหน
ผู้ชายบ้าอำนาจ เห็นความสุขตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าข้าอยากได้ต้องได้ พอผิดไปหน่อยก็ง้อไปเรื่อยแบบนี้ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ลูกชายคนกลางจะถึงขั้นไม่อยากจะเห็นหน้าน่ะ