พิมพ์หน้านี้ - Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: Hazel_nut ที่ 10-07-2019 22:27:07

หัวข้อ: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 10-07-2019 22:27:07
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




Kneel before your Queen
#คุกเข่าให้ผม


by Hazel_nut



คำเตือน : มีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ




จุดเริ่มต้นความหลงใหล

 

มันเป็นงานบายเนียร์ที่สนุกกว่าที่พัฒน์ชวินทร์คิด ตัวเขาไม่ได้สนิทกับรุ่นพี่ปีสี่สักเท่าไหร่ เรียกว่านอกจากแก๊งสายรหัสของเขาแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่ได้ไปสุงสิงกับคนอื่นๆ มากนัก ความที่เป็นคนหน้าหวานแถมยังไว้ผมยาวแต่มีภาพลักษณ์นิ่งๆ จนดูหยิ่งเข้าถึงยาก ทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าหา ส่วนเพื่อนสนิทก็ดันมีแค่คนเดียวคือขุนน้ำ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาคิดมากอะไร

“ไอ้พัด”

“หือ?” เจ้าของชื่อขานรับเสียงเรียกของเพื่อน แต่สายตายังคงจับจ้องมองใครบางคนไม่คลาดสายตา

ขุนน้ำเหลือบมองตาม “มองพี่กีทำไมวะ?”

“ไม่ทำไม” พัฒน์ชวินทร์ตอบแต่มุมปากกลับเหยียดยิ้มเล็กน้อย “มึงมีอะไรก็ว่ามาดิ?”

“กูจะถามว่ามึงจะไปต่อกับพวกพี่ๆ เขาไหม เดี๋ยวส่งน้องปีหนึ่งกับปีสองกลับบ้านกลับหอกันหมด ปีสามปีสี่จะไปดื่มต่อที่ร้านเหล้าหลังมออะ”

“มึงไปปะ?”

“ไปดิวะ นานๆ จะได้แดกเหล้าฟรี”

คนฟังหลุดหัวเราะขบขันก่อนจะว่า “งั้นกูไป”

“เยี่ยม! กูไปบอกพวกพี่ๆ เขาก่อน”

ขุนน้ำไปแล้ว พัฒน์ชวินทร์เลยได้โอกาสหันกลับมามองพี่กี หรือกีรติ รุ่นพี่ปีสี่เพื่อนสนิทของพี่รหัสเขา ผู้ชายที่เขาแอบไปล่วงรู้ความลับบางอย่างของอีกฝ่ายเข้าโดยบังเอิญ

เป็นความบังเอิญที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ราวกับสวิตช์บางอย่างที่เขาไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีมันอยู่ในตัวได้ถูกกดเปิดขึ้น หลังจากนั้นเขาก็เฝ้ามองพี่กีมาตลอดในทุกครั้งที่มีโอกาส เหมือนกำลังศึกษาพฤติกรรมสิ่งมีชีวิต และใช่...มันทำให้เขาได้รู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับพี่กีอีกเยอะเลย

พี่กีมีนิสัยชอบลอบมองหัวเข่าของคนอื่นๆ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง และมีหลายครั้งที่พัฒน์ชวินทร์สังเกตได้ว่าการมองหัวเข่าคนอื่นทำให้พี่กี...มีอารมณ์

อ่าฮะ อารมณ์ทางเพศ แบบว่า...เป้าตุงขึ้นมาทันทีเลยล่ะ หึ : )

แม้แต่ตอนนี้รุ่นพี่คนนั้นก็ยังมองเรียวขาสาวๆ หลายต่อหลายคนไม่วางตา ถ้าให้พูดกันตรงๆ ล่ะก็ พฤติกรรมที่พี่กีทำไม่ต่างจากการล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่นผ่านสายตาเลยนะ และเขาก็เป็นคนดีมากพอที่จะทำให้พี่กีเลิกใช้สายตาโลมเล้าเรียวขาคนอื่น

ชายหนุ่มผมยาวที่วันนี้ไม่ได้มัดมาเหมือนอย่างทุกทีลุกขึ้นจากโต๊ะที่ตัวเองนั่ง เสื้อนักศึกษาพอดีตัวขับให้เขาที่สูงเพรียวเหมือนนายแบบดูมีเสน่ห์มากขึ้น กางเกงยีนเองก็พอดีตัวไม่ต่างกัน ขับเน้นสะโพกให้ดูโดดเด่น แต่ที่พิเศษกว่าก็คงหนีไม่พ้นหัวเข่าขาวนวลเนียนที่เปิดเผยให้เห็นวับแวมผ่านรอยขาดแบบแฟชั่น

สองเท้าก้าวตรงไปหารุ่นพี่หนุ่มที่ยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อนๆ ของพี่กีไปเต้นกันอยู่กลางฟลอร์  ผู้ชายรักสันโดษไม่ต่างจากเขาจึงต้องนั่งอยู่เพียงลำพัง แม้กระทั่งตอนที่พัฒน์ชวินทร์ยืนอยู่ด้านหลัง กีรติก็ยังไม่รับรู้ถึงตัวตนของเขา

จนกระทั่ง...

“ประมาทเกินไปแล้วนะครับ ที่มานั่งดูรูปอะไรแบบนี้ที่นี่...ตอนนี้”

“!!!”

“ตกใจเหรอครับ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว มุมปากกระตุกยิ้มบางเบา หากแต่ดวงตาเป็นประกายระยับ บ่งบอกว่ากำลังสนุก

กีรติปิดหน้าจอโทรศัพท์ เขาเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง ขยับยืนเผชิญหน้าคนที่เขาจำได้ว่าเป็นน้องรหัสของเพื่อนสนิท “นายมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เมื่อกี้นี้เองครับ”

“งั้นนายคงไม่ได้เห็น...”

“ผมก็เพิ่งพูดไปอยู่นี่ครับว่าผม ‘เห็น’ อะไร : )” พัฒน์ชวินทร์ยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิม “ที่จริงผมก็รู้มาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำครับ ว่าพี่น่ะ...”

“...”

“เป็นพวกเฟติชหัวเข่า อ่า หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงเป็นการหลงใหลในหัวเข่าสวยๆ จนทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เอ๊...ผมเข้าใจถูกไหมนะ?”

“นาย!” พี่กีเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือเปล่า

คนเป็นรุ่นน้องทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง เรียวขาข้างหนึ่งยกขึ้นพาดบนเก้าอี้อีกตัว งอเข่าชันขึ้นเล็กน้อย และทุกอย่างอยู่ในสายตาของคนเป็นรุ่นพี่...กีรติจดจ้องมองหัวเข่าเนียนสวยของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว ก่อนจะต้องนิ่งงันอีกครั้งเมื่อน้ำเสียงนุ่มๆ พูดขึ้น

“เห็นแล้วมีอารมณ์ใช่ไหมล่ะครับ? : )”

กีรติสูดหายใจเข้าลึก พยายามตั้งสติ “รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“อืม ก็นานแล้วล่ะครับ” ตอบทั้งที่ยังยิ้มหวานเหมือนเดิม ก่อนจะโบกมือไปมาแล้วกล่าวต่อ “แต่นั่นไม่สำคัญเท่าผมเป็นคนที่ได้รู้ความลับเรื่องนี้ของพี่หรอกน่า”

“ฉันไม่ได้...”

“จะปฏิเสธเหรอ? ไม่ทันแล้วมั้งครับ เพราะผมแอบถ่ายรูปเวลาพี่มองเข่าคนอื่นจนเป้าตุงเอาไว้แล้ว หึ”

“!!!”

“ไหนจะหัวเข่าสวยๆ ที่พี่เซฟเก็บไว้ในโทรศัพท์นั่นอีก ถ้าให้เดา...พี่เปิดรูปพวกนั้นดูตอนช่วยตัวเองด้วยใช่ไหมล่ะครับ” พัฒน์ชวินทร์ถือโอกาสนี้กดดันอีกฝ่ายหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เขาคิดว่าหากไม่ใช่เวลานี้ก็คงไม่มีเวลาไหนเหมาะอีกแล้ว

เขาหลงใหลพี่กีเหมือนที่พี่กีหลงใหลหัวเข่าสวยๆ นั่นล่ะ

กีรติกัดฟันกรอด เขาพยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองเอาไว้ “นายต้องการอะไร?”

“พี่แอบมองเข่าผมอยู่บ่อยๆ ที่จริงก็ชอบเข่าผมใช่ไหมครับ? แอบถ่ายก็เคยนี่ : )”

“นาย!”

“ถือว่าหาอะไรสนุกๆ ทำ พี่อยากเล่นกับผมไหมล่ะ ผมยอมให้ลูบเข่าผมตอนช่วยตัวเองได้นะ”

“ช่วย?” กีรติมุ่นคิ้ว เริ่มรู้สึกว่านี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว เด็กคนนี้ต้องการอะไรจากเขากันแน่ คิดจะแกล้งเขาหรือยังไงกัน จะมีใครบ้าที่ไหนยอมเป็นอุปกรณ์ทางเพศให้กับคนอื่น เหอะ!

“ครับ แต่สิ่งเดียวที่ผมต้องการ...”

"แลกกับการที่ฉันจะสัมผัสเข่าของนายเมื่อไหร่ก็ได้...ตามที่ฉันต้องการ?" พี่กีแทรกขึ้นก่อนที่พัดจะทันได้พูดจบ

"ช่าย ให้มากกว่าลูบไล้เพื่อช่วยตัวเองก็ยังได้ : )"

"หมายถึงเซ็กซ์?"

"อ่าฮะ ตามนั้น แต่เงื่อนไขเดียวที่พี่ต้องทำตาม คือห้ามนอนกับใครนอกจากผม" คนหน้าสวยยิ้มกว้างให้คนฟังที่ตกตะลึงไปแล้วตอนนี้

คนฟังข้อเสนอหรี่ตา “นายต้องการอะไรกันแน่ ชอบฉันงั้นเหรอ?”

พัฒน์ชวินทร์เดาะลิ้น “นั่นไม่สำคัญ สำคัญที่สุดตอนนี้คือคำตอบของพี่ ตกลงว่าไงครับ? จะยอมทำตามเงื่อนไขของผมหรือเปล่าล่ะ”

มองยังไงกีรติก็ไม่เข้าใจว่าเด็กคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ เสนอตัวเป็นเพื่อนนอนให้เขาเนี่ยนะ? ถ้าไม่ได้ชอบแล้วทำไปเพื่ออะไรกันแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่เข้าใจ

แต่ข้อเสนอนั้นแสนหอมหวาน น่าลิ้มลองเหลือเกินสำหรับเขา

ชายหนุ่มถอนหายใจ ครุ่นคิดถึงผลได้ผลเสียทั้งที่สมองน่ะบอกกับตัวเองไปแล้วว่าตกลง

“ว่าไงครับ” พัฒน์ชวินทร์เร่งเร้าเอาคำตอบ "ดีล?"

ดวงตาสองคู่สบกันท่ามกลางแสงไฟสีมัวในร้านอาหาร และเสียงเพลงกับเสียงพูดคุยหัวเราะของคนในงาน ก่อนคำตอบที่คนเป็นรุ่นน้องคาดหวังว่าจะได้ยินก็ดังขึ้น

"...ดีล"



________________

ไม่แนบรูปนะคะ เพราะแนบไม่เป็น 555 ใครอยากเห็นไปดูได้ในเพจ หรือทวิตเตอร์ของเรา แฮชแท็ก #คุกเข่าให้ผม ค่ะ แนบรูปไว้ทุกตอน แฮ่ ส่วนบทนำก็คือเข้าประเด็นหลักไวมากอะ 55555 หวังว่าจะโอเคนะคะ ติชมได้ถ้ารู้สึกว่ามันแปลกๆ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : บทนำ [10/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-07-2019 00:24:10
มองเข่าแล้วมีอารมณ์  :a5:
ไหน ๆ ลองกับตัวเองบ้าง  :hao4:
มองเข่าตัวเองแล้วรมณ์เสีย  o12
พุงดันมาบัง มองไม่เห็นอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : บทนำ [10/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: porjj ที่ 12-07-2019 13:58:49
ดีลนี้ ใครจะตกหลุม ใครกันนะ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : บทนำ [10/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-07-2019 18:48:32
ดีลนี้ใครจะชนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 13-07-2019 23:16:52
หลงใหลครั้งที่ 1

 

กีรติยืนพิงประตูรถได้ห้านาทีแล้ว ในมือของเขามีมวนบุหรี่ที่เพิ่งจุดสูบไปได้ไม่กี่ครั้ง ควันสีเทาลอยอ้อยอิ่งหลังเขาพ่นมันออกจากปาก ก่อนจะหายไปในเวลาไม่กี่วินาที เหลือเพียงควันจางๆ จากปลายมวนเท่านั้นที่ยังคงถูกเผาไหม้

ชายหนุ่มกำลังรอ

สองนาทีต่อมาร่างของคนที่เขารอก็โผล่ออกมาจากร้านอาหาร ซึ่งเป็นสถานที่สังสรรค์อำลาเด็กปีสี่ในค่ำคืนนี้ ร่างเพรียวที่สมส่วนกำลังดี ราวกับนายแบบบนรันเวย์หรือปกนิตยสารก้าวตรงมาหาร่างสูงกว่า พัฒน์ชวินทร์ไม่ได้ออกมาพร้อมกับเขาเพราะต้องไปบอกลาเพื่อนสนิทและสายรหัสเสียก่อน

“เราจะไปกันหรือยังครับ?”

เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้วถาม ดวงตาเฉี่ยวคมเป็นประกายสะท้อนแสงไฟหน้าร้าน คนเป็นรุ่นพี่ชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างกัน เขาทิ้งบุหรี่ในมือลงกับพื้น ใช้ปลายเท้าขยี้ไฟจนมันดับ ก่อนจะเก็บก้นบุหรี่นั้นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเดินไปทิ้งมันในถังขยะไม่ไกล

“อะไร?”

ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อหันกลับมาอีกทีก็เจอสีหน้าประหลาดใจของพัฒน์ชวินทร์ แต่คนโดนถามเพียงแค่ส่ายหน้าให้ ก่อนจะขยับก้าวขึ้นรถโดยไม่ต้องให้เจ้าของรถเอ่ยบอก

ห้านาทีต่อมาทั้งสองก็อยู่บนถนน เวลาสี่ทุ่มกว่ายังไม่ดึกมากพอให้การจราจรลดความหนาแน่นลง เด็กปีสามและสี่คงทยอยออกไปส่งน้องๆ กลับก่อนไปดื่มต่อที่หลังมอ แต่กีรติไม่ได้คิดจะไปด้วยอยู่แล้ว เขาตกลงกับน้องรหัสของเพื่อนสนิทไว้แล้วว่าจะไปที่ไหนกันต่อ...เฉพาะแค่เขากับเด็กคนนี้เท่านั้น

ไม่ใช่คอนโดฯ บ้าน หรือหอพักใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งนั้น แต่เป็น ‘โรงแรม’ ดีๆ สักแห่ง ที่ทั้งสองยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวและดูไม่น่าเกลียดจนเกินไป

ในรถมีแต่ความเงียบ กระนั้นกลับไม่มีใครรู้สึกอึดอัด เป็นเรื่องดีที่พี่กีไม่ค่อยพูด เพราะพัดเองก็ไม่ใช่คนพูดมากเช่นกัน แต่เรื่องแปลกก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆ รุ่นพี่หนุ่มดันเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน

“เรียนเป็นยังไงบ้าง”

และแน่นอน...นี่เป็นอีกครั้งที่พัฒน์ชวินทร์แปลกใจ ต้องยอมรับว่าแม้เขาจะจับตาดูพี่กีอยู่บ่อยๆ แต่เขาไม่ได้ตามติดตลอดเวลาขนาดนั้น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการหยิบก้นบุหรี่ไปทิ้งหรือชวนคนอื่นคุยก่อน เรียกว่าเขาไม่เคยเห็นเลยก็ยังได้

“ครับ? เอ่อ...” คนหน้าสวยกดความประหลาดใจลงไปก่อนจะคิดหาคำตอบได้ “เรียนหนักเอาการเหมือนกันครับ ช่วงนี้กำลังยุ่งๆ กับการทำเล่มวิจัย”

“นายเลือกหัวข้ออะไร?”

“เกี่ยวกับ...”

กลายเป็นว่าตลอดการเดินทางไปยังโรงแรมที่หมายปอง พัฒน์ชวินทร์ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับหัวข้อวิจัยที่เขาทำจากพี่กีมาเยอะแยะเต็มไปหมด และเรื่องแปลกใจเรื่องที่สามก็คือการที่เขาได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้เรียนเก่งมากแค่ไหน ทำไมไม่เคยมีข่าวหลุดออกมาให้ได้ยินเลยนะว่าพี่กีเก่งมากขนาดนี้ ไม่พ้นเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแน่ๆ พัดมั่นใจ

รถตบไฟเลี้ยวซ้ายเมื่อมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ม่านรูดกระจอกๆ หรือโรงแรมเกรดต่ำ แต่ก็ไม่ใช่โรงแรมหรูระดับห้าดาวคืนเป็นหมื่นเช่นกัน เป็นโรงแรมแบบกลางๆ ล่ะมั้ง...เรียกแบบนั้นก็ได้

“ตามมาสิ”

บรรยากาศของพวกเขาไม่ดูเรียบเฉยจนเหมือนเย็นชาอย่างช่วงแรกๆ การนั่งรถและคุยกันเรื่องเรียนเป็นเวลาเกือบชั่วโมงช่วยละลายพฤติกรรมได้บางส่วน แต่สิ่งที่ทั้งสองจะทำต่อจากนี้ต่างหากที่จะช่วยละลายพฤติกรรมส่วนใหญ่ได้จริงๆ

ใครบ้างล่ะที่คิดจะมีเซ็กซ์กัน ทั้งที่เพิ่งคุยกันมากกว่าสิบประโยคเป็นครั้งแรกน่ะ

พัฒน์ชวินทร์เคยคุยกับพี่กีมาก่อน แต่อย่างมากก็แค่คำทักทายกับคำถามสั้นๆ อย่างเช่นพี่รหัสของเขาไปไหน? อะไรทำนองนั้น เพราะงั้นการลากกันเข้าโรงแรมในวันนี้จึงเป็นเรื่องที่ว่องไวประหนึ่งเสือชีตาร์วิ่งออกล่าเหยื่อไม่มีผิด

“หนึ่งห้องครับ”

“เตียงคู่หรือเตียงเดี่ยวคะ?” พนักงานสาวเอ่ยถาม

กีรติสบตารุ่นน้องหน้าหวานเล็กน้อย “เตียงเดี่ยวครับ”

พัฒน์ชวินทร์ลอบยิ้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายชอบใจ เขาไม่รู้หรอกว่าคืนนี้ทิศทางของเขากับพี่กีจะไปในทางไหน แต่มันต้องน่าจดจำ

หลังรับคีย์การ์ดมาพวกเขาก็ตรงเข้าลิฟต์ ชั้นที่พักคือสิบเอ็ด ห้องหนึ่งหนึ่งศูนย์เจ็ด บางทีพัดอาจจะเอาเลขห้องไปซื้อหวย ไม่รู้สิ..ถ้าคืนนี้ไปได้ดี เขาก็จะถือว่าโชคเข้าข้างเขา และมันจะส่งผลให้เกิดความโชคดีต่อเขาไปอีกหลายเรื่อง

อือหึ แบบนั้นแหละ : )

เสียงสัญญาณว่าประตูปลดล็อกแล้วดังขึ้นหลังพี่กีรูดคีย์การ์ด สองเท้าของรุ่นพี่ก้าวนำเข้าไปก่อน หลังประตูปิดลงอีกครั้งเมื่อพัดก้าวตามเข้ามา อีกฝ่ายก็เหลือบมามองคนหน้าสวยไปด้วยในระหว่างถอดเสื้อคลุมตัวนอก...ตามด้วยถกเสื้อยืดตัวในออกจากหัวแล้วโยนทิ้งไปส่งๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก

พัฒน์ชวินทร์ห้ามใจตัวเองไม่ให้เม้มปากและแสดงอาการประหม่าออกมา มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีทางถอยหลังหรือแสดงความขี้ขลาดหวาดกลัวออกมาแน่ คนที่มีแต่ความมั่นใจอย่างพัดไม่มีทางยอมเสียฟอร์มเด็ดขาด กระนั้น...ดวงตาคู่คมสีรัตติกาลก็ยังคงมองมาที่เขาไม่ละไปไหน ในตอนที่มือหนาปลดเข็มขัดกางเกงตัวเองออกช้าๆ ไปด้วย และนั่นทำให้หัวใจคนมองสั่นไหวอย่างรุนแรง

กีรติเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก แม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา แต่กลับดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเข้าหา แผ่นอกและหน้าท้องกำยำยามไร้สิ่งใดปกปิดชวนให้อยากสัมผัสลูบไล้ และพัดอดสงสัยแทบขาดใจไม่ได้ว่าใต้กางเกงยีนตัวนั้นซ่อนความแข็งแกร่งแบบไหนเอาไว้ : )

“จะยืนอีกนานไหม ไปอาบน้ำสิ”

น้ำเสียงทุ้มเรียบพยักพเยิดหน้าไปทางห้องน้ำ และพัดก็เลือกที่จะทำตามโดยไม่พูดอะไร

ห้องน้ำโรงแรมดูดีในแบบที่สมควรจะเป็นเมื่อราคาของมันคือครึ่งหมื่นต่อคืน พัฒน์ชวินทร์ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกเพื่ออาบน้ำชำระเหงื่อและกลิ่นเหล้าปนบุหรี่ที่ติดมาจากร้านอาหาร ใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้นชายหนุ่มก็สวมชุดคลุมอาบน้ำออกมา และพบว่าพี่กีก็อยู่ในชุดเดียวกัน

...พอเห็นว่าเขาออกมาแล้ว อีกฝ่ายก็เดินสวนเข้าไปเพื่ออาบน้ำบ้างเช่นกัน

พัฒน์ชวินทร์มองตามแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายจนมันหายลับไปในห้องน้ำ มุมปากบางกระตุกยิ้ม ดวงตาเป็นประกายระริกไหวเพราะชอบใจ มือขาวใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดปลายผมที่เปียกอยู่นิดหน่อยให้แห้งพอหมาดๆ เส้นผมยาวประบ่าสีน้ำตาลอ่อนยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่กลับขับให้ใบหน้าสวยในแบบผู้ชายดูงดงามกว่าเดิม

ชายหนุ่มเหลือบมองเตียงนอนกว้าง เขาพาดผ้าเช็ดผมทิ้งลงบนพนักเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เหลือบมองห้องน้ำที่เวลานี้เสียงน้ำหยุดลงไปแล้ว นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าพี่กีกำลังจะออกมา...สัญญาณแห่งการเริ่มต้นข้อตกลงของพวกเรา

ก้าวไปที่เตียงนอนเดี่ยวขนาดสองคนนอนได้สบายๆ แล้วคลานเข่าขึ้นไปทิ้งตัวนั่งลงที่ตำแหน่งกลางเตียงพอดี เหยียดขาข้างหนึ่งราบไปกับที่นอนนุ่ม ส่วนอีกข้างยกชันขึ้นก่อนถกชายชุดคลุมอาบน้ำเลิกสูงจนมองเห็นเรียวขาขาวนวลเนียน...แน่นอนว่าหัวเข่าสวยๆ ได้รูปก็ปรากฏสู่สายตาคนที่เปิดประตูห้องน้ำก้าวออกมาพอดีด้วยเช่นกัน

กีรติชะงักไปเมื่อพบว่ารุ่นน้องหนุ่มอยู่ในท่าทางแบบไหน และจุดรวมสายตาของเขาก็หนีไม่พ้นหัวเข่าเปลือยเปล่าข้างนั้น จุดเดียวที่กระตุ้นเร้าให้เขาเกิดอารมณ์หวามไหวขึ้นมาได้

พัฒน์ชวินทร์ลอบยิ้มมุมปาก แม้จะอยู่ไกลแต่เขาเห็นได้ชัดเลยล่ะว่าพี่กีเพิ่งจะกลืนน้ำลายลงคอไปเมื่อกี้นี้เอง เขาอดกลั้นเสียงหัวเราะไว้ในลำคอ เอนกายลงไปด้านหลังเล็กน้อยโดยใช้สองมือค้ำยันเป็นหลักยึด ดวงตาเป็นประกายระยับมากขึ้นยามเมื่อรุ่นพี่หนุ่มขยับขึ้นมาบนเตียงเดียวกัน ก่อนจะเผลอกลั้นหายใจเมื่อพี่กีลูบไล้หัวเข่าของเขาอย่างแผ่วเบาในคราแรก

หัวใจพลันเต้นโครมคราม สัมผัสจากมือแกร่งหยาบกร้านเล็กน้อยพาให้รู้สึกร้อนวูบวาบในจุดที่อีกฝ่ายกำลังแตะต้อง พัดต้องเก็บอาการยิ่งกว่าเดิม เพราะ...บ้าเอ๊ย หากถามว่าเขารู้สึกยังไง ก็จะบอกว่าตื่นเต้นจนแทบบ้าแล้วตอนนี้

ไร้บทสนทนา ไร้เสียงใดหลุดรอดออกมาจากปากของพวกเขา ประหนึ่งว่าเหตุการณ์พูดไม่หยุดบนรถเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ตอนนี้เสียงเดียวที่พัดได้ยินคือเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นดังกึกก้องอยู่ในตัวเขา กับเสียงสูดหายใจเข้าลึกของกีรติ

“สวยจริงๆ”

กีรติพูดขึ้นเพียงแผ่วเบา ชายหนุ่มลูบไล้สลับเคล้นคลึงจุดที่มีผิวเนื้อนิดหน่อยด้วยสองนิ้ว บีบเคล้นเบาๆ ไปตามแนวกระดูกข้อเข่า ก่อนเขาจะโน้มใบหน้าลงต่ำ และนั่นทำให้ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดหัวเข่ามน เรียกความร้อนผ่าวแปลกๆ ให้กับพัฒน์ชวินทร์ได้ในทันที

คนหน้าสวยจับจ้องทุกการกระทำของอีกฝ่ายไม่วางตา เขากัดริมฝีปากล่างของตัวเองเบาๆ กลัวเหลือเกินว่าจะเผลอทำเสียงประหลาดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้สิ ตอนนี้เขาอยากจะส่งเสียงอะไรสักอย่างออกไปก็ได้เพื่อระบายความตื่นเร้าในตัว

แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เสียฟอร์มเกินไป

“งดงามมาก กระดูกหัวเข่าได้รูป...”

“อ๊ะ...!”

พัฒน์ชวินทร์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ พี่กีดันเอื้อมมืออีกข้างมากถกชายชุดคลุมของเขาขึ้นสูงกว่าเดิมจนทำให้หัวเข่าเปลือยเปล่าอีกข้างปรากฏสู่สายตา มือแกร่งจับขาข้างนั้นยกชันขึ้นขนานกับเข่าอีกข้าง และนั่นทำให้คนหน้าสวยเสียหลักจนแขนสองข้างเซไปด้านหลังยิ่งกว่าเดิม

สุดท้ายแผ่นหลังบางก็ทิ้งลงนอนแนบเตียงใหญ่ ดวงตาคมเฉี่ยวเบิกโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อพี่กีแยกเข่าสองข้างของเขาออกกว้างโดยไม่บอกกล่าว ตามด้วยสอดตัวเองแทรกเข้ามาตรงกึ่งกลางลำตัวเขา โดยไม่ลืมสอดแขนแกร่งเข้าใต้ข้อพับขาของพัดก่อนยกมันขึ้นมาด้านหน้าเล็กน้อย ให้มันพอดีกับใบหน้าคมคร้ามของกีรติเอง

น่าอายยิ่งกว่าคือชายชุดคลุมเองก็ถูกร่นขึ้นไปกองอยู่บนหน้าท้อง เปิดเผยต้นขาเรียบเนียนเหนือหัวเข่าและ...กลางลำตัวที่ไร้สิ่งใดปกปิด ไม่รู้ว่ากีรติทันเห็นหรือเปล่าเพราะสายตาเอาแต่จดจ่อหัวเข่าของพัดเท่านั้น แต่พัดก็ยังเลือกที่จะดึงผ้าลงเพื่อปกปิดมันให้ไวที่สุดอยู่ดี

แม้จุดประสงค์หลักของเขาจะมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่นั่นเป็นข้อเสนอของเขาเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น พี่กีอาจจะหลงใหลหัวเข่าสวยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายยินดีที่จะมองไอ้นั่นของผู้ชายคนอื่น...จะพูดให้ถูกก็คือไอ้นั่นของรุ่นน้องอย่างเขาคนนี้

นั่นรวมไปถึงไม่ได้หมายความว่าพี่กีจะอยากมีอะไรกันกับเขาด้วยเช่นกัน

จุ๊บ

ริมฝีปากร้อนผ่าวแตะแผ่วที่เข่าข้างหนึ่ง ทำเอาพัฒน์ชวินทร์สะดุ้งอีกครั้ง ลมหายใจขาดห่วงไปชั่วขณะ เขาได้แต่ร่ำร้องกับตัวเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ให้ตาย ให้ตาย ให้ตาย!

ร่างกายราวกับไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาในทันทียามเมื่อพี่กีใช้มือใหญ่ลูบที่เข่าข้างหนึ่ง ขณะที่เข่าอีกข้างถูกจุมพิตซ้ำๆ ความอ่อนนุ่มของปากกับลมหายใจร้อนผะผ่าวคลอเคลียไม่ห่าง ทำเอาร่างทั้งร่างของพัฒน์ชวินท์สั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้ และคนหน้าสวยต้องใช้ความพยายามากกว่าเดิมเพื่อเก็บซ่อนอาการสั่นไหวของตัวเองเอาไว้ให้มิด...อย่างรวดเร็วที่สุดด้วย

กีรติเฝ้าวนเวียนคลอเคลียไม่ห่าง พึมพำซ้ำๆ เอ่ยชมหัวเข่าของพัฒน์ชวินทร์ไปด้วย พัดเชื่อแล้วว่าอีกฝ่ายหลงใหลมันจริงๆ เพราะสัมผัสที่ได้รับช่างอ่อนโยน หวามไหว ทำให้ใจสั่นหวิว สมองพร่าเบลอไปหมดจนแทบคิดอะไรไม่ออกเพราะความทะนุถนอมที่อีกฝ่ายมอบให้

ก่อนพัดจะรับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นเมื่อคนเป็นรุ่นพี่...เลียหัวเข่าของเขา!

“อึก...”

พัดยกหลังมือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองที่เกือบจะเล็ดรอดออกมา ดวงตาพร่าพรายมองเพดานห้องเป็นเพียงภาพเบลอไปด้วยแล้วคราวนี้ ก่อนมันจะชัดเจนขึ้นเมื่อเขาผงกหัวมองดูการเคลื่อนไหวของรุ่นพี่หนุ่ม

พี่กีแนบริมฝีปากไว้กับหัวเข่าขาว ประกายตาคมกริบเหลือบมองคนใต้ร่างทั้งที่ยังลูบไล้กระดูกข้อเข่าอันแสนงดงามไม่ปล่อย ร่างสูงย้ายไปจุมพิตที่เข่าอีกข้าง สูดหายใจเข้าลึกเพื่อดมกลิ่นสบู่จางๆ ก่อนหลับตาพริ้มราวกับกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับกรุ่นกลิ่นนั้น...การทำอย่างของชายหนุ่ม ทำให้คนหน้าสวยหวนนึกไปถึงตอนที่ตัวเองลูบสบู่เพื่อทำความสะอาดตรงตำแหน่งนั้นเป็นพิเศษอยู่นาน

อ่า ถือว่าเขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ทำอย่างนั้น

ความร้อนสูบฉีดทั่วใบหน้าของพัฒน์ชวินทร์ ไม่สิ...แม้แต่ภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำ ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่แล่นพล่านไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะหัวเข่าทั้งสองข้างกับท้องน้อย

อะ...พัดกำลังมีอารมณ์เพียงเพราะถูกลูบเข่า ให้ตายเถอะ!

คนหน้าสวยได้แต่หวังว่าพี่กีจะไม่รู้ หวังว่าชายชุดที่คลุมอยู่จะปกปิดได้มิดมากพอไม่ให้เห็นว่าส่วนร้อนผ่าวตรงนั้นมีปฏิกิริยาต่างจากปกติ มันน่าขายหน้าเกินไปหากพี่กีรู้ว่าเขาที่เป็นคนเสนอหัวเข่าสวยๆ ของตัวเองให้อีกฝ่ายใช้สำเร็จความใคร่...ดันมีอารมณ์เสียเอง

อัตตาเขาสูงพอๆ กับพี่กีนั่นล่ะ มั่นใจในตัวเอง เย่อหยิ่งและทระนงตน ศักดิ์ศรีคือสิ่งสำคัญเกินกว่าจะวัดค่าได้ และพัฒน์ชวินทร์จะไม่ยอมเสียมันไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ที่ข้อแลกเปลี่ยนของเราทั้งคู่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น

พี่กีผ่อนลมหายใจยาว ยกท่อนขาเรียวสวยข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าตนเอง เอียงแก้มซบหัวเข่าได้รูปแล้วถูไถไปมา ท่าทางเหมือนแมวตัวยักษ์กำลังออดอ้อนเจ้าของไม่มีผิด

หัวใจคนมองพลันกระตุกแรง ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นใบหน้าที่มักนิ่งเฉยจนดูเหมือนเย็นชาของพี่กีปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ ออกมา ดวงตาคู่คมยังคงปิดสนิท แต่สีหน้ากลับอบอุ่นเหลือเกิน

พัฒน์ชวินทร์อยากถามว่าทำไมพี่กีถึงได้หลงใหลอวัยวะชิ้นนี้นักหนา ชอบมันจนเผยรอยยิ้มแบบนี้ออกมาได้เลยเหรอ? รอยยิ้มที่เขาแทบไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ได้รู้จักอีกฝ่าย

“อะ...อื้อ”

คนหน้าสวยหลุดเสียงร้องแผ่วเบาเมื่อมือหยาบกร้านเลื่อนมาลูบที่ขาอ่อนเขา ก่อนปลายลิ้นร้อนจะไล้เลียหัวเข่าของเขาอีกครั้ง ชิมรสมันราวกับเป็นของหวานหลังอาหารมื้อดึก กระตุ้นเร้าให้กลางกายของพัดตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม

อยากจับต้อง อยากปลดปล่อยความเครียดขึงที่เกิดขึ้น อยากสอดมือเข้าไปใต้เสื้อคลุมแล้วช่วยเหลือตัวเองให้หลุดพ้นจากความทรมานทางเพศที่ไม่ได้ตั้งใจในครั้งนี้ แต่เขาทำไม่ได้...จะยังไงก็ทำไม่ได้

“หอม ขาว เนียน...” กีรติเอ่ยขึ้น กลับมาสบดวงตาของรุ่นน้องหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ลมหายใจคนฟังสะดุดลงอีกครั้ง “ฉันอยากช่วยตัวเอง”

พัฒน์ชวินทร์พูดอะไรไม่ออกอยู่หลายวินาที แต่แล้วสติก็กลับมา แถมยังผลักดันให้เขาตอบออกไปว่า “แล้วผมห้ามพี่เหรอครับ?”

เป็นสัญญาณว่าอนุญาตแบบไม่พูดตรงๆ

กีรติเหยียดยิ้มมุมปาก เขาปลดเชือกชุดคลุมอาบน้ำที่เอวออกด้วยมือเดียว กระทั่งสาบเสื้อแหวกออกเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง หน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยหกลูก และต่ำลงไปกว่านั้นคือความเป็นชายที่กำลังแข็งขืนเต็มที่

ใหญ่โต ผงาดกล้า ไร้ซึ่งความขลาดอายต่อสายตาคนที่กำลังมองอยู่

พัฒน์ชวินทร์สูดหายใจเข้าลึก เขาไม่สามารถละสายตาไปจากทุกการเคลื่อนไหวนับจากนี้ของพี่กีได้เลย ไม่ว่าจะตอนที่คนเป็นรุ่นพี่ใช้มือหนึ่งรูดคลึงตัวเอง ตอนที่เคล้าคลึงหัวเข่าของเขา หรือแม้แต่ตอนที่แสดงสีหน้าสุขสมออกมาโดยไม่คิดปิดบัง

มันน่าประทับใจที่พี่กีแสดงออกถึงความต้องการและความหลงใหลของตัวเองออกมาอย่างไม่อาย ลองคิดดูแล้วหากเป็นพัดเอง เขาคงไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกหรือสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ใครรับรู้ได้ง่ายๆ แบบนี้แน่ จะเรียกว่าอีกฝ่ายหน้าด้านดีหรือเปล่าล่ะ?

“อึก ฮ้า...”

เสียงครางทุ้มต่ำดังออกมาให้ได้ยิน ผสานไปกับเสียงหอบหายใจหนักหน่วง...แต่แล้วกีรติก็ต้องชะงัก เมื่อจู่ๆ ท่อนขาขาวของพัฒน์ชวินทร์อีกข้างที่ไม่ได้พาดบ่าแกร่งอยู่ เลื่อนมาวางนิ้วเท้าแนบกับส่วนปลายแก่นกายของเขา ก่อนใช้ซอกนิ้วถูไถหยอกเย้าเล่น

นัยน์ตาสองคู่ประสานกัน...คู่หนึ่งมีแววนิ่งเฉย หากแต่อีกคู่กลับระยิบระยับราวกับกำลังสนุก

ไม่ต้องมีคำพูด ไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจเจตจำนงที่ต่างฝ่ายต่างปรารถนา

กีรติปล่อยมือออกจากการกำรูดท่อนเนื้อร้อนผ่าวของตัวเอง เขาปล่อยให้รุ่นน้องหน้าหวานเป็นฝ่ายทำให้ ไม่รังเกียจแม้สิ่งที่กำลังปรนเปรอให้เขาอยู่คือฝ่าเท้านุ่มๆ

พัฒน์ชวินทร์รูดรั้งกลางกายของพี่กีด้วยฝ่าเท้าของตัวเอง น้ำอยากที่ปริซึมออกมาทำให้ลื่นไปหมดแต่ก็ช่วยให้อะไรๆ มันง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน

พี่กีร้อนผ่าวเหลือเกิน แม้จะไม่ได้ใช้มือสัมผัสแต่พัดก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายแข็งขึงขนาดไหน ร้อนราวกับไฟ ใหญ่โตจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้ามันเข้ามาอยู่ในปากของเขาจะให้ความรู้สึกดีมากมายเพียงใด

ให้ตายเถอะ นี่เขาคิดเลยเถิดไปถึงขั้นนั้นแล้วหรือนี่ น่าขายหน้ากับตัวเองเป็นบ้าเลย!

“อืม อย่างนั้น...” พี่กีหลับตาส่งเสียงในลำคออย่างชอบใจ ขณะที่คนหน้าสวยต้องเม้มปากเพราะการช่วยพี่กีในครั้งนี้ทำให้เขายิ่งอยากรูดรั้งให้ตัวเองมากขึ้นไปอีก

นิ้วโป้งเท้าถูซ้ำๆ ที่ส่วนหัว ขยี้หนักๆ เท่าที่จะส่งแรงไปได้ ก่อนใช้ซอกนิ้วหนีบแก่นกายใหญ่เอาไว้แล้วลากขึ้นลงซ้ำๆ จากเนิบช้าก็กลายเป็นถี่เร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นกีรติก็ไม่หยุดที่จะจูบเลียหัวเข่าที่เขาเคยแอบมองอยู่หลายครั้ง ยามที่พัฒน์ชวินทร์ใส่กางเกงขาสั้นหรือยีนขาดเข่าแล้วบังเอิญได้เจอกัน

เขาเคยคิดว่าอยากจะลองสัมผัสมันดูสักครั้ง และในวันนี้เขาก็ได้ทำตามที่ใจปรารถนาแล้ว ซึ่งมันดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้เสียด้วยสิ : )

“ฉันใกล้แล้ว อะ...”

คนหน้าสวยได้ยินดังนั้นก็เร่งจังหวะเร็วกว่าเดิม แม้จะเริ่มเมื่อยบวกกับแข็งขืนจนเจ็บร้าวไปหมด แต่ก็ยังเก็บอาการเอาไว้และช่วยให้พี่กีได้ไปถึงฝั่งฝันก่อนตนเอง

น้ำรักสีขาวขุ่นฉีดพุ่งออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องแกร่ง และบางส่วนเปื้อนเท้าของพัฒน์ชวินทร์ด้วยเช่นกัน กระทั่งเขารีดเค้นจนหมดทุกหยาดหยด ชายหนุ่มก็ยกขาข้างที่พาดบ่ากีรติออกอย่างรวดเร็ว กดสายตามองน้ำอุ่นๆ ที่เปื้อนอยู่นิดหน่อยนั่น ก่อนจะพูดขึ้นราวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

“เปื้อนเลยแฮะ ผมคงต้องไปล้างมันออกสักหน่อย”

“...”

“อ้อ พี่ก็ควรไปล้างด้วยเหมือนกัน ยกเว้นแต่ว่าพี่อยากจะต่อรอบสอง : )”

พัฒน์ชวินทร์ก้าวลงจากเตียงนอนหลังใหญ่ พาตัวเองเข้าห้องน้ำโดยพยายามไม่ใส่ใจว่าพี่กีจะทำหน้าอย่างไรกับคำพูดของเขา เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาต้องให้ความสนใจมากกว่าก็คือความอึดอัดที่กลางกายตนเอง

ชายหนุ่มเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงครางหลุดรอดออกไป ทิ้งตัวนั่งบนฝาชักโครก แยกขาออกกว้างเล็กน้อยก่อนใช้มือปรนเปรอให้ตัวเองไปถึงฝั่งฝันหลังจากอดกลั้นมานาน

ดูท่าแล้วความหลงใหลที่เขามีต่อพี่กีจะรุนแรงมากพอๆ กับที่อีกฝ่ายหลงใหลหัวเข่าสวยๆ ซะล่ะมั้ง และชายหนุ่มไม่ได้เตรียมตัวมาค้นพบความรู้สึกล้ำลึกแบบนี้เสียด้วย

...แย่แล้วสิ


___________________

เป็นมินิคัทเฉย 555555555 เรื่องนี้จะดำเนินเรื่องไวตามแบบที่เราชอบเขียนนั่นแหละค่ะ แหะ ตรงไหนแปลกๆ บอกได้นะคะ เราไม่ได้เขียนฉากแบบนี้มาสักพัก พอกลับมาเขียนก็ตึงมือไปหมด ไม่รู้จะบรรยายยังไงให้ออกมาดี ฮือ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เจอกันตอนหน้าค่ะ

หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-07-2019 23:42:20
ให้บรรยากาศเหมือนกับกำลังกินคากิเลย หร่อย ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 13-07-2019 23:58:48
รอติดตามตอนต่อไปเลยค่าา อ่านไปนึกภาพหัวเข่าสวยๆไป ดีงามม
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-07-2019 03:51:53
งุ้ย~ :hao5:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-07-2019 05:38:59
แปลกไปอีกแนว หลงไหลหัวเข่า พัดจะตกหลุมที่ตัวเองสร้างเองมะ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าหมีโคตรขี้เกียจ ที่ 14-07-2019 09:51:50
ถึงกับก้มดูหัวเข่าตัวเองเลย

สำหรับคนถูกกระทำ ตอนโดนนวดเข่าแบบนวดแผนไทยไรงี้ มันฟินอยู่นะ แต่กับพระเอกเรานี่ได้ลูบหัวเข้าแล้วรู้สึกยังไงอะ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-07-2019 22:39:41
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 15-07-2019 13:26:06
อู้ววววววววว :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-08-2019 11:12:28
เมื่อไหร่จะมาอัพต่ออ่า
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 08-08-2019 19:55:32
หัวเข่าเนี่ยนะ หัวเข่า!!!!!! จริงดิ๊

พี่กีคะ ถ้าพี่กีเจอเราพี่กีจะอึ้ง 55555 

ชอบความไปอ่อยเค้าแล้วมีอารมณ์เอง ทำไมมันพอร์นๆ ฟินจัง55555 :o8:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 1 [13/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 09-08-2019 23:33:59
หวีดดดด เดาไม่ถูกเลยว่าควีนคือใคร ตอนแรกนึกว่าพี่กี แต่น้องพัดก็ควีนใช่ย่อย ชอบมากค่าาา  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 2 [20/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 20-08-2019 22:28:29
หลงใหลครั้งที่ 2

 

พัฒน์ชวินทร์ตื่นก่อนเวลาปกติ แม้เมื่อคืนจะดื่มมาไม่น้อยแถมยังนอนดึกมากเพราะ...นั่นล่ะ แต่ร่างกายก็ยังปลุกให้เขาลืมตาขึ้นมาก่อนเวลาอยู่ดี

วันนี้เขามีนัดสำคัญ เป็นนัดที่ไม่ได้อยากจะไปแต่เพราะว่ามันชวนให้หงุดหงิดใจจนเขาเก็บเอามาคิดซ้ำๆ ก็เลยกลายเป็นว่าเขาอยากจะรีบไปตามนัดให้มันจบๆ ไปซะ

คนหน้าสวยเหลือบมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของผู้ชายที่นอนข้างกันมาครึ่งคืน พี่กีไม่ชอบใส่เสื้อเวลานอน เมื่อก่อนเป็นยังไงเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

พัดไล้ปลายนิ้วกับกระดูกสะบักเพียงแผ่วเบาก่อนขยับลงยืนข้างเตียงเพื่อแต่งตัว เขาคว้านาฬิกาข้อมือมาใส่ มองเวลาไปด้วยก็พบว่าเหลืออีกสองชั่วโมงก่อนจะถึงเวลานัด ยังมีเวลาให้เขากลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ที่คอนโดฯ ตัวเอง

จัดสภาพร่างกายจนใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับครบตามเดิมเสร็จ ก็คว้าเอากระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นอย่างสุดท้าย แต่ระหว่างเหน็บเข้ากระเป๋ากางเกงกลับนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ พัดจึงเหลือบมองหากระดาษสักแผ่น ส่วนปากกาเขามีอยู่แล้ว เหน็บเอาไว้หลังกางเกงที่ตัวเองใส่เสมอ

เมื่อไม่เจอกระดาษจึงเลือกใช้กระดาษทิชชูแทน รีดจนเรียบก่อนจรดปลายปากกาลงไป เขียนข้อความไม่กี่คำแล้ววางมันลงข้างหมอนที่เขาหนุน ไม่ลืมควักแบงก์พันออกมาราวสามใบวางแนบเอาไว้ด้วย

“อยากเห็นหน้าพี่กีตอนได้เห็นมันจังแฮะ : )”

คิดอย่างอารมณ์ดี โน้มตัวลงมองคนที่ยังหลับสนิท และเพราะรู้ว่าพี่กีเป็นคนหลับลึก หนุ่มหน้าสวยจึงกดจูบที่ข้างแก้มสากหนึ่งทีก่อนออกจากห้อง

 

สองชั่วโมงต่อมาพัฒน์ชวินทร์ก็มาอยู่ที่ร้านกาแฟในห้างแห่งหนึ่ง เขามาตรงเวลานัดเป๊ะๆ ถึงกระนั้นก็ยังโดนสายตาต่อว่าจากคู่นัดที่มาถึงก่อนเขาอยู่ดี

“แกมาช้า”

“ผมมาตรงเวลา พี่ต่างหากที่มาก่อนเวลา” พัดกล่าว นั่งลงพลางเปิดเมนูออกอ่าน ก่อนยกมือขอสั่งคาปูชิโน่หนึ่งแก้ว “มีอะไรก็พูดมา”

“รีบไปไหนหรือไง”

“ผมว่าคนที่รีบคือพี่มากกว่านะ ไม่งั้นคงไม่มาก่อนเวลาหรอก”

คู่สนทนาเหยียดสายตามองพัฒน์ชวินทร์ มันเป็นสายตาดูแคลน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี แต่พี่ชายต่างแม่ของเขาก็ยังมองเห็นเขาเป็นเพียงกาฝากน่ารำคาญเสมอ

“แกมันก็เป็นไอ้คนไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม”

พัดหันหน้าไปมองด้านนอกร้าน ใช้หางตาปรายมองพี่ชายเท่านั้น “พูดธุระของพี่มา”

“อย่าใช้สายตาแบบนั้นกับฉัน!”

“งั้นพี่ก็อย่ามาใช้สายตาแบบนั้นกับผมเหมือนกัน”

“แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันไอ้พัด!”

“เราจะทะเลาะกันเรื่องนี้จริงๆ เหรอ?” คนฟังถอนหายใจ ย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง “พูดธุระของพี่มา”

ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ก็อ่อนหวานซึ่งถือศักดิ์เป็นพี่ชายของเขากำมือแน่น แต่สุดท้ายก็ยอมถอยด้วยการเข้าประเด็นหลักที่นัดน้องชายต่างแม่ออกมาพบ ทั้งที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้ว

การ์ดเชิญใบหนึ่งถูกดันมาวางลงตรงหน้าพัฒน์ชวินทร์ หน้าซองสลักชื่อ ‘พีรพัฒน์ สัตยานนท์’ เอาไว้

“เอาไป”

พัดเลิกคิ้ว “เอาบัตรเชิญของพี่มาให้ผมทำไม?”

“เพราะฉันจะให้แกไปแทน”

“ไปแทน? งานอะไรทำไมพี่ไม่ไปเอง”

“งานแต่ง” พีรพัฒน์กอดอก “ยัยศศิตา”

คนเป็นน้องชายนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทวนถาม “คนรักเก่าของพี่จะแต่งงานทั้งที ทำไมพี่ไม่ไปเอง”

“แกก็รู้ว่าฉันกับเธอจบกันไม่ดี”

“แต่เธอก็ยังส่งการ์ดมาเชิญพี่”

“ต้องการจะเยาะเย้ยฉันน่ะสิ!” พีรพัฒน์พ่นลมหายใจแรง “แกต้องไปแทนฉัน ห้ามปฏิเสธ”

คนฟังเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เรียวขาสวยยกขึ้นไขว่ห้าง ในหัวเขาเอ่ยคำว่าไม่ แต่เมื่อคิดดูแล้วคงไม่มีประโยชน์หากจะพูดมันออกไป ถ้าเขาไม่ยอม พี่พีก็ต้องไปบอกคุณพ่อ แล้วสุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องโดนคุณพ่อดุด่า จบลงที่เขาต้องใส่สูทก้าวเข้างานแต่งแฟนเก่าของพี่ชายอยู่ดี

ดังนั้นตอบรับไปให้มันจบๆ แล้วกัน

“งานมีเมื่อไหร่ครับ”

“สุดสัปดาห์นี้ ไปงานเลี้ยงตอนกลางคืนก็พอ”

“ครับ ธุระมีแค่นี้ใช่มั้ย?”

คนถูกถามไม่ตอบแต่ลุกขึ้นยืนแทน “คุณแม่อยากพบนาย”

“แต่ผมไม่อยาก”

“แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” พูดจบก็ก้าวจากไป ทิ้งให้พัฒน์ชวินทร์เม้มปากกำมือแน่น

ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ไม่เคยแข็งข้อกับคนตระกูลสัตยานนท์ได้เลย

 

ตอนบ่ายพัฒน์ชวินทร์มีเรียนหนึ่งวิชา หลังจิบคาปูชิโน่อยู่ครึ่งชั่วโมงเขาถึงได้จ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้าน แต่ยังไม่ทันได้คิดว่าจะกินมื้อเที่ยงที่ไหนก่อนเข้ามหา’ลัย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นรั้งขาเขาเอาไว้ให้หยุดเดิน เพื่อหยิบออกมากดรับ...เป็นสายเรียกเข้าของเพื่อนสนิท

“ว่าไง”

[มึงอยู่ไหนวะไอ้พัด?]

“ร้านกาแฟ”

[ดีเลย ฝากซื้ออเมริกาโน่แก้วหนึ่งดิวะ]

“กูออกจากร้านมาแล้ว”

[เอ๊า เออๆ เดี๋ยวกูซื้อเองก็ได้ แล้วนี่มึงจะไปไหนต่อล่ะ กินข้าวเที่ยงด้วยกันมะ?]

“ร้านไหนมึงเลือก”

นัดแนะร้านกันเรียบร้อยก็วางสาย พัฒน์ชวินทร์โบกมือเรียกแท็กซี่ บอกจุดหมายปลายทางเรียบร้อยก็หยิบการ์ดงานแต่งขึ้นมาดูอีกครั้ง ชายหนุ่มเคยเจออดีตคนรักเก่าของพี่ชายอยู่สองสามครั้ง เธอเป็นผู้หญิงสวย มั่นใจในตัวเอง แต่สุดท้ายเธอก็ทิ้งพี่ชายเขาไปเพราะเจอคนที่ดีกว่า

แน่ล่ะ เป็นเขาก็จะเชียร์ให้เธอไปคบกับคนอื่น ยังไงก็ดีกว่าคบกับไอ้พี่ชายจอมบงการของเขา

จำได้ว่าพี่พีกับเธอจบกันไม่ค่อยดีนัก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงส่งการ์ดเชิญมาให้ พัดมีหน้าที่แค่ไปร่วมแสดงความยินดีแทน และคาดหวังว่าจะได้เจอใครอีกคนที่นั่น

ก็พี่กีเป็นเพื่อนกับพี่ตานี่นา : )

พอนึกถึงพี่กีขึ้นมาก็อยากจะรู้แล้วสิว่าตอนนี้อีกฝ่ายตื่นหรือยัง เห็นโน้ตที่เขาวางไว้พร้อมเงินสามพันบาทหรือเปล่า สีหน้าของพี่กีจะออกมาเป็นแบบไหน ผู้ชายที่ชอบทำหน้านิ่งมากกว่าจะยิ้มหรือแสดงอารมณ์อื่นใด จะเผยความขุ่นเคืองออกมามากมายขนาดไหนกันนะ

อ่า...อยากเห็นจริงๆ นะเนี่ย แค่คิดก็รู้สึกสนุกแล้วสิ : )

รถจอดที่หน้ามหา’ลัย พัดจ่ายค่าโดยสารเรียบร้อยก็เดินตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับขุนน้ำเอาไว้ทันที เจอเพื่อนสนิทยืนดูดกาแฟรออยู่ก่อนแล้ว

“มานานแล้วเหรอ?”

“ไม่อะ เพิ่งมา แต่หิวมากเลยว่ะ กินไรดีวะ”

“กูจะรู้มึงมั้ย”

เข้าไปในร้านติดแอร์เจ้าประจำของทั้งคู่ ดูเมนูไม่นานก็สั่งอาหารจานเดียวมากิน ระหว่างรอขุนน้ำก็ไม่พลาดที่จะเค้นคอเพื่อนรักหน้าสวย

“เมื่อคืนมึงขอกลับไปก่อนทำไมวะ”

“กูมีนัด”

“นัดกับใคร?”

พัฒน์ชวินทร์ปรายตามองเพื่อน “จะอยากรู้ไปทำไม”

“มึงเคยทำอะไรเหมือนชาวบ้านเขาเหรอไอ้พัด เมื่อคืนมึงก็เอาแต่มองพี่กี แถมยังเข้าไปคุยกับพี่มันอีก แล้วจู่ๆ ก็มาบอกว่าขอกลับก่อนทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะไปดื่มต่อกับพวกพี่ๆ เขา ยิ่งไปกว่านั้นคือมึงหายไปพร้อมพี่กี จะให้คิดยังไงเอ่ย หื้อออ” ขุนน้ำพูดออกมาเป็นฉากๆ เล่นเอาคนฟังหลุดยิ้มขำ

“มึงพูดมาซะขนาดนี้ยังจะถามกูอีกเหรอว่ากูหายไปไหน”

“สรุปมึงไปกับพี่กีจริงดิ?”

“เออ”

“เฮ้ย! ไปไหน ไปทำอะไรกัน!?”

พัฒน์ชวินทร์ยิ้มมุมปาก “เรื่องของกู”

“ไอ้พัดดด”

ข้าวมาเสิร์ฟขัดจังหวะการเค้นคอของขุนน้ำพอดี แต่แม้ว่าจะกำลังกินข้าวอยู่ เพื่อนสนิทช่างฉอเลาะก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซักถาม กระนั้นพัดก็แกล้งไม่นำพาต่อเสียงของอีกฝ่าย สุดท้ายขุนน้ำเลยต้องยอมแพ้เลิกถามไปเองจนได้

กินข้าวเสร็จก็เข้าคลาสเรียนทันที แต่เพราะว่ามาก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็เลยมีเวลาให้นั่งเล่นไปเรื่อยเปื่อยก่อนอาจารย์จะเข้าสอน พัดไม่ใช่คนพูดเก่ง เขาชอบฟังมากกว่า ดังนั้นก็เลยฟังเพื่อนสนิทเล่าเรื่องเมื่อคืนจนรู้หมดแล้วว่าใครอ้วก ใครหิ้วสาวกลับบ้าน หรือใครทำอะไรบ้าง

“เออ พี่บอลแม่งจู่ๆ ก็ประกาศว่าเรียนจบจะหมั้นกับพี่เหมย ไอ้ฉิบหาย เล่นเอาฮือฮากันไปหมด เลยดื่มฉลองล่วงหน้ากันจนหมดสภาพ ดีนะพวกพี่ปีสี่ไม่มีเรียนกันแล้ว เหลือก็แค่ทำธีสิสให้เสร็จ กว่าจะกลับบ้านกลับช่องกันก็โน่นอะ เกือบเช้า”

“มึงกลับเช้าเหรอ?” คนหน้าสวยเอ่ยถามเพื่อน เพราะถึงจะดื่มหนักนอนดึกแค่ไหน แต่ไอ้ขุนน้ำกลับไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนเลยสักนิด

คนถูกถามสั่นหัว “ฮึ กูกลับตั้งแต่ตีสองกว่าๆ แล้ว ที่กูรู้ว่าเขากลับกันเช้าเพราะพี่รหัสกูบอกมาต่างหาก”

“เหรอ”

แล้วพัดก็นั่งฟังเพื่อนพูดเป็นต่อยหอยต่อไปกระทั่งอาจารย์เดินเข้ามาในคลาส นั่นล่ะมันถึงจะหุบปากลงได้ แต่พอผ่านการเรียนไปจนถึงท้ายคาบ กลับโดนกินเวลาเกินออกไป กระทั่งอาจารย์ปล่อยให้กลับได้ ขุนน้ำก็บ่นออกมาทันที

“วันนี้อาจารย์ปล่อยช้าโคตร กูหิวตั้งแต่สี่โมงแล้ว”

“นี่เพิ่งจะสี่โมงครึ่งไอ้ขุน”

“ก็เลทมาตั้งครึ่งชั่วโมงไม่ใช่หรือไง หิวว่ะ กินไรดีวะ”

“อะไรก็ได้” พัฒน์ชวินทร์ไหวไหล่ เขาไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษ เอาเข้าจริงก็เป็นคนง่ายๆ กินอะไรก็ได้อยู่แล้ว ของที่เกลียดไม่ค่อยมีเท่าไหร่

“งั้นปิ้งย่างมั้ยมึง อยากว่ะ”

“อือ” ตอบรับสั้นๆ สองเท้าก้าวลงบันไดตึกเรียนไปด้วย เพราะอยู่แค่ชั้นสองเลยเลือกที่จะเดินมากกว่าลงลิฟต์ แต่ทันทีที่เท้าแตะพื้นหน้าคณะ คนหน้าสวยก็เป็นอันต้องยืนนิ่ง ดวงตาคู่เรียวสบเข้ากับนัยน์ตาคมกริบ

“นาย”

พัดเลิกคิ้ว “ปีสี่ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอครับ? มาให้อาจารย์ตรวจธีสิสก็ไม่น่าจะใช่ เพราะพี่ไม่ได้ถืออะไรเลยสักอย่าง”

“...”

“หรือพี่มีธุระกับผม?”

ถามออกไปพลางเมินเฉยต่อแรงกระตุกที่ชายแขนเสื้อของเพื่อนสนิท ได้ยินเสียงกระซิบถามของไอ้ขุนน้ำว่าพี่กีมาหามึงทำไมวะ ซ้ำๆ แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะไม่ตอบ

กีรติคนดังของคณะ แน่นอนว่าตอนนี้ก็ยังตกเป็นเป้าสายตาของรุ่นน้องที่เพิ่งเลิกเรียน แต่ดูเหมือนคนดังที่ว่าจะไม่สนใจ ก้าวเท้าเข้ามาหาเป้าหมายที่เพิ่งแยกกันเมื่อช่วงสาย ก่อนชูกระดาษทิชชูแผ่นหนึ่งขึ้นตรงหน้าพัฒน์ชวินทร์

“โน้ตนี่”

“ครับ?” เลิกคิ้วกระตุกยิ้มมุมปาก จงใจส่งสีหน้าและสายตายียวนใส่คนเป็นรุ่นพี่

กีรติหรี่ตามองใบหน้าสวยหวานเกินผู้ชาย กระซิบเสียงเบาหากแต่เข้มขึงอีกว่า “ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย”

“ผมก็ไม่ได้มองว่าเป็นเพื่อนเล่นนี่ครับ ในโน้ตผมก็บอกแล้วว่าให้เพราะ...อะไร”

มือหนาคว้าแขนเรียวมาจับแน่น “ไปกับฉัน”

“ไม่ครับ ผมจะไปกินข้าวกับเพื่อน”

“นายกล้า...”

“แล้วทำไมผมต้องไม่กล้าล่ะ?”

ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งนานหลายนาที เล่นเอาคนรอบข้างเมียงมองอย่างสนใจใคร่รู้ ส่วนขุนน้ำที่อยู่ข้างๆ เพื่อนหน้าสวยก็ถึงกับกลืนน้ำลาย ถึงจะไม่เข้าใจที่ทั้งสองพูดคุยกันนัก แต่สายตาคมปลาบเหมือนเสือโมโหของพี่กีแม่งโคตรน่ากลัวเลย จะทะเลาะกันหรือเปล่าวะเนี่ย

ขุนน้ำได้แต่ถามตัวเองในใจ และได้แต่สงสัยว่าเพื่อนเขาไปกระตุกหนวดเสือหนวดไหนเข้าวะ

“ไปกับฉัน...ไม่นาน”

“ก็ได้ครับ” พัฒน์ชวินทร์ไหวไหล่ หันไปพยักหน้าบอกเพื่อนสนิท “เดี๋ยวกูมา”

“เอ่อ โอเค”

ข้อมือบางถูกดึงกึ่งลากให้เดินไปด้วยกันท่ามกลางสายตาคนในคณะ จนหลบมาอยู่ในที่ลับตาคนมากพอแล้วนั่นล่ะ กีรติถึงได้ควักเอาแบงก์พันยับๆ สามใบออกมาชูตรงหน้าคนเป็นรุ่นน้อง

“นี่อะไร”

“ผมก็บอกไว้ในโน้ตแล้วไงครับ”

“ค่าโรงแรมไม่กี่พัน ฉันมีปัญญาจ่าย”

พัฒน์ชวินทร์ยิ้มบาง ดวงตาเป็นประกายหยอกเย้า “งั้นถือว่าเป็นค่าตัวพี่ก็ได้ : )”

“พัด!” น้ำเสียงทุ้มกดเรียกเสียงต่ำ สื่อความว่ากำลังไม่พอใจแล้วตอนนี้

“ผมล้อเล่นน่า ก็แค่อยากช่วยค่าโรงแรมเอง ยังไงเราก็เช็กอินร่วมกันนี่ครับ”

“ไม่จำเป็น”

“พี่อย่าทำเหมือนผมเป็นเด็กไซด์ไลน์ไปหน่อยเลย”

คนโดนโต้กลับนิ่งไป ท่าทีแข็งกร้าวอ่อนลง “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น”

“อ่าฮะ และการที่ผมช่วยค่าโรงแรมก็ไม่ได้หมายความว่าผมดูถูกพี่เหมือนกัน” พัดแสร้งทำหน้านิ่ง ราวกับว่าสิ่งที่พี่กีพูดออกมาทำร้ายจิตใจเขาไม่น้อย ก่อนเขาจะขยับเข้าไปใกล้จนใบหน้าตัวเองอยู่ห่างจากคนเป็นรุ่นพี่ไม่กี่เซนติเมตร “รู้ไว้เลยว่าผมไม่ได้ขาย”

“...”

“เพราะผมให้ฟรี : )” หลุดยิ้มหยอกล้อใส่คนหน้านิ่ง “แต่ผมก็เลือกนะว่าจะให้กับใคร ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นถูกใจผมมากพอหรือเปล่า”

“งั้นที่นายเลือก ‘เข้าหา’ ฉัน ก็เพราะว่านายถูกใจ?”

พัดยักไหล่ให้แทนคำตอบ โน้มหน้าไปกดจูบที่ข้างแก้มพี่กีก่อนถอยหลังหมุนตัวเดินจากมา ปล่อยให้อีกฝ่ายคิดหาคำตอบเอาเอง



________________________

น้องพัดก็จะยั่วๆ พี่กีหน่อย หมายถึงยั่วตีน 55555

หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 2 [20/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-08-2019 22:42:24
แรงใช้ได้นะ น้องพัด ชอบ ๆ  :m4:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 2 [20/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-08-2019 00:03:40
คู่นี้เคมีเขาตรงกันนะยูวววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 2 [20/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-08-2019 00:50:11
กวนมากพัด ระวังโดนเอาคืน
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 2 [20/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 21-08-2019 10:26:59
 :-[ ชอบค่ะ ยั่วๆบดๆกรี๊ดดดดด พูดอะไรออกมา!
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 19-12-2019 23:36:17
หลงใหลครั้งที่ 3

 


ปึง!

กีรติเผลอวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะแรงไปหน่อย ทำให้เพื่อนๆ หันมามองกันหมด เพราะไม่เคยเห็นชายหนุ่มผู้แสนเงียบขรึมออกอาการหงุดหงิดมากขนาดนี้บ่อยนัก

“เป็นไรวะ มึงดูอารมณ์ไม่ดีมาหลายวันแล้วนะ” วิทย์เอ่ยถาม เพราะช่วงนี้นัดออกมาทำธีสิสด้วยกันที่มอเลยได้เห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ของเพื่อนมาสักพักแล้ว

คนถูกถามกดตามอง “เพราะน้องรหัสของมึงไง”

“น้องรหัสกู?”

“หมายถึงน้องพัดน่ะเหรอ ทำไมวะ น้องมันทำอะไรมึง” มายุ เพื่อนอีกคนในกลุ่มหันมาให้ความสนใจเต็มที่ “น้องทำไมๆ”

“กูล่ะเบื่อความปลื้มน้องออกนอกหน้านอกตาของมึงจริงๆ เลยว่ะ” และเจนจบ...เพื่อนคนสุดท้ายในกลุ่มก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจใส่ ก็รู้อยู่หรอกว่าน้องพัดคนนั้นน่ะเป็นที่จับตามองเพราะความหน้าสวยจับใจ ไหนจะนิสัยเข้าถึงยากที่ไม่ได้ทำให้ดูหยิ่ง แต่กลับทำให้มีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่กับไอ้เพื่อนบ้าที่คลั่งน้องเหลือเกินนี่มันก็ออกจะน่ารำคาญเกินไป

“ก็ทำไม กูปลื้มของกู”

“เออ ตกลงวันนี้กูจะได้รู้ไหมว่าน้องรหัสกูไปทำอะไรไอ้กี” วิทย์ดึงทุกคนกลับเข้าประเด็นหลักอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนคนดังของคณะ “มึงไปทำอะไรน้องมันมาวะ”

“มีแต่น้องมึงที่ทำกู” กีรติตวัดตาจ้องเพื่อนสนิทเขม็ง

“อย่างไอ้พัดที่ไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่นน่ะนะ?”

“เหอะ” ชายหนุ่มหน้านิ่งแค่นเสียงขึ้นจมูก

“แล้วตกลงน้องทำอะไรมึงล่ะวะ ไม่พูดสักที” มายุโพล่งถามขึ้นมาอีกครั้ง

“พวกมึงไม่จำเป็นต้องรู้หรอก รู้แค่ว่ากูหงุดหงิดเพราะเด็กนั่นก็พอ”

“เอ๊า!”

เจนจบกับมายุดูไม่ค่อยพอใจกับคำตอบที่ไม่เหมือนคำตอบของกีรติสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่กับวิทย์...พี่รหัสที่แสนดีสบตาเพื่อนผู้แสนเงียบขรึมก่อนจะว่า...

“ถ้าน้องมันทำอะไรไม่ดีใส่มึง กูขอโทษแทนด้วยแล้วกัน แต่อย่าไปทำอะไรน้องมันเลย ถือว่ากูขอ”

“มึงเป็นแค่พี่รหัส ทำไมต้องมาขอโทษแทนด้วย”

“...” คนถูกถามนิ่งไปและเลือกที่จะไม่ตอบ

“มันไม่ปกติไอ้วิทย์” กีรติหรี่ตามองเพื่อน

วิทย์ถอนหายใจ “กูแค่อยากให้ชีวิตน้องมันมีความสุขบ้างก็เท่านั้น”

“กวนตีนออกขนาดนั้น ขาดความสุขตรงไหน”

“ขาดมากกว่าที่มึงคิด”

ชายหนุ่มสองคนจ้องตากันท่ามกลางแสงไฟอ่อนๆ ของร้านเหล้าเจ้าประจำ ขณะที่เพื่อนอีกสองคนมองทั้งสองสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจนัก ตั้งแต่ฟังมาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าน้องพัดคนนั้นทำอะไรให้ไอ้กีไม่พอใจ แต่ที่ไอ้วิทย์พูดก็น่าสนใจ

“มึงกำลังจะบอกว่าน้องพัดกำลังประสบปัญหาชีวิตอะไรงี้เหรอ?”

เจนจบที่มักจะเข้าใจอะไรๆ ได้ไวกว่าคนอื่นถามขึ้น โดยมีมายุพยักหน้าให้อย่างกระตือรือร้น คิดดูแล้วคำพูดของไอ้วิทย์ก็ตีความให้เข้าใจได้แบบนั้นอยู่เหมือนกันนะ คนเราถ้าจะไม่มีความสุข มันก็น่าจะเกิดจากปัญหาอะไรสักอย่างในชีวิตแหละ

คนถูกถามแค่ไหวไหล่ “ทำนองนั้น”

“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?” มายุถามอย่างสอดรู้ พอเป็นเรื่องของน้องพัดคนนั้นเขาก็อยากรู้ไปซะหมด

“ไม่ใช่เรื่องที่กูจะตอบได้”

“อะไรของมึงวะ”

กีรติเลิกสนใจการทุ่มเถียงของเพื่อนทั้งสาม หวนนึกไปถึงเด็กนั่นที่แม้จะผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องที่โรงแรมคืนนั้น แม้กระทั่งกระดาษทิชชูที่เด็กนั่นเขียนทิ้งไว้ ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้ทิ้งมันไปเหมือนกัน

ไม่รู้ว่าทำไมต้องเก็บไว้ แต่พอจะทิ้งทีไรทำไม่ลงทุกที และเพราะแบบนั้นชายหนุ่มถึงได้หงุดหงิดอยู่นี่ไง

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรง ตัดสินใจพูดออกไป...

“น้องรหัสมึงรู้ความลับของกู”

กึก

การพูดคุยของเพื่อนทั้งสามหยุดลงกะทันหัน สิ่งที่ตามมาต่อจากนั้นคือดวงตาเบิกกว้าง มายุกับเจนจบถึงกับอ้าปากค้าง แต่วิทย์เพียงกะพริบตาปริบๆ เหมือนต้องการเวลาประมวลผลสิ่งที่ได้ยิน นานหลายนาทีกระทั่งกีรติดื่มเหล้าหมดแก้วแล้วทำการชงแก้วใหม่ วิทย์ถึงได้พูดขึ้น

“ได้ยังไงวะ”

คนถูกถามส่ายหน้า “ไม่รู้ แต่กูเดาว่ามันคงสังเกตเห็นมาสักพักแล้ว”

“กูก็บอกแล้วว่าอย่าส่องหัวเข่าคนอื่นบ่อยนัก”

คนดังของคณะไม่ได้โต้ตอบคำบ่นของมายุ เขาเพียงยกเหล้าจิบขึ้นอีกครั้ง พอลดแก้วลงถึงพูดต่อ “แต่เด็กนั่นสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”

“ก็ดีแล้ว...”

“แลกกับกูต้องเป็นเพื่อนนอนให้มัน”

“ห๊า!?!” แหกปากกันลั่นจนคนอื่นๆ ในร้านหันมามอง แต่พวกเขาก็ไม่ได้แคร์สายตาใครนักเพราะเรื่องที่เพิ่งได้ยินกับหูมันชวนตกใจมากกว่า

“เหี้ยไรเนี่ย แล้วมึงได้กินน้องมันยัง!?” เจนจบถาม

มายุหันไปตบหัวเพื่อน “ปากไม่ดีไอ้สัส”

“อ้าว กูถามถูกแล้วไหมวะ”

เป็นอีกครั้งที่กีรติถอนหายใจยาว “ยังไม่ถึงขั้นนั้น”

“แล้ว...”

RRRrrr

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ทำให้คนพูดชะงัก หยิบออกมาดูแล้วก็ต้องนิ่งไปเพราะชื่อที่โทร. เข้ามาเป็นคนที่เขากำลังพูดถึง...เหลือบมองเพื่อนทั้งสามที่จ้องราวกับต้องการจะสอดรู้ทุกเรื่องให้ได้ ชายหนุ่มจึงส่ายหน้าแล้วกดรับสายหลังสัญญาณตัดไปแล้วรอบหนึ่ง ก่อนจะดังขึ้นมาใหม่

“...”

[พี่ว่างหรือเปล่า?]

“นี่คือคำทักทายของคนที่เป็นรุ่นน้องเหรอ?”

ปลายสายหัวเราะในลำคอ [สวัสดีครับ...ทีนี้พี่ช่วยตอบคำถามของผมได้หรือยัง?]

“นายนี่มัน...” หมือนเล่นเกมยี่สิบคำถาม ย้อนถามกันไปมาไม่หยุดราวกับต้องการจะกวนประสาทกัน “มีอะไร”

[ผมอยากได้ความช่วยเหลือ]

“ฉันไม่ช่วย”

[เฮ้ อย่าตัดรอนกันขนาดนั้นสิ ผมจริงจังนะ อีกอย่างก็เป็นงานเดียวกับที่พี่จะไปด้วย]

“งาน?” กีรติไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด พัฒน์ชวินทร์กำลังหมายถึงอะไร

[อือฮึ งานแต่งของพี่ตา พี่เองก็ไปไม่ใช่เหรอ]

“นายรู้จักกับตา?”

[ครับ เธอเป็นแฟนเก่าของพี่ชายผม แต่พี่ผมไปไม่ได้ ผมก็เลยต้องไปแทน]

“งั้นเหรอ” แบบนี้นี่เอง แต่โลกมันจะกลมเกินไปหรือเปล่า นอกจากมหา’ลัย เขายังมีเรื่องอื่นๆ ให้ต้องเกี่ยวข้องกับเด็กหน้าสวยคนนี้อีกแล้ว

[ว่าไงครับ ผมอยากได้คนช่วยเลือกสูท พี่มาช่วยผมหน่อยได้ไหม]

กีรติถาม “แลกกับอะไร?”

[สิ่งที่พี่ต้องการที่สุด]

“โรงแรมเดิม เจอกันอีกครึ่งชั่วโมง”

“เฮ้ย!!!”

กีรติเหลือบมองเพื่อนสนิททุกคนเล็กน้อย ขณะหูได้ยินเสียงหัวเราะของพัฒน์ชวิทนร์

[ได้ครับ แต่ว่าพรุ่งนี้พี่ต้องไปช่วยผมเลือกสูทนะ ดีล?]

“ดีล”

หลังวางสายแน่นอนว่าไม่พ้นที่จะถูกเพื่อนซักฟอก วิทย์เป็นคนแรกที่โพล่งถามขึ้น “มึงนัดเจอกับพัดที่โรงแรม?”

“อือ”

“ไอ้กี มึงทำข้อตกลงกับน้องจริงๆ เหรอวะ น้องมันขอข้อแลกเปลี่ยนแบบนั้นจริงๆ ดิ?”

“อือ”

“กูไม่เข้าใจ พัดมันคิดอะไรอยู่วะ”

นั่นก็เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มสงสัยเหมือนกัน แต่อย่างเดียวที่เขาจะบอกเพื่อนได้คงมีแค่ “มันบอกว่าหาเรื่องสนุกๆ ทำ”

“เรื่องสนุกๆ อย่างการนอนกับมึงเนี่ยนะ?” มายุขมวดคิ้วมุ่น เขาปลื้มน้องพัดนะ แต่เริ่มงงแล้วว่าน้องมันคิดอะไรอยู่ อ๊ะ... “หรือว่าน้องมันชอบมึง!?”

“กูก็คิดแบบนั้น แต่น้องมันบอกว่าไม่ใช่”

เจนจบถอนหายใจยาว “กูว่านะ นอกจากไอ้กีที่ทำตัวลึกลับซับซ้อนเข้าถึงยากแล้ว ก็มีน้องพัดอีกคนนี่แหละว่ะที่ความคิดซับซ้อนพอกัน เหมาะกันดีเนอะ”

“ประสาท” คนหน้านิ่งด่าก่อนจะวางเงินไว้หลายพันแล้วลุกขึ้น “กูไปแล้ว พวกมึงแดกกันต่อเถอะ”

“มึงจะไปอะจึ้ยๆ กับน้องพัดเหรอวะ กูอยากไปด้วยจัง”

“ไปด้วยก็เหี้ยแล้วไอ้ยุ!” วิทย์ตบหัวเพื่อน แล้วหันมาพูดกับกีรติ “กูไม่ห้าม แต่อย่างที่บอก...อย่าทำอะไรไม่ดีกับน้องมัน กูขอแค่นี้”

“เออ กูไม่ทำอะไรไม่ดีหรอกน่า”

 

แยกกับเพื่อนและใช้เวลายี่สิบนาทีมาถึงโรงแรมเดิมที่เคยมากับพัฒน์ชวินทร์ ทันทีที่เขาเดินเข้าล็อบบี้ก็เจอคนหน้าสวยยืนกอดอกพิงเสารออยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่อีกฝ่ายเห็นเขาก็ขยับขึ้นยืนตรง ใบหน้างดงามเหมือนเดิม เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกมัดเอาไว้หลวมๆ ที่ต้นคอด้านหลัง ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่วันนี้เป็นเสื้อยืดมีสไตล์กับกางเกงขาสามส่วนที่เผยให้เห็นหัวเข่าขาวเนียนวับแวม

ดวงตาคู่คมเลื่อนลงจดจ้องส่วนนั้นอย่างลืมตัว แต่พอได้ยินเสียงกระแอมไอเรียกก็เงยหน้ากลับขึ้นมาสบตาเจ้าของหัวเข่าสวยๆ นั่น...รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้เขาช่างเต็มไปด้วยการล้อเลียน ลามไปถึงดวงตาเลยด้วยซ้ำ

“ผมรอให้พี่เปิดห้องอยู่นะ”

ร่างสูงไม่ตอบแต่เดินไปเปิดห้อง ได้คีย์การ์ดมาก็ตรงดิ่งขึ้นไปทันที แล้วเพียงแค่ปิดประตู ชายหนุ่มก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่ออก

“ฉันจะอาบน้ำ”

“ผมอาบด้วย”

กึก

กีรติชะงัก มองคนพูดราวกับต้องการจะถามว่าแน่ใจเหรอ?

พัฒน์ชวินท์ยักไหล่ ถกเสื้อที่ใส่อยู่ออก เปิดเผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ครั้งก่อนกีรติไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะจุดเดียวที่เขาโฟกัสก็คือหัวเข่าสวยๆ นั่น แต่ร่างกายท่อนบนที่ได้เห็น ทำให้ร่างสูงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายน่าจะขาวไปทั้งตัว

“ตามใจ” เขาบอกกับอีกฝ่าย ปลดเสื้อผ้าออกจนหมด เหลือไว้เพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่แสนกำยำแข็งแรง ซึ่งหันหลังก้าวเข้าห้องน้ำไปก่อน

คนหน้าสวยเหยียดยิ้มมุมปาก ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดก็หยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอว แทนที่จะเดินเข้าไปตัวเปล่าเหมือนรุ่นพี่หนุ่ม

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เจอพี่กีนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำแล้ว อีกฝ่ายแค่มองมาโดยไม่พูดอะไร พัฒน์ชวินทร์จึงหย่อนขาลงไปในแล้วนั่งลงที่ขอบอ่าง ดึงชายผ้าขนหนูขึ้นจนเปิดเผยเข่าเนียนสวยสู่สายตาคนที่หลงใหลมัน

เพียงแค่นั้นก็เหมือนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น...พี่กีขยับเข้ามาใกล้ รั้งเรียวขาข้างหนึ่งเข้าหาตัว ปลายนิ้วของมืออีกข้างลูบไล้ตั้งแต่ข้อเท้าไล่ขึ้นมาจนถึงหัวเข่า เกลี่ยเล่นสลับเคล้นคลึงด้วยจังหวะวาบหวาม ชวนให้คนถูกกระทำใจเต้นแรง

เหมือนกับครั้งก่อน พัดใจสั่นไปหมดยามเมื่อถูกมือใหญ่สัมผัสอย่างจาบจ้วงร้อนแรง ยิ่งเมื่อพี่กีจูบซับไปทั่ว เขาก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหวเพิ่มขึ้นทีละนิด

ใบหน้าคมคร้ามเต็มไปด้วยความหลงใหล ดวงตาเป็นประกายวาววับดั่งเสือยามจ้องเหยื่อที่หมายตา แล้วเข่าอีกข้างก็ถูกแตะต้องเหมือนก่อนหน้านี้ ทุกตำแหน่งที่คนตัวสูงสัมผัสทิ้งร่องรอยความร้อนผ่าวเอาไว้ แม้จะแช่อยู่ในน้ำอุ่นแต่ก็สัมผัสได้ว่าทุกจุดที่พี่กีลากผ่านมันร้อนกว่าน้ำที่แช่อยู่

“อืม...”

รุ่นพี่หนุ่มดูดผิวเนื้อตรงเหนือเข่าเล็กน้อยจนเกิดรอยแดงเรื่ออ่อนจาง ลากลิ้นเลียไปทั่วหัวเข่าขาว พัฒน์ชวินทร์เผลอจับศีรษะของพี่กี แต่พออีกฝ่ายเหลือบตาขึ้นมองเขาก็ชักมือออก กระนั้นกลับเป็นรุ่นพี่หนุ่มเสียเองที่ดึงมือเขามาจับเหมือนเดิม แถมยังจับมือเขากำเข้าหากันจนขยุ้มเส้นผมสีดำสนิท

ความนิ่มแทรกผ่านร่องนิ้วมือ พัดต้องห้ามตัวเองไม่ให้เผลอกัดปากแสดงอาการประหม่าออกไป ทันทีที่คนหน้านิ่งปล่อยมือ ชายหนุ่มก็แทรกปลายนิ้วเล่นกับเส้นผมในมือไปด้วย ระหว่างที่ยังถูกความอุ่นชื้นของปลายลิ้นร้อนแตะต้องไปทั่วหัวเข่าทั้งสองข้าง

เฮือก!

“อ๊ะ! พี่กี!”

แต่แล้วคนหน้าสวยก็ต้องสะดุ้งวาบ ยามเมื่อมือแกร่งสอดผ่านชายผ้าเข้าไปลูบไล้ด้านใน จับขาเรียวแยกออกกว้างเพื่อที่จะได้แตะต้องกลางกายซึ่งซ่อนอยู่ในนั้นได้อย่างถนัดมือ...คนเป็นรุ่นพี่กระตุกยิ้ม

“นายมีอารมณ์แล้วนี่”

“ผม...ฮ้า...”

สูดหายใจเข้าหอบใหญ่ยามเมื่อตัวตนร้อนผ่าวถูกรูดรั้งอย่างเนิบช้า ทว่าหนักหน่วงจนความกระสันซ่านแผ่ไปทั่วร่าง พัฒน์ชวินทร์เผลอขยำเส้นผมสีปีกกาแน่นขึ้นจนเกือบกลายเป็นกระชาก แต่กีรติไม่ได้ว่าอะไร ตรงกันข้ามชายหนุ่มกลับให้ความสนใจหัวเข่าสวยอีกครั้งทั้งที่มือยังปรนเปรอคนด้านบนไม่หยุด

แต่คนถูกกระทำมีหรือจะยอมโดนแบบนี้ฝ่ายเดียว

พัดหายใจสั่นพร่า ยื่นปลายเท้าไปลูบไล้แก่นกายของพี่กีเช่นกัน และมันได้ผล...คนถูกหยอกเย้าตรงส่วนนั้นชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเคลื่อนไหวตามเดิม พอใจกับการที่ท่อนกายแข็งขืนถูกปรนเปรอด้วยฝ่าเท้านุ่มนิ่มเหมือนคราวก่อนไม่มีผิด จะต่างก็เพียงตอนนี้อยู่ในอ่างอาบน้ำ ไม่ใช่เตียงนอนหลังใหญ่

“อืม...อย่างนั้นล่ะ...”

“อ่า...พี่กี แรง...”

กีรติเข้าใจในสิ่งที่รุ่นน้องหน้าสวยต้องการจะบอก ชายหนุ่มเร่งมือกระตุ้นเร้าความร้อนผ่าวใต้ร่มผ้ามากขึ้น บดคลึงส่วนหัวเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายก็กำลังทำให้เขาไม่ต่างกัน ทั้งๆ ที่ยังจูบซับดูดเลียหัวเข่าขาวไม่หยุดหย่อน

“ฉันชอบหัวเข่าของนายนะ มันสวยมากจริงๆ”

“อะ อ๊ะ!”

พัฒน์ชวินทร์ปลดปล่อยออกมาก่อน เพียงเพราะได้รับคำชมแสนธรรมดา และมันน่าอายเป็นบ้าเลยให้ตายสิ!

ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นสูงยามปลายทางของความสุขสมมาถึง ก่อนจะปัดมือพี่กีออกแล้วผลักอีกฝ่ายให้ห่างออกไป จากนั้นจึงใช้ฝ่าเท้านุ่มๆ ทั้งสองข้างประกบแก่นกายใหญ่โตใต้น้ำเอาไว้ ออกแรงรูดคลึงมันขึ้นลง ถูไถส่วนปลายในบางครั้ง กระทั่งกีรติปลดปล่อยออกมาในที่สุด

เสียงหอบหายใจแผ่วเบาดังประสานกันภายในห้องน้ำหรู พัฒน์ชวินทร์เป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อน เขาก้าวออกจากอ่างอาบน้ำเพื่อไปล้างเนื้อตัว ทำความสะอาดจนเสร็จก็คว้าเอาเสื้อคลุมมาใส่แล้วสะบัดผ้าเช็ดตัวทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า จากนั้นจึงหันไปสบตาคนที่ยังคงนั่งอยู่ในอ่าง

ขยิบตาเล็กน้อยพลางว่า “ถ้าอยากต่ออีกรอบก็รีบขึ้นมานะครับ”

“..!”

“ผมจะรออยู่บนเตียง : )”




__________________________

ธีมของเรื่องนี้คือยั่วบด แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราเขียนให้มันยั่วบดได้มากพอหรือยัง 55555 ไม่ดีตรงไหนติได้นะคะ แต่อย่ารุนแรง แง้ หายไปนานแต่เราไม่เทแน่นอนเด้อ จะพยายามมาอัปให้บ่อยๆ ค่าา แล้วเจอกันตอนหน้าน้าา จุ๊บๆ



หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-12-2019 23:58:25
 :haun4: โล่งไปเลยสมองเรา  :pighaun:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-12-2019 01:01:56
 แซ่บได้ใจ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-12-2019 05:56:40
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-12-2019 14:54:34
แซ่บ...บบบบบ    :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 20-12-2019 17:59:55
ว้ายยยบ ตายๆๆๆๆ ฉันตายยยยยยบ

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 3 [19/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 20-12-2019 20:32:09
ฮือออ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 4 [30/04/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 30-04-2020 23:40:38

หลงใหลครั้งที่ 4

 

นี่เป็นครั้งที่สองที่กีรติได้นอนค้างคืนกับพัฒน์ชวินทร์ แต่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาก่อนอีกฝ่าย ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อยเพราะแสงที่ส่องผ่านหน้าต่างห้องพักเข้ามากระทบใบหน้า หลังจากรอให้สายตาชินกับแสงรอบด้านแล้ว เขาจึงหันไปมองคนข้างกาย

ใบหน้าสวยหวานปรากฏสู่สายตา เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวเคลียบ่า มีบางส่วนเลื่อนลงมาปรกข้างแก้มขาว ลมหายใจยังคงเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังไม่ตื่น

ไล่สายตาลงมาก็เจอเข้ากับหัวไหล่เนียนที่โผล่พ้นผ้าห่ม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตอนนี้ร่างกายใต้ผืนผ้าหนานุ่มของรุ่นน้องตรงหน้าเขาเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปกปิด แน่ล่ะ ก็เมื่อคืนเราต่างฝ่ายต่างนอนหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายเลยด้วยซ้ำ

กีรติรู้สึกเหนียวเหนอะตรงช่วงหน้าท้องเล็กน้อย มันน่ารำคาญจนอยากลุกไปอาบน้ำ แต่อีกใจร่างสูงก็ยังอยากจะนอนมองคู่สัญญาของเขาอีกสักพัก

เราไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน รู้จักกันผ่านวิทย์ เพื่อนของเขาและเป็นพี่รหัสของคนตรงหน้า เคยคุยกันไม่กี่ประโยคด้วยซ้ำ แต่เพียงขยับสถานะมาเป็นคู่นอน (ที่ยังไม่ได้เกินเลยไปถึงขั้นสูงสุด) ความสัมพันธ์ของเรากลับดูว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อ

กีรติไม่ชอบโดนลูบคม เขารู้สึกเหมือนโดนหยามศักดิ์ศรี แต่ในที่สุดเขาก็ถูกลูบคมจากเด็กที่อายุน้อยกว่าเพียงหนึ่งปี...รุ่นน้องที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงเพราะหน้าตาที่สวยหวานแสนมีเสน่ห์ของเจ้าตัว

มันน่าเจ็บใจ ใช่ ชายหนุ่มเจ็บใจ แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดความสนใจในตัวของพัฒน์ชวินทร์ด้วยเช่นกัน อีกฝ่ายมีความลึกลับบางอย่างที่ชวนให้ค้นหา มีสายตาที่ชวนดึงดูดให้เข้าไปใกล้ชิด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหัวเข่าแสนสวยที่ล่อลวงให้เข้าอยากสัมผัสมากกว่าอะไรทั้งหมด

จดจ้องมองพัฒน์ชวินทร์อยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้ แล้วในที่สุดคนหลับก็ค่อยๆ ลืมตาตื่น

...ดวงตาสองคู่สบกัน

คนที่เพิ่งตื่นนอนค่อนข้างแปลกใจเพราะไม่คิดว่าพี่กีจะตื่นก่อนแล้วแต่ยังนอนอยู่ข้างเขา พัดคิดว่าอีกฝ่ายจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วกลับก่อน ทิ้งให้เขานอนอยู่คนเดียวเหมือนเช่นที่เขาเคยทำกับเจ้าตัวเสียอีก แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น

“พี่ตื่นนานหรือยังครับ” เอ่ยถาม น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย แต่นั่นกลับทำให้คนหน้าสวยดูเซ็กซี่ยิ่งกว่าเดิม

กีรติรู้สึกชอบน้ำเสียงแหบพร่านั่นขึ้นมาซะเฉยๆ “สักพักแล้ว”

“เหรอครับ แล้ว...” ดวงตาเรียวสวยกวาดมองไปรอบๆ พลิกตัวเล็กน้อยเพื่อมองแสงแดดที่ส่องเข้ามากระทบกาย  พลางคิดว่าสว่างขนาดนี้คงสายมากแล้วแน่ๆ “พี่คงไม่ลืมนัดของเราในวันนี้หรอกใช่มั้ย?”

หันกลับมาถาม แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อร่างกายกำยำขยับเข้ามาคร่อมทับ กักขังกันเอาไว้ด้วยสองแขนแกร่งที่วางฝ่ามือขนาบศีรษะเขาทั้งสองข้าง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจนปลายจมูกสัมผัสกัน และริมฝีปากก็คงจะแตะกันไปแล้วหากไม่ใช่เพราะพัฒน์ชวินทร์แตะนิ้วชี้เข้ากับริมฝีปากของพี่กี

“คิดจะทำอะไรครับ?”

คนเป็นรุ่นพี่ไล่สายตามองใบหน้าหวานที่อยู่ห่างไม่กี่เซนติเมตร กระตุกยิ้มมุมปากก่อนให้คำตอบ “มอร์นิ่งคิสไง”

“โอ๊ะโอ” เจ้าของร่างเพรียวบางจุ๊ปากพลางส่ายหน้า แย้มยิ้มยั่วเย้าก่อนจะว่า “เสียใจด้วยนะครับ แต่ผมไม่จูบกับคู่นอน :)”

“งั้นเหรอ...”

กีรติย้อนถามแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ต้องการคำตอบ ชายหนุ่มเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ทั้งที่ริมฝีปากยังถูกนิ้วชี้แตะเอาไว้ กระทั่งมันแนบสนิทกับเรียวปากของพัฒน์ชวินทร์ด้วยเช่นกัน...ถ้าเพียงแค่ดึงนิ้วออก ริมฝีปากของพวกเขาก็จะแนบเข้าหากันทันที

คนตัวโตกว่าคลอเคลียปลายนิ้วของรุ่นน้องหน้าสวยเล่น ปัดป่ายเรียวปากหยอกเย้าไปตามผิวเนื้อ ขบเม้มและงับเบาๆ ตรงปลายนิ้วทั้งที่ยังสบตากัน

การกระทำที่ทำให้พัดนิ่งงัน หัวใจกระตุกไหวไปวูบหนึ่ง ก่อนจะเริ่มเต้นผิดจังหวะ ถึงอย่างนั้นคนเป็นรุ่นน้องก็ยังเก็บอาการแล้วพูดออกไปด้วยน้ำเสียงปกติได้เหมือนเดิม

“พี่กำลังแกล้งผมอยู่หรือเปล่าครับ”

“ถ้านายจะคิดอย่างนั้น”

“อืม เอาคืนที่คราวก่อนผมทิ้งเงินค่าห้องพักไว้ให้เหรอครับ? : )”

พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คนฟังก็ชะงักไปในทันที ดวงตาคมกริบหรี่มองเจ้าของคำพูดหยอกล้อนั้น เขางับนิ้วน้องแรงมากขึ้นจนแทบเกิดรอยฟัน แต่นั่นก็มากพอจะทำให้พัฒน์ชวินทร์เจ็บจนสะดุ้งเล็กน้อย

“ถ้านายพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก...”

“ทำไมครับ จะลงโทษผมแบบเมื่อกี้เหรอ?”

กีรติกระตุกยิ้ม เขากดริฝีปากลงไปมากขึ้นจนปากของพวกเขาปัดผ่านกันเล็กน้อย แต่อะไรก็ไม่เท่าเรียวลิ้นเปียกชื้นที่แลบออกมาเลียนิ้วของพัฒน์ชวินทร์ ราวกับจงใจยั่วกันให้คลั่งตาย

ถ้าหากอีกฝ่ายจะรู้ว่าการกระทำของตัวเองส่งผลกับใจของคนใต้ร่างมากแค่ไหนล่ะก็นะ

ลมหายใจของคนสวยประจำคณะขาดห่วงไปชั่ววินาทีหนึ่ง พัฒน์ชวินทร์ตัดสินใจดึงนิ้วออกแล้วรั้งต้นคอแกร่งให้โน้มลงมามากขึ้น...ปากของทั้งสองประกบเข้าหากัน

ดวงตาของกีรติเต็มไปด้วยความแปลกใจ แต่เขาไม่ได้คิดจะผลักไสจูบนี้ กลับกันแม้จะยังไม่เข้าใจแต่ชายหนุ่มก็กดเรียวปากลงไปครอบครงริมฝีปากของคนใตเร่างมากขึ้น ขณะเดียวกันพัฒน์ชวินทร์ก็เผยอปากออกเชิญชวนให้คนบนตัวล่วงล้ำเข้ามาชิมรสภายในปาก

สองลิ้นเกี่ยวกระหวัดพัวพันเข้าหากัน เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังคลอไปกับเสียงครางแผ่วอย่างพอใจในลำคอ กระทั่งลมหายใจเริ่มจะหมด ทั้งสองจึงผละจูบออกจากกัน

นิ้วเรียวของคนสวยเกลี่ยลูกผมของคนตัวสูงเล่นทั้งที่ยังหอบหายใจและสบตากันในระยะประชิด ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดกันแผ่วเบา กีรติยังคงคร่อมทับอีกฝ่ายเอาไว้ในตอนที่ถามขึ้น

“ไหนว่าไม่จูบกับคู่นอน”

“แต่ผมไม่ได้บอกว่าผมจะไม่จูบกับคนที่ผมชอบนี่ครับ :)”

“สรุปว่าที่นายเข้าหาฉัน ก็เพราะชอบฉันและอยากให้ฉันชอบนายตอบ?”

“แล้วแต่พี่จะคิดครับ แต่ว่าตอนนี้น่ะ...” พัฒน์ชวินทร์แย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นถูไถกลางกายของร่างสูง รับรู้ได้ถึงความแข็งขึงของสิ่งนั้น “ปล่อยสักน้ำน่าจะทำให้วันนี้สบายตัวมากขึ้นนะครับ พี่กีคิดเหมือนกันมั้ย?”

กีรติไม่ตอบ เขาถามเรื่องเดิมซ้ำอีกครั้ง “ก่อนหน้านี้นายบอกว่าไม่ได้ชอบฉัน แต่ตอนนี้กลับบอกว่าชอบ นายต้องการอะไรกันแน่ คิดจะปั่นหัวฉันหรือไง”

“ผมจะชอบหรือไม่ชอบพี่มันก็ไม่มีความหมายไม่ใช่เหรอครับ” เจ้าของใบหน้าสวยหวานผ่อนลมหายใจยาว “ในเมื่อพี่ไม่มีทางชอบผมอยู่แล้ว”

“...”

“สถานะของเราคือคู่นอน และผมพอใจกับสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ ไว้ผมเบื่อเมื่อไหร่ผมจะยกเลิกสัญญาของเราเอง” สีหน้าของพัดนิ่งเรียบ มองสบตาคมกริบอย่างจริงจัง ไร้ประกายวูบไหวในดวงตาคู่นั้น แต่หัวใจ...วูบโหวงไม่น้อยกับสิ่งที่เป็นคนพูดเอง “แต่ไม่ต้องกลัวว่าผมจะยื้อสัญญาของเรานานเป็นปีหรอกนะครับ เอาเป็นสักสามเดือนแล้วกัน นับตั้งแต่วันนี้จนกระทั่งครบสามเดือนข้างหน้า เราจะเป็นเพียงคนแปลกหน้าของกันและกัน พี่จะเป็นอิสระจากความสนุกของผม และผมจะไม่เอาเรื่องที่พี่เฟติชเข่าไปบอกใคร”

กีรติแปลกใจกับข้อเสนอเพิ่มเติมที่อีกฝ่ายกล่าวออกมา แต่เพราะว่ามันทำให้เขาได้เปรียบ ชายหนุ่มจึงไม่คิดคัดค้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ไว้ใจในคำพูดของคนเป็นรุ่นน้องมากพอ

“ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง?”

“ทำหนังสือสัญญามาก็ได้ครับ ถ้าผมผิดคำพูดจะเรียกร้องเอาอะไรจากผมก็ได้ทั้งนั้น”

มันเป็นการเดิมพันของพวกเขา...กีรติยังยืนยันคำเดิมว่าเขาไม่เข้าใจการกระทำของเด็กคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังกล้าที่จะเดิมพันกับทุกสิ่งที่พัฒน์ชวินทร์เสนอมาให้

“ได้ ฉันจะเชื่อใจนาย”

“หมดเรื่องแล้วทีนี้เราจะฟัดกันได้หรือยังครับ ผมอยากใช้ปากให้พี่แล้ว : )”

กีรติคำรามเบาๆ ในลำคอ หัวเข่าสวยที่เขาหลงใหลขยับถูไถแก่นกายของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นชายหนุ่มเลยเลิกพูดแล้วใช้การกระทำระบายความต้องการของตัวเองออกมาแทน

 

กีรติและพัฒน์ชวินทร์มาถึงร้านตัดชุดสูทหลังกินข้าวเสร็จเอาตอนเกือบเที่ยง เสียงพนักงานของร้านกล่าวต้อนรับพลางสอบถามถึงความต้องการของพวกเขา

“ผมต้องการสูทสีเทาครับ” กีรติเป็นฝ่ายบอกสิ่งที่เขาต้องการออกไปก่อน จากนั้นจึงหันไปถามคนที่มาด้วยกัน “นายล่ะ?”

พัดกวาดสายตามองราวแขวนสูทสีต่างๆ แล้วย้อนถาม “พี่ว่าผมเหมาะกับสีอะไร”

คนถูกถามมองร่างกายเพรียวบาง พยายามนึกไปด้วยว่าสีอะไรที่จะเหมาะกับเจ้าตัว กระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นหุ่นลองชุดที่อยู่ไม่ไกล...ร่างสูงชี้ไปที่หุ่นตัวนั้น

“สีครีมเป็นไง นายเหมาะกับสีอ่อนๆ”

“เหรอครับ ผมไม่เคยเลือกสูทเลยไม่รู้ว่าต้องตัวเองเหมาะกับสีอะไร งั้นผมขอลองชุดนั้นครับ” พัฒน์ชวินทร์บอกกับพนักงาน แล้วให้ความร่วมมือในการวัดตัวเป็นอย่างดี

กีรติเองก็เช่นกัน เขากางแขนเพื่อให้พนักงานของร้านวัดตัว พลางเอ่ยถามรุ่นน้องหน้าสวยไปด้วยว่า “ถ้านายไปงานแต่งของตาได้ แปลว่านายต้องอยู่ในครอบครัวที่มีหน้ามีตาทางสังคมไม่น้อย และก็น่าจะเคยออกงานบ่อยๆ แต่ทำไมเลือกสูทให้ตัวเองไม่เป็นล่ะ?”

“ผิดจากที่พี่คิดเลยครับ”

พัฒน์ชวินทร์หัวเราะเบาๆ ในลำคอ สีหน้าของเขาเหมือนกำลังขบขัน แต่ดวงตาไม่เป็นอย่างนั้น และกีรติมองออก...แม้จะเพียงเสี้ยววินาทีเดียวแต่เขาก็มองเห็นถึงความโศกเศร้าในดวงตาคู่นั้น และนั่นทำให้เขาเกิดคำถามขึ้นในใจตัวเอง

ทำไม...?

เขาติดใจสงสัย แต่เลือกที่จะไม่ถามเพราะคิดว่าบางทีเมื่อกี้เขาอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ “งั้นทำไมนายถึงจะไปงานนี้ล่ะ ถ้าเป็นฉันคงไม่ไป ต้องมานั่งเลือกสูททั้งที่ตัวเองไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ น่ารำคาญจะตาย”

“บางครั้งเราก็ไม่มีตัวเลือกมากนักหรอกครับ” เป็นอีกครั้งที่พัฒน์ชวินทร์ตอบกำกวม และครั้งนี้คนเป็นรุ่นพี่ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจ เขาไม่ถามอะไรอีกและยืนรอพนักงานเอาสูทมาให้ลอง

สูทของกีรติมาก่อน ดังนั้นชายหนุ่มจึงก้าวหายเข้าไปในห้องลอง กลับออกมาอีกทีบนตัวเขาก็เปลี่ยนเป็นชุดสูทสีเทา ตัวเสื้อเชิ้ตด้านในเป็นสีขาว เนกไทสีเดียวกับเสื้อสูท กางเกงก็เช่นกัน ถ้าเปลี่ยนรองเท้าสักนิดก็ถือว่าเขาได้สูทตามที่ต้องการแล้ว

พัฒน์ชวินทร์มองร่างสูงสง่าของรุ่นพี่หนุ่มอย่างประทับใจ พี่กีเป็นคนหล่อ สูงสง่าและดูดี ยิ่งใส่สูทก็ยิ่งดูดีมากขึ้นอีกเท่าตัว และเขาชักจะเบื่อแล้วสิที่ต้องตกหลุมรักคนคนเดิมซ้ำๆ น่ะ

“เป็นไง?”

“หล่อมากครับ”

กีรติที่ถามไปงั้นๆ ในตอนแรกถึงกับหลุดหัวเราะเบาๆ กับคำตอบที่ได้ “นายไปลองสิ”

พัฒน์ชวินทร์รับเอาชุดสูทของตัวเองมาเปลี่ยนบ้างเช่นกัน ออกมาอีกทีบนตัวเขาก็ใส่สูทที่เหมือนกับรุ่นพี่หนุ่มไม่มีผิด ต่างกันก็แค่เป็นสีครีมไม่ใช่สีเทา อ้อ ต่างอีกอย่างคือเนกไทด้วย

“ทำไมไม่ใส่เนกไทล่ะ?”

คนหน้าสวยยักไหล่ “ผมผูกไม่เป็น”

“จริง?” กีรติเลิกคิ้ว “เนกไทชุดนักศึกษานายไม่เคยผูกหรือไง”

“ผูก แต่ให้เพื่อนผูกให้ครับ”

“จนจะขึ้นปีสี่แล้วเนี่ยนะ?”

“ก็มันยุ่งยากนี่” พัฒน์ชวินทร์เหวี่ยงเนกไทที่ถืออยู่ในมือเล่น ก่อนจะแย้มยิ้มกว้างแล้วก้าวเข้าหาร่างสูง คล้องสายเนกไทเข้ากับลำคอของอีกฝ่าย ขยับกายจนแทบแนบชิดกับรุ่นพี่หนุ่มโดยไม่สนสายตาที่มองอยู่ของพนักงานในร้าน จากนั้นเสียงแหบต่ำแสนเซ็กซี่ก็เอ่ยขึ้นว่า “พี่ผูกให้ผมหน่อยสิครับ : )”

“ฉันจะได้อะไร?”

“แค่ผูกเนกไทก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเหรอเนี่ย เชื่อเขาเลยแฮะ”

คนถูกต่อว่ากลายๆ ยกยิ้มมุมปาก มือหนาโอบเอวบางให้เข้ามาแนบชิดกับลำตัวเขามากขึ้น ใบหน้าของพวกเขาห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น

“หลังงานแต่ง ไปค้างคืนกับฉัน”

“แค่นั้น?”

“นายพร้อมจะก้าวไปอีกขั้นของการเป็นคู่นอนหรือยังล่ะ?”

พัฒน์ชวินทร์เลิกคิ้ว “ผมสิต้องถามพี่ว่าพี่พร้อมแล้วงั้นเหรอ ผมนึกว่าพี่ไม่อยากมีเซ็กซ์กับผมซะอีก”

“ฉันก็แค่เพิ่งคิดขึ้นได้” กีรติว่าพลางดึงเอาเนกไทในมือบางออกมาแล้วตวัดมันขึ้นคล้องคอคนหน้าสวยทั้งที่พวกเขายังแนบชิดกัน มือหนาทำการผูกเนกไทไปด้วย

“คิดว่า...”

ร่างสูงเหลือบดวงตาคมกริบมองดวงตาเรียวสวยของคนตรงหน้า เขาขยับปมเนกไทให้เข้าที่ก่อนโน้มหน้าลงกระซิบข้างใบหูขาว

“มันคงจะดีถ้าได้เห็นนายเคลื่อนไหวอยู่บนตัวฉัน โดยที่ฉันลูบหัวเข่าของนายไปด้วย”

เพียงแค่คิดตาม พัฒน์ชวินทร์ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ รู้สึกวูบวาบราวกับมีผีเสื้อนับพันวิ่งอยู่ในท้อง เรียวแขนบางโอบลำคอแกร่งเอาไว้หลวมๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นจูบปลายคางพี่กี ให้คำตอบที่มีเพียงคำตอบเดียวกับอีกฝ่ายไปว่า...

“ได้ตามที่ขอครับ : )”





__________________

ถ้ามีคำผิดเราจะมาแก้ทีหลังนะคะ งานร้อนมาก 555 ไม่รู้จะมีคนคิดถึงพี่กีน้องพัดบ้างไหม เรื่องนี้เอาจริงก็เขียนยากอยู่นะ เราว่าเราสื่อความเซ็กซี่ออกมาได้ไม่มากพอ แต่จะพยายามปรับปรุงต่อไปค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ เลิฟๆ



หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 4 [30/04/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-05-2020 02:07:06
มีปัญหากับที่บ้านแน่ๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 4 [30/04/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-05-2020 14:05:08
น้องพัดซ่อนอะไรไว้.... :hao4:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 4 [30/04/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-05-2020 00:57:51
น้องพัด มีอะไรจะบอกไหมเอ่ย เก็บไว้ไม่ดีนะเออ  o18
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 5 [21/11/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 21-11-2020 16:59:16


หลงใหลครั้งที่ 5



งานแต่งที่เขามาแทนพี่ชายเป็นงานใหญ่และหรูหรา สมฐานะของฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นอย่างยิ่ง แขกเหรื่อมากันมากมาย พัฒน์ชวินทร์ก้าวเท้าเข้ามาในงานเพียงลำพัง ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องมากับพี่กี แต่ขากลับน่ะกลับด้วยกันแน่นอน...ก็นัดกันไว้แล้วนี่นา

ดวงตาเฉี่ยวคมของคนหน้าสวยมองเห็นเจ้าสาวยืนเคียงข้างเจ้าบ่าวและกำลังยิ้มแย้มต้อนรับแขก แต่พอสบตากันด้วยความบังเอิญ ศศิตาก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปกระซิบอะไรสักอย่างกับเจ้าบ่าวของเธอแล้วถึงจะเดินมาหาเขา

พัฒน์ชวินทร์เลิกคิ้ว พออดีตคนรักของพี่ชายมายืนอยู่ตรงหน้า ร่างเพรียวบางก็เอ่ยทักทายขึ้นก่อน “ยินดีด้วยนะครับพี่ตา”

“ขอบใจจ้ะ” หญิงสาวกล่าวรับด้วยรอยยิ้ม เหลือบมองรอบตัวก่อนจะถามขึ้นอีก “พี่ชายพัดไม่มาด้วยเหรอ?”

“พี่ก็น่าจะรู้ตั้งแต่ส่งการ์ดเชิญแล้วนะครับ ว่าพี่พีไม่มีทางมางานแต่งพี่”

ได้ยินคำตอบแบบนั้น เจ้าสาวก็หลุดขำคิกคัก ยื่นมือมาบีบแก้มคนหน้าสวยเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “เขาคงคิดว่าพี่ส่งไปเยาะเย้ยล่ะสิ ทั้งที่พี่บริสุทธิ์ใจแท้ๆ ถึงจะจบกันไม่ดี แต่พี่ก็ไม่ได้เกลียดเขาซะหน่อย”

“พี่ตาก็ยังรู้สันดานพี่ชายของพัดดีเหมือนเดิมเลยนะครับ”

“แรงมาก” ศศิตาหัวเราะอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นลูบแก้มเด็กน้อยตรงหน้า แววตาแฝงความเห็นใจอยู่หลายส่วน เพราะช่วงที่เธอคบหากับพีรพัฒน์ เธอเห็นมาตลอดว่าเด็กคนนี้โดนรังแกยังไงบ้าง “ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบากมางานแต่งพี่นะ แต่ที่จริงพี่ก็รู้อยู่แล้วแหละว่าคนอย่างนั้นคงไม่มาเอง ต้องโยนให้พัดมาแทนแน่ๆ ซึ่งก็ดีเพราะพี่อยากเจอพัดมากกว่าอยู่แล้ว”

“อยากเจอผมเหรอครับ?” พัฒน์ชวินทร์เลิกคิ้ว

“อืม เป็นไงบ้างล่ะเรา ไม่ได้เจอกันเป็นปี ยังโดนรังแกอยู่หรือเปล่า”

“ก็เหมือนเดิมแหละครับ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” ตอบพลางไหวไหล่ ไม่นำพาต่อสายตาจับจ้องของหญิงสาวตรงหน้า รับรู้ได้ถึงสายตาเห็นใจแต่พัดก็ไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนไหวอะไรออกไป แม้ความจริงจะรู้สึกจุกอกเพราะไม่คาดคิดว่าจะยังมีคนเป็นห่วงเขา

สักพักกว่าที่ศศิตาจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วผละมือไปตบบ่าเล็กแทน “ขอบคุณอีกครั้งนะที่ยอมมางานแต่งพี่ พี่อยากให้รู้ไว้นะว่าพี่ดีใจที่ได้พัดเป็นน้องชาย แม้จะแค่ช่วงเวลาไม่นานก็ตาม”

“ผมดีใจมากกว่าซะอีกที่พี่เลิกกับพี่พีได้ ผู้ชายคนนั้นไม่เหมาะกับคนสวยและน่ารักอย่างพี่ตาหรอก”

“นั่นพี่ชายเรานะ”

“พี่ตาก็น่าจะรู้ว่าผมไม่อยากนับคนแบบนั้นเป็นพี่” คนหน้าสวยพูดติดกลั้วหัวเราะ “ไม่อยากนับคนบ้านนั้นเป็นครอบครัวด้วยซ้ำ”

“โธ่ เด็กน้อย”

“ผมเด็กแล้วน่า”

“พี่อยากช่วยเรามากกว่านี้นะ แต่...”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ แค่พี่เป็นห่วงผม ผมก็รู้สึกดีใจมากแล้ว” คนหน้าหวานแย้มยิ้มบาง “ยินดีกับงานแต่งงานด้วยนะครับ ขอให้พี่มีความสุขมากๆ”

“ขอบใจจ้ะ” เจ้าสาวยิ้มกว้างพลางจับจูงมือขาว ดึงร่างของพัดให้เดินตาม “มาเถอะ พี่จะแนะนำพัดให้ได้รู้จักเจ้าบ่าวของพี่”

หลังจากทักทายกับเจ้าของงานเรียบร้อยแล้วพร้อมถ่ายรูปร่วมกัน พัฒน์ชวินทร์ก็ขอตัวไปหาอะไรดื่ม สายตากวาดมองหากีรติไปด้วย แล้วในที่สุดเขาก็เจออีกฝ่าย

ร่างสูงของรุ่นพี่หนุ่มก้าวเข้ามาในงานด้วยชุดสูทที่ไปเลือกด้วยกัน ใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉย จะยิ้มเล็กน้อยก็ตอนที่แสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว

เหมือนมีแรงดึงดูดถึงกัน เพียงอีกฝ่ายละสายตาจากบรรยากาศในงาน ดวงตาคู่คมก็สบประสานเข้ากับพัฒน์ชวินทร์อย่างพอดิบพอดี และแม้จะไกลกันไม่น้อย แต่คนหน้าสวยก็ยังมองเห็นมุมปากของอีกฝ่ายที่ยกยิ้มขึ้นมา มองพี่กีก้าวเท้าเข้ามาหาเขาจนกระทั่งมายืนอยู่ตรงหน้ากัน

“มาช้านะครับ ผมนึกว่าพี่จะไม่มาซะแล้ว แบบนั้นนัดของเราหลังงานเลี้ยงคงต้องแคนเซิล”

“ฉันไม่เคยผิดนัด”

“แล้วผมจะจำไว้ครับ : )”

“เหอะ!”

กีรติพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดกับรอยยิ้มกวนประสาทของรุ่นน้อง เขาคว้าเอาแก้วแชมเปญจากบริกรในงานมาดื่มทีเดียวหมด ก่อนจะวางมันลงแล้วคว้าแก้วใหม่ รวดเร็วชนิดบริกรยังไม่ทันได้ก้าวเท้าเดินไปไหน ได้แต่ยืนมองด้วยความอึ้ง

เห็นดังนั้นร่างเพรียวบางก็ยิ้มขำออกมา เขาหยอกล้ออย่างอดไม่ได้ “กลัวไม่เมาก่อนจบงานหรือไงครับ แล้วนั่นพี่กีจะยึดถาดเครื่องดื่มของคุณบริกรทั้งหมดเลยเหรอ”

คนถูกล้อไม่ตอบ เขาวางแก้วที่สองลงถาดแล้วคว้าแก้วที่สาม ก่อนจะกล่าวขอบคุณเบาๆ เป็นสัญญาณให้บริกรไปได้แล้ว...หลังจากนั้นรอบด้านก็เหลือเพียงพวกเขาแค่สองคน

“วันนี้จะเปิดโรงแรมเหมือนเดิมใช่ไหม”

“แล้วแต่พี่กีสิครับ ผมยังไงก็ได้”

“งั้นไปคอนโดฯ ฉัน”

“ครับ?!” พัฒน์ชวินทร์แทบไม่เชื่อหู “แต่พี่กีไม่เคยเอาคู่นอนกลับคอนโดฯ ไม่ใช่เหรอครับ”

“เรื่องนี้นายก็รู้เหรอ”

“ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถหรอกครับ” คนหน้าสวยกลอกตา “ตกลงพี่จะให้ผมไปคอนโดฯ พี่จริงเหรอ?”

“ไม่อยากไป?”

“ไม่ใช่สักหน่อย ผมแค่แปลกใจที่พี่ยังกล้าจะพาผมไปพื้นที่ส่วนตัว ทั้งที่พี่ก็รู้ว่าผมชอบพี่ ไม่กลัวผมไปสร้างความวุ่นวายให้ตอนหลังเหรอ?”

บทสนทนาที่เหมือนเป็นการย้อนถามกันไปมาไม่จบสิ้นเกิดขึ้นกับพวกเขาอีกแล้ว พัฒน์ชวินทร์หรี่ตามองคนตัวโตกว่าอย่างไม่เข้าใจ ส่วนกีรติก็กดตามองราวกับกำลังประเมิน ก่อนสุดท้ายคำตอบจะหลุดออกมาจากปากคนเย็นชา

“ฉันก็แค่คิดว่ามันสะดวกกว่า เพราะมันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่”

คนฟังได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้หรอกว่าพี่กีของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ลึกๆ ก็อดจะดีใจไม่ได้ที่เขาได้รับอภิสิทธิ์เหนือคู่นอนคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของรุ่นพี่หนุ่ม

“ตามใจพี่แล้วกันครับ”

พวกเขาหยุดคุยกันหลังจากนั้น เมื่อบ่าวสาวก้าวขึ้นเวที แล้วในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็ออกจากงาน มุ่งหน้าสู่คอนโดฯ ของร่างสูง



กริ๊ก

ประตูห้องพักปิดลงก่อนพวกเขาจะโถมกายเข้าหากัน เอวบางถูกรวบกอดเอาไว้ด้วยลำแขนแกร่ง แนบชิดไปกับหน้าท้องแน่นหนั่นที่มีเสื้อเชิ้ตขวางกัน กระนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งใต้นั้น

ร่างกายเสียดสี ลมหายใจร้อนผ่าวหอบกระเซ่า พวกเขาแนบชิดกันจนอากาศแทบรอดผ่านไม่ได้ อารมณ์นร้อนแรงถูกปลุกขึ้นอย่างง่ายดายเพราะร่างกายต่างไวสัมผัสของกันและกัน

“อืม...”

เรียวปากของทั้งสองประกบแนบแน่น บดจูบดูดดื่ม และปลายลิ้นถูไถกันจนเกิดเสียง เสื้อสูทถูกถอดออกจากตัวทั้งที่ยังไม่ผละจูบออกจากกันด้วยซ้ำ ตามมาด้วยกระดุมเสื้อเชิ้ตของกีรติที่ถูกปลดออกอย่างรวดเร็วด้วยน้ำมือของพัฒน์ชวินทร์ ขณะที่มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มรุ่นพี่เคลื่อนไปบีบขยำก้นนิ่มโดยไม่กลัวกางเกงจะยับย่น เพราะยังไงมันก็ต้องถูกถอดออกอยู่แล้ว

“ฮ้า ใจร้อนจัง อึก...นะครับพี่กี”

“นายเองก็เหมือนกันนี่”

เวลาต่อมากีรติเหลือเพียงกางเกงสวมติดกาย ส่วนพัฒน์ชวินทร์ยังคงมีเสื้อสวมอยู่แต่ถูกปลดกระดุมออกสามเม็ดบน กางเกงโดนกระชากออกไปแล้วด้วยฝีมือของรุ่นพี่หนุ่ม ก่อนที่กีรติจะชะงักไปเมื่อพบว่าใต้กางเกงนั้นมีถุงน้องตาข่ายสีดำซ่อนอยู่

ดวงตาคมกริบเงยมองเจ้าของเรือนกายขาวเนียน ได้รับรอยยิ้มยั่วเย้ากลับมาก็ถึงกับหมดความอดทน...ชายหนุ่มคว้าร่างเพรียวบางอุ้มขึ้นจนตัวลอยจากพื้นเล็กน้อย ทำเอาคนหน้าสวยตกใจจนต้องคว้าไหล่แกร่งเป็นหลักยึดแทบไม่ทัน

พัฒน์ชวินทร์แทบจะถูกโยนลงบนโซฟายาว ยังไม่ทันตั้งตัวได้เรียวขาใต้ถุงน่องตาข่ายก็ถูกจับชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง ช่วงหัวเข่าถูกลูบไล้ด้วยปลายนิ้วร้อนผ่าวของพี่กี บริเวณนั้นร้อนผ่าวขึ้นมาทันที พี่กีของเขายังคงหลงไหลในหัวเข่ามากกว่าส่วนอื่นใดเสมอ

คนหน้าสวยรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นพล่านไปทั่วร่าง กระตุกตัวเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายแนบประทับลงมาแทนที่ปลายนิ้ว ความชื้นของปลายลิ้นที่ไล้เลียหัวเข่าขาวผ่านตาข่ายเส้นบาง ความอุ่นร้อนของลมหายใจที่เป่ารด กระตุ้นความกระซันซ่าน ปลุกเร้าอารมณ์หวามไหวให้ลุกโหมเหมือนมีเปลวไฟถูกจุดขึ้นในตัวของเขา และมันกำลังเผาไหม้มากขึ้นเรื่อยๆ

“อื้อ!” พัดยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงคราง เมื่อจู่ๆ พี่กีก็ใช้มือข้างที่ว่างสอดปลายนิ้วลอดผ่านตาข่ายเข้ามาเกลี่ยผิวเนื้อตรงต้นขา วนไล้ไปมาเฉียดกลางกายที่ยังมีชั้นในสีดำสนิทปิดกั้นตัวตนใต้นั้นเอาไว้ “พี่กี อ่า...เดี๋ยวก่อน หยุดก่อน”

“แน่ใจหรือว่าอยากให้หยุด” น้ำเสียงแหบต่ำเอ่ยขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยฟันคมที่กัดสายตาข่ายดึงขึ้นเล็กน้อย แล้วปล่อยให้มันดีดกลับลงไป มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ใบหน้าหล่อเหลาดูร้ายกาจ ดวงตาดุดันพาให้ใจสั่นอย่างรุนแรง

ตรงที่โดนดีดแม้จะไม่เจ็บ แต่ก็ทำให้พัฒน์ชวินทร์วูบวาบขึ้นมาได้ไม่น้อยเลย

“...ไม่”

คำตอบที่ได้ทำให้กีรติกระตุกยิ้ม ร่างสูงรั้งเอาชั้นในและถุงน่องตาข่ายออกจากเรียวขาขาว ท่อนล่างของคนหน้าสวยไร้ปราการขวางกั้น คงเหลือเพียงเสื้อที่หลุดลุ่ย คอเสื้อข้างหนึ่งหล่นลงเผยให้เห็นช่วงบ่าและยอดอกสีอ่อนเรื่อ ขณะที่ชายเสื้อบางส่วนปิดบังแก่นกายของพัดเอาไว้เช่นกัน

ภาพตรงหน้างดงามอย่างน่าประหลาด ทำให้กีรติอยากย่ำยีอีกฝ่ายให้ร้องครวญครางใต้ร่างของเขามากกว่าที่ผ่านมา...ถ้าได้เข้าไปในตัวของเด็กคนนี้มันจะให้ความรู้สึกดีขนาดไหน ชายหนุ่มอยากจะรู้ซะแล้ว

พัฒน์ชวินทร์ถูกจับแยกขาออกกว้าง เปิดเผยตัวตนสู่สายตาร้อนแรงของร่างสูง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ กรอบหน้าชื้นเหงื่อทั้งที่แอร์เย็นเฉียบ ดวงตาเฉี่ยวคมหรี่ปรือ มัวเมาไปกับอารมณ์รักที่เกิดขึ้น

คนเป็นรุ่นพี่โน้มกายเข้าหา บดจูบที่ปากแดงช้ำนั่นอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนลงมาขยี้ปลายลิ้นเข้ากับหัวนมที่กำลังชูชันท้าทายสายตา เรียกเสียงครางหวานแสนกระเซ่าจากร่างเพรียวบางไม่หยุด

สะโพกเล็กถูกบีบเคล้นเป็นจังหวะ ปลายลิ้นร้อนเลื่อนไปจูบซับยอดอกอีกครั้งหากแต่คราวนี้ถูกดูดดึงผ่านเสื้อเชิ้ตแทนที่จะสัมผัสมันตรงๆ กระนั้นกลับทำให้เสียวมากกว่าเพราะแรงเสียดสีของเนื้อผ้าที่ถูไถไปตามจังหวะดูดเลียของร่างสูง

“อ๊ะ อ่า”

กีรติหยอกเย้าร่างกายของคนใต้ร่างอย่างเพลิดเพลิน กลับไปวนเวียนที่หัวเข่าเนียนสวยอีกครั้ง ดูดดุนสร้างรอยรักสีอ่อนเรื่อทิ้งไว้ ลากปลายจมูกโด่งเป็นสันไปตามรอยกระดูก คลอเคลียไม่ห่างอย่างหลงใหล แล้วค่อยๆ ขยับไปปรนเปรอแก่นกายสีอ่อนด้วยโพรงปากอุ่น

“อ๊า!”

พัฒน์ชวินทร์กระตุกกายเฮือก เผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหอบหายใจแรงยามเมื่อถูกดูดรั้งเสียจนสะโพกลอยขึ้น จิกปลายเท้าแทบดิ้นพล่าน ความเสียวเข้าครอบครองร่างกายของเขาจนสมองแทบประมวลผลอะไรไม่ได้ รู้แต่ว่ามันดี...ดีมากเหลือเกิน

เสียงหยอกเย้ากลางกายดังผสานไปกับเสียงครางสั่นเครือ คนหน้าสวยแยกขาออกกว้างมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว เปิดเปลือยช่องทางด้านหลังให้ง่ายต่อการแตะต้องยิ่งขึ้น

กีรติควานมือเข้าไปในซอกโซฟา ที่ซึ่งเขาซุกของจำเป็นสำหรับมีเซ็กซ์เอาไว้แม้ว่าจะไม่เคยพาใครมาเอาที่นี่ก็ตาม...หยิบเอาหลอดเจลออกมาก่อนจะยัดมันใส่มือเล็ก ดวงตาสองคู่สบกัน ประกายตาเต็มไปด้วยความร้อนระอุของแรงอารมณ์

“รู้นะว่าต้องใช้ยังไง?”

คนที่ถูกทำให้แทบสิ้นไร้เรี่ยวแรงไม่ได้ตอบอะไร เพียงเปิดฝาแล้วบีบเจลหล่อลื่นใส่มือตัวเอง แล้วสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางรัก...แรกเลยมันค่อนข้างเจ็บเสียด แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทางร่างเพรียวบางจึงคล่องมือมากขึ้น แทรกปลายนิ้วที่สองเข้าไป ขยับขยายมันให้พร้อมรับสิ่งที่ใหญ่โตกว่า โดยมีสายตาร้อนแรงจ้องมองทุกการกระทำไม่ไปไหน

ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ถึงใจของพัฒน์ชวินทร์มากพอ ชายหนุ่มหน้าสวยหยอกล้อยอดอกของตัวเองด้วยเรียวนิ้ว บีบบี้สะกิดเขี่ย เปล่งเสียงครางสั่นพร่า ร้องขอความช่วยเหลือออกมาด้วยสีหน้าที่ชวนให้คนมองยิ่งอยากขยี้

“นิ้วของพี่กี ใช้นิ้วของพี่กีแทนได้ไหม อะ...อ่า”

กีรติคำรามต่ำในลำคอ ดึงมือบางออกแล้วบีบเจลใส่มือตัวเอง ก่อนสอดแทรกปลายนิ้วเรียวยาวเข้าไปแทนที่ทีเดียวสองนิ้ว กดลึกจนแทบสุดโคนนิ้ว ถูไถความอ่อนนุ่มภายใน ดึงออกแล้วกระทุ้งกลับเข้าไปใหม่ก่อนจะสอดนิ้วที่สามตามไปในที่สุด

งอนิ้วหยอกเย้าไปทั่วหวังหาจุดกระสันของคนใต้ร่างให้เจอ แล้วในที่สุดเขาก็เจอมัน...เมื่อพัฒน์ชวินทร์ครางลั่น บิดกายเร่าจิกมือกับโซฟาแน่น

“อ๊า!”

คนเป็นรุ่นพี่รู้สึกร้อนผ่าวที่กลางกายจนทนไม่ไหวอีกแล้ว ชายหนุ่มมองใบหน้าแสนเย้ายวน มองเรียวนิ้วของตัวเองที่สอดแทรกอยู่ในช่องทางเร้นลับ แก่นกายน่ารักที่กำลังสั่นกระตุกหลั่งน้ำอยากสีใสออกมาทีละเล็กละน้อย ไหนจะหัวเข่าที่ล่อสายตาให้เขาอยากจะขบกัดลงไปนั่นอีก

ชายหนุ่มผละออกไป มือหนาปลดเข็มขัดและซิปกางเกงตัวเองออก รั้งขอบชั้นในลงมาพอให้ท่อนเนื้อร้อนผ่าวได้โผล่ออกมาด้านนอก มันแข็งขืนเพราะอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าจากเสียงครางหวานๆ ของรุ่นน้องหนุ่มก่อนหน้านี้ พรั่งพร้อมจะเข้าไปเชยชมความคับแน่นที่กำลังเชิญชวนเขาอยู่

“พร้อมหรือยัง”

“พี่กีถามตัวเองเถอะครับ อึก อ่า...ว่าพร้อมจะเอาผมหรือยัง : )”

“ปากดีไม่เปลี่ยน หึ”

ร่างสูงดึงมือคนหน้าสวยออก แทรกกายเข้าหาพลางสอดมือควานหาซองถุงยาง พอได้มาไว้ในมือก็ยื่นไปจ่อปากแดงช้ำ ส่งสายตาเป็นทำนองว่าให้ฉีกมันออกซะ

พัฒน์ชวินทร์หัวเราะแผ่วเบาก่อนจะอ้าปากงับขอบซอง ออกแรงฉีกให้มันขาดแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง คว้าข้อมือหนาเอาไว้ก่อนที่พี่กีจะได้ดึงมือกลับไป คนหน้าสวยดึงถุงยางออกมาจากซองแล้วจัดการสวมมันให้กับร่างสูง หากแต่ไม่ได้สวมด้วยมือเท่านั้น

ขอบถุงยางครอบส่วนปลายฉ่ำแฉะเพียงนิดเดียวเท่านั้น พัฒน์ชวินทร์ดันหน้าท้องแกร่งให้ถอยออกไปเล็กน้อย จากนั้นจึงโน้มหน้าลงแล้วใช้ริมฝีปากตัวเองในการดันถุงยางลงไปจนส่วนปลายนั้นเกือบแตะลำคอของตัวเอง

“อุก อืม”

“ซี๊ด...”

กีรติหลุดเสียงครางต่ำ สูดปากด้วยความเสียว แม้ฟันของคนหน้าสวยจะครูดเข้ากับท่อนเนื้อของเขาแต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกดีมากกว่าจะเจ็บ

พัดถอนใบหน้าออกมาแล้วใช้มือจัดการถุงยางจนเรียบร้อย จากนั้นก็รูดรั้งความแข็งขืนในมือเล่น แล้วเอื้อมไปคว้าเอาหลอกเจลมาบีบใส่ ชโลมแก่นกายใหญ่โตจนเปียกลื่น ก่อนทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม เกี่ยวเรียวขาเข้ากับสะโพกแกร่ง รั้งกลางกายพี่กีลงมาแนบชิดกัน

“เอาผมสักทีสิครับ : )”

ร่างสูงกัดฟันแน่น อยากขย้ำคนใต้ร่างให้ยับเยิน ให้สมกับที่ยั่วเย้าเขาไม่หยุด...กีรติจับท่อนลำถูไถตรงปากทางเล็กๆ นั่น ค่อยๆ กดสอดมันเข้าไปหาความคับแคบที่ชุ่มฉ่ำเพราะเจลหล่อลื่น ดันส่วนปลายเข้าไปอย่างเชื่องช้า จับสังเกตสีหน้าของพัฒน์ชวินทร์ไปด้วย เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องหนุ่มไม่ได้มีท่าทีเจ็บมากนัก ก็กลั้นใจสอดส่วนหัวเข้าไปจนหมด แช่ค้างไว้พักหนึ่งพลางโน้มหน้าลงจูบซับหัวเข่าขาวเนียน เลียไล้อย่างหลงใหลทะนุถนอม

จากนั้นเขาก็กระแทกสะโพกเข้าหาคนใต้ร่าง ดันแก่นกายร้อนผ่าวเข้าไปทีเดียวมิด!

“อ๊า! ฮึก...”

เสียงหวานครางสั่นเคล้าคลอเสียงสะอื้น นัยน์ตาเฉี่ยวคมเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำใส กีรติชะงักเล็กน้อย เขาคว้ามือบางข้างหนึ่งมากอบกุมเอาไว้ เอ่ยถามทั้งที่ยังแนบปากอยู่กับหัวเข่ามน

“เจ็บหรือเปล่า”

คนถูกถามส่ายหน้า ทำให้หยดน้ำตาไหลลงจากหางตา ปลายจมูกแดงเรื่อ “มันเสียว ฮื่อ เสียวมาก”

“เด็กดี”

สะโพกสอบเริ่มขยับเคลื่อนไหว ถูกใจกับคำตอบที่ได้รับเป็นอย่างมาก เขาคลอเคลียเข่าขาวเนียนไปพร้อมๆ กับกระทั้นกายเข้าใส่ ปล่อยให้ความคับแน่นบีบรัดท่อนเนื้อร้อนผ่าวของตัวเอง สูดปากครางต่ำผสานไปกับเสียงครางหวานๆ ของรุ่นน้องหน้าสวย

เสียงเนื้อกระทบกันดังก้อง พัดเกี่ยวขาข้างหนึ่งกับเอวแกร่ง ทุกครั้งที่ความแข็งขืนกระทุ้งเข้ามาภายในก็เหมือนจะหอบเอาสติของเขาให้หายไปด้วย ความซ่านเสียวครอบครองเขาโดยสมบูรณ์ ลีลาพี่กีร้อนแรงดุดันถึงใจเขามากเกินไป มากจนทำให้เขาแทบขาดใจได้เลย

“อ๊ะ อึก อื้อ!”

“อืมมม ซี๊ด...แน่นมาก เสียวฉิบ!”

เสียงทุ้มต่ำสบถอย่างถึงใจ ยิ่งจังหวะหวามไหวเร่งความเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกดีกับเซ็กซ์ครั้งแรกระหว่างกันมากขึ้นเท่านั้น กระทั่งปลายทางแห่งความสุขสมมาถึงในที่สุด

พัฒน์ชวินทร์ครางลั่นอีกครั้ง ปลดปล่อยออกมาจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องที่ยังคงมีเสื้อเชิ้ตปิดบังเอาไว้ ขณะที่กีรติครางต่ำเมื่อช่องทางรักบีบรัดเขาแน่น รีดเค้นเขาน้ำรักของเขาออกไปจนหมด

ทั้งสองหอบหายใจแรง ดวงตาสบประสานกันอีกครั้ง พักเพียงไม่นานร่างสูงก็ถอนแก่นกายออกเพื่อถอดถุงยางมัดปากแล้วโยนทิ้งไว้ส่งๆ ก่อนจะสอดมือควานหยิบเอาซองถุงยางออกมาอีกหนึ่งกำมือ จากนั้นจึงโอบอุ้มร่างเพรียวบางขึ้น ให้ขาเรียวเกาะเกี่ยวสะโพกเขาไว้เป็นหลักยึด พาอีกฝ่ายเดินดุ่มๆ เข้าห้องนอน

เจ้าของห้องทิ้งตัวลงนั่งโดยมีคนหน้าสวยทับอยู่บนตัก แก่นกายของพวกเขาเสียดสีกันไปมาในทุกจังหวะการเคลื่อนไหวอันแสนแนบชิด

“รอบต่อไปนายต้องออกแรงบ้าง”

“ให้ผมออนท็อปเหรอ?”

“ทำเป็นไหมล่ะ”

พัดหัวเราะ เกี่ยวปลายนิ้วหยอกล้อกับเส้นผมที่ต้นคอแกร่ง ขยับใบหน้าสวยหวานเข้าใกล้จนริมฝีปากปัดป่ายกันไปมาในทุกครั้งที่เอ่ยพูด

“แล้วพี่จะติดใจจนอยากให้ผมขย่มให้บ่อยๆ : )”





__________________

ได้กันสักที! 5555555555555555555555555



หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 5 [21/11/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-11-2020 20:35:14
ร้อนแรงมากแม่..... :jul1:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 5 [21/11/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 23-11-2020 14:18:54
น้องงงงง น้องร้ายมากกก แงงงงงงง :pighaun:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 5 [21/11/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 23-11-2020 15:54:45
ร้อนแรงพอกันทั้งคู่เลยค่ะ
น้องมีปมอะไรในใจนะ รอติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: Hazel_nut ที่ 01-02-2021 22:25:44

หลงใหลครั้งที่ 6



เป็นอีกครั้งที่พัฒน์ชวินทร์ตื่นก่อน ร่างเพรียวบางขยับกายขึ้นนั่งพิงหัวเตียง มองใบหน้ายามหลับใหลของกีรติที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้มถูกใจ ถ้าคิดว่าเมื่อคืนพวกเขามีเซ็กซ์แล้วจบลงที่นอนกอดกันจนหลับไปล่ะก็...บอกได้เลยว่าฝันไปเถอะ พอต่างฝ่ายต่างอิ่มเอมใจจนเหนื่อยหอบ ก็ต่างคนต่างนอนหลับไปทั้งสภาพอย่างนั้นเลย

หนุ่มหน้าสวยยังรู้สึกได้ถึงความเหนียวเปรอะเปื้อนบนร่างกาย จำได้ว่าครั้งสุดท้ายพี่กีดึงถุงยางออกแล้วปล่อยใส่หน้าท้องเขาเต็มๆ แถมยังไม่เช็ดออกให้อีกต่างหาก เอาแต่เช็ด ‘ของตัวเอง’ ให้สะอาดแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนเลย ตัวเขาเองก็เหนื่อยและเพลียจนตัดสินใจปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนั้น ตื่นเช้ามาถึงได้รู้สึกเหนอะหนะไปทั้งตัวนี่ไง

ผ้าห่มปกปิดตั้งแต่ช่วงเอวของกีรติลงไป เผยให้เห็นแผ่นหลังที่มีรอยแดงจางๆ ลากยาวสองสามรอย ฉับพลันนั้นพัฒน์ชวินทร์ก็จำได้ว่ามันคือรอยเล็บของเขาเอง จำได้อีกด้วยว่าพี่กีบ่นเขาไม่ให้ข่วน แต่พอเขาขอให้ช้าลงหน่อยกลับไม่ยอมทำตาม

น่าโมโหแต่ก็ร้อนแรงจนแทบขาดใจ

“อืม...”

จู่ๆ คนที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวกลับมานอนหงาย ทำให้ผ้าห่มร่นลงไปมากกว่าเดิม จนเพียงแค่อีกนิดเดียวส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายก็จะเปิดเผยสู่สายตาของพัฒน์ชวินทร์แล้ว

รุ่นน้องหนุ่มกะพริบตาเรียกสติตัวเองเล็กน้อย แม้จะเพิ่งผ่านค่ำคืนอันแสนร้อนแรงมาด้วยกัน แต่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกใจสั่นกับภาพความเซ็กซี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายมีเสน่ห์และดุดันของรุ่นพี่หนุ่ม แต่อาการเหล่านั้นก็อยู่กับเขาไม่นานหรอก เพราะความคิดดีๆ เข้ามาแทรกแทนที่นั่นเอง

คนหน้าสวยกระตุกยิ้มมุมปาก เขาสะบัดผ้าห่มทิ้ง เคลื่อนกายไปคร่อมทับร่างแกร่งที่ยังคงนอนหลับสนิท ใบหน้าอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางลำตัวของกีรติ จากนั้นก็ทำการ ‘ปลุก’ ให้ตื่นด้วยริมฝีปากของตัวเอง

จุ๊บ...

ชายหนุ่มจุ๊บเบาๆ ที่ส่วนปลายโดยใช้เพียงมือเดียวลูบคลำแก่นกายนั้นอย่างใจเย็น เขาแลบลิ้นออกแตะๆ เพียงแผ่วเบา ก่อนไล้เลียลำท่อนไปตามความยาวจากโคนจรดปลาย สลับกับดูดส่วนหัวเบาๆ กระทั่งความร้อนผ่าวถูกปลุกให้ตื่นเร้า ค่อยๆ แข็งขืนชูชันสู้มือ นั่นล่ะพัฒน์ชวินทร์ถึงได้ครอบปากลงจนลึกเกือบถึงคอ แล้วรูดรั้งมันด้วยริมฝีปาก ปรนเปรอมันด้วยปลายลิ้น

“อะ...ซี๊ด...”

คนหลับได้ฤกษ์ตื่นก็ตอนนี้ :)

กีรติรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมากะทันหัน ชายหนุ่มลืมตาขึ้นทันควัน ประสาทสัมผัสทั่วร่างชาไปชั่วขณะ ก่อนจะเสียวจนต้องครางออกมาเบาๆ เมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังถูกลักหลับจากคนเป็นรุ่นน้อง...ชายหนุ่มยกศีรษะขึ้นมองเล็กน้อย สบเข้ากับดวงตาเรียวสวยที่เหลือบขึ้นมามองกันทั้งที่ปากยังทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง

เขาเห็นมุมปากของอีกฝ่ายกระตุกยิ้ม และนั่นมันทั้งน่ารักและน่าชังในเวลาเดียวกัน

กีรติทิ้งหัวลงหมอนอีกครั้ง ดวงตาคู่คมมองเพดาน ขณะที่ฝ่ามือข้างหนึ่งเลื่อนไปกอบกุมเส้นผมของคนเป็นรุ่นน้องเอาไว้ แทรกปลายนิ้วเข้าไปเกี่ยวเส้นไหมนิ่มลื่นนั้น แล้วค่อยๆ ขยำพลางบังคับให้เจ้าตัวอมแก่นกายของเขาเข้าไปให้ลึกขึ้นกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้บังคับจนทำให้พัฒน์ชวินทร์รู้สึกอึดอัด

นับว่ายังมีความอ่อนโยนอยู่บ้างล่ะนะ หึ

คนหน้าสวยยังคงใช้ปากทำรักให้รุ่นพี่หนุ่มไม่หยุด กระทั่งเขาเองก็รู้สึกวูบวาบขึ้นมาบ้างเหมือนกัน และก่อนที่จะทำให้พี่กีปลดปล่อยออกมาคาปากของเขาเข้าซะก่อน พัฒน์ชวินทร์ตัดสินใจผละออกอย่างเชื่องช้า ทำให้หยาดน้ำลายบางส่วนเชื่อมความเป็นชายใหญ่โตนั่นกับปลายลิ้นของเขา จนเกิดเป็นภาพอันแสนเร้าอารมณ์ในสายตาของกีรติที่ยกหัวขึ้นมามองอีกครั้งเข้าพอดี

มีเสน่ห์มากกว่าที่เขาคิด

ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร มองตามการเคลื่อนไหวของรุ่นน้องหน้าสวยหลังจากนี้แบบตั้งใจไม่ให้คลาดสายตา...อีกฝ่ายขยับขึ้นมานั่งคร่อมหน้าท้องของเขา บดสะโพกเบาๆ พอให้ความเป็นชายถูไถกับร่องก้น ขณะเดียวกันก็โน้มลงมาจนหน้าอกขาวเนียนนั่นจ่อกับใบหน้า มือหนึ่งวางไว้ข้างลำตัวเขาเป็นหลักยึดไม่ให้ล้ม แต่อีกมือเอื้อมออกไปหยิบกล่องถุงยางที่ยังมีเหลืออยู่ชิ้นหนึ่งเห็นจะได้

จังหวะนี้กีรติก็ไม่คิดจะปล่อยให้มันสูญเปล่า เขาโอบแขนข้างหนึ่งกอดเอวบางเอาไว้ ขณะที่อีกมือยึดเรียวขาข้างหนึ่งให้อ้าออกด้านข้างแล้วลูบไล้หัวเข่าเนียนสวยที่เขาหลงใหล ตามด้วยเคลื่อนหน้าไปแนบชิดกับเม็ดเล็กๆ สีอ่อน ถูปลายจมูกเข้ากับมันก่อนเปลี่ยนเป็นดูดดึงขบกัดเบาๆ เรียกเสียงครางหวานจากพัฒน์ชวินทร์ออกมาได้ในที่สุด

“อ๊ะ อ่า...พี่กี อื้อ!”

เสียงดูดเลียยอดอกผสานไปกับเสียงคราง คนหน้าสวยอ่อนระทวยจนแทบทิ้งตัวลงทาบทับร่างแกร่ง เขาปล่อยให้ตนเองถูกหยอกเย้าเล่นอีกพักใหญ่ จนกลางกายสีอ่อนสั่นระริกด้วยความเสียวกระสัน ช่องทางด้านหลังขมิบราวกับกำลังเรียกร้องขอสิ่งเติมเต็ม

พัฒน์ชวินทร์ใช้แรงที่ยังหลงเหลืออยู่ผลักดันตัวเองกลับมานั่งได้ในที่สุด เขาปัดมือหนาที่แตะต้องร่างกายตนเองออกไปเบาๆ จากนั้นก็คาบซองสีเงินเอาไว้ในปากเกือบครึ่งซอง ขณะที่โน้มหน้าลงไปหาคนใต้ร่าง หลุบตาลงต่ำเป็นสัญญาณบอกกลายๆ ว่าให้พี่กีช่วยฉีกซองถุงยางอันนี้หน่อย

กีรติเองก็เข้าใจได้ในทันใด เขายกยิ้มชอบใจ งับฟันเข้ากับมุมซองถุงยางก่อนจะออกแรงฉีกมัน ระยะห่างที่เหลือเพียงน้อยนิดทำให้ทั้งคู่สัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

รุ่นน้องหน้าสวยถอยกลับไปอีกครั้ง เขาแกะเอาถุงยางบางเฉียบออกมาจากซองพร้อมเสียงหัวเราะนุ่มทุ้มเบาๆ ในลำคอ จัดการสวมใส่มันเข้ากับท่อนเนื้อร้อนผ่าวที่เคยได้เข้ามาในร่างของเขา และตอนนี้มันก็กำลังจะได้เข้ามาอีกครั้ง

พัฒน์ชวินทร์หยัดสะโพกขึ้นแล้วจับแก่นกายยาวใหญ่นั้นจ่อกับปากทาง ค่อยๆ กดมันเข้ามาผ่านช่องทางรักไปพร้อมๆ กับกดสะโพกตัวเองลงไปกลืนกิน ความคับแน่นยังคงมีอยู่แต่ไม่มากเท่าครั้งแรกที่ทำกัน ทันทีที่ส่วนหัวเข้าไปจนหมด ร่างเพรียวบางก็กระแทกลงไปทีเดียวกลืนกินมิดลำ!

“อ๊า!”

“อึก ซี๊ดดด แม่งเอ๊ย เสียวฉิบ!”

ต่างฝ่ายต่างร้องครางและสบถอย่างดิบเถื่อน กีรติจับเอวบางเอาไว้แน่นจนผิวกายขาวเนียนนั้นขึ้นรอยมือ เขาปล่อยให้คนหน้าสวยเป็นฝ่ายขยับโยกกายควบขี่ ช่องทางคับแคบนั้นทั้งอุ่นทั้งนุ่ม บางจังหวะตอดรัดถี่รัวจนร่างสูงต้องกัดฟันข่มความเสียวเอาไว้

ความแข็งขืนที่เสียดสีภายใน บางครั้งส่วนปลายก็กระทบเข้ากับจุดกระสันทำให้พัฒน์ชวินทร์เสียวจนแทบขาดใจ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ผสมไปกับเสียงหอบหายใจและเสียงคราง หนุ่มหน้าสวยรับรู้ได้ถึงมือของรุ่นพี่หนุ่มทั้งสองข้างที่เปลี่ยนมาลูบไล้หัวเข่าของเขา

จะยังไงพี่กีก็ยังชอบหัวเข่ามากกว่าที่อื่นอยู่ดี

พัฒน์ชวินทร์เปลี่ยนจังหวะรัวแรงให้กลายเป็นเนิบช้า เขาบดสะโพกแทนที่จะกระแทกเอาๆ แต่แบบนั้นกลับยิ่งทำให้ทั้งสองกระสันซ่านไปทั้งร่าง ความต้องการเอ่อล้นจนแทบทะลักทลาย

กีรติอดรนทนไม่ไหว เป็นฝ่ายลุกขึ้นนั่งเพื่อคุมเกมเอง เขารั้งขาข้างหนึ่งของรุ่นน้องหนุ่มให้งอเข้าหาตัว เอนกายไปอีกฝั่งเล็กน้อยแล้วอัดสะโพกกระแทกแก่นกายเข้าช่องทางอ่อนนุ่มรัวแรง ขณะเดียวกันก็ไล้เลียเข่าเนียนสวยไปด้วย...ท่วงท่าลำบากไปนิดแต่กลับเร้าใจเป็นที่สุด

“อ๊ะ อ๊า พี่กีช้าๆ ฮึก อ๊ะๆ”

“อยากให้ช้างั้นเหรอ แต่ฉันชอบเร็วๆ แรงๆ มากกว่า อ่า...”

“เสียว อึก ผมจะเสร็จ...”

“เอาสิ ปล่อยออกมาเลย”

ได้ยินแบบนั้นกีรติก็เร่งจังหวะมากขึ้น เขาดูผิวเนื้อเหนือกระดูกหัวเขาจนเกิดรอยสีกุหลาบ ก่อนเลื่อนกลับขึ้นมาบดจูบริมฝีปากที่กำลังครางเสียงสั่นพร่า เรียวลิ้นตวัดเกี่ยวเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ร่างสูงดูดริมฝีปากล่างของคนหน้าสวยจนบวมเจ่อ แล้วเลื่อนหน้าไปซุกไซ้ซอกคอ โดยที่ทั้งหมดนั้นไม่ทำให้เขาเสียจังหวะการตอกสะโพกกระแทกกระทั้นรัวๆ

แล้วในที่สุดพัฒน์ชวินทร์ก็ปลดปล่อยออกมาใส่หน้าท้องของร่างสูงและมีบางส่วนเปรอะเปื้อนหน้าท้องตนเอง ขณะที่ช่องทางรักบีบรัดแก่นกายแข็งขืนของกีรติแน่น จนชายหนุ่มรุ่นพี่ทนไม่ไหว ปลดปล่อยตามมาติดๆ

“อ๊า!”

“ซี๊ดดด”

สองเสียงครางประสาน ร่างเพรียวบางกอดไหล่แกร่งเอาไว้เป็นหลักยึดขณะหอบหายใจหนักหน่วง เหงื่อเย็นไหลท่วมกายของพวกเขา เส้นผมสีอ่อนยาวเคลียบ่าของพัฒน์ชวินทร์ ยามนี้ยุ่งเหยิงปรกหน้าบางส่วน แต่เมื่อรวมกับแก้มแดงระเรื่ออันเนื่องมาจากการออกแรง ก็ขับให้เขายิ่งดูมีเสน่ห์ ‘น่าเอา’ ยิ่งขึ้น

กีรติต้องเตือนตัวเองให้หยุดเพียงเท่านี้ เพราะถุงยางที่ซื้อมาได้หมดลงไปแล้วและเขาจะไม่มีเซ็กซ์โดยไร้การป้องกันเด็ดขาด ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนหงายโดยที่โอบเอาร่างเพรียวบางลงมาด้วย ทำให้ตอนนี้รุ่นน้องหน้าสวยตกอยู่ในสภาพนอนทาบทับกายแกร่ง ทั้งที่ท่อนเนื้อร้อนผ่าวของคนใต้ร่างยังสอดคาอยู่ด้านใน

“พี่กี ดึงออกก่อนก็ดีนะครับ” คนหน้าสวยอดพูดขึ้นมาไม่ได้ แม้เขาจะชอบที่ได้แนบชิดกับคนที่ตัวเองหลงรัก แต่ไม่ได้หมายความว่าสภาพแบบนี้จะโอเคเสมอไป แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเขารังเกียจหรือรู้สึกไม่ดี

แต่พัฒน์ชวินทร์กลัวตัวเองจะมีอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบน่ะสิ!

“ทำไม กลัวฉันทำอีกรอบเหรอ?”

ใบหน้าสวยหวานเบี่ยงขึ้นเพื่อมองสบตาคมกริบ พัดยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขี่ยปลายนิ้วเล่นกับกรอบหน้าหล่อเหลา เขาแกล้งบีบรัดของที่ยังเสียบคาไว้ในร่าง เรียกเสียงครางทุ้มต่ำจากพี่กีได้เป็นอย่างดี รุ่นน้องหนุ่มเลยได้รับสายตาคาดโทษดุดัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขากลัวเลยสักนิด

“ถ้าพี่อยากทำก็คงต้องใช้มือแล้วล่ะครับ เพราะถุงยางหมด”

“...”

“อ๊ะ! แต่ผมไม่ทำให้หรอกนะครับ พี่ต้องช่วยตัวเองนะหลังจากนี้”

กีรติแค่นเสียงขึ้นจมูก เขาบีบขยำก้นขาวทิ้งท้ายก่อนถอดถอนแก่นกายออกมา จากนั้นก็พลิกร่างเพรียวบางลงนอนกับเตียงอย่างรวดเร็วไร้ซึ่งความทะนุถนอม เล่นเอาคนที่โดนผลักไม่ทันตั้งตัวอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจ แต่ก็เปลี่ยนเป็นย่นจมูกใส่แล้วเอ่ยตัดพ้ออย่างอดไม่ได้

“พอได้สมใจอยากก็เหวี่ยงผมทิ้งแบบไม่ไยดีเลยนะ พี่กีนี่ใจร้ายจริงๆ”

กีรติไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่มองใบหน้าสวยหวานนั่นเล็กน้อยแล้วถึงจะลุกจากเตียงเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้พัฒน์ชวินทร์นอนมองตาม แต่ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวเท้าพ้นห้องน้ำก็เหลือบไปมองรุ่นน้องหนุ่มอีกครั้ง แล้วก็ได้เห็นเรือนกายเพรียวบางขาวผ่องที่มีร่องรอยของฝ่ามือรอยที่เขาดูดทิ้งเอาไว้ประปราย แต่นั่นกลับขับให้ร่างนี้มีเสน่ห์เย้ายวนมากขึ้น

รุ่นพี่หนุ่มชะงักไปชั่วขณะ เขาเผลอจดจ้องหัวเข่าสวยๆ นั่นแล้วก็รู้สึกร้อนวาบขึ้นมาอีกครั้ง สุดท้ายชายหนุ่มก็ปิดประตูห้องน้ำแล้ว...จัดการใช้มือช่วยตัวเองอีกครั้งเข้าจนได้

เด็กนั่น...ทำให้เขาปั่นป่วนเสียได้



หลังจากนั้นกีรติก็ยังมีความเป็นรุ่นพี่ที่ดีมากพอ ชายหนุ่มรอให้พัฒน์ชวินทร์อาบน้ำแต่งตัวใหม่จนเสร็จ แน่นอนว่าเสื้อผ้าที่เจ้าตัวใส่กลับไปก็คือชุดสูทของเมื่อคืน เพียงแต่รุ่นน้องหน้าสวยสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวในกับกางเกงเท่านั้น เสื้อสูทตัวนอกกับเนกไทเขาพับแล้วถือกลับแทน

“จะให้ไปส่งที่ไหน”

“อืม ไปส่งผมที่ห้าง...”

RRRrrr

ยังไม่ทันที่จะได้ตอบจุดหมายปลายทาง เสียงโทรศัพท์ของพัฒน์ชวินทร์ก็ดังขึ้นซะก่อน ชายหนุ่มมองชื่อบนหน้าจอนิ่งอยู่หลายวินาที ก่อนจะเหลือบมองคนขับรถอย่างกีรติแล้วถอนหายใจแผ่วเบา จากนั้นถึงจะกดรับสาย

“ครับ...ผมไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ทุกเรื่องหรือเปล่า” น้ำเสียงของคนหน้าสวยติดจะไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด และนั่นทำให้กีรติเผลอเหลือบมอง แต่ก็กลับไปตั้งใจขับรถดังเดิม...เขาแค่แปลกใจก็เท่านั้น เพราะไม่เคยเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน “ถ้าพี่อยากรู้ทำไมไม่ไปงานเองล่ะ ถ้าพี่อยากรู้ว่าพี่ตาพูดอะไรถึงพี่บ้างพี่ก็ควรที่จะไปงานเองนะ...”

“...”

“ก็ได้! พี่ตาบอกว่าก็คิดไว้แล้วว่าพี่คงไม่ไป แต่ไม่คิดว่าจะส่งผมไป...อะไรนะ?! ไม่ ผมไม่ไป” น้ำเสียงของพัฒน์ชวินทร์แฝงความหงุดหงิดมากขึ้นทุกทีๆ แล้ว เขาลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้มีพี่กีอยู่ด้วย “เลิกบังคับกะเกณฑ์ผมสักที! แค่เพราะว่า...เพราะ...”

กีรติทันได้เห็นมือของรุ่นน้องหนุ่มกำเข้าหากันแน่นในระหว่างที่รถติดไฟแดง เขาเหลือบขึ้นมองใบหน้าสวยหวานที่ยามนี้เต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น แต่ในความกรุ่นโกรธนั้น...ดวงตาเรียวสวยกับมีแต่ประกายของความเจ็บปวด

เกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย...

กีรติได้แต่สงสัย แต่เพราะว่าเขาไม่ได้สนิทสนทกับอีกฝ่ายมากพอจึงไม่คิดว่าตัวเองจะมีสิทธิ์เอ่ยถาม ชายหนุ่มหันกลับมามองไฟจราจรอีกครั้ง พร้อมกับที่ได้ยินคนข้างกายพูดปิดท้ายก่อนตัดสายทิ้ง

“ได้ ผมจะไป”

ความเงียบโรยตัวอยู่รอบกายพวกเขาชั่วขณะ แต่ในจังหวะที่รถเคลื่อนออกจากจุดเดิมเมื่อไฟเขียวมาเยือน พัฒน์ชวินทร์ก็เอ่ยพูดขึ้นว่า...

“ผมวานให้พี่กีไปส่งผมอีกที่แทนได้ไหมครับ”

“ที่ไหน”

คนหน้าสวยถอนหายใจก่อนจะตอบ

“บ้านสัตยานนท์”

บ้านที่เขาไม่ต้องบอกจุดหมายปลายทางพี่กีก็รู้จักดี เพราะมันเป็นบ้านที่พีกีไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยๆ สมัยยังเด็ก...ก็พ่อของพี่กีกับพ่อของเขาเป็นเพื่อนรักกันนี่นะ



____________________

เปิดมาด้วยฉากคัทอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนแต่มันอดไม่ได้ แหม ขออีกหน่อยแล้วกันอะไรงี้ 555555555555 เจอกันตอนหน้านะคะ




หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-02-2021 22:51:49
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-02-2021 22:55:35
มีเงื่อนงำ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 26-02-2021 20:57:36
กี้ด เห็นชื่อเรื่องคุ้นๆ ก่เลยกดเข้ามา มาอัพจริงด้วย ขอบคุณนะคะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-02-2021 17:42:22
 :L2:  เฝ้ารอค่ะ
หัวข้อ: Re: Kneel before your Queen #คุกเข่าให้ผม : หลงใหลครั้งที่ 6 [01/02/2021]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-03-2021 22:57:53
พัดเจออะไรมาบ้างน้า ไม่เกเร ยังถูกบังคับขนาดนี้เลย
กีไปด้วย หวังว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้างนะ
อื้อหือออ เป็นแซบมากจ้า พริกแปดสิบเม็ดยังไม่สู้
ลูกล่อลูกชนแพรวพราวกันเหลือเกิน ครบสามเดือนใครจะอยู่ใครจะไปนะ