พิมพ์หน้านี้ - [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Speirmint28 ที่ 15-02-2016 22:28:19

หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 15-02-2016 22:28:19
:m16:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่1 15/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 15-02-2016 22:30:33
นิยายเรื่อง "พระจันทร์ล้อนที" เป็นนิยายเรื่องที่สองของ "นิยายชุด ดวงใจไร่รัก"


นิยายชุดนี้มีทั้งหมดสามเรื่อง

ภมรอ้อนตะวัน ตะวัน - ภุมริน (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50942.0
พระจันทร์ล้อนที รัชพล - สิตางศุ์ (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51978.0
ปฐพีเคล้าเมฆา เพียงดิน - เมฆา (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53471.0


ฝากติดตามนิยายชุดเรื่องนี้ด้วยนะคะ มาพบกับความรักฟิลกู๊ดของสามคู่สามรสในบ้านไร่ ที่จะทำให้คุณยิ้มไม่หุบ  :m3:


เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
 :katai4:

จะเป็น BoxSet ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง BoxSet ได้ค่ะ
 :-[

ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater




ติดตามข่าวสารได้จากเพจนี้ค่ะ

https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf



พระจันทร์ล้อนที




เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่รัชนะคะ จากเรื่องที่แล้วนั้นพี่รัชทำแสบกับน้องรินไว้เยอะ มาติดตามเรื่องของพี่รัชเองดีกว่าค่ะ เรื่องนี้ที่ชื่อพระจันทร์ล้อนที นทีในที่นี้คือนามสกุลของพี่รัช “รักษ์นที” เนื้อเรื่องจะแตกต่างจากเรื่อง ภมรอ้อนตะวัน ค่อนข้างจะมาก เพราะเรื่องนี้จะออกแนวเคร่งๆ ตามสไตล์คุณพี่รัชเค้าล่ะค่ะ แต่ก็ยังมีความโรแมนติกอยู่นะ อิอิ

ตอนแรกนั้นว่าจะแต่งเรื่องนี้ตอนปิดเทอม แต่มันคันไม้คันมือ อดไม่ได้ ตอนนี้มีตุนไว้ไม่ถึงห้าตอน คนเขียนอัพทุกวันเมื่อเรื่องที่แล้วไม่ได้นะคะ อาจจะสามสี่วันต่อหนึ่งตอน หรือมากกว่านั้น ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

ใครไม่เคยอ่านเรื่องแรกของนิยายชุดนี้ ไปตามอ่านภมรอ้อนตะวันได้ค่ะ แต่ไม่อ่านเรื่องนั้นก่อนก็สามารถอ่านเรื่องนี้เข้าใจได้ค่ะ








บทที่ 1






ไร่น้ำรินที่แสนกว้างใหญ่กินพื้นที่หลายพันไร่ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ทางลูกรังเส้นหนึ่งที่แทรกอยู่ระหว่างไร่มีรถกระบะคันเก่ากำลังแล่นมุ่งออกไปสู่ภายนอก ภายในรถมีลูกชายของไร่น้ำรินทั้งสองคนอยู่ในนั้น รัชพลพี่ชายเป็นคนขับและภุมรินน้องชายนั่งอยู่ข้างๆ จุดหมายปลายทางคือตัวอำเภอ







วันนี้รัชพลนำเงินไปเข้าบัญชีที่ธนาคารในตัวเมืองโดยมีภุมรินขอติดรถไปด้วยเนื่องจากจะไปซื้อของใช้ส่วนตัว ไร่น้ำรินนั้นมีรายได้จากการส่งออกองุ่นทั้งสดและแปรรูป รวมทั้งไวน์จำนวนมากก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีรายได้จากการส่งองุ่นขาวที่ตลาดค้าส่งประสิทธานนท์ ซึ่งมีตะวัน ประสิทธานนท์






เพื่อนรักของรัชพลพ่วงตำแหน่งคนรักของภุมรินเป็นเจ้าของ เงินที่ได้ส่วนใหญ่นั้นจะเก็บไว้ในบัญชีกลาง คนที่สามารถเบิกใช้ได้มีแค่บุรินทร์ผู้เป็นบิดา รัชพลและภุมรินเท่านั้น






ไร่น้ำรินนี้ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยและอยู่บนยอดเขาสูง อากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี และองุ่นทั้งสองพันธ์ที่ไร่นำรินปลูกนั้นก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้ผลผลิต ทางท้ายไร่น้ำรินมีน้ำตกอยู่ซึ่งเป็นที่ที่ภุมรินน้องชายของรัชพลนั้นชอบไปเป็นประจำ และทุกครั้งที่ตะวันมาคุยงานกับรัชพลที่ไร่ก็จะไปพร้อมกับภุมรินด้วย






รัชพลเคยขัดขวางภุมรินและตะวันไม่ให้รักกัน แต่สุดท้ายก็ยอมใจอ่อนเพราะน้ำตาของน้องชาย ความจริงแล้วนั้นต่อให้ภุมรินมีคนรักแต่น้องชายก็ยังคงติดพี่ชายเหมือนเดิม และรัชพลก็ยังคงติดนิสัยของดูแลภุมรินไม่เปลี่ยน แม้ภุมรินจะมีคนรักแล้วก็ตาม





และเมื่อสองวันก่อนนั้นตะวันก็ได้มาพักที่บ้านรักษ์นทีเพราะมาคุยงานแล้วฝนตกทำให้กลับบ้านไม่ได้ รัชพลนั้นนอนที่โรงบ่มทิ้งให้ตะวันและภุมรินนอนกันที่เรือนใหญ่ เขารู้ว่าตะวันต้องแอบไปนอนกับภุมรินแน่ๆ แต่เขาก็ไม่ว่าอะไรเพราะเริ่มปล่อยให้ทั้งคู่ใช้เวลาแบบคนรักทั่วไปบ้าง เขามั่นใจว่าตะวันไม่ล่วงเกินน้องชายเขาเป็นแน่






แต่สิ่งที่รัชพลกังวลใจกลับไม่ใช่เรื่องนั้น เขากังวลใจเรื่องคนที่โทรมาหาภุมรินตอนฝนตกมากกว่า น้องชายลืมโทรศัพท์ไว้ที่โรงบ่มแล้วมีคนชื่อสิตางศุ์โทรมาร้องไห้ พอเขาตอบกลับอีกคนก็ตัดสายทิ้ง โทรกลับก็ไม่รับ พอตอนเช้าเขาบอกภุมริน น้องชายของเขาก็โทรกลับแต่ก็ยังไม่รับอีกตามเคย ผ่านมาสองวันแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกับสิตางศุ์คนนั้น เรื่องนี้ทำให้ภุมรินเป็นกังวลใจมากทีเดียว และรัชพลเองก็กังวลใจไม่ต่างกัน





แน่ล่ะ โทรมาร้องไห้ให้เขาฟังขนาดนั้น ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆถึงได้โทรมาหาภุมรินดึกดื่น เป็นใครใครก็ต้องคิด และตอนนี้ภุมรินก็ยังติดต่อคนชื่อสิตางศุ์กลับไม่ได้เลย





รัชพลเลี้ยวรถเข้าไปส่งภุมรินหน้าตลาดที่เดินไปอีกหน่อยก็จะมีห้างสรรพสินค้าอยู่ก่อนจะออกไปที่ธนาคารซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล กว่าจะต่อคิวและทำธุระเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบจะสี่โมงเย็น เนื่องจากรัชพลและภุมรินออกจากไร่มาตอนบ่าย หลังจากทำธุระเสร็จก็ไปรับน้องที่กำลังคุยกับแม่ค้าแถวนั้นระหว่างรอเขา





ก่อนกลับไร่ทั้งสองคนก็แวะทานข้าวเย็นในตัวเมืองที่ร้านเดิม นั่นก็คือร้านของเถ้าแก่ชัยซึ่งมีเจนจิราลูกสาวมาช่วยด้วย เจนจิรานั้นมีใจชอบพอรัชพลมานาน หลังจากที่รัชพลเรียนจบกลับมาจากเมืองนอกก็มีสาวๆทั้งในอำเภอและจังหวัดมาชอบพอมากนัก หนึ่งในนั้นก็คือเจนจิราด้วยเช่นกัน กว่าจะได้กินก็โดนสาวเจ้าเกี้ยวไปเสียนาน ภุมรินนั้นต้องรีบพาพี่ชายออกจากร้านก่อนจะได้นอนกันเสียที่นี่





ตอนนี้รัชพลเสน่ห์แรงยิ่งกว่าอะไร แม้จะวันๆจะหมกตัวอยู่แต่ในไร่ ในโรงบ่มก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นรัชพลก็ไม่เคยคิดจะหาแม่เลี้ยงให้ไร่น้ำรินเสียที จนภุมรินบ่นแล้วบ่นอีกว่าคงได้มีพี่สะใภ้เป็นไวน์ซักขวด ภุมรินไม่เคยเข้าใจพี่ชายตัวเองเลยสักนิด






อายุก็ถือได้ว่าโตพอที่จะมีครอบครัวแล้ว แทนที่จะหาคนดีๆมาเป็นแม่ของลูกกลับหมกตัวทำงานทั้งวัน เขายังไม่เห็นรัชพลจะสนใจใครเลย ถ้ารัชพลจะหวงและห่วงใครก็มีแต่เขานี่แหละที่รัชพลยังไม่ยอมปล่อยซักที ห่วงราวกับเขาเป็นเด็ก แทนที่จะเลิกห่วงเขาแล้วเอาเวลาไปหาแฟนยังจะดีกว่าอีก





ดูอย่างไอ้พี่ตะวันของเขาสิ กลับมาได้ไม่เท่าไหร่ก็หาแฟนได้แล้ว ทำไมไม่หัดเอาตัวอย่างจากเพื่อนบ้างนะพี่รัช






รถของไร่น้ำรินแล่นเข้ามาในช่วงเกือบๆสองทุ่ม ตอนนี้แสงจากดวงอาทิตย์หมดลงแล้ว มีแต่แสงนีออนตามเส้นทางเล็กๆของไร่น้ำรินเท่านั้นที่พอจะส่องให้เห็นทางได้บ้าง กว่าจะเข้าไร่ได้ก็แวะนู่นแวะนี่จนมืดค่ำ ป่านนี้ป้าจันคงตั้งโต๊ะรอแล้ว บุรินทร์นั้นยังคงทำงานในตัวเมืองตามเคย นานๆทีจะกลับบ้าน แต่ก็มาดูไร่บ้าง ซึ่งงานส่วนใหญ่ของไร่ก็ให้ลูกชายทั้งสองคนช่วยกันคุมหมดแล้ว






รัชพลค่อยขับรถขึ้นเขามาอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุเพราะทางมืดๆนั้นอันตราบกว่าปกติอยู่แล้ว แสงไปหน้ารถสาดเข้ากับป้ายขนาดใหญ่ของไร่น้ำริน สายตาของรัชพลมองเห็นเงาตะคุ่มบางอย่างอยู่ข้างๆเสาขนาดใหญ่ที่รองรับป้ายนั้น นายใหญ่ของไร่น้ำรินจอดรถอยู่หน้าไร่และเพ่งมองร่างนั้น





เหมือนเป็นคนที่กำลังนั่งพิงกับเสาป้ายชื่อไร่ ศีรษะซบลงกับเข่าทั้งสองข้าง ข้างๆมีกระเป๋าใบใหญ่อยู่ มองไม่ออกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ที่แน่ๆไม่น่าไว้ใจ เมื่อวันก่อนเขาเพิ่งจะได้รับรายงานจากเหมหัวหน้าการ์ดที่ประจำไร่บอกว่ามีคนเข้ามาสอดส่องไร่น้ำรินอยู่บ่อยๆ ไม่แน่คนคนนี้อาจจะเป็นสายอย่างที่เหมรายงานมาก็ได้





เมื่อคิดได้ดังนั้นรัชพลก็รีบชักปืนออกมาอย่างรวดเร็ว เขาพกติดตัวบ้างบางครั้งแต่มันก็อยู่ในรถตลอดอยู่แล้ว นานๆทีถึงจะได้ใช้ เขาจะใช้ปืนก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น






“มีอะไรพี่รัช” ภุมรินถามพี่ชายเมื่อเห็นว่ารัชพลเอาปืนขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังมีเรื่อง






“รินรอพี่อยู่นี่นะ อย่าออกไปจากรถ เดี๋ยวพี่มา” พูดจบก็เปิดประตูรถออกไปทิ้งให้ภุมรินมองตามอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกัน






รัชพลเดินตรงไปหาคนที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น มือหนากระชากกระเป๋าเดินทางขนาดกลางออกไปให้ห่างตัวก่อนจะคว้าแขนเรียวเล็กที่พอสะท้อนแสงไฟจากหน้ารถแล้วทำให้ดูขาวผ่องแข่งกับหลอดนีออนของไร่น้ำริน






“มึงเป็นใคร ใครส่งมึงมา” เสียงตะโกนนั้นดังจนทำให้คนที่หลับอยู่ต้องลืมตาขึ้นมาดู ร่างบางเซตามแรงกระชากนั้น





รัชพลมองคนตรงหน้าด้วยคำถาม นี่น่ะหรือคนที่อาจจะเป็นคนร้าย ดวงหน้าขาวที่นวลเนียนแข่งกับพระจันทร์ในคืนจันทร์เต็มดวง นัยน์ตาที่คลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตาและกำลังแดงช้ำ กับร่างกายที่ดูจะผมบางกว่าภุมรินด้วยซ้ำ ผมที่ถูกซอยสั้นครอบหน้าหวานนั้นไว้ ดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ถูกส่งมาทำเรื่องไม่ดีในไร่น้ำรินได้





“จะ...เจ็บ” ร่างตรงหน้าพูดเสียงแผ่วพร้อมกับพยายามดึงแขนออกจากมือหนาของรัชพล






ร่างสูงคลายมือออกจากคนแปลกหน้าก่อนจะปล่อยในที่สุด ผิวขาวจัดนั้นมีรอยแดงปื้นอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะผิวมีสีอ่อนและบางกว่าคนที่ทำงานในไร่อย่างรัชพล มือหนาและสากของเขาจึงทำให้คนตรงหน้าเจ็บได้ง่าย






“คุณเป็นใคร และมาอยู่อะไรตรงนี้” สรรพนามเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีท่าทางที่เป็นอันตราย ปืนสีดำสนิทถูกเก็บเข้าข้างตัว






ร่างเล็กนั้นไม่ตอบได้แต่ยืนนิ่ง น้ำตาที่ไหลลงสองข้างแก้มทำเอารัชพลหงุดหงิดขึ้นมา แล้ววันนี้จะคุยกันรู้เรื่องไหมนี่






ภุมรินที่อยู่ในรถนั้นพยายามเพ่งมองคนที่พี่ชายยืนคุยอยู่ ลักษณะท่าทางนั้นคุ้นชินเหลือเกินแต่มองยังไงก็ยังนึกไม่ออก เพราะความมืดแม้ว่าจะมีไฟจากหน้ารถส่องแล้วก็ตามที






ร่างบางๆ ตัวเล็กๆ ผิวขาวจัดและท่าทางที่ดูจะบอบบางมากๆอย่างนั้น เหมือนเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ภุมรินพยายามมองฝ่าแสงไฟและทะลุร่างหนาๆของพี่ชายที่ยืนบังอยู่เกือบครึ่งตัว ไม่นานคนตัวเล็กก็นึกขึ้นได้






พี่สิตางศุ์!






เมื่อนึกได้ว่าเป็นใครภุมรินก็รีบเปิดประตูลงรถไปทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปหาคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้ารัชพล เมื่อมองใกล้ๆยิ่งใช่






“พี่ตาง” ภุมรินเรียก






“ริน” ร่างนั้นหันมามองก่อนจะโผเข้ากอดภุมรินโดยที่ไม่ทันตั้งตัว





สิตางศุ์ตัวบางกว่าภุมรินมากก็จริงแต่ส่วนสูงนั้นมากกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับรัชพลแล้วสิตางศุ์ดูตัวเล็กลงไปมาก และผู้แปลกหน้ามาใหม่ตอนนี้ก็กำลังสะอื้นอยู่กับอกของภุมรินโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องไห้ ภุมรินเองก็ลูบหลังเพื่อปลอบให้อีกคนใจเย็นลง รัชพลมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เห็นว่าคนคนนี้ไม่ใช่ศัตรูอย่างที่คิดก็โล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง





สุดท้ายแล้วทั้งรัชพลและภุมรินก็ต้องหอบหิ้วสิตางศุ์กลับเข้าไร่ ภุมรินต้องไปนั่งข้างหลังเพื่อคอยคุยและปลอบสิตางศุ์ที่ยังคงร้องไห้ต่อไป รัชพลมองผ่านกระจกหลังและมองดวงหน้าหวานที่เคล้าไปด้วยน้ำตานั้น เป็นผู้ชายจริงๆแน่หรือ ทำไมดูบอบบางมากเสียจนกลัวว่าแตะแล้วจะปลิวหายไป ภุมรินน้องชายของเขาที่ดูว่าตัวเล็กแล้ว ยังดูแกร่งกว่าสิตางศุ์คนนี้มากโข และสิ่งที่รัชพลอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ สิตางศุ์คนนี้คือใครกัน






ภุมรินพาสิตางศุ์ที่หยุดร้องแล้วเข้ามาในบ้านโดยมีรัชพลถือกระเป๋าเข้ามาให้ สิตางศุ์นั้นเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของภุมริน ซึ่งภุมรินจบคณะวิศวกรรมศาสตร์แต่สิตางศุ์นั้นจบบัญชี ทั้งสองคนมารู้จักและสนิทสนมกันเพราะว่าสิตางศุ์เป็นเพื่อนกับรุ่นพี่ของภุมรินที่ชื่อภูวดล







สิตางศุ์เป็นรุ่นพี่ที่น่ารักเสมอ เวลาเจอก็จะทักทายและยิ้มแย้มให้ภุมริน มีสังสรรค์กันบ้าง และก็เคยไปเที่ยวด้วยกันจนสนิทในระดับหนึ่ง ภุมรินเองก็สนิทใจและรู้นิสัยใจคอของสิตางศุ์พอสมควร อาจจะเป็นด้วยอายุที่ห่างกันแค่ปีเดียวนั้นทำให้เข้าใจและสนิมกันได้ไม่ยาก






แต่ทำไมพี่สิตางศุ์ที่สดใสของเขาวันนี้ถึงได้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ และรู้ได้ยังไงว่าไร่น้ำรินอยู่ที่ไหนทั้งๆที่ภุมรินไม่เคยพาพี่ๆเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยมาที่บ้านเลย เคยแต่บอกว่าที่บ้านทำไร่องุ่นก็เท่านั้น






“พี่ขออยู่ที่นี่ซักพักได้มั้ยริน พี่สัญญาว่าพี่จะไม่รบกวนมาก พี่จะช่วยงานริน” สิตางศุ์ที่นิ่งมานานพูดขึ้น รัชพลที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ไม่ไกลก็แอบมองแขกผู้โผล่มาแบบแปลกๆของน้องชายไปด้วย สิตางศุ์คนนี้เองสินะที่โทรมาหาภุมรินเมื่อสองวันก่อน






เมื่อมองสิตางศุ์จากมุมนี้แล้วนั้นดูยังไงก็ไม่ใช่ผู้ชายในสายตาของรัชพล แผ่นหลังของสิตางศุ์เล็กมากเสียจนรัชพลคิดว่าถ้าหากเขาจับสิตางศุ์แล้วจะขาดเป็นสองท่อนเสียให้ได้









ผิวขาวสีน้ำนมนั้นมองดูก็รู้ว่าเป็นลูกคุณหนูที่ไม่เคยทำงานหนัก แล้วอะไรคือการที่สิตางศุ์พูดว่าจะช่วยงานภุมริน รายนั้นเข้าไร่ตากแดดทุกวัน ไหนจะขับเอทีวี ซ่อมเครื่องยนต์ บางวันก็ต้องลงไปขุดดินเพื่อเชื่อมคลองด้วย เขานึกสภาพร่างบางๆของสิตางศุ์ไปทำแบบนั้นไม่ได้เลยสักนิด






“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกพี่ตาง รินจะยังไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าคืนนี้นอนที่นี่ก่อน ส่วนเรื่องที่จะอยู่ที่นี่รินกับพี่รัชและพ่อไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ภุมรินกุมมือสิตางศุ์อย่างปลอบโยน เขายังไม่อยากถามอะไรสิตางศุ์ตอนนี้เพราะอีกคนดูไม่โอเคอย่างมาก ให้สิตางศุ์ได้พักก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีก็ยังได้






“ขอบใจนะริน” สิตางศุ์ยิ้มเบาๆให้กับรุ่นน้อง ความเครียดของเขาที่สั่งสมมานานหลายปี มันควรจะได้พักเสียที อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครหาเจอ เพราะเขาไม่ได้บอกใครเลยว่าจะมาหาภุมริน






“ไม่เป็นไร แล้วนี่พี่ตางกินข้าวมารึยัง เดี๋ยวรินทำให้กิน ป้าจันคงจะไม่อยู่ที่ครัวแล้ว” ภุมรินยิ้มเพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย





สิตางศุ์ส่ายหัว ตั้งแต่เมื่อเช้าเขายังไม่ได้กินอะไรเลย พอลงเครื่องมาปุ๊บก็ตรงมาหาภุมรินที่ไร่ทันที งมอยู่นานกว่าจะหาไร่น้ำรินเจอ อาศัยถามทางและขอติดรถชาวบ้านเข้ามา แต่ถึงอย่างนั้นก็มีส่งได้แค่หน้าไร่น้ำรินเท่านั้น จะโทรหาภุมรินก็แบตหมดเสียก่อน เลยนั่งรอจนดึก แล้วก็เจอใครก็ไม่รู้ชักปืนมาจะขู่ฆ่า







สิตางศุ์แอบคิดว่าวิธีแบบนั้นมันป่าเถื่อนสิ้นดี และทำให้เขาหวาดกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว จนถึงตอนนี้สิตางศุ์ก็ยังไม่รู้ว่าคนที่เอาแต่จ้องเขาอยู่นั้นเป็นใคร แต่สายตาที่มองมานั้นทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก






“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวรินให้ป้าจันเอาขนมกับนมขึ้นไปให้ก็แล้วกันนะครับ ตอนนี้พี่ตางไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า” ภุมรินบอก






“เดี๋ยวพี่ช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปให้เอง” รัชพลอาสา เขาละสายตาจากร่างบางที่ยังสะอื้นอยู่ก่อนจะเบือนหน้าหนีและยกกระเป๋าเดินทางขึ้นมาถือไว้






“ดีเลยพี่รัช อ้อ... รินลืมแนะนำเลย พี่ตางนี่พี่รัชเป็นพี่ชายของริน ส่วนพี่รัชนี่พี่ตางเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยของรินเอง รินคงต้องให้พี่ตางมาอยู่ที่นี่สักพัก หวังหว่าพี่รัชคงเข้าใจ”





ภุมรินแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันเมื่อเห็นว่าตัวเองยังไม่ได้แนะนำอะไรทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะมัวแต่ปลอบสิตางศุ์เลยลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท และการที่เขาอนุญาตให้สิตางศุ์อยู่ที่นี่ก็ยังไม่ได้ถามความเห็นของรัชพลเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เชื่อว่าพี่ชายของเขานั้นเข้าใจและคงไม่ใจร้ายกับรุ่นพี่ของเขาคนนี้






รัชพลมองหน้าสิตางศุ์พร้อมกับถอนหายใจ เขาจะมีปัญหาอะไรได้ในเมื่อภุมรินพูดเสียดิบดีว่าจะให้สิตางศุ์คนนี้อยู่ที่นี้ หากเข้าคัดค้านคงเป็นคนที่ใจร้ายไม่น้อย เลี้ยงคนในไร่เป็นร้อยเป็นพันยังเลี้ยงได้ ลูกนกหลงทางแค่ตัวเดียวเขาจะใจร้ายทอดทิ้งเชียวหรือ






“อืม... ให้อยู่ห้องข้างๆรินแล้วกัน” พูดแค่นั้นก่อนจะเดินถือกระเป๋าขึ้นไปข้างบน สิตางศุ์ตางมองตามร่างสูงนั้น พี่ชายของภุมรินคนนี้บางทีก็ดูน่ากลัว บางทีก็ใจดีเหมือนกัน






หวังว่าตัวเขาเองจะไม่สร้างปัญหาให้ภุมรินและคนที่นี่ลำบากใจ












***************************************************************************






ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ ฝากพี่รัชไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนอ่านทุกท่านด้วยค่ะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่1 15/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 16-02-2016 00:01:32
เย้!!! เรื่องใหม่มาแล้วววว รอติดตามน๊าาาาาาาาา..
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่2 18/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 18-02-2016 21:03:00
บทที่ 2











เช้าวันใหม่สิตางศุ์ตื่นแต่เช้าและลงมาข้างล่างเผื่อจะมีงานที่เขาพอจะช่วยได้ ดวงนั้นบวมช้ำเล็กน้อยจากการร้องไห้ทั้งคืน เขาตัดสินใจหลบมาที่นี่ซักพักเพื่อที่จะตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ









ถึงแม้จะอายุยี่สิบสี่ปีเข้าไปแล้วแต่เขาเองก็ยังตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้ซักที และเมื่อถูกกดดันมากๆเข้าจึงส่งผลให้เขาหนีปัญหาขึ้นมาอยู่ที่ไร่น้ำริน ในคราแรกนั้นเขาตั้งใจจะหลบไปอยู่กับภูวดลเพื่อนสนิท แต่ก็คิดได้ว่าสุดท้ายก็ไม่แคล้วที่จะต้องกลับไปวังวนเดิมๆ









จำได้แค่เพียงว่ารุ่นน้องของภูวดลที่สนิทกับเขานั่นก็คือภุมรินมีไร่อยู่ทางเหนือ บางทีเขาหลบมาที่นี่อาจจะเป็นการดี เพราะภุมรินเองก็ไม่เคยพาใครมาที่ไร่ และทุกคนคงไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่ เขาได้บอกภุมรินเอาไว้แล้วว่าไม่ให้บอกใครว่าเขาอยู่ที่นี่ แม้แต่ภูวดลเองก็ตาม








ภุมรินมีท่าทีที่ไม่พอใจเล็กน้อยเพราะภุมรินเองก็อยากจะรู้ว่าทำไมสิตางศุ์ถึงต้องหลบมาโดยที่ไม่มีใครรู้ แล้วยังมาด้วยสภาพจิตใจที่ไม่ค่อยดีนัก แต่อยากจะรู้ไปก็เท่านั้นเอง เพราะสุดท้ายภุมรินก็ต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ เขาเองก็ไม่อยากให้สิตางศุ์ลำบากใจไปมากกว่านี้ เมื่อไหร่ที่สิตางศุ์พร้อมจะพูด เมื่อนั้นเขาคงรู้เอง แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่เร็วๆนี้อย่างแน่นอน












เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จแล้วนั้นภุมรินก็ไปส่งองุ่นตามปกติทุกวัน เหลือแต่สิตางศุ์ที่ยังคงทำหน้างงๆอยู่ในบ้านโดยมีรัชพลที่ยังไม่เข้าโรงบ่มมองมาอยู่เรื่อยๆ ร่างบางอึดอัดกับสายตาที่เจ้าของบ้านมองมาไม่น้อย พี่ชายของภุมรินนั้นมองเขาบ่อยมากตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สิตางศุ์คิดว่ารัชพลคงไม่พอใจที่เขามาอาศัยอยู่ที่นี่ เลยไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป









ไม่นานนักรัชพลก็ปลีกตัวออกไปทำงานตามปกติทำให้สิตางศุ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเกร็งทุกครั้งที่ต้องอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เป็นเพราะอะไรนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะสายตานั้น หรือเป็นเพราะการกระทำที่รัชพลทำกับเขาเมื่อคืนก็เป็นได้ แน่นอนล่ะ ไม่มีใครยิ้มให้กับคนที่เคยเอาปืนขึ้นมาจ่อตรงหน้าได้ด้วยเวลาอันรวดเร็วหรอก








สิตางศุ์เดินออกมานั่งข้างนอกตรงใต้ต้นไม้ใหญ่ของบ้านรักษ์นที ครู่ใหญ่ภุมรินก็ส่งองุ่นเสร็จ สิตางศุ์เลยขอเข้าไปในไร่ด้วยเพื่อที่จะช่วยอะไรภุมรินได้บ้าง เขาไม่อยากอยู่เป็นภาระของรุ่นน้อง อย่างน้อยถ้าพอจะหยิบจับอะไรได้บ้างจะคงจะเป็นการดีไม่น้อย










ภุมรินลังเลเล็กน้อยเพราะสิตางศุ์ไม่เคยที่จะต้องมาทำงานในไร่ให้ลำบากลำบนขนาดนี้ ลูกผู้ดีอย่างรุ่นพี่คนนี้นั้นอย่างมากก็แค่เคยเข้าค่ายที่มหาวิทยาลัยจัดให้ แต่เมื่อเทียบกับงานและแดดร้อนๆของไร่น้ำรินแล้วนั้น ภุมรินคิดว่ามันหนักกว่าค่ายสมัยเรียนเป็นไหนๆ และสิตางศุ์เองก็เป็นคนที่แพ้อะไรง่ายๆ









เมื่อสมัยเรียนนั้นภูวดลเคยพาไปค่ายอาสาครั้งหนึ่งที่ภุมรินเคยร่วมด้วย สิตางศุ์แพ้อากาศจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะไข้ขึ้นสูงมาก เป็นอันว่าทั้งสิตางศุ์และภูวดลต้องกลับบ้านก่อนจะจบค่ายด้วยซ้ำ หลังจากนั้นรุ่นพี่ที่แสนบึกบึนของภุมรินก็ไม่เคยพาเพื่อนไปทำอะไรที่ลำบากแบบนั้นอีกเลย แล้วสิตางศุ์จะมาขอเข้าไปในไร่กับเขาเนี่ยนะ








“พี่ตาง รินว่าพี่อยู่บ้านเถอะ งานในไร่มันหนัก เดี๋ยวตอนกลางวันรินมากินข้าวด้วย” ภุมรินบอก








“พี่ไม่อยากอยู่เฉยๆ ให้พี่ไปช่วยงานเถอะนะริน พี่ไม่ทำให้รินลำบากหรอก” สิตางศุ์ยังคงดื้อดึงจะไปให้ได้ เขาไม่อยากอยู่เฉยๆ และการที่เขาเข้าไปช่วยงานภุมรินก็น่าจะเป็นการดีไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยก็พอจะช่วยแบ่งเบาได้บ้าง









“แต่พี่ตางครับ...”








“นะริน พี่ขอร้องล่ะ พี่มารบกวนรินทั้งทีจะให้พี่อยู่เฉยๆได้ยังไง” ไม่ยอมท่าเดียว แววตาที่มุ่งมั่นของสิตางศุ์นั้นทำให้ภุมรินถอนหายใจอย่างระอา









“ก็ได้ๆ แต่ถ้าพี่ไม่ไหวก็รีบบอกรินนะ” สุดท้ายก็ต้องจำยอมให้คนตรงหน้าไปด้วย สิตางศุ์ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าภุมรินยอมใจอ่อนเสียที








สิตางศุ์เดินตามนายน้อยของไร่น้ำรินเข้าไปในไร่ ภุมรินมีหน้าที่ตรวจเช็คองุ่นและการทำงานของคนงานในไร่ ซึ่งจะแบ่งหน้าที่กับคนงานที่รับผิดชอบหน้าที่นี้อีกหลายสิบคนในแต่ละส่วนของไร่ ซึ่งภุมรินเป็นหัวหน้างานในส่วนนี้








ในแต่ละวันต้องพบเจอปัญหาไม่มากก็น้อย การแก้ปัญหาก็เป็นอีกอย่างที่ภุมรินก็ต้องทำ ส่วนในด้านบริหารไร่บุรินทร์ซึ่งเป็นบิดาของรัชพลและภุมรินเป็นคนดูแลจัดการ ซึ่งได้วางระบบการจัดการไว้ทั้งหมดแล้ว








บุรินทร์เองก็ไม่ได้เข้ามาจัดการที่ไร่บ่อยนัก เขากลับบ้านมาแค่อาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างต่ำ นอกจากนั้นก็อยู่ในตัวจังหวัดเพื่อดูแลกิจการส่วนอื่นหรือไม่ก็เข้ากรุงเทพฯเพื่อติดต่อธุรกิจของไร่น้ำริน









และรัชพลจะเป็นคนจัดการเรื่องการส่งออก สินค้าแปรรูปจากไร่น้ำรินและไวน์องุ่น ค่าใช้จ่ายต่างๆของไร่ รวมทั้งการควบคุมคนงาน การรักษาความปลอดภัยของไร่และสวัสดิการต่างๆสำหรับคนงานอีกด้วย








“นายน้อยครับ มีน้ำขังที่ท้ายไร่ครับ ท่อส่งน้ำเหมือนจะรั่ว” คนงานคนหนึ่งวิ่งมาหาภุมริน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ภุมรินต้องเจอในแต่ละวันและเขาเองก็ต้องคอยแก้ปัญหาเหล่านี้ ถ้าไม่เกินกำลังเขาจะเป็นคนลงไปดูแลเอง หากมากกว่านั้นก็จะให้คนงานที่มีความเชี่ยวชาญเป็นคนจัดการ








“เดี๋ยวรินไปดูเองครับ พี่ทิมช่วยไปเอาเครื่องมือให้รินด้วยนะครับ” ภุมรินสั่งงาน









“ได้ครับนายน้อย” ทิมรับคำก่อนจะวิ่งกลับไปทางเดิมที่เพิ่งผ่านมา









“พี่ตาง เดี๋ยวรินจะไปดูท่อส่งน้ำที่ท้ายไร่ มันร้อนกว่านี้ พี่ตางอยู่แถวนี้รอรินได้มั้ย” ภุมรินหันไปบอกคนที่เดินตามหลังมา








ในส่วนที่เขาต้องไปดูนั้นอยู่กลางแจ้งเป็นที่โล่งซึ่งอากาศจะร้อนกว่านี้มาก ที่ที่พวกเขาอยู่ตรงนี้เป็นส่วนที่อยู่กลางไร่ มีต้นองุ่นซึ่งสูงท่วมหัวพอจะบังแดดได้บ้าง แต่ก็มากพอที่จะทำให้สิตางศุ์หน้าเห่อแดงและเหงื่อแดกพลั่กแม้จะสวมหมวกที่ภุมรินหยิบยืมของรัชพลมาให้แล้วก็ตาม








“พี่จะไปด้วย เผื่อช่วยอะไรรินได้บ้าง” สิตางศุ์พูด เขาอยากจะไปด้วยกับภุมรินแม้ว่าตอนนี้จะร้อนมากก็ตาม









ตั้งแต่เกิดมาสิตางศุ์คนนี้ไม่เคยที่จะต้องมาตกระกำลังบากมากมายถึงขนาดนี้ อย่างมากที่สุดก็เคยไปค่ายอาสากับภูวดลแค่นั้น แถมยังอยู่ไม่ถึงวันปิดค่ายด้วยซ้ำ เป็นเพราะไม่เคยต้องไปลำบากและผิวนั้นแพ้ต่ออากาศและสิ่งรอบตัวที่ไม่คุ้นชินง่ายๆ ทำให้สิตางศุ์ถูกฟูมฟักและได้รับการดูแลจากผู้เป็นย่าอย่างดี ถือได้ว่าเป็นคุณหนูเต็มขั้นก็ว่าได้
 








สิตางศุ์อยู่กับย่ามาตั้งแต่จำความได้ บิดานั้นแวะเวียนมาหาแค่เดือนละไม่กี่ครั้ง ส่วนมารดาเขาก็เจอไม่บ่อยเช่นกัน แต่เมื่อเจอทุกครั้งก็ต้องเป็นอันพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเองต้องรู้สึกแย่ทุกครั้งไปเพราะมารดาของเขานั้นไม่ค่อยจะลงรอยกับย่าของเขาเสียเท่าไหร่









ด้วยเหตุผลอะไรตอนแรกเขาเองก็ยังไม่รู้เพราะทุกคนคอยจ้องแต่จะปิดบังเรื่องราวต่างๆ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้สิตางศุ์อาศัยอยู่กับย่าของเขามาโดยตลอด ย่าของเขานั้นเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง คอยดูแลธุรกิจในเครือของคิรินทราทั้งหมดโดยมีบิดาของสิตางศุ์เป็นผู้ช่วย









คุณหญิงพิมลนั้นไม่เคยที่จะให้หลานรักของตนเองได้รับความลำบากแม้แต่น้อย สิตางศุ์ถูกเลี้ยงดูและฟูมฟักราวกับไข่ในหิน และอนุญาตให้สิตางศุ์คบกับภูวดลเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งภูวดลเองก็สนิทกับครอบครัวของสิตางศุ์อยู่ไม่น้อยเนื่องจากบิดาของทั้งคู่เคยเรียนด้วยกันมาก่อน









เพราะฉะนั้นการที่สิตางศุ์หนีออกจากบ้านมาอย่างนี้ทำให้ไปขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้ นอกเสียจากภุมรินเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทที่สุดรองลงมาจากภูวดล เขาเองก็อยากจะตอบแทนภุมรินให้มากกว่านี้ อย่างน้อยตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เขาก็ไม่อยากจะเป็นภาระให้กับอีกคนมากนัก








“พี่ตางมันร้อนนะครับ” ภุมรินทำหน้าจริงจัง เขาไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องลำบาก เพราะรู้ว่าสิตางศุ์ไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้








“พี่ทนได้อยู่แล้ว พี่จะได้ไปเรียนรู้งานด้วยไง เผื่อวันต่อๆไปจะช่วยงานรินได้มากกว่านี้” สิตางศุ์ยังคงดื้อดึงที่จะไป








“พี่ตาง” ภุมรินเรียกชื่ออีกคนอย่างระอา ถ้าเกิดสิตางศุ์เกิดเป็นลมเป็นแล้งอีกเขาไม่แย่หรอกหรือ เมื่อคราวก่อนก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพียงแค่แพ้อากาศเล็กน้อยแค่นั้น ถ้าเกิดทำเพื่อนของรุ่นพี่ที่สนิทเป็นอะไรขึ้นมา ภูวดลคงจะฆ่าเขาตายแน่ๆ








“ริน” สายตาเว้าวอนให้อีกคน ภุมรินลำบากใจไม่น้อยเหมือนกัน









“โอเคครับ ไปก็ไป แต่พี่ต้องใส่เสื้อคลุมไว้อีกชั้น” สุดท้ายก็ต้องตามใจสิตางศุ์อีกจนได้ แต่ภุมรินก็ถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองที่คลุมอยู่ชั้นนอกส่งไปให้สิตางศุ์ เสื้ออีกชั้นของภุมรินนั้นเป็นแค่เสื้อยืดธรรมดาเท่านั้น








“มันจะดีเหรอริน แบบนี้รินก็ร้อนแย่สิ” สิตางศุ์ทำหน้าลำบากใจ อากาศมันร้อนแผดเผาไม่น้อย เขาเองยังรู้สึกแสบๆผิวมาบ้างแล้ว อย่างนี้ภุมรินที่ใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียวไม่แย่เหรอ









“พี่ตางรินน่ะชินกับอากาศในไร่แล้ว พี่นั่นแหละจะแย่เอา ใส่เร็ว ไม่อย่างนั้นรินไม่ให้ไปด้วยนะ” คนตัวเล็กเก๊กหน้าดุ ทำไมภุมรินรู้สึกเหมือนตัวเองมีน้องชายมากกว่าจะเป็นรุ่นพี่








สิตางศุ์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่รับเสื้อมาคลุมอีกชั้นไว้เท่านั้น รอไม่นานคนงานก็ขับรถกระบะคันเล็กมารับทั้งสองคนก่อนจะมุ่งตรงไปยังท้ายไร่อันเป็นสุดที่เกิดปัญหา








ภุมรินลงไปดูตรงท่อน้ำที่รั่วก่อนจะลงมีจัดการซ่อมเองโดยมีคนงานอีกสองสามคนคอยช่วย สิตางศุ์เองก็ยืนมองอยู่อย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นักที่ภุมรินซ่อมอะไรต่อมิอะไรอย่างคล่องแคล่ว เพราะรุ่นน้องของเขาคนนี้เรียนจบวิศวกรรมศาสตร์มาซึ่งเป็นคณะเดียวที่ภูวดลเพื่อนของเขาจบมาเช่นกัน








เวลาผ่านเลยไปเกือบชั่วโมงทั้งหมดก็ซ่อมจนเสร็จทั้งหมด สิตางศุ์เหงื่อแตกกว่าคนที่ทำงานอย่างภุมรินเสียอีก หน้าแดงเห่อจากอากาศที่ร้อนและเหงื่อที่เปียกชุ่ม ผื่นแดงเริ่มขึ้นตามใบหน้าและลำตัว เขาแอบเกาบ่อยครั้งโดยที่ภุมรินไม่ทันได้สังเกต กว่าภุมรินจะรู้ว่าสิตางศุ์อาการไม่ค่อยดีก็ตอนที่กลับมากลางไร่แล้ว








“แดงเต็มตัวเลยพี่ตาง” ภุมรินเลิกแขนเสื้อขึ้น พบผื่นแดงเต็มแขนสีน้ำนมเต็มไปหมด เจ้าตัวตกใจไม่น้อย เขาว่าแล้วเชียว แล้วจะเอาอย่างไรล่ะทีนี้








“ไม่เป็นไรหรอกริน” สิตางศุ์ยิ้มแห้งให้อีกคนแม้ว่าจะรู้สึกไม่ค่อยดีเสียแล้ว อาการวูบวาบมาเป็นระยะ แถมยังคนไปทั้งตัวเอง









“ไม่เป็นไรได้ยังไง รีบกลับไปอาบน้ำเลยนะพี่ตาง ต่อไปนี้รินจะไม่ให้พี่เข้าไร่อีกแล้ว” พูดจบคนตัวเล็กก็ลากสิตางศุ์ไปขึ้นรถกระบะที่ใช้ขนองุ่นแถวนั้น ก่อนจะพาสิตางศุ์กลับเข้าบ้าน ซึ่งก็เป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี









เมื่อกลับมาถึงตัวบ้านก็เจอรัชพลที่นั่งรอป้าจันตั้งโต๊ะอยู่ ภุมรินแปลกใจเล็กน้อย ปกติพี่ชายของเขานั้นกลับมากินข้าวที่บ้านเสียเมื่อไหร่ล่ะ ป้าจันต้องลำบากหอบไปให้ที่โรงบ่มเกือบทุกวัน วันนี้มาแปลก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะมัวแต่เป็นห่วงสิตางศุ์อยู่








“เป็นอะไรมาคะคุณ แดงเต็มตัวเลย” ป้าจันที่กำลังตั้งโต๊ะหันมาถามเมื่อเห็นภุมรินพาสิตางศุ์ที่ตัวแดงเถือกเข้ามาในบ้าน









“พี่ตางน่ะสิ แพ้อากาศอีกตามเคย ไหนจะเหงื่ออีก เลยเป็นแบบนี้ บอกว่าไม่ต้องไปก็ไม่เชื่อ” ภุมรินรีบฟ้อง








“ก็พี่อยากช่วยริน” แก้ตัวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จากจะช่วยงานกลับกลายเป็นว่าเพิ่มภาระให้ภุมรินอีกแล้ว









“อย่าเพิ่งเถียงกันเลยค่ะ ป้าว่าไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวป้าเอายาไปให้ คุณรัชรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวป้ามาตั้งโต๊ะให้” ประโยคหลังนั้นหันมาพูดกับรัชพล เวลานี้ป้าจันอยู่บ้านคนเดียวเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะเด็กๆในครัวต้องเอาอาหารไปให้คนงานในทุกๆเที่ยงของวัน









“ไม่เป็นไรครับป้าจัน เดี๋ยวผมเอาขึ้นไปให้รินเอง ยาอยู่ในตู้ใช่มั้ยครับ” รัชพลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองไปที่สิตางศุ์เล็กน้อยด้วยสายตาที่ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่ภุมรินเองก็เถอะ








“ค่ะ งั้นป้าฝากด้วยนะคะ”









สรุปแล้วรัชพลเป็นคนที่ต้องเดินถือหลอดยาตามคนตัวเล็กทั้งคู่ขึ้นไปบนบ้าน สิตางศุ์เข้าไปอาบน้ำไม่นานก็ออกมาโดยมีสองพี่น้องรออยู่ข้างนอก     








ภุมรินทายาตามตัวให้รุ่นพี่ สิตางศุ์เอาแต่ก้มหน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของรัชพลที่มองมาอย่างไม่วางตา เขารู้สึกประหม่าไม่ใช่น้อยเพราะคิดว่ารัชพลอาจจะไม่พอใจที่ตัวเขาเองสร้างปัญหาให้ตั้งแต่วันแรกที่มาอาศัยอยู่ที่นี่








“รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็ยังจะตามไปอีก” อยู่ๆรัชพลก็พูดขึ้นมา








“อะ...เอ่อ คือ ผมแค่อยากช่วย” สิตางศุ์หันหน้ามามองคนตัวสูง เป็นครั้งแรกที่รัชพลพูดกับเขาหลังจากเมื่อคืน









“ถ้าพี่ตางอยากช่วยรินจะหางานในร่มให้แล้วกันนะครับ เข้าไร่เดี๋ยวเป็นแบบนี้อีก พี่ภูด่ารินยับแน่” ภุมรินว่าขณะทายาบริเวณท้องแขนให้สิตางศุ์ไปด้วย







“ให้มาช่วยพี่ในโรงบ่มก็ได้นะ พอจะมีงานอยู่บ้าง” รัชพลเสนอ








ภุมรินหันไปมองหน้าพี่ชายอย่างงุนงงเล็กน้อย อะไรทำให้รัชพลเอ่ยปากพูดแบบนั้นออกมา ปกติแล้วนั้นรัชพลไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเท่าไหร่นัก นอกเสียจากจะมีงานหรือมีปัญหาอะไรเท่านั้น








แต่คนที่รู้สึกงงที่สุดคงจะเป็นสิตางศุ์เสียมากกว่า เขาคิดว่ารัชพลไม่ชอบหน้าเขาเสียเอง แล้วทำไมรัชพลต้องให้เขาไปช่วยงานด้วยล่ะ...










แล้วอย่างนี้เขาควรจะทำตัวอย่างไรดี
















******************************************************************************









มาต่อแล้วค่ะสำหรับตอนที่สองของเรื่องนี้ เอ... สิตางศุ์จะไปทำงานร่วมกับอิตาพี่รัชแล้ว จะเป็นยังไงล่ะนี่ เอาใจช่วยสิตางศุ์ของเราด้วยนะคะ

หวังว่าเรื่องของพี่รัชจะได้รับการสนับสนุนจากคนอ่านทุกท่านค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่2 18/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-02-2016 22:33:00
พี่รัชสนใจพี่ตางเหรอ หรือว่าไม่ไว้ใจ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่3 19/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 19-02-2016 20:16:23
บทที่ 3





และแล้วสิตางศุ์ก็ต้องเข้าไปช่วยงานรัชพลที่โรงบ่มอย่างที่เจ้าของไร่ตัวโตต้องการจริงๆ แน่นอนว่าสิตางศุ์ต้องประหม่าไม่ใช่น้อยที่ต้องทนกับสายตานิ่งๆและท่าทางที่ดูไม่ออกว่าพอใจเขาหรือเปล่าของรัชพล





ภุมรินออกบ้านไปเช้ากว่าปกติเพราะวันนี้จะต้องเข้าตัวจังหวัดกับตะวัน ทำให้สิตางศุ์ต้องทนกับอาการเฉยเมยของรัชพลเพียงคนเดียวในขณะที่นั่งกินข้าวเช้า แล้วพอเข้ามาในโรงบ่มรัชพลก็เอาแต่ทำงานของตัวเอง ทิ้งให้สิตางศุ์นั่งเงียบอยู่คนเดียว ไหนบอกจะให้มาช่วยงาน แล้วอะไรคือให้เขามานั่งเงียบอยู่แบบนี้ มันน่าอึดอัดเป็นที่สุด





“เห็นรินบอกว่าจบบัญชีมาใช่มั้ย” คำพูดแรกของวันจากปากของรัชพลดังขึ้น สิตางศุ์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองตามเสียงนั้น





“เอ่อ คือ ใช่ครับ ผมจบบัญชีมาครับ” สิตางศุ์ตอบตะกุกตะกัก ทำตัวไม่ถูกเมื่อรัชพลพูดด้วย





“ถ้าอย่างนั้นมาช่วยดูตรงนี้หน่อยสิ เหมือนว่าตัวเลขมันมีความผิดปกติ” รัชพลเลื่อนสมุดเล่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยตัวเลขให้กับสิตางศุ์






บัญชีทั้งหมดของไร่น้ำรินนั้นรัชพลเป็นคนดูแลโดยมีการหัวหน้าแต่ละฝ่ายเป็นสามคน และแต่ละคนจะรับผิดชอบบัญชีในแต่ละส่วน ซึ่งจะส่งมาให้รัชพลอีกครั้งหนึ่ง






จะมีบัญชีส่วนของผลผลิต ส่วนค่าใช้จ่ายและในส่วนอื่นๆที่จำเป็น และบัญชีที่มีปัญหาตอนนี้คือบัญชีของรายจ่ายที่รัชพลพบความผิดปกติ เพราะเหมือนตัวเลขจะคลาดเคลื่อน เงินหายออกไปจากบัญชีจำนวนไม่น้อย





เขาเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ปกติจะมีภุมรินมาช่วยดูด้วย แต่ตอนนี้ภุมรินไม่อยู่และสิตางศุ์คนนี้ก็เรียนจบด้านนี้มาอย่างที่ภุมรินบอกไว้เมื่อคืน เนื่องจากเขาถามเพราะจะได้รู้ว่าสิตางศุ์พอจะช่วยอะไรได้บ้าง





การที่ให้คนจบด้านนี้มาช่วยดูอาจจะมีความเข้าใจมากขึ้นก็ได้ รัชพลไม่สันทัดเรื่องตัวเลขเท่าไหร่ และเขาเองก็มีลูกน้องที่เก่งด้านนี้ทั้งสามคนมาช่วยอยู่แล้ว แต่คราวนี้มันคลาดเคลื่อนมากเกินจนผิดสังเกต ทำให้เขาไม่มั่นใจนัก






“ปกติค่าใช้จ่ายเรื่องต้นทุนไร่น้ำรินใช้เท่าไหร่เหรอครับ เหมือนจะไม่สัมพันธ์กับปีก่อน” สิตางศุ์ที่รับบัญชีมาดูแล้วก็ตรวจดูสักพักใหญ่ก่อนจะพูดขึ้น เขาดูรายจ่ายที่เบิกออกไปในแต่ละช่วงของปีแล้วนั้นมีบางช่วงที่ต่างกับปีก่อนๆเยอะจนน่าสังเกต





“ถ้าตามต้นทุนจริงๆก็เท่ากับปีก่อนเลย ปีนี้ทางไร่ก็ไม่ได้เพิ่มการผลิตนะ แต่ทำไมเงินที่เบิกไปมันหายไปเยอะเลย” รัชพลเดินอ้อมมานั่งข้างๆสิตางศุ์





บัญชีในส่วนนี้เขาให้คนงานชื่อโรจน์เป็นคนดูแล โรจน์คือคนที่รัชพลรับเข้าทำงานเมื่อต้นปีก่อนเพราะเห็นว่าทำงานดี มีประสบการณ์เยอะ เขาไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไรเพราะไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ และโรจน์ก็ทำงานดีมาตลอด แต่มีปีนี้ที่เขาเองก็พบข้อผิดพลาดบางจุดซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยใส่ใจเพราะเห็นว่าไม่หนักหนานัก แต่คราวนี้มันมากเกินกว่าที่จะละเลย โรจน์ทำงานพลาดหรือยออย่างไร เขายังไม่อยากจะคิดในแง่ลบไปถึงจุดนั้นนัก





“เท่าที่ผมดูคร่าวๆนะครับคุณรัช เงินหายไปทั้งหมดเกือบสามล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้” สิตางศุ์ทำหน้าเคร่ง





เข้ามาทำงานวันแรกกับรัชพลก็เจอเรื่องซะแล้ว เขาไม่คิดว่ารัชพลจะปล่อยให้เงินหายไปเยอะขนาดนี้ มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยทีเดียว





แค่ดูการทำงานตรงนี้สิตางศุ์ก็รู้แล้วว่ารัชพลเป็นคนที่ไม่มีความละเอียดอ่อนในเรื่องตัวเลขและรายละเอียดยิบย่อย สะเพร่าจนเงินหายไปตั้งสามล้าน เขาอยากจะตำหนิแต่ก็ทำได้เพียงแค่เก็บไว้ในใจ





“สามล้านเลยเหรอ เฮ้ย...” รัชพลพลิกดูอีกรอบ เงินของไร่น้ำรินในช่วงปีนี้หายไปสามล้านบาท มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยสักนิด แล้วทำไมเขาถึงปล่อยให้มันเกินเลยมาได้ตั้งนานแบบนี้





“ใช่ครับ เอ่อ... ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำบัญชีส่วนนี้ครับ ผมว่ามันแปลกๆ” สิตางศุ์สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้เสียแล้ว





“เค้าเป็นคนที่ผมเพิ่งรับเข้ามาทำงานเมื่อต้นปีก่อน ชื่อโรจน์ ทำงานดีและมีประสบการณ์ ผมไม่คิดว่าเค้าจะทำอะไรแบบนี้” รัชพลพูดหน้าเคร่ง โรจน์นั้นเป็นลูกน้องหนุ่มใหญ่ที่เขาค่อนข้างจะไว้ใจแม้ทำงานมาด้วยไม่นานก็ตาม





สิตางศุ์มองหน้าคนที่นั่งข้างๆอย่างระอา อะไรจะทำให้รัชพลไว้ใจคนง่ายขนาดนั้นกันเชียว แล้วเป็นยังไง เงินหายไปไหนก็ไม่รู้ได้





“แต่ยังไงคุณก็ต้องตรวจสอบบัญชีอีกรอบให้ละเอียดนี่ครับ มันเป็นหน้าที่ของคุณไม่ใช่เหรอ” สิตางศุ์พูด





“นี่คุณว่าผมสะเพร่าเหรอ” รัชพลจ้องอีกคนเขม็ง ใช่ว่าจะไม่ตรวจ แต่เขาเองก็งานล้นมือแทบทุกวัน เขาตรงสอบอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ละเอียดนักเพราะเขาเองก็ไว้ใจลูกน้องตัวเองทุกคน





“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับคุณรัช แต่ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมันทำให้ไร่น้ำรินเสียหาย คุณที่เป็นเจ้าของไร่ก็ต้องรับผิดชอบตรงส่วนนี้เต็มๆ เพราะมันคือหน้าที่ของคุณ เกิดปล่อยไปอย่างนี้ ปีต่อๆไปไม่โดนโกงเป็นสิบๆล้านเหรอ” นี่อาจจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่สิตางศุ์เคยพูดกับรัชพลมา





ร่างบางเริ่มมีความขุ่นข้องหมองใจกับเจ้าของไร่น้ำรินคนนี้เสียแล้ว ตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้ามารัชพลก็ต้อนรับเขาด้วยปืน และยังทำท่าทีไม่ยินดีเมื่อภุมรินอนุญาตให้เขาพักที่นี่ บางทีรัชพลเองก็อาจจะไม่พอใจเขาอยู่แล้วก็ได้





แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะ จะให้เขาไปจากที่นี่เหรอ แล้วเขาจะไปไหน ในเมื่อไร่น้ำรินคือที่เดียวที่เขาคิดได้ว่าควรมาขอความช่วยเหลือ บางทีสิตางศุ์ก็คิดว่าการที่เขาไปตากแดดในไร่กับภุมรินอาจจะสบายใจกว่าการอยู่ในร่มและต้องมาคอยรับแรงกดดันของรัชพลแบบนี้





“แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้นัก จะให้รินทำก็งานล้นมืออยู่แล้ว พอให้คนอื่นทำก็เป็นแบบนี้” รัชพลกอดอกแล้วพิงตัวลงกับพนักพิง เขายอมรับว่าเขาผิด แต่เวลานี้คนนอก แม้แต่ลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมาก็ยังไว้ใจไม่ได้ จะให้เขาดูเองนั้นก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ เงินหายสามล้าน





“คุณก็ต้องคิดสิครับ แล้วอย่างนี้จะบริหารไร่ได้ยังไง เกิดวันหนึ่งคุณต้องรับผิดชอบงานในไร่ทั้งหมดด้วยตัวเอง คุณจะทำได้เหรอ ไม่ใช่เอาแต่สนใจไวน์ คุณอย่าลืมว่าคุณเองก็มีหน้าที่อื่นด้วย” พูดจบสิตางศุ์ก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน





ภุมรินนั้นเล่าเรื่องที่รัชพลเอาแต่สนใจไวน์ให้เขาฟังแล้ว และตอนนี้เขาก็รู้ซึ้งทั้งหมด ถ้าจำไม่ผิด รัชพลเป็นพี่เขาตั้งหนึ่งปี แต่ทำไมความคิดความอ่านบางอย่างถึงได้ดูเด็กในสายตาของเขากันนะ





“ถ้าอย่างนั้นมาทำบัญชีให้ผมมั้ยล่ะ”





“ห๊ะ...” สิตางศุ์ทำหน้างง อยู่ๆรัชพลก็พูดขึ้นมาแบบนั้น จะบ้าหรืออย่างไร กับคนที่เจอกันไม่กี่วันแต่กลับให้มาดูแลเรื่องสำคัญแบบนี้เนี่ยนะ





“จบด้านนี้มาไม่ใช่เหรอ และคุณเองก็คงไม่คิดจะโกงผมหรอกนะ และอีกอย่างเวลาทำงานก็ทำในนี้เนี่ยแหละ ผมจะได้ควบคุมดูแลง่ายด้วย” ยิ่งพูดสิตางศุ์ยิ่งไม่เข้าใจรัชพล





“คุณรัชพล คุณจะมาแก้ปัญหาง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะ” ความรู้สึกของสิตางศุ์ตอนนี้คล้ายกับกำลังพูดอยู่กับเด็กสิบขวบ





“เดี๋ยวผมคุยกับรินเรื่องนี้เอง ไม่ต้องห่วงเพราะผมจะให้เงินเดือนในอัตราเท่าพนักงานของไร่” รัชพลสรุปรวบยอดเสร็จสรรพ ทำเอาสิตางศุ์ยิ่งหน้ายุ่ง “อย่ามาทำหน้าอย่างนั้นนะ คุณไปทำงานในไร่ไม่ได้ ก็มาช่วยเรื่องบัญชีนี่แหละ จบตามสายที่เรียนมาด้วย มันก็เป็นการดีกับเราทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ”





สิตางศุ์ได้แต่นิ่งเงียบ เขาเถียงอะไรไม่ออก การที่เขามาขออาศัยอยู่ที่นี่ การเลือกทำงานนั้นเป็นอะไรที่เขาปฏิเสธไม่ได้มากนัก และการช่วยเหลือรัชพลซึ่งเป็นพี่ชายของภุมรินก็เป็นสิ่งที่เขาเองก็ควรทำ





“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้แล้วกัน เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย ช่วยตรวจดูให้ละเอียดอีกทีแล้วกันนะ” พูดจบรัชพลก็โยนแฟ้มงานให้อีกปึกใหญ่





สิตางศุ์จ้องเขม็งก่อนจะถอนหายใจแล้วรับบัญชีเหล่านั้นมา ถือซะว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่อย่างน้อยก็มีงานทำ และจะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้ภุมรินด้วย แต่การต้องมาทำงานร่วมกับรัชพลนี่น่ะสิ ทำเขาอึดอัดไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ยังไงก็ต้องสู้











ตกเย็น แดดร่มลมตกแต่งานของสิตางศุ์นั้นยังคงดำเนินต่อไป ตอนนี้ก็เลยห้าโมงเย็นมาแล้ว สิตางศุ์ยังคงทำงานอยู่ในโรงบ่มกับรัชพลอย่างไม่หยุดหย่อน คนตัวโตนั้นงานล้นมือและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด สิตางศุ์ก็ไม่กล้าถามเรื่องเวลาทำงาน ตอนนี้เขาเริ่มหิวบ้างแล้ว และก็เริ่มเมื่อยแล้วด้วย รัชพลก็ยังไม่คิดจะให้เขาหยุดซักที





“คุณรัชครับ คุณรัช” เสียงเรียกของคนงานดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่คร้ามแดดวิ่งเข้ามาในโรงบ่ม





“มีอะไรพี่วัน” รัชพลเดินไปหา





“เห็นคุณรินมั้ยครับ เหนือไร่มีปัญหาครับ สายไฟมันขาดเลยจะให้คุณรินไปดู ถ้าไม่แก้ตอนนี้ไฟอาจจะดับทั้งคืน” วันรีบรายงาน ปกติแล้วนั้นในส่วนของเรื่องซ่อมแซมต่างๆภุมรินจะเป็นคนรับผิดชอบเสียส่วนใหญ่ จึงจำเป็นที่จะต้องให้นายช่างใหญ่อย่างภุมรินไปดูในเรื่องนี้





“รินเข้าเมืองกับตะวัน ยังไม่กลับมาเลย แล้วช่างคนอื่นล่ะไปไหนหมด”





“ช่างไปดูแล้วครับ แต่มีบางส่วนแก้ไม่ได้ เลยจะให้คุณรินไปดู” วันทำหน้าเคร่ง ตอนนี้ก็ใกล้จะมืดแล้วด้วย





“ถ้างั้นรอรินมา เดี๋ยวฉันจะให้ไปดูให้ แต่เดี๋ยวนะ...” รัชพลคิดอะไรบางอย่างได้ แล้วคิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่น สิตางศุ์และวันที่มองอยู่ถึงกับทำหน้างงไปด้วย





“มีอะไรเหรอครับนาย” วันถาม





“อยู่ๆสายไฟมันขาดได้ไง”





“ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่เท่าที่ผมดูแล้วนั้น เหมือนมีรอยตัด” วันตอบด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไป สายไฟเหนือไร่นั้นเหมือนมีคนไปลอบตัด และที่สำคัญ ตัดตรงจุดสำคัญของการส่งไปให้ทั้งไร่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้ก็ใกล้มืดแล้ว





“โดนตัดงั้นเหรอ!” รัชพลหน้าเครียดขึ้น สิ่งที่ได้รับรายงานในช่วงนี้บวกกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแปลกๆในไร่ทำให้เขาเริ่มมั่นใจว่าเวลานี้มีสิ่งไม่ชอบมาพากลในไร่เสียแล้ว





“ครับนาย นายจะไปดูด้วยกันมั้ยครับ”





“ไปสิ ผมจะไปดูด้วย ส่วนคุณสิตางศุ์ คุณกลับเข้าบ้านไปได้ วันนี้พอแค่นี้แหละ และถ้ารินกลับมาให้ตามผมไปที่เหนือไร่ด้วย” พูดจบก็คว้าเอาปืนในลิ้นชักออกมาพร้อมกับหมวกสีน้ำตาลที่วางอยู่ ทิ้งให้สิตางศุ์ทำหน้างงอยู่คนเดียว





รัชพลเดินออกไปพร้อมคนงานคนนั้นแล้ว แต่สิตางศุ์ยังคงยืนนิ่งอยู่ เหมือนไร่นี้จะมีปัญหามากมายเสียจนเขาเองจะเครียดตามไปด้วย เรื่องบัญชีก็ยังไม่เคลียร์ แล้วจะยังมาโดนตัดสายไฟอะไรนั่นอีก





เรื่องบัญชีของไร่นี่ก็เหมือนกัน เขาตรวจเพิ่มเติมตอนนี้เงินหายไปเกือบห้าล้าน เรื่องพวกนี้มันชักจะยังไงๆเสียแล้ว เรื่องในไร่น้ำรินทำเอาเขาวุ่นวายตามเจ้าของไร่จนไม่มีเวลาคิดเรื่องของตัวเอง มันก็ดีแค่ตรงนี้แหละ





สิตางศุ์เก็บรวบรวมแฟ้มทั้งหมดก่อนจะยัดใส่ไว้ในลิ้นชักของรัชพลตามเดิมแล้วออกมาจากโรงบ่มเพื่อกลับบ้านที่อยู่ไม่ไกลนัก เดินไปไม่เท่าไหร่ก็ถึง ถือเป็นครั้งแรกกับการใช้ชีวิตคนเดียว ในฐานะพนักงานที่ต้องทำงานโดยไม่มีเส้นสายของคุณหญิงพิมล ศิรินทรา มันก็ทำให้เขาเองก็ภูมิใจในตัวเองไม่น้อย ถือว่าเริ่มต้นได้ดี... หรือเปล่า





หลังจากออกจากโรงบ่มมาได้ไม่นาน รถคันใหญ่ไม่คุ้นตาก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพร้อมกับร่างของภุมรินและร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่ง สิตางศุ์เดาว่าคงเป็นตะวันที่รัชพลพูดถึง ร่างบางตรงปรี่เข้าไปหารุ่นน้องทันที





“ริน” เรียกชื่อคนที่กำลังง่วนอยู่กับการลื้อถุงพลาสติกหลายใบซึ่งในนั้นบรรจุสิ่งของที่เพิ่งไปซื้อมา





“อ้าวพี่ตาง แล้วพี่รัชล่ะครับ วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้าง” รัวคำถามใส่พร้อมกับยิ้มให้รุ่นพี่ที่ทำหน้าเคร่งผิดปกติ





“อย่าเพิ่งถามเลยริน คุณรัชพลบอกว่าถ้ารินมาแล้วให้รีบไปที่เหนือไร่ เหมือนจะมีเรื่องน่ะ พี่เห็นเค้าถือปืนไปด้วย”





“ปืน! มีเรื่องอะไรกันน่ะริน” ตะวันที่ยืนข้างๆถามภุมริน ปกติแล้วนั้นรัชพลไม่ค่อยใช้ปืนและพกปืนไปไหน แม้จะมีติดตัวก็ตามที แต่นี้เรื่องร้ายแรงอะไรถึงขั้นที่เพื่อนรักของเขาต้องใช้ปืน





“ช่วงนี้เหมือนมีคนมาวุ่นวายไร่น่ะพี่ตะวัน” ตอบคนรักพร้อมกับทำหน้าเครียดลงถนัดตา





“งั้นเดี๋ยวพี่ไปด้วย” ตะวันพูด





“ครับ พี่ตางรินฝากของพวกนี้เอาไปให้ป้าจันด้วยนะครับ แล้วพี่ก็กินข้าวก่อนเลย เดี๋ยวรินจะรีบกลับมา” พูดจบภุมรินก็รีบขึ้นรถไปกับตะวันอีกรอบ





สิตางศุ์รับของทั้งหมดมาพร้อมกับถอนหายใจ ขอให้ไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงก็เป็นพอ







***************************************************************************************







วันนี้มาต่อตอนที่สามเร็วหน่อย มาเอาใจช่วยสิตางศุ์กันดีกว่าค่ะว่าจะรับมือกับพี่รัชยังไง  :hao7: ไม่ใครเข้าใจพี่รัช คนเขียนเองก็ยังไม่เข้าใจพี่รัชเลย ฮ่าๆ  :katai1: ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่4 23/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 23-02-2016 20:44:28
บทที่ 4














“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” เสียงเข้มของชายวัยกลางคนดังขึ้นกลางห้องขนาดเล็กบนใต้หลังคาอันเป็นห้องทำงานประจำของบ้านรักษ์นที ตอนนี้บุรินทร์และลูกชายทั้งสองกำลังปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นในไร่ทั้งหมด








“คนงานมารายงานหลายรอบแล้วครับพ่อว่าช่วงนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลที่ไร่ และที่สำคัญ รัชเพิ่งให้คนตรวจบัญชีไป ตรงส่วนรายจ่ายเงินถูกเบิกไปหลายล้านในรอบปีนี้ และเรื่องเมื่อคืนก็พอจะรู้ว่ามีคนไม่หวังดีกับไร่เรา” รัชพลอธิบายรายละเอียดให้กับบุรินทร์ที่นั่งหน้าเครียดอยู่





เมื่อวานนั้นกว่าจะจัดการเรื่องสายไฟได้ก็ปาไปเกือบสองทุ่ม ภุมรินและคนงานต้องช่วยกันซ่อมและเปลี่ยนจ้าละหวั่น รัชพลเอาแต่หัวเสียกับเรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนทั้งวันจะมีแต่เรื่อง ตั้งแต่เรื่องบัญชี ไปยันเรื่องถูกลอบตัดสายไฟ รัชพลรู้ว่ามีคนไม่หวังดีกับไร่ของเขา แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร และทำไปเพื่ออะไรกันแน่






“ทำไมมันเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ แล้วพอจะรู้รึยังว่าเป็นใคร” นายเหนือของไร่น้ำรินก็เครียดไม่น้อยเลยทีเดียวที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่เขาทำไร่น้ำรินมายี่สิบกว่าปี เพิ่งจะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น





“ยังไม่รู้เลยครับพ่อ แต่ตอนนี้รัชแจ้งความไว้แล้ว อีกไม่นานคงได้เรื่อง แต่ช่วงนี้คงต้องเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้มากกว่านี้” รัชพลสั่งคนงานรักษาความปลอดภัยให้คุมเข้มมากขึ้น และเพิ่มคนเข้าประจำแต่ละจุดของไร่ให้มากกว่าเดิม ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะตอนนี้สถานการณ์ไม่น่าไว้ใจนัก





“คงต้องแก้ปัญหาอย่างนี้ไปก่อนครับพ่อ พี่ตะวันมีเพื่อนเป็นตำรวจอยู่ เค้าจะช่วยดูเรื่องนี้ให้ด้วย” ภุมรินเสริมพี่ชาย





“ดีแล้ว พ่อไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ รัช... แกเองช่วงนี้ก็ไม่ต้องเข้าโรงบ่มนะ มาดูเรื่องนี้ก่อน จะได้รับมือได้ทัน ส่วนเรื่องบัญชี มีปัญหาอะไร”





“มีจะมีปัญหาตรงส่วนรายจ่ายเรื่องต้นทุนของไร่น่ะครับ ในส่วนนี้พี่โรจน์เป็นคนดูแล เมื่อวานรัชให้คุณสิตางศุ์ตรวจดูเงินหายไปเยอะเลย” รัชพลยื่นสมุดบัญชีทั้งหมดให้ผู้เป็นพ่อดู บุรินทร์เปิดดูก่อนจะหน้าเครียดอีกครั้ง





“รัชจะบอกว่าโรจน์โกงเงินของไร่งั้นเหรอ” โรจน์นั้นบุรินทร์และรัชพลเป็นคนเลือกเข้ามาทำงานเอง และค่อนข้างมั่นใจว่าโรจน์ไม่ใช่คนที่จะคิดร้ายและโกงใครได้ง่ายๆแน่นอน แล้วทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้





“รัชยังไม่ยืนยันครับ และยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร มีแต่เราและคุณสิตางศุ์ที่เป็นคนตรวจบัญชีเท่านั้นที่รู้เรื่อง”





“ใครคือสิตางศุ์” บุรินทร์ถามด้วยความสงสัย สิตางศุ์คือใคร เขาเพิ่งเคยจะได้ยินชื่อ และทำไมอยู่ๆรัชพลถึงได้ไว้ใจให้ทำบัญชีของไร่





“พี่ตางคือรุ่นพี่ของรินเองครับพ่อ เค้าจบบัญชีมา รินเลยให้ไปช่วยพี่รัช” ภุมรินตอบแทนรัชพล เขาก็เพิ่งรู้เรื่องนี้จากพี่ชายเมื่อวาน ไม่คิดว่าโรจน์จะแอบยักยอกเงินของไร่มากขนาดนี้





“อืม... ถ้าอย่างนั้นให้เค้าตรวจดูทั้งหมด ทุกบัญชี แล้วก็รวบรวมมาให้พ่อ เดี๋ยวพ่อจัดการเรื่องนี้เอง รัชก็พยายามดูรอบๆไร่ รินก็ทำงานตามปกติเหมือนเดิม ว่างๆก็พาสิตางศุ์มาให้พ่อรู้จักด้วยก็ดี” บุรินทร์สรุปเรื่องทั้งหมดก่อนจะเอนตัวพิงพนักด้วยสีหน้าที่คิดหนัก





“พี่ตางเค้าพักที่นี่ครับ พรุ่งนี้เช้าพ่อก็เจอ” ภุมรินพูด





“พรุ่งนี้พ่อเข้ากรุงเทพฯแต่เช้ามืด กลับอีกทีคงอาทิตย์หน้าน่ะ ยังไงก็ฝากทางนี้ด้วยแล้วกัน”





สามพ่อลูกคุยเรื่องงานในส่วนอื่นๆอีกเล็กน้อยก่อนจะพากันลงมาชั้นสองแล้วแยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง รัชพลเองเมื่อมาถึงห้องของตนเองก็ทิ้งตัวลงอย่างเหนื่อยล้า หลายวันมานี้เขาหัวหมุนไม่ได้หยุด แล้วบิดายังจะมาพักงานเรื่องไวน์อีก ช่วงนี้คงต้องทิ้งไปซักพัก ดีที่เขาไม่คิดจะทำไวน์ตัวใหม่ในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะเซ็งกว่านี้





เมื่อคิดๆดูแล้วนั้น ถ้าเขาไม่ให้สิตางศุ์ตรวจบัญชีดู คงไม่เจอปัญหาแบบนี้แน่ๆ และเงินของไร่ก็คงหายไปมากกว่านี้แน่นอน ถือว่าสิตางศุ์ช่วยได้มากเลยทีเดียว รุ่นพี่ของภุมรินคนนี้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยเหมือนกัน





 คิดแล้วก็กระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนอื่นเขาต้องจัดการคนที่หวังร้ายกับไร่น้ำรินเสียก่อน















เช้าวันใหม่สิตางศุ์ตื่นแต่เช้าลงมากินข้าวกับภุมรินแต่ไม่พบว่ารัชพลจะมากินข้าวด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็เดาว่ารัชพลนั้นเข้าโรงบ่มไปเรียบร้อยแล้วและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ





ภุมรินไปส่งองุ่นเหมือนทุกวันส่วนสิตางศุ์ก็เดินเข้าไปหารัชพลเพื่อทำงานใหม่ที่เพิ่งได้รับเมื่อวานนี้ และเมื่อเข้าไปแล้วก็เจอรัชพลกำลังเก็บของเข้ากระเป๋าใบไม่เล็กไม่ใหญ่เหมือนกับว่าจะออกไปไหน





“คุณรัช คุณจะไปไหนครับ” ถามคนตรงหน้าที่มีฐานะเป็นนายจ้างในตอนนี้





“จะไปเหนือไร่น่ะ ไปด้วยกันมั้ย เอางานไปทำที่นั่นด้วยก็ได้ ช่วงนี้ผมต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย” รัชพลพูดพร้อมกับจับหมวกหนังมาสวมใส่ ที่เหนือไร่นั้นเป็นที่ตั้งของสำนักงานที่เกี่ยวกับด้านความปลอดภัยของไร่ ปกติจะมีคนงานคอยดูแล แต่คราวนี้รัชพลจะลงไปทำเอง





“เอ่อ... ผมกลัวจะไปเป็นภาระอีกน่ะครับ ให้ผมทำที่นี่ก็ได้” วันก่อนนั้นสิตางศุ์ก็สร้างปัญหาให้ภุมรินไปรอบหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะไปสร้างความลำบากให้รัชพลอีกเมื่อต้องออกแดดแรงๆแบบนี้





“ไม่ต้องกลัวหรอก เหนือไร่น่ะมีสำนักงานอยู่ ผมไม่ปล่อยให้ผู้ดีผิวบางอย่างคุณต้องตากแดดหรอก” รัชพลว่า ทำเอาสิตางศุ์ทำหน้านิ่วลงอย่างรวดเร็ว





“ผมไม่ใช่ผู้ดีซักหน่อย” คุยกันดีๆไม่ถึงห้านาที เขาไม่คิดเลยว่ารัชพลจะพูดจาดูหมิ่นเขาแบบนี้ การที่เขาแพ้นู่นแพ้นี่ใช่ว่าเขาจะเป็นผู้ดีตีนแดงทำอะไรไม่เป็นเสียหน่อย





“ไม่ใช่ผู้ดีแต่ก็ทำงานกลางแดดไม่ได้ล่ะว้า เอ้า! ใส่เข้าไป แล้วตามมาแล้วกัน” รัชพลโยนหมวกอีกใบให้พร้อมเสื้อแจ๊กเกตของเขาเองก่อนจะเดินนำสิตางศุ์ออกไปข้างนอกโดยในมือถือสมุดบัญชีมาด้วย





สิตางศุ์รับมาพร้อมกับทำหน้าบอกบุญไม่รับ เขาสวมเสื้อตัวใหญ่นั้นพร้อมกับหมวกแล้วเดินตามเจ้าของไร่ออกไป






รถกระบะคันเก่าจอดอยู่หน้าโรงบ่มโดยมีรัชพลนั่งรออยู่ข้างในอยู่แล้ว สิตางศุ์เดินเข้าไปนั่งข้างๆ ทั้งสองคนนิ่งเงียบตลอดทาง รัชพลก็เอาแต่ขับรถ ส่วนสิตางศุ์ก็เอาแต่มองไปข้างนอก แดดในตอนเช้านั้นไม่แรงนัก มีแค่แดดอุ่นๆที่สาดต้นองุ่นลงมา ภาพที่เห็นทำให้คนกรุงอย่างสิตางศุ์รู้สึกดีไม่น้อย ถ้าไม่ใช้เวลานี้เขาคงพกกล้องซักตัวมาเก็บบรรยากาศสวยๆของไร่ให้ฉ่ำปอดไปเลย






ไม่นานรัชพลก็พาสิตางศุ์มาถึงอาคารไม้หลังขนาดกลางที่ตั้งอยู่ตรงพื้นที่โล่งกว้า ห่างออกไปเกือบสองกิโลเมตรรั้วของไร่น้ำรินทอดยาวสุดลูกหูลูกตา บริเวณตรงนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานรักษาความปลอดภัยของไร่น้ำรินทั้งหมด จะมีคนงานควบคุมดูแลและคอยแจ้งความเคลื่อนไหวในแต่ละวันให้รัชพลทราบ





“เดี๋ยวคุณเข้าไปในห้องผม ห้องข้างในสุดนะ เดี๋ยวผมขอคุยกับคนงานก่อน มีปัญหาอะไรก็ออกมาถามได้” รัชพลบอกร่างบางที่ยืนอยู่ใกล้ๆก่อนจะส่งกระเป๋าของตัวเองให้สิตางศุ์ ซึ่งในนั้นมีเอกสารและบัญชีต่างๆอยู่






“ครับ” สิตางศุ์พูดแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปตามที่รัชพลบอก เขายังเคืองร่างสูงอยู่จึงไม่อยากจะพูดอะไรมากนัก
ด้วยความที่เป็นสำนักงานรักษาความปลอดภัยทำให้เจ้าหน้าที่ต่างๆมีแต่ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่






และเมื่อสิตางศุ์เข้าไปในสำนักงานนั้นก็มีสายตาหลายสิบคู่มองมา เขาประหม่าไม่น้อยจึงได้แต่ก้มหน้าเดินและเข้าไปในห้องทำงานของรัชพล





ร่างบางวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะก่อนจะถอดเสื้อแจ็กเกตของรัชพลออก รวมทั้งหมวกด้วย แล้วเริ่มลงมือทำงานของตัวเองที่ค้างจากเมื่อวานทั้งหมด พัดลมที่พัดเอื่อยๆข้างใน รวมทั้งลมข้างนอกที่พัดเข้ามา ทำให้บรรยากาศการทำงานของเขานั้นไม่ได้แย่แต่อย่างใด





เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเที่ยง สิตางศุ์ออกมาทานข้าวพร้อมกับรัชพลและคนงานข้างนอก สายตาของคนงานทั้งหมดของรัชพล รวมทั้งพนักงานส่วนอื่นของสำนักงานทำเอาสิตางศุ์แทบจะกินข้าวไม่ลง ต่างกับเจ้าของไร่ที่เอาแต่ตักกินๆอย่างสบายอารมณ์





“นายครับ นี่แฟนนายเหรอครับ” เสียงที่ดังทำลายความเงียบนั้นทำเอารัชพลเผลอปล่อยช้อนจนกระทบกับจานเสียงดัง แล้วยังจะสำลักข้าวจนหน้าแดง





“แค่กๆ น้ำ ขอน้ำหน่อย” รัชพลไอค่อกแค่กพร้อมกับยื่นมือควานหาน้ำ สิตางศุ์ที่อยู่ใกล้สุดต้องเป็นคนตักน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้คนตัวโต





“ค่อยๆดื่มนะคุณรัช” สิตางศุ์ช่วยป้อนน้ำให้คนที่สำลักหน้าดำหน้าแดง ทั้งวงหยุดกินข้าวแล้วหันมาสนใจเจ้านายตัวเอง





“ไอ้บ้า ไอ้ก้อง พูดบ้าอะไรวะ” เมื่อตั้งสติและหายสำลักแล้วก็หันไปเอาเรื่องคนงานวัยสิบหกอย่างก้อง ลูกชายของกิตหัวหน้าคนงานที่นี่





“ก็ผมไม่เคยเห็นนายพาสาวมานี่นา แล้วยังจะให้ใส่เสื้อใส่หมวกของนายอีก ผมคิดว่านายจะมีแฟนแล้ว เห็นไม่ยอมเอาใครซักที สาวๆในอำเภอรอเก้อตั้งหลายคน” ก้องพูดตามประสาซื่อ นั่นทำให้รัชพลยิ่งพูดไม่ออก ส่วนสิตางศุ์นั้นทำหน้าเคร่งไปเรียบร้อย และยังแอบแดงเล็กน้อยอีกด้วย





“ไอ้บ้า คุณสิตางศุ์เค้าเป็นผู้ชายโว้ย แล้วเค้าก็เป็นเลขาฯข้า” รัชพลตบหัวก้องไปหนึ่งที





“อ้าว ผู้ชายเหรอ ผมนึกว่าผู้หญิงผมสั้น ตัวเล็กนิดเดียว” ก้องยังไม่หยุดพูด สิตางศุ์ไม่รู้ว่าหน้าแดงเพราะเขินหรือโมโห เจ้าเด็กนี่มากล้าว่าเขาเป็นผู้หญิงได้ยังไง ถึงจะไม่ตัวดำคร้ามแดดและมีกล้ามถึกบึกบึนเหมือนคนงานในไร่ แต่เขาก็เป็นผู้ชายนะ





“หยุดพูดไปเลยไอ้ก้อง กินข้าวไปเลย ขอโทษแทนไอ้ลูกชายมันด้วยนะครับนาย คุณสิตางศุ์” กิตถึงกับออกปากขอโทษแทนลูกชาย เมื่อบิดาพูดดังนั้นก้องก็ได้แต่สงบปากสงบคำ





รัชพลยกจานข้าวขึ้นมากินเหมือนเดิม ในวงเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกคนกินข้าวและพูดคุยกันตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็เป็นรัชพลนี่แหละ ที่แอบมองคนข้างๆที่นั่งเขี่ยข้าวไปมา มองดูแล้วสิตางศุ์คนนี้ก็หน้าหวานไม่น้อย ไม่แปลกที่ไอ้ก้องมันจะเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง แน่ล่ะ ผู้หญิงในไร่ส่วนใหญ่แล้วตัวบึกยิ่งกว่าสิตางศุ์ด้วยซ้ำ ลูกผู้ดีตีนแดงแบบนี้ ถ้าให้ขุดดิน ใส่ปุ๋ย คงไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน ให้ทำงานบัญชีนี่แหละ ดีที่สุดแล้ว





หลังจากกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำงาน สิตางศุ์ยังคงง่วนกับตัวเลขจนตาลายไปหมด เขาต้องคอยแก้ทุกอย่างให้เกือบทั้งหมด และยิ่งแก้ยิ่งพบปัญหาเยอะมากขึ้น เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้ารัชพลปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วไร่น้ำรินจะโดนโกงไปมากแค่ไหน และคนชื่อโรจน์นั้นรัชพลเองก็ยังไม่เห็นจะจัดการอะไรเลย สิตางศุ์ไม่อยากจะพูดอะไรมาก จึงได้แค่ทำหน้าที่ของตัวเองไปก็เท่านั้น





เมื่อแดดคล้อยร่างบางจึงลุกเพื่อยืดเส้นยืดสาย พนักงานในสำนักงานนั้นก็ไม่มีใครสนใจเขาแล้ว ถือเป็นการดีเพราะเขาก็ไม่อยากรับมือกับสายตาที่มองมาของแต่ละคน ยิ่งเด็กที่ชื่อก้องไปพูดแบบนั้นกลางวงข้าวเขายิ่งรู้สึกอายกับสายตาของคนที่นี่ จะบ้าหรืออย่างไร มาว่าเขาเป็นผู้หญิง แล้วยังจะคิดว่าเป็นแฟนอิตาคุณรัชพลนั่นอีก มันน่าโมโหจริงเชียว





“คุณสิตางศุ์” เสียงเรียกพร้อมกับมือหนาที่วางบนไหล่ทำเอาสิตางศุ์สะดุ้งโหยง เมื่อหันไปก็เจอเจ้าของไร่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง





“ครับ มีอะไรเหรอครับคุณรัช” นี่ก็ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน แม้ว่าจะเย็นแล้วก็ตาม และอีกอย่างจากประสบการณ์เมื่อวันก่อน รัชพลมีเวลาเลิกงานเสียที่ไหนกัน





“พอดีผมจะไปดูสวนผลไม้ฝั่งนู้นน่ะ คุณไปด้วยมั้ย อยู่แต่ในนี้กลัวจะเบื่อ” รัชพลถาม





สวนผลไม้ที่ว่าคือสวนที่ไร่น้ำรินปลูกผลไม้ชนิดอื่นนอกจากองุ่น เป็นพื้นที่เล็กๆไม่กว้างมาก เป็นทางผ่านของลำธารที่ไหลมาจากน้ำตกที่ท้ายไร่ นานๆทีเขาจะเข้าไปที่นั่น แต่ในเมื่อวันนี้มาที่นี่แล้วก็เลยจะไปเสียหน่อย และแวะมาชวนสิตางศุ์ที่คงจะนั่งเบื่อคนเดียวในนี้





“ก็ดีครับ” เขาอยากจะผ่อนคลายบ้าง ไปกับรัชพลก็ดี





“งั้นก็ตามมา เอาหมวกไปด้วย” รัชพลพูดแค่นั้นก่อนจะเดินนำออกไปก่อน
สิตางศุ์หยิบหมวกมาใส่แล้วเดินตาม เห็นรัชพลอยู่บนหลังม้าเรียบร้อยแล้ว ข้างๆมีม้าอีกข้างยืนอยู่ด้วย





“เร็วสิ ม้าตัวนั้นเป็นของรินน่ะ ผมอุตส่าห์ให้ยืมเลยนะ” สิตางศุ์ทำหน้างง มองหน้ารัชพลก่อนจะหันไปมองม้าและคนงานที่ยืนอยู่





“เอ่อ... ผมขี่ม้าไม่เป็นครับ” เขาไม่เคยขี้ม้ามาก่อนในชีวิต แล้วอยู่ๆจะให้มาขี่ม้าเนี่ยนะ





รัชพลนิ่งไปเล็กน้อย เขาลืมคิดถึงจุดนี้ไป เขาคิดว่าทุกคนต้องขี่ม้าได้ เพราะในไร่ใครๆก็ขี่กันทั้งนั้น ลืมไปว่าสิตางศุ์ไม่ใช่คนในไร่อย่างพวกเขา และทางที่จะไปสวนฝั่งนู้นก็ต้องขี่ม้าไปเท่านั้น แล้วจะไปยังไงล่ะเนี่ย





“ถ้าอย่างนั้นผมไม่ได้ก็ได้ครับ” สิตางศุ์ตัดปัญหา เอาไว้คราวหลังก็ได้ แต่ความจริงแล้วเขาเองก็อยากจะไปสวนผลไม้อะไรนั่นอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน





“นายก็ให้คุณสิตางศุ์ขี่ไปด้วยสิครับ” ก้องที่ยืนฟังอยู่ออกความเห็นเมื่อทั้งสองคนเหมือนจะตกลงกันไม่ได้





รัชพลกับสิตางศุ์หันมามองหน้ากัน...





ไปม้าตัวเดียวกันเนี่ยนะ


















****************************************************************************
















มาต่อแล้วจ้าตอนที่สี่ ทำไมเรื่องพี่รัชเงียบเหงาจัง  :ling2: เนื้อเรื่องเริ่มจะมีเรื่องมาให้พระนายปวดหัวแล้ว ยังไงก็ฝากเรื่องของพี่รัชด้วยนะคะ ไม่ได้มาอัพบ่อย แต่ก็อัพเรื่อยๆค่ะ รักคนอ่านทุกท่านนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่4 23/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 23-02-2016 21:53:34
บอกเลยว่าฟิน  คึคึ

 :hao6:       :hao6:   :hao6:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่4 23/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-02-2016 22:58:16
จะถูกลอบทำร้ายมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่4 23/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 24-02-2016 01:01:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่4 23/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 24-02-2016 22:07:27
ก้องมือชง 55555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่4 23/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 25-02-2016 13:20:24
พี่รัชมาต่อแล้ว ดีงามพระรามแปด :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่5 25/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 25-02-2016 20:35:34
บทที่ 5










“รีบขึ้นมาสิ” รัชพลยื่นมือไปรับคนตัวบางที่กำลังยืนลังเลอยู่ มันก็น่าจะเป็นทางเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้ ให้สิตางศุ์ไปด้วยกับเขาเนี่ยแหละ





“เอ่อ... ครับ” สิตางศุ์ยื่นมือไปจับคนตัวโตไว้ก่อนจะขึ้นไปบนหลังมาอย่างทุลักทุเล กว่าเจ้าตัวจะขึ้นมาได้ก็ใช้เวลาไปพอสมควร ในที่สุดก็ขึ้นมาอยู่บนหลังม้าเรียบร้อย





“จับเสื้อผมไว้แล้วกัน เดี๋ยวจะตกเอา” รัชพลบอกคนที่อยู่ข้างหลัง สิตางศุ์ยังละล้าละลังอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยอมกับเสื้อตัวหนาของรัชพลเอาไว้ตามที่เจ้าตัวต้องการ





“ไอ้ก้องเชื่อแล้วว่านายน่ะเสน่ห์แรงแค่ไหน คุณสิตางศุ์นี่หน้าแดงไปหมดแล้ว” ไอ้ก้องปากมากเอ่ยแซวสองคนที่อยู่บนหลังม้า สิตางศุ์ไม่รู้ว่าหน้าตัวเองแดง แต่ตอนนี้มันคงแดงมากแน่ๆ เพราะกำลังโมโหคนงานของรัชพลคนนี้แหละ





“พูดมากไอ้ลูกหมา ไปเลยนะ มีงานอะไรก็ไปทำเลย” รัชพลเตะเข้าชายโครงของก้องไปหนึ่ง ทำเอาเด็กก้องถึงกับโอดครวญ แต่ก็ยังจะมีอารมณ์มายิ้มล้ออีก รัชพลเลยเตะสีข้างของม้าตัวสีดำสนิทเพื่อให้มันออกตัว






ม้าตัวโตที่วิ่งฉิวออกไปทำให้แรงสะเทือนนั้นยิ่งมีมาก สิตางศุ์เผลอเอามือจับไว้ที่เอวของรัชพลอย่างลืมตัว รัชพลยกคิ้วเล็กน้อยแล้วจึงมองตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม





“รำคาญไอ้ก้องมันรึเปล่า มันก็ปากมากของมันไปอย่างนั้นแหละ คุณอย่าไปถือสามันเลย” รัชพลพูดขึ้น
ตอนนี้ทั้งสองคนมาถึงลำธารแล้ว ม้าสามารถลุยน้ำผ่านไปได้เนื่องจากไม่ลึกมากเพราะเป็นปลายน้ำของน้ำตกแล้ว





“ผมแค่ไม่ชอบที่เค้าพูดเหมือนผมเป็นผู้หญิง” ถ้าเกิดสิตางศุ์ไม่เกรงใจเจ้าของไร่ และตัวเขาเองไม่ใช่ผู้อยู่อาศัย เขาก็คงจะต่อว่าเด็กก้องนั่นไปบ้างแล้ว ไม่ต้องมามัวแต่เก็บงำอารมณ์อยู่แบบนี้





“...หึ” รัชพลหัวเราะในลำคอเล็กน้อย เอาเข้าจริงๆแล้ว ที่ไอ้ก้องมันพูดมานั้น ก็ไม่ต่างจากความจริงเท่าไหร่นัก สิตางศุ์คนนี้บอบบางกว่าผู้หญิงของไร่น้ำรินตั้งเยอะ





สิตางศุ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเมื่อรัชพลหัวเราะแบบนั้น เฮอะ... ไม่แคล้วรัชพลต้องหัวเราะเยาะเขา คนไร่นี้เป็นยังไงกันแน่นะ
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงบริเวณสวนผลไม้ที่ตอนนี้มีคนงานหกเจ็ดคนกำลังช่วยกันดูแลอยู่ ตาสุขหัวหน้าคนงานรีบวิ่งเข้ามาหารัชพลที่ยังคงอยู่บนม้าด้วยรอยยิ้ม





“สวัสดีครับนาย ทำไมมาซะเย็นเลย” ตาสุขถามเจ้าของไร่ตัวโต ปกติแล้วนั้นรัชพลก็มาดูสวนตรงนี้บ้าง แต่ก็ไม่บ่อย ซึ่งทุกครั้งจะมาแค่ตอนเช้าเท่านั้น





“พอดีพาคุณเค้ามาเที่ยวนะ รุ่นพี่ของรินเค้า” รัชพลพูด ตาสุขจึงหันไปมองสิตางศุ์ที่เอาแต่นั่งตัวเกร็งกอดเอวรัชพลไว้ไม่ปล่อย





“สวัสดีครับ” ทักทายเจ้าถิ่นเพื่อไมให้เป็นการเสียมารยาท สวนผลไม้ตรงนี้ของไร่น้ำรินก็บรรยากาศดีไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นการปลูกผลไม้หลากหลายชนิดเป็นวงกลมวนๆเข้ามา และตรงกลางเป็นสวนดอกไม้รวมทั้งพื้นที่โล่งอันมีหญ้าสีเขียวปกคลุม ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้





“ลงไปสิคุณ ถึงแล้วเนี่ย” รัชพลบอกคนที่นั่งข้างหลัง





“ลงยังไงเหรอ” สิตางศุ์ถาม เขาไม่รู้ว่ามันลงยังไง แค่ตอนขึ้นก็ลำบากมากแล้ว จะลงก็คงลำบากไม่แพ้กันแน่ๆ และประเด็นคือมันสูงมากเสียด้วยนี่น่ะสิ





รัชพลหัวเราะน้อยๆ นึกขำขันสิตางศุ์ เขาไม่รู้เลยว่าคนคนนี้ถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน  ทำไมถึงได้ทำอะไรไม่เป็นเลยซักอย่าง ถ้าเกิดเป็นน้องเป็นนุ่งเขานะ จะจับยิงปืนตั้งแต่เด็ก ดูอย่างภุมรินสิ เห็นตัวบางๆ หุ่นขี้ก้างแบบนั้น ยิงปืนก็ใช่ย่อยเชียวล่ะ ถ้าตะวันเพื่อนของเขานอกใจรับรองโดยยิงจนพรุนแน่ๆ





“เดี๋ยวผมลงก่อนก็แล้วกัน”





รัชพลพูดก่อนจะค่อยๆลงจากหลังม้า เนื่องจากมีสิตางศุ์นั่งอยู่ข้างหลังเลยทำให้ลำบากไม่น้อยในการลงครั้งนี้ แต่เจ้าของไร่น้ำรินก็สามารถลงมาจนได้





“มา” รัชพลยื่นมือไปให้คนที่ยังคงอยู่บนหลังม้า สิตางศุ์ยื่นมือไปหารัชพลอย่างกลัวๆ





“ผมลงไม่เป็น” สิตางศุ์สั่นกลัวเล็กน้อย จากหลังม้าถึงพื้นมันสูงไม่น้อยเลยทีเดียว และคนที่ลงไม่เป็นอย่างเขานั้นก็ยิ่งวิตกเพิ่มเป็นทวีคูณ





“ลงมาเลย เดี๋ยวผมรับเอง” รัชพลจับมือบางนั้นไว้แน่น เมื่อจับมือกันอย่างนี้แล้วทำให้รู้เลยว่าสิตางศุ์นั้นเป็นคนไม่เคยทำงานหนักมาก่อนในชีวิต ต่างจากเขาที่มือสากจากการยกนั่นยกนี่เป็นประจำ แล้วอย่างนี้สิตางศุ์จะไปดูแลใครไหวเรอะ ชาตินี้จะหาเมียได้รึเปล่ายังไม่รู้





สิตางศุ์มองหน้ารัชพลเล็กน้อย ก่อนจะกัดริมฝีปากล่างแล้วค่อยๆเหยียบตรงที่เหยียบเพื่อลงจากหลังม้า เขาพยายามหย่อนเท้าให้ถึงพื้น แต่ยังไงก็ไม่ถึงซักทีกอปรกับการซวนเซทำให้ทั้งร่างโผตัวเข้าไปเต็มอกของรัชพล





รัชพลโอบเอาตัวบางๆนั้นมาเต็มๆ ถึงแม้สิตางศุ์จะตัวไม่ใหญ่เท่าเขาแต่ก็ทำให้เซได้เนื่องจากแรงที่ตกลงมา ร่างสูงของพ่อเลี้ยงรัชล้มลงกับพื้นพร้อมกับร่างของสิตางศุ์ทับลงมา คนที่อยู่ข้างบนหลับตาแน่น และค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพไหน





“เอ่อ... คุณรัช ขอโทษครับ” สิตางศุ์รีบลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เขาล้มทับรัชพลไปเต็มๆแบบนั้น อีกคนต้องเจ็บมากแน่ๆ แค่คิดก็รู้สึกผิดขึ้นมา แต่รัชพลกลับลุกพรึบขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น





“เห็นตัวแค่นี้หนักเป็นบ้า ล้มมาได้ทั้งตัว” รัชพลบ่นอุบเมื่อลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ความจริงก็ว่าสิตางศุ์ไปอย่างนั้นแหละ





“ผมขอโทษครับ” สิตางศุ์สำนึกผิด ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นภาระให้รัชพลไม่น้อยเลยทีเดียว





“ผมล้อเล่นหรอกน่า ไปดูสวนกันเถอะ” รัชพลว่ายิ้มๆก่อนจะเดินนำสิตางศุ์ไปโดยมีตาสุขยืนยิ้มอยู่
สิตางศุ์ยิ้มให้ตาสุขไปหนึ่งทีก่อนจะรีบเดินตามรัชพลที่เข้าไปทักทายคนงานเรียบร้อย





สวนตรงส่วนนี้ปลูกผลไม้หลายชนิด ทั้งมะม่วง กล้วย มะละกอ ส้มโอ ขนุน ชมพู่ มะพร้าว รวมไปถึงลิ้นจี่อีกด้วย จะแบ่งเป็นชนิดละสี่แถวที่เรียงเป็นวงกลมเข้ามา แต่ละฤดูก็จะผลัดกันออกผล ไร่น้ำรินเอาไว้ขายในตลาดอย่างเดียว ซึ่งไม่มากมายนัก และยังเอาไว้กินกันเอง สวนตรงนี้เป็นส่วนที่แยกออกมาจากไร่ แต่ก็ยังอยู่ภายในบริเวณไร่น้ำรินอยู่ ใกล้ๆกับสำนักงานรักษาความปลอดภัยของไร่ ที่ออกไปไม่เท่าไหร่ก็ถึงปากทางเข้าไร่แล้ว น้ำที่ใช้ก็มาจากน้ำตกหลังไร่ ซึ่งไหลมาถึงตรงนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นปลายน้ำแล้ว





“ลองมะม่วงซักลูกมั้ยคุณสิตางศุ์” รัชพลตัดมะม่วงออกมาลูกหนึ่ง แล้วตัดตรงขั้วออกแล้วขอน้ำคนงานแถวนั้นมาล้างพร้อมกับปลอกและผ่าเป็นชิ้นแล้วยื่นให้สิตางศุ์





“ขอบคุณครับ” สิตางศุ์รับมาพร้อมกับเคี้ยวเข้าปาก รสชาติมันๆและยังกรอบอีกด้วย เขาไม่เคยกินมะม่วงสดๆจากต้นเลยสักครั้ง พอได้มาลองแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน






“มะม่วงฟ้าลั่นน่ะ กรอบๆมันๆ ของโปรดรินมันล่ะ” รัชพลพูดก่อนจะส่งมะม่วงเข้าปากตัวเองบ้าง





รัชพลพาสิตางศุ์เดินไปดูสวนและผลไม้บางอย่างเมื่อให้ผลแล้วเขาก็จะให้สิตางศุ์ลองชิมดู ตาสุขก็ทิ้งให้รัชพลรับรองแขกไป และตัวเองก็ไปทำงานตามเดิม ทั้งสองคนเดินมาถึงส่วนหลังสุดของสวนที่ปลูกต้นขนุนไว้ ด้วยความที่เป็นต้นขนาดใหญ่ทำให้เป็นรั้วของสวนอีกชั้นหนึ่งได้





“ใกล้มืดแล้ว ผมว่าเรากลับกันเถอะครับคุณรัช” สิตางศุ์เอ่ยเมื่อเห็นว่าตะวันใกล้จะตกดินแล้ว และทางกลับก็ค่อนข้างลำบากในความคิดของเขา





“อืม เดี๋ยวรอแป๊บนึง จะให้ตาสุขเก็บผลไม้ให้ เอาไว้กินกัน” รัชพลบอกคนตัวเล็กก่อนจะตะโกนบอกตาสุขว่าช่วยเก็บผลไม้ให้ แล้วจึงเดินนำสิตางศุ์มารอที่ตรงกลางไร่ อันเป็นที่ที่เขาผูกม้าไว้ ตอนนี้คนงานเริ่มกลับบ้านกันแล้ว เหลือแค่ตาสุขกับเด็กหนุ่มอีกสองคนเท่านั้น





“คุณรัชครับคุณรัช ตรงนู้นมีลวดหนามโดนตัดครับ” เด็กหนุ่มตัวผอมกะหร่องหน้าคร้ามแดดวิ่งหอบมาหารัชพลที่ยืนพิงต้นมะม่วงอยู่กับสิตางศุ์





“ห๊ะ! ลวดหนามโดนตัด เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” รัชพลขมวดคิ้วแน่น





พื้นที่ตรงนี้นั้นเป็นส่วนรอบนอกสุดของไร่น้ำริน และพื้นที่ตรงที่ติดส่วนนี้คือไร่ของชาวบ้าน ซึ่งเป็นไร่ขนาดเล็ก ต่างจากบริเวณตรงท้ายไร่ที่จะติดกับไร่เพียงระพีซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันเกือบสามกิโลเมตร





“ลุงกิตบอกให้ตรวจดูก่อนกลับบ้านน่ะครับ ผมเพิ่งจะเจอวันนี้ อาจจะเป็นพวกเดียวกับที่ตัดสายไฟวันนั้นก็ได้” คนงานหนุ่มรายงาน





“งั้นเดี๋ยวฉันไปดู” รัชพลเริ่มตรงไปยังพื้นที่ที่คนงานพูดถึง สิตางศุ์ที่ยืนงงๆอยู่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยรีบตามเจ้าของไร่ไปบ้าง รวมทั้งตาสุขและคนงานอีกคนด้วย





ทั้งหมดมาถึงบริเวณที่ลวดหนามโดนตัดเกือบทั้งแถบและยังมีร่องรอยของการบุกรุกอีกด้วย รัชพลกำหมัดแน่น เขาไม่รู้ว่าไร่น้ำรินหรือคนของไร่น้ำรินไปมีปัญหากับใครไว้หรือเปล่า ถึงได้โดนอะไรแบบนี้ในช่วงนี้ แต่ที่แน่ๆ ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของไร่น้ำรินแบบนี้





เขาต้องเร่งคุยกับตำรวจคนที่เป็นเพื่อนของตะวันเสียแล้ว ปล่อยไว้แบบนี้นานเข้าจะยิ่งบานปลาย ไหนจะเรื่องของบัญชีเงินไร่น้ำรินอีก ตอนนี้บุรินทร์ยังคงให้โรจน์และพนักงานคนอื่นๆทำงานตามปกติเพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่ผิดสังเกต ด้วยเรื่องที่ว่าพวกเขานั้นรู้เรื่องเงินที่หายไปแล้ว ซึ่งบัญชีนั้นทุกครั้งจะให้สิตางศุ์ตรวจดูอีกครั้งทุกรอบ





“พวกมันเป็นใครกัน” รัชพลเริ่มหงุดหงิด





“ผมก็ไม่รู้ครับนาย ปกติไม่มีใครมายุ่งตรงนี้ ลุงน้อยเจ้าของไร่ตรงนี้แกก็ย้ายไปอยู่กับลูกตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่มีใครมาไร่นี้นานแล้วนะครับ” คนงานคนเดิมตอบ






“แสดงว่าต้องมีคนใช้พื้นที่ตรงนี้ลักลอบเข้ามา แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าติดกับไร่ของไอ้น้อยมันนะ” ตาสุขเสนอความคิด รัชพลหันไปมองผู้อาวุโสกว่าอย่างครุ่นคิด






“แสดงว่าเป็นคนในอย่างนั้นเหรอ” นั่นคือสิ่งเดียวที่รัชพลคิดได้ตอนนี้ ในเมื่อมีแต่คนในรู้ แล้วจะเป็นใครอีกล่ะนอกจากคนของไร่น้ำรินเอง






“ฉันไม่อยู่เฉยเรื่องนี้แน่”






รัชพลกำหมัดแน่น มันชักจะมากเกินไปแล้ว และที่สำคัญเกลือก็ดันเป็นหนอนเองซะด้วย เขาต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนเรื่องจะบานปลาย และปล่อยให้คนชั่วพวกนั้นมาบุกรุกไร่น้ำรินอยู่อย่างนี้!
































หลังจากกลับมาถึงบ้านรัชพลก็รีบต่อสายหาบุรินทร์เพื่อหารือในเรื่องนี้ ส่วนสิตางศุ์นั้นก็ขึ้นไปบนห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สดชื่น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเครื่องก็พบข้อความเด้งขึ้นมามากมาย รวมทั้งสายที่ไม่ได้รับเป็นร้อยสายหลังจากที่เขาหนีออกจากบ้านมาเกือบอาทิตย์แล้ว ที่มากที่สุดคงจะเป็นย่าของเขาและภูวดลเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีอยู่ เขาไม่ได้อยากให้ทั้งคู่เป็นห่วง แต่เขาเองก็ยังไม่อยากจะติดต่อใครในตอนนี้






‘ตาง มึงอยู่ไหน คนเค้าตามหากันทั่ว มึงมีปัญหาอะไรก็บอกกูมาสิวะ ไม่ใช่หนีหายไปแบบนี้’





‘ถ้าเปิดอ่านแล้วตอบกลับกูด้วย คุณย่าท่านเป็นห่วงมึงมาก’





‘ไอ้ตาง ไอ้เพื่อนเวร มึงหายหัวไปไหน’





สิตางศุ์ไล่อ่านข้อความต่างๆที่ภูวดลส่งมาในแอพลิเคชั่นที่ส่งข้อความคุยกันได้สะดวกที่สุด เขาแค่กดอ่านแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนไป ก่อนจะกดปิดเครื่องอีกครั้งแล้วเก็บโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะหัวเตียงเหมือนเดิม





ตอนนี้เหมือนเขาหนีเรื่องวุ่นวายที่กรุงเทพฯเพื่อมาเจอเรื่องวุ่นวายกว่าที่ไร่น้ำริน เพราะตอนนี้เองสถานการณ์ที่นี่ก็ใช่ว่าจะปกติดี วันดีคืนดีก็ถูกบุกรุกโดยคนแปลกหน้า รัชพลกับภุมรินก็ค่อนข้างจะเครียด เขาเลยทำได้แค่อยู่เฉยๆ และพยายามจะไม่ทำตัวเป็นภาระให้กับคนที่นี่





แต่ถ้าให้สิตางศุ์เลือก สิตางศุ์เลือกที่จะอยู่ที่นี่มากกว่าที่จะกลับบ้าน อย่างน้อยก็สบายใจกว่า เมื่อเขาพร้อมเมื่อไหร่ เขาถึงจะกลับไปเผชิญกับเรื่องที่กรุงเทพฯ









ทำไมรู้สึกว่าการเป็นสิตางศุ์นั้นมันเหนื่อยเกินไป...














****************************************************************************













มาต่อเร็ว แว้กกกกกกกกกกกกกกก ตอนนี้เหลือตุนไว้แค่ตอนเดียวแล้ว ต้องเร่งแต่ง  :o12: มีเรื่องวุ่นวายมากมาย ไหนจะเรื่องของสิตางศุ์ที่ไม่เคลียร์อีก จะเป็นยังไงต่อไปฝากติดตามด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่5 25/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-02-2016 13:13:45
รอติดตามตอนต่อไปอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่5 25/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-02-2016 13:59:21
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่5 25/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-02-2016 20:15:06
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 27-02-2016 20:56:54
บทที่ 6





“ตอนนี้เราให้ตำรวจมาคอยสอดส่องดูแลทุกจุดของไร่น้ำรินแล้วครับ ตอนนี้หลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะระบุได้ว่าคนร้ายคือใคร ทางตำรวจจึงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากต้องเฝ้าดูสถานการณ์ ส่วนเรื่องที่คุณบุรินทร์ให้ผมตามคนชื่อโรจน์นั้น เมื่อวานนี้ตอนบ่ายโมงเราพบเค้ากำลังนั่งทานข้าวกับเสี่ยทรงยศที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดครับ และนี่คือรูปที่เราถ่ายมาได้”





รูปจำนวนสิบกว่าใบถูกวางตรงหน้าคนทั้งสี่ ซึ่งมีบุรินทร์ รัชพล ภุมรินและตะวัน ตอนนี้ทั้งสี่คนกำลังหารือร่วมกับเกรียงไกร นายตำรวจหนุ่มเพื่อนของตะวันที่เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ เขาได้รับแจ้งความเรื่องไร่น้ำรินมาซักพักแล้ว และยังได้ช่วยบุรินทร์ติดตามโรจน์อีกด้วย แต่โดยรวมของรูปคดีแล้วนั้น ยังถือว่าหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิดใคร





“เสี่ยทรงยศเหรอ เสี่ยทรงยศผู้ค้ารายใหญ่ของจังหวัด เรื่องสินค้าแปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร แล้วโรจน์ไปรู้จักเสี่ยทรงยศได้ยังไง” บุรินทร์ตั้งคำถาม เสี่ยทรงยศนั้นถือว่ามีอิทธิพลมากในจังหวัด และยังทำธุรกิจส่องออกสินค้าแปรรูปรายใหญ่อีกด้วย โรจน์นั้นเป็นเพียงแค่พนักงานบัญชีจากอีกจังหวัดหนึ่งที่เพิ่งมาทำงานในไร่น้ำริน และอยู่ๆจะไปรู้จักกันได้ยังไง เรื่องนี้ทำให้เขางงไม่น้อย





“เรื่องนี้เราต้องตามสืบกันอีกทีครับ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมกำลังสงสัยว่าเสี่ยทรงยศเองก็น่าจะมีส่วนร่วมกับเรื่องที่ไร่น้ำรินโดนตัดสายไฟและรั้วหนาม รวมไปถึงคนที่มาวนเวียนไร่ในช่วงนี้ด้วย” เกรียงไกรพูดต่อ นั่นยิ่งทำให้ทั้งหมดขมวดคิ้ว





“ยังไง” รัชพลถาม เขาไม่เข้าใจว่าเสี่ยทรงยศจะมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง





“ช่วงนี้ไร่น้ำรินได้มีการส่งออกองุ่นแปรรูปและไวน์องุ่นเข้าไปตีตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นตลาดเดิมของเสี่ยทรงยศ ทำให้กำไรที่ได้มานั้นลดน้อยลงไปมาก และอีกอย่าง ไร่น้ำรินก็เป็นไร่ที่ใหญ่การที่เสี่ยทรงยศจะทำการอุกอาจเหมือนที่ทำกับไร่สวนเล็กๆนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว จึงใช้วิธีก่อกวน และไม่แน่โรจน์เองก็อาจจะถูกส่งเข้ามาเพื่อการนี้อีกด้วย แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อสันนิฐานครับ ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกที แต่ที่สำคัญกว่าคือยิ่งเราสืบค้นมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งพบว่าเสี่ยทรงยศเป็นคนอยู่เบื้องหลังของขบวนการค้าไม้ที่ทางการกำลังกวาดล้างตอนนี้”





คำบอกเล่าของเกรียงไกรทำให้ทั้งหมดหน้าเครียด เรื่องมันชักจะบานปลายแล้ว ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่ไร่น้ำรินจะจัดการเองได้ ทุกคนในจังหวัดนี้รู้ว่าเสี่ยทรงยศมีอิทธิพลมาแค่ไหน และการเป็นอริกับเสี่ยทรงยศนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก





“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเป็นคนรับผิดชอบคดีนี้ ผมจะจัดการให้ ส่วนไร่น้ำรินผมจะให้ตำรวจมาคอยดูแลด้วยครับ ช่วงนี้ไร่น้ำรินเองก็ต้องคอยระวังด้วย เพราะไม่รู้ว่าพวกนั้นจะมาไม้ไหนอีก” เกรียงไกรสรุปปิดท้ายก่อนจะปิดแฟ้มทั้งหมดลง





“ขอบคุณมากครับคุณตำรวจ ทางเราจะระวังตัวให้มากขึ้น” บุรินทร์พูด





“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีงานต่อ มีปัญหาอะไรบอกตะวันมาก่อนก็ได้ เพราะเราติดต่อกันตลอด” เกรียงไกรลุกขึ้นพร้อมหอบเอกสารทั้งหมดไว้เต็มสองมือ





“ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ” บุรินทร์ยื่นมือไปจับกับนายตำรวจหนุ่มก่อนจะเดินไปส่งที่หน้าบ้าน





เมื่อเกรียงไกรกลับไปพร้อมกับตะวันแล้วสามพ่อลูกก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเสียแล้ว เรื่องนี้ถ้าไม่จัดการเสี่ยทรงยศเห็นทีจะไม่จบง่ายๆ บุรินทร์เองก็ยังเป็นกังวลไม่น้อย





“รัช ดูแลไร่แทนพ่อด้วยนะ พ่อจะรีบเคลียร์งานแล้วกลับมาอยู่ไร่ซักพักจนกว่าเรื่องจะจบ ส่วนเรานะริน ระวังตัวเองด้วย ถ้าไปข้างนอกก็อยู่ใกล้ๆตะวันไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าพวกนั้นจะมาไม้ไหน” บุรินทร์สั่งลูกชาย ตอนนี้ไม่ใช่แค่ไร่น้ำริน ความปลอดภัยของคนในไร่น้ำรินก็สำคัญเช่นกัน





รัชพลและภุมรินตอบตกลงบิดาก่อนที่บุรินทร์จะลุกขึ้นไปข้างบนบ้านทิ้งให้สองพี่น้องนั่งมองตากันอยู่สองคน ทั้งรัชพลและภุมรินก็กังวลไม่ต่างกัน





“งั้นรินไปดูไร่ก่อนนะพี่รัช พี่ตางยังอยู่เหนือไร่ใช่มั้ย” ภุมรินถามพี่ชาย เพราะตอนเช้านั้นสิตางศุ์ออกไปสำนักงานที่เหนือไร่พร้อมกับรัชพล รัชพลเพิ่งจะกลับมาเพราะว่าตะวันพาเกรียงไกรมาคุยด้วยนี่แหละ






“อืม พี่ก็ว่าจะกลับไปอยู่เหมือนกัน” รัชพลเตรียมหยิบเสื้อหยิบหมวกออกมาเพื่อที่จะเข้าไปทำงานเช่นเดียวกับภุมริน





ภุมรินพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปก่อนพี่ชาย รัชพลเองก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง เขาเดินไปขึ้นรถกระบะคันเดิมที่ขับมาจากเหนือไร่ก่อนจะสตาร์ทรถเพื่อมุ่งสู่สำนักงานของไร่ที่ไกลออกไป





เมื่อมาถึงก็พบว่าสิตางศุ์นั้นไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงาน มีเพียงเสื้อคลุมและหมวกพร้อมเอกสารกองใหญ่ที่ตั้งอยู่เท่านั้น เมื่อหาข้างนอกก็ไม่เจอเช่นเดียวกัน





“ก้อง ไอ้ก้อง ไอ้ก้องโว้ย” ตะโกนหาคนงาน





“ครับนายครับ มาแล้วครับ” เด็กก้องวิ่งหืดหอบมายืนตรงหน้ารัชพล





“คุณสิตางศุ์ไปไหน ทำไมไม่อยู่ในห้อง”





“อ๋อ คุณตาง ผมเห็นไปกับหมอชาญที่ท้ายสำนักงานนู่นน่ะครับ” ก้องรายงานตามที่พบเห็นให้เจ้านายตัวใหญ่ทราบ รัชพลขมวดคิ้วมุ่น





หมอชาญในที่นี้คือเชี่ยวชาญเป็นสาธารณสุขของไร่ คนงานในไร่มักเรียกติดปากว่าหมอชาญ แต่ประเด็นคือหมอชาญคนนี้ไม่ได้ทำงานอยู่บริเวณนี้ แล้วทำไมถึงมาที่นี่ได้ และสิตางศุ์ก็ยังตามไปอีก สองคนนี้รู้จักกันตอนไหน รัชพลไม่เข้าใจ





เมื่อไม่เข้าใจก็ต้องเดินตามไปดู เจ้าของไร่น้ำรินเดินหน้าเคร่งไปหลังสำนักงานตามที่ก้องบอก และเขาก็พบว่าสิตางศุ์ผู้ทำหน้านิ่งตลอดเวลาตอนนี้กำลังหัวเราะร่วนอยู่กับสาธารณะสุขประจำไร่อย่างเชี่ยวชาญโดยมีหมาสีขาวขนฟูอยู่ด้วย ถ้าจำไม่ผิดนั่นเป็นหมาของก้องที่เก็บมาเลี้ยงเมื่อหลายปีก่อน






“ช่วงนี้อย่าให้มันเดินมากเป็นพอครับ ถ้าบอกก้องคงไม่ฟังแน่ๆ รายนั้นชอบพาหมาไปวิ่งเล่น” เชี่ยวชาญพูดพร้อมกับพันผ้าผืนเล็กที่ขาหน้าของหมาขนฟูนั้น





“ไม่รู้ว่าผมจะทำงานที่นี่อีกกี่วัน แต่ช่วงนี้จะคอยดูแลมันให้ครับ” สิตางศุ์พูดพร้อมกับช้อนสายตามองเชี่ยวชาญ ไม่รู้ว่าเขาจะได้มาสำนักงานนี้อีกกี่วัน แต่ช่วงที่ทำงานที่นี่ก็จะช่วยดูเจ้าด่างให้





หมาด่างนี้เป็นหมาของเด็กก้องที่กิตเป็นคนบอกว่าก้องเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก และวันนี้เจ้าด่างมันก็ดันไปนอนอยู่ใต้ท้องรถของไร่น้ำริน คนงานไม่เห็นเลยเหยียบขาไปเต็มๆ เจ้าหมาขี้เซาตัวนี้จึงต้องใส่เฝือกไว้ที่ขา และคนที่มาทำก็ไม่ใช่ใคร หมอชาญของคนในไร่นั่นเองที่ดูแลทั้งคนทั้งหมา





และที่สิตางศุ์ต้องรับอาสาดูแลเจ้าด่างนั้นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นคนเจอไอ้ด่างนอนร้องอยู่และมีคนงานกำลังโทรเรียกกิตให้มาดูมันเพราะก้องไม่อยู่บริเวณนั้น และเมื่อหมอชาญมาก็ดันคุยเข้ากันเสียนี่ ไปๆมาๆกลายเป็นว่ากิตยกเจ้าด่างที่อยู่ในมือหมอชาญให้เขาดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งตรงบริเวณหลังสำนักงานนี้ก็เป็นที่หลับที่นอนของเจ้าด่างมันล่ะ





“เสร็จแล้วครับ ดีนะที่ด่างมันยังไม่แก่ ไม่อย่างนั้นลำบากกว่านี้” คุณหมอพูด





หมอชาญนั้นเป็นคนกรุงเทพฯ เขามีลักษณะสุภาพ ด้วยผิวขาวกว่าคนทั่วไปในไร่และกรอบแว่นสีทองที่ชอบสะท้อนแสงแดดของไร่น้ำรินประจำทำให้เขาดูภูมิฐานและเป็นที่รักของเล่าบรรดาคนงานสาวๆรวมไปถึงรุ่นป้าๆอีกด้วย และการที่มาเจอคนกรุงด้วยกันอย่างสิตางศุ์นั้นทำให้คุยกันค่อนข้างถูกคอ ถือว่าเขาได้เพื่อนใหม่ในไร่อีกหนึ่งคน





“หมอชาญ วันนี้ทำไมมาที่นี่ได้ ทุกทีเห็นอยู่กลางไร่นู่น” รัชพลที่ยืนมองอยู่นานทักขึ้นพร้อมกับเดินมาหาทั้งสองคน เสียงนั้นทำให้เชี่ยวชาญและสิตางศุ์ลุกขึ้นพร้อมกันและหันไปมองผู้มาใหม่





“พอดีเจ้าด่างมันโดนรถทับขาน่ะครับเลยมาดูให้” เชี่ยวชาญตอบพร้อมกับรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณหมอประจำไร่





“อ้อ... เหรอครับ แล้วคุณสิตางศุ์ล่ะครับ งานเสร็จรึยังถึงได้มีเวลาว่างมากวนหมอชาญเค้าน่ะ” รัชพลจ้องไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเชี่ยวชาญ สิตางศุ์เองก็มองกลับ





“ผมทำงานเสร็จหมดแล้วครับ คุณรัชพลไม่ต้องเป็นห่วง และอีกอย่างมันก็ใกล้จะหมดเวลางานแล้วด้วย” สิตางศุ์พูด เขาทำงานเสร็จตั้งนานแล้ว และกว่ารัชพลจะกลับมาที่นี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานมากแล้วด้วย ตอนแรกเขาจะขอติดรถคุณหมอกลับด้วยซ้ำเพราะไม่คิดว่ารัชพลจะกลับมาที่สำนักงานอีก





“ใกล้จะหมด แต่ก็ยังไม่หมดนี่ครับ” รัชพลเถียงกลับทำเอาสิตางศุ์มองคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ





“เอ่อ... ผมว่าเราเข้าไปข้างในดีกว่าเนอะ ให้เจ้าด่างมันได้พักผ่อน” เชี่ยวชาญพยายามพูดไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ปกติเสียแล้ว





“ดีครับ อ้อ... เดี๋ยวผมขอติดรถคุณหมอกลับด้วยได้มั้ยครับ” สิตางศุ์เบนความสนใจมาที่เชี่ยวชาญแทน และขอติดรถกลับด้วย ขืนไปกับรัชพลเขาคงต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกับเจ้าของไร่คนนี้อีกแน่ๆ





“จะไปรบกวนหมอชาญเค้าทำไม ผมก็จะกลับบ้านอยู่แล้ว รบกวนหมอชาญต้องวนไปส่งอีก” รัชพลขัด ที่เขาพูดนั้นมันก็จริง กว่าเชี่ยวชาญจะไปส่งที่บ้าน กว่าจะวนไปบ้านพักของเชี่ยวชาญที่อยู่เกือบจะท้ายไร่ สู้กลับกับเขาเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ





สิตางศุ์ได้แต่มองหน้ารัชพลอย่างไม่พอใจ เขาเถียงไม่ได้เพราะมันคือเรื่องจริง แต่ใครจะอยากนั่งรถกลับกับรัชพลกันเล่า พูดจาไม่เข้าหูแบบนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะภุมรินล่ะก็ เขาเองก็ไม่อยากจะมาทำงานร่วมกับพี่ชายของภุมรินคนนี้เท่าไหร่หรอก คนอะไร ท่าทางไม่เป็นมิตร





“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมจะได้แวะไปหาป้าจันด้วย เห็นป้าจันฝากน้ำพริกลงเรือให้แม่ครัวที่ไร่มาให้ผมบ่อยๆ ว่าจะไปขอบคุณแกเสียหน่อย” เชี่ยวชาญยังคงยิ้มให้กับทั้งคู่ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนกลางที่ต้องคอยไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่ ปกติแล้วนั้นรัชพลเป็นคนพูดจาห่ามๆอยู่แล้ว เมื่อมาเจอสิตางศุ์ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่คนโอนอ่อนผ่อนตามใครมาก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น





“ดีเลยครับ ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณหมอด้วยนะครับ หมดเวลางานพอดี ผมขอตัวไปเก็บของก่อน เดี๋ยวเราไปกันเลย” สิตางศุ์ยกมือขึ้นดูนาฬิกาก็พบว่าหมดเวลางานพอดี แล้วยังขอตัวไปเอาของในสำนักงานอีก





รัชพลมองอย่างไม่พอใจ การทำแบบนี้เหมือนเป็นการหยามหน้าเขาต่อหน้าเชี่ยวชาญชัดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้แต่มองตามคนตัวเล็กที่เดินผ่านไปอย่างไม่ใยดี เหอะ... มันน่านัก





ไม่มีตอนไหนที่รัชพลรู้สึกเสียหน้ามากเท่าตอนนี้เลย









เป็นอันว่าสุดท้ายแล้วสิตางศุ์ก็กลับพร้อมกับเชี่ยวชาญโดยมีรัชพลขับรถตามมาห่างๆ ในตอนแรกนั้นเขากะว่าจะอยู่ที่สำนักงานต่อ แต่คิดไปคิดมากลับเลยก็ดี ทั้งๆที่ไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เขาแค่เซ็งก็เท่านั้น ถ้าถามว่าเซ็งอะไรก็คงเป็นคนที่นั่งหัวเราะไปกับหมอชาญนั่นแหละ กล้าดียังไงมาทำเมินเขา สิตางศุ์นะสิตางศุ์





เมื่อรถทั้งสองคันมาจอดไล่ๆกันที่หน้าบ้าน เชี่ยวชาญกับสิตางศุ์ก็ลงจากรถมาก่อนแล้วจึงตามด้วยรัชพล สิตางศุ์พูดขอบคุณเชี่ยวชาญก่อนที่เชี่ยวชาญจะขอตัวไปหาป้าจันอย่างที่พูดไว้ ทิ้งให้สิตางศุ์อยู่รับหน้าเจ้าของไร่ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่คนเดียว





ร่างเล็กกำลังจะเดินตามเชี่ยวชาญเข้าบ้านไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อรัชพลมาเดินขวางหน้าไว้





“อะไรของคุณ คุณรัชพล” สิตางศุ์ถาม อะไรของรัชพลอีก เป็นบ้าหรืออย่างไรกัน





“คุณนั่นแหละ ทำไมไม่กลับพร้อมผม”  รัชพลเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดว่าสิตางศุ์หักหน้าตัวเอง ทั้งๆที่มันก็แค่เรื่องกลับไม่กลับด้วยกันก็แค่นั้น อาจจะเป็นเพราะว่าถูกกรอกหูจากเด็กในไร่เรื่องที่หมอชาญนั้นหล่อกว่าเขาก็เป็นได้ เวลามีคนเลือกหมอชาญมากกว่าเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองแพ้ยังไงอย่างนั้น





“ผมจะกลับพร้อมใครมันก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ” สิตางศุ์จ้องคนตรงหน้าเขม็ง จะอะไรกันนักหนา เขาไม่เข้าใจรัชพล





“เกี่ยวสิ ผมเป็นเจ้าของไร่ และเป็นเจ้านายคุณด้วย”





“ไม่ทราบว่าการกลับพร้อมเจ้าของไร่มันอยู่ในกฎข้อไหนของงานครับ” ให้ตายเถอะ เกิดมาสิตางศุ์ยังไม่เคยเถียงใครเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้มาก่อนเลย





“ไม่มีกฎข้อไหน แต่คุณต้องกลับกับผม” รัชพลรู้สึกตัวเองเหมือนเด็กงี่เง่าที่เถียงข้างๆคูๆเสียอย่างนั้น





“คุณรัช คุณมันไม่มีเหตุผล” สิตางศุ์เบือนหน้าหนีไม่คุยด้วย ก่อนจะเดินหนีอีกคน





“จริงๆแล้วก็ชอบหมอชาญใช่มั้ยล่ะ หมอชาญออกจะหล่อขนาดนั้น” คำพูดของรัชพลทำให้คนที่กำลังเดินหนีต้องหยุดชะงัก





“คุณพูดบ้าอะไรของคุณน่ะคุณรัชพล”





สิตางศุ์ไม่รู้ว่ารัชพลพูดบ้าอะไร แต่ที่แน่ๆตอนนี้เขาโกรธรัชพลเข้าแล้ว เขาเนี่ยนะจะชอบหมอชาญ บ้าไปแล้ว เขาเป็นผู้ชายนะ จะไปชอบหมอชาญแบบนั้นได้ยังไง





รัชพลจะหาว่าเขาเป็นเกย์อย่างนั้นเหรอ







************************************************************************************








มาต่อแล้วจ้าตอนที่หก อิอิ  :katai2-1: ตอนนี้พระนายทะเลาะกันเบาๆ อิพี่รัชก็ปากน้องหมาจนสิตางศุ์รับไม่ได้ แหม่... แล้วจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย  :katai5: ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ    :katai4:
 
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-02-2016 21:17:12
ไม่ค่อยเลยนะพี่รัชออกหน้าออกตาเกินไปป่าว
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 27-02-2016 21:29:50
แหม่ๆๆ พี่รัชเริ่มออกอาการ หึงหรอจ๊ะ 5555

กระซิบคนเขียน >>“ช่วงนี้ไร่น้ำรินได้มีการส่องออกองุ่นแปรรูปและไวน์องุ่นเข้าไปตีตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นตลาดเดิมของเสี่ยทรงยศ ทำให้กำไรทีได้มานั้นลดน้อยลงไปมาก และอีกอย่าง ไร่น้ำรินก็เป็นไร่ที่ใหญ่การที่เสี่ยทรงยศจะทำการอุกอาจเหมือนที่ทำกับไร่สวนเล็กๆนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว จึงใช้วิธีก่อกวน และไม่แน่โรจน์เองก็อาจจะถูกส่งเข้ามาเพื่อการนี้อีกด้วย แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อสันนะฐานครับ

รัชพลและภุมรินตอบตกลงบิดาก่อนที่บุรินทร์จะลุกขึ้นไปข้างบนบ้านทิ้งให้สองพี่น้องนั่งมองตากันอยู่สองคน ทั้งรัชพลและภุมรินก็กังกลไม่ต่างกัน
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 28-02-2016 10:21:57
ขุ่นรัช หึงก็บอกกก ถถถถถ

เข้ามาติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 28-02-2016 13:24:24
ติดตามเรื่องใหม่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: fdcjsy ที่ 28-02-2016 14:10:23
 o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 28-02-2016 16:06:29
 o13
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่7 28/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 28-02-2016 21:06:37
บทที่ 7




 
“คุณพูดบ้าอะไรของคุณน่ะคุณรัชพล” สิตางศุ์ยืนจังก้ามองคนตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์





“ก็มันจริงมั้ยล่ะ เห็นตามหมอชาญต้อยๆ ทั้งๆที่เพิ่งเจอกัน ทำไม ติดใจความหล่อของหมอชาญมากรึไง”





“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะคุณรัชพล เกิดมายังไม่เคยเจอใครที่มีความคิดทุเรศเท่าคุณเลย” สิตางศุ์กำหมัดแน่น ตอนนี้เขาโมโหแน่แล้ว





มาพูดเหมือนเขาตามหมอชาญเพราะชอบความหน้าตาดีของหมอชาญอย่างนั้นเหรอ ทำอย่างกับว่าเขาเป็นพวกที่ชอบตามคลั่งคนหล่อจนตามติดเค้าต้อยๆ รัชพลพูดแบบนี้ไม่ให้เกียรติเขาเลย และอีกอย่างนะ เขาไม่ได้คิดกับหมอชาญแบบนั้น แน่ล่ะ ใครก็อยากจะเสวนากับคนที่สุภาพมากกว่าคนห่ามๆพูดจามะนาวไม่มีน้ำแบบรัชพลทั้งนั้น ไหนจะนิสัยที่ไม่เกรงใจใครนั่นอีก ตอนประถมไม่เคยเรียนมารยาทขั้นพื้นฐานมาหรืออย่างไรกัน





“ไม่ให้ผมคิดอย่างนี้แล้วจะให้ผมคิดยังไง เห็นคนในไร่ใครๆก็ชอบหมอชาญเพราะหล่อทั้งนั้น” รัชพลก็ยังคงตีหน้ามึนพูดปาวๆต่อ ไม่สนใจว่าคนตัวเล็กจะโกรธหน้าแดงอยู่





“ฟังนะคุณรัชพล” สิตางศุ์สูดหายใจเข้าปอดเพื่อนระงับอารมณ์ที่ครุกรุ่น “ที่ทุกคนชอบหมอชาญเพราะคุณหมอเป็นคนดีและมีมารยาท พูดจาสุภาพ อ่อนน้อม ใครจะเหมือนคุณ พูดจาไม่เข้าหู และยังทำตัวกร่างไปเรื่อย หัดไปเรียนมารยาทพื้นฐานกับหมอชาญมาบ้างก็ดีนะ และที่สำคัญ ผมจะบอกอะไรให้นะ หมอชาญน่ะ เค้าดูดีกว่าคุณอย่างที่คนในไร่พูดนั่นแหละ” สิตางศุ์ร่ายยาวก่อนจะหมุนตัวเดินโมโหเข้าไปในบ้าน






ทิ้งให้เจ้าของบ้านอย่างรัชพลมองตามพร้อมกับอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก เมื่อเจอประโยคตรงๆของสิตางศุ์ทำเอารัชพลไปไม่เป็นเหมือนกัน ให้ตายเถอะ นี่เขายังเป็นเจ้าของไร่ที่สิตางศุ์มาอาศัยอยู่รึเปล่าเนี่ย ทำไมสิตางศุ์ถึงกล้ามาว่าเขาปาวๆอย่างนี้





แต่สิ่งที่เขารับไม่ได้มากที่สุดคือการที่สิตางศุ์มาบอกว่าหมอชาญดูดีกว่าเขา เขารู้ว่ามันเป็นความจริง แต่ก็ไม่น่าจะพูดกันตรงขนาดนี้ เจ้าของไร่หน้าดำ วันๆสนแต่ไวน์อย่างเขา จะไปสู้คุณหมอหน้าใสจากเมืองกรุงได้ยังไงล่ะ เฮอะ... ปากก็บอกไม่ได้ชอบๆ แต่ก็แอบชมหมอชาญลึกๆอยู่ในใจ ยิ่งคิดรัชพลยิ่งไม่สบอารมณ์ เลยทำได้แค่เดินฟึดฟัดไปทางโรงบ่ม ทำไมใครๆต้องมองว่าหมอชาญหล่อกว่าเขาทุกที



















ทางด้านสิตางศุ์ที่โมโหหน้าแดงเข้ามาในบ้านก็เจอกับป้าจันที่กำลังจัดเรียงผลไม้ใส่ตะกร้าให้หมอชาญซะเต็มที่ เขาพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ไม่อยากจะเอาเรื่องที่โมโหรัชพลมาลงกับคนอื่น





“มาพอดีเลยค่ะคุณสิตางศุ์ แล้วคุณรัชล่ะคะ เห็นหมอชาญบอกว่ามาด้วยกัน” ป้าจันถาม





“ไม่ทราบครับ พอดีแยกกัน” สิตางศุ์ไม่รู้ว่ารัชพลไปไหนจริงๆนั่นแหละ และก็ไม่อยากจะใส่ใจด้วย





“อ้าว ไม่เป็นไรค่ะ ป้าถือโอกาสชวนหมอชาญเองเลยดีกว่า” ป้าจันเรียงผลไม้ในตะกร้าเสร็จก็หันมาหาเชี่ยวชาญที่ยืนอยู่ไม่ไกล





“มีอะไรเหรอครับป้าจัน จะชวนผมไปไหนเหรอครับ” เชี่ยวชาญถามด้วยความฉงน สิตางศุ์ที่ยืนฟังอยู่ก็อยากรู้เช่นเดียวกัน





“มะรืนนี้วันเกิดคุณรัชน่ะค่ะ ป้าเลยจะถือโอกาสชวนคุณหมอเลย เนี่ย... คุณรินเค้าให้ป้ากับพวกเด็กๆเตรียมจัดงานแล้ว นายใหญ่เองก็จะกลับมาด้วย งานวันเกิดคุณรัชเมื่อก่อนนี่จัดทุกปี พอคุณเค้าไปเรียนเมืองนอกเมืองนากลับมาก็เพิ่งจะมาจัดปีนี้ปีแรกเนี่ยแหละค่ะ คุณรินเห็นว่าครบเบญจเพสพอดีเลยให้จะจัดให้พี่ชายเธอ” ป้าจันร่ายยาวถึงที่มาที่ไปที่ภุมรินได้สั่งเธอไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน พอดีมีเรื่องวุ่นวายในไร่เลยยังไม่ได้บอกให้ใครรู้มากนัก แม้แต่รัชพลเองก็ยังยุ่งจนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้า ทั้งๆที่เป็นวันเกิดตัวเอง





สิตางศุ์ที่ฟังอยู่ก็งงเล็กน้อย เรื่องที่รัชพลไปเรียนเมืองนอก อย่างรัชพลที่นิสัยเหมือนคนป่าคนเขาเนี่ยนะจะได้รับการศึกษาจากเมืองนอกเมืองนา สิตางศุ์ไม่อยากจะเชื่อ มารยาททรามอย่าบอกใครเชียว





แต่ถ้าที่ไร่มีงานก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย แม้จะเป็นงานวันเกิดของรัชพลก็เถอะ ปีนี้ครอบยี่สิบห้าแสดงว่าเป็นพี่เขาเกือบปี เพราะสิตางศุ์เพิ่งจะครบยี่สิบสี่เมื่อสองเดือนก่อน ถึงจะอายุมากกว่า แต่สิตางศุ์มั่นใจว่าวุฒิภาวะของเขานั้นมากกว่ารัชพลแน่นอน





“ได้สิครับ ผมมาอยู่แล้ว ว่าแต่เจ้าตัวไม่ได้ชวนเองแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” เชี่ยวชาญถามอย่างไม่แน่ใจ





“โอ้ย... คุณรัชน่ะไม่สนใจว่าใครจะมาหรอกค่ะ ทุกปีป้ากับคุณรินก็จัดการให้ทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็คนรู้จักกันนี่แหละค่ะ”





“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา เอาไว้มะรืนนี้ผมจะมาร่วมงานด้วยก็แล้วกันครับ” หมอชาญตอบอย่างยิ้มๆ





ไม่นานคุณหมอประจำไร่ก็ขอตัวกลับ สิตางศุ์จึงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง รอภุมรินกับรัชพลกลับเข้าบ้านแล้วค่อยลงไปทานข้าวเย็นอย่างทุกวัน





เมื่ออยู่คนเดียวก็ทำให้เขานึกถึงเรื่องของตัวเองอีกแล้ว ความจริงแล้วนั้นเขาเองก็ห่วงความรู้สึกของย่าตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเขากลับบ้านไปตอนนี้ ไม่แคล้วที่จะต้องไปเจอปัญหาเดิมๆอีกแน่ ปัญหาที่เขาต้องทนมาตั้งแต่เด็ก






15 ปีก่อน





“ฉันจะเอาลูกไปอยู่ด้วย สิตางศุ์เป็นลูกของฉัน” ร่างเพรียวระหงส์ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์ดังตั้งแต่หัวจรดเท้าเชิดหน้าขึ้น





“ไปอยู่กับคุณ แล้วลูกก็ต้องอยู่กับไอ้ชู้พวกนั้นของคุณน่ะเหรอ ผมถามจริงๆนะมินตราคุณไม่ละอายบ้างหรือไง” เสียงตลาดของชายคนหนึ่งดังขึ้น ทำเอาเด็กน้อยที่เกาะอยู่ตรงขอบประตูสะดุ้งเล็กน้อยและเริ่มน้ำตาปริ่ม





“ก็ยังดีกว่าอยู่กับคุณแล้วกัน วันๆเอาแต่ทำงาน ไม่สนใจลูกเมีย”





“ฮึก... ฮือออออออ” เสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อยดังขึ้นจนทั้งสองคนหันไปมอง เป็นอนันต์ก่อนที่พุ่งเข้าไปหาลูกน้อยแล้วอุ้มขึ้นเพื่อปลอบ





“สิตางศุ์ไปอยู่กับแม่” มินตราเดินเข้าไปจับแขนข้างหนึ่งของสิตางศุ์ไว้





“ผมไม่ให้เอาไป คุณกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะมินตรา” อนันต์ตลาดเสียงกร้าวพร้อมกระชากมือของภรรยาออกจามือของสิตางศุ์





“คุณอนันต์!” มินตราตะโกนกลับ ยังไงวันนี้เธอก็จะต้องเอาลูกกลับไปให้ได้





“ผมไม่มีทางให้สิตางศุ์ไปอยู่กับคุณแน่นอน ถ้ายังไม่จบก็ไปเจอในชั้นศาลได้เลย” อนันต์พูดแค่นั้นก่อนจะอุ้มสิตางศุ์เดินหนีไป ทิ้งให้มินตรายืนกรีดร้องอยู่คนเดียว





“คอยดูนะคุณอนันต์ ฉันจะไม่มีทางยอมคุณแน่นอน ยังไงซะลูกต้องอยู่กับฉัน!” ตะโกนก้องไปทั่วบ้านหลังใหญ่ แต่กลับไม่มีใครสนใจเธอ





มีเพียงสิตางศุ์ที่มองผู้เป็นแม่ด้วยน้ำตาท่วมหน้า นี่คือปัญหาที่เด็กชายสิตางศุ์ต้องพบเจอตั้งแต่จำความได้













สิตางศุ์เผลอหลับไปก่อนจะสะดุ้งตื่นด้วยคราบน้ำตาเมื่อมีเสียงเคาะประตู ร่างบางงัวเงียก่อนจะเช็ดน้ำตาลวกๆ เมื่อเปิดประตูก็พบภุมรินยืนอยู่ข้างหน้าห้องด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม





“พี่ตางไปทานข้าวได้แล้วครับ รินไม่เห็นพี่ลงมาซักทีเลยมาเรียก” ภุมรินกล่าว สิตางศุ์รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ต้องให้เจ้าของบ้านมาเรียกแบบนี้ จึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้ไป





“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ตามลงไปนะ ขอล้างหน้าแป๊บนึง พอดีเผลอหลับไปน่ะ” บอกรุ่นน้องไปอย่างนั้น ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปได้อย่างไรเหมือนกัน





“ได้ครับ รีบๆตามลงไปนะ พี่รัชบ่นหิวจะแย่แล้ว” ภุมรินพูดติดตลก นั่นยิ่งทำให้สิตางศุ์รู้สึกไม่ดีที่ต้องให้ใครมาหิ้วท้องรอ ถึงแม้จะเป็นรัชพลที่เขาเพิ่งจะไปลับฝีปากมาด้วยก็ตามที





ภุมรินลงไปข้างล่างแล้ว สิตางศุ์ก็รีบจัดการธุระส่วนตัวแล้วรีบลงไปร่วมโต๊ะกับเจ้าของบ้านข้างล่าง ซึ่งมีแค่รัชพลกับภุมรินเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนคุณบุรินทร์นั้นยังไม่กลับ เขาเพิ่งเคยเจอหน้าบิดาของทั้งสองคนแค่ครั้งเดียว แต่ก็ยังไม่เคยได้คุยหรือแนะนำตัวอะไร ทั้งๆที่อยู่บ้านเค้ามาหลายวันแล้ว ด้วยความที่บุรินทร์นั้นเป็นคนงานเยอะเลยไม่ค่อยได้กลับไร่น้ำรินเท่าไหร่





“มาพอดีเลยพี่ตาง เรากำลังคุยเรื่องวันเกิดพี่รัชมะรืนนี้ ว่าจะจัดลานหน้าบ้านน่ะ” ภุมรินพูดขึ้นเมื่อสิตางศุ์นั่งลงเรียบร้อย





“อื้ม...” สิตางศุ์ไม่รู้จะพูดอะไร ยิ่งเป็นเรื่องของรัชพลแล้วด้วยนั้นเขายิ่งเงียบ เขายังเคืองรัชพลเรื่องตอนเย็นอยู่เลย






รัชพลหันไปมองร่างบางที่นั่งข้างๆภุมริน ก่อนจะก้มหน้าลงกินข้าว รู้อยู่แก่ใจว่าสิตางศุ์นั้นโกรธเขาแน่แล้ว แต่มันก็น่าพูดมั้ยล่ะ แต่เขาเองก็ยังโกรธตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ที่พูดเหมือนดูหมิ่นสิตางศุ์แบบนั้น ดูเหมือนว่าคนตัวบางจะผู้ดีเกินกว่าที่จะรับคำพูดขวานผ่าซากของเขาได้





“รินให้ป้าจันเตรียมอาหารไว้แล้ว คราวนี้ว่าจะให้คนงานมาร่วมด้วย ตั้งแต่กลับมาเพิ่งจะจัดครั้งแรก พ่อก็จะกลับบ้านด้วย งานนี้ไวน์ของพี่รัชถูกเอามาเปิดเยอะแน่ๆ” ภุมรินยังคงพูดเจื้อยแจ้วโดยที่ไม่สังเกตถึงบรรยากาศอันแสนอึมครึมของผู้ร่วมโต๊ะอาหารทั้งสองคน





สิตางศุ์และรัชพลได้แต่นิ่งเงียบ ตอบคำถามของภุมรินบ้างพอเป็นพิธี กว่าจะผ่านมื้ออาหารมาได้สิตางศุ์ก็อึดอัดจนอยากจะลุกหนีไปหลายสิบรอบ





เมื่อทานอาหารเสร็จภุมรินก็เดินไปเปิดโทรทัศน์ดูกับพวกแม่บ้านที่กำลังรอดูละครหลังข่าว สิตางศุ์ที่เพิ่งตื่นไม่นานก็ยังไม่อยากขึ้นไปบนห้องจึงเดินออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าน





เก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านถูกสิตางศุ์จับจองเป็นที่นั่ง เมื่อนึกถึงเรื่องที่บ้านแววตาของสิตางศุ์ยิ่งหม่นลง เขาจะทำยังไงดี จะทำอย่างไรดี ถ้ากลับบ้านตอนนี้ไม่แคล้วต้องเจอปัญหาเดิมๆ และคราวนี้มันหนักเกินกว่าจะรับ หากคุณหญิงพิมล ย่าของเขารู้เรื่องนี้รับรองไม่อยู่เฉยแน่ เขาเองก็ไม่กล้าที่จะพูด แต่ที่แน่ๆเขารู้สึกผิดหวังกับมารดาของตัวเองอย่างมาก และที่ยังไม่อยากจะพูดจะบอกใครเพราะกลัวว่ามารดาของเขาเองจะเสียใจ





ดวงตากลมมองไปบนฟ้าที่มีดวงดาวกำลังอวดแสงกันมากมาย ท้องฟ้าของที่นี่มืดจนเห็นดาว ต่างจากในเมืองใหญ่ที่สิตางศุ์ใช้ชีวิตอยู่มาตั้งแต่เกิด ที่นี่ทำให้จิตใจเขาสงบ ถ้าไม่รวมเรื่องของรัชพลน่ะนะ





“ยังโกรธผมอยู่รึไง” เมื่อนึกถึงอีกคน อีกคนก็มา สิตางศุ์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรัชพลมานั่งข้างๆพร้อมกับยื่นไวน์ขวดเล็กๆให้





“คุณรัชพล” ร่างบางขยับถอยหนี และยังไม่รับไวน์ขวดนั้นมา





“โอเค ผมผิด ขอโทษที่ปากพล่อยไปหน่อย เลิกกังวลได้แล้ว” รัชพลพูด เขาตั้งใจมาขอโทษเพราะรู้ว่าตัวเองนั้นผิดเต็มประตู และถือโอกาสเอาไวน์มาให้สิตางศุ์ด้วย เพราะถือว่านี่คือการง้อของเขา





“ใครกังวลเรื่องของคุณกัน” สิตางศุ์ถลึงตาใส่ เขาคิดเรื่องของรัชพลก็จริง แต่ไม่ได้เก็บมากังวลขนาดนั้น เพราะรู้ว่ารัชพลเป็นคนนิสัยยังไง





“หึ... คิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ อ่ะ เอาไปดื่มย้อมใจ” รัชพลพูดเหมือนรู้ทัน ทำเอาสิตางศุ์งงพร้อมกับรับไวน์ขวดเล็กนั้นมาถือไว้





“คุณรู้ด้วยเหรอว่าผมคิดเรื่องอะไรอยู่” บ้าน่ะ... เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร แม้แต่ภุมรินเองก็ถามทีเถอะ ทำไมรัชพลพูดเหมือนรู้





“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณมีปัญหาอะไร แต่การที่คุณมานั่งร้องไห้อยู่หน้าไร่ชาวบ้านแบบนั้น ใครเค้าก็รู้กันทั้งนั้นว่ามีเรื่องไม่สบายใจ บางทีนะคุณสิตางศุ์... คนเราน่ะไม่ต้องเก็บทุกเรื่องมาคิดก็ได้ ลองลืมมันไปสักพัก ปล่อยใจให้สงบ ลองทิ้งตัวตนของตัวเอง ลองลืมไปว่าคุณชื่อสิตางศุ์” คำพูดของรัชพลทำให้สิตางศุ์หันมามองหน้าคนที่นั่งข้างๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างรัชพลจะพูดอะไรอย่างนี้เป็นกับเขาด้วย





เมื่อนึกตามคำพูดของรัชพลแล้วก็ทำให้สิตางศุ์นิ่งเงียบ เขาเองก็อยากจะทิ้งตัวตนของสิตางศุ์ทิ้งไปเหมือนกัน เขารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน





“ดื่มกับผมซักหน่อยมั้ย” รัชพลดึงไวน์ในมือของสิตางศุ์มาเปิดให้ก่อนจะยื่นให้อีกคน





สิตางศุ์มองคนตรงหน้าเล็กน้อยและเขายังไม่รับไวน์ขวดเล็กนั้นมาจากรัชพล เกิดมายังไม่เคยดื่มไวน์จากขวดแบบนี้เลย สิตางศุ์แอบคิดเล็กน้อยในเรื่องของความไร้อารยะ เพราะขาถูกกล่อมเกลาเรื่องมารยาทมาอย่างดี แม้จะเป็นแค่การดื่มทั่วไปที่ไม่ต้องมีระเบียบแบบแผนก็ตาม





“อย่าบอกนะว่าดื่มไม่เป็น ลองหน่อยเหอะน่า ลองทิ้งความเป็นสิตางศุ์ไง” รัชพลยื่นให้อีกครั้ง สิตางศุ์มองแล้วตัดสินใจรับมา





ก็อย่างที่รัชพลว่านั่นแหละลองทิ้งความเป็นสิตางศุ์ และลองทะลุกรอบของตัวเองออกมาสักครั้ง ตอนนี้ เวลานี้เขาจะลองเป็นนายสิตางศุ์คนงานไร่น้ำริน แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ...





ไม่ใช่สิตางศุ์ ศิรินทรา อย่างที่เคยเป็น








********************************************************************************





มาต่อตอนที่เจ็ดแล้วววววว แว้กกกกกกกกกกกก  :katai4: ตอนนี้มาเร็ว กำลังคึก ฮ่าๆ พอดีแต่งตุนเพิ่มไว้ได้หลายตอนแล้ว ฝากติดตามความสัมพันธ์ของคู่นี้ด้วยนะคะ อาจจะเรื่อยๆแต่ก็เริ่มมีเค้าลางความสัมพันธ์อันดีบ้างแล้ว  :hao6: แม้ว่าความปากพล่อยของพี่รัชจะสร้างปัญหาบ้างก็เถอะ  :hao3: รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :mew1:         
         
 
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่7 28/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-02-2016 21:26:48
ปัญหาตีใส่โครมเดียม
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่6 27/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 28-02-2016 23:50:52
ตามอ่านๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่7 28/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-02-2016 20:13:29
ว่าแล้วต้องเป็นปัญหาครอบครัว

ทิ้งมันไปสักพัก แล้วลองใช้ชีวิตแบบสิตางศุ์ ชาวไร่ดูซักครั้ง
เพิ่มพลังชีวิตซักนิด แล้วค่อยสู้กับปัญหานะสิตางศุ์
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่7 28/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 29-02-2016 21:32:27
สงบศึกกันแล้วคู่นี้
จิบไวน์ชมดาวนี่ก็โรแมนติคเนอะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่7 28/02/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: fdcjsy ที่ 01-03-2016 02:30:20
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 01-03-2016 19:46:05
บทที่ 8





“สิตางศุ์ คุณสิตางศุ์” รัชพลเขย่าร่างเล็กที่แน่นิ่งไปกับไหล่หนาของเขา ขวดไวน์ในมือหล่นลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก หน้าของสิตางศุ์แดงด้วยฤทธิ์ไวน์องุ่นของรัชพล





ร่างสูงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะวางขวดไวน์ของตัวเองลงข้างตัวแล้วค่อยๆขยับร่างของสิตางศุ์ให้ออกจากไหล่ของเขาแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้มั่น





“คุณสิตางศุ์ เมาแล้วก็ไปนอน” รัชพลเขย่าร่างนั้นอีกรอบ





“อื้อ...” สิตางศุ์อืออาในลำคอก่อนจะเซไปซบรัชพลอีกรอบ





ร่างบางเอนมาซบกับไหล่รัชพล แก้มเนียนสีแดงระเรื่อเฉียดผ่านจมูกของรัชพลไปเพียงแค่เสี้ยว กลิ่นแชมพูที่สิตางศุ์เพิ่งใช้สระผมลอยฟุ้ง รัชพลรู้สึกใจสั่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น





ตั้งแต่โตเป็นชายมาเพิ่งจะรู้สึกร้อนวูบวาบกับผู้ชายครั้งแรกก็คราวนี้แหละ รัชพลคิดว่าอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของไวน์ที่เขาเพิ่งดื่มเข้าไป แต่ทุกครั้งเขาเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ และอีกอย่างเขาก็ไม่เคยเมาเพราะไวน์เลยสักครั้ง แล้วอยู่ๆมารู้สึกแปลกๆเพราะสิตางศุ์เนี่ยนะ





“คุณสิตางศุ์” เรียกชื่อสิตางศุ์อีกครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน





สุดท้ายรัชพลก็ตัดสินใจดันร่างของสิตางศุ์ออกก่อนจะหันหลังให้แล้วปล่อยให้สิตางศุ์เอนมาซบข้างหลัง มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปใต้ข้อพับของสิตางศุ์ก่อนจะยกร่างนั้นขึ้น





ทำไมอยู่ๆกลายเป็นว่าเขาต้องแบกสิตางศุ์เพื่อไปส่งที่ห้องล่ะนี่





รัชพลพาสิตางศุ์เข้ามาในบ้านก็เจอภุมรินกำลังหัวเราะอยู่กับบรรดาแม่บ้านที่ดูละครกันอยู่





“ริน” เรียกชื่อน้องชายเบาๆ ภุมรินหันมามองก็ต้องตกใจเมื่อเจอสิตางศุ์หน้าแดงแถมยังต้องให้รัชพลแบกเข้ามาอีก





“พี่ตางเป็นอะไรน่ะพี่รัช” ภุมรินรีบเดินมาหา เพราะกลัวว่าสิตางศุ์จะเป็นอะไรไปอีกแล้ว





“เมาน่ะ ช่วยไปเปิดห้องของคุณสิตางศุ์ให้หน่อย” รัชพลบอก ภุมรินงงเล็กน้อย แล้วอยู่ๆสิตางศุ์ไปเมาได้ยังไงกัน





“อ่า... ครับ” รับคำอย่างงงๆแล้วเดินนำพี่ชายขึ้นไปชั้นบน





ภุมรินเปิดห้องให้รัชพลพาสิตางศุ์ไปนอนบนเตียงดีๆ พอหัวถึงหมอนปุ๊บสิตางศุ์ก็หลับเป็นตาย ภุมรินเปิดแอร์พร้อมกับคลุมผ้าให้สิตางศุ์





“พี่รัชไปทำอะไรพี่ตางเนี่ย ถึงได้เมาแบบนี้” หันมาถามพี่ชาย ใช่ว่าสิตางศุ์จะไม่เคยดื่ม แต่อยู่ดีๆมาดื่มอย่างนี้คงไม่ใช่เรื่อง พี่ชายของเขาต้องไปทำอะไรมาแน่ๆ





“พอดีเอาไวน์ให้ดื่มนะ เลยสภาพอย่างที่เห็น”





“ว่าแล้วเชียว” อย่างที่ภุมรินนึกไว้ไม่มีผิด พี่รัชนะพี่รัช





“หลังอย่าให้พี่ตางดื่มเยอะนะ พี่ตางไม่ได้คอแข็งอย่างพี่ ไปๆ ไปนอนได้แล้ว ดึกมากแล้วเนี่ย” ไล่พี่ชายไปนอนพร้อมกับใช้มือดันรัชพลออกไปข้างนอก





รัชพลมองสิตางศุ์อีกครั้งก่อนที่หน้าของเขาจะร้อนวูบขึ้นมาเสียดื้อๆ ทำไมวันนี้เขามองสิตางศุ์น่ารักขึ้นกว่าทุกวัน













และแล้ววันเกิดของรัชพลก็มาถึง คุณบุรินทร์กลับบ้านแต่เช้าพร้อมของขวัญเล็กๆน้อยๆให้ลูกชาย ป้าจันกับเหล่าบรรดาแม่บ้านดูจะครึกครื้นกว่าใครเพื่อน พากันติดนู่นติดนี่เต็มต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านไปหมด ภุมรินลงมือทำอาหารเอง รวมทั้งตะวันที่เข้ามาตั้งแต่ช่วงบ่ายเพื่อมาช่วยงาน แต่เจ้าของวันเกิดอย่างรัชพลนี่สิ หายไปกับโรงบ่มอย่างที่เคยเป็น ภุมรินเอ็ดพี่ชายก็แล้ว แต่เจ้าตัวก็ให้เหตุผลว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าไปดู เลยขอไปทำงานเสียหน่อย ส่วนสิตางศุ์ก็หยุดงานหนึ่งวันจากคำสั่งของภุมริน และเจ้าตัวก็คอยช่วยหยิบนู่นจับนี้เล็กๆน้อยๆให้กับภุมรินในครัวก่อนจะออกมาช่วยคนงานข้างนอก





เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไฟดวงเล็กดวงน้อยก็ถูกเปิดให้สว่างไปทั่วลานกว้าง ทุกคนพร้อมกับคนงานที่บางคนอยากจะมาร่วมงานก็เต็มไปทั่วลานกว้าง วันนี้ตะวันถือโอกาสมานอนที่ไร่น้ำรินอีกวัน และยังหยอกล้อกับภุมรินว่าจะแอบเข้าไปนอนด้วย ทำเอานายน้อยของไร่น้ำรินหน้าแดงเถือกจนตะวันล้อเกือบทั้งคืน





สิตางศุ์ก็ขำขันไปกับรุ่นน้องด้วย เมื่อหันไปมองรัชพลก็พบว่ารัชพลนั้นจ้องอยูก่อนแล้ว และรัชพลยังทำเป็นมองไปทางอื่นอย่างท่าทางที่มีพิรุธ สิตางศุ์งงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร





รัชพลที่แอบมองสิตางศุ์อยู่นั้นก็หลบตาแทบจะไม่ทันเมื่อถูกจับได้ว่าแอบมองอยู่ ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว วันที่เขามองว่าสิตางศุ์น่ารัก ทำเอาใจหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกวูบวาบเมื่อมองสิตางศุ์ ทั้งๆที่ไม่ได้ดื่มไวน์เหมือนคืนนั้น





เป็นเอามากเหมือนกันนะเรา





“วันเกิดรินจัดอย่างนี้บ้างดีกว่า จัดให้พี่รัชพี่รัชก็ไม่เห็นจะดีใจเลย คนอะไรเฉยชาชะมัด” ภุมรินเหน็บแนมพี่ชายที่ดูจะเฉยๆกับงานวันเกิดที่เขาจัดให้ ตั้งแต่เด็กๆมาแล้ว พอกลับมาจัดอีกครั้งรัชพลก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม ไม่ยินดียินร้ายกับอะไรซักอย่าง





“พี่โตแล้วน่าริน จัดวันเกิดเป็นเด็กๆไปได้ นี่เห็นว่าป้าจันอยากจัดเลยให้จัด” รัชพลว่า เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่มาจัดวันกงวันเกิดอะไรเป็นเด็กๆ แต่เห็นน้องชายกับป้าจันอยากทำเลยให้ทำไป เอาจริงๆตั้งแต่กลับจากฝรั่งเศสนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาจัดงานวันเกิด





“มึงนี่มันมึงจริงๆไอ้รัช น้องรินอุตส่าห์จัดให้ คราวหลังถ้ารินอยากจัดงานแบบนี้ก็มาจัดงานแต่งของเรานะจ้ะ” เป็นอันว่าจบประโยคด้วยการที่ตะวันหยอดคนรักไปหนึ่งทีตามวิถีของตะวัน ประสิทธานนท์ เลยโดนศอกของนายน้อยแห่งไปน้ำรินไปหนึ่งครั้ง ตะวันได้แต่ร้องโอดโอย แต่ก็สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนเป็นอย่างดี





“ใครจะให้แต่งกัน รินเป็นน้อง ยังแต่งก่อนพี่ไม่ได้โว้ย” รัชพลพูดก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม





“รอมึงแต่งงานนะ กูแก่หัวหงอกพอดี ไม่ยอมหาเมียซักที” ตะวันพูดพร้อมกับชกเข้าที่ไหล่ของเพื่อน




“หึ... ก็เร็วๆนี่แหละมั้ง” ไม่รู้อะไรดลใจให้รัชพลพูดแบบนั้น แถมยังหันไปมองสิตางศุ์ที่นั่งเงียบอีก ทำเอาสิตางศุ์หลบสายตาเป็นพัลวัน





“คุณสิตางศุ์อยู่นี่เอง ผมหาตั้งนาน” เสียงของเชี่ยวชาญดังขึ้นพร้อมกับร่างขาวๆของคุณหมอแว่นกรอบทองมานั่งข้างๆสิตางศุ์ สิตางศุ์เองก็ขยับให้เพื่อที่เชี่ยวชาญจะได้นั่งสะดวกๆ





“ว่าไงครับคุณหมอ ผมก็มองอยู่ คิดว่าหมอไม่มา ไม่อย่างนั้นป้าจันเสียใจแย่” สิตางศุ์ยิ้มให้อีกคน เขามองหาเชี่ยวชาญอยู่เหมือนกัน งานเริ่มมาตั้งนานก็เพิ่งจะเจอเนี่ยแหละ





“รับปากป้าจันไว้แล้วก็ต้องมาสิครับ อ้อ... เมื่อวานผมไปดูเจ้าด่างมา มันยังเดินไม่ได้เลย ได้แต่นอนเฉยๆ เมื่อวานไม่เห็นคุณสิตางศุ์เลย ไม่ไปทำงานเหรอครับ” เชี่ยวชาญถาม บนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มเสมอ นั่นทำให้คู่สนทนายิ้มตาม สิตางศุ์ชอบคุยกับเชี่ยวชาญ เพราะคุณหมอคนนี้มีลักษณะสุภาพที่คุยเข้ากันได้ง่าย ต่างกับคนที่นั่งจ้องสิตางศุ์ตาเขม็งอยู่ตรงข้าม






“พอดีหยุดงานน่ะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่าจะไปดูเจ้าด่างมัน เป็นผมคงเบื่อแย่เหมือนกันที่ต้องนอนทั้งวันแบบนั้น” สิตางศุ์พูดยิ้มๆ กลายเป็นว่าตอนที่คนกรุงทั้งสองคนหลุดออกจากวงสนทนาแล้วหันมาคุยกันสองคน
รัชพลที่มองอยู่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ คำพูดของสิตางศุ์ที่บอกว่าเชี่ยวชาญดูดีกว่าเขาลอยเข้ามาในหัว เหอะ... คงชอบล่ะสิ หมอหล่อๆอย่างนี้ รัชพลเห็นแล้วอยากเข้าไปนั่งแทรกตรงกลางนั้นเสียจริง
เสียงหัวเราะของตะวันที่หัวเราะภุมรินนั้นไม่เข้าโสตของรัชพลแม้แต่น้อย เขากลับมองสิตางศุ์ที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เชี่ยวชาญพร้อมกับยกไวน์ขึ้นดื่มเพราะทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ทั้งวงตอนนี้มีแต่เสียงหัวเราะ คงจะมีแต่เจ้าของงานเนี่ยแหละที่นั่งหน้าบูดอยู่คนเดียว





“ขนมหมดแล้ว เดี๋ยวผมไปเอาเพิ่มให้นะครับ มีใครจะเอาอะไรเพิ่มมั้ย” สิตางศุ์ถามทุกคน ในมือถือจานเพื่อเตรียมไปขอขนมจากป้าจันเพิ่ม





“พี่รัชยังไม่ได้กินข้าวเลยไม่ใช่เหรอ เอาข้าวมั้ย” ภุมรินถามพี่ชายเมื่อสิตางศุ์อาสา





“เดี๋ยวพี่ไปเอาเองก็ได้” รัชพลพูดพร้อมกับวางแก้วลง
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะไปอยู่แล้ว เดี๋ยวเอาข้าวผัดมาให้แล้วกันครับ” สิตางศุ์พูด ไหนๆเขาก็จะไปอยู่แล้ว การที่จะถือจานข้าวมาอีกจานก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร





“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปด้วยนะครับ อยากได้น้ำแข็งเพิ่มพอดีเลย” เชี่ยวชาญลุกขึ้น ในมือถือแก้วไปด้วย





“ครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมมานะ” สิตางศุ์พูดกับเชี่ยวชาญก่อนจะหันไปบอกทุกคน





รัชพลมองทั้งสองคนที่เดินตามกันไปยังจุดวางอาหารด้วยสายตานิ่งๆ รู้สึกเท้ากระตุกเล็กน้อย อยากจะเดินตามแต่ก็ยังวางท่าอยู่ ภุมรินจับสังเกตสายตาของพี่ชายได้





เขารู้สึกว่ารัชพลเริ่มไม่ปกติ





“รินจ๋า พี่เมาแล้ว พี่เมาแล้วๆ” แล้วเสียงของคนตัวโตข้างๆก็ทำเอาภุมรินต้องละสายตาจากพี่ชาย ตะวันที่หน้าแดงก่ำกำลังเอาหัวถูไถไหล่ของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย





“อะไรเนี่ยพี่ตะวัน เอาหัวออกไปเลยนะ” ภุมรินดันหัวคนรักออก อาการแบบนี้เมาแล้วแน่ๆ





“เมาแล้วๆ” เสียงของตะวันดังอยู่อย่างนั้น ภุมรินถอนหายใจอย่างระอา ไม่รู้ไอ้พี่ตะวันแอบไปดื่มตนเมาตอนไหน เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย เมาทีไรเป็นแบบนี้ตลอด





แต่ความวุ่นวายข้างๆตัวนั้นก็ไม่ทำให้รัชพลเบนความสนใจไปจากร่างของสิตางศุ์ที่อยู่ไกลลิบๆ ข้างๆตัวมีเชี่ยวชาญยืนอยู่ นึกยังไงไม่รู้ร่างสูงก็วางแก้วแล้วเดินตามไป





รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่ข้างๆทั้งสองคนแล้ว สิตางศุ์ตกใจเล็กน้อยเมื่อรัชพลมายืนอยู่ข้างๆ ผิดกับเชี่ยวชาญที่ยิ้มตอนรับเจ้าของงานเป็นอย่างดี





“อ้าว คุณรัชมาเอาอะไรเหรอครับ ถ้าเป็นไวน์หมดแล้วล่ะครับ ผมเสียดายเหมือนกัน ไวน์คุณรัชรสดีมาก ว่าจะขอลองอีกซักนิด” เชี่ยวชาญพูด เขาตั้งใจมาเอาไวน์เพิ่ม แต่มาดูอีกทีก็หมดแล้ว





“อ๋อ เอ่อ มาเอาไวน์เหมือนกันครับ หมดแล้วเหรอครับ” รัชพลได้สติก่อนจะละสายตาจากสิตางศุ์มามองเชี่ยวชาญแทน





“หมดแล้วครับ สงสัยคนงานคงจะแบ่งกันไปดื่ม” เชี่ยวชาญพูดอย่างเสียดาย





“เดี๋ยวผมไปเอาเพิ่มที่โรงบ่มให้ก็ได้ครับ มีเยอะเลย” รัชพลพูด






“ดีเลยครับ เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน จะได้ช่วยกันเอามา”





“รบกวนหมอชาญเปล่าๆ ผมว่าหมอชาญกลับไปรอที่โต๊ะดีกว่าครับ เดี๋ยวให้คุณสิตางศุ์ไปกับผมก็ได้” ไม่รู้อะไรดลใจให้รัชพลพูดแบบนั้น คนที่ถูกกล่าวถึงอย่างสิตางศุ์ถึงกับทำหน้างง






“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปกับคุณก็ได้ ให้คุณสิตางศุ์ไปนั่งรอดีกว่า” คำพูดของเชี่ยวชาญทำให้รัชพลไม่พอใจเล็กน้อย เขาจึงหันสายตาไปกดดันสิตางศุ์แทน สิตางศุ์ที่มองหน้ารัชพลอยู่ก็ต้องจำยอมหันไปพูดกับเชี่ยวชาญ





“เดี๋ยวผมไปกับคุณรัชเองครับ คุณหมอช่วยเอาขนมไปให้รินกับคุณตะวันทีนะครับ” สิตางศุ์ยื่นจานขนมให้เชี่ยวชาญ





“เอ่อ... เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ” เชี่ยวชาญรับมาอย่างจำยอม





“ถ้าอย่างนั้นก็ตามมา” รัชพลพูดก่อนจะเดินนำสิตางศุ์ไปยังโรงบ่ม





แม้ว่าทางจะมืดแต่ด้วยความที่โรงบ่มอยู่ใกล้และยังพอมีแสงจากงานทำให้ทั้งสองคนพอจะเดินไป สิตางศุ์เดินตามคนตัวโตอย่างหน้าบอกบุญไม่รับ รัชพลนี่เป็นคนแปลกๆ อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ท่าทางเหมือนคนโรคจิต





เมื่อเดินมาถึงหน้าโรงบ่มเท้าของสิตางศุ์ก็ชะงักเล็กน้อยเมื่อสายตาปะทะกับเงาตะคุมสองสามเงาตรงข้างๆโรงบ่มที่รัชพลกำลังจะเดินไป ไม่นานก็เห็นแสงเล็กเมื่อเพ่งมองดูแล้วก็พบว่าเป็นแสงจากไฟแชค





“คุณรัช” สิตางศุ์รีบดึงร่างของรัชพลไว้





“มีอะไร” รัชพลหันมามองอย่างงงๆ





“มีคนอยู่ตรงนั้น” สิตางศุ์ชี้มือไปที่กลุ่มเงาตะคุ่มนั้น รัชพลมองตามก็พบว่าคนพวกนั้นกำลังจะจุดไฟ ให้ทายคงกำลังจะเผาโรงบ่ม





เพียงเท่านั้นร่างสูงก็วิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต โดยมีสิตางศุ์ยืนอึ้งอยู่ ก่อนจะรวบรวมสติได้ก็รีบวิ่งตามไป





“มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้สัตว์!” เสียงรัชพลดังก้องก่อนจะกระโดดถีบร่างหนึ่งที่กำลังจะจุดไฟจนคนร้ายล้มลง








***********************************************************************************







มาต่อแล้วตอนที่แปด รอกันนานมั้ยเอ่ย ตอนนี้ไม่มีไรมาก (เหรอออออออออออ)  :hao3: มาช่วยลุ้นทั้งเรื่องหัวใจและเรื่องไร่น้ำรินของพี่รัชกันดีกว่าค่ะ ว่าจะไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆพี่รัชเริ่มแอบมีใจให้สิตางศุ์แล้ว อร้ายๆ   :-[  :o8: :katai2-1: ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 01-03-2016 21:50:26
ใครกันน้อ???   :hao4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: fdcjsy ที่ 01-03-2016 23:12:31
 :hao3: :hao3: :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-03-2016 23:23:02
สนุกดี
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: xirainx@gamil.com ที่ 02-03-2016 01:21:16
รอ รอ รอ

ต่อไวไวนะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 02-03-2016 01:56:22
เอาแล่ววว อิพี่รัช ชอบสิตางศุ์แล้ว
 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 02-03-2016 03:43:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่8 01/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-03-2016 09:29:36
พี่รัชมีปืนติดตัวมาป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่9 02/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 02-03-2016 20:51:01
บทที่ 9





“มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้สัตว์!” เสียงรัชพลดังก้องก่อนจะกระโดดถีบร่างหนึ่งที่กำลังจะจุดไฟจนคนร้ายล้มลง อีกสองคนเห็นดังนั้นก็เข้ามารุมร่างสูงของรัชพลไว้





สิตางศุ์ตกใจเมื่อเห็นว่าในมือของคนร้ายนั้นมีมีดอยู่ ร่างบางพยายามมองหาอาวุธแถวนั้นก็พบท่อนไม้ท่อนหนึ่งก่อนจะรีบคว้าเอาไว้





“ใครส่งพวกมึงมา” รัชพลถามอย่างเดือดดาล





“บอกก็โง่สิวะ” หนึ่งในคนร้ายพูดขึ้น





“งั้นมึงก็ตายคาตีนกูนี่แหละ” พูดจบรัชพลก็พุ่งเข้าไปซัดกับโจรคนหนึ่ง





รัชพลต่อยเข้าที่หน้าของคนร้ายคนหนึ่งเต็มๆจนเลือดกบปาก เรื่องมือเท้าหนักนั้นรัชพลถือว่าขึ้นชื่ออยู่แล้ว คนร้ายคนนั้นล้มลงนอนพับ รัชพลจึงหันมาจัดการอีกคน ซึ่งถือมีดอยู่ มันตวัดมีดใส่รัชพล  ร่างสูงหลบมีดอันคมกริบนั้นได้อย่างหวุดหวิดเมื่อมันจะเฉี่ยวเข้ากับหน้าท้อง แล้วใช้เท้าถีบเข้าที่หน้าอกของคนที่ถือมีดเต็มๆจนมันเซ แล้วอีกคนก็เข้ามาต่อยหน้าของรัชพลเมื่อคนตัวโตยังไม่ทันจะตั้งตัว รัชพลเซเล็กน้อยก่อนจะสวนหมัดไปเต็มๆ คนร้ายที่เพิ่งลุกขึ้นนั้นชักปืนที่พกไว้ตรงเอวออกมาเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้รัชพลเริ่มเป็นต่อทั้งๆที่ตัวคนเดียว สิตางศุ์เห็นดังนั้นก็ตกใจ






“คุณรัช ระวังครับ” สิตางศุ์ตะโกนบอกอีกคนพร้อมกับใช้ไม้ฟาดไปที่มือของคนร้ายซึ่งถือปืนไว้อย่างเต็มแรง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังถือปืนไว้แน่นไม่มีหลุด คนร้ายคนนั้นจึงพุ่งเข้ามาจะต่อยสิตางศุ์แต่รัชพลก็เข้ามาบังไว้ก่อน เลยรับหมัดนั้นไปเต็มๆ เขาผลักสิตางศุ์ให้ถอยห่างก่อนจะซัดหมัดเข้าที่ท้องของคนร้าย เมื่อเห็นท่าไม่ดีคนร้ายคนนั้นก็รีบถอยไปลู่





“เฮ้ย! ถอยก่อนโว้ย” คนที่ถือปืนบอกอีกสองคนก่อนจะวิ่งนำไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ไม่ไกล





“มึงอย่างหนีนะเว้ย!” รัชพลวิ่งตาม สิตางศุ์เห็นดังนั้นก็ตามรัชพลไปด้วย





คนร้ายขึ้นไปเรียบร้อยจึงรีบแล่นรถออกไป รัชพลมองหาอะไรบางอย่างซักพักก็เจอรถมอเตอร์ไซค์ของคนงานที่จอดไว้เพราะมางานวันเกิดของเขา ไม่ต้องคิดอะไรมากร่างสูงก็ขึ้นคร่อมอย่างเร็วสิตางศุ์เห็นดังนั้นก็รีบขึ้นไปซ้อน





“คุณจะตามมาทำไมคุณสิตางศุ์ รีบกลับเข้างานไป มันอันตราย” รัชพลตะโกนบอกกอีกคน





“คุณจะไปคนเดียวได้ยังไง ผมว่ารีบตามมันไปเถอะครับ” สิตางศุ์บอก มัวแต่มาเถียงกันอยู่นี่แหละ เดี๋ยวคนร้ายก็หายไปเสียหรอก





“งั้นก็เกาะไว้แน่นๆแล้วกัน” เมื่อเห็นว่าจะตามคนร้ายไม่ทันรัชพลจึงจำให้สิตางศุ์ตามไปด้วย ก่อนจะคว้าเอากุญแจรถที่ห้อยกับมอเตอร์ไซค์ไว้สตาร์ทออกไป





แสงไฟท้ายรถนั้นอยู่ไม่ไกล รัชพลเพิ่มความเร็วให้ตามรถคันนั้นทัน ด้วยความที่ซ้อนสามทำให้รถช้าลงไม่น้อย รัชพลจึงจี้ท้ายรถและพยายามมองป้ายทะเบียนรถนั้นเพื่อจำไว้ ส่วนสิตางศุ์นั้นกอดเอวอีกคนไว้แน่น เกิดมาเพิ่งมีประสบการณ์ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ แถมยังขับเร็วมาก ไม่พอข้างหน้ายังเป็นคนร้ายที่มีปืนอีกด้วย





“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” รัชพลตะโกนตามหลัง





มอเตอร์ไซค์ของคนร้ายเลี้ยวหักมุมมุ่งไปยังถนนเส้นเล็กเลียบขอบรั้วของไร่น้ำริน อันเป็นส่วนที่ติดไร่เพียงระพี ซึ่งตรงไปจะเป็นทางออกพอดี ทางเส้นนี้ไม่มีใครรู้นอกจากคนในไร่ มันยิ่งทำให้รัชพลแน่ใจว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ในไร่น้ำริน





รัชพลขับตามเกือบจะชิด เขาก็มองไปยังป้ายทะเบียนรถของคนร้ายและพยายามจะถีบรถคันนั้นให้ล้มลง แต่คนร้ายก็บิดหนีให้ห่าง คนที่ซ้อนท้ายสุดยกปืนขึ้นมาเล็งตรงมายังรัชพล





“คุณรัชระวังครับ!” เสียงสิตางศุ์ตะโกนลั่น รัชพลรีบเบี่ยงรถพร้อมกับก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว





ปัง!





เสียงปืนที่ดังขึ้นนั้นทำให้สิตางศุ์หลับตาแน่นพร้อมตะโกนสุดเสียง รู้ตัวอีกทีเขาก็กระเด็นลงจากรถพร้อมกับกลิ้งไปข้างทาง พร้อมกับแสงท้ายรถของคนร้ายที่ห่างออกไป





ร่างบางมีแผลถลอกเล็กน้อยจากการตกรถ แต่ถึงอย่างนั้นสิตางศุ์ก็รีบลุกขึ้นก่อนจะมองหารัชพล





“คุณรัช!” สิตางศุ์กวาดสายตามองรอบๆก่อนจะพบรัชพลนอนอยู่ข้างๆมอเตอร์ไซค์ที่ล้มอยู่





“สิตางศุ์ ช่วยด้วย” รัชพลกัดฟันแน่น มือข้างหนึ่งจับที่หัวไหล่





“คุณโดนยิงเหรอคุณรัช” สิตางศุ์สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่หัวไหล่ของรัชพล เขารู้ทันทีว่านั่นคือเลือด





“ไอ้พวกนั้น ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่” รัชพลพยายามลุกขึ้นยืนโดยมีสิตางศุ์ช่วยประคอง ร่างสูงเลือดไหลเพิ่มมากขึ้น มือหนายังคงกดแผลนั่นแน่น เขารู้สึกเจ็บใจที่ตามตัวพวกนั้นไม่ได้ เขาไม่มีทางปล่อยมันไว้แน่ ถ้าเกิดไม่ไปเจอ โรงบ่มไม่ถูกเผาหรอกหรือไง





“คุณอย่าเพิ่งพูดเลยคุณรัช ผมว่าเราหาทางกลับก่อนดีกว่า คุณแย่แล้วนะ” สิตางศุ์ตื่นตระหนกกว่าคนเจ็บเองเสียด้วยซ้ำ ร่างเล็กเริ่มน้ำตาคลอ ความตกใจ เลือดของรัชพล และการไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันเคล้ากันจนทำให้น้ำตาไหลไม่รู้ตัว





“โทรตามคนที่ไร่ คุณเอาโทรศัพท์มาด้วยรึเปล่า” รัชพลถาม เขานั้นไม่ได้เอาโทรศัพท์มา เพราะวางไว้ที่โต๊ะ





“เอ่อ... ไม่ได้เอามาครับ” สิตางศุ์ตอบ โทรศัพท์ของเขานั้นถูกปิดเครื่องและเอาไว้บนห้องตลอด





“ผมก็ไม่ได้เอามา คงต้องรอให้คนที่ไร่มาเจอ เสียงปืนคงได้ยินไปถึงนู่น” รัชพลพูดก่อนจะเดินไปพิงต้นไม้ที่อยู่ริมทางโดยมีสิตางศุ์ประคองไม่ห่าง





“เลือดคุณไหนไม่หยุดเลยคุณรัช” สิตางศุ์มองเลือดที่ไหลไม่หยุดนั้นพร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุด





“ลูกปืนเฉี่ยวไหล่ฉันไปน่ะ ดีที่หักหลบทัน” รัชพลพูด เขาเริ่มหวิวจนเซบ้างแล้ว เพราะเลือดไหลไม่หยุด ขืนปล่อยไว้อย่างนี้แย่แน่ๆ





“ต้องหยุดเลือดก่อน” สิตางศุ์พูดพร้อมกับค้นผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋า เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วรีบพันตรงที่เป็นแผล รัชพลกัดฟันแน่นเมื่อผ้าผืนเล็กนั้นรัดแน่นไปยังแผลลึก





ร่างสูงเซลงนั่งกับพื้นด้วยความเจ็บพร้อมกับหายใจหอบ สิตางศุ์เองก็นั่งลงข้างๆ





“ทำใจดีๆไว้ก่อนนะครับคุณรัช” สิตางศุ์ตัวสั่นกว่ารัชพลไปแล้ว เกิดมาเพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขาทำตัวไม่ถูก และช่วยรัชพลไม่ได้เลย





ไม่นานก็มีแสงไฟจากหน้ารถสาดเข้ามาที่ทั้งสองคนเต็มๆ สิตางศุ์หันไปมองตามแสงนั้นก็พบว่าเป็นแสงไฟจากหน้ารถของฝั่งตรงข้ามรั้วหนาม ก่อนจะมีร่างของชายสี่ห้าคนลงมาแล้วชายคนหนึ่งก็เดินมาหาเขาสองคน






“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย มีคนถูกยิง” สิตางศุ์ตะโกนลั่น





“คุณ เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงหนึ่งตะโกนมาจากฝั่งตรงข้าม





“มีคนถูกยิงครับ คุณรัชพลถูกยิง ช่วยด้วยครับ” สิตางศุ์ปาดน้ำตาเมื่อตอนนี้รัชพลหมดสติไปเรียบร้อย ร่างสูงเอนมาซบที่ตักของสิตางศุ์ นั่นยิ่งทำให้สิตางศุ์ใจเสีย





“คุณรัชพลเหรอ คุณรัชโดนยิง นายครับ คุณรัชโดนยิง” เสียงนั้นตะโกนไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างๆรถกระบะคันใหญ่





“คุณรัชโดนยิงเหรอ ตัดรั้วหนามออกเลย” เสียงนั้นตะโกนสั่งก่อนที่ชายพวกนั้นจะกรูกันเข้ามาช่วยตัดลวดหนาม





ไม่นานนักรั้วหนามบริเวณนั้นก็ถูกตัดออกพร้อมกับคนฝั่งตรงข้ามกรูกันเข้ามาหารัชพลและสิตางศุ์





“คุณรัชโดนยิงครับ ช่วยด้วยครับ” สิตางศุ์ตัวสั่นเทิ้ม สติของเขาเองก็เริ่มจะไม่มี รู้สึกหวาดกลัวไปไหมด






“มาช่วยกันพาคุณรัชขึ้นรถก่อนเร็ว”





“ครับคุณดิน”





ไม่นานร่างของรัชพลก็ถูกพาไปยังกระบะที่จอดอยู่ โดนมีสิตางศุ์เดินตัวสั่นตาม





“คุณโอเคมั้ยครับ” มือหนาโอบไหล่บางของสิตางศุ์ที่สั่นไหว





“ผมไม่เป็นไรครับ” ตอนนี้สิตางศุ์เป็นห่วงรัชพลมากกว่า เลือดออกขนาดนั้น แล้วยังจะหมดสติไปต่อหน้าเขาอีก












ไม่นานรถกระบะของไร่เพียงระพีก็พาสิตางศุ์และรัชพลมาถึงบ้านหลังใหญ่กลางไร่ รัชพลถูกพาไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว โดยที่เพียงดินเจ้าของไร่เพียงระพีได้โทรตามให้เพื่อนที่เป็นหมอของเขาซึ่งพักอยู่ไม่ไกลจากไร่มาช่วยดูอาการของรัชพลให้





“คุณไปอาบน้ำก่อนนะครับ ผมให้คนเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้แล้ว เดี๋ยวผมจะโทรบอกคนที่ไร่น้ำรินให้ คืนนี้พวกคุณพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” เพียงดินพูดกับสิตางศุ์ที่นั่งมองรัชพลอยู่ไม่ไกลจากเตียง





“ครับ” สิตางศุ์รับคำอย่างว่าง่าย แล้วจึงเดินไปอาบน้ำตามที่เพียงดินบอก





“เป็นไงบ้างวะไอ้หมอ” เมื่อสิตางศุ์ออกไปแล้วเพียงดินก็หันมาถามเพื่อนที่กำลังทำแผลให้รัชพลอยู่





เขากับรัชพลนั้นเคยเจอกันแล้วหลายครั้ง ทั้งในงานประจำปี การประชุมเกษตรที่อำเภอ และอื่นๆนอกรอบ ไร่เพียงระพีกับไร่น้ำรินเองก็อยู่ใกล้กัน เคยให้ความช่วยเหลือกันอยู่เป็นประจำ เมื่อรัชพลเกิดเรื่องมีหรือที่เขาจะไม่เข้าไปช่วย





“หมดสติไปเพราะเสียเลือดมากน่ะ ตอนนี้เลือดหยุดแล้ว ถ้าคนไข้ตื่นก็ให้กินยาที่ฉันเตรียมไว้ให้แล้วกัน” คุณหมอหนุ่มพูดพร้อมกับเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเมื่อทำแผลเสร็จแล้ว





“ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก เดี๋ยวฉันให้คนไปส่งแกที่บ้าน ขอบคุณมากแล้วก็โทษทีที่เรียกมาดึกๆ” เพียงดินพูด





“ฉันเป็นหมอ เมื่อมีคนเจ็บก็ต้องมาช่วยสิวะ ไปละ แล้วอย่าลืมโทรบอกคนที่ไร่น้ำรินด้วยล่ะ ป่านนี้หากันให้วุ่น” ร่างสูงคว้ากระเป๋ามาสะพายก่อนจะเดินออกไป





เพียงดินเองก็เดินตามไปด้วย เจ้าของไร่เพียงระพีเดินไปส่งเพื่อนที่หน้าบ้านก่อนจะเข้าไปต่อสายหาคนที่ไร่น้ำรินเพื่อแจ้งข่าว ไม่นานก็มีคนรับสาย





“สวัสดีครับ ภุมรินพูดสายครับ” เสียงปลายสายนั้นสั่นเล็กน้อย





“คุณริน นี่ผมดินเองคับ ตอนนี้คุณรัชอยู่ที่ไร่เพียงระพี ถูกยิงที่หัวไหล่ แต่ตอนนี้อาการไม่น่าเป็นห่วงแล้ว คืนนี้คงต้องให้พักที่นี่ก่อน” เพียงดินรายงานปลายสาย





“พี่รัชโดนยิงเหรอ แล้วพี่ตางล่ะ พี่ตางอยู่ด้วยมั้ย” ภุมรินละล่ำละลักถาม เพียงดินสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงของปลายสาย ตางที่ว่าคงเป็นคนที่มาด้วยกับรัชพล






“คุณตางก็อยู่ที่นี่แหละ ปลอดภัยดี ถ้ายังไงพรุ่งนี้ถ้าคุณรัชฟื้นผมจะไปส่งที่ไร่”





“ขอบคุณมากนะครับคุณดิน ถ้ายังไงฝากพี่รัชกับพี่ตางด้วย” ปลายสายสะอื้นไห้





“ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” เพียงดินรับคำก่อนจะวางสาย





ที่ไร่น้ำรินมีเรื่องอะไร ทำไมคุณรัชถึงได้โดนยิงแบบนี้ เพียงดินหน้าเคร่งลง ท่าทางไม่ดีเสียแล้ว






****************************************************************************




ตอนที่เก้ามาแล้วครับผม ตอนนี้เหลือตุนไว้แค่สามตอนแล้ว ต้องเร่งๆ ฮี่ๆ มีข่าวดีมาบอก ตอนนี้เรื่อง ภมรอ้อนตะวัน เรื่องแรกของนิยายชุดนี้ได้รับการพิจารณาจากสำนักพิมพ์แล้วนะคะ  :katai2-1: รายละเอียดจะมาบอกอีกครั้งค่ะ และหวังว่าเรื่องของพี่รัชก็จะได้ตีพิมพ์เหมือนเรื่องของน้องรินนะคะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่ะ รักคนคนอ่านทุกท่าน  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่9 02/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-03-2016 21:19:08
ดีนะที่พี่รัชไม่เป็นอะไรมาก
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่9 02/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-03-2016 21:58:48
รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่9 02/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 02-03-2016 23:12:37
โชคดีที่คุณดินมาช่วยทัน
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่9 02/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-03-2016 23:33:12
หมอเชี่ยวชาญ ???
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่9 02/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-03-2016 23:44:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่10 03/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 03-03-2016 20:15:16
บทที่ 10





สิตางศุ์เข้าไปอาบน้ำเสร็จก็ตรงมาหารัชพลที่นอนหลับสนิทอยู่ ตรงหัวไหล่ถูกทำแผลเรียบร้อย เมื่อเหลือบมองไปบนโต๊ะหัวเตียงก็เจอผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดของเขาอยู่





คนตัวเล็กนั้นเพิ่งจะเคยมีประสบการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ครั้งแรก และมันก็น่ากลัวเกินกว่าที่จะมีครั้งที่สอง รัชพลมาเจ็บหนักแบบนี้ แถมตัวเขาเองก็ยังผวาไม่หาย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไร่น้ำรินคงไม่นิ่งเฉยแน่





สิตางศุ์หันไปมองหน้าคนที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง นึกไปถึงตอนที่รัชพลมารับหมัดแทนเขา ถ้าเขาเป็นคนโดนต่อยรับรองสลบไปแน่ๆ แต่รัชพลยังไหวแถมยังจะตามคนร้ายมาแบบนี้อีก แน่ล่ะ พวกนั้นจะเผาโรงบ่ม ถ้าเกิดไม่ตามรับรองครั้งหน้าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่ๆ เขาอยากรู้เสียจริงว่าคนพวกนั้นเป็นใคร และจะเกี่ยวกับคนชื่อโรจน์ที่โกงเงินไร่หรือไม่ สิตางศุ์อยากให้เรื่องนี้ผ่านไปเร็วๆเสียจริง





แต่ที่แน่ๆคือ เขาต้องไม่ให้คนที่บ้านเขารู้เรื่องนี้เป็นอันขาด





ร่างบางถอนหายใจเมื่อคิดถึงเรื่องวุ่นวายรอบตัวก่อนจะเลื่อนผ้าคลุมมาห่มให้รัชพล แล้วตัวเองก็ขึ้นไปนอนข้างๆ เตียงนี้ค่อนข้างจะใหญ่พอสมควร เมื่อผู้ชายสองคนมานอนด้วยกันก็ไม่มีปัญหาอะไร สิตางศุ์พยายามนอนชิดริมมากที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปนอนเบียดรัชพล เกิดเขาโดนใส่แผลของอีกคนจะแย่เอา ไม่นานสิตางศุ์ก็หลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอีกคน












แสงจิ้งหรีดเรไรในยามเช้าของไร่เพียงระพีปลุกให้คนที่นอนอยู่ลืมตาขึ้น รัชพลกวาดตามองไปรอบๆเมื่อตื่นขึ้นแล้ว และก็พบว่ามีอีกร่างหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ





สิตางศุ์นั่นเอง





ระยะห่างของทั้งสองคนนั้นไม่มาก มันทำให้รัชพลจ้องมองอีกคนได้อย่างถนัดตา สิตางศุ์แม้จะมีใบหน้าหวานแต่ก็ยังมีเค้าของความเป็นชาย ผิวออกจะขาวอาจเป็นเพราะไม่ได้มาทำงานหนักตากแดดตากลมในไร่เหมือนเขา รัชพลจ้องอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่ละสายตา จะว่าสิตางศุ์หล่อก็ไม่ใช่ จะว่าสวยก็ไม่เชิง ลูกผู้ดีมีตังค์ก็อย่างนี้ ทั้งชีวิตไม่เคยจะทำงานหนัก ชาตินี้จะไปดูแลปกป้องผู้หญิงที่ไหนได้ บางทีสิตางศุ์อาจจะเกิดมาเพื่อให้ใครบางคนดูแล มากกว่าที่จะดูแลใคร มีวูบหนึ่งที่รัชพลคิดว่า เขาเองก็อยากจะเป็นคนที่คอยดูแลสิตางศุ์





ร่างสูงของเจ้าของไร่น้ำรินส่ายหัวให้ความคิดของตัวเองก่อนจะลุกขึ้น ด้วยความที่ลุกเร็วทำให้แผลที่ถูกลูกปืนเฉียดเกิดเจ็บจี๊ดขึ้นมา





“โอ้ย!” รัชพลยกมือขึ้นมาจับที่แผลไว้พร้อมกับทำหน้าเหยเก เสียงร้องนั้นทำให้คนที่นอนอยู่ข้างสะดุ้งตื่น





“คุณรัช!” สิตางศุ์ลุกขึ้นอย่างตกใจพร้อมพุ่งไปหารัชพลกุมไหล่ไว้แน่น “เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”






“ไม่เป็นไร พอดีลืมตัวไปหน่อยเลยไม่ระวัง” รัชพลตอบอีกคนเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์ทำหน้าตื่นๆแบบนั้นก็ทำเอาเขารู้สึกว่าตัวเองต้องไม่แสดงอาการที่สื่อถึงความเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เพราะไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องคิดมาก





“ถ้าอย่างนั้นค่อยๆลุกนะครับ เดี๋ยวผมช่วย”





สิตางศุ์ช่วยประคองคนตัวโต รัชพลค่อยๆลุกแต่ก็เซเล็กน้อย สิตางศุ์เซตามเพราะน้ำหนักตัวของรัชพลนั้นมากกว่า แขนเรียวของเจ้าตัวเลยสอดเข้าไปโอบเอวหนาของรัชพลไว้เพื่อช่วยพยุงไม่ให้รัชพลต้องเซแล้วล้มไป





“ค่อยๆเดินนะครับ คุณจะไปห้องน้ำใช่มั้ย” สิตางศุ์มัวแต่วุ่นวายกับการช่วยรัชพล ส่วนตัวเจ็บนั้นกลับมองกิริยาของสิตางศุ์แล้วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย





เขารู้สึกดีที่สิตางศุ์แสดงท่าทีที่เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ รัชพลจึงถือโอกาสโอบไหล่ของคนตัวเล็กไว้แน่นเพื่อใช้เป็นที่ยึด หัวใจหนุ่มเริ่มเต้นแรงอีกแล้ว รู้สึกว่าพักนี้อยู่ใกล้ชิดกับสิตางศุ์ทีไรหัวใจเขาทำงานหนักมากทุกที ไม่ได้การแล้ว สิตางศุ์อันตรายกับหัวใจของเขามากเกินไป





 “คุณรัชครับ ผมถามว่าจะไปห้องน้ำใช่ไหมครับ คุณรัช คุณรัชพล!” สิตางศุ์ตะโกนเมื่อเห็นว่ารัชพลนิ่งไป เอาแต่มองหน้าเขาอยู่นั่นแหละ จนสิตางศุ์ที่ต้องเป็นฝ่ายหลบตาเอง สายตาแบบนั้นมันทำให้เขาวูบวาบไม่น้อยเลยทีเดียว





“เอ่อ... อ๋อ เออๆ ผมจะไปห้องน้ำครับ” รัชพลที่เพิ่งได้สติรีบตอบพัลวัน จิตใจเขาเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งๆที่ตอนนี้ควรจะสนใจแผลที่หัวไหล่ของตัวเองมากกว่า





“ถ้าอย่างนั้นผมจะรออยู่ตรงนี้นะครับ ถ้าคุณทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ค่อยเรียก” สิตางศุ์ไปส่งรัชพลที่ห้องน้ำก่อนจะออกมายืนรอที่หน้าห้องน้ำ





“ครับ” รัชพลตอบรับก่อนจะปิดประตูห้องน้ำด้วยสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อาการหนักแล้วนะไอ้รัช













เช้านี้ไร่เพียงระพีต้องต้อนรับแขกจากไร่น้ำริน ทั้งๆที่เพียงดินเป็นคนบอกเองว่าจะไปส่งแต่ภุมรินก็ทนไม่ไหวต้องมาหารัชพลแต่เช้าเอง เมื่อคืนนั้นเชี่ยวชาญเป็นคนบอกภุมรินว่ารัชพลกับสิตางศุ์ไปเอาไวน์เพิ่มที่โรงบ่ม ภุมรินก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก แต่เมื่อรอครู่ใหญ่ทั้งสองคนก็ไม่มาซักทีกอปรกับได้ยินเสียงปืนดังมาแต่ไกลทำให้ใจของภุมรินหล่นวูบ ทุกคนในงานหยุดการกระทำทุกอย่างพร้อมกับตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่ารัชพลกับสิตางศุ์หายไป ตะวันที่เริ่มจะเคลิ้มๆก็สร่างเมาเต็มที่ กิตที่ได้สติก่อนก็รีบตามไปที่โรงบ่มและพบว่ามอเตอร์ไซค์ของก้องลูกชายตัวเองหายไป เพียงเท่านั้นก็พากันออกตามหารัชพลกับสิตางศุ์กันจ้าละหวั่น แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จึงพากันมานั่งรอที่บ้านก่อน จนเพียงดินโทรมานั้นแหละถึงจะรู้เรื่อง ตอนแรกภุมรินว่าจะไปหารัชพลที่ไร่เพียงระพีตั้งแต่เมื่อคืนเพราะใจไม่ดีเมื่อรับรู้ว่ารัชพลนั้นโดนยิง แต่ตะวันก็บอกให้คนรักรออยู่ที่นี่ก่อน เช้านี้เลยพากันแห่มาไร่เพียงระพีแต่เช้า





“ผมได้ยินเสียงปืนน่ะครับเลยไปดู เห็นคุณรัชกับคุณสิตางศุ์เลยให้คนงานช่วยกันตัดลวดหนามแล้วพามาที่นี่ก่อนน่ะครับ” เพียงดินบอกกับภุมรินและตะวัน รวมไปถึงกิตและเหมที่มาด้วย





“ขอบคุณคุณดินมากนะครับที่ช่วยพาพี่รัชมานี่ก่อน ไม่อย่างนั้นคงแย่” ภุมรินขอบคุณจากใจจริง





“ไร่อยู่ติดกันแค่นี้มีเรื่องก็ต้องช่วยกัน แต่ผมอยากรู้ว่าไร่น้ำรินมีเรื่องอะไรเหรอครับ ถึงได้มีคนบุกยิงถึงในไร่ได้” เพียงดินถามด้วยความสงสัย





“ช่วงนี้มีคนไม่หวังดีกับไร่น้ำรินน่ะครับ เราก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครเลยได้แต่ระวังตัวไว้” ภุมรินตอบสีหน้าเครียด ตอนนี้สถานการณ์มันแย่ลงทุกที ถึงขั้นบุกเข้ามาในไร่นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว





“แล้วแจ้งความไว้รึยังครับ” เพียงดินที่เพิ่งรับรู้ข่าวไม่สู้ดีของไร่ข้างๆก็พลอยเครียดตาม





“แจ้งไว้แล้วครับ ตอนนี้กำลังตามหาตัวคนที่ทำอยู่”





“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะครับ ไร่เพียงระพียินดีช่วยเหลือ”





“ขอบคุณครับ”





นั่งคุยกันสักพักก็เห็นสิตางศุ์พารัชพลเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก แม้รัชพลจะมีทีท่าว่าแย่ แต่ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว





“พี่รัช” ภุมรินรีบไปช่วยประคองพี่ชายให้เดินลงมาจากบันไดอย่างปลอดภัย





“ดีขึ้นบ้างรึเปล่าครับคุณรัช” เพียงดินถามเจ้าของไร่น้ำริน





“ดีขึ้นกว่าเมื่อคืนมากเลยครับ ขอบคุณคุณดินที่ช่วยไว้และฝากขอบคุณคุณหมอด้วย และขอโทษที่มารบกวนดึกๆดื่นๆ” รัชพลพูดก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ไม้โดยมีสิตางศุ์และภุมรินคอยประคองไม่ห่าง





“ไม่เป็นไรครับ มีอะไรก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว เรื่องที่ไร่น้ำรินคุณรินบอกผมแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกได้นะครับ”





“ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นผมรบกวนให้คุณดินช่วยดูบริเวณที่เป็นพื้นที่ติดกับไร่น้ำรินให้หน่อยนะครับ ผมเกรงว่าคนร้ายอาจจะลักลอบเข้าทางนั้น” รัชพลถือโอกาสว่ายวาน ถ้ามีการตรวจตราฝั่งไร่เพียงระพีอาจจะเพิ่มความปลอดภัยขึ้นมาอีกนิด อย่างน้อยก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้





“ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมจะให้คนไปดูแลตรงส่วนนั้นจนกว่าจะหาคนร้ายได้” เพียงดินเองก็ยินดีจะช่วยเหลือ ความสัมพันธ์ของทั้งสองไร่นั้นถือว่าเป็นพันธมิตรกันมาแต่ไหนแต่ไร มีเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ช่วยเหลือกันตลอด และคุณบุรินทร์กับลูกๆก็เป็นคนดีด้วย มันใช่เรื่องใหญ่ที่เขาจะยื่นมือไปช่วยเหลือ





“ขอบคุณมากครับ” กล่าวขอบคุณอีกครั้ง





คนของไร่น้ำรินอยู่ที่ไร่เพียงระพีไม่นานก็พากันกลับมายังบ้านรักษ์นทีโดยมีบุรินทร์ยืนรออยู่ ตอนแรกนั้นเขาจะตามไปด้วยแล้ว แต่ภุมรินให้รออยู่ที่นี่ เขาเองก็ห่วงลูกชายไม่น้อย และโกรธคนพวกนั้นเพิ่มมากขึ้น ยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเอาไว้แน่ๆ





“เป็นยังไงบ้างรัช” เดินมาช่วยประคองให้รัชพลนั่งลงกับเก้าอี้ภายในตัวบ้าน ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีเกรียงไกรและนายตัวรำอีกสองคนมารออยู่ก่อนแล้ว





“ไม่เป็นไรมากแล้วครับพ่อ” ตอบเพื่อให้บิดาคลายกังวล





“เรื่องนี้ถือเป็นการบุกเข้ามาอย่างอุกอาจ ทางตำรวจได้ตรวจสอบที่โรงบ่มดูแล้ว พบเพียงไฟแช็ค ซึ่งเราจะเอาไปตรวจลายนิ้วมืออีกทีครับ สันนิฐานว่าคนร้ายตั้งใจเผาโรงบ่มและที่เข้ามาโดยไม่เกรงกลัวก็เป็นเพราะคนงานอยู่ในงานเลี้ยงกัน ไม่ทราบว่าคุณรัชพลกับคุณสิตางศุ์มีหลักฐานเพิ่มเติมหรือจำหน้าคนร้ายได้บ้างรึเปล่าครับ” เกรียงไกรร่ายยาว ทางสถานีตำรวจได้เข้ามาช่วยตรวจสอบแต่เช้า เพราะเพิ่งได้รับแจ้งจากบุรินทร์





“ผมจำหน้ามันไม่ได้ครับ ตอนนั้นมันมืดมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชายสามคน รูปร่างผอมแห้งและไม่สูงมาก” สิตางศุ์ตอบตามที่เห็น เขาไม่เห็นหน้าคนร้ายเพราะมันมืดมากแม้ไฟจากงานจะส่องมาบ้างก็ตามที





“ผมจำทะเบียนรถมันได้ครับ” รัชพลพูด เขาจำทะเบียนรถได้ขึ้นใจ และนี่อาจจะเป็นหลักฐานที่สามารถช่วยได้มากเลยทีเดียว





“ดีเลยครับ” เกรียงไกรพูด การที่จำทะเบียนรถได้ถือว่าช่วยได้เยอะเลยทีเดียว เขาให้ลูกน้องจดป้ายทะเบียนรถตามที่รัชพลบอก





“ผมว่าคนร้ายต้องเป็นคนเดียวกับพวกที่มาก่อกวนก่อนหน้านั้นแน่ๆ” ตะวันตั้งข้อสังเกต





“เป็นไปได้สูงมาก ตอนนี้ทางเรากำลังรวบรวมหลักฐานเรื่องเมื่อคราวก่อนอยู่ แต่ที่แน่นอนในตอนนี้คือนายโรจน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยทรงยศครับ ทั้งสองคนนี้รู้จักกันและทำสัญญาเป็นนายจ้างลูกจ้างกันเรียบร้อยก่อนที่นายโรจน์จะเข้ามาทำงานที่ไร่น้ำริน จากบัญชีที่คุณสิตางศุ์ตรวจสอบมาทั้งหมดนั้น พบว่านายโรจน์ได้ยักยอกเงินของไร่น้ำรินไปหกล้านบาท ตอนนี้เรากำลังจะดำเนินคดีในส่วนนี้และอาจจะสืบสาวไปหาเสี่ยทรงยศ” เกรียงไกรบอกข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้มาให้แก่คนของไร่น้ำรินได้รับรู้ ตอนนี้คดีนี้ถือว่าคืบหน้าไปมากทีเดียว





“แสดงว่าโรจน์โกงจริงๆ และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในไร่ด้วย เก็บงูเห่ามาเลี้ยงชัดๆ” บุรินทร์กำหมัดแน่นอย่างแค้นเคือง เขาไม่คิดว่าโรจน์จะเป็นคนอย่างนั้น ทั้งๆที่ทำงานมาด้วยกันเป็นปี





“ถ้ายังไงตอนนี้อย่าเพิ่งทำให้ไก่ตื่นนะครับ ถ้ามีหลักฐานเพิ่มเติมผมจะมารายงานและเข้าจับกุม อย่าให้นายโรจน์หนีไปได้”





“ครับ พวกผมจะระวัง” บุรินทร์พูด





คุยรายละเอียดกันอีกเล็กน้อย เกรียงไกรก็ขอตัวกลับ ภุมรินก็ไปส่งตะวันที่ตลาดเพราะตะวันนั้นไม่ได้เอารถมา บุรินทร์ก็เอนตัวลงกับโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อสั่งงานอะไรบางอย่าง ป้าจันที่แอบมองอยู่ในครัวก็รีบมาหาคุณรัชของนางด้วยน้ำตานองหน้า





“คุณรัช เจ็บมากมั้ยคะทูนหัวของป้า” ยกมือขึ้นลูบหน้ารัชพลเบาๆ





“ไม่เป็นไรแล้วครับป้าจัน รัชไม่เจ็บซักนิดเลย พักสองสามวันก็หายแล้ว” รัชพลพูดยิ้มๆ เขารู้ว่าป้าจันเป็นห่วงไม่แพ้ทุกคน จึงพูดให้เธอคลายกังวล





“ไปค่ะ เดี๋ยวป้าพาขึ้นไปข้างบนนะคะ” เธอพยายามจะช่วยประคองรัชพลโดยมีสิตางศุ์ที่คอยจับอีกข้างเมื่อเห็นว่าคนแก่ๆอย่างป้าจันไม่น่าจะเอาคนตัวโตอย่างรัชพลไหว





ไม่นานรัชพลก็มานอนอยู่บนเตียงของตัวเองเรียบร้อยโดยมีสิตางศุ์นั่งไม่ห่าง ป้าจันก็กำลังค้นเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเพื่อเปลี่ยนให้





“เดี๋ยวป้าเช็ดตัวให้นะคะ ตอนนี้ยังอาบน้ำไม่ได้” ป้าจันอาสา เธอนั้นเช็ดตัวให้รัชพลและภุมรินอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องขัดเขินอะไรนัก





“ป้าจันช่วยไปทำกับข้าวให้ผมดีกว่าครับ เดี๋ยวให้คุณสิตางศุ์เช็ดให้ จะได้ช่วยผมเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย” รัชพลพูดเองเออเองทำเอาสิตางศุ์หันขวับ





“อะไร ใครจะเช็ดตัวให้คุณกัน” สิตางศุ์ว่า ยังไม่ถามความเห็นเขาซักคำ





“ป้าจันเป็นผู้หญิง มันเช็ดตัวให้ผมมันจะไม่งาม คุณเป็นผู้ชายจะอายอะไร ช่วยผมแค่นี้ไม่ได้รึไง ผมเจ็บอยู่นะ แล้วอีกอย่างผมก็วิ่งไปรับหมัดแทนคุณด้วย” รัชพลอ้าง สิตางศุ์ได้แต่มองค้อนเพราะเถียงไม่ออก อย่างที่รัชพลพูดมันก็ถูก





“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวป้าเช็ดตัวให้คุณรัชเอง” ป้าจันยังอาสาเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์นั้นไม่เต็มใจ





“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมทำเอง ป้าจันไปทำข้าวต้มมาให้คุณรัชเถอะครับ” สุดท้ายก็ตั้งทำตามความต้องการของรัชพลที่นอนยิ้มยิงฟันอยู่ ทำนิสัยกวนชาวบ้านแบบนี้ได้แสดงว่าหายดีแล้ว





คนร้ายน่าจะยิงปากให้พูดไม่ได้ไปเลย









******************************************************************





มาต่อแล้วตอนที่สิบจ้า ตอนนี้เบาๆ พี่รัชอ้อนเบาๆ (อ้อนเล็บสิตางศุ์ 555555555) สถานการณ์ข้างนอกเริ่มย่ำแย่ แต่สถานการณ์หัวใจของทั้งสองคนเริ่มดีขึ้น เอาใจช่วยพี่รัชด้วยนะคะ

มีข่าวมาแจ้งค่ะ ตอนนี้ Speirmint28 มีเพจแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ด้วยค่ะ เราจะอัพเดตข่าวสารเรื่องนิยาย และหนังสือจากเพจนี้นะคะ ตอนนี้เรื่องของน้องริน “ภมรอ้อนตะวัน” มีการตอบกลับจากสำนักพิมพ์แล้วค่ะ หากใครสนใจก็รอติดตามหนังสือได้เร็วๆนี้นะคะ รวมทั้งนิยายอีกเรื่องของเราด้วย

นี่เพจค่ะ >> https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf

ปล. มีคนถามว่าคุณหมอตอนที่แล้วเป็นหมอชาญรึเปล่า ตอบว่าไม่ใช่นะคะ อยากรู้ว่าหมอคนนี้เป็นใครต้องติดตามในเรื่อง “ปฐพีเคล้าเมฆา” ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่10 03/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 03-03-2016 21:14:00
 :katai2-1: :mew5: :pig4: :pig4:
อยากอ่านเรื่องของคุณหมอจังงงงงง :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่10 03/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-03-2016 22:04:00
อิพี่รัชได้ทีนี่อ้อนใหญ่เลยนะ
 :hao3:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่10 03/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-03-2016 01:06:43
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่10 03/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 04-03-2016 11:58:46
คนเจ็บเชิญอ้อนเต็มที่เลยค่ะ  :mew3:

คุณเพียงดิน ว่าที่พระเอกคนต่อไป ><
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่10 03/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-03-2016 20:09:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่11 04/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 04-03-2016 21:09:41
บทที่ 11





สุดท้ายสิตางศุ์ก็ต้องเป็นคนที่มานั่งเช็ดตัวให้รัชพลที่นอนยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้อยู่บนเตียง สิตางศุ์บิดผ้าชุบน้ำพอหมาดแล้วเช็ดไปตามแขนนั้น แม้รัชพลจะไม่ใช่คนที่มีกล้ามเนื้อมากถึงขั้นมีกล้ามหน้าท้องแน่นๆอย่างคนอื่นๆ แต่รัชพลก็รูปร่างสมส่วนและสูงใหญ่ตามฉบับผู้ชายทั่วไป และที่สำคัญตัวใหญ่กว่าสิตางศุ์ไม่น้อยเลยทีเดียว





“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิคุณ ทำไม เช็ดตัวให้ผมแล้วมันรู้สึกแย่รึไง” รัชพลว่าพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง มือจับที่แผลเมื่อเจ็บจี๊ดขึ้นมาเล็กน้อย





“ใช่ครับ รู้สึกแย่มาก” สิตางศุ์ตอบหน้าตายและวางผ้าลงในกะละมึงใบเล็ก





“อย่างว่าแหละ ใครจะเหมือนหมอชาญกัน ถ้าเป็นหมอชาญคุณคงจะรู้สึกดีกว่านี้สินะ” คำพูดของรัชพลทำเอาสิตางศุ์เริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์





“นี่คุณรัชพล คุณยังไม่เลิกคิดเรื่องพรรณนั้นอีกหรือไง ผมบอกคุณแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับหมอชาญแบบนั้น มีแต่คุณนี่แหละที่คิดเองเออเอง ถ้าหมอชาญมาได้ยินเข้าจะคิดยังไง โตซะเปล่า อายุก็เท่านี้แล้ว ยังจะคิดอะไรเป็นเด็กๆไปได้” สิตางศุ์ต่อว่ารัชพลอย่างมีน้ำโห รู้สึกการคุยกับรัชพลนั้นเหนื่อยยิ่งกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก คนอะไรจะเข้าใจยากขนาดนี้ แถมยังพูดจาไม่ดีใส่คนอื่นไปทั่วอีก





รัชพลเถียงไม่ออก เกิดมาก็เพิ่งจะเคยโดนคนอื่นต่อว่านี่แหละ มากสุดก็แค่บุรินทร์กับภุมรินเท่านั้นที่กล้าว่าเขาอย่างนี้ แต่คำพูดของสิตางศุ์นั้นก็ทำเอาเขาแอบยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อสิตางศุ์บอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับเชี่ยวชาญในทำนองนั้น เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องยิ้มเหมือนดีใจที่ตอนนี้สิตางศุ์ยังไม่มีใคร...





ไม่สิ เขาไม่รู้เลยว่าสิตางศุ์มีใครอยู่รึเปล่า ไม่แน่ตอนนี้สิตางศุ์อาจจะมีคนรักอยู่แล้ว





“นี่คุณสิตางศุ์ คุณมีแฟนรึยัง” อยู่ๆก็ถามเสียดื้อๆ สิตางศุ์งงไม่น้อย เป็นบ้าอะไรของรัชพลอีกแล้ว ปรับอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ





“ถามอะไรของคุณ” วันนี้สิตางศุ์คงขมวดคิ้วให้รัชพลเป็นรอบที่ร้อยของวัน





“ก็ถามว่ามีแฟนรึยัง มันตอบยากนักรึไงเล่า คนรักของคุณน่ะมีแล้วหรือยัง ผมแค่อยากรู้” ส่วนรัชพลก็ถามพาซื่อ อยากรู้ก็ถามมันเสียตรงนั้น สิตางศุ์หน้าร้อนขึ้นมาวูบหนึ่งเมื่อคิดว่าคำถามแบบนี้ มันเหมือนกับตัวเองกำลังถูกจีบจากรัชพลเลย





บ้าน่า!





จีบบ้าบออะไรกัน ไปกันใหญ่แล้วสิตางศุ์ หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่างอิตาคุณรัชพลเนี่ยนะจะมาคิดเรื่องแบบนั้น ถ้าให้เดาก็คงถามเพื่อความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นนั่นแหละ





“ยังไม่มีครับ และคงจะไม่มีเร็วๆนี้ด้วย” สิตางศุ์พูดตามความจริง แต่ประโยคหลังทำเอารัชพลหุบยิ้มฉับ





“ผมก็ยังไม่มี แต่กำลังจะมีเร็วๆนี้แหละ” และด้วยความที่ปากไวก็ทำให้รัชพลพูดออกไปแบบนั้น เหมือนสื่อเป็นนัยๆอะไรบางอย่าง





“ใครอยากรู้เรื่องของคุณกัน ผมเช็ดตัวให้คุณเสร็จแล้ว คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าเองแล้วกันนะครับ” พูดจบก็ลุกขึ้นถือกะละมังเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล ทิ้งรัชพลอ้าปากเหวออยู่คนเดียว





สิตางศุ์นะสิตางศุ์ เขาอยากจะบ้าตาย ทำไมชอบตัดสะพานที่เขาทอดไปตลอด คอยดูนะ ต่อจากนี้พ่อจะจัดให้หนักเลย





“มาแล้วค่ะคุณรัช ป้าทำข้าวต้มมาให้ มีของคุณสิตางศุ์ด้วยนะคะ” ป้าจันเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มสองชามก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะข้างเตียง แล้วรินน้ำใส่แก้วให้ทั้งสองคน





“ขอบคุณครับป้าจัน” รัชพลหันมาคุยกับป้าจันแทนที่จะสนใจสิตางศุ์ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ





“คุณรัชทานเองไหวรึเปล่า ให้ป้าป้อนดีมั้ยคะ” ป้าจันอาสา





“ไม่เป็นไรครับ ผมทานเองได้ ป้าจันมีอะไรก็ไปทำเถอะ”





“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ดีนะคะที่ไม่เป็นอะไรมาก พอครบเบญจเพสปุ๊บก็ได้เรื่องเลย ป้าล่ะใจหายวาบ คุณรัชดูแลตัวเองดีๆนะคะ ช่วงนี้ไร่ไม่ค่อยสงบ” ป้าจันว่า พอรู้ข่าวเรื่องรัชพลเธอก็แทบจะลมจับ ไร่น้ำรินยังไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครถึงขั้นเข้ามายิงในไร่ขนาดนี้ เธอเองก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้ไวๆเหมือนกัน





“ครับป้าจัน”





“ถ้าอย่างนั้นป้าไปก่อนนะคะ” ป้าจันยิ้มให้รัชพลและสิตางศุ์ก่อนจะออกจากห้องไป





สิตางศุ์นั่งลงข้างๆเตียงพร้อมกับยกชามข้าวต้มของตัวเองมาวางใกล้ๆก่อนจะลงมีทานมื้อเช้าโดยไม่สนใจคนเจ็บที่นั่งมองตาปริบๆอยู่ เขาเองก็หิวไม่น้อยเลยทีเดียว ตั้งแต่เมื่อคืนก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย เมื่อคืนก็มัวแต่ห่วงรัชพลจนพาลกินอะไรไม่ลงไปด้วย แต่อีกคนนี่สิ ข้าวเย็นไม่ได้ทานด้วยซ้ำ คงจะหิวน่าดู





รัชพลนั่งมองสิตางศุ์กินข้าวอย่างสบายอารมณ์ทิ้งให้เขานั่งเปื่อยอยู่คนเดียว ดูสิตางศุ์ทำเข้าสิ ไม่สนใจเขาสักนิดเลย เฮอะ... นี่รู้มั้ยคุณสิตางศุ์ว่าสาวๆในจังหวัดอยากอยู่ใกล้เขามากแค่ไหน แล้วคุณเป็นใคร เขาอ่อยขนาดนี้แล้วยังจะเฉยอีก





สิตางศุ์ทานข้าวได้เกือบครึ่งก็หันมามองรัชพลที่ยังคงนิ่งไม่ยอมกินข้าว แถมยังจ้องเขาอีก เป็นบ้าอะไรของเขาอีกแล้ว





“มองอะไรคุณรัชพล” สิตางศุ์วางช้อนตัวเองเองแล้วหันไปคุยตรงๆกับรัชพลที่จ้องไม่หยุด





“ผมเจ็บแขน” รัชพลพูดเสียงอ่อน





“แล้ว?” แล้วยังไง เขาก็รู้อยู่แล้วมั้ยว่ารัชพลนั้นเจ็บแขน





“นี่คุณ ผมเจ็บขนาดนี้นะ จะทานข้าวเองได้ยังไง ป้อนน่ะป้อน ทำเป็นมั้ย” สุดท้ายรัชพลก็ต้องบอกความจำนงของตัวเองออกมาแทนที่จะให้สิตางศุ์รู้เอง





“อ้าว ป้าจันบอกจะป้อนแล้วไหนคุณบอกทานเองได้ไง” ถ้าได้ยินไม่ผิด รัชพลเพิ่งบอกป้าจันไปว่าทานเองได้ ทำไมตอนนี้มาเรียกร้องให้เขาป้อนเสียอย่างนั้น





“นี่คุณสิตางศุ์ คุณเคยรู้อะไรบ้างมั้ยเนี่ย” รัชพลเริ่มจริงจัง





“รู้อะไร อะไรของคุณ” สิตางศุ์ทำหน้างงใส่ รัชพลเป็นคนเข้าใจยากที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลย





“ผมกำลังอ่อยคุณอยู่เนี่ย ไม่รู้ตัวรึไง” คำพูดตรงๆของคนตรงหน้าทำเอาสิตางศุ์ตาโต





“ห๊ะ!” บ้าไปแล้ว อะไรของอิตานี่ อยู่ๆมาบอกว่าอ่อยเขาเนี่ยนะ อ่อยทำไม ชอบเขารึไงกัน





“บางที ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าผมชอบคุณ” รัชพลลดระดับเสียงลงแล้วมองหน้าคนตัวเล็ก เขาสังเกตอาการแปลกๆในช่วงหลายวันของตัวเองมานี้ ลองคิดดูดีๆแล้ว มันไม่มีอะไรอีกแล้วนอกจากว่าเขากำลังรู้สึกดีๆกับสิตางศุ์





เพราะอะไรถึงชอบน่ะเหรอ เอาจริงๆตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้เขามองสิตางศุ์น่ารักกว่าทุกครั้ง บางทีสิตางศุ์ก็ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวและไม่ชอบที่สิตางศุ์อยู่ใกล้กับคนอื่น โดยเฉพาะเชี่ยวชาญที่ทุกคนลงความเห็นว่าดูดีกว่าเขา!





เฮ้อ... เกิดมาเพิ่งจะเคยพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายด้วยกันเอง แถมคนคนนั้นยังทำหน้ามึนอยู่ตรงหน้าเขาอีก





“ชอบบ้าชอบบออะไร จะบ้ารึไง ผมเป็นผู้ชายนะ” สิตางศุ์หลุบตาต่ำลง ไอ้ที่เคยแอบคิดว่ารัชพลกำลังจีบอยู่นั้นเป็นเรื่องบ้าบอ ตอนนี้กลับเป็นเรื่องจริงเสียนี่ เพิ่งจะเคยโดยสารภาพว่าชอบ แล้วยังเป็นผู้ชายหน้ามึน พูดจาไม่เข้าหูคนนี้อีก





“ผมก็ผู้ชาย ผมชอบคุณมันต้องมีข้อยกเว้นด้วยเหรอ ตอนนี้ผมจองคุณไว้แล้วนะ ห้ามไปชอบใคร โดยเฉพาะหมอชาญ” รัชพลจ้องสิตางศุ์ทำให้สิตางศุ์ต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้าอย่างเสียมิได้





“ไอ้บ้า จองอะไรเล่า ผมไม่คุยกับคุณแล้ว” พูดจบกุกพรึบออกไป พยายามซ่อนใบหน้าที่แดงแป๊ดของตัวเอง





ให้ตายเถอะอิตาคุณรัชพล หัดอ้อมค้อบ้างก็ได้นะ!











สองวันหลังจากที่สิตางศุ์ถูกสารภาพจากรัชพลเจ้าตัวก็รู้สึกวูบวาบทุกครั้งที่ต้องเจอรัชพล ดีหน่อยที่รัชพลพักอยู่บ้าน สองวันนี้เขาเลยอาศัยรถของภุมรินไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับกับหมอชาญเพราะแวะไปดูเจ้าด่างที่ตอนนี้ขายังไม่หายดี เจอรัชพลก็แค่ตอนกินข้าวเย็นเท่านั้น อีกคนไม่ทันจะพูดจะคุยอะไรเขาก็ชิ่งหนีเสียก่อน





ส่วนรัชพลนั้นก็ยังทำตัวปกติ เขาอยากไปทำงานกับสิตางศุ์จะแย่แต่ภุมรินก็สั่งให้พักก่อน วันนี้เขาเองก็เริ่มหายเจ็บแผลบ้างแล้ว แผลนั้นไม่หนักมากเพราะแค่เฉียดๆ แต่ก็เจ็บพอสมควร ความจริงภุมรินให้เขาพักอีกหน่อย แต่วันนี้เขาดันทุรังอยากจะไปทำงานด้วยสภาพภายนอกที่เปลี่ยนไป ทำเอาคนในบ้านงงไม่น้อย เพราะอะไรน่ะเหรอ...








“ไอ้ก้อง กูไม่ไปทำงาน คุณสิตางศุ์มีใครมาเกาะแกะมั้ย” รัชพลถามเด็กก้องเมื่อตอนที่กิตให้มาเยี่ยม





“ถามทำไมเหรอครับนาย” ก้องทำหน้างงเล็กน้อย เกาะแกะอะไร พูดเหมือนคุณรัชหวงแฟนเลย แต่คุณรัชกับคุณสิตางศุ์ไม่ได้เป็นแฟนกันเสียหน่อย แต่เดี๋ยวนะ...





“ตอบมาเถอะน่า” รัชพลไม่ตอบคำถาม แต่กลับจะเอาคำตอบจากลูกน้องให้ได้





“นี่อย่าบอกนะว่านายกับคุณสิตางศุ์...” ก้องทำตาโต





“กูน่ะใช่ แต่คุณสิตางศุ์ของมึงน่ะยังไม่แน่โว้ย ตอบมาว่ามีใครมายุ่งกับคุณสิตางศุ์มั้ย” รัชพลรั้งคอของก้องให้เข้ามาใกล้เมื่อเด็กหนุ่มไม่ยอมบอกเสียที





“เท่าที่เห็นก็ไม่มีนะนาย มีแต่หมอชาญมั้งที่คุยกับคุณสิตางศุ์เยอะสุด ตอนเย็นก็กลับด้วยกัน” ก้องพูดตามความจริงที่เห็น





“หมอชาญอีกแล้วเหรอ!” รัชพลทำหน้าเซ็ง หมอชาญอีกแล้ว ที่ทำงานก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น จะไปทำไมบ่อยๆ





“เหมือนจะคุยกันถูกคอด้วยนะนาย คุณสิตางศุ์นี่คุยจ้อเลย” ก้องเริ่มใส่ไฟเมื่อเห็นว่ารัชพลทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แหม่... เพิ่งเคยเห็นนายมีมุมนี้ ปกตินอนกอดแต่ถังไวน์ แหย่เล่นเสียหน่อยก็น่าสนุก






“จริงเหรอ”





“จริงสิครับ พากันดูแลไอ้ด่างยังกับเป็นลูกเลยครับ เจ้าของตัวจริงอย่างผมนี่ยังไม่เท่า” ก้องยังไม่หยุด





“กูจะไปทำงานพรุ่งนี้ นี่ไอ้ก้อง กูถามมึงตรงๆเลยนะ กูกับหมอชาญใครดูดีกว่ากัน!” รัชพลทำหน้าจริงจัง แต่ก้องกลับทำท่าทางอึกอัก





“เอ่อ... เรื่องนั้นมัน” ก้องมองไปทางอื่น ไม่กล้าที่จะตอบคำถามของรัชพล ก็แน่ล่ะ ใครจะกล้าพูดตรงๆว่าหมอชาญน่ะดูดีกว่านายเป็นไหนๆ แม้ความหล่อจะสู้สีกันก็ตามทีเถอะ แต่สภาพโดยรวมแล้วหมอชาญนี่นำลิ่ว





“พูดมาสิวะ! นี่มึงอย่าอึกอัก อย่าบอกนะว่าไอ้หมอชาญดูดีกว่ากูอย่างที่เค้าพูดกันน่ะ” รัชพลเริ่มมีน้ำโห ยิ่งเห็นก้องทำท่าทางแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งคนในไร่ ทั้งสิตางศุ์ แม้แต่ไอ้ก้องยังบอกว่าหมอชาญดูดีกว่าเลย





“แหมนาย นายก็หมอชาญก็หล่อสูสีกันนั่นแหละครับ ถ้านายตัดผมตัดเผ้าให้ดูดีอีกนิด ทำหุ่นให้เฟริ์มๆมีซิกแพคอย่างหมอชาญอีกหน่อย รับรองคุณสิตางศุ์ไม่ไปไหนหรอกครับ” ก้องพยายามพูดให้ดูดีที่สุด ขืนพูดไปตรงๆนะไอ้ก้องมีหวังโดนเตะโด่งออกนอกไร่แน่นอน





“จริงเหรอ”





“จริงสิครับนาย เดี๋ยวนายไปตัดผม ดูแลหุ่น ก็หล่อเถื่อนดิบแบบพระเอกนิยายแล้ว หมอชาญน่ะหลบไป แล้วทีนี้คุณสิตางศุ์จะไปไหนได้” ก้องพูดอย่างสนุก





“หึ... งั้นมึงพากูไปตัดผมเดี๋ยวนี้เลย!!!”     
 










เป็นอันว่าวันนี้รัชพลก็ได้ทรงผมใหม่พร้อมไปทำงาน สิตางศุ์และภุมรินที่รอทานข้าวเช้ายู่ถึงกับงงเต๊กที่เห็นรัชพลในรูปโฉมใหม่ คนงงที่สุดคงจะเป็นภุมรินที่ไม่เคยเห็นพี่ชายทำอะไรแบบนี้ ปกติสนใจเรื่องแบบนี้เสียที่ไหน หัวฟูเข้าไร่เข้าโรงบ่มทุกวัน วันนี้นึกยังไงลุกมาเซตผม แถมยังแต่งตัวเหมือนไม่ได้ไปทำงานในไร่อีก





“เป็นบ้าอะไรของพี่เนี่ยพี่รัช”








*********************************************************************************






พี่รัชของเราอาการหนักแล้ว แหม ใครจะคิดว่าคุณรัชพลผู้เงียบขรึมจากเรื่องภมรอ้อนตะวันจะมาเป็นพ่อหนุ่มคลั่งรักในเรื่องนี้ ฮ่าๆ ฝากเอาใจช่วยพี่รัชด้วยนะคะ วันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะได้รึเปล่า พอดีมาลงพื้นที่ค่ะ ถ้าว่างๆจะอัพให้นะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :L2:





มีข่าวมาแจ้งค่ะ ตอนนี้ Speirmint28 มีเพจแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ด้วยค่ะ เราจะอัพเดตข่าวสารเรื่องนิยาย และหนังสือจากเพจนี้นะคะ ตอนนี้เรื่องของน้องริน “ภมรอ้อนตะวัน” มีการตอบกลับจากสำนักพิมพ์แล้วค่ะ หากใครสนใจก็รอติดตามหนังสือได้เร็วๆนี้นะคะ รวมทั้งนิยายอีกเรื่องของเราด้วย

นี่เพจค่ะ >> https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf




หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่11 04/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 04-03-2016 22:51:03
พี่รัช ตรงจัง  5555
สิตางศุ์น่ารักกกกกก   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่11 04/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-03-2016 23:11:25
 :laugh:


นี่คนหรือ ไม้บรรทัด มันจะตรงอะไรขนาดน้านนน
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่11 04/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 05-03-2016 00:05:38
ชอบคนตรงๆแบบนี้ชอบก็บอกว่าชอบเกลียดก็บอกว่าเกลียด ดูจริงใจดี
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่11 04/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 05-03-2016 00:21:00
พี่รัช อ่อยก็แล้ว สารภาพรักก็แล้ว โดนหลบหน้าซะงั้น น่าสงสาร 5555+  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่12 05/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 05-03-2016 20:21:40
บทที่ 12





“เป็นบ้าอะไรของพี่เนี่ยพี่รัช” ภุมรินถามพี่ชาย รัชพลคงเป็นบ้าจริงๆนั่นแหละ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมาทำอะไรแบบนี้ อยู่ๆลุกมาเซตผม แต่งตัวยังกับดารา เพี้ยนรึเปล่า





“ดูไม่ดีรึไง เสื้อตัวนี้ไอ้ก้องบอกว่าใส่แล้วหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะ” รัชพลเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารก่อนที่ป้าจันจะมาตักข้าวให้โดยที่เธอแอบขำเจ้านายหนุ่มเล็กน้อย





“ป้าก็ว่าหล่อขึ้นนะคะ แต่คุณรัชทำไม่เหมาะหรอกค่ะ ดูไม่ใช่คุณรัชเลย” ป้าจันพูด ทำเอาภุมรินขำตามป้าจัน ส่วนสิตางศุ์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ทำหน้าละเหี่ยใจใส่ เกิดบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ยอิตาคุณรัช





“อ้าว ทำไมพากันขำล่ะ แล้วคุณล่ะคุณสิตางศุ์ คุณมองว่ามันเป็นยังไง” รัชพลไม่สนใจทั้งสองคนที่กำลังแอบขำเขาอยู่ แต่กลับหันมาทางสิตางศุ์แล้วถามออกไป เขาอยากรู้ว่าสิตางศุ์คิดยังไงกับเขาในรูปลักษณ์แบบนี้





“ผมว่ามันตลก คุณกลับไปใส่ยีนส์เสื้อเชิ้ตธรรมดายังจะดูดีกว่า นี่คุณทำงานในไร่นะ ไม่ใช่นักธุรกิจ” สิตางศุ์พูดตรงๆอีกแล้ว ทำเอารัชพลหน้าเจื่อนลง อะไรคือสิตางศุ์บอกว่ามันตลก





“แต่ไอ้ก้องบอกว่าหล่อนะ หล่อแบบหมอชาญไง”





“แล้วคุณอยากจะดูดีอย่างหมอชาญไปเพื่ออะไรเล่า” สิตางศุ์ตอกกลับ อะไรของเค้าอีกแล้ว เอะอะก็หมอชาญๆ





“ก็เพราะคุณชอบคนสุภาพอย่างหมอชาญยังไงล่ะ” รัชพลก็ยังเถียงต่อ ภุมรินกับป้าจันที่นั่งฟังอยู่ก็เริ่มจับใจความสำคัญจากบทสนทนานั้นได้





อย่าบอกนะว่าที่รัชพลลุกขึ้นมาแปลงโฉมตัวเองแบบนี้ก็เพราะว่าอยากเอาใจสิตางศุ์ตาง เฮ้ย!





“การที่คุณจะดูดีหรือไม่ดูดีมันไม่ขึ้นอยู่กับคนอื่นหรอก คุณไปเลียนแบบคนอื่นแบบนั้นมันไม่มีทางเป็นตัวคุณเอง แล้วอย่างนี้คุณจะให้ผมชอบในตัวคุณจริงๆหรือคุณในแบบหมอชาญล่ะ” สิตางศุ์ว่า





เฮอะ... เขาอยากจะบ้าตายกับรัชพลวันละหลายๆรอบเลยทีเดียว รัชพลเหมือนคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จริง แต่เวลาสนทนากับเขาทีไรชอบทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตซักที แล้วดูสิ ดูทำเข้า มาทำตัวเลียนแบบหมอชาญเนี่ยนะ ประสาทไปแล้ว





“เดี๋ยวๆ หยุดก่อน อะไรเนี่ยพี่รัช พี่ชอบพี่ตางเหรอ” ภุมรินถามพี่ชายตัวเอง อะไรเนี่ย เขาปล่อยสิตางศุ์อยู่กับรัชพลไม่เท่าไหร่ ทำไมอยู่ๆพี่ชายของเขาดันไปชอบสิตางศุ์เสียนี่





ตาแก่แช่โรงบ่มอย่างพี่รัชเนี่ยนะจะชอบใครเป็น แล้วคนนั้นคือพี่ตางของเขาด้วย!





“เออ! พี่ชอบคุณสิตางศุ์ และตอนนี้ก็ชอบมากด้วย จะจีบแล้วเนี่ย ไปเปลี่ยนชุดก็ได้วะ ชอบแบบเถื่อนๆใช่มั้ยจ้ะ พ่อจะจัดให้เลย” พูดจบก็ลุกพรึบขึ้นไปข้างบน ทิ้งให้ทั้งสามคนมองอย่างเหวอๆก่อนที่ภุมรินกับป้าจันจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา





“ฮ่าๆๆๆ โอ้ยขำ พี่รัช ฮ่าๆๆๆ เกิดมาเพิ่งเคยเห็น” ภุมรินหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง





“อะไรกันนี่คุณรัชของเรา อยู่กับไวน์มาตั้งนาน มาตกม้าตายเพราะคุณสิตางศุ์ซะอย่างนั้น” ป้าจันหันมาแซวสิตางศุ์ที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่





“พี่ตาง พี่รัชบอกตอนไหนเหรอว่าชอบพี่อ่ะ” ภุมรินขยับเข้าไปใกล้สิตางศุ์แล้วยิงคำถามใส่อย่างตรงๆ




“อะไรเนี่ยริน ถามอะไร” สิตางศุ์เบือนหน้าหนี อะไรของภุมริน อยู่ๆมาถามตรงๆแบบนี้ได้ยังไง





“เถอะน่าพี่ตาง บอกรินมาเถอะ พี่ตางรู้มั้ยว่าพี่รัชน่ะเพิ่งจะเคยบอกรินว่าชอบใครนี่แหละ วันๆเอาแต่ทำงาน หัวฟูทั้งวัน รินยังกังวลเลยว่าจะหาแฟนได้มั้ย แล้วทำไมอยู่ๆมาหลงเสน่ห์พี่ตางของรินได้ล่ะเนี่ย” ภุมรินพูด คำพูดนั้นทำเอาสิตางศุ์แอบหน้าแดงเล็กน้อย





เขาเนี่ยนะคนแรกที่รัชพลมีความรู้สึกดีๆให้ ไอ้เราก็นึกว่าจะจีบสาวดะไปเรื่อยเสียอีก เอาจริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมรัชพลถึงรู้สึกอย่างนั้น ทั้งๆที่บทสนทนาส่วนใหญ่คือการทะเลาะกันเสียมากกว่า แล้วคนปากเสียอย่างรัชพลก็ไม่เคยพูดดีๆหรือทำอะไรในเชิงที่ว่าชอบเขามาก่อนเลย คนบ้าอะไร เดาใจยากชะมัด





สิตางศุ์ยังไม่ทันได้ตอบคำถามรัชพลก็เดินหน้าเซ็งลงมาจากข้างบนก่อนจะนั่งที่เดิม เขากลับไปเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตธรรมดาเรียบร้อย แล้วมานั่งจ้องหน้าสิตางศุ์ที่อยู่ตรงข้ามอย่างเอาเป็นเอาตาย





เป็นอันวันมื้ออาหารนั้นจบลงด้วยเสียงหัวเราะของภุมริน หน้าเซ็งๆของรัชพลและความเอือมระอาของสิตางศุ์ ชั่งเป็นเช้าที่แสนมีความสุขเสียจริง











เมื่อมาถึงที่ทำงานนั่นก็คือสำนักงานรักษาความปลอดภัยที่เหนือไร่ รัชพลก็แยกไปทำงานของเขานั่นก็คือการคุยเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในไร่โดยมีกิตหัวหน้าสำนักงานรวมทั้งเหมหัวหน้าการ์ดของไร่มาช่วยดูด้วยว่าจะวางระบบรักษาความปลอดภัยยังไง หลังจากที่เขาถูกทำร้ายคนในไร่ก็ตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้นด้วย ตอนบ่ายนั้นรัชพลจึงพาคนงานไปช่วยซ่อมรั้วหนามที่ถูกตัดโดยเพียงดินคราวก่อน ถ้าเพียงดินไม่ช่วยวันนั้นคงแย่กว่านี้แน่ ยังดีที่ในพื้นที่ส่วนนั้นคนของไร่เพียงระพีจะช่วยดูให้อีกทาง





ส่วนสิตางศุ์ก็ทำงานในส่วนของตัวเอง เหมือนกับว่าโรจน์จะหยุดความเคลื่อนไหวในเรื่องของเงินไปแล้ว จากที่เขาดูนั้นรายจ่ายในแต่ละวันเริ่มกลับมาเป็นปกติ หรือว่าโรจน์จะรู้เรื่องที่บุรินทร์แจ้งตำรวจไว้แล้ว แต่คิดอีกมุมก็ไม่น่าจะใช่เพราะไม่อย่างนั้นโรจน์คงไม่มาทำงานให้รัชพลเหมือนเดิมแน่ๆ อาจจะเป็นการระวังตัวมากขึ้นจากเรื่องที่รัชพลโดนลอบทำร้าย นั่นอาจจะเป็นสาเหตุเพราะโรจน์รู้ว่ารัชพลต้องระวังตัวมากขึ้น





ทำงานได้ไม่นานรุ่นพี่ในสำนักงานก็มาชวนเขาไปยังสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่นัก อันเป็นการรวมพนักงานของไร่น้ำรินไว้ที่นั่น เชี่ยวชาญเองก็ทำงานอยู่สำนักงานใหญ่เช่นกัน ตอนแรกนั้นสิตางศุ์จะถามรัชพลก่อน แต่เห็นว่ารัชพลออกไปกับคนงานแล้วจึงตัดสินใจตามรุ่นพี่คนนั้นไป เพราะมีบัญชีบางส่วนที่ต้องสอบถามพนักงานบัญชีของไร่น้ำรินเหมือนกัน





สิตางศุ์หอบงานมายังสำนักงานใหญ่ที่เป็นอาคารสองชั้นขนาดกว้างว่าสำนักงานที่เหนือไร่ เมื่อมาถึงเขาก็ตรงไปหาพนักงานบัญชีทั้งสามคนของไร่น้ำริน อันประกอบด้วยนภาที่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ เอกที่ดูแลเรื่องผลผลิต และโรจน์ที่ดูแลเรื่องรายจ่าย





“สวัสดีครับผมชื่อสิตางศุ์ ผู้ช่วยของคุณรัชพลครับ” สิตางศุ์แนะนำตัว นภาและเอกยิ้มให้สิตางศุ์อย่างเป็นมิตร แต่โรจน์กลับมองด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป





“ผมเอกครับ”





“ดิฉันนภาค่ะ”





“ผมชื่อโรจน์ครับ”





ทั้งหมดแนะนำตัว สิตางศุ์ยิ้มก่อนจะนั่งลงแล้วค่อยๆเปิดสมุดบัญชีขึ้นมาทีละเล่มเพื่ออธิบายและสอบถามรายละเอียด ซึ่งในส่วนของนภาและเอกไม่มีปัญหาอะไร





“ส่วนของคุณโรจน์นะครับ...” สิตางศุ์มองหน้าชายตรงหน้าแล้วจึงเบนสายตากลับมามองที่บัญชีเหมือนเดิม





“มีปัญหาอะไรเหรอครับ” โรจน์เองก็มองกลับ เขาพอจะรู้ว่ารัชพลให้คนมาช่วยเรื่องบัญชีของไร่ และเขาเองก็เชื่อว่าสิตางศุ์น่าจะตรวจพบอะไรบางอย่างเข้าแล้ว





การที่เขากล้ายักยอกเงินของไร่นั้นเพราะมั่นใจว่ารัชพลไม่มีทางที่จะตรวจสอบตรงนี้เจออย่างแน่นอน สิ่งที่เขาทำนั้นต้องใช้ความสามารถของคนที่เรียนจบมาทางด้วยนี้โดยเฉพาะ เมื่อสิตางศุ์เข้ามายุ่งเรื่องส่วนนี้โดยตรงแล้วนั้น แน่นอนว่าเด็กคนนี้ต้องรู้อะไรไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับว่าสิตางศุ์จะบอกรัชพลหรือยังเท่านั้น แต่เท่าที่โรจน์สังเกตมาซักระยะ รัชพลยังไม่มีท่าทีที่รู้เรื่องนี้ แต่ถึงอย่างไรสิตางศุ์คนนี้ก็ไม่น่าเก็บไว้เป็นหนามยอกอกเขาแน่นอน






“ไม่มีปัญหาอะไรครับ รายจ่ายในแต่ละวันปกติดี ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะครับ” สิตางศุ์ยิ้มปิดท้ายก่อนจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดเข้าด้วยกัน





“เช่นกันครับ ยินดีที่ได้ทำงานร่วมกัน” เอกพูด





“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” พูดจบก็หันไปมองทั้งสามคนและมาจบสายตาที่โรจน์ สิตางศุ์รู้ว่าโรจน์รู้เรื่องที่เขารู้แล้ว เพราะยังไงเสียถ้าเขาตรวจสอบหรือนักบัญชีคนอื่นๆดูก็รู้ได้อย่างแน่นอน แต่กับรัชพลไม่ใช่ เขาภาวนาแค่ให้ตำรวจเร่งหาหลักฐานที่เพียงพอให้ได้เร็วเท่านั้น เรื่องจะได้จบเสียที หากโรจน์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่ยิงรัชพลแล้วละก็เรื่องบัญชีนี้อาจจะจบไปตั้งนานแล้ว แต่ที่ยังต้องปล่อยให้โรจน์ลอยนวลแบบนี้ก็เพื่อที่จะโยงใยไปยังเรื่องของผู้มิทธิพลซึ่งมีปัญหากับไร่น้ำรินด้วย





เขามั่นใจว่าเร็วๆเรื่องมันจะต้องจบอย่างแน่นอน!











รัชพลกลับมาจากการซ่อมรั้วหนามก็ไม่เจอสิตางศุ์อยู่ในห้องทำงานอีกแล้ว และนั่นก็ทำให้เจ้าของไร่น้ำรินต้องเดินหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาจากสำนักงานแล้วเดินดุ่มๆไปหลังสำนักงานเพราะเกรงว่าจะเป็นอย่างคราวที่แล้วที่สิตางศุ์ไปนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับหมอชาญ แต่พอไปถึงก็เจอแต่หมาด่างที่นอนหลับอุตุซึ่งที่เท้าขวาด้านหน้าก็มีเฝือกอ่อนพันอยู่ เลยเดินมาที่สำนักงานอีกรอบก็เห็นสิตางศุ์กำลังลงรถมา





“ไปไหนมาคุณสิตางศุ์” รัชพลตรงเข้าไปหาร่างบาง





“ผมไปสำนักงานใหญ่มาครับ พอดีมีเรื่องต้องคุยกับพนักงานบัญชีของคุณ” สิตางศุ์ตอบตามความจริง





“แสดงว่าคุณไปเจอโรจน์มา” รัชพลถาม ไปสำนักงานใหญ่แน่นอนว่าต้องเจอโรจน์





“ครับ ผมว่าเค้ายังไม่รู้เรื่องที่คุณรู้แล้ว แต่ที่แน่ๆเขาสงสัยผมอย่างแน่นอน” สิตางศุ์บอกกับรัชพลขณะเดินเข้ามาในสำนักงาน





“เขาสงสัยคุณเหรอครับ” รัชพลหน้าเครียดลง การที่โรจน์สงสัยสิตางศุ์ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน โรจน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยทรงยศ และถ้าโรจน์รู้ว่าสิตางศุ์เป็นคนตรวจบัญชีให้แบบนี้ ไม่แน่นตอนนี้ความปลอดภัยของสิตางศุ์อาจไม่มี





“นั่นไม่สำคัญเท่าการที่เขาจะรู้ว่าคุณรู้เรื่องที่เขาโกงแล้ว” สิตางศุ์บอก เขาจะโดนสงสัยนั้นไม่สำคัญเท่ารัชพลจะรู้ เพราะนั่นอาจจะทำให้โรจน์ไหวตัวทันได้





“ไม่สำคัญยังไง ตอนนี้คุณอาจจะไม่ปลอดภัยนะคุณสิตางศุ์” รัชพลเริ่มวิตก เขาทำให้สิตางศุ์ตกอยู่ในอันตราย ไม่แน่สิตางศุ์อาจจะโดนปิดปากก็ได้ ยิ่งเป็นเสี่ยทรงยศยิ่งไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ






“ต่อจากนี้คุณอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวแบบนี้อีก ผมไม่มั่นใจเรื่องของปลอดภัยในไร่ตอนนี้ ไร่กำลังวุ่นวาย และคุณก็ถูกเพ่งเล็ง ถ้าอยู่ข้างผมตลอดเวลาได้ยิ่งดี ผมเป็นห่วงคุณนะสิตางศุ์” รัชพลพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง นั่นทำให้สิตางศุ์อุ่นวาบในหัวใจ





“คุณรัช” สิตางศุ์มองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง ปกติแล้วรัชพลเป็นคนชอบชวนทะเลาะก็จริง แต่เวลาจริงจังแบบนี้รู้สึกว่ารัชพลเองก็เป็นที่พึ่งให้ได้มากเหมือนกัน แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเลยสักนิด แล้วรัชพลกลับมองว่าความปลอดภัยของเขานั้นสำคัญกว่าเรื่องอื่นๆ





บางที... ตอนนี้หัวใจของเขาอาจจะลองเปิดรับรัชพลคนนี้เข้ามาบ้างแล้ว





“ผมชอบคุณ และตอนนี้มันอาจจะมากกว่าชอบแล้วด้วยซ้ำ ผมไม่อยากให้คุณต้องเป็นอันตรายเข้าใจมั้ยคุณสิตางศุ์”





“ครับ... เอ่อ ผมไปทำงานต่อดีกว่า” สิตางศ์แอบหลบตาวูบแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน เขารู้ว่ารัชพละกำลังจริงจังแต่ตอนนี้หัวใจของเขามันเต้นแรงเกินกว่าจะยืนอยู่ตรงนั้น





สิตางศุ์เดินหน้าแดงมาถึงโต๊ะก็เจอดอกไม้ช่อใหญ่วางอยู่ มันจะดูโรแมนติกมากเมื่อเจอดอกไม้หลังเหตุการณ์ที่ทำให้ใจสั่น ถ้าหากมันไม่ใช่ดอกหน้าวัว!





“อะไรเนี่ยคุณรัชพล” สิตางศุ์หันมาถามคนที่เดินตามหลังเขาเข้ามา





“อ๋อ ดอกไม้น่ะ พอดีเห็นมันออกตรงนั้นเลยเก็บมาให้ ผมคิดว่าคุณน่าจะชอบ” รัชพลพูดยิ้มๆ เขาเก็บมาจากริมรั้ว เขาคิดว่าสิตางศุ์น่าจะชอบ





“จะบ้าเหรอคุณรัช ใครจะชอบดอกหน้าวัวกัน” สิตางศุ์ถอนหายใจอย่างระอา บ้ารึไงใช้ดอกไม้มาจีบผู้ชายเนี่ย และที่สำคัญดันเป็นดอกหน้าวัวด้วย





เรื่องที่ห่วยแตกที่สุดของรัชพลก็เรื่องจีบคนอื่นนี่แหละ สมควรแล้วที่ไม่มีแฟน!









***********************************************************************










มาแว้วๆ ตอนที่สิบสอง ตอนนี้อัพแล้วเหลือตุนไว้แค่ตอนเดียวแว้ววววว แว้กกกกกกกกกกก  :katai4: พี่รัชใส่เต็มแม็กแต่ก็ยังพังไม่เป็นท่าอยู่ดี เอาไงล่ะทีนี้ เอาใจช่วยพี่รัชกันด้วยนะคะ  :katai5:

มีข่าวมาแจ้งค่ะ ตอนนี้ Speirmint28 มีเพจแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ด้วยค่ะ เราจะอัพเดตข่าวสารเรื่องนิยาย และหนังสือจากเพจนี้นะคะ ตอนนี้เรื่องของน้องริน “ภมรอ้อนตะวัน” มีการตอบกลับจากสำนักพิมพ์แล้วค่ะ หากใครสนใจก็รอติดตามหนังสือได้เร็วๆนี้นะคะ รวมทั้งนิยายอีกเรื่องของเราด้วย

นี่เพจค่ะ >> https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf


หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่12 05/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 05-03-2016 21:11:51
ดอกหน้าวัว!!!!!
อิพี่รัชไม่โรแมนติกเอาซะเลย 5555+
//ขำหนักมาก
 :laugh:  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่12 05/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 05-03-2016 23:24:58
ขำดอกหน้าวัว  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่12 05/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 05-03-2016 23:29:46
ผู้ชายซื่อๆแบบนี้ก็ดีนะดูมั่นคงดีแต่ขำหนักมากใช้ดอกหน้าวัว ขำแรง
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่12 05/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-03-2016 23:34:13
พี่รัชเอ้ยยยย จีบแบบทื่อๆ จริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่12 05/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 06-03-2016 00:05:07
อย่างฮา  :laugh:    :laugh:

นี่คือวิธีจีบของคุณรัชหรือ????    :z3:    :z3:

ถึงยังไงจีบแบบทื่อๆ  มึนๆ  ก็ดีอยู่นะ  จริงใจดี    o13
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่13 07/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 07-03-2016 20:26:11
บทที่ 13





“จากป้ายทะเบียนรถของคนร้ายที่ทำร้ายคุณรัชพลในวันนั้นตอนนี้เรารู้ตัวคนร้ายและได้จับกุมข้อหาบุกรุกพื้นที่ของไร่น้ำรินและพยายามฆ่า แต่พวกมันไม่ยอมเปิดปากว่าใครส่งมา ส่วนเรื่องของโรจน์ตอนนี้เรามีหลักฐานเพียงที่จะเอาตัวคนผิดได้แล้ว ดูเหมือนว่าที่ยักยอกเงินนั้นจงใจจะสร้างความวุ่นวายให้มากกว่า และยิ่งไปกว่านั้นโรจน์ยังมีส่วนกับการที่คนร้ายเข้ามาในไร่น้ำรินได้อีกด้วย ตอนนี้ทางตำรวจได้เชิญตัวโรจน์ไปให้ปากคำที่โรงพักแล้วครับ และหลักฐานที่คุณสิตางศุ์และคุณบุรินทร์ส่งให้ผมนั้น มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเอาผิดได้ เหลือเพียงแค่สาวตัวถึงเสี่ยทรงยศเท่านั้นเอง ยังไงช่วงนี้ก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ ทางตำรวจเองจะเพิ่มกำลังเข้ามาที่ไร่น้ำรินด้วยเช่นกัน”





เช้านี้ไร่น้ำรินต้องต้อนรับเกรียงไกรอีกรอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาควบคุมตัวโรจน์จากสำนักงานเนื่องจากหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่สิตางศุ์ส่งให้บุรินทร์นั้นเพียงพอต่อการเข้าจับกุม แต่เรื่องของเสี่ยทรงยศนั้นคงจะต้องสาวไปอีกยาวแน่นอน





“พ่อไม่คิดเลยว่าโรจน์จะเป็นคนของเสี่ยทรงยศ” บุรินทร์พูด





“เพื่อเงินคนเราทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วครับพ่อ แต่ที่น่าห่วงตอนนี้ก็คือเรื่องของเสี่ยทรงยศ เราไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหนอีก ตราบใดที่ตำรวจยังมีหลักฐานไม่เพียงพอก็ยังเอาผิดไม่ได้” รัชพลพูดหน้าเครียด





เรื่องมันยังไม่จบง่ายๆแบบนี้ ความปลอดภัยของคนในไร่น้ำรินเองก็ยังไม่แน่นอน ทุกคนยังคงเสี่ยงที่จะถูกทำร้ายอยู่ตลอดเวลา เพราะเสี่ยทรงยศยังคงลอยนวลอยู่





“ยังไงช่วงนี้พวกลูกก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน และอาต้องขอบคุณสิตางศุ์ด้วยนะที่ช่วยหาหลักฐานเรื่องบัญชี” ประโยคหลังบุรินทร์หันมาพูดกับสิตางศุ์ที่ยืนอยู่ข้างๆรัชพล





“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีช่วยเสมอ” สิตางศุ์ยิ้มให้นายเหนือของไร่น้ำริน





“รินว่าไอ้เสี่ยนั่นมันไม่จบแค่นี้แน่นอน ยิ่งมันรู้ว่าเรารู้ตัวคนร้ายแล้วด้วย” ภุมรินดูจะวิตกกังวลไม่แพ้บิดาและพี่ชาย ทำไมไร่นำรินต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วยนะ





“พ่อจะไม่ปล่อยมันไว้แน่ ต้องหาทางเอาผิดมันให้ได้” บุรินทร์ประกาศลั่น ใครที่มาทำไร่น้ำรินก็เท่ากับทำเขาด้วย












กว่าตำรวจจะกลับหมดไร่น้ำรินก็ล่วงเข้าสู่บ่ายคล้อย ทุกคนในไร่ดูไม่มีความสุขในการทำงานเสียเท่าไหร่เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นของไร่น้ำริน เพียงดินเองก็เข้ามาถามเผื่อจะช่วยอะไรได้มากน้อยแค่ไหน รัชพลไม่ไปทำงานที่สำนักงานหนึ่งวันพร้อมกับลากสิตางศุ์เข้าโรงบ่มหลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ





“คุณพาผมมาที่นี่ทำไมคุณรัช” สิตางศุ์ถามเมื่อรัชพลพาเข้าเข้ามาตรงมุมหนึ่งของโรงบ่ม





“ผมจะให้คุณดูอะไรบางอย่างน่ะ” รัชพลพูดแล้วพาสิตางศุ์มานั่งอยู่ข้างๆถึงไวน์ถังหนึ่งในโรงบ่ม





“เวลานี้คุณยังจะมีอารมณ์มาทำอะไรแบบนี้อีกเหรอคุณรัชพล” คนเค้าเครียดกันทั้งไร่ แล้วอะไรทำให้รัชพลพาเขามานั่งดูถังไวน์กัน





“ผ่อนคลายหน่อย ตอนนี้คุณอยู่กับผมไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว” รัชพลหันไปมองหน้าสิตางศุ์ เอาอีกแล้ว สายตาแบบนั้นของรัชพลอีกแล้ว มันเป็นสายตาที่ทำให้สิตางศุ์มองแล้วรู้สึกใจสั่นทุกครั้งไป






“ละ...แล้วตกลงจะให้ผมดูอะไร” สิตางศุ์เบี่ยงประเด็นให้กลับมาที่เดิมก่อนที่ใจเขาจะเตลิดไปมากกว่านี้





“นี่ไง ไวน์ที่ผมกำลังทำ ชื่อว่าสิตางศุ์” รัชพลดูภูมิใจไม่น้อยเมื่อพูดถึงสิ่งที่เขากำลังทำอยู่





“สิตางศุ์? นั่นมันชื่อผมนี่ครับ” สิตางศุ์ถามอย่างงุนงง นั่นมันชื่อของเขา แล้วทำไมรัชพลต้องเอาชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อไวน์ด้วย





“ก็ชื่อของคุณน่ะสิ เพราะผมได้แรงบันดาลใจมากจากคุณ รู้อะไรมั้ยคุณสิตางศุ์ ผมเริ่มทำมันตอนที่ผมรู้ว่าผมชอบคุณเข้าแล้ว”





คำพูดตรงๆของรัชพลยังคงมีอิทธิพลสำหรับสิตางศุ์เสมอ ยิ่งได้รู้ว่ารัชพลทำไวน์เพื่อเขาร่างเล็กใจสั่นรัวเป็นกลองเพล ตอนนี้หน้าของเขาเห่อร้อนไปหมดแล้วทั้งๆที่เพิ่งผ่านความเครียดเรื่องไร่น้ำรินมาหมาดๆ





“คุณรัช อะไรทำให้คุณชอบผม” สิตางศุ์ถามตรงๆ เขาอยากรู้ว่าอะไรทำให้รัชพลชอบเขา ทั้งๆที่เขาทำอะไรก็ไม่เป็นซักอย่าง เหมือนจะเป็นตัวสร้างปัญหาด้วยซ้ำ และยังจะเป็นภาระให้คนอื่นไปทั่ว รัชพลควรที่จะไม่ชอบขี้หน้าเขามากกว่าที่จะมาชอบเขาแบบนี้





“ผมว่าตอนนี้มันไม่ใช่แค่ชอบแล้วล่ะคุณสิตางศุ์ ...มันมากกว่านั้น” รัชพลจ้องมองคนตรงหน้า แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่สื่อออกมา





สิตางศุ์ช้อนตามองอีกคน รัชพลในตอนนี้เหมือนดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้า ตั้งแต่เกิดมาความรักที่จริงใจเขายังไม่เคยสัมผัสมันด้วยซ้ำ เขามีชีวิตอยู่เพราะเงินของบิดาที่เลี้ยงดูในแต่ละวัน ที่ใกล้ความจริงมากที่สุดคงจะเป็นคุณหญิงพิมลย่าของเขา แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับเด็กที่ครอบครัวมีปัญหาคนหนึ่ง ย่าของเขาไม่ได้ว่างพอขนาดนั้น เมื่อรัชพลมอบความอบอุ่นในหัวใจให้ มันทำให้หัวใจที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งตลอดหลายปีนี้เริ่มละลาย มันเป็นความรู้สึกสุขใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าถามเขาตรงนี้ว่าใจของเขาเป็นอย่างไรที่ถูกเติมเต็มให้ชุ่มฉ่ำอีกครั้ง เขาก็จะตอบว่าความรู้สึกดีๆของรัชพลมันเริ่มจะเติมเต็มหัวใจที่แห้งเหี่ยวดวงนี้อีกครั้งแล้ว





“และถ้าคุณถามว่าผมรักคุณเพราะอะไร บางครั้งผมก็ไม่คิดว่ามันเองก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล ผมรักที่คุณเป็นคุณนะสิตางศุ์ ต่อให้คุณแพ้แดดแรงๆเข้าไปในไร่กับผมไม่ได้ ผมก็จะให้คุณอยู่แต่ในร่ม เพราะผมเองก็ไม่อยากให้คุณต้องเป็นอะไร คุณขี่ม้าไม่เป็นผมก็จะเป็นคนขี่ให้คุณเอง คุณต่อสู้ไม่เก่งผมก็จะคอยปกป้องคุณ และถ้าคุณมีเรื่องลำบากใจเหมือนตอนนี้ ผมก็จะคอยเป็นที่ระบายให้คุณเสมอ ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่ผมรู้ตอนนี้คุณคือคนที่ผมอยากอยู่ด้วยมากที่สุด มันอาจจะดูตลก เรารู้จักกันแค่เดือนกว่าเท่านั้น แต่ความรู้สึกที่ผมมีให้คุณตอนนี้เวลาก็ไม่สำคัญอะไรแล้ว เป็นผมได้มั้ยที่จะดูแลคุณ”






นี่อาจจะเป็นคำพูดที่ยาวที่สุดของรัชพลตั้งแต่คุยกับสิตางศุ์มาเลยก็ว่าได้ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาพูดอะไรที่ดูไม่ใช่ตัวเองแบบนี้ แต่เขาอยากจะบอกสิตางศุ์จริงๆ เพราะทุกอย่างที่เขาพูดมันออกมาจากใจทั้งหมด สิตางศุ์อาจจะยังไม่รู้สึกเหมือนกับที่เขารู้สึกในตอนนี้ แต่เขาก็อยากจะให้สิตางศุ์รู้ว่าเขาจริงใจต่อคำพูดและการกระทำของเขา





รัชพลคนนี้รักสิตางศุ์เข้าแล้ว





“แล้วถ้าวันหนึ่งผมอาจจะต้องไปจากคุณล่ะคุณรัช ผมไม่ดีพอที่จะเป็นคนนั้นของคุณหรอก ปัญหาที่ผมมีนั้นผมไม่ใช่คนตัดสินใจ” สิตางศุ์หลบตาวูบ เขารู้สึกดีที่รัชพลพูดแบบนี้ก็จริง แต่เมื่อมองในความเป็นจริงแล้วนั้น มันยากเกินกว่าที่จะไปต่อ เมื่อถึงเวลาความจริงก็ต้องพาเขาไป เขาอยู่ที่ไร่น้ำรินไปตลอดไม่ได้หรอก






“แล้วคุณมีปัญหาอะไร บอกผมไม่ได้เหรอคุณสิตางศุ์ ใช่ว่าผมอยากจะรู้เรื่องของคุณ แต่ผมแค่อยากให้คุณสบายใจ ผมไม่อยากให้คุณต้องมานั่งอมทุกข์อยู่อย่างนี้ บอกผมได้มั้ยสิตางศุ์” รัชพลเอื้อมมือไปจับมือของสิตางศุ์ไว้พร้อมกับบีบเบาๆ






สิตางศุ์ส่ายหัว เขาก้มหน้าลง ไม่แม้แต่จะพูดอะไรกับรัชพล มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโพนทะนาบอกใครต่อใครได้ เขาจึงต้องเก็บเงียบแล้วหนีมาอย่างนี้ไง





“สิตางศุ์...” รัชพลค่อยๆปล่อยมือสิตางศุ์ลง เขาเข้าใจสิตางศุ์ บางทีเรื่องที่สิตางศุ์กังวลอยู่อาจจะลำบากใจที่จะพูด แต่เขาก็แค่อยากจะให้สิตางศุ์ระบายออกมาบ้าง





“ผมยังไม่พร้อมครับคุณรัช แต่ผมขอบคุณความรู้สึกดีๆที่มีให้ ผมขออยู่กับตัวเองซักพัก” สิตางศุ์ลุกขึ้นก่อนจะหันมามองรัชพลอีกครั้ง แล้วเดินออกจากโรงบ่มไป





รัชพลถอนหายใจแล้วทิ้งตัวเองให้เอนตัวลงกับถังไม้โอ้ก เฮ้อ... ถูกปฏิเสธแน่นอนมาอีหรอบนี้ เพิ่งจะรู้สึกแบบนี้กับใครเป็นครั้งแรก ก็ต้องอกหักเสียแล้ว สิตางศุ์ไม่ได้พูดตรงๆว่าไม่ตอบรับความรักของเขาก็จริง แต่การเดินหนีไปแบบนี้มันก็ชัดเจนพอที่จะทำให้หัวใจหนุ่มของเขาแห้งเหี่ยวลง





ทำไมนะสิตางศุ์ ทำไม









สิตางศุ์ที่เดินออกมาจากโรงบ่มก็ตรงเข้าไปยังห้องของตัวเอง ข้างล่างบ้านยังวุ่นวายไม่น้อยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ แต่เขาไม่มีสมาธิจะคิดอะไรเสียแล้ว นอกเสียจากเรื่องของรัชพลและเรื่องของเขา





ใช่ว่าเขาจะปฏิเสธความรักของรัชพล ในทางกลับกัน เขาเองก็เริ่มจะมีความรู้สึกดีๆให้รัชพลด้วยซ้ำ รัชพลในตอนนี้เหมือนเป็นที่พึ่งและกำลังใจให้เขาได้เสมอ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจไม่น้อย รัชพลคอยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปให้เขา มอบความรักและความห่วงใยที่จริงใจ ความรักที่เขาไม่เคยสัมผัสตั้งแต่เกิดมา สิตางศุ์ไม่รู้ว่าการทำแบบนี้มันจะดีมั้ยเพราะเขาเองยังรู้สึกแย่ที่เดินออกมาแบบนั้น







เขาแค่ยังไม่พร้อมในตอนนี้ เขายังตอบรับความรู้สึกดีๆของรัชพลไม่ได้ ปัญหาของตัวเองยังก็ไม่ตก ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน แต่ที่แน่ๆเขาอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้ และถ้าใครซักคนในครอบครัวเจอเขา เขาก็ต้องไปจากที่นี่อย่างแน่นอน





เพราะคดีความในชั้นศาลนั้นสิ้นสุดลงนานแล้ว...











อีกด้านหนึ่ง ณ สถานีตำรวจ





“มึงไปทำยังไงให้มันโดนจับได้ห๊ะไอ้โรจน์ เสี่ยหัวเสียทั้งวันก็เพราะมึงนี่แหละ” ชายวัยสามสิบต้นๆกระซิบด่าโรจน์ที่เพิ่งจะถูกจับมา





“ใครจะไปรู้ล่ะ บอกเสี่ยให้ช่วยกูออกไปเลยนะไอ้ไม้” โรจน์เองก็หน้าเสียไม่น้อยที่อยู่ๆก็มีตำรวจบุกเข้ามาจับเขาถึงที่ไร่ ข้อหาคดียักยอกทรัพย์





“แล้วจะบอกเสี่ย เสี่ยเค้าจะตัดหางปล่อยวัดมึงแล้ว เสี่ยแค่ส่งมึงไปเป็นไส้ศึกเฉยๆ แล้วมึงเสือกไปโกงเงินเค้าทำไมไอ้โง่!” ไม้ตะโกนด่าเพื่อน






“ก็ไอ้คุณรัชมันโง่มาตั้งนานนี่หว่า ถ้าไม่มีไอ้คุณสิตางศุ์อะไรนั่นมันก็ไม่มีทางรู้หรอกว่ากูโกง แล้วอีกอย่างนะ ไอ้คุณสิตางศุ์เนี่ยแหละเหมือนจะรู้เรื่องที่เสี่ยส่งคนไปยิงไอ้คุณรัชด้วย มันอยู่ในเหตุการณ์กับคุณรัช เผลอๆมันรู้ด้วยว่าเป็นคนของเสี่ย” โรจน์พูด เขาใส่ไฟสิตางศุ์เพิ่ม ก็เพราะไอ้คนชื่อสิตางศุ์นี่แหละที่ทำให้เขาต้องมานอนในคุกแบบนี้ ในเมื่อเขาต้องมาอยู่ในคุก เขาก็จะส่งมันไปลงนรก





“สิตางศุ์ไหนวะ” ไม้ถามอย่างงงๆ เขาเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้ก็ตอนนี้เนี่ยแหละ





“สิตางศุ์ เลขาฯไอ้คุณรัช มันหูตาดีอย่าบอกใคร มึงไปบอกเสี่ยนะ  ให้เก็บมันซะ ปล่อยไว้มันสาวไปถึงเสี่ยแน่ๆ ไหนจะเรื่องไอ้คุณรัชรู้เรื่องที่เสี่ยค้าของเถื่อนอีก เผลอๆไอ้สิตางศุ์มันรู้ดีไปด้วย” โรจน์บอก





เขาเข้ามาในไร่น้ำรินเมื่อปีก่อนนั้นเพราะเสี่ยทรงยศส่งเข้ามา การจะเล่นงานไร่ใหญ่ๆอย่างไร่น้ำรินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เรื่องมันจะไม่เกิดถ้าไร่น้ำรินไม่มีการส่งออกแข่งกับเสี่ยทรงยศ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาเท่ากับเมื่อปีที่แล้วที่มีการกวาดล้างการค้าของเถื่อนล็อตใหญ่ รัชพลเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้ และยังรู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง แต่รัชพลก็ยังไม่รู้ลึกถึงบอสใหญ่ที่แท้จริงนั่นก็คือเสี่ยทรงยศ เมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจมาเกี่ยวข้อง นั่นทำให้เสี่ยทรงยศต้องรีบจัดการรัชพลและไร่น้ำริน ก่อนที่รัชพลจะสืบสาวไปถึงตัวเอง ส่วนเรื่องที่ยักยอกเงินของไร่นั้นโรจน์ทำเองคนเดียวทั้งหมด เขารู้ว่ารัชพลไม่มีความรอบคอบพอในการตรวจตราในส่วนนี้ แต่ทุกอย่างก็พังเมื่อไอ้คนชื่อสิตางศุ์เข้ามา!





“ได้ กูจะไปบอกเสี่ยให้รีบเก็บมันซะ เรื่องแม่งก็นานมาละแต่ตอนนี้เสี่ยก็ยังกลับไปค้าเหมือนเดิมยาก รายได้เสียไปตั้งเยอะ ส่วนมึงนะไอ้โรจน์ กูจะบอกให้เสี่ยช่วยแล้วกัน แต่คืนนี้มึงก็นอนนี่ไปก่อน” ไม้พูดกับเพื่อนก่อนจะออกไปจากโรงพัก แล้วตรงไปหาเจ้านายใหญ่ของตัวเอง





เรื่องนี้ยังอีกยาว ไอ้พวกไร่น้ำรินอยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง!
 
 
 





*********************************************************************************


มาแล้วจ้าตอนที่ 13 เมื่อวานไม่ได้อัพ พอดีไปลงพื้นที่มา ถึงห้องก็สลบยาวยันเช้า เลยไม่ได้อัพตอนนี้  :m17:


วันนี้มาต่อแล้วๆ ทำไมอยู่ๆดราม่าก็ไม่รู้ววววววววว  :katai5: เนื้อเรื่องใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแล้วนะจ้ะ จะเปลี่ยนยังไง ไปทางไหน ต้องติดตามตอนต่อๆไป ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:


ตอนนี้ Speirmint28 มีเพจแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ด้วยค่ะ เราจะอัพเดตข่าวสารเรื่องนิยาย และหนังสือจากเพจนี้นะคะ ตอนนี้เรื่องของน้องริน “ภมรอ้อนตะวัน” มีการตอบกลับจากสำนักพิมพ์แล้วค่ะ หากใครสนใจก็รอติดตามหนังสือได้เร็วๆนี้นะคะ รวมทั้งนิยายอีกเรื่องของเราด้วย

นี่เพจค่ะ >> https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf


หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่13 07/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-03-2016 20:45:52
อยากรู้ว่าปัญหาของสิตางศุ์คืออะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่13 07/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 07-03-2016 21:11:14
ปัญหาส่วนตัวของสิตางศ์ุเองก็ยังแก้ไม่ตก ต้องมาถูกอิเสี่ยเพ่งเล็งอีก
//ตบอิโรจน์รัวๆ :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่13 07/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-03-2016 22:52:04
อยากรู้ปัญหาที่บ้านมากกว่าว่าสิตางค์เจออะไรมา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่13 07/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 07-03-2016 23:38:08
ปัญหาของนางคืออะไร
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่13 07/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-03-2016 03:09:17
 :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 08-03-2016 21:08:58
บทที่ 14





วันนี้เป็นอีกวันที่รัชพลต้องไปทำงานเหมือนทุกวัน แต่เขาเลือกที่จะเข้าโรงบ่มมากกว่าการไปสำนักงานกับสิตางศุ์ มันอาจจะดูเหมือนเด็กวัยรุ่น ที่พอเค้าสะบั้นรักก็คิดจะหลบหน้า แต่เขาเจอสิตางศุ์ตอนนี้ไม่ได้จริงๆ สิตางศุ์ทำร้ายหัวใจของเขามาก และอีกอย่างสิตางศุ์เองก็คงไม่อยากจะเจอหน้าเขาด้วยล่ะมั้ง ไม่อย่างนั้นคงไม่ปฏิเสธเขาแบบนี้ กลัวว่าตัวเองจะไปทำให้สิตางศุ์รำคาญเปล่าๆ





วันนี้สิตางศุ์ไปทำงานกับภุมริน เจ้าตัวจัดการสรุปทุกอย่างของบัญชีไร่น้ำรินให้กลับมาเข้าที่เหมือนเดิม ตั้งแต่ตื่นมายังไม่เจอรัชพลเลยด้วยซ้ำ เขาไม่ได้รังเกียจรัชพล เขาไม่ได้ปฏิเสธคนคนนั้น แต่เขาแค่บอกว่าขอเวลา เพราะตอนนี้เขายังไม่พร้อม ปัญหาที่มีเขายังแก้ไม่ตกเลย เขาไม่พร้อมจะมีใครเข้ามาในตอนนี้





ใช่ว่าสิตางศุ์คนนี้จะไม่ได้รู้สึกดีกับรัชพล เขามองเห็นความจริงใจและความรู้สึกดีๆที่มีให้ ไม่แปลกที่เขาเองก็จะหวั่นไหวไปกับผู้ชายคนนั้น แต่จะให้ตอบรับความรู้สึกของรัชพลตอนนี้จะกลายเป็นว่าทำร้ายรัชพลในวันหน้า ถ้ารัชพลยังไม่เปลี่ยนใจเขาก็ยินดีที่จะไม่มีใคร แต่ก่อนอื่นนั้นเรื่องส่วนตัวของเขาเองต้องรีบจัดการก่อน อีกไม่นานแล้วที่ต้องอยู่ไร่น้ำริน นี่ก็เกือบสองเดือนที่ต้องมาเป็นภาระให้คนที่นี่ เขาควรจะต้องไปและเผชิญกับความจริง





สิตางศุ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาเปิดมันขึ้นเมื่อคืนนี้ ข้อความต่างๆกระหน่ำมาเหมือนเดิมโดยภูวดล มันเป็นเวลาเกือบสองเดือนที่ไม่ติดต่อใคร และเขารู้ว่าย่าของเขารวมทั้งภูวดลเองก็คงต้องตามหา มือนั้นตัดสินใจกดโทรหาคนที่คอยส่งข้อความมาหาเขาทุกวัน เพื่อนเพียงคนเดียวที่สิตางศุ์มีอยู่ รอไม่นานคนปลายสายก็รับอย่างไม่ต้องรอนาน





“ได้ตาง ไอ้เพื่อนเวร มึงหายหัวไปไหนมา รู้มั้ยทุกคนเป็นห่วง มีเรื่องอะไรก็บอกกูสิวะ หายไปดื้อๆแบบนี้คิดว่าเป็นเด็กรึไง คุณย่าเค้าตามหามึงให้ทั่ว มึงบอกมาเลยนะว่ามึงอยู่ไหน แล้วมึงอยู่คนเดียวได้ยังไง” พอเพื่อนรักรับโทรศัพท์ปุ๊บ ภูวดลก็รัวใส่ไม่ยั้ง





“เดี๋ยว ใจเย็นๆสิภู ค่อยๆพูด” สิตางศุ์บอกภูวดล เล่นรัวมาแบบนี้ใครจะฟังทันกันเล่า





“จะให้กูใจเย็นได้ยังไง มึงหายไปตั้งเกือบสองเดือน หาที่ไหนก็ไม่มี คุณย่าท่านจ้างนักสืบหาไม่เจอ บุกไปบ้านแม่มึงก็ดันไปมีเรื่องกับน้ามินเข้า กลายเป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอีก ตอนนี้เรื่องนี้โคตรจะวุ่นวาย แล้วมึงยังจะเสือกมาหายไปอีก” ภูวดลใส่มาหมดแม็ก สิตางศุ์ได้ฟังอย่างนั้นก็หน้าเจื่อนลง





“ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะหนีปัญหา” สิตางศุ์พูดเสียงแผ่ว การที่เขาหนีมายิ่งทำให้ปัญหาที่มีอยู่มันยิ่งแย่ลงไปทุกที แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องไปอยู่กับแม่ที่อังกฤษอยู่ดี





นั่นคือสิ่งที่ศาลตัดสินเมื่อเกือบสิบปีก่อน





“เฮ้อ... ไอ้ตาง แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน” ภูวดลถอนหายใจให้กับปัญหาเรื้อรังที่ยื้อมานานจนทำให้ชีวิตของสิตางศุ์ไม่เคยสัมผัสกับความสุข





“ไร่น้ำริน บ้านของรินน่ะ” สิตางศุ์ตัดสินใจบอกเพื่อนรักไป ไม่ช้าหรือเร็วเขาก็ต้องกลับไปอยู่ดี จะตอนนี้หรือตอนไหนมันก็มีค่าไม่ต่างกัน





และที่สำคัญรัชพลเองจะได้รีบตัดใจจากเขา ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ความรู้สึกของรัชพลจะยิ่งเตลิดไปไกล รวมทั้งตัวเขาเองด้วย อีกไม่นานเราต้องอยู่คนละซีกโลกกันแล้ว เป็นที่ที่เขาไม่อยากไป ไม่ใช่เพราะต้องจากใคร แต่เพราะไม่อยากไปอยู่ร่วมกับคนของมารดา คนของมินตรา





“ห๊ะ! มึงไปอยู่บ้านริน ริน น้องรินรุ่นน้องกูน่ะนะ!” ภูวดลถามเพื่อความแน่ใจ บ้านของภุมริน อยู่ๆสิตางศุ์ไปอยู่บ้านของภุมรินได้ยังไง ภุมรินรู้จักกับสิตางศุ์ก็จริง แต่ก็ไม่น่าจะสนิทถึงขั้นไปอยู่บ้านกันเป็นเดือนๆได้ และที่สำคัญ เขาไม่คิดว่าสิตางศุ์จะไปอยู่บ้านภุมริน!





“อือ... มีรินเดียวนี่แหละ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราสบายดี” สิตางศุ์บอก เขาไม่อยากให้ใครต้องเป็นห่วง ไม่สิ... คงมีแค่ย่าและภูวดลเท่านั้นที่รู้สึกแบบนั้น พ่อแม่แท้ๆยังไม่คิดจะถามหาเขาเลยด้วยซ้ำล่ะมั้ง ก็เป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่เกิดแล้ว





“มึงรอกูอยู่นั่นนะไอ้ตาง กูจะขึ้นไปหามึงที่ไร่น้ำริน แล้วอย่าคิดหนี เดี๋ยวกูโทรบอกรินก่อน พรุ่งนี้มึงเจอกูแน่” ภูวดลระล่ำระลักบอก





“เฮ้ย ไม่ต้องตามมาหรอกภู เดี๋ยวเราก็กลับแล้ว” สิตางศุ์เริ่มกังวล เกิดภูวดลมาที่นี่มีหวังย่าของเขาต้องตามมาด้วยแน่นอน แล้วหลังจากนั้นเรื่องวุ่นวายต่างๆจะเกิดขึ้นอีกมากมาย แค่นี้ก็ลำบากไร่น้ำรินจะแย่อยู่แล้ว ขืนมีเรื่องมาให้เยอะกว่านี้คงไม่ดีแน่ๆ เรื่องไร่น้ำรินเองก็ยังไม่จบเลย ตัวคนบงการเบื้องหลังยังหาไม่ได้





“ไม่ไปได้ยังไง กูต้องมั่นใจว่ามึงปลอดภัยดี คนอย่างมึงทำอะไรเป็นซะที่ไหน อยู่กับรินก็จริงแต่นั่นมันก็ไร่ก็สวน แพ้แดดตัวแดงตายห่าใครจะไปรู้”





“แต่ถ้าภูมาคุณย่าก็จะต้องมาด้วย เรื่องมันจะยาวนะ เชื่อเรานะภู เดี๋ยวเราก็กลับแล้ว” พยายามต่อรอง






“ไม่ได้ พรุ่งนี้กูจะไปหามึง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องคุณย่า กูจะยังไม่บอกใครว่าเจอมึงแล้ว ขอล่ะไอ้ตาง อย่าทำแบบนี้อีกได้มั้ย” ปลายสายเองก็อ่อนใจไม่น้อย เขารู้ว่าสิตางศุ์เก็บงำความรู้สึกมาเกือบทั้งชีวิต ไม่แปลกที่มันจะระเบิดออกมาแบบนี้





ไม่มีเสียงตอบรับจากสิตางศุ์ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่โทรหาภูวดล แต่ที่แน่ๆเขาคงไม่มีทางปฏิเสธภูวดลได้ในตอนนี้





“ถือว่าความเงียบเป็นการตอบตกลงนะ เดี๋ยวกูจะคุยกับริน แล้วมึงห้ามหนีไปไหน หยุดหนีได้แล้ว” นั่นคือคำพูดสุดท้ายของภูวดลก่อนที่จะวางสายไป





สิตางศุ์ลดมือที่ถือโทรศัพท์ลงอย่างอ่อนล้า ถึงเวลาต้องเผชิญหน้าแล้วสิ





“สวัสดีครับคุณสิตางศุ์” เสียงเรียกชื่อของตัวเองทักขึ้นทำให้สิตางศุ์เรียกสติตัวเองคืนมาแล้วหันไปตามเสียงเรียกนั้น ก็พบร่างคุ้นตาของหมอชาญเดินมาหาพร้อมของพะรุงพะรังในมือ





“ครับหมอชาญ ถืออะไรมาเยอะแยะเลยครับ” ยิ้มให้อีกคนแล้วลุกขึ้นเดินไปหาเชี่ยวชาญ






“ขนมน่ะครับ พอดีวันนี้เข้าไปในหมู่บ้านมา ชาวบ้านให้ผมมาเยอะเลย ผมเลยเอามาฝากคุณสิตางศุ์ด้วยน่ะครับ” เชี่ยวชาญยิ้มตาหยีตามแบบฉบับของตัวเองก่อนจะวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะ





“ขอบคุณครับ แล้ววันนี้มาดูด่างมันเหรอครับ มาเร็วจังปกติมาเกือบเย็นนู่น” สิตางศุ์ถามอย่างสงสัย ปกติเชี่ยวชาญจะมาตอนเขาเกือบเลิกงาน แต่วันนี้มาก่อนเวลาตั้งหลายชั่วโมง





“พอดีว่าวันนี้ผมจะเข้าเมืองน่ะครับ เลยแวะมาถามคุณสิตางศุ์ว่าจะไปด้วยกันรึเปล่า” เชี่ยวชาญถาม เขาตั้งใจจะไปธุระส่วนตัวในเมือง ก็เลยแวะมาวนสิตางศุ์ไปด้วย เผื่อว่าสิตางศุ์เองก็อยากจะได้อะไรในเมือง





“ไปในเมืองเหรอครับ ดีเหมือนกัน ของใช้ส่วนตัวของผมเองก็เริ่มหมดแล้ว งานก็เสร็จแล้วครับ ไปได้” สิตางศุ์ทำงานเสร็จซักครู่แล้ว เพราะมีอะไรไม่มากนอกจาตรวจดูเรื่องรายละเอียดอย่างชัดเจนของรายรับรายจ่ายในแต่ละวันเท่านั้น ของใช้ส่วนตัวของเขาก็เริ่มหมดแล้ว พอดีกับเชี่ยวชาญจะเข้าตัวเมือง เขาไปด้วยเลยจะดีกว่า ไม่อยากรบกวนติดรถภุมรินไปอีก





“งั้นดีเลยครับ เดี๋ยวผมไปรอที่รถนะครับ” เชี่ยวชาญบอก





“ครับ รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ” สิตางศุ์รีบเก็บของ เพราะคงไม่ได้กลับมาที่สำนักงานอีก กลับมาอีกทีคงดึกแล้วกลับบ้านเลย





เป็นอันว่าสิตางศุ์เข้าไปในตัวเมืองกับเชี่ยวชาญ เขามองหาคนงานแถวนั้นเพื่อบอกไว้แต่ก็ไม่เจอใครซักคน เลยตัดสินใจไปเลยเพราะคิดว่าไม่น่าจะกลับค่ำขนาดนั้น










เวลาล่วงเข้าหกโมงเย็นของวัน รัชพลออกมาจากโรงบ่มแล้วกลับเข้าไปในบ้าน เจอภุมรินกำลังเดินลงมาจากบันใดด้วยชุดนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว





“สิตางศุ์ล่ะริน” ประโยคแรกที่ถามออกไป มันออกไปอย่างอัตโนมัติ รัชพลเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องถามหาสิตางศุ์ก่อน อาจจะเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเขาละมั้ง





“ยังไม่เห็นกลับนะพี่รัช สงสัยยังไม่กลับจากเหนือไร่” ภุมรินตอบ เขากลับมายังไม่เห็นสิตางศุ์เลย





“แต่นี่มันเลยเวลางานมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ” รัชพลเร่งเสียงขึ้นตามอารมณ์ที่เริ่มเดือด เขาเป็นห่วงสิตางศุ์ ช่วงนี้ในไร่ยิ่งไม่ปลอดภัย และโรจน์เองก็รู้ว่าสิตางศุ์เป็นคนส่งหลักฐานให้ตำรวจ แม้โรจน์จะถูกจับแต่ก็ยังไว้ใจอะไรไม่ได้





“ใจเย็นๆก่อนพี่รัช พี่ตางคงอยู่ที่เหนือไร่นั่นแหละ เดี๋ยวก็กลับ” ภุมรินพยายามพูดให้พี่ชายใจเย็นลงเมื่อเห็นว่ารัชพลเริ่มอารมณ์ขึ้น





“พี่จะไปที่สำนักงาน” พูดจบก็รีบไปคว้ากุญแจรถ เขาต้องไปหาสิตางศุ์ที่เหนือไร่ ไปให้แน่ใจว่าสิตางศุ์ยังอยู่ที่นั่น





ภุมรินมองตามหลังพี่ชายที่วิ่งออกไป เขาเพิ่งจะเคยเห็นรัชพลเป็นห่วงใครมากๆแบบนี้นอกจากคนในครอบครัวหรือคนสนิท รุ่นพี่สิตางศุ์ของเขาคนนี้มีอิทธิพลกับพี่ชายของเขามากจริงๆ





ทีนี้รัชพลจะได้รู้ซักที ว่าการที่รักและเป็นห่วงใครซักคนมันเป็นยังไง











รัชพลขับรถมาถึงสำนักงานที่ตอนนี้เปิดไฟบ้างแล้ว พนักงานคนอื่นกลับบ้านกันหมดรวมทั้งคนงานของไร่น้ำรินอีกด้วย เขาพุ่งตัวเข้าไปหาสิตางศุ์ข้างในแต่ก็ไม่พบ เลยวิ่งไปดูที่หลังสำนักงานก็ไม่มี เจอเพียงก้องที่กำลังเอาข้าวมาให้หมาด่างที่ตอนนี้ยังใส่เฝือกอยู่เหมือนเดิม





“อ้าวนาย สวัสดีครับ ทำไมมามืดๆค่ำๆ” ก้องถามเมื่อพบว่ารัชพลวิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกล





“ไอ้ก้อง เห็นคุณสิตางศุ์มั้ย” รัชพลถามพุ่งตรงประเด็น





“ไม่เห็นนะครับนาย ผมกลับมาคนอื่นก็กลับกันหมดแล้ว นึกว่าคุณสิตางศุ์กลับไปแล้วซะอีก” ก้องตอบด้วยความฉงน เขากลับมาถึงสำนักงานคนอื่นก็ไม่อยู่แล้ว แม้แต่คุณสิตางศุ์เองก็เถอะ คิดว่ากลับไปแล้วเสียอีก





แต่คำตอบของก้องนั้นทำเอารัชพลหน้าเสีย สิตางศุ์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วจะไปอยู่ไหนกัน!!!





“เดี๋ยวนะนาย อย่าบอกนะว่าคุณสิตางศุ์ไม่ได้กลับบ้าน... ซวยแล้ว!” ก้องลุกพรึบ





“สิตางศุ์ยังไม่กลับ กูก็นึกว่าอยู่ที่นี่” รัชพลตัวสั่น เขาเหมือนคนไม่มีสมาธิไปแล้ว เขาเป็นห่วงสิตางศุ์ สถานการณ์ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น





“ช่วงนี้ยิ่งเกิดเรื่องอยู่ แล้วจะเอายังไงดีล่ะนาย” ก้องเองก็เริ่มกังวลไม่ต่างกับรัชพล





“กูก็ไม่รู้ กูจะไปหาสิตางศุ์” รัชพลรีบเดินไปที่รถโดยมีก้องวิ่งตามไปอย่างตื่นๆ





“เดี๋ยวก่อนนาย เดี๋ยว ใจเย็นๆก่อน ลองไปหาที่บ้านดูอีกทีก่อนครับ อย่าเพิ่งวู่วาม มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้” กลายเป็นเด็กอายุสิบหกเสียเองที่ต้องเตือนสติรัชพล





“เดี๋ยวผมขับรถให้เองครับ” ก้องถือวิสาสะดึงกุญแจรถจากรัชพลมาก่อนจะเป็นคนเข้าไปขับ





รัชพลเข้าไปนั่งข้างๆก้องอย่างวิตกกังวล เขากลัว กลัวสิตางศุ์จะเป็นอะไรไป เสี่ยทรงยศคงไม่เก็บคนที่ทำให้ลูกน้องตัวเองเข้าคุกไว้แน่ ขนาดเขาเองยังถูกยิงมาแล้ว และตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้วด้วย อะไรมันดูจะยากไปเสียหมด





ไม่นานก้องก็พารัชพลมาถึงที่บ้านรักษ์นที มีภุมรินและป้าจันยืนรออยู่ รัชพลเดินตรงไปหาน้องชายทันที





“สิตางศุ์กลับมารึยัง” คำถามแรกที่ถามคงไม่พ้นเรื่องของอีกคน





“ยังเลยพี่รัช ไปหาที่ห้องก็ไม่มี ไม่ได้กลับมาที่นี่แน่นอน ไม่ได้อยู่ที่เหนือไร่เหรอ” ภุมรินเริ่มจะรนเหมือนพี่ชายบ้างแล้ว อะไรคืออยู่ๆสิตางศุ์ก็มาหายตัวไปแบบนี้ ในสถานการณ์ที่ไม่ดีแบบนี้ด้วย





“ไม่มี ที่สำนักงานไม่มี ที่บ้านก็ไม่มี แล้วสิตางศุ์ไปอยู่ไหนวะ!” รัชพลตะโกนก้องทำเอาทุกคนสะดุ้งไม่น้อย ครั้งล่าสุดที่เห็นรัชพลโมโหขนาดก็ตอนที่ตะวันพาภุมรินไปนั่นแหละ





“ใจเย็นๆพี่รัช” ภุมรินเข้าไปจับแขนพี่ชายไว้แน่น





“จะให้พี่ใจเย็นได้ยังไงริน” รัชพลตัวสั่นเร่า





ไม่ทันจะอายังไงต่อแสงไฟหน้ารถก็สาดเข้ามาที่หน้าบ้านรักษ์นที ทุกคนหันไปมองก็เจอรถของเชี่ยวชาญเข้ามาจอดก่อนที่เจ้าของรถจะเดินลงมา และยิ่งไปกว่านั้นสิตางศุ์ที่ทุกคนตามหาก็ลงมาจากอีกฝั่งด้วย ร่างบางมองทุกคนอย่างไม่เข้าใจ





“มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ ทำไมมายืนกันตรงนี้” สิตางศุ์ถามอย่างงงๆ เมื่อมองไปยังรัชพลก็พบว่าตอนนี้รัชพลจ้องมองเขาด้วยสายตาที่หลากหลาย ทั้งโกรธและเหมือนจะเป็นห่วง





“เอ่อ... พี่ตางไปไหนมาครับ” ภุมรินเป็นคนเอ่ยถาม





“อ๋อ พี่เข้าไปในตัวเมืองกับหมอชาญมาน่ะ พอดีไปซื้อของนิดหน่อย” สิตางศุ์ตอบตามความจริง และประโยคนั้นเองทำให้รัชพลเบือนหน้าหนีแล้วหันหลังเดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้สิตางศุ์และเชี่ยวชาญมองอย่างงงๆ





“มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ” เชี่ยวชาญถามบ้าง เขางงไม่น้อย พอมาส่งสิตางศุ์ที่บ้านรักษ์นทีก็เจอทุกคนมายืนกันเต็มไปหมด แถมรัชพลยังฟึดฟัดออกไปแบบนั้นอีก





“พอดีมีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยครับ หมอชาญกลับไปก่อนนะครับวันนี้ รินขอพาพี่ตางเข้าบ้านก่อน” ภุมรินเดินไปจับแขนของสิตางศุ์ไว้พร้อมกับบอกให้เชี่ยวชาญกลับไปก่อน





“เอ่อ... ครับ” เชี่ยวชาญยังงงๆอยู่แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี





“เข้าบ้านกันเถอะครับพี่ตาง” เมื่อรถของเชี่ยวชาญแล่นออกไปแล้วภุมรินก็ดึงมือของสิตางศุ์ให้เข้าในบ้านทั้งๆที่สิตางศุ์เองยังไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้น





“มีอะไรเหรอริน ตกลงมีเรื่องอะไรกัน” สิตางศุ์ถามเมื่อเข้ามาในบ้านแล้ว ภุมรินมองหน้ารุ่นพี่พร้อมกับถอนหายใจ





“พี่ตางไปในเมืองกับหมอชาญตอนไหนครับ” ภุมรินถามด้วยเสียงที่จริงจังจนสิตางศุ์นึกหวั่น





“ตอนบ่ายน่ะ พอดีไปซื้อของนิดหน่อย แล้วการที่พี่ออกไปกับหมอชาญมันทำให้ทุกคนวุ่นวายได้ยังไง” สิตางศุ์ยังคงไม่เข้าใจ ทำไมทุกคนดูตื่นตระหนกกันไปหมด





“ก็พี่รัชน่ะสิ เค้าตามหาพี่ตางให้ทั่ว พอไม่เจอก็ตะโกนลั่นบ้าน พอรู้ว่าไปกับหมอชาญก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ” คำพูดของภุมรินทำเอาสิตางศุ์นิ่ง รัชพลโมโหที่เขาไปกับหมอชาญอย่างนั้นเหรอ





“พี่บอกคุณรัชเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วว่าพี่กับหมอชาญไม่ได้คิดอะไรกันแบบนั้น ทำไมคุณรัชต้องใช้อารมณ์ส่วนตัวมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยล่ะ” สิตางศุ์เองก็เริ่มจะมีน้ำโห เขารู้ว่ารัชพลคิดยังไงกับเขา แต่การที่จะเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้ทั้งบ้านวุ่นวายแบบนี้มันก็ใช่เรื่อง และอีกอย่างเขาโตแล้ว เขามีสิทธิ์ไปไหนกับใครก็ได้





“ต่อให้คุณไปกับคนอื่นผมก็คลั่งเป็นบ้าเหมือนกันนั่นแหละ แต่ไม่ใช่แค่หวงแต่ผมเป็นห่วงคุณด้วย ในไร่ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงคุณก็รู้ และคุณออกไปไหนมาไหนโดยที่ไม่บอกใครคุณจะให้ผมอยู่เฉยได้อีกเหรอคุณสิตางศุ์” เสียงของรัชพลดังขึ้น สิตางศุ์หันไปมองคนที่เพิ่งลงมาจากชั้นบน มือบางนั้นปล่อยของพะรุงพะรังนั้นลงกับพื้น คำพูดของรัชพลทำเอาสิตางศุ์หน้าชา





เขาแปลเจตนาของอีกคนผิดไป





“ใช่ ผมรักคุณ แต่เรื่องหึงหวงนั้นมันไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยของคุณเลยสักนิด ...ริน วันนี้พี่นอนโรงบ่มนะ” ประโยคหลังหันไปพูดกับน้องชายก่อนจะเดินออกจากบ้านไป





ทิ้งให้ความรู้สึกของสิตางศุ์มันตีกันวุ่นไปหมด เขาผิดแน่แล้ว เวลานี้เป็นเขาเองที่ผิด...








****************************************************************************************
ตอนที่ 14 มาแล้ววววววววว ตอนนี้ยาววกว่าตอนก่อนๆ อิอิ โอ้ยยยยยยยยย ดราม่าหนักหนาสาหัสมาก ซีนอารมณ์ต้องยกให้คุณรัชพลค่ะ ฮี่ๆ เอาแล้วสิตางศุ์โดนคุณรัชงอนเข้าแล้ว ตอนหน้าจะเป็นอย่างไร สิตางศุ์ของเราจะง้อยังไงต้องติดตาม ใครอยากรู้เรื่องสิตางศุ์ได้รู้แน่นอน อุ้ย! ไม่เอา ไม่ใบ้ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ตอนหน้ายาวกว่านี้อีก รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:

ปล.ช่วงนี้อาจจะมีแว้บๆหายๆบ้างนะคะ ถ้าไม่ผิดลาดอาจจะอัพทุกวันค่ะ แต่ตุนไว้เรื่อยๆแล้ว





ตอนนี้ Speirmint28 มีเพจแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ด้วยค่ะ เราจะอัพเดตข่าวสารเรื่องนิยาย และหนังสือจากเพจนี้นะคะ


นี่เพจค่ะ >> https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-03-2016 21:24:01
น่าตีจริงๆ ไปไหนไม่บอกเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-03-2016 21:47:02
ศาลตัดสินให้ไปอยู่กับแม่ที่อังกฤษ? คือ พ่อกับแม่ของสิตางศุ์เลิกกัน แล้วขอสิทธิดูแลลูกเหรอ
ไม่ใช่ว่าใช้ได้กับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรอกเหรอ สิตางศุ์เป็นรุ่นพี่ของริน แสดงว่าเรียนจบนานแล้ว หมายความว่าเป็นผู้ใหญ่(ในทางกฏหมาย)แล้ว น่าจะสามารถตัดสินใจเองได้หรือเปล่าว่าจะอยู่กับใคร แล้วเห็นว่าศาลได้ตัดสินมาเป็นสิบปีแล้ว
แล้วทำไมถึงเพิ่งจะต้องไป... แอบงง เหมือนปัญหาของสิตางศุ์จะยังเปิดเผยไม่หมดสินะ

ปล.เราไม่ได้เรียนด้านกฏหมายมาจ๊ะ ที่ว่ามา คือมาจากความเข้าใจล้วนๆ

ให้กำลังใจคนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 08-03-2016 22:37:02
คราวนี้แอบเห็นใจพี่รัชแฮะ สิตางศุ์เองก็ผิดที่ไปไหนไม่บอก เหอๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 08-03-2016 23:05:33
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-03-2016 06:39:40
 :hao6:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่14 08/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-03-2016 18:05:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 09-03-2016 20:27:47
บทที่ 15





“พี่ตาง...” ภุมรินเรียกชื่อสิตางศุ์เบาๆเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์นั้นนิ่งไป เขาเองก็ไม่รู้ว่าสิตางศุ์ไปทำอะไรให้พี่ชายของเขามา เพราะวันนี้ทั้งวันรัชพลดูหงอยมาก และยิ่งเกิดเหตุการณ์นี้อีกยิ่งไปกันใหญ่ แต่ตอนนี้เขาอยากให้สิตางศุ์กับรัชพลปรับความเข้าใจกันให้เร็วที่สุด เขาไม่อยากให้ทั้งสองคนตกอยู่ในความรู้สึกแบบนี้






“ไปคุยกับคุณรัชมั้ยคะคุณสิตางศุ์ เธอคงน้อยใจที่คุณสิตางศุ์พูดแบบนั้น คุณรัชกลัวมากเลยนะคะ กลัวว่าคุณสิตางศุ์จะมีอันตราย เธอเป็นห่วงคุณมาก” ป้าจันเดินเข้ามาจับมือสิตางศุ์ไว้ รัชพลคงผิดหวังไม่น้อยที่สิตางศุ์นั้นแปลเจตนาของตัวเองผิดไป





“นะครับพี่ตาง ถือว่ารินขอร้อง” ภุมรินเข้ามาขอร้องด้วยอีกคน สิตางศุ์มองหน้าทั้งสองคนอย่างชั่งใจ






“อืม เดี๋ยวพี่ไปคุยกับคุณรัชเอง” สิตางศุ์ตอบ แต่ไม่ใช่เพราะทั้งสองคนมาขอร้อง แต่เขาเองก็อยากจะคุยกับรัชพลให้มันชัดเจนกว่านี้





เพราะตอนนี้หัวใจของเขาเองมันก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน





โรงบ่มของไร่น้ำรินมีร่างบางของสิตางศุ์เดินเข้ามา ไฟสลัวที่รัชพลเปิดทิ้งไว้ทำให้มองทางได้ชัดเจนขึ้น ในส่วนของถังไวน์จะเรียงกันอยู่เป็นแถวฝั่งซ้าย พื้นที่เล็กๆตรงนี้จะเอาไว้วางโต๊ะทำงานและตู้สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยความที่เป็นโรงบ่มขนาดใหญ่ทำให้มีพื้นที่มากพอที่จะมีอะไรเพิ่มเติมมากว่าถังไวน์ และหนึ่งในนั้นคือที่นอนเล็กๆที่รัชพลแอบมีไว้ในมุมหนึ่ง ซึ่งป้าจันเป็นคนจัดให้เวลารัชพลไม่กลับไปนอนบ้าน ซึ่งเมื่อก่อนนั้นแทบจะทุกวัน





สิตางศุ์เดินไปหารัชพลที่กำลังดื่มไวน์ขวดใหญ่พร้อมกับเบือนหน้ามองออกไปข้างนอก ไม่รับรู้ว่ามีใครอีกคนเข้ามาในที่นี้ ร่างบางรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปหาคนตรงหน้า





“คุณรัชพล” รัชพลหันตามเสียงนั้น เมื่อพบว่าเป็นสิตางศุ์ก็วางขวดไวน์ลงก่อนจะเดินหนี






“หยุดนะคุณรัชพล” สิตางศุ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น





รัชพลหยุดเดินแล้วหันหน้ามามอง สายตาที่ส่งมามันนิ่งซะจนสิตางศุ์เองยังแอบหวั่น





“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะคิดแบบนั้น” สิตางศุ์กำมือแน่นแล้วหลุบตาลงต่ำ





“คุณสิตางศุ์ ถ้าคุณฝืนคุณกลับไปเถอะครับ ผมไม่ได้ต้องการคำขอโทษ ผมแค่ต้องการให้คุณรู้ว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหนผมรู้สึกดีกับคุณ ตอนนี้มันอาจจะเป็นความรักแล้วก็ได้ แม้ว่าคุณจะมองข้ามความรู้สึกดีๆของผมก็ตาม” รัชพลพูด ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเอง เขาทำยังไง เป็นยังไง รู้สึกมากแค่ไหน สิตางศุ์ก็ได้แต่เฉยเมยใส่เสมอ สิตางศุ์ไม่ได้ผิด มันผิดที่เขาที่รู้สึกเอง






“แล้วใครบอกว่าผมฝืน ใครบอกว่าผมมองข้ามความรู้สึกนั้นของคุณไป และใครบอกว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนคุณ ตอนนี้มันอาจจะไม่มากเท่าคุณนะคุณรัช แต่ผมก็มั่นใจว่ามันมากพอที่จะทำให้ผมมองคุณแค่คนเดียวในตอนนี้” สิตางศุ์ตัดสินใจพูดออกไปทั้งหมด สิ่งที่เขาคิดตอนนี้ มันพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากคู่นั้น





รัชพลมองตรงไปยังคนตรงหน้า คำพูดนั้นของสิตางศุ์ทำให้หัวใจที่เกือบดับวูบรู้สึกเหมือนมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าเขาฟังไม่ผิด สิตางศุ์กำลังจะบอกว่าสิตางศุ์เองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขาอย่างนั้นเหรอ





“ผมไม่รู้จะพูดยังไง ผมไม่เคยมีความรักที่จริงใจจากใคร แต่กับคุณผมสัมผัสถึงความจริงใจจากคุณได้ มันยากมากที่จะต้องรับใครเข้ามาในหัวใจที่ถูกปิดกั้นเรื่องความรักมาตั้งแต่เด็ก ความรักที่ผมไม่เคยได้รับจากใครเลย แม้กระทั่งผู้ให้กำเนิดก็ตาม”





น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น ไม่นานมันก็ไหลอาบทั้งสองข้างของสิตางศุ์ ร่างนั้นทรุดลงกับพื้น เสียงสะอื้นนั้นทำให้รัชพลต้องเข้าไปหาสิตางศุ์ที่ร้องไห้ไม่หยุด น้ำตาของสิตางศุ์ทำให้ใจของรัชพลอ่อนยวบ คำพูดที่ออกมาจากปากของสิตางศุ์เป็นเรื่องใหม่ที่เขาเพิ่งจะเคยรับรู้ และนี่อาจจะเป็นเรื่องที่สิตางศุ์เก็บไว้ในใจมาคนเดียวตลอด





รัชพลโอบกอดร่างเล็กนั้นไว้สิตางศุ์โผเข้าหาพร้อมกับสะอื้นไห้กับอกคนตรงหน้า มือทั้งสองข้างกำเสื้อของรัชพลไว้แน่น อยู่อย่างนั้นนานหลายนาที










เสียงร้องไห้นั้นหยุดลงไปนานแล้ว มีเพียงแต่เสียงสะอื้นและคราบน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ สิตางศุ์ในสภาพที่ไม่สู้ดีนักกำลังนั่งอยู่บนที่นอนขนาดไม่ใหญ่มากของรัชพลหลังจากที่เจ้าของไร่พาสิตางศุ์นั้นมานั่งสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนี้ รัชพลเพิ่งเคยเห็นสิตางศุ์ร้องไห้ เพิ่งเคยเห็นอีกคนระบายความอัดอั้นในใจออกมา





“ดีขึ้นมั้ยครับ ปวดหัวรึเปล่า” รัชพลถามพร้อมกับยื่นน้ำให้ ซึ่งมีติดตู้ไว้ตลอดโดยป้าจันอีกนั่นแหละจะเป็นคนเอามาไว้ให้ทุกวัน





“โอเคขึ้นแล้วครับ” สิตางศุ์ตอบ แอบรู้สึกแย่เล็กน้อยที่ตัวเองต้องมาร้องไห้ต่อหน้ารัชพลแบบนี้ ทั้งๆที่สถานการณ์ก่อนหน้าของเขาและรัชพลก็ไม่ได้ดีนัก





รัชพลเอื้อมมือไปปาดน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนแก้มนั้นของสิตางศุ์ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะก้มลงจูบหน้าผากนั้นอย่างแผ่วเบา





สิตางศุ์ช้อนตามอง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น แสงอาทิตย์กำลังทอประกายในใจที่มืดมนมาตลอดยี่สิบกว่าปี รัชพลคนนี้คือความอบอุ่นของสิตางศุ์





“ผมพร้อมจะรับฟังคุณเสมอนะคุณสิตางศุ์” รัชพลมองหน้าอีกคน พูดเป็นนัยๆเพื่อให้สิตางศุ์รู้ว่าควรระบายสิ่งที่มีในใจนั้นออกมาให้คนอื่นรับรู้บ้าง





สิตางศุ์กระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาที่ยังค้างอยู่ให้ออกไปก่อนจะเอนตัวลงซบกับอกกว้างนั้น บางทีเขาอาจจะลองเป็นสิตางศุ์คนอื่นที่ไม่ใช่สิตางศุ์คนที่คอยเก็บงำเรื่องราวของตัวเองอยู่แบบนี้ บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่คนอื่นควรจะได้รับรู้มันซักที





“พ่อแม่ของผมเค้าแยกทางกันตั้งแต่ผมยังเด็ก แม่ให้เหตุผลว่าพ่อไม่เคยสนใจดูแลเธอและลูกเลยสักครั้ง วันๆเอาแต่ทำงาน และบอกกับผมว่าพ่อของผมมีคนอื่น เธอจะเอาผมไปอยู่ด้วย พ่อไม่ยอมและให้เหตุผลว่าเธอมีชู้ เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องบาดหมางกัน






ผมอยู่ในความดูแลของย่ามาตลอด คุณหญิงพิมล ศิรินทรา ผู้หญิงที่ทุกคนต่างยอมรับว่าเก่งและฉลาด เธอดูแลผมทุกอย่าง ไม่แปลกใจที่เธอจะรักผมมากที่สุด แต่เธอก็ไม่ว่างพอที่จะมาคอยให้ความรักกับเด็กขาดความอบอุ่นอย่างผมหรอก” พูดตรงนี้สิตางศุ์ก็หยุดไป







รัชพลโอบกอดร่างนั้นไว้แน่น ปัญหาที่สิตางศุ์เจอนั้นทำให้รัชพลแปลกใจไม่น้อย ด้วยปัญหาทางครอบครัวแบบนี้ใช่ว่ารัชพลเองก็ไม่เคยเจอ เพราะยายของเขาและบุรินทร์บิดาก็เคยทะเลาะกันเพื่อแย่งภุมรินไปดูแลมาแล้ว แต่มันก็ไม่หนักหนาเท่ากับสิ่งที่สิตางศุ์ต้องเผชิญ





“เรื่องมันเกิดก็ตอนที่แม่ฟ้องศาล บอกว่าพ่อนอกใจและไม่เอาใจใส่ เธอชนะคดีโดยที่พ่อและย่าทำอะไรไม่ได้ คำกล่าวอ้างของพ่อที่บอกว่าแม่เองเป็นคนนอกใจนั้นมันไม่เพียงพอต่อการชนะคดี ไม่รู้ว่าแม่ไปหาหลักฐานมาจากไหน รูปภาพที่พ่อกำลังยืนจูบกับผู้หญิงคนอื่น





ตอนนั้นผมยังไม่ขึ้นมัธยมด้วยซ้ำ คุณย่าโมโหมาก เธอยื้อผมไว้ จนผมเรียนมหาลัยนั่นแหละ ผมถึงออกมาอยู่เอง แปลกใช่มั้ยล่ะว่าทำไมคุณย่าผมถึงทำได้ ความจริงแล้วแม่ของผมก็ไม่ได้ต้องการจะเอาผมไปอยู่ด้วยจริงๆหรอก





เธอแค่ต้องการอยากชนะพ่อก็เท่านั้น เมื่อเธอชนะเธอก็ไม่สนใจผม ผมเหมือนของเล่นที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเอาชนะของทั้งสองคน มันน่าเจ็บปวดนะสำหรับเด็กคนหนึ่ง...” สิตางศุ์เว้นระยะ





“และเมื่อหลายเดือนก่อนแม่ของผมมาบอกว่าต้องการให้ผมไปอยู่ด้วย เธอจะไปอังกฤษ เธอใช้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูผมเพื่อที่จะพาผมไปอยู่ที่นั่น จริงๆแล้วก็แค่อยากเอาชนะคุณย่าก็เท่านั้น เพราะทั้งสองคนนี้มีเรื่องครางแคลงใจกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมไม่อยากไป คุณย่าก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือผมไม่อยากไปอยู่ร่วมบ้านกับผู้ชายคนนั้น คนรักใหม่ของแม่” ท้ายประโยคนั้นแผ่วลง





“เขาชื่ออาทัศ อาทัศอ่อนกว่าแม่สิบปี อาทัศเป็นผู้ชายคนล่าสุดที่แม่คบ แต่แม่ผมเองก็แอบมีคนอื่น ผมรู้ ผมรู้ทุกอย่างตั้งแต่เด็กว่าแม่มีคนใหม่เยอะแค่ไหน อย่างที่พ่อเคยพูด ตอนเด็กๆอาทัศเขาก็รักผมดี เหมือนกับผมเป็นลูกคนหนึ่ง ผมไม่ค่อยได้เจอแม่ แต่ผมเจออาทัศบ่อยมาก บ่อยซะจนผมเองก็ไม่เข้าใจ





เมื่อผมโตขึ้นเขาบอกผมว่าเขาสนใจผม และบอกว่าจะเลิกกับแม่ แล้วมารักกับ ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะทำ ผมปฏิเสธ และไม่กล้าบอกแม่เพราะผมรู้ว่าแม่รักอาทัศมากแค่ไหน แต่นั่นมันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้อาทัศเลิกสนใจผม เขาพยายามมาตื้อและวนเวียนใกล้ๆผมตลอด และนั่นก็ทำให้ผมมีปัญหากับแม่ จนเมื่อสองเดือนก่อน ก่อนที่ผมจะมาที่นี่นั่นแหละ อาทัศพยายามจะข่มขืน...”






สิ้นประโยคนั้นรัชพลก็รู้สึกเหมือนไฟสุมเข้ามาในอก เขากอดสิตางศุ์แน่น มันเป็นเรื่องที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงในสังคม คนคนหนึ่งต้องอยู่อย่างเคว้งคว้างมาคนเดียวตลอดได้ยังไง และยังเจอปัญหามากมายที่ยากจะรับมือไหวแบบนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่หล่อหลอมสิตางศุ์ให้เป็นคนแบบนี้






ในตอนแรกนั้นเขาคิดว่าสิตางศุ์จะเหมือนคนเงินทั่วไปที่ใช้ชีวิตด้วยเงินที่ไม่มีทางใช้หมดและหลงระเริงไปกับแสงสี ทำในสิ่งที่คนทั่วไปนั้นไม่เป็น แต่ความจริงแล้วกลับตรงข้าม แม้จะมีผู้คนมากมายอยู่รอบตัว มีเงินทองมากแค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับความสุขเล็กๆที่สิตางศุ์ไม่เคยสัมผัส





“ผมขอโทษ ที่เข้าใจคุณผิดมาตลอด” รัชพลใช้เขียนวาดเอาเอวบางนั้นเข้ามาแนบกับตัวเขา สิตางศุ์วางแก้วน้ำลงก่อนจะสอดมือเข้าไปกอดร่างนั้นของรัชพล ซบหน้าลงกับความอบอุ่นที่เขาไม่เคยได้พบเจอ





“คุณรู้มั้ยวันนั้นเกิดอะไรขึ้น” สิตางศุ์เงยหน้าขึ้นสบตากับรัชพล





“แม่เข้ามาเจอผมอยู่กับอาทัศด้วยสภาพที่ไม่น่าดูนัก ผมเกือบถูกทำร้ายจากผู้ชายคนนั้น สิ่งที่ผมคิดคือแม่ต้องเลือกผม แต่แม่กลับตรงเข้ามาที่ผมแล้วตบหน้า มันเป็นครั้งแรกที่ผมถูกปฏิบัติแบบนั้น และจากคนที่ทำให้ผมเกิดมา ผมพยายามบอกแม่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่แม่คิด แต่แม่บอกว่าผมโกหก เธอเข้าข้างผู้ชายคนนั้น...” พูดมาถึงตรงนี้น้ำตาของสิตางศุ์ก็ไหลออกมาอีกรอบ





“ผมเคยคิดนะคุณรัช ว่าถ้าเกิดวันหนึ่งผมมีปัญหากับใคร พ่อและแม่ต้องเข้าใจผมและเข้าข้างผม แต่สิ่งที่แม่ทำวันนั้นมันกลับตรงข้าม เธอเชื่อคนอื่นมากกว่า แต่มองว่าลูกอย่างผมเป็นคนโกหก ใจของสิตางศุ์คนนี้มันถูกย่ำยีจากผู้หญิงคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมออกมาจากที่นั่นด้วยน้ำตา ผมไม่กล้าจะบอกพ่อ ถึงอยากจะบอกพ่อก็ไม่รับฟังผมอยู่ดี ท่านไม่มีเวลามาสนใจผมหรอก”





“แล้วย่าของคุณล่ะ ถ้าคุณบอกคุณย่าของคุณผมเชื่อว่าท่านต้องช่วยได้” รัชพลเสนอความเห็น จากที่ฟังสิตางศุ์เล่ามานั้น คุณหญิงพิมลน่าจะเป็นคนที่ช่วยเหลือสิตางศุ์ได้ดีที่สุด





“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าบอกคุณย่าเธอต้องโมโหมากและนั่นจะทำให้แม่ของผมลำบาก ใครๆก็รู้จักคุณหญิงพิมล เธอมีอำนาจมากแค่ไหนใครก็รู้ มันไม่ยากที่จะทำให้แม่ของผมอยู่ในประเทศนี้ไม่ได้ หรืออาจจะหายไปจากโลกนี้เลยยังทำได้ แต่ที่คุณย่าไม่ทำและยื้อไว้มานานก็เพราะยังเห็นว่าเป็นแม่ของผมและแม่ของผมเธอก็ยังไม่ทำอะไรมากไปกว่าการเอาชนะ ถึงสิทธิ์การเลี้ยงดูจะอยู่กับเธอ






แต่ตลอดเวลาย่าของผมก็ยังดูแลผมอยู่ แต่มาเกิดเรื่องแบบนี้ผมไม่มั่นใจว่าเธอยังให้โอกาสแม่ของผมมั้ย ผมพึ่งใครไม่ได้ คืนนั้นผมจะหนีกลับบ้านก็กลัวคุณย่ารู้ จะบอกภูเพื่อนของผมคุณย่าก็ต้องรู้อยู่ดี และผมเองก็เหนื่อยกับปัญหาพวกนั้น เลยโทรหาริน รุ่นน้องคนเดียวที่ผมรู้จัก”





“คืนนั้นผมเป็นคนรับโทรศัพท์คุณ” รัชพลพูด คืนฝนตกคืนนั้นเขาเป็นคนรับโทรศัพท์ ถ้าจำไม่ผิดสิตางศุ์โทรมาร้องไห้แล้ววางสายไป แค่นั้นแล้ววันต่อมาก็โผล่มาที่ไร่น้ำรินด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนัก






“นั่นแหละ ผมคิดว่าโทรผิด เพราะมันใช่เสียงริน เลยวางสายไป ผมแค่อยากอยู่คนเดียวสักพัก มันน่าตลกกับคนอายุตั้งยี่สิบกว่าแต่หนีออกจากบ้านมาเหมือนเด็กๆ ผมมาที่ไร่น้ำริน ผมแค่อยากหายไปจากชีวิตทุกคน ผมรู้ว่าไม่มีใครสนใจชีวิตที่ทุกคนทิ้งขว้างอย่างผมหรอก และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มีเพียงคุณย่าและเพื่อนเพียงคนเดียวของผมเท่านั้นที่คิดจะติดตาม






แม่ของผมเธอคงตัดผมทิ้งหลังจากเหตุการณ์วันนั้น และพ่อ เขาคงไม่ว่างจะสนใจลูกของเค้าหรอก เพราะฉะนั้นไร่น้ำรินคือที่เดียวที่ผมจะพึ่งได้ ผมรู้แค่ว่าที่นี่อยู่ที่ไหน แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กว่าจะหาทางมาได้ก็ดึกแล้ว และก็มาเจอคุณเอาปืนจ่อ เป็นความรู้สึกแรกที่แย่ชะมัด” สิตางศุ์หยุดร้องไห้แล้ว และหันมายกยิ้มอย่างนึกขำที่รัชพลทำแบบนั้น





“ช่วงนั้นมีคนมาทำลับๆล่อๆที่ไร่ ผมก็คิดว่าคุณเป็นคนร้ายน่ะสิ” รัชพลนึกยากจะต่อว่าตัวเองเสียจริงที่วันนั้นทำแบบนั้นกับสิตางศุ์ แต่เป็นใครใครก็คิดทั้งนั้นว่าเป็นคนร้าย





“ผมไม่ได้ว่าคุณซักหน่อยคุณรัช ผมเข้าใจเพราะผมเองก็ไม่ได้คุยกับภุมรินว่าจะมา ไม่แปลกที่คุณจะเข้าใจผิด”





“แต่ถ้าวันนั้นผมรู้ว่าเป็นคุณ ผมจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน เพราะสิตางศุ์ในตอนนั้นคือหัวใจของรัชพลในตอนนี้” รัชพลเลื่อนมือมาจับที่สองข้างแก้มของสิตางศุ์ จ้องมองนัยน์ตาที่ไหวระริกด้วยคราบน้ำตานั้น สิตางศุ์น้ำตาเอ่อขึ้นมาอีกรอบ เขารู้สึกดีที่มีรัชพลอยู่ในตอนนี้





“คุณรัช คุณรู้มั้ยว่าคุณให้ความรักที่จริงใจ ความรักที่ผมไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิต ผมรู้สึกดีกับคุณ มันอาจจะเป็นเพราะใจช้ำๆที่ได้รับการดูแลหรือเพราะอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแบบเดียวกับคุณ มันยากที่จะยอมรับเพราะปัญหาที่ผมมีอยู่มันก็ยากจะแก้แล้ว ผมไม่อยากให้คุณต้องเข้ามาอยู่ในวงเวียนแบบนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหน ผมอาจจะต้องไปต่างประเทศกับแม่”





“ไม่ ผมไม่มีทางให้คุณไปแน่ เพราะถ้าไปคุณก็ต้องเจอไอ้เหี้ยนั่น ฟังนะสิตางศุ์ ต่อให้โลกนี้ไม่มีใครรักคุณ คุณยังมีผม ยังมีริน ยังมีทุกคนในไร่น้ำริน การที่คุณจะอยู่ที่นี่กับผมนานแค่ไหนหรือตลอดไปมันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล ผมยินดีให้คุณอยู่ที่นี่ ปัญหาที่คุณมีมันไม่ยากถ้าจะแก้ ตอนนี้คุณโตแล้ว คุณมีสิทธิ์เลือกชีวิตของตัวคุณเอง”





รัชพลใช้มือเช็ดน้ำตาที่ไหลรินลงมาบนแก้มนั้น สิตางศุ์ยิ่งสะอื้นไห้มากขึ้นกว่าเดิม ร่างบางก้มหน้าลง ไม่เคยเลย ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมีใครคอยรับฟังและคอยอยู่เคียงข้างในวันที่เขาเกิดปัญหา มันเป็นความรู้สึกที่สิตางศุ์ไม่เคยสัมผัส ไม่เคยเลยสักครั้ง รัชพลคือคนแรกในเขามีในเวลาที่อ่อนแอ





“ผมรักคนนะสิตางศุ์ รัชพลคนนี้รักสิตางศุ์เข้าแล้ว ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณต้องลำบากและไม่สบายใจอย่างนี้แน่นอน ผมสัญญา หยุดร้องไห้แล้วมองหน้าผม” รัชพลจับใบหน้านั้นให้เงยขึ้น






“ขอบคุณนะคุณรัชพล ขอบคุณ” นั่นคือสิ่งเดียวที่สิตางศุ์จะพูดได้ในตอนนี้เพราะมันคือสิ่งเดียวในใจของเขาที่ต้องการจะบอกคนตรงหน้าในเวลานี้






รัชพลยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผมมนนั้น สิตางศุ์หลับตาลงรับสัมผัสที่แผ่วเบาด้วยหัวใจที่ชุ่มฉ่ำ รัชพลผละออกก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าแทน สัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับทำให้สิตางศุ์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ความรู้สึกตามรัชพลที่ให้นำพาเขาไป






อาจจะเป็นจูบแรกในชีวิตที่สิตางศุ์ไม่เคยคิดว่าจะมี เขาไม่เคยคิดเรื่องการมีคนรัก ไม่เคยคิดเรื่องการมีคนอื่นทั้งๆที่เขาควรจะเป็นคนที่โหยหาความรัก เขาเพียงแค่ไม่อยากให้ใครต้องมีเผชิญกับปัญหาที่เขาเจออยู่ แต่กับรัชพลไม่ใช่ รัชพลทะลายกำแพงที่เขาตั้งไว้ กำแพงที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครผ่านเข้ามาได้






...ตอนนี้หัวใจของสิตางศุ์คนนี้เปิดรับรัชพลเข้ามาอย่างสมบูรณ์แล้ว







*************************************************************************************





ใครอยากรู้เรื่องสิตางศุ์ได้รู้แล้วนะจ้ะ ฮี่ๆ ตอนนี้น่าจะยาวที่สุด ถ้าคำนวณไม่ผิดจากการเขียนมา อีกนิด อีกนิดจะเข้าสู้จุดเปลี่ยนแล้ว ความสัมพันธ์ของพี่รัชกับสิตางศุ์จะเป็นยังไงต่อไปต้องติดตามนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :mew1:

ปล. จากเรื่องที่คนอ่านทักท้วงมาเรื่องกฎหมาย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะตอบโจทย์ได้หมดมั้ย เราก็ไม่เป๊ะเรื่องนี้ค่ะ หากคนอ่านมีข้อแนะนำเพิ่มเติมเรายินดีจะแก้ไขนะคะ เพราะเราเองก็ไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องทางกฎหมายเท่าไหร่ แหะๆ  :katai5: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-03-2016 21:08:12
 :impress2:



แอร้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-03-2016 21:16:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 09-03-2016 21:18:33
เอริ่ม หนูตางอย่าไปยอมอิแม่มันนะ หนู20กว่าแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่ละดูแลตัวเองได้แล้วแหละ
หนูตางหนูมาอยู่กับรัชพลไปเล้ย :laugh: :laugh:


เกลียดอิแม่  :m31: :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 09-03-2016 23:20:51
สาปส่งอิแม่ และอิผัวแม่ :z3:

สิตางศุ์สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-03-2016 23:48:06
สิตางค์สู้ๆ 
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่15 09/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-03-2016 06:13:36
สู้ๆนะตาง
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 10-03-2016 20:13:25
บทที่ 16





 
ตอนนี้เป็นเวลาดึกเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว สิตางศุ์และรัชพลยังคงอยู่ในโรงบ่ม หลังจากบอกรักกันผ่านจูบที่แสนหวานนั้นแล้วทั้งสองคนก็นั่งกันอยู่คนละมุม ไม่มีคำพูด ไม่มีอะไรไปมากกว่าการที่สิตางศุ์กำลังนั่งหน้าแดงสลับกับร้อนๆหนาวๆตลอดเวลา เกิดมาเพิ่งจะเคยจูบกับใครซักคน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกสำหรับเขา สิตางศุ์ทำตัวไม่ถูก มือไม้ไม่รู้จะไว้ไหน และที่สำคัญเขาไม่รู้จะพูดอะไร





“เอ่อ... มันดึกแล้ว กลับกันดีมั้ย” รัชพลเป็นคนเริ่มประโยคก่อน เขาหันมามองสิตางศุ์ที่นั่งนิ่ง





“อะ...อื้ม” ตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปก่อนรัชพล เขายังไม่อยากสบตากับรัชพลตอนนี้ เขากำลังรู้สึกเขิน ถ้าเกิดมองหน้ารัชพลตอนนี้เขาคงทำตัวไม่ถูกไปมากกว่านี้แน่ๆ





“รอผมด้วยสิคุณสิตางศุ์” รัชพลรีบเดินมาข้างๆ มือหนานั้นถือวิสาสะจับมือของสิตางศุ์ไว้แน่น





“คุณรัช” สิตางศุ์ตกใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองรัชพลที่ยิ้มแป้น ให้ตายเถอะ เขาจะทำยังไงดี ควรเริ่มต้นคุยกับรัชพลยังไงดี





“คุณเขินผมเหรอ” รัชพลยิ้มกริ่มทำเอาสิตางศุ์มองค้อนแทบจะไม่ทัน รู้แล้วยังจะมาพูดอีก





“เปล่าซักหน่อย” สิตางศุ์ตอบ แต่ในใจนั้นกลับตรงข้ามและรัชพลก็เหมือนจะรู้ดีเสียด้วย





“หึ... ไม่ต้องเขินผมหรอกสิตางศุ์” รัชพลเดินมาหยุดตรงหน้าของสิตางศุ์แล้วจับมือทั้งสองข้างนั้นขึ้นมา เขาก้มมองมือนั้นแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ “ผมก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่ตอนนี้ทั้งคุณและผมเองก็มีความรู้สึกดีๆที่ไม่ต่างกัน จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมอยากจะมีคุณเป็นคนรัก” ประโยคสุดท้ายเขาเงยหน้าขึ้นสบตากับสิตางศุ์





สิตางศุ์นิ่งงัน ใบหน้าขึ้นสีกว่าเดิม เขากำลังถูกขอเป็นแฟนจากรัชพลอย่างนั้นเหรอ เป็นคนรักก็ต้องเป็นแฟนกัน จากผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขาเพิ่งรู้จักได้ยังไม่ถึงสองเดือนเต็มด้วยซ้ำ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขาเองก็อยากจะมีรัชพลเป็นแฟนไม่ต่างกัน






“อย่านิ่งสิครับ ผมไม่อยากโดนปฏิเสธเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว ผมรู้ว่าคุณมีเรื่องต้องคิดมาก แต่ผมอยากให้คุณตอบในฐานะสิตางศุ์ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีความทรงจำแย่ๆ ไม่มีเรื่องราวที่ต้องกังวลใจ มีแค่สิตางศุ์ตรงนี้ และรัชพลคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ ใช้ความใจของคุณตอบคำถามของผม”





คำพูดที่จริงจังนั้นทำให้สิตางศุ์ครุ่นคิด เขาหลับตาลงช้าๆ เพื่อทิ้งความเป็นสิตางศุ์ที่เคยมี ก่อนจะลืมตาขึ้นก็เจอรัชพลอยู่ตรงหน้า รัชพลคนเดิมที่ยังยืนอยู่เสมอเมื่อเขาไม่มีใคร





“ผมรู้สึกดีกับคุณแต่ผมไม่มั่นใจว่ามันเรียกว่ารักได้รึเปล่า เพราะผมไม่เคยสัมผัสกับคำนั้น ผมแค่รู้สึกดีที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ คุณเหมือนอาทิตย์ในยามเช้า เหมือนแสงจันทร์ในค่ำคืนที่มืดมิดนั่นก็คือใจของผม สิตางศุ์คนนี้ไม่เคยมองว่าโลกนี้สดใส นั่นก็ก่อนที่จะได้มาอยู่ที่นี่ ผมเคยไม่ตอบรับความรู้สึกของคุณนั่นเป็นเพราะตัวของผมเองที่ยังคิดว่าไม่ดีพอ มันไม่ใช่เพราะคุณ ผมไม่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเป็นยังไง แต่ถ้าถามใจของสิตางศุ์ มันยินดีที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกับรัชพล” สิตางศุ์ตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น





หัวใจที่เคยถูกทำร้ายของรัชพลนั้นเหมือนถูกรักษาให้หายดีอีกครั้งจากคนคนเดียวกัน ร่างสูงโผเข้ากอดคนตัวเล็กแน่นจนสิตางศุ์แนบชิดไปกับอกนั้น สิตางศุ์ซบหน้าลงกับไหล่กว้างและหลับตาลง ไม่มีครั้งไหนที่หัวใจของเขาได้ปลดปล่อยเท่าครั้งนี้เลย     






 “ขอบคุณนะสิตางศุ์ ขอบคุณ”











อีกด้านหนึ่งของไร่น้ำริน ที่บ้านรักษ์นที ภุมรินและป้าจันยังคงไม่นอน เมื่อสิตางศุ์ไปตามรัชพลนานขนาดนั้นแล้วยังไม่กลับมา ภุมรินเป็นห่วงทั้งสิตางศุ์และพี่ชายตัวเอง ไม่รู้ว่าจะคุยกันรู้เรื่องไหม รัชพลถึงจะเป็นคนไม่อะไรแต่เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว รัชพลจะเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องนั้นๆเสมอ และเมื่อรัชพลได้อารมณ์ร้อนขึ้น เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือนทุกคน! เรื่องนี้คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็กอย่างภุมริน





“ไปคุยกันยังไงเนี่ย จนดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับ อย่างน้อยกลับมาแค่พี่ตางก็ยังดี” ภุมรินบ่นเมื่อยังไม่เห็นใครโผล่เข้ามาในบ้านซักคน





“รออีกหน่อยเถอะค่ะ ถ้าดึกกว่านี้เดี๋ยวเราค่อยไปนอน คุณรัชคงไม่ทำอะไรคุณสิตางศุ์หรอกค่ะ” ป้าจันพูด เธอเองก็เป็นกังวลไม่ต่างกัน คุณรัชของเธอนั้นน้อยครั้งนักจะเป็นแบบนี้






“หวังว่าพี่รัชคงไม่เลือดขึ้นหน้าต่อยพี่ตางของรินหรอกนะ”





“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณริน คุณรัชเธอชอบคุณสิตางศุ์ไม่ใช่เหรอคะ คงไม่ทำร้ายหรอกค่ะ”





“ว่าไปนั่นป้าจัน ขนาดพี่ตะวันที่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งนาน พี่รัชยังต่อยหยอดน้ำข้าวต้มตั้งหลายวัน” ยิ่งพูดภุมรินก็ยิ่งคิด ขนาดพี่ตะวันเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยยังต่อยคว่ำมาแล้ว พี่รัชเวลาโมโหไว้ใจได้ที่ไหน





“ก็ไอ้ตะวันมันแอบพาน้องพี่ไปนอนกกไง โดนแค่นั้นยังน้อยไปเลย” เสียงที่ดังมาจากประตูทำให้ภุมรินหันขวับ เห็นรัชพลเดินมาพร้อมกับสิตางศุ์ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะยิ้มแย้ม ซึ่งแตกต่างจากตอนที่ออกไป ไปคุยกันอิท่าไหน





“พี่รัช คุยกันเสร็จแล้วเหรอ พี่ตางพี่รัชทำอะไรพี่บ้าง” ภุมรินเดินเข้าไปหาสิตางศุ์ที่ก้มหน้างุด สิตางศุ์หลบตาวูบกับคำถามนั้น รัชพลทำอะไรเข้าบ้างน่ะเหรอ จูบนี่นับด้วยรึเปล่า เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ





“พี่ไม่ทำอะไรคุณสิตางศุ์หรอก คุยกันเข้าใจแล้ว เรานั่นแหละทำไมยังไม่ไปนอน ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ไปเลย ขึ้นไปนอนเดี๋ยวนี้ ป้าจันด้วยนะครับ” รัชพลรีบไล่ ก่อนที่ภุมรินจะซักไซ้ไปมากกว่านี้






“อะไรกันเนี่ยพี่รัช มาถึงก็ไล่ ไปนอนก็ได้ ส่วนพี่ก็เลิกงอนพี่ตางได้แล้ว ตาแกแช่โรงบ่มเอ้ย” พูดจบภุมรินก็วิ่งขึ้นไปข้างบนทิ้งให้รัชพลชักสีหน้าอยู่ข้างล่าง ไอ้ตัวเล็ก เดี๋ยวจะโดน






“ป้าไม่เกี่ยวนะคะ ป้าไปนอนแล้ว คนแก่นอนดึกๆมันไม่ดีค่ะ” พูดจบป้าจันก็ชิ่งหนีไปอีกคน





“จริงๆเลยคนบ้านนี้” รัชพลบ่นอุบ แล้วจึงค่อยๆหันมาหาสิตางศุ์ที่ยืนนิ่งอยู่





“เราเองก็ไปนอนกันเถอะ ดึกมากแล้ว” ระดับเสียงที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้สิตางศุ์เริ่มใจเต้นอีกครั้ง ทีพูดกับน้องใช้เสียงเกือบตะคอก ทีกับเขากลับทำเสียงเล็กเสียงน้อย





“ครับ” สิตางศุ์รู้สึกว่าหลังจากที่ตัวเองพูดปัญหาชีวิตเสียยืดยาวมาตั้งนาน มาถึงตอนนี้ตัวเองกลับพูดได้น้อยลง สาเหตุสำคัญก็มาจากคนตรงหน้านี่แหละ





“ยังไม่เลิกเขินผมอีกเหรอสิตางศุ์ ผมเป็นแฟนคุณแล้วนะ ไม่ต้องเขินแล้ว” รัชพลว่า สิตางศุ์ค้อนใส่เล็กน้อย ชอบย้ำอยู่นั่น เขารู้แล้วว่าตอนนี้สถานะของเขาและรัชพลคืออะไร





“ถ้าจะให้ผมเลิกเขินคุณก็เลิกพูดซักทีสิคุณรัช ผมไปอาบน้ำนอนดีกว่า เบื่อจะคุยแล้ว” ความจริงนั้นสิตางศุ์อยากหนีจากสถานการณ์อันอบอวลไปด้วยรัชพลในเวลานี้ต่างหาก หันไปทางไหนหน้าของรัชพลก็ลอยคว้างไปหมด แถมตัวเป็นยังมาอยู่ตรงหน้าอีก





“ถ้าไม่รังเกียจก็ไปนอนห้องผมได้นะคุณสิตางศุ์” รัชพลตะโกนตามหลังอีกคนอย่างอารมณ์ดี





วันนี้แม้จะหัวเสียกับเรื่องอื่นไปบ้าง แต่ก็จบวันได้อย่างมีความสุขที่สุด ภุมรินที่บ่นว่าเขาไม่มีแฟนซักที ตอนนี้เขากำลังจะมีพี่สะใภ้ให้ภุมรินแล้ว











เช้าวันใหม่ของไร่น้ำริน วันนี้ทุกคนทำงานตามปกติ รัชพลกับสิตางศุ์เองก็ไปทำงานด้วย วันนี้เลือกที่จะไปสำนักงานแทนที่จะไปโรงบ่ม สิตางศุ์จัดการบัญชีส่วนของโรจน์ทั้งหมดและรวมถึงส่วนของรัชพลตามที่เคยทำด้วย เพราะฉะนั้นงานของเขาจึงเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย





รัชพลกลับเข้ามาในสำนักงานหลังจากออกไปข้องนอกกับคนงานเกือบทั้งเช้า เขาตั้งใจจะมาทานข้าวที่นี่กับสิตางศุ์แทนที่จะกินกับคนงานที่ท้ายไร่ เพราะตรงนั้นมีการเพิ่มรั้วหนามให้มากขึ้นกว่าเดิม นั่นคืองานที่รัชพลต้องลงไปทำในวันนี้





เมื่อมาถึงช่อดอกไม้เล็กๆก็วางตรงน้าของสิตางศุ์ มันเป็นดอกไม้ที่แตกต่างจากคราวที่แล้ว หลังจากเอาดอกไม้ประหลาดที่รัชพลรู้จักชื่อมาให้สิตางศุ์ก็โดนปฏิเสธมารู้ทีหลังว่าดอกหน้าวัว รัชพลนั้นหน้าแตกไม่น้อย วันนี้เลยเลือกแต่ดอกสวยๆ แถมยังถามชื่อดอกไม้จากคนงานมาเรียบร้อย ไม่มีพลาดเหมือนคราวก่อนแน่นอน





“ดอกปีบ?” สิตางศุ์ถาม ดอกปีบนั้นบ้านของคุณย่าปลูกอยู่สองสามต้น มันออกเกือบทั้งปี ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว





“ครับ ดอกปีบ มันขึ้นใกล้ๆน้ำตกน่ะ เลยเก็บมาให้ ดอกมันเล็กเลยมัดรวมๆกันมาให้ ผมเห็นมันหอมดี คุณน่าจะชอบ” รัชพลว่า รอบนี้เขาพยายามที่จะรอบคอบอย่างเต็มที่เพื่อจะได้ไม่ต้องผิดพลาดอีกหน แต่สิตางศุ์ก็ยังคงถอนหายใจเหมือนระอาเขาอยู่ นั่นทำให้รัชพลใจแป้ว





“นี่คุณรัช คุณไม่ต้องพยายามหาดอกไม้หรืออะไรมาให้ผมหรอก ทุกคนไม่ได้ชอบดอกไม้หรอกนะ โดยเฉพาะผู้ชายอย่างผม แค่ความจริงใจของคุณเท่านั้นก็พอแล้ว” สิตางศุ์ยืนขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้ารัชพล เขาจ้องมาดวงตาของรัชพลที่ตกลู่เหมือนเจ้าตูบโดนดุ อะไรทำให้รัชพลคิดว่าเขาชอบดอกไม้กัน





“ก็เห็นไอ้ก้องมันบอกว่าจะจีบสาวต้องใช้ดอกไม้” รัชพลพูดตามความจริง ไอ้ก้องเป็นคนบอกเขาเอง มันใช้จีบเด็กที่โรงเรียนประจำ





“คุณไปฟังอะไรก้องมันมากคุณรัช ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่ชอบอะไรหยิบย่อยแบบนี้หรอก เฮ้อ... ไปทานข้าวกันดีกว่าครับ” สิตางศุ์ตัดบทสนทนาก่อนจะเดินนำรัชพลออกไปข้างนอกที่ตอนนี้คนงานคงตั้งวงเพื่อทานข้าวกลางวันกันแล้ว






รัชพลเดินตามไปอย่างคอตกๆ เมื่อไปถึงก็เจอคนงานกำลังล้างไม้ล้างมือเพื่อทานอาหารกลางวันกันแล้ว ก้องที่เห็นทั้งสองคนก่อนเลยทักขึ้น





“อ้าว นายมาแล้ว มาเลยครับ กำลังจะกินกันพอดีเลย”





ก้องเว้นที่ให้รัชพลและสิตางศุ์ ทั้งสองคนเลยเข้าไปนั่งร่วมด้วย เป็นอีกหนึ่งวันที่สิตางศุ์ได้ทานข้าวร่วมกับคนที่สำนักงาน





“วันนี้เห็นนายเอาดอกไม้ไปให้คุณสิตางศุ์ด้วย ตกลงเป็นแฟนกันแล้วเหรอครับ” ก้องเอ่ยแซว ตั้งแต่มีเรื่องเมื่อวานเขาก็นึกว่าทั้งสองคนจะไม่มองหน้ากันเสียอีก แต่วันนี้เห็นรัชพลยิ้มทั้งวัน แถมหอบดอกปีบไปให้สิตางศุ์อีก ถ้าให้ไอ้ก้องเดา คงจบลงได้ดีเป็นแน่





สิตางศุ์ชะงักเล็กน้อยและไม่ได้ตอบอะไรไป หน้านวลขึ้นสีแดงจางๆ ผิดกับรัชพลที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่ก็ไม่ตอบก้องไปเช่นเดียวกัน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคน ปกติแล้วนั้นรัชพลจะต้องว่าก้องหรือไม่ก็ต้องด่าไปแล้ว





“ถามมากน่ามึง กินข้าวไปเลย” เป็นอันว่ากลางวันนั้นก็จบลงด้วยรอยยิ้มมีเลศนัยของก้อง





เอาแล้วโว้ย คราวนี้มีหวังสาวๆอกหักทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด พ่อเลี้ยงรัชแห่งไร่น้ำรินมีแฟนกับเขาแล้ว
   











เมื่อเลิกงานสิตางศุ์กับรัชพลก็กลับมาที่บ้าน บ้านรักษ์นทียังปกติผิดที่มันไม่ปกติเพราะตอนนี้ภุมรินน้องชายของรัชพลกำลังยืนกอดกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ซึ่งคนนั้นไม่ใช่ตะวันอย่างแน่นอน ผมที่เซตอย่างดีนั้น รองเท้า เสื้อผ้า หน้าและกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มันแบรนด์เนมทั้งเซต ใครโผล่มาอีกคนแล้วนี่





“ภู!” สิตางศุ์ที่ยืนข้างรัชพลเรียกชื่อใครอีกคน ร่างที่กำลังกอดกับภุมรินหันมาทางพวกเขาก่อนที่ทั้งสองคนจะพุ่งเข้ากอดกัน รัชพลแทบจะถลาตาม





“ไอ้ตาง!” ภูวดลรู้สึกเหมือนภารกิจที่เขาทำมาเกือบสองเดือนเป็นผลสำเร็จแล้ว เขาตามหาเพื่อนรักคนนี้แต่ก็ไม่พบ คุณหญิงพิมลย่าของสิตางศุ์ก็ถามอยู่ทุกวัน เขาอาสาเป็นธุระตามให้เพราะท่านไม่ว่างพอ





“ภู ทำไมมาเร็วจัง ได้บอกใครรึเปล่า” สิตางศุ์ถาม เขากังวลใจเรื่องที่คนอื่นจะตามมารู้มากที่สุด ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะรับมือ





“ไม่ได้บอกใครเลย รู้มั้ยไอ้แห้งกูโคตรคิดถึงมึงเลย มีปัญหาอะไรไม่เคยจะบอกเพื่อน” ภูวดลกอดเพื่อนรักแน่นขึ้นอีกจนสิตางศุ์แทบจะหายใจไม่ออก





“กอดแน่นไปแล้วภู มันหายใจไม่ออก” สิตางศุ์พยายามดันภูวดลออกแต่ภูวดลกลับกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม เพื่อนรักคนนี้เป็นแบบนี้เสมอ จนสิตางศุ์ชินแล้ว





“เฮ้ยๆ แน่นไปแล้ว” รัชพลรีบดึงสิตางศุ์ออกจากไอ้หนุ่มแบรนด์เนมนั่น





“คุณรัชนี่ภูเพื่อนผมเองครับ รุ่นพี่คณะเดียวกับรินด้วย ภูนี่คุณรัช พี่ชายรินน่ะ” สิตางศุ์แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน ภูวดลยิ้มให้ตามประสาคนเพิ่งรู้จักกัน





“สวัสดีครับคุณรัชพล ไอ้แห้งมันมารบกวนอะไรรึเปล่า ทำตัวยังกับเด็ก หนีหายไม่บอกไม่กล่าวใคร” ภูวดลเอาแขนพาดคอของสิตางศุ์แล้วลากเข้ามาชิดอก





“เด็กอะไรกัน ขืนคุยกับภูคุณย่ารู้หมดสิ” สิตางศุ์ทำหน้ายู่ อีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่อยากให้ภูวดลลำบากใจไปกับเขาด้วย






“เลยชอบร้องไห้คนเดียวมั้ย ไอ้แห้งเอ้ย เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่ๆ” ภูวดลคาดโทษ






ความสนิทสนมนั้นทำให้รัชพลรู้สึกเหมือนหนวดกระตุก อารมณ์เหมือนตอนที่ตะวันแอบมีใจให้ภุมรินไม่มีผิด เรื่องหมอชาญยังไม่จบดีนัก โผล่มาอีกตัวแล้ว ให้ตายเถอะ กว่าเขาจะจีบสิตางศุ์ได้มันยากแค่ไหนไม่รู้รึไงกัน





“มัวแต่มายืนคุยกันหน้าบ้าน เข้าบ้านกันดีกว่า พี่ภูมาเหนื่อยๆ” ภุมรินเอ่ย ภูวดลเพิ่งจะมาถึงเมื่อครู่นี้เอง แต่โทรมาบอกเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนแรกภุมรินก็ตกใจอยู่ว่าภูวดลรู้เรื่องได้ยังไง เพราะสิตางศุ์สั่งเขาห้ามบอก ที่ไหนได้สิตางศุ์เป็นคนบอกเอง ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะอย่างน้อยพี่ตางของเขาก็น่าจะเลิกหนีความจริงแล้ว





ทั้งหมดพากันเข้ามาในบ้าน ภูวดลยึดสิตางศุ์เอาไว้ไม่ปล่อย นั่นทำให้รัชพลรู้สึกไม่พอใจนักกับความสนิทสนมที่ดูเหมือนจะเกินเพื่อนสนิทนั่น คนนอกอาจมองดูปกติ แต่สายตาของคนรักอย่างเขามันมองไปอีกแบบ





“พี่ตางน่ะร้องไห้มากลางดึก พอถามอะไรก็ยอมตอบ เลยรอให้พี่เค้าอยากเล่า พี่ภูก็เถอะ เป็นเพื่อนประสาอะไรวะ ไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองเป็นอะไร” ภุมรินเริ่มบทสนทนา





“อ้าวไอ้เด็กนี่ รินก็รู้ว่าไอ้ตางมันเคยพูดอะไรให้ใครฟังที่ไหน ถ้าไม่สืบเองจะตรัสรู้มั้ย” ภูวดลเถียงกลับพร้อมกับถอดแว่นตาดำราคาแพงออก






รัชพลมองคนที่นั่งข้างสิตางศุ์อย่างรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมาตงิด ภูวดลทั้งสนิทกับสิตางศุ์มากกว่า แถมยังรู้จักกับครอบครัวของสิตางศุ์ด้วย และชีวิตก็ยังเข้ากันได้อีก การแต่งตัวก็ดูดี คำพูดคำจาแม้จะหยาบคายไปบ้างแต่ก็ไม่เท่าเขา อันเป็นลักษณะที่สิตางศุ์รู้สึกดีด้วย แล้วดูเขาสิ ตรงข้ามทุกอย่าง แค่ชาวไร่บ้านๆที่ริอาจจะไปสอยดอกฟ้า ยิ่งภูวดลมาวันนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าช่องว่างระหว่างเขากับสิตางศุ์ห่างกันมากแค่ไหน





“อย่าเถียงกันน่า ตางผิดเองที่ไม่ยอมบอกใคร แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแล้วล่ะ คุณย่าสบายดีมั้ยภู” สิตางศุ์ถามเพื่อน





“ตามประสาแกนั่นแหละ แต่ที่แน่ๆคุณย่าเป็นห่วงมึงมากนะสิตางศุ์ อย่างน้อยกลับมาหาแกก็ยังดี ส่วนเรื่องไปอยู่กับน้ามินที่ต่างประเทศอะไรนั่น แค่มึงบอกว่าไม่อยากไปก็จบแล้ว มึงโตแล้วนะ เลือกชีวิตตัวเองได้แล้ว” ภูวดลจริงจัง เขาพอรู้เรื่องปัญหาของสิตางศุ์บ้าง เขารู้ว่าเพื่อนคนนี้อมทุกข์มานานแค่ไหน แต่ตอนนี้สิตางศุ์โตแล้ว ควรเลือกชีวิตตัวเองซักที





สิตางศุ์นิ่งเงียบ ไม่เอ่ยอะไรออกไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มจะอึมครึมอีกแล้ว ภุมรินเห็นท่าไม่ดีเลยรีบแก้สถานการณ์ก่อน





“เพิ่งจะมา มาเครียดกันทำไม พอเลยพี่ภู วันคุยกันทีหลัง ไปเลย ไปอาบน้ำเลยทั้งสองคน พี่รัชด้วย เดี๋ยวรินจะพาไปหาอะไรกินในตัวเมือง” ภุมรินจัดแจง ขืนปล่อยไว้อย่างนี้มีหวังยาวแน่นอน





“ก็ได้ ไหนล่ะ ห้องพี่อยู่ไหน เที่ยวบ้านเราทั้งทีหาห้องดีๆให้คุณภูอยู่นะครับน้องริน รู้จักกันตั้งนานไม่เคยพามาบ้าน หวงไรนักหนาวะ ไร่ออกจะน่าเที่ยว” ภูวดลบ่นอุบพร้อมกับเบี่ยงตัวไปหาภุมรินแทน





“เออ... เดี๋ยวๆ บ้านมีแค่สี่ห้อง อีกห้องให้พี่ตางไปแล้ว พี่ภูนอนไหน ไปนอนห้องน้ำเลยไป” ภุมรินแหย่ บ้านรักษ์นทีมีแค่ห้องนอนสี่ห้องเท่านั้นเอง แล้วทีนี้ภูวดลจะนอนไหนล่ะนี่





“ให้ภูนอนกับพี่ก็ได้” สิตางศุ์เอ่ย เขากับภูวดลใช่ว่าจะไม่เคยนอนห้องเดียวกันเสียที่ไหน แค่เขารบกวนภุมรินก็มากพอแล้ว ให้ภูวดลนอนไหนไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก





“ไม่ได้” คำปฏิเสธนั้นไม่ได้มาจากใคร นอกเสียจริงคนที่นั่งหน้านิ่งไม่พูดไม่จามาตั้งนาน รัชพลทำหน้าถมึงทึงไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆจนสิตางศุ์ต้องหลบตาวูบ






ภุมรินได้แต่ยู่หน้าให้พี่ชาย มีอะไรเข้าสิงตาแก่แช่โรงบ่มอีกแล้วเนี่ย








*********************************************************************************






มาต่อแล้วตอนที่ 16 ตอนนี้ไม่ม่านะจ้ะ เพลาๆลงมาบ้างแล้ว เบาๆก่อนจะหนักอีกรอบ แว้กกกกกกกกกก พี่รัชหึงน้องตางอ่ะดิ ฮี่ๆ มาเอาใจช่วยคุณรัชพลกับคุณสิตางศุ์กันดีกว่าค่ะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ
 :katai4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 10-03-2016 20:34:18
พี่รัชหนวดกระตุก 5555+
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 10-03-2016 20:39:20
พี่รัชหึงงงงงง  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-03-2016 21:01:47
เพื่อนเค้าจะนอนด้วยกันน่าพี่รัช ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-03-2016 23:47:46
 :hao6:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-03-2016 00:21:11
ขี้หึงจริงๆอีพี่รัชพล
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-03-2016 07:06:39
หนุ่มกรุงมาแล้วหนุ่มบ้านๆจะสู้ได้ไหมต้องค่อยดูกัน
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่16 10/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 11-03-2016 13:59:53
พี่รัชขี้หึงมากกก  5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่17 11/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 11-03-2016 20:04:16
บทที่ 17





สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่าให้ภูวดลนั้นไปนอนห้องของภุมริน แล้วให้ภุมรินไปนอนกับรัชพลแทน เรื่องราวจบลงด้วยการทะเลาะกันของพี่น้องที่เถียงกันอยู่นานกว่าจะลงตัว ภุมรินหัวเสียไม่น้อยที่ต้องมาทะเลาะกับพี่ชายต่อหน้าแขก พอตกลงกันได้รัชพลก็หนีหายไปเลย ไม่ยอมมาอาบน้ำแล้วไปกินข้าวข้องนอกอย่างที่ภุมรินตั้งใจ ไอ้พี่รัชของเขาหวงพี่ตางอีกแน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่แสดงออกขนาดนี้หรอก ลำบากก็แต่พี่ภูที่ต้องมารองรับอารมณ์แปลกๆของพี่รัช ทั้งๆที่พี่ภูนั้นสนิทชิดเชื้อกับพี่ตางถึงขั้นนอนห้องเดียวกันมานับครั้งไม่ถ้วน อะไรจะขนาดนั้นนะพี่ชายเขา





“อยู่ได้มั้ยพี่ภู ห้องอาจจะเล็กกว่าบ้านพี่นะ” ภุมรินพูดเมื่อพากันเข้ามาในห้องของภุมรินอันเป็นที่นอนชั่วคราวของภูวดล





“ไม่ต้องห่วง พี่อยู่ไม่ยาก ถ้าไอ้ตางอยู่ได้พี่ก็อยู่ได้สบายหายห่วง ว่าพี่ชายของรินเถอะ โหดชะมัด เค้าจะไม่ว่าอะไรเหรอ” ภูวดลรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆเวลาที่รัชพลมองมา รู้สึกเหมือนเขาไปทำอะไรให้ทั้งๆที่เพิ่งเจอกัน





“พี่รัชเค้าเป็นอย่างนั้นแหละ ว่าแต่พี่จะมากี่วันล่ะเนี่ย หรือจนกว่าจะเอาพี่ตางกลับไปด้วย” ภุมรินนั่งลงบนเตียงข้างๆภูวดลเพื่อถาม บนเก้าอี้ข้างเตียงมีสิตางศุ์นั่งอยู่ด้วย





“ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ว่าแต่มึงเหอะตาง จะอยู่รบกวนเค้าไปอีกนานแค่ไหน ทุกคนเค้าเป็นห่วงมึงนะ” ประโยคหลังหันมาพูดกับสิตางศุ์ที่นั่งหน้านิ่ง





“ไม่มีใครเป็นห่วงฉันจริงๆหรอกภู แต่อีกไม่นานก็คงต้องไป ไม่อยากรบกวนรินไปมากกว่านี้แล้ว” สิตางศุ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก ว่าจะไม่เกรงใจเจ้าของบ้านแม้ว่าภุมรินและรัชพลจะบอกว่าไม่รบกวนอะไรมากก็ตาม เขาแค่ไม่อยากไปตอนนี้ เขาไม่อยากไปอยู่ต่างประเทศกับแม่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอล้มเลิกความคิดนี้ไปหรือยัง หลังจากเรื่องวันนั้น





“อย่าพูดอย่างนั้นสิพี่ตาง รบกวนอะไรกัน พี่ตางอยู่นี่ดีออก พี่รัชของรินน่ะจะได้ไม่ต้องแห้งเหี่ยวตายเหมือนที่ผ่านมา” ภุมรินเอ่ยแซวโดยลืมไปว่าภูวดลนั่งอยู่ข้างๆ  สิตางศุ์ทำหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อยเมื่อภูวดลมองมาอย่างมีเลศนัย





“หมายความว่ายังไง” ภูวดลถามอย่างไม่เข้าใจ





“ก็พี่รัชน่ะชอบพี่ตาง” ภุมรินเองก็ปากไวใจเร็วพูดออกไปเสียอย่างนั้น สิตางศุ์เริ่มหน้าเสีย กลัวว่าภูวดลจะว่าอะไรเขา เพราะเขาไม่เคยมีประวัติคบใคร





“ห๊ะ! คุณรัชเนี่ยนะชอบไอ้แห้ง” ภูวดลลุกพรึบอย่างตกใจกับข่าวใหม่ที่เพิ่งได้รับ สิตางศุ์หลบตาวูบไม่กล้ามองหน้าเพื่อนสนิท





“หลงมากด้วยแหละ แต่พี่ภูไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่ชายของรินน่ะจริงใจและรักจริงแน่นอน” ภุมรินยักคิ้วให้ภูวดล แม้พี่รัชจะไม่ค่อยสนใจโลกไปบ้าง ชอบไปนอนโรงบ่ม บ้างาน แต่งตัวปอนๆ แต่เรื่องความจริงใจเขามั่นใจว่าพี่ชายของตัวเองนั้นมีอยู่เต็มเปี่ยมไม่แพ้ใคร





ภูวดลนิ่งไปเล็กน้อยแล้วหันมามองสิตางศุ์ที่ยังคงนั่งนิ่ง สิตางศุ์เงยหน้ามามองเพื่อนรักก่อนจะหลบตาอีกครั้ง เขาไม่กล้ามองหน้าภูวดล แค่ภูวดลรู้ว่ารัชพลชอบเขายังขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเขาตัดสินใจคบรัชพลจะขนาดไหนกัน




“ไอ้แห้งสิตางศุ์ เคยคิดเรื่องจะมีแฟนกับเค้าบ้างมั้ยเนี่ย พี่ชายรินอุตส่าห์หลงเข้ามา คิดจะสนใจเค้ามั้ย” ภูวดลขยับตัวมาอยู่ตรงหน้าของสิตางศุ์ เพื่อนสนิทของเขาคนนี้ไม่เคยคิดเรื่องที่จะมีแฟนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่รู้ว่าการที่รัชพลหลงเข้ามาสิตางศุ์จะรีบคว้าเอาไว้มั้ย ดูท่าแล้วไอ้แห้งของเขาผู้ไม่มีประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆคงทำตัวไม่ถูก





“ถามอะไรน่ะภู” สิตางศุ์ตอบไม่ถูก อยู่ๆก็ถามมาตรงๆแบบนี้ สนใจมั้ยน่ะเหรอ ตอนนี้เขากับรัชพลคบกันแล้วด้วยซ้ำ ภูวดลน่ะประเมินเขาต่ำไป





“ก็ถามตรงๆนี่แหละ สนใจคุณรัชเค้ามั้ยล่ะ มีแฟนเป็นผู้ชายก็ดีนะมึงน่ะ ท่าทางสาวที่ไหนเค้าจะชอบ”





“ใช่แล้วพี่ตาง พี่ชายของรินน่ะเป็นคนดีมากเลยนะ รับรองพี่รัชดูแลพี่ตางได้ดีแน่นอน แถมมีหน้าที่การงานที่มั่นคงด้วย พี่ตางไม่อดตายแน่นอน ไม่สนใจพี่รัชบ้างหน่อยเหรอ” ภุมรินพูดเพื่อให้สิตางศุ์หันมองพี่ชายของเขาบ้าง พี่รัชน่ะกว่าจะเจอคนถูกใจนั้นก็ยาก แต่ที่ยากกว่าคือให้สิตางศุ์สนใจรัชพลด้วยนี่แหละ





“ความจริงแล้วตอนนี่เรากับคุณรัชกำลังคบกันอยู่” พูดจบสิตางศุ์ก็ไม่สบตาทั้งสองคน เขาจะไม่ปิดบังเรื่องนี้กับทั้งคู่ เพราะวันหนึ่งก็ต้องรู้ และมันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องเสียหายอะไรมาก เพราะทั้งเขาและรัชพลเป็นคนตัดสินใจเอง






“ห๊ะ!” ทั้งสองคนตะโกนออกมาพร้อมกับ คนที่ตกใจมากที่สุดเห็นจะเป็นภูวดล เขาไมคิดว่าสิตางศุ์จะคบใคร จริงอยู่ที่รัชพลชอบสิตางศุ์ แต่ไม่คิดว่าสิตางศุ์จะเอาด้วย ส่วนภุมรินนั้นพอจะรู้เรื่องมาก่อนแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าสิตางศุ์จะตอบตกลงคบกับพี่ชายของตัวเองเช่นเดียวกัน





“คบกันเมื่อวานนี้ คุณรัชเค้าขอเป็นแฟน ความจริงเราก็รู้สึกดีกับคุณรัช และการที่เราเรียนรู้กันมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร” สิตางศุ์เพิ่งจะกล้าสบตาคนตรงหน้า เขาไม่ได้รู้สึกแย่ที่จะบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้ แค่กลัวว่าภูวดลจะไม่โอเคที่เขาคบผู้ชาย แต่ดูท่าทางแล้วภูวดลไม่มีทีท่ารังเกียจอะไร





“แสดงว่าตอนนี้ก็เป็นแฟนคุณรัชแล้วล่ะสิ กูน่ะไม่คิดอะไรหรอกนะไอ้แห้ง ดีเสียอีกที่มึงมีคนที่เข้าใจ แต่คุณย่ามึงนี่สิ เรื่องนี้ยังอีกยาวแน่นอน” ภูวดลพูด นั่นทำให้หน้าของสิตางศุ์เจื่อนลง





“อย่าบิ้วดิภู” สิตางศุ์หน้าเสีย เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาลืมเรื่องคนในครอบครัวไปเสียสนิท





“ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่ตาง พี่รัชน่ะต้องทำให้คุณย่าของพี่ตางเชื่อได้แน่นอนว่าจริงใจกับพี่ตาง แต่ตอนนี้รินดีใจมากที่พี่ตางรับรักพี่รัช ตาแกแช่โรงบ่มของรินจะไม่ต้องแห้งเหี่ยวอีกแล้ว” ภุมรินยิ้มกว้าง





ในที่สุดพี่รัชก็มีแฟนกับเค้าซักที เรื่องนี้ต้องขยายแน่นอน!











หลังจากทุกคนอาบน้ำเตรียมตัวออกไปข้างนอกตามเจตนารมณ์ของภุมรินเรียบร้อยก็มารวมตัวกันข้างล่าง นายน้อยของไร่น้ำรินมองหาพี่ชายที่หายแว้บไปตั้งแต่เย็น ยังไม่โผล่มาเลย ว่าจะพาออกไปข้างนอกเสียหน่อย สงสัยงอนพี่ตางเข้าโรงบ่มไปแล้ว





“พี่รัชล่ะครับป้าจัน” ภุมรินถามป้าจัน





“เห็นเข้าโรงบ่มน่ะค่ะ คืนนี้คงนอนที่นั่น แต่ข้าวก็ยังไม่ได้กินเลย ป้าว่าจะเอาไปให้อยู่” ป้าจันตอบภุมริน สิตางศุ์ทำหน้าครุ่นคิด รัชพลหนีหายไปตั้งแต่ตกลงกันได้ว่าจะให้ภูวดลนอนที่ไหน แต่ที่แน่ๆเขาดูออกว่าอีกคนไม่พอใจแน่นอน





“เดี๋ยวผมเอาไปให้เองครับป้าจัน รินกับภูไปทานข้างนอกกันเถอะ เดี๋ยวเราไปทานกับคุณรัชเอง” สิตางศุ์ตัดสินใจที่จะพูดแบบนั้นออกไป เขาให้ภูวดลกับภุมรินไปทานข้างนอกน่ะดีแล้ว เขาจะเข้าไปหารัชพลเสียหน่อย ตั้งแต่ภูวดลมายังไม่ได้คุยกับอีกคนแบบจริงจังเลย ยิ่งรัชพลมีท่าทีไม่พอใจแบบนั้น เขาเองก็ไม่อยากให้คนรักต้องเป็นทุกข์ใจ





“เอาอย่างนั้นเหรอพี่ตาง” ภุมรินถามเพื่อความแน่ใจ มันน่าเสียดายที่ภูวดลมาทั้งที น่าจะไปสนุกกันในเมืองมากกว่า ความจริงจะให้รัชพลไปด้วย แต่ดูท่าแล้วอิตาพี่รัชของเขาคงไม่ไปแน่นอน





“เอาอย่างนี้แหละ รินกับภูไปเถอะ” สิตางศุ์ย้ำอีกครั้ง





“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ฝากบอกพี่รัชด้วยว่าอย่างอนมาก เดี๋ยวหน้าแก่กว่าเดิม” ภุมรินพูดติดตลก





 “งั้นกูไปกับรินแล้วกัน กลับมามีเรื่องต้องคุยกันนะไอ้แห้ง” ภูวดลคาดโทษไว้ก่อน





ภุมรินและภูวดลนั้นออกไปทานข้าวข้างนอกตามที่ภุมรินวางแผนไว้ เจ้าตัวโทรหาตะวันว่าจะเข้าตัวเมือง จะให้ตะวันไปด้วย ส่วนภูวดลนั้นก็ถือโอกาสไปเปิดหูเปิดตาในตัวอำเภอด้วย





เมื่อทั้งสองคนออกไปแล้ว สิตางศุ์หันมาหาป้าจันที่เตรียมกับข้าวไว้ให้รัชพลแล้วโดยเพิ่มของสิตางศุ์อีกหนึ่งที่ สิตางศุ์ยกไปหารัชพลที่โรงบ่มตามคำบอกของป้าจัน เมื่อเข้าไปถึงก็เจอคนขี้งอนกำลังนั่งวุ่นวายอยู่กับกระดาษแผ่นใหญ่อยู่ที่โต๊ะทำงาน สิตางศุ์เอาอาหารไปวางบนโต๊ะนั้นก่อนจะนั่งลงตรงข้าม





“ไม่พอใจอะไรเหรอคุณรัช” สิตางศุ์เอ่ยถาม รัชพลหันหน้าขึ้นมามอง เมื่อเจอว่าเป็นสิตางศุ์ก็หยุดกิจกรรมทุกอย่างแล้วมองหน้าอีกคนแทน





“เปล่าซักหน่อย” รัชพลว่า แต่ในใจกลับตรงข้าม เขาไม่ชอบขี้หน้าภูวดล เอาจริงๆเขาไม่ชอบทุกคนที่เข้าใกล้สิตางศุ์และทำตัวเหมือนกับสนใจสิตางศุ์ของเขาด้วย





“หึๆ หึงผมกับภูก็พูดมาเถอะคุณรัช” สิตางศุ์ยกยิ้มเล็กน้อย เขารู้ว่ารัชพลไม่พอใจที่เขาดูสนิทสนมกับภูวดลเกินไป รัชพลน่ะเรื่องหึงหวงดูออกง่ายแค่ไหนใครๆก็รู้




“รู้แล้วจะถามทำไมครับสิตางศุ์ ใช่ผมหึงคุณ มากด้วย ใครใช้ให้ไอ้หนุ่มแบรนด์เนมนั่นมากอดแฟนผมต่อหน้าผมแบบนั้นล่ะ” รัชพลชักสีหน้า ยิ่งคิดถึงตอนนั้นเขายิ่งมีน้ำโห แต่สิตางศุ์กลับขำขันเสียนี่





“คุณรัช ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมกับภูน่ะ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ภูคือเพื่อนสนิทคนเดียวของผม ไม่แปลกที่เราจะสนิทกันมา แต่เราไม่มีทางคิดเป็นอื่นแน่นอน ไม่มีทางคิดอย่างที่คุณคิดกับผม และผมคิดกับคุณ ตอนนี้สิตางศุ์คือคนรักของรัชพล คุณควรจะเชื่อใจผมนะ” สิตางศุ์พูดพร้อมกับมองคนตรงหน้า มือทั้งสองข้างเลื่อนไปกุมมือของรัชพลไว้





“ผมแค่อยากให้รอบตัวของคุณมีแต่ผมเท่านั้นนะสิตางศุ์”





“คุณทำไม่ได้หรอกคุณรัชพล”





“เรียกผมซะเต็มยศเลย ไหนลองเรียกพี่รัชซิ เรียกคุณรัชอยู่นั่น ดูห่างเหินชะมัดเลย” รัชพลเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่คิดว่าสิตางศุ์จะเข้ามาหาถึงที่นี่ ทั้งๆที่เพื่อนอุตส่าห์มาหาจากกรุงเทพฯ





“พี่รัช พี่รัชพล” สิตางศุ์ก็ว่าง่าย คำพูดนั้นทำเอารัชพลยิ้มกว้าง





“น้องตาง น้องสิตางศุ์” พูดจบทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา มันดูจั๊กจี้พิลึก






กลายเป็นว่ามื้อนี้ก็มีเจ้าของไร่น้ำรินพร้อมว่าที่สมาชิกใหม่นั่งกินข้าวอยู่ในโรงบ่มไวน์อันเป็นที่ประจำของรัชพล รัชพลเอาไวน์มาเปิดหนึ่งขวด โรงบ่มวันนี้ดูจะน่าอยู่กว่าทุกวัน เพราะมีคนน่ารักอย่างสิตางศุ์มานั่งทานข้าวด้วย หมอชาญแล้วไง ภูวดลก็ชั่งประไร ในเมื่อใจของสิตางศุ์ตอนนี้มีแต่รัชพล











“โปรแกรมตะลุยไร่น้ำรินวันนี้ของพี่ภูคือ ไร่องุ่นในตอนเช้าเพราะแดดยังไม่มี ตอนกลางวันจะพาไปส่วนของไวน์และโรงงานแปรรูป ตอนเย็นๆค่อยไปเล่นน้ำตกกัน” ภุมรินจัดแจงหลังจากกลับมาจากการไปส่งองุ่นที่ตลาดของตะวัน ตอนนี้เป็นเวลาสิบนาฬิกา วันนี้ภุมรินให้สิตางศุ์หยุดงานหนึ่งวันเพราะภูวดลบอกว่าอยากไปทัวร์ไร่น้ำริน






เมื่อคืนนั้นหลังจากภูวดลกลับมาจากในตัวเมือง และสิตางศุ์กลับเข้าบ้านพร้อมรัชพล เพื่อนรักเลยยึดตัวสิตางศุ์ไปคุยยาว สิตางศุ์ตัดสินใจเล่าเรื่องบางส่วนให้กับภูวดลฟัง เขารู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่ได้ระบายบ้าง ภูวดลเองก็รับรู้ปัญหา เขาอยากจะปรึกษาคุณหญิงพิมลแทบแย่ เพราะเรื่องนี้มินตรานั้นผิดเต็มๆ แต่ที่แน่ๆตอนนี้สิตางศุ์มีสิทธิ์ที่จะเลือกอยู่ที่ไหนก็ได้ เรื่องนี้ภูวดลไม่ยอมแน่ เขาไม่ยอมให้สิตางศุ์ไปอยู่กับมินตราอีกแน่นอน





หลังจากยึดตัวของสิตางศุ์ไว้เกือบทั้งคืนวันนี้รัชพลก็มาทวงคืน แต่ติดที่ว่าเขาเองก็มีงานที่ต้องทำไม่ต่างกัน เลยตัดสินใจว่าตอนเย็นจะไปที่น้ำตกด้วย นั่นทำให้ภุมรินล้อพี่ชายตัวเองยกใหญ่ว่าหวงแฟนอีกแล้ว สิตางศุ์ก็เขินไปตามระเบียบ





“น้ำตกเหรอ พี่ยังไม่เคยไปเลย มาอยู่ตั้งนาน” สิตางศุ์พูด เขามาอยู่ที่นี่เกือบสองเดือนแล้ว แต่ยังไม่เคยไปน้ำตกของไร่น้ำรินเลยสักครั้ง





“น้ำตกท้ายไร่น่ะพี่ตาง อะไรเนี่ย พี่รัชไม่พาไปเหรอ แย่จริง” ภุมรินว่าพี่ชาย





“เย็นนี้ค่อยไปไง พี่จะไปด้วย” รัชพลเถียง เป็นอันจบบทสนทนา





เย็นนั้นทั้งหมดเลยยกโขยงกันไปที่น้ำตกท้ายไร่ ตะวันที่มาคุยงานกับรัชพลเมื่อตอนบ่ายก็ขอตามไปด้วย น้ำตกท้ายไร่ของไร่น้ำรินจึงต้อนรับห้าชีวิต ภูวดลดูตื่นเต้นไม่น้อย เขาถ่ายรูปเก็บไว้มากมาย เพราะนานๆทีจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ ส่วนสิตางศุ์ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะว่าเคยมาครั้งแรก เขาไปนั่งตรงแผ่นสะพานไม้แล้วหย่อนเท้าลงไปในนั้นโดยมีรัชพลมานั่งข้างๆ ส่วนภุมรินกับตะวันก็ลงไปเล่นน้ำที่หน้าน้ำตกเรียบร้อย





“ผมเพิ่งจะเคยมาครั้งแรก ที่นี่เย็นดีนะครับ” สิตางศุ์พูดกับคนรัก





“ถ้าตางชอบพี่จะพามาบ่อยๆ รินชอบที่นี่มากเลยล่ะ มันมาบ่อย” รัชพลยิ้มเล็กน้อยก่อนจะถือวิสาสะเอื้อมมือไปจับมือของสิตางศุ์ไว้





“อากาศที่นี้ดีนะครับ ไม่ร้อนเหมือนที่ไร่ แถมยังสวยอีก” สิตางศุ์พูดแก้เขินที่อยู่ๆรัชพลก็มาจับมือไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมให้อีกคนจับอยู่อย่างนั้น





“ชอบก็อยู่ที่นี่นานๆสิ ตลอดไปเลยก็ได้ถ้าคุณต้องการ” คำพูดที่ดูไม่ขัดเขินอันออกมาจากปากของรัชพลนั้นทำให้สิตางศุ์หน้าแดง รัชพลรู้สึกแปลกพิลึก เขาไม่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาพูดหยอดใครอย่างนี้ คงต้องไปเรียนรู้เรื่องการจีบแฟนตัวเองจากตะวันเพื่อนรักเสียแล้ว





“ใครอยากอยู่ที่นี่กัน โดยเฉพาะอยู่กับพี่รัช” สิตางศุ์พูดทีเล่นทีจริง และรัชพลก็รู้ว่าอีกคนนั้นแหย่เลยรวบเอาตัวของสิตางศุ์มากอดไว้แน่น





“ไม่อยู่ก็จะกักตัวไว้แบบนี้ตลอดไปเลย” พูดจบก็หอมแก้มสิตางศุ์ไปหนึ่งฟอดใหญ่ ภุมรินที่เล่นน้ำอยู่ไม่ไกลหันมาเจอพอดี





“ให้ตายเถอะ สวีทกันเข้าไปคู่นี้” ร่างเล็กพูดขึ้น ตะวันที่เล่นน้ำอยู่ข้างๆจึงหันไปมองตามบ้าง





“อิจฉาคู่นั้นเหรอ ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดให้” พูดจบก็ก้มลงหอมแก้มภุมรินบ้าง เจ้าตัวเล็กหันขวับมาแทบไม่ทัน




ไอ้พี่ตะวัน!





*********************************************************************************************






ตอนนี้เป็นตอนที่มึนที่สุดเท่าที่เคยแต่งมาแล้วค่ะ  :hao5: เอาสองสามสี่ห้าคนนี้เค้าจีบกันไปมาก่อนเนอะ ก่อนจะเข้าดราม่าครั้งใหญ่ บอกให้เตรียมใจไว้ก่อน อาจจะไม่กี่ตอนนี้แล้ว  :hao7:

ส่วนตอนหน้าแค่ดราม่าเบาๆ เล็กๆ (รึเปล่า)  :hao3: ความจริงแล้วมิใช่อันใดดอก ตอนนี้เกิดขึ้นจากคนเขียนนั้นไม่รู้จะเล่นมุกอะไรแล้ว เอาเค้าจีบๆกันไปอ่านก่อน เหงออออออออออออ  :katai1: ไปละ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่17 11/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-03-2016 20:29:49
กำลังมุ้งมิ้งอยุ่ดีๆ ตอนหน้าจะดราม่าแล้วเหรอคะ ม่ายยย  :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่17 11/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-03-2016 20:44:19
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่17 11/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-03-2016 17:26:10
ตามอ่านถึงตอนดราม่าพอดี ง่อว~
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่17 11/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 12-03-2016 18:56:42
น้ำตาลสาดโรงบ่มกันเลยทีเดียว อิอิ รอรับมาม่าค่ะ น่าจะอืดไม่น้อย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 12-03-2016 20:51:43
บทที่ 18





หลังจากกลับมาจากน้ำตกท้ายไร่ตะวันก็ตรงเข้าห้องของรัชพลไปพร้อมกับภุมริน เพราะเปียกโชกจะแย่แล้ว ห้องของภุมรินก็โดนภูวดลยึดไปเรียบร้อย ส่วนสิตางศุ์กับรัชพลที่เปียกบ้างเล็กน้อยก็พากันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของสิตางศุ์ รัชพลรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้อยู่กับสิตางศุ์สองต่อสองแบบนี้ เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้อยู่กับสิตางศุ์สองคน





ไม่นานรัชพลก็ออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ สิตางศุ์ที่อาบน้ำก่อนก็นั่งรออยู่บนเตียงเพื่อที่ว่าจะไปทานข้าวด้วยกันข้างล่าง วันนี้รัชพลให้ป้าจันจัดเตาปิ้งย่างไว้ที่หน้าบ้าน เพราะตะวันก็จะค้างที่นี่ ไหนจะเพื่อนของสิตางศุ์ที่มาจากกรุงเทพฯอีก ยังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับหรือคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่เลย





“สิตางศุ์ครับ” รัชพลเรียกสิตางศุ์ที่หันหน้าออกไปข้างนอกหน้าต่าง





“ครับพี่รัช” คนตัวบางนั้นหันมาก็เจอรัชพลทำหน้าเหมือนเด็กอยู่ใกล้ๆเสียแล้ว





“เช็ดผมให้หน่อย” รัชพลยิ้ม สิตางศุ์มองพร้อมกับถอนหายใจ มาแบบนี้อีกแล้ว





“ทำไมชอบอ้อนจังนะ” ประโยคนั้นทำให้รัชพลขำเล็กน้อย ก็มีแฟนจะไม่ให้อ้อนแฟนแล้วจะไปอ้อนใครล่ะ เขาเห็นตะวันอ้อนภุมรินออกจะบ่อย





“ก็พี่อยากให้ตางสนใจพี่บ้าง ได้มั้ยครับ พี่อยากอ้อนแฟนบ้างอะไรบ้าง นะครับน้องตาง เช็ดผมให้หน่อย” ไม่พูดเปล่ารัชพลยังเข้ามาคลอเคลียสิตางศุ์อีกจนเจ้าตัวต้องยอมรับผ้านั้นมาแล้วดันให้รัชพลนั่งดีๆ





“จะให้เช็ดก็นั่งดีๆพี่รัช” คำประกาศิตของสิตางศุ์นั้นมีเหรอที่รัชพลจะไม่ฟัง เจ้าของไร่น้ำรินที่เพิ่งจะพ้นช่วงวัยเบญจเพสมาหมวดๆยิ้มกว้างแล้วนั่งดีๆอย่างที่สิตางศุ์ว่าโดยหันหน้ามาทางคนที่เช็ดให้





สิตางศุ์เช็ดผมให้รัชพลไปต้องแอบหลบตาบ้างเพราะอีกคนเอาแต่จ้องอยู่อย่างนั้น กว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปไม่น้อยเหมือนกัน





ทั้งสองคนลงมาสมทบกับภุมริน ตะวันและภูวดลข้างล่างที่ตอนนี้กำลังปิ้งย่างกันอย่างสนุก ภุมรินฝากนพที่ไปทำธุระในตัวเมืองซื้อของสดเข้ามาให้ มีทั้งเนื้อ หมูและของทะเล บรรยากาศกลางเขาตอนดึกๆนั้นก็ดีไม่น้อย ไฟในไร่น้ำรินก็เปิดไม่กี่ดวงนอกจากไฟตามรายทาง มันทำให้เห็นดาวชัดเจน คนกรุงอย่างภูวดลดูจะชอบอกชอบใจไม่น้อยกับบรรยากาศที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัส





“แล้วนี่พี่ตางไปตกลงคบกับพี่รัชได้ยังไง  ก่อนหน้านั้นรินคิดว่าจะไม่ชอบหน้ากันซะอีก” ภุมรินเป็นคนเปิดประเด็น ทำเอาสิตางศุ์ที่กำลังใช้ตะเกียบคีบเนื้อหมูให้รัชพลต้องหยุดชะงัก





“ก็สิตางศุ์เค้าก็ชอบพี่ เรื่องอะไรเค้าจะปฏิเสธพี่ล่ะ” รัชพลที่นั่งข้างๆตอบแทบสิตางศุ์





“รินไม่ได้ถามพี่รัช รินถามพี่ตาง” และสงครามระหว่างสองพี่น้องก็เริ่มขึ้นอีกรอบ ภุมรินรู้สึกว่าพี่ชายของตัวเองช่วงนี้ชั่งน่าหมั่นไส้เสียจริง





“รินก็ไปถามคุณสิตางศุ์เค้าตรงๆแบบนั้น ใครเค้าจะตอบกัน คนเค้าก็อายเป็น หยุดพูดเลยตัวเล็ก กินนี่ไปเลย” เป็นตะวันที่เข้ามาจัดการแทน เจ้าของตลาดประสิทธานนท์นั้นจับกุ้งตัวโตยัดเข้าปากคนรักจนภุมรินหันไปแหวแทบไม่ทัน สร้างเสียงหัวเราะให้ทั้งวง





“ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ อะไรทำให้คุณรัชชอบไอ้แห้งมัน สิตางศุ์น่ะมันไม่เคยคิดเรื่องอะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วอยู่ๆทำไมคุณรัชถึงทำให้เพื่อนของผมคนนี้ใจอ่อนได้ล่ะครับ” ภูวดลถามบ้าง เขาเองก็อยากจะรู้ว่าคนธรรมดา จืดชืด วันๆเอาแต่ทำหน้าอมทุกข์อย่างสิตางศุ์เพื่อนของเขาไปถูกตาต้องใจอะไรรัชพลได้ แล้วสิตางศุ์คนที่ไม่เคยมีความคิดเรื่องความรักในหัวอยู่ๆดันตอบตกลงกับรัชพล ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปจีบกันอีท่าไหน





“ผมอาจจะเป็นคนที่ชอบปกป้องใครก็ได้มั้ง เพราะตั้งแต่เด็กผมก็เกิดมาเพื่อปกป้องทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะรินน้องชายของผม ในเมื่อวันนี้รินมีตะวันแล้วผมเองก็จำเป็นจะต้องมีใคร สิตางศุ์เป็นคนเงียบๆไม่พูดก็จริง แต่ความรู้สึกทุกอย่างมันฉายออกมาจากแววตานั้น ผมรับรู้ได้ และผมก็อยากเป็นคนที่สิตางศุ์อยากให้อยู่เคียงข้างในวันที่ไม่มีใคร ผมรู้ว่าความรู้สึกที่ผมมีมันเติมเต็มในส่วนที่สิตางศุ์ต้องการได้ และสิตางศุ์เองก็รับรู้ได้เช่นกัน นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เราคบกัน” รัชพลพูดพร้อมกับมองหน้าของสิตางศุ์ที่กำลังมองเขาตอบไม่ต่างกัน รัชพลไม่สนใจคนถามทั้งๆที่เขากำลังตอบคำถามของภูวดลอยู่ ราวกับว่าคำตอบนั้นเขาพูดให้สิตางศุ์ฟังแค่คนเดียว





“พูดซะหล่อเลยพี่รัช แล้วเลิกมองพี่ตางแบบนั้นได้แล้ว จะหวานกันไปไหนเนี่ย” ภุมรินยื่นตะเกียบไปคั่นตรงกลางระหว่างรัชพลกับสิตางศุ์ เป็นสิตางศุ์ที่ต้องหลบหน้าก่อนเพราะเขินสายตาคู่นั้น





“แล้วเราล่ะยุ่งอะไรด้วยตัวเล็ก ตะวันมึงเก็บแฟนมึงไปเลยนะ ก่อนที่จะเอาไปฆ่าแล้วฝังในไร่” รัชพลจ้องน้องชายเขม็ง แต่ภุมรินก็ไม่ได้สนใจสายตาดุๆนั้นของพี่ชาย





“มีพี่ตางแล้วลืมน้อง เมื่อก่อนใครไปต่อยพี่ตะวันแย่งรินมา” ภุมรินยังไม่หยุดพูดจนรัชพลต้องคีบหมูคีบผักแถวนั้นยัดปากน้องชายให้เงียบ





ทั้งวงหัวเราะลั่นโดยเฉพาะตะวันคนรักของภุมริน แทนที่จะช่วยกันห้ามกลับมาร่วมกันหัวเราะซะนี่ ไอ้พี่ตะวัน คอยดูเถอะ





“รัช พ่อขอคุยด้วยหน่อยสิ สิตางศุ์ด้วยนะ” แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบลงเมื่อร่างของบุรินทร์ปรากฏ รัชพลหันไปมองบิดาก่อนจะหันมามองสิตางศุ์ที่หน้าเจื่อนลง




“พ่อมาตอนไหนครับ” รัชพลถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะคงที่เท่าไหร่





“ซักพักแล้วล่ะ ตามพ่อไปในบ้านนะ” พูดจบบุรินทร์ก็เดินเข้าไปในบ้านทิ้งบรรยากาศอันน่าอึดอัดให้ทั้งห้าคนต้องเผชิญ รัชพลก้มหน้าลง





ไม่ช้าก็เร็วบุรินทร์ก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี รัชพลมั่นใจว่าบิดาต้องไม่พอใจเรื่องนี้แน่นอน เพียงแต่แสดงออกไม่เท่าตอนเรื่องของภุมรินเท่านั้นเอง บุรินทร์เป็นคนหวงลูกมากแค่ไหนใครๆก็รู้โดยเฉพาะตะวันที่เหมือนจะรู้ดีที่สุด





สิตางศุ์เองก็นิ่งเงียบไป เขาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของบุรินทร์ แน่ล่ะ รัชพลเป็นชายหนุ่มสุขภาพดีอายุยี่สิบห้าที่ในอนาคตก็ต้องรับช่วงดูแลไร่น้ำรินต่อไป และการที่รัชพลมารักมาชอบอยู่กับสิตางศุ์ซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน และยิ่งไปกว่านั้นคือทำประโยชน์อะไรให้ไร่น้ำรินไม่ได้เลย มันทำให้สิตางศุ์รู้ว่าทางรักครั้งนี้มันไม่ง่าย บุรินทร์นั้นอาจจะยากแล้ว ถ้าเป็นคุณหญิงพิมลย่าของเขานั้นรับรองว่ายากกว่า แค่คิดมันก็ไม่สนุกแล้ว





“เอาน่าพี่รัช พ่อไม่ว่าหรอก ลองไปคุยกับท่านดีๆก่อน มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้” ภุมรินพูด





รัชพลถอนหายใจหนึ่งรอบก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของสิตางศุ์ไว้มั่น มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดไม่น้อยเลยทีเดียว การเผชิญหน้าต่อครอบครัวของตัวเองนั้นมันเป็นเรื่องลำบากใจเมื่อตัวเขาเองกำลังจะรักกับเพศเดียวกัน





รัชไม่เคยคิดในเรื่องที่จะรักกับผู้ชายด้วยกันมาก่อนในชีวิต เมื่อครั้งภุมรินกับตะวันนั้นเขาก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร แต่พอมาเจอกับตัวเองเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาแค่รักในสิตางศุ์ ต่อให้สิตางศุ์คือใครรัชพลก็ยังจะรักโดยไม่มีเหตุผลและข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น





“เชื่อใจพี่นะสิตางศุ์” รัชพลกุมมือนั้นไว้แน่นก่อนจะลุกขึ้นแล้วพาสิตางศุ์เข้าไปในบ้านตามที่บุรินทร์ได้บอกไว้เมื่อครู่





สิตางศุ์ทำหน้าคิดหนัก ถ้าเกิดบุรินทร์ไม่ยอมล่ะ ถ้าหากบุรินทร์ไล่เขาออกไปจากไร่น้ำริน เขาอาจจะไม่ได้พบรัชพลอีก เมื่อนั้นไออุ่นรอบๆตัวของเขาก็จะหายไป ความเหน็บหนาวก็จะเข้ามาโอบล้อมอีกครั้ง สิตางศุ์ในตอนนี้ถ้าเกิดไม่มีรัชพล เขาคงต้องเดียวดายทนกับความอ้างว้างนั้นอีกแล้ว





ไม่เลยสักนิด สิตางศุ์ไม่อยากให้รัชพลต้องอยู่ไกลจากเขา คำว่ารักจากใจจริงที่เพิ่งเคยได้สัมผัส ตอนนี้มันกำลังจะหายไป






เมื่อเข้ามาในบ้านก็เจอบุรินทร์กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ของบ้านรักษ์นทีโดยที่มีป้าจันกำลังเอาน้ำมาให้อยู่ด้วย ป้าจันหันไปสบตารัชพลเล็กน้อยเพื่อให้กำลังใจก่อนจะถอยออกไปในครัวเหมือนเดิม





“นั่งสิ” บุรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่นั่นทำให้รัชพลและสิตางศุ์รู้สึกไม่ปกติ





“พ่อจะพูดเรื่องสิตางศุ์ใช่มั้ยครับ” รัชพลนั่งลงตรงข้ามพร้อมกับสิตางศุ์ เขาเปิดประเด็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าบิดาจะพูดเรื่องอะไร





“รู้ก็ดีแล้ว พ่อเพิ่งรู้เรื่องนี้จากป้าจัน แต่ไม่ต้องไปว่าอะไรแกนะ เพราะพ่อเป็นคนคาดคั้นเอง ถึงพ่อไม่อยู่บ้านแต่พ่อก็รู้ความเป็นไปทุกอย่างในไร่นี้ดี รัช... น้องก็มีตะวันไปแล้วนะ รัชไม่คิดจะหาผู้หญิงซักคนมาเป็นแฟนเหรอ ใช่ว่าสิตางศุ์นั้นจะไม่ดี แต่รัชเองก็ควรจะคิดถึงเรื่องอนาคตของตัวเองด้วย” นายเหนือของไร่น้ำรินพูดอย่างตรงไปตรงมา นั่นทำให้สิตางศุ์กำมือแน่น คำพูดนั้นทำให้สิตางศุ์หน้าชาไม่น้อย





นั่นสิ รัชพลควรที่จะมีผู้หญิงดีๆซักคนเพื่อมาเป็นแม่ของลูก เพื่อมาเป็นภรรยาที่ดี ไม่ใช่คนที่มาขออาศัยอยู่ที่บ้านเค้าตั้งนานสองนานแล้วยังจะเป็นภาระให้ในหลายๆเรื่อง เป็นธรรมดาที่บุรินทร์จะไม่พอใจ เขาไม่ได้มีอะไรดีเลยสักนิด แค่เด็กมีปัญหาที่ครอบครัวแตกแยกและหนีออกจากบ้านมาก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเจ้าของไร่น้ำรินอย่างรัชพลเลยสักนิด





“รัชคิดเรื่องอนาคตตัวเองดีแล้วครับ รัชรักสิตางศุ์ และสิตางศุ์คืออนาคตของรัช รัชรู้ว่าพ่อจะพูดอะไร แต่พ่อเปลี่ยนใจรัชไม่ได้หรอกครับ” รัชพลมองหน้าผู้ให้กำเนิดอย่างแน่วแน่ รัชพลรู้ว่าบิดาคิดอะไร ผู้หญิงซักคนเหรอ ถ้าคนคนนั้นเป็นคนที่รัชพลไม่ได้รัก มันก็ไม่มีความหมาย ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่สิตางศุ์มันจะสำคัญอะไร





“คุณรัช” สิตางศุ์เรียกชื่อรัชพลเบาๆเมื่อเห็นว่ารัชพลนั้นเริ่มขึ้นเสียงกับบุรินทร์ สิตางศุ์ไม่อยากเป็นตัวปัญหาที่ทำให้พ่อลูกทะเลาะกัน แค่นี้เขาก็รู้สึกแย่พออยู่แล้ว





“แล้วความสัมพันธ์แบบนี้มันจะไปได้นานแค่ไหนกันรัช ตอนนี้ลูกอาจจะคิดว่ามันดี มันใช่ แต่สักวันหนึ่ง...”





“มันไม่มีวันนั้นแน่นอนครับพ่อ พ่อก็รู้ว่ารัชเป็นคนยังไง รัชไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ รัชโตแล้วนะพ่อ รัชอายุยี่สิบห้าแล้ว พ่อจะมาบังคับรัชเหมือนรินไม่ได้ พ่อจำที่คุณยายพูดไม่ได้เหรอครับว่าวันหนึ่งรัชหรือแม้แต่รินก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง รัชรู้ว่าพ่อรักลูกทุกคน พ่อรักรัช พ่อรักริน และรัชก็รักตัวเองด้วย และความรักของรัชตอนนี้มันกำลังเผื่อแผ่ไปถึงใครอีกคน ใช่ว่ารัชรักกับสิตางศุ์แล้วรัชจะทำงานให้พ่อไม่ได้ ใช่ว่ารัชจะไม่ได้เป็นลูกของพ่ออีกต่อไป” รัชพลเริ่มมีน้ำโห เขาใช้โทนเสียงที่แรงขึ้นจนสิตางศุ์ต้องรีบกุมมือคู่ใหญ่นั้นไว้ รัชพลตัวสั่นแล้วมองหน้าบิดาอย่างไม่วางตา เขาอยากให้พ่อรู้ ว่าเขาจริงจังมากแค่ไหน





“รัชจะพูดยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้พ่อขอบอกรัชไว้เลยว่าพ่อไม่อนุญาตให้คบกับสิตางศุ์ แล้วเราล่ะสิตางศุ์ พ่อแม่รู้เรื่องนี้รึยัง แล้วไหนจะออกจากบ้านมาตั้งเป็นเดือนๆ ไม่บอกให้พ่อแม่รู้หน่อยเหรอ แล้วการที่ตกลงคบกับรัชคิดว่ามันดีแล้วหรือไง ลองคิดเรื่องนี้ดูดีๆนะ” บุรินทร์เบนความสนใจมาที่สิตางศุ์แทน สิตางศุ์นั้นไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาบุรินทร์





มันก็ใช่ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ พ่อกับแม่นั้นไม่สนใจเขาอยู่แล้ว แต่คุณย่าล่ะ... ท่านจะอนุญาตมั้ย ขนาดแม่ของเขาท่านยังยากจะทำใจยอมรับเลย แล้วรัชพลท่านจะทำใจยอมรับได้เหรอ สิตางศุ์เองก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาแนวไหน เพราะตัวเองก็ยังไม่เคยมีเรื่องทำนองนี้ให้คุณย่าต้องคิดเลยสักครั้ง แต่ที่แน่ๆด้วยนิสัยส่วนตัวของท่านแล้ว ไม่มีทางยอมอะไรง่ายๆอย่างแน่นอน





“ถึงพ่อไม่อนุญาตแต่รัชก็จะคบกับน้องต่อไป ส่วนเรื่องที่บ้านของสิตางศุ์นั้นรัชจะจัดการเอง” รัชพลจับมือสิตางศุ์แล้วพาเดินออกไปข้างนอกบ้าน ทิ้งให้บุรินทร์มองตามด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก





ที่เขาไม่คิดจะให้รัชพลคบกับสิตางศุ์ก็เพราะว่ารัชพลต้องดูแลไร่น้ำรินในอนาคต เขาต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องดูแลบ้านรักษ์นที และสิตางศุ์คือผู้ชาย เด็กคนนั้นไม่มีใครรู้เรื่องหัวนอนปลายเท้าเลย รู้จักกันแค่ผิวเผินเท่านั้น ใช่ว่าเขาจะอยากกีดกันเรื่องรักๆใคร่ๆของลูกไปเสียทุกคน เพราะรัชพลกับภุมรินก็โตแล้ว แต่เอาเถอะ ตอนนี้เขายังไม่อนุญาต แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ เพราะไอ้ลูกชายคนโตของเขาเองก็ท่าทางจะเอาจริงเสียด้วย





ยิ่งคิดบุรินทร์ยิ่งปวดหัว เขาทิ้งตัวลงกับโซฟา แล้วคิดถึงหน้าแม่ยายที่คอยด่าเขาอยู่ร่ำไป ถ้าริลณีรู้แน่นอนว่าต้องด่าเขาอีกแน่นอน ไม่พ้นต้องโดนบ่นหูชาเป็นแน่ คิดอีกแง่ เขาเองก็แก่ตัวลงมากแล้ว ถ้าเรื่องนี้รัชพลพิสูจน์ว่าจริงจัง เขาเองก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ต้องคุยกับฝ่ายสิตางศุ์ให้แน่ชัดด้วย อย่างเรื่องของตะวันกับภุมรินนั้นจัดการได้ง่ายเพราะเป็นคนรู้จักกันอยู่แล้ว สิตางศุ์คนนี้ล่ะ เป็นใคร แล้วจะจริงใจกับรัชพลด้วยหรือไม่ เขาเองก็ไม่อาจรู้ได้












รัชพลเดินหัวเสียออกจากบ้านมาพร้อมกับสิตางศุ์ที่หน้าถอดสี การที่บุรินทร์พูดแบบนั้นมันชัดเจนแน่แล้วว่าไม่ต้องการให้เขาคบกับรัชพลต่อ





“คุณรัช ผมว่าเรื่องของเรา...”





“หยุดพูดนะสิตางศุ์ เรื่องเขาเราก็คือเรื่องของเรา อย่ามาถอดใจง่ายๆแบบนี้ พ่อก็พูดไปอย่างนั้นแหละ อย่าเก็บมาใส่ใจเลย แล้วเราตกลงกันว่ายังไง เรียกพี่รัชไม่ใช่เหรอ” รัชพลเผลอใช้น้ำเสียงที่คุยกับบิดาพูดกับสิตางศุ์ จนคนตัวเล็กผงะไปเล็กน้อย





“พะ...พี่รัช แต่คุณบุรินทร์เหมือนไม่ชอบผม เขาคงอยากให้พี่เจอคนดีๆ มากกว่าคนที่ไม่มีอะไรเลย แล้วยังมีปัญหาครอบครัวอีก” สิตางศุ์ก้มหน้า คิดถึงเรื่องของตัวเองแล้วรู้สึกสมเพชทุกครั้งไป





“ฟังนะสิตางศุ์ ไม่ว่าใครจะพูดยังไง แม้คนนั้นจะเป็นพ่อของพี่ก็เถอะ พี่ก็ยังยืนยันว่าเราจะรักกันอย่างนี้ เข้าใจมั้ยครับ อย่าคิดมาก” รัชพลจับแก้มทั้งสองข้างของสิตางศุ์แล้วเชยขึ้นเพื่อให้อีกคนสบตาเขา น้ำเสียงนั้นเริ่มลดระดับลงเมื่อรู้ว่าตัวเองชักจะพูดแรงเกินไปกับสิตางศุ์





สิตางศุ์จ้องเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า รัชพลหนักแน่นจนเขารู้สึกผิด ผิดที่คิดจะถอย ทั้งๆที่เราอุตส่าห์รู้สึกเหมือนกันแล้วแท้ๆ แต่เขากลับคิดท้อทั้งๆที่มันแค่เริ่มเท่านั้นเอง





“เด็กดี อย่าเพิ่งคิดอะไรตอนนี้ ไม่ต้องกลัว พี่จัดการเอง ส่วนสิตางศุ์ก็อยู่ข้างๆพี่ไม่ไปไหนก็พอ” พูดจบก็จูบหน้าผากสิตางศุ์ไปหนึ่งทีก่อนจะพาไปหาทั้งสามคนที่รอลุ้นอยู่ตรงหน้าบ้าน





“พ่อว่าไงบ้างพี่รัช” ภุมรินถามคนแรกเมื่อรัชพลกับสิตางศุ์เดินมาถึง





“พ่อไม่อนุญาตให้คบ แต่พี่ไม่สน” รัชพลพูดพร้อมกับพาสิตางศุ์มานั่งที่เดิม






“เอาอีกแล้วอาบูร โรคหวงลูก” ตะวันยิ้มอย่างขยาด เขารู้ฤทธิ์ของบุรินทร์ดีเรื่องหวงลูก ขนาดรัชพลยังหวง แล้วภุมรินที่เขาอุตส่าห์ไปฉุดจากอกพ่อเสือมาได้นี่ต้องหวงกว่าอยู่แล้ว แค่คิดถึงตอนนั้นตะวันก็ขนลุกขนพอง





“อย่าไปยอมนะพี่รัช พ่อชอบเป็นอย่างนี้ตลอด” ภุมรินเริ่มจะโมโหแทน





“พ่อคุณรัชหวงคุณรัชอย่างนั้นเหรอ” ภูวดลที่ฟังอยู่ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายตัวใหญ่ๆ อายุอานามก็น่าจะดูแลตัวเองได้แล้ว ทำไมพ่อยังจะมาหวงอีก





“ก็ใช่น่ะสิพี่ภู พี่รัชแก่ขนาดนี้แล้วยังจะหวงไม่เลิก” ภุมรินว่า





“เหอะๆ ด่านแรกก็สนุกแล้ว ระวังไว้นะคุณรัช ย่าไอ้แห้งยิ่งกว่านี้อีก คุณหญิงพิมลน่ะนอกจากจะเป็นที่รู้จักในวงธุรกิจแล้ว รู้อะไรมั้ย ท่านยังเป็นที่รู้จักในวงการอะไรอีก”





คำพูดของภูวดลทำเอาทุกคนต้องหันไปมอง รัชพลจ้องตากับภูวดล ดูเหมือนว่าไอ้หนุ่มแบรนด์เนมชักจะสนุกกับเรื่องนี้คนเดียวเสียแล้ว เพราะแววตาของภูวดลตอนนี้มันฉายภาพออกมาได้ชัดเจน





“คุณหญิงพิมล ศิรินทรา ยังเป็นที่รู้จักในวงการเจ้าพ่อเจ้าแม่ของไทยอีกด้วย ไม่ใช่ศาลเจ้าหรอกนะ แต่หมายถึงมาเฟียน่ะ หึๆ คิดจะสอยไอ้แห้งต้องผ่านปืนหลายกระบอกหน่อยนะครับคุณรัช” ภูวดลยักคิ้วให้รัชพลหนึ่งครั้งก่อนจะก้มลงกินต่อราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงอะไร





แต่รัชพลนี่สิ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทุบหัวให้หนักอึ้ง ...ใครว่าสิตางศุ์คนนี้ธรรมดากัน
































*******************************************************************************


















เอาแล้วววววววววววววววววว พี่รัชเอาแล้วววววววววววววววววววววววววววววว  :katai1: จะจัดการยังไงล่ะทีนี้ เล่นกับใครไม่เล่น ฮี่ๆ คุณพ่อหวงลูกอีกแล้ว หวงลูกทุกคน อิพี่รัชก็ไม่เว้น ฮ่าๆ เอาใจช่วยพี่รัชด้วยนะคะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกท่าน  :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-03-2016 21:48:11
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 12-03-2016 21:57:45
สงสารไม่ถูกเลยพี่รัชน้องตาง สู้นะ เชื่อว่าบ้านพี่รัชนี่เบาสุดแล้วล่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: namtan15 ที่ 12-03-2016 22:06:30
เรานี้อยากจะจับคู่ให้  คุณพ่อบุรินทร์  กับ  ภูวดล  :hao6: :hao6:
 จิมๆเลย
ติดตามทุกเรื่องชอบคร้าาาาาา
#เป็นกำลังใจให้น่าาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-03-2016 22:20:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 12-03-2016 23:37:35
ต้องให้แม่ยายของฝั่งรัชมาไฝว้กับย่าของสิตางศ์ุสิ หึ หึ หึ   :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 13-03-2016 02:14:33
ของพี่รัชโหดกว่าตะวันและรินอีกนะเนี่ย
ฝ่าดงปืน.... o22
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-03-2016 08:44:44
สู้ๆนะพี่รัช สิตางศุ์
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่18 12/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-03-2016 11:22:07
 :pig4 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่19 13/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 13-03-2016 20:05:46
บทที่ 19





“ภูก็พูดเกินไป ไปว่าท่านแบบนั้น” สิตางศุ์แก้ต่าง เขาไม่อยากให้รัชพลคิดมาก เพราะแค่คุณบุรินทร์ก็น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับพวกเขาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของคุณย่าเขาไม่อยากให้รัชพลคิดตอนนี้





“เกินไปที่ไหน หรือมึงจะปฏิเสธว่ามึงไม่ได้เป็นหลานมาเฟีย บ้านไอ้แห้งมันนะเป็นมาเฟียมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า เผลอๆทวดอีก แม้จะทำธุรกิจอย่างอื่นแต่ความเป็นมาเฟียของบ้านมันก็ยังอยู่ในสายเลือดและการกระทำก็ด้วย เห็นไอ้ตางมันอย่างนี้ บอดี้การ์ดนี่เพียบ แล้วหนีมาอย่างนี้ย่ามันจ้างนักสืบให้วุ่น แต่แม่งเล่นหายมาดื้อๆ ปิดมือถือขาดการติดต่อ แล้วมาอยู่ไร่น้ำริน คุณย่าท่านไม่คิดหรอกว่ามันจะรู้จักใครนอกจากภูวดลคนนี้ ไอ้เราก็ไม่คิดว่ามันจะหนีมาหาริน ไอ้ภูไม่อยากจะคิดเลย ถ้าคุณย่าท่านรู้ว่ามึงมาอยู่นี่ เรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ แล้วถ้าท่านรู้เรื่องแม่มึงอีกนะไอ้ตาง น้ามินไม่รอดแน่” ภูวดลพูด สิตางศุ์หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด





ที่ภูวดลพูดมันก็ใช่ คุณย่าท่านมีอิทธิพลและอำนาจมากแค่ไหนใครก็รู้ ไม่ใช่แค่ในวงธุรกิจแต่ในวงการมาเฟียอีก มือท่านไม่สะอาดอย่างที่ควรเป็นเท่าไหร่นัก เพราะท่านเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยเก็บใคร ยิ่งเป็นคนที่ท่านคิดว่าไม่สมควรอยู่บนโลกนี้ต่อไป





มินตรา แม่ของเขาอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็ถือว่าเก่งพอสมควร และถ้ารู้ว่าเขามาอยู่ไร่น้ำริน รู้ว่าเขาคบกับรัชพล เรื่องมันจะออกมาเป็นอย่างไหนยังไม่รู้เลย เขาไม่อยากให้คนที่นี่เดือดร้อน เพราะแค่นี้เขาก็สร้างปัญหามากพอแล้ว





“งานหนักกว่ากูอีกไอ้รัช” ตะวันพูด เขาเองยังผวาแทนเมื่อฟังจากภูวดลพูด รัชพลกำลังก้าวขาเข้าไปในกรงเสือข้างหนึ่งแล้ว แถมยังแอบอุ้มลูกเสือติดมือมาอีกหนึ่งตัว ไม่อยากจะคิดภาพต่อไปเลยสักนิด





“มันไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่รัช คุณย่าท่านไม่ใจร้ายขนาดนั้น” สิตางศุ์พยายามพูดให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเมื่อเห็นว่ารัชพลเริ่มขมวดคิ้ว ในใจก็อยากจะว่าภูวดลเหลือเกิน มาพูดอะไรตอนนี้กันเล่า





“เอาแล้วไงพี่รัช เอาแล้วไง ทำไมรินไม่รู้มาก่อนเลยเนี่ย งานหนักแน่คุณรัชพลคนเก่ง นั่นแหละกีดกันน้องไว้เยอะนัก เจอเองเลยเป็นไงล่ะ” ภุมรินพูด






“จะพูดให้มันเครียดเพิ่มทำไมได้แสบ นั่งนิ่งๆเลย” ตะวันรีบปิดปากคนรัก แต่รัชพลนี่สิหน้าเครียดไปเรียบร้อย สิตางศุ์เริ่มใจแป้ว





อย่างนี้รัชพลยังอยากจะคบเขาต่อมั้ยนะ...





“ถอดใจตอนนี้ก็ทันนะคุณรัช” ภูวดลพูดทีเล่นทีจริง รัชพลหันขวับอย่างรวดเร็ว





“ไม่มีทางหรอก ต่อให้ยากกว่านี้ผมก็ต้องทำให้ย่าของสิตางศุ์เชื่อให้ได้ว่าผมรักจริงและสามารถดูแลสิตางศุ์ได้” รัชพลพูดอย่างหนักแน่น นั่นทำให้ภูวดลพอใจไม่น้อย





“เก่งแต่พูดรึเปล่า” เหมือนภูวดลสนุกกับการได้แหย่รัชพล โดยมีสิตางศุ์นั่งมองค้อนเขาอยู่ไม่ไกล รัชพลผู้หนักแน่นคนนี้ เจอปืนของคุณหญิงพิมลเข้าไป คงไม่วิ่งหางจุกตูดไปก่อนนะ





“แล้วคุณจะรู้ว่าผมเก่งแต่พูดรึเปล่า” พูดจบก็ลุกแล้วเดินหนีไป





“ภูนะภู พี่รัชเค้าเพิ่งเครียดเรื่องพ่อมา จะมาพูดเรื่องคุณย่าทำไมตอนนี้” สิตางศุ์ว่าเพื่อนแล้วเดินตามรัชพลไปทิ้งให้ภูวดลหัวเราะลั่นอยู่คนเดียว





“เรื่องนี้อีกยาวแน่ ฮ่าๆ” เป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องนี้ไอ้หนุ่มแบรนด์เนมนั้นสนุกอยู่คนเดียว ภุมรินกับตะวันที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองหน้ากันแล้วคิดหนัก





เอาเข้าจริงๆก็เป็นห่วงพี่รัชไม่น้อยเหมือนกัน











“พี่รัช อย่าไปฟังที่ภูมันพูดมากเลย” สิตางศุ์คว้าแขนของรัชพลเอาไว้เมื่อขึ้นมาชั้นบนของบ้านรักษ์นที





“พี่ไม่ได้คิดเรื่องที่คุณย่าของตางเป็นใครหรอกนะ พี่แค่ไม่ชอบที่เพื่อนของตางมาพูดว่าพี่เก่งแต่ปาก” รัชพลทำหน้าไม่พอใจ





“แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมรู้ว่าพี่รัชจริงจังมากแค่ไหน และพี่รัชต้องทำให้คุณพ่อของพี่ รวมทั้งคุณย่าเข้าใจ ไม่ต้องกังวลนะครับ” สิตางศุ์ลูบแขนคนตัวโตกว่าเพื่อที่จะให้รัชพลอารมณ์เบาลง จนรัชพลถอนหายใจหนักๆออกมานั่นแหละ





“พี่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเป็นยังไงนะสิตางศุ์ แต่พี่สัญญาว่าจะไม่ถอดใจ และพี่จะมั่นคงอย่างนี้ ขอแค่สิตางศุ์ยังอยู่ข้างพี่ก็พอ” รัชพลมองหน้าอีกคน มันคงเป็นเวรกรรมที่เขาขัดขวางตะวันกับภุมรินไว้มาก พอมาถึงเรื่องของตัวเองแบบนี้ มันก็เลยมีอุปสรรคเป็นสองเท่า ทั้งพ่อทั้งย่าของสิตางศุ์ ไอ้รัชมันจะผ่านไปได้ซักด่านไหมนี่





“ก็อยู่ตรงนี้ไง ไม่ไปไหนหรอก อย่าเพิ่งคิดมาก พี่รัชเป็นคนบอกผมเองนะ” สิตางศุ์สวมกอดคนตรงหน้าแล้วลูบแผ่นหลังของรัชพลเบาๆเพื่อเป็นการปลอบ รัชพลยิ้มเล็กน้อยแล้วซบหน้าตัวเองลงกับไหล่เล็กน้อย





“พี่รักสิตางศุ์นะครับ” คำพูดไม่กี่คำนั้นทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มผ่อนคลายลง





“คืนนี้จะนอนห้องผมก็ได้นะ คุณตะวันคงนอนกับริน” สิตางศุ์รู้สึกเขินเมื่อพูดประโยคนั้นออกไป แต่รัชพลกลับยิ้มกริ่มเสียนี่





“อะไรกัน ชวนผู้ชายเข้าห้อง” ร่างสูงผละออกแล้วทำหน้ากรุ้มกริ่ม





“ถ้าอย่างนั้นก็ไปนอนโรงบ่มคนเดียวเลย” สิตางศุ์ค้อนแล้วเดินเข้าห้องไป เขาอุตส่าห์เอ่ยปาก ไหงมาแซวเสียได้





“ล้อเล่นครับน้องตาง ให้พี่รัชนอนด้วยนะ” รัชพลรีบตามเข้าไปก่อนจะปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยโรงเรียนรัชพล





เมื่อเข้ามาในห้องสิตางศุ์ก็ชิ่งเข้าไปในห้องน้ำก่อนเป็นอันดับแรก รัชพลจึงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม แม้ว่าวันนี้จะมีเรื่องให้คิดมากมาย แต่ตอนนี้ข้างกายเขามีสิตางศุ์ แค่นี้มันก็พอแล้ว เขาไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ยังมีอีกคนคอยอยู่ข้างๆ วันหน้าถ้าพ่อยังไม่เข้าใจหรือคุณย่าของสิตางศุ์คิดจะสั่งเก็บเขา มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว





ก่อนอื่น คืนนี้จะนอนกอดน้องตางให้หนำใจไปเลย











เช้าวันใหม่ของไร่น้ำรินยังคงเหมือนเดิม แต่จะไม่เหมือนเดิมก็ตรงที่วันนี้รัชพลตื่นสายกว่าปกติและมีอีกคนกำลังนอนซุกอกเขาอยู่ เมื่อคืนกว่าจะนอนกันได้สิตางศุ์ก็ต้องหลบมือปลาหมึกของเจ้าของไร่เป็นพัลวันก่อนที่คืนนั้นจะจบลงด้วยจูบแสนหวาน นั่นทำให้รัชพลมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว สิตางศุ์ที่เขินหนักสุดท้ายกลับกอดรัชพลแน่นแล้วหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เจอรัชพลกำลังจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว นั่นทำให้ร่างเล็กหลบตาวูบแล้วพลิกตัวหนี





“หันหน้าหนีพี่ทำไมสิตางศุ์ เขินรึไง” รัชพลแหย่ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอาเอวนั้นมารวบไปไว้แน่น จนสิตางศุ์ต้องหันหน้ามามอง





“กอดอะไรนักหนา เมื่อคืนก็กอดทั้งคืน” คนตัวเล็กว่า รัชพลก็เจอค้อนวงงามจากสิตางศุ์แต่เช้าไปเต็มๆ





“อยากกอดแฟน” พูดจบก็หอมหน้าผากสิตางศุ์ไปฟอดใหญ่





“มาหอมอะไรแต่เช้าเนี่ยพี่รัช ฟันก็ยังไม่ได้แปรงเลย ไปเลยนะ ไปล้างหน้าแปรงฟันเลย วันนี้มีงานต้องทำ ตื่นซะสายขนาดนี้” สิตางศุ์ดันร่างใหญ่นั้นออกจากตัวก่อนจะลุกออกจากเตียง ขืนอยู่อย่างนั้นรัชพลไม่ยอมปล่อยเขาลุกแน่ นี่ก็สายมากแล้ว





“ครับที่รักครับ” รัชพลลุกตามก่อนจะเข้าห้องน้ำก็ขโมยหอมแก้มสิตางศุ์ไปหนึ่งที สิตางศุ์ได้แต่มองค้อนแล้วหน้าแดงสลับซีด





ขืนนอนกับรัชพลทุกวันเขาคงเขินตายแน่ๆ





เมื่อรัชพลเข้าห้องน้ำไปเขาก็เลยนั่งรออยู่บนเตียง ป่านนี้ภุมรินคงไปส่งองุ่นเหมือนทุกวันแต่วันนี้คงจะไปพร้อมตะวัน ส่วนภูวดลเพื่อนของเขานั้นก็คงไปเที่ยวเล่นในไร่นั่นแหละ เห็นบอกเขาว่าได้คนพาเที่ยวแล้ว เหลือแต่เขากับรัชพลนี่แหละที่ยังคงนอนกินบ้านกินเมืองอยู่ เพราะรัชพลแท้ๆเลย





ครืด...





เสียงที่ดังขึ้นข้างๆตัวทำให้สิตางศุ์ต้องหันไปมอง มันคือโทรศัพท์ของรัชพลนั่นเอง ไม่มีทางแน่นอนที่จะเป็นโทรศัพท์ของเขา เพราะเวลานี้มันก็ยังคงปิดสนิทเหมือนเดิม สิตางศุ์จับมือถือเครื่องเล็กนั้นขึ้นมา ชื่อที่ปรากฏนั้นทำให้เขาแปลกใจ





‘ไอ้เมฆตัวป่วน’





เมฆ? เมฆไหน สิตางศุ์ไม่เคยรู้จักคนคนนี้มาก่อน อาจจะเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของรัชพล แต่ด้วยชื่อที่เมมไว้นั้นทำให้เขาแปลกใจไมน้อย คนปกติเขาเมมชื่อกันอย่างนี้เหรอ เสียงร้องจากโทรศัพท์นั้นยังไม่หยุด และรัชพลก็ยังคงไม่ออกมา สิตางศุ์เลยถือโอกาสกดรับแทน เขาเป็นคนรักกับรัชพล แค่รับโทรศัพท์แทนกันก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง





“รับช้าจังเลยตาแก่แช่โรงบ่ม พี่รัชจ๋า น้องเมฆคิดถึ๊งคิดถึง” เสียงที่ดังจากปลายสายนั้นแสดงได้ถึงความสนิทสนมกับเจ้าของโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี และคำพูดที่ใช้เรียกกันนั้นทำให้สิตางศุ์คันยุบยิบที่หัวใจไม่น้อย





“เอ่อ...” สิตางศุ์ไม่รู้จะพูดอะไรดี จะบอกว่าเขาไม่ใช่รัชพลอย่างนั้นหรือ ใช่แล้ว... ต้องบอกให้ปลายสายรู้ก่อน





“ใครโทรมาน่ะตาง” รัชพลที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์กำลังคุยโทรศัพท์ของเขา เพราะอยู่ในห้องน้ำเขาเองก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์เหมือนกัน





“เอ่อ... เหมือนจะเป็นคนชื่อเมฆครับ” สิตางศุ์ลดโทรศัพท์ลงไปแล้วยื่นให้รัชพล อีกใจหนึ่งก็กลัวคนรักจะตำหนิที่ถือวิสาสะไปรับแทน





“อ๋อ ไอ้เมฆ” รัชพลรับโทรศัพท์มาแล้วไปนั่งคุยบนเตียง สิตางศุ์เลยลุกไปเข้าห้องน้ำแทน แต่ในใจก็เริ่มสงสัย ว่าเมฆคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้สนิทกับรัชพลถึงขั้นนี้





“โทรมาทำไมเอาตอนนี้ครับคุณหมอ เพิ่งจะนึกได้รึไงว่ามีรัชพลคนนี้อยู่บนโลก” รัชพลพูดพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเตียง สิตางศุ์เข้าห้องน้ำไปแล้วแต่ก็คงได้ยินบทสนทนานั้นอยู่





“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย บอกว่าคิดถึงพี่แล้วทำไมไม่เคยโทรหากันเลยห๊ะ” รัชพลำเสียงขุ่น





“น้องนุ่งก็มีงานต้องทำป่ะ เป็นหมอนะ ปีสุดท้ายแล้วด้วย ใครจะเหมือนเจ้าของไร่น้ำรินล่ะ ทำงานนิดๆก็มีเงินใช้แล้ว” คำพูดของเมฆาบวกกับคำพูดนั้นทำเอารัชพลอยากจะเขกหัวเพื่อนรักของน้องชายตัวเองเสียจริง เมฆาตัวป่วนที่ทำเรื่องไว้มากมาย ยังคงเป็นเด็กน่าหมั่นไส้เหมือนเดิมไม่มีผิด





“ดูมันพูดเข้า แล้วคิดยังไงถึงโทรหาพี่รัชคนนี้ครับน้องเมฆ” รัชพลแสร้งทำเสียงเป็นพี่ชายที่แสนจะคิดถึงน้อง นั่นทำให้เมฆาต้องเบ้ปากเมื่อได้ฟัง





“ก็ได้ข่าวใหม่มาจากรินไรงี้ ว่าตาแก่แช่โรงบ่มอย่างพี่รัชมีฟงมีแฟนกับเค้าแล้ว ใครอ๊ะ!” เมฆาเริ่มเข้าประเด็น รัชพลหัวเราะในลำคอ ตลอด... เรื่องของเขานี่ภุมรินไม่เคยพลาดที่จะเล่าให้เมฆาฟัง ไอ้แสบไอ้ป่วน เจอกันแล้วปวดหัวทุกที





“ก็ใช่ แล้วไง” รัชพลตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยี่หระ





“แล้วไงล่ะ ลืมเมฆแล้วไง”





“ใครจะลืมน้องเมฆลงล่ะครับ ถึงพี่จะลืมเมฆก็ทำให้จำอยู่ดี จำจนขึ้นใจแล้วเนี่ยว่าเมื่อก่อนป่วนอะไรไว้” รัชพลพูดถึงตอนที่เมฆาสร้างเรื่องไว้ตอนตอนตะวันกับภุมรินแอบพากันหนีไปตอนนั้น





“จำแต่เรื่องดีๆของน้องบ้างเหอะ เมฆมีเวลาไม่มาก เล่ามาเลย ว่าแฟนพี่รัชเป็นใคร!” เมฆาทำเสียงเข้ม





“ใช่ว่าไปถามรินมาหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องมาทำเป็นอยากรู้เลย” รัชพลดักทางอย่างรู้ทัน





“โว๊ะ! รอเลยนะ รอเมฆกลับไปเลยนะ ซักจนขาวสะอาดแน่”





“ครับผม พี่รัชคนนี้จะรอน้องเมฆมาซักให้สะอาดเลย ไปเลยไอ้ป่วน ทำงาน”





“ครับพี่รัชพลสุดหล่อ ไปละ คนมีงานมีการต้องทำ” พูดจบเมฆาก็วางสายไป รัชพลหัวเราะร่วน เมฆาก็ยังคงเป็นเมฆาวันยังค่ำ





น้องชายของตะวันเพื่อนรักพ่วงตำแหน่งเพื่อนซี้ของภุมรินน้องชายของเขา ความสนิทสนมนั้นมีมาตั้งแต่เด็กจนโต จนรัชพลถือว่าเมฆาเป็นน้องชายไปอีกคน และแน่นอนว่าพอเขามีเรื่องอะไรก็ตามเมฆาก็ต้องไอ้รับรายงานจากภุมรินทุกครั้งไป สองคนนี้ไม่เคยจะปิดบังอะไรกันเลย





แต่ความสนิทนั้นทำให้สิตางศุ์ไม่เข้าใจ เขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังรัชพลแต่อย่างใด แต่ทุกคำพูดของคนรักมันทำให้สิตางศุ์แอบคิดอยู่เหมือนกัน เมฆาคนนี้เป็นใครกันนะ แค่โทรมาหารัชพลไม่กี่นาทีก็ทำให้คนตัวโตหัวเราะได้ และคำพูดที่หยอกล้อกันนั่นอีก





สิตางศุ์รู้สึกเหมือนมีคนมากระชากหัวใจของเขาไป เขาเป็นกังวล กังวลว่ารัชพลอาจจะมีคนที่สนิทอยู่แล้ว อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากจะคิด ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ล่ะ นั่นแปลว่าเขาเองไม่ไว้ใจรัชพล






แต่ในฐานะคนรัก เขาเองก็อยากจะหึงหวงรัชพลบ้างเหมือนกัน








******************************************************************************







ตอนนี้ให้พักหายใจแป้บนึง ตอนหน้าเข้าสู่ดราม่าเลเวลหนึ่ง และมันจะเป็นดราม่าอีกยาวไกลแสนไกล  :hao7: ตอนนี้สิตางศุ์แอบหึงเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการเท่าอิพี่รัชหรอก ตัวนั้นหนักสุด  :hao3: น้องเมฆโผล่มาทักทายเล็กน้อย ฝากเนื้อฝากตัวไว้ก่อน เรื่องต่อไปจะได้เจอเต็มๆ  :katai5: ใครลุ้นพี่ภูกับคุณพ่อ อย่าเลยค่ะ คนเขียนขอร้อง  :serius2: แล้วมีคนลืมโรจน์กับอิเสี่ยทรงยศรึยังล่ะนี่ หึๆ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่19 13/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 13-03-2016 21:23:21
พี่รัชสู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่19 13/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-03-2016 21:24:08
งานหึงหวงก็มา 55555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่19 13/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-03-2016 23:12:20
เตรียมตัวรับดราม่าสินะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่19 13/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2016 02:48:32
ต้มน้ำรอ ไม่อยากกินเลย  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 14-03-2016 21:12:54
บทที่ 20





มันชั่งเป็นมื้อเช้าที่รัชพลรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง ตั้งแต่ลงมาทานข้าวสิตางศุ์ก็ยังไม่พูดกับเขาเลยซักคำเดียว แถมเจ้าตัวก็เอาแต่ทำหน้านิ่ง หากมองเผินๆมันอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่รัชพลรู้ว่ามันไม่ปกติ อะไรทำให้สิตางศุ์มีท่าทีแบบนี้กับเขากัน อยู่ๆก็ทำเหมือนโกรธ





สิตางศุ์ทานอาหารเช้าเสร็จก็ลุกออกไปก่อนโดยที่รัชพลยังทานไม่เสร็จด้วยซ้ำ เจ้าของไร่หนุ่มต้องรีบยกน้ำตามแล้ววิ่งออกไปหาคนรักที่ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรเขา หรือสิตางศุ์จะกังวลเรื่องครอบครัวอีกแล้ว





“เดี๋ยวก่อนสิตางศุ์” รัชพลคว้าข้อมือเล็กนั้นไว้ แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของสิตางศุ์





สิตางศุ์เงยหน้ามองอีกคนแล้วเบือนหน้าหนี ใจจริงอยากถามออกไปแต่กลัวว่านั่นจะทำให้รัชพลไม่พอใจที่เขาไปก้าวก่ายชีวิตของอีกคนมากเกินไป สิตางศุ์ไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาหึงหวงใครแบบนี้ แต่เขารู้สึกไม่สบายใจ เห็นหน้ารัชพลก็พาลให้นึกถึงคำหวานที่รัชพลพูดกับคนอื่น เพราะฉะนั้นการหลบหน้านั้นน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุดในตอนนี้ แต่สิตางศุ์ไม่รู้ว่าสีหน้าและท่าทางที่แสดงออกไปนั้นมันสื่อถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด





“สิตางศุ์ครับ มองหน้าพี่หน่อย เป็นอะไรครับ ไม่พอใจอะไรรึเปล่า” รัชพลเชยคางอีกคนขึ้น อยู่ๆสิตางศุ์ก็มีท่าทีไม่พอใจเขา ทั้งๆที่รัชพลเองก็ยังไม่รู้เลยว่าไปทำอะไรให้อีกคน





สิตางศุ์ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เขาชินกับการไม่พูดเมื่อมีปัญหาในใจ เพราะชีวิตในวัยเด็กมันหล่อหลอมเขามาแบบนั้น





“ถ้าตางไม่พูดพี่ก็ไม่รู้ว่าตางคิดอะไรอยู่ และตางก็จะโกรธพี่อยู่อย่างนี้” รัชพลว่า





“ไม่ได้โกรธซักหน่อย” สิตางศุ์สวนทันควัน เขาไม่ได้โกรธรัชพล เขาแค่อึดอัดใจที่รัชพลไปสนิทกับคนอื่นขนาดนั้น





“ไม่ได้โกรธก็บอกพี่มาสิครับว่าทำไมไม่พูดกับพี่” รัชพลแอบยิ้มเล็กน้อยเมื่อสิตางศุ์ยอมพูดกับเขาแล้ว





“เอาตรงๆเลยนะครับ... เมื่อเช้าคนที่โทรมาคือใคร” สิตางศุ์จ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาที่จริงจัง รัชพลที่ยิ้มอยู่แล้วก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก





“ทำไมน่ารักอย่างนี้นะสิตางศุ์” คนตัวโตหอมหน้าผากสิตางศุ์ฟอดใหญ่จนสิตางศุ์ต้องย่นตัวหนี แล้วมองอีกคนด้วยแววตาที่ไม่พอใจ





“อะไรกันเนี่ยพี่รัช มาหอมทำไม ยังไม่ตอบคำถามเลยนะ” สิตางศุ์เริ่มจะขึ้นเสียง เขาจริงจังแต่รัชพลกับทำเป็นเล่นไปได้ เขาอยากรู้ว่าคนนั้นคือใคร เมฆาอะไรนั่นทำไมดูสนิทกับรัชพลขนาดนั้น





“พี่ชอบเวลาตางหึง” รัชพลยิ้มกริ่ม สิตางศุ์หน้าแดงเห่อ ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่ที่รัชพลจับได้ว่าเขาหึงคนตัวโต





“ก็มันน่ามั้ยล่ะ ทำไมดูสนิทกับคนที่โทรเมื่อตอนเช้า แล้วยังพูดคำหวานใส่กันอีก” ประโยคหลังสิตางศุ์ลดเสียงลงให้เป็นปกเมื่อรู้ว่าตัวเองชักจะเสียงดังเกินไปแล้ว





“สิตางศุ์ครับ พี่จะบอกอะไรให้นะ พี่ไม่มีใครนอกจากสิตางศุ์หรอก นั่นน่ะไอ้เมฆเพื่อนรินมัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และการที่พี่พูดคุยกับเมฆแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติของพี่อยู่แล้ว” รัชพลพูดด้วยแววตายิ้มๆ ใจนึงก็นึกอยากจะขอบคุณเมฆาที่โทรมาหาแต่เช้า ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้เห็นสิตางศุ์ในมุมนี้






“จริงเหรอ” สิตางศุ์สบตากับอีกคน ถึงแม้ว่ารัชพลจะพูดว่าไม่ได้มีอะไรมากกว่าพี่น้องหรือคนรู้จัก แต่สิตางศุ์เองก็ยังไม่มั่นใจ ก็เพราะการพูดหยอกล้อของรัชพลกับเมฆานั้นมันน่าคิดเป็นที่สุด





“จริงสิครับ ไอ้ป่วนน่ะมันโทรมาถามพี่ว่ามีแฟนแล้วทำไมไม่บอก เมฆมันยังอยากจะรู้เลยว่าสิตางศุ์เป็นใคร ทำไมถึงทำให้พี่รักได้ขนาดนี้”





ไม่พูดเปล่ารัชพลยังดึงเอาตัวของอีกคนเข้ามากอดแน่น สิตางศุ์ก้มหน้าลง รู้สึกอายไม่น้อยที่ตัวเองคิดเป็นตุเป็นตะไปเสียไกล





“ต่อไปนี้นะตาง เวลามีอะไรก็ถามตรงๆ อย่างเรื่องวันนี้ มันไม่มีอะไรเลย ถ้าตางมัวแต่เก็บเงียบคนเดียวมันจะกลายเป็นว่าเราจะเข้าใจไปเองและทำให้เกิดปัญหาได้ เข้าใจมั้ยครับ” รัชพลพูด นั่นทำให้สิตางศุ์รู้สึกผิดไม่น้อย





“ขอโทษครับ ผมแค่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง” กล่าวขอโทษอีกคน เรื่องการเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนั้นเป็นนิสัยที่ไม่เคยจะแก้หายของเขาเอง เพราะมันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก การจะเปิดใจเล่าทุกเรื่องหรือบอกทุกอย่างกับใครอีกคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายอะไรเลย





“คราวนี้ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นครั้งแรก แต่คราวหน้ามีอะไรต้องบอกนะ” รัชพลคาดโทษไว้ก่อน





“ครับ” สิตางศุ์รับคำ บางทีมันก็น่าจะถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้ใครอีกคนอย่างเต็มที่แล้ว ตอนนี้ไม่ได้มีแค่สิตางศุ์ แต่ยังมีรัชพลคนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต





หลังจากคุยกันเรียบร้อยรัชพลก็พาสิตางศุ์ไปทำงานที่สำนักงานอย่างเดิม ตอนนี้สิตางศุ์เข้ามาทำงานที่นี่อย่างเต็มตัวแล้ว เงินเดือนที่รัชพลให้ก็มากขึ้นกว่าเดิมเพราะต้องดูแลบัญชีถึงสองขั้นตอน เจ้าหมาด่างตอนนี้ก็เริ่มจะขาหายดีบ้างแล้วแต่ก็ยังวิ่งซนไม่ได้ ก้องก็เปิดเทอมจึงไม่ได้เข้ามาช่วยงานที่ไร่ ส่วนหมอชาญก็เหมือนจะหายไปจากสาระบบชีวิตของสิตางศุ์เลยก็ว่าได้ รู้อีกทีก็กลายเป็นไกด์พิเศษให้ภูวดลไปเรียบร้อย





“ไปในเมืองกับพี่มั้ยตาง” รัชพลดินมาหาสิตางศุ์ในสำนักงาน





เขาจะเข้าตัวเมืองเพราะต้องไปดูเรื่องปุ๋ยและสารเคมีอื่นๆที่ใช้ในไร่เพิ่ม วันนี้ภุมรินไม่สะดวกไปเขาเลยจะไปแทนน้องชาย ถ้าโอเคแล้วค่อยให้คนงานที่ไร่ไปจัดการต่อ เลยมาชวนสิตางศุ์ไปด้วยกันเสียหน่อย






“แต่งานยังไม่เสร็จเลยนะครับ” สิตางศุ์พูด งานนั้นยังไปไม่ถึงไหนเลย เขาเองก็เพิ่งไปซื้อของกับหมอชาญมาวันนั้นเอง วันนี้รัชพลจะมาชวนไปอีกแล้ว





“เอาน่า เดี๋ยวค่อยกลับมาทำ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ ทีกับหมอชาญยังไปได้เลย” ประโยคหลังของรัชพลทำให้สิตางศุ์ต้องละมือจากงานที่ทำอยู่ ร่างเล็กมองค้อนคนตัวโต รัชพลเอาเรื่องนี้มาอ้างอีกแล้ว





“ไปก็ไปครับ แล้วก็หยุดพูดเรื่องนั้นซักทีเถอะน่า” สิตางศุ์รวบเอกสารไว้แล้วจัดให้เข้าที่ก่อนจะลุกมาหารัชพลที่ยิ้มกว้างอย่างพอใจ





“ดีมากครับที่รัก” รัชพลเดินอารมณ์ดีนำสิตางศุ์ออกไป แต่สิตางศุ์นี่สิรู้สึกหมั่นไส้คนรักเสียจริง





รถคันโตของที่มีสติกเกอร์ขนาดใหญ่ของไร่น้ำรินแปะไว้ข้างหน้าแล่นออกจากไร่ตรงไปยังตัวอำเภอ ซึ่งการจะเข้าตัวเมืองนั้นต้องลงจากเขา คนของไร่น้ำรินนั้นลงไปไม่บ่อยนัก เพราะคนงานส่วนใหญ่ก็มาจากหมู่บ้านผาตะวันบนเขาทั้งนั้นหรือไม่ก็ชาวบ้านละแวกนั้น รวมไปถึงคนงานประจำที่มีที่พักอยู่ในไร่อีกด้วย จะมีก็แต่ภุมรินและนพที่ลงมาทุกวันเพราะต้องเอาองุ่นไปส่งในตลาดประสิทธานนท์ รัชพลก็ไม่ค่อยลงมาถ้าหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ การขับรถขึ้นลงเขาไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกแต่อย่างใด





ไม่นานทั้งสองก็มีถึงร้านในตัวเมือง รัชพลเข้าไปคุยธุระกับเจ้าของร้านโดยมีสิตางศุ์นั่งรออยู่ข้างนอก ร่างบางอ่านหนังสือพิมพ์ที่ทางร้านเอามาไว้บนโต๊ะหน้าร้านไปเรื่อย เวลาผ่านไปไม่นานรัชพลก็ออกมา





“ไปหาอะไรทานกันมั้ย ตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว” ถามคนรัก





“ดีเหมือนกันครับ” สิตางศุ์วางหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะเดินตามรัชพลไปที่รถ แต่หางตาก็พลันเหลือบไปเห็นรถสีดำคันคุ้นตาที่อยู่ไม่ไกล





...รถของบ้านคุณย่า






สิตางศุ์หน้าซีดลง เขาจำรถของบ้านศิรินทราได้ดี ด้วยความที่มันเหมือนกันเกือบทุกคัน ไม่ใช่แค่รถของคุณย่าเท่านั้น แต่รวมไปถึงรถของเหล่าลูกน้องของคุณย่าด้วย และมันยิ่งชัดเจนเมื่อเขามองเห็นชายชุดดำสามสี่คนอยู่รอบๆบริเวณนั้น เขาอยู่ที่นี่มาสองเดือนคุณย่าไม่เคยเจอ






ภูวดล...






ต้องตามภูวดลมาแน่นอน เขามั่นใจว่าภูวดลไม่มีทางบอกว่าเขาอยู่ที่นี่ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการที่คุณย่าให้คนพวกนี้ตามภูวดลมา และตอนนี้มันเข้าใกล้เขาไปทุกทีแล้ว





“พะ...พี่รัช ผมว่าเรากลับไปกินที่ไร่เถอะ” สิตางศุ์พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ






“อ้าว ทำไมล่ะ นานๆลงมาที พี่มีร้านเด็ดอยากพาตางไปเลยนะ” รัชพลถามด้วยความสงสัย อะไรของสิตางศุ์กัน กลับไปกินที่ไร่ทำไม ไหนๆก็ลงมานี่แล้ว





“ไปเถอะนะครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง” ไม่รอช้าสิตางศุ์พุ่งตัวเข้าไปในรถก่อน รัชพลแม้จะยังงงๆแต่ก็ยอมทำตามที่อีกคนต้องการ






ไม่ไกลจากรถของไร่น้ำริน ชายชุดดำคนหนึ่งมองเห็นรถกระบะสีขาวคันใหญ่อันมีชื่อไร่น้ำรินแปะอยู่อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนในรถเป็นใคร แต่การเจอรถของไร่น้ำรินก็ถือว่าเป็นเรื่องดี





“นั่นรถของไร่น้ำรินครับคุณโชติ” ชายหนุ่มคนหนึ่งหันไปบอกโชติ ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในรถ





“ตามรถคันนั้นไป” โชติออกคำสั่งก่อนที่ชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนจะรีบขึ้นรถหรูคันโต





ไร่น้ำรินอย่างนั้นเหรอ ไร่ที่ภูวดลต้องการจะมา นอกจากจะให้คนตามหาภุมรินแล้ว คุณหญิงพิมลยังให้คนตามภูวดลด้วยเพราะรู้ว่ายังไงแล้วหลานรักของท่านก็ต้องติดต่อเพื่อนคนนี้มาอย่างแน่นอน และมันก็รอกว่าสองเดือน กว่าที่สิตางศุ์จะติดต่อกลับมาและตอนนี้ก็ใกล้จะเจอสิตางศุ์แล้ว












สิตางศุ์ที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนรถนั้นรู้สึกสติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ คุณย่าเจอเขาแล้ว มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าตอนนี้เขาไม่ได้กำลังคบกับรัชพล เขายินดีกลับบ้านและเจอกับปัญหาทุกอย่าง แต่ตอนนี้มีเรื่องของรัชพลเข้ามายุ่งด้วย เขาไม่รู้ว่าคุณย่าจะคิดยังไง แต่มันไม่ง่ายแน่นอน





“มีอะไรเหรอตาง เกิดเรื่องอะไรขึ้น” รัชพลจับสังเกตของสิตางศุ์ที่ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนได้ ทำไมอยู่ๆสิตางศุ์ถึงได้เหมือนกังวลเรื่องอะไรซักอย่าง





“ตอนนี้ เหมือนมีคนของคุณย่าตามเรามาครับ” บอกอีกคน และแน่นอนว่ารัชพลก็หันไปมองกระจกหลัง รถสีดำคันใหญ่ขับตามมาไกลๆ ตามขึ้นมาที่ไร่น้ำริน






“มีรถตามเรามาจริงๆด้วย” รัชพลพูด






“พี่รัช จะทำยังไงดี คุณย่ารู้แล้ว รู้แล้วว่าผมอยู่ที่นี่” สิตางศุ์รน





“ใจเย็นๆนะตาง มันไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพี่จัดการเอง” รัชพลพูดให้อีกคนคลายกังวล สิตางศุ์เหมือนจะสติหลุดไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงเขาก็แอบกังวลไม่น้อยไปกว่าสิตางศุ์เหมือนกัน เรื่องนี้ไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่า





“ไม่มีทางจัดการได้หรอก พี่คุยกับคุณย่าตรงๆไม่ได้ เพราะท่านไม่เคยฟังใคร” มันคือความจริงที่ทุกคนรู้ว่าคุณหญิงพิมลไม่เคยฟังใครเลย แล้วรัชพลคนที่เหมือนจะไม่มีประโยชน์ในสายตาของเธอมีหรือที่เธอจะฟัง





คำพูดของสิตางศุ์ทำให้รัชพลเริ่มวิตกมากขึ้น เขารู้ว่าสิตางศุ์กังวลใจมากแค่ไหน เพราะไม่มีใครรู้จักคุณย่าของสิตางศุ์ดีเท่าสิตางศุ์อีกแล้ว แต่เมื่อเรื่องมันเกิดแบบนี้เขาเองก็ต้องทำให้คุณหญิงพิมลรู้ว่าเขาจริงจังกับสิตางศุ์มากแค่ไหน ถ้ามันจะตายกันไปข้างหนึ่งก็ให้มันรู้ไป






เอี๊ยด!





เสียงที่ดังขึ้นทำให้รัชพลต้องหันกลับไปมองถนนข้างหน้าอย่างทันท่วงที รถกระบะเขรอะฝุ่นจอดขวางอยู่ข้างหน้าในระยะประชิดจนรัชพลต้องรีบเบรกอย่างรวดเร็ว





“เกิดอะไรขึ้นพี่รัช” สิตางศุ์ถามด้วยความตกใจเมื่อตัวรถกระชากอย่างแรงตอนเบรก






“ไม่รู้ แต่มีรถจอดข้างหน้า” รัชพลปลดเข็มขัดนิรภัยเตรียมออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนที่เดินออกมาคือโรจน์และชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยมอีกหลายคน





“โรจน์...” สิตางศุ์เรียกชื่อนั้นออกมาเบาๆ





“ไอ้โรจน์!” รัชพลคว้าปืนมาจับไว้ก่อนจะออกจากรถไปด้วยอารมณ์โมโห สิตางศุ์เห็นดังนั้นก็เลยตามไปบ้าง






“สวัสดีคุณรัช และคุณสิตางศุ์” โรจน์แสยะยิ้ม





“สวัสดีไอ้โรจน์” รัชพลกำปืนไว้มั่น เขาไม่รู้ว่าโรจน์รอดคุกมาได้ยังไง แต่ที่แน่ๆตอนนี้มันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมกับลูกน้องของเสี่ยทรงยศที่ใครๆก็รู้จัก





“ต้องขอบคุณคุณสิตางศุ์นะครับที่ทำให้ไอ้โรจน์คนนี้ไปนอนในคุกมาหนึ่งคืน แต่ก็นั่นแหละตำรวจที่นี่กับเสี่ยทรงยศก็น่าจะรู้ว่าใครใหญ่กว่ากัน ผมเลยขอเสี่ยมาจัดการธุระส่วนตัวกับคุณสิตางศุ์เสียหน่อย ที่ทำให้ต้องเกือบไปกินข้าวแดงในคุก” โรจน์ขึ้นเสียงจนเกือบจะกลายเป็นตะโกน





“มึงอย่าหวังว่าจะได้เข้าใกล้สิตางศุ์” รัชพลจับมือสิตางศุ์ที่ยืนตัวสั่นไว้แน่น ไอ้โรจน์มันคงแค้นสิตางศุ์ที่ทำให้มันโดนจับ แต่เขาไม่ยอมแน่ ไอ้พวกนี้ไม่มีทางได้เข้าใกล้สิตางศุ์แน่นอน





“มึงเองก็อย่าหวังว่าจะรอดเลยไอ้รัช มึงไปทำอะไรไว้ มึงทำให้เสี่ยต้องขาดทุนย่อยยับ อยู่ดีไม่ว่าดีอยากเสือกเรื่องชาวบ้าน” สรรพนามของโรจน์ที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้รัชพลสัมผัสได้ถึงความเดือดดาลของคู่กรณี





“กูไปทำอะไรให้เสี่ยมึง ก็แค่เรื่องธุรกิจมันก็ต้องมีแข่งขันกันอยู่แล้ว” รัชพลเองก็เริ่มจะโมโห





“มึงจำไม่ได้เหรอว่ามึงทำอะไรไว้ เพราะมึงเสี่ยเลยค้าไม้ได้ยากกว่าเดิม ถ้ามึงไม่เอาตำรวจไปกวาดล้างเมื่อปีที่แล้วมันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก” โรจน์เผลอพูดออกมา





“ไอ้ห่าโรจน์มึงจะบอกมันทำไม” ไม้ที่ยืนอยู่ข้างๆตะโกนว่า เอาแล้วไง ไอ้โรจน์ ไอ้ปากเปราะ





“นี่เสี่ยทรงยศอยู่เบื้องหลังการค้าไม้เถื่อนนั้นเหรอ” สิ่งที่รู้มาใหม่นั้นทำให้รัชตกใจไม่น้อย 






เขารู้ว่าเสี่ยทรงยศก็ไม่ได้มีสะอาดมาก แต่ไม่คิดว่าจะสกปรกขนาดนี้ เรื่องค้าไม้นั่นมันเกิดเมื่อปีที่แล้ว เขาบังเอิญไปร่วมมือกับตำรวจกวาดล้างเพราะชาวบ้านที่หมู่บ้านผาตะวันเป็นคนเจอว่ามีคนแอบตัดไม้พะยูงอยู่ เรื่องมันเลยบานปลายจนตำรวจรวบมาเกือบหมด แต่ก็ยังจับคนบงการไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเป็นเสี่ยทรงยศ





“รู้ก็ดี แต่ขอโทษนะ เพราะว่ายังไงมึงก็ไม่รอดไปบอกตำรวจหรอก เสี่ยสั่งกูมาเก็บมึงละ รวมไอ้คุณสิตางศุ์ที่เสือกเรื่องของคนอื่นนั่นด้วย” โรจน์แสยะยิ้มเหี้ยม





“คุณรัช” สิตางศุ์จับมือของรัชพลไว้แน่น เขารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ เรื่องครั้งนี้มันไม่ต่างกับครั้งก่อน ครั้งที่รัชพลโดนยิงตอนวันเกิด สิตางศุ์ไม่อยากเห็นรัชพลต้องเจ็บตัวแบบนั้นอีกแล้ว





“ไม่ต้องกลัวสิตางศุ์ไม่ต้องกลัว” รัชพลบอกอีกคน






สองคนต่อคนเป็นสิบมันเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะรอดไป และแถวนี้ก็ไม่มีคนหรือบ้านคนอยู่แล้ว มันเป็นทางขึ้นไร่น้ำรินที่มีแต่ไร่และป่าเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขอความช่วยเหลือจากใคร





“ไปเอาตัวมันมา!” โรจน์สั่ง ลูกน้องของเสี่ยทรงยศพุ่งเข้าไปหาทั้งรัชพลและสิตางศุ์ รัชพลยกปืนขึ้นแล้วดันสิตางศุ์ไปอยู่ข้างหลัง






“มึงอย่าหวังว่าจะได้แตะต้องสิตางศุ์” รัชพลประกาศก้อง





“อย่าโง่หน่อยเลยคุณรัช มึงคนเดียวจะสู้อะไรพวกกูได้” โรจน์ไม่ฟังก่อนจะเดินมากระชากแขนสิตางศุ์ออกไป





“มึงมานี่ได้คุณสิตางศุ์ เสือกนักนะมึง” มือหยาบกร้านนั้นบีบข้อมือสิตางศุ์แน่นจนแดงปื้น รัชพลจึงเล็งปืนไปที่โรจน์แทน





“อย่าคิดจะลองดีเลยคุณรัช” ไม้พูดพร้อมยกปืนขึ้นจ่อรัชพล ไม่ต่างกับลูกน้องที่เหลือ






เอี๊ยด!






ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นรถสีดำคันใหญ่ที่เริ่มจะเปื้อนฝุ่นบนทางลูกรังขึ้นไร่น้ำรินก็มาจอดตรงหน้า พร้อมชายชุดดำทั้งห้าคนด้วยอาวุธครบมือ






“ปล่อยมืออกจากนายน้อยเดี๋ยวนี้!” เสียงของโชติตวาดก้องไปทั่วบริเวณ ทั้งหมดหันไปมองภาพนั้นด้วยความไม่เข้าใจ มีแต่สิตางศุ์ที่รู้ว่าคืออะไร






“คุณโชติ...” ร่างน้อยในมือโรจน์เรียกชื่อนั้น






โชติ มือซ้ายของคุณหญิงพิมล ศิรินทรา กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน!








***************************************************************************





ความเข้มข้นเลเวลหนึ่ง! เอาแล้ว คุณย่าหาเจอแล้ว อิโรจน์ก็มาแล้ว มากันไหม้หมดไปเล๊ยยยยยยยยยยย เรื่องราวจะวุ่นวาย ดราม่าน้ำตาตกใน อิพี่รัช สิตางศุ์กลัดหนองแค่ไหนต้องติดตาม ฮี่ๆ ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-03-2016 21:38:53
ตอนหน้าจะเป็นไงอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 14-03-2016 21:51:46
 :ling1: :ling1:
ขออีกๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-03-2016 22:23:18
เอาสิ ใครจะมาทำอะไรนายน้อยได้
นายโรจน์คราวนี้ไม่ต้องไปกินข้าวแดงละนะ กินดินแถวนั้นแหละ 5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-03-2016 22:47:17
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 14-03-2016 23:55:10
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 15-03-2016 02:08:08
จะเอาอีกกกกก :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2016 02:24:31
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 15-03-2016 02:45:44
อิโรจน์ คราวนี้ไม่ต้องกินข้าวแดงและนะแก คงได้กินลูกปืนแทนล่ะคราวนี้ o18  o18

คนเขียนคะ ขอตอนต่อไปรัวๆค่า
 :impress:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่20 14/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 15-03-2016 06:56:28
คุณย่าจะมาแล้ว ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 15-03-2016 20:42:15
บทที่ 21





“ปล่อยมืออกจากนายน้อยเดี๋ยวนี้!” เสียงของโชติตวาดก้องไปทั่วบริเวณ ทั้งหมดหันไปมองภาพนั้นด้วยความไม่เข้าใจ มีแต่สิตางศุ์ที่รู้ว่าคืออะไร





“คุณโชติ...” ร่างน้อยในมือโรจน์เรียกชื่อนั้น ใช่จริงๆ คุณย่าตามเจอเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณโชติคงไม่มาอยู่ที่นี่แน่นอน





“มึงเป็นใคร มายุ่งเหี้ยไรด้วย กูจะฆ่าไอ้หน้าอ่อนนี่ตอนนี้ก็ยังได้ เสือกดีนัก” โรจน์ยังคงนิ่ง แน่นอนว่าเขาไม่กลัวเพราะคนของเขานั้นมีมากกว่าตั้งสองเท่า มือกร้านนั้นบิดแขนสิตางศุ์จนสิตางศุ์ต้องร้องออกมา





“โอ้ย!”





ปัง!





ไม่มีคำพูดใดต่อจากนั้น โชติยิงเข้าที่ขาของโรจน์อย่างรวดเร็วก่อนที่ชายชุดดำหนึ่งในนั้นจะพุ่งเข้ามาหาสิตางศุ์แล้วดึงมาจากโรจน์โดยที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว





“ฉันเตือนแล้ว” น้ำเสียงนั้นราบเรียบราวกับว่าการยิงคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นอะไร





“โอ้ยไอ้เหี้ย ยืนมองทำเหี้ยอะไร มันยิงกู จัดการมันสิวะ!” โรจน์ตะโกนลั่น มือข้างหนึ่งกุมแผลไว้





รัชพลตั้งสติได้ก่อนจึงซัดศอกเข้าไปที่อกของไม้ซึ่งใช้ปืนจ่อเขาอยู่ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น ลูกน้องของโรจน์ยิงไปที่ชายชุดดำพวกนั้นแต่ก็ช้ากว่าบอดี้การ์ดมืออาชีพอย่างคนของโชติ โชติลากสิตางศุ์ให้ข้ามไปอีกฝั่งของรถเพื่อหลบกระสุน รัชพลก็ตามอีกคนไป แต่ชายชุดดำทั้งหลายก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ใกล้กับสิตางศุ์เลยสักนิด





ด้วยกำลังคนที่มีมากกว่านั้นทำให้คนของโรจน์ระดมยิงอย่างบ้าคลั่ง เสียงปืนคงดังสนั่นไปทั่วทั้งเขา แต่การ์ดชั้นดีของคุณหญิงพิมลนั้นแม่นกว่า ยิงเจาะขาเจาะแขนของลูกน้องเสี่ยทรงยศไปหลายคน ไม่มีใครตั้งใจจะยิงเพื่อให้ตาย พวกเขามาที่นี่เพื่อตามตัวนายน้อยกลับ ไม่ใช่การมาฆ่าใครหากไม่ได้รับคำสั่งจากนายใหญ่





“นายน้อยครับ อย่าเงยหน้าขึ้นมา” โชติดันหัวสิตางศุ์ให้อยู่ต่ำที่สุดก่อนที่เขาเองจะเปลี่ยนปลอกกระสุนแล้วเอี้ยวตัวไปยิงต่อแล้วหลบมาที่หลังรถอย่างรวดเร็วอีกครั้งเพื่อเป็นเกราะกำบัง





“พี่รัช พี่รัชล่ะ” สิตางศุ์ละล่ำละลักพูดพร้อมกับมองหารัชพลไปทั่ว แล้วก็ใจชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นว่ารัชพลนั้นก็มาหลบกระสุนพร้อมกับเขาแต่อยู่ตรงส่วนข้างหลังรถ นอกจากนั้นรัชพลเองก็ยังมีปืนในมือเพื่อป้องกันตัวเองเช่นกัน เห็นดังนั้นสิตางศุ์เลยรีบลุกแล้วเดินไปหารัชพลที่อยู่ไม่ไกล





“นายน้อยครับ” การ์ดคนหนึ่งเรียกเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์ลุกออกไปจากตรงนั้น





“พี่รัช” คนตัวเล็กเรียกรัชพล





“สิตางศุ์! นั่งลง!” รัชพลตะโกนลั่นแต่ก็ยังช้ากว่าลูกกระสุนที่ทะลุเข้ากลางลำตัวของสิตางศุ์ เลือดที่สาดกระเซ็นเต็มหน้าของรัชพลนั้นทำให้ปืนในมือของเขาหล่นลงกับพื้น





“นายน้อย!!!” โชติเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเช่นเดียวกับทุกคน ร่างของสิตางศุ์นั้นล้มลงตรงหน้าของรัชพล เมื่อเป็นดังนั้นชายชุดดำทั้งหมดก็สวนปืนออกไปอย่างไม่ต้องกังวลว่าจะโดนจุดสำคัญของคนร้ายแล้วทำให้ตาย





เพราะการที่มันมายิงนายน้อยก็เท่ากับว่าลมหายใจสุดท้ายของพวกมันได้หมดลงแล้ว!!!





เสียงปืนดังระรัวขึ้นหลายนัดจนดังสนั่นไปทั่ว แต่รัชพลกลับไม่รับรู้อะไรแล้วนอกจากร่างของสิตางศุ์ที่ล้มลงต่อหน้าของเขา รัชพลโอบกอดร่างที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานนั้นไว้อย่างคนเสียสติ หน้าของเขาซีดเผือด ใจเหมือนหล่นวูบหายไปตั้งแต่เสียงปืนนัดนั้นดังเข้ามาในหัว





“ตะ ตะ...ตาง สิตางศุ์” รัชพลยังคงควบคุมสติตัวเองไม่ได้ น้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เลือดของสิตางศุ์ยังคงไหลไม่หยุด เปลือกตาสีน้ำนมที่ปิดสนิทแน่นั้นทำรัชพลทำตัวไม่ถูก





“รีบพานายน้อยไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ เร็ว!” รัชพลไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รู้สึกตัวอีกทีร่างของสิตางศุ์ก็ถูกพาขึ้นรถ เขาได้แต่เดินตามไม่ห่าง ไม่นานก็มาอยู่บนรถพร้อมสิตางศุ์เรียบร้อย





รถที่เต็มไปด้วยรอยกระสุนพุ่งตัวลงเขาอย่างรวดเร็วท่ามกลางพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้าลง รัชพลร้องไห้... เขากำลังร้องไห้ไม่หยุด สิตางศุ์นิ่งสนิท เขาจำหน้าของคนรักตอนที่กำลังจะเดินมาหาเขาได้ สิตางศุ์ยิ้มให้เขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ สิตางศุ์เริ่มตัวซีดลง เลือดก็ยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง





ไม่นานทั้งหมดก็พากันมาที่โรงพยาบาล สิตางศุ์ถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว รัชพลที่ตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดกำลังนั่งอยู่หน้าห้องนั้นอย่างสติหลุดลอย ชายชุดดำวิ่งกันให้วุ่น ไม่ใช่แค่ห้าคนแต่ตอนนี้กลับมีมาเพิ่มจนเต็มโรงพยาบาลไปหมด รัชพลไม่สนใจใครพอๆกับที่ไม่มีใครสนใจเขา





รัชพลรู้สึกเหมือนตัวเขากำลังเคว้งไปหมด สิตางศุ์โดนยิงเพราะเดินมาหาเขา น้องต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา และเรื่องของเสี่ยทรงยศเขาก็เป็นคนก่อทั้งนั้น สิตางศุ์ไม่น่าจะต้องมีโดนยิงเพราะเขาแบบนี้ ยิ่งคิดรัชพลก็ยิ่งโทษตัวเอง ความจริงสิตางศุ์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย สิตางศุ์ไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้





รัชพลยกมือขึ้นยีหัวเราตัวเอง หยดเลือดที่สาดใส่เขานั้นยังอยู่เต็มร่างกาย เลือดของสิตางศุ์ เพียงแค่มองชายหนุ่มร่างสูงก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง หากสิตางศุ์ต้องเป็นอะไรไปเพราะเขา เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเองแน่นอน ขอแค่สิตางศุ์ปลอดภัย อะไรเขาก็ยอม ได้โปรด...





อีกมุมหนึ่งโชติรีบกดโทรหาคุณหญิงพิมลอย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการตามหาสิตางศุ์ แต่กลับปล่อยให้สิตางศุ์ต้องถูกคนร้ายยิง เรื่องนี้เขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่นานปลายสายก็รับ





“ว่าไงโชติ” คนรับนั้นไม่ใช่ใคร ชัชคนสนิทของคุณหญิงพิมลซึ่งถือว่าเป็นมือขวาของเธออีกด้วย





“มีเรื่องจะรายงานนายหญิงเรื่องนายน้อย ท่านสะดวกรึเปล่า” โชติพยายามควบคุมน้ำเสียงให้ปกติที่สุด





“ท่านกำลังคุยธุระอยู่กับลูกค้า เดี๋ยวฉันจะไปเรียนท่านให้” ปลายสายตอบมาก่อนจะเงียบไป โชติหายใจเข้าลึกๆเพื่อเตรียมรับบทลงโทษจากนายเหนือหัว











ในร้านอาหารจีนระดับห้าดาว มีคนสามคนกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ ซึ่งรอบๆก็รายล้อมไปด้วยชายชุดดำแต่มันก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศภายในห้องอาหารน่าอึดอัดแต่อย่างใด





“ตาอัคนี่เก่งจังเลยนะ แหม...ถ้าย่ามีหลานสาวคงต้องขอดองยายณีไว้ก่อนแล้ว เสียดายมีแต่หลานชาย” คุณหญิงพิมลพูดพร้อมกับยิ้มให้สองคนตรงหน้า หุ้นส่วนคนสำคัญของศิรินทรากรุ๊ป คุณหญิงริลณีและอัคคีหลานชาย ถือว่าเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญเลยก็ว่าได้ และยังเป็นเพื่อนของเธอสมัยเรียนอีกด้วย





“ตาอัคน่ะมีแฟนแล้วจ้ะ ถึงเธอมีหลานสาวก็คงดองไม่ได้” ริลณีตอบกลับ อัคคีหลานชายคนโตของเธอเพิ่งจะมาคุยเรื่องธุรกิจกับเธอเป็นครั้งแรก ดูจะถูกตาต้องใจคุณหญิงพิมลไม่น้อยเลยทีเดียว





คุณหญิงพิมลไม่ได้ทันพูดอะไรต่อชัชก็เข้ามาพร้อมกับก้มลงกระซิบอะไรบ้างอย่างแล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับเธอ เธอหันมายิ้มให้หุ้นส่วนตรงหน้า





“ขอคุยโทรศัพท์ซักครู่นะ พอดีเรื่องด่วนจริงๆ” ไม่บ่อยนักที่เธอจะเสียมารยาทต่อหน้าแขก แม้ว่าจะเป็นคนรู้จักกันก็ตาม แต่เรื่องของสิตางศุ์หลานชายคนเดียวของเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน





“ไปคุยเถอะ” ริลณีพูด เธอเข้าใจพิมลเพื่อนของเธอดี คุณหญิงพิมลพยักหน้าก่อนจะรับสายนั้น





“ว่าไงโชติ” น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้นเมื่อคุยกับลูกน้อง





“ตอนนี้เจอตัวคุณสิตางศุ์แล้วครับ อย่างที่นายคิดไว้ คุณภูวดลมาที่เชียงรายเพราะมาหาคุณสิตางศุ์ คุณสิตางศุ์อยู่ไร่น้ำริน ซึ่งเป็นไร่ของรุ่นน้องสมัยเรียนครับ” โชติรายงานตามที่ให้คนไปสืบมา





“ดีมาก รับพาหลานฉันกลับมาเดี๋ยว ฉันต้องการรู้ว่านังมินตรามันทำอะไรหลานฉัน ถึงต้องหนีไปแบบนั้น” คุณหญิงพิมลพูดเสียงเหี้ยม ที่เธอยังไม่ทำอะไรอดีตลูกสะใภ้ตอนนี้เพราะเธอต้องการให้สิตางศุ์เป็นคนบอกเธอให้แน่ชัดเสียก่อน เธอไม่ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้นานหรอก ถึงจะเป็นแม่ของหลานเธอก็ตาม





“คงไม่ได้ครับ เอ่อ... คือว่าตอนนี้นายน้อยถูกยิงอาการสาหัสครับ” คำรายงานของโชติทำให้เกิดเสียงตบโต๊ะดังลั่นไปทั่วห้อง พร้อมกับร่างของผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในที่นี้ลุกพรึบอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนสะดุ้งเป็นแถบๆ





“ปล่อยให้หลานฉันโดนยิงได้ยังไง! ใครเป็นคนยิง!” คุณหญิงพิมลตวาดลั่น ตอนนี้เธอโมโหมาก มือบางนั้นกำแน่นจนโทรศัพท์แทบจะแหลกคามือ





ริลณีและอัคคีที่ไม่เคยเจอมุมนี้ของเธอถึงกับผวาแล้วนั่งเงียบ แต่ดูเหมือนคนในห้องนี้จะไม่มีปฏิกิริยาตอบกับ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ





“เป็นคนของเสี่ยทรงยศ ผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนี้ครับ เขามีปัญหากับไร่น้ำรินที่นายน้อยมาอาศัยอยู่ ตอนนี้ผมจัดการพวกนั้นไปแล้ว และให้คนไปเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วครับ” โชติรายงานต่อ ข้อมูลที่เขาต้องการนั้นหาได้ไม่ยาก





“แล้วไอ้นักเลงบ้านนอกนั่นกล้าดียังไงมายิงหลานฉัน แล้วไอ้ไร่อะไรนั่นมันเป็นสาเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องโดนยิงอย่างนั้นเหรอ ฉันจะขึ้นไปหาสิตางศุ์ตอนนี้!” คุณหญิงพิมลเดือดดาล เธอโยนโทรศัพท์ให้ชัชอย่างแรงแต่ชัดก็รับไว้อย่างแม่นยำ





เรื่องนี้เธอไม่อยู่นิ่งแน่ กล้าดียังไงมายิงสิตางศุ์ ทั้งไอ้เสี่ยทรงยศอะไรนั่น และไร่น้ำรินที่เป็นคนทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัว เธอจะไม่ปล่อยไว้ซักคน!





“ขอโทษนะณี วันนี้ฉันต้องขอตัวก่อน คงต้องให้เลขาฯคุยต่อ” เธอหันมาพูดกับริลณีและอัคคีที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง





“เอ่อ... ถ้ามีธุระด่วนก็ไม่เป็นไร” ริลณียิ้มเจื่อน ใช่ว่าคุณหญิงพิมลจะไม่เคยของขึ้น ออกจะอารมณ์เสียบ่อยด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง





“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัว ขอโทษอีกครั้ง” พูดแค่นั้นก่อนจะหันไปสบตาเลขาฯสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ รมิตาเลขาฯของคุณหญิงพิมลเองก็รู้หน้าที่แล้วเดินมาประจำตำแหน่งแทน





ร่างเล็กของหญิงวัยหกสิบกว่าเดินไม่สบอารมณ์ออกมาจากห้องอาหารโดยมีคนติดตามเดินตามหลังเป็นพรวน เธอกำมือแน่นเมื่อคิดถึงเรื่องสิตางศุ์หลานชายของเธอ แค่เรื่องลูกสะใภ้ตัวดีสร้างไว้ยังไม่จบ แล้วหลานรักของเธอยังหนีไปจนตามไม่เจอตั้งสองเดือน เจออีกทีก็โดนยิงบาดเจ็บสาหัส เธอเลี้ยงสิตางศุ์มาดีแค่ไหนใครๆก็รู้ แผลแม้แต่นิดเดียวเธอก็ไม่ให้มี สิตางศุ์ไม่เคยเจ็บตัวเพราะเธอ แล้วคนพวกนั้นเป็นใคร!





“หาข้อมูลไอ้เสี่ยทรงยศอะไรนั่นให้ฉัน แล้วส่งคนไปไร่น้ำรินด้วย ฉันต้องการรู้ระหว่างสองเดือนที่สิตางศุ์ไปอยู่ที่นั่นทั้งหมด!” เสียงนั้นดังลั่นเป็นอันว่าคำสั่งได้ถูกถ่ายทอดไปที่ชัชเรียบร้อยแล้ว





พิมล ศิรินทราคนนี้ไม่เคยทำใครก่อน แต่ถ้ามายุ่งกับเธอหรือคนของเธอ เธอก็ไม่ปล่อยไว้เช่นกัน!











ประตูหน้าห้องฉุกเฉินถูกเปิดขึ้นหลังจากที่มันปิดเงียบมาหลายชั่วโมง ร่างของคุณหมอหนุ่มเดินออกมาด้วยท่าทางที่เหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด รัชพลรีบพุ่งตัวไปพร้อมกับกับโชติที่รออยู่ตลอดเวลา





“สิตางศุ์เป็นยังไงบ้างครับ” รัชพลละล่ำละลักถาม





“ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ โชคดีที่กระสุนไม่โดนส่วนสำคัญ” นายแพทย์ทศพรพูด นั่นทำให้รัชพลใจชื้นขึ้นมา โชติถอนหายใจอย่างโล่งอก





“ขอบคุณมากครับคุณหมอ” ชายวัยกลางคนเอ่ยขอบคุณ ทศพรยิ้มก่อนจะเดินออกไป





รัชพลทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หลังจากที่เขายืนมานาน รอซักพักร่างของสิตางศุ์ที่นอนนิ่งก็ออกมาจากห้องผ่าตัด รัชพลจะเข้าไปหาแต่ก็โดนกันจากชายชุดดำหลายคนที่รายล้อมไม่ห่าง เขาได้แต่เดินตามหลังไปอย่างนั้นแม้จะเข้าไม่ถึงตัวสิตางศุ์ก็ตาม แค่ได้เห็นว่าสิตางศุ์ของเขายังปลอดภัยก็ดีมากแล้ว





รัชพลเดินตามมาถึงห้องพักของสิตางศุ์ เขาได้เข้ามาในห้องก็จริงแต่ก็ยังเข้าใกล้สิตางศุ์ไม่ถึงห้าเมตรเลยด้วยซ้ำ ทุกคนทำเหมือนรัชพลไม่มีตัวตนในนี้ ทุกสายตามุ่งไปยังสิตางศุ์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเรียบร้อย รัชพลได้แต่ทำตาละห้อยมองอยู่ไกลๆ ร่างสูงยิ้มเล็กน้อย เขาดีใจที่สิตางศุ์ปลอดภัย สิตางศุ์ของพี่รัช





รัชพลยืนมองสิตางศุ์ไม่วางตา แล้วอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นภุมรินที่โทรมา รัชพลกดรับแต่สายตาก็ยังคงทอดมองไปหาสิตางศุ์





“พี่รัช รินรู้เรื่องแล้วนะ พี่ตางเป็นยังไงบ้าง” ภุมรินถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก





“ตอนนี้สิตางศุ์ปลอดภัยแล้ว ตางปลอดภัยแล้วริน” รัชพลพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆและใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและคราบน้ำตา





“โล่งอกไปที พี่ภูไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วนะพี่รัช พี่ตะวันไปส่ง รินกับพ่ออยู่ที่ไร่ คนมาเต็มไร่เลย พ่อโมโหมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้” ภุมรินบอก ตอนนี้สถานการณ์ที่ไร่น้ำรินก็ใช่ว่าจะดีนัก





“เดี๋ยวพี่จะกลับไป แต่ตอนนี้พี่ขออยู่กับสิตางศุ์ก่อน” รัชพลยังคงมองสิตางศุ์ไม่วางตา ตอนนี้ชายชุดดำไม่ล้อมสิตางศุ์ไว้แล้ว แต่กลับแยกตัวกันไปอยู่คนละมุมห้องแทน ส่วนโชตินั้นก็นั่งบนโซฟาโดยไม่มีใครสนใจรัชพลที่ยืนอยู่





“ตาง!” ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับภูวดลที่พุ่งตัวเข้ามา รัชพลตัดสายภุมรินทิ้งพร้อมกับเก็บมือถือ





“สวัสดีครับคุณภู” โชติลุกขึ้นแล้วทุกคนก็เปิดทางให้ภูวดลเข้าไปหาสิตางศุ์ รัชพลจะเดินตามแต่ก็ถูกกันไว้





“ตางเป็นยังไงบ้างครับคุณโชติ” ภูวดลตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าสิตางศุ์โดนยิง เขารีบมาหาอย่างรวดเร็ว





“ปลอดภัยแล้วครับ คุณภูครับ อีกสักพักนายหญิงจะมาที่นี่ รบกวนคุณภูอยู่คุยกับท่านด้วยนะครับ” โชติพูด ภูวดลพยักหน้ารับ





“เอ่อ... คุณภูครับ” รัชพลเรียกอีกภูวดลเบาๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่คนในห้องนี้หันมาสนใจรัชพล





“คุณรัช ทำไมเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดแบบนี้ล่ะครับ” ภูวดลที่เพิ่งเห็นเดินตรงมาหารัชพล เขารู้ว่ารัชพลเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่คิดว่ารัชพลจะสภาพเป็นแบบนี้





“ผม...” รัชพลพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะพูดอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้เขาอยากอยู่ใกล้สิตางศุ์





“เอาเป็นว่าตอนนี้คุณกลับบ้านไปจัดการตัวเองก่อนนะครับ เรื่องสิตางศุ์ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมดูแลให้” ภูวดลพูดกับรัชพลที่ตอนนี้ยืนทำหน้าเจื่อน ผิดกับตัวตนจริงๆของรัชพล





“แต่ว่า” รัชพลอยากจะค้านแต่สายตาที่โชติมองมานั้นใครๆก็รู้ว่าไม่พอใจแค่ไหน เขาเลยต้องเก็บความต้องการของตัวเองไว้ในใจ ไม่กล้าเอ่ยว่าอยากจะกอดสิตางศุ์สักครั้ง





“เดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าห้องครับ คุณตะวันเป็นคนพาผมมา” ภูวดลต้องเป็นคนพารัชพลที่สติยังคงไม่อยู่ครบออกไปนอกห้อง





ตะวันที่รออยู่หน้าห้องก็ตรงมาหาภูวดลและรัชพลที่สภาพดูไม่ค่อยดีนัก ตะวันมองหน้าภูวดลเป็นเชิงถาม ภูวดลได้แต่ส่งสายตาเป็นเชิงว่าไม่ควรจะถามอะไรตอนนี้





“กลับไร่ก่อนนะไอ้รัช เดี๋ยวค่อยมาเยี่ยมคุณสิตางศุ์ใหม่” ตะวันบอกกับเพื่อน สีหน้ารัชพลตอนนี้ไม่สู้ดีนัก





“ฝากด้วยนะครับคุณตะวัน” ภูวดลเองก็เห็นใจรัชพลไม่น้อย แต่สถานการณ์ตอนนี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้มากเช่นกัน





“ภู!” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กของหญิงวัยหกสิบกว่าเดินมาหาภูวดลพร้อมกับชายชุดดำอีกหลายคนโดยไม่สนใจรัชพลกับตะวันเลยสักนิด





“สวัสดีครับคุณย่า เชิญข้างในก่อนครับ” ภูวดลยกมือไหว้ คุณหญิงพิมลรับไหว้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว





รัชพลมองแผ่นหลังที่หายเข้าไปในห้องนั้นด้วยแววตาที่รู้สึกสมเพชตัวเอง แม้แต่หน้าของเขายังไม่มีใครอยากจะมองเลย ไม่มีใครสนใจว่ามีเขาอยู่ ระยะห่างระหว่างเขากับสิตางศุ์เหมือนไกลออกไปทุกที เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าเมื่อเทียบกับสิตางศุ์แล้ว





รัชพลคนนี้คงเป็นได้แค่ชาวไร่ธรรมดาที่ไม่สมควรได้ใกล้ชิดกับคุณสิตางศุ์ ศิรินทราที่สูงส่งเลยสักนิด แค่คิดรัชพลก็น้ำตาไหลอีกรอบ





ตะวันได้แต่ตบไหล่เพื่อนรักเบาๆเพื่อให้กำลังใจ เหมือนเส้นทางรักของรัชพลจะไม่เรียบง่ายอีกต่อไปแล้ว












*****************************************************************************















ดราม่าเลเวลสองงงงงงงงงงงงงงง  :katai1: มาเอาใจช่วยพี่รัชกันดีกว่า คุณรัชผู้อยู่นอกสายตาเมื่อนายน้อยสิตางศุ์อยู่ในมือคุณย่าแล้ว จะรอดมั้ยพระเอกของช้านนนนนนนนนนนนน ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-03-2016 20:59:01
ทำไมพี่รัชมัวแต่เจียมตัว น้อยใจอยู่ได้ สู้สิเพ่!! สู้สิ กลับมาโชว์ฟอร์มให้สมกับเป็นว่าที่หลานเขยมาเฟียสิ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-03-2016 21:31:44
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 15-03-2016 21:40:09
 :sad4: น่าสงสาร ฮือๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 15-03-2016 21:53:40
งานหนักมากอ่ะพี่รัช สู้ๆนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-03-2016 22:44:14
ปกติพี่รัชจะเป็นคนตรงๆหนิสู้ทุกสถานการณ์แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้อ่อนแอแบบนี้สู้สิ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-03-2016 23:10:54
เพื่อนคุณย่าคือคุณยายของรัชใช่ปะ เอะรึเราจำผิด 5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 15-03-2016 23:16:50
Noooooooooooooooo!!!!!   :hao5: :hao5: ต้มน้ำรอมาม่าชามโต  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 15-03-2016 23:48:02
อิพี่รัช สู้เค้าน้า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2016 01:11:49
พี่รัชเจอศึกหนักจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: DLuciFer ที่ 16-03-2016 01:12:53
คุณยายณีคะช่วยเคลียร์ทางให้คุณรัชด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่21 15/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-03-2016 14:33:32
สู้ๆนะพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 16-03-2016 20:52:21
บทที่ 22





เพี๊ยะ!





เสียงนั้นดังไปทั้งห้อง หน้าของโชติหันไปตามแรงตบแต่ถึงอย่างนั้นชายร่างสูงก็ยังคงยืนนิ่ง ทุกคนชินกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่ใช่กับภูวดล เขาค่อนข้างตกใจเล็กน้อยที่คุณย่าของเพื่อนรักตบเข้าที่หน้าของโชติอย่างแรง





“เธอรู้ใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงตบเธอ ฉันสั่งให้มาตามและดูแลสิตางศุ์ ทำไมปล่อยให้หลานฉันโดนยิงได้ ถ้าสิตางศุ์เป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” คุณหญิงพิมลพูด แม้จะเบาตามปกติแต่ด้วยน้ำเสียงนั้นก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่พอใจมากแค่ไหน





“ผมขอโทษครับ” โชติก้มหัวอย่างยอมรับความผิด เรื่องนี้เขาพลาดเต็มๆ ความจริงแล้วนั้นเขาตามติดรถของไร่น้ำรินระยะไม่ห่างมาก แล้วอยู่ๆรถกระบะนั้นก็จอด เขาดูเชิงอยู่นานกว่าจะตามออกไปช่วย ถ้าไปเร็วกว่านี้เรื่องมันอาจจะไม่แย่ขนาดนี้ก็เป็นได้





“ฉันไม่อยากฟังคำขอโทษ ไปไกลๆให้พ้นหูพ้นตาฉัน ก่อนที่จะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้” เธอว่า นั่นทำให้โชติโค้งตัวให้อีกครั้งและออกจากห้องไปตามคำสั่ง





“ใจเย็นๆนะครับคุณย่า” ภูวดลพูดแล้วมายืนข้างๆพิมลแทนโชติที่เดินออกไปแล้ว





คุณหญิงพิมลไม่ตอบแต่กลับเดินไปหาสิตางศุ์ที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ เธอลูบหัวหลานชายที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองเดือนเบาๆ สิตางศุ์ตอนนี้ตัวซีดมาก ข้างๆมีทั้งถุงเลือดและถุงน้ำเกลือห้อยอยู่ ยิ่งเห็นสภาพของหลานชายเธอยิ่งแค้นคนที่ทำร้ายสิตางศุ์ ชั่งกล้าดีนัก!





“เรื่องที่ให้ไปสืบว่ายังไงบ้างชัช” หญิงร่างเล็กหันมาถามลูกน้องคนสนิท





“เสี่ยทรงยศเป็นผู้ค้ารายใหญ่เกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตรที่แปรรูปครับแต่ช่วงหลังมานี้ไร่น้ำรินก็ส่งออกเช่นกัน ทำให้สินค้ามีการเปรียบเทียบและสินค้าของเสี่ยทรงยศนั้นขายไม่ได้ ขาดทุนไปไม่น้อย แต่ที่น่าสนใจคือเสี่ยทรงยศคนนั้นค้าไม้เถื่อนด้วยครับ เมื่อปีก่อนคุณรัชพลเจ้าของไร่น้ำรินได้ร่วมกับตำรวจกวาดล้างครั้งใหญ่ ทำให้เสี่ยทรงยศขาดทุนอย่างมาก นี่อาจจะเป็นสาเหตุของความบาดหมาง ส่วนเรื่องของนายน้อยตอนอยู่ไร่น้ำรินก็ปกติดีครับ นายน้อยเข้าทำงานในส่วนของบัญชีของไร่น้ำริน โดยเป็นเลขาฯให้คุณรัชพลด้วย” ชัชรายงานข้อมูลจากที่เขาหามาได้ ถือว่าเป็นที่พอใจของคุณหญิงพิมลไม่น้อย





“ใช้เรื่องของเถื่อนจัดการไอ้เสี่ยนั่นซะ ส่วนนายรัชพลที่ทำให้หลานฉันต้องโดนยิงก็เก็บมัน แล้วจัดการไร่น้ำรินด้วย” คุณหญิงพิมลสั่ง ภูวดลตกใจเมื่อได้ยินคำสั่งอย่างหลังนั้น





“ไม่ได้นะครับคุณย่า” ภูวดลรีบพูดก่อนที่ชัชจะรับคำสั่ง ไม่ได้ คุณย่าจะฆ่ารัชพลไม่ได้ แล้วไหนจะไร่น้ำรินอีก





“ทำไมจะไม่ได้ล่ะภู พวกนั้นมันทำให้สิตางศุ์ต้องเป็นแบบนี้นะ” คุณหญิงพิมลหันมาตวาดใส่ภูวดล เธอจะจัดการทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้สิตางศุ์ต้องโดนยิง ไม่ใช่แค่พวกนักเลงกระจอกนั่น แต่ไร่น้ำรินรวมทั้งไอ้คนที่ชื่อรัชพลก็จะต้องพินาศเหมือนกัน





“แต่สิตางศุ์เป็นคนไปขออาศัยเค้านะครับ สิตางศุ์อยู่ในไร่น้ำรินสองเดือนโดยที่คนของไร่น้ำรินไม่มีใครไล่สิตางศุ์ซักคน แล้วยังให้ความช่วยเหลือคนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นอย่างมันอีก คุณย่าครับ ผมขอพูดตรงๆนะครับ บางทีไอ้ตางมันอาจจะอยากอยู่ไร่น้ำรินแม้มันจะโดนยิงปางตายขนาดนี้ มากกว่าอยู่บ้านตัวเอง” ภูวดลพูด เขาปล่อยให้เรื่องนี้จบลงโดยที่ไร่น้ำรินต้องถูกคุณหญิงพิมลทำลายไม่ได้ เพราะไร่น้ำรินไม่ผิดอะไรเลย





“ทำไมพูดแบบนั้นภูวดล” คุณหญิงพิมลเริ่มจะโมโหเพื่อนรักของหลานชายคนนี้ กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับเธอ





“มันคือความจริงครับคุณย่า คุณย่าก็น่าจะรู้ดี ไม่อย่างนั้นตางมันจะหนีมาอยู่เชียงรายตั้งนานสองนานแบบนี้เหรอครับ ผมอยากถามคุณย่าว่า คุณย่าเคยคุยกับสิตางศุ์มันตรงๆบ้างมั้ย ที่คุณย่าบอกว่ารักสิตางศุ์คุณย่าแสดงให้มันเห็นรึเปล่า สิตางศุ์มันน่าสงสารนะครับ พ่อกับแม่มันก็ไม่เคยสนใจ มันก็แค่ต้องการความรักจริงๆจากใครซักคนที่ครอบครัวให้ไม่ได้ และตอนนี้มันก็เจอแล้วด้วย คุณย่าเองก็สนใจแต่เรื่องธุรกิจ เลี้ยงตางมันด้วยเงิน คุณย่าถามมันบ้างมั้ยว่ามันต้องการรึเปล่า และที่มันหนีมาที่นี่มันมีปัญหาอะไรคุณย่าเคยคิดจะถามมันบ้างมั้ยครับ” ภูวดลพูดยืดยาว





เขาไม่กลัวว่าต่อจากนี้ผู้หญิงตรงหน้าจะจัดการกับเขายังไง แต่การที่เขาได้พูดสิ่งที่เขาอยากบอกคุณหญิงพิมลมาตลอดในวันนี้ถือว่าเขาบรรลุเป้าหมายแล้ว ใช่ว่าเขาจะไม่ห่วงสิตางศุ์ และเขาก็รู้ว่าคุณย่าก็ห่วงมันเหมือนกัน แต่เธอกลับแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยไม่ถามถึงสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องต่างๆเลย บางทีสิตางศุ์ก็ไม่ควรเกิดมาอยู่ในครอบครัวนี้ด้วยซ้ำ





คุณหญิงพิมลนิ่งไป เธอเบือนหน้าหนี ใช่... เธอไม่เคยถามถึงความรู้สึกของสิตางศุ์เลยสักนิด ตั้งแต่เด็กเธอเลี้ยงสิตางศุ์ก็จริง แต่ส่วนใหญ่แล้วสิตางศุ์อยู่กับพี่เลี้ยงมากกว่า เธอต้องทำงาน เธอมีสังคม อนันต์ลูกชายของเธอก็เช่นเดียวกัน มินตราลูกสะใภ้ของเธอจึงต้องหนีไปมีชู้อย่างนั้น แล้วผลกรรมทุกอย่างมันก็ตกที่สิตางศุ์ หลานของเธอ





สิตางศุ์เป็นเด็กเงียบๆที่ไม่พูดกับใคร เรื่องที่อยู่ในใจของสิตางศุ์ไม่มีใครเคยรู้ มันตกตะกอนจนวันหนึ่งมันทะลุออกมา ไม่แปลกที่สิตางศุ์อยากจะวิ่งหนีความจริงที่โหดร้ายพวกนั้น เธอเอาแต่โทษมินตรา แต่ความจริงแล้วทั้งเธอและอนันต์ก็มีส่วนที่ทำให้มันต้องเป็นแบบนี้





“และเรื่องของน้ามิน ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากเพราะผมเป็นคนนอกครอบครัว สิตางศุ์เล่าให้ผมฟังบ้างแล้ว ผมอยากให้คุณย่าฟังจากปากสิตางศุ์เองดีกว่า ผมพูดคงไม่เหมาะเท่าไหร่ เรื่องไร่น้ำรินกับคุณรัชพลผมขอเถอะนะครับ ส่วนเรื่องอื่นผมไม่ห้าม” ภูวดลลดเสียงลงพูดตามปกติ เขารู้สึกแย่เล็กน้อยก็ตรงที่ขึ้นเสียงกับคุณหญิงพิมล แต่ก็นั่นแหละ ใครจะระงับอารมณ์ได้ ถ้าเป็นเขา เขาคงไม่ทนมานานขนาดนี้ แต่ดันเป็นสิตางศุ์ไง มันเลยเก็บไว้คนเดียวตลอด





“ตกลงผมจะจัดการแค่เรื่องของเสี่ยทรงยศก่อนนะครับ” ชัชที่ยืนอยู่พูดขึ้น ก่อนจะออกไปทำตามหน้าที่ของตัวเอง





คุณหญิงพิมลไม่พูดอะไร เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาภายในห้อง แล้วรีบคว้ายาดมในกระเป๋ามาสูดเพื่อที่จะให้อารมณ์ตัวเองเย็นลง ภูวดลถอนหายใจหนักๆทิ้งแล้วหันไปมองสิตางศุ์บนเตียง





อย่าเพิ่งตื่นนะไอ้แห้ง อย่าเพิ่งตื่นมารับรู้เรื่องพวกนี้ในตอนนี้ หลับไปนานๆจนเรื่องจบเลย เดี๋ยวเพื่อนคนนี้จะจัดการให้เอง











เวลาสามทุ่มที่ไร่น้ำริน รัชพลกลับมาจากโรงพยาบาลด้วยสภาพอิดโรย เขาถูกตะวันและภุมรินพาขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ข้างล่างบ้านนั้นมีบุรินทร์ที่นั่งหัวเสียอยู่ เพราะอยู่ๆก็มีชายชุดดำเข้ามาเต็มบ้าน เขาขู่จะแจ้งความแต่คนพวกนั้นกลับไม่สะทกสะท้าน ไม่นานก็มีรถคันหนึ่งมาจอดหน้าบ้าน และมีผู้ชายคนหนึ่งต้องการที่จะพูดกับเขา เจ้าของไร่น้ำริน





“สวัสดีครับคุณบุรินทร์ ผมโชติ เป็นตัวแทนของคุณหญิงพิมล ศิรินทรา คุณย่าของคุณสิตางศุ์ ศิรินทรา คนที่มาขออาศัยอยู่ที่ไร่น้ำรินเป็นเวลาสองเดือน” โชติแนะนำตัวเมื่อนั่งลงตรงหน้าของบุรินทร์





เขาได้รับคำสั่งจากชัชให้มาคุยกับคนที่ไร่น้ำริน เขาแปลกใจเล็กน้อยที่การมาไร่น้ำรินในครั้งนี้มาเพียงแค่การเจรจา ไม่ใช่การจัดการขั้นเด็ดขาดตามความตั้งใจของนายใหญ่ตั้งแต่แรก     





“พวกคุณมีอะไร ทำไมต้องมาเต็มไร่ของผมอย่างนี้ ผมแจ้งข้อหาบุกรุกได้เลยนะครับ” บุรินทร์โมโหไม่น้อยที่ย่าของสิตางศุ์ทำแบบนี้ เขาพอจะรู้เรื่องจากลูกชายคนเล็กมาบ้างแล้วว่าย่าของสิตางศุ์นั้นไม่ธรรมดา แต่นั่นก็ใช่ว่าจะเข้ามาในพื้นที่ของคนอื่นได้ตามอำเภอใจแบบนี้





“ใจเย็นๆครับคุณบุรินทร์ คุณก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น นายน้อยถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บ เป็นที่แน่นอนว่าคุณหญิงต้องไม่พอใจเป็นอย่างมาก และสาเหตุก็มาจากลูกชายของคุณ คุณรัชพล” โชติพูดตามความจริงในสิ่งที่คุณหญิงพิมลคิด






พอดีกับที่รัชพลลงมาพร้อมภุมรินและตะวันพอดี รัชพลหน้าเจื่อนลงเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากปากของโชติ จนภุมรินจับแขนพี่ชายไว้แล้วลูบเบาๆ ทั้งสามคนพกากันมานั่งข้างๆบุรินทร์ที่ยังคงทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่





“พวกคุณมีปัญหากับผู้มีอิทธิพลที่นี่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรถ้ามันไม่สร้างความเดือดร้อนให้คุณสิตางศุ์ แน่นอนว่าเราขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่พวกคุณต้อนรับคุณสิตางศุ์อย่างดี แต่เรื่องนี้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง คุณหญิงท่านจะถือว่าเรื่องนี้ท่านไม่เอาความกับไร่น้ำรินและคุณรัชพล แต่ต่อจากนนี้เธอต้องการให้คุณสิตางศุ์ไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับคนที่นี่ โดยเฉพาะคุณรัชพล ที่เป็นต้นเหตุให้หลานชายของเธอต้องเจ็บตัว และผมขออนุญาตเก็บของของคุณสิตางศุ์กลับด้วย หวังว่าพวกคุณจะสะดวก แต่ถ้าไม่พวกผมก็ไม่มีปัญหาอะไร” โชติร่ายยาว





รัชพลที่นั่งฟังอยู่กำมือแน่น ยิ่งฟังยิ่งตอกย้ำว่าเขาเป็นคนทำให้สิตางศุ์ต้องโดนยิง และยิ่งไปกว่านั้น สิตางศุ์ของเขากำลังจะจากไป...






ใครจะยังอยากให้หลานตัวเองต้องมาอยู่ในไร่ในสวนแบบนี้ แล้วยังจะมีอันตรายรอบด้าน พวกเขายังจัดการเรื่องเสี่ยทรงยศไม่ได้เลย แม้จะเกิดเรื่องมากมายแล้วก็ตาม ไร่น้ำรินก็ยังจัดการไม่ได้ เขาคงไม่กล้าร้องขอให้สิตางศุ์กลับมาอยู่ที่นี่ต่อ เขาไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องมาเสี่ยงอันตรายอยู่ที่นี่ เพราะแค่นี้เขาเองก็ยังรับไม่ไหวแล้ว





“ผมยินดีให้พวกคุณเก็บของของสิตางศุ์ และพวกคุณก็กรุณาช่วยออกไปจากไร่ของผมหลังจัดการเสร็จด้วย” บุรินทร์ไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ จากที่ฟังมานั้นเขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนกันที่คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะไร่น้ำริน





“ขอบคุณครับ ถ้าเก็บของเสร็จพวกเราจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” โชติพูดแล้วลุกขึ้น





“ริน ไปช่วยดูแทนพ่อด้วย” บุรินทร์สั่งลูกชายคนเล็ก ภุมรินรับคำแล้วเดินนำโชติขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับลูกน้องอีกสองสามคน ตะวันเองก็ตามไปด้วย เขาไม่ไว้ใจให้ภุมรินไปกับคนอื่นเพียงลำพัง





เมื่อตกลงกันได้บุรินทร์ก็ถอนหายใจหนักๆแล้วทิ้งตัวเอนลงไปกับพนักพิง หันไปมองลูกชายคนโตที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่อคลอ เขาเอื้อมมือไปโอบบ่าของรัชพลแล้วตบเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นจับหัวลูกชาย





รัชพลยกมือขึ้นปาดน้ำตาไม่ให้มันต้องไหลอย่างน่าอาย แค่คิดว่าไม่มีสิตางศุ์อยู่ตรงนี้ ข้างๆเขา เขาเทียบไม่อยากจะทำอะไร ตอนนี้ทั้งเป็นห่วงสิตางศุ์ ทั้งโกรธตัวเองที่ทำให้เรื่องมันต้องเป็นแบบนี้





“วันนี้ไปพักผ่อนก่อนเถอะลูก พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” บุรินทร์บอกรัชพล เขาเข้าใจความรู้สึกของลูกชายตอนนี้ แต่เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อเรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ได้แต่หวังว่ารัชพลจะหาทางออกได้





เขารับรู้ว่าทั้งสองคนรู้สึกต่อกันยังไง เพราะรัชพลเป็นคนบอกเขาเองเมื่อวานนี้ เขายังไม่ทันเห็นความพยายามที่รัชพลจะทำให้เขาเชื่อว่าต้องการสิตางศุ์จริงๆ วันนี้ครอบครัวของสิตางศุ์ก็ดันมารับสิตางศุ์คืน แล้วยังเกิดเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาลอีก ครอบครัวฝ่ายนู้นก็ไม่พอใจที่ทำให้หลานเขาต้องเป็นแบบนั้น





เรื่องมันยากขึ้นทุกที











บ้านหลังใหญ่กลางหุบเขาสูงที่รายล้อมไปด้วยชายฉกรรจ์อาวุธครบมือเวลานี้เสี่ยทรงยศรู้สึกโมโหอย่างที่สุดเมื่อได้รับรายงานว่าโรจน์ ไม้และลูกน้องตัวเองอีกเกือบสิบคนกลายเป็นศพไปเรียบร้อย ก่อนหน้านั้นเขาสั่งโรจน์และไม้เป็นเก็บรัชพลและสิตางศุ์ แต่เรื่องกลับออกมาแบบนี้ ลูกน้องของเขาต้องตาย มันไม่ใช่แน่ ไอ้เด็กรัชพลกับสิตางศุ์อะไรนั่นแค่สองคนไม่มีทางสู้กับลูกน้องเขาเป็นสิบได้หรอก





เรื่องนี้มันไม่จบแค่นี้แน่นอน เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ!





“เสี่ยครับ แย่แล้วครับ” ลูกน้องคนหนึ่งของเสี่ยทรงยศวิ่งหน้าตื่นเข้ามา





“อะไรอีกวะ!” ชายวัยกลางคนร่างท้วมตวาดลั่น แค่เรื่องวันนี้ก็ยังไม่เคลียร์ ยังจะมีเรื่องอะไรอีกหรือไง





“ผู้กองบอกว่าตอนนี้ไอ้สารวัตรเกรียงไกรมันมีหลักฐานมัดเสี่ยแน่นหนาเรื่องค้าไม้เถื่อน และตอนนี้มันกำลังจะมาที่นี่ครับ” ลูกน้องรายงานข่าวใหม่ที่ได้รับ ผู้กองในที่นี้คือตำรวจที่คอยบอกข่าวกับเสี่ยทรงยศอยู่เสมอ นั่นทำให้เสี่ยทรงยศรอดมือกฎหมายมาถึงทุกวันนี้ และยังเป็นคนปล่อยตัวโรจน์เมื่อครั้งก่อนอีกด้วย เรื่องนั้นก็ทำสารวัตรเกรียงไกรหัวเสียไม่น้อยเหมือนกัน





“ไอ้เกรียงไกรมันไปเอามาจากไหน มันตามจับกูมาตั้งหลายปีแต่ก็ยังเอากูเข้าตารางไม่ได้ อยู่ๆมันจะมามีหลักฐานเหี้ยอะไร” เสี่ยทรงยศรู้สึกเหมือนเป็นวันวิปโยคจริงๆ เรื่องถาโถมเข้ามาเอาซะเขาไม่ตั้งตัว





“ผู้กองบอกว่ามีคนหามาให้ หลักฐานทุกอย่างแน่นหนาพอที่จะเอาผิดกับเสี่ยได้”






“แล้วมันเป็นใครวะ!” เสี่ยทรงยศหัวเสีย ใคร ใครมาเสือกเรื่องของเขาอีกแล้ว และมันเอาหลักฐานมาจากไหน





“ก็ไอ้เลขาฯไอ้รัชพลมันมันเป็นลูกหลานมาเฟียใหญ่ คนของเราไปยิงมันเจ็บขนาดนั้นมันไม่เอาไว้ หลักฐานที่ได้พวกนั้นก็สืบไม่กี่ชั่วโมง ผมว่าคราวนี้เราเล่นผิดคนแล้วล่ะครับ” ลูกน้องของเสี่ยทรงยศเริ่มวิตก คนที่หาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเสี่ยทรงยศได้โดยใช้เวลาไม่นานมันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว สารวัตรเกรียงไกรทำมาหลายปียังไม่สำเร็จเลย





ไอ้โรจน์ดันไปเล่นผิดคนเข้าแล้ว ไอ้คุณสิตางศุ์อะไรนั่นมันธรรมดาที่ไหน ใช่ว่าเสี่ยทรงยศจะมีอำนาจและกำลังคนน้อยเมื่อไหร่ แต่ถ้าเทียบกับนักเลงมืออาชีพที่มีคนใต้บังคับบัญชาเก่งและเยอะขนาดนั้น เสี่ยทรงยศเองก็ใช่ว่าจะจัดการได้เหมือนที่ผ่านๆมา





“เหี้ยเอ้ย! หนีก่อน เรื่องอื่นค่อยว่าทีหลัง” เสี่ยทรงยศสั่ง ตอนนี้เขาจำเป็นต้องหนีก่อน ขืนอยู่ไปมีหวังได้เข้าไปนอนเล่นๆในคุกแน่ ไหนจะพวกมาเฟียนั่นอีก เกิดมาเจอเขาเข้าไม่ยิงทิ้งเหรอ ไอ้โรจน์นะไอ้โรจน์ตายห่าไปแล้วยังจะสร้างเรื่องไว้อีก





“เห็นทีว่าจะไม่ทันแล้วล่ะครับเสี่ยทรงยศ ผมขอเชิญตัวเสี่ยไปที่โรงพักด้วยครับ” เกรียงไกรเข้ามาพร้อมตำรวจอีกหลายสิบนาย ลูกน้องของเสี่ยทรงยศถูกจับกุมตัวไว้หมดแล้ว





“อะไรกันสารวัตร อยู่ๆมาจะมาจับผมแบบนี้มันใช้เรื่องที่ไหน” ชายร่างท้วมพูดแม้ว่าตอนนี้ในใจนั้นสั่นกลัวไม่น้อย





“ผมคงไม่ต้องโชว์หลักฐานที่นี่หรอกนะครับเสี่ย” เกรียงไกรยกยิ้มอย่างผู้ชนะ คดีนี้เขาตามมาตั้งหลายปีแต่ก็ยังจัดการไม่ได้ซักที วันนี้มีคนเข้ามาหาที่โรงพักและนำหลักฐานทั้งหมดมาให้ เขาเองก็แปลกในไม่น้อย มารู้อีกทีว่าเป็นคนของศิรินทรา





ศิรินทรานั้นชื่อนี้ตำรวจในไทยเองก็ต้องรู้จักอยู่แล้ว เครือข่ายยักษ์ใหญ่ที่ตั้งมั่นมาเกือบร้อยปีไม่มีใครล้มได้ คุณหญิงพิมล ศิรินทราผู้รับช่วงต่อจากสามีนั้นเธอมีอำนาจมืดมากแค่ไหนใครก็รู้






แต่การจะจัดการกับศิรินทราไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่มีใครคิดจะทำด้วย ด้วยฉากหน้าที่เพียงแค่นักธุรกิจ แต่เบื้องหลังนั้นคาวเลือดไม่น้อย แต่ก็นั่นแหละ ถ้าใครไม่ไปยุ่งกับศิรินทราก่อน ศิรินทราก็ไม่มีทางทำอะไร






แต่เสี่ยทรงยศกลับไปยุ่งกับหลานชายคนเดียวของนายเหนือใหญ่ของศิรินทราเสียนี่ เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าคุณสิตางศุ์ที่อยู่ไร่น้ำรินเป็นหลานของคุณหญิงพิมล คราวนี้คงถึงจุดจบของเสี่ยทรงยศซักที





“จับตัวเสี่ยทรงยศไว้” เกรียงไกรสั่งลูกน้องก่อนที่ตำรวจสองนายจะพุ่งเข้าจับตัวเสี่ยทรงยศไว้ เกรียงไกรถอนหายใจอย่างโล่งอกและเหน็ดเหนื่อย ในที่สุดเรื่องก็จบเสียที






ปิดคดี!

















**************************************************************************






















 :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 16-03-2016 21:07:45
ฮือ ๆๆ สงสารพี่รัช :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-03-2016 21:17:27
แล้วระหว่างพี่รัชกะสิตางค์จะเป็นยังไงต่อหว่าา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-03-2016 21:23:43
ผู้ชายอะไรร้องไห้อยู่ได้หาทางปกป้องดิคนรักแกนะนั้น
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 16-03-2016 21:24:07
อ้าว คุณย่า อย่ากีดกันน้องสิคะ
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-03-2016 21:26:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 16-03-2016 22:12:25
คุณย่าขาโหด นี่ถ้าภูไม่อยุ่ตรงนั้น อิพี่รัชกลายเป็นผีเฝ้าไร่ไปแล้วนะเนี่ย :hao5:

มาม่านี้ชามใหญ่นัก สงสารอิพี่รัชจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2016 22:14:41
เฮ้อออออออออ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 16-03-2016 22:22:41
สมแล้วที่น้องตางหนีเตลิดมางี้ ดูคุณย่าดิ ฟังอะไรใครที่ไหน ยังดีพอฟังภูวดลอยู่บ้าง สงสารพี่รัช โถ พี่รัชของน้อง ถ้าน้องตางตื่นมาจะรับไหวมั้ยเนี่ย แต่ละเรื่อง....
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 16-03-2016 22:30:05
สงสารพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 16-03-2016 23:42:26
โถ่ พี่รัช   :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-03-2016 00:56:34
คุณย่า เด็ดขาด ได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่22 16/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-03-2016 11:04:56
ดราม่าก็มา...
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 17-03-2016 21:00:17
บทที่ 23






แสงแดดที่สาดส่องแทรกเข้ามาจากผ้าม่านมีขาวสะอาดตาของโรงพยาบาลเอกชนั้นนำของประเทศทำให้สิตางศุ์ลืมตาขึ้นมาช้า ภาพแรกที่เห็นคือเพดานห้องสีขาว เขากระพริบตาเพื่อไล่ภาพเบลอๆนั้นออกไป สิตางศุ์รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากเท่ากับความเจ็บบริเวณหน้าท้อง





“โอ้ย...” ร่างเล็กอุทานพร้อมกับเอื้อมมือไปจับที่แผลนั้น






“สิตางศุ์ ฟื้นแล้วเหรอลูก” ร่างสูงแต่งตัวภูมิฐานพุ่งเข้าหาสิตางศุ์พร้อมกับร่างของหญิงชราที่สิตางศุ์รู้จักดี






“คุณพ่อ คุณย่า” สิตางศุ์เรียกเบาๆ เขาแปลกใจไม่น้อยเมื่อตื่นมาก็ต้องพบกับบิดาและย่าของเขา





นี่มันเรื่องอะไรกัน เขาอยู่ที่ไร่น้ำรินไม่ใช่หรือ และพ่อของเขากับย่าของเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน สิตางศุ์นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์สุดท้ายก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เขาจำได้ว่าโรจน์กำลังจับตัวเขาไว้และคุณโชติก็ไปช่วย เขาเดินไปหารัชพล หลังจากนั้นสติทั้งหมดก็ดับวูบไป





ใช่... ตอนนั้นทุกคนกำลังยิงกันอย่างบ้าระห่ำ แล้วรัชพลล่ะ? พี่รัชของเขาล่ะปลอดภัยไหม






“ชัชเรียกหมอ” อนันต์สั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ ชัชรีบทำตามคำสั่ง





สิตางศุ์ที่ยังคงงงๆอยู่มองไปทั่วห้อง ตอนนี้มีแค่อนันต์ คุณหญิงพิมลและโชติกับชัชเท่านั้น






“คุณโชติ คุณโชติครับ” สิตางศุ์เรียกโชติที่ยืนอยู่ไม่ไกลและพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง





“ครับนายน้อย” โชติเดินมาหาก่อนจะค้อมหัวให้





“พี่รัชล่ะ คุณรัชพลเค้าปลอดภัยดีใช่มั้ย” คำถามของสิตางศุ์ทำให้คุณหญิงพิมลและอนันต์ต้องหันไปมองคนเจ็บที่อยู่บนเตียง





คุณหญิงพิมลไม่พอใจกับคำถามนั้น รัชพล ผู้ชายคนนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องถูกยิง ทำไมหลานชายของเธอต้องถามถึงความปลอดภัยของคนคนนั้นด้วย





“คุณรัชพลปลอดภัยดีครับ” โชติตอบคำถามนั้น






สิตางศุ์ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาโล่งอกที่รัชพลไม่เป็นอะไร ตอนนั้นเรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก เขาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ที่แน่ๆทุกคนสาดกระสุนใส่กันอย่างไม่เว้นว่าง เพราะฉะนั้นความปลอดภัยของทุกคนโดยเฉพาะคนรักของเขานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น






“แล้วตอนนี้คุณรัชพลเค้าอยู่ไหนครับ” สิตางศุ์ถามต่อ โชติกำลังจะตอบแต่ก็ต้องโดนสายตากดดันจากคุณหญิงพิมลจนต้องหลบไปยืนอยู่ที่เดิม ก่อนที่เธอจะหันมามองสิตางศุ์ที่ยังคงต้องการคำตอบนั้น






“ตอนนี้หลานอยู่ที่กรุงเทพฯนะลูก นายรัชพลอะไรนั่นเค้าอยู่ที่ไร่ของเค้า สิตางศุ์ ตอนนี้หลานกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว ย่าไม่อยากให้หลานต้องไปยุ่งเกี่ยวกับไร่น้ำรินอีก ไร่น้ำรินทำให้หลานต้องเป็นแบบนี้ ทำให้หลานต้องโดนยิง และนายรัชพลก็เป็นต้นเหตุ” พิมลเป็นคนตอบแทนโชติ สิตางศุ์หน้าเจื่อนลงเมื่อย่าของเขาพูดแบบนั้น






ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่ไร่น้ำริน ไม่ได้อยู่ที่เชียงรายอีกแล้ว เขาอยู่ที่นี่ อยู่ที่กรุงเทพฯ เขาต้องกลับมารับความจริง ความจริงที่สิตางศุ์ยังไม่อยากจะพบเจอ





แล้วรัชพลล่ะ ความสัมพันธ์ของเขากับรัชพลจะไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆตอนนี้ครอบครัวของเขายังไม่มีใครรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน สิตางศุ์ไม่กล้าบอก สิตางศุ์ไม่กล้าคิดที่จะเอ่ยกับคนในครอบครัว เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีสิทธิ์คิดอะไรเลย ทุกอย่างย่าของเขาจัดการให้หมด และการที่เธอบอกว่าให้เขาเลิกติดต่อหรือยุ่งกับไร่น้ำริน นั่นก็หมายความว่าเธอต้องการให้เขาตัดขาดจริงๆ






แล้วสิตางศุ์จะได้เจอรัชพลอีกมั้ย คำถามนี้ไม่มีใครตอบได้ในตอนนี้






“พ่อขอโทษนะสิตางศุ์ที่มีส่วนที่ทำให้ลูกต้องหนีไปแล้วเจ็บตัวมาแบบนี้” อนันต์กอดลูกชายที่ยังคงนิ่ง






อนันต์ ศิรินทราที่ชีวิตนี้ต้องเดินตามทางที่ผู้เป็นมารดาปูไว้ให้ตั้งแต่บิดาเสียไป เขาต้องรับช่วงต่อในหลายๆอย่างจากมารดาตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นทำให้เขาไม่มีเวลาพอที่จะคิดเรื่องอะไรนอกเหนือไปจากงานที่กองอยู่ตรงหน้า






มินตราคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาคบ เธอเป็นลูกสาวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตาในสังคม คุณหญิงพิมลนั้นในตอนแรกก็ไม่ได้คัดค้านการแต่งงานของเขาและมินตรา แต่เมื่ออยู่ด้วยกันจนมีลูกมินตราก็เริ่มตีตัวออกห่าง ไม่สนใจครอบครัว และเขาก็พบว่าเธอมีชายใหม่ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยกในครอบครัว






สิตางศุ์ต้องรับรู้เรื่องราวและคำด่าทอของพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด เรื่องมันบานปลายไปไกลจนขึ้นโรงขึ้นศาล ทุกอย่างมันจบลงด้วยความเจ็บปวดของสิตางศุ์






อนันต์โทษแค่มินตรามาตลอด แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้เต็มๆ สิตางศุ์ต้องกลายเป็นเด็กเก็บกดที่ไม่ค่อยพูดและไม่เคยเล่าเรื่องราวอะไรให้เขาฟังเลยทั้งๆที่เขาเป็นพ่อ






เขาเคยกอดสิตางศุ์แค่ไม่กี่ครั้ง แม้แต่เวลาเจอหน้าลูกยังแทบจะไม่มีด้วยซ้ำ แม้แต่เรื่องที่ทำให้สิตางศุ์ต้องไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้สาเหตุเลยสักนิด เขาเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง เขาทำหน้าที่พ่อได้ไม่ดี อนันต์เพิ่งจะรู้ตัวก็ตอนที่สิตางศุ์เกือบจะจากเขาไป ลูกชายที่เขาละทิ้งมาตลอดเกือบต้องทิ้งเขาให้อยู่คนเดียวไปตลอดกาล






“พ่อไม่ผิดหรอกครับ ผมผิดเองที่หนีไปเหมือนเด็กๆแบบนั้น” สิตางศุ์พูด อ้อมกอดนี้ของพ่อมันนานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้สัมผัส ความอบอุ่นที่มีมันเทียบไม่ได้กับอ้อมกอดของรัชพลเลยสักนิด...






“พ่อผิดลูก พ่อผิดตั้งแต่แรก พ่อขอโทษที่ทำให้สิตางศุ์ต้องอยู่คนเดียวมาตลอด” อนันต์สำนึกผิด






สีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดนั้นทำให้สิตางศุ์ทำตัวไม่ถูก เขาไม่เคยโกรธพ่อตัวเอง หรือแม้กระทั่งแม่ของเขา แต่สิตางศุ์แค่น้อยใจ เขาเคยอิจฉาเพื่อนหลายๆคนที่มีพ่อและแม่อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา รอยยิ้มของพ่อแม่ที่มารับลูกที่โรงเรียนทุกวันโดยที่เขาต้องกลับกับลูกน้องของคุณย่า เหตุการณ์อันอบอุ่นเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของสิตางศุ์ ไม่เคยเลยสักครั้ง








วันนี้พ่อของเขารับรู้ถึงความรู้สึกที่เขาเก็บไว้คนเดียวมาตลอด สิตางศุ์ทำตัวไม่ถูก เขาอยากจะเปิดใจรับ แต่สิ่งที่พ่อทำมาตลอดมันทำให้เขากลัว กลัวว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาต้องการ สุดท้ายพ่อที่ไม่เคยสนใจก็อาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม โดยทิ้งให้เขาต้องอยู่เพียงลำพังในห้องหรูหราที่หาความรักไม่เจอ






บรรยากาศที่แสนน่าอึดอัดนั้นทวีคูณขึ้นเมื่อประตูของห้องพักถูกเปิดขึ้น ร่างระหงส์ของสตรีวัยสี่สิบแปดเดินเข้ามาพร้อมชายคนหนึ่ง เธอเชิดหน้าขึ้น ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสดนั้นยกยิ้มก่อนจะเดินตรงมาหาสิตางศุ์ เสียงรองเท้าส้นสูงนั้นดังกลบความเงียบ






“แม่เป็นห่วงลูกนะสิตางศุ์ หายไปไหนมา” มินตราเข้ามากอดสิตางศุ์บ้าง เธอเหยียดยิ้มให้อนันต์ รอยยิ้มของอดีตภรรยานั้นทำให้อนันต์ต้องเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกขยะแขยง






“อย่ามาแตะต้องหลานฉันนะนังมินตรา” คุณหญิงพิมลกระชากแขนของมินตราให้ออกห่างก่อนจะแทรกตัวมาคั่นกลางไว้ มินตราทำหน้าไม่พอใจ






“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะคุณแม่ สิตางศุ์เป็นลูกของมิน และอีกอย่างมินก็มีสิทธิ์ในการดูแลสิตางศุ์ด้วย คุณแม่และคุณอนันต์นั่นต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับลูกของมิน!” มินตราเพิ่มระดับเสียง นั่นยิ่งทำให้คุณหญิงพิมลไม่พอใจ






“แม่อย่างหล่อนไม่มีซะยังจะดีกว่า คิดจะเล่นชู้สู่ชายไม่ไว้หน้าสามี แล้ววันนี้ยังจะมีหน้าพามาเหยียบที่นี่อีก” หญิงชราตอกกลับพร้อมกับเหยียดสายตาไปหาทัศที่ยืนอยู่ข้างหลังมินตราอย่างไม่สะทกสะท้าน






“แล้วลูกชายคุณแม่ล่ะคะ ไม่มีเมียน้อยหรือยังไง ที่มินต้องเลิกก็เพราะคุณอนันต์เป็นคนนอกใจก่อน” มินตราเองก็ไม่ยอม






สิตางศุ์เบือนหน้าหนี เขาอยากจะหนีไปจากตรงนี้ ทุกอย่างมันกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่มีผิด พ่อกับแม่และคุณย่าก็ยังคงทะเลาะกันอยู่เหมือนเดิม คำพูดด่าทอที่เขาได้ยินตั้งแต่เด็กตอนนี้มันก็ยังคงเป็นอย่างนั้น






เขาคิดถึงรัชพล...






“คุณแน่ใจเหรอว่าเป็นผมที่นอกใจก่อน คุณต่างหากที่คิดจะมีคนอื่นก่อนผม” อนันต์เถียงกลับ เขาถอยห่างออกจากตัวลูกชายก่อนจะเดินเข้าไปหาอดีตภรรยา






สิตางศุ์ยิ่งฟังเขายิ่งรู้สึกปวดใจกับคำพูดเหล่านั้น ร่างที่อิดโรยค่อยๆนอนลงแล้วหันหลังให้ภาพของความแตกแยก ทุกคนเอาแต่สนใจที่จะทะเลาะตบตีและบอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนผิด แล้วเขาล่ะ เขาผิดอะไร






“ใครจะมีก่อนมันก็ไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้ฉันจะเอาสิตางศุ์ไปอยู่ด้วย!” มินตราหน้าชาเล็กน้อยแต่ก็เชิดหน้าขึ้นแล้วเดินไปหาสิตางศุ์ที่นอนอยู่






“คุณคิดเหรอว่าผมจะยอม ตอนนี้สิตางศุ์โตแล้ว ลูกเลือกได้ และแน่นอนว่าสิตางศุ์ต้องเลือกผม” อนันต์เดินมายืนอีกฝั่งแล้วตะคอกใส่มินตรา






“ลูกอยู่กับคุณมานานเกินไปแล้วคุณอนันต์ ต่อจากนี้สิตางศุ์ต้องไปอยู่กับฉัน” ดวงตากลมโตของมินตรานั้นจ้องอดีตสามีอย่างไม่วางตา






ก่อนที่บรรยากาศจะดุเดือดไปมากกว่านี้เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของภูวดลเดินเข้ามา ชายหนุ่มตรงไปหาสิตางศุ์ เขามองหน้าเพื่อนรักที่น้ำตาคลอแต่กลับนอนนิ่งไม่แสดงอาการอะไรแล้วกวาดสายตาไปทั่วทั้งห้อง






“ที่นี่โรงพยาบาลนะครับ ผมได้ยินเสียงตั้งแต่ยังไม่เข้าห้อง และตอนนี้สิตางศุ์ก็เจ็บอยู่ ผมขอร้องอย่าเพิ่งทะเลาะกันตอนนี้” ภูวดลเหนื่อยใจกับครอบครัวของสิตางศุ์เพื่อนรัก ทุกครั้งที่เขาเจออนันต์และมินตราทั้งสองคนก็ต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันอยู่ร่ำไป






“แล้วภูมายุ่งอะไรด้วย เป็นแค่เพื่อน ไม่ใช่คนในครอบครัวเสียหน่อย” มินตรามองภูวดลด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ไอ้เด็กภูวดลนี่ก็พวกนังคุณหญิงพิมลทั้งนั้น เป็นธรรมดาที่เธอจะไม่ชอบขี้หน้า







“ถึงจะเป็นแค่เพื่อน แต่คนที่ได้รับการศึกษาและมีมารยาทพอก็น่าจะรู้นะคะว่าสถานที่นี้สมควรจะแสดงกิริยายังไง” เสียงเรียบนิ่งดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้าห้องมา






มินตราหันไปมองแล้วเบะปากให้ อรนุชแม่ของภูวดลนั่นเอง เธอไม่ชอบขี้หน้าพวกนี้ด้วย ชอบทำตัวเป็นคนดี สร้างภาพทั้งเพ





“สวัสดีค่ะคุณหญิงพิมล คุณอนันต์ น้องสิตางศุ์เข้าโรงพยาบาลตั้งนานเพิ่งจะมีโอกาสมาเยี่ยม” อรนุชยกมือสวัสดีพิมล





“ถ้าไม่เป็นการรบกวนดิฉันขอคุยเป็นการส่วนตัวกับคุณหญิงเรื่องงานการกุศลที่จะจัดอาทิตย์หน้าได้มั้ยคะ คุณอนันต์ด้วยค่ะ ร้านกาแฟข้างล่างก็ไม่เลว” เธอพูด คุณหญิงพิมลหันมองหน้าลูกชายก่อนจะหันมาตอบตกลงอรนุช เธอไม่อยากเสียมารยาทปฏิเสธ






“ก็ได้ค่ะ” คุณหญิงพิมลตอบแต่ก็ยังไม่วายที่จะหันไปจ้องมินตราอย่างรู้สึกเคียดแค้น มินตราก็ตอกกลับด้วยรอยยิ้มดูถูก






“แหม... ดีจังเลยค่ะ คุณมินตรากับสามีเองก็สมควรแก่เวลาจะกลับแล้วมั้งคะ เด็กๆจะได้คุยกัน สิตางศุ์หลับไปตั้งหลายวัน ตาภูมีเรื่องจะคุยเยอะเลย” อรนุชเบนสายตามาหามินตรา รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะจริงใจนั้นกลับจิกและด่าทอให้มินตราต้องสะบัดหน้าแล้วเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์





“อย่าคิดว่ามินจะยอมคุณนะคุณอนันต์” มินตราหันมาพูดส่งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับทัศ อรนุชแอบโล่งอก





“ถ้าอย่างนั้นเชิญทุกคนที่ชั้นล่างค่ะ”






ประโยคกดดันกลายๆนั้นทำให้คุณหญิงพิมลและอนันต์ต้องจำใจเดินออกจากห้องไป โดยมีโชติเดินตามหลัง ชัชที่เดินมาพร้อมหมอก็เดินตามออกไปด้วยอีกคน






“ดูแลเพื่อนดีๆนะลูก” อรนุชสั่งลูกชายแล้วจึงเดินตามออกไป กอปรกับหมอวัยกลางคนเดินเข้ามาพอดี






ภูวดลถอยไปนั่งที่โซฟาแล้วปล่อยให้คุณหมอตรวจดูอาการของสิตางศุ์หลังฟื้น เพื่อนรักของเขายังคงสะอื้นอยู่แต่ก็พยายามปาดน้ำตาที่ไหล่รินนั้น เป็นภาพที่ภูวดลเห็นบ่อยจนชินไปเสียแล้ว





คิดได้ยังไงมาทะเลาะกันในโรงพยาบาลและสิตางศุ์ก็นอนเจ็บอยู่ ไม่รู้ว่าแผลใจหรือแผลกายที่หนักกว่ากันแล้วตอนนี้ เขาไม่ชอบใจมินตราที่สุด กล้าดีอย่างไรพาทัศมาหาสิตางศุ์ถึงที่นี่ทั้งๆที่สามีของเธอคิดจะขืนใจสิตางศุ์ และยิ่งไปกว่านั้นเธอเข้าข้างผู้ชายคนนั้นมากกว่าลูกตัวเอง






ภูวดลไม่อยากพูดอะไรมาก เรื่องนี้ให้สิตางศุ์พูดเองจะดีกว่า แต่คงยากที่สิตางศุ์จะบอกเรื่องนี้ให้กับใครฟัง เขาเองยังต้องคาดคั้นตั้งนานสองนาน






“เรียบร้อยแล้วครับ ช่วงนี้ระวังอย่าให้น้ำโดนแผลนะครับ” นายแพทย์ท่าทางภูมิฐานพูด สิตางศุ์พยักหน้ารับ แล้วจึงหลบตาลงเมื่อหมอและพยาบาลพากันออกไปแล้ว






เมื่อหมอตรวจเสร็จภูวดลก็ลุกมานั่งข้างๆเพื่อนรัก สิตางศุ์เริ่มสะอื้นไห้อีกครั้ง เขาเหนื่อย เหนื่อยกับทุกอย่าง ทุกคนยังเหมือนเดิม เขาอยากหนีไปให้ไกลจากที่นี่ แต่สุดท้ายมันก็กลับมาวังวนเดิมที่เขาไม่อยากจะอยู่ เขาอยากเจอรัชพล อยากอยู่ไร่น้ำริน สองเดือนที่ผ่านมามันมีความสุขมากกว่าอยู่ที่นี่ เพราะที่นี่ไม่มีความสุขให้เขาเลย






“เฮ้อ... มึงหลับไปตั้งสามวันนะไอ้ตาง คุณย่าพาย้ายมาเมื่อวันก่อน” ภูวดลเริ่มบทสนทนา เขาได้แต่มองสิตางศุ์อย่างสงสาร แต่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน






“ภะ... ภู ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่” นี่คือสิ่งเดียวที่สิตางศุ์คิดตอนนี้ เขาไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เขาอยากอยู่ไร่น้ำริน ภูวดลสงสารจับใจ เขาเองก็อยากจะพาสิตางศุ์ไปเชียงรายเสียตอนนี้เลย ไปอยู่ที่นู่นแล้วไม่ต้องกลับมา ไม่ต้องมาเจอคนใจร้ายที่นี่ ทำไมทุกคนไม่ยอมเข้าใจซักที ว่าสิตางศุ์ต้องการอะไร





“มึงพักผ่อนให้หายดีก่อน เรื่องบ้านมึงกูกับคุณแม่จะจัดการให้ กูไม่อยากจะพูดอะไร แต่ต่อจากนี้กูต้องพูด กูต้องบอกย่ามึงเรื่องอาทัศ เรื่องน้ามิน และเรื่องคุณรัชพล”











สามวันที่รัชพลไม่ได้เจอสิตางศุ์ เขารู้จากภุมรินว่าคุณหญิงพิมลพากลับไปแล้ว แน่นอนว่าทุกอย่างที่เป็นของสิตางศุ์ที่นี่ก็ต้องถูกเอากลับไปด้วย รัชพลไปโรงพยาบาลในช่วงเวลาที่สิตางศุ์ยังอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ไม่อาจได้เข้าใกล้สิตางศุ์ แม้แต่เห็นหน้ายังทำได้ยากเลย เมื่อวานเขาไปหาสิตางศุ์แต่ก็ไม่เจอ ภุมรินบอกเพียงว่าสิตางศุ์ถูกย้ายไปกรุงเทพฯแล้ว






สิตางศุ์กลับไปโดยที่เอาหัวใจของเขาไปด้วย รัชพลไม่กล้าค้านไม่กล้าเรียกร้องให้สิตางศุ์อยู่กับเขา เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัว เขาอยากจะฮึดสู้เพื่อให้ครอบครับของสิตางศุ์รู้ว่าเขาจริงใจและจริงจังมากแค่ไหน แต่ความรู้สึกผิดยังอยู่ในใจ ผิดที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ย่าของสิตางศุ์คงไม่อยากให้หลานชายตัวเองต้องมาเสี่ยงอันตรายอยู่ที่นี่ แม้ว่าเสี่ยทรงยศจะโดนจับไปแล้วก็ตาม






สารวัตรเกรียงไกรมาที่ไร่เมื่อวันก่อน มาแจ้งข่าวเรื่องเสี่ยทรงยศให้รับทราบ ทั้งไร่รู้สึกโล่งอกที่จัดการปัญหาเรื่องเสี่ยทรงยศได้ซักที ถ้าไม่มีย่าของสิตางศุ์ไร่น้ำรินและตำรวจที่นี่ก็ไม่รู้จะจัดการยังไงเหมือนกัน






การเก็บเสี่ยทรงยศในเวลาไม่นานนั้นทำให้รู้ว่าคุณหญิงพิมล ศิรินทราคนนี้ไม่ธรรมดา แล้วอย่างนี้เขาจะไปเทียบอะไรกับหลานชายตระกูลใหญ่ได้ รัชพล รักษ์นทีคนนี้ก็แค่ชาวไร่ธรรมดาที่วันๆเอาแต่หมกตัวอยู่ในโรงบ่ม






“นั่งหงอยอีกแล้ว มึงนั่งซึมมาสามวันแล้วนะไอ้รัช” ตะวันตบไหล่รัชพลแล้วนั่งลงข้างๆ






ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในโรงบ่ม รัชพลใช้เวลาทั้งหมดที่มีในตอนนี้ทุ่มให้กับไวน์รุ่นสิตางศุ์ที่เขาเริ่มทำตั้งแต่รู้สึกดีครั้งแรกกับสิตางศุ์ ตะวันแวะเวียนมาหาทุกวัน อาจจะเป็นเพราะภุมรินที่ร้องขอให้คนรักมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ชายที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะสดชื่นเอาเสียเลย เอาแต่หดหู่ทั้งวัน






น้อยครั้งที่รัชพลจะทำตัวอ่อนแอแบบนี้ รัชพลปกติจะเป็นคนที่คอยดูแลและปกป้องทุกคนเสมอ เขาจะเข้มแข็งแม้ว่าในใจจะหวั่นก็ตาม ตะวันรู้จักเพื่อนคนนี้ดี แต่เรื่องสิตางศุ์ครั้งนี้ทำให้รัชพลเขวไปไม่น้อย






เขาและทุกคนต้องช่วยให้รัชพลตั้งตัวขึ้นมาให้เร็วที่สุดให้ได้ อย่างน้อยก็เพื่อสิตางศุ์ ถึงแม้ว่าตะวันจะไม่รู้เรื่องของสิตางศุ์ดีเท่าไหร่ แต่เท่าที่รับรู้จากภุมรินก็พอจะรู้ได้ว่าสิตางศุ์ต้องการความช่วยเหลือ แล้วการที่ไอ้เพื่อนรักของเขามานั่งซึมแบบนี้ สิตางศุ์จะพึ่งใคร





“ไอ้รัช การที่มึงมานั่งซึมแบบนี้มึงคิดว่ามันดีหรือไง มึงต้องตั้งสติแล้วเริ่มใหม่ คิดดีๆ เรื่องที่คุณสิตางศุ์โดนยิงไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก” เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักไม่ตอบตะวันเลยพูดต่อ





“แต่กูดูแลเค้าไม่ดีพอ” ไม่มีอะไรที่รัชพลรู้สึกแย่ไปกว่าการที่เขาปกป้องสิตางศุ์ไม่ได้ เขาทำให้สิตางศุ์เกือบตาย






“แล้วการที่มึงปล่อยเค้าไปแบบนั้นมึงคิดว่าเขาดีใจรึไง ถึงแม้ว่าย่าของคุณสิตางศุ์เค้าไม่ยอมให้มึงเจอคุณสิตางศุ์อีกมึงก็จะยอมถอยอย่างนี้เหรอวะ ไอ้รัชคนเดิมหายไปไหน ทำไมมึงยอมทิ้งคุณสิตางศุ์แบบนี้”





“กูไม่ได้ทิ้งสิตางศุ์!” รัชพลตวาดลั่นเมื่อตะวันพูดเหมือนดูถูกความรักของเขาแบบนั้น เขาไม่ได้ทิ้งสิตางศุ์ และไม่คิดจะทิ้งด้วย






“ไม่ได้ทิ้งก็ไปตามเค้ากลับมาสิวะ อย่าให้เสียชื่อลูกอาบูรที่ไปคว้าใจสาวชาวกรุงมา พ่อมึงยังพาแม่มึงมาอยู่ที่นี่ด้วยได้เลย ทำไมมึงจะทำไม่ได้” ตะวันยิ้มเมื่อรัชพลมีปฏิกิริยาตอบกลับกับคำที่เขาใช้กระตุ้น





รัชพลเริ่มจะคิด ถ้าเขามัวแต่มานั่งซึมอยู่อย่างนี้เขาก็จะช่วยสิตางศุ์ไม่ได้ สิตางศุ์ต้องเจอกับปัญหาครอบครับมากแค่ไหนเขารู้ดีที่สุด แล้วเขาดันมานั่งซึมอย่างนี้มันจะได้อะไรขึ้นมา เผลอๆสิตางศุ์อาจจะต้องไปต่างประเทศกับแม่ของงเค้า และต้องเจอไอ้เหี้ยทัศอะไรนั่น รัชพลไม่ยอมเด็กขาด!






“กูจะทำให้ครอบครัวสิตางศุ์รู้ ว่ารัชพลคนนี้จริงใจแค่ไหน” คำพูดนั้นทำเอาตะวันยิ้มกว้างแล้วตบไหล่รัชพลอย่างพอใจ






รอพี่นะสิตางศุ์








**********************************************************************************
















ตอนนี้ปั่นนรกมาก ที่ตุนไว้หมดแล้ว  :ling1: เพิ่งพิมพ์เสร็จเมื่อกี้เลย ตอนท้ายๆอาจมึนๆนิดนึง  :katai4: ตอนนี้ยาวมาก แบบมันตัดไม่ลง ไม่รู้จะตัดยังไง ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-03-2016 21:13:18
ในที่สุดพี่รัชก็คิดจะลุกขึ้นสู้ซะที ยังไงก็ขอให้สู้อย่างชาญฉลาดนะ เพื่อสิตางศุ์จะได้มีความสุขเสียที
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 17-03-2016 21:22:31
 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 17-03-2016 22:28:50
พี่รัชสู้ๆๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-03-2016 23:01:11
 :hao3:


พี่รัช ให้คุณยาย สิ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-03-2016 23:32:43
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-03-2016 23:42:18
ไม่ใช่แต่ตางทีรอพี่รัชเราก็รอพี่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 17-03-2016 23:53:20
พี่รัชแกลุกขึ้นมาสู้แล้ว!

พาสิตางศุ์กลับมาให้ได้น้า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-03-2016 00:04:16
พี่รัชแกต้องสู้นะๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-03-2016 03:15:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 18-03-2016 08:36:46
สู้เขาพี่รัชชชช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-03-2016 09:05:21
สู้ๆนะพี่รัช!!
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่23 17/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-03-2016 09:26:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 18-03-2016 21:38:56
บทที่ 24





“เดี๋ยวๆพี่รัช พี่พูดใหม่ซิว่าพี่จะไปไหนนะ” ภุมรินตามย้ำอีกรอบเมื่ออยู่ๆพี่ชายของตัวเองก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับบอกว่าจะไปหาสิตางศุ์





“พี่จะไปกรุงเทพฯ พี่จะไปหาสิตางศุ์” รัชพลพูดพร้อมด้วยแววตามุ่งมั่น





เขาจะทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาไม่ได้ทิ้งสิตางศุ์และจะไม่มีทางทำแบบนั้นด้วย สิตางศุ์ต้องการเขาในตอนนี้ มันอาจจะใช่ที่เขาไม่มีสิทธิ์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวของสิตางศุ์ แต่ถ้านั่นมันทำให้สิตางศุ์ของเขาไม่มีความสุขเขาก็ต้องยุ่ง





“แล้วพี่จะไปหาพี่ตางได้ยังไง พี่ตางเขาเป็นถึงลูกหลานคนใหญ่คนโต อยู่ๆพี่บุกไปหาเค้าแบบนั้นไม่โดนยิงหัวมาเหรอ และยิ่งไปกว่านั้นเค้าหมายหัวพี่ไว้แล้วด้วย พี่ทำให้พี่สิตางศุ์ต้องโดนยิงเจ็บขนาดนั้น” ภุมรินพูด





“จะพูดอะไรตอนนี้ไอ้ตัวเล็ก พี่เราเพิ่งจะฮึดขึ้นมา เดี๋ยวก็หงออีกหรอก” ตะวันล๊อคคอคนรักพร้อมกับเอ็ดเล็กน้อย ภุมรินเลยหันมาค้อนตะวัน





“ก็มันจริงมั้ยล่ะ” ภุมรินยังไม่เลิก






“ไม่ว่าสิตางศุ์จะเป็นใคร พี่ก็จะไปหาเค้า พี่รู้ว่าสิตางศุ์ต้องการอะไร” รัชพลพูดก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน






“เอาจริงดิพี่รัช เดี๋ยวๆ ให้รินโทรหาคุณยายก่อน” เมื่อเห็นว่าพี่ชายเอาจริง ภุมรินจึงเลยตามเลย





หาสิตางศุ์น่ะไม่ยาก แต่จะเข้าถึงสิตางศุ์นี่สิมันยาก ภุมรินคิดไม่ออกเลยว่ารัชพลจะทำยังไง





ทำไมมันยากขนาดนี้นะ

















 “สิตางศุ์เข้าโรงพยาบาลตั้งหลายวัน ย่าไม่ได้มาเยี่ยมเลย หายไวๆนะลูก”





“ขอบคุณครับคุณย่าณี”





เช้านี้สิตางศุ์ต้องต้อนรับริลณีเพื่อนของคุณหญิงพิมล เธอมาเยี่ยมพร้อมกับอัคคี อาการของสิตางศุ์นั้นดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้





คุณหญิงพิมลมาเยี่ยมเธอทุกวันแต่ก็อยู่ไม่นานนักด้วยหน้าที่การงานที่ต้องทำแต่ก็ส่งคนมาเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง มินตรามารดาของสิตางศุ์นั้นเข้าแทบจะไม่ถึงตัว





ส่วนอนันต์แม้จะบอกว่ารู้สึกผิดที่ทอดทิ้งลูกชายแต่ท้ายที่สุดเขาก็ทิ้งงานที่มีไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่มาเยี่ยมก็สองวันก่อน นั่นทำให้สิตางศุ์รู้สึกปลงกับครอบครัว





เขาอยากหายเร็วๆ และอยากกลับไปที่ไร่น้ำริน แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะร้องขอย่าของเขา เรื่องที่ภูวดลจะจัดการให้เขาก็ขอเพื่อนรักไว้ เหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นสิตางศุ์เองก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาแค่ไม่อยากให้รัชต้องเดือดร้อนถ้าบอกความจริงไปว่าสิตางศุ์คนนี้กำลังคบกับรัชพล





ส่วนเรื่องของมารดานั้นสิตางศุ์ไม่รู้ว่าย่าของเขาจะทำอะไรกับมินตรา แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ สิตางศุ์ไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ตัวเองต้องเดือดร้อน





“ไม่เจอตั้งนาน โตเป็นหนุ่มแล้ว ย่าจำไม่ได้เลย” ริลณีพูด เธอเคยเห็นสิตางศุ์ตอนเด็กๆ แต่ก็แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ไม่คิดว่าเจออีกทีสิตางศุ์จะโตขนาดนี้แล้ว ด้วยความที่เพิ่งจะร่วมหุ้นกับพิมลเธอจึงพาอัคคีมาเยี่ยมสิตางศุ์เพื่อที่จะได้สานสัมพันธ์กันไว้ ในอนาคตข้างหน้าต้องร่วมงานกันแน่นอน





“สิตางศุ์เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยเจอใครด้วยแหละ ถามคนในสังคมสิมีใครเคยเห็นหลานฉันออกงานบ้าง” คุณหญิงพิมลที่ยืนอยู่ใกล้ๆพูดขึ้น





“แต่อีกหน่อยก็คงต้องช่วยงานคุณย่าแล้วล่ะ”






“เรื่องนั้นก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ว่าจะให้สิตางศุ์เข้าทำงานที่บริษัท อีกหน่อยคงเจอตาอัคบ่อยๆ”





คำพูดเหล่านั้นเข้ามาในหูของสิตางศุ์ ร่างบางบนเตียงคนไข้เบือนหน้าหนีบทสนทนาเหล่านั้น ท้ายที่สุดก็หนีความจริงที่เขาต้องตกอยู่ในวังวนแบบนี้ไม่พ้น สิตางศุ์รู้สึกแย่เมื่อคิดว่าตัวเองต้องมีวงจรชีวิตเหมือนคุณย่าและพ่อของตัวเอง วงจรชีวิตที่ไม่มีความสุข





“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ หายเร็วๆนะลูก” ริลณีพูดกับพิมลก่อนจะหันมาบอกคนเจ็บ สิตางศุ์ยกมือไหว้แล้วยิ้มให้ผู้อาวุโสกว่ารวมทั้งอัคคีด้วย





เมื่อทั้งสองออกไปแล้วสิตางศุ์จึงล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม สิตางศุ์อยากจะหนีไปจากตรงนี้ อยากจะหนีไปที่ไร่น้ำรินอีกครั้ง อย่างน้อยที่นั่นก็มีรัชพล มีภุมรินและมีทุกคนที่ไร่น้ำริน ถึงแม้ที่นี่จะมีครอบครัวแต่มันก็ไม่เหมือนครอบครัวเลยสักนิด






เขานึกอิจฉาทุกคนที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ทั้งภูวดล รัชพลหรือแม้กระทั่งเด็กก้อง แม้จะไม่มีบ้านที่หรูหรา ไม่ได้เรียนโรงเรียนดีๆ แต่ก็มีพ่อแม่ที่ให้ความรักและความเข้าใจ สิตางศุ์ต้องการแบบนั้น มันดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้





“ตกลงจะบอกย่าได้รึยัง ทำไมต้องหนีไปที่ไร่น้ำรินอะไรนั่น” คุณหญิงพิมลปรับสีหน้าให้เคร่งเครียดเมื่อริลณีและหลานชายออกไปแล้ว





สิตางศุ์ไม่ตอบ ได้แต่นอนนิ่ง นั่นยิ่งทำให้คุณหญิงพิมลไม่พอใจ เธอถามหลานชายมาหลานครั้งแต่สิตางศุ์ก็ไม่เคยตอบเธอซักที






“สิตางศุ์ ย่าถามทำไมไม่ตอบ” หญิงชราเริ่มจะโมโหอีกแล้ว มันจะอะไรนักหนา แค่บอกเธอมามันยากหรืออย่างไร






“คุณย่าไม่รู้จริงๆเหรอครับ” สิตางศุ์พูดนิ่งๆ เขาเริ่มน้ำตาเอ่อ





“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ!” ความอดทนขาดผึง เธอปวดหัวกับสิตางศุ์มาหลายวัน แค่บอกมาว่านังมินตรามันทำอะไรจะบากนักหรือไง เธอจัดการให้ได้อยู่แล้ว





“คุณย่าลองถามตัวเองดูสิครับว่ามันเรื่องอะไร คุณย่ารู้ดีอยู่แก่ใจ คุณพ่อก็ด้วย ทุกคนรู้ บ้านที่ร้อนเป็นไฟใครจะอยากอยู่ คุณย่าครับ ผมไม่ได้ต้องการเงินทองที่คุณย่าให้มา ผมแค่ต้องการครอบครัว” สิตางศุ์ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า คุณหญิงพิมลนิ่งไป





“แล้วย่าไม่ใช่ครอบครัวเหรอสิตางศุ์” เธอพูด สิตางศุ์ต้องการครอบครัว เธอนี่ยังไงล่ะครอบครัวของสิตางศุ์





“แล้วที่คุณย่าทำอยู่ตอนนี้มันคือสิ่งที่คนในครอบครัวเค้าทำกันเหรอครับ คุณย่าครับ ตอนนี้ผมโตแล้ว ผมขอเลือกชีวิตตัวเองจะได้มั้ย ผมอยากกลับไปอยู่ที่ไร่น้ำริน” สิตางศุ์กลั้นใจบอกเจตจำนงของตัวเอง เขาจะไม่พูดเรื่องที่ผ่านมา เขาจะให้มันหายไป แต่สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องติดอยู่ในกรงทองที่ย่าของเขาสร้างขึ้นมา





“ไม่ได้ หลานจะกลับไปไร่น้ำรินไม่ได้อีก ย่าไม่ให้ไป หลานจะไปได้ยังไง ที่นั่นมีแต่คนอื่นและยังอันตรายอีก และอีกหน่อยหลานก็ต้องเข้าทำงานในบริษัทของพ่อเค้า ไปอยู่ที่นั่นจะสุขสบายเหมือนที่นี่ได้ยังไง มีแต่ไร่แต่สวน” เธอไม่เข้าใจ ทำไมสิตางศุ์ต้องถวิลหาไอ้ไร่บ้าบอนั่นด้วย ทั้งๆที่ไร่นั่นทำให้หลานของเธอต้องเป็นแบบนี้





“อย่างน้อยอยู่ที่นั่นก็สบายใจกว่าอยู่ที่นี่ และผมก็ไม่อยากเป็นเหมือนพ่อด้วย... คุณย่ากลับไปเถอะครับ วันนี้ผมอยากพักผ่อน” พูดจบก็ล้มตัวลงแล้วหันหลังให้คุณหญิงพิมล





ร่างเล็กของหญิงชราไม่สบอารมณ์ เธอคว้ากระเป๋าราคาแพงมาถือไว้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง สิตางศุ์กำหมอนแน่น น้ำตาไหลเอ่อ แม้แต่ชีวิตตัวเองยังเลือกไม่ได้





พี่รัช... ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากอยู่ที่นี่
















“ว่าไงคะน้องริน คิดถึงยายเหรอ” เสียงของริลณีดังขึ้นในรถคันหรู เธอกำลังจะกลับบ้านหลังจากให้คนขับรถแวะไปส่งอัคคีที่บริษัท วันนี้เธอตั้งใจจะไม่ไปทำงาน ความจริงเธอเองก็เริ่มวางมือแล้ว ทั้งลูกชายและหลานชายก็รับช่วงต่อกันแล้วทั้งนั้น





“รินคิดถึงคุณยายที่สุดเลยครับ แต่ที่โทรตอนนี้มันมีเรื่องด่วน แบบด่วนมากๆ” ภุมรินพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน





“มีเรื่องอะไรเหรอลูก หรือพ่อตัวดีของเราทำอะไรอีก” ริลณีคิ้วขมวด คราวที่แล้วลูกเขยตัวดีของเธอก็สร้างเรื่องสร้างราวเอาซะหลานเธอร้องไห้ไปหลายวัน คราวนี้มีเรื่องอะไรอีกล่ะ






“ไม่ใช่คุณพ่อครับ ก็พี่รัชน่ะสิจะไปกรุงเทพฯ!”






“ตารัชจะมา น้องรินลูก มันแปลกตรงไหน พี่ชายเราก็มาหายายทุกปี แล้วเราล่ะจะมามั้ย ยายคิดถึ๊งคิดถึง” ริลณียิ้มเมื่อนึกถึงหน้าหลานชายทั้งสอง





ภุมรินกับรัชพลเป็นลูกของริลดาลุกสาวของเธอที่เสียไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเธอมีเรื่องกับบุรินทร์พ่อลูกเขยตัวดีที่ทำให้ลูกสาวของเธอต้องไปตกระกำลำบากอยู่ในไร่ แล้วยังจะมาแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูภุมรินอีก ตอนนั้นเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงขึ้นศาลไม่มองหน้ากันเป็นสิบๆปี เพิ่งจะมาคุยกันก็ตอนที่เธอไปไร่น้ำรินครั้งล่าสุดนี่แหละ แต่ก็ไปจัดการไอ้ลูกเขยที่อุตส่าห์ได้ภุมรินไปเลี้ยงแล้วยังจะดูแลหลานเธอไม่ดีอีก





“มันไม่ใช่อย่างนั้นครับคุณยาย พี่รัชไปคราวนี้ไม่ใช่แค่ไปเยี่ยมคุณยายเฉยๆ แต่พี่รัชจะไปสู้กับมาเฟีย!”





“ห๊ะ! มาเฟีย เดี๋ยวๆ ตารัชไปมีเรื่องกับใครเข้าล่ะเนี่ย” ริลณีตะโกนลั่นรถจนคนขับหันมามอง นี่หลานชายของเธอไปมีเรื่องมีราวกับมาเฟียได้ยังไง โอ้ย... นี่มันเรื่องอะไรกันนี่





“เรื่องมันยาวครับคุณยาย แต่คุณยายต้องช่วยพี่รัชนะ”





“ยายจะช่วยอะไรได้ล่ะลูก ยายยิงปืนไม่เป็น” ริลณีควานหายาดมในกระเป๋ามาสูด อะไรทำให้รัชพลไปมีเรื่องกับมาฟงมาเฟียได้ เธอจะบ้าตาย คนพวกนั้นชอบใช้อำนาจมืดฆ่าคนเป็นผักปลา





“ก็คุณยายรู้จักพวกไฮโซเยอะแยะ คุณยายก็ต้องรู้จักศิรินทราใช่มั้ยล่ะครับ นั่นแหละคนที่พี่รัชไปมีปัญหาด้วย” คำตอบจากปลายสายทำให้ริลณีตกใจเป็นรอบที่สองของวัน





“เดี๋ยวนะลูก พูดใหม่อีกทีซิ ใครนะที่ตารัชมีปัญหาด้วย” ริลณีถามย้ำ





“คุณหญิงพิมล ศิรินทราครับ คนนี้แหละที่พี่รัชจะไปสู้ด้วย หลานชายคุณยายจะไปฉุดหลานเค้ามา ตายแน่ๆ ไอ้พี่รัชไม่รอดแน่” คำตอบที่แน่ชัดทำให้ริลณีต้องสูดยาดมเข้าปอดอีกรอบ





“เป็นเรื่องแล้วไงล่ะตารัช” ให้มันได้อย่างนี้สิรัชพลหลานรัก






เธอเป็นเพื่อนกับคุณหญิงพิมลก็จริง แต่เธอก็ไม่กล้าเสี่ยงจะมีเรื่องกับเพื่อนคนนี้ ความโหดนั้นใครๆก็รู้ แล้วหลานชายเธอจับพลัดจับผลูไปมีเรื่องได้ยังไงล่ะเนี่ย





หางานยากมาให้ยายแล้วมั้ยล่ะ

















เวลาสี่ทุ่มในห้องพักของสิตางศุ์ ร่างเล็กยังคงนอนไม่หลับ สิตางศุ์พลิกไปพลิกมาแต่ก็พยายามไมให้โดนแผลของตัวเอง เขาควานหาโทรศัพท์ของงตัวเองแล้วเปิดมัน





เครื่องที่ปิดไว้นานตอนนี้ถูกเปิดขึ้นมา แสงจากหน้าจอโทรศัพท์เป็นแสงเดียวที่ปรากฏอยู่ในห้องนี้ สิตางศุ์นึกอยากจะโทรหารัชพลแต่ก็ไม่มีเบอร์ เขามีเพียงแค่เบอร์ของภุมริน แต่ก็ไม่กล้าโทรไปรบกวนตอนนี้เพราะมันดึกมากแล้ว สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่ปิดไว้เหมือนเดิม





สิตางศุ์ถอนหายใจก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก เขาอยากจะไปเดินเล่นเสียหน่อยแต่ก็เจอคนของคุณหญิงพิมลห้ามไว้ เลยต้องกลับมาในห้องเหมือนเดิม





ร่างเล็กเดินไปที่ระเบียงห้อง มองออกไปข้างนอกที่เต็มไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืนของเมืองใหญ่ ที่นี่มีแต่แสงไฟ มันเทียบอะไรไม่ได้กับแสงดาวที่ไร่น้ำริน





ถ้าถามสิตางศุ์ตอนนี้ว่าให้เลือกระหว่างอยู่ที่นี่กับไร่น้ำริน เขาจะตอบทันทีว่าเลือกที่จะกลับไปไร่น้ำริน แม้ว่าที่นั่นจะไมสุขสบายเท่าที่นี่ แต่มันก็สบายใจกว่า





“ต่อให้คุณแพ้แดดแรงๆเข้าไปในไร่กับผมไม่ได้ ผมก็จะให้คุณอยู่แต่ในร่ม เพราะผมเองก็ไม่อยากให้คุณต้องเป็นอะไร คุณขี่ม้าไม่เป็นผมก็จะเป็นคนขี่ให้คุณเอง คุณต่อสู้ไม่เก่งผมก็จะคอยปกป้องคุณ และถ้าคุณมีเรื่องลำบากใจเหมือนตอนนี้ ผมก็จะคอยเป็นที่ระบายให้คุณเสมอ”





คำพูดของรัชพลลอยเข้ามาในหัว น้ำตาใสๆไหลลงข้างแก้มโดยที่สิตางศุ์ไม่รู้ตัว ถ้ารัชพลอยู่ตรงนี้ก็ดีสินะ





...ตอนนี้สิตางศุ์คิดถึงรัชพล















“ไปด้วยสภาพนี้จริงดิไอ้รัช” ตะวันถามร่างสูงของรัชพลเมื่อพากันยกโขยงมาส่งรัชพลที่สนามบินในเช้าวันรุ่งขึ้น





“นี่แหละชุดที่ดูดีที่สุดของพี่รัชแล้ว” ภุมรินพูดแม้ว่าเขาเองจะรู้สึกไม่โอเคกับสารรูปของพี่ชายตัวเองตอนนี้เท่าไหร่





“มึงยืมชุดกูก่อนก็ได้ โอ้ย... ย่าคุณสิตางศุ์เค้ายิ่งจะไล่ตะเพิดมา” ตะวันทำหน้าละเหี่ยใจ





“ยืมอะไรเล่า ตอนนี้ไม่ทันแล้ว จะขึ้นเครื่องแล้วเนี่ย” รัชพลไม่สนใจ เขากลับรู้สึกเฉยๆเสียมากกว่า แม้ว่าเสื้อเชิ้ตตัวเก่าที่ใช้ไปทำงานและกางเกงยีนส์ที่แอบขาดๆนั้นจะทำให้ตะวันและภุมรินรู้สึกท้อก็ตาม





บ้านเราก็ไม่ได้จนขนาดนั้นนะพี่รัช จะหาซื้อเสื้อผ้าดีๆซักตัวก่อนไปก็ไม่ได้ สมควรแล้วที่คุณย่าของสิตางศุ์ไม่ให้ไปยุ่งกับหลานเค้า คราวนี้ต้องให้คุณยายกับพี่อัคจับแปลงโฉม!   
 







**************************************************************************

























ตอนนี้ปั่นนรกอีกแล้ว  :z6: ฝากด้วยนะคะ เอาใจช่วยพี่รัชกันโหน่ยยยยยยยยยยยยยยย  :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-03-2016 21:48:39
ดูท่าพี่รัชจะโชคดีอยู่หน่อยที่ผู้ช่วยดูเหมือนจะช่วยได้บ้าง
สู้ๆนะพี่รัช รีบไปหาสิตางศุ์ สิตางศุ์จะตรอมใจแล้วมั้งน่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-03-2016 21:52:03
พี่รัชสู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-03-2016 22:26:00
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 18-03-2016 22:30:09
พี่รัชสู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-03-2016 22:34:03
ไหวไหมเนี่ยพี่รัช 5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 18-03-2016 22:36:19
รอพรุ่งนี้แทบจะไม่ไหว
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 18-03-2016 23:01:13
คุณยายจะเป็นแบ็คให้ได้ขนาดไหนน้า งานหินจริงๆ สู้ๆนะพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 18-03-2016 23:24:33
พี่รัชสู้ๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-03-2016 00:20:55
สู้ๆนะพี่รัช เรารู้ว่าพี่ทำได้ 55
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-03-2016 06:54:14
อยากเห็นพี่รัชแปลงโฉมมม
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-03-2016 07:03:40
เป็นกำลังใจให้นะพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-03-2016 13:06:15
ขอให้คุณยายช่วยได้ทีเถอะ สงสารพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่24 18/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 19-03-2016 15:18:08
ชักขำพี่รัช จะไปฉุดหลานเค้า เปลี่ยนขุดก่อนมั้ย? 555555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 19-03-2016 20:19:47
บทที่ 25




 
ริลณี จิระมนตรี หญิงชราวัยหกสิบกว่าปีต้องมานั่งพัดๆวีๆรอหลานชายอยู่ที่สนามบินพร้อมกับเพลิงนภาหลานสาวคนเล็กที่เพิ่งจะเลิกเรียน เธอได้รับโทรศัพท์จากภุมรินว่ารัชพลได้เดินทางมาแล้ว หลังจากรออยู่นานริลณีก็เห็นรัชพลเดินมาแต่ไกล





เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆที่ติดจะซีดๆ กางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยแต่ก็เห็นได้ในระยะไกล เสื้อแจ็กเกตหนังสีหม่นที่เธอเห็นรัชพลใช้เมื่อปีที่แล้ว และกระเป๋าเบ้สะพายหลังใบขนาดย่อม





โอ้ย! ตารัช!





“พี่รัช อยู่ทางนี้ วู้ว!” หญิงสาวในชุดนักศึกษาโบกมือพร้อมตะโกนเรียก ริลณีหันไปมองด้วยสายตาที่ทำให้เพลิงนภาต้องเอามือลง





“สวัสดีครับคุณยาย หวัดดียัยเพลิง” รัชพลทักทายทั้งสองคนเมื่อเดินมาถึง ริลณีรับไหว้แล้วกอดหลานชายตัวโตก่อนจะหอมแก้มรัชพลไปหนึ่งที





“ไม่เจอตั้งนาน ดูซิ ผมเผ้าน่ะตัดซะบ้าง แล้วเสื้อผ้าน่ะพ่อเราไม่ซื้อให้บ้างรึไง ใครรู้ว่าเป็นหลานคุณริลณีนะอายเค้าตายเลย แล้วไปมีเรื่องกับใคร อะไรยังไง เราต้องคุยกันยาวนะตารัช” ริลณีใช้พัดตีไปที่ไหล่ของรัชพลหนึ่งที





“มาถึงก็ด่าพี่รัชเลยนะคุณย่า เพลิงว่าพี่รัชแต่งตัวแบบนี้เท่ดีออก” เพลิงนภาคว้าแขนพี่ชายไว้ รัชพลยิ้มให้หญิงสาวแล้วลูบหัวไปหนึ่งที





“ไม่ต้องเลยยัยเพลิง ไป พาพี่เรากลับบ้านเลย” ริลณีเหนื่อยใจกับหลานสาวคนเดียวของบ้าน เป็นผู้หญิงหัดทำตัวให้เรียบร้อยอ่อนหวานไม่เคยจะมี แล้วดูรัชพลสิ ทำไมบุรินทร์ถึงเลี้ยงหลานเธอได้แย่ขนาดนี้นะ สภาพดูไม่ได้ ต้องให้อัคคีลอกคราบพ่อหนุ่มบ้านไร่ทิ้งเสียแล้ว





ทั้งสามคนพากันมาขึ้นรถก่อนที่รถคันใหญ่จะแล่นมุ่งตรงไปสู่บ้านจิระมนตรี บ้านจิระมนตรีของริลณีนั้นมีเธอ คุณรุจลูกชาย พิมพ์นภาลูกสะใภ้ อัคคีและเพลิงนภาหลานทั้งสองคน รวมทั้งสาวใช้อีกสองสามคนและคนขับรถอีกหนึ่ง เป็นบ้านขนาดใหญ่ แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่ค่อยได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาบ่อยนักแต่ก็มีวันที่นัดกินข้าวพร้อมกันอยู่





เมื่อรถมาจอดที่บ้านเพลิงนภาก็ลากแขนรัชพลเข้าบ้านไปโดยมีริลณีเดินนำอยู่ก่อนแล้ว สาวใช้รีบมาต้อนรับและยกกระเป๋าเป้ใบเล็กของรัชพลไปเก็บ ร่างสูงของเจ้าของไร่น้ำรินมองไปรอบๆ





เขามาที่บ้านนี้ทุกปีบ้านหลังนี้ไม่เปลี่ยนไปมาก ลุงรุจเคยชวนรัชพลมาช่วยงานที่บริษัทอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ปฏิเสธไปเพราะชอบไวน์และชอบอยู่ไร่มากกว่า ตอนภุมรินมาเรียนที่นี่ก็มาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก





“มาเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีกนะเนี่ย กินอะไรมารึยังจ้ะรัช” พิมพ์นภาถามเมื่อเห็นว่ารัชพลมาถึงแล้ว เธอเตรียมกับข้าวให้หลานชายไว้เยอะแยะ เพราะกลัวว่ารัชพลยังไม่ได้ทานอะไรมา





“ตั้งโต๊ะเลยก็ได้ยัยพิมพ์ ใกล้จะเที่ยงแล้วเนี่ย” ริลณีสั่งลูกสะใภ้ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา เพลงนภากับรัชพลก็นั่งตาม





“ค่ะคุณแม่” พิมพ์นภาตอบแล้วก็หายไปในครัวเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง ริลณีเบนสายตามาที่หลานชายสุดมอซอของตัวเอง แล้วจ้องมองอย่างจับผิด





“ตารัช ตกลงยังไง ไปมีเรื่องกับคุณหญิงพิมลได้ยังไงห๊ะเรา ไม่รู้หรือยังไงว่าคุณหญิงพิมลเค้าเป็นคนยังไง” พอเริ่มได้เธอก็ถามหลานชายทันที





“ความจริงผมไม่ได้ไปมีเรื่องกับคุณหญิงพิมลโดยตรงหรอกครับคุณยาย คือจริงๆแล้วมัน...” รัชพลนิ่งไปสักพักแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ริลณีกับเพลิงนภาฟัง





เขามาที่นี่เพื่อที่จะพาสิตางศุ์กลับไปด้วย รัชพลรู้ว่ามันยากมากแค่ไหนแต่เขาก็จะทำ สิตางศุ์เคยบอกกับเขาว่าอยากอยู่ที่ไร่น้ำรินมากกว่าที่จะอยู่ที่นี่ นั่นอาจจะเป็นเพราะเรื่องครอบครัวของสิตางศุ์ เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องในครอบครัว แต่เขามีสิทธิ์ที่จะช่วยเหลือสิตางศุ์ในฐานะคนรัก





“จนได้สิน่า...” ริลณีถอนหายใจหนักๆ เธอเองก็พอจะรู้ว่าครอบครัวของคุณหญิงพิมลนั้นไม่ลงรอยกับอดีตลูกสะใภ้เท่าไหร่ แต่เรื่องของสิตางศุ์หลานชายของคุณหญิงพิมลเธอไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะไม่ได้เจอกันมานานมาก เคยเจอแค่ตอนเด็กๆเท่านั้น





“รัชแค่อยากเจอสิตางศุ์ครับคุณยาย รัชรู้ว่ารัชดูแลสิตางศุ์ไม่ดี แต่รัชก็รู้ว่าสิตางศุ์รู้สึกแย่แค่ไหนที่ต้องทนอยู่แบบนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่หนีไปที่ไร่”





“ยายช่วยให้รัชเจอสิตางศุ์ได้ แต่เรื่องที่รัชไปรักไปชอบกับหลานของพิมลยายว่าเรื่องนี้มันยากนะ ปกติพิมลหวงลูกหวงหลานอยู่แล้ว และเราเคยทำให้หลานเค้าเจ็บตัวขนาดนั้นเค้าจะยอมเหรอ” ริลณีก็คิดหนักไม่แพ้กัน





เธอตกใจเล็กน้อยที่รัชพลกับสิตางศุ์มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น ไม่คิดว่าที่สิตางศุ์โดนยิงเจ็บตัวกลับมาจะเป็นเพราะไร่น้ำรินของลูกเขยของเธอ และยิ่งไปกว่านั้นหลานชายของเธอก็ดันไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสิตางศุ์เสียนี่ มันจะไม่ยากเลยถ้าย่าของสิตางศุ์ไม่ใช่คุณหญิงพิมล ศิรินทรา แค่เธอไม่กำจัดรัชพลก็ดีแค่ไหนแล้วที่เป็นสาเหตุทำให้หลานเธอต้องเจ็บตัวแบบนั้น





แต่ก็นั่นแหละ เรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ รัชพลก็ยืนยันกับเธอว่ารักสิตางศุ์ด้วยใจจริง เธอเชื่ออย่างนั้น เพราะหลานชายคนนี้เป็นคนหนักแน่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรื่องนี้คงได้พ่อมา เป็นเรื่องเดียวที่ริลณียอมรับลูกเขยบ้านไร่ของเธอ จนมีหลานให้เธอตั้งสองคน เมื่อรัชพลจริงใจกับสิตางศุ์ขนาดนี้แล้ว เธอจะปล่อยให้หลานชายหอบแห้วกลับไร่น้ำรินมันก็ดูจะเป็นการใจร้ายเกินไป





“ทำไมพี่รัชกับพี่รินต้องงานยากตลอดเลย คราวที่แล้วแฟนพี่รินก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปตั้งหลายวัน คราวนี้พี่รัชก็ดันไปหลังรักหลานมาเฟียซะงั้น นิยายชัดๆ” เพลิงนภาที่ฟังอยู่ก็เครียดไม่แพ้กัน เรื่องของภุมรินคราวที่แล้วเธอก็รับรู้ เธอว่าเรื่องคราวนั้นยากพอตัวแล้ว เรื่องคราวนี้มันแอดวานซ์กว่า





“ใครจะรู้ล่ะว่าสิตางศุ์เป็นหลานมาเฟีย พี่ก็หวังว่าความจริงใจของพี่จะทำให้ครอบครัวของสิตางศุ์รับรู้ว่าพี่รักสิตางศุ์จริงๆ” รัชพลพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น





“ย่ะพ่อหลานชายหัวใจลูกทุ่ง ดูสภาพเราซะก่อน ถ้าคิดจะรักหลานคุณหญิงพิมลอย่างแรกต้องตัดผมแล้วแต่งตัวดีๆซะก่อน พรุ่งนี้ยายจะให้ตาอัคพาไปซื้อชุด อยากเจอสิตางศุ์ใช่มั้ย อาทิตย์หน้ามีงานการกุศลของคุณหญิงอรนุช คุณหญิงพิมลก็น่าจะพาหลานเค้าไปอยู่แหละ ไปกับยายเดี๋ยวยายจัดการเอง แล้วอย่าเพิ่งกระโตกกระตากไปฉุดเค้ากลางโรงบาลล่ะ ไม่อย่างนั้นเรื่องจะยุ่งกว่านี้”





 ริลณีดักทางไว้ก่อนกลัวว่าพ่อหลานชายจะไปฉุดหลานเค้ามาเสียก่อน รัชพลทำได้เธอรู้ ยิ่งไปทำอย่างนั้นเรื่องยิ่งจะยาก เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป หวังว่าความเป็นเพื่อนมาสี่สิบกว่าปีของเธอกับพิมลนั้นจะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นล่ะนะ แม้จะเป็นแค่เพื่อนสมัยเรียนก็ตามที





“คุยอะไรกันหน้าเครียดเชียว ไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า ป้าทำของโปรดรัชไว้เยอะเลยนะ” พิมพ์นภาเดินเข้ามาเรียกทั้งหมดไปทายข้าว ริลณีเดินนำไปก่อนแล้วทั้งหมดจึงตามไป





วันแรกในเมืองใหญ่ของรัชพลเริ่มขึ้นแล้ว ใจจริงเขาอยากจะไปหาสิตางศุ์ที่โรงพยาบาลตามความตั้งใจจริง แต่โดนริลณีดักทางไว้แบบนี้เลยต้องพับความตั้งใจนั้นเก็บไว้แล้วรอโอกาสที่จะมาถึง คงจะตรงๆเหมือนตอนอยู่ที่ไร่ไม่ได้แล้ว





เมื่อไหร่เราจะเจอกันซักทีนะสิตางศุ์

















สิตางศุ์กลับมาพักฟื้นที่บ้านหลังจากนอนโรงพยาบาลมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ อาการดีขึ้นตามลำดับ เขามานอนพักอยู่ที่บ้าน บ้านหลังเดิม ห้องเดิมที่เคยอยู่ อนันต์กลับบ้านบ่อยขึ้นแม้แต่คุณหญิงพิมลเองก็ด้วย






ทุกคนเหมือนพยายามที่จะเอาใจและดูแลสิตางศุ์เพิ่มมากขึ้น นั่นทำให้สิตางศุ์รู้สึกดีไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้เจอมินตราอีกเลย นั่นเป็นเพราะย่าของเขา สิตางศุ์รู้ดี แต่มันก็เป็นการดีตรงที่ว่าเขาจะได้ไม่ต้องเจออาทัศอีก เพราะเขาคงทำตัวไม่ถูก สิตางศุ์รังเกียจผู้ชายคนนี้ คบกับแม่ของเขาแต่กลับมาทำกิริยาแบบนั้นกับเขาทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย ถ้าคุณย่ารู้เรื่องนี้คงไม่ปล่อยไว้แน่นอน





วันนี้ภูวดลมาหาสิตางศุ์ที่บ้าน สิตางศุ์รู้สึกผ่อนคลายเมื่อมีคนคุยด้วย





“เป็นไงไอ้แห้ง หายหงอยรึยัง กูมีข่าวใหม่จะมาบอกด้วย” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ข่าวใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับนั้นเขาได้ฟังมาจากภุมรินสดๆร้อนๆแล้วรีบตรงดิ่งมาที่บ้านศิรินทราทันที





“มีเรื่องอะไรเหรอภู” สิตางศุ์ขมวดคิ้ว ใจเริ่มจะเสียไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่





“ตอนนี้คุณรัชพลมาที่นี่ มาหามึงที่กรุงเทพฯ!” สิ่งที่ภูวดลพูดนั้นทำให้สิตางศุ์ใจเต้นแรงขึ้น






“พี่รัชมาที่นี่เหรอ” สิตางศุ์ไม่คิดว่ารัชพลจะมาหาเขาที่นี่






มันไม่ใช่เรื่องง่ายกับการโดนขู่โดยคุณย่าของเขาแล้วรัชพลจะยังดันทุรังมาหาเขาต่อ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่ารัชพลคิดที่จะสู้กับย่าของเขา เพราะแค่เรื่องที่ผ่านมาก็ทำให้รู้ว่าตัวรัชพลเองก็เสี่ยงมากแค่ไหนถ้าคิดจะต่อกรกับคุณหญิงพิมล สิตางศุ์ดีใจแต่อีกใจหนึ่งก็ห่วงรัชพล คุณย่าของเขาต้องไม่อยู่เฉยแน่ และนั่นความปลอดภัยของรัชพลก็แทบจะไม่มี






“เออ มาเมื่อวาน รินเพิ่งบอกกูเมื่อเช้า เฮอะ... ไม่คิดว่าจะเอาจริง เอาแล้วไงเพื่อนกู ผู้ชายตามมาถึงนี่” ภูวดลพูด เขาเองก็ไม่คาดคิดว่ารัชพลจะเอาจริง ทั้งๆที่รู้ว่าย่าของสิตางศุ์เป็นใคร นับถือใจสุดๆ





“เราเป็นห่วงพี่รัช ถ้าคุณย่ารู้ต้องแย่แน่ๆ คุณย่าบอกว่าไม่ให้ยุ่งกับคนที่ไร่น้ำรินอีก แล้วคุณย่าก็ไม่รู้ว่าเราคบกับพี่รัช” สิตางศุ์หน้าเครียดลงเมื่อนึกถึงจุดนี้





“เรื่องมันไม่ยากขนาดนั้นแล้วไอ้ตาง ฟังนะ กูเพิ่งนึกได้ว่ารินน่ะมันเป็นหลานคุณริลณี แล้วคุณรัชของมึงก็ด้วย แล้วตอนนี้ยายของคุณรัชกำลังร่วมหุ้นกับย่ามึงอยู่ นอกจากนั้นยังเป็นเพื่อนสมัยเรียนกันอีก เรื่องนี้มันไม่ยากเว้ย” ภูวดลบอกเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้สิตางศุ์ฟัง





เขาก็ลืมนึกไปเลยว่าภุมรินตอนเรียนที่กรุงเทพฯมาอยู่ที่บ้านของคุณริลณี และยังเป็นหลานรักอีก เรื่องอะไรที่ยากๆตอนนี้พอจะมีหนทางแล้ว อย่างนี้ไอ้แห้งของเขาก็ไปอยู่ไร่น้ำรินได้สบาย ถ้าคุณย่ามันอนุญาต





“หลานคุณยายณีเหรอ” สิตางศุ์ตกใจกว่าเดิม หลานยายณี คุณยายริลณีหุ้นส่วนของคุณย่าของเขาเนี่ยนะ สิตางศุ์ไม่คิดว่ารัชพลจะเป็นหลานของคุณยายริลณี คิดว่ารัชพลเป็นเพียงแค่ชาวไร่ธรรมดาเสียอีก เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจใหญ่อย่างริลณีได้





“ก็เออสิวะ โลกกลมชิบหาย แล้วตอนนี้รินก็ให้เบอร์คุณรัชพลมาแล้วด้วย เอาโทรศัพท์มึงมาดิ” ภูวดลแบมือขอมือถือจากสิตางศุ์





สิตางศุ์ก็ยื่นให้อย่างไม่รีรอ เขาเองก็อยากจะคุยกับรัชพลเหมือนกัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็หกวันแล้วที่ไม่ได้ติดต่อรัชพลอีกเลย





“เรียบร้อยละ มึงอยากคุยกับเขาก็คุย แล้วไม่ต้องทำมาเป็นนางเอกเล่นตัวเหมือนในละครนะไอ้แห้ง แห้วกูไม่รู้ด้วย จะมีผัวทั้งทีเสือกเอาแต่นิ่งไม่ยอมพูดยอมจา” คำพูดของภูวดลทำให้สิตางศุ์หน้าแดงขึ้นมา





“บ้าน่าภู พูดอะไร หยาบคาย” สิตางศุ์หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย ผัวอะไรกัน ดูภูวดลใช้คำพูดเข้า อยากจะบ้าตายจริงๆ





“ทำเป็นเขิน ไปละ กูมีงานต้องทำอีกเยอะ เจอกันอีกทีงานแม่กูอาทิตย์หน้าเลยนะ” ภูวดลลุกขึ้นก่อนจะลาสิตางศุ์ งานที่ว่านั้นก็อีกสี่วันข้างหน้าแล้ว สิตางศุ์เองก็ตกปากรับคำย่าของเขาว่าจะไป





“อือ ขอบคุณมากนะภู” สิตางศุ์ยิ้มให้เพื่อนรักก่อนจะเดินออกไปส่งภูวดลที่หน้าประตู





เมื่อภูวดลกลับไปแล้วสิตางศุ์ก็ก้มมองดูเบอร์โทรสิบหลักในโทรศัพท์ เบอร์ของรัชพล


















“ตัดผมแล้วดูดีขึ้นเยอะเลยนะเรา เดี๋ยวพี่จะพาไปดูเสื้อผ้ากับรองเท้าต่อ รัชชอบแบบไหนเป็นพิเศษมั้ย” อัคคีถามน้องชาย วันนี้ริลณีให้เขาหยุดงานหนึ่งวันเพื่อพารัชพลมาดูเสื้อผ้า





“ไม่ชอบแบบไหนเป็นพิเศษหรอกครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องเสื้อผ้าเท่าไหร่” รัชพลตอบ เขามองดูสภาพตัวเองกับอัคคีแล้วก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน





อัคคี จิระมนตรีหลานชายของคุณริลณี มาดนักธุรกิจมาเต็ม ผูกไทด์ใส่สูท เนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ตัดภาพมาที่เขาซึ่งก็เป็นหลานคุณริลณีไม่ต่างกัน แต่สภาพเหมือนกำลังจะเข้าไร่เข้าสวน เดินตามอัคคีเหมือนเขาเป็นคนขับรถไม่มีผิด จะพูดอะไรได้ล่ะ






เขาเกิดมาในไร่ของพ่อ เป็นธรรมดาที่จะเป็นคนแบบนี้ ขืนใส่สูทเข้าไร่เข้าโรงบ่มคงร้อนตาย แต่ถ้าให้มาแต่งตัวดีๆแล้วไม่ได้อยู่ในไร่แบบอัคคีเขาก็คงไม่เอาเหมือนกัน เขารักไร่น้ำริน ไร่ที่พ่อกับแม่สร้างและอยู่ด้วยกันมา





“ถ้าอย่างนั้นพี่จะช่วยเลือกแล้วกันเนอะ อาทิตย์หน้าคุณย่ามีงาน เห็นบอกว่าจะพาเราไปด้วย” อัคคีพูดเมื่อเดินมาถึงร้านเสื้อผ้าที่เขามาใช้บริการประจำ รัชพลเดินตาม พนักงานในร้านแอบมองพี่ชายของเขาแล้วหัวเราะคิกคัก เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ต้องชอบคนดูดี





“ครับ คุณยายจะท่านบอกว่าจะให้ผมไปด้วย” งานอาทิตย์หน้าคืองานที่เขาจะได้เจอสิตางศุ์ รัชพลรู้สึกดีใจไม่น้อย ไม่ได้เจอแค่อาทิตย์เดียวเหมือนเขาไม่เจอสิตางศุ์มาเป็นปียังไงอย่างนั้น ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะสิตางศุ์





อัคคีพยักหน้ารับก่อนจะเลือกเสื้อผ้าให้รัชพลหลายชุด รัชพลรับมาอย่างเกรงใจ เขาจะจ่ายเองแต่อัคคีก็ห้ามไว้เพราะริลณีให้เขาจัดการในเรื่องนี้ กว่าสองพี่น้องจะออกจากร้านมาก็นานอยู่เหมือนกัน อัคคีพารัชพลไปทานข้าวกลางวันก่อนจะกลับบ้าน






รัชพลเดินเข้าบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อย มันก็จริงที่การเดินห้างที่มีแอร์เย็นๆนั้นสบายกว่าการเข้าไร่ที่ระอุไปด้วยไอแดด แต่ด้วยสภาพจิตใจของเขาตอนนี้มันแทบจะไม่อยากทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาอยากเจอสิตางศุ์ อดใจรอไม่ไหวแล้ว อยากจะไปหาแต่ริลณีก็ห้ามไว้ เขาจะทำอะไรได้นอกจากนั่งรออยู่อย่างนี้






“กลับมาแล้วเหรอรัช มานี่หน่อยซิลูก มาช่วยยายยกต้นไม้หน่อย” เสียงของริลณีดังขึ้นจากหลังบ้าน





“ครับคุณยาย” รัชพลวางของลงพร้อมกับกระเป๋าตังค์และโทรศัพท์ เขาพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปหลังบ้าน






ริลณีกำลังเลือกต้นไม้ที่จะใช้จัดสวนอยู่โดยมีลูกมือเป็นสาวใช้คนหนึ่งของบ้าน หลังจากวางมือจากงานที่บริษัท นายเหนือใหญ่ของจิระมนตรีก็มีเวลาทำอะไรมากขึ้น และสิ่งที่เธอยากจะทำก็คือการจัดสวนสวยๆที่หลังบ้าน เอาไว้อ่านหนังสือพักผ่อน






รัชพลช่วยริลณีจัดสวนจนถึงเย็น เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยเมื่ออยู่กับต้นไม้ รอยยิ้มจางๆที่หายไปหลายวันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของร่างสูง





และเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่นานสองนานในบ้านก็ยังคงถูกเมินเฉยจากเจ้าของของมัน











































รอบที่สี่ที่สิตางศุ์กดโทรหารัชพลจากเบอร์ที่ภูวดลให้ไว้ เขาเริ่มไม่มั่นใจว่านี่คือเบอร์ของรัชพลจริงหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าใช่แล้วทำไมรัชพลไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา







สิตางศุ์หน้าเจื่อนลง เขาโทรไปตั้งหลายรอบแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกคน สุดท้ายร่างบางก็จำใจต้องหยุด สิตางศุ์ปิดโทรศัพท์แล้วล้มตัวลงนอน






ทำไมรัชพลไม่รับโทรศัพท์ของเขานะ











***************************************************************************





ตอนนี้เรื่อยๆ เอื่อยๆ ยังไม่เจอกันอยู่ดี ตอนหน้าสนุกแน่นอน ความบ้านนอกของพี่รัชจะป่วนกรุง  :laugh3: ตอนหน้าทั้งสองจะเจอกันแล้วนะจ้ะ ส่วนตอนนี้เอาความเหงาความหงอยของพี่รัชกับสิตางศุ์ไปก่อน ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:



ปล. แก้ไขนิดนึงงงงง ลงเนื้อหาไม่ครบ เบลอหนัก
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-03-2016 20:26:47
พี่รัชคะะะ ทำตัวให้สมเป็นหนุ่มนักเรียนนอกนิดนึงงงงงงง
เข้าเมืองมาสู่ขอหลานมาเฟียทั้งที ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-03-2016 20:38:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-03-2016 20:46:37
ความบ้านนอกของพี่รัชจะป่วนกรุง ขนาดนั้นเลยเรอะ ฮา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 19-03-2016 21:18:49
มันสั้นไปดิ้นไปมาขอยาวๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 19-03-2016 21:33:14
ชอบๆ พี่รัชป่วนกรุง 55555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-03-2016 22:12:45
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 20-03-2016 01:16:03
พี่รัชป่วนกรุง :laugh:
เอาจริงๆ พี่แกอยู่แต่ในไร่ ในโรงบ่ม จนบางทีก็ลืมไปว่าพี่แกเด็กนอก //อิพี่รัช เก๊าขอโต้ดดด
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 20-03-2016 01:27:41
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่25 19/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-03-2016 13:28:45
จะได้เจอกันแล้ว~
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 20-03-2016 20:18:47
บทที่ 26




รอบที่สี่ที่สิตางศุ์กดโทรหารัชพลจากเบอร์ที่ภูวดลให้ไว้ เขาเริ่มไม่มั่นใจว่านี่คือเบอร์ของรัชพลจริงหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าใช่แล้วทำไมรัชพลไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา สิตางศุ์หน้าเจื่อนลง เขาโทรไปตั้งหลายรอบแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกคน สุดท้ายร่างบางก็จำใจต้องหยุด สิตางศุ์ปิดโทรศัพท์แล้วล้มตัวลงนอน วงจรชีวิตของเขาน่าเบื่อกว่ายุงเสียอีก





“สิตางศุ์ อยู่มั้ยลูก” เสียงเรียกหน้าห้องพร้อมกับเสียงเคาะประตูทำให้สิตางศุ์ต้องลุกไปเปิดประตูห้อง





“มีอะไรเหรอครับคุณย่า” สิตางศุ์ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ





“ไปดูชุดกับย่า วันนี้ต้องไปทานข้าวกับคุณสินีนุช พรุ่งนี้มีงานวันเกิดคุณวิเชียรอีก” คุณหญิงพิมลในชุดผ้าไหมสีเข้มพร้อมกับหน้าผมที่ถูกจัดอย่างเต็มยศพร้อมออกไปข้างนอกพูดกับสิตางศุ์ที่สภาพเหมือนเพิ่งจะตื่นนอน





“คุณย่าครับ ผมไม่อยากไป” สิตางศุ์รู้สึกเบื่อ เขาเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลได้แค่วันเดียวเท่านั้น แผลก็ใช่ว่าจะหายดี แต่คุณย่ากับลากเขาไปออกงานนู่นนี่





“ไม่อยากไปก็ต้องไป คนอื่นเค้าอยากเจอหลานจะแย่ ไม่เคยจะออกงานสังคมบ้าง อีกหน่อยก็ต้องรับช่วงต่อแล้ว เรียนรู้งานไว้แต่เนิ่นๆ”





ทุกวันนี้เธอต้องคอยยิ้มและบอกกับคนในวงสังคมตลอดว่าหลานชายของเธอนั้นยังไม่พร้อมที่จะมาเจอทั้งๆที่อายุอานามก็เหมาะสมที่จะเข้าทำงานแล้ว ลูกหลานบ้านอื่นเค้าไปงานนู้นงานนี้ตั้งแต่เด็ก จะมีก็แต่สิตางศุ์ที่ทำตัวแปลกแยก





“แต่ผมยังไม่หายดีนะครับคุณย่า”





“แต่มันก็หายแล้วนิ ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องไป ย่าจะไปรอข้างล่าง เร็วๆด้วยล่ะ” พูดจบคุณหญิงพิมลก็เดินลงไปชั้นล่างโดยที่ไม่ฟังคำคัดค้านของสิตางศุ์





ร่างบางได้แต่ถอนหายใจ ทำไมเขารู้สึกเหนื่อยไปทุกวัน ต่อให้บอกความต้องการของตัวเองไปยังไง ย่าของเขาก็ไม่เคยฟังอยู่ดี บางทีเขาไม่อยากเกิดมาเป็นสิตางศุ์ ศิรินทราเลยด้วยซ้ำ





สุดท้ายสิตางศุ์ก็จำใจเดินเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปข้างนอกตามความต้องการของคุณหญิงพิมล

















“เสร็จแล้วครับคุณยาย” รัชพลกลบดินเป็นการปิดท้ายก่อนจะถอดถุงมือออก ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น ต้นไม้ของริลณีถูกนำลงดินครบทุกต้น โดยฝีมือของหลานชายคนเก่ง





“ขอบใจมากลูก ถ้ายายทำเองเดือนนี้ก็ไม่เสร็จ ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว เปื้อนดินเปื้อนโคลนหมด” ริลณียิ้มกว้าง เรื่องใช้กำลังนี่ขอให้บอกรัชพลเค้าล่ะ แรงเยอะอย่าบอกใคร





เธอมองหลานชายคนรองแล้วแอบท้อใจ ถ้าอยู่กับเธอนะ รัชพลไม่มีทางตัวดำคร้ามแดดแบบนี้หรอก ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกโกรธพ่อลูกเขยตัวดี ถ้าตอนนั้นแย่งหลานมาเลี้ยงได้หมด เธอจะรู้สึกดีกว่านี้





รัชพลยิ้มให้ผู้อาวุโสก่อนจะเดินเข้าบ้านแล้วตรงไปยังห้องของตัวเอง อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ลงมาข้างล่างเพื่อเอาของขึ้นไปเก็บ แล้วก็พลันเห็นแจ้งเตือนในโทรศัพท์





ไม่ได้รับห้าสาย จากเบอร์แปลก...





“ใครกัน” รัชพลงงเล็กน้อย ปกติเบอร์ของเขาไม่มีใครรู้นอกเสียจากคนที่สนิทจริงๆหรือไม่ก็มีงานที่ต้องทำร่วมกัน คิดได้ดังนั้นจึงกดโทรกลับ เผื่อว่าคนที่โทรมาจะมีธุระด่วน





รออยู่นานแต่ก็ยังไม่มีคนรับ รัชพลเลยตัดสินใจไม่โทรต่อ ถ้าคนที่โทรมามีธุระจริงๆเดี๋ยวก็คงโทรมาอีกรอบนั่นแหละ












โทรศัพท์เครื่องเล็กที่กระพริบอยู่บนเตียงนอนนั้นดับไป สิตางศุ์ลืมไว้ก่อนจะออกไปพร้อมกับคุณหญิงพิมล...

















วันงานมาถึง งานนี้เป็นงานการกุศลที่คุณอรนุชจัดขึ้นเป็นประจำโดยร่วมกับสมาคมของเธอ จัดขึ้นในโรงแรมใหญ่ใจกลางเมือง คุณหญิงพิมลมาร่วมงานในฐานะผู้ร่วมจัดงาน งานนี้เธอต้องการจะเปิดตัวหลานชายคนเดียวที่กำลังจะมาสืบทอดกิจการต่อ





สิตางศุ์ที่ยังคงเจ็บแผลอยู่วันนี้ใส่ชุดสีขาวซึ่งเข้ากับชุดของคุณหญิงพิมล เขาทำหน้าเบื่อๆ งานนี้เป็นงานของคุณย่าและป้านุชก็จริง ใช่ว่าเขาไม่อยากมาร่วม แต่เขาเบื่อกับการที่ย่าของเขาพาไปเจอคนนู้นคนนี้ต่างหาก สิตางศุ์ได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วยกมือไว้ไปก็เท่านั้น เขาไม่รู้จักใครเลย แน่ล่ะ เคยออกงานเสียที่ไหน





อีกด้านหนึ่งบ้านจิระมนตรีก็มาร่วมงานเช่นกัน วันนี้คุณริลณีมากับอัคคีและเพลิงนภา รวมทั้งรัชพลที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย จากพ่อหนุ่มบ้านไร่ตอนนี้ถูกคุณยายจับเชตผม ใส่สูทสีเข้มมาเป็นลูกหลานตระกูลจิระมนตรีเรียบร้อย ค่อยพอไปวัดไปวากับเขาได้บ้าง รัชพลในชุดที่ดูสุภาพภูมิฐานก็ดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว สมแล้วที่เป็นหลานของเธอ





“ใส่เน็กไทด์ให้มันดีๆสิลูก ตาอัคดูน้องยังไง น้องแต่งตัวไม่เรียบร้อยเนี่ย” คุณริลณีตรวจสอบความเรียบร้อยของหลานชายอีกรอบก่อนจะพาเข้างาน อัคคีกับเพลิงนภาแอบขำเล็กน้อยกับท่าทางเก้กังของรัชพลนั้น





“สวัสดีค่ะ คุณพี่ณี” คุณอรนุชเข้ามาทักทายเมื่อเห็นริลณีเดินเข้ามาในงาน






“สวัสดีค่ะคุณน้องนุช จัดงานใหญ่เหมือนกันนะคะเนี่ย” ริลณีทักทายตามประสาคนรู้จักกัน





“พอดีให้ตาภูเป็นคนจัดการน่ะค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้ลูกชายคนนี้ ยังไม่ได้ทักทายหลานๆเลย เป็นไงบ้างพ่ออัค เริ่มทำงานกับพ่อเขาแล้ว” อรนุชถามอัคคีที่อยู่ข้างหลังริลณี





“เริ่มจะลงตัวแล้วครับน้านุช” อัคคีตอบ





“ดีแล้วลูก นี่ตาภูก็เข้าทำงานแล้วเหมือนกัน ว่าแต่นั่นใครกันล่ะนั่น ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน” อรนุชเพิ่งจะสังเกตเห็นรัชพลที่ยืนอยู่ข้างๆอัคคีกับเพลิงนภา





“อ๋อ ลืมแนะนำไปเลย นี่ตารัชหลานพี่เองแหละ ลูกยัยดาน่ะ เพิ่งมาจากเชียงราย” ริลณียิ้มกว้างเมื่อแนะนำหลานชายคนรองของตัวเอง





“สวัสดีครับ” รัชพลยกมือไหว้ เพลิงนภาบอกเขาว่าเจ้าของงานวันนี้คือแม่ของภูวดล ท่าทางแล้วดูเป็นคนใจดีไม่น้อยเลยทีเดียว





“ไหว้พระเถอะลูก” อรนุชยิ้มรับ เธอพอจะทราบว่าลูกสาวของริลณีนั้นเสียไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีลูกโตขนาดนี้แล้ว






“ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะคะ ว่าจะไปหาพิมลเสียหน่อย” ริลณีตัดบท เธอมีภารกิจที่ต้องทำ ภารกิจช่วยหลานชายตัวดีของเธอนี่แหละ ไม่รู้ว่าจะไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว





“เชิญเลยค่ะ” อรนุชพูด






หลังจากเข้างานมาอัคคีกับเพลิงนภาก็ขอแยกตัวออกไปเมื่อมีคนเข้ามาทัก ริลณีจึงพาแค่รัชพลเดินไปหาคุณหญิงพิมลที่กำลังยืนคุยกับลูกค้าคนสำคัญของศิรินทราอยู่ ข้างๆมีสิตางศุ์ที่ดูเหมือนจะไม่สนใจโลก เพียงเท่านั้นหัวใจของรัชพลก็พองโตขึ้นมา






หลายวันที่ไม่เจอกันมานี้สิตางศุ์ของเขาดูซูบลงไปมาก แล้วแผลหายดีแล้วหรือไงถึงได้มาออกงานแบบนี้ เรื่องนี้รัชพลแอบเป็นห่วงไม่น้อยเลยทีเดียว ใบหน้าที่ซีดจางและท่าทางเบื่อหน่ายนั้นทำให้รัชพลรู้ว่าสิตางศุ์ไม่มีความสุขที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ สิตางศุ์ที่น่ารักของเขากลับกลายมาเศร้าเหมือนเดิม ยิ่งเห็นรัชพลก็ยิ่งทนไม่ได้






“สวัสดีจ้ะพิมล ตามหาตั้งนาน” ริลณีทักเพื่อนสมัยเรียน คุณหญิงพิมลที่กำลังคุยอย่างออกรสออกชาติต้องหันมามอง รวมทั้งสิตางศุ์ด้วย






สิตางศุ์ตาโตแล้วแปลกใจไม่น้อยที่เห็นรัชพลอยู่ตรงหน้า บทสนทนาของคุณหญิงพิมลและริลณีไม่เข้าหัวเขาเลยสักนิด ตอนนี้สิตางศุ์นิ่งงัน มองคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ






รัชพล รัชพลจริงๆด้วย แม้ว่าผมที่เคยปล่อยให้ดูรกๆตอนนี้ถูกเซตอย่างดี เสื้อผ้าที่เคยใส่เข้าไร่เข้าโรงบ่มก็ถูกเปลี่ยนเป็นสูทหรู แต่ภาพลักษณ์ภายนอกก็ไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้ที่รัชพลมายืนอยู่ตรงหน้าเขา






“นี่ตารัชจ้ะ รัชพล หลานชายฉันเอง เพิ่งมาจากเชียงราย” ริลณีจับที่หัวไหล่ของรัชพลแล้วแนะนำให้คุณหญิงพิมลรู้จัก





“สวัสดีครับ” ร่างสูงเบนสายตามามองหญิงชราตรงหน้า แล้วยกมือไหว้ก่อนจะหันกลับไปมองสิตางศุ์เหมือนเดิม





“สะ..สวัสดีจ้ะ รัชพลเหรอ เพิ่งมาจากเชียงราย” คุณหญิงพิมลทำหน้างง รัชพลที่เพิ่งมาจากเชียงราย ชื่อนี้มันจำติดในหัวเธอยู่ตลอด คนที่ทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัว ไอ้เด็กชาวไร่นั่นอยู่ๆกลับมาเป็นหลานของริลณีเนี่ยนะ!






“ใช่แล้ว ตารัชไม่ค่อยได้มากรุงเทพฯหรอก มาปีละครั้งสองครั้งเอง มาครั้งนี้เลยถือโอกาสพามาออกงานด้วย” ริลณีพยายามพูดให้รัชพลดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หลานชายของเธอนี่สิกลับไม่มองหน้าคุณหญิงพิมล เอาแต่จ้องสิตางศุ์อยู่นั่น






“อ้อ...” คุณหญิงพิมลพูดไม่ออก จะว่ารัชพลตรงนี้ก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทกับริลณีเกินไป ถึงเธอจะไม่ชอบรัชพลแต่เธอก็รู้ว่าควรไว้หน้าริลณี






“ให้หลานๆคุยกันดีกว่า สิตางศุ์กับตารัชจะได้สนิทๆกันไว้เนอะ” ไม่พูดเปล่าริลณียังดันรัชพลให้เข้าไปใกล้สิตางศุ์อีกด้วย






“กะ...ก็ดีค่ะ” คุณหญิงพิมลกัดฟันพูด แม้ว่าเธอจะไม่ชอบหน้ารัชพลมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธริลณีได้






เมื่อได้เข้าใกล้สิตางศุ์แล้วรัชพลก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ร่างสูงจับข้อมือเล็กแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น สิตางศุ์เองก็เดินตามอย่างเต็มใจ ทิ้งให้หญิงชรามองตาม ริลณีแอบถอนหายใจเล็กน้อย แต่คุณหญิงพิมลกลับทำหน้าท่าไม่พอใจ






รัชพลพาสิตางศุ์เดินออกมานอกงาน เมื่อพ้นสายตาคนรัชพลก็ก้มลงจูบสิตางศุ์โดยที่อีกคนไม่ทันจะตั้งตัว สิตางศุ์ได้แค่หลับตาแน่นแล้วกอดร่างนั้นไว้ เนิ่นนานกว่าที่รัชพลจะยอมปล่อยให้คนตัวเล็กเป็นอิสระ






“พี่คิดถึงสิตางศุ์มากรู้มั้ย พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัวแบบนี้” รัชพลยกมือขึ้นลูบหน้าของสิตางศุ์เบาๆ






“อย่าโทษตัวเองเลยพี่รัช พี่ไม่ได้เป็นคนผิด มันเป็นเพราะผมเองที่ทะเล่อทะล่าออกไปแบบนั้น จนกลายเป็นเรื่องบานปลายขนาดนี้” สิตางศุ์พูดให้อีกคนสบายใจ รัชพลไม่ผิดอะไรเลย เขาเองที่เป็นต้นเหตุให้ตัวเองต้องเจ็บตัวแบบนี้ เป็นเขาเองที่เดินออกไปหารัชพลทั้งๆที่รู้ว่ามันอันตราย






“แต่พี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องโดนยิง พี่คิดถึงสิตางศุ์มากรู้มั้ย พี่มาที่นี่ก็เพื่อสิตางศุ์ พี่อยากมาขอโทษ และมาเพื่อพาสิตางศุ์กลับไปไร่น้ำรินกับพี่” คำพูดของรัชพลทำให้สิตางศุ์ยิ้มออกมา






ร่างบางโผเข้ากอดรัชพลแน่น เขาอยากได้ยินคำนี้ คำว่าที่ว่ารัชพลจะพาเขาไปอยู่ด้วย รัชพลยังรู้สึกดีๆกับเขาไม่เคยเปลี่ยน และยิ่งไปกว่านั้นรัชพลไม่กลัวที่จะต้องสู้กับย่าของเขา






“พี่รู้นะสิตางศุ์ว่าคุณย่าของสิตางศุ์ไม่ยอมแน่ๆ แต่พี่ก็จะทำให้ท่านเห็นว่าพี่จริงใจกับสิตางศุ์มากแค่ไหน พี่อยากดูแลสิตางศุ์ พี่รักสิตางศุ์นะครับ” รัชพลซบหน้าลงกับไหล่บางนั้นพร้อมกับลูบแผ่นหลังของคนรัก






“ผมก็รักพี่รัชเหมือนกัน”






เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์พูดว่ารักกับรัชพล นั่นยิ่งทำให้รัชพลกอดอีกคนแน่นขึ้น เขาก้มลงจูบที่หน้าผากนั้นอย่างสุดรัก แค่นี้ก็พอแล้ว แค่นี้รัชพลก็มีกำลังใจสู้ต่อแล้ว






“พี่รัชไม่ต้องกลัวเรื่องคุณย่า ผมจะช่วยพูดให้ ท่านยังคิดว่าพี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมยังเจ็บตัวอยู่ ส่วนเรื่องที่เราจะคบกันนั้น ผมไม่รู้ว่าท่านจะยอมรับได้มั้ย มันยากที่จะทำให้ท่านเข้าใจ” สิตางศุ์แอบกังวลเรื่องของพิมลไม่น้อยเหมือนกัน เขารู้ว่าย่าของเขานั้นไม่ยอมง่ายๆแน่นอน แต่ถ้าเขาและรัชพลรักกันด้วยใจจริงมันก็น่าจะผ่านไปได้






“ต่อให้คุณย่าของสิตางศุ์ไม่ยอมพี่ก็จะพาสิตางศุ์กลับไปกับพี่ให้ได้ ทุกคนที่ไร่น้ำรินรอสิตางศุ์อยู่ พี่รู้ว่าสิตางศุ์ไม่มีความสุขที่จะอยู่ที่นี่”






เวลานี้ไม่มีใครเข้าใจสิตางศุ์ดีไปกว่ารัชพลอีกแล้ว ร่างเล็กแอบมีน้ำตา แม้แต่คนในครอบครัวเองยังไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาต้องการอิสระ ต้องการชีวิตที่เป็นของตัวเองหลังจากที่มันเป็นของคุณย่ามาทั้งชีวิต เขาต้องการหนีเรื่องวุ่นวายที่นี่ และกลับไปยังไร่น้ำริน ที่เงียบสงบและมีความสุข และยังมีรัชพล คนที่รักเขาและเข้าใจเขาที่สุด






“ขอบคุณนะครับพี่รัช ขอบคุณที่เข้าใจผม” สิตางศุ์ซบหน้าลงกับไล่กว้าง น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รัชพลกอดร่างน้อยไว้แนบกาย ให้ความรู้สึกของเขาส่งผ่านไปให้สิตางศุ์แล้วโอบกอดร่างนั้นไว้






ครู่ใหญ่กว่าที่รัชพลจะพาสิตางศุ์กลับเข้างาน กลับมาก็เจอคุณหญิงพิมลหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ สาเหตุก็มาจากคนที่ใส่ชุดสีแดงเข้มจนเป็นจุดเด่นที่มาพร้อมกับสามีที่อ่อนวัยกว่า คุณหญิงพิมลได้แต่เชิดหน้า เธอไม่อยากมองหน้าอดีตลูกสะใภ้ให้เป็นเสนียดตา






“คุณแม่” สิตางศุ์เรียกเบาๆ เป็นธรรมดาที่ย่าและแม่ของเขาจะออกงานแล้วเจอกันบ้าง แต่ทุกครั้งทั้งสองคนก็พยายามรักษาหน้าตัวเองโดยการไม่ด่าทอกันกลางงานได้เป็นอย่างดี






“แหม ลูกชายฉันเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมาไม่เท่าไหร่ก็พามาออกงานแล้วหรือนี่ จะไม่รอให้หายก่อนรึไงกัน โถๆลูก สิตางศุ์ของแม่” มินตราตรงเข้ามากอดลูกชายเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์เดินมาในงาน






กิริยานั้นทำให้คุณหญิงพิมลไม่พอใจ เธอเหมือนถูกหักหน้ากลางงานทำได้เพียงนิ่งไว้เท่านั้น แต่คนรอบๆตัวเธอกลับรู้ดีว่าตอนนี้คุณหญิงพิมลเริ่มจะโมโหแล้ว






“คุณแม่ดูแลลูกมินไม่ดีเหรอคะ ถึงปล่อยให้ลูกมินต้องโดนยิงเจ็บตัวแล้วยังจะพามาออกงานแบบนี้อีก” มินตราหันไปว่าคุณหญิงพิมล คนในงานดูจะตกใจไม่น้อยกับข่าวใหม่ที่ได้รับรู้และพากันจ้องมองคุณหญิงพิมลอย่างไม่วางตา นั่นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดลง






“อย่ามาว่าฉันนะ ไม่ใช่เพราะหล่อนเหรอที่ทำให้ลูกฉันต้องหนีไป แถมยังคบชู้สู่ชายอีก” เธอพูดแล้วมองมินตราอย่างเหยียดหยามแถมยังเผื่อแผ่สายตาไปหาทัศอีกด้วย







ตอนนี้สายตาทุกคนมองไปยังมินตราแทน สิตางศุ์ยืนนิ่งไม่พูดอะไร รัชพลมองความวุ่นวายนั้นก็ทำให้รู้ได้เลยว่าทำไมสิตางศุ์ถึงต้องหนีมา ครอบครัวที่เป็นแบบนี้ใครจะอยากอยู่ด้วยกัน ทั้งแม่ทั้งย่าไม่มีใครคิดถึงจิตใจสิตางศุ์เลยสักคน ยิ่งแม่ของสิตางศุ์พาผู้ชายคนนั้นมาด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ไอ้ผู้ชายที่เกือบทำร้ายคนรักของเขา






รัชพลรู้สึกคิ้วกระตุกเมื่อมองหน้าทัศ ทัศเองก็มองกลับเมื่อรู้ว่ามีคนมองอยู่ แค่มองตาก็สัมผัสได้ถึงความไม่ถูกชะตาด้วย ผู้ชายอายุห่างจากเขาไม่มากแต่มีเมียคราวแม่ขนาดนั้น ดูก็รู้ว่าเกาะผู้หญิงกิน แล้วยังจะมายุ่งกับลูกเค้าอีก ยิ่งมองยิ่งน่าสมเพช






“คุณแม่จะพูดอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้มินจะพาลูกมินกลับ ไป สิตางศุ์กลับกับแม่เดี๋ยวนี้” ไม่พูดเปล่ามินตราเดินมาจับแขนสิตางศุ์ไว้ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรัชพลจับแขนของสิตางศุ์อีกข้าง “แกเป็นใคร ปล่อยมือลูกฉันเดี๋ยวนี้!” มินตรามองหน้ารัชพลอย่างไม่พอใจ






“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอกครับ แต่ผมไม่ปล่อยให้สิตางศุ์ไปกับคุณแน่ คิดยังไงถึงเชื่อคนที่พยายามจะข่มขืนลูกตัวเองมากกว่าลูกแท้ๆ” รัชพลเริ่มจะเดือดดาล แค่เขาเห็นไอ้เหี้ยนั่น รวมทั้งแม่ของสิตางศุ์เขาก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป สิตางศุ์หันมามองหน้ารัชพลอย่างรวดเร็ว






“พี่รัช” ร่างเล็กจับแขนรัชพลไว้แน่น สิตางศุ์อายไม่น้อยที่รัชพลพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนทั้งงาน แต่คนที่อึ้งที่สุดเห็นจะเป็นคุณหญิงพิมลเสียมากกว่า







“เธอว่าอะไรนะ นี่นังมินตรา แกปล่อยให้ไอ้ขี้ครอกนั่นมาทำกับหลานฉันแบบนี้เหรอ” คุณหญิงพิมลตลาดกร้าวพร้อมกับตบหน้ามินตราอย่างจัง






“ไม่ใช่นะครับพี่มิน สิตางศุ์ต่างหากที่ยั่วผมก่อน” ทัศแก้ตัวเมื่อเห็นท่าไม่ดี นั่นทำให้รัชพลโมโหมากขึ้น






“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” ร่างสูงสบถพร้อมกับกระโดดถีบยอดอกของทัศ รองเท้าหนังที่อัคคีเพิ่งซื้อให้ใหม่แนบไปกับสูทราคาแพงของทัศเต็มๆ จนเซไปชนกับโต๊ะล้มระเนระนาดกองกันอยู่ตรงนั้น





“พี่รัช!” สิตางศุ์รีบจับตัวรัชพลไว้ก่อนที่ตามไปกระทืบซ้ำ มินตราปรี่เข้าไปช่วยทัศ ร่างเล็กเบือนหน้าหนี แค่นี้สิตางศุ์ก็รู้ว่าแม่ของเขาเลือกใครมากกว่า






“ใครรู้จักสิตางศุ์ดีก็จะรู้ว่าสิตางศุ์ไม่ใช่คนแบบนั้น! ทำไมสังคมไฮโซมันถึงได้สกปรกโสมมแบบนี้นักวะ ไม่ใช่แค่สิตางศุ์ที่ทนไม่ไหว ไอ้รัชก็ทนไม่ไหวเหมือนกันโว้ย! ไป สิตางศุ์ ไม่อยากอยู่ก็ไม่ต้องอยู่” พูดจบก็ลากสิตางศุ์ออกจากงานไป ทิ้งให้คนทั้งงานอึ้งอยู่อย่างนั้น






“เดี๋ยว นี่แกจะพาหลานฉันไปไหน” คุณหญิงพิมลตะโกนตามหลังพร้อมกับเดินตามแต่ริลณีที่มองเหตุการณ์อยู่รีบวิ่งเข้ามาจับไว้ก่อน





“เดี๋ยวๆพิมล ใจเย็นๆ” ริลณีขับแขนของเพื่อนไว้แน่น เธอแอบกร่นด่าพ่อหลานชายตัวดี บอกว่าอย่าทำอะไรกระโตกกระตาก เป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะ





“เย็นได้ยังไง! ชัชให้คนตามสิตางศุ์ไป โชติจับตัวนังแพศยากับไอ้ขี้ครอกนี้ไว้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” คุณหญิงพิมลสะบัดแขนออกจาริลณีแล้วเดินออกไปจากงานอย่างไม่สบอารมณ์






ริลณีแทบจะเป็นลมจนอัคคีและเพลิงนภาต้องเข้ามาช่วยพยุงไว้ เป็นเรื่องแล้วไงตารัชเอ้ย เล่นมาฉุดหลานเค้าต่อหน้าต่อตาแบบนี้ โอ้ย! แค่นี้ก็ยากแล้ว มาทำแบบนี้คิดว่ามันจะง่ายขึ้นรึไง






“ตาอัค ยัยเพลิง ใครก็ได้โทรหาพ่อตารัชด่วนเลยนะ ย่าเอาไม่อยู่แล้ว” ริลณีคว้ายาดมในมือของอัคคีมาสูดเข้าเต็มปอด






คุณหญิงพิมลก็ขิง ตารัชก็ข่า ร้อนแรงกันทั้งคู่ เรื่องที่เริ่มจะง่ายๆตอนนี้ยากขึ้นเป็นเท่าตัว ตารัชนะตารัช! 










***********************************************************************









เรื่องเกือบดีละพี่รัช เกือบจะไปได้สวย ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่พี่แกตัดฉับซะอย่างนั้น ชะเออเอิงเอย~  :katai5: ตัวใครตัวมันแล้วล่ะคราวนี้ ฝากติดตามด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 20-03-2016 20:49:30
สงสารสิตางค์  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 20-03-2016 21:17:14
เชียร์พี่รัช ลุยเล้ยยย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 20-03-2016 21:18:01
โอ๊ยย พี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-03-2016 21:50:35
โอเค ลืมๆ ไปเถอะว่าอิพี่รัชจบนอกมา 5555555
นางมาดลูกทุ่งมากกกกกกกกก แล้วยังฉุดหลานเค้าไปเฉยๆ งี้อีก
จะรอดกระบอกปืนไหมพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 20-03-2016 21:58:19
โถ่พี่รัชชช ไปฉุดหลานเขามายังไงได้ไง น่าจะเอาไปตั้งแต่แรกแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-03-2016 22:17:02
แทนที่จะเปิดตัวแบบเรียบๆ พี่รัชดันฟิวส์ขาดมีเรื่องซะกลางงาน (แอบสงสารเจ้าของงาน แม่คุณภู นิดหน่อย)
แต่อย่างนี้ก็(เหมือนจะ)ดีนะ ถ้ารอให้สิตางศุ์พูดเอง คุณย่าคงไม่รู้เรื่องแน่ แถมแม่ก็เข้าข้างสามีเด็ก ต่างฝ่ายต่างก็เอาชนะกัน
อ่านบทนี้แล้วอินสุดๆเลยค่ะ ว่าสิตางศุ์ไม่มีความสุขในบ้านของตัวเอง ตอนเจอพี่รัชในงานนี่อารมณ์แบบ พระเอกขี่ม้าขาวมาแล้ว...
ไม่รู้หลังจากนี้จะยังไงต่อ หวังว่าทั้งสองคนจะฟันฝ่าไปได้อย่างสวยงาม
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 20-03-2016 23:25:12
 :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 21-03-2016 00:59:49
อิผัวเด็กแม่สิตางศุ์ มันพูดออกมาได้ไง
อย่าว่าแต่พี่รัชเลย อิชั้นเองก็ฟิวส์ขาดค่ะ
 :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-03-2016 07:32:42
พี่รัชเร็ว แรง ทะลุนรกมาก!
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 21-03-2016 08:42:32
อะไรก็ฉุดพี่รัชแกไม่อยู่แล้วล่ะ แต่ดันมาโพล่งฟามลับแบบนี้ สงสารสิตาง แต่ก็ยินดีด้วยกับสิตาง เพราะชาติทั้งชาติ คงไม่กล้าบอกเอง แรง เร็ว ทะลุนรกมากพี่รัช บ้านนอกสุด 5555555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 21-03-2016 09:40:03
พี่รัชใจร้อนหลายยย ทีนี้จะแก้ปัญหายังไงเนี่ยยย  ขุ่นย่าไม่ยอมแน่
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่26 20/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-03-2016 14:34:38
สุดยอดเลยพี่รัช
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 21-03-2016 20:25:23
บทที่ 27





รัชพลลากสิตางศุ์ออกมาจากงานด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด ทำไมนะ ทำไมสิตางศุ์ต้องทนอยู่ในสังคมแบบนี้มาตั้งนาน ยิ่งคิดยิ่งโมโห โกรธทุกคนที่ทำให้สิตางศุ์ต้องทุกข์ใจแบบนี้ ทั้งๆที่เป็นคนในครอบครัวแท้ๆ แต่กลับใช้สิตางศุ์เป็นเครื่องมือในการเอาชนะกัน





“หาให้ทั่ว” เสียงของชัชดังอยู่ไกลๆ ทั้งรัชพลและสิตางศุ์หันไปมองอย่างตกใจ





“พี่รัช คนของคุณย่า” สิตางศุ์จับมือรัชพลไว้แน่น คุณชัชกำลังตามตัวเขาอยู่ รัชพลต้องแย่ๆแน่ๆถ้าเกิดถูกจับได้





รัชพลไม่พูดอะไรแต่ดึงร่างบางให้หลบออกไปตรงทางเชื่อมของโรงแรมแล้วค่อยดันทั้งตัวเองและสิตางศุ์ให้ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆซึ่งเป็นพุ่มไม้ประดับของทางโรงแรม ร่างสูงกดหัวสิตางศุ์ให้ก้มลงต่ำแล้วใช้ตัวเองบังร่างเล็กนั้นไว้ กลัวว่าเสื้อสีขาวของสิตางศุ์นั้นจะมองเห็นได้ง่ายในที่มืด





“ไม่ต้องกลัวนะสิตางศุ์” รัชพลปลอบคนใต้ร่างที่ตัวสั่นเทา เสียงรองเท้าของการ์ดหลายคนยังคงดังวนเวียนอยู่บริเวณนั้นไม่หายไปไหน





“หาเจอรึยัง!” เสียงตวาดลั่นนั้นทำให้สิตางศุ์สะดุ้งจนรัชพลต้องกอดร่างเล็กแน่น เสียงของคุณหญิงพิมล แค่ฟังก็รู้ว่าโมโหมากแค่ไหน





“ยังไม่เจอครับ” ชัชตอบ





“ไม่เจอได้ยังไง ให้คนไปดูกล้องวงจรปิด เจอแล้วมาบอกฉันด้วย แล้วอย่าเพิ่งทำอะไรนายรัชพลนั่น มันเป็นหลานของคุณริลณี ฉันไม่อยากมีปัญหา” คุณหญิงพิมลสั่ง แล้วเสียงร้องเท้าส้นสูงก็ดังไกลออกไปพร้อมกับชัชและคนอื่นๆ





รัชพลและสิตางศุ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่รัชพลจะค่อยๆโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แล้วช่วยดึงสิตางศุ์ออกมาด้วย เมื่อบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่ พ่อหนุ่มบ้านไร่ก็จับมือคนรักวิ่งอีกครั้ง ทั้งสองคนวิ่งออกมาทางหลังโรงแรมที่เป็นถนนสายเล็ก มองหารถอยู่นานจนมีรถสองแถวผ่านมาคันนึง รัชพลรีบพาสิตางศุ์ขึ้นไปอย่างไม่รีรอ





เมื่อรู้ว่าตัวเองพ้นเขตโรงแรมแล้วสิตางศุ์ก็ถอนหายใจพร้อมกับเอนตัวไปซบรัชพลอย่างอิดโรย เรื่องวันนี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วซะจนเขาไม่ทันตั้งตัวอะไรทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆตอนนี้คุณย่ารู้เรื่องแล้ว แม่ของเขาต้องแย่แน่ๆ





ถึงสิตางศุ์จะไม่เคยสัมผัสความรักจากมารดา แต่ว่าเขาอยากให้มินตราเดือดร้อน เพราะเธอก็คือแม่ของเขา มินตรานั้นไม่เคยปฏิบัติกับเขาเหมือนแม่ทั่วไปก็จริง แต่เขาเชื่อว่ามินตราไม่ได้เกลียดเขาขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะมินตรามีเขาตอนที่ยังไม่พร้อมและด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทำให้เธอเป็นนคนอย่างนั้น






สิตางศุ์เข้าใจ แต่บางครั้งเขาก็แอบน้อยใจที่มินตราไม่เคยสนใจเขาเลย เขาไม่อยากให้คุณย่าต้องทำร้ายเธอ คุณย่าทำร้ายมินตราได้ เขารู้ ทุกคนรู้ แต่เขาเองก็ห้ามคุณย่าไม่เคยได้อยู่ดี





รัชพลรู้ดีว่าตอนนี้สิตางศุ์รู้สึกแย่มากแค่ไหน เขาทำได้เพียงโอบกอดร่างน้อยนั้นไว้แล้วลูบไหล่เบาๆเพื่อปลอบโยนอีกคน






สิตางศุ์ต้องเข้มแข็งแค่ไหนถึงได้ทนยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาได้ ถึงแม้ว่าจะมีทุกอย่างครบครัน มีบ้าน มีรถ มีชื่อเสียง ได้รับการศึกษาดีๆ แต่กลับไม่มีความสุข






หากมองในมุมเขาแล้ว แม้ว่ารัชพลจะไม่มีแม่ มีแค่พ่อที่เป็นชาวไร่ทำงานดากแดดทุกวัน แต่เขาก็ยังมีความสุข มีอ้อมกอดของพ่อ มีรอยยิ้มของน้องชาย มีเพื่อนแท้อย่างตะวัน






แล้วสิตางศุ์ล่ะ สิตางศุ์ต้องผ่านวัยเด็กมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยน้ำตา มันทำให้ช่วงเวลาหนึ่งของคนคนหนึ่งไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าความสุข






แต่ต่อจากนี้ เขาจะเป็นคนหยิบยื่นความสุขนั้นให้สิตางศุ์เอง ความสุขที่คนในครอบครัวให้สิตางศุ์ไม่ได้





รถสองแถวแล่นไปตามทาง จากถนนเส้นเล็กมุ่งสู่ถนนใหญ่ แสงไฟยามค่ำคืนของเมืองหลวงสะท้อนเข้าไปในดวงตาสีหม่นของสิตางศุ์ ลมที่พัดโกรกมานั้นทำให้ปลายผมพลิ้วไหว สองร่างกอดกันมองไปยังผืนฟ้าที่มีแต่แสงไฟที่กลบแสงดาวจนหมดนั้น





...คิดถึงไร่น้ำริน





ครึ่งชั่วโมงผ่านไปรถคันเก่าก็มาจอดอยู่หน้าโรงแรมขนาดเล็ก รัชพลพาสิตางศุ์เดินเข้ามาในห้องหลังจากได้กุญแจมาแล้ว เขาคิดว่าคืนนี้ควรตั้งหลักก่อน เรื่องอย่างอื่นจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ทั้งเขาและสิตางศุ์เหนื่อยจนแทบจะเป็นบ้า





“เดี๋ยวสิตางศุ์ไปอาบน้ำก่อน เนื้อตัวเลอะเทอะไปหมด” เสื้อสีขาวของสิตางศุ์แอบเปื้อนดินและเศษใบไม้หลังจากไปซ่อนตัวในพุ่มไม้มา






สิตางศุ์ก้อมมองดูตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตามที่รัชพลบอก เมื่อร่างบางเข้าไปอาบน้ำเรียบร้อยรัชพลจึงถอดสูทด้านนอกออกแล้วพาดมันไว้กับเก้าอี้ไม้ตัวเดียวภายในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนั้น





รัชพลคิดหนัก เขาพาสิตางศุ์ออกมาแบบนี้ คุณหญิงพิมลไม่มีทางพอใจแน่ แต่เขาทนไม่ได้ ทนเห็นสิตางศุ์อยู่อย่างนั้นไม่ได้ ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเอาให้สุด

















อีกด้านหนึ่งในงานของคุณอรนุช หลังจากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายไม่นานงานก็กับมาดำเนินต่อเหมือนเดิม คุณอรนุชและภูวดลต้องช่วยกันจัดการและอธิบายให้คนในงานเสียยกใหญ่





คุณหญิงพิมลและริลณีออกมาข้างนอกงานแล้วมาคุยกันอยู่ข้างนอก ริลณีหน้าซีดสลับแดง ทั้งโมโหรัชพลและกลัวว่าคุณหญิงพิมลจะโกรธจนทำอะไรหลายชายเธอ อัคคีกับเพลิงนภาต้องคอยพัดวีอยู่ไม่ห่าง





“นายรัชพลทำแบบนี้ถือว่าเป็นการหยามหน้าฉันมาก กล้าดียังไงมาพาตัวสิตางศุ์ไปแบบนี้” คุณหญิงพิมลพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห นั่นทำให้ริลณีหน้าเจื่อนลง รู้สึกขายหน้าไม่น้อยที่พ่อหลานายตัวดีมาทำแบบนี้





“ฉันต้องขอโทษแทนตารัชมันด้วย แต่ตารัชมันก็รักน้องจริงๆนะพิมล” ริลณีค่อยๆพูดเพื่อให้คุณหญิงพิมลอารมณ์เบาลง





“ถ้าฉันไม่เห็นว่าเป็นหลานเธอนะ ฉันจัดการไปนานแล้ว มันใช่เรื่องมั้ยที่อยู่ๆหลานเธอมาพาสิตางศุ์ออกไปแล้วบอกว่าที่ทำไปเพราะรักอย่างนั้นอย่างนี้” คุณหญิงพิมลยังคงอารมณ์เดือดอย่างต่อเนื่อง






นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ตั้งแต่สิตางศุ์ไปอยู่ที่ไร่น้ำรินอะไรนั่นกลับมาก็มีแต่เรื่องทั้งนั้น และที่สำคัญยังไปคบกับรัชพลในเชิงชู้สาวแบบนั้นอีก แล้วจะให้เธอยอมรับได้ยังไง






นายรัชพลอะไรนั่นจะรักสิตางศุ์จริงรึเปล่า ใช่ว่าจะมาหลอก แล้วถ้าหลานเธอต้องไปตากแดดตากลมในไร่ล่ะ แค่คิดเธอก็จะบ้าตาย เธอเลี้ยงสิตางศุ์มาอย่างดี อยู่ๆจะให้ไปคบกับชาวไร่ชาวสวนตากแดดตัวดำแบบนั้นน่ะนะ






“แต่สิตางศุ์เองก็เต็มใจที่จะไปกับตารัชไม่ใช่เหรอ และอีกอย่างนึงนะพิมล เธอเคยถามความต้องการของสิตางศุ์จริงๆรึเปล่า ไม่ใช่มายัดเยียดความคิดให้สิตางศุ์แบบนี้” ริลณีพยายามคุยด้วยเหตุผล




ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมีพูดจาแบบนี้กับคุณหญิงพิมลที่ใครๆก็ไม่กล้าหือ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว หลานของเธอก็ไปฉุดหลานเค้าแบบนั้น ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เธอจะขอช่วยพ่อหลานชายตัวดีให้มันสุดๆเลยแล้วกัน





“นี่เธอว่าฉันเหรอริลณี” คุณหญิงพิมลไม่พอใจกับคำพูดนั้น เหมือนเธอกำลังถูกสั่งสอนจากเพื่อนสมัยเรียนคนนี้ กล้าดียังไงมาสอนเธอ





“ก็ใช่น่ะสิ เธอหัดฟังความคิดเห็นคนอื่นบ้าง ใช่ว่าจะเอาตัวเองเป็นใหญ่ไปซะหมด ไปกำหนดชีวิตคนอื่นแบบนั้นแล้วเป็นยังไงล่ะ ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะพิมล แต่เธอดูครอบครัวเธอสิ ลูกชายเธอ ลูกสะใภ้เธอ หลานเธอ ใครมีความสุขจริงๆบ้าง ตอนนี้สิตางศุ์โตแล้วนะ เธอจะไปบังคับเค้าไม่ได้แล้ว ให้เค้าได้เลือกทางเดินของตัวเองบ้าง”





แต่ไหนแต่ไรมาแล้วที่คุณหญิงพิมลไม่เคยฟังใคร อาจจะเป็นเพราะเธอต้องรับช่วงต่อหลังจากที่สามีเสียไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว มันเลยทำให้เธอกลายเป็นคนแข็งกร้าวและบงการชีวิตคนอื่นไปเสียทั้งหมดแบบนี้ และผลมันก็ตกไปที่ลูกและหลานของเธอทั้งนั้น






อนันต์ต้องเข้าทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่งงานทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบปริญญาโทด้วยซ้ำ ความรักที่มีต่อมินตรากลายเป็นเฉยชาเพราะไม่มีเวลาดูแลครอบครัว สุดท้ายก็บ้านแตก สิตางศุ์กลายเป็นเด็กที่เก็บตัวเงียบไม่พูดไม่จา ไม่เคยบอกความต้องการให้ใครรู้ ได้แต่ทำตามคำสั่งของคุณย่า






วันนี้ วันที่สิตางศุ์อยากเลือกชีวิตเอง ผลมันเลยออกมาเป็นแบบนี้ พิมลไม่ยอมให้ใครหลุดออกไปจากเส้นทางที่เธอสร้างไว้






“ที่ฉันทำแบบนี้เพราะฉันรักสิตางศุ์ สิตางศุ์ต้องมีชีวิตที่ดี และอีกหน่อยเขาจะเป็นเหมือนพ่อของเขาและเป็นเหมือนฉัน” คุณหญิงพิมลแอบหน้าชาเล็กน้อยที่โดนต่อว่าแบบนั้น แต่เธอก็ยังคงเชิดหน้าและยึดมั่นใจสิ่งที่ตัวเธอคิด






“อะไรคือคำว่าชีวิตทีดีของเธอ การมีอำนาจ การมีคนใต้บังคับบัญชามากมาย การมีเงินทอง อย่างนั้นเหรอ นั่นมันคือชีวิตที่ดีในความคิดของเธอเองรึเปล่า ไม่อย่างนั้นหลานเธอคงไม่หนีไปอยู่ในป่าในเขาทำงานในไร่แบบนั้นหรอก”






ริลณีเองก็เริ่มจะไม่พอใจพิมลแล้ว คนอะไรไม่เคยจะฟังคนอื่น เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ คิดว่ามันดีทั้งๆที่มันแย่มาก ลูกหลานเป็นยังไงไม่เคยจะสนใจ ต้องเป็นคนยังไงถึงได้เติบโตมาเป็นคนแก่ที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ รั้นยิ่งกว่าพ่อลูกเขยตัวดีของเธอซะอีก






“อย่างน้อยอยู่กับฉันก็ยังดีกว่าการอยู่ในไร่กับหลานเธอ” คุณหญิงพิมลมองหน้าริลณีอย่างไม่สบอารมณ์






“เรื่องนี้คงต้องถามสิตางศุ์แล้วล่ะ แต่ฉันมั่นใจว่าสิตางศุ์อยู่กับหลานฉันมีความสุขกว่าอยู่กับเธอแน่นอน!” ริลณีลุกพรึบด้วยอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ด





เธอโมโหแล้ว โมโหมากด้วย ทำไมพิมลถึงได้เป็นคนอย่างนี้นะ รู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกจะยุให้ตารัชฉุดไปทำเมียตั้งแต่แรก ไม่ต้องมาค่อยๆพูดค่อยๆจาแบบนี้หรอก เพราะยังไงพิมลก็ไม่ฟังอยู่แล้ว






“ตาอัค ยัยเพลิง กลับ! ย่าเบื่อจะคุยกับคนพูดไม่รู้เรื่อง” หญิงชราคว้ากระเป๋าราคาแพงของตัวเองมาถือก่อนจะเดินนำหลานทั้งสองคนออกไป ทิ้งให้พิมลตบโต๊ะเสียงดังอย่างไม่พอใจ





“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างไม่สบอารมณ์

















ภายในห้องเล็กที่ตอนนี้มีสิตางศุ์และรัชพลกำลังนั่งทานข้าวกล่องที่รัชพลลงไปซื้อมาให้ขณะที่สิตางศุ์กำลังอาบน้ำพร้อมด้วยน้ำเปล่าแค่สองขวดเท่านั้น ยังดีที่เอากระเป๋าตังค์และโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย บรรยากาศภายในห้องเล็กๆนี้ดูจะอึมครึมไม่น้อย สาเหตุก็เป็นเพราะสิตางศุ์ที่ยังคงทำหน้าหงอย รู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น






“ข้าวเลอะหมดแล้ว” รัชพลเอื้อมมือไปปัดเม็ดข้าวที่ติดแก้มเนียนนั้นออก





สิตางศุ์รีบยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง แอบอายเล็กน้อยที่มัวแต่เหม่อแล้วทำอะไรเซ่อซ่าออกไป






“ไม่ต้องคิดมากหรอกสิตางศุ์ เรื่องมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด พี่อาจจะทำอะไรหุนหันพลันแล่นไปหน่อยที่พาสิตางศุ์หนีมาแบบนี้ แต่นั่นก็เพราะสิตางศุ์ทั้งนั้น พี่ไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องเป็นแบบนี้ รอยยิ้มเหมาะกับสิตางศุ์ของพี่มากกว่า” รัชพลวางกล่องข้าวลงแล้วรวบมือทั้งสองข้างของอีกคนมาจับแน่น






ช่วงเวลานี้รัชพลเองก็คิดหนักไม่ต่างจากอีกคน เพราะปัญหาทั้งหมดเขาเป็นคนสร้างขึ้นเองทั้งนั้น แต่เขาก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเองทั้งหมด





“ผมกลัว กลัวว่าคุณย่าจะทำอะไรพี่ ทำกับท่านแบบนี้มันไม่ดีเลย ท่านต้องโมโหมากแน่ๆ”





“ย่าของสิตางศุ์ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องคิดมาก เชื่อพี่สิ” ทั้งๆที่รัชพลก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะออกมาในรูปแบบไหน แต่ตอนนี้เขาต้องทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน ถ้าเกิดเขาท้อสิตางศุ์จะยิ่งท้อตาม






“กินข้าวต่อเถอะ เย็นหมดแล้ว” รัชพลยิ้มให้อีกคน สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆก่อนจะกินข้าวต่อ






หลังจากกินข้าวเสร็จรัชพลก็เข้าไปอาบน้ำ ออกมาก็เจอสิตางศุ์กำลังนั่งอยู่อีกฝั่งของเตียงด้วยท่าทางที่เหม่อลอย ร่างสูงค่อยๆเข้าไปสวมกอดเอวบางจากด้านหลังแล้วจูบที่เรือนผมนุ่มนั้นหนึ่งที สิตางศุ์สะดุ้งโหยงแล้วหันมากอดตอบ





“แผลเป็นยังไงบ้าง ยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ” รัชพลถาม





“ตอนนี้โดนน้ำได้แล้วครับ แผลข้างนอกก็ปิดแล้ว แต่ยังเจ็บอยู่ แต่ก็ไม่มากเท่าตอนแรกๆ” สิตางศุ์บอก เรื่องแผลโดนยิงมีแต่รัชพลนี่แหละที่คิดจะเป็นห่วงถามว่ามันหายรึยัง คนอื่นไม่เคยคิดจะสนใจเขาเลย คิดแค่ว่าเขาออกจากโรงพยาบาลมาก็คือหายแล้ว





“พี่ขอดูหน่อยได้มั้ย”






“ดะ...ดูอะไรเล่า” สิตางศุ์เบือนหน้าหนี ใบหน้าเห่อร้อนพร้อมกับกระชับเสื้อคลุมไว้แน่น มันอาจจะใช่ที่รัชพลแค่อยากจะดูแผล แต่เป็นเขาเองที่คิดไปไกลเสียแล้ว





“พี่แค่ดูแผล ไม่ได้ดูอย่างอื่นเสียหน่อย” รัชพลอมยิ้มเมื่อรู้ว่าสิตางศุ์นั้นคิดอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่เขินจนม้วนหนีไปแบบนี้หรอก





“ไม่ต้องดูหรอก มันใกล้จะหายแล้ว ดึกขนาดนี้ ผมว่าเรานอนกันเถอะ” สิตางศุ์แก้เขินด้วยการล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังให้รัชพล เขาไม่อยากเห็นหน้ารัชพลตอนนี้ มันอายเกินกว่าจะสบสายตากรุ้มกริ่มของคนตัวโต





รัชพลหัวเราะเบาๆกับท่าทางนั้นของสิตางศุ์ก่อนจะล้มตัวลงนอนตามแล้วกอดอีกคนไว้ อ้อมแขนแกร่งกระชับร่างของสิตางศุ์เข้าแนบกาย แผ่นหลังที่มีเพียงแค่เสื้อคลุมที่ทางโรงแรมจัดให้แนบไปกับแผ่นอกของรัชพล





พ่อเลี้ยงรัชยิ้มแล้วจูบที่ท้ายทอยของสิตางศุ์ เขาเพิ่งจะเข้าใจวันนี้ว่าการมีใครซักคนที่เรารักมากๆและอยากปกป้องเขาไปตลอดชีวิตมันเป็นยังไง เขาอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุดของสิตางศุ์ แต่เขาจะเป็นคนที่ดีพอที่จะดูแลสิตางศุ์คนนี้





“ฝันดีนะครับ” เสียงนั้นดังอย่างแผ่วเบาในห้องเล็กกลางเมืองใหญ่ของวันที่เกิดเรื่องราวมากมาย



















เช้านี้ไร่น้ำรินต้องวุ่นวายอีกรอบ เมื่ออยู่ๆบุรินทร์ก็ร้อนรนเพราะต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้า ด้วยความที่เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวเมื่อคืนนี้ เพลิงนภาโทรมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก บอกว่าลูกชายคนโตของเขาไปสร้างเรื่องไว้ที่กรุงเทพฯ แล้วยังพาลูกพาหลานเค้าหนีอีก





“พี่เราเนี่ยนะริน จริงๆเลย พ่อบอกให้ค่อยเป็นค่อยไป ไปสร้างเรื่องจนได้” พูดไปก็มัดสายรองเท้าไป





ตอนแรกที่คิดจะห้ามรัชพลคบกับสิตางศุ์นั้นตอนนี้กลับกลายเป็นว่าบุรินทร์ต้องไปจัดการให้พ่อลูกชายตัวดีสมหวังซะอย่างนั้น ก็แน่ล่ะ เล่นบุกไปถึงนู่นแล้วยังไปพาลูกหลานเค้าหนีไปแบบนั้นอีก รัชพลถ้าจริงจังกับอะไรซักเรื่องแล้วใครก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้น





“นี่ถ้าโดนยิงตายขึ้นมาแม่ไม่มาหักคอพ่อหรือไง” นายเหนือแห่งไร่น้ำรินคว้ากระเป๋าเดินทางขึ้นพาดบ่าก่อนจะตรงไปที่รถ ปากก็บ่นไม่หยุดโดยมีภุมรินเดินตาม






“ฝากบอกพี่รัชด้วยนะพ่อ จะทำอะไรต้องใจเย็นๆ ใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้” ภุมรินเองก็เหนื่อยใจกับพี่ชายคนนี้เหมือนกัน อะไรจะขนาดนั้น ย่าของสิตางศุ์ยิ่งหวงอยู่ ไปทำแบบนั้นเค้าจะยอมง่ายๆหรือไง





“ไม่ทันแล้วล่ะลูกเอ้ย พี่เราน่ะมันใจเร็ว คิดยังไงก็ทำอย่างนั้น พ่อไปละ ดูแลบ้านด้วย ให้ตะวันมาอยู่ด้วยก็ดี” บุรินทร์พูดก่อนจะโยนกระเป๋าขึ้นรถแล้วเดินไปนั่งข้างคนขับซึ่งมีนพประจำที่อยู่ตรงตำแหน่งคนขับอยู่แล้ว





“โชคดีนะพ่อ” ไม่รู้ว่าคำอวยพรของลูกชายคนเล็กจะได้ผลมากแค่ไหน ถึงคราวต้องลงกรุงไปชิงเมียให้ไอ้ลูกชาย เหมือนตอนที่เขาไปพาแม่ของรัชพลกับภุมรินมาไม่ผิด เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ





แต่ไปคราวนี้จะได้ลูกสะใภ้หรือลูกตะกั่ว บุรินทร์ก็ยังไม่แน่ใจ














**************************************************************************










ตึ่งๆ มีเรื่องแล้ว  :katai1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 21-03-2016 20:47:28
เอาใจช่วยรัชพลจ้า   
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 21-03-2016 20:54:59
ขอให้ผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 21-03-2016 21:22:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 21-03-2016 21:29:29
เอาใจช่วยพี่รัช
ขอให้คุณพ่อรอดพ้นลูกปืน และได้ลูกสะใภ้กลับมาน้า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 21-03-2016 22:42:02
ต้องให้ได้มานะเมียอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-03-2016 22:53:11
โอ้ย ทำไมเราขำคุณพ่อมาก แค่บรรยาย ออกมานิดเดียวแต่ขำอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่27 21/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 21-03-2016 23:08:35
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 22-03-2016 20:34:44
บทที่ 28




แท็กซี่คันหนึ่งแล่นมาจอดที่หน้าบ้านจิระมนตรี หลานชายคนรองของเจ้าของบ้านเดินจับมือสิตางศุ์ให้เข้าไปข้างใน เช้านี้รัชพลรีบตื่นและพาสิตางศุ์มาที่นี่ก่อน เขาไม่อยากพาสิตางศุ์ไปที่อื่น ไม่อย่างนั้นคงหนีไม่จบไม่สิ้น เขายินดีจะคุยกับย่าของสิตางศุ์ตรงๆ ถ้าเธอยอมน่ะนะ





“ตารัช!” พอเข้ามาก็เจอริลณีกอดอกยืนรออยู่ก่อนแล้ว สีหน้าของริลณีทำให้รู้ว่าเธอไม่พอใจแค่ไหน





“สวัสดีครับคุณย่าณี” สิตางศุ์ยกมือขึ้นไหว้ ริลณีรับไหว้นั้นก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา สิตางศุ์กับรัชพลก็ไปนั่งตาม





อัคคีกับคุณรุจไปทำงานแล้ว เพลิงนภาก็ไปเรียนแต่เช้า เหลือเพียงแค่ริลณีและพิมพ์นภาที่อยู่บ้าน ผู้อาวุโสกว่าสองคนมองสิตางศุ์และรัชพลอย่างตำหนิ โดยเฉพาะพ่อหลานชายที่ไปฉุดหลานเค้ากลางงานแบบนั้น





“มีอะไรจะพูดมั้ยตารัช” ริลณีพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด รัชพลกับสิตางศุ์ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด





“ผมรักสิตางศุ์ครับ” รัชพลพูดกับยายของตัวเอง





“รักสิตางศุ์แต่รัชก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้น ย่าของสิตางศุ์ไม่พอใจมากแค่ไหนรัชรู้มั้ย ทำไมไม่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำแบบนั้นเค้ายิ่งไม่พอใจรัช” เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ริลณีถอนหายใจเพราะรัชพล หากเธอจะอายุสั้นลงก็คงเป็นเพราะพ่อหลานชายคนนี้แหละ





“แล้วย่าของสิตางศุ์เค้าฟังที่ไหนล่ะครับ คุณยายก็รู้ สิตางศุ์ต้องทนอยู่แบบนั้นผมทนไม่ได้ ผมรักสิตางศุ์ ผมแค่อยากให้สิตางศุ์มีความสุข” รัชพลกำมือสิตางศุ์ไว้แน่น ร่างเล็กนั้นได้แต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดอะไร สิตางศุ์เห็นว่าการนิ่งเงียบนั้นเป็นการดีที่สุด





“แล้วมันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอรัช ฟังนะรัชพล ไม่มีใครเค้าชอบหรอกที่อยู่ๆจะพาตัวหลานเค้าหายไปดื้อๆแบบนี้ ถ้ารัชรักสิตางศุ์จริงรัชก็ต้องทำให้ถูกต้อง บอกครอบครัวของสิตางศุ์ให้รับรู้ ยายยินดีจะไปเจรจาให้ ตอนนี้เรื่องมันบานปลายไปมากแล้ว สิ่งแรกที่รัชต้องทำก็คือไปขอโทษคุณหญิงพิมลซะก่อน เข้าใจมั้ย” ริลณีพยายามสงบสติอารมณ์แล้วค่อยๆพูดกับรัชพล ถ้าเกิดพากันอารมณ์ร้อนเรื่องจะแย่ไปกว่านี้





เฮ้อ... ทำไมเธอต้องมาคอยจัดการเรื่องรักๆใคร่ๆของพวกหลานๆล่ะเนี่ย ตอนนั้นก็น้องริน ตอนนี้ก็ตารัช เรื่องมันวุ่นวายซะไม่มี ใครจะคิดว่าเรื่องมันจะยากจะเย็นขนาดนี้





“พากันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป เดี๋ยวยายพาไปบ้านคุณหญิงพิมลเค้า” ริลณีไล่ก่อนจะเอายาดมมาสูดเข้าปอด เธอภาวนาให้เรื่องมันจบเร็วๆ ก่อนที่จะเป็นลมตายวันละหลายๆรอบ





“ครับ” รัชพลรับคำแล้วจึงพาสิตางศุ์ขึ้นไปชั้นบนตามคำสั่ง
















“ได้เรื่องว่ายังไง” คุณหญิงพิมลที่ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืนถามชัชที่เดินเข้ามาหลังจากเธอทานอาหารเช้าเสร็จ





“จากกล้องวงจรปิดเราพบว่านายรัชพลพานายน้อยขึ้นรถสองแถวออกไปทางหลังโรงแรมครับ ตอนนี้ให้คนไปตามสืบ ได้ข้อมูลใหม่มาว่าทั้งสองคนอยู่ที่บ้านของคุณริลณีครับ ส่วนเรื่องของคุณมินตราและคุณทัศนั้นตอนนี้โชติจัดการให้ทั้งสองคนออกนอกประเทศเรียบร้อยแล้วครับ” ชัชรายงานเรื่องทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เรื่องราวมากมายผ่านไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ





“บ้านริลณีเหรอ เหอะ... คิดว่าหนีไปที่นั่นแล้วฉันจะไม่กล้ารึไง” คุณหญิงพิมลแสยะยิ้มอย่างดูแคลน ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางให้สิตางศุ์ต้องคบกับนายรัชพลอะไรนั่นหรอก จะบ้ารึไง เป็นผู้ชายแล้วยังทำไร่ทำสวนอีก หลานเธอไม่ต้องไปตกระกำลำบากเหรอถ้าต้องไปคบกับหมอนั่น





“ตอนนี้เราให้คนไปเฝ้าดูอยู่ครับ เหมือนกับว่าคุณริลณีจะพานายรัชพลและนายน้อยออกไปไหนซักที่ ผมเดาว่าน่าจะตรงมาที่นี่” ชัชพูดต่อ นั่นทำให้คุณหญิงพิมลแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็กระตุกยิ้มอย่างพอใจ





“ดี” เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่ห้องรับแขกเพื่อรอพบริลณีและหลานชายนอกคอกนั่น





ไม่นานรถของบ้านจิระมนตรีก็แล่นเข้ามาจอดในบ้านศิรินทรา ริลณีเดินนำหลานๆเข้าไป ชัชที่รออยู่ก่อนแล้วเชิญทั้งหมดเข้าไปหาพิมลที่รออยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นหน้าพิมล ริลณีก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาโดยทันที แต่เธอก็ต้องทำเป็นไม่สนใจ เธอมาที่นี่เพื่อมาเจรจา ไม่ได้มาทะเลาะ





“มาได้แล้วเหรอ ฉันรออยู่ตั้งนาน” คุณหญิงพิมลพูดแล้วจ้องไปที่รัชพลกับสิตางศุ์ที่เดินตามหลังเข้ามา สิตางศุ์หลบตาวูบ ไม่กล้ามองหน้าย่าของตัวเอง





“วันนี้ฉันอยากมาคุยกับเธอดีๆนะพิมล เรื่องของหลานฉันและหลานของเธอ” ริลณีนั่งลงตรงข้ามแล้วเริ่มประเด็น





“มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันรอฟังอยู่” นายเหนือแห่งบ้านศิรินทรากอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้น





“ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่ต้องอ้อมค้อม ตารัชหลานฉันกับสิตางศุ์หลานของเธอ เค้ามีความรักที่จริงใจต่อกัน ฉันขอเป็นตัวแทนรัชพลมาพูดเรื่องที่จะให้เค้าทั้งสองคนคบหากัน ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่มีปัญหาอะไร” ริลณีไม่อ้อมค้อม เข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว





“เธอคงผิดหวังแล้วล่ะ เรื่องอะไรฉันจะยอมให้สิตางศุ์ไปคบกับคนที่ทำให้เค้าโดนยิงเกือบตายแบบนั้น” คุณหญิงพิมลตวัดสายตามองริลณี





“แต่คุณย่าครับ เรื่องนั้นพี่รัชไม่ได้เป็นคนผิดนะครับ ผมเองที่ทะเล่อทะล่าออกไป” สิตางศุ์รีบแย้งขึ้น เขาไม่ยอมให้รัชพลถูกมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัวแบบนั้น





“แล้วใครล่ะไปมีเรื่องกับพวกนักเลงพวกนั้น ไม่ใช่รัชพลของหลานเหรอสิตางศุ์” คุณหญิงพิมลเริ่มที่จะขึ้นเสียง





“ผมยอมรับครับว่าผมผิดที่ดูแลสิตางศุ์ไม่ดี และเป็นต้นเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัวแบบนั้น แต่ผมขอโอกาส ผมรักสิตางศุ์จริงๆ และผมก็ไม่มีทางให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัวแบบนั้นอีกแน่นอน” รัชพลที่เงียบอยู่นานพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น





“เธอจะพูดอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่มั่นใจว่าการที่เธอคบกับหลานฉันเธอจะทำให้สิตางศุ์มีความสุขได้อย่างที่พูดรึเปล่า ไร่น้ำรินของเธอนั่นก็ชอบไปมีเรื่องกับนักเลงท้องถิ่น แล้วถ้าคบกับเธอหลานฉันต้องไปตากแดดในไร่ฉันยอมไม่ได้ และฉันก็ไม่เห็นว่าการที่สิตางศุ์คบกับเธอนั้นมันไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย” คุณหญิงพิมลมองหน้ารัชพลด้วยสายตาที่เหยียดหยาม นั่นทำให้รัชพลกำมือแน่นแล้วกำลังจะตอกกลับ แต่ริลณีห้ามไว้ก่อน





“นี่พิมล มันก็จริงที่หลานฉันคบกับหลานเธอแล้วไม่ได้สร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจเหมือนกับที่เธอทำกับลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอ แต่ฉันมั่นใจว่ารัชพลทำให้สิตางศุ์มีความสุขแน่นอน เอาตรงๆเลยนะ ฉันเองไม่ใช่คนในครอบครัวเธอ แต่ฉันยังดูออกว่าหลานเธอต้องการอะไร สิตางศุ์ต้องการความสุขและความรักซึ่งรัชพลให้ได้ สิตางศุ์ต้องการอิสระที่ไม่ต้องมาอยู่ในกรอบที่เธอวางไว้ ต่อให้เขาไปอยู่กลางไร่สิตางศุ์ก็ยังจะยินดีมากกว่าอยู่ที่นี่” ริลณีร่ายยาว ทำไมพิมลหัวรั้นขนาดนี้นะ เหมือนเธอกำลังพูดอยู่กับเด็กยังไงอย่างนั้น





“ริลณี!” เจ้าของบ้านศิรินทราตวาดกร้าวเมื่อถูกต่อว่าอย่างนั้น





“ที่คุณย่าณีพูด มันก็จริงนะครับคุณย่า...” สิตางศุ์แทรกขึ้นมา เขามองไปยังคุณหญิงพิมลด้วยสายตาที่ตัดพ้อ





“หมายความว่ายังไงสิตางศุ์”





“ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดหรือไม่เคยขออะไรคุณย่าเลย ตอนนี้ผมโตแล้วผมอยากเลือกชีวิตเองบ้าง ผมไม่อยากเหมือนคุณพ่อที่ต้องมากลับบ้านเดือนละไม่กี่ครั้งเพราะต้องทำงานตลอดเวลา ต้องเหมือนคุณย่าที่ทำงานหนักและไปพบปะสมาคมกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ผมแค่อยากมีชีวิตอิสระเป็นของตัวเอง สองเดือนที่ผมไปอยู่ไร่น้ำริน ผมมีความสุขมาก คุณรัชเค้ามีและคนที่นั้นดีกับผม แม้ว่าผมจะเป็นคนแปลกหน้าที่ไปขออาศัยอยู่ก็ตาม และผมก็ได้พบกับความรักที่จริงใจ พบกับครอบครัวที่แสนอบอุ่นของคุณรัช นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องการ คุณย่าครับ ผมขอได้มั้ยครับ ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมจะขออะไรจากคุณย่า” สิตางศุ์มองหน้าย่าของตัวเอง สายตาที่แน่วแน่นั้นจับจ้องพิมลไม่วางตา





พิมลรู้สึกเบือนหน้าหนี เธอไม่กล้าสบตาหลานชาย เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์พูดกับเธอแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์บอกความต้องการของตัวเองออกมา เพราะทุกครั้งสิตางศุ์คอยทำตามสิ่งที่เธอต้องการอยู่เสมอ คำพูดเหล่านั้นทำให้พิมลพูดไม่ออก





เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่สิตางศุ์อยู่กับเธอนั้นไม่มีความสุข แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม แต่กลับห่างเหินกันเหลือเกิน สิตางศุ์กับพ่อแม่เหมือนเป็นคนแปลกหน้าต่อกันและกัน  สิตางศุ์กับเธอเหมือนเจ้านายกับลูกน้องที่ต้องคอยทำตามคำสั่งตลอดเวลา ตอนนี้เธอแอบรู้สึกผิดแต่เธอก็ทำใจให้สิตางศุ์ไปมีชีวิตไปของตัวเองไม่ได้ เพราะศิรินทราของเธอต้องการสิตางศุ์





“ชัช พาคุณสิตางศุ์ขึ้นไปข้างบน ส่วนเธอริลณี ขออนุญาตเสียมารยาทพูดว่ากลับไปพร้อมกับหลานเธอได้แล้ว วันนี้ฉันอยากพักผ่อน” พูดจบคุณหญิงพิมลก็ลุกไปจากตรงนั้นเสียดื้อๆ





“คุณย่าครับ!” สิตางศุ์ตะโกนตามหลังแต่คุณหญิงพิมลก็ยังไม่หันมามอง





“ขอเชิญข้างบนครับนายน้อย” ชัชพูดกับสิตางศุ์ที่ยังคงจับมือรัชพลไว้แน่น





“ไม่ได้ สิตางศุ์ถ้าย่าของสิตางศุ์ไม่ยอมก็หนีไปกับพี่” รัชพลไม่ฟังอะไรพิมลทั้งนั้น ยังไงเขาก็ไม่ยอมแน่หากคุณหญิงพิมลไม่ยอมให้เขาคบกับสิตางศุ์แบบนี้





“แต่คุณย่าท่านจะยิ่งโกรธนะครับ” สิตางศุ์แอบค้าน ยังไงสิตางศุ์ก็ยังคิดว่าการที่ค่อยๆพูดกับย่าของเขานั้นเป็นการดีกว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน เพียงแต่รัชพลนั้นรอหินกร่อนจากน้ำไม่ไหว





“แล้วย่าของสิตางศุ์ยอมฟังที่พวกเราพูดมั้ยล่ะ” รัชพลโมโหหนัก





“ที่สิตางศุ์พูดน่ะถูกแล้ว ยิ่งทำแบบนั้นพิมลยิ่งจะไม่พอใจ ตอนนี้ให้สิตางศุ์อยู่ที่นี่น่ะถูกแล้ว อย่างนั้นพิมลก็มีท่าทีที่อ่อนลงแล้ว” ริลณีต้องปรามหลานชาย ขืนปล่อยรัชพลทำตามใจตัวเองแบบนี้อีกมีหวังชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่สมหวังหรอก





“คุณยาย” รัชพลหันมาทำเสียงตัดพ้อริลณี ทำไมทุกคนต้องคิดว่าการที่สิตางศุ์อยู่ที่นี่เป็นเรื่องดี ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เห็นด้วยกับเขา





“ฟังยาย ไป กลับบ้านเรา แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ริลณีลุกขึ้นก่อนจะพยายามดึงแขนรัชพลให้เดินตามเธอ





“เชิญครับนายน้อย” ชัชเองก็เร่งสิตางศุ์ให้เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านตามที่คุณหญิงพิมลสั่งไว้





“ไม่ต้องห่วงนะสิตางศุ์ พรุ่งนี้พี่จะมาหาใหม่” รัชพลให้คำมั่นก่อนจะยอมเดินตามริลณีไป





“ผมจะรอนะพี่รัช” สิตางศุ์ตอบกลับแล้วเดินตามชัชขึ้นไปข้างบนตามคำสั่ง รัชพลได้แต่มองตามตาละห้อย





น้ำหยดลงหินอะไร ไม่มีทางทันใจเขาหรอก อย่างนี้มันต้องเอาสว่านมาเจาะ!

















“นั่นไง มาแล้วค่ะ” พิมพ์นภาเรียกบุรินทร์เมื่อพบว่าริลณีและรัชพลเดินเข้าบ้านมาแล้ว





“พ่อ” รัชพลแปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆก็เห็นบุรินทร์มาอยู่ที่นี่ เดี๋ยวๆ พ่อของเขามาได้ไง





“มาแล้วเหรอพ่อลูกเขย รู้มั้ยว่าลูกชายแกน่ะไปทำเรื่องอะไรไว้” มาถึงไม่ทันไรริลณีก็ชิงด่าบุรินทร์เสียแล้ว เธอเดินมานั่งที่โซฟาแล้วหยิบยาดมเข้ามาสูด พิมพ์นภาเดินมานั่งข้างๆแม่สามีแล้วช่วยพัดให้





“ก็พอจะรู้แหละครับ ตารัชมันเป็นคนยังไงคุณแม่ก็รู้ เรื่องนี้เองผมก็ยังห้ามมันไม่ได้เลย” บุรินทร์ว่า





“แล้วยังไงล่ะ ไปมีเรื่องกับใครไม่มี ไปมีเรื่องกับคุณหญิงพิมล แล้วยังไม่ฉุดหลานเค้ามาอีก เพิ่งจะเอาไปส่งเมื่อกี้นี้เอง ไม่โดนยิงตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว”





“แล้วผมจะรู้มั้ยครับว่าสิตางศุ์เป็นลูกหลานใคร รู้แค่ว่าเป็นเพื่อนรินก็แค่นั้น และอีกอย่างผมมั่นใจว่าลูกผมทำแบบนั้นก็เพราะมีเหตุผล ตารัชไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล และที่สำคัญ ตารัชรักสิตางศุ์จริง” บุรินทร์เถียงกลับ





“แล้วแกมาบอกฉันมันจะมีประโยชน์มั้ยล่ะ นู่น ไปบอกครอบครัวสิตางศุ์นู่น” ริลณีเริ่มเหนื่อย เถียงกับพิมลไม่พอ เธอต้องมาเถียงกับบุรินทร์อีกระลอกหนึ่ง





“ใจเย็นๆกันนะคะ อย่าเพิ่งทะเลาะกันตอนนี้ มาช่วยกันแก้ปัญหาก่อนดีกว่า อย่าทะเลาะกันเองเลย” พิมพ์นภารีบห้ามก่อนที่ลูกเขยกับแม่ยายคู่นี้จะทะเลาะกันแรงขึ้น เพราะยิ่งกว่านี้เธอก็เจอมาแล้ว






“พ่อกับคุณยายอย่าเพิ่งทะเลาะกันเลยครับ ตอนนี้เราต้องช่วยกันคิดก่อนว่าจะทำยังไงให้บ้านของสิตางศุ์ยอมรับผม” รัชพลทำหน้าเครียด เขาเครียดเรื่องสิตางศุ์แล้วยังต้องมาฟังพ่อกับยายทะเลาะกันแบบนี้อีกเหรอ





“ถ้ามันยากมากก็เอาขันหมากไปสู่ขอเลย ดูซิคราวนี้จะยอมมั้ย” บุรินทร์โพล่งขึ้นด้วยความโมโห แต่รัชพลกลับหันขวับไปมองหน้าบิดาอย่างเห็นทางสว่าง





“ก็ดีเหมือนกันนะพ่อ ในเมื่อพูดดีๆไม่ยอม จะพาหนีก็ไม่ได้ ก็ไปขอตรงๆเลย” รัชพลยิ้ม





“จะบ้าหรือไงตารัช” ริลณีทำสีหน้าไม่เห็นด้วย





“ไม่บ้าล่ะครับ ผมทำจริง!” ทุกคนหันมามองหน้ารัชพลอย่างไม่เข้าใจ งานนี้มีวิธีไหนที่คิดว่าทำแล้วรุ่งก็ต้องทำ คุณหญิงพิมลยิ่งเป็นคนมีหน้ามีตาอยู่ รัชพลจะได้ไปต่อรึเปล่าก็ต้องมาดูกันคราวนี้ล่ะ















สิตางศุ์นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำเรียบร้อย เขายังไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี เพราะพูดตรงๆย่าของเขาก็ยังไม่ยอมอยู่ดี สิตางศุ์ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว





“สิตางศุ์... อยู่มั้ยลูก” เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นหน้าห้องพร้อมกับเสียงเคาะประตู สิตางศุ์ลุกขึ้นไปเปิดประตูนั้นแล้วพบว่าเป็นอนันต์ที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยชุดทำงานเต็มยศ






“คุณพ่อ” นานๆทีอนันต์จะกลับบ้านครั้งนึง เฉลี่ยเดือนละไม่กี่ครั้ง ทุกครั้งสิตางศุ์จะเจออนันต์ในตอนกินข้าวก็เท่านั้น ไม่บ่อยครั้งนักที่อนันต์จะมาหาเขาถึงห้องแบบนี้





“พอดีพ่อมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อยน่ะ” อนันต์ยิ้มให้ลูกชายก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วนั่งบนเตียงนอนของสิตางศุ์ สิตางศุ์เองก็เดินมานั่งตาม





“คุณพ่อมีอะไรรึเปล่าครับ” สิตางศุ์ถามด้วยความแปลกใจ ตั้งแต่เกิดมานั้นเขามีเรื่องคุยกับพ่อตัวเองแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้น






“พ่อรู้เรื่องเมื่อตอนกลางวันแล้วนะ” คำพูดของอนันต์ทำให้สิตางศุ์ต้องหันไปมองหน้าบิดา





“หึ.. คุณย่าท่านไม่ยอมรับฟังผมหรอก” สิตางศุ์ก้มหน้าลง เขารู้ว่ายังไงแล้วย่าของเขาก็ไม่มีทางรับฟังความเห็นใคร





“ที่คุณย่าทำน่ะมีเหตุผลนะลูก”






อนันต์เอื้อมมือไปโอบไหล่ลูกชายไว้ แล้วดันหัวสิตางศุ์ให้ซบลงบนไหล่เขา สิตางศุ์แอบตกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยถูกปฏิบัติแบบนี้จากคนเป็นพ่อเลย






“คุณย่าน่ะท่านตั้งความหวังกับศิรินทราไว้มากเพราะท่านต้องเจองานหนักเมื่อตอนที่รับช่วงต่อจากคุณปู่ พ่อเองก็ถูกท่านเลือกทางเดินชีวิตให้ จนมันกลายเป็นแบบนี้ พ่อรู้ว่ามันไม่มีความสุขแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมเพราะพ่อไม่อยากให้ย่าของลูกต้องผิดหวัง” อนันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่สิตางศุ์สัมผัสได้ถึงความสั่นเครือนั้น





“คุณพ่อเคยมีความฝันบ้างมั้ยครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้สิตางศุ์ถามแบบนั้น






“มีสิ... ใครๆก็ต้องเคยมีความฝัน แต่พ่อลืมมันไปตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าตัวเองต้องรับช่วงต่อที่บ้านแล้ว”






เรื่องใหม่ที่สิตางศุ์ไม่เคยรู้ ไม่เคยรู้เลยเกี่ยวกับพ่อตัวเอง เขารู้ว่าความรู้สึกนี้เป็นยังไง พ่อของเขาเองก็คงไม่ต่างกัน






“แล้วสิตางศุ์ล่ะลูก ลูกฝันอยากจะทำอะไร” คราวนี้เป็นอนันต์ที่ถามกลับ







“ผมอยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมอยากไปได้ทุกที่ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องมีคนของคุณย่าคอยแอบตามตลอดเวลา ไม่ต้องมีถูกกำหนดว่าให้กลับบ้านตอนไหนและอยากทำอย่างที่ใจตัวเองต้องการ” นั่นคือสิ่งเดียวที่สิตางศุ์ปรารถนาในตอนนี้ อนันต์ยกยิ้มเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์บอกความต้องการกับเขาแบบนี้





“ทำไมมันซะลูก... ทำอย่างที่ใจสิตางศุ์ต้องการ พ่อรู้ว่าตอนนี้สิตางศุ์มีใครมากกว่าพ่อและคุณย่า ถ้าเค้าทำให้สิตางศุ์มีความสุข สิตางศุ์ก็ไปหาความสุขนั้น” อนันต์หันมายิ้มให้ลูกชาย






ความสุขที่สิตางศุ์ต้องการ เขายินดีที่จะให้ เพราะเขาไม่มีทางให้สิตางศุ์ได้ เขายินดีจะปล่อยสิตางศุ์ไปหาความสุขนั้น ความสุขที่สิตางศุ์ไม่เคยได้รับมาตลอดยี่สิบสี่ปี





“...คุณพ่อ” สิตางศุ์มองบิดาอย่างไม่เข้าใจ






“พ่อจะไม่ห้าม ไม่ห้ามสิตางศุ์ไม่ให้รักใคร พ่อให้ความสุขกับสิตางศุ์ไม่ได้ สิตางศุ์ก็จงไปหามัน ตอนนี้ลูกโตแล้ว ลูกมีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งสิตางศุ์ต้องเป็นเหมือนพ่อ พ่อคงยอมไม่ได้”






สิตางศุ์มองอนันต์ไม่วางตา แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัวก่อนจะโผกอดบิดาเต็มแรง เป็นครั้งแรกที่อนันต์รับฟังเขา เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์รู้สึกว่าเขาเป็นลูกของอนันต์จริงๆ






“พ่ออาจจะเป็นพ่อที่ดีที่สุดไม่ได้ พ่อทำให้สิตางศุ์ต้องเป็นเด็กที่เก็บตัวและร้องไห้ตลอดเวลา พ่อไม่มีเวลาดูแลสิตางศุ์ พ่อขอโทษ พ่อพยายามทำมันแล้ว แต่พ่อก็ทำไม่ได้ พ่อทิ้งงานไม่ได้ ถ้ามีสิ่งไหนที่พ่อจะทดแทนได้ พ่อก็ยินดีถ้ามันจะทำให้สิตางศุ์ของพ่อมีความสุข” อนันต์กอดร่างเล็กของลูกชายไว้แน่น สิตางศุ์สะอื้อไห้แล้วมุดลงกับเสื้อสูทราคาแพงนั้นของบิดา





“ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับพ่อ”





“พ่อจะช่วยคุยกับคุณย่าให้ ตอนนี้ลูกก็นอนพักผ่อนก่อนนะ อย่าคิดมาก แผลยังไม่หายดีเลย” อนันต์ดันสิตางศุ์ออกแล้วลุกขึ้น เขาลูบหัวลูกชายที่ยังคงสะอื้นอยู่




“พ่อรักสิตางศุ์นะ แม้ว่าพ่อจะไม่เคยทำให้สิตางศุ์รู้ว่าพ่อรักสิตางศุ์ แต่พ่อไม่เคยคิดที่จะทิ้งลูก พ่ออยากเห็นสิตางศุ์มีความสุข”





“ผมก็รักพ่อนะครับ” คำพูดที่สิตางศุ์ไม่เคยพูดกับบิดา วันนี้เขาสามารถพูดมันได้อย่างไม่เคอะเขินอีกต่อไป คนแปลกหน้าในบ้านเดียวกันตอนนี้กลับกลายเป็นพ่ออย่างที่ควรเป็น





บางทีสิตางศุ์ก็คิดว่า เขาควรบอกความต้องการขอตัวเองมาตั้งนานแล้ว ไม่ควรเก็บมันไว้อย่างนี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องมันคงไม่แย่มาจนถึงทุกวันนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์สัมผัสได้ถึงคำว่าครอบครัวที่แท้จริง











**********************************************************************************








แต่งงานกันเด้อ เด้อ เด้อ นางเดอ~ แมรี่มี เด้อแมรี่มี เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน อะ อะ อยากแต่งงานนนนนนน~  :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-03-2016 20:58:46
 :pig4: :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 22-03-2016 21:10:52
พี่รัชจัดขันหมากมาเลย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-03-2016 21:33:08
น้ำตาไหลเลยยย ซึ้งคุณพ่อสิตางศุ์มาก
ส่วนพี่รัชนี่ เข้าใจเลยว่าเหมือนใคร 5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 22-03-2016 21:47:36
น้ำตาซึ้ม :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 22-03-2016 21:53:24
ซาบซึ้งกับคุณพ่อ
พี่รัช ยกขันหมากมาเลย มีพ่อตาเป็นแบ็คให้
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-03-2016 22:14:55
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-03-2016 23:07:42
พี่รัชสู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่28 22/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-03-2016 00:50:30
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 23-03-2016 23:05:27
บทที่ 29





เค้าไม่มา...





รัชพลยังไม่มาหาเขา สิตางศุ์รอแต่เช้าจนตอนนี้คล้อยบ่ายแก่ๆรัชพลก็ยังคงไม่มีหาเขาทั้งๆที่รัชพลบอกกับเขาว่าวันนี้จะมาหา สิตางศุ์รอเพื่อที่จะบอกอีกคนว่าตอนนี้พ่อของเขายินดีที่จะช่วยคุยกับคุณย่าให้ แต่จนแล้วจนรอดตอนนี้รัชพลก็ยังไม่โผล่มาที่นี่





เกิดอะไรขึ้นนะ ทำไมรัชพลต้องผิดสัญญา คุณย่าทำอะไรรึเปล่า หรือรัชพลถอดใจแล้ว





ไม่น่าจะใช่อย่างนั้น!





รัชพลไม่ใช่คนที่คิดจะถอดใจกับอะไรง่ายๆ แต่ทำไมยังไม่มาล่ะ สิตางศุ์นั่งรอทั้งในบ้านนอกบ้านก็ยังไม่มีวี่แวว คุณย่าก็ให้โชติคอยตามเขาตลอดเพื่อดูความเคลื่อนไหวเพื่อที่ว่าเวลารัชพลมาหาเขาจะได้รายงานท่านถูก ตอนนี้คุณย่าคงมองรัชพลเป็นคนเหลาะแหละโลเล ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเธอไปแล้วแน่ๆ





“เค้ายังไม่มาอีกเหรอลูก” อนันต์มานั่งข้างๆลูกชายที่ทำหน้าเจื่อนอยู่กลางบ้าน อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์อนันต์ขอหยุดงานเพราะต้องการอยู่กับสิตางศุ์





“ยังเลยครับพ่อ” สิตางศุ์ตอบพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างท้อใจ





“ไมต้องกังวลไปหรอก เดี๋ยวเค้าก็มา พ่อก็อยากจะคุยเหมือนกัน” อนันต์ลูบหัวลูกชายเบาๆ เอาเข้าจริงๆเขาก็อยากจะเจอรัชพลคนนี้เหมือนกัน อะไรทำให้สิตางศุ์อยู่กับคนคนนั้นแล้วมีความสุขมากกว่าการอยู่ที่บ้าน อยากรู้จริงๆ






สิตางศุ์ยิ้มเจื่อนๆไปให้ก่อนจะทิ้งตัวลงพิงกับโซฟาแล้วถอนหายใจ อย่านะพี่รัช อย่าเพิ่งทิ้งสิตางศุ์ไปตอนนี้






แต่จนแล้วจนรอดรัชพลก็ไม่มาจริงๆ สิตางศุ์นั่งอยู่ที่ระเบียงด้านนอกพร้อมกับเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสีดำสนิทนั้นทำให้ใจของเขารู้สึกหม่นหมองไปด้วย รอจนจะสี่ทุ่มแล้วรัชพลก็ยังไม่มา โทรมาหาสักนิดก็ไม่มี เขาจะโทรไปก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่ารัชพลยังต้องการคุยรึเปล่า ไม่อย่างนั้นคงมาหาเขาแล้ว





ลองคิดดีๆแล้วเขากับรัชพลก็รู้จักกันแค่สองเดือนเท่านั้น มันเป็นเวลาไม่นาน มันสั้นเกินกว่าที่จะสานสัมพันธ์ให้แน่นหนาขึ้น และอีกอย่างคุณย่าของเขาก็เป็นแบบนี้ ท่านคัดค้านไปเสียทุกอย่าง ไม่รู้ว่ารัชพลยังอยากจะคบกับเขาอยู่มั้ย สิตางศุ์ไม่เคยมีประสบการณ์รักด้วยสิ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาต้องทำตัวยังไง






ร่างเล็กถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยแปดของวันแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง บางทีวันพรุ่งนี้รัชพลอาจจะมาหาเขา












ล่วงเข้าวันที่สาม ...รัชพลก็ยังไม่มา






“เฮอะ... สงสัยคงกลับบ้านไร่ไปแล้วมั้ง” คุณหญิงพิมลพูดกับหลานชายในมื้อเช้าของวันนั้น สิตางศุ์ไม่กล้าสบตาเธอ และเขาก็รู้สึกกินข้าวไม่ลงเสียดื้อๆ






“คุณแม่ครับ” อนันต์ปรามมารดา ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะขัดใจคุณหญิงพิมล






“ฉันพูดถูกมั้ยล่ะ รอเก้อมากี่วันแล้ว ฉันอยากจะรู้นักว่านายรัชพลอะไรนั่นจะไปได้ซักกี่น้ำเชียว สุดท้ายก็กลัวหัวหดหนีหายกลับไป” เธอยังพูดถากถางต่อ สิตางศุ์เถียงไม่ออก เพราะรัชพลไม่มีหาเขาจริงๆ และยังไม่ติดต่อมาด้วย






“เดี๋ยวเค้าก็มาน่าสิตางศุ์ หรือจะให้พ่อพาไปหาที่บ้านคุณริลณีดีมั้ย” อนันต์พยายามพูดเพื่อให้สิตางศุ์สบายใจ แต่ตอนนี้หน้าสิตางศุ์นั้นเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด






“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวพี่รัชก็มา” เขาอยากจะเชื่ออย่างนั้น






“คงไม่มาแล้วล่ะ ไม่ต้องรอ ดีเลย ย่าว่าจะพาไปเจอหนูพิมพ์ธารา เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกได้ไม่นานนี้เอง ลองไปคุยกับเค้าก็ดีนะลูก” คุณหญิงพิมลยิ้ม เธอพอจะเห็นลู่ทางที่จะตัดรัชพลออกไปจากชีวิตของสิตางศุ์ได้แล้ว






“แต่ผมไม่อยากไปเจอนี่ครับคุณย่า” สิตางศุ์ค้าน เขาไม่อยากไปเจอคนที่คุณย่าเลือกให้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครสิตางศุ์ยังไม่รู้จักเลย








“แล้วหลานจะรอนายรัชพลนั่นน่ะเหรอ ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มาหรอก”  คุณหญิงพิมลเริ่มจะขึ้นเสียง เช้านี้มีเรื่องให้หงุดหงิดแต่เช้า







“คุณแม่ครับ ผมขอร้องเถอะครับ อย่าบังคับสิตางศุ์เค้าเลย คุณแม่ก็เห็นว่าสุดท้ายแล้วผมกับมินตรามันจบลงยังไง” อนันต์เข้าข้างสิตางศุ์ เขาไม่อยากให้สิตางศุ์เป็นแบบเขา ชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุข สุดท้ายผลกรรมมันจะตกที่ใครถ้าไม่ใช่ลูกที่เกิดมา






คุณหญิงพิมลไม่ตอบ เพราะเรื่องนี้เธอเถียงไม่ได้ ตอนนี้แม่ลูกสะใภ้ตัวดีของเธอก็ถูกจัดการเด้งไปนอกประเทศ ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่ได้กลับมา นี่ถือว่าเธอยังปราณี เพราะยังเห็นว่าเป็นแม่ของสิตางศุ์ ไม่อย่างนั้นเธอเก็บไปนานแล้ว






“ผมขอตัวก่อนนะครับ” สิตางศุ์ลุกขึ้น เขากินต่อไม่ลงแล้ว บทสนทนาของคนในบ้านมันเหมือนกับการทะเลาะกันทุกวัน ยิ่งคุยยิ่งแย่ สิตางศุ์เกลียดบรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้ที่สุด






“ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาว ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย อาวะอาเหวย ลูกเขยตะลาลา~ ฮิ้ว~” เสียงที่ดังขึ้นหน้าบ้านทำให้สิตางศุ์ที่กำลังจะเดินขึ้นชั้นบนต้องชะงัก ไม่ต่างกับคุณหญิงพิมลและอนันต์ที่หันไปมองไม่ต่างกัน







หลังจากนั้นเสียงกลองยาวและเสียงดนตรีก็ดังขึ้นตามมาติดๆ ชัชกับโชติที่อยู่ไม่ไกลต้องพากันรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไปดูสถานการณ์ข้างนอก






“เรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย” คุณหญิงพิมลลุกขึ้นก่อนจะก้าวฉับๆออกไปนอกบ้าน อนันต์และสิตางศุ์ก็รีบตามไป เพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น






และภาพที่เห็นนั้นก็ทำให้เจ้าของบ้านตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตอนนี้หน้าบ้านของเขากำลังเต็มไปด้วยบวนกลองยาว มีทั้งต้นกล้วยต้นอ้อยต้นอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด นอกจากนั้นยังมีคนที่แต่งตัวด้วยชุดไทยประยุกต์ถืออะไรไม่รู้เต็มไปหมด ยิ่งไปกว่านั้นสิตางศุ์เห็นรัชพลอยู่หน้าขบวนและยังใส่ชุดเจ้าบ่าวอีก!






“นี่มันอะไรกันเนี่ย!” คุณหญิงพิมลตวาดลั่น การ์ดพยายามออกไปกั้นเมื่อขบวนเหล่านั้นหลุดผ่านประตูรั้วเข้ามาในบ้านได้แล้ว เธอมองคนพวกนั้นด้วยสายตาที่พร้อมจะแผดเผา คนพวกนี้เป็นบ้าอะไรกัน มาทำอะไรในบ้านของเธอ






“หยุด... หยุดๆๆ” คุณริลณีเดินออกมาหน้าขบวนก่อนจะทำสัญญาณมือให้หยุด วงดนตรีทั้งหมดหยุดเพลง ทั้งล้านกว้างหน้าบ้านเงียบฉี่ มีเพียงแค่ประกายไฟในตาของคุณหญิงพิมลเท่านั้นที่กำลังแผดเผาไปทั่วบริเวณ






“เธอทำบ้าอะไรของเธอริลณี!” จากน้ำเสียงนั้นทำให้คนฟังรู้ว่าคุณหญิงพิมลไม่พอใจมากแค่ไหน







“แหม ก็อย่างที่คุยกันไง ก็ว่าจะให้หลานฉันกับหลานเธอดองกัน วันนี้เลยพาตารัชมาขอ” ริลณีพูดหน้าดื้อๆ นั่นทำให้คนในบ้านศิรินทราทั้งหมดตกใจ โดยเฉพาะสิตางศุ์






บะ... บ้าน่า พี่รัชทำบ้าอะไรเนี่ย สิตางศุ์หันไปมองรัชพลที่ยังคงยิ้มแฉ่งมาให้เขา การแต่งตัวดูก็รู้ว่ามาทำอะไร อย่าบอกว่าที่หายไปตั้งหลายวันเพราะไปทำอะไรแบบนี้เนี่ยนะ







“ฉันไปคุยกับเธอตอนไหน เรื่องที่จะให้สิตางศุ์ไปคบกับหลานเธอน่ะ! แล้วยังบุกรุกบ้านฉันมาทำอะไรบ้าๆแบบนี้อีก ออกไปเลยนะ!” คุณหญิงพิมลยังคงเดือดไม่หาย จนสิตางศุ์ต้องเข้าไปใกล้ๆแล้วลูบแขนหญิงชราให้อารมณ์เย็นลงก่อนที่จะเป็นลมเป็นแล้งไปตรงนี้






“ไม่ออก! ถ้าออกตอนนี้ตารัชก็คงไม่ได้เมียซักทีหรอก ฉันตั้งใจมาสู่ขอแบบตรงๆแล้ว และเธอก็ต้องยอมยกให้ด้วย” ริลณีเชิดหน้าสู้ วันนี้เธอสู้ตาย เป็นไงเป็นกัน







“ฉันไม่ยอมยกสิตางศุ์ให้หลานเธอหรอก” คุณหญิงพิมลอยากจะบ้าตาย ทำไมคนพวกนี้พูดไม่รู้เรื่องขนาดนี้นะ







“แต่ผมยอมครับ” เสียงนั้นทำให้คุณหญิงพิมลต้องหันขวับ






“ตานัน!” เธอหันไปเอ็ดลูกชาย






“ผมเป็นพ่อของสิตางศุ์ ผมยินดีที่จะคุยเรื่องของลูกชายผมและหลานของคุณน้าณี เชิญข้างในก่อนครับ” อนันต์ไม่พูดเปล่า เขาผายมือเชิญริลณีให้เข้าไปในบ้าน เพียงเท่านั้นนายหญิงของบ้านจิระมนตรีก็ยิ้มกว้าง






“ขอบคุณมากนะจ้ะหลานนัน ป่ะ... พวกเรา พ่อเค้าอนุญาตแล้ว” ริลณีพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินเชิดผ่านคุณหญิงพิมลเข้าไปในบ้าน บุรินทร์ รัชพลรวมทั้งคนอื่นๆก็ตามเข้าไปด้วย






“ไม่ได้นะตานัน แกจะทำแบบนี้ไม่ได้” คุณหญิงพิมลพยายามค้านแต่เสียงแตรวงและเสียงกลองยาวก็ดังขึ้นกลบเสียงเธอ






ริลณีพาลูกๆหลานๆเข้ามาในบ้านศิรินทราซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากอนันต์ เธอให้คนเอาสินสอดมาวางไว้ นั่นทำให้สิตางศุ์รู้ว่ารัชพลไม่ได้ทำเพื่อต่อกรกับย่าของเขา แต่รัชพลต้องการมาสู่ขอเขาจริงๆ







บ้าไปแล้วรึไงพี่รัช ทำยังกับเขาเป็นผู้หญิงที่ต้องรอให้ผู้ชายมาขออย่างนั้นแหละ โอ้ย... สิตางศุ์ก็อายไม่น้อยเหมือนกันนะ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้สิตางศุ์รู้ว่ารัชพลไม่ทิ้งเขาจริงๆ รัชพลคิดที่จะจริงจังกับเขา นั่นทำให้สิตางศุ์แอบยิ้ม สองวันที่ผ่านมานั้นสิตางศุ์รู้สึกไม่มั่นใจและหวั่นไหวอยู่บ่อยครั้ง ไม่มั่นใจว่ารัชพลยังจะรักและต้องการเขาอยู่หรือไม่ แต่ตอนนี้สิตางศุ์รู้แล้ว รู้ว่ารัชพลคนนี้หนักแน่นแค่ไหน






“เอาล่ะค่ะ เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ดิฉันในฐานะตัวแทนของฝ่ายชาย เอ่อ... ตัวแทนของรัชพล”







ริลณีต้องรีบแก้คำพูด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิตางศุ์นั้นหาใช่สาวน้อยไม่ เธอกระแอมเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ







“ในเมื่อหลานทั้งสองก็รักก็ชอบพอกัน มันก็ถึงเวลาแล้วที่เราสองตระกูลจะได้ดองกันซักทีเนอะ”







“ใครอยากจะดองกับเธอกัน” คุณหญิงพิมลชักอยากจะตัดเพื่อนริลณีก็วันนี้แหละ เธอบอกกี่ครั้งแล้วว่ายังไงก็ไม่ยอมยกสิตางศุ์ให้







“คุณแม่ครับ” อนันต์หันไปปรามมารดาเล็กน้อย







“ผมเองก็พอจะทราบเรื่องลูกชายของผมกับหลานของน้าณีมาบ้างแล้ว ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณรัชพลที่ดูแลสิตางศุ์ระหว่างที่ไปอยู่เชียงราย และต้องขอโทษที่ทำให้สิตางศุ์ต้องไปรบกวนแบบนั้น” อนันต์กล่าว เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับรัชพล คนนี้น่ะเหรอ ที่เป็นความสุขของสิตางศุ์






“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีดูแลสิตางศุ์ ตลอดไปเลยก็ทำได้ครับ” รัชพลพูดพร้อมกับมองหน้าสิตางศุ์ที่นั่งนิ่ง สิตางศุ์หลบสายตานั้นวูบ เขาไม่กล้ามองรัชพลตอนนี้ มันรู้สึกเขินเกินกว่าที่จะมองอีกคนตรงๆ







“เมื่อเรื่องมันเป็นอย่างนั้นน้าก็อยากจะให้สิตางศุ์กับตารัชเนี่ยหมั้นหมายกันไว้ก่อน นันจะว่ายังไง” ริลณีรุกคืบ








“เรื่องนั้นผมแล้วแต่สิตางศุ์ครับ ถ้าลูกยินดีผมก็ไม่มีปัญหาอะไร” อนันต์พูดนั่นทำให้ทุกสายตาเบนไปมองสิตางศุ์ คนตัวเล็กทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจ้องมองแบบนั้น โดยเฉพาะรัชพลที่มองเขาไม่วางตาเพื่อต้องการคำตอบ






“เอ่อ...” สิตางศุ์พูดไม่ออก เขาไม่รู้จะตอบว่ายังไง เขายังไม่ได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์นี้






“ว่าไงจ้ะสิตางศุ์” ริลณีกดดัน สิตางศุ์แอบหันไปมองคุณหญิงพิมลเล็กน้อย ย่าของเขาเบือนหน้าหนี นั่นทำให้สิตางศุ์สูดหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วมองตรงไปที่บิดาของตัวเอง






“ถ้าคุณพ่อกับคุณย่าไม่ว่าอะไร ผมก็... เอ่อ.... ผมก็ยินดีครับ” พูดจบก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้ พูดออกไปแล้ว เขาพูดออกไปแล้ว






“เยส!” รัชพลอุทานลั่นนั่นทำให้ริลณีต้องรีบกันไปจิกสายตาใส่หลานชายอย่างห้ามปราม






“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ...” ริลณียิ้มกว้างแล้วคุยกับอนันต์ต่อ บทสนทนานั้นไม่เข้าหัวรัชพลกับสิตางศุ์แล้วในตอนนี้ ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างยิ้มๆ สิตางศุ์หลบตาบ้างมองหน้ารัชพลบ้าง นั่นทำให้รัชพลแอบขำไม่น้อย






ไอ้พี่รัชบ้า คนบ้าอะไรจะสุดโต่งได้ถึงขนาดนี้ หายไปตั้งหลานวันพอกลับมาก็มาทำแบบนี้เนี่ยนะ รู้ทั้งรู้ว่าคุณย่าเป็นคนยังไงก็ยังจะบุกมาอย่างนี้ คิดแล้สิตางศุ์ก็นับถือความบ้าระห่ำของรัชพล ถ้าเกิดเป็นเขา เขาคงไม่คิดที่จะทำอะไรอย่างนี้หรอก







รัชพลมองสิตางศุ์ด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจที่สิตางศุ์ไม่คิดจะปฏิเสธ เรื่องนี้เขาตกลงกับบุรินทร์และริลณีให้ช่วยเขา คนอย่างคุณหญิงพิมลมาคุยดีๆคงไม่มีทางรู้เรื่อง มันต้องหักดิบแบบนี้ ไม่คิดว่าพ่อของสิตางศุ์นั้นจะเห็นด้วย อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็ยังมีดีอยู่ แม้จะทำให้สิตางศุ์ของเขาร้องไห้ตั้งหลายครั้ง เขาอยากดูแลสิตางศุ์ให้ดีที่สุด เขาไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องทนกับความโดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่นี้อีกแล้ว







“ตกลงตามนี้นะ น้าหาฤกษ์หายามมาแล้ว อีกสองเดือนข้างหน้า” ริลณียังคงคุยกับอนันต์ไม่หยุด







“ดีเลยครับ ผมจะได้เตรียมตัวเคลียร์งาน” อนันต์หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี นานแค่ไหนแล้วที่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อของสิตางศุ์จริงๆ ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งต้องมาคุยเรื่องแต่งงานให้ลูกชายแบบนี้






“แล้วตกลงหนูสิตางศุ์ว่าไงจ้ะ จะไปอยู่กับตารัชที่ไร่มั้ย” ริลณีหันมาถามสิตางศุ์ สิตางศุ์รีบละจากใบหน้าของรัชพลแล้วหันมามองริลณี






“ว่ายังไงนะครับคุณย่าณี” เขาถามย้ำเพราะไม่ได้ตั้งใจฟังคำถามของริลณี






“ย่าถามว่าก่อนแต่งเนี่ยจะไปอยู่กับตารัชที่ไร่น้ำรินมั้ย พ่อเค้าอนุญาตแล้ว”






“เอ่อ... คะ...ครับ แต่คุณย่า...” สิตางศุ์นั้นยินดีที่จะไปอยู่แล้ว เพราะเขาเองก็คิดถึงไร่น้ำรินไม่น้อย






เขาคิดถึงทุกคนที่นั้น ทั้งภุมริน ตะวัน ป้าจัน หมอชาญ หรือแม้กระทั่งเด็กก้องกับหมาด่า ป่านนี้หมาด่างคนขาหายดีแล้วกระมัง แต่คุณย่าของเขานี่สิ สิตางศุ์กลัวว่าเธอจะไม่พอใจและตามเขาไปที่ไร่อีก







“พ่อเค้าพูดซะขนาดนั้นแล้วย่าจะห้ามอะไรได้ล่ะ อยากทำอะไรก็เชิญ ไม่เห็นหัวฉันแล้วนิ” พูดจบคุณหญิงพิมลก็ลุกออกไปอย่างไม่พอใจ สิตางศุ์มองตามด้วยความรู้สึกผิดไม่น้อย






“เดี๋ยวพ่อคุยเอง ตอนนี้สิตางศุ์ตอบคุณย่าก่อน ว่าจะไปมั้ย พ่อขอคำตอบที่ออกมาจากหัวใจของงสิตางศุ์จริงๆนะ” อนันต์พูด สิตางศุ์มองหน้าบิดาแล้วหันไปมองรัชพล






“ไปครับ ตางจะไปอยู่ไร่น้ำริน” มันไม่ใช่เรื่องยากที่สิตางศุ์จะตอบตกลง เพราะนั่นมันก็คือสิ่งที่เขาต้องการเหมือนกัน ใช่ว่าเขาอยากจะทิ้งบ้านหลังนี้ไป อยากจะทิ้งคุณย่า อยากจะทิ้งบิดา แต่เขาเองก็อยากจะทำตามความต้องการของตัวเองบ้าง ขอสักครั้งในชีวิต ที่ได้ทำตามหัวใจของตัวเอง







“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นก็จัดงานแต่งที่ไร่น้ำรินเลยดีกว่าเนอะ บรรยากาศดีมาก” ริลณีหัวเราะร่วน หลังจากนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่น








รัชพลยิ้มกว้าง เขาอยากจะตะโกนลั่นเสียตรงนี้ให้สมกับความสาแก่ใจ แต่ก็ต้องรักษามารยาทไว้ เขาดีใจที่ในที่สุดแล้วนั้นเขาก็มีสิตางศุ์อยู่ข้างๆ รัชพลคนนี้รักสิตางศุ์ และจะดูและสิตางศุ์ของเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ คราวนี้แหละ ไร่น้ำรินจะได้มีสมาชิกใหม่ซักที ภุมรินจะได้เลิกบ่นให้เขาซักที







พี่สะใภ้ของรินใช่ถังไวน์ที่ไหนกัน แต่เป็นสิตางศุ์คนนี้ต่างหาก











*******************************************************************************








มาต่อแล้ว วันนี้มาช้าไปมาก แหะๆ มีธุระนิดหน่อยค่ะ  :m17: ตอนนี้ไม่ได้ตรวจดูอีกรอบนะคะ ข้อผิดพลาดอาจจะเยอะหน่อย  :try2: พี่รัชได้เมียซักที คนเขียนก็เหนื่อยแทนอิพี่รัชจะแย่  :เฮ้อ: เรื่องในใกล้จบแล้วนะคะ ไม่เกินสามตอน รู้สึกใจหายเล็กน้อยเหมือนกัน แต่ก็ยังมีเรื่องสุดท้ายของนิยายชุดนี้ให้ติดตามค่ะ ไม่ต้องห่วง พี่รัชกับสิตางศุ์โผล่ไปในเรื่องหน้าแน่นอน  :z2: ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :m1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 23-03-2016 23:15:38
ในที่สุด... สมหวังซะที
พี่รัชจะมีเมียแล้ว และเมียก็ไม่ใช่ถังไวน์ เย้
  :katai2-1:

เจอของพี่รัชไป ตอนพี่ตะวันกับน้องรินนี่จิ๊บๆเลย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-03-2016 23:18:17
ในที่สุดก็มีวันนี้นะยินดีกับทั้งคู่ด้วย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-03-2016 23:20:21
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-03-2016 00:13:06
ดีนะที่คุณย่าของสิตางศุ์ไม่ควักปืนมาไล่ยิงขบวนขันหมากน่ะพี่รัช เรื่องเลยไม่ยุ่งยากเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-03-2016 00:29:53
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 24-03-2016 00:48:43
โอ้ยยยย เป็นการขอเมียที่กวนติงมากกก 555555 คอนเกรทนะพี่รัชน้องตาง 5555 เครดิตความสำเร็จยกให้คุณพ่อทั้งสองฝ่ายเลย ย่าณีก็แซ่บมาก ยอมม
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: MYTH_SUN ที่ 24-03-2016 05:35:23
 :a2:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 24-03-2016 07:40:12
คุณย่าดูน้อยใจนะ เอาใจคุณย่าหน่อย อิออ :hao3:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 24-03-2016 09:20:12
รัชพลคนอินดี้
ขอเมียทั้งทีเกรียนชิบ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่29 23/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-03-2016 09:41:32
เด็ดจริงบ้านนี้ 555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 24-03-2016 20:06:23
บทที่ 30





“คุณย่าโกรธพี่มากเลยรู้มั้ยพี่รัช” สิตางศุ์แอบขำขณะที่กำลังคุยกับรัชพลผ่านโทรศัพท์





กว่าบ้านจิระมนตรีจะกลับก็เลยเที่ยงไปมากโข คุณหญิงพิมลเองก็ยังไม่ยอมให้ใครเข้าพบ แม้กระทั่งอนันต์ลูกชายก็ตาม สิตางศุ์แอบรู้สึกผิด แต่ในใจก็ดีใจลึกๆ อย่างน้อยที่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ตัดสินใจอะไรเอง แต่คนที่ดูจะดีใจกว่าใครก็คงเป็นรัชพลที่กลับถึงบ้านปุ๊บก็โทรมาหาเขาเลย อะไรจะขนาดนั้นกันนะพี่รัช





“ถึงย่าของสิตางศุ์จะโกรธแต่เธอก็ทำอะไรพี่ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้สิตางศุ์เป็นของพี่แล้วนะ” รัชพลทำเสียงกรุ้มกริ่มผ่านเข้ามาจากปลายสาย





“เป็นของพี่อะไรกันเล่า ไม่ใช่ซักหน่อย” สิตางศุ์แย้ง นึกหมั่นไส้รัชพลเล็กน้อยที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา ทำไมเป็นคนแบบนี้กันนะ หัดคิดก่อนพูดบ้างก็ดีนะพี่รัช






“เดี๋ยวก็ใช่เองแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะกลับไร่น้ำรินแล้วนะตาง ทิ้งงานมานานแล้ว จะกลับกับพี่เลยมั้ย” รัชพลถาม เขาตั้งใจจะกลับพร้อมบุรินทร์พรุ่งนี้ เพราะงานที่ไร่น้ำรินก็ใช่ว่าจะน้อยๆ ใจจริงอยากพาสิตางศุ์กลับเลย แต่กลัวว่าอีกคนจะยังไม่สะดวก





“ยังก่อนครับ เดี๋ยวผมตามไปทีหลัง ที่นี่มีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะเลย พี่รัชกลับไปก่อนเลยครับ” สิตางศุ์ตั้งใจจะตามรัชพลกลับไปทีหลัง เพราะเรื่องที่บ้านเขายังจัดการไม่เสร็จเลย ทั้งคุณย่าและคุณพ่อ เขาต้องการปรับความเข้าใจกับทั้งสองให้เสร็จก่อน กับอนันต์นั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่กับคุณหญิงพิมลนี่สิ สิตางศุ์คิดหนัก





“รีบตามกลับมานะครับ ถ้าช้าจะบุกไปฉุดถึงบ้านเลย” รัชพลหัวเราะน้อยๆ สิตางศุ์ยู่หน้าให้ปลายสาย





“ลองมาสิครับ โดนคุณชัชคุณโชติยิงไส้แตกไม่รู้ด้วย หึๆ ผมขอคุยกับคุณย่าก่อนนะพี่รัช ท่านยังไม่โอเคเลย” สิตางศุ์ก้มหน้าลง เขาแคร์ความรู้สึกของคุณหญิงพิมล อย่างน้อยเธอก็เป็นคนเดียวที่สนใจเขาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเธอจะไม่ว่าง มีงานเยอะ แต่เธอก็ยังไม่ลืมว่าเขาคือหลานของเธอ สิตางศุ์ไม่อยากไปดื้อๆอย่างนี้





“พี่เชื่อว่าซักวันคุณย่าของตางจะต้องเข้าใจ” น้ำเสียงจากปลายสายนั้นทำให้สิตางศุ์ยิ้มอ่อน นึกดีใจที่มีรัชพลคอยเป็นกำลังใจอยู่อย่างนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าคิดที่จะทำอะไรตามใจตัวเองต้องการ อยากขอบคุณที่มีคนคนนี้อยู่ข้างๆในเวลานี้






“ขอบคุณนะครับพี่รัช”



















หลังจากวางสายของสิตางศุ์ไปรัชพลก็เอนตัวนอนแผ่ลงไปกับโซฟาตัวยาว ร่างสูงยิ้มกว้าง วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดวันหนึ่ง ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาสนใจคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวแบบนี้ แค่คิดถึงคนตัวเล็กรัชพลก็ยิ้มไม่หยุด รอยยิ้มของเขาเวลานี้มีไว้เพื่อสิตางศุ์





“ยิ้มแก้มจะแตกแล้วไอ้ลูกหมา” บุรินทร์พุ่งตัวมานั่งทับลูกชายที่นอนแผ่หลาอยู่สนรัชพลสะดุ้งโหยง





“มันเจ็บนะพ่อ นั่งทับมาได้” รัชพลโอดครวญแต่บุรินทร์ก็ยังไม่ยอมลุก เขาหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี





“ทำไมเป็นคนอย่างนี้นะรัช ตั้งแต่คราวก่อนแล้ว ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เราโตแล้วนะ” แอบว่าลูกชาย ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่บุรินทร์เองก็พอใจไม่น้อยที่ลูกชายกล้ามุทะลุแบบนี้จนคุณหญิงพิมลอะไรนั่นไปไม่ถูก อยากขอบคุณแม่ยายที่ยอมเล่นตามน้ำไปกับพวกเขาสองพ่อลูกด้วย ไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงยากกว่านี้แน่นอน





“ก็บ้านนั้นเค้าไม่ยอมซักทีนี่พ่อ” รัชพลพูด ในเมื่อไม่ยอมง่ายๆก็ต้องทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นชาตินี้ทั้งชาติเขาคงไม่ได้สิตางศุ์มาเป็นแฟนจริงๆหรอก





“ตอนพ่อมาขอแม่ยังไม่ขนาดนี้เลย ยายของเรานะโหดก็จริง แต่ยังไม่ดุเท่าย่าของสิตางศุ์เลย รัชน่ะเจองานหนักกว่าใครเพื่อน” บุรินทร์จับหัวรัชพลเขย่าไปมาอย่างอารมณ์ดี นั่นทำให้พ่อลูกชายหงุดหงิดไม่น้อย






“สงสัยคงเป็นเพราะไปห้ามรินมันมาก เลยเป็นอย่างนี้ไง” นึกถึงเรื่องของตะวันกับภุมรินทีไร รัชพลก็คิดเสมอว่าอาจจะเป็นเพราะเขาไปห้ามคู่นั้นมากไป พอมาเกิดเรื่องกับตัวเองแบบนี้ก็เลยหนักกว่า





เฮอะ... งานยากซะไม่มี






“รินแอบขำรัชอยู่แน่ๆ ไปเลย ไปเก็บของ พรุ่งนี้ไปแต่เช้า พ่อทิ้งงานมาตั้งสองสามวันเพราะเราเนี่ย” บุรินทร์ผลักหัวลูกชายเบาๆก็จะลุกขึ้น






เขาแอบถอนหายใจ ไปๆมาๆกลายเป็นว่าตัวเขาเองไม่ได้คิดอะไรมากที่รัชพลจะมีสิตางศุ์เป็นคนรัก แค่เห็นลูกมีความสุขพ่อคนนี้ก็ดีใจแล้ว อย่างที่ริลณีเคยบอกเขา ว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่กับลูกไปตลอด คนที่ลูกเลือกต่างหากที่จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต




















“คุณย่ายอมคุยรึยังครับ” สิตางศุ์ถามบิดาในมื้อค่ำวันนี้ คุณหญิงพิมลเธอประสงค์ที่จะกินข้าวในห้องไม่ลงมาร่วมโต๊ะกับสองพ่อลูก นั่นทำให้สิตางศุ์รู้ว่าเธอยังโกรธอยู่ไม่น้อย





“ยังเลยลูก ท่านคงโกรธที่พ่อทำอะไรไม่ไว้หน้า คุณย่าเองก็ต้องเจอกับความผิดหวังเสียบ้าง ว่าจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการไปเสียหมด แต่คราวนี้คงโกรธนานหน่อย” อนันต์พูด





เขารู้ว่ายังไงแล้วเสียมารดาก็ต้องโกรธเขาอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้สิตางศุ์คงไม่ได้คบกับรัชพลต่อแน่ เขาเข้าใจมารดาเรื่องที่ต้องการให้สิตางศุ์สืบทอดกิจการต่อ เพราะศิรินทราเองก็ต้องเดินหน้าต่อไป เธอเองก็มีลูกชายคนเดียว เขาเองก็มีแค่สิตางศุ์ หากให้สิตางศุ์คบกับรัชพลใครจะอยู่สืบทอดกิจการต่อล่ะ แล้วรุ่นต่อๆไปอีกด้วย






แต่เขาเองก็อยากให้สิตางศุ์ได้เลือกชีวิตเองบ้าง เพราะสิตางศุ์ของเขาถูกบังคับให้เดินในทางที่มารดาของเขาเป็นคนขีดไว้ เขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชะตากรรมแบบเขา





“เดี๋ยวผมคุยเองครับพ่อ” สิตางศุ์อาสา เขาอยากจะเปิดใจกับคุณหญิงพิมลแบบจริงจังซักที เขาอาจจะเป็นหลานที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่เขาเองก็รักเธอไม่น้อยเหมือนกัน





ก่อนเข้านอนสิตางศุ์เอานมอุ่นๆขึ้นไปให้คุณหญิงพิมลข้างบนห้อง เขารู้เวลานอนของเธอดี เพราะเธอจะยังไม่นอนหากงานยังไม่เรียบร้อยแม้ว่าจะดึกแค่ไหนก็ตาม





สิตางศุ์เคาะประตูซักพักนายใหญ่ของบ้านศิรินทราก็ออกมาเปิด คุณหญิงพิมลในชุดนอนเบือนหน้าหนีเมื่อรู้ว่าคนที่มานั้นเป็นหลานชายคนเดียวของเธอ สิตางศุ์เดินตามเจ้าของห้องเข้าไปแล้ววางแก้วนมลงบนโต๊ะที่หัวเตียงก่อนจะสวมกอดร่างเล็กของคุณหญิงพิมลจากด้านหลัง






เขาใช้คางเกยไหล่ของเธอไว้ ไม่บ่อยนักที่สิตางศุ์จะทำแบบนี้ ถึงแม้ย่าจะเลี้ยงเขามา แต่ก็ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่จะออดอ้อนได้ทุกเวลา





“คุณย่าครับ อย่าโกรธเลยนะครับ” หากเป็นเมื่อก่อนสิตางศุ์คงเคอะเขินไม่น้อยที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้เขารู้ว่าการกอดคนในครอบครัวนั้นทำไม่ยาก เพียงแค่เราลดทิฐิที่มีต่อกัน






“ยังเห็นว่าฉันเป็นย่าอีกเหรอ เห็นคนอื่นดีกว่าฉันขนาดนั้น” คุณหญิงพิมลทำเสียงตัดพ้อ เธอโกรธลูกและหลานของเธอมากที่ทำอะไรโดยไม่สนใจคำคัดค้านของเธอ อนันต์และสิตางศุ์ไม่เคยหักหน้าเธออย่างนี้





“คุณย่าครับ ผมไม่เห็นใครดีไปกว่าใครหรอกนะครับ พี่รัชก็คือพี่รัช คุณย่าก็คือคุณย่าของผม” สิตางศุ์ผละออกจากร่างนั้นแล้วเดินมาข้างหน้า คุณหญิงพิมลมองหน้าหลานชายอย่างตำหนิ เธอยังเคืองสิตางศุ์ไม่หาย รวมทั้งคนพวกนั้นด้วย ทำไมทุกคนต้องเห็นดีเห็นงามไปหมด





“แต่สิตางศุ์เลือกนายรัชพลมากกว่าย่า” เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจ





“ผมไม่ได้เลือกพี่รัชหรือคุณย่า ผมเลือกในสิ่งที่ใจตัวเองต้องการต่างหากล่ะครับ ผมรู้ว่าคุณย่าต้องการให้ผมรับช่วงต่อจากคุณพ่อ แต่คุณย่าก็รู้ว่าผมทำไม่ได้ ผมไม่ได้รักในสิ่งที่คุณย่าต้องการจะมอบให้ ผมอยากมีอิสระ ผมอยากใช้ชีวิตในแบบที่ผมอยากเป็น ผมอยากให้คุณย่าเข้าใจ” สิตางศุ์อธิบาย






“แต่สิงที่สิตางศุ์เลือกนั้นมันไม่ถูกต้อง”






“อะไรคือความถูกต้องเหรอครับ ผมไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ผมเลือกนั้นมันถูกต้องรึเปล่า ผมแค่เลือกในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข บางทีคนเราไม่ต้องทำตามระเบียบแบบแผนของโลกใบนี้ไปเสียทุกอย่างหรอกนะครับ เราควรเลือกในสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากกว่า คุณย่าเองก็ควรจะปล่อยวางบ้างได้แล้ว ลองหาความสุขให้ตัวเองบ้างนะครับ” คำพูดนั้นทำให้คุณหญิงพิมลต้องหันมามองสิตางศุ์ เธอกำลังถูกสอนจากคนเป็นหลาน แต่มันก็ทำให้เธอนิ่งไปไม่น้อย





ความสุข ความสุขที่แม้จริงของเธอนั้นในชีวิตนี้เธอเองก็ยังไม่รู้เลย เธอรู้แค่ว่าเธอต้องเป็นคนที่เด่นดัง เป็นคนมีอำนาจ และเป็นคนที่ทุกคนนับหน้าถือตา เพียงเท่านั้น นั่นอาจจะเป็นความสุขของเธอ






แต่เธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นความสุขทางกายหรือทางใจกันแน่ และเธอก็ใช้สิ่งเหล่านั้น สิ่งที่เชื่อว่าความสุขปูทางให้ลูกและหลานของ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความสุขในแบบของเธอ






“แต่เล็กจนโตสิตางศุ์คนนี้ไม่เคยคิดที่จะขัดใจคุณย่าเพราะผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณย่าเลือกให้ผม แต่เมื่อมาทบทวนดูอีกทีแล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลยสักนิด การที่ผมไปอยู่ไร่น้ำรินผมได้เจออะไรมากมาย ผมเจอครอบครัวที่อบอุ่น ผมเจอความรักของเพื่อนและผู้คนมากมายที่จริงใจต่อกัน ซึ่งที่นี่ไม่มี ทุกคนที่เข้าเราก็เพื่อผลประโยชนทั้งนั้น เรื่องนี้คุณย่ารู้ดี ให้ผมได้ทำในสิ่งตัวเองต้องการเถอะนะครับคุณย่า” สิตางศุ์ร้องขอ






คุณหญิงพิมลหันหน้าหนีอีกรอบ เธอไม่ตอบสิตางศุ์ เธออาจจะกำลังคิดทบทวนอยู่ก็เป็นได้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นี้มันดีจริงๆหรือเปล่า ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ เธอสัมผัสความสุขจริงๆกี่ครั้งกันแน่ และเธอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือยัง เธออยากรั้งสิตางศุ์ไว้ แต่เธอก็เริ่มอยากที่จะให้สิตางศุ์ลองค้นหาความหมายของคำว่าความสุขจริงๆ ความสุขที่เธออาจจะไม่เคยสัมผัส






“ผมไม่รู้ว่าคุณย่าจะอนุญาตมั้ย แต่ตอนนี้ผมเลือกเส้นทางนี้แล้ว ผมหวังเพียงแค่ว่าวันหนึ่งคุณย่าจะเข้าใจผมนะครับ” เมื่อรู้ว่าไม่ได้คำตอบจากอีกคนแน่แล้วสิตางศุ์จึงตัดจบประเด็นนี้ไป ย่าของเขาอาจจะไม่เข้าใจในเร็วๆนี้ แต่เขาเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งคุณหญิงพิมลจะเข้าใจเขา






คุณหญิงพิมลได้แต่มองตามแผ่นหลังของสิตางศุ์ที่เดินออกไป น้ำตาเธอไหลโดยที่ไม่รู้ตัว






นกน้อยในกรงทองของเธอตอนนี้กำลังจะโบยบินไปไกลแสนไกล สิตางศุ์หลานชายที่เธอเลี้ยงมาแต่เกิดกำลังจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เธอยังสับสน แต่เธอไม่อาจรั้งไม่ให้นกตัวนี้บินได้ เพราะซักวันนกน้อยตัวนี้ก็ต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้าง โลกที่เธอเองก็ไม่เคยได้บินไป






“ฉันทำผิดอะไร” เธอได้แต่ตัดพ้อตัวเองอยู่อย่างนั้นแล้วล้มตัวลงปล่อยโฮกับตัวเอง






เธอผิดมากหรืออย่างไรที่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสิตางศุ์...



















เช้าอันสดในกลางฤดูหนาว อากาศของดินแดนเหนือสุดของประเทศไทยอุณหภูมิลดลงต่ำเกือบติดลบ สิตางศุ์กระชับเสื้อคุมตัวหนาของตัวเองเข้าแน่นแล้วเดินทอดยาวไปตามเส้นทางที่แสนจะคุ้นเคย






รถสองแถวมาส่งเขาที่หน้าไร่น้ำริน แม้ว่าจะเป็นทางขึ้นเขาสูงไม่มีคนเข้ามาบ่อยนักแต่คนขับรถก็ยินดีที่จะมาส่งเขาด้วยค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม






ทางจากหน้าไร่ไปถึงตัวบ้านรักษ์นทีนั้นไกลกว่าสองกิโลเมตร สิตางศุ์มาที่นี่โดยที่ไม่ได้บอกใครล่วงหน้า เพราะต้องการทำให้รัชพลแปลกใจ แต่เขาเองก็ลืมไปเสียสนิทว่าระยะทางที่ต้องเดินเข้าไร่นั้นไกลพอสมควร






เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างเล็กก็ล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมตัวหนาแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา






“แบตหมดเหรอ” สิตางศุ์ขมวดคิ้วแน่น แบตหมดอย่างนั้นเหรอ.. เอายังไงล่ะทีนี้ ติดต่อคนในไร่ไม่ได้ แล้วอย่างนี้เขาต้องเดินเข้าไปอย่างนั้นเหรอ มันไกลไม่น้อยเลยทีเดียว






สิตางศุ์ถอนหายใจให้กับความสะเพร่าของตัวเองก่อนจะเดินไปพิงป้ายทางเข้าไร่น้ำรินอย่างเซ็งๆ ยืนรอสักหน่อยคงไม่เป็นไร อีกซักพักคงมีคนออกมา เพราะภุมรินนั้นไปส่งองุ่นทุกเช้า อย่างน้อยให้ภุมรินตอดต่อรัชพลให้มารับก็ยังดี






ร่างบางนั่งลงพิงกับกระเป๋าเดินทางใบเดิมที่ใช้มาคราวที่แล้ว เมื่อมองไปบริเวณรอบๆก็ไม่เห็นอะไรแม้แต่น้อย ด้วยหมอกที่ลงจัดทำให้ทัศนียภาพถูกบดบัง ที่กรุงเทพฯนั้นไม่เคยมีหมอกหนาๆอย่างนี้ ทำให้เขารู้สึกแปลกตาไม่น้อย






อากาศเย็นจัดในฤดูหนาวของภาคเหนือทำให้สิตางศุ์จามไม่หยุด จมูกเขาเริ่มแดงเพราะแพ้อากาศ สิตางศุ์เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่เพียงแค่แพ้อากาศร้อนจัด แต่ยังแพ้อากาศหนาวอีกด้วย






มือทั้งสองข้างนั้นถูไปมาเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย เสื้อคลุมตัวใหญ่แทบจะเอาไม่อยู่ เมื่อไหร่จะมีคนออกมาเสียที ขืนรออยู่ตรงนี้สิตางศุ์คงได้แข็งตายก่อนแน่ๆ





“เฮ้ย! นั่นใครน่ะ” เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังพร้อมแสงไฟหน้ารถที่ทะลุผ่านหมกหนานั้นมาไม่ได้มาก สิตางศุ์จำเสียงนั้นได้ แม้ไม่เห็นตัวคนพูดแต่ก็รู้ว่านั่นคือรัชพล






ร่างเล็กอมยิ้ม รู้สึกราวกับว่าเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกันมันถูกฉายวนซ้ำมาอีกครา








********************************************************************************







ตอนหน้าจบแล้ว จบเร็วไปมั้ยยยยยยย แต่จบช้ากว่าเรื่องแรก ตอนนี้เป็นตอนที่พยายามหาจุดจบสุดท้ายของย่าสิตางศุ์มาก คือจะให้คุณหญิงพิมลเข้าใจสิตางศุ์ง่ายๆมันก็ไม่ใช่ เลยก้ำกึ่งไว้แบบนี้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยอมเปิดใจแล้ว ส่วนพี่รัชกับสิตางศุ์ของเรานั้นก็คงจะแฮปปี้กันแล้วล่ะค่ะ น้องแอบมาแบบเงียบๆ ฮี่ๆ อากาศหนาวๆของภาคเหนือมันดีมากจริงๆนะคะ อยากให้คนอ่านได้ไปสัมผัสเยอะๆ แต่... ตอนนี้ประเทศไทยมีแค่หน้าร้อนและร้อนจัดเท่านั้น วะฮ่าๆ อย่าถามว่าคนแต่งเป็นคนที่ไหน คนแต่งเป็นคนทุกที่ รู้แค่เพียงว่าตอนนี้อาศัยอยู่ในโซนร้อนที่สุดของประเทศค่ะ ทำไมวันนี้คุยยาว ไม่รู้เหมือนกัน ช่องทางการติดต่อนั้นนอกจากแฟนเพจแล้วมาพูดคุยกันได้ในทวิตเตอร์นะคะ เผื่อใครเล่น ชื่อแอคเดียวกับในเล้าเลย แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมเพิ่งมาพูด โอ้ยยยยย วันนี้คนเขียนเพ้อเจ้ออะไรไม่รู้ เอาเป็นว่าฝากติดตามตอนหน้าด้วยนะคะ ตอนจบแล้ว และจะมีตอนพิเศษให้ด้วย รักคนอ่านทุกท่านค่ะ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 24-03-2016 20:25:05
เดจาวู 55555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 24-03-2016 20:30:59
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-03-2016 20:42:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-03-2016 21:22:42
อ่านสามตอนรวด!พี่รัชจะมีเมียแล้ว~
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 24-03-2016 21:25:09
คุ้นๆนะเหตุการณ์นี้  :o9:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนที่30 24/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-03-2016 21:32:17
แอบเสียดายอ่ะจบแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 25-03-2016 20:25:40
อวสาน






“เฮ้ย! นั่นใครน่ะ” รัชพลตะโกนเมื่อพบเงาตะคุ่มๆอยู่หน้าไร่




วันนี้เขาไปส่งองุ่นแทนภุมรินที่มีไข้อ่อนๆเพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ออกมาเช้ากว่าปกติเพราะตอนสายๆเขาเองก็มีงานที่จะต้องทำเช่นกัน





ร่างสูงกระชับปืนในมือแน่นเพราะไม่มั่นใจ ไม่มีใครมายืนอยู่ที่นี่เช้าๆแบบนี้หรอก แล้วยังหมอกหนาขนาดนี้ด้วย คนปกติที่ไหนจะมายืนหนาวอยู่อย่างนี้ เขากลัวว่าจะมีใครคิดปองร้ายกับไร่น้ำรินอีก แค่ครั้งเสี่ยทรงยศก็พากันเกือบตายหลายรอบแล้ว





“ถามว่าใคร” ร่างนั้นยังไม่ตอบกลับมา รัชพลจึงเดินเข้าไปใกล้แต่ก็พบเพียงแค่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางใบหนึ่งเท่านั้น





รัชพลยืนงงอยู่ไม่นานก็มีแขนเล็กสอดเข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับซบลงที่แผ่นหลังของเขา กลิ่นที่คุ้นเคยนั้นลอยมาแตะจมูก เพียงเท่านั้นรัชพลก็ลดปืนในมือลงก่อนจะยิ้มกว้าง





“สิตางศุ์” เรียกชื่อนั้นเบาๆ สิตางศุ์ผละออกก่อนจะเดินมาอยู่ข้างหน้าแล้วยิ้มให้กับคนรัก





“สวัสดีครับพี่รัช คิดถึงจังเลย” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่สิตางศุ์พูดคำหวานๆนี้เป็นปกติไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะอีกคนกระมัง





“มาทำไมไม่บอกห๊า มายืนรอแบบนี้หมอกมันเยอะรู้มั้ย เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก จมูกแดงไปหมดแล้วเห็นมั้ย ทำไมไม่โทรมา พี่จะได้มารับ” รัชพลเก็บปืนก่อนจะยื่นมือมากระชับหมวกไหมพรมของสิตางศุ์ให้คลุมลงมาอีกนิด เขาดึงผ้าพันคอของตัวเองออกแล้วพันไปรอบๆกและจมูกที่แดงก่ำของสิตางศุ์





“ก็อยากมาเซอร์ไพรซ์ไง แบตมันหมดเลยโทรไม่ได้ ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้” สิตางศุ์พูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ผ่านผ้าพันคอไหมพรมสีเขียวมะนาวนั้น





“รีบขึ้นรถไปเลย ก่อนอื่นมากอดหน่อยซิ พี่รัชคิดถึงสิตางศุ์ที่สุดเลยครับ” รัชพลรวบร่างเล็กว่าเข้ามากอดแน่น เขาดันหัวสิตางศุ์ให้ซุกลงไปในอก






เกือบอาทิตย์ที่ไม่เจอกันรัชพลทำได้เพียงแค่โทรไปหาอีกคนเท่านั้น เขาคิดถึงสิตางศุ์ในแทบจะขาดอยู่แล้ว คนตัวเล็กบอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมาที่นี่ ไม่คิดว่าวันนี้จะโผล่มาให้เขาแปลกใจ มันน่านัก





รัชพลพาสิตางศุ์ไปนั่งในรถแล้วยกกระเป๋าของคนรักตามไป วันนี้เขาอาสาจะไปส่งเอง นพเลยได้หยุดงานในส่วนนี้ เพราะฉะนั้นในรถของไร่น้ำรินจึงมีเพียงแค่เขากับแขกผู้มาใหม่ที่พ่วงตำแหน่งคนรักของเขาแค่สองคน





“พี่มีผ้าคลุมอยู่ เอาคลุมไว้อีกชั้นก็ได้” รัชพลยื่นผ่านคลุมผืนหนาให้สิตางศุ์ ก่อนจะขับรถแล่นออกจากไร่น้ำรินไป






สิตางศุ์แอบเซ็งตรงที่เขาน่าจะรอรัชพลอยู่ในตัวเมือง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ไปๆกลับๆแบบนี้ แต่ก็ดีตรงนี้ได้อยู่กับรัชพลสองคนนานๆแบบนี้





หลังจากส่งองุ่นเสร็จทั้งสองคนก็กลับมายังบ้านรักษ์นที ภุมรินรีบเข้ามาสวมกอดรุ่นพี่หลังจากรู้ว่าสิตางศุ์มาแล้ว คนป่วยหน้าแดง สิตางศุ์ก็หน้าแดง เพราะอากาศอันหนาวจัดนี้เอง ปีนี้เหมือนจะหนาวกว่าทุกครั้ง แม้แต่คนแข็งแรงอย่างรัชพลยังทนแทบจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ





“ตะวันบอกว่าบ่ายๆจะมาหา” รัชพลบอกน้องชาย ตะวันเป็นห่วงภุมรินไม่น้อยแต่เขาเองก็มีงานที่จะต้องทำ ปลีกตัวมาหาภุมรินนั้นยากเหลือเกิน





“พี่ตะวันเพิ่งโทรมาเมื่อกี้เอง ว่าแต่พี่สิตางศุ์เถอะ กินข้าวมารึยัง เดี๋ยวให้ป้าจันจัดให้” ภุมรินถามสิตางศุ์





“ยังเลย ก็ดีเหมือนกัน พี่เริ่มหิวแล้ว” สิตางศุ์ไม่ปฏิเสธ เขายังไม่ได้ทานข้าวเช้ามาเลย รีบมาจัดกว่าจะถึงก็ซักจะหิวขึ้นมาเสียแล้ว






“งั้นไปกินข้าวกัน” ภุมรินดูจะเป็นคนที่ดีใจที่สุดที่สิตางศุ์มา รัชพลมองน้องชายอย่างเอือมๆ นั่นแฟนของเขานะ ทำไมภุมรินยึดไปเป็นของตัวเองแบบนั้น





รัชพลเดินเอากระเป๋าของสิตางศุ์ไปไว้ชั้นบน คราวนี้กระเป๋าเดินทางของสิตางศุ์ถูกนำไปไว้ที่ห้องของเขาแทนที่จะเป็นห้องที่สิตางศุ์เคยนอนเมื่อครั้งที่แล้ว





เขาแอบยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อคิดว่าตัวเองจะมีสิตางศุ์ให้นอนกอดทุกคืน กว่าจะได้คนรักคนนี้มาครอบครองรัชพลต้องเจอด่านหินแค่ไหนใครๆก็รู้ แต่นั่นมันก็ทำให้เขารักสิตางศุ์มากขึ้น เพราะมันทำให้เขารู้ว่าสิตางศุ์เองก็ต้องการเขาไม่น้อยไปกว่ากัน





เมื่อเก็บของเสร็จรัชพลก็เดินลงไปชั้นล่าง พบสิตางศุ์กับภุมรินกำลังหัวเราะอย่างเริงร่า อากาศในบ้านไม่เย็นเท่าข้างนอกนั่นทำให้สิตางศุ์ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าคลุมและผ้าพันคออีกแล้ว ร่างสูงเดินไปนั่งข้างๆของสิตางศุ์แล้วเผลอยื่นมือไปจับจมูกแดงๆนั้น สัมผัสได้ถึงความเย็นกว่าปกติของมัน





“อย่าบอกว่าแพ้อากาศอีกนะ” รัชพลถามขณะที่สิตางศุ์กำลังเคี้ยวข้าวอย่างเอร็ดอร่อย






“อื้อ...” สิตางศุ์ตอบเพียงเท่านั้นแล้วลงมือทานต่อ มื้อเช้าในวันนี้เป็นมื้อเช้าที่สิตางศุ์รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากครอบครัวและคนรัก แม้ว่าอากาศภายนอกจะลดต่ำมากแค่ไหนก็ตาม





สิตางศุ์ดีใจที่ตัวเองคิดถูก คิดถูกที่เลือกกลับมาที่นี่






หลังจากกลับมาอยู่ไร่น้ำรินได้เพียงแค่วันเดียวสิตางศุ์ก็เข้าทำงานในตำแหน่งเดิมนั่นก็คือเลขาฯของรัชพลและพนักงานบัญชีที่คอยตรวจสอบรายรับรายจ่ายต่างๆ พ่วงด้วยตำแหน่งคนรักของรัชพลเข้าไปอีกหนึ่งตำแหน่ง






เรื่องนี้คนทั้งไร่รู้หมดแล้ว นั่นทำให้ทุกคนดูจะเกรงใจสิตางศุ์เพิ่มมากขึ้น รัชพลเอาโต๊ะทำงานมาให้สิตางศุ์ที่โรงบ่มอีกตัวหนึ่ง เขาไม่อยากให้สิตางศุ์ไปทำงานไกลเขา อยากให้คนรักอยู่ข้างๆตลอดเวลา






หมอชาญแวะเวียนมาหาหลังจากรู้ข่าวเรื่องที่เขากลับมาแล้ว รัชพลมีท่าทีที่ดีขึ้น ไม่คิดไปไกลเหมือนเมื่อก่อน และไม่หึงหวงสะเปะสะปะ นั่นทำให้สิตางศุ์พอใจกับพฤติกรรมของคนรักไม่น้อย






เย็นวันนี้ภุมรินตั้งใจจะเลี้ยงต้อนรับสิตางศุ์โดยชวนตะวันมาร่วมด้วย บุรินทร์ติดงานอยู่ในตัวเมืองตั้งใจจะกลับพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นเย็นนี้จึงมีเพียงแค่สี่หนุ่มที่อยู่กันเพียงลำพัง






ป้าจันตั้งเตาให้ตั้งแต่หกโมงเย็น ของสดที่ซื้อมาจากตลาดถูกวางไว้บนแคร่ข้างกองไฟขนาดไม่ใหญ่มากภายใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน อากาศเริ่มเย็นลงเมื่อเช้าสู่ช่วงโพล้เพล้แบบนี้





“มาผิงไฟตรงนี้สิริน เริ่มหนาวแล้ว” ตะวันรวบเอาตัวของภุมรินมานั่งข้างๆให้ชิดกันมายิ่งขึ้น เตาปิ้งย่างตั้งอยู่ตรงหน้า อีกฝั่งเป็นรัชพลกับสิตางศุ์ที่กำลังช่วยกันเอากุ้งไปย่างบนเตาไฟ





“วันนี้หนาวน้อยกว่าเมื่อวานอีกนะเนี่ย” รัชพลพูดพร้อมกับพลิกกุ้งตัวโตไปมา





“แต่ก็ยังหนาวอยู่ดีนะครับ” ดูเหมือนว่าสิตางศุ์ไม่ชินกับอากาศแบบนี้ อากาศร้อนนั้นเขายังพอจะชินอยู่บ้างเพราะที่บ้านของก็ไม่ต่างกัน แต่อากาศหนาวนี่สิ นานๆทีจะได้สัมผัส





“อยู่ใกล้ๆพี่สิจะได้อุ่นๆ” รัชพลยิ้มกรุ้มกริ่มให้สิตางศุ์ สิตางศุ์เสมองไปที่กุ้งตรงหน้าแทนที่จะมองรัชพล






“ก็อยู่ใกล้นี่ไง” พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมาก รัชพลหัวเราะอย่างพอใจแล้วคว้าเอาสิตางศุ์เข้ามากอดแน่น






“น้ำจิ้มซีฟู๊ดหวานหมดแล้วพี่รัช” ภุมรินแอบแซว






“ก็ให้มันหวานไปสิ” รัชพลพูดยิ้มๆแล้วคีบเอาเนื้อที่สุกแล้วเข้าปาก






แม้ว่าบรรยากาศจะหนาวเย็นไปเสียหน่อยแต่กองไฟและผ้าคลุมผืนหนาก็ยังช่วยบรรเทาได้ รวมไปถึงการได้กอดคนที่เรารักอย่างแนบแน่น อากาศเย็นๆนั้นก็แทบจะไม่มีผลอะไร






ทั้งสี่คนพูดคุยกันจนเกือบจะสามทุ่ม วันนี้ตะวันนอนที่นี่อีกตามเคย ป้าจันให้เด็กคนอื่นๆมาช่วยกันเก็บของ รัชพลกับตะวันเองก็ช่วยเก็บเตา สิตางศุ์ช่วยเก็บของเล็กๆน้อยๆ  ส่วนภุมรินนั้นขอตัวไปอาบน้ำก่อนใครเพื่อน





“เดี๋ยวกูขึ้นไปก่อนนะ รินอาบน้ำเสร็จแล้วมั้ง” ตะวันบอกหลังจากช่วยเก็บของเสร็จ






“เออ อย่าพากันนอนเร็วล่ะ เดี๋ยวน้องกูไข้กลับอีก” รัชพลพูดกับตะวันก่อนที่ร่างสูงของตะวันจะพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าบ้านไป






หลังจากตะวันเข้าบ้านไปแล้วรัชพลก็หันมาหาสิตางศุ์ที่กำลังล้างมือลากขวดน้ำอยู่ สิตางศุ์แอบสะดุ้งเล็กน้อยเพราะน้ำมันเย็นมาก รัชพลขำแล้วยื่นผ้าเช็ดมือให้





“ขอบคุณครับ” สิตางศุ์รับมาแล้วใช้เช็ดมือตัวเอง






“อย่าเพิ่งเข้าบ้านมั้ย ไปกับพี่ก่อน” รัชพลยิ้มกว้าง สิตางศุ์มองหน้าคนรักอย่างงงๆ ดึกดื่นป่านนี้แล้วจะไปไหน แล้วยังหนาวขนาดนี้อีก






“ไปไหนพี่รัช” อะไรของเค้ากันนะ





“ไปเถอะน่า เดี๋ยวตางก็รู้เอง” รัชพลคว้าเอาหมวกไหมพรมมาสวมให้สิตางศุ์รวมทั้งผ้าคลุมเอามาคลุมไหล่ให้แล้วกระชับแน่นปิดไปทั้งส่วนบนของสิตางศุ์






มือหนานั้นจับมือสิตางศุ์แน่นแล้วพาเดินออกมาจากตัวบ้าน เดินออกมาไม่ไกลนัก รัชพลพาสิตางศุ์ไปยังบริเวณกว้างที่เยื้องๆกับโรงบ่ม บริเวณตรงนี้เป็นลานกว้างซึ่งเป็นส่วนที่ใช้สำหรับคักแยกองุ่นส่วนแรก มันเป็นพื้นที่โล่งไม่มีแสงไฟ มีเพียงแค่แสงจากไฟฉายของรัชพลเท่านั้น






“คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด แล้วหมอกก็ลงน้อยด้วย พี่เลยพาตางมาดูทางช้างเผือก” รัชพลบอกแล้วเงยหน้ามองบนฟ้า






สิตางศุ์แหงนหน้ามองตาม ตอนนี้ผืนฟ้าสีดำแต่งแต้มไปด้วยดวงดาวดารดาษจนแทบจะไม่มีพื้นที่ว่าง ทางช้างเผือกพาดผ่าน มันมองเห็นได้อย่างชัดเจน อาจเป็นเพราะไร่น้ำรินอยู่บนเขาสูงและบริเวณนี้มืดสนิท สิตางศุ์ยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นทางช้างเผือกชัดๆกับตาตัวเองแบบนี้






“สวยจังเลยพี่รัช”






สิตางศุ์ชอบดวงดาว สิตางศุ์ชอบพระจันทร์และสิตางศุ์ชอบท้องฟ้า ทุกครั้งที่มองมันสิตางศุ์ทำให้คิดถึงความอิสระ บางครั้งเขายังแอบอิจฉานกที่ได้โบยบินไปในโลกกว้าง ได้มองโลกนี้จากบนฟ้าทุกวัน ทุกเวลา ซึ่งสิตางศุ์ทำไม่ได้






“พี่รู้นะว่าสิตางศุ์ชอบดูดาว” รัชพลรวบมือทั้งสองข้างของสิตางศุ์มากุมแล้ว สิตางศุ์เลื่อนสายตาจากท้องฟ้ามามองคนตรงหน้าแทน






“ที่บ้านของผมไม่มีแบบนี้” แสงไฟมันกลบแสงดาวไปเสียหมด บ้านของเขาไม่เห็นดาวชัดขนาดนี้






“นี่ก็บ้านสิตางศุ์” รัชพลยิ้มให้คนรัก







“พูดอะไรน่ะพี่รัช “สิตางศุ์ยิ้มกว้าง บ้านของเขาอย่างนั้นเหรอ





“ก็พูดตามความจริงไง ต่อจากนี้สิตางศุ์ก็ต้องมาอยู่ที่นี่ มาอยู่กับพี่ สิตางศุ์เป็นคนในครอบครัวของเขา เป็นคนรักของพี่ เป็นพี่ของริน เป็นครอบครัว เป็นคนของไร่น้ำริน แม้ที่นี่จะไม่น่าอยู่และหรูหราเท่าบ้านของสิตางศุ์ แต่ที่นี่มีความอบอุ่นให้สิตางศุ์เสมอนะ”







เขาจับมือของสิตางศุ์แน่น รัชพลอยากจะบอกสิตางศุ์อย่างนี้มานานแล้ว เขาอยากให้สิตางศุ์รู้ว่าทุกคนที่นี่ไม่มีใครทิ้งสิตางศุ์ ทุกคนรักและต้องการสิตางศุ์ สิตางศุ์คือคนสำคัญ ไม่ได้ถูกเมินเฉยอย่างที่ผ่านมา







สิตางศุ์พูดไม่ออก น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันไม่ใช่เพราะเขากำลังทุกข์ใจ แต่มันเป็นเพราะเขากำลังตื้นตัน สิตางศุ์เพิ่งได้รู้ว่าการมีอยู่ของตัวเองเพื่อใครอีกคนนั้นมันรู้สึกดีแค่ไหน รัชพลทำให้เขามีค่าขึ้นมา






“ดาวมันจะสวยและมองเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในมุมมืด ไม่ต่างกับพระจันทร์ดวงนี้ของพี่ สิตางศุ์อาจจะคิดว่าไม่มีใครมองเห็นสิตางศุ์ แต่พี่มองเห็นและพี่ก็อยากจะขโมยพระจันทร์ดวงนี้มาไว้เป็นของพี่แค่คนเดียว” รัชพลนึกขำ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาพูดอะไรเสี่ยวๆแบบนี้ บางทีเขาก็คิดว่าเขาอาจจะติดนิสัยนี้มาจากตะวัน






สิตางศุ์ยกมือขึ้นปิดหน้าเมื่อน้ำตามันไหลซะจนเขาควบคุมมันไม่อยู่ รัชพลมองเห็นเขา ทั้งๆที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีใครรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน ทุกคนเมินเฉย ทุกคนไม่สนใจตัวตนของเขาจริงๆ รัชพลคนนี้ทำให้แสงในตัวของพระจันทร์มันฉายเด่นชัดขึ้นมา






“พี่รัช... ขอบคุณ” ไม่มีคำพูดใดที่จะมากไปกว่าคำว่าขอบคุณ






สิตางศุ์โผเข้ากอดรัชพลแน่น เขาซบลงกับไหล่หนา รัชพลฝังจมูกลงกับไหล่บางนั้น กอดสิตางศุ์ไว้แน่น แน่นเสียจนอากาศที่หนาวเย็นมันไม่สามารถทำให้ความอบอุ่นในใจของเขาลดลงได้






“พี่รักสิตางศุ์นะครับ พี่จะบอกอย่างนี้ไปตลอด บอกว่ารัชพลคนนี้รักสิตางศุ์มากแค่ไหน”






ไม่มีครั้งไหนที่รัชพลรู้สึกว่าหัวใจของเขาสูบฉีดแรงเท่าครั้งนี้มาก่อน หัวใจของเขาตอนนี้กำลังสั่นระรัว สั่นเพราะสิตางศุ์คนนี้ คนที่เข้ามาในหัวใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่รัชพลไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะรับใครอีกคนเข้ามานอกจากคนในครอบครัว






เขาเพียงแค่อยากเห็นรอยยิ้มจากคนตัวเล็กนี้ สิตางศุ์ของเขายิ้มแล้วเหมาะกว่าใบหน้าที่อมทุกข์นั้น เขาอยากปกป้องรอยยิ้มของสิตางศุ์ให้นานที่สุด





“ผมก็รักพี่รัช สิตางศุ์คนนี้รักรัชพล ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ ขอบคุณ...”






สิตางศุ์ซับน้ำตาไปกับเสื้อตัวหนาของรัชพล แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เขาไม่ขออะไรมากไปกว่าการที่ใครซักคนเห็นค่าของเขา และรัชพลคือคนนั้น ความรักที่จริงใจควรเป็นสิ่งตอบแทนที่รัชพลควรได้รับมากที่สุด





รัชพลผละออกจากร่างของสิตางศุ์ที่ยังคงสั่นเทา ร่างสูงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แหวนเล็กๆสีเงินวงหนึ่งถูกชูขึ้นมา มันเป็นแหวนเกลี้ยงที่ไม่มีสลักลวดลายใดๆทั้งนั้น สิตางศุ์มองแหวนนั้นแล้วมองหน้ารัชพลด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าความหมายของมันคืออะไร





“ไม่รู้ว่ามันช้าหรือเร็วเกินไป แต่ที่รู้คือตอนนี้พี่พร้อมที่จะดูแลสิตางศุ์ไปตลอดแล้ว จะรังเกียจมั้ยถ้าพี่อยากจะบอกว่า แต่งงานกันนะครับ” รัชพลยิ้มแล้วส่งสายตาเว้าวอนไปให้สิตางศุ์ที่นิ่งอึ้ง





แหวนตรงหน้า คนตรงหน้า มันทำให้เขามึนงงไปหมด เขากำลังถูกขอแต่งงานจากผู้ชายคนนี้ จากรัชพล...






“ว่ายังไงครับสิตางศุ์ จะแต่งงานกับพี่มั้ย” รัชพลถามย้ำอีกครั้งเมื่ออีกคนยังไม่ให้คำตอบกลับมา สิตางศุ์น้ำตาไหลอีกรอบ เขากลั้นมันไม่ไหวอีกแล้ว





“คะ... ครับ” เขามีแรงเปล่งเสียงเพียงเท่านั้น เพราะมันตื้นตันจนพูดไม่ออก






“ขอบคุณนะสิตางศุ์” รัชพลยิ้มกว้างแล้วสวมแหวนเข้ากับนิ้วของสิตางศุ์แล้วรวบร่างนั้นมากอดอีกครั้ง






ขอบคุณ... ขอบคุณที่สิตางศุ์ยินดีรับความรักของเขาโดยที่ไม่ปฏิเสธ มันอาจจะเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับรัชพลที่วันหนึ่งมีใครซักคนเข้ามาอยู่ในหัวใจ แต่เมื่อสิตางศุ์ก้าวเข้ามาในชีวิตแล้ว เขาสัญญาว่าจะรักษาพระจันทร์ดวงนี้ไว้ให้ดีที่สุด






ใครอาจจะมองไม่เห็นพระจันทร์ที่กำลังอ่อนแรงดวงนี้ ทุกคนมองมันเพียงภาพความสวยงามบนฟ้า แต่เมื่อมันสะท้อนผืนน้ำมันบิดเบี้ยวไปตามเกลียวคลื่นที่สั่นไหวของผิวน้ำนั้น ต่อให้พระจันทร์จะสวยแค่ไหน แต่มันก็ต้องมีมุมสั่นไหว






เหมือนสิตางศุ์ของเขา แม้ว่าจะมีสิ่งที่ต้องการทุกอย่างอยู่รอบตัว แต่นั้นมันก็ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ที่สิตางศุ์ต้องการไม่ใช่การได้อยู่บนฟ้าเพื่อเป็นจันทร์ประดับ แต่สิตางศุ์คนนี้ต้องการเป็นเพียงพระจันทร์ในน้ำเพียงเท่านั้นและอัศวินคนนี้ก็อยากจะดูแลพระจันทร์ในน้ำตลอดไป






ดวงดาวต้องขอบคุณเขาที่วันนี้รัชพลขโมยพระจันทร์มาจากท้องฟ้า วันนี้เหล่าดาราจึงได้ฉายแสง





รัชพลรักสิตางศุ์





























จบบริบูรณ์







***********************************************************




ตอนจบลิเกเบอร์แรงมาก ฮ่าๆ จบแล้วอ่ะ โอ้ยยยยย ต้องคิดถึงเรื่องนี้มากแน่ๆ เพราะอยู่กับเรื่องนี้มาเดือนกว่าๆ และที่สำคัญมันจบเรื่องของไร่น้ำรินแล้ว เรื่องต่อไปจะเป็นไร่เพียงระพีแทน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราทนไม่ไหวจริงๆ ไม่ไหวกับการดองไว้ปิดเทอมทั้งๆที่มีงานเยอะ แต่เวลาว่างๆก็พยายามแต่งตุนไว้ พักหลังๆเริ่มแต่งวันละตอน ลงสดกันเลยทีเดียว





คู่ของพี่รัชนี้เราวางคาแรกเตอร์ตัวละครมาตั้งแต่คิดว่าจะทำซีรีย์เรื่องต่อ เรื่องนี้เกิดจากการที่คนอ่านในเรื่องภมรอ้อนตะวันถามถึงคู่ของพี่รัช เราคิดว่าน่าจะแยกออกมาเป็นอีกเรื่อง เลยได้เรื่องนี้มา ในบรรดาชื่อนิยายทั้งสามเรื่องนี้ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที ปฐพีเคล้าเมฆา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งชื่อยากที่สุด หาจุดร่วมกับเรื่องอื่นไม่ได้ ตอนตั้งชื่ออิพี่รัชก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเอาให้เข้ากับภุมรินก็พอ ชื่อของพี่รัชแปลว่าอัศวินค่ะ ส่วนสิตางศุ์แปลว่าพระจันทร์ ในเมื่อมันหาจุดร่วมไม่ได้ก็เอารักษ์นทีนี่แหละวะ เลยได้เรื่องพระจันทร์ล้อนทีออกมา






ถ้าหากเรื่องนี้มีข้อผิดพลาด เราพิมพ์ตก ข้อมูลคลาดเคลื่อนยังไงก็ขอโทษคนอ่านด้วยนะคะ เราจะพยายามพัฒนาฝีมือต่อไปเรื่อยๆค่ะ เราอยากขอบคุณทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ มาสนุกไปกับเรื่องราวความรักของรัชพลพ่อหนุ่มนักเรียนนอกที่ทำตัวบ้านๆเราเด็กเลี้ยงงัวมาก บางทีคนแต่งก็คิดว่าอิพี่รัชมันไม่ได้จบนอก ฮ่าๆ กับสิตางศุ์ที่มีปัญหาครอบครัวมากมาย เราเชื่อว่าอีกหลายครอบครัวเป็นแบบนี้ ความสุขที่แท้จริงของชีวิตคือความสุขทางใจ หวังว่าเรื่องนี้จะสร้างความสุขให้ทุกคนได้นะคะ เราไม่ได้หวังว่าจะให้ทุกคนจำตัวละครเล็กๆของเรานี้ เราขอเพียงแค่ว่าวันหนึ่งเมื่อพูดถึงพระจันทร์ล้อนทีคนอ่านเรื่องนี้จะยังไม่ลืมพี่รัชกับสิตางศุ์ ขอบคุณทุกคนค่ะ เราอยากจะบอกเหมือนทุกครั้งในแต่ละตอน เรารักคนอ่านทุกท่านค่ะ





ปล. เรื่องพี่ตะวันกับน้องรินกำลังจะตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์เฮอร์มิทนะคะ และมีนิยายอีกเรื่องของเราด้วยค่ะ เรื่องของพี่รัชเองเราก็หวังว่าจะได้ตีพิมพ์ต่อจากเรื่องของน้องริน หากมีความคืบหน้าเรื่องรายละเอียดสามารถติดตามได้ที่หน้าแฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?ref=aymt_homepage_panel





ปล. 2 มีตอนพิเศษตอนหน้าค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งพี่รัชนะ








และสุดท้ายท้าย สถานีต่อไป ปฐพีเคล้าเมฆา... TBC.






 :pig4:  :bye2:


หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-03-2016 21:00:04
เราว่าไม่ลิเกน๊าา อบอุ่นดี อิพี่รัชมันหล่อเลยอ่ะตอนนี้ ฮ่าๆๆ
รอติดตามเรื่องต่อไปค่าาา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-03-2016 21:00:55
จบแล้วเหรอ ใจหายนะแต่ก็ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกๆกับความตรงเวลา
ของคนเขียนน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-03-2016 21:46:53
เรื่องต่อไปจะมาแนวไหนนะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-03-2016 21:59:01
ขอบคุณคนแต่งครับ รออ่านคูที่สามนะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-03-2016 22:46:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-03-2016 01:15:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] พระจันทร์ล้อนที *ตอนจบ 25/03/16* รัชพล - สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 26-03-2016 01:22:53
จบได้อบอุ่น ขอแต่งงาน บรรยากาศหน้าหนาวท่ามกลางแสงดาว โรแมนติกมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ที่มาลงให้ไม่ขาด รอตอนพิเศษน้า จะรออุดหนุนเล่มด้วยค่า รอเรื่องใหม่ด้วย :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 25/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 26-03-2016 19:56:01
บทพิเศษ





“นั่งนิ่งๆสิพี่รัช เดี๋ยวมีดก็บาดหรอก” สิตางศุ์จับใบหน้าครึ้มหนวดของรัชพลให้อยู่นิ่งๆ ในมือถือมีดโกนเตรียมพร้อมเพื่อจัดการหนวดเคราของรัชพลที่ตอนนี้รกจนเหมือนโจรป่าเข้าไปทุกที สิตางศุ์ทนไม่ไหวต้องจับคนตัวโตมานั่งโกนหนวดนี่แหละ





เกือบปีแล้วที่สิตางศุ์มาอยู่ที่นี่และเกือบปีแล้วที่งานแต่งงานเล็กๆของพวกเขาถูกจัดขึ้นในไร่น้ำริน มีเพียงคนรู้จักเท่านั้นที่มาร่วมงานด้วย





เรื่องของคุณหญิงพิมลนั้นจนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจที่สิตางศุ์มาอยู่กับรัชพลไม่ได้ ในงานแต่งเธอฝากเพียงแค่ของขวัญและส่งอนันต์มาแทน สิตางศุ์แวะเวียนไปหาเธอหลายครั้ง ทุกครั้งเธอเรียกร้องไห้เขากลับไปแต่สิตางศุ์ก็ทำให้ไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเหมือนทุกครั้งที่เธอทำ สิตางศุ์กับรัชพลยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้อย่างปลอดภัย






อนันต์นั้นโทรมาแจ้งข่าวดีกับเขาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าตอนนี้เขากำลังคบหากับรมิตา เธอเป็นเลขาฯของคุณหญิงพิมล และตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของอนันต์ด้วย




ในตอนแรกนั้นภุมรินก็แอบเป็นห่วง เพราะหากรมิตาตั้งท้องแบบนี้ เธอจะเป็นแบบมารดาของเขาหรือไม่ แต่อนันต์ก็พูดให้เขาสบายใจเพราะอนันต์และรมิตานั้นต่างมีชีวิตที่ไม่ต่างกันมาก ทั้งสองไปกันได้ เพราะต่างทุ่มเทให้งานทั้งคู่ และรมิตาเองก็เข้าใจอนันต์เรื่องงานดี เธอไม่มีปัญหาหากอนันต์จะไม่กลับบ้านบ่อยๆ





ตอนนี้เธอย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่แล้ว คุณหญิงพิมลเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะชอบใจด้วยซ้ำที่อนันต์จะมีหลานให้เธออีกคน สิตางศุ์ยินดีกับบิดาด้วย แต่ก็แอบสงสารน้องต่างมารดาของเขาที่กำลังจะลืมตาดูโลกคนนี้ที่ต้องเป็นความหวังให้ศิรินทราคนต่อไป





หากพูดถึงความสัมพันธ์ของสิตางศุ์กับรัชพลแล้วตอนนี้ก็คงจะอยู่กันเช่นฉันสามีภรรยา ทุกคนรู้ดีว่าเขากับรัชพลมีความสัมพันธ์กันแบบไหน





ผู้หญิงหลายคนเข้ามาถามเขาเมื่อครั้งที่มีงานเกษตรประจำจังหวัดเมื่อปีที่แล้วว่าเขามีดีอย่างไรถึงทำให้รัชพลเมินเฉยพวกเธอแล้วเลือกผู้ชายจืดๆอย่างเขา เรื่องนั้นสิตางศุ์ตอบไม่ได้ เขาเลยไปถามรัชพล กลายเป็นว่ารัชพลโกรธผู้หญิงพวกนั้นที่เข้ามาวุ่นวายกับเขา





บ้านรักษ์นทีตอนนี้มีเพียงแค่รัชพลและสิตางศุ์เท่านั้นที่ดูแลอยู่ คุณบุรินทร์เองก็กลับบ้านเดือนละไม่กี่ครั้งเมื่อมีการคุยธุรกิจต่างประเทศทำให้ต้องเดินทางบ่อยๆ





ส่วนภุมรินย้ายไปอยู่กับตะวันอย่างถาวรได้เกือบสามเดือนแล้ว คราแรกนั้นรัชพลรั้งไว้ไม่อยากให้น้องชายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น จนสิตางศุ์เองที่เป็นคนช่วยพูดให้เข้าใจ งานที่ไร่ในส่วนของภุมรินจึงตกมาที่รัชพล รัชพลได้เลือกคนงานเข้ามาดูแลในแต่ละส่วนเพิ่มมากขึ้น และงานของรัชพลเองก็เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย





กลายเป็นว่าตอนนี้รัชพลเข้ามาดูแลไร่อย่างเต็มตัว ซึ่งมีสิตางศุ์ช่วยเรื่องบริหารตามความสามารถของเขาที่พอจะช่วยคนรักได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วภุมรินเองก็ไม่ได้ทิ้งงานไปเสียหมด ภุมรินเข้าไปจัดการเรื่องติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งงานในส่วนนี้สามารถทำร่วมกับตะวันได้โดยตรง เพราะฉะนั้นการที่ภุมรินไปอยู่กับตะวันจึงสะดวกในหลายๆด้าน





ตัดภาพมาปัจจุบัน หลายวันมานี้รัชพลโหมงานหนัก เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะดูแลตัวเอง หนวดเริ่มเขียวครึ้มจนกลายเป็นยาวขึ้นเรื่อยๆ สิตางศุ์แอบติงหลายครั้งว่าให้ตัดได้แล้วแต่คนตัวโตยังคงนิ่ง รัชพลบอกว่าปล่อยไว้อย่างนี้ก็เท่ไม่หยอก ซึ่งสิตางศุ์ไม่ชอบ!





“ไม่ตัดได้มั้ยอ่ะตาง” รัชพลโอดครวญ ตอนนี้รัชพลสภาพกึ่งเปลือยกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องน้ำ โดยมีสิตางศุ์นั่งอยู่ตรงหน้า เขาไม่ต้องการโกนหนวด ไม่กี่ครั้งที่เขาคิดจะไว้ แต่พอไว้แล้วทำให้เข้มขึ้นไม่น้อย รัชพลคิดว่ามันก็ดูดีไม่น้อยไปกว่าการโกนเสียเท่าไหร่





“ไม่ได้ครับ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่อายเค้าหรือไง ออกไปนู่นนี่ เดี๋ยวเสาร์นี้ก็มีสัมมนาที่อำเภออีก เจอคนอื่นเค้าจะมองว่าสกปรกเอาได้” สิตางศุ์ยืนยันเสียงแข็ง ยังไงซะวันนี้เขาจะต้องโกนหนวดรัชพลให้ได้





“ตัดจริงเหรอ” รัชพลก็ยังไม่เลือกล้มความตั้งใจที่จะไม่ตัด





“จริงสิครับ อยู่นิ่งๆเดี๋ยวนี้เลย” สิตางศุ์ใช้มือสองข้างจับหน้ารัชพลอีกรอบ คราวนี้รัชพลนั่งนิ่งยอมให้คนตัวเล็กทำตามใจชอบ เขาไม่อยากจะขัด ถ้าการที่เขาโกนหนวดแล้วทำให้สิตางศุ์พอใจรัชพลก็โอเค





สิตางศุ์แอบยิ้มอย่างชนะเมื่อรัชพลหยุดคิดที่จะต่อต้าน ร่างเล็กจัดการกับหนวดนั้นอย่างเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้อีกคนต้องเจ็บตัว ไม่นานรัชพลที่หนวดเขียวครึ้มก็กลับมาหน้าเกลี้ยงเกลาดังเดิม สิตางศุ์ยิ้มอย่างพอใจแล้ววางอุปกรณ์ไว้ข้างๆก่อนจะลุกขึ้นยืน





“คราวนี้ก็อาบน้ำได้แล้วครับ รีบๆหน่อยก็ดีนะพี่รัช เดี๋ยวสายกว่านี้รถจะติดเอา” สิตางศุ์กำชับอีกรอบ





วันนี้รัชพลและสิตางศุ์ต้องไปรับเมฆาที่สนามบิน คุณหมอจบใหม่ต้องมาใช้ทุนที่นี่ ตะวันกับภุมรินไม่ว่างที่จะไปรับเพราะต้องบินคุยเรื่องธุรกิจที่มาเลเซียตั้งแต่สองวันก่อน รัชพลเลยอาสาไปรับโดยพาสิตางศุ์ไปเป็นเพื่อนด้วย






สิตางศุ์ออกไปแล้ว เจ้าตัวเล็กลงไปชั้นล่าง รอไม่นานรัชพลก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย รถฟอร์จูนเนอร์คนโตแล่นออกจากไร่น้ำรินแต่เช้ามุ่งตรงไปยังสนามบินของจังหวัด เพื่อรอรับคุณหมอเมฆาลูกพี่ลูกน้องของตะวัน





เมื่อมาถึงสนามบิน รัชพลก็เดินยิ้มเมื่อพบว่าเมฆามาถึงแล้ว การจะหาตัวของเมฆานั้นไม่ยากเพราะเสื้อผ้าที่ดูจะมีแต่สีสันแสบตานั้นมันเด่นกว่าใครซะไม่มี แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะไม่ย้อมผมสีประหลาดๆให้ตะวันปวดหัวเล่นแล้วก็ตามที





“ไอ้เมฆ” รัชพลตะโกนเรียก เมฆาที่ดูจะวุ่นวายกับอะไรบางอย่างรีบหันมามองแล้วพุ่งมาด้วยความเร็วแสง





“พี่รัช~” เมฆาตะโกนลั่นจนคนบริเวณนั้นหันมามอง คุณหมอพุ่งเข้ากอดรัชพลอย่างจัง รัชพลหัวเราะปนระอาก่อนจะยีหัวเมฆาแล้วดันลิงจอมซนนั้นออก





“ปล่อยก่อนสิวะ เกาะหนึบเป็นปลิงเลย” รัชพลดันหัวเมฆาออกนั่นทำให้เมฆามองค้อน





“สวัสดีครับคุณรัช คุณสิตางศุ์” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังเมฆานั้นทำให้รัชพลต้องหันไปมอง





“อ้าว คุณดิน มาอยู่นี่ได้ยังไงครับ” รัชพลถามอย่างแปลกใจ ทำไมเพียงดินมาอยู่ที่นี่ได้





“พอดีเพิ่งกลับจากกรุงเทพฯน่ะครับ คุณรัชมารับเด็กคนนี้เหรอครับ” เพียงดินชี้ไปที่เมฆา เมฆานั้นทำหน้าไม่สบอารมณ์ไปเรียบร้อย





“ใช่ครับ พอดีเป็นน้องชายเพื่อน ว่าแต่คุณดินกลับยังไง กลับด้วยกันก็ได้นะครับ” รัชพลอาสา





เมฆาถลึงตาใส่รัชพล เขาพยายามสื่อสารด้วยสายตาและกระซิบกระซาบกับรัชพลเป็นเชิงว่าไม่ควรชวนเพียงดินไปด้วย





“เป็นอะไรเนี่ยได้เมฆา มาทำหน้าทำตา” รัชพลยังไม่เข้าใจ





“ดีเลยครับคุณรัช คนที่ไร่ไม่ว่างพอดี ถ้าไม่รบกวนมากไปผมขอกลับด้วยเลยแล้วกัน” ไม่พูดเปล่า เพียงดินยังเดินมายืนตรงหน้ารัชพลแล้วแอบเบียดเมฆาให้ถอยออกไป





“ยินดีครับ” รัชพลตอบรับอย่างเต็มใจ






“แล้วเราเอาไงไอ้เมฆ แบกของอะไรมาเยอะแยะ” รัชพลหันมาหาเมฆาที่ยืนหน้าบึ้งอยู่แล้วจึงไปช่วยยกของ เมฆาคงอยู่นี่อีกนานพอสมควรถึงได้หอบมาซะขนาดนี้





“เดี๋ยวผมช่วยถือขอฝากก็แล้วกันครับ” สิตางศุ์ที่ยืนเงียบอยู่นานอาสาเข้ามาช่วย เขารับถุงกระดาษมาไว้ในมือมากมาย เมฆาถือกระเป๋าใบเล็กหนึ่งใบเพราะใบใหญ่นั้นรัชพลแบกนำลิ่วไปนู่น





“ขอบคุณครับ นี่คงเป็นพี่สิตางศุ์แฟนพี่รัชใช่มั้ย” เป็นครั้งแรกที่เมฆาเจอสิตางศุ์ เขาได้แต่ฟังเรื่องราวเจ้าของหัวใจตาแก่แช่โรงบ่มคนนี้ผ่านทางภุมรินและรัชพล ดูท่าทางแล้วสิตางศุ์ไม่น่าจะมาใช้ชีวิตอยู่ในไร่ได้ แต่ก็ทนอยู่กับไอ้พี่รัชมาตั้งเกือบปีนึงแล้ว





“ใช่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องหมอเมฆ” สิตางศุ์ยิ้มหวาน เมฆาจึงยิ้มกลับ เขารู้สึกถูกชะตากับสิตางศุ์พิกล คนอะไรทำไมมารยาทดีได้ขนาดนี้





“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” รัชพลจะยื่นมือไปจับ แต่สิตางศุ์ได้แต่ยิ้มแห้งให้เพราะของฝากของเมฆานั้นก็เต็มมือของเขาไม่น้อย เมฆาได้แต่ยิ้มเจื่อนๆรู้สึกผิดที่ใช้งานคนเพิ่งรู้จักแบบนี้





“ให้ผมช่วยถือมั้ยครับคุณสิตางศุ์ ของเต็มมือขนาดนั้น” เพียงดินที่ถาม เขามีแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวเท่านั้น ไม่ได้หนักและเยอะเหมือนคุณหมอกางเกงเหลืองนี่หรอก





“ก็ดีครับ” สิตางศุ์ไม่ปฏิเสธเพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกไม่ไหว





เพียงดินเข้าไปช่วยถือ สิตางศุ์ยิ้มขอบคุณก่อนจะเดินตามรัชพลไป เมฆาหันมาตวัดสายตาใส่เพียงดิน ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกันบนเครื่องบินเมื่อกี้นี้มันชักยังไงแปลกๆซะแล้ว ทำไมไปทำสายตากรุ้มกริ่มใส่สิตางศุ์อย่างนั้น





“นี่นาย ห้ามคิดไม่ซื่อกับพี่สิตางศุ์นะ นั่นแฟนพี่รัช!” เมฆาชี้หน้า นายเพียงดินอะไรนี่แอบชอบพี่สิตางศุ์รึเปล่า





ไม่ได้... ไม่ได้เด็ดขาด! 





กว่ารัชพลจะยอมมีแฟน จะยอมคบใครจริงจังมันยากแค่ไหนรู้มั้ย กว่าจะได้พี่สิตางศุ์มาเป็นแฟนต้องฝ่าด่านนรกแค่ไหน แล้วจะให้คนอื่นมาเป็นมือที่สามแบบนี้ไม่ได้ เมฆาไม่ยอมแน่






“เป็นถึงหมอคิดได้แค่นี้เหรอ นายนั่นแหละคิดอะไรกับคุณรัชรึเปล่า วิ่งเข้าไปกอดแฟนเค้าขนาดนั้น” เพียงดินตอกกลับ คนรู้จักกันต่อให้สนิทแค่ไหนก็คงไม่พุ่งเข้าไปกอดต่อหน้าแฟนเค้าที่ยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้นหรอก ไอ้หมอกางเกงเหลืองนี่คิดไม่ซื่อกับรัชพลแน่ๆ





“ทำไมถึงไอ้มีความคิดอัปรีย์ขนาดนี้นะ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นกับพี่รัช! และบอกไว้ตรงนี้เลยนะถ้านายคิดจะจีบพี่สิตางศุ์ล่ะก็ไม่มีทางซะหรอก”





เมฆาอยากจะชกหน้าอีกคนเสียจริง แต่ก็ทำได้เพียงแค่เดินตามรัชพลกับสิตางศุ์ไป แค่เรื่องบนเครื่องบินยังไม่เคลียร์ แล้วยังจะมีประเด็นใหม่มาอีก เห็นทีงานนี้เมฆาต้องไปลับฝีปากเพื่อช่วยกันท่าเพียงดินคนนี้ออกจากสิตางศุ์เสียแล้ว





เพียงดินทำหน้าระอาให้กับเมฆา นี่น่ะนะหมอ หมอบ้าอะไรเพี้ยนขนาดนี้ แค่เรื่องบนเครื่องบินก็ทำให้เขาปวดหัวจะแย่ ยังมาว่าเขาคิดไม่ซื่อกับคุณสิตางศุ์อีก ตัวเองนั่นแหละชอบคุณสิไม่ว่า







เห็นทีคราวนี้เขาคงต้องเป็นพระเอกคอยจัดการหมอเมฆอะไรนี่ไม่ให้เข้าใกล้รัชพลเกินงามเสียแล้ว ดูจากสีหน้าสิตางศุ์เมื่อกี้ก็รู้ว่าไม่สบายใจแค่ไหน กว่าสองคนนี้จะลงเอยกันต้องเจอปัญหาร้อยแปด อยู่ๆหมอเมฆที่เพิ่งมาจะมาทำลายความสัมพันธ์ของเค้าสองคนดื้อๆแบบนี้ไม่ได้ คิดได้ดังนั้นเพียงดินก็เดินตามทั้งสามคนไป





ยกที่หนึ่ง เริ่ม!

















“พี่รัช พี่ไม่ได้คิดอะไรกับน้องหมอเมฆจริงๆใช่มั้ย” สิตางศุ์ถามขึ้นระหว่างมื้อเย็น





เขาพยายามจะไม่เก็บเรื่องนี้มาคิดแต่จากความสนิทสนมนั้นแล้วทำให้สิตางศุ์รู้สึกไม่สบายใจ กว่าจะใจถามรัชพลได้ก็นานพอควร ไม่อยากเก็บไว้ทุกข์ใจคนเดียว คนรักกันต้องเข้าใจกันและถามเพื่อให้เรื่องกระจ่าง จะได้ไม่ต้องคิดไปเอง





หลังไปรับเมฆาแล้วก็พาเมฆาไปส่งที่บ้านประสิทธานนท์ก่อนจะแวะไปที่ไร่เพียงระพีแล้วค่อยเข้ามาที่ไร่น้ำริน สิตางศุ์คิดเรื่องของรัชพลกับเมฆามาทั้งวัน เขาไม่อยากเป็นคนงี่เง่าและคิดเล็กคิดน้อย แต่บางอย่างมันก็เกินพอดีจนเขาไม่สบายใจ





“ทำไมถามแบบนั้นล่ะสิตางศุ์” รัชพลถามกลับอย่างงุนงง อะไรทำให้สิตางศุ์ของเขาถามออกมาแบบนั้น






“ก็ที่สนามบิน พี่กอดกับน้องเมฆซะขนาดนั้น กับรินผมยังไม่เห็นพี่จะสนิทเท่าน้องเมฆ” สิตางศุ์ก้มหน้ามองจาน อ้อมแอ้มตอบเพราะกลัวว่ารัชพลจะหาว่าเขางี่เง่า





“หึๆ หึงอีกแล้วล่ะสิ” แต่รัชพลกลับยกยิ้มอย่างพอใจ นั่นทำให้สิตางศุ์ต้องเงยหน้ามาค้อนใส่อีกคน






“ก็หึงน่ะสิ” สิตางศุ์ตอบตามตรง






“พี่กับเมฆน่ะเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเมฆมันไปมากกว่าน้องหรอก คนที่พี่รักคือสิตางศุ์ต่างหาก ถ้ามันทำให้สิตางศุ์คิดมากคราวนี้พี่จะระวังตัวกว่านี้แล้วกัน” รัชพลเอื้อมมือมาจับมือของสิตางศุ์ไว้







เขาไม่อยากให้คนรักต้องคิดมาก ไม่บ่อยครั้งที่สิตางศุ์จะหึง มาทีละน้อยแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน รัชพลจะได้รู้ว่าสิตางศุ์ก็หวงเขาไม่น้อยเลยทีเดียว






“ผมขอโทษที่งี่เง่า แต่พี่รัชอย่าทำอย่างนั้นเลย น้องเมฆไม่ได้ผิดอะไร ทำตัวตามปกติเถอะครับ”







สิตางศุ์แอบรู้สึกผิดถ้าหากจะเป็นต้นเหตุให้รัชพลห่างเหินกับเมฆาแบบนั้น เขาไม่ได้รู้สึกแย่กลับเมฆา แต่มองว่าเมฆาดูจะน่ารักสดใสเสียอีก ต่างกับเขาที่วันๆไร้สีสันจืดชืดจนบางครั้งก็กลัวว่ารัชพลจะเบื่อเอา







“ทำไมน่ารักอย่างนี้นะสิตางศุ์” รัชพลลูบหลังมือสิตางศุ์ ทำไมคนรักของเขาถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ สิตางศุ์เคยโกรธใครบ้างหรือเปล่า แม้แต่หึงเขากับเมฆาก็ยังมองว่าเมฆานั้นไม่ใช่คนผิด มันทำให้รัชพลยิ่งรักสิตางศุ์มากขึ้น






“ผมจริงจังนะพี่รัช” สิตางศุ์ทำหน้าเคร่ง รัชพลหลุดหัวเราะก่อนจะเลื่อนไปลูบแหวนเงินที่อยู่บนนิ้วของสิตางศุ์






“โอเคครับ พี่จะทำตัวปกติกับเมฆเหมือนเดิม แต่สิตางศุ์รู้ไว้นะว่าพี่ไม่มีทางมีคนอื่นแน่นอน พี่มีแค่สิตางศุ์คนเดียวเท่านั้น” จ้องมองไปยังดวงตาของสิตางศุ์อย่างแน่วแน่เพื่อตอกย้ำความหมายของคำพูดของตัวเอง







สิตางศุ์ยิ้มรับเมื่อรัชพลให้คำมั่นที่หนักแน่นนั้น






“กินข้าวกันต่อเถอะ เดี๋ยวจะได้ช่วยตัดผมให้พี่หน่อย มันเริ่มยาวแล้ว” รัชพลปล่อยมือสิตางศุ์แล้วลงมือกันข้าวต่อ สิตางศุ์เองก็ทำตามบ้าง







เขารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก การที่เราจะรักใครซักคนเราก็ต้องกล้าเปิดใจที่จะคุยกับเขาตรงๆ เรื่องอะไรที่ค้างคาใจนั้นจะได้กระจ่าย มันจะได้ไม่สร้างปัญหาที่จะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้







สิตางศุ์รู้สึกโชคดีที่มีรัชพลอยู่ตรงนี้ คนที่เข้าใจเขาและสอนให้เขาเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่น หลายเดือนที่ผ่านมานั้นรัชพลทำให้สิตางศุ์รู้ว่าเขาหนักแน่นมากแค่ไหน เพียงแค่นี้มันก็เพียงพอต่อการซื่อสัตย์ในความรัก และการอยู่เคียงข้างกันไปตลอดอย่างนี้ หากมีคำพูดใดที่สิตางศุ์อยากจะบอกรัชพล ตอนนี้เขาก็พูดได้เพียงแค่ว่า






สิตางศุ์รักรัชพล




***************************************************************************************







ตอนพิเศษค่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่สิตางศุ์กับรัชพลอยู่ด้วยกันแล้วนะคะ ความรักคู่นี้ดูจะเรียบง่ายที่สุด เพราะสิตางศุ์เป็นคนนิ่งๆ ส่วนคู่ของเพียงดินกับเมฆานั้นเปิดตัวแล้วจ้า เรื่องปฐพีเคล้าเมฆานี้จะเป็นเรื่องที่สดใสและฟิลกู๊ดที่สุดในสามเรื่องนี้แล้วเพราะน้องเมฆป่วนแรงมาก เพียงดินก็เพี้ยนสุดโต่งกว่าพี่รัช ฮ่าๆ ฝากติดตามคู่นี้ด้วยนะคะ อีกไม่นานเกินรอแน่นอน รักคนอ่านทุกท่านค่ะ




หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 25/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 26-03-2016 20:14:28
เปิดตัวคู่คุณดินกับน้องเมฆแล้ว
รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 25/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-03-2016 20:25:12
ดีแล้วค่ะ คนรักกันมีอะไรก็ต้องพูดกัน
รอติดตามคู่ของพี่ดินกับน้องเมฆค่ะ
ให้กำลังใจคนเขียน
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 25/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-03-2016 22:56:11
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 27-03-2016 20:10:19
ตอนแรกก็แบบว่าแอบจิ้นพ่อบูรับพ่อนันอ่ะ
อยากให้นางได้กันเอง มันมีจุดร่วมแปลกๆ555
พอมาตอนจบเฉลยว่าพ่อนันมีเมียใหม่แล้วก็รู้สึกอกหัก
อยากให้พ่อบูรมีคู่อ่ะ หมอชาญก็ได้5555 พ่อภูก็ดี ภูวดลก็เริศ
อยากให้มีภาคพ่อบูรด้วย 55 แบบมีผัวเด็กงี้55
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Nam-Ing ที่ 27-03-2016 20:26:44
รอคู่น้องเมฆน้า   :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-03-2016 21:49:20
คู่นี้อบอุ่น น่ารัก มีอะไรก็คุยกัน
รอดูคู่หมอเมฆกับคุณดิน ท่าทางแสบน่าดู
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-03-2016 00:33:52
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-03-2016 09:41:49
เปิดตัวคู่ใหม่แล้ว~
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 01-04-2016 19:46:24
 o13 o13 o13 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryu7801 ที่ 02-04-2016 22:04:29
น่ารักอ่ะ   :hao7:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 26-04-2016 11:47:55
ขอบคุณนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 26-04-2016 20:50:41
ขอบคุณนะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 28-04-2016 00:07:51
 :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 28-04-2016 12:23:16
หลงมาอ่าน น่ารักมากค่ะ ชอบนายเอกแบบสิตางศุ์นี่แหละ ชื่อก็เพราะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที 29/04/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 29-04-2016 21:40:02
จ๊ะเอ๋! เรื่องใหม่มาแล้ว เรื่องที่สามและเรื่องสุดท้ายของนิยายชุดนี้ น้องเมฆและเพียงดินมาแล้วจ้า



ฝากเรื่อง ปฐพีเคล้าเมฆา เรื่องสุดท้ายของงนิยายชุดนี้ด้วยนะคะ






ตามไปกันโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53471.0
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 01-05-2016 11:24:13
เพิ่งเข้ามาอ่านค่า
ตลกพี่รัชเข้ากรุงค่ะ 555
ได้สมหวังกะน้องตางซะทีน้า ^^
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 02-05-2016 16:43:50
พี่รัชพอมีแฟนแล้วน่ารักสุดๆ แอบหวานเหมือนกันนะเนี่ย
ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 03-05-2016 00:33:52
แอบอยากให้คุณพ่อคู่กับภูวดลนะมีสามีเด็กอ่ะชอบๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: scottoppa ที่ 01-06-2016 21:16:51
หลังจาดอ่านพี่ตะวันจบไป ก็ตามพี่รัชมาอย่างต่อเนื่องจนจบ
เราชอบเนื้อหาเรื่องนี้มากๆ มันอบอุ่น กรุ่นไอดินไอแดดไอโรงบ่มมาก
เราคิดว่าถ้าเราเป็นตาง แล้วพี่รัชคอยพูดหวานๆ คอยเอาใจ แถมหนักแน่นขนาดนั้นเราก็หลงรักแน่ๆ
พี่รัชนี่บ้าที่สุดไปเลย ชอบมากตอนที่ยอมรักออกมาโต้งๆว่าชอบนะ จะจีบนะ
แต่พอโดนเค้าเมินก็ฝ่อไปวูบนึง คือมีความเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เด็กน้อยในตัว
แต่พี่รัชน่าพึ่งพามากจริงๆ ฮืออออออ เป็นเรื่องที่บรรยายดี ไหลลื่นมากๆค่ะ ประทับจัยส์
เดี๋ยวเราจะตามไปดูน้องเมฆป่วยพี่ดินนะคะ
อ้อ เราอยากบอกว่าชอบชื่อเรื่องทั้ง3เรื่องเลยค่ะ เก๋มากๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 22-06-2016 02:17:23
เพิ่งอ่านจบ น้องตางน่ารักน่าดูแลมากเลยยย  :-[
นิยายสนุกมากค่ะ ชอบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 22-06-2016 18:24:38
อ่านภมรอ้อนตะวันจบก็ต่อเรื่องนี้แบบนอนสต๊อป5555555

สนุกมากกกกก ชอบบ พี่รัชห่ามได้ใจ งื้อออ
มีความแพ้5555555

ขอบคุณนะคะ จะติดตามผลงานเรื่องอื่นต่อไป  o13
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-06-2016 21:37:58
 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 25-06-2016 20:13:00
 o13
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 26-06-2016 10:57:13
 :pig4: คู่นี้ออกแนวรักกันแบบผู้ใหญ่ต่างจากคู่น้องเลย ชอบค่ะมีอะไรก็คุยกันด้วยเกตุผล
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 20-07-2016 06:17:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 26-08-2016 06:52:09
อ่านจบแล้วเข้ามายิ้มหวาน ๆ ให้คุณเจ้าของเรื่องแล้วออกไป
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-08-2016 13:04:59
ต้องคิดถึงเรื่องนี้มากแน่ๆ.....คิดถึงมากแน่ๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 14-09-2016 00:38:12
คือพี่รัชไม่คีพลุคเลยอ่ะ นึกว่าจะเป็นคนขรึมๆนิ่งๆงี้ กลายเป็นหนุ่มบ้านไร่ใสซื่อเฉยเลย ตลกดี
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 22-02-2017 13:04:39
ไม่มีตอนเข้าหอ แอบเสียดาย 5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: pprtoy ที่ 01-03-2017 23:00:22
โอ๊ยยย ดีต่อใจมากเลยค่ะ พี่รัชนี่กว่าจะได้รักกับน้องตาง อุปสรรคมากมายเหลือเกิน คนอ่านก็ลุ้น คอยเอาใจช่วยไปด้วย ดีใจที่น้องตางมีความสุข อ่านแล้วบางทีก็อึดอัดใจแทนน้องตาง ดีที่คุณพ่อมาเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างให้มันเป็นครอบครัวอีกครั้ง ส่วนคุณย่าเองก็ไม่รู้จะทำใจได้เมื่อไหร่

ชอบค่ะ แม้จะมีบางคำที่พิมพ์ผิดไปบ้าง ส่วนการบรรยายเข้าใจง่ายค่ะ ดีแล้ว ^^ เนื้อเรื่องชอบเลย พี่รัชคนใจร้อน บุกฉุดอย่างเกรี้ยวกราด ส่วนน้องตางได้มีชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ ประทับใจมาก เดี๋ยวยังไงจะไปตามเรื่องของเพียงดินกับเมฆาต่อค่า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 02-03-2017 02:18:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 06-03-2017 19:28:27
ขอบคุณค่าาา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 27-03-2017 22:58:15
โอยยย คู่นี้เค้าหวานกันจริงๆ ยอมค่าาาา
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: lovejinjunno ที่ 19-04-2017 01:39:56
เย้ๆ จบแล้ว

แฮปปี้ดี๊ด๊ากันทุกฝ่าย ครุครุครุ

อ่านแล้วเข้าใจสิตางคุ์เลยอ่ะ
อ่านไปร้องไห้ไป
พรุ่งนี้ตื่นมาตาบวมแหง็มๆ 555
เรื่องของคุณเพียงดินกับเมฆาไว้อ่านพรุ่งนี้แล้วกัน
ไม่ไหวละ
แสบตามากมาย
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-05-2017 08:55:18
ว้าวววว ดีงาม กว่าจะลงเอยกันได้

สงสารสิตางค์ กว่าจะมาเจอกัน ชีวิตต้องผ่านอะไรมากมาย
รัชเขม่นไปเยอะ แต่ก็จริงใจ จริงจังไม่แพ้กัน

พอตกลงกันได้แล้ว ก็หวานเวอร์ หวานมาก น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 21-05-2017 21:55:12
ลุ้นสนุกมากเลย กว่าจะลงตัว ชอบๆๆๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: bungg ที่ 13-06-2017 12:51:47
มาค่ะมาแล้วววว ตามมาจากเรื่องน้องรินกับพี่ตะวันค่ะ5555
เรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้เรื่องนั้นเลย หลงรักพี่รัชจังจากเรื่องนั้นที่ทำแสบไว้มาก มาเรื่องตัวเองทำให้เราหลงได้ยอมๆๆ พี่รัชเป็นผู้ชายที่ตรงแบบตรงมากกก ยอมใจความตรงของพี่เลย ชอบก็บอกชอบ จะจีบก็บอกเขาตรงๆว่าจีบ ตรงกว่าพี่รัชนี่มีอีกมั้ยคะ ขอให้เราสักคน555 แต่เอาแบบลดความห่ามลงนิดนะคะ กลัวรับไม่ไหว5555
ชอบประโยคที่พี่รัชพูดกับตางประโยคที่บอกว่า "ต่อให้คุณแพ้แดดแรงๆเข้าไปในไร่ก็บผมไม่ได้ ผมก็จะให้คุณอยู่แต่ในร่ม..." อ่านถึงตรงนี้แล้วนี่ยกใจให้พี่รัชเลย หลง~
น้องตางก็น่ารักไม่แพ้กันเลยค่ะ มีแอบหึงพี่รัชกับน้องหมอเมฆด้วย555 แต่พี่รัชก็ทำตัวให้น่าหึงนะกับน้องรินไม่เห็นกอดกันแบบนี้บ้างเลย มันก็น่าหึงอยู่หรอก นิสั้ยโดยรวมของตางก็น่ารัก แต่รู้สึกได้ว่าตางเป็นที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเลย มาถึงขนาดนี้แล้วลูกกกพี่รัชก็หลงขนาดนี้แล้วยังคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรดีหรอ น่าตีจริงๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ สนุกมากๆไม่แพ้เรื่องนั้นเลย เดี๋ยวเราจะตามไปเรื่องน้องหมอเมฆต่อ ต้องเก็บให้ครบชุด5555
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-09-2017 18:58:07
 :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 26-09-2017 21:02:28
เขิน แต่ชอบตะวันมากกว่า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 16-01-2018 12:17:20
 :mew1: :mew1:

ขอบคุณค่า เดี๋ยวไปตามอ่านอีกเรื่อง ^^
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 19-05-2018 17:23:05
เรื่องนี้มีน้ำตา
เราว่ามันดราม่ากว่าพี่ตะวันกับน้องริน
สิตางคุ์น่าสงสารมาก โชคดีที่เจอคนจริงใจอย่างพี่รัช ^^
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: musiclove ที่ 02-06-2018 21:39:12
ขอบคุณสำหรับนิยายที่ครบรสแบบนี้นะคะไรท์เราชอบมากกกกกจะตามเรื่องต่อไปอีกค่ะ :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที ตอนพิเศษ 26/03/16 รัชพล-สิตางศุ์ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: pwstz ที่ 21-07-2018 17:34:46
มาแปะไว้ก่อนนะ กำลังตามอ่านค่า
หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Speirmint28 ที่ 03-10-2018 22:18:04
เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
 :katai4:

จะเป็น BoxSet ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง BoxSet ได้ค่ะ
 :-[

ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater




หัวข้อ: Re: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-10-2018 01:54:32
เรืีองนี้ลุ้นมากค่ะ ถึงจะอ่านเป็นรอบทึ่สองแล้วก็ตาม
กลัวพระเอกตาย 555