พิมพ์หน้านี้ - >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Zitraphat ที่ 22-04-2012 23:26:19

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 22-04-2012 23:26:19
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด
 เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


*********************************************************************
 
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 1# Stay by my side. โฆษิต – ษิตรินทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 22-04-2012 23:28:38
บทนำ 1 #   Stay by my side. โฆษิต [B2] – ษิตรินทร์ [B1]
Part  โฆษิต


"ปิด TV."

เสียง มารดังข้ามหัวผมพร้อมกับเสียงสัมพารกของมันกระแทกโต๊ะ ไม่ใช่ว่ายอม...แต่เป็นการสงบโดยสันติผมยกรีโมทขึ้นกดปิดตามคำขอ?ของตัวต้นเหตุ ‘ษิตรินทร์’ หรือ‘ตรินทร์’ ของผมกระแทกตัวลงนอนบนเตียงทั้งชุดนักศึกษามันเงียบไปนานก่อนจะหลับไปพร้อมๆกับเสียงเพลง MP3. ที่ยังคาอยู่ที่หู…

...ให้ผมปิด TV.  แล้วคุณมึงนอนฟัง MP3. ผมทำไปเพื่ออะไร? คิดได้นะ...ผมเลื่อนตัวขึ้นมาบนเตียงก่อนจะดึงแก้ม ไอ้คุณชายตรินทร์ มันเบาๆ ตรินทร์ มันปรือตามองผมแวบเดียวก่อนจะปิดเปลือกตาลงไปใหม่...ระหว่างเราไม่ต้องมีคำพูดแค่การกระทำก็ดูกันออก ตอนนี้ในภาษากล้วยหอมผมกำลังถาม ตรินทร์ ว่า…

‘คุณมึงไปอาบน้ำก่อนไหม? แล้วมานอน’

ส่วนการพลิกตัวซุกหมอนแล้วมุดหัวอยู่ในนั้นของ ตรินทร์ มันตอบผมมาว่า...

‘ไม่อาบจะนอนแล้ว'

...ผมก้มหน้าลงไปใกล้ ตรินทร์ มากที่สุดจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งขึ้นมากระทบจมูก...ก่อนจะตัดสินใจ....กระแทกหน้าผากกับ ตรินทร์ แรงๆผ่านหมอนใบโต!

ไอ้คุณชายมันตกใจดีดตัวขึ้นมองหน้าผม พร้อมๆกับถูหน้าผากตัวเองที่เป็นรอยแดงจางๆ แววตาสีวาวยังคงจ้องหน้าผมเหมือนเอาเรื่อง...แต่มึงคงอ่านออก ตอนนี้ผมกำลังบอกคุณมึงว่า...

‘ลุกไปอาบน้ำ! เชี่ย! เตียงกู อย่ามาซกมก!’

ตรินทร์ เดินกระแทกเท้าเข้าห้องน้ำก่อนปิดประตูเสียงดัง...ซักพักว่าที่ประตูนั้นแง้มออก...ไอ้คุณชายตรินทร์ มันโผล่หัวออกมา...ผมอาศัยจังหว่ะหมั้นไส้ เขวี้ยงผ้าเช็ดตัวกะให้เข้ากลางหน้า ตรินทร์ พอดี...แต่ ตรินทร์ ดันเสือกสติดีคว้าไว้ได้ก่อนไอ้คุณชายมันมองผมตาขวางๆเหมือนรู้ว่าผมจะแกล้งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร...ได้ผ้าเช็ดตัวแล้วมันก็ผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำใหม่...

....ซัก 5 นาที กว่าจะเดินตัวเปียกออกมา...ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นไม่ได้สัมผัสร่าง ตรินทร์ หรอก...เพราะผ้าผืนนั้นตอนนี้อยู่บนหัวที่เปียกโชก ผมได้แต่นั่งมองหน้าตรินทร์...

ไอ้คุณชายนี่...นอกจากเรื่องใช้กำลังกับสั่งการแล้ว... มันทำอะไรอื่นเป็นอีกบ้าง?

คิดย้อนแล้วทบทวนรวมไปทั้งหาข้อสรุป... เด็กหนุ่มข้างหน้าผม หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไร ออกจะติดหล่อด้วยซ้ำ (เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องผมจะขี้เหล่ได้ยังไง) ทำไมทำตัวซกมกได้ขนาดนี้... ทุกครั้งที่เข้าไปอาบน้ำมันจะมีสักครั้งไหม? ที่มันจะหยิบผ้าเช็ดตัวติดเข้าไปด้วย ...หรือเป็นเพราะผมที่สปอยมันจนเคยชิน…

แต่ต่อจากนี้ไป ตรินทร์ คงเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ มองหน้า ตรินทร์ แล้วผมนึกไปถึง หญิงสาวอีกคนที่เหมาะสมกับตรินทร์ เธอคนนั้น ‘พระแพง’ คู่หมั้น ตั้งแต่เด็กของ ตรินทร์ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำให้คนที่ไม่สนใจอะไรอย่างมันยอมแทบทุกอย่าง...คนสองคนที่เกิดมาเผื่อกันและกัน... อีกแค่สองปี ตรินทร์ ก็จะแต่งกับพระแพง...แล้วทิ้งผมไว้คนเดียว...

..............
............................

"เจ็บ!"

ผมสะดุ้งสุดตัว พร้อมจับไปที่ข้อมือของผมที่เป็นรอยฟันเกือบครบทุกซี่...เฮ้ย!คุณชายครับจะเอามือผมไปกัดทำไม?! ผมจ้องหน้าเหมือนขอคำตอบแต่ ตรินทร์ กลับพลิกตัวนอนหันหลังให้ นานซักพักกว่าจะได้ยินเสียงหายใจเบาๆเป็นจังหวะ...เจริญ...ปล่อยให้คอยแล้วนายหลับสบาย!

...เหมือนหัวเสีย...ผมพลิกตัวหันหลังให้ ตรินทร์ บ้าง...ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เป็นเพราะความรู้สึกแปลกๆ ผมยกข้อมือข้างที่ถูก ตรินทร์ กัดขึ้นมาแล้วเลียซ้ำลงไปที่รอยกัดนั้นเบาๆ ความรู้สึกแปลกๆประดังเข้ามาในหัวพร้อมๆกับเสียงหัวใจที่เต้นรัว ผมเป็นเหี้ยไรอีกแล้ว…

..............
............................


"โฆ...หนูแพงโทรมา"

แม่นิ่ม เรียกผมแต่เช้า ‘พระแพง’ จะโทรหาผมทำไม ? ผมไม่ใช่คู่หมั้นเจ้าหล่อนซักหน่อย...

ผมงัวเงียหัวเสียพาลหาเรื่องไปถึง 'ว่าที่เจ้าบ่าวตัวดี' ของ พระแพง ...ก่อนจะลืมตาเห็น ตรินทร์ นอนอยู่ในวงแขนและขาของผมที่ก่ายพาดกอดมันไว้ทั้งตัวตอนนี้ไอ้คุณชายมันหลับไม่รู้สึกตัวแต่ยังไม่วายซุกหน้าเข้ากับแผงอกผม...พอสำนึกได้ก็รู้สึกว่าลมหายใจอุ่นๆของ ตรินทร์ กำลังเป่ารดแผงอกผมอยู่ ไม่ต้องคิดภาพอะไรมากกว่านี้ แค่นี้ลูกชายตัวดีของ ผมก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องปลุก...ดี้ด้าเชียวนะ ผมรู้ว่าผมแข็งแรง...

...แต่... 'คุณลูกชายครับ’ ไม่ต้องให้ ไอ้คุณชายตรินทร์ มันรับรู้ด้วยก็ได้...

...ผมค่อยๆดึงมือและขากลับออกมาแล้วพลิกตัวเร็วๆออกจากเตียงเดินกึ่งวิ่งลงไป ตามเสียงแม่นิ่มข้างล่าง...ไม่ได้อยากมารับโทรศัพท์นักหรอก...แต่ทนเห็นลูกชายตัว เองกระดี้กระด้ากับ ตรินทร์ ไม่ได้...

..............
............................

Part โฆษิต


..แสงไฟ กับเสียงเพลง ดูจะดึงสติไอ้หล่อญาติผมตอนนี้ไปทั้งหมด ต่างกับผมที่แสงกับเสียงนั้นไม่ได้เข้าไปยังสมองน้อยๆของผมเลย ตรินทร์ ยังคงกรอกเบียร์เข้าปากไม่หยุด ...เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าฤทธิ์เบียร์จะทำให้ไอ้คุณชายมันลุกเต้นแล้วแหกปากตามนักร้องผิวสีที่เล่นดนตรีสดอยู่บนเวที...เห็นมันปล่อยตัวขนาดนั้นผมได้แต่สองจิตสองใจว่าจะบอกมันดีหรือเปล่าว่าที่พามันมาร้านนี้ เพราะ ‘เธอ’ กลับมาแล้ว เสียงในโทรศัพท์เมื่อเช้ายืนยันได้เป็นอย่างดี พระแพง กลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว และเธออยากเจอ ตรินทร์...ดูเหมือนความเชื่อใจของ ตรินทร์ มันมักจะถูกผมใช้อย่างเคยชิน ทั้งๆที่พวกเรามีร้านประจำอยู่แล้ว และทั้งๆที่มันเองก็เป็นนักดนตรีอยู่ร้านนั้น แต่พียงแค่ผมเอ่ยปาก...มันก็ลากสังขารมาร้านใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น...ถ้ามันรู้ว่าร้านนี้ ‘เธอ’ เป็นคนเลือกไม่ใช่ผม มันจะรู้สึกยังไง?

“ตรินทร์ ...ที่รักมา...”

ผมกระซิบบอกมันเบาๆก่อนจะคิดเดินหลบฉากไปเข้าห้องน้ำ...

..ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่พอรู้สึกตัวอีกทีสองขาผมมันไม่ได้พาไปห้องน้ำอย่างที่คิด....แต่มัน...พาผมลงไปที่ทางออกชั้นล่างแทน... ปลายหางตา ผมเห็น พระแพง กำลังเดินเข้ามาในคลับ...เธอสวยจนสะกดเกือบทุกสายตามีก็แต่ ไอ้คุณชาย ที่มัวตะโกนร้องเพลงตามนักร้องไม่ได้สนใจสุดที่รักของมันสักเท่าไหร่...จะว่าไปตอนนี้ ตรินทร์ ไม่มีสติอะไรมากนัก ผมรู้ว่ามันเมามากไม่ควรทิ้งมันไว้อย่างนี้ แต่ทำไมพอเห็น พระแพง เดินเข้ามากลับต้องเป็นผมที่ต้องหลบออกไป... บางทีให้ พระแพง ดูแลมัน อาจจะดีกว่าผมดูแลมันก็เป็นได้... สมองผมว่างไปนานพอรู้สึกตัวอีกทีผมทิ้งตัวลงข้างฟุตบาทหน้าคลับ           
               
‘ทำไมสมองมันว่างหัวใจมันเคว้งอย่างนี้?’

แรงสั่น ของโทรศัพท์ในกระเป๋าดึงสติผมกลับมาอีกครั้ง คงเพราะผมมัวแต่เหม่อนึกถึงเรื่อง ตรินทร์ กับว่าที่คู่หมั้นจนไม่ได้ดู Miss call ที่ไม่ได้รับเกือบ 10 สายที่โทรเข้ามา ‘Zitrin’ ผมกดรับโทรศัพท์แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงปลายสายก็ดังเหมือนละเมอเข้ามา

“ทิ้งกู...มึงกล้าทิ้งกู!”

น้ำเสียงไอ้คุณชายมันเหวี่ยงได้ที่ ลองมันสิ้นคิดพูดนอยแดกออกมาแบบนี้ได้ รับรองว่ามันเมาได้ใจ...และที่แน่ๆมันไม่ได้อยู่กับ พระแพง เพราะไม่มีทางซะหรอกที่มันจะ ‘หลุด’ ต่อหน้าเธอคนนั้น

“ที่ไหน?”

น้ำเสียงมันที่กรอกลงโทรศัพท์มาทำเอาผมเดาหน้ามันตอนนี้ได้ไม่ยาก ท่าไอ้คุณชายจะโคตรหัวเสีย...

“...หน้าบาร์”

ผมกัดฟันตอบ ใจหนึ่งห่วงมัน ใจหนึ่งไม่อยากขึ้นไปแล้วเห็นเธอคนนั้นกับมัน...

“ขึ้นมาด่วน...กูอยากกอดมึง... กูอยากกลับบ้าน...”

ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำผมรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสามของคลับ...วิธีการพูดกับน้ำเสียงในสายผมว่ามันแปลกไป ...ถ้าให้เดา ตรินทร์ มันอัดยากล่อมประสาทเข้าไป ก่อนดื่ม...ทำไมผม ไม่คิดนะ?... ทำไม?! กับการที่เธอคนนั้นกลับมาทำผมลืมได้ขนาดนี้เลยหรือ? สีหน้าเมื่อตอนเย็นของไอ้คุณชายมันก็พอบอกได้บ้าง...

แต่ผมเองที่ไม่ได้สนใจ ตรินทร์ อัดยาเข้าไปเพื่อกดอาการปวดหัวที่มันเป็นมาตลอด... แต่ผมยังลืมปล่อยให้มันดื่ม นี่ผมคิดแต่จะหลีกทางให้เธอคนนั้นจนปล่อยให้ ตรินทร์ เป็นถึงขนาดนี้? แค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวทำให้ผมปล่อยมือจากคนสำคัญที่สุดได้...งั้นหรือ? นี้ใช่ผมจริงๆใช่ไหม? นี้ใช่มึงจริงๆใช่ไหม.....

...นี้เป็นมึงจริงๆใช่ไหม ?! ไอ้เหี้ยโฆ!

..............
............................

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 2 # Please come back to me.
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 22-04-2012 23:31:09
บทนำ 2 #   Please come back to me.
Part พระแพง



ร่างเพรียวระหงก้าวขึ้นบันไดชันอย่างมาดมั่นแม้จะใส่ส้นสูงเกือบ 4 นิ้วริมฝีปากอิ่มสีแดงสดเม้มแน่นเข้าหากัน...แต่ไม่ได้ทำให้ความสวยของเด็กสาวในชุดเดสสั้นสีครามลดลงแม้แต่น้อย... เสียงเพลงจากชั้นบนเบาลง ก่อนจะมีเสียงเบสกระหึ่มขึ้นใหม่ หญิงสาวเริ่มจะหัวเสียเมื่อก้าวเข้ามาถึงชั้น 3 ของคลับ

...ทันทีที่ประตูกระจกเปิดออก สายตาหลายคู่ข้างในนั้นก็พากันจดจ้องอยู่ที่เธอ แม้จะเคยชินกับสายตาที่มองเธออย่างชื่นชม แต่หลายครั้งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกบางอย่าง...       

‘สายตาพวกนั้น...ควรจะหลุบลงต่ำยามเธอ ย่างกราย...’                                     

…แต่นั้นก็แค่ความคิดที่แวบเข้ามา...มันค่อนข้างไร้สาระ เมื่อคิดถึงสิ่งสำคัญที่ทำให้เธอรีบมาที่นี้ทันทีที่ลงจากเครื่อง...เพราะคนๆนั้นลางสังหรณ์แปลกๆมันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ จนเธอตัดสินใจบินกลับมาเมืองไทย ทั้งหงุดหงิด ทั้งร้อนรุ่ม ทั้งกระวนกระวาย... มันต้องมีอะไรมากกว่าความรู้สึก...แล้วเธอก็พบตัวต้นเหตุ ‘เขา’ อยู่ตรงนั้น…

โครงหน้าคมตัดกับแววตาสีแปลกรับกับจมูกเชิดอย่างลงตัว ตอนนี้ชายหนุ่มร่างสูงสมส่วนขยับและโยกไปตามจังหวะเพลงอีกทั้งยังตะโกนแหกปากร้องคลอไปกับนักร้องบนเวที ดูจากสภาพแล้วมันเกินคำว่าเมา…ก่อนที่นางพญาอย่างเธอจะก้าวเข้าไปหา‘ว่าที่คู่หมั้น’ ปลายหางตาคมของหญิงสาวก็กวาดไปเห็นหลังกว้างของใครคนหนึ่งเดินหลบเลี่ยงลงชั้นล่างหายลับไป…ไม่แปลกถ้า ‘ตรินทร์’ อยู่ที่นี้… ‘โฆษิต’ ก็คงอยู่ไม่ห่าง...ทั้งคู่หมั้นของเธอและลูกพี่ลูกน้อง มันเกินกว่าคำว่าสนิท…แต่ถึงจะอย่างไร พระแพง ก็รู้ดีว่า โฆษิต จะไม่มีวันชนะเธอ…ถ้าเธออยากได้อะไรเธอจะต้องได้...โดยเฉพาะ ตรินทร์! คนๆนั้นเป็นของเธอก่อนที่จะเกิดเสียด้วยซ้ำ... แค่คนๆนั้นเท่านั้น…

...แล้วมันก็แว่วเข้ามา....

เสียงเพลงทำนองแปลกดังเข้ามาในโสตประสาทดึงสติเด็กสาวให้ก้าวตามทำนอง พระแพง เลือกที่จะเดินเข้าไปในอีกโซนของคลับแทนที่จะก้าวไปหาว่าที่คู่หมั้น...ร่างบางเอนกายนั่งนิ่งบนโซฟาตัวนุ่ม เสียงเพลงที่แตกต่างจากด้านนอกทำให้อารมณ์เริ่มผ่อนคลาย จนเด็กสาวอดไม่ได้ที่จะขยับตัวช้าๆตามทำนองเพลงเสียงแปลกแต่แสน..คุ้นเคย...

เกือบ 2 ชั่วโมงที่เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับทำนองเพลงนั้น เหมือนมันฝังอยู่ในทุกอณู เสียงเพลงทำนองแปลกแต่ไพเราะอย่างที่สุด... หากทำไม ‘เขา’ ถึงไม่ยอมเข้ามาฟัง.... ทำนองที่โหยหา...และที่น่าแปลกกว่านั้น...เธอเองยังอดแปลกใจไม่ได้ ทำไม? เธอ ถึงไม่เดินไปหา? ตรินทร์…

...เสียง เพลงหยุดลงไปแล้วเหลือเพียงเด็กสาวที่ทิ้งตัวลงพิงโซฟาอย่างเต็มหลัง ทั้งๆที่รักคนๆนั้นมากเหลือเกิน แต่ทำไมถึงรู้สึกแปลก...หัวใจเหมือนยังโหยหา หัวใจเหมือนกำลังจะแหลกสลาย ทั้งๆที่ความสุขอยู่ตรงหน้าทำไมน้ำตาถึงยังไหล?...ทั้งๆที่ไขว่คว้าคนๆนั้นไว้ได้แล้ว...แต่ทำไม? ...ความเจ็บปวดมันถึง...ไม่จางหาย...

“เหนื่อยหรอคะ? ”

เสียง แปร่งปนหวานดังขึ้นข้างๆ พร้อมๆกับปลายนิ้วของเจ้าของเสียงที่ถือวิสาสะไล้คราบน้ำตาบนใบหน้านวล แววตาวาวคู่นั้นแทบทำให้ พระแพง ลืมหายใจ....กลิ่นน้ำหอมกลิ่นแปลกรวมไปถึงรอยยิ้มเฉพาะตัวที่คุ้นเคยกำลังทำให้หัวใจนั้นพองโต พระแพง ไม่เคยรู้จักหญิงสาวตรง หน้าหากแต่คุ้นเคยอย่างที่สุด...ไม่เคยอ่อนแอต่อหน้าใคร หากแต่พอปลายนิ้วเย็นนั้นสัมผัส น้ำตามันกลับไหลไม่หยุด…

“อ้าว! คุณหนู...ร้องทำไมคะ ? เหนื่อยนักก็พัก...ดื่มอะไรไหม ? เดี๋ยวเลี้ยง นี้เห็นว่าเต้นสวยนะเนี้ย”

น้ำเสียงนั้นเหมือนจะพรั่งพรูมาพร้อมรอยยิ้มและความเอาใจใส่...แต่สำหรับ พระแพง ม่านน้ำตาเหมือนจะบดบังทุกสิ่ง หญิงสาวเบื้องหน้าเหมือนชิ้นส่วนที่ขาดหายไป...ยิ่ง พระแพง เอาแต่ร้องไห้ หญิงสาวเบื้องหน้ายิ่งทำอะไรไม่ถูก...

.............
............................


Part ภัทร

..สติ เหมือนจะอาบไปด้วยน้ำเมา...ส่งผลลามไปถึงใบหน้า ผิวหน้านั้นเริ่มจะรู้สึกหนาวๆร้อนๆ จนกลายเป็นสีหน้าแดงระเรือ...รอยยิ้มกว้างที่ดูจะติดกระล่อนได้แต่ยิ้มปลอบเด็กสาวบนโซฟา สมองมึนๆมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้โลกมันดูสดใสแบบเบลอๆแปลกๆ...

ว่าจะแค่แวะเข้ามาดูโซนนี้เพราะเสียงเพลงทำนองแปลกแต่คุ้นหูแท้ๆ แต่พอสายตามันหยุดอยู่ที่ร่างบางบนโซฟาทันทีที่เห็น ‘คุณหนู’ นี้ขยับไปตามทำนองเพลง ร่างกายมันกลับเหมือนโดนมนต์สะกดให้เข้ามาหาซะงั้น...แล้วอยู่ๆ ‘คุณหนู’ นี้ก็ร้องไห้ ทำเอาหัวใจแทบตกไปตาตุ่ม...เศษเสี้ยวความรู้สึกที่อยู่ลึกๆบอกตนเองว่า...

‘ดวงตาเศร้าคู่นั้น ไม่สมควรจะมีหยาดน้ำตาอีก’

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตน...เกือบจะเผลอโอบร่างบางที่สะอื้นไห้ ให้มาซบกับไหล่ตัวเองแล้ว... แต่พอจะเอื้อมคว้าร่างบางเบื้องหน้าตนกลับถูกกระชากออกมาซะงั้น แรงไม่ใช่น้อยๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร...ไอ้หมอบ้านั่นชัวร์! ขัดตลอด!ว่าแล้วก็หันไปดูตัวการซะหน่อยกะจะโวยวายแต่สายตาวาวเหลือบเงินก็ดูดุเสียจนคนที่คิดจะโวยต้องหลบตา…

“พอได้แล้ว เมาขนาดนี้ก็กลับเถอะ พรุ่งนี้เรามีเวรคลินิก”

เสียงเข้มดังขึ้นตามอารมณ์ของเจ้าของเสียง คนเมาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเอนตัวออกมาจากแผงอกกว้างที่ตนถลาไปซบตามแรงดึง แม้เพื่อนสาวตัวดีจะดันตัวออกแต่วงแขนใหญ่ยังกระชับอ้อมกอดให้ร่างนั้นแนบแน่นเข้าไปอีก 'ภัทร' ได้แต่เงยมองใบหน้าเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำนิ่งไม่สนใจแถมยังยักไหล่ทำไม่รู้ไม่ชี้แค่หายไปไม่ถึง 10-20 นาที แค่นี้ 'ไอ้คุณหมอ' มันต้องมาตามเลยหรอไงเนี้ย...โหดชะมัดนี้ขนาดเป็นแค่เพื่อนนะ...

“23.24 น. ที่ตกลงกันไว้ 00.15 น. นะคุณหมอ”

น้ำเสียงติดตลกของคนเมาที่เพิ่งโดนกระชากให้เข้ามาซบแผงอกกว้าง บ่นปนขำ แต่ข้อมือของคุณหมอร่างใหญ่ที่ยังจับอยู่กับต้นแขนเพื่อนสาวขี้เล่นไม่ได้คลายน้ำหนักลงเลย ซ้ำตาแววสีแปลกยังดูเครียดขึ้นกว่าเก่า ...ก่อนภาษาไทยคำแปลกจะพ่นออกมาอย่างหัวเสีย ประโยคคำแปลกที่เจาะจงให้แค่ผู้ถูกพาดพิงเท่านั้นเข้าใจ

“นาง...จะจากสวรรค์วิมานชั้นไหนก็เถอะ อย่ามาใช้น้ำตาล่อลวงเฉกนี้ หญิงกาลี อย่ามาพรากสิ่งใดไปอีกเลย..”

ภัทร ได้แต่มองหน้าเพื่อนหมอร่างใหญ่..

‘พูดอะไรวะ?เสียงเย็นยังกับจะขู่ฆ่ากับแค่มีเด็กผู้หญิงมาร้องไห้หน้าเราเนี้ยนะ... ตลกหล่ะ!’

ว่าแล้วหญิงสาวหันไปยิ้มปลอบกับ สาวน้อยร่างบางตรงหน้า ก่อนจะโดนเพื่อนร่างยักษ์ลากตัวออกมา โดยไม่ให้ทันตั้งตัว!

‘เฮ้ย!เดี๋ยว! ยังไม่ได้บอกลาน้องเขาเลย ไอ้หมอสัต! เดี๋ยว!’

..............
............................


..พระแพง ได้แต่มองตามร่างหญิงสาวที่เพิ่งโดนวงแขนใหญ่ล็อคคอ แล้วลากออกไปจากคลับ ...

แค่เห็นเจ้าของแววตาวาวนั้นห่างไป หัวใจมันก็แทบจะหยุดเต้น... ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนเกือบจะห้อเลือด พระแพง ได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ เธอจำแววตานั้นได้ จำได้แม้กระทั้งความรู้สึกยามอยู่ใกล้...

...พวกอมนุษย์นั่นอีกแล้ว...

เธอเพิ่งเข้าใจ ทุกอย่างมันถูกบิดเบือน ‘เขา’ คนนั้นไม่ใช่ ‘เขา’ ที่ควรจะเป็น ทุกอย่างมันจะต้องเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น เธอต้องได้ทุกอย่างที่เป็น ‘ษิตรินทร์’ เป็น ‘คนๆนั้น’ ไม่ใช่แค่ร่างกายแต่ต้องได้ทั้งหมด!


...เธอต้องได้ แม้แต่ปราณแห่งวิญญาณ ที่อยู่ผิดที่!

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 22-04-2012 23:35:51
เย้ มาแล้ว  :กอด1: กอดคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 3 # Call me back.แรกเจออันเลือนลาง
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 22-04-2012 23:49:04
บทที่ 3 Call me back.แรกเจออันเลือนลาง

จักคงอยู่เคียงคู่กันไป...

จักใช้ลมหายใจเดียวกัน...

จักอยู่ดำรงค์เพียงถึงวันนั้น ...

วันที่นางตามเราเจอ...ข้าจักไป...หากวันนั้นมีจริง...



...7 และ 8 และ 9 และ 10  และ 11 ...12..13 ...14 ..15..16...17...18.....27..28...29 ...30...      ทันทีที่สิ้นคำว่า 30 แรงกดของข้อมือที่ทิ้งลงที่แผ่นอกกว้างซ้ำเป็นจังหวะก็หยุดลง มือที่เคยใช้ทิ้งน้ำหนักเปลี่ยนเป็นเชยดันคางที่เปียกชื้นให้เงยขึ้น

ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกส่งให้ทันทีที่ริมฝีปากเย็นทาบปิดครอบริมฝีปากหนาของร่างเปียกที่ไร้สติจนมิด  มันไม่ได้เหมือนนิยายที่ความหวานของริมฝีปากจะปลุกสติที่กำลังจะดับสนิทให้ตื่นได้ง่ายๆ 

...นี่มันเป็นเรื่องของความเป็นความตาย...ริมฝีปากไม่ได้หวานชวนชิม ในความเป็นจริงมันขมด้วยรสแอลกอออล์ที่พยาบาลจำเป็นยังซับเอาไว้ในกระแสเลือด 

แทบสร่างเมา! ไอ้หมอตัวไหนนะที่กรอกหูอยู่เสมอ

'ชั่วเสี้ยวนาทีที่เราลังเลตัดสินใจ มันอาจหมายถึงทั้งชีวิตของใครสักคน'

.............
............................


เพราะประโยคของไอ้เพื่อนหมอนั่นล่ะ ที่ทำให้ต้องมาเป็นพยาบาลจำเป็นอยู่แบบนี้ ทันทีที่ออกมาจากผับ โทรศัพท์ไอ้เพื่อนหมอก็ดังขึ้นถึงจะเมาแต่ก็เดาได้ รู้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย เคสด่วนมาประชิดตัว ถึงใจจะไม่อยากปล่อยเพื่อนสาวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหน้าที่ หญิงสาวถูกผลักยัดเข้า Taxi แบบมึนๆมีแต่คำสั่งการของเพื่อนหมอกับเงินแบงค์สีแดงสามใบที่ยัดใส่มา...

..หลับไปสักพักถึงได้รู้ว่ายังไม่ถึงบ้าน รถ Taxi จอดนิ่งแบบไปไหนไม่ได้เมื่อรถเก๋งคันใหญ่จอดขวางกลางถนน ร่องรอยของอุบัติเหตุ แบบสดๆร้อนๆ เสียงโวยวายจากไทยมุงกับการจอดแบบแทบต้องดับเครื่องรถทำให้ ภัทร ต้องฝืนตัวเองให้สร่างแล้วลากสังขารขึ้นมาจ่ายเงินค่ารถแบบมึนๆ

...เดินออกมาแบบไร้วิญญาณเพื่อพบกับร่างใหญ่ที่เพิ่งโดนลากขึ้นจากน้ำ...

.............
............................

...ไม่ลังเลเลยที่จะยกมือเมื่อพี่ชายแปลกหน้าที่เพิ่งลากร่างนั้นขึ้นมาจากน้ำถามหาใครสักคนที่ทำ CPR. เป็น

.............
............................


ก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจของพยาบาลจำเป็นเต้นแรงเป็นสองเสียงซ้อนกันอีกครั้งเมื่อทำ CPR. มารอบนี้รอบที่สามแล้ว...แต่ร่างใหญ่ยังไม่มีวีแววใดๆตอบสนอง ข้อแขนเริ่มจะล้าความรู้สึกที่เหมือนตัวเองกำลังชักกะเย่อกับความเป็นความตายทำเอา พยาบาลจำเป็นหัวเสียไม่ใช่น้อย

"สัดเอ้ย! แขนตึงๆ!สิว๊ะ! แม่งแขนฉันจริงรึเปล่าเนี้ย!บอกให้ตึงๆ! 9 และ 10 และ 11...12...13...14...เหี้ย!..ตื่นสิ"

สติแตกจนเริ่มเหวี่ยงกับตัวเองไปแล้วตอนนี้ เหมือนการต่อสู่ที่ใช้ทั้งแรงและลมหายใจของคนอารมณ์รั้นกำลังจะแพ้ต่อสิ่งที่เรียกว่าความตาย ฝูงคนรอบข้างที่มุงดูเหมือนจะถอดใจยอมรับกับผลที่ยังไม่เกิด

...เมื่อตอนนี้ความสงสารที่บรรดาไทยมุงมีให้ก็แต่พยาบาลจำเป็นที่น้ำตาคลอเบ้าสติแตก จนเริ่มจะหันมาสั่งพร้อมพร่ำด่าตัวเองเมื่อท่อนแขนที่ทำงานอยู่นั้นไม่เป็นอย่างที่สมองสั่งงาน       

"น้องพอเถอะ...แขนน้องสั่นไปหมดแล้ว ..."

พี่ร่วมกตัญญูที่คอยเฝ้าอยู่ตลอดตอนนี้ถอดใจจนเอ่ยปากออกมาเองแล้ว สำหรับความช่วยเหลือที่หญิงสาวมอบให้ชายแปลกหน้าที่นอนนิ่งอยู่ตอนนี้ แววตาวาวเงยหน้าขึ้นมาจดจ้องคนร้องห้าม แต่ท่อนแขนตึงที่สั่นเพราะความล้ายังคงกดลงพร้อมๆกับการนับจังหวะหายใจ... สายตาเย็นเหมือนจะเผาคนที่ถูกจ้องให้เป็นเป็นกองเถ้าถ่าน...

"ไอ้คิงส์...คิงส์มึงตายแบบนี้ไม่ได้นะ! เหี้ยคิงส์ ฟื้นเถอะ! คิงส์ !คิงส์!"

เด็กผู้ชายหน้าโหดตัดสกิลเฮดที่นั่งอยู่ด้วยกันท่าจะเป็นญาติหรือไม่ก็คนรู้จัก เพราะน้ำตาลูกผู้ชายตอนนี้เริ่มจะพรั่งพรูออกมาแล้ว CPR. รอบที่ สี่ เริ่มขึ้นพร้อมลมหายใจที่ถูกส่งเข้าปอดของอีกคนที่นอนนิ่งไร้การตอบสนองอีกครั้ง...

"ชื่อคิงส์ใช่ไหม? ฉันเหนื่อยแล้วนะคุณคิงส์ ...ตื่นซะทีเถอะคุณคิงส์...อย่าให้ฉันต้องโดนประณามว่าทำคนตายเลยนะ...คิงส์ตื่นเถอะ..."

น้ำเสียงหอบพร่ำอ้อนวอนกับร่างที่ไร้สติแต่ข้อมือที่ประสานกันเพื่อกดถ่ายน้ำหนักลงแผงอกยังคงเป็นจังหว่ะสม่ำเสมอ

...ทว่าไร้การปฏิกริยาใดๆ....ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเหมือนโดนขัดใจที่ร่างใหญ่ยังไร้การตอบสนอง...

ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกส่งเข้าไปใหม่พร้อมกับรสชาติของเลือด...เมื่อพยาบาลจำเป็นนั้นข่มอารมณ์ตนเองไว้จนเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง ... 

'ฉันจูบแกไปกี่รอบแล้ว!ไอ้สัดคิงส์! ถ้าฉันยอมเสียแรงเหนื่อยโดยที่ไม่ว่ายังไงนายก็ยังจะตายให้ได้...ก็ไม่ใช่ฉันแล้ว!'

อีกครั้งที่ไร้การตอบสนอง ข้อแขนเย็นคลายออกจากการประสาน แล้วย้ายมาจับกดอยู่ที่ลำคอหนา ก่อนปลายนิ้วเย็นจะกดจิกช่วงลำคอนั้นไว้  ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกส่งให้ร่างที่ฝูงชนตัดสินแล้วว่า  'ไม่รอด'  อีกครั้ง ความเย็นของริมฝีปากจากร่างที่นอนนิ่งที่เริ่มจะรู้สึกได้ทำเอาเส้นบางๆที่เรียกว่าสติขาดผึง

.............
............................

"สัดเอ้ย! ไอ้คิงส์...ฉันบอกให้ตื่น...จะตายก็ไปตายตอนอื่น! อย่ามาตายตอนฉันตัดสินใจช่วย!สิว๊ะ! ฉันบอกให้ตื่น!"

เสียงของพยาบาลจำเป็นแข็งขึ้นมาเมื่อเส้นสตินั้นมันขาดกระจุย... บรรดาไทยมุงแทบสะดุ้งเมื่อ ไอ้ประโยคเมื่อกี้มันไม่ใช่การอ้อนวอนขอกับคนที่กำลังจะตาย แต่มันเป็นคำสั่ง...ไม่ให้ตาย!'

"....."

"เฮ้ยคิงส์.!..ฉันบอกให้ตื่น! "

..............
............................


พี่ร่วมกตัญญูที่อยู่ข้างๆแทบสะดุ้งเมื่อร่างที่เคยไร้ลมหายใจกระตุกเฮือกแล้วสำลักไอ  ข้อมือใหญ่ตะกายคว้าเข้าที่คอเสื้อพยาบาลจำเป็นเหมือนคนกำลังจมน้ำแล้วเจอทุนช่วยชีวิต  แรงดิบที่ดึงกระชากอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นส่งผลให้เสื้อคอวีที่พยาบาลจำเป็นสวมอยู่ฉีกขาดลากยาวมาเกือบถึงเอว... 

...ดีหน่อยที่ใต้เสื้อนั้นสวมเสื้อซับไว้อีกชั้น ไม่งั้นคนเมาได้สร่างเมาอีกรอบ...

...คนที่เพิ่งขึ้นมาจากความตาย ปรือตามอง ภาพเบื้องหน้า...สิ่งที่เห็นมีแค่ภาพลายเส้นของดอกชบาสีแดงทับรูปอะไรสักอย่าง...แววตาสีวาวจดจ้องลงมา....พร้อมแรงของฝ่ามือที่ตบลงใบหน้าแบบเต็มแรงก่อนสติจะดับไป....

..............
............................

มันไม่มีความบังเอิญ ถ้ายังมีสิ่งที่เรียกว่าพรมลิขิต ....

..............
............................

จบจากเหตุการณ์แล้วแต่บรรดาไทยมุงยังวิจารณ์กันไม่จบ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับพวกผู้มีอิทธิพลจนทำให้รถสปอร์ตคันหรูชนเข้ากับรถเก๋งอีกคันจนถลาลงน้ำเคราะห์ดีหรือเคราะห์ร้ายไม่รู้ ที่พลเมืองดีช่วยเจ้าของรถคันนั้นไว้ได้ในสภาพใกล้ตายเพราะจมลึกลงลำน้ำ...

แต่...ที่ยังพูดกันไม่จบปากต่อปากก็ต้องเป็นเรื่องของพยาบาลจำเป็นที่สามารถ 'สั่ง' ให้ 'คนตาย' ฟื้นขึ้นมาได้นั่นล่ะ....เรื่องแปลก!

....และที่แปลกกว่านั้นไอ้หนุ่มดวงแข็งที่โดนเรียกให้กลับมาจากความตาย มันดันสลบเมือดกับแรงฝ่ามือของคนเรียก เพียงเพราะดันไปดึงเสื้อเขาจนขาด ...แต่ว่าก็ว่านะ เนินอกขาวนั้น

.....
..
.

รอยสักมันแปลกจริงๆ


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 23-04-2012 00:19:59
มาลงแล้ว!! เย่!!

ถึงว่าครั้งที่แล้วอ่านแล้วงง  :really2:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 4#Why I can't run away.เล่ห์ตะบองพลำ(1)
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 23-04-2012 14:51:00
บทที่ 4 Why I can't run away . เล่ห์ตะบองพลำ...[1]


"ภัทร...ทำไมไม่ไปนอนที่ห้อง"

เสียงทุ้มเบาของคุณหมอเหมือนปลุกสติที่มีแบบครึ่งๆกลางๆให้ตื่นรับสัมผัสจากมืออุ่นที่ค่อยๆลูบซ้ำๆลงบนแก้ม ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดลงมาทำให้แทบอยากหลับตาลงไปใหม่...

"เมื่อคืนมีเรื่องนิดหน่อย....เลยลงมานอนที่ห้องหมอ...ได้กลิ่นหมอแล้วมันอุ่นใจ"

เสียงอู้อี้เพราะคนพูดซุกใบหน้าเข้าหาหมอนใบใหญ่  เสื้อตัวเก่งที่ถูกถอดออกกองอยู่บนที่นอน เหลือแค่เสื้อซับลายลูกไม้ที่ใส่อยู่ กับบอกเซอร์(?) คุณหมอใช้มืออีกข้างเอื้อมหยิบเสื้อตัวนั้นเพื่อจะเอาไปใส่ถังผ้า แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยขาดที่ทำให้เสื้อกลายเป็นแค่เศษผ้า...

"ภัทร!"

...เหมือนรู้ดีกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป...

...หญิงสาวโผล่หน้าออกมาจากหมอนใบโตแล้วใช้สายตาจ้องพร้อมจับมืออุ่นของคุณหมอให้แนบเข้ากับรอยสักบนหน้าอก

"บอกแล้วไงว่าเมื่อคืนมีเรื่อง...นิดหน่อย...แต่ไม่แย่เท่านี่หรอกหมอ...ภัทรได้ยินเสียงมันอีกแล้ว...ยาหมดแล้วด้วยดิ...”

“ใช้ยาเยอะไปหรือเปล่า ภัทร?”

“...หรือหมอจะให้ ภัทร หยุดยา ...แล้วประสาทแดกไปเอง”

“เริ่มเป็นอีกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เมื่อคืน...ตื่นเต้นไปหน่อย คงจะเครียดน่ะ อาการมันเลยชัดขึ้น เสียงมันยังดังอยู่จนถึงตอนนี้เลย...หมอเองก็ได้ยินใช่ไหม? ”

เหมือนเลี่ยงคำตอบ... คุณหมอลูบเบาๆบนใบหน้าที่โผล่บนหมอนใบโตแล้วเอ่ยตัดประโยคคำถามที่เจ้าของสายตาวาวเหมือนรอยคอยคำตอบยืนยัน

“โทรไปลางานแล้วพักสมองหน่อยไป...ไปสวนก็ได้ เอากระป๋องไปด้วย”

“แล้วหมอล่ะ?”

“...จะไปเอายาให้ภัทร...”

.................
............................


...กลุ่มเมฆฝนที่รวมตัวกันบดบังแสงแห่งวัน ทำให้สายลมเย็นยามบ่ายกล้ากระเซ้ายอดไม้เขียว กลิ่นของดอกปีบป่าลอยอ้อยอิ่งเหมือนเชิญชวน...พระแพง อดไม่ได้ที่ก้าวเท้าเดินตามกลิ่นหอม ดอกปีบสีนวล ดวงตาคม มัวแต่จดจ้องดอกปีบขาวบนยอดไม้สูงจนลืมมองรอบข้าง...

"กระป๋อง! หยุด!"

เสียงนั้นดังแทรกเสียงอื้ออึ่งที่วุ่นวาย... เสียงที่ฝังอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำ...

... แรงกระแทกจากอะไรบางอย่างทำให้ พระแพง ล้มลงกับพื้นหญ้า กลิ่นสาบสางพัดมาจางๆ แล้วมาหยุดตรงหน้า...

ร่างแมวตัวใหญ่สีมอนั้นแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ แววตาสีเหลืองซีดไร้แวว... นั่นยิ่งแสดงให้รู้ว่ามันเป็น ‘สาง’ มันเป็นวิญญาณในซากแมวไม่ใช่แค่แมวธรรมดา...เด็กสาว นิ่งแทบหยุดหายใจ เมื่อ 'มัน' ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นเหม็นบวกกับเขี้ยวใหญ่น่ากลัวพอๆกับกรงเล็บที่โผล่ออกมาจากอุ้งเท้า ถึงไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรแต่ภาพที่เห็นก็แสดงชัดนี่ไม่ใช่ของที่ควรยุ่ง ...

"เหมียวๆๆ"

เสียงร้องเรียกที่มาจากด้านข้างดึงความสนใจจากเจ้าสัตว์เขี้ยวโง้งตัวนั้นไปได้บ้าง พระแพง หันไปตามเสียงนั้น...

รอยยิ้มแกนๆของเจ้าของเสียงเหมือนยิ้มปลอบให้เด็กสาวอยู่นิ่ง พระแพง แทบไม่เชื่อสายตา นั่นเป็นเขาคนนั้น เป็นคนคนเดียวกันกับคนที่เธอกำลังตามหา …

.................
............................

[Part -ภัทร]


..บรรยากาศค่อนข้างอึมครึม...

เมื่อกระป๋องมันไล่กวดแมวบ้าตัวนั้นมาจนหยุดตัวเองไม่อยู่ชนน้องหนูคนนั้นล้มลง และยิ่งแย่กว่านั้นก็ไอ้แมวบ้าที่กระป๋องไล่มามันดันจะหันไปเล่นงานน้องเขานั้นหล่ะ...อุสาจะออกมาเดินเล่นแก้เครียด ดันเจอเรื่องเครียดยิ่งกว่าเดิม...ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่หาทางแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าไปก่อนแล้วกัน

.................
............................

..

ภัทร ร้องเลียนเสียงให้แมวใหญ่ตัวนั้นละสายตาห่างจากเด็กสาว...

จมูกที่เขอะ กรังไปด้วยลิ่มเลือดของแมวใหญ่นั้นฟุดฟิดดมๆระหว่าง ภัทร และ เด็กสาว มันหันไปแยกเขี้ยวกับเป้าหมายใหม่...แต่ไม่นานมันก็หันกลับมาหาเด็กสาวอีกครั้ง...

เสียงขู่ฟ่อมาพร้อมกรงเล็บคมที่ตะปบวาดเข้าหน้า พระแพง จนได้กลิ่นเลือดความรู้สึกแสบปนเจ็บมาพร้อมๆกับเลือดที่เริ่มจับตัวกันไหลเป็นทาง เพียงแค่นั้น สติก็ขาดไป ภัทร เหมือนข่มอารมณ์ไม่อยู่ ริมฝีปากอิ่มสบถออกมาสองสามคำ ก่อนที่รองเท้าผ้าใบคู่นั้นจะเตะอัดเข้าที่ช่วงท้องร่างแมวตัวใหญ่จนมันลอยไปกระแทกกับต้นไม้ด้านข้าง ! มันแน่นิ่งไปก่อนจะเริ่มขยับตัวด้วยอาการแปลกๆ

ภัทร เดินเข้าไปหาร่างนั้นแล้วเตะอัดมันเข้ากับต้นไม้อีกสองสามที  เหมือนฟิวส์ขาด  ไปแล้วโดยสมบูรณ์...อารมณ์ขุ่นไม่ได้ดับลงเมื่อภัทรขยุมจับลำคอแมวตัวนั้นยกขึ้นสูง แล้วสะบัดแรง...

รอยยิ้มเย็นหากแต่หวานได้ใจมีมากขึ้นบนใบหน้า เมื่อ...เสียงขู่ร้องของซากแมวเหมือนจะดังขึ้นแต่แรงกดของอุ้งมือเพิ่มขึ้นจนทำให้เสียงร้องนั้นจมหายไปในลำคอ...

ซากในอุ้งมือตะกายตะหวัดกรงเล็บคมไปทั่วเหมือนยังไม่หมดฤทธิ์ จนปลายนิ้วแข็งกดย้ำแน่นที่ลำคอซากร่างนั้นอีกครั้ง ...จนมันนิ่งไป เจ้าของอุ้งมือถึงได้สะบัดเหวี่ยงซากร่างนั้นอัดเข้ากับต้นไม้ใหญ่ !

"กระป๋อง !ตาม !"

คำสั่งดังขึ้นไม่นานก่อนร่างนั้นจะทันตั้งหลัก...หมาสีดำตัวใหญ่ก็โผล่พรวดออกมาจากซุ้มไม้ เจ้าหมาดำสองหัวนั่นโผล่ออกมาเหมือนรอโอกาส  มันกระโจนงับร่างที่เหมือนเป็นแค่ก้อนเนื้อแล้วลากถอยหลังหายไปในพุ่มไม้

... แต่สิ่งที่ ภัทร เห็นก็แค่กระป๋องหมาของไอ้หมอ งับแมวจรจัดที่ขู่ฟ่อกับเด็กสาว และกระโจนมาจะกัดตน  ก็เท่านั้น...

.................
............................


ภัทร ยื่นมือฉุดเด็กสาวให้ยืนขึ้น...

แววตาสีแปลกที่มองจ้องมาเหมือนสะกด พระแพง ไม่กล้าคิดนะว่าเพียงแค่มองหา คนๆนั้นก็จะปรากฏตัว...

...มือเย็นถือวิสาสะ จับคางเด็กสาวให้หันมาใกล้ ปลายนิ้วนั้นไล้เช็ดตามรอยเลือดเบาๆที่แก้มนวล เพื่อลบรอยแผลที่เกิดขึ้นจากกรงเล็บของแมว...

"ขอโทษนะคะ ตกใจมากไหม? ...พี่ชื่อ ภัทร แล้วคุณหนูล่ะคะ?”

..เพียงแค่ชั่วพริบตา สายตาเย็นเฉียบจากแววตาวาวเปลี่ยนกลับเป็นรอยยิ้มแบบเดียวกันกับที่เคยเจอเมื่อคืน...มันเร็วมากจน พระแพง อดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าทำไม?กาลเวลา ทำให้คนๆนี้...น่ากลัวเกินไป... 

...แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเสี่ยงถ้าคนตรงหน้าเป็น ‘ปราณแห่ง ท่านผู้นั้น’

“พระแพงค่ะ...ชื่อพระแพงค่ะ คุณภัทร...”

.................
............................

Part พระแพง


‘ถึงจะเริ่มต้นแสนงามเท่าไหร่...แต่มันก็จะจบแบบเดิม...ทั้งหมด... ข้าเจ้าเป็นคนทำทั้งหมด ไม่มีคำต่อว่าหรือสั่งเสีย ทุกอย่างหายไปทั้งหมด ทั้งเสียงเพรียกที่หวานหู ทั้งแววตาที่ห่วงใย ข้าเจ้าทำมันหายไปทั้งหมด ด้วยมือข้าเจ้าเอง..!’

...ใครสักคนเคยบอกฉันว่า ‘รักแท้ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว’ แต่อีกกี่ร้อยพันครั้งที่ฉันจะตามเก็บเศษรักแท้ได้หมด...คิดว่ามันเหนื่อยไหมที่ต้องเริ่มนับหนึ่งทุกครั้งที่มันจบ…

มันไม่เหนื่อยหรอกถ้าเทียบกับการได้พบ ใครคนนั้นอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง และ อีกครั้ง...จะต้องขอโทษอีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง...

.................
............................

กลิ่นคาวเลือดที่ฟุ้งขึ้นจมูกพร้อมๆกับความชื้นปนลื่นที่สัมผัสได้…ทำให้สายตาต้องก้มลงต่ำมองสองมือตนอีกครั้ง ‘พระแพง’ รู้ดีว่าตนกำลังเผชิญกับอะไร...

...ข้างนอกตอนนี้สายฝนไม่ได้หยุดหรือซาลงเลย มันยิ่งโหมกระหน่ำ...สิ่งที่สายตาเห็นผ่านแสงเทียนและแสงสว่างวาบของสายฟ้ายิ่งทำให้ตระหนก สองมือตนนั้นชุ่มไปด้วยเลือด ขณะสายตากำลังพล่าเลือนด้วยหยดน้ำตาที่ตอนนี้พรั่งพรูไม่ต่างจากสายฝนด้านนอก...

...แม้รู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ก็อดข่มความรู้สึกไม่ได้…

ร่างเบื้องหน้าตนนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีแม้กระทั้งจะไหวสั่นจากลมหายใจ ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นเหมือนกำลังจะหลับลึก แต่เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำไปซ้ำมานี้ ทำให้เด็กสาวรู้ดี...นี้เป็นแค่ร่างไร้วิญญาณ ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้...
   
ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นแล้วและกำลังจบลง... อีกไม่นานเปลวไฟสีครามจะไล้กลืนร่างนี้หายลับ ที่ทำได้มีเพียงแค่ ขอเวลาสัมผัสร่างนี้ให้นานเท่านาน...อยากอยู่กับคนๆนี้ให้นานที่สุด อยากเห็นใบหน้าคนๆนี้ให้เต็มตา...

...แต่ก็หยุดน้ำตาไม่ได้  แม้สุดท้ายจะต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา เกือบทุกค่ำคืนที่ต้องลืมตาตื่น แล้วพบว่าคนๆนั้นไม่ได้อยู่เคียงข้าง...แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ครั้งเมื่อความฝันเดิมๆเข้ามาเธอก็หยุดน้ำตาไม่ได้...ทุกครั้ง คำขอโทษเป็นเหมือนลิ่มสลักตอกฝังลึกลงในกระดูกทุกครั้งที่พร่ำเอ่ย สลักตอกซ้ำๆ กดย้ำลงทุกๆครั้ง ทุกๆครั้ง

... แม้ พระแพง จะไม่รู้เลยว่าคนๆนั้นเป็นใคร? เกิดสิ่งใดขึ้น? แต่เธอรู้อยู่อย่างเดียวสิ่งที่เห็นทั้งหมด เธอมีส่วนทำให้มันเกิด...
...เธอฆ่า ‘เขา’ ด้วยมือเธอเอง…

..............
............................

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 23-04-2012 15:52:52
เข้ามาส่งข้าว ส่งน้ำ ในคนเขียนค่า : )
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 23-04-2012 17:14:21
 :mc4:
ต้อนรับกระทู้ใหม่จ้า
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!4#Why I can't run away.เล่ห์ตะบองพลำ(2)
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 10:14:21
บทที่ 4 Why I can't run away . เล่ห์ตะบองพลำ...(2)


“...มันไม่ปกติแล้วหมอ ...”

เสียงเบาพร่ำบ่นกับคนในโทรศัพท์... 

ตอนนี้สำหรับ ภัทร มันเรียกได้ว่าช่วงจิตตก อุสาห์เจอสาวน้อยน่ารักเมื่อคืนแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ที่ทำได้ในตอนนั้นก็แค่ฝืนยิ้มพาน้องเขาไปทำแผลที่คลินิก แถมด้วยการขอแลกชื่อกับเบอร์แล้วขอตัวกลับให้เร็วที่สุด....

...ก็จะให้อยู่ตรงนั้นได้ไง เมื่ออาการมันเข้าข่ายย่ำแย่สมองที่เริ่มจะเบลอแปลกๆ อาการกระอักกระอ่วนที่ถ้าไม่ขืนไว้คงสำรอก หัวใจเต้นแรง อันนั้นมันเรื่องปกติพอรับได้ แต่ที่มันไม่ปกติก็เรื่องที่มีแต่ตัวเองที่รับรู้ เสียงหัวใจที่เต้นนั้น มันซ้อนกันสองเสียงอยู่ในร่าง...นั่นหล่ะที่เรียกว่าสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ

“หมอรีบกลับมาเถอะ ...ภัทร โคตรกลัวตัวเองเลยตอนนี้...จะไม่ไหวแล้ว...”

“ลูกอมยังเหลือใช่ไหม? ใช้แทนยาไปก่อนได้รึเปล่า ”

“แค่ลูกอม...มันไม่ช่วยอะไรได้มากไปกว่ากันไม่ให้อ๊วกหรอกหมอ...อย่าให้ ภัทร หลุดไปมากกว่านี้เลย หมอก็รู้แค่นี้มันก็ใกล้วิกฤติแล้ว..."

"ยังไม่ได้ยามาเลย จะกลับยังไง มียากล่อมประสาทกับยานอนหลับใส่ไว้ในลิ้นชัก พอช่วยได้ไหมซื้อเวลาไปก่อนขอแค่อย่าใช้เยอะแค่นั้น...รับปากได้ไหม?"

"...ขอบใจที่บอก...รีบกลับมาแล้วกัน"

น้ำเสียงเย็นสุดประชดนั่นเป็นประโยคสุดท้าย...

ก่อนหญิงสาวจะกดตัดสายโทรศัพท์ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ไม่อยากดึงดัน ไม่มีคำรับปากในสิ่งที่เพื่อนคนสำคัญขอ อารมณ์ในหัวตอนนี้ปั่นป่วนไปหมด ...

ยาเม็ดเล็กสีฟ้าในขวดสีชาถูกหยิบออกมาสองเม็ด บวกกับยาในมืออีกสามเม็ด  ภัทร กรอกยาเข้าปากแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา เรื่องหนีปัญหาอะ งานถนัด ขอแค่ไม่ต้องรับรู้ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวทุกอย่างมันก็โอเค จริงไหม?

.............
............................

..เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอเหมือนฟ้องว่าเจ้าของลมหายใจจมลึกในห้วงนิทรา

เงาดำที่พาดผ่านกำแพง ปรากฏเป็นรูปร่าง ส่วนที่พอเดาได้ว่าเป็นมือยื่นยาวจะสัมผัสร่างบนโซฟา แต่ต้องชะงักและสลายไปเมื่อร่างบนโซฟานั้นดันตัวลุกขึ้น ภัทร ยกมือขึ้นไล่กดขมับที่ปวดตามเสียงเต้นของหัวใจ รอยยิ้มเยือกปรากฏที่มุมปากเมื่อรับรู้ได้กลายๆว่าเสียงหัวใจอีกดวงเต้นช้าลง  'ภัทร' อีกคนหลับลึกไปแล้ว...

เสียงฮัมเพลงเบาๆดังออกมาจากลำคอ ความรู้สึกในตอนนี้บอกตามตรงว่า อยากกอดร่างอุ่นๆ อยากฟัดและกดฝังคมเขี้ยว...อยากได้ยินเสียงครางของใครสักคนที่เร่าร้อนอยู่ใต้ร่าง... และที่แน่กว่าอะไรทั้งหมด อยากชิมรสชาติของผิวเนื้อ... สันดานชั่วๆเคยจางหายไปตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับไอ้หมอ เพราะมีไอ้หมอนี่หล่ะที่รองรับอารมณ์ดิบๆของตัวเองได้ แต่ถ้าไอ้หมอไม่กลับ...

...ก็คงต้องออกไปหาข้างนอกเอาเองสินะ...

.............
............................


23.15 น.


..

รสชาติแอลกอฮอล์หลากชนิดที่ปั่นหัวอยู่ตอนนี้ ยังไม่ทำให้สมองว่างได้เท่ารสขมปนหวานของริมฝีปากที่กำลังรุกตอบ

ความเย็นและรสชาติหวานแปลกๆได้มาจากลูกอมในปากของคนในอ้อมแขนความกระสันยากเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่รับรู้ถึงรสชาติของลูกอมที่อีกฝั่งป้อนให้...จากประสบการณ์ตระเวณราตรี  จิม ไม่คิดว่าตัวเองกำลังโดนมอมยาเพราะถ้า เป็นอย่างนั้นจริง คนที่โน้มคอจูบอยู่ตอนนี้ก็คงกำลังเมาได้ที่เหมือนกัน...ภัทร เป็นเพื่อนของเพื่อนและเป็นผู้หญิงแบบที่ จิมไม่เคยเจอ

แววตาสีแปลกที่จดจ้องเหมือนไม่ยอมละสายตาในตอนแรก ทำให้คิดเอาเองว่า ภัทร ไม่ใช่คนไทย ถ้า  มาติน เพื่อนอีกคนไม่บอก จนกระทั่งได้รู้จักกันจริงๆจังๆ เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทุกอย่างมันก็ลงเอยที่หน้าห้องน้ำของคลับ  จูบรสหวาม ที่เริ่มจะมีรสชาติความเค็มปะแล่มๆของเลือดเข้ามาแทรก...นอกจากจูบ ภัทร ยังถนัดเรื่อง 'กัด'

[ I said te amo, would somebody tell me what she said? Don't it mean I love you.Think it means I love you.Don't it mean I love you.Think it means i love you,Te Amo Te Amo Don't It means I Love You ]

..เสียงเพลงรอสายดังวนหลายรอบจน ภัทร อดหัวเสียไม่ได้ที่จะต้องหยุดกิจกรรมกับเพื่อนใหม่ชาวต่างชาติ ปกติไม่ค่อยชอบเท่าไหร่สำหรับรสจูบของ 'ผู้ชาย' เว้นก็แต่รสชาติของไอ้หมอที่ดูไร้เดียงสาเรื่องจูบ ...จูบแบบนั้นมันน่าแกล้ง แต่อารมณ์ที่แปลกไปในช่วงนี้แค่ขอให้ดูเข้ากันได้ ตอนนี้ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ตามที ภัทร ไม่ปฏิเสธทั้งนั้น...

'นางฟ้า'

ถึงจะหัวเสียเมื่อต้องหยุดรับโทรศัพท์ แต่พอเห็นชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอเท่านั้น ทำเอา ภัทร อดยิ้มหวานให้ตัวเองไม่ได้

"ค่ะ ...พี่จะออกไปรับค่ะ...รอข้างหน้านะคะ"

เสียงหวานมีทันทีที่รับโทรศัพท์ แน่ล่ะท่าทีที่เปลี่ยนไปทำเอา จิม ปรับอารมณ์ไม่ถูก

"Hey!...Phat ,Where you go?"

ไม่มีคำตอบให้คำถาม นอกจากรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก

.............
............................

สักพักกว่าที่ จิม จะปรับลดอารมณ์กำหนัดแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ เพื่อพบว่า ตนเป็นของเล่นชิ้นเก่าถูกทิ้งลงถังขยะไปแล้ว...

ตอนนี้ ภัทร ยึดตัวเด็กสาวอีกคนไว้ด้วยวงแขน ริมฝีปากที่ จิม เพิ่งสัมผัสด้วยความเร่าร้อน คลอเคลียอยู่ที่พวงแก้มใสและซอกคอขาวของเด็กสาวคนใหม่ ปลายนิ้วเย็นที่เคยลากไล้ผ่านแผ่นอกแน่นของตน ตอนนี้ซุกอยู่ในชายเสื้อเด็กสาวแล้วลากลูบวนอยู่ไม่ไกลไปกว่าช่วงเอว...

"Martin...?"

ชื่อเพื่อนถูกเรียกเหมือนตั้งคำถาม แต่ชายร่างใหญ่เจ้าของชื่อได้แต่ไหวไหล่ เบ้ปาก และกระซิบคำตอบเมื่อ จิม แทรกตัวลงมานั่งข้างๆที่โซฟา

"I been to told you she is monster"

.............
............................


"เป็นเด็กดีนะค่ะ"

...เสียงหวานปลอบปนอ้อนกระซิบเข้าซอกหู พร้อมๆกับ ปลายลิ้นที่ลากเลีย ฟันคมขบเข้าที่ติ่งหูนิ่ม...

หวานไปหมดจนอดไม่ได้ที่จะไล่ชิม ร่างเนียนข้างหน้า ปกติไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่กับการเอาของกินเข้ามากินในบ้าน ไม่ว่าจะทำอะไร ภัทร ไม่เคยให้สิทธิ์ใคร ..แต่เด็กสาวที่ชื่อว่า พระแพง ก็ได้รับสิทธิ์นั้น ภัทร ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระแพง พิเศษกว่าคนอื่นรอยยิ้มยั่วเชิญชวนเกินงามจนเหมือนว่า 'เคย' แต่พอลองสัมผัสจริง มันเป็นแค่เปลือกที่แสดงให้เห็น  พระแพง ยังเดียงสากับเรื่องพวกนี้ เพราะอย่างนั้น ภัทร ถึงได้เสี่ยงถ้าเป็นเด็กสาวที่น่ารักราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอย่างนี้ บอกตามตรงถึงไหนถึงกัน และอีกอย่างที่ ภัทร มั่นใจสายตาของ พระแพง ไม่เคยมองคนอื่นนอกจากตน

...ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงที่เกิดจากความเจ็บปวด...รสชาติของเลือดหวานที่ได้จากการขบกัดช่วงไหล่เนียนและลำคอระหง สดชื่นจนยากจะอธิบายมันยิ่งกว่าการดื่มน้ำเย็นแสนชุ่มฉ่ำในทะเลทรายเสียอีก ความกระสันอยากก่อตัวขึ้นอย่างที่สุด เนื้อนวล ทั้งนิ่ม ทั้งอุ่น... 

...กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่มีตั้งแต่ปลายเส้นผมจนไปถึงปลายเท้า...

เชิญชวนให้สัมผัสตลอดร่าง ดวงตาหวานฉ่ำคลอหยาดน้ำตา  เสียงครางกระเส่าที่เย้ายวน ร่างบางสั่นระริกทุกครั้งที่ปลายนิ้วเย็นไล้ลูบผ่าน พระแพง น่าอร่อยจนอดใจไม่อยู่...เผลอกัดฝังคมเขี้ยวตนลงร่างบางซ้ำๆไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ พระแพง เองก็ไม่เคยผลักไสหรือต่อต้านความเจ็บปวดที่ ภัทร มอบให้ พระแพง ตอบกลับมาด้วย เสียงครางสุดกระสันปนเสียงสะอื้นไห้...ปลายนิ้วเย็นที่เริ่มไล้จากช่วงคอแล้วลากยาวผ่านเนื้อผ้าลงมาที่หน้าอกนุ่ม ฝ่ามือเย็นกดขยำลงเนินอกนิ่มตามอารมณ์ดิบ  สมองเด็กสาวมันมึนไปหมด...เมื่อสัมผัสปลายลิ้นร้อนค่อยๆ เลียลบรอยแผลที่อยู่บนแก้มแล้วลากเรื่อยไปจนถึง ยอดอกสีชมพูที่ชูชัน ...

ความรู้สึกจากสัมผัสมันแปลกไป เหมือนกำลังโดนเปลวไฟไล่เลีย....ทรมาน...แต่ไม่อาจขัดขืน....หน้าที่ของ พระแพง ตอนนี้มีแค่ตอบสนองด้วยเสียงครางและรับทุกสัมผัสแห่งความเจ็บปวด ...ทุกอย่างทำเพื่อดึง ปราณอันเป็นที่รักไว้กับตัว....

.............
............................


..ภาพของ ภัทร มันเหมือนยังฝังอยู่ในความทรงจำ... ภัทร เป็นเพียงคนเดียวที่ พระแพง ยอมให้คำว่า 'รัก' รักที่มากกว่ารักที่เคยให้...ตรินทร์ ...ครั้งแรกที่ พระแพง เห็น ภัทร ความรู้สึกบอกเธอว่า... คนๆนั้นเหมือน ตรินทร์ ...แต่ไม่ใช่ ตรินทร์ ...

ภัทร เป็น ตรินทร์ มากกว่าที่ ตรินทร์ เป็น ...

'เป็นคนในความฝัน'

..ถึงพระแพงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ภัทร คนนั้นน่ากลัวเกินกว่าจะเฝ้ามอง...แต่ พระแพงก็อดฝืนไม่ได้ที่จะเข้าใกล้... รอยยิ้มหวานแต่แสนน่ากลัว  น้ำเสียงที่ไม่อาจขัดขืน  บวกกับแววตาสีแปลกที่มองจ้องมาอย่างไม่คิดหลบ  ภัทร กำลังปั่นหัวเธอให้บ้า ถึงรู้ว่ามันอันตราย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้... ถ้าการรัก ตรินทร์ ทำให้ต้องตาบอด การรัก ภัทร...ก็เหมือนการเผา พระแพง ทั้งเป็น...

...เมื่อคนที่ชื่อ ภัทร ไม่ได้เคยมีรักที่คงมั่น สำหรับ ภัทร ถึงจะใกล้มากแค่ไหน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่คำว่ารักจะหลุดออกจากปาก...นี่เป็นอีกครั้งที่ พระแพง รู้สึกว่าถูกปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียว... ถามตัวเองว่าเหนื่อยไหม? การต้องหาคนๆเดียวจากคนนับพันที่เดินขวักไขว่ ...ก็เหมือนกับการเลือกเจาะจงจับปลาแค่ตัวเดียวในมหาสมุทร มันง่ายกว่า...ถ้าจะล่อปลาตัวนั้นให้ว่ายเข้ามาเอง... ตอนนี้เธอรู้ตัวดีว่าเธอกำลังทำตัวเองให้เป็นเหยื่อ...เพื่อตกปลาตัวนั้น... ปลา...ที่มีอีกครึ่งหนึ่งของ ตรินทร์... ครึ่งที่เป็นวิญญาณ...ไม่ใช่ร่างกาย พระแพง ไม่กล้าคิดนะว่าโชคชะตาเข้าข้างเธอเสมอ เพราะเพียงแค่เฉลียวใจมองหา คนๆนั้นก็ปรากฏตัว ตอนนี้ปลาตัวเพียงตัวเดียวในมหาสมุทร...กำลังจะฮุบเหยื่อ....

....แต่ถ้าเลือกได้อีกครั้ง...

...เมื่อทุกอย่างมันผิดมาตั้งแต่แรก มันก็สมควรจะกลับมาเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ถึงจะทรมานเมื่อรับรู้ว่า ภัทร จะต้องทรมานกับสิ่งที่เธอทำ แต่มันก็คุ้มกันถ้าเธอจะได้ ภัทร กลับมาอีกครั้งเพื่อเริ่มใหม่... ตรินทร์ ต้องหายไป... ถ้าเธอจะมี ภัทร ...

.................
............................

"พี่คะ...พระแพง อยู่ที่เสม็ด  พี่มาหา พระแพงได้ไหมคะ?"   

อีกครั้งที่ต้องลังเลกับการตัดสินใจ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะทำมัน ทำให้ ภัทร เป็น ตรินทร์ อย่างสมบูรณ์ ..  



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 5#Change to ...เปลี่ยน[ผู้เป็นที่รัก]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 11:11:26
บทที่ 5  Change to choice .เปลี่ยน [ผู้เป็นที่รัก]
Part ษิตรินทร์


“ ถ้า...คุณรู้ว่าคุณต้องเกิดมาเพื่อใครคนหนึ่ง คุณต้องเป็นของใครคนนั้นเพียงคนเดียว มีชีวิตเพื่อคนๆนั้นและตายเพื่อใครคนนั้น คุณเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าอะไร ‘พรหมลิขิต’ ‘ โชคชะตา’ หรือ ‘รักแท้’ แต่สำหรับผม ผมเรียกมันว่า ‘การสังเวย’ การเสียสละที่ไม่อาจขัดขืน ไม่อาจแม้แต่จักหลีกหนี ในชีวิตหนึ่งมันรู้สึกดีนะที่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรามีเพียงแค่เรา ผมรักเธอ รักมากจนทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเธอ เหมือนผมฝากทั้งชีวิตให้เธอผูกชีวิตไว้กับเท้าเล็กๆของเธอ ไม่เคยคิดที่จะมีชีวิตเพื่อตัวเอง...ตั้งแต่วันนั้น ...

‘พ่อรู้ใช่ไหมครับ...ว่าเธอเลือกผม...? ’

...ความลับของสกุลและเชื้อวงศ์ ความลับของสายเลือดแห่งผืนน้ำ การหมั่นหมายที่มีผมเป็นเครื่องสังเวย...ผมผูกชีวิตไว้กับเธอ ผมทิ้งทุกสิ่งเพื่อเธอ ทิ้งคนที่อยู่เคียงข้างผมตลอดเพื่อเธอ เพื่อคำว่ารักของเธอคนนั้น...

...ท้องฟ้าสีส้มแสดมันยังดูสวยเหมือนเดิมผืนน้ำทะเลสีครามตัดกับสีส้มแสดของดวงตะวัน....

‘การแต่งงานของแผ่นฟ้าและผืนน้ำ’


ถึงจะฟังดูดี...

แต่...การแต่งงานนั้น ...ผืนน้ำไม่ได้เป็นผู้เลือก หากเพียงท้องฟ้าต่างหากที่ยื่นมือเข้ามาโอบกอดผืนน้ำ...แล้วปล่อยมือคู่นั้นอย่างไม่ใยดี... แล้วมันก็กลายเป็นแค่ซาก... เท้าเล็กๆของเธอคนนั้นกระทืบลงบนหัวใจของผมอย่างไร้ปราณี...ผืนทราย ดวงดาว และทะเล...คืนนี้เป็นคืนที่ผมมีความสุขที่สุด และเศร้าที่สุด ทุกอย่างมันประดังเข้ามา... แล้วหายไป...

...ในวันที่ผมรู้…ว่าผมควรจะรักใคร ในวันที่โอกาส...มันไม่มีอีกแล้ว ไอ้โฆ ยังร้องไห้ ยังตะโกนเรียกชื่อผมไม่หยุด...ข้อมือมันไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด แต่หัวที่ปวดเหมือนจะระเบิดทำให้ผมต้องหลับตาลงทั้งๆที่อยากมองหน้ามันให้นานกว่านี้...

แล้วคำพูดของไอ้เรด ดังแว่วเข้ามาในสมอง...

‘อย่าผูกหัวใจไว้กับตีนใคร สักวันถ้าเจ้าของตีนเขาอยากเหยียบขึ้นมา มึงจะไม่เหลืออะไรเลย’
   
ผมเคยยิ้มเหยียดกับประโยคเสี่ยวๆนั้น...

แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว...


“ผม....ไม่เหลืออะไรเลย....ไม่เหลือแม้แต่รอยยิ้มของไอ้โฆ...”

.............
............................



.
.
.
.


Part ภัทร


‘เดี๋ยวนะ....ขอรวบรวมสติสักนิดนึง...ฉันกำลังจะไปเสม็ด...

...แล้วมันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา??

ทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้ ปวดหัวชะมัด ไอ้หมอบ้าก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้... เอ่อน่ะ...จริงสิฉันเป็นคนแอบหนีมันออกมาเองนี่น่า รนหาที่ตายจริงๆเหมือนที่ไอ้หมอว่า แล้วรถแมร่งคว่ำได้ไงว๊ะ? อย่างนี้คุณนายก็ได้ใช้เงินประกันแล้วอะดิ

น่าน... ยังสุขใจได้อีกอย่างน้อยก็ยังมีเงินให้คุณนายทำศพ หล่ะ ดูสภาพตัวเองที่สะท้อนจากกระจกมองข้างแล้วน่าจะไม่รอด... เหอเหอเหอ เลือดของคนเรามันเยอะขนาดนี้เลยหรอ...ประมวลจากสภาพ ถึงไอ้หมอมาอยู่ตรงนี้จริงก็ใช่ว่าฉันจะรอด เลือดมันทะลักออกมาเรื่อยๆเลยนี่หว่า... แถมยังขยับตัวไม่ได้อีก แล้วนั่นนางฟ้าหรือไง ? แม่งโคตรคุ้นหน้าเลย  ’

“เธอเป็นใคร?”

..ภาพผู้หญิงที่ฉันเห็นตอนนี้เธอมีแต่น้ำตานองหน้า...

วงแขนนุ่มค่อยๆประครองฉันและโอบกอดไว้อย่างอ่อนโยน ...ริมฝีปากเย็นนั้นแตะที่หน้าผากฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ริมฝีปาก...รสจูบที่โหยหา มันเริ่มจะเร้าร้อนขึ้น จนกลบให้ความเจ็บปวดที่ค่อยๆลามเข้ามานั้น หายไป...

...กลิ่นคาวเลือดเริ่มฟุ้งขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กระทั่งกลืนน้ำลายยังยาก เหมือนจะได้กลิ่นคาวเอียนขึ้นจากคอไปถึงจมูก เสียงอื้อดังก้องอยู่ในหู ทำให้ไม่ค่อยได้ยินอะไรนอกจากประโยคบางประโยคอันแผ่วเบา จากเจ้าของอ้อมกอดนั่น

“...เป็นคนที่ ภัทร จะรักจนหมดใจ...”

...แล้วภาพทุกอย่างก็กลืนไปกับสีแดงที่เริ่มไหลลงมาปิดทุกสิ่ง ฉันกำลังจะตายใช่ไหม? ไอ้หมอบ้าแกจะไม่มาดูใจฉันก่อนตายหรอ?! แล้วยังเสม็ดอีก ฉันยังไม่ได้ไปเหยียบเสม็ดเลยนะแก!

.............
............................



.
.
.
.


“ถามจริงมึงลืมทุกอย่างหมดเลยหรอวะ?”

..ไอ้หัวแดงหน้าลูกครึ่งมันตะโกนถามทันทีที่ฉันนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บรรยากาศไม่คุ้นเคยไม่รู้จักใครเลย...ไม่มีสมองที่จำเรื่องเกี่ยวกับพวกที่ล้อมรอบเลยสักนิด ในสมองฉันไม่ใช่จำไม่ได้ แต่ไอ้ที่จำได้ไม่ใช่เรื่องของฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เท่านั้น…

“ไอ้ตรินทร์เนี้ยนะจำอะไรไม่ได้ แต่ก็งั้นหล่ะจำได้ไม่ได้ก็ค่าเท่ากัน ฮ่าๆๆๆๆ”

ลูกคู่อีกตัวมาจากไหนไม่รู้ ใช่ฉันจำเรื่องของ ตรินทร์ ที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้ไม่ได้ เพราะในสมองฉันจำได้แค่ฉัน คือ ‘ภัทร’ ฉันกำลังจะไปเที่ยวเสม็ดแบบตายดาบหน้า...ไม่สิ เพื่อไปหาใครบางคน...แต่ อยู่ๆมันก็เกิดอุบัติเหตุกับรถตู้...

...ฉันกำลังจะตาย พอรู้สึกตัวอีกทีฉันก็อยู่ที่นี้แล้ว...

ในร่าง ‘ตรินทร์’ ลูกชายคนเดียวของบ้าน ‘ชลเทวะ’  บอกไปใครจะเชื่อดีไม่ดีฉันอาจโดนจับตรวจประสาทหน่ะสิ ฉันเลยอยู่อย่างนี้อยู่โดยไร้ความทรงจำของ ตรินทร์ ก็มันจะมีได้ไงเล่าฉันไม่ใช่ ตรินทร์

ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาฉันเห็นแต่หน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งเฝ้าตลอดเวลา...

หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่า เด็กที่นั่งเฝ้าคนนั้นชื่อ ‘โฆษิต’ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ‘ตรินทร์’  'ษิตรินทร์' แถมยังอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ …

...ฉันยิ้มให้โฆ แต่ที่ได้กลับมาคือสีหน้าประหลาดใจและความเฉยชา...พลาดแล้ว หล่ะฉัน..หลังจากรอยยิ้มนั้น โฆ มันพูดกับฉัน คำต่อคำได้ จาก ‘โฆ’ ฉันเลยเรียกมันว่า ‘บัพ’ [Buffalo] หลังจากนั้นก็บิงโก! เราห่างกันและยิ่งห่างเมื่อฉันต้องลงเรียนปีหนึ่งใหม่แถมยังเปลี่ยนคณะจากวิศวะมาเป็นบริหาร 

...ก็แหง่ล่ะเพราะฉันดันไม่เข้าใจเนื้อหาของพวกวิศวะที่จะต้องเรียนตอนปีสอง... ใครจะไปเข้าใจก็ไม่เคยเรียนจริงๆนี่น่า ยิ่งบางครั้งความทรงจำฉันดันก่อเรื่องเมื่อมันเป็น ความทรงจำของผู้หญิงวัยทำงาน  ไม่ใช่ความทรงจำของเด็กหนุ่มมหาลัย แต่ทำไงได้ฉันยังอยู่ที่นี้ยังต้องใช้ชีวิต...

‘ยังต้องมีชีวิต...’

...เหมือนยืมชีวิตเด็กตรินทร์นั้นมาใช้ ฉันพยายามคิดว่าฉันคือ ‘ตรินทร์’ แต่สมองมันก็สั่งการได้อย่างชัดเจน ฉันไม่ใช่ ษิตรินทร์ ฉันคือ ‘ภัทร’ ‘ณภัทรตรา’ แต่ความจำมันมีแค่นั้น ฉันจำคนที่จะยืนยันตัวตนของฉันไม่ได้... เหมือนโดนอะไรสักอย่างปิดสวิตซ์ เอาแล้วไงนี้มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี้ยโอ๊ย!แม่เจ้า!?


เกือบอาทิตย์ที่ต้องสถิตที่มหาลัยแบบไปๆมาๆ อย่างน้อยก็เพราะต้องทำความรู้จักกับสังคมของ ตรินทร์ ที่บ้านมีแค่ไอ้บัพ กับ ป้านิ่ม ที่ไม่ค่อยพูดเหมือนกัน การสืบจากสองคนนั้นเลยไร้ประโยชน์ บ้านหลังใหญ่แต่มีคนอยู่จริงๆแค่สองคนคือ ตรินทร์กับบัพ ส่วนป้านิ่มเป็นแม่บ้าน แบบไปกลับ แต่ดูท่าไอ้บัพ นั่นจะสนิทกับป้านิ่มพอสมควร

...พ่อแม่ของ บัพกับตรินทร์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันทำงานต่างประเทศทั้งคู่นานๆจะกลับมาที ขนาดตรินทร์ป่วยขนาดเป็นตายเท่ากันยังไม่ลงมาเลย สุดยอดบิดามารดาจริงๆ แล้วถ้า รู้ว่าเด็กตรินทร์นั้นตายไปแล้ว จะเป็นยังไง...

..............
............................



 “เมื่อก่อนเราเป็นยังไงอ่ะ?”

พอเริ่มสนิทกันบ้างฉันก็เริ่มสืบจากไอ้พวกทโมนคำถามนั้นมีขึ้นมาลอยๆแต่เหมือนคำตอบจะถูกเตรียมไว้หมดแล้ว ไอ้แป้น ดึงอมยิ้มที่ฉันเอามาบรรณาการออกมาจากปาก...

ก่อนจะนึกถึง ตรินทร์ คนเก่าที่มันจำได้

“เหมือนก็อปไอ้บัพ เอ้ย! ไอ้โฆออกมา...”

มันพูดแล้วเว้นระยะหันไปมอง ไอ้คนที่ถูกพาดพิงที่นั่งเงียบไม่หือไม่อืออะไร

“ต่างกันแค่เงียบกว่า แรงกว่า เถื่อนกว่า...ตอนแรกที่เจอกันกูเห็นมึงติ๋มๆ แต่พอแซวเข้าไปทีมึงปรี่มาชกกูซะงั้น...ส่วนไอ้เรดโดนหนักกว่ากู ตอนจะเอามึงเข้าวงเชี่ยเรดขาหักไปข้างกว่าจะลากมึงมาได้...ไอ้เรด มึงว่าไง”

เด็กหนุ่มหัวแดงที่ตะโกนทักเมื่อครู่น่าจะชื่อเรดเพราะมันหันมาชูนิ้วกลางข้างขวาให้ฉันก่อนจะชี้นิ้วกลางนั้นลงไปที่ขาขวา

“เราอ่ะนะแรงกว่าไอ้บัพนั้น...?”

“เยอะๆเลยมึง...ที่สำคัญ...เมื่อก่อนมึงไม่ค่อยยิ้มเหมือนตอนนี้...ไม่พูดมากเหมือนตอนนี้ แต่ก็ดีวะ น่ารักดีกูชอบ ...แต่ขอเถอะ ไอ้ 'เรานั่น' 'เรานี่' ของมึง กูขอหล่ะ..โคตรแต๋วเลยมึง...”

'สาดดดดดดด! แต๋วบ้านเตี่ยแกดิ!...ลึกๆฉันเป็นผู้หญิงเฟ้ย! เห็นฉันเรียบร้อยหน่อยทำมาตีสนิท! อย่ามาปีนเกลียว... ฉันแก่กว่าแกเกือบครึ่งรอบ ! '

ได้แต่คิดประโยคนั้นในใจ ชิ!ไอ้หญ้าอ่อนมาชมฉันว่า น่ารัก เร็วไป สิบปีเฟ้ย!

[เอ่อ...ภัทร ได้ยินมาว่ามันชม ตรินทร์ นะ ไม่ใช่เธอ-คนเขียน]



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 6 # Breath to so fear.อุบัติเหตุ? หลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 13:03:40
บทที่ 6 Breath to so fear.อุบัติเหตุ ? หลอน
Part ภัทร


'เปรมปรีดา' เจ้าค่ะ! ตอนนี้อิฉันใช้ชีวิตแบบลันลาปรีดาสุดๆ เรียนก็เหมือนจะรุ่ง (ก็แหง่หล่ะ... ไอ้สาขาบริหารนี้สำหรับมาร์เก็ตติ้งอย่างฉันมันของหากิน) ทรัพย์ก็โรจน์ (เด็กตรินทร์นี้ได้เงินจากป๋ากับม้าที่ส่งมาจาก ต่างประเทศ เดือนละ 30,000 แม่เจ้า ! เสียอย่างเดียวฉันไม่รู้รหัสบัตรกดเงินอะ (โฮ...) เลยต้องขอบัตรใหม่ นี่รอแม่นิ่มเอาบัตรมาให้อยู่) รักก็คงกำลังจะลิ่วๆพุ่งปรี๊ดๆๆ ตามมา... เพราะเด็กตรินทร์มันหน้าตาดีโฮก

ตอนนี้มีสาวๆมองตรึม!

เอ่อ.... แล้วมันไม่มีแฟนหรือไงอ่ะ... งง ... ไว้ค่อยถามป้านิ่มแล้วกันถามไอ้บัพคงไม่มีอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้ ยิ่งตอนนี้คุยกันนับประโยคได้ อย่าหาว่าฉันดี้ด๊าอะไรเลยนะ เข้าใจความรู้สึกไหมเหมือนเราเล่นเกมส์ทั้งๆที่มัน Over แล้วแต่อยู่ๆเราก็ได้ตัวเพิ่มมาอีกตัว ตัวเพิ่มที่อัพพลังสุดยอด! ถึงจะเหมือนขโมยชีวิตมาแต่มันก็อดรู้สึกดีไม่ได้... รู้สึกดีปนรู้สึกผิดนะ... ก็..เด็กตรินทร์มีชีวิตที่สมบูรณ์ทุกอย่าง แต่อยู่ๆ ทุกอย่างมันก็หายไป...

เคร้ง!

แทบ สะดุ้งเมื่อกำไลเงินวงใหญ่ที่ใส่อยู่บนข้อมือซ้าย กระทบเข้ากับซี่ลูกกรงที่ขั้นอยู่ระหว่างชั้นระเบียง เหม่อไปนิด...กวาดมือกว้างไปหน่อย... เล่นเอาข้อมือเจ็บแปลบขึ้นมาทันที...แต่เดี๋ยวนะทำไมมันเจ็บมากมายอย่างนี้ เจ็บจนน้ำตาไหลหรือว่าตอนเกิดอุบัติเหตุนั้นข้อมือเด็กตรินทร์นี้หักอ่ะ ใช่เปล่านะ? ที่ข้อมือยังมีผ้าพันแผลอยู่เลย แล้วทำไมหมอไม่ใส่เฝือกอ่ะ? พันผ้าแล้วใส่กำไลให้เนี้ยนะ...เป็นงง...ฉันทรุดลงนั่งกับพื้นระเบียง... ข้อมือเจ็บไม่หายเสียที ดูท่าจะหักอีกรอบหล่ะมั้ง กลั้นใจจะถอดกำไลเงินออก....แต่ดันถอดไม่ออกซะงั้น

... สุดท้ายเลยต้องเลื่อนกำไลนั่นลงมาแล้วค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก จะมีเลือดซึมไหมเนี้ย?

…มองสภาพข้อมือที่เพิ่งแกะผ้าออกมา...

ฉันได้แต่นิ่ง ที่ข้อมือมันยังเจ็บอยู่ เจ็บมากด้วย แต่ที่ทำให้ฉันหน้าชา มันมากกว่านั้น ที่ข้อมือไม่ได้บวม หรือ มีเลือดซึมออกมา... แต่มันมีรอยแผลเป็นที่กรีดลึกลงบนข้อมือไม่รู้ว่ากี่รอยต่อกี่รอยที่ถูกกรีดซ้ำๆลงบนข้อแขนข้างซ้าย...ตรินทร์ ถนัดข้างไหน? คำถามนั้นมันผุดขึ้นมาในสมองอย่างทันที ไอ้เด็กบ้าตรินทร์ รอยพวกนี้แกไม่ได้เป็นคนทำเองใช่ไหม?! ที่ใครต่อใครเป่าหัวฉันว่าแกขับรถชน มันไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม?!

..............
............................


.
.
.

...แสงไฟที่แยงตาทำให้หัวปวดจี๊ดขึ้นมาแล้วที่นี้มันที่ไหนเนี้ยโอ๊ย! ปวดหัวเชี่ยๆ อ๊ะ! เจ็บข้อมืออีกแล้ว แล้วไงรู้สึกแปลกๆอ๊ะ ข้อมือมันตึงๆ....เอ่อ....มีด เลือด ข้อมือฉัน!

"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! "

พอรู้ตัวฉันก็แหกปากร้องลั่นอย่างไม่อายใคร

‘เลือด! เลือด! เลือด! ....มันไหลไม่หยุดเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว! ตอนที่ฉันใกล้ตาย! ตอนที่ฉันเป็น! ภัทร ไม่เอา!ไม่เอา!ไม่อยากตายอย่างนี้นะ! ฉันไม่อยากหายไปอย่างนี้อีกแล้ว! ไม่เอาแล้ว!’
    
เหมือนน็อตหลุดฉันแหกปากร้องตะโกน เรียก ‘หมอ’ ... ในความรู้สึกนั้นไม่ได้อยากไปโรงพยาบาลหรอกแต่ปากมันเป็นไปเองจนรู้สึกตัวอีกทีไอ้บัพมันก็กอดฉันไว้แน่น ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ถูกพันไว้เหนือข้อมือกลิ่นคาวของเลือดทำให้ยิ่งอยากอ๊วก... เลือดตอนนี้เป็นเมือกลื่นๆที่เริ่มจะจับตัวเป็นลิ่ม

“ไอ้หมอ! แกอยู่ไหน! แกอยู่ไหน!ไอ้พี่หมอ! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

ฉันได้แต่แหกปาก สติหลุดไปไกลแล้วเพราะนอกจากแหกปากฉันยังดิ้นไปทั่ว....

แล้วมันก็มืดไปหมด นี้ฉันคงไม่ได้ตายอีกรอบใช่ไหม แล้ว ‘ไอ้หมอ’ ที่ฉันเรียกนี่มันเป็นใคร?! รึฉันอยากไปโรงพยาบาลขนาดนั้นเลยหรอ?

..............
............................


แทบจะบ้า!!

เมื่อเริ่มจะคิดว่า ไอ้เด็กบ้าตรินทร์มันไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอย่างเดียว แต่มัน ‘เหมือนจงใจจะตาย’ ข้อมือนั้นถูกกรีดขึ้นก่อนที่รถมอไซน์จะขับพุ่งชนกับต้นไม้ใหญ่ ‘เจตนาฆ่าตัวตาย?!’ ข้อมือซ้ายยังพันไว้ด้วยแถบผ้าสีขาวฉันไม่กล้าแม้แต่จะแกะดูไม่สิไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ...จากคำบอกเล่าแบบต้องเดาเองของป้านิ่ม เด็กตรินทร์ ประสบอุบัติเหตุ หลังจากกลับจากเสม็ด คิดได้แค่นั้นฉันก็จะบ้าขึ้นมาอีกรอบ...

‘คิดว่าฉันจะเชื่อ หรออออออออออ! คิดๆๆๆๆๆ คนที่มีพร้อมทุกอย่าง ถ้าต้องฆ่าตัวตายเหตุผลมาจากอะไร ตรวจเลือดก่อนเลย! นั่นคือสิ่งแรกที่ฉันทำหลังจากตั้งสติได้ ตรินทร์หน้าตาดีถ้าจะเป็นเกย์ ฉันก็ไม่ว่า เพราะขนาดฉันยังเป็นไบฯ เลย ไอ้รสนิยมทางเพศมันแค่ความชอบไม่ได้รังเกียจอะไรสักนิด แต่! ถ้าเกิดเด็กนี่ติดเชื้อ HIV.ขึ้นมา... บอกตามตรงฉันรับไม่ได้ เพราะฉันก็คงไม่รอดเหมือนกัน...แง้งงงงง แม่งเอ้ย!’

…แล้ว สมมุติฐานจากหัวคิดเจนโลก ก็ถูกตัดออกไป....

...ผลตรวจเลือดไม่ได้เป็นอย่างที่ความคิดด้านเลวของฉันคำนวณไว้...

เฮ่อ....ถ้าอย่างนั้น ทำไม ตรินทร์ถึงอยากตาย? หรือมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ? หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น ?

...โอ้ย! ขี้เกียจคิด ทำไมมันยากอย่างนี้ เฟ้ย! ฉันไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้โคนันนะ ถ้าเป็นชินจังค่อยว่าไปอย่าง…

..............
............................


...ไม่ใช่แล้ว...

คงไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุแล้วล่ะ ...ชักเริ่มไม่โสภาแล้วสิ จากความเปรมปรีดาหูตั้งหางกระดิก ฉันเองเริ่มที่จะกังวลแล้ว ร่างกายของ เด็กตรินทร์ ชักจะแปลกๆ บอกตามตรงเลยว่าเริ่มไม่แน่ใจว่าฉันจะซ้ำรอย ตรินทร์ หรือเปล่า? นี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับมีดในมือ...

..ครั้งนี้ดีกว่าครั้งแรกที่มีดนั้นเพียงแค่จรดตรงข้อมือไม่ได้ปาดเข้าลึกเหมือนที่โดนครั้งแรก ดีที่รู้สึกตัวเพราะเสียงมีดนั้นกระทบกำไลเสียก่อน แต่ถ้ามีครั้งที่ 3 อีก ฉันก็ไม่กล้าคิดเหมือนกันว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง... ฉันยังไม่อยากตายอีกรอบนะ สัตว์เอ้ย! ว่าแล้วเชียวว่ามันแปลกๆ ทำไม ตรินทร์ ที่พร้อมไปทุกอย่างถึงได้หายไปไอ้ซีรีบรัมอยากตายมันฝังอยู่ในร่างกายนี้แล้วล่ะมั้ง...

...ถึงฉันจะไม่รู้อะไร แต่ร่างกายมันเสือกจำได้ดี ร่างกายนี้จดจำเกินไปแล้ว ฉันยังไม่อยากเป็น ตรินทร์ สองนะ ยังไม่อยากตายอีกรอบในเร็ววันนี้นะ! มันต้องมีทางสิ! มันต้องมีทางออกสิ! บ้าเอ้ย!ทำไมมันหลอนอย่างนี้วะ!? จะปรึกษาใครก็ไม่ได้... ไอ้บัพ.. ก็ไม่อยู่โดนทางบ้านเรียกไปเกือบอาทิตย์แล้วนับตั้งแต่ เหตุการณ์นองเลือดครั้งนั้น บ้านกว้างๆ มันยิ่งดูกว้างขึ้นอีก ตอนนี้แค่ใครสักคน ใครก็ได้มาอยู่ข้างๆกันหน่อยจะทนไม่ไหวแล้วนะกับความรู้สึกเหงาอย่างนี้....

...นี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินลงไปหาป้านิ่มข้างล่าง ดึงแกมากอดแล้วร้องไห้จนหลับ... ป้าแกไม่ได้มีสีหน้ากังวลหรืออึดอัดอะไร จะมีให้ก็แต่อ้อมกอดอุ่นกับมือที่คอยลูบหลังให้ฉันตลอด

"ร้องให้พอเถอะนะค่ะ...ร้องให้พอ...แล้วมันก็จะดีขึ้นเอง"                 

เสียงเบาประโยคนั้นเหมือนคำปลอบสุดท้ายที่ได้ยิน แต่มันทำให้หัวใจเริ่มทำงานอีกครั้ง…ความรู้สึกเหมือนมีลมพัด ตอนจะขาดอากาศหายใจ... 

..............
............................

...มามหาลัย โดยที่ทุกอย่างยังสับสนฉันเกลียดชะมัดกับการที่ไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่มันต้องกระจ่าง! ทุกอย่างมันต้องเริ่มใหม่ ฉันจะมาใช้ชีวิตแบบอมทุกข์ไม่ได้...แน่หล่ะอาจฟังดูเห็นแก่ตัวแต่จะทำไงได้เด็กตรินทร์ นั้นน่าจะอยู่ที่ไหนสักที่บางทีอาจจะอยู่ในส่วนลึกของตัวฉันก็ได้ใครจะรู้มันก็คุ้มกันฉันยืมชีวิตนี้มาแต่ถ้าไม่มีฉันก็จะไม่มี ตรินทร์ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแบ็ตเตอร์รี่สำรองไม่ใช่ตัวจริงแต่ถ้าไม่มีฉันตัวจริงก็ไม่มี...

ทำไมต้องเป็นฉัน? มันเป็นเหตุบังเอิญจริงหรอ? สมองมันตึงๆคิดอะไรมากมายถึงเหตุผลที่ทำให้ตัวเองมาอยู่ในร่าง ตรินทร์ วะ? เป็นการคิดที่ฆ่าเวลาระหว่างเดินขึ้นบันได้ได้ดีทีเดียว เข้าใจหาที่คิดนะกู…

“เหวอ!”

สติที่ไม่ค่อยจะมีกับความคิดที่วนเวียนทำให้ขากับตาไม่ประสานกันซะอย่างนั้น...

ซวยแล้ว! อยู่ๆก็ก้าวพลาดเฉยเลย บันไดปูนตั้งกี่ขั้นไม่อยากคิด ได้เข้าโรงพยาบาลอีกแน่ฉัน ...แต่ก็ดีเหมือนกันครั้งนี้อาจเป็นตรินทร์ที่ตื่นขึ้นมาแล้วฉันหายไปตลอดกาลก็ได้ จะได้จบๆกันซะที

..............
............................


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 7#RE-START ‘การ์ด คนใหม่...
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 13:14:53
บทที่ 7 RE-START ‘การ์ด คนใหม่...


สติที่ไม่ค่อยจะมี กับความคิดที่วนเวียนทำให้ขากับตาไม่ประสานกันซะอย่างนั้น... ซวยแล้ว! อยู่ๆก็ก้าวพลาดเฉยเลย บันไดปูนตั้งกี่ขั้นไม่อยากคิด ได้เข้าโรงพยาบาลอีกแน่ฉัน

...แต่ก็ดีเหมือนกันครั้งนี้อาจเป็นตรินทร์ที่ตื่นขึ้นมาแล้วฉันหายไปตลอดกาลก็ได้ จะได้จบๆกันซะที
..............
............................


ตุ๊บ!




“โอ๊ย!”


จุก ค่ะจุก รู้เลยว่าตกลงมาแล้ว...


...แต่ทำไมไม่เจ็บ? แค่จุกๆ? แถมนิ่มกว่าที่คิดอีก... ไม่กล้าลืมตาเพราะตอนนี้มันขยับไม่ได้เหมือนมีอะไรมารัดอยู่ เอ๊ะ! แต่ไอ้เสียง ‘โอ๊ย’ เมื่อกี่ไม่ใช่เสียงฉันนะ...ค่อยๆหรี่ตามองถึงได้รู้ว่ามีเบาะไซน์ยักษ์มารองตัวฉันไว้

ไอ้ที่ขยับไม่ได้นี่ก็เพราะวงแขนใหญ่มันรัด ล็อคเข้ากับตัวฉันอยู่ ฉันหล่นลงมาทับใครบางคน...ทับเหรอ? ไม่น่าใช่เพราะสำนึกสุดท้ายก่อนจุกเหมือนใครบางคนกระชากฉันไว้ก่อนจะทำตัวเป็นเบาะรองฉันอีกที... เพียงชั่วเสี้ยวนาที มันใช้อะไรตัดสินใจช่วยฉันเนี้ย!

“นี่นาย!!เฮ้ย!ตื่นๆ!”

ทั้งเขย่า! ทั้งตบหน้า! เบาะชั่วคราวที่อยู่ๆก็เข้ามารับตัวฉันไว้อย่างฉิวเฉียด... 

มันนิ่งไปนานจนฉันใจหาย... ซวยคนเดียวไม่พอยังลากเด็กนี่มาซวยกับฉันอีก...แม่งวันอะไรกันวะ? คิ้วเข้มขมวดกันก่อนร่างใหญ่จะงอตัวพลิกตะแคง...

...ใบหน้าคมนั้นหันมาที่ฉันก่อนค่อยๆลืมตา แววตาสีดำสนิท จมูกโด่ง ริมฝีปากหนา เอ่อ.... ที่นี่มีแต่พวกหน้าตาดีรึไง? ทำไมรุ่นฉันไม่หน้าตาอย่างนี้บางนะ? เด็กสมัยนี้นี่...

“ลุกไหวไหม? เจ็บไหม?”

ฉันถามคนตัวใหญ่ที่นอนนิ่ง ก่อนจะฉุดมือพยุงให้ลุกขึ้น...     
   
...คือ...

...ขอเปลี่ยนคำพูดเลยนี่ไม่เด็กแล้วมั่ง ไอ้เด็กนี่สูงเกือบ 200 ซม.! ระดับยักษ์ได้เลย! สูงกว่าไอ้โฆอีก! ตรินทร์ว่าสูงแล้วนะพอมาเทียบกับเบาะรองนี่ฉันได้แค่ไหล่เท่านั้นเอง....

.
.
.

..แต่ความรู้สึกมันคุ้นๆนะ ไอ้สูงๆใหญ่ๆ แถมแววตาใสๆแบบไร้อารมณ์อย่างนี้?...


..............
............................


 “เป็นอะไรรึเปล่า...ไม่เป็นอะไรมากนะ”

ฉันเอ่ยปากถามไอ้เด็กยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าขณะตักข้าวเข้าปากไปด้วย เงียบ...ฉันล่ะเบื่อจริงๆไอ้เด็กพวกนี้...

มีปากไว้ทำไมกันวะ? หมดความอดทน...พอกินข้าวเสร็จ ฉันก็ลากไอ้ยักษ์นี่ไปห้องพยาบาลดูจากท่าทางการเดินห่างไกลคำว่าไม่เป็นไร...

...ถึงห้องพยาบาล....โล่ง...ไม่มีใครอยู่สักคน

นาทีนี้ไม่สนอะไรแล้วไอ้ยักษ์บ้านั่นเป็นใบ้หรือไงไม่ยอมพูดอะไรสักคำฉันจับมันมานั่งบนเตียงได้ก็จับถอดล่ะ! มันมีขัดขืนเล็กน้อย... แต่ไอ้ตัวควายๆการขัดขืนเล็กน้อยของมันก็เหมือนการป้องกันตัวชั้นดี

“เฮ้ย!อยู่นิ่งๆ! จะสะดิ้งทำเตี่ยอะไร? ผู้ชายเหมือนกัน! ตอนนี้ไอ้ที่มึงมีกูก็มี!”

…หมดยางอายและความอดทน ก็ตอนนี้ฉันเป็นผู้ชายนิ! แล้วไอ้อะไรอะไรของผู้ชายก็เห็นและสัมผัสมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว หมดแล้วค่ะความอาย กะจะโบกมันไปที แต่พอดูจากสภาพร่างกายมันแล้ว...ฉันเลือกที่จะเดินไปหยิบยาหม่องกับยาแดงเตรียมไว้ดีกว่า...

...กลับมาอีกทีไอ้กระดุมที่ฉันปลด…

.
.
.




...มันติดกลับไปแล้วทุกเม็ด...






แม่งงงงงง! อยากจะกรี๊ด!

“กูสั่งให้ถอด...เดี๋ยวนี้”

มันมองหน้าฉันงงๆก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนเหลือแต่ท่อนบนที่เปลือยเปล่า...ชั่วโมงนั้นไม่มีหรอกความอายไม่ได้คิดอะไรกับมันจะอายทำเตี่ยไร?ไว้คิดก่อนค่อยอายแล้วกัน ก้มลงไปดูข้างหน้าไม่ค่อยเท่าไหร่ รอยแดงจางๆแค่ป้ายๆยาหม่องเดี๋ยวก็หาย...

...แต่ข้างหลังนี้สิ...ยังกับสลัดผัก รอยเขียวๆ ม่วงๆ เป็นปื้นๆแตะยาหม่องลงไปหน่อยไอ้ยักษ์ก็สะดุ้งแล้วแถมบางรอยยังมีเลือดซิบๆอีกจะถามมันว่าจุกหรือเปล่า?เป็นอันว่าไม่ต้องถามไม่จำเป็นต้องรู้แล้ว...ไอ้ยักษ์นี่นอกจากหน้าตาดี ยังอึดไม่ใช่เล่น...น่าคบนะไอ้ยักษ์อึดเนี้ย…

..............
............................

.
.
.

 “นายชื่ออะไรกันแน่ ?”

.
.
.


...โห่..ไอ้ยักษ์กว่าจะง้างปากถามได้...

ก็นะ...มันคงแปลกใจ...ที่ชื่อเล่นที่ฉันเซ็นลงไปในสมุดนั้น ตอนแรกเขียนคำว่า 'ภัทร' ก่อนลบแล้วเปลี่ยนเป็น ‘ตรินทร์’ แต่ก็ถูกขีดฆ่าและเขียนเป็นคำว่า ‘ภินทร์’ แทน...ฉันหันมายิ้มให้เด็กหนุ่มร่างยักษ์

“ภินทร์... เราชื่อ ภินทร์”

“ชื่อจริงนาย ษิตรินทร์ ทำไมไม่ใช่ชื่อตรินทร์เหมือนที่เขียนตอนแรก? ”

“เพราะเราไม่ใช่ ตรินทร์ ไง...”

..ฉันยิ้มตอบอดีตเบาะที่เคยรองตัวฉันไว้...

ตัดสินใจแล้ว... ก็ตอนนี้ทุกอย่างมันต้องเป็นอย่างที่มันเป็น ถ้ากลับเป็น ‘ภัทร’ ไม่ได้ เป็น ‘ตรินทร์’ ก็ไม่ได้ ฉัน จะเป็น ‘ภินทร์’ เป็นในแบบที่ควรเป็น พอกันซะทีกับ ‘ภัทร’ ร่างกายนี้เป็นร่างกายผู้ชายจะไปคิดเล็กคิดน้อยแบบผู้หญิงก็ไม่ได้ เอาสิเหมือนกับโกงเกมส์ ฉันได้ชีวิตฟรีๆมาใช้อีกหนึ่งชีวิต...จะปล่อยไว้เฉยๆก็ใช่เหตุ ยังไงมันต้องเอาให้คุ้ม ฉันได้ชีวิตหนึ่งมาฉันไม่คิดว่ามันจะได้มาฟรีๆแน่ มันต้องมีอะไรที่รออยู่อะไรที่คุ้มค่ากับชีวิตที่ได้มา...

...อาจฟังดูเป็นการแก้ตัว แต่ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ สิ่งที่ฉันได้มาในตอนนี้มันต้องแลกกับอะไรบางอย่างใน อนาคตแน่ อะไรที่คุ้มกันกับสิ่งที่เสียไป...

“แล้วนาย ชื่ออะไร?”

ฉันหันไปถามอดีตเบาะรอง รอยยิ้มอบอุ่นนั่นทำฉันสุขใจอย่างบอกไม่ถูกยังไงหมอนี่ก็เป็นคนแรกที่รู้จักฉันในนาม ‘ภินทร์’ ชีวิตใหม่ของ ‘ฉัน’ ที่ต่อไปนี้จะต้องเป็น ‘ผม’ ซะที

“ชื่ออะตรอม...”

เบาะรองแนะนำตัว ‘ผม’ [สรรพนามเปลี่ยนไปหลังจากรู้ซะทีว่าตัวเองควรเป็นอะไร] มองหน้าเจ้าของคำพูดอย่างอธิบายไม่ถูกกับความรู้สึกที่มี ‘อะตรอม’ นี้ย่อมาจาก ‘ออโตมัสไพรส์ม’ ใช่ไหม? แม่งตัวใหญ่โคตร!?

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 8#Who you are? จะหาเธอคนเดิมได้ที่ไหน?
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 13:24:51
บทที่ 8 Who you are? จะหาเธอคนเดิมได้ที่ไหน?
Part โฆษิต


ตรินทร์ ยิ้ม... ใช่ ตรินทร์ ยิ้ม แต่รอยยิ้มนั่นบอกกับผมว่า…

‘นี่ไม่ใช่ตรินทร์ !’

ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น ผมเฝ้าภาวนาตลอดให้ ‘ตรินทร์’ ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...

แต่พอ ตรินทร์ ตื่นขึ้นมาจริงๆ ตรินทร์ กลับไม่ใช่ ตรินทร์ คนเดิมที่ผมรู้จัก...รอยยิ้มมีให้กับทุกคน ตรินทร์ หัวเราะและพูดมากกว่าเดิม...มันสวนทางกับความสัมพันธ์ของผมกับ ตรินทร์ ที่ยิ่งห่างออกไป...ยิ่ง ตรินทร์ ยิ้มผมยิ่งเหมือนไกลจาก ตรินทร์ ยิ่ง ตรินทร์ พูดผมยิ่งห่างออกไป...

...ตอนนี้ห้องนอนกว้างขึ้นเพราะไม่มี ตรินทร์ มาคอยนอนกลิ้งอยู่ในห้องผม ...

ทั้งๆทีปกติ ถึงจะมีห้องนอนกันคนละห้องแต่ ตรินทร์ ก็ต้องมานอนกับผมทุกคืน ข้าวที่เคยกินชามเดียวกัน... ตอนนี้ ตรินทร์ ทำเหมือนไม่รู้เลยว่า เราเคยใช้ชีวิตกันยังไง? แม่นิ่มก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น... ทำเหมือนไม่รับรู้ว่าเลี้ยง ตรินทร์ กับผมมายังไงนั่นยิ่งทำให้ผมอึดอัด...

ตอนนี้ ตรินทร์ ย้ายกลับไปนอนห้องเดิม... ซื้อของมาตกแต่งห้องอย่างที่ผมไม่เคยคิดว่า ตรินทร์ จะทำ โปสเตอร์แนวแปลกๆ ถูกติดไว้ เข้ากันกับห้องโทนสีคราม ห้องที่ ตรินทร์ เคยเกลียด...

...ตรินทร์ เคยบอกผมว่าเพราะห้องนี้เหมือนย้ำว่า ตรินทร์ คืออะไร จากนั้น ตรินทร์ก็ย้ายมานอนห้องผม และ ตรินทร์ จะกลับไปนอนที่ห้องนั้นบางก็ตอนที่ ‘พ่อ’ กลับมา... ผู้ชายคนนั้น ไม่สิทั้งตระกูลเราเลยมั้งที่อยากให้ ตรินทร์ เป็นอย่างที่ ตรินทร์ ควรจะเป็น...

'เป็นสิ่งของที่ใช้แลกเปลี่ยนกับความรุ่งเรืองของตระกูล'
 
...เพราะ เธอคนนั้น ทั้งหมดเพราะเธอคนนั้น ผู้หญิงที่ชื่อ ‘พระแพง’ นั้น !

เช้านี่ผมแทบไม่อยากลุกออกจากที่นอนกลิ่นของ ตรินทร์ ยังติดอยู่ บนหมอน... บนผ้าห่ม...ติดอยู่ในห้องนี้...ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้? ผมอยากจะร้องไห้นะ... แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ....

เช้าที่ไม่ได้ตื่นมาพร้อม ตรินทร์ มันทรมาน... ถึงจะรู้ว่ามันอยู่ห้องถัดไปแต่ผมบอกไม่ถูก...มันไม่ใช่อย่างที่ควรจะเป็น...แค่มันนอนอีกห้อง...ทำตัวแตกต่างไปจากเดิม...แค่นี้ผมยังแทบหายใจไม่ออก...

...แล้วสักวันหนึ่งถ้ามันแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆผม...จะมีชีวิตอยู่ได้ไหม? หึ! แค่ได้ใกล้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไอ้โฆ…




***


.
.
.


“นายขับ ฉันขับไม่ได้”

ตรินทร์ พูดเหมือนเรื่องปกติ กุญแจของ ‘แม็กกะ’ ถูกโยนมาให้ผมอย่างไม่ใยดี ผมแทบทำอะไรไม่ถูกนอกจากมองหน้า ตรินทร์ แววตาที่เคยว่างเปล่าเหม่อลอย... ตอนนี้ฉายแววขี้เล่น ถ้าไม่รู้มาก่อนว่านี้คือ ‘ษิตรินทร์ ชลวะเท’ ผมคงคิดว่านี้เป็นแค่เด็กหนุ่มเพลย์บอยรักสนุกคนหนึ่ง

‘แม็กกะ กับ โปรตรอน’

ตรินทร์ ตั้งชื่อรถยนต์มาสด้า 2 สีมุกดำ กับ มอไซค์ฮอนด้า LS 125 สีเดียวกันเงินครึ่งหนึ่งเป็นของผม อีกครึ่งเป็นของ ตรินทร์ ตรินทร์เลยรักเจ้าสองตัวนี้เหมือนกับลูก กุญแจสองรถสองคันนี้มีแค่ ผม กับ ตรินทร์ ที่มี    ‘โปรตรอน’ พังยับตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น ส่วน ‘แม็กกะ’ กุญแจดอกที่สองยังแขวนอยู่ที่คอผม ส่วนอีกดอก ตรินทร์ เป็นคนถือ และถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็น ตรินทร์ ไม่เคยให้ใครประจำที่นั่งคนขับของ แม็กกะ แม้แต่ผม !

“เหม่ออีกนานไหม? ถ้าขับไม่เป็นจะได้เรียกแท็กซี่”

เหมือนเหวี่ยงกับผม...

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมไม่เคยเจอ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ โดยที่มี ตรินทร์ นั่งอยู่อีกฝาก วันนี้ ตรินทร์ ไปลงดร็อปแล้วย้ายคณะจาก ‘วิศวะ’ เป็น ‘บริหาร’ เล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูก...

...พอมาถึงคณะ ตรินทร์ ก็เดินเรื่องทำทุกอย่างเองทั้งหมด...ก่อนจะมาสมทบกับผมที่รออยู่กับพวกไอ้เรด ...ตรินทร์คุยกับพวกไอ้เรดเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา ทำบรรยากาศดูแปลกไป มีแต่คนมองรอยยิ้มนั้น ตรินทร์ ยิ้มให้กับทุกคนที่ยิ้มให้คุยเรื่องแปลกๆที่ผมไม่คิดว่า ตรินทร์ จะรู้เพราะเมื่อก่อน ตรินทร์ ไม่เคยสนใจอะไรเลย นอกจากเรื่องที่ต้องรู้ ตรินทร์ นั่งคุยอยู่กับพวก ไอ้เรด จนเกือบเย็นคุยโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนี้...

...เย็นนี้ ไอ้เรด กับ ไอ้แป้น ชวนมันไปที่บาร์ของพี่นพ ตรินทร์ เป็นนักดนตรียามว่างในตำแหน่งมือเบส ไม่ใช่ว่า ตรินทร์ ร้องเพลงไม่ได้ แต่ไม่อยากร้องมากกว่า ‘ซีนอล’ เป็นชื่อกีตาร์ที่ ตรินทร์ ตั้ง กีตาร์ที่ผมซื้อให้ ตรินทร์ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ ตรินทร์ หวงเหมือนลูก หวงจนต้องฝาก ‘ซีนอล’ ไว้ที่ร้านพี่นพ

.
.
.

“เล่นไม่ได้ ขอฉันดูอย่างเดียวดีกว่า พวกนายขึ้นไปเถอะ”

ผมหน้าชาเมื่อ ตรินทร์ ปฎิเสธ ซีนอล ที่ผมเช็ดและยื่นให้ส่วนไอ้เรดยังมีความพยายามที่จะลาก ตรินทร์ ขึ้นไปบนเวที

“ใครร้อง ? ถ้าเปลี่ยนฉันเป็นนักร้องฉันจะเล่นด้วย”

ตรินทร์นิ่งมากตอนเอ่ยประโยคนั้น ไอ้เรด กับ ไอ้แป้น มองหน้ากันไปมา เพราะตอนแรกที่ฟอร์มวงเคยขอให้ ตรินทร์ เป็นนักร้องนำ...แต่กลับโดนปฎิเสธแบบได้เลือด

“งั้นมึงก็ร้อง”

ไอ้เรดยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะลากข้อมือ ตรินทร์ ขึ้นเวที... ทิ้งผม...เหมือนเป็นส่วนเกิน...

ผมได้แต่ก้มหน้าลงมันชาไปหมด แล้วเสียงเพลงแรกก็ดังขึ้น ฟอร์มดนตรีดูต่างไปจากเดิมที่พวกมันเคยเล่น

[โลกใบใหม่ – 25 hours]

‘โลกใบใหม่’ เป็นเพลงแรกที่วอร์มวง บนเวที ไอ้เรดจ้อง ตรินทร์ ตาไม่กระพริบไอ้แป้นก็เหมือนกัน ตรินทร์ ยิ้มโปรยเสน่ห์จน สาวๆข้างล่างกรี๊ดไม่หยุดแค่เพลงแรก...แล้วอินโทรเพลงที่สองก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระหึ่มของเบสที่เปลี่ยนไปเป็น ไอ้แป้น โซโล่กีตาร์

[Lying From You]
   
...จากนั้นก็ตามมาอีกหลายเพลงที่เป็นของ Linkin Park จนสุดท้ายมาจบที่ เพลงของ Eanescence และ Linkin Park

[Crawling vs Missing]
   
...จบเพลงแล้ว...ไอ้แป้น แทบจะอุ้ม ตรินทร์ ลงมาเพราะไม่ว่าจะเหล้าหรืออะไรที่ถูกส่งขึ้นไปบนเวที นักร้องนำคว้าขึ้นดื่มจนหมดทุกแก้ว....แถมยังคว้าคอสาวๆมาหอมได้อย่างที่ ไอ้เรดเองยังอาย....

..............
............................


..
ทุกวัน ที่ตื่นขึ้นมาผมแทบจะฝังตัวเองอยู่ในห้อง กลิ่นของ ตรินทร์ ทำผมจมอยู่กับที่นอน...วันนี้ก็เหมือนกันถ้าไม่มีเสียงร้องลั่นนั้นมาปลุกซะก่อน

เสียงของ ตรินทร์ !

ผมรีบวิ่งไปตามต้นเสียงที่ห้องนั้น

"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! "
   
ตรินทร์ ยังคงตะโกนร้องไม่หยุดเหมือนสติแตกไปแล้ว...ผมค่อยๆดึงมีดในมือ ตรินทร์ออก ก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่จาก แม่นิ่ม มาทำแผลให้ ตรินทร์ ที่เอาแต่ดิ้นไม่หยุดจนผมต้องกอดไว้…

“ไอ้หมอ แกอยู่ไหน แกอยู่ไหน ไอ้พี่หมอ ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!!”

คนในวงแขนผม สติแตกร้องเรียกใครสักคน แล้วก็นิ่งไป...

ผมพา ตรินทร์ ไปโรงพยาบาลอย่างที่เคยทำ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ตรินทร์ ไม่ได้เรียกชื่อผมเบาๆเหมือนทุกครั้ง...

แต่... ตรินทร์ ตะโกนเรียกใครที่ไม่ใช่ผม...

...ผู้ชายคนนั้น รู้ข่าวเรื่อง ตรินทร์ ผมถูกเรียกออกไปพบตั้งแต่เช้า น่าแปลกที่ไม่เจอ พระแพง ที่บ้านหลังนั้นเกือบอาทิตย์ที่ผมโดนกักตัวไว้ที่นั่น ผมคิดถึงแต่ ตรินทร์ คิดถึงแต่ข้อมือที่นองไปด้วยเลือดนั้น ผม....อยากเจอ ตรินทร์....

..............
............................


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!9 #I’m Back การกลับมา Vol.1
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 14:09:45
บทที่ 9  I’m Back การกลับมา Vol.1
Part ตรินทร์


...ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งกับอาการปวดหัวจี๊ดที่เป็นเรื่องปกติ...

สงสัยเมื่อคืนผมลืมอัดยาเข้าไป...ห้องกว้างสีครามมันยังเป็นห้องเดิมของผมไม่เปลี่ยน แต่ไอ้โปรเตอร์กับรูปแปลกๆ มาจากไหน? ไม่ใช่แนวผมหรือไอ้โฆเลยทั้งคู่...

ผมไม่ได้คิดอะไรมากยังไงนานๆทีถึงจะมาอยู่ห้องนี้อยู่แล้ว ปกติไม่ค่อยมานอนห้องตัวเองด้วยซ้ำเพราะผมมักจะสถิตอยู่ห้องไอ้โฆ... ผมไม่อยากอยู่คนเดียว... ไอ้โฆก็รู้มันถึงไม่ได้ว่าอะไรแล้วนี้ผมมาอยู่ห้องตัวเองได้ยังไง?
....ปวดหัว...ไม่อยากคิด...

ผมทำเหมือนปกติ...

ลากผ้าห่มเปิดประตูออกไป ถัดจากห้องนั่งเล่นทางขวาก็ห้องไอ้โฆแล้ว หัวที่ปวดจี๊ดกับความง่วงที่ยังสลัดไม่หลุดทำให้ง่ายที่ผมจะล้มตัวลงบนเตียงที่คุ้นเคยแล้วหลับโดยไม่ต้องนับสิบ...

‘อืมส์...กลิ่นของไอ้โฆ....’

..............
............................

[16.45 น.]


...ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงเพลงบ้าๆจากที่ไหนสักที่....

กวานมือไปทั่วถึงได้รู้ว่ามันมาจากโทรศัพท์ของผมที่อยู่ในกระเป๋าโทรศัพท์ผมมีเพลงแนวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ชื่อบนโทรศัพท์ยิ่งทำให้แปลกใจ? ‘ควาย?!’ ผมตั้งงั้นเหรอ?...แปลก? แต่ก็นั้นหล่ะผมคือผมไม่ค่อยคิดอะไรมาก ผมกดรับโทรศัพท์ไม่มีเสียงตอบ เงียบไปนานก่อนที่เสียงคุ้นเคยจะดังมาตามสาย ไอ้โฆ...

ผมไม่ได้รอมันพูดมากไปกว่านั้น แต่เป็นผมเองที่บอกมันออกไปว่าจะไปรอที่ร้านพี่นพ มันเงียบไปแต่ไม่ได้ถามอะไร นอกจากบอกว่าจะรอ ผมคิดไปเองรึเปล่าเสียงมันฟังเศร้าๆเหงาๆ…


[22.30 น.]


...นอนเพลินไปหน่อยครับ... กว่าจะเข้ามาที่ร้านได้ เกือบ 5 ชั่วโมงจะว่าไปว่าผมก็ไม่ได้ก็ ‘แม็กกะ’ ไม่ได้จอดอยู่ที่บ้านนี่น่า..

ไอ้โฆ มันกล้ามาก! มันเอาลูกผมไปปู่ยี่ปู้ยำใช่ไหม?!

..มาถึงหน้าเคาน์เตอร์ตอนนี้พวกไอ้เรดกำลังจะจบเพลงให้รักคุ้มครอง กีตาร์ผมยังวางอยู่หลังพี่นพ ผมชูมือเป็นสัญญาณขอ ‘ซีนอล’ สุดรักก่อนจะตั้งสายแล้วเดินถือมันออกไปเตรียมขึ้นเวที

เสียงดนตรีหยุดลงทันทีที่พวกมันเห็นผมถือกีตาร์ขึ้นไปบนเวที ...

เอ่อ...วันนี้ครบทั้ง ไอ้เรด ไอ้แป้น ไอ้กร้า นานๆจะเสด็จมาครบสักที แต่พวกมึงจะทำให้กูเด่นไปถึงไหน...ไอ้เรดยืนอึ่ง…ไปนานที่เห็นผมถือกีตาร์ขึ้นมา มือมันชี้ไปที่ ‘ซีนอล’ แบบงง มึงจะเงียบจะงงกันทำไมกูก็เป็นมือเบสอยู่แล้ว

.
.
.


“เนื่องจากวันนี้สมาชิกลิงกินผักของพวกเราครบทีมอีกครั้งขอเพลงพิเศษเพลงหนึ่งแล้วกัน อะ ตรินทร์บอกมาเลยจะร้องเพลงอะไร?”

ไอ้เรดมันยิงคำถามมาที่ผมที่ได้แต่ยืนมึน...

“มือเบส ไม่ได้เป็นนักร้อง”

คราวนี้เงียบกันทั้งวงอีกครั้ง

“มึงร้องตรินทร์! อย่าช้ามึงจะร้องเพลงอะไรครับไอ้คุณตรินทร์?”

ไอ้เรดเจ้ากี้เจ้าการเร่งผมแบบไม่ปรึกษา

“ความรัก”

   
..ผมตอบปัดๆไป แล้วอินโทรเพลงก็เริ่มโดยมีผมเป็นมือเบสและนักร้องนำอย่างงงๆ สายตาผมเหลือบไปเห็นไอ้โฆเดินเข้ามานั่งข้างพี่นพ มันยิ้มแปลกๆก่อนชูแก้วเหล้าแล้วตะโกนร้องเพลงตามผมกับเพื่อน...

...ผ่านไปเกือบชั่วโมงที่เพลงต่างๆถูกขอและส่งขึ้นมาบนเวที เหนื่อยแต่สนุกจนเพลงสุดท้ายต้องมาถึงเมื่อไอ้กร้าสะกิดให้ดูวงรุ่นพี่ที่ชูนาฬิกาขึ้นมาพร้อมๆสายตาขวางๆ ‘ขอดาว’ เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมร้องในคืนนี้ ‘ใครขอวะ?’

..............
............................

Part โฆษิต

‘ ขอดาว’    

จบลงพร้อมๆกับ ตรินทร์ ที่ลดไมค์ปลดกีตาร์ที่ผมซื้อให้ออกจากไหล่...แล้วเดินมาทางผม เสื้อเชิ้ตสีเทาอมน้ำตาลถูกปลดกระดุมลงจนเห็นเสื้อกล้ามสีขาวข้างในที่เปียกไปด้วยเหงื่อ ตั้งแต่อุบัติเหตุตอนนั้นนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น ตรินทร์ กลับมาเป็น ตรินทร์ รอยยิ้มไม่มีบนใบหน้ามันพอๆกับระดับความสัมพันธ์ของผมที่เพิ่มขึ้น ตรินทร์ หยิบขวดน้ำที่ผมส่งให้ดื่มรวดเดียวหมดก่อนจะยื่น ซีนอล ให้ผมเช็ดและเก็บโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก...

...ความเงียบของเราเหมือนเป็นความเข้าใจยิ่ง ตรินทร์ ยิ้มมากเท่าไหร่ผมยิ่งรู้สึกห่าง... ยิ่ง ตรินทร์ พูดมากเท่าไหร่...ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าพวกเรายิ่งไกลกัน... ผมเงยหน้าขึ้นมาอีกทีตอนจะส่งกีตาร์ให้พี่นพเอาไปเก็บที่เดิม พอหันไปหา ตรินทร์ ก็อยู่ในวงล้อมบรรดาสาวๆที่เข้ามาทักทายแล้ว...

เหมือนวันก่อนที่ ตรินทร์ เป็นจุดสนใจ ...แต่วันนี้แตกกต่าง

...ตอนนี้ ตรินทร์ ยังเงียบเหมือนเดิม... เงียบเหมือนเมื่อก่อนจะเกิดอุบัติเหตุนั่น...จนทำให้ผมเกือบลืมไปเลยว่า เมื่อวันก่อนนั้น ตรินทร์ เคยหว่านเสน่ห์ไปทั่วกับสาวที่เข้ามาคุย ตอนนี้รอยยิ้มช่วงโปรโมชั่นหมดลงแล้วหรือเปล่า? เพราะ ตรินทร์ ยังคงเงียบเป็นหินอยู่เหมือนเดิมท่าจะเริ่มรำคาญแล้วเสียด้วยซ้ำ...

...เสียงสาวๆเงียบลงเมื่อ ตรินทร์ เดินผ่ากลุ่มสาวๆตรงมาที่ผม...

...ไม่ทันให้ตั้งตัววงแขนนั้นโอบรอบคอผมแล้วโน้มลงมาจูบ...ปิดท้ายด้วยการเลียแก้มผมด้วยลิ้นอุ่นๆ....

“ถาม...เขารู้เรื่องผมทุกเรื่อง”

…พูดจบ ตรินทร์ ก็เดินหลบไปหลังเคาน์เตอร์...

ทิ้งให้ผมตะลึงกับจูบที่ไม่ทันตั้งตัว พวกสาวๆต่างเงียบกริบไม่แพ้ผม...แต่รู้สึกว่าพวกเธอจะได้สติขึ้นมาก่อนเมื่อเสียงกรี๊ดนั่นดังขึ้นแข่งกับเสียงเพลงในร้าน ...ตรินทร์ทิ้งระเบิดตูมใหญ่ให้ผมก่อนหายไปหลังเคาว์เตอร์อย่างสบายใจ...

..............
............................



..

 ‘เอากุญแจมา’   

ตรินทร์ ไม่ได้สั่งแต่เป็นการประมวลผลจากการกระทำ...

ผมโยนกุญแจรถที่ ตรินทร์ เคยรักให้อย่างไม่ลังเล... รถที่เคยรัก...แต่หลังอุบัติเหตุนั้น ตรินทร์ ก็ไม่เคยขับมันอีกเลยสักครั้ง.. อย่างคุ้นเคย ตรินทร์ ประจำตำแหน่งคนขับ ผมถูกปลดมานั่งข้างๆก่อนคาดสาย Belt เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ ตรินทร์ ขับรถคันโปรดผลจะเป็นอย่างไร...   

.
.
.

...ไฟแดงที่สี่...หยุด แม็กกะ ลงได้พอๆกับหยุดสติผม ตรินทร์ ดูจะสนุกเหมือนเคยกับตัวเลขบนไฟสีเขียว และแทบจะบ้าทุกครั้งที่เห็นไฟสีเหลืองและแดง บอกตามตรง ผมรับ ตรินทร์ ได้ทุกเรื่องยกเว้นนิสัยการขับรถและหยุดรถ ตัวเลขสีแดงยังอยู่หลักร้อย ตรินทร์ ดูอารมณ์เสียไม่น้อยที่ไม่ทันตัวเลขสีเขียวของไฟแดงที่สี่...

ความเงียบเข้ามาในรถแต่เป็นความเงียบทีคุ้นเคยไม่ใช่รอยยิ้มน่าอึดอัดที่ผมเจอมาตลอด สองเดือน มือที่จับพวงมาลัยรถเอื้อมมาสะกิดผม พร้อมกับหันใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้.... 

แววตาสีแปลกปิดลง ..ไม่ต้องพูดอะไรมาก..ผมปลดคลายสาย Belt ออก......แล้วโน้มตัวจูบคนขับ...อย่างเงียบๆแต่ยาวนาน...   
   

...ตัวเลขบนไฟแดงเหลือน้อยลงทุกทีพอๆกับระยะเวลาที่บอกให้ต้องถอนริมฝีปากออก ผมอยากอธิฐานให้ไฟเหลืองและไฟเขียวที่จะมาถึงพังลงตอนนี้เลยด้วยซ้ำ...

ผมถอนริมฝีปากออกมาแล้วใช้ปลายนิ้วไล้เช็ดริมฝีปากที่เผยอออกตอนผมสอดลิ้นเข้าไป...ใบหน้า ที่คุ้นเคย...ท่าทางที่คุ้นเคย... รสจูบที่ผมภาวนาให้มันกลับมาตลอดสองเดือน......ไฟแดงสิ้นสุดลงผมกลับมานั่งในตำแหน่งเดิมและคาด Belt ได้ทันก่อนที่รถจะเร่งเครื่องวิ่งไล่กับนรกที่เฉียดไปเฉียดมา กว่าจะถึงบ้านผมก็แทบเดินไม่เป็น...การเปลี่ยนแปลงนี้ทำเอาผมลืมไปเลยว่าระหว่างที่อยู่บ้านหลังนั้น ‘จรินทร์’ ญาติห่างๆอีกคนของตระกูลสาย ‘ชลวะเท’ บอกอะไรกับผม....ความสุขมันบดบังทุกสิ่งได้จริงๆ

..............
............................


‘และผมคงจะไม่ยอมหลับตาลง ถ้ารู้ว่าตื่นขึ้นมา....แล้ว ตรินทร์ คนเดิมจะหายไป....’

..............
............................

“สาดดดดดดดดด! ปล่อยกูเลยไอ้บัพ!”

เสียงมารดังขึ้นปลุกผมให้ตื่นจากความฝัน....

ตอนนี้มารตัวนั้นทั้งผลักทั้งถีบผมให้ออกจากตัว ปากก็โวยวายไปเรื่อยแต่เหมือนมันโวยวายไปอย่างนั้น คงเพราะอึดอัดที่ผมกอดมันไว้แน่นมากกว่า ผมปล่อยแขนออกจากเอว ตรินทร์ แล้วนั่งมอง ตรินทร์ ที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง...

“ตรินทร์...”

...ผมเรียกชื่อนั้นเบาๆ แต่ร่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมา...แล้วเสียงปิดประตูก็ดังขึ้น เรียกสติ... ผมหันกลับไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดเลือกชื่อหนึ่ง ก่อนจะโทรเข้าชื่อนั้น ‘JaRin’

“พี่เองจำเรื่องที่นายบอกพี่เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ไหม? พี่ว่างแล้วเดี๋ยวพี่ไปรับ”

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!10 # Play game play guy. คาสนาม
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 14:15:01
บทที่ 10  Play game  play guy. คาสนาม
Part ภินทร์   


สนามบาส….สนามบาส! บร๊ะเจ้า! สนามบาสสส! กี่ปีแล้วที่ไม่ได้มาเหยียบ!

...อ๊าย!แม่งเอ๊ย! ไอ้อะตรอม นี้ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของผมจริงๆ... เมื่อเช้านี้บอกตรงๆว่าอารมณ์เสีย ตื่นขึ้นมาในห้องไอ้บัพ แถมยังโดนมันกอดแน่นอย่างกับเป็นเมียมัน...

แต่ที่หัวเสียกว่านั้นก็ตอนที่รู้ว่า ‘ เวลา ’ มันหายไปใช่ผมพูดไม่ผิดหรอก ‘เวลา’ผมหายไป...เมื่อวานซืน ผมคุยกับไอ้อะตรอมว่าเมื่อวานจะไปลงสมัครชมรมกับมัน แต่พอตื่นขึ้นมา เมื่อวานของผมก็หายไป....

..ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงกับไอ้บัพแล้ว วันนี้เลยรีบแต่งตัวขึ้นแท็กซี่มาที่มหาลัยฯ ผมไม่มีเบอร์อะตรอมเพราะไม่ได้ขอไว้ เมื่อวานนัดมันให้เจอที่ห้องสมุด ตอน 10 โมงเช้า ผิดนัดไปวันหนึ่ง... วันหนึ่งเลยนะจะไม่ให้ผมโมโหได้ไงหล่ะ ว่าถ้ามาแล้วไม่เจอมันผมก็ไม่โทษมันหรอกนะ    

แต่มันก็อยู่ที่นั้นแถมยังสมัครชมรมให้ผมแล้วอีกด้วย....

ผมแทบกระโดดกอดมันเลยแล้วก็ยิ่งดีใจกว่านั้นตอนมันชวนมาที่สนามบาสของมหาลัยมีแข่งสองสนาม รู้สึกจะเป็นของเด็กปีสามกับปีสอง สาวตรึม! นมตูม! อ๊าย!ได้ใจ! อะตรอม.. ทำไมมันรู้ใจผมขนาดนี้นะ... แมร่งเอ้ย!
   
...ยังไม่ทันได้ชื่นชมบรรดาหญ้าอ่อนอะตรอมก็มาสะกิดผม พร้อมๆกับฝากกระเป๋าเป้ใบเล็กให้ผมถือ ผมได้แต่มองหน้ามัน

...เพื่อ?...

“ฝากเดี๋ยว...รึ จะลงด้วยไหม? ผมมีลงกับพวกปีสามทางคณะเขาหาคนลง พวกปีสามเด็กวิศวะเล่นแรงกว่าบริหารนะ แต่ถ้า ภินทร์ ไม่อยากลงก็เฝ้ากระเป๋าให้ผมที ”   

..อะตรอม อธิบายให้หมางงอย่างผมเข้าใจ ก่อนจะวิ่งลงสนามไปเมื่อเห็นว่าเกมส์แรกจบลงแล้ว... ผมหันซ้ายหันขวาก่อนจะนั่งแหมะลงข้างพื้นสนาม

เอ่อ... ไอ้ยักษ์ของผมวิ่งไปวิ่งมา แบบชิวๆ แถมยังไม่แคร์พวกปีสามที่ คอยกระแทกอีก ยังกับฝูงหมาใน ล่าควายป่า พวกวิศวะเล่นแรงไปแล้ว…

.
.
.

ปรี๊ด!   

.
.
.

นกหวีดดังขึ้นเมื่อเด็กบริหารคนหนึ่งถูกกระแทกล้มลงไปกับพื้นสนาม...

เดี้ยง..เห็นๆ พวกปีสามบริหารเองก็ลงจนหมด...เด็กปีหนึ่งปีสองของบริหารแทบไม่เหลืออยู่ในสนาม เมื่อรู้ว่าพวกวิศวะเล่นแรงแค่ไหน ...ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปดูอะตรอม..

เอ้ย! มึงจะสุภาพไปไหมเนี้ย…มันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ....แต่....เสื้อผ้ายังแป๊ะไม่มีเสื้อหลุดลุ่ยออกจากกางเกงเลยสักนิด ...ไอ้คุณชายเอ้ย!

..............
............................

“โดนพวกไอ้คิงส์ มันเก็บทีละคนแล้ว ทีนี้จะทำยังไง ไอ้เด็กยักษ์ปีหนึ่งมันก็เล่นดีอยู่หรอก แต่ถ้าปล่อยไปอย่างนี้มีหวังโดน ไอ้คิงส์มันเก็บอีกคนแน่ พวกปีหนึ่งก็ปอดกันหมดแล้วด้วย จะเอาเด็กที่ไหนลงว๊ะ ”   
   
...เด็กแว่นหนาที่เหมือนจะเป็นรุ่นพี่ บ่นกับไอ้เด็กที่ทาปากสีแดงสดที่เหมือนจะเป็นรุ่นพี่อีกคน ส่วนไอ้เด็กที่ล้มนั้นถูกพยุงออกมาจากสนามแล้วมาโยนไว้ข้างๆผมที่นั่งมองตาวิบๆ...ผมยกมือแต่ไอ้แว่นยังคงทำเป็นมองไม่เห็น...

“เฮ้ย!”   

...ผมตะโกนเรียกไอ้กลุ่มที่บ่นไปหน้านิ่วไป สายตาพวกนั้นมองหาเด็กที่จะลงสนาม ทั้งๆที่ผมยกมือมันกับมองผ่าน จนผมต้องลุกขึ้นเดินหิ้วกระเป๋าไปหาพวกมัน ไอ้แว่นสายตามึงไม่ได้สั้นแต่มันบอดใช่ไหม!?

“เอ่อ...มีอะไรครับ? พวกผมกำลังหาคนอยู่รอสักครู่นะครับ”

ไอ้แว่นมันตอบตะกุกตะกัก พลางรนรานมองหาเด็กที่พอจะลงแข่งได้

“ปีหนึ่งลงได้ใช่ไหม? ไอ้ยักษ์นั่นเพื่อนผม ขอผมลงได้ไหม?”   

ผมถามพลางแจกรอยยิ้มการตลาดแบบที่เคยใช้พรีเซ้นต์สินค้าบริษัทใหญ่ไอ้แว่นอึ้งไปนิดก่อนจะหน้าแดงตอบแบบตะกุกตะกัก

“ถ้าคุณตรินทร์ อยู่บริหารก็ลงให้พวกผมได้ครับ...แต่คุณตรินทร์อยู่วิศวะ ผมเกรงว่า...”

‘อ้าว...เวร...ไอ้นี่ดันเสือกรู้จักเด็กตรินทร์อีก นี่คงคิดว่าเด็กตรินทร์ยังเรียนวิศวะปีสองอะสิ เฮ้อ...'

“งั้นก็จบ ฝากกระเป๋าด้วยนะ”

ผมโยนกระเป๋าเป้ของอะตรอมให้ไอ้แว่น พร้อมทั้งหันหลังเดินไปที่สนาม...ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้ แล้วตะโกนบอกพวกไอ้แว่นนั่น

“ผมชื่อภินทร์ บริหารปีหนึ่ง ฝากตัวด้วยครับ!”

…ดูมันแลงงๆ แต่ก็ยอมให้ผมลงมาที่สนาม มาถึงผมก็เดินไปหาอะตรอมก่อนเลย เพราะดูแล้วเด็กบริหารคนอื่นๆแทบจะหมดสภาพ พวกนั้นเล่นกันหนักจริงๆ...

เล่นไปได้สักพักก็เครื่องติดตอนนี้ตัววิ่งฝั่งผมมีแค่ผมกับอะตรอมในขณะที่ทางฝั่งนั้นตัววิ่งเป็นไอ้วิศวะปีสามสองคนที่ท่าทางกวนบาทมากมาย อะตรอม โดนไอ้หน้าเข้มปีสามประกบในขณะที่ผมโดนไอ้โล้นนี้กระแทกอย่างตั้งใจอยู่หลายครั้งแต่รอดไปได้เกือบทุกครั้ง...

.
.
.

...จนมาครั้งนี้…

.
.
.

ปรี๊ด!   

...พวกปีสามฝั่งผมเป่านกหวีดเสียงลั่น เมื่อผมถูกกระแทกกลิ้งลงไปกับพื้นสนาม...

สัด! แมร่งเกินไปแล้วนะ! ก็รู้ว่าฝั่งตรงข้ามเล่นแรง แต่ผมก็ระวังตัวเสมอ ทุกครั้งที่พวกมันเข้ามาใกล้ อะตรอม จะเอาตัวมันกั้นผมไว้ตลอด แต่มาคราวนี้พวกมันคงรู้ทาง...   

ไอ้คนตัดสกินเฮดนั้นแทนที่จะเข้ามาเล่นผม... เหมือนเคย ชั่วเสี้ยวกับสลับเป็นไอ้หน้าเข้มนั้นยิ้มมุมปากแล้วเบียดมากระแทกผมแทน... อะตรอม หน้านิ่งไปในแบบที่ผมไม่เคยเห็น มันปรี่ไปหาไอ้หน้าเข้มนั่นก่อนจะเงื้อหมัด เสียงกรี๊ดจากข้างสนามดังพอๆกับเสียงของผมที่ตะโกนเรียกมัน

“อะตรอม!”
      
…ผมเรียกมันไว้ก่อนจะพยุงตัวขึ้น ถึงยังจุกอยู่แต่ผมก็ฝืนจับมือมันให้ลดลงก่อนจะเอ่ยปากขอโทษพวกไอ้เหี้ยมนั่น...

ในมหาลัยอย่างนี้ปีนเกลียวคงไม่ดี แต่จะให้ยอมมันอย่างนี้ก็เกินไป... ผมขอเวลานอกแล้วลาก อะตรอม ออกมาข้างสนามส่วนพวกบริหารที่เล่นด้วยกันหมดแรงทรุดตัวลงกับพื้นสนามนั่นล่ะ

“มึง จะทำอะไร?...รู้ไหมเหี้ยมพวกนั่นอยู่ปีสาม ถ้ามีเรื่องขึ้นมามึงคิดว่าปีหนึ่งอย่างมึงจะอยู่อย่างสงบไหม?”

ผมถามอะตรอมที่ได้แต่กัดฟันกรอดๆๆ ดูมันอารมณ์ขึ้นมากมาย นี่กูโดนกระแทกนะไม่ใช่มึง สาดเอ้ย!

“มันทำ ภินทร์ ทำไมต้องขอโทษมันด้วย? ภินทร์ เจ็บ...เลิกเล่นเถอะ ”
   
อะตรอมเสียงเบาแล้วโน้มตัวลงมากอดผมไว้....

ไอ้ควาย...อย่าร้องไห้นะมึง ผมกอดตอบอะตรอม ไว้แล้วตบบ่ามันเบาๆ แต่สายตาที่เหลือบไปเห็นไอ้เหี้ยมที่จงใจกระแทกผมนี้สิ มันยิ้มเหยียดแล้วทำทีปาดคอ ข่มขู่!

....เล่นของสูงนะมึง ไอ้เหี้ยม! ถ้ากูกับมึงไม่ตายกันไปข้างหนึ่ง อย่ามาเรียกกูว่า ภินทร์ เลยสัด!

“กูไม่เป็นไร อีกเกมส์ก็จบ ลงสนามเถอะ อะตรอม”

ผมยิ้มหวานให้ อะตรอม แล้วลากมันลงสนามใหม่.... เป้าหมาย...ไม่ใช่ลูกบาส ..แต่...อยู่ที่ไอ้เหี้ยมนั่น!

.
.
.

ปึก!

.
.
.

พลั๊ก!

.
.
.

“ปรี๊ด!”


...นกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง... ก่อนเสียงกรี๊ดจะตามมาจากข้างสนาม


ไอ้เหี้ยมโดนผมซัดลงไปกับพื้นแบบเนียนๆ โดยอาศัยช่วงที่มันจ้องเล่น อะตรอม เล่นมันเสร็จผมก็เดินหลบฉากเนียนไปเรื่อย    
...เกือบสามครั้งที่มันล้มเพราะฝีมือผม อะตรอม มองตามผมที่วิ่งเข้ามาหาระหว่างเกมส์ ผมโน้มตัวมันลงมาก่อนจะกระซิบข้างหู

“มึงเล่นบาสไป... กูจะเล่นคน...”

.
.
.

“ภินทร์...”   

อะตรอม ครางเรียกชื่อผมเบาๆ เหมือนจะไม่เชื่อประโยคที่ผมพูด แต่ผมก็ทำให้มันเห็น กูเล่นคนได้แบบเนียนๆ ...คาสนาม!

..............
............................   


..
เสียงกรี๊ดดังขึ้นอย่างกับงานคอนเสิร์ต ผมหันตามไปก็เห็นไอ้เหี้ยมกับเพื่อนมันถอดเสื้อนิสิตโยนไปข้างสนามแล้ว...

โห่!คิดว่าพวกมึงหุ่นดีเป็นพวกเดียวหรอ? ผมหันไปมองอะตรอม กะจะยุให้มันถอดเสื้อโชว์...แต่พอมองโดยรวมแล้วเสื้อที่ไม่มีหลุดออกมาจากเข็มขัดนิสิตเลยสักนิดทำให้หยุดปากไว้แค่นั้น ชิ!มึงไม่ถอดกูถอดก็ได้...ผมเดินเข้าสนามแล้วถอดเสื้อสีขาวออกจากตัว ไม่ได้โยนแบบพวกมันผมเอาเสื้อมาผูกไว้กับเอวเพราะกลัวว่าถ้าโยนไปจริงๆแล้วจะหาเสื้อไม่เจอ...เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นทำให้ผมรู้เลยว่าคะแนนผมก็ไม่น้อยกว่าพวกมันหรอก!สุขสุดๆตอนเป็นผู้หญิงนะลืมไปเลยไอ้การถอดเสื้อวิ่งรอบสนาม

เล่นบาสมันต้องอย่างนี้! โชว์แมนอย่างนี้! ไม่เสียชาติเกิดจริงๆ ยิ่งมีเสียงกรี๊ด ยิ่งของขึ้น...    


***


..

.
.
.

...จนเกมส์จบ เสมอ----สาดดดดดดด คิดว่ากูวิ่งเพื่อเสียงกรี๊ดอย่างเดียวหรอ ?!   


พวกไอ้เหี้ยมนั่นเหมือนจะไม่พอใจที่ผลออกมาเสมอ... แต่ทำไงได้ผมเองก็อยากชนะแต่ช่างมันเถอะเล่นไอ้เหี้ยมมันคาสนามได้ผมก็สุขใจแล้ว... พักเกือบชั่วโมงหลังแข่งเสร็จ พวกไอ้เหี้ยมโดนสาวๆดึงออกจากสนามไปนานแล้ว เหลือแต่ผมกับอะตรอมที่นั่งบังผมไว้จากสายตาสาวแท้สาวเทียมทั้งหลาย... ผมเองก็อยากจะบอกอะตรอม....

‘มึงจะบังกูทำไม? เขามองมึง ไม่ได้เหลียวมองกูเลย! ไหนว่ามึงเป็นผู้สนับสนุนหลักของกูไง? ไอ้คุณอะตรอม!’

“เมื่อไหร่จะใส่เสื้อครับ?....”

บังเกอร์นามอะตรอมมันยังคงนั่งบังผมอยู่ แถมยังยื่นขวดน้ำที่สาวๆบรรณาการมาให้ผม

“เดี๋ยวร้อน....”

เซ็ง...ยังทำคะแนนได้ไม่เท่าไหร่เลยนะสกัดดาวรุ่งกูแล้ว ไอ้คุณอะตรอม!

“จะกลับเลยไหมครับ? ทั้งสนามเหลือเล่นอยู่ไม่กี่คนแล้ว”

“เดี๋ยวค่อยกลับ... พักก่อนเดี๋ยวนึงอยากเล่นกันแค่สองคนอีกรอบ”

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!11#Do you know my feel? it's so drown.
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 14:26:28
บทที่ 11 Do you know my feel? it's so drown.ขโมย
Part โฆษิต


..ผม พา ‘จรินทร์’ มาที่มหาวิทยาลัยเพื่อพบ ตรินทร์ ไม่ใช่ใจดีอะไร ...

หากแต่เป็นการตอบแทนเรื่อง ‘ข่าว’ เด็กหนุ่มร่างบางราวกับกระเบื้องเคลือบข้างๆผมเป็น ‘ของ’ อีกอย่างที่ พระแพง มี จรินทร์ เกลียด พระแพง ไม่ต้องบอกแค่มองด้วยสายตาก็รู้ จรินทร์ รัก ตรินทร์ รักจนทำให้คำว่านายกับบ่าวแทบจะไม่มีความหมายบ่าวที่หลงรักคู่หมั่นของเจ้านาย...

พระแพง เองก็ดูจะรู้ถึงข้อนี้นักทำนายอย่าง จรินทร์ ถึงได้ถูกทำให้ตาบอด...เพื่อที่จะไม่ต้องมีสายตามองหา ตรินทร์....แต่ก็แค่นั้น นักทำนายอย่าง จรินทร์ ยอมที่จะมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจาก ตรินทร์ ...สายตาคู่นั้น มีไว้มองเพียงแค่ ตรินทร์ การแสดงตัวเป็นศรัตรูของ จรินทร์ เป็นอันตราย แต่..ที่ พระแพงไม่ฆ่า จรินทร์ ทิ้งก็เพราะต้องใช้งานเท่านั้นเรื่องนี้ยิ่งทำให้ จรินทร์ ยิ่งเกลียด พระแพง แต่กับผม จรินทร์ ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องของผมกับ ตรินทร์....เหมือนรู้แต่ปล่อยผ่าน...

...หากแต่ห้ามพูดถึง!

.
.
.

“ นาง...หายไปตั้งแต่เกิดเรื่องครานั้น ข้าเจ้าว่ามันคือสิ่งแปลก...”
.
.
.

...จรินทร์ บอกกับผมตอนอยู่ที่บ้านหลังนั้นข่าวนั่นทำให้ผมต้องพา จรินทร์ มาหา ตรินทร์ ตามข้อแลกเปลี่ยนของ 'ข่าว' แต่เพียงแค่นั้น จรินทร์ เองก็พอใจเพียงแค่ได้รู้สึกถึงคนที่รัก.....อยู่ห่างๆ

'...หายไปตั้งแต่เกิดเรื่องครานั้น '

ประโยคนั้นสะกิดใจผม...คงไม่ใช่ พระแพง หรอกนะ ที่ทำให้ ตรินทร์ เป็นอย่างนี้...

..............
............................

 “ใคร??...ไม่ใช่พี่ตรินทร์...ไม่มีสักนิดที่จะมีเชื้อสายของเราในวิญญาณ...พี่โฆ เอาใครมาครับ? พี่โฆ พาผมมาหาใคร? ผมไม่เห็น พี่ตรินทร์...”

..
.
.
ผมนิ่งไปทันทีที่จรินทร์เอ่ยทัก ใคร? ใครที่อยู่ในร่างตรินทร์ ? แล้วตรินทร์อยู่ไหน? กลางสนามบาสนั่น ตรินทร์ อยู่กับไอ้ยักษ์อีกตัว ไอ้ยักษ์มันเห็นผมแต่ทำเป็นเมิน พวกเดียวกันดูกันออก ผม 'ไม่ใช่' มันก็ 'ไม่ใช่' เหมือนกัน…

..............
............................

…ในรถ จรินทร์ ได้แต่นั่งร้องไห้ ร้องจนผมไม่กล้าแม้แต่จะห้าม...

บอกตามตรงเลย ผมไม่คิดห่วง จรินทร์ แม้แต่น้อย ผมห่วง ตรินทร์ มากกว่า เกิดอะไรขึ้นกับ ตรินทร์ ผมขับรถไปส่ง จรินทร์ ที่บ้านหลังนั้น ก่อนจะขับกลับมาที่มหาลัย…ที่สนามบาสนั้น ตอนนี้ผมเห็นแค่… ตรินทร์ ไม่สิ… เห็น แค่ร่างของ ตรินทร์ ส่วนข้างในนั้น ผมไม่รู้...

..............
............................

Part ภินทร์


..บัพ อยู่ตรงหน้าผม... สีหน้ามันเฉยสนิท แววตาที่มันมองผมทำเอาผมรู้สึกหวาดๆ แล้วมันก็ก้าวเข้ามาใกล้ พร้อมกับประโยคที่ทำเอาผมแทบยื่นไม่อยู่...

“มึง เป็นใคร ? มึงกล้าดียังไงถึงแย่งร่าง ตรินทร์ มา? มึงรู้ใช่ไหมว่า ตรินทร์ อยู่ไหน? กูไม่รู้ว่ามึงเป็นใครไม่เคยคิดอยากจะรู้ด้วยซ้ำ… แต่มึงคงมีความสุขมากสินะ...กูยังสงสัยมึงไม่รู้สึกเจ็บบ้างเลยรึไง? ทำไมถึงมีแต่กูที่เจ็บ? แต่มึงยังยิ้มได้ ? ทั้งที่มึงขโมยชีวิต ตรินทร์มามึงเคยรู้สึกผิดบ้างไหม? เคยเจ็บเหมือนกูไหม? เจ็บที่หน้าอกเหมือนกู… เจ็บตรงหัวใจเหมือนกู...? เจ็บเพราะโดนมึงขโมยคนที่กูรักไป!”

เสียงเบานั่น กระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน...แต่ตอกย้ำให้ผมชาไปทั้งหน้าและความรู้สึก ไอ้บัพเดินชนกระแทกไหล่ออกไปก่อนจะหันกลับมาหยิบลูกบาสข้างเท้าแล้ว พลัสลูกบาสในมือเข้ากลางอกของผมที่ได้แต่ยืนนิ่ง...

..............
............................

…มันไม่ได้แรงมากอะไรแต่ทำไมมันถึงจุกไปหมด จุกจนชาไปทั้งตัว ขานั้นอ่อนแรงทรุดลงกับพื้นสนาม อะตรอมเป็นคนแรกที่วิ่งเข้ามาดูและถามอะไรโวยวายก่อนจะพยุงผมให้ลุกขึ้น....

สายตาของผมได้แต่มองร่างสูงที่เดินหายพ้นประตูออกไปจนลับตา… ความรู้สึกเหมือนหยุดอยู่แค่นั้นไอ้บัพนั้นจะไม่หันกลับมา...

ถ้าคนที่ล้มอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ ตรินทร์ ....ถ้าผมไม่ใช่ ตรินทร์! มันจะไม่มีวันหันกลับมา....

.
.
.


...

“ภินทร์!ภินทร์ครับ!”

...รู้สึกตัวอีกทีผมก็อยู่ในห้องน้ำแล้ว และที่รู้สึกตัวได้ก็เพราะเสียงตะโกนเรียกและแรงเขย่าของ อะตรอม

“จะตะโกนทำไมมีกันอยู่แค่สองคน”

“เป็นห่วง อะตรอมเรียกภินทร์ตั้งแต่กลางสนามจนมาถึงห้องน้ำแล้วนะ เป็นอะไรครับ ภินทร์”

“ไม่ได้เป็นอะไร”

“แล้วร้องไห้ทำไมครับ...”

..
.
.
.

...คำถามของอะตรอมเรียกสติของผมให้กลับมาอีกครั้ง… ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากปาดน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด อยู่ๆความรู้สึกชากระประดังเข้ามาพร้อมความเจ็บ… หน้าอกเหมือนมีก้อนอะไรอัดแน่นอยู่จนทั้งจุกและเจ็บจนหายใจแทบไม่ออก น้ำตาตอนนี้ก็ไหลไม่หยุดขายังยืนแทบไม่อยู่ด้วยซ้ำ…

“ภินทร์เป็นอะไร? ไอ้บ้านั่นมันทำอะไร?”

เสียงอะตรอมเหมือนจะเบาลงมือใหญ่คู่นั้นรวบตัวผมมาซบกับแผงอกกว้างแล้วลูบหัวปลอบเหมือนผมเป็นเด็กเล็กๆ…ไม่มีคำตอบจากผมนอกจากเสียงสะอื้นและน้ำตาที่เริ่มจะเปียกชุดนิสิตของอะตรอม… ผมได้แต่คิดถึงคำถามที่ไอ้บัพถาม คำตอบมันมีในใจตั้งนานแล้ว…

…คำตอบที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกที่สุดของจิตใจ คำตอบมีตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าผมกำลังใช้ชีวิตของคนอื่น…

‘เจ็บหรอ? กูเจ็บ เจ็บจนชาไปหมดแล้ว ทำไมต้องเป็นกู? ทำไมกูไม่ตายตั้งแต่แรก? ทุกอย่างมันจะได้จบๆไป กูจะได้ไม่ต้องมาขโมยชีวิตใคร กูจะได้ไม่ต้องมาขโมยชีวิตคนของมึง!’

คำตอบทั้งหมดได้แต่วนเวียนอยู่ในหัว… ผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักอย่าง ผมกลัว… กลัวอะตรอมรู้… กลัวอะตรอมเกลียด… เกลียดผมเหมือนที่ไอ้บัพเกลียด...ผมกอดอะตรอมแน่นซุกหน้าเข้ากับแผงอกใหญ่นั่นเหมือนมันเป็นที่เดียวที่จะช่วยหยุดน้ำตาผมได้…   

.....................
..................................................

“ถ้าภินทร์ลำบากใจ ไปนอนห้องผมไหมครับ?...”

..............
............................

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!12# Will you stay with me? รูมเมท
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 14:41:18
บทที่ 12  Will you  stay with  me?รูมเมท (กล้าเนอะ?)
Part ภินทร์


“ถ้าภินทร์ลำบากใจ ไปนอนห้องผมไหม?...”

..........................
......

..กล้าเสนอ....นะ…

..ก็… กล้าสนอง …

…หลังจากจบประโยคนั้นเกือบ 2 อาทิตย์ ที่กระผม นายภินทร์ ก็เข้ามาสิงสถิตที่ ห้องคุณอะตรอมอย่างเกือบจะถาวรแม้ตอนแรกจะหวั่นๆไปบ้างเพราะเหมือนจะเกลียดการอยู่ร่วมกับคนอื่น… ขนาดห้องไอ้บัพ ผมเองยังไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่งเลย…การใช้ชีวิตที่ต่างกันมันมักจะเป็นและสร้างปัญหา...

…แต่พอมาอยู่กับอะตรอม มันไม่ใช่…

มันเหมือนมีอะไรซักอย่างที่สร้างอะตรอมขึ้นมาเป็นอะไรซักอย่างที่... เข้ากันได้เกือบทุกๆเรื่อง คุยได้ทุกเรื่องแม้แต่ ตอนดูหนัง XXX คุยได้แม้แต่ความชอบส่วนตัวที่ดูจะแปลกๆ การเข้า NET’ ไม่ต้องคอยลบ WWW .ที่เพิ่งเข้าไม่ต้องซ่อน PASS แม้ตอนสงสัยหรือถามความคิดเห็นบางทียังหันไปถามกันตรงๆ แม้เจ้าของคำตอบจะหู หรือหน้าแดงไปบ้างแต่ก็ได้คำตอบกลับมาทุกครั้ง จันทร์ ถึง ศุกร์ เข้าเรียนโดยซ้อนท้ายรถ’มอไซน์ อะตรอมออกไป และเลิกเรียนถ้าไม่ไปไหนก็ กลับมาพร้อมกัน เสาร์ อาทิตย์ก็ขับรถเล่นบ้างหรือถ้าเหนื่อยไม่อยากไปไหนก็ไปช่วยงานที่ร้านก๋วยเตี๊ยวของป๋า อะตรอม เสื้อผ้ากลับมา อะตรอม ก็ซักให้ซักแม้แต่ของส่วนตัว...

...ห้องที่เคยกว้างตอนนี้ ผมขยุมโยนโน้นนี้นั่นจนบางครั้งทำเอาห้องกว้างเหลือแค่พื้นที่แคบๆ...หรือบางทีถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ผมก็แอบเก็บบ้างด้วยความละอาย แต่เจ้าของห้องยังคงยิ้มให้อย่างอบอุ่นนี้สิ...กระดากอ่ะ...ทำไมดีขนาดนี้นะ...

ผมคิดไปเรื่อยขณะ เขียนรายงานบรรทัดสุดท้าย เขียนให้ทั้งตัวเองและอะตรอม แผนโฆษณา ผลิตภัณฑ์ หมูๆ สำหรับ อดีตวิญญาณเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด...

“อะตรอม...”

“หือม์...”

“มีแฟนยัง...?”

“...”

“นิสัยยังไง ดีไหม?”

“...”

“ผู้หญิง? ผู้ชาย?”

“...”

“อ...”

จะถาม คำถามอื่นต่อแต่ประโยค หนึ่งก็ขัดไว้ก่อน

“ยังไม่มี...”

“...”

“...”

“....จ..จริงดิ! นิสัยดีอย่างอะตรอมนี้อะนะ! โกหกเปล่า?”

ผมวางปากกาแล้ววิ่งกระโดดเกาะหลังเพื่อนร่างยักษ์ ที่ยืนรดน้ำต้นไม้นอกระเบียง หลอกแน่เลย…อย่างอะตรอมเนี้ยนะไม่มีแฟน?

ถ้าถามว่าหล่อไหม?

ถึงจะไม่ตี๋หล่อตามสมัยแบบเกาหลี แต่ก็จัดว่าหล่อ... เป็นหล่อแบบเข้มๆ ใบหน้าคมแนวเด็กทะเล ผิวสีแทน แนวนักกีฬา ไม่สูบบุหรี่ ไม่แดกเหล้า พูดเพราะ สุภาพ รักความเป็นระเบียบ ...มากมาย...อย่างนี้อะนะไม่มีแฟน? ไม่เชื่อหรอก...?

“ไม่มีหรือไม่คิดจะมีเป็นตัวตน? คุณอะตรอม...สารภาพมา... ”

…ผมกระซิบถามข้างหูอะตรอม ขณะที่แขนขานั้นยังเกาะกอดเกี่ยวกับร่างใหญ่ ที่เริ่มเดินเซเพราะจากที่เกาะเฉยๆผมแกล้งมันอีกขั้นโดยเปลี่ยนเป็นยกขาขึ้นมาเกี่ยวเอวมันซะอย่างงั้น

“สารภาพอะไร ก็บอกว่าไม่มี...ภินทร์ ลงมาดีๆเดี๋ยวล้ม”

“ไม่สารภาพเหรอ..เจองับแน่..งับๆๆๆๆ บอกไม่บอก”

ตอนนี้มันเขี้ยวแล้วครับผมไม่พูดเปล่าแต่ใช้ฟันคมๆของผมไล่งับเบาๆที่ไหล่และลำคอหนาของไอ้เพื่อนตัวยักษ์ที่ได้แต่หัวเราะร่วน มันคงจั๊กจี้แปลกๆ  ผมเองจะว่าไปตอนนี้เหมือนจะไม่ใส่ใจกับคำตอบแล้ว... เพราะการไล่งับแล้วดูปฏิกิริยาของอะตรอมสนุกว่าไหนๆ จนมางับเข้าที่ติ่งหูนั้นเข้า

“บอกแล้วบอกแล้ว บอกว่าไม่มีไง ... ไม่ผ่านด่าน เหวอ!”

..............
............................


จากความตกใจที่ริมฝีปากเย็นนั้นขบเบาๆที่ติ่งหู ปนน้ำหนักที่แบกไว้จนเซ อะตรอม สะดุดล้มตัวลงบนเตียงใหญ่…

เหมือนเดิม…ชั่วเสี้ยวลมหายใจแทนที่จะล้มทับร่างที่แบกไว้ อะตรอม ผลิกตัวรองรับ ภินทร์ ไว้อีกตามเคย… คราวนี้แทบจุกเพราะไอ้ตัวแสบนั้นไม่คิดว่าจะล้มด้วยกันทั้งสองตน เลยไม่ได้ยั้งแรงไว้

...ลืมตาขึ้นมาอีกที ภินทร์ ก็ทับแผงอกอะตรอม แบบเต็มๆเหมือนจะจุกทั้งคนทับและคนโดนทับ ภินทร์ กลิ้งตัวลงมานอนจุกข้างๆ อะตรอม ที่เหมือนจะอาการหนักกว่าตน เพราะไหนจะจากตัว ภินทร์ ไหนจะแรงกระแทก

“ขอโทษที...จุกซิบ...”

ภินทร์ บ่นเสียงเบาขณะพยุงตัวลุก อะตรอม ยังคงนอนนิ่งยิ่งเดาได้เลยว่ายังคงจุกอยู่

“เป็นไรมากไหมอ่ะ?...”

...ถามขณะคลานเข้าไปใกล้ อะตรอม กดมือตนนวดเบาๆที่ไหล่แล้วกัดฟันกรอด...

ไม่ต้องถามอะไรแล้ว... ภินทร์ คลานขึ้นมาทับบนตัว อะตรอม พร้อมไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตนั้นออก…

อย่างที่คิดว่าแล้วว่าข้อศอกตนโดนอะไรทำไมเจ็บๆโดนไหล่ อะตรอม นี้เอง รอยช้ำยังคงจางๆเป็นปื้นใหญ่แต่มันจะไม่จางอย่างนี้แน่ถ้าปล่อยไว้

ส่วน อะตรอม นอนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ยิ่งโดน ภินทร์ ปลดกระดุมเสื้อออก… ยิ่ง...ไม่กล้าขยับหรือทำอะไร...

…ร่างที่ขยับบนตัวนั้นหันซ้ายหันขวาเหมือนหาอะไร แต่ไอ้คนนอนข้างล่างนี้สิ เห็นหมดแล้ว.... มุมดีชะมัด.... ยิ่งไอ้คนข้างบนเลื่อนตัวคลานไปหยิบอะไรซักอย่างบนหัวนอนขณะยังทับตนอยู่ ยิ่งเห็นตั้งแต่สะดือไปถึงหน้าอกตลอดจนลำคอขาว… ผู้ชายเหมือนกัน แต่ทำไม รู้สึกแปลกๆ แล้วมือนั้นก็ไล่นวดเบาๆที่ไหล่กว้างปากก็พร่ำถามว่า

‘เจ็บไหม เจ็บบอกนะ’

อะตรอม แทบจะลอย อยากบอกว่าไม่เจ็บแล้วแต่เสียดายไม่อยากให้ ภินทร์ ลุกออกไป เลยได้แต่นอนนิ่ง…

“ค่อยยังชั่วแล้วนะ...”

ภินทร์ เอ่ยถามมือนั้นเปลี่ยนจากนวดไหล่กว้างของ อะตรอม เป็นมาปิดฝายาหม่องแทน แต่ก็ยังไม่ได้ขยับลุกออกจากตัวของ อะตรอม

“เอ่อ.. แล้วเมื่อกี้ว่าอะไร? ไม่ผ่านด่านอะไร?...”

ภินรทร์ ถามเมื่อนึกขึ้นได้ก่อนที่จะล้มกันทั้งสองคน

“เรื่องแฟนไง ไม่มีจริงๆเพราะไม่ผ่านด่าน...”

“ด่านอะไรอะ?...”

หมอนวดจำเป็นถามขณะโน้มตัววางตลับยาหม่องเก็บหัวนอนตามเดิม อะตรอม ได้แต่นอนนิ่ง มือใหญ่ของตนนั้นเลื่อนมาจับช่วงขาของ ภินทร์ ที่อยู่ในท่าคลานตอนไหนไม่รู้ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไร ...ยังไม่ทันจะทำอะไรเพราะคนข้างบนมัวแต่เลือกตำแหน่งที่จะวางตลับยาส่วนคนข้าง ล่างก็ได้แต่มอง...

...อยู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออกโดยเด็กผู้หญิง....

จะเรียกเด็กผู้หญิงได้ไหม? เมื่อภินทร์ มองคราวๆแล้วเด็กนั้นสูงไม่ต่ำกว่าตนซักเท่าไหร่แน่...จากสถานการณ์ใน ตอนนี้ หากคิดมากอีกซักนิดมันล่อแหลมต่อการเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นผู้ชายด้วยกันเองก็เถอะ นึกภาพแล้วกัน คนหนึ่งนอนนิ่งบนเตียงมือจับช่วงขาของคนข้างบนที่โน้มตัวลงมาเหมือนจะให้ ถอด....ถ้ามีจินตนาการอีกซักนิด ฉากนี้คงติดเรท แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ดูท่าเด็กสาวนั้นคงเป็นญาติ อะตรอม ท่าจะรู้นิสัยอะตรอม ดีอยู่...

.
.
.


“....เดี๋ยวอีก 2 ชั่วโมงมาใหม่แล้วกัน ตามสบาย...”

...อยู่ๆ เด็กนั้นก็พูด พาให้เด็กๆดูน่าจะรุ่นเดียวกันอีก 3-4 คนที่ยืนอยู่ข้างหลังซุบซิบหัวเราะอะไรกันคิกคัก ภินทร์ หันมองเด็กกลุ่มนั้นแล้วก้มลงมอง อะตรอม ประมวลสถานการณ์แล้วเพิ่งคิดขึ้นได้ พอๆกับที่เด็กนั้นจะปิดประตู

.
.
.

“เฮ้ย! น้อง! เดี๋ยว! ไม่ใช่!” 

 

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!13 #Pass off.ผ่านด่าน?!
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 14:46:54
บทที่ 13 Pass off.ผ่านด่าน?!



..หลังจากการอธิบายสถานะและสถานการณ์ที่เป็นจริง...

ดูท่าทุกอย่างจะเป็นที่น่าพอใจ (หรอ?)สรุปเด็กผู้หญิงที่ว่านี้ ชื่อ ‘แพงตรอน’ (ส่วนสูง 170 cm.เตี้ยกว่า ภินทร์ 6 cm.) เป็นน้องแท้ๆของ อะตรอม (พี่น้องยักษ์) เรียนโรงเรียนประจำหญิงล้วนเลยไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่..

แต่วันนี้มีรายงานพิเศษของกลุ่มเลยกะมาทำที่ห้อง อะตรอม เพราะส่วนมากหนังสือที่เก็บไว้จะอยู่ที่นี้ ทั้งของ อะตรอม และ แพงตรอน ยิ่งตอนนี้มี ผมอยู่ด้วยหนังสือเลยเพิ่มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ห้องนี้หนังสือเยอะและหลากแนวนี้เป็นอีกอย่างที่ผมชอบ...

ส่วนที่มาด้วยกันคือเพื่อนในกลุ่ม มี แนน นุ่น ก้อย เกมส์ เด็กพวกนี้พอคุยเข้าจริงๆดูมีสัมมาคารวะและคุยสนุกจนบางทีหันกลับไปมอง อะตรอม มีมองกลับมาแปลกๆ เรื่องที่คุยกันก็ไม่ได้มีอะไรมากส่วนมากจะเรื่องทั่วไปพอคุยถูกคอยิ่งไหลไปเรื่องส่วนตัวผู้หญิงๆ ถ้าไม่รู้จริงคงคิดว่าเด็กโรงเรียนหญิงล้วนคุยเรื่องความสวยความงามบอกเลยว่าผิดถนัด

...ผมคุยไปด้วยช่วยทำรายงานให้พวกน้องเขาไปด้วย ห้องที่ดูกว้างๆแคบไปถนัดตาเมื่ออัดคนเข้ามาถึง 7 คนแต่ก็ดูสนุกดีที่ได้รื้อฟื้นเรื่องเก่าๆมาเผากัน ผมสบายอยู่แล้วกับสังคมแบบนี้จะมีก็เกือบหลุดบ้างแต่พอเถไปได้...จนเกือบ 6 โมง รายงานถึงเสร็จ ความจริงเสร็จตั้งนานแล้วแต่นั่งคุยกันมากกว่า น้องๆเขาคุยสนุก แพงตรอน เองก็คุยสนุกแต่ออกจะติดโหดๆห้าวๆ   และดูท่าจะหวงพี่ชายไม่ใช่เล่นฟังจากประสบการณ์ที่เพื่อนๆเล่าวีรกรรมแล้วอดหัวเราะไม่ได้... อย่าง ตอนที่มีผู้หญิงตามอะตรอม มาที่ร้าน น้องสาวตัวดีของผม (เปลี่ยนสถานะหลังจากคุยกันถูกคอ)ร้ายๆ...จนผู้หญิงคนนั้นหายไปจากสายตา อะตรอม ผมถามว่าร้ายยังไง เธอก็ได้แต่หัวเราะบอกว่า ‘ร้ายแบบนางอิจฉาคูณสาม' แต่ร้ายขนาดนี้แล้วยังมีมาติดพัน อะตรอม อีก 3-4 ราย ‘สงสัยไม่รู้ฤทธิ์แม่ ’ แล้วเราก็หัวเราะกันไป

...จนความลับเรื่องหนึ่งรั่วออกมา อะตรอม เคยหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นลูกพี่ ลูกน้องกัน ‘เธอ’ คนนั้นแก่กว่ามันตั้งหลายปี แถมมันยังหลงเขาจนแทบจะกินข้าวกินน้ำไม่ได้เมื่อเธอคนนั้นไม่ติดต่อกลับมาอีก... เรื่องมันประมาณว่าโดนครอบครัวกีดกั้น ...น้ำเน่าชะมัด...

ผมฟัง แพงตรอน เผาพี่ชายตัวเองอย่างสบายใจปล่อยให้ อะตรอม นั่งหน้าชาจวนจะไหม้จากการถูกเผา ผมแอบมองมันเป็นระยะสีหน้ามันเหมือนจะไม่สบายใจ อะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา…

...จนเราเดินไปส่งพวกน้องๆที่หน้าร้านประจำนั้นหล่ะ แพงตรอน ถึงเรียกให้นั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันก่อน.. ถิ่นผมอยู่แล้วร้านนี้เพราะมากินจนเกือบจะเป็นลูกของเจ้าร้านอีกคนก็ร้านนี้อะร้านป๋า อะตรอม มันนิ ร้านป๋า แพงตรอน ด้วย ฮา...

ผมเสริฟ์น้ำให้น้องๆตามรายการที่สั่ง อดถาม แพงตรอน ไม่ได้ว่า...

‘ไม่ได้เป็นตัวอิจฉา แล้วเหรอถึงสั่งน้ำส้ม?’

แพงตรอน หัวเราะมากมายที่ผมจำเรื่องที่เล่าได้ แต่คนที่เงียบที่สุดอย่าง อะตรอม นี้สิทำผมลำบากใจ ...มือผมเอื้อมไปจับไหล่ ข้างที่เจ็บของมันอย่างเบาๆ

“ยังเจ็บอยู่เหรอ?...ขอโทษ”

ไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่หรือเปล่าอยู่ๆมันก็หน้าเสียแล้วสะบัดมือผมออกซะอย่างนั้น… พาเอาผมหน้าเสียไปรวมทั้งพวกน้องๆที่นั่งอยู่ด้วยกันอีก...ตัดปัญหา ผมเดินเลี่ยงไปจดออเดอร์ลูกค้ารายอื่น (ก็มาร้านนี้ทีไรผมได้เป็นเด็กเสริฟ์ทุกทีเพราะกินฟรีตลอดเลยทำงานซะบ้าง) กลับมาที่โต๊ะอีกทีก็ตอนได้ ‘เล็กทุกอย่างพิเศษน้ำน้อย’นั้นล่ะ

“พี่ภินทร์ ไม่กินลูกชิ้นหรอคะ?...”

แพงตรอนถามแทรกขึ้นกลางความเงียบของโต๊ะเรา ผมมองดูชามของคนอื่นยังหมดไม่ถึงครึ่ง แต่ยังมีอะไรๆ ปนๆกัน ผิดกับชามของผมที่เหลือแค่ลูกชิ้น 6 ลูกครบทุกลูกที่ร้านใส่มา... ยิ่งชามของ อะตรอม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรายนั้นแทบไม่แตะของในชามด้วยซ้ำ นี้ขนาดร้านมันเองนะเนี่ย..

“พี่ภินทร์ไม่กินลูกชิ้นหรอ....?”

แพงตรอนถามย้ำ เมื่อเห็นผมเงียบไปนาน

“กินดิ ตัวชอบเลยหล่ะ...แต่ชอบมากๆไงเลยเก็บไว้กินสุดท้าย”

“อืมส์ๆๆๆ”

แพงตรอน พยักหน้ารับทราบแล้วก้มหน้าก้มตากินไปอมยิ้มไป พวกน้องๆก็หัวเราะคิกคัก ‘ไรว่ะ..

ผมหันไปอีกทีชามของ อะตรอม เหลือทุกอย่างยกเว้นลูกชิ้นที่หายไป ผมเรียกมันเบาๆแล้วตักลูกชิ้นในชามให้ไป 3 ลูก

“เอามาให้ทำไม กินไปดิของชอบภินทร์นะ...”

มันบ่นเบาๆสีหน้าลำบากใจ พาผมเอือมไปด้วย...โตเป็นควายกินผักไม่เป็น เส้นก็ไม่ค่อยกิน แต่ไม่กล้าสั่ง ‘ลูกชิ้นเปล่า’ กลัวเสียหน้า...

“กินเข้าไป...เดี๋ยวแว๊ะ 7-11 จะซื้อแฮมฯกับ ฮอทด็อก ให้”

ผมบ่นมันเบาๆ แล้วตักลูกชิ้นที่เหลือออมไว้ เข้าปากละเลียดเลมมันทีละลูก จะว่าไปก็เสียดายไอ้ 3ลูกนั้นเหมือนกันแต่ก็นะกลัว อะตรอม มันหิวมากกว่า...กินกันไปคุยกันไป

..............
............................

…เกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้เตรียมแยกกันกลับจริงๆ....

ก่อนกลับ อะตรอม เรียก แพงตรอนไปพูดอะไรกันก็ไม่รู้ผมไม่ได้สนใจเพราะต้องดู TAXI ให้น้องๆเขา ตอนส่งน้องๆขึ้น TAXI กำลังจะปิดประตูรถ อยู่ๆ แพงตรอนก็กวักมือเรียกผมเข้าไปหา...

...แต่ผมชะงักไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อะตรอมบีบไหล่ผมไว้แน่น ผมหันหน้าไปมองมันให้คลายมือออกแล้วเดินไปหาน้องๆอย่างงงๆ ก้มลงไปที่กระจก แพงตรอนกำลังคุยอยู่กับเพื่อนๆ เธอเปิดกระจกรถลงเมื่อเห็นผมมา แล้วทั้งกลุ่มก็ ชี้พร้อมทำท่าประมาณ สาวๆร้องเพลง

‘ Nobody but you ’

แต่เปลี่ยนจากท่อนฮุกมาเป็นคำว่า

“พี่ภินทร์! ผ่านค่ะ!”

ผมได้แต่ยืนงง มองตาม เมื่อ TAXI ขับออกไป

“ ‘ไรว่ะ?..."

...มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอน อะตรอม ดึงมือให้เดินย้อนกลับไปห้องด้วยกันแต่ไม่วายที่ผมจะแว๊ะ 7-11ซื้อของกินให้มันก่อนเข้าห้อง กินลูกชิ้นไม่กี่ลูกจะอิ่มได้ไง...

..............
............................


[ ‘ก่อนเคยเป็นที่หนึ่งที่เดียวในใจของเธอ  แต่วันนี้ฉันเองต้องเป็นที่เท่าไหร่ บอกได้ไหมต้องทำอย่างไร ที่จะย้อนไป กลับไปที่เดิมที่เธอต้องการเหมือนวันเก่า อีกซักครั้ง ขอเธอได้ไหมที่เดิมในหัวใจ’ ]

..เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไม่ใช่ของผมแน่เพราะตอนนี้ตั้งแต่ออกจากบ้านนั้นมาผมยังไม่มีโทรศัพท์ของตัวเองเลย เบอร์ที่ให้เพื่อนที่มหาลัย ก็เบอร์ อะตรอม แต่จะเลือกให้คนสนิทจริงๆ อย่างพวก ไอ้เรด ที่บางครั้งนัดผมไปซ้อมดนตรีบางอะไรบ้าง หรือเพื่อนในกลุ่มที่ต้องติดต่อเกี่ยวกับเรื่องรายงานเท่านั้น เลยไม่ค่อยมีใครโทรหาผมเท่าไหร่
   
ตอนนี้ อะตรอมอยู่ในห้องน้ำ ผมเลยตะโกนถามว่าให้รับโทรศัพท์เลยหรือเปล่า มันถามมาว่าใคร ผมดูชื่อแล้วบอกมันไปว่าขึ้นว่า ‘แพงตรอน’

..เสียงโครมดังขึ้นแล้วเงียบไปซักพักก่อนที่มันจะกึ่งเดินกึงวิ่งออกจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูปิดท่อนล่างอย่างหมิ่นเหม่ ตัวยังเปียกโชกมันหยิบโทรศัพท์ไปแล้วเดินเลี่ยงไปคุยที่ระเบียง ส่วนผมก็เดินกลับ ไปดูการ์ตูนที่ดูค้างอยู่ซะงั้น เสียงแว่วๆดังออกมาจากระเบียง ถึงไม่ดังมากแต่ก็พอฟังออก ยิ่งท่าทางร้อนรนของ อะตรอมนั้นยิ่งทำให้ผมอยากรู้…

.
.
.

...“อย่ายุ่ง กับคนของพี่”

“มันไม่เกี่ยวกัน...”

“ถือว่าขอเถอะ...”

“ไม่ให้! โธ่ !เว้ย! ผ่านไม่ผ่านก็ห้ามยุ่ง กับคนของพี่!”

..............
............................

..
...เหมือน จะฝันไปผมได้ยินเหมือนมันคำรามนะ...นานเหมือนกันที่มันคุยกับปลายสายตอนแรกว่าจะแอบฟังแต่พอฟังไปฟังมาดันหลับซะอย่างนั้นเลยไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน...

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!14 #Save me Keep me. ยินดี รับครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 14:59:21
บทที่ 14 Save me Keep me.  ยินดี รับครับผม
Part อะตรอม 


เคย มีใครบอกผมนะ

'ชั่วเสี้ยวนาทีที่เราลังเลตัดสินใจ มันอาจหมายถึงทั้งชีวิตของใครสักคน'

และผมก็ตัดสินใจรับชีวิตนั้นไว้...

.
.
.

ตุ๊บ!


“โอ๊ย!”

...แทบกระอักทั้งๆที่คิดว่าตัวแค่นี้รับได้สบาย...

แต่พอเอาเข้าจริงๆคนที่ผมรับไว้หนักกว่าที่คิดเยอะ ผมได้แค่คิดไปเรื่อยว่าคนที่ผมตัดสินใจรับไว้เป็นอะไรมากหรือเปล่าเพราะ ร่างที่ทับอยู่บนอกผมไม่ขยับเลยสักนิด สักพักผมถึงได้รู้ที่ไม่ขยับเป็นเพราะมือผมรั้งช่วงเอวร่างนั้นไว้อยู่... ผมเองก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงตัดสินใจกระชากร่างที่กำลังจะล่วงลงพื้นนั้นมารับไว้เอง...

เพียงชั่วเสี้ยวนาที ผมใช้อะไรตัดสินใจช่วยคนๆนี้นะ….ทั้งๆทีจะตัดสินใจปล่อยไปก็ได้…

“นี่นาย!เฮ้ย!ตื่นๆ!”

คงเป็นเพราะเหมือน ‘เธอ’ สินะ

...ทั้งเสียงทั้งมือของคนที่ผมเพิ่งช่วยเหมือนกำลังจะฆ่าผม ทั้งเขย่า ทั้งตบหน้า เอ่อ...ถ้าจำไม่ผิดผมเป็นคนช่วยเขาไว้นะ ผมรวบรวมสติสักพักก่อนจะเริ่มขยับตัวแต่เพราะแรงกระแทกที่ไม่ได้คิดว่ามันจะแรงขนาดนี้ทำเอาเจ็บไม่ใช่เล่น…
เหมือนคาด ชั่วเสี้ยวที่ลืมตาขึ้นมา ผมพบกับ 'เธอ' ...แล้วมันก็หายไป...

“ลุกไหวไหม? เจ็บไหม ? ”

คนตรงหน้านั่นถามผมก่อนจะฉุดมือพยุงให้ลุกขึ้น...

ผมได้แต่นิ่งอยู่พักใหญ่ ทำไม?...คนที่ผมช่วยผมจำไม่ผิดนะ… ที่ผมคว้าไว้ได้เป็นผู้หญิงที่ผมเคยคิดว่าจะ ‘ลืม’ ...แต่ตอนนี้ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้ากลับเป็นผู้ชาย…ชั่วแวบแรกวงหน้านั่นเป็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆ… ก่อนจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าของเด็กผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับผม?


..............
............................


 “เป็นอะไรรึเปล่า?...ไม่เป็นอะไรมากนะ?”

...เขาถามผมอีกครั้ง...

ผมเองก็มึนใช่เล่น สิ่งที่ผมเห็นคืออะไร ? คำถามที่ผมเฝ้าถามตัวเองยังวนเวียนอยู่ในใจ...ขณะตักข้าวเข้าปากไปด้วย ...ผมไม่กล้ามองคนตรงหน้าเพราะไม่อยากสับสนกับภาพที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ ...ยังไม่ทันหมดคำ ข้อมือเด็กนั่นก็ลากผมตามไปแล้ว ผมเดินได้แต่ไม่ถนัดเท่าไหร่สงสัยตอนตกลงมาขาจะพลิกไหนจะหลังที่เจ็บอีก… เล่นเอากว่าผมจะขยับได้แต่ละก้าวยากพอสมควร เงยหน้ามาอีกทีก็ถึงห้องพยาบาลแล้ว!?

...เสียงจิ๊จ๊ะ แบบถูกขัดใจดังขึ้น เมื่อคนที่ลากผมมามองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาล ผมถูกลากมานั่งบนเตียงพยาบาลยังไม่ทันตั้งตัว มือเย็นๆของคนตรงหน้าก็จับหน้าผมพลิกไปพลิกมา ยังไม่ทันถามอะไรมือนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อผมออก... หง่ะ!

.
.
.

“เฮ้ย!อยู่นิ่งๆ! จะสะดิ้งทำเตี่ยอะไร ผู้ชายเหมือนกัน ไอ้ที่มึงมีกูก็มี!” 

ผมถูกคนตรงหน้าตะคอกใส่! ทั้งๆที่ผมโดนคนๆนี้จับถอดอะนะ ! ตะคอกเสร็จไอ้หมอนั่นก็เดินหายไป ก่อนจะกลับมาพร้อมตลับยาอะไรบางอย่าง ตอนนี้จะเหลือหรอผมรีบติดกระดุมเข้าไปใหม่ เงยหน้ามาก็เห็นริมฝีปากอิ่มนั้นเม้มเป็นเส้นตรงแล้ว!

“กูสั่งให้ถอด...เดี๋ยวนี้!”

ไอ้นี่ยังสั่งผมไม่เลิก…เผด็จการณ์เหมือน เธอคนนั้นชะมัด! …จะเอาอะไรกับผมกันนักผมพยายามมองหน้า ให้ไอ้เด็กนั่นรู้ตัวซะทีว่าชักจะสั่งผมมากเกินไปแล้ว ...แต่พอเห็นสายตาคู่นั้นผมก็กลับค่อยๆปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกซะอย่างนั้น… เด็กนี่เหมือน 'เธอ' เกินไป...

..............
............................
...สิ่งที่เห็นหลังจากถอดเสื้อออก ...รอยช้ำ ที่ผมมีไม่ใช่น้อย ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มากมายอะไรปล่อยไว้เดี๋ยวก็หายไปเอง ร่างกายผมเป็นแบบนั้น แต่พอมือเย็นของคนตรงหน้าแตะเข้าเท่านั่นทำเอาผมสะดุ้ง...ในส่วนหนึ่งของสมอง ลึกๆ บอกผมว่า....

‘ผมขัดขืนคนคนนี้ไม่ได้...

..............
............................


 “นายชื่ออะไรกันแน่?”

...ผมตัดสินใจถาม...

ใจนึงก็อยากรู้ชื่อที่ไม่ยอมบอกผมสักที ใจนึงก็สงสัยในสิ่งที่เจ้าของลายมือเพิ่งขีดฆ่าออก ตอนแรกเขียนคำว่า ‘ภัทร' ใช่ชื่อเดียวกับเธอคนนั้น จากนั้นก็ลบออก แล้วเขียนคำว่า 'ตรินทร์’ แต่ถูกขีดฆ่าและเขียนเป็นคำว่า ‘ภินทร์’ แทน ทำไม? แล้วรอยยิ้มที่ทำผมรู้สึกแปลกก็ปรากฏอีกครั้ง รอยยิ้มอบอุ่นที่สะท้อนดวงตาเศร้าๆ ชั่วอึดใจเท่านั้น

..รอยยิ้ม…คล้าย ‘เธอ’ คนนั้น… ผม....คงจะเพ้อจนใกล้บ้า...

“ภินทร์... เราชื่อ ภินทร์”

“ชื่อจริงนาย ษิตรินทร์ ทำไมไม่ใช่ชื่อตรินทร์เหมือนที่เขียนตอนแรกล่ะ? ”

“เพราะเราไม่ใช่ตรินทร์ ไง”

“แล้วนาย ชื่ออะไร?”

คนที่บอกว่าตัวเองชื่อ ภินทร์ ถามผม... ทั้งๆที่ผมไม่เคยแคร์ใครไม่เคยสนใจใคร แต่ทำไมกับคนตรงหน้านี้ ความรู้สึกมันบอกผม ว่าห้ามปล่อยไปเด็ดขาดนะ... ถึงเวลาสักทีที่ผมจะมีเพื่อน...

“ชื่ออะตรอม...”

..ผมตอบพลางส่งยิ้มไปให้ ยิ้มแบบที่ไม่เคยยิ้มให้ใคร ภินทร์ มีสีหน้าแปลกๆ หลังผมแนะนำตัว เสียงเบากระซิบกับตัวเองเป็นประโยคอะไรสักอย่างก่อนจะหัวเราะอย่างสุขใจ ทิ้งผมไว้กับคำถาม ภินทร์ หัวเราะอะไร?

.....................................................................................
........................................

‘หมา...ของ ภินทร์...’

...หลายคนมองและเรียกผมอย่างนั้น มองดูเผินๆบางทีผมอาจเป็นแค่ เซ็นต์เบอร์นารท์ตัวใหญ่ใจดี ...แต่เปล่าสำหรับคนอื่นผมเฉยๆแต่ถ้ามีเรื่องอะไรที่มากกว่านั้นลับหลัง ภินทร์ คุณเคยเห็น‘ ทิเบตัน มาสทิสส์ ’ ไหม?นั่นคือผมที่ไม่เคยให้ ภินทร์ ได้เห็น.
...
...........

.
.
.


 “อะตรอม!”

..ทั้งๆที่ในสนามมีแต่เสียงดังเซ็งแซ่ไปหมดแต่เสียงของ ภินทร์ ที่เรียกชื่อผมกลับชัดเจนที่สุด!!

มือเย็นนั่นจับหมัดที่ง้างค้างไว้ของผมให้ลดลง… แถม ภินทร์ ยังไปเอ่ยปากขอโทษไอ้เคี่ยมนั่นอีก ไอ้เคี่ยมนั่นมันจงใจอัด ภินทร์ ล้ม! บอกตามตรงว่าถ้าไม่มีเสียงกับมือของ ภินทร์ มาหยุด ผมเล่นไอ้เคี่ยมนั่นถึงตาย !

“มึง จะทำอะไร?...รู้ไหมเหี้ยมพวกนั่นอยู่ปีสาม ถ้ามีเรื่องขึ้นมามึงคิดว่าปีหนึ่งอย่างมึงจะอยู่อย่างสงบไหม?”

ภินทร์ ตะคอกใส่หน้า ผมได้แต่ข่มเขี้ยวที่เริ่มจะโผล่ขึ้นมากัดกรามตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ ไอ้เหี้ยมนั่นมันหยามกันเกินไป...แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดผมดูแลเพื่อนของผมไม่ได้ !

..............
............................

...ตอนเธอคนนั้นก็เหมือนกัน... เพราะผม 'ทำอะไรไม่ได้' เรื่องมันถึงได้จบอย่างนี้!

..............
............................

.
.
.

“มันทำ ภินทร์ ทำไมต้องขอโทษมันด้วย? ภินทร์ เจ็บ...เลิกเล่นเถอะ ”

เสียงผมเบามากเวลาพูดกับคนตรงหน้า

‘ภินทร์เจ็บตรงไหน? ภินทร์เจ็บมากไหม ?’

นั้นเป็นคำถามที่ผมไม่กล้าถาม... เพราะผม ภินทร์ ถึงได้เจอเรื่องแบบนี้ถ้าผมไม่ลงแข่งเกมส์บ้าๆนี้ ภินทร์ก็คงไม่เจ็บตัว

“กูไม่เป็นไร อีกเกมก็จบ ลงสนามเถอะ อะตรอม”

รอยยิ้มหวานของ ภินทร์ มีให้ผมแล้วมือเย็นนั้นก็จูง ? ผมลงสนาม

.
.
.

ปึก!

.
.
.

พลั๊ก!

.
.
.

“ปรี๊ด!”

..หัวใจผมเสียววาบเมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนเสียงกรี๊ดจะตามมาจากข้างสนาม บอกตามตรงว่าผมตกใจมากในหัวคิดอย่างเดียวถ้าไอ้เคี่ยมนั้นทำ ภินทร์ ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่!

ปีนเกลียวแล้วไง? ยังกับผมสน เรียนไม่ได้ก็ลาออกก็แค่นั้น…

…แต่ผิดคาด ที่ล้มลงไปเป็นไอ้เคี่ยมตัวนั้น! ผมไล่ตามสายตาเห็นภินทร์ ยิ้มๆแล้วเดินทิ้งช่วงห่างไป? หลังจากนั้นมันก็ล้มอีกหลายครั้ง ทุกครั้ง ภินทร์ อยู่ใกล้มันมากที่สุดก่อนจะห่างออกไปแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ระหว่างที่กำลังงง วงแขนเย็นก็โน้มตัวผมลงมากระซิบข้างหู..

“มึงเล่นบาสไป กูจะเล่นคน”

“ภินทร์?...”

...หลังจากประโยคนั้นผมก็ตั้งหน้าตั้งตาสนใจลูกบาสในมืออย่างเดียว ส่วนหนึ่งเพื่อล่อความสนใจของฝั่งตรงข้ามไม่ให้สนใจ ภินทร์ ด้วยมากกว่า คะแนนฝั่งผมเริ่มตามมาติดๆ เพราะพวกไอ้เคี่ยมนั่นได้แต่อารมณ์เสียเมื่อหาตัวคนที่ทำมันล้มไม่ได้สักที ผมเกือบจะทำคะแนนไล่ทัน ...

ถ้าอยู่ๆ ภินทร์ ไม่ถอดเสื้อวิ่งในสนามซะก่อน ผมเป็นผู้ชาย เป็นผู้ชาย! และเป็นผู้ชาย! แต่พอหันไปเห็น ภินทร์ ทีไร...ขามันพาลก้าวไม่ออกทุกที แล้วยังจะแววตาวาวที่เล่นโปรยยิ้มไม่เลือกนั่นอีก…

----จบเกมส์แบบเสมอ -----

...เสมอเพราะขาผมก้าวไม่ออก...

ไม่ใช่เพราะเรื่องวิ่งจนล้า... แต่เป็นเรื่องแววตาวาวๆกับแผงอกนวลๆที่โชว์หลาอยู่กลางสนาม... แข่งเสร็จผมก็ทรุดอยู่กลางสนามนั้นล่ะ...

“เดี๋ยวค่อยกลับ ขอพักก่อน อยากเล่นกันแค่สองคนอีกรอบ”

ไอ้ประโยคนั้นมันมีแค่นั้นใช่ไหม? ไม่ต้องคิดไกลกว่านั้นใช่ไหมครับ ภินทร์?!

..............
............................

..ผมกลับมาจากห้องน้ำ ทำไมมันรู้สึกสุขอย่างนี้นะ มีเพื่อนนี้มันดีจริงๆ ยิ่งเพื่อนที่ชื่อ ภินทร์ นี้ทำผม มีอารมณ์หลากหลายชะมัด…

กลางสนาม ภินทร์ ... ยืนคุยกับใครสักคนที่ผมเห็นตอนแข่งบาสตอนต้นเกม ถามว่าทำไมผมถึงจำได้หรอ? ก็เพราะมันแตกต่างไง ‘ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่’ ผมจะใช้ประโยคนี้ได้หรือเปล่านะ แต่มันเองก็คงรู้เหมือนกันว่าผมเป็น ‘อะไร’ ภินทร์ คุยกับมันได้ไม่นานพอมันเดินห่างออกไป...
 
ภินทร์ ก็ทรุดลงกับพื้นแล้วร้องไห้ ร้องโดยไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกมาตอนที่ผมคว้า ภินทร์ เข้ามากอดเสียงหัวใจของ ภินทร์ มันแรงจนเหมือนจะระเบิด แววตาวาวแฝงความกระล่อนที่ทำให้ผมยิ้มได้เสมอตอนนี้เหม่อลอย จนเหมือนร่างที่ผมจับไว้นี้ไม่มีวิญญาณ สิ่งที่ยืนยันกับผมว่า ภินทร์ ยังมีชีวิตอยู่ มีแค่เสียงหัวใจกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

...ลมหายใจเหมือนจะขาดหายไป...



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!15 #Past of… เงาอดีต?!
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 15:05:40
บทที่ 15 Past of… เงาอดีต?!
Part ภัทร ?


...กลิ่น คาวเลือดที่ฟุ้งขึ้นจมูก....

เสียงฝนตก... เมือกลื่นที่ทะลักออกมาทุกครั้งที่ฉันสำลักไอ.... ร่างกายมันขยับไม่ได้… ถึงรอบข้างมันจะมืดไปหมดแต่สายตาฉันมันกลับเห็นภาพที่อยู่รอบๆได้อย่างชัดเจน ฉันโดนขังอยู่ในห้องนี้นานเท่าไหร่แล้ว? ฉัน...กำลังฝันไปใช่ไหม? แล้วนั่นหมอใช่ไหม?

...ร่างใหญ่นั่งชันเข่าชุกอยู่ที่มุมห้อง… เป็นไอ้หมอ… ถึงหน้ามันจะก้มชุกลงกับเข่าก็เถอะแต่เพราะได้กลิ่นของมัน กลิ่นหอมของยาบวกกับเสียงลมหายใจที่ขาดเป็นช่วงๆ แต่ตอนนี้กลิ่นนั้นเหมือนจะเปลี่ยนไป… หอม...กลิ่นของความหวาดกลัวที่เหมือนจะสัมผัสได้เป็นตัวตน... มันกำลังกลัวอะไร?

“...หมอ..ไอ้...หมอ..”

ฉันพยายามเรียก… พยายามจะหันไปหามันนะ แต่ทุกครั้งที่พยายามจะเปล่งเสียง เมือกลื่นมันก็ทะลักออกมาไม่หยุด…

ร่างที่เหมือนบังคับตัวเองไม่ให้สั่นค่อยๆคลานมาหาฉัน… แววตาสีเงินวาวของไอ้หมอดูสว่างในความมืด… สว่างที่สุดในห้อง… ฉันพยายามจะหลับตาคิดถึงต้นเหตุที่ทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้ แต่เปลือกตามันกลับไม่ยอมปิด ไอ้หมอเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นนั้นสัมผัสได้… เหมือนโดนไอ้หมอเอาอะไรมากรีดเสียววาบที่คอรู้สึกเย็นวาบ...แต่มันก็รู้สึก... สบายมากกว่าเดิม…

“มันต้องผ่านไปได้นะ… ภัทร ทนอีกนิดนะ ภัทร ...มันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม มันจะต้องผ่านไปได้ มันต้องผ่านไปได้นะ ภัทร…”

...อย่า บอกนะว่าฉันโดน ไอ้หมอ ฆ่าหันศพ… ฉิบหายแล้ว!

เป็นเพื่อนกันมานานจนย้ายมาอยู่ด้วยกันในบ้านสวนหลังนี้แล้วไหงมันจบอย่างนี้หล่ะ? เฮ้ย!ไอ้หมอนี้ฉันกำลังฝันใช่ไหม?

......................................
.................

..ฉันยังคงจ้องแววตาสีเงินของไอ้หมอ ถึงจะมืดแต่ภาพมันก็ชัดเจน มันร้องไห้ ?! หั่นศพฉันแล้วเสือกร้องไห้หรอ? ไอ้หมอ! มาคิดอะไรได้ตอนนี้? ...แต่...ศพมันหิวได้ด้วยหรอ? ทำไมมันถึงรู้สึกหิวจัง ตัวก็เบาๆ แต่ความรู้สึกหิวมันเหมือนจะเริ่มทวีคูณ หิวจนรู้สึกได้ว่า ส่วนที่เรียกว่าแขนเหมือนจะขยับ…

...ไอ้หมอลนลานถอยร่นออกห่างไปเหมือนหวาดกลัว... แต่มันก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด...เป็นผู้ชายตัวเท่าควาย เสือกร้องไห้...มันร้อง...ร้องจนเสียงร้องเปลี่ยนเป็นเสียงคำรามก้อง!แข่งกับเสียงฟ้าผ่า...

…อะไรสักอย่างกำลังขยับอยู่ในตัวฉัน....อะไรสักอย่างกระซิบบอกฉันว่า ...หิว...หิวเหลือเกิน.. ต้องออกไป...ออกไปจากประตูเหล็กบานนั้นให้ได้...ปล่อยฉันออกไป!

..............
............................

.
.
.

 “ภินทร์...ภินทร์ครับ”

.
.
.

แทบไม่ต้องให้เรียกซ้ำ ผมลืมตาโพลงมือไม้มันเย็นเฉียบไปหมด! ที่ไหน!? ใคร!? …..อะตรอม? ห้องสีเขียวครีม? ชั้นหนังสือสูง? ระเบียง ? ห้องอะตรอม...? อะตรอม?!..

…ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมลุกพรวดวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ กระจกบานใหญ่ที่อยู่สูงกว่าปกติ ยังคงสะท้อนภาพเด็กหนุ่มสีหน้าซีด… ความรู้สึกเย็นวาบที่คอยังไม่หายไป… ความรู้สึกขยะแขยงเมือกลื่นที่เหมือนจะกลับมาอีกครั้ง… แล้วผมก็เริ่มอ้วกอย่างเป็นการเป็นงาน....

สิ่งที่ผมเห็นคืออะไร? หรือบางที อดีต ? มันก็ไม่สมควรจะคิดถึง....



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!16 #ขอโทษครับ Sorry I need you boy.
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 15:15:33
บทที่ 16 Sorry I need you boy. ขอโทษครับ ผมเป็นโรคภูมิแพ้... แพ้ความขาว แพ้ความหมวย แพ้คนสวย แพ้นักศึกษา..... 


“เหวอ!”

...คำอุทานนั่นดังขึ้นพร้อมๆกับร่างบางที่เอนมากระทบกับแผงอกของ ภินทร์ ...

คนในลิฟต์ดูจะแน่นขึ้นจนไม่สามารถขยับอะไรได้ ภินทร์ ได้แต่โอบร่างเด็กหนุ่มนั้นมาพิงไว้กับตัว กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูบวกกับผิวนิ่มๆเนียนๆ ทำให้ไม่ยากที่จะเผลอก้มลงไปซบจมูกเข้ากับผมนิ่มๆนั่น ยิ่งคนแน่นๆอย่างนี้ยิ่งง่ายแต่เหมือนคนร่างเล็กจะรู้ตัวเมื่อร่างในวงแขนนั้นเกร็งขืนขึ้นมาตัวเลขแต่ละชั้นผ่านไปอย่างอ้อยอิ่งไม่ได้รีบเท่าไรออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำทั้งๆที่คนแน่นลิฟต์ขนาดนี้ คงเพราะคนในอ้อมแขนด้วยมั้งกว่าจะถึงชั้น 17 เล่นเอาพื้นที่ในลิฟต์แทบจะไม่มี น่าจะเพราะลิฟต์อีกฝากเสียด้วยมั้งคนถึงมาออกันที่ลิฟต์นี้

“ภินทร์ครับ!”

เสียงดุๆของ อะตรอม ดังเรียกอยู่หน้าลิฟต์เมื่อเห็นคุณชายยังไม่ออกมาจากลิฟต์เสียที คนที่อัดแน่นอยู่ในลิฟต์ทำให้ อะตรอม มองไม่เห็นเลยว่ามือคุณชายตัวแสบนั้นโอบเอวเด็กหนุ่มข้างหน้าไว้เสียแน่นและดูท่าไม่อยากจะปล่อยเอาเสียด้วยซ้ำ

“เอ่อ...ขอโทษครับขอทางด้วยครับ”

พ่อแมร่งเรียกแล้ว! ภินทร์ ตัดสินใจยอมปล่อยเอวเล็กๆนั่นแล้วเบียดตัวขอทางออกจากลิฟต์อย่างเสียไม่ได้

.
.
.


“บัสเป็นอะไรหน้าแดงๆ ร้อนหรอ?”

เสียงเด็กผู้หญิงในลิฟต์ดังขึ้นเบาๆพอกับที่ ภินทร์ หันไปเห็นเด็กหนุ่มนั่นที่มองออกมาพอดี..

“บัส...”

ภินทร์ ทวนชื่อที่ตนได้ยินเบาๆ

‘ชื่อ ‘บัส’ หรอ?...น่ารักหวะ’

แน่หล่ะไอ้ความคิดหน้าลิฟต์นั่น อะตรอม ไม่รู้

..............
............................


Part ภินทร์


...เอาแล้วไงห้องไอ้กร้าแมร่งเสือกอยู่ชั้น 17 ขืนรอลิฟต์อีก...

วันนี้ได้ขัดห้องน้ำให้ไอ้เรดกับไอ้กร้าดูแน่ เสือกนัดมันซ้อมเพลงที่คอนโดฯแถมยังไปรับปากพวกมันอีกว่าจะมาตรงเวลาไม่งั้น ขัดห้องน้ำ สาดดดดดด! ไอ้คอนโดนี้ก็เสือกมีลิฟต์ปกติสุขแค่ตัวเดียวอีก เอาแน่ๆเดินขึ้นดีกว่ามั้งชั้น 17 เอง เหอๆๆๆๆ

.
.
.

...เกือบจะถึงชั้น 6 อยู่ๆโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้นไอ้เรดตะคอกเสียงใส?! มาตามสายเลยว่าอยู่ไหนแล้วพอบอกว่าชั้น 6 มันถึงได้เงียบไปขณะที่ขาจะก้าวขึ้นบันไดร่างหนึ่งก็เบียดมาเกือบชนแต่ไม่โดนจะๆ ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะรีบร้อนเอาการอยู่พอหันไปเห็นเด็กนั้นอีกที่ปากก็ไวเกินจะยั้งไว้แล้ว บัสนี่หว่า!?

“บัส!ขอเบอร์หน่อยสิ!”

ตะโกนซะลั่น...เล่นเอาเด็กหนุ่มหน้าสวยนั้นยืนนิ่งอยู่ที่ชั้น 5 เลย........เขาจะหาว่าโรคจิตใหม่เนี้ย?…ไอ้นิสัยชอบคนสวยๆตัวเล็กๆนี่… ถึงเป็น ภินทร์ ก็แก้ไม่หายเสียที...   อุตสาเจอ… เสียเวลาคุยนิดหน่อย…เรื่องแค่ขัดห้องน้ำคงชิวๆ เน๊อะ...

แต่ก่อนจะเดินลงไปหา บัส ...อะตรอม ก็โผล่มาพอดีจากไหนวะ? เร็วโคตร!

ร่างใหญ่ที่อยู่ๆก็ก้าวยาวๆมายืนซ้อนอยู่ข้างหลังทำเอาเสียววาบ...ไหงมันรู้สึกเหมือนโดนแฟนจับได้ว่ามีกิ๊กอะ?.... 
..............
............................




***



[แถม..........]

 
Part ภินทร์


“อยากฟังเพลงอะไรวะไอ้ตรอม?”

...ไอ้เรดถามหมาตัวใหญ่ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือน ‘หมาชนเขื่อน’ พวกเรากำลังจะซ้อมดนตรีกัน ส่วน อะตรอม ตอนนี้กลายเป็นแขกกิตติมศักดิ์ไปแล้ว เพราะทุกครั้งที่มาซ้อมวง อะตรอม มันก็มาด้วยทุกครั้ง ทั้งๆที ฟังไปหลับไปแทบทุกครั้งเหมือนกัน

“ขอเร็วๆ จะเล่นแล้วมึง”

ไอ้กร้าเร่งยิกๆเพราะอยากรู้ว่าเพลงแรกที่เล่นจะเป็นแนวอะไร เพราะหลังจากเพลงแรกส่วนมากพวกเราก็จะเล่นเพลงที่เหลือเป็นแนวนั้นๆ อารมณ์เพลงมันจะได้ต่อเนื่องกัน ไอ้แป้นมันว่า

“....เมียพี่มีชู้.....”

“ ?! ”

“ผมอยากฟังเพลงนี้....”

“เอาจริงอะ ไอ้ตรอม?!”

“ครับ!”

.
.
.

...อะตรอมตอบพร้อมกับส่งสายตาเศร้าๆแกมประชดประชันมาให้ผม… สายตายังกะหมาโดนเจ้าของทิ้ง....เล่นเอาไอ้เรด ไอ้กร้า ไอ้แป้น มองผมเป็นตาเดียว ว่าจะเล่นหรือเปล่า?

“กูไม่เล่น!สาดดดดดดดดดด!   ”

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!17# His .ดอกงิ้วมันงาม แต่หนามงิ้วมันคม
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 15:30:06
บทที่ 17 His .ดอกงิ้วมันงาม แต่หนามงิ้วมันคม อ๊ะหย๊ะ!
Part บัส


...สวัสดีครับ ผม ‘บัส-เอกนรินทร์’ นามสกุล....อย่ารู้เลยครับ… ปีนี้อายุ 18 เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น นิสัยไม่ชอบยอมแพ้อะไรง่ายๆ ตอนนี้มีแฟนแล้วครับ ชื่อ ‘พี่คิงส์’ เป็นรุ่นพี่ปีสามและเป็นเจ้าของคลับแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ผมเรียก พี่คิงส์ ว่า ‘แฟน’ ได้เต็มปากแต่ถ้าถามกับพี่เขาผมเองก็ไม่รู้สถานะตัวเองเหมือนกันว่าผมอยู่ในตำแหน่งไหน...บางทีมันก็ป่วยการณ์จะคิด... เพราะเป็นอย่างนี้ผมเลยฝืนมาตลอด จนมาเจอกับ ‘เขา’คนนั้นทำไมหัวใจมันถึงได้เต้นแรง ทำไมมันถึงได้อ่อนแอ่ตลอด เพียงแค่เขาอยู่ใกล้เท่านั้น เพียงแค่นั้นจริงๆ...เหมือนในนิทานเลยนะ เรื่องของเรา... นับจากวันวันนั้นสินะ ...

“เหวอ!”

เสียงผมเองครับตอนนี้ตัวผมเข้ามาในลิฟต์ได้ก็จริงอยู่ แต่แรงเบียดที่ดันเข้ามาทำให้เซไปกระแทกใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านในลิฟต์จะหันไปขอโทษก็ทำไมได้ในลิฟต์มันแน่นจนไม่สามารถขยับอะไรได้เลย อยู่ๆวงแขนของคนข้างหลังก็โอบเอวผมไว้ซะงั้นแถมยังรั้งไว้ให้มาพิงกับตัวอีก…

...เล่นเอาผมนิ่งไปเลย...ไม่คิดว่าจะเจอโรคจิตจังๆอย่างนี้หนีไปไหนก็ไม่ได้ แล้วก็ขนลุกครับเมื่อใครคนนั้น ก้มลงซุกจมูกที่ผมของผม! จะร้องก็อายเป็นผู้ชายยังโดนอย่างนี้ได้…

ลิฟต์กว่าจะขึ้นแต่ละชั้นได้ทำไมช้าเหลือเกิน... ทั้งๆที่คนแน่นลิฟต์ขนาดนี้ กว่าจะถึงชั้น 21 ผมคงไม่ต้องถูกลวนลามไปมากกว่านี้หรอ? แต่พอเอาเข้าจริงๆ ยิ่งขึ้นไปชั้นสูงคนยิ่งเยอะ วงแขนที่โอบรอบเอวผมไว้ก็ไม่ได้ลวนลามอะไรนอกจากจะโอบเอวผมไว้หลวมๆ แถมบางทียังคอยกันคนที่จะเข้ามาชนอีกต่างหาก… ค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย มาถึงชั้น 16 เจอพวก รปภ.ของตึกกันคนไว้ไม่ให้เข้าลิฟต์ ถึงได้รู้ว่า ลิฟต์อีกฟากเสียคนถึงมาออกันที่ลิฟต์นี้ ...

.
.
.


“ภินทร์!”

.
.
.

...เสียงเข้มของใครบางคนตะโกนเรียกชื่อนั้นอย่างดุๆ สายตาผมที่มองออกไปแทบไม่ต้องหาเจ้าของเสียงเลย เมื่อเจ้าของเสียงที่มีความสูงเกือบ 2 เมตรนั้นจ้องมองมาทางผม! เล่นเอาผมแทบหยุดหายใจ!

…ดีที่สายตานั้นผ่านผมไปครับ สายตานั้นเหมือนจะจ้องอยู่ที่คนข้างหลังผม! เสียงถอนหายใจของใครสักคนที่อยู่ข้างหลังผมดังขึ้น พร้อมๆกับวงแขนที่คลายออก แล้วเสียงขอทาง ก็ดังตามมา ผมไม่กล้าขยับ ไม่กล้าจะหันไปมองเขาคนนั้นด้วยซ้ำ ไม่มีกลิ่นน้ำหอม ไม่มีกลิ่นโคโลญ แบบที่พระเอกนิยายทิ้งไว้เลย...มีเพียงชื่อที่ได้ยินผ่านๆ ซึ่งบอกตามตรงว่า...ผมจำไม่ได้ เขาไปแล้ว...

“บัสเป็นอะไรหน้าแดงๆ ร้อนหรอ?”

อ้อม สะกิดถามผม.. ผมลืมไปเลยนะว่ามากับอ้อม ลืมไปด้วยซ้ำว่าต้องหายใจ! เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพอทันกับชั่วเสี้ยวนาทีที่ลิฟต์จะปิด ผู้ชาย 2 คน หน้าลิฟต์ยังไม่ไปไหน แต่ที่ทำเอาผมใจเต้นแรงน่าจะเป็นเขาคนนั้นที่มองจ้องมาทางผมพอดี ริมฝีปากอิ่มนั้นขยับ ถ้าผมไม่คิดเองเออเองนะ ผมว่าเขาเรียกชื่อผม... ก่อนที่ลิฟต์จะปิด....

..............
............................


...อ๊า! ไม่ทันแล้ว!

ผมหลับตาอัตโนมัติเมื่อวิ่งลงมาจากห้องพี่คิงส์แล้วหยุดตัวเองไม่ได้ คิดว่าตกบันไดแน่นอน แต่อยู่ๆใครบางคนก็โผล่พรวดออกมาซะอย่างนั้น แถมเขายังกำลังคุยโทรศัพท์อีกต่างหากแล้วจะเห็นผมไหมครับ?

.
.
.

...เหมือนจะชนแต่ไม่ชน อยู่ๆผมก็ยึดราวลูกกรงไว้ได้เลยผ่อนแรงจากจะชนเป็นเบียดเฉียดคนที่กำลังก้าวเท้ายาวๆนั้นขึ้นมาแทน ผมหยุดตัวเองได้ที่ชั้น 5 แทบลืมหายใจ กำลังจะหันไปขอโทษแต่ก็เจอกับใครคนนั้นอีกครั้ง แถมครั้งนี้เขายัง…

“บัส!ขอเบอร์หน่อยสิ!”

แววตาขี้เล่นที่ชะโงกออกมาตรงระเบียงบันได....

เป็นเขา!? เล่นเอาผมยืนนิ่งอยู่ที่ชั้น 5 เลย… หัวใจทำไมเต้นแรงขนาดนี้? ทั้งๆที่เขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ทั้งๆที่ผมเองก็มีคนรักแล้วเหมือนกัน คนรักที่เป็นผู้ชายเหมือนเขา...

...ก่อนผมจะตอบอะไร คือกำลังอึ้งอยู่ จู่ๆก็มีแรงเบียดกระแทกผมเข้ากับราวลูกกรงเหมือนไม่เห็นด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนี้... แต่ความรู้สึกหนึ่งมันฟ้องว่าเขาเห็นผม สายตาคู่นั้นมองผมเหยียดๆ ก่อนจะสาวเท้ายาวๆไปยืนข้างๆ คนที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรง… สายตาคู่นั้นเหมือนกำลังจะคาดโทษผม…

ไม่สิสายตานั่นเหมือนสายตาของหมาหวงเจ้าของ... ผมจำแววตานั้นได้แววตาดุๆที่เคยเห็นหน้าลิฟต์...กับอีกคนข้างๆที่มีตายิ้มได้ ....

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!18#Camp.ค่ายสามัคคีมันมีอย่างนี้ด้วยหรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 15:47:46
บทที่ 18 Camp.ค่ายสามัคคี มันมีอย่างนี้ด้วยหรอ!
Part โฆษิต


...
เสียงจอแจดังไปทั่วห้องประชุม เรื่องมันเริ่มมาจากไหนผมไม่รู้…

แต่มันกำลังสร้างความลำบากให้ผม ไอ้กร้ากระซิบข่าวที่ได้มา พวกปีสาม คณะผมมีเรื่องกับเด็กบริหารปีหนึ่ง ได้ข่าวมาว่าโดนเด็กมันปีนเกลียวทำอายตอนแข่งบาสแถมยังเสือกมาหยามแอบจีบแฟนของไอ้ปีสามหน้าโง่นั่นอีก เห็นว่าไอ้น่าโง่นั้นเป็นไอ้คิงส์นะ...


...ใครวะ? ช่างกล้ายุ่งกับมันจริงๆ ไร้สาระชะมัด! มันน่าจะจบอยู่แค่นั้นถ้าเรื่องไม่ถึงหูอธิการฯ การเข้าค่ายสามัคคีจึงเกิดขึ้น แทนที่จะเป็นการรับน้องใหม่ที่โดนยกเลิกเพราะข่าวการเสียชีวิตของเด็กปีหนึ่งจากมหาลัยอื่น...การรับน้องเปลี่ยนเป็นการเข้าค่ายสามัคคี

ค่ายสามัคคีที่มี บริหารปีหนึ่ง... วิศวะปีสอง.... วิศวะปีสาม...

..ไม่ต้องใช้สมองเดาให้เสียเวลานี่เป็นการเอาคืนของพวกไอ้คิงส์.... คิดหรือว่าไอ้พวกบริหารจะกลับมาแบบครบสามสิบสอง...แล้วมันมาโยงที่ผมก็เพราะไอ้วิศวะปีสองนี้หล่ะ... อย่าให้รู้นะว่าใครมันขยันหาเรื่องให้ เซ็งสุดๆ บริหารปีหนึ่ง ก็ต้องมี ‘มัน’ สินะว่าจะไม่มองหาแต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับร่างนั้นซะก่อน ‘มัน’ นั่งอยูตรงนั้นมันยังอยู่ข้างๆไอ้ยักษ์เหมือนเดิมอยู่ข้างๆไอ้ยักษ์นั่นโดยใช้ร่างของ ตรินทร์!

“เฮ้ย!จะไปไหนว๊ะ โฆ?...”

ไอ้เรด ตะโกนไล่หลังมาแต่ไม่ได้ทำให้ผมหยุดฝีเท้าลง....ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำกว่าจะทำใจเดินออกมาได้พวกที่อยู่ในหอประชุมก็ถูกปล่อยออกมาแล้ว ผมเดินเลี่ยงออกไปทางอื่นไม่อยากเจอ ‘มัน’

..............
............................


Part ภินทร์


‘ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ’


...เพราะไอ้ประโยคนี้หล่ะ ผมถึงได้มานั่งหูตูบอยู่กลางห้องประชุมแบบนี้ ถามว่าเสียดายไหม?

ตากลม ปากแดง แก้มป่อง ใสโคตรๆ ปากก็หวาน (ยังไม่เคยชิมแต่ก็เดาได้) เรียบร้อยน่ารัก แถมตัวนิ่มสุดๆ หอมสุดๆ (อันนี้พิสูจญ์มาแล้ว) มีเจ้าของแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (ไอ้ ‘!!!’ จะเยอะไปไหน) และจากการสืบประวัติเจ้าของ บัส เข้าขั้นเลวระยะสุดท้าย ก็เถอะแต่ข่าวที่ได้มา บัสรัก ‘มัน’ รักมัน! ‘มัน’ ไหนหรอ? มันเหี้ยมๆไง ! จำไอ้เหี้ยมที่แข่งบาสกับอะตรอมได้ไหม ไอ้เหี้ยมนั้นหล่ะ แฟนบัส....


จากการข่าวที่แอบสืบมาไอ้เหี้ยมนั้น ชื่อ ’คิงส์’  ปีสามวิศวะ (อันนี้รู้ตั้งนานแล้วไม่ต้องสืบ) เป็นเจ้าของคลับสุดแจ่มแห่งหนึ่งในข้าวสาร ควงหญิงไม่ซ้ำหน้า ส่วนผู้ชายที่คบมีแค่บัสคนเดียว (เท่าที่รู้ ) หนังสือที่ชอบเพชรพระอุมา อาหารที่ชอบ คาราเม็ง ของที่เกลียดเด็ก .....เอ่อ…เดี๋ยวนะ… ข้อมูลเหี้ยอะไรเนี้ย!? ทำยังกะกูจะไปจีบมัน...

....สาดด! อารมณ์เสีย....แต่ก็ต้องจบ...ถึงจะชั่วแค่ไหน ผมก็ไม่นิยม หนามงิ้ว ถึงใจมันอยากจะวูบๆวาบๆอยากลองรักต้องห้ามก็เถอะ แต่ถ้าเป็นของมีเจ้าของแล้วทุกอย่างมันก็ต้องหยุด ตอนนี้ผมเลยกำลังสะกดจิตตัวเองท่องเอาไว้

‘จบ...จบครับจบ' 

บัสเป็นเด็กเชี่ยคิงส์...ถึงจะมองดูเหมือนลูกแกะน้อยในปากหมาป่าก็เถอะ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง บัสรักมัน...อาจรักมันมากกว่าที่ผมรักบัส คงถึงคราวต้องจบสักที อารมณ์ผมตอนนี้บอกไม่ถูกเหมือนทุกอย่างมันถูกสูบไปหมด ....

‘บัสรักคิงส์ รักเชี่ยคิงส์ รักเชี่ยคิงส์ ’

...โอ๊ย! อย่างผมจะเอาอะไรไปสู้กับไอ้คิงส์มัน? แค่คิดก็จบแล้ว…ทุกอย่างมันจบตรงที่

‘บัสรักคิงส์’

แล้ว ถึงเวลาต้องยอมรับความจริงเสียที ถึงเวลาที่ต้องลืมเสียที...

“ภินทร์ครับ...”


...เสียงทุ้มนั้นเรียกผมออกมาจากภวังค์ อะตรอม ยังคงอยู่ข้างๆผมเหมือนเดิม... บางทีผมอาจแค่หลง บัส ก็ได้ก็นะ น้องเขาน่ารักออกขนาดนั้น คงจะยากที่ผมจะลืมทั้งหมด...

“ภินทร์...”

อะตรอมยังคงเรียกผมด้วยเสียงทุ้มเบาอีกครั้งเสียงเบาๆนั่นทำเอาผมอ่อนแออย่างบอกไม่ถูก... ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่ผมซุกหน้าเข้ากับแผงอกกว้างของ อะตรอม เหมือนตรงนั้นเป็นผ้าเช็ดหน้าส่วนตัวของผม ไม่ว่าผมจะเจออะไรมา อะตรอม จะไม่ทิ้งผม ไม่ว่าผมจะเจอเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไร...ขออยู่อย่างนี้ซักพัก รอชาร์ตพลังก่อนจะกลับไปเป็นคนเดิม...
 

..............
............................


‘ศูนย์ฝึกทหารใหม่เกร็ดแก้ว’


หื้ออออ!

....ใช่ที่ไหนหล่ะ! บ้าเอ้ย! ทั้งๆที่ล็อกโหวตไปแล้วนะว่า ‘ศูนย์ฝึกทหารใหม่เกร็ดแก้ว’ เท่านั้น! เพราะลองให้ทหารคุ้มมันต้องปลอดภัยสุดๆ แต่ไหงมันกลายเป็นบังกะโลแถวชะอำไปได้?!

เสียวสันหลังวาบเลย… ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ไอ้นิสัยแอบเล่นข้างหลังเนี้ยมันสันดานผม คิดหรอว่าผมจะดูรูปการไม่ออก ข่าวมันคงแพร่ไปเร็วเรื่อง บัส โดนจีบ...จะว่าใครก็ไม่ได้คงเพราะผมเล่นรุกเร็วไปหน่อย ขนม ดอกไม้ สาหร่าย ( ก็ บัส ลูกครึ่งเป็นญี่ปุ่นนิ ) จดหมายรัก ( อย่ามาหาว่าเสี่ยวว่า'แก่'ไอ้จดหมายเสี่ยวๆนี้หล่ะทำ บัส หน้าแดงมาหลายรอบแล้วและมันก็ได้ใจกว่าข้อความใน Face Book เยอะ ไม่รู้อะไร เด็กสมัยนี้ )และอีกมากมายที่ผมนึกออกในตอนนั้นถูกประเคนให้ บัส หมด แม้เกือบครึ่งจะโดนแขวนประจานหน้าถังขยะห้อง 21 ก็เถอะ ( ผมตามผลงานนะ )

..เรื่องที่จีบ บัส เป็นความลับ...ลับสุดยอดขนาดมีแค่ผมกับ บัส เท่านั้นที่รู้ ผมไม่ถนัดอยู่ในที่แจ้ง…คือ มันเป็นนิสัย....ไม่สิสันดานของพวกมาร์เก็ตติ้งเลยมั้ง ที่ต้องมีข้อมูลให้แน่นเสียก่อนถึงจะทุ่มได้เต็มที่ แต่เหตุผลอีกอย่างที่ผมไม่เปิดตัว… คงเพราะ อะตรอม ด้วยหล่ะ ปกติไม่ได้แคร์นะถ้าต้องคบเพศเดียวกัน แต่แคร์คำว่า ‘เพื่อน’มากกว่า…

กลัวถ้า อะตรอม รู้ผมจะเสีย อะตรอม ไป… มันเสี่ยง…ถ้าเสีย อะตรอม ไปแล้วผมดันจีบบัสไม่ติด...

‘เพื่อนกับแฟน ผมเจอเพื่อนก่อนแฟน แล้วยิ่งเพื่อนดีๆ กับแฟนที่ยังไม่รู้ว่าจะจีบติดหรือเปล่า ผมเลือกเพื่อนนะ ยิ่งเพื่อนดีๆแบบ อะตรอม ผมทิ้งไม่ลง’

จะว่าชั่วก็ชั่วเถอะ พล่ามมาจนน้ำลายแห้ง สรุปเลยแล้วกันไอ้การที่มาอยู่ที่ชะอำนี้ มันเป็นลางร้าย...

..............
............................

...หรอ? แล้วไหงสนุกอย่างนี้อะ? มาวันแรกก็เฮฮาปาจิงโก๊ะกิจกรรมโดนใจมากมายยย...

 
…ผมโดนลากให้ออกไปร้องเพลงที่คิดว่าทำได้ดีที่สุด แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเป็นเพลงไทย ตอนแรกก็ไม่อยากออกไปหรอกเหมือนไปเป็นฝ่ายเอ็นเตอร์เทน พวกวิศวะยังไงไม่รู้ ความรู้สึกเหมือนเป็นเบ้ แล้วก็มาถึงผมโดนลากออกไปช่วงเย็นเพลงแรกที่คิดได้คือ Love The Way You Lie Pt. 2 แต่มันมีท่อนแร็ปด้วย เลยลาก เอ้ย!เรียก อะตรอม มาตายด้วยกัน เพลงนี้เป็นเพลงหากินของวง อะตรอม มันฟังบ่อยจนร้องท่อนแร็ปได้แต่เสือกร้องท่อนช้าไม่ได้....ฟังเลยแล้วกัน

[Rihanna ft Eminem – Love The Way You Lie Pt. 2]

คงเพราะผมกับอะตรอมร้องดี....มั้ง?...ถึงได้มีแต่เสียงโห่.. มารู้ในเพลงที่สองว่าที่โห่เพราะมัน......ดีจนพวกวิศวะหมันไส้ ...ผิดอีกกู? เพลงที่สองก็ยังเป็นผมกับอะตรอม ที่โดนถีบส่งขึ้นเวที…แต่โจทย์มันยากกว่าเดิม

‘ เพลงนี้ขอแรดๆ แต่ต้องให้เท่ห์กว่า วิศวะ ’

ยังไงว๊ะ?! มึนเต็กสิครับ เพราะนิ่งอยู่นานผมกับอะตรอมถูกเชิญให้ลงจากเวทีมาแก้โจทย์ ก่อนจะมีการแสดงชุดอื่นต่อไป มันสนุกมากเลยนะกับการเข้าค่ายครั้งนี้ สนุกจนผมลืมไปเลยว่า...

‘ทะเลสงบ ก่อนพายุใหญ่จะมา! ’

...งานมันสามัคคีดีมากจนอาจารย์ที่ไปด้วย 3-4 คนวางใจให้ดื่มเหล้ากันเลยทีเดียว ...ไอ้เด็กพวกนี้ก็เปรมสิครับ ตอนนี้ผมกำลังหาทางแก้โจทย์อยู่เพลงที่แรดๆ แต่ต้องให้เท่ห์กว่า วิศวะ ‘ฟ้าสดใส’ เหมาะที่สุด! ผมยิ้มให้ อะตรอม ทันทีที่คิดเพลงได้ เพลงนี้ อะตรอม มันก็ร้องท่อนแร็ปได้…แต่มันยากตรงที ท่อนแร็ปมันขึ้นก่อน อะตรอม มันจะกล้าหรือเปล่า ผมกระซิบบอกชื่อเพลงให้ อะตรอม พร้อมยกเหล้าผสมเหยือกใหญ่ให้มันเพิ่มความกล้า

..แต่กลับโดน ปฎิเสธ! ครั้งแรกที่โดนอะตรอม ปฎิเสธ! หน้าชาไปนิดครับ…แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ อะตรอม ให้ผมได้ทุกเรื่อง เลยสรุปเอาเองว่า อะตรอม ดื่มเหล้าไม่ได้ หลังจากนั้นไม่ว่าใครส่งแก้วให้ อะตรอม ผมก็กรอกเข้าปากหมด จนเหมือนเรื่องสนุกไปแล้วที่ ไม่ว่าใครต่อใครก็ส่งเหล้ามาให้ผม

...อะตรอม เองมีห้ามผมบ้างแต่พอผมหันไปบอกมันว่า เพิ่มความกล้า มันก็ขมวดคิ้วแล้วหยิบแก้วเหล้าออกไป จนนึกสนุก ผมกระซิบกับมันว่า...

‘เมาให้ตายก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็มี อะตรอม คอยดูแลให้ ’

อะตรอม มันถึงปล่อยให้ผมดื่มโดยไม่ห้ามอะไรอีก โดนมอมเหล้าหรือเปล่าวะกู....จนได้เวลา ผมก็เซแซดๆๆๆ ลาก อะตรอม ออกไปเผชิญกับเสียงโห่....เดี๋ยวได้เห็นกัน

“ฟ้าสดใส....จัดมาไอ้จืด...”

…เมาครับเมาผมตะโกนชื่อเพลงที่เรียกด้วยความเคยชินให้ไอ้จืดที่ดูคอมฯอยู่รับรู้.... งงเต็กกันทั้งคนหาเพลงทั้งคนฟังทั้งคนตั้งโจทย์? จน อะตรอม มันหันมากระซิบพร้อมยื่นน้ำเย็นแก้วใหญ่ให้ดื่มบนเวทีนั้นหล่ะถึงได้เป็นการเป็นงานขึ้นมาหน่อย...

[“Morning After Dark ! ”]

ถึงจะเมาแต่ผมก็ยอมตายในหน้าที่  มันฟังดูดีนะจนถึงท่อนของ Nelly ที่ผมกระแดะยั่วแบบแรดๆนั่นหล่ะถึงได้มีเสียงโห่เสียงเป่าปาก หลุดไปอย่างสมบูรณ์แบบครับสติผม..หันไปเห็นพวกไอ้เหี้ยมมันมองนิ่งๆ อยู่หลังเวที เพลงก็ยังไม่จบด้วยความเมาเลยไปลากไอ้เหี้ยมตัวพ่อมาหน้าเวทีแล้ว เต้นยั่วซะ อะๆงง...งงอะดิ ตอนเมากูไม่มีศรัตรู ให้กูส่างแล้วค่อยว่ากัน เสียงเป่าปากยิ่งดังแสดงว่ากูแรดได้ใจ? อั๊ยๆอ๊ายๆ

...จบจากการแสดงสมองก็มึนไปหมด... เพราะเหล้ามันยื่นมาจากไหนไม่รู้ ซ้ำพอดื่มไม่ทันมันดันเทสาดลงมาซะงั้น ชุดทั้งชุดเลยมีแต่กลิ่นเหล้า สัด! มอมกูนี้หว่า...

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!19# Drunk so numb.สติที่หายไป
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 15:57:19
บทที่ 19 Drunk so numb.สติที่หายไป กับเสียงเต้นของหัวใจที่ช้าลง


...อืมส์....เกมส์ห่อเกี๊ยว?

ห่อเกี๊ยวอะไรวะ? แล้วเด็กผู้หญิงหน้ากูนี้ใครวะ? อะตรอมไปไหนอะ? แก้มป่อง....แก้มป่อง? แก้มป่องๆจะหอมไหมอะ? จะหอมเหมือนผมของ บัสไหมน๊า....?

.
.
.

“น้องชื่อไรอะ?”

ผมใช้สติอันน้อยนิด ถามชื่อน้องผู้หญิงข้างหน้า แก้มแดงงงงงงงงงงงงงงง น่าร๊ากกกกกกกกกกกก อ๊ายยยย… น่าร๊ากกกก…

“ชื่อ บอมค่ะ .....บอมๆ”

“บอมๆน่ารัก บอมๆแก้มป่อง ขอหอมบอมๆได้ไหมคร๊าพพพพ?”

...หลุดไปอีกครั้ง อย่างสมบูรณ์ครับสติผม… น้องเขายังไม่ทันอนุญาตอะไร... ผมก็หอมแล้วครับ แถมพอหอมแล้วมันติดพัน เสือกอยากจูบต่ออีก เรื่องมันเลยมาจบตรงนี้..

......................
..................................

.
.
.

“ไอ้เหี้ย! บอมๆเด็กกูใครทำเหี้ยอะไร?!”

ไอ้มงวิศวะปี สามครับ

...สาดดดดด! ไม่ได้ติดป้ายแขวนคอไว้นิว่ามีเจ้าของ ชิมนิดชิมหน่อยทำบ่น… ชิ! …แล้วผมก็หลบฉากตามระเบียบ รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง... มันชุนละมุนไปหมดเพราะในตอนที่ ไอ้มง อาละวาดพวกเรากำลังเล่นเกมส์ห่อเกี๊ยวกันอยู่ และผมก็กำลังเป็นเกี๊ยว... เมาสนิทเลยไม่เป็นที่สนใจ…

ฮาๆๆๆ ผมโดนกรอกเหล้าแล้วโดนเสื่อห่อมวน โผล่มาได้แค่ข้อมือ....ส่วนข้างนอก เสียงอะไรดังโวยวาย.... กูไม่สนใจ...แกล้งตายดีกว่า...

..............
............................

Part อะตรอม



..ไอ้คนที่ชื่อมงมั่วแต่อาละวาดกับผม จนผมไม่ได้ดูเลยว่า ภินทร์ เป็นยังไงบ้าง พวกเด็กปีสามก็ที่เหลือก็ได้แต่ลุนกันตัวต่อตัวกับปีสอง…แน่หล่ะ ปีสองวิศวะส่วนหนึ่งเป็นพวกผม เพราะมีพวกไอ้เรดอยู่ในกลุ่มปีสองด้วย แต่ที่มันไม่แสดงตัวออกไปเป็นแบ็คกราวด์เล่นดนตรีให้เพราะมันสังหรณ์ใจว่าต้องมี ‘อะไร ’ แน่ๆพวกเราเลยแยกๆกัน

ตอนนี้มันชุนละมุนไปหมดจนผมไม่มีเวลาที่จะหยุดหา ภินทร์ ไอ้มงก็ซัดเอาซัดเอา มันเมาด้วยเลยไม่ฟังคำอธิบายอะไรเลย ไม่รู้ว่าใครเป่าหูมันว่าผมจูบเด็กมัน? เพราะเหล้ามันทำให้เป็นอย่างนี้สินะผมถึงไม่ดื่ม แต่ที่ยอมให้ ภินทร์ ดื่มก็เพราะประโยคที่ว่า

‘เมาให้ตายก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็มีอะตรอมคอยดูแลให้ ’

ความเชื่อใจของ ภินทร์ นั่นหล่ะที่ทำให้ผมมั่นใจเกินไปว่าตัวผมเองจะดูแล ภินทร์ ได้...

แต่ตอนนี้ผมไม่เห็น ภินทร์ แม้เงา... ผมรู้ว่าพวกไอ้เหี้ยมปีสามจ้องเล่นงานผมอยู่ตั้งแต่เรื่องที่สนามบาสแล้ว แต่ผมก็ยังปล่อยให้ ภินทร์ คลาดสายตา....เพราะการที่ ภินทร์ อยู่กับผมตลอดเลยคิดว่ามันจะปลอดภัย… แต่ผมดันลืมไปว่า การอยู่กับผมตลอด ทำให้ ภินทร์ กลายเป็นเป้าหมายได้เหมือนกัน...

...ตอนนี้ ภินทร์ หายไปไหน?

ครั้งสุดท้ายที่เห็น ภินทร์ กลายเป็นเกี๊ยวถูกห่ออยู่ในเสื่อ....ริมหาด... ถ้าผมจำไม่ผิดเสื่อม้วนหนึ่งถูกโยนลงทะเล.......ทะเล!

..............
............................


Part โฆษิต


ผมเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ....และกำลังยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นที่ริมหาดกำลังมีมวยฝูงใหญ่ ‘ค่ายสามัคคี?’ เฮอะ! เรียกว่าค่ายมวย ลุมพินี ยังเหมาะกว่า...

ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวก ไอ้เรด หรอกไม่อยากมาเจอ 'มัน' ในร่าง ตรินทร์ เลยแยกออกจากพวกมันตั้งแต่มาถึง พอมันเริ่มเล่นเกมส์ห่อเกี๊ยวกัน ผมเลยขับแม็กกะออกไปดูของที่ระลึกพอกลับมาถึงก็ได้ดูมวยเลย ตอนนี้พวกมันลงไปซัดกันริมหาดแล้ว.....

ไอ้ยักษ์ที่มักจะอยู่กับ ตรินทร์ มันยังมีแรงเหลือเฟือที่จะผลักพวกปีสามออกไป ทั้งๆที่มันอยู่แค่ปีหนึ่งแถมยังโดนพวกปีสามสี่ห้าคนรุมชัด... สีหน้าไอ้ยักษ์นั้นดูแปลกๆเหมือนมันกำลังหาอะไรที่จมอยู่ใต้น้ำ แต่มันคงเป็นของสำคัญมากกว่านั้นเพราะขนาดมันโดนล็อคตัวชกเต็มๆหมัดมันยังสะบัดหลุดแล้วควานหาอะไรของมันโดยไม่สนใจ...

...มันจะเจอหรอ? เมื่อทะเลตอนนี้มืดไปหมด ..

...ชั่วเสี้ยวผมคิดถึง ตรินทร์ ที่มักจะอยู่ข้างๆไอ้ยักษ์นั่น แต่ตอนนี้ผมไม่เห็น ตรินทร์ แล้ว จู่ๆผมก็รู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งตัว…



เหมือนตอนนั้น....

..แค่พลาดสายตาไปชั่วครู่ทั้งที่ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี อยู่ๆอุบัติเหตุก็พรากมันไป! ผมเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ ...ก่อนที่ผมจะไปที่รถด้วยความคะนองพวกปีสามมอมเหล้าเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งแล้วม้วนมันไว้ในเสื่อ... เด็กปีหนึ่งที่ถูกมอมเหล้าผมไม่ได้เห็นหน้าแต่คิดว่าเพื่อนมันคงช่วยกันออกไปแล้ว แต่ผมลืมคิดพวกปีสามอย่างไอ้คิงส์มันร้ายกว่านั้น ผมพลาดเองทั้งๆที่ผมควรจะรู้ดีกว่าใคร ข้อมือที่พ้นเสื่อนั้นออกมามีกำไลเงินวงใหญ่...

...กำไลที่ตรินทร์ใส่ไว้ปิดรอยกรีดที่ข้อมือ!

“ไอ้พวกเหี้ย!มึงจะกัดกันอีกนานไหม เพื่อนกูจมน้ำ! พวกมึงช่วยกูหาทีได้ไหม ภินทร์จมน้ำ ช่วยหากันทีได้ไหม!”

เสียงไอ้ยักษ์นั่นตะโกนทำเอาผมเแทบหยุดหายใจ..

ผมเดาถูกเด็กปีหนึ่งที่ถูกห่ออยู่ในเสื่อนั้นเป็น ตรินทร์ ที่สำคัญตอนนี้ ตรินทร์ อยู่ไหน? ตรินทร์ จะยังหายใจอยู่หรือเปล่า?! ถึงทั้งหมดจะไม่ใช่ ตรินทร์ ที่ผมรู้จัก...แต่นั่นก็คือ ตรินทร์... ร่างนั้นยังเป็นของ ตรินทร์!

..............
............................


Part ภินทร์



“ไอ้เชี่ยนี้ไงที่เดินอยู่กับไอ้ยักษ์...”

..เสียงแว่วๆกับแสงมัวๆเข้าตาผม ความจริงมันคงจะสว่างแต่ไอ้ผ้าที่มันปิดตาอยู่ทำให้อะไรอะไรดูมัวๆ...

“แม่ง! เพื่อนมึงเล่นกูแสบนะ...ฝากมึงไปบอกมันทีได้ไหม? ในสนามอย่ามาปีนเกลียว”

แสบตา!

อยู่ๆผ้าที่ถูกปิดไว้ก็ถูกกระชากออกซะงั้น กว่าจะลืมตามองได้ก็เกือบพัก ปืนเกลียวเชี่ยไรวะ? ไอ้สัตว์นี้ใครวะ? มึนหัวชิบ… แล้วนี่มันที่ไหนวะ? ไอ้ที่ล้อมรอบผมอยู่นี้มันเด็กปีสามนี้หว่า...แต่ทำไม? ผมกำลังอยู่ในค่ายสามัคคี (หร๊ออออออออออ!) กับอะตรอม ทุกอย่างกำลังไปได้ดีแล้ว...เกมส์บ้าๆก็เริ่มขึ้นผมถูกยุให้ดื่มเข้าไปหลายแก้วและก็ถูกมัดอยู่ในเสื่อ แล้วทุกอย่างมาจบที่นี้ได้ยังไง...

…ยังไม่ทันรวมสติดี ผมก็โดนลากไปที่ชายหาด คงใกล้มืดแล้วฟ้าดูมัวๆไม่มีวี่แววของคนอื่นๆ มีแต่พวกมันกับผม ถ้าให้คิดว่าพวกมันพาผมมาชมพระอาทิตย์ตกดิน.... คงยาก....แม้สติผมจะไม่ค่อยมีก็เถอะ เดาไม่ผิดนี่คงอยู่อีกฝากของที่พักแล้วผมกำลังจะโดนอะไร หน้าของพวกมันเริ่มจะทำให้ผมกลัว พวกไอ้บ้าเหี้ยมนี้หว่า! แล้วยิ่งตอนนี้พวกมันดื่มเข้าไปไม่น้อยคงจะทำให้มันบ้ายิ่งกว่าเดิม ... ทุกอย่างในสมองตื้อไปหมด

ไม่ให้ทันตั้งตัวอยู่ๆมันก็กดหน้าผมลงน้ำ! แรงขืนของผมไม่มีสักนิด ไม่มีแม้แต่แรงที่จะดิ้นรนเพื่อตัวเอง...สติอันน้อยนิดบอกผมให้กลั้นหายใจก่อนจะสำลักน้ำทะเล แต่ถึงจะกลั้นได้มันก็คงไร้ประโยชน์เพราะมือที่กดคอผมลงน้ำไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยผมเลย....

จนเกือบขาดอากาศหายใจเพราะผมฝืนไม่ไหวทำให้ต้องหายใจเอาน้ำทะเลเข้าไปเต็มๆ มันถึงได้กระชากผมให้โผล่ขึ้นมา

"ไม่ต้องรีบตาย.. มึงได้กลับไปฟ้องไอ้ยักษ์นั่นแน่.... ถ้ามึงรอด....ไปได้นะ...."

...ผมไม่รู้ว่านั้นเป็นคำพูดของใครเพราะทั้งสำลักไอ ทั้งแสบตา...

แต่จากความรู้สึกตอนนั้น สิ่งเดียวที่ผมรู้ พวกมันอยากให้ผมตาย! ...ไม่เคยคิดนะว่าการที่ใครสักคนจะตัดสินใจทำลายใครอีกคนถึงชีวิต มันมีเหตุผลโง่ๆเพียงเท่านี้ ...ถ้าผมตายไปตอนนี้เลยพวกมันก็คงแค่...

‘เอ่อ...กูทำน้องตายไปคน แมร่งเพื่อนมันเสือกปีนเกลียวกู...’

คงแค่นั้นจริงๆ...

...สมองผมแทบไม่สั่งการณ์อะไรแล้ว น้ำทะเลเค็มๆที่สำลักเข้าไปยิ่งทำให้คิดอะไรไม่ออก ตาทั้งพร่าทั้งเจ็บ หูก็อื้อไปหมด แล้วมันก็กดผมลงน้ำอีกครั้ง ข้อมือแข็งนั้นยิ่งกดให้ผมลึกลงไปอีกเมื่อเห็นว่าผมเริ่มขืนตัว...จน... ผมไม่มีแรงจะสู้มันอีกแล้ว...ความคิดเริ่มจะตัดขาดจากสิ่งรอบข้างแล้วจมอยู่กับตัวเอง...ต้องตายแบบนี้หรอ? ตายเพราะไอ้สัดพวกนี้อะนะ?

สมเพทตัวเองชะมัด... โดนตราหน้าว่าขโมยชีวิตเขามายังมาเสือกตายง่ายๆเพราะไอ้เด็กเชี่ยพวกนี้อีก...


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!20# I’m Back การกลับมา Vol.2
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 16:11:00
บทที่ 20 I’m Back การกลับมา Vol.2
Part ตรินทร์


“ตรินทร์!”

ผมได้ยินเสียงไอ้โฆเรียกแว่วๆแต่ภาพมันตอนร้องไห้ยังคงเด่นชัด...

ตอนนี้ผมกำลังจะตายใช่ไหม? ข้อมือไม่เจ็บแล้ว… กลิ่นเลือดก็ไม่มี…


…แต่เค็มโคตร !


แล้วผมก็สำลักออกมาตอนเริ่มรู้สึกว่ามีใครจับคอผมกดลึกลงในน้ำ! อากาศถูกแทนที่ด้วยน้ำทะเลเค็มๆที่ทะลักเข้าไปทั้งทางจมูกและปาก…


ก่อนจะมีอะไรมากไปกว่านี้ผมก็ดึงมือไอ้เชี่ยนั้นลงมาแล้วทะลึ่งตัวขึ้นเหนือน้ำแทนมัน!

ผมกระชากมันกดลงน้ำอีกครั้งก่อนจะกระทืบซ้ำลงไปที่หน้าอกและลิ้นปี่ไอ้เชี่ยนั้น ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่นี้ได้อย่างไร เสียงไอ้โฆ ก็แว่วเข้าหูผมอีกครั้งผมปาดน้ำเค็มที่เข้าตาออกมันไม่ได้แสบอะไรแต่บังการมองเห็นของผมจนรำคาญ แล้วผมก็คิดไม่ผิดเสียงที่ผมได้ยินเป็นเสียง ไอ้โฆ มันโดนเตะกลิ้งอยู่กลางวงล้อมของไอ้เชี่ย สามตัว ที่กำลังประเคนตีนให้มัน แต่มันยังพยายามลุกและร้องเรียกผมไอ้พวกเชี่ยนั้นทำอะไรกับคนของผม?...

... ผมกระทืบไอ้เชี่ยหมายเลขหนึ่งที่จับคอผมกดน้ำ อีกครั้งก่อนจะเดินตรงเข้าไปกระชากไอ้เชี่ยหมายเลขสองออกมาแล้วชกอัดมันที่ลิ้นปี่ต่อด้วยตันหน้าไอ้เชี่ยหมายเลขสามแล้วถีบเข้ายอดอกไอ้เชี่ยหมายเลขสี่จนพวกมันล้มกลิ้งตัวงอ แต่พอหันไปเห็น ไอ้โฆเลือดกบปากและรอยช้ำที่ปรากฏไปทั้งตัว…

แล้วผมก็ฟิวส์ขาดไล่กระทืบไอ้สามตัวที่ผมอัดลงไปกองจนมันไม่กระดิกแต่ยังไม่ทันจะกระทืบให้หนำใจไอ้ตัวที่ผมกระทืบตัวแรก ตัวที่จับผมกดน้ำนั้นหละมันก็กระชากคอผมแล้วล็อคมือทั้งสองข้างของผมไว้เพราะโดนล็อคมือไว้ทำให้ผมขืนแรงจากไอ้เชี่ยนั้นไม่ได้แถมยังเจ็บด้วยซ้ำตอนมันกดข้อแขนผมให้ล็อคแนบกับหลัง   แต่เพราะอารมณ์ที่ขาดไปตั้งแต่แรกทำให้ผมไม่ยอมที่จะให้มันหยุดด้วยการล็อคแขนผมไว้ ผมตวัดขาไปข้างหน้าแล้วตอกส้นลงไปบนหน้าขาไอ้ตัวที่ล็อคผมอยู่เต็มแรง ได้ผลเมื่อมันเผลอปล่อยมือและทรุดลงไปนั้งจังหวะเดียวกับที่ผมง้างปลายเท้าเสยเข้าคางมันจนมันนิ่งไป เชี่ย! เจ็บเท้าฉิบหาย แต่ก็สะใจ ให้มันรู้ไปว่าคราวหลังมึงจะได้ไม่มายุ่งกับพวกกูอีกไอ้พวกเชี่ย!


ผมเดินหันหลังกลับไปดู ไอ้โฆ ที่หอบหายใจถี่ แต่มิวายเตะอัดร่างไอ้เชี่ยเบอร์อะไรไม่รู้ที่นอนกลิ้งอยู่ใกล้เท้าก่อนจะไปพยุง ไอ้โฆ ให้ลุกขึ้น ผมมองออกไปรอบๆ หาดทรายและทะเลติดกับถนนเรียบทะเล แม็กกะจัง รถสุดที่รักของผมจอดหลบอยู่ใต้ต้นสน… ผมพยุงร่างใหญ่ของ ไอ้โฆ อย่างทุลักทุเล ก่อนจะตัดสินใจแบกมันขึ้นหลังแล้วเดินมุ่งตรงไปที่รถ ไอ้โฆ ทรุดลงทันทีที่ผมปล่อยมันข้างรถมันคงโดนมามากจนไม่มีสติ แต่ไม่เป็นไรผมกำลังจะพามันกลับบ้าน...กุญแจของแม็กกะจัง ยังอยู่ที่คอ ไอ้โฆ คนที่ผมรักพอๆกับแม็กกะ...เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นมาบ้างก็ไม่รู้แต่ไม่เป็นไรแล้วกูกำลังจะพามึงกลับบ้าน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า...ตอนนี้กูอยู่ที่ไหน?...

..............
............................

Part ตรินทร์



...ทันที ที่ผมมาถึงบ้านก็โทรหาแม่นิ่มก่อนเลย โชคดีที่แกยังอยู่บ้าน แม่นิ่มดูจะตกใจไม่น้อยกับสภาพของผมกับไอ้โฆ ...

“แม่นิ่ม ผมไม่ได้เริ่มนะ...จริงๆนะแม่นิ่ม”

ผมเริ่มอ้อนหล่ะเพราะตาแกเริ่มแดงๆเหมือนจะร้องไห้… แม่นิ่มหันหน้ามามองผมสีหน้าสงสัยระคนแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากโอบหัวผมมากอดกระซิบประโยคแผ่วเบาที่ผมไม่เข้าใจ…

“กลับมาแล้วสินะค่ะ คราวนี้อยู่นานๆให้แม่นิ่มชื่นใจหน่อยนะ คุณตรินทร์ไม่อยู่ คุณโฆเหงามากเลยนะค่ะ...คุณตรินทร์ของแม่นิ่มรู้ไหม? คุณโฆเหงาแค่ไหน แม่นิ่มก็เหงาเหมือนกัน..”

ได้แต่ปล่อยให้แม่นิ่มแกกอดกับลูบหัวไปครับ… ไม่เข้าใจ… แต่…เอ่อ…แม่นิ่มครับ.. ได้ข่าวว่าผมแบกไอ้โฆอยู่หน่ะครับ… แล้วได้ข่าวอีกว่าไอ้โฆมันหนักมากครับแม่นิ่ม.....

…กว่าแม่นิ่มจะปล่อยได้ เฮ่อ....ผมเลยเนียนขอให้แม่แกช่วยเช็ดตัวให้ ไอ้โฆ ที่ยังไม่ได้สติ แล้วขอข้าวหรืออะไรก็ได้ร้อนๆมาทำให้สมองมันแล่น ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ ทั้งเกลือทั้งทรายที่ติดตัว...คันชิพหาย…กว่าจะล้างคราบต่างๆออกหมดก็เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่เคยอาบน้ำนานอย่างนี้มาก่อน อย่างมากก็ 20 นาที มาตรฐานของผมอยู่ที่ 11 นาที

…ผมชอบน้ำมากคงเป็นกรรมพันธุ์อะนะ แต่ถ้าไม่ได้แช่ทั้งตัว หรือมีใครอยู่ในห้องน้ำด้วยเต็มทีก็ไม่เกิน 20 นาทีแป๊ะๆ ที่ผมรู้เพราะ ไอ้โฆ มันเคยจับเวลาให้...ไร้สาระ!

.
.
.


..

กลิ่นหอมของข้าวต้มหอมอวนไปทั่วทั้งบ้าน ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินตัวเปียกโชกไปที่ห้องตัวเอง...

'...?!'

..เสื้อผ้าที่ปกติจะเป็นโทนสีน้ำตาลเทา หรือ ขาวดำของผมมีโทนสีเขียวขี้ม้า คราม ม่วง? เข้ามาปน…
กางเกงที่ส่วนมาจะเป็นเดฟหรือผ้า… ก็มีกางเกงสามส่วนลายพรางปนเข้ามา? นี้ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่า? หรือแม่นิ่มเตรียมของให้ ? แถมบ็อกส์เซอร์ยังเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว... ผมซื้อหรือเปล่าวะ?

…คิดยังไงก็คิดไม่ออก…

หรือผมเทคยากล่อมประสาทมากไปจนสมองมันไม่รับ?...ปวดเฮด…พอๆๆไม่คิดอะไรดีกว่าไปดู ไอ้โฆ ดีกว่า… ผมจับเสื้อกล้ามสีขาวมาสวม แล้วคว้า  บ็อกส์เซอร์สีดำมาใส่ ขยี้หัวตัวเองที่ยังเปียกให้น้ำมันสะเด็ดซักหน่อย…

ถ้าถามว่าทำไมไม่เอาผ้ามาเช็ดให้แห้งหน่ะหรือ? ใครบอกว่าผมซกมก? แค่เพราะผมชอบน้ำไง…

...ชอบความรู้สึกเย็นและสดชื่นของน้ำ ชอบที่จะให้มันหายไปช้าๆแทนที่จะถูกเช็ดด้วยผ้า แต่ถ้าต้องเช็ดจริง ผมก็ชอบนะ ถ้า...ไอ้โฆเช็ดผมให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก... เข้าไปดูที่ห้องไอ้โฆนอนอยู่บนเตียงกับกางเกงยีนต์ตัวเดิมส่วนเสื้อมันแม่นิ่มถอดใส่ตะกร้าซักผ้าเรียบร้อยแล้วก่อนจะลงไปทำของกินให้ แกคงหนักใจกับคราบเลือดและโคลนที่เลอะไปทั้งตัวเสื้อ ผมโยนชุดของผมที่เลอะทั้งน้ำและดินโคลนลงตะกร้าเดียวกัน

..สักพักแม่นิ่ม ก็เข้ามาที่ห้องแล้ววางชามข้าวต้มใบใหญ่ให้บนโต๊ะคอมฯ แววตาแกเหมือนมีคำถาม แต่ผมส่ายหัว… เพราะไม่รู้อะไรด้วยเหมือนกัน แกได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินมาขยี้หัวผม ก่อนจะหยิบยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อมายัดใส่มือผม 2-3 แผง

“อย่าทำให้ป้าหัวใจวายบ่อยนักเลยนะค่ะ...คุณๆ”

“ครับ....แม่”

ผมตอบรับคำอย่างว่าง่ายเพราะแววตาเป็นห่วงและฝ่ามืออุ่นๆของแกที่ลูบอยู่บนแก้มผม ตั้งแต่ป๋ากับมี้ ออกไปทำงานข้างนอกนานๆจะมาที ก็มีแต่แม่นิ่มนี้หล่ะที่เป็นเหมือนแม่คนที่สองของผมกับไอ้โฆ นอกจากป๋ากับมี้ แม่นิ่มก็เป็นอีกคนที่ผมยอมให้...

“จะให้ป้ากลับไหมค่ะ? คุณตรินทร์ ดูแลคุณโฆ ได้หรือเปล่า ป้าต้องอยู่เป็นเพื่อนไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ ดูแลกันได้ เดี๋ยวปลุกมันมาทานข้าวแล้วไล่ให้ไปอาบน้ำเอง แม่นิ่มกลับบ้านเถอะ เดินดีๆนะครับ”

นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่เคยพูดประโยคยาวๆอย่างนี้แต่เพื่อความสะบายใจของแกบางครั้งก็ต้องมีบ้าง...

ใครใส่ร้ายว่าผมเย็นชา…

…บ้า..แค่ผมไม่แสดงออกก็แค่นั้น… จริ๊งจริงง!


.
.
.

...แม่นิ่มกลับไปแล้วปล่อยไว้เพียงผมและไอ้โฆที่ยังหลับไม่ตื่น เสียงลมหายใจของมันยังสม่ำเสมอ… แต่ร่องรอยการต่อสู้ที่เขียวช้ำนั้นเหมือนบอกใบ้ให้ผมรู้ว่ามันคงจะหลับยาว ตอนนี้ผมช่างใจระหว่างจะเรียกให้มันตื่นขึ้นมาทานข้าวหรือจะปล่อยให้มันหลับต่อไปดี...

แล้วผมก็ตกใจแทบถอยตกเตียงเมื่ออยู่ๆมันก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาพร้อมตะโกนเรียกผม!...สีหน้ามันงงเมื่อมองไปรอบๆ.. เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเต็มหน้า ผมเดาได้ว่ามันคงหลับแล้วฝันร้ายอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับผม…

…เพราะกำลังมองรอยช้ำมันอยู่และกำลังคิดเพลินๆว่าจะปลุกมันดีหรือเปล่า จนลืมสังเกตุสีหน้ามันว่ามันกำลังฝันร้าย พอมันทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้วตะโกนเรียกผม อารามตกใจ ผมจึงถอยกรูไปจนสุดขอบเตียง มันหันมามองหน้าผมแล้วเรียกชื่อผมเบาๆซ้ำๆ ด้วยสีหน้าหมางง ครั้งเดียวก็ได้ยินแล้วจะเรียกซ้ำๆทำไม?

“โดนตีนจนบ้า”

..
ผมมองจ้องมันตอบแล้วลากมันให้ลุกไปกินข้าวต้มชามใหญ่ที่ผมกินเหลืออยู่แต่ยังร้อน ผมชินกับการกินอะไรกับมัน จากฝีมือแม่นิ่มเหมือนแกจะพยายามสอนว่ากินข้าวชามเดียวกันก็ต้องรักกัน?!

...หลังจากนั้นมาผมกับไอ้โฆก็คุ้นเคยกับการแบ่งข้าวชามเดียวกันกิน ที่บ้านนี้เลยมีชามโคมใหญ่ ไว้หลายใบเพราะง่ายต่อการกินและเก็บล้างถ้าเป็นอาหารหรือของกินที่เหมือนกันจะได้ไม่ต้องมาตักใส่ชามนู้นทีชามนี้ที....

เคร้ง!

..เสียงช้อนตกกระทบพื้นทำลายความเงียบและความคิดผม…

ไอ้หน้าหมางง หันมามองผมเหมือนเด็กเล็กมือข้างที่ถือช้อนยังสั่นอยู่บ้างแต่พอหันไปดูมันเก็บอาการโดยวางมือไว้บนโต๊ะ… เชี่ยแล้วไงโดนซัดอีท่าไหนเข้าวะ? ไอ้หน้าหมางงปากหนักนั่นเก็บอาการหน้าดู มึงไม่เสือกบอกมาวะ!แล้วแขนแมร่งหักไหมเนี้ย! ผมพยุงตัวลุกขึ้นมาจับแขนมันพลิกดูรอยช้ำที่ข้อแขน สีหน้าหมางงเปลี่ยนเป็นหมาเจ็บ แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร ดีทียังไม่หักดูจากรอยแล้วยังแค่เขียวคล้ำแต่ไม่ถึงกับกระดูกลั่น… จะว่าไปมันคงเจ็บแต่ไม่พูด...

…แล้วจะกินยังไง? ผมลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งใกล้มัน หยิบช้อนผมที่เหลืออีกคันในชาม ควานหมูกับข้าว ตักป้อนมันไปเรื่อยๆ ป้อนมันบ้างป้อนตัวเองบ้างจนหมดชาม มองจากสภาพแล้วสงสัยต้องเข้าไปอาบน้ำให้มันด้วยมั้งเนี้ย.....หาเรื่องให้ตลอดไอ้ลูกหมาเอ้ย!  

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!21# Dare you.เล่นกับหมาหมาเลียปาก
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-04-2012 16:58:17
บทที่ 21 Dare you.เล่นกับหมาหมาเลียปาก


ผมมองมันขำๆตอนที่ก้มถอดกางเกงยีนส์สีมอให้มัน แล้วมีเม็ดทรายหล่นกราวลงมาพร้อมๆกางเกงที่ถอดกองอยู่บนพื้น มันเล่นฝังตัวในทรายกันรึไง?...

ไอ้โฆไม่ได้พูดอะไรมันยังยืนนิ่งปล่อยให้ผมจัดการอาบน้ำและสระผมให้มันโดยที่มันนั่งบนชักโครกที่ปิดฝาส่วนผมยืนถือฝักบัวฉีดตัวมันที่เหลือแค่กางเกงในตัวเดียว มันได้แต่เงียบพอๆกับผมที่ไม่พูดอะไร ผมล้างน้ำยาสระผมออกจากหัวมัน แต่ยังไม่ทันหมดมันดันสะบัดผมยุ่งๆที่เปียกน้ำ....มันเลอะกู !

‘ มึงลืมไปหรือเปล่ากูไม่ได้มีแค่กางเกงในตัวเดียวแบบมึง’

ผมกดน้ำฉีดใส่หน้ามันให้มันมีสติหันมามองบ้างว่าผมใส่เสื้อกล้ามสีขาวและบ็อกส์เซอร์ ผมไม่ได้ใส่ชุดเดียวกับมัน

‘กูมาอาบน้ำให้มึง ไม่ได้กะจะมาอาบอีกรอบ!’

มันก้มหัวเป็นเชิงขอโทษและลุกออกจากที่นั่งชั่วคราวยกฝาชักโครกให้น้ำไหลลงก่อนจะหยิบฝักบัวจากมือผมไป… ผมกำลังจะเดินออกไป ให้มันจัดการตัวเอง แต่มันมองหน้าผมโดยใช้สายตาหมาหงอยที่เหมือนจะอัพเลเวลขึ้นเกือบ 4 ระดับ ทำให้ผมต้องหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปอีก…

..คราวนี้เป็นผมที่นั่งบนฝาชักโครกแล้วมันยืนถือสายฝักบัวอยู่กับมือข้างที่ไม่เจ็บ ส่วนระดับที่ผมนั่งเป็นระดับเดียวกับช่วงกลางลำตัวของมัน ทันทีที่ผมถอดกางเกงในตัวนั้นออกน้องชายมันก็ชี้หน้าผมแล้ว.....ผมเงยหน้าไปมองหน้ามันด้วยหางตา...

‘น้องชายมึงหาเรื่องกูหรอ?’

ทำท่าทีไปงั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก กางเกงในยังมีเม็ดทรายหลงเหลืออยู่นี้พวกมึงมีเรื่องกันหรือพวกมึงไปเล่นฝังตัวในทรายกันวะ... ผมยื่นมือไปขอสบู่ที่อยู่สูงกว่าหัวผมแล้วจับน้องชายมันมาทั้งล้างและถอด จนน้องชายมันโชว์พาว์บนมือผมเต็มที่..

ผมเงยหน้าไปมองมันอีกครั้งก่อนส่งสบู่คืนมันและให้มันส่งฝักบัวให้ผมแทน …เมือกลื่นๆผสมกับสบู่ถูกน้ำจากฝักบัวชำระล้าง แต่ไอ้น้องชายมันยังไม่ยอมหยุดชี้หน้าผมดูเหมือนมันจะโชว์แมนมากขึ้นกว่าเดิม...

'กล้ามากนะมึง...'

ผมโอบเอวดึงมันที่เปียกน้ำไปทั้งตัวให้เข้ามาใกล้แล้วกดน้องชายมันลงใต้คาง จมูกผมจมไปกับช่วงสะดือมัน...ลิ้นร้อนๆของผมก็ลากไล้ไปตามทางน้ำที่ไหลหยดลงมา มือขวาของผมรั้งเอวมันไว้ให้ไม่มีทางขยับหนี มือซ้ายก็กดน้องชายมันไม่ให้สู้หน้าผม พร้อมๆกับลิ้นที่ลากเลีย ส่วนฟันคมๆก็อดไม่ได้ที่จะขบกัดผิวเนื้อช่วงเอวของมัน ผมลากลิ้นชิมไปทั่วจนถึงเนินขน...

... แล้วเสียงหมาครางก็ดังขึ้นตอนผมครอบปากลงคลุมน้องชายมันแล้วรูดไล้ลิ้นไปตามแนวยาวของแท่งเนื้อนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนมันทนไม่ได้บอกเสียงพร่าว่ามันจะออกแล้วแต่ยังเสือกกดหัวผมไว้?? มันคงลืมเพราะความเกร็ง.....

...เอาดิ...มึงเสือกมาลืมตอนนี้....กูจะเอาแม่งให้สำนึกเลยว่าถ้ากูทำมึงจนสุดมึงจะเสียวจนจำไปตลอดชาติ! ตัวมันเกร็งสั่นไปหมดตอนผมยิ่งอมลึกเข้าไปซ้ำยังไม่ยอมปล่อยมันกับน้องชายเสียที… ไอ้หมาหงอยครางเสียงสั่นก่อนจะกระตุกเกร็งไปทั้งตัว...แต่ผมยังไม่ยอมปล่อยน้องชายมันให้พ้นจากริมฝีปาก

“ตรินทร์...ไม่ไหวแล้ว.....”

เสียงมันครางสักพัก… แล้วน้ำเมือกรสฝาดปนหวานก็ทะลักออกมาจากแท่งเนื้อนั่น...

ผมไม่ได้ปล่อยมันแต่ดันลิ้นดูดเลียน้ำนั่นจนหมดพร้อมกับดึงรั้งเอวมันให้แท่งเนื้อนั้นลึกลงไปจนสุดลำคอ…

“ตรินทร์พอแล้ว....ใจจะขาด”

..............
............................


‘ช่างมึง!’


..............
............................

Part โฆ


เป็นเหมือนผมเลยใช่ไหม? เข้าใจอารมณ์ผมใช่ไหม? ค้างไหม? ไม่ต้องทำเป็นซื่อมาถามว่าอะไรค้าง?…ถ้าคุณรู้เรื่องในห้องน้ำนั่น… หน้ามันฟ้องหมดแล้วว่าคุณคิดเรื่องเดียวกับผม สำหรับผม ตรินทร์ หน่ะขี้แกล้ง....สุดๆ ไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอก ...
   
…ตอนนี้ผมเหมือนหมาที่โดนเจ้าของเอาเนื้อย่างมาวางตรงหน้า เจ้าของให้มองให้ดมให้กระทั้งเลียเนื้อย่างในมือ....แต่ไม่ให้มากกว่านั้น…อย่าถามนะว่าผมกับ ตรินทร์ ไปถึงขั้นไหน เรื่องแบบนี้ถึงจะเริ่มจาก ตรินทร์ แต่มันก็จบเพราะ ตรินทร์ เหมือนกัน สำหรับผมกับ ตรินทร์ แค่มองตาก็เข้าใจไม่ต้องพูดอะไรมาก...


‘เกมส์กล้วยหอม’


นั้นเป็นเกมส์ที่ผมกับ ตรินทร์ เล่นกันตั้งแต่เด็กๆ จนติดเป็นนิสัย อย่าพูดถ้าไม่จำเป็น... อย่าแสดงท่าทางและสีหน้าเพราะมันพิเศษที่มีแค่เราสองคนเท่านั่นที่รู้ความหมายของกันและกัน... ความลับของพวกเราสองคนสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่บอกว่าพวกเราเข้าใจกันคือการที่ไม่ต้องพูดแต่รู้ได้ว่าอีกคนคิดอะไร ตรินทร์ ติดเกมส์นั้นมากกว่าผม...เลยไม่แปลกที่ ตรินทร์ จะหน้าตาย...ตลอดเวลา แต่เกมส์นั้นมันส่งผลมาถึงเรื่อง SEX ด้วย....

ผลลัพย์แบบลบสุดๆ ตรินทร์ ชอบที่จะเห็นผมที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ชอบที่เห็นผมแสดงสีหน้าแปลกๆ ทำเสียงแปลกๆ ยิ่งได้ยินเสียงผมครางยิ่งทรมานผม...แต่สำหรับตัว ตรินทร์ เอง....อย่าหวัง แค่สีแดงระเรื่อบนหน้าผมยังไม่เคยเห็น ถ้าจะให้ผมอิมเมจถึงเสียงครางของ ตรินทร์..บอกตามตรง....ผมคิดภาพไม่ออก ร่างกายนั้นไม่เคยให้ผมได้แตะหรอก ทั้งๆที่เรื่อง SEX สำหรับสายเลือดของพวกเรามันเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม เรื่องใหญ่ของพวกเรา มีอยู่ 5 เรื่องเรื่อง SEX ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ ตรินทร์ ข้ามขั้นนั้นไปแล้ว เรื่อง SEX ตรินทร์ ห้ามตัวเองได้....แต่กับผมไม่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ พวกคุณรู้ใช่ไหมหล่ะ หลังออกมาจากห้องน้ำอย่าถามว่าผมโดนทรมานยังไงบ้างคิดแล้วมันเจ็บใจตัวเองที่โดน ตรินทร์ ปั่นหัวได้ตลอดเวลา แต่ผมเองกับทำอะไร ตรินทร์ไม่ได้ …

 “อย่ามาแตะ...”

แค่ประโยคนั้นผมก็จบแล้ว จะบอกว่าผมกลัวก็ได้นะ คุณคงไม่เคยเห็นตอน ตรินทร์ โกรธ...อย่าเห็นเลยดีที่สุด ถ้าพูดว่าอย่าคืออย่า...นั่นคือ ตรินทร์ ไอ้ทฤษฎี เรื่อง SEX คำว่า

‘ อย่า ’ คือ ‘ อย่าหยุด ’ คำว่า ‘ ไม่ ’ คือ ‘ไม่ต้องสนใจทำต่อไป’

สำหรับตรินทร์มันใช้ไม่ได้.....

แต่ไม่เป็นไร...ถึงวันนี้ผมจะยอมยกธง …แต่สักวันหนึ่งเถอะผมจะข้ามมันไปให้ได้ เชียร์ผมด้วยนะ คุณๆทั้งหลาย ถ้าผมไม่ทรมานจนตายด้านไปซะก่อน
 
..............
............................

Part ตรินทร์


...ผม ข่มความรู้สึกตัวเองไว้จนแทบคลั่ง ไอ้โฆ มันกล้าขึ้น...

..กล้ากว่าเดิมเยอะมาก ปกติแล้วถ้าผมบอกว่า “หยุด” คือหยุด แต่ไอ้หมาเจ้าเล่ห์มันยังเนียนเลียหน้าเลียตาผมอีก ถึงมันจะหงอกับผม แต่จากขนาดร่างกายมันได้เปรียบผมเยอะอยู่ถ้าจะให้พูดตามตรงแค่มันรวบมือผมไว้สองข้างผมก็ขืนมันไม่ได้แล้ว ... แต่หมาอย่างมัน กล้ากับเจ้าของอย่างผมหรอ?

...ถึงจะว่าอย่างนั้น แต่กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้...ตัวแทบเปื่อย เพลียก็เพลียง่วงก็ง่วง แต่พอจะนอนไอ้ลูกหมามันดันอ้อนทั้งคืน มือไม้มันอยู่ไม่สุขจนเช้า เล่นเอาผมไม่ได้นอน พอเคลิ้มๆจะหลับมันก็เอาหล่ะ กอดมั่ง หอมแก้มมั่ง ลูบมั่ง ดึงไปซบอกมันมั่ง เรียกชื่อให้ขานรับมั่ง...

...คือง่วงเข้าใจไหมง่วง ? มึงชิวๆนิเมาตีนหลับมาตลอดทางแต่กูขับรถจากชะอำมากรุงเทพฯแบบเบลอๆถึงบ้านได้ก็บุญแล้ว กูไม่ได้ทวงบุญคุณนะ แต่ถ้ามึงเห็นใจปล่อยกูเถอะกูอยากนอน....แม่ง!จะล้วงทำบ้าอะไร! มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย!ใครพามันไปอัพเลเวลเนี้ย!

โอ๊ย!ง่วงงงง…...................โผล่หัวไปดูนาฬิกาปลุก 7.44 น. ....ผมยังไม่ได้หลับ...

ไอ้ลูกหมาตอนนี้มันกำลังเคลิ้มๆแล้ว วงแขนที่กอดผมอยู่ค่อยๆคลายแรงออก เหอะๆๆมันจะหลับแล้ว แม่งกว่าจะหลับได้........ไม่ยอมปล่อยกูสักที

“ตรินทร์...”

เสือกเรียกอีก...

“ตรินทร์.....ตรินทร์...”

มึงจะเรียกทำไม? นี้กะไม่ให้กูนอนใช่ไหม? มึงแกล้งกูใช่ไหม? เอาคืนเรื่องในห้องน้ำหรอ? กล้านะมึง...สัดง่วงชิบ ไม่ไหวละ ช่างแม่งละจะล้วงจะควักอะไรช่างแม่งละ กูไม่ไหวแล้วขอไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนแล้วกัน.....

“ตรินทร์...ตรินทร์..อย่าหลับ อย่าหลับ...”

พอรู้สึกว่าผมนิ่งไป เสียงไอ้โฆก็ละเมอมาเลย ผมปล่อยละบอกตามตรงไม่ไหวจริงๆ

“ตรินทร์!”

ผมสะดุ้งครับ!อยู่ๆไอ้โฆก็ตะโกนเรียกแล้วเขย่าตัวผม! เหมือนเรื่องคอขาดบาดตายถ้าผมหลับ อารมณ์ตอนนั้นเงื้อหมัดแล้วครับกะถ้ามันยังงี่เง้าอีกกะจะชกมันให้สงบแล้วค่อยนอน

“ขอร้องอย่าหลับนะ ตรินทร์ อย่าหลับนะ อย่าหลับ...”

...มันร้องไห้...ไอ้โฆมันร้องไห้ ร้องแบบเป็นวรรคเป็นเวรแล้วโถมตัวเข้ามากอดผม.....ปากก็พร่ำบอกว่าไม่ยอมให้ผมหลับ

…คือ...

ตอนนี้ผมฝันใช่ไหม?

…ความจริงคือผมหลับอยู่แล้วกำลังฝันว่ามันไม่ให้ผมหลับใช่ไหม? หรือผมเทคยากล่อมประสาทมากไป...คงต้องให้หมอลดยาลงแล้วมั้ง แต่ฝันเชี่ยอะไร? ทำไมในฝันมันถึงง่วงอย่างนี้อะ? ไม่ไหวแล้วหลับในฝันได้ไหม?...แต่ถ้าหลับไอ้โฆมันก็จะร้องไห้นะ

...
..............

.
.
.

ก็รู้...แต่กูง่วง!





หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 22#It’s me? ไม่ใช่กูหล่ะ!
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 11:50:42
บทที่ 22  It’s me?   ไม่ใช่กูหล่ะ!
Part ตรินทร์



โอ๊ย!ง่วง!ง่วง!ง่วง!

จะหลับก็ห่วงมัน… จะตื่นก็ไม่ไหวจะเคลียร์กับตัวเอง แต่ก่อนตาจะปิดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นกระชากโสต เสียงโทรศัพท์กูไหงมันฮาร์ทคอ ขนาดนั้น? ไอ้โฆเป็นคนรับ แล้วคุยกับคนในสาย อย่าถามว่าคุยอะไรกัน? สติผมไม่มี ไม่รับรู้อะไรจริงๆ รู้แค่รำคาญเสียงโทรศัพท์ หงุดหงิดโคตร....

..............
............................

สรุปจน 8 โมงครึ่งผมก็ไม่ได้นอน....

ไอ้โฆมันก็ไม่ยอมหลับแถมยังเฝ้าผมตลอดไม่ให้ผมหลับ...แกล้งกูใช่ไหม? แทบจะคลานเข้าห้องน้ำสารภาพเลยว่าถ้าเข้าห้องน้ำจะเข้าไปหลับ แต่ไอ้โฆมันดันตามเข้าไปในห้องน้ำด้วย.....แถมอาบน้ำให้ผมอีก อารมณ์ไม่มีครับถึงจะตอนเช้าก็เถอะ แม่ง! โคตรง่วงเลยเบลอโคตรๆ จนน้ำเย็นๆเทรดลงมาบนหัวผมนั้นหล่ะถึงตาสว่าง สาดดดดดด! ใครสอนมันให้กล้าอย่างนี้! อย่าให้กูรู้นะ ...แล้วเดี๋ยวมึงจะใส่ชุดนักศึกษาทำไม? กูขอนอนก่อนได้ไหม? กูไม่ไหวแล้วจริงๆ

…ละ...ละ.....ลากกูอีกแล้ว… กูไม่เปลี่ยนชุด… ไม่ไปมหาลัย… ไม่เอาจะนอน....

..............
............................

 “ตรินทร์....ตรินทร์”

ยังจะเรียกกูอีก....


ครั้งแรกที่ผมแพ้.......ไอ้โฆมันจับผมอาบน้ำแต่งตัว… ลากขึ้นแท็กซี่มามหาลัยจนได้

..............
............................

...สะลึมสะลือ...เดินขึ้นตึกมาเจอพวกไอ้เรด… หน้าตาบวมกันทุกคนเลย… ตลกนะ… แต่กูไม่มีอารมณ์สมเพทหรือซ้ำเติม (ปกติคุณชายเคยมีอารมณ์หรอ?:คนเขียน) โคตรง่วง...พอเห็นผมเท่านั้นหล่ะไอ้กร้าร้องไห้โฮ เลยทีเดียว

“ตรินทร์! มึงยังไม่ตาย! ...มึงยังไม่ตาย!..”

ไอ้แป้นเข้ามากอดผม ร้องไห้ไปกอดไปแถมยังมาเช็ดหน้าที่เสื้อผมอีก คือน้ำมูกน้ำตามึงเลอะเสื้อกู… กูยังไม่ตายแต่ถ้ามึงไม่ปล่อยกูเดี๋ยวมึงจะตาย...

“ไอ้เรด...ไอ้ตรินทร์ ! ไอ้ตรินทร์ ตัวเป็นๆ!”

ไอ้แป้นกอดผมไว้แน่นแล้วหันไปบอกไอ้เรดที่ตาแดงๆ ซ้ำยังตาบวมเหมือนร้องไห้มาทั้งคืน แต่สภาพกูไม่รับรู้อะไรแล้ว… ถ้ากูมีสติมากกว่านี้พวกมึงโดนชกแน่โทษฐานมาแตะต้องตัวกู ..แต่ตอนนี้กูเบลอขั้นเทพแล้ว กูนิ่งแล้วไม่ไหวจริงๆ กำลังจะเข้าไปนั่ง

แรงกอดขนาด 400 ตันก็โถมเข้ามา! เล่นเอากูตื่นเลย !

..............
............................


..ไอ้โฆ ตั้งสติได้ก่อน มันกระชากคนที่ก้มกอดผมแน่นจนกระดูกแทบหักให้ออกจากตัวผม แต่ไอ้บ้านั่นมันไม่ยอมปล่อย แรงควายโคตร สัดอะไรเล่นหายง่วงเลย!

“ภินทร์....ภินทร์...”

มันครางเรียกชื่อใครก็ไม่รู้ แต่ดันเสือกมากอดผม นี่มึงเมาใช่ไหม? สัดปล่อยกู! ผมสะบัดมันออกแล้วผลักไปเต็มแรง หันไปเห็นมันเต็มๆ ตัวใหญ่โคตร! แต่ยังไม่ทันทำอะไรไอ้โฆเดินเข้ามาบังผมไว้จากมัน...ส่วนผมได้แต่ยืนนิ่ง ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นตัวจริงของยักษ์! ยักษ์ตัวเป็นๆ!

แววตาสีดำสนิท มองหน้าผมแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน มันเดินตรงเข้ามาจับหน้าผมหันซ้ายหันขวา สีหน้ามันทั้งตกใจทั้งแปลกใจ… ไอ้โฆพยายามจะดึงมือมันให้ปล่อยผมแต่แรงไอ้โฆมันจะไปสู้พวกยักษ์ได้ยังไง...

ผมตั้งสติได้ก็ดึงมือมันออกแล้วพลิกตัวแตะขาฟาดกะให้โดนใบหน้านั่น แต่มันแค่เอามือตั้งการ์ดก็กันผมได้หมด...
ต่างกันเกินไปถ้าจะให้พวกผมสู้กับยักษ์…

“ภินทร์ ไปไหน? มึงเป็น ใคร?...มึงไม่ใช่ ภินทร์?! ไม่ใช่ ภินทร์? ”

ไอ้ยักษ์นั่นเหมือนละเมอออกมา....

มันมองลึกลงไปในตาผมเหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง...แต่ขอโทษหวะกูไม่มี ! อาศัยจังหวะนี้ล่ะ ผมฟาดแข้งใส่หน้ามันเต็มๆ !
..............................
.....แต่เหมือนฟาดใส่เสามันนิ่งมาก ก่อนจะก้มหน้าลง ปาดเลือดที่ค่อยๆซึมลงมาตามมุมปาก.....แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

“กร้า....ผมขอคุยด้วยหน่อย....”

ไอ้ยักษ์มันเรียกไอ้กร้าที่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วกว่าต่อมรับความรู้สึกของมัน... สักพักมันถึงหันมามองผมทีมองไอ้ยักษ์ที จนสุดท้ายหันไปมองไอ้โฆ ไอ้โฆเลยพยักหน้าให้มันตามไอ้ยักษ์ตัวนั้นไป.....

..............
............................


"มึงไปทำไอ้ตรอมมันทำไม? "

...ไอ้กร้าเงยหน้าถามผมระหว่างกินข้าวหลังจากในกลุ่มเงียบไปนาน...

ไอ้กร้าไปคุยกับไอ้ยักษ์นั่นแล้วเดินกลับมาแค่คนเดียว...กร้ามันเดินมาเรียกไอ้โฆให้ไปคุยกับไอ้ยักษ์ ผมกำลังจะเดินตามไปด้วยแต่ ไอ้เรดดึงมือผมเอาไว้ก่อน ผมถึงได้มองหน้ามันแบบตั้งคำถาม ซึ่งไอ้เรดมันก็คบกับผมมานานอยู่มันรู้ว่าผมต้องการจะรู้อะไร

“อะตรอม… เรียนคณะเดียวกับมึง มึงเองยังไปค้างบ้านมันเลย เวลาไปห้องซ้อมมันก็ไปนั่งเฝ้ามึง”

“ ?! ”

ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง แต่พอหันไปมอง ไอ้แป้นกับไอ้กร้าก็พยักหน้ารับ...พวกมึงแกล้งอำกูใช่ไหมเนี้ย?

“อะตรอมมันคงเสียใจ มันยิ่งไม่ค่อยมีเพื่อน อยู่ๆมึงก็มาทำกับมันแบบนี้ ....กูสงสารมัน”

ไอ้แป้นบ่นงึมงำดูจากสีหน้าแล้วไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วหล่ะมั้ง แล้วสิ่งที่ผมไม่รู้ก็พรั่งพรูออกมา

เรื่องไอ้คิงส์? เรื่องผมย้ายคณะ!? เรื่องผมทิ้งไอ้โฆ? ผมนี่นะ! ทิ้งไอ้โฆ?  เรื่องจีบหญิง? เรื่องร้องเพลง? บลา บลา บลา...
...และสุดท้ายเรื่องที่ผมย้ายไปอยู่กับไอ้ยักษ์นั่น....สาดดดดดด! อยู่กับยักษ์ตัวเป็นๆอะนะ!?พวกมึงอำกูแหล่ะ!

..............
............................

Part กร้า

..อย่าถามผมนะผมไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น... แต่ที่แน่ๆ ตรินทร์ กลับไปเป็น ไอ้คุณชายตรินทร์ อย่างสมบูรณ์ พูดน้อย ต่อยหนัก...แถมยังติด ไอ้โฆแจ เหมือนเดิม

...แต่จะว่าไปผมชอบ ตรินทร์ ที่อยู่กับ อะตรอม มากกว่านะ ตรินทร์ ที่ยิ้ม ตรินทร์ที่รักษาความกระล่อนได้แบบคงเส้นคงวา มันไม่น่าอึดอัดเท่า ตรินทร์ ในตอนนี้...

...บางที การเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย มันก็ดีกว่าเป็นคนเดิมที่ไม่รู้ใจ...

คุณน่าจะได้เห็นสภาพ อะตรอม เมื่อคืน แล้วยังจะเมื่อเช้าอีก ตอนที่ไอ้แป้นตัดสินใจโทรไปหาไอ้โฆเรื่อง ตรินทร์ แล้วรู้ว่ามันอยู่กับ ตรินทร์ อย่างปลอดภัย พวกเราก็เหมารถกลับกรุงเทพกันเดี๋ยวนั้นเลย ความจริงอะตรอมมันอยากไปหา ตรินทร์ที่บ้านเลยมากกว่า แต่ไอ้เรดยั้งไว้ก่อน เพราะรู้กันดีว่า ที่บ้านหลังนั้น ไม่น่าแวะไปเท่าไหร่...เลยนัดให้มาเจอกันที่มหาลัย คิดว่าอะตรอมจะดีขึ้นถ้ามันเจอ ตรินทร์

..แต่เปล่าเลย ตรินทร์ ตอนนี้ไม่ใช่ตรินทร์ของอะตรอมแล้ว เรื่องนี้พวกผมรับรู้ได้ตั้งแต่ยิ้มให้ตรินทร์แล้วไม่มีรอยยิ้มตอบ...
แต่อะตรอมยังไม่รู้เรื่องเลยโดนหางเลขไปเต็มๆ

ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องของตรินทร์ให้อะตรอมฟังยังไงดีเลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดเรียกไอ้โฆมา...

...แล้วมันก็พูดแค่ประโยคเดียวที่ครอบคลุมทุกอย่าง…

“ตรินทร์ เป็นของกู… ภินทร์ ของมึงไม่มีแล้ว....”

...เกือบจะเกิดมวยขึ้นอีกหลังประโยคนั้น…

แต่อยู่ๆอะตรอมมันก็หันหลังเดินกลับไปที่คณะบริหาร โดยไม่หันมามองพวกเราอีก....

‘ภินทร์ของมึงไม่มีแล้ว’

ชื่อนั้นหมายถึง ไอ้แสบที่ยิ้มเก่งคนนั้นใช่ไหม? ไอ้แสบที่คอยดูแลเทคแคร์พวกเราทั้งเรื่องการกินการเรียนใช่ไหม? จะไม่มีไอ้แสบนั้นแล้วหรอ? สมองกับความทรงจำของ ไอ้ตรินทร์มันกลับมาแล้วงั้นหรือ?

..............
............................

Part อะตรอม


‘เมาให้ตายก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็มีอะตรอมคอยดูแลให้ '

ประโยคอ้อนๆ กับสีหน้าเปื้อนยิ้มที่ทำให้ใจอ่อนได้ทุกครั้ง…

มันยังวนเวียนอยู่ในหัว รอยยิ้มกว้างที่ทำเอาผมแทบลืมหายใจ ‘เพื่อนสนิท’ หึ เพื่อนสนิทหรอ? ทั้งๆทีคิดว่าได้เพื่อนที่สนิทที่ดีสุดไว้แล้ว ทั้งๆทีคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่าง ‘คน’ ธรรมดาแล้ว ทั้งๆที่สนิทมากมายขนาดนั้น....

ทุกอย่างมันก็หายไป เพียงข้ามคืน... รู้ไหมเมื่อคืนนี้ผมอยู่ในสภาพไหน? เมื่อคืนนี้ผมแทบบ้าแค่ไหน? เมื่อคืนนี้ผมเสียใจแค่ไหน? ผมผิดใช่ไหม? ที่ดูแล ภินทร์ ไม่ได้....ผมขอโทษ… ขอแค่โอกาสอีกครั้งได้ไหม?

…เคยคิดว่าขอโอกาส ภินทร์ แค่อีกครั้ง...แต่มันคงไม่มีแล้วใช่ไหม? แววตาคู่นั้น ไม่มีผมอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม? ภินทร์ ครับ…
…ผม ขอโทษ… ผม ขอโทษ...

..............
............................

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 25-04-2012 13:11:02



   มาหลบอยู่หัวข้อนี้เอง มิน่าล่ะถึงมิมีความเคลื่อนไหวในหัวข้อเดิมเลยง่ะ




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 25-04-2012 13:35:04



   ง่า. . . เค้าไม่เคยอ่านบทที่ 3 กะ 4 มาก่อนเลยง่ะ
   หนูพะแพงโดนหม่ำไปแล้วจริงๆด้วย

 

 
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!23# Dark body. แสงที่เคียงข้าง...
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 14:32:50
บทที่ 23 Dark body. แสงที่เคียงข้าง...

กาลกิระตี พื้นปฐพีแห่งแสงวัน           
กระแสสินธุ์ อุดมอัน เป็นมารดา แลบิดร
ทั้งข้าและปวงเจ้า ต่างร่วมเผ่าใต้นภาภรณ์   
สถิตคู่ทินกร ลืมหรือ...ข้ายังรัตติกาล
ลางโผผินกลางแสงจันทร์ ลางหลับฝันใต้พงไพร 
ลางซ่อนร่างในรูปเหยื่อ ลางเผยเนื้อล่อให้หาย(นะ) 
ลางบางคืนคืบคลานคลาย ขย้อนหยอกแล้วกัด(กิน)กลืน
..............
............................

[อดีต]Part ภัทร

“ฉันกำลังจะตาย...”

...กี่วันแล้วที่ฉันอยู่ที่นี่ ในห้องเหล็กห้องนี้ .....

ความอึดอัดที่ทรมาน...ความมืดคือสิ่งแรกที่ฉันรับรู้ มันเหมือนกับฝันที่อยู่ๆคุณก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ต่างกันฉันรู้ รู้ว่าถ้าไม่ออกไปจากที่นี้ ฉันจะตาย...แขนขาที่ขยับเขยื้อนไม่ได้ บวกกับความมืดมิด ทำเอาฉันไม่รู้เลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน

...ไม่รู้แม้กระทั้งแขนขาตัวเองอยู่ตำแหน่งไหน แต่สิ่งหนึ่งที่พอรู้สึกได้ลางๆ ฉันได้ยินเสียง ไอ้พี่หมอ เสียงสะอื้นแปลกๆ เหมือนเสียงคำรามของตัวอะไรสักอย่าง เสียงที่ลอยมาจากที่ไกลๆ ภาพต่างๆเริ่มผุดขึ้นมาในหัว ภาพสุดท้ายที่ฉันเพิ่งนึกได้ แววตาวาวในความมืดที่จ้องมองฉัน ฉันรู้ว่านั้นคือ ไอ้พี่หมอ แต่แววตานั่นมันไม่ใช่แววตาของ ‘คน’ แน่เมื่อมันสว่างเหลือเกินในความมืด ถึงจะน่ากลัวไปบ้างแต่นั่นคือ ‘แสงสว่าง’ เดียวที่ฉันรู้สึกได้ มือเย็นๆสากๆ ลูบแก้มฉันเบาๆ เสียงของ พี่หมอ ที่พร่ามอะไรบ้างไม่ก็รู้ เพราะที่รู้สึกได้ตอนนั้นฉันกำลังโดนอะไรบางอย่างกรีดเข้าที่คอซ้ำๆ มันเย็นวาบตามแรงกดที่ลาก จากขวาไปซ้ายซ้ำไปซ้ำมา

..............
............................

“ไม่ต้องห่วงมันไม่ทรมาน...เดี๋ยวมันก็จบ...”

..............
............................

หลังจากประโยคนั้น ฉันก็สำลักของเหลวอุ่นๆ ออกมา...

บอกไม่ได้หรอกว่ามันคือเลือดหรือเปล่า เพราะจมูกมันไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ร่างกายที่ขยับเขยื้อนไม่ได้ทำให้ฉันได้แต่จ้องแววตาสีวาวนั้นจนภาพทุกอย่างมืดลง ทั้งๆที่ลืมตา...ประสาทรับรู้ทั้งหมดดับสนิท ฉันไม่เห็นอะไร ไม่รับรู้อะไร ... ฉันกลัว..

...หมอ....ภัทร กลัว.....

..............
............................

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 25-04-2012 14:33:17
 :z13: :z13: :z13: จิ้มคนแต่งงงงง
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!24# Another Breath .อีกฟากของทะเลน้ำตา
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 14:36:10
บทที่ 24 Another Breath .อีกฟากของทะเลน้ำตา
Part พะเตรียง


สายฟ้า... ฟาดแสงสีเงินลงพื้นดิน มาพร้อมกับแรงกดของคมกริชที่แทงลึกลงบนร่างบางแห่งบุรุษ ...
เสียงคำรามก้องที่ดังตามมาเหมือนดึงสติให้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวด

…นางผู้ก่อเหตุทรุดลงกับพื้นทันทีที่ปล่อยมือจากด้ามกริช เหตุแห่งคมกริชนั้นครึ่งหนึ่งมาจากความเชื่อใจ ความเชื่อใจที่ผิดพลาดจนต้องแลกด้วยชีวิต

..............
............................

แววตาคู่งามแห่งบุรุษนั้นหาได้คงโทสะ แววตาแห่งรักอันปราณีเคลือบแววสงสัย กวาดตามองไปยังนางนาม ‘พะเตรียง’ ก่อนที่จักทรุดตัวลงกับพื้น เบื้องหน้านาง

“เหตุใด พะเตรียง…แม้แต่เจ้าก็อยากให้ข้าสิ้นกระนั้นรึ?...”

คำถามนั้นมีแด่นางอันเป็นที่รัก...

แต่เหมือนผู้ถามมิใยดีกับคำตอบ เมื่อแววตาสีวาวหลุบลงต่ำแล้วปิดลงเสมือนไม่อยากมองภาพใด...ไม่แม้แต่จักฟังคำอธิบายถึงเหตุแห่งการกระทำ...

พะเตรียง เพิ่งสำนึก ตนนั้นกระทำสิ่งใดลงไป ‘รัก’ รักมากเหลือเกิน เพลานี้ ‘พะเตรียง’ เพิ่งรู้ว่าตนรักใน ‘องค์ภังคียะ’ มากเพียง
ใด ไม่ต้องการเลือกสิ่งใดแล้ว ไม่เอาแล้วศักดิ์แห่งรานีย์…
   
'ข้า รักในองค์! ข้าจักเป็นนายหญิงแห่งองค์เท่านั้น! ข้ารักในองค์เท่านั้น!… '


...

หากแต่รักนั้นกำลังหลุดลอยไปพร้อมกับเปลวชีพที่กำลังดับแห่งองค์ …ด้ามกริช นั้นยังปักคาอยู่ ณ ช่วงเอวแห่งบุรุษ หยดเลือดที่ไหลซึมเป็นสายค่อยๆเอ่อนองไปทั่วโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...

...นางค่อยๆคลานเข้าใกล้ร่างที่กำลังสิ้น อุ้งมือเล็กๆแห่งนาง แม้พยายามดึงด้ามกริชนั้นเพียงใดแต่ก็ไร้ผล สองมือเล็กนั้นสั่นเทาและลื่นไปด้วยเลือด สิ่งสุดท้ายที่นางพอจะนึกออก ก่อนหยาดน้ำตาจักบดบังทุกสิ่ง หมดเพลาคร่ำครวญ หากมั่วแต่ร่ำร้องจักได้สิ่งใด? ยัง! ยังพอมีหวัง!

... อำพันสีทองนั้นสิ่งนั้นยังพอให้ความหวัง! ก่อนเปลวชีพเบื้องหน้าจักดับลง…

นางกระชากตลับสายสร้อยอันเป็นของประจำเชื้อสายออกมาจากลำคอระหง ทุบตลับแก้วนั้นกับหินก้อนใหญ่ เพียง สองสามครั้ง ตลับแก้วนั้นก็แตกออกเผยให้เห็น เม็ดหินกลมสีอำพัน ขนาดปลายนิ้วก้อย กลิ้งหล่นอยู่เบื้องหน้า พะเตรียง ตะคุปคว้าแล้ว พยายามยัดมันเข้าริมฝีปาก องค์ภังคียะ ที่ใกล้หมดลม คล้ายดั่งว่า เม็ดอำพันนั้นจักช่วยชุบชีวิตที่กำลังริบหรี่ให้หวนคืน…

“กลืนเข้าไปเพคะ แค่กลืนเข้าไปเท่านั้น กลืนเข้าไปก่อนชีพองค์จักดับ เพียงเท่านั้น”

เพียงชั่วเสี้ยวที่เม็ดกลมสีอำพันหลุดลงลำคอ ร่างบุรุษนั้นก็สงบนิ่งรอยยิ้มบางยังคงฉาบอยู่บนใบหน้า รอยยิ้มที่เคยมีให้ พะเตรียง เสมอ หากแต่บัดนี้รอยยิ้มที่ปรากฏกลับเป็นรอยยิ้มสุดท้าย พะเตรียง ก้มกอดร่างอันไร้วิญญาณไว้แน่นและแทบไม่เชื่อตนเองว่าร่างนั้นจักค่อยๆสลายหายไปกับอากาศธาตุ…

...ก่อนทุกอย่างจะมลายเปลวไฟสีม่วงครามแพร่ไล่ลามออกตามรอยเลือดที่เจ่งนองก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมแดงแล้วเลือนหาย…หลงเหลือไว้เพียงกริชด้ามยาวที่นางกำแน่นไว้กับมือ เม็ดอำพันสีทองนั้นสลายไปพร้อมกับเปลววิญญาณ ทุกสิ่งทิ้งไว้เพียงความทรงจำ...





...เสียงกรีดร้องแห่งนางดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขา!




“มหินทรา ท่านหลอกลวงข้า!”

...........................................................
...................


“จักลอยไป ณ ที่ใด? จักสถิต ณ แห่งไหน? รอ พะเตรียง นะเพคะ… พะเตรียง จักติดตามไปทุกภพชาติ… รอพะเตรียง นะเพคะ… องค์ภังคียะ รอ พะเตรียง!”

..............
............................

..
เสียงกรีดร้องเรียก นามนั้นยังคงได้ยินอยู่ทุกค่ำคืน พระแพง รู้ดีว่าเธอเกิดมาเพื่อใคร คนเพียงคนเดียวที่เธอรัก และจะยังรักตลอดไป ภัทร เป็นของ พระแพง เหมือนที่ องค์ภังคียะ เป็นของ พะเตรียง จักมิมีมันตนใด หรือเล่ห์อันใดจักขัดขวางอีกแล้ว ....รอนะเพคะ ...รอพะเตรียง....

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 25-04-2012 14:37:47
 :z2: :z2:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!25# Finding.ยุทธการตามล่า "ยักษ์"
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 14:50:17
บทที่ 25 Finding.ยุทธการตามล่า "ยักษ์"
Part ภินทร์


“...ว่าไง คุณษิตรินทร์?”

“ครับ?!”

ผมขานรับแบบอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงเรียบเย็นๆ เรียกชื่อผม…

...บรรยากาศรอบข้างดูแปลกๆ ผมกำลังฝันหรือเปล่า? เพราะความรู้สึกสุดท้ายที่จำได้ผมกำลังจะตายเพราะโดนกดน้ำ....

..แต่…

ผมไม่ได้อยู่ที่ชายหาด… ตอนนี้ผมอยู่ในห้องเรียน…แถมยังมีสายตาอาฆาตของอาจารย์ที่สอนมองมาแบบโหดๆ

“ครับ?”

ผมมองไปที่อาจารย์อีกครั้งอย่างงงๆ เกิดอะไรขึ้น? แล้วไม่ได้ฝันใช่ไหม? ถ้าไม่ได้ฝันตอนนี้ผมอยู่ในห้องเรียนแล้วอะตรอมล่ะ?

“ไม่ต้องหันหาใคร ผมถามคุณว่า ‘ใครเป็นพ่อนางสีดา?’

“…ทศกันต์ครับ?”

รอยยิ้มแปลกๆของ’จารย์โมทย์หุบลงเหมือนจะผิดที่ผมตอบได้อยู่ๆคำถามของอาจารย์ก็ยิงมาแบบ NONSTOP

“มัจฉานุ”

“หนุมาน?”

“อินทรชิต”

“ทศกันต์?”

“พระมงกุฎ”

“พระราม?”

“องคต”

“พระอินทร์?”

“หนุมาน”

“พระอิศรและพระพายครับ?”

...คำถามหยุดลง พร้อมๆกับเสียงตบมือของเหล่านิสิต ที่มองผมอย่างอึ้งๆ ทำไมอะ?คำถามไม่ได้พิศดารอะไรสักหน่อย? ‘จารย์ โมทย์ก้มหน้านิ่งไปสักพักก่อน จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยแววตาวาว อย่าง...เอ่อ ....น่าสยอง...

“อสูรผัด!”

“หนุมานครับ?”

เสียงเฮมีขึ้นมาอีกครั้งก่อน ‘จารย์โมทย์จะก้มหน้าลงไปแล้วให้น้องนิวขึ้นมาพูดแทน..

ผมเห็นแววตาวิ้งๆของน้องนิวแล้วบอกตามตรงอดขำไม่ได้

“สรุปว่าจากการช่วยเหลือของ คุณษิตรินทร์ งานปีนี้ บริหารปีหนึ่งของเราจะออกร้านกาแฟและประมูลของหารายได้เข้าคณะนะค่ะ ส่วนรายละเอียดของงานคร่าวๆเราจะให้พี่เอมอธิบายต่อนะค่ะ”

หลังจากนั้นก็บลาๆๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย…

มองหาอะตรอมก็ไม่เจอหันซ้ายหันขวาอยู่นานกว่าจะตัดสินใจขอตัวออกไปข้างนอกห้อง …แต่ก็สวนกับไอ้บัพเสียก่อน ผมเดินเลี่ยงโดยไม่ทัก ในหัวคิดแต่เรื่องอะตรอม อยู่ๆไอ้บัพก็คว้าข้อมือผมไว้ สายตาที่มันมองผมเหมือนมีคำถาม

“ปล่อยกู...”

“มึงกลับมาทำไม..?”

เสียงของไอ้บัพถามเบาๆ สีหน้าผิดหวังและเจ็บปวดนั่น… แค่ท่าทีของมัน ผมก็รู้ได้ทันที เวลาของผม ใครเป็นคนเอาไป ...น่าขำ ของผมเหรอ? มันมีของผมด้วยเหรอ?

ตรินทร์ กลับมาแล้วสินะ…

และตรินร์ก็น่าจะเข้ามาแทนผมตั้งแต่ตอนอยู่ที่ชายหาด และเพิ่งจะหายไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา… เพราะผมเข้ามาแทน...

…ไอ้บัพปล่อยมือผมแล้วยื่นนิ่งอยู่แบบนั้น ผมรู้ว่ามันทรมานแต่จะให้ผมทำยังไง?

‘ตอนนี้เป็นกูที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ตรินทร์ อย่ามาใช้สายตาอย่างนั้นมองกู’

ผมเดินห่างออกมาจากไอ้บัพ…

ลองล้วงกระเป๋าดูมีเงินอยู่ประมาณแปดพันกว่าส่วนบัตรคงต้องวัดดวงเรื่องรหัสเพราะไม่รู้ว่าช่วงที่ผมหลับ ตรินทร์ เปลี่ยนรหัสหรือเปล่า อีกเรื่องที่สำคัญกุญแจห้อง อะตรอม อยู่ที่ไหน? อีกข้างของกระเป๋ามีโทรศัพท์เครื่องเล็กอยู่กดเช็คดูแล้วยอดเงินยังเหลือเต็มสตรีมก็แน่หล่ะคนอย่าง ตรินทร์ คนที่เป็น ไอ้บัพ คูณสองจะโทรหาใครเป็น…

เดาเอาเลยคนแบบนั้นนอกจากรับแล้วไม่เคยโทรออก

...ผมกดเบอร์ที่อยู่ในหัวทันที เบอร์ของคนที่อยากเจอที่สุด

‘อะตรอม’

..............
............................

หง่ะ!…ไม่มีการรับสาย...

ทั้งๆทีมีเสียงเพลงเรียกเข้า อะตรอม คงไม่ไดเกลียดผมแล้วใช่ไหม? ผมจะบ้า!โทรศัพท์ผมก็ ไม่รับ!ไปหาที่หอก็ไม่อยู่! ห้องมันปิดเงียบแถมล็อคกุญแจตัวใหญ่… แม่กุญแจที่ผมไม่มีลูกกุญแจ เชี่ยตรินทร์มันเอากุญแจไว้ไหน!? ไอ้เด็กพวกนั้นมันทำอะไร อะตรอม...หรือเปล่า ? เกินไปแล้วนะมึง! อารมณ์ผมตอนนี้เหวี่ยงสุดๆ มันพาลไปหมด ผมติดต่อ อะตรอม ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ห้อง ที่ร้านถามพวกเด็กๆ มันก็ไม่รู้เรื่องอะไร เหมือนไอ้ยักษ์ของผมจะเป็นธาตุอากาศ เหลือตัวเลือกสุดท้าย ‘แพงตรอน’ แต่ที่แย่ ผมไม่มีเบอร์แพงตรอน...

..............
............................

…คิดว่าแค่นี้จะยอมหรอ ผมไม่เชื่อหรอกว่าสสารมันจะหายไปเองได้ ความพยายามเท่านั้นที่ครองโลก!







[‘ราชบุรี 14.32 น.’]


ในเสี้ยวของความทรงจำ… ตอนเป็น ภัทร ก็เคยตีรถไป-กลับต่างจังหวัดบ่อยๆ เพื่อเสนองานให้ทันภายในครึ่งวันมาแล้ว กับไอ้แค่ต้องตาม แพงตรอน ที่ราชบุรี แค่นี้กระจอก!แต่ไอ้ที่ต้องมายืนรอหน้าโรงเรียนหญิงล้วนนี่สิเล่นเอาทำตัวไม่ถูก…

เหมือนกลับไปโรงเรียนเก่าอีกครั้ง…

ผมติดต่อยามหน้าประตูแล้ว ยืนรอเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าซิสเตอร์ จะพา แพงตรอน ออกมาพบ แพงตรอน มีสีหน้าไม่ดีนิดหน่อย แต่พอเห็นผม ก็เหมือนจะพอยิ้มออกมาได้ เมื่อมี แพงตรอน ยืนยันว่าผมเป็น ลูกพี่ลูกน้องจริง ‘เตอร์ถึงได้เชิญให้ไปคุยกันที่ห้องรับรอง...

“พี่ติดต่ออะตรอมไม่ได้...”

ผมบอก แพงตรอน ทันทีที่เธอนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม

“พี่อะตรอมไม่สบาย พ่อเลยเรียกให้กลับบ้าน”

แพงตรอน ตอบไม่เต็มเสียง แถมยังจ้องมองลึกลงไปในตาผม ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเหมือนข่มอารมณ์

“เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ไม่รู้อะไรเลย....หรอ?...คะ?”

น้ำเสียงประชดสุดๆ ไอ้ ‘คะ’ ประโยคสุดท้าย ถึงมีมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย

“พี่ภินทร์ รู้ไหม การถูกเรียกกลับบ้านใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะคะ...ถ้าพี่เจอพี่อะตรอม พี่จะทำอะไร พี่ตามพี่อะตรอมมาทำไม?”

เด็กสาวข้างหน้าผมตอนนี้อย่างกับทนายที่คอยซักลูกความ เหอเหอเหอ... ถ้าไม่บอกมาก่อนว่าผมสนิทกับ แพงตรอน มากเมื่อก่อน ผมคงคิดเอาเลยว่าเด็กสาวข้างหน้าผม ไม่อยากให้ผมพบพี่ชายเธอ

“ก็อะตรอมมันไม่สบายไง พี่เลย ...ตามมาเล่านิทานให้ อะตรอมฟัง...แล้วพี่ก็จะกลับ...แค่นั้น ที่เหลือก็แล้วแต่มัน...”

..............
............................




[17:55 น.]


...ตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านอะตรอมครับ...

แพงตรอน พามา… บ้านหลังใหญ่ทรงไทยที่ดูกว้างมากกกก! แต่เหมือนบรรยากาศมันจะพาให้รู้สึกอึดอัด...คิดไปเองหรือเปล่า…เหมือนผม คุ้นเคยกับทางเข้าบ้านหลังนี้?…อยู่ๆหัวก็ปวดจี๊ดขึ้นมา ทำเอาผมหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น...แล้วก้าวตามแพงตรอนขึ้นไปที่ชั้นบน....

“พงศ์หิรัญ”

ชื่อจริงของ อะตรอม ถูกสลักบนหน้าประตู...ดูเป็นการเป็นงานอย่างบอกไม่ถูก

แพงตรอน เคาะประตูแล้วเรียก อะตรอม…แต่เสียงตะหวาดเหวี่ยงอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินดังออกมาจากในห้อง....บอกตามตรงว่าตอนนี้กลัวมาก...ที่อยู่ในห้องนั่น อะตรอม จริงหรือเปล่า?!

สักพักกว่าแพงตรอนจะเปิดประตูห้อง อะตรอม แล้วก้าวเข้าไปข้างในทิ้งให้ผมยืนรออยู่ข้างนอก...

“วันนี้คนในบ้านไม่อยู่...คงไม่เป็นไร แต่พี่ภินทร์ คุยเร็วๆหน่อยก็ดีนะ ....หนูกลับก่อนนะ บายพี่...เอ่อ ขากลับให้พี่อะตรอมพากลับนะ อย่าออกมาคนเดียว ”

แพงตรอน ออกมาจากห้องแล้วพูดๆๆๆสั่งๆๆๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าเดินตัวปลิวออกไปทิ้งผมไว้หน้าห้องอะตรอม ….

…เสียงฝีเท้าข้างในดังมาหยุดอยู่ที่ประตู แต่ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากหลังประตูบานนั้น....

เงียบไร้การตอบสนอง ... ผมนั้งหันหลังพิงประตูไม้บานใหญ่ อะตรอมคงอยู่หลังประตูบานนี้ เราห่างกันแค่ประตูกั้นเองมั้ง...ห่างแค่นี้แต่ทำไมเหมือนมันไกลกันมาก มากจนถ้าเดินออกไปอีกเพียงก้าวสองก้าว ผมอาจไม่ได้เห็นมันอีก

“อะตรอม มึงได้ยินกูไหม? วันนี้กูทุ่มทุนสร้าง ตีรถมาหามึงเลยนะ...จะว่าบ้าก็ได้นะ ที่มาก็แค่กูอยากมาเล่านิทานให้มึงฟังเรื่อง ....เรื่องหนึ่ง...เล่าเสร็จเดี่ยวกูก็กลับแล้ว มึงก็พักผ่อนไปเถอะนะ...”

เงียบไร้การตอบสนอง แต่ผมรู้สึกนะว่ามันยืนอยู่หลังประตูบานนั้น

“กาลครั้งหนึ่ง มันคงไม่นานมั้ง... มีเจ้าชายอยู่องค์หนึ่ง... โดนสาป... ถ้าเจ้าชายหลับ...ก็จะมี ปีศาจตื่นขึ้นมาแทน แล้วถ้าปีศาจหลับองค์ชายก็จะตื่นขึ้นมา...จนอยู่มาวันหนึ่ง...วันไหนไม่รู้สินะ คงจะสักวัน.... ตอนจบของนิทานมันต้องเป็นอย่างนั้น.. แต่มึงไม่ต้องกังวลหรอก ....สักวัน ปีศาจก็จะหายไปตลอดกาล แล้วเจ้าชายก็จะอยู่อย่างมีความสุข ชั่วนิรันดร์...”

ใช่สิมันต้องจบอย่างนั้น... ปีศาจก็จะหายไปตลอดกาล ... แล้วเจ้าชายก็จะอยู่อย่างมีความสุข ชั่วนิรันดร์...ยิ่งคิดผมก็ยิ่งรู้ตัว น้ำตามันไหลมาจากไหนกันนะทำไมมันมากขนาดนี้ ร้องทั้งๆที่ไม่มีเสียง สะอื้น มันทรมาน....

เสียงเปิดประตู เบาๆ ดังออกมาจากห้อง แต่ผมไม่ได้เงยหน้ามองมันหรอก ทำไม น้ำตามันไหลมากขนาดนี้...เลยนะ

“เจ้าชายก็จะอยู่อย่างมีความสุข ชั่วนิรันดร์...จริงๆหรอ? ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่ไหม?”

อะตรอมที่มานั่งข้างๆผมถามขึ้น เสียงมันสั่นๆ ผมได้แต่พยักหน้าทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่ ฝ่ามือใหญ่นั้นลูบหัวผมเบาๆ มันอบอุ่นมากๆ เลยนะแต่ทำไมมันเรียกน้ำตาผมให้ออกมามากกว่าเดิม...

“เจ้าชายจะร้องไห้ทำไมครับ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะจบลงด้วยดี...”

อะตรอมพูดปลอบไปลูบหัวไป แต่ประโยคนั้นทำผมนิ่ง นิ่งจนไม่อยากแม้แต่จะหายใจ.... แต่มันก็ต้องจบอย่างนั้นสินะ...บางทีผมคงต้องยอมรับความจริง..เสียที..

“ขอโทษนะอะตรอม....”

ผมเงยหน้าขึ้นแต่ยังจับมือของมันที่วางอยู่บนหัวให้มาทาบหน้าตัวเอง ฝ่ามือใหญ่ที่แสนอบอุ่น ถ้ามันจะหายไป ผมก็รั้งมันไว้ไม่ได้ ทุกอย่างผมทำตัวเอง...

“อะตรอม กูขอโทษนะ...ที่กูจะบอกมึงว่า....กูเป็นปีศาจตัวนั้น กูไม่ใช่เจ้าชาย สักวัน ที่หายไปก็จะเป็นกู...”

พอแล้ว..พอเสียที... ผมจะหลอกตัวเองทำไมจะหลอกคนอื่นทำไม ในเมื่อสุดท้าย ความจริงก็คือความจริง พอแล้วพอแล้วมันควรจบอย่างที่มันต้องจบผมปล่อยมืออะตรอมลงแล้ว ค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นขาแทบไม่มีแรง...

...อะตรอมยังนั่งอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกเหมือนที่สนามบาสนั่นเลย ความรู้สึกตอนโดนไอ้บัพหันหลังให้ ผมโดนไอ้บัพทิ้ง โดนทิ้งเพราะผมไม่ใช่ ตรินทร์ มันจะไม่หันกลับมา ไม่มีวันหันกลับมา อะตรอมก็เหมือนกัน มันจะไม่มีทางลุกตามผมมา เพราะผม...ไม่ใช่เจ้าชาย ของมัน...  


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!26# One and only .เจ้าชายนิทรา
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 14:54:41
บทที่ 26 One and only .เจ้าชายนิทรา
Part ภินทร์


...ลงจากบันไดบ้านอะตรอมมาได้...

ก็ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวเลย ผมไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุดผมไม่รู้หรอกนะว่าอะตรอมจะเชื่อนิทานที่ผมเล่าหรือเล่า เรื่องที่ฟังดูเหมือนนิทาน...

ชิ!... เหมือนนิทานทั้งทียังเสือกเป็นตัวร้ายอีก ไอ้ภินทร์เอ้ย! แล้วน้ำตามันจะไหลไปถึงไหนเนี้ย! กูรำคาญแล้วนะ!...

..............
............................

…แล้ว....แล้ว...ที่นี่มันที่ไหนเนี้ย???!!!

...ผมหยุดยืนอยู่...เอ่อ...สักที่ในบ้านอะตรอม มั้ง? ประตู ไม้บานใหญ่แกะเป็นรูปยักษ์ทั้งสองบาน ภาพแกะแบบนูนสูง เหมือนยังกับพวกยักษ์ข้างในจะก้าวออกมาได้

...สายลมที่พัดผ่านทำเอาผมเย็นยะเยือก ...

มันไม่ได้พัดมาจากด้านหลัง อย่างที่ควรจะเป็น มัน...พัดออกมาประตูบานนั้น ทั้งๆที่มันปิดสนิท ...เอาแล้วไงกู ...ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ…

ขยับครับ....ขยับ...

แต่ไม่ใช่ผมที่ขยับ....เพราะขาผมตอนนี้เหมือนโดนตรึงอยู่กับที่ ...แต่ไอ้ที่มันขยับอะ... พวกรูปปั้นยักษ์ที่อยู่ในบานประตูนั้นต่างหาก...แม่เจ้า ! นี้ผมกำลังฝันใช่ไหม? มันออกมาแย้ววววววววววว !

‘เศษวิญญาณของตนผู้นั้นรึ?เหตุใดครานี้มีกลิ่น สุร เยี่ยงเชื้อสายเรา ’

ตัวที่อยู่หน้าสุดขยับเข้ามาใกล้ผมแล้วยึดจับข้อมือผมไว้…

...มันร้อน...ไปหมด

สาดดดดด!แล้วจะขยับหน้าเข้ามาใกล้ทำมายยยยยยยยย !

‘แถม มีกลิ่นของ ‘นาง’ ติดอยู่ เยี่ยงนั้นครานี้พวก ‘นาคา’ เป็นฝ่ายปราชัยกระนั้นรึ?’

..ตัวที่จับข้อมือผมอยู่หันหน้าที่เหมือนจะติดขัดเวลาขยับไปยังพวกที่เหลือที่ค่อยๆก้าวออกมาจากบานประตูแล้วมารุมล้อมผมไว้เหมือนได้เจอของแปลก ....อีกทั้งยังวิจารณ์กันไปใหญ่

โดยไม่สนใจเลยว่าผมจะรู้สึกยังไง…

กลั๊วววววววว!

‘ยังคงไม่...หากปราชัยจริง ใยนางมิพา เศษปราณนี้ไป? ’

‘ซ้ำปราณนี้ยังมีกลิ่นของ ‘สมิง’ เรื่องนี้พวก นาคา น่าจะยังมิรู้’

‘....หาก...แม้แต่ สมิง...ยังเข้ามาร่วมการแย่งชิงนี้ด้วย...ใยปวงเรามิเข้าร่วม...เมื่อเรื่องมันเริ่มมาจากปวงเรา...จักปล่อยให้นางกาลี กำชัยในครานี้กระนั้นรึ รึปวงเจ้ายอม ’

‘หากแต่กาลนี้ มิต้องทำนายก็รู้ นาง ได้ชัยในครานี้แน่ ขนาด สมิง ที่ถือได้ว่า ซ่อน เก่งยังมิอาจ ซ่อนปราณนี้จากนางได้ ...’

‘งั้นจักล้มกระดานไหม?’

‘…….’

‘นี้เป็นเขตแดนของปวงเรา จักมีใครรู้ว่าเศษปราณ หายไปเยี่ยงไร'

'...ถ้าครานี้ต้องปราชัยต่อ นาง เยี่ยงนี้สู้ล้มกระดานเลยมิดีกว่ารึ ขอรับ? ’

‘.....ซ่อน ปราณนี้เสีย แล้วเก็บไว้ในแดนเรา....เยี่ยงไร ปราณนี้ก็มีเชื้อสายเราอยู่ในเสี้ยวปราณ...เชื้อสายของสุร ก็ต้องอยู่ยังแดนสุร จักปล่อยให้ นาง ได้ไปก็ผิดวิสัย...รึปวงท่านว่าเยี่ยงไร? ’

‘...’

...พวกรูปปั้นยักษ์นั้นเงียบครับ...

เงียบ...เหมือนกำลังใช้ความคิดกันอยู่ ก่อนหนึ่งในนั้นจะพยักหน้า พวกที่เหลือนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วเริ่มจะพยักหน้าตาม จากนั้นทั้งหมดก็หันมาที่ผม! 

‘ถ้าต้องปราชัย ในครานี้...สู้ซ่อนแล้วเก็บปราณไว้เองดีกว่า’

เฮ้ย! พวกยักษ์นี้พูดอะไรกัน?! แถมยังไม่พูดเปล่า เมื่อมือที่ดึงผมไว้เริ่มจับแน่นขึ้นและดึงเข้าไปใกล้ พวกที่เหลือก็เริ่มจะเดินหันกลับเข้าไปในบานประตู จนเกือบหมดแล้ว ตนที่ยึดข้อมือผมไว้ก็ลุกขึ้นหันหลังเหมือนจะเดินกลับเข้าไปในประตูบานนั้น… แต่ยังจับข้อมือผมไว้อยู่ !!
 
‘ไปอยู่ด้วยกัน เถอะ ขอรับ’

เฮ้ย! เตี่ยแกสิ !ไอ้ยักษ์บ้า ! ใครก็ได้ ช่วยด้วย! อยากจะตะโกนให้ใครช่วยนะแต่พอโดนดึง ก้าวข้ามผ่านประตูไม้ไปได้มันก็เหมือนคนจมน้ำมีบางอย่างที่ทำให้อึดอัด...

...แม้จะสูดหายใจเข้าเต็มปอดแต่เหมือนกับไม่มีออกซิเจนเข้าไปเลย....

สมองตอนนี้เหมือนจะเริ่มตัดสวิตซ์ ที่นี้ไม่ใช่ที่ของผม เริ่มรู้สึกแล้วว่าที่นี้ไม่ใช่ที่ของร่างกายนี้...

...กว่าจะคิดได้ทั้งตัวก็ทรุดลงไปกองแทบเท้าของยักษ์ที่ดึงข้อมือผมเข้ามาแล้ว...นี้มัน...

‘ที่ของยักษ์!’

“...ช่วยด้วย อะตรอม...ช่วยด้วย ..ช่วย … ด้วย ....”

ใจจริงผมอยากจะตะโกนนะ แต่พอขยับปากมันก็เหมือน มีน้ำที่มองไม่เห็นเข้ามาแทนที เหมือนจมน้ำ ทั้งๆที่ไม่มีน้ำ แถมยังขยับไม่ได้อีก นี้ผมเจอเรื่องบ้าอะไร ซ้ำตอนนี้ผมยังลากให้ ตรินทร์ มาตายด้วยกันอีก...เพราะผม เพราะผมคนเดียว...

..............
............................


...สายลมเย็นและเม็ดฝน... ปะทะเข้ากับแผงอกกว้างจนเสื้อคลุมหนานั้นเปียกไปด้วยน้ำฝน ร่างใหญ่ไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคันเร่งลงเลย ทั้งๆที่มืออีกข้างนั้นยังจับแน่นกับวงแขนที่โอบเอวตนไว้ เกือบสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงกรุงเทพฯ ...ยังไงก็ให้อยู่ที่บ้านหลังนั้นไม่ได้ ‘พวกตาแก่’ นั่น คิดอะไรกัน...

ดึงคนเป็นๆเข้าไปในเขตแดน น่าสนุกงั้นรึ หากตนไปช้ากว่านี้ จะเกิดอะไร!

...เมื่อก่อนบอกตามตรงว่าไม่เคยสนใจหากใครจะโดนดึงเข้าไปหรือแม้แต่โดนกินมันก็แค่นั้นซากที่เหลือใช้ ‘ศุภะ’จัดการก็ได้ แต่ครั้งนี้มันเกินไปพวกตาแก่นั่นจงใจดึง ภินทร์เข้าไปพอขอคืนก็เกิดเรื่องอีกตาแก่พวกนั้นไม่ยอมส่ง ภินทร์ คืน...เหตุผลรึ?

‘หากให้ ตนผู้นี้กลับไปกลับเจ้า....พวกเราก็ปราชัย... ’

‘หมดหวังชนะ อย่าได้หวัง’

...ผมไม่รู้หรอกว่าพวกตาแก่พูดเรื่องอะไร... 

ผมสนใจก็แต่ ...คนที่โดนดึงไว้ ...คือ ..ภินทร์!

สุดท้ายเลยต้อง แย่งมา!

หึ! กล้ามากเลยไอ้คุณอะตรอม แค่คิดว่าต้องสู้กับพวกตาแก่ มันก็จบแล้ว... แต่พอคิดว่า ภินทร์ จะโดนขังไว้ที่เขตแดน... ทำไมถึงกล้าที่จะสู้นะ...แถมพวกตาแก่ยังยอมปล่อยง่ายๆเสียด้วย แต่ถึงยังไงก็จะวางใจให้ค้างที่บ้านหลังนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าพวกตาแก่วางแผนอะไรกันอยู่...แต่ช่างมันเถอะขอแค่ได้ ภินทร์ กลับมา แค่นั้นก็พอแล้ว....

แค่นั้นก็พอ...แล้วหลังจากนี้ที่ตื่นขึ้นมาจะเป็น ‘ปีศาจ’ หรือ ‘เจ้าชาย’ ค่อยว่ากัน อย่างมากถ้าเป็น เจ้าปีศาจ ตื่นขึ้นมาก็แค่กอดมันไว้แน่นๆ แต่ถ้าไอ้ เจ้าชาย บ้านั้นลุกขึ้นมา ก็แค่หาทางให้มันหลับไปอีก...เท่านี้เรื่องก็จบ

..............
............................


.
.
.



‘…เสี่ยงมากเลยนะขอรับที่ปล่อยตนผู้นั้นไปกับ เจ้าหลานซื่อบื้อนั้น ’   
               
‘แววปราชัย สาดส่องมาแต่เริ่มเลยนะขอรับ...แต่เจ้าหลานกล้ามากนะขอรับ ที่กล้าสู้กับปวงเรา...'

‘คงจะเพราะเป็น 'สิ่งสำคัญ' หน่ะขอรับ ถึงได้ทำให้กล้าขนาดนี้...ยอมสละทุกสิ่งเพื่อ ของสำคัญ..’

‘เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆนะขอรับ ...เพราะเห็นมันมีเชื้อปวงเราถึงได้ปล่อยตนผู้นั้นให้ไป..ที่นี้ก็แล้วแต่มัน...จักสู้นางกาลีนั้นได้รึเปล่า’

'เยี่ยงไร...พวกเราพนันข้างเจ้าหลานไปแล้วนิ...’           
                               
‘ที่เหลือก็สุดแต่ผลสิขอรับ...’     
                                                           
‘ข้าเจ้าเพียงแต่วิงวอน อย่าให้มันซ้ำรอยเดิมเลย...’       
    

...เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบานประตูไม้ ลอยพ้นเขตกำแพงแล้วจางหายไปกับสายลม เหล่ารูปปั้นทั้งหลาย ต่างสงบปากสงบคำ เมื่อคิดไปถึง เจ้าหลาน ที่กล้าแม้แต่จะต่อกรกับเหล่าบรรพบุรุษ เพียงเพื่อสิ่งสำคัญ...   
                                           
‘หากแม้ได้ยลเพียงยิ้มนาง... ต่อให้ต้องพินาศทั้งวงศ์วาน ข้าก็ยอม’   
                   
‘ช่างมีสายเลือด สุร เข้มข้นจริงๆนะขอรับ เจ้าหลาน ตนนี้ '     
                         
'...การณ์หน้าจักเป็นเยี่ยงใด ก็คงต้องปล่อยวาง...’

..............
...........................





[แถม.......... คนสำคัญ ของผม...]


..

“อีกครั้งนะ อีกนิดเดี๋ยวก็ได้ นะนะนะ อะตรอม นะนะ ....”

เสียง ภินทร์ อ้อนผมครับ นี้ก็เกือบ ยี่สิบครั้งแล้วที่ ภินทร์ ขอให้ผมทำ...

“อีกครั้งนะ อีกนิดเดี๋ยว ครั้งเดียวพอเลย”

“แต่ครั้งเดียวของ ภินทร์ นี้มันรอบที่ สิบเก้าของผมแล้วนะครับ”

ผมเริ่มจะประท้วงตัวแสบที่อยู่ตรงหน้า ....

แต่พอสายตาวิ้งๆ ส่งมาที่ผม ก็จบ....พอผมพยักหน้า ภินทร์ ก็เอาเลยครับ จับผมฉีกยิ้มแล้วจ้องปากผมอย่างใจจดใจจ่อ ตอนแรกก็เขินเหมือนกันนะครับที่อยู่ต้องมาโชว์เขี้ยว....ฟังไม่ผิดหรอกครับ ‘เขี้ยว’แต่พอบ่อยๆเข้ามันก็ชิน ตั้งแต่กลับมาจากบ้านใหญ่ ผมกับ ภินทร์ ก็สนิทกันมากขึ้น ต่างคนต่างรู้ความลับของกันและกัน ตอนแรกผมก็กลัวนะถ้า ภินทร์รู้ว่าผม ไม่ใช่ จะเป็นยังไง แต่พอ ผมรู้เรื่องของ ภินทร์ มันเลย วิน-วิน ด้วยกันทั้งคู่ แถมตอนนี้ ภินทร์ ยังออกอาการคลั่งเขี้ยวผมเป็นอย่างมาก จนผมเหงือกแทบแห้งอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี

..............
............................

“เหมือนเล็บแมวเลย อะตรอม...หดกลับเข้าไปได้ด้วย สุดยอดดดดดดด! แล้วเคยกัดโดนปากตัวเองปะ!”

สายตา ภินทร์ยังวิ้งๆเหมือนเดิม พาให้ผมเดาได้เลยว่า.....

“อีกครั้งนะ อีกนิดเดี๋ยว ครั้งเดียวพอเลย นะอะตรอมนะ...”

....ผมว่าแล้ว....


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 25-04-2012 14:57:12
 :z2: :z2:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!27# Candy Boy ออกร้านงานประมูล
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 14:58:24
บทที่ 27 Candy Boy ออกร้านงานประมูล   


..สวัสดีครับ กระผมนาย ภินทร์ ครับ...

ใช้ชีวิตแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นมาเกือบสามเดือนกว่าแล้วครับ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น มันดีขึ้นจนผมงง ถ้าถามผมไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้บัพ ถึงได้ยอมอ่อนให้ผมขนาดนี้  ส่วนหนึ่งที่พอเดาได้ คงเพราะผมหนีออกมาอยู่กับอะตรอม มันเลยตัดปัญหาการมองหน้ากันไม่ติดออกไป และ...

...มันก็ดีไม่ใช่หรอที่เป็นอย่างนี้? ตรินทร์ กับผมยังสับกันไปสับกันมาอยู่ แต่เราคำนวณไม่ได้ว่าตอนไหนใครจะตื่น เลยมีข้อตกลงกันนิดหน่อยแต่กลับเป็นผมคนเดียวที่ทำ คือ ผมเขียนทุกอย่างที่สำคัญที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้นใส่กระเป๋าไว้ตลอด เผื่อฉุกเฉิน...

...แต่พอทำอย่างนั้นเลยกลายเป็นว่า ตรินทร์ ไม่ค่อยตื่นซะงั้น เลยกลายเป็นว่านอกจากจะ อะตรอม แล้วยังมี ไอ้บัพ มาคอยตามเฝ้าทั้งที่มหาลัย ที่คอนโด หรือที่ ร้านพี่นพ ไอ้บัพ ก็ไปเฝ้าอยู่ เผื่อจะเจอ ตรินทร์ แต่ช่วงนี้มันเองก็ผิดหวังตลอด...เหมือน ตรินทร์ จะไม่อยากตื่น...แต่ผมกับ ตรินทร์ เลือกที่จะตื่นหรือหลับได้งั้นหรอ ?

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่าง ตรินทร์ กับ ไอ้บัพ ตอนนี้ที่ซึมเลยเป็นไอ้บัพ ส่วนอะตรอม ผมไปๆมาๆ ระหว่างที่บ้าน ชลวะเท กับ ที่หออะตรอม ...เกือบลืมพวกไอ้เรดยังคงเป็นเพื่อนซ้อมดนตรีได้ดีเหมือนเดิม คอนโดไอ้กร้ายังคงเป็นที่สถิตของพวกเราเสมอ โดยที่ผมพยายามจะไม่พ่วงอะตรอมไปด้วยเนื่องจากที่หมั่นไปซ้อมเพราะหวังเจอ คนบ้างคนที่คอนโดนั้นแต่ก็คลาดกันตลอด ซ้ำอะตรอมยังตามติดตลอดอีกเช่นกัน.... เป็น คุณไอ้ภินทร์ มันช่างลำบากแท้....

.......................
.............................................
 
.
.
.

“ออกร้าน....”   

..ผมทวนคำเด็กสาวสามคนที่ ยื่นกระดาษ A4 ปึกหนึ่งให้แล้วกวาดสายตาอ่านมันผ่านๆ แต่ก็ยังคงไม่เข้าใจเนื้อหาของมันเพราะส่วนมากสายตาจะผ่านไปยังพวกน้องๆเขามากกว่า ...น้องๆเขาน่ารักจริงๆ ผมชอบเด็กน่ารักๆ เรียบร้อยๆ นางฟ้าชัดๆ ทุกวันนี้อยู่กับพวกแมนๆจนผมว่าความแมนมันเริ่มซึมเข้าไปในสันดานแล้ว...จะลืมไปแล้วนะว่าครั้งหนึ่งผม...

...เคยเป็นผู้หญิง...

“ออกร้านของคณะแล้วเกี่ยวอะไรกับพี่อะครับ....”

ผมถามพลางมองหน้าเด็กสาวผมสั้นที่เหมือนจะกล้าที่สุดในกลุ่ม แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบสักที จนไอ้เรดเริ่มรำคาญ... 
                                               
“น้อง...พี่ๆไม่ได้มีเวลามากนักหรอกนะ นี่มัน จะ 4 โมงแล้วพวกพี่ต้องไปซ้อมดนตรี น้องจะเอาไงก็ว่ามา”

ไอ้เรดมันเข้าโหมดโหดแล้วครับเพราะน้องๆเขาไม่ยอมพูดอะไรเลย นี่ขนาดพวกไอ้บัพกับอะตรอมไม่อยู่ ผู้ปกครองผมยังเยอะขนาด

“ฉันว่าน้องเขามีธุระกับ ตรินทร์นะ ไม่ได้จะมีเรื่องกับแกไอ้เรด...แล้วนี้ก็เรื่องของบริหารไม่ใช่เรื่อง วิศวะ...”
   
..เสียงห้าวดังมาจากข้างหลัง โห่...กล้าเถียงไอ้เรดด้วยสุดยอด ผมมองผ่านสาวๆไปยังเจ้าของเสียง 'เฌอเอม' ประธานคณะนี้หว่า...

..นี่ก็อีกหนึ่งในดวงใจของผมถ้าไม่ติด'น้องก้อย' แฟนสาวของ เฌอเอม นะ คู่นี้มองผ่านจากประสบการณ์ก็รู้ สาวสองคนนี้เขามีซัมติ้งลองกัน...เฮ้ออ..เสียดาย...

“มันไม่มีเรื่องแน่ ถ้าไอ้ภินทร์ ไม่ใช่นักร้องนำของวงฉัน...ยายเอม...”

ไอ้เรดมันยังเถียงครับ...

ผมมองแล้วท่าจะยาวเลยเดินเลี่ยงออกมาโดยไม่ลืมกวักมือเรียกน้องๆสามคนให้ตามมาด้วย วันนี้โปร่งครับ อะตรอมมีทำบุญที่บ้านใหญ่... แน่นอนอะตรอมไม่ให้ผมไปบ้านนั้นด้วยแน่ ถึงให้ไปก็ไม่ไป ยังสยองไม่หาย...แต่ที่คาดไม่ถึงไอ้บัพก็ไปงานนั้นด้วย อะตรอมบอกผู้ใหญ่ที่บ้านเขามีเรื่องคุยกัน...ผมเลย ไร้เงาตามตัว...สวรรค์ชัดๆ....แม่เจ้าโอกาสอย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ผมเดินเนียนออกมากับพวกน้องๆ จะคุยกับสาวทั้งทีให้มีพวกมารมาขวางก็ใช่เหตุถึงจะเป็นมารที่ชื่อเรด ชื่อกร้า ชื่อแป้นอันเป็นเพื่อนสนิทผมก็เถอะพวกมันหน้าตาก็ใช่ว่าขี้เหร่แถมยังเป็นนักดนตรี ให้น้องๆเขามองมันนานๆเดี๋ยวก็หลงพวกมันจนได้สู้ สอยมาทำคะแนนเองดีกว่า หึหึหึ

“ซันเดย์ 4 ครับช็อค กับสตอฯ”

ผมสั่งโดยไม่ถามน้องๆที่เพิ่งจะวางกระเป๋า น้องเขามองหน้าผมแล้วก็นิ่งไป ลืมตัว...ปกติถ้ามาที่ร้านไอศกรีมผมมักจะเป็นคนสั่งเพราะกว่าไอ้พวกองค์ชายมันจะคิดได้ก็หายหิวแล้ว แล้วทำไงดีวะ น้องๆเขานิ่งไปแล้ว

“พี่เลี้ยงนะ...โทษทีพี่ชินไปนิดนึงปกติมากับกลุ่มพี่จะเป็นคนสั่ง...เอ่อ...แล้วมีเรื่องอะไรกัน...มีอะไรก็บอกได้ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย”

กับสาวๆให้บุกน้ำลุยไฟพี่ก็ยินดีสามสาวหันไปซุบซิบอะไรกันชักพักไอ้ผมก็ทำเป็นรอไอศกรีมจนได้ครบ 4 ถ้วยนั่น เธอๆถึงได้เอ่ยออกมาได้ ...โห่...ต้องใช้ของหวานเข้าล่อนะ ...

“คือ...ที่คณะบริหารมีนโยบายหาเงินเข้าชมรม พี่เอมกับพวกหนูเลยคิดกิจกรรมกัน... ทั้งการประมูลกับการออกร้านกาแฟ ....”

น้องที่นั่งอยู่ทางขวามือเขาว่าแล้วเงียบไป

“ก็ดีนิครับ น่าจะสร้างสรรค์ดี แล้วไงต่ออะ?”

ผมเริ่มสนใจแล้วสิ แต่... ไอศกรีมก็น่าสนใจไม่น้อยกว่ากัน

“ติดแต่ที่ต้องให้พี่ ตรินทร์ช่วย...นิดหน่อย...”

น้องทางซ้ายพูดพร้อมๆกับสาวๆอีกสองคนวางช้อนไอศกรีมลง เหมือนเรื่องสำคัญ...

“ทั้งการประมูลกับการออกร้านกาแฟ ....อาจารย์โมทย์ บอกว่าถ้าไม่ได้พี่ตรินทร์เข้าร่วมจะไม่ให้ผ่านกิจกรรม”

“อ้าว....แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่อะ?”

“ก็พี่ทำอาจารย์เขาเสียหน้าไง...วันนั้นอะจำได้ป่ะ ตอนแรกอาจารย์เขาค้านเรื่องนี้อยู่...เพราะจะให้เป็นกิจกรรมวันภาษาไทย พอพี่เอมเสนอทั้งการประมูลกับการออกร้านกาแฟ ....แกเลยแกล้งตั้งคำถาม ให้เด็กบริหารตอบ ถ้าตอบได้แกจะเซ็นให้ วันนั้นนะแทบหมดหวังเพราะ พี่เล่นหลับเฉยเลย ซ้ำชื่อเสียงพี่ตรินทร์ยังดังเรื่องไม่สนใจใครซะขนาดนั้น พวกหนูยังเสียวเลยว่า โดนยุบกิจกรรมแน่ๆ ...”

“แต่พอพี่ตอบได้นะ.....พวกหนูแทบกรี๊ด...”                                           

“แล้วพอหันไปหา...พี่ก็หายไปแล้ว แถมอาจารย์โมทย์ยังยืนยันคำขาดถ้าไม่มีพี่เข้ากิจกรรม ....”

“จบ!ทั้งคณะ...”

สาวสาวหันมามองหน้าผมแล้วใช้ช้อนไอศกรีมชี้หน้า แหม....ได้ของหวานเข้าหน่อยกล้าขึ้นมาจริงๆ

“แล้วจะให้พี่ทำอะไร? แค่ประมูลกับการออกร้านกาแฟ..บอกมาพี่ก็ทำให้ได้เรื่องแค่นี้”

“มันไม่แค่นี้อะสิค่ะ.....”

ตอนนี้สาวๆมองหน้ากันแล้วครับ เหมือนเกี่ยงกันพูดแล้วจนผมชี้ไปที่สาวมั่นผมสั้นสุด

“น้องพูด....มีอะไรก็พูด ก็บอกพี่ว่าพี่รับได้ แล้วอีกอย่าง พี่ชื่อ ภินทร์ ไม่ใช่ตรินทร์”

ผมไม่อยากพูดต่อนะว่าถ้า พี่เป็นตรินทร์ จริงๆ น้องไม่ได้ทานไอศกรีม ไม่ได้นั่งสวยอย่างนี้แน่ๆ

“....ทั้งการประมูลกับการออกร้านกาแฟ ....”

“.....”

“มันต้องแต่งหญิงเรียกแขกอะพี่....แล้ว....การประมูล...มันก็ต้องประมูล....พวกที่แต่งหญิงอะ ”

“คะ..ครับ”

ผมแทบสำลักไอศกรีม ดีนะที่ น้องๆเขายื่นแก้วน้ำให้

“น้องว่าใครคิดนะครับ ไอ้เรื่องแต่งหญิงเรียกแขกกับประมูลพวกแต่หญิงเนี้ย...น้องๆจะจิ้นกันไปถึงไหนครับ...ใครคิดครับ?”

“พวกหนูกับพี่เอมคิด...ก็แค่สนุกๆ แต่เรื่องประมูล... คืองี้นะพี่ ภินทร์ สมมุติว่าถ้าแค่เรียกแขกมันก็แค่นั้น แต่พี่ลองคิดดูสิถ้ามีการประมูล แล้วได้อย่างพี่มานะ สาวๆยินดีควักเงินแน่ เงินทองไหลมาเทมาเลยนะพี่”

สาวๆทำตาวิบๆครับ แต่ผมคิดไม่ออกสาวที่ไหนมันจะมาประมูลชายแต่งหญิง สู้ให้แต่งหล่อไม่ดีกว่าหรอ?

“....อาจารย์โมทย์บอกว่าถ้าไม่ได้พี่ภินทร์แต่งหญิง ‘จารย์ไม่เซ็นผ่าน นี้อ่ะปัญหา”

“...........”

“นะพี่ภินทร์นะ”               

“......”

"พี่ภินทร์......”

“บอกรายละเอียดมา ถ้าไม่เกินไปกว่าความสามารถพี่จะช่วย ...แต่มันก็ต้องมีข้อต่อรอง พี่เป็นเจ้าหนี้เธอสามคนกับยายเอม ไม่สิทั้งคณะบริหารชุดนี้ ไว้พี่คิดออกแล้วพี่จะบอก ถ้าตกลง โทรบอกยายเอมมาคุยกันที่ร้านตอนนี้....เวลาพี่มีไม่มาก....โอเคไหม?”

“ค่ะ!”

..............
............................

.
.
.

‘แต่งหญิงไม่เท่าไหร่นะพี่ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ การประมูล กติกา คือ เงินประมูล แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ คนนอกกับคณะ =25/75 แต่ถ้า Candy Boy กับคณะ =20/80 อธิบายนะพี่ ถ้าคนนอกประมูล Candy Boy 75% จะเป็นของ Candy Boy ส่วนที่เหลือ25% จะเป็นของคณะ แต่มีตัวช่วยนะพี่ถ้า Candy Boy ประมูลตัวเอง 80%เป็นของ Candy Boy ส่วนที่เหลือ 20% เป็นของคณะ แล้วก็อีกอย่างเพื่อความสนุกถ้าคนนอกสามารถประมูล Candy Boy หรือ Candy Boy สามารถประมูลตัวเองได้ 3 วัน 2 คืนเลยพี่ ทำอะไรก็ได้ขอเพียงสั่งมาทางคณะจัดให้หมด... นี่เห็นว่าเป็นพี่ภินทร์หรอกนะถึงได้แอบบอกกติกาขนาดนี้ คนอื่นๆยังไม่รู้เลยนะพี่’

..............
............................

..
ผมฟังน้องๆกับยายเอมแจ้งรายละเอียดอย่างมีความสุขในโลกส่วนตัวของพวกเธอ สาวๆหัวเราะกันคิ๊กคั๊ก เล่าไปคุณเธอก็หน้าแดงกันไป คิดอะไรกันเนี้ยสาวๆพวกนี้     

...แต่ว่าไปก็น่าสนเหมือนกัน ...แต่งหญิงหรอ? ไม่ใช่ปัญหา จะว่าไปความจริงก็อยากแต่งอยู่เหมือนกัน นานแล้วนะที่ไม่ได้แต่งสวย...

แต่ปัญหาที่ไม่อาจคาดเดาได้นี้อะสิ ขืนแต่งแล้ว ตรินทร์ ดันเข้ามาแทนอะ งานไม่ล้มหรือ? อะไม่อยากคาดเดา นรกชัดๆ ...แต่ว่าไปเงินก็ดีนะ กล่อมให้พวกไอ้เรดประมูลดีกว่ามีแต่ได้กับได้...เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ยังไงคงไม่มีใครประมูลสู้อยู่แล้ว หึหึหึ  ถ้ากล่อมพวกไอ้เรดไม่ได้ ยังไง อะตรอม ก็ยังเป็นที่พึ่งหล่ะน่า ไว้ถ้าประมูลได้ค่อยเลี้ยงข้าวตอบแทนแล้วกัน....

...เชื่อใจฉันได้คุณตรินทร์ มือระดับนี้แล้ว เรื่องแต่งสวยฉันสามารถรับรองไม่เป็นกระเทยควายแน่ฉันจะให้นายเฉิดสุดๆ นายเชื่อใจฉันนะ...ตรินทร์ รับรอง แจ่มเจิด!  

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!28# How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:03:26
บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า


“สวยยังอะตรอม...”   

..ผมหันไปถามคุณยักษ์ที่ได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง...อันแน่....แอบอมยิ้มด้วย เขินอะดิ เกือบลืมตอนนี้จะมาพงผมไม่ได้...งานนี้ต้องสวมวิญญาณสาวน้อย ชิชิชิ เรื่องสวยนานๆที 'ฉัน' จัดเต็มอยู่แล้ว แต่บอกตามตรงว่าเกินความคาดหมายพอแต่งแล้ว ตรินทร์ สวยมาก สวยจนฉันเองยังตะลึง...ยิ่งใส่เสื้อสาวเมดกับกระโปรงลายลูกไม้แอบเซ็กซี่ยิ่งน่ารักโฮก...ยิ่งแต่งยิ่งหยุดตัวเองไม่ได้ ปากอิ่มพอทาอุทัยทิพย์ลงไปยิ่งน่าร๊าก! ถามว่าทำไมต้องอุทัยทิพย์อะหรอ? เพราะมันหอมและหวานไงแถมยังดูเป็นธรรมชาติสุดๆ เผื่อไว้ได้หอมแก้มสาวๆในงานก็ยังได้ยังไงก็ต้องมี สาวๆมาขอถ่ายรูปอยู่แล้ว เนียนหอมแก้มอะงานถนัด เพราะมันไม่ติดหรอเลอะเหมือนลิปติก แค่คิดก็.....

..............
............................

...
..ส้นสูง 2 นิ้ว ชิ... ชิวๆ 4 นิ้วฉันก็เคยผ่านมาแล้ว...

งานนี้รับทรัพย์เต็มๆแน่ เหอๆๆยายเอมยังแอบมองเลย นี่ถ้าน้องก้อยไม่อยู่มีหวังฉันโดนยายเอมจีบไม่รู้ ฤทธิ์แม่ซะแล้ว....เรื่องอ่อยอะ เรื่องจิ๊บๆ ในร้านที่ถูกเซ็ตขึ้นมาบรรยากาศน่ารักมาก น่าถ่ายรูปสุดๆ สาวๆมาขอถ่ายรูปกับ Candy Boy ก็เยอะยายเอมเลยคิดค่าบริการรูปละ 20 โห่.... กล้าหว่ะประธานคณะ....แต่ก็ไม่ได้มีผม เอ้ย! ฉันคนเดียวหรอกนะ ยังมีเด็กบริหาร อีก 8-9 คนที่โดนจับแต่งหญิงเหมือนกัน สวยๆก็มีอับปรีย์ก็เยอะ ....แต่ทำไมชุดมันไม่เหมือนกันอะ ฉันได้ชุดเมดมา แล้วไหงไอ้พวกนั้นมัน นางฟ้า แม่มด องค์หญิง พริตตี้ ฯอะทำไมสวยๆอย่างฉันถึงได้ราคาตกอย่างนี้อะแกล้งกันเปล่าคะน้องเอม

“น้องสาวกาแฟแก้วเท่าไหร่คร๊าพ”

เสียงกวนโสตดังเข้ามา พวกไอ้เรด! แม่งมาแซวฉันหรอ? ไม่รู้ฤทธิ์แม่ซะแล้ว เดี๋ยวเจอแม่ตายในหน้าที่ ค่อยดู !

...ฉันหันไปยิ้มหวานให้ไอ้กร้า แล้วเมินไอ้เรดที่ทำท่าจะมากวนแบบเต็มสตรีม ซุ้มฉันขายโอวัลติน เฟ้ย!

“กาแฟ ไม่แนะนำ...แต่โอวัลติน คนชง อร่อยมาก... สักถ้วยไหมคะ?”

พูดไปแล้วอดฮาตัวเองไม่ได้"" ตอนนี้มารยามีเท่าไหร่ฉันรีดออกมาหมด เสียงนี้แทบไม่ต้องแอ๊บมันออกมาจากจิตวิญญาณล้วนๆ555+ ไอ้กร้านิ่งไปตั้งแต่โดนช้อนคางแล้วกระซิบข้างๆหู เรื่องโอวัลตินแล้ว... แต่มีอีกเรื่องที่ฉันไม่ได้บอก มันแก้วละ 200 ว๊ะไอ้กร้า!

...แล้วก็โดนกันครบทีมครับ...

..ขาดแต่ไอ้บัพ มันยังไม่กลับมาจากบ้านใหญ่ แต่มันไม่มาก็ดีเหมือนกัน กลัวมันอาละวาดเรื่องเอา ตรินทร์ มาแต่งหญิง ส่วนอะตรอม ไม่ต้องพูดถึง มันโดนไป 3 แก้วแล้ว แต่ฉันก็ยังชิวๆนะเพราะ โอวัลตินมัน 20/80 รับทรัพย์เห็นๆ นี่ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ อะตรอม กับพวกไอ้กร้ารู้นะ แถมพวกมันยังไม่สงสัยอีกว่าฉันถือเครื่องคิดเลขมาทำไมไม่บอกดีกว่าให้พวกมันคิดว่าอุปกรณ์ประกอบฉากดีที่สุด
   
..
ในร้านเพลงก็โอเค บรรยากาศก็ใช้ได้ ทรัพย์ก็เข้ากระเป๋าแบบสายน้ำหลาก สุดยอด ยายเอมฉันรักแกจัง....อะมีน้องมาขอถ่ายรูปอีก 10/90 ถึงจะน้อยแต่เน้นปริมาณ โอ๊ย!ทรัพย์กระจายมีความสุขจัง


..............แล้วก็นรก.........มาเยือน..........


.................................................................แก็งส์ไอ้เหี้ยมเดินเข้ามาในร้านโซนอิฉันค้า............

ซุ้มกูไม่มีเหล้า ไม่ขายกาแฟ! สัดเอ้ย!                                            

อย่าเข้ามาเหยียบร้านกูนะมึง.................. สาดเอ้ย!                                       

เดินเข้ามา เล่นซุ้มกูหมองเลยนะ ทางซ้ายก็พวดไอ้เรด ทางขวาก็พวกไอ้เหี้ยม แถมยังมีอะตรอม เป็นแบ็คกราว .....จบ    

.
.
.

....ต่อให้กูสวยสุดในสามโลกสาวๆก็ไม่กล้าฝ่าพวกมึงเข้ามาหรอก...

แล้วงานนี้เงินจะถึงมือกูไหมอะ?...มีเพื่อนเป็นมาร มีมารเป็นเพื่อนจริงๆ....

เอ๊ะ!รู้สึกจะหลุดซะแล้ว ....จูนๆๆ ถึงจะมีนรกมาเยือน ก็ต้องสวย สวย สวย สวยใสไร้สติเข้าไว้....เพื่อหน้าที่ๆ

“เฮ้ย! ขายอะไรอะ...?”

ลูกค้าจากนรกถาม....

พวกมึงไม่ได้อ่านป้ายหรอสาด! ตาบอดหรอมึง..... ?

“โอวัลติน....คะ...”

คิดด่ามันมากมาย... แต่ที่แสดงออกไปได้...แค่.....ยิ้มหวานสุดตีน... กู...สเต็ปกูขั้นเทพแล้วเรื่องแอ๊ปกับลูกค้าอะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืนเอ้ย!         

“พี่คะ ขอถ่ายรูปพี่กับพี่คิงส์ได้ไหมคะ?”

อ้าวเวรแล้ว....น้องเพื่อนพี่ก็มีตั้งเยอะ ไอ้เรดก็หล่อไม่น้อยกว่าไอ้เหี้ยมนั้นหรอก

“น้องขา...พี่ว่าพี่ถ่ายกับพี่เรดได้ไหมคะ....พี่หล่อๆคนนั้นอะค่ะ”

น้องน่ารักหันไปมองไอ้เรดแล้วหน้าแดง แน่ล่ะเพื่อนกูเทพทุกตัว แล้วทำไมต้องกูต้องถ่ายกับนรกด้วย?

“น้องคะ...ถ้าถ่ายกับพี่คนนั้น พี่แถมอ๊อฟชั่นเสริมให้”

..เหมือนขายของเลย ผมรีบเดินไปหาไอ้เรดเลยครับ ชั่วโมงนี้ต้องเข้าวิชาบังคับเลือกนิดนึง... เดี๋ยวถ้าน้องเขาอยากได้รูปไอ้คิงส์กับผมอีก ผมก็ยังมี อะตรอม เป็นด่านต่อไป ฮา....

ผมไม่ได้อ่อยนะ...แต่ช้อย ผมมีเยอะ กับไอ้เรดเล่นไปหลายแอ็คครับ จนสุดท้ายมาจบที่แอ็คหอมแก้มมัน เรียกเสียงกรี๊ดได้เป็นกอบเป็นกำ 20 แอ็ค 400 ว่าน้องแมร่งคงพอแล้วมั้ง....แต่คิดผิดไม่น่าดูถูกสาวกสาววายเลยกู

“พี่คะ....อีก 5 รูปหนูขอถ่ายพี่กับพี่คิงส์นะคะ...”                                       

น้องจะเอาให้ครบ 500 เลยหรอครับ แหม.... ชอบไอ้นรกกันจัง แต่คิดหรอ พี่จะพลาด

“พี่ขอถ่ายกับแฟนพี่ได้ไหมอะคะ...พี่สูงๆคนนั้นอะ....พี่ไม่อยากกวนพี่คิงส์เขา นะคะ”

..

ผมชี้ไปทางอะตรอมที่ยืนนิ่ง ตั้งแต่เห็นผมถ่ายรูปคู่กับไอ้เรดแบบลืมตายแล้วครับ ตอนนี้เลยเอาใจมันหน่อย... แถมไอ้ประโยคที่ว่าเป็นแฟนมันก็กระตุ้นต่อมวายได้เป็นอย่างดี สาวๆก็กรี๊ดสิครับ เหอๆๆ ทางถนัด ...

ผมเดินไปดึงมืออะตรอมมา แล้วโน้มคอหอมแก้มครับ แค่นั้น สาวๆก็ลืม ไอ้คิงส์กันหมดแล้ว อะตรอมเองก็หน้าแดง ....น่าแกล้งอ่ะ.. 

แอ็คสุดท้ายนี้ขอจูบจริงเลยได้ไหม? ไม่คิดอะไรแล้วครับ อะตรอมมันน่ารักอะจูบจริงเลยแล้วกัน…

...ริมฝีปากนิ่ม แต่ร้อน...

คิดว่าแค่ว่าเล่นๆแต่ทำไมหัวใจมันเต้นแรงจัง... เสียงกรี๊ดดังได้อีก แต่ริมฝีปากตรงหน้า...มันน่าสนใจกว่าเสียงกรี๊ดนี่น่า...ขออีกนิดแล้วกัน ขอหอมแก้มอีกทีนะ....อะตรอม....

..............
............................   

..ชั่วโมงนี้ไม่ได้สนใจสาวๆหรือไอ้คิงส์แล้วครับ... สนใจไอ้คนตรงหน้ามากกว่า ไม่รู้ว่าจูบนานขนาดไหน...รู้ตัวอีกยายเอมก็มาดึงออกจากอะตรอมแล้ว เอ่อ....คนถ่ายรูปเยอะนะ เก็บตังค์เข้าคณะได้เยอะนะแก... ยายเอม...     

..............
............................                                                                           

...

“ถ้าไอ้ 500 จูบได้ เราให้ 1,000 นึง ได้อะไรบ้าง?”

...เสียงไอ้คิงส์ครับ มันพูดพร้อมกับโบกแบ็งค์สีเทา... ยายเอมได้แต่ทำหน้าเหวอ ส่วนผมอะเหวอกว่าเอมอีก ส่วนอะตรอมตอนนี้ช็อคนิ่งไปแล้วครับ...ไอ้เรดกับพวกก็นิ่งไปเหมือนกัน พวกมันคงไม่คิดว่าผมจะจูบอะตรอมจริงๆพลาดแล้วกู ทีนี้จะให้ใครช่วยล่ะ?

.
.
.

“เอม...ให้คนอื่นรับลูกค้าไปก่อน...เราไม่ถูกกับมัน”

...ผมกระซิบเอมแล้วเดินเลี่ยงออกมา กะว่าจะเดินหลบเข้าห้องน้ำ แต่ไอ้มือแข็งๆนั้นมาดึงไว้ก่อนไอ้เหี้ยมมันดึงผมไว้...ขยะแขยง...อย่าคิดว่ากูลืมนะไอ้มือคู่นี้ที่เคยจะฆ่ากู..

“ปล่อยกู...”

พอคิดถึงเรื่องที่ชะอำก็ฟิวส์หลุดแล้วครับ บอกตามตรงว่าสำหรับไอ้คิงส์....ความรู้สึกเดียวที่มีให้มัน

‘เกลียด! กูเกลียดจนไม่รู้จะอธิบายยังไง!’

ไอ้แป้นได้สติก่อนเพื่อนครับมันเข้ามาขวางไอ้เหี้ยมไว้แต่ก็โดนไอ้โล้นนั่นกั้นไว้เหมือนกัน มือไอ้เหี้ยมยังจับข้อมือผมแน่นจนเจ็บ สัด!เสือกจับข้อมือซ้ายกูอีก มันเจ็บเฟ้ย!

“ปล่อยกู....”

ผมหลุดไปอย่างสมบูรณ์แล้วครับตอนนี้...แต่ที่ไม่สะบัดข้อมือมันออกเพราะกลัวข้อมือจะหัก กำไลมันกดรอยกรีดที่ข้อมืออยู่...มีผ้าพันไว้เลยไม่มีใครสังเกตแต่ผมก็รู้สึก มันเจ็บ...

“...เอามันออกไป”

...เหมือนละเมอ ผมไม่รู้ตัวเลยนะว่าผมพูดประโยคนั้น น้ำเสียงผมเย็นได้ขนาดนี้เลยเหรอ? แต่พอคำพูดมันหลุดออกมา อะตรอมก็ดึงผมออกมาจาก ไอ้คิงส์แล้ว มันเร็วมากจนไม่ทันรู้ตัว ฝั่งไอ้คิงส์มี ไอ้โล้น (ไอ้หน้าโหดตัดสกิลเฮด) ไอ้จิว (มันเจาะจิวที่จมูกเลยเรียกมันว่าไอ้จิวไม่รู้ชื่อมันหรอก) ฝั่งผมก็มีอะตรอม กร้า แป้น เรด เทพทุกตัวแถมมากกว่าเห็นๆ ยายเอมแม่งานก็พวกผม เอาดิถ้ามันจะมีเรื่อง มันก็ไม่พินาศที่ฝั่งกูแน่...

..............
............................


“พอแล้วพี่ภินทร์ จะปิดงานแล้ว...ไปเวทีประมูลดีกว่าสุดท้ายแล้ว ”

น้องก้อยโผล่มาตัดบท ส่วนเอมเองก็ดันผมกับอะตรอมให้เดินไปยังเวทีที่จัดไว้เป็นไฮไลท์ของงาน ผมไม่ได้หันไปมองพวกไอ้เหี้ยมหรอก เสียสายตา...

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 25-04-2012 15:05:06
 :กอด1:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!29# Confusing what is real.ไม่ได้กลัว..
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:08:24
บทที่ 29 Confusing what is real.ไม่ได้กลัว..แต่ขอเปลี่ยนตัวนิดนึง


...มาถึงเวทีครับ มีไอ้ Candy Boy อยู่ 9 คนยืนทำคะแนนอยู่แล้ว และผมก็เป็นคนที่ 10 ที่ก้าวขึ้นมาพร้อมเครื่องคิดเลขสีฟ้าสด ไอเทมกูมึงไม่รู้อะไร ระหว่างยืนโชว์ตัว ก็มีการแนะนำตัวครับ แต่ละคน สุดๆ จนมาถึงผม แนะนำอะไรดีว๊ะ เวรไมค์จ่อมาแล้ว...

“ภินทร์ บริหารปีหนึ่ง งานหลักร้องเพลง งานรองทำสวยไปวันๆคร๊าพพพ คติประจำใจรับได้ทุกอย่าง....ได้ผมไป ถนอมผมหน่อยนะครับ.. ”

..............
............................
..............


ว๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!

ลืมไปได้เลยไอ้ความสวยใส แอ๊บแตร็คแบบไร้สติเมื่อกี้! ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสงครามการประมูลครับ มันคงจะเป็นไปตามแผน...


....ถ้าไม่มีไอ้เหี้ยมมายืนเสนอหน้าอยู่หน้าเวที...


“1500”

เสียงไอ้เหี้ยม สัด!!ใครให้มึงประมูลกู

“2000”

อะตรอมครับ จูบซื้อใจจริงๆ

“3500”

พ่องแม่งรวยมากนะรึไงสัด!

“4800”

เยี่ยมที่รัก! ตอนนี้ผมกดเครื่องคิดเลขกระหน่ำเลยขอรับ ไม่ว่าอะตรอมหรือไอ้เรด ไอ้กร้า ไอ้แป้น เอ่ยราคามาผมยกมือเป็นของผมหมด เพราะมันได้สิทธิ์ประมูลตัวเองที่ 80/20 ไง ส่วนของไอ้เหี้ยมมึงเสียเต็มๆ ช่างแม่งมึง!

..............
............................

“19600”

ไอ้เหี้ยม มันควักเงินสดออกมาโบก....


...ตอนนี้ผม มองหน้าอะตรอมกับพวกแล้วครับ...

เงินพวกเราไม่ได้พกมาขนาดนั้นแถมตอนเริ่มงานผมยังตัดกำลังตัวเองด้วยโอวัลติน แก้วละ 200 อีกหลายแก้ว ...ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย เพราะไม่คิดว่านอกจากพวกผมแล้วจะมีใครบ้าจี้ประมูลผม จนบนเวทีเริ่มนับแล้วครับเพราะ กติกาเน้นเงินสดเท่านั้นกันเบี้ยว ผมหันไปหาอะตรอมครับโยนบัตร ATM ให้มันกดเลย ตะโกนรหัสให้มันด้วย! ชั่วโมงนี้ให้ตายยังไงกูก็ไม่ไปกับไอ้เหี้ยม!

.
.
.

บนเวทีก็นับถอยหลังกันไป....

ส่วนอะตรอมก็วิ่งร้อยเมตรหายไปแล้ว....ชีวิตผมฝากไว้ในมืออะตรอมเลยนะ ...

..............
............................แต่ที่ผมลืมไป....


ไอ้ตรินทร์มันเปลี่ยนรหัสบัตรนี่หว่า.................................


"....."



.................................................สาดเอ้ย!กูพลาดอีกแล้ว!ขอโทษอะตรอม ขอโทษ!

..............
............................

.
.
.
.


“สามวันนี้...หวังว่าคงมีความสุขกับกูนะ...เห็นมึงว่ารับได้ทุกอย่างนี่น่า ภินทร์ ไว้กูจะถนอมมึงเอง...”

...ไอ้เหี้ยมมันเดินมาหยามผมครับ...

สัด! พรุ่งนี้กูจะเจออะไรเนี้ย! อะตรอมกับไอ้กร้าเดินมาหาผม แป้นเองก็หน้าเครียดๆ ส่วนไอ้เรดไม่ต้องพูดถึง พวกเราพลาดกันแล้ว...

.
.
.


“...อย่าบอกเรื่องนี้กับไอ้บัพ กูโดนฆ่าแน่... ส่วนเรื่องไอ้เหี้ยม กูดูแลตัวเองได้...เรื่องนี้กูเริ่มกูก็ต้องต่อให้จบ”

...พวกผมเงียบไปเลยครับที่มันจบอย่างนี้ ปากผมก็พูดเท่ไปงั้น...แต่ในใจ.... แม่ง...อธิบายไม่ถูกจริงๆ กูอยากจะกรี๊ด! ความรู้สึกเหมือนถูกโยนลงบ่อจระเข้.....................

..............
............................


‘สามวันนี้กูจะเจออะไรในนรกบ้าง...?’



ผมได้แต่ถามตัวเอง......ไม่กล้าพูดออกมา

..............
............................



[วันศุกร์ 12.45 น.]



“...สุดท้ายแล้วของพี่ภินทร์นะ.... ค่าถ่ายรูป 2500 = 10/90 พี่ภินทร์ รับ 2250 ค่าเครื่องดื่ม 5000 = 20/80พี่ภินทร์ รับ 4000 สุดท้ายเงินประมูลพี่...19600 คนนอกประมูลได้ 25/75 พี่ภินทร์ รับ 14700 ….”

...น้องก้อยกำลังจ่ายค่าเหนื่อยครับแล้วกล่าวขอบคุณผู้ร่วมงานแทน เฌอเอม ที่ไปถ่ายรูปลงข่าวประชาสัมพันธ์ แต่บอกตามตรงตอนนี้ผมได้แต่นั่งหมดแรง เงินได้เป็นกอบเป็นกำมาก... แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะได้กรรมหนักหลังรับเงินอะดิ....

.
.
.

...ผมมองดูเงินในมือเกือบสองหมื่น...

หึหึหึ น่าจะเปรมกว่านี้...ถ้า....ไอ้ตัวเหี้ยมมันไม่มายืนประกบอยู่ข้างหลัง...ซ้ำเหมือนโดนทิ้งกลายๆ เมื่อเช้าอะตรอมโดนบ้านใหญ่เรียกกระทันหัน ไอ้บัพก็เหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าสองบ้านนี้เขาสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะทุกครั้งที่มีคำสั่งเรียกตัวทั้งอะตรอม ทั้งไอ้บัพก็มักจะต้องไปที่บ้านใหญ่ของอะตรอมด้วยกัน อย่างไม่มีทางขัดขืน...

จะโทรหาก็ใช่เหตุที่บ้านหลังนั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีกระทั้งสัญญาณโทรทัศน์ที่หวังพึ่งพวกไอ้เรดยิ่งแล้วใหญ่...กลุ่มมันเสือกโดนพี่นพจองตัวไปเล่นที่ร้าน เพราะวงประจำดันมีงานนอก แต่ผมไม่ยอมง่ายๆหรอก เตี้ยมกับอะตรอมไว้แล้วว่าถ้าทางสะดวกให้ออกมานอกพื้นที่ปลอดภัยผมเตรียมโทรศัพท์ไว้ ตลอด 24 ชั่วโมง....ไม่อยากตายอีกรอบ...


.
.
.


“นี่อะไรอะเอม?....”

...ผมมองกระดาษกับปากกาในมือของท่านประธานที่เคารพยิ่ง ก่อนกวาดสายตาดูคร่าวๆยายเอมยิ้มแห้งๆแล้วดันตัวน้องก้อยให้มาอธิบายความเสื่อมของกระดาษแผ่นนั้น

“สัญญาอะพี่ภินทร์ ”

“สัญญอะไร?”

“ก็ทางวิศวะที่ประมูลพี่ได้เขาร่างสัญญามา เขาว่าเขาเสียเงินจริงแต่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่า ของประมูลจะอยู่กับเขาตามสัญญาจริง พี่ก็เลยต้องเซ็นต์เผื่อไว้”

“เฌอเอม! เธอกำลังขายฉันนะ!”         

ผมหันไปตวาดจนท่านประธานหน้าซีด หลบอยู่หลังน้องก้อย ...ชั่วโมงนี้ มันหลุดแล้วจริงๆ ไอ้บ้าเหี้ยมมันจะเอายังไงกับผม

“พี่ภินทร์ อ่านก่อนไหม? เผื่อมีช่องทางอะไรเลี่ยงได้”

น้องฝนสาวผมสั้นที่เคยมาคุยกับผมในตอนแรกแถมยังกินไอศกรีมของผมไป 2 ถ้วย หันมากระซิบ แต่ทำไงได้ต่อหน้าสาว เสียชีพดีกว่าเสียหน้า ผมดูแค่ผ่านๆ กลัวน้องเขาหาว่าปอดเฌอเอม ก็หน้าเสียเหมือนกันคงเพราะน่าจะพอรู้ข่าวจากทางประชาสัมพันธ์ มาแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรระหว่างผมกับไอ้เหี้ยมมาบ้าง

“ภินทร์ เอมขอโทษ เอมไม่นึกว่ามันจะออกมาแบบนี้ นี้เบอร์เอมนะ มีอะไรโทรมาเลยเดี๋ยวเอมเคลียร์ให้...”

เอมเดินเข้ามาแล้วยื่นเบอร์โทรศัพท์ให้ ผมมองหน้าเอมแล้วยิ้มหวาน...

“เปลี่ยนจากเบอร์โทรเป็นเครื่องช็อตไฟฟ้าได้ไหมเอม....สเปรย์พริกไทยก็ยังดี... ”

..............
.......................


.....3 วัน 2 คืนโดยประมาณ ที่ผมต้องไปรับใช้มันดูในสัญญา เวลามันเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน อันนี้ทางฝ่ายประมูลมีสิทธิเลือกเวลา แล้วทำไมเลือกเริ่มกลางคืนวะ งั้นเวลาอิสระของผมก็จะได้มาตอน วันอาทิตย์เที่ยงคืนอะดิ ตอนนี้จะ บ่ายโมงแล้ว

เอานะเตรียมตัวก่อน...สิ่งแรกที่ผมคิดได้..

..............
............................



'กลับบ้านนอนก่อนเลย....เผื่อตรินทร์จะตื่นขึ้นมา....'


ผมไม่ได้ปอดนะ...

แต่ไม่เก่งต่อยตี......เกือบลืม...ใส่กระดาษโน็ตเรื่องราวไว้ในกระเป๋าไว้ด้วย....แล้วตั้งหน้าตั้งตานอน ......ป้านิ่มเดินเข้ามาถามว่าไม่สบายหรือเปล่าทำไมเข้านอนเร็วจัง....

ผมไม่ได้บอกอะไรแกนอกจากยิ้มให้กว้างๆ...

‘ป้า...ผมไปก่อนนะ ที่เหลือให้ตรินทร์ รับเรื่องแล้วกัน’


อันนั้นผมคิดในใจ ใครว่าผมกลัว... นี่ผมกำลังเตรียมตัวอยู่ เตรียมตัวเอาองค์ชายมาปราบ ปีศาจจระเข้ !

..............
............................


[Part …..?]



[ Waiting for the end to come คอยจนกว่ามันจะจบลง Wishing I had strength to stand อยากให้ตัวเองแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้ This is not what I had planned นี่ไม่ใช่แผน ที่วางไว้ It's out of my control....ควบคุมมันไม่ได้เลย...]


“........”

..ผมลืมตาขึ้นมา เพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่ยอมหยุด....ห้องยังเป็นห้องๆเดิม แต่แสงสว่างที่ น้อยลงทำให้เดาได้เลยว่าท้องฟ้าข้างนอก มันมืดแล้ว.....22.45 น. ผมพยายามจะหลับตาลงไปอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะพยามเท่าไหร่มันก็เหมือนเดิม...

..............
............................

สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด! แม่ง ไหง ยังไม่หลับอ่ะ??!!

เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่หยุด เพลงรอสายมันเหมือนกำลังทำนายชะตากรรมผมเลย กระดาษโน๊ตที่ยังอยู่ในกระเป๋า.... ทำให้ผมรู้เลยว่าที่นอนไปมันแค่ฆ่าเวลา....ตรินทร์ ตอนนี้เราต้องการนายนะ

อ๊ากกกกกกกกกก! จะทำไงดี!? ทำไงดี!? แม่เจ้า!?

เสียงโทรศัพท์ไม่ได้เงียบลงเลย! นี่มันไม่จริงใช่ไหม!? ตรินทร์ หล่ะ? ทำไมทำกับ ภินทร์ อย่างนี้ ?!...

“คุณตรินทร์คะ เพื่อนโทรมาค่ะ”

เสียงป้านิ่มตะโกนมาจากชั้นล่าง...

...มาแล้วสินะ....กอบกรรมที่ได้มาจากเงิน สองหมื่น....

ผมเดินซังกะตายลากผ้าห่มลงไปรับโทรศัพท์ข้างล่าง....
พอรับสายมันก็ใส่เลย....

“กูโทรไปทำไมไม่รับ?!”

..เสียงมาร...

ช่างกระชากโสตเสียจริง ... จะตะคอกกูทำไม? แค่นี้กูก็ขวัญเสียแล้วแล้วกูจะรู้ไหมว่าเป็นมึง เบอร์กู กูไม่เคยให้มึงสักหน่อย

สาดดดดดดดดดดด!!!ด่ามันในใจแต่ประโยคที่พูดออกไปคือ....

“กูไม่สบาย...เพิ่งตื่น...”

ขอสำออยหน่อยครับเผื่อมันจะเห็นใจ...เพราะต่อจากนี้ไปก็สุดแต่บุญแต่กรรมแล้ว...

“กูให้เวลาถึง เที่ยงคืน 15 มาหากูที่ข้าวสาร ร้านZapZeal  อย่าคิดปิดโทรศัพท์นะมึง ให้คุ้มกับเงินที่กูเสียไปหน่อย....ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ”

มันสั่งเสร็จก็วางเลย แถมด่ากูว่าตู๊ดอีก... ไม่ให้กูได้ต่อรองสอบถามอะไรเลย แล้วกูต้องใส่ชุดอะไรไปอะ? ไอ้ร้าน....ของมึงนี้แนวไหนอะ? บอกกูสักนิดดิ สัด!มาถึงก็ใส่เอาใส่เอา....แล้วนี้เวลาแค่ชั่วโมง กูจะไปถึงร้านมึงไหม? ขอนอนอีกนิดได้ไหม?

....ตรินทร์กูไหว้ล่ะ...

โอกาสสุดท้ายแล้ว....

...ตื่นมาแทนกูที  


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!30#First base.วันแรกก็โดนซะแล้ว…
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:14:27
บทที่ 30 First base.วันแรกก็โดนซะแล้ว…

[00.25 น.]



“มึงช้าว่ะ....แล้วแต่งตัวเชี้ยไรมา ชุดเมดเมื่อวานอะ?”

   
...ไอ้เหี้ยมครับมันมายืนรอผมอยู่หน้าร้าน ตอนนี้ผมดูมันเหมือนการ์ดมากกว่าเจ้าของร้านเสียอีกเพราะเจ้าของร้านห่าอะไร มายืนด่าคนเรื่องชุดอยู่ข้างๆการ์ด

.
.
.


“วันนั้นกูก็ขายหน้าให้มึงได้เกือบสองหมื่นแล้ว...วันนี้อย่าให้กูเอาหน้ามาขายฝรั่งอีกเลยกูไหว้เถอะ”

ผมขอมีปากมีเสียงหน่อย แม่งใส่กูตลอด...แต่จะว่าไปที่กูแต่งนี้ก็ใกล้เคียงร้านมึงนะ ร้านมันเป็นแนวฮิปฮอป ครับแต่ค่อนข้างจะติดหรู ดูแล้วน่าจะมีสองชั้นแต่ชั้นสองตอนนี้ไม่เห็นว่ามันเปิด เพลงก็โอเคอยู่ทำเอาผมขยับได้เหมือนกัน มันยืนด่าผมได้อีกสองสามคำก็เตรียมจะลากผมไปไหนสักที่ แต่ผมสะกิดมันให้หยุดก่อนจะให้มันปล่อยข้อมือซ้าย แล้วยื่นมือขวาให้มันแทน

....มันก็งงไปนิดนึงก่อนจะขมวดคิ้ว ...คือไม่ได้อะไรมากกูเจ็บมือ....

มาถึงโต๊ะครับเป็นโซฟาใหญ่...แม่ง! ฮาเรมนี่หว่า...โอ๊ย!...หัวใจจะละลาย สาวๆตรึม!อะถ้าไม่มีไอ้โล้น กับไอ้จิว แล้วก็ไอ้ผมยาวนั่นอยู่ด้วยนะ ผมคงคิดว่านี่คือสวรรค์ แล้วไอ้คิงส์มันก็เข้ามาครับแถมมานั่งเบียดผมอีก .

...แต่ไม่ว่าอะไรหรอกมึงเบียดมากูก็เบียดน้องชุดดำข้างๆ น่ารักโฮกๆ สักพักแก้วต่างขนาดกับแอลกอฮอล์หลากชนิดก็มาวางบนโต๊ะครับ...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอ้ย! อภิสิทธิ์เจ้าของร้านจริงๆ

“นี่ไอ้เวทย์ ไอ้ฟลุ๊ก ไอ้โฟน”

ไอ้คิงส์ แนะนำไอ้โล้น ไอ้จิว ไอ้ผมยาว พวกมันหันมาจ้องหน้าผมแล้วเหยียดยิ้ม แม่งครบชุดที่ยำกูวันนั้นเลยนะ!

....ผมได้แต่นั่งก้มหน้าครับไม่รู้จะทำอะไร ก้มไปก้มมามือมันก็ลื่นไปจับมือน้องชุดดำที่นั่งข้างๆซะงั้น นิ่มเนอะ...เหอเหอเหอ
ไอ้คิงส์ไม่มีท่าทีจะแนะนำน้องๆผู้หญิงเลยอะ ผมเลยอาศัยความมีมนุษย์สัมพันธ์ การตลาดชนะเลิศ สอบถามซะแบบออกนอกหน้านอกตา...

 
ชุดดำที่นั่งข้างๆผมชื่อ อิง แหม ชื่อเข้ากับการกระทำมากๆเพราะตอนนี้นอกจากจะจับมือแล้วผมยังเนียนซบไหล่นิ่มๆของอิงด้วย ถัดไปก็น้องแนน น้องกุ๊พ น้องบิว น้องส้ม แต่ละคนแจ่มๆทั้งนั้น.....ไอ้พวกนี้ทำบุญมาดีเนอะ ผมก็เนียนคุยกับน้องเขาเพลินไปเลยลืมไปเลยนึกว่าอยู่บนสวรรค์ ถ้าไม่มีไอ้นรกสี่ตัวนี้อยู่ด้วยนะ น้องเขาคุยสนุกแถมยังไม่ถือตัวด้วยก็ทางผมสิครับ

“กุ๊พ มีเขี้ยวด้วยนะครับ น่ารักนะเขาว่าคนมีเขี้ยวนี่มีเสน่นะครับ”

พอพูดจี้ไปนิด สาวๆก็เอาเลยครับ กุ๊พยิ้มเขินๆเผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆข้างขวา สาวๆที่เหลือก็ดูเขี้ยวกันใหญ่

“ว้า....ส้มไม่มีเขี้ยวเหมือนกุ๊พกับบิว”

ส้มบ่นแต่ยังทำหน้าน่ารัก ติดอยู่ที่ว่าไม่ยิ้ม ผมถือวิสาสะจับแก้มเนียนๆนั่นแล้วบอกให้ส้มลองยิ้มดูเธอก็ว่าง่ายครับยิ้มให้ผม…..อะ.....เข้าทาง

“นี้ไงครับ ข้างนี้มีเขี้ยวเล็กๆน่ารักดี”

บอกเสร็จส้มก็ยิ้มครับส่วนผมถือโอกาสใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากสีสดนั่น ผมโคตรชอบเลยนะเรื่องคุยกับนางฟ้าเนี้ย....

อ๊างงงงงงง....น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก !


ปึง!       

                                                                                               
สวรรค์ล้มครับเหล้าขวดใหญ่ถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะ ผมหันไปมองไล่ตามมือของคนวาง...
...ไอ้คิงส์หน้าเรียบมากครับ....ลืมไปเลยกูอยู่ในนรกนี่น่า...

“ภินทร์มึงเทสเหล้าทีดิ...”

.....หง่ะ!
..................งานเข้าแล้วววววว !

..............
.........................

.
.
.

เสียงเบสที่ดังกระหึ่ม... บวกกับกลิ่นหอมเอียนๆของเครื่องปรับอากาศและแอลกอฮอล์หลากชื่อ สร้างบรรยากาศในร้านให้สนุกอย่างแปลกๆ ....ตอนนี้มันเป็นงานของผมไปแล้วครับกับการผสมเหล้าให้ไอ้พวกแก็งส์นรก และน้องนางฟ้า ไอ้คิงส์มันว่าผมว่างจัดเลยหางานให้ทำ ซะงั้น.....
   
ผสมจนเมื่อยมือไอ้คิงส์มันเลยถามว่าผมจะดื่มอะไร? อะ....มีน้ำใจ ผมเลยน้อมรับ..ความจริงเห็นประชาชนเขาดื่มกันก็อยากดื่มบ้างเหมือนกันนะ

แค่นั้น... เอาเบียร์กับ สไปร์ท ใส่น้ำแข็งด้วย คิงส์มองหน้าผมแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่กี่อึดใจก็ได้ของที่สั่งผมถือเบียร์กับ สไปร์ทไว้คนละข้างแล้วรินเบาเบาให้มันผสมกัน ถ้าชอบหวานก็หนักสไปร์ท ถ้าชอบรสละมุนก็หนักเบียร์ นี่สไตล์การดื่มของผม...

พวกไอ้คิงส์มันก็มองนะ เพราะแต่ละคนเพียวๆทั้งนั้น ไอ้คิงส์ก็ด้วย [ไม่อยากบอกว่าภูธร มากกกกก] น้องๆเขาก็สนใจ อะไรว้า...

เด็กพวกนี้มันไม่เคยดื่มกันหรอ?

เรื่องปกตินะเพราะสำหรับเซลล์ถ้ารับรองลูกค้ามันก็ต้องมีทริคสูตรส่วนตัวที่จะให้ลูกค้าติดจะได้คุยกันง่ายๆ แต่ผมไม่คิดว่าเด็กพวกนี้ไม่รู้จัก? ตอนนี้กำลังกรึ่มๆครับ มองไปบนโต๊ะ แอลกอฮอลล์ หลากชนิดยังเทสไม่หมดเลย แต่สายตาผมสนใจแก้วเล็กบรรจุน้ำสีใสที่วางบนโต๊ะมากกว่า

“กุ๊พ กุ๊พรู้ไหมเครื่องดื่มอะไร SEXY ที่สุด...”

ผมยิ้มตาเชื่อมถามกุ๊พครับ น้องเขาก็ยิ้มๆ แล้วก็หันไปถามคำตอบกับเพื่อนๆ

“ไหมไทย”

“โห่! เล่นง่ายเลยนะ ครับไม่ถูกครับ”

“ลาวา”

“ร้อนไปครับไม่ใช่”

“สกรูไดรเวอร์”

“ยินโทนิก”

“Virgin Berry Sweetheart”

................
..........................

...คำตอบตามมาอีกมากมาย แต่ไม่เห็นตรงใจผมเลย ตอนนี้พวกไอ้คิงส์ก็เล่นครับ... แต่ที่มันพูดมายังไม่ใกล้เคียงเลยอะ นี้ผมแก่เกินหรือมันดื่มกันอย่างเดียวไม่ศึกษาอะไรเลย...? หรือมันแกล้งไม่รู้กัน?

“เฉลยไหม?”

ผมส่ายหัวกับคำตอบพวกนี้ครับ เลยว่าพอดีกว่า พอบอกว่าจะเฉลยทั้งโต๊ะเลยมองที่ผมเป็นตาเดียว ผมเหลือบมองคำตอบ ยังมีเต็มขวด แต่ไม่มีคนประเดิม เลยกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟ แล้วกระซิบกับน้องเขาสองคนอึดใจ

...ในถาดสีเงินก็มีมะนาวชิ้นบางและผงเกลือที่วางเคียงมากับแก้ว ผมไม่พูดแต่ทำให้มันดูมองหน้าน้องกุ๊พไปด้วยประกอบฟิวส์ ผมบรรจงเลียหลังมือตัวเองโดยที่สายตายังจ้องน้องเขาอยู่ หลังจากนั้นก็โรยผงเกลือบนหลังมือที่เปียกน้ำลายนั่น ยกแก้วเล็กนั้นขึ้นดื่มในรวดเดียว เลียเกลือและบีบมะนาวชิ้นเล็กเข้าปาก ก่อนช้อนสายตามองนางฟ้าที่นั่งหน้าแดง หมดลงแล้วกับ Tequila แก้วพิเศษ...

“SEXY พอไหมครับ กุ๊พ...?”
 
..............
............................

...หลังจากนั้นผมก็ขอตัวไปห้องน้ำครับ ไม่ไหวดื่มเบียร์เยอะไป ฟู่! หน้าร้อนๆแล้วด้วย ผมนั่งอยู่ในห้องน้ำเพราะติดนิสัยผู้หญิงไปหน่อยยังไงก็ต้องมานั่งสงบสติก่อนไปเมาใหม่
 
วันนี้จะว่าไปก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแค่ไม่ต้องมองหน้าพวกมันเท่านั่นเองที่เหลือก็นางฟ้าทั้งนั้น นั่งดูนาฬิกา จะตีสองแล้วครับ นั่งไร้สาระได้ผลาญเวลาดีมาก ออกไปแล้วขอกลับเลยได้ไหมเนี้ย...

..............
............................

“คิงส์ ตีสองเราขอกลับนะ”

ผมหันไปบอกไอ้เหี้ยมมันก่อนครับในฐานะมันเป็นเจ้านาย แต่มันก็ไม่ได้ตอบอะไร จนนาฬิกาผมมันบอกว่าได้เวลากลับ ผมก็ลุกแล้ว แต่พอลุกเท่านั้นแค่เบียร์ผสมสไปรท์ กับ เตกีร่า 8-9 ช็อต ตอนนั่งพิงที่โซฟามันไม่เท่าไหร่แต่พอลุกขึ้นเตรียมกลับเท่านั้นแทบล้ม...

....ผมต้องทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาใหม่ พวกไอ้คิงส์มองผมแล้วยิ้มๆ เฮียแล้วไง ใครแกล้งผสมผิดให้กูตอนไปเข้าห้องน้ำแน่... ผมมองไปที่ไอ้เหี้ยมเจ้าของร้านก่อนเลย

...มันยังนิ่ง ซดเบียร์สดของมันอยู่ ไม่ได้หันมามองผมเลยสักนิด...ช่างมึง กูมีคนขับรถส่วนตัวกำลังจะกดเบอร์โทรหาอะตรอม คงกลับมาจากบ้านใหญ่แล้วมั้ง ไอ้เหี้ยมก็ดึงโทรศัพท์ผมไปเลยแถมยังยึดไว้กับมันอีก

“กูไปส่ง...เมาเหมือนหมาเดี๋ยวเสือกไปเหยียบตีนลูกค้ากูเข้า...เสียดายแขก”

แล้วมันก็ลากผมออกมาจากร้าน เบาๆ...เดี๋ยวข้อมือกูหลุด...ชอบจับจริงมือซ้ายกูเนี้ย นึกว่ามันจะมาส่งที่ TAXI แต่ไอ้เหี้ยมมันกลับยัดผมใส่ในรถมัน กำลังมึนและเบลอได้ที่ความง่วงมันก็เข้ามา แถมไอ้ความร้อนที่เสือกเพิ่มขึ้นอีก อาการเหมือนโดนยา?? คิดไปเองหรือเปล่าวะ...ขับรถออกมาได้สักพัก ไอ้เหี้ยมมันก็ถามว่าจะให้ไปส่งที่ไหน เสียเวลาทำมาหากินของมัน...

อ้าว....กูไม่ได้บอกสักนิดให้มาส่ง ผิดกูอีก ผมบอกให้มันจอดรถตรงตึกข้างหน้า มันก็เลี้ยวเข้าไปเลย แถมยังออกมายืนข้างๆผมที่กำลังหยี่ตามองหา TAXI อีก

“ ไม่เข้าบ้านหรอ?”

“เข้าดิ กำลังหา TAXI กลับอยู่นี้ไง ส่วนมึงอะขับรถกลับไปเถอะ”

“อ้าว!กูก็นึกว่าตึกนี้บ้านมึงเสือกให้กูจอดทำเชี่ยอะไรถ้ายังไม่ถึง...ขึ้นรถไปเลยมึงไอ้ดื้อ!”

“ดื้อเชี่ยไร! กูง่วงแล้ว..ไม่อยากมาเถียงกับมึงนะ แล้วเป็นเชี่ยอะไรถึงต้องมาส่งกู สัด!กูก็ ตัวผู้เหมือนกันไม่มีใครเขามาปล้ำกูหรอก!”

“อย่าเถียง! มึงเมาเหล้าร้านกู กูก็ต้องรับผิดชอบ!”

เถียงผมไม่ได้มันเลยตัดบทดึงผมขึ้นรถซะงั้น เหตุผลมึงขึ้นมากเลยนะเชี่ยคิงส์ มึงไปเปิดอู่รถเลยไหม? จะได้ไปรับส่งลูกค้ามึงกูว่าเป็นหมื่นคืนนึงคืนนึง สัด!

“เร่งแอร์ให้หน่อย...”

ร้อนชิบหาย...ยังกับโดนยา สัดเอ้ย! เป็นบ้าอะไรเนี้ย!

“ร้อนมากหรอ?”

ไอ้คิงส์หันมาถาม... ผมได้แต่ปรือตามอง อาการกูท่าจะแย่ หนาวๆร้อนๆแถมสมองยังไม่ค่อยสั่งการ...
หน้าอกตอนนี้เจ็บแล้วอะ...เพราะมันชูชันสัมผัสสีกับเนื้อผ้าที่ใส่ ส่วนน้องชายตัวน้อยไม่ต้องถามถึง.....

สัด!เล่นกูแล้ว ...

.
.
.

“คิงส์...มึงไม่ได้วางยากูใช่ไหม?”

ผมถามมันตามตรง อาการกูแค่เหล้าผสมบวกกับเตกีร่า ปนเบียร์ไม่แย่ขนาดนี้แน่

“ถามยังกับกูเป็นตัวร้ายในละคร มึงคิดได้นะ”

ยังเสือกมามีมุขติดตลก แต่กูไม่ตลกด้วย

“...กูโดนยา...”

มันเงียบไป...แล้วเบียดรถจอดเข้าข้างทาง... หันไปดูหน้ามัน...
...ตลกโครต มันกำลังอึ้งครับ

'กูอยากหัวเราะหน้ามึงตอนนี้นะ...แต่กูไม่มีอารมณ์นั้น กูมีอารมณ์อื่น...ดูท่าแล้วมันไม่น่ามีส่วนรู้เห็น เอาไงดีกู?'

“แล้วยังไง?”

หันมาถามกูอีก??

หน้าอย่างมึงกูรู้ว่าไม่เคยโดนวางยา แต่มึงก็ต้องรู้กันบ้างดิ มึงจะอ่อนกันไปไหนเนี้ย? ทีเรื่องอื่นเก่งกันนัก!

“พากูไปโรงแรมที หาเด็กให้คนสองคน หรือไม่งั้นก็ทิ้งกูไว้ที่โรงแรมล็อกห้องแล้วบ่ายมึงค่อยมาเก็บศพกู”

ผมขืนอารมณ์ตัวเองเต็มที กูจะไม่ไหวแล้ว ร้อนฉิบหาย สติก็ไม่ค่อยมีแล้ว

.............
............................

.
.
.

“เอ้ย! ภินทร์ไหวไหม?”

เสียงใคร? อืมส์....ไอ้เหี้ยม...แล้ว...?

ห่าเอ้ย! กูบอกให้ไปส่งกูที่โรงแรม!แล้วปิดห้อง! บ่ายค่อยมารับศพ มึงเข้าใจไหมเนี้ย?! แล้วนี้พามาคอนโดมึงทำไม! ขืนบัสเห็นกูจะเอาหน้าไปไว้ไหน!

ผมได้แต่กัดฟันกรอดๆๆ บทฉลาดมึงก็เสือกฉลาดไม่ปรึกษา บทจะโง่... โง่ได้อีกนะมึง อาการโดนยาอย่างกูไม่ใช่แค่ กินยาพาราแล้วดื่มน้ำเยอะๆห่มผ้าหนาๆนะ.......

ช่างมึง....อยากเสียจิ้นก็ช่างมึง!

...ในลิฟต์ดีนะที่ไม่มีกล้อง ไม่งั้นได้ฉาวกันทั้งคอนโด...

ไอ้เหี้ยมมันโอบเอวผมไว้ตั้งแต่เข้าลิฟต์...เพราะผมเองพยุงตัวไว้ไม่อยู่ แต่พอมันโอบเอวก็ยิ่งของขึ้น ผมเลยหันไปโอบคอมันไว้เพื่อพยุงตัวเองอีกชั้น...

...พอซบจมูกลงบนซอกคอ กลิ่นหอมอ่อนๆของเบียร์สดผสมกลิ่นบุหรี่ ยังติดอยู่ที่เสื้อมัน ทำให้มีอารมณ์ไปอีกแบบ ช่วงไหล่กว้าง....ตอนนี้เหมือนดูดีจนอดไม่ได้ที่จะลากนิ้วไล้ไปตามสายตา จนมาสะดุดที่ เนินตุ่ม บนหน้าอกทั้งสองข้าง ผมหันหน้าเข้าไปแนบกับตัวมัน แล้วเลื่อนตัวลงมาขบกัดเบาๆที่หัวนมนั่นผ่านเนื้อผ้า...ไอ้เหี้ยมสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผลักหรือด่าอะไรทางโล่งครับมือผมลากลงไปเรื่อย ขณะที่ลิ้นก็เลียหัวนมมันผ่านเนื้อผ้าที่เริ่มจะชื้นแล้ว....

..............
............................

................................ อยู่ๆไฟก็ดับ!?


"..."

“ขอโทษ...ลืมกดเลขชั้น”

.
.
.


...........
.......................


.
.

...

ลิ้นชื่นๆที่สอดรับเข้ามา....ทำผมแทบบ้า.......อยากได้มากกว่านี้…

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 25-04-2012 15:15:42
 :z2: :z2:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!31# you got it! คิดสู้หรอ?
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:20:52
บทที่ 31 you got it! คิดสู้หรอ?

[Part ?]


ลิ้นชื่นๆที่สอดเข้ามา....ทำผมแทบบ้า !

‘ ไอ้สัดเอ้ย!ไอ้โรคจิตมึงทำอะไรกู?!'

...เต็มหมัดแบบไม่ต้องยั้ง! 

ไอ้บ้าที่มันจูบผมนอนนิ่งไปแล้ว... ..นิ่งสนิท....ครับผมเอง..ตรินทร์!  นี้ผมทำเฮียอะไรอยู่ตรงนี้ รอบข้างมันส่อมากมาย ห้องนอน!สัด! นี่ ภินทร์ มาทำอะไรที่นี้อย่าบอกนะว่าจะมา โอบะบะ กับไอ้สัดนี้!

...มองหน้า ไอ้คนที่หลับไม่รู้เรื่องแล้วผมแทบอ๊วก ผู้ชาย! ผู้ชาย! แถมไอ้นั่น...ที่ผมนั่งทับอยู่ตอนนี้ ถึงจะอยู่ในกางเกงแต่มันก็รับรู้ได้ใหญ่กว่ากูอีก! สัด! จะอ๊วก! 

ทำไมกับไอ้โฆถึงไม่ได้รู้สึกอย่างนี้? ...ไม่ไหวแล้ว... แม่ง! ไมเกรนขึ้นอีก ปวดหัวชิบหาย โทรศัพท์ ...โทรศัพท์ หาไอ้โฆด่วน!


.
.
.



...รถยนต์มาสด้า 2 สีมุกดำ วิ่งมาจอดอยู่หน้าคอนโด พอดีกับเวลาที่เด็กหนุ่มร่างโปร่ง พยุงสติและร่างตัวเองให้พ้นออกมาจากลิฟต์ เสื้อยืดสีเขียวขี้ม้าตัวใหญ่ด้านหลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ส่วนกางเกงสามส่วนที่ใส่อยู่ตอนนี้ก็เหมือนจะหลุดออกมาเพราะเข็มขัดถูกดึงหายไป ซ้ำกระดุมเหนือซิบก็ถูกปลดออก แต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจอะไรเมื่อเห็น คนที่คุ้นตา วิ่งเข้ามาประคอง

สายตาที่ห่วงใยนั่นทำให้อดไม่ได้ที่จะโน้มลำคอร่างสูงให้เข้าใกล้

“...โฆ...”

เสียงพร่ากระซิบข้างหูเพียงแค่คำ คำเดียว

...มันแทนความรู้สึกที่อัดอยู่ข้างในได้มากมาย.....

...............
...........................................

.
.
.

ห้อง Double Room โทนสีคราม....นอกจากเสียงแอร์ ตอนนี้ยังมีเสียงหอบหายใจกับเสียงน้ำที่เปิดไหล ....

เด็กหนุ่มร่างสูงมัวแต่สาละวนแกะถุงน้ำแข็งเทใส่อ่างอาบน้ำใหญ่ที่เปิดน้ำจนเต็มอ่าง ไม่ได้สนใจเลยว่าด้านหลังบนเตียงกว้าง เด็กหนุ่มร่างโปร่งอีกคนเริ่มถอดเสื้อผ้าตนออกทีละชิ้น...

กว่าจะรู้ตัวร่างโปร่งข้างหลังก็เดินผ่านก้าวข้ามลงไปนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งเหมือนไม่รู้สึกถึงความเย็นเมื่อร่างโปร่งนั้น ทิ้งตัวให้เลื่อนลงไปใต้ผืนน้ำ และก้อนน้ำแข็งที่ลอยอยู่เบื้องบน นานเกือบอึดใจกว่าจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำแล้วไล่สายตาไปยัง ร่างข้างๆที่ได้แต่ยืนนิ่ง...

“...ลงมา....มีอะไรหลายเรื่องที่อยากรู้”

เสียงพร่านั้นเหมือนคำสั่งมากว่า..

ตรินทร์ ทิ้งตัวเลื่อนลงแช่ในน้ำผสมน้ำแข็งแต่ไม่วาย กวาดสายตาให้ ลูกพี่ลูกน้องตนก้าวตามลงมา...ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำ มันไม่ใช่คำเชิญชวนให้ตัดสินใจแต่...มันเป็น 'คำสั่ง' และทุกคำสั่งไม่เคยโดนปฎิเสธ....

..............
............................


 “พวกสุร ...อึก...อื้อ !.. สุร...กำลังจะเปิดสงครามกับ ‘นาง’…อะ.อ้า....ตรินทร์....”

โฆษิต เริ่มจะพูดไม่เป็นประโยคเมื่อ คุณชายนั้นผลักตนให้ติดไปกับอ่างอาบน้ำใหญ่แล้วทั้งกัดทั้งเลียลำคอไล่ลงมาถึงยอดอก ทั้งๆที่ไม่มีอะไรติดตัวสักชิ้น แต่ร่างนั้นทำไมถึงร้อนไปหมด....เสื้อผ้าที่เปียกน้ำของโฆษิตไม่ได้ถูกถอดแต่สัมผัสร้อนที่ผ่านทางเนื้อผ้ามันยิ่งทำให้แทบขาดใจ....

.“พูดต่อไป....”

ตรินทร์…ออกคำสั่งผ่านลำคอ เมื่อริมฝีปากนั้นยังครอบอยู่กับยอดอกที่ชูชันของร่างตรงหน้า ร่องรอยของแรงกัดเม้ม เต็มไปทั่วลำคอและแผงอก โฆษิต เหมือนเป็นเพียง หุ่นยนต์ ที่มีหน้าที่นิ่ง และตอบในสิ่งที่เจ้าของต้องการรู้ ...

...ตรินทร์ ไม่เคยให้สัมผัส....

“ มะ....มี... พวกไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่ง ไอ้ยักษ์นั่น กับ ภินทร์ ที่เข้ามายึดร่าง นาย และ อีกฝ่ายที่เป็น สมิง ทางเราไม่รู้อะไรมาก แต่พอเดาได้ว่าฟาก สมิงเองก็น่าจะไม่ใช่มิตร ของ ‘นาง’…ตรินทร์….อย่า...อย่า... ”

โฆษิต เผลอร้องห้ามเมื่อมือร้อนๆของ ตรินทร์ เริ่มที่จะไล้ลงไปใต้บอกเซอร์ตน ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากางเกงกับเข็มขัดถูกปลดออกไปตอนไหน...

“อย่า...ตรินทร์...”

“........”

..............
............................


..ทุกสิ่งหยุดลงทันทีที่ประโยคนั่นเอ่ยขึ้น...แววตาวาวสีเทาเหลือบมรกต จดจ้องอยู่ที่ใบหน้าแดง...

......โฆษิต สำนึกได้ลางๆ เผลอพูดคำที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว.....

สำหรับ ตรินทร์ ถ้าหยุด ....

.....มันหมายถึง 'หยุด' จริงๆ…

..............
............................

“โฆ...ถ้ามึงลบอคติกับไอ้คนที่ชื่อ ภินทร์ ลงไปบ้าง..กูว่ามึงน่าจะมองออกนะ...ภินทร์ไม่ได้ขโมยชีวิตกู แต่ภินทร์โดนดึงให้มาอยู่ในเกมนี้ด้วย...ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ สายตระกูล มึงคิดว่าใครมีอำนาจขนาดนั้น ? และอีกเรื่องที่กูสงสัย ทำไม ภินทร์ ถึงไม่กลับไปหาครอบครัวหรือเพื่อนเก่า ฟังจากนิสัยที่เล่าแล้ว ภินทร์ไม่ใช่ตัวคนเดียวแน่ อาจจะไม่ธรรมดาด้วยซ้ำ...กูว่ามีอะไรบางอย่างซ่อน ภินทร์ไว้...การที่พระแพงยังไม่ปรากฎตัวก็เหมือนกัน กูว่าพระแพงคงเจอไอ้อะไรบางอย่างที่ไม่ยอมพระแพงง่ายๆแน่”

...ตรินทร์ร่ายยาวเรื่องที่ตนวิเคราะห์ โฆษิต ได้แต่นิ่งฟัง....

แต่ไอ้ที่ตรินทร์ว่ามา...มันไม่ได้เข้าสมองน้อยๆนักหรอกเพราะรสสัมผัสมันยังติดอยู่ทุกส่วน

และ...ไอ้การที่ต้องมานอนนิ่งๆแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเนี้ยมันยิ่งกว่าความทรมาน เพราะปากแท้ๆ.....

ตรินทร์ ....ไหว้หล่ะไอ้เรื่อง SEX เนี้ยหัดเข้าใจเหมือนประชาชนทั่วไปสักทีเถอะ

ไอ้คำว่า ‘อย่า’ .....มันหมายถึง ‘อย่าหยุดนะทำต่อไป’...ตอนนี้โฆได้แต่นิ่ง ส่วนข้างในลึกๆอะ...กำลังซ้ำน้ำตาตก ....

เมื่อตรินทร์หยุดทุกอย่างแล้วไล่ให้โฆ ออกมาจากห้องน้ำ...

เกือบสามชั่วโมงที่ได้ยินแต่เสียงครางออกมาจากห้องน้ำนั้น.....

ทรมานใจคนฟังโฮกกกก....

หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม ตรินทร์กลับออกมาในสภาพเดิม สีหน้าไร้อารมณ์....บ่งบอกได้เลยว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ ตรินทร์ มีสีหน้าเย้ายวนขนาดนั้นมันหมดฤทธิ์ลงแล้ว......

.
.
.


... บนเตียงนอนของห้อง Double Room ตรินทร์ พลิกตัวหันกลับมาหาโฆษิตที่นอนนิ่งแล้วโอบลำคอโฆษิตให้โน้มเข้ามาใกล้

“โฆ....กูว่ามึงทำดีกับ ไอ้ภินทร์ นั่นหน่อยเถอะ ...กูบอกตามตรง กูไม่แน่ใจนักหรอกว่าร่างนี้มันเป็นของกูตั้งแต่ต้นจริงๆหรือเปล่า?...บางที คนที่ขโมยร่างนี้มา...อาจเป็นกู...ไม่ใช่ ภินทร์ก็ได้...พรุ่งนี้... มึงไปจัดการธุระเรื่องพวก สุร ให้เสร็จกูต้องการคำตอบทั้งหมด ส่วนเรื่องไอ้คิงส์บ้าอะไร นั่น ปล่อยมัน...ยังไงสัญญาก็ต้องเป็นไปตามสัญญา ...กูจะไปชดใช้มันแทน ไอ้ภินทร์เอง.....หวังว่ามันคงจะไม่ตายง่ายๆนักหรอกนะ ”

พูดจบ ตรินทร์ ก็กระชับวงแขนตนที่กอด โฆษิต ให้แน่นขึ้น... ซุกหน้าลงที่ซอกคอ กลิ่นที่คุ้นเคย กับความวางใจ ทำให้ง่ายที่จะหลับ....

.
.
.

...หลับโดยไม่สนใจเลยว่าคนที่โดนกอดนั้นหลับไม่ลง มัน ...ยิ่งกว่าทรมาน...

..............
............................




[แถม......]

....

[Part  คิงส์]



‘กู เป็นอะไร? ทำไมถึงต้องมานั่งคิดเรื่อง ‘มัน’ อยากเลียช่วงไหลมัน อยากกัดแล้วไล่ทำรอยให้ทั่วทั้งตัว กัดเม้มช่วงลำคอ จูบให้มันลืมหายใจ หลังจากนั่นก็ ป๊าบป๊าบให้หน่ำใจ... แค่คิดกูของขึ้นแล้วทำไมต้องเป็น 'มัน' นะ ไอ้เด็กบ้านั่น ดูขัดตาชิบหาย ยิ่งตอนมันอยู่กับไอ้ยักษ์นั่น ดูน่าหมั่นไส้ชิบ....

...ตอนแรกว่าจะให้มันลองกราบกูดูสักหน่อย...

อุสาไปลากมันมาตอนเมาๆแล้วเชียวนะแต่เพราะพวกไอ้เวทย์อยู่ด้วยจากจะลากมันมา เล่นๆกลายเป็นจับมันกดน้ำซะงั้น ว่าเอากันแค่สนุกๆจนมันเลยเถิดจนกลายเป็นเรื่องแถมยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ตอน แรกว่าจะหยุดแต่อยู่ๆกลับถูกมันซัดเอาแบบไม่ทันตั้งตัวรู้สึกตัวอีกทีมันก็หายไปกับไอ้ปีสองอีกคนแล้ว….

น่าสนใจ! ตอนที่เห็นมันแต่งชุดลูกไม้ยืนเรียกแขก กูบอกกับตัวเองเลยไม่ว่ายังไงกูก็ต้องชนะ ต้องได้มันมาก่อนแล้วยังไงค่อยว่ากัน พอได้มันมาจริงๆ (แกได้มันตอนไหนหรอออออออ... [คน เขียน] ) กูก็ไม่อยากปล่อยมันไป อยากทำให้มันรักให้มันหลงจนถอนตัวจากกูไม่ขึ้นเลย

...ตอนนี้อยากได้ยินเสียงมันครางเรียกชื่อกูจัง...แล้วมันก็เกิดเรื่อง ไอ้เด็กบ้านั่น โดนยา.. ไม่ต้องบอกก็รู้ ฝีมือไอ้โฟน งานถนัดมัน หน้าตาเชี่ยแล้วยังทำตัวยังกับตัวร้ายละครหลังข่าว แต่ก็เข้าทางกูนะ ส่วนมากพระเอกมักได้นางเอกก่อนไม่ใช่หรอ? แต่ไอ้เรื่องตบจูบเนี้ย? ทำไมมันเป็นจูบแล้วชก?แถมชกทีเล่นเอาน็อค...

...คงต้องเปลี่ยนแผนแล้วมั้งกู ’

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 25-04-2012 15:24:55
 :กอด1:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!32# Sweet blood รัก รส เลือด...
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:26:25
บทที่ 32 Sweet blood รัก รส เลือด...กับเปลือกแห่งพื้นดิน...
[อดีต]Part หมอสัตรา



'ยิ่งกว่าตำนานมีชีวิต หลุดออกมาเดินท่ามกลางผู้คน ผมเจอ ‘มัน’ แล้วไม่สิตอนนี้คงต้องเรียก ‘เธอ’ มากกว่า นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เห็นสายพันธุ์ที่บริสุทธิ์และหายากอย่างนี้.. สายพันธุ์เดียวที่มีการบันทึกถึงอย่างสัตว์ในเทพนิยายทั้งที่ ‘เธอ’ไม่ใช่ ‘สัตว์’ ผมแทบจะละลายถึงจะเป็นแค่ตัวอ่อนยังไม่เคยลอกคราบก็เถอะ แต่นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่เคยเห็น

‘สายพันธุ์แห่งผืนดิน’

ใกล้ขนาดนี้ไม่สิแค่เห็นร่องรอยยังยากแต่นี้ตัวเป็นๆ แถมยังเดินได้...โอ้ย !! ผมจะบ้า ผมไม่รู้หรอกว่า ‘เธอ’ เกิดขึ้นมาได้อย่างไรเพราะหลังจากการสังเกตการณ์และการสืบข้อมูล ‘เธอ’ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็น ‘อะไร’ ผมได้แต่มองเธอห่างๆเฝ้าดูทุกฝีก้าวและเข้ามาในชีวิตเธอในฐานะเพื่อนสนิท การสะสมวิชาความรู้ในฐานะ ‘มนุษย์’ ของผมทำให้เราห่างกันบ้างในบางครั้ง แต่ก็เกือบทุกครั้งที่ห่างกันผมอดจะหวงเธอไม่ได้ ยิ่งตอนนี้ สิ่งที่ผมกังวลกำลังจะเกิดยิ่งทำให้ผมกระวนกระวายเธอต้องอยู่ในที่ที่เหมาะสม นั่นทำให้ผมหวง...

วันนี้ ‘เธอ’ โทรมาหาผม เล่าเรื่อง ‘บ้าน’ ที่เจอฟังจากน้ำเสียงดูท่าจะชอบบ้านหลังนั้นมาก... ไม่สิเข้าขั้นบ้าเลยมากกว่า นี้อาจเป็นสัญญาณที่ดี สัญญาณของสัญชาติญาณที่กำลังเตรียมพร้อม ผมไม่รู้หรอกว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พออยู่ใกล้เธอผมยิ่งห่วง ยิ่งใกล้กันมากขึ้นจากห่วงมันกลับกลายเป็นหวงไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ

“ มาอยู่ด้วยกันไหม? ”

...คำชวนนั้นทำเอาผมแทบบ้า ถึงจะสำนึกได้ลางๆว่าเธอชวนเพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกัน
และเป็นเพราะผมเคยเกริ่นกับเธอไว้แล้วก็เถอะ แต่คำนั้นทำเอาผมลืมทุกอย่าง ผมอยากอยู่ใกล้เธอ...

...จากคำชวนไม่กี่คำ รุ่งขึ้นผมก็จัดการเก็บข้าวของย้ายไปบ้านที่ว่านั่น ทุกอย่างน่าจะลงตัว...ยกเว้นปัญหาที่ผมเห็นตั้งแต่อยู่หน้ารั้วบ้านปัญหาที่ผมเห็น...แต่เธอไม่เห็น... ไอ้ผีบ้าพวกนั้น มันกำลังทำให้ ‘เรา’ ยุ่งยาก สำหรับผม ผมรับรู้และเห็นทุกการกระทำของไอ้ผีบ้าพวกนั้นแต่ต้องทนเก็บไว้เพราะสำหรับเธอหากไม่อยู่ที่บ้านนี้ปัญหาใหญ่จะเกิด แต่ยิ่งวันมันยิ่งเกินเลยไอ้ผีบ้าพวกนั้นกำลังจะเกินขอบเขต ของมัน และขอบเขตนั้นมันกำลังจะกระทบต่อ ‘เธอ’ ของผม ไอ้ผีบ้าพวกนั้นต้องรู้เสียบ้างว่าพวกมันกำลังทำอะไร ต่างคนต่างอยู่ถ้าทำไมได้มันก็ต้องเละกันไปข้าง แต่ต้องเป็นข้างมันไม่ใช่ผม!

.
.
.


...

ฝนที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตากับสายลมที่โหมกระหน่ำ กลบเสียงคำราม ของผมให้เบาลง.....


เข้าวันที่ สองแล้วที่ 'ภัทร' เริ่มขั้นตอนลอกคราบที่ไม่อาจคาดเดาจุดจบ ผมทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้การกรีดปล้องคอที่ทำในวันแรกเหมือนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ผมได้แต่กอด ภัทร ไว้แน่น ถึงสติจะเลือนลางแต่ ภัทร ก็ยังสำลักไอไม่ต่างจากวันแรก เมือกเหลวนั้นทะลักออกมาเรื่อยๆจนเลอะเต็มหน้าอก รอยรอบคอแม้จะเปิดกว้างแต่ก็ไม่ได้หลุดออกมา มีแค่รอยตรงกลางเท่านั้นที่เปิดออก เปิดออกเพราะผมกรีดมันด้วยกรงเล็บของผมเอง รอยบน และล่างสุดยังคงเป็นแค่รอยลึกไม่ได้ต่างจากเดิมเลย นี้เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น ‘การเริ่มลอกคราบ’ ของ ‘สายพันธุ์แห่งผืนดิน’ มันคงเป็นครั้งแรกของ ภัทร เหมือนกันแต่อีกสิ่งที่ผมไม่อยากคิดมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายของ ภัทร ...

...การกรีดปล้องคอเป็นการช่วยอย่างหนึ่งแม้จะเสี่ยงไปบ้างแต่ผมก็มั่นใจในกรงเล็บตัวเอง แม้จะศึกษาการลอกคราบมาบ้างแต่การลอกคราบของ ภัทร บอกตามตรงว่าไม่เคยมีการบันทึกที่สมบูรณ์ไม่มีแม้แต่จะกล่าวถึงด้วยซ้ำ ผมพูดในฐานะการลอกคราบนั้นสำเร็จนะ เพราะถ้าที่มีกล่าวถึงบ้าง ก็เพราะ ‘มันล้มเหลว’ 'ซากปล้อง' คือคำตอบ

...หากเหลือซากปล้องคอไว้แสดงว่า ‘สายพันธุ์แห่งผืนดิน’ ตนนั้น ลอกคราบไม่สมบูรณ์ หรือลอกได้เฉพาะคราบไม่ใช่ชีวิต... ผมอยากให้ ภัทร กลับมา กลับมาเป็น ภัทร ไม่ใช่เหลือแค่ซากปล้องคอ ตอนนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องสายพันธ์แห่งตำนานอันบริสุทธิ์’ แล้ว แต่มันเป็นเรื่องของ ภัทร ผมรัก ภัทร รักในฐานะที่เป็น ‘ภัทร’ ไม่ใช่ในฐานะ ‘ตำนานที่มีชีวิต’

.
.
.

“ไม่เอาแล้ว ไม่ต้องลอกคราบก็ได้นะ ...ขอแค่ ภัทร ยังอยู่กับผม เป็นแค่ ภัทร ก็ได้ไม่ต้องเป็นมากกว่านี้ก็ได้ ขอแค่ภัทร เท่านั้น เป็นแค่ มนุษย์ก็ได้ ขอแค่อย่าเอา ภัทร ไปเลย ผมขอแค่นั้น โฮกกกกกกก…”

ไม่รู้ว่าผมจะพูดพร่ำคำรามกับอะไร เพราะตอนนี้ ภัทร ที่ผมร้องขอ คงไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ร่างนี้มีแค่อาการสำลักไอที่เรียกว่าสำรอกน่าจะถูก ฝนข้างนอกตกหนักจนกลบเสียงร้องคำรามของผม กลางสวนอย่างนี้คงไม่มีคนสนใจ ใช่คงไม่มี ‘คน’ สนใจ แต่เป็นสิ่งเร้าสำหรับเจ้าพวกผีบ้านั้น เงาดำสามสี่เงาพาดผ่านแถบผนัง ทำเอาผมที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วยิ่งเสียสติเข้าไปอีก...


.
.
.

..เป็นครั้งแรกนะที่ผม แยกเขี้ยวคำรามกับสิ่งที่ผมเคยคิดว่าเป็นพวกสวะ ผีหรือวิญญาณถ้าเทียบกับผมแล้วมันก็เหมือนแมลงหวี่แมลงวันไร้สาระที่จะสนใจแค่ปัดๆไปก็สิ้นเรื่อง แต่ตอนนี้ผมเป็นเหมือนแมวตัวใหญ่ที่ไล่งับแมลงวัน สมเพทตัวเองซะมัดที่ ภัทร ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้...

การเห็นชีวิตดับลง สำหรับผมเป็นเรื่องปกติเหมือนการหายใจทิ้ง ถ้าเปรียบชีวิตเป็นเปลวเทียน บางทีผมสนุกกับการเป่าเทียนให้ดับด้วยซ้ำจะเอาอะไรกับ ‘สมิง’อย่างผมชีวิตในป่ามีแค่ฆ่ากับถูกฆ่าเท่านั้น พอป่ามันเริ่มไม่เป็นป่าผมเลยออกมาข้างนอก การแลกเปลี่ยนชีวิตทำให้ผมได้อยู่ในฐานะ ‘มนุษย์’ พิเศษกว่าหน่อยก็ตรงที่ มนุษย์อย่างผมเป็น ‘ตำนาน’ ตำนานที่มีชีวิต...

...ครั้งแรกที่สำนึกได้ว่าตัวเองเป็นอะไร หูตาผมก็เห็นในสิ่งที่ มนุษย์ อื่นไม่ควรเห็น เทพ สุร นาคา กินนร หมาป่า เงือก ค้างคาว เคี่ยม รวมไปถึงพวกภูต ผี และอมนุษย์ เกือบทุกสายพันธุ์ที่เดินสวนทางปะปนกับ มนุษย์ ใช้ชีวิตอย่าง ‘มนุษย์พิเศษ’ แต่ผมออกจะคลั่งพวกเดรฉาน (เจริญตามขวาง) มากกว่า ผมมีเพื่อนเป็นนาคา สายพันธุ์ที่พบง่ายและบ่อยที่สุด ผมเคยหลงใหล นาคาตนหนึ่งแต่มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว แทบเรียกว่ารักไม่ได้ด้วยซ้ำ

...แต่กับ ภัทร คงเป็นเพราะเราอยู่ใกล้กัน ไร้ความหวาดระแวงกัน นิสัยที่เข้ากันกับสันดานที่ฝังลึกอันลึกลับ ที่แม้แต่ ภัทร เองก็ยังไม่เข้าใจ ยิ่งทำให้ผมหลงเธอ จาก ‘หลง’ เปลี่ยนเป็น ‘รัก’ ตอนไหนก็ไม่รู้ ผมรู้แต่เพียงว่า เปลวเทียนของ ภัทร ต้องไม่ดับลง จะต้องไม่ดับลง....

...ผมกลัว กลัวอย่างบอกไม่ถูก นี้ไม่ใช่ ภัทร ที่ผมรู้จัก เสียงคำรามในลำคอของร่างเบื้องหน้า เป็นเหมือนจอบที่ขุดฝันร้ายในสันดานที่ฝังโสตประสาทแห่งความกลัวของผมออกมา... เคยได้ยินมาบ้างว่า เหล่าสัตว์และอมนุษย์ กลัว ‘สายพันธุ์แห่งผืนดิน’แต่ไม่คิดว่ากับขนาดคุ้นเคยอย่างผม ‘ จะกลัวภัทร ’ กลัวเพราะสัญชาติญาณของตนเองร้องเตือน นี้ไม่ใช่สายพันธุ์ธรรมดา...


แววตาสีเทาขุ่นจ้องมองผมอย่างไร้สติ แต่ทำเอาผมเกร็งจนขยับตัวไม่ได้ ยิ่งร่างนั้นค่อยๆ คลานขยับเข้ามาใกล้ยิ่งทำให้ผมกลัวแทบบ้า...นี้อาจเป็นแค่การเริ่มคุกคาม โดยที่เจ้าตัวยังไร้สติ...

..เพราะหากสติดีกว่านี้ผมคงถูกกินเข้าไปแล้ว แต่นี้ก็คงไม่ต่างกันแค่มีเวลาให้หายใจมากกว่าปกติก็เท่านั้น แม้รู้ว่าจะต้องหนีให้ไกลแต่ ผมกลับก้าวเท้าไม่ออกด้วยซ้ำ...



ปัง!



เสียงประตูที่เปิดออกกระทบกับฝาบ้านเรียกสติผมให้กลับมาแม้จะช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็พอให้ผม กระโจนออกมาจากห้องได้ทัน ...โซ่เส้นเขื่องที่เคยใช้ล่ามอะไรบางอย่างถูกพันคล้องแน่นไว้กับบานประตูและล็อกด้วยแม่กุญแจโบราณตัวใหญ่ทับอีก 2 ตัว อาจพอหยุด ภัทร ได้บาง ผมสงสัยว่าทำไม ภัทร ถึงไร้สติอย่างนั้น การลอกคราบสมบูรณ์แต่ทำไมถึงไม่กลับมาเป็น ภัทร มีอะไรบางอย่างผิดปกติ

.
.
.

“มันหิว...”

เสียงทุ้มเย็นเอ่ย ออกมาจากผนังบ้าน 'ไอ้เสือเนียม' ยังคงนิสัยเดิมมันโผล่แต่เฉพาะครึ่งลำตัวออกมาจากผนังบ้าน เวลานี้ผมได้แต่หอบหายใจถี่ไม่มีอารมณ์จะเจรจากับอะไรทั้งนั้น เลยได้แต่ฟังมัน...

“น้องสาวคนนั้นเริ่มกินซากตัวเองเข้าไปแล้ว แต่มันจะยังไม่อิ่ม...”

“ ‘ตะบองพลำ’ อย่างมัน...ต้องกินมากกว่า คราบซากเดิมที่ขยายใหญ่ มันต้องการเนื้อสด ไอ้สมิง ตะบองพลำ ของมึงต้องการ ‘เนื้อสด’ หาให้มันให้ได้ก่อนที่มันจะกินมึงแทน กูจะเฝ้ามันให้ ตอนนี้มันยังกินคราบเดิมมันอยู่คงพอมีเวลาอีกวัน นี่ก็ขึ้นอยู่กับมึง
จะทิ้งมันหรือช่วยให้มันมีชีวิต”

ผมค่อยๆหันไปมองหน้าไอ้เสือเนียมอีกครั้ง มันรู้ว่า ภัทร เป็นอะไรและต้องการอะไร มันรู้ด้วยซ้ำว่าผม ‘กลัว’

“มึงจะเอายังไง ไอ้สมิง...”

..............
............................



...ผมปิดประตูแล้วทิ้งพวกมันไว้อย่างนั้น ภัทร ชอบ เนื้อสดที่กรีดร้องและคลานหนี ความจริงคงเป็นเพราะผมไม่อยากเห็นการกินอันน่าสยดสยองของคนที่ผมรัก ที่แม้แต่ผมเองยังไม่กล้าดูมากกว่า ...   

ภัทร เป็นประเภทชอบเสียดายของกิน เจ้าสามตัวนั้นจะเหลือแค่หนัง เพราะเนื้อจะค่อยๆถูกเลาะออกแล้วกินช้าๆอย่างละเมียดละมัย ขณะที่ยังมีลมหายใจ... จนเหลือแค่ผิวหนังชั้นนอก ...การกินอันแตกต่างจาก สัตว์เลือดอุ่นอย่างผม...

การกินของ “ตะบองพลำ” สายพันธุ์แห่งผืนดิน อันสาบสูญ ...

เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า ตะบองพลำกินช้าง แต่พอศึกษาแล้วถึงรู้ ช้างไม่ได้มีไว้กิน แต่มีไว้เพื่อไข่อ่อนที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้ ตะบองพลำ หนึ่งตัวจะไข่เพียงหนึ่งใบเท่านั้นแตกต่างจากพวกตะขาบไฟ และไข่หนึ่งใบนั้นก็สำคัญสำหรับเผ่าพันธุ์โบราณบางเผ่า สำคัญมากจนไข่ถูกเก็บรักษาไว้ด้วยสายเลือดและมนต์คาถา จากรุ่นสู่รุ่น

...แต่มีบางสิ่งที่ผมไม่รู้ทำไมมันถึง มาอยู่ในร่างกายของ ภัทร ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับมันสักนิด จนมาวันนี้ผมก็ได้รู้

...มันเป็นเพราะ ‘นาง’ อีนางกาลีตนนั้น มันเอา ภัทร ของผมไป....


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!33 #Maybe I'm masochism. .ถ้ากูซาดิส
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:31:00
บทที่ 33 Maybe  I'm  masochism. .ถ้ากูซาดิส มึงก็มาโซ…
Part  ตรินทร์


...ผมมองไล่หลัง แม็กกะที่เพิ่งขับออกไปเหมือน โฆ จะหัวเสียอยู่เหมือนกันที่ผมใช้ให้ไปเก็บข่าวที่พวก ‘สุร’ วันนี้ยังไงก็คงต้องเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมก่อนเวลา เพราะเสียงโทรศัพท์มันไม่หยุดลงเลย เบอร์แปลกไม่เท่าไหร่แต่ไอ้ที่เมมฯชื่อแปลกๆนี้พอเดาได้ ฝีมือ เจ้าภินทร์

“จระเข้”


หึ! เข้าใจตั้งนะ แล้วเมื่อคืนดันเสือกจะฟัดจระเข้!ไอ้แสบเอ๋ย!

ภินทร์เป็นใคร ?ผมเองก็ยังสงสัยนะ...แต่ไม่คิดอยากรู้ เพราะสิ่งเดียวตอนนี้ที่ผมรู้ ‘ภินทร์’ เป็นคนที่ พระแพง ‘รัก’ สำหรับพระแพงถ้าได้ให้ รัก พระแพงจะเป็นยิ่งกว่านางฟ้า แต่สำหรับคนอื่น พระแพงเป็นได้มากกว่า 'ปีศาจ' ไม่รู้สิไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดีเพราะมันจะเลวร้ายแบบสุดๆ เมื่อก่อน โฆมันก็เคยโดน จรินทร์ ถึงขนาดโดนทำให้ตาบอดเพียงเพราะเด็กน่าสงสารนั่นมองผม...แล้วก็มาถึงคราวผม....

เมื่อพระแพงรู้ว่าผม ‘ไม่ใช่’ เพียงแค่นั้น พระแพงก็ฆ่าผมทั้งเป็น...เพียงเพื่อจะให้ ‘คนที่ใช่’ เข้ามาแทน

...เรื่องที่เกิดขึ้นที่ เสม็ด ผมไม่ได้บอก โฆ เพราะบางทีมันอาจทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง ซ้ำผมไม่รู้ด้วยว่าตัวเองจะอยู่ในร่างนี้ได้นานเท่าไหร่ แต่ผมก็จะทำให้มันดีที่สุดไม่ใช่เพราะตัวเอง แต่เพราะไอ้โฆ ผมไม่อยากเห็นมันร้องไห้อีก ผมอยากอยู่กับมันนะ อยากนอนกอดมัน อยากหลับและตื่นขึ้นพร้อมมัน แค่มันเท่านั้น....

แต่... เวลาสำหรับผมมันจะมีมากเท่าไหร่... มันจะรู้ไหมนะ...ที่ผมฝืนอยู่นี้ก็เพราะมัน ถ้าวันใดวันหนึ่งมันไม่ต้องการผม....วันนั้นผมอาจหายไป....ตลอดกาล  ผมคิดผิดหรือเปล่าที่จะผูกทั้งชีวิตไว้ที่ตีนมัน.... 

หึ! คราวนี้หวังว่าคงเลือกไม่ผิด สำหรับพระแพง ถึงยังไง เกือบครึ่งชีวิต ผมก็เคยเป็นคนรักและคนที่รักเธอ ถ้าจะให้ลืมตอนนี้ผมคงทำไมได้ แต่ตอนนี้ผมไม่เหมือนเดิมแล้ว ความรู้สึกทีมีให้ พระแพง มันก้ำกึ่ง ทั้ง ‘รัก’ และ ‘เกลียด’

..............
............................

[ Waiting for the end to come  คอยจนกว่ามันจะจบลง Wishing I had strength to stand  อยากให้ตัวเองแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้ This is not what I had planned  นี่ไม่ใช่แผน ที่วางไว้ It's out of my control.... ควบคุมมันไม่ได้เลย... ]


เสียงโทรศัพท์ดึงผมให้ออกมาจากความคิด ‘จระเข้’ เบอร์ที่หน้าจอโชวว์หรา ผมกดรับสายรอมันพูด

“กลับ บ้านนอนสบายไหมมึง? เสือกลืมหรือไงว่าต้องอยู่กับกูจนถึงวันอาทิตย์... หมดเวลาลันลาของมึงแล้ว มาเจอกูที่ ร้าน....วันนี้คงคุ้มกับเงินที่กูเสียไปนะ... ”

จระเข้เชี่ยไรพูดมาก....

“เดี๋ยวเจอกัน”

...ตัดบทตอบมันไปแล้วตัดสายมันทิ้ง สำหรับ ‘พวกเรา’ ‘สัญญา’ คือสิ่งสำคัญ ยังไงก็ถือว่าช่วยเจ้าภินทร์มันหน่อย ถ้าไม่มีมันผมก็คงเป็นหนึ่งใน ของสะสมของพระแพง หึ จะว่าไปก็สงสารเจ้าภินทร์เหมือนกัน แต่ทำยังไงได้เมื่อพระแพงเลือกมันแล้ว ไม่ใช่ผม....ส่วนไอ้จระเข้ตัวนี้เดี๋ยวมึงได้รู้ฤทธิ์ กู.............

..............
............................

[15.45 น.]



...ดื่มแต่หัววัน.....

แก้วใบใหญ่ทรงแปลกถูกยัดใส่มือผม สีสวยแปลกๆในแก้วพอให้รู้ว่าเป็นเหล้าผสมของไอ้จระเข้ลืมไปซะแล้วว่ามันชื่อ อะไร เพราะรับโทรศัพท์ทีไร คำว่า ‘จระเข้’ มันก็ขึ้นมาทุกที เหมือนผ่านมาแล้วผ่านไปผมไม่ได้ชิมเหล้าในแก้วนั้นมันผ่านมือผมมาแล้วก็ผ่าน ไปตั้งบนโต๊ะเลย จนเจ้าของแก้วจ้องหน้าผมนั่นหล่ะถึงได้รู้ตัว

“ดื่มเข้าไป! กูผสมเองไม่ถึงตายหรอกอย่าให้เสียเวลาชงยากนะที่คนอย่างกูจะชงเหล้าให้คนอื่น...”

เสียงเย็นๆเหมือนสั่ง พอเมินหน้าหนีมันก็จับหน้าผมหันมาแล้วบีบปากผมทำท่าจะกรอกเหล้าในแก้วนั้นลงไป บังคับกูเกินไปนิด กล้านะมึง ผมปัดมันเบาๆแต่แก้วเหล้ามันดันหลุดออกจากมือจระเข้เอง เสียดายเหล้า....ผมเลยใช้อีกมือนึงคว้าแก้วที่กำลังตกไว้แล้วสาดใส่หน้ามัน ยังไงก็ยังได้ดื่มบ้างอะนะ แถมยังมีกลิ่นติดอีก .....น่าจะขอบใจผมนะ

“มึง......”

สายตามันดูอาฆาต แต่...ทำไม? กูไม่ผิด กูเสียดายเหล้า...

“ ห้องน้ำไปทางไหน ? ”

ผมหันไปถามเด็กเสิร์ฟ ที่มัวแต่ตะลึงยืนเก้ๆกังๆ มองไอ้จระเข้ที่เปียกโชกสลับกับมองผม พอเด็กเสิร์ฟมันชี้ทาง ผมก็ดึงไอ้จระเข้ให้เดินตามไปที่ห้องน้ำ  มันก็ตามมานะ ...ลองไม่ตามมาดิ กูได้ยำตีนมึงตรงนี้แน่มาถึงผมก็มองหาของที่อยากได้ ในใจคิดถึงฝักบัวกะว่าจะช่วยมันล้างเหล้าที่เลอะได้บ้าง แต่ในร้านเหล้า...มันไม่มีนี้น่า เลยลากมันเข้าไปในห้องน้ำ แล้วปิดประตู มองหน้ามันก็ไม่เห็นว่ามันจะว่าอะไร ผมเลยเอาฝาชักโครกลง จะได้นั่งได้ถนัดๆ หลังจากนั้นก็ .......

..............
............................

หยิบสายล้างขึ้นมาแล้วฉีดใส่มัน

“เผื่อมึงเย็นจะได้หายบ้า”

มันนิ่งไปครับ ก่อนจะเงื้อหมัดใส่ผม........

...

คิดว่ามึงอยู่กับใคร?
....

ไอ้สัด! จระเข้อย่างมึง! กล้าหือกับกูหรอ?!

.
.
.

...พักเดียวมันก็ลงไปกองอยู่ที่เท้า...ผม...อุตสาจะพามาล้างตัว...เสือกหาเรื่องเลอะทั้งตัวนะมึง

..............
............................


...กว่าจะถึงวันอาทิตย์ เที่ยงคืน .......

กูว่าจระเข้อย่างมึง คงเหลือแต่หนังเป็นกระเป๋าใส่ตังค์ให้กูแน่...


...เรายังสนุกกันอีกนาน....

...ไอ้จระเข้...


..............
............................


[Part  คิงส์]


‘เมื่อวานมันยังเหมือนเด็กน้อยขี้เล่น ดูกระดี๊กระด๊า ป้อสาวๆ ของพวกไอ้โฟน แบบออกนอกหน้า แถมพอมันโดนยามันยังสุดๆ

ลิ้นที่เลียหน้าอกผมในลิฟต์กับมือเย็นๆที่ทั้งไล้ทั้งล้วง...ทำเอาเชี่ยวๆอย่าง ผมไปไม่เป็นยอมรับว่า..คิดแต่จะกดมัน... จนลืมกดลิฟต์กันเลยที่เดียว....ยังจะจูบนั่นอีกนี่ผมหลงมันหรอเปล่านะ? ทำไมจูบมันทำเอาผมแทบละลาย หรือยามันออกฤทธิ์ผ่านกันได้ทางน้ำลาย? ทั้งๆที่รู้ว่ามันโดนยา แต่กลับเป็นผมเองที่หยุดตัวเองไม่ได้...

แล้วหลังจากนั้นผมก็ตื่นขึ้นมา...

โดยที่จำอะไรไม่ได้ ...

แถมฟันกรามตรงแก้ม ยังทั้งเจ็บทั้งปวดสุดๆ ปากแตกอีกต่างหาก ...เมื่อคืนเล่นท่าไหนกับมันแน่? แล้วทำไมเสื้อผ้าผมถึงยังอยู่ครบ...เกิดอะไรขึ้น? แล้วมันไปไหนเนี้ย!? หวังว่ามันคงไม่ได้กลับไปหาไอ้ยักษ์นั่นหรอกนะ ???


...
ตอนนั้นผมหาโทรศัพท์มันก่อนเลย... จำได้ว่าผมยึดมาแต่ไม่มีแล้ว นอนทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสิ้นใจโทรหามัน ผมโทรตั้งแต่เช้า บอกตามตรงไม่เคยจิกใครอย่างนี้ แต่กว่ามันจะรับก็เกือบเที่ยง....

เจอมันอีกที ไหงความรู้สึกผมถึงเปลี่ยนไป? เหมือนไม่ถูกชะตากับมันความรู้สึกมันบอกว่ามันเป็นประเภทเดียวกับผมไอ้ที่ อยู่หน้าผมมันไม่ใช่เด็กน้อยขี้เล่นเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว...

ผมได้แต่สงสัยตัวเอง  เมื่อคืนผมจูบกับมันจริงๆใช่ไหม?ทำไมตอนนี้ถึงอยากกระทืบ มันมากกว่า... 

หรืออาจเป็นเพราะเมื่อวานมันเมา แต่เจอมันตอนแรกมันก็ไม่ใช่แบบนี้นะ...  ผมยังเชื่อความรู้สึกตัวเองนะเลยกะชงเหล้าฝีมือตัวเองให้มัน ตอนที่ยื่นแก้วให้มันก็มองคอมันไปด้วย ถ้าเสือกมีรอยแดงอะไรนะ ผมเอามันไม่เลี้ยงแน่ แต่ก็ไม่มีร่อยรอยอะไร แถมเหล้าที่ผมชงให้มันยังไม่แตะอีก เลยกะแกล้งกรอกปากมัน....

อยากเห็นไอ้แสบโวยวายแต่ที่ได้กลับมาคือสีหน้ากวน ตีนกับเหล้าที่เปียกไปทั้งตัว ผมว่ามันแปลกๆไป แต่พอมันลากผมเข้าไปที่ห้องน้ำก็อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยเพราะคิดว่ามันจะง้อแบบ เมื่อคืนแต่หลังจาก... 

..............
.........................

.
.
.

“เผื่อมึงเย็นจะได้หายบ้า”

..............

แล้ว...ผมก็หมดความอดทน...

มึงไม่ใช่ไอ้แสบของกูแล้ว! มึงกับกูได้ตายกันไปข้าง! แต่เหมือนจะคิดผิด! เห็นตัวเล็กกว่าผมก็จริง แต่มันก็ทำเอาผมล้มไม่เป็นท่า! สัด!หมดแล้วอารมณ์ที่เคยมี...ไอ้เชี่ยที่เหยียบผมอยู่นี้ วันนี้มึงได้จมตีนกูแน่!   ’

..............
............................


“อย่าลืมนะว่าวันนี้มึงมาเป็นเบ้กู”

ผมกัดฟันบอกมันที่เหยียบอยู่บนหลังผม ไม่มีเสียงตอบรับแต่รู้สึกได้ว่ามันยกเท้าที่เหยียบผมออก แล้วก้มลงมาจับมือผมดึงให้ลุกขึ้น...

“งั้นก็สั่งมา อย่ามัวแต่แข้งขาอ่อน...ในห้องน้ำ”

มันพูดลอยๆ แล้วเปิดประตูห้องน้ำเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้สัด! เมื่อคืนกูโดนของแน่ๆที่จูบมันลง! เสียดายปากฉิบ!

...ผมเดินออกมาข้างนอก เห็นมันยังยืนนิ่งอยู่ ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาเหยียดๆ ... มึงจะลองกับกูใช่ไหม? ไอ้ภินทร์!

“กูจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่คอนโด ช่วยไปเป็นมือเป็นตีนให้กูแบบเบ้ที่ดีควรจะทำหน่อยได้ไหม?”

มันไม่ตอบแต่มองผมที่ก้าวออกจากร้านแล้วเดินตามมาที่รถ มองหน้ามันตอนนี้ไม่มีอารมณ์ใคร่สักนิด...มีแต่อารมณ์ อยาก....อยากกระทืบคน!

..............
............................


“เชี่ย!กูให้มึงมาเป็นเบ้กูนะ! ไม่ใช่ให้มานอนเฝ้ากู! สัดภินทร์! ตื่น! ”

ผมเรียกมันที่อยู่ๆ ก็หลับซะงั้น นี่มึงมาเป็นเบ้กูจริงๆใช่ไหม สัด! รถกูก็ขับ แถมมึงยังมานั่งหลับอีก เมื่อคืนกูก็นอนไม่พอเพราะมึงนะ...

โวยวายมันเข้าไป...


...แต่พอมันลืมตาเท่านั้น ......

แม่ง!...ไอ้แสบขี้เล่นกลับมาอีกแล้ว...

...โคตรน่าฟัดเลยอะ...ผมกำลังฝันหรือเปล่า?...มันกระพริบตาถี่ๆก่อนจะมองหน้าผมแล้วยิ้มค้าง...คงจะยังไม่ตื่นเต็มที่ ว่าเมื่อก่อนบัสน่ารักแล้วนะ พอเจอมัน ผมว่าถึงมันจะดูแมนกว่าบัส แต่ความน่ารักไม่ต่างกันเลย ตอนมันเพิ่งตื่นดูดีกว่าไอ้ทีผมเจอเมื่อกลางวันนี้เยอะ

“ไง? หวัดดี คิงส์”

...มันหน้าเหวอๆ แต่ยังไม่หุบยิ้ม ไอ้แววตาขี้เล่นที่ผมหลง ทำเอาผมมึน มันมีสองบุคลิกหรือไง? แล้วมันก็หลับตาลงไปอีก...

.
.
.

...
...ส่วนลึกในความรู้สึกผมเหมือนเตือน อย่าให้มันหลับ!

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!34 #Bring around. อ๊ะหย๊ะ!.จะให้ผม..
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:37:13
บทที่ 34 Bring around. อ๊ะหย๊ะ!...จะให้ผมตื่นมาทำไม?!


..กลิ่นกำยานปนคละกลิ่นกำมะถันลอยขึ้นสูง...

เร่งบรรยากาศรอบข้างให้ยิ่งน่าอึดอัด โต๊ะหินตัวใหญ่ถูกใช้เป็นเหมือนเขตแดนกั้นระหว่าง อมนุษย์สองพวก...เขี้ยวโค้งสีเงินวาวตัดกับผิวกายสีทองแดงยิ่งส่งให้ร่างใหญ่นั้นดูสง่างามและทรง พลัง 'พงษ์หิรัญ' หรือ 'อะตรอม' ของ คุณภินทร์  ยังยืนนิ่ง อยู่หน้าประตู

...แววตาสีดำสนิทนั้นตอนนี้ไม่ได้มองภาพเบื้องหน้าหากแต่เหม่อมองไกลไปยัง เพื่อนสนิทจอมแสบ ที่ตอนนี้กำลังหลับลึก...อยู่ที่ไหนสักแห่ง ...

...สองวันแล้วที่ไม่ได้เจอหน้า สองวันแล้วที่ไม่ได้เห็นได้อยู่ใกล้... เป็นแค่เพื่อนสนิทแต่แค่คำว่าคิดถึง...มันยังน้อยไป... สำหรับความรู้สึก จะต้องทนยืนอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน? เมื่อไหร่บรรดาตาแก่กับพวกนาคา จะเสร็จธุระเสียที! หรือจะหนีออกไปตอนนี้ดี! คิดถึง! ได้ยินไหม? คิดถึง!

..............
............................

[Part ภินทร์]


‘คิดถึง’

...คำนั้นเหมือนลอยมาตามลม ผมกำลังฝันหรือเปล่า...เหมือนเสียงอะตรอมเลยนะ... อืมส์...คิดถึงเหมือนกัน

‘อยากเจอไหม?'

‘อยากเจอดิ…’

‘ถ้าอยากเจอก็ต้องตื่น’

‘ตอนนี้ยังตื่นไม่ได้...ให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนดิ’

‘ไม่อยากเจออะตรอมหรอ?’

‘…’

..............
.........................

...
เพราะคำล่อลวงของสมองซีกไหนสักซีก กำลังหลอกลวงผมอยู่ทำให้ผมต้องลืมตาตื่น เพียงเพราะชื่อของอะตรอม...

ลืมตาขึ้นมากำลังเมาขี้ตา...เห็นใครสักคนอยู่ตรงหน้า ตัวใหญ่ๆ คิ้วเข้มๆ ก็ต้องอะตรอมอะดิ...นี่ผมผ่านช่วงเผชิญปีศาจจระเข้ไปแล้วใช่ไหม?


เยส!ตรินทร์สุดยอด!

...ยิ้มกว้างสิครับ มรสุมผ่านไปแล้วแถมคนที่อยากเจอที่สุดก็อยู่ตรงหน้า อย่ามาจ้องสิเดี๋ยวมีจูบอรุณสวัสดิ์...

.
.
.

แต่พอมองดีๆ.......

..............ยังไม่ทันหุบยิ้มเลย........

สาดดดดดดดดดดดดดด! ไอ้เหี้ยมนี่หว่า!? มันยิ้มให้ผมด้วย ???!!!

.....เอ่อ.....กูกำลังฝันแน่เลย...ออกไปจากฝันกูนะสัด!

.
.
.
ไล่แล้วทำไมมันไม่หายไปอะ? ใช่มันจริงๆใช่ไหม?

.
.
.

“ไง? หวัดดี คิงส์...”

ผมทักมันแล้วยิ้มค้าง....ผิดคาด... ไอ้สมองซีกไหนมันปลุกกูขึ้นมาอ่ะ! ไม่เอ๊า! มันต้องไม่จบอย่างนี้ดิ! บร๊ะเจ้า!


..............
............................


ไม่เอาแล้วกูหลับดีกว่า... ขอเปลี่ยนตัวอีกรอบเถอะ....


...สำนึกได้ผมก็เนียนหลับตาลงอีกครั้ง....
 

“ภินทร์ ! อย่าหลับ...”

เสียงไอ้เหี้ยมมันเรียกผมไว้แถมไม่เรียกเปล่า มันดึงแก้มผมด้วย... อ้า...เจ็บอะ... ไอ้สัด!ซาดิสนะมึงลงไม้ลงมือกับกูตลอด...

“ถ้าง่วงก็ขึ้นไปนอนข้างบน กูเหนียวตัวแล้ว ไป!”

ไม่ทันให้ผมตั้งตัวเลยอะ... อยู่ๆก็เดินมาเปิดประตูฝั่งผมแล้วเข้ามาดึงข้อมือ....อ๊ะ!อีกแล้วไอ้สัด... มึงทำไมต้องมาจับมือซ้ายกูตลอด เชี่ยมันเจ็บนะ.....อยากจะกระโดดกัดหูมันนะแต่ที่ทำได้คือ…….


สะกิดมัน...แล้วยื่นมืออีกข้างให้มันจับ...

...สาธุภาพนี้อย่าให้บัสมาเห็นเล๊ย.........


..............
............................

ชั้น  6   ห้อง 623 ....


..นึกว่าไอ้คิงส์จะอยู่ชั้นสูงๆแบบพวกที่รู้จัก แต่ห้องของมันกลับอยู่ชั้น 6 ...เหมือนผมจะเคยมาห้องนี้แล้วนะ พอจะจำได้ลางๆ แต่จำอะไรไม่ได้ทั้งหมด...เหมือนละเมอๆนะ...แต่ บอกตรงๆผมชอบชั้นประมาณนี้มากกว่าชั้นสูงๆเสียอีกยิ่งสูงยิ่งหายใจลำบาก ระเบียงที่ยื่นออกไปข้างนอกลมโกรกเข้าสุดๆคงเพราะทำเลที่ไม่มีอะไรมาบังด้วยมั้ง ดูท่าผมชักชอบคอนโดนี้แล้วสิ 

ที่ยิ่งชอบคือ บัสอยู่ชั้น 21 ไม่ได้อยู่ที่เดียวกับไอ้คิงส์ อ๊ะหย๊ะ!....ยังมีหวังๆ

................
...........................................


“กูอาบน้ำ ห้ามหนี!”

ประโยค แว่วๆแต่เป็นคำสั่งไม่ใช่ประโยคบอกเล่า...คุยกับพวกนี้ต้องอาศัยการตีความเป็นอย่างสูง เสื้อไอ้เหี้ยมมันมีกลิ่นเหล้าคลุ้งเลย ไปตกถังเหล้าที่ไหนมา นอกจากเก่งแต่ใช้กำลังแล้วยังซุ่มซ่าม หึ!

มันยังอยู่ในห้องน้ำครับเข้าห้องน้ำโคตรนาน....ผมถือวิสาสะเดินสำรวจห้องมัน ก็โอเคนะเตียงกว้างดี เตียงนี้บัสเคยใช้ไหม?

อ๊ะ..... คิด แล้วพาลเครียด ยิ่งเครียดยิ่งหิว เดินไปเปิดตู้เย็นสัด! แทบจะไม่มีอะไรเลย... ไม่เห็นเหมือนตู้เย็นที่หอ อะตรอม เลยรายนั้นของเกินเยอะมาก...แต่ก็ยังดีในตู้เย็นชั้นบนมันมีน้ำผึ้งอยู่ด้วยผมชอบน้ำผึ้งนะ ที่หออะตรอมกับที่บ้านชลวะเท ผมก็ซื้อใส่ตู้เย็นไว้ แช่ชั้นบนสุดเหมือนกัน .....

ว่าแล้วก็ขอสักคำ....


อ้างงงงงงง...  สุดๆๆ มันต้องอย่างนี้ ถึงไม่มีอะไรมีน้ำผึ้งก็ยังดี แต่มันเอาน้ำผึ้งไว้ทำอะไรว๊ะ? ..ช่างแม่งมัน ....แต่ไม่อิ่มท้องเลยอะ อยากได้อะไรหนักๆอะ

“คิงส์  เราไปซื้อของนะ”

ผมตะโกนบอกมัน แล้วเตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่เหมือนมันจะเร็วกว่า อยู่ๆมันก็พรวดออกมาจากห้องน้ำ

เอ่อ.....ฟองเต็มหัว  ผ้าเช็ดตัวที่ปิดอยู่ก็....มึงไม่ต้องปิดก็ได้มั้ง...?

“รอกูเดี๋ยว...เดี๋ยวกูไปด้วย”

มันพูดจบก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปใหม่........เชื่อมันเลย.....อะไรมันจะงกเงินขนาดนั้น.....มึงกะใช้กูให้คุ้มเงินใช่ไหมคุณเหี้ยม ...14,700 บาท ที่กูรับมา... แหมทำยังกะเป็นเจ้าชีวิตกู...ชิ!...แต่ขอโทษ....ไม่ชอบคำสั่ง ผมไม่ได้รอมันหรอกเดินออกมาจากห้องเลย...

กดลิฟต์ไปชั้น 17 ก่อน ดูลู่ทางก่อนว่าพวกไอ้เรดกลับกันมาหรือยัง แต่กุญแจยังคล้องอยู่ที่หน้าประตู....จบกันกู.....หิวอะ...

เอาไงดี?.....ต่อมความหิวทำงานต่อมความรักก็เป็นใจ .....

.
.
.

ไปหาอะไรกินห้อง 21 ดีกว่า....... .แต่จะไปยังไงให้เนียนๆ

อ๊ะ........คิดสิครับ.....คุณภินทร์  คิดสิครับ...

ปิดโทรศัพท์ก่อนอันดับแรก...



หึหึหึ.....

..............
............................



‘กริ๊งงงงงงงงงงงง’  ‘กริ้งงงงงงงงง’

..ตอนนี้ผมจิ้มปล่อยกริ่งหน้าห้องบัสอยู่ครับ จิ้มเสร็จก็มายืนทำหน้าสลด แผนการณ์วางไว้หมดแล้ว แบบเป็นสเต็ปด้วย ซ้ำยังมีแผนสำรองอีกสองชั้น เผื่อพลาด....รายนี้ผมรักจริง จะมามั่วเนียนไม่ได้ แหม พูดฟังดูดีเนอะ อ๊ะ! เปิดแย้วๆ

“บัส....”

ผมจ้องหน้าเจ้าของห้องตาละห้อย....ยังน่ารักเหมือนเดิม...น้องเขายิ้ม เขินๆ ก็พอรู้มาบ้างแล้วอะนะว่าผมอะจีบอยู่ เสื้อยืดตัวใหญ่ๆกับกางเกงสามส่วน......น่าร๊ากกกกกกอ่ะ....อ๊ะ! ไม่หล่ะๆๆ อย่าหลุด อย่าหลุด....

“บัส...พี่เข้าห้องไม่ได้ เพื่อนที่ห้องไม่อยู่ โทรศัพท์พี่หาย พี่ยังไม่ได้ทานอะไรมา ตั้งแต่เมื่อวานแล้วอะ...ขอยืมใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหม? หิวข้าว......”

เนอะ.....เนียนไปเน๊อะ....น้องเขาก็ใส....แถมยังใจดีสุดๆ สีหน้าห่วงใยนั่นได้ใจไปอีก....ได้อีก...สำหรับบัสดีทุกอย่าง ยกเว้น เรื่องครบกับไอ้เหี้ยมนั่นเรื่องเดียว.....

“เข้ามาสิครับ....บัสกำลังทำกับข้าวอยู่ ทานด้วยกันก่อน แล้วค่อยว่ากันนะ”

อ๊ายยยยยยยย! อ๊ายยยยยยยยยยย! ประ-จวบ-เหมาะ ยังกับจับวาง......

.
.
.

“.....สวัสดี ครับน้อง...เอ่อ...”

...วางผิดตำแหน่งไปนิดในห้องมีน้องผู้หญิงอยู่ด้วย ชื่อ 'อ้อม' ผมรู้ เพราะสืบมาหมดแล้ว แต่ที่เอ่อ...เอ่อ..เนี้ยกลัวน้องเขารู้ว่าเรารู้ชื่อน้องเขาแล้วเดี๋ยว เรื่องจะยาก แถมไอ้ที่มีขยะไปวางประจานหน้าห้องก็ฝีมืออ้อม...

..ไม่เป็นไรให้อภัย อ้อมก็น่ารัก...

แต่บัสน่ารักกว่า..... ...เปรม ครับ.... ผมได้ช่วยบัสทำกับข้าวฝีมือใช้ได้ แต่รสไม่จัดเหมือนที่อะตรอมทำ......ทำไมเวลาคิดอะไรต้องเอาอะตรอมมา เทียบด้วยอะ...เป็นเอามาก.... ทานเสร็จก็ขอยืมโทรศัพท์ครับ

อะของตัวเองก็มีแต่ปิดเครื่องไปแว้วววววววววว   ส่วนเบอร์ที่โทรเข้าไปก็เบอร์ผมเองงงงง.... เบอร์บัสผมไม่ได้ขอมาหรอก ถ้าได้มาจากคนอื่นดูมันไม่สำคัญยังไงก็ไม่รู้ ต้องได้มาจากเจ้าตัวเอง...

...อยู่ ห้องบัสเกือบ 30 นาที ทำอาหารก็เสียเวลาไปมากแล้วแต่ถ้าทำกับคนที่เราชอบเวลามันก็ผ่านไปเร็วนะ  ส่วนข้าวทานได้นิดหน่อย เพราะน้องอ้อมเขาห่วงเพื่อน....ผมเลยขอตัวออกมาก่อน...บัสก็ดีแสนดี ตักข้าวกับกับข้าวอีก สองสามอย่างให้ แต่มันเยอะมากกกกกก มีขอบคุณกันเล็กน้อย น้องอ้อมเหมือนจะไม่ชอบหน้าผม...ไม่เป็นไร รักแท้ย่อมมีอุปสรรค พี่เข้าใจ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะดีซะอีกที่บัสมีคนเป็นห่วง ยังไงก็ฝากน้องเป็นไม้กันหมาให้พี่ด้วยนะ กันหมาได้น้องก็กรุณาอัพเลเวลกันจระเข้ด้วยยิ่งดี...

.
.
.

บัสเดินออกมาส่งผมที่ลิฟต์ครับ ส่วนอ้อมนอนดูซี่รีส์อยู่ ออกมาถึงหน้าลิฟต์มองซ้าย มองขวา...ไม่ขอนะ.....ผมลักไก่หอมแก้มบัสก่อนเลย...

“ขอบคุณนะ....ถ้าไม่มีบัส พี่คงแย่แน่ ”

บัส นิ่งไปครับ....ทั้งแก้มทั้งหูแดงไปหมด ..... ตอนนี้คงเขิน แถมค้างไปแล้ว เลยถือโอกาส จูบปากแดงๆนั่นอีกครั้ง เพราะเจ้าตัวแข็งไปแล้ว

“อร่อยมากครับ”

..............
............................

...ลงมาถึงชั้น 6  กำลังเปิดโทรศัพท์ดูเบอร์บัส ยังไม่ทันทำอะไร ไอ้เหี้ยมก็โทรเข้ามาแล้ว

“อยู่ไหน!?”

...เสียงได้ใจมาก ไม่แดกหัวกูไปเลยล่ะ?.....แต่ก็แค่นั่น......โกรธกูแล้วไงทำ ’ไร กูได้  ไม่เคยเจอเนียนตัวพ่อซะแล้วไอ้เหี้ยม....

“ลง ไปซื้อข้าวมาให้นายกิน....กลัวหิวจนไม่มีแรงกดขี่เรา...แล้วอยู่ไหน? ถ้าอยู่ในห้องก็กรุณาเปิดประตูด้วย เราหิวข้าวเหมือนกัน....กินข้าวด้วยกันนะ”

เหมือนจะยิ้มได้ ในน้ำเสียง ก็แหง่อยู่แล้วคนมันมีความสุข เสียงมันก็ต้องสุขสิ....

ไอ้เหี้ยมเปิดประตูออกมาแล้ว อ่ะ มึงจะยิ้มตามกูทำไมอะ?
 
..............
............................



[แถม....]


“คิงส์ กินข้าวไปสิ....จะยิ้มทำไม?”

“กูมีความสุข.....แล้วมึงอะยิ้มทำไม?”

“....เราก็มีความสุข.....”

"............ "

[กลับมาสู่โลกแห่งความจริงเน๊อะคิงส์...ไอ้แสบมันไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก..เฮ่อ...]

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 35#I’m Phat.รักแล้วได้อะไร?
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:42:24
บทที่ 35 # I’m Phat.รักแล้วได้อะไร?
[อดีต]  Part ภัทร


‘รัก?’ คำนั้นมันมีจริงด้วยเหรอ? เคยเห็นมันไหม? หึ! มันก็แค่คำพูด ไอ้คำนั้นฉันก็พูดได้แต่ความรู้สึกมันเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า รัก...มันมีอยู่จริงๆหรอ?

..............
............................



“ Ti amo… ”

...เสียงนุ่มนั้นกระซิบเบาๆข้างๆหู หญิงสาวที่นอนซุกอยู่กับท่อนแขนใหญ่ แววตาวาวปรือตาขึ้นมาตามเสียงก่อนจะกระชับวงแขนตนกอดก่ายเจ้าของท่อนแขนนั้นให้แน่นขึ้นอีก แล้วดันพลิกตัวขึ้นมาเหนือแผ่นอกกว้าง

“ Si? ”

เจ้าของแววตาวาวขี้เล่นเอียงหน้าถามชายหนุ่มหน้าคมที่ตนนอนทับ รอยยิ้มหวานฉาบบนใบหน้าเสมอเมื่อเจ้าของต้องการล่อลวงสิ่งที่อยากได้ แล้วตอนนี้ก็ได้สิ่งที่อยากได้มาแล้ว...

....แค่นั้นทุกอย่างมันก็จบ...

‘Ti amo…..เหรอ?

..............
............................


แกอย่ามาสะตอ...ไอ้มักกะโลนี!!!’

..............
............................

.
.
.


“....เข้าใจผิดกันหรือเปล่าค่ะ....หนูอาจเข้าใจผิดก็ได้ เพื่อนเขาอาจจะแกล้งกันเล่น ”

..รอยยิ้มจริงใจกับน้ำเสียงสบายๆของหญิงสาวเบื้องหน้าเหมือนจะปลอบเด็กสาวที่นั่งตัวสั่นข่มอารมณ์โกรธและหยดน้ำตา ยิ่งเสียงนั้นแฝงแววห่วงใยมันเร่งให้เด็กสาว อยากจะระบายหลายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ

“Alex มีคนอื่น เขาถ่ายรูปกับผู้หญิงคนนั้นด้วย ถึงจะไม่เห็นหน้าก็เถอะแต่ภาพบนเตียงขนาดนั้น .... มันชัดอยู่แล้วว่า Alex มีคนอื่น ....เขามีอะไรกัน และที่สำคัญ Alex ก็รักผู้หญิงคนนั้น....รักผู้หญิงคนนั้น!!ไม่ใช่นุ้ย ... ”

ไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลมาตอนไหน....นุ้ยได้แต่ร้องไห้โฮ... จนมือนิ่มของคนข้างๆดึงให้เด็กสาวมาซบอยู่กับอกแล้วค่อยๆลูบเรือนผมนิ่ม...กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมลอยฟุ้งขึ้นมาแตะจมูกเชิด หญิงสาวได้แต่กระชับวงแขนตนให้แน่นขึ้น ก่อนจะซุกจมูกตนแนบเข้ากับเรือนผมนั่น

“ไม่เป็นไรนะคะ...พี่ยังอยู่ตรงนี้ ถ้าอยากร้องหนูก็ร้องไปนะคะ”

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เด็กสาวเอาแต่ร้องไห้ ส่วนหญิงสาวก็ได้แต่ลูบเรือนผมนั้นปลอบประโลม

“ร้องพอหรือยังคะ ...คนดี...”

แววตาแดงกล่ำเงยขึ้นเมื่อน้ำเสียงหวานเอ่ยถามรอยยิ้มยังฉาบอยู่บนใบหน้านวลก่อนมือนิ่มจะเชยคางของเด็กสาวเจ้าน้ำตาให้เงยขึ้นแล้วแตะริมฝีปากอิ่มบนเปลือกตาทั้งสองข้าง

“ตาบวมหมดแล้วนะคะ...พอเถอะนะ... เห็นหนูเป็นอย่างนี้ จะให้พี่จะทำยังไงหล่ะคะ ถ้าเขาไม่รักเราเราก็ต้องปล่อยเขาไป...Alex ยังดีนะ ที่มีหนูมานั่งร้องไห้ให้...ส่วนพี่...ต่อให้รักให้เป็นห่วงหนูยังไง พี่ก็เป็นได้แค่คนคอยปลอบใจ...หึ เป็นไปไม่ได้มากกว่านั้นจริงๆ...ใช่ไหมคะหนู?”

น้ำเสียงตัดพ้อกับรอยยิ้มปลอบที่เริ่มจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแสนเศร้า...

...แววตาของเด็กสาวเหมือนลังเลก่อนจะแตะริมฝีปากตนเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มของหญิงสาวตรงหน้า ถ้ารักที่ทุ่มเท โดนทรยศขนาดนี้มันไม่ผิดใช่ไหมที่จะเปลี่ยนไปให้รักกับคนที่มีรักให้

..............
............................


“เหมือนกระต่ายน้อยเลยนะคะหนู....ตาแดงๆ แก้มนิ่มๆ”

หญิงสาวกระชับอ้อมกอดตนแน่นเข้ากับช่วงเอวบางของร่างเด็กสาวแต่ไม่วายซุกก้มลงมาหอมเรือนผมนิ่ม แล้วลากลิ้นเลียซ้ำๆไปที่ลำคอระหง แค่นั้นเสียงครางเบาๆก็เป็นตัวนำทุกอย่าง มือเย็นไล้ลูบขึ้นไปจนถึงเนินอกอิ่ม แล้วบีบเค้นเบาๆ

....ก่อนจะลากลูบเรื่อยลงไปถึงช่วงเว้าของสะโพกเนียน...

“คืนนี้พี่ค้างที่นี้ได้ไหมคะ?”

..............
............................

.
.
.

...
เกือบเที่ยงคืนที่ หญิงสาวใช้เวลากับร่างบางแสนนิ่มที่ส่งเสียงรัญจวญใจทุกครั้งเมื่อ สัมผัสจากตนไล้ผ่าน.....อยากได้มากกว่านี้แต่ต้องปล่อยให้เด็กสาวได้พักก่อน ....ไหนจะเสียแรงร้องไห้ ไหนจะเสียแรงเพราะสัมผัสจากตน ....

...พรุ่งนี้ค่อยต่อก็แล้วกัน...

[ Waiting for the end to come  คอยจนกว่ามันจะจบลง Wishing I had strength to stand  อยากให้ตัวเองแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้ This is not what I had planned  นี่ไม่ใช่แผน ที่วางไว้ It's out of my control.... ควบคุมมันไม่ได้เลย...]

...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นดึงสติหญิงสาวให้ออกมาจากความง่วง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูชื่อที่หน้าจอแล้ว ค่อยๆลุกเดินห่างออกไปจากเตียงที่มีร่างบางอันเปลือยเปล่าของหนูนุ้ยซุกอยู่

.
.
.


“........”

“Ciao…”

เสียงทุ่มนั้นเอ่ยออกมาทันทีที่เธอกดรับโทรศัพท์

“Ciao Ciao Alessandro ….”

..หญิงสาวกรอกเสียงใสไปตามสายเพราะตอนนี้อารมณ์ดีสุดๆ หลังจากนั้นก็กดตัดสาย แล้วปิดโทรศัพท์ถอดซิมออกมาหักและทิ้งลงไปในโถชักโครก ก่อนจะหยิบอีกซิมที่สแตนท์บายในช่องสองมาเปลี่ยน....

‘ Ciao Ciao Alex …ขอบคุณนะที่โง่ให้หนูนุ้ยแอบดูโทรศัพท์...ขอบคุณนะที่ไม่บอกเลิกหนุนุ้ย ทั้งๆที่ YOU มีคนอื่นไปแล้ว สำหรับผู้หญิงการที่ YOU ลังเล มันแสดงว่า YOU กำลังหลายใจ มันเลวร้ายมากถ้ารู้ว่ากำลังโดนหลอก แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ....จะเอาอะไรมากมายยิ่ง YOU เลวแค่ไหน I ยิ่งดีในสายตาหนูนุ้ยเท่านั้น คืนนี้ยังอีกยาวไกลนะ Alex ตามหา I ให้เจอวิ่งพล่านให้สนุก ....ส่วน I จะใช้เวลากับ Ex..girlfriend ของ YOU ให้คุ้มค่าเอง.....ไม่ต้องขอบคุณนะ เพราะอีกไม่นานถ้า I เบื่อ I จะคืนหนูนุ้ยให้ YOU เอง...แต่คงอีกหลายสัปดาห์... ’

..............
............................

.
.
.

[ Waiting for the end to come  คอยจนกว่ามันจะจบลง Wishing I had strength to stand  อยากให้ตัวเองแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้ This is not what I had planned  นี่ไม่ใช่แผน ที่วางไว้ It's out of my control.... ควบคุมมันไม่ได้เลย...]

“ ภัทร....อยู่ไหน?”

...เสียงเย็นออกมาจากโทรศัพท์เครื่องเล็กทันทีที่เจ้าของโทรศัพท์กดรับสาย ‘หมอหมา’ ชื่อบนหน้าจอพาให้หญิงสาวถอนหายใจยาวก่อนจะพยุงตัวที่มีแต่รอยช้ำจากริมฝีปากให้ลุกขึ้นมาจากเตียงได้

“อยู่บ้านเด็ก...เดี๋ยวก็กลับ... ”

หญิงสาวกรอกเสียงเนือยไปตามสาย แต่พอร่างบางข้างๆขยับ หญิงสาวก็โน้มตัวลงมาจูบผิวเนียนที่โผล่ออกมาพ้นผืนผ้าที่ปิดคลุมร่างเปลื่อยของใครบางคนไว้...รอยช้ำแดงกับรอยเขี้ยวคมที่ฝังย้ำบนซอกคอขาวยิ่งทำให้ยากที่จะละสายตา... ความกระสันอยากเริ่มจะก่อตัวทั้งๆที่ร่างบางนั้นหลับลึกไปแล้วก็ตาม...

“เด็กที่ชื่อนุ้ย...โทรมาที่บ้านหลายรอบแล้วนะ จะคบใครก็เลือกสักคนไหนจะ  พิมพ์ กับแจน แล้วก็ยายจิ๊ก อะไรนั้นอีก !เราไม่ไหวแล้วนะกลับมาสักที! ตอนนี้อยู่กับใครกันแน่ ภัทร?! ”

"ไอ้หมออย่าบ่นยาว หนูนุ้ยอะจะให้ทิ้งไปได้ไงน้องเขาเพิ่งโดนแฟนทิ้งเมื่อเดือนที่แล้ว เอ๊ะ! หมอนี่ ไม่มีต่อมความสงสารน้องเขาเลย ช่วยปลอบน้องเขาหน่อยแล้วกัน....ส่วนน้องคนอื่นๆ หมอก็รับเรื่องไปก่อนสิ.....ทำเป็นไม่เคย...แล้วที่ถามว่าตอนนี้อยู่กับใคร? คนใหม่อะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก หมอเคยเห็น...ไว้เล่นจนเบื่อก่อน แล้วจะกลับ.."

ไม่ต้องรอประโยคอะไรจากหมอ...ภัทร กดตัดสายแล้วปิดโทรศัพท์เครื่องเล็กอย่างไม่ใยดี  ล้มตัวลงนอนอีกครั้งโดยที่ไม่ลืมดึงร่างบางข้างๆให้แนบแน่นเข้ามาในอ้อมกอด ....จะลุกออกจากเตียงนี้ตอนไหนยังไม่รู้ รู้อย่างเดียว....ยังไม่พอ...เด็กสาวที่ชื่อ พระแพง เหมือนยาเสพติด...ที่ไม่เคยพอ...

...แต่ก็แค่นั้น ...เดี๋ยวสักวันมันก็เบื่อ..แค่ตอนนี้กำลังหลงเท่านั้นเอง

..หมอ..อีกไม่นานเดี๋ยว ภัทร ก็กลับน่า...

...................
....................

............คำว่ารักมันคงจะมีจริง......กับคนอื่นนะ.....

........ไม่ใช่คนชื่อ ภัทร ......................

ทำไมน่ะหรอ? เพราะ I’m Phat ยังไงล่ะ...


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!36#Endanger.วันสุดท้ายได้เลือด [1]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:51:39
บทที่ 36 Endanger.วันสุดท้ายได้เลือด [1]



..วันอาทิตย์แสนสุข...

คิงส์ มารับภินทร์ที่บ้านชลวะเท แต่เช้า... มันคงจะเช้ามากไปจน ภินทร์ต้องกวาดของใช้ส่วนตัวใส่เป้ใบโปรดแล้ววิ่งลงตามเสียงแตรรถที่กดอย่างไม่สนใจสื่อ....แต่เจ้าตัวแสบไม่ได้คิดอะไรมากเพราะกลิ่นของอิสระเหมือนจะกระจายฟุ้งลอยหอมเย้ายวน......

...วันนี้เป็น...วันสุดท้ายที่ ภินทร์ จะเป็นมือเป็นตีนแทนไอ้เหี้ยมที่เหมือนจะเป็นง่อยหรืออัมพาตชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายช่วงเช้าไปเดินตลาดซื้อของสดมาใส่ตู้เย็นให้คุณจระเข้ ช่วงเที่ยงก็ทำกับข้าวทานข้าวด้วยกันหลังจากนั้นก็ยึดรีโหมตจากคุณเหี้ยมคิงส์มานอนดูการ์ตูนบนโซฟา แต่น่าแปลกทั้งๆทีวางแผนไว้แล้วว่าถ้าบัสลงมาหาคุณเหี้ยมจะหลบยังไง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าบัส จะลงมาที่ห้องนี้

...นอนกลิ้งบนโซฟากับคุณเหี้ยมที่นั่งอ่านหนังสือจนเกือบ 5 โมงเย็นถึงไปที่ร้าน ส่วนมากงานของ ภินทร์จะอยู่ที่ ชงเหล้าหรือไม่ก็นั่งมองน้องๆที่เดินผ่านไปผ่านมา....เหมือนซื้อเวลา ถ้าให้กลับบ้านไปตอนนี้ก็คงเหงา ไม่มีแววว่าอะตรอมจะกลับมาเลย....อยู่ที่นี้มีเหล้ากินฟรีแถมยังมีอาหารตา บางทีการเป็นเบ๊เหี้ยมคิงส์ก็ไม่ได้แย่อะไรนัก



......................................ถ้า..................................



“ เฮ้ย!! คิงส์ !หลบ”

เสียงภินทร์ดังขึ้นก่อนตัวจะกระแทกกับอกกว้างของ คิงส์ ความรู้สึกสุดท้ายที่พอจำได้คือ.... ท่ามกลางความชุนละมุน ใครบางคนกระแทกชน ภินทร์ จนถลามาแทนตำแหน่ง คิงส์ และแน่นอน มาเป็นเป้าของหมัดหนักแทนอย่างงงๆ จากความมึน และอาการชาที่แก้มมันก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บปนปวดพร้อมรสเค็มแปล่มๆในปากที่เดาดูก็รู้ว่าเป็นรสชาติของเลือดสดๆ

ภินทร์ ได้แต่ทรุดตัวลงนั่งนิ่งกุมแก้มข้างซ้ายที่ตอนนี้ทั้งชาทั้งเจ็บปนปวดหนึบๆตามเสียงเต้นของหัวใจและเสียงเบส ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ความเงียบเข้ามา คงจะพร้อมๆกับเลือดกำเดาที่ไหล ตอนนี้นอกจากจมูกแล้วมันยังไหลลงคออีกด้วยเพราะตอนแรกที่คิดไปเองว่าหากเงยหน้าขึ้นแล้วบีบดั้งเลือดมันจะหยุดไหลไปเอง

...แต่ไม่คิดว่ามันจะไหลลงคออย่างนี้ นอกจากจะทำให้สำลักแล้วมันยังจะทำให้อ้วก… ในนาทีนั้นใครจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน คิงส์ ตัดสินใจฉุดมือ ภินทร์ ที่ได้แต่นั่งสำลักและไออย่างเอาเป็นเอาตาย กึ่งเดินกึ่งวิ่งหลบเข้าห้องน้ำและปิดประตูทันที หลังจากคารวะโถส้วมเป็นวรรคเป็นเวร ดูท่า ภินทร์ เหมือนจะดีขึ้น...

 
....
ชั่วเวลาที่นิ่งมอง ร่างที่ยันโถส้วมแล้วสำลักไอนั้น คิงส์ ได้แต่ถามตัวเอง

‘กู พามันหลบออกมาทำไม? ช่วยมันทำเหี้ยไรเนี้ย?’

ถามไปถามมาจนคิดคำตอบได้เองว่า..

‘กูสมเพชมัน กูสมเพชมันไม่ได้เป็นห่วงมันสักหน่อย’

คิดได้แล้วปากหมาๆก็อดพาลแขว๊ะใส่เจ้าของ ร่างที่ทรุดอยู่ตรงหน้าไม่ได้

“เหี้ยไรเนี้ย แค่เลือดกำเดาออกถึงกับอ้วก ไหวเปล่านิ มึง?”

ภินทร์ หยุดหอบหายใจยาว แต่ยังไม่วายมีอาการไอและสำลักบ้าง ดวงตาแดงวาวจากการก้มหน้าคารวะโถส้วมโก่งคออ้วกและสำลักไอ แหงนหน้าหันจ้องไปที่ ชายร่างสูงที่ยืนค้ำหัว

“ไม่ได้เป็นพวกชอบความรุนแรง เหมือนมึง แล้วที่สำคัญไอ้หมัดที่กูโดน กูโดนแทนมึง สัด!”

จากที่เคยสุภาพๆ สัพนามการเรียกเริ่มเปลี่ยนไปตามอารมณ์ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโดนชกอย่างนี้....

...ส่วนคิงส์ เองนอกจากจะสมเพชไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ยังอดไม่ได้ที่จะอารมณ์ขึ้นเมื่อนึกไปถึงเรื่องริมหาดชะอำ

“เหรอ----คราวก่อนที่กระทืบกูคาชายหาด ไม่ใช่ไอ้ตัวที่อ้วกแตกอยู่นี้เหรอ…?”

ภินทร์ ชะงักเกร็งปาดมือเช็ดริมฝีปากตนเองที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำลาย ก่อนจะยืนขึ้นมาเผชิญกับเจ้าของคำถาม และตอบออกมาอย่าง มีอารมณ์เหมือนกัน

“ไม่ใช่กู!..เท่าที่จำได้ที่กระทืบมึงไม่ใช่กู! แต่ไอ้คนที่เกือบจมน้ำตายเพราะมึงกดหัวแช่น้ำทะเลอย่างมีความสุขนั้นเป็นกู! แล้วก็เลิกซะทีไอ้นิสัยเถื่อนๆของมึง บ้าพลังนักก็ไปวิ่งรอบไฟแดงไป! อย่าคิดว่าคนอื่นเขาชอบตีนเหมือนมึง ! อย่าเหมารวม! เหี้ย!”

ภินทร์ ระเบิดอารมณ์ลงไปกับคำตอบเมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้น หากไม่ได้  ตรินทร์ ตื่นขึ้นมาแทน ทั้งตนและไอ้บัพ คงได้เป็นผีเฝ้าทะเลแน่ๆ แต่ทีโกรธที่สุดคงเป็นเพราะไอ้บ้าที่ยืนอยู่ข้างหน้านี้... แค่อารมณ์ชั่ววูปไอ้บ้านี้สามารถฆ่าใครก็ได้งั้นเหรอ? ใครก็ได้ในตอนนั้นที่อยู่กับอะตรอม ใครก็ได้ในตอนนั้นที่บังเอิญเป็น กู!

..............
.........................

...
เหตุการณ์ต่างๆดูสงบลงได้บ้างแล้วเพราะ Guardในคลับเคลียร์ทุกอย่างทันทีที่ คิงส์ กลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง จะมีก็แต่ ภินทร์ ที่นั้งกอดเข่าเบียดซุกตัวอยู่ริมโซฟาจนติดข้างผนังแก้มซ้ายยังชาอยู่เลย...

แถมยังปวดตุบๆ อีกลองขยับปากก็เหมือนจะปวดขึ้นมา

'วันนี้วันเหี้ยไรเนี้ย! แล้วอย่างนี้จะกลับไง? ขืนไป บ้านใหญ่ เรื่องไม่จบแค่นี้แน่...

....ถ้า ไอ้บัพนั่นเห็นสภาพตน... สลับกันถ้าไปบ้านอะตรอม เรื่องคงพอๆกัน...โอยยยยย! ทำไมเป็นอย่างนี้…เห็นทีต้องไปค้างโรงแรมซะงั้น…แต่ตอนนี้ขอพักก่อนนะไม่ไหวจริงๆ ไอ้การเป็นผู้ชายนี้มันยากจริงๆ มองตานิดหน่อยก็กัดกันแล้ว ยิ่งพวกที่เจอๆนี้ยิ่งไปกันใหญ่ แต่ละตัวระดับหมาล่าเนื้อ มันใช้ชีวิตอย่างนี้โดยยังครบ 32 อยู่ อืมส์...เก่ง...’

“เฮ้ย! ภินทร์ ง่วงก็ไปนอนชั้น 2 เดี๋ยวกูเปิดห้องให้”

..............
............................


[Part ภินทร์]


...เสียงไอ้เหี้ยมคิงส์ดังขึ้นแถมไม่พูดเปล่ามันยังเอาเท้าหนักๆมาเขี่ยหน้าแข้งผมเล่นอีก เขี่ยไปเขี่ยมาเห็นท่าว่าผมนอนแถอยู่บนโซฟาคงจะมีความสุขมากมายมันเลย

เตะ!

ย้ำว่าเตะแรงๆที่สีข้างผมซะงั้น

...สัดเล่นเอาตื่นเลย... ได้แต่น้ำตาเล็ด เหี้ย! โครตสุภาพเลยนะมึง ที่อยู่กับหญิงทำเป็นสุภาพ ไอ้หน้าไหว้หลังหลอก แมร่งจะรู้ไหม ลึกๆกูก็เป็นผู้หญิง...เชี่ย! ได้แต่มองมันตาขวางสัด! กูช่วยมึงนะทำกูได้.....

ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหยิบเป้มาสะพายกำลังจะลุกหนีมันออกนอกร้าน ยังไม่พ้นร้านเลยครับมันก็เสือกดึงมือไว้อีก

“มึงจะไปไหน?”

ถามเหมือนห่วงกูเลยเนอะ

“กูถามว่ามึงจะไปไหน...”

ไอ้เหี้ยมทำเสียงเย็นถามขึ้นอีกรอบ กูไม่ได้เป็นทาสในเรือนเบี้ยมึงแล้วนะไอ้สัด! ตาไม่มีมองนาฬิการึไงไอ้สาดดดดด!

...มันหมดเวลาความสุขมึงแล้ว กูเป็นไทแล้ว ยังไม่ทันคิดอะไรมากมือมันก็กระชับบีบข้อแขนผมไว้แน่นขึ้นอีกเหมือนเร่งคำตอบ อย่ามาถามอะไรกูมากขี้เกียจตอบปวดกราม...เกิดมาเพิ่งเคยโดนชก ครั้งแรกในชีวิต....อย่ามีครั้งที่สองนะ....ไม่ใช่ทาง...

“กูจะกลับ...พอใจยัง...แล้วก็ปล่อยมือมึงซะ...กูไม่ใช่เด็กในสังกัดมึง...แล้ว....แหกตาดูนาฬิกาด้วยมึง”

ไอ้คิงส์หน้าเหวอไปนิดครับก่อนจะกลับมาวางฟอร์มเหมือนเดิม ที่สำคัญมันไม่ยอมปล่อยผม

“ไปนอนคอนโดกูไหม?...”

น้ำเสียงเหมือนถามแต่มือมันเกร็งลากผมลิ้วๆไปที่รถแล้ว เลยตามเลยครับเพราะสมองตอนนี้คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปหาที่นอนที่ไหน ไปนอนคอนโดมันคงไม่เลวร้ายนักหรอก...แปลกนะพวกที่อยู่รอบๆ ตรินทร์มีแต่พวกแปลกๆ พวกที่ไม่ค่อยชอบพูดแต่แสดงออกจากสายตา กับพวกที่ไม่แสดงออกแต่พูดสิ่งที่คิดไว้ ที่คบๆมามีอะตรอมนี้ล่ะปกติสุด...คิดถึงไอ้ยักษ์นั่นจังสามวันแล้วนะ อยากเจอจังเลย...

.
.
.

...

“หิวอะไรไหม...”

...คนขับหันมาถามผมที่นั่งเหม่อเป็นตุ๊กตาหน้ารถ สมองที่ยังไม่ทันประมวลผล กับความคิดถึงไอ้คุณยักษ์ที่อยู่ๆก็พุ่งสูงพาปากผมเปราะออกไปอย่างลืมตัว

“ไม่หิว ..อยากนอนมากกว่าอะตรอม...เฮ้ย! ..เอ่อ คิงส์...”

เผลอเรียกชื่อผิดครับ แต่ก็ไม่เห็นไอ้คนสำคัญอย่างไอ้คิงส์ว่าอะไรผมเลยเลยตามเลยนั่งเหม่อ มองที่กระจกอย่างสงบปากสงบคำ มาถึงคอนโด โดยสวัสดิภาพ ผมเดินตัวปลิวลงมาจากรถ ลืมกระเป๋าเป้ไปเลย คงเพราะง่วงด้วย นิสัยเคยตัวที่อะตรอมปลูกฝังมาด้วยเรื่องของถ้าไม่จวนตัวจริงๆอะตรอมไม่เคยให้ผมถือเองนี้นา

คอนโดมันเป็นคอนโดเดียวกับพวกไอ้เรด แถมยังเป็นคอนโดเดียวกับที่บัสอยู่ด้วยแหม...ช่างประจวบเหมาะแก่การพักอาศัยเสียจริง...โชคดีแค่ไหนที่มาครั้งที่แล้วไม่เจอพวกไอ้เรด ไม่รู้ว่าเชี่ยคิงส์จะพักทีนี้ทำไม? คงไม่ใช่เพราะบัสพักอยู่ด้วยหรอกนะ!?

คิดนู้นคิดนี้เพลินๆกระเป๋าเป้ก็ถูกยัดใส่มือแล้ว

“แท้งส์...อะตรอม”

เอ่อ...........ชะงักครับ เอาอีกแล้วครับเผลอปากไปอีกครั้ง ไอ้คิงส์ที่ส่งกระเป๋าเป้ให้ถึงกับขมวดคิ้ว แล้วมันก็กระชากกระเป๋าเป้กลับไปถือเอง อะตรอม...กูเพ้อถึงมึงขนาดหนักนะเนี้ย สัญญาถ้าแผลหายกูจะรีบกลับเลยกูสัญญา...

“ไปอาบน้ำ....เดี๋ยวออกมากินยาแก้อักเสบ”

พูดไม่พูดเปล่าผ้าขนหนูผืนใหญ่ถูกโยนมาปิดหัวปิดหูผมซะ จำใจเดินเข้าห้องอาบน้ำครับแต่ไม่วายคว้ากระเป๋าเป้เข้าไปด้วยก็ของใช้ส่วนตัวผมอยู่ในเป้นี้น่าส่วนกระเป๋าตังค์มือถือกับกุญแจวางไว้ตรงโต๊ะกระจกข้างโซฟานั้นแหละหวังว่าไอ้คิงส์มันคงไม่ขโมยหรอกนะ...



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!36#Endanger.วันสุดท้ายได้เลือด [2]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 15:55:53
บทที่ 36 Endanger.วันสุดท้ายได้เลือด [2]


...ตอนแรกว่าจะแค่อาบแต่พอได้โดนน้ำจริงๆ ผมก็ทั้งแช่ตัว ทั้งสระผม อ้า...อ่างอาบน้ำสวรรค์สุดๆ ถ้าถามว่าผมชอบห้องนี้ไหม ทุกอย่างมันจบที่อ่างอาบน้ำแล้วครับ... อ๊า...สุขสุดๆ....


กว่าจะออกมาได้เจ้าของห้องก็เป็นศพไปแล้ว ไอ้คิงส์นอนนิ่งที่โซฟา ผมเดินเข้าไปใกล้ก็ไม่ขยับ สงสัยหลับของจริงเหลือบไปมองที่มือมันอ้าว...กระเป๋าตังค์ผมกับพวงกุญแจผมนี้แล้วมันหยิบมาทำไมแถมหลักฐานคามืออีก ไอ้จระเข้นี่ริจะเป็นโจร...

แต่ก่อนที่ผมจะคิดอะไรเวอร์ไปมันก็ดันลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน มันลุกขึ้นนั่งแล้วยัดกุญแจกับกระเป๋าตังค์ของผมใส่มือผมแล้วลากสังขารเข้าห้องน้ำไป ผมเลยถือโอกาสยึดโซฟาที่มันเคยนอนมานอนเสียเอง นอนกลิ้งไปสักพัก ถึงได้รู้สึกว่าพวงกุญแจมันหนักๆกว่าเดิม พวงกุญแจมันแปลกๆอ่ะ ก้มลงมาดูกุญแจในมือถึงได้รู้มันมีกุญแจเพิ่มขึ้นมาอีก 3 ดอก เอ่อ.... กุญแจบ้านใหญ่ 2 ดอกกุญแจห้องอะตรอม 3 ดอกพร้อมคีย์การ์ดในกระเป๋าตังค์ แต่ตอนนี้มันมี 8 ดอกในพวงกุญแจ กุญแจอะไรที่เพิ่มมาอีก 3 ดอก?  ผมลองกะน้ำหนักดูท่าจะปาหัวหมาแตก...กำลังจะแกะเอากุญแจออกไอ้คิงส์ก็โผล่ออกมาจากห้องน้ำพอดี มันมองตาขวางแล้วเดินมาหยิบพวงกุญแจในมือผมไปใส่กุญแจให้กลับเข้าไปในพวงเหมือนเดิม ตัวก็ไม่ได้เช็ดน้ำเลยเจิ่งมาตลอดทาง แถมมานั่งที่โซฟาข้างๆผมอีก...

“ทำเชี่ยอะไร อะตรอม...”

หง่ะ!! ปากผมอีกแล้วครับเหอเหอเหอ...ไอ้คิงส์หันมาจ้องหน้าผมแล้วยัดกุญแจใส่มือ

“สมองมึงนี้มีแต่ ไอ้ตรอมเชี่ยไรนั้นจริงๆเลยนะ...ไอ้ยักษ์นั่นมีอะไรดีนัก?”

...เสียงเย็นเป็นประโยคบอกเล่าปนคำถามมาอีกแล้ว ผมคาดเดาอะไรไม่ถูกจริงๆ ง่วงด้วยอยากนอนด้วยเบื่อรับอารมณ์มันเลยนอนหันหลังเข้าโซฟา นอนโซฟาก็ได้กูจะหลับแล้วเบื่อประมวลผลประโยคบอกเล่าของมัน สมองผมมีไว้ใช้เรื่องอื่นอีกเยอะ...

กำลังจะเคลิ้มๆมันก็ฉุดแขนลากเข้าไปที่ห้องอีกห้องแล้วทิ้งผมไว้หน้าเตียงใหญ่ ชั่วโมงนี้ใครอะไรยังไงไม่สนใจแล้วครับผมคลานขึ้นเตียงได้ก็ดึงผ้านวมผืนใหญ่ขึ้นมาห่มแล้วหลับทันที เจ้าของห้องจะนอนไหนหรือมันจะมาปลุกผมลงไปนอนโซฟาอีกครั้งก็ช่างมันชั่วโมงนี้กูไม่ไหวจริงๆ

..............
.........................

.
.
.


‘อึก..อืมส์...’

...เหมือนจะหยุดไม่ได้แล้วกับความรู้สึก... มือใหญ่ที่ไล้ลูบช่วงเอวก็ยิ่งส่งอารมณ์ จูบไม่ได้หวานเหมือนตอนจูบกับสาวๆ แถมยังรุนแรงและดิบๆยังไงชอบกล แต่มันก็เหมือนอ้อนให้จูบซ้ำๆ... ผมเผลอจูบตอบมันไปตอนไหนไม่รู้ แสงนวลๆลอดผ่านม่านเข้าแต่ไม่ได้แสบตาอะไรนัก... แต่พอให้เห็นลางๆว่าคนที่กอดผมอยู่คือเชี่ยคิงส์...

ริมฝีปากที่ไล้งับตามช่วงไหล่ผมกำลังดึงสติผมออกไป นี้ฝันอยู่หรือเปล่าวะ?

ผมคิดขณะดึงคอคนในฝันมาโอบไว้แล้วรุกจูบเสียเอง แล้วก็ต้องชะงักเพราะความรู้สึกเจ็บปนปวดที่ข้างแก้ม เอาแล้วไงฝันเชี้ยอะไรเจ็บจริง??!!

..............
............................


“คิงส์...”

ผมลองเรียกมันดู

“อือ...ครับ...”

มันขานซะเพราะพริ้ง...แต่ยังไม่ยอมเอาปากออกจากลำคอผมแถมยังเลื่อนตัวขึ้นมาจูบแบบลึ๊กลึก อีกครั้ง เล่นเอาเซ็ง ผมตบไหล่มันแรงพอควรให้มันรู้ตัว...แต่มันยังไม่ยอมหยุด...

“พอได้แล้วมึง สาด... เล่นเอากูตื่นเลยนะ”

“ไม่เห็นเป็นไรกูก็ตื่นเหมือนกัน”

มันไม่พูดเปล่าครับมือใหญ่ๆนั้นลากมาวนแถวๆท้องน้อยผม แล้วเปลี่ยนมาเป็นจับมือผมให้ล้วงลึกเข้าไปในบอกเซอร์ของมัน...ไอ้ดุ้นใหญ่ที่แข็งสู้มือ...ทำให้รู้สึกยี้แบบแปลกๆ...

....ชั่วโมงนี้หมดกันครับ ความรัญจวนใจอันวาบหวาม...

ผมผลักมันแรงๆให้ลงไปจากตัวสักทีบอกความรู้สึกไม่ถูก...

“ไม่ได้เหรอ...กูเก่งนะ”

“ใช่เรื่องไหม...เดี๋ยวฟ้าผ่าสัด!”

“กูใช้ปลั๊กสามตา เดี๋ยวมันก็ลงดิน”

“ตลกแดกแล้วมึง...คลำไม่มีหางเล่นไปทั่ว...กับตัวผู้อย่างกูยังไม่เว้น ”

“แค่กับมึงหรอก...ตัวผู้อื่นกูก็ไม่ได้ทำอย่างนี้”

“หรอออออ... อย่าแหล...มึงเอาบัสไปทิ้งไหน?...”

ผมพลั้งปากถามออกไป... เจ็บใจตัวเองชะมัด เชี่ยคิงส์เงียบไปก่อนจะลุกออกจากตัวผม

“มึงรู้เหรอ? เรื่องบัส...”

สีหน้ามันแปลกๆ ตอนมองผม ยิ่งผมเงียบมันก็เงียบ...

“.....น้องเขาก็น่ารักดี กูก็แค่ถามดู ไม่ได้ว่าอะไร”

“กูไม่ได้ชอบบัส ก็แค่คบเล่นๆ แค่อยากลอง... ถ้ามึงไม่สบายใจกูก็จะเลิก”

ตอนนี้ผมกัดฟันกรอดเลยก็ว่าได้ น้องที่กูแอบมองมาตลอด... อุตส่าห้ามใจไม่อยากปีนต้นงิ้ว...

...แต่เชี่ยคิงส์ แค่อยากลอง...แค่อยากลอง...

“เหมือนกับที่อยากลองกับกูตอนนี้อะนะ...มึงก็แค่อยากลองเหมือนกันใช่ไหม...เลิกเหอะวะ”

ผมพูดไปจ้องหน้ามันไป ที่ว่าเลิกนี้ผมหมายถึงให้มันเลิกกับน้องเขา สงสารเด็กมันถ้ารู้ว่าเป็นแค่ของเล่นไว้ลองแก้อยาก บัสจะรู้สึกยังไง?

“กูสงสารเด็กมัน ถ้าไม่รักก็ปล่อยมันไปเถอะ เด็กมันจริงจัง ถือว่ากูขอแล้วกัน”

ที่พูดขอนี้ไม่ได้ขออะไรนะ ผมขอบัสจากมันขอกันตรงๆเลยถ้ามึงคิดจะลองน้องเขาเล่นๆ มึงก็ปล่อยน้องเขาไป กูจะได้สวมแทนหรือถ้ามึงยังไม่ยอมกูก็จะแย่งแล้วทีนี้...

...แน่นอนที่คิดมาหลังๆนี้ผมไม่ได้พูดออกไป มองไปที่นาฬิกาบนหัวเตียง เกือบ 6 โมงเช้าแล้ว หมดอารมณ์นอนทั้งๆที่ถ้าเป็นช่วงเวลานี้ผมแทบไม่อยากลุกออกจากที่นอนด้วยซ้ำ ไม่รู้แล้ว......

ผมเข้าห้องน้ำทิ้งไอ้คิงส์ไว้บนที่นอนอย่างนั้น ล้างหน้าล้างตา เสร็จผมก็เดินเก็บข้าวเก็บของ ใส่รองเท้า เปิดประตูลงลิฟต์ไม่ได้ล่ำลาอะไรหรอกเซ็งเรื่องบัส เซ็งตัวเองด้วยชอบซะจริงไอ้คนมีเจ้าของเนี้ย แถมคิดถึงอะตรอมอีกต่างหาก เรื่องแผลที่แก้มนี้ช่างมันแล้ว กลับไปอ้อนอะตรอมดีกว่า...

ถึงไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่มีอะตรอมให้อุ่นใจก็พอแล้ว...

“เหวอ!”

กำลังจะออกจากลิฟต์ผมก็โดนผลักให้กลับเข้ามาในลิฟต์อีก กำลังจะโวย ก็ชะงักกึกกับสีหน้าอาฆาตของไอ้คิงส์

มันวิ่งลงมาครับ! แถมยังเร็วกว่าผมที่ลงลิพต์อีกต่างหาก 6 ชั้นนะมึง!

“กู...ยอม..ยอม..แล้ว”

มันพูดปนหอบเหนื่อย แต่ยังมีแรงมายึดข้อมือผมไว้แล้วกดลิฟต์ไปที่ชั้น 6

“เฮ้ย! กูจะกลับบ้าน”

ผมประท้วงครับ ยอมเชี่ยไรของมึงแล้วมาจับกูไว้ทำไม มันทิ้งตัวพิงผนังลิฟต์แล้วหันหน้ามาทางผม

“กูบอกว่า...กูยอมแล้ว...มึงจะไปทำไม...”

“ยอม...ยอมเชี่ยไร?”

ไม่เข้าใจครับบอกตรงๆ

“กู...จะไม่ยุ่งกับบัส กูยอมปล่อยบัสแล้ว คนอื่นๆก็ด้วย แค่มึง...อย่าไป...”

เอ่อ...มึงปล่อยบัส ก็ดี แล้วคนอื่น....โห่! ไอ้ชั่วกูว่ากูชั่วแล้วนะ แต่มึงนี้มัน....

อ้าว?...แล้วคนอื่นมันเกี่ยวอะไรกับกูจะกลับบ้านด้วยครับคุณมึง?

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกูจะกลับบ้าน...?”

ผมถามมันตรงๆ

“ไม่กลับไม่ได้เหรอ? ก็กูยอมแล้ว มึงจะงอนอะไรอีก”

“งอนเชี่ยไร?กูจะกลับบ้านง่วงนอน ว่าจะไปนอนต่อค่อยไปหาหมอ ชักปวดๆหัวแล้ว”

ผมบอกมันตามตรงไม่เข้าใจรูปประโยคที่มันพูดครับ อยากไปหาอะตรอมด้วย ไม่สบายต้องหาคนอ้อนอยู่กับเชี่ยคิงส์นอกจากอ้อนมันไม่ได้แล้วเผลอๆยังต้องคอยตามรับใช้มันอีกมั้ง

“งั้นก็ขึ้นไปนอนห้องกู”

ไอ้คิงส์พูดพร้อมดึงข้อมือผมให้ออกจากลิฟต์ที่เปิดตรงหน้าห้องมันพอดี ยังไม่ทันพูดหรือเถียงอะไรก็กลับมาอยู่ที่ห้องมันเหมือนเดิม... อีกแล้ว...ผมยืนเซ็งอยู่หน้าเตียงยับๆเตียงเดิม โยนกระเป๋าเป้ทิ้งทอดรองเท้าผ้าใบ แล้วคลานเข้าไปซุกในผ้านวมผืนเดิม

เอ่อ...

สักตื่นแล้วค่อยกลับก็ได้.....สักพักเตียงด้านซ้ายมันก็ยวบลงไป เชี่ยคิงส์เข้ามานอนเบียดข้างๆอีกล่ะ .....

...ช่างแมร่ง  ตอนนี้กูง่วงโคตร...

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!37#So many Tears.กบฏ ไร้พ่าย [ตอน 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:08:11
บทที่ 37 So many Tears  กบฏ ไร้พ่าย [ตอน 1]



..อากาศชื้นเย็นจนรู้สึกได้ยามหายใจเข้า...

สายหมอกลอยอ้อยอิ่งปกคลุมพื้นป่าเบื้องหน้าเหมือนดั่งทะเลยามต้องแสงวัน แต่ที่แตกต่างคงเป็นเพราะสายหมอกนั้นเหมือนมีชีวิตยามไอหมอกนั้นล้อไล้กับสายลม....

...มันเป็นภาพที่ทำให้ผมไม่กล้าจะกระพริบตา ภาพเบื้องหน้ามันสวยงามจนกลัวว่าหากเผลอปิดตาตัวเองแล้วลืมขึ้นอีกครั้งภาพนั้นจะหายไป ผมกำลังฝันหรือเปล่า? ถ้าตอนนี้ฝันมันคงจะเป็นฝันดีสินะ.

..สายหมอกพลิ้วเล่นลมลอยเป็นสาย ใกล้มือจนแทบจะเอื้อมแตะได้ ผมไม่ลังเลเลยที่จะก้าวตามให้ตนเองใกล้สายหมอกเย็นนั้น... ไม่สนด้วยซ้ำว่าหนทางข้างหน้าเป็นอย่างไร ตอนนี้ขอเพียงแค่สัมผัสสายหมอกนั้นได้ก็พอ


“?! ”

พื้นที่เหยียบอยู่มันสุดแค่ปลายเท้าผม!

เหมือนตัวเองจะหล่นฮวบลงไป ถ้าไม่มีวงแขนใหญ่มาโอบและยึดไว้จากด้านหลัง อ้อมกอดที่อบอุ่น ...อุ่นจนเหมือนจะร้อนขึ้นมากลายๆ

“นิลกาฬ...นางชอบล่อลวงยามร่ายรำ รับพระอรุณ...ยังมิชินอีกรึ... ครานี้มีข้าคอยป้องภัย หากต่อไปข้ามิได้สถิตข้าง ใครจักคุ้มครองเจ้า?... ”

เสียงทุ่มกังวานกระซิบเบาเข้ากับซอกคอ พาให้รู้สึกถึงลมร้อนที่ออกมาจากริมฝีปากคนพูด ผมได้แต่นิ่งไม่กล้าขยับ... กลัวว่าผมอาจก้าวพลาดอีกครั้ง สายหมอกมันสวยก็จริงแต่มันก็อันตรายเมื่อมันบังทุกสิ่งที่อยู่เสมอปลายเท้า... วงแขนข้างหนึ่งรัดผมให้แน่นเข้ากับแผ่นอกกว้าง ก่อนที่มือใหญ่จะวาดเป็นวงเหมือนกวาดสายหมอกเบื้องหน้าออกไป เพียงชั่วครู่ก็เหลือเพียงทัศนียภาพที่ผมเองได้แต่ตกตะลึง

ข้างหน้า....เป็นหน้าผาใหญ่ ไล่สายตาลงไปเป็นพื้นป่าสีดำที่กว้างสุดสายตา...

“ทิวาหน้า ข้าจักกลับไปยังเขตแดน หากภายในภัทรมาสนี้ ข้ามีชัยเหนือ สิงหกรรมปุระ เบื้องหน้าจักหาได้เป็นแต่พื้นป่า...ข้าจักสร้างมหาบารายเป็นบรรณาการแด่เจ้า มหาบารายที่จักยิ่งใหญ่กว่า กาลใดๆใน ‘สุรโภคานคร’ มหาบารายอันมีแด่เจ้าเท่านั้นอุปราชน้อย... ลองทำนายดูสิ... ข้าเพียงอยากรู้ว่าข้าทำได้ดั่งคำข้ารึไม่... ”

ผมได้แค่มองไกลไปยังพื้นป่ากว้าง...ความรู้สึกบางอย่างมันเหมือนอัดแน่นอยู่ในอก ความกลัวและความเศร้าที่เหมือนจะทะลักออกมา หากเอ่ยปากพูดอะไรออกไป...

‘พี่ท่านเจ้าขา... มหาบารายนั้นงดงาม...หากแต่มันมิใช่บรรณาการแด่ข้า...สิ่งที่ข้าเห็น...มหาบารายนั้น องค์พี่ท่านสร้าง...............




เพื่อเป็นสุสาน...แด่ข้าเจ้า...... ’


.
.
.


...เสียงหวานอันแสนเศร้า มันไม่ได้ออกเป็นคำพูด แต่มันเป็นแค่เสียงแผ่วเบาที่เหมือนมีแต่ผมเท่านั้นที่ได้ยิน ไม่ได้รู้จักคนที่กอดผมอยู่สักหน่อยแต่ทำไม หน้าอกมันเจ็บไปหมด...เจ็บจนต้องหลับตาข่มทั้งอารมณ์ทั้งน้ำตาที่พาลจะไหลทุกครั้งที่หายใจ...

..............
............................


พอลืมตาขึ้นมา


ผมก็พบกับห้องโล่ง!! ฝันแน่ๆงานนี้....ตอนนี้ผมอยู่ในห้องโล่งตบแต่งด้วยโทนสีครามดูเบาตา เสาหินต้นใหญ่ถูกประดับด้วยผ้าสีครามลากยาวโยงไปทั่วทั้งห้อง พื้นห้องเป็นหินสีดำที่เย็นเท้าเมื่อก้าวเดิน ส่วนด้านข้างเป็นบ่อหรือน่าจะเรียกว่าสระได้มั้งเพราะมันทั้งกว้างทั้งยาวขนานไล่กันไปกับพื้นห้องสระบัวสีคราม...กลิ่นของเกสรบัวลอยคลุ้งไปกับอากาศ...อย่างกับน้ำหอมชั้นดี

“เหตุใดองค์ฑิฆัมตรัง ให้เจ้าหมั่นหมาย กับ เชื้อสายนาคา... ”

เสียงทุ่มดุดังกังวานมาจากที่ไหนสักที่

คนละอารมณ์กับเมื่อครู่นี้เลยทั้งๆที่ผมว่าคนพูดน่าจะเป็นคนๆเดียวกัน ลองมองหาต้นเสียงผมก็เห็นเงาใครคนหนึ่งหลบพิงอยู่ข้างเสาต้นใหญ่ ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ เจ้าของเสียงนั้นก็มาดังอยู่ข้างๆ เร็วเกินไปกว่าที่จะทันรู้ตัว เจ้าของเสียงนั้นมาอยู่ข้างหลังผมแล้ว!!

..............
............................


“ ข้าเพียงฝัน...ฝันว่าตนข้ายืนเหยียบบัลลังค์แห่ง ‘สุรโภคานคร’ ”

ทั้งๆทีเจ้าของเสียงยังอยู่ห่างเกือบ 2 เมตร แต่เสียงคงอำนาจนั้นเหมือนกระซิบอยู่ข้างหูผม

..............
............................


‘แล้วมาบอกทำไม?’

ผมจ้องมองชายร่างใหญ่ที่นุ่งผ้าสีแดงคล้ำ ท่อนบนนั้นปล่อยเปลือยเผยให้เห็นช่วงบนอันเต็มไปด้วยแผลเป็นต่างขนาดที่เหมือนเป็นเครื่องประดับถาวรของร่างกายนั่น ใบหน้าคมเหมือนยังกับหล่อแบบมาจากสัมฤทธิ์ ดวงตาดุแต่แฝงแววอ่อนโยนเหมือนว่าเคยเห็นจากที่ไหนสักที แต่ผมจำไม่ได้... ที่สำคัญสีผิวนั้นเป็นสีทองแดง... มันดูแปลกแต่โดยรวมแล้วแค่คำว่าหล่อมันยังบรรยายคนที่อยู่ข้างหน้าผมไม่ได้...

แต่ก็แค่นั้นขอโทษไม่ใช่ทาง...จนร่างใหญ่นั้นเดินเข้ามาหาผม แล้วจับไหล่สองข้างของผมยึดไว้ แววตาสีดำสนิทจดจ้องมาที่ผม จนทำให้ต้องจ้องดวงตานั้นตอบ แววตาสีดำของคนตรงหน้าสะท้อนภาพของใครสักคนที่...ทำเอาผมลืมไม่ลง ภาพสะท้อนที่ผมเห็นในดวงตานั้นเป็นชายหรือหญิง? มันไม่สำคัญหรอก เพราะทุกอย่างมันรวมกัน เป็นภาพที่สะท้อนนั้น..................

‘งดงาม’

งดงามจนแทบลืมหายใจ….

“หากข้ายืนเหยียบบัลลังค์แห่ง ‘สุรโภคานคร’ จริงระหว่าง... ‘ข้า’ กับ ‘นาง’ เจ้าจักเลือกผู้ใด ? ”

เจ้าของแววตาสีดำกระชับแรงบีบที่หัวไหล่ดึงสติผมให้กลับสนใจกับคำถาม ดวงตานั้นเหมือนอ้อนวอนแต่ก็แฝงแววดุดันไว้ในที บางอย่างบอกผมว่าสำหรับคนตรงหน้า ไม่มีอะไรที่ต้องการแล้วไม่ได้...

“ตอบข้ามาสิ ภังคียะ หากข้าได้เหยียบบัลลังค์ แห่ง ‘สุรโภคานคร’ มันจักมิมีการหมั่นหมายระหว่าง เจ้า กับ นาง”

แรงบีบเหมือนจะยิ่งมากขึ้น... และบางประโยคจากถ้อยคำนั้นมันแฝงไว้ด้วยเรื่องบางเรื่องที่ร้ายแรง...

..............
............................


“หากเลือกไม่ได้ ....ข้าก็จะทำให้เจ้าได้เลือก...ถึงจะมีเชื้อสาย สรุ เพียงครึ่ง แต่เจ้าก็เป็นสุร ข้าไม่มีทางยกเจ้าให้ ‘นาง’ และข้าสาบาน ‘ภังคียะ’ ไม่ว่าด้วยวิธีใดข้าก็ต้องทำให้เจ้า....เลือกข้า ”

“ข้า...มิใช่ผู้มีสิทธิ์เลือก พระพี่ท่าน... หากแต่เป็นคำสั่งพระพ่อเจ้า และกฎแห่ง ‘สุรโภคานคร’หากจักดำรงอยู่ข้าก็ต้องหมั่นหมายกับ ‘นาง’ อากาศสำหรับ สุร กึ่ง นาคา เยี่ยงข้า มันเบาบางเกินชีพแห่งร่างนี้จักคงไว้... ‘นาง’ คือประตูระหว่างร่างและชีพ... หากมิมีนางข้าเองก็มิอาจมีชีวืตอยู่ได้...”

ประโยคและน้ำเสียงหวานใสนั่นดังมาจากปากผม แต่ผมเองไม่ได้เป็นคนพูดนะ!! ตอนนี้ผมเหมือนเป็นคนที่ยืนเผชิญหน้ากับพี่ชายสัมฤทธิ์ทองแดงนี่ แต่ผมได้แค่รู้สึก...เพราะคำพูดและน้ำเสียงไม่ได้มาจากการกระทำของผม

“หากให้เจ้าดำรงอยู่ได้ การหมั่นหมายข้าจักมิขัดขวาง หากเพียงแค่หมั่นหมาย...ข้าเองยังแสนทรมาน...ภังคียะ ...ได้โปรด อย่าคง รัก ในนาง ....เพียงนี้หัวใจข้าก็แทบแตกเป็นสองแล้ว... ”

แววตาสีดำจดจ้องเข้ามาที่ผมเหมือนจะอ้อนวอนขอคำตอบ แต่แรงบีบที่กดลงทั้งสองไหล่เหมือนให้ผมรับรู้กลายๆ นั่นเป็นการบังคับในที...

..............
............................


.
.
.

“ 'ข้าเพียงฝัน...ฝันว่าตนข้ายืนเหยียบบัลลังค์แห่ง ‘สุรโภคานคร’ '  หึ!! ...นายน้อย ใยท่านมิคิดจักปราม มหินทรา บ้างเลยรึขอรับ การเอ่ยเยี่ยงนั้น ต่อให้เป็นเดรัจฉานเยี่ยงข้าก็ทราบความ มหินทราท่าน ต้องการสื่อถึงสิ่งใด... ”

ประโยคนั้นดังซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง...

แต่เสียงที่ได้ยินเหมือนเสียงคำรามมากกว่าที่จะเป็นรูปประโยค ผมอยู่ในห้องที่เป็นสีครามเพราะสีผ้าผืนยาวที่โยงผืนไขว่กันไปมาแต่ก็ดูสวยแปลกตาดี... สายตาผมสำรวจไปทั่วห้อง จนมาจบอยู่ตรงตุ๊กตาตัวใหญ่ แถมยังหนักที่ทับบนหน้าตัก ตุ๊กตาเสือขนสีเงินตัดดำที่แสนนุ่มแถมยังมีพวงหาง สองพวง....

“ !”

ตุ๊กตา...ที่ไหนเสือกขยับได้!!!

ผมแทบช็อค!! เสียงประชดประชันที่ได้ยิน ดังออกมาจากเจ้าขนนุ่มตัวยักษ์ที่นอนทับอยู่บนตักผม !!! เสือตัวเป็นๆ สองหางแถมยังพูดได้ !! ในความรู้สึกผมแข็งเกร็งไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง มือผมกำลังลูบแผงขนนุ่มของเจ้าเสือนั่นซ้ำไปซ้ำมา ทำยังกับไอ้ตัวเขี้ยวโง้งนี่เป็นลูกหมาแสนเชื่อง..

“จักยอม มหินทราท่านไปถึงไหนขอรับ นายน้อย...เพียงแค่มีตำแหน่งรองแม่ทัพ มหินทราท่านก็แทบมิเห็นผู้ใดอยู่ในสายตาแล้ว...ดีนะขอรับที่มีองค์ฑิฆัมตรังคานอำนาจแม่ทัพอยู่... หาไม่แล้วข้าเจ้ามิอยากคิดว่าภายภาคหน้าจักเป็นเยี่ยงไร ...อย่าได้เอ่ยนะขอรับ....ว่าจักยอมให้แม้แต่บัลลังค์แห่งสุรโภคานคร...หากนายน้อยยอมมหินทราท่านได้ขนาดนั้น..... ก็ยอมยก ‘นาง’ให้ มหินทราท่านอีกสักสิ่งสิขอรับจักได้หมดจากภาระหน้าที่จบจาก ‘นาง’ ก็หนีไปกับข้าเจ้า...ไปยังที่ไกลแสนไกล...เรื่องมันจะได้ยุติเสียที... ข้าเจ้ามิอยากเป็นเยี่ยงนี้อีกแล้ว...ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาแล้วต้องค่อยกังวล...กังวล...ว่านายของข้าเจ้า...จักยังคงลมหายใจหรือไม่...มันทรมานมากนะขอรับ....”

ไอ้ตัวขนปุยเขี้ยวโง้งยังจ้อเรื่อยเปื่อยไม่หยุด จะว่าไปมันก็น่ารักดีนะแถมตาที่หลับพริ้มตอนโดนลูบขนก็ดูน่าแกล้งไม่หยอก...ถ้าไม่คิดว่ามันเป็นเสือ คิดว่ามันเป็นหมาตัวใหญ่ก็ได้มั้ง !?

“นายน้อย...เหตุใดได้แต่นิ่งเงียบขอรับ...เกรงในมหินทราท่านบ้างเถิด...การเอ่ยเยี่ยงนั้นนายน้อยเองก็ใช่ว่าจักมิรู้ความ มหินทราท่านได้แจ้งแล้ว หาก นายน้อย เลือก ‘นาง’ กองกบฎจักบังเกิด...หากเป็นเยี่ยงนั้นจริง ข้าเจ้าจักทำเยี่ยงไร จักต้องซ่อนนายน้อยไว้ ณ ที่ใด แผ่นดินนี้จักมีที่ใดให้หลบซ่อนอีกรึขอรับ? เราจักหลบซ่อน จากรองแม่ทัพผู้ไร้พ่ายได้เช่นไร?...กำลังของข้าเจ้าจักพอเป็นเกราะกำบังนายน้อยได้แค่ไหน...ข้าเจ้าเองก็ยังมิรู้ ...หากแต่สิ่งเดียวที่ข้าเจ้าจักทำได้ ข้าเจ้าจักอยู่เคียงข้างนายน้อยเสมอเงาขอรับ...”

เจ้าเขี้ยวโง้งขนปุยพลิกตัวนอนหงายท้องแล้วใช้สายตาจ้องมายังผม แววตาสีเงินวาวที่ดูคุ้นเคย แฝงแววกังวล ตอนพูดถึงคนที่ชื่อ ‘มหินทรา’ คนๆนั้นน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ?

..............
............................


...กลิ่นและรสหอมหวานของน้ำผึ้งสีแดง มันติดอยู่ที่ปลายลิ้นความหอมหวาน...ที่เหมือนจะแลกมาด้วยสติ ผมรู้สึกนะว่าผมยิ้ม ยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้า...ชื่ออะไรนะ มหินทรา หรอ? ดวงตาสีดำตอนนี้จ้องมองผม... ทำเอาหน้าร้อนผ่าวได้เหมือนกัน...

แล้วนี่ผมอยู่ไหน?

ไอ้เขี้ยวโง้งขนปุยนั่นล่ะ ?

ไหนมันบอกว่าจะอยู่กับผมตลอดเวลาไง ? ผมได้แต่หันซ้ายหันขวามองหาไอ้เสือ จนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเริ่มจะไม่พอใจ

“ต้องการสิ่งใดรึ ภังคียะ?”

“พยัคฑิฆามาส...เสือเลี้ยงข้าเหตุใดมิอยู่ยังสถานนี้...”

“ในเมื่อเจ้ามีข้า... เหตุใด ยังต้องการเดรฉานตนนั้นอีก”

มหิทรา อะไรนั้นยิ้มเย็นให้ผม ผมมีสตินะ แต่ตอนนี้เหมือนไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ มือไม้มันอ่อนแรงไปหมด คนตรงหน้าผมยิ้มกว้างแล้วโน้มตัวผมให้พิงซบลงไปที่แผงอก ก่อนจะช้อนอุ้มผมทั้งตัวแล้วยกขึ้นสูง โดยที่ผมไร้แรงขัดขืน ผมถูกพาผ่านระเบียงเสาที่เต็มไปด้วยกระดิ่งที่ผูกเรียงไล่ยาวไปตลอดทาง...

จนผ่านมายังประตูไม้บานหนึ่ง เสียงคำรามที่ผมนึกไปเองว่าเป็นเสียงของไอ้ขนปุย...ประตูไม้ที่ปิดไม่สนิทมันแง้มออกมา....ผมเห็น ไอ้ขนปุยของผมถูกล่ามไว้ด้วยโซ่เส้นใหญ่ ทั้งคอและข้อเท้า ขนสีเงินเปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะแรงกระชากของโซ่เส้นใหญ่นั้น...ผมพยายามจะร้องเรียกมัน แต่ไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมาจากลำคอ

'พยัคฑิฆามาส...'

“ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่รึ ภังคียะ...ข้า... จักทำทุกวิถี เพื่อให้เจ้า เลือกข้า... ”

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!37#So many Tears .กบฏ ไร้พ่าย [ตอน 2 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:13:40
บทที่ 37 So many Tears .กบฏ ไร้พ่าย [ตอน 2 ]


...สุดทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยหมอกกำมะถันและม่านน้ำ...

เข้าไปสู่ทวารกว้างที่ตบแต่งด้วยโกแมนและผลึกนิล เสียงกระดิ่งเดืองที่ดังไปทั่วบริเวณซุ่มเสียงที่เร่งเร้าแทบทำให้บ้าคลั่ง เสียงเพรียกของกระดิ่งรายทางที่ตีกระทบกันอย่างรุนแรงเหมือนเร่งเร้า...ถึงชัยชนะ รูปสลักอันเปรียมอำนาจแห่ง สุร อันฝังสถิตยังสองข้างผนังหิน คล้ายจะปรีดาเมื่อแต่ละตนนั้นปรากฎรอยยิ้มเล็กๆที่พอสังเกตุได้...

สายตารูปสลักทุกคู่ไล่มองตามร่างใหญ่ที่โอบอุ้มสิ่งรักไว้อย่างหวงแหน...

‘ถึงเพลาแล้วที่ สุรโภคานคร จักต้องเปลี่ยนเชื้อสายผู้ปกครอง และถึงเพลาแล้วที่ มณีแก้ว จักต้องอยู่ยังหัตถ์แห่ง สุร หาใช่เป็นไปตามคำบัญชาแห่ง เทวา ถึงเพลาแล้วที่ ‘นางกาลี’ จักต้องเป็นผู้สูญเสีย...’

ปรีดา...แห่งสุร......เสียงสรวญคงอำนาจดังกระหึ่มก้องไปทั่วทั้งสถาน...

..............
............................

..รสหวานหวามของไอ้น้ำผึ้งสีแดงนั้นตอนนี้ผมจำมันได้ดี เพราะทุกครั้งที่ผมจะขยับตัวได้ ริมฝีปากของไอ้มหินทราบ้านั้นก็แนบป้อนรสหวามหวานเข้ากับริมฝีปากผมทุกครั้ง มันหอมหวานเกินกว่าผมจะอธิบายแต่มันก็ขมสุดๆในความรู้สึก...

แต่ที่ทำให้ผมโกรธไม่ลงก็เพราะทุกครั้งที่โดนป้อนน้ำรสหวาน สายตาของคนป้อนที่จ้องมองผม...มันสื่อถึงความรู้สึกบางอย่าง คนตรงหน้าจะไม่ทำร้ายผม...อ้อมกอดจากวงแขนใหญ่ของคนป้อนน้ำหวานที่โอบผมไว้ทั้งตัวมันอุ่นเกินกว่าแค่สัมผัส ความรู้สึกอบอุ่นนั้นอุ่นไปถึงหัวใจ...

“สุรโภคานคร ไม่จำเป็นต้องมี เทวี เพียงแค่มีเจ้าเป็น มณี แห่ง นคร ก็เพียงพอตรองเถิดน้องข้า... เพียงแค่เจ้าเอ่ยปากข้าจักส่ง นาง คืนยัง โภควัตร พันธสัญญาจักจบสิ้นเสียทีการหมั่นหมายระหว่างผืนฟ้าและแผ่นน้ำจักได้ยุติ...กี่คราแล้ว...ที่สายเลือดแห่ง สุร เฉกข้า...ได้แต่เฝ้ามองยามผืนฟ้าแย่งชิงสายน้ำไปครอง ”

...สัมผัสอุ่นจากอ้อมกอดและฝ่ามือใหญ่ที่ค่อยๆลูบหัวผมอยู่...ทำให้แทบเคลิ้ม

ไอ้มหินทราอะไรนี้ก็มีดีเหมือนกันแต่ไอ้ที่พร่ามมาผมไม่ค่อยเข้าใจ นี่มันความฝันบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ที่ผมรู้มีเพียงอย่างเดียวตอนนี้ไอ้บ้าพลังนี้สงบลงแล้ว...ดูๆไปไอ้มหินอะไรนี้ก็อบอุ่นดีนะ ถ้าในความฝันผมจะคิดถึงอะตรอมมันจะผิดไหม? ก็ความรู้สึกมันคล้ายๆกันเลยนี่น่า....


“ ‘รัก’.......ข้าเจ้าคง ‘รัก’ ใน ‘นาง’ พระพี่ท่าน... ”

เฮ้ย!! เสียงหวาน ดังแผ่วเบาออกมาจากปากผม ....

สาดดดดดดดดดดด! จะมาพูดอะไรตอนนี้ เหมือนกวนน้ำที่กำลังจะใสให้ขุ่น เสียงบอกว่ารักนั้นเบาก็จริงแต่ถ้าบอกตอนที่กำลังโดนโอบกอดจนแน่นขนาดนี้ถ้าเจ้าของอ้อมกอดไม่ได้ยินก็พิการซ้ำซ้อนแล้ว ไม่ต้องถามว่าอารมณ์เจ้าของอ้อมกอดที่โอบผมอยู่ตอนนี้เป็นยังไง เสียงกัดฟันกรอดๆกับ การนิ่งเกร็งมันทำให้ผมรู้ความรู้สึกแบบเดียวกับที่ อะตรอมเคยเป็นที่สนามบาส....

โกรธมาก...แต่ทำอะไรไม่ได้เจ้าของวงแขนใหญ่ค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากตัวผมแล้วใช้มือใหญ่นั่นเชยคางผมที่อ่อนแรงให้จ้องมองตอบ แววตาวาวดำเหมือนจะเคลือบสีแดงไว้ชั่วขณะ

“เพียงข้าเท่านั้น....เพียงข้าเท่านั้น ที่เจ้าจักมีรักให้ได้ ภังคียะ ! รักแห่งเจ้ามีให้ข้าได้เท่านั้นหาใช่ นาง! เพียงข้า...เท่านั้น!”

จบคำพูดของคนตรงหน้า ผมก็ถูกปล่อยออกจากอ้อมแขนใหญ่ให้ทิ้งตัวลงบนผืนผ้าที่วางซ้อนเป็นชั้นๆ โถน้ำผึ้งใหญ่สีแดงที่คนตรงหน้าเคยค่อยๆจิบแล้วป้อนเข้าปากผมตอนนี้ของเหลวรสหอมหวานข้างในถูกเทราดลงบนตัวผมทั้งหมด ก่อนที่ร่างใหญ่จะขึ้นคร่อมผมแล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าสีแปลกของตนเองออก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้ว!!

ริมฝีปากร้อนสัมผัสเบาลงมาที่หน้าผากผม ก่อนมือใหญ่จะเลื่อนขึ้นมาประคองที่หน้าแล้วไล้ลิ้นลงเลียริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ....

ผม .......ขยับไม่ได้.....ไม่สิทำไม่ได้แม้แต่จะออกเสียงด้วยซ้ำ.... ทุกสัมผัสที่ได้มันร้อนไปหมด ไม่ว่าจะโดนส่วนไหนของร่างกายก็ตามมัน....ร้อน ความรู้สึกนี้ ผมเคยเป็นมาก่อน .... ร้อนเหมือน..............

...

ตอนโดนยักษ์ที่บ้านอะตรอมจับ !

..............
............................



...จูบที่ให้ความรู้สึกแปลก ทั้งอยากรับสัมผัสนั่นทั้งอยากผลักไส อารมณ์มันผสมกันไปหมด แต่ที่พอจะรับรู้ผมไม่ได้รังเกียจ...

แต่ทำไมถึงอยากจะร้องไห้...ฝ่ามือใหญ่ไล้ลูบผ่านเนื้อผ้า ในขณะที่ปลายนิ้วนั้นค่อยๆใช้เล็บคมกรีดผ่านเนื้อผ้าที่ผมสวมอยู่ อย่างกับมีดโกน เล็บของคนตรงหน้าคมได้ขนาดนั้น แม้บางช่วงปลายเล็บนั้นจะกรีดเลยมาถึงเนื้อผมจนทำให้มีรอยกรีดไปบ้างแต่ปลายลิ้นร้อนก็ไล้เลียตามทุกครั้งที่ ปลายเล็บลากผ่าน นี้มันฝันนี่น่า แต่ทำไมมันถึงได้เสียววาบทุกครั้งที่เล็บนั้นกรีดเข้ามาที่เนื้อ?

“...ปล่อยข้า...”

เสียงที่รอดออกจากปากผมมันคนละอารมณ์กันกับผมตอนนี้ผมเป็นพวก มาโซหรือเปล่า ผมชอบนะกับสัมผัสแบบนี้ คนตรงหน้าผมเลื่อนตัวขึ้นมามองหน้าผมอีกครั้ง หลังได้ยินเสียงร้องห้าม

คือ...

..ไม่ต้องไปสนใจทำต่อเถอะนี่ถ้าครางให้ได้ก็จะครางให้นะ... ก็นะ...มันรู้สึกดีนี่น่า ยังไม่ทันทำอะไร ไอ้มหินทราบ้าที่คร่อมผมอยู่ก็พยุงตัวเองขึ้นแล้วช้อนอุ้มผมพาดบ่าเดินไปที่ไหนสักที่ ในมุมนี้ผมไม่เห็นอะไร เฮ้ย!! นี้มันความฝันผมนะผมก็ควรมีสิทธิมีเสียงบ้างดิ ได้แต่บ่นในใจเพราะเท่าที่ผมทำได้คือเงี่ยหูฟังไอ้มหินอะไรนี้หยุดอยู่ที่ไหนสักที่

“แจ้งข่าวไปยัง ‘โภควัตร’ ‘สุรโภคานคร’ จักเปลี่ยนเจ้าเหนือหัว หากทาง โภควัตร ต้องการคงพันธสัญญาแห่งฟ้าและน้ำ ‘นาง’ อันถูกกำหนดมาก็ต้องแต่งกับข้า ‘มหินทรา’ .... พัตตรัง ส่งสารลับไปยังเขตแดน หาก สุร ตนใดอยากให้ข้าคงอำนาจเหนือนาคาและเทวา ในแดนแห่ง สุรโภคานคร จันทร์เต็มดวงคราหน้า ข้า....จักนำทัพกบฎ! ”

ผมได้ยินอีกเสียงตอบรับแต่ไม่รู้ว่ามันพูดว่าอะไร เพราะสั่งเสร็จไอ้บ้าพลังที่อุ้มผมพาดบ่านี้ก็เดินลิ่วๆไปโดยเหมือนไม่สนใจอะไร เฮ้ย! นี่ลองเดานะแกจะก่อกบฎแต่แก่สั่งยังกับแกชนะแล้วอย่างนั้นทั้งๆที่แกยังไม่ได้รบกับเขาสักนิด มั่นมากเลยนะแก...ผมว่าผมด้านบวกมั่นมากแล้วนะแต่พอเจอไอ้มหินทรานี้ผมไปไม่เป็นเลยทีเดียว

...แต่เดี๋ยวก่อนนะท่าทางไอ้คนพูดมั่นใจขนาดนี้มันต้องมีอะไรที่เป็นไม้ตายแน่....อะไรอ่ะ อยากรู้....แล้วก็หยุดอีกแล้ว

เสียงกระดิ่งกังวาลรับกันเป็นทอดๆ ผมมองไม่เห็นอะไรนอกจากแผ่นหลังสีทองแดงที่มีแต่กล้ามกับแผลเป็น แล้วก็พื้นทางเดินสีเขียวคราม...

“ข้าจักอยู่ยังสถานแห่งพันธศิลานิล จวบจนจันทร์เต็มดวงคราหน้า...หากมันผู้ใดก้าวเท้าเหยียบยังสถานแห่งพันธศิลานิล ปลิดหัวมันผู้นั้นโดยมิต้องฟังคำ... ”

สั่งได้สั่งดี สั่งอะไรกับใครว่ะ? แล้วนี้มันจะพาผมไปไหนอ่ะ....กลิ่นหอมของดอกไม้...ไม่สิกลิ่นมันเหมือนน้ำผึ้งนั่น แต่เหมือนจะแรง...และเลวร้ายกว่า กลิ่นที่เหมือนจะคุ้นเคย....กลิ่นของ??....เหล้าหรอ?

“?! ”

เย็น! ผมแทบสะดุ้งเมื่อถูกไอ้บ้านี่วางลงในน้ำ....เฮ้ย! นี่มันอะไร.... บ่อน้ำสีแดงนี้ทั้งหมด

..............
............................

...
มันเป็นเหล้าสีแดง!!!

... ไม่ใช่น้ำหวานหรอกหรอ? ผมสูดอากาศที่ลอยอยู่เหนือเหล้าสีแดงเข้าไปเกือบเต็มปอดกลิ่นมันหอมเหมือนเกสรดอกไม้ ริมฝีปากอุ่นแนบเข้ากับปากผมอีกครั้ง ความเย็นของบ่อเหล้ากับความร้อนของริมฝีปากอุ่นเหมือนจะมอมผมให้จมดิ่งอยู่กับคนตรงหน้า ปลายนิ้วร้อนไล้เกลี่ยริมฝีปากผม จนรสชาติของเหล้าสีแดงมันซึมเข้ามาในปากกลิ่นมันหอม

...แต่ไม่มีรสหวาน... เหมือนน้ำผึ้งก่อนหน้านี้

“มธุรส นาม มณีแดง เจ้ารู้จักดีมิใช่รึ...มันใช้เร่งความกำหนัด มันใช่ลบรสสัมผัสแห่ง นาง มัน.......จะทำให้คำว่ารักของเจ้า มีเพียงข้า...ภังคียะ...”

..............
.........................


...
รอยกรีดของปลายเล็บคมที่กรีดผ่านเนื้อผ้าเลยไปที่เนื้อผม คอยๆจางลงไปทุกๆครั้งที่ปลายลิ้นร้อนของผู้ชายตรงหน้าเน้นเลีย ลงซ้ำๆ เหมือนจะพยายามลบร่องลอยที่ทำไว้

“องค์...เคยให้สัตย์สัญญาว่า..จักมิทำร้ายข้า...”

เสียงนั่นหลุดออกมาจากปากผม เหมือนจะรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมตอนนี้นิ้วเริ่มจะขยับได้แล้ว เหมือนไอ้อะไรที่ออกฤทธิ์กับร่างกายผมกำลังจะหมดฤทธิ์ รึกลิ่นของเหล้าสีแดงที่ผมแช่อยู่ท่าจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น…

..............
............................

“องค์...เคยให้สัตย์สัญญาว่า..จักมิทำร้ายข้า...”

ประโยคแห่ง ภังคียะ ถูกหยุดไว้ด้วยเสียงครางกระเส่าเมื่อ มหินทรา จับสะโพกกลมเนียนนั้นให้แนบบด เบียดเข้ากับส่วนกลางลำตัวของตนที่เริ่มร้อนใต้ชายสาบผ้าหนาที่ปิดทับ อารมณ์ครุกรุ่นนั้นมีตั้งแต่ลิ้นร้อนแห่งตนไล้เลียร่างบาง ที่เกิดร่องรอยบาดแผลจากน้ำมือตน หากแต่ต้องขืนไว้เพราะกำลังลังเลที่จะทรยศต่อความเชื่อใจของ ภังคียะ จวบจนเกือบจบประโยคจากเสียงพร่ากระเส่าอันออกมาจากริมฝีปากอิ่มนั้นหล่ะที่ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดทะลักล้นออกมาพร้อมความกำหนัด! สองมือตนนั้นบัดนี้โอบรอบเอวบางแห่ง ภังคียะ ไว้แน่น พร้อมยกตัวขึ้นกึ่งนั้งกึ่งนอน แผลจากกรงเล็บคมนั้นหายไปจนไม่เหลือร่องรอยการรักษาจากแพทย์ชั้นดี...ที่ใช่เวลาเพียงชั่วอึดใจทิ้งไว้เพียงรอยย้ำความเป็นเจ้าของและความกำหนัดอันรัญจวนใจ มหินทรา ได้แต่จับจ้องแววตาหวานอันน่าหลงใหล ดวงหน้าที่อยากจักเห็นทุกครั้งที่ลืมตาตื่น..

...ตอนนี้ใกล้เสียจนลมหายใจแผ่วที่มาจาก ภังคียะ นั้นสัมผัสได้เพียงชั่วเสี้ยว...

ริมฝีปากหนาเบื้องหน้านั้นก็ดึงดูดให้ ภังคียะ ทาบริมฝีปากและใช้ลิ้นสอดหาปลายลิ้นร้อนที่เคยไล้เลียร่างตน กลิ่นคาวเลือดนั้นยังหลงเหลืออยู่แต่ก็ดูจะเร้าใจไปอีกแบบ เร้าใจสัญชาติญาณแห่งยักษา เนิ่นนานที่ ภังคียะ ปิดตาลงเพื่อรับสัมผัสรสอันชวนลุ่มหลงจากริมฝีปากและปลายลิ้นร้อน รสและกลิ่นของมธุรส นามมณีแดง กำลังดึงทั้งสติและอารมณ์ กว่าจะถอนริมฝีปากออกมาได้ ภังคียะ ก็แทบอ่อนไปทั้งตัว และเหมือนจะมิเพียงพอเมื่อริมฝีปากนั้นถูกทับทาบอีกครั้งด้วยความเร้าร้อน เปลือกตาหวานปรือขึ้นเมื่อเริ่มจะรับรสได้ว่า มันยังมิพอเพียงแค่รสจากริมฝีปาก สำหรับเชื้อสายแห่งนาคา รสกามณ์ถือเป็นสิ่งที่มิอาจขัดขืน หากแต่ ภังคียะมีอีกครึ่งเป็น สุร แถมยังถูกโอบอุ้มไว้ในหัตถ์แห่ง พราหมณ์ธาดา การปล่อยอารมณ์นั้นจึงยากแม้แต่จักคิด หากแต่ขอแค่มี มณีแดงเพียงไม่กี่ถ้วยก็ทำลายสติของ ภังคียะ จนสิ้น...


...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรก่อนหลังอย่างไร รู้แต่เพียงว่าสำนึกนั้นมาตอนที่ ตนกดทับแท่งเนื้อนั้นให้เข้ามาในร่าง ความกำหนัดถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อร่างใหญ่ที่นอนอยู่เบื้องล่างตนนั้นกระแทกสวนขึ้นมาเป็นจังหวะจะหยุดอะไรก็หยุดได้แต่หยุดไฟราคะ

ครานี้ท่าจะยาก....

“พี่ท่าน...”

ริมฝีปากอิ่มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา มหินทรา ได้แต่มองดวงหน้าที่ตนหลงใหล ร่างบางที่สั่นเทา ริมฝีปากแดงที่เม้มเข้าหากันยามสะกดอารมณ์ทำให้ตนเบื้องหน้าดูเย้ายวน มิรู้ว่าอารมณ์ตนตอนนี้เป็นเยี่ยงใดหากแต่ที่พอสำนึกได้ลางๆ อยากบดขยี้ริมฝีปากนั้น อยากกลืนร่างบางเบื้องหน้าเข้าไปทั้งตัว อยากได้ยินเสียงกรีดร้องพร่ำชื่อตน ริมฝีปากชื้นยามสัมผัสให้ความรู้สึกเย็นวาบเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น และดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อวงแขนเล็กโอบกอดให้ตนนั้นแนบลำตัวเข้าหา

'รักเหลือเกิน... รักมากขนาดนี้ ข้าจักปล่อยให้เจ้าไปกับนางได้เยี่ยงไร...'

“ภังคียะ..."

เสียงทุ่มเบานั้นกระซิบข้างหู ก่อนใบหน้างามจะหันกลับมา ริมฝีปากร้อนก็ประทับแน่นที่ต้นคอระหงแล้ว ปลายลิ้นร้อนไล้เลียทั่วต้นคอ ในขณะที่สองมือก็ไม่ได้หยุดซุกไซ้ในชายผ้า แล้วค่อยๆปลดผืนผ้าออกทีละชิ้น สัมผัสจากร่างใหญ่นั้นร้อน หากแต่ยามแช่ตนใน บ่อมณีแดงสัมผัสนั้น ชวนให้หลงไหล ไร้แรงขัดขืน ภังคียะ เพลานี้แนบตนลงกับแผงอกกว้าง ชั่วอึดใจ ร่างใหญ่นั้นจึงผลักตนให้ทอดร่างเหยียดยาวจมลงผืนน้ำก่อนเกมกามจักเริ่มขึ้นอีกครั้งด้วยแรงกระแทกกระทั้นที่มีมากกว่าเดิม

เรือนผมสีนิลนั้นขับให้แววตาสีมรกตกวาวขึ้นแถมผืนน้ำยังสะท้อนให้เห็นริมฝีปากสีแดงอิ่มที่ขบเม้มเข้าหากันเพื่อข่มอารมณ์ ผิวกายที่เคยเข้มเป็นสีทองแดงบัดนี้ดูน่ามองยิ่งขึ้นเมื่อแนบเข้าผิวกายสีเหลืองนวล เล็บยาวสีนิลของภังคียะ กดลงบนบ่ากว้าง ทุกครั้งที่ร่างใหญ่ของเจ้าของบ่านั้นขยับ เหมือนต้องมนต์สะกดเสียเอง มหินทราขัดขืนมิได้ยาม ดวงตางามสีมรกตนั้นจดจ้องดั่งร่ายเวทย์ก่อนมือนุ่มจะค่อยๆดึงตนให้จมลงไปในผืนน้ำ รอยยิ้มยั่วมีบางๆที่ริมฝีปาก ปลายนิ้วเรียวลื่นลากสัมผัสไล้ตั้งแต่แก้มขึ้นไปถึงปลายคิ้วเหมือนจะสำรวจภาพที่เห็นตรงหน้า ภังคียะ นั้นเย้ายวนเกินไป แม้สำหรับการต่อต้านของรองแม่ทัพแห่ง สุรโภคานครเองก็ แทบมิมีทางเป็นไปได้...

...ริมฝีปากเย็นไล้เม้มชิมไปทั่วช่วงไหล่กว้างแล้วขึ้นมาหยุดเย้าที่ริมฝีปากหนา ปลายลิ้นชื้นไล้เลียซ้ำๆที่กลีบปาก ก่อนจะสอดลิ้นหวานหยอกเย้าจน มหินทรา เผลอตัวโต้ตอบเจ้าของปลายลิ้นนั้นอย่างร้อนเร้าไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่หลงอยู่กับรสจูบอันวาบหวามสุขเสียจนแทบลืมหายใจ สายน้ำที่โอบล้อมแม้จะเย็นเยือกแต่อารมณ์ของสองร่างในบ่อน้ำนั้นตอนนี้ไม่ได้เย็นลงตามสายน้ำแม้แต่น้อย ภังคียะ นั้นจมสติทั้งหมดไปกับมณีแดง ส่วนตนที่ว่าน่าจะยั้งใจได้เพลานี้กลับปล่อยทุกสิ่งไปกับร่างเนียนในวงแขน มหินทรา ครางเสียงต่ำอย่างพอใจก่อนถอนปลายลิ้นตนออกมาหอบหายใจ มิอยากปล่อยแต่ก็อดไม่ได้เมื่อคิดถึงการที่จะลองลิ้มรสทุกอย่างของร่างในวงแขนตน

..............
............................


 “อืมส์...แรงกว่านี้อีก... พี่ท่าน...”

...เสียงกระซิบอ้อนเชิญชวน แม้ปลายเล็บนั้นจะจิกแน่นลงกับแผ่นหลังเหมือนผ่อนความเจ็บจากแรงกระแทก เสียงกระเซ่าอ้อนพาสติของรองแม่ทัพเลือนหาย อยากได้มากกว่านี้อยากครอบครองมากกว่านี้ แรงทั้งหมดถูกโหมไปยังร่างใต้แผงอก

เสียงครางกระเซ่าถูกปิดด้วยเสียงน้ำสีแดงที่กระเพื่อมดังยามร่างใหญ่กระแทกตนแนบเข้ากับร่างเนียน แล้วไม่นานเสียงนั้นก็ขาดช่วงเมื่อ มหินทราปิดริมฝีปากนั้นด้วยรสจูบอันเร่าร้อน เหมือนจะยังไม่สาใจเมื่อ ภังคียะ คลายเล็บที่จดจิกแผ่นหลังกว้างมาโอบกอดช่วงเอวของ มหินทรา ที่ไม่ได้ผ่อนแรงโหมลงแม้แต่น้อย

“ข้าอยากได้มากกว่านี้...ภังคียะ...”

เสียงทุ้มด้านบนเอ่ยปนหอบเนื่องด้วยช่วงเอวยังคงทำหน้าที่มิได้หยุด แต่ที่ได้ตอบกลับมาจาก ภังคียะกลับเป็น รอยยิ้มพราวท่อนขานั้นยังโอบเกี่ยวกับช่วงเอวของ มหินทราแต่ปลายนิ้วนุ่มกลับออกแรงผลักแผงอกที่อยู่เหนือตนให้ออกห่าง มหินทรา มิวายสงสัยหากแต่ความสงสัยนั้นหยุดลงเมื่อ ภังงคียะ คลายท่อนขาที่เกี่ยวกระหวัดกับเอวตนออกแล้วย้ายมาคล้องกับลำคอหนาของตนทั้งๆทียังไม่ถอดแท่งเนื้อและแรงที่โหมลงไปสักนิด เหมือนรู้เมื่อ มหินทรา เปลี่ยนเป็นคุกเข่าแล้วจับช่วงขาข้างหนึ่งไล้เลียและเม้มจูบ ถูกใจไปซะทุกอย่างสำหรับรสกามที่ได้มาจากฤทธิ์ของ มณีแดง กาลหน้าจักเป็นเยี่ยงไรก็ช่าง หากแต่ ภังคียะ เป็นของ ข้า

“พี่ท่าน...อ้า...อืมส์...มากกว่านี้...มากกว่านี้”

เสียงพร่าเพรียกหาอย่างเว้าวอนแม้ร่างทั้งร่างจะสั่นคลอนจากแรงโหมที่มิอาจหยุด นั่นกระตุ้นความเสียวซ่านจน มหินทรา อดมิได้ที่จะขบกัดท่อนขาเนียนที่กระหวัดเกี่ยวคอตนไว้ ตนรู้ดีว่า ภังคียะต้องการสิ่งใด เพราะสิ่งที่ภังคียะต้องการตนก็กำลังต้องการเหมือนกัน…รสสวาทที่ตนอื่นให้ไม่ได้...

“ร้องให้ดังกว่านี้...เพรียกนามข้าให้มากกว่านี้...แล้วเจ้าจะได้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ...รักแห่งข้า...”

มหินทรา เอ่ยสั่งเสียงสั่นครั้นพอได้ยินเสียงเครือกระซิบนามตน ขุนพลก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ เร่งแรงโหมลงกับร่างใต้แผงอกอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย ร่างใต้แผงอกเกี่ยวขาตนคล้องลำคอหนาไว้แน่นดั่งจะผ่อนปนความเสียวซ่าน แต่พอแรงโหมนั้นมีมากขึ้นมือสองข้างที่เคยขยุมสองบ่าข่มอารมณ์ก็เปลี่ยนมาเป็นดันแผงผนังบ่อน้ำไม่ให้ตนถอยร่นไปตามแรงโหมของร่างใหญ่ที่ถ่ายทอดความกำหนัด จนความสุขนั้นทะลักทลายลงกับร่าง เท่าไหร่ก็มิพอกับรสชาติที่ได้รับ ไฟราคะเหมือนจะยังมิมอดดับเมื่อ มหินทรา จุดไฟนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า จนตนเองอดกลัวมิได้ว่าเจ้าของเสียงหวานนั้นจะแหลกสลายคามือตน แต่ก็นั้นแหละเพลานี้ใครจะห้ามกามอารมณ์ได้...

พอจะอ้างเหตุมาได้บ้างก็ด้วยกำหนัดนั้นตนมิได้เป็นผู้บังคับด้วยกำลัง ข้าเพียงแค่ใช้ มณีแดงเท่านั้น หรือมิจริง ภังคียะ แห่งข้า...หึ! ท่านพลาดแล้วหล่ะ ฑิฆังตรัง คิดรึว่าการใช้เวทย์สตรีบุชา จองจำร่างแห่งภังคียะ ข้าจักมิอาจสัมผัสร่างนี้ได้ ลืมกระนั้นฤ ท่าน หากอยู่ยังสายน้ำเวทย์นั้นก็ไร้ผล ...และข้าก็มิได้รังเกียจยามจมลงผืนน้ำพร้อมด้วย ภังคียะ ....


...
กว่าไฟราคะจะมอดลงได้ก็เกือบบ่ายของอีกวัน กระนั้นมันก็หาได้ดับลงเสียทีเดียว มหินทรายังมิวายกกกอดร่างแห่งภังคียะไว้แน่นริมฝีปากหนายังคงขบกัดเบาๆที่ไหล่เนียน ไฟราคะมอดดับลงพร้อมกับรสชาติมณีแดงที่เริ่มหมดฤทธิ์ ภังคียะ กลับมาเป็น ภังคียะ ตนเดิมหากแต่ในความรู้สึกของ มหินทรา ไม่ว่าจะรูปลักษณ์ใดร่างในอ้อมแขนตนก็มิต่างกัน ที่ตนกกกอดคือ ภังคียะ มณีแห่งสุรโภคานคร ที่บัดนี้จากพี่ชายต่างสายเลือด ตนกลายมาเป็นตนรักเพียงชั่วข้ามคืน สติยังคงอยู่หากแต่เปลือกตานั้นมิอาจเปิดขึ้นด้วยล้าไปทั้งตัว เมื่อคืนนี้ร้อนแรงเกินไปแต่ก็ยังไม่เพียงพอหากจะหยุดเพียงครึ่งคืน ถ้าทำได้ตนอยากบดเบียดให้ร่างนั้นอยู่ใต้แผงอกตนเพียงเท่านั้น...

แสงสว่างที่รอดผ่านรอยแยกของม่านน้ำเข้ามาดูจะเป็นผู้ปลุกเรียกสติชั้นดีของ ภังคียะ ครั้นพอจะขยับร่างนั้นก็เหมือนจะร้าวไปทั้งตัว ช่วงเอวเหมือนถูกตรึงไว้กับผืนน้ำขณะที่ช่วงอกก็อึดอัดเหมือนอะไรบางอย่างทาบทับ ยากเย็นเหลือเกินกว่าจะเปิดเปลือกตาทั้งสองออกเพื่อจะรับรู้ว่าความอึดอัดที่รู้สึกได้เกิดจากวงแขนใหญ่ที่โอบกอดตนไว้ให้แนบชิดกับแผงอก ส่วนช่วงเอวนั้นล้าเหลือเกินกับการผ่านค่ำคืนแห่งกำหนัด ภังคียะ ค่อยๆลืมตามองผ่านม่านน้ำรอบข้าง....สตินั้นค่อยๆคืนมา

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!37#So many Tears .กบฏ ไร้พ่าย [ตอน 3 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:19:00
บทที่ 37 So many Tears .กบฏ ไร้พ่าย [ตอน 3 ]

..............
............................



“ภังคียะเจ้าขา...ข้าเจ้าเจ็บข้อเท้าไปหมดแล้ว ....ใยต้องร่ายรำให้ปวงสุรและเทวา ด้วยเล่า? ข้าเจ้าร่ายรำต่อหน้าองค์เพียงเท่านั้นมิได้กระนั้นรึ? ”



...เสียงหวานปนอ้อนที่ได้ยินปลุกสติผมให้กลับมา ความฝันที่ยาวนาน เมื่อวานกินข้าวเยอะไปหรือไง?! แต่ผมก็คิดได้แค่นั้น พอลืมตามาเห็นหน้าเจ้าของเสียงหวานหัวใจผมก็เหมือนจะหลุดตาม.....

นางฟ้า......

ร่างบางนั้นร่ายรำใต้แสงตะวันและไอหมอก... งดงามจนอธิบายไม่ถูก...นี้เป็นครั้งแรกที่ผมตกหลุมรักแค่เพียงแรกเห็น... เมื่อร่างทั้งร่างร่ายรำอยู่กลางสายหมอก เพียงแค่นั้นก็สะกดสายตากับหัวใจผมแล้ว หัวใจผมเหมือนกำลังจะโดนขโมยไป ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่ที่แน่ๆเธอ....กำลังแย่งหัวใจผมไป หัวใจผมกำลังจะหายไปในสายหมอก หายไปเพราะ นางรำ ที่อยู่ตรงหน้า....

“ งามไหมเจ้าคะ? ”

เสียงหวานเหมือนหน้าตาคนถาม ผมแทบจะโกรธตัวเองทุกครั้งที่เผลอกระพริบตา เพียงแค่เสี้ยววินาทีผมก็ไม่อยากละสายตาจากหญิงสาวเบื้องหน้า อยากจดจำทุกรายละเอียดของนางฟ้าหน้าหวาน เพียงแค่เห็นรอยยิ้มบางจากริมฝีปากอิ่ม ผมก็เผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว หัวใจแทบจะทะลุออกมาเมื่อวงแขนนุ่มนั้นโอบคล้องไว้กับแขนของผม หน้าอกนิ่มนั่นเบียดชิดเข้ากับท่อนแขน ซ้ำยิ่งเธอสวมใส่เพียงผ้าสีครามที่ช่วงบนรัดเฉพาะหน้าอกอิ่ม สมองผมก็ว่างเปล่าซะงั้น

...มันเป็นนิสัยผมนะ ถ้าแค่คิดเล่นๆ จินตนาการผมคงบรรเจิด แต่ถ้ากับคนที่ชอบจริงๆ ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิด...เหมือนกับการกินนั่นแหล่ะ เพราะชอบมากลูกชิ้นถึงได้เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเหลือไว้กินอย่างละเมียดละมัย

“พะเตรียง...คงรักในองค์ ...รักในองค์มากนะเจ้าคะ รักเสียยิ่งกว่าชีวิต ของพะเตรียงเองอีก”

ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมแววตาวาวสีน้ำตาล ที่ผมจะไม่มีวันลืม ความรู้สึกหนึ่งที่แทรกเข้ามา ผมก็รัก... ผมรักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ รักมากที่สุด นางฟ้าของผม เธอชื่อ พะเตรียงใช่ไหม?

..............
............................


ห้องโล่ง ?! ผมมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ยังฝันอยู่หรอ? โอ้ย! แล้วทำไมไม่ฝันถึงนางฟ้า ....นางฟ้า ของผม นั่นไงเธออยู่ตรงนั้น...

...........อยู่กับคนๆนั้น ชื่ออะไรนะ มหินทรา สินะ.... ผมกำลังจะเดินเข้าไปใกล้ แต่เสียงคำรามเบาๆทำให้ผมต้องหยุดอยู่แค่นั้น



“พยัคฑิฆามาส??...”

ไอ้ขนปุยของผมไหงมันตัวใหญ่ขึ้นอย่างนี้ ?!! ขนยาวยังเป็นสีเงินวาวตัดดำ แถมพ่วงด้วยพวงหางสองพวง แต่ขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำเอาผมตกใจไม่น้อยไอ้เสือนี้ขนาดยืนสีขามันยังสูงเกือบเสมอไหล่ผม...

“พอเถิดนายน้อย เพียงแค่นี้ยังทรมานมิพอหรือขอรับ....อย่าได้คิดฟังคำจากปากนางอีกเลยขอรับ...การที่นางเลือกจะดำรงข้าง มหินทรา มันก็แจ้งอยู่แล้ว ...ว่านางทรยศต่อองค์... ”

...ผมยังจับต้นชนปลายกับสิ่งที่ไอ้เสือพูดไม่ถูก แต่เท่าที่รู้สึกได้ ผมเจ็บ...เจ็บตรงหัวใจไปหมด หึ! ที่ยืนอยู่ตรงนั้น คนหนึ่ง เคยบอกว่าจะ คุ้มครองผม จะทำทุกอย่างเพื่อให้ผมเลือก...คนหนึ่งบอกว่ารักผม...ยิ่งกว่าชีวิต ทุกอย่างอะไรมันจริงมันหลอกลวงกันแน่...

..............
............................

..
หายใจไม่ออก เหมือนทุกอย่างมันมาอัดทับอยู่ตรงตำแหน่งที่เรียกว่าหัวใจ ยังไม่ชินอีกเหรอนี้แค่ฝันยังเจ็บขนาดนี้ ทั้งๆที่เรื่องจริงก็เคยเป็นอย่างนี้ทั้งๆที่บอกว่ารักมาก แต่สุดท้ายมันก็จบทุกครั้ง....

เหมือนกันทั้งหมด จะผู้หญิงหรือผู้ชาย สุดท้ายผมก็ต้องอยู่คนเดียว ถ้ารักแล้วมันต้องทรมานขนาดนี้...

จะรักทำไม จะทำให้คิดทำไม ถ้าคำที่พูดออกมา มันทำไมได้อย่างที่พูด ก็ไม่ต้องคิดแม้แต่จะพูด....

..............
............................


“หากข้า ปล่อยองค์ฑิฆังตรัง ข้าจักได้สิ่งใดตอบแทน?”

คำพูดที่เอ่ยออกมาทำเอาผมหน้าชา รอยยิ้มยั่วของคนตรงหน้าทำผมแทบบ้า หน้าผมตอนนี้ร้อนไปหมดไหนบอกว่าจักคุ้มครองผม? ไหนบอกจะทำทุกอย่างเพื่อผม? แต่ตอนนี้คนตรงหน้าทอดทิ้งผมแล้ว... มันไม่มีอีกแล้วพี่ชายที่แสนดี ไอ้เสือที่อยู่ข้างๆก็เหมือนจะรู้อารมณ์ มันก้าวเข้ามาขวางผมไว้

“ข้าเจ้าขอแลก...ตำแหน่งอุปราชและชีพข้า กับลมหายใจแห่ง องค์ฑิฆังตรัง...”

ผมกัดฟันตอบเสียงเบาให้กับคนที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่า เขารักผมและยอมทำทุกอย่างเพื่อผม แต่ตอนนี้ผมเพิ่งรู้ ผมคิดผิด...

“ข้า...มิอยากได้ตำแหน่งอุปราช ร่วมทั้งชีพกับลมหายใจของเจ้า...ภังคียะ.....หากแต่.......ข้าอยากได้ทุกสิ่งที่เป็นของเจ้า....”

รอยยิ้มกว้างนั้น ทำเอาผมเจ็บ...เจ็บจนแทบจะขยับไม่ได้ มันใช่เรื่องล้อเล่นหรอ? เมื่อสิ่งที่ผมต้องการแลกคือลมหายใจของพ่อผม ชีวิตของพ่อผมที่ตอนนี้จะเป็นหรือตาย อยู่ที่คำสั่งของคนตรงหน้า คำสั่งของผู้ชายที่ชื่อ มหินทรา !

..

.
.
.

“ข้าเจ้า...ยอมแลก...”

ในเมื่อมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว บางทีสิ่งที่ผมตอบไปมันอาจไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด...แต่ก็แค่นั้นนี้เป็นอีกครั้งที่ผมโดนหลอก...

..เรื่องมันร้ายแรงกว่าที่ผมเคยคิด


..............
............................

...
ร่างใหญ่ที่ไร้ศรีษะ โดนตอกตรึงเข้ากับผนังศิลา มือและเท้าทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่เหล็กที่ลงอักษรแปลก อักขระที่สลักอยู่กลางแผงอก บอกผมทันทีว่านั่นคือร่างของใคร…. คนเพียงคนเดียวที่รักผมที่สุด รักที่ไม่มีวันทรยศต่อผม

“พระพ่อเจ้า!”

ผมกรีดร้องจนสุดเสียง น้ำตามันไหลเอ่อออกมาจนเหมือนเลือดนั้นจะไหลรวมมากับน้ำตา ไอ้เสือเดินเข้ามาใกล้ผม ขนนุ่มนั้นเป็นที่ที่เดียวที่จะซับน้ำตาผม น้ำตาที่ไม่มีทีท่าว่าจะเหือดแห้ง ผมได้แต่ร้องกับร้อง ร้องจนน้ำตามันไม่ไหลออกมาอีกแล้ว

“...องค์ ฑิฆังตรังสิ้นแล้ว....องค์ทอดทิ้งข้าแล้ว....ข้ามิเหลือใครแล้ว พยัคฑิฆามาส....มิเหลือใครอีกแล้ว...”

ผมกอดไอ้เสือของผมไว้แน่น ร้องไห้โดยไร้น้ำตา ผมไม่อยากสูญเสียอีกแล้ว ไม่สามารถรับอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว ไอ้เสือยักษ์นี้....เป็นสิ่งเดียวที่ผมเหลืออยู่

“หนีไปพยัคฑิฆามาส...ออกไปให้ไกลจาก สุรโภคานคร.... ”

ผมกระซิบข้างใบหูใหญ่ เสียงหัวใจของไอ้เสือเหมือนจะเต้นแรงขึ้น...

“นายน้อย...”

เสียงมันคำรามแผ่ว... ส่วนผมก็ได้แต่ร้องไห้...อีกครั้ง ไอ้เสือเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมเหลืออยู่ เพียงสิ่งเดียวที่ผมจะไม่ยอมสูญเสียอีก....

“คำสั่งข้า....พยัคฑิฆามาส...ออกไปให้ไกลจาก สุรโภคานคร....ออกไปให้ไกลจากอำนาจแห่ง มหินทรา...ออกไปให้ไกล....”

นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมร้องไห้ซบลงกับแผงขนนุ่มของไอ้เสือ

..ลืมตาขึ้นมาอีกที ที่ตรงนั้นก็มีเพียงแค่ผม ไอ้เสือไปแล้วสินะ...น้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว…

..............
............................


“ข้าเจ้ารักในองค์....รักในองค์ เป็นความสัตย์จริงนะเจ้าขา...”


...อีกครั้งที่หยาดน้ำตากับวงหน้าหวานกำลังล่อลวงผม เธอต้องการอะไรจากผมกันแน่ รักงั้นรึ! ถ้ารักผมจริงทำไม ทอดทิ้งผมไป? ทำไมเธอเลือกตำแหน่ง รานีย์ แห่ง สุรโภคานคร ฦ เธอเลือกผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ผม พะเตรียง เจ้าเลือก มหินทรา ตนนั้นไม่ใช่หรอ?

“เชื่อข้าเจ้านะเจ้าคะ เพียงองค์เท่านั้นที่ข้าเจ้าเลือก เพียงองค์เท่านั้นที่ข้าเจ้าคงรัก ภังคียะท่าน...”

ผมกำลังแพ้ให้กับเธอ ผมแพ้น้ำตาที่ไหลอาบแก้มแดงนั่น แพ้เสียงสะอื้นไห้ที่ทำให้ปวดใจ แพ้เธออีกครั้ง....ริมฝีปากอิ่มประทับแนบเข้ากับปากผม ดึงอารมณ์ให้เริ่มจะครุกรุ่น แถบผ้าที่คาดอยู่ช่วงอกปล่อยเปลือยลงมา อกคู่งามนั้นเหมือนดอกบัวตูม กลิ่นของพะเตรียงก็เหมือนกัน เชื่อสายแห่งเทวายามผสมกับสายเลือดแห่งนาคา ความงามนั้นดั่งดอกบัวแรกแย้ม....

...มือผมที่ลูบไล้เรือนร่างชวนสัมผัสนั้น สะดุดเข้ากับ สร้อยเงินที่คล้องไว้ด้วย เม็ดอำพันสีทอง.....ผมรู้ว่ามันคืออะไร เพราะเป็นผมเองที่ให้ เม็ดสีทองนี้กับไอ้เสือ....

..แต่มันไม่ใช่อำพันหรอก มันเป็นไข่ของ ตะบองพลำ แต่ทำไม พะเตรียงถึงได้มันมา...

..............
............................


“หญิงกาลี!”

เสียงตวาดก้องดังสะท้อนไปทั่ว เสียงนั่นปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากผวังค์ มหินทรา!! ...ยังไม่ทันทำอะไร ผมก็ถูกมือใหญ่ฉุดกระชากให้ลุกจากเตียงผ้า ทิ้งร่างเปลือยเปล่าของพะเตรียงไว้อย่างนั้น ผมหันไปมองร่างบนเตียงผ้า พะเตรียงถูกชายร่างใหญ่ สองสามคนกันไว้ไม่ให้ลุกตามผมมา เธอร้องไห้ ร้องเรียกผม

“ข้าเจ้ารักเพียงท่านนะเจ้าขา องค์ภังคียะ ข้าเจ้ารักเพียงท่าน...”

เสียงของเธอยังเหมือนตะโกนก้องอยู่ในหูผม....ท่ามกลางความมืดมิดตอนนี้พะเตรียงเหมือนเป็นแสงสว่างเดียวที่ทำให้เทียนชีวิตผมยังส่องแสง...

...................


...
ผมถูกพามายังห้องเดิม ห้องสีเขียวครามที่มีบ่อเหล้าสีแดงสดอยู่ตรงกลาง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันผมรู้ดีว่าถ้าผมลงไปในบ่อนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้น...

“องค์...เคยให้สัตย์สัญญาว่า..จักมิทำร้ายข้า...”

“หากแม้ผิดสัญญา ข้าก็ยินดีรับโทษ...แต่ถ้านั่นหมายถึงการให้เจ้าทอดทิ้งข้า เพื่ออยู่เคียงรักกับนาง ต่อให้ต้องกินเจ้าเข้าไปข้าก็จักทำ ภังคียะ...”

ผมถูกโยนลงบ่อเหล้าสีแดงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันต่างกัน ไม่มีความวาบหวามหรือรัญจวนใจจากน้ำผึ้งสีแดง จะมีก็แต่โซ่เส้นใหญ่ที่มหินทรา คล้องล่ามผมไว้ แล้วกดตัวผมให้จมลงบ่อเหล้า…

..............
............................

…ข้อมือซ้ายที่ถูกคล้องไว้กับโซ่เส้นใหญ่.... แม้ออกแรงกระชากแค่ไหนมันก็มีแต่ความเจ็บคืนกลับมา ไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ทุกอย่างมันเริ่มซ้ำขึ้นอีก ลิ้นร้อนไล้เลียตั้งแต่ริมฝีปากผมแล้วไล่ลามลงไปเรื่อย ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่น้ำตานั้นเริ่มไหล ร่างกายผมไม่มีแรงสักนิด ยิ่งปลายลิ้นร้อนไล้เลียลงข้างแก้ม น้ำตาก็ยิ่งไหล ไม่มีแรงจะขัดขืน ทั้งอำนาจและกำลัง ไม่มีสักอย่างที่สามารถต่อต้านชายที่อยู่ตรงหน้า ผมกำลังโดนคนๆนี้ ทำลาย!!!

...ความคับแค้นนั้นอัดอั้นจนเป็นเหมือนก้อนหนักที่ทับอยู่บนตัวจนไม่สามารถยกออกจากร่างกายได้... ความกลัว มันเหมือน ปนกับความสิ้นหวัง....ผมอยากออกไปจากที่นี้ อยากไปจากตรงนี้ ....มันต้องมีหนทางสิ หนทาง สุดท้าย...ที่จะหนีจากคนตรงหน้ามีแค่ หนทาง.....

..............
............................

..ที่เรียกว่า....

...ความตาย...

..............
.........................


...

 “ภินทร์! ตื่น ! ภินทร์ !”

“ปล่อยนะ! อย่ามาจับ! อึก…! กลับไปไม่ได้แล้ว! กลับไปหา ‘นาง’ ไม่ได้แล้ว...ปล่อยนะ! อย่ามาจับ! บอกให้ปล่อย! ปล่อย! ”

“ภินทร์! ภินทร์! มีสติหน่อย ! เราคิงส์นะ! ตั้งสติหน่อย! เฮ้ย ! ตั้งสติหน่อย ! ”

เหมือนเสียงเรียกนั้นไม่ได้ผล ภินทร์ได้แต่ร้องไห้ดิ้นรนให้พ้นจากอ้อมกอดของผม เกิดมายังไม่เคยเห็นคนละเมอ ซ้ำยังเป็น……

..............
............................

ละเมอ....ฆ่าตัวตาย....

..........................


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!38# These wounds they will not heal.
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:37:50
บทที่ 38 These wounds they will not heal.ละเมอ?
[Part คิงส์]


..เหนื่อยครับ..... กว่าจะวิ่ง 200 เมตรไปลากไอ้แสบให้กลับมาที่ห้องผมได้....

มันลื่นมาก ...นึกว่ามันจะเข้าห้องน้ำแล้วมานอนต่อ... รอสักพักมันก็ยังไม่เข้ามาในห้อง จนผมต้องแกล้งเนียนเดินไปหาน้ำดื่มแถวตู้เย็นถึงได้รู้มันเก็บข้าวของลงลิฟต์ไปแล้ว สาดดดดดดดดด! ใครบอกให้มึงไป ไอ้แสบ ! ผมไม่รู้นะว่าคิดอะไรกับมันกันแน่ ความรู้สึกที่มีให้ไอ้แสบมันคลุมเครือไปหมด อยากแกล้งมัน อยากกระทืบมัน อยากกอดมัน อยากให้มันอ้อน อยากเห็นมันยิ้ม...อยากแม้แต่เรื่องจะฟัดมัน.....

..เฮ่อ .......


..............
.........................


...

ผมได้แต่มองตามไอ้แสบที่โยนกระเป๋าไปทางโยนถุงเท้าไปทาง..มันคลานขึ้นเตียงไปแล้ว...ความรู้สึกที่มีให้มันยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ขอใกล้มันให้มากกว่านี้แล้วกันบางทีผมอาจจะรู้คำตอบของตัวเอง


ผมก้าวขึ้นเตียงไปนอนใกล้ๆมัน...คิดว่ามันจะผลักผมออกมา แต่ผิดคาดยังไม่ทันนับสามมันก็หลับสนิทไปแล้ว จากเดิมว่าจะแกล้งนอนเบียดให้มันรำคาญ เปลี่ยนแผนมาเป็นผมนอนจ้องหน้ามันตอนไหนก็ไม่รู้ จมูกเชิดๆ ปากอิ่มๆ ดีดหน้าผากมันไปที แต่มันก็ยังนิ่ง...
 
ผมชอบมันจริงๆใช่ไหม? ผมอะนะชอบมัน?! ไอ้ที่นอนนิ่งหายใจเบาๆข้างๆผมนี่เป็นผู้ชายนะ ถึงจะมีบางมุมที่มันหวานบ้าง...แต่ก็บางครั้งเท่านั้น...บางมุมมันแมนกว่าผมอีก...แถมการแสดงออกไอ้แสบนี่ก็ไม่เหมือนบัสที่นิ่มๆหวานๆเหมือนเค้กวนิลลา

ผมก็บอกไม่ถูกถ้าจะเปรียบกับเค้กไอ้แสบน่าจะเป็นรสอะไรระหว่าง เค้กรสช็อกโกแลตหรือเค้กรสสตอเบอรี่ ...ยืนยันอะไรไม่ได้ด้วยสิเพราะตอนล่าสุดที่ชิม...มันรู้แค่รสอร่อย...แค่มองหน้ามันผมก็ยิ้มได้แล้วนะ .....ท่าจะติดเชื้อบ้าจากมัน...


..............
............................


...
ไม่รู้ว่าผมเผลอหลับไปตอนไหน ไอ้แสบไม่ได้อยู่ข้างๆแล้ว คงไม่ได้แอบหนีไปอีกนะ...ผมใช้มุกเดิมเดินเนียนมาหาน้ำดื่มส่วนสายตาก็มองหามันไปด้วย ไม่ได้อยู่ในห้องน้ำ ไม่ได้อยู่ที่โซฟา...หรือว่าไปหาทำอะไรในครัวอ่ะ ? ผมเดินแถเข้าไปในครัวเห็นหลังมันไวๆ ทำไมไม่ยอมเปิดไฟ ทำอะไรมืดๆ ผมกดเปิดสวิตซ์ไฟ คิดว่าไอ้แสบต้องมีสะดุ้งบ้างหล่ะ แต่เปล่าเลยมันยังเงียบอยู่อย่างนั้น....

แต่ที่สะดุ้งอะเป็นผม

..............
............................


...ภินทร์ มันร้องไห้...ร้องไห้โดยไม่มีเสียง แถมมือยังถือมีดไว้ด้วย ไม่รู้ว่ามันไปหยิบมาตอนไหน แต่ที่เห็นคือมันกำลังกดมีดลงบนข้อมือซ้าย ไม่ได้ล้อเล่น มันกำลังกรีดข้อมือมันเอง ! สัดเอ้ย ! มันถือมีดกดลงข้อมือข้างซ้ายที่เจืองนองไปด้วยเลือด...

...ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? เกิดบ้าอะไรขึ้นมา ! ผมเข้าไปกระชากมีดออกจากมันแต่เหมือนมันจะไม่รู้ตัว แววตาขี้เล่นที่ผมเคยหมั่นไส้ตอนนี้เหม่อลอยไปไกล เห็นหน้ามันแล้วผมได้แต่นิ่ง.... ตามันเหมือนตากระต่าย ตาที่ช้ำแดง....

...มันร้องไห้ ...คราบน้ำตายังติดอยู่บนหน้า ริมฝีปากเป็นสีแดงห้อเลือดเพราะมันกัดเม้มปากแน่น...

...........
............................



“ภินทร์...”

ผมลองเรียกมันเบาๆ แต่มันยังนิ่งอยู่อย่างนั้น

‘มึงนิ่งแล้วจะให้กูทำยังไง มึงนิ่งแต่เลือดมันยังไหล...ไม่ยอมหยุด’

เท่าที่พอทำได้ผมตบหน้ามันเบาๆให้มันรู้สึกตัว มันกระพริบตาครั้งหนึ่งก่อนน้ำตาจะไหลลงมาเป็นสาย...

“ถ้าตายไป...ทุกอย่างมันจะจบใช่ไหม?”

...เสียงมันเหมือนละเมอ ดวงตาแดงช้ำจ้องผมเหมือนขอคำตอบ... สถานการณ์อย่างนี้ผมควรจะกอดมันไว้ใช่ไหม ? แต่พอผมจะจับตัวมันมากอดไว้มันก็ทั้งร้องทั้งดิ้นให้พ้นจากมือผม

“ปล่อยนะ! อย่ามาจับ! อึก…!กลับไปไม่ได้แล้ว! กลับไปหา ‘นาง’ ไม่ได้แล้ว... ปล่อยนะ! อย่ามาจับ! บอกให้ปล่อย! ปล่อย! ”

“ภินทร์! ภินทร์ ! มีสติหน่อย ! เราคิงส์นะ! ตั้งสติหน่อย ! เฮ้ย ! ตั้งสติหน่อย ! ”

ต่อให้เรียกแค่ไหนมันก็ไม่รู้ตัว จนต้องดึงมากอดไว้ นึกว่ามันจะสงบที่ไหนได้เกิดคลั่งอะไรขึ้นมาไม่รู้แถมยังทั้งร้องทั้งดิ้นยิ่งกว่าเดิม เหมือนเสียงเรียกของผมไปไม่ถึงมัน ไม่ได้ผล ภินทร์ได้แต่ร้องไห้ดิ้นรนให้พ้นจากอ้อมกอดของผม เกิดมายังไม่เคยเห็นคนละเมอ

...ซ้ำยัง...

..............
............................

ละเมอ....ฆ่าตัวตาย....

..........................

... หัวใจของผมเต้นแรง ไอ้แสบมันเป็นอะไร!มันแกล้งผมอยู่ใช่ไหม? เลือดที่ข้อมือมันยังไหลไม่หยุด แล้วมันก็หลับตาลงไป


.
.
.


“ภินทร์! ตื่น ! ภินทร์ ! ”

ผมตบหน้ามันซ้ำๆ จะให้มันหลับไม่ได้ จะให้มันหลับอีกไม่ได้เด็ดขาด !!!!

ช้อนตัวมันแล้วอุ้มไปวางที่โซฟา เลือดที่ข้อมือมันหยดเป็นทาง ทำไงดี!!! จะส่งมันกลับบ้านก็กลัวคนที่บ้านมันเป็นห่วงนี่ก็ดึกแล้วด้วย จะพาไปโรงพยาบาลก็ห่วงไอ้แสบถ้าหมอถามหล่ะจะบอกหมอว่าอะไร...ส่วนไอ้ยักษ์อะตรอมเชี่ยอะไรนั่นเป็นตัวเลือกท้ายสุดที่ผมจะนึกถึง ....ชั่วโมงเร่งด่วนอย่างนี้เท่าที่คิดได้ ที่พึ่งยามฉุกเฉิน....

..............
............................

...'หมอสัตรา' ...


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!39#Fear is how I fall.ถ้าช่วยไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:43:37
บทที่ 39 Fear is how I fall.ถ้าช่วยไม่ได้ก็...ตายกันไปข้าง..
[อดีต]  Part  พยัคฑิฆามาส [หมอ ]



“หนีไป...ออกไปให้ไกล .... ”

เสียงเบากระซิบแว่วมาตามสายลม....หัวใจมันเต้นแรงเมื่อรับรู้ประโยคนั้น...

“นายน้อย...”

...เลือนลางในความทรงจำอันแสนนาน...แต่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน...เสียงร่ำไห้และใบหน้าที่มีแต่น้ำตามันก็ไม่เคยจางไปจากความรู้สึก...

..............
............................


‘ถ้าต้องให้ตนผู้นั้นทุกข์ทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า... สู้ให้สูญสลายไปมิดีกว่า ฤ ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม...มันจักมิมีวันทำร้าย ปราณดวงนี้ได้อีก...’

..............
............................


[Part  หมอ]


...กลิ่นคาวเลือดมันฟุ้งมาตั้งแต่หน้าประตู....

น่าแปลกที่พวก ‘เคี้ยม’ เอาเหยื่อเข้ามากินถึงรัง แต่น่าสงสัยมากกว่าทำไมถึงยังเก็บ เหยื่อกับกลิ่นเลือดเอาไว้? ผมเคาะประตูห้องของคอนโดแห่งหนึ่งแทบไม่ต้องรอด้วยซ้ำ ประตูห้องก็เปิดออก

หึ! ยากนะที่จะเห็นพวกเคี้ยมกระวนกระวายเป็นบ้าเป็นหลัง !

“หมอ...ช่วยที”

ไอ้เคี้ยมเจ้าของห้องพาเดินไปที่โซฟา รอยเลือดที่หยดเป็นทางพาเอาอารมณ์เสีย! ไม่คิดจะเก็บหลักฐานกันเลยหรือไง ? ร่างเด็กหนุ่มที่นอนหายใจแผ่วบนโซฟา ทำเอาแทบจะยกเท้ากระทืบไอ้เคี้ยมที่อยู่ตรงหน้า !

“.................คิดยังไงเสือกจะแดก พวกนาคา?”

ไอ้เคี้ยมมองหน้าผมแบบงงๆ ก่อนจะหันไปมองร่างที่นอนนิ่ง... เลือดที่เริ่มจะข้นขึ้นเหมือนเป็นสัณญาณกลายๆว่า ร่างนี้กำลังจะแปรสภาพ...เป็นศพ

“ไอ้ภินทร์มันเป็นนาคหรอ? โอ้ย !ทำไมไม่เคยรู้วะ ?! ช่างแม่งมัน! หมอตอนนี้ช่วยก่อน...”

ไอ้เคี้ยมมันเหมือนเป็นบ้า เบื่อจริงๆกับพวกสัตว์เลือดเย็นที่ทำอะไรไม่ค่อยคิด พามาขนาดนี้ยังไม่คิดจะรับรู้ว่าไอ้ที่พามามันเป็นอะไร... เหมือนยายนั่นเลยนะ ลองให้ถูกใจก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมณ์ทั้งนั้น.....

...แล้วไง? ใครที่ต้องทนทรมาน ใครที่ต้องปวดใจ ?

..............
............................

..ผมล้วงตลับเล็กออกมาจากกระเป๋าข้างในมีเม็ดสีเงิน เล็กๆขนาดหัวไม้ขีด ไอ้เคี้ยมมัวแต่แกะผ้าพันข้อมือเด็กหนุ่มนั่นออก ไม่ได้หันมามองว่าผมกำลังทำอะไรสายตาผมมองร่างที่หายใจแผ่วมือก็หยิบโปรยเม็ดสีเงินสี่ห้าเม็ดลงบนตัวเด็กหนุ่ม...

ไอ้เคี้ยมมันชะงักแล้วหันหน้าขึ้นมามองผมทันทีที่รู้ว่าผมกำลังทำอะไร….

..............
............................


' พลัก! '


ไม่ได้ทันตั้งตัวส้นเท้าไอ้เคี้ยมก็ฟาดเข้าที่คางแล้ว ผมล้มลงไปทั้งตัวชาไปทั้งหน้า...

ตั้งแต่ที่ยายนั่นเป็นอย่างนั้น....ทักษะการระวังตัวของผมลดลงไปเยอะเลยนะ...หึ! อย่างกับผมสน...

..............
............................


ไอ้เคี้ยมไม่ได้เดินมากระทืบซ้ำผมหรอก โน้น...มันกำลังอาละวาด ไล่ตะครุบคว้า ‘ศุภะ’ ที่ขยายตัวเตรียมกิน.... กลิ่นเลือด เร่งให้มันตะกละ..

“ไอ้สัต ! กูให้มึงช่วย ! ไม่ได้ให้มึงฆ่า ! ”

ศุภะ ห้าตัวมั่งที่ผมโปรยลงไป มองไอ้เคี้ยมมันไล่กระทืบพวก ศุภะ แล้วผมก็ได้แต่คิดถึงตัวเอง... ตอนยายนั่นมีพวกบ้าๆมาวนเวียนผมก็เป็นอย่างนี้สินะ...

..............
............................


..จน ศุภะ ตัวสุดท้ายถูกเขวี้ยงมาที่ผนังเหนือหัวผม...มันตกลงมาแล้วพยายามคลานเข้าไปใกล้ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนโซฟา...หนอนตะกละที่กินเลือดเนื้อ...รวมไปถึงกระดูก กินแม้แต่เสื้อผ้าหรือของใช้ที่ติดเลือด...

“สมิงเลือดเย็นอย่างมึง...เคยห่วงใครบ้างไหม? เคยรู้จักหรือเปล่าไอ้คำว่ารัก ! กูให้มึงมาช่วย มึงก็ต้องช่วย ! ถ้ามึงช่วยคนของกูไม่ได้...ก็ตายกันไปข้าง ! ”

ไอ้เคี้ยมมันตะโกนใส่ผม แล้วกระทืบ ศุภะ ตัวสุดท้ายแหลกคาเท้า.....

..............
............................



[อดีต]  Part  หมอ-ภัทร



“หมอ..............”

เสียงหวานปนอ้อน.........เกินกว่าเหตุ..........ลากยาวดังลงมาจากชั้นสอง ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ เพิ่งจะขับรถมาถึงยังไม่ทันวางกระเป๋าเลยนะ…..

“จะเอาอะไร ภัทร ?”

อยู่ด้วยกันมานานไม่ต้องอ้อมค้อม ถ้าหวานได้ขนาดนี้ไอ้คนพูดถ้าไม่เมาก็.....กำลังหลอกล่อให้คนฟัง....เข้าบ่วง…

มีเสียงโครมครามจากชั้นบน เกือบสักพักกว่าจะมีเสียงฝีเท้าวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน เงาดำข้างผนังเหมือนจะผลุบๆโผล่ๆแอบดูสถานการณ์ น่ารำคาญสำหรับพวกผีไร้ศาล...แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะถ้าไม่มีพวกผีนั่น ป่านนี้คงจะไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้....

“หมอ.......หาเคสเทสให้เคสหนึ่งสิ.....”

วงแขนหญิงสาวโอบรอบคอของชายหนุ่มแล้วโน้มลำคอให้ก้มต่ำลงมา ขณะที่ แววตาวาวก็จดจ้องดวงตาเบื้องตนหน้าอย่างไม่คิดหลบสายตา

“ทำไม?”

เสียงเย็นของชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างไร้เยื่อใยหญิงสาวยิ้มพราวแล้วปล่อยแขนตนออกจากลำคอหนาโดยทันที

“ตังค์หมดอะดิถามได้”

ปฎิกิริยาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ นี่ล่ะตัวจริงของ ภัทร เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มดังเบาๆ แต่ยาว....กว่าเก่า....

“ก็เลิกเลี้ยงน้องๆ สักคนสองคน สิเดี๋ยวก็มีตังค์ รักใครชอบใครก็เลือกสักคนสิภัทร”

“หง่ะ...หมอก็พูดได้ดิหมอมีเมียแล้วนิ ”

“ตลก......”

“อ้าว? ไหงพูดงี้ เขาบอกกันทั้งนั้นว่าเมียหมอหน้าตาดี...”

“ใครบอก?”

“ป้าเยาว์ ร้านข้าวหน้าปากทางก็บอก บ้านที่มีหมาสีดำที่โดนรถชนแล้วหมอเอาไปผ่าตัดที่คลินิคอะ”

“ป้าแกมองผิดคนแล้ว”

“จริงหรอ? แล้วทำไมป้าแกบอกว่าเมียหมอกับหมอสมกันดี?”

“ใครภัทร?คนไหนเมียเรา?”

“คนนี้ไง....”

ไม่พูดเปล่า หญิงสาวโอบโน้มลำคอคุณหมอตัวใหญ่ลงมาแล้วเขย่งตัวขึ้นไปเลียริมฝีปากหนาของคุณหมอที่อยู่ตรงหน้า...ถึงจะรู้ว่านี่เป็นการอ้อนอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่เคยที่จะชินสักที

“ตลกแล้ว....”

“สรุปว่าจะมี เคสเทส ไหม?”

“....เดี๋ยวหาให้แล้วกัน”

..............
............................


หลายครั้งที่ต้องแปลกใจ....ทำไมเวลาคนตรงหน้าอยากได้อะไร..............
..............ไอ้คำว่า 'ไม่ได้' 'ไม่มี' ถึงไม่เคย....ออกจากปาก......


..............
............................



[Part ภัทร ]



มึนหัวไปหมด... ปวดหัวด้วย.... เจ็บตาด้วย....นี่มันที่ไหน....สมองมันว่างเปล่าไปหมด คิดอะไรไม่ออกซักอย่าง....ข้อมือมันเจ็บอีกแล้ว...ที่ประตู ใครบางคนกำลังจะก้าวเท้าออกไปจากห้อง..? แววตาสีเงินที่หันมามอง.... ใคร ?

..............
............................


เศษเสี้ยวของความทรงจำ ภาพหนึ่งมันแทรกเข้ามา .............

...................

'...ใครภัทร? คนไหนเมียเรา?'

'คนนี้ไง...'

"หมอ...นั่นหมอใช่ไหม? ...หมอ...อย่าเพิ่งไปนะ...ภัทร อยู่นี่...ภัทรอยู่ตรงนี้ หมอ..หมออย่าเพิ่งไป...”

...ริมฝีปากขยับจะเรียกคนหน้าประตู แต่ไม่มีสักเสียงที่จะเล็ดรอดออกมาจากลำคอที่แห้งผาก แม้จะพยายามยกมือขึ้นเรียกแต่ตอนนี้แค่ขยับนิ้วยังยาก...


แล้วมันก็เหมือนกับหินก้อนหนึ่งที่ตกลงน้ำ คลื่นเล็กๆก่อตัวขึ้นกระเพื่อมเป็นวง...แต่เมื่อหินก้อนนั้นจมลึกลงใต้น้ำ...สุดท้ายคลื่นนั้นก็ค่อยๆหายไป....พร้อมกับความทรงจำของคนชื่อ ภัทร....

..............
............................


“มึงเป็นอะไร?”

...ไอ้คุณคิงส์มันถามเสียงเครียดใส่ผม โห่...หน้าตาโคตรจะจริงจัง ผมยกข้อมือซ้ายที่ปวดหนึบๆขึ้นมาดูความรู้สึกเจ็บเปลี่ยนเป็นชาไปแล้ว แปลกที่คราวนี้เลือดไม่ไหลโจ้กเป็นน้ำแถมไม่ซึมออกมาจากผ้าพันแผลอีกต่างหาก ....

เฮ้ย! สะดุ้งครับไอ้คุณคิงส์มันจับหน้าผมให้หันไปมองตามันแล้วถามเน้นทีละคำ

“กู-ถาม-ว่า-มึง-เป็น-อะ-ไร?”

ถามมาได้.....ผมตอบแบบไม่ต้องคิด

“เป็นคน..”

เอาแล้วไงธาตุแท้มันเริ่มโผล่ ตามันเริ่มขวางแล้วพอเจอคำตอบผม

“อย่ามากวนกู..สัด! ไม่ใช่เวลาเล่น..”

แล้วจะบีบแก้มกูทำไม กูไม่ใช่นางเอกละครหลังข่าว เอาแล้วไงไปสะกิดต่อมอะไรมันอีก พอไม่ได้ดั่งใจ ไอ้บ้าตรงหน้าก็เริ่มจะทำร้ายร่างกายผมแล้ว อยู่กับไอ้เหี้ยมนี่ผมมีแต่เรื่องเจ็บตัว...

ผมตีมือมันที่บีบแก้มผมแน่นให้คลายออกแล้วตัดสินใจบอกมัน

..............
............................


“เราจะกลับบ้าน...”

“กูไม่ให้มึงกลับ....จนกว่าจะบอกกูว่า มึงละเมออะไรถึงทำแบบนี้..มึงฝันถึงอะไร?.”

“ทำไมกู ต้องรายงานมึงด้วย...”

ผมเริ่มจะเสียงเขียวแล้ว เชี่ยนี้ท่าจะก้าวกายชีวิตผมเกินไปแล้ว สัญญาทาสของมึงมันจบตั้งแต่เมือวานแล้ว...

“ดูปากกูนะ...สำหรับกู มึง-ไม่-เกี่ยว-อะ-ไร-กับ-ชี-วิต-กู...”

มันนิ่งไปครับ แล้วปล่อยคลายมือที่บีบแก้มผม ลุกเดินหายเข้าไปในห้องนอน ก็แค่นั้นยุ่งกับชีวิตกูจริงๆ ผมกลับมาสนใจที่ข้อมือ มันหายเจ็บแล้ว แถมไม่มีร่อยรอยของแผลที่เพิ่งเกิด แผล เป็นที่เคยมีก็หายไปด้วย ? ไอ้คิงส์มันทำได้ยังไง?

“บัสไม่ต้องมายุ่งกับพี่แล้ว....พี่ก็จะไม่ยุ่งกับบัสอีกเหมือนกัน ....ง่ายๆแค่ต่างคนต่างอยู่ ...ใช่...เลิกคบ ก็แค่นั้น....ความหมาย ?....เลิกคบกันไง... แค่นี้พี่ว่าบัสน่าจะเข้าใจนะ”

ประโยคที่ได้ยินจากมันครับ มันเดินออกมาจากห้องนอน แล้วมายืนจ้องหน้าผม ไม่ต้องถามผมว่ามันคุยกับใคร

... ผมแทบสะอึก...กับการบอกเลิกทางโทรศัพท์ที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที

หลังจากวางโทรศัพท์มันก็เดินมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามผม ตาขวางๆนั้นจ้องผมอีกแล้ว

“กูเคลียร์ เรื่องของกูเสร็จแล้ว....ทีนี้ก็เรื่องมึง...”

.........................

“เป็นแฟนกูซะ...

.............

..........................กูจะได้เกี่ยวกับชีวิตของมึงซะที”

เสียงมันนิ่งมาก...

ด้านโครตๆ ด้านได้อีก...มึงถามความเห็นกูรึยัง ....กูอยากเป็นแฟนมึงไหม…?ถามกูสักคำรึยัง? ไอ้สาดดดดดดดดดดดดด!

..............
............................

“เป็นแฟนกูแล้วก็บอกกูมาซะที.....มึงละเมออะไร?”

หักดิบเกินไปแล้วมึง ไอ้ด้าน!!! ไอ้คอนกรีต!!! .....ไอ้ ....ไอ้...เสริมใยเหล็กหนาเป็นพิเศษ.....!

 


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!40# Bring it back down.ความบังเอิญ....
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:46:53
บทที่ 40 Bring it back down.ความบังเอิญ....


..ดนตรีเบาๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ บรรยากาศสบายๆ ถูกตัดด้วยเหล้าหลากยี่ห้อที่ผสมกันจนมั่วที่นี่หลังร้านพี่นพครับอยู่ในย่านข้าวสาร แต่ก็พอมีบริเวณส่วนตัว หลังร้านแกเป็นสวนหย่อมเล็กๆที่อัดไปด้วยต้นไม้เป็นร้อย... ตอนนี้ผมนอนยาวไปกับโซฟานุ่ม สบายครับถึงจะไม่มีเครื่องปรับอากาศก็เถอะ ถ้าถามว่ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ก็เพราะผู้ช่วยพระเอกอย่างพวกไอ้เรดไงครับ...

ผมวิ่งหนีไอ้คิงส์ลงมาแล้วกระโดดขึ้นรถพวกไอ้เรด ได้อย่างหวุดหวิด...

เชี่ยคิงส์มันจะยืนยันการเป็นแฟนมันด้วยการให้ผมกับมันทำสัญญากับ Condom ไม่ต้องถามว่าทำอะไรยังไง...จะอ้วก...ดูท่าทางมันแล้วผมไม่ได้เมียเพิ่มแน่ๆ และผมก็ไม่มีทางยอมเป็นเมียมันเหมือนกัน...จังหวะมันเผลอผมเลยคว้ารองเท้าคว้ากระเป๋าวิ่งลงบันไดสุดชีวิต ลงมาก็เจอรถพวกไอ้เรดกำลังจะขับออกไปพอดีเลยกระโดดขึ้นรถมัน ไอ้คิงส์ที่วิ่งตามลงมาได้แต่มองตาม ความบังเอิญมันช่วยผมไว้จริงๆ

วันนี้ผมเจอการขอเป็นแฟนอย่างหน้าด้านๆของไอ้คิงส์...มันคงไม่ได้จริงจังนักหรอก คงแค่...อยากเสือกเรื่องผมสิไม่ว่า ชิ! กล้าถามนะว่า ละเมอเรื่องอะไร? แล้วละเมอเรื่องอะไรล่ะ? ผมเองยังตอบตัวเองไม่ได้เลยแล้วจะไปตอบมันได้ไง...ผมรู้แค่ผมฝัน...ฝันที่เศร้ามากๆ เศร้าจนความรู้สึกในฝันมันทะลักเข้ามาในโลกของเป็นความจริงได้ ฝันที่เหมือนจะจำได้ลางๆ แต่พอนึกถึงรายละเอียดมันก็จำไม่ได้ซะงั้น เหมือนจะรู้แต่ไม่รู้ ที่แย่กว่านั้นร่างกายนี้มันน่าจะจำความฝันได้ดี...ถึงได้มีปฎิกิริยาตอบสนองอย่างน่าสยอง..

แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกเรื่องอะไรก็ตามมันผ่านไปแล้ว ผมจะไม่มีทางทำร้ายตัวเองอีก จะไม่ซ้ำรอย ตรินทร์เด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร มันจบแล้ว...จะไม่มีอีกแล้วน้ำตาที่ไหลโดยไม่รู้สาเหตุ อย่ามาเศร้าขนาดนั้น ผมไม่ชอบบริโภคมาม่า...


...
ก้อนน้ำแข็งก้อนเล็กถูกโยนเข้าหน้าผากผม ไอ้แป้นเคี้ยวถั่วคั่วแก้มตุ่ย มันเบ้ปากส่งสัญญาณไปทาง ไอ้เรดที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ยังกับกูไม่รู้เลยนะว่าฝีมือมึงเชี่ยเรด”

ผมหันไปเหวี่ยงมันทันที ไอ้กร้าปล่อยหัวเราะก๊าก....

“ฝีมือกู ไม่ใช่ไอ้เรด..”

เสียงไอ้กร้าบอกปนขำ ส่วนไอ้เรดหน้ามุ้ยที่ผมใส่มันผิดตัว

“กูว่ามึงหลอนได้เรื่องว่ะ น่าได้รางวัลหลอนอะวอร์ด ว่ะ เฮ้ย! แล้วพรุ่งมึงจะไปเรียนไหมเนี้ย? แก้มช้ำขนาดนั้น ตาก็แดงๆ โดนเชี่ยคิงส์ทำอะไรหรือเปล่ามึง บอกได้นะพวกกูจัดให้ได้”

ไอ้เรดมันทักผม แถมไม่ทักเปล่ามันจับแก้มผมที่โดนต่อยแทนไอ้คิงส์ถึงจะยังเจ็บนิดๆแต่รอยช้ำยังอยู่เป็นปื้น

“ไม่ต้องไปยุ่งกับมันหรอกมันไม่เกี่ยว แต่เรื่องเรียนไม่รู้ว่าจะไปหรือเปล่า...ดูสถานการณ์ก่อน กูอยากพัก อะตรอมกับไอ้บัพ แม่งยังไม่กลับมาเลย ”

“บ้านมึงอะโคตรหลอนไอ้ตรินทร์ คืนนี้ถ้าไม่ไหวมึงไปค้างคอนโดพวกกูก่อนดิ”

“ไม่ต้องกลัวไอ้แป้นปล้ำหรอก มันไม่มีน้ำยา”

ผมส่ายหน้าให้ไอ้กร้า ขนลุกถ้าจะให้กลับไปที่คอนโดมัน ขืนเจอไอ้คิงส์ผมได้เสียจิ้นแน่....

“ไม่ต้องห่วงกูหรอกเดี๋ยวหาที่ค้างได้เอง คืนนี้สาวไหนมาลากกูยอมถวายทั้งตัวเลย”

“เริ่มเฮี้ยอีกแล้วนะมึง”

“เหมือนพวกมึงเลย ไม่ต้องย้ำกูเฮี้ยเสมอต้นเสมอปลาย”

ต่อล้อต่อเถียงกันสนุกสนานครับ กำลังเพลินๆ ไอ้เรดก็หักเลี้ยวเข้าโหมตจริงจัง

“ตรินทร์...มึง เคยแอบรักใคร หรือเปล่าวะ? รักทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้...รักทั้งๆที่เหมือนว่าคนที่มึงรักจะมีเจ้าของแล้ว..มึงจะรอให้เขาเลิกกันแล้วค่อยบอกรักหรอเปล่าวะ? ถ้ากูรอกูจะเป็นคนดีในสายตาหรือเปล่าวะ?”

อยู่ๆไอ้เรดก็ถามขึ้นมาอย่างนั้นเล่นเอาผม กร้า แป้น ต้องนิ่งฟังมัน

“...ถ้าเป็นมึง มึงจะทำยังไง จะแอบรักอยู่เงียบๆหรอเปล่า?...”

...เสียงไอ้เรดมันถามผมพร้อมทั้งโปรยสายตามองมาแบบแปลกๆ ผมไม่ได้สบตาเพราะไม่ได้คิดจะค้นอะไรในแววตามัน คำตอบมีในหัว คำตอบที่มีแต่จะยิ่งทำให้มันรู้สึกตัวเสียที ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงทำอย่างไอ้เรดมันว่าแต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ชีวิตนี้จะหายไปเมื่อไหร่ยังไม่รู้สิ่งที่ผมคิดเลยเปลี่ยนไปทั้งหมด ผมยกแก้วสีชาขึ้นดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะหันไปตอบคำถามจริงจัง

“ถ้าเป็นกู กูไม่รอหรอก...ถ้าดูแล้วไม่มีหวังก็เลิกแต่ ถ้าอยากได้จริงๆมึงก็ต้องกล้า จะจีบใครก็จัดการไป จากประสบการณ์ ลองเป็นคนดีอย่างมึงว่านะ หมาคาบไปแดก 1000% เพราะดีเกินไป เพราะทำดีแล้วหวังว่าเขาจะหันมามอง เปล่าเลย มึงไม่รู้หรอหมามันรอขโมยเนื้ออยู่เป็นฝูง ลองหมามันกินเนื้อเข้าไปแล้วถึงคายออกมามึงจะเอาหรอ...คนดีอย่างมึงก็อด สู้แดกๆให้มันจบไปไม่ดีกว่าเหรอ เกิดอะไรขึ้นทีหลังค่อยมาว่ากันอีกที ยังไงเนื้อมันก็อยู่ในปากมึง ไม่ใช่ปากหมาตัวไหน... ”

เสียงตรบมือดังขึ้น เชี่ยแป้นอีกแล้ว มันยื่นแก้วเหล้ามาให้ผมอีกแก้วก่อนจะเอ่ยชมอย่างจริงใจ

“นอกจากจะเจ้าชู้อย่างหน้าไม่อายแล้ว มึงยังเชี้ยเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ตรินทร์ กูขอคำนับมึงเป็นอาจารย์เลย ตั้งแต่ออกมาจากโรง’บาล ต่อมชั่วของมึงเจริญเติบโตได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ”

“.......”

ผมได้แต่เงียบ...มึงชมกูจริงๆใช่ไหม ?ไอ้แป้น.....

..............
............................

 

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!41#Become so numb.ชีพสิ้น.....ศรัทธา...
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-04-2012 16:53:09
บทที่  41 Become so numb.ชีพสิ้น.....ศรัทธา...

“พรหมธาดาเจ้าขา
หากมิให้ข้าคงรัก....เหตุใดท่านส่งนางมา
หากมิให้ข้าภักดี....เหตุใดต้องมีพระพี่เจ้าเคียงข้างข้า...”


....สายฟ้า ที่ฟาดแสงสีเงินลงพื้นดิน มาพร้อมกับคมมีดที่แทงลึก...


ชีพนั้นหลุดลอยพร้อมกับคำถามที่มิมีวันได้คำตอบ...

องค์ภังคียะ สิ้นชีพลง บนสงครามแห่ง สุร และ นาคา หากแต่สงครามนั้น ครึ่งหนึ่งมาจากความเชื่อใจ ความเชื่อใจที่ผิดพลาดจนต้องแลกด้วยชีวิต...

แสบสรรค์ เมื่อทุกสิ่งถูกเอาคืนด้วยชาติภพใหม่ แม้ได้พบกันอีกครา... หากแต่มิมีคราใดเลยที่ ภังคียะ จักหยุดสายตาไว้ที่ องค์มหินทรา หรือนางนาม พะเตรียง สายตาวาวคู่นั้น มีไว้มองทุกผู้ที่ต้องใจ หาใช่สายตาที่หยุดภักดีไว้เพียงองค์มหินทรา หรือสายตาที่คงรักในหญิงนามพะเตรียง เฉกเคย... แววตาอันสงบเรียบลึกแต่เปรี่ยมไว้ด้วยความซื่อสัตย์ ถูกแทนที่ด้วย แววตาแห่งชีวิตชีวา ที่เปรี่ยมกิเลส รักและเลิกได้ทุกขณะที่ใจต้องการ... ที่แสบสรรค์กว่านั้น ดวงตานี้มิเคยมองหาองค์มหินทรา ความรู้สึกทั้งปวงถูกลบเลือนด้วย สัจจาธิษฐาน...


‘.... อย่าได้หาความชอบธรรมอันใดเลยองค์.... เมื่อคราก่อนท่านเองที่ทิ้งความชอบธรรมนั้นลงเหวแห่งนิลกาฬ ’


'หากครานี้ข้าทรมานเพราะรัก ข้าจักมิคงรัก...

หากครานี้ข้าทรมานเพราะนาง ข้าจักลืมนาง...

หากครานี้ข้าทรมานเพราะภักดี กาลหน้าข้าสาบาน จักมิมีภักดีในผู้ใด...

หากครานี้ ข้าต้องตกตายเพราะสายเลือด กาลหน้าข้าจักมิใช่ชาติพันธุ์ใด...

หากครานี้ ข้าเป็นชายเพียงเคียงคู่นาง...

กาลหน้าข้าขอคำพร...รักที่ข้ามีจักมิเลือกแม้เพศใด


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 26-04-2012 01:51:10
 :L2: :L2:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!42#Drunk as suck.เพราะเหล้า เอาอีกแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 26-04-2012 17:05:01
บทที่ 42 Drunk as suck.เพราะเหล้า เอาอีกแล้ว....
[Part คิงส์]



...ผมยืนมองไอ้นักร้องที่แหกปากอย่างเมามันบนเวที...

นี้ขนาดยังหัวค่ำอยู่แต่หน้าไอ้นักร้องนั่นก็ฟ้องได้แล้วว่ามันเมาขนาดไหน มันคงจะไม่เมาหรอกถ้าไม่เสือกยกดื่มทุกแก้วที่ชาวบ้านเขายื่นให้ ไม่ต้องถามผมนะครับว่ามาซุ่มยืนจ้องไอ้นักร้องนั่นทำไม ปกติร้านอื่นผมไม่ค่อยเข้าอยู่แล้วร้านตัวเองก็มี อยากได้อะไรแค่ไหนก็มีคนจัดให้...

..แต่เพราะไอ้นักร้องนั่นเป็นคนเดียวกับไอ้คนที่ผมเพิ่งขอเป็นแฟน...แถมมันยังเป็นคนเดียวกันกับไอ้คนที่เขวี้ยงเสื้อกับกางเกงผมลงมาจากคอนโดแล้ววิ่งขึ้นรถหนีไปอย่างไม่ใยดี.....

ครับมันเองครับไอ้ภินทร์ที่รักยิ่ง.....การตามตัว ไอ้ภินทร์ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ๆมันก็หายตัวไปอย่างนั้นโทรศัพท์ก็ล็อคการโทรเข้าของผม ยิ่งเป็นเบอร์แปลกมันยิ่งไม่รับ...
 
แล้วไง? พอบทจะง่ายก็ง่าย.....ไอ้เวทย์มันโทรมาบอกว่าหญิงของไอ้โฟนมันกำลังติดนักร้องของร้านข้างๆกำลังหาพวกไปช่วยกระทืบอยู่แต่ที่ต้องโทรมาหาผมเพราะไอ้นักร้องนั่นเป็นไอ้ภินทร์ ก็เลยโทรมาถามผมก่อนว่าผมจะมาเคลียร์เองหรือจะให้มันกระทืบได้เลย เพราะมันเองก็รู้เรื่องที่ไอ้โฟนเคยมอมยาไอ้ภินทร์แล้วผมเป็นคนพามันกลับคอนโด...มันเดาตอนจบเอง...ตอนจบที่ผมก็อยากให้เป็นอย่างที่มันเดา....แต่มันไม่ใช่อะสิ...ผมถึงได้มายืนเฝ้ามันอยู่อย่างนี้

“คิงส์...เมียมึงนี่หน้าหม้อได้ใจจริงๆลากเด็กกูไปจูบซะกูลืมเลยว่าไอ้ที่มันจูบนั่นแฟนกู”

ไอ้โฟนมันพูดเสียงเย็นใส่ผม ถ้าไม่ติดว่ามันคิดว่าไอ้ภินทร์เป็นเมียผมแล้ว มีหวัง ว่าที่เมียผมคงได้หายตัวไปอย่างลึกลับ....โชคดีขนาดไหนแล้วมึงที่ไม่ต้องนอนให้ ศุภะ มันแทะ...สำนึกบุญคุณกูแล้วก็มาเป็นแฟนกูซะ!

“เคลียร์คนของมึงด้วย...พวกกูกลับแล้ว”

ไอ้โฟนพูดแล้วเดินออกไปอย่างไม่ใยดีเหลือแต่ไอ้ฟลุ๊กที่ยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนหยามผมซะมากกว่า จนไอ้โฟนเดินหายออกไปจากร้านมันถึงได้เอ่ยปาก

“จัดการให้ไอ้คนบนเวทีเป็นคนของมึงซะ...ไม่อย่างนั้นว่าที่เมียมึงจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก...ไม่ต้องห่วง...กูมีตัวช่วย แค่สามเม็ดก็พอมั้ง...ครั้งที่แล้วสองเอง..”

ไอ้ฟลุ๊กยัด แคปซูล สีฟ้าห้าเม็ดใส่มือผม แล้วเดินตามไอ้โฟนหายออกไปจากร้าน...คนอย่างกูต้องใช้ยาด้วยหรอ? ชิ.....ผมกำลังจะทิ้งแคปซูลในมือลงพื้น แต่พอคิดถึงเรื่องในลิฟต์หลังจากคนบางคนโดนมอมยา...ผมก็ทิ้งแคปซูลห้าเม็ดนั้น..............

...ลงแก้วเบียร์....

ไอ้ภินทร์มันดื่มอะไร?....เบียร์ผสมสไปร์ท สินะ.... หึ! ผมเทสไปร์ทลงไป แล้วเทเบียร์ที่เหลือตาม.....คนๆๆ จนแคปซูลเหลือแต่เปลือกจากนั้นก็หยิบเปลือกที่เหลือมาเคี้ยวกลืนซะเองจะได้แฟร์ๆกันหน่อยแล้วก็รอจนเด็กเสิร์ฟเดินมา...

“น้อง...พี่ฝากให้นักร้องบนเวทีหน่อย.....”

..............
............................

.
.
.

“คิงส์...รักกูทีดิ...”

...เสียงอ้อนนั่นแว่วมาตอนผมกำลังดื่มน้ำเล่นเอาแทบสำลัก....

คนอย่างไอ้ภินทร์เนี่ยนะอ้อนผม จะหันไปดูมันก็โผเข้ามากอดผมทั้งตัว เอาแล้วไงเรื่องพรรค์นี้ก็เจอมาตลอดแต่พอเป็นมันที่เข้ามากอดก็เหมือนเรื่องที่คาดไม่ถึงมากกว่า ยังไงดีอธิบายไม่ถูกทั้งๆทีครั้งทีแล้วผมมีอารมณ์กับมันสุดขีดแต่มันกลับปฎิเสธอย่างสิ้นเยื่อใยแถมยังหนีขึ้นรถหายไปอย่างนั้น... มาตอนนี้ผมควรปฎิเสธมันบ้างใช่ไหมจะได้รักษาศักดิ์ศรีผมไว้ได้บ้าง...

...ได้แต่คิด...เอาเข้าจริงกลับเป็นผมเองที่หันไปจูบมันเบาๆ แทบไม่เชื่อตัวเองหัวใจมันทำไมเต้นแรงอย่างนี้ อีกอย่างที่ผมเพิ่งรู้ปากไอ้ภินทร์มันทำไมถึงได้หวานขนาดนี้นะ แต่ถ้าจะให้ซั่มมันในร้านนี้ก็คงไม่ดีเท่าไหร่ นี่ไม่ใช่ถิ่นผม แถมพวกไอ้ภินทร์มันก็ยังอยู่บนเวที ยังไงก็ต้องออกจากร้านให้ได้ก่อน...ผมถอดเสื้อนอกตัวเองออกแล้วเอาคลุมทับเสื้อสีครามของ ภินทร์ จากนั้นก็โอบเอวมันเดินออกมานอกร้าน ไอ้แสบเดินตามผมมาอย่างง่ายๆจนออกมานอกร้านได้อย่างไม่ยาก มองหน้ามันแล้วเกิดอารมณ์ กลับคอนโดแม่งก็ไกล...ลากไปที่ร้านดีกว่า พาไปซั่มชั้นสองดีที่สุด....ห้องเพิ่งทำใหม่ประเดิมเลยแล้วกัน...

..............
............................

“คิงส์....จูบอีก จูบอีกสิ..”

กูก็จูบอยู่นี้ไง...แต่มึงอะแทบจะลากตับไตกูออกมาอยู่แล้ว...ใครสอนมันจูบครับ? ขนาดผมผ่านหญิงมาเยอะยังแทบเทียบมันไม่ติด เป็นครั้งแรกที่รับรู้ว่า ถ้าจูบแข่งกับไอ้ภินทร์...ผมเองตกต่ำขนาดไหน... ผมแก้เกมโดยพยายามจับมันถอดเสื้อนะแต่ไอ้ปลาไหลนี้เนียนหนีได้ทุกครั้งแถมยังโต้กลับด้วยการค่อยๆปลดกระดุมเสื้อผมออก แล้วใช้ปากกัดรูดซิบกางเกงผมลง

...ริมฝีปากเย็นๆตอนมันเลียขนที่ช่วงสะดือแล้วใช้นิ้วลากนำลิ้นที่ไล้เลียผ่านช่วงสีข้างทำเอาผมคราง ไอ้สัดนี่คงไม่ได้หน้าหม้อเชิงวิชาการอย่างเดียวแล้วภาคปฎิบัติของมันผมให้ 1,000 เต็ม 100 เลย

“ภินทร์ ครับ ทำให้ทีสิ”

ผมพยายามฝืนเต็มที่เพื่อจะเอาสมองตัวเองมาเรียบเรียงให้คำ ที่วิ่งในหัว ออกมาเป็นประโยคสื่อสาร แต่ที่ได้กลับมามันเกินคุ้ม ไอ้แสบมันก้มลงมาเลียที่น้องชายผมผ่านบอกส์เซอร์ที่ใส่อยู่ สัด! เสียวแปลกๆชิบหาย แต่ละอย่างที่มันทำให้คนละแนวกับที่เจอมาเลย แม่งเอ้ย ! ทำไมไม่เจอมันก่อนหน้านี้นะ กูจะจับแม่งล่อทั้งวัน....

แล้วก็เกือบมาถึงไคลแมกส์ มันขึ้นมานั่งทับอกผมที่นอนราบลงกับเตียง มือมันยันผนังห้องไว้แล้ว ก้มลงมาเลียที่แก้มผม

“คิงส์....ถอดให้ทีสิ...ใช้ปากนะ”

โหย......แทบไม่ต้องให้บอกซ้ำผมใช้ปากกัดดึงเชือกที่ผูกเอวมันออกแล้วปลดกางเกงสามส่วนของมันลง...

เงยหน้ามองมันชัดๆ อย่างกับใน AV มันใส่เสื้อเชิ๊ตสีคราม ที่เปียกไปด้วยเหงื่อ ส่วนท่อนล่างก็มีแค่บอกส์เซอร์ที่สั้นกว่าชายเสื้อเชิ้ตเสียอีก ยั่วกูเกินไปแล้วนะภินทร์....

แทบไม่ต้องบอกอะไร....มือข้างหนึ่งของมันสอดมือเข้าไปในบอกส์เซอร์ตัวเองแล้วค่อยๆทำให้ผมดู ส่วนอีกมือของมันลากลูบน้องชายผมแล้วรูดตามจังหวะไปด้วย

สุโค่ยยยยยยยยยยยย !

..............
............................

แม่งเอ้ย!ไอ้ภินทร์แม่งเชี่ยวเหลือเกินทำเอาแทบละลาย แต่มันเองก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ครางซะขนาดนั้นดีนะที่ข้างล่างเสียงเพลงดังๆนั้นพอจะกลบเสียงครางของผมกับมันได้บ้างพอผ่านจากการช่วยผมและตัวมันเองรอบแรกแล้ว มันก็ไล่เลียไล่กัดแทบทุกส่วนของผมที่โผล่พ้นร่มผ้า... ผมเองก็บ้าตามมันครับ กัดเม้มมันซะทุกส่วนที่ผม สัมผัสได้ยิ่งได้เลียได้กัดเม้มผิวเย็นๆยิ่งเล่นกันแรงขึ้น SEX แปลกๆเหมือนหมาฟัดกันซะมากกว่าแล้ว...

ซี้ด...กัดกูอีกแล้วนะไอ้คุณภินทร์.... ทำไม.....แค่นี้กูยังหลงมึงไม่พออีกเหรอ? คนละฟิวล์กับบัสเลย ไอ้ตาเยิ้มๆ กับแก้มๆช้ำๆ เล่นเอาแทบหมดแรง นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นเจ้าของมันนะ ยังขนาดนี้ ถ้าได้โยกกูคงเล่นยันเช้า จะชมยาไอ้ฟลุ๊กหรือชมไอ้คนตรงหน้าดี...แม่ง!ได้ใจมาก!
   

...อารมณ์กำลังได้ที่ ผมถอดทุกอย่างเขวี้ยงลงข้างเตียงหมดแล้วถึง ไอ้ภินทร์เองจะไม่ได้ถอดตามแต่สภาพมันแค่เสื้อกับบอกส์เซอร์ที่เปียกน้ำคาวนั่นอีกไม่กี่นาทีมันก็จะไม่ใส่อะไรเหมือนกัน...

“คุณคิงส์คะ! คุณคิงส์!มีแขกค่ะ”

เสียงเด็กที่ร้านมาเรียกผมหน้าห้อง...แม่งเอ้ย! ทำไมต้องมาตอนนี้...ช่างแม่ง!...อยากเรียกๆไปกูจะฟัดกันซะอย่าง...เสร็จงานอย่าให้ได้รู้นะว่ามันตัวไหนเรียกแม่งจะไล่ออกให้หมด!

“คุณคิงส์คะ! คุณคิงส์ ! ”

เสียงที่หน้าประตูยังเรียกผมอยู่อย่างนั้น

สัดเอ้ย ! เอาแล้วไงไอ้คนที่นั่งทับอยู่บนตัวผม เหมือนได้สติแล้วมันหน้ามุ่ย แล้ว ลุกออกจากตัวผมเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว

สัด! กูขอไปไล่ไอ้คนเรียกออกจากงานก่อนแล้วค่อยตามไปง้อไอ้ภินทร์ในห้องน้ำแล้วกันฟัดในห้องน้ำก็มันไปอีกแบบ ผมคว้าผ้าขนหนูในตู้มานุ่งแล้วเดินออกไปเปิดประตู...

เด็กเสิร์ฟร้านผม.......

.....ยืนอยู่กับบัส......

“ที่พี่คิงส์ บอกเลิกกับบัส เพราะคนข้างในใช่ไหม?”


..บัสร้องไห้น้ำตานองหน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงหาเหตุผลอ้างเล็กๆน้อยๆพอให้บัสหายโกรธ แต่ตอนนี้ผมกับบัสเลิกกันแล้วนี่น่า ไอ้ที่มีอยู่ในหัวมันเลยเป็น

..............
............................

“อย่ามาทำตัวเป็น ‘ตัวปัญหา’ เราจบกันแล้ว และพี่....ก็กำลังยุ่ง กับ ‘แฟน’ แฟนนะไม่ใช่ ‘ของเล่น’ เหมือนบัส...อย่าสร้างปัญหา...”

..............
............................



[แถม]


"เฮ้ย! แป้น เชี่ยตรินทร์หายหัวไปไหนนานแล้วนะ แม่ง! เมาอย่างกับหมา มันจะรอดกลับมาไหมเนี้ย?"

"อย่าไปห่วงมันเลยตอนนี้ห่วงตัวมึงเองเหอะ กร้า นักร้องนำหาย ใครจะร้อง เบรกวงเสร็จมึงขึ้นมาแทนมันเลย ส่วนเชี่ย ตรินทร์ ปล่อยมันไป ป่านนี้โดนลากไปแดกแล้วมั้ง"

"พูดยังกับไอ้ตรินทร์เป็นไก่ จะแดกมันต้องลากลงน้ำก่อน หรือเปล่าครับคุณ?"

แล้วทั้งสามหนุ่มก็หัวเราะร่าไม่ได้รู้เลยว่า เพื่อนตัวเองอ่ะ..........ตอนนี้โดนลากไปไกลแล้ว.....

 


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 26-04-2012 18:31:05
งานช่วงนี้ยุ่งมาก เพิ่งจะเริ่มว่างล่ะ
ชอบตอน 12 - 13 น่ารักมาก
เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาอ่านต่อนะ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 43#It's out of my control.มอม..เมา..
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 27-04-2012 13:15:31
บทที่ 43 It's out of my control.มอม..เมา..ใครเมาใคร..มอม...ใคร?


“พี่ตรินทร์...โต๊ะหลังเสาเขาฝากมา”

...เด็กเสิร์ฟหน้าตาไม่เหมาะกับอาชีพส่งแก้วใบใหญ่ให้ผม ตอนนี้จะอะไรก็ดื่มหมดแล้วครับ คอแห้งมากถึงมากที่สุด... เมื่อกี้เพิ่งโดนวอสก้าแบบเต็มแก้วเข้าไป ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าดื่มโดยไม่ได้ดมก่อนมักเป็นอย่างนี้

...แต่ก็ไม่คิดว่าจะโดนแกล้งแรงขนาดนี้นี่นา แต่ก็งั้นๆ เล่นสนุกๆ พวกไอ้เรดก็อยู่บนเวทีด้วยคงไม่เป็นอะไรมั้ง?  เอ๋... แล้วใครส่ง เบียร์ผสมสไปร์ทมาให้...รู้ใจจริงๆ หนักไปทางหวานด้วยใช้ได้แหะ...ผมเล่นยกแก้วกระดกเลยก็ว่าได้...แล้วมันก็ มาแสดงผลตอนเบรกวงนี้ล่ะ...

..............
............................

อ้วกกกกกกกกกกกกกก !!!!

“ตรินทร์ไหวรึเปล่า?! สม! เสือกแดกไม่ดูตัวเอง วันนี้ข้าวปลายัดเข้าไปหรือยังเหอะ แดกแต่เหล้าอะมึง”

ไอ้กร้ามันบ่นยังกับผมเป็นลูกมัน เหอะ....ไม่อยากจะบอกว่าไม่ได้มีโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรต ลงท้องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จะมีก็แต่ ไอ้น้ำล้างสตินี้ล่ะ ขยันชงส่งผมกันเหลือเกิน จะแย่งถั่วไอ้แป้นก็กอดจานถั่วไว้ซะงั้น ผลมันเลยเป็นอย่างที่เห็น

...อ้วกซะ! แข้งขาอ่อน...

“ตายหรือยัง ตรินทร์?”

เรดถามไปลูบหลังผมไป...แหม...ห่วงกูจัง ห้องน้ำห้องเดียวเข้าอัดเข้ามากันสามคน ดีที่มันเต็มก่อน ไม่งั้นไอ้แป้นคงเข้ามาด้วยอีกคน

"อ้วกกก! เชี่ย! ถ้ากูตาย กูจะมาหามึงก่อน... เรด...มาชวนมึงไปลูบหลังกูเผื่อหมาตัวไหนส่งเหล้าให้กูอีก...กลัวไม่มีคนบิ้วอารมณ์อ้วก...”

นึกว่าจะมีเสียงฮา....แต่เงียบสนิท......หันไปดูไอ้เรดมันหน้านิ่งไปอีกแล้ว

“กูมีค่ากับมึงแค่นี้ใช่ไหม?”

แล้วมันก็เดินออกไป....ผมมองหน้าไอ้กร้าแล้วต่างคนต่างไม่เข้าใจ ไอ้เรดมันอารมณ์ไหน เมนท์มันมาหรอ? บรรยากาศอึมครึมมาก....

“กูไปสูดอากาศข้างนอกก่อนนะ....”

ผมตบบ่าไอ้กร้า ขอทางมันเดินเลี่ยงออกมาจากห้องน้ำ ไปหาอะไรกินดีกว่า อ้วกซะหมดไส้หมดพุงแล้ว...เดินเซออกมายังไม่ทันไรก็เจอโจทย์ ...ไอ้เหี้ยมมันนั่งอยู่ตรงประตูหน้าร้าน....

...เอาแล้วไงกู...มันรู้ได้ไงว่าผมอยู่นี้... แล้วท้องก็ร้อง...เฉยเลย...เหี้ยมก็เหี้ยมเถอะ พยาธิมันร่ำร้องแล้ว...หาเจ้ามือดีกว่า....ร้านพี่นพอะไรอร่อยบ้างอะ...จัดมา อย่าได้เสีย.....

..............
............................



...เต็มโต๊ะครับอาหารการกิน ...ผมนั่งกินไปเงียบๆ กะแล้วไม่ผิดถ้ายอมนั่งกับไอ้เหี้ยมผมได้ทุกอย่างที่หวังแน่ๆ...เหลือบมองมันเป็นระยะครับ พอมันหันมาผมก็แถเนียนดื่มบ้างอะไรบ้าง เล่นเอาอิ่ม...กำลังสองจิตสองใจว่าจะชิ่งมันยังไงดี กลัวมันเอาเรื่องที่โยนเสื้อผ้ามันลงมาถ่วงเวลาไม่ให้มันตามผมได้เมื่อช่วงกลางวัน... แต่มองหน้ามันแล้วมันก็ไม่มีวี่แววว่าจะโกรธหรืออาฆาตอะไรผมนะ ...

สรุปไอ้คิงส์มันคิดยังไงกับผม ที่มันขอเป็นแฟนนี้เรื่องจริงหรือเปล่า? กินของมันไปก็ตั้งเยอะถ้าลองดูกับมันซักตั้งจะเป็นอะไรไป...ถ้าเรื่องอย่างว่า ยังไงผมก็ไม่แพ้ใครแน่ๆ ที่สำคัญอยากลอง…เสียบมัน เหมือนกัน....

....ถือว่าฝึกไว้แล้วกัน เผื่อไว้....ถ้าได้ บัส มาจริงๆก็จะได้รู้

..............
............................


ระหว่างผมกับคิงส์ ใครมันเก่งกว่ากัน..


..............
............................


“คิงส์...รักกูทีดิ...”


คิดได้แค่นั้นเสียงผมก็ไปแล้วครับ ถ้าอยากได้อะไรเสียงมันไปก่อนตัวจริงๆ....
 


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 27-04-2012 13:23:38




   โฮกกก อ่านตามม่ายทันง่ะ T T




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 27-04-2012 14:15:22
:L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 27-04-2012 16:05:32
คนเขียนว่าจะหายไปสักสองเดือนดีกว่าไหม ? จะได้ ตามอ่านกัน ทัน 5555+  :laugh:


   ง่ะ ม่ายขนาดน้านนนนนน



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 27-04-2012 16:21:12
เวอร์ชั่นนี้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นนะ
มีมุมน่ารักๆเติมเข้ามามากขึ้นด้วย
ชอบจ้า :m18:

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 29-04-2012 12:50:41



    พอมาอ่านอีกรอบแล้วก็แอบสงสัย
    ตอนภินทร์เจออะตรอมครั้งแรก ภินทร์ไม่รู้สึกคุ้นๆบ้างเลยเหรอ
    หรือว่าจำตอนที่เป็นภัทรไม่ได้เลย

    แล้วทำไมตอนอะตรอมเจอภินทร์ถึงไม่รู้สึกสะกิดใจว่าไม่ได้เป็นมนุษย์ปกติล่ะ
    ทำเหมือนกับภินทร์เป็นมนุษย์ทั้วไป
    ทั้งๆที่แค่เห็นโฆอยู่ไกลๆก็รู้ว่าไม่ใช่มนุษย์แท้ๆ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 30-04-2012 10:46:59


    พอมาอ่านอีกรอบแล้วก็แอบสงสัย
    ตอนภินทร์เจออะตรอมครั้งแรก ภินทร์ไม่รู้สึกคุ้นๆบ้างเลยเหรอ
    หรือว่าจำตอนที่เป็นภัทรไม่ได้เลย

    แล้วทำไมตอนอะตรอมเจอภินทร์ถึงไม่รู้สึกสะกิดใจว่าไม่ได้เป็นมนุษย์ปกติล่ะ
    ทำเหมือนกับภินทร์เป็นมนุษย์ทั้วไป
    ทั้งๆที่แค่เห็นโฆอยู่ไกลๆก็รู้ว่าไม่ใช่มนุษย์แท้ๆ

[“ลุกไหวไหม? เจ็บไหม?”

ฉันถามคนตัวใหญ่ที่นอนนิ่ง ก่อนจะฉุดมือพยุงให้ลุกขึ้น...     
   
   ...คือ...ขอเปลี่ยนคำพูดเลยนี่ไม่เด็กแล้วมั่ง ไอ้เด็กนี่สูงเกือบ 200 ซม.! ระดับยักษ์ได้เลย! สูงกว่าไอ้โฆอีก! ตรินทร์ว่าสูงแล้วนะพอมาเทียบกับเบาะรองนี่ฉันได้แค่ไหล่เท่านั้นเอง......แต่ความรู้สึกมันคุ้นๆนะ ไอ้สูงๆใหญ่ๆ แถมแววตาใสๆแบบไร้อารมณ์อย่างนี้?...]

>>> ก็คุ้นๆอยู่ แต่จำไม่ได้ เรื่องมันผ่านมาตั้งหลายปี แถม ภัทร มัน ไม่ค่อยมีต่อมความจำเรื่องแย่ๆ ตอนนี้สมองก็ไม่ค่อยมีด้วย ทีไอ้เคี้ยม ภัทร มันยังจำไม่ได้เลย  :z2:


>>>เรื่อง ไม่สะกิดใจว่า เป็นพวก 'ไม่ใช่' เหมือนกันเพราะ ร่างสังเวย เขาไม่ส่งสัญญาณ อะไรแถม วิญญาณยังสับกันมั่วไปหมดต่างหาก...แต่ที่กลบกลิ่นได้ ดีที่สุดก็ต้อง ยกให้ เจ้ เขา ตะบองพลำ ถนัดเรื่อง ซ่อน ทุกสิ่ง ....หุหุหุ ร่างนี้ ยังไม่เฉลยว่าเป็นของใครกันแน่ เพราะมันอยู่ ผิดที่ผิดทาง มาตั้งแต่ต้น เหมือนกับ ภัทร ร่าง ภัทร เองก็ซ่อนบางสิ่งเอาไว้เหมือนกัน  สำหรับพวก ไม่ใช่ ก็เหมือนที่ คิงส์รู้ คิงส์เองมันก็ไม่สนใจ ว่าใคร 'ใช่หรือไม่ใช่' ของพวกนี้ ถ้าไม่พยายามมองหา ก็ไม่เจอ คนพวกเดียวกันมันดึงดูดกัน สำหรับ โฆ รายนั้นเขาชัดเจนว่า นาคา แน่นอน รังษีมันเลยออก ส่วนหมอ รายนั้นอยู่มานานมองผ่านๆก็รู้ ความเก๋ามันต่างกัน

>>>เกือบลืม ภัทร ที่อยู่ ในร่างตรินทร์ คนนี้ ไม่ใช่ ภัทร ที่หมอรู้จักนะ หุหุหุ ความจำของ ภัทร มันไม่ใช่ทั้งหมด อย่างที่เคยบอก ... ภัทร มัน ติดยา ของ หมอ ก็เพราะ เรื่อง ภัทร อีกคนนี่หล่ะ "เสียงหัวใจ เสียงที่สอง ของ ภัทร "
ถ้ามีเวลาจะลงเรื่องให้ ทัน ตอน ที่ 67 นะ เพราะมันกำลังจะเฉลยทั้งหมด ที่สำคัญ เจ้ ภัทร ตัวจริงของ หมอ ตื่น แล้วด้วย แต่ที่ซวยคือ ภินทร์ ดันต้องไปอยู่ ที่ ทะเล น้ำตาแทน ให้ เจ้ ภัทร เขาวางแผนการณ์ รับมือ พระแพง และวางแผนอนาคต ของตัวเองด้วย ก็อย่างที่บอก

"จะไม่ให้ โฆ รักใคร นอกจาก ตรินทร์ "

คนที่พูดประโยคนี้ไม่ใช่ ภินทร์ แต่เป็น ภัทร ของ หมอเขา  ราชินี ตัวแม่จะตื่นแล้ว....อั๊ยๆๆๆ สงสาร ภินทร์ กับ อะตรอม อะ     
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 44#Waiting for the end to come.
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 30-04-2012 14:34:40
บทที่ 44 Waiting for the end to come.รัก...ไม่เคยเลือก...


เสียงร้องไห้ของคนข้างนอกกับเสียงเพลงที่ดังเข้ามาในห้องน้ำ ทำเอาผมนั่งนิ่ง.....

บัส กับ ไอ้คิงส์ ทะเลาะกัน...

เพราะผม...

จ้องมองเงาตัวเองที่สะท้อนในกระจก ทำไมไอ้คนในกระจกถึงมีนิสัยอย่างนี้นะ ชอบซะจริงกับคนมีเจ้าของ...รอยช้ำเป็นจ้ำๆมีทั่วลำคอรวมไปถึงแผงอก..ลามลงไปถึงแขน บางรอยออกม่วงๆเขียวๆด้วยซ้ำ... รอยที่เห็น..มันกำลังย้ำให้ผมคิด ...ผมกำลังทำอะไรอยู่ ? ที่หน้าประตูมีคนนึงที่ผมชอบ..แต่กับอีกคน ถึงจะไม่เข้าใจความรู้สึกมันมากนัก แต่สิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้ ผม.....กำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของมัน...

บางที...ผมคงจะต้องเลิก...เลิกยุ่งเกี่ยวกับสองคนนี้สักที สำหรับบัสมันจะดีกว่าถ้าผมจะมองน้องเขาไกลๆคอยช่วยเหลือคอยห่วงใย ...เพียงแค่นั้น ...มันยากและทรมานที่จะให้ผมรอ...รอว่าเมื่อไหร่ที่บัส จะลืมไอ้คิงส์ ส่วนไอ้คิงส์ก็เหมือนกัน มันอาจแค่นึกสนุกกับผม แค่ชั่วครั้งชั่วคราว...บางทีเอาแค่วันนี้ถ้าผมไม่อยู่ตรงนี้ มันอาจพาใครสักคนขึ้นห้องแทนผมก็ได้

“รออยู่ข้างในก่อนนะ เราลงไปเคลียร์ธุระ ข้างล่างเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวขึ้นมา”

...ไอ้คิงส์ พูดผ่านประตูห้องน้ำ สักพักใหญ่ ผมได้ยินเสียงปิดประตูแล้วล็อกห้อง....ถึงเสียงข้างในจะเงียบลงไปแล้ว... แต่ผมกลับไม่กล้าที่จะโผล่หัวออกไปนอกห้องน้ำ... กลัวอะไร? กลัวเจอบัส ? หรือกลัวเจอ ไอ้คิงส์ ? ผมไม่โทษบัสหรอก ที่เลิกรักไอ้คิงส์ไม่ได้สักที และก็ไม่โทษไอ้คิงส์ด้วย ที่เลิกรักบัสได้อย่างไร้เยื่อใยอย่างนี้ สำหรับคนบางคนถ้ายังรักอยู่ต่อให้เลวร้ายขนาดไหน...ก็ยังรัก แต่สำหรับบางคน ต่อให้ดีแทบตาย ถ้าไม่รัก มันก็คือไม่รัก ไม่มีใครโง่หรือชั่วหรอก......

เมื่อความรักมันเลือกคนไม่ได้...

...พักใหญ่แล้วแต่ไอ้คิงส์ก็ยังไม่ขึ้นมา ผมเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำเดินไปขยับประตูห้อง...ไอ้คิงส์มันล็อกห้องไว้ ?

ล็อกไว้แล้วยังไง? ยังกับจะดึงผมไว้ได้.. มองรอบห้อง ห้องนี่เหมือนเป็นสตูดิโอกลายๆ ไอ้คิงส์คงเอาไว้พักจริงๆถึงได้มีทุกอย่างครบขนาดนี้ ผมถอดเสื้อกับบอกเซอร์ที่อยู่บนตัวทิ้ง แล้วค้นตู้เสื้อผ้าไอ้คิงส์ ได้เสื้อคอวีแบบที่ชอบมาตัวนึงกับบอกส์เซอร์ใหม่แกะกล่องอีกตัว ส่วนกางเกงผมหยิบกางเกงสามส่วนตัวเดิมของผมมาใส่ กระเป๋าเงินผมยังอยู่ในกางเกงกุญแจก็ด้วย รองเท้าถอดโยนอยู่ข้างเตียง... หลังจากสำรวจทางหนีทีไล่ ผมก็เจอหนทาง บานเกล็ด ใกล้ระเบียง..............

............................


.
.
.

“แล้วจะให้พี่ทำยังไง ?....”

...เสียงไอ้คิงส์ที่ดังแว่วมา ทำเอาผมต้องหลบ...ไม่มีเสียงตอบของบัส นอกจากเสียงสะอื้นไห้... หึ! สองคนที่ยืนอยู่ข้างนอกไม่ผิดหรอก... จะผิดก็ที่ผม...ถ้า...ผมยังคิดเรื่องไม่ควรคิดกับบัส..

“จะทำตัวแบบนี้อีกนานไหม ? โธ่เว้ย ! พอซะที ก็รู้ที่คบกันเพราะพี่อยากลอง ก็ตกลงกันไว้แล้ว ทำไมทำตัวเป็น ตัวปัญหา อีก!”

“แต่..บัส รัก... พี่คิงส์...นะ รักจริงๆ...นะ”

เสียงไอ้ตัวเล็กมันขาดช่วงเพราะร้องไปด้วยสะอื้นไปด้วย แต่สิ่งที่บัสทำ...มันไม่ได้ทำให้ไอ้คิงส์สงสารหรือกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรอก ผมบอกแล้วไง ต่อให้แสนดีแค่ไหน ถ้าไม่รัก....

มันก็คือไม่รัก.....

ผมยืนมองร่างเล็กที่นั้งสะอื้นอยู่ตรงริมฟุตบาท


ไอ้คิงส์เดินหายไปไหนแล้วไม่รู้ทิ้ง สิ่งที่มันเรียกว่าตัวปัญหาเอาไว้อย่างไม่ใยดี ‘ตัวปัญหา’ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนที่มันรักและตอนนี้ตัวปัญหาก็ยังคงรักมัน รักมันมากกว่าที่มันเคยรัก...


ผมย่อตัวลงนั้งใกล้ๆน้องเขาอย่างเงียบๆ อารมณ์ตอนนี้บอกไม่ถูก คนที่เคยรักกัน คำหวานๆที่เคยให้กัน ความอบอุ่นที่เคยมี มันหายไปหมด ไม่เหลืออะไรเลยนอกจากซากของความเสียใจ ที่ตอนนี้รวมกันเป็นหยดน้ำตาของคนที่อยู่ข้างๆผม ผมโอบมือไปรั้งหัวทุยๆของเจ้าตัวเล็กมาพิงไว้กับไหล่ บัสชะงักเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วเอนตัวลงมาซบอย่างหมดแรงหลังจากนั้นก็เริ่มร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย ร้อง...จนผมเริ่มรู้สึกว่าไหล่เริ่มชื้นไปด้วยน้ำตาเสียแล้ว ผมยังคงปล่อยให้น้องเขาร้องอยู่อย่างนั้น โดยไม่พูดอะไร เพราะผมกำลังคิด...

คิดว่าถึงไอ้คิงส์มันจะดันชอบผมขึ้นมาจริงๆแล้วผมดันตกลงคบกับมันจริงๆเรื่องราวมันจะเป็นยังไง? ถ้าไอ้คิงส์มันทิ้งน้องเขาได้ ซักวันมันก็ต้องทิ้งผมได้ น้องเขาน่ารักและรักมันขนาดนี้มันยังทิ้งลง เทียบกับผมที่ ปากหมา หน้าตาก็ไม่ดีไปกว่าน้องเขาเท่าไหร่ แถมรูปร่างและนิสัยยังแมนซะขนาดผู้ชายแท้ๆยังอาย ซักวันมันคงทิ้งอย่างไม่ใยดี ตอนนี้ผมยังไม่ได้คบกับมันขนาดเรียกได้ว่าเป็นคนรักหรือแฟน ความสัมพันธุ์ที่มีเป็น Sex Friend มากกว่าแล้วถ้าวันหนึ่งผมรักและหลงมันขนาดขาดมันไม่ได้หล่ะ? แล้วถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผมล่ะ?...ผมจะทนได้ไหม? จะเอาแต่นั้งร้องไห้อย่างนี้ไหม?

ผมได้แต่ถอนหายใจ แล้วไล่ตามองไปเรื่อยจนสายตาหยุดมองตาม แมลงตัวเขื่องที่ค่อยๆบินตามแสงไฟ พาสายตาผมไปสุดที่ ฟ้ามืดๆ ว่างเปล่า...

...ผมควรรู้และต้องรู้สักที จุดที่ผมควรจะยืนอยู่มันอยู่ที่ไหน คำตอบมันอยู่กับคำว่า...

‘อย่ารักใคร’

ไม่ว่าจะเป็น ใครก็ตาม ผมยืมร่างยืมชีวิต ตรินทร์ มาซักวันถ้าเขามาทวงคืนผมก็จะไม่เหลืออะไรเลย ไม่เหลือแม้แต่ชีวิตแล้วอย่างนี้ผมจะยังรักใครได้ แล้วถ้ารักใครได้จริง ถึงเวลาที่นั้น ตรินทร์จะทวงคืนพร้อมต้นพร้อมดอกหรือเปล่ากับชีวิตที่ผม ขโมยมาอย่างไม่ตั้งใจ...

..............
............................

...เกือบจะตีสองแล้ว แต่ผมก็ยังอยู่ที่เดิมกับคนตัวเล็กคนเดิมที่ยังคงสะอื้นเป็นระยะๆ พอทุเลาลงบ้างแต่ยังไม่หยุดเสียทีเดียว ดูท่าถ้าปล่อยไว้อย่างนี้คงทั้งคืน...ผมจับมือนิ่มของคนข้างๆแล้วค่อยๆดึง ขึ้นแต่ตัวผมยังไม่ได้ลุกยืนเพราะร่างนั้นเอนพิงทิ้งน้ำหนักกับผมไว้ทั้งตัว เจ้าตัวเล็กหันมามองผมอย่าง ลอยๆ ดวงตากลมโตนั้นช้ำแดง และยังคลอไปด้วยน้ำตา

‘น่ารักน่าถนุถนอมอย่างนี้เชี่ย คิงส์ยังทิ้งลง...’

ผมจับหน้านวลๆนั้นให้เงยขึ้นแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาที่อาบไปทั้งสองแก้ม

‘น่ารักว่ะ’

คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหยิกจมูกเล็กๆนั้นเบาๆ จนเจ้าตัวเล็ก ขมวดคิ้ว ไม่พอใจ แต่พออมยิ้มได้บ้างแม้จะมองฝืนๆก็ตาม แค่มองเจ้าตัวเล็กยิ้มได้ ความสุขใจมันก็เริ่มมีบ้างหล่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกับมันสักหน่อยแต่ทำไมถึงปล่อยมันเอาไว้ไม่ได้นะ...

“กลับบ้านกัน พี่ง่วงแล้ว...”

ผมลุกขึ้นยืนโดยรั้งร่างนั้นให้ลุกตามมาด้วยไม่มีการขัดขืนใดๆจากร่างเล็กนั้น แต่พอเดินได้ไม่กี่ก้าว เจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะทรุดลงนั่งอีกครั้ง อารามง่วงสุดๆ ผมถือโอกาสรวบเอวเล็กนั้นมาโอบไว้แล้วพยุงเดินตรงไปยัง TAXI ที่จอดอยู่หน้าบาร์ตอนนี้ผมอยู่กับเด็กเก่าเชี่ยคิงส์ไม่ดีแน่ถ้ากลับไปค้างคอนโดไอ้เรด แล้วมันก็ดึกเกินกว่าจะไปบ้านอะตรอม.... กลับบ้านอะตรอมไปพร้อมบัสอะนะ ไม่มีทาง!! ที่สุดท้ายที่พอจะคิดได้คือบ้าน ใช่! ไม่ใช่บ้านผมแน่ บ้าน ตรินทร์ ที่นั้นเงียบและดีสำหรับสถาณการณ์ในตอนนี้ที่สุด....

กลับมาถึงบ้านเข้ามาถึงผมก็แทบจะอุ้มเจ้าคนตัวเล็กขึ้นเตียงเพราะมันเล่นหลับตั้งแต่ในรถ มาจนตลอดทางและไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่ายๆเสียด้วย จับตัวดูก็เหมือนจะร้อนๆ สงสัยพรุ่งนี้คงต้องให้ป้านิ่มทำข้าวต้มให้แล้วมั้ง ง่วงแทบตายแต่ผมยังฝืนสังขารเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันและทำธุระส่วนตัวได้ สงสัยติดโรคอนามัยจากบ้านอะตรอม...คิดถึงหวะนี้กี่วันแล้วนะที่ไม่ได้เจอหน้าอะตรอม

..อืมส์...ง่วง... ทิ้งตัวลงมาบนที่นอนนิ่มลืมไปเลยว่าเจ้าตัวเล็กนอนอยู่ด้วยเกือบทับซะ แต่แปลกที่เจ้าตัวเล็กไม่ขยับเลย...จับตัวดูถึงรู้ น่าจะไข้กิน เอาแล้วไงกู...ง่วงก็ง่วงปล่อยไว้ก็ไม่ได้ ลากสังขารเข้าห้องน้ำไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาบิดพอหมาดๆ เอ่อ หยิบน้ำเย็นในตู้กับยามาด้วยดีกว่า ถึงเตียงก็เช็ดหน้าเช็ดตาให้เจ้าตัวเล็กซะหน่อย แตะเปลือกตามันดูตาร้อนโครต เช็ดไล่ลงมาเลยแล้วกันไข้จะได้ลดๆลงบ้าง มองสภาพของไอ้ตัวเล็กผมก็คิดขึ้นได้อีก

‘การให้ใจกับใครทั้งหมดเป็นอย่างนี้สินะวันไหนเขาทำลายทิ้งวันนั้น เราก็ไม่เหลืออะไรเลย...’

“อืมส์....”

....เสียงครางเบาๆของเจ้าตัวเล็กเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง ตากลมนั้นปรือมองผมอย่างงงๆแต่ไม่นานก็ปิดเปลือกตาลงไปใหม่ การลืมตาขึ้นดูจะต้องฝืนไม่ใช่เล่น ...

“บ้านพี่เอง...นอนเถอะ...ปวดหัวไหม...กินน้ำไหม?”

ผมถามเสียงเบาแล้วแตะขวดน้ำเย็นลงทาบลำคอขาวๆ จนเจ้าตัวเล็กย่นคอหนี รู้นะว่ามันเย็นแต่อารมณ์นั้นอยากแกล้งบัสเล่น

“ลุกขึ้นมากินยาดีกว่า...พี่ไม่แกล้งแล้ว”

เหมือนเจ้าตัวหน้ามุ่ยพยายามลุกขึ้นตามคำผม แต่พอลุกขึ้นมาได้จริงๆ ผมกับดันให้มันนอนลงไปต่อ จะไม่ให้นอนต่อได้ไงหน้ามันซีดขนาดนั้น แถมลุกขึ้นมาก็เหมือนจะแย่กว่าเดิม นอนลงน่ะดีแล้ว ส่วนเรื่องยายังไงก็ต้องกินกันไว้เผื่อพรุ่งนี้แย่กว่านี้ เอาไงดีว่ะ? เอาง่ายๆแล้วกัน ผมหยิบยาแก้ไข้มา 2 เม็ดใส่ปากกลืนแล้วดื่มน้ำเย็นตาม (คือผมถนัดกินยาโดยไม่ต้องดื่มน้ำ แต่พอไปอยู่กับอะตรอม ต้องดื่มน้ำเลยติดนิสัยกินยาเข้าไปก่อนแล้วดื่มน้ำตาม) กันตัวเองไว้ ก่อนจะหยิบมาอีกเม็ดยัดใส่ปากเจ้าตัวเล็กแล้ว อมน้ำในขวดเย็นมาค่อยๆป้อนใส่ปากนิ่มๆที่เผยออยู่ ดูตัวแสบไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมเองก็บริสุทธิ์ใจไม่ได้กะลวนลามอะไรมัน

‘คนอย่าง  ภินทร์ ถ้าอยากทำจริง...ผมไม่แค่ลวนลามหรอก’

เสร็จแล้วก็ปล่อยให้มันนอนต่อไป ผมเองก็จะได้นอนบ้างซะทีหันไปดูนาฬิกา เชี่ย!จะตี 4 แว้วววววววว!! นอนดีก่าพรุ่งนี้กว่าจะตื่น หึหึหึ 3 โมงเย็นผมจะได้สติหรือเปล่าก็ไม่รู้

..............
............................




หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 45#Hurt one's feeling.คดีฆาตกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 30-04-2012 14:40:49
บทที่ 45 Hurt one's feeling.คดีฆาตกรรม
[Part ภินทร์]



...กี่โมงแล้วไม่รู้...

รู้แต่ว่าไม่อยากลืมตา สบายโครตๆ อากาศก็ดีชะมัด อืมส์...หมอนข้างก็นุ่มๆ หอมๆ นิ่ม...เนียน...ลื่นมือ....มือผมไล้ไปเรื่อยจนมาจับที่นิ้วเล็กเรียว ผมสอดนิ้วตัวเองเข้าฝ่ามือนิ่มนั้นแล้วกำไว้หลวมๆ เอ่อ...ไม่ใช่หมอนข้าง กูซื้อตุ๊กตายางมาเมื่อไหร่ว๊ะ... ตุ๊กตายางโคตรอุ่นเลยแมร่งงง! ตุ๊กตายางงง...

เชี่ยไร! อึก! เชี่ยแล้วมึง เชี่ยภินทร์มึงทำอะไรลงไป !เล่นเอาสะอึก สมองผมตอนนี้ประมวณผลเร็วโคตรๆ! บัส!อึก !...กูทำอะไร กูทำอะไรลงไปไอ้ภินทร์!

ยัง....ยัง ไม่บุบสลาย....กว่าจะทำให้ตัวเองระลึกชาติได้ว่าเมื่อคืนผมแสนดีขนาดไหน ผมก็ตบหน้าตัวเอง(เบาๆ) ไปหลายทีอยู่ ถามว่าหยุดตบตอนไหน ก็ตอนที่บัส ตื่นขึ้นมาพอดีนั้นล่ะ รอยยิ้มงงๆของคนตาช้ำๆที่มอบให้ผมน่ารักน่าสงสารแบบได้ใจ น่ารักจนผมอดคิดไม่ได้ ว่า...

'ทำไมมึงเสือกมาเป็นคนดีอะไรตอนนี้ ไอ้คุณภินทร์ ทำไมไม่ ซั่ม ตั้งแต่เมื่อคืน ??! '

ได้แต่คิดเท่านั้นครับ มันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ อดทนมาได้ทั้งคืนถ้าต้องมาชั่วในชั่วโมงสุดท้าย ...มันไม่คุ้มกัน ผมปล่อยให้บัสทำธุระส่วนตัว ส่วนผมเองวิ่งลงไปใช้ห้องน้ำข้างล่าง กลัวใจตัวเองจะทำชั่ว ในชั่วโมงสุดท้ายจริงๆ เจอป้านิ่มข้างล่างพอดีเลยอ้อนขอข้าวต้มหมู 2 ถ้วย แกมีสีหน้าแปลกใจที่ผมบอกว่าพารุ่นน้องมาค้างด้วยเมื่อคืน แต่แกก็ไม่ได้ว่าอะไร

ผมมองดูตัวนิ่ม (ไม่ต้องถามว่าทำไมรู้ ก็นอนกอดมาทั้งคืนแล้ว... ) ที่ค่อยๆตักทานข้าวต้มไป เป่าปากไป โอ้ย....น่ารักอ่ะ แต่ต้องหยุดคิดไว้แค่นั้น...ผมบอกตัวเองแล้วไงว่า สำหรับบัส ผมจะดูแลห่างๆ.....

...แต่จะดูแลให้ดีที่สุด!


.
.
.

“วันนี้คุณโฆ จะกลับมาพร้อมคุณท่านนะคะ คุณตรินทร์... คุณท่านสั่งให้อยู่รอด้วยคะ ...”

ป้านิ่มเอ่ยสวนตอนผมกำลังเดินออกไปส่งบัสที่หน้าบ้านเสียงแกฟังดูสั่นๆ จนผมต้องหันไปมอง

“เรื่องอะไร หรอป้า?”

“เรื่องของคุณโฆ...คะ”

ป้าแกหลบตาผมแล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ....

คุณท่านนี่เป็น พ่อของตรินทร์ หรือเป็นพ่อของไอ้โฆ ?

“พี่ภินทร์..”

เสียงเรียกของบัสทำเอาความคิดผมหายไปซะอย่างนั้น...

เป็นเพราะนอนดึกตื่นเช้า แถมเพิ่งกินอิ่มหรือเปล่า ทำไมมันง่วงๆ แปลกๆ วันนี้ต้องอยู่บ้านนี่นา เดี๋ยวส่งบัสขึ้น TAXI แล้วขึ้นไปนอนต่อดีกว่า...


...TAXI สีส้มสดคล้อยหลังไป แล้ว เหลือแต่ผมที่ยังยืนยิ้มหน้าบานโบกมือให้ ท้ายรถ TAXI แล้วความรู้สึกมันก็มืดไป...


..............
............................


[Part ตรินทร์]



…..ผมลืมตาขึ้นมา กลางถนนหน้าบ้าน.... มือข้างซ้ายยังยกค้างอยู่ ผมเห็นแต่ท้ายรถ TAXI สีส้ม...ผมมายืนส่งใคร?

“คุณตรินทร์ คะ เข้าบ้านเถอะค่ะ อีกสองชั่วโมงคุณท่านจะเดินทางมาถึงแล้ว”

ผู้ชายคนนั้นจะมาหรอ? ผู้ชายที่สังเวยลูกตัวเองเพื่อชื่อเสียงของวงษ์ตระกูล ผู้ชายคนนั้นผมยังจะเรียกว่า ‘พ่อ’ ได้อีกหรือเปล่า ..... แต่ก็แค่นั้นผมจะทำอะไรได้นอกจาก...เดินเข้าบ้าน..บ้านที่เป็นเหมือนคุก....ส่วนผมก็เป็นเหมือนนักโทษที่รอคำสั่งประหาร......

เพียงแต่ผมไม่รู้...ว่าคนที่ผมเรียกว่า ‘พ่อ’จะโหดเหี้ยมขนาด………สั่งให้...

โฆเป็นคนยิงผมเอง........กับมือ

..............
............................


.
.
.



“ไม่คิดนะว่า จะยังเจอเธอที่นี่นะ... ‘ตรินทร์’ …”

เสียงทุ้มเรียบปลุกผมให้ลืมตาตื่นขึ้นมา.... วงหน้าเข้มที่มีส่วนคล้ายผมและโฆ แต่แววตาที่เป็น สีเขียวจางย้ำให้รู้ว่า นี้...เป็น เชื้อสายบริสุทธิ์...ประมุขของ 'บ้านชลวะเท'

 ‘ปาลาดินทร์ ชลวะเท’

พ่อแท้ๆของผม พ่อที่ผลักไสผมให้เป็น เครื่องสังเวยแห่งแผ่นฟ้า..

“แม่นิ่มบอกว่า พ่อให้อยู่รอ”

ผมพูดตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม เพราะสายตาผมไปหยุดอยู่ที่ คนที่อยากเจอที่สุด โฆ...โฆ ก้าวเข้ามาที่หลังพ่อ แต่พอผมยื่นมือให้ มันก็เข้ามาดึงมือผมและพยุงให้ผมลุกขึ้นจากโซฟา ทุกการกระทำอยู่ในสายตา พ่อ...

“พ่ออยากให้เธอเป็นคนไป ตรินทร์ ...”

นี่หรอคำพูดของคนที่เคยเป็นพ่อผม....ไม่มีการอ้อมค้อมหรือรักษาน้ำใจ เมื่อนั่นคือสิ่งที่พ่อต้องการ

“ใครจะเป็นคนไปกันแน่ผมไม่รู้ครับพ่อ...ผมไม่เคยอยู่ในฐานะที่เป็นผู้เลือก...”

“อย่ากำแหงกับพ่อตรินทร์ ... ลูกควรเป็นคนไป...บางทีที่ทีไปอาจดีกว่า ที่เป็นตอนนี้”

“พ่อรู้หรือครับว่าปลายทางที่ผมจะไป...เป็นยังไง...พ่อรู้หรอครับ! ไม่ !พ่อไม่เคยรู้อะไรสักอย่าง! พ่อรู้อยู่อย่างเดียว...วิธีทำให้
สายตระกูล ยังอยู่ในสายวงศ์ ! รู้แค่นั้น!ทำทุกอย่างเพื่อมันเท่านั้น! ผมที่เป็นลูกพ่อ...พ่อเคยรู้จริงๆหรือเปล่าว่ายังมีผมเป็นลูก!”

“ตรินทร์!”

เสียงผู้ชายตรงหน้าผมดังขึ้นพร้อมฝ่ามือใหญ่ที่ฟาดลงมาแต่แรงนั้นไม่ถึงผมเพราะ โฆ เป็นคนกั้นมือใหญ่นั้นไว้เอง ผมมองหน้าพ่อที่คิดจะทำร้ายผมด้วยแววตาว่างเปล่า....นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อคิดจะลงมือกับผม... แต่ก็แค่นั้น ถ้าพ่ออยากได้อะไร ไม่มีอะไรที่หลุดมือ...

“โฆ...กล้า ขวางลุงหรอ? ”

พ่อหันไปเล่นงานโฆ แทนเมื่อรู้ว่าไม่มีทางทำอะไรผมได้ถ้าโฆ ยังอยู่ข้างผม ....

“ยังจะทำตัวเป็นหมาเฝ้าเจ้าของอยู่รึ โฆ...เจ้าของที่ไม่มีแม้แต่ชีวิตของตัวเองอย่างนี้ ยังจะจงรักภักดีด้วยได้อีกรึ... โฆ...”

“พ่อกำลังจะดึงคนของผมออกไปหรือครับ..”

“ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของเธออีกแล้ว ตรินทร์...ตอนนี้ทุกอย่างที่เธอมี เป็นของวิญญาณอีกดวงที่อยู่ในร่างนี้ ...”

“ผมไม่มีสิทธิ์อะไร แม้แต่สิทธิ์ในการมีชีวิต หรอครับ...หึ!...น่าขำนะครับที่แม้แต่สิทธิ์ในการเป็นลูกพ่อในตอนนี้ผมยังไม่มี...แค่
เพราะ ‘นาง’ ไม่ได้เลือกผม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปสินะครับ”

“ตรินทร์...ออกไปจากร่างนี้...ไปยังทีที่เธอควรไป...ให้เขาได้เข้ามาเต็มตัวเสียที...ให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างที่คนธรรมดา ควรเป็น ...ลูกกำลังขโมยเวลาอยู่ ตรินทร์ ....ลูกขโมยเพื่ออะไร? ลูกกำลังฝืนเพื่ออะไร เพื่อโฆที่จงรักภักดีของลูกงั้นรึ? มันไม่ใช่อีกแล้ว ตรินทร์ ....พ่อบอกลูกแล้ว ...ไปซะ ทีนี่...ไม่มีอะไรเป็นของลูกอีกแล้ว...แม้แต่โฆ...”

.
.
.

เสียงกัดฟันกรอดกับความเงียบที่ผมสัมผัสได้ของโฆ พาให้ลางสังหรณ์แปลกๆเกิดขึ้น ผมหันหน้าไปหามัน แววตาสีเข้มเจือมรกตหลบสายตาผมแต่สันกรามที่ขบกันแน่นเหมือนบอกเป็นนัยๆว่า ระหว่างที่มันหายไป มีเรื่องเกิดขึ้น... มันรู้ว่าผมต้องการอะไร แต่ไม่มีคำตอบใดหลุดออกจากปากมัน ไม่มีแม้แต่แววตาที่มองกลับมา...

“พ่อทำอะไร โฆ !”

ผมตะคอกกลับไปยังชายที่ยืนนิ่งอย่างหมดความอดทน ร่างใหญ่เดินไปหยุดนั่งตรงข้ามโซฟาใหญ่ ก่อนจะเงยหน้ามองผมด้วยแววตาเฉยชา...แต่คำที่หลุดออกมาทำเอาผม แทบหายใจไม่ออก...

“สายวงศ์ รู้เรื่อง ‘นาง’แล้ว รู้แม้กระทั่งการเข้ามาก้าวกายของ พวก ‘สุร’ ในฐานะที่เป็น คนกลาง เรา ไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง การประชุมของสายวงศ์ แจ้งแล้ว ทางเราจะทำทุกวิธี ให้ การแต่งงานเกิดขึ้น...โดยไม่มีอุปสรรคใดเข้ามาขวางแม้แต่คนของเราเอง...ทางผู้ใหญ่ สั่งมาแล้ว ลูกต้องไป ตรินทร์ และโฆ... ก็เหมือนกัน ทางฟากสายวงศ์ หาคนที่คู่ควรกับโฆไว้แล้ว การหมั่นหมายมีขึ้นแล้วเมื่อ สองวันก่อน...โฆต้องไป และลูก...ก็ต้องไปเหมือนกัน ตรินทร์ ... ”

‘การหมั่นหมายมีขึ้นแล้วเมื่อ สองวันก่อน...’ คำนี้มันก้องสะท้อนอยู่ในหัวผม...กับใคร โฆหมั่นกับใครในสายวงศ์...มาถึงตอนนี้ โฆก็ยังไม่ยอมที่จะสบตาผม...มันเป็นการยอมรับสิ่งที่พ่อพูดอยู่ในที..มีแต่ผมคนเดียวที่แทบจะบ้า ผมมองกลับไปที่คนบนโซฟา รอยยิ้มเหยียดที่อยู่บนหน้าผมเหมือนจะหลุดออกมาเมื่อคิดไปถึงคนชื่อ ภินทร์ ....

“พ่อรู้ได้ยังไงครับ ว่า เป็นผมที่ต้องไป...แต่ถ้าต้องเป็นผมที่ต้องไปจริง พ่อก็คงต้องเหนื่อยหน่อย ....เพราะภินทร์ คงไม่ยอมอะไรง่ายๆเหมือนพ่อคิดแน่ และ...ถ้าภินทร์ เป็น แค่คน ธรรมดา จริง ...ทำไม ‘นาง’ ถึงยอมทำทุกวิธี เพื่อเปลี่ยนให้ ภินทร์ มาเป็น ผม ...พ่อแน่ใจหรือครับว่า ภินทร์ ธรรมดา... พ่อแน่ใจหรอครับว่า ภินทร์ จะ ‘ง่าย’ เหมือน พ่อ คิด... พ่อไม่สงสารผมเลยหรอครับ...ผมตายไปแล้ว...ครั้งแรกก็เพราะ นาง และกำลังจะต้องตายอีกครั้ง เพราะคำสั่งของสายวงศ์ เพราะพ่อ...เพราะพ่อตัดเชือกฟางเส้นสุดท้ายของผมขาด.. เพราะพ่อเอาโฆออกไปจากชีวิตผม...แล้วก็มึง...มึงทำเหี้ยอะไรไป มึงยอมได้ยังไง...มึงก็เป็นอีกคนใช่ไหม ที่อยากให้กู...หายไป....มึงเป็นอีกคนใช่ไหมที่อยากให้กูตาย...โฆ..”

..............
............................

.....กูเคยบอกมึงหรอยัง ว่าที่กู ฝืนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมึง ...... ที่กูอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะมึง.....และที่กูกำลังจะหายไป....ก็เพราะมึง!!!

..............
............................
............ถ้ากูตาย .....คนฆ่ากูก็คือมึง...

.
.
.


..โฆ..



..............
............................




[แถม]


...สายลมเย็นที่พัดมา พาอากาศชื้นปนกลิ่นหอมอ่อนๆเข้ามาด้วย ผมหันมองรอบข้างมันไม่มีอะไรเลยนอกจากผืนน้ำสีครามเขียวที่สูงเสมอข้อเท้า บนฟ้าไม่มีดวงอาทิตย์ บนพื้นไม่มีผืนดิน... ที่นี้เป็นที่ของผมหรอ? เป็นที่ของผม......หรือเป็นกรง...ที่จะใช้ขังผมไว้เพียงลำพัง...

.... เสียงหัวเราะเบาๆเหมือนสบอารมณ์ดังมาจากข้างหลังเรียกสติของผมได้เป็นอย่างดี ...ผู้หญิง....ผู้หญิงที่ไม่ใช่ ‘นาง’ กระโปรงลูกไม้ที่เธอสวมเปียกโชกไปหมดเพราะเธอคนนั้นนั่งทิ้งตัวทั้งตัวลงกับพื้นน้ำ ‘ใคร?’ เธอเงยหน้าขึ้นมองผม แววตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมรกต ทำให้วงหน้านั่นดูแปลก...ถึงจะอยู่ในเชื้อวงศ์นาคา แต่ผมไม่เคยเห็น หญิงในสายวงศ์ที่มีแววตาสีน้ำตาลเข้มเคลือบมรกต.... แววตาขี้เล่นบวกกับรอยยิ้มที่มีบนใบหน้าทำให้ผมอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก...

ผมเกือบลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าผมเองเพิ่งเจออะไรมา....

“เธอเป็นใคร?”

ผมถามเธอที่เอาแต่ยิ้ม....รอยยิ้มเหมือนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น....เธอ ยิ้มกว้างแล้ว ริมฝีปากอิ่มก็เอ่ย ชื่อๆหนึ่งออกมา...

“ภัทร”

“ภัทร?”

“ไม่สิ...ตอนนี้ต้องเรียก ภินทร์ สิ...ใช่ ฉัน ชื่อ ภินทร์ ”

ผมแทบไม่เชื่อเรื่องที่เธอพูด...ภัทร งั้นรึ! เธอคือภินทร์! ภินทร์ ไม่ใช่ผู้ชาย ?! ผมทิ้งตัวลงนอนราบกับผืนน้ำ...หึ! มีอะไรบ้างอีกทีผมยังไม่รู้...

“ถ้าผมต้องตาย...

....................................


.....ถ้าผมต้องเสียโฆไป

...
...................
ผมก็จะเอาคุณไปกับผมด้วย ภัทร... ‘นาง’ จะได้รู้ ความเจ็บปวดของการเสียของรักเป็นยังไง....”

..ผมตัดสินใจบอกสิ่งที่อยู่ในใจให้ 'เธอ' ได้รู้ ความคิดของผมที่ไม่เคยบอกใครแม้แต่พ่อหรือโฆเองก็คงไม่รู้ความคิดนี้...

เธอข้างๆผม เงียบไป แต่แรงกระเพื่อมของน้ำ กลับเพิ่มขึ้น... เธอลุกขึ้นยืนค้ำผมที่ทิ้งตัวลงนอนยาวไปกับผืนน้ำ แล้วก้าวขึ้นมาคร่อมทับร่างผมไว้....แววตาวาว ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เลื่อนลงมาใกล้...ริมฝีปากอิ่ม และจมูกเล็กที่เชิดขึ้นเหมือนแสดงให้รู้ในทีว่าเจ้าของเครื่องหน้านี้...นิสัยดื้นรั้นแค่ไหน

..............
............................

“ตรินทร์...ทำอย่างที่พูดไม่ได้หรอก...ตรินทร์ ทำร้าย ภัทร ไม่ได้.......และจะไม่มีทางคิดทำ...เพราะ...ตรินทร์ จะรัก ภัทร มาก.....มาก....เกินกว่าที่ตรินทร์จะนึกได้....ภัทร จะรอวันนั้น....ตรินทร์”

..............
............................


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!46# It's hard to let you go.กลับไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 30-04-2012 14:45:09
บทที่ 46 It's hard to let you go.กลับไม่ได้ไปไม่ถึง



...สายฝน หลงฤดูที่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา...

เหมือนจะกลบเสียงเคาะประตูเสียสนิท เจ้าของห้อง 623 นอนยาวไปกับโซฟา คงไม่สนใจอะไรนอกจากแม็ทบอลนัดสำคัญบนหน้าจอ TV. ถ้าเสียงเคาะประตูไม่เปลี่ยนเป็นเสียง ทุบประตูเสียก่อน ...

คิงส์สถบอย่างหัวเสีย เมื่อเสียงนั้นไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลง...มันดังขึ้นกว่าเก่าจนทำให้ต้องเดินไปดูว่า ใคร!? ถ้าแม่งเสือกเคาะผิดห้องคงต้องมีการกระตุ้นประสาทคนเคาะสักหมัดสองหมัด...

‘แม่ง! ขอให้ข้อมือหัก ’

...บัสหรือเปล่า ? ยังอดสงสัยไม่ได้ แม้ช่วงนี้จะโดนอดีตแฟนเก่าตามแจ... แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่บัส จะก้าวร้าว หรือก้าวก่ายเรื่องของตนสักครั้ง ...บัสน่ะ ดี... ดีจนเกินไปที่จะอยู่ด้วยกัน! เป็นแฟนกันมันต้องทันกัน...อย่างไอ้แสบนั่น ...เชี่ย ภินทร์!

.
.
.


“ภินทร์..?!”

...คนที่กำลังคิดถึงผลักประตูเข้ามาทันทีที่ผมบิดลูกบิดประตู...ร่างโปร่งที่เคยไล่ล่าอยู่เกือบอาทิตย์อยู่ๆ บทจะเจอมันก็ง่ายอะไรอย่างนั้น...เนื้อเมายาหรือไง? มันถึงได้เดินเข้ามาในปากเสือเอง ?!

“จะยืนบื้ออะไร ปิดประตูสิ ไอ้สัด !”

เอาแล้วไงไอ้แสบ...แม่งไปแดกรังแตนมาจากที่ไหน มาถึงมันก็เหวี่ยงเลย... ภินทร์ หยุดอยู่กลางห้องมันไม่ได้ก้าวเข้าไปต่อ... พอผมมองมันก็ชี้ตัวมันเองหัวจรดเท้า สภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ... แต่ที่ผมมองผมมองเสื้อเชิ้ต สีน้ำตาลของมันที่แนบลู่ไปกับลำตัวมากกว่า...เวลานี้กลืนน้ำลายยังยาก...

“ถ้าไม่อยากให้โซฟา มึงราขึ้น หยิบผ้าเช็ดตัวให้ด่วน...”

ผมมองหน้ามันแล้วเดินเข้าห้องนอนไปหยิบผ้าเช็ดตัว ไม่ได้กลัวโซฟาราขึ้นหรอก... ก็มโนภาพผมตอนนี้มันกำลังฉายภาพผมกับมัน ฟัดกันอยู่บนโซฟาแล้ว ...ฟัดกันในสภาพที่มันเปียกๆนี่หล่ะ...ได้แต่คิดไม่กล้าทำ...

กลัวมันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง....

...ทั้งๆทีผมมั่นใจว่าการล่าใครสักคนสำหรับผมคือของง่าย...แต่กับมัน แทบไม่มีร่องรอยให้ติดตาม... ถ้ามันจะหลบผม...

...กำลังคิดสภาพมันตอนอยู่ใต้แผงอกผมเพลินๆ แทบจะสำลัก เมื่อมองไปที่ ภินทร์ อีกที มันไม่ต่างจากสภาพที่ผมกำลังจินตนาการเลย ไอ้แสบมันถอดเสื้อผ้าที่เปียกโยนใส่ตะกร้าผ้าผมทิ้งทีละชิ้น...จนเหลือแค่บอกส์เซอร์ และมันยังคงยืนนิ่งในสภาพนั้น

“เฮ้ย !เร็วๆหนาว !”

มันเร่งทันทีที่เห็นผมยื่นนิ่ง... กล้ามากนะ ภินทร์...

ผมเดินเข้าไปใกล้มันยื่นผ้าเช็ดตัวให้ก็แล้วแต่สีหน้าของลูกหมาเปียกน้ำยังไม่มีทีท่าว่าจะพอใจ

“ทำหน้าที่ของมึงด้วย”

ภินทร์เอียงหน้าบอกผม

‘หน้าที่อะไรว๊ะ?’

เหมือนมันจะอ่านสีหน้าผมออก...เมื่อริมฝีปากอิ่ม ค่อยๆเอ่ยกับผมทีละคำ

“เช็ด-ตัว-ให้-ด้วย”

นั่นยิ่งทำให้ผมงง

“ขอกูเป็นแฟนเองไม่ใช่หรอ? งั้นก็ทำหน้าที่ของ แฟนด้วย เร็ว! กูหนาว”

ผมมองหน้ามัน แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์.... ถ้าผมอยากได้มากกว่าเช็ดตัวล่ะ?!

..............
............................

.
.
.


"อืมส์....คิงส์ อย่ากัดเดี๋ยวเป็นรอย..."


..............
............................

.
.
.


...
" ‘ไรเข้าตาว๊ะ?.. "

ผมขยี้ตาทันทีที่รู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไรเคืองๆตา...

กวาดมือไปข้างที่นอน ภินทร์ หายไปแล้ว ....แม่งไวชิบ! ความรำคาญทำให้ผมต้อง เดินเข้าไปหากระจกในห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ก่อนจะเงยหน้ามองกระจก ว่าแล้ว.. ขนตาเส้นหนึ่งพาดระหว่างตาดำ และตาขาว มิน่าว่าเคืองๆ แต่พอสายตาหลุบต่ำลงไปที่ต้นคอ ...

"สัด !"

อดสบถออกมาไม่ได้เมื่อ เหลือบไปเห็นรอยจ้ำแดงที่ลำคอ...แมร่ง! เล่นกูตอนไหนว๊ะ ? มิน่าว่าเจ็บแปลกๆ เชี่ยภินทร์! ปากแม่งบอกไม่ให้กูทำรอย แต่ที่คุณมึงทำกับกูนี้ ย้อมสีเลยมั้ง! กะประกาศให้ชาวบ้านเขารู้เลยหรือไงว่าเมื่อคืนกูออกกำลังกายในที่ร่ม...เชี่ยเอ๊ย! แล้วจะออกไปที่คลับยังไงอ่ะ? ขืนไปสภาพนี้จบเห่แน่...เป็นจระเข้ ดันถูกกวางจับซะเอง...


กูไม่น่าพลาดไปกับมึงเลย....ภินทร์... ที่คอนี้ไม่รู้ตัวเลยว่ามันย้ำความเป็นเจ้าของขนาดนี้ แล้วที่รู้สึกตอนเล่นกับมันล่ะ?...
..............
............................

...เหมือนคาด... แทงบอลเสือกไม่ถูก!

ผมยืนเปลือยเปล่าหน้ากระจกบานใหญ่ ที่คอสามดอก ที่เหลือลงไปตั้งแต่ไหล่ถึงโคนขา...เป็นลายตุ๊กแก! แทบทรุด...

ไอ้โรคจิต แมร่ง! กะไม่ให้กูฟัดใครเลยตลอดเดือนหรือไง...ทั้งๆที่ ภินทร์ มันก็บอกแถมย้ำกับผมเองว่า แค่ SEX FRIEND แต่ไอ้แค่ SEX FRIEND ทำยังกะเป็นเจ้าของกู ถ้ากูหลวมตัวเป็นแฟนมึงจริงๆ แมร่งไม่ล่ามโซ่กูเลยหรอ?
SEX เมื่อคืนมันก็ดี...ถึงดีมาก แต่ถ้าโดนแสดงความเป็นเจ้าของขนาดนี้คราวหลังคงไม่มีแล้วล่ะมั้ง...

เหอะ...ก็ได้ดีแต่คิด ถ้าถามว่าอยากมีอะไรกับมันอีกไหม....คำตอบแทบไม่ต้องให้เดา ถึงจะสารภาพว่าสองครั้งที่มีอะไรกัน ไม่เคยล่วงล้ำมันเข้าไปก็เถอะ...ไอ้คิงส์เอ้ย....ทนได้ยังไงวะ ? ขนาดเมื่อคืนมันมีอารมณ์โคตรๆ ยังกล่อมมันไม่สำเร็จเลย...

เฮ่อ...คิดแล้วก็อยากกอดมันอีกจัง ...ผิวเนียนๆเย็นๆ เอวไม่บางแต่เต็มมือ ปากอิ่มสีสด...อืมส์ ผิวเย็นๆถ้าได้ลงลิ้นเลีย...

โอ้ย! จะบ้า! จะไปหาก็ไม่รู้มันไปอยู่ที่ไหนแล้ว !...เชี่ยภินทร์แมร่งทำกูจำไว้...

..............
............................


‘แล้วจะทำยังไงกับความสัมพันธ์แบบนี้ ให้เลิกก็คงไม่ได้ ให้ไปต่อ ก็ท่าจะยาก...’


..............
....................................................
..........................

...
นี่เป็นความคิดของคนที่ กำลังจะบ้าอยู่หน้ากระจก... กับอีกคนที่นอนเหยียดยาว ดูเพื่อนๆซ้อมดนตรี ..............



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 01-05-2012 10:37:41
เฮ้ย! ทำไมเรื่องมันยาวจังอะ  o22

แล้วใครเป็นคนอัพล่ะ!!   :z2:

มีทั้งหมดกี่ตอนหรอคะ จะได้ทำใจล่วงหน้า   :laugh:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 01-05-2012 11:00:50
ตอน 45 เพิ่งสังเกตว่าภัทรใส่กระโปรงลูกไม้ซะด้วย หวานเหมือนกันนะ นึกว่าจะห้าวๆเซอร์ๆ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 47#Waiting for me.อีกฝากของคนรอ
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 01-05-2012 13:34:56
บทที่ 47 # Waiting for me.อีกฝากของคนรอ(ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย...)
[02:47 น.]



ถนนพระราม 2 / ธนบุรี-ปากท่อ

เสียงล้อรถ…
............
...บดกับถนนดังกรีดเข้าไปในแก้วหู.....มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ บิดแข่งกับความเร็ว

‘ยังไงก็ต้องให้ทัน ต้องไปให้ทัน!! ...ขอแค่เห็นหน้าก็พอ ขอแค่นั้น... อยากเจอนายนะ ...ภินทร์...แล้วชั้นก็ต้องเจอนายให้ได้!!!’


...
....เสียงล้อรถถูกหยุด...ด้วย เมฆฝนห่าใหญ่ที่เข้ามาขวาง รถมอเตอร์ไซค์ ไถลลื่นครูดไปกับผิวถนนจนเกิดประกายไฟ ร่างใหญ่ สถบ สาปแช่ง ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้น ..เพื่อมาเจอกับ ผิวน้ำที่เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง...

...การต่อสู้ของ สุร และ แผ่นฟ้า !!!

“ชิ!! คิดจะลากกูกลับไปงั้นรึ!! อีกาลี!!!”


..............
............................


..ผ่านมาเกือบ สองอาทิตย์... ชีวิตมันเอื่อยๆชอบกล... อะตรอม ไม่ได้ติดต่อมาเลย ไม่ได้กลับมาที่ห้อง ไม่แม้แต่จะมาที่คณะด้วยซ้ำ... บัพก็แปลกๆ เหมือนหลบหน้าผมยังไงชอบกล...วันนี้เจอป้านิ่มเลยถามเรื่องบัพ คำตอบที่ได้มาเล่นเอาสมองผมอื้อๆ

‘โฆ..ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว’

ถึงจะไม่สนิทกันแต่ก็อดใจหายไม่ได้...ทำไมนะ ? ชีวิตช่วงนี้เลยเนื่อยๆ ย้ายตัวเองไปอยู่ร้านพี่นพเพื่อซ้อมและเล่นดนตรีอย่างเดียว เบื่อๆก็ไปที่คณะ...เรียนบริหารแบบไร้สังคม น้องๆที่รู้จักก็ไม่ค่อยสนิทมากนัก ไม่อยากคุยด้วยมากกว่า... คิดถึงอะตรอม สังคมที่ไม่ได้กว้างอะไรนักทำให้ผมเหมือนอยู่ในกรอบแคบๆ อาทิตย์ที่แล้วเหงาจนต้อง หันไปหาไอ้คิงส์ ถ้าไม่หยุดตัวเองซะก่อน มีหวังผมคงต้องเป็นเมียมันสักวัน...

ส่วนบัส ...รายนั้นยิ่งแย่ใหญ่ ผมบอกตัวเองไว้แล้ว ว่าจะอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ กลัวตัวเองจะฉุดชีวิตน้องเขาให้ตกนรกมากับผมเอง...นั่งคิดไปคิดมา ผมก็เพิ่งคิดขึ้นได้..............

..............
............................

................................ผมไม่มีสาวเข้ามาในชีวิตเลย ตั้งแต่อยู่ในร่างของตรินทร์ !!!!


...........
…………………………..เฮ้ย!!! ไม่ได้การแล้ว ...................


“เฮ้ย!!!หยุดแป๊บ!!!”

ผมเบรควงที่กำลังจะตั้งเสียงเครื่องดนตรี ทันทีที่คิดขึ้นมาได้ ไอ้แป้นถึงกับคิ้วชนกัน แต่แค่นั้นผมไม่ไหวั่นหรอก... มันมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่า ที่จะต้องรู้

“เรด...กูถามอย่างดิ....มึงมีแฟนยัง...ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”

ไอ้เรดถึงกับงงแดก แต่มันก็ตอบ

“มีแต่คนที่ชอบ ส่วนชายหรือหญิงกูไม่บอก”

งั้นกูเดาว่าผู้ชายชัวว์มึงเลยไม่ตอบ แล้วก็อีกคน....

“ไอ้แป้นมึงอะ? ตอบดีๆ”

ไอ้แป้นดึงอมยิ้มออกมาแล้วตอบปัดๆ แบบเขินๆ

“สาวบริหาร ปีหนึ่ง อย่าถามชื่อเดี๋ยวพวกมึงล้อกู ”

แล้วก็มาที่ไอ้นิ่ง กร้า รายนี้ไม่ต้องถามหันไปมันก็ตอบแล้ว

“สาวบริหาร เหมือน ไอ้แป้น ....แต่คนละคนกับไอ้แป้นแน่ กูไม่อยากฆ่าเพื่อน”

ผมพยักหน้าเข้าใจ ....ในกลุ่มส่วนมากจะชอบผู้หญิงแบบปกติ...จะมีก็แต่ไอ้เรดที่ยังไม่แน่ใจตัวเอง แล้วก็ผม....ผมชอบอะไรกันแน่ ?

“ถามแต่พวกกูแล้วมึงอะ ตรินทร์?”

เรดถามผมกลับ

“นั่นอะดิ ? กูยังสงสัยตัวเองอยู่ ...”

“ล้อเล่นน่า...มึงจะสงสัยอะไรว๊ะ คู่หมั่นมึงยังกะนางฟ้า”

ไอ้แป้นท้วงมา เมื่อเห็นผมทำเหมือนไม่รู้สถานะตัวเอง

“หือ ?!!”

“ฮ่ะ!!?”

ทั้งผมและไอ้เรดอุทานเกือบพร้อมกัน แล้วไอ้เรดมึงจะอุทานตามกูทำไม ?

“ก็พระแพง ไง สัดนี่... อย่าบอกนะว่ามึงเจ้าชู้จนลืมคู่หมั่นตัวเอง...เอ่อ...กูลืมไป สมองมึงกระทบกระเทือน”

ไอ้กร้าพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ...

เฮ้ย!! ตรินทร์มีคู่หมั่นแล้ว...อ่านะ...ทำไมผมถึงไม่รู้ ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ...แต่ช่างมันเถอะ ยังไงก็นี่หล่ะ คู่หมั่น...
...........................

....

‘นี่หล่ะ นางฟ้า ....ที่จะดึงผมออกไปจากวงโคจรของ เชี่ยคิงส์’

...............................
...........

แต่ชื่อ พระแพง ฟังดูคุ้นๆนะ..
......


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!48 #Can’t hold. อดไม่ได้..[1]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 01-05-2012 13:37:27
บทที่ 48  # Can’t hold. อดไม่ได้...กินเข้าไปซะแล้ว [1]


“บัส...”

...ผมเรียกคนข้างหน้าเสียงเบา.... หัวใจมันเหมือนตกไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง วันนี้ก็มาเล่นกับวงที่ร้านพี่นพครับ แต่เหนื่อยมากไปหน่อยเลยหลบออกมา...

ตอนแรกคิดว่าจะออกมาสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย แต่ดันเสือกเจอเชี่ยคิงส์เข้า บอกตามตรงยังไม่อยากเจอมันตอนนี้เลยเดินเลี่ยงมา หลบออกมาไม่ทันไรก็เจอ บัสยืนตาแดงๆอยู่ แถมยังเดินไปกับพวกฝรั่งตัวเท่าควายกลุ่มนั้นอีก ดูท่าอยากประชดชีวิตเต็มที่ มองแล้วอดสงสารไม่ได้.... คิดหรือว่าไอ้เชี่ยคิงส์มันจะสนใจ ต่อให้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งมันก็ไม่มองหรอกลองเป็นของที่มันทิ้งแล้ว ทำไมผมต้องห่วงบัสมากขนาดนี้ด้วย...เฮ้อ...มองตามเจ้าตัวเล็กไปก็ได้แต่ถอนหายใจ ...ทิ้งไม่ได้จริงๆเลยกู สุดท้ายก็ต้องวิ่งตามไอ้ตัวเล็กไปอีกแล้ว

“ Hey! Bus ”

ผมเนียนเดินไปทักบัสแล้วจับข้อมือเล็กที่โดนไอ้ฝรั่งตัวควายจูงอยู่

ไอ้ตัวเล็กคงกำลังมึนๆ ผมเลยโอบกอดไปอีกทีก่อนจะทำเนียนกึ่งลากกึ่งจูงบัสขึ้น TAXI แบบหน้ามึนๆ ไอ้ตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันที่อยู่ๆก็โดนยัดเข้ามาในรถแบบนี้ ผมหันไปอีกทีเห็นฝรั่งกลุ่มนั้นเหมือนจะรู้สึกตัววิ่งตามมาแต่ไม่ทันครับผมบอกพี่คนขับถึงจุดหมายปลายทาง คอนโดบัส..ห้องไอ้เรด...พี่ TAXI แกก็ออกตัวเหมือนรู้สถานการณ์…..สรุปเลยรอดมาได้

“ทำไมทำแบบนี้...?”

ผมมองหน้าไอ้ตัวเล็กข้างๆแล้วถามขึ้นมาอย่างยั้งปากตัวเองไม่ได้ ถึงจะพอรู้เหตุผลบ้าๆนั้นก็ตามแต่คำตอบที่ได้มา จะเพราะบัสเมาหรือเพราะอารมณ์ ของคนพูดก็เถอะ .............มันทำเอาผมได้แต่จ้องหน้าไอ้ตัวเล็ก......

“บัส...จะ..นอนกับใครก็ได้ ไม่เกี่ยวกับพี่ภินทร์...”

.......หมดครับหมดกันไอ้สิ่งที่ผมเฝ้าบอกตัวเองขาดผึงทันทีที่ได้ยินคำบ้าๆนั้น.......

สัด! ทั้งๆที่กูห่วงขนาดนี้นะ ถ้ากูปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กนี้ไปนอนกับใครก็ได้ สู้ให้นอนกับกูไม่ดีกว่าหรอ!? จบครับสมองประมวณผลได้เหี้ยมาก ! ผมนั่งเงียบจนมาถึงคอนโด ลากไอ้ตัวเล็กที่เงียบพอกันขึ้นมาด้วย เข้าไปในห้องได้ผมก็โทรหาไอ้เรดก่อนเลย บอกมันว่ากลับมาที่ห้องแล้ว

แต่ที่ไอ้เรดตอบมากลับทำให้ผมแปลกใจ พวกมันจะค้างที่ร้านพี่นพ วันนี้เป็นวันเกิดเกิดเมียพี่นพแก แถมบอกให้ผมย้อนกลับไปที่ร้านอีก เพราะคงเมากันถึงพรุ่งนี้...สรุปผมเลยต้องโทรหาพี่เจี๊ยบร้านมินิมารค์ข้างล่างแทน หิวมากมาย โทรสั่งข้าวครับของผมกับของบัสด้วย ก็บอกแล้วว่าคอนโดนี้ผมเชี่ยว ส่วนไอ้ตัวเล็กนั่งซุกอยู่ตรงโซฟาไม่มองผมเลย...ราวๆสิบห้านาทีเสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น น้องตู่หลานพี่เจี๊ยบ คนเอาของมาส่งให้ ข้าวที่ผมโทรสั่งนั้นล่ะ ผมยิ้มหวานส่งน้องตู่จากหน้าห้อง ไม่กล้าเดินไปส่งกลัวไอ้ตัวเล็กมันล็อกห้องด้วย อารมณ์แปลกๆอย่างนี้ไม่กล้าเสี่ยง หันกลับมาอีกทีไอ้ตัวเล็กจ้องหน้าผมตาแดงซะงั้น ริมฝีปากแดงนั้นยิ่งช้ำเข้าไปใหญ่เมื่อเจ้าตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันซะแน่น

“พี่ภินทร์ พาบัสกลับมาทีนี้ทำไม!!! ปล่อยบัสไปได้ไหม!!อย่ามายุ่งกับบัสได้ไหม!!!”

เอาแล้วไงไอ้ตัวเล็กเริ่มแล้วครับ ตะโกนอย่างดังแถมน้ำตาไหลพรากๆยังกับเขื่อนแตก ผมกำลังจะอ้าปากปลอบประโยคเด็ดก็มาเลยครับ

“พี่คิงส์ไม่รักบัสแล้ว...ปล่อยบัสไปตามทางบัส...บัสจะไปกับใครพี่คิงส์ก็ไม่สนใจบัส...ไม่สนใจบัสแล้ว”

“บัส...เมาแล้วนะครับ...ล้างหน้าแล้วนอนก่อนไหม ?”

ผมพยายามเต็มทีที่จะกล่อมเจ้าตัวเล็กที่ทั้งร้องทั้งโวยวาย ดึกแล้วครับก็เห็นใจห้องข้างๆด้วยล่ะแหะๆ สงสารมันก็สงสาร เลยเดินไปจูงมันกะว่าจะให้ไปล้างหน้าล้างตา แต่ก็ได้เรื่อง มือเล็กนั่นปัดมือผมแถมยังตะคอกใส่ผมอีก

“บัสจะไปเที่ยวต่อ เอาบัสกลับมาทำไม!!!”

“บัสครับ พวกที่บัสไปด้วยนั้น ไม่น่าไว้ใจเลยนะครับ แล้วถ้าเกิด...”

ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็สวนมาเลย

“เกิดอะไรขึ้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ภินทร์....พี่คิงส์ยังไม่สนใจบัสเลย ถ้าบัสอยากอะไรกับใคร พี่ภินทร์เกี่ยวอะไรด้วย !!!!”

ไม่พูดเปล่าครับไอ้ตัวเล็กพยุงตัวลุกจะเดินออกจากห้องอีก

“บัสเมาแล้วนะพอแล้ว ไปล้างหน้านอนเถอะนะครับ”

“สัด!บอกว่าอย่ามายุ่งกับกู!!!กูจะร่านกับใครก็เรื่องของกู!!!”

..
.........

..........................ผมเงียบครับหลังจากบัสหลุดประโยคนั้นออกมา จะเรียกได้ว่าตะโกนใส่หน้าผมก็ว่าได้สมองผมคงจะนิ่งจริงๆเพราะตอนนี้บัสมองหน้าผมด้วยแววตาแปลกๆ คำขอโทษเหมือนจะติดอยู่ที่ขอบปากสีสดนั้น แต่ก็ไม่ได้หลุดออกมา ผมไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้ายังไง ที่รู้สึกได้มีอย่างเดียวหน้าผมมันชามาก หัวใจมันก็ชาไปหมด คำขอโทษไม่ได้ออกมาจากเจ้าตัวเล็ก จะมีก็แต่ริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรง....แล้วร่างบางนั้นก็เหมือนจะขยับถอยออกไปที่ประตูห้อง

ผมหลับตานิ่งสติมันขาดผึ่งไปแล้ว...ไม่มีเสียงเรียกหรือขอร้องอะไรทั้งนั้น....

.
ต้องทำให้เย็นใช่ไหม??

..............
.........................

...
ผมกระชากข้อมือเล็กแล้วลากร่างนั้นให้ตามเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวโดยไม่กลัวเปียกผลักร่างบางให้เข้าไปอยู่ใต้สายน้ำแล้วนั้นกดข้อมือทั้งสองให้แนบไปกับผนังห้อง เจ้าตัวเล็กดิ้นขัดขืนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ผมปิดปากอิ่มด้วยริมฝีปากตัวเองสักพักจากเบือนหน้าหนี เจ้าตัวเล็กก็เริ่มรุกตอบ...

‘ถ้าจะคิดร่านกับใคร สู้ให้ร่านกับกูดีกว่า...!!!’

..............
.........................

...
เสียงหอบหายใจดังออกมาเป็นระยะ แต่สติผมหลุดไปแล้ว ตั้งแต่เห็นริมฝีปากสีสดนั้นครอบลงเกือบสุดโคน ภินทร์น้อย ลิ้นอุ่นๆที่เริ่มตวัดเลียปลายส่วนบนเบาๆ ยิ่งแทบทำให้คราง เชี่ยคิงส์สอนมาดีงั้นดิ ผมเองก็ไม่ได้หึงหรือว่าอะไรหรอกดีซะอีกที่เชี่ยคิงส์สอนมาซะขนาดนี้ แต่บางทีมันก็ควรรู้ อาจารย์ไม่จำเป็นต้องมีคนเดียว แต่คนที่จะเป็นอาจารย์คนสุดท้ายของมัน มีแค่ผมคนเดียว........


..............
.........................


...
ผมหอบหายใจลึกก่อนจะประครองหน้านวลนั้นให้พ้นจากน้องชายผม อืมส์...ช่วงที่ริมฝีปากนั้นหลุดออกมาจากแท่งโคน เสียวสุดยอด...ดึงตัวบัส ขึ้นมาได้ผมก็ขึ้นคร่อมทาบเจ้าตัวนิ่มทันที Sex แนวเชี่ยคิงส์ผมรู้หมดแล้ว ถึงจะเคยลองกันมาแค่ไม่กี่ครั้งก็เถอะ การสอนศิษย์ที่ผ่านมือเชี่ยคิงส์เลยไม่ใช่เรื่องยาก ผมแค่อยากสอนในสิ่งที่เชี่ยคิงส์ไม่ได้สอน ‘การถูกเอาใจ’เชี่ยคิงส์สุดยอดเรื่องนี้ก็จริงแต่มันยังขาดอยู่มันได้แต่ทำตามอารมณ์ดิบของมัน ไม่เคยสนใจหรอกว่าไอ้คนที่กอดอยู่รู้สึกอย่างไร ถ้าเดาไม่ผิดบัส ไม่เคยเสร็จกับมันแน่ๆ และก็น่าจะเป็นตามคาดเพราะ พอผมจะก้มลงไปไล้เลียช่วงล่างให้เจ้าตัวแสบ ก็จับไหล่ผมขืนไว้ซะงั้น

“ไม่เอาสกปรก....”

หน้าตาเจ้าตัวน้อยตอนนี้ดูน่าฟัดโครตๆ คงทั้งอายทั้งคาดไม่ถึงที่ผมจะทำให้ ก็งี้ล่ะอยู่กับเชี่ยคิงส์ คงทำให้มันตลอดอะดิ แต่ไม่เป็นไร อยู่กับป๋า ป๋าจัดให้คุณหนูตัวน้อย....

...จะทำให้หลงจนถอนตัวไม่ขึ้นเลย ที่รัก... ผมกดจมูกลงฝังกับเนินปุยขนแล้วค่อยๆลากลิ้นพร้อมๆกับเม้มปากชิมแท่งเนื้อนั้นเบาๆ เสียงครางของคนตัวเล็กมีมาไม่ขาด แต่ก็นั่นตอนนี้อารมณ์ใคร่มันมีมากว่าอารมณ์รัก เล่นไปได้สักพักผมก็อยากจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ควานหาถุงยางในโหลที่วางอยู่ใต้กระจก อย่าถามว่าทำไมถึงมี ของอย่างนี้มันต้องเตรียมพร้อม คอนโดนี้มีผมกับพวกไอ้เรด แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่กันตามภาษาชายโสด พวกเราเป็นนักดนตรี..วันไหนจะอารมณ์ดีควงสาวกลับมาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก....

.
...
แต่....

.....
.............เรื่องถุงยางทีซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆในคอนโดไอ้เรดนี้.....ไอ้บัพไม่เคยรู้ ถ้ามันรู้ผมคงได้ตายคาตีนมันแน่...  

หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!48 # Can’t hold. อดไม่ได้..[2]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 01-05-2012 13:39:03
บทที่ 48  # Can’t hold. อดไม่ได้...กินเข้าไปซะแล้ว [2]


“บัสใส่ให้ที...ใช้ปากนะ”


..ผมกระซิบบอกเจ้าตัวเล็กที่นอนหายใจถี่ บัสพยุงตัวเองขึ้นมาแล้วแกะซองสีเงินออก คาบของที่อยู่ในซองไว้ในปากแล้วก้มลงมาครอบรูดเข้ากับน้องชายผม.........

อย่าให้บรรยาย ...สุดๆ...

ผมเลื่อนตัวขึ้นมากลางหว่างขาคนตัวเล็กแล้วแล้วแทรกแท่งเนื้อกลางลำตัวเข้าไปแทน โอ้ย...แน่นสุดๆ เสียว สุดๆ แต่ทำไมมันคับอย่างนี้อะครับ? นี่ครั้งแรกของผมเลยนะเนี้ย...

‘สัด!!เจ็บ!!’

“อื้อ!! พี่ภินทร์!! บัสเจ็บ!!”

ชะงักเลยครับเจอปัญหาแล้วดิ แมร่ง!!ลืมใส่เจลนี่หว่า สัดเอ้ย!!ใครจะไปทันคิดสถานการณ์อย่างนี้ใครจะไปเตรียมทัน จะหยุดก็ไม่ทันจะไปต่อก็เจ็บ เจ็บทั้งผมทั้งบัส เอาไงดี!!!

แก้สถานการณ์ไปก่อนแล้วกันแม่ง ไอ้ภินทร์ ทำเชี่ยไรไม่คิดหน้าคิดหลัง!!! ผมดึงลำของตัวเองที่เข้าไปได้แค่ส่วนปลายออกมา แล้วตั้งหน้าตั้งตาฟัดเลียร่างคนตัวเล็กที่อยู่ใต้แผ่นอกผม กะไม่ให้ได้หายใจกันเลยทีเดียว มีอะไรท่าไหนประเคนให้หมดยกเว้นน้องชายของผมที่ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในตัวของบัสเท่านั้น....อดทนอ่อยเหยื่อไว้ก่อน.....ไอ้ภินทร์ เอ๋ย........
........................

..ย้ายมาบนเตียงกว้างขนาด คิงส์ไซต์ของพวกไอ้เรด
...
................... ตอนนี้ผมจับบัสมานั่งบนตักตัวเองแล้วค่อยๆ ขยับมือรูดน้องชายบัสขึ้นลงหลวมๆเพราะตอนนี้น้องชายมันร้อนได้เรื่องแล้ว ลิ้นผมเองก็ไม่ได้ว่างเพราะมัวแต่กัดเม้มไหล่เล็ก และเลียใบหูนิ่มที่แดงจัดนั่น สุขโคตรๆ สักพักเจ้าตัวเล็กก็สั่นครางเร่งให้ผมทำเร็วขึ้น คำพูดที่เริ่มจะไม่ได้ศัพท์ทำผมรู้เลยว่าบัสจะไปถึงสวรรค์แล้ว บัสหันหน้ามาจูบผม ผมก็ตอบกลับไปอย่างร้อนแรง จนอึดใจ บัสถึงสั่นเกร็งเกือบจะปล่อยเมือกขุ่นออกมา แต่ผมบีบตรงส่วนหัวน้องชายบัสไว้ก่อน

“เรียก ภินทร์สิ...”

คืออารมณ์ตอนนั้นยังอยู่ในโหมดหวงครับตอนนี้บัสเป็นของผม ริมฝีปากแดงนั่นก็ต้องเรียกชื่อผมตอนเสร็จไม่ใช่หรือ? ถ้าไม่ได้ยินมันก็ไม่สบายใจ...... เพราะคิดไปถ้าบัส หลับหูหลับตามีอะไรกับผมโดยคิดว่าผมเป็นเชี่ยคิงส์ ทุกอย่างที่ทำมามันก็จบ....

ริมฝีปากอิ่มนั้นเม้มเข้ากันจนเป็นสีแดง รู้ว่าทรมานขนาดไหนแต่ถ้าไม่เรียกผมก็ไม่ปล่อยเหมือนกัน ผมใช้อีกมือไล้เล่นหัวนมที่ชูชันก่อนบีบเบาๆ แต่ตอนนี้สำหรับบัสมันคงยิ่งทั้งเสียวทั้งทรมาน

“ภินทร์...ปล่อยบัสนะ ช่วยบัสทีนะ”

แค่นั้นก็จบน้ำเสียงหวานนั่นเท่านั้น ผมบีบยอดอกนั่นแรงขึ้น มืออีกข้างก็กำให้แน่นกว่าเดิมเพื่อค่อยๆเร่งจังหว่ะขึ้นลงของลำท่อนร้อนใบมือ จมูกนั้นฝังเข้าไปที่ลำคอบัสเหมือนตัวเองจะออกซะเองทั้งๆที่ผมไม่ได้สัมผัสส่วนนั้นของตัวเองสักหน่อย

“ภินทร์ ภินทร์ จะออกแล้ว ภินทร์...อ๊า...ภินทร์!”

บัสเรียกชื่อผมชัดตอนกระตุกเกร็ง ปล่อยน้ำเมือกสีขุ่นออกมาเต็มผ่ามือ ร่างเล็กนั้นเอนซบกับอกผมเต็มตัว เอาล่ะถึงเวลาเก็บดอกเก็บผลสักที...

...............ผมไล้ลูบเมือกขุ่นที่เปรอะเต็มหน้าท้องและช่วงขาบัสลูบวนจนมาสุดที่ช่องทางแคบนั้นลงใส่นิ้วกลางเข้าไปก่อนโดยอาศัยความลื่นของเมือกนั่นช่วย บัสเองสะดุ้งนิดหน่อยแต่เพราะคงเพิ่งเสร็จเลยไม่มีแรงต่อต้านมาก นิ้วที่สองเป็นนิ้วชี้ที่ผมไล่วนๆรอบทางเข้าแต่ไม่วายเล่นนิ้วกลางเข้าออกช้าๆ ตามไปด้วยง่ายครับ แต่ทรมานตัวเองที่จะต้องมาฝึกความอดทนอย่างนี้ แล้วก็ไม่ไหวครับ น้องชายผมไม่อยากรอแล้วผมเองก็เหมือนกัน ผมถอนนิ้วสองนิ้วนั้นออกมาแล้ว ยกตัวบัสขึ้น.....

เหมือนรู้งานครับ บัสพยุงตัวขึ้นแล้วค่อยๆกดน้องชายผมที่อยู่ข้างล่างให้ค่อยๆเข้าไปในช่องทางลื่นๆที่อาศัยเมือกขุ่นเป็นตัวช่วย

“ได้ไหม...?”

เสียวสุดๆครับตอนบัสค่อยๆกดลำตัวลงมา มันทั้งรัดทั้งแน่น ทั้งร้อน ทั้งเสียว อาจมีเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ไม่เท่ากับความเสียวที่มากกว่า บัสหยุดอยู่แค่นั้นทั้งๆที่ยังไม่สุดลำโค่นเดาว่าน่าจะเจ็บครับ เอ่อ...ตอนนี้อารมณ์มันเตลิดไปไกล ผมเลยยกสะโพกตัวเองส่วนขึ้นไปพร้อมกดเอวบัสลงมา บัสครางเสียงดังในขณะที่ผม เกร็งตัว

โอ๊ย....... สุขก็สุขเสียวก็เสียว เรานั่งนิ่งกันอยู่ท่านั้นให้บัสปรับตัวก่อนผมจะค่อยๆจับสะโพกบัสให้เป็นไปตามจังหวะ ตอนนี้เราอยู่ในท่าที่บัสนั้งซ้อนอยู่บนตักผม ตอนแรกผมว่าจะให้บัสขยับเองเพราะจะได้รู้ว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ แต่พอเอาเข้าจริงผมก็กลับทนไม่ได้ผลักไหล่เล็กนั้นให้ก้มตัวลงแต่ยังคาลำท่อนของตัวเองไว้ข้างใน ยกสะโพกคนตัวเล็กขึ้นให้อยู่ในท่าคลาน จับช่วงเอวนั่นไว้แล้วค่อยๆส่วนกดสะโพกตนลงไป ชอบที่สุดครับสำหรับท่าลูกหมา สมองมันว่างไปแล้วครับได้ยินแต่เสียงครางกับเสียงเนื้อกระทบกัน

แม่ง!!!... พอทำแล้วก็ไม่อยากหยุดซะงั้นตอนนี้ผมเร่งจังหว่ะและแรงกดให้มากขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันก็ถี่ขึ้น เกือบจะถึง สวรรค์แล้ว...................

.................ถ้าไม่มีเสียงมารมาซะก่อน!!!!


'ที่จริงแค่เขินก็พูดมาเหอะ อายเล็กน้อยก็พูดมาเหอะ แอบปลื้มก็พูดมาเหอะ มันช่วยไม่ได้นี่นา ปลอมตัวมายังรู้ ซ่อนไม่อยู่หรอกแววนางฟ้า แสงของเธอมันพุ่งเข้ามาใส่กัน แฟนเธอจะมีไหม ไม่ได้สนใจไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่มีปัญหา คบด้วยตาแล้วกัน ไม่ผิดกฎหมาย

ถูกอกถูกใจก็เลยต้องมอง จ้องนานเป็นธรรมดา ขอเป็นแค่ชู้ทางตาหน่อยได้ไหม ไม่เจตนาจะกงจะกวน หรือว่าชวนไปทำอะไร
ก็แค่รักเธอด้วยสายตา

แฟนเธอไปอยู่ไหน ไม่ได้สนใจไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่มีปัญหา กิ๊กด้วยตาเท่านั้น ไม่ผิดกฎหมาย '
……

ไอ้สัด!!!

เลือกเวลาโทรมั้งดิ ผมค้างอย่างแรง!!! เสียงโทรศัพท์ หัวเตียงดังขึ้นไม่ยอมหยุดผมเองก็ไม่ยอมหยุด จนหมดความอดทนผมถึง ขยับตัวเข้าไปใกล้หัวเตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ โดยหนีบไว้กับหูและไหล่ตัวเอง ขณะท่อนล่างก็กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะไปด้วย สามารถจริงๆกู....

“ครับ ภินทร์ครับ...อ๊า...ซี๊ด...”

เผลอหลุดครับ บัสรัดซะแน่นกว่าเดิมตอนรู้ว่าผมดันรับโทรศัพท์ คงเพราะบัสพยายามเก็บเสียงครางของตัวเองด้วย

“ทำเหี้ยไรอยู่รับช้าจัง?”

เสียงปลายสายบ่นมาแต่สมองไม่รับรู้ครับ แม่งใครว๊ะ !!!?

“ใครครับ...?”

ผมถามเสียงพร่า แต่เสียงเนื้อกระทบกันก็ยังเป็นจังหวะ

“กูเรดไง...ทำเชี่ยอะไรอยู่ว๊ะเสียงแปลกๆ”

โธ่!!เชี่ยเรด!!!!

“มีไรมึงเดี่ยวอีก สิบนาทีกูโทรกลับ ตอนนี้ไม่สะดวก อ๊า....ซี๊ด เชี่ยเอ๋ย!”

ผมเผลอครางออกไปอีกครั้ง แม่ง!!เสียวจนนึกคำพูดแยกประสาทไม่ได้แล้วเชี่ยเสือกโทรมาทำไมว๊ะ!! ไม่ไหวแล้ว..กำลังจะกดวางแม่งเชี่ยเรดก็ห้ามไว้ซะงั้น

“เดี๋ยว มึงห้ามวางคุยเรื่องพรุ่งนี้ก่อน ...แล้วทำเสียงเชี่ยไรแปลกๆว๊ะ พรุ่งนี้มึงต้องกลับมาที่ร้าน............”

มันพล่ามอะไรบ้างก็ไม่รู้ ผมเกือบไร้สติแล้วครับ แต่ก็วางไม่ได้ กะจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง กะอย่างนั้นจริงๆ สติสตังค์ไม่มีแล้วครับ จนหมดความอดทน กับมันกับตรงช่วงล่างก็ด้วยจะไปแล้ว...ผมเร่งแรงตัวเองจนบัสหัวสั่นหัวคลอนกับแรงกระแทก

“เรด...กูไม่ว่างคุย กูอยู่กับเด็กกู และตอนนี้อารมณ์กูขึ้นโคตรๆ ถ้ามึงไม่อยากเสียเพื่อนอีก สิบนาทีโทรมาใหม่”

ผมพูดไปหอบไปจะวางครับแต่ไม่ทัน ผมเร่งแรงกดลงหนักๆอีกสองสามที ก็กระตุ๊กเกร็งตัวปล่อยเมือกขุ่นกับเสียงครางออกมา ทั้งๆทียังหนีบโทรศัพท์ไว้ที่หู จบกันภาพพจน์กู..... ปลายสายเงียบไป มันคงเดาได้ว่างผมกำลังทำอะไรอยู่เชี่ยจากเสียงก็น่าจะเดาได้ตั้งนานแล้ว มารกูจริงๆ

“...งั้นกูวางนะ..เดี๋ยวโทรมาใหม่..”

“อ๊า...ซี๊ด...อืมส์...อ๊า...ไม่ทันแล้วมึง...อ๊า....อีกนิดนะครับ ”

ผมไม่สนใจอะไรแล้วตอนนั้นพูดกับบัสแต่ไม่สนครับว่าเสียงอ้อนนั่นดังเข้าไปในโทรศัพท์ด้วย ผมดันน้องชายเข้าไปสุดแรงแล้วถอนออกมาโหย.... หมดพลังงาน บัสฟุบลงไปกับเตียงขณะที่ผมทิ้งตัวลงมาพร้อมโทรศัพท์ มือควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ตัวดูที่หน้าจอไอ้เรดยังไม่เสือกวางสาย……

“ซี๊ด...เชี่ยไรมึง มาร... ว่ะ ขัดจังหวะกู ...ชอบฟังเซ็กส์โฟนหรอมึง...ไอ้จิต!...”

ผมพูดไปหอบไปเสียงโคตรพร่า แต่ไอ้ปลายสายที่ไม่ยอมวางยิ่งทำให้อยากคุยๆไปจะได้พักสักทีหลังจากปลดปล่อยคงหลับยาว

“เสร็จแล้วหรอมึง ...”

มันยังมีหน้ามาถาม เสียงกูหอบซะขนาดนี้...ยังมั้งมึง

“อา...เสร็จก็เพราะมึงล่ะ เชี่ยโทรมาไม่รู้เวล่ำเวลา อืมส์..”

ยังมีค้างนิดๆครับเพิ่งเสร็จใหม่ๆ จะครางจะอะไรก็ปล่อยมันแล้วครับ ป่านนี้เชี่ยเรดรู้หมดแล้วช่างแมร่งแล้วครับ

“แล้วกูจะรู้ไหมว่ามึงทำกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่ ยังเสือกรับอีกนะมึง”

“มึงกล้าโทรกูก็กล้ารับ”

ข่มมันครับข่มมัน 5555555+

“เสียงโครตเซ็กส์ซี่เลย ภินทร์ ครางให้ฟังอีกดิ”

“ตลกแล้ว...เชี่ยเรดอย่ายุ่งเด็กกู”

ผมว่ามันพลางกอดเอวบัสให้แน่นขึ้นอีก ผมหวงของผมแล้ว

“กูหมายถึงมึง...เสียงโคตiร้อนเลย”

“เชี่ย! คิดไรกะกู ฟ้าผ่ามึง!!”

“แล้วเด็กมึงไม่ว่าหรอวะคุยกับกูตอนนี้”

“ไม่มีแรงแล้วมั้งหลับไปแล้ว...แล้วว่าไงพรุ่งนี้อะไร พูดมาให้หมดกูจะนอนแล้วไม่ไหวง่วง..”

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 02-05-2012 17:36:07



   โอว. . . อ่านแล้วคิดถึงภังคียะจริงๆ




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 03-05-2012 08:30:31



    เย่ๆๆ ในที่สุดก็อ่านตามทันแล้วงับ
    หลังจากมาอ่านทบทวนอีกรอบ ชักรู้สึกว่าเรื่องเศร้าที่ยุ่งเหยิงของหนูภังคียะนี่เป็นฝีมือของเจ้าเสือสองหางตัวนั้นรึเปล่านะ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 03-05-2012 17:16:14
 :a5: จริงอ่ะ เพราะเสือน้อยน่ารักเรอะ (มาเบิ๊ดกะโหลกทีดิ๊)
sunshadow เก่งแฮะ o13
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 03-05-2012 17:22:05
อย่าเพิ่งว่าหมอเลย เดี๋ยวจะต่อมน้ำตาแตกซะก่อน อย่างที่เดากัน หมอเป็นคนปลุก ภัทร ขึ้นมา แต่ ภัทร ของหมอ เป็น ภัทร ที่หมอกลัวนะ ไม่ใช่ ภัทร ของ อะตรอม หุหุหุ เรื่องนี้มันโยงกับอีกเรื่องอยู่ อย่างว่า หล่ะ

"ต่อให้มันต้องกลับไปเริ่มใหม่อีกกี่ครั้ง พะเตรียง ก็จะไม่มีทางปล่อย ภัทร ไปไม่มีทาง!"

จุดจบของ ภัทร แต่ละคน มัน...  :z10:

***เกือบลืม ตามอ่านกันทันยังจะได้ลงตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshinesunrise ที่ 03-05-2012 22:33:39
ใช้เวลาในการตามอ่านตั้งแต่แรกมา1อาทิตย์ อ่านแล้วก็รู้สึกตัวเองสมองสั้น
หรือเพราะไม่ค่อยได้เจอแนวนี้ เลยไม่ค่อยเข้าใจ เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ ทา่ทางจะผูกปมหลายเงื่อน อ่านแล้วต้องมานั่งเรียบเรียง แต่ชอบนะ! (ถึงเราจะเข้าใจยากไปหน่อย) แต่เราจะตามอ่านต่อ พลอตน่าสนใจมาก เราตามอ่านทันแล้วล่ะ
อยากเชียร์คู่ตรินทร์โฆ แต่บทดูซับซ้อนเลยไม่กล้าเชียร์ กลัวแป้ก 555 สู้ๆจ๊ะ ตามอ่านเรื่อยๆเน้อ ;)
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 03-05-2012 23:57:55
คนเขียนจ๋า เค้าอ่านแล้ว งงๆ
สงสัยว่า ภัทร มีสองคนในหนึ่ง (ไม่รวม ภินทร์นะ) ใช่ไม๊
แล้วหมอปลุกภัทรทำไม เพราะ ตะบองพลำ หรือป่าว

อันนี้สำคัญมาก!!! รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :')
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 00:06:09
สปอยใหญ่หลวง ไม่อยากให้เดากันแบบงง

 ภัทร [จริงๆ] มี 2 เวอร์ชั่นเน้อ  ภัทร ที่ อะตรอมเจอตอนเด็กๆ นั่นภาคปกติ (ใครเพิ่งมาอ่านไม่ต้องตกใจครับยังไม่ได้ลงเรื่อง ส่วน FC.เก่าน่าจะอ่านกันแล้ว ) ส่วน ภัทร อีกคน เป็น ตะบองพลำ รายนั้นใช้ผู้หญิงเปลือง แถมใช้ 'หมอ' เปลืองด้วย แถมเลวสุดๆ อันนี้ไม่ต้องแจ้งรายละเอียด แต่ ภัทร ที่เป็นตะบองพลำเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะ เป็น ภัทร ที่ พระแพง [พะเตรียง] ไม่สามารถเดาอารมณ์ หรือล่อหลอกได้ สำเร็จ เป็น ภัทร ที่ ตรินทร์ เจอในทะเลน้ำตา ภัทร ที่เป็นกุญแจของเรื่อง   เป็น มลทิน ที่ หมอต้องให้ยากดประสาท ภัทร เพื่อกล่อมไม่ให้เสียงเต้นของหัวใจอีกดวงตื่นขึ้นมา เป็น ภัทร อีกคน ที่ ภัทร เองยังกลัว ตัวเอง
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 04-05-2012 04:14:09
สปอยใหญ่หลวง ไม่อยากให้เดากันแบบงง

 ภัทร [จริงๆ] มี 2 เวอร์ชั่นเน้อ  ภัทร ที่ อะตรอมเจอตอนเด็กๆ นั่นภาคปกติ (ใครเพิ่งมาอ่านไม่ต้องตกใจครับยังไม่ได้ลงเรื่อง ส่วน FC.เก่าน่าจะอ่านกันแล้ว ) ส่วน ภัทร อีกคน เป็น ตะบองพลำ รายนั้นใช้ผู้หญิงเปลือง แถมใช้ 'หมอ' เปลืองด้วย แถมเลวสุดๆ อันนี้ไม่ต้องแจ้งรายละเอียด แต่ ภัทร ที่เป็นตะบองพลำเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะ เป็น ภัทร ที่ พระแพง [พะเตรียง] ไม่สามารถเดาอารมณ์ หรือล่อหลอกได้ สำเร็จ เป็น ภัทร ที่ ตรินทร์ เจอในทะเลน้ำตา ภัทร ที่เป็นกุญแจของเรื่อง   เป็น มลทิน ที่ หมอต้องให้ยากดประสาท ภัทร เพื่อกล่อมไม่ให้เสียงเต้นของหัวใจอีกดวงตื่นขึ้นมา เป็น ภัทร อีกคน ที่ ภัทร เองยังกลัว ตัวเอง

     O_O" อ้อ เรอะ ไม่ได้สังเกตแฮะ
     สรุปว่าเดิม คนร่างเดียวก็มี 2 คนอยู่แล้ว
     พอมารวมกะตรินทร์เลยกลายเป็นร่างเดียว 4 คนไปเลยทีเดียว!!!



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 49 #I am ,What am I ?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 10:46:56
บทที่ 49 I am ,What am I ?



อย่างที่คุยกับเรดเมื่อคืน...เช้ามาแทบไม่อยากลุกจากเตียง แต่ต้องฝืนปล่อยมือออกจากเจ้าตัวนิ่ม เพราะเชี่ยเรด ยังโทรมากวนไม่เลิก แต่ก็ใช่ว่าจะลุกได้ทันที...ผมยื้อไว้จนวินาทีสุดท้ายว่างั้นเถอะ

.....
..............
   
จนมาถึงช่วงบ่ายที่ผมพอจะมีแรงลากสังขารมาที่ร้านพี่นพอีกครั้ง เอ่อ...ความจริงก็อยากอยู่กับบัสมากกว่าครับแต่ บัสมีสอบผมเลยทำได้แค่แวะไปส่งเจ้าตัวเล็ก...ก่อนท่อสังขารมาที่ร้าน ไอ้เรดเองก็ไม่พูดสักทีว่าให้มาที่ร้านทำไม พอเดินเข้ามาถึงข้างในก็รู้งานครับผม ปาร์ตี้เมื่อคืนยังคงมีร่องลอยอยู่ เพราะยังมีเพื่อนๆที่ผมคุ้นหน้าอยู่ในร้าน เดินทักทายเพื่อนๆเอาเท่าที่พอจำได้จำใครไม่ได้ก็อาศัยเนียนเอา จนสะดุดที่ผู้หญิงคนหนึ่งเธอเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ตัวสูงพอๆกับผมเลย น่าตาก็ เอ๊กส์โคตร ดูท่าแรงส์ไม่เบา เกือบจะเดินตามไปครับถ้าไอ้เรดไม่ฉุดไว้ก่อน..............

.........................

.
.
.

“ของไอ้โฆมัน...”

ไอ้เรดกระซิบข้างหูผม แต่ไม่วายเบาลมเข้ามาด้วย ......

เล่นอย่างนี้มึงเลียหูกูเลยดีกว่าไหม??!!

“สรุปมึงให้กูเลิกกิจกรรมเข้าจังหวะเพื่อมาดูเด็กไอ้บัพ...จำเริญมึง!!”

ผมดีดหน้าผากมันไปทีโทษฐานไม่ได้เรื่อง....

การที่ไอ้บัพมันจะมีเด็กสักคนมันแปลกตรงไหน ? มันไม่มีดิแปลกหน้าตางี้...หุ่นงี้....แมร่ง ถ้าผมยังเป็นผู้หญิง ผมก็มอง ต่อให้ตอนนี้เป็นไบฯ ผมยังมอง ติดก็แต่สันดานมัน ที่ทำให้ผมเกลียด ถึงไม่อยากยุ่ง แต่ว่าไปผู้หญิงคนนั้นก็ดูท่าทางใช้ได้ ผมมองเองยังอยากได้เลย ถึงผมจะชอบแบบหวานๆนิ่มๆ แต่บางทีจะให้กินของหวานทิ้งของคาวมันก็ไม่ใช่เรื่อง...จริงไหม ?

“ชื่อ โฟร์ท เป็นลูกครึ่งอิตาเลี่ยน อายุ 19...[บลาๆๆๆๆๆ]”

ข้อมูลเริ่มทยอยมาจากปากไอ้เรดที่บอกไปเทเหล้าไป

รู้ใจผมจัง.......เหล้าผสมโค้ก สัด! กูแดกเบียร์ผสมสไปรท์ ผมเลื่อนมือปัดแก้วเหล้าที่มันผสมให้ออกแล้ว ยกมือเรียกเด็กในร้านมาสั่งเบียร์กับสไปรท์ ไอ้เรดมองงงๆก่อนจะกระดกแก้วที่มันเพิ่งผสมให้ผมเข้าปากตัวเอง....

ประสบการณ์การดื่มเหล้าครั้งสุดท้ายไม่น่าจดจำเท่าไหร่ มึงอย่าให้กูรื้อฟื้นความหลัง

มองเป้าหมายอยู่นานครับจนหมดความอดทน น้องโฟร์ท อยู่นี้แล้วไอ้บัพอยู่ไหนวะ? ไม่ได้สนใจครับแช่งแมร่ง ดื่มเข้าไปสองสามอึก เบียร์เริ่มทำปฏิกริยากับใบหน้า หน้ามันร้อนๆด้านๆชอบกล มองไปเพิ่งจะบ่ายสามโมงในร้านยังไม่ค่อยมีคนครับ ดนตรีสดก็ยังไม่เล่น มีแค่ ดนตรีที่เปิดคลอเบาๆ ผมนึกสนุกเลยคว้ามือไอ้เรดเดินไปขอกีตาร์จากพี่นพบอกความต้องการแกก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมกับไอ้เรดเลยยึดเวที โดยที่ไม่มีการแนะนำตัวใดๆทั้งสิ้น เพราะส่วนมากก็รู้จักคุ้นหน้ากันหมด เพลงแรกหันไปถามไอ้เรดแล้วว่ามันคลอกีตาร์ได้ เท่านั้นก็เริ่มเลยครับ

[เจ้าชู้ทางตา]
http://www.youtube.com/watch?v=ndmso3JNs14.mp3

ร้องไปมองน้องโฟร์ทไป ยังไม่เห็นเงาหัวไอ้บัพ ยังเล่นได้อยู่ครับ ไอ้เรดก็เล่นดีซะขนาดมีแค่กีตาร์มันยัง เล่นให้ผมร้องซะอินในอารมณ์ เสียงควายๆมีกีตาร์ไอ้เรดช่วยทำให้ดูดีขึ้นเยอะ เพลงต่อไปผมบอกจังหวะไอ้เรด ซ้อมอยู่สักพักถึงเล่นจริง

[TE AMO ของ Rihana]
http://www.youtube.com/watch?v=Oe4Ic7fHWf8&ob=av3e.mp3

ก็เจ้าของพิสซ่าไม่อยู่นิครับ พวกผมก็เล่นซะ....

เพลงนี้ผู้ชายอย่างผมร้องคงฟังดูแปลกๆ แต่มันก็เพราะดีเหมือนกันเกือบครึ่งเพลงไอ้บัพถึงโผล่ออกมา มาถึงก็โอบเอวเด็กมันเลยครับ ผมได้แต่หันไปมอง ไอ้เรดเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่ตอนนี้ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เล่นจนจบครับ กะว่าจะเลิก.....แต่พอไอ้เรดถามว่าจะเล่นเพลงอะไรอีก ปากมันก็ไม่ทันคิดเหมือนไม่ใช่ตัวเอง คงมึนๆอยู่ๆผมก็ตอบไปเฉยๆซะงั้น

[Cantaroot-เพลงที่ 7]
http://www.youtube.com/watch?v=fNVS4eVW4tQ.mp3

เพลงที่ออกจากปากกับชื่อวงให้บอกอีกทีก็จำไม่ได้แล้วครับ อยู่ๆเพลงนี้มันก็ผุดขึ้นมาเอง แล้วกูจะร้องได้ไหมเนี้ย พอไอ้เรดขึ้นอินโทรมามันก็เป็นไปเองครับผมมึนๆตึงๆ แต่สายตากับปากมันกลับทำหน้าที่ของมันไปเอง สายตาผมตอนนี้เหมือนมาร์คให้มองแค่ไอ้บัพกับน้องโฟร์ ร้องไปซะจนเพลงจบ ว่ามันเพราะดีแต่พอนึกเนื้ออีกทีจำไม่ได้ครับ??!! จบเพลงนี้ยังไม่หยุดไม่รู้ผมหันไปหาไอ้เรดตอนไหนไม่รู้แถมยังให้มันเล่นอีกเพลง

[เมื่อฉันทำให้เธอแล้วทุกอย่าง]
http://www.youtube.com/watch?v=iz15dQmn_Po.mp3

เพลงโครตเศร้า เพลงใครวะแล้วกูร้องได้ไง? ไม่รู้ว่าเพราะเนื้อหรือทำนองอยู่ๆน้ำตาผมมันก็ไหลออกมาซะอย่างนั้น ไม่มีแรงแม้แต่จะเช็ดออก มีแต่ก้มหน้าร้องต่อไป หัวใจมันหดหู่มากเลยครับ แต่ยังเสือกฝืนร้องจนจบโดยไม่มองหน้าใครอีก...บอกไอ้เรดให้พอแล้วเดินลงมาจากเวที มีเสียงตรบมือจากเพื่อนๆนิดหน่อยพอเป็นกำลังใจ แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจผมมันหดหู่เหลือเกินกับเพลงๆนั้น จนไอ้เรดเดินมาโอบไหล่ ถามว่าเป็นอะไรผมเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน เลยแถไปว่าเพราะมันเล่นกีตาร์เพราะทำนองเศร้าโคตรๆผมเลยร้องไห้

“ไอ้อ่อนไหว!”

มันว่าแค่นั้นแล้วขยี้หัวผม ก่อนจะเดินนำผมไปหาพี่นพที่โต๊ะ นั่งดื่มกันต่ออีกสักพัก หันไปอีกทีไอ้บัพกับเด็กมันหายไปแล้วครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะหันไปมองหามันทำไมจะว่าเพราะอยู่บ้านเดียวกันก็ไม่น่าใช่ผมกับมันอยู่บ้านเดียวกันก็จริงแต่ห่างกันมากยิ่งผมมีสิ่งยั่วอารมณ์หลากหลายการที่จะได้คุยกับมันแต่ละครั้งเลยยากยิ่งมันเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ติดลบ ผมยิ่งขี้เกียจคุย...

เราเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่แถมยังมองหน้ากันไม่ติดเพราะมันรู้ว่าผม ‘ไม่ใช่...’ เจอกันทีเลยเข้าหน้ากันยากทั้งที่เมื่อก่อนอยู่บ้านเดียวกัน

มัวคิดอะไรเพลินๆ ไอ้เรดก็สะกิดให้เข้าไปล้างหน้าล้างตา เพราะพี่นพกับเพื่อนมองหน้าผมแปลกๆแล้ว....

สาเหตุน่าจะมาจาก...ต่อมน้ำตาผมยังไม่หยุดครับ มันไหลเอ่อออกมาเรื่อยๆโดยที่ผมเองก็ห้ามตัวเองไม่ได้ คงเป็นเพราะเบียร์กับเพลงเศร้าๆ ผมบอกตัวเองอย่างนั้น......ตัดสินใจฝากโทรศัพท์ไว้ที่ไอ้เรดแล้วขอตัวเดินเลี่ยง ออกไปทางห้องครัวหลังร้าน ไม่อยากไปใช้ห้องน้ำแขกตอนนี้ เดินมาถึงเปิดประตูเข้าไปก็ตะลึงครับ...

.
.
.


...

หนังสด!!!

หนังสด...กำลังออกอากาศ น้องโฟร์ทกำลังขยี่ปากสีแดงอิ่มกับไอ้บัพ.....

โห่! ....เห็นเงียบๆไอ้บัพก็ใช่ย่อย มือมันล้วงเข้าไปใต้บรา ที่มองดูน่าจะคับ D ถ้าไม่มีการเสริมอ๊อฟชั่นอย่างสาวไทย มองผ่านๆครับกะจะปิดประตูห้องครัวให้มันทำภาระกิจต่อเนื่องด้วยเข้าใจความรู้สึกต่อโดนขัดกิจกรรมในร่ม.... ก็เพิ่งโดนไปช่วงเช้ามาหมาดๆนิครับ... ซึ้งถึงหัวอก
..


..กำลังจะปิดประตูหัวใจก็เหมือนหล่นวูบ!!!


… ร่างกายไม่มีแรงอะไร........



...ไม่มีแม้กระทั่งแรงจะหายใจ...

ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรมันเกิดขึ้นเร็วมากรู้ตัวอีกทีผมก็ทรุดกลิ้งลงไปกองที่บันไดพื้นห้องครัวแล้ว ผมขยับไม่ได้.....เนื้อตัวเหมือนไร้ความรู้สึกหัวใจมันเต้นแรงขึ้น... แรงขึ้นจนแทบจะระเบิด ในขณะที่ผมได้แต่สำลักไอ ไม่ว่ากอบอากาศเข้าไปเท่าไหร่ก็เหมือนไม่พอ เหมือนคนกำลังสำลักน้ำและตอนนี้ผมกำลังตะเกียกตะกายพาตัวเองขึ้นมาจากผิวน้ำ ที่มองไม่เห็น....

จากเสียงตะเกียกตะกายที่ดังพอสมควร ไอ้บัพวิ่งเข้ามาดูผมขณะที่ไอ้เรดเปิดประตูตามเข้ามาพอดี หลังจากนั้นก็บรรดาเพื่อนๆที่ต่างทำหน้าที่เป็นไทยมุง...สัด!! เอ้ย!! เอาแต่มองช่วยกูก่อนดิ๊!! ….
ผมถูกหามออกมาอย่างทุลักทุเลขึ้นไปที่ชั้นสองของห้องซ้อมส่วนตัว กว่าจะปรับตัวให้หายใจยาวๆได้เกือบตายแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังสำลักไออยู่ดีแม้จะไม่หนักเท่าตอนแรกก็เถอะ ทรมาน...... ทรมานกับอาการนี้…
...
.
....ทรมาน......จนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ เรี่ยวแรงเหมือนโดนสูบออกไปหมด

ผมไม่รู้ว่าไอ้อาการนี้เรียกว่าอะไรแต่มันกำลังจะฆ่าผม..
..


.....
...เรดยัดอะไรบางอย่างใส่ปากผมแล้วให้สูดหายใจลึกๆ ทำได้กูก็อยากทำ...


.
.
.


แต่ตอนนี้แค่แรงจะหายใจยังไม่มี ผมรำคาญตัวเองแต่ก็ยังพยายามทำตามที่มันบอก เหมือนว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ผมรอดจากอาการที่เป็นอยู่...ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่กว่าผมจะรู้สึกดีขึ้น ทุกอย่างดูโล่งไปหมดแม้แต่สมองผม ........................

………



..นานเกือบชั่วโมงกว่าทุกคนจะแยกย้ายออกจากห้องชั้นสอง เหลือแต่ไอ้บัพที่เฝ้าอยู่มันนั่งมองหน้าผมโดยไม่ละสายตา แววตาเศร้าๆนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ รู้ตัวอีกทีผมก็โน้มคอเสื้อมันลงมาแล้วกัดเข้าที่ริมฝีปากมันจนได้กลิ่นเลือด ลิ้นร้อนๆของผมค่อยๆเลียเลือดที่ไหลซึมนั่นโดยที่มันไม่ขัดขืน ...ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูมัน

“ขยะแขยง...มึงกำลังจะฆ่ากู...อีกครั้ง...มึงกำลังลบกูออกไป อีกครั้ง...”

ไม่รู้ผมละเมอพูดบ้าอะไรออกไปหลังจากนั้นทุกอย่างมันก็มืดไปหมด ไม่รู้สึกอะไรเลยสักอย่าง รู้แต่ผมเศร้า.....เศร้ามากๆ เศร้าจนแทบอยากหยุดหายใจ ทรมานจนอธิบายไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร... ผมได้แต่สงสัยตัวเอง นี่เป็นผม.....

..............
............................

หรือเป็น ตรินทร์.....


……………………………………






[แถม]






‘ สนิมเกิดแต่เนื้อในตน กัดกร่อนห่อนจน...ตัวตน....ค่อยๆมลาย............'


ผืนน้ำสีครามเขียวที่สูงเสมอข้อเท้า….ผมกลับมาอยู่ที่นี้อีกแล้ว...

มือนิ่มไล้ลูบแก้มผมแผ่วเบา ซ้ำไปซ้ำมา กว่าผมจะรู้สึกตัวว่านอนหนุนอยู่บนตัก ‘เธอ’ มันก็ไม่อยากที่จะขยับตัวเสียแล้ว...

“ภัทร...”

ผมเรียกชื่อนั้นอย่างอ่อนแรง...น้ำตามันไหลออกมาอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอ่อนแอต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว..... ครอบครัว...หึ! ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้วสินะ สำหรับคนที่จะเรียกว่า ครอบครัว... ผมถูกปฎิเสธ ทั้งจากคนที่เคยเป็นพ่อ... ทั้งจาก คนที่เคยคิดว่ามันจะรอแค่ผมคนเดียว...ผมผิดอีกแล้วสินะที่คิดผูกหัวใจไว้กับเท้ามัน...

“...ถ้าเหนื่อยก็พัก.....ฝืนต่อไป......ถ้าไม่ไหวก็ต้องหยุด.....”

มือเย็นยังคงค่อยๆลูบแก้มผมเหมือนปลอบประโลม ภัทร.. เหมือนมีเวทย์มนต์ที่ทำให้ผม สงบได้อย่างง่ายดาย... น้ำตาผมหยุดไหลตั้งแต่ปลายนิ้วนั้นเกลี่ยน้ำตาผมออก....

“ตรินทร์รู้ไหม ภัทร กับ ตรินทร์ ต่างกันตรงไหน ?

ผมนิ่งไปสำหรับคำถามนั้น ต่างกันตรงไหน ?

“ต่างกันเกือบทุกอย่าง... ”

นั้นคือคำตอบของผม...แล้ว.. รอยยิ้มบางบนใบหน้าภัทรก็ทำให้ผมเริ่ม....ผ่อนคลาย...

“เรา..ไม่ต่างกันหรอก ตรินทร์ ‘เรา’ เป็น ‘เรา’ เราเป็นคนๆเดียวกัน…เหมือนกับวันนี้..ถ้าตรินทร์ ทรมาน...ภัทรก็ไม่ต่างกัน...

แต่ ...

..มีอย่างเดียวที่ภัทรไม่เหมือนตรินทร์ ...

ภัทร ไม่เคยฝากหัวใจไว้ที่ใคร... ภัทร ไม่เคยคิดจะทิ้งตัวลง...ทะเลน้ำตานี้..... เหมือนอย่าง ตรินทร์ ......ภัทร ไม่เคยเป็นตัวเลือก...ภัทร เคยแต่เป็นคนเลือก.....

..............
............................

ขอร่างนี้ให้ภัทร...นะ..ตรินทร์ ....แล้ว ภัทร ก็จะทำให้ ตรินทร์ ได้เห็น...

....
.

........สำหรับบัพ.....


ที่บัพทำกับตรินทร์ ...บัพ..ต้องชดใช้...


ภัทร จะไม่ให้บัพมีใคร ....
...........



...นอกจาก ตรินทร์ !!!! ”



 


 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 04-05-2012 11:17:17



    ตอนใหม่มาแล้ว ลันล้า




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 04-05-2012 11:32:15
นิยายอื่น เขามีสองคนในร่างเดียว แต่เรื่องนี้ซับซ้อนกว่านั้น
ร่างภัทร มีภัทรปกติ กับภัทรตะบองพลำ
ร่างตรินทร์ มีตรินทร์ กับภินทร์
ตอนนี้เจ้าของร่างตัวจริงทั้งคู่โดนอัปเปหิไปเม้ามอยกันอยู่ทะเลใจ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: Phijarana ที่ 04-05-2012 11:41:35
ติดตามอ่านอยู่นะคะ สู้ๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 04-05-2012 12:38:58
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 50 #สมการเส้นขนาน [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 19:55:21
บทที่ 50 #สมการ....เส้นขนาน(พิเศษวันแห่งรัก)

‘รักแท้ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว……
ตนหนึ่งตะเกียกตะกายไขว่คว้า หากรักนั้นหลุดพ้นปลายมือ...
ตนหนึ่งปล่อยทิ้งรัก เพียงคิดว่ามันจะกลับคืนด้วยตนเอง...
ตนหนึ่งละทิ้งทุกสิ่ง เพียงสิ้นศรัทธา...
หากมิเคยคิด รักนั้นเฉกเวรัมภา มันจะกลับมาด้วยตนเอง
มิใช่ด้วยการล่อลวงหรือกฎเกณฑ์
รักนั้นมิสนใจคำร้องขอ คำวอน หรือคำสั่ง มันไปด้วยใจของมัน มันลืมทุกสิ่งที่อยากลืม’
..............
............................


ต้นไม้ครึ้มที่เหมือนเป็นปราการ บดบังแดดร้อนที่ส่องเข้ามา...เงาของแมกไม้ดั่งโอบประคองบ้านไม้สองชั้น สีฟ้าเทอควอย์....
...
.. กลิ่นใบเตยหอมจางๆ ลอยเอื่อยไปทั่วบริเวณบ้าน...สายลมพัดผ่านกอบัวผันสีชมพูสด....เล่นเริงระบำกับเกสรบัว...พาเกสรสีเหลืองอ่อนไล้ลิ่วลอยเข้าหน้าต่างชั้นสอง......สายลมหมุนคว้างเมื่อไม่สามารถหาทางทะลุออกจากบานประตูเหล็กกล้า... พาให้เกสรละอองเหลือง..... เหมือนโดนปล่อยให้ล่วงลง...แตะริมฝีปากอิ่ม..

....
...ร่างของหญิงสาวนอนนิ่ง ไม่ไหวติง จะมีก็แต่เสียงลมหายใจ และหัวใจที่ยังเต้นอย่างแผ่วเบา... แค่นั่นก็พอเป็นแสงแห่งความหวัง ร่างนั้นยังมีชีวิต.

......
..
..แม้
......
.
....
จะไร้วิญญาณ....


..


..มือนิ่มถูกกุมไว้เสมอยามเจ้าของแววตาสีเงินนั่งเคียงข้าง...อีกนานแค่ไหน ถึงจะพบ อีกนานแค่ไหน.....เราเหนื่อยเหลือเกินแล้ว กลับมาเสียที...

“ภัทร...”
.................................................
.................
..........................
.

[อดีต] 5 ปีที่แล้ว .....
..
เกือบตีสองแล้ว.... แต่สายตาสีเงินวาว...ยังไม่ยอมถอนออกจากหนึ่งในกลุ่มของนักเที่ยว..ที่.. วาดลวดลาย ใกล้เวทีแสดงสด...

“ถูกใจ..หรือ หมอ? เอากลับไปกินที่บ้านก็ได้ แต่ถ้าสนใจจะเปิดห้องก็บอก ‘ศุภะ’ยังเหลือ”

เสียงกระเซ่าแหย่กระซิบข้างหู... พาลให้แววตาสีเงินหลุบต่ำ มือใหญ่ปัดมือไล่ เจ้าของร้านเชื้อสาย ‘เคี้ยม’ ก่อนจะหันไปเอ่ยเสียงเรียบแต่ชัดเจนในประโยค

“ผู้หญิงที่ ใส่กำไลเงิน คนนั้น...ห้ามมันตัวไหนยุ่ง...”

ถึงจะบอกอย่างนั้น...แต่นั่นกลับเหมือนการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขัน !! สายตาแววเกือบสิบคู่ฉายแววแปลกก่อนจะมองหา ‘ผู้หญิงใส่กำไลเงิน’ น่าลองเสี่ยงถ้า ‘นั่น’ เป็นของที่ ‘สมิง’ หมายตา...
...
......วงดนตรีจบการแสดงสด เสียงเพลงเบาๆ ถูกเปิดให้เข้ากับบรรยากาศ.... หญิงสาวก้าวเท้าตามร่างใหญ่ที่ กำลังจะเดินลับหายไปจากสายตา... มือเล็กคว้าข้อมือใหญ่นั่นไว้ก่อนที่เจ้าของข้อมือจะก้าวลงจากชั้นสอง แววตาสีน้ำตาลเหลือบมรกต เยิ้มพราว..ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หลากรส ร่างใหญ่ชะงักหยุดอยู่ตรงนั้นเหมือนโดนมนต์สะกด หญิงสาวยิ้มกว้างแต่ยังคงจับข้อมือใหญ่ไว้อย่างนั้น...คุณหมอร่างใหญ่ยิ้มบางก่อนค้นหยิบปากกาสีดำในกระเป๋า.. จรดลงบนข้อแขนเนียน เหนือกำไลเงิน ปลายปากกาไล้เขียน ชื่อ พร้อมเบอร์โทร .... ‘สัตรา 087 903 XXXX’ ริมฝีปากหนาของคุณหมอเหมือนจะขยับถามชื่อแต่ต้องหยุดไว้แค่นั้นเมื่อ วงแขนหญิงสาวเบื้องหน้าโอบโน้มลำคอคุณหมอให้เข้ามาใกล้....
.............ก่อนจะ
...
กัดเข้ากับลำคอหนาแล้วเลียลิ้นลงบนรอยกัดนั้น...
....
.
....

“Shit damn !”

ฝรั่งร่างใหญ่ ตะโกนเกือบก้องร้าน ก่อนจะกระชากร่างหญิงสาวให้เข้ามาหาตน หญิงสาวร่างเล็กอีกคนถึงกับอุทาน ก่อนจะโผเข้ามากอดร่างที่โดนกระชากนั้นไว้

“ภัทร!! กลับบ้านนะ...ตื่นๆๆ ทำไมเมาอย่างนี้? ”

แววตาวาวฉายแววขี้เล่นยิ้มกว้างให้กับ คุณหมอ มือนิ่มยกขึ้นเหมือนกำลังให้คุณหมอดึงตนกลับไป.... แต่ไม่ทัน...เมื่อ..
...
หญิงสาวร่างเล็กจับมือนั้นลง แล้วหันไปบอกเพื่อนชายผมทองให้ช่วยกันลาก เพื่อนสาวที่เมาจนไม่ได้สติกลับบ้าน ....ปล่อยให้กลับเองไม่ได้แล้ว.. เห็นทีต้องเอาไปนอนด้วยที่ห้องแล้ว...ยัยภัทร !!
……

.
.
.



คุณหมอ.ได้แต่มองตามหลังเจ้าของแววตาขี้เล่นที่ฝากรอยกัดไว้ที่ลำคอ ตน ..มือใหญ่..วนลูบรอยกัดนั้นเบาๆ....รอยแดงนูนชัดขึ้นเมื่อ สัมผัส..
...
....

หัวใจเหมือนเต้นแรง...รู้สึกแปลกๆ ...ทั้งร้อนวาบ..ทั้งเกรงกลัว ...

...ทำไมถึงยอม..

..รู้ไหม สำหรับสมิง การยอมให้โดนกัดที่คอ ...

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ..มันเหมือนยอมรับกลายๆว่า ...

นั่นคือ...


..............
..........................

.
.
.

‘นาย..’


.....
..


....
นั่น....เป็นการพบกันครั้งแรก ของ เพื่อน ‘รัก’ ที่ในอีก 5 ปีหลังจากนั้น สองคนนี้จะย้ายมาอยู่บ้านสีฟ้าด้วยกัน..โดยที่ความสัมพันธ์...
....
.
....
...



.มันลึกซึ้งแต่ไม่เกินเลย แล้วทุกอย่าง......


..มันก็หายไป...

เหลือเพียง เพื่อน ที่ยังคง 'รัก'

ที่ยังคง ...

...'รอคอย....'
.

...
...........................

'รักทำให้คนบางคนทำได้ทุกอย่าง...แม้ต้องหลอกตัวเองว่ารัก...ยังคงอยู่ ...จะยื้อ..ไปได้อีกนานแค่ไหน หมอ?...'

…………….




.
.
.

…..พื้นน้ำสีเขียวคราม....หญิงสาวมองเหม่อไปยังภาพบนผิวน้ำเบื้องหน้าที่ฉายภาพ..เลือนลาง ...รอยยิ้มเศร้าของเจ้าของแววตาสีเงินยังคงปรากฎอยู่บนใบหน้าคม ก่อนเจ้าของใบหน้านั้นจะ ก้มลงสัมผัสเบาๆที่แก้มของ ซากร่าง...ที่หลับไหล..

“เมื่อไหร่จะกลับมา ภัทร ...”

เสียงทุ้มเลื่อนลงไปกระซิบเอ่ยข้างใบหู .... หยดน้ำตา หยดสัมผัสแก้มที่เจ้าของถ้อยกระซิบ...
...
..ปลายนิ้วเรียววักน้ำ... เป็นวงกระเพื่อม ..ระลอกคลื่นกระทบให้ภาพนั้นเลือนหายไป.....

“ขอโทษนะ...หมอ...ภัทร ขอโทษ...ภัทร.ขอโทษ...”

หยดน้ำตาใส หยดลงผิวน้ำรวมกับ อีกไม่รู้กี่สิบล้านหยดที่ก่อตัวเป็น ‘ทะเลน้ำตา’
...
.
….ใบหน้าเปื้อนน้ำตา ของ ภัทร ก้มลงมามองร่างชายหนุ่มที่นอนหนุนตัก ภาพใบหน้าที่ ตรินทร์ ไม่มีวันได้เห็น...

ภัทร ไล้เกลี่ยปลายนิ้วตนกับแก้มใสของคนหลับลึก.... สายตาอ่อนโยนเหมือนปลอบประโลมทั้งตนเองทั้ง เด็กหนุ่ม ...ที่ต้องมาร่วมชะตากรรมเดียวกัน แววตาสีน้ำตาลเหลือบมรกตดั่งเหม่อลอยไปไกลสุดขอบทะเลน้ำตา...
.........
...
.
“เมื่อไหร่...ถึงจักหยุดสักที...พะเตรียง...เมื่อไหร่ ..ถึงจะยอมปล่อยข้าสักที...เมื่อไหร่....เจ้าจึงจักยอม ลืม..รัก...ภังคียะ ตนนี้เสียที...เมื่อไหร่เล่า ? พะเตรียง...”

..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 51#Between.จระเข้ กลางบึงบัว[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:05:52
บทที่ 51 # Between. จระเข้ กลางบึงบัว


...แสบตา....

เวียนหัวไปหมด... ซ้ำยังพะอืดพะอมอยากสำรอก...

กว่าจะฝืนให้ตัวเองลืมตาได้ ก็เกือบพักใหญ่ๆ อากาศของโลกฝั่งนี้ยากที่จะหายใจ ... แข็งใจจะยกมือขึ้นนวดขมับ แต่กลับไม่สามารถทำได้ ..เหมือนโดนยึดมือนั้นเอาไว้...สายตาพร่าของคนเพิ่งฟื้นหลุบลงต่ำมองตามแนวแขนตนไล่ลงไป...ถึงเจ้าของเรือนผมดำสนิทที่นอนแนบฟุบหลับลงข้างเตียง มือนิ่มเกาะกุมมือตนเอาไว้จนกระแสความอบอุ่นนั้นรับรู้ได้...บรรยากาศรอบข้างอวลไปด้วยกลิ่นหอมแปลก...กลิ่นประจำตัวของ ‘นาง’. ...สายตาสีมรกต มีแววละมุนโศก... ยามเหม่อไปยังเด็กสาว … ‘จักใช้ร่างนี้ล่อลวง ภินทร์ งั้นรึ..‘นาง’...’ อดหัวเราะเย้ยในลำคอไม่ได้เมื่อมองร่างบางอันน่าทะนุถนอม...

“รักเจ้า...ทำลายข้าจนปราณกระจัดกระจาย...ทำลาย ตรินทร์ จนตายทั้งเป็น....ทำลาย ภัทร ให้ดับสิ้น..พรากความทรงจำเพื่อเริ่มใหม่อีกครา.....กับ ภินทร์ ....เอาสิ พะเตรียง ลองดู...ระหว่างเจ้ากับ ภินทร์ ตนใดกันแน่จักเจียนตายเพราะ รักแห่งเจ้า...ภินทร์ มิใช่ ผู้อันเป็นที่รักแห่งเจ้าอีกแล้ว... พะเตรียง. ”

…..
...แววตาโศกหลุบต่ำ.....ก่อนจะค่อยๆปิดลงอีกครา...
..............


..พร้อมรอยยิ้มเหยียด...


..............
.........................

.
.
.

...ปวดหัวเหี้ยๆ!! ทั้งมึนทั้งแสบตา มองเพดานห้องก็ว่างเปล่า สีขาวโพลน ...ที่ไหน? อะไร? แล้วใคร? ปวดหัวฉิบหาย...

ลองหายใจลึกๆ เพื่อกอบอากาศเข้าไปให้มากที่สุดเผื่ออาการจะดีขึ้นแต่กลับได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าจมูกมาแทน...กลิ่นที่ทำให้รู้สึกดี... สูดหายใจตามกลิ่นถึงได้รู้ว่า กลิ่นมาจาก เด็กสาวน่าตาน่ารักที่กุมมือตนไว้ ใบหน้านวล ตัดกับเรือนผมสีดำสนิท แผงขนตายาวหลับพริ้ม ฟุบหน้าอีกฝากเข้ากับเตียง...

..น่ารักจนทำให้คนเพิ่งตื่นลืมไปเลย..

..ว่า......กำลังปวดหัว...อยู่...

..มือนิ่มที่กุมไว้เหมือนจะขยับ... ท่าเด็กสาวจะเริ่มรู้สึกตัว อารมณ์พอป่วยแล้วชอบสำออยทำให้ เกิดปฏิกิริยาอัตโนมัติ ผมตัดสินใจปิดเปลือกตาตัวเองลงไปอีกครั้ง ถ้าลองกุมมือหลับไปด้วยกันแบบนี้ ...ไม่ห่วงมาก...ก็น่าจะรักมาก...ส่วนน้องน่ารักนี่เป็นใคร ...ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน.....

..
.......

...ตอนแรกว่าจะแค่พักสายตา...

เพื่อจะได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอ้อนเด็กสาวอีกครั้งอย่างเนียนๆ แต่พอปิดเปลือกตาหลับลงไปใหม่...กลับ...

..............
............................



หลับจริงซะอย่างงั้น...
...


…..แรงกดหนักๆ ที่กดลงบนหน้าผาก ก่อน จะย้ายมาที่แก้มซ้าย... ตอขนที่ขูดเข้ากับผิวแก้ม กระตุ้นสติคนหลับได้เป็นอย่างดี

.
.
.

...สำนึกสุดท้ายที่พอจำได้ลางๆคือ น้องน่ารักคนนั้นที่กุมมือตนไว้ ... ‘โห่..ร้อนแรงใช่เล่น...’ ความคิดนั้นมีทันทีที่แรงกดที่แก้มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกชื้นเย็นที่ไล้เลียซ้ำๆช่วงซอกคอ...หือ? จะว่าไปสัมผัสมันคุ้นๆ ... ทำไมไม่ นุ่มเนียนเหมือนที่คิด..แต่มันเหมือนกับ...สัมผัสของใครสักคนที่...เคยมือ...แรงขบของฟันคม กัดเน้นเบาๆช่วงซอกคอ บวกกับแรงกดของมือใหญ่ที่ยึดไหล่ตนเอาไว้กับเตียง....


.เอ่อ...ไม่อยากจะลืมตาซะแล้วสิ..


............................
.......


เมื่อการกระทำทั้งหมดทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่า ถ้าลืมตาขึ้นมาจะเจอใคร.....
..
.......
.ผมฝืนลืมตาขึ้นมาทั้งๆที่ยังเวียนหัว..


.
.
.

..
.อย่างที่คิด..ทำอะไรไม่อายผีสาง...

มีแต่ไอ้ด้านอย่างมันที่ทำได้..


..
ไอ้เหี้ยม...คิงส์ !!!


…..
.

ฝันร้ายชัดๆ..แต่เดี๋ยวนะ...นี่มันโรงพยาบาลนะเฟ้ย!!..
แล้วไอ้สัดนี่มันโผล่มาได้ยังไง..?!!
..
.
ไอ้ปีศาจจิ้งจกยังเกาะติดซอกคอผม...เหมือน.... คอผมเป็นผนังห้อง ...ถึงจะออกแรงผลัก แต่มันก็ยังไม่ยอมถอนหน้าออกจากซอกคอ ผมสักที...

ผมขืนเต็มแรง..ดันไอ้จิ้งจกมันออกพร้อมเบนหน้าหลบไปอีกทาง......
แต่ที่เจอคือ ...
กลิ่นดอกไม้ฉุนกึก...?!!? ลืมตาขึ้นมากลีบกุหลาบสีแดงสดเกือบทิ่มตา...


.....
..

“ดีขึ้นรึยัง?”

ไอ้เหี้ยมละหน้ากับจมูก ออกมาจากซอกคอผมสักที แต่ผมยังไม่วายเครียด เพราะมือมันยังกุมมือผมไว้แน่น แถมยังเอาไปอังไว้กับริมฝีปากมันอีก

“ตัวมึงเย็นยังกับคนตาย ภินทร์.. ตอนนี้ดีขึ้นรึยัง?”

ตอนมันพูดลมหายใจอุ่นๆเลย เป่ารดมือผมไปด้วย..... ขนลุกแปลกๆ….ยี้!!

“กูถามทำไมไม่ตอบ?”

มันส่อสันดานออกมาอีกครั้ง ...ผมถอนหายใจให้ความถ่อยของมัน...แล้วพยักหน้าไปทางเหยือกกับแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะ ..เหี้ยมคิงส์หันไปมองแล้วปล่อยมือผม เดินไปรินน้ำใส่แก้วให้อย่างใจเย็น

“ให้กูป้อนให้ด้วยเอาไหม?”

มันยื่นข้อเสนอ..

ส่วนผมก็เงียบโดยไม่ตอบสนอง ไม่ได้สนใจอะไรมัน... ผมท้าวแขนผยุงตัวเองขึ้นมาโดยมีมันคอยช่วยเหลือ รับน้ำในแก้วมาดื่มอย่างเหนื่อยหน่าย...อย่ามาล่อลวง...ผมรู้ดีถ้าให้มันป้อนอะไรจะเกิดขึ้น...มุขนี้...มุขพื้นฐานของผม....ขนาดว่าพยายามจิบน้ำนิดหน่อย แต่ยังไม่วายสำลักไอ น่าจะเพราะคอที่แห้งผาก ไอ้เหี้ยมเข้ามาลูบหลังให้...บทจะดีก็ดีโคตร บทจะถ่อย คำว่าสถุน ยังดูดีไปสำหรับมัน..หายไอแล้ว..ผมถือแก้วน้ำนิ่งมองหน้ามันสลับกับมองช่อกุหลาบช่อใหญ่สีแดงสดที่วางอยู่บนเตียงข้างหัวผม

ไอ้ช่อดอกที่เกือบทิ่มตาผมบอดนั้นล่ะ..

“ซื้อมาเยี่ยมมึง..”

หน้ามันเหมือนมีสีแดงจางๆ ไอ้อาการตอบแบบทันทีทันควัน บางครั้งก็ทำให้มันดูซื่อบื้อไปบ้างเหมือนกัน...รักษามาดหน่อยนะมึง อยู่กับกูหลุดตลอด..
.....
.

“ขอเปลี่ยนเป็นเงาะกระป๋องแช่เย็นได้ไหม? หิว...”

มันมองผมแล้วส่ายหน้าระอา แต่ผมจ้องตามันนิ่ง บอกตรงๆไม่ใช่มุข อยากทานจริงๆ

“...รอก่อน..ยังไม่อยู่ใน ภาวะปลอดภัย..กูยังทิ้งมึงไปไม่ได้...”

มันบ่นพึมพำแล้ว เดินไปควานหยิบหาอะไรในตู้เย็นเล็กๆ ได้นมถั่วเหลืองแช่เย็นมากล่อง ยังพอรองท้องได้น่า...

“ทำไมมาอยู่ที่นี้ได้”

ผมถามมันไปดูดนมถั่วเหลืองไป ชอบรสชาติของความเย็นที่เริ่มจะแผ่ไปทั่วปาก รสหวานอ่อนๆ ทำให้สดชื่น....

“เดินไปดูที่คลับใบไม้...แล้วเจอพวกไอ้เรดหิ้วมึงออกมา...ก็เลยตามออกมาด้วย”

“ตามยังไง ถึงรู้ว่าอยู่ที่นี้?”

ผมยังไม่วายสงสัยมัน

“เค้นจากไอ้แว่น...”

นมแทบพุ่ง!!! สัดสันดาน!!

“มึงทำอะไร ไอ้แป้น!!”

พอรู้จากปากมัน...ผมกลับหลุดซะเอง... อุตส่าว่าอยู่ต่อหน้ามันจะไม่หลุดคำหยาบกับความเหี้ยในใจ แต่อดไม่ได้จริงๆตอนรู้ว่ามันคั้นจากไอ้แป้น…ตอนนี้สภาพไอ้แว่นอมยิ้มของ ผมจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

“มันไม่เจ็บไม่ป่วยหรอก...ห่วงเว่อร์นะมึง ชอบมันหรอ?”

“ชอบเหี้ยอะไร นั่นเพื่อนกู...ไม่อยากให้มันมาซวยเพราะกู...เพื่อนยิ่งมีน้อยๆอยู่”

“ถ้าเป็นเพื่อนมึงจริง....งั้น...มันก็ไม่น่าจะต้องบุบสลายอะไร..”

ไอ้เหี้ยม..หันมายิ้มกว้างกับผมก่อนยกโทรศัพท์ของมันกดเบอร์โทรออก

“โฟน..ปล่อยมันไป...เข้าใจผิดกันนิดหน่อย.....ขอโทษด้วยแล้วกัน.. ”

ผมหลับตาถอนหายเฮือกใหญ่.... ว่ากูห่วงเว่อร์ แล้วที่มึงทำนี่มันเรียกว่าอะไร?!

“แล้วไหงมาอยู่ในห้องพิเศษนี่ได้...อย่าบอกนะว่าจับคนในบ้านไปด้วย”

“ทำได้ก็อยากทำ ....แต่ระดับมันต่างกันเกินไป..”

“พึมพำ..อะไร?”

“เปล่า...แค่คิดว่าการที่มาอยู่ใกล้มึง ทำชีวิตกูสั้นลง...”

“ไอ้ประโยคนั่นน่าจะเปลี่ยนคนพูดนะ...”

ผมประท้วงมัน แต่ต้องชะงักเพราะเสียงเปิดประตูเบาๆ เด็กสาวที่ก้าวเข้ามาในห้องทำทุกอย่างสว่างไสว..รอยยิ้มบางๆ เข้ากับแก้มใสๆ ผิวไม่ได้ขาวอมชมพู แต่มันเป็นสีนวลเนียน .........สีที่ทำให้ผมนึกไปถึงกลีบบัว...

“พระแพง...ซื้อเงาะกระป๋องมาให้ค่ะ พี่ชาย... ”

เสียงหวาน...หวานเหมือนหน้าคนพูด....ผมไม่ได้ฝันไปนี่น่า ก่อนหน้านี่ เธอคนนี้นี่หล่ะ ที่กุมมือผมไว้จนหลับ...

“พระแพง...”

ชื่อที่แค่ฟังครั้งเดียวก็เข้าไปฝังในส่วนลึกของสมอง....ผมมองหน้าเธอไปยิ้มไป บอกไม่ถูกกับอารมณ์ ของตัวเอง หัวใจมันหวิวๆ ซ้ำยังเต้นแรง ยิ้มกว้างที่ค้างอยู่บนหน้าเหมือนจะหุบไม่ลงซะงั้น....

เด็กสาวที่ก้าวเข้ามา..จัดแจงใส่น้ำแข็งในถ้วยแก้วใบใหญ่ แล้วเทเงาะกระป๋องใส่....ร่างบางก้าวเข้ามาแล้วเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้ๆผม... หอมกลิ่น...ดอกบัว....

..ตัวก็หอม...หน้าก็หวาน...


...
.ช้อนคันใหญ่ตักลูกเงาะแล้วจ่อเข้ามาใกล้ปากผม....ทำเอาผมได้แต่ยิ้ม...ยิ้มกับความอ่อนโยนของเด็กสาวเบื้องหน้า เงาะเย็นๆ ยังอยู่เต็มปาก ของที่ชอบ อร่อยกว่าทุกครั้งที่เคยกิน...ผมค่อยๆเคี้ยวละเลียด...อิ่มไปหมด ทั้งอกทั้งใจ ....

.



‘โครม!!!’




เสียงดังมาจากข้างๆโต๊ะ ..ไอ้เหี้ยม ทำหน้าตายแต่โต๊ะเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้มันล้มกลิ้งลงไป...เรียบร้อย ผมเกือบลืมไปเลยนะว่ามันอยู่ในห้องด้วย…..

“อย่า ถ่อยให้มาก น้องเขาเป็นผู้หญิง ..”

ผมเอ็ดปรามมัน แต่ที่มันตอบกับมาทำเอาผมเงียบ

“จะตัวผู้หรือตัวเมีย ถ้ามายุ่งกับมึง ไอ้ตัวไหนก็ศัตรูกูทั้งนั้น...”

เสียงมันเอ่ยเรียบๆ ไม่มีทีท่าหุนหันหรือกวนตีน...แต่นั่นทำให้ผมหวั่นใจมากกว่า การที่มันอาละวาดโวยวายเสียอีก...

 

..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!52#Lotus flavor ไฟกุหลาบ [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:07:55
บทที่ 52 # Lotus flavor ไฟกุหลาบ ...สาป ดอกบัว...


…..
.
“จะตัวผู้หรือตัวเมีย ถ้ามายุ่งกับมึง ไอ้ตัวไหนก็ศัตรูกูทั้งนั้น...”

ผมหันไปมองหน้ามันอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง...ปกติถ้าอยู่ต่อหน้าสาวไอ้เหี้ยมมักจะกลายเป็นคุณชายเทวดาแทบติดปีกได้เลยก็ว่าได้ แต่พอเจออย่างนี้เลยเอาผมหน้าชาวาบ...ไม่ได้เขินอายอะไรมัน แต่แคร์ความรู้สึกพระแพงมากกว่า..ก็ที่ไอ้เหี้ยมมันพูดมาเหมือนจะวางยากลายๆว่าผมกับมัน อยู่ในฐานะไหน....ซึ่ง..มันไม่จริง... แล้วพระแพงจะมองผมแบบไหน...

“คิงส์...”

ผมเค้นเสียงเรียกมันรอดไรฟัน .... เสียชีพไม่ว่า...แต่ถ้าเสียหน้าต่อหน้าสาว มีได้มีเสีย...

“พี่ชาย..คง.อยากพักแล้วค่ะ...คุณกลับไปก่อนดีไหมคะ?”

เสียงหวาน...นั้นขัดขึ้นมา ผมหันหน้าไปหาเธอ รอยยิ้มบางๆทำให้บรรยากาศดูดีขึ้นหน่อย พระแพงวางแก้วใส่เงาะไว้ที่โต๊ะอีกตัว ก่อนจะเดินไปหยิบโต๊ะตัวเล็กที่ไอ้เหี้ยมทำล้ม ขึ้นตั้งเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มบางเคลือบไว้เสมอ ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าไปเลย...ตอนมองหน้าไอ้เหี้ยมที่ฉายแววโหด....
..........
.....เหมือนไอ้คิงส์มันลังเล ที่จะออกจากห้อง..

.แต่สุดท้ายมันก็ยอมกลับไป........



...
............


ไอ้เหี้ยมกลับไปแล้ว เหลือแต่ผมที่ กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง อดคิดถึงหน้ามันตอนเดินออกไปจากประตูไม่ได้ สายตาที่มันมองผมอธิบายไม่ถูกว่ามันรู้สึกยังไง...แต่สายตานั่นมันทำให้ผมรู้สึกผิด....ช่อกุหลาบสีแดงยังวางอยู่บนเตียง.... หึ..อย่างไอ้เหี้ยมเนี่ยนะถือดอกกุหลาบแดงมาเยี่ยม..คิดแล้วน่าขำ...ผมหยิบกุหลาบช่อใหญ่นั้นมาดูอย่างพิจารณา กุหลาบสีแดงสด ที่ปลายกลีบแทบจะไม่มีร่องรอยช้ำด้วยช้ำ ....อย่างกับมันเลือกกุหลาบที่ละดอก... อย่างมันอะนะ..เลือกกุหลาบทีละดอก....เชื่อก็ประสาทแล้ว ....

“พระแพง เอาไปเก็บให้ไหมคะ?”

เสียงหวาน เหมือนเรียกสติผมไว้ก่อนจะลอยไปกับเจ้าของกุหลาบ...ผมยิ้มให้พระแพง พร้อมยื่นช่อดอกไม้ให้เธอ...รอยยิ้มกว้าง มีบนหน้าหวาน…กระชากใจสุดๆ..

“ดมได้ไหมคะ?”

เสียงหวานถาม ผมพยักหน้ากุหลาบสีแดงนี้ผมไม่รู้ว่ามันพันธุ์อะไร แต่ที่รู้แน่ๆ มันมีกลิ่นหอม ถึงจะหอมคนละแบบกับกลิ่นที่อยู่รอบตัวพระแพงก็เถอะ ...แล้วผมก็ใจละลายอีกครั้ง ตอนพระแพงรับช่อกุหลาบไปแล้วแนบหน้านวลนั้นเข้าไปใกล้กลีบดอกกุหลาบ....
..
...น่ารัก...สุดๆ..

“ขอตัวนิดนึงนะคะพี่ชาย..พระแพง..ไปถามพี่พยาบาลก่อนว่ามีแจกันหรือเปล่า..เดี๋ยวกลับมานะคะ”

รอยยิ้มกระชากใจมาอีกแล้ว มันไม่ใช่รอยยิ้มแบบโลกสดใส แต่เป็นรอยยิ้มหวาน..ผมได้แค่มองตามแผ่นหลังเล็กที่ก้าวออกจากห้องไป....ถึงเจ้าตัวจะไม่อยู่...แต่กลิ่นหอมจางๆ ยังคงลอยอบอวลอยู่รอบห้อง ....
...
....พระแพงเป็นใคร.....เรียก ตรินทร์ ว่าพี่ชาย...

เป็นญาติฝ่ายไหนกับ ตรินทร์ ??

ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ตรินทร์ มีญาติน่ารักขนาดนี้ ...

น่ารัก....

จนอยากที่จะ....

‘รัก’
..............
............................



“พี่ขา.....สวยจัง....ขอให้หนูดอกหนึ่งได้ไหมคะ?”

เด็กหญิงตัวเล็กๆ ดึงชายกระโปรงลูกไม้ของหญิงสาว..

สีหน้าที่เคยมีรอยยิ้ม ราบเรียบเหมือนไร้ความรู้สึก สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังช่อกุหลาบสีสด มือนิ่มกำขยำลงบนกลีบกุหลาบ
...แรงกดของมือเหมือนเปลวไฟไล่ลามปลายกลีบ...ให้ค่อยๆเผาไหม้..เหมือนโดนไฟที่มองไม่เห็นเผาลามอย่างช้าๆ.....จนช่อกุหลาบใหญ่ เหลือเพียงกลีบดอกที่แห้งกรอบ …

พระแพง ลดช่อกุหลาบที่เหี่ยวเฉาในมือลง ขยำกลีบแห้งที่เหลือจากการไหม้ จนมันแหลกคามือ...

ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ถังขยะ แล้วทิ้งก้านช่อนั้นลงไปอย่างไม่ใยดี ก่อนจะหันมาหาเด็กหญิงตัวเล็ก พร้อมรอยยิ้มหวาน..

“ให้หนูไม่ได้หรอกคะ....ของมันสกปรก...เพราะได้มาจากพวกสกปรก...”

ร่างบางเดินจากไป..

.เหลือเพียงเด็กหญิงที่ตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้........


..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 53#Last ball.ทฤษฎีลูกชิ้น[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:10:07
บทที่ 53# Last ball.ทฤษฎีลูกชิ้น


...

[เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา และรอคอยเธอมาแสนนาน และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ....]

“แล้วจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ? ”

เสียงทุ้มขัดจังหวะ การเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ผม แต่ก็ไม่ได้ขัดอารมณ์ เพราะเจ้าของเสียงมันตักเงาะเย็นๆป้อนเข้าปากผมไปด้วย สุขสุดๆ .... ผมส่ายหน้าไม่รู้ จะพูดก็ไม่ได้เพราะเงาะยังเต็มปาก เคี้ยวไปยิ้มไป...

....


...ไม่คิดว่าอยู่ๆ อะตรอมจะมาเยี่ยม นี่ถ้าหูตั้งหางกระดิ๊กได้ ตอนนี้ผมคง แกว่งหางซะยิ่งกว่าที่ปัดน้ำฝน...

คิดถึงจัง ไม่เจอตั้งนาน...


คุยกันไปก่อนหน้านี่แล้ว อะตรอมรู้เรื่องจากเรด ว่า ผมเข้าโรงพยาบาล..สาเหตุน่าจะมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ.... กับการดื่มที่เหมือนจะอาบเสียมากกว่า.... ร่างกายเลยไม่ไหว... แหม ...สาเหตุนี่ใครรู้เข้า เขาคง สมเพช.. มากกว่าสงสาร ….

..คงเพราะรู้เรื่องจากเรด นอกจากจะมาเยี่ยมอย่างเดียวแล้ว เรดมันเลยฝากโทรศัพท์ที่ผมฝากไว้ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลมากับอะตรอมด้วย ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมมันไม่มาด้วยกันซะเลย ...แต่มันไม่มาดีแล้ว...

...ผมจะได้ไม่ต้องโดนมองด้วยสายตา หยามเหยียดอย่างสมเพช เป็นลมเพราะแดกเหล้ากับซั่มจนฟ้าเหลือง... ผมว่าไอ้เรดมันต้องรู้เรื่องแน่ๆ.. อย่าปากสว่างบอกใครนะมึง เชี่ยเรด!!

สาธุอีกเรื่องที่ ยิ่งกว่านี้…ดีที่อะตรอมกับไอ้เรดยังไม่รู้...

เรื่องซัมติง...กับ...บัส...


...กว่า พระแพง จะกลับมา เงาะกระป๋องก็หมดไปแล้ว...แหะแหะ...

แก้วใบใหญ่ถูกอะตรอมวางไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใยดี ผมพยายามจะแนะนำ พระแพง กับ อะตรอม แต่ที่ได้มาคือความเงียบ อะตรอมยึดเก้าอี้ตัวเล็กที่พระแพงเคยนั่งมานั่งอ่านหนังสือใกล้ๆผม แถมยังจับมือผมไปกุมไว้ข้างหนึ่ง...อ่านไปก็ถามผมไปด้วย จากสายตาผมที่คอยแต่จะมอง ของน่ารักๆอย่าง พระแพง...เลยทำได้แค่มองหน้าอะตรอมไปตอบคำถามไปจะว่ามันก็ไม่ได้ เพราะมันโดนเรียกกลับบ้านใหญ่ไปตั้งนานทิ้งให้ผมไปเรียนคนเดียว ...อย่ามองดิ เรียนบ้างโดดบ้างก็หยวนๆน่า...ของมันเคยเรียนมาแล้ว ยังไงก็ยังพอได้น่า... กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังลอยฟุ้งไปทั่วห้อง กลิ่นน้ำหอมของพระแพง..? .

แต่พอผมจะหันไปมอง พระแพง อะตรอมก็กระตุก พร้อมกำมือที่จับผมไว้แน่น...

“อะตรอม...มืออุ่นมากเลย...”

ผมบอกตามความรู้สึก มืออุ่นๆของอะตรอมที่จับมือผมไว้ คลายออกหลวมๆ รอยยิ้มมีนิดๆที่มุมปากหนา

“มือผม ...ร้อน...แต่เพราะตัวภินทร์เย็น ...สำหรับภินทร์มันถึงได้แค่อุ่น...”

แววตาสีดำสนิทจ้องมองผมเหมือนดึงเข้าผวังค์ กลับมาครั้งนี้อะตรอมดูแปลกไป...ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ ความรู้สึกคล้ายตอนเจออะตรอมพร้อมบัส ต่างกันก็แค่....บรรยากาศมัน มาคุ คูณ 3 เท่าจากของเดิม...

เกือบสองทุ่มกว่าอะตรอมจะขอตัวกลับ...ส่วนผมคุณหมอบอกแล้วว่าพรุ่งนี้คงออกจากโรงพยาบาลได้... ผม ขอเดินไปส่งอะตรอมแต่โดน พระแพงห้ามไว้ก่อน นางฟ้าของผมเลยเดินไปส่งอะตรอมเสียเอง.. พระแพง ขอตัวกลับตามอะตรอมด้วย เพราะคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะอยู่เฝ้าผม...ตามลำพัง สรุปพอคล้อยหลังสองคนนั้นไป ผมเลยต้องอยู่คนเดียวในห้องพิเศษ ...คือ...ทำไมไม่ให้ ใครอยู่กับผมสักคน?

.............โรงพยาบาลนะ...

.ห้องพิเศษนะ .....
...

..อยู่คนเดียวนะ..

.
.
.
.



...



“นรก!!!”
...
.........................

“ ไม่คิดนะคะว่าจะ กล้าขัดคำสั่งวงษ์วาน กับ ฝ่าพรายนที ออกมาได้เร็วขนาดนี้... คุณ ภินทร์ คงเป็นคนสำคัญมากสินะคะ...แต่คงต้องเสียใจด้วย ที่คุณภินทร์ในตอนนี้...เหมือนไม้เลื้อย...ใกล้ใครก็รักคนนั้น...เห็นทีคราวนี้คงจะลำบากหน่อยนะคะ....เพราะว่าคู่แข่งอย่างฉัน...คงมีเวลาอยู่กับคุณภินทร์ ได้มากกว่าคนที่เป็นแค่ ‘เพื่อน’ แน่นอน.... ”

เสียงหวานเอ่ยพร้อมสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม...

ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นเรียก TAXI อย่างใจเย็น สายตาคมหันไปสบแววตาสีดำเข้มอย่างท้าทาย ก่อน TAXI จะออกตัว ...

อะตรอมหยุดยืนนิ่งมองตามหลัง TAXI ที่เพิ่งขับออกไป...เสียงเรียบเอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆ เหมือนฝากคำไปยังคนที่อยู่บนรถ...ประโยคที่เด็กสาวบนรถไม่มีวันได้ยิน...

“ก็อย่างที่เธอว่า ภินทร์ เหมือนเป็นไม้เลื้อย...ใกล้ใครก็รักคนนั้น...แต่สำหรับผม..ผมเป็นดวงตะวันของ ภินทร์ ต่อให้ ภินทร์ เลื้อยไปไหน...ภินทร์ก็ต้องหันมาหาดวงตะวัน.. ”


..............
............................

‘เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา และรอคอยเธอมาแสนนาน และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ....’

เสียงโทรศัพท์ผมที่ตั้งไว้เป็นเสียงเดียวกับ ภินทร์ ดังขึ้น เสียงเพลงเรียกเข้าที่ตั้งใจจะให้รู้เลยว่า 'ใครง โทรเข้ามา ...

“ครับ ภินทร์....ผมกำลังจะกลับครับ..เปล่าครับ ยังอยู่หน้าโรงพยาบาล..ครับ ทานอะไรอีกไหม? ...
ครับ...รอเดี๋ยวนะครับ...เดี๋ยวซื้อขึ้นไปให้..”

สายโทรเข้าวางลงไปแล้ว...

ผมมองซ้ายมองขวาแล้วเดินข้ามถนน ตรงเข้าไปที่ร้าน 7-11 คงต้องซื้อของกินไว้หลายอย่างหน่อย เผื่อแปรงสีฟันกับยาสีฟันไว้ด้วย ....ก็คืนนี้ต้องนอนเฝ้า ภินทร์ นี่น่า...หึ..ผมคิดไปถึง คนป่วยบนห้องพิเศษ ... ยายพระแพง อะไรนั่นรู้รึเปล่า ว่า ภินทร์ ชอบเก็บลูกชิ้นไว้กินที่หลัง สุด.... เพราะอย่างนั้น คนที่สำคัญที่สุด คือคนสุดท้ายที่ ภินทร์ จะนึกถึง...

...
มันเป็น

.
.
.

..
‘ทฤษฎีลูกชิ้น’


..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!54 # My moon belong to your sun[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:12:27
บทที่ 54 #  My moon belong to your sun. ฤา...อาทิตย์...มิอาจครองจันทร์ [1]



...ในร่มเงาอันหนาทึบแห่งดงไม้...

มืดมิด...จนซ่อนร่างทั้งร่างของเด็กหนุ่มไว้ได้..

ณ ที่นี้... เป็น ....ป้อมปราการลับ อันเป็นที่เฉพาะตน....เงาแห่งดงไม้......มืดมิด....เฉก สิ่งที่อยู่ลึกในจิตใจ... ของเจ้าของสถาน...

...
.....มืดมิดแต่รุ่มร้อน...สิ่งที่อยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่าหัวใจ ….
...ทั้งมืดมน ด้วยอคติ ทั้งรุ่มร้อน ด้วยโทสา ...

.............
...............................................................................


‘หญิงสามัญ!!!’
‘มารดาเจ้าเป็นแค่หญิงสามัญ!!’
‘บุตรหญิงสามัญ!!!’

เสียงตะโกนของเหล่าเชื้อวงศ์..ยังดังก้องอยู่ในความรู้สึกข้าทุกโมงยาม …

เสียงที่เหมือนเชื้อเพลิงอันคอยสุมกองไฟที่ชื่อว่าโทสะ... หึ! บิดาเป็นถึงขุนพลแห่ง สุรโภคนคร หากแต่เพียงแค่มารดาเป็นชนชั้นสามัญ... สิ่งที่ข้าได้รับจึงมีเพียงแต่การหยามเหยียดและดูแคลน... ทั้งๆที่ข้าเองก็เป็นวงศ์วานแห่งสุร เป็นเชื้อสายบริสุทธิ์เสียด้วยซ้ำ!! แล้วเหตุใด...จักต้องเป็นเยี่ยงนี้ !!! มิยุติธรรม... มิเคยยุติธรรมสำหรับข้า.. มิยุติธรรมตั้งแต่ผู้เป็นบิดาให้ข้าเกิดขึ้นมาแล้ว !!!

‘มันต้องตกตายให้หมด... มันต้องถูกเหยียบย่ำให้จมดิน... ข้าสาบาน... สักวัน ข้าจักเหยียบเหนือบัลลังค์แห่ง สุรโภคานคร .... และพวกมันทั้งหมด จักต้องถูกเหยียบอยู่ใต้บาทข้า ..ข้าสาบาน !!!!’


...
.

“พี่ท่าน...ร่ำไห้ด้วยเหตุใดเจ้าขา....?”

..............
............................


สว่างสีขาวนวลตา... มาพร้อมกับเสียงหวานที่เอ่ยประโยคอันห่วงใย..

ปลายนิ้วเล็กไล้ลูบหยาดน้ำตาที่อาบใบหน้าเด็กหนุ่ม...ผิวกายเย็นเฉียบหากแต่อบอุ่นยามสัมผัส...แสงสว่างเดียวที่มาจากการล่วงล้ำอาณาเขตของเด็กน้อย...ดั่งแสงสว่างเล็กๆที่เล็ดรอดเข้าไปในจิตใจอันมืดมน...

“พี่ท่าน...เจ็บมากไหมเจ้าขา...?”

แววตาสีน้ำตาลเหลือบมรกต จดจ้องไปยังเด็กหนุ่ม......รอยยิ้มของน้องน้อยเหมือนน้ำเย็นที่รดลาดกองไฟ…

‘เจ็บรึ ...?..ไม่..ข้ามิได้เจ็บอันใด ’

....เด็กหนุ่มสั่นศีรษะช้าๆ เมื่อสดับคำถามจากเด็กน้อย

..........

“แล้ว...ตรงนี้เล่าเจ้าขา...”

ฝ่ามือเล็กวางทาบเข้ากับตำแหน่งหัวใจของเด็กหนุ่ม...หัวใจ...ที่เต้นแรง...

“มันร้อนเหมือนโดนเผาด้วยกองไฟ ....พี่ท่านมิเจ็บรึเจ้าขา....?”

..ไร้คำตอบอันใดกับถ้อยที่ถามไถ่..

เด็กหนุ่มได้แต่จดจ้องแววตาไร้เดียงสาของเด็กน้อย….หยดน้ำตาไหลเอ่อออกมาอย่างไม่อาจควบคุม...

“มันร้อนใช่ไหมเจ้าขา ?...มันทำพี่ท่านเจ็บ...ใช่ไหมเจ้าขา ?....พี่ท่านต้องถามมันเอง..ว่าร้อนด้วยเหตุใด ? หากร้อนด้วยไฟแห่งโทสา...ไฟ...ที่พี่ท่านสร้าง....มันมิได้เผาผู้ใด นอกจากจักแผดเผาตนพี่ท่านเอง...และหากมันยังคงอยู่... สักวัน...มันจักเผาล่ามไปถึงตนที่พี่ท่านรัก...”

รอยยิ้มบางมิได้เลือนหายไปเมื่อเด็กน้อยเอ่ยประโยคนั้น ...เด็กหนุ่มได้แต่มองจดจ้องเด็กน้อยเบื้องหน้า ร่างเล็กนั้นคะเนแล้วน่าจะเยาว์วัยกว่าตน.... หากแต่สิ่งที่ตนสดับนั้น มันเกินกว่าสิ่งที่เด็กน้อยจักเอ่ย....

............
.......
..
......................

"องค์ภังคียะเจ้าคะ..."

"องค์ภังคียะเจ้าค่ะ..."

"องค์ภังคียะเจ้าคะ...อยู่ไหนเจ้าคะ??”

เสียงเรียกซ้ำๆนั้น เหมือนจะทำให้เด็กน้อยหน้านวล ถอยร้นออกไปตามเสียง แสงสว่างเพียงจุดเดียวในดงไม้ที่เกิดจาก เด็กน้อย กำลังจะหายไป...


...

“อย่าทิ้งข้า...”

เด็กหนุ่มปาดน้ำตาแล้วคว้าเจ้าของข้อแขนเล็กนั้นมาโอบกอดไว้ ผิวกายที่เย็นเยือก ยามสัมผัสกับความรุ่มร้อนในใจ มันทำให้อบอุ่น...แสงสว่างเดียวที่เหลืออยู่ ข้า จักไม่ให้ใครพรากไปทั้งนั้น....

“หากมิอยากให้ข้า เจ็บ...รึ...ทรมาน....เจ้าจักมาเป็นน้ำเย็น ผู้ดับไฟข้าได้รึไม่...?”

วงแขนใหญ่โอบรัดเด็กน้อยไว้แน่น...เสียงกระซิบถามข้างหู....มิดังไปกว่าเสียงสายลม...

.....................................
............
.....................................................................................

ครานั้นเป็นการพบกันครั้งแรกของ รองแม่ทัพ ผู้ไร้พ่าย และ องค์มหาอุปราช อันเป็นที่รัก....



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!54 # My moon belong to your sun[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:14:25
บทที่ 54 #  My moon belong to your sun. ฤา...อาทิตย์...มิอาจครองจันทร์ [2


...รอยยิ้มปรีดาฉาบอยู่บนใบหน้าคม

นี้เป็นคราแรกนับจากการเข้าร่วมพลกองแห่งทัพสุรโภคานคร คราแรกที่เด็กหนุ่มได้กลับมายัง สถาน... ‘บ้าน’ นั้นมิเคยจำเป็นเมื่อไม่มีสิ่งสำคัญรอคอย หากแต่สถานแห่งนี้ ต่างหากที่เป็นที่พักทั้งร่างกายและจิตใจ ‘หอจันทร์’ สถานเดียวที่เป็นเสียยิ่งกว่าบ้าน หากมีเจ้าของสถานนี้อยู่ข้าง ไม่ว่าที่ใดๆก็เป็น ‘บ้าน’ ได้ทั้งนั้น

..............
............................

..สิ่งสำคัญถูกวางกองบนผืนผ้าสีคราม ดังจักเอามาโอ้อวดก็มิปาน สิ่งสำคัญที่ว่าที่ขุนพลทราบมากลายๆว่า ผู้เป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ ในเพลาก่อนหน้านี้ต้องใช้ทั้งวาจา ทั้งความเชื่อใจ และใช้เล่ห์เหลี่ยมหว่านล้อมมากเพียงใดเพื่อได้มา... ‘สิ่งวิเศษชั้นเลิศ’ หึ! เห็น ‘เจ้าของ’ เขาว่ามาเยี่ยงนั้น….

“สิ่งใด ภังคียะ ?”

เม็ดกลมสีทองอำพันขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าปลายนิ้วก้อยหญิงสาว ถูกส่องเข้ากับแสงอาทิตย์ เด็กหนุ่มผู้ที่จะก้าวเป็นว่าที่ขุนพลอดสงสัยมิได้เมื่อ น้องน้อยของตนยัดเม็ดกลมสีทองนี้ใส่มือตน

“ยาพิษแห่งนิรันดร์ พี่ท่าน..สิ่งนี้.หาใช่ไข่ตะบองพลำ แม้จักดูคล้ายไข่ตะบองพลำ จนเกือบจักแยกมิออก”

เสียงหวานเอ่ยอธิบายของสิ่งนั้น...เพียงได้ยิน.....ว่าที่ขุนพลถึงกับหันไปหาเจ้าของเสียง

“ยาพิษแห่งนิรันดร์ น้ำหวานแห่ง ‘วณาไพร’ พระพ่อเจ้าบอกข้าเยี่ยงนั้น...สิ่งนี้ใช้ยื้อชีพและความทรงจำของชีพที่กำลังจะดับ...แต่ข้าเจ้ามิแน่ใจว่ามันจักได้ผลจริงรึไม่ น้ำหวานนี้ยากที่จักได้มาและไม่คุ้มค่าหากที่จักทดลอง...แต่ถึงยังไงพี่ท่านก็เก็บไว้เถิด...ข้าเจ้าทดสอบแล้วว่าเป็น วณาไพร หาใช่ ไข่ตะบองพลำ”

ปลายนิ้วเรียวฉวยคว้าเม็ดอำพันในมือใหญ่มาบรรจงใส่ตลับทองแดงโยงสายห้อยยาว แล้วยื่นให้ผู้เป็นเชษฐา พร้อมยิ้มกว้าง และดูท่าจักยังมิจบสิ้นเมื่อ มือเล็กนั้นดึงรั้งข้อมือใหญ่ให้นั่งชิดกับตน แววตาสีน้ำตาลเคลือบมรกต ฉายแววแปลกเมื่อกวาดมองของอีกสามสี่อย่างบนผืนผ้า .....ท่าทางค่ำคืนนี้จักยาวนาน...

‘หากต้องการฟื้นกำลังยามอ่อนล่า ข้าแนะนำ น้ำผึ้งแห่งภัทรมาส น้ำหวานอันได้แต่ดอกเดือนสิบ’

‘ส่วนนี่ ศิลาลม หินสองก้อนที่เป็นทางเชื่อมของประตู ถ้าลองมีหินสองก้อนนี้ ต่อให้ไกลแค่ไหนข้าก็ไปหาปลายทางได้ วิธีใช้มันยุ่งยาก แต่พี่ชายเก็บไว้ก่อนเถอะ’

‘อันนี้ก็ พยนต์ ฝึกหัด พยนต์ข้ารับใช้แบบพรมน้ำ ขอให้ยังเปียกอยู่พี่ชายใช้ได้เต็มที่’

‘อันนี้ ศุภะ หนอนร้อยศพกำจัดซากได้ทุกอย่าง’

‘ส่วนอันสุดท้าย.... ท้ายสุด ข้าเจ้าภูมิใจ..สุดๆที่หามันมาทัน..มณีแดง ยอดเมรัยที่ ต่อให้ช้างป่ายังยอมสยบ....อภินันทนาการจาก นายด่านนาม ตุลกะ’

..............
............................

...

สุดท้ายของที่วางบนผืนผ้าก็ถูกประเคนให้ว่าที่ขุนพลทั้งหมด... เป็นของกำนัลแด่ว่าที่ขุนพล ของกำนัลแด่การกลับมายังนครอีกครา ของกำนัลแด่ เชษฐาที่รักยิ่ง...รอยยิ้มกว้างของอดีตเจ้าของของ ไม่ได้ลบเลือนจากหน้าหวานสักนิด เพียงเท่านี้ผู้รับก็ทราบดีแล้วว่า ตนสำคัญเพียงใด....

...ใช่ ...ตนสำคัญ..

.....สำคัญตั้งแต่ ตอนรู้ว่าเจ้าตัวน้อยแอบหนีออกมาจาก พันธศิลานิล เพื่อมาหาตนแล้ว.....

จากอาทิตย์อันแรงกล้าเพลานี้จันทราดวงโตเคลื่อนไปเกือบเหนือหัว... เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มละมัยมองเจ้าของริมฝีปากอิ่มที่แนบริมฝีปากเข้ากับท่อนแขนตน...นี่เป็นวิธียืดเพลาแห่ง ภังคียะ ให้สถิตยัง พื้นแดนแห่งสุรให้นานขึ้น ใช้เลือดแห่งสุร ….ซื้อเพลา...

..............
............................

..จวบจนผ่านครึ่งคืน....

รสหอมหวานของน้ำหวานก็ผสมกับกลิ่นหวานยวนแห่งเมรัยนามมณีแดง สติแห่ง ภังคียะเหมือนถูกปั่นให้สับสน เมื่อกฎเกณฑ์ถูกก้าวข้าม บิดานั้นสั่งสอน...แลห้ามมิให้ตนหลงกับรสเมรัย.....เพียงเพราะเมรัยอันหอมหวานเคยทำลายศักดิ์แห่ง สุร ให้ตกต่ำกว่า เทวา บิดาจึงเกลียดยิ่งกับน้ำเมา พาลให้ ภังคียะบอกตนเองห้ามแตะต้องหรือลิ้มรสน้ำนั้น หากแต่ตอนนี้เพียงแค่กลิ่นหอมหวามหวาน....ก็เหมือนจักถ่วงร่างให้หนักลง..บดบังสติอันเลือนลางจน ภังคียะต้องเอนตัวทรุดลงกับพื้นเบาะนุ่ม ผู้เป็นพี่ชายนั้นแม้จักอดอมยิ้มไม่ได้กับอาการของน้องน้อยต่างสายเลือด แต่ก็มิวายกระเซ้าแหย่.....

เมรัยสีทับทิมหมดไปเกือบครึ่ง แต่มิได้ทำให้นักรบนั้นเลือนสติ จักมีก็แต่เจ้าตัวดีที่เพียงได้แต่กลิ่นเท่านั้นสติก็เตลิดลางเลือนจนเอนกายทอดยาวไปกับพื้นโดยมิสนใจสิ่งใด... ร่างใหญ่ดันตัวลุกคว้าข้อมือเล็ก แต่ร่างอ่อนนั้นมิมีวี่แววจะบังคับร่างกายตนเองได้เลย จนผู้เป็นพี่ชายต้องโอบเอวร่างบางพยุงร่างนั้นขึ้นมาพักไว้กับอกก่อนจะเลื่อนตัวลงนั่งโดยปล่อยให้ร่างบางนั้นนั่งค่อมทับอยู่บนตักตนเอง

“บิดา..มิเคยให้แตะต้องเมรัยสินะ?”

น้ำเสียงนั้นถามกึ่งเย้า...

แต่ร่างบางที่ซุกอยู่บนอกได้แต่หอบหายใจเพราะโสตกำลังสัมผัสความรู้สึกประหลาด...

ทั้งที่เปลือกตาหนักบวกกับร่างกายที่พร้อมจะทิ้งปิดลงได้ทุกเมื่อ แต่ทุกสัมผัสแห่งผิวกายกลับรับรู้ได้แม้แต่ไอร้อนและความเย็นแห่งเนื้อหนัง เจ้าตัวน้อยยันตนให้ออกห่างจากร่างใหญ่ แต่นั้นกลับเป็นการกระตุ้นให้ไอสัมผัสชัดเจน ตนร่างใหญ่ยิ่งเห็นอาการผิดแปลกยิ่งมีแต่อยากแกล้งให้หนักขึ้น ริมฝีปากหนานั้นทาบทับริมฝีปากนุ่มพร้อมแทรกลิ้นให้ริมฝีปากนั้นเผยอรับเมรัยรสหวามหวานที่ตนอมไว้สู้น้องชายที่ไร้แรงขัดขืน...

เพลาแรกร่างบาง รวมสติและกำลังผลักร่างใหญ่แห่งพี่ชายแต่ยิ่งนานไปสันดานแห่งสุรยิ่งเร่งเร้าให้กระหายและกระสันอยากในเมรัยรสหวาม จนร่างบางเองที่เป็นฝ่ายดูดเลียลิ้นและริมฝีปากหนาจนพาลไปสู่ความกระสันอยากในกำหนัด ว่าที่ขุนพลยามแรกคิดเพียงแกล้งหยอกเล่น หากบัดนี้กลับมิอาจห้ามตนให้หยุดดั่งแรกคิด ตนมิอาจถอนริมฝีปากที่ถูกรุกเร้านั้นได้และเหมือนยิ่งอยากได้มากกว่านี้ อยากสัมผัสร่างบางแห่งอนุชามากกว่านี้ ปลายนิ้วแกร่งที่เคยจับศาสตราวุธ ไล้ลูบผิวกายเนียนเย็นอย่างมิรู้เบื่อ จนสัมผัสร้อนจากร่างใหญ่เหมือนจะเรียกสติแห่งภังคียะให้กลับมา

แต่ครั้นพอจะเริ่มสำนึก รสหวามแห่งเมรัยก็ถูกเติมจากริมฝีปากสู่ริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่า จนผู้เป็นน้องชายมิมีแรงหรือสติอันใด มิมีแม้แต่แรงจักควบคุมตนเองให้ขัดขืนผู้เป็นพี่ชายต่างสายเลือด ว่าที่ขุนพลไล่เลียผิวกายเย็นหวามหวาน รอยแดงระเรือปรากฏขึ้นทุกครั้งที่ว่าที่ขุนพลจูบแม้มลงบนผิวกาย เรื่อนร่างเบื้องหน้าเปลื่อยเปล่า เมื่อผืนผ้าที่เคยปกปิดตนนั้นถูกถอดกองอยู่กับกองข้าวของสำคัญ...

แม้จักกัดเม้มหรือลากลิ้นเลียเท่าไหร่ก็หาได้มีแรงขัดขืนจากร่างบางนอกเสียงจากเสียงครางกระเส่าที่แผ่วเบา ร่างบางถูกปล่อยให้ทอดกายยาวก่อนที่ว่าที่ขุนพลจะทาบทับลงไซ้ลิ้นเลียซอกคอเปลื่อยเปล่า แต่มิวายเงยหน้าขึ้นมาถามไถ่

“เจ้ารักข้ารึเปล่า ภังคียะ?”

..............
............................


“รัก เจ้าค่ะ...”

คำนั้นเหมือนกระซิบ...

แล้วความเจ็บปวดก็เกิดขึ้นพร้อมความกระสันอยาก เมื่อท่อนเนื้อแห่งว่าที่ขุนพลแทรกเข้าร่างบาง บีบรัดแต่เร้าร้อน เจ็บปวดแต่วาบหวาม ร่างเล็กบิดตัวหนีความเจ็บปวดที่กระแทกกระทั้น แต่มิอาจขัดขืนเมื่อมือใหญ่นั้นจับช่วงเอวตนตรึงไว้แน่น พร้อมค่อยๆกดแท่งเนื้อแห่งตนเข้าไปจนมิดแล้วค่อยๆดึงออกและเริ่มขยับเป็นจังหวะจนร่างเล็กสะท้านไปทั้งตัว

“กลืนเข้าไปให้หมด ภังคียะ หากเจ้ารักข้า...ข้าอยากได้รักมากกว่านี้ มากกว่านี้...ภังคียะ...”

เสียงพร่ำชื่อนั้นเหมือนดังไกลๆ แต่เท่าที่รู้ตน ตอนนี้ความกระสันอยากเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวด ร่างบางเหมือนจะรองรับกับแท่งเนื้อและจังหวะแห่งว่าที่ขุนพล

“เข้าไปอีก ให้ลึกกว่านี้ ..อยากให้เจ้ากลืนกินข้าเข้าไปให้มากกว่านี้ ภังคียะ...”

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ร่างใหญ่หยุดตัวเองไม่ได้ที่จะขย่มกระแทกแท่งเนื้อนั้นเข้าร่องเล็กที่ร้อนแรง ดึงรัดและบีบแน่นจนความกระสันอยากถึงที่สุด แรงทั้งหมดยิ่งกระแทกถี่จนร่างบางร้องครางกระเส่าถี่ เสียงนั้นยิ่งทำให้แรงกระแทกเพิ่มขึ้นจนแท่งเนื้อเข้าไปในร่องร้อนนั้นจนมิด ก่อนความกำหนัดจะถูกปล่อยออกมาพร้อมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่หายไป ร่างใหญ่แห่งขุนพลหอบหายใจทาบทับร่างบางที่หัวใจนั้นเต้นรัวไม่ต่างกัน ครั้งพอเริ่มมีแรงอีกครั้งว่าที่ขุนพลก็กระซิบกับร่างแห่งภังคียะ ที่ตนโอบกอดไว้อย่างหวงแหน...

“อย่าเพิ่งหลับ...ข้าอยากกอดเจ้าทั้งคืน..”

แล้วไฟแห่งราคะก็ถูกจุดครั้งแล้วครั้งเล่าโดยมีว่าที่ขุนพลเป็นผู้เริ่มจนจบ....ไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ ภังคียะต้องทรมานแทบขาดใจใต้ร่างและวงแขนแห่งว่าที่ขุนพล

..............
......แต่ความทรมานนั้นก็คุ้มค่า แม้ดวงอาทิตย์จะคล้อยบ่ายแต่คมเขี้ยวแห่งภังคียะ ยังคงฝังแน่นจมอยู่กับข้อแขนแห่งว่าที่ขุนพลรอยเขี้ยวแห่งภังคียะบนร่างว่าที่ขุนพลนั้นมีมากพอๆกับรอยจ้ำแดงบนร่าง ภังคียะ แต่มันต่างกันก็ด้วยรอยจ้ำแดงบนร่าง ภังคียะเกิดจากความกำหนัดแห่งว่าที่ขุนพล ส่วนรอยเขี้ยวบนร่างว่าที่ขุนพลเกิดจากการดื่มกินเลือดแห่งสุร เพื่อให้ตนภังคียะดำรงค์ได้ยาวนานขึ้นแม้อยู่นอกสถานแห่งพันธศิลานิล ภังคียะถอนคมเขี้ยวตนออกจากข้อแขนแกร่งแล้วพลิกกายมองยังใบหน้า คม ของขุนพลผู้เป็นพี่ชายที่เหนื่อยอ่อนไม่ต่างจากตน

“พอแล้วรึ?”

เสียงทุ้มต่ำไถ่ถามร่างในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน....

ไม่ได้ใยดีสักนิดต่อรอยคมเขี้ยวที่ฝังแน่นไปทั่วร่างตน ชินชาสำหรับความเจ็บปวดนี้ ที่จะมียามริมฝีปากแนบคมเขี้ยวลงไปก็แต่ความวาบหวามยามคมเขี้ยวนั้นฝังลงบนเนื้อหนังตน รอยเขี้ยวนั้นจะหายไปเองเมื่อ ภังคียะไล้เลียรอยคมเขี้ยวจากปลายลิ้น หากแต่ที่ปล่อยให้ร่างตนเป็นรอยไว้เยี่ยงนี้ ภังคียะ ก็คงเพียงแค่อยากลิ้มรสทุกส่วนของตนมากกว่า...................




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!54 # My moon belong to your sun[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:15:48
บทที่ 54 #  My moon belong to your sun. ฤา...อาทิตย์...มิอาจครองจันทร์ [3]
[Part ภังคียะ]



...ซุ้มกระโจมแสงไฟอันละลานตาเบื้องล่าง ส่งให้สถานนั้นดูเปรี่ยมอำนาจ...

เฉกคำที่เคยได้ยิน เหล่า ‘เหราไฟ’ หาใช่แค่กองโจรธรรมดา... หุบเขาที่เร้นลับซ้อนซอกพลนับพันไว้ในผาหิน..การผ่านทางแห่ง เหราไฟ มีเพียงการเจรจาเท่านั้นที่จะประสบผล...หากคิดหักด่านแห่งเหราด้วยกำลัง ....พินาศคือคำเดียวของบทสรุป !

..............
............................

มันทุกตนที่หาญกล้า ...ต่อกร ...หาได้คงชีพในแดน เหราไฟ ..

.
.
.


ใช่.มันจะเป็นตนใดก็ช่าง ..มันตนใดก็ได้ ที่จักตกตาย ยกเว้น


..พี่ชายข้า !!!


..............
.........................





...

“สาม..”

เสียงต่ำกังวาน เอ่ยออกมาอย่างใจเย็น ร่างที่อยู่เบื้องหน้าเจ้าของเสียงนั้น..ได้แต่จดจ้องแววตาสีเพลิงมือเล็กชะงักเพียงเกือบจะเอื้อมคว้า ขวดแก้วใสบรรจุของเหลวสีทับทับสด....

“หากแต่ ข้าเจ้าขอ ห้า ทิวา..เพลา.นี้......ข้าเจ้ามีสิ่งต้องทำมากกว่าการเจรจากับเหราไฟ..สามทิวาใยจักพอรึ? ..ท่านลุงก็ทราบความดี ... ”

“ข้าเองทราบความ...แล้วใย ?...บิดาเจ้าทราบความเฉกข้าด้วยกระนั้นรึ?....หน้าที่ของฑูตเฉกเจ้า คือการเจรจาข้ามแดน หาใช่การค้นหา...อดีตหัวหน้ากองที่นำพลกองไปตกตายเพราะความทะนงอันโง่เขลา...หน้าที่ของเจ้าคือการเจรจา หาใช่การเขาช่วยเหลือเชลย...ภังคียะ”

“แต่เชลย ตนนั้นคือ พี่ชายข้า !! ท่านลุงโปรดเถิด..”

“แม้มีบิดาตนเดียวกัน หากแต่มารดาที่เป็นเพียงหญิงสามัญชน เชลยตนนั้นหาคู่ควรกับคำว่า พี่ชายเจ้า...เอาสิ เจ้าเป็นถึงอุปราชมิใช่รึ แสดงให้ข้าเห็นทีสิ ว่าอุปราชเยี่ยงเจ้า จักช่วยเชลยออกมาได้เยี่ยงไร... สาม...แค่สามทิวาเท่านั้น ภังคียะ .....เลือก..ว่าจะยื้อเพลาแล้วดับชีพตน...เพื่อช่วยพี่เจ้า... รึจักทำหน้าที่ฑูตให้ดีที่สุดเพียงเท่านั้น...องค์อุปราช..”
.............................................

...ริมฝีปากอิ่มกัดเม้มเป็นเส้นตรง ..

‘จักให้ข้าเลือกรึ ? เอาสิ หากให้ข้าได้เลือก ข้าก็จักเลือก...ข้าจักเลือกชีพพี่ข้า หาใช่ตนเอง...แล้วเรามาพนันกัน ท่านลุง หากข้าใกล้สิ้นจริง ท่านลุงจักทำเฉกใด?!!’

..............
............................



Part มหินทรา (หัวหน้ากองพล )


.....แสงแห่งวัน...กำลังจะลับฟ้า...กระนั้นรึ ...เหตุใด....มันจึงได้เลือนลางและแดงฉานเฉกนั้น...

..
...ครานี้ข้าพลาดสินะ ....เพียงเพราะความทะนงตนอันเป็นสันดาน ....มันจึงได้จบเยี่ยงนี้.... ข้า...นำกองพลเกือบครึ่งร้อยมาสังเวย เหวแห่งเหรา.... กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นซากศพ..หึ...ข้า....โดนฝังอยู่ใต้กองดินนี้มานานแค่ไหน... จมอยู่ใต้กองซากศพนี้มานานเท่าไหร่..แล้ว ... น่าสังเวช...! คิดจักก้าวขึ้นตำแหน่งรองแม่ทัพ แต่กลับต้องพ่ายอุบายตื้นๆของ เหล่า ‘เหราไฟ’ ไอ้พวกเคี่ยม!! มากเล่ห์ !!!

..............
............................

..........ร่างใหญ่...ไร้การตอบสนอง..เมื่อถูกฝังทั้งเป็น...ใต้กองดินและแผ่นหิน..... สตินั้นค่อยๆลดลงเหมือนโลหิตที่ค่อยๆไหลเจือไปกับสายฝน...แผลใหญ่ช่วงต้นคออยู่ใกล้เส้นเลือดเพียง ปลายนิ้วขั้น... แขนขา ขยับไม่ได้ดังใจ....ไม่รู้ว่าควรจักดีใจ รึเสียใจ เมื่อความเจ็บปวดค่อยๆเลือนหาย ...ร่างกายเริ่มที่จะไร้ความรู้สึกนั้น.....เป็นดั่ง..สัญญาณเตือนแห่งมัจจุราช.....ตะวันลับฟ้าไปนาน...นานพอๆกับ แสงชีพ... ที่ใกล้จะริบหรี่... ทุกสิ่งกำลังจะจมลงสู่อนันตรากาล... นรกขุมไหนกันนะ ที่ข้าจักสถิต ...?

เจ้าของร่างใหญ่ถามตนเอง..

.................
...

‘อสินขะนรก…’

.........
.....

....ชื่อแดนนั้นผุดขึ้นมาเมื่อแสงนวล แห่งจันทร์ ค่อยๆฉายส่องรอดลงมาตามช่องว่างของเศษดินและกองหิน ฉายเคลือบผ่านผิวกาย แสงนวลโอบอุ้มราตรี... แม้มิอบอุ่นเฉกแสงวัน หากแต่ก็ แสนละมุน..นวลตา.... ยามจ้องมอง

‘ทำไมต้องเป็น อสินขะนรก?’

ชีพผู้ใกล้สิ้นเคยถาม..ไปยังผู้เอ่ยชื่อภูมินรกนั้นขึ้นมา ...ภาพของน้องน้อยช่างเจรจาผุดขึ้นมาในความทรงจำ ปลายนิ้วเรียวทั้งสิบยื่นจ่อเข้ามาใกล้ ดังเป็นคำตอบ... นิ้วเรียวทั้งสิบที่เล็บงามบนนิ้วนั้น...เป็นสีนิล ทั้งหมด...

‘พ่อเจ้าเคยบอกว่า.... ข้าเป็นนายแห่ง อสินขะทั้งปวง...หากต้องตกตายสิ้นชีพ ...ตนข้าก้ต้องสถิตยัง อสินขะแดน...พี่ท่านก็เฉกกัน หากพี่ท่านตกตายจริง ก็ต้องสถิตยัง อสินขะแดนเท่านั้น .....จักได้อยู่ใกล้ข้าเจ้าเยี่ยงไรเล่า ...’

........ภาพวงหน้าหวานฉาบ..รอยยิ้มหวาน..เสมอคำ เพลานั้นข้าตอบตนเองมิได้...ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ข้า ...มิอาจลบ ภังคียะ ออกจากความทรงจำ...

...แม้แต่ตอนชีพใกล้ดับ...ข้ายังคำนึงถึง น้องน้อยตนนั้น ....เพลานี้ เจ้าเสียงหวานจักเป็นเช่นไร ?

จักรู้ความรึไม่ว่า พี่ชายตนนี้...จักดับสิ้นแล้ว...


..............
............................

.
.
.

...

‘.ขุดเจอจนได้ ..เก่งที่ยังไม่ตาย!!!!.ใช่มันตนนี้รึ?....หึ!! สภาพเฉกซากศพ...’

........
เสียงแว่วที่ข้าได้ยิน...ดังก้องขึ้นมา สำเนียงของพวกเหราไฟ..?

........
..


‘ใช่ที่...เอาชีพตนแลกซากศพ รึ...หลานนายด่าน นั้นคิดเฉกใด ?....ถึงได้ซากร่างนี้มาก็ใช่ว่า เจ้าซากนี้จักฟื้นคืนเฉกเดิม....ข้ารึเสียดาย ดวงตาสวยๆ .เสียงหวานๆ..หึ!! นามใดนะ ?...อ้า! ข้าคิดออกแล้ว เจ้าตาสวยนั้นนาม ภังคียะ สินะ ...เอาชีพตนแลกกับซากพี่ชาย....ใครเขาว่า หลานนายด่าน มากเล่ห์..ข้าชักมิเชื่อตามคำแล้ว สิ หึหึหึ...’

‘แล้วจักทำเยี่ยงไรกับซากนี้....?’

‘ยังไงก็ต้องนำส่งคืนยัง เจ้าตาหวานตนนั้น ...น่าสนุกที่จักเฝ้ามอง.....ระหว่างเจ้าตาหวานกับซากตนนี้ ใครมันจักสิ้นก่อนกัน ....น่าปรีดาแทน ....เจ้าซากนี้จริงๆ....ได้น้องที่รักขนาดนี้...ถ้าเกิดเจ้าฟื้นขึ้นมาได้จริง...เจ้าจักยินดีรึไม่....ที่น้องเจ้าต้องมาเจียนตายเพราะเจ้าเอง....พี่ชาย...?'


..............................เสียงนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ข้าได้ยิน...ก่อนจะตื่นขึ้นมาอีกครา..... พร้อมข่าวร้าย....

...

.
.
.

....ข้า...เคยคิด...ว่าตน..เป็นเพียงชีวิตหนึ่งที่ถูกลืมเลือน มารดา...ที่มิเคยมีปากเสียงกับผู้ใด มิคิดแม้แต่จักปกป้องบุตรเยี่ยงข้า ...บิดาที่มิเคยให้ไออุ่น มีรึมิมีก็เฉกกัน ... ข้ามิเคยได้สิ่งที่เรียกว่า  ‘รัก’  .... จน...ตนข้าเกิดความสงสัย...หากข้าเป็นตนอันเกิดมาเพื่อเป็น  ‘รัก’ นั้น.... ข้าจักเป็นเฉกใด ?

จักยิ้มได้อย่างเปรี่ยมสุข หรือจักเงยหน้ามองดวงตะวันได้อย่างไร้กังวลรึไม่ ?

….. จวบจนข้าได้เห็นและรับรู้ ถึงตนนั้น

‘ผู้เป็นที่รัก... นามภังคียะ ’

บุตรแห่งรักที่บิดายอมแลกมาด้วยชีพของหญิงชาวนาคา..หญิงที่พญายักษ์นาม ‘ฑิฆัมตรัง’  รักที่สุด...

น้องน้อยที่ข้ามิคิดว่าจักได้มี .... น้องน้อยผู้เป็นที่รัก... แห่งบิดา ...

หึ! …เพราะรักมาก... รักจนทำให้บิดายอมแลกทุกสิ่งเพื่อให้ ภังคียะได้คงอยู่ ผิวกายสีนวลที่เย็นเยือก...ความเย็นอันเป็นผลมาจากการต้องดำรงค์ตนในพันธศิลานิล สถานแห่งนาคา... น้องน้อยของข้า มิอาจดำรงค์ยังสถานอื่นเกินข้ามคืน

กรงแห่งรักแปรสภาพดั่งกรงอากาศ กักขังร่างนั้นให้ทุกข์ทรมาน แม้จักมีทั้งเชื้อสายสุรและนาคาอยู่ในตัว หากแต่มิอาจหายใจยังสถานแห่งสุร ได้....

‘จงภูมิใจเถิดพี่ท่าน...พี่ท่านคงอยู่ด้วยตนพี่ท่านเอง หาใช่ต้องพึ่งชีพผู้ใดเฉกข้า..ยามสถิตนอกสถานแแห่งพันธศิลานิล...ข้าเจ้าอยู่ได้ด้วยโลหิตและไสยเวทย์แห่งพระพ่อเจ้า หาใช่หายใจด้วยมโนแห่งตนเอง...ตนข้า...มิกล้า...แม้แต่จักเงยหน้ามองดวงตะวันเสียด้วยซ้ำ..’

..............
.........................

...

มาตอนนี้ข้าจึ่งเข้าใจ ...เพียงข้าเท่านั้นที่สำคัญสำหรับ ภังคียะ ....

สำคัญถึงขนาดยอมแลกชีพตนกับสภาพเฉกซากศพเยี่ยงข้า....มันมิใช่เพียงความลับของสายเลือดสุรบริสุทธิ์.... มันมิใช่มีเพียงแต่เลือดข้าเท่านั้น ที่ยื้อชีพอันเปราะบางได้โดยมิต้องพึ่งพา ไสยเวทย์ อันใด... หากแต่เพราะ ภังคียะ เห็นข้าสำคัญยิ่งกว่าชีวิต ตนเอง....

....นั้นทำให้ข้าได้ตระหนัก....สำหรับภังคียะ ข้า ...คือตนสำคัญ!!!

สำหรับ ภังคียะ ข้าหาได้เป็น ชีพที่ถูกลืมเลือน สายตาข้าเปรี่ยมสุข..ยามทอดมอง รักที่ก่อตัวเป็นรูปร่าง

...รักอันมีนามว่า

'ภังคียะ'

รักของข้า.......... เพียงแต่ผู้เดียว..
.................
....
.
.

ภังคียะ....ใช้ร่างจริงในการติดตามหาข้า.. แม้...เจ้าน้องน้อยรู้ตนว่า..มิอาจหายใจ...ในแดนสุร...ได้เกินข้ามคืน........

.
..


..ครานั้น..


ข้าแทบบ้า.......แม้จักรู้ว่า ....ขุนพลนาม ฑิฆัมตรัง จักมิปล่อยให้ ภังคียะต้องสิ้น ......

..............
........


..
แต่หลังจากนั้นก็..เกือบ สามปี ..

........
กว่าข้าจักได้เห็น..น้องน้อยของข้า.แอบหลบออกมาจาก พันธศิลานิล อีกครั้ง..

ข้ามิกล้าเดา.....ว่า..ก่อนหน้านี้ ภังคียะ มีสภาพเฉกใด...........................
..............
.......

.
.
.

...นับจากครานั้น....ไม่ว่าจะเกิดศึกติดพันยังเขตแดนหนักหนาเพียงใด....

ไม่ว่าข้าจักอยู่ในฐานะรึตำแหน่งใด...สิ่งเดียวที่ทำให้ข้ามิยอมสิ้นชีพ... สิ่งเดียวที่เหนี่ยวข้าไว้จากพญามัจจุราช


..สิ่งนั้นคือ มหาอุปราช นาม ภังคียะ ...เพื่อเจ้า...ข้าจักตกตายมิได้...จักมิมีเหตุการณ์เฉกครานั้นอีก ข้าสาบาน!

..............
............................



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!55 # Lose of love..กอดสุดท้าย[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:22:22
บทที่ 55 # Lose of  love..กอดสุดท้าย...แห่งแสงวัน[1]



‘ตนเยี่ยงมึง ...เคยรักในผู้ใดด้วยรึ !? ตนมึงเคยมีด้วยรึ ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ !!’
…..
..
ข้ามองไปยังแววตาสีแดงเพลิง..ผู้ถามคำถามคงมิหวังคำตอบใด.นอกจากถ้อยที่ถางถากตนข้า...ท่านต้องการคำตอบไหมเล่า ? ....ท่านลุง....?

“ตอนนี้ข้ามิมีหรอกสิ่งที่เรียกว่า ‘หัวใจ..’ เมื่อหัวใจข้า ให้...แด่ ภังคียะไปแล้ว ...ภังคียะ ที่เกือบสิ้น เพราะลุงเช่นท่าน...พัตตัง....”

ปลายดาบข้าตวัดลงสันคอเจ้าของร่างนั้นอย่างไม่ลังเล โลหิต สีชาดแดงฉานไปทั่วลานหิน...ข้ามองไปยังท้องฟ้า เมื่อคิดไปถึงเจ้าของ ‘หัวใจ’ ข้า…
... ราตรีสีนิล ฉาบไปด้วยแสงนวลแห่งจันทรา ดวงดาวนับพันรายล้อม จันทร์กระจ่าง ถึงแสงนวลจักมิแรงกล้าเทียบแสงแห่งวัน หากแต่แสงนั้นก็สงบเย็น..ละมุนจนเหล่าดารารายล้อม ...ช่าง...ต่างกับดวงตะวัน แสงวันนั้นร้อนแรงเสียจนกลบดาวทั้งมวล ยิ่งใหญ่แต่โดดเดี่ยว... จันทรา มีดารานับพันรายล้อม หากแต่ใช่ดารารึที่จันทรา ต้องการเคียงคู่....อาทิตย์เยี่ยงข้าต่างหาก ที่สมควรเคียง จันทรา ...อาทิตย์เยี่ยงข้าต่างหาก ที่เป็นเจ้าของ จันทรา เพียงผู้เดียว !!!
..............
............................

เกือบสามปีที่ ภังคียะ หายไป....เป็นสามปีที่ข้า เร่งตนให้ได้มาซึ่งอำนาจ ... ไม่ว่าจักต้องทำวิธีใด ... หากจักเคียงจันทร์ ก็ต้องสูงเสมอจันทร์ !!! การกำจัดขวากหนาม...เป็นหนึ่งในวิธีนั้น ... หากสู้ต่อหน้ามิได้ ก็ต้องลับหลัง การลอบสังหารจำเป็นต้องอาศัยพวก ‘เคี่ยม’ ข้าได้ตนของ ‘เหราไฟ’ มาเป็นแขนขาเกือบ 5 ตน ทั้งหมดเพราะการวางหมากของน้องน้อย ...ที่ยอมแลกทุกอย่างเพื่อข้า ข้ามิรู้ว่า ภังคียะ ใช้วิธีใด หากแต่เหมือนหนทางทั้งหมด อุปราชน้อยได้คำนวณ ให้ข้าแล้ว ...ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามการวางหมากนั้น ยกเว้น ค่ำคืนนี้ที่นอกเหนือจากหมากบนกระดาน ...ข้า...และตนของเหราไฟ...ลอบเด็ดหัว พัตตัง ลุงแท้ๆของ ภังคียะ ลุงที่ท้าให้ น้องน้อยข้า เลือกความตาย...ตนมัน..ก็สมควรตายตกตามกัน!!!
..............
................................
.ข้าลากซากไร้หัวนั้น...โยนลงบ่อเหรา..ไอกำมะถัน...ฟุ้งขึ้นสูงแล้วทิ้งตัวลงเพียงเศษเถ้า เปลวลาวาในหุบเหราเผาไหม้ได้ทุกสิ่ง ...จักนับอะไรกับซากร่าง นาคาเยี่ยงนี้..

“เก็บทุกสิ่งให้เรียบร้อย...วันพรุ่ง แจ้งข่าวยังสุรโภคนคร พัตตัง ท่านสิ้นแล้วด้วยกองโจร..ทางเรา..มิอาจพบแม้ศพ... ”
...............
…เพื่อ ภังคียะ ข้าทำได้ทุกสิ่ง .... ข้า ทำทุกอย่างเพียงเคียงข้างน้องน้อย ต่อให้ใครต่อใครประณาม ต่อให้ต้องทรยศตนทั้งแดน ....ข้าก็จักทำ...
...
มาในวันนี้ ....ข้าได้มาซึ่งทุกสิ่ง...ในวันที่มหาบาราย กำลังจะแล้วเสร็จ วันที่ข้า พบว่า ทุกสิ่งเปลี่ยนไป ....
.. ‘พันธศิลานิล’..เหมือนเป็นเพียงคำเล่า..ทวารหิน..ปิดสลักแน่น...อสูรยักษ์สองตนที่คอยต่อล้อต่อเถียงกันยามข้านำ ภังคียะ มาส่ง ณ ปากทวารศิลา กลับกลายเป็นหินแนบติดกับผนังปราสาท....เสมือน พันธศิลานิลนั้น...ไร้ชีวิต... ไม่มีไอเย็นจากสายน้ำด้านใน ไม่มีกลิ่นบัวสีครามที่เคยลอยหยอกสายลม... เกิดสิ่งใดขึ้น!!!
‘พันธศิลานิล ก็เหมือนสถานเฉพาะ...หากไร้ ‘นาย’ มันก็จักปิดตัวเองลง...แต่ข้าเจ้ามิรู้หรอกเจ้าค่ะว่าหาก พันธศิลานิล ปิดลง จักเป็นเฉกใด ตอนนี้ข้าเจ้าเป็นนายแห่งสถานนั้น หากจะเห็น พันธศิลานิล ปิดลงก็คงแปลก..ต้องรอให้ข้าเจ้าสิ้นก่อน..จึงจักได้รู้เจ้าค่ะ...’
เสียงน้องน้อยข้าดังมาในสำนึก...’ต้องรอให้ข้าสิ้นก่อน’ !!!! หัวใจข้ามันนิ่งจนแทบจะหยุดเต้น !!! เกิดสิ่งใดขึ้นกับ ภังคียะ !!

“ ตามหาองค์อุปราช กับอีหญิงกาลี!!! ตามหาสองตนนั้นให้เจอก่อนวันพรุ่ง!!!!”

... มหาบารายกำลังจะแล้วเสร็จ....สถานแห่งมหาเทพที่ข้าสร้างเพื่อเจ้าเท่านั้น...อยู่ยังที่ใด ภังคียะ.. ได้โปรดเถิด..... กลับมา.. กลับมาหาข้า..... ได้ปรดเถิด กลับมา...
...............................................................
.........................
ข้า...เจอนางแล้ว ...หากแต่ไร้วี่แวว ภังคียะ ...เกินข้ามคืนที่ ภังคียะ หายไป...มีเพียงนางที่ทราบความ ....ร่างบางเบื้องหน้าข้า... ซีดเซียวเฉกซากศพ ....แววตานางเหม่อลอย.ไร้ซึ่งชีวิต .....หญิงนางรำที่เคยได้ชื่อว่างาม...จน.. สะกดให้ อุปราชแห่งสุรโภคานคร คงรัก ....เพลานี้ ริมฝีปากสีสดที่เคยเอิบอิ่ม....แห้งผาก ...นางโอบกอดกริชด้ามยาวไว้แน่น ริมฝีปากแห้งพร่ำบ่น ถ้อยคำแผ่วเบา...ซ้ำไปซ้ำมา...ข้าคงสังเวชนาง... หาก...นางมิใช่ผู้ที่แย่ง รัก.....ไปจากข้า ต่อให้นางไร้แขนขา ก็ใช่ว่าข้าจักใยดี !!

“ภังคียะ อยู่ที่ใด?”

เพียงเอ่ยชื่อนั้น..ก็ทำให้นางหันมาหาข้าได้ไม่ยาก ...ดวงตาเหม่อลอยไร้แวว .....ค่อยๆหลับลงเหมือนต้องการสดับชื่อนั้นให้ชัด น้องข้า ‘รัก’ นางมากแค่ไหน.. ใยข้าจักมิรู้ หากแต่นางที่ทรยศ.. จุดจบมันก็ไม่ต่างกัน ...กับตนอื่น. ไม่ว่ามันตนใดก็มิสมควรทำร้ายน้องข้า...

“สิ้นแล้ว ....สลายไปต่อหน้าข้า....สลายหายไปทั้งหมด....เพราะมัน...เพราะมหินทราตนนั้น....”

นางก้มหน้าพร่ำบ่นถ้อยคำที่ข้ามิอาจเข้าใจ...เกิดสิ่งใดขึ้นกับ ภังคียะ ....

“สิ้นไปแล้ว....ด้วยมือข้าเอง....ข้าเจ้า....ฆ่า องค์ภังคียะ ด้วยมือข้าเจ้าเอง....เพียงเพราะหลงเชื่อคำลวงท่าน....”

“เพียงเพราะข้าเชื่อคำท่าน!! เพียงเพราะข้าเชื่อคำท่าน มหินทรา !!!!”

นางกรีดร้องแล้ว ซบหน้าลงกับด้ามกริชที่โอบไว้..... ข้ามิเข้าใจ ความอันใด.....

“เกิดสิ่งใดขึ้นกับ ภังคียะ ??!!!!”

แววตาแดงกล่ำจดจ้องมองข้า...สองมือเล็กแห่งนาง.. ประคอง.. กริช ด้ามยาวมาวางไว้แทบเท้า ข้า...

“กริชเทวา...ท่านเองมิใช่รึ? ที่ให้ข้าเลือก.... ศักดิ์...แห่ง รานีย์สุรโภคานคร...? รึ... นางหญิงแห่ง ภังคียะ ? เพียงแค่... ทำลายเชื้อสายนาคาในองค์ภังคียะ เพียงแค่แทงกริชนี้ลงไป...แล้วใย!!!??? แล้วใยองค์จึงสูญสลาย !!!!แล้วใย?????!!! แล้วใย!!! ข้าเจ้าเลือกแล้ว..ข้าเจ้าเลือกแล้วไง!!! ข้าเจ้าเลือก องค์ ข้าเจ้าเลือกที่จะเป็นนายหญิง แห่ง องค์ภังคียะ !!! แล้วใยองค์ถึงดับสูญไป !!! คืนมา !! เอาคืนมา !! เอาตนรักแห่งข้าคืนมา!!!! เอาคืนมา!!! ”

นางกรีดร้อง...และกล่าวโทษข้า...สองหูข้าตอนนี้มิได้ยินคำสาปแช่งอันใด จากนาง สิ่งที่ข้ารับรู้มีเพียงสิ่งเดียว
‘เพียงแค่... ทำลายเชื้อสายนาคาในองค์ภังคียะ เพียงแค่แทงกริชนี้ลงไป...’

หึ ! ข้าหน่ะรึ..? ข้าหน่ะรึ เป็นผู้กล่าว คำนั้น ? ข้าหน่ะรึ??.... กริชด้ามนี้ข้ามิเคยเห็นด้วยซ้ำ ...และที่ยิ่งกว่านั้น ข้าหน่ะรึ จักคิดให้ผู้ใดทำร้าย ตนที่ข้ารักที่สุด !!!!!
........................................
..................................................................................................
....กาลผันผ่านไปจนข้ามิอาจนับ ....พะเตรียง ...หญิงนางนั้น กักขังตนเองไว้ ใต้ มหาบาราย เพียงเพื่อสวดอ้อนวอนต่อ องค์บรรพตี นางขอให้ได้พบ ภังคียะ อีกครั้ง...
แต่...สำหรับข้า....
....สุดท้าย.....ข้าเองก็มิอาจพบ ภังคียะ กี่ปีกี่ทิวากาล ที่ข้าเฝ้ารอคอย น้องน้อยของข้า... คงเป็นเพราะไร้ร่างที่จะยืนยันว่า ภังคียะ สิ้นแล้ว ข้าจึงได้แต่หลอกตนเอง...ว่า น้องน้อยของข้ายังคงอยู่...แม้.....ข้ามิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น หากแต่เกือบทุกทิวา...ที่ แสงจันทร์ส่อง ข้าก็อดมิได้ที่จะไปสถิตยังหน้าทวารแห่งพันธศิลานิล... ทุกครั้งที่รู้ตน ข้าเพียงหวังว่าวันใดวันหนึ่ง ปากทวารนี้จักเปิดออก....คราก่อนเกือบสามปี.. ที่มันปิดลง...หากแต่ครั้งนี้ไม่ว่า.. แม้จัก..ผ่านไปสิบหรือยี่สิบปี มันก็ยังลงกลอนสลักปิดตายไว้เฉกเดิม......
............กับชีพที่คงนิรันดร์....ข้า...ต้องทรมาน อีกนานแค่ไหนกับการรอคอย...เพียงเจ้าเท่านั้น น้องน้อย ข้าอยากพบเพียงเจ้าเท่านั้น ....หากแต่เจ้าเล่า... อยู่แห่งใด ?
.............
...หากตนข้ายอมทิ้งร่างนี้ ...หากข้ายอมดับชีพ..ยามตกลงสู่ นิรยะแดน อันมืดมิด เจ้าจักรอข้าอยู่ยัง.. อสินขะแดน รึไม่ ? หากเจ้าอยู่ยังแดนนั้น...
.ข้าก็จักติดตามไป...

.รอข้าเถิด ภังคียะ..

.รอข้าเถิด...
.......................
.....................ไม่ว่าเจ้าจักสถิต ณ ที่ใด............ข้าจักติดตามไป....
..............
............................

http://www.youtube.com/watch?v=YK_Zydjt3ro

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!55 # Lose of love..กอดสุดท้าย[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 20:33:52
บทที่ 55 # Lose of  love..กอดสุดท้าย...แห่งแสงวัน[2]


...ผมละสายตาจากตัวหนังสือ...

สมาธิทั้งหมดของผมตอนนี้อยู่ที่ ฝ่ามือเย็น ของเจ้าตัวแสบ ภินทร์ คงหลับลึกไปแล้ว...ผมได้แต่กำกระชับ มือเย็นนั่นไว้ให้แน่นขึ้นอีก มือนี้ผมจะไม่ปล่อยเด็ดขาด ...ผมบอกกับตัวเองอย่างนั้น ....เรื่องราวที่ผมรับรู้...... ความรู้สึกทั้งหมดของ ไอ้โง่ตัวหนึ่งที่ปล่อยมือของคนที่รักที่สุดไป....

....แล้วยังไง??
………
..
…คิดว่าผมจะทำแบบมันหรือ ?

......ผมไม่สนหรอกว่า ภังคียะที่น่าสงสารนั้นเป็น ไอ้ภินทร์ จริงหรือเปล่า...

ไม่สนด้วยว่า เมื่อก่อน ไอ้มหินบ้าอะไรนั่นจะรัก ภังคียะ แค่ไหน .....

.....ตอนนี้...ที่เป็นอยู่ ...คือผมไม่อยากซ้ำรอยมัน ...

ผมอยากอยู่กับ ภินทร์ ....อยากกอดมัน อยากตื่นขึ้นมาแล้วเจอมัน..ทุกเช้า ..อยากนอนหลับลงพร้อมๆกันทุกคืน...

…..

ถ้าถามความรู้สึก...ผมบอกไม่ได้ว่า ผมรักมันหรือเปล่า ...กับไอ้กระล่อนระดับเทพ...กับไอ้ปลาไหลตัวพ่อ...กับไอ้เพื่อนที่ผมสนิทที่สุด ...คำว่า ‘รัก’ มันจำกัดความว่ายังไง?

………..ผมไม่เคยพูดหรือบอกใครว่าผมรัก ภินทร์ ...
..............
............................

..ผมได้แต่ใช้สายตามอง ตอนมีใครมาวุ่นวายกับมัน ....และลงไม้ลงมือกับตัวผู้ที่เข้ามาหามันในบางครั้ง...ตอนที่มันเผลอ....นี้เรียกว่า รัก งั้นหรือ? ไม่ใช่หรอก..มั้ง...

..แล้วก็กับ อีกาลีนั่นอีกคน..(ขอโทษนะที่หยาบขนาดนี้ ปกติไม่เคยเรียกผู้หญิงคนไหนจิกหัวได้เท่านี้เลย..ผมขอโทษเพศแม่ทุกคน ยกเว้นอีนางนั่น..)..ผู้หญิงที่สวยแต่รูป ...ก็ยอมรับว่าสวย...หึ! สวยแล้วไง ขอให้หน้าตาใช้ได้ มีอกมีเอว เดินเข้าหา ภินทร์ ...มันก็อ้าแขนรับทั้งนั้น ....แต่ที่แค้นที่สุด ก็เพราะแค่เห็นหน้าอีกาลีนี้ ...ผมก็เกลียดอย่างบอกไม่ถูก ...ไม่ใช่เพราะมันเคยทำอะไรไว้ในอดีตหรอก เอาแค่ปัจจุบันที่ผู้หญิงคนนั้นทำกับผม....ผมก็เกลียดนางนั่นจนเกินอธิบายแล้ว!! มันทำอะไรกับผมเหรอ?

ไว้ให้หายแค้นก่อนจะเล่าให้ฟัง...ขืนเล่าตอนนี้จะหาว่าผมเอาอารมณ์มาใส่ร้ายผู้หญิง...

..............
............................

..เจ้าตัวแสบที่นอนนิ่ง..อยู่ๆ ก็พลิกตัวซะงั้น มันเลยเหมือนดึงมือผมไปด้วย เจ้าของมือเย็นที่ผมจับอยู่ งัวเงียลืมตาขึ้นมา แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือผม...จนผมสงสัย เป็นเพราะผมจับมือนี้ไว้อยู่หรือเป็นเพราะเจ้าของมือไม่ยอมปล่อยผมกันแน่

“อะตรอม? …ยังไม่นอนอีกหรอ? ”

เจ้าตัวแสบ ปล่อยมือผมเพื่อขยี้ตาตัวเองซ้ำๆ ก่อนจะพยักหน้าสั่ง....เพราะอยู่ด้วยกันมาได้ระยะหนึ่งหล่ะมั้งผมถึงรู้ว่าอาการแบบนี้เจ้าตัวแสบอยากดื่มน้ำ... ผมลุกไปเปิดตู้เย็นหยิบนมถั่วเหลืองมาให้มันกล่องหนึ่งกับรินน้ำเย็นใส่แก้วให้อีกแก้ว...ไอ้แสบนิ่งไปก่อนจะสับผงก แก้วเกือบตกแตก...!! ผมได้แต่จ้องหน้ามันทำอะไรมันไม่ได้จริงๆ....

“อะตรอม...ขึ้นมานอนด้วยกันดิ....ไม่เป็นไรหรอก เช้าค่อยลงไปนอนเตียงคนเฝ้าก็ได้..”

ไอ้แสบมันอ้อนผมอีกครั้งตอนที่ผมจะปิดไฟ...
....

..ตัวผมเทียบกับเตียงแล้วเรียกว่าเกือบพอดีเป๊ะ ....แต่นี่มันจะให้ลงไปนอนอัดกับมันสองคน....
..
.........

...
เอาอะไรมาคิด???!!!


..............
............................


ผมนอนตะแคงนิ่งโดยไม่กล้าขยับตัว ...
ไอ้แสบภินทร์ ซุกตัวเย็นๆของมัน เข้ากับแผงอกผม ใกล้...จนผมรับรู้...ถึงลมหายใจอุ่นของมัน

ครับ....

ตอนนี้ผมขึ้นมานอนบนเตียงคนไข้กับ ภินทร์ครับ......



...เคยมีสักครั้งไหม ที่มันขออะไรแล้วผมปฎิเสธ.....


“อะตรอม ตัวอย่างอุ่นเลย”

ภินทร์พูดเบาๆแล้วซุกตัว..แถมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มแถมยังจับมือผมมากุมไว้แน่น... อยากจะบอกมันนะ ไม่ใช่เพราะผมตัวอุ่นหรอก แต่เป็นเพราะภินทร์ มันตัวเย็นเองต่างหาก.......

....
.............

....คิดมาถึงตรงนี้ ผมก็พอเข้าใจอะไรบางอย่าง

...........
...

..........ภินทร์ เย็นเฉียบไปทั้งตัว....ต่อให้กอดแน่นแค่ไหน มันก็ไม่มีทางอุ่นขึ้นมาได้...

การที่ผมแยก ภินทร์ ออกจาก ตรินทร์ ได้... ร่างกายนี้ก็มีส่วน ตรินทร์ ตัวอุ่นเหมือนคนทั่วไป...แต่ถ้าเป็น ภินทร์ ร่างกายนี้จะเย็นเฉียบเหมือนคนตาย... ครั้งแรกที่ผมรู้สึก คงเป็นตอนที่อยู่ด้วยกันในสนามบาส ...ตอนนั้นผมคิดว่า คงเป็นเพราะเสียเหงื่อมากเกินไป เจ้าตัวแสบมันถึงได้เย็นไปทั้งตัว...

แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว.....ร่างกายนี้เหมือนเป็นคำสาป...ไม่ว่าจะกอดยังไงมันก็ไม่เย็นขึ้น...เหมือนกับว่ามันจะตายได้ทุกเวลา..คำสาบมันคอยย้ำเตือนผม...ถ้าผมปล่อยมัน แค่เพียงชั่วครู่ ...มันอาจเหลือแค่ร่างกายที่เย็นเฉียบนี้ทิ้งไว้..จนผมอดคิดไม่ได้..เหลือไว้แค่ร่างกาย....ก็ยังดีกว่าไม่เหลืออะไรให้รับรู้ไม่ใช่รึ?
..............
............................

…ชั่วเสี้ยวที่ผมหวนคิดไปยัง ไอ้มหินทรานั่น...

การได้เห็นคนที่รักตายต่อหน้า...บางทีมันอาจดีกว่าการรอคอยโดยไร้จุดหมาย...

‘ความหวัง...มันจะทำร้ายทุกผู้ที่มีหวัง’

ภินทร์เคยบอกผมอย่างนั้น....ตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจดี...ผมเข้าใจประโยคที่มันบอกได้ดี....

.............
.......

แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะหวัง....

ถ้าภินทร์ต้องตายจากผมไปจริงๆ ผมก็จะเป็นคนสุดท้ายที่ได้กอดมัน....

.....เรื่องราวข้างหน้าจะเป็นยังไง...ผมไม่อยากรับรู้...ผมรู้แค่คืนนี้.... ตอนนี้... วินาทีนี้..

ผมกอดมันอยู่...

แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว....และจะยิ่งพอใจมากกว่านี้..

ถ้า

...ตอนเช้า

ผม..

.ตื่นขึ้นมา พร้อมมัน....

..........
...
.......

แบบนี้เขาเรียกว่า 'รัก' หรือ เปล่า ...ไม่ใช่มั้ง?!


..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!56 # See ? We can do [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:04:47
บทที่ 56 # See ? We can do.นายเห็นจุดอ่อนไหม B1...?



‘เพล้ง!!!’

‘อืมส์....เสียงแก้วที่ไหนหล่น...? ….ช่างมันเถอะ’
...........
...................
....
....................................
“ตรินทร์ !!!”
……
….
. ‘เสียงใครโวยวาย ?..จะตะโกนทำไม?

อื้อออออ......

ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย...ช่างมันเถอะ...

อืมส์ อุ่น ชะมัด .....ขอซุกอีกหน่อยเถอะ...ไม่อยากลืมตาเลยจริงๆ...สบายโฮกๆ...’
..............
............................

“ตรินทร์ !!! ”

ผมยังไม่ทันลืมตาเลย เรียกว่ายังสะลึมสะลือเมาขี้ตาอยู่ก็ว่าได้.... อยู่ๆพอสิ้นเสียงเรียกชื่อ ตรินทร์ ผมก็โดนกระชากตัวปลิว???!!!

หลังจากนั้นก็....

“ว๊ากกก!!!”

ปึ้ก!!!

พลั๊ก!!!

ตุ๊บ!!!
..............
............................

ไอ้เสียงว๊าก เสียงแรก.....ไม่ต้องเดาครับ เสียงผม.... ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

..ถามผมหรือครับ?

...ไม่รู้สิ..มันเกิดขึ้นเร็วมาก…ยังกับหนังแอ็คชั่น!! หลังจากได้ยินใครสักคนเรียกชื่อ ตรินทร์ ผมยังไม่ทันลืมตาเต็มที่เลย ..ก็โดนใครก็ไม่รู้กระชากลงมาจากเตียง จากนั้นก็มีหมัดที่สวนมา ไม่ต้องบอก....กะซัดผมแน่นอน แต่อะตรอมดึงผมหลบมาก่อนจะโดนหมัดนั้นแทน แล้วอะตรอมก็สวนกลับไปเต็มแรงเหมือนกัน หลังจากนั้นก็ เสียงใครสักคนล้มลงไป..ผมหลับตาแน่นตั้งแต่เห็นหมัดอะตรอมแล้ว...ไม่อยากรับรู้ทั้งนั่นว่าเกิดอะไรขึ้น... กว่าจะกล้าหรี่ตาลืมขึ้นมาได้ก็... สักพัก..


จากมุมไกล..หน้าห้อง....

คุณพยาบาลสาวสวย.ยืนนิ่ง....ต่ำลงไปที่เท้าคุณเธอ.. แจกันใบใหญ่ตกแตกกระจาย..ส่วนระยะกระชั้นชิดอะตรอมยังเกร็งโอบผมให้มาซุกอยู่กับอกมัน...ถอยร้นออกไปนิดส่วนผู้ชายสุงอายุเจ้าของหมัดนั้น โดนน้องนางฟ้าดึงแขนรั้งเอาไว้ แต่ไอ้ที่คิดไม่ถึง ...คนที่ล้มลงไปกองที่พื้นเป็น...

....ไอ้บัพ...??

ห้องทั้งห้องเงียบกริบ.... เงียบ...จนผมได้ยินเสียงลมหายใจของอะตรอม บรรยากาศมาคุแบบนี้ผมเกลียดชะมัด มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นจะมีใครพูดอะไรกันซักคำ....ได้แต่จ้องตากันอยู่นั้นหล่ะ...ผมเงยหน้ามองอะตรอมแล้วตบเบาๆที่อกมันเหมือนรู้อะตรอมคลายวงแขนปล่อยตัวผมออก...ผมเดินไปส่งมือกะจะฉุดไอ้บัพให้ลุกยืน ...แต่มันยังมองหน้าผมนิ่งอยู่อย่างนั้น..ตอนแรกกะจะส่งยิ้มหวานให้มัน แต่มีอะไรบางอย่างเหมือนสั่งผมว่า ‘ห้ามยิ้ม !’

“ต้องให้กูพูดไหม?”

ปากผมถามมันไปแล้ว…แต่สมองผมยังไม่ประมวลผลอะไรสักอย่าง...ไม่ต้องรอให้ถามซ้ำมันดึงมือผมแล้วดันตัวขึ้น...คือ...เข้าใจไหมว่าปากกับมือมันไปก่อนสติสตังค์...พอมันดึงมือผมเท่านั้น ผมก็ล้มลงตามแรงดึงมันสิครับ...ไม่ได้เน่าขนาดล้มลงจูบปากมันอย่างดูดดื่มหรอก จิ้นกันไปไกล....ผมแค่ล้มลงไปกระแทกแผงอกมัน.....


อ้ากกกกก!! เจ็บโคตร จมูกจะบานดั้งจะหักไหมเนี้ย !!!???

ซวยอะไรอย่างนี้วะ!! เงยหน้ามองมันอีกทีผมก็น้ำตาคลอแล้ว เจ็บโคตรๆ... แต่ที่เจ็บกว่านั้น..ไอ้ข้างๆเนี้ย พระแพง ยืนอยู่ ... ไหนจะหน้าห้องที่มีคุณพยาบาลอีก...

เสียชีพไม่ว่า..เสียฟอร์มต่อหน้าสาว....เจ็บยิ่งกว่า..เกินบรรยาย....

“เจ็บ...”

ผมครางเสียงเบา อยู่ๆไอ้บัพก็ดึงผมไปกอดไว้กับอก...แล้วลูบหัวผม... มันปลอบเหมือนผมเป็นเด็ก..ต่อหน้าสาวนะเฟ้ย!
สาดดดดด!!! ห่วงภาพพจน์กูบ้างเถอะ หมดกัน ทั้ง คุณพยาบาล ทั้ง พระแพง หมดกัน จบกัน สร้างมากับมือ...

“ขอโทษ...”

ผมได้ยินคำนั้นอย่างชัดเจน...

แค่คำๆเดียวของไอ้บัพ มันเหมือนกับ คีย์เวิร์ดเปิดต่อมน้ำตา...น้ำตาผม....มันไหลเอ่อมาอย่างหยุดไม่อยู่....ผมได้แต่สะอื้นซบกับหน้าอกมัน ....ไม่กล้าเงยหน้าเผชิญผู้คน......อายครับ อายโคตรๆ... แต่ถึงอายยังไงผมเองก็รู้สึกสบายนะที่ได้ร้องไห้ออกไป....ยิ่งวันยิ่งไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง...แล้วก็ไอ้บัพอีก...ปกติผมจะเป็นจะตายยังไง มันก็ไม่เคยสนใจผมนี่น่า...?

……………………………………………….
…………………………………………………………………………………………

…………..สำหรับเมื่อวาน ผมยกให้เป็น ‘วันเสียภาพพจน์ แห่งชาติ’ คิดภาพตามนะมันน่าจะเริ่มมาจาก...........


... คุณพยาบาลเวร ที่เข้ามาตกใจทำแจกันแตก กับภาพที่เห็น…หลังจากนั้น ผมน่าจะโดนเม้าส์ทั่วตึกพยาบาล ว่า...

เพราะผู้ป่วยชายนอนกอดกับแฟน(ชาย) บนเตียงคนไข้ หลังจากนั้น ผู้ป่วยก็โดนคุณพ่อ (คุณปาลาดินทร์ พ่อ ของ ตรินทร์ ) กระชากลงจากเตียงผู้ป่วย เพราะทนไม่ได้ที่เห็นลูกชายนอนกอดกับผู้ชาย (ไอ้อะตรอม …เซ็ง..) จนเกิดการทะเลาะวิวาท แล้ว ก็มีมือที่สาม (ไอ้บัพ) มาแย่งซีน....

....จบครับ...


จบ.....



.....โรงพยาบาลนี้ผมจะไม่ไปเหยียบอีก....
............................................................
........................

เรื่องนี้ทำผมอารมณ์เสียเกือบทั้งวัน แต่ก็เป็นวันแรกที่ผมได้เห็นหน้า คุณปาลาดินทร์ หลายครั้งที่ผมมักจะแอบมองหน้าผู้ชายคนนี้บ่อยๆ พวกที่มีพ่อเป็นของตัวเองนี้ดีจังเนอะ ไอ้ความรู้สึกที่มีใครสักคนคอยเป็นห่วงเป็นใยเรา...มันรู้สึกดีมากจริงๆ ....
และคงจะดีกว่านี้ถ้าคุณพ่อปาลาดินทร์ ไม่หวงลูกชายจนเว่อร์!!!!

………..

…อะตรอมโดนไล่กลับหอตั้งแต่จบเหตุการณ์ ‘วันเสียภาพพจน์แห่งชาติ’ ส่วนผมโดนลากกลับบ้านอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเพราะร้องไห้จนหลับซบไอ้บัพมาตลอดทาง .....ครั้งนี้ผมคลาดกับนางฟ้าของผมอีกแล้ว.....ไว้ค่อยหลอกถามป้านิ่มเอาก็ได้เรื่องของพระแพง...ชิวๆ ไอ้เรื่องตีสนิทคนแก่เนี้ย งานถนัด...

..........................
.........................................

ส่วนตอนนี้หรอครับ ?

อยากรู้ไหมครับว่าผมอยู่ไหน??? ….

…คอนโดไอ้เรดครับ....แต่ห้องที่ผมอยู่...มันไม่ใช่ห้องไอ้เรด... ผมเพิ่งหนีคุณปาลาดินทร์ออกมาเมื่อช่วงเช้า....หนีออกมาโดยลากไอ้บัพออกมาด้วย....ตอนนี้ผมเหมือนคุมเกม ผมรู้วิธีสั่งไอ้บัพแล้ว วิธีที่ ตรินทร์ น่าจะทำได้ก่อนผม..

ทริคง่ายๆ....แค่คิดว่าอยากได้อะไร คิดๆๆ แต่ไม่ต้องพูดไม่ต้องแสดงออก แล้วมองหน้ามัน ...แค่นั้นไม่ถึงสามวินาที ไอ้บัพก็จะทำให้ทุกอย่าง....เหมือนมันเป็นปฎิกิริยาอัตโนมัติ ไอ้เรดเคยเล่าให้ผมฟังว่า ไอ้บัพทำทุกอย่างที่ตรินทร์ สั่งได้ ...หึหึหึ.......
..............

'....ได้เวลา.สนุกแล้วหล่ะสิ.....'

..............
.........................



...

“โผล่หัวมาได้สักที นะมึง...คิดถึงกูล่ะสิ”

เสียงเจ้าของห้องทักผมด้วยภาษาดอกไม้ของมัน ผมละสายตาจากโทรทัศน์ ช่องสารคดีสัตว์โลก..ไปหาคุณเจ้าของห้อง...ที่สายตาเริ่มจะขวางๆ เมื่อเห็นแขกไม่รับเชิญที่ผมดึงมาด้วยนั่งหน้าตายอยู่ในห้อง...
ผมบอกแล้ว........

‘ได้เวลาสนุกแล้วล่ะสิ!!’

 

..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!57 # Blue.. Saturday.[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:09:14
บทที่ 57 #  Blue.. Saturday. [1]



..เคยไหม? วันที่คุณคิดไม่ถึงกับอะไรหลายๆ อย่าง...

ทั้งๆที่คิดว่า คนอย่างคุณสามารถทำได้ทุกอย่างที่อยากจะทำ

‘ไอ้จอมแผนการณ์’ ‘เจ้าชู้สุโค่ย ’ ’คนอย่างมึงเคยรักใครจริง? ’ ฯลฯ

เขามองว่าผมเป็นคนอย่างนั้น มันก็มีทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้าง เพราะผมยังมีหัวใจไง...ผมถึงไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100 % ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าผมจะมีวันนี้

...วันที่ท้องฟ้า มันสีหม่นๆ..หลายคนเขาเรียกวันแบบนี้ว่า Blue Day แต่ผมขอเรียกมันว่า Blue.. Saturday แล้วกันเพราะ...ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้แค่วันนี้วันเดียว....
...
...................

..เรื่องมันเริ่มมาจาก สิ่งแรกของวันนี้ที่ผม...คาดไม่ถึง...

..............
............................

“โผล่หัวมาได้สักที นะมึง...คิดถึงกูล่ะสิ”

เสียงเจ้าของห้องทักผมด้วยภาษาดอกไม้ของมัน ผมละสายตาจากโทรทัศน์ ช่องสารคดีสัตว์โลก..ไปหาคุณเจ้าของห้อง...มองหน้ากวนส้นที่สายตาเริ่มจะขวางๆ เมื่อเห็นแขกไม่รับเชิญที่ผมดึงมาด้วยนั่งหน้าตายอยู่ในห้อง...
ผมบอกแล้ว........

‘ได้เวลาสนุกแล้วล่ะสิ!!’

..............
............................


“ทำไมกู ต้อง ไปด้วย ? ....”

ไอ้เหี้ยมลุกขึ้นยืนแล้ว ส่งสายตากวนส้นมาให้ผม...

อ๋อออ....เหตุผลเหรอ? มันเห็นกันอยู่เต็มตา เต็ม 100 กว่าเกมส์ที่แสดงผลลัพธ์เดียวกัน...

“ก็เพราะคิงส์แพ้ไง ...”

ผมบอกบทสรุปของทุกอย่างแล้วไล่เก็บตัวโดมิโน่ ใส่กล่อง ไอ้เหี้ยมมองกองโดมิโน่บนโต๊ะ สลับกับมองหน้าไอ้บัพ แล้ว...

สะแหยะยิ้มมุมปาก...

“ภินทร์...มึงรวมหัวกับมันโกงกู”

“โกงตรงไหน ?”

“...สักที่!! แม่ง!! พวกมึงเว่อร์ไปล่ะ มึงขาดอะไร ไอ้เชี่ยนี้ก็โยนให้ตลอด ...ไม่เรียกว่าโกงแล้วเรียกว่าอะไร? สัด!!”

ไอ้เหี้ยมหัวเสียที่ เกมส์ปัญญาอ่อนที่มันว่าทำมันแพ้มาแล้วทุกรอบ...ที่เล่นกันนี้ไม่ต่ำกว่า 100 เกมส์ ความจริงผมกะเล่นแค่ 10 เกมส์พอเป็นพิธีอัญเชิญมันมาใช้งานก็พอ...แต่ไอ้พวกแพ้ไม่ได้อย่างมันดันทุรังจะเล่น เพื่อชนะ!! จนรอบที่ร้อยกว่านี่หล่ะมันถึงหยุด…แต่ยังไม่ยอมรับความจริง...หาว่าผมโกง...โกงอะไร...เขาเรียกว่า ...เข้าขาเฟ้ย!

“....”

ขนาด 100 กว่าเกมส์มันยังรั้น ผมเก็บตัวโดมิโน่ทั้งหมดใส่กล่องยัดใส่ใต้โต๊ะ ลุกขึ้นเดินไปดึงแขนไอ้เหี้ยมให้เข้าไปในห้องครัวด้วยกัน ...

“มึงโกงยังไง ภินทร์...?”

ไอ้เหี้ยมมันยังติดใจไม่เลิก ...นี่มึงแพ้ไม่เป็นเลยใช่ไหม?...

“ไม่ได้โกง...จบไหม?”

ท่าจะไม่ยอมจบ มันขยับปากจะเถียงแต่โดนผมใช้ปากตัวเองปิดมันไว้ก่อน ... จากแค่คิดตัดความรำคาญ... ล้ำเส้นมาไกล..มือมันล้วงเข้าไปในเสื้อผมแล้ว สาดดด! ไอ้บัพยังอยู่ข้างนอกนะเฟ้ย!! ปล่อยให้มันรุกจูบอยู่สักพักกว่าจะถอนปากออกมาได้...

“...ไปช่วยขนของหน่อยดิ...”

“อืมส์...ก็แค่นี้...”

หือ!! ไอ้เหี้ยมมันรับคำง่ายๆ แล้วรุกลิ้นเข้ามา เฮ้ย!!! ไหงเป็นงั้น? แล้วที่เล่นเกมส์กันมานี่อุสาจะหว่านล้อมให้มันช่วยขนของแต่ไหงเล่นมากลับสูญเปล่า ....รู้งี้บอกมันตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง..เซ็งฉิบ!!

“....”

“มองหน้ากูมีอะไร ? รึอยากต่อบนเตียง?”

“คิดได้นะคิงส์..ถามหน่อยเถอะ มีบ้างไหมหยุดคิดเรื่องต่ำๆอะ?”

“ต่ำตรงไหน ? กูก็ว่ากูคิดสูงอยู่นะ..แค่สูงกว่าหน้าแข้งมานิดนึง”

‘นั่น..สูงของมึงแล้วหรอ??? เชี่ย…’

..............
........................

....

“ทำไมไม่ให้กูเฝ้ามึงแทน? ต้องให้กูท่อสังขารมาเก็บของที่ห้องมัน แล้วขับรถไปส่งมึงเพื่อให้มันกลับไปเฝ้ามึงที่บ้านเนี้ยนะ... ”

“อืมส์...”

“เฮ้ย!! ใช้สมองคิดบ้างดิวะ!! มึงจะมา ‘อืมส์’ คำเดียวแล้วจบอย่างนี้เหรอ?”

“อืมส์..”

“...”

ไร้คำเจรจา...ไอ้เหี้ยมหันกลับไปขับรถต่อ ผมนั่งคู่กับมันที่เบาะคนขับ ไอ้บัพนั่งเงียบอยู่ข้างหลัง วันนี้ที่ลากไอ้เหี้ยมมาด้วยเพราะจะให้มันเป็นคนขับรถกับช่วยขนของ บัพย้ายออกไปอยู่ข้างนอกได้สักระยะหนึ่งแล้วเห็นป้านิ่มบอกว่า

‘มันย้ายไปอยู่กับแฟน’

ชื่ออะไรนะ อ๋อ… ‘น้องโฟร์ท’ สาวอิตาเลี่ยนทรงสะบึ้มส์ จะว่าไปก็เหมาะสมกันดี..

‘ไม่!!!!’

อะ..อยู่ๆก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาซะอย่างนั้น ไอ้คำว่า ‘ไม่’ ที่ผุดขึ้นมาเหมือนมันดังออกมาจากข้างใน... เล่นเอาผมกุมขมับเลยที่เดียว...เสียงของใคร?

“เป็นอะไร ภินทร์? ..ไหวรึเปล่า? ”

ไม่ต้องพูดอะไร ไอ้เหี้ยมก็ชะลอรถจอดเข้าข้างไหล่ทางแล้ว...แหม..ห่วงกูจริงๆ ผมสั้นหน้าปฎิเสธแล้วบอกให้มันขับไปต่อ จุดหมายคือห้องไอ้บัพ เงยหน้ามองกระจกมองหลัง ก็เจอสายตาของมันที่มองมาเหมือนกัน... เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่อก... สงสัยสายคาดมันรัดแน่นเกินไป หายใจไม่ค่อยออก...

แล้วก็มาถึงครับ ห้องบัพเป็นคอนโด เล็กๆ แต่ข้างล่างต้นไม้เต็มไปหมด...มีสระว่ายน้ำเล็กๆด้วยสิ....ผมขึ้นมาถึงห้องได้ก็เปิดตู้เย็นส่งน้ำให้คุณคนขับรถก่อนเลย...

“เอาน้ำไหม? เดี๋ยวค่อยเก็บของ”

ผมหยิบขวดน้ำในตู้เย็นอีกขวดส่งให้บัพ มันส่ายหน้าแล้ว เดินหายไป ผมเลยเปิดน้ำขวดนั้นมาดื่มแทน หันไปหาไอ้เหี้ยมอีกที มันถือวิสาสะเดินร่อนไปทั่วห้องแล้ว ... สำรวจขนาดนี้ไม่ฉี่รดให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะ...

..............
............................

..ก็ได้แต่บ่นว่ามันในใจ เอาเข้าจริงผมก็เนียนดูห้องบัพกับคิงส์ซะงั้น ห้องของบัพแบ่งเป็น สามห้องเล็กๆ มีระเบียงเป็นปูนฉลุลายสูงประมาณครึ่งเอวได้...ที่ระเบียงมีต้นชบาสีแดงสด ออกดอกสะพรั้ง ส่วนมุมสุดก็เป็นต้นโมกซ้อนที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆแซมกับกลิ่นมะลิวัลย์ ที่พันเกาะกับต้นโมก...

“ว่า.... ไม่ต้องให้บัพย้ายของแล้วมั้ง เราว่าเราย้ายมาอยู่ที่นี้กับ บัพท่าจะดีกว่า ...”

ปากผมบอกไอ้เหี้ยมที่เดินเข้ามาใกล้ แต่สายตาผมมองหรี่ลงไปที่ สระว่ายน้ำ สาวๆ 2-3 คนนั่งบ้างว่ายน้ำบ้างอยู่ตรงนั้น...ทำเลทอง จริงๆ...

“กูไม่ให้มึงอยู่ที่นี้...”

ไอ้เหี้ยมโอบเอวผมไว้แล้วถือเนียนเข้ามากอด...

“เฮ้ย! เดี๋ยวบัพเห็น...”

“ไม่เห็นหรอกมันเก็บของอยู่...รึกูจะทำให้มันเห็นดี? วิวตรงนี้ก็สวย...แถมมุมยังบังได้อีก เปลี่ยนมาเล่นที่ระเบียบบ้างดีกว่าไหม?”

ไอ้เหี้ยมจ้อเหมือนคุยกับตัวเอง แต่ก็ไม่ปล่อยผมสักที มันมองซ้ายมองขวาแล้ว ล้วงมือเข้าไปใต้ ตุ๊กตาตัวเล็กที่แขวนติดกับผนัง ... เหมือนเล่นกล มีซองหลากสี ติดมือมันออกมาด้วย มันโชว์ผมเหมือนเด็กๆหาของที่ซ่อนไว้เจอ...มันยัดซองหนึ่งในนั้นใส่กระเป๋าผมแล้วเก็บซองทั้งหมดไว้ที่เดิม...

....
.............

...ผมได้แต่สงสัย ..หยิบซองที่คุ้นตานั้นขึ้นมาดูถึงกับ ชะงัก ....

...
.......


.กูว่าแล้วว่ามันคุ้นๆ

“Condom... Chocolate flavor.”

ไอ้เหี้ยมกระซิบข้างหูผม แล้วชี้จุดอีก ห้า-หก จุดที่อยู่ในห้องทำเหมือนมันหาสมบัติเจอ...

“ไอ้ญาติมึงซ่อนของแบบนี้ไว้เต็มห้องเลยว่ะ...แถมนี้อีก..”

คิงส์กระซิบข้างหูผมแล้วดึงยกทรงลายลูกไม้ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แถมชี้ไปที่ข้างตะกร้าเสื้อผ้าที่วางทับผ้าลายลูกไม้สีชมพู....ผมหน้าชาแล้วเดินตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ข้างเครื่องเสียง ชั้นล่างสุดซ่อนยกทรงแบบเดียวกันไว้ ...แต่ต่างขนาด

“ไอ้เบือกนั้นเป็นตุ๊ดหรอวะ??”

ไอ้คิงส์ถามผมพร้อมกลั้นไม่ให้ตัวมันเองหลุดหัวเราะออกมา....

“...ให้มันเป็นตุ๊ดซะยังดีกว่า....นี่ไม่ใช่ของมันหรอก ของผู้หญิงหลายคน แค่รสนิยมเดียวกัน ....ไอ้พวกบ้าลายลูกไม้...”

ผมกัดฟันตอบคิงส์..

แถมยังเกร็งมือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ....อากาศเหมือนจะไม่พอที่จะหายใจ... รู้สึกโกรธ... โกรธมากจนความคุบตัวเองไม่ได้...แต่พอถามตัวเองก็อธิบายไม่ได้ว่า ผมโกรธอะไร แล้วเรื่องยกทรงที่ซ่อนอยู่ใต้ลิ้นชักตู้เครื่องเสียงนี้อีก ผมรู้ได้ยังไง? แล้วไหงเสือกรู้อีกว่า ยกทรงนี้ของผู้หญิงหลายคน ไม่ใช่ของที่ไอ้บัพเอาไว้ใส่เอง? ถึงมันจะให้ใครใส่หรือใส่เองก็เถอะ

...ผมมีสิทธิ์อะไรไปโกรธมัน....

..............
............................

..ผมไม่รู้ ..

..รู้แต่ผมโกรธ!!!! โกรธมากด้วย!!!!
..............
............................



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!57 # Blue.. Saturday.[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:16:39
บทที่ 57 #  Blue.. Saturday. [2]



...กว่าบัพจะเก็บของในห้องนอนเสร็จก็เกือบครึ่งชั่วโมง ผมเดินลงมารอที่รถก่อน ไม่อยากมองหน้ามัน อธิบายความรู้สึกไม่ถูก ... อารมณ์ร้อนที่เหมือนกาต้มน้ำกำลังเดือดปุดๆ ตอนนี้ถ้าใครเข้ามาใกล้ ผมสามารถซัดมันได้เลย...
…รึจะเข้าวัยทองก่อนเกณฑ์ ผมได้แต่ถามตัวเองกับสภาวะอารมณ์แปรปวนของตัวเอง...

“Ciao… Ciao..”

เสียงหวานสำเนียงแปร่งๆ มาพร้อมแรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขน อารมณ์อยากซัดใครสักคน หมดไปทันทีที่เห็น..

‘โฟร์ท.....’

ผมขืนยิ้มให้กับสาวสวยเบื้องหน้า โครงหน้าคม แววตาสีมรกต..คู่หมั่น ไอ้บัพ....คิดถึงชื่อนี้ต่อมจี๊ดในสมองก็เหมือนเร่งไฟต้มน้ำขึ้นมาอีกครั้ง

“มาช่วยบัพ... เอ้ย!! โฆ.. เก็บของ โฟร์ท คงไม่ว่าอะไรนะ พอดีผมเกิดป่วยขึ้นมากะทันหัน เลยขอตัวว่าที่เจ้าบ่าวโฟร์ทไปเฝ้าไข้หน่อย...”

รอยยิ้ม..หวานๆ ของสาวสวย หายไปก่อนจะกลับมาใหม่ ...โฟร์ท แหงนหน้าขึ้นมองไปทิศเดียวกับห้องไอ้บัพ แล้วหันกลับมาจ้องหน้าผม แววตาสีสวย มีน้ำตาเอ่อคลอ...

“เมื่อก่อนคงใช่ แต่ตอนนี้ ไม่แล้วค่ะ ...โฆ..ไม่ได้บอกตรินทร์หรือ โฟร์ทถอนหมั่น โฆเมื่อวันก่อน ...หึ..คงจะกล้าบอกสินะ... ”

โฟร์ทเงียบ...แล้วโผมาซบอกผม ..

‘ถอนหมั่นกันแล้ว...’

“โฆ ...มีคนอื่น ผู้หญิงคนอื่น...ห้องนั้น ที่โฆพาใครต่อใครมา...โฟร์ทไม่อยากเป็นอย่างนี้ ..โฟร์ทไม่อยากอยู่กับผู้หญิงพวกนั้น...”

เอาสิครับ... ความแตก...ก็ทีนี้ เห็นเงียบๆอย่างไอ้บัพมันก็ไวไฟใช่เล่น ...ผมได้แต่โอบโฟร์ทมากอดไว้แล้วลูบหลังเบาๆ ถึงจะมองว่าแรงแต่โฟร์ทก็ไม่อยากจะใช้ว่าที่สามีร่วมกับคนอื่น ...

มีหลายเรื่องที่ผมมองพลาดไปจริงๆ ล่ำลาได้สักพัก โฟร์ทก็ขอตัวกลับ ผมอาสาช่วยเธอถือของพร้อมเดินไปส่งเธอที่รถ ถึงได้รู้ว่าเธอก็มีห้องอยู่คอนโดนี้แต่คนละห้องกับบัพ..และตอนนี้เธอได้เวลาย้ายห้องแล้ว...

....ในรถผมเห็นผู้ชายชาวต่างชาติอีกคน หน้าตาใช้ได้ขนาดใส่แว่นดำนะ??...สงสัยจะเป็นอิตาเลี่ยนเหมือนโฟร์ท ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ที่เบาะหลังทำตัวเหมือนเป็นหมอนให้ผู้ชายอีกคนที่ หลับซบลงไปที่ตัก คนไทย?

“ไม่ลงไปช่วยถือของเลยนะ ...”

โฟร์ท บ่นกับคนเบาะหลัง แต่ก็ยังอมยิ้มเมื่อผมส่งของที่ช่วยถือมาว่างไว้ที่เบาะข้างๆ ให้เธอ ว่าไปโฟร์ทก็น่ารักนะ ...เซ็กซี่อีกต่างหาก...

“ลงไปไม่ได้ ภัทร หลับอยู่...”

สำเนียงแปร่งแต่น้ำเสียงนุ่มดังมาจากเบาะหลัง ...พูดไทยได้?!

“โอ๋กันเข้าไป วันไหน นายโดนพี่เดียร์ทิ้ง ฉันจะหัวเราะให้!!”

“เหมือนที่เธอโดนน่ะเหรอ?”

เสียงขุ่นสวนขึ้นมาทันควัน เป็นผู้ชายที่ปากจัดใช้ได้...

“ของฉัน ฉันถอนหมั่นเอง !!! ไม่ได้โดนทิ้งอย่างที่นายเข้าใจ .....ตรินทร์... โฟร์ท ไปก่อนนะ อยู่นานกว่านี้กลัว จะฆ่า ใครให้ ตรินทร์ เห็น เดี๋ยวจะดูไม่ดีในสายตาตรินทร์ เปล่าๆ .. Ciao Ciao จ๊ะ”

โฟร์ท โน้มคอผมมาจูบก่อนจะปิดประตูรถแล้ว ขับออกไป ....ทิ้งให้ผมงงเล่น ขนาดเสียงดังขนาดนั้น ผู้ชายที่ชื่อเดียร์ ที่นอนอยู่ยังไม่ตื่น แปลกดี...

..............
............................


“ที่ร้านมีเรื่องนิดหน่อย กลับเองได้นะ?”

คิงส์วางสายโทรศัพท์ แล้วเดินตรงออกไปที่รถ ผมก็ยังว่าอยู่ว่าจะต้องมีเรื่องอะไรแน่เพราะมันนานมากกว่า คิงส์จะเดินลงมาจากห้องทั้งๆที่บัพเก็บของเสร็จตั้งนานแล้ว...

“ไม่ต้องไปที่คลับกูนะ คลับใบไม้ก็ไม่ต้องไป !!...”

ไอ้เหี้ยมเปิดกระจกตะโกนบอกผมที่กำลังจะก้าวขึ้นรถบัพ...แล้วมันก็เร่งความเร็ว ขับออกไป..

‘อะไรของมัน...’

..............
............................

…เที่ยวขากลับ บัพ พาขับรถออกมาคนละทางที่คิงส์เคยพามา มันพาผมแวะที่ร้านเล็กๆ ริมทาง เข้าไปก็เจอ ของดีเลย เสียงเพลงที่ดังขึ้นทำเอาผมหันไปหาต้นเสียง ถึงเป็นแค่ร้านเล็กๆ แต่คนที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีเสียงเพราะใช้ได้...จะว่าไปร้านอื่นผมไม่ค่อยได้เข้าเพราะมีร้านประจำ ถ้าไม่ใช่ร้านสไตล์ฮิปฮอบฮาเรมแบบร้านคิงส์ ก็คลับใบไม้ของพี่นพ ฟังนักร้องบนเวทีแล้วรู้สึกสมเพชตัวเอง เมื่อก่อนไอ้เรดเคยแหย่ผมเรื่องเสียงร้องที่เหมาะมากกับเสียงดนตรี (ความหมายของมันคงประมาณว่าต้องเอาดนตรีเข้าช่วยนั้นหล่ะถึงจะพอฟังได้ สาดดด! กูเป็นนักร้องนำนะ..) แต่ช่างมันเถอะ ผมพยายามมองหาที่นั่ง โต๊ะหน้าสุดพวกผู้ชาย สี่ห้าคนนั่งจองกันหมดแล้ว ถัดมาก็มีคนนั่ง สายตาผมไล่ไปเรื่อยจนไปสะดุดเข้ากับ เด็กหนุ่มหน้าหวาน...ที่นั่งกับกลุ่ม
เพื่อนๆ ...บัส ...

...ตอนนี้บัสคงไม่เห็นผม เพราะสายตาคุ่นั้นมัวแต่จ้องนักร้องบนเวที ...

ผมเดินไปจูงมือ ไอ้บัพให้มานั่งอยู่อีกมุมที่มีเคาว์เตอร์เหล้า ให้บัพนั่งตรงโซฟายาว ส่วนผมเองก็ขยับ ไปนั่งบนเก้าอี้บาร์ หน้าเคาว์เตอร์ โยนเมนูให้บัพสั่ง บัพมันก็รู้งานไม่ถามอะไรผมอีก อารมณ์ โกรธที่มีมาตั้งแต่อยู่ที่ห้องบัพหายไปแล้ว แต่อารมณ์ หดหู้มันเข้ามาแทน ..ตอนมองหน้าแฟนตัวเอง จ้องคนอื่น ...ผมมองบัพสั่งของแล้ว หันไปมองบัส...บัสดูจะชอบนายนักร้องคนนั้นมากเลยนะ...ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไร บัสก็เดินยกแก้วเหล้าเดินไปให้นักร้องนั่นแล้ว...ผมได้แต่จ้องหน้านักร้องบนเวที...ใช่สิผมเป็นนักร้องที่ คลับใบไม้ได้ก็คงเพราะอยู่ในวงเดียวกับพวกไอ้เรด ที่จีบบัสติดก็เพราะความหน้าด้านของผมเองที่จับน้องเขากดตอนเมา ถ้าไอ้คิงส์ไม่ทิ้งบัส น้องเขาจะหันมาหาผมไหม? ไม่มีทาง...นักร้องนั้นกลับลงมาแล้ว ไปเดินไปนั่งกับพวกโต๊ะหน้า บัสยังไม่วางตาจากนักร้องนั่นเลย...
......

......ผมแนบหน้าลงไปกับโต๊ะ...มองไปที่ทางเข้าห้องน้ำ บัสเดินตามนักร้องคนนั้นไปแล้ว...หัวใจมันเหมือนโดนบีบ สมองมันโหวงๆเหมือนไม่ใช่ตัวผมเอง ....

....
...ผม...ไม่มีอะไรดีสักอย่างเลยสินะ ...

เสียงไม่ดีเท่านักร้องคนนั้น ไม่ได้ขาวโอโม่อย่างนั้นด้วย สิ ...แถมช่วงนี้ผมยังไม่ค่อยมีเวลาให้บัสอีก

..มันก็ไม่ผิดหรอกถ้าบัสจะมีคนอื่น..

"บัพ...กูไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหม? ไม่ได้แมนเหมือนตรินทร์ ยังเสือกขโมยร่างตรินทร์ มาอีก.. ไม่หล่อเท่ามึง ไม่ได้เล่นดนตรีเก่งเหมือนพวกไอ้เรด ไม่ได้แข็งแรงเล่นกีฬาเก่งขนาดอะตรอม ..ไม่ได้เลวบ้านรวยอย่างไอ้คิงส์....ถ้าใครสักคนจะทิ้งกูไปหาคนใหม่...เขาก็ไม่ผิดใช่ไหม? เพราะกูมันไม่มีอะไรดีสักอย่างเลยใช่ไหม? มันก็สมควรใช่ไหมที่กูจะไม่มีใคร...”

บัพมองหน้าผมแล้วลุกขึ้นเอามือใหญ่ของมันมาขยี้หัวผมเบาๆ มืออุ่นๆของบัพแตะที่แก้มผมเบาๆ เหมือนตอน B1 มองหน้า B2 ..บัพมันคงรู้หมดแล้วว่าผมรู้สึกยังไง.หึ ...คิดภาพแล้วอยากจะตลกนะแต่ตลกไม่ออก

"ภินทร์ มี ผม...นอกจากตรินทร์แล้ว อีกคนที่ผมห่วง...ก็คือ ภินทร์ ..."

...
..........ผมมองหน้าบัพนิ่ง....เป็นครั้งแรกที่บัพยิ้มให้ผม...มันอบอุ่นมากอย่างบอกไม่ถูก อบอุ่น จนอยากเก็บไว้เอง...

”อยากได้มึงจังเลยว่ะ....."

“....."

บัพเงียบไปหลังจากได้ยินประโยคนั้นของผม... ผมค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมาจากโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปกอดมันจนมันทรุดลงไปนั่งที่โซฟา ...
......

“อยากได้มึง.....มาเป็นพ่อกูจัง...”

“ถ้ามีลูกอย่างนายเราคงจะปวดหัวน่าดู”

“งั้นก็เตรียมพาราฯไว้สักสามโหลครึ่ง..แล้วกัน”

“.....”

“บัพ...ถ้านายยอมเป็นพ่อเรา เราขออย่างดิ”

“....?”

“เราอยากได้ ตรินทร์ เป็น แม่...แค่ตรินทร์ เท่านั้น ...”

“....”

“แค่ตรินทร์ ไม่ใช่ผู้หญิงอื่น…”

..............
............................

‘ท้องฟ้า บางครั้งมันก็หม่นๆ มันไม่ได้เป็นสีฟ้าเสมอๆไป....สิ่งที่คิดบางที่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด...เพราะผมยังเป็นมนุษย์ ยังมีหัวใจ มันไม่มีอะไรที่จะสมหวังหรือผิดหวังไปตลอดหรอกน่า...ยอมให้..แค่วันนี้วันเดียวนะ Blue.. Saturday

... แล้ววันพรุ่งนี้ผมก็จะกลับไปเป็นคนเดิมวันนี้ผมอาจอ่อนแอ แต่วันพรุ่งนี้ผมจะไม่มีทางปล่อยคนที่ผมรักไปแน่ บัสเป็นของผม และมันก็จะเป็นอย่างนั้น ตลอดไป....ถึงจะมองคนอื่นแล้วไง ก็ได้แค่มอง คนที่กอดบัสได้ตอนนี้จะมีแค่ผม...'



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 58 # Belove เดท! แรก [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:19:13
บทที่ 58 # Belove เดท! แรก ..... ...ไอติมกะทิ,น้ำโพลาลิตร,หิ่งห้อย


....หลังจบ Blue Saturday ผ่านมา Monday ชีวิตมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดนัก

เมื่อวานบัพกลับมานอนที่บ้านแล้ว เราแยกห้องนอนกันเหมือนเดิม แต่ขนาดนั้นคุณปาลาดินทร์ก็ยังอารมณ์เสีย ยิ่งตอนรู้ว่า บัพถอนหมั่นกับ โฟร์ท คุณปาลาดินทร์ ถึงกับลุกออกไปจากห้อง ผมได้แต่มองตามหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘พ่อ’ ตั้งแต่เจอหน้ากัน ผมยังไม่เคยคุยกับ คุณปาลาดินทร์ ซักครั้งบรรยากาศมันอึมครึม ไม่เห็นเหมือนคนเป็นพ่อเป็นลูกกันสักนิด ผมเลยหลบไปอ้อนป้านิ่มที่แปลงดอกไม้ ฟังป้านิ่มเล่าถึงรู้ว่าการหมั่นหมายของครอบครัวนี้ มันโยงไปถึงเรื่องธุรกิจด้วย ผมเลยถึงบ้างอ้อ เลียบๆเคียงๆ ถามเรื่อง พระแพง

ป้านิ่มมองหน้าผมนานก่อนจะบอกว่า เธอเป็นคู่หมั่นผม....

หมั่นกันตั้งแต่เด็ก ..ครอบครัวของพระแพงทำธุรกิจบางอย่างอยู่ที่ ญี่ปุ่น ....บลาๆๆ ผมไม่รับรู้อะไรแล้ว ตั้งแต่ประโยคที่ว่า

‘พระแพงเป็นคู่หมั่น ตรินทร์ ???’

พอรู้เรื่องนี้ผมก็สมองโล่งไปเลย....ก็คุ้นๆอยู่นะว่า ตรินทร์ มีคู่หมั่น แต่ไม่คิดว่าจะเป็นพระแพง..เหมือนกับเจอของถูกใจแล้วมันติดป้ายว่า มีเจ้าของจองแล้ว..แถมคนที่จอง ยังเป็นคนที่ผมแย่งไม่ได้อีก....พระแพง...เป็นของ ตรินทร์ ... เล่นเอาผมนอนไม่หลับกับประโยคนั้น...พระแพง เป็น ของตรินทร์ ... ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว ที่เพิ่งเจอกันไม่นาน แต่ทำไมทำผมนอนไม่หลับทั้งคืน...

มาที่มหาลัยฯ แต่เช้าพร้อมบัพ..

ผมนั่งที่เบาะหลังเพราะเหมือนมันติดอยู่ในใจว่า...เบาะหน้านั่นเป็นของ ตรินทร์.....

อะไรๆก็เป็นของตรินทร์ทั้งนั้น !!! อารมณ์ผมเริ่มไม่เสถียรอีกแล้ว.. ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือต้องเรียนที่คณะบริหารคนเดียว..ผ่านมาครึ่งวันผมยังไม่เห็นอะตรอมเลย ทั้งๆที่นัดกันไว้แล้วว่าวันนี้จะลงซ้อมบาสด้วยกัน โทรไปก็ไม่ติด...แถมยังไม่ติดต่อมาอีกต่างหาก..หวังว่าคงไม่ได้โดนเรียกกลับบ้านใหญ่อีกหรอกนะ ตามที่ไหนก็ตามได้แต่ให้ไปตามที่บ้านใหญ่ของอะตรอม ผมขอบาย...ตอนนี้ยังผวาทุกครั้งที่คิดถึง มานั่งชิวลมอยู่คณะวิศวะ พวกไอ้เรดได้ฤกษ์สอบเก็บคะแนนมหาโหด ผมที่ดันเรียน บริหารเลยต้องมานั่งรอพวกมันจะว่าไปแถวนี้ก็ไม่มีสาวๆให้มองฆ่าเวลามากนัก หนักไปทางออกสาวกับสาวแต่ไม่ค่อยสวย .....ต่อมฮอร์โมนผมท่าจะฝ่อแล้วมั้ง...มองไปทางไหนก็ไม่มีอะไรจรรณโลงใจเลย แล้วเมื่อไหร่พวกไอ้เรดจะลงมาจากตึกว่ะ

“ พี่ชาย!!! ”

เสียงนี้...ประโยคแบบนี้...ผมแทบไม่ต้องเดาเลย.... คนที่ทำผมนอนไม่หลับทั้งคืน...

.... ‘พระแพง’ ...

ผมยาวสีดำสนิทรวบเป็นมวยผม แซมด้วยดอกปีบ สามสี่ดอก...เสื้อสีขาวมุกตัดกับกระโปรงสีเขียวอ่อน ดูสบายตา ทั้งเรียบร้อยทั้งน่ารัก ผมชอบผู้หญิงสไตล์นี้จัง ถึงรู้ว่าไม่สมควรแต่หัวใจกับร่างกายมันไม่ยอมฟังผมซะงั้น...ยิ้มนี้ส่งออกไปรับพระแพงก่อนที่ขาจะก้าวไปหาร่างบางนั้นเสียอีก ...ท่าจะเป็นเอามาก

“มาทำอะไรที่นี่ค่ะ?”

“คิดถึงพี่ชายค่ะ...เลยขอคุณปาลาดินทร์มาหาพี่ชาย...รบกวนรึเปล่าคะ”

รอยยิ้มหวานๆ ที่ส่งมาพร้อมคำตอบเล่นเอาหัวใจผมกระตุก...ทำไมผมไม่เจอเธอก่อนหน้านี้นะ ...

ก่อนหน้าที่เธอจะเป็นของตรินทร์ ก่อนหน้าที่อะไรๆ มันจะมาจบอย่างนี้ ...

“พี่ชายขา....พระแพง อยากทานไอศกรีม...”

เสียงอ้อนๆกับตากลมๆ สะกดผมอย่างจัง รู้สึกตัวอีกทีผมก็เดินจูงมือนิ่มข้ามถนน เรียกแท็กซี่ ซะแล้ว ในแท็กซี่... มือผมก็ยังไม่ยอมปล่อยมือพระแพง เหมือนมันล็อคกันไว้ด้วยแม่กุญแจ...กลิ่นหอมเย็นของดอกปีบ ส่งกลิ่นจางๆ แต่อวนไปทั้งหัวใจ ผมไม่อยากปล่อยมือนี้เลยจริงๆ.... ว่าจะมาร้านไอศกรีมแต่สุดท้ายผมกลับพาเธอไปนั่งเล่นที่ ป้อมท่าพระอาทิตย์...ไอติมกะทิถ้วยใหญ่จากร้านรถเข็นที่แบ่งกันทานหวาน...เย็นไปถึงหัวใจ...ขวดน้ำเปล่าที่เพิ่งซื้อมา แค่อึกเดียวก็สดชื่น ...

แสงแดดไม่ได้แรงจนเกินไป อากาศก็ดีเพราะนอกจากจะใกล้ริมน้ำแล้วยังมีต้นไม้เป็นร่มเงา บันไดปูนขั้นใหญ่ที่เรานั่งเล่นด้วยกันอย่างไม่กลัวเลอะ เสียงหัวเราะใสๆที่ดังขึ้นทุกครั้งจากมุขที่เล่นเองตบเอง แถมบางมุขของเรายังแป็กได้โล่....นั่งไปได้สักพัก สัตว์คุ้มครองตัวเขื่องก็เริ่มจะขึ้นมาทักทาย มันเริ่มจากปีนหินขึ้นมาจากน้ำแล้ว ค่อยๆคลานขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้...พระแพงจับมือผมไว้แน่น...ดวงตากลมๆ ฉายแวววิบวับ มองผมสลับกับมองเจ้าสัตว์เลื้อยคลานนั้นเหมือนทั้งอยากรู้ อยากเห็น แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆ เพราะผมยังยึดมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย

“พระแพง อยากลองลูบหัวมันจัง...พี่ชายมันจะกัดไหมพี่ชาย?”

ผมแทบสำลักน้ำเปล่า ...ผู้หญิงที่ไหนเขาอยากเล่นกับไอ้ตัวนั้นบ้าง?!! แต่ก็ได้แค่คิด...พระแพงทำท่าจะลุกเดินไปหามัน !! เฮ้ย!! ผมดึงมือเล็กนั้นไว้แล้วส่งสายตาดุๆให้เด็กสาวจอมซน ... ความรู้จากรายการสารคดี สัตว์โลกที่เคยดูเห็นทีต้องเอามาใช้ก็คราวนี้ ยังสงสัย ที่ญี่ปุ่น ไม่มี ไอ้ตัวแบบนี้บ้างหรอ?

“ชื่อภาษาไทยเรียก ตัวเงินตัวทอง หรือ ตัวเหี้ย ค่ะ คนไทยจัดว่าเจ้าตัวนี้เป็นตัวซวย เพราะมันกินได้อย่างล้างผลาญมากมายค่ะ อย่างบ่อปลาตากลม ถ้ามีเจ้าตัวนี้ลงไปมันกินปลาหมดทั้งบ่อ ไก่กุ๊กๆมันก็ลากไปทานได้ ส่วนลูกหมาหรือแมวเหมียว ถ้ามันเจอมันก็ลากไปกินได้เหมือนกัน พระแพงเห็นหางมันไหมคะ อันนั้นใช้ฟาดใส่ เหมือนจระเข้ ส่วนปากมันก็มีแต่เชื้อโรค.. ฉะนั้น..ห้ามเล่นกับมันค่ะ...ห้ามลูบหัวด้วยค่ะ ...ไม่ต้องแม้แต่จะคิดเดินไปใกล้ด้วยค่ะ..นั่งนิ่งๆ ..ทำได้ไหมค่ะ?”

เด็กน้อยของผม เม้มปากแน่นแถมทำแก้มป่องได้ น่ารักโฮก เห็นแล้วน่าหยิกชะมัด หมดความสนใจจากสัตว์สงวนตัวเขื่อง เมื่อไอ้ตัวนั้นมันคลานลงน้ำไปแล้ว โผล่ไปเกาะที่ต้นไม้ใหญ่ ผมชี้ให้พระแพงดู ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่ข้างหน้า

“ต้นลำพู ค่ะ เขาว่าต้นนี้เป็นต้นสุดท้ายของบางลำพู ”

“เอาไว้ทำอะไรคะ?”

“เอาไว้ให้หิ่งห้อยเกาะ...มั้ง?”

“หิ่งห้อย?”

“ไอ้ตัวที่ตอนกลางคืน มันบินส่องแสงแวบๆอะค่ะ”

“แล้วคืนนี้จะมีไหมคะ? ถ้าเรานั่งรออยู่อย่างนี้ เราจะเห็นไหมคะ?”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน...ไม่เคยนั่งรอจนเห็นหิ่งห้อยสักที”

“พระแพงอยากเห็น”

“ไว้ว่างๆพี่ พาไปดูที่อัมพวา...ที่นั่นมีเยอะ ”

“เขาว่าหิ่งห้อยเป็นวิญญาณคนตาย...แล้วถ้าหิ่งห้อยตาย ...มันจะกลายเป็นดวงดาว”

เสียงใสของพระแพงเริ่มจะเบาลงเมื่อเอ่ยประโยคนั้น..

“พระแพงรู้เรื่อง ‘คู่กรรม’ ไหมคะ? นิยายของไทย นายทหารญี่ปุ่นรักสาวไทย ในตอนที่เขากำลังจะตาย เขาบอกคนรักว่า เขาจะกลายเป็นหิ่งห้อยไปรอเธอที่ทางช้างเผือก เศร้าดีเนอะ ...”

ผมเล่าเรื่องที่พอรู้มาบ้างให้ พระแพงฟัง ริมฝีปากอิ่มสีสดเม้มเข้าหากัน ดวงตากลมโตจดจ้องไปที่ต้นไม้ใหญ่ข้างหน้า มือนิ่มบีบมือผมแน่น จนมันเริ่มจะร้อน

“พระแพงมีเรื่องเศร้ากว่านี้อีกค่ะ...ผู้หญิงชาวไทยนั่นยังดีที่รู้ว่าคนรักเธอจะรอเธอบนท้องฟ้า...แต่เรื่องเศร้าของพระแพง...ผู้หญิงในเรื่องนั้นไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ไม่มีคำพูดสุดท้าย ไม่มีสัญญาที่ให้กัน ไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณให้เฝ้ารอ ....ถ้าพระแพงเป็น ผู้หญิงไทยคนนั้น พระแพงคงดีใจที่รู้ว่าเขายังรอ...ขอแค่นั้นก็พอ...แค่เพียงบอกว่าจะรอ...ขอแค่นั้นก็พอ...”

เสียงใสเริ่มจะสั่น หลังจากนั้นก็เป็นผมที่ต้องโอบร่างบางนั้นมาซบไว้กับอก พระแพงได้แต่สะอื้นไห้น้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...นิยายของญี่ปุ่นมันมีเรื่องเศร้าแบบนี้ด้วยเหรอ ?

..............
.........................

...

ผมนั่งกอดพระแพงไว้ เกือบสองชั่วโมงที่พระแพงร้องไห้ไม่หยุด ดวงตากลมบนหน้าหวานเริ่มจะช้ำแดงเพราะผ่านการร้องไห้แบบมารทอน ผมยื่นขวดน้ำที่ผมเก็บไว้ให้แม่กระต่ายตาแดงก็ยกดื่มแบบไม่เกรงใจประชาชน จนสำลัก ผมได้แต่ลูบแผ่นหลังให้เธอ มองเด็กสาวตรงหน้าแล้วผมอดอมยิ้มไม่ได้ เธอน่ารักได้อย่างไม่ต้องเสริมแต่ง....ต่อมอิจฉา ตรินทร์ของผมเริ่มจะโต
ขึ้นอีกแล้วสิ...

“หิวหรือยังคะ?”

ผมถามพร้อมเกลี่ยนิ้วปาดคราบน้ำตาที่ยังติดวงหน้านวล พระแพงไม่ได้ขาว หมวย แต่สีผิวของเธอออกจะเป็นสีนวลแปลก โดยรวมแล้วมันก็ดูดี สีแบบนี้รึเปล่าที่โบราณเขาว่า สีกลีบบัว?

“พี่ชายมองอะไร คะ? พระแพงหิวแล้ว...”

มัวแต่มองผิวเนียนๆ จนเจ้าของเขาเอ่ยทัก...แต่ผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้จนหลุดเอ่ยปากถาม

“พระแพง..ผิวสีแปลกดีนะคะ”

วงแขนเนียนโอบคล้องเข้ากับแขนผม เจ้าของรอยยิ้มหวานกับตากลมสีแดงที่เพิ่งผ่านการร้องไห้ เงยหน้าจ้องผมอย่างไม่วางตา ครั้งแรกนะที่มีผู้หญิงมาจ้องอย่างนี้ ปกติเคยแต่จ้องชาวบ้านเขา

“สีแปลก...แต่พี่ชายก็ชอบนิคะ ...หรือไม่จริง?”

“...”

กับเธอคนนี้บอกได้ตามตรง....ผมแพ้ทางจริงๆ

“พระแพงอยากทาน สปาเก็ตตี้ ”

ผมหันไปตามเสียงอ้อน ...เอ๋? อย่างกับพระแพงรู้เลยว่าผมคิดอะไร ...

“พี่ก็กำลังจะพาไปทาน สปาเก็ตตี้ ค่ะ...แต่เป็นสปาเก็ตตี้ไก่นะ..ที่ข้าวสารมีร้านอร่อยอยู่ร้านนึง แต่ตามธรรมเนียมต้องทาน จานเดียวแต่สองคนนะ...ไหวรึเปล่า”

“ไหวเจ้าค่ะ!!”

พระแพงยิ้มรับแล้วไถหัวทุยๆกับต้นแขนผม ....น่ารักเกินไปแล้ว.....

..............
............................

..ถ้ามีแฟนผมก็อยากมีแฟนแบบนี้นะ มีแล้วสุขใจ เป็นแฟนกันมันก็ต้องอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ อยู่ด้วยกันแล้วเย็นใจ ....ถ้ามีผู้หญิงสักคนที่ผมจะแต่งงานด้วย ก็พระแพงนี้ล่ะ...

...แต่คงไม่ได้สินะ...

เพราะพระแพงหน่ะ เป็นของ ตรินทร์ผมเคยขอให้บัพเป็นพ่อแล้วให้ ตรินทร์ เป็นแม่ ....ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ มีพ่อที่อบอุ่นได้อย่างบัพ แถมเจ้าชู้เงียบได้อย่างไร้ร่องรอย ถ้าวันนั้นไอ้คิงส์ไม่พาไปเจอหลักฐานผมก็คงคิดว่าบัพซื่อ(บื้อ)อยู่อย่างนั้น...น่าคารวะมาเป็นตัวพ่อจริงๆ แต่ถึงยังงั้นมองตาก็รู้ว่า บัพ ห่วงตรินทร์ รักตรินทร์ ขนาดไหน แล้วถ้าได้แม่อย่างตรินทร์ ครอบครัวผมคงมีความสุข คงเป็นตรินทร์คนเดียวที่คุมบัพอยู่ มือหนักขนาด ให้ตัวพ่อแค่ไหนก็อยู่มือหล่ะน่า.....

....แต่ก็แค่นั้นถึงขอไป...แล้วยังไง...ถึงอยากให้เป็น แต่ผมจะทำอะไรได้

....แค่ชีวิตของตัวเองยังไม่มีกับเขาเลย ...สักวันที่ตรินทร์กลับมา....


แม้แต่มือของพระแพงที่ผมกุมอยู่นี่ ผมก็ต้องคืนให้ตรินทร์ .... พระแพง เป็นของ ตรินทร์ ..

..............
............................

“มีอะไรคะพี่ชาย?”

คิดแล้วผมก็เผลอกระชับมือนิ่มที่กุมไว้ จนพระแพงหันมาถาม รอยยิ้ม กับ คำหวานๆเพราะๆ ของพระแพง ผมขอเก็บไว้ก่อนได้ไหม ...

“เปล่าค่ะ แค่พี่หิวแล้ว เดินอีกนิดนึง ก็ถึงแล้ว สปาเก็ตตี้ไก่...”
..............
............................

.......ไอ้คิงส์บอกห้ามเข้าไปที่คลับมัน คลับใบไม้ ของพี่นพก็ด้วย ....
....
..
.....งั้นแค่แวะหาอะไรทานที่ D-คลับ คงไม่เป็นไรมั้ง ? แล้วทำไมต้องห้ามด้วย....อะไรของมัน ?



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!59 # Zap Zeal VS คลับใบไม้ [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:29:33
บทที่ 59 # Zap Zeal VS คลับใบไม้



“ภินทร์!!? ”

เสียงทักดังขึ้นตอนผมกำลังสาวเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากตัวเองไปด้วยป้อน พระแพงไปด้วย

เล่นเอาสำลัก คิ้วผมเริ่มชนกันแล้ว ก็เสียงเมื่อกี้มันไม่คุ้นหูเอาซะเลย ผมหรี่ตามองอีกครั้งถึงได้เห็น ผู้ชายสองคนยืนอยู่หน้าร้าน... เพื่อนไอ้คิงส์ ? ไอ้สองคนที่เคยกินเหล้ากับผม มันชื่ออะไรนะ ??

‘โฟน ? กับฟลุ๊ก ?’

สองชื่อนั้นผุดขึ้นมาในหัว ผมมองหน้าพร้อมส่งยิ้มกว้างให้ หนึ่งในนั้นใช้ข้อแขนล็อกคอลากเพื่อนอีกคนให้ตามเข้ามาในร้าน.....

‘ไอ้พวกก้างขวางคอ....’

“ออกจากโรงพยาบาลแล้วไม่เห็นไปที่ Zap Zeal เลยวะ ไอ้นักร้อง...”

ไอ้โฟนมั้งแซวผม ? แต่เสือกทำเสียงเครียด... ขณะที่ไอ้ฟลุ๊กเริ่มขมวดคิ้วจนคิ้วมันจะผูกกันเป็นหูกระต่ายแล้ว

“แฟน..มึงเหรอ?!”

สัดฟลุ๊กมองหน้าผมสลับกับมองหน้าพระแพง ... แววตาของมันตอนนี้ดูแปลกๆ และถ้าผมเดาไม่ผิด ....

‘!!!’

“พระแพง คะ!! นั่งอยู่นี่แป๊บเดี๋ยว พี่จ๋ามีเรื่องคุยกับเพื่อนๆ นิดนึงค่ะ!!”

ผมไม่รอให้พระแพงตอบตกลงหรือตัดสินใจ หมดจากประโยคนั้นผมก็ลุกดึงมือไอ้สองตัวนั่นให้ตามมาข้างนอกร้านแล้ว… เดินออกมาห่างจากร้านพอสมควร ไอ้ฟลุ๊กยังหน้าเครียดอยู่...ส่วนไอ้โฟนก็เริ่มจะหลุดบางประโยคออกมาแล้ว

“เข้าใจเลือกหญิงนะ..นั่นแฟนมึงเหรอ? กูนึกว่ามึงเป็นเด็กไอ้คิงส์ซะอีก..”

นั่นไง...ผมกะแล้วไม่ผิด... ดีที่ลากมันออกมาก่อน ไอ้ฟลุ๊กไอ้โฟนนี้เป็นเพื่อนสนิทไอ้คิงส์สินะ แล้วก็ไอ้เวทย์นั้นอีกคน..มองหน้าไอ้ฟลุ๊กที่จ้องผมเหมือนจับได้ว่าผมมีกิ๊กแล้ว พอเดาได้ลางๆ ..ไอ้เหี้ยมแพ้ไม่เป็นนั่นป่านนี้คงคุยทับเพื่อนไปแล้วว่า

’เป็นอะไรกับผม’

แล้วไอ้ที่มันคุยก็น่าจะเกินความจริงไปเยอะ เพราะมองจากสายตาไอ้โฟนแล้ว มันแทบไม่เชื่อว่าแฟนผมจะเป็น ‘ผู้หญิง’ สัดคิงส์คุยอะไรกับเพื่อนมันบ้างเนี้ย!!??

“มึงนี้โซชิว เหลือเกินนะไอ้นักร้อง....... Zap Zeal กับ ไอ้คลับใบไม้ ไหนจะไอ้คิงส์ กับ ผู้หญิงคนนั้น สรุปมึงจะเลือกอะไรกันแน่?”

..............
............................

‘พระแพง กับ ไอ้คิงส์ นี่พอเข้าใจ แต่ Zap Zeal กับ ไอ้คลับใบไม้ นี้มันเรื่องอะไรกัน?’
……………

…จนท้ายที่สุดไอ้โฟนกับไอ้ฟลุ๊ก ไม่ได้หลุดปากบอกอะไรผม …แต่ผมก็ยังเชื่อลางสังหรณ์ ตัวเองนะ..ว่า ’มันต้องมีเรื่อง’
…แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนั้น……

…เพราะถ้ารู้ ผมคงไม่โซชิว ขนาดนอนใจแวะมาส่ง พระแพง ถึงบ้านขนาดนี้.....


... ครับ..ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ แถวๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ถ้าเข้ามาแล้วไม่สังเกตให้ดีๆ จากถนนใหญ่แทบจะไม่รู้เลยว่ามีบ้านคนอยู่ อากาศรอบข้างอย่างเย็น คงเพราะใกล้แม่น้ำและมีแต่ต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด รั้วปูนฉาบลายเกล็ดปลา แฝงเข้ากลมกลืนกับต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นสลับกัน ที่นี่เป็นบ้านพระแพง...

“สัญญานะคะว่าจะพาพระแพงไปดูหิ่งห้อยที่ อัมพวา”

เสียงใสๆถามผมในขณะที่เจ้าของเสียงโผล่หน้าออกมาจากบานประตูใหญ่ ที่เป็นรั้วไม้ตีเป็นช่อง ดูแปลกตา

“ไม่สัญญาค่ะ”

เสียงผมตอบออกไปก่อนที่สมองจะคิดเสียอีก...มันคงเป็นความเคยชินไปแล้วกับการตอบคำถามแนวนี้ พอคิดขึ้นมาได้ ผมก็เห็นแววตานั้นเริ่มจ้องผมด้วยความรู้สึกที่ผมบอกไม่ถูก ...

“เข้าบ้านเถอะค่ะ ”

ผมรีบตัวบทสนทนาและบรรยากาศแปลกๆระหว่างเรา

“พระแพง..รัก....นะคะ เดินทางดีๆนะ”

เสียงเบาๆเหมือนพูดลอยๆ ระหว่างที่พระแพงกำลังจะถอยกลับเข้าไป... เหมือนผมจะหูฝาด เพราะที่ได้ยิน พระแพงเรียกผมว่า

‘ภัทร’
..


ยืนรอส่งจนพระแพงเดินลับไกลออกไปที่ทางเดินเข้าบ้าน ...

ผมยังยืนกอดอกตัวเองแน่น กอดวงแขนตัวเองไว้ไม่ให้เผลอเข้าไปรั้งพระแพงมากอด ...ผมแพ้สายตาคู่นั้นจริงๆ อากาศรอบข้างเย็นๆชื้นๆ ผมชอบอากาศแบบนี้จัง มองทะลุไปอีกทางหนึ่ง แสงแดดส่องกระทบกับผิวน้ำเป็นสีทอง ... ระลอกคลื่นที่เห็นจากริมฝั่งเหมือน งูตัวใหญ่กำลังเลื้อยผ่านผืนน้ำ .... สายลมพัดเอื่อยหอบกลิ่นหนึ่งผ่านจมูกผมไป...กลิ่นบางๆ ที่ทำให้ผมต้องหันกลับไปมองตัวบ้านที่ซ่อนอยู่ในรั้วกำแพงปูนและดงไม้.... กลิ่น...ดอกบัว...


..............
............................

.
.
.


‘รั้งรออะไร? ตนผู้นั้นอยู่เบื้องหน้าแล้ว...มาถึงหน้าเขตแดนเราแล้ว...ข้า...มิอยากรอต่อไปแล้ว...เร่งเข้าเถิด ..นำปราณท่านผู้นั้นมาเถิด......’

เสียงพร่ำเพ้อเบาปานสายลมกระซิบ..

แทรกด้วยเสียงสัตว์ใหญ่เลื้อยผ่านแหวกต้นไม้เล็กที่ขึ้นขนานกับทางเดินยาวสู่ตัวบ้าน เคียงข้างไปกับเด็กสาว...อมยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้น เมื่อเจ้าของบ้านหันหลังกลับไปมองใครคนหนึ่งที่ยังยืนอยู่หน้าประตูบ้าน เธอหันกลับมาแล้วฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ ..ไม่ได้สนใจว่าเสียงแปลกข้างทางนั้นตามติดตนมา…

“ยังไม่ถึงวันแต่งงาน...จะเร่งไปทำไม?..อยากให้ฉันเริ่มใหม่? หรืออยากให้  ‘ภัทร’ ใช้คำว่า ‘รัก’ กับฉัน...? ”

เด็กสาวหยุดยืนนิ่งแล้วหันไปหาต้นเสียงที่เลื้อยตัดกอหญ้า แสงอาทิตย์ตอนเย็นกระทบแผ่นเกล็ดใหญ่สีฟ้าอมแดง ที่หยุดการเคลื่อนไหว หลังจากได้ยินประโยคนั้น....

‘แม้เจ้าอยากได้ รัก แล้วเยี่ยงไร? ต้องปล่อยให้เพลาผ่านเลย...จนพวก สุร ได้ตนท่านผู้นั้นไปกระนั้นรึ...ครานี้หาใช่การตามเก็บ ‘หัวใจรัก’ เฉกคราก่อน...ครานี้พวกสุรเองก็ต้องการปราณนี้เฉกกัน ซ้ำสุรตนนั้น ยังเป็น ‘มหินทรา’ ...เจ้าคิดรึว่าครานี้เจ้าจักชนะ... พระแพง...?’
 
...รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นแทนคำตอบ รอยยิ้มที่เด็กสาวยิ้มเยาะออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อคิดไปถึง เจ้าของร่างยักษ์ ...ที่ตนเคยเจอและปะทะกันทั้งในส่วนหนึ่งของความฝันและเรื่องจริง การเจอหน้าที่จบได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก... แต่ตอนนี้มันต่างกัน เธอ..มีสิ่งที่เรียกว่าอำนาจ มากกว่า ‘ผู้เคยทรงอำนาจ...’

“ถึงจะเคยเป็น มหินทรา แล้วใย? บัดนี้มันตนนั้นก็เป็นได้แค่ เชื้อสายปลายแถวของ พวก สุร หาได้ยิ่งใหญ่ และทรงอำนาจเฉกเดิม ...ข้า...มีสิ่งอันใดจักพ่ายแพ้...ข้า..มีสิ่งอันใดที่จักสู้ มหินทราตนนั้นมิได้!!! ...ข้า ..มีสิ่งใด..ที่จะทำให้รอวัน แต่งงานแห่งผืนน้ำมิได้....”

..................ไร้เสียงตอบจากเจ้าของเกล็ดสีวาว เด็กสาวอมยิ้มเดินเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้สนใจร่างสัตว์ใหญ่ที่เลื้อยตาม ...ชั่วครู่จึงปรากฏร่างบางของหญิงผมยาวในชุดสีครามแดง เดินติดตามเข้าไปในตัวบ้าน ......

..............
............................







...ส่งพระแพง เข้าบ้านเสร็จ ผมก็ยืนหายใจสูดอากาศเย็นๆนั้นจนชุ่มปอดสักพักถึงได้เรียกแท็กซี่กลับ... ขึ้นมาบนรถได้ผมก็นั่งคิดอะไรเงียบๆ คิดไปถึงประโยคที่ตอบพระแพง ‘ไม่สัญญาค่ะ’ ประโยคนั้นจะถูกตอบแบบอัตโนมัติเสมอเวลาใครถาม หรือ เอ่ยอะไรเกี่ยวกับสัญญาระหว่างผม.... สำหรับผม คำสัญญาเหมือนเป็นการสาปแช่ง ...เพราะอะไรหน่ะหรือ ? พวกคุณเคยดูหนังไหม? เวลาตัวละครสัญญาอะไรกับใครสักคน ส่วนมาก... ตัวละครนั้นจะกลายเป็นแค่ ‘ความทรงจำในตอนจบ’ เพราะมันจะตายไง.... นี่เป็นกฎข้อหนึ่ง ใน 10 ของหนังเลยนะ

..เพราะฉะนั้น ผมถึงไม่เคยสัญญาอะไรกับใครก็ตาม...

มันเป็นความเชื่อส่วนตัวของผม... แต่ส่วนหนึ่งเพราะบางทีผมก็ทำไม่ได้ อีกส่วนก็อาจเพราะ ผม...ไม่รู้ว่าจะได้ทำไหม เมื่อต้องอยู่ในร่างตรินทร์ เมื่อต้องแชร์ทุกอย่างกับ ตรินทร์ เวลาของผมมีเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ...แล้วผมยังจะไปรักษาสัญญาอะไรกับใครได้ ....

คนเริ่มจะหนาตาบ้างแล้ว ตอนพี่แท็กซี่ เลี้ยวรถเข้ามาในซอย ... ผมยังอยู่ในชุดนิสิต เลยต้องหาตัวช่วยนิดหน่อย เดินเรียบๆเคียงๆข้างทาง ผมก็ได้ เสื้อยืดริมทางมาตัวหนึ่ง แค่นั้นก็คงพอ...จ่ายเงินแล้วผมก็ถอดมันตรงนั้นหล่ะครับ ใส่เลยแล้วกัน ส่วนเสื้อนิสิตก็ม้วนๆถือไว้ก่อน จุดหมายต่อไปก็คลับใบไม้ร้านพี่นพ ...ช่วงนี้น่าจะยังไม่มีคนเท่าไหร่นัก ...จะได้สืบข่าวด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ..เดินยังไม่ทันถึงร้านผมก็เจอ ‘เอก’ เด็กเสิร์ฟที่ร้านเข้าซะก่อนมันแต่งตัวได้ชิวมากเหมือนว่าวันนี้มันหยุดงาน...อย่างนั้นก็หวาน ผมเลยลากมันออกมาเลี้ยงข้าวสักหน่อย...

.....................
..........

“หลังจากวันที่พี่เป็นลม ร้านเรากับพวก Zap Zeal ก็มีเรื่องกันพี่ ...เมื่อก่อนมันก็ไม่เท่าไหร่เพราะร้านมันคนละแนวกัน แต่อยู่ๆวันนั้นเจ้าของร้านมันก็มาหาเรื่องพี่แป้น แถมลากไปที่ร้านมันอีก พอรู้ถึงพี่เรดมันก็เลยเกือบถึงขั้นเลือดตกยางออกกัน พี่นพแกก็พยายามเข้าไปเคลียร์นะพี่แต่พวกมันไม่ยอมปล่อยพี่แป้นออกมา พี่กร้าจะแจ้งความแต่พี่นพขอไว้ก่อนเพราะยังไงก็ร้านในถิ่นเดียวกัน ...อีกวันพวกมันถึงได้ปล่อยพี่แป้นออกมา แล้วบอกว่า ‘เข้าใจผิด’ พี่แป้นแกก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่ได้โดนยำตีนอย่างที่คิดกัน แต่พี่เรดอะดิจะเอาเรื่อง...ความจริงมันก็น่าจะจบแล้ว ขอโทษกันแบบลูกผู้ชายก็จบแล้วนะพี่ ...ถ้า..เด็กที่ร้าน Zealมันไม่บอกว่าพี่อะ....เป็นคนของร้านมัน.... ”

เอกเด็กเสิร์ฟที่หน้าตาขัดกับอายุ เอาช้อนส้อมจิ้มไก่ขึ้นมาชี้หน้าผม แล้วหยุดประโยคไว้แค่นั้น...ก่อนจะซัดผมในประโยคต่อไป

“มันบอกว่าพี่มาร้าน Zeal บ่อย แถมพวกมันยังว่า พี่เป็น ‘เมีย’ เจ้าของร้าน Zeal พูดหมาๆอย่างนั้นใครจะยอมอะ พี่เรดเลยจัดหนัก ตั้งแต่วันนั้น ...ยิ่งเมื่อวานยิ่งหนัก ดีนะที่พี่ไม่เข้ามาที่ร้านเห็นเขาว่าพวกเด็กร้าน Zeal มันก็มาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าร้านเรา เพราะอยากรู้ว่าพี่จะเข้าร้านไหน...แหม..พี่เลยดังใหญ่เลย.... ”

‘ดังกับผีมึงอะดิ!’

ผมเขวี้ยงก้อนน้ำแข็งก้อนเล็กในแก้วใส่หัวมันแล้ว อ้าปากพูดโดยไม่ออกเสียง มันหันมามองค้อนนิดหน่อยก่อนจะ จิ้มไก่ชิ้นต่อไปเข้าปากแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม

“กูไม่ใช่ดารา หาเรื่องดันกูให้มันถูกด้านหน่อย ข่าวฉาวๆชอบกันนัก”

ผมอดบ่นไม่ได้ ได้ยินมันเล่าแล้ว เล่นเอาผมถึงกับหมดแรงแนบหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะ ร้องเพลงอยู่คลับใบไม้ ให้ไปเป็นคนของ Zap Zeal ยังพอว่า แต่นี่เสือกได้ตำแหน่ง ‘เมียเจ้าของร้าน’ มาซะงั้น ข้อกล่าวหามันร้ายแรงยิ่งนัก ....หมดกันภาพพจน์กู ทีนี้ก็รู้แล้วว่าสายตาที่พวกไอ้ฟลุ๊กไอ้โฟนมันมองผมมันหมายถึงอะไร....

“อ้าว..ถอนหายใจอีกแล้วพี่ ถอนหายใจแบบนี้แสดงว่าพี่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยอะดิ..ผมว่าแล้ว...พวกพี่เรดต้องไม่บอกพี่แน่ แล้วมานั่งฟังผมเผาจ่อขนอย่างนี้..แสดงว่าพี่ก็ยังไม่รู้อีกเรื่องอะดิ ? เมื่อวานพี่เรดซัดเด็กเสิร์ฟ ที่ Zeal เข้าโรง’บาล อะพี่ ทางนั้นก็รุมยำทางเราเหมือนกัน วันนี้ที่คลับเลยปิดร้านวันนึง... พี่เข้าไปดูพวกพี่เรดหน่อยดีกว่าไหมพี่?”

“เข้าไปดูเชี่ยอะไร?! ไม่เห็นมีใครบอกอะไรกูสักเรื่อง!!”

“งั้นก็แสดงว่าพวกพี่เขาปิดข่าวกันหรอพี่? หง่ะ...ผมไม่รู้นิ ถ้ารู้ผมคงไม่เล่าละเอียดขนาดนี้ .....จูนๆๆๆ ......พี่ภินทร์ ...ถือว่าผมไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังนะพี่...”

ไอ้เอกมันรีบดื่มน้ำแล้วเรียกเด็กมาเคลียร์บิลกับผม เหมือนรีบตัดจบช่องข่าว....

“สัด!! ไม่ต้องรีบ ไม่ทันแล้วมึง….”


..............
............................

..แล้วงี้จะทำไงดี ชีวิตกูทุกวันนี้เวลาก็ยิ่งน้อยๆอยู่ พวกมึงยังจะมาสาดมาม่าใส่กูอีก สัดเอ้ย!!! จะไม่ให้กูอยู่ดูโลกอย่างสงบสุขกันเลยใช่ไหม?

...

ไม่ไหวแล้ว............

....ขอกลับไป คิดที่บ้านแล้วกัน ไอ้วิธีแก้ปัญหาโลกแตก ...ปกติถนัดแต่สร้างปัญหา...ต้องมาแก้ปัญหาแบบนี้ ฝึกสมองดีจริงๆ....
..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 60 # กลลวง บ่วงสมิง [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:32:22
บทที่ 60 # กลลวง บ่วงสมิง


[เธอเป็นมากกว่ารัก  เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา และรอคอยเธอมาแสนนาน และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ....]

...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพลงรอสายเพลงนี้แทบไม่ต้องคิดเลยกำลังเคลิ้มๆพอดีพอได้ยิน เรียกเข้าเท่านั้นผมก็รนรานตะคุปคว้าโทรศัพท์ ที่อยู่บนหัวนอนแบบอัตโนมัติ...

‘อะตรอม!’

“พี่ภินทร์ ...เข้ามาที่บ้านใหญ่ได้ไหมค่ะ? วันนี้เลยได้ไหม? พี่อะตรอมจะแย่แล้ว...”

เสียงที่กรอกมาตามสายไม่ใช่เสียงอะตรอม แต่เป็นเสียงแพลงตอน ฟังได้แค่นั้นแล้วสายก็ตัดไป... แล้วจะให้ผมทำอย่างไร? สายก็ตัดไปแล้วโทรกลับก็ไม่มีสัญญาณ ...หันไปมองนาฬิกา เกือบจะสองทุ่มแล้ว...เอาไงดีอะ ? ไอ้เรื่องเดินทางตอนนี้ไม่มีปัญหา แต่เรื่องไปบ้านใหญ่นั้นหน่ะสิ...ชักสังหรณ์ใจแปลกๆแล้ว...เกิดเรื่องอะไรกับอะตรอมแล้วตอนนี้มันจะเป็นยังไง?


โอยยยยยยยยยยยยยยยย ...เรื่องปวดหัวเต็มไปหมด ยิ่งคิดมากเวลาก็ยิ่งผ่านไป เลยสองทุ่มรถจะหมดหรือเปล่าอะ ? ไม่ต้องคงต้องคิดแม่งแล้ว ไปเลยแล้วกัน !!!

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงสามส่วน รองเท้าผ้าใบเอาให้สบายที่สุด จากนั้นก็วิ่งร้อยเมตรลงจากห้อง สวนกับป้านิ่มแทบชะงักเมื่อแกเอ่ยปากถามสกัดผมไว้ก่อนจะวิ่งเลยประตูบ้าน บอกแกไปว่าจะไปหาอะตรอมที่ ต่างจังหวัด น่าจะกลับพรุ่งนี้ หรือยังไงผมจะโทรมาบอกอีกที ป้าแกก็ เออ ออ ตามนิสัย ไม่ชังซักมาก....ผมวิ่งออกจากประตูมาไม่เท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์.... แต่ไม่มีเวลาจะเดินเข้าไปรับแล้ว ป้านิ่มคงจะจัดการเองมั้ง....




.. 23. 45 น. ดูนาฬิกาแล้ว เกือบจะเที่ยงคืนกว่าที่ผมจะมาถึงที่นี้....ประตูบานเดิม ที่กั้นถนนออกจากบ้านทรงไทยหลังใหญ่ และอีกนัยหนึ่ง มันก็เป็นประตูกั้นระหว่างเขตของพวกยักษ์กับมนุษย์อย่างผม .... ยืนหนาวอยู่หน้าบ้านได้ไม่นาน ประตูบานใหญ่ก็เปิดออก...ไฟรายทางที่เปิดอยู่แล้วมันไม่ทำให้บรรยากาศดีขึ้นเลย ขนาดมาตอนกลางวันยังเล่นผมซะเกือบตาย นี้ผมเข้ามาบ้านใหญ่ตอนกลางคืน...ไม่อยากคิดในแง่ร้าย ...สะบัดหัวไล่ความกลัวออกไปได้ ภาพอะตรอมก็ลอยมาเลย ผมอยากเจอมัน...อยากรู้ว่ามันเป็นอะไรมากไหม? แค่คิดถึงมันขาผมก็พาก้าวเข้าไปในเขตบ้านหลังนั้นแล้ว....


...........ทางเดินที่เป็นเส้นทางกึ่งสวนผลไม้กึ่ง...ถนนดิน..ทำเอาผมเดาไม่ถูกเลยว่าจะต้องเดินไปทางไหน ..ยังดีที่มีทางโล่งๆ ให้เดินตามทาง ..ผมตัดสินใจล้วงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาแพลงตอน อีก..เพราะรู้สึกว่าจะเดินเข้ามาไกลแล้ว... แต่ผมยังไม่เห็นตัวบ้านสักที เบอร์เก่าที่เคยให้ผมไว้....ถูกเลือกเป็นเบอร์โทรออกเพราะผมลองโทรเบอร์ของอะตรอมแล้วแต่มันไม่มีสัญญาณ....


....................................................................
...........
............

‘เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา และรอคอยเธอมาแสนนาน และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ....’

‘!!!’

เล่นเอาผมตกใจ อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะงั้น เบอร์อะตรอม?

“นายอยู่ไหน ? ”

เสียงอะตรอมเหมือนจะตะคอกผมมาตามสาย ....แต่ได้ยินเสียงมันอย่างนี้ค่อยโล่งใจหน่อย...

“อยู่บ้านใหญ่..ออกมารับหน่อยดิ น่าจะหลงอยู่ในสวนบ้านนายอะ... ”

ผมบอกมันตามความรู้สึก บอกตามตรงมืดอย่างนี้ถึงจะมีไฟรายทาง แต่ให้เดินหาทางออกหรือทางเข้าบ้านใหญ่เอง ร้อยทั้งร้อยถ้าไม่คุ้นทางมีแต่หลงกับหลง และผมก็เป็นหนึ่งในร้อยที่หลงนั้นด้วยอะดิ

“ไป ที่นั่นทำไม?!!”

อยู่ๆอะตรอมก็ ตวาดเสียงลั่นเข้ามาในสาย ...ผมเริ่มนิ่งแล้ว มันชักจะแปลกๆ

“ก็แพลงตอนบอกให้มา ...บอกว่าอะตรอมกำลังแย่...เราเลย...”

เสียงผมเริ่มจะอ่อยๆ เพราะนี้เพิ่งเป็นครั้งแรกที่โดนอะตรอมตะหวาด

“ สัดเอ้ย!!! ภินทร์นายอยู่ตรงไหน!! ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ต้องไปไหน บอกเรามาว่านายเห็นอะไรแถวนั้นบ้าง เอาไอ้ที่เป็นจุดสังเกตุหน่ะ!! ”

“ภินทร์....”

เสียงแว่วเรียกชื่อผมซ้ำๆ...เสียงของแพลงตอน....ดังขึ้นมาแทรก การสนทนา….

“ไม่ต้องแล้ว อะตรอม เราได้ยินเสียง แพลงตอนแล้ว ...เดี๋ยวเดินเข้าไปหาน้องเขาเอง”

ผมบอกอะตรอมเพราะตอนนี้ได้ยินเสียงแพลงตอนเรียกผม และเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย...

“ภินทร์ !!! บอกมาว่าอยู่ที่ไหน มองสิว่ามีอะไรเป็นจุดสังเกตบ้าง ...ฟังผมนะ แพลงตอนไปเข้าค่าย ต่างจังหวัด...ไอ้ที่โทรไปหานายกับไอ้ที่กำลังเดินไปหานาย ไม่มีทางเป็นแพลงตอน....อยู่ตรงนั้นบอกเราว่านายเห็นอะไรบ้าง บอกมา!!!!! ”

ประโยคที่อะตรอมบอกผม ทำเอาผมยืนนิ่ง ...งั้นใคร ???!!

..............ใครกำลังเดินมา.....

..ใครใช้เสียงแพลงตอนโทรหาผม ???

… ใครกำลังเรียกผมอยู่ตอนนี้ ??!! สมองผมอื้อไปหมดแล้ว ได้แต่หันหาจุดสังเกตที่อะตรอมให้หา แล้วสายตาผมก็พบ....

..........................
........
................................................................
..............

..ประตูไม้บานใหญ่ ............

..............
......

...ประตูไม้ที่มีลวดลายแกะสลัก.....

...
.........
...

.เป็นภาพยักษ์ ..

....

.
....
.............


...
สายลมที่พัดออกมาจากประตูไม้บานนั้น ...
.......บอกผมได้ทันทีว่าผมกำลังจะเจออะไร..
..


...

“อะตรอม...เราอยู่หน้าประตูยักษ์....”

รู้สึกว่าเสียงผมเหมือนเสียงคนกำลังจะร้องไห้ ...เมื่อเห็นภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น ......
ผมครางเรียกอะตรอมเสียงเบา...

...เสียงสุดท้าย..ในโทรศัพท์ ที่ผมได้ยิน

...อะตรอมสบถดังออกมา..........

..แล้ว..
..


.
.สายมันก็ตัดไป.....


..............
............................
 

..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 61 # ทางหนีไฟ [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:34:12
บทที่ 61 #  ทางหนีไฟ...ความเชื่อใจและสายตา… [1]

   ...เสียงแสบแก้วหูดังขึ้น เมื่อยางล้อรถมอไซน์คันใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าขึ้นกรุงเทพฯ ตีโค้งวกรถกลับมาเข้าเส้นทางเดิมที่เพิ่งผ่านมา...ความเร็วของรถเร่งตามความร้อนใจของผู้ขับ...
.......
...ความแรงที่เหมือนจะบินไปบนถนน!
..............
............................

Part อะตรอม

........ ผม....รู้ดีกว่าใคร…
ว่า ภินทร์ มันกลัวพวกตาแก่นั้นแค่ไหน...
เพราะฉะนั้น...
..............ทุกครั้งที่มีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้านใหญ่ผมเลยไม่คิดจะบอก ภินทร์ ไม่ว่าเรื่องมันร้ายแรงแค่ไหน.. มันเลยกลายเป็นทั้งผลดีและผลร้าย ดีตรงที่ ภินทร์ ไม่ต้องคิดถึงตาแก่พวกนั้นอีก …..แต่กลับเป็นผลร้าย........
..ร้ายแรง.....ตรงที่พวกตาแก่นั้นคิดว่าผมกำลังจะแพ้...ต่อ ‘นาง’ และการยึด ภินทร์ ไว้เอง คือทางยุติปัญหา !

เข้าใจคิดกันนะ! แม่งเอ้ย! ถึงเป็นพวกตาแกก็เถอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับ ภินทร์
....จะราดน้ำมัน..เผาแม่งให้หมด!... ไอ้ประตูบ้าบานนั้น!
..............
............................

“อะตรอม...”

เสียงภินทร์ เหมือนจะร้องไห้ออกมาตอนครางเรียกชื่อผม ...
สัญญาณโทรศัพท์.......
….ตัดไปแล้ว.......

‘พวกตาแก่นั้นกำลังจะทำอะไรอีก !’
..............
............................

Part ภินทร์
......
...เงาของร่างสูงเดินผ่านดงไม้เข้ามาใกล้ผม...อีกด้าน ประตูไม้บานใหญ่นั้น ...พวกยักษ์สลักก็กำลังขยับเขยื้อน ...ส่วนผม....
...............................
...
กำลังจะ
........................
..หัวใจวาย...
...
.
.เป็นครั้งแรกนะผมที่อยากเป็นนางสีดา ...
............
...
.จะได้แทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ....
....
.
.......
‘แพลงตอน !?’
แทบงงเมื่อแสงไฟรายทางส่องให้เห็น ..ร่างสูงของเด็กสาวที่เดินเข้ามาใกล้ผม... สีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ทำเอาผมทำอะไรไม่ถูก ...ตอนนี้ถ้าเป็นคุณ ... คุณจะเลือกอะไร ? ระหว่างด้านหลังที่มีภาพสลักยักษ์กำลังจะเริ่มมีชีวิต... กับข้างหน้า คนรู้จักที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ....
....
..
.
ผมเลือกอะตรอม !

..
ผมไม่เชื่อหรอกว่าไอ้หมายักษ์นั้นมันจะล้อผมเล่นในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ... แต่มันก็เถียงได้ยาก......ว่า ตรงหน้าผมไม่ใช่แพลงตอน ....
รอยยิ้มที่มีของแพลงตอน หายไปเมื่อเธอจ้องมองหน้าผม.... เหมือนมีคำถาม...และเหมือนเธอจะเดินเข้ามาใกล้ ..แต่ชะงักเมื่อสายตาคู่นั้นมองผมแล้วผ่านไปยังประตูไม้เสียก่อน...

“ภินทร์..?!”

น้ำเสียงตระหนกปนแววสงสัยเรียกผม ห้วนๆ พร้อมมือที่เหมือนจะลังเลยื่นออกมาคล้ายจะดึงผมไปไว้ใกล้ตัว...
...
.
แล้วผมจะทำยังไงได้?
....นอกจากยืนนิ่ง เวลานี้ผมไม่กล้าเสี่ยงทำอะไรทั้งนั้น...นอกจากจะภาวนาให้ อะตรอมมาเร็วๆ ...ทำได้แค่นั้นจริงๆ ไม่รู้หรอกว่าถ้า อะตรอม มาแล้วจะช่วยอะไรผมได้บ้าง....แต่ถ้าได้เห็นหน้ามันก่อนตาย อย่างน้อย....ก็ยังดีกว่าตายคนเดียวโดยไม่มีใคร...อีกครั้ง...
...

...โทรศัทพ์ไร้สัญญาณเครื่องนั้นหลุดมือผม ตกลงพื้น ...ทันทีที่ผมสัมผัสได้ ถึง.....สายลมเย็นที่พัดออกมาจากประตูไม้.. ลมเริ่มโหมแรงขึ้นทุกที ถึงจะรับรู้ได้แต่ผมกลับไม่กล้าที่จะหันไปดู เสียงหายใจหลายเสียงคล้ายเสียงกลองกังวาน....เสียงที่ผมเคยได้ยิน...เหมือนฝังอยู่ในหัว
‘เสียงพวกยักษ์...รูปสลักกลับมามีชีวิต...พวกยักษ์...ตื่นแล้ว !’
……………..
….
………….
ไอร้อนที่ผมเริ่มรู้สึกได้ ... มาพร้อมๆกับ มือใหญ่ที่เริ่มจะค่อยๆโอบตัวผมไว้ ขาผมขยับไม่ได้ ...มันแข็งเกร็งไปหมด สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้มีแค่มองหน้า แพลงตอน...โทรศัพท์ผมกลิ้งไปอยู่แทบเท้าเธอ... ผมไม่หวังแล้ว......ว่า อะตรอม จะมาทันเมื่อพวกมือร้อน จับไหล่ผมบ้างโอบเอวผมบ้าง..มือที่เหลือก็ดึงยึดมือและขาผมไว้ทั้งสองข้าง…. แรงกดของมือ ค่อยๆแน่นขึ้น....ผมเหมือนโดนคีมเหล็กล็อคตัวไว้... น้ำตาผมไหลออกมาตอนไหนไม่รู้...หูมันอื้อไปหมด ไม่ได้ยินอะไรแล้ว.... นอกจากเสียงสะอื้นของตัวเอง..
..............
............................
 ‘ทำได้ดี....หมดหน้าที่มึงแล้ว.....
.
..
.สมิง....’

   เสียงคงอำนาจของผู้ออกมาจากภาพสลัก ส่งไปยังเด็กสาวที่ยังนิ่งเงียบ แววตาสีเงินสะท้อนประกายแปลก เมื่อจดจ้องร่างเด็กหนุ่ม ในวงแขนนับสิบของ ยักษา .... ร่างสูง ก้มลงหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กที่กลิ้งมาใกล้เท้ายัดใส่กระเป๋ากางเกง....การทำลายหลักฐาน...เป็นส่วนหนึ่งของ ‘งาน’

“เด็กคนนั้น...จะเป็นเช่นไร?”

‘สมิงเยี่ยงเจ้า...เป็นห่วง ตนอื่นเป็นด้วยรึ ?...สำหรับตนผู้นี้... ทั้งร่างและปราณจักถูกผนึกฝังไว้...ให้ลึกที่สุดในแดน สุร..’

....แววตาสีเงินส่องประกายชัดเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไฟรายทางเริ่มจะหรี่ลง .....เมฆก้อนใหญ่เคลื่อนเข้าบังแสงจันทร์จนเกิดเป็นเงามืดทาบทับร่างเด็กสาว ..ชั่วเสี้ยวที่แสงจันทร์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง จากเด็กสาวร่างสูง ใบหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นโครงหน้าคมเข้ม ...และร่างกายสูงกำยำ….
.....
..
...ของคุณหมอที่ชื่อ สัตรา...
...

“ปวงท่านต้องทำเฉกนั้นเลยรึ.....การขังปราณ...ร้ายแรงกว่าการ พรากชีวิต...นาคาตนนี้ทำสิ่งใดผิด..?”

‘นาคา.? เจ้าหลงลืมสัญชาติญาณได้ถึงปานนี้เลยรึ... สมิง ? ...ปราณนี้...หาได้คงเชื้อสายนาคา ปราณนี้..เป็นวงศ์แห่งสุร ซ้ำยังเคยเป็น ‘ร่างแฝง’ แห่ง ‘ตะบองพลำ’....เจ้า..’หลงลืม’ปราณนี้จริงๆรึ? ...ลองมองปราณแห่งร่างนี้อีกครั้งไหม? เผื่อเจ้าจักเห็น...ว่าเจ้าเอง ล่อลวงผู้ใดมาให้ปวงข้า..... สมิง...’

เสียงกังวานที่เหมือนเยาะเย้ยอยู่ในที บวกกับความแคลงใจตั้งแต่แรกตอนมองเห็นแววตาคุ้นเคยของเด็กหนุ่มที่จ้องมองตน...คุณหมอก็พอจะเข้าใจทุกอย่าง… และเหมือนจะไม่มีข้อสงสัยอะไรอีก เมื่อประโยคต่อมาของเสียงกังวานนั้นเฉลยทุกสิ่ง...

“ปราณ...ที่มึงคิด ‘ซ่อนปวงข้ากับอีนางกาลี ไว้เยี่ยงไร เล่า’ ...สมิง...”
.............
...
ประโยคนั้นทำคุณหมอเงียบไปนาน...
..............
............................

.....นี่สินะ กุญแจของเรื่องทั้งหมด...คนสำคัญที่ตนคอยแต่เฝ้ารอ....ร่างกายเย็นเฉียบที่ไม่มีทางลืมตาตื่น…..
...นั่นสินะ..
จะตื่นขึ้นมาได้ยังไง... เมื่อ ปราณนั้นโดนกักขังในร่างนี้ ! ทุกสิ่งมันเลวร้ายลงเรื่อยๆ และจะยิ่งเลวร้ายกว่านี้ถ้า ปราณดวงนั้น โดนฝังยังเขตสุร ...

“คืนมา !....เอา ‘ภัทร’ คืนมาให้กู!”

“....อย่ากำแหง....มึง...เหยียบอยู่ยังเขตแดนปวงกู....ไอ้สมิง.....”

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 61 # ทางหนีไฟ [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 21:38:54
บทที่ 61 #  ทางหนีไฟ...ความเชื่อใจและสายตา… [2]
Part ภินทร์? ภัทร ?

“ภัทร...เมื่อไหร่จะกลับมาสักที ? ...เราไม่ไหวแล้วนะกลับมาสักที !”

   น้ำเสียงและประโยคคุ้นหูดังเหมือนอยู่ไม่ไกลนัก...สายฝนที่โหมตกลงมา..ทั้งปลุกผมทั้งกำลังจะฆ่าผม.. น้ำฝนที่ขังรวมกันเป็นแอ่ง ทำให้สำลัก... เมื่อร่างกายที่ไม่สามารถขยับได้นั้นเกือบครึ่งกำลังจะจมน้ำฝนที่เริ่มจะขังตัว ...สิ่งที่สายตาผมเห็นผ่านม่านฝน... เสือตัวใหญ่กำลังหอบหายใจถี่..ขนสีเงินเต็มไปด้วยเลือด...สภาพเหนื่อยอ่อนไม่ต่างกับ ยักษ์สลักร่างใหญ่ที่มีแขนเกือบสิบ... ร่างสลักนั้น... บางส่วนโดนเผาไหม้ด้วยไฟ ทั้งๆ ที่อยู่กลางสายฝน !
..............
............................

“หมอ...เรากลัว..”

….ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงกระซิบ บอกประโยคที่อยู่ในใจกับร่างใหญ่ขนนุ่ม..กลิ่นเลือดที่ติดที่ขนนั้น ทำเอาใจผมสั่น.. น้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว...ความมืดที่คลุมไปทั่วบริเวณ บวกเสียงของเม็ดฝน ที่เริ่มซาลง ทำให้ผมพอเดาได้ว่า ‘พวกเรา’ ออกมาจากเขตแดนนั้นแล้ว

“ไม่ต้องห่วง...เดี๋ยวมันก็จบ...”

น้ำเสียงที่คุ้นเคยกับประโยคที่ เหมือนฟังจนชิน...มาพร้อมสัมผัสเบาที่ค่อยๆลูบหัวปลอบเหมือนทุกที..ผมโอบกอดร่างนุ่มนั้นไว้แน่น....มันกำลังจะจบแล้ว ..อีกไม่นานฉผมก็จะตื่นจากฝันร้าย ... ได้เหมือนทุกครั้ง...
..
.ใช่ไหม? หมอ...
..............
............................
Part หมอสัตรา

   ร่างกายมันทั้งเจ็บทั้งระบม... ผมกลั้นใจลากร่างไร้สตินั้น เข้าพงหญ้าข้างทาง แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ดึงร่างเย็นที่หายใจแผ่วมากอดไว้กับอก แผลลึกที่เกิดบนร่างกายสร้างรอยร้าวไปถึงกระดูก ถึงแม้บาดแผลนั้นจะเริ่มสมานกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดูดีนัก

หึ! ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเอง...กล้า... ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ …….แค่คิดว่าต้องเสีย ‘ภัทร’ ไปอีก... เสียไปตลอดกาล....ถ้าปล่อยให้พวกยักษ์ผนึกฝังปราณนี้.. แค่นี้ผมก็กลับร่างเดิมแล้ว...

   เมื่อวานพวกยักษ์ ติดต่อผมผ่านพวก ‘นกรู้’ งานง่ายๆเงินดี...แค่หาทางให้คนๆหนึ่งเข้ามาในเขตแดน ยักษ์... คนๆหนึ่งที่ข้อมูลบอกว่ากลัวบ้านหลังนี้.. แต่กลับก้าวเข้ามาทันทีที่ผมหลอกว่า เพื่อนเขากำลังแย่...ผมไม่คิดว่า คนๆนั้นจะเป็นคนที่ผมเฝ้ารอ

...ครั้งแรกที่เห็น ผมจำเด็กผู้ชายนี้ได้ลางๆว่าผมเองที่เป็นคนช่วยเขาจากฝันร้าย ...ภาพของ ‘ภินทร์’ เด็กหนุ่มเชื้อสายนาคาที่ไอ้เคี้ยมพามากำลังจะตายเพราะเสียเลือด ...ตอนนั้นไอ้เคี้ยมมันบ้าแค่ไหน ผมเข้าใจความรู้สึกมันดี ...

มันเหมือนเป็นเงาสะท้อนภาพผมที่กำลังจะบ้าเพราะ ‘ภัทร’ ผมลบรอยแผลเป็นที่ข้อมือนั้นออกเหมือนกับทุกครั้งที่เคยลบรอยแผลเป็นบนร่าง ‘ภัทร’ ที่เกิดจากการลอกคราบ... ทั้งๆที่อยู่ใกล้ขนาดนั้น แต่ผมกลับไม่เอะใจ...
พวกยักษ์ ‘รู้เรื่องนั้น’ แล้วสินะ ถึงได้ให้ผมเข้ามาทำงานนี้ ...มันเป็นการแก้แค้นที่เจ็บปวด...ถ้าผมต้องเป็นคนส่ง ‘ภัทร’ ให้พวกยักษ์ด้วยตัวผมเอง...
..............
............................

“หรี่แอร์หน่อยไหม ? ภินทร์ มันตัวเย็นไปหมดแล้ว...”

ไอ้เคี้ยมมันเอื้อมมือมาเตะร่างเด็กหนุ่มที่ทิ้งตัวพิงกับ ไหล่ผม ทั้งๆที่มันยังขับรถอยู่.....ความเร็ว..ของรถที่ไม่น่าจะต่ำกว่า 140 ...

‘อย่าแตะคนของกู’

นั่นเป็นความคิดที่แล่นเข้ามา ...แต่ที่ทำได้....ผมได้แต่เงียบเพราะยังต้องอาศัยไอ้เคี้ยมมันอีก.. ร่างกายผมล้าเกินกว่าจะขยับ ถึงจะออกมาจากเขตแดนได้อย่างหวุดหวิด แต่ผมก็ไม่สามารถพาตัวเองและคนข้างๆกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้.. และถ้าทิ้งไว้อย่างนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เราจะไม่โดนลากเข้าเขตยักษ์อีก.. ระหว่างที่หลบอยู่ โทรศัพท์ที่ผมยึดไว้ก็มีสายเรียกเข้า และมันเป็นสายของไอ้เคี้ยม...ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่บอกว่า

‘ภินทร์ กำลังจะตาย..’

ไม่ถึงชั่วโมง รถมันก็มาจอดริมทางที่พวกผมหลบอยู่แล้ว...…ผมขอให้มันเงียบไม่ต้องถามเรื่องอะไรระหว่างนี้ และบอกมันว่าถ้าพร้อม……
ผมจะเล่าทุกอย่างให้มันฟัง…………
..............
............................

   เกือบสามวันแล้วที่ผมหลบอยู่ที่ชั้นสองของคลับไอ้เคี้ยม... ‘ภัทร’ ก็อยู่ที่นี้..... คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ภัทร ไม่ลืมตาขึ้นมาตลอด สามวัน ผมชินแล้วกับเรื่องแบบนี้... จะมีก็แต่ไอ้เคี้ยมที่กระวนกระวาย มันไม่ได้นอนตลอดสามวันที่ผ่านมา...ผมได้แต่เฝ้ามองมัน... สายตาไม่ยอมใครของพวกแพ้ไม่เป็น ไม่เคยละออกจากร่างใหม่ของภัทรเกิน 5 นาที ....เหมือนผมกำลังมองตัวเองตอนที่ต้องคอยเฝ้า ภัทร หลังอุบัติเหตุนั้นเพิ่งเกิดขึ้น... แม้ผมจะไม่อยากให้มันแตะ ภัทร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ตอนนี้ผมยังไม่ฟื้นตัวเต็มที ...ผมยังดูแล ภัทร ไม่ได้ ....ผมฝืนเกินไปที่สู้กับยักษ์ ในเขตยักษ์…ร่างกายผมเกินขีดจำกัด..
.....................
...........

แต่มันก็คุ้มกับสิ่งที่ได้มา....
....
เข้าบ่ายของวันที่สี่....บาดแผลทั้งหมดเริ่มสมานเข้าด้วยกัน ....เหมือนรู้ว่า... ผมต้องใช้กำลังและร่างกายนี้อีกครั้ง....

   เสียงโวยวายดังขึ้นที่ชั้นล่าง ไม่นานกลุ่มไอ้สี่ตัวนั่นก็เปิดประตูห้องเข้ามา... ไอ้เคี้ยม มันสบถหัวเสียบังร่าง ภัทร ไว้ กลิ่นของยักษ์ที่ผมสัมผัสได้......พาสายตาให้มองไปยังร่างใหญ่ ที่เพิ่งก้าวเข้ามา...
กลิ่นของเด็กหนุ่มคนนั้น...เป็นกลิ่นเดียวกับยักษ์ที่ทำผมและ ภัทร เกือบตาย....

“เคี้ยม...มึงเห็นไอ้ยักษ์นั้นไหม? ไอ้เหี้ยนั้นหล่ะ ที่ทำกูกับคนที่นอนอยู่นั้นเป็นอย่างนี้!”
..............
............................

Part ภินทร์

   ผมเคยเชื่อว่า...ทุกเรื่องมีทางออก ทุกปัญหามีการแก้ไข เชือกที่แก้ปมไม่ได้ยังโดนฟันขาด ไม่งั้นเวลาไฟไหม้จะมีทางหนีไฟไว้ทำไม? ผมเคยคิดอย่างนั้น ...

...แต่ปากที่ปิดเงียบของพวกเพื่อนสนิทที่นอนกลิ้งพร้อมผ้าพันแผลและรอยฟกช้ำอย่างสบายอารมณ์ที่คอนโดไอ้เรด ... ทำผมไม่แน่ใจ ....ในเรื่องผมเคยเชื่อ …

... ก่อนหน้านี้ผมตื่นขึ้นมา ที่คอนโดไอ้เรด ใช่.. ห้องนี้หล่ะ....ดูวันและเวลาแล้วผมหลับไปนานมาก...นานจนพวกมันกลัวว่าผมจะไม่ตื่น ....

เรื่องราวที่ลางๆเลือนๆเหมือนกับความฝันในสมองของผม...ทำเอาผมจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกนัก ...รู้แต่แค่ว่า ...ตื่นขึ้นมา พวกมันก็ยับเยินกันหมดแล้ว แถมถามอะไรก็ไม่มีใครตอบ.....
อะตรอมก็อยู่ที่นี้ด้วย ริมฝีปากหนามีรอยแตก แต่ก็ยังดูดีกว่าพวกไอ้เรดที่ตอนนี้หน้าเหมือนเพิ่งลุยฟาร์มพิตบูลมาหมาดๆ ... ผมอึดอัดนะที่เวลามองใครแล้วมันหลบสายตาหนี...

ในห้องบรรยากาศ เริ่มจะอึดอัด จนไอ้เรดเลี่ยงเดินออกไปที่ระเบียง ไอ้กร้าใช้หนังสือปิดหน้า แป้นเนียนหลับทั้งๆที่อมลูกอมอยู่ในปาก ...

“ผมไปอาบน้ำนะ...”

   อะตรอมพูดขึ้นทันทีที่ผมมองหน้ามัน... มันหลบตาผมแล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป ...แต่ยังไม่ได้ปิดประตูห้อง ....แล้วไง? ผมเดินตามมันเข้าไป ไอ้ลูกหมาคงไม่ทันสังเกตุว่าผมตามเข้ามา มันหันหลังให้ผมและถอดเสื้อแขนยาวตัวใหญ่กับกางเกงขายาว ..ที่ใส่ไว้ออก...
...........
............................

..แผ่นหลังของ อะตรอม ถูกพันไว้ด้วยผ้าก๊อซ ที่ขากับแขนก็ด้วย แต่ถ้าไม่สังเกตุก็คงไม่รู้ อะตรอม เก็บอาการทั้งหมดไว้ .. ผมรู้ว่ามันอึดแค่ไหน ...แต่นี้เกินไปแล้ว….ผมยืนนิ่งกับภาพที่เห็น สภาพมัน แย่กว่า พวกไอ้เรดรวมอีก...

“พวกมึงไปทำเหี้ยอะไรมา?”

ผมถาม อะตรอม เสียงเรียบ....กลัวว่าถ้าเผลอตะโกนออกไปมันจะเป็นการจุดชนวนระเบิดเวลาของผม อะตรอม หันมาตามเสียง หน้ามันซีดลงเมื่อรู้ว่าผมเห็นสิ่งที่มันซ่อนไว้... สายตาผมมองตามไปที่ รอยซึมของเลือดที่ปรากฎขึ้นบนผ้าสีขาว....อารมณ์ผมนิ่งจนผมยังกลัวตัวเอง…

“จะให้กูรู้เอง หรือมึงจะพูดตรงๆ ...อะตรอม...”

คำถามมง่ายๆ... รอแค่คำตอบของมัน .....มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น ..แต่แค่ผมคนเดียวที่ไม่รู้อะไรสักอย่าง เรื่องที่ ร้านไอ้คิงส์ เรื่องที่คลับใบไม้ของพี่นพ เรื่อง อะตรอม เรื่องไอ้แป้น ทุกเรื่อง ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง! แผ่นหลังที่มีแต่กลิ่นคาวเลือด รอยแผลลึกบ้างตื้นบ้าง... เลือดนั้นซึมออกมาทุกครั้งที่ผมกวาดสายตามอง.....
.....
...................
..
........ผม...
...
...
เหมือนเป็นไอ้โง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
..
....
.
ทั้งๆที่คิดว่า ตัวเองสำคัญที่สุด สนิทที่สุด!
ความเชื่อใจของกูอยู่ที่มึง....เอาสิ...จะบอกกู หรือจะให้กู..รู้ด้วยตัวเอง.....

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 62 #ละไว้ในฐานที่เข้าใจ [P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:05:00
บทที่ 62 #  “.....” ละไว้ในฐานที่เข้าใจ



“จะให้กูรู้เอง หรือมึงจะพูดตรงๆ ...อะตรอม...”

   ....ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากไอ้หมายักษ์ข้างหน้า ผมก้มหน้าหลับตาให้ตัวเลขหนึ่งถึงร้อย ค่อยๆผุดขึ้นมาในสมองน้อยๆ

‘กูให้มึงถึงร้อยแปดเลย....กูให้โอกาสมึงแล้ว...'

แต่ก็เหมือนเดิมไม่มีคำอะไรหลุดออกมาจากปากมัน...

“มึงเลือกเอง...กูให้โอกาสมึงแล้วนะอะตรอม....พอแล้ว....กูจะไม่ถามอะไรอีกแล้ว...ใส่เสื้อ...กลับหอ..”

ผมสูดหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินนำมันออกมาจากห้องน้ำ พวกไอ้แป้นที่เคยเนียนหลับกระวีกระวาด รนรานกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม....เหมือนจัดฉาก....
....ตลกแหล่ะพวกมึง.....กูไม่ขำ!

“ตรินทร์จะ ไปไหน ?!”

ไอ้เรดตะโกนถามผม อะตรอมมันใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และกำลังยัดรองเท้าผ้าใบใส่เท้า...ผมหันไปมองพวกไอ้เรดด้วยหางตา....
...แล้วนิสัยผู้หญิงจ๋าที่ฝังอยู่ในสันดานก็พรั่งพรูออกมากับคำพูด

“ไม่ต้องมาถามว่ากูจะไปไหน...กูงอน...กูไม่บอก...แล้วเรื่องของพวกมึง จะทำเหี้ยอะไรอีกก็ตามใจ แต่อย่าให้ปัญหามาถึงคลับใบไม้ เกรงใจพี่นพเขาด้วย ส่วนกู..กูจะเคลียร์ในส่วนของกู...ส่วนของไอ้คิงส์ กูก็จะเคลียร์ในส่วนของไอ้คิงส์...เหลือแต่พวกมึง....อย่าสร้างปัญหาขึ้นมาอีก...กูรู้....ว่าตัวปัญหาเป็นกู...แต่ไอ้ความหวังดีที่พวกมึงทำให้...ถามกูหน่อยไหม ว่ากูต้องการหรือเปล่า ? กูยังอยากกลับไปร้องเพลงที่คลับใบไม้..กูยังอยากไปนั่งแดกเหล้าฟรีที่ Zap Zeal แล้วกูก็ยังอยากมีเพื่อนแบบพวกมึง... นี่หล่ะที่กูอยากได้..ไม่ทราบว่าพวกมึงๆจะกรุณาทำให้กูได้รึเปล่า ? ”

เหวี้ยงเสร็จ ผมก็ไม่รอคำตอบจากพวกปากหนัก คว้าข้อแขนอะตรอมได้ก็ลากมันออกมาจากห้องแล้ว....
.............ในลิฟต์มีแต่ความเงียบ

“เอามอไซต์มารึเปล่า ?”

เงียบครับ.สัด!..กูถามแค่นี้ยังไม่ตอบ.....ปากแม่งอมเหี้ยอะไรอยู่ ! เกือบจะวีนอีกรอบถ้า...

“ไม่ได้เอามา...”

ถึงจะเสียงอ่อยๆ แต่ก็ยังดีที่มันตอบ...ถ้ามึงไม่ตอบกะอีแค่คำถามอย่างนี้ ....ถึงไม่เคย แต่กูจะฝึกเอาตีนง้างปากมึงให้ได้...
...เมื่อก่อนไม่เคยนะ ไอ้เรื่องพูดคำด่าคำ หรือเริ่มจะคิดใช้แรงแทนสมองอย่างนี้
........................
แต่พออยู่กับไอ้พวกหมาล่าเนื้อพวกนี้แล้ว....
ทำเอาผมรู้....

......ผู้ชาย มันไม่ใช่แค่คำนำหน้าว่า ‘นาย’ ใช่ไหม? ทำไมมันต้องดิบ เถื่อน ไอ้ความถ่อยนี้มันก็ต้องมีด้วยใช่ไหม? ...
..
.ไม่จริง!
‘กูเถียงขาดใจ! กูจะใช้สมองให้พวกมึงดู ’
......
...

กลับมาถึงห้องสีเขียวอ่อน...ค่อยใจเย็นลงหน่อย...อะตรอมถอดเสื้อกับกางเกงพาดไว้บนเตียง หน้าที่ที่เหลือเป็นของผม...

“ดึงผ้าพันแผลได้...แต่อย่าให้มือนายโดนแผลเรานะ ภินทร์ ”

คนเจ็บสั่ง ผมค่อยๆราดน้ำเกลือล้างแผล ลงให้ใกล้ผ้าก๊อซที่สุด...เสียงครางดังขึ้นทุกครั้งที่ค่อยๆดึงผ้าพันแผล แล้วรู้ว่าผ้าบางส่วนติดไปกับแผลนั้นด้วย

 ..แต่....เสียงครางเป็นของผมแทนที่จะเป็นของอะตรอมเจ้าของแผล กว่าจะดึงได้หมด...เล่นเอาผมทั้งลุ้นทั้งเหนื่อย... แต่ไม่มีสักเสียงที่ออกมาจากปาก อะตรอม... ไอ้ลูกหมายักษ์นี่โครตอึดเลยหว่ะ...

“พวกมึงเล่นมีดกันเลยหรอ? ”

ผมมองแผลอะตรอมแล้วถึงกับเครียด รอยถลอก รอยซ้ำ ไม่เท่าไหร แต่. รอยของมีคมที่ฟันลึก.... เล่นแรงกันไปหรือเปล่า ? เบตาดีน 2 ขวดที่เคยเก็บไว้ท่าจะไม่พอ...เหมาลังแล้วเทให้ไอ้หมายักษ์นี่อาบเลยท่าจะดีกว่า ….ก็ทั้งตัวมันมีแต่แผลนี่น่า...

“ ภินทร์ อย่าแตะ! บอกแล้วนะว่าห้ามโดนแผลเรา... ไม่ต้องทายาหรอก...ทิ้งไว้ให้โดนอากาศ..เดี๋ยวก็หาย ...แค่ครั้งนี้มันหนักกว่าจะสมานเอง...เลยหายช้าก็เท่านั้น”

หมายักษ์อ้าปากพูดได้ก็ตอนเห็นผมกำลังจะเอาก้อนสำลี แตะเบตาดีน ...

“ถ้ามันหายได้เอง...แล้วเสือกพันผ้าทำไม?”

“พันเพราะกลัวภินทร์เห็นไง... แต่ก็ดันเห็นไปแล้ว คงไม่ต้องพันอีกแล้ว...”

มันตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติแล้วเอียงคอมองหน้าผม...

“ภินทร์...อาบน้ำให้ทีสิ...”

“หง่ะ...อาบในสภาพนี้อะนะ...ไม่แสบหรืออะตรอม..”

อะตรอมยึดมือผมไว้ แล้วใช้แววตาสีดำสนิทที่ช้ำแดงคู่นั้น มองหน้าผม.... ผมไม่อยากคิดนะว่ามันเพิ่งผ่านการร้องไห้มา แค่คิดว่าหมาถึกอย่างมันร้องไห้ หัวใจผมก็โหวงๆ แล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันนะ.. แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เวลามองหน้ามันใกล้ๆ หัวใจผมเต้นแรง... และที่รู้สึกได้มากกว่านั้น อยู่ใกล้มันแล้วผมอุ่นใจ..

“ภินทร์.. 'ลืม’....หรือ ภินทร์ 'พยายามจะไม่เข้าใจ’... 'เรา’...ไม่ใช่ ‘มนุษย์’...อะตรอม เป็น’ยักษ์’...ยักษ์แบบเดียวกับพวกตาแก่ที่ทำให้ ภินทร์ เกือบตาย...แผลแค่นี้..อะตรอม ไม่ถึงตาย หนักกว่านี้ก็โดนมาแล้ว..ถึงเวลาที่ ภินทร์ ต้องยอมรับความจริงซะที...ไม่ใช่แค่ อะตรอม...แต่  ภินทร์ เองก็ไม่ใช่ ‘มนุษย์’ ภินทร์... อะตรอม มีชีวิตและร่างกาย.. แต่ ภินทร์...มีแค่ วิญญาณ...ให้อะตรอมเจ็บ...ดีกว่าให้ ภินทร์ หายไป...”

แววตาที่จ้องลึกเข้าไปในตาผม กับมือใหญ่ที่เหมือนตรึงผมไว้ คล้ายจะถ่ายทอดทุกคำให้เข้าสู่สมองผม......ไม่ใช่ผมพยายามลืม...แต่เรื่องบางเรื่องที่มันเข้าใจยาก ...ผมก็ไม่อยากจำ....จะว่าผมไม่มีเซ้นท์เรื่องนี้ก็ได้...
....ใครมันจะไปคิด ว่าบนโลกใบนี้ พวกที่เคยคิดว่ามีแค่ในนิทานกับเรื่องเล่า ดันมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ ..
ถึงผมเองก็จะเป็นหนึ่งในนั้นก็เถอะ...

“ไปอาบน้ำเหอะ..ไป”

ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ออกปากไล่อะตรอมเพราะผมต้องการหนีการรับรู้เรื่องพวกนี้หรือเปล่า ?

“อาบให้ด้วยแล้วกัน...เห็นใจหน่อย อะตรอมเป็นคนเจ็บ..”

อะตรอม มันตอบกลับมาเล่นเอางง อ้อนผม? ไอ้ลูกหมาหมีมันอ้อน? เหรอ ?!
เจ็บ...? บ้านเตี่ยมึงสิ !  เมื่อกี้ไอ้หมาตัวไหนมันบอกกูว่า ‘แผลแค่นี้..ไม่ถึงตาย’ เมื่อกี้ราดด้วยน้ำเกลือมึงยังเฉยๆ เสือกจะมาเจ็บตอนจะอาบน้ำเนี่ยนะ....
..............
............................

   ถึงจะบอกให้ผมอาบน้ำให้แต่ เอาเข้าจริงในห้องน้ำนั้นผมได้แต่นั่งบนเก้าอี้ไม้แล้วใช้สายฝักบัวฉีดแผ่นหลังให้อะตรอม ไอ้ลูกหมายักษ์ไม่ยอมให้ผมถูสบู่ให้เหมือนกับทุกที...ผมได้แต่มองมันอาบน้ำ แปรงฟัน ถูสบู่ สระผม
.....ถ้ามึงทำทุกอย่างเองได้แล้วจะเอากูเข้ามาด้วยทำไม?
…จนมันอาบน้ำเสร็จผมก็ยังไม่รู้ว่ามันเอาผมเข้ามาในห้องน้ำด้วยทำไม...

“อะตรอม แผลที่เป็นรอยยาวนี้ทำไมไม่จางลงเลย ...”

ผมถามอะตรอมแล้วไล้นิ้วไปตามรอยแผลลึกบนหลัง มันเป็นเหมือนรอยมีดที่กรีดลงเนื้อ ต่างกันก็แค่ขอบแผลมีรอยม่วงคล้ำ ส่วนแผลกับรอยอื่นๆ ก็เป็นเหมือนที่ อะตรอมบอก รอยแผล รอยช้ำมันค่อยๆ จางลงไปแล้ว...

“ อย่าแตะ!”

อะตรอม ตะหวาดแล้วหมุนตัวกลับมาดึงมือผมไว้

“เมื่อกี้เอานิ้วไหนแตะ!”

มันถามเสียงเครียด...งงสิครับ...ทั้งงงทั้งตกใจ ช่วงนี้ผมโดนมันตะหวาดบ่อยมาก...ทั้งทีเมื่อก่อนไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้....
 ได้แต่ยกมือข้างที่ลูบแผลมันให้มันดู

“นิ้วไหน!”

“กลางกับชี้!”

สะดุ้งตอบมันไป..แล้วไอ้ลูกหมายักษ์ก็ทำตัวเป็นลูกหมาจริงๆ มันจับมือผมไว้แล้วค่อยๆเลียสองนิ้วนั้น พอผมได้สติจะดึงมือออกมันก็ยึดมือไว้แน่น แล้วอมสองนิ้วนั้นของผมเข้าไปในปาก

...สัมผัสมันชัดเจน เพราะความเย็นของนิ้วผมมันตัดกับความร้อนของริมฝีปาก และลิ้น นิ่มๆร้อนๆ ของ อะตรอม

“แผลจากสมิง มีพิษ ...ต้องฆ่าเชื้อก่อน”

สีหน้ามันจริงจังมากแต่ การกระทำ .... ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อน...มันก็ค่อนข้างจะติดเรต....
..............
............................

   ตอนแรก...ผมคิดว่า..อะตรอม..เป็นคนช่วยผม จากยักษ์นั้น ..แต่พอได้ยินคำว่า ‘สมิง ?’  คำเรียกนี้เหมือนคำที่คอยกวนใจผม แผลที่อะตรอมโดน มาจาก ‘สมิง’ .....คือ ‘เสือ’ งั้นหรือ? ในเสี้ยวของความทรงจำลางๆ ผมว่าผมจำเสือนั้นได้

....ความอบอุ่นของแผงขนสีขาว ที่เปื้อนเลือด...แล้วก็ที่บ้านใหญ่ของ อะตรอม ผมไปที่บ้านนั้นจริงๆ แต่คนที่ช่วยผมไว้..ใช่ อะตรอม..แน่หรอ? .แต่ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมผมถึงฟื้นขึ้นมาที่ คอนโดฯไอ้เรดได้... ทุกอย่างมันโยงกันจนยุ่งเหยิงไปหมด...

แต่ผมกลับไม่รู้อะไร ความทรงจำที่ผมมีบ้างลืมบ้าง ไม่ช่วยอะไรผมเลย ...พวกไอ้เรดกับ อะตรอม ปิดปากแน่น เหมือนเรื่องนี้เป็นความลับ...ถ้าสืบจากฝั่งนี้ไม่ได้ ก็ต้องถามอีกฝั่ง ....ถาม ไอ้คิงส์!
..............
............................

   … หน้าห้องไม่มีลูกกุญแจล็อคไว้ แต่เคาะห้องก็แล้ว กดกริ่งก็แล้ว ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตตัวไหนมาเปิดประตูให้ จนผมต้องล้วงหาพวงกุญแจฆ่าหมา...(คือลูกกุญแจมันเยอะมากจนสามารถปาหัวหมาแตกได้) จำได้ลางๆว่า คิงส์ เคยให้กุญแจห้องมันไว้ สุ่มไขสักพักก็เปิดประตูห้องมันได้
..............
............................

...เหมือนโดนกับดัก....ไอ้โฟน กอดอกยืนขวางประตูทางเข้าห้องไอ้คิงส์ พร้อมรอยยิ้มกวนส้นที่ส่งมาให้...

“ไง? ไอ้นักร้อง...ไหนเพื่อนมึงบอกว่า มึงไม่ได้เป็น ‘เมีย’ ไอ้คิงส์ แต่มึงเสือกมาหามันถึงห้องเนี้ยนะ ห่วงมันขนาดนี้ ไม่ได้เป็น ‘เมีย’ แล้วเป็นอะไรกับมันว๊ะ”

ผมเข้าใจแล้วว่าปากหมาโดยสันดานเป็นยังไง เป็นอย่างไอ้ตัวที่ขวางผมอยู่นี้หล่ะ...ถึงไม่ใช่ก็คงใกล้เคียง...

“เป็นเพื่อนมันไง ...ถ้ามีแต่เมียมันถึงมาหามันได้ มึงก็เป็นเมียมันเหมือนกันสินะแล้วอย่างมึงน่าจะเป็นเมียหลวง มึงถึงมาหามันก่อนกู....”

“เขินแล้วปากหมานะ ภินทร์ "

อยู่ๆเสียงไอ้ฟลุ๊กก็แทรกขึ้นมา

“เขินเหี้ยอะไร...กูประชด...สัด! มีหัวไว้แค่กั้นหูนะพวกมึง...แล้วสรุปไอ้คิงส์อยู่ไหน?”

“อยู่ในห้องนอนมัน...สภาพดูไม่ค่อยได้ ถ้า ‘ผัว’ มึงหมดหล่อก็โทษพวกเพื่อนกับ ‘ชู้’ มึงแล้วกัน”

“ไม่พูดซักชั่วโมงกูก็ไม่คิดว่ามึงเป็นใบ้หรอกนะ ฟลุ๊ก.. แล้วจะให้บอกอีกกี่ครั้ง ‘กูเป็นเพื่อน’ ไอ้คิงส์เหมือนกับที่มึงกับไอ้โฟนเป็น ”

...หมดอารมณ์จะเถียงกับมัน...ผมโบกมือไล่ให้แมลงวันสองตัวนั้นพ้นทาง แล้วแทรกตัวเข้าห้องไป ...

“พวกกูไปก่อนดีกว่า...ฝากดูไอ้คิงส์ด้วย..มันหลับอยู่ .....แล้วก็อีกอย่าง.. ไอ้นักร้อง...ถ้ามึงเป็นแค่เพื่อนมัน อย่างพวกกู.. มึงไม่มีทางมีกุญแจห้องไอ้คิงส์แน่..."

ไอ้โฟนพูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วปิดประตูตามไอ้ฟลุ๊กออกไป...ทิ้งให้ผมประมวลประโยคนั้น...พอเข้าใจได้แทบจะเขวี้ยงกุญแจห้องไอ้คิงส์ทิ้ง !
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:08:01
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23 ! [1]
เด็กกว่าแล้วไง? VS ขอโทษที พี่ไม่ใช่นางงาม

“ รู้อะไรไหม? พวกพรต และชีไพร เคยให้คำนิยามเกี่ยวกับ ‘สันดาน รัก’ ไว้ว่า ‘พวกยักษ์’ หน่ะ เป็นพวก ‘ลืมไม่ลง’... และยังเป็นพวก ‘ถ้าได้หลง....แล้ว..ไม่ลืม…’ ”

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว.....
...ช่วงที่อะไรๆมันยังอยู่ในแบบที่มันเป็น...ตอนนั้นคนบ้างคนเพิ่งโดนสาวทิ้งในรอบปี เนื่องใน...
‘วันโลกาพินาศ’
ที่เวียนมาอีกครั้ง..... สำหรับคนทั่วไปเขาเรียกมันว่า
‘วันวานเลนไทน์’
แต่สำหรับคนบ้าง มันคือ
‘วันพินาศ!’
จะว่าไป...มันก็ ไม่เชิงโดนทิ้งนักหรอก เรียกว่าโดนเขาจับได้คาหนังคาเขามากกว่า... แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้คนบ้างคนที่ว่าเสียกำลังใจจนต้องหาทางหลบไปเลียแผลใจกันเลยทีเดียว...จะไม่ให้เสียกำลังใจได้ยังไง...เมื่อ...ไอ้ที่โดนจับได้มันโดนซะ สามคนในครั้งเดียว...
..............
............................

“...บอส...งานที่ แหลมฉบัง ‘ภัทร’ ขอนะ เอกสารเตรียมมาแล้ว ขาดแต่สัญญาการส่งของ ให้ขนส่ง ส่งมาพร้อมงานล็อตแรกเลยก็ได้...ภัทรคุมเอง...ค่ะ..ขอแปลนส่งงานด้วย..ค่ะ ได้ค่ะ...”

   หญิงสาวกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์...ซักอึดใจ หลังได้ยินเสียงตอบรับของคนปลายสาย สีหน้าหญิงสาวจึงพอดูดีขึ้นมาบ้าง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับไปราบเรียบเช่นเดิม โทรขอไปงั้นหล่ะ...ไม่ให้แล้วจะทำไม เมื่อคนที่ของานตอนนี้ขึ้นมานั่งบนรถบัส 'กรุงเทพ-สัตหีบ' แล้ว...
ดวงตาช้ำแดง ดูจะเข้ากันได้ดีกับหน้าสาวผิวสีที่ไร้เครื่องสำอาง เกือบสองคืนแล้วที่ อดหลับอดนอนมาดื่มย้อมใจ... อกหักหรอ? ไม่หรอก...ก็ไม่เคยใช้คำว่า 'รัก' จะเรียกว่า 'อกหัก' ได้ยังไง ?
มันก็แค่ช่วงตกต่ำของชีวิต แค่นั้น ...ผมยาวเสมอไหล่ถูกรวบแล้วใช้ปิ่นปักไว้หลวมๆ แว่นสายตาถูกขยับปรับให้เข้ากับใบหน้า...ความสนใจทั้งหมดส่งไปยังหนังสือเล่มหนา..
..............
............................

   อยู่ๆเสียงเอะอะก็ดังขึ้นมา กลุ่มเด็ก ม.ต้น สามสี่คนได้มั้งก้าวขึ้นมาบนรถ.... หญิงสาวถอนหายใจกับเสียงที่ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง หนังสือเล่มโปรด ถูกขั้นหน้าไว้ด้วย ดินสอ 2 B.
…ปลายนิ้วที่ทาเล็บสีดำกดยัดหูฟังเข้าหูจนคิดว่ามันแน่นพอกลบเสียงจากเบาะข้างหน้าได้ ก่อนละความสนใจไปยังหน้าจอ MP.3 ในมือ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเบาะข้างๆมันฮวบลงไป... ถึงจะเป็นเซลล์ฝ่ายขาย แต่บอกตามตรงถ้าไม่เกี่ยวกับงานและเรื่องส่วนตัวปากอิ่มๆนี้ไม่เคยได้เปิดออก หญิงสาวเบนความสนใจทั้งหมดไปที่ตัวอักษรบนหน้าหนังสือจนรถเคลื่อนตัวไปได้ซักระยะ.....
..............
............................

...ความรู้สึกอึดอัดมันก็เข้ามา...
ตอนแรกว่าจะไม่สนใจ แต่พอนานๆไปความอึดอัดมันก็เปลี่ยนเป็นความขุ่นมัวในอารมณ์...จนต้องหันหน้าไปหาต้นเหตุของความอึดอัด
แล้วสายตาวาวนั้นก็เจอเข้ากับเจ้าของสายตาอีกคู่ที่จ้องมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร... ภัทร จ้องตอบแววตาสีดำสนิทของเด็กหนุ่มข้างๆ...
...คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย เมื่อคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะจ้องตอบอย่างไม่หลบสายตา...

“พี่...อ่านเพชรพระอุมาด้วยเหรอ ? ”

เด็กหนุ่มร่างใหญ่เอ่ยถามริมฝีปากหนานั้นขยับ...แต่แววตาสีดำกลับไม่ยอมหลบเหมือนว่าถ้าหลบสายตา ตนจะเป็นผู้แพ้ ไร้คำตอบจากหญิงสาวนอกจากแววตาเรียบผ่านแว่นที่จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นสุกวาวฉายแววไม่สบอารมณ์

“ผมยืมอ่านบ้างได้ไหม พี่ ? ”

เด็กหนุ่มเอ่ยต่อไปเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังนิ่งเงียบ แต่ที่ทำให้เด็กหนุ่มยิ่งไม่สบอารมณ์ก็เพราะไอ้แววตานั้นไม่ยอมละออกไปจากสายตาตนซักที...
....เหมือนประกาศสงครามในความเงียบ...
ซ้ำยังดูแปลกกับแววตาสีน้ำตาลเคลือบมรกต...หรือเป็นเพราะแสงสะท้อนของแว่น ?!

“เฮ้ย!.. ขอน้ำในกระเป๋ามึงหน่อยดิ”

เพราะแรงสะกิดจากมือที่ยื่นมาจากเบาะหน้าเด็กหนุ่มหันไปตามเสียงทันทีที่เด็กเบาะหน้าโผล่หน้าออกมาแล้วยื่นมือมาขอกระเป๋าสะพายที่คิดว่าอยู่ที่เบาะหลัง

“กระเป๋าอยู่ที่ไอ้คิด ไม่ใช่กู”

เด็กหนุ่มร่างใหญ่ตอบอย่างเสียอารมณ์... และยิ่งขัดใจมากกว่านี้เมื่อเหลือบมองหญิงสาวข้างๆแล้วปรากฎรอยยิ้มเยาะขึ้นที่สายตาและริมฝีปากอิ่ม เหมือนประกาศชัยชนะ... ของ
‘เกมส์จ้องตา...’
...แล้วก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น....เมื่อหญิงสาวกลับไปพิงกระจกรถอ่านหนังสือตามเดิม...โดยไม่สนใจเด็กหนุ่มเบาะข้างๆ...
....
....ที่กัดฟัน กรอด......
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:09:06
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23 !! [2]

“เกร็ดแก้วครับ!”

   ..เสียงเด็กรถตะโกนบอกจุดหมายปลายทางต่อไปที่จะจอด ภัทร ถอนสายตาออกมาจากตัวหนังสือ คั่นหน้าและเก็บหนังสือเล่มหนาลงกระเป๋าใบใหญ่เพื่อเตรียมตัวจะลุกออกจากที่นั่ง หันไปสะกิด ไอ้เด็กยักษ์เบาะข้างๆให้ขยับหลีก  เพราะมันนั่งบังทางออกซะมิด...แค่การสะกิดมันก็น่าจะรู้แล้วว่า ‘ขอทาง’ แต่ไอ้เด็กร่างยักษ์มันกลับนิ่งไม่เคลื่อนไหวแถมยังปลายหางตามามองแบบ ‘ผู้ชนะ’
...เลยสวนนงนุชมาแล้ว แต่ไอ้เด็กยักษ์มันยังไม่ยอมขยับ แถมยังหันมาจ้องหน้าอย่างไม่คิดหลบ! ก่อนจะหันกลับไปโดยไม่ขยับหลีก...
‘คิดจะปีนเกลียวหรอ?! ช่างแม่ง! ไม่ลุกก็ไม่ต้องลุก.. ’
...หญิงสาวหันกลับไปค้นหนังสือเล่มใหม่ออกมาอ่าน ...

“เกร็ดแก้วครับ!”

เสียงตะโกนบอกดังขึ้นอีกครั้ง รถบัสคันใหญ่ชะลอความเร็ว...เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะหันไปหาหญิงสาว
‘ไหนว่าจะลง?’
สายตาใต้กรอบแว่นยังคงจ้องอยู่ที่หนังสือเล่มโปรด ไม่มีทีท่าว่าจะหาทางลงสักนิด..

“เฮ้ย! ถึงแล้วไม่ใช่หรอว๊ะ!ก็ป้าเขาบอกให้ลงหน้าเกร็ดแก้ว..”

เสียงเด็กเบาะหน้าดังขึ้นมาเหมือนเร่งให้เด็กหนุ่มต้องรีบลุกออกจากที่นั่ง... เหมือนเป็นธาตุอากาศที่หายไป... มันน่าน้อยใจ ...เมื่อหญิงสาวเบาะข้างๆไม่มีทีท่าว่าจะสนใจตนสักนิด....จนลงจากรถแล้วแหงนหน้าขึ้นไปมองคนที่นั่งพิงข้างกระจก ...สายตาใต้กรอบแว่นคู่นั้นก็ไม่ได้เหลียวลงมา...

“อะตรอม เป็นอะไรว๊ะ มองอะไรมึง!”

“...”

ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากเพื่อนร่างใหญ่ จะมีก็แต่สีหน้าที่ไม่น่าทักทายนักเพราะคิ้วหนาขมวดจนชนกัน ...
..............
............................

‘บางที โชคชะตา มันก็เลือก คน’
..............
............................

   นั่งรถเลยไปถึง ‘ตลาดสัตหีบ’ หญิงสาวมัวแต่เลือกซื้อของสดบ้างของกินบ้างขนมบ้าง เล่นเอาหิ้วจนเมื่อย กว่าจะรู้สึกตัวก็ข้าวของเต็มมือ เมื่อกี้หัวเสียเพราะไอ้เด็กบ้าไปแล้ว กลับเข้าบ้านไปกินของที่ซื้อมาก็น่าจะอารมณ์ดีขึ้น...นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้กลับมา ‘บ้าน’ บ้านที่ไม่ได้กลับมานาน...
   ตั้งแต่ ป๋า กับ มี้ แยกทางกัน เรื่องของพวกผู้ใหญ่และความเหมาะสม... นี่ถ้าไม่ใช่เพราะงานก็คงไม่ได้กลับมา กลิ่นหญ้าอ่อน กลิ่นเกสรดอกไม้ป่าที่ตีกันยุ่ง ทำให้คอเริ่มจะเจ็บขึ้นมาอีกแล้ว โรคภูมิแพ้อากาศดีกำลังจะกำเริบ ...ข้าวของกับขนมที่หอบมาเมื่อยแขนไปหมด...เจอป๋าต้องทำยังไงบ้างนะ...ลืมไปแล้ว...นานแล้วนิที่ไม่ได้มี ‘พ่อ’ เป็นของตัวเอง...
... กินข้าวกับ ป๋า .....มันจะให้ความรู้สึกยังไงนะ?
..............
............................

“.....”

“พวกน้องๆเขาเพิ่งขึ้นมาจากราชบุรี มาขอพักสามสี่วันเอง พ่อจะลงไปจันฯ เย็นนี้เลย...ฝากเด็กๆไว้กับ ภัทรทีแล้วกัน อะตรอม นี่พี่ภัทร มีอะไรก็คอยดูกันด้วย ภัทร พ่อไปก่อนนะ มีอะไรโทรหา... กุญแจมีดอกเดียว ดูน้องด้วยหล่ะ อย่าลืมให้ข้าว อิ๋งๆ นะ ”

   ...แรงสวมกอดจากวงแขนใหญ่ มีให้...เหมือนกระตุ้นสติ...แต่ก็ยังไม่ทันทักท้วงอะไร...รถโตโยต้า อัลติส สีน้ำตาลทอง ก็แล่นออกไปจากบริเวณบ้านแล้ว เหลือเพียงหญิงสาว...
กับ..
....ไอ้เด็กยักษ์โคตร...กวนตีนที่เจอบนรถ พร้อมเพื่อนจอมโวยวายอีก 2 คน....
...และหมาพันธุ์บางแก้วอีก 1 ตัว...
....ของกินที่อุสาซื้อมา... ขนมที่คิดว่าจะทานกับป๋า แค่สองคน... หิ้วมาจนเมื่อยมือ หอบมาจนชักจะปวดแขน ......สุดท้ายเหมือนซื้อมาให้ พวกเด็กนรกนี่ ...
.....ที่สำคัญ ไอ้ที่กำลังเคี้ยว มันเชื่อม ของโปรดของคนซื้อตุ้ยๆนั้น
..............
............................

...เสือกเป็น 'ไอ้เด็กยักษ์ แพ้ไม่เป็น'  นั่นอีก ...
ชีวิตอีก 3-4 วัน ต่อจากนี้ .......
...
.......
นรกชัดๆ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:10:03
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23 !! [3]
Part อะตรอม

   เข้าวันที่สองที่ได้มาอยู่บ้านนี้.... ผมนอนฟุ๊บหน้าอยู่กับโซฟาตัวใหญ่ ‘เจ้’ ออกไปข้างนอกแต่เช้า... ทิ้งพวกผมไว้กับ 'อิ๋งๆ' หมาขนฟูที่ไอ้คิดพยายามจะหาทางกอดแต่ได้คมเขี้ยวกลับมาแทน อิ๋งๆ มันกลัวผมเลยไปนอนหลังบ้าน ส่วนไอ้เวย์ ยังหลับอยู่ชั้นสอง ….
เสียงฝีเท้าที่วิ่งวนอยู่บนชั้นสอง... พาสายตาผมให้แหงนมอง ข้อเท้าเล็กที่ผูกกระดิ่งสีแดง ... วิ่งวนอยู่หน้าห้องพระ ... เสียงดังที่ปลุกไอ้เวย์ได้เป็นอย่างดี ...มันคงไม่มีมาแค่เสียงเพราะอยู่ๆ ไอ้เวย์ก็ตะโกนลั่น แล้ววิ่งลากผ้าห่มลงมานอนคลุมโปงอยู่ข้างๆผม
....ช่วงช่องว่างของบันไดไม้  เด็กตัวเล็กๆ ชะโหงกมอง ไอ้เวย์ พร้อมหัวเราะคิกคัก แล้วเด็กนั่นก็ผ่านสายตามาทางผม ... จนผมต้องจ้องกลับ...
‘กล้ากับกู?!’
แล้วก็เหมือนทุกครั้ง...เวลาผมจ้องกลับไป พวกแบบนี้ก็จะหายไปเองทุกครั้ง แม่เคยบอกผม พวกผี และ สัมพเวสี ‘กลัวยักษ์’
..............
............................

.... เกือบ บ่ายสองแล้ว พวกผมนอนกลิ้งอยู่หน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ..ไล่กดทุกช่อง ขนมกับของกินที่อยู่ในตู้เย็นพวกเราก็ถลุงกันจนเกือบเกลื้ยง ในตู้เย็นมีทุกอย่าง ยกเว้น ข้าวกับกับข้าว...
เจ้นั่น กะจะให้พวกผมอดตายกันที่นี่สินะ ...แต่ไม่อยากจะบอกว่า ที่นี้ถิ่นผม เพราะผมไม่ค่อยมีเพื่อนไง... เกือบทุกปิดเทอมผมเลยมาเที่ยวบ้านลุงบ่อยมาก มาทีก็เหมือนทุกครั้ง ลุงแกมักจะออกไปเข้าเวร หรือไม่ก็ไปธุระต่างจังหวัด ทิ้งผมให้เฝ้าบ้านกับเลี้ยงอิ๋งๆ หมาที่ไม่ว่าผมจะเลี้ยงยังไงมันก็ไม่ยอมให้ผมจับ ...พวกเลี้ยงไม่เชื่อง...
   แต่จะว่าไป ทำไมทุกครั้งที่มา ผมถึงไม่เคยเจอเจ้แกเลยนะ?...เห็น ไอ้เวย์ กับ ไอ้คิดนอนกลิ้งๆแล้วสังเวช... กะจะไปเอากุญแจมอไซน์ ขับออกไปหาอะไรให้พวกมันกิน แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูเสียงมอไซน์รับจ้างก็ดังอยู่หน้าบ้าน ...
...เจ้กลับมาแล้ว พร้อมของเต็มมือ...
จะว่าไปถ้าตัดนิสัยไม่ยอมคนออกไปบ้าง เจ้แกก็ น่าคบนะ...
..............
............................

..น่าคบจนไอ้พวกสัมพเวสี ตามมาเป็นพรวน!
สำหรับเจ้คนนี้ ผมว่าสมควรแล้วที่บ้านใหญ่ตัดออกจากการเป็นเชื้อสาย ...ทั้งๆที่เจ้แกหอบหิ้วพวกอะไรมาด้วย เจ้แกกลับไม่รู้สึกสักนิด...
..............
............................

   มองย้อนดูอีกทีก็คงเพราะเจ้นี่หล่ะถึงทำให้ผม เริ่มที่จะสนใจมอง ‘อะไร’ รอบข้าง...ตั้งแต่บนรถแล้ว ผมว่าคุ้นหน้าเจ้แกอยู่ ทั้งๆที่ปกติจะไม่เคยสนใจอะไร แต่...สำหรับคนที่มี สัมพเวสี เกาะอย่างไม่ยอมปล่อย ดันไม่ทุกข์ไม่ร้อนหรือรู้สึกรู้สาอะไร มันแปลกๆ ผมจ้องพวกเหล่าสัมพเวสีที่เกาะเจ้แกอย่างหวงแหน ...จนเจ้แกมองกลับมาที่ผมอย่างไม่วางตา ‘กล้า!?’ เพิ่งเคยมีใครกล้าจ้องตอบกับผมก็เจ้คนนี้หล่ะ !
..............
............................

จะว่าไป ไอ้นิสัยไม่สนใจใครของผม...มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?... ไม่รู้สิ...คงตั้งแต่เกิดมั้ง? …และมันก็เป็นอย่างนั้นตลอดมา เป็นจนเกือบถึงจุดวิกฤต...ก็ตอน ม.2 นี่หล่ะ ผมโดนทางโรงเรียนเชิญผู้ปกครอง.... เหตุผลเพราะโลกส่วนตัวผมสูงเกินไป
‘พระอาทิตย์’
นั่นคือคำจำกัดความในการอธิบายถึงปัญหาของตัวผม..คงเพราะได้อาจารย์ที่ปรึกษาเป็นอาจารย์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ด้วยหล่ะมั้ง...แต่นั้นก็ทำให้แม่ผมเข้าใจในปัญหามากขึ้น ทำไมถึงเป็นพระอาทิตย์หน่ะหรอ? คงเพราะมันหมุนรอบตัวเองโดยไม่สนใจใคร...และเผาทุกสิ่งที่เข้าใกล้ได้อย่างไร้ความรู้สึก.. เห็นอาจารย์อธิบายประมาณนั้น..ตอนนั้นผมไม่ค่อยจำอะไรนักหรอก นอกจากประโยคที่ มันจะนำความลำบากมาให้….
‘คงต้องให้น้องอะตรอมมีเพื่อนบ้าง บางทีการเข้าสังคมอาจจะทำน้องเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี’
เพราะประโยคนั้นทำให้ผมต้องหาเพื่อน...
...บอกไปหรือยังผมสอบเข้ามาได้ก็เพราะกีฬา เรื่องกีฬา อย่าถามเลยว่าถนัดอะไร ในเมื่อผมเล่นมันได้ทุกอย่าง และเล่นได้ดีมากเสียด้วยจนแต่ละชมรมพากันแย่งตัว ...แต่ผมเลือกชมรมบาส เพราะข้อตกลงระหว่างผมกับชมรมทั้งจากการขู่บังคับและการหลอกล่อ ในที่สุดผมก็ได้เพื่อนมา 2 คน ไอ้คิด กับไอ้เวย์ เด็กชมรมบาสที่โดนสังเวยให้มาเป็นเพื่อนผม
   แม่เป็นคนซื้อตั๋วรถและจัดเตรียมค่าใช้จ่ายให้ผมสร้างมิตรภาพระหว่างการเดินทาง เพื่อสร้างสังคมของผม....สังคมที่ประกอบไปด้วย คนสามคนด้วยกัน... นี่รวมผมแล้วนะ ได้ไอ้สองคนนี่มาก็ถือว่าบุญแล้ว
เพราะปกติ ผม....ไม่เคยมีหรอกเพื่อนหน่ะ..เพราะถูกยกให้เป็นเชื้อสายตรง ผมถึงได้ถูกเลี้ยงมาแบบลูกคนเดียว ทั้งๆที่ยังมีน้องสาวอีกคน แพลงตรอน อยู่โรงเรียนประจำ ส่วนผม...อยู่แบบไร้สังคม..จะโทษอะไรได้ นอกจากโทษ ‘บ้านใหญ่’ ที่ไม่ว่าใครเมื่อรู้ว่าผมมาจากที่นั่น ...ก็พากันตีตัวออกห่าง ขนาดพ่อกับแม่เอง นานๆถึงได้กลับมาที่บ้านหลังนั้นที บ้านที่ผูกขาดอยู่กับผม บ้านที่คนทั่วไปเรียกว่า ‘บ้านพระพิราพ’ หรือ ‘บ้านยักษ์’ ...
..............
............................

..เพราะเรื่องแค่นั้น ทำให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่ แล้วผมก็เจอเจ้แกอีกครั้งที่บ้าน ‘ลุง’ เพิ่งจะได้รู้ว่า เจ้แกคือ 'ภัทร'  อดีตหลานคนโตของตระกูลที่โดนผมขึ้นตำแหน่งแทน ...
ผมไม่ได้คิดมากนะ ! เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ภัทร ถึงได้ เกลียดผม....เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ถึงมองผมด้วยสายตาแบบนี้...
   เรื่องที่ ภัทร โดนตัดจากสายวงศ์..มันมาจากเพราะแม่ ภัทร ไม่ได้อยู่ในวงศ์สาย สุร ... ภัทร มีเสี้ยวหนึ่งเป็นยักษ์ แต่ไม่เคยรับรู้ถึงการคงอยู่ของ ‘ยักษ์’ จากหลานคนโตที่จะต้องสืบสายวงศ์ ภัทร ถึงเป็นได้แค่ ‘หลาน’ แต่ไม่ใช่เชื้อสาย...ซ้ำ ภัทร ยังเป็น พวก ‘เนื้อนาบุญ’
..ผมก็เพิ่งเคยเห็นตัวจริงของร่างถวายที่เรียกว่า ‘เนื้อนาบุญ’ แบบที่ยังมีชีวิต ‘ภัทร’ เป็นพวกพิเศษ...หายากที่พวกนี้จะอายุเกิน 15 ปี...
...หายากที่พวกนี้ไม่โดน สัมพเวสี กิน...
......................
.......................................................
.......กับผู้หญิงที่ชื่อ ‘ภัทร’ คนนี้ มันก็ต้องมีอะไร ‘ดี’ บ้างหล่ะน่า เพราะถ้าไม่ดีจริง คงไม่อยู่มาได้ถึงป่านนี้ ...
..............
............................
   ผมมองเจ้แกที่หอบหิ้วพวกเร่ร่อนตามเกาะแขนเกาะขา แล้วหงุดหงิด... นี่เจ้แกไม่เคยรู้เลยหรอไงว่าเอาอะไรติดตัวกลับมาบ้าง! ก็พอรู้อยู่ว่าพวก เนื้อนาบุญ เป็นของชอบของพวกสัมพเวสี แต่ไม่คิดว่าจะชอบกันแบบนี้!
...ข้าวของที่เจ้แกซื้อมาวางแหมะอยู่บนโต๊ะกาแฟ เจ้แกเรียกพวกผมให้แกะข้าวกับขนมที่ซื้อมาทานได้เลย สีหน้าเจ้แกดูเหนื่อยๆ ผมไม่ได้ถามว่าแกไปไหนมา...เดินไปเอาจานกับช้อนมาแจกให้คิดกับเวย์ แล้วผมก็มายืนทานที่ประตูบ้าน ..
ไม่ได้มารับลมหรอก แต่มามองจ้องพวกแขกไม่รับเชิญที่ ยืนอยู่นอกเขตบ้าน ...
...พวกมันไม่กล้าเข้ามา...บางส่วนกลัวผมบางส่วนกลัวไอ้เด็กเปรตที่อยู่ชั้นบน... เจ้แกเดินหลบผมออกไปทางหลังบ้าน พร้อมถือหมูย่างไปด้วย สองไม้... ผมสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างแต่ไม่ทัน....

“เข้าบ้านกันดีกว่าเนอะ..”
..............
............................

"!"

...จบน้ำเสียงสุขใจนั้นผมก็แทบคลั่ง...
อิ๋งๆ วิ่งคาบหมูย่างเข้ามาในบ้าน พร้อมด้วยพวกสัมพเวสีที่ กรูกันเข้ามา...เมื่อเจ้าของบ้านอนุญาติ !
….สมควรแล้วที่เจ้แกจะโดนปลดออกจาก สายวงศ์ !
...พวกเร่ร่อนยังคงลอยเวียนแถไปกับไอ้เวย์และไอ้คิด พวกมันเริ่มกระวนกระวาย ครั่นเนื้อครั่นตัวกันแล้ว อิ๋งๆ เองก็หันงับซ้ายงับขวา ตามสัญชาติญาณสัตว์...
จะมีก็แต่ไอ้เจ้ที่นั่งดูการ์ตูนอย่างสบายอารมณ์นี่หล่ะที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร คนธรรมดาเขายังรับรู้ได้... แต่ไอ้สายเลือดยักษ์ ถึงจะมีแค่เสี้ยวก็เถอะ ทำไมไม่คิดจะรู้อะไรบ้างเลย !
...เหมือนจะเกะกะลูกตา ..
ผมเดินเข้าไปนั่งบนโซฟา...แทรกกลางระหว่างสาวสวยผมยาวที่กำลังจะจูบปากเจ้แก ...เพราะผมขัดพาให้สาวสวยหันกลับมาจ้องมองผมด้วยแววตาสีขาวล้วนที่แยกไม่ออกเลยว่าไหนตาขาวตาดำ... โบกมือไล่สักพัก แม่สาวนั่นก็สลายไป ...

“ทำอะไร?”

เจ้แกยังมีหน้าหันมาถามผม ?!

“ปัดแมงวัน..”
..............
............................

......พวกเร่ร่อนท่าจะก้าวก่าย ..ไอ้เด็กเปรตชั้นบนมันถึงได้ อาละวาด วิ่งไปทั่วทั้งชั้นสอง...เวย์กับคิดมองหน้ากันแล้วมองหน้าผม ..มันคงสงสัยว่าเสียงอะไรดังอยู่บนชั้นสอง......พวกมันหน้าเสีย...จนหน้าซีด... เว้นเจ้แกที่ นอนฮัมเพลงฟัง MP.3 ไม่สนใจโลกภายนอก...
..............
.............ไม่ได้รับรู้อะไรกับชาวบ้านเขาเลย จริงๆ...............


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:11:01
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23 ! [ 4]

 “พี่ภัทร น้ำยาล้างจานหล่ะครับ?”

ไอ้คิดกับไอ้เวย์มันตีสนิทกับ เจ้แกได้ดี ดีกว่าผมที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเจ้แกเสียอีก ตอนนี้พวกมันประจบเจ้แกด้วยการ ช่วยล้างจาน ผมได้แต่ยืนมอง อยากจะช่วย แต่เจ้แกก็มีคนช่วยแล้ว ...คงไม่ต้องการผมแล้ว...ผม..ไม่ได้งอนหรือน้อยใจอะไรนะ... ก็แค่อยากมีส่วนร่วม แต่ไม่มีหนทาง...
...
ไม่มีใครสนใจ....
.
สักพักไอ้คิดกวักมือเรียกผม กับไอ้เวย์ให้เข้าไปหา มันชี้ที่ท่อระบายน้ำที่มีตระแกรงใหญ่ปิดไว้ หัวสีดำสนิทขนาดข้อแขน ของตัวอะไรบางอย่าง ค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ อยู่ใต้ตระแกรงเหล็ก แต่เป็นเพราะมันโผล่มาแค่ส่วนหัวเท่านั้น พวกผมถึงดูไม่ออกว่ามันเป็นอะไร

“ตัวอะไรอะพี่ภัทร?”

ไอ้คิดถามพร้อมชี้มือไปที่ท่อน้ำ เจ้แกไม่ได้เดินออกมาดูแต่ ตอบออกมาแบบไม่ลังเล

“จงอาง”

เจ้แกตอบอย่างไม่สนใจอะไร สายตานั้นยังไม่ถอนออกจากหน้าจอโทรทัศน์ที่ฉายการ์ตูน

“ล้อเล่นใช่ไหมพี่ภัทร?”

เสียงไอ้คิดดังอ่อยๆ เหมือนไม่เชื่อ แต่สายตาที่ไอ้เวย์มองตัวปริศนาในท่อน้ำนั้นกลับเบิกกว้าง เมื่อ ส่วนที่เคยเห็นว่าเป็นแค่หัวค่อยๆ โผล่ยาวออกมา ขนานไปกับท่อน้ำ!!!

“จงอาง จริงๆ ..ใต้บ้านมันเป็นโพรง ข้างหลังบ้านก็เป็นภูเขา มันคงอยู่ในโพรงใต้บ้านมานานแล้ว ..พ่อพี่เลยเอาตระแกรงมาปิดไว้ กลัวมันกิน อิ๋งๆ ”

เจ้แกหลับหูหลับตาหาวตอบมาโดยไม่ ได้ดูเลยว่าพวกไอ้คิดมัน ‘เห็น’ แล้ว....

“....”

หมดประโยคเจรจาต่อจากนั้น พวกมันทิ้งจานข้าวที่กำลังล้างแล้ววิ่งขึ้น ชั้นบน ...เสียงเงียบไปก่อนจะมีเสียงตะโกนลั่นออกมา ...
...
..ไอ้เด็กเปรตนั่น เสือกปรากฏตัวผิดเวลา....
..............
............................

“กูไม่เอาแล้ว!! กูว่าแล้วมากับมึงต้องเจอเรื่องแปลกๆ กูจะกลับบ้าน!! ”

ไอ้เวย์มันร้องลั่น กอดกระเป๋ามันแน่น ส่วนไอ้คิดก็เหมือนกัน มันตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ผมได้แต่แหงนหน้าขึ้นไปมองชั้นสองอ้เด็กเปรต มันเบ้ปากให้ผมแล้วสลายไป...

“ไอ้เวย์กลับกูก็กลับด้วย!”

“อ้าว! เฮ้ย!! แล้วกูจะบอกแม่กูว่ายังไง? ไหนจะเรื่องชมรมบาสอีก พวกมึงทิ้งกู กูก็จะบอกประธานชมรม..แลกกัน!!”

ผมหัวเสียแล้ว ถ้าพวกมันทิ้งผมไปอย่างนี้ แม่ก็ต้องเอาเรื่องผมแน่ แล้วที่ผมยอมเข้าชมรมบาส ก็เพราะไอ้ประธานชมรมมันรับปากให้ไอ้สองตัวนี่มาเป็นเพื่อนผม ถ้าทุกอย่างมันพัง มันก็ต้อง ยกเลิกสัญญา!!!

“พวกกูไหว้หล่ะ อะตรอม...พวกกูอยู่ที่นี่ไม่ได้ ..ข้างบนมีตัวอะไรไม่รู้ ไหนจะจงอาง ใต้ท่อน้ำนี่อีก ...ขอพวกกูกลับบ้านเถอะ พวกกูไหว้หล่ะ…มึงอย่ามาฆ่าพวกกูแบบนี้เลย ..ปล่อยกูไปเหอะ อะตรอม..”

ผมพูดอะไรไม่ออก มองหน้ามันสองตัวแล้ว อยากกระทืบ !! ผมก็ไม่ได้อยากมีนักหรอก เพื่อนหน่ะ แต่เพราะพวกมันเสนอตัวเข้ามาเอง แล้ว ทำอย่างนี้กับผม !!! เหมือนผมโดนทรยศ !!!

“พี่ภัทร ...ช่วยพูดหน่อยสิ พวกผมอยากกลับบ้าน..”

ไอ้เวย์หันไปหาเจ้แก...ผมทั้งอายทั้งโกรธ ทำไมมันต้องบอกเจ้แกด้วยว๊ะ!! เจ้แกมองผมแล้วหันไปพูดกับไอ้สองตัวนั่น

“อยากกลับก็กลับ ..เก็บของ..เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ท่ารถ..”
..............
............................

.....ทำเอาผมพูดอะไรไม่ถูก เจ้แกนิ่งมาก แต่เจ้แกไม่รู้หรอกว่า ทำผมเสียความรู้สึกแค่ไหน...เหมือนเสียหน้าเหมือนผมไม่มีใครสนใจ ..รู้สึกตัวขาผมมันก็พาวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสองแล้ว ไอ้เด็กเปรตนั่นคงตกใจที่อยู่ๆ ผมก็วิ่งขึ้นมา มันกรีดร้องโหยหวนแล้วสลายไป ...เสียงร้องของมัน ผมแน่ใจว่า พวกไอ้เวย์ได้ยิน แต่ไม่แน่ใจ....ว่า เจ้แก ได้ยินหรือเปล่า...จะสนเจ้แกทำไม...ในเมื่อเจ้แกทำให้ผมม

..
.ไม่มีเพื่อน!!!!


“พี่ภัทร.... พวกผมขอโทษ แต่พวกผมพยายามแล้วนะพี่...บ้านพี่กับอะตรอมมันน่ากลัวจริงๆ ”

นั้นเป็นเหตุผลของคำตอบที่ฉันถามตอนพาเด็กสองคนนั่นมานั่งที่ศาลารอรถ...ได้แต่มองเด็กสองคนที่นั่งสั่น...จะว่าไปจะโทษเด็กนี่ก็ไม่ได้ ก็พอรู้มาบ้างหล่ะว่า ‘คนของบ้านใหญ่’ เป็นยังไง บ้านใหญ่ บ้านทรงไทยหลังนั้นไม่ได้กลับไปนานเท่าไหร่แล้วนะ ก็นั่นหล่ะ ตั้งแต่ป๋า แต่งออกมาอยู่กับมี้ ป๋าก็โดนตัดขาดสินะ เคยไปบ้างตอนเด็กๆ แต่ก็ไม่เคยได้ไปอีกเลยตั้งแต่ป๋ากับมี้แยกทางกัน .... ก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้วตอนนี้ก็มาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียวอยู่แล้วนิ...ชินกับการไร้ครอบครัวมานานแล้ว ติดอยู่ก็แต่ มี้นั้นหล่ะ ที่มักจะเรียกตัวไปบ้านสวนอยู่บ่อยๆ .... แต่ก็แค่นั้น... อดห่วงไม่ได้...เด็กที่โดนบ้านใหญ่เลี้ยงมา เป็นยังไงบ้างนะ?

“เป็นยังไง..? อะตรอมเพื่อนพวกเธอเป็น คนยังไงบ้าง?”

ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันถามถึงเด็กยักษ์ ตาขวาง ที่วิ่งกระแทกเท้าขึ้นบันไดขั้นสองนั่น มองดูก็รู้เด็กนี่อารมณ์ ร้าย...แถมยังไม่ค่อยมี มนุษย์สัมพันธุ์

“อะตรอมมันน่ากลัว....ถึงที่บ้านมันจะฝากพวกผมไว้ ...แต่...”

“กลัวจนไม่อยากเป็นเพื่อนกันเลยหรอ?”

“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นพี่ภัทร...อะตรอมมันเล่นกีฬาเก่ง”

“แรงโคตรเยอะ...เล่นบาสงี้สุดยอดเลย..”

“สาวๆหลงมันเต็มเลยนะพี่ภัทร ...ถ้ามันวิ่งในสนามนะ เสียงกรี๊ดกระจาย”
ฯลฯ

“....”

มาตอนนี้ฉันได้แต่นั่งเงียบฟังไอ้เด็กสองคนเผาเพื่อนตัวเองอย่างสนุกสนาน จะว่าไป อะตรอมดูเหมือนเป็นฮีโร่ในสายตาเจ้าพวกนี้เลยนะ ติดอยู่ก็แค่ เรื่องที่มันไม่ค่อยพูดกับชอบทำตาดุ เลยไม่ค่อยมีคนคุยกับมัน ....แค่นั้นจริงๆ (หรออออออออ-คนเขียน )

… ”เอางี้...พี่มีทางออกให้พวกเราสองคนกับอะตรอม...ฟังพี่พูดก่อน แล้วตัดสินใจ ตกลงไหม?”
..............
............................
…หลังจากได้ข้อตกลงกัน บอกทางเจ้าพวกนั้น... รถสองแถวก็มาพอดี ส่งเด็กสองคนนั่นเสร็จ ฉันก็เดินเล่นอยู่สักพักกว่าจะกลับเข้าบ้าน แต่ไอ้ที่ว่าบ้านหลังนี้น่ากลัว น่ากลัวตรงไหน? อากาศก็ดี แถมยังใกล้ชายทะเล เอ...แต่ว่าไป ไอ้เด็กยักษ์ นั้นเคยไปทะเลหรือยังนะ?
..............
............................

.. ฉันเดินปลายเท้าย่องขึ้นมาบนชั้นสอง ห้องไม่ได้ล็อก? ไอ้เด็กยักษ์ หลับอยู่ ? … ทำไมตอนหลับถึงดูดีแบบไม่มีพิษภัยนะ.. สงสัยความเป็น ‘พี่’ มันจะเข้าสิง..ฉัน
...ค่อยๆเดินไปเปิดหน้าต่างบานใหญ่ให้ลมพัดเข้ามา พัดลมตัวเล็กพัดผมมาปรกที่หน้าเจ้าเด็กยักษ์ที่หลับสนิท ...จะว่าไปตอนหลับอะตรอมมันก็ดูน่ารักดี ..จนอดไม่ได้ที่จะไปนั่งมอง ‘น้อง’ ที่หลับสนิทไม่ได้..
....
..........ตื่นแล้ว....แววตาแดงๆที่เหลือบขึ้นมามอง ทำให้รู้เลยว่าเด็กยักษ์นี่ร้องไห้มา แถมยังสะลึมสะลืออีก มือฉันอดไม่ได้ที่จะลูบปัดผมที่ปรกหน้าจนปิดดวงตาสีดำคู่นั้น

“หิวอีกไหม? ออกไปข้างนอกกันดีกว่า ...เพิ่ง 4 โมงครึ่งเอง”

เหมือนคนเพิ่งตื่นจะไม่ได้ฟังอะไร เมื่อเสียงพร่านั่นดังรอดผ่านผ้าห่มมา...

“ภัทร ...จะทิ้งผมไปอีกคนหรือเปล่า?”

ท่าจะยังไม่ตื่นดี อยู่ๆอะตรอมก็อ้อนฉันซะงั้น ...มือใหญ่เกินเด็ก ม.ต้น คว้าโอบเอวฉันไว้แล้วโผเข้ามากอด..

“ถ้าทิ้งไปแล้ว ตื่นมาจะเจอ พี่หรือ? ”

เผลอใช้เสียงโทนเดียวกันกับเวลา ปลอบเด็กสาวๆ ในสังกัดซะงั้น ..
....
...เแต่ก็หล่ะนะ จะผลักออกก็ใช่ที...น่ารักขนาดนี้ ...อ้อนพี่บ่อยๆก็แล้วกัน...


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:13:33
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23 ! [5]

“ภัทร...มันจะกินได้จริงๆหรอ? ”

ผมนั่งมองเจ้แกที่ นั่งขุดหอยอะไรสักอย่าง อย่างเมามัน ริมหาดน้ำลดลงไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังพอมีคลื่นพัดเข้ามาเป็นระยะ จะบอกเจ้แกดีไหมว่าผมไม่ชอบกินหอย...

“เฮ้ย! ทำไมไม่เรียก ‘พี่’ อย่ามาข้ามรุ่นน่าอะตรอม...”

ปากเจ้แกก็บ่นผมแต่ตากับมือยังจ้องยังขุดไม่เลิก.......
.... เมื่อกี้เจ้แกลากผมลงมาจากชั้นสอง...เดินสะลึมสะลือออกมาที่ศาลารอรถสักพัก ผมถึงได้สติ ถามแกว่าจูงผมออกมาทำไม...
‘มารอรถออกไปทะเล’
อ๊ะ!! ที่บ้านก็มีมอไซน์ ทำไมไม่ขับออกมา!!!
‘ขับรถไม่เป็น ปกติเคยเป็นแต่คนนั่ง’
หึ! มันน่าเรียกพี่ไหมหล่ะแบบนี้ !!!
สรุปเจ้แกนั่งแล้วผมเป็นคนขับ รถมันช้าๆ หันไปมองถึงรู้ เจ้แกลากพวกอะไรตามมาเป็นพรวนอีกแล้วก็ไม่รู้
‘ ภัทร...เราไปทะเลกันสองคนใช่ไหม?.’
ผมชักเริ่มเอื่อม...กับสิ่งที่รับรู้
‘ตลก!! ก็ไปกันแค่สองไง’
ขาดคำเจ้แก เสียงหวีดร้องมันก็ดังขึ้นเซ็งแซ่ ผมแน่ใจว่าไม่ใช่เสียง จิ้งหรีดหรือจักจั่น ...หันกลับไปมองอีกที พวกแขกที่ตามมาหายไปหมดแล้ว .... ‘ของดี’ ที่เจ้แกมีของดีนั่นคือ ‘คำพูด’ สินะ...
................
......กระป๋องพลาสติกแบบที่เคยใช้เล่นน้ำ ตอนนี้เต็มไปด้วยหอยที่เจ้แกหามา มันคงไม่เต็มแบบนี้ ถ้าผมไม่บ้าจี้ช่วยเจ้แกขุดด้วย...พลาดซะแล้วผม...
..............
............................

“ภัทร...ไม่เล่นน้ำหรอ?”

ผมถามไปยังเจ้แกที่ ยังพยายามเอาหอยตัวสุดท้ายที่หามาได้วางบนกระป๋องใบเล็ก แต่เพราะมันเต็มจนล้น หอบนั่นถึงได้หล่นทุกรอบ ...เจ้แกหันมามองผมแล้ว ยัดหอยตัวที่หล่นนั้นลงกระเป๋ากางเกงขาสั้น
เฮ้ย!!! เห็นนะ!!!!

“ไม่อยากเปียก”

เจ้แกตอบง่ายๆ ชิวๆแต่สภาพเจ้แกที่ผมเห็นเจ้แกทั้งเปียกทั้งเละตั้งแต่เสียฟอร์มนั่งขุดหอยแล้ว....

“ไม่ทันแล้วมั้งเจ้...ลงเถอะผมอยากเล่นน้ำ”

เหมือนเจ้แกจะลังเล แต่พอมองหน้าผมแกก็เดินลงหาดไป ...ได้เกือบครึ่งขา..เจ้แกก็หันมาทำท่าจะขึ้นจากน้ำ….

“ ปอดหรือเจ้? ว่ายน้ำไม่เป็นใช่เปล่า? ”

ผมยังกดดันเจ้แกไปเรื่อยๆ จนเจ้แกเดินลึกลงไปเกือบครึ่งเอว... ระลอกคลื่นที่พัดเข้ามาเหมือนจะแรงขึ้น แต่เพราะผมสนุกกับน้ำเค็มๆที่ใส่จนมองเห็นเท้าตัวเอง เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร ผมมุดหน้าลงน้ำ แล้วว่ายเข้าไปหาเจ้แก...

“ดูอะไรนี่..อะตรอม”

เจ้แก จับยึดมือผมเอาไว้แล้ว ก้มดำลงไปในน้ำ ..แล้วโผล่ขึ้นมาพร้อมหินเหมาะมือสองก้อน ที่ให้ผมถือไว้ จากนั้นก็ล้วงเอาหอยผู้โชคร้ายตัวนั้นออกมา ให้ผมประครองหินก้อนนึงไว้บนฝ่ามือ แล้วเอาหอยวาง จากนั้นก็ใช้หินอีกก้อนทุบหอย......
..............
............................

จบจากการประหาร ผมก็ได้เหยื่อตัวเขื่อง เจ้แกฉักเนื้อหอยเป็น สองส่วนให้ผมถือไว้ส่วนนึง เจ้แกส่วนนึง วางเศษเนื้อหอยลงมือแล้วส่ายไปส่ายมาสักพัก เจ้แกก็กดไหล่ผมให้ดำลงไปในน้ำ .....
..............
............................

.ฝูงปลาหลากสีที่มาจากไหนไม่รู้มาลุมกันตอด เศษเนื้อหอยในมือเจ้แก ....มันสวยมากๆ ผมมองจนผมหมดแรงกลั้นหายใจ ถึงได้โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วครั้งที่สองก็ตามมา คราวนี้เป็นผมที่ถือเศษ หอยไว้ในมือ .... พอหมดจากเนื้อหอย ฝูงปลาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย....
..............
............................

เจ้แกดูมีความสุขมาก จนผมหมั่นไส้ มันเหมือนเป็นเรื่องที่เด็กอย่างผมไม่เคยรู้ ...ไอ้ของแบบนี้ใครๆเขาก็ทำได้ แค่ผมไม่ได้คิดก็แค่นั้น ....นิสัยแพ้ไม่เป็น ทำให้ผม โผตัวลงว่ายน้ำออกห่างไปแล้ว ตะโกนท้าเจ้แก ... ผมหันไปทันเห็นสายตาวาวของเจ้แกที่ สว่างขึ้นชั่วเสี้ยว ไม่มีเสียงอะไร นอกจากความเงียบ .....
...
ผมโผล่ ขึ้นเหนือน้ำมา...เจ้แกก็หายไปแล้ว..
...........
.
“ภัทร!! ”

ผมตะโกนเรียกแต่ไร้เสียงตอบ...
..............
............................

เกือบจะดำลงไปดูถ้า ไม่มีมือเย็นมาดึงผมไว้แล้วทะลึ่งตัวขึ้นจากน้ำแทน ...
..............
............................

“ทำไมไม่ว่ายตามมา...”

เป็นผมเสียเองที่อดดุไม่ได้ ..ใจมันหายจริงๆ ตอนโผล่มาแล้วไม่เห็นเจ้แก

“ถนัดดำน้ำไม่ถนัดว่าย...ดำเร็วกว่าเห็นๆ...แต่เหนื่อยอะ.. ”

เจ้แกหอบแฮกๆ แล้วกระโดดขึ้นหลังผม ข้อแขนสองข้างเหมือนโซ่ล็อกคอผมไว้แน่น ....กินแรงนี่หว่า ....ผม..ลุยน้ำไล่ลึกลงไปจนถึงระดับคางผม แน่หล่ะมาถึงระดับคางผม ความสุงถ้าเทียบกับเจ้แกมันก็ระดับมิดหัว....หึหึหึ!! ผมดำน้ำลงไป เจ้แกที่เกาะอยู่ด้วยเลยต้องดำลงไปตามผม คลื่นลูกใหญ่ที่จู่ๆก็พัดเข้ามาทำให้เจ้แกเผลอปล่อยแขนทั้งสองข้างที่เข้ากับคอผม ...โผล่ขึ้นมาอีกครั้งก็เจอเจ้แกสำลักไอแถมยังว่ายน้ำท่าลูกหมา พยุงตัวอยู่ไกลออกไป คงจะโดนคลื่นใหญ่นั่นซัด เล่นเอาผมหลุดหัวเราะ กำลังจะเดินลุยน้ำเข้าไปใกล้ ....
....
...
.แต่ภาพที่เห็นทำเอาผมหยุดนิ่ง
..............
............................

.ไอน้ำสีเทาที่มาจากไหนไม่รู้ ลอยอยู่เหนือเจ้แก มันค่อยๆ เลื้อยไล่ลงมา เหมือนเป็นซี่กรง ที่จะตะคุบ ขังเจ้แกไว้ ...ผมเล่นสนุกจนลืม...ลืมไปว่า เจ้แกเป็น พวก ‘เนื้อนาบุญ’ ภาพเศษเนื้อหอยที่โดนฝูงปลาตอดทึ้ง ...ผ่านเข้ามาในหัว... คลื่นลูกใหญ่ พัดเข้ามาดึงเจ้แกให้ เสียหลักจมลง พอๆ กับ ซี่กรงสีเทาปิดงับ ทั้งตัว เจ้แกแล้ว ดึงลงน้ำทะเล!!!!

“ภัทร!!!!”


..............
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.4]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:15:06
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23!! [6]
.

‘หายไปแล้ว....ไม่ใช่แค่ล้อเล่น ภัทร หายไปแล้ว ......’
ผมนิ่งไปอย่างนั้น จะทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า ‘โดนกิน’ ไปแล้วหรือเปล่า?!! ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ผม..ไม่มีแรงทำอะไรสักอย่าง... ความรู้สึกแปลกๆ ที่แทรกเข้ามายิ่งทำให้ผมสับสน เสียงลมทะเลที่พัดเข้าหูเหมือนเสียงกระซิบสาปส่ง เสียงหวีดร้องที่ก้องสะท้อนเข้าไปในโสตประสาท

‘“สิ้นแล้ว ....สลายไปต่อหน้าข้า....สลายหายไปทั้งหมด....เพราะมัน...เพราะ...ตนนั้น....”’

‘“..เพียงแค่... ทำลายเชื้อสายนาคาในองค์ ...แล้วใย!!!??? แล้วใยองค์จึงสูญสลาย !!!!แล้วใย?????!!! แล้วใย!!! ......แล้วใยองค์ถึงดับสูญไป !!! คืนมา !! เอาคืนมา !! เอาตนรักแห่งข้าคืนมา!!!! เอาคืนมา!!! ”’

... เรื่องแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว...และมันก็ซ้ำรอยเดิม!!!! ไม่เอาอีกแล้ว ความเหงา ความ ทรมาน ความเหน็บหนาวที่กรีดลงไปถึงกระดูก ...จะให้ต้องรออีกนานแค่ไหน ไม่เอาแล้ว!!! ไม่เอาแล้ว !!!
....
..............’เอาคืนมา..ไม่ว่าจะหน้าไหน ..จะไม่ยอมให้ใครแย่งไปอีกแล้ว!!!’..........
เสียงก้องที่ดังอยู่ในหัวผม......สะท้อนในหูจนปวดไปหมด....แต่กับสิ่งที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ คืออะไร ??!! ….เงาดำนั่นมันเกินกว่าความสามารถของผม ..เกินกว่าสิ่งที่เคยได้เจอมา ...น่ากลัวจนก้าวขาไม่ออก น่ากลัวจน...ขยาดกับผืนน้ำทะเลที่รายรอบ ...
‘…จะให้ หายไปอย่างนี้อีกรึ? จะต้องรออีกนานเท่าไหร่ กว่าจักพบเจอ ?... ’
เสียงสะท้อนในหัวผมเหมือนก่อตัวเป็นคำถาม

“ผมกลัว..!!!”
.......
‘..กลัวอะไร?…ตนมึงขลาดกลัว ที่จะไขว่ขว้า...สิ่งสำคัญจากพวก ...ฝูงปลา...งั้นรึ? ลองตรองดู ...ทรมานจากฝูงปลา... มันทรมานเทียบเท่า..ความทรมานกว่าสิ่งที่เคยเจอรึเปล่า? ตรองดู..พรากจากอีกครา???...รึฝูงปลาตัวน้อย..??? มึงกลัว...กลัวอะไรมากกว่ากัน
...มหินทรา!!!’
……………….
………………………………………………………



“อะตรอม !! อะตรอม!! ตื่น!! ฝนตกแล้ว!!”

เสียงปลุกเรียกมาพร้อมกับ หยดน้ำ...หยดเล็กๆ ที่พรมลงมากระทบหน้าผม ท้องฟ้าสีฟ้าอมเทาหม่น ?? เสียงหวีดของสายลมที่พัดมา...หัวที่ปวดจนเหมือนจะรับรู้ได้เลยว่า สมองซีกไหนอยู่ตรงไหน หัวผมเหมือนลูกมะพร้าวใบใหญ่ ที่มีใครเอาค้อนมาทุบ จนน้ำมะพร้าวข้างในสั่นกระเพื่อม ..... สมองผม ...มัน ...ว่างเปล่า....จน... ภาพกรงสีเทาที่ปิดทับร่างหนึ่งผุดขึ้นมาในสมอง

“ภัทร ???!!!”

ชื่อนั้นผุดขึ้นมา..พร้อมๆกับขาที่พาผมวิ่งลงไปในทะเลอีกครั้ง กลัว ...ผมกลัวนะ ..แต่ ความกลัว สิ่งที่เห็น.. เทียบไม่ได้กับความเหงาที่เหมือนจะผุดขึ้นมา ..ในความทรงจำ..มันทรมานมากกว่าความกลัว ...

“อะตรอม!!!”

เสียงใครบางคนตะโกนเรียกชื่อผม.... แต่.. ภัทรยังอยู่ที่นั่น !! ในทะเล นั่น ..!! ข้างล่างในผืนน้ำนั่น ตรงไหนสักที่!!! ผมได้แต่ควานมือหาอย่างกับคนบ้า น้ำตามันปนไปกับน้ำทะเล จนเริ่มรู้สึกว่าแสบตา...ปากผมยังตะโกนเรียกชื่อ ภัทร ไม่หยุด ไม่เอาแล้ว ...ไม่อยากให้มันจบอย่างนี้อีกแล้ว ไม่เอาแล้ว ผมไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว!!..เอาคืนมา...เอาคนของผม คืนมา..!!

“!!!!!”

สติผมกลับมาอีกครั้ง ....พร้อมกับความชาที่หน้าซีกซ้าย... คนตรงหน้าผม สะบัดมือขวา แล้วใช้มือนั้นตบย้ำที่แก้มผมเบาๆ อีกสองสามครั้ง …

“กู-ชื่อ-อะ-ไร ?”

เสียงเบาแต่ย้ำชัดทีละคำ.... ผมค่อยๆ ปาดคราบน้ำทะเลที่รวมกับน้ำตาออก เพื่อจ้องมอง..เจ้าของแรงมือที่ฟาดเข้ากับหน้าผม...

“ภัทร ...???”

พอเห็นคนตรงหน้าชัดๆ เสียงของผม..ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงลมเลย...

..............
............................

.”ภัทร พูดไม่เพราะ..”

ไอ้เด็กยักษ์มันละเมอบ่นฉันตอนมันเริ่มรู้สึกตัว...เป็นบ้าอะไร? ฉันก็อยากจะถามมันนะ แต่กลัว มันอาย ...ก็รู้หล่ะว่ามันคงตกใจ ฉันเองก็ตกใจ ที่อยู่ๆ คลื่นมันก็พัดจนจมลงอย่างนั้น ซ้ำพอจะผยุงตัวว่ายขึ้นมามันยังมีอีกลูกที่โถมเข้ามา ขาก็ดันติดกับสาหร่ายที่ขึ้นข้างโขดหินใกล้ๆอีก ...เกือบตายเหมือนกัน...แต่ความรู้สึกที่เหมือนโดนดึงนั่นยังจำได้ สาหร่ายอะไร เหนียวขนาดนั้น ...เพิ่งรู้ว่าทะเลแถวนี้มีสาหร่าย... กว่าจะโผล่ขึ้นมาจากน้ำได้ ก็สำลักแทบแย่ แต่ที่แย่กว่านั้น ไอ้เด็กยักษ์ อวดดี มันนิ่งไปจนหน้าตกใจ คงช็อค อะมั้ง ก็แน่หล่ะ คนจมน้ำต่อหน้า ถึงมันจะโตก็โตแต่ตัวหล่ะน่า ..ดึงมันเข้าฝั่งได้ มันก็ทรุดนิ่งไปกับพื้นทรายแล้ว .... แถมตื่นขึ้นมามันยัง ละเมอจะเดินลงน้ำอีก ...เฮ้อ ..เด็กหนอเด็ก....ถึงโตก็โต แต่ตัวหล่ะน่า ....

”ภัทร พูดไม่เพราะ.. มือหนักด้วย..”

ไอ้เด็กยักษ์ มันยังละเมอประโยคเดิม...ทำไมไม่เรียก ‘พี่’ ฟ่ะ!!แต่ก็ให้อภัยหล่ะน่า ....อย่างน้อยก็ดีที่รู้ได้ว่ามันเริ่มมีสติแล้ว
....สายฝนที่ค่อยๆพรำลงมา ทำเอาลมทะเลเย็นยะเยือก ...ฉันฉุดมือใหญ่ของคนโตแต่ตัว ให้ลุกขึ้นแล้วเดินย้อนกลับไปหยิบกระป๋องใบเล็กที่ใส่หอยที่ขุดมาได้ เงินที่พกมาด้วยยังอยู่ในกระเป๋า กางเกง.. แวะซื้ออะไรที่ตลาดสักหน่อยดีกว่า...

”ภัทร พูดไม่เพราะ.. มือหนักด้วย..”

อะตรอมยังย้ำประโยคนั้นตอนขับรถห่างออกมาจากริมหาด ... ไอ้เด็กนี่ มันย้ำคิดย้ำทำจริงๆ ไอ้นิสัยไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้คำตอบนี่ทำเอาอารมณ์เสียได้เหมือนกัน ...

“ถ้าตอนนั้นพูดเพราะแล้วจะรู้สึกตัวไหม ? ถ้าตอนนั้นไม่ซัดสักฉาด แล้วจะหายบ้าไหม?”

....ไร้เสียงตอบ ก็แค่นั้น กับไอ้เด็กยักษ์นี่ บ้านใหญ่เลี้ยงมายังไง? มันไม่ยอมหยุดถามจนกว่าจะได้คำตอบสินะ....
‘พวกแพ้ไม่เป็น’
..............
............................

“อะตรอม เลี้ยว ขวา เลี้ยวขวา ... ตรงไปทางนั้นหล่ะ ”

กลับมาจากตลาดแล้ว ฉันยังไม่ได้กลับเข้าบ้านทั้งๆที่ข้าวของที่ซื้อมายังเต็มมือแวะ ‘สะพานปลา’ ก่อน ไม่รู้ว่าแถวนี้อะตรอมเคยมาหรือเปล่า ปกติจะให้เข้าแต่พวกมีบัตร เพราะเป็นเขตของ ทหารกับคนใน แต่วันนี้คนน้อยๆ คงไม่เป็นไร ฉันให้อะตรอมเอารถจอดหลบไว้ข้างเรือลำเล็กแขวนของที่ซื้อมาไว้ที่รถ แล้วเดินตัวปลิว ตรงไปที่สะพานปลา สีขาวมอๆของปูน ตัดกับสีส้มแสดของแผ่นน้ำ ตอนดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน สะพานทอดยาวไปสุดสายตา เดินจนมาสุดที่ ปลายสะพาน ...รู้สึกไปเองรึเปล่านะ..ว่าลมทะเลที่พัดเข้ามาเหมือนจะกระชากดึงให้ตกลงไป...

“ภัทร!! อย่าไป!!”

ไอ้เด็กยักษ์มันวิ่งตามมา มือใหญ่นั้น ยึดข้อมือฉันไว้แน่น แววตาสีดำสนิท เริ่มมีนำตาคลออีกแล้ว...

“จะบ้าหรอ?? แค่เดินออกมารับลมเฟ้ย!! ใครจะบ้าโดดลงไป..”

“ไม่ให้ไปแล้ว...ถึงภัทรจะโดดลงไป อะตรอมก็จะโดดตาม...จะไม่กลัวแล้ว ..จะไม่กลัวอีกแล้ว ..จะต้องช่วย ภัทร ให้ได้..จะต้องช่วยให้ ได้ ...”

ไอ้ยักษ์ข้างหน้าเริ่มพล่ามประโยคซ้ำๆออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหนพราก มันเอามือปาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด ...ยังช็อคอยู่สินะ.. อดไม่ได้ที่จะดึงตัวมันเข้ามากอด...’หลานคนเดียวของบ้านใหญ่ ‘ lสินะ เจ้าตัวโตนี่มันต้องแบกรับอะไรเอาไว้บ้าง ...

“อะตรอม ...เป็นเด็กก็คิดแบบเด็กๆก็ได้ เรื่องบางเรื่อง มันก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขา เรื่องบางเรื่องเราทำมันไม่ได้ทั้งหมดหรอก ...อย่าฝืนทำอะไรเกินตัว...พี่ไม่ได้ว่าหรือบ่นเรานะ พี่ชมเราด้วยซ้ำ แต่เรื่องบางเรื่อง...เรื่องที่มันเกินความสามารถของเรา... เราก็ต้องปล่อยมันไป เรื่องที่พี่จมน้ำก็เหมือนกัน ถ้าเราช่วยไม่ได้เราก็ต้องปล่อย ตายคนเดียวดีกว่าตายสองคนน่า...แต่ยังไงพี่ก็ยังไม่ตาย ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ..พี่บอกแล้วไง เรื่องบางเรื่อง ...เราทำได้แค่ปล่อยมันไป....”

ฉันเทศน์ซะยาว แต่ก็ไม่รู้ว่า เด็กยักษ์ที่อยู่ในอ้อมกอดมันจะรับรู้ได้แค่ไหน น้ำตาที่ไหลมาจนไหล่ฉันชื้น กับ เสียงฟันที่กัดกระทบกันดังกรอดๆ วงแขนใหญ่ที่โอบรัดตัวฉันแน่น... 70% เดาได้เลยว่า อะตรอมมันเถียงฉันอยู่ในใจ...โดยไม่พูดออกมา
..............
............................

“ภัทร...มันจะกินได้ไหม? ”

ผมเริ่มไม่แน่ใจกับสิ่งที่เห็น ก็จากหอยทะเลหน้าตาเหมือนหอยกระปุก ถึงจะแปลงสภาพกลายเป็นหอยผัดพริกแกงจานหอม แต่ไอ้ชื่อที่คนทำยังไม่รู้นี่ทำเอาผมไม่กล้าลอง จะบอกภัทรดีไหมว่าผมไม่ชอบหอย... ที่สำคัญ หอยที่ภัทรทำ ...


มันกินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้?
..............
............................

...กับข้าวมากมายแต่คนกินมีแค่สองคน..


..ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ใจอิ่ม มากกว่ากินคนเดียวนะผมว่า ....


“ไข่เจียวหมูสับหอมใหญ่ หอยอะไรไม่รู้ผัดพริกแกงใส่ใบโหระพา ต้มจืดหมูสับใบผักกาด โครงไก่ผัดน้ำมันหอย... ”

ภัทร ร่ายรายการที่วางอยู่บนโต๊ะให้ผมฟังแล้วส่งจานข้าวกับช้อนให้ อิ๋งๆ เข้ามานั่งใต้โต๊ะ เลยได้ อาหารเม็ดที่เจ้แกซื้อมาเป็นของว่างไปก่อนรอบจริง ผมมองจานแล้วมองเจ้แกที่เริ่มตักต้มจืดก่อน

“อ้าว!! แล้วข้าวอะภัทร?”

“ไม่รู้..พี่หุงข้าวไม่เป็น กินแต่กับไปแล้วกัน ...วัยกำลังโต”

เจ้แกพูดเหมือนเรื่องปกติ....เหอออออออ ...บ้านเจ้แกดิ ...กินกับไม่กินข้าว....ทำกับข้าวได้ตั้งเยอะ แต่ดันหุงข้าวไม่เป็น .....แต่ทำไงได้ ผมได้แต่นิ่ง...สงบปากสงบคำ กับข้าวตรงหน้า อร่อยใช้ได้ แต่... ขัดกับหน้าตาและนิสัยคนทำเป็นอย่างมาก

“พี่คุยกับพวก เวย์กับคิด แล้ว เรื่องเธอ พี่ตกลงไว้ว่า พวกนั้นจะบอกคุณน้ากับครูที่ปรึกษาว่าอยู่กับเธอตลอดสองอาทิตย์ ส่วนเธอก็แค่ บอกทางชมรมบาสว่า มากับพวกนั้นจริง ก็แค่นั้น ส่วนที่เหลือ ต่อจากนี้ พี่จะดูแลเธอเองจนกว่าจะครบกำหนด..”

ภัทรบอกผมถึงสิ่งที่ ตัดสินใจให้ผมเสร็จสรรพ ไม่ได้ถามอะไรผมเลยสักนิด หอยผัดพริกพูนช้อน ถูกตักมาใส่ในจานผม....

ส่วนเจ้แกก็ หันกลับไปลุยกับ ไข่เจียวที่วางอยู่เต็มจาน ...
.......
...
“ทำไมภัทร...ไม่ทานอะ ?”

ผมชี้ไปที่จานหอยผัด

“พี่ ไม่ชอบหอย....ช่วยๆกินหน่อย เสียดายของ”

เสียงเจ้แกตอบกลับมาเรียบๆ แล้วเดินไปหยิบน้ำ ทิ้งผมไว้กับหอยอะไรไม่รู้พูนจาน .....เจ้แกบอกผมเองใช่ไหม? ว่าเรื่องบางเรื่อง ผมก็ไม่ควรฝืน ...

“อร่อยไหมอะตรอม?”

เจ้แก ถามพร้อมกับยื่นแก้วน้ำเย็นเจี๊ยบให้

“ก็ใช้ได้ ภัทร”

ผมได้แต่ตอบพร้อมเขี่ยหอย(อะไรไม่รู้)เข้าปาก หอยปกติที่รู้ชื่อมัน ผมยังไม่กิน แต่นี่หอยอะไรก็ไม่รู้ กินไปจะตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมยังฝืนกินหมดจาน รสชาติก็ถือว่าใช้ได้ ....แต่ถ้าคืนนี้ผม นอนชักน้ำลายฟูมปาก ...ก็ไม่ต้องหาตัวฆาตรกรนะ ของมันเห็นๆ อยู่

“อร่อยไหม อะ? เผ็ดไปหรือ?”

เจ้แกยังถามผมซ้ำเมื่อเห็นว่าผมตักหอยตัวสุดท้ายเข้าปาก แล้วน้ำตาคลอ....

“พี่บอกแล้ว ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน....”

เหรออออออออออออออ ..แล้วเจ้มาบอกอะไรตอนนี้ครับเจ้.....มาบอกตอนผมกินหมดแล้วอะนะ!!! ไอ้ที่ผมน้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะมันเผ็ด ....
..............
............................

แต่เป็นเพราะผมไม่รู้ว่าไอ้หอยที่ผมฝืนกินเข้าไปนี่ ชาวบ้านปกติ เขากินกันหรือเปล่า ต่างหาก โห่...หอยอะไร แม่ง ทรายเต็มปาก!!!!

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:16:07
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23! [7]


ปีนเกลียว [V] ; contradict
Syn. ขัดแย้ง
หมายถึง ไม่ลงรอยกัน ก้าวก่ายออกนอกทาง แก่งแย่งกัน

- ที่มาจาก สำนวนงานช่าง ซึ่งมีการทำโลหะหรือไม้ ๒ ชิ้นเป็นคู่กันให้เป็นเกลียวเพื่อประกอบเข้าด้วยกันโดยการหมุนให้เข้าร่องเกลียว อันหนึ่งจะเรียกว่าเกลียวตัวผู้ อันหนึ่งจะเรียกว่าเกลียวตัวเมีย ถ้าหมุนเกลียวประกอบเข้ากันสนิทดีจะเรียกว่า ‘กินเกลียว’ แต่ถ้าประกอบเข้ากันไม่สนิทหรือหมุนไม่เข้าเกลียวกันจะเรียกว่า‘ปีนเกลียว’และถ้าขืนฝืนปีนเกลียวต่อไป ทั้งเกลียวตัวผู้ และเกลียวตัวเมีย ก็จะมีอาการ ‘เกลียวหวาน’ ต่อจากนั้นไม่ว่าจะยังไง เกลียวทั้งสองตัว ....มันก็จะไม่มีทางเข้ากันได้อีก......

เอกสารวัสดุขนส่งถูกขีดไล่ทีละรายการ ปลายเล็บสีดำจรดไล่ตามรายงานเอกสารนับจำนวนไม้ขนาดต่างๆ รวมไปถึงส่วนประกอบเล็กๆน้อยๆจำพวก เกือกม้า และ น็อตต่างขนาด รวมไปถึงสีโป๊ะ จนครบทั้งห้อง แววตาสีน้ำตาลเคลือบมรกต ถูกปิดทับไว้ด้วยคอนแทคแลนส์ สีดำสนิท.... สีหน้ากวนประสาทที่เคยใช้กับเด็กอะตรอมก็ด้วย สีหน้านั้นถูกปิดทับด้วยหน้าที่การงาน ของ’ผู้ใหญ่’ ภัทรเหลือไว้แค่รอยยิ้มการตลาดบางที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเซลล์ฝ่ายขาย…

“เชอร์รี่ ,กราไฟต์ เซตโต๊ะประชุม วงรี 18 ที่นั่ง เก้าอี้ใช้ขาตัวแอล (L) เบาะหนังดำทั้งหมด ยกเว้น ประธาน ขอ พนักสูงระดับศีรษะมีท้าวแขน ...ส่วนห้องแคนทีน ขอโต๊ะเอนกประสงค์ หน้าโฟเมก้า เก้าอี้ ขอกลม ยกเซต ขาเหล็กนะ ห้องรับรองกับเคาว์เตอร์ อะไรที่เป็นไม้ เน้นสีบีช/ดำ เป็นผ้าลงสีฟ้าน้ำทะเลทั้งหมด ...แล้ว... ตู้เอกสาร หลักๆเน้น เชอร์รี่/กราไฟต์ แต่หน้าบานขอกระจกทั้งหมด ...หลังจากห้องประชุมกับแคนทีน เรียบร้อย เราจะดูโซนทำงานกันอีกที...มีเพิ่มเติมอะไรอีกไหมคะ คุณหลิน ... ”

ภัทร หันไปหา ชายหนุ่มร่างบาง รอยยิ้มหวาน ของชายหนุ่มมีให้ทันทีที่เซลล์ฝ่ายขายไล่รายการ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เซตไว้คราวๆ ออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ ภัทร ลดแปลนในมือลงแล้วไล่สายตาไปตาม ของล็อตแรกที่ส่งมา ก่อนจะพยักหน้าและส่งเอกสารงานล็อตต่อไปให้ฝ่ายขนส่ง งานไม้ปิดผิวเมลามีน ทั้งเซตเป็นเชอร์รี่ ,กราไฟต์ คงต้อง จัดห้องประชุมทั้งหมดก่อน แล้วตามเก็บงานกับความเรียบร้อยทีละห้อง การได้หลานเจ้าของงานมาคุมงานเองถึงจะอึดอัดไปบ้างแต่ก็ นับได้ว่างานเดินหน้าไปได้ดี หลายวันมานี้งานเริ่มจะลงตัวเพราะ ปัญหาเรื่องการขนส่งถูกตัดไปบ้างแล้ว ตัดสินใจไม่ผิดที่เอาของมาลงไว้ก่อน การเซตสถานที่ ตอนนี้เลยเหลือแค่ประกอบติดตั้งตัวเฟอร์นิเจอร์ กับเก็บงานที่เสียหาย จากปัญหาการขนส่ง นอกจากนี้ก็รอลุ้นงานเซตต่อไป ถ้าขนส่งไม่ผิดพลาดงานนี้ก็น่าจะปิดได้ก่อนกำหนด 2-3 วัน...

“ตอนนี้แปลนคราวๆคือ จัดห้องประชุมทั้งหมด ถ้ายังไงคงต้องรบกวนคุณหลิน ติดต่อทางตึกขอพื้นที่เก็บวัสดุเพิ่มเพราะ ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์พวกโต๊ะ ตู้ ทางเราลดพื้นที่ได้จากการติดประกอบหน้างาน แต่ถ้าเซตเก้าอี้คงต้องใช้พื้นที่จัดเก็บ ”

“ผมขอเปิดห้องเก็บของ ถัดจากลานจอดรถไว้ คุณภัทร จะไปดูกับผมไหมหล่ะครับ ?”

อดยิ้มให้ไม่ได้ เมื่อคุณหลิน ฝ่ายงานบุคคลที่ควบตำแหน่งหลานเจ้าของโครงการ ดูกระตือรือร้นกับเรื่องการให้ความช่วยเหลือ ทำงานมาด้วยกันเกือบอาทิตย์ถึงแม้ไม่บอกแต่ก็พอมองออกได้ว่าอะไรเป็นอะไร คนตรงหน้าน่ารักเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงออกเกินงามว่า ‘อยากเป็นผู้หญิง’ ภัทร ยิ้มตอบแล้วคว้าเอกสารชุดใหม่เดินตาม... ร่างบางเดินนำลงบันไดหนีไฟแล้วเลี้ยว ไปยังลานจอดรถ แสงดูจะสลัวเมื่อขาดไฟจากผนังตึกที่อยู่ไกลออกไป ภัทร ได้แต่ไล่สายตามองแผ่นหลังเล็ก เอวร่างที่เดินนำหน้านั้นเหมือนจะอ่อนอ้อนชวนให้สัมผัส ไหนจะก้นงอนๆนั้นอีก ....คิดแล้วได้แต่ถอนหายใจได้แต่ท่องไว้....
‘งานคืองาน แถมยังไงเก้งก็ไม่สน ชะนี ลำพังถ้าชะนีด้วยกันเอง เอาปืนสอยมาก็ได้ไม่เกินความสามารถ แต่ ถ้าเป็นเก้งกวาง กลัวมันจะยิงไม่ลง…ก็ตาคู่สวยนั้นมันคมจนบาดในคนยิง…’

“คุณภัทร พักที่ไหนหรือครับ หรือว่าขับรถไปกลับ กรุงเทพ-แหลมฉบัง?”

เสียงหวานเกินผู้ชายเอ่ยทักมาเล่นเอาสติเกือบกระจายก็เซลล์ฝ่ายขายของเราเองคิดไปไหนต่อไหนแล้ว...แต่ขึ้นชื่อว่าเรื่องงาน ภัทร ก็ยังพอมีสติกลับมาบ้างยังไงงานก็ต้องเป็นงาน กฎเหล็ก ของการทำงาน ไม่ว่ายังไง ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาก้าวกาย เพราะถ้ามันจบไม่สวย นั่นหมายถึงพินาศ!!

“เปล่าค่ะคุณหลิน...ภัทร ขับรถไม่เป็น ตอนนี้พักที่ สัตหีบ บ้านญาติหน่ะค่ะ ”

“หรอครับ? ไกลไปรึเปล่า ถ้าไม่รังเกียจมาพักแถวพัทยาไหมครับ ผมมีคอนโดที่เช่าทิ้งไว้อยู่...ถ้าคุณภัทร สนใจผมให้อยู่ฟรีเลย...”

แรงใช่เล่น กับหนุ่มหน้าหวานตรงหน้าแต่ก็แค่นั้น ภัทร ได้แต่ยิ้มให้ แล้ว เดินหลบเข้าไป ตรวจสภาพห้อง เก็บของที่ขอเปิดใหม่ ไม่ใช่ไม่อยากลอง แต่งาน มันก็ต้องอยู่ส่วนงาน ..............
............................

“ภัทร .... กลิ่นอะไร ติดมา?”

กลับมาถึงบ้าน ไอ้เด็กยักษ์มันทักฉันยังไม่ทันจบก็ จับหน้าผากฉันแล้วโน้มให้เข้ามาผิงกับอกมันแล้ว จมูกโด่งนั้นเหมือนจะฝังติดเข้ากับช่วงไหล่

“เหม็น!!”

อะตรอมมันผลักตัวฉันออกแล้ว เอานิ้วดีดหน้าผาก เฮ้ย!! ฉันเป็นพี่แกนะไอ้เด็กเปรต ! !! อยากจะซัดมันกลับเหมือนกันแต่เทียบจากขนาดตัวดูแล้ว กลัวมันสวนกลับ

“จะหอมได้ไง ไปทำงานนะเฟ้ย ! ไม่ได้ไปอาบน้ำแร่แช่บ่อกุหลาบ”

ก่อนไปอาบน้ำขอเถียงมันสักนิดก็ยังดี ไม่งั้นคงอาบน้ำไม่สุขใจ อะตรอมมันเงียบไป ก่อนจะเดินเข้ามาขวาง


“พรุ่งนี้ผมไปที่ทำงานด้วย ...”

เฮ้ย! จะไปทำไม คนเขาจะไปทำงาน ไม่ได้ไปเล่นเกมส์นะเฟ้ย!! คราวนี้อยากจะเถียงมันใจจะขาด แต่ ไอ้ เด็กยักษ์มันกลับดันตัวฉันเข้าห้องน้ำ แล้ว ปิดประตูให้

“อาบนานๆขัดเยอะๆ เหม็นกลิ่นสาบ....”

น้ำเสียงประชดประชันแบบได้ใจ ดังรอดเข้ามาในห้องน้ำ ....ไอ้เด็กเวร!!! ยังไงกูก็เป็นผู้หญิงนะสาดดด!!! ?ทำร้ายจิตใจกูเกินไปหล่ะ....
.....ฉันได้แต่เปิดฝักบัวรดหัวดับอารมณ์ร้อนของตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งโดนว่าเหม็นสาบก็คราวนี้ !!!
..............
............................

อารมณ์ยังไม่เสถียรเท่าไหร่ แต่ก็ต้องแอบตื่นมาทำงาน ส่วนไอ้เด็กยักษ์ ตอนนี้ทิ้งให้มันนอนอืดอยู่บ้านนั้นหล่ะ !!! .... กับอีแค่ คำพูดเด็กเวรตัวเดียว ทำเอาช่วงท่อนแขนเป็นรอยแดง ก็เมื่อเช้าตอนอาบน้ำขัดจนหนังจะหลุดติดมือ ...คิดแล้ว.... แค้น

“คุณภัทร...เป็นอะไรไปครับ?”

“คุณหลิน!?”

เพราะไม่อยากเสียภาพพจน์กับพวกช่างและเจ้าของงาน เลยเดินหลบมาสงบสติอารมณ์ที่สตูห้องพักรับรองแขกหรอกนะ เลยอดสงสัยไม่ได้ ที่เห็น คุณหลินที่นี่...

“แขนโดนอะไรมาครับ คุณภัทร ผมเห็นลูบแขนอยู่ เป็นรอยแดงเลยนะครับ ”

เหมือนถือวิสาสะ หนุ่มหน้าสวยนั้นวางมือ แตะบนรอยแดงเบาๆ ผิวสีน้ำผึ้ง ดูจะตัดกันกับผิวสีนวล จน ภัทร อดคิดไปเองไม่ได้เหมือนคุณหลินจะยิ่ง ดูดี เวลาที่อยู่ในที่อับแสง ... ดวงตาสีน้ำตาลคม ที่สบมา เหมือนจะกลบคำว่างานเสียสนิท ....

“คุณหลินลงมาทำอะไรที่นี้อะค่ะ?”

..ยังไงก็ต้องหาทางออกจากสถานการณ์ นี้ให้ได้ก่อน ยอมรับเลยว่า ยิ่งอยู่ด้วยกันสองต่อสอง คนข้างหน้าเหมือนมีมนต์ให้ ทิ้งคำว่า ‘งาน’ จนอยากจะทำ ‘การบ้าน’ แทน

“ผมสูบบุหรี่หน่ะครับ...ภัทร อยากลองรสบุหรี่หน่อยไหม? ”

“อยากชิมเจ้าของบุหรี่มากกว่าค่ะ”

สุดท้ายพอโดนเจ้าของแววตาคู่นั้นจ้องสะกด ปากที่ไปพร้อมความคิดก็เผลอหยุด ประโยคกึ่งเย้ากึ่งหยอก ไม่ได้...

“ถ้าผมให้ชิม...ภัทร... จะชิมไหมครับ?”

ถ้าไม่ได้เป็นเรื่องงานก็แทบไม่ต้องคิดรอยยิ้มหวานกับน้ำเสียง ยั่วขนาดนั้น แต่เพราะมันพ่วงกับเรื่องงานตอนนี้สมองเลยกำลังประมวลผลความเสียหาย คุณหลิน เป็น หลานเจ้าของโครงการ ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา...มันจะมีปัญหากับบริษัทหรือเปล่ายังไม่ทันได้ คำตอบริมฝีปากนิ่มก็แนบลงมาพร้อมๆกับลิ้นที่สอดรุก... เรื่องคิดก็มีคิดอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าคุณหลิน จะเป็นคนรุกเสียเอง เอกสารที่ถือมา ตอนนี้มีประโยชน์บ้างก็ตอน ภัทรใช้บังริมฝีปากที่ แนบสนิทของตัวเองกับคุณหลิน
ริมฝีปากที่แนบเข้ามา..จนได้กลิ่นบุหรี่ ....นั่นยังไม่ถึงใจเท่ากับลิ้นที่รุกไล้เกี่ยวกับลิ้นตน จนได้รสชาติของบุหรี่ที่อีกฝ่ายเพิ่งสูบถึงดูแปลกๆในความรู้สึก แต่ก็แค่นั้น...สำหรับ ภัทร ถ้าอยากได้ มันก็ต้องได้ ... หนุ่มร่างบางถูกโน้มพลิกให้นอนทอดยาวไปบนโซฟา... โดยที่ลิ้นร้อนยังไม่ถูกปล่อยออกจากริมฝีปาก.... ภัทร ถอน ริมฝีปากตนออกมา แล้ว ยืดตัว ล้วงเอามือถือเครื่องเล็กออกมาจากกระเป๋ากระโปรง...มือนิ่มลูบหน้าหวานของชายหนุ่มเบาๆ ราวหลงใหล ...

“พี่ชิต ...ภัทร นะ ตอนนี้ออกมาธุระกับ คุณหลิน พี่ ...ยังไงฝากงานด้วยนะคะ ...เกือบลืมพี่ชิต ภัทร ล็อคห้อง สตูฯ ไว้ ยังไงเดี๋ยวกลับไปแล้วจะเปิดให้ ... ไม่มีใครใช้ห้องใช่ไหมพี่...ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ.. ”

..ภัทร ปิดล็อคประตูห้องสตูฯ แล้วดึงเจ้าของโครงหน้าหวานให้เข้ามาใกล้…

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:18:17
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23! [8]

..
................
. เกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว แต่ เจ้ภัทร ของน้องอะตรอมยังหลงอยู่กับร่างบางตรงหน้า ริมฝีปากนิ่มสีชมพู ถึงจะเป็น ‘ผู้ชาย’ แต่หน้านั่นก็หวานกว่าสาวๆที่เคยได้ เสียอีก ... เป็นฝ่ายบุคคลที่ น่ากินจนอดใจไม่ได้...จีบเล่นๆ แต่ถ้าได้กินจริงอย่างนี้ มันก็น่าลอง .... กินคนตรงหน้า แทนข้าวได้เลย....
..............
............................

เอวบางนั้นพอโอบจริงแล้วมันให้อารมณ์กว่าคิดเองเยอะ ทุกครั้งที่ลูบแผ่นอกนิ่มมือ เลยไปถึงเม็ดตุ่มไตที่แข็งชันสู้มือของคุณหลิน ..เสียงคราง ยั่วได้อย่างไม่ต้องปิดบัง งานที่ตะคุบมาคราวนี้ สงสัยจะได้ทั้งงานทั้งหลานเจ้าของงาน...

…………ปลายลิ้นเย็นไล้เลียรอบรอยแดง ที่ท่อนแขน คุณหลินดู เหมือนสัตว์น้อยตัวเล็กๆที่ แสนน่ากอด แววตากลมที่จ้องมองนั้นก็ด้วย ทำไมยิ่งมองถึงยิ่งน่ารักขนาดนี้...

“ทำไมถึงชอบเลียหล่ะคะ คุณหลิน ?”

“ก็ ภัทร หอมนิครับ..”

คำตอบมีพร้อมดวงตากลมที่เงยหน้าขึ้นมามอง……แผ่นหลังสีนวลเหมือนอาบเปลียวเทียน พาให้ความรู้สึกยิ่งละมุน …..เหมือนจะดึงให้หลงจนถอนตัวไม่ขึ้น...

“ฮะ! หอมหรือคะ? เมื่อวาน ภัทร เพิ่งโดนว่ามาว่า ‘ตัวเหม็น’ ”

แทนคำตอบ วงหน้าหวาน ไล้เลียลิ้นซ้ำๆที่ ท่อนแขน ภัทร ไล่เรื่อยมาจนอมปลายนิ้วเรียวนั้นเข้าไปในปาก ภัทร กดปลายนิ้วตนที่ถูกอมไว้ลงบนลิ้นร้อน แล้วประกบแนบริมฝีปากอีกครั้ง ลิ้นร้อนของชายหนุ่ม ดูดสลับระหว่างปลายนิ้วเรียวและลิ้นเย็น.... จนหญิงสาวถอนริมฝีปากตนออกมาเป็นฝ่ายคุมเกมส์เสียเอง คุณหลินถูกกดให้ทอดตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง เซ็กส์ที่ไร้รูปแบบ คำว่าชายหญิงเหมือนถูกแทนสลับข้าง เมื่อเซลล์ฝ่ายขายอย่าง ภัทร ถนัดบท ‘ผู้ชาย’ มากกว่า ... และชายหนุ่มที่อยู่ใต้วงแขน ก็ไม่ขัดอะไรถ้าจะรับบท ‘ผู้หญิง’
..............
............................

…ปิดท้ายด้วยจูบ รสหวาน…ที่หน้าลิฟต์ ...น่ารักสุดๆ จนอยากจะกลับไปต่ออีกรอบ ถ้าไม่มีวงแขนใหญ่มาโอบรอบคอแล้วกระชากดึงให้ เดินตามลงบันได!!!

“เฮ้ย!!.....”
.......................
...


*ปีนเกลียว*


นอกจากนี้มันยังเป็นสับแสลงในอีกความหมายหนึ่ง...ของคำว่า ‘ข้ามรุ่น’ และนอกจากนี้มันยังเป็นคำนาม [N.]ที่ถ้าคุณอยากเห็นภาพ ฉันจะอธิบายให้เป็นรูปร่างเลย ไอ้คำว่า ‘ปีนเกลียว’ ...เอาให้ เห็น ภาพเลยนะ ไอ้ตัวที่เรียกว่า ปีนเกลียว มันตัวโตๆ ใส่เสื้อลายการ์ตูนสีส้มสด ย้ำว่า ส้มสด !!! ใส่กางเกงบอล สีแดงสกรีนเบอร์ 12 คีบรองเท้าแตะ... และมันยังมายืนเก็กอยู่หน้าตึก ... และถ้าฟังจากที่พี่ชิตพูด มันมายืนอยู่ตั้งแต่ 5 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็นกว่าๆ ที่มันหมดความอดทนแล้วขึ้นตึกไปลากฉันลงมา!!

“อะตรอม!!ปล่อย!! ฉันเป็นพี่แกนะ!! ทำอะไรก็ดูสถานทีบ้างดิ...นี่ที่ทำงานพี่นะ!! เธอจะมา ทำตัวปีนเกลียวอย่างนี้ไม่ได้นะ!! ”

ฉันหมดความอดทน แล้วสะบัดแขนใหญ่ที่ล็อคคอออก ...แทบตายเหมือนจะขาดอากาศหายใจให้ได้ แต่ที่ยิ่งกว่านั้น ไอ้ดีกรีความโกรธที่มันพุ่งปรี๊ดนี่อะสิ !!

“ก็ไม่ได้อยาก ปีนเกลียว นักหรอก แต่ ไอ้คนที่โตกว่ามันทำตัวไม่น่า เรียก ‘พี่’ ถ้าต้องให้มาตามลากกลับบ้านอย่างนี้ตลอด ...จะเกลียวจะน็อต ผมก็ไม่สน!!! ”
..............
............................
....ฉันอยากจะกระทืบเด็ก !!! ถ้าไม่ติดว่ามันตัวใหญ่กว่าแล้วฉันก็ยังใส่กระโปรงอยู่ ..
ได้แต่ปล่อยให้ไอ้เด็กยักษ์ จับฉันขึ้นรถปรับอากาศ มุ่งกลับบ้าน

“เหม็น...”

ไอ้เด็กควายนั่นมันยังบ่น!!! เอ่อ!! กูเหม็นแล้วมานั่งใกล้หาส้นอะไร ?! ยังไม่ทันสวน มือร้อนๆของมันก็จับคว้าท่อนแขนฉันมาเลียซ้ำตรงรอยแดงที่เดียวกันกับที่ หลิน เคยเลีย แต่ความรู้สึกมันต่างกัน แววตาสีดำสนิทที่จ้องมา เหมือนคาดโทษ ดูต่างกันสุดขั่วกับแววตาสีน้ำตาลหวาน ของหลินตอนอ้อนขอจูบ ....

“ทำไมชอบ พวกของเหม็นๆ นัก? ”

เสียงอะตรอมดูเบาลง แต่ปลายลิ้นร้อนทีเลียย้ำยังคงคาไว้อย่างนั้น จนริมฝีปากหนา อ้างับกัดลงท่อนแขนฉันเบาๆ

“เหม็นแล้วจะกัดทำไม?”

ฉันอดถามไม่ได้ ..เมื่อเริ่มรู้สึกว่า ฟันคมนั้นเน้นกดลงผิวเนื้อ จนเริ่มจะเจ็บขึ้นมากลายๆ ริมฝีปากหนาถอนขึ้นมาจากท่อนแขนจนเห็นเป็นรอยฟัน เกือบครบทุกซี่ เว้นส่วนที่เป็นเขี้ยว นั่นที่กดชัดเป็นรอยลึกครบทั้งสี่รอย ลิ้นร้อนไล่เลียน้ำลายที่เปียกแขนฉันจนแห้ง...

“เหม็น กลิ่นที่ติดมา ...ไม่ได้เหม็นเนื้อ ภัทร ...ถ้า พวกเนื้อนาบุญอย่าง ภัทร เนื้อเหม็น ได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องมีอะไรตามมากวนใจ... ”

บ่นพรึมพรำอะไรไม่เข้าใจ ? อะตรอมมันละสายตาไปทีกระจกรถแล้ว เอนตัวพิงเบาะ ซบลงมาที่ไหล่ฉัน ตาดุคู่นั้นปิดลง ทิ้งไว้แค่เสียงหายใจสม่ำเสมอ ....ยักษ์ จำศีลไปแล้ว...
...........
............................
แต่......

....มันยังไม่จบแค่นั้น

นับจากวันนั้น...เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ นับได้ 4 วันแล้ว ที่ ‘ไอ้ตัวปีนเกลียว’ มันมายืนกดดันเวลาฉันทำงาน ขนาดแอบหนีมันมาแต่เช้ามืดตอนมันหลับ มันยังดั้นด้นมาได้ ยิ่งตอนคุณหลินเดินมาใกล้ไอ้เด็กเวรนั้นยิ่งกร่างใหญ่ ...จะหาจังหวะ หลบไปกับคุณหลิน ไอ้มารนี่ก็ขวางได้ขวางดี ... สภาพฉันตอนนี้เลยเหมือน หมาเห็นปลากระป๋อง มองได้แต่ทำอะไรไม่ได้ ..

“คุณภัทร ครับ ...วันนี้จบโปรเจคแล้ว เย็นนี้ผมขอถือโอกาสเลี้ยงแล้วกันนะครับ ”

เสียงหวานของปลากระป๋อง ฉุดฉันไว้ก่อนทีจะ กลืนน้ำตาลงลิฟต์ เพื่อเคลียร์งานเซตสุดท้าย เฮ้ย!! ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ....วันนี้จบงาน คืนนี้ก็ต้องมีต่อยาวอะดิ ...แถม ถ้าต่อ..ก็ต้องเป็นผับหรือเทค...ตัวมาร หมดทางเข้าแน่ๆ .....
แต่เพื่อเป็นการตัดปัญหา เสียแต่ต้น....สมองฉันก็คิดได้โดยทันที...วีธีทีที่จะสะกัดมาร...

“แถวนี้ถิ่นคุณหลิน คุณหลินเลือกร้านดีกว่าค่ะ ...ส่วนเรื่องเลี้ยง ภัทร จัดการเอง ได้ คุณหลินมาช่วยอย่างนี้ ในส่วนการซัพพอร์ต ของทางบริษัท ภัทร มีให้อยู่แล้ว จะได้ ถือโอกาสพา พวกช่างกับคนงานมาเลี้ยงแก้เหนื่อยกันด้วย...ส่วนอะตรอม กลับบ้านก่อนแล้วกัน ...พี่กลัวอะตรอมเข้าร้านไม่ได้ ...”

น้ำเสียงฉันหวานแบบสุดๆ แต่รอยยิ้มที่หันไปหาอะตรอม เหมือนจะเย็นได้ใจจนฉันรู้สึกได้ ความสุขที่มารโดนกำจัดมันเป็น อย่างนี้เองสินะ....

“ไม่ต้องเป็นห่วง ภัทร ....วันนี้วันธรรมดา แถมยังอยู่ในเขตพัทยา ผับไหนผมก็เข้าได้.. ”

...น้ำเสียงเรียบผ่านหูฉันไป พร้อมๆกับ วงแขนใหญ่เกินอายุที่โอบรอบเอวแล้วดึงฉันให้ห่างจาก คุณหลิน ....
........
...
'เฮ้ย!!! เป็นเด็กเป็นเล็ก....อยู่บ้านดิไอ้สาดดดดดดดดด!!!'

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!63 # เด็กกว่าแล้วไง?[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:19:38
บทที่ 63 # เด็กกว่าแล้วไง? 14 VS 23! [9]
Part อะตรอม

เสียงไฟหลากสีที่ส่องกระทบกันไปมา ไม่ได้ช่วยให้สถานทีมันสว่างขึ้นมาได้เลย เสียงเพลงที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะโดนเสียงทุ้มของเบสกลบไว้ ยิ่งพาให้อารมณ์เสีย ถึงผมจะนั่งขวางภัทรให้ห่างจากตัวประหลาดนั้นแต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ภัทร ยังคงคุยไปหัวเราะไป แถมยังส่งเหล้าให้ ไอ้คนข้างๆ ผมหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีผมอยู่ ถึงจะมืดแต่ผมก็เห็นนะว่า ตอนส่งเหล้า ใครกับใครมันแอบจับมือกัน....ไม่รู้ว่าทำไม ภัทร ถึงได้ชอบของ ‘สกปรก!!’ นัก ผมอดไม่ได้ที่จะปลายหางตาไปมองผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความรังเกียจ สายตาคนทั่วไปจะยังไงผมไม่รู้แต่ที่ผมเห็น ไอ้ก้างนี้ ‘เลี้ยงของ’ แถมน่าจะเลี้ยงจากฝั่งสายตระกูลเสียด้วย ไอ้ตัวเล็กๆทีนั่งอยู่บนไหล่มัน แลบลิ้นยาวออกมาเลียหน้ามันตลอดเวลา มันเป็น พวกที่ต่างจากสัมพเวสี แต่ก็น่ารังเกียจไม่ต่างกัน...น่าจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะถ้ามันเป็นแค่ สัมพเวสี ภัทรคงไม่หลงมันขนาดนี้ แล้วอีกอย่างที่ผมแน่ใจ ‘กลิ่น’ ที่ภัทร ติดมา ติดมาจากมัน!!

“ภัทร ชิมนี่หน่อยไหม? ”

เหมือนแกล้ง ไอ้หลินอะไรนั่นโน้มตัวตักเนื้อปลาให้ ภัทร โดยผ่านหน้าผมไป...ส่วนไอ้ตัวเชี่ยอะไรบนไหล่มันก็แลบลิ้นเฉียดปลายจมูกผม ....’กล้านะมึง...มึงคิดว่ากูไม่เห็นมึงใช่ไหม?’

“ภัทร ผมอยากไปห้องน้ำ”

รู้ว่าเสียมารยาทแต่ผมก็หมดหนทางแล้วเหมือนกันที่จะดึง สายตาภัทรให้ออกมาจากหน้าไอ้ผู้ชายคนนี้ เหมือนกับว่า ยิ่งมืด ภัทรยิ่งหลงมัน..

“คุณ ไปเป็นเพื่อนผมทีสิ ผมไม่รู้ทาง”

ใครจะว่ายังไงก็ไม่รู้ แต่ผมก็ดึงไอ้หน้าหวานนี่ออกมาจากโต๊ะแล้ว หันหลังกลับไปมอง ภัทรยังคงโปรยสายตาหวานเยิ้มส่งมา...ไม่ได้ให้ผมหรอก ให้ไอ้สัดที่มากับผมต่างหาก!! เกินความอดทน..พอเดินห่างออกมามุมมืดที่หลังร้าน ผมถือโอกาสโอบกอดคอ แล้วกระซิบใกล้ๆ หู ของคนที่ทำให้ ภัทร ยิ้มหวาน..

”อย่ามายุ่งกับ ภัทร…จะผู้ชาย หรือกระเทย ถ้ามายุ่งกับของๆกู กูก็ต่อยได้ทั้งนั้น!!!”

มือผมที่พาดวางไปบนไหล่นั่น คว้าจับ ตัวประหลาดที่คอยเลียหน้าไอ้หน้าหวานคนนั้น มันคงเพิ่งรู้ว่าผมเห็น และจับ ของๆ มันได้ แต่มันก็รู้ตัวสายไป...อุ้งมือผมกดบีบรอบคอ สัตว์ตัวเล็กแล้ว ขยี้จนได้ยินเสียงกระดูกแตกคามือ..แล้วมันก็สลายไป...ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ตัวนั้นมันเรียกว่าอะไร...เพราะตอนนี้ผมรู้แค่ว่า ....ภัทร ..จะไม่มีทางหลงมันอีกแล้ว
..............
............................
เสียงกรี๊ดร้องดังขึ้นแทรก เสียงเบสของดนตรี ผมคลายวงแขนตัวเองออกแล้วทิ้งร่างบางของผู้ชายที่มาด้วยกันไว้กับพื้น ……
…อดไม่ได้ที่จะเตะซ้ำเข้าที่ หน้ามัน อีกครั้ง… ‘อยากกิน ภัทร กินตีนกูก่อนก็แล้วกัน’…

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะไหว้ลาพวกพี่ๆทีมช่าง แล้วดึงภัทรให้ลุกตาม...รอยยิ้มหวานบนหน้า ภัทร หายไปแล้ว เหลือแต่ แววตาปรือที่พร้อมหลับได้ทุกเมื่อ...
..............
............................
มอไซน์คันเก่า วิ่งลัดเลาะไปบนริมสันบ่อน้ำ ไฟแสงรายทางหายไปหมด แล้ว เหลือแต่เพียงความเงียบ กับเสียงจิ้งหรีด …
สายลมหนาวที่พัดมาบางๆ ทำให้คนซ้อนต้องกระชับแขนให้ตัวเองรัดแน่นเข้ากับ แผ่นหลังเบื้องหน้า ภัทร ยังไม่ตื่นเต็มที ขนาดว่าลงจากรถปรับอากาศ แล้ว พาเดินมาขึ้นเบาะมอไซน์ เจ้แกยังไม่ลืมตา คนขับได้แต่ยิ้มอย่างพอใจ มือข้างหนึ่งผ่อนคันเร่งเบาๆ แต่มืออีกข้างยังจับกุมอยู่ที่มือคนซ้อน ...
..............
............................

"เฮ้ย! ไม่ตลกนะ พามาทีนี้ทำไม? ถ้าโดนงูกัดตาย หรือจงอางกวดจะขับหนียังไง!!! "

ภัทรเริ่มจะโวยวายกับคนขับ.. เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมามองไปทางไหนมันก็มืดไปหมด แสงไฟลางๆที่ส่องมาจากถนนใหญ่ ส่องมาได้แค่เงาสลัวๆ แถมกอหญ้ายังสูงเกือบข้อเข่า เด็กหนุ่ม ดับเครื่องรถมอไซต์ แล้วหันกลับมา หาหญิงสาว

"ไม่ยอมให้คนซ้อนเป็นอะไรหรอกน่า บอกแล้วไงว่านี่ถิ่น ผม... นี้ก็ของผม... "

มือใหญ่กางออก และชูสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่มีดวงดาวมากมาย .... เหมือนไฟหลากสีที่แข่งกันส่องประกาย ..... ตัดกับความมืดมิดของท้องฟ้า

"ถ้าที่ สะพานปลา เป็นของ ภัทร ที่นี่ก็เป็นของผม... ผมให้ภัทร...ความลับของเรานะ..."

.......................
..............
...........เหมือนจะหลับฝัน กับเรื่องราวแปลกๆ ...คงเป็นเพราะยังไม่ตื่นเต็มที เรื่องราวคืนนั้นฉันเลยคิดเอาเองว่า มันจริงบ้างฝันบ้าง ...แต่เรื่องนึงที่อดคิดไม่ได้ ไอ้เด็กยักษ์ นั่น ทำไมดูเป็น ‘ผู้ใหญ่’ขนาดนั้น .....ความลับ มันยังคงเป็นความลับ ....ทีที่มีดวงดาวเต็มท้องฟ้า .....ที่นั้นมันถูกฝังอยู่ในส่วนที่ลึกทีสุดของความทรงจำ..........อะตรอม ต้องกลับบ้านใหญ่ ..และฉันยังต้องกลับไปทำงานที่ กรุงเทพฯ ต่อ.....
..............
............................
.........ป๋า กลับมาในวันที่ฉัน ต้องไปส่งอะตรอม ....แม่ใหญ่มาด้วย แน่นอน ฉันในฐานะที่เป็นได้แค่อดีตหลาน ถูกกันออกมาจากสาระบบ ......ฉันเลือกทีจะกลับคนเดียว ดีกว่านั่งเป็นอากาศในรถ ....ฉันเกลียดละครดราม่า เข้าไส้ และไม่คิดว่าจะทนได้หากมันเกิดขึ้นกับตัวเอง..................แล้วก็เหมือนที่คิด ...เรื่องของฉันคงหายไปจากความทรงจำของ ไอ้เด็กยักษ์ นั่น ....มันก็แค่นั้น .........ทุกอย่างมันจะกลับเป็นเหมือนเดิม ........ฉัน...จะเป็นได้แค่ ...คนที่ ’เคยรู้จัก ’.
..............
............................
“โกรธ ย่า รึอะตรอม?”

หญิงชรารูปร่างสูงใหญ่อย่างคนโบราณ เอื้อมปลายนิ้วไปลูบแผ่นหลังกว้าง ของ หลานชาย แววตาสีดำดุ ไม่ได้หันกลับมามอง... ผู้เป็นย่า หากแววตานั้นเหม่อมองไกลออกไป ....

.."ภัทร ไม่ใช่คนที่ หลาน ควรจะรัก ....อย่าเอาชีวิตมาฝากไว้กับสายลม อะตรอม.... 'ลม' มันได้แค่รู้สึก รู้ว่ามีตัวตน แต่หลานจะทนได้รึ ถ้าวันหนึ่ง ลมมันหายไป ... คนที่เกิดมาเป็น เนื้อนาบุญ หมดบุญเขาก็ไป .... เขาเกิดมาเพื่อที่จะเป็นที่รัก เกิดมาให้รัก ที่หลานทำได้ ก็แค่รัก ....เรียกร้องอะไรไม่ได้ อย่าให้ รัก ตายไปกับเขาเลย อะตรอม..เรารู้สึกว่ามีลม แต่ลม ...ไม่รู้สึกว่ามีเราหรอก อะตรอมเอ้ย.... "
..............
............................
.’ภัทร เป็นของๆผม...สักวัน ของๆผมก็ต้องกลับมาเป็นของผม... ’
เสียงในความคิดนั้นไม่ได้ดังออกมาจากสมอง หากแต่มันดังอยู่ในทุกส่วนของความรู้สึก


..............
............................
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!64 # แด่เธอ…...ที่รัก[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 22:20:44
บทที่ 64 # แด่เธอ…...ที่รัก
Part ‘B2’

“เจ้าสาวของผม …..>>>>>> ตรินทร์”

   กระดาษแผ่นนั้นถูกพับซ้อนหลายทบจนเป็นรูปหัวใจ แล้ว...ยัดใส่ด้านหลังนาฬิกาปลุกเรือนใหญ่....
...จำไม่ได้แล้วว่าใครนะที่บอกเรื่องของเวทย์มนต์นี้ ....เสียง...เข็มนาฬิกาคือเวทย์มนต์ของการยื้อเวลา...ทุกครั้งที่หลับตาและตื่นขึ้น ‘เจ้าของชื่อนั้น’ จะอยู่เคียงข้าง...

ตรินทร์ อยู่ตรงนั้น... กี่ครั้งแล้วที่ข้อมือนั้นเปื้อนไปด้วยเลือด ... ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...มันก็เหมือนเดิม กลิ่นเลือดที่ฟุ้งขึ้นจมูก มันไม่ทำให้ ตรินทร์ รู้สึกอะไรได้มากกว่า ‘ความสมเพช’ ที่มีให้ตัวเอง ...ฝันร้ายที่ ตรินทร์ ไม่เคยเล่า ..ฝันร้ายที่ตามติดมาในโลกของความเป็นจริง...
ผมก็เป็นอีกคนที่คอยแต่เฝ้าดู......ผมทำได้แค่นั้น...น้ำตามันไหลมาจากไหน กันนะ ...ทั้งๆที่คนเจ็บคือ ตรินทร์ แต่กลับเป็นผมที่ร้องไห้ ... ไม่อยากให้ ตรินทร์ เจ็บอย่างนี้ ไม่อยากให้ทุกอย่างมันจบอย่างนี้ ....ผมอยากเข้มแข็งกว่านี้ อยากกล้าให้มากกว่านี้ ...ผมอยากทุกอย่าง ...เพื่อ ตรินทร์ ....
..............
............................

‘นายคิดเหมือนที่ฉันคิดไหม B1?’
ผมจ้องเขม็งไปที่ TV. กล้วยหอมสองตัวนั้น อย่างเท่ห์ ...ทำยังไง? ถึงรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร? เพราะเป็นฝาแฝดหรือ? ไม่หรอก...เพราะ ‘รักกันมาก’...มากกว่า… ในตอนนั้นผมจำได้ว่า ...ผมหันไปมองหน้าตรินทร์ ....สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ ….
....และรอยยิ้ม....
...เกมส์ ‘กล้วยหอม’ เริ่มตั้งแต่วันนั้น ...
..............
............................

   ...แสบตาไปหมด...หัวมันปวดตื้อ สมองมันไม่สั่งการณ์อะไรแล้ว ที่ผมทำได้คือร้องไห้ ....ร้องจนแสบตา... ตะโกนเรียกจนสุดเสียง... แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา...ไม่ว่าจะเรียกดังแค่ไหน ตรินทร์...ก็ ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเหมือนทุกครั้ง ...กลิ่นของเลือดไม่ได้ หายไป...กลิ่นน้ำมันและควันไฟ ยังเหมือนฟุ้งอยู่ในอากาศ
เสียงหัวเราะเยาะของใครบางคนดังแว่วมาในความรู้สึก พระแพง ยืนอยู่ตรงนั้น ..แต่เธอไม่ได้ เดินเข้ามาหา ตรินทร์ ....เพียงเท่านี้ผมก็รู้ดี... ร่างกายที่เย็นเฉียบในอ้อมกอดผม เป็นเหมือนตุ๊กตาที่ เธอทิ้งแล้ว ....ทิ้ง..ทั้งชีวิตและลมหายใจ …จะต้องให้กอดอีกนานแค่ไหน ....จะให้ผมทำยังไง ? จะต้องทำยังไง ตรินทร์ ถึงจะตื่นขึ้นมา .... ไม่เอาอีกแล้ว ....ผมไม่อยากอยู่คนเดียว.. ไม่อยากอยู่โดยไม่มี ตรินทร์ ....กี่คืนมาแล้วที่ผมเฝ้ากุมมือที่เย็นเฉียบนี้ เพื่อเฝ้าภาวนาให้มันอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง...
..............
............................

แล้ว ........ภินทร์ ก็ คือคนที่ตื่นขึ้นมาแทน...ผมสมควรจะเกลียด ภินทร์ ใช่ไหม?       ในตอนแรกที่รับรู้...ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเกลียด ..เกลียดจนแทบจะมองหน้า ภินทร์ ไม่ได้...แต่จะให้ผมทำยังไง เมื่อทุกอย่างที่ ภินทร์ เป็น...ทุกอย่างนั้นเป็นของ ตรินทร์ ผมพยายามลืม ตรินทร์ แต่ทำไม่ได้ ...
ผมไม่อยากให้ ตรินทร์ ทรมาน การยื้อตรินทร์ไว้....มันอาจไม่ใช่ทางออก ...มันเลยไม่แปลกที่ผมจะให้ โฟร์ เข้ามาในชีวิต...ผมเป็น ‘ผู้ชาย’ ...เป็นผู้ชายที่รัก ตรินทร์ แค่    ตรินทร์  เท่านั้น...มันไม่ได้หมายความว่าผมจะรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนอื่น ผมยังชอบผู้หญิง ชอบเรือนร่างและส่วนเว้าส่วนโค้ง ของผู้หญิง ผมยังมีอารมณ์และความรู้สึกของผู้ชาย... แต่กับ ตรินทร์ ทุกอย่างที่ผมทำ...มันเกินกว่าคำว่าชอบ...
   เพราะรัก กับตรินทร์ ผมถึงยอมได้ทุกอย่าง ระหว่างเรา ไม่เคยเกินเลยเหมือนที่คนอื่นคิด ... นั่นเพราะ ‘รัก’ ผมรัก ตรินทร์ มากเกินกว่าจะทำลาย ตรินทร์ ได้....
   และสำหรับ ภินทร์ มันกำลังซ้ำรอย ตรินทร์ ...อีกครั้งที่ เธอคนนั้น เข้ามา ตอนนี้ผมเหมือนมองเงาที่สะท้อนในน้ำ ไอ้ยักษ์ที่ชื่อ อะตรอม นั้น เป็นเงาสะท้อนของผม ...และ ภินทร์ คือเงาสะท้อนของ ตรินทร์ เงาที่กำลังทำตามสิ่งที่เคยเกิด....
...มีบางอย่างที่ผมไม่กล้าบอกสองคนนั่น ....ความจริงที่ว่า ต่อให้ อะตรอม มันรัก ภินทร์ แค่ไหน...
.......
……………….
…… แต่.....สุดท้ายคนที่ ภินทร์ เลือกก็จะเป็น พระแพง ....
ถ้าตอนนี้ถามผมว่า ผมเกลียด ภินทร์ ไหม ..
...ไม่ .


..ผมไม่เกลียด....
สำหรับภินทร์.....
...ตอนนี้ที่ผมมีให้ คือ ความสงสาร ....
.....สงสารสองคนนั้น
สงสารที่อะตรอม มันรัก ภินทร์ เหมือนที่ผม รัก ตรินทร์ ...
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!65 # การกลับมาของเจ้าของเสือ[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 23:48:11
บทที่ 65 # การกลับมาของเจ้าของเสือ...

   เตียงนอนใหญ่ว่างเปล่า ....ผ้านวมผืนเดิมที่เคยใช้ถูกตลบม้วนไว้ปลายเตียง แค่นั้นก็พอทำให้รู้ได้ว่า เจ้าของห้องไม่ได้อยู่ในห้องเหมือนอย่างที่คิด...กลิ่นหอมจางๆ โชยออกมาจากห้องน้ำ เสียงหยดน้ำที่กระทบลงพื้นเป็นจังหวะเหมือนเสียงนาฬิกา....
ความร้อนของไอแดดไล่ลามจากขอบหน้าต่างที่เปิดจนสุดบานไปถึงแผ่นหลังกว้างบาดแผลและรอยฟกช้ำบนแผ่นหลังค่อยๆสมานจางลง  เมื่อความร้อนนั้นแผดเผาจนเกิดละอองไอ  มือใหญ่ควานตะปบไปยังขอบพื้นอ่างน้ำที่ว่างข้างตัว แล้วดันตัวเองให้จมลงในอ่างน้ำสีม่วง....
...พอดีกับที ใครอีกคนก้าวเท้าเข้ามา...
ภินทร์มองหา ’เจ้าของห้อง ’ แต่สิ่งที่เจอกลับเป็นความว่างเปล่าและความร้อนของไอแดดที่ส่องกระทบผิวน้ำในอ่างน้ำ...สีม่วง? สีสันที่สะดุดตากระตุ้นต่อมอยากรู้ได้ดี แต่นั้นไม่เท่ากับแสงแดดที่กระทบมาเข้าตา...
...เคยบอกรึยัง ว่า ‘เกลียดแสงแดด’ ... ยิ่งตอนมันแยงตาด้วยแล้ว... โคตรเกลียด ! มันขวางหูขวางตาไปหมด!...
สำหรับคนอื่นมันก็อาจแค่แสงแดด...แต่สำหรับผม...มันน่าหงุดหงิดเกินกว่าที่จะอธิบาย...ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่สามารถเงยหน้ามองดวงตะวันได้ และนั่นก็ยิ่งพาลให้ผมเกลียดแสงตะวันไปด้วย… เหมือนเป็นสันดาน รู้ตัวอีกที มือผมก็เอื้อมจับ ชายผ้าม่านเพื่อที่จะกระชากมันให้ปิดบังแสงแดดที่ส่องเข้ามาแล้ว...
มองรอดผ่านเนื้อผ้าผืนบาง เมฆฝนเตรียมตั้งเค้า...เพราะอย่างนี้สินะ ไอแดดมันถึงได้ร้อนผิดปกติ...ถ้าฝนมันจะตกก็ต้องปิดหน้าต่างรึเปล่า ? ตอนนี้ผมกำลังช่างใจระหว่างก้าวขาลงอ่างน้ำ สีม่วง หรือไม่ต้องสนใจห้องน้ำแล้วทิ้งมันไว้อย่างนี้... มันห้องน้ำนี่น่าถ้าจะโดนน้ำฝนสาดมันก็คงไม่เป็นอะไรมาก แต่ถ้าผมก้าวขาลงไปในอ่างเพื่อที่จะข้ามไปปิดหน้าต่าง...ผมก็เปียกอะดิ...
...........
............................

จบข่าว....

..... รู้ใช่ไหมว่าผมตัดสินใจยังไง..........ก็อย่างนิสัยที่เป็นอยู่ ....
ผมปล่อยอะไรไปไม่ได้จริงๆ
..............
............................

   ...เหนือผิวน้ำ  แสงสว่างสีขาวที่เกิดจากแสงแดดมันหายไป ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมามองผ่านผิวน้ำด้านบน  เพื่อพบว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมอยู่ต้องอยู่ในสภาพนี้ ยืนบังแสงแดดที่ส่องเข้ามาแถมมันยังหันหน้าหันหลัง เหมือนลังเลอะไรสักอย่าง ก่อนจะโน้มตัวเอื้อมมือมาจับขอบประตูหน้าต่าง...อ่านะ...ไอ้คุณภินทร์ มันคิดจะปิดหน้าต่างโดยไม่ก้าวเข้ามาในอ่างอาบน้ำที่ผม แช่อยู่ ...
...
’กูเชื่อมึงเลย ภินทร์ !’
ผมมองจ้องมันที่เริ่มจะชะโงกเอนเกือบทั้งตัวเพื่อเอื้อมมือไปจับขอบหน้าต่าง
‘กูช่วยให้มันง่ายขึ้นไหม?’
..............
............................

   ...มือใหญ่โผล่พ้นผืนน้ำคว้าโอบช่วงเอวของคนข้างบนแล้วดึงให้ลงมาในอ่างอาบน้ำด้วยกัน! อย่างไม่ทันระวังหรือตั้งตัว อารามตกใจ ภินทร์ จับคว้ายึดผ้าม่านผืนบางไว้ก่อนที่ตัวเองจะแตะผิวน้ำ

“สัด!”

อดสบถออกมาไม่ได้ เมื่อก้มลงมาเห็นเจ้าของมือที่โผล่ขึ้นจากอ่างน้ำ  ภินทร์ ยังขืนตัวไว้เหมือนเล่นกายกรรม...เมื่อเจ้าของมือใหญ่ไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยตนหรือลดแรงดึงลงแม้แต่น้อย

“ทำเหี้ยอะไร ? สัด! ปล่อยกูนะเหี้ย !”

“มึงระบุสายพันธุ์ผิดหว่ะ ภินทร์ หล่อๆเข้มๆ อย่างกูนะเป็นเหี้ย....แหม...ลดเกรดกูซะหมดสภาพเลย”

ยังต่อล้อต่อเถียง...ร่างใหญ่ที่เคยนอนนิ่งใต้น้ำเกร็งวงแขนกระตุกดึงร่างของอีกคนให้ลงมาในอ่างด้วยกัน และนั่นยิ่งเป็นเหมือนการกวนอารมณ์ที่ขุ่นอยู่แล้ว ให้ยิ่งข้นคลักเมื่อ ภินทร์ ขืนตัวไว้ไม่ยอมปล่อยมือจากผ้าม่าน
...จนเจ้าของห้องต้องจิ๊ปากเสียอารมณ์ พร้อมกับคลายวงแขนตนออก ปล่อยคนข้างบนให้เป็นอิสระ ก่อนผ้าม่านจะขาดลงมาทั้งผืน..

“ยอมๆกูบ้างไม่ได้หรอ? นี่ขนาดกูเจ็บขนาดนี้นะ ไม่คิดจะเห็นใจกูเลยไง ? ”

“เสียใจด้วย คิงส์ ไอ้การให้เห็นใจมึง กับให้มึงจับกูกด... มันคนละประเด็นกันหว่ะ”

เสียงจิ๊จ๊ะ ดังมาจากปากอีกครั้ง คิงส์ ปล่อยวงแขนที่โอบรอบเอวนั้นไว้แล้วทิ้งตัวให้จมลงใต้น้ำ… ปล่อยให้อีกคนมีเวลาตั้งหลัก โน้มดึงผ้าม่านให้ตัวกลับมานั่งใกล้อ่างน้ำได้ตามเดิม...

“งอนหรอ ?”

ภินทร์ ถามพร้อมไล้ปลายนิ้วลงบนใบหน้าคมที่ปิดตานอนนิ่งใต้ผิวน้ำ อดอมยิ้มกับอาการแปลกๆของไอ้เหี้ยมนั้นไม่ได้..
..ไอ้เหี้ยมมันงอน!?
...จะง้อสักหน่อยไหม?

“คิงส์..จูบไหม?”

...ไม่ต้องให้ถามซ้ำ ร่างใหญ่นั้นทะลึ่งตัวขึ้นจากน้ำแล้ว โอบโน้มดึงคนถามให้ลงมาในอ่างน้ำสีครามด้วยกัน...ชั่วเสี้ยวที่ ภินทร์ รู้สึกได้ ความเย็นของน้ำในอ่าง ...มันแปลกๆ
กลิ่นของน้ำนี่ก็ด้วย มันเหมือน..ยา...ใช่..มันเหมือนเป็นยามากกว่าเป็น แค่น้ำ ...ยารสหวานเย็นที่เหมือนเคย ลองรสชาติ...เคยอาบแช่...
ความรู้สึกผะอืดผะอม รสหวานเลี่ยนของเมือกลื่น...ของเหลวรสหวานแปลกที่เอ่อล้นอยู่ที่ลำคอ กลิ่นหอมเอียน ...ของอะไรบางอย่าง...ความกลัวที่เหมือนจะคืบคลานอยู่ใต้ผิวหนัง... เสียงหัวใจที่เต้นซ้อนกันจนรู้สึกได้ ... แสงสว่างสีเงิน ที่วาวในความมืด...เสียงคำราม.อันผ่วเบา ....เสียงที่มัน...ยังสะท้อนอยู่ในหู ...
...ห้องกว้าง..ประตูเหล็ก...!   เสียงคำรามในลำคอ...เสียงที่ เรียกชื่อ..ชื่อหนึ่ง....
....‘ภัทร’....
..............
............................

“คิงส์ ...ปล่อย..!”

...ดวงตาแดงคลอไปด้วยน้ำตา ...ภาพอะไรหลายอย่างที่สับสน เหมือนจะประดังเข้ามา มันหลั่งไหลมาพร้อมกับผิวกายที่เปียกน้ำ... ความกลัวมันมากเกินกว่าความอยากรู้ ภินทร์ สะบัดแขนให้พ้นจากอ้อมกอดนั้น แล้วรีบก้าวออกมาจากอ่างน้ำ

“พอแล้ว คิงส์ เช็ดตัวเถอะ...”

“เป็นอะไร? ”

“เปล่า...แค่รู้สึกไม่ดีกับน้ำนั่น...เหนียวตัวแปลกๆ น้ำอะไร ? ”

“น้ำยารักษาแผลหน่ะ เพื่อนให้มา นายไม่ชอบงั้นหรอ? ”

ภินทร์สั่นหัวแทนคำตอบ ...ความรู้สึกแปลกที่แทรกเข้ามา...ไม่มีตรงไหนเลยที่ชอบ ....เสียงคำราม เบา ยังเหมือนได้ยินอยู่ในสมอง...
..............
............................

ไอ้คุณเหี้ยมมันนอนนิ่ง...ดูลั้นลากับหนังที่เพิ่งโหลดมา ผิดกับ อีกคนที่นอนใกล้ แม้เนื้อตัวจะแห้งจากคราบน้ำสีครามแล้วก็ตาม...แต่ความรู้สึกกระวนกระวายปนผะอืดผะอมนั้นยังไม่หายไปไหน...
ทนจนหมดความอดทน ภินทร์ ตัดสินใจเดินไปล้วงคอให้อ๊วกในห้องน้ำ...เพื่ออะไรมันจะดีขึ้น...
.....................เกือบสิบนาทีที่ได้แต่โก่งคอ อ๊วก...จนแทบจะหมดแรง
ความรู้สึกของเมือกลื่นมาพร้อมกลิ่นและความรู้สึกแปลกๆ...กลิ่นของเลือดรสหวาน... รสชาติขมฝาดของน้ำสีแปลก ... เสียงครางแผ่วเบาที่ กำลังร้องเรียก ชื่อของใครบางคน ‘ชื่อ’
ที่เหมือนจะขาดหายไปจากความทรงจำ ...
..............
............................

   ท่ามกลางความเงียบ...เสียงน้ำหยด เป็นจังหวะเหมือนเสียงเข็มนาฬิกา...ภินทร์ หันมองหาต้นเสียง แต่เหมือนไม่มีต้นตอของที่มา จนสายตาไปสะดุดกับวงน้ำที่กระเพื่อมบนผิวน้ำในอ่างสีคราม.. ไม่ได้รู้สึกไปเอง น้ำในอ่างสีครามเหมือนมีชีวิต... ไม่ต้องรอให้ความสงสัยมันเกิด ภินทร์ กลั้นหายใจหันหลังกลับ ไปคว้าลูกบิดประตู...เพื่อออกจากสถานการณ์ คลุมเครือ
.....แต่ไม่ทันกับสายน้ำสีครามที่ฉุดกระชาก ร่างตนให้จมลงในอ่าง….พร้อมๆกับแรงกดยึดบนไหล่ทั้งสองข้าง.เพื่อ..ให้ร่างนั้นไม่มีทางขืนตัวโผล่ขึ้นมา....
…..แล้วทุกอย่างก็นิ่งสนิท ...
..............
............................

“ภินทร์...”

เสียงเรียกนั้นดังขึ้นจากหน้าประตู เมื่อ คิงส์ เริ่มรู้สึกว่า ภินทร์ หายไปนานเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น และเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าของชื่อที่เรียกเจ้าของห้อง จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาเอง.....

เพื่อที่จะพบว่า เจ้าตัวแสบเจ้าของชื่อนั้นจมนิ่งอยู่ใต้ผิวน้ำ...เหมือนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นร่างใต้ผิวน้ำไร้การตอบสนอง ...คิงส์ ทำได้แค่เดินเข้ามาทรุดลงนั่งอยู่ข้างอ่าง...แทบจะหมดแรงกับสิ่งที่เห็น ....
...เมื่อผิวน้ำเรียบไม่มีแม้แต่วงกระเพื่อมของพรายอากาศมือใหญ่ที่พยายามจะเอื้อมสัมผัสร่างใต้ผิวน้ำ.....สั่นเทาจนไม่อาจควบคุมได้ .... เกือบจะกระชากคว้าร่าง ภินทร์ขึ้นมา ถ้า ...

..ร่างที่เคยจมนิ่งนั้นไม่โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาเสียก่อน !
...แววตาวาว สีน้ำตาลเจือมรกต ปรากฏขึ้นทันทีที่ คนจมน้ำลืมตา ..ไม่มีอาการสำลักไอ...หรือคำต่อว่า.... หยดน้ำสีครามค่อยๆไหลลู่ลงต่ำ..ไปกับเส้นผมและใบหน้า...คิงส์ ได้แต่มองตาม...
ใบหน้านั่นเป็น ภินทร์ ...แต่ เหมือนไม่ใช่ ภินทร์ ... ไอ้แสบไม่เคยนิ่งขนาดนี้....

“..ที่ไหน?...อยู่ไหน ? ”

นั่นเป็นประโยคแรกที่ คิงส์ ได้ยิน
.....ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะเอื้อมขึ้นมารวบลำคอใหญ่ แล้วกดเล็บจิกลงบนผิวเนื้อ แววตาที่จ้องมองมา เหมือนงูตอนจ้องเหยื่อ...

“..คิงส์ ?! ...ฉัน..อยากเจอ...หมอ...ช่วยทีสิ... ”

แววตาสีแปลกจดจ้องอยู่อย่างนั้น มือข้างหนึ่งลูบเบาๆที่ใบหน้าคม ส่วนอีกข้างยังคงกดค้างไว้ที่ลำคอ ผู้ถูกถาม ... แววตาสีน้ำตาลเคลือบมรกต..ไม่ได้คาดคั้น หรือส่อแววคุกคาม แต่กลับทำให้เจ้าของห้องร่างใหญ่ที่นั้งชิดริมอ่างอาบน้ำนิ่งสนิทเหมือนโดนสะกด ..ขัดขืนอะไรไม่ได้กับเจ้าของคำพูด...

“คิงส์... ฉัน...อยาก.. เจอ.. หมอ... ”

...ประโยคนั้นถูกเน้นทีละคำ ไม่มีรอยยิ้ม หรือแววตาแสนกระล่อนเอาแต่ใจ... เหมือนทุกที...ที่ ภินทร์เคยทำ ตอนนี้มีเพียงน้ำเสียงหวานแปลกและแรงกดของ เล็บที่จิกลงลำคอ...ความคมของเล็บที่กรีดลงผิวเนื้อลากยาวมาจนสุดที่แผงอก....ลิ้นร้อนไล่เลียตามรอยเลือดที่ซึมออกมาจากรอยแผลที่ลำคอของ ...แล้วความรู้สึกแสบก็เปลี่ยนเป็นความชา .....
..............
............................

   หน้าบ้านไม้สีฟ้า...อากาศชื้นเย็นที่โอบล้อมตัวบ้านบางส่วนมาจากต้นไม้เขียวครึ้ม แต่บางส่วน ...ไม่สิ เกินกว่าครึ่งก็ได้มั้ง..ที่เกิดมาจากเงาดำ ที่ครอบคลุมไปเกินครึ่งบ้าน ...บ้านของพวกสาง ...และวิญญาณเร่ร่อน... ซ้ำยังมีกลิ่นหวานแปลกที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ..
....เจ้าของแววตาสีแปลก ผ่อนลมหายใจออก แล้วเริ่มสูดหายใจเข้าไปใหม่อย่างเต็มปอด ...บ้านที่ไม่ได้กลับมานาน...หอม...กลิ่นสาบที่คุ้นเคย...ปลายนิ้วเรียวจิกปลายเล็บเด็ดดอกรางจืดดอกใหญ่  สามสีดอกที่เลื้อยขึ้นพันหน้าประตูบ้านใส่กระเป๋าแล้วเดิน ฮัมเพลงเข้าไปในเขตบ้าน โดยไม่สนใจอดีตสารถีที่ยืนนิ่ง.....
จะไม่ให้นิ่งได้อย่างไร เมื่อสายตาของสารถีนั้นรับรู้และเห็น...ภาพเงาดำที่เคยครอบ คลุมตัวบ้านนั้นเคลื่อนมาปิดบังทางเข้าของตัวบ้าน ...จนเหมือนเป็นกำแพงหนา...

“ภินทร์ บ้านนี้เข้าไม่ได้ !”

คิงส์ แทบจะตะโกนเรียกเมื่อ ภินทร์ นั้นกำลังจะเดินลับหายเข้าไปในตัวบ้าน ผู้ถูกเรียกนั้นหยุดชะงักแล้ว หันมาพร้อมรอยยิ้มเย็นเจ้าของรอยยิ้มหันหลังเดินวกกลับมาดึงมือ แขก ให้เดินไปด้วยกัน...ความเย็นของมือที่ คิงส์ สัมผัสได้...
...ความเย็นที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของอากาศรอบบ้าน....
ถึงจะไม่เคยกลัวไอ้อะไรพวกนี้ แต่..ถ้าพวกเงานี้มากถึงขนาดก่อตัวเป็นกำแพงบ้านได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าจะเสี่ยง...
...เหมือนไม่สนใจ เจ้าของมือเย็นรั้งแรงข้อมือดึงให้ คิงส์ เดินตาม

“ทำไมจะเข้าไม่ได้ ...นี่บ้าน....ฉัน...”

   สิ้นเสียงหวานแปลก เงาดำที่ก่อตัวเป็นกำแพงหนาก็สลายไป.....กับสายลม.....คิงส์ ได้แต่มองตามแผ่นหลังเจ้าของมือเย็น ... ความรู้สึกและสันชาติญาณมันบอกว่านี่เป็น ภินทร์ แต่....ไม่ใช่ทั้งหมด ของ ภินทร์ .......

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!66# ไพ่ใบสุดท้าย [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 23:50:25
บทที่ 66# ไพ่ใบสุดท้าย การตัดสินใจ...เดิมพัน

‘รักแท้ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว……
ตนหนึ่งตะเกียกตะกายไขว่คว้า หากรักนั้นหลุดพ้นปลายมือ...
ตนหนึ่งปล่อยทิ้งรัก เพียงคิดว่ามันจะกลับคืนด้วยตนเอง...
ตนหนึ่งละทิ้งทุกสิ่ง เพียงสิ้นศรัทธา...
หากมิเคยคิด รักนั้นเฉกเวรัมภา มันจะกลับมาด้วยตนเอง
มิใช่ด้วยการล่อลวงหรือกฎเกณฑ์
รักนั้นมิสนใจคำร้องขอ คำวอน หรือคำสั่ง มันไปด้วยใจของมัน มันลืมทุกสิ่งที่อยากลืม’
..............
............................

Part หมอ   

   ร่างกายมันล้าไปหมด ผมน่าจะฝืนเกินไปที่จะต้องสู้กับยักษ์ อีกครั้ง... ทั้งๆที่อยากโอบกอดคนๆนั้นเอาไว้แต่สิ่งที่ทำได้ คือการยอม...ตอนที่ ไอ้ยักษ์นั่นอุ้ม ภัทร ไว้ ภัทร ยังไม่ตื่น... หรือถ้าตื่นขึ้นมา ผมก็อาจเป็นแค่ 'คนแปลกหน้า' ผมไม่รู้ว่า 'นาง' ทำอะไรกับ ภัทร บ้าง... ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับ ภัทร บ้าง... ที่ผมรู้มีเพียงเรื่องเดียว
'ผมต้องได้ ภัทร คืนมา..ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม...และ...ไม่ว่าจะเป็น ภัทร คนไหน ก็ตาม... '

" เหี้ยเฮ้ย!"

ไอ้เหี้ยมมันสบถหัวเสียพร้อมถุยลิ่มเลือดที่ค้างอยู่ในกระพุ้งแก้มลงพื้น ห้องชั้นสองเละจนไม่เหลือสภาพ หลังจากการตะลุมบอนกันด้วยตีนและหมัดล้วนๆ 
...สองต่อสี่ ไม่ต้องเดาผล... ผมเสีย ภัทร ให้ ไอ้ยักษ์นั่นไปอีกครั้ง...
ผมนั่งนิ่ง สมองมันมีแต่ความคิดวนเวียนไปมา ทำไมไอ้ยักษ์มันรู้ว่า ภัทร อยู่ที่นี้ ทำไมมันมีกลิ่นเดียวกับยักษ์ที่บานประตูนั้น ...
และทำไม ...มันถึงได้ กอด ภัทร อย่างนั้น ....

"เฮ้ย! จะไปไหนไอ้หมอ?"

ไอ้เหี้ยมมันทักทันทีที่เห็นผมพยุงตัวลุกขึ้นและเดินกะเผลกตัวจะออกจากห้อง  ไอ้นี่ก็อีกตัว... มันจับมือ ภัทร ไว้ตลอดตอนที่ ภัทร หลับ .... มีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่รู้ ถึงจะพอเดาอะไรได้บ้างแต่มันก็ไม่ทั้งหมด ...ไอ้พวกนี้เป็นห่วง 'ภัทร' ...นั่นแสดงว่า 'ภัทร' อีกคนยังหลับอยู่สินะ
...เสียงหัวใจที่ผมได้ยินในร่างใหม่ของ ภัทร  มีแค่เสียงเดียว...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ....ภัทร อีกคนอยู่ไหน ? ผมเดินลงมาจากชั้นสองโดยไม่มีคำตอบอะไรที่ให้เจ้าของห้อง
 บางเรื่องที่ผมไม่รู้ อาจจะมีอีกคนที่รู้ 'นักทำนาย'  ที่ กล้าหลอกให้ผมเอา ภัทร ไปให้ พวกยักษ์ นาคาที่แปรพรรค...ไปอยู่ใต้คำสั่ง สุระ 
'จริ้งจง นกรู้ที่ชื่อจรินทร์ '   
..............
............................

"จรินทร์ ..อยากได้ พี่ตรินทร์ ที่อยู่ในตัว ภัทร ของ หมอ คืน... เหมือนที่หมอ อยากได้  ภัทร ที่อยู่ในร่างพี่ตรินทร์ ... ตอนนี้ 'นาง' กำลังย่ามใจในชัยชนะจนได้แต่เฝ้ารอวัน 'แต่งงาน' ถ้าหมอจะทำอะไรก็ทำ...ทำก่อนที่ 'นาง' จะรู้ตัว... 'ภัทร' คนนี้ไม่เหมือน ภัทร ที่นางเคยเจอ ...บางที 'ภัทร' ของหมอ อาจไม่ใช่ ภัทร ของ นางก็เป็นได้ ... ถ้าหมออยากได้ ภัทร คืน หมอก็ลองปลุก ภัทร คนนั้นขึ้นมาสิ ... มันอยู่ที่หมอ ...ว่าหมอกล้ารึเปล่า? "

คำท้าทาย จาก นกรู้ ยิ่งยั่วอารมณ์....ไม่รู้ว่าผมคิดผิดหรือคิดถูกที่เลือกที่จะมาถาม 'จริ้งจง' แม้คำตอบที่ได้ จะไขข้อข้องใจ แต่ก็มีบางอย่างที่ขัดอารมณ์
...จริ้งจง อย่าง จรินทร์ แปรพรรคเป็น คนของ สุระ เพียงเพราะต้องการ ตรินทร์ เจ้าของ ร่างที่ ภัทร ใช้อยู่ ...เด็กหนุ่มที่เคยนอนนิ่งอยู่ข้างผม เป็น ภัทร ผมไม่ได้โกหกตัวเอง... หากแต่ไม่อยากรับรู้ เรื่องที่เคยคิด... 'นาง'  กำลังจะแย่ง ภัทร ไปจากผม... อีกครั้ง... 
   หัวใจมันเต้นแรง...ปลายนิ้วมันเย็นไปหมดเมื่อคิดถึง ภัทร อีกคนที่ผมรู้จัก แววตาวาวสีแปลก กับคำพูดที่เหมือนเป็นคำสั่ง ภัทร อีกคนที่ ทำให้ ภัทร ของ ผม ต้องใช้ยากดประสาทเพื่อ ขังเธอไว้ ... ภัทร อีกคนที่เป็นเหมือน กองไฟ ...
...การที่ ภัทร เข้ามาอยู่ในร่าง ตรินทร์ ได้ ทุกอย่างมันเห็นได้ชัดอยู่แล้ว นาง กำลังจะ รับชัย... ชัยชนะ ที่เดิมพัน ด้วยชีวิต คนที่ผมรักที่สุด  ... สำหรับผม มันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว คำตอบที่ผมได้มาจาก จรินทร์  ทำเอาผมแทบหมดแรง...ตอนนี้  ภัทร กำลังแทนที่ใครบางคน ... ส่วน ภัทร 'อีกคน' กำลังโดนขังอยู่ที่ไหน สักแห่ง... 'มลทินอันเจ้าเล่ห์'  ของปราณนั้น โดนขังอยู่ที่ไหนสักแห่ง ....
...มิน่าหล่ะ เจ้าพวกนั้นถึงได้เป็นห่วง ภัทร เป็นเพราะยังไม่เคย จอ ภัทร อีกคนสินะ....
..............
............................

   ผมยกโทรศัพท์ที่ไม่เคยได้ติดต่ออะไรนอกจากเรื่องงาน และเรื่อง ภัทร  ขึ้นมากดหาเบอร์ๆ หนึ่ง ...นอนนิ่งอยู่นาน เพื่อทำใจ เรื่อง ภัทร ผมไม่รู้ว่าผม รัก ภัทร คนไหน แต่อย่างเดียวที่ผมรู้ ...ผม.....รู้ตัวดีว่าผมกำลังจะทำอะไร...

"กูกลับมาบ้านแล้ว ..มีธุระต้องทำ...เคี้ยม...มึงยังอยู่ที่คอนโดฯเดิมใช่ไหม?...เอ่อ...เดี๋ยวกูส่ง  'ยา' ไปให้ ..."

ไม่ผิดใช่ไหม ...ถ้าผมจะยอมจุดกองไฟขึ้นเอง จุดโดยใช้ชีวิตหนึ่งชีวิต เพื่อแลกกับความทรงจำทั้งหมดของ ภัทร  ...
.....ผม...กำลังจะปลุก..
...ภัทร อีกคนขึ้นมา .. 
..ภัทร ที่มีวิญญาณของ ตะบองพลำ.....
..............
............................



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!67 # Don't run away from me[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 23:51:55
บทที่ 67 # Don't run away from me...ชั่วนิรันดร์ จนชาชิน

   ความรู้สึกเสียววาบ มันเข้ามาพร้อมแสงสว่างสีขาวโพลน ....ชาจนเหมือนไร้ความรู้สึก.. ช่วงเอวที่เหมือนถูกตรึงไว้กับ แท่งเหล็กสีเงินที่ฝังลึกลงผิวเนื้อ... ความชื้นปนลื่นของของเหลวสีแดงที่ไหลทะลักออกมาจากร่าง...เจ็บจนแทบจะแหลกสลาย ...เหน็บหนาวจนความเยือกเย็นนั้นมันแทรกเข้าไปถึงกระดูก...ความทรมานไม่ได้เกิดมาจากร่างกาย แต่มันเกิดมาจากก้นบึ้งของหัวใจ... ในตอนนั้น น้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว .....
........................
........

.........ความทรมานมันตามมาหลอกหลอนแม้แต่ในความฝัน...
...สิ้นจากเสียงสายฟ้าที่ฟาดลงมา เสียงกรีดร้องของเด็กสาวก็ดังขึ้นแข่งกับเสียงลมพายุฤดูร้อนที่โหมพัด

“ย่า !ย่า ! ช่วยภัทรด้วย! ย่าจ๋าช่วยด้วย !”

...หญิงชราร่างใหญ่ ได้แต่โอบกอดร่างอันสั่นเทาของเด็กสาวไว้ มือใหญ่ถูกจับให้กุมช่วงเอว ที่เย็นเฉียบ

“ตรงนี้ ! ย่าจ๋า ! เขาแทงภัทร ตรงนี้ ! ตรงนี้ ! เขาไม่รัก ภัทร! แล้ว เขาทิ้งภัทร แล้ว ...เหมือนกับที่ป๋ากับมี้ทิ้ง ภัทร ....ไม่เหลือใครอีกแล้ว ...ภัทรเจ็บ ...ย่าจ๋า...ภัทรเจ็บ...เจ็บ ...ตรงนี้ ...”

เสียงกรีดร้องสลับกับเสียงพร่ำเพ้อ เด็กสาวทิ้งตัวโน้มเข้าหาอ้อมแขนใหญ่ของผู้เป็นย่า...ที่พึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ... ที่ซ่อนเดียวที่กำลังจะหายไป...ในวันรุ่งขึ้น...
..............
............................

“ปล่อย ภัทร ...ไป....เด็กคนนี้ไม่ใช่คนของเรา ..... ปล่อย ภัทรให้พวกนาคาไป....ทายาทของตระกูลเกิดขึ้นมาแล้ว...สุรไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เชื้อสาย นาคา ....”

ประโยคนั้นชัดเจนในความรู้สึกของเด็กแปดขวบ แม้จะไม่เข้าใจในความหมาย แต่ย่าใหญ่ที่เคยเป็นเหมือนที่พึ่ง กำลังตัดสายใยทุกอย่างลง....ประตูบ้านใหญ่ถูกปิดลงตรงหน้าเด็กสาว.... เอกสารการส่งตัวเข้าโรงเรียนประจำ ถูกขยำจนยับคามือ ไม่มีอีกแล้วบ้านที่ให้ซ่อน...เมื่อย่าใหญ่เจ้าของอ้อมกอดอันอบอุ่น เป็นคนเอ่ยปากผลักไสหลานสาวตัวน้อย.....
..............
............................

‘ป๋ากับมี้ รักกันมาตั้งแต่ เด็ก...ไม่เคยทะเลาะกันเลย.... ’

แล้วไง? สุดท้ายมันก็ลงเอยด้วยการหย่าร้าง และ การไม่พูดจา บ้านสองบ้านไม่เคยเข้าหน้ากันติดนับจากการแยกทาง ของ ป๋ากับมี้ ...
‘เพราะเป็นหลานผู้หญิงคนเดียวของบ้าน และเป็นหลานคนโต ถึงได้เป็นหลานที่ย่าใหญ่รักที่สุด’
แล้วไง? สุดท้ายพอหลานชายอีกคนเกิด...ฉันก็โดน ย่าใหญ่ส่งเข้าโรงเรียนประจำ หลังจากนั้น....ประตูบ้านใหญ่ก็ไม่เคยเปิดรับฉันอีก.....
..............
............................

...ทุกอย่างมันเหมือน เครื่องย้ำเตือนคำว่า ชั่วนิรันดร์ มันไม่มี ไอ้ความรู้สึกที่เรียกรักว่าผูกพันธุ์ก็ด้วย เวลามันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอก เมื่อสุดท้าย ...ก็ต้องอยู่คนเดียว ....
..............
............................

อย่าได้หวัง เมื่อความหวังมันทำร้ายทุกผู้ที่มีหวัง....
.........................
..............

....ความรู้สึกเสียววาบ มันเข้ามาพร้อมแสงสว่างสีขาวโพลน ....ชาจนเหมือนไร้ความรู้สึก ช่วงเอวที่เหมือนถูกตรึงไว้กับแท่งเหล็กสีเงินที่ฝังลึกลงผิวเนื้อ... ความชื้นปนลื่นของของเหลวสีแดงที่ไหลทะลักออกมาจากร่าง...
ฉันไม่ได้กรีดร้องหรือ สั่นกลัว .....น้ำตามันไม่เคยไหล ออกมานับจากวันนั้น...         กลิ่นหวานเอียนของคาวเลือดที่ขึ้นจมูก ความเจ็บที่เริ่มไล่มาจากช่วงเอว ความชื้นที่ค้นเหนียวที่เริ่มไหลลามออกมาจากแผลนั้น .....ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเพียงความฝัน
..............
............................

..แต่...ฉันก็ทิ้งทุกอย่าง เพื่อ...
........ค่อยๆ ซึมซับมันช้าๆ ......ให้มันเจ็บ..
...
.
..จนชาชิน......

“ภัทร ....เจ็บไหม?”

เสียงทุ้มของคนข้างๆ ดังปลุกมาพร้อมอ้อมกอดอุ่น ..... ดวงตาสีเงินวาวในความมืดส่องสว่างจนเหมือนเป็นแสงสว่างสุดท้าย.... ที่เหลืออยู่บนโลก ....แสงสว่างของไฟฟ้า ถูกดับลงด้วยพายุฤดูร้อนที่แวะเวียนมาอีกครั้ง ... มือใหญ่ของ..เพื่อนสนิท..ที่กลายมาเป็นคู่นอนชั่วข้ามคืน... ลูบเบาๆที่ช่วงเอว...ผ่านเนื้อผ้าเนียน ....ภัทร กดมือใหญ่นั้นให้แน่นเข้ากับตัว มือที่เหมือนเป็นผ้าปิดแผลที่มองไม่เห็น....

“ไม่เป็นอะไรหรอก ...แค่ฝันร้าย...เราละเมอหรือ ? อายหมอหว่ะ...”

ไม่มีเสียงตอบจากเจ้าของแววตาสีเงิน...นอกจากอ้อมกอดอุ่นที่กระชับแน่นเสียงหายใจเบากว่าเสียงเต้นของหัวใจ ...
….แต่มีอีกเสียงที่ ภัทร ไม่อาจได้ยิน ....
..........
เสียง....
คำขอโทษ ของคุณหมอ...เอ่ยซ้ำๆในทุกอณูของความรู้สึกแต่ไม่เคยได้เอ่ยออกมาจากปาก....
........................
..............
‘จะต้องซ่อนให้พ้น.... หากต้องให้ตนผู้นี้เสียใจอีกครั้ง....สู้ทำให้หายไปมิดีกว่ารึ... ’
…………..
..
ไม่เลย...
...การที่องค์หายไป.....มันแสนทรมาน...................
...........การรอคอยที่ไร้จุดหมาย....
...
ขอโทษ...ข้าขอโทษ.....ข้าเจ้าขอโทษ....
...............
....ขอโทษที่ทำองค์เจ็บ ขอโทษที่ทำองค์ท่านทรมาน....
...................จะไม่เกิด...เรื่องอย่างนี้อีกแล้ว ....ข้าเจ้าจะ ....อยู่เคียงองค์ .......จักมิทิ้งองค์ไว้ลำพังอีกแล้ว ...
......
............จักมิให้มันผู้ใดทำร้ายองค์ได้อีกแล้ว.......
จักต้องซ่อนให้ลึกที่สุด ...ซ่อนไว้ ให้ลึกเท่าลึก ....ซ่อนปราณนี้ไว้ ...ปิดบังด้วย ปราณแห่ง มลทิน ... อำพันเม็ดนั้น คือ ...คำตอบ...
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!68 # ภัทร [P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 04-05-2012 23:54:30
บทที่ 68 # ภัทร

   ถึงจะบอกให้เดินตาม แต่ที่ทำได้คือหยุดอยู่แค่นั้น...ก็จะทำไงได้เมื่อ หมาดำตัวใหญ่มันนอนขวางอยู่หน้าประตูบ้าน คนที่บอกว่าเป็น ‘เจ้าของบ้าน’ ก้มลูบหัวสัตว์เลี้ยงสีนิล เหมือนมันเป็นลูกหมาแสนเชื่อง คิงส์ ได้แต่กลืนน้ำลาย ...ก็ภาพที่ตนเห็น หมาใหญ่ตัวนั้นมันมี สองหัว. และอีกหัวหนึ่งตอนบนมันหายไปเกือบครึ่งแถบ...แล้วหัวที่หายไปเกือบครึ่งนั้นหล่ะ ที่กำลังแยกเขี้ยวขู่ คิงส์ แถมด้วยเสียงคำรามที่ เจ้าของบ้านไม่ได้ยิน ...

“หมาสองหัว ?”

‘แขก’ อย่างคิงส์ เหมือนอดไม่ได้ที่จะทัก สัตว์ประหลาด แต่คำตอบที่ได้กลับมา แปลกยิ่งกว่า

"เหรอ...แล้วไง ...กระป๋อง มันน่ากลัวมากกว่า จระเข้ในร่างคนหรือ?"

ถึงน้ำเสียงเรียบหวาน  จะเหมือนประโยคลอยๆมากกว่า การประชดประชัน แต่ มันก็ทำเอาหน้าชาไม่น้อย

"มึงรู้หรอ? เรื่องกู..."

ไม่มีคำตอบนอกจากรอยยิ้มเยาะ มือเย็นลูบหนักๆที่หลังหมาสีดำอีกครั้ง ก่อนจะดันตัวให้ลุกขึ้น เจ้าหมาตัวใหญ่ลุกหลีกทางพร้อมกับเดินล้อมหน้าล้อมหลัง หางพวงใหญ่ของมันกระดิกสั่นจนกลัวว่าหางจะหลุด…
และที่น่ากลัวกว่านั้น ....เหมือนคนที่เอ่ยออกมาเองว่า ตัวเองเป็น ‘เจ้าของบ้าน’ จะไม่สนใจหรือรับรู้อะไรกับความผิดปติที่เกิดขึ้นในและนอกตัวบ้าน สักอย่าง....
   ทันทีที่เข้ามาถึงภายในตัวบ้าน โซฟาตัวใหญ่ก็ตกเป็นเป้าหมาย เหมือนเคยชิน....มือเย็นปล่อยออกจากข้อแขน คิงส์ แล้วทรุดนั่งเอนทิ้งตัวนอนทอดยาวไปกับโซฟา....เงาดำที่ ปรากฏเป็นรูปร่าง เคลื่อนผ่านไปรอบผนังบ้าน  เสียงหัวเราะคิกคัก ดังแทรกอยู่ในเสียงกิ่งไม้ไหวลม....เหมือนฝูงแมงเม่าทักทาย เปลวไฟ... หากแต่เงาดำทะมึนเงาหนึ่งกลับหยุดนิ่งเหมือน คอยจับตาเฝ้าดูผู้มาเยือน...

“น้ำผึ้งในตู้เย็น....แล้วก็เรียกไอ้หมอที่อยู่ในห้อง.. ให้ด้วย...ชั้นสองไม่ต้องขึ้นไป...นั่นห้องส่วนตัว...บ้าเอ้ย!! ปวดหัวชิบ... นางฟ้า... ทำสัดอะไรกับหัวฉันเนี้ย ! ”

เหมือนหมดแรง...
เจ้าของบ้านที่ทิ้งตัวนอนยาวไปกับโซฟา บ่นพรึมพำแถมโบกไม้โบกมือชี้ไปที่ทิศทางของตู้เย็น เหมือนสั่งงาน...

“.....”

...ไร้การตอบสนอง ก็ แขกอย่าง คิงส์ ไม่เคยถูกใช้ ไม่สิ เรียกได้ว่าไม่เคยมีใครกล้าใช้มากกว่า... คนบนโซฟาเงียบเหมือนรอของที่สั่ง...แต่พอมันเงียบสนิทไร้การตอบสนองแถมอาการปวดหัวยังคอยเล่นงานไม่ยอมหยุด... อารมณ์เหวี่ยงมันเลยเกิดขึ้นอีกครั้ง....

“....’โทษ ทีนะ ...แต่ช่วยทำตามที่บอกหน่อย หยิบน้ำผึ้งในตู้เย็น....แล้วก็เรียกไอ้หมอที่อยู่ในห้องถัดไป... ให้ด้วย...ชั้นสองไม่ต้องขึ้น...นั่นห้องส่วนตัว...อย่าให้พูดซ้ำ ...ปวดหัว..”

เหวี่ยงได้เรื่อง...หมดท่าทีที่เย็นชา ตอนนี้ ‘เจ้าของบ้าน’ ทอดตัวยาวนอนนิ่งอยู่บนโซฟา...เปลือกตานั้นปิดสนิท แต่คิ้วที่ขมวดชนกัน...นั่นพอทำให้คิงส์เคลื่อนไหวได้บ้าง ...
...เคลื่อนไหวไปหยิบขวดสีชาในตู้เย็นส่งยื่นให้ ‘คุณเจ้าของบ้าน’ แล้วเดินย้อนกลับไปอีกครั้งเพื่อเปิดห้องสีเทา ......เรียก ‘เจ้าของบ้านอีกคน’

.... โดยไม่ต้องเคาะให้เสียเวลา ........ร่างใหญ่ของ ‘เจ้าของบ้านอีกคน’ เดินโซเซออกมาจากห้อง ... สภาพนั้นไม่ต่างจากวันแรกที่เจอเท่าไหร่ รอยเขียวช้ำปรากฎอยู่แทบทุกส่วนที่โผล่พ้นเนื้อผ้า... แต่มีออฟชั่นเสริมก็ตรง ผ้าพันแผลที่ยึดท่อนแขนไว้กับ ลำคอ ....แววตาสีเงินวาว มีหวั่นเมื่อมองมายังร่างบนโซฟา....แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม...รอยยิ้ม...กว้างที่แม้แต่เพื่อนสนิทอย่าง คิงส์ ยังไม่เคยเห็น ‘รอยยิ้มของสมิง?’

น้ำผึ้งในขวดแก้วถูกกระดกดื่มอึกใหญ่ ....ความเหนียวหนืดจากรสชาติหวานของน้ำผึ้งป่า และความเย็นจากขวดแก้วที่แช่เย็น พอลดแรงบีบของขมับที่ส่งตรงมายังคนที่นอนบนโซฟาได้บ้าง... แววตาสีแปลกฝืนเปิดลืมพร้อมๆกับหันไปหา ร่างช้ำ...

“ไง คุณหมอ? คิดถึงกันป่ะ?”

....แทนคำตอบ คุณหมอเจ้าของบ้านเดินเข้ามาแล้วทรุดนั่งใกล้ๆโซฟา......มือที่มีแต่รอยเขียวช้ำ ค่อยๆ ไล้ลูบหน้าผากมน ก่อนจะบรรจงจูบเบาๆที่หว่างคิ้ว..
.........................

.... ริมฝีปากเย็นถูกปิดทับด้วยความร้อนของริมฝีปากคุณหมอเจ้าของบ้าน...อ้อมกอดจากวงแขนใหญ่...โถมหาร่างที่ทอดยาวไปกับโซฟา ...มันแน่นจน..เหมือนจะไม่ปล่อยให้คนข้างใต้นั้นหลุดไปไหนอีก ....

...แต่ที่ยิ่งทำให้คนมองเครียด ..ก็ต้องไอ้คนที่นอนบนโซฟา มันโน้มดึงเพื่อนหมอมาจูบตอบอย่างไม่อายหน้าอินทร์หน้าพรหม.. ไม่อายกระทั้ง ‘แขก’ อีกคนที่ยืนอยู่ด้วย .....

....ทิ้งให้แขก อย่าง คิงส์ได้แต่ยืนงง กับเหตุการณ์ ทั้งหมด....
..............
............................
‘....เฮ้ย ! ไอ้ที่มันจูบกันอยู่นั่น เหี้ยหมอ... กับ...

.. ไอ้ภินทร์แฟนกูนะ!? ’
..............
............................

“ภินทร์....ที่มึงจูบอยู่นั้น ไอ้หมอนะ..”

“.......... แล้วไง?”
..............
............................

“แล้วไง? ”
ไอ้คนที่กำลังทำให้ผมเดือดอยู่นี่มันเอียงคอถาม แบบหน้าตายได้อีก... มือเย็นที่เคยกุมมือผมให้เดินเข้ามาในบ้านนี้ด้วยกัน ตอนนี้กำลังไล้ลูบยากลิ่นแปลกทาลงบนแผ่นหลังให้ไอ้หมอ ไอ้แพทย์ไร้จรรยาบรรณ !ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยม !
...ที่ตอนนี้มันลงไปนอนหนุนตัก ไอ้ภินทร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

“แล้วไง?....?!
…..แล้วไง ?! ถามมาได้ไอ้สัด ! มึงเป็นคนของกูนะ! แล้วมึงทำเหี้ยอะไรกับไอ้หมอเหี้ยนี้! ต่อหน้าต่อตากูเลยนะ....! ”

ผมหลุดไปแล้วครับ...ได้แต่ตะโกนโวยวาย สมเพชตัวเองชิบ! ตอนนี้ผมเหมือนจับได้ว่า     ‘เมีย’ ตัวเองมีชู้ แถม ‘ชู้’ ยังเป็นเพื่อนสนิทของผม! ผมไม่เคยง้อใคร ไม่เคย แม้แต่จะคิด... เรื่องหึงเรื่องหวงไม่เคยอยู่ในสมอง แต่กับเหตุการณ์ตอนนี้ ผม ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผมกำลัง ‘หึง!’ และในไม่อีกกี่นาที จาก ‘หึง’ มันจะเปลี่ยนเป็น คำว่า ‘หวง’ ที่พร้อมจะแปลสภาพเป็น แรงกระทืบใครบางคนได้ไม่ยาก!

ไอ้ใครบางคนที่ตอนนี้มันเอียงคอมองหน้าผมแบบไร้อารมณ์สุดๆ....
ส่วน ...ไอ้สมิงเหี้ยนั่นตอนนี้มันรั้งกอด ไอ้ภินทร์ ไว้เต็มตัว...พื้นที่บนโซฟา เหมือนไม่มีที่ให้ผมสักนิด ! ....ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ต้องเกรงใจกูก็ได้ พวกมึงไล่กูกลับแล้ว ปิดบ้านซั้มกันไม่ดีกว่าหรือ?! ....
.......ได้แต่คิด ....ถ้าลองพวกมันทำอย่างนั่นจริงๆ ถามว่าผมยอมไหม?........กับคนอื่น ผมอาจจะกระทืบแล้วขับรถกลับบ้าน ทิ้งซากพวกมันไว้ที่นี้ ......
.......
....แต่กลับไอ้เหี้ยแสบจอมทำร้ายจิตใจ สัตว์เลือดเย็นอย่างผม ....บอกตามตรงว่าผมทำไม่ลง...ทำไม่ได้แม้แต่จะขับรถกลับออกไปตอนนี้ด้วยซ้ำ.....ตกต่ำ...ที่สุดในชีวิตผม ก็ตอนนี้หล่ะ....คำถามที่ผมตอบตัวเองไม่ได้ ...ทำไมผมถึงยังอยู่ที่ตรงนี้?....
..............
............................

เขาว่ากันว่า พวกสัตว์สี่เท้าจะอ่อนแอที่สุดก็ตอนอยู่กับเจ้านาย ....ผมว่าท่าจะจริง ...   ไอ้หมอมันดูโคตร ขี้อ้อน ตอนเจอ ภินทร์ และไอ้อาการอ้อนของมันก็สะกิดเส้นเอ็นที่ปลายเท้าผมได้เป็นอย่างดี ! เกินอดทน...ถ้าตอนนี้ทั้งโลกมีแค่ไอ้สองตัวนี้ก็แค่นั้น!

หมดหล่ะความอดทน ! ผมจะกลับ !
..............
............................
... เหมือนไอ้ภินทร์ มันรู้...พอผมจะก้าวเท้าออกมา เสียงหวานแปร่งๆก็เอ่ยดักไว้แล้ว

“...คิงส์...ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ออกไปซื้อน้ำผึ้งให้ทีสิ เอาเกสรผึ้งด้วย อย่างละสอง เสร็จแล้วแวะมารับด้วย ส่วนนายจะไปซื้อที่ไหน ...ก็ตามใจ แต่ถ้านายกลับมา....ฉันต้องได้ ของที่สั่ง ....”

มันยังสั่งผมได้อีก ! สัด! หยามกูเกินทนหล่ะ แล้วไง?! แล้วไงได้... ผมเดินออกมาจากตัวบ้าน เสียงหัวเราะคิกคักดังไล่หลังออกมา ... ไอ้พวกผีไร้ญาติ ไอ้พวกแมงหวี่แมลงวัน ! ขึ้นมานั่งสงบสติอารมณ์ในรถสักพัก ผมถึงได้ มีแรงขับรถ....

...ขับ..ออกไปซื้อของที่ ภินทร์มันสั่ง.... เขาว่ากันว่า พวกนาคาบางตนมีเวทย์มนต์ ประเภทคำพูด ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ...ถ้อยคำที่สามารถสั่งการณ์หรือโน้มน้าวคนอื่นได้ ....ไอ้ ภินทร์ ก็เป็นนาคาใช่ไหม? ...

“...”

...คงไม่ใช่มั้ง....
…แล้วระหว่างขับรถ ผมก็เพิ่งคิดได้...ภินทร์ มันรู้จักกับ ไอ้สมิงตอนไหนนะ ?  ทั้งๆที่ ตอน ภินทร์ มันใกล้ตาย ไอ้สมิงเองยังเกือบจะใช้ พวก ศุภะ ฆ่ามัน ...แต่หลังจากนั้น ไอ้สมิง มันกลับยอมสู้ถวายชีวิต ให้ ภินทร์ ...

...มัน มีเรื่องอะไร ที่ผมยังไม่รู้อีกหรือเปล่า ? ไหนจะบ้านหลังนั้นอีก... พื้นที่ส่วนตัวที่เหมือนเป็น เขตพิเศษ ...ไอ้หมาดำสองหัวนั้น...ปกติ ...พวกอมนุษย์ใช้สำหรับ
......
..การอารักษ์ ‘สิ่งสำคัญ’ ไม่ใช่หรอ ?

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้!69 # You Wrong ภัทร อีกคน[P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 05-05-2012 00:01:23
บทที่ 69 # You Wrong  ภัทร อีกคน

“หมอ....รู้ไหม? เจ้าของร่างเนื้อนี้ ชื่อ ‘ตรินทร์’ ภัทร เจอ ตรินทร์ คนนั้นแล้ว แถมยังรับปากเรื่องบางเรื่องไปแล้วด้วยสิ... "

   ประโยคลอยๆดังแว่วออกมา แม้จะทำเหมือนไม่ได้ยิน....แต่ทุกคำที่หลุดออกมาจากริมฝีปาก ‘ภัทร’ ไม่มีคำไหนที่คุณหมอปล่อยผ่าน...ยิ่งเป็น ภัทร คนนี้ด้วยทุกคำยิ่งสำคัญ วงใหญ่โอบกอดช่วงเอวของเด็กหนุ่มไว้แน่น...
ใบหน้านั้นซุกเข้ากับแผ่นหลังกว้างจนเหมือนจะจมเข้าผิวเนื้อคนข้างหน้า อยากสูดกลิ่นของ ภัทร ... 
...กลิ่นหอมแปลกประจำตัวที่เคยกลัว ทำไมตอนนี้มันรู้สึกโหยหาอย่างบอกไม่ถูก...

"หึ! เราไม่เคยรู้นะ ภัทร คนนี้เคยสนใจ เรื่องคนอื่นด้วยเหรอ?"

"ไม่สนใจไม่ได้หรอก...เด็กนั่นคือ 'ตรินทร์' และคนที่ตรินทร์ รัก คือ 'โฆษิต'...แค่สองคนนั่น เท่านั้นที่สำคัญ... "

"คิดจะทำอะไร อีก ภัทร ?"

"...คิดว่า... ถึงคราวแล้วที่ทุกอย่างมันควรจะเป็นอย่างที่มันควรเป็น ...  "
..............
............................








“...ขึ้นไปชั้นสองก่อน คิงส์...เดี๋ยวฉันตามไป ตอนนี้มีเรื่องจะคุยกับหมอ...”

“...”

ไอ้คุณภินทร์ มันไล่ผมทันทีที่กลับมาถึง ..ไอ้หมอขมวดคิ้วมองหน้าผม มันขยับปากเหมือนจะพูดอะไร แต่พอ ภินทร์ ก้มลงกระซิบอะไรบ้างอย่างที่ข้างหู มันถึงได้นิ่ง แต่แววตาวาวยังคงจ้องมองผม เหมือนว่าผมกำลังจะก้าวเข้าเขตพื้นที่ส่วนตัวของมัน...พื้นที่ที่มันไม่อยากให้ผมเหยียบ...
....ทันทีที่ขึ้นมา...กลิ่น...หอมแปลกที่ผมว่าคุ้นก็คุ้น แปลกก็แปลก ลอยฟุ้งอยู่หน้าห้องชั้นสอง ...บ้านไม้สองชั้นแต่ประตูห้องชั้นสองกลับเป็นประตูเหล็กจารอักษรสลัก ....โซ่เส้นใหญ่ยังคล้องล่ามที่บานประตูด้านหนึ่ง
   ...ภินทร์เดินตามขึ้นมาแล้วจูงมือผมให้ก้าวตามเข้าไปในห้อง ....สิ่งแรกที่รู้สึกจากห้องนี้ กลิ่นที่ว่าคุ้น น่าเป็นกลิ่นดอกบัวจากสระบัวที่อยู่ด้านหลังตัวบ้าน ส่วนกลิ่นอีกกลิ่นเป็นกลิ่นหอมเอียนของยา....และกำยาน ...
ท่ามกลางความเงียบผมไม่ได้อยู่ในห้องนี้สองคนกับ ภินทร์ บนเตียงไม้กว้างมีใครบางคนนอนอยู่ด้วย... ใครบางคนที่ไม่มีแม้กลิ่นของลมหายใจ... ไม่สิ... มันไม่ใช่ใครสักคน หากแต่นั่น เป็นเพียงแค่ร่าง มากกว่า…

“ภินทร์?”

แววตาสีแปลกของมันเงยมองผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็น หยิบคว้าขวดเกสรผึ้ง ไปเปิดและกรอกเข้าปาก ...ส่วนน้ำผึ้งที่ได้มาใหม่ มันเปิดขวดและรินน้ำผึ้งเหนียวเข้าปากตามไปอึกใหญ่ ..... ภินทร์วางขวดน้ำผึ้งและเกสรนั้นลง พร้อมๆกับหันมาหาผม

“มันไม่ได้ อร่อยอย่างที่ นาย คิดหรอก ... ถ้าเลือกได้ ฉันอยากกินเนื้อย่างมากกว่า ...แต่มันเลือกไม่ได้นี่น่า... ถึงยังไงมันก็ไม่แย่นักหรอก.....เอาหล่ะ ฉันคุยกับไอ้หมอรู้เรื่องไปแล้ว ทีนี่ก็กับนาย ...ฉันจะอธิบาย แบบง่ายๆ และให้เห็นภาพ ...ในห้องนี้มีคนที่ฉัน ‘รักที่สุด’... ‘ยังรัก’ และ ‘คงรัก...’ คิงส์......ที่นอนอยู่นี่ คือ 'ภัทร '....คนที่ฉันพูดถึง ...”

ภินทร์มันชี้นิ้วไปที่ร่างที่นอนนิ่ง แววตาสีแปลก หลุบลงต่ำกว่าปกติ ผมได้แต่มองตามมัน บนที่นอนกว้างผู้หญิงคนหนึ่งนอนนิ่ง แต่แรงกระเพื่อมเบาๆที่อกก็พอส่งสัญญาณได้ว่า ร่างนั้นยังหายใจ แม้จะไม่มีกลิ่นของ 'ชีวิต' ก็ตาม

“ยังไม่ตาย...แค่ไม่มีวิญญาณ...”

ภินทร์ มันปรายตามองผม แล้วขึ้นมานั่งบนเตียงนอน ก่อนค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากเธอคนนั้น จากสัมผัสเบา...ปลายนิ้วมันไล้ลาก แล้วลูบเบาๆที่เนินอกสีนวล และทำท่าจะลากยาวต่อไป...
เฮ้ย !
ผมกำลังจะห้ามแต่ไอ้ตัวดีมันดันถอนปากมันออกมาเสียก่อน....ภินทร์ เช็ดปากตัวเองกับค่อยๆบรรจงใช้ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากร่างที่นอนนิ่ง อย่างแผ่วเบา..

“ไม่คิดไม่ฝัน...ว่าจะได้จูบตัวเอง...หลับไปสักพักนะ ภัทร ... อ้า...ไม่สิ ตอนนี้ ต้องเรียก 'ภินทร์' สินะ... ”

มันพรึมพรำอะไรไม่รู้ ส่วนผมนิ่งไปแล้ว... ไอ้สัดนี่...กับร่างที่นอนนิ่งอย่างนี้ยังไม่เว้น! ถึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่นอนอยู่นี่ดูยั่วจริงๆก็เถอะ แต่แบบนี้มันเกินไป... นั่นยังไม่หยุด ปลายนิ้วมันไล้ที่ริมฝีปากอิ่มแล้วมาหยุดอยู่ที่ เนินอกข้างซ้าย ... ปลายเล็บเกี่ยวดึงเสื้อลูกไม้ตัวบางแล้ว ก้มลงจูบที่เนินสีอกนวล บนเนินอกนั่น ถ้าผมตาไม่ฝาดมันมีรอยสักรูปอะไรบางอย่างบนเนินอกนั่น...และเหมือนกำลังคิดอะไร ภินทร์ มันก้าวยาวๆไปปิดประตูเหล็กแล้วถอดเสื้อคอวีที่ใส่ออก พร้อมๆกับเดินมาหาผม ปลายนิ้วมันกดลูบ จนบริเวณไหล่มาถึงแผ่นอกข้างซ้าย จนเป็น รอยแดงระเรื่อ...

"มันไม่ใช่ 'ฉัน' เลย คิงส์ ฉันอยากได้ 'ตัว' ของฉันคืน ช่วยหน่อยสิ"

ทั้งห้องเงียบ ....ผมได้แต่มองหน้ามัน ยั่วเกินไปหล่ะ กับท่าทางแบบนั้น ... วงแขนเย็นของมันโอบกอดรอบคอผม แล้วทิ้งน้ำหนักทั้งตัวให้ ทับลงมา พาเอาตัวผมนอนราบไปกับโซฟา ...ที่ตั้งอยู่ข้างเตียง..

“คิงส์ ถ้า ...ฉัน ‘ไม่ใช่’ ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ใช่ทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ใช่ทั้งเป็นพวกมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต เป็นทั้งคนที่นายรู้จักและเป็นทั้งคนแปลกหน้า เป็นทั้งมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์...เป็นทั้งคนที่นายรักและนายกลัว .คิงส์...นายยังจะรักฉันอยู่ไหม?....”

แววตามันจ้องมองผมไม่กระพริบ ตอน  มันร่ายยาวเกี่ยวกับคำถามแปลกประหลาด 

"หึ!...ถ้ามึงเยอะขนาดนั้น เข้าใจยากขนาดนั้น อย่าว่าแต่กูเลย ต่อให้คนอื่น กูว่ายากหว๊ะที่จะมีใครรักมึง "

จบคำตอบของผม ภินทร์ มันนิ่งมองหน้าผมแล้ว ยิ้มหวานจนตาหยี่ ก่อนจะซบหน้าลงมาที่ซอกคอผม พร้อม กระซิบ ข้างหู...

"นายตอบผิดอ่ะ คิงส์ ...นายจะยังรักเรา และไม่ใช่ มีแค่นายที่จะรัก....ถ้าอยากได้ 'เรา 'นายก็ต้องกล้าแย่ง หน่อยนะ คู่แข่ง ไม่ได้ มีแค่ หมอ หรอก... จะกล้าสู้รึเปล่าหล่ะ คิงส์.."
..............
............................






   เหมือนโดนเย้ยครับ ถึงตอนนี้ผมกำลังขับรถไปตามทางที่มันบอก...แต่หูของผมยังได้ ยินน้ำเสียงหยามแบบหวานๆของมันก้องสะท้อนไปสะท้อนมา ...ภินทร์ มันเปลี่ยนไป เหมือนมันจะยิ่งกว่าเดิม ซ้ำยังยั่วมากกว่าที่เคยเป็น จนบางทีที่หันไปมองมัน ผมยังอดขนลุกไม่ได้ .... 
เราออกมาจากบ้านไอ้หมอได้สักชั่วโมงแล้ว...ผมถามมันว่าจะไปไหน แต่คำตอบที่ได้มาพร้อมรอยยิ้มหวานจนน่ากลัว ....

"ไปเอา 'ตัวเราคืน'"
..............
............................
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 05-05-2012 02:37:51



    โอว. . . มาเป็นกระตั๊กอย่างงี้
    คงอีกหลายวันแน่ๆก่าจะตามทัน




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 05-05-2012 12:04:33
ลงเรื่องให้แล้วเน้อลงให้ลากยาวมาทันกับที่เคยลงไว้ให้ แถมล้ำหน้ามาหนึ่งตอน ตอนนี้ มีศัพท์ใหม่

'จริ้งจง,จิ้งจอง'

      อันนี้อธิบายนิดนึง 'จริ้งจง,จิ้งจอง'เป็นชื่อของนกชนิดหนึ่ง ที่เป็นไม้เบื่อไม่เมากับสมิง คนเฒ่าคนแก่เคยเล่าว่าเมื่อก่อนเคยเป็นเพื่อนกันแต่เกิดทะเลาะอะไรสักอย่าง จริ้งจง[จิ้งจอง]เลยแปรพรรค และที่แสบกว่านั้น จริ้งจง ร้องเตือนทุกครั้งที่สมิงปรากฏตัว แตกต่างกับ นกวิฬา(ไม่แน่ใจว่านกเค้าแมวหรือเปล่านะ แต่ย่าบอกว่าชื่อ นกวิฬาอะ) ที่จะมักมาพร้อมสมิง

อ้า....เรื่องนี้ตุนเสบียงไว้เยอะโคตรแล้ว ขอไปรื้อ  ลำนำฑิฆัมตรัง กับปั่น กาลกีรตี ก่อนนะ สงสัยตัวเอง เรื่องนี้ยาวมากกกกกก  อ่านกันครบทีสงสัยมีข้ามวัน แต่กับ กาลกีรตี สั้นได้อีกในแต่ละตอน ถ้าเล้ามีรางวัลตอนแต่ละตอนที่สั้นที่สุด ยิ้มได้เลย จะส่ง คุณแฟน กับ ซันชาไปรับรางวัลแทน 555+ [โครตน่าภาคภูมิใจ]

***ปล.ขอบคุณ นักอ่านที่หลงเข้ามาอ่านแล้วตามติดทุกคนด้วยนะ เรื่องแต่งนี้ยาว อยากได้ฟิวเดียวกับนิยาย ใครชอบอ่านนิยายคงโออยู่เพราะอ่านรวดเดียวเลยยังไม่จบง่ายๆ  ใครหลงมาตามอยู่ก็เม้นท์มาบ้างเน้อเพราะ FC.  เก่าจะรุ้ว่าถ้ามีข่าวอะไรเพิ่มเติมบางทีจะแจ้งใน PM เพื่อเป็นการไม่รบกวนนักอ่านท่านอื่น

ขอบคุณที่ตามอ่าน ชื่นใจจัง  :man1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 05-05-2012 12:08:00
 o13 ยาวจริงอะไรจริง  ขอตัวไปอ่านก่อนนะคร้าาาา
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 05-05-2012 14:33:38
จรินทร์เป็นจริ้งจง แถมยังอยู่ฝ่ายสุระด้วย
อย่างนี้ เวลาเจอกับหมอสัตจะเป็นไงน้อ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshinesunrise ที่ 05-05-2012 19:47:28
สารภาพอีกครั้ง ว่าอ่านมาถึงตอนนี้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
คือเรื่องมันไม่งงหรอก แต่เราไม่ชิน = = ไม่ค่อยได้อ่านเรื่องย้อนยุคเท่าไหร่ ขอเหมาว่าย้อนยุคละกัน แบบ. เออนะ ปมเยอะมาก

ขอถามอะไรหน่อยสิ.. สรุป ภัทรมีกี่เวอร์ชั่น 2 หรือ 3 หรือ 4 กันแน่..

เริ่มจะปวดหัว แล้วที่ขังไว้.. หมายถึงพะเตรียงขัง ภัทรเรียบร้อยไว้ที่ไหน..
พระเจ้า! อ่านแล้วสับสนตัวเอง

แต่เราอ่านนะ ชอบ ^^ สนุกมากเลยล่ะ.. ปล. คนเขียนใช้เวลานานไหมสำหรับการเขียน.. เรื่องมันสุดยอดอลังการมาก

สุโค่ย! o13
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 06-05-2012 17:40:24
 ช่วงเคลียร์คำถามเน้อ


         สำหรับคุณแฟน เรื่องหมอกับจรินทร์ [ใครอ่านตอนแรกๆจะจำจรินทร์ได้ เด็กหนุ่มที่เหมือนกระเบื้องเคลือบ คนที่ย้ำจนทำให้ โฆ แน่ใจว่า ภินทร์ ไม่ใช่  ตรินทร์ นั่นหล่ะ] คู่นี้เขาเป็นดีมาน-ซับพลายกัน หมออยากได้ ภัทร คืน จรินทร์ก็อยากได้ ตรินทร์ คืน แต่เจอกันก็มองหน้ากันไม่ติดเหมือนเดิม ไม่ต้องจิ้นคู่นี้นะ หมอ เป็นของ ภัทร ภัทรมันไม่ปล่อยหมอให้ใครแน่  //

sunshinesunrise เรื่อง 'ภัทร'

         ภัทร เป็น หลานสาวคนโตของ บ้านพระพิราพ แต่เพราะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของยักษ์หรืออมนุษย์อื่นๆ แถมยังเป็นร่างเนื้อนาบุญ [ร่างสังเวย-เกิดมาใช้บุญแล้วก็สิ้นเท่านั้น] ทางบ้านใหญ่เลยตัดหางปล่อยวัด ส่งมาทางฝากแม่ ญาติทางฝากนี้กลัวหลานสาวจะตายก่อนวัยอันควร [ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว] ทางฝากแม่เลยฝัง ตะบองพลำลงที่ ภัทร [กลายเป็นเสียงหัวใจดวงที่สอง ปกติ ตะบองพลำไม่สามารถอยู่ได้ในร่างมนุษย์ แต่เนื่องจากมันโยงมาจากอดีต ในตัว ภัทร ทุกคนถึงมีเศษของตะบองพลำอยู่**สปอยเกินไปหล่ะ**] สำหรับ ภัทร ของเรื่องนี้ มี

 ภัทร คนแรก หลานของ บ้านพิราพ นิสัย กระล่อน เปลี่ยนผู้หญิงบ่อย [?] ชอบผู้ชายน่ารัก อะไรก็ไม่ค่อยทุกข์ร้อนอะไรกับชาวบ้านเขาเพราะ มันเจ็บจนปลงหมดแล้ว...กลัวเรื่องเดียวเรื่องเสียงหัวใจตัวเองที่มีสองเสียง  ภัทร คนนี้เป็นทั้ง ภัทร และ ภินทร์  ของ อะตรอม ที่เป็น ภินทร์ เพราะความทรงจำบางส่วนของ ภัทร ถูกพะเตรียงลบไป เพราะถ้าไม่ลบ ภัทร ก็จะเป็น พวก ได้แล้วทิ้งเหมือนเดิม และถ้ามีความทรงจำเดิม พะเตรียงก็จะไม่มี ภินทร์ เพื่อเริ่มใหม่
 

 ภัทร คนที่สอง เป็นอีกเสียงเต้นของหัวใจ ภัทร คนแรก เป็นปราณของตะบองพลำ ถ้าหิวขึ้นมาแล้วกลับร่างเดิม นรก!!! ขนาดหมอยังกลัวร่างจริงของ ภัทร คนนี้ นิสัย อยากได้อะไรแล้วต้องได้ พิถีพิพันเรื่องการกิน [ไม่ต้องอธิบายมั้ง ....] เป็นนักวางแผน ที่หวงของสุดๆ เป็น ภัทร ที่พะเตรียงจับไม่อยู่ เพราะอยู่นอกเหนือจาก ภัทร ทั้งหมด ใช้ผู้หญิง-ผู้ชาย เปลืองเหมือน ภัทร คนแรก แต่ ภัทร คนนี้ กินทั้งตัว ...[ไม่อธิบายนะ....สยอง] ปกติ หมอจะใช้ยากด ภัทร คนนี้ไว้ แต่ตอนนี้ หมอ หมดหนทางแล้ว เลยต้องใช้ยา ปล่อย ภัทร ออกมาจาก ทะเลน้ำตา ที่ขังของ ภัทร และ ตรินทร์ [ภัทร คนนี้หล่ะที่ถูก พะเตรียง ขังไว้ ] ภัทร คนนี้ หวงหมอมากกกกกกก หมอปล่อยออกมาก็รับผิดชอบเองนะ เตรียมถังเลือดไว้ได้เลย หมอ :jul1:


โดยสรุป ภัทร มี 2 Vol. ถ้าไม่นับ ภินทร์ ที่มาจาก ภัทร คนแรก...


 
 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshinesunrise ที่ 06-05-2012 23:10:35
ขอบคุณที่มาตอบจ้า เข้าใจขึ้นเยอะเลย ^^ รู้มั้ยเราติดจนมีวันนึงเก็บไปฝัน ==. ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น โอ้พระเจ้า สนุกมากอ่ะ ^^ จะรอตอนต่อไปจ้า อ่านทันแล้วล่ะ อิอิ

เชียร์ที้งสองภัทร จะลุ้นว่า แต่ละคู่จะเป็นยังไง ชะเอิงเอย |
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 09-05-2012 07:36:15



   ง่า ไปวัดมาซะหลายวัน ยังอ่านไปไม่ถึงไหนเลย กระซิกๆ




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 09-05-2012 07:39:06
^
^
^
สู้ๆ ซันชา ค่อยๆอ่านเน้อ คนเขียนจะได้มีเวลาดอง หุหุหุ ไปวัดมาเอาบุญมาฝากเขาเปล่าเน้อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 09-05-2012 07:47:52
^
^
^
สู้ๆ ซันชา ค่อยๆอ่านเน้อ คนเขียนจะได้มีเวลาดอง หุหุหุ ไปวัดมาเอาบุญมาฝากเขาเปล่าเน้อ :กอด1:


   กลับมาบุญเต็มกระเป๋า รอคนมาอนุโมทนาอยู่อ๊ะ จะได้แบ่งๆกันไป ^ ^



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 10-05-2012 01:11:28




   โอ๊ะ เพิ่งเห็นว่าหนูเดียร์จากอีกเรื่องนึงมาโผล่ในเรื่องนี้ด้วย
   งี้หนูโฟร์ก็เป็นมาเฟียด้วยรึเปล่าเนี่ย




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 10-05-2012 11:57:52

 ซันชา ตาดีนะเนี้ย เหอเหอเหอ  :man1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 11-05-2012 05:15:00



    กรี๊ดดดดดดดด อ่านทันแล้วค่า
    เจ๊ภัทรเวอร์ชั่นนี้เป็นนางพญาช่างสั่งจริงๆ
    เอาเถอะนะ เจ๊แกมีดวงวิญญาณในปกครองเยอะ
    แค่ในร่างเดียวกันก็หลายแล้ว ไม่นับรวมพวกที่วนเวียนอยู่รอบๆบ้านกะพวกที่มาติดพันอีก
    เห็นนายคิงคอยทำตามที่สั่งงกๆแล้วแอบสะใจเล็กๆ อิอิ
    แล้วถ้าอะตรอมมาเจอเจ๊เวอร์ชั่นนี้จะเกิดอะไรขึ้นละเนี่ย
    จะมองดูเฉยๆ จะตีกันตาย หรือจะยังรักอย่างไม่มีเงื่อนไข
    แล้วนั่นเจ๊คิดจะทำอะไรอ่า
    "ไปเอาตัวเราคืน" แล้วที่นอนอยู่นั่นมิใช่เรอะ
   
    ปล. ไอ้จูบ+ลวนลามตัวเองนี่. . . เอิ่ม. . . เจ๊แกอยากทำมานานแล้วใช่มะ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-05-2012 15:57:25
 ตุนมาให้ถึงตอนที่ 69 แล้วเน้อ ขอดองหน่อยแล้วกัน ....ลูกติดพันอื่นยังเยอะอยู่  :z10:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! [เรื่องยาว///เตือนแล้วนะ!!]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 16-05-2012 06:46:17
ตุนมาให้ถึงตอนที่ 69 แล้วเน้อ ขอดองหน่อยแล้วกัน ....ลูกติดพันอื่นยังเยอะอยู่  :z10:

    รับทราบงับ


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 21-05-2012 22:51:56
บทที่ 70 เสือหลงไฟ

...ถึงจะรู้ว่าทรมานถึงจะรู้ว่า ‘ภัทร’ คนนั้นเป็น กองไฟ....แต่ผมก็หลงใหลไฟนั้นจนถอนสายตาออกจากเปลวไฟไม่ได้  … และสักวัน...
ผมคงกระโจนเข้ากองไฟ.....
.................
............................

รอยสักที่พาดจากช่วงไหล่ซ้ายแล้วไปหยุดอยู่ที่ตำแหน่งของหัวใจ ทำให้ร่างใหม่ของ ภัทร ดูแปลกตาไปกว่าเดิม ช่วงบนที่เปลื่อยเปล่า... สะท้อนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่  เจ้าของรอยสักยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี...แทบจะไม่สนใจเลยว่า ทำอะไรลงไป
 
“ภัทร ....ทำอย่างนี้ คิดจะยึดร่างนี้มาจริงๆ หรอ?”

“ไม่ได้ยึด...ก็แค่ใช้ของที่ควรต้องใช้ ...ให้คุ้ม”

“แต่ ภัทร ตีตรา ร่างนี้แล้ว..แน่ใจหรอ ถึงได้สร้างมลทิน ? ”

“หึ! ก็แค่ตีตรา ...หมอจะบ่นอะไร ทีพี่รามยังไม่เห็นบ่น ”

รอยยิ้มหวานจากร่างโปรงส่งมาให้ผม ในขณะที่ปลายนิ้วเรียวไล้รูป รอยสักที่ยังมีกลิ่นคาวเลือดติดอยู่...อย่างสุขใจ ภัทร ตีตราร่างเด็กหนุ่มคนนี้แล้ว...สร้าง 'ตัวตนของภัทร ' ให้ขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมจากฝีมือคุณราม... 

“ทำไมคุณรามถึงยอมสักตีตราให้ ? ”

“ไม่รู้สิ ...สงสัยช่วงนี้อารมณ์ดีมั้ง? จะสนอะไร ยังไงแค่ พี่ราม ตีตราให้ก็จบมันก็เท่านั้น ร่างนี้เป็นของ ภัทร อย่างสมบูรณ์ ทีนี้ก็มาดูกัน ...ว่า 'นาง' จะทำอะไรอีก ฐานที่มาทำให้ชีวิตเราวุ่นวาย... ถ้ายังจะตามมาอีก ..จะเอาให้ทรมานจนเจียนตายเลย พะเตรียง .... ”

.................
............................
*****************************************************************************



ผ่านจากเหตุการณ์นั้นมาเกือบสามเดือน...ตอนนี้ ภัทร ยึดร่างเด็กหนุ่มที่ชื่อตรินทร์ อย่างสมบูรณ์ และก็ ขัง ภัทร อีกคนไว้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามอง ระหว่าง ภัทร กับ ภัทร ที่เป็นตะบองพลำ ผมขัดขืนคนไหนไม่ได้ทั้งนั้น ...

เกือบ สามเดือนแล้วที่ภัทร ยึดร่าง เด็กตรินทร์มา...ภัทร ทิ้ง อดีตทั้งหมดของ ตรินทร์ เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น ภัทร ไม่เคยกลับไปที่บ้าน ชลวะเทอีกเลย ไม่ได้กลับไปหาใครทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นไอ้ยักษ์หรือไอ้คิงส์ ผมไม่เห็น ภัทร พูดถึงใครสักคน... กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม สมัครงานโดยอาศัยประสบการณ์ ไม่ใช่วุฒิการศึกษา ...เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น รายไหน ที่ไม่ใช่พวกว่าง่าย ภัทร เลือกที่จะ 'กิน' มากกว่าทนคบหรือปล่อยไป ....ตลอดสามเดือนที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น...เรื่องราวที่ทำให้ ภัทร ใช้ ศุภะไปเกือบ 30 เม็ด ...และยิ่งใช้จนทำให้ผมเริ่มที่จะกลัว... ภัทร คนนี้ไม่เคยพอ ...
.................
............................




"หมอ...มานี่"

แววตาที่เหมือนจะกลืนผมเข้าไปทั้งตัว ทำให้ผมได้แต่เงียบ ภัทร เรียกผม พร้อมกับ วงแขนเย็นที่ ดึงตัวผมให้ลงไปนั่งตัก แล้วโอบกอดผมไว้แน่น…ร่างเด็กหนุ่มที่เคยสูงโปรงเหมือนจะกำยำขึ้น หลังจาก ตระเวนดูงานตามต่างจังหวัด กับพวกวิศวะกร ..บรรยากาศภายในร้าน เป็นแบบที่ผมไม่คุ้นชิน รอบข้างมีแต่ พวกฝรั่งตัวใหญ่ กับ แก้วเหล้าหลากขนาดที่ ตั้งบนโต๊ะกระจก โซฟาตัวใหญ่เหมือนจะเล็กลงไปทันทีที่ กลุ่มพวกผมจับจอง...

ภัทร ‘กำลังทำงาน’ การรับรอง บรรดา วิศวะกรของ บริษัท ใหญ่ เป็นงานรอง ของ ฝ่ายขาย  แต่ที่ผมไม่เข้าใจ ....ทำไมถึงต้องดึงผมให้เข้ามาด้วย 

"หวงของเป็นกับเขาเหมือนกันหรือ?..."

เสียงกระเซ้าแหย่สำเนียงแปลกของใครสักคนดังแทรกขึ้นในวงสนทนา แต่เหมือน เจ้าของวงแขนที่โอบรวบผมไว้จะไม่ใส่ใจ เพราะตอนนี้เสียงเหย้าแหย่เหมือนยิ่งยุ วงแขนเย็นที่โอบกอดผมไว้หลวมๆคลายออกแล้วใช้มือนั้นล้วงแทรกเข้ามาสัมผัสผิวผมแล้วลากวนไล้ลูบด้วยปลายนิ้วเย็น... ผมได้ แต่นั่งนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ภัทร ที่อยู่ในโหมต เมาเข้าขั้นและยิ่งเป็น ภัทร นี้ด้วยแล้ว.. ไม่ใช่คนที่ควร ตอแย...
 
"ไม่ใช่ 'สิ่งของ' อเล็กซ์ ...นี่เป็น ‘คน’... ‘คนของ I’ "

ใบหน้าผมมันชาไปหมดหลังได้ยินประโยคนั้น... เสียงโห่ยาวมีมาจากเหล่า บรรดา วิศวะกรต่างชาติร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ เต็มพื้นที่ โซฟา ...

เสียงเพลง ในคลับที่เน้นแต่เสียงทุ้มเบสของ เหมือนจะเร่งให้ หัวใจเต้นตาม...แต่ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว...เพราะที่รู้สึกได้ผมรู้สึกแค่ปลายนิ้วเย็นที่เริ่มไล้จากช่วงคอแล้วลากยาวผ่านเนื้อผ้าลงมาที่หน้าอก สมองมันมึนไปหมด...เมื่อปลายลิ้นร้อน มันคลอเคลียฉกวนอยู่แถวๆซอกคอ ... ความรู้สึกจากสัมผัสมันแปลกไป ... เหมือนผมเองที่กำลังจะโดน  'กิน '
.................
............................

"ภัทร ...พอแล้ว..พอแล้ว..."

แสงไฟสีส้มในห้องน้ำมันแยงตา ...จนสมองผมไม่สั่งการอะไรแล้วนอกจากเสียงครางที่เผลอเอ่ยออกมาทุกครั้งที่ มือเย็นขยับรูดแกนเนื้อ...

"ดังกว่านี้หมอ...ถ้าอยากให้หยุดจริงๆ อ้อนให้ชัดกว่านี้หน่อยสิครับ ...หมอ"

ถึงผมจะพยายามอุดปากตัวเองไว้ด้วย ชายเสื้อที่คาบไว้ ...แต่เสียงผมก็ยังดังรอดริมฝีปากออกมาทุกครั้งที่ ภัทร ไล้ เลีย ... ปลายนิ้วเย็น ไล้ลูบที่แก้มผมเหมือนปลอบ แววตาที่จ้องมา...ถึง ภัทร จะไม่ตั้งใจ แต่มันก็เหมือนมีมนต์สะกดผมทุกครั้ง 
ชายเสื้อผมถูก ภัทร ดึงออกจากปาก แล้วใช้ปลายนิ้วไล้ ริมฝีปากผมแทน ก่อนจะดันปลายนิ้วเข้าไปในปากผม แล้วกดริมฝีปากผมให้เผยอออก 

เสียงรูดซิบกางเกง ทำให้ผมเพิ่งรู้ตัว ภัทร ดึงผมลงให้คุกเข่า แล้วดันให้แนบ ริมฝีปากเข้ากับกลางบ็อกเซอร์ที่โป่งนูนออกมาอย่างเด่นชัดของตัวเอง...

"หมอ..ทำให้ที...อย่าให้โดนฟันหล่ะ...  "

" อื้อ....อึก ..."

ไม่ให้ตอบรับหรือปฏิเสธ ภัทร รูดบ็อกเซอร์ลงแล้ว รูดดันแท่งแกนเนื้อนั้นเข้ามาในปากผม มือที่เคยลูบไล้ แก้มตอนนี้ย้ายมาจับยึดอยู่ที่ท้ายทอยผม แล้ว ออกแรงขยับเบาๆ ตามแรงโยกของเอว

"หมอนี่น่ารักหว่ะ....ชักอยากจะเข้าไปในตัวหมอแล้วสิ...."

เสียงครางของประโยคเบาทำเอาผมเสียววาบ ผมไม่น่าลืม ภัทร คนนี้ไม่เคยพอ...

ทุกอย่างในห้องน้ำหยุดลงหลังจากผมกลืน เมือกขุ่นของ ภัทร เข้าไปจนหมด... ตอนนี้ผมถูก ภัทร หิ้ว ออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่... นั่งอยู่สักพัก ภัทร ถึงขอตัวกลับ พร้อมโอบเอวผมให้ตามออกมา ...หน้าประตูคลับ ร่างบางของใครบางคน ขวาง พวกเราไว้

"ถ้าไม่รังเกียจ ...ให้หนูกลับไปด้วยได้ไหมคะ?"

กลิ่นน้ำหอมจางๆ มันโชยออกมาจนหน้าเวียนหัว ... เด็กหนุ่มข้างหน้าผม เชิญชวนจนเกินงาม  ใบหน้าจิ้มลิ้มกับ ริมฝีปากสีชมพู ปิดความต้องการบางอย่างไว้ไม่มิด ผมหันไปมอง ภัทร ที่ใช้สายตา โลมเลียร่างบางตรงหน้าแล้วได้แต่ กลืนน้ำลายลงคอ ปฏิกิริยา ของ ภัทร มันทำให้ผมรู้ ภัทร อยาก 'กิน' คนตรงหน้า...

"ผมกับเพื่อน กำลังเหงา ...ไม่รังเกียจหรอกครับ ....กำลังอยากกินอะไรอยู่พอดี ไปด้วยกันเลยไหมครับ?"

"หิวเหมือนกันค่ะ ...อยากทาน 'แซนวิส' พอดี แต่ไม่รู้ว่าเพื่อน พี่จะชอบหรือเปล่า"

"ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าพี่กิน มันก็ต้องกินด้วยหล่ะครับ .."

น้ำเสียง ภัทร อารมณ์ดีได้อีก ผมได้แต่มองความกล้าเกินงามของเด็กหนุ่มร่างเล็ก...ปฏิกิริยาอย่างนี้ผมคงไม่ต้องคิด...ว่า ภัทร ....กำลังจะทำอะไร? 
..............
............................
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 22-05-2012 00:23:11



    ง่า. . . กลายเป็นภัทรเวอร์ชั่นเพลบอยไปแว้วววว
    ได้ใจเลย ออกแนวรุกเข้าขั้นตะหาก
    อ่านแล้วแอบสงสารหมอแฮะ
    จะขัดขืนก็ไม่ได้ จะโดนกินวันไหนก็เดาม่ายยยออก จะหนีก็ไม่อยากหนีตะหาก
    แล้วคุณรามมารู้จักสองคนนี้ตอนไหนเนี่ย



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 22-05-2012 13:28:13
ภัทรเวอร์ชั่นแบดบอย มีสัก มีมั่ว จะมีสุรา พาชี กีฬาบัตร ด้วยมั้ย จะได้ครบๆ
คุณรามข้ามเรื่องมาแฮะ นี่รึเปล่าตัวโยงเรื่อง
หมอสัตนี่เป็นเสือน้อยเชื่องๆสำหรับภัทรเลยเนอะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshinesunrise ที่ 27-05-2012 18:39:02
ภัทรมีกี่ชีวิต? อ่านแล้วอึ้ง รออ่านต่ไปเผือเะเข้าใจมากขึ้น ปล. คิดถึงอะตรอม ><~
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: tewava ที่ 28-05-2012 20:02:40
ตามมาจากอีกเรื่อง เนื่องด้วยสงสัย ว่าแต่ละคนเกี่ยวพันกันอย่างไร เรื่องยาวมาก อ่านจุใจจริงๆ นั่งอ่าน นอนอ่านอยู่สองวันเต็มๆ ใกล้ตามทันแล้ว
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 28-05-2012 21:05:27
ตามมาจากอีกเรื่อง เนื่องด้วยสงสัย ว่าแต่ละคนเกี่ยวพันกันอย่างไร เรื่องยาวมาก อ่านจุใจจริงๆ นั่งอ่าน นอนอ่านอยู่สองวันเต็มๆ ใกล้ตามทันแล้ว

+1  o1  ขอบพระคุณอย่างสูงเน้อ....หึหึหึ ....เรื่องมันยาว......

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.90   >>>>ย่อตัดตอนมาให้เลยดีกว่า...
ไหนๆก็อุตสาอ่าน สปอยให้ก่อนเลยว่า เรดมันรู้จัก ไอเดียร์มาตั้งนานแล้ว วันที่ไปซ้อมที่ห้องซ้อมบ้านไปท์ กับฝิ่น เรดมันก็ไป แต่ไม่ได้อยู่ในสายตามือกลองของเรื่องนั้นเท่าไหร...เรื่องของไอเดียร์กับ เอล เรดมันก็ดูออก มันถึงได้มาเพ้อ ถาม ภินทร์ ว่า

“ตรินทร์...มึง เคยแอบรักใคร หรือเปล่าว๊ะ? รักทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้...รักทั้งๆที่เหมือนว่าคนที่มึงรักจะมีเจ้าของแล้ว..มึงจะรอให้เขาเลิกกันแล้วค่อยบอกรักหรอเปล่าว๊ะ? ถ้ากูรอกูจะเป็นคนดีในสายตาหรือเปล่าว๊ะ?”

อยู่ๆไอ้เรดก็ถามขึ้นมาอย่างนั้นเล่นเอาผม กร้า แป้น ต้องนิ่งฟังมัน

“...ถ้าเป็นมึง มึงจะทำยังไง จะแอบรักอยู่เงียบๆหรอเปล่า?...”

   เสียงไอ้เรดมันถามผมพร้อมทั้งโปรยสายตามองมาแบบแปลกๆ ผมไม่ได้สบตาเพราะไม่ได้คิดจะค้นอะไรในแววตามัน คำตอบมีในหัว คำตอบที่มีแต่จะยิ่งทำให้มันรู้สึกตัวเสียที ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงทำอย่างไอ้เรดมันว่าแต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ชีวิตนี้จะหายไปเมื่อไหร่ยังไม่รู้สิ่งที่ผมคิดเลยเปลี่ยนไปทั้งหมด ผมยกแก้วสีชาขึ้นดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะหันไปตอบคำถามจริงจัง

“ถ้าเป็นกู กูไม่รอหรอก...ถ้าดูแล้วไม่มีหวังก็เลิกแต่ ถ้าอยากได้จริงๆมึงก็ต้องกล้า จะจีบใครก็จัดการไป จากประสบการณ์ ลองเป็นคนดีอย่างมึงว่านะ หมาคาบไปแดก 1000% เพราะดีเกินไป เพราะทำดีแล้วหวังว่าเขาจะหันมามอง เปล่าเลย มึงไม่รู้หรอหมาหน่ะมันรอขโมยเนื้ออยู่เป็นฝูง ลองหมามันกินเนื้อเข้าไปแล้วถึงคายออกมามึงจะเอาหรอ...คนดีอย่างมึงก็อด สู้แดกๆให้มันจบไปไม่ดีกว่าเหรอ เกิดอะไรขึ้นทีหลังค่อยมาว่ากันอีกที ยังไงเนื้อมันก็อยู่ในปากมึง ไม่ใช่ปากหมาตัวไหน... ”

เสียงตรบมือดังขึ้น เชี่ยแป้นอีกแล้ว มันยื่นแก้วเหล้ามาให้ผมอีกแก้วก่อนจะเอ่ยชมอย่างจริงใจ

“นอกจากจะเจ้าชู้อย่างหน้าไม่อายแล้ว มึงยังเชี้ยเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ตรินทร์ กูขอคำนับมึงเป็นอาจารย์เลย ตั้งแต่ออกมาจากโรง’บาล ต่อมชั่วของมึงเจริญเติบโตได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ”

“.......”

ผมได้แต่เงียบ...มึงชมกูจริงๆใช่ไหม ?ไอ้แป้น.....

..............
............................


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 29-05-2012 10:18:49
+1  o1  ขอบพระคุณอย่างสูงเน้อ....หึหึหึ ....เรื่องมันยาว......

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.90   >>>>ย่อตัดตอนมาให้เลยดีกว่า...
ไหนๆก็อุตสาอ่าน สปอยให้ก่อนเลยว่า เรดมันรู้จัก ไอเดียร์มาตั้งนานแล้ว วันที่ไปซ้อมที่ห้องซ้อมบ้านไปท์ กับฝิ่น เรดมันก็ไป แต่ไม่ได้อยู่ในสายตามือกลองของเรื่องนั้นเท่าไหร...เรื่องของไอเดียร์กับ เอล เรดมันก็ดูออก มันถึงได้มาเพ้อ ถาม ภินทร์ ว่า

“ตรินทร์...มึง เคยแอบรักใคร หรือเปล่าว๊ะ? รักทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้...รักทั้งๆที่เหมือนว่าคนที่มึงรักจะมีเจ้าของแล้ว..มึงจะรอให้เขาเลิกกันแล้วค่อยบอกรักหรอเปล่าว๊ะ? ถ้ากูรอกูจะเป็นคนดีในสายตาหรือเปล่าว๊ะ?”

อยู่ๆไอ้เรดก็ถามขึ้นมาอย่างนั้นเล่นเอาผม กร้า แป้น ต้องนิ่งฟังมัน

“...ถ้าเป็นมึง มึงจะทำยังไง จะแอบรักอยู่เงียบๆหรอเปล่า?...”

   เสียงไอ้เรดมันถามผมพร้อมทั้งโปรยสายตามองมาแบบแปลกๆ ผมไม่ได้สบตาเพราะไม่ได้คิดจะค้นอะไรในแววตามัน คำตอบมีในหัว คำตอบที่มีแต่จะยิ่งทำให้มันรู้สึกตัวเสียที ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงทำอย่างไอ้เรดมันว่าแต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ชีวิตนี้จะหายไปเมื่อไหร่ยังไม่รู้สิ่งที่ผมคิดเลยเปลี่ยนไปทั้งหมด ผมยกแก้วสีชาขึ้นดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะหันไปตอบคำถามจริงจัง

“ถ้าเป็นกู กูไม่รอหรอก...ถ้าดูแล้วไม่มีหวังก็เลิกแต่ ถ้าอยากได้จริงๆมึงก็ต้องกล้า จะจีบใครก็จัดการไป จากประสบการณ์ ลองเป็นคนดีอย่างมึงว่านะ หมาคาบไปแดก 1000% เพราะดีเกินไป เพราะทำดีแล้วหวังว่าเขาจะหันมามอง เปล่าเลย มึงไม่รู้หรอหมาหน่ะมันรอขโมยเนื้ออยู่เป็นฝูง ลองหมามันกินเนื้อเข้าไปแล้วถึงคายออกมามึงจะเอาหรอ...คนดีอย่างมึงก็อด สู้แดกๆให้มันจบไปไม่ดีกว่าเหรอ เกิดอะไรขึ้นทีหลังค่อยมาว่ากันอีกที ยังไงเนื้อมันก็อยู่ในปากมึง ไม่ใช่ปากหมาตัวไหน... ”

เสียงตรบมือดังขึ้น เชี่ยแป้นอีกแล้ว มันยื่นแก้วเหล้ามาให้ผมอีกแก้วก่อนจะเอ่ยชมอย่างจริงใจ

“นอกจากจะเจ้าชู้อย่างหน้าไม่อายแล้ว มึงยังเชี้ยเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ตรินทร์ กูขอคำนับมึงเป็นอาจารย์เลย ตั้งแต่ออกมาจากโรง’บาล ต่อมชั่วของมึงเจริญเติบโตได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ”

“.......”

ผมได้แต่เงียบ...มึงชมกูจริงๆใช่ไหม ?ไอ้แป้น.....

..............
............................





   อ้าว นั่นเรดหมายถึงคู่ไอเดียร์-เอลหรอกเหรอ
   นึกว่าหมายถึงตัวเองซะอีก



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 29-05-2012 19:31:27
โอ๊ะ!! เหมือนพลาดอะไรไปหรือป่าว
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: tewava ที่ 29-05-2012 22:28:57
เราสงสัย องค์ภัทร์เจ้า เรื่องนั้น กับภังคียะ เรื่องนี้เป็นอะไรกันอะ คงไม่ได้เป็นคนเดียวกันใช่ไหม
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 29-05-2012 22:31:48

 คำตอบเดิมเน้อ

 เป็นเพียงเศษส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด...เป็นแค่ซี่วงล้อในวงล้อที่กำลังหมุน....เป็นหนึ่งในบุญที่เกิดมาจากบาป
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: tewava ที่ 01-06-2012 20:48:35
และแล้ว ก็ตามอ่านจนทัน ตอนนี้จะเป็นช่วงเวลา ของภัทรกับหมอใช่ไหมเนี่ย ดูภัทรเวอร์ชั่นนี้ ออกแนว แบดแบด อยู่นะ หมอออกแนวรักไปช้ำไปหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 11-06-2012 10:48:16



    คนเขียนลืมเรื่องนี้ไปรึยังน้าาาาา




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 11-06-2012 10:50:26
กำลังจะมาต่อเน้อขอโทษที เน้อ  :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-06-2012 23:21:47
 :a2:อ่านทันตอนที่ 70 แล้วววววว
รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 11-06-2012 23:23:47
:a2:อ่านทันตอนที่ 70 แล้วววววว
รออ่านตอนต่อไป
V
V
V
หง่ะ!!!! :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 12-06-2012 07:18:00
:a2:อ่านทันตอนที่ 70 แล้วววววว
รออ่านตอนต่อไป

   โฮ่!! ยินดีต้อนรับผู้ร่วมอุดมการณ์งับ
    o7 o7 o7



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: kazuribum ที่ 13-06-2012 18:12:33
แบบว่าตามาจากเรื่อง ไอเดียร์ ครับ มาเห็นแล้วลลายตามาก เป็นคนเขียนที่ไม่กั๊กนิยายจริงๆ ชอบครับ ชอบ
"เมื่อคุณอัพมา เราก็จะอ่านต่อไปครับ...
เอาหล่ะไปหาฤกษ์เริ่ม กันดีกว่า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 70 #เสือหลงไฟ [21/5/55-P.5]
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 13-06-2012 20:39:29
ปกติจะรอให้นิยายมีหน้าเกิน 20 ไปแล้วถึงจะเริ่มอ่าน แต่บังเอินได้อ่านเรื่องไอเดียร์แล้วชอบ
เลยตามหา ว่าคุณคนเขียนเคยเขียนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง จะได้ตามเก็บ มาเจอเรื่องนี้เห็นมีไม่กี่หน้า แต่มัน 70 ตอน คุณพระ!! :a5 :a5: :a5:
ใช้เวลาตามอ่านอยู่ 2 วัน ถึงตอนที่ 50 แล้วก็ยังมึน งง กับ ภัทร มันมีกี่คนฟร่ะ!!!
มาเข้าใจอีตอนที่ 70 แจ้งแก่ใจดังนี้

1. ภัทร แรก ชาตินี้เป็นผู้หญิง แต่ถูกย้ายวิญญานมาอยู่ในร่าง ตรินทร์ที่เป็นผู้ชาย อดีตชาติ เคยหลงรักนางรำพะเตียง แล้วก็ผูกพันอยู่กับพี่ยักษ์ เคยเลี้ยงเสือน้อยแสนน่ารักอยู่หนึ่งตัว ถูกมั้ยคะ

2. ภัทร สอง เป็นตะบองพลำ ไม่ระบุเพศ เกิดจากแม่ของภัทร ชาตินี้เอามาฝังไว้เพราะกลัวลูกสาวจะตายไว เพราะเป็นร่างเนื้อนาบุญ

3. ตอนนี้ภัทรแรก และ ตรินทร์ ตอนนี้เหลือแต่วิญญาญ ถูกขังเอาไว้สักที่ คิดว่าเป็นทะเลน้ำตา ใช่ป่าวคะ

สงสัยหลายจุด นึกได้จะถามใหม่นะคะ สนุกมากๆ

รอตอนต่อไป :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 13-06-2012 21:02:47

 ขอบคุณมากเน้อที่มีมานะบากบั่นอุสาหะ พากเพียรตามอ่านกัน 70 ตอนรวด ตอนนี้เลยมาอธิบายสิ่งที่ ลบไปแล้ว FC. เก่าทวนความจำด้วยดีกว่าเนอะ 

   รักทุกคนจังเลย.....รักมากจจริงๆๆ  :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 13-06-2012 21:42:48
ตั้งแต่ตอนที่ 1-70 (โห่ แม่ง 70 แล้วอะ ...ยังไม่ไปถึงไหนเลย  ) แต่ขอข้ามตอนพิเศษ ที่ว่า นิสัยของ ภัทร ตอนอดีต , เรื่องราวของ มหินทรา กับภังคียะ และพะเตรียง ,พี่หมอ ภัทร และ เรื่องของ ภัทร กับอะตรอม ตอนเด็กๆ ทั้งหมดนะ เพราะไม่รู้จะโยงยังไง... 

**********************************************************************************


เพราะหมดสิ้นทุกอย่าง เมื่อ ‘มหินทรา’พี่ชายที่ตนรักกว่าชีวิต นั้นก่อกบฎขึ้นเองในนคร ซ้ำ ‘ฑิฆัมตรัง’บิดาผู้เป็นแม่ทัพยังถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และเมื่อแม้แต่ฟางเส้นสุดท้ายอย่าง 'พะเตรียง' หญิงคนรักที่หวังครองคู่ ยังเป็นผู้พรากชีพตน ‘องค์ภังคียะ’ จึงขอคำพรให้ตนในชาติภพใหม่ …

'หากครานี้ข้าทรมานเพราะรัก ข้าจักมิคงรัก
หากครานี้ข้าทรมานเพราะนาง ข้าจักลืมนาง
หากครานี้ข้าทรมานเพราะภักดี กาลหน้าข้าสาบาน จักมิมีภักดีในผู้ใด
หากครานี้ ข้าต้องตกตายเพราะสายเลือด กาลหน้าข้าจักมิใช่ชาติพันธุ์ใด
หากครานี้ ข้าเป็นชายเพียงเคียงคู่นาง กาลหน้าข้าขอคำพร...รักที่ข้ามีจักมิเลือกแม้เพศใด....'

ล่วงมาถึงปัจจุบัน

ภัทร หญิงสาว วัย 28-29 ประสบอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทาง และตื่นขึ้นมาพบว่า ตัวเองกลายเป็น ษิตรินทร์ เด็กหนุ่ม อายุ 21 ที่เกิดประสบอุบัติเหตุ เช่นเดียวกัน ในความทรงจำที่สับสนเมื่อคิดจะจำเรื่องอดีตของตัวเอง สิ่งที่แวปเข้ามาคือ เรื่องบางเรื่องที่ชวนสะอิดสะเอียนและไม่น่าจดจำเท่าไหร่นัก ภัทร จึงเลือกที่จะ ใช้ชีวิตให้เต็มทีอีกครั้ง ในร่างของ ษิตรินทร์ เมื่อคิดว่า ษิตรินทร์ ตัวจริงนั้นอาจตายไปแล้ว
.............แต่ไม่ใช่ เพราะ ษิตรินทร์ ยังอยู่และตื่นขึ้นมาบางครั้งในตอนที่ ภัทร หลับ


ษิตรินทร์ มีคู่หมั่นที่รักมาก ชื่อ พระแพง เด็กสาวที่มีแต่ความลับ การหมั่นหมายและความผูกพันธุ์ที่มีตั้งแต่เด็ก ทำให้ ษิตรินทร์ เลือกที่จะทิ้ง ความสัมพันธุ์อันกำกวมระหว่างตนกับ โฆษิต (โฆ-บัพ) ญาติลูกพี่ลูกน้องไว้แค่นั้น จนมาวันที่ ษิตรินทร์ รู้ว่า ตนเอง 'ไม่ใช่คนที่ควรจะเป็นของ พระแพง' แต่มันก็สายเกินไป เมื่อ พระแพง เลือกที่จะ ‘เปลี่ยน’ ให้คนที่ใช่ เข้ามาแทน และทิ้งอีกหนึ่งชีวิตที่เคยรักไปอย่างไม่ใยดี...


แต่... สำหรับ หมอสัตรา การ ‘เปลี่ยน’ ครั้งนั้น ทำให้ สัตวแพทย์ เชื้อสายสมิง ที่คอยดูแล ภัทร เกินเพื่อนสนิท แทบคลั่ง


ภัทร เลือกที่จะเปลี่ยน ทุกสิ่ง ตั้งแต่ด็อปภาควิชาการเรียน เก่า เพื่อมาลงสายวิชาใหม่ในฐานะเด็ก ปี 1 รวมไปถึงการเปลี่ยนการใช้ชีวิต ของ ษิตรินทร์ อะตรอม คือ เด็กหนุ่มร่างยักษ์ เพื่อนคนแรก ของ ภัทร ที่ ภัทร รู้จัก ในนาม ของ ภินทร์ ชื่อใหม่ที่ใช้เรียก ตัวเอง ภินทร์ เริ่มเป็นตัวตนใหม่ ในขณะที่ ความเป็น ภัทร ค่อยๆเลือนหาย ...จากนิสัย เจ้าชู้ไม่เลือกหน้าของ ภินทร์ ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย รวมทั้งการรู้จักใครอีกหลายๆ คน อย่าง เรด หัวหน้าวงดนตรี ลูกครึ่งสุดหล่อ ของวง ลิงกินผัก กร้า มือเบส แป้น มือกลอง เด็กหนุ่มที่ขาดอมยิ้มไม่ได้ พี่นพ เจ้าของร้าน คลับใบไม้ แม่นิ่ม แม่นมของ ษิตรินทร์ และโฆษิต ผู้หญิงคนเดียวที่ อ้อมกอดนั้นอบอุ่นเกินบรรยาย..


บัส เด็กหนุ่มหน้าหวานนิสัยเรียบร้อย เป็นอีกคนที่ ทำให้ ภินทร์ หลง จนเกิดมีเรื่องกับ คิงส์ รุ่นพี่ปี 2 และเกือบจะตายถ้าไม่ได้ ตรินทร์ ตื่นขึ้นมาช่วย แต่นั่นก็ทำให้ การเป็น ภินทร์ ยากขึ้น การเปลี่ยนไปของ ภินทร์ ที่เกิดจากการเข้ามาแทนของ ตรินทร์ ทำให้ อะตรอม หายไป เมื่อ ภินทร์ ตื่นขึ้นมาแทนการตามง้อเพื่อนร่างยักษ์จึงเริ่มขึ้น และมันก็พาให้ ภินทร์ ก้าวเข้ากับดัก เพราะบ้านใหญ่ของอะตรอม มีเรื่องราวของ อดีต ฝังอยู่บนประตูไม้สลักบานใหญ่ อะตรอม เป็นคนช่วย ภินทร์ ออกมา ซ้ำยังแลกเปลี่ยนความลับที่ตนมีกับ ภินทร์ ความลับที่ว่า อะตรอมเป็น ยักษ์


จากการข้ามหน้าข้ามตาของ ภินทร์ ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาอีกเมื่อ คณะบริหารได้งบการออกร้าน โดยต้องให้ ภินทร์ เป็น ส่วนหนึ่งของการออกร้าน ในฐานะ Candy Boy ภินทร์ หาได้แคร์ไม่ เมื่อต้องกลับไปแต่งหญิงอีกครั้ง การออกร้านเป็นที่น่าสนุกแต่ต้องจบลงด้วยความชอกช้ำเมื่อโจทย์เก่าอย่าง คิงส์ และเพื่อนที่ เคยมีเรื่องด้วย เป้นฝ่าย ประมูล ภินทร์ ได้ ช่วงนี้ ภินทร์ ได้แต่หวังให้ ตรินทร์ ตื่นขึ้นมาแทนตน เพราะการเล่นสนุก โฟน เพื่อนคิงส์ ใส่ยาให้ ภินทร์ เรื่องเกือบจะเลยเถิด หาก ตรินทร์ ไม่ตื่นขึ้นมาแทนซะก่อน การรู้ความลับมากไปทำให้ อะตรอมลำบากเมื่อ พระแพง ไม่คิดปล่อยให้ อะตรอม ได้กลับมาหาภินทร์ การขัดขวางทุกวิถีทางจึงเกิดขึ้น เพราะเป้น ตรินทร์ เข้ามาแทน คิงส์เลยหวุดหวิดจะมีเรื่องกับ ตรินทร์ หลายครั้ง ซ้ำยังสับสนระหว่าง ความรู้สึกแปลกๆ ระหว่าง อยากกอดกับอยากกระทืบ จนสุดท้ายความรู้สึกของ คิงส์ ก็สิ้นสุด เมื่อตนนั้นรู้ว่า เป็น ห่วง คนใกล้ตาย อย่าง ภินทร์ แค่ไหน หมอ สัตรา ถูกเรียกให้ มาช่วยอีกครั้ง ในความรู้สึกอันเลือนราง ภินทร์ จำ หมอสัตรา ได้ แต่เมื่อตื่นขึ้นมา อีกครั้งความทรงจำนั้นมันก็หายไป คิงส์ ขอเลิกกับ บัส เพื่อมาครบ ภินทร์ โดยที่ยังไม่ได้ ถามภินทร์สักคำ การหักเหลี่ยมระหว่าง จระเข้ กับ ปลาไหลไฟฟ้าจึงเริ่มขึ้น แต่เพราะสับสนกับตัวเอง ทั้งทีเคยคิดไว้แล้วว่า จะไม่ยุ่งกับ บัสเกินกว่า พี่น้อง แต่พอเอาเข้าจริง ภินทร์ กับจับกด บัส ซะงั้น


ตรินทร์ ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อพบว่า โฆษิต ถูก คุณปาลาดินทร์ พ่อ ของ ตนให้หมั่นกับ โฟร์ ญาติลูกพี่ลูกน้อง เชื้อสายอีกฝากของตระกูล เพื่อที่จะเป็นการบบ่วงที่จะผูก ตรินทร์ ไว้ คุณปาลาดินทร์ ต้องการให้ ภินทร์ ใช้ชีวิตแทน อดีตลูกของตัวเองอย่าง ตรินทร์ นั่นยิ่งทำให้ ตรินทร์ บอกกับตัวเอง ถ้าต้องหายไป ตรินทร์ ก็จะเอา ภินทร์ ไปด้วย


ในสถานทีที่เรียกว่า ทะเลน้ำตา ตรินทร์ เจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อ ภัทร และ ภัทร เองก็คือ ภินทร์ !! ภัทร ปลอบใจ ตรินทร์ เหมือนเป็นทุกสิ่งของ ตรินทร์ และที่สำคัญ ภัทร เหมือนรู้ทุกเรื่อง ที่เคยเกิดขึ้น ขณะที่ ภินทร์ เหมือนจะไม่รับรู้อะไรเลย นอกจาก คำสั่งของ ภัทร ที่ว่า ทำทุกวิถีทาง ให้ บัพ กลับมาเป็นของ ตรินทร์ คนเดียว!!!


พระแพงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ คิงส์เองก็ไม่น้อยหน้า จนเกิดศึกย่อมๆที่ ภินทร์เองไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาด้วยเลย การทำสงครามของ ตาอินทร์(พระแพง)กับตานา(คิงส์) ทำให้ตาอยู่ อย่าง อะตรอมเข้ามาแทรกกลาง คุณปาลาดินทร์ โกรธเป็นบ้าเป็นหลัง เมื่อพบว่า ภินทร์ นอนกับ อะตรอม การพบกันอย่างไม่ได้คาดหมาย ทำให้ พระแพง เริ่มเข้ามาอยู่ในใจของ ภินทร์ อีกครั้ง เรื่องราวที่เหมือนจะแสนหวานในช่วงเช้ากลับกลายเป็นเรื่องร้ายในช่วงเย็น เมื่อ ภินทร์ถูกหลอกให้ กลับไปที่บ้านใหญ่ของอะตรอม จากปัญหาระหว่าง คลับใบไม้ ของพี่นพ และ Zap Zeal ของ คิงส์ ทำให้ไม่ยากที ภินทร์โดน ล่อลวง และหนึ่งในแผนการ นี้ก็เป็น พี่หมอ ซะเองที่เป็นคนช่วยตัวการใหญ่ อย่าง พวกยักษ์ บนบานประตู เพราะรู้สึกถึง ภัทร พี่หมอจึงยอมเสี่ยงสู้เพื่อช่วยจากเงื้อมมือของ เหล่ายักษ์ แต่ก็เกือบเฉียดตายกันทั้งสองคน พี่หมอตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคิงส์ และนั่นเป็นชนวนใหญ่อีกรอบที่ทำให้เกิดสงครามระหว่าง 2 ร้าน


ภินทร์ ตื่นขึ้นมาที่คอนโดของ เรดเพื่อพบสภาพบอบช้ำของ เพื่อนๆ และสภาพสุดยับของ อะตรอม แต่พอถามอะไร กลับไม่ได้ คำตอบกลับมา ภินทร์ ตัดสินใจพา อะตรอมกลับหอพัก แต่เมื่อไม่ได้คำตอบอะไร ภินทร์ จึงตัดสินใจ ไปเอาคำตอบ จาก คิงส์ แทน......

ที่คอนโดคิงส์ ภินทร์ เจอโฟนกับฟลุ๊ก ที่ยังคิดว่า ภินทร์เป็นมากกว่าเพื่อนของ คิงส์

"ถ้ามึงเป็นแค่เพื่อนมัน อย่างพวกกู.. มึงไม่มีทางมีกุญแจห้องไอ้คิงส์แน่..."

การไปหาคิงส์ทำให้ ภินทร์พอจำอะไรได้ลางๆ บางสิ่งที่ไม่น่าจะจำ ทุกอย่างเป็นกับดักของ หมอ .....
ภินทร์ตกลงบ่วงกับดักเต็มๆ  และที่ก้าวขึ้นมาจากบ้วงนั้นไม่ใช่ ภินทร์ แต่กลับเป็น ภัทร  ภัทรที่ไม่ใช่ ภัทร
 และภัทรคนนั้นก็เป็นคนขอให้ คิงส์พาไปหา หมอสัตรา ที่บ้าน
ที่นั่น คิงส์เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนไม่ได้สติอยู่บนชั้นสอง และเจอบางอย่างที่บ่งบอกว่า ระหว่างหมอกับ ภินทร์มันลึกซึ้งเกินกว่าคนรู้จัก  ภัทร พูดถึงเรื่อง ตรินทร์และโฆกับหมอ พร้อมบอกว่าจะทำบางอย่าง

"ไม่สนใจไม่ได้หรอก...เด็กนั่นคือ 'ตรินทร์' และคนที่ตรินทร์ รัก คือ 'โฆษิต'...แค่สองคนนั่น เท่านั้นที่สำคัญ... "

จนหมอเริ่มเอะใจ เพราะ ภัทร ไคนนี้ไม่เคยสนใจใคร นอกจากตัวเอง
ภัทร ของให้คิงส์พาไปหาคนๆหนึ่ง พอคิงส์ถา ภัทรก็บอกแต่เพียงว่า

"ไปเอา 'ตัวเราคืน'"

ภัทร กลับมาหาหมอที่บ้าน พร้อมรอยตีตราที่ได้มาอีกครั้ง .....และตอนนี้ ภัทร ตัดทุกอย่างที่เป็น ภินทร์ และตรินทร์ทั้งหมด และเริ่มใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง.....
.....แต่การใช้ศุภะที่ เกินขอบเขต เริ่มทำให้ หมอสัตรา กังวล 

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC.
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 13-06-2012 21:48:27
พจนานุกรมเฉพาะกิจ

คนหนึ่ง "รอ" อย่างตั้งใจ แต่อีกคน "หายไป" อย่างไม่ให้ "อีกคน" ได้ตั้งตัว

ตอนนี้กำลังจะก้าวเข้ามาในโลกของพวกอมนุษย์อย่างเกือบจะเต็มตัวแล้วเน้อเลยทำพจนานุกรมเฉพาะกิจ มาให้เข้าใจคราวๆก่อนนิดนึงว่าอะไรคืออะไร เริ่มจาก


*หญิงกาลี*

กาลี [N] ; bad Syn. ชั่วร้าย, เลวทราม, เลว, ต่ำช้า ในที่นี้หมายถึง พระแพง นาง หรือ พะเตรียง ซึ่งตอนนี้เรื่องยังไม่เปิดออกมาทั้งหมดแค่รู้คราวๆว่าเธอเป็นคู่หมั่นของ องค์ภังคียะแต่กลับไปแต่งกับ มหินทราที่ก่อกบฎ เพื่อตำแหน่งเทวีแห่งสุรโภคานคร เธอบอกว่า รัก องค์ภังคียะ ยิ่งชีวิต แต่ก็เป็นคนฆ่า องค์ภังคียะเองกับมือ? แต่ขอสปอยเลยว่าอย่าลืมนะ มันมีประโยคที่ว่า ถ้าไม่มีเธอ องค์ภังคียะก็มีชีวิตอยู่ยังแดน สุรโภคานครไม่ได้...อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าเธอเป็นหญิงกาลี เรื่องนี้ไม่นิยมตัวร้ายที่เป็นผู้หญิง ทุกการกระทำมันมีเหตุละผลของตัวเองเน้อ



*การแต่งงานของแผ่นฟ้าและผืนน้ำ*

การหมั่นหมายระหว่างวงศ์(นาคา และ เทวา) เป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่พูดอย่างนั้นเพราะการแต่งงานในแต่ละครั้งที่เวียนมาจะมีบางครั้งที่เป็นงานแต่งแห่งท้องฟ้าและพื้นน้ำ การเลือกไม่เคยเจาะจงหรือระบุแต่เราต่างรู้ ว่าครั้งใดครั้งหนึ่ง จะมีการถวายสายเลือดแห่งน้ำ(นาคา)ให้พื้นฟ้า(เทวา) นั้นหมายถึงการเดินทางชั่วนิรันดร์ การเดินทางที่พื้นฟ้าเป็นผู้เลือกโดยสายเลือดแห่งน้ำไม่มีทางขัดขืน ทั้งนี้ที่สายตระกูลแห่งน้ำยอมก็เพราะความรุ่งเรืองของวงศ์ตระกูล มันจึงเหมือนกับการเซ่นสังเวยลูกหลานคนหนึ่งเพื่อสายตระกูลทั้งหมด


*บัพ*

ควาย [N] ; buffalo Syn. กระบือ Sample. ชาวบ้านบางแห่งแบ่งส่วนใต้ถุนไว้เลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ หมู วัว ควาย ฯลฯ Def. ชื่อสัตว์เคี้ยวเอื้องชนิด Bubalus bubalis ในวงศ์ Bovidae เป็นสัตว์กีบคู่ รูปร่างใหญ่ สีดำหรือเทา เขาโค้งยาว ที่ใต้คางและหน้าอกมีขนขาวเป็นรูปง่าม พล่ามมามากมาย เนื้อมีนิดเดียว ภินทร์มันเรียก โฆษิตว่า บัพ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เพราะในความรู้สึกภินทร์ โฆษิตมันเฉือยชา ถามคำตอบคำไม่แสดงความรู้สึก แถมภินทร์ยังคิดว่า โฆ ออกเสียงว่า โค


*ออโตมัสไพรส์ม*

พออะตรอมบอกชื่อ คุณภินทร์ก็ คิดถึง ชื่อนี้ทันที แน่นอนมันมาจาก หัวหน้ากลุ่มฝ่ายไซเบอร์ทรอน ที่เรียกได้อีกชื่อว่า ออพติมัส ไพรม์ ในหนังเรื่อง ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส (Transformers) เนื่องจากอะตรอมตัวใหญ่มากมาย


*อัดยา*

ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าติดยา แต่ ตรินทร์ ต้องใช้ยากล่อมประสาทกดอาการที่เป็นผลมาจากการที่ต้องรับรู้เรื่องของ ภังคียะ เหมือนคำสาปที่ผลจะส่งมายังสายน้ำที่ถูกเลือก


*เหี้ยม,เคี้ยม*

เหี้ยม [ADJ] ; ruthless Syn. โหด, เหี้ยมโหด, โหดเหี้ยม วิชาการไปงั้น ที่จริงชื่อนี้ภินทร์ใช้เรียก คิงส์ แต่ภินทร์ก็เรียกถูกนะเพราะ คิงส์เป็น เคี้ยม จริงๆ ซึ่งในภาษาไทยโบราณ เคี้ยม ใช้เรียก จระเข้....


*เรื่องสำคัญ 5 อย่างของพวกนาคา*

1.การเกิด 2.การลอกคราบ 3.การเสพย์สังวาส 4.การนอนหรือสิ้นสติอย่างลึก 5.การตาย เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พวกนาคาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ยกเว้นข้อ 3. ตรินทร์ สามารถ 555+


*สุร*

เป็นชื่อเรียกเชื้อสายยักษ์ ธรรมดาเราเรียก อสูร แต่คำว่าอสูร สำหรับ ยักษ์ มันหมายถึงผู้แพ้ อะ-สุระ แปลว่าไม่กล้า,ไม่ดื่ม เป็นคำที่ได้มาจากการสงครามครั้งสุดท้ายของ เทวาและสุร ภังคียะก็มีเชื้อสาย สุร กึ่งหนึ่ง การดื่มสุราหรือเมรัย จึงเป็นการกดสติการรับรู้ดีชั่ว


*สมิง*

ร่างแปลง ในที่นี้หมายถึง เสือที่สามารถกลายร่างเป็น คนหรืออมนุษย์พวกอื่นได้โดยการจำแลง มี 4 ประเภท คือ เป็นเพราะคำสาป เป็นเพราะเผ่าพันธุ์ เป็นเพราะกินชีพมนุษย์หรือชีพอื่นจนปราณแปรเปลี่ยนไปตามจิตวิญญาณที่กิน เป็นเพราะเวทย์มนต์หรือคาถา


*ศุภะ*

ศุภะ เป็นชื่อเรียกของ หนอนร้อยศพ ใช้กำจัดซากทุกประเภท พวกอมุนุษย์ส่วนมากจะมี ศุภะ เก็บไว้กับตัวเผื่อฉุกเฉิน เวลากำจัดซากหรือศพ


*ตะบองพลำ*

ตะบองพลำใหญ่ยง อยู่ในป่าดงตัวดุจตะขาบไฟแดง มีฤทธิ์มีพิษเรียวแรง
พบช้างกลางแปลง เข้าปล้ำเข้ารัดกัดกิน..............

Cr."สัตวาภิธาน"สัตว์พหุบาทา(สัตว์มีเท้ามาก) โดยพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)

เป็นชื่อของสายพันธุ์ที่ลึกลับที่สุดในพื้นป่า มองจากภายนอกจะเหมือนจะเป็น ตะขาบไฟยักษ์ แต่ที่จริง ตะบองพลำเป็นคนละประเภทกับ ตะขาบไฟ ออกไข่ 1 ใบเท่านั้นในรอบชีวิต ฝังตัวอยู่ในพื้นดิน มีความเชื่อว่า ตะบองพลำกินช้าง แต่ที่จริงใช้ร่างช้างนั้นฝังไข่อ่อนสีเหลืองทอง(อำพัน)ขนาดนิ้วก้อยไว้ต่างหาก ลอกคราบเมื่อเจริญเติบโต คราบที่ลอกตะบองพลำจะกินเข้าไป แต่ถ้ามีการผิดพลาดระหว่างลอกคราบหมายถึงชีวิต คราบที่เหลือในกรณีที่มีการผิดพลาดใดๆเกิดขึ้น ใช้แขวนกันสัตว์ป่าได้ กันได้แม้แต่สมิงก็ยังกลัวกับปล้องคราบนั้น สำหรับ ภัทร ยังเป็นปริศนาอยู่ว่ามี ตะบองพลำอยู่ในร่างได้อย่างไร (ส่วนคนที่เดาได้ป่านนี้คงรู้แล้ว)


องค์มหินทรา

ผู้เป็นเจ้าของนิยามที่ว่า "ไร้พ่าย" นิสัยหยิ่งทะนงมิมีสิ่งใดที่ต้องการได้แล้วมิได้ยกเว้น "ปราณ แห่งผู้เป็นที่รัก" มีเชื้อสาย สรุ บริสุทธิ์ คงตำแหน่งรองแม่ทัพแห่ง สุรโภคานคร เป็น เชษฐาต่างมารดาแห่ง องค์ภังคียะ แม้จักมี บิดา ตนเดียวกัน (องค์ฑิฆังตรัง)แต่รักที่บิดาให้กลับไม่เท่ากันด้วย มารดา แห่ง องค์ภังคียะ ถือเป็นนางแห่งผืนน้ำ(นาคา) อันเป็นที่รัก หากมารดาแห่งมหินทรากับเป็นเพียงหญิงสามัญ จึงถูกรังเกียจจาก สุร และ นาคา ในเชื้อวงศ์ตั้งแต่วัยเยาว์ รักที่องค์มหินทรา มีให้จึงมีแด่อนุชาต่างบิดานาม ภังคียะ เท่านั้น ครั้งทราบว่า ภังคียะ จำต้องหมั่นหมายกับ นางแห่งแผ่นฟ้า (พะเตรียง) คราแรกเพียงแค่ขัดขวางครั้นทราบว่า องค์ภังคียะ มีใจรักใน นางนั้น จากเชษฐาอันเป็นที่รักจึงแปรเปลี่ยนเป็น แม่ทัพกองกบฎ เพียงหวังทวงคืน หัวใจ ของ ตน หากแต่นั่นกลับทำให้เรื่องราวเลวร้ายลงอย่างถึงที่สุด


'ตรินทร์' ษิตรินทร์ ชลวะเท

เครื่องสังเวยแห่งผืนน้ำ ถูกกำหนดมาให้แต่งกับ 'นาง' รักนางมากจนยอมได้ทุกสิ่งแม้แต่การ ห้ามใจไม่ให้รับรู้ความรู้สึกของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากนางคือ การตายทั้งเป็น เพียงเพราะไม่ใช่ คนที่ควรจะเป็น ไม่ค่อยแสดงออกกับคนที่ตัวเองชอบเพราะ เกมส์ที่เคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เกมส์ภาษากาย ถ้าไม่พูดแต่รู้ว่าต้องการอะไร นั่นคือคนสำคัญ มีโรคประจำตัวที่เป็นผลมาจากความฝัน ทำให้มักจะละเมอกรีดข้อมือตัวเอง เก่งเรื่องต่อยตี ที่สุด...มักจะเป็นคนคอยตามล้างตามเช็ดเรื่องที่ ภินทร์ ทำค้างไว้ แต่บางทีก็ไม่โผล่มาซะดื้อๆ แล้วมีอะไรอีกหล่ะ สำหรับตรินทร์ มีลูกชาย 3 คน ชื่อ แม็กกะ โปรตรอน(เสียชีวิตไปแล้ว) และ ซีนอล เอ่อ...เกือบลืม อย่าพูดคำว่า "ไม่" หรือ "หยุด" กับ ตรินทร์... อยากรู้ว่าเพราะอะไร ถาม โฆ....
องค์ชายตรินทร์ (แถวนี้เขาเรียก ราชินี ) อิมเมจ ตรินทร์ ต้อง นิ่ง โหด ซึน


'ภินทร์ /ภัทร ‘ณภัทรตรา’

อยู่กับพี่หมอดีๆ มาเกือบจะ 30 อยู่ๆก็ต้องมาเปลี่ยนกับ ตรินทร์ ซะงั้น จำเรื่องเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ แม้จะมีความทรงจำลางๆ แต่ความทรงจำบางทีก็ไม่น่าจะพิสมัยเท่าไหร่นัก ....เลยไม่ค่อยจะหาอดีตตัวเองเท่าไหร่ ใช้ชีวิตในร่าง ตรินทร์ แบบสุดขั่วขนาดดร็อปความชั่วร้ายและความเจ้าชู้ลงเกือบ 60% แล้วแต่ก็ไม่วาย...คอยสร้างเรื่องให้ ตรินทร์ คอยตามแก้เสมอ ความสัมพันธ์กับ ตรินทร์ ยังเป็น ปริศนา สกิล การต่อสู้เป็นศูนย์ แต่สกิล ความกระล่อน ระดับเทพ เล่นกีตาร์ไม่เป็น ขับรถไม่ได้ ไม่ค่อยรับรู้อะไรมากนักกับชีวิตที่มีตัวประหลาดวนเวียนอยู่รอบๆตัว ไม่รู้แม้กระทั้งตัวเองเคยเป็น 'อะไร' มาก่อน ตอนนี้รับบทนักร้องนำวง 'ลิงกินผัก' กับเพื่อนๆ 3 หน่อ เรด กร้า แป้น มีเพื่อน'รัก' อีกคนชื่อ อะตรอม
ปีศาจภินทร์ (แถวนี้เขาเรียก ภินทร์ของอะตรอม ) อิมเมจภินทร์ ต้อง ขี้เล่น ยิ้มเก่ง กระล่อน


*เหรา*
 
เหรา [N] ; อ่านได้ทั้ง เหรา และ เห-รา ปกติหมายถึง สัตว์หิมพานต์ ซึ่งสัตว์ค่อนไปทางจำพวกจระเข้ ผสมกับนาค หลายคนเชื่อว่ามันเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ ตระกูลเดียวกับจระเข้ ?! (คุ้นๆหรือยัง?ว่าโยงไปหาใคร) กินเนื้อเป็นอาหาร แต่ในที่นี้หมายถึง 'เหราไฟ' กลุ่มกองโจรที่คุม ด่านเหวเหรา เป็นด่านที่ทัพแห่งสุรโภคานครต้องใช้ผ่านเพื่อทำการศึก แต่เนื่องจากหากรบกัน พวกเหราจะได้เปรียบในแง่ของชัยภูมิที่เป็นหุบหินซอกเขา มีทางผ่านได้เพียงไม่กี่ทาง พวกเหราจึงเป็นผู้ต่อรองเสมอมาในเรื่องค่าผ่านทาง ส่วน มหินทราที่ตอนนี้เป็นเพียงหัวหน้ากอง คิดฝ่าดงเหราเพื่อเปิดทางจึงได้มีสภาพเช่นนี้ ....โดนฝังทั้งเป็นใต้หุบเหรา ต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้าต้องสู้กับเจ้าถิ่นทั้งฝูงก็แพ้อยู่ดี


*อสินขะนรก*

อสินขะนรก เป็นหนึ่งในนรก แปดขุมของ นิรยะแดน เรียกอีกอย่างได้ว่า แดนอสูรเขี้ยว (เล็บ) ดาบ (อสิ [N];. ดาบ, มีด, กระบี่. – นขะ [N];. เล็บ เล็บมือ เล็บเท้า )เนื่องจาก สัตว์นรกที่มาเกิดยังแดนนี้มี เล็บมือเล็บเท้าแหลมยาวกลับกลายคล้ายอาวุธ ใช้ชีวิตโดยการใช้มือที่มีเล็บเป็นอาวุธนั้น จับเกี่ยวกับเพดานหินของแดนแล้ว ห้อยหัวลง แดนนั้นเยือกเย็นและมืดมิดชั่วกาลเนื่องจากเป็นเขตของ นิรยะแดน กล่าวกันว่า สัตว์นรกแดนนี้เคย แข็งขืนขนาดปืนขึ้นไปเชิงเขาไกรลาศเพื่อไถ่ถามหานายตน (แดนนี้เขาเปรี้ยว...บทจะอยู่เฉยก็เฉยซะไม่สนใจแดนไหน บทจะไฮเปอร์วันดีคืนดีก็บุกขึ้นเขาไกรลาศซะงั้น ) จนองค์ศิวะ ประทานนายให้ดั่งคำขอ ...นายนั้นเกิดจากไข่แถมมีเล็บสีนิล เหมือน ภังคียะ องค์ฑิฆังตรัง เลยเล่าเรื่องนี้ให้ ภังคียะ ฟัง ตั้งแต่เด็ก.... ส่วนตอนนี้พี่ชายที่ใกล้ตายนึกไปถึงว่า..เคยคุยเล่นกับน้องชาย ถ้าเขาตายไปจะตกนรกขุมไหน ? น้องชายเลยบอกว่าให้ไปที่ อสินขะนรก (แต่...มันเลือกกันได้ด้วยหรอ?  ) เพราะแดนนี้พ่อเคยบอกว่าถ้า ภังคียะสิ้น ภังคียะก็จะไปเป็นนายที่แดนนี้ จะได้อยู่กับพี่ชาย....หวานซะ... 



*ตระกูลของ หลิน *

คราวนี้มาในเรื่องของ คุณหลิน หนุ่มหน้าหวานของเรา ที่จบไม่สวยเท่าไหร่ เมื่อเจออะตรอม (อะตรอม...หนูเป็นฆาตกร ตั้งแต่เด็กๆเลยนะลูก  )

 หลิน มีเชื้อสายตระกูล ทางเหนือ นับถือ ‘ผี’ ในที่นี้หมายถึง‘ผีกะ’ หลิน จะเป็นประเภทยิ่งมืดยิ่งงาม ดึกยิ่งสวย (?)ยิ่งดึกยิ่งเด่น สำหรับพวกที่รับผีกะเข้ามาเลี้ยงและใช้งาน จะมีสำนวนเฉพาะใช้เรียกสายตระกูลด้านนี้ว่า "งามขำ" คือ ยิ่งดึกยิ่งเด่น ยิ่งเย็นยิ่งสวย เล่ากันว่า หากพบคนที่ถูกใจ พวกเจ้าของผีกะจะใช้ ผีช่วย ให้ตนงามตรึงใจให้ใหลหลง( สองแก้มแดง เรื่อใสเนียน ยิ่งดึกยิ่งสวย)สิ่งที่ทำให้แก้มทั้งสองข้างแดงเรื่อ ดังผลมะปราง สุกเดือนเจ็ด ก็เพราะมีมักฏะ(อ่านว่า มัก-กะ-ตะ)คือลิง(ค่าง)2 ตัว นั่งยอหัวอยู่บนไหล่ทั้ง 2 คอยแลบเลียผิวแก้มให้สดใส คนทั่วไปไม่สามารถจะมองเห็น ได้ด้วยตา แต่ว่าหนูอะตรอมเขา พิเศษ ใส่ลูกชิ้นเลยมองเห็น แถม ฆ่าตายคามือ … นอกจากนั้นผีกะก็ยังจำแลงแปลงกายให้คล้ายกับสัตว์ได้อีกหลายชนิด เช่น เป็นแมวดำ หมาดำการสืบต่อหรือการรับมรดกตกทอดร่วมเป็นตระกูลผีกะ ส่วนมากจะตกอยู่กับฝ่ายหญิงฝ่ายชายจะไม่ค่อยรู้ในเรื่องนี้(แต่อาจละเว้นในกรณี ของ หลิน ที่เป็น ลูกชายคนเดียวของตระกูล ) และหญิงชายใดที่ แต่งงานได้เสียกับคนที่เป็นผีกะได้นอน หรือ กินข้าวร่วมไหเพียง 7 ไห ก็ถือว่าได้เป็นตระกูลสายผีกะไปแล้ว….เกือบไปแล้ว ภัทร เอ้ย!!


*เนื้อนาบุญ*

เนื้อนาบุญ เป็น คำเฉพาะที่ใช้เรียก พวกที่เกิดมากินบุญ หรือกินบุญเก่า ชีวิตพวกนี้มักไม่ค่อยประสพความทุกข์ยาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยช่วงชีวิตที่แสนสั้น แม้มักจะเป็นทีรักของผู้ที่ใกล้ชิด แต่ก็เป็นได้แค่ความทรงจำ เพราะมักจะหมดอายุขัยเร็ว ส่วนหนึ่งมักจะตายโหง เนื่องจากถูก สัมพเวสี กิน หรือติดตาม พวกนี่ส่วนมากจะเป็นพวกมีเซนต์ทางวิญญาณ ยกเว้น ภัทร ที่ ไร้ต่อมรับรู้....ส่วนหนึ่งเพราะตอนที่ ภังคียะ สลาย ภังคียะเองไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรกับ เรื่องสายตระกูล ผลมันเลยตกมาถึง ภัทร แบบเต็มๆ แต่ก็เป็นผลดีในบางครั้ง เพราะการมองไม่เห็น แต่บางครั้งก็เป็นผลเสีย เพราะไม่รู้ตัวว่า จะโดนกิน อย่างกรณี ของ หลิน ส่วนการเกิดของเนื้อนาบุญ มักจะมีสัญญาณกลายๆให้ ทางผู้ใหญ่รับรู้ได้ เช่น ตอนที่เด็กเกิดจะมีสายรุ้งเกิดขึ้นพอดี หรือ เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด, เด็กที่เกิดมา ไม่มีรอยยับรอยย่น หรือไม่มีเส้นลายมือ ,เด็กที่เกิดมาผิวเนื้อละเอียดนวลเหมือนแป้งผัดตอนต้องแสงเทียน,ฯ นี่คือสัญญาณคราวๆของ เด็กเนื้อนาบุญ ที่พอเกิดมาทางผู้ใหญ่จะทำใจไว้กลายๆแล้วว่าต้องเสียเด็กคนนี้ไปก่อนเวลาอันควรแน่นอน ส่วนมาช่วงชีวิตที่เด็กจะไม่รอดคือ ตอนเกิด ตอน 2 ขวบ ตอน 4 ขวบ ตอน 7 ขวบ ตอน 8 ขวบ ตอน 9 ขวบ ตอน 14-15 และถ้าหลังจากนั้นมาก็สามารถตายได้ทุกเวลา เพราะ เนื้อจะหอมจน สัมพเวสี รุมตอม


เอ่อเหนอะ ลืม ขอบคุงเน้อซันชา

*ปราณ*

สิ่งแทนวิญญาณ แต่ฝั่งรากลึกกว่านั้น เป็นเหมือน ต้นกำเนิดทั้งหมดของชีพนั้นๆ มากกว่าความรู้สึกแต่ลึกกว่าสันดาน รับรุ้ได้เหมือนลมหายใจ เป็นสัญญาที่ติดตัวมาในทุกๆชาติ


>>>>>เหนื่อยอะ  :เฮ้อ:<<<<<<

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tewava ที่ 13-06-2012 22:05:40
ปกติจะรอให้นิยายมีหน้าเกิน 20 ไปแล้วถึงจะเริ่มอ่าน แต่บังเอินได้อ่านเรื่องไอเดียร์แล้วชอบ
เลยตามหา ว่าคุณคนเขียนเคยเขียนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง จะได้ตามเก็บ มาเจอเรื่องนี้เห็นมีไม่กี่หน้า แต่มัน 70 ตอน คุณพระ!! :a5 :a5: :a5:
ใช้เวลาตามอ่านอยู่ 2 วัน ถึงตอนที่ 50 แล้วก็ยังมึน งง กับ ภัทร มันมีกี่คนฟร่ะ!!!


สถิติใกล้เคียงกันเลย อ่าน 2 วัน ห้าสิบกว่าตอน แล้วก็งง ว่าภัทรมีกี่คน แล้วก็ได้ข้อสรุป เมื่ออ่าน ถึงตอนที่ 70 เป็นเรื่องที่เราอ่านแบบ ตั้งใจมากเลยนะ ไม่ข้ามไปแม้บรรทัดเดียว กลัวตัวเองพลาดอะไรไป แล้วจะไม่เข้าใจอะ  แต่คุณ Zitraphat แต่งดีมากนะ น่าติดตามทุกตอน ไม่น่าเบื่ออะ เชื่อว่าทุกคนที่ตามมาอ่าน จะชอบเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 14-06-2012 00:15:07



    ทามมายเรื่องย่อกะพจนานุกรมมันดูยาวขึ้นก่าคราวที่แล้วเยอะเลยอ่า
    ค่อยดูเหมือนย่อมาจาก 70 ตอนหน่อย
    แต่เอ. . . คนเขียนลืมอธิบายคำว่าปรานไปอ๊ะป่าวนะ
   

ปกติจะรอให้นิยายมีหน้าเกิน 20 ไปแล้วถึงจะเริ่มอ่าน แต่บังเอินได้อ่านเรื่องไอเดียร์แล้วชอบ
เลยตามหา ว่าคุณคนเขียนเคยเขียนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง จะได้ตามเก็บ มาเจอเรื่องนี้เห็นมีไม่กี่หน้า แต่มัน 70 ตอน คุณพระ!! :a5 :a5: :a5:
    เรานิสัยกลับกันแฮะ เค้าชอบอ่านเรื่องที่ตอนยังสั้นๆอ่า ประมาณว่าถ้าเห็นยาวสักเกิน 50 หน้าแล้วจะเริ่มไม่อยากตามอ่าน ถ้าเห็นสัก 5 หน้านี่กะลังน่าอ่านเลย ^ ^



   ปล. คิดถึงหนูภังคียะจังน้า



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-06-2012 00:39:51


    ทามมายเรื่องย่อกะพจนานุกรมมันดูยาวขึ้นก่าคราวที่แล้วเยอะเลยอ่า
    ค่อยดูเหมือนย่อมาจาก 70 ตอนหน่อย
    แต่เอ. . . คนเขียนลืมอธิบายคำว่าปรานไปอ๊ะป่าวนะ
   
    เรานิสัยกลับกันแฮะ เค้าชอบอ่านเรื่องที่ตอนยังสั้นๆอ่า ประมาณว่าถ้าเห็นยาวสักเกิน 50 หน้าแล้วจะเริ่มไม่อยากตามอ่าน ถ้าเห็นสัก 5 หน้านี่กะลังน่าอ่านเลย ^ ^



   ปล. คิดถึงหนูภังคียะจังน้า
V
V
V
สะใจไหมอะซันชา 6 หน้า 70 ตอน  :m20: :m20: :m20: :m20: เอาให้อ๊วกกันไปข้างนึ่งเลย  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 14-06-2012 01:23:35

V
V
V
สะใจไหมอะซันชา 6 หน้า 70 ตอน  :m20: :m20: :m20: :m20: เอาให้อ๊วกกันไปข้างนึ่งเลย  :laugh: :laugh:



   อะแหะๆๆ อันนี้เค้าเรียกเยอะซ่อนรูป ถ้ามีการจัดอันดับเซ็งเป็ดเรคคอร์ดคงเอาลงไปแว้ว
   ดีนะที่ทยอยอ่านมาก่อน
   แต่ตอนที่มาไล่อ่านอีกรอบนี่ก็ออกอาการมึนไปเหมือนกัล
   อารมณ์ว่า ม่ายไหวแล้ว ขอไปสลบก่อนนะเดี๋ยวมาอ่านต่อง่า
   ว่าแต่ว่าเรื่องนี้ 70 ตอนแล้วถึงครึ่งเรื่องอะยังเนี่ย!!



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 14-06-2012 09:44:05
เข้ามาทวงตอนต่อไป :z2: :z2: :z2:
ทำเราติดแล้ว เอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ
ที่อ่านได้ ไม่ใช่ว่าว่าง แต่แอบอู้เวลางาน นายไม่อยู่ คริคริ :laugh:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-06-2012 10:06:20
เข้ามาทวงตอนต่อไป :z2: :z2: :z2:
ทำเราติดแล้ว เอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ
ที่อ่านได้ ไม่ใช่ว่าว่าง แต่แอบอู้เวลางาน นายไม่อยู่ คริคริ :laugh:
V
V
V
ตายแล้ว ตายแล้ว ตายแล้ว  :a5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 15-06-2012 14:40:57
...............ในที่สุด สายตาของผมก็มาหยุดอยู่  ตรงบรรทัดสุดท้ายของหน้า...  ผมค่อยๆ หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าช้าๆ พร้อมกับ

สมองก็ประมวลข้อมูลทั้งหมด ที่ได้รับมา......

          ไม่อยากจะบอกเลยว่าบางทีการรับ เรื่องราวหลายเรื่องเข้ามาพร้อมๆกัน ก็ทำให้เบลอ และจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก 
 
ไหนจะเรื่องที่ยังคิดไม่ตก ตีไม่แตก บางครั้งก็เผลอจับแพะชนแกะ โดยที่ลืมไปว่า มันเป็นคนละเรื่องกัน.......

               นี่ผมพลาดอะไรไปรึเปล่า ???  หรือมีเรื่องไหนที่ผมต้อง ไปทำความเข้าใจเพิ่มอีก หรือไม่ ผมอาจจะต้องไปเริ่ม

นับหนึ่งใหม่อีกครั้ง.........

     ถอนหายใจเบาๆ  แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนข้างๆ หันมามอง  ใครจะสนล่ะ ??  เพราะตอนนี้สายตาของผม เริ่มพร่ามัว

สติสัมปชัญญะเริ่มจะขาดหาย  ......     

                   ผมค่อยๆ ซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม สูดดมกลิ่นคุ้นเคย ที่ติดอยู่ที่หมอน แล้วหลับตาลงอย่างช้า ๆ   แต่ก็ไม่ลืมที่จะพับ

กระดาษที่เขียนบันทึกใส่กระเป๋าไว้ เผื่อว่าเมื่อผมตื่นขึ้นมา.................



โดยที่มีดวงตาคู่หนึ่ง จ้องมองอย่างเงียบ ๆ ...






 :m15:ผลพวงมาจากง่วงไปหน่อย เลยเม้นท์ อารมณ์แบบงั่วๆ =(ง่วง + มั่ว) :z2: :z2:

 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-06-2012 15:39:42
...............ในที่สุด สายตาของผมก็มาหยุดอยู่  ตรงบรรทัดสุดท้ายของหน้า...  ผมค่อยๆ หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าช้าๆ พร้อมกับ สมองก็ประมวลข้อมูลทั้งหมด ที่ได้รับมา...... ไม่อยากจะบอกเลยว่าบางทีการรับ เรื่องราวหลายเรื่องเข้ามาพร้อมๆกัน ก็ทำให้เบลอ และจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก 
 
ไหนจะเรื่องที่ยังคิดไม่ตก ตีไม่แตก บางครั้งก็เผลอจับแพะชนแกะ โดยที่ลืมไปว่า มันเป็นคนละเรื่องกัน.......

               นี่ผมพลาดอะไรไปรึเปล่า ???  หรือมีเรื่องไหนที่ผมต้อง ไปทำความเข้าใจเพิ่มอีก หรือไม่ ผมอาจจะต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง.........

     ถอนหายใจเบาๆ  แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนข้างๆ หันมามอง  ใครจะสนล่ะ ??  เพราะตอนนี้สายตาของผม เริ่มพร่ามัว

สติสัมปชัญญะเริ่มจะขาดหาย  ......     

                   ผมค่อยๆ ซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม สูดดมกลิ่นคุ้นเคย ที่ติดอยู่ที่หมอน แล้วหลับตาลงอย่างช้า ๆ   แต่ก็ไม่ลืมที่จะพับกระดาษที่เขียนบันทึกใส่กระเป๋าไว้ เผื่อว่าเมื่อผมตื่นขึ้นมา.................


V
V
V

ปวดหัวชะมัด ...ตื่นขึ้นมาอีกวัน....อีกวันแล้วที่ต้องใช้ชีวิตอย่างนี้ ........เหมือนเดิมทุกครั้งที่เศษกระดาษแผ่นบางๆจะจดสิ่งที่ผมไม่รับรู้ใส่ไว้ในกระเป๋า ...อ่านบ้างไม่อ่านบ้างแต่ก็ต้องบังคับตัวเองให้อ่าน....ชีวิตวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ผมไม่อยากคิด ไม่อยากรับรู้ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่มีไอ้โฆอยู่ข้างๆ ทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด....เมื่อก่อน....
ผมดีใจนะทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา ไม่สิทุกครั้งที่สามารถตื่นขึ้นมาได้ มากกว่า....
..ทุกครั้งที่หลับตาผมเคยภาวนาให้ตัวเองมีโอกาสตื่นอีกครั้ง ...
เพื่อพบไอ้โฆ ...อีกสักแค่นาที
.....
...............แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบแล้ว ..... ผมยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอน ยังไม่อยากลุกไปจากกลิ่นที่คุ้นชิน ....
....กลิ่นไอ้โฆที่กำลังจะจางหายไป.....
............
......ทิ้งเวลาอีกวันอยู่บนเตียงๆเดิม....ปล่อยให้มันผ่านไปอีกวัน....
....อย่างไรความหมาย
...
...
.ผ่านไปโดยที่ไม่รู้ว่า พรุ่งนี้...
...
......ผมจะได้ตื่นขึ้นมาอีกไหม?
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 15-06-2012 22:53:17


   ดูเค้าเมนต์กันเป็นเรื่องเป็นราวมากอ่า. . .
   อ่านเม้นเหมือนอ่านนิยายสั้นๆอีกตอน
   ทามปายด้าย เฮ้อ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 16-06-2012 06:31:59
RainyMooD

 +1+เป็ด  :a2:   สรุปแต่งเสร็จไปอีก 1 ตอน หุหุหุ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 16-06-2012 11:17:26
ระหว่างนี้ตรินทร์อยู่ว่างๆ คงเหงาเนาะ
ถ้าโฆไปเยี่ยมได้คงดี แล้วก็สวีทกันสองคน :o8:

คนแต่งไม่ยอมแต่งตอนหวานๆ ตูจิ้นเองก็ได้ฟระ โฮะๆ :haun5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 16-06-2012 12:14:06
RainyMooD

 +1+เป็ด  :a2:   สรุปแต่งเสร็จไปอีก 1 ตอน หุหุหุ




อั้ยย่ะ   เล่นแบบนี้เลย   :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 20-06-2012 22:20:35
 :o8:อ่านจนครบแล้ว
คนเขียนเจ้าขา กรุณามาต่อไว้ๆๆนะเจ้าค่ะ
ทั้งสองเรื่องเลย
ไม่งั้นจะ......คนเขียนนะค่ะ
รักคนเขียน :L1: เฉพาะตอนที่มาอัพนะเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 20-06-2012 22:23:25
:o8:อ่านจนครบแล้ว
คนเขียนเจ้าขา กรุณามาต่อไว้ๆๆนะเจ้าค่ะ
ทั้งสองเรื่องเลย
ไม่งั้นจะ......คนเขียนนะค่ะ
รักคนเขียน :L1: เฉพาะตอนที่มาอัพนะเจ้าค่ะ
V
V
 หง่ะ เข้าเล้ามาได้ก็โดนซะแล้ว

มากอดกันก่อนดีกว่า...ฉลองเข้าเล้าได้เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน

เนียน..... :กอด1:

**ปล. สองเรื่องที่ว่าอีกเรื่องเรื่องไหนอะ เพราะตอนนี้ที่โดนทวงอยู่ มี Dark สาป...รากไทร กับ กาลกีรตี และ โทษทีค่ะฯ**
ยิบย่อยไม่นับ.... :z10:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 20-06-2012 22:30:05
V
V
 หง่ะ เข้าเล้ามาได้ก็โดนซะแล้ว

มากอดกันก่อนดีกว่า...ฉลองเข้าเล้าได้เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน

เนียน..... :กอด1:

^
^
^
จริงๆๆก็พึ่งเข้าได้เมื่อกี้ แต่อยากอ่านต่อแล้วอ่ะค่ะ
 :man1:คนเขียน นะค่ะ น้ำอยากอ่านมากๆๆเลยเจ้าคะ
อยากรู้ว่าพี่แต่งเรื่องอะไรบ้างค่ะ
ตอนนี้อ่านเรื่อง29 G.Become 21 Boy.. กับกาล นะเจ้าค่ะ
อยากได้ลิงด์ทุกเรื่องที่พี่แต่งจะไปตามอ่านแก้เซ็งเจ้าค่ะ  :o8: :L3:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[บทนำ 24/6/55- P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 20-06-2012 23:00:12
^
^
^
จริงๆๆก็พึ่งเข้าได้เมื่อกี้ แต่อยากอ่านต่อแล้วอ่ะค่ะ
 :man1:คนเขียน นะค่ะ น้ำอยากอ่านมากๆๆเลยเจ้าคะ
อยากรู้ว่าพี่แต่งเรื่องอะไรบ้างค่ะ
ตอนนี้อ่านเรื่อง29 G.Become 21 Boy.. กับกาล นะเจ้าค่ะ
อยากได้ลิงด์ทุกเรื่องที่พี่แต่งจะไปตามอ่านแก้เซ็งเจ้าค่ะ  :o8: :L3:

V
V
V
ถ้าอ่านแก้เซ็ง เน้นฮา แนะนำเรื่องนี้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33295.120#lastPost

'โทษทีค่ะ..ที่คุณเรียกว่า'ตุ๊ด'เมื่อกี้หน่ะ..แฟนหนู >>> คอมมาดี้ แอ็คชั่น สัตว์ประหลาด ดราม่าไม่ค่อยลงแต่คนชอบคิดว่าดราม่า เรื่องนี้ คาดเดาความเป็นไปไม่ค่อยถูก

อีกเรื่องไม่สปอย์ รอเรื่องจบก่อน ไม่เหมาะแก่การอ่านเล่นดาร์กดราม่า หลอน
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33508.120#lastPost
[เรื่องสั้น*Dark*] สาป...รากไทร


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tewava ที่ 20-06-2012 23:18:28
เปิดเล้ามา นึกว่าจะได้อ่านต่อเลย เฮ้อ!!!!    รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! เรื่องย่อและพจนานุกรมทั้งหมด P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Lacie ที่ 21-06-2012 13:33:15
ปักหลักเป็นแฟนคลับทั้งสองเรื่องเลย!!!!
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[บทนำ] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 24-06-2012 01:09:15
 :a6: :a6:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[บทนำ 24/6/55- P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-06-2012 01:54:47
บทที่ 71  น้ำตานางเงือก.....[บทนำ]



......
...
.
................ผมหายใจยาว....อย่างที่ไม่เคยทำมานาน....หน้าอกเหมือนจะหนักๆ อึดอัดแบบไม่คุ้นชิน ....ผมยาวที่ปรกลงมาเกือบถึงช่วงเอวนี่ด้วยยาวเกินกว่าทุกครั้งที่เคยไว้ ...ไม่สิยาวกว่าทุกครั้งที่เคยคิดภาพไว้มากกว่า....สองแขนที่ยืดยาวออกไปก็ด้วย ทำไมมันถึงเล็กได้ขนาดนี้.....
นี่หรอ ...ร่างกายของผู้หญิง ??

"ยังไม่คุ้นร่างนี้หรอ?"

คุณหมอเจ้าของแววตาวาวถามผมขณะที่ คอยสางผมที่ยาวลงมาจนเกือบจะถึงเอวให้ผมอย่างเบามือ....สายตาที่มองมามีแต่แววตาที่อบอุ่น....สายตาคู่นั้น...มองมายังร่างผม... ไม่ได้มองเข้ามาในแววตาผม....แค่นั้นก็ทำให้รู้.....
หมอคนนี้....รักร่างกายนี้แค่ไหน.....

"ภัทร....ณภัทรตรา.....  คือชื่อของเธอในตอนนี้..."

............................
..........................................................



แววตาสีแปลก  มองสะท้อนกลับมาที่ผม...ภาพของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ....ดูน่าดึงดูดแบบอธิบายไม่ถูก ผิวสีนวลที่ออกไปทางขาวซีด น่าจะเป็นผลมาจากการที่ไม่ได้ออกไปโดนแดดมาสักระยะหนึ่งแล้ว...รอยสักรูปตะขาบที่พาดจากไหล่จนไปสุดที่ตำแหน่งหัวใจ...ทำให้ร่างกายที่เปลือยเปล่านี้ดูลึกลับ...รอยสักตะขาบตัดกับดอกชบาสีสด....ผมไล่มือเรื่อยไปตามกระจกที่สะท้อนภาพนั้น.....
..
.........
..ภาพของ..
..
...ตัวผมในตอนนี้......
.............
............................



"จะทำอะไร  ?"

ผมเริ่มจะพูดออกมาเป็นคำได้บ้างแล้ว...เริ่มโวยวายเมื่อ คนๆนั้นช้อนอุ้มผมให้ลอยสูงขึ้นจากเก้าอี้วีลแชร์....ร่างกายผมตอนนี้อ่อนแอเกินไป...ผลกระทบของการอยู่ในสภาวะผัก .....นานเกินกว่าร่างกายจะรับได้.... 

"นายจะมานั่งเล่นแบบนี้ไม่ได้ ....ฉันมีเวลาเหลือไม่มาก ....ตอนนี้ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่ฉัน แต่อยู่ที่เราสองคน..ทำสัญญาของเราให้เป็นจริง.....จากนั้นมันจะเป็นยังไงก็แล้วแต่....."

"ทำอะไร?"

...
......."ทำทุกวิถีทาง...ให้ ไอ้เบื๊อกนั่น เป็นของนาย.......มองนายแค่คนเดียว....นั่นหล่ะสิ่งที่ฉันจะทำ!!!"

.............
..................................


"อันดับแรกต้องฝึกเดินก่อน....จากนั้นก็เรื่องพูด....เอ่ยออกเสียงให้ได้ .....ฉันรู้ว่ามันยาก....แต่นายต้องทำ.....ถ้านายจะอยู่กับฉัน นายต้องทำสองอย่างนี้ให้ได้ .......ฉันไม่ไว้ใจ....ถ้านายยังอยู่กับหมอ....วันไหนไอ้หมอมันรู้เรื่องเวลาของฉันขึ้นมา....นายไม่ได้ตายดีแน่.....ฉะนั้นนายต้องยืนให้ได้ เดินให้ได้ ....ใช้ชีวิตให้ได้ ....ทำแค่นี้หล่ะ....สิ่งที่นายต้องทำให้ได้ ......
............
......
.
..
.





...
.
.หลังจากนั้น............


....

.

 เราจะไปหาไอ้โฆ กัน....


.
..........

.....
..
.



 ตรินทร์..."

.............
..................................



.


..........................................................

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[บทนำ 24/6/55- P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 24-06-2012 02:13:26
อะไร อะไร อะไร อะไร  อะไร อะไร

อย่าบอกนะว่าไอ้คุณบัพ จะได้ภรรเมียแก่ :o8: :-[





เก้าอี้วิวแชร์>>วีลแชร์ (เค้าว่าคำนี้สวยกว่ามั้ย)
อ่อนแอ่
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[บทนำ 24/6/55- P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshinesunrise ที่ 24-06-2012 09:43:23
ภัทรได้ร่างตรินทร์ และตรินทร์ได้ร่างภัทร.. สนุกสนานเฮฮา.. เฮฮ
คุณบัพของเราคงจะสมหวังแล้วสินะ(?) ... ตึ งงงงงง
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[บทนำ 24/6/55- P.7]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 24-06-2012 10:30:42
อะไร ยังไง งงอีกแล้วเจ้าค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]10%
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-06-2012 11:12:45
ว้าว คิดถึงตรินทร์ ตรินทร์ก็มา
จะอยู่ในร่างนี้ตลอดไปป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]10%
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 24-06-2012 14:52:32
ความงง เป็นสัจธรรมของเรื่องนี้   :m29:
รอต่อไป

ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่าง
Zitraphat ก็พร้อมที่จะแถลงไข (แต่เมื่อไหร่อ่ะ)
เพื่อปกป้องไม่ให้ ภัทร&ตรินทร์ ถูกทำลาย
เพื่อนำพาความสงบสุขบนพื้นโลก
เผยความชั่วร้ายและสัจธรรม
ตัวโกงผู้แสนน่ารักและมีเสน่ห์
พะเตรียง
พระแพง
พวกเราสองคนคือแก๊งค์ตะบองพลำแห่งจักรวาล
ไว้ท์ฮอล พรุ่งนี้ที่สดใสรออยู่  :a1:

ส่วนข้าพยัคฑิฆามาสไง :z2: เชิ้บ เชิ้บ

บ้าไปและตรู






ทร่าม
คลีบหาง
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 24-06-2012 15:49:33
อ๋อย  มาหยอดทีละนิด ทีละนิด ให้คนอ่าน :เฮ้อ:
แต่ยังไงเค้าก็รักนิยาย 2 -3 เรื่องนี้ที่แอบๆอิรุงตุงนังกันนิดนึง อ้อ รักคนเขียนด้วยนะจร๊าาาาา :กอด1:
 o13 o13 o13





สปีชีย์
เสียงทุ่ม
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-06-2012 18:18:55
บทที่ 71  น้ำตานางเงือก.....[1]

[เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์]



......แล้วเจ้าชาย....ก็จุมพิตเจ้าหญิง.....ท่ามกลางแสงอรุณแรก........
.......
..
.
..........เงือกตัวน้อยได้แต่แอบมองทั้งสองสวมกอดกัน........
....
..น้ำตาที่ร่วงพราวกลายเป็นไข่มุก...ร่วงหล่นลงพื้นดิน....
...
....
.เดิมพันสุดท้ายหมดสิ้น......
....
......
..ไม่มีครีบหางที่กลายเป็นขา ....ไม่มีเสียงใสที่เอื้อนเอ่ย...
ไม่มีเงือกน้อยที่คอยเฝ้าแอบมองเจ้าชาย.....
....เวทย์มนต์ทั้งหมดสูญสลาย.....
......มีเพียงหยาดน้ำตาที่เหลือไว้....
...เพียง....
...
......ไข่มุกสีเงิน.......
.......................
...........................................................








"พ่อง-ดิ!!!"

ฉันเผลอสบถและขยำแผ่นกระดาษที่อ่าน..ยับคามือ.... ได้สติขึ้นมาอีกทีก็ตอนฝ่ามือใหญ่ที่ซัดเข้าหว่างคิ้ว....

"ทำหนูงี้ได้ไงอะพี่ราม!!"

"ให้อ่านอย่างเดียวทำไมต้องขยำ..."

"โทษทีค่ะ..ภัทรลืมตัว...ก็ภัทรไม่ชอบ..คนเขียนนี่อคติกับพวกที่ไม่ใช่มนุษย์นักหรือไง? ทำไม? ไม่ใช่คนแล้วมันไม่มีทางสมหวังหรอพี่ราม?"

"....ไอ้ภัทร...ที่พี่ให้แกอ่านนั่นร่างบทเนมตัวใหม่ของแฟนพี่...แล้วก็ไอ้นิทานเรื่องนี้มันมีเป็นร้อยปีแล้วไอ้ภัทร!หัดหามาอ่านบ้างแก....เล่นขยำคามือเลยนะ...แกคิดมากอะไรรึเปล่าไอ้ภัทร?"
................
........


ไง? สวัสดีนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉัน 'ภัทร' 'ภัทร ของไอ้หมอ' เออ...ภัทร คนนั้นหล่ะไม่ต้องมายิ้มดีใจหรอก ภัทรที่พวกนายอยากเจอยังหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่น.....

ตอนนี้ฉันอยู่ที่ ร้านเรือนน้ำชามีธุระกับพี่ราม....จะเรียกแกว่าลูกพี่ดีไหมเนี้ย ที่เห็นฉันไร้พิษสงลดความทะนง ก็คงเพราะพี่รามนี่หล่ะ...ที่ยอมให้แกทำร้ายร่างกายได้อย่างนี้ยอมรับสารภาพฉันกลัวแกบอกตามตรงเลยจะได้ไม่ต้องมาสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่เอาแต่เหวี่ยงวีน ดีนะที่ส่วนนี้เป็นโซนส่วนบุคคลไม่งั้นบรรดาลูกค้าคงจะขำพิลึก ที่ได้ยินผู้ชายพูดคะขา เหมือนเดิมฉันอยู่ในร่างตรินทร์ ร่างที่ตอนนี้แมนกว่าตอนที่เป็นตรินทร์เสียอีก..
และไอ้สาเหตุที่ทำให้ร่างนี้เปลี่ยนไปนั่นหล่ะ ทำให้ฉันต้องท่อสังขารมาปรึกษาพี่ราม....
....
.แต่พอมาเจอแกวันนี้....
...
.ฉันได้แต่นิ่ง....หมดกัน
....
.ท่าทีน่าเกรงขามที่...แม้แต่แกจะขยับตัวยังทำฉันผวา...

เป็นอะไรมากไหมพี่ราม...กับกระดาษแผ่นนั้นหน่ะ??
 
   อ่านะ...พี่รามอันน่าเคารพของฉันดึงกระดาษแผ่นนั้นไปแล้วค่อยๆ แกะคลี่มันออกอย่างเบามือ สมาธิแกเหมือนจดจ่ออยู่ที่กระดาษแผ่นนั้น...'ของแฟนพี่' เพราะอย่างนี้อะดิคะถึงได้หวงไอ้กระดาษแผ่นนี้นักหนา...

"หนูว่า...ดูท่าพี่รามของหนูจะเกรงเมียนะ...ชักอยากเห็นหน้าแฟนพี่แล้วสิคะ...ทำให้พี่รามของหนูหลงได้ขนาดนี้...สวยขนาดไหนกัน? สปีชีส์ไหนอะพี่ราม....สปีชีส์ที่กล้าเหยียบปีกพี่ได้อะคะ?"

"...สปีชีส์เดียวกับแกเลย...."

พี่รามแกพูดขึ้นมาโดยไม่หันมามองหน้าฉัน...มือแกยังบรรจงแกะแผ่นกระดาษให้คืนรูปเดิม...สายลมพัดเอื่อยๆผ่านไป....ทั้งโต๊ะเงียบสนิท....เงียบทั้งฉันทั้งพี่ราม...

"....พูดเล่นใช่ไหมคะพี่? พวกเดียวกับภัทรอะนะ? มีจริงหรอคะพี่ราม?"

"สงสัยมากไหมไอ้ภัทร? สงสัยมากแกหันไปดูเลยไป เดินลงมานั่นแล้ว...แต่อย่าสะเออะปากหมา...รายนั้นเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย..."

ฉันหันมองไปตามทิศที่พี่รามพูด....
.....
..
.
....ที่เดินลงมาจากบันไดชั้นสอง....เป็นชายหนุ่มที่.....
..
....ให้ความรู้สึกเหมือนหวานเย็น..ในถ้วยแก้ว....'น่ากิน'.....ถ้าไม่ใช่คนของพี่รามนะ...คำว่า 'ของพี่ราม'นั่นหล่ะ ทำให้ฉันหยุดความคิดนั้นลงทันที...


.....โคตรอาร์ตเลย ....
.
...ดูเหม่อๆลอยๆ....

...ผู้ชายหน้าใสใส่แว่น..ไว้ผมยาวเหมือนพี่ราม...แต่ที่แปลกกว่าก็ตรง ผมนั้นขมวดหลวมๆแล้วปักด้วยปิ่น...ผมที่หลุดลงมาละลำคอขาว..ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ.....
...กลิ่นของไอดิน.....เหมือนจะรับรู้ได้ในบรรยากาศ...
....ดินบริสุทธิ์?...
   
"...ดูนะไอ้ภัทร....เดี๋ยวก็สะดุดบันได...."

พี่รามแกเอ่ยเสียงเบากับฉันอย่างอารมณ์ดี ..เหมือนเรื่องที่แกพูดเป็นเรื่องปกติ ...ก่อนจะลุกเดินเข้าไปหาคนที่กำลังจะก้าวลงบันได....หลุดมาดเข้มของแกที่ฉันเคยเกรงไปแล้วตอนนี้...
.....และก็อย่างที่แกพูด ....
.
...
...พี่รามโอบรับร่างที่อยู่ๆก็สะดุดบันไดลงมาได้อย่างพอดี...
..จากนั้นก็ถือโอกาสช้อนอุ้มร่างนั้นมาวางซ้อนไว้ที่ตักแก...เพื่อที่จะให้แฟนแกทิ้งหัวทุยๆพิงแผ่นอกกว้างของแกได้....เหมือนยังไม่ตื่นดี..
กับผู้ชายที่โคตรอาร์ตคนนี้...พี่รามแกบีบจมูกมนๆนั่นแล้วยิ้มกว้าง...ยิ้มแบบที่ฉันไม่เคยเห็น

"ภัทร นี่ไอ้ภัทร..."

แนะนำกันแบบงงๆ....พอสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วมันหวานแบบแปลกๆ ....
..ไม่มีหือ..ไม่มีอือ...แสดงอาการรับรู้จากอีกฝ่าย ...เดาว่าคงหลับคาแผงอกพี่รามแล้ว.....
...ช่างกล้า.......
...นี่พี่รามนะ..
..พี่ราม..
....................................
..............................................................................

"เอาหล่ะว่าไงเรา....จะคุยอะไรกับพี่"

พี่รามแกโอบแฟนแกไว้หลวมๆแล้วหันหน้ามาถามฉัน....ยังกะพ่อกับลูก....

"คุยได้หรือพี่ราม?"

ฉันพยักหน้าไปหาคนที่ซุกหน้ากับแผ่นอกพี่ราม.....ดูสภาพของพี่รามตอนนี้แล้วไม่น่าจะคุยเรื่องสำคัญกันได้เท่าไหร่

"ว่ามาเถอะ....รายนี้ไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว..หลับไปแล้ว"

"นอนเก่งนะพี่...ท่าเหมือนจะหลับได้ทุกที่เลย."

"อย่ามาว่าแกก็เป็น...สปีชีส์ นี่ก็เป็นอย่างนี้หมดไม่ใช่หรือไง?"

"..ท่าทางอย่างนี้...ยังไม่เคยลอกคราบหรือพี่ราม?"

"อย่ามาถามไอ้ภัทร...ลืมไปเลยเรื่องลอกคราบ...พี่ไม่มีทางให้เกิดเรื่องนั้นแน่... ..เอาหล่ะเข้าเรื่อง....มีอะไร?"

"...พี่ราม...ภัทรอยากรู้ว่า..... ภัทรมีเวลาเหลือเท่าไหร่? .....ตั้งแต่มีการตีตรา....ร่างนี้....เริ่มกลายสภาพ...จน...ภัทร....คุมตัวเองไม่ได้แล้ว.....พูดตามตรงเลยนะพี่ราม สองเดือนก่อน...ภัทร...กินคนไปสองคน...อันนั้นโอเค ภัทรรู้ตัว...แต่หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน...ก็อีกคน....กินโดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้...ภัทรกลัวพี่ราม...กลัว....สักวันภัทรอาจกินไอ้หมอ.....อย่างที่พี่รามรู้...ภัทรอยู่ในร่างนี้เพราะ'นาง' แต่มันต้องมีเหตุผลอื่น...ทำไมร่างจริงของ ภัทรไม่สลายหรือเน่าเปื่อยไป...ร่างนั้นเป็นของภัทรจริงๆหรือเปล่า? หลายเรื่องที่ภัทรรู้ว่าภัทรไม่สมควรรู้...ไม่สมควรก้าวก่าย...แต่...ภัทร ขอพี่รามนะ....ภัทร ...ไม่อยากเห็นไอ้หมอตายเพราะภัทร...ถ้าเลือกได้ภัทรอยากอยู่กับไอ้หมอ...ภัทรไม่อยากเป็นสัตว์ประหลาดอย่างที่เป็นอยู่นี่...จะทรมานแค่ไหนก็ได้...จะต้องรอนานขนาดไหนก็จะรอ....ขอแค่ได้อยู่กับไอ้หมออีกครั้ง....อยู่โดยที่ภัทรไม่ต้องเป็นอย่างนี้....พี่รามก็เหมือนกันใช่ไหม? คนของพี่ราม...เป็นเหมือน ภัทรไม่ใช่หรอคะ?...พี่รามทนได้หรอคะ? ถ้าพี่คนนี้เขารับรู้ว่าเขากำลังจะเป็น 'อะไร' วิธีอะไรก็ได้พี่ราม...ช่วยภัทรที....ภัทรรู้นะ...เวลาของภัทรเหลือไม่มากแล้ว...ภัทรจะต้องทำยังไง พี่ราม? ....."

"....รู้งั้นหรือว่าเวลาใกล้หมด?..."

เสียงทุ้มของพี่รามถามฉันเบาๆ...แค่ประโยคเดียวมันก็ทำน้ำตาฉันร่วงพราว.....ถึงใครจะมองว่า ตะบองพลำมากเล่ห์อย่างฉันเย็นชาไร้หัวใจ ก็ช่างปะไร มันเป็นความจริงที่ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากความอยู่รอดของตัวเอง....แต่สำหรับไอ้หมอ..มันไม่ใช่...ฉันอยากอยู่ข้างๆไอ้หมอ...อยากใช้ชีวิตกับไอ้หมอ...ไม่อยาก......ไม่อยากตื่นขึ้นมา...แล้วพบว่าฉันกำลังกินไอ้หมอ....ร่างกายนี้มันกำลังเกินกำลังแล้ว......ความเย็นของผิวกาย...มันบ่งบอกได้อย่างดี ....ที่รั้งร่างนี้ไว้มีแค่ตัวตนข้างใน ....ร่างนี้กำลังจะเป็นแค่เปลือก....เวลา....กำลังจะหมดลงแล้ว....

"....รู้...ภัทรรู้เรื่องนี้ดีกว่าใครเลย.... พี่ราม....."

........................
.....................................................................................
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-06-2012 18:37:27

    คนเขียนกลับมาเขียนเรื่องนี้อีกแล้ว.....เขียนปุ๊บ....ถ้อยคำประชดประชันกัด เม้มเบาๆก็มาในทันทีทันใดเลยนะ....
ช่ายยยยยยยยยซี้!!! คนเขียนเป็นเจ้าของร้านยำๆหนิ  :o11:

มาเข้าเรื่องดีกว่า อ่านมาบทนี้แล้ว แก้หลายรอบมากเพื่อที่จะให้เห็นภาพที่อยู่ในหัวคนเขียนว่ามันเกิดอะไร ยังไงบ้าง ในสามเดือนที่ผ่านมา ถ้าตามอ่านเรื่องนี้คงได้คำตอบและบทสรุปอีกเรื่องไปแล้วว่าเกิดอะไร ยังไงขึ้น ถึงจะไม่รู้ทั้งหมดก็เถอะ แต่ก็มีคนเดาทางถูกบ้างแล้ว บอกในเรื่องนี้เลย ว่าจะไม่สปอย์ในเรื่องนู้น 55555555+  :laugh:

ในบทของน้ำตานางเงือก ตอนแรกจะให้มัน หวานเศร้า...แต่ดันไปเจอเจ้ภัทร(พลำ)ของหมอเข้าเลยระงับความหวานได้ชะงักกึก....กังวลอยู่เหมือนกันว่า ตรินทร์ จะไม่ทน ภัทร จะไม่รอ...ไอ้คนที่ต่างขั้วกันมันต้องมาทำทุกอย่างร่วมกันด้วยกัน...มันจะไปได้สักแค่ไหน ? การที่ภัทรคนนี้ยอมทำทุกอย่าง...ไม่ฟรีแน่นอน...แผนที่เขาคิดไว้เป็นแผนระยะยาวด้วยสิ

[...จะต้องรอนานขนาดไหนก็จะรอ....ขอแค่ได้อยู่กับไอ้หมออีกครั้ง....อยู่โดยที่ภัทรไม่ต้องเป็นอย่างนี้....]

ใครมองว่า เจ้ภัทร(พลำ) แกไม่มีหัวใจ มองใหม่นะ ...เจ้แกซึนกับหมอ ....ถึงจะมองว่าร้าย แต่ก็รักหมอนะ รักมากๆๆๆๆ :n1:

 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 24-06-2012 23:40:12


    กรี๊สสสสส อัพเรื่องนี้แล้วอ๊ะ!!
    คุณรามก็ตามมาหวานถึงนี่เลย
    มาบ่อยๆนะเค้าชอบ เวลาอยู่กะคนอื่นนี่คุณรามเป็นคนละคนเลย
    แต่เรื่องโบกหัวชาวบ้านนี่คงเป็นนิสัยปกติสินะ งืมๆๆ. . .
    แต่ไม่คิดว่าไอเดียร์จะน่ารักขนาดภัทร(หญิง)เห็นแล้วบอกว่าน่ากินนะเนี่ย
    เวลาของภัทรกำลังจะหมดแล้ว?!!
    ถ้าหมดแล้วจะเป็นยังไงละเนี่ย จะแปลงร่างกลายเป็นสัตว์ประหลาดหรืออยู่ๆก็หายไปแล้วโดนยึดครองร่างแทน
    แล้วภินทร์อีกคน หายไปไหนแล้วก็มะรู้ เฮ้อ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kakaris ที่ 25-06-2012 12:15:38
นั่นดิเห็นด้วยกับข้างบนเรยย  :undecided:

คุณคนเขียน ช่วยมาต่อด้วยนะ o11

อยากอ่านต่อเร็วๆ o9

 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 27-06-2012 22:24:42
คนเขียนเจ้าค่ะ กรุณามาอัพไวๆๆ ได้ไหมเจ้าค่ะ  :m16: :m31: :fire:
อยากอ่านแล้ว ลงแดง :z3:
รักคนเขียนนะเจ้าค่ะ  :กอด1: จะรักมากเมื่อมาแต่งต่อนะเจ้าค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: chin-ruyze ที่ 05-07-2012 16:40:46
ตามอ่านทันแล้วครับบบบบ :o12:
ว่าแต่ไม่เห็นจะกระจ่างอย่างใดเลยครับพี่ท่าน  o12
จากเรื่องนี้ไปเรื่องกาลกีรตี ไปเรื่อง สาป รากไทร  :a5:
โคตรไม่เข้าใจเลยครับเพ่ o22
จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป
ปล.ชอบภัทร เวอร์ชั่น เดียร์ คร้าบบบบบ  :a2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 05-07-2012 19:10:53
ตามอ่านทันแล้วครับบบบบ :o12: ว่าแต่ไม่เห็นจะกระจ่างอย่างใดเลยครับพี่ท่าน  o12 จากเรื่องนี้ไปเรื่องกาลกีรตี ไปเรื่อง สาป รากไทร  :a5:   โคตรไม่เข้าใจเลยครับเพ่  o22 จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป ปล.ชอบภัทร เวอร์ชั่น เดียร์ คร้าบบบบบ  :a2:
V
V
ภัทร(ของหมอ) กับ ไอเดียร์ เป้นคนละคนกันเน้อ ส่วน ภัทรใน สาป...กับ ภัทร (ของหมอ)ใน >29 G. เป็นคนเดียวกัน  ที่ให้อ่าน เรื่อง ภัทร จะได้รู้ว่า ภัทร แต่ละคนเป็น อะไร มีอะไร   
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 05-07-2012 22:09:26
ตามอ่านทันแล้วครับบบบบ :o12:
ว่าแต่ไม่เห็นจะกระจ่างอย่างใดเลยครับพี่ท่าน  o12
จากเรื่องนี้ไปเรื่องกาลกีรตี ไปเรื่อง สาป รากไทร  :a5:
โคตรไม่เข้าใจเลยครับเพ่ o22
จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป
ปล.ชอบภัทร เวอร์ชั่น เดียร์ คร้าบบบบบ  :a2:

v
v
v
เราเตือนท่านแล้วววว
อิอิ :m26: :m26:

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 05-07-2012 22:14:02
v
v
v
เราเตือนท่านแล้วววว
อิอิ :m26: :m26:
V
V
บวกกกกกกกกกกกกกกก เป็ด บ๊วกกกกกกกกกกก เป็ด   :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 06-07-2012 00:53:33
อ่าาาาา ไม่ได้ตามจากเรื่องโน้นนะ แต่ไงม่ะรุ อยากอ่านเลยคลิกมา

จนถึงได้รู้ว่า อ่อ เรื่องมันเชื่อมกัน เฮ้ออออออ อ่านๆไปแล้วเหมือนจะงง แตไม่งงนะ

แต่อยากบอกอย่างนึงว่า นู๋อ่านแล้วเครียดดดดดดด ถ้าร่างของตรินทร์กำลังจะเสื่อมสลาย แล้วเรื่องของโฆอ่ะ จะยังไง

เพราะงี้เลยต้องมาปรึกษาองค์ราพม์อย่างงั้นเหรอ นู๋เครียดดดดดดด ปล. อยากให้ "นาง"หายไปว่ะ ตัวปัญหาเลยนะนั้น 555
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 07-07-2012 00:41:48
ขอแค่ 63 ตอน ก่อน
เดียวมาต่อ  ม่ายไหวล่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 07-07-2012 01:15:44
ขอแค่ 63 ตอน ก่อน เดียวมาต่อ  ม่ายไหวล่ะ
V
V
+ 1 ให้เป็นกำลังใจ...ตบหลังปุปุ.....หนทางยังอีกยาวไกล....สู้ต่อไป ทาเคชิ!!!! :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 08-07-2012 10:45:50
ตามอ่านทันแล้วครับบบบบ :o12:
ว่าแต่ไม่เห็นจะกระจ่างอย่างใดเลยครับพี่ท่าน  o12
จากเรื่องนี้ไปเรื่องกาลกีรตี ไปเรื่อง สาป รากไทร  :a5:
โคตรไม่เข้าใจเลยครับเพ่ o22
จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป
ปล.ชอบภัทร เวอร์ชั่น เดียร์ คร้าบบบบบ  :a2:


ค่อยๆๆอ่านนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้อ่าน  :กอด1:  ขอให้เข้าใจในเร็ววันนะค่ะ

ป.ล. พี่ Zitraphat มาแต่งต่อสักทีสิค่ะ  :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
รักพี่ Zitraphat มาก ถ้าพี่ Zitraphat มาแต่งต่อไวๆๆนะ นะ :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 09-07-2012 12:01:42
ค่อยๆๆอ่านนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้อ่าน  :กอด1:  ขอให้เข้าใจในเร็ววันนะค่ะ

ป.ล. พี่ Zitraphat มาแต่งต่อสักทีสิค่ะ  :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
รักพี่ Zitraphat มาก ถ้าพี่ Zitraphat มาแต่งต่อไวๆๆนะ นะ :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
V
V
มาต่อแน่เน้อ แต่หลังจากจบโปรเจค สาปรากไทรนะ.... :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 09-07-2012 16:49:41
V
V
มาต่อแน่เน้อ แต่หลังจากจบโปรเจค สาปรากไทรนะ.... :z10: :z10: :z10:

ได้ค่ะ น้ำจะรอ รอรอรอ สาปรากไทรจะจบแล้วเย้ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 10-07-2012 23:41:40
พอเริ่มที่จะเข้าใจ
มั๊ยหลังๆๆกลับมึนไปอีกล่ะ

ตัวละครมีแค่ตัวเดียว
แต่มึนนนนมากกกกกกกกกกก

แล้วตรินทร์ยุในร่างของภัทรหญิง 
อ่า  มันช่าง...
ที่บอกว่า ตรินทร์เป็นแม่ และโฆเป็นพ่อนิ  เรื่องจริง!
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 12-07-2012 07:50:22
เห็นแล้วใช่เลย อิมเมจ เจ้ภัทร และ ตรินทร์  ในอีก  8 ปีข้างหน้า ถ้าเจ้พลำกับ ตรินทร์ ยังอยู่นะ กรี๊ดดดดดดๆๆๆๆ :-[ :-[
(http://upic.me/i/a1/praew1_1.jpg)

ส่วนนี่ ภินทร์จอมแสบ อั๊ยยยยยๆๆๆๆ   :o8: :o8:
(http://upic.me/i/b1/praew2_1.jpg)

ขอบคุณนิตยสารแพรว เล่มนี้จะอุดหนุนนะ ชอบมากเป็นการส่วนตัว
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 13-07-2012 23:54:16
ตามอ่านครบซักที เฮือก! *ปาดเหงื่อ*

ความจริงอ่านเรื่องสาปรากไทรเป็นเรื่องแรก แล้วเผอิญว่างงค่ะ ฮ่าๆๆๆ
เลยมาย้อนอ่านงานอื่นๆของคุณZitraphat

คุณZitraphatสุดยอดมาก แต่เรื่องได้ซับซ้อนจริงๆ
การที่จะแต่งเรื่องที่เชื่อมโยงและก็ซับซ้อนจนคนอ่านงง(ฮ่าๆๆ)ได้ขนาดนี้
คุณZitraphatต้องวางพล็อตเก่งมาก แล้วก็ต้องมีรอยหยักในสมองเยอะมากอ่ะค่ะ

เราผู้ซึ่งรอยหยักของสมองมีน้อยก็เลยต้องค่อยๆย่อยข้อมูลไป ฮ่าๆๆๆ

ปล. จะค่อยทยอยอ่านไปทีละเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 17-07-2012 12:56:16
พอเริ่มที่จะเข้าใจ
มั๊ยหลังๆๆกลับมึนไปอีกล่ะ ตัวละครมีแค่ตัวเดียว แต่มึนนนนมากกกกกกกกกกก แล้วตรินทร์ยุในร่างของภัทรหญิง  อ่า  มันช่าง...ที่บอกว่า ตรินทร์เป็นแม่ และโฆเป็นพ่อนิ  เรื่องจริง!
V
V
นี่ล่ะเน้อ สิ่งที่ ภัทร [พลำ] เดิมพันไว้ด้วยชีวิต.... 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 17-07-2012 13:08:00
ตามอ่านครบซักที เฮือก! *ปาดเหงื่อ* ความจริงอ่านเรื่องสาปรากไทรเป็นเรื่องแรก แล้วเผอิญว่างงค่ะ ฮ่าๆๆๆ  เลยมาย้อนอ่านงานอื่นๆของคุณZitraphat  คุณZitraphatสุดยอดมาก แต่เรื่องได้ซับซ้อนจริงๆ  การที่จะแต่งเรื่องที่เชื่อมโยงและก็ซับซ้อนจนคนอ่านงง(ฮ่าๆๆ)ได้ขนาดนี้ คุณZitraphatต้องวางพล็อตเก่งมาก แล้วก็ต้องมีรอยหยักในสมองเยอะมากอ่ะค่ะ  เราผู้ซึ่งรอยหยักของสมองมีน้อยก็เลยต้องค่อยๆย่อยข้อมูลไป ฮ่าๆๆๆ  ปล. จะค่อยทยอยอ่านไปทีละเรื่องนะคะ 
V
V
ขอบคุณเน้อออออ  o1 ที่ติดตาม ....การผูกโยงเรื่องนี้ปัณหาเหมือนกันนะ เพราะบางคนที่ไม่เคยอ่าน >29G. หรือไม่ชอบแนวนี้ อาจปวดหัวกับ เรื่องอื่นที่โยงได้เลย... และมันก็ปัญหามาก เพราะ >29G. มันปราบเซียนอย่างที่รู้ๆกันอยู่ เหมือนเล่นเกมส์ผู้กล้าเลย สถิติ FC.ที่อ่านเรื่องนี้ 7 หน้า72 ตอน ใช้เวลา 2 วัน [แบบอ่านเอาเข้าใจไม่ใช่ผ่านสายตา] ปาดเหนื่อย เฮือก ... :try2: ที่สำคัญมันยังไม่จบ... :a5: 

ตอนนี้เลยไม่กล้าแนะนำใครให้อ่านนอกจากแฟนพันธุ์แท้ตัวจริง  :-[  ที่อยากตามเก็บเรื่องให้ครบ เพราะเรื่องนี้แทรกเกร็ดไว้เยอะพอสมควร  ถ้าอยากอ่านแบบชิวๆ แนะนำเรื่องนี้ดีกว่า http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33295.msg2050133#new  >>'โทษทีค่ะ..ที่คุณเรียกว่า'ตุ๊ด'เมื่อกี้หน่ะ..แฟนหนู  ไม่ต้องคิดมาก คอมมาดี้แอ็คชั่น ตอนนี้กำลังจะเข้าบทหื่นฮา.....สัตว์ป่าสองตัวจะรวมหัวปล้ำเด็กน้อย .... กระเทยสู้ๆๆๆๆ  :a2: :a2: :a2: 

ระวังติดคุก*******   :try2: :try2:


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 20-07-2012 20:41:43
แล้วพี่รามจะช่วยภัทรยังงัยอะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ryokijung ที่ 21-07-2012 04:20:25
อยากจะบอกว่าอ่านทันแล้วนะคะ
ใช้เวลาไม่มากมายแค่1วันที่ยังไม่เต็มดี
 :laugh: เก่งป่ะเคล็ดลับหรอคะก้ออ่านแบบไม่ทำอะไรเลย
ลุกเข้าห้องน้ำสักทียังยากเลย(ที่บ้านเรียกว่าอาการหนักค่ะ)
เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างพออ่านๆไปก็จะมีบทคล้ายๆจะอธิบายอยู่บ้าง
เลยทำความเข้าใจได้มากขึ้นพอจะสรุปใจความสำคัญของเรื่องได้
กำลังรอตอนต่อไปของอีกหลายเรื่องอยู่รวมถึงเรื่องนี้ด้วย
สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 21-07-2012 11:03:17
อ่านทันแล้วค่ะ อัพมาเรื่อยๆเลยนะคะ ไม่ต้องกลัวไม่ทัน เป็นร้อยตอนก็บ่ยั่น ก็มันสนุกนี่คะ! โฮะๆๆๆ
อ่านสาบรากไทรแล้วมาอ่านเรื่องนี้... เรื่องนี้มันมาก (อาจเพราะยีังไม่มีฉากเลือดสาที่บรรยายจะๆแบบเรื่องนั้น 555)
อยากให้ภัทรอยู่ในร่างตรินทร์เรื่อยๆ   (แล้วตรินทร์ล่ะจะไปอยู่ไหน... สงสารตาบัฟมันมั่งเถ้ออออ)
จริงๆก็ชอบคิงส์มันอยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนคู่ของภัทรแต่ละคนมันจะชีช้ำกับความกะล่อนของมันมามากพอแล้ว เก็บคิงส์ไว้ไปหาเมียใหม่(หรือผัวใหม่) ก็น่าจะดีกว่า หึหึหึ

เรื่องนี้เป็นนิยายที่มันมาก  จนอยากจะปริ๊นไปนอนอ่านก่อนนอน(ก็นั่งอ่านหน้าคอมมันปวดหลังงง ปวดตาด้วย TTwTT )

อ่านแล้วชอบภัทรที่เป็นภินทร์มากกว่า มันแสบสันต์ แต่ไม่ถึงขนาดแสบเข้าใส้เหมือนกับภัทรที่เป็นพลำ .... อันนั้น มันค่อดโหด!
แต่ชอบภัทรที่เป็นพลำตรงที่มันรักหมอมาก แม้ท่าทางจะไม่แคร์สื่อแต่มันตกลงใจว่ารักแค่หมอ ชอบมันตรงนี้แหละ
ส่วนภัทรที่เป็นภินทร์ มันน่ารักทุกการกระทำ ยกเว้นเรื่องเดียว... มันยังไม่ยอมให้ใจใครแม้มันจะเอียงไปแทบจะร้อย แต่ก็ยังไม่ยอมให้
เพราะกลัว นี่ก็รู้ แต่เรื่องความไม่เด็ดเนี่ยแหละ ถ้าเอาภินทร์กับพลำมาหารกันคนละครึ่ง พ่ออะตรอม คงจะใจชื้นขึ้นเป็นกองจากท่าทางที่เดาไม่ออกว่ามันจะเอายังไง
แต่แหงล่ะ อะตรอมมันก็ไม่ยอมบอกภินทร์เองนี่หว่าว่าคิดยังไง แถมยัีงไม่ได้โดนภินทร์มันโจ๊ะ แบบที่ภัทรทำกับหมอ อันนี้มันช่วยไม่ได้เองนี่เนอะ อะตรอมมันช้าเอง โฮ่ๆๆๆ


ส่วนพี่รามนี่เป็นเทวดาใช่มั้ยคะ?
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kimmy-g ที่ 21-07-2012 16:12:11
ฮื่อ    หลังจากตามไปอ่าน side story เรื่องอื่นๆ แล้วกลับมาอ่านเรื่องนี้อีกทีแล้วมันสนุกขึ้นอีกอะ  กรี๊ดดดดดดด  เหมือนมันเสริมกันและกันดีมากเลย  แบบว่าเรื่องราวช่วงสั้นๆ หรือความคิดของตัวละครบางตัวจากเรื่องอื่นมันช่วยเสริมให้เราเข้าใจสถานการณ์หรือเหตผลของการกระทำต่างๆในเรื่องนี้มากขึ้น ถึงมันจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันก็เถอะ  ตอนนี้งงอยู่อย่างเดียว โฆ เป็นใครจากในอดีตเหรอ หรือเป็นตัวละครที่เพิ่มขึ้นมาในปํจจุบัน   ฮึ้ยยยย  มันคาใจอะ เราว่าเราไล่อ่านหมดแล้วนะ หรือจะหลุดตอนไหนไปหว่า :z3:    อ้อมารอตอนต่อไปด้วยเน้อ  แอบทวงแบบเนียนๆ   (เนียนปะ  แหะๆ  อ่าว ไม่เนียนหรอ   :z6: โดนคนเขียนถึบ)
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #71 น้ำตานางเงือก[ไข่มุกเม็ดที่ 1 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 22-07-2012 22:39:01
ตามทันแหละ สองวันหนึ่งคืน อ่านกาลกีรติ งงๆ มึนๆ อาศัยอ่านคอมเมนท์ช่วย  :a5:
ตามมาอ่านเรื่องนี้เข้าใจมากขึ้น ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน หลายปม น่าติดตาม
คนเขียนสามารถมากทำให้อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ
บอกได้คำเดียวว่า  o13


หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 23-07-2012 00:31:27
บทที่ 72  ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง.....


[Part-ตรินทร์]


'เหนื่อย......'
...
.
.
เหนื่อยเกินไปกับการเริ่มที่จะนับหนึ่งใหม่....

....ทุกอย่างมันยากเกินไป ร่างกายที่เปลี่ยนไป ยากต่อการบังคับ และยากยิ่งกว่าที่จะต้องเริ่มทุกอย่างแม้แต่การทำสิ่งง่ายๆ เอาแค่การเอ่ยออกมาเป็นเสียงให้ได้เรื่องนั้นยังยาก.....ปกติคุณชายตรินทร์เคยแต่เหวี่ยงวีนไม่ถูกใจก็ซัดสักหมัด ....คราวนี้เลยอดคิดไม่ได้ เพราะไม่ค่อยอยากพูดอะไร ครั้งนี้เลยสมใจล่ะมั้ง ....เพราะขนาดคิดจะพูดยังเอ่ยอะไรออกมาเป็นคำไม่ได้.....

 'เราจะไปหาไอ้โฆ กัน....'

ประโยคนั้นมันยังฝังอยู่ในหัวผม.....รู้ตัวว่าฝืนเกินไป ...แต่ก็ยังอยากทำ..ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้พบไอ้โฆ...
....ขอแค่อีกครั้ง....

อยากเจอที่สุด  ..อยากเจอ...อยากเจอไอ้โฆที่สุด ......
..............................
.........................................................................
...

"...ไม่ต้องมีคำถามอะไร ....ทำตัวให้นิ่ง ถ้าคิดก็ช่วยพูดสิ่งที่คิดออกมาด้วย...ฉันไม่ใช่ไอ้บัพที่จะมองตานายแล้วรู้ว่านายคิดอะไร......ตรินทร์....ฉันมีเวลาไม่นาน...วันนี้วันเกิดไอ้แป้น....สนใจไหม? สนใจจะเจอไอ้บัพในร่างนี้ไหม? ไอ้หมอมีเวรที่คลินิก...กว่าจะกลับก็ตีหนึ่ง...ฉะนั้นพวกเรามีเวลาแค่ เที่ยงคืน...เจ้าหญิง....แค่เที่ยงคืน...ที่นายจะต้องกลับมานอนที่เตียงเดิมอย่างเรียบร้อยที่สุด.....กล้าจะเสี่ยงหรือเปล่า..ตรินทร์.....ถ้านาย....กล้า....เราจะไปหาไอ้บัพกัน...."
....
...........อย่าถามอะไรผม...ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ..วันนี้อยู่ๆ ภัทรก็วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาข้างบนห้องแล้ว จับผมแต่งตัว....รู้สึกเหมือนตัวผมเป็นตุ๊กตา....ตุ๊กตาที่ได้แต่นั่งนิ่ง...
.....ให้นางฟ้า จับเสกเป็นสาวงาม....
..เทพนิยายไร้สาระกำลังจะเป็นจริง..งั้นหรอ? ผมกำลังจะได้พบไอ้โฆ....ผมจะได้เจอไอ้โฆจริงๆน่ะหรอ?.....
..วันนี้ผมกำลังจะได้ออกไปข้างนอกบ้าน ครั้งแรก ....ครั้งแรกที่จะได้สัมผัสอากาศเย็นของยามค่ำ...วันนี้ ภัทรไม่ได้เอาวีลแชร์ออกมาแต่เลือกที่จะอุ้มผมออกมาแทน ...อายตัวเองอยู่บ้างที่จะต้องใส่ชุดที่ผู้หญิงจ๋าอย่างนี้ ...เดรสสั้นสีดำแต่งเสริมด้วยลายลูกไม้... แถมด้วยส้นสูงแบบรัดข้อ...ทั้งๆที่ผมยังเดินได้ไม่ถนัดเท่าไหร่...

"ไม่มีรถฟักทององค์หญิง....มีแต่รถ.....เจ้าของงาน..."

ผมมองตามไปยังถนนใหญ่ รถกระบะสีดำที่เคยคุ้นตา...รถไอ้แป้น?!
..........
...
.

[Part-ภัทร]

....
หัวใจ....
...
..
.
มันเต้นแรงอย่างที่สุด !!

เสียงของหัวใจอีกดวงชัดขึ้น ทันทีที่สายตามองเห็นร่างใหญ่ของใครคนหนึ่งเดินผ่านไป....
บ้าชะมัด! ภัทร อดสบถกับตัวเองไม่ได้..คงเพราะห่วงแต่เรื่องตรินทร์...เลยลืมคิดอีกเรื่อง....ไอ้ยักษ์นั้นมันก็เป็นหนึ่งในเพื่อนไอ้แป้นเหมือนไอ้บัพ...ไม่แปลกที่มันจะโผล่มางานนี้ด้วยเหมือนกัน สิ่งที่กลัวมันมาเร็วกว่าที่คิด...ไม่ว่าเมื่อไหร่...ขอให้ไอ้ยักษ์นั้นเรียกหา....ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน...ไม่มีครั้งไหนที่ ภินทร์ ไม่รับเสียงเรียกนั้น.... บ้าชิบ!! 

ไม่ได้หรอก...จะให้ ภินทร์ ตื่นขึ้นมาตอนนี้ไม่ได้ !! ทุกอย่างที่วางไว้....มันจะจบอย่างนี้ไม่ได้ ...เกินจะฝืน สติกำลังจะเลือนราง ภัทร ได้แต่นิ่งเงียบซ่อนตัวด้านหลังเคาน์เตอร์ ทั้งๆที่แทบจะฝังกลบและถ่วงทิ้ง ภินทร์ ลงไปลึกที่สุดในห้วงน้ำตาแต่แค่เห็นแผ่นหลังไอ้ยักษ์นั่นเท่านั้น แรงตะเกียกตะกายของ ภินทร์ ก็แสดงอาการ.....
สัดเอ้ย!! จะโทษใครได้ ในเมื่อเป็นตัวเองที่พลาด...

พลาดเข้าอย่างจัง!!!

...ไม่มีทาง....

.... จะให้ ภินทร์ ตื่นขึ้นมาตอนนี้...ไม่มีทาง....เวลาของฉันมีให้แค่ไอ้หมอ....แค่ไอ้หมอเท่านั้น...หัวใจอีกดวง ไม่จำเป็นต้องเต้นตอนนี้...ไม่จำเป็น!!

ภัทร พยายามตั้งสติแล้วหายใจยาวเข้าปอด ....มือที่กำแน่นเปียกชื้นไปด้วยเลือด...กำจิกมือจนแน่น ....จนเล็บคมมันเจาะทะลุผิวเนื้อ.... เจ็บงั้นหรอ? ไม่หรอก....ให้เจ็บได้สิดี ...สติ..มันจะได้อยู่กับตัว...เรื่องตรินทร์ยังจัดการไม่เสร็จ ปลาอย่างไอ้บัพยังไม่ทันตอดเหยื่อเลย....จะให้จบอย่างนี้ไม่ได้ .....ไม่ได้เด็ดขาด...
...
.
.



[Part-ตรินทร์]


คลับใบไม้ ....มันก็ยังคงเป็นคลับใบไม้ ...ผมได้แต่นั่งนิ่งบนโซฟาแล้วมองรอบๆ บนเวที พวกไอ้เรดเล่นสดได้สนุกเหมือนเดิม แค่ตำแหน่งที่ผมเคยอยู่สับเปลี่ยนไปก็แค่นั้น ไอ้แป้นยังนั่งอยู่กับผม เพราะ ภัทร เป็นคนที่ฟากผมไว้กับไอ้แป้น... ภัทรหายไปได้สักพักแล้ว...หายไปพอๆกับการนับถอยหลังของเข็มนาฬิกา....สี่ทุ่มกว่าแล้วแต่ไอ้โฆก็ยังไม่โผล่หัวมา....ผมได้แต่ก้มหน้านิ่ง....ทุกอย่างมันกำลังจะจบ...จะแต่งตัวออกจากบ้านมาทำไม? จะหลบพี่หมอออกมาทำไม? เมื่อโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ง่ายดายเหมือนในนิทาน....

....ผมทำอะไรไม่ได้เลย ....พูดไม่ได้ ...เดินไม่ได้...ทำไม่ได้ แม้แต่การควบคุมร่างกายนี้ ...
.....
.

'โฆ...'

...
กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นจมูกมันฟุ้งขึ้นมา โซฟาข้างๆผมยุบยวบลงไปจนรู้สึกได้ .....ไอร้อนของร่างกายคนข้างๆ ระอุขึ้นจนผมรับรู้....กลิ่นของน้ำหอม...ที่ผมสอนให้ไอ้โฆผสมใช้เอง.... มันลอยมากับกลิ่นหอมของน้ำหอมผู้หญิง?! เสียงหัวเราะและกระเซ้าเย้าแหย่ ดังมาจากอีกฝากที่ถัดจากไอ้โฆ...อีกครั้งที่ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้น....ไม่ต้องเดา มันเอาผู้หญิงมาควงอีกแล้ว....ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง....ทำไมต้องมีแค่ผมที่ต้องฝืนทำทุกอย่างเพื่อมัน....ฝืนทำทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่ปลายทาง.....มันรอผมอยู่หรือเปล่า?
....
.

"แป้น...เด็กมึงหรือวะ?นั่งนิ่งโคตร...งอนมึงอยู่หรอ? "

เสียงไอ้โฆมันดังใกล้หูผมเข้ามาอีก....ถามมาได้ไอ้สันดาน....อารมณ์ผมมันเกินจะทนอะไรแล้ว...มีแค่ผมที่รอ มีแค่ผมที่อดทน.....แต่...มัน...มันไม่เคยเลย...ไม่เคยรอผมเลย....

"เปล่า...ไม่ใช่เด็กกู...เด็กไอ้ตรินทร์มัน....มึงไม่รู้จักหรือวะไอ้โฆ?"

แค่ประโยคนั้นของไอ้แป้นทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบ....มืออุ่นของคนที่อยู่ข้างๆผม จับคางผมให้เงยขึ้น สัมผัสแบบนี้ทำไมผมจะจำไม่ได้ ....สัมผัสของไอ้โฆ.....
...
.น้ำตาผม....มันไหลออกมาทันทีที่เห็นหน้ามันชัดๆ
.....
.มือของมันค่อยๆ ลูบปัดผมยาวๆที่บังหน้าของผมออก...

"เธอเป็นแฟนไอ้ภินทร์หรอ?....แมวขโมย....."

สีหน้าเย็นชากับน้ำเสียงเย็นๆของมัน .....ในตอนนี้....ผมไม่เคยเห็น.....ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่ามันจะแสดงท่าทีอย่างนี้กับผม....

"ภินทร์ มันไปไหนล่ะ? แอบไปกับสาวไหนหรือเปล่า?...ไม่รู้หรอว่ามันเป็นพวกลักกินขโมยกิน"

เสียงของคนที่ผมคุ้นเคยที่สุด กระซิบเบาๆ ข้างๆหูผม กระซิบคำที่ผมไม่เคยคิดว่าคนอย่างมันจะพูดออกมาได้....

...

.เสียงหัวเราะของผู้หญิงที่นั่งข้างๆมันดังขึ้น ....ผมหันไปมองพอดีกับที่เห็นมันจูบผู้หญิงคนนั้น .....ไม่ใช่โฟร์ท อย่างที่ผมคิด แต่เป็นผู้หญิงคนใหม่ที่เหมือนจะแรงไม่แพ้กัน .... มือใหญ่ของมันที่เคยจับหน้าผม เปลี่ยนไปจับหน้าอกของผู้หญิงคนนั้น......
....
...................
...
..
หัวใจผมเต้นแรง....แรงจนเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่มันจะได้เต้น.......
.....ผมได้แต่มองหน้ามันกับผู้หญิงคนใหม่ของมัน......
...
......ทำไม? ต้องเป็นผม?....ทำไม...ผมต้องฝืนร่างกายนี้เพื่อมัน...ฝืนมาที่นี้....เพื่อมาเห็นมันอยู่กับผู้หญิงคนอื่น....ไอ้โฆ....มันเคยคิดถึงผมหรือเปล่า?....คิดถึงผม...เหมือนที่ผม....คิดถึงมัน......
.......
........ คำตอบคือไม่เลย.......คงไม่เคยสักครั้ง......

....ไม่เคยเลย.................จะแต่งตัวทำเหี้ยอะไร ....จะมานั่งเป็นตัวตลกทำไม.....มานั่งดูมันจับมันล้วงผู้หญิงของมันหรือไง........
....................
..

"...โฆ..."

..ผมหายใจลึกเข้าไปในปอดแล้วเรียกชื่อมัน....ส่งเสียงที่เป็นคำชื่อของมัน....คนที่ผมอยากเจอมาตลอด....ถ้อยคำมากมายที่อยากจะพูดกับมัน.....ทุกอย่าง...
..
..
.
มันจบลงด้วยเส้นสติที่ขาดผึง!!
....
..
....แขนที่ไม่เคยมีแรงของผม หวดกำปั้นชกหน้ามันจนมันล้มลง  เสียงกรีดร้องของผู้หญิงของมัน ดังกรี๊ดๆๆๆ ขาที่ผมต้องฝืนทำกายภาพ กระทืบซ้ำชายซี่โครงมันทั้งๆที่ผมยังใส่ส้นสูงอยู่......

"ไอ้สัด!มึงจะฆ่ากูอีกสักกี่ครั้ง!ไอ้เหี้ยโฆ! สูญพันธุ์ไปเลยมึง! จะมีสักครั้งไหมที่มึงจะเข้าใจกู! หน้าหม้ออย่างมึง!ไม่เข้าใจความรู้สึกซึ้งอย่างกูหรอก!!ไม่เข้าใจสักครั้ง!! "

สติของผมหลุดไปอย่างสมบูรณ์ ผมได้แต่กระทืบและเตะอัดชายซี่โครงมัน  และเกือบจะกระทืบส้นสูงลงบนน้องชายมัน ถ้า ภัทร ไม่เข้ามาดึงผมไว้ก่อน ...

......นาฬิกาใกล้เวลาเที่ยงคืน ...ตอนที่มัน...นิ่งอยู่แทบเท้าผม......
....
..
.เที่ยงคืน สี่สิบห้าพวกเรากลับมาถึงบ้าน ไอ้เรดเป็นคนมาส่ง....

...ภัทรอาบน้ำให้ผมและปล่อยให้ผมนอน  สักพักใหญ่ๆเสียงรถพี่หมอถึงดังขึ้นมา.....
ผมเหนื่อยจนหลับสนิท....หลับทั้งๆที่ยังคิดถึงหน้าไอ้โฆ....
...
.
.
'หน้าหม้ออย่างมัน.....ผมน่าจะกระทืบให้สูญพันธุ์....สัดเอ้ย!'

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 23-07-2012 05:36:16



     O_O" กรี๊สสสสสสสส มาอัพเรื่องนี้แล้ว อ้ากกกกกกกกก
     ตรินทร์เนี่ยนะซินเดอเรลล่า ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้ได้นะ
     แถมโผล่มาก็มาอย่างโหด โผล่มาก็กระทืบได้เลย เล็งแม่นเหมือนเดิมซะด้วย
     ไหนบอกไม่ค่อยมีแรง พูดยังไม่ได้ ขยับตัวยังยากเลยไง
     นี่เป็นการทดสอบแล้วว่าการทำกายภาพบำบัดนั่นได้ผล!!
     เหยื่อล่อแข็งแรงดีจนไม่รู้ว่าปลาจะตายก่อนได้กินรึเปล่า เฮ้อ. . .




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-07-2012 07:09:41
อย่างฮาอะ ขนาดพูดไม่ค่อยได้ ขยับตัวไม่ค่อยได้นะนี่
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 23-07-2012 10:36:12
พูดก็ไม่ค่อยจะได้ ขยับตัวก็ลำำบาก แต่พอมาเจอโฆมันม่อคนอื่นปุ๊บ เสือกฟิวส์ขาดอาละวาดกระทืบกะเอาให้สูญพันธ์ ...

พิษรักแรงหึงนี่มัน เป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: kakaris ที่ 23-07-2012 12:07:48
กรี๊ด.. :m3:

กลับมาแล้วจ้า :impress2:

กลับมาอีกครั้ง  :m9:

พร้อมความสะใจ  :laugh3:

เอามันให้ตายเลยตรินทร์  :interest:



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 23-07-2012 12:58:25
 ... คือ... ความจริงคนเขียนอยากให้ ตอนนี้มัน....แบบว่า...โรแมนติคนิดๆ เทพนิยายหน่อยๆ หวานอ๊างงงงงงค์ๆๆๆๆ.....แต่พอเอานิสัยของตรินทร์กับนิสัยของโฆ[ที่ตรินทร์ไม่เคยเห็น] มายำรวม....ไหงทุกอย่างมันกลับตละปัดอย่างนั้น....  :z3: :z3: :z3:

ตอนนี้บอกตรงๆว่าแอบเชียร์...ให้อะตรอมเห็น ภัทร อยากให้ อะตรอม ดึง ภินทร์ ขึ้นมาแต่ถ้า ภินทร์ ตื่นคนลำบากก็คือ ภัทร กับหมอ...ชอบคู่ภินทร์กับอะตรอม ปากแข็งทั้งคู่ แต่ก็ห่วงกันมากทั้งคู่ แต่ก็ชอบภัทร ซึนๆกับหมอขี้งอน.....อิมเมจเหมือนคุณจิ้งจอกรักคุณเสือ หมอเป็นผู้ใหญ่แต่เรื่องในมุ้ง คุณจิ้งจอกเป็นผู้นำซะงั้น หุหุหุ  ลุ้นกันเหนื่อยแน่ ....

ไม่รู้จะเชียร์ใครคู่นั้นก็ดี คู่นี้ก็อยากได้ อั๊ยๆๆๆ   :กอด1:  คนอ่านหล่ะเชียร์คู่ไหน 1. รักด้วยลำแข้งแบบตรินทร์-โฆ  2. รักเงียบๆห่วงๆแบบภินทร์-อะตรอม 3. รักแบบคนในครอบครัวที่สามีกลัวภรรยาแบบสุดๆของหมอกับภัทร[เอาภาพภายนอกแล้วกัน อย่าไปดูสถานะภาพในมุ้งเขาเลย] 4.รักที่ทำทุกวิธีให้ได้คนที่รักมาอยู่ด้วยกัน ภัทร[ภินทร์]-พระแพง  :n1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 23-07-2012 13:31:32
เชียร์คู่ที่
1








2








3








4
สรุป เชียร์หมด :laugh:

เม้นๆ
#72 นึกว่าอ่านแล้ว เอ๋า ตอนใหม่หนิ ตอนนี้น้องพลำแลดูน่าสงสารเหมือนกันนะนี่ โถๆๆ :monkeysad:
#73 นางฟ้าพลำเสกตรินทร์เป็นซินเดอฯ หนีผู้ปกครองมาหาโฆ  :really2: สถานการณ์ประหลาดๆเหมือนจะขำแต่ก็เศร้าอยู่ โฆทำตัวประชดชีวิตอยู่หรอ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 24-07-2012 04:26:53
อ่านจนเก็บไปฝันอะ หลอนสุดๆ ต้องยกให้ dark side
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 24-07-2012 06:56:39
 :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:



เอาอีก เอาอีก

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 24-07-2012 12:33:16
อั้ยย่ะ !!! ตรินทร์เดอเรลล่า โหดได้โล่ห์ o13
ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ร่างไหนก็ยังคง คอนเซ็ปต์   รักษามาตรฐานเป็นเลิศ ไอ้เรื่องกระทืบคนเนี่ย อิอิ
ว้าา เสียใจจัง ไอ้คุณบัพไม่สัมผัสถึงตรินทร์เลยหรอ สักกะนิดก็ยังดี ว่าแต่แรงของคนที่นอนเป็นผักมานาน เดินเองก็ยังไม่ได้ ทำเอาไอ้คุณบัพลงไปนอนได้เลยหรอ  รึว่าถูกหมัดสะกิดกระตุ้นต่อมความจำ (http://upic.me/i/ty/486de_kapook165419284.gif)(http://upic.me/i/ty/486de_kapook165419284.gif)
เริ่มระลึกได้นิดๆ เอ๊... หมัดนี้คุ้นๆๆเลยเมาหมัดกับยำทรีนลงไปนอนแอ้งแม้ง(http://upic.me/i/f4/953261426.gif)




เดสสั้นสีดำ>>>เดรส
บ้าชิพ!! >>>ชิบ
ซ่อนตัวด้านหลังเคาว์เตอร์ >>>เคาน์เตอร์
ดังมาจากอีกฝากที่ถัดจากไอ้โฆ>>>ฟาก
ไม่รู้หรอว่ามันเป้นพวกลักกินขโมยกิน>>>เป็น
ผมได้แต่กระทืบและเตะอัดชายซีกโครงมัน>>>ซี่
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 24-07-2012 16:58:03
เย้ๆๆๆ :mc4: ในที่สุดก็ตามทันแล้ว
สนุกมาก  ถึงจะสนุกแบบแปลกๆก็เถอะ o13
ปริศนาเยอะเหมือนเคย  แต่แอบสะใจบทน้องซินมากๆ
ปานนี้โฆคงยังงงไม่หายว่าขะนีนี้คือใคร  กร๊ากก :m20:
อยากให้เป็นจริง จริงๆนะที่ภัทรขอให้โฆเป็นพ่อขอให้ตรินต์เป็นแม่นะ
ตอนนี้ตรินต์ก็เป็นผู้หญิงแล้วนี้นะ  อิอิ :-[
+1 คร๊า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: lunarinthesky ที่ 24-07-2012 20:36:10
เพิ่งจะได้เข้ามาตามอ่านผลงานของคุณต่อจากเรื่องน้องลูกหว้าค่ะ

ยังอ่านไม่จบแต่พล็อตเรื่องน่าสนใจค่ะ แวะเข้าให้กำลังใจก่อนค่า

อีกเรื่องที่อยากชื่นชม คือ ไม่ค่อยหรือแทบจะไม่มีที่สะกดผิดเลยค่ะ ขอชื่นชมมากๆ เลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-07-2012 21:45:27
อีกเรื่องที่อยากชื่นชม คือ ไม่ค่อยหรือแทบจะไม่มีที่สะกดผิดเลยค่ะ ขอชื่นชมมากๆ เลยค่ะ :L2:
V
ประเด็นนี้มันมีผู้สนับสนุนเน้อ .... คุณ RainyMooD ก็คนหนึ่ง และยังมีอีกหลายๆคนที่ช่วยกันตรวจทานให้ คนเขียนมีพลาดบ้างเพราะโปรแกรมที่ลงไม่มีโปรแกรมตรวจภาษา แถมบางทีกดไม้ไต่คู้ไม่ติดดันกลายเป็นไม้โทแทนอีก เดียวขอไล่รายนามผู้ให้การสนับสนุนดีกว่า ขอบคุณทุกคนมากๆเน้อ   :L2: :L2:

ปล. เรื่องของลูกหว้า เป็นเรื่องเดียวที่คนเขียนใช้ภาษาวิบัติสุดๆ ตั้งแต่เคยเขียนมาเลย  :try2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 24-07-2012 22:45:56
2 วันรวดอย่างที่คาดการณ์ไว้
ตั้งแต่เมื่อวานค่ำ จนถึงตีสอง วันนี้ก็ตั้งแต่เลิกงานจนถึงตอนนี้
ยิ่งอ่านก็ยิ่งสับสน ปนไปกับความเข้ืาใจ เอ๊ะ ยังไง
เอาเป็นว่าที่แน่ ๆ ขอบคุณที่มาให้รายละเอียดของแต่ละคำค่ะ เช่น นาคา สุระ จนถึงความเป็นมาของตัวละคร
เราว่ามันทำให้เข้าใจได้มากขึ้นจริง ๆ

เริ่มเข้าใจความเป็นภัทรมากขึ้น เท่าที่จะสามารถจินตนาการตาม (และคิดเอง)ได้
มีอะไรอยากจะคอมเม้นท์มากมาย แต่ตอนสุดท้ายที่ได้อ่าน ทำให้สงสารตรินทร์จับใจ
ในความรู้สึกเรา ภัทร ที่ต้องไปอยู่ในร่างผู้ชาย บวกกับความเป็น "ภัทร" ทั้งสองคน
มันทำให้เหมือนจะปรับตัวและใช้ชีวิตได้ง่ายกว่า   กว่าตรินทร์ที่เจ็บมาแล้ว ตอนนี้ต้องตื่นขึ้นมาในร่างของ ญ
ฝืนอยู่ ยังทนคอย และพยายามเพียงเพราะให้ โฆ  ทำเหมือนกับฆ่าให้ตายซ้ำอีก 
แต่เราก็สงสารโฆนะ  เพราะเหมือนโฆเอง ไม่เคยได้มีความรู้สึกเลยเช่นกัน ถ้าไม่มีตรินทร์

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 24-07-2012 23:09:56
นางซินเวอร์ชั่นนี้โหดนะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-07-2012 01:43:08
http://www.youtube.com/watch?v=y6MD7RMnUeY

เพลงฉันเจ็บ – P.O.I พ้อย


เราเกือบจะเหมือนกัน ต่างที่ใจเท่านั้น
ถึงเธอไม่มั่นคง ฉันก็เคยมั่นใจ
แต่สิ่งที่ได้มา เธอก็ยังมีใครอีกมากมาย
มันเลยตัดสินใจ ที่จะต้องยอมแพ้
พูดคำว่าจบกัน ทั้งที่รู้ว่าเจ็บ
เธอทำเป็นเหมือนฟัง เอาเข้าจริงก็มีแต่ฉันเอง
ที่ต้องมานั่งเสียใจ
เคยคิดมากคิดมาก เรื่องเธอทุกวัน
แต่วันนี้ไม่ยากไม่ยาก ก็แค่เลิกกัน
ฉันเจ็บ…เธอก็คงไม่เจ็บด้วยใช่มั๊ย ฉันเจ็บ…เธอไม่เคยจะแคร์มันด้วยซ้ำ
ก็อยากจะรู้สึก และทำแบบที่เธอทำ แต่มันทำไม่ไหว
ฉันเจ็บ…คนที่เจ็บก็คือคนที่รัก และเธอ…ก็ไม่ได้เป็นคนประเภทนั้น
ก็อาจเป็นเรื่องผิด ที่ทนเธอได้ไม่นาน แต่มันทนไม่ไหว
รักหรือไปเสียใจเท่ากัน
การจะบอกเลิกใคร ไม่สนุกหรอกนะ
ถึงฉันจะทนไหว ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง
คำว่าคนรักกัน สำหรับฉันกับเธอมันสวนทาง
จะอยู่กันเพื่ออะไร
ความจริงคือความจริง ก็เธอไม่จริงใจ
จะทำยังไงจะทำยังไงก็ไม่ได้ใจจริง
การที่ต้องรอเธอ ให้เธอมีใจจริง
จะจริงไม่จริงฉันก็ไม่รอ

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 25-07-2012 03:43:59



    เค้าเชียร์คู่ 1 กะ 2 อ่า
    บังเอิญว่าชอบพวกกะล่อนแบบไม่เป็นพิษเป็นภัยแบบภินทร์ แล้วก็อยากให้ภินทร์มีพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้าด้วย
    จะว่าไปนึกภาพแม่ตรินทร์ดูแลภินทร์ลูกรักไม่ออกแฮะ
    จะดูแลกันด้วยลำแข้ง สั่งสอนกันทางโทรจิตรึเปล่า
    แล้วคุณพ่อก็คงมองตามนิ่งๆ คุณแม่ว่ายังไงก็ว่าตามนั้นแหงมๆ
    แหม ครอบครัวสุขสันต์สุดประหลาดจริงๆ งืมๆๆๆ




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-07-2012 14:19:59
วันนี้ + เป็ด + 1 ให้ทุกคน ที่ให้การสนับสนุน>29 G. ... :กอด1: อารมณ์ดีมีความสุข ฝนตกหยุดงาน ... :try2: ขอนอนสบาย ก่อนจะตายจริงในอาทิตย์นี้ เหอเหอเหอ...  :z10:

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Fay ที่ 25-07-2012 17:59:30
อ่านแล้วก็พอเข้าใจบางจุดนะคะ แต่บางจุดก็งง เลยมีเรื่องอยากถามคนเขียนหน่อยนะคะ
1. ภัทธที่หมอรักเนี่ยคือคนไหนคะ
2. ทำไมภัทธที่ทุกคนกลัวถึงหวงหมอขนาดดดน้านนนนนนนนนน

ตามมาอ่านจากสาปรากไทรค่ะ สนุกมากๆๆ คนเขียน ผู้เรื่องได้สุดยอดเลยนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-07-2012 18:31:23
อ่านแล้วก็พอเข้าใจบางจุดนะคะ แต่บางจุดก็งง เลยมีเรื่องอยากถามคนเขียนหน่อยนะคะ
1. ภัทธที่หมอรักเนี่ยคือคนไหนคะ
2. ทำไมภัทธที่ทุกคนกลัวถึงหวงหมอขนาดดดน้านนนนนนนนนน

ตามมาอ่านจากสาปรากไทรค่ะ สนุกมากๆๆ คนเขียน ผู้เรื่องได้สุดยอดเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :impress2:
V
ขอยืมคุณหมวยลำเค็ญมาเลยละกัน  +1 บวกเป็ด ให้แล้วเน้อ

1. ภัทร แรก ชาตินี้เป็นผู้หญิง แต่ถูกย้ายวิญญานมาอยู่ในร่าง ตรินทร์ที่เป็นผู้ชาย อดีตชาติ เคยหลงรักนางรำพะเตรียง แล้วก็ผูกพันอยู่กับพี่ยักษ์[อะตรอม] เคยเลี้ยงเสือน้อยแสนน่ารักอยู่หนึ่งตัว[พี่หมอ]

2. ภัทร สอง เป็นตะบองพลำ ไม่ระบุเพศ เกิดจากแม่ของภัทร ชาตินี้เอามาฝังไว้เพราะกลัวลูกสาวจะตายไว เพราะเป็นร่างเนื้อนาบุญ[ผูกติดมาจากชาติก่อนด้วยที่พะเตรียงโดนหลอกให้ใช้ตะบองพลำสร้างมลทินให้ องค์ภังคียะ]

** นี้คือ ภัทรที่หมอรัก แต่ถ้าเทียบกันแล้วหมอจะทั้งรักและกลัวภัทรที่เป็นพลำมากกว่า ตอนแรกที่สองคนที่คบกันความสัมพันธุ์เริ่มมาจากเพื่อนจนความหวงห่วงมันเปลี่ยนเป็นความรัก... ตะบองพลำ รักและหวงหมอเพราะอยุ่ด้วยกันมานานมีหมอยอมทำให้ทุกอย่าง...คุ่นี้มันมากกว่ารักไปแล้วส่วนภัทร ที่ตอนนี้ของเรียกภินทร์แล้วกัน หมอก็รักเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทั้งรักทั้งกลัวแบบที่รักเจ้พลำ...ภินทร์มันรักใครไม่เป็น ตามคำอธิฐานของ ภังคียะ ส่วนเจ้พลำก็ไม่คิดรักใครนอกจากหมอ...เพราะทั้งรักทั้งผูกพันธุ์ มีแค่หมอที่รู้ว่าเจ้พลำมีตัวตน คู่นี้น่าสงสารอะ...

หมอทั้งรักทั้งหวงทุกอย่างที่เป็น ภัทร จนรักนั้นเผื่อไปให้ ตรินทร์ ในร่างภัทรด้วย ... แต่ก้ไม่มีอะไรมากไปกว่ารักเพราะเห็นตรินทร์เป็นร่างภัทร อารมณ์คงประมาณ นี้เป็นเสื้อภัทร อะไรประมาณนี้ ตอนนี้ ภัทร[เจ้พลำ]เลยต้องปิดเรื่องที่ว่า ...ตัวเองกำลังจะตาย....เพราะตั้งแต่ที่ภัทรขอให้คุณรามย้ายพลำ[ตัวเอง]มาจากร่างภัทร[หญิง] พลำลอกคราบและกำลังจากหายไป...ทั้งหมดเผื่อเดิมพันให้ตัวเองกลับมาหาหมอได้อีกครั้ง ... 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 26-07-2012 01:49:51
V
ขอยืมคุณหมวยลำเค็ญมาเลยละกัน  +1 บวกเป็ด ให้แล้วเน้อ

1. ภัทร แรก ชาตินี้เป็นผู้หญิง แต่ถูกย้ายวิญญานมาอยู่ในร่าง ตรินทร์ที่เป็นผู้ชาย อดีตชาติ เคยหลงรักนางรำพะเตรียง แล้วก็ผูกพันอยู่กับพี่ยักษ์[อะตรอม] เคยเลี้ยงเสือน้อยแสนน่ารักอยู่หนึ่งตัว[พี่หมอ]

2. ภัทร สอง เป็นตะบองพลำ ไม่ระบุเพศ เกิดจากแม่ของภัทร ชาตินี้เอามาฝังไว้เพราะกลัวลูกสาวจะตายไว เพราะเป็นร่างเนื้อนาบุญ[ผูกติดมาจากชาติก่อนด้วยที่พะเตรียงโดนหลอกให้ใช้ตะบองพลำสร้างมลทินให้ องค์ภังคียะ]

** นี้คือ ภัทรที่หมอรัก แต่ถ้าเทียบกันแล้วหมอจะทั้งรักและกลัวภัทรที่เป็นพลำมากกว่า ตอนแรกที่สองคนที่คบกันความสัมพันธุ์เริ่มมาจากเพื่อนจนความหวงห่วงมันเปลี่ยนเป็นความรัก... ตะบองพลำ รักและหวงหมอเพราะอยุ่ด้วยกันมานานมีหมอยอมทำให้ทุกอย่าง...คุ่นี้มันมากกว่ารักไปแล้วส่วนภัทร ที่ตอนนี้ของเรียกภินทร์แล้วกัน หมอก็รักเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทั้งรักทั้งกลัวแบบที่รักเจ้พลำ...ภินทร์มันรักใครไม่เป็น ตามคำอธิฐานของ ภังคียะ ส่วนเจ้พลำก็ไม่คิดรักใครนอกจากหมอ...เพราะทั้งรักทั้งผูกพันธุ์ มีแค่หมอที่รู้ว่าเจ้พลำมีตัวตน คู่นี้น่าสงสารอะ...

หมอทั้งรักทั้งหวงทุกอย่างที่เป็น ภัทร จนรักนั้นเผื่อไปให้ ตรินทร์ ในร่างภัทรด้วย ... แต่ก้ไม่มีอะไรมากไปกว่ารักเพราะเห็นตรินทร์เป็นร่างภัทร อารมณ์คงประมาณ นี้เป็นเสื้อภัทร อะไรประมาณนี้ ตอนนี้ ภัทร[เจ้พลำ]เลยต้องปิดเรื่องที่ว่า ...ตัวเองกำลังจะตาย....เพราะตั้งแต่ที่ภัทรขอให้คุณรามย้ายพลำ[ตัวเอง]มาจากร่างภัทร[หญิง] พลำลอกคราบและกำลังจากหายไป...ทั้งหมดเผื่อเดิมพันให้ตัวเองกลับมาหาหมอได้อีกครั้ง ... 


   โฮก. . . ไม่ค่อยสปอล์ยเลยงับ
   สงสัยเราต้องไปตั้งหม้อรอต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ก่อน เผื่อจะได้กินมาม่าชามโต



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: Fay ที่ 26-07-2012 08:13:13
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ

สงสัยต้องเตรียมทิชชู่ไว้มวนนึงสำหรับเรื่องนี้ซะแว้ววว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #72 ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าส้นสูง 23/7/55
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 28-07-2012 21:42:43
 :mc4: กลับมาจากงานแล้ว
สะใจมากตรินทร์ กระทืบให้สูญพันธ์ไปเลย
ภัทรไม่น่าห้าม

เป็นกำลังใจ :L2: :กอด1: :L1: ให้นะค่ะ มาแต่งต่อไวๆๆนะค่ะ  :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 06-08-2012 21:08:47
บทที่ 73 หมื่นความทรงจำ ...[1]


......
...
เด็กสาวหยิบเอกสารที่กองไว้บนโต๊ะมาดูทีละใบแล้วส่ายหน้า....ไม่ได้หันไปมองพี่ชายตรงๆเพราะสายตาไปหยุดอยู่ที่ รูปชายหนุ่มในชุดเมดลายลูกไม้  ชายหนุ่มปากสีสดที่โน้มคอเจ้าของห้องมาเก๊กจูบ......รูปของ พี่ภินทร์....กับพี่อะตรอม......

"จะลาออกจาก'มหาลัย จริงๆหรือ พี่อะตรอม....คุณย่าท่านจะเสียใจเอานะ"

ไม่มีคำตอบ หรือถ้อยคำปฏิเสธ จากพี่ชาย....ทำไมแพงตรอนจะไม่รู้...พี่ชายตัวเองดื้อเงียบ...แต่ดื้อเกินไป นิสัยของยักษ์ มีมากเกินไป...ทั้งเอาแต่ใจและอารมณ์ร้าย ก่อนหน้านี้ดีขึ้นหน่อยก็เพราะเพื่อน 'สนิท' ที่ชื่อ ภินทร์ แต่ตอนนี้ ไม่มีคนคนนั้นอยู่ อารมณ์ร้ายที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นมันเลยเกินกว่าจะคาดเดา เหมือนหมาดุที่ไม่มีเจ้าของคอยคุม ....

"ถ้าไม่เรียนต่อ....ห้องนี้พ่อจะยึดคืนนะ....พี่อะตรอมคิดดีๆแล้วกัน....สักวันถ้าพี่ภินทร์กลับมาห้อง....แล้ว... "

'ปัง!!!'

เสียงทุบประตูดังตัดประโยคต่อไปของเด็กสาว แววตาสีแดงกล่ำจ้องมองเหมือนบังคับ...ให้หุบปาก!

"อย่ามาสอนพี่แพงตรอน....ครั้งแรกเพราะคุณย่า ....พี่ถึงได้เสียคนที่พี่รักไป...ครั้งที่สอง....เพราะใคร ? เพราะอีนางกาลีหรือเพราะไอ้พวกตาแก่บ้าที่ขัดขวางไม่ให้พี่ยุ่งกับ ภินทร์...หรือจะเพิ่มเธออีกคนที่จะขวางพี่....สาใจแล้วจะเอาอะไรอีก ...ภินทร์..มันหายไปแล้วไง...มันไม่กลับมาแล้วไง ...จะมาพล่ามอะไรอีก!จะมาเอาอะไรกับพี่อีก!"

"แพงตรอนไม่ได้ว่าอย่างนั้น...คือ.."

"โฮกกกกก!!!!"

เสียงคำรามก้องตัดบท....ทุกอย่าง...จบลงด้วยอารมณ์ร้อน ของเจ้าของห้อง แพงตรอน คว้ากระเป๋าแล้วเปิดประตูกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ลงจากห้องพักของพี่ชาย ....ตกใจ! ทั้งตกใจทั้งขวัญเสีย! พี่ชายเริ่มเปลี่ยนไป ...เปลี่ยนไปเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว....ไม่สิ...เปลี่ยนไปแย่ยิ่งกว่านั้นอีก ....ยิ่งกว่าตอนที่คุณย่าห้ามไม่ให้คบกับเจ้ภัทร ...

'พี่ภินทร์...พี่ภินทร์อยู่ไหน?....รีบกลับมาเร็วๆ ...กลับมา....ก่อนที่พี่อะตรอมจะฆ่าใครสักคน....'
.............
.....


"...."

"....แล้วเจอกันนะ ภัทร ....เอกสารอยู่ในห้องแอม ....ส่วนโปรเจคต่อไป ดูงานที่จอร์น ...นานๆทีได้หยุดยาว...อย่าจัดหนักนักล่ะ สงสารคุณหมอ...."

ประโยคยาวๆแปร่งๆของฝรั่งพูดไทยที่จบไป ทำเอาผมมึน....สมอง มันชาๆ หัวก็ว่างๆ ลองมองดูรอบๆ ทุกอย่าง...มันแปลกไปทั้งหมด ....ผม....อยู่ที่ไหน? ...
ป้ายห้องน้ำที่อยู่ตรงทางเดินข้างหน้าเหมือนเรียกสติ...ผมวิ่งเข้าไปแล้วปิดล็อกขังตัวเองไว้ในนั้น ....หน้ากระจก...ใบหน้าและรูปร่างที่เปลี่ยนไป ...หน้าของ ตรินทร์ ?! แต่รูปร่างดูหนาขึ้น ผมลูบมือไปตามช่วงไหล่ กล้ามมีมากกว่าเดิม สีผิวก็เข้มขึ้นกว่าเดิม ...และที่ผมยังติดใจ ..รอยรอบลำคอ....วงกรีดรอบลำคอที่ผมพอจำได้....
...มันไม่ใช่เรื่องดีแน่....
........... 'ครืดดดดดดดดด'
เสียงโทรศัพท์ดังกระชากสติผมกลับมาก่อนที่จะหลุดไปมากกว่านี้ หน้าจอมันขึ้น คำว่า 'เมีย' คำเรียกที่ผมจำได้ลางๆว่าผมเคยใช้เรียกใคร ....แต่ใครกันล่ะ...สมองผมว่างไปหมด... สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ผมถึงได้รับโทรศัพท์ แต่ผมเลือกที่จะเงียบเพื่อคอยฟังเสียงปลายสาย ....

"ภัทร.....วันนี้เราไม่กลับนะ ฝากดูตรินทร์ด้วย ..."

เสียงที่ผมได้ยินทำให้สมองมันชาวาบ....เสียงของใครสักคน เสียงทุ้มที่น่าฟัง ใบหน้าของใครคนนึงปรากฏขึ้นมาในความรู้สึกแล้วจางไป ....ผมกดตัดสายแล้วรวบรวมสติขึ้นมาใหม่ บนหน้าจอโทรศัพท์ ...เวลามันเร็วไป ...เร็วไปกว่าที่ผมรู้....เกือบ........ สี่เดือน....เวลา....ผมโดนขโมยไปอีกแล้ว ......โดนขโมยไปเกือบ สี่เดือน ...และที่สำคัญ....
...............คนขโมยไม่ใช่ตรินทร์ ....

... 'ภัทร.....วันนี้เราไม่กลับนะ ฝากดูตรินทร์ด้วย ...'

ถ้าไม่ใช่ตรินทร์ ....แล้วใคร?......นอกจากผมกับตรินทร์....ใครที่ใช้ร่างนี้อีก??!!!
.........................
...
 สำรวจกระเป๋าและเอกสารทั้งหมด ตอนนี้ผมคือตรินทร์ ...แต่ไม่ใช่ตรินทร์ ....ผมไม่ได้กำลังเรียนที่มหาลัย แต่ทำงานแล้ว .... ทำงานในตำแหน่งที่ผมจำได้ว่าเคยทำมาก่อน ก่อนที่จะเป็น ตรินทร์ ....ทุกอย่างทำให้ผมสงสัย นอกจากผมแล้ว มีใครอีกคนใช้ชีวิตของตรินทร์อยู่ ใครที่เหมือนผม...แต่ไม่ใช่ผม....แย่ชะมัด.....
...แล้วจะทำยังไงดี ?....
...ผมมองกระจกแล้วเปิดน้ำล้างหน้าตัวเอง...ไม่ใช่เวลาของคำถาม เมื่อเรื่องมันบานปลายมาถึงตอนนี้ ...สิ่งที่ผมควรทำ....คือการใช้เวลาให้คุ้มค่า...น่าจะดีที่สุด.....
....
.
ผมไม่ใช่ตรินทร์ และผมก็ไม่ใช่ภัทร.....ภัทร ...ชื่อนั้นมันลอยขึ้นมาลางๆ ....ความอึดอัดที่จุกอยู่ช่วงอก....ผมเคยคิดว่าผมคือ ภัทร ...แต่ไม่ใช่? ถ้าผมไม่ใช่ ภัทร...... ตอนนี้ผมเป็นใคร?
....
..
'ภินทร์.....'
เสียงเบาๆแว่วๆลางๆ เหมือนลอยมาตามลม  ผมได้แต่หันหาเสียงนั้น เสียงทุ้มต่ำที่กังวาน เสียงเรียกที่ผมอยากฟังที่สุด...เรียกชื่อผม ชื่อที่ไม่ใช่ ตรินทร์ หรือ ภัทร ......
.....ชื่อของ ...ใครสักคน ..ที่ผมเป็น......
'คิดถึงไหม? '
คิดถึงสิ...
'คิดถึงก็ต้องตื่น......'
.......
...'ตื่นมาหาเรา!!! '
.....
...
เสียงคำรามที่ผมได้ยิน....มันสะท้อนออกมาจากกระจก  คราบหยดน้ำยังเปียกเต็มใบหน้า......แต่เสียงมันยังดังก้องสะท้อนอยู่ในหัว....ใครสักคนที่กำลังร้องเรียกผมอยู่ ...ใครสักคน....ที่ชื่อ....
.....


'อะตรอม!!'


.................................
.....




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 06-08-2012 22:19:22
อร๊างงงงงงงงงง   เชียร์เบอร์2 ค่ะ! สงสารหมอก็จริง แต่สงสารอะตรอมมันมากกว่าแต่ที่สงสารมากกว่าอะตรอม ก็ ภินทร์ เนี่ยล่ะค่ะ

ชอบคู่จิ้งจอกกะรีทรีฟเวอร์เหมือนกัน แต่คู่นั้นในเรื่องนี้เฮยกให้เป็นที่สองไปแล้ว เพราะเฮคิดถึงความแรดของภินทร์ค่ะ แหะๆ

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 06-08-2012 22:39:46
ไม่รู้จะเชียร์ใครอะ สงสารหมดทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 06-08-2012 23:17:47



    อ๊ายๆๆๆ อัพเรื่องนี้แว้ว
    อยู่ดีๆภินทร์ก็ตื่นขึ้นมาแบบงงๆ แถมจำอะไรมะได้สักอย่าง ต้องระลึกชาติเอา
    แล้วภัทรกะเจ๊พลำไปไหนละเนี่ย เวลาหมดแล้ว หรือภินทร์โดนจุดธูปอัญเชิญเป็นกรณีพิเศษ
    แต่อะตรอมนี่ดูอารมณ์ร้ายกว่าที่คิดนะ



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 07-08-2012 01:05:32
บทที่ 73 หมื่นความทรงจำ....[2]


.....
............................

"มะม่วง!! อะตรอมล่ะ?!"

เสียงตะโกนถามดังมาจากหน้าร้าน มะม่วงเด็กพม่าลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยวร้านประจำที่เจ้าของคำถามเคยมาฝากตัวเป็นลูกชายอีกคน ได้แต่หรี่ตา หาเจ้าของเสียง

"เอ๋? พี่ภินทร์?  หายไปไหนมา ?ไม่แวะมาที่ร้านเลย....ไม่มีคนช่วยเสิร์ฟมะม่วงอย่างเหนื่อย..."

"หยุดก่อนมะม่วง....ตอบมาก่อน อะตรอมอยู่ไหน?"

"กินน้ำก่อน....อะ..มาถึงก็ถามหาแต่คุณยักษ์....ไม่สนใจมะม่วงเลย....มะม่วงล่ะสงสัย...พี่ภินทร์เป็นเพื่อนหรือเป็นเมียคุณยักษ์? ไม่มากับคุณยักษ์ก็มาถามหาคุณยักษ์ตลอด...ตลอด...."

"ส้นแล้วมะม่วง ลามปาม! แล้วไอ้ยักษ์! เอ้ย!! อะตรอมอยู่ไหน?"

"อยู่ที่หอ...ไม่ได้เข้ามาที่ร้าน ตั้งนานแล้ว ...นานพอๆกับที่มะม่วงไม่เห็นคุณภินทร์เลย ..."

"หรอ? เอ่อ...งั้นเอากุญแจหอมา.....เอ่อ....ขอบใจ ไปล่ะ"

"นี่! คุณภินทร์ !!"

"อะไร? กำลังรีบ!!"

"...คุณยักษ์จะไม่อยู่ที่หอแล้วนะ....เห็นคุณแพงตรอนบอก คุณยักษ์จะไม่เรียนแล้ว"

".....ทำไม?...."

"ไม่รู้เห็นคุณแพงตรอนบอก....คุณยักษ์ไม่มีเพื่อน.....คุณภินทร์.....ไม่เป็นเพื่อนกับคุณยักษ์แล้วหรอ?"

ไม่มีคำตอบอะไรให้มะม่วง ....ภินทร์ได้แต่วิ่งหายไปทางหอพัก....

'ไอ้เหี้ยอะตรอม มันคิดอะไรของมัน.....จะไม่เรียนต่อแล้วหรอ? เป็นบ้าเหี้ยอะไรขึ้นมา? หรือทำสาวท้อง???! '
......................................
.....



"...ทำสาวท้อง?...."
 
..........คิดไปถึงเรื่องนั้นแล้ว ภินทร์หยุดวิ่งโดยอัตโนมัติ เท้ามันเหมือนโดนถ่วงไว้ด้วยแท่งเหล็ก....ไม่ได้คิดอะไรกับอะตรอมเกินไปกว่าเพื่อน เคยบอกตัวเองอย่างนั้น แต่พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา...ทำไมหัวใจมันหวิวๆ แรงเดินเหมือนจะไม่มีแล้ว.........

...หน้าห้องห้องเดิม ....ภินทร์หยุดอยู่แค่นั้น .....กุญแจที่ได้มาจากมะม่วงก็ถือค้างไว้อย่างนั้น .... เหนื่อย...คงเพราะเดินขึ้นมาจนถึงชั้นสี่ บอกกับตัวเองอย่างนั้น บอกทั้งๆที่รู้ตัวเองดี...ว่าที่เหนื่อยน่ะ....เหนื่อยที่ใจ.......

...ควรจะยินดีสิ...จะได้เป็นอาแล้วนะกู .....จะได้มีหลานเป็นของตัวเองแล้ว.....จะได้อุ้มลูกของอะตรอมมันแล้ว....
.......แล้ว.......แล้วกูควรจะดีใจ.......ใช่ไหม?.....
....

"อึก....อือ.....กูต้องดีใจสิ.....ดีใจ...จนร้องไห้เลย....อืออออ...."

คิดเองเออเองกับคำตอบ...มันไม่แย่เท่ากับพอคิดไปไกลแล้วมาทรุดนั่งอยู่หน้าห้องอะตรอมแล้วร้องไห้หรอก...ดีใจโคตรๆที่เพื่อนอย่างอะตรอม มีเมียมีลูก ดีใจจนร้องไห้ ...ไอ้สัตว์กูหายไปแค่ สี่เดือน...มึงทิ้งกูไปมีเมียแล้วนะ....ไอ้เหี้ย!...กูโคตรดีใจเลย....ดีใจจนร้องไห้ ดีใจจนกุญแจในมือมันตกลงพื้นปูน  ได้แต่มอง ...แต่ไม่มีแรงเอื้อมไปหยิบ ......ดีใจจนเหนื่อยใจ.....

.........เหนื่อยจนหัวใจ...ไม่อยากเต้นแล้ว.....
....
.

....ข้อมือ...มันถูกดึงขึ้นมา ....แรงทั้งหมดมันหายไปกับน้ำตาแล้ว ....ภินทร์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง ในขณะที่เจ้าของห้องพยุงร่างที่เหมือนจะไม่มีสติ ขึ้นมาพาดบ่าแล้วเดินเข้าห้อง....  ปิดล็อกประตูก่อนจะวางร่างนั้นลงบนเตียง ....

"....สี่เดือน.....สี่เดือนเองนะที่กูหายไป.....ทำไมไม่รอกูอ่ะ?"

ไอ้แสบที่เคยเห็นกลายร่างเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ มันงอแงแล้วซุกหน้าเข้ากับผ้าห่มผืนหนา เสียงอู้อี้ที่ออกมามีแต่ประโยคประชดประชันกับคำพล่ามด่า.....ทั้งนั้น.....

...ไอ้คนที่ควรจะโมโห... ไอ้คนที่ควรจะต่อว่า..... มันน่าจะเป็น คนที่โดนทิ้งไปโดยไม่ให้ทันตั้งตัวไม่ใช่รึไง?
............

....ถอนหายใจ....เฮือกใหญ่แล้ว โน้มไอ้ดักแด้เข้ามากอด...สี่เดือนที่หายไป...สี่เดือน..เชียวนะที่ไม่ได้ข่าว....ความโกรธ ความไม่เข้าใจ ความคิดบ้าๆ ที่แทบจะเผาพวกตาแก่ทิ้ง หายไปทั้งหมด.....
..เหลือแค่ ความสุข....ความสุขที่ได้กอดไอ้แสบ...ขอแค่นั้น.....
.....
.............

ดักแด้มันดิ้น......จากที่อู้อี้ด่า...แรงทุบมันกลับเพิ่มขึ้น เงียบฟังแล้วถึงได้ช่วยมันแกะผ้าออกไอ้ดักแด้ตัวแสบมันร้อนจนลืมเรื่องที่โวยวายไปหมดแล้ว .....

......
.....

'หายไปไหนมา?'

....
คำนั้นอะตรอมไม่ได้ถาม.....เพราะทันทีที่ ไอ้แสบมันโผล่หัวออกมาได้ มันก็จ้องตาเขม็ง....

"มะม่วงบอก จะไม่เรียนแล้ว....จริงหรอ?"

"....จริง....ไม่อยากเรียนแล้ว....ไม่มีเพื่อน...."

"อย่าอ้างอะตรอม...พวกไอ้เรดก็มี พวกที่ชมรมบาสก็มี ....ไม่มีเพื่อนหรือทำสาวท้องกันแน่ ถึงไม่อยากไปเรียน...แค่สี่เดือนเองนะ....สี่เดือนมึงมีเมียแล้วไม่บอกกูเลย...."

"....เมียอะไร?....ใครบอก?"

"ไม่รู้.....ไม่มีใครบอก....พรายมันกระซิบข้างหูมั้ง....."

........

.."แล้วมันกระซิบรึเปล่า....ว่าเราคิดถึงภินทร์...."

....
..

ริมฝีปากร้อนๆ ทาบลงมาเบาๆ มันอุ่นๆนิ่มๆอย่างบอกไม่ถูก ตอหนวดที่ทิ่มเข้ามาก็ด้วย ....เพิ่งสังเกตชัดๆหน้าอะตรอมโคตรเถื่อนเลย เวลาที่ไม่โกนหนวดโกนเคราออก ....ผ้าห่มผืนหนาหายไปไหนแล้วไม่รู้  แอร์ในห้องเปิดอย่างเย็น แต่ลมหายใจร้อนที่แทรกเข้ามามันยิ่งทำให้ร้อน ไปทั้งหน้า.....มือใหญ่ๆที่สอดปลายนิ้วแทรกเข้ามาระหว่างนิ้วก็ด้วย  มันอุ่นจนร้อน เหงื่อเต็มฝ่ามือ....

"....จูบ...ได้ไหม?"

"....แล้วไอ้ที่ทำเมื่อกี้เขาเรียกว่าอะไร?....."

"....ไม่รู้สิ....นอกจากภินทร์แล้วยังไม่เคยทำแบบนี้กับใคร...."

"......"

"..สอนหน่อยสิ ภินทร์....สอนเราหน่อยสิ.....มากกว่าจูบก็ได้ ...."


......
..







 


.................
.....................................



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 07-08-2012 03:52:37
 :m31: :m31: :m31: :m31:


อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เดียวววววววอย่าเพิ่ง
อย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
 :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: ryokijung ที่ 07-08-2012 04:05:41
เฮ้อ... :เฮ้อ:
ใช้ร่างกายเดียวกันสมองก้อต้องอันเดียวกัน
แต่ไม่ยักกะเชื่อมความทรงจำแฮะ
เดาไม่ถูกไปไม่เป็นเลยกะเรื่องนี้
แล้วแบบนี้จะเชียร์ใครดี :a5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 07-08-2012 07:51:43



   อยู่กับภินทร์ ดูยังไงอะตรอมก็ไม่มีแววโมโหร้ายแฮะ -*-
   ก็เห็นอารมณ์เย้นนนนเย็น ภินทร์ทำอะไรก็ไม่โกรธ ยอมตลอดอะ
   แล้วพอกลับมาถึงอะตรอมรุกเลยอ๊ะ
   แต่แน่ใจแล้วเหรอที่จะให้ภินทร์สอนง่ะ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 07-08-2012 12:05:44
วี้ดว้ายกระตู้วู้!!! อะตรอมมา!!!
ยังมีชีวิตอยู่ในเรื่องด้วยล่ะ :impress3: โฮ~ คิดถึงนะ
บวกๆให้คนแต่ง ใจดีให้อะตรอมได้เจอภินทร์(ซะที)
แถมยังได้จูจุ๊บหวานๆอีกด้วย :-[
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 07-08-2012 13:07:10
โอยยยย  อีรุงตุงนังกันใหญ่แล้ว  ตรินทร์ก็พึ่งตื่น เรื่องไอ้คุณบัพยังไม่ทันถึงไหนเลย เจ๊ภัทรพลำโดนพักยกไปซะแล้ว
เดี๋ยวสงสัยเสือน้อยได้เต้นเป็นเจ้าเข้า(http://upic.me/i/iv/icon_112.gif)
สงสารอะตรอมก็สงสาร  ไม่รู้จะเชียร์ใครเลย  ใจจริงอยากให้มีคู่กันทุกคนนะ แต่ก็ไม่รู้เรื่องมันจะเป็นยังไงต่อไป
จะไปจับร่างตรินทร์ฉีกเป็นสองส่วน แล้วแบ่งกันไปให้เสือน้อยกับยักษ์ใหญ่คนละซีกก็ไม่ได้อีก
เฮ้ออออ  ปวดจิต(http://upic.me/i/v7/yenyo104.gif)

 หมื่นความทรงจำ....[1]
ชายหนุ่มปากสีสดที่โน้มคอเจ้าของห้องมาเก็กจูบ>>>เก๊ก
จะมาพร่ามอะไรอีก!>>>พล่าม
ประโยคยาวๆแปล่งๆของฝรั่ง>>>แปร่ง
ใครที่ใช่ร่างนี้อีก>>>ใช้
เสียงทุ้มต่ำที่กังวาล>>>กังวาน





 หมื่นความทรงจำ....[2]
ได้แต่ยี่ตา>>>แปลว่าไรอะ
ไม่มีคนช่วยเสิรฟ์มะม่วงอย่างเหนื่อย>>>เสิร์ฟ
เพิ่งสังเกตุชัดๆหน้าอะตรอมโคตรเถื่อนเลย>>>สังเกต
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 07-08-2012 13:49:50
ง่ะ :laugh:  เหมือนมันขาดหายไปหน่อยนะคุณคนเขียน
อืม ร่างเดียวกันใช้หลายคนแบบนี้มันก็ลำบากเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 07-08-2012 22:19:30
เพิ่งตามมาอ่านเรื่องนี้ค่ะ อ่านมาราธอนสุดๆ แต่อ่านทันแล้ว ดีใจ 5555
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ... 6-7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 07-08-2012 22:24:51
เพิ่งตามมาอ่านเรื่องนี้ค่ะ อ่านมาราธอนสุดๆ แต่อ่านทันแล้ว ดีใจ 5555 รออ่านตอนต่อไปนะคะ
V
มาต่อให้ แบบทันใจเน้อ.....
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 07-08-2012 22:25:42
บทที่ 73  หมื่นความทรงจำ......สูญคำลา...[1]


"........"

".....สอนหน่อยสิ ภินทร์....สอนเราหน่อยสิ.....มากกว่าจูบก็ได้ ...."


........
....
..
.
.





"ทะลึ่ง...."

ด่ามันแล้วผมก็เขกหัวผมกับหน้าผากมันเบาๆ ..... เรื่องของผมกับอะตรอมไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเซ็กส์มาเกี่ยว...มันเท่านั้น ที่แค่กอดผมก็มีความสุข ... แค่ได้ซุกหน้าอกแล้วดมกลิ่นเสื้อผมก็สบายใจ  ผมเคยอ่านเจอนะเขาว่ากันว่า บนโลกนี้มีใครบางคนที่สร้างมาเพื่อเรา....ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง อะตรอมก็ถูกสร้างมาเพื่อผม  ......ล่ะมั้ง?
....
.
"ทำไมอะตรอม ...มือใหญ่จัง?"

ผมจับมือซ้ายมันแล้วทาบกับมือขวาของผมเอง...ได้แค่ครึ่งเองอะ...ทั้งๆที่ผมก็ไซส์มาตรฐานชายไทยนะ .....

"ต้องใหญ่ดิ....มือเรามีไว้จับนายไม่ให้หนีไง..."

มันกำมือแล้วสอดนิ้วเข้ามาล็อกมือผมไว้....เอ่อ....หน้า....เข้ามาใกล้เกินไปล่ะ..........
....

"ตาเรา มีไว้มอง ภินทร์ ....จ้องมองไม่ให้นายหายไปไหนอีก......"

มันก้มลงมาหอมเบาๆที่เปลือกตาผม...

"......."

"ปากเราก็เหมือนกัน ......มันมีไว้เรียกแค่ชื่อนาย......"
....
...
.
.
.
"......เสี่ยวว่ะ........อะตรอม."

ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ อะตรอมมันก็เหมือนกัน .....ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันเขินแค่ไหน ไม่ใช่คนพูดอย่างมันที่เขินนะ คนฟังอย่างผมก็เขิน.....
.......แล้วเราก็นอนกอดกันอยู่แบบนั้น..........
กอดไปคุยกันไป...มีหลายเรื่องที่เราคุยกัน  เรื่องเรียนของมันก็ด้วย ผมขู่มันไว้นะ ถ้ามันเรียนไม่จบ ใครจะหาเลี้ยงผม......คุยกล่อมจนมันบอกว่าจะไปซิ่ว รอผม ........'เรียนรอไปเลยไป จบมาได้หาเลี้ยงผมได้ ...'  แล้วก็คุยอะไรอีกไม่รู้มากมาย....เรื่อยเปื่อย...... คุยจนผม...ง่วง....
.....
..

"เรียนรอเรานะ.....จบก่อนก็ทำงานรอหาเลี้ยงเราด้วย...."

ผมจำได้ว่าผมเคลิ้มๆบอกมันอย่างนั้น ....

"เราจะรอ...."

เสียงมันตอบผมเบาๆ .... ผมได้แต่ยิ้มรับแล้วค่อยๆหลับตาลง .....

...
...............................ผมจูบมันเบาๆ แล้วกอดมันไว้แน่นๆ  บอกว่ารักมันทุก 5 นาที ทำทุกอย่างให้มันครางเรียกชื่อผม ยอมทุกอย่างถ้ามันอยากได้อะไร ................
............
...
..
.
ผมคงทำอย่างนั้น .....ถ้ารู้ว่า....
....
..............
..
..
.
.
.
.................................ผมจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีก................................





 


.................
.....................................
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ...มีมังกร สามหัวตัวหนึ่ง เกิดมีความรักขึ้นมา  หัวที่หนึ่งหลงรักมังกรไฟ มังกรเหมือนกัน  หัวที่สองหลงรักคุณยักษ์ หัวที่สามหลงรักคุณเสือ.....  แล้ววันหนึ่ง ก็เกิดคำถามขึ้นมา .....ร่างกายมีแค่ร่างกายเดียว มังกรจะให้ร่างกายนี้แก่ใคร คุณมังกร คุณยักษ์ หรือคุณเสือ ......
......
...
..
คุณยักษ์.....บอกมังกรว่า รักคุณยักษ์สิ คุณยักษ์คุ้มครองมังกรสามหัวได้
คุณเสือ.....บอกมังกรว่า รักคุณเสือสิ เพราะคุณเสือก็ทั้งรักทั้งหวง มังกรสามหัว...เหมือนกัน
คุณมังกรไฟ..บอกว่า รักคุณมังกรไฟสิ เพราะเราเหมาะสมกัน....
..................
...
.
.............แล้ววันหนึ่ง ......หัวที่รักของคุณยักษ์.......ก็หายไป................
ทิ้งให้อีกสองหัวที่เหลือ ...................กลัวเหมือนๆกัน.................................กลัวจะหายไปอย่างไม่ทันตั้งตัว...........


ดั่งนิทราจน...นิรันดร์....กอดสุดท้าย (http://www.youtube.com/watch?v=YK_Zydjt3ro)
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 07-08-2012 22:40:37
เฮ้อ จะเป็นใครกันที่จะยังอยู่
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 07-08-2012 23:04:09



    อะอ้าว. . . เห้ย ภินทร์จะหายไปเลยจริงๆเรอะ
    สรุปว่าโผล่กลับมากันยักษ์อาละวาดเฉยๆว่างั้น
    งี้อะตรอมก็น่าสงสารแย่สิ คราวที่แล้วก็รอโดยไม่รู้ว่าคนที่กำลังรอตายแล้วหรือยังอยู่ จะกลับมารึเปล่าจนเลิกรอ
    คราวนี้ก็ได้รออีกแล้ว แถมไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกรึเปล่าอีก T T



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 07-08-2012 23:42:12
 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2:

เชียร์เสือน้อย

แต่ภินทร์จบไปแล้วหรอ
ไม่ตื่นอีก
หรือรอเกิดใหม่กะตรินตร์ร่างหญิงกะโฆ

ตื่นมาเป็นภัทรสิน่ะ


โอ๊ยยยย
หายใจ หายคอรำบาก
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 08-08-2012 00:16:50
บทที่ 73  หมื่นความทรงจำ......สูญคำลา...[2]


...................แล้วเปลวไฟสีครามก็ดับลง...................
..........................
................
...........................ทุกอย่างในห้องเงียบสนิท............เสียงแรกมันเริ่มมาจากเสียงกระดิ่งลมที่ค่อยๆดังขึ้น ก่อนเสียงจะดังระงมถี่ออกมาจากตัวบ้าน .............พระแพง มองผ่านไปยังเล่มเทียนที่ฉลุลายนาค .....มันไม่มีเปลวไฟสีครามเหมือนทุกครั้ง .....


".............มันต้องไม่จบเยี่ยงนี้ !! มันต้องไม่เป็นเฉกนี้ !! เหตุใด! เหตุใดองค์ทอดทิ้งข้า!! เหตุใด!!..........."


....เด็กสาวได้แค่กรีดร้อง ซ้ำไปซ้ำมา  ..............................กรีดร้องจนไม่มีเสียงอะไรดังออกมาจากลำคอ...........
.........................
ทุกสิ่งที่แลกเปลี่ยนมา...มันสูญเปล่า ...............ไม่มี ภินทร์ อีกแล้ว.... ไม่มีอีกแล้ว.......ไม่มีอีกแล้ว !!!!
..................................
........

.
..
..
.


'หากครานี้ข้าทรมานเพราะรัก ข้าจักมิคงรัก...

หากครานี้ข้าทรมานเพราะนาง ข้าจักลืมนาง...

หากครานี้ข้าทรมานเพราะภักดี กาลหน้าข้าสาบาน จักมิมีภักดีในผู้ใด...

หากครานี้ ข้าต้องตกตายเพราะสายเลือด กาลหน้าข้าจักมิใช่ชาติพันธุ์ใด...

หากครานี้ ข้าเป็นชายเพียงเคียงคู่นาง...

................
......กาลหน้าข้าขอคำพร.....รักที่ข้ามีจักมิเลือกแม้เพศใด..................
.................


.
.
.

คำพรทั้งปวงส่งผล.......เพียงเพราะคิดว่าจะรัก ......... ทำให้ ......ทุกสิ่งสูญสลาย ..... รอเพียงการเริ่มใหม่...จากประโยคแค่ประโยคเดียว...






'เราจะรอ....'


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 08-08-2012 00:20:45
มันหมายความว่า


ภินทร์

รอการเกิดใหม่ช่ายป่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 08-08-2012 02:09:20
หากครานี้ ข้ามิได้อยู่ร่วมผู้เป็นที่รัก กาลหน้าขอพานพบประสบ ครองรัก ชั่วฟ้าดินมลาย...
(http://www.yenta4.com/cutie/upload/859/859/46fb7683e976f.gif)(http://www.yenta4.com/cutie/upload/859/859/46fb7683e976f.gif)


หมื่นความทรงจำ......สูญคำลา...[1]

ผมก็ไซน์มาตรฐานชายไทยนะ>>>ไซส์
กาลละครั้งหนึ่งนานมาแล้ว>>>กาลครั้งหนึ่ง
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 08-08-2012 05:14:02



    !!! อ๊ะ!? หมายความว่ายังไงอะ
   
    ปล. ช่วงนี้คุณคนแต่งฟิตจัง



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 08-08-2012 11:13:14
งื้ด~ เศร้า...
ตอนแรกเห็นหนูน้อยหมวกแดงกับหมาป่ายักษ์กุ๊กกิ๊กกันน่ารัก
ยังนึกอยู่ คนแต่งงวดนี้ใจดีกับตัวละครไม่น้อย
ที่ไหนได้... :o12:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 08-08-2012 14:16:59
อือ :sad4:  แบบนี้คุณยักษ์อะตอมก็อกหักแน่นอนแล้วสิ
ตอนนี้ก็เหลือแค่คุณมังกรไฟกับหมอเสือใช่ไหม
กลิ่นมาม่ามันเริ่มลอยมาแล้วอ่ะ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 08-08-2012 16:20:16
บทที่ 73 หมื่นความทรงจำ......สูญคำลา...[3]


[คนบางคน...เกิดมาเพื่อให้เรารัก...เราทำได้....ก็แค่ ‘รัก’]

......ฉันลืมตาขึ้นมาเพื่อพบว่า...เสียงหัวใจอีกดวง.....หายไปแล้ว....
........
...
..
.ทุกครั้งที่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมา ฉันได้แต่สงสัย..ทำไมมีแค่ฉันที่เก็บความทรงจำไว้คนเดียว...ทั้งของภัทร ที่เปลี่ยนไปเป็นภินทร์ ....ทั้งของตรินทร์ที่เปลี่ยนไปเป็นภัทร ....รวมไปทั้งความทรงจำอันทุกข์ทนขององค์ภังคียะ... นี้เป็นความสามารถของ ปรสิต ที่เรียกว่า ‘ตะบองพลำ  หรืออาจเป็นเพราะฉันไม่มีตัวตนตั้งแต่แรก ...หรือทั้งหมด.........เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความทรงจำ...ที่ฝังอยู่ในเนื้อหนัง....
...
.....
..
.
.
แต่...ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะอะไร ทั้งหมดก็เพื่อเหตุผลเดียว ....เพื่อให้ฉันได้เป็นพยาน....รับรู้....

อะตรอมยังคงนอนนิ่ง..ลมหายใจ...เสียงหัวใจ....ความอบอุ่นของมือใหญ่ที่กุมมือฉันไว้....
ถ้ามันตื่นขึ้นมา...ฉันจะบอกมันยังไง..ว่าคนที่หลับลงไปพร้อมมัน.....ไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว.....จะบอกให้มันรู้....เพื่อให้มันมีเวลาเสียใจ ...หรือจะปล่อยให้ทุกอย่างหายไปอย่างที่มันเคยเป็น ...ปล่อยให้มันรอคอยอย่างมีความหวัง......ทั้งๆที่หวังของมันไม่มีทางเป็นจริง.....

.....คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนมันจะสูดลมหายใจยาว แล้วลืมตา....สิ่งที่ฉันทำได้ แค่แตะที่แก้มมัน.....แล้วบอกมันว่า

‘ภินทร์ ....ไปแล้ว...’

ไม่มีคำถามหรือสีหน้าสงสัย ไม่มีแม้สายตาที่มองจ้องมา .....ฉันปล่อยมือมัน ....ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกมาจากห้องนั้น.....ยังไงก็รู้สึกดีที่ได้บอกมัน.......จากนี้ก็แล้วแต่มัน....ว่ามันจะทำยังไงกับชีวิตของมันต่อไป ......
....
.
..ชีวิตที่ไม่มี ภินทร์ ......

...
...
ทั้งๆที่ฉันเคยภาวนาให้อีกเสียงของหัวใจ อย่าเพิ่งเต้นตอนนี้ .....แต่พอมันหายไป..ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกดีเหมือนที่คิด....น้ำตามันไม่ไหลออกมา แต่มันตกอยู่ข้างใน .....
.....
...........
..มันไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกว่าวันไหน.....ฉันจะหายไปแบบ.....ภินทร์........ 

 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 08-08-2012 19:00:34
พบเพื่อลา มาเพื่อจาก
รักเพื่อพราก จากเพื่อ...จำ
(http://www.yenta4.com/cutie/upload/895/1895/4fa3ad3195257.gif)


ไม่มีแล้ว แววตาคู่นั้นที่คอยห่วงใย
แม้เสียงที่เคยปลอบใจเมื่ออ่อนล้า
ไม่มีมือที่คอยสัมผัส ให้กำลังใจคืนมา
และชีวิตที่ยังเหลืออยู่ คงมีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น(http://upic.me/i/bj/1qzx2.gif)


เพื่อให้ฉันได้รับรู้เป็นเป็นพยาน
แต่พอมันหายไป..ทำไมถึงไม่ดีรู้สึกดี
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 08-08-2012 21:04:34



   เจ๊พลำงับ  แค่แตะแก้มแล้วบอกในใจตอนเค้าหลับ มนุษย์ปกติเค้าไม่ได้เรียกว่าบอกนะ T T
   เอาเถอะ เพื่อความสบายใจของเจ๊ ถือว่าเจ๊ส่งกระแสจิตไปบอกแล้วก็ละกัน
   เป็นพลำที่จำอะไรได้ทั้งหมดนี่มันก็น่าเศร้าเหมือนกันนะ อย่างกับเป็นคำสาปของเผ่าพันธุ์
   เรื่องเศร้าๆของตัวเองก็ไม่ใช่. . . อ๊ะหรือใช่ จะหนีก็ไม่ได้เพราะจิตดวงอื่นลากไปรับรู้
   ว่าแต่ช่วงนี้อย่างกะจับฉลากเสี่ยงโชค ว่าใครจะได้ยึดครองร่างนี้เป็นคนสุดท้าย



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 08-08-2012 21:12:41
กลับมาเพื่อขอสัญญาใช่ไหมนี่  :monkeysad:
อย่าหายไปเลย ไม่อยากให้ใครหายไปสักคน
ถ้าจะหายนะ ขอให้เป็นพระแพงก็แล้วกัน   :fire:
คนที่เขารักกันจะได้อยู่ด้วยกันสักที
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 08-08-2012 23:16:05
สงสารอะตรอม
"รอ" นะ สักวันคงได้พบกัน
ถ้าเป็นไปได้ 'ภัทร' คงไม่อยากแย่งร่างใครมา
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: kimmy-g ที่ 09-08-2012 13:47:21
แอบอู้งานมาอ่าน จะร้องไห้อะ ขอให้กลับมาเป็นของกันและกันแบบไม่ต้องไปแบ่งร่างกะใครละนะ แงๆ กลับมาไวๆน้า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #73 หมื่นความทรงจำ ...สูญคำลา 7-8/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 09-08-2012 16:45:12
 แลกกับการได้รักเธอ
 (http://www.youtube.com/watch?v=f235pBDJSSA)

บางคราคำตอบที่ตามค้นหา ก็ว่างเปล่า
สัมผัสกับความรักได้เพียงเงา ชั่วครั้งชั่วคราว
แล้วเลยผ่าน กับวันเวลาที่พัดไป

แต่บางคน ไม่เกี่ยวกับเหตุและผลสักเท่าไหร่
กลับคงยังฝังแน่นในใจ ยิ่งลึกลงไป
แม้ความจริง ไม่มีวันได้รักกัน

ตลอดเวลาฉันรู้ ว่าเธอรักใคร
ตลอดเวลารู้ไหม ว่าฉันรักเธอ

คนที่โชคชะตา ช่วยนำทางมาเจอ
แต่ไม่ให้เธอเป็นของฉัน หวังบนความผิดหวัง
ยิ้มทั้งน้ำตา กอบเก็บวันเวลาที่มันเลยผ่าน
เก็บความในหัวใจ ให้อยู่แค่ในฝัน
แลกกับการได้รักเธอ

บางทีบางอย่างในชีวิตนี้ก็วุ่นวาย
สิ่งที่เราได้รับมันมาและเสียมันไป
ให้หัวใจบอกเราเองว่าคุ้มกัน

ตลอดเวลาฉันรู้ ว่าเธอรักใคร
ตลอดเวลารู้ไหม ว่าฉันรักเธอ

คนที่โชคชะตา ช่วยนำทางมาเจอ
แต่ไม่ให้เธอเป็นของฉัน หวังบนความผิดหวัง
ยิ้มทั้งน้ำตา กอบเก็บวันเวลาที่มันเลยผ่าน
เก็บความในหัวใจ ให้อยู่แค่ในฝัน
แลกกับการได้รักเธอ

ตราบมีลมหายใจ ให้ช่วยจำว่าฉัน
ไม่มีวันไม่รักเธอ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 10-08-2012 02:16:25
บทที่ 74  จะร้องไห้ทำไม?...ไม่ชอบเรื่องเศร้า



.....คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนมันจะสูดลมหายใจยาว แล้วลืมตา....
....................
...
.
.
.
.
"มองหน้าทำไมเจ้?"
....................
....
..........
..
..
..
.

"............."

....
..
..
.
.
"....มองแล้วไม่พูด....ผมจับจูบนะ...."

ยังไม่ทันทำอะไร ไอ้มือใหญ่ๆมันก็โน้มคอ ร่างตรงหน้าลงไปจูบ เรียกว่าโน้มลงไปจูบคงไม่ได้มั้งเพราะไอ้ที่มันทำอยู่ตอนนี้ น่าจะเรียกได้ว่าจับกดมากกว่า.....

"......อื้ออออออออ !?!......"

"ภัทร...อย่าดิ้นดิ...."

เสียงทุ้มกระซิบข้างหูแล้วลิ้นร้อนก็เลียเบาๆ...  ทำเอาคนข้างล่างได้แต่เกร็งตัวนิ่งไม่กล้าขยับ ริมฝีปากที่ทาบลงมาแบบเกินคาดทำเอาปิดปากแน่น ขนลุกซู่กันเลยทีเดียว หัวใจเหมือนมันจะหลุดออกมา แต่ไม่ได้เฉลียวใจที่มันไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้น ไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามันเต้น .....จนตั้งสติได้นั้นล่ะถึงได้ทั้งถีบทั้งผลัก ไอ้คนตัวใหญ่ข้างบนเต็มแรง แต่ไอ้แขนที่ผลักไอ้ยักษ์ตัวใหญ่นี้อะดิ ทำไมมันถึงได้เล็กกว่าที่เคยเห็น....เรี่ยวแรง...ไหงมันน้อยนักอ่ะ?  ปล่อยให้ไอ้ยักษ์ใหญ่ข้างบนจับล็อกมือแล้วจับจูบจนพอใจ.... เสียงหอบถี่ดังคลออยู่ข้างแก้ม ตอนไอ้หมาเถื่อนมันถอนริมฝีปากออกไปแล้วมาป้วนเปี้ยนจูบซ้ำๆอยู่แถวข้างแก้ม.....แขนใหญ่กอดร่างข้างใต้ไว้แน่น ซุกจมูกกับแก้มเนียน แล้วหอมซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น .....ย้ำพรมจูบ ที่หน้าผากแล้วหอมย้ำซ้ำๆซ้ำๆ....แปลกเกินไปล่ะ!! เกินนิสัยมันที่รู้จักเยอะ!!!

"ทำไม? ทำไมเราอยู่ที่นี้? "

"ผมเป็นคนเรียก มา...."

"...........เราไม่เข้าใจ??....ภัทร?....เรา??...ภินทร์???....."

"...ไม่ว่าจะเป็น เจ้ภัทร หรือ ภินทร์ ....ทั้งหมด....ก็เป็นของผม ......"

แววตาสีดำสนิทของอะตรอมจ้องตอบกลับมา เงาสะท้อนในแววตา เป็นภาพของใครคนหนึ่งที่เหมือนส่วนผสมของ ภัทร และ ตรินทร์  เป็นคนใหม่แต่ไม่ใช่ทั้งสองคน ......

"ผมสร้าง ร่างให้เจ้ใหม่ .....ความสามารถของยักษ์ปลายแถวอย่างผมมั้ง....ผมไม่รู้ว่านี้เป็นเจ้ จริงๆ หรือเป็น ผมที่คิดไปเองว่าเจ้กลับมา.....แต่ไม่ว่ายังไง .....ตอนนี้ผมก็ได้อยู่กับเจ้.....ได้อยู่ด้วยกัน ได้ตื่นมาแล้วเห็นหน้าเจ้.....ผมไม่เอาอะไรอีกแล้ว.....ผมขอแค่นี้ล่ะเจ้......"

"เดี๋ยวอะตรอม เรางง ?..ทำไม....เจ้????."

"....ภินทร์......จำเรื่องที่ ภินทร์เคยเล่าให้เราฟังได้ไหม? ว่าภินทร์ใช้ร่างตรินทร์ ....."

"อื้อ....แล้ว??"

"ก่อนหน้านี้ ภินทร์บอกเราว่า พอจำได้ว่าเมื่อก่อน ภินทร์ ชื่อ ภัทร ....ภินทร์ รู้ไหมชื่อจริงของ ภัทร คือ อะไร?...."

"ไม่รู้ จำไม่ได้ ......"

" ‘ภัทร’ ‘ณภัทรตรา’ ...ชื่อของคนที่เราเคยรัก....และยังรัก....ชื่อเก่าของ ภินทร์....ชื่อของคนที่เรารัก....เจ้ภัทรของเรา....  "

"รู้ได้ไง? ผิดคนหรือเปล่า อะตรอม ...ขนาดเราเองยังจำตัวเองไม่ได้ "

"ไม่ผิดหรอก......ผมจะจำคนที่ผมรักผิดได้ยังไง?.....เจ้ภัทร เป็นของๆผม...สักวัน ของๆผมก็ต้องกลับมาเป็นของผม... "

แววตาดุกับสายตาอบอุ่นมันสวนทางกันโคตรๆ ท่าทางกับการกระทำก็ด้วย ..... แววตาที่จ้องมามันสะกดสติไม่ใช่น้อย....น้ำเสียงอ้อนๆนั่นอีก.......ริมฝีปากร้อนแนบลงมาอีกครั้ง ก่อนจะถอยไปอย่างอ้อยอิ่ง....

"เจ้.....สอนผมหน่อยสิ ....ไอ้ที่มัน.....มากกว่าจูบ ...."
.................
...
......
..
..
.
.
.
"....มือผมมีไว้จับเจ้ไม่ให้หนี..."

"....ตาผมมีไว้มอง....จ้องมองเจ้ไม่ให้หายไปไหนอีก......"

".....ปากผมก็เหมือนกัน ......มันมีไว้เรียกแค่ชื่อนี้....."

"ไม่ว่าจะเป็น เจ้ภัทร หรือ ภินทร์ ....ทั้งหมดก็เป็นของผม.......ทั้งหมด.....ของผมแค่คนเดียว......"

เสียงของอะตรอม กระซิบข้างหู .....วงแขนใหญ่กอดฉันไว้แน่นกว่าเดิม ....นับจากนี้...เราจะหลับและตื่นไปด้วยกัน ....จะอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้สิ....อาจไม่ใช่ชั่วนิรันดร์เหมือนในนิทาน แต่ในวันนี้ฉันก็ยังอยู่กับมันล่ะน่า.....ตื่นมาพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน............
..
.
...
..
.
......

"ไง? หลับสบายไหม?"

แทนคำตอบ....ไอ้ยักษ์มันโผมากอดฉัน แล้วหอมซ้ายขวา .....ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงหมาตัวใหญ่เลยกู .....
.....
..
.
.
.
ปัญหาของ 'เรา' ในตอนนี้ไม่มีอะไรมาก.....เพราะปัญหามีแค่ 3 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก....ปัญหาของฉัน...ฉันไม่มีเงาในกระจก แต่มันก็ไม่ได้อะไรมากมาย เพราะไอ้ที่เห็นฉันได้มีแค่อะตรอมคนเดียว ...ทั้งเห็นทั้งสัมผัสได้นี้ล่ะที่เรียกว่าเรื่องร้ายแรง......

ประเด็นที่สอง....ปัญหาของอะตรอม.....เพราะเป็นคนเดียวที่เห็นฉันและสัมผัสฉันได้ ....เรื่องโก๊ะๆของพวกเราเลยมากมาย.....ในสายตาคนอื่น...แต่มันก็ดีตอนสอบนะ....เพราะฉันกับมันโกงข้อสอบกันเห็นๆ แต่ถ้าไม่จำเป็นมากจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ทำ....จะโกงทำเตี่ยอะไร ก็ฉันอะ เป็นคนติวมันสอบเองกับมือ...ถ้าให้แม่แอบดูคนอื่นแล้วมาบอกแม่จะซัดให้...

แล้วก็ประเด็นสุดท้าย ประเด็นที่สาม.....ปัญหาของเราสองคน ................
..............
...
.
.
.
....
เรื่องบนเตียงเรายังไม่ไปถึงไหน......ความอายมันมากอยู่ ...ขอแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน ............ไว้ใครอยากรู้จะมาเล่าอีกที.....
..............
.
....เกือบลืม....ร่างกายที่ฉันใช้เป็นร่างกายของผู้ชาย......ถามอะตรอมมันว่ามันรสนิยมนี้หรอ?
..
.
.มันบอกว่า 'ไม่รู้' ตอนมันคิดสร้างร่างให้ฉัน มันคิดรูปร่างผู้หญิงไม่ออก มันเห็นแต่ภาพของภินทร์ .....
......
...แต่ช่างมันเถอะ....
.นั่นไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่...............
..
.
.
.ส่วน......
..
....
....
..
.
ไอ้เรื่องชุดของฉันที่บางทีเป็นชุดนิสิต  บางทีก็เปลี่ยนเป็นชุดเสื้อยืดกางเกงสามส่วนธรรมดา ตามอารมณ์อะตรอมมันอันนี้ก็พอเข้าใจ ...............
...
.....
..แต่
.
.
...........ไอ้ที่เวลานอน..................
...........
.
.
.

...มันเปลี่ยนเป็นชุดเมด ลายลูกไม้นี่ .................
... ....
...
..
.
.
ฉันไม่เข้าใจเฟ้ย!!!! ไอ้หมายักษ์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!








หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 10-08-2012 02:41:17
 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:


แรกๆๆ ก้องง
คือ ไอ้ยักษ์สร้างร่างใหม่ช่ายป่ะ

แล้วทำมั๊ย แตะต้องสัมผัส มองเห็นได้คนเดียวอ่ะ

แล้วเจ้ตะบองพลำยังยุดีสิน่ะ

แล้ว




แล้วผู้ชายกะชุดเมดนี่มันอารายยยยยยยยยย
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: ryokijung ที่ 10-08-2012 02:45:47
ชุดเมดลูกไม้ เข้าใจถึงรสนิยมเลย555++
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 10-08-2012 07:09:44


    ห๊ะ!!? อะตรอมทำอะไรประหลาดๆอย่างสร้างร่างใหม่ได้ด้วยเหรอ
    แต่สภาพภินทร์ตอนนี้เหมือนวิญญาณอะไรสักอย่างที่เกาะอะตรอมอยู่เลยรึเปล่า
    คนอื่นไม่รู้ไม่เห็น มีอะตรอมรู้ได้ สัมผัสได้อยู่คนเดียว
    สงสัยตอนยังเอ๊าะๆเห็นวิญญาณพวกนั้นเกาะแกะภัทรเยอะเลยอิจฉา อยากมีบ้าง อิอิ
    อยู่ในสภาพนี้ภินทร์เสียเปรียบเห็นๆเลยนะ ให้คนอื่นช่วยก็ไม่ได้ แล้วยังเหมือนจะโดนรังแกฝ่ายเดียวด้วย
    อะตรอมไปเก็ยกดมาจากไหนก็ไม่รู้ รังแกกันตลอด แต่อย่างน้อยทั้งคู่ก็ดูมีความสุขดีนะ
    แล้วชุดเมดลายลูกไม้นั่น. . . ไปหามาได้ยังไงอ่า ซื้อตามปกติแล้วมาจุดธูปเซ่น หรือแค่จินตนาการเอา
    สี่วิญญาณในร่างเดียว แยกออกมาเป็นสามร่างแล้ว งั้นแล้วเจ๊ภัทรล่ะ ตอนนี้ไปไหนแล้ว




หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-08-2012 07:37:52
อย่างฮา ชุดเมด
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 10-08-2012 11:14:39
อะตรอมสร้างร่างใหม่ให้ภินทร์ได้เลย อิทธิฤทธิ์สุดยอด เริ่ดมั่ก :a9:
แล้วจะอยู่อย่างไม่มีตัวตน(ให้คนอื่นรับรู้) ครองรักกันอย่างนี้ตลอดไปเลยป่าว
ชุดเมด ลายลูกไม้... :o8:
...ชุดนักศึกษา ปลดกระดุมสักสองสามเม็ดก็ดีนะ :z1:

เอ..น้องพลำในร่างตรินทร์นี่ พระแพงจะอยากได้อยู่ไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 10-08-2012 15:49:35
โอ๊ะ  :a5: กำลังกินเส้นมาม่าอยู่ดีๆเป็นอันชะงัก
อะตอมมีความสามารถนี้ด้วยเหรอ  มิน่าตอนเจอเจ๊ตะบองพลำ(รึเปล่า)บอกถึงได้ไม่ทำหน้าตกใจ
เตรียมร่างเอาไว้แบบนี้มันก็ดีสินะ  แต่คนอื่นมองไม่เห็นจับต้องไม่ได้แบบนี้มันเหมือนวิญญาณเลยนะ
แต่ข้อดีคือไม่มีใครเป็นเจ้าของได้นอกจากอะตรอม ติดใจอย่างเดียว
ไอ้ชุดเมทลูกไม้นี้มันเข้ากับผู้ชายตรงไหนอ่ะ :z3:
หักมุมได้แบบนี้นับถือพี่ภัทรจริงๆ o13  ถ้ามีรายละเลียดตอนสร้างก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 10-08-2012 16:39:44
  แรกๆๆ ก้องง  คือ ไอ้ยักษ์สร้างร่างใหม่ใช่ป่ะ   แล้วทำมั๊ย แตะต้องสัมผัส มองเห็นได้คนเดียวอ่ะ  แล้วเจ้ตะบองพลำยังอยู่ดีสิน่ะ  แล้ว   แล้วผู้ชายกะชุดเมดนี่มันอารายยยยยยยยยย   :laugh:
V
[ ผมสร้าง ร่างให้เจ้ใหม่ .....ความสามารถของยักษ์ปลายแถวอย่างผมมั้ง....ผมไม่รู้ว่านี้เป็นเจ้ จริงๆ หรือเป็น ผมที่คิดไปเองว่าเจ้กลับมา.....แต่ไม่ว่ายังไง .....ตอนนี้ผมก็ได้อยู่กับเจ้.....ได้อยู่ด้วยกัน ได้ตื่นมาแล้วเห็นหน้าเจ้.....ผมไม่เอาอะไรอีกแล้ว.....ผมขอแค่นี้ล่ะเจ้.....]  ไม่รู้สิว่าไอ้ยักษ์มันสร้างร่างใหม่ให้ ภินทร์[ภัทร]จริงหรือเปล่า เพราะมันเห็นและรับรู้ของมันแค่คนเดียว รอเฉลย บทอื่นแล้วกัน ตอนนี้เจ้ของมันเหมือนเป็นวิญญาณ หรือเป็นจริงๆอ่ะ? ทิ้งให้สงสัยกัน หรือบางที มันอาจเป็นแค่ อะตรอมที่คิดไปเองคนเดียวก็ได้ .....ใครจะรู้?   ส่วนชุดเมด มันมีที่มาเน้อ  บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.30)  >>> RE: 38
ชุดเมดลูกไม้ เข้าใจถึงรสนิยมเลย555++ 
V
บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.30)  >>> RE: 38  มันฝังใจ หุหุหุ

ห๊ะ!!? อะตรอมทำอะไรประหลาดๆอย่างสร้างร่างใหม่ได้ด้วยเหรอ   แต่สภาพภินทร์ตอนนี้เหมือนวิญญาณอะไรสักอย่างที่เกาะอะตรอมอยู่เลยรึเปล่า  คนอื่นไม่รู้ไม่เห็น มีอะตรอมรู้ได้ สัมผัสได้อยู่คนเดียว   สงสัยตอนยังเอ๊าะๆเห็นวิญญาณพวกนั้นเกาะแกะภัทรเยอะเลยอิจฉา อยากมีบ้าง อิอิ    อยู่ในสภาพนี้ภินทร์เสียเปรียบเห็นๆเลยนะ ให้คนอื่นช่วยก็ไม่ได้ แล้วยังเหมือนจะโดนรังแกฝ่ายเดียวด้วย   อะตรอมไปเก็บกดมาจากไหนก็ไม่รู้ รังแกกันตลอด แต่อย่างน้อยทั้งคู่ก็ดูมีความสุขดีนะ      แล้วชุดเมดลายลูกไม้นั่น. . . ไปหามาได้ยังไงอ่า ซื้อตามปกติแล้วมาจุดธูปเซ่น หรือแค่จินตนาการเอา   สี่วิญญาณในร่างเดียว แยกออกมาเป็นสามร่างแล้ว งั้นแล้วเจ๊ภัทรล่ะ ตอนนี้ไปไหนแล้ว 
V
เป็นวิญญาณไปแล้ว ซันชา ทิ้งให้เป็น X –File นิดนึงว่า อะตรอมมันทำได้จริงๆ หรือมันคิดไปเองว่ามันทำได้  ตอนนี้ไอ้หมายักษ์มันเก็บทุกเม็ดจริงๆ อ่ะน่ะ มันผ่านมาเยอะนี่น่า เล่นครั้งก่อนหายไปเลยไม่บอกมันสักคำ  แต่ตอนนี้ก็มีความสุขดีนะ .... ส่วนชุดเมด ของอย่างนี้มันฝังใจ จำไม่ได้จริงๆหรอซันชา  บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.30)  >>> RE: 38  เรื่องของมังกรสามหัวตอนนี้เหลือแค่ ตรินทร์[ในร่างภัทร] ภัทร[พลำ ในร่างตรินทร์] และภินทร์ ที่ยุบรวมกับเจ้ภัทรเป็น วิญญาณลอยวบเวียนไปแล้ว 
อย่างฮา ชุดเมด
V
บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.30)  >>> RE: 38 หุหุหุ
อะตรอมสร้างร่างใหม่ให้ภินทร์ได้เลย อิทธิฤทธิ์สุดยอด เริ่ดมั่ก :a9:  แล้วจะอยู่อย่างไม่มีตัวตน(ให้คนอื่นรับรู้) ครองรักกันอย่างนี้  ตลอดไปเลยป่าว  ชุดเมด ลายลูกไม้... :o8:  ...ชุดนักศึกษา ปลดกระดุมสักสองสามเม็ดก็ดีนะ :z1:   เอ..น้องพลำในร่างตรินทร์นี่ พระแพงจะอยากได้อยู่ไหมอ่ะ 
V
มันคงไม่เป็นอย่างนี้ไปตลอด แต่ว่าตอนนี้ก็มีความสุขอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?  ชุดที่เสนอมา ไว้จะจัดหนักให้  ส่วนพลำในร่างตรินทร์ ที่คุณแฟนถามนั้นล่ะประเด็น  ‘ถ้า พระแพงไม่ได้รัก .....ไม่ว่าใครก็อย่าได้!!’  ผู้หญิงคนนี้ ทำให้อะตรอมกับ โฆเกลียดได้แบบเข้าไส้ เธอไม่ธรรมดาแน่
โอ๊ะ  :a5: กำลังกินเส้นมาม่าอยู่ดีๆเป็นอันชะงัก  อะตอมมีความสามารถนี้ด้วยเหรอ  มิน่าตอนเจอเจ๊ตะบองพลำ(รึเปล่า)บอกถึงได้ไม่ทำหน้าตกใจ  เตรียมร่างเอาไว้แบบนี้มันก็ดีสินะ  แต่คนอื่นมองไม่เห็นจับต้องไม่ได้แบบนี้มันเหมือนวิญญาณเลยนะ  แต่ข้อดีคือไม่มีใครเป็นเจ้าของได้นอกจากอะตรอม ติดใจอย่างเดียว  ไอ้ชุดเมทลูกไม้นี้มันเข้ากับผู้ชายตรงไหนอ่ะ :z3:  หักมุมได้แบบนี้นับถือพี่ภัทรจริงๆ o13  ถ้ามีรายละเลียดตอนสร้างก็ดีนะ

V
เป็นวิญญาณไปเลยล่ะตอนนี้  แต่ก็ดีนะไม่ต้องไปเจ้าชู้กับใคร อยู่ใกล้อะตรอมตลอดเวลา สถานการณ์ เหมือนหนูน้อยหมวกแดงที่โดนหมาป่ากินเข้าไปแล้วเลยอะ  บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.30)  >>> RE: 38 หุหุหุ  ชุดเมดลายลูกไม้....
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 10-08-2012 17:13:12
 :m20: :m20: :m20:

งานออกร้าน ประมูลรึ

ติดใจอ่ะดิไอ้ยักษ์

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 10-08-2012 22:42:23

เป็นวิญญาณไปแล้ว ซันชา ทิ้งให้เป็น X –File นิดนึงว่า อะตรอมมันทำได้จริงๆ หรือมันคิดไปเองว่ามันทำได้  ตอนนี้ไอ้หมายักษ์มันเก็บทุกเม็ดจริงๆ อ่ะน่ะ มันผ่านมาเยอะนี่น่า เล่นครั้งก่อนหายไปเลยไม่บอกมันสักคำ  แต่ตอนนี้ก็มีความสุขดีนะ .... ส่วนชุดเมด ของอย่างนี้มันฝังใจ จำไม่ได้จริงๆหรอซันชา  บทที่ 28 How to pay. อย่าถามว่า เท่าไหร่ จ่ายมาเลยดีกว่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32753.30)  >>> RE: 38  เรื่องของมังกรสามหัวตอนนี้เหลือแค่ ตรินทร์[ในร่างภัทร] ภัทร[พลำ ในร่างตรินทร์] และภินทร์ ที่ยุบรวมกับเจ้ภัทรเป็น วิญญาณลอยวบเวียนไปแล้ว



     อื้อหือ จูบครั้งนั้นของภินทร์ฝังใจอะตรอมมาถึงตอนนี้เลยเหรอ
     มิน่าล่ะถึงอยากให้ภินทร์สอนต่อ. . .



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 11-08-2012 03:51:24
โห อะตรอม นี่ปลุกภินทร์ขึ้นมาทำพิธี "จูบดูดวิญญาณ"  เสร็จ พอเช้ามาเลยแยกออกมาได้ซะงั้น
พลังลมปราณ วิทยายุทธ์ท่านช่างแก่กล้ายิ่งนัก :laugh:
แต่สงสัยธาตุไฟเข้าแทรก พอตื่นมาความหื่นมันเลยอัพเวลเกินไปหน่อย กลายเป็นอะตรอมโหมดหื่น  :o9:
อา...ลายลูกไม้ :haun5: :haun5:




ขนลุกซู่กันเลยที่เดียว>>>ที
ตื่นมาพรุ้งนี้ค่อยว่ากัน>>>พรุ่ง
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 11-08-2012 13:04:33
+ 1 เพราะคิดถึงมากค่ะ
ได้แต่แวะมา save ไวอ่าน ยังไม่มีเวลาอ่านจริงๆๆจังๆๆ เลย
งานเยอะๆไปไหนเนีย TT0TT ช่วงนี้ ไม่รู้จะคอมเม้นต์อย่างไง
แต่เป็นกำลังใจให้พี่ Zitraphat นะค่ะ จะรออ่านต่อ
ขอทวงทุกเรื่องผ่าน ณ ตรงนี้เลยแล้วกัน อย่าลืมมาแต่งต่อไวๆๆนะค่ะ

วันแม่ปีนี้ อย่าลืมไปกอดแม่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! #บทที่ 74 จะร้องไห้ทำไม?...10/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 11-08-2012 22:19:48
รสนิยมอะตอมนี่บ่งบอกมากๆๆๆ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 12-08-2012 03:20:07
บทที่ 75  My service [อิ่มอก อุ่นใจ]


[Part อะตรอม]


".....อะตรอม..................หยุดยาวไม่กลับบ้านหรอ?"

ภินทร์มันถามผมที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์ลง ... เมื่อกี้ผมคุยกับที่บ้าน....คุยเรื่องไม่กลับบ้านคราวนี้ .....เหตุผลร้อยแปดที่จะไม่กลับ แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุด....ก็เรื่องของไอ้เจ้แสบนี้ล่ะ

"กลับไม่ได้หรอก...ที่บ้านมีเลี้ยงพระ....สวดปัดรังควานกับพรมน้ำมนต์....เดี๋ยวจะแย่เอา...."

"ทำไมเราต้องแย่?"

".........อย่างเจ้นี้โดนพระสวดปัดรังควานกับพรมน้ำมนต์ แล้วยิ้มร่าหรือไง?.....ผมไม่กลับดีกว่า....."

"....แต่....เราอยากไปบ้านนายอ่ะ......อยากเจอคุณย่า......."

"......เสี่ยงเกินไป........"

".....อยากไปนั่งเรืออ่ะ.....อะตรอม......นะ....น้า......"

"......"
..
..
แล้วก็ไม่ต้องให้เดาใช่ไหม ว่าสุดท้าย... ผลมันเป็นยังไง?
..
............


"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"

เสียงดังมาจากในตัวบ้าน ทำเอาผมแทบจะวิ่งชนประตู  ไอ้เจ้แสบมันนั่งซุกตัวกองอยู่ตรงธรณีประตู  ยันต์ท้าวกุเวรที่ติดอยู่เหนือประตูห้องคุณย่า กลายเป็นนายทวารชี้หน้า ไอ้เจ้แสบ... สายตาดุของนายทวารมองจ้องมาที่ผม ....มองแบบคาดโทษที่ผมพาสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในตัวบ้านแถมเข้ามาวิ่งเล่นจนเกือบจะเข้าไปในห้องคุณย่า....
ไอ้เจ้แสบมันแหกปากร้องลั่น ที่จู่ๆโดนฉุดแขนขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ผมสาวเท้าก้าวไปดึงไอ้เจ้แสบออกมาแล้วเงยหน้าเผชิญกับร่างอัญเชิญของนายทวาร....เพราะเป็นอย่างนี้ล่ะผมถึงไม่อยากพาไอ้เจ้แสบเข้ามาที่บ้าน 'บ้านพระพิราพ' บ้านที่ใครหลายๆคนเคยเจอ 'ดี' มาแล้วทั้งนั้น.....
.....
..


"อะตรอมหยุดนะ!!!"

ภินทร์มันห้ามผมที่จะกระทืบไอ้เด่นเด็กที่บ้านซ้ำเพราะมันขวางทางเดินของผม....ตอนนี้ไม่ต้องเดาอารมณ์ ผมร้ายเหมือนเดิม...ร้ายในแบบที่ภินทร์คงไม่เคยเห็น

"อะตรอมทำไมทำแบบนี้ ใจเย็นๆ เราไม่ได้เป็นอะไรมาก ...พอแล้วอะตรอมพอแล้ว! อย่าทำตัวแบบนี้สิ เรากลัวนายนะ!! พอได้แล้วอะตรอม เดี๋ยวเขาตาย!!!"

อีกครั้งที่ผมได้สติเพราะเสียง ภินทร์ ....ผมดึงมือภินทร์มากุมไว้พร้อมๆกับกระทืบซ้ำไปที่ไอ้เด่น

"ไม่ต้องกลัวเรา ...เรารักภินทร์ไง เราจะดูแลภินทร์ เราจะเหี้ยกับใครก็ได้ แต่เราจะไม่เลวกับภินทร์...."
.....
...


สุดท้ายผมก็ต้องมาเช่าโรงแรมนอนที่ อัมพวา โกรธอยู่ไม่น้อยที่มันต้องจบแบบนี้ ก็บอกแล้วว่าไม่อยากพามา เพราะไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มาบ้านทีไร ไม่มีครั้งไหนที่ ภินทร์ไม่เจ็บตัว ถึงเป็นแค่วิญญาณ ของในบ้านก็ไม่เว้นหน้าไหนหรอก

"ภินทร์! ทำไมถึงจะเข้าไปในห้องคุณย่า...ก็รู้อยู่ว่า...."

".....วันนี้วันแม่...."

ภินทร์มันเถียงก่อนที่ผมจะพูดจบประโยคเสียอีกอารมณ์ผมที่ร้อน มันเลยยิ่งร้อนไปกันใหญ่

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกันเล่า?!! ถ้าเกิดเจ็บตัวมากกว่านี้จะทำยังไง?!!!!"

ผมตวาดมัน ....โกรธมันที่ทั้งดื้อด้านทั้งเอาแต่ใจ และที่มากกว่านั้นผมโกรธตัวเองที่ดูแลมันได้ไม่ดีพอ....ข้อมือของมันที่โดนนายทวารจับมันแดงเหมือนถูกน้ำร้อน ...ผมรู้ว่ามันน่าจะทั้งแสบและปวด แค่เห็นรอยนั่นผมก็แทบบ้า ผมเคยถูกสั่งให้ปล่อยมือมันไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ไม่มีทางที่ผมจะพลาดอีก ไม่มีทาง!

'ครืน............' 

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น...  เบอร์ของที่บ้าน .....ผมกำลังชั่งใจว่าจะรับดีหรือเปล่า แต่ไม่นานผมก็ตัดสินใจได้... พอหันหน้าไปเจอไอ้เจ้แสบ ผมก็กดตัดสายทิ้ง  ....
.....มันนั่งร้องไห้น้ำตาไหลพราก....ชุดนิสิตของมันชายเสื้อเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาเพราะมันเอาชายเสื้อของตัวเองเช็ดหน้า.....

"...วันนี้วันแม่..เรากลับบ้านเราไม่ได้ แม่เราไม่อยู่แล้ว....เราอยากเจอคุณย่า....อยากเจอคุณย่า....อยากเจอคุณย่า...."

.......ภินทร์มันก้มหน้าร้องไห้แล้วบ่นพล่ามประโยคนั้นซ้ำๆ  เป็นผมเองสินะที่ลืมไป เรื่องของเจ้ ....แม่เจ้ไปอยู่ต่างประเทศ ตอนที่โดนทางบ้านกดดันให้หย่า...สาเหตุมาจากความเชื่อแบบฝังหัว เรื่องรักของยักษ์กับนาค ยังไงมันก็ไปไม่รอด แล้วก็เพราะคุณย่าขอเจ้ไว้แม่เจ้ถึงได้วางใจ..ปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยว ชีวิตเจ้มันฝากไว้ที่คุณย่า แต่พอผมเกิดขึ้นมา คุณย่าของมันก็กลายเป็นคุณย่าของผม .....หลายเรื่องที่ผมเพิ่งเข้าใจ...... ผมเองที่เป็นคนแย่งทุกอย่างของมันมา ....เป็นผมเองที่ทำร้ายมันโดยไม่รู้ตัว ...

'ครืน............' 

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น...อีกครั้ง...  เบอร์ของที่บ้าน .....ผมกดรับสายแล้วเดินออกมาคุยข้างนอก....เสียงประมุขของบ้านยังคงเหมือนเดิม กังวานแต่เด็ดขาด ....

[ทำไมไม่มาค้างที่บ้านหรือเพราะเรื่องคนที่บ้านฟ้องมาว่าอะตรอมเอา'อะไร' มาบ้าน....เหลวไหลหรอเราน่ะ?แล้วพา 'อะไร'มา ถึงได้เป็นเรื่องเอะอะ ลุงชมเขาฟ้องว่าเรากระชากยันต์ที่ห้องย่าทิ้งแล้วชกลุงชม...กับถีบไอ้เด่นตกบันได....อะตรอม...ยิ่งวันเรายิ่งอารมณ์ร้ายนะ...]

"....ย่ารักผมไหม?"

ผมตัดสินใจถามขัดออกไป ...รู้ว่าต้องโดนบ่นยาว แต่ก็อยากทำอะไรให้ไอ้เจ้แสบมันบ้าง.... หันไปมองภินทร์บนที่นอน มันนอนปิดหน้าแต่ยังสะอื้นอยู่เป็นพักๆ ...ผมไม่รู้ว่าวิญญาณเองก็ร้องไห้ได้ แถมยังร้องไม่ยอมหยุด...

"ย่ารักผมไหม?....."

ผมถามไปอีกครั้งเพราะย่าเงียบไป....

[ไม่รักเราแล้วย่าจะรักใคร ....ย่าเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กนะ อะตรอม....]

ผมสูดหายใจยาวที่ได้ยินประโยคนั้น ....มันจุกไปทั้งหน้าอกเลย....

".....แล้วหลานสาวอีกคนที่ย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กล่ะครับ? ย่ายังรักเขาไหม?....."
...
..


เช้านี้ผมไม่อยากตื่นเมื่อคืนดึกมากกว่าผมจะได้นอน  เพราะผมไม่ได้นอนภินทร์เองเลยไม่ได้พักเหมือนกัน ผมเคยรู้สึกดีที่ระหว่างเราเหมือนถูกเชื่อมติดกันทางความรู้สึก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกแย่ที่บางทีเวลาผมเครียด ผมจะพลอยทำให้ ภินทร์เครียดไปด้วย....เสียงเรียกที่หน้าห้องทำให้ผมรู้ว่า มันถึงเวลาแล้ว......... เช้านี้คุณย่าให้คนรถที่บ้านมารับผมที่โรงแรม......
.....
...


เสียงสวดมนต์กับเสียงดังจอแจ ทำเอาผมแทบจะเปิดประตูรถแล้วเดินหันหลังกลับ กลัวว่าภินทร์มันจะเกิดเป็นอะไรไป แต่ตรงข้ามมันเดินลงรถแบบชิวๆ สบายอารมณ์ซะอย่างนั้น .....

ผมดึงมันให้มาอยู่ข้างหลังแล้วเดินนำหน้าพามันขึ้นบ้าน .... ที่บ้านมีเลี้ยงพระใหญ่คนเต็มบ้านทั้งคนในและคนนอก ....ผมมาตอนที่เขากำลังสวดกันอยู่พอดี  แพงตรอนกวักมือเรียกให้มานั่งข้างๆ ผมเลยจับมือ ภินทร์ แล้วขอทางเดินแหวกทางให้ภินทร์ จนไปถึงที่แพงตรอนนั่งอยู่ข้างคุณย่า....

...แววตาดุของคุณย่าเหลือบขึ้นมามองผ่านผมไปด้านหลัง  ผมคิดไปเองหรือเปล่าที่แววตานั้นดูอ่อนลง...

"ยายแพง...ไปหยิบถาดขนมที่ย่าขอพวกโรงครัวเขาไว้หน่อยสิ.....อะตรอม..ตามย่ามา"

ก่อนที่ผมจะได้นั่ง คุณย่าก็ลุกขึ้นเดินนำผมไปทางชานบ้าน  ผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเดินตาม มือผมยังจับข้อมือภินทร์ไว้แน่น ไม่กล้าปล่อย ไม่รู้ว่าคุณย่าจะเอายังไงกับพวกเรา และก็ไม่สบายใจด้วยที่ ต้องพาภินทร์มาในวันที่มีพระสวด....ผมกลัว...กลัวว่าจะต้องแยกจาก ภินทร์อีกครั้ง.....

ห้องเล็กที่ แยกออกมาจากชานบ้าน เป็นห้องที่ผมไม่เคยเข้ามา มันคล้องกุญแจใหญ่นับตั้งแต่ผมจำความได้ ...ห้องนี้คุณย่าหวงที่สุด...ทุกคนในบ้านรู้ดี .... ปกติทุกห้องในบ้านจะมีแผ่นไม้สลักทั้งชื่อจริงและนามสกุลของเจ้าของห้องไว้หน้าประตู แต่ห้องนี้ไม่มี .... ไม่มีแม้กระทั่งแผ่นป้ายชื่อเปล่าๆที่แขวนไว้.....

คุณย่าไขกุญแจแล้วยื่นทั้งกุญแจและดอกกุญแจให้ผม ก่อนจะก้าวนำเข้าไปข้างใน ........

......วอลเปเปอร์ลายต้นไผ่สีเขียวในห้องทำให้ผมรู้สึกแปลกๆเพราะห้องนี้เหมือนเป็นห้องเดียวที่มีลายอื่นนอกจากลายไม้และน่าจะเป็นลายเดียวที่มีในบ้านหลังนี้  คุณย่าเปิดประตูหน้าต่างออก แสงที่เข้ามายิ่งทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจน...รูปวาดแบบเด็กอนุบาล...กับแผ่นประกาศรางวัลต่างๆ รวมไปถึงถ้วยรางวัลที่มีอยู่ทุกมุมชั้นหนังสือและบนตู้เก็บของ  มีมากพอๆกับตุ๊กตาหมา ตุ๊กตาหมี ตุ๊กตาหมูยักษ์ และตุ๊กตากระต่ายสีชมพู  ข้างในห้องไม่เหมือนห้องปิดตายสักนิด เพราะทุกอย่างมันดูสะอาดเหมือนมีคนคอยดูแลตลอด เตียงกว้างที่คลุมด้วยผ้าดิบผืนใหญ่ก็เหมือนกัน มันยังเหมือนกับว่าเคยมีคนมานอน....หรือรอใคร ให้กลับมานอน......

ภินทร์สะบัดมือผมออกเมื่อก้าวเข้ามาในห้องนี้ .....

... คุณย่าเดินเข้ามาใกล้แต่ผ่านผมไปหาอีกคน.....คนที่ผมไม่คิดว่าคุณย่าจะมองเห็น ...

"คืนนี้นอนห้องนี้นะภัทร....ห้องของหนูไงลูก....ไม่ต้องไปตะลอนๆที่ไหนแล้ว...กลับมาอยู่กับย่าได้แล้ว....."

น้ำเสียงอ่อนโยนที่ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยได้ยินจากคุณย่า คอยปลอบหลานอีกคนที่สะอื้นไห้จนตัวโยน ....

"มาอยู่กับย่านะลูก....ไม่ต้องไปไหนแล้ว...."

มือที่มีแต่ร่องรอยของวัยชราไล้ลูบเบาๆทั้งใบหน้าภินทร์....น้ำตามันถูกคุณย่าเช็ดให้ซ้ำๆจนแก้มมันแดง.....เพราะถึงจะเช็ดจนแห้งแต่มันก็ยังไหลลงมาเรื่อยๆ  ไม่รู้ว่าผมควรทำตัวยังไง เมื่อภินทร์มันทิ้งผมไปกอดคุณย่าแน่น แถมยังหอมซ้ายหอมขวา......ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ใครคือหลานรักตัวจริงของคุณย่า ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีหลานคนไหนกล้ากอดกล้าหอมคุณย่าอย่างนี้ ...
และไม่มีหลานคนไหนเคยได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นของประมุข บ้านพระพิราพอย่างนี้ ....

"ย่า..เห็นเจ้หรอ?"

"สายตาฉันยังไม่สั้น....และฉันก็เป็นย่าแกนะ อะตรอม...."

น้ำเสียงเด็ดขาดที่ตอบกลับมา มันคนละโทนกับที่คุณย่าใช้กับภินทร์เลยนะ......
...สองมาตรฐานเห็นๆ .............
..........................
...........ผมได้แต่นั่งมอง...ภินทร์มันอ้าปากงับขนมที่คุณย่าป้อนให้[??!!]  ...ถาดขนมที่ แพงตรอนยกมา ของทุกอย่างของชอบมันทั้งนั้น ขนมบางอย่างผมไม่เคยเห็นนานแล้วอย่าง บัวลอยอัญชัน กับขนมดอกโสน ก็มี ....ตอนนี้ไม่ใช่ภินทร์ แต่เป็นผมต่างหากที่นั่งหง่าวเป็นหมาหัวเน่า...
.......

....หลังจากนั้นคุณย่าก็จูงภินทร์ออกมาฟังพระสวดแถมยังให้พระรดน้ำมนต์ให้ [??!!!!!] ผมตกใจแทบแย่ กลัวภินทร์มันเป็นอะไรไป แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่ผมคิด ภินทร์มันดูมีน้ำมีนวลมากกว่าเดิมเสียอีก รอยไหม้ที่ข้อมือก็หายไปด้วย....จบด้วยการกรวดน้ำ ....ผมคิดไปเองรึเปล่าว่า ภินทร์มันดูเหมือนจะมีตัวตนให้คนอื่นนอกจากคุณย่าเห็นได้จริงๆ....

วันนี้ผมเหนื่อยมากที่ต้องช่วยงานที่บ้าน แต่ก็สุขใจกับอะไรหลายๆอย่าง อย่างน้อยยันต์อารักษ์ในบ้านก็ถูกคุณย่าเก็บใส่ตู้หมด.... เลยไม่ต้องห่วงอะไร แล้วก็อีกอย่างที่คุณย่าห้าม....ห้ามพาภินทร์ไปที่ประตูสลัก ก็แค่นั้นเอง

.....ช่วงเย็นผมกินข้าวที่บ้านเสร็จก็พา ภินทร์มันไปพายเรือเล่น .....น้ำในคลองยังใสเหมือนเดิม แต่ที่มากขึ้นก็น่าจะเป็นกอบัวและกอสาหร่ายที่มากขึ้นเมื่อไม่มีเรือยนต์วิ่งเหมือนเมื่อก่อน.....ภินทร์หนุนตักผมแล้วนอนราบไปกับลำเรือ...ปล่อยให้ผมพายช้าๆ เก็บดอกบัวบ้างเก็บลูกมะพร้าวแก่ที่ลอยมาตามน้ำบ้าง เรื่อยเปื่อย...และที่ผมไม่ลืม ....ผมเก็บค่าพายเรือเป็น จูบหวานๆ จากคนที่นอนหนุนตักผมอยู่ ....อาจจะเกินค่าพายไปนิด แต่ไม่เห็นว่า คนจ่ายจะว่าอะไร นอกจากเสียงหัวเราะคิกคัก.....


.....คืนนี้ผมได้นอนที่ห้อง ภินทร์  ย่าให้ห้องนี้กับผมรวมทั้งกุญแจห้องกับดอกกุญแจด้วย ...ในความหมายก็คือ ....ย่าคืนห้องให้ภินทร์นั่นล่ะ..........แต่ผมดันได้อานิสงส์ไปด้วย...

.....ผมอาบน้ำแล้วเดินกลับมาที่ห้อง ความรู้สึกมันแปลกๆ หัวใจผมเต้นแรงจัง ....เพราะผมเพิ่งเคยได้มานอนห้องนี้รึเปล่านะ มันเลยอาจไม่คุ้น ...ที่สำคัญห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของ ภินทร์ด้วยสิ.....คิดแล้วยิ่งเครียดเหมือนกำลังโดนส่งตัวเข้าหอยังไงชอบกล ....ผมสูดหายใจยาวแล้วก้าวเท้าเข้าห้อง ก้มหน้าก้มตาปิดประตูลงกลอน.....ก่อนจะหันไปเพื่อ....................
...
.
.
.
.



(http://upic.me/i/wm/maid_boy.jpg)

เช็ดเลือดกำเดาของผมเอง....... :m10:




" For everything, My boss... Came to My service... " 



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 12-08-2012 03:27:17
 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:


กำลังนั่งน้ำตาซึม

พอเจอรูป

แม่งง
คนละอารมณ์เลย

 :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 12-08-2012 03:46:47
อื้อหืม....ทีเด็ดมันอยู่สุดท้ายนี่เอง :m10: 
แหมไอ้เราก็อุตส่าห์ทำซึ้งตั้งนาน 
เอิ่ม เจ๊ภินทร์ฮะ ตอนหน้าขอชมเซอร์วิสแบบจัดเต็มได้มั้ยฮะ :m13: :m13:



ดึงไอ้เจ้แสบออกมาแล้วเหงยหน้าเผชิญ
ถึงได้เป็นเรื่องเอ๊ะอะ>>>เอะอะ
ยิ่งวันเรายิ่งอารมณ์ร้ายนะ..
ไม่มีแม้กระทั้งแผ่นป้ายชื่อเปล่าๆ>>>กระทั่ง
สองมาตราฐานเห็นๆ>>>มาตรฐาน
แต่ผมดันได้อนิสงค์ไปด้วย>>>อานิสงส์

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: ryokijung ที่ 12-08-2012 03:58:33
เหอๆชายหนุ่มในชุดเมดนั่นเล่นเอาฮาเลยง่ะ :a5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: pntkloveu ที่ 12-08-2012 04:30:11
ตามอ่านทันจันได้ เย้เย้เย้ :z2: :z2: :z2: :z2:
หนึ่งวันเต็มๆ!!! ยี่สิบสี่ชั่วโมง แทบไม่ได้ลุกจากหน้าคอม
ยิ่งอ่านยิ่งติด
ตอนแรกเริ่มอ่านสาป รากไทร ยอมรับว่างงมาก
เลยตามไปอ่านกาลกีรติ เรื่องนั้นก็ค้างคาสุดๆ
สุดท้ายมาจบที่เรื่องนี้ เพราะเห็นคำเตือนว่าหลายตอนมาก
ทำใจนานกว่าจะเข้ามาอ่าน แต่พออ่านแล้วก็หยุดไม่ได้

อ่านสามสี่ตอนสุดท้ายแล้วน้ำตาจะไหล
สงสารอะตรอมกับภินทร์

แต่ด้วยความลำเอียงที่เทไปให้ภัทรกับหมอเต็มเปี่ยม
ยังไงก็ดีกว่าให้ภัทรหายไปล่ะ *โดนแฟนคลับภินทร์ :z6: :beat:*

ปล ตอนนี้รออ่านฉากมหัศจรรย์ของภัทรกับหมออยู่นะคะ  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 12-08-2012 11:04:04
ดีจัง ได้เจอคุณย่าในวันแม่ แถมคุณย่าก็ให้ความรักความอบอุ่นแก่ภินทร์ :กอด1:
แถมยังทำเหมือนยอมรับในเรื่องของภินทร์กับอะตรอมอีกด้วยสิ เย้ๆ ไม่มีอุปสรรคแระ o7

ตอนท้ายรูปภินทร์หรือนั่น นอนรอบริการอะตรอมอยู่ :z1:
บวกๆจ้า^^
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 12-08-2012 13:57:45



    อ้ากกก อย่างกับพิธีรับตัวสะใภ้เข้าบ้าน หวานกันซะ
    แต่คุณย่าเนี่ยดูรักภินทร์จังเลยนะ แต่ไหงคราวนี้ดูภินทร์คล้ายภัทรเข้าไปเรื่อยๆเลยล่ะ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 12-08-2012 14:05:59
อ้ากกก อย่างกับพิธีรับตัวสะใภ้เข้าบ้าน หวานกันซะ แต่คุณย่าเนี่ยดูรักภินทร์จังเลยนะ แต่ไหงคราวนี้ดูภินทร์คล้ายภัทรเข้าไปเรื่อยๆเลยล่ะ
V
ภินทร์ก็เป็นเจ้ภัทร ของ อะตรอมอยู่แล้ว ตอนนี้อะตรอมเลยเรียกไม่ค่อยถูกระหว่าง ภินทร์ หรือเจ้ภัทร ตัดปัญหา เวลามันคิดในใจมันเรียก 'ไอ้เจ้แสบ' แต่ปากไม่กล้าเรียกอย่างนั้น กลัวโดนโบกข้อหาปีนเกลียว คุณย่า รัก ภัทร [ภินทร์]  มากกว่าอะตรอมเสียอีก แต่เหตุผลบางอย่างของผู้ใหญ่เขาอะนะ ตอนนี้พอหมดจากเหตุผลทั้งหมด วิญญาณข้างหน้าก็เป็นแค่หลานรักอย่างเดียวแล้ว...แต่ที่ยังไม่เคลียร์ คือ ความสัมพันธุ์ของ อะตรอมกับ ภินทร์[ภัทร] ย่าไม่ได้คิดว่ามันจะลึกซึ้งขนาดนั้น หรืออาจพอรู้อยู่บ้าง แต่ไม่พูดมากกว่า...นี่ล่ะผู้ใหญ่  รักคุณย่าจังเลย  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 12-08-2012 15:14:41
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
ซึ้งเศร้า แต่เงิบเอาบรรทัดสุดท้าย

ที่จริงชอบแบบนี้สินะอะตอม
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 12-08-2012 15:54:59
ซึ้ง

ซึ้ง

ซึ้ง

.
.
.
.
อะจ้ากกกก แทบตกเก้าอี้

อะตรอมถึงกับเลือดกำเดาไหล  :m20:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 12-08-2012 18:16:43
นั่งอ่านมาแบบซึ้งๆหวาน  เจอรูปเข้าไปแบบ :m10:
เข้าใจแล้วหละว่าทำไมต้องเป็นผู้ชายกับชุดเมด :m3:
แต่ยิ่งเด็ดเมื่อมาพร้อมกับประโยคที่ออกจากปากภินทร์ :m11:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 08-09-2012 21:58:27
คิดถึงเรื่องนี้มากมาย เมื่อไหร จะมาต่อน้า :sad11:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 75 My service[อิ่มอกอุ่นใจ]12/8/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 08-09-2012 23:11:59
อะตรอม เลือดหมดตัวป่ะ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre[ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 17-09-2012 12:30:54
บทที่ 76   MY Ogre  [ไม่ทันบอก]



"สถิตแท่นแผ่นผาศิลาทอง      อาบละอองสุหร่ายสายสินธุ์ 

ขัดสีวารีรดหมดมลทิน      ทรงสุคนธุ์ธารประทิ่นกลิ่นเกลา

น้ำดอกไม้เทศทาอ่าองค์      บรรจงทรงพระสางเศรียรเกล้า

พระฉายตั้งคันฉ่องส่องเงา     เวียนแต่เฝ้ากรีดพระหัตถ์ผัดพักตรา

ทรงภูษาผ้าต้นพื้นตอง     เขียนทองเรืองอร่ามงามนักหนา

คาดเข็ดขัดรัดองค์องคการ์      ประดับพลอยถมยาราชาวดี

คล้องพระศอสีดอกคำร่ำอบ     หอมตลบอบองค์ยักษี

ใส่แหวนเพชรเม็ดแตงแต่งเต็มที่     จะไปอวดมั่งมีนางสีดาฯ

ถือพัดด้ามจิ้วจันทน์บรรจง      พวงมาลัยใส่ทรงพระกรขวา

แล้วลงจากปราสาทยาตรา      ขึ้นทรงรัถาคลาไคลฯ"


— บทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ รัชกาลที่ 2




ทันทีที่ถอดหัวโขนออกมาได้ ...ความรู้สึกแรกเลยคือโล่ง ....จากนั้นก็เป็นอาการเขินที่อยู่ๆ ภินทร์ ก็จ้องผมไม่วางตา สายตาวิบวับ เป็นประกายวาวมันทำเอาเขินแบบไม่ทันตั้งตัว   

วันนี้ที่บ้านพิราพมีรำถวาย  เป็นงานบวงสรวงที่ต่อจากงานบุญเมื่อวาน  ผมเดินไปใกล้ ภินทร์ แต่ไม่กล้านั่ง ชุดทศกัณฐ์มันรัดแน่นไปหมด ความจริงก็ไม่ถึงขนาดนั่งไม่ได้ แต่ย่าแอบกระซิบมาว่า ทศกัณฐ์ถ้าไม่นั่งตั่งมันไม่โก้ พอเจอพื้นไม้เจอเก้าอี้พลาสติก มันเลยเหมือนบังคับไม่ให้นั่งกลายๆนั่นล่ะ

“อะตรอม ...เท่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

เสียงชมมาจากไอ้แสบที่เงยหน้ามองผมจนคอตั้งบ่า  แล้วไม่ชมเปล่าไอ้แสบมาลูบๆคลำๆชุดผมซะงั้น  ถ้าเป็นคนอื่นชมปกติผมแค่เฉยๆ ก็จะไม่เฉยได้ไง โดนรำถวายทุกปี ตั้งแต่เจ็ดขวบจนมาตอนนี้  แต่พอโดนคนตรงหน้านี่ชม ผมถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว...ทศกัณฐ์เวลาเขินนางสีดา ก็คงประมาณนี้ล่ะมั้ง

“อะตรอมน้ำๆ”

ไอ้แสบยกน้ำในแก้วให้ผมดื่ม เล่นเอาห้ามแทบไม่ทัน เพราะนอกจากผมกับคุณย่า ...ลืมไปรึเปล่าว่าไม่มีใครเห็นไอ้แสบ เกือบไปแล้วแบบหวุดหวิด ...ผมมีความสุขนะที่ภินทร์อยู่ใกล้ๆอย่างนี้ เหมือนเป็นของผมแค่คนเดียว เหมือนโลกทั้งโลกของภินทร์มีผมเป็นศูนย์กลาง

ใช่....แค่ผม ...

อยากจะดึงมากอด แต่กลัวคนอื่นผิดสังเกต อยากจะหอมแก้มนิ่มๆให้ช้ำไปเลย แต่กลัวมันจะเกินเลยมากกว่านี้ ... อยากทำทุกอย่างที่คนรักกันเขาทำ แต่ผมไม่กล้า ...เพราะไม่รู้ว่า รักของผมใช่รักแบบที่ภินทร์ให้ผมหรือเปล่า  รัก ที่หมายถึงรักจริงๆ ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท ไม่ใช่แค่ พี่ชาย หรือน้องชาย

ลมฝนพัดผ่านจนเย็นวาบ เหงื่อเพิ่งออกพอโดนลมก็เริ่มเย็นแล้ว ผมหันไปจะชวนไอ้แสบเข้าไปหาคุณย่า แต่มันก็หายไป...

“ภินทร์....”

เรียกชื่อมันเบาๆ แต่ไม่มี เสียงอะไร ตอบกลับมา....ผมเรียกอีกครั้งเผื่อมันจะล้อเล่น....แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ....
หน้าผมเห่อชา มือที่ถือหัวทศกัณฐ์ไว้อยู่ๆก็เย็นเฉียบตั้งแต่ปลายนิ้วไล่มา ...แขนมันล้าหมดแรง หัวโขนหลุดออกจากมือกลิ้งตกจากบันไดไม้ลงไปที่สนามหญ้า  ....

ลมพัดตึงเข้ามา กับกลุ่มเมฆฝน จนลานหน้าบ้านมันมืดไปหมด เหมือนพายุจะเข้า ลมกระโชกแรงเกินไป ผิดปกติเกินไป
แล้วฝนมันก็สาดเข้ามา เม็ดฝนห่าใหญ่ที่ ตกกระทบจนเจ็บผิว
....
.
.
ผมเคยโดนฝนแบบนี้แล้ว …เคยเจอฝนแบบนี้แล้ว ….
.
.
ฝนของอีนางกาลี!!!
.
.

“ภินทร์!!!!!!! อยู่ไหน กลับมา!!!!”

..............
...
.
.
ผมตะโกนเรียกจนสุดเสียง  ตะโกนซ้ำๆจนคนของบ้านมาล็อกดึงตัวไว้....สายฝนเม็ดใหญ่มันสาดเข้ามาจนเหมือนเข็มค่อยแทง ...
ร่างหนึ่งก้าวเข้ามาในตัวบ้าน ถือหัวทศกัณฐ์ที่ผมทำตกลงไปเดินเข้ามา ใกล้ ….
ผมไม่อยากเจอมัน ไม่อยากเห็นมัน  ไม่อยากแม้แต่จะหายใจร่วมกับมัน...

“อีกาลี....”

มันวางหัวโขนลงแล้วก้มกราบเท้าย่าผม .... สายตาคุณย่าอ่อนลงไปมาก แต่ริมฝีปากบางเม้มแน่น

“อีฉันขอ...คนรักของอีฉัน คืนนะเจ้าคะ ....แม่ย่า....”

มันพูดแล้วก้มลงกราบอีกครั้ง ผมได้แต่ขืนแรงดิ้นให้หลุดจากแรงรัดของเด็กในบ้านที่ตอนนี้มารุมจับตัวผมล็อกไว้  เรื่องอะไร ?ขออะไร ? อีกาลีนั้นกำลังทำอะไร ? ไหนว่าคุณย่ายอมให้ ภินทร์มาอยู่กับผมแล้วไง? แล้วทำไม?

ผมได้แต่ดิ้นรนและออกแรงตะโกนเรียกภินทร์กลางสายฝน  ก่อนจะหมดแรงในตอนที่คุณย่า เอ่ยเสียงเบา

“นางเอาคืนไปเถิด ....คนรักของนาง....อย่าได้จองเวรกันอีก....อย่าได้อาฆาต กันอีก... ”

อีกาลีมันก้มกราบคุณย่าซ้ำๆ ผมได้แต่มองภาพนั้นผ่านสายฝน ผ่านน้ำตาของตัวเอง

“....อย่าเอาคนของกูไป ....อย่าเอาไป....อย่าเอาไป...”

แล้วทุกอย่างมันก็มืดไปหมด .....


...........
..
..
.
.


พรุ่งนี้ไม่มีจริง(cover)  (http://www.youtube.com/watch?v=0v0EbNVG_Gs)

อยู่กับความชินชา ปล่อยให้วันเวลา  ค่อยๆ ผ่าน ผ่าน ผ่าน พ้นไป
ตราบที่ยังมีเธอ เมื่อหันไปยังเจอ ทุกๆ อย่างก็ยังมั่นใจ
คำว่ารัก สักคำ ก็เก็บไว้เรื่อยมา รอเวลาพูดไป
วันพรุ่งนี้ หรือสักวันหนึ่งข้างหน้ายังมีเวลามากมาย

แต่ว่าบางคำลา มันก็เดินทางมา ทั้งที่ไม่ได้เตรียมหัวใจ
หลับตาลงเบาๆ เพียงแค่เราลืมตา  ทุกๆ อย่างก็จางหายไป
ไม่ว่ารอยยิ้มเดิม อ้อมกอด หรือคืนวัน กลายเป็นควันง่ายดาย
วันพรุ่งนี้ ไม่เคยมี และไม่เคยมา ไม่ว่าเมื่อใด

กอดเธอเบาๆ แล้วพูดบางคำ ก็คงจะทำไม่ได้
ให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ฮู
แค่เธอรอฟังฉันพูดบางคำ ฉันทำให้มันสายไป
คิดว่าพูดเมื่อไรก็ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที พรุ่งนี้ไม่มีจริง

อยากกุมมือเธอมา อยากให้เธอมองตา ซุกในกอดอุ่นๆ หัวใจ
บอกกับเธอซ้ำๆ บอกทุกๆ ถ้อยคำ ทุกนาทีที่ผ่านพ้นไป
อยู่กับเธอให้นาน เท่านาน ไม่ยอมมีวันที่ห่างร้างไกล
แต่พรุ่งนี้ ไม่เคยมี และไม่เคยมา ไม่ว่าเมื่อใด

กอดเธอเบาๆ แล้วพูดบางคำ ก็คงจะทำไม่ได้
ให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ฮู
แค่เธอรอฟังฉันพูดบางคำ ฉันทำให้มันสายไป
คิดว่าพูดเมื่อไรก็ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที

กอดเธอเบาๆ แล้วพูดบางคำ ก็คงจะทำไม่ได้
ให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ฮู
แค่เธอรอฟังฉันพูดบางคำ ฉันทำให้มันสายไป
คิดว่าพูดเมื่อไรก็ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที พรุ่งนี้ไม่มีจริง

กอดเธอเบาๆ แล้วพูดบางคำ ก็คงจะทำไม่ได้
ให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมายแค่ไหน ฮู
แค่เธอรอฟังฉันพูดบางคำ ฉันทำให้มันสายไป
คิดว่าพูดเมื่อไรก็ทันอยู่ดี เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที

เศษความทรงจำสักเสี้ยวเวลา ก็เอาคืนมาไม่ได้
รักให้มากเท่าไร ไม่ทันอยู่ดี
เพิ่งรู้วันนี้ ว่าบางที พรุ่งนี้ไม่มีจริง
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre[ยักษ์-ฝน] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: arun ที่ 17-09-2012 14:38:38
+1 ด้วยรัก ตอนนี้เศร้ามาเลยค่ะ
นางกาลีมาพาตัวภัทร์กลับไปแล้วอ่ะ อยากให้ภัทรอยู่กลับยักษ์จะได้สงบลงทั้งคู่
นางกาลี กาลีสมชื่อจริงๆๆ  :z3: :z3: :beat: :beat: :beat:

รักคนแต่งมาก ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อยดูแลสุขภาพดีๆๆนะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 17-09-2012 20:58:00
น้ำตาทศกัณฐ์(http://upic.me/i/g9/yociexp76.gif)



เวียนแต่เฝ้ากรีดพระหัตถ์ผัดกตรา>>>พักตรา
แล้วไม่ชมเปล่าไอ้แสบมาลูบๆคำๆชุดผมซะงั้น>>>คลำ 
หัวโขนหลุดออกจากมือกลิ้งตกจากบันได้ไม้ลงไปที่สนามหญ้า>>>บันได
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-09-2012 21:19:06
สงสารอะตรอมอะ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 17-09-2012 21:24:18
สุขแปบเดียวเศร้าซะงั้นนะ  :เฮ้อ:
คุณย่าคืนให้เขาทำไมแล้วอย่างนี้จะจบแบบไหนล่ะนี่
เอากลับไม่รวมร่างเป็นมังกร 3 หัวอีกเหรอ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 17-09-2012 21:49:41
ตรอมมมมมมมมมมม
 :o12:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 18-09-2012 00:56:42
ปวดตับสุดๆ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 18-09-2012 02:23:49



   อ่าเห้ยย มาขอกันง่ายๆงี้เลยเหรอ แล้วคุณย่าก็ยอมให้ง่ายๆด้วยอ๊ะ
   เดี๋ยวอะตรอมก็อาละวาดบ้านแตกหรอก ช่วงนี้เรื่องที่เกี่ยวกับภินทร์ยิ่งทำให้ดื้อคูณร้อยอยู่ด้วย
   แล้วอยู่ๆภินทร์ก็หายไปไหนละเนี่ย ยิ่งอยู่ในสภาพที่ระบุไม่ได้อย่างนี้
   อย่าบอกนะว่าละลายไหลรวมไปกับน้ำฝนอาถรรพ์แล้ว



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 18-09-2012 07:44:18
มาแบบสั้นๆ แต่ว่ามันปวดใจมากมายยยยย :a5:  :z3:     แล้วจะรอลุ้นต่ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 18-09-2012 14:56:52
เอาไปได้ไง เป็นร่างที่อะตรอมสร้างมาแท้ๆ :serius2:

บวกหนึ่งให้ฮัสกี้ที่นอนหงายแลบลิ้นทำหน้าเป็น อิอิ อยากลูบท้องให้จัง^^
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 08-10-2012 13:06:55
ตั้งสติเพื่อที่จะกลับมาอย่างเป็นทางการสำหรับเรื่องนี้ ....


  บทที่ 77 ทะเลดาว     ---"เราไม่ได้ให้รอ ....แต่เราขอให้นายมีชีวิต ...จะเพื่อเราหรือเพื่อใครก็ช่างเถอะ และถ้าวันไหนนายท้อเกินไป ....นายจะเลิกรอก็ได้นะ...อะตรอม"
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 08-10-2012 14:09:22
ตั้งสติเพื่อที่จะกลับมาอย่างเป็นทางการสำหรับเรื่องนี้ ....


  บทที่ 77 ทะเลดาว     ---"เราไม่ได้ให้รอ ....แต่เราขอให้นายมีชีวิต ...จะเพื่อเราหรือเพื่อใครก็ช่างเถอะ และถ้าวันไหนนายท้อเกินไป ....นายจะเลิกรอก็ได้นะ...อะตรอม"



ฮือออออออออออออออ...................................
จะมาม่าอีกแล้วหรือ...(http://upic.me/i/iv/icon_112.gif)

กี่ความทรงจำ กี่ความฝันที่เรานั้นเคยมี
ฝากเอาไว้ในหัวใจเธอที
เธออย่าลบเธออย่าล้างมันไป
กี่การกระทำ โปรดช่วยย้ำให้เธอจำเมื่อไกล
และกี่เสียงที่ฉันนั้นเคยพูดด้วยหัวใจ ว่าฉันรักเธอ...
(http://upic.me/i/8h/24719.gif)(http://upic.me/i/8h/24719.gif)
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 14-10-2012 16:03:00
 :call: คิดถึงมากมาย :L1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 76 MY Ogre [ไม่ทันบอก] 17/9/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 15-10-2012 09:41:20



     ง่า. . . อะตรอมมีแววได้รอแบบไม่รู้คนรักจะกลับมารึเปล่าอีกแล้ว
     คราวนี้ดีหน่อยที่มีบอกล่วงหน้า. . . แต่มันก็ต้องรออยู่ดีนั่นล่ะ T T



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-10-2012 20:52:18
บทที่ 77   Somewhere I belong. [ทะเลดาว]

ดวงจันทร์สีนวลหลบเข้าเงาเมฆ หลงเหลือเพียงความมืดสลัวและ เสียงเซ็งแซ่ของแมลงราตรี  ....เศษผ้าที่ใช้มัดแขนขาถูกเด็กหนุ่มกัดกระชาก ...ประตูหน้าต่างบานไม้เปิดอ้าก่อนเด็กหนุ่มจะโยนกระเป๋าใบใหญ่ลงพื้น ตามมาด้วยขายาวๆที่ก้าวกระโดด ลงจากที่สูง  ....
เสียงตุบ เหมือนของหนักกระแทกพื้น ดังเพียงครั้งเดียว...แค่นั้น ...และมันก็เป็นเสียงของกระเป๋าไม่ใช่น้ำหนักตัวที่ทิ้งลงมา ....
.
.
.
สมองสั่งให้สองขาก้าวเดิน หัวใจสั่งให้ตามหา... สติมีเพียงแค่นั้น ...

[ถ้าที่ สะพานปลา เป็นของ ภัทร ที่นี่ก็เป็นของผม... ผมให้ภัทร...ความลับของเรานะ...]

นาย...ยังอยู่ที่นั่นใช่ไหม ที่ของ เราไง ...รอก่อนนะ ...ภินทร์...เรากำลังจะไปหา...
..
.
.
.


***


เวลา....เหมือนจะไม่มีแล้ว .......
.
.
.
กฎของธรรมชาติ ...ยากเกินไป....ยากเกินกว่าที่จะฝืน....

"ภัทร ...เป็นอะไร?"

เงือกน้อย ที่ตอนนี้คุ้นชินกับ 'ขา' และ 'เสียง' อดทักไม่ได้เมื่อ จู่ๆ ปากกาเคมีที่เด็กหนุ่มข้างๆถือไว้ก็กลิ้งตกลงไปที่โต๊ะ ...เอกสารที่กองไว้ถูกปัดกระจาย เมื่อเมือกสีขาวไหลทะลักแล้วหยดลงบนกระดาษว่างที่ใช้จดโน้ตงาน ...
สองมือถูกใช้ปิดริมฝีปาก ที่กำลังสำลักไอ...เมือกเหลวสีขุ่น ทะลักออกมาตามง่ามนิ้ว แล้วหยดลงพื้นไม้...กลิ่นไหม้...ฟุ้งขึ้นมาจากทุกหยดของเมือกขุ่น เมื่อมันสัมผัสผิวเนื้อไม้....
ภัทร วิ่งเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูแน่น...ตรินทร์ได้แต่งุนงงกับเหตุการณ์ ก่อนจะทันสังเกตว่า ลูกบิดประตูที่เลอะเมือกเหลว กำลังไหม้ลงอย่างช้าๆ   

"....ภัทร....ให้เรียกไอ้หมอไหม?"

"ไม่ต้อง...ไม่ต้องเรียกหมอ!! อย่า...อย่าบอกหมอนะตรินทร์..."

"แล้วจะทำยังไง? จะปล่อยไว้อย่างนี้หรือไง ภัทร?!!"

..
.
.
.

"....ถ้าไม่ปล่อยเราไว้แบบนี้ ....ก็เป็นนายเองที่ต้องตาย.....ชีวิตเดียว กับสองชีวิต...นายจะเลือกอะไรล่ะ?"

เสียงเรียบดังออกมาจากห้องน้ำ ....ตามด้วยเสียงสำรอก....และเสียงร้องไห้ ....
..
.
.
.
ภัทรขังตัวเองไว้ในห้องน้ำเกือบชั่วโมง...และก็เป็น ตรินทร์ เองที่ใช้เศษผ้าชุบน้ำเพื่อเช็ดเมือกที่หยดเลอะเป็นทางยาวไปถึงห้องน้ำ...
.
.
.
กระจกบานใหญ่ในห้องน้ำสะท้อนภาพอันไม่น่าพิสมัย  ในความรู้สึก...  เด็กหนุ่มยืนมองตนเองเปลื่อยเปล่า รอยสักเด่นชัดขึ้นมาบนผิวหนัง ถัดจากนั้นที่ช่วงคอ... รอยบากสองรอยกรีดลึกรอบลำคอเป็นครึ่งวงกลม มือเย็นอันสั่นเทา กำจับผ้าขนหนูผืนเล็กให้ค่อยๆเช็ดซับเมือกสีขุ่นที่ไหลซึมออกมาจากรอยบาก ...ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น...เมื่อยิ่งรู้สึกได้ถึงรอยปริที่เริ่มจะยิ่งขยายกว้าง....
...
.
.
.
กระจกกำลังบอกความจริงที่ซ่อนเร้น ...ภาพสะท้อนในกระจกเป็นภาพของใบหน้าคม ...ดวงตาใสเป็นประกาย ริมฝีปากสีระเรื่อ ...เส้นผมเป็นมันวาวสีนิล ละเอียดนุ่ม...ผิวสีนวลกระจ่างเหมือนต้องแสงเทียน แทนที่มันจะเป็นสีแทนเหมือนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ......ภัทรรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร ...สัญชาตญาณ มันบอกให้รับรู้ทุกอย่าง....
.
.
.
เดรัจฉาน...จะงดงามที่สุด....ก่อนลมหายใจสุดท้าย....   
.
.
.


***


ร่างใหญ่ทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้า ฟ้ามืดจนมองเห็นดาวนับล้านๆ  .... ครั้งหนึ่ง ....เขาเคยพาใครบางคนมาที่นี้...

[...นี่ถิ่น ผม... นี้ก็ของผม...]


อะตรอมเคยบอกความลับของที่นี้ให้ใครคนหนึ่งรู้ จำความรู้สึกในวันนั้นได้เสมอ วันที่ตนเองกางมือใหญ่ออก และชูสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงดาวมากมาย .... เหมือนไฟหลากสีที่แข่งกันส่องประกาย ..... ตัดกับความมืดมิดของท้องฟ้า...
...
ข้างล่างเป็นทะเล...ส่วนข้างบน..เขาเรียกทะเลดาว....


[ถ้าที่ สะพานปลา เป็นของ ภัทร ที่นี่ก็เป็นของผม... ผมให้ภัทร...ความลับของเรานะ...]


.......................
..............
........... เหมือนจะหลับฝัน กับเรื่องราวแปลกๆ ...คงเป็นเพราะยังไม่ตื่นเต็มที่ใช่ไหม เราถึงได้เป็นอย่างนี้ ...
เรากำลังนอนอยู่ที่หอ ...นอนข้างๆนายใช่ไหม ภินทร์ ...ปลุกเราให้ตื่นทีสิ...
..
.
.
แล้วไปขับรถเล่นกัน ...ไปร้านก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ...ไปพายเรือเล่นด้วยกัน
.
.
.
ปีหน้านายก็จะไปดูเราเล่นโขนไง ...
.
.
ไปทำบุญด้วยกันไง...ปลุกเราทีสิ ภินทร์...เราอยากฟังนายร้องเพลง...
..
.
ปลุกเราที..
...
เรากำลังฝันร้าย...ฝันว่าไม่มี นายอยู่ข้างๆ อีกแล้ว...
ปลุกเราทีสิ ภินทร์...
.
.
.

...อย่าใจร้ายไปกว่านี้ได้ไหม ? ถ้านายไม่ปลุกเราตอนนี้.....เราก็ไม่อยากตื่นอีกแล้ว....ภินทร์...
...
.


.....หยดน้ำค้างเย็น พรมไปทั่วร่างใหญ่จนเปียก ...ยอดหญ้าไหวสั่นตามแรงลมทะเลที่พัดกระโชก ....ความหนาวของอากาศและหยดน้ำค้าง ยังหนาวไม่เท่า ความรู้สึกในจิตใจ ....หนาวจนชาไปหมดแล้ว...
.
.


'.....งี่เง่า...เนอะอะตรอม....'

เหมือนจะกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ก็ยังชัดเจนในเสียงที่ได้ยิน ...อยากจะโผกอดคนพูด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ...ร่างกาย เหมือนโดนตอกตรึงไว้กับพื้นดินและใบหญ้า...
แววตาของเด็กหนุ่มร่างยักษ์ เป็นสิ่งเดียวที่สามารถสื่อความรู้สึกได้ ...
..
.
.

"ทุกอย่างมันจบแล้วอะตรอม ... เราเลือกพระแพง...เราเองที่เลือกจะไปกับพระแพง..... ไม่อยากให้มันต้องจบแบบนี้ ...แต่ถ้าไม่เลือกทางนี้ สุดท้าย สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า...มันไม่มีทางอื่นที่จะจบแล้วอะตรอม... เรื่องราวมันยาวนานเกินไปแล้ว...ถ้าไม่ยอมไปกับพระแพง สุดท้าย อีกกี่ภพกี่ชาติที่มันจะต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้ ...เราเหนื่อยแล้วอะตรอม ...ทุกอย่างมันต้องหยุดเสียที...แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย พระแพงเองก็เมียเราคนหนึ่ง ครั้งหนึ่งเราก็เคยรักพระแพง ...แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรักอยู่.....ยังรักอยู่จริงๆ ..."

"....แล้วเราล่ะ?  ภินทร์ไม่รักเราหรือ?...."

...
.
.

ไม่มีคำตอบอะไร นอกจาก น้ำหนักตัวที่ทับลงมา....  ใบหน้าที่คุ้นเคย...  ดวงตายิ้มได้.... ริมฝีปากอิ่ม .... จมูกเล็กๆที่เชิดรั้น....
ทุกอย่างมันแนบลงมาใกล้ ....
..
.
.
คำว่ารักถูกถ่ายทอดเป็นการกระทำ ..
.
.
.
ริมฝีปากเย็น ซับจูบ บนรอยหยักของริมฝีปากอุ่น....อ้อยอิ่ง และเนิ่นนาน ปลายนิ้วเย็นค่อยๆไล่ปลดกระดุม ของร่างใหญ่ที่นอนนิ่งทีละเม็ด  คำว่ารักค่อยๆสัมผัส ผ่าน ภาษากาย...
รักมีมากมายแค่ไหน จะถ่ายทอดให้รับรู้ทั้งหมด....
..
.
.
อะตรอม เม้มริมฝีปากตัวเองแน่น เมื่อความเย็นเฉียบของโพรงปากค่อยๆ ครอบลงแกนร้อน เสียวซ่านแต่ทุกข์ทน ...น้ำตามันไหลลงมา เมื่อสติรู้ทั้งรู้ว่าความสุข ตรงหน้าจะจบลง ด้วยความทรมานไม่รู้จบ ....

...เย็นเฉียบ...กับทุกสัมผัส ....ของความรู้สึก ....     

..
.
.

หวานขื่นกับรสชาติของริมฝีปากที่พรมจูบ อย่างดูดดื่ม ...หวานขื่นกับสัมผัสแสนทรมาน ....หวานขื่นกับ ปลายลิ้นที่ไล้เลียปรนเปรอร่างกาย .........ผลของคำสาปส่งสินะ...ที่ทำให้ตอนนี้ตนเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ ... อยากโอบกอด อยากสัมผัส อยากทำให้รู้ว่ารักแค่ไหน ....แต่...สุดท้ายทุกอย่างก็แค่นั้น ...

ความรักที่ภินทร์มอบให้ มันก็เหมือนกับความรู้สึก ....สุขสมในสัมผัส แต่ทรมาน กับการรับรู้ทั้งเห็น ทั้งรู้สึก ... แต่ไม่อาจจับต้องได้ ...
...
.
.
"อะตรอมรักเราไหม?"

คำถามมีมาหลังจากที่ โพรงปากนั้นหลุดจากการรูดครอบแท่งเนื้อใหญ่ ....

"...รัก...ยังรักและจะรักตลอดไป...ไม่ต้องไปกับใครได้ไหม? เรายอมทรมาน ยอมเป็นอยู่อย่างนี้ก็ได้ แค่ ภินทร์อย่าไป...ได้ไหม?"

เช่นเคยที่มันไม่มีคำตอบ... นอกจากรสแห่งสัมผัส...มือเย็น แทรกปลายนิ้วเข้าเกาะกุมมือใหญ่แล้วกำไว้แน่น  ...
...
.
อ้อมกอดที่แสนเหน็บหนาว ..
.
.

"....เราจะพยายามกลับมา ...ไม่สัญญา แต่จะพยายาม....อะตรอมรอเราได้ไหม?....เรา ไม่ได้ขอหรือบังคับให้รอนะ ....แต่เราจะขอให้นายมีชีวิต ...จะเพื่อเราหรือเพื่อใครก็ช่างเถอะ และถ้าวันไหนนายท้อเกินไป ....นายจะเลิกรอก็ได้นะ...อะตรอม....ไม่รู้สิ...อาจจะน่าเกลียดเกินไป ที่จะบอกว่า ถึงนายตามเราไป เราก็ไม่มีที่ให้นายยืน...แต่มันก็คือเรื่องจริง...เราเลือกพระแพงแล้ว ...ที่ตรงนั้นที่ข้างๆเราเป็นของพระแพงไปแล้วอะตรอม...เข้าใจเรานะ.... แล้วสักวัน...วันไหนที่เรามีโอกาสที่จะเลือกเองอีกครั้ง เราจะเลือกนาย ...เพราะงั้น...จงมีชีวิตเพื่อรอ ถ้าอะตรอมรอไม่ได้ สักวันถ้ากลับมา เราคงไม่ได้เจอกัน เพราะอย่างนั้นถึงได้บอกให้มีชีวิตรอ ?....."

...
.
.
.
.

***


แสงแดดยามเช้า .....มาพร้อมกับละอองน้ำชื้น ......

เด็กหนุ่มร่างใหญ่ ยังนอนร้องไห้ อยู่บนกอหญ้าและพื้นดิน .....เพียงลำพัง
...
.
.


***


ส่วนเด็กหนุ่มอีกคน .....กำลังสำรอกเมือกขุ่น แล้ว ร้องไห้ในใจเงียบๆ คนเดียว .....
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 15-10-2012 21:35:22
 :o12: :o12: :o12:

เข้ามาเพื่อร้องไห้เนี้ยน่ะเรา
เห้อ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-10-2012 22:02:00
เฮ้อ เจ็บจริงอะไรจริง แล้วจะเป็นงัยต่อล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 15-10-2012 22:21:33
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ ขอบคุณจริงๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 16-10-2012 02:58:08


    อย่างเศร้าง่า คนหนึ่งที่กะลังจะจากไป กะอีกหลายคนที่จะต้องเจ็บ
    แต่ยังไงก็เลือกที่จะทำอย่างนั้นสินะ ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็เถอะ
    ถ้าคนหนึ่งเหนื่อยที่จะวนเวียนเจอเรื่องร้ายจนยอมทำทุกอย่างให้มันจบได้
    แล้วคนที่ได้แต่เฝ้ารอมานานแสนนานจะมีวันเหนื่อยที่จะรอไหมนะ
    ก็หวังว่าการรอคอยครั้งนี้มันคงไม่นานเกินไป
    แล้วคราวนี้เป็นตาเสือน้อยที่จะเจอการลาจากแบบไม่ได้ร่ำลารึเปล่า
    ถ้าจริงก็ถือว่าชดใช้ให้ใครอีกหลายๆคนไปเถอะ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 16-10-2012 12:32:22
เศร้านะ แต่ยังมีความหวังหล่อเลี้ยงอยู่
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 16-10-2012 13:52:12
"ข้างล่างเป็นทะเล...ส่วนข้างบน..เขาเรียกทะเลดาว...."

แต่รอบๆตัวเรา...โอบล้อมด้วยทะเลน้ำตา





เมือกเหลวสีขุ่น ทะลักออกมาตามง้ามนิ้ว>>>ง่าม
ตามด้วยเสียงสำลอก >>>รอก
ภาพอันไม่น่าพิศมัยในความรู้สึก...  เด็กหนุ่มยืนมองตนเองเปลื่อยเปล่า>>>พิสมัย   เปลือย
คงเป็นเพราะยังไม่ตื่นเต็มทีใช่ไหม>>>ที่
ปีหน้านายก็จะไปดูเล่นเล่นโขนไง
ยังหนาวไม่เท่า ความรู้สึกใจจิตใจ>>>ใน
ไม่ยากให้มันต้องจบแบบนี้>>>อยาก
คำว่ารักถูกท่ายทอดเป็นการกระทำ>>>ถ่าย
ริมฝีปากเย็น ซับจูบ บนรอยยักของริมฝีอุ่น>>>หยัก 
รักมีมากมายแค่ไหน จะท่ายทอดให้รับรู้ทั้งหมด>>>ถ่าย
เมื่อความ ความเย็นเฉียบของโพรงปาก
หวานขื่นกับ ปลายลิ้นที่ไร้เลีย>>>ไล้
ที่ทำให้ตอนตนเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้
ไม่รู้สิ...อาจจะน่าเกียจเกินไป>>>เกลียด
ถ้าอะตรอมรอไม่ได้ ซักวันถ้ากลับมา>>>สัก
ส่วนเด็กหนุ่มอีกคน .....กำลังสำลอกเมือกขุ่น>>>รอก
 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 16-10-2012 20:02:31
มันจะดร่าม่าเกินไปแล้วนะ :z3:
อ่านไปน้ำตาซึมไป
สงสารอะตรอมมากถึงมากที่สุดอ่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 77 Somewhere I belong. 15/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 16-10-2012 20:42:27
ไม่รู้จะสงสารใครดีเลย มีแต่ช้ำกับช้ำ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องโทษพระแพงคนเดียว
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 18-10-2012 23:07:55
บทที่ 78   Pilot out


รอยยิ้มพราวฉาบอยู่บนโครงหน้างาม เส้นผมสีดำสนิทยาวไหลลู่จากแผ่นหลังไปถึงลำน้ำสีครามที่กระเพื่อมเป็นวง หยาดน้ำตาแห้งไปนานแล้วเมื่อสัมผัสได้ถึง รักที่เคียงข้าง ...ใต้ผ้าแพรสีชาดเด็กหนุ่มนอนทอดร่างอย่างสงบนิ่ง .... ครึ่งร่างจมลงทะเลสีคราม อีกครึ่งโผล่พ้นเพียงเหลือไว้ซึ่งลมหายใจแผ่ว...

พะเตรียง  ช้อนศีรษะร่างนั้นขึ้นมา ไว้บนตักตน ริมฝีปากสีสดค่อยๆเอ่ยเอื้อนทำนองเพลงหวาน ขับกล่อม ....ปราณ แห่ง ภังคียะ อันหลับใหลยินยอมจักสถิตเคียงข้างตน ณ ทะเลน้ำตา ...หากแต่มิยอมลืมตาตื่น .... ไม่รู้ว่าจักสุขสม ฤ ทนทรมาน กับท่าทางเย็นชา แต่อ่อนโยน ....

ครานี้พะเตรียงยอมรับความปราชัย ....เมื่อตนได้แต่เพียงปราณแห่งร่าง หากมิได้ จิตใจ ที่เลือก สถิตข้าง สุรนาม มหินทรา...เท่านั้น ....

ปลายนิ้วเรียว ไล้ลูบสันจมูกเชิด ลงไปถึงริมฝีปากอิ่ม ช่างเจรจา ที่บัดนี้ปิดเงียบ....น้ำตา สีครามหยดลงใบหน้าตนรักผู้หลับไหล...ก่อนริมฝีปากสาวงามจักเอ่ยคำ.....

'...ข้าเจ้าจักมิยอมพ่าย...มิว่าจักผ่านกาลไปนานเท่าไหร่...ข้าเจ้า...รอองค์มาจนมิอาจนับกาลที่เลยผ่าน ....เพียงเพื่อคำรักที่องค์จักเอ่ยมาจาก ก้นบึ้งของหัวใจ...องค์เจ้าขา... องค์ทราบไว้เถิด....ข้าเจ้าจักมิยอมจบ...จักมิยอมให้มันตนใดได้องค์ไป...ไม่ว่าจักเป็นร่างกาย หรือวิญญาณ.....ข้าเจ้าจักมิยอมให้มันตนใดได้องค์ไป.... '
..
.
.
.
.

วงแขนเนียนโอบกอดร่างเด็กหนุ่มไว้แทบอก นางร่ำไห้แล้วร่ำร้องทำนองหวานหู .... มิหวังให้ร่างนั้นลืมตาตื่น เพราะมันคงมิมีวัน ....หากแต่หวังเพียงทำนองหวานจักปลุกให้ปราณร่าง รับรู้บ้างว่า คนรอเฉกนางเอง....ก็ทรมานมิต่างกัน...
.
.
.
.


***


ภัทรสะดุ้งเฮือกเมื่อแสงจันทร์นวลส่องตา .....เลื่อมเกล็ดสีวาว ค่อยๆเลื้อยลากใต้เตียงไม้  ก่อนร่างชะลูดจะชูชันลำตัวให้ตั้งตรง เสมอ เจ้าของห้องที่กึ่งนอนกึ่งนั่งบนเตียง....

"....องค์ภังคียะ ...มอบปราณแห่งร่างให้ แม่หญิงแล้ว....แล้วเดรัจฉานเยี่ยงท่านเล่า ? มิคิดจักคืนร่างกาย ให้นางกระนั้นรึ? ....ภัทร.... พลำ...."

เสียงเย็นยะเยือกลอดออกมาจากคมเขี้ยววาว .... ภัทร ปาดเหงื่อตัวเองก่อนระบายลมหายใจที่ติดขัดด้วยน้ำเมือกข้น ...อสรพิษนามจามรินท์ หาได้สร้างอันตราย ...เมื่อ...นาง...เพียงแค่มาเตือน

"มหินทรา ยินยอมกระนั้นรึ ?  ข้าหลงนึกว่าองค์ภังคียะจักดึงเกมให้เนิ่นนานกว่านี้ ..."

"หาได้ยินยอมเฉกวิสัยเดิม... หากแต่จักทำสิ่งใดได้ เมื่อ องค์ภังคียะ ยืนยันว่าจักเคียงข้างนาง หาใช่องค์..."

"ข้า...เป็นผู้ตกลงกับภังคียะเอง... ข้าเป็นผู้วางแผนการณ์เอง หากแต่มินึกว่า ภังคียะจักมิคิดยื้อเพลาสถิตเคียงมหินทรา ...ให้ยาวนานกว่านี้ ..."

"การสถิตเพียงเพื่อรอจุดจบ มันทรมานนะเจ้าคะ...เดรัจฉานเยี่ยงท่านคงมิรู้สึก...."

น้ำเสียงเย้ยหยันอยู่ในที แววตาสีวาวหลุบต่ำแล้ว เค้นเสียงเจรจา ....

"นาง...อยากได้ทุกสิ่งแห่งองค์....ข้าเจ้ามาเตือนว่า 'ทุกสิ่ง' ....ทุกสิ่งที่หมายรวมถึงกายเนื้ออันเป็นเปลือกของท่านด้วย ภัทร พลำ......เพลา....มีมิมากแล้ว ....พลำท่าน..."
.
.
.
.


***

"อเล็กซ์.....นายคิดว่าตรินทร์ทำงานเป็นไงบ้าง?"

กำลังขับรถกลับจากดูงาน จู่ๆคู่หูก็พูดแทรกความเงียบออกมา เล่นเอาวิศวกรร่างยักษ์ เสียหลักขับแฉลบไปนิดนึง... อเล็กซ์ เบ้ปากเมื่อคิดไปถึง ตรินทร์ ...หญิงสาวที่คู่หูพามาฝึกงาน ทั้งสอนทั้งเทรน ...เทรนอย่างกับว่าจะให้มาแทนตัวเอง

"ก็ดี ...ลุยงานดี แต่บ้าบิ่นไปหน่อย เหมือนผู้ชายไม่เหมือนยู...เจ้าเล่ห์ไม่เท่ายู ... อ้อนลูกค้าเก่งไม่เท่ายู ...ยิ้มไม่เก่งเท่ายู.."

"...ไอฝาก ตรินทร์ด้วยสิ..."

ประโยคสั้นๆหยุดการพล่ามยาวของเพื่อนช่างจ้อไว้แค่นั้น ... อเล็กซ์ขับรถเข้าข้างทางแล้วดับเครื่องหันไปหาเด็กหนุ่ม ...แววตาขี้เล่น...กลายเป็นแววตาเลื่อนลอยไปแล้ว ...แล้วก็ไม่ต้องคาดคั้นอะไร เมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยปากอีกครั้ง...

"...ดันตรินทร์ให้ขึ้นตำแหน่งแทนไอ ....ให้เด็กนั่นอยู่ได้ด้วยตัวเอง ..."

"ทำไม? ยัยผู้หญิงนั้นข่มขู่ยู เหรอ ไอช่วยยูได้นะ... ภัทร "

"...ไอติดหนี้เด็กนั่นอยู่ ...หนี้มหาศาลเลยละ..."

"แล้ว?"

"ไอกำลังจะตาย...."

คำนั้นหลุดปากออกมา อเล็กซ์ชาวาบไปทั้งตัว แววตาที่จ้องมองมา มันเศร้าจนบาดเข้าไปในความรู้สึก ...

"ล้อเล่น!!! บ้า!! ใครจะรู้วันตายตัวเอง ขับรถเลยไป ไอแค่อยากพักเท่านั้นละ ...ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก...แค่ฝากผู้หญิงคนเดียวให้นายดูแล ...ทำไม่ได้หรือไง ครับ? "

"...ก็ผู้หญิงที่นายว่า มันหมัดหนักนี่หว่า ภัทร ..."

พลขับยังอดบ่นอุบไม่ได้เมื่อนึกถึง ตรินทร์ ที่ ภัทรฝากฝัง .... เขาถอนหายใจแล้วสตาร์ทเครื่องรถขับไปต่อ ระหว่างทางยาว อเล็กซ์ไม่ได้พูดหรือถามอะไร ... เมื่อคู่หูตนนั่งเงียบ ...เงียบจนอเล็กซ์อดคิดไม่ได้ว่า....
.
.
.
.
ที่ ภัทร บอก ....มันแค่อำขำๆ ....หรือเรื่องจริง กันแน่ ...








หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Ciaran ที่ 19-10-2012 00:00:50
เพิ่งตามอ่านค่ะ ทั้งเรื่องนี้แล้วก็กาลกีรตี ตอนล่าสุดนี่อ่านแล้วงงๆ ไศรพมหินทร์ ไม่ใช่เอลหรอกเหรอคะ หรือเป็นชื่อตำแหน่ง แล้วจามรินทร์ที่มาเตือนนี่ คนเดียวกับแม่ของภัทรเจ้ารึเปล่าคะ หรือคนละคนแค่ชื่อซ้ำกัน
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 19-10-2012 00:14:08
เพิ่งตามอ่านค่ะ ทั้งเรื่องนี้แล้วก็กาลกีรตี ตอนล่าสุดนี่อ่านแล้วงงๆ ไศรพมหินทร์ ไม่ใช่เอลหรอกเหรอคะ หรือเป็นชื่อตำแหน่ง แล้วจามรินทร์ที่มาเตือนนี่ คนเดียวกับแม่ของภัทรเจ้ารึเปล่าคะ หรือคนละคนแค่ชื่อซ้ำกัน
V
V
V
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเน้อ  เรื่องนี้ปราบเซียนยิ่งกว่า กาลฯ อีกอะตั้งใจอ่านนะ มากอดที +เป็ด กับ+โหวต ปิดปาก .....อ้าวไม่ทันแล้วหรอ 55555+++ โทษทีช่วงนี้เบลอๆใกล้ฤดูลอกคราบ....แก้ให้แล้วเน้อ....ไศรพมหินทร์ เป็น เอล ของกาลกีรตี ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนที่เกี่ยว คือ มหินทรา สุรไร้พ่ายแห่งสุรโภคนคร  ส่วน จามรินทร์ เป็น ชื่อตำแหน่ง....หญิงนางในเชื้อสายนาคาที่สามารถเข้าออก พันธศิลานิลได้  ส่วนอเล็กซ์นี่เพื่อนวิศวะกรของ ภัทร พลำ คนชื่อโหล ไม่ใช่ เอล
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Ciaran ที่ 19-10-2012 00:16:38
รับทราบค่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 19-10-2012 00:26:08
อ่านนี้แล้ว น้ำตาปริ่มๆ เจียนจะไหลออกขอบตา
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-10-2012 01:33:36
ไม่รู้จะสงสารใครล่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 19-10-2012 04:20:53



    เค้าแสดงออกชัดขนาดนี้แล้ว เจ๊พะเตรียงยังไม่เลิกตื๊ออีกนะ
    ความฝังใจของหญิงสาวนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ
    หนูุภังคียะไปแอบวางแผนกะเจ๊พลำตอนไหนเนี่ย
    แต่ทุ่มกันขนาดนี้แล้วก็คงต้องรอดูว่าแผนจะสำเร็จรึเปล่า
    ก็ไม่มีห่วงอะไรแล้วนี่ กะอะตรอมก็ร่ำลาแล้ว ส่วนตรินทร์ก็ฝากฝังซะเรียบร้อยแม้คนรับฝากจะไม่ค่อยอยากจะรับก็เถอะ
    สงสัยจะเตรียมดับเครื่องชน
    อ๊ะ!! ลืมไปคน แล้วคุณหมอสมิงล่ะ ยังไม่ได้ลาเลยนี่
    เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ หรือจะไม่เอ่ยลาจริงๆกันแน่นะ



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 19-10-2012 10:26:55
ถ้าพลำให้ร่าง แล้วพลำจะตายมั้ย หรือว่าหาร่างใหม่อยู่ได้ป่าว
ถ้าตาย ก็สงสารหนูโฟร์ทเนาะ

อยากอ่านคู่ตรินทร์บัฟด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 19-10-2012 10:43:40
ถ้าพลำให้ร่าง แล้วพลำจะตายมั้ย หรือว่าหาร่างใหม่อยู่ได้ป่าว ถ้าตาย ก็สงสารหนูโฟร์ทเนาะ อยากอ่านคู่ตรินทร์บัฟด้วยอ่ะ
V
V
V

คุณแฟน ตัวเบลอตามเขาหรอ? พลำเรื่องนี้เป็นของพี่เสือเขา ไม่ใช่ของโฟร์ท ผิดฝาผิดตัวแบบนี้ เดี๋ยวก็ไดนขย้ำหรอก
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 20-10-2012 11:00:50
เฮ้อออ  คนเรา เขาไม่รักก็ยังจะดันทุรังดื้อดึง แบบนี้นะมันรักตัวเองมากกว่าแล้ว
ได้มาแล้วสุขไหม?? ตัวเองทรมานเสียใจเป็นคนเดียวหรือไง อย่ามาอ้าง!!



ครึ่งร่างจมลงทะลเสีคราม>>>ทะเล
พะเตรียง  ซ้อนศีรษะร่างนั้นขึ้นมา>>>ช้อน
ภังคียะ อันหลับไหล>>>ใหล
น้ำตา สีครามหยดลงใบหน้าตนรักผู้หลับไหล
ก่อนร่างชลูดจะชูชันลำตัวให้ตั้งตรง>>>ชะลูด
แล้วเดรฉานเยี่ยงท่านเล่า>>>เดรัจฉาน
ข้าหลงนึกว่าองค์ภังคียะจักดึงเกมส์ให้เนินนานกว่านี้>>>เกม  เนิ่น
เล่นเอาวิศวะกรร่างยักษ์>>>วิศวกร
พลขับยังอบบ่นอุบไม่ได้เมื่อนึกถึง>>>อด
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-10-2012 13:30:45
รอจ้า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 21-10-2012 12:11:05
V
V
V

คุณแฟน ตัวเบลอตามเขาหรอ? พลำเรื่องนี้เป็นของพี่เสือเขา ไม่ใช่ของโฟร์ท ผิดฝาผิดตัวแบบนี้ เดี๋ยวก็ไดนขย้ำหรอก

เออ ใช่ ผิดเรื่องจริงด้วย กั๊กๆๆๆ มึนแล้วตู โทษทีนะพี่เสือ แฮ่ๆ แบบว่าใจมันคิดถึงแต่คัพดีน้องเขาอ่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: MonaLis ที่ 24-10-2012 02:31:11
มึนมึน เบลอเบลอ  :really2:
อ่านเรื่องนี้ตอนห้าทุ่มสี่สิบค่ะ เพิ่งจบตอนตีสองยี่สิบ =_______=

เอาตรงๆ คือบางตอนอ่านละเอียด บางตอนไม่ค่อยอยากอ่าน ก็ข้ามมมม ข้ามมม ไป 55555555 5
อ่านทีแรกๆ เราก็นึกว่าตรินทร์กับโฆเป็นตัวเอก  :เฮ้อ:
แต่ที่ไหนได้ = = เป็นภัทรที่เป็นตัวเอก..ซะงั้นงะ ฮ่าาาาา..

ชอบคู่ตรินทร์โฆอะ.. คือขอสารภาพได้ป้ะ?
เรานึกว่าตรินทร์เมะ อ๊าซซซซ  :z3:  :z3:
ก็ยังนึกว่าเมะมาตลอดนะ จนมาแบบ.. เม้นต์อื่นก็ว่าตรินทร์เคะ.. ไอ้เราก็เอ๊ะ.. มันไม่เมะเรอะ?  :z3:

โอเค.. โฆเมะก็ได้ ฮึ่ยยย ย!

ชอบคู่ตรินทร์โฆงะ  :o8:
แต่เป็นคู่ที่บทน้อยซะเหลือเกิน = = (นั่นเป็นเหตุผลที่เราอ่านข้ามนะ เพราะอยากอ่านตรินทร์โฆ 55555 5)

สำหรับเนื้อเรื่อง เอาเป็นว่าอ่านมีงงบ้าง(เพราะอ่านไม่ละเอียดเองบวกมึนด้วย)
มีเข้าใจบ้าง แต่ก็ยังไม่ถือว่าเข้าใจมากจนพอเดาเนื้อเรื่องได้
แต่ก็ยังมีงงอยู่ (เอ๊ะ..ยังไง)

สงสัยในตัวโฆ -3- รู้สึกนางจะเป็นตัวละครที่ไม่มีปูมหลังในอดีตปะคะ?
(มีอะไรอยากถามหลายอย่างนะ แต่กลัวปล่อยไก่ กร๊ากกกกกกก)

ละก็แอบงุนงงกับตรินทร์นิดหน่อย ว่านางเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ (นอกจากตอนต้นๆ เป็นคู่หมั้นของพระแพง)
คือแบบ =3= ไม่รู้งะ อธิบายไม่ถูก 5555555 5

เม้นต์นี้ยาวพอละเนอะ เกรงใจคนอื่นเขา (จริงๆ อยากต่ออีกหน่อย = =)
เป็นกำลังใจให้ค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาาา

คนแต่ง TT ตกลงตรินทร์เคะจริงๆ เรอะ? (ยัง ยังไม่จบ 5555555555555 5)


Ps. นี่ถึงครึ่งเรื่องยังอะคะ? ฮ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 24-10-2012 11:33:03



     เม้นต์บนอ่านเร็วมากๆเลยงับ
     เราอ่านรอบ 2 ยัง 2 วันเลยนะนั่น
     ตรินทร์ต้องเคะสิ ไม่งั้นจะเป็นแม่ให้ภินทร์ได้ไง ^ ^



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 24-10-2012 13:08:56
V
V
V
เม้นท์บนอ่านแต่ตอน ตรินทร์+โฆ ซันชา  :m20:
 
      ง่า. . . หนูภังคียะออกจะน่ารัก โดนทอดทิ้งอย่างนี้ก็น่าสงสารแย่สิ กระซิกๆ


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: MonaLis ที่ 26-10-2012 19:05:18
 :o8: ตรินทร์ก็แมนอยู่นะ
 :laugh:  :laugh:  :laugh:

อ่านทุกคู่นะคะ แต่ไม่ค่อยละเอียดมาก เอาว่าพอรู้เรื่อง  :laugh:
วันนั้นรู้สึกเพิ่งจะตามแก้เอฟเสร็จหมาดๆ แบบมึนๆ ฮ่าาา..

รอตอนต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Lisnary ที่ 08-11-2012 03:54:43
กระซิกๆ อ่านเพลินเลย
ไม่น่าเร่งอ่านตามให้ทันเลย  :z3:
น่าจะเก็บๆไว้อ่านอีกเรื่อยๆ  แต่ใจเจ้ากรรมไม่ทำตาม มือ ตา สมอง ก็สมยอม(มันหยุดตัวเองไม่ได้) :m29:
แล้วทีนี้จะทำไง นอกจาก ค้างงงงงงงงงงง :a5: กะซิกๆ(อีกรอบ)   
ถึงตอนนี้ก็ทำได้แค่รอคนแต่งเอาตอนต่อไปมาสอยเค้าลงไปแล้วหละ อิอิ

ปล.เค้าชอบอะตรอมกะภินทร์ม๊ากมาก มันบีบหัวใจเหลือเกินคู่อื่นๆก็พอกัน
จนตอนนี้เค้าคิดว่าเค้าเป็นมาโซทางใจรึป่าวหว่า อิอิ :m21:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 30-11-2012 17:03:52
อ่านแล้ว มึนได้โล่จิงๆ เรื่องนี้ :z3:

ภัทรกับภินนี่ตอนแรกคือคนๆเดียวกันหรอ หรือไม่ใช่ งงอยู่ๆภัทรมาได้ไง

แล้วร่างผู้หญิงที่ตินอยู่ตอนนี้ คือร่างภินหรอ หรือเรางงคนเดียวหว่า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 13-12-2012 09:04:07




     หันซ้ายหันขวา
     คุณคนแต่งเค้าหายไปไหนนะ
     ชะแว้บไปเล่นเกมดีก่า



หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 78 Pilot out .18/10/55
เริ่มหัวข้อโดย: Tuna Omega ที่ 18-12-2012 07:37:18
ตามมาจากสาป รากไทร....เรื่องนี้มันสุดๆ อ่านแบบนอนสต๊อปสองวัน ทดปริศนาไว้ในใจเพียบ รอเฉลย

สนุกมาก....มาต่อด่วนๆนะจ๊ะ.....จุบุจุบุ

เป้าหมายต่อไประหว่างรอ กาลฯ......
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#นับถอยหลังสู่บทสรุปและจุดเริ่มต้นใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 27-12-2012 22:26:11
กำลังจะนับถอยหลังแล้วสำหรับ >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!

ไม่สปอยว่าเรื่องราวจะเป็นไปแนวไหน เมื่อ ภินทร์เลือกที่จะจบทุกอย่างโดยการทิ้งวิญญาณไว้ที่ พระแพง  ตรินทร์ที่ตอนนี้อยู่ในร่างของภัทร และ ภัทร ของหมอที่รู้ชะตากรรมตัวเองดี ว่าจุดจบมันอยู่ตรงไหน ...

การเดิมพันที่หวังเพียงอนาคตที่ยังเลือนราง ...

.
.
.
.









สปอย ซีซั่น 2 ดีกว่า เหอเหอเหอ....







   Romeo X Juliet [17 VS. 39] เด็กกว่าแล้วไง ??




...สายลมมันพัดผ่าน...ความฝันเดิมที่ซ้ำซาก ..ลำน้ำสีครามที่โอบล้อม..กว้างสุดสายตา...นี้เป็นที่ของผม ที่ๆมีแค่ผม ...มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ฝันอันแสนอ้างว้าง...
ไม่มีใคร ....ไม่มีใครสักคน...

‘ภินทร์’

เสียงทุ้มที่ฟังดูอบอุ่น...ปลุกสติผมให้ลุกขึ้นมองหาเสียงจากแขกแปลกหน้า ...
.…ครั้งแรกที่ผมอยู่ที่นี่แล้วมีคนอื่นเข้ามา...
.
.
.
อ้อมกอดที่โถมเข้าใส่ รัดจนแน่น ...
กอดที่แสนอบอุ่น...ไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจหรือเสียใจ ...
....กอด ที่ถ่ายทอดทุกความรู้สึก...

คิดถึง..
ห่วงใย..
รัก..
โหยหา..
.
.
แต่มันไม่ใช่....
.
.
.
ของผม....
.
.
.
ไม่ใช่...ผม ...
.
.
.

คนที่เขาเรียกหา...
.
.
.
....มันไม่ใช่ผม....




**
'อะตรอม.'

น้ำเสียงและสำเนียงที่คุ้นหู นานแค่ไหนที่ไม่ได้ยินใครเรียกชื่อนั้น?
มันคงจะนานพอๆกับการสูญเสีย...
แรงโถมที่โผเข้ามากอดรัดทำเอาร่างใหญ่ของชายหนุ่มชาเกร็งไปทั้งร่าง  กลิ่นหอมที่คุ้นเคย ไออุ่นที่โหยหา แต่พอเขาเอื้อมมือจะโอบกอดเจ้าของร่างนั้นเอาไว้ คนๆนั้นกลับค่อยๆจางหายไป...
..อ้อมแขนใหญ่มีแต่ความว่างเปล่า ...
.
.
.
..อีกคืนที่ชายหนุ่มลืมตาโพล่งหอบหายใจแรง หัวใจเต้นเร็วพอๆกับเม็ดเหงื่อที่พร่างผุดขึ้นทั่วใบหน้า จนท้ายที่สุดมือใหญ่ก็เอื้อมคว้ากรอบรูปที่วางอยู่บนหัวนอน ...
คนในรูปถ่าย ยังยิ้มให้เหมือนกับทุกครั้ง ...
ภาพเด็กหนุ่มขี้เล่นกำลังจูบกับเด็กหนุ่มร่างใหญ่อีกคน...สายตาที่ท้าทายกล้องและแฟลต สายตาที่เหมือนจะยิ้มได้....ปลายนิ้วแกร่งไล้ลูบไปที่ใบหน้าเด็กหนุ่มนั่น...
.
.
ก่อนที่..
.
.
ชายหนุ่มจะกอดรูปนั้นไว้แน่นแล้วคำรามร้องอย่างทรมาน ....


***
"เฮ้ยลุง!!  ผมชอบลุงอะ...ไม่สิ เรียกว่า รักแรกพบเลยดีกว่า ...คบกับผมนะ ผมชื่อ..."
.
.
.
"ว๊ากกกกกกกกกกกกก!!"

ยังพูดอะไรไม่ทันจบ เด็กหนุ่มก็โดนผู้ใหญ่ร่างยักษ์จับโยนออกมาจากร้านต้นไม้แล้ว...ใบหน้าขี้เล่นเหย่เกด้วยความเจ็บระบม มือเล็กลูบก้นตัวเองที่กระแทกฟุตบาท พร้อมบ่นอุบ..
.
.
.
 

***


ร่างโปร่งของเด็กหนุ่ม พยุงตัวเองขยับขึ้นมาเกยทับบนร่างใหญ่ แผงหน้าอกกว้าง ระอุร้อนไปด้วยไออุ่นของร่างกาย  ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ลงบนโครงหน้าเข้ม หนวดเคราเขียวจางยิ่งส่งให้ใบหน้านั่นดูน่าเกรงขาม เด็กหนุ่มใช้แรงยันกายตัวเองขึ้นมานั่งทับบนช่วงกลางตัวร่างใหญ่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อ ปลายนิ้วเรียวค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตคนเมาออกทีละเม็ด จนเห็นแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม มือเย็นไล้ลูบไปทั่วแผ่นอก พร้อมๆกับที่ปลายจมูกรั้นกดลงบนโครงหน้าเข้ม ไซ้ซบกับสันกรามและเคราเขียว  ก่อนจะไล่เรื่อยมาถึงใบหู มือใหญ่ของคนไร้สติ เผลอโอบกอดเจ้าของสัมผัสหวามนั้นไว้แน่น อารมณ์ร้อนค่อยๆทวีขึ้นตามรสจูบที่หนักหน่วง ระคนเสียงหอบหายใจและเสียงครางกระเส่า..
.
.
.

"...ภินทร์..."

..เสียงทุ้มพร่าเรียกชื่อนั้นอย่างโหยหา ...
ลิ้นร้อนของคนตัวใหญ่ สอดรุกเข้ามาในโพรงปาก จูบร้อนที่เว้าวอน และรุนแรงไปด้วยความต้องการ  ....
เด็กหนุ่มหยุดทุกอย่างก่อนจะดันตัวเองออกมาจากอ้อมแขนใหญ่...ริมฝีปากอิ่มกัดขบเข้าหากันจนเจ็บระบม ..เสียงครางที่เคยหลุดออกมากลายเป็นเสียงสะอื้นไห้...ที่อดทนกักไว้ในลำคออย่างยากเย็น...
.
.
.
ดวงตาวาวสีแปลก จดจ้องคนร่างใหญ่ที่ไร้สติ...มือเย็นไล้ลูบโครงหน้านั้นแล้วซบแก้มตนลงไปกับกับแก้มสาก..ริมฝีปากอิ่มคลอเคลียอยู่ที่เรียวปากหนา หยดน้ำตาใส ค่อยๆหยดลงบนใบหน้าเข้ม และแผงอกแกร่ง ..มีบางอย่างที่ทำให้อึดอัด แม้จะสูดหายใจเข้าเต็มปอดแต่เหมือนกับไม่มีออกซิเจนเข้าไปเลย สมองตอนนี้เหมือนจะเริ่มตัดสวิตซ์ ที่นี้ไม่ใช่ที่ของตน เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว ดวงตาวาวค่อยๆมองสำรวจไปทั่วห้องกว้าง ทุกมุมมีแต่รูปของเขาคนนั้น รอยยิ้มที่คล้ายกัน แต่มันก็แค่คลาย ที่นี้ไม่ใช่ที่ของเขา ...รูปนั้นไม่ใช่รูปของเขา ..ทำไมเพิ่งมาคิดตอนนี้ ??

ยิ้มเยาะให้กับความดื้อรั้นของตัวเองที่สำคัญตัวผิด เด็กหนุ่มค่อยๆสูดหายใจยาวและยันตัวเองออกมาจากแผงอกกว้าง... ไม่มีสักครั้งที่ริมฝีปากหนา ของคนเมาจะเรียกชื่อเขาตรงๆ ...ไม่เคยเลย...สักครั้ง....
.
.
.   

"..ขอโทษนะ..ผมไม่ใช่ ...ไม่ใช่..เขาคนนั้นของลุงหรอก..."
.
.
.


***


.
.
.
"...ป๊ะ...ผมเอง...อีกชั่วโมง...อีกชั่วโมง ป๊ะเจอผมที่สนามบินแล้วกัน ...ผมจะไปเรียนต่อญี่ปุ่นกับอาจรินทร์...ครับ พาส์ปอร์ตอยู่ที่ผมแล้ว ...ผมตัดสินใจแล้วป๊ะ...ไม่หรอกไม่เกี่ยวกับบั๊พ ผมแค่เพิ่งคิดได้ ...เพิ่งคิดได้ว่าตอนนี้ผมไม่สมควรอยู่ที่นี้.."

เด็กหนุ่มบังคับเสียงตนไม่ให้สั่นแล้วกรอกเสียงไปยังปลายสาย วาวตาสีแปลกฉายแววไหวหวั่นระคนน้อยใจก่อนจะเงยหน้าที่คลอไปด้วยหน่วยน้ำตาขึ้น ให้น้ำตาที่เอ่ออยู่บนขอบตาที่ร้อนผ่าวไหลกลับไปยังที่เดิม ...
ใช่...
บั๊พพูดถูก... ผม...ไม่สมควรจะเจอลุงอีก ผม....ไม่สมควรอยู่ที่นี้..

...กระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่เคยคิดจะเอามาไว้ห้องนี้อย่างถาวร ถูกเด็กหนุ่มยกสะพายขึ้นบ่าอีกครั้ง ...ครั้งนี้มันคงต่างออกไป เพราะเขาสะพายมันออกไปเอง ไม่ได้โดนลุงยักษ์ไล่ หรือโยนออกไปเหมือนทุกครั้ง ..

ก้อนอะไรสักอย่างมันเหมือนมาจุกอยู่ที่ลำคอ อาการพะอืดพะอมที่แล่นลิ่วมารวมกัน สุดท้ายพอขึ้นรถแท็กซี่และบอกจุดหมายปลายทางที่สนามบินได้ ร่างโปร่งก็เริ่มต้นร้องไห้อย่างไม่อายใคร ...
.
.
ในสมองที่เคยอัดแน่นไปด้วยคำถามมากมายได้คำตอบให้ตัวเองในที่สุด...

'...แค่คุณภินทร์...ลุง รักแค่คุณภินทร์...มันไม่มีที่ว่างให้เด็กอย่างเขามาแทรกได้หรอก... ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน.. สุดท้าย.. ชื่อที่ลุงเรียกก็เป็นชื่อคุณภินทร์ ไม่ใช่ชื่อของ ไอ้เด็กกะโปโลอย่างเขา คนนี้ ... ลุง...ผมพอแล้วนะ ...ผมจะหยุดแล้ว...ผมจะไม่วิ่งตามลุงอีกแล้ว...จะไม่รัก...จะไม่คิดถึงลุง..อีกแล้ว '


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#นับถอยหลังสู่บทสรุปและจุดเริ่มต้นใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-12-2012 22:31:35
มีใครเพิ่มมาอีกล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#นับถอยหลังสู่บทสรุปและจุดเริ่มต้นใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 28-12-2012 01:22:16
โอ๊ะ  มีซีซั่น2ด้วย
ไอ้เราก็นึกว่าภินทร์จะแอบกลับมาเกิดเป็นลูกของตรินทร์กะโฆ แล้วค่อยมาหาอะตรอม
เอ๊ะ แต่ชื่อจรินทร์นี่คุ้นๆนะ งั้นแสดงว่าก็ไม่ใกล้ไม่ไกลกันเท่าไหร่อ่ะดิ o18 o18



สายตาที่ท้าทายกล้องและแฟลต >>>แฟลช
ใบหน้าขี้เล่นเหย่เกด้วยความเจ็บระบม>>>เหย
ยิ้มเยาะให้กับความดื้อรันของตัวเอง>>>รั้น
พาส์ปอร์ตอยู่ที่ผมแล้ว>>>พาสปอร์ต
 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#นับถอยหลังสู่บทสรุปและจุดเริ่มต้นใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 28-12-2012 16:21:03



     อาฮ่า มีต่อซีซั่น 2 ซะด้วย
     อะตรอมรอจนวัยวุฒิอำนวยให้ชาวบ้านเรียกลุงเลยเรอะ
     แล้วภินทร์ล่ะ หายไปไหน



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 79 ไม่ให้เตรียมใจ 29/12/55
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 29-12-2012 08:20:47
บทที่ 79  ไม่ให้เตรียมใจ 


....
"หมอ...ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า"

นั่นเป็นคำสั่งไม่ใช่คำขอแสดงความคิดเห็น เมื่อปลายเท้าเย็นของคนที่นั่งบนโซฟาสอดเข้าไปในสาบเสื้อของคุณหมอที่นอนดูโทรทัศน์อยู่บนพื้นปลายเท้าสะกิดแผงอกกว้างและลากต่ำลงไปยังจุดกึ่งกลางลำตัว ...
...ก่อนจะขยี้เบาๆ...


***

...

"ไม่ชวน ตรินทร์ งั้นหรือ ภัทร?"

พลขับหันมาถามตุ๊กตาหน้ารถที่ตอนนี้นั่งอมยิ้มพร้อมฮัมเพลงคลอไปกับเครื่องเสียงในรถ ... ที่ดูเป็นตุ๊กตาไปจริงๆเมื่อ คนที่นั่งข้างๆใส่หมวกหูหมีใบใหญ่  ตุ๊กตาไม่ได้ตอบอะไร นอกจากอมยิ้มแล้วหันไปหยิบแก้วชาเขียวที่เพิ่งแวะซื้อมาเจาะใส่หลอดแล้วส่งให้คนขับดื่มเพื่อปิดปาก...

รถคันเล็กขับไปเรื่อยจนเห็นแนวชายหาด...
กระจกรถถูกเปิดออกปล่อยให้สายลมค่อยๆพัดกลิ่นไอทะเลเข้ามา...ลมแรงเสียจนตุ๊กตาต้องจับหมวกใบใหญ่บนหัวไว้แน่น...
.
.
.

"หมอ...ภัทร ชอบชาเขียวมะลิ...ต้องเป็นชาเย็นด้วย ไม่ใส่นมด้วย ..."

"...ร้านประจำก็ต้อง XXX"

คนขับพูดประโยคต่อ...ปล่อยให้คนที่ฟังหัวเราะร่าด้วยความชอบใจ ..

"หมอ ภัทร อยากเลี้ยงหมา...เอาหมาที่วิ่งได้อุ้มได้ กอดได้ "

"บลูเทอเรียไง...บ้าพลังดี"

"เลี้ยงปลาด้วยนะหมอ ...ภัทร อยากเลี้ยงฟิชโช่..."

"กลับไปค่อยไปดูกัน...จะซื้อให้แต่นายต้องล้างตู้ปลานะ"

"หมอ...ภัทร ยังมีหนังสือที่อ่านไม่จบตั้งหลายเรื่อง..."

"ก็ค่อยๆอ่านดิ...ไม่เห็นต้องรีบ"

"หมอ...."

เสียงใสออดอ้อน หยุดลงแค่นั้น มือเย็นจะเอื้อมมาจับมือใหญ่ที่กุมคันเร่ง....

"....หมอ....ภัทร ขอ ตรินทร์นะ.... หมอปล่อยตรินทร์ไปนะ..."

"....ทำ....ไม??"

เสียงใหญ่สะกดคำพูดออกมาแทบจะไม่เป็นประโยค ...เมื่อสำนึกได้ถึงอะไรบ้างอย่างที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึง ....กลิ่นดินโชยฟุ้งเข้ามาในรถ สายฝนห่าใหญ่ตกกระทบหลังคารถจนหน้าปัดน้ำฝน เร่งความเร็ว ในขณะที่มือใหญ่ กำจิกพวงมาลัยรถแน่น...
เมื่อเพิ่งรู้ถึงความผิดปกติ...

"ปกติ...ภัทร เคยแต่สั่งหมอ...แต่ตอนนี้ ภัทร ขอร้องหมอ...ปล่อย ...ตรินทร์ไป..."

".....ถ้าเราบอกว่าไม่ล่ะ??"

"...หมอก็จะไม่ได้เห็น ภัทร อีก..."

"เราไม่ยอมให้ ภัทร ไป...ไม่มีทาง...ภัทรเป็นของเรา ...ไม่ใช่ของอีกาลีนั่น ..ไม่ใช่ของใครทั้งนั้น.."

คนขับยังสะกดอารมณ์ตัวเองไว้ สายตาแข็งกร้าวจดจ้องถนนเบื้องหน้าที่ทัศนวิสัยมัวไปด้วยสายฝน...เสียงฟ้าร้องดังก้องเป็นระยะ ในขณะที่ บรรยากาศข้างนอกเริ่มมืดลง...

"หมอ...."

"...."

"หมอเคยกินกุ้งเผาไหม? ชอบกลิ่นมันไหม?"

"..."

"...ภัทร ลืมไปแล้ว ..เปลือกกุ้ง...มันเป็นโปรตีน หรือเป็นแคลเซียม...? "

"....ภัทรหยุดพูด!!"

"...ต่อให้ตัดหัว..."

"ภัทร!!"

"...ต่อ...ให้โดนตัดหัวก็ไม่ตาย...ตัวประหลาดที่หมอชอบ....ต้องทำยังไงให้ตาย??"

"ภัทรหยุด!!"




'เอี้ยดดดดดดดดดดด!!!'




เสียงล้อรถเสียดบดไปกับถนน เพราะคนขับเหยียบเบรก เข้าไปเต็มแรงจนล้อมันปัดไปกับน้ำฝนที่ฉาบถนนไว้จนลื่น ... รถคันเล็กหยุดการเคลื่อนไหวได้เสียก่อนจะตกลงไปที่เชิงหน้าผา ....ที่จุดน่าหวาดเสียว ...

คนขับร่างใหญ่ หอบหายใจกำพวงมาลัยรถนิ่ง สายฝนยังตกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนลมแรงพัดเข้ามาในรถ สายลมกระโชก หมวกหมีหลุดมือไปไกล ..จนเจ้าของหมวกเปิดประตูรถ เตรียมจะวิ่งไปเก็บ...
.
.
.
อุ้งมือใหญ่ ...คว้าข้อมือเจ้าของหมวกไว้แค่นั้น อารมณ์ร้อนหยุดลงเมื่อ มือใหญ่ของคนขับ เอื้อมมาขยี้หัวทุยๆของเจ้าของหมวกแล้วขยับปากบอกว่าจะไปเก็บให้...
.
.
.
ร่างใหญ่ของคุณหมอวิ่งตามหมวกหมีที่ถูกแรงลมพัดไปติดกิ่งไม้ใหญ่ ห่างจากรถรถไปไกลอยู่ ....จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของคุณหมอก็ดังขึ้น...

แววตาเข้มหันไปหาอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ ...เงาลางๆที่เห็นในรถใครคนนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ..
คุณหมอเลยหยิบโทรศัพท์ที่ดังอยู่ของตัวเองขึ้นมาทั้งๆที่ฝนตก...
และก็เดาไม่ผิด...ชื่อที่หน้าจอเป็นชื่อของเจ้าของหมวก

"หมอ...ภัทร รักหมอนะ ....รักมากกว่าใครเลย..."

เพียงแค่ได้ยินประโยคนั้น สมองก็สั่งให้สองขาวิ่งกลับไปที่รถ!!

"ต่อให้ตัดหัวก็ไม่ตาย ....ต้องโดนเผาจนไม่เหลือซาก...กลิ่นของเปลือก...มันจะหอมมากไหมหมอ?...หมอ....มันคงไม่เจ็บมากใช่ไหม...ถ้าโดนเผาทั้งเป็น...หมอ....ภัทร กลัว...."







'โครมมมมมมมมมมมมมม!!!'
 












ประโยคคำถามหยุดอยู่แค่นั้น เพราะรถคันเล็กถูกรถขนน้ำมันคันใหญ่ชนอัดเข้ากับเสากั้นริมถนนแล้วครูดลากกับพื้นถนนไปหยุดนิ่งอยู่กับต้นไม้ใหญ่ ...

"รัก...หมอนะ..."

เสียงสุดท้ายถูกส่งมาจากปลายสาย ก่อนที่รถคันเล็กจะเกิดประกายไฟที่ลุกลามไปถึงตัวถังรถขนน้ำมันคันใหญ่ ....เสียงระเบิดดังสนั่น ท่ามกลางสายฝนที่โถมเม็ดลงมา ...เพียงแค่ชั่วพริบตา...รถคันเล็กเหลือเพียงแค่โครงเถ้าถ่าน...
.
.
.
.

'รักหมอนะ...'

ประโยคนั้นมันยังฝังอยู่ในหัว.....ไม่ต่างจากคำว่า 'กลัว....'


***


สายลมระลอกใหญ่ พัดผ่าน ...พัดดอกไม้สีแดงมาตกอยู่ตรงหน้า ของร่างใหญ่ที่หมดแรง ...
..
.
.

กลีบดอกไม้สีแดงฉาด....

.
.
.
.

ดอกชบาสีแดงสด ปลิวละล่องไปกับสายลม...เสียงหัวเราะใสของผู้ชนะเหมือนแว่วมาเย้ยเยาะ...เสียงที่คนเป็นหมอจำได้ดี เสียงของผู้หญิง...ที่ชื่อ พะเตรียง



 







              กลัวความตาย (http://www.youtube.com/watch?v=8mrMxKP3Gjw)


เธอเคยได้ยินเรื่องราวนี้ไหม  มีคนคนหนึ่ง ที่ไม่เคยรู้ว่าตัวมีหัวใจ

ไม่เคยคิดว่าต้องทำดีสักแค่ไหน  แค่ให้เวลาผ่าน เวียนหมุนไป

        * เรื่องราวที่ฉันเอ่ย เป็นความจริงข้างในที่เก็บไว้

        จนมาได้พบเธอคือหัวใจ โอ้เธอรู้ไหม เธอทำให้ฉัน ไม่อยากตาย

               ** ฉันอยากหายใจ เอาไว้ให้นาน โอ้ฉันกลัวความมืดมัว เธอฉันกลัวฉันไม่อยากหายไป

               ทุกเศษลมหายใจ เก็บเอาไว้เพื่อให้เธอ เธอรู้ไหมเธอทำให้ฉัน กลัวความตาย

ชีวิตที่เกิดมาเพียงแค่หนึ่งครั้ง กลับเหมือนมีพลัง  ลืมความหลังไม่อยากจำให้ฝังใจ

ต่อแต่นี้เธอโปรดจำคำของฉันไว้ ว่าชีวิตที่ฉันเหลืออยู่  ฉันจะขอทำเพื่อเธอ

( * , ** )

( ** )

ชีวิตที่ฉันมีอยู่ โลกนี้ยังมียังมีความหมาย นั่นเพราะมีเธอ ฉันมีเธอ ฉันจึงยังหายใจ

หากฉันไม่มีเธออยู่ ชีวิตจะเป็นเช่นไร เธอรู้ไหมเธอทำให้ฉัน กลัวความตาย

ชีวิตที่ฉันมีอยู่ โลกนี้ยังมียังมีความหมาย นั่นเพราะมีเธอ ฉันมีเธอ ฉันจึงยังหายใจ
 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 79 ไม่ให้เตรียมใจ 29/12/55
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 29-12-2012 10:26:33
เฮ้ย!!!
อย่าว่าแต่หมอเลย เราก็...  :sad4:
 :o12: :o12:

เมื่อปลายเท้าเย็นของคนที่นั่งบนโซฟาสอดเข้าไปในสาปเสื้อ>>>สาบ
กระจกรถถูกเปิดออกปล่อยให้สายลมค่อยๆพัดกลิ่นไอทะเล>>>อาย
เพราะคนขับเหยียบเบรค>>>เบรก
ที่จุดหน้าหวาดเสียว>>>น่า
ดอกชบาสีแดงสด ปลิวระล่องไปกับสายลม>>>ละล่อง
 
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 79 ไม่ให้เตรียมใจ 29/12/55
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 29-12-2012 13:00:36
เฮ้อ สงสารหมออะ ตอนนี้อะ
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 29-12-2012 21:52:29
บทที่ 80  ต้องพูดด้วยเหรอถึงจะรู้...(ว่ากูกลับมา)


"ปิด TV."

เสียงนั่นดังเรียบๆข้ามหัวผม พร้อมกับเสียงการทิ้งสัมภาระดังกระแทกโต๊ะ  ก่อนเจ้าของ จะทิ้งตัวลงบนเตียง...
..
ผมนิ่งไปนานกว่าจะกล้าหันไปมองเท้าที่โผล่พ้นขอบเตียง รองเท้าส้นสูงแบบ รัดข้อ ข้างหนึ่งกลิ้ง เตียงกำลังหลับ พอจะมีสติบ้างผมก็พยายามพยุงตัวยืนขึ้นดูร่างนั้น...
...สภาพที่ผมเห็น...
มันเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง นอนคว่ำตัวตะแคงหน้านิ่งไปกับเตียง แต่หูฟังนั้นยังมีเสียงดังออกมาแผ่วๆจากเครื่องเล่น MP ผมยาวดัดเป็นลอนใหญ่ ผมบางส่วนปรกหน้าผากมน ใบหน้าด้านข้างที่ผมเห็นนั้น แต่งตาเข้มๆด้วยสีดำที่กรีดลงบนขอบตา ไม่ได้สวยอะไรมากมายแต่ผมคิดว่าเฉียดไปทางน่ารักมากกว่าแก้มป่องๆนั้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน จมูกเชิดๆนั้นก็ด้วย...

เสื้อสูทสีดำคลุมท่อนบน ไว้มิดชิดในชุดทำงานแต่กระโปรงสั้นลายลูกไม้ ที่ตอนนี้มันรั้งขึ้นมาเกือบจะถึงขาอ่อน...

...อย่างเซ็ก....
เฮ้ย!!ไม่สิ ...ที่ผมคิดผมควรจะถามมากกว่าว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร !? แล้วเข้ามาได้ยังไงในบ้านของผม !?ในห้องของผม!!??
...
ความเงียบไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากทำให้เสียงหายใจบนเตียงและเสียงเพลงจาก MP นั้น ดังขึ้น นาน...กว่าเจ้าของร่างนั้นจะรู้สึกและพลิกตัวตื่นขึ้นมาบิดสองสามทีก่อนจะพยุงตัวให้ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับผม

..แขนเล็กกางออกกว้าง เหมือนรอให้กอด ผมได้แต่จ้องวงหน้ากลมนั้นดวงตา สีน้ำตาลเข้มจ้องตอบกลับผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนไม่เข้าใจ กึ่งตัดพ้อกึ่งจะร้องไห้ แต่วงแขนนั้นยังคงกางค้างอยู่อย่างนั้น แล้วริมฝีปากอิ่มที่เม้มเข้าด้วยกัน ก็คลายออกพร้อมเอ่ยประโยคหนึ่งอย่างแผ่วเบา

"ต้องพูดด้วยเหรอ...ถึงจะรู้ว่าเป็นกู.."
 
ผมชาไปหมดทั้งตัว... หัวใจมันเต้นรัวไม่หยุด กับแค่คำพูดประโยคนั้น....

"..."



***


...
ผมนอนกอดร่างเล็กข้างๆที่หอมและนิ่มไปทั้งตัว มือของผมจับมือคนข้างๆยกขึ้นแล้วมองไล่ไปตามเรียวแขนเล็กนั้นจนสุดที่นิ้วเล็กเรียวที่เกาะกุมไว้กับนิ้วผม... มีคำถามมากมายอยู่ในหัวจนไม่รู้ว่าจะเริ่มมันยังไง ตัวผมตอนนี้ถ้าเทียบกับร่างที่กกกอดอยู่เหมือนพี่กับน้องมากกว่า ผมรู้สึกว่าตัวเองตัวใหญ่มากกว่าที่จะกอดคนข้างๆได้ตามใจคิด
ผมกลัวคนตัวเล็กนั้นจะกระดูกหักไปเสียก่อน มือเล็กนั้นขืนดึงมือผมลงให้จับที่เนินอกอูมในห้องมันเงียบมากเงียบ จนผมสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจข้างๆ ที่รัวและแรงไม่แพ้ของผมเอง....

"กูเป็นอย่างนี้เกลียดกูหรือเปล่า กูทำใจตั้งนานกว่าจะกล้ากลับมาบ้าน กูกลัวมึงมองกูเป็นคนอื่น แล้วทิ้งกูไว้คนเดียว แต่กูก็พยายามคิดในแง่ดีนะว่าบางทีถ้ามึงมีใครเข้ามาในชีวิตมึงอาจลืมกูแล้ว...แต่ความรู้สึกกูมันกลับดึงกูกลับมา กูว่ามึงน่าจะเหมือนหมา... หมาที่เจ้าของหายไปนานถึง มึงจะตัวใหญ่ขึ้นไม่ใช่ลูกหมาเหมือนเดิม ถึงกูจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่กูก็หวังว่าหมาอย่างมึงต้องจำกูได้ หรือถ้าโชคร้ายมึงเสือกมีเจ้าของใหม่กูว่ามึง ก็ต้องไม่ลืมเจ้าของเก่าอย่างกูไม่ลืม ว่ามีแค่กูที่เป็นนายมึง...ไม่ใช่คนอื่น ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่กูก็กลัวนะ กลัวว่ากูจะคิดผิด..."
 
"หัดพูดเป็นประโยคตั้งแต่เมื่อไหร่ ตรินทร์?"

ผมกระซิบถามข้างๆซอกคอ ร่างเล็กพร้อมกอดร่างนั้นให้แน่นแนบกับตัวขึ้นอีก
 
"ถ้ากูไม่พูดมึงจะเข้าใจไหม กูหายไปนานแล้วกลับมาหามึงในสภาพนี้ถ้ากูไม่พูดมึงจะรู้ไหม
ว่าเป็นกู? กูขี้เกียจให้มึงถาม"

"มีอะไรหลายอย่างเกิดตอนนายไม่อยู่ เราเองก็ขี้เกียจรอให้นายถามเหมือนกัน"

จบประโยคความเงียบก็เข้ามาแทน จนร่างข้างๆปลดวงแขนผมออกแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมทับพร้อมทาบริมฝีปากอิ่มนั้นลงมาที่ซอกคอผม แล้วไล่เลียลิ้นเรื่อยไปจนถึงติ่งหู ไม่ต้องถามอะไรมากคนเดียวที่ทำแบบนี้กับผมได้...

'ษิตรินทร์...'

ผมกอดร่างเล็กนั้นไว้แล้วได้แต่ร้องไห้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่ความรู้สึกอย่างนี้เกิดขึ้นผมได้มันกลับมาแล้ว ได้มันกลับมาจากคนคนนั้น ได้มันกลับมาจากพระแพง ได้มันกลับมาจากชั่วเสี้ยวที่คิดว่ามันจะหายไปตลอดกาล...

ข่าวที่ลงหนังสือพิมพ์เมื่อ สองเดือนก่อน ทำเอาผมเข้าโรงพยาบาล...และกว่าจะทำใจกับข่าวนั้นได้ก็ผ่านมาเกือบอีกเดือน ...

..คุณเคยเห็นน้ำพุกลางทะเลทรายไหม?? นั้นล่ะที่จะอธิบายความรู้สึกของผมในตอนนี้ ...

"นายอยู่ที่นี้กับเราจริงๆใช่ไหม?...เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?...ที่เรากอดคือนายจริงๆใช่ไหม? ตรินทร์ ...อย่าหายไปจากเราอีกนะ เรากลัวนายหายไปจากชีวิตเราอีก เรากลัวที่จะต้องอยู่ห้องนี้คนเดียวอีก.... ตรินทร์... นี่เป็นนายจริงๆนะ นายจะไม่ทิ้งเราไปไหนอีกนะ..."

..ประโยคทั้งหมดถูกหยุดไว้ด้วยริมฝีปากอิ่มที่ไล้เลียน้ำตาผม แล้วลดลงทาบที่ริมฝีปากอีกครั้งที่จูบนั้นอ่อนหวานและเร่าร้อนพอๆกัน มือผมถูกรั้งขึงไว้ด้วยแขนเล็กๆนั่น แค่สะบัดก็หลุด แต่ผมเองไม่มีแรงใดจะขัดขืนแขนเล็กคู่นั้น แค่รู้ว่าเป็น ษิตรินทร์ ผมก็ไม่เคยที่จะขัดขืนอะไร ความรู้สึกของ จูบที่ผมไม่คิดว่าจะมีใครเรียกกลับมาได้ เกิดกับผมอีกครั้งนานกว่าผมจะปล่อยให้ริมฝีปากนั้นถอนออกอยากลิ้มรสริมฝีปากนั้นอีกอยากกอดอยากจูบอยากทำมากกว่าที่เคยทำ ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมทับร่างเล็กนั้น แทนแล้วไล่จูบตั้งแต่หน้าผากเรื่อยไปถึงเนินอกกลิ่นหอมที่คุ้นเคย น้ำหอมกลิ่นแปลกที่ตรินทร์เคยใช้น้ำหอมที่ผมเป็นคนสอนให้มันผสม...

กลิ่นที่ทำให้รู้ว่าเป็นมันจริงๆ ตรินทร์นิ่มไปทั้งตัว หวานไปทั้งตัวตอนผมซุกใบหน้าเข้ากับเนินอกอิ่มคู่นั้น เสียงครางนั้นดังขึ้นเบาๆ ตอนผมปลดบรา นั้นออกแล้วเม้มเลียเนินอกมือไม้มันไม่อยู่สุขเลยเพราไม่ว่าจะสัมผัสไปทางไหนมันก็เนียนลื่นมือไปหมด กระโปรงสั้นนั้นถูกผมปลดออกไปกองอยู่ตรงปลายเท้า มือคู่ใหญ่ของผม จับไล่วนคลึงไปตามอกอิ่มเต็มไม้เต็มมือชะมัดทั้งนิ่มและเนียน ในหัวตอนนี้มันว่างไปหมดคิดเพียงแค่อยากจูบ อยากจับ อยากเลีย อยากชิมร่างที่อยู่ใต้วงแขนนี้ อยากทำทุกๆอย่าง อยากได้มากกว่านี้...

"เนียนได้โล่ เลยนะมึง...ร้องไห้แล้วจะจับกูกดเนี้ยนะ หยุดเลยไอ้โฆ"

ไม่พูดเปล่ามือเล็กนั้นดึงหน้าผมให้ขึ้นมาจากช่วงกลางลำตัวแล้วตบแก้มผมเบาๆ เหมือนเรียกสติ ผมที่ตอนนี้เตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว

มือคู่นั้นกดหน้าผมลงกับอกอิ่มแล้วลูบหัวผมเบาๆซ้ำๆเหมือนปลอบ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงผมจะหยุดแต่ลูกชายผมไม่ได้หยุดด้วยเลยมันร่าเริงขึ้นมาซะอย่างนั้นเพียงแค่รู้ว่าคนที่ผมกอดคือ ตรินทร์ ...

"มึงเข้าใจอะไรบ้างไหมเนี้ย...กูมาในสภาพนี้มึงคิดว่ากูเป็นกระเทยแปลงเพศหรือไง โฆ...ตอนนี้กูเป็นผู้หญิง... เป็นผู้หญิงจริงๆ.. เป็นผู้หญิงที่ถ้ามึงทำอะไรมากไปกว่านี้... กูกับมึงได้เป็นพ่อแม่คนแน่ "

"งั้นคุณชายตรินทร์ก็เตรียมตัวเป็นแม่คนได้เลย...ส่วนเรื่องแต่งไว้ที่หลัง ยังไงเราก็แต่งกับนายอยู่แล้ว"

ผมพูดทั้งๆที่เลียลิ้นลงไปที่ช่วงอกของมันเลียหนักๆซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนเนื้อขาวนั้นเป็นรอยแดงจางๆ อยากกินมันเข้าไปทั้งตัวด้วยซ้ำถ้าทำได้... มันจะได้อยู่กับผมตลอด จะได้ไม่ทิ้งผมไปอีก ชั่วโมงนี้ผมแยกไม่ออกแล้วระหว่างความกระสันอยากตามประสาผู้ชายหรือความอยากครอบครองเพื่อไม่ให้มันหายไปจากชีวิต
..ผมขืนมือเล็กคู่นั้นแล้วไล้เลียลึกจากอกลงไปถึงช่วงขอบบ๊อกเซอร์?! แต่ชั่วโมงนั้นผมไม่ได้คิดอะไรแล้วผมลากลิ้นชื้นๆ สากๆของผมลงไปที่เนินอูมแล้วฝังลิ้นลงไปที่รอยแยกที่เปียกลื่นนั้น กลิ่นหวานหอมแปลกๆติดจมูก แต่ยิ่งเร่งความกระสันอยากให้ทวีคูณ ตรินทร์ ตอนนี้ครางแทบไม่เป็นภาษา ผมช้อนสะโพกอวบนั้นขึ้นมาแล้วกดหน้าตัวเองให้จมลงไปดูดเลียรอยแยกนั้นให้ถนัดขึ้น แต่ทุกอย่างก็หยุดลง สติของผมกลับมาหลังจาก มือเล็กคู่นั้นดึงหน้าผมขึ้นมา แล้วตบฉาดใหญ่เข้าที่แก้มข้างซ้าย ผมเงยหน้ามอง มันที่หอบหายใจถี่ หัวใจเต้นแรงจนได้ยิน หน้ามันตอนนี้บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงจนน้ำตามันเอ่อพรากลงมา แล้วร้องไห้โฮจนผมตกใจ

"กู...ก็อยากทำกับมึงนะ...แต่คนที่ท้องเป็นกูนะ...ไม่ใช่มึง... เหี้ย...มึงเข้าใจกูบ้างไหมเนี้ย...ไอ้โฆ...ไอ้ควาย...ถ้าเป็นอะไรไปมึงท้องเองรึไง...กูทำใจไม่ได้นะ...ถ้าจะท้องตอนนี้...ไอ้ควายโฆ!!"

ผมแทบหัวเราะกับความคิดรวมไปถึงสีหน้าของตรินทร์ในตอนนี้  ถึงจะยอมรับว่าตัวเองอยากได้ตรินทร์มากจนขนาดคิดจะจับกด แต่ก็ไม่ได้คิดเกินเลยไปขนาดนั้น.. นี่ตรินทร์ของผมคิดไปถึงตอนท้องเลยหรอว่ะ?

แต่ยังไงมันก็คือความจริงถ้าผมบังเอิญทำอะไรมากไปกว่านี้ .....เอาไงดีว่ะ?? ผมมองหน้าตรินทร์แล้วรวบตัวนิ่มๆเข้ามากอด...แน่นและนานจน ลูกชายผมยอมหลับลงไปอีกครั้ง ตอนนี้ตรินทร์หยุดร้องแล้ว แต่ยังสะอึกสั่นๆอยู่บ้างถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้ผมเดาได้ว่า คงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น นอกจากผมแล้วตรินทร์ไม่เคยอ่อนแอให้ใครเห็น...

"งั้นถ้าเราเรียนจบแล้วแต่งกับเรานะ...เราจะเลี้ยงตรินทร์เอง"

ผมบอกตรินทร์ทั้งๆที่ยังกอดกันแน่น

 "สรุปตอนนี้กูต้องเลี้ยงมึงใช่ไหม...?"

"เลี้ยงเรา ? ทำไม?"

"มึงจะฟัดกู มึงไม่ดูสภาพกูเลยหรอ? ตอนนี้กูอายุ 29 แล้ว ทำงานแล้วถึงเงินจะไม่ดีเท่าที่ป๋าเคยจ่ายให้ทุกเดือนก็เหอะ แต่กูก็แก่กว่ามึงมีงานทำแล้วด้วย กูต้องเลี้ยงหมีควายอย่างมึงดิ "

"จะส่งเสียหมีควายอย่างเราเรียนด้วยหรือเปล่าล่ะ...เราจะได้เตรียมตัวผลาญเงินตรินทร์ถูก"

"เหี้ยแล้วไง ไหนบอกถ้าแต่งจะเลี้ยงกู..."

"ตรินทร์อยากเคี้ยวหญ้าอ่อนอะดิ.. ได้แต่งกับโคแก่อย่างตรินทร์...อืมส์.. ตอนนี้เรา 20 กว่าๆตรินทร์คิดจะเคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างเราเหรอ? ไม่เอาดีกว่าเราว่าเราน่าจะไปหาโคอ่อนๆดีกว่าอ่ะ? ยังไงโคอ่อนมันคงไม่ใช้บ๊อกเซอร์ให้เราหมดอารมณ์"

"หมด'รมณ์เหี้ยไรเห็นนายเลียเอาเลียเอา...ถ้ามึงจะไปก็ไม่ต้องมากอดกู กูแก่แล้วมึงไม่รักใช่ไหม?"

จากน้ำตานองหน้าตอนนี้กลายเป็นต่อล้อต่อเถียงกันซะงั้น

ผมได้แต่ดึงตรินทร์เข้ามากอดถึงตรินทร์จะเป็นยังไงผมก็รักของผม แล้วยิ่งตรินทร์น่ารักขนาดนี้ถึงจะอายุ 29 แต่ตรินทร์ก็หวานไปทั้งตัว... ผมจะกลัวก็แต่จะมีหมามาคาบตรินทร์ไปอีก ตรินทร์มีการมีงานทำไม่ได้มีสังคมแคบๆที่อยู่แต่กับผม
ที่ผมกลัวตอนนี้คือ ..ตรินทร์จะเลือกผมอีกหรือเปล่า?

..คิดแล้วอยากจับกดให้แมร่งท้องจริงๆ ตรินทร์ จะได้ไม่ต้องมีใครอีก อยู่บ้านเลี้ยงลูกให้ผมอย่างเดียว ...ผมได้แต่คิดในใจลองดูจากสภาพนี้มันคงไม่ยอมท้องตอนนี้แน่เอาไว้ให้เรียนจบก่อนพอมีการมีงานดีๆที่สามารถเลี้ยงมันได้จริงๆ ผมจะแต่งกับตรินทร์ จะมีลูกกับตรินทร์ จะจับกดวันละสามเวลาเลย...

ส่วนตอนนี้ ถ้ายังไม่พร้อมจะมีลูก..ผมจะซื้อถุงเองขืนให้ผมกอดตรินทร์อย่างเดียวผมบ้าตายแน่...

แผนการณ์ที่วางไว้ผมร่างมันไว้หมดแล้ว ..ได้แต่คิดในใจไม่กล้าพูดกับตรินทร์...

"นี้ ไม่ถามชื่อใหม่กูตอนนี้หรอ? กูชื่อ .....อื้ออออออออออออ!!!"

ผมไม่ได้รอให้ตินทร์พูดจบ... แต่เลือกที่จะปิดปากอิ่มด้วยปากผม และกอดตรินทร์มันไปพร้อมๆกัน...

"เราไม่อยากรู้หรอกว่าตอนนี้ตรินทร์จะชื่ออะไร... เพราะยังไงตรินทร์ก็คือ ษิตรินทร์ ของเรา ส่วนนามสกุล...ยังไง ตรินทร์ก็ต้องกลับมาใช้นามสกุลเดิม นามสกุลของเรา เพราะตรินทร์ต้องแต่งกับโฆไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ตาม ตรินทร์ก็ต้องแต่งกับโฆ.."


***



... 
[10 เดือนหลังจากนั้น...]





"หายใจยาวๆสิตรินทร์!!!"

"ไอ้สัด!! พูดง่ายดิ!!! มึงมาท้องแล้วคลอดเองไหมล่ะ!!! กูบอกแล้วว่าให้ใส่ถุง ไอ้เหี้ยโฆ!!! แม่งหลอกกูว่าปล่อยนอก ปล่อยนอกบ้านแม่งมึงดิ เวลาหมอซาวด์ถึงได้ลูกแฝด!!!"

"ก็แต่งแล้วเราอยากมีลูกเลย...ลูกคนเดียวกลัวลูกเหงา..อย่าโกรธน่าเก็บแรงไว้คลอดดีกว่า..นะที่รักนะ.. "

"ที่รักบ้านมึงดิ!!...ไอ้ควายบ้า!!!! อย่าให้กูออกจากโรงพยาบาลได้นะมึง ไอ้ควายชั่ว!!!"

"...ชั่วแล้วรักไหมละคุณแม่ตรินทร์ ?"

"..อะ...ไอ้.. >////<  ควายชั่ว...."

.
.
.
.
.


[ หนึ่งแลก สอง .....จากจุดจบสู่จุดเริ่มต้น .... การจากลาที่แสนทรมาน สู่การหวนคืนที่แสนหวาน...และครั้งนี้จะไม่มีการยอมรับชะตากรรม ... ] 


 .END. #1 >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 29-12-2012 23:13:46
โอ๊ะโอ จบแล้วหราเนี้ย กลายเป็นว่าเหลือตรินทร์ แล้วยังได้ลูกแฝดอีก
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 30-12-2012 11:52:16
อารมณ์ตอนนี้กะตอนที่แล้วตัดกันชึ้บชับ :a5:
โอววว ตรินทร์ลุคส์ใหม่ ไฉไลกว่าเดิม  คริคริ
แอบซึมซับมาจากเจ๊ภัทรเหรอตรินทร์ บ่นยาวซะเป็นขบวนรถไฟเลย
ของเขาดีจริงนะบัฟนะ ดีและจะได้แบ่งให้ คุณลุงออพติมัส ไพร์มหนึ่ง คุณลุงหมอหมิงอีกหนึ่ง
ว่าแต่ได้แฝดชายใช่มั้ยตัว  :laugh:


:mc4: :mc4:  จบแล้วเฟ้ยย  กร๊ากกกกก    ยินดีด้วยนะจร๊าาาาา  :mc4: :mc4: 

พร้อมกับเสียงการทิ้งสัมพาระดังกระแทกโต๊ะ>>>สัมภาระ
รองเท้าส้นสูงแบบ รัดข้อ ข้างหนื่งกลิ้ง>>>หนึ่ง
จนร่างข้างๆปลดวงแขนผมออกแล้วพลิกตัวขึ้นค่อมทับ>>>คร่อม
นั้นล่ะที่จะอธิบายความรุ้สึกของผมในตอนนี้>>>รู้
ที่เราอดคือนายจริงๆใช่ไหม? ตรินทร์>>>กอด
จูบนั้นอ่อนหวานและเร้าร้อนพอๆกัน>>>เร่า
ผมพลิกตัวขึ้นค่อมทับร่างเล็กนั้น>>>คร่อม
ผมขืนมือเล็กคู่นั้นแล้วไล้เลียลึกจากอกลงไปถึงช่วงขอบบ็อกเซอร์?!>>>บ๊อก
แล้วฝังลิ้นลงไปที่รอยแยกที่เปียกลืนนั้น>>>ลื่น
มึงจะฟัดกู มึรึงไม่ดูสภาพกูเลยหรอ?
ยังไงโคอ่อนมันคงไม่ใช่บ็อกเซอร์ให้เราหมดอารมณ์
ยังไง ตรินทร์ก็ต้องกลับมาใช่นามสกุลเดิม>>>ใช้
เวลาหมอซาวส์ถึงได้ลูกแฝด>>>ซาวด์
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 30-12-2012 13:15:39
หมอกับภัทร(พลำ) เศร้าจังคู่นี้
แล้วพลำตายจริงเหรอ ร่างก็ไหม้หมด
แล้วตรินทร์มีร่างใหม่ไปหาโฆเหรอ?
แล้วพะเตรียงจะได้อะไร??

โฆ-ตรินทร์ อ๊ายยยยย คู่นี้น่ารักมั่กๆ  :impress2:
ในที่สุดก็มีฉากหวานๆซะที :laugh:
ฮาตรินทร์ ท้องลูก(ควาย)แฝดซะด้วย เอิ๊กๆ
เห็นด้วยกับคุณ RainyMooD ภินทร์กับพลำมาเกิดใหม่ แบ่งให้อะตรอมกับหมอพอดีเล้ย^^

ซีซั่นสอง
เด็ก 17 นี่ใช่ลูกโฆ-ตรินทร์ป่ะ มาชอบลุงอะตรอม หุๆ
สงสัยยัยพระแพง (39?) จะมาตามราวีเด็กแฝดอีกป่ะเนี่ยะ

บวกๆจ้า^^

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kakaris ที่ 30-12-2012 14:55:46
อยากกระทืบไลท์แรงๆอ่ะ

555


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 30-12-2012 15:56:34



     อ่าเหอๆๆๆ หายไปซะนาน โผล่มาก็จบซะแล้วสิ
     แต่หลังๆนี่ตรินทร์กะโฆพูดมากจัง
     พอตรินทร์กลับมาร่างนี้ ไม่มีการถามไถ่ ตั้งหน้าตั้งตารังแกกันไม่บันยะบันยังเลยนะโฆ
     ถ้าพี่หมอรู้ว่าร่างที่อุตส่าห์ดูแลมาตั้งนานมาโดนอย่างนี้จะเป็นไงเนี่ย
     แล้วภัทรกะภินทร์ล่ะ โดนพะเตรียงพาไปไหนแล้ว T T


     ปล. ใส่กระโปรงลูกไม้กะบ๊อกเซอร์นี่มัน. . . เฮ้อ. . . . .



หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้! END # 1 [30/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 30-12-2012 16:16:38
จบแล้ว สำหรับ >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!

ความรู้สึกเดียวกับ เจ้ภัทร[พลำ] ว่าไม่ควรยื้อให้นานกว่านี้ บางทีถ้าเนื้อมันเน่ามันก็ต้องตัดสินใจตัด ดีกว่ามายื้อเวลาให้ทุกอย่างยิ่งเลวร้าย เจ้ภัทรในร่างของตรินทร์นับวันยิ่งย่ำแย่ เพราะการลอกคราบมันควบคุมไม่ได้ สัญชาติญาณของตะบองพลำมันตาม วิญญาณเจ้แกไม่ได้ตามร่างนั้นๆ ตรินทร์ในร่างเจ้เลยไม่มีข้อผูกพันกับตะบองพลำ ถ้าพูดตามตรง เจ้ภัทร แกคงกลัวสักวัน เจ้แกจะกินหมอเข้าไป เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ เลยตัดสินใจจบแบบนี้ ให้โดนเผาไปทั้งร่างดีกว่า เหลือเปลือกหรือร่างกายของตะบองพลำบางส่วนไว้เพื่อตอกย้ำว่าตัวเองเป็นอะไร  ส่วนภินทร์ รายนั้นใจอ่อนเกินไป นั้นก็เมีย[พระแพง]นี้[อะตรอม]ก็รัก.... ทำอะไรไม่ได้กับความสัมพันธ์แบบนี้ ซ้ำยังยอมเมียอีกต่างหาก คงไม่ผิดอะไรที่สุดท้าย ภินทร์จะเลือกคนที่อ่อนแอกว่าอย่างพระแพง ...แต่ก็แค่นั้น เลือกพระแพงแล้วไง สุดท้ายที่พระแพงได้ไปก็แค่ร่างกาย ...
.
.
.
เพราะรักทำให้ได้ทุกอย่าง ...
.
.
.

เพราะรัก ...เราถึงบอกให้ 'รอ' .... มีชีวิตอยู่เพื่อรอการกลับมา



สวัสดีปีใหม่เน้อออออออออออออ :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 30-12-2012 16:34:00



      ร่างเจ๊พลำก็ตัดสินใจเผาไปแล้ว เรื่องราวที่อย่างก็ตัดสินใจทำให้จบที่ต้นเหตุแล้ว
      งี้ภัทรเกิดใหม่คราวหน้าก็ไม่ได้เจอเจ๊พลำแล้วรึเปล่านะ

      สวัสดีปีใหม่งับ

     

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: RainyMooD ที่ 30-12-2012 21:13:16
เจ็บ แต่จบ...
รอเวลา เพื่อพบกันใหม่
ไม่ใช่ "เงา" ซ้อนซ่อนใคร
แต่เป็นอีกครึ่ง ของดวงใจ ตลอดกาล...



สวัสดีปีใหม่ทุกคนจ้าาาาาาา  :mc2:

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 01-01-2013 21:59:35
อ่านช่วงแรกๆ ก็ออกอาการงงที่ ภัทรบอกตรินทร์ที่ทะเลน้ำตาว่าอยากได้ตรินทร์เป็นแม่ และที่ภินทร์บอกกับโฆษิตว่าอยากได้โฆเป็นพ่อ ตอนนี้ก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วค่ะ เข้าใจตั้งแต่สปอยช่วงที่สองแล้ว

และยิ่งแจ่มแจ้งมากที่สุดก็เห็นเป็นจะได้ลูกแฝดเนี่ยแหละ แต่มันต่างกันมากนะ 17 กับ 39 เนี่ย โหกินหญ้าอ่อนชัดๆ เลยนะอะตรอมงานนี้

สปอยมาก็อย่าลืมเฉลยให้หน่อยนะคะว่าทำไมพะเตรียงถึงยอมปล่อยให้ภังคียะไปเกิดใหม่ทั้งๆ ที่คุณเธอก็ได้วิญญาณขององค์ภังคียะไปแล้ว (แม้จะไม่ได้หัวใจขององค์ก็เถอะ) ไหนบอกว่าคนเขียนไม่นิยมให้หญิงร้าย แล้วนี่มันอะไร หัวเราะเยาะตอนภัทรของหมอตายเนี่ย รับไม่ได้จริงๆ ก็รู้อยู่หรอกว่ารักมากอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นขององค์ภังคียะทั้งร่างกายและวิญญาณหากแต่ก็ไม่ได้หัวใจ

เริ่มร้องตอนที่อะตรอมทิ้งหัวโขนและร้องหนักก็ตอนเพลงกลัวความตายเนี่ยแหละ มันเข้ากับภัทรของหมอมาก

ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ รอภาคสอง (^____^)v (ขออย่าซดมาม่าซักคู่เลยนะคะ)
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 02-01-2013 22:59:41
[ หนึ่งแลก สอง .....จากจุดจบสู่จุดเริ่มต้น .... การจากลาที่แสนทรมาน สู่การหวนคืนที่แสนหวาน...และครั้งนี้จะไม่มีการยอมรับชะตากรรม ... ]

แล้วหมอจะยุอย่างไรเนี้ย  เจ้พลำใจร้ายมาก บอกลาอย่างกระชั้นชิด
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 03-01-2013 22:06:58
ชอบสุดๆอะ  :L1: :L1: นั่งอ่านมา 2 วัน จนจบ อ่านจริงจังพอๆกับอ่านหนังสือสอบเลย 5555  :laugh:
หนึ่งแลกสอง อย่างน้อยก็มีคนที่จบอย่างมีความสุขอะนะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 04-01-2013 19:58:23
จบแล้วเหรอ  ลูกแฝดซะด้วยสิ
แฝดใครกับใครหว่า  แล้วมาเกิดใหม่แบบนี้จะตามมาอาฆาตกันไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: breath ที่ 04-01-2013 23:25:20
ฮืออออออออ
ภัทรไปงี้แล้วหมอละ TT
ใจร้ายยยย แล้วพี่หมอฉันล๊าาาาาาาาาาาาาาา TT////////////////////////TT
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Asuke ที่ 10-01-2013 19:21:40
รวดเดียวจบ ....น้ำต่จะไหล ฮือๆๆ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 11-01-2013 16:44:38
จะฮาก็ก็ฮาจะเศร้าก็เศร้า

สรุปเลยร้องไห้อย่างเดียว T^T
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 25-01-2013 16:12:02
ตามมาอ่านจบแล้ว เย้ๆ สนุกมากเลย รอที่จะได้พบกันใหม่อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ ภาค 2
แ่ต่กว่าจะได้อ่านคงอีกนาน อ่านเรื่องกาลไปก่อน เรื่องโซลเมททำใจอ่านไม่ได้
ปล.คิงส์จะมีคู่ป่ะอ่ะ ชอบ พี่รามก็ด้วย 555 (ชอบพระรองตลอดเลยตรู TT)
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pudson ที่ 02-04-2013 22:33:04
:z10: :m20: :m15: :monkeysad: :katai1:  :sad4:  :ling1::hao5: o13
จบแล้ววววว  เป็นเรื่องที่หนักอีกเรื่องหนึ่ง แต่สนุกมากๆ
อดคิดไม่ได้ว่าทุกอย่าเริ่มจากรักของนางกาลี รักของนางเป็นรักที่เห็นแก่ตัว อยากได้มาครอบครอง
นางได้โอกาสนั้นแล้วตั้งแต่ในอดีต แต่เป็นนางเองที่ทำลายความรักนั้นด้วยตนนางเอง
จะตามไขว่คว้ารักนั้นคืนมาก็สายไปเสียแล้ว แต่ยังคงโลภอยากได้กลับมาครอบครอง
แม้จะทำให้ทุกฝ่ายต้องเจ็บปวดก็ตาม อย่างกรณีของตรินทร์ นางก็เลือกที่จะทิ้งรักนั้นทันทีที่เจอภินทร์
ทำให้คิดว่านางไม่สมควรได้รับความรักจากใครเลย สมแล้วที่นางยังต้องเจ็บปวดอย่างนี้ต่อไป

ตอนจบ ถึง ตรินทร์กับโฆจะได้อยู่ด้วยกันแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเสียสละของภัทรกับภินทร์ เฮ้อ ยังไงเรื่องมันก็เศร้า

ยังแอบสงสัย ถ้าไม่ใช่มหินทรา ที่ล่อลวงให้นางพะเตรียงฆ่าและสร้างมลทินให้องค์ภังคียะด้วยไข่พลำก่อนที่จะสลายไป
แล้วใครกันล่ะทีเป็นคนล่อลวงนาง ส่งผลให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักเช่นนี้ หรือมหินทราจะมีร่างแฝง (พลำอีกตน)
 โอ๊ย....คิดไปได้ไม่ไหวๆ คนเขียนช่วยเฉลยได้ไหมคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iammoonoi ที่ 05-04-2013 11:37:46
สนุกมากค่า สนุกมากๆ

คนเขียนวางโครงเรื่องได้ซับซ้อนแต่ไม่ทำให้งงเลย น่าติดตาม และสนุกมากๆ

ภาษาที่ใช้ก็ดีมากๆ ไม่สะดุด โดยเฉพาะ ฉาก NC ขอบอกว่าเฉพาะตัวและเซ็กซี่มากๆ เลย

นับถือ นับถือคะ

อ่านอยู่ วันวันครึ่งไม่ทำอะไรเลย เกือบจะจนจบแล้ว สุดยอดจริงๆ ค่ะ

อดไม่ไหวขอชมก่อน..แล้วค่อยไปอ่านต่อจนจบ

ไม่ทันได้กดเป็ด เพราะอ่านจนเพลิน

+800 เป็ดเลยจ้า...ขอเป็นแฟนคลับคนเขียนเลยแล้วกัน จะค่อยๆ ตามอ่านทุกผลงานนะจ๊ะ

ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ผลิตผลงานสนุกๆ แบบนี้มาอีกเรื่อยๆ น้า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iammoonoi ที่ 05-04-2013 14:46:49
ฝากคำถามหน่อยค่า

คาใจ ถ้าคนเขียนกลับมาเห็น

คือ..มีเล่าไว้หรือเปล่า ว่าทำไม ตรินทร์ถึงละเมอฆ่าตัวตาย..เหมือนเห็นแว๊บๆ แต่ตามหาไม่เจอ..

หรือใบ้หน่อยได้มะคะ

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 05-04-2013 14:56:10
ฝากคำถามหน่อยค่า คาใจ ถ้าคนเขียนกลับมาเห็น คือ..มีเล่าไว้หรือเปล่า ว่าทำไม ตรินทร์ถึงละเมอฆ่าตัวตาย..เหมือนเห็นแว๊บๆ แต่ตามหาไม่เจอ.. หรือใบ้หน่อยได้มะคะ  ขอบคุณค่า

V
V
V

ร่างของตรินทร์ บรรจุทุกความทรงจำของ ภังคียะ เอาไว้ และในความฝันที่เด่นชัดที่สุดในความทรงจำ สิ่งที่ตรินทร์เห็นมาตลอด คือสิ่งเดียวกันกับที่ภินทร์เห็น

ความทรงจำที่พี่ชายข่มขืนตัวเอง และ ภาพของบิดาที่ถูกบั่นศีรษะ และตอกแขวนบนผนัง นั่นทำให้ ภังคียะหาหนทางหลีกหนี และหนทางเดียวที่คิดได้ในตอนนั้นคือ ความตาย

ความรู้สึกทั้งหมดของภังคียะ ตกมาที่ ตรินทร์ และ ภินทร์ คือคนที่รับช่วงต่อ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iammoonoi ที่ 05-04-2013 15:17:36
อ๊า..ขอบคุณคนเขียนมากค่า :pig4: :pig4:

จบแล้วอย่างสมบูรณ์..สนุกสนานมากมายค่า ขอบคุณที่ทำให้สนุก สุข ขนาดนี้ :3123: :กอด1::L2:

ชอบเรื่องของหมอ กับ ภัทร(พลำ) มากที่สุดค่า...คนอ่านแอบซาดิสต์ ชอบรักหน่วงๆ 5555+

แต่เอาจริง ชอบ เรื่องที่คนเขียนแต่งทุกเรื่องคะ...หวังว่าจะมีเวลาว่างตะลุยอ่านแบบนี้อีก..

คนเขียนสู้ๆ น้า รอชมผลงานอื่นๆ ค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 05-04-2013 15:37:06

ตอนจบ ถึง ตรินทร์กับโฆจะได้อยู่ด้วยกันแต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเสียสละของภัทรกับภินทร์ เฮ้อ ยังไงเรื่องมันก็เศร้า

ยังแอบสงสัย ถ้าไม่ใช่มหินทรา ที่ล่อลวงให้นางพะเตรียงฆ่าและสร้างมลทินให้องค์ภังคียะด้วยไข่พลำก่อนที่จะสลายไป
แล้วใครกันล่ะทีเป็นคนล่อลวงนาง ส่งผลให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักเช่นนี้  โอ๊ย....คิดไปได้ไม่ไหวๆ คนเขียนช่วยเฉลยได้ไหมคะ
 

V
V
V

เรื่องที่ ภัทร กับ ภินทร์ มันเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะคำสัญญาที่แลกมากับการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ส่วนเรื่อง ตนที่ล่อลวง พะเตรียง ไม่ใช่ มหินทรา แน่นอน เพราะมหินทรา ไม่มีทางยอมให้ปราณแห่งภังคียะแปดเปื้อนแน่ ส่วนตนที่อยู่เบื้องหลัง เรื่องนี้ ตอนแรกว่าจะไม่เฉลย แต่ก็นะ เฉลยดีกว่า ...
.
.
.คาดว่าน่าจะมีคนคิดถูกนะว่าใครทำ
.
.
.



เสือเลี้ยงแห่งพยัคฑิฆามาส ล่อลวงให้นาง ทำปราณองค์ภังคียะกลายเป็นมณทิน เพียงเพื่อทำทุกวิถีทางไม่ให้นายแห่งตน ต้องทนทรมานกับการอยู่อย่าง เดี่ยวดาย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pudson ที่ 05-04-2013 23:47:38
เฮ้อ...หายค้างคา โล่งแล้ว....
โหวด บวกเป็ด ขอบคุณที่มาเฉลย เป็นกำลังใจให้นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 06-04-2013 23:12:31
หลงเข้ามาอ่านแบบงง อ่านไปงงไป ปมเยอะมาก เรื่องซับซ้อนแต่เขียนได้ดีมากจ้า
ชอบอ่ะ ! :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 09-04-2013 23:20:12
ชอบอ่ะ อ่านแล้วเลิกไม่ได้เลยทีเดียว 
คนเขียนเก่งมาก จินตนาการ สุดยอดอ่ะ อ่านแล้วได้ความรู้ด้วย o13
เราชอบอ่านเรื่องแนวๆ แบบนี้นะ
ถึงเราจะอ่านแบบมึนๆ ไปนิด(หรอออ) แต่พออ่านคำอธิบายกับเม้นท์ก้อเข้าใจบ้าง
รออ่าน ซีซั่นสอง นะคะ  :katai4: :pig4:

ปล.ช่วยสงเคราะห์หน่อยว่าต้องอ่านเรื่องอะไรต่อไป  :mew2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 09-04-2013 23:27:14
ปล.ช่วยสงเคราะห์หน่อยว่าต้องอ่านเรื่องอะไรต่อไป  :mew2:



สาป...รากไทร  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33508.0) ถ้าเพิ่งอ่าน 29G. ก็แนะนำเรื่องนี้ แต่แนวหนักกว่า 29 G. ปวดสมองด้วย แต่เพราะเนื้อเรื่องมันเอื้อให้กันเลยแนะนำ แต่ถ้าไม่ชอบแนวหนักๆก็ข้าม เถอะ

 กาลกีรตี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32903.0)  อีกเรื่องที่แนะนำ ไม่ปวดหัวเท่า แต่ก็มึนพอๆกัน  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 27-04-2013 13:43:18
หลังจากอ่านเรื่องของคุณ Zitraphat มาประมาณสี่ห้าเรื่องได้ วันนี้ถึงได้ตัดสินใจที่จะคอมเม้นเป็นครั้งแรก

สารภาพก่อนว่า จริงๆแล้วเป็นคนที่กลัวอะไรที่ค่อนข้างหลอนๆและจิตๆมาก เรื่องแรกที่อ่านคือ สาปรากไทร อ่านไปวันเดียวแล้วหลอนทั้งวันเลย แต่ก็แปลกใจตัวเองมากว่า ในเมื่อการกระทำแห่งตนนั้นสร้างสิ่งหลอกหลอนขึ้นในใจ แล้วเหตุใดจึงมิหยุดยั้งตน??? (ฮิฮิ ชอบภาษาประมาณนี้ของคนเขียนมากค่ะ ขอเอามาล้อหน่อยก็แล้วกัน) จนกระทั่งมาเจอเรื่องนี้ ใช้เวลาสองวันเต็มๆในการอ่าน มาถึงตอนนี้ เข้าใจแล้วว่า ทุกๆเรื่องมันสนุกในแบบของมันจนละสายตาออกจากจอคอมไปไม่ได้

ภาษาที่ใช้ในการเขียนสวยมากค่ะ เข้าถึงแต่ละคน(หรือตน) ในเรื่องได้อย่างลึกซึ้ง ยอมรับว่าตอนแรกงงกับ ภัทร มาก เพราะดันไปอ่าน สาปรากไทร เข้าซะก่อน แต่พอมาเรื่องนี้ที่ถูกทางแล้ว ก็เลยกระจ่าง เข้าใจในวันนี้นี่เอง

ออกตัวก่อนว่าแอบเป็นแฟนคลับอะตรอม?? (หรือมหินทรา หรือลุงอะตรอมก็แล้วแต่) ชอบสุรตนนี้มาก และอาจจะเพราะอะตรอมด้วย ที่ทำให้อยากอ่านเรื่องราวต่อๆไป สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษในตัวอะตรอม หรือลุงมหิน??? ก็คือความรักของเขา ที่ตามติดมาในชาติภพใหม่ แม้สิ่งอื่นๆอาจจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความรักภายในที่บริสุทธิ์จริงๆของอะตรอม แสดงออกมาได้ดีกว่าลุงมหินแกเยอะ ทำให้สุดท้ายแล้วเข้าใจ ว่าทำไมภินทร์เลือกที่จะยกจิตใจของตัวเองเอาไว้ให้อะตรอม รักของภินทร์ที่ให้อะตรอม เข้าใจว่าเป็น "รัก" จริงๆ เพราะว่าเราเองก็หลงรักอะตรอมไปแล้วเเหมือนกัน >////<  :-[

สำหรับ พะเตรียง หรือพระแพง ในส่วนของตัวนางตนนี้นั้น อืม... ยังไม่เข้าใจในตัวนางสักเท่าไหร่หรอกนะ เหมือนกับว่า ความรักของนางกับภังคียะ (ขอเป็นภังคียะจริงๆก่อนนะ) จะเป็นเสมือนแค่รูปกายภายนอกที่ฉาบฉวยยังไงชอบกล เพราะเปิดมาพ่อภังคียะก็หลงรูปนางเข้าเสียแล้ว เหมือน"รัก"ในรูปแบบของนาง จะเริ่มมาจากจุดนี้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะมันไม่มีอะไรที่เป็นความผูกพันธ์อันเป็นรากฐานแห่งความรัก ที่สามารถรับรู้นึกถึง หรือจับต้องได้เลย ในขณะที่ความรักของภังคียะกับมหินทรา มันมาจากอะไรๆหลายๆอย่างที่เริ่มจากความผูกพันธ์ ความเห็นอกเห็นใจ ความรู้สึกว่า "ตน" เป็น "ที่รัก" เป็น "คนสำคัญ" ดังนั้นหากมหินทราจะรักภังคียะ แล้วภังคียะก็รักพี่ชายคนนี้ด้วย มันก็เข้าใจได้

สำหรับ ภินทร์ ก็เหมือนกัน ความรักของภินทร์ต่ออะตรอม เป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับมหินทรา แต่รักที่ให้กับพระแพง ดูยังไงๆก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่ารักอีกฝ่ายจริงๆ เพราะมันเริ่มจากเรื่องราวในอดีตและรูปโฉมภายนอกอีกแล้ว ยังไม่เข้าใจในความรักของพระแพงอยู่ดี

แต่ยังไง ก็จะรอวันที่ภินทร์กับอะตรอมได้มาเจอกันใหม่นะ แล้วก็รออ่านตะบองพลำ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดเหมือนกัน สู้ๆค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aodjung ที่ 01-06-2013 22:08:40
แต้งกิ้วค่ะ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: มาโซซายตี้ ที่ 08-07-2013 00:59:43
มาอ่านเรื่องที่ลงจบแล้วมั่ง
โฮย 80 ตอน อ่าน 2 วัน
สนุกมาก
ที่แท้แล้ว ตน ที่ทำเรื่องให้เป็นเรื่อง ก็คือพี่เสือสมิงนี่เอง
เพื่อจะไม่ให้องค์นายที่รักไม่ต้องอยู่เดียวดาย กลับกลายเป็นมหากาพย์ ตามล่า ตามรัก ข้ามภพชาติ
น่าสงสารจริง
ชอบคู่ อะตรอม-ภินทร์ แต่ก็คิดถึงคิงส์อยู่นะ 555

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...[TT^TT จบแย้ว.29/12/55]
เริ่มหัวข้อโดย: มาโซซายตี้ ที่ 08-07-2013 17:19:26
จะมีรวมเล่มมั้ยคะ
อยากได้มาเป็นสมบัติ มรดกตกทอด ไว้ให้ลูกหลานอ่าน (พูดจริงนะ)

ขออนุญาต เช็คคำผิดให้ เท่าที่สังเกตเห็นค่ะ (ไม่รู้ว่ามีใครเช็คให้รึยัง)
บทนำ 1 # 
-ไอ้คุณชายตรินทร์ มันโผล่หัวออกมา...ผมอาศัยจังหว่ะหมั้นไส้  --->จังหวะ , หมั่นไส้
-คิดย้อนแล้วทบทวนรวมไปทั้งหาข้อสรุป... เด็กหนุ่มข้างหน้าผม หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไร ออกจะติดหล่อด้วยซ้ำ (เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องผมจะขี้เหล่ได้ยังไง) --> ขี้เหร่
-เธอคนนั้น ‘พระแพง’ คู่หมั้น ตั้งแต่เด็กของ ตรินทร์ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำให้คนที่ไม่สนใจอะไรอย่างมันยอมแทบทุกอย่าง...คนสองคนที่เกิดมาเผื่อกันและกัน...--> เพื่อ ?
-ไม่ต้องคิดภาพอะไรมากกว่านี้ แค่นี้ลูกชายตัวดีของ ผมก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องปลุก...ดี้ด้าเชียวนะ  --> ดี๊ด๊า
-ไม่ได้อยากมารับโทรศัพท์นักหรอก...แต่ทนเห็นลูกชายตัวเองกระดี้กระด้ากับ ตรินทร์ ไม่ได้... --> กระดี๊กระด๊า

จะให้เช็คบทต่อไปมั้ยคะ แฮ่ๆ
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 11-10-2013 01:27:50
อ่านจบแล้วววววววววววววว~

ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องที่จบแล้ว น้ำตาจิไหลด้วยความซึ้งใจ หลังจากค้างมาจากหลายเรื่อง  :sad4:
วนไปอ่านเรื่องอื่นของคุณ Zitraphat ก่อน เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ยาว เลยเก็บไว้ก่อน สุดท้าย ทนไม่ได้ ขอได้จบซักเรื่องเห๊อะ ทนค้างต่อไปไม่ไหว....    :z3:

แต่สุดท้ายแล้ว... ก็ค้างอยู่ดีอ่ะ บ่องตง...  :serius2: เพราะตอนคุณรากไทร น้องพลัมมี่ (ภัทร-พลำ เรียกให้แลน่าเอ็นดู) ก็แอบกลับมาในตอนพิเศษอีก หลอกให้อยากแล้วจากไปมากมาย แถมยังมีเจ้ายักษ์กะเด็กน้อยอี๊กกกก ฆ่ากันเลยดีกว่า  :z3:

แล้วคุณพี่รามนี่มาจากเรื่องไหนรือ... ตอนนี้ยังไม่ได้อ่านกาลฯ กะว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไป หึ หึ

แต่ตอนนี้ขอพักสายตาบ้างไรบ้าง เดี๋ยวจะตายคาไอแพดไปซะก่อน

คุณ Zitraphat เริ่ดที่สุด ชอบเรื่องประมาณ urban legend, folklore พวก myth ไรงี้มากอ่ะ ภาษาก็คลาสสิก ถึงแม้บางทีจะมึนด้วยความอ่อนด้อยด้านภาษา แต่ก็ชอบอ่ะ  o13

จะติดตามอ่านให้ครบทุกเรื่องเลย อุฮิ อฺุฮิ  :katai5:


หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 10-12-2013 00:22:54
 เรื่องนี้ทั้งยาวววมากกแล้วก็สนุกด้วย ยอมรับว่าบางตอนเราก็ งง
แต่ก็สนุกมากที่แบบแย่างนายเอกกันอะ
สงสารอะตอมอะ แล้วก็คิงด้วยหมออีก แหมแต่ละคน อยากให้แยกได้อรกหลายๆร่างจริงๆอะ
( ลูกแฝดสามไปเลยจะดีมากนะคะเนี่ย จะได้ ได้ทุกคนอะ )
ถ้ายังไง ขอตอนพิเศษบ้างนะคะ  :mew1: อยากเห็นลูกๆของโฆอ่า
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 17-12-2013 12:08:50
 โปรดเถิดรัก...
 (http://www.youtube.com/watch?v=TXvkIboHbBk)
 รู้ดีว่ามันก็จบไปนานแล้ว
 แต่ใจยังคงคิดถึง ใจยังคงต้องการ
 รู้ดีว่ามันต้องใช้เวลา
 แต่ใจยังคำนึงถึงใจยังคงต้องการ

 นานเท่าไร แต่ดูเหมือนว่ามันยังไกล
 และดูเหมือนเวลาไม่เคยทำมันให้จาง

 บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
 ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
 ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
 หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม ให้ฉันไม่รักใครอีกเลย

 ครั้งหนึ่งฉันเองก็เคยออกตามหา แต่ว่ามันก็ต้องผิดหวัง
 เมื่อปลายทางของฉันนั้นว่างเปล่า
 รู้ดีว่าเธอคงไม่ย้อนมา แต่ฉันยอมทุกอย่าง
 ยอมทำทุกทางให้เธอย้อนคืนมา

 นานเท่าไร แต่ดูเหมือนว่ามันยังไกล
 และดูเหมือนเวลาไม่เคยทำมันให้จาง

 บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
 ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
 ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
 หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม บอกมาว่ารักคืออะไร
 บอกมาได้ไหมเป็นยังไง บอกมาได้ไหม...

นานเท่าไร นานแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่ามันยังไกล
 และดูเหมือนเวลาไม่เคยทำมันให้จาง

 บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
 ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
 ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
 หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม ให้ฉันไม่รักใคร

(ฉันเองที่ยังไม่เข้าใจ ฉันเองที่ยังตามหา
 เป็นฉันเองที่เสียน้ำตา)

บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
 ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
 ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
 หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม ให้ฉันไม่รัก
 ฉันยอมทุกอย่างแค่ฉันไม่ต้องรักใคร
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#บทที่ 80 บทจบ ...
เริ่มหัวข้อโดย: aezac ที่ 11-05-2014 14:25:09
ตามมาจาก สาป รากไทร :hao5: :hao5:

อ่านไปมึนไป สนุกมากเลยค่ะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 27-06-2014 23:13:38
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=246690285541324&set=a.163414953868858.1073741865.100006010633649&type=1&theater  :katai5:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: มาโซซายตี้ ที่ 27-06-2014 23:56:46
ยิ่งจะคิดถึง ยิ่งๆขึ้นไป
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 20-07-2014 00:09:39
อ่านจบแล้ว เย้  :mc4:   ขอบคุณสำหรับนิยายหลายๆเรื่องนะคะ  เรื่องนี้ก็ยังคงคอนเซป มึนได้โล่  5555  แต่เราชอบนะ แนวเก่าๆภาษาสวยๆชอบที่สุด หาอ่านภาคสอง  :L2:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: poiy00123 ที่ 17-10-2014 12:00:42
เหมือนยังค้างเรื่งของอะตอม. .
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 12-02-2015 02:59:19
 :L1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 03-04-2016 14:08:44
ก่อนอื่นขอบคุณผู้แต่งนะคะสำหรับนิยายดีๆ ชอบมากๆค่ะ รู้สึกโชคดีที่ได้อ่านเรื่องนี้  ได้อะไรหลายๆอย่างเยอะมากค่ะ ทั้งตำนานและเรื่องเล่าขานต่างๆ ชอบทั้งภัทร พลำ,ภินทร์,หมอสัตยา,ยักษ์อะตรอม,โฆและตรินทร์เลยค่ะ

ส่วนเรื่องนี้ตั้งแต่อ่านต้นเรื่องจนจบ (เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านจากหลายๆเรื่องที่คุณ Zitraphat เขียนค่ะ ถ้ามีการเฉลยผ่านเรื่องอื่นแล้ว ขอให้ถือว่าเป็นการคาดเดามั่วๆละกันเนอะ 5555+ อย่าถือสาๆ)

ในเรื่องความรัก

1.รู้สึกว่าความรักระหว่างภังคียะและพะเตรียงหรือแม้กระทั่งภินทร์และพะแพงในภาคปัจจุบัน เป็นความรักแบบในกระจกที่หลงในรูปและจับต้องไม่ได้ ไม่มีพัฒนาการที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าความพันผูกเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าแบบที่ภินทร์กับอะตรอมเป็น สมญานามปลาไหลหมื่นโวลต์กับหมายักษ์หวงเจ้าของ มันเป็นอะไรที่น่ารักมว๊ากกกก เป็นคู่ที่มานิ่งๆแต่กินเรียบ เอิ๊กๆๆ

2.ส่วนโฆกับตรินทร์ถึงแม้ถ้าเทียบกับบทบาทช่วงแรกกับช่วงหลัง แม้จะมีบทน้อยลง แต่กลับพบว่าความสัมพันธ์ของตัวละครมันซึมลึกผกผันตามบรรทัดที่อ่าน ยิ่งอ่านยิ่งชอบ ยิ่งบรรทัดน้อย บทน้อย ก็ยิ่งติดใจ  ยิ่งตอนจบลงเอยแบบนี้ค่อยสมเหตุสมผลค่ะ ลงเอยกันซะที แต่แอบขำตรินทร์ตอนอุ้มท้อง ก๊ากกก (อนึ่ง ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกมั้ยนะคะ แต่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในแผนระยะยาวที่ภัทร พลำ เอ่ยถึงหรือเปล่าที่ต้องเป็นโฆกับษิตเท่านั้น เห็นย้ำเหลือเกิ๊นนน หึหึ อ้อ!! ไหนๆก็ลูกแฝดละ!? ขอเดาแบบมั่วๆอีกครั้งได้มั้ยคะ ที่คุณ Zitraphat สปอยซีซั่น2 เด็กที่อายุ17 ใช่ภินทร์หรือภังคียะมาเกิดโดยแบ่งเป็นสองแฝด ให้ยักษ์1 เสือ1 ไปซะ หรือเปล่าคะ แล้ว ไหนๆเรื่องมันก็จบ??ตรงที่พะแพงได้ปราณและร่างกายไปแล้ว แต่ยังติดใจนิดหน่อยตรงที่ยังอาฆาตว่า หากยังไม่ได้รักที่เกิดจากรัก..ก็จะยังตามล่า..ตามหาอยู่ร่ำไป..เป็นไปได้มั้ยที่จะเกิดการดับสูญและเกิดขึ้นมาใหม่ แล้วนางคราวนี้จากพะเตรียง>พะแพง>พะ?? หวังว่านางจะคิดได้และไม่สร้างเรื่องวุ่นวายนะ)

3.คู่สุดท้ายนี้เป็นคู่ที่ชอบที่สุดค่ะ เอร๊ยยย ไม่รู้ว่าเพราะมันหน่วงหรือจิตเรียกเลือดดีกับคู่ของภัทร พลำ กับหมอสัตยา ผู้เป็นสมิง(เสือ)น้อยที่เริ่มเรื่องทั้งหมดเพียงเพราะต้องการปกป้องนาย แต่เรื่องกลับไปไกลกว่าเดิมซะงั้น ยังไงก็เชียร์คู่นี้ที่สุดค่ะ แม้จะดูเหมือนเขียนสั้นที่สุดในสามคู่ 555+ บรรยายไม่ออกอ่ะ!!#%%&?  :-[  :ling1:
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 04-04-2016 14:36:15
ไม่รู้ว่ามีคนเป็นเหมือนกันไหม อ่านไปตอนแรก งง

อ่านมาเรื่อยๆ เออ เริ่มเข้าใจละ

พอไปซักพัก งงอีกแล้วอะ - -;

ขอโทษด้วยจ้า ฮืออออออ

หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy.ถ้ากล้ารักจะจัดให้!#แก้คิดถึง 27/6/57
เริ่มหัวข้อโดย: love noon ที่ 21-05-2016 04:37:00
ตามมาจากเรื่องกาลกิรตี มาเรื่องนี้ต่อ สองวัน สองคืน โอ้แม่เจ้า งง ลุ้น งง มาม่า งง ตื้นตัน งง อยากอ่านต่อ เป็นวงจรค่ะ ทั้งสองเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: >29 G.Become 21 Boy. ถ้ากล้ารักจะจัดให้! 4#Why I can't run away.เล่ห์ตะบองพลำ(1)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 03-05-2021 22:18:06
เขียนเรื่องแต่ละคนๆละนิด อ่านลำบาก ไม่ต่อเนื่องด้วย อารมณ์มันขาดช่วงนะ ถ้ามีตัวละครซัก10ตัวจะต้องมีพาร์ตของแต่ละคนถึง10ด้วยมั้ย