พิมพ์หน้านี้ - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: [Karnsaii] ที่ 07-03-2016 20:57:28

หัวข้อ: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 07-03-2016 20:57:28
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ3
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาทของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
 

ผลงานในเล้าเป็ดเรื่องอื่นๆ
                                                    นิยาย  
                                                   1. ● รักข้างเดียว ● [ One-side love] [Complete]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42065.msg2702144#msg2702144)
                                                   2. ll เล่นเพื่อน ll [Complete]  (https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44015.0)
                                                   3. หลงกาว(น์) [Complete]   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.0)
                                                   4. ❤ค่ายสร้างรัก❤ [Complete]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58387.0)
                                                   5. พราน ‘ล่อ’ เนื้อ [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56929.msg3534807#msg3534807)
                                                   6. ▲▼Return To Love ▲▼ [Complete]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63551.0)
                                                   7. ✪ You're my sky : #จุดหมายคือท้องฟ้า ✪ [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67604.msg3851216#msg3851216)
                                                   8. ☘ ป่าห่มรัก ☘ [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.0)
 
                                                   เรื่องสั้น                                                                                                     
                                                   1.  เรื่องสั้น .... - [ แสนชัง ] - [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42518.0)
                                                   2. [เพราะอกหัก...รักจึงบังเกิด] [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51014.0)
                                                   3.   ҉    วันวานยังหวานอยู่    ҉   [Pause]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51622.0)

---------------------------------------------------


หลงกาว(น์) ตีพิมพ์กับสนพ.everY(เอเวอร์วาย) นะคะ
สามารถหาซื้อหนังสือได้ที่  เว็บแจ่มใส  (http://www.jamsai.com/product/4126-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C) ,  Jamshop  (https://www.facebook.com/jamshopofficial/photos/a.1863987237209661.1073741829.1790079881267064/1898443637097354/?type=3&theater)
   ร้านหนังสือ B2S , Se-ed , ร้านนายอินทร์


สารบัญ
 *หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3325553#msg3325553)   *หลงที่ 2.1 : ยินดีที่ (ไม่) รู้จัก (ครึ่งแรก)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3328243#msg3328243)
  *หลงที่ 2.2 : ยินดีที่ (ไม่) รู้จัก (ครึ่งหลัง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3332078#msg3332078)   *หลงที่ 3 : หมอปาย  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3335165#msg3335165) 
 *หลงที่ 4.1 : การสาธิต(ครึ่งแรก)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3340176#msg3340176)    *หลงที่ 4.2 : การสาธิต(ครึ่งหลัง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3342953#msg3342953)
 *หลงที่ 5.1 : ความจริงอีกด้าน(ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3347677#msg3347677)    *หลงที่ 5.2 : ความจริงอีกด้าน(ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3350792#msg3350792)
 *หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3355417#msg3355417)   *หลงที่ 7 : เสียงหัวใจที่แปลกไป  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3364866#msg3364866) 
 *หลงที่ 8 : รักสามเศร้า  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3377233#msg3377233)  *หลงที่ 9.1 : สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน(ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3379256#msg3379256) 
*หลงที่ 9.1 : สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน(ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3427701#msg3427701)  *หลงที่ 10 : สับสน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3441486#msg3441486) 
  *หลงที่ 11 : จุดเปลี่ยน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3448465#msg3448465)  *หลงที่ 12 : การตัดสินใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3464509#msg3464509) 
*หลงที่ 13 : ข้อความ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3466821#msg3466821)    *หลงที่ 14 : คืนฝนพรำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3475322#msg3475322)
*หลงที่ 15 : คนที่รอคอย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3477550#msg3477550)  *หลงที่ 16 : ทะเล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3479621#msg3479621)
  *หลงที่ 17.1 : จูบ(ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3484514#msg3484514)    *หลงที่ 17.2 : จูบ(ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3485140#msg3485140)
*หลงที่ 18 : หลงกาว(น์) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3490235#msg3490235)  *หลงที่ 19.1 : อยากมีแฟนเรียนหมอ(30เปอร์เซ็นต์) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3506928#msg3506928)
*หลงที่ 19.2 : อยากมีแฟนเรียนหมอ(70เปอร์เซ็นต์) (http://)  *หลงที่ 20 : เมษา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3511933#msg3511933)
*หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียน ‘นิเทศ’ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3518582#msg3518582)  *หลงที่ 22 : ครอบครัว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3522001#msg3522001)
*หลงที่ 23 : เผชิญหน้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3525779#msg3525779)  *หลงที่ 24 : ความจริง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3532302#msg3532302)
*หลงที่ 25 : คลี่คลาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3540309#msg3540309)  *หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3544587#msg3544587)
*หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป[END] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.msg3559661#msg3559661) 

*********

ติดตามพูดคุยกันได้ที่นี่นะคะ

Fanpage :Karnsaii (https://www.facebook.com/karnsaii/)

Twitter:  Karnsaii_Novel (https://twitter.com/Karnsaii)

*********

หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 07-03-2016 21:00:51
(http://image.free.in.th/v/2013/ic/160307014044.jpg) (http://picture.in.th/id/6dc5eb7066d2e26b375733f8ceb4a7b1)




- หลงกาว(น์) ll Love Addict -

หลงที่ 1 : เจ้าของห้อง 1217









       “ ห้อง 1216 ครับ”

       “ สักครู่นะคะ”

       นิติบุคคลสาวประจำคอนโดทำหน้าเหนียมอายเมื่อสบตากับผมตรงๆ เจ้าหล่อนแอบหน้าแดงก่อนจะหันกลับไปค้นหาคีย์การ์ดและกุญแจห้องสำรองให้ ผมรอสักพักเธอก็ยื่นของดังกล่าวมาให้ก่อนจะชวนคุย

       “ ห้องอยู่ชั้น 12 ออกจากลิฟต์อยู่ทางซ้ายมือนะคะ”

       “ ครับ”

       ผมพยักหน้ารับ

       “ ไปถูกนะคะ”

       หล่อนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ผมพยักหน้ารับก่อนยิ้มให้อีกฝ่ายหลังจากนั้นก็เดินแบกเป้มาตามทางเดิน พร้อมกับสำรวจของที่ได้รับเมื่อกี้ในซองชาวซึ่งปิดทับไว้อย่างดี ตาก็คอยมองไปรอบๆคอนโดแห่งนี้ที่บรรยากาศโดยรอบตกแต่งอย่างสวยงามดูเข้ากันอย่างลงระหว่างความสวยงามและความทันสมัยสมเป็นคอนโดในแหล่งยอดนิยมเพราะอยู่ใกล้บีทีเอสและสถานศึกษา


        “ หืม”

        ผมทำหน้ามึนงงเมื่อล้วงเข้าไปในซองดันเจอคีย์การ์ดและกุญแจห้องห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องที่ตัวเองระบุไว้ 1217 เลขที่ระบุอยู่หน้าซองซ้ำยังเป็นเลขเดียวกับของในซองอีก


        ...หรือว่าผมจะจำเลขห้องของตัวเองผิด...

       เอะ แต่ตอนซื้อก็จำได้ว่าอยู่ว่าน่าจะเป็น 1216 แต่ก็นั่นล่ะเพราะมันความทรงจำเกือบสองปีกว่าแล้วใครจะไปจำได้ยิ่งผมไม่เคยเข้ามาอยู่อาศัยเลยนับตั้งแต่ซื้อคอนโดทิ้งไว้

       ...หรือว่านิติบุคคลสาวหยิบกุญแจให้เขาผิด แต่มันก็ไม่น่าพลาดเมื่อมีการตรวจสอบบัตรประชาชนทั้งยังข้อมูลส่วนตัวต่างๆยังระบุอย่างชัดเจน ไม่งั้นนิติบุคคลสาวคนนั้นคงจะทักท้วงอะไรเขาบ้าง สงสัยว่าวันนี้เขาคงจะมึนเบลอจริงๆ จะไม่ให้เบลอยังไงไหวเมื่อพอลงเครื่องที่สนามบินเสร็จก็จับแท็กซี่มาส่งที่คอนโดนี้เลย

         จริงๆแล้วผมมีบ้านพักแถวชานเมืองซึ่งเป็นของครอบครัวแต่เนื่องจากที่นั้นไม่มีใครอยู่เป็นเวลานานเพราะทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกันหมด บ้านหลังนั้นจึงคล้ายกับถูกปิดเอาไว้เฉยๆแต่ยังคงจ้างคนมาทำความสะอาดเรื่อยๆแต่บ้านที่ว่านั่นก็อยู่ห่างไกลเมืองเหลือเกินทั้งยังไม่สะดวกหลายอย่าง ตรงกันข้ามกับคอนโดแห่งนี้ที่ทั้งสะดวกและอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยซึ่งผมกำลังจะเข้าศึกษาต่อ


         ...1217...

        เลขห้องที่ระบุอยู่หน้าประตูบานสีเบจหยุดสายตาที่กำลังไล่มองตัวเลขที่เรียงลำดับอยู่หน้าห้องตั้งแต่ออกจากลิฟต์มา ผมยื่นคีย์การ์ดหมายจะไปแตะตรงช่องที่มีสัญญาณอัตโนมัติแต่ยังไม่ทันที่จะทำอย่างว่าก็ชะงักเมื่อเห็นประตูห้องนั้นแง้มอยู่เล็กน้อยไม่ได้ปิดสนิท

       สงสัยว่าแม่บ้านที่ลูกพี่ลูกน้องสาวไหว้วานจ้างไว้คงจะมาทำความสะอาดให้ ว่าแต่ทำไมถึงไม่ปิดประตูให้สนิทหรือว่าอาจจะลืมปิด

       ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนักเพราะข้าวของในไม่มีสมบัติสำคัญอะไรเพราะไม่เคยมาอยู่เลยนับตั้งแต่ซื้อเก็บเอาไว้ คิดได้ดังนั้นผมเลยผลักประตูเข้าไปด้านในก่อนจะถอดรองเท้าแล้วแบกเป้ทิ้งลงข้างตัว เท้าที่กำลังจะก้าวไปกลางห้องหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

       “ ปล่อย”

       “ อื้ม ปาย”

       “ ปล่อยผมไอ”

       “ ไอรู้ว่าคุณต้องการ”

        ผมยืนอ้าปากค้างกับการแสดงอันเสียวไส้ระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนเสื้อผ้าบางส่วนในร่างกายหลุดร่วงกองอยู่ตามพื้น หญิงสาวในชุดเดรสสีสดชายกระโปรงถกขึ้นมาเหนือเข่าเกือบคืบกำลังขึ้นคร่อมซุกไซ้ชายหนุ่มที่นอนแนบไปกับโซฟา เสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้ชายคนนั้นเบี่ยงหนีริมฝีปากของหล่อนด้วยสีหน้าหน่ายๆ มือหนาที่รวบเอวคอดไว้ผลักหล่อนออกเบาๆ

         “ ไอ”

         “ อื้ม ไอรักปายนะคะ”


         หล่อนก้มไปจูบซับแผ่นอกเปล่าเปลือยของชายหนุ่มอย่างหลงใหล ผมกระตุกยิ้มมุมปากราวกับว่าตัวเองเป็นผู้ชมที่คอยดูการแสดงบทบาทอะไรสักอย่างอย่างเพลิดเพลิน สีหน้าไอ้หมอนั่นดูเบื่อหน่ายรำคาญทั้งยังพยายามดันสาวเจ้าออกห่างเป็นกิริยาที่ดูไม่สอดคล้องไปกับหญิงสาวที่กำลังเพลิดเพลินกับการซุกไซ้ซอกคอขาวนั่น

        “ มึง”

       ผมยอมรับว่าตัวเองเสียมารยาทที่ยืนดูอีกฝ่าย แต่ยังไงก็เถอะอุตส่าห์ยืนหลบมุมอยู่แต่สายตากลมโตดูแข็งกร้าวก็ตวัดสายตามองมาทางนี้พอดี

       “ อะไรคะปาย”

       “ ออกไป”

       ไอ้หนุ่มนั่นผลักหญิงสาวออกจากตัวเรี่ยวแรงคงจะหนักหนาพอดูถึงทำให้เจ้าหล่อนเซหงายหลังไปทันที

        “ ว้าย”

        “ คือ”

        หญิงสาวเอี้ยวตัวหันมาทางนี้พอดีถึงกับร้องวี๊ดว้ายยกมือปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเองยกใหญ่เมื่อเห็นว่ามีบุคคลที่สามปรากฏกายขึ้นมาห้อง

        “ นี่แกเป็นใคร”

        “ ผม”

        ผมยืนอ้ำอึ้งจับต้นชนปลายไม่ถูกรู้สึกว่าหัวสมองไม่ไหลลื่นคงเพราะอดหลับอดนอนนั่งเครื่องบินหลายชั่วโมง

        “ ออกไปจากห้องกู”

         ...ห้องกู...


        ผมทำหน้ามึนก้มมองคีย์การ์ดในมืออีกครั้ง

        “ เข้าใจผิดอะไรรึเปล่านี่ห้องผม”

          ผมเถียงไอ้นั่น ผู้ชายตรงหน้าจัดว่าเป็นหนุ่มหล่อที่สาวๆเห็นคงต้องเหลียว ใบหน้าคมคายขาวเนียน คิ้วหนา ริมฝีปากสีสดราวกับคนที่มีสุขภาพดี ท่อนบนมันเปล่าเปลือยมองเห็นลอนกล้ามเนื้อตรงท้องอย่างชัดเจน มันดูดีทุกอย่างจะขัดก็แค่สีหน้ารำคาญคิ้วหนาขมวดมุ่นและติ่งหูทั้งสองข้างเจาะใส่ตุ้มหูอันเล็กสีดำ ตอนที่มันลุกขึ้นยืนคาดว่าส่วนสูงคงไม่ต่างจากผมมากนัก
เรากำลังประจันหน้ากันจนสายตาเกือบจะอยู่ระดับเดียวกัน มันเงยขึ้นเล็กน้อยทำให้ผมรู้ว่าผมคงจะสูงกว่ามันไม่มากนักหรอก

         “ ออกไป”

         “ นี่ห้องผม”

         “ กูบอกให้มึงไสหัวออกไปจากห้องกู”

         “ว้าย”


         ผู้หญิงคนนั้นร้องลั่นเมื่อมันปาแจกันบนโต๊ะรับแขกเฉียดหน้าผมไปนิดเดียว เธอตัวสั่นอย่างตกใจและยิ่งตกใจหนักกกว่าเดิมเมื่อไอ้หมอนี่โยนกระเป๋าถือไปตกใกล้ๆปลายเท้าของเธอ

        “ คุณกลับไปได้แล้วไอ”

        “ แต่..” เธออิดออด

        “ ไป”

        ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำเจ้าหล่อนรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือมากุมไว้แล้วสะบัดหน้าหนีพร้อมกับกระแทกเท้าแรงๆเดินออกไป

        “ ไป”

        “ เธอไปแล้ว”

        “ กูหมายถึงมึง”

        ผมถอนหายใจยืนกอดออกพิจารณามันนิ่ง ไม่ต่างจากมันที่ยืนคุมเชิงอยู่เบื้องหน้า

        “ ที่นี่ห้องผม”

         ผมยังยืนยันคำเดิมพร้อมกับยื่นคีย์การ์ดที่ระบุเบอร์ห้องไปที่อีกฝ่าย มันหรุบตามองของในมือผมก่อนจะทำหน้าไม่พอใจ

        “ นี่ไม่ใช่ห้องมึง”

        “ ก็คีย์การ์ดมันระบุเลขห้องนี้..” ผมเริ่มมีน้ำโหคนยิ่งเหนื่อยๆอยากจะพักอยู่ “ มันจะไม่ใช่ได้ยังไงวะ คุณนั่นแหละเลิกเล่นพิเรนทร์มาใช้ห้องคนอื่นทำบัดสีแบบนี้ได้แล้ว ผมเหนื่อยอยากพักผ่อน”

        ผมถอนหายใจแรงๆเพราะเหนื่อยล้าสะสมจากการนั่งเครื่องบินติดต่อกันหลายชั่วโมง มันยืนนิ่งตอนที่ผมโบกมือไล่ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา

        “ นอกจากชอบเสือกเรื่องชาวบ้านแล้วยังเสือกโมเมเอาของคนอื่นอีกนะมึง” มันกอดอกด่าผมนิ่งๆ

        ผมนี่เลือดขึ้นหน้าเลย

        “ อ้าวคุณ”

        “.........”

        “ ใครมันจะไปรู้วะว่าเปิดเข้ามาพวกคุณจะเอากันอยู่”

        “ ไอ้เหี้ย”

        ฝ่ายนั้นตะโกนด่าผมทันทีตอนที่ผมพูดไปแล้วทำท่าเอามือสองข้างประกบกันเป็นสัญลักษณ์ไปทางในเบื้องต่ำ


        “ ผมพูดความจริง”

        มันบดกรามแน่นตาจ้องมองผมสีหน้าเอาเรื่อง มือทั้งสองข้างกำแน่น หน้าขาวๆที่กำลังโกรธแดงก่ำเหมือนของทอดที่กำลังจะสุก โครตตลกเลยผมกลั้นยิ้ม

        “ หัวเราะหาพ่อมึงเหรอ”

        “........”


         ผมไม่ตอบแต่เหลือบตามองมันคล้ายกับจะบอกว่ามันนั่นแหละคือคำตอบ ฝ่ายนั้นหน้าตึงก่อนจะชูนิ้วกลางใส่หน้าผม
ผมยักไหล่ไม่ได้โกรธอะไรเพราะตอนอยู่เมืองนอกเพื่อนๆที่สนิทมันฮาร์ดคอร์ยิ่งกว่านี้ แต่ที่คงตรงหน้ายังไม่รู้ก็คือผมเป็นประเภทใครกวนมาผมจะชอบกวนกลับ อืม ถ้าจะเรียกให้ถูกคือผมเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างกวนตีนคำนี้แหละถึงจะถูก


       “ ของคุณอันเท่านี้เหรอ”

        ผมยิ้มๆมองนิ้วกลางของอีกฝ่ายสลับกับจ้องไปที่กึ่งกลางลำตัวฝ่ายนั้นที่ซ่อนอยู่ในกางเกงเดฟสีดำ ช่วงขาที่เรียวขามีเนื้อหนังบ่งบอกว่าเจ้าตัวคงจะออกกำลังเป็นประจำแน่นอน

        “ มึง”

        “ ขอโทษนะคะ”

        จังหวะที่มันเตรียมกระโจนใส่ผมบังเอิญว่านิติบุคคลสาวที่เจอกันก่อนหน้านี้โผล่เข้ามาพอดี เธอทำเหรอหราและยิ่งตกใจเมื่อเห็นมันเปลือยท่อนบนอยู่และท่าทางพวกเราคงจะสามัคคีกันมากเป็นพิเศษแบบนี้

        “ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ”

        “ ออกไป” นอกจากมันจะไม่ตอบคำถามเขาดีๆแล้วยังตะคอกใส่พวกเราอีก

        “ ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ เป็นความบกพร่องของพวกเราเองพอดีดิฉันหยิบกุญแจห้องให้ผิดค่ะ” ท้ายประโยคเธอหันมาพูดกับผมแล้วก้มหน้าขอโทษขอโพยมัน

        “ หา”

        “ ขอโทษค่ะ” หล่อนหน้าเสียทำหน้าไม่สู้ดีนัก “ขออภัยในความบกพร่องครั้งนี้ด้วยค่ะ” หล่อนยกมือไหว้

        “ ครับ”

        ผมรับคำแบบงงๆ “ แล้วห้องผมคือ”

        “ 1216 คะห้องข้างๆนี้เอง” หล่อนผายมือไปข้างๆ “ ถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยค่ะ แล้วก็ขอโทษเจ้าของห้องสำหรับความสัปเพร่านี้ด้วยนะคะ”


         มันพยักหน้ารับไปงั้นๆ ส่วนผมได้แต่เกาหัวก่อนจะเดินตามเธอออกไปจังหวะนั้นแหละผมได้ยินเสียงในลำคอมันราวกับว่าเยาะเย้ยที่สุดท้ายก็กลายเป็นผมที่ขี้ตู่จะเอาห้องของมัน

         ผมหันไปมองและดวงตาเราประสานกัน มันแสยะยิ้มท่าทางกวนตีนไม่น้อย

        “ หึ เล็ก”

         ผมทิ้งระเบิดไว้ด้วยการมองไปที่เป้ากางเกงมันแล้วปรามาสด้วยสีหน้ายียวน

         “ ไอ้สัตว์”


          ดีว่าผมปิดประตูห้องมันก่อนไม่งั้นเสียงดังโครมที่ตามมาติดๆนั่นคงไม่แคล้วโดนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายผมเป็นแน่ หึ เรียกว่าดุเดือดตั้งแต่วันแรกที่เหยียบแผ่นดินเกิดเลยให้ตายเถอะ




***********************************




         หลังจากวางกระเป๋าเป้ไว้กลางห้องผมก็ตัดสินใจเดินไปอาบน้ำอาบท่าเพื่อให้ตัวเองสดชื่นแต่ถึงอย่างนั้นร่างกายที่อดหลับอดนอนมาหลายชั่วโมงก็ทนไม่ไหวสุดท้ายผมเลยเลื้อยตัวลงนอนตรงโซฟากลางห้อง แต่ก่อนมโนความคิดจะล่องลอยไปภาพใบหน้าคนเจ้าอารมณ์ห้องข้างๆก็สว่างวาบขึ้นมา

         คนอะไรวะขี้หงุดหงิดน่าดู

         สังเกตได้จากการที่มันทำหน้าเฉยชาเบื่อหน่ายโลกตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่ตอนที่หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามนั้นขึ้นคร่อม อยู่บนตัวมัน แปลก มีคนประเภทนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนทั้งๆที่คนอย่างผมเจอคนมาตั้งมากมายตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ

         ผมคิดอย่างขำๆก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด



      .

      .





          ...ติ๊ดๆๆๆ...


         เสียงนาฬิกาปลุกที่กดตั้งเอาไว้ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบทำเอาสะดุ้งตื่น หลังจากนั้นผมถึงได้มีโอกาสมองเลยไปยังนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบจะสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว ผมสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติ เป็นเวลานานพอสมควรสำหรับการพักเอาแรงเพราะผมเริ่มหลับตั้งแต่บ่าย พอได้พักผ่อนนอนหลับจนอิ่มแล้วถึงได้รู้สึกว่าท้องตัวเองกำลังร้องด้วยความหิว

         “ ไม่หิวก็บ้าแล้ว”

        ผมพึมพำกับตัวเองเพราะมื้อสุดท้ายที่กินคือตอนอยู่บนเครื่องบินเมื่อหลายชั่วโมงก่อน คิดได้ดังนั้นจึงเริ่มลงมือค้นของในกระเป๋าเดินทางเพราะก่อนหน้านี้มารดาเขาเป็นคนแพ็คกระเป๋าให้ดังนั้นคงพอจะมีของกินอะไรติดมาบ้าง จะลงไปหาอะไรรองท้องตอนนี้ก็ขี้เกียจซะเหลือเกิน และผมก็ไม่ต้องผิดหวังเมื่อเห็นพวกขนมปังและคุ้กกี้ห่อกันกระแทกอย่างดีอยู่มุมหนึ่ง ภาพตรงหน้าทำให้อดคิดถึงผู้หญิงแสนรอบคอบซึ่งเป็นที่รักของผมและครอบครัวเป็นอย่างมาก


        ...คุณหญิงนิตยา...

        พูดแล้วก็อดคิดถึงไม่ได้จึงเอื้อมมือไปยังไอแพดคู่กายก่อนจะกดโทรวีดีโอหามารดาซึ่งอยู่ไกลแบบคนละซีกโลกหนึ่งโน่น รอไม่นานสัญญาณการเชื่อมต่อก็เริ่มต้นแล้วหน้าจอก็ปรากฏภาพใบหน้าเนียนใสของตัวแสบประจำบ้าน


         “ พี่ยิม”

        น้องสาวตัวแสบของผมโบกมือหยอยๆท่าทางยินดีไม่น้อย ใบหน้าเนียนใสยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะร้องวี๊ดวายกวักมือเรียกมารดาซึ่งมักบ่นให้ฟังเสมอว่าเจ้าแสบกระโดกกระเดกไม่สมกุลสตรีเอาซะเลย

         “ คุณแม่ คุณแม่พี่ยิมโทรมาค่ะ”

         “ คุณแม่”

         เสียงมารดารับคำมาจากที่ไกลๆเมื่อนั้นเจ้าแสบถึงได้หันกลับมาสนใจผมทันที

         “ ถึงนานรึยังอ่ะพี่ยิม”

         น้องสาววัยใสของผมยิ้มแป้นแล้นมือก็สไลค์โทรศัพท์ในมือไปด้วย

         “ ตั้งแต่บ่ายแล้ว แล้วเราอ่ะทำอะไรก้มหน้าก้มตายุ่งกับโทรศัพท์เชียว”

         “ แฮ่”

         เจ้าแสบแลบลิ้นทำไม่รู้ไม่ชี้

         “ อ่านนิยายวายอยู่ล่ะสิ”


          ผมแซวขำๆเพราะรู้ดีว่าเจ้าแสบชื่นชอบนิยายประเภทชายรักชายเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งเข้าคู่กับ ‘พี่หญิง’ ลูกพี่ลูกน้องสาวยิ่งไปกันใหญ่เพราะฝ่ายหลังนั้นผันตัวเองมาเขียนนิยายประเภทนี้จนโด่งดัง  สุดท้ายอิท่าไหนไม่รู้พี่หญิงต้องเพียรส่งหนังสือแพ็คไปให้น้องสาวผมถึงเมืองนอกโน่น เรียกได้ว่าชอบเป็นชีวิตจิตใจ ตอนแรกๆผมก็ไม่เข้าใจหรอกออกจะแปลกๆด้วยซ้ำแต่เพราะถูกเจ้าแสบกรอกหูทุกวันมันเลยซึมซับไปบ้างถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่ดีอะนะ


         “ พูดถูกใจ แต่เดาผิด”

         “ หืม”


          ผมทำหน้าฉงนเพราะปกติถ้าว่างจากการเรียนหรือกิจกรรมที่โรงเรียนน้องสาวผมก็ฝังตัวไปกับนิยายประเภทนี้จนมารดาเอือมระอา แต่ก็ได้แค่บ่นเพราะบิดานั้นคอยให้ท้ายเจ้าแสบอยู่เสมอ อย่างว่าแหละด้วยความเป็นลูกคนเล็กของครอบครัวซ้ำยังเป็นลูกสาวพ่อกับแม่ผมถึงได้ทั้งรักทั้งประคบประหงมกันขนาดนี้

         “ บัวกำลังดูผู้ชายหล่ออยู่”

         “ อะไรนะ”

          นี่ถึงกับตามส่องผู้ชายแล้วเหรอคิดดูเด็กสิบเจ็ดสมัยนี้แก่แดดขนาดไหน ผมส่ายหัวไปมาก่อนจะหัวเราะใบหน้าจิ้มลิ้มที่มองค้อนผมไม่เบานัก


         ‘ใยบัว’ คือเด็กแสบของครอบครัวถึงอย่างนั้นผมก็รักและเอ็นดูน้องสาวคนนี้มาก เพราะไม่ใช่แค่พ่อกับแม่หรอกที่ชอบตามใจเธอผมเองก็เหมือนกัน เวลาน้องมาอ้อนเอาอะไรผมเองก็ใจอ่อนเสมอ หึ เด็กแสบเอ้ย


          “ แล้วตกลงทำอะไรกันแน่ แอบดูหนังโป๊ใช่มั้ย”

          “ บัวไม่ใช่พี่ยิมนะ”

         นั่นไงทั้งฉลาดและรู้ทันผมขนาดนี้จะไม่ให้รักยังไงไหว

          “ พี่ไม่ใช่คนแบบนั้นเถอะ”

          “ เหรอ”

         ยังจะมาทำลอยหน้าลอยตาจนน่าดีดผมม้าตรงหน้าผากชะมัด

          “ ว้าย เพจอัพรูปพี่หมอปายด้วยอ่ะ”

          “.......”

          ผมส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับอาการดีดดิ้นของน้องสาว ระหว่างนั้นผมก็เทกระเป๋าจัดของเข้าตู้เสื้อผ้าไปด้วย

          “ อ้าย พี่หมอปาย”

          “ หล่ออะไรเบอร์นี้”


           เจ้าแสบยังพร่ำเพ้อต่อไปกับหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง ผมมองอาการคุ้มดีคุ้มร้ายของน้องสาวแล้วได้แต่ขำในใจเด็กนี่บางทีก็ติ้งต้อง บางทีก็กวนตีนไม่แพ้ผมหรอก อย่างว่าแหละสายเลือดเดียวกัน หึ

         “ อะไรเจ้าแสบ”

         “ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อโฮก”

         “ น้อยๆหน่อยเจ้าแสบกล้าดียังไงมาชมผู้ชายคนอื่นว่าหล่อต่อหน้าพี่เนี่ย”

         “ ก็มันจริงอ่ะ”

         “ ว่าแต่ไอ้หมอนี้มันเป็นใคร”

         “ เอ้าก็รุ่นพี่ที่มหาลัยพี่นั่นแหละ...” ใยบัวทำหน้าเหมือนว่าผมพลาดอะไรดีๆไปสักอย่าง “...แบบว่าหน้าตาดีไงเลยมีรูปลงเพจ Cute boy ที่มหาลัยพี่ไง”

         ...อะไรวะ...

         ผมเกาหัวงงทำหน้าไม่เข้าใจอะไรเพจๆนะ ขณะที่เจ้าแสบกำลังจะอ้าปากอธิบายพอดีมารดาเดินเข้ามาในจอภาพ เจ้าแสบถูกแม่บิดแก้มเบาๆแล้วบ่นอะไรไม่รู้ น้องสาวผมถึงได้ค้อนอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะวิ่งหัวเราะหนีมารดาหายไปจากจอภาพ


       “ ยิม”

       “ ครับแม่”

       “ เดินทางเป็นยังไงบ้างลูก”

       สีหน้าของมารดาแสดงความห่วงใยอย่างชัดเจน

        “ โอเคครับแม่ตอนนี้ยิมถึงห้องแล้ว”

        “ ดูแลตัวเองนะลูก”

        “ ครับ”


         ผมรับคำมารดาที่น้ำเสียงดูว่าห่วงใยจริงๆทั้งๆที่ผมก็เดินทางคนเดียวออกบ่อยเพราะเขาเป็นใช้ชีวิตที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ต้องย้ายไปตามเมืองต่างๆตามบิดาซึ่งเป็นทูตประจำอยู่ที่ประเทศแถบยุโรป ดั้งนั้นทั้งพ่อและแม่ต้องหอบผมและใยบัวตามไปด้วยทุกที เพราะท่านทั้งสองไม่อยากอยู่ไกลจากลูก ดังนั้นตั้งแต่เด็กผมถึงอยู่ไม่ค่อยเป็นที่ต้องเข้าออกโรงเรียนเป็นประจำถึงอย่างนั้นก็มีข้อดีที่ทำให้ผมมีเพื่อนค่อนข้างเยอะ

        เพราะต้องหัดทำอะไรเองตั้งแต่ยังเด็กจึงทำให้ผมค่อยข้างที่ดูแลตัวเองได้ดีเนื่องจากมารดาในฐานะภริยาทูตต้องช่วยงานบิดาในหลายๆเรื่องทำให้ท่านไม่ค่อยมีเวลาให้พวกเรานัก ผมกับเจ้าแสบจึงสนิทกันมากเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่ค่อยว่างผมถึงต้องรับหน้าที่ดูแลน้องน้อยไปโดยปริยาย

        “ ไปอยู่โน่นก็ตั้งใจเรียนนะยิม” คุณหญิงนิตยาภริยาท่านทูตอัศนัยได้ทีแย็บผมนิ่มๆ เนื่องจากตอนอยู่ไฮสคูลที่นั่นผมค่อนข้างแสบพอตัว

         “ โธ่แม่ครับ”

         “ ไม่รู้แหละไปอยู่ตัวคนเดียวอย่าแว้นให้มันมากนักนะเรา”

         ไงแม่ผมใช้ศัพท์ได้วัยรุ่นซะด้วยสมกับตำแหน่งผู้หญิงทันสมัยแห่งยุคจริงๆ

        “ ครับผม” คุณหญิงนิตยาหรี่มองผมอย่างรู้ทัน

        “ ให้มันจริงเถอะย่ะ”

        “ โธ่แม่ครับ ลูกชายไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย”
 

        “ อีกไม่นานก็จะได้เจอกันแล้วครับแม่”

        “ ก็นี่แหละแม่ถึงวางใจให้กลับไปคนเดียว”


        หึ ทั้งๆที่ผมกับน้องสาวกลับไทยทุกซัมเมอร์เพราะญาติพี่น้องของบิดามารดาก็อยู่ที่นี่กันทั้งนั้น โดยเฉพาะญาติพี่น้องข้างฝ่ายมารดาที่อาศัยอยู่แถบปริมณฑลซึ่งผมกลับไปเยี่ยมประจำเพราะที่นั่นเป็นบ้านสวนซึ่งยายผมกับลูกหลานบางส่วนอาศัยอยู่

        “ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆนะยิม แม่ต้องไปแล้วพอดีวันนี้มีงานเลี้ยงที่สถานทูต”

        “ ครับแม่  ผมฝากความคิดถึงถึงพ่อด้วยนะครับ”

        “ จ๊ะ แม่รักลูกนะยิม”

         “รักคุณแม่เหมือนกันครับ”


          ส่วนหนึ่งที่ผมตัดสินใจกลับมาเรียนในระดับปริญญาตรีต่อที่ไทยเพราะบิดาซึ่งใกล้จะเกษียณอายุราชการในหกเดือนข้างหน้าต้องการจะกลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนตัวเอง ดังนั้นพวกเราจึงเตรียมอพยพครอบครัวกลับมาตั้งรกรากที่ไทยอย่างถาวร พ่อผมบอกเสมอว่าถ้าถึงวันที่ท่านเกษียณตัวเองออกมาแล้วท่านต้องกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้านของท่าน ส่วนแม่ซึ่งอยู่เคียงข้างพ่อมาตลอดคงจะได้ทำหน้าที่แม่บ้านสมใจสักที เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นผมเลยสอบเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ไทย


         คิดถึงหกเดือนข้างหน้าครอบครัวเราคงกลับมาวุ่นวายเหมือนเดิมตอนที่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาโดยเฉพาะเจ้าแสบที่คงสุขกว่าใครเพราะจะได้กลับมาล่านิยายแนวถนัดของตัวเองได้สะดวกสักที คิดถึงหน้าแป้นแล้นของน้องสาวแล้วก็ได้แต่ขำ
ว่าแต่ไอ้หมอปายคนที่เจ้าแสบมันพร่ำเพ้อที่มันจะแน่สักขนาดไหนวะ ถึงขนาดที่ทำให้น้องสาวซึ่งถือหางพี่ชายเรื่องความฮอตถึงกับออกปากชมคนอื่นอย่างไอ้หมอนั่นแบบนี้


         ...ชักอยากจะเห็นหน้ามันขึ้นมาแล้วสิ...








เปิดเรื่องใหม่จ้า แนวที่ไม่เคยเขียนเลยแบบว่าเมะชนเมะ อุ๊กรี๊ดดดดด
อาจจะฮาร์ดคอร์ไปบ้างเพื่อความสมจริง เอาตรงๆคือสนองนี๊ดตัวเอง 5555
ฝากติดตาม[หมอปาย&ยิม หรือยิม&หมอปาย]ด้วยน้า ไม่รู้ว่าใครจะหลงใคร อิอิ
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 07-03-2016 21:54:59
กรี๊ดดดด เมะชนเมะ เค้าชอบ
รอติดตามค่า
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 07-03-2016 23:55:29
เมะxเมะ 5555ช่วงนี้เป็นอะไรที่กำลังชอบเลย
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-03-2016 00:22:51
เมะชนเมะแบบนี้ ถ้าจะ"สลับกัน" เราก็ยินดีนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 08-03-2016 01:26:35
แสบพอตัวเลยนะเนี้ยพระนายเรื่องนี้ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 08-03-2016 04:54:41
 :hao6: :hao6: :hao6: :mc4: :mc4: :mc4: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-03-2016 09:56:55
กวนด้วยกันทั้งคู่ ทีนี้ใครจะรุกใครจะรับล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 08-03-2016 10:17:42
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 10-03-2016 06:36:55
 :z1:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-03-2016 09:02:47
อิอิ เพื่อนบ้านข้างห้อง
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 10-03-2016 11:06:16
ติดตามคร้าาาาา~
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 10-03-2016 16:23:58
 :call:  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-03-2016 21:04:31
ใครรุกใครรับนะ โหดทั้งคู่เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่1 : เจ้าของห้อง 1217 »» [7/3/59]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 10-03-2016 21:28:50



หลงที่ 2 : ยินดีที่ (ไม่) รู้จัก

- ครึ่งแรก -


       





        “ กลับไปซะ”

        “ ไม่ค่ะ ปายคะอย่าทำปั้นปึ่งแบบนี้กับไอสิคะ”

        “......”


         เสียงทะเลาะกันแม้ไม่เบานักดังมาจากแถวๆบันไดหนีไฟของชั้นทำให้ผมซึ่งกำลังงัวเงียตื่นขึ้นมาหวังไปออกกำลังกายยามเช้าที่ฟิตเนสด้านล่างของคอนโดถึงกับตื่นเต็มตา เสียงคนคุยกันมีเสียงหนึ่งกระโชกโฮกฮากบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดีนักทำให้
ผมเกิดสนใจนิดๆ จะว่ายุ่งเรื่องชาวบ้านก็คงไม่แปลกในเมื่อชาวบ้านที่ว่าดันเป็นนักแสดงนำหนังสดเมื่อวาน ว่าแต่ทำไมไอ้หมอนี่ถึงดูมีเรื่องขัดอกขัดใจกับสาวสวยคนนี้นักจนถึงป่านนี้แล้วยังเคลียร์กันไม่จบอีกเหรอ


         ...ท่าทางว่าดวงของผมกับไอ้หมอนี่มันชักจะสมพงษ์กันแปลกๆซะแล้ว...


         ใบหน้าคมคายแสดงอาการฉุนเฉียวสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของสาวเจ้าจนเจ้าหล่อนทำเสียงจิ๊จ๊ะ ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ลดละความพยายามในการเข้าไปคลุกวงในอีกรอบ คราวนี้ฝ่ายชายกำข้อมือทั้งสองของผู้หญิงคนนั้นไว้แน่น

        “ อย่ามายุ่งกับผมไอ”

        “ แต่ไอรักคุณ”


         ว่าแล้วมั้ยล่ะ ผมซึ่งเนียนทำตัวลีบไปกับผนังคิดวิเคราะห์ในใจสงสัยว่าไอ้หมอนี่คงอยากจะเลิกกับแฟนสาวใจจะขาด เสียแต่เจ้าหล่อนคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆท่าทางว่าหนังม้วนนี้คงจะไม่จบง่ายๆแน่

         “ คุณพูดอะไรออกมาไอ”

         “ ก็ไอรักคุณจริงๆนี่คะ”

         เสียงถอนหายใจแรงๆของฝ่ายชายทำหน้าผมเผลอขยับเข้าไปใกล้หวังจะได้เห็นใบหน้าของทั้งคู่ชัดๆ


         “ คุณฟังให้ดีนะ” แววตาเย็นชานั่นถูกส่งไปให้ผู้หญิงตรงๆ “ผมไม่ได้รัก ไม่เคยรักและไม่มีวันรักคุณไอ”


         “ ไม่จริง”

         เจ้าหล่อนทำหน้าซีดเผือด

         “ ถ้าคุณไม่รักไอทำไมถึงได้ยังทำดีกับไออยู่ ทั้งๆที่ไอ....”


         “ หยุดพูดเรื่องนี้” ไอ้หมอนั่นยกมือห้ามใบหน้าบูดบึ้งราวกับโกรธแค้นคนมาทั้งโลก “ อย่าพูดถึงมันอีก อย่ารื้อฟื้นในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

         “ แต่ไอ”


         “ คุณควรใช้เวลาที่ไล่ตามผมไปดูแลลูกตัวเองซะบ้างนะ”


          นี่ขนาดเล่นชู้กับเมียชาวบ้านเลยเหรอวะ ผมนิ่งฟังอย่างลุ้นระทึกพอดีได้ยินเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นผมจึงรีบถลาออกจากจุดเกิดเหตุทำทีไปหยุดอยู่หน้าลิฟต์แล้วกดลงคล้ายกับว่าจะไปทำธุระข้างล่าง ทันได้ยินเสียงฝีเท้าที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆจนมาหยุดข้างกาย ผมจึงได้มีโอกาสเหลือบตามองเพื่อนข้างห้องที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่ข้างๆ ก่อนจะแอบเผลอมองเลยไอ้นี่ไป  แต่แปลกไม่ยักกะเห็นผู้หญิงของมันตามมา


          บรรยากาศอึมครึมเมื่อลิฟต์โดยสารมาหยุดอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่ผมกับมันจะก้าวเข้าไปด้านในและปักหลักกันอยู่คนละมุม ผมถอนหายใจตามองตัวเลขตรงปุ่มที่บอกชั้นซึ่งลดลงเรื่อยๆ ส่วนมันกอดอกทำหน้านิ่ง


          “ คนที่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้านก็ไม่ต่างจากหมาที่ชอบคุ้ยของสกปรกหรอก”



          เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นลอยๆทำลายบรรยากาศรอบกายที่เงียบเชียบ เมื่อนั้นผมถึงได้รู้ว่าเพื่อนข้างห้องนั้นกำลังด่าผมลอยๆ

          ดวงตาคู่ของผมกับมันประสานกันตรงๆ ผมกระตุกยิ้มมุมปากไม่ได้นึกโกรธในคำด่านั้นเลยในเมื่อรู้ตัวว่าผิดจริงที่เสียมารยาทแอบดูมัน แต่จะให้ยอมรับผิดกับใบหน้าที่ส่งสายตามองผมเหมือนสสารไร้ตัวตนเช่นนี้เห็นทีจะยาก

          “ คุณก็พูดประโยคยาวๆเป็นเหมือนกันเหรอ”

          ผมทักกลับไป

          มันหรี่ตามองผมนิ่ง “ เสือก”

         “ นั่นผมจะถือเป็นคำชมแล้วกัน” ผมก้มหัวน้อมรับอย่างกวนๆ

         “ มึงมีความผิดปกติทางสมองรึไง?”

         “ ทำไมครับ”


        “ พูดจาเหมือนคนไม่มีสมอง”


          หึ ผมยิ้มมุมปากไอ้หมอนี่ถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีทั้งปากดี ผู้ชายอะไรด่าเจ็บชิบหายแต่ละคำพูดที่กลั่นกรองออกมาเจ็บลึกเรียกได้ว่าโครตแทงใจดำคนฟังโดยทั่วไปแน่ๆ เสียแต่ว่าคนฟังตอนนี้ดันเป็นคนไม่ปกติแบบผมมันเลยไม่ค่อยระคายหูสักเท่าไหร่


         “ ถามจริง”

          “......”

         มันเลิกคิ้วมองประมาณว่าผมจะถามอะไร


         “ คุณเก็บกดมากเกินไปรึเปล่า” ผมถามยิ้มๆ “ ชักบ้างนะจะได้ปลดปล่อยเพราะตอนนี้หน้าตาของคุณแม่งโครตเก็บกดเลย”

         “ ไอ้สัตว์”


         ไอ้หมอนั่นถลามากระชากคอเสื้อผมแรงๆ ดีว่าผมก็แข็งแรงแถมยังสูงกว่ามันนิดหน่อยถึงได้ยืนนิ่งอยู่เลยไม่งั้นล่ะก็เรี่ยวแรงที่มันกระชากคงทำผมปลิวไปแน่

         “ มึงพูดใหม่อีกทีซิ”

         “ ชักซะบ้าง..”

         “ มึง”

         “ ครับ”




        ...ตึ้ง...



         เสียงประตูลิฟต์เปิดออกพอดีกับที่ผู้โดยสารจากชั้นถัดมาเตรียมจะก้าวเข้ามาพอดีแต่เห็นท่าทางที่มันกระชากคอเสื้อผม มืออีกข้างเงื้อสูงและผมกำลังกำมือมันอยู่ทำเอาคนเหล่านั้นชะงักไป มันเลยสะบัดมือจากคอเสื้อผมแรงๆ พวกเราจึงผละจากกันแล้วผู้โดยสารลิฟต์สองสามคนนั้นจึงก้าวเข้ามา

         “ไปยืนไกลๆกู”


         มันพูดเสียงนิ่งๆตอนที่ผมเขยิบเข้าไปใกล้พร้อมกับยืนเบียดไหล่มันตอนที่ลิฟต์โดยสารมีผู้ร่วมใช้บริการเยอะขึ้นจนต้องขยับเข้าใกล้กัน


         “ คุณไม่เห็นหรือไงว่าที่มันแคบ มีน้ำใจหน่อยสิ”

          มันทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะสะบัดตัวกระแทกไหล่ผมแรงๆ
 
         “ แล้งน้ำใจ” ผมพูดขึ้นลอยๆ


         มันมองผมนิ่งแต่มือทั้งสองข้างกำแน่น ผมเหลือบตามองกำปั้นมันแล้วทำหน้ายิ้มๆ “...กำแน่นขนาดนี้ท่าทางหมัดจะหนักน่าดู”

         “ ต่อยมึงปากแตกได้ก็แล้วกัน”

         “ โหดซะด้วย”

         “ มึงจะเอายังไง”


         ผมตาโตทำท่ากลัวอย่างไม่จริงจัง อีกฝ่ายทำหน้ารำคาญผมก่อนจะหลับตานิ่งอย่างรอคอยให้ลิฟต์พาไปส่งยังชั้นที่ต้องการ

         “ ผมชื่อยิม”

         “......”

         “ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อยิม”


          “.......”

          “ ผมชื่อยิมนะครับคุณเจ้าของห้อง 1217”

           มันเปิดเปลือกตามาอย่างขัดใจสีหน้าแววตาบ่งบอกว่ากำลังสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเต็มแก่

          “ กูไม่ยินดีที่ได้รู้จักกับคนอย่างมึง”

          “ ด้วยความยินดีครับ”


          ผมโคลงศีรษะรับกวนๆ


           “ เหี้ย”



         นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ไอ้หมอนั่นพูดกับผมก่อนที่มันจะแทรกตัวออกจากลิฟต์ตอนนี้ลิฟต์พาพวกเรามาถึงชั้นหนึ่งแล้ว  ผมกดยิ้มมุมปากมองอาการขุ่นเคืองของฝ่ายนั้นอย่างขำๆ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงดูเหมือนจะชอบต่อล้อต่อเถียงฝ่ายนั้นในเมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะเสวนากับผมสักเท่าไหร่

         ผมว่าเขาน่าสนใจไม่ใช่สนใจในความลึกซึ้งหรอก แต่ผมแค่แปลกใจว่าทำไมผู้ชายคนนั้นใบหน้าถึงเต็มไปด้วยเคร่งขรึมราวกับมีเรื่องทุกข์ให้คิดถึงตลอดเวลา ทั้งๆที่ถ้าหากฝ่ายนั้นเปิดรอยยิ้มซะบ้างมันคงน่าดูไม่น้อย เสียดายถ้ารู้จักกันแบบปกติผมว่าผมกับเขาคงจะเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยาก









เอาไป 40 เปอร์เซ็นต์ก่อนนะว่า แต่มันชักจะสนใจอะไรยังไงกันแปลกๆละน้า ฮ่าๆๆๆ
#บางทีพี่หมอปายก็ปากเจ็บเกิน #อิยิมก็กวนตีนเกิ้น ฮ่าๆๆๆ  :m20:


หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-03-2016 22:36:30
ถ้ายิมโดนพี่ปายต่อยนี่จะไม่สงสัย
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 10-03-2016 23:33:39
อยากให้ยิมโดนกดค่ะ 55555555555555  :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
ยิมมีสกิลการเจือกที่อ่อนอยู่นะ ไปฝึกมาใหม่นะลุกกกก พี่หมอปายเค้าจะได้ไม่เห็น อิ้อิ้  :laugh:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-03-2016 00:13:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 11-03-2016 06:57:13
รอดูยิมโดนพี่ปายกด  ฮ่าๆๆๆๆ.    o18
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 11-03-2016 12:17:30
คนนึงก็ก๊วนกวน อีกคนก็ขี้หงุดหงิด
จะลงไม้ลงมือเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 5555
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: cinnsin ที่ 11-03-2016 16:16:05
อิพี่ยิมกวนตีนดีนะคะแหม่.. =w=
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-03-2016 16:28:59
กวนๆแบบนี้ระวังโดนจับกดนะคะน้องยิม  :laugh:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: ayumu ที่ 11-03-2016 20:12:33
น้องยิมนี่ กวนพี่หมอปายเค้าทำมายยย อิอิ น่าโดนพี่ปายจับกดนะค่ะแบบนี้อิอิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 11-03-2016 21:54:44
คาดว่าจะมีฉากต่อยกันเข้าซักวัน  o18
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-03-2016 12:40:58
ตามมากรี๊ดกร๊าด
เมะชนเมะ *๐*
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 14-03-2016 13:01:48
ยิมกวน ตีนได้อีกนะ 55555
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 : ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [10/3/59] 40%
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 14-03-2016 21:21:48

 

    (ต่อ)





       “ เอ้าชน”

       ...เคร้ง...

       “ เอ้าชน”

       ...เคร้ง...



       “ เอ้า....”

       “ เดี๋ยวๆ” ผมคว้ามือเพื่อนสนิทอย่างคือ ‘เนม’ ซึ่งมันกำลังเพลิดเพลินกับการยกเอาๆเรียกได้ว่ามันกินของมึนเมานี่แทนน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้ ท่าทางมันจริงจังซะจนผมที่กะว่าจะละเลียดแอลกอฮอล์อย่างช้าๆถึงกับต้องเบรกมันไว้ซะก่อน


        “ มึงจะรีบไปไหนเนี่ย”

        “ ก็นานๆครั้งถึงจะขอป๊าขอม๊าออกมาได้ต้องจัดซะหน่อย”

        “ ผู้ปกครองหวงเหรอวะ”


         คนถามไม่ใช่ผมแต่คือ ‘ไอ้โอ๊ค’ ที่นั่งมองคนเสี้ยนของมึนเมาอย่างขบขัน



         “ ก็ทำนองนั้น”

         พูดจบเนมมันก็หัวเราะร่า ก็เพราะบุคลิกท่าทางแบบนี้ของมันไงป๊ากับม๊ามันถึงยอมปล่อยให้ไปไกลอยู่ไกล เป็นผู้ชายซะเปล่าเสือกตัวเล็กเพราะความสูงมันแค่เตะ 170 เซนฯพอดิบพอดีซ้ำใบหน้ายังหวานเสียจนผู้หญิงบางคนยังต้องอาย ถ้าไม่ติดว่าคบมันมาตั้งแต่สมัยอนุบาลนี่คงต้องมีสงสัยบ้างล่ะว่าทำไมมันถึงได้ออกมาโอโม้ขาวจั๊วซะขนาดนี้ นี่แหละถึงเป็นสาเหตุให้ครอบครัวมันค่อนข้างหวงมันพอสมควร จะปล่อยให้ออกจากบ้านแต่ละทีต้องมีผมพามาประจำ



          ถึงแม้ผมจะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็กผมก็ยังสนิมสนมกับมันมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะปิดซัมเมอร์ทีไรก็แวะเวียนมาหากันบ่อยๆมันจึงเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ผมเรียกได้เต็มปากว่าสนิทที่สุด ส่วนไอ้โอ๊คมันเป็นเพื่อนสมัยเรียนไฮสคูลที่อังกฤษบังเอิญว่ามันมีเหตุให้ต้องกลับไทยเช่นกัน ผมและมันเลยสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ในคณะเดียวกัน


         “ มึงนี่มันตลกดีเนอะ” ไอ้โอ๊คแซวเนมซึ่งฝ่ายหลังแค่ยืดอกแล้วยิ้มร่าตามสไตส์

         “ จะบอกว่ากูมันคนคบง่ายก็มาบอกเหอะ”

         “ อวยตัวเองก็เป็น”

         “ แน่นอน”


         ผมนั่งขำบทสนทนาของพวกมัน จริงๆแล้วทั้งคู่ไม่ได้สนิทกันมาก่อน เพิ่งเคยเจอกันก่อนหน้านี้สองสามครั้งเพราะการแนะนำของผมแต่หลังจากนั้นพอเหล้าเข้าปากพวกเราก็กลายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันไปในที่สุด โดยเฉพาะไอ้นีออนเคลื่อนที่อย่างเนมที่เหมือนว่าได้ปลดปล่อยเวลาอยู่กับพวกผม



         ...Rrrrr...


         เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้นพร้อมกับเบอร์ที่คุ้นตาโชว์หรา ผมกดยิ้มมุมปากเตรียมกดรับแต่เนมมันคว้ามือผมไว้แล้วทำหน้าซีดก่อนจะเขย่ามือผมแรงๆ

        “ อย่าบอกนะว่าอยู่กับกู”

        “ ทำไมวะ”

        “ เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง”


        ผมส่ายหน้ากับอาการกลัวไม่เข้าเรื่องของเนมมัน แล้วตัดสินใจกดรับสายยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรปลายสายก็ถามแทรกขึ้นก่อนว่าอยู่ที่ใด


       ‘ อยู่ไหนคะยิม’

       ‘ ผมออกมาทานข้าวข้างนอกครับ’

       ‘ ร้านอาหารทำไมเสียงดังจัง’ ปลายสายทำเสียงเข้มจนผมต้องคลึงขมับ อาการของผมทำให้เนมได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ ส่วนไอ้โอ๊คมองผมสลับกับเนมอย่างงงๆ

       ‘ยิมอยู่ไหนกันแน่ อย่าโกหกนัตตี้นะ’

        ผมหายใจไม่ใช่รำคาญแต่รู้สึกเหนื่อยที่จะตอบคำถามของแฟนสาวในตอนนี้เพราะรู้ดีว่าน้ำเสียงเจ้าหล่อนดูเอาเรื่องมาก

        ‘ขอไม่ตอบได้มั้ย ผมไม่อยากโกหกนัตตี้’

        ‘อยู่กับเนมใช่มั้ย’
 
         ผมกรอกตาไปมามองเนมที่เริ่มกัดนิ้วแก้เครียดแล้ว ‘ครับ’


        ‘นัตตี้บอกแล้วใช่มั้ยว่า’


         ผมรีบเอามือปิดลำโพงก่อนผุดลุกขึ้นแล้วชี้มือเป็นสัญลักษณ์ว่าจะขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ทั้งคู่ทำหน้ารับรู้แต่เนมยิ้มแหย


          หลังจากอธิบายจนสาวเจ้าเข้าใจแล้วผมก็หวนกลับมาทีโต๊ะอีกครั้ง จริงๆไม่เชิงว่าแฟนสาวผมจะเข้าใจแต่บังเอิญว่าเธอมีธุระต้องรีบไปจัดการ ไม่งั้นเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ ผมถอนหายใจกับท่าทางของนัตตี้ที่มีต่อเนมทั้งๆที่อยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลกยังอุตส่าห์รังเกียจรังงอนกันได้ 

           จะว่ายังไงดีจริงๆแล้วแฟนสาวซึ่งคบกันมาเกือบสามปีและบัดนี้เธอกำลังเตรียมเข้าศึกษาต่อที่ยูในต่างประเทศไม่ค่อยจะถูกชะตากับเพื่อนสนิทของผมเท่าไหร่จะเรียกว่าหึงผมกับเนมมันก็ออกจะแปลกๆไปหน่อยในเมื่อทั้งผมและเนมเราต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่


          จากการคาดเดาของผมน่าจะเกิดมาจากการที่นัตตี้คงจะไม่พอใจอะไรเพื่อนตัวขาวของผมสักอย่าง เพราะเคยถามเอาคำตอบจากเนมมันก็แค่ส่ายหน้าปฎิเสธว่าไม่มีอะไรซ้ำยังเกรงอกเกรงทุกครั้งที่มันอยู่กับผมแล้วบังเอิญนัตตี้โทรเข้ามาทุกครั้ง ผมเคยพยายามถามเอาคำตอบนับไม่ถ้วนสิ่งที่ได้จากเนมคือมันแค่ยิ้มๆผมเลยเบื่อที่จะถามก็เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลยคอยหลบเลี่ยงเอา เพราะคนหนึ่งก็เพื่อนสนิทอีกคนก็คือแฟนสาว



          “ อ้าวเนมไปไหนวะ”

          ผมถามไอ้โอ๊คตอนที่เดินกลับโต๊ะมาแล้วเห็นมานั่งดื่มอยู่คนเดียว มันทำหน้าแปลกๆก่อนจะบุ้ยปากไปด้านหลังที่เป็นห้องน้ำ จังหวะที่เหลือบตามองไปด้านหลังหางตาผมเหมือนเห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยอยู่ในเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีซีดแสนธรรมดา แต่ที่หน้าแปลกคือใบหน้าคมคายที่มักเคร่งขรึมเป็นประจำมีรอยยิ้มน้อยๆ


         ..ยิ้มงั้นเหรอ..



          เหมือนว่าฝ่ายนั้นจะรู้ตัวจึงเอี้ยวตัวหันมาทางผม นั่นล่ะผมถึงได้ถึงบางอ้อว่าใบหน้าคุ้นๆนั่นคือเพื่อนบ้านห้องข้างๆกันนั่นเอง ฝ่ายนั้นปรายตามองผมเพียงแวบเดียวก่อนจะหันไปสนใจกลุ่มคนที่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนมันราวกับว่าผมไม่อยู่ในสายตามันเลย


          หึ ท่าทางไอ้หมอนี่มันคงจะเก็บกด ผมเลิกสนใจพอดีกับที่โอ๊คมันหันมาตอบคำถาม




         “ เห็นว่าไปเข้าห้องน้ำ”

         “ อืม”

         “ ยิม”

         “.......”


         ไอ้โอ๊คทำหน้าครุ่นคิด “กูถามจริงๆนะนัตตี้แม่งมีปัญหาอะไรกับเนมป่ะวะ”

         ผมถอนหายใจในความใคร่รู้ของมันจะไม่ให้ผมสงสัยก็ไม่แปลกเมื่อตอนที่เรียนไฮสคูลอยู่ด้วยกันที่โน้นแฟนสาวผมมีอาการประหลาดแบบนี้ซะที่ไหน จะมีอคติก็แค่กับเนมมันนี่แหละ

         “ กูไม่รู้จะอธิบายยังไง”

         “ งั้นเล่าตั้งแต่ต้น”

         “ ไม่เสือกเลยเนอะมึงน่ะ” มันหัวเราะร่วนก่อนจะกระดกแก้วเหล้าไปพลางๆ

         “ กูรู้สึกว่าเขาหึงกูกับเนม”


         ...พรวด...


         ไอ้โอ๊คสำลักแอกลฮอล์หน้าดำหน้าแดงมันไอติดๆกันก่อนจะหันมาทำหน้าฉงนปนสงสัยกับผม “มึงกับเนมเนี่ยนะ”

         “ อืม”

         “ มึงไม่แปลกใจเหรอวะ เขาจะหึงมึงทำไมในเมื่อมึงกับเนมเป็นแค่เพื่อนกันไม่ได้ชอบกันซะหน่อย..” มันพูดไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดไปเสียดื้อๆแล้วพึมพำในลำคอแต่มันดังพอที่ผมจะได้ยิน “หรือว่าเนมชอบมึง”

         “ ก็เหี้ยแล้ว” มันส่ายหน้าปฎิเสธ “ มึงเอาที่ไหนมาพูดกูกับเนมที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ที่สำคัญนะเห็นไอ้เนมมันหนิมๆอย่างงั้นอ่ะนะแตะต่อยไม่เป็นรองใครเลยนะโว้ย แมนยิ่งกว่ากูอีกบางที”


         “ เรื่องจริง” โอ๊คมันทำหน้าประหลาดใจ

         “ จริง”

         คำตอบนั่นดังมาจากหลังผม เนมมันกอดอกยืนนิ่งมองพวกมันนัยน์ตาคมกริบ

         “ หึ” ไอ้โอ๊คยกแก้วขึ้นดื่มก่อนจะหัวเราะน้อยๆแก้เก้อ

         “ พวกมึงนินทาอะไรกู”

         “ เปล่านี่”

         “ ไอ้พวกตอแหล”

         มันหรี่ตามองพวกผมเหมือนจับผิด


         “ แล้วมึงได้ยินอะไรล่ะ” โอ๊คมันถามยิ้มๆแต่ท่าทางกวนตีนไม่น้อย เนมมันเลยเบ้ปากทำหน้าเหม็นเบื่อก่อนจะกระแทกตัวลงกับเก้าอี้

         “ ได้ยินห่าอะไรล่ะ มาถึงไอ้ยิมก็บอกว่ากูแตะต่อยเก่งแล้ว” มันพูดแล้วยืดตัวขึ้นราวกับว่ามันภูมิใจในตัวเองนักหนา

         “ ถ้ามึงได้ยินแค่นั้นงั้นก็แปลว่าพวกกูไม่ได้พูดอะไร”


         “ ชิส์”


          เนมมันด่าพวกผมไม่ออกเสียงก่อนหันกลับมาสนใจของกินตรงหน้า ผมกับไอ้โอ๊คจึงลอบสบตากันเงียบๆ โอ๊คมันยักไหล่ชิวๆก่อนจะลอบมองเนมเงียบๆ แต่ผมว่าสายตาที่มันมองไอ้เนมออกจะแปลกๆพิกล







      .

      .

      .




        หลังจากล่ำลากับเพื่อนๆก่อนที่พวกมันจะมาส่งถึงคอนโดก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมสะบัดศีรษะไปมาเรียกสติรู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังกรึ่มๆได้ที่จึงออกไปเดินเล่นบริเวณสวนใต้คอนโดที่จัดได้อย่างรื่นร่ม ตอนนี้บรรยากาศรอบๆเงียบสงัดทั้งยังมืดสนิทเพราะมันดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว ขณะที่กำลังจะตัดสินใจนอนรับลมตรงเก้าอี้รับรองแถวนั้นแต่เสียงร้องของสัตว์เลี้ยงขนปุยอย่างเจ้าแมวเหมียวดันร้องขึ้นมาผสมกับเสียงหัวเราะของใครบางคนผมจึงผงกหัวขึ้นดู

        ในมุมที่ผมนอนเล่นอยู่นั้นค่อนข้างอับจึงไม่เป็นที่สังเกตทั้งยังบรรยากาศรอบตัวที่มืดสลัว ผมหรี่ตามองฝ่าความมืดไปเห็นใครบางคนกำลังอุ้มแมวลายสวยขึ้นเล่น เจ้าสัตว์เลี้ยงนั่นก็ดูสนุกสนานมันยกเท้าขึ้นหวังจะตะปบมือของเจ้านั่นที่เย้าแหย่มัน เหนือสิ่งอื่นใดผมเห็นเจ้าของห้องข้างๆมันกำลังยิ้มพร้อมกับหัวเราะ แววตากลมโตที่มักฉายแววเข้มดุดันบัดนี้หลงเหลือแต่ความอ่อนโยน ประกายแวววาวคู่นั้นสะท้อนตัวตนที่ดูสดใสเลาะเปลือกนอกอันแข็งแกร่งเหมือนกำแพงที่กั้นตัวเองจากโลกภายนอก
นี่ผมฝันอยู่รึเปล่า


         ...Rrrrr...


          สัญญาณโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำเอาสะดุ้งจนรีบตะลีตาเหลือกรับพอเงยหน้าขึ้น ภาพเจ้าของห้องข้างๆก็หายไปพร้อมแมวราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยอยู่ตรงนั้น ผมมองความว่างเปล่าเบื้องหน้าอย่างมึนงงแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ในมือเรียกสติให้กลับมาอีกครั้ง


         “ พี่ยิม”

         พอรับแล้วถึงกับต้องยกหูออกห่างเพราะเสียงหวีดร้องของเจ้าแสบดังลอดสายออกมาดังลั่น

         “ โอ้ย..พี่หูจะแตกแล้วใยบัว”

         “ น้องไม่สน”

         “ เป็นอะไรฮึเรา”


         ผมกดสลับไปที่การโทรแบบเห็นหน้าไม่นานภาพใบหน้าบูดบึ้งของเจ้าแสบก็ปรากฏขึ้นทันที นั่นๆยังมีการค้อนใส่ผมอีกวงใหญ่ๆ


         “ ชิ”

         “ เอ้า..” ผมเกาหัวงงๆกับอาการของน้องสาว “ ไม่บอกแล้วพี่จะรู้มั้ยเนี่ย”

         “ แฟนพี่ยิมน่ะขี้ฟ้อง”


         “ หืม”

         “ ก็วันนี้ยัยพี่นัตตี้โทรมาฟ้องคุณแม่ว่าพี่ยิมหนีเที่ยวกับพี่เนม ทั้งยังต่อว่าพี่เนมเสียๆหายๆอีก”


        ผมถอนหายใจกับข่าวที่ได้รับรู้มาก็พอจะรู้อยู่ว่าแฟนสาวของตัวนั้นชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อนสนิทเขา


        “ ผู้หญิงอะไรขี้ฟ้อง”


         นี่ก็อีกคนใบหน้าของน้องสาวสะบัดไปซ้ายทีขวาทีอย่างมีอารมณ์ดูก็รู้ว่าไม่ใคร่จะชอบใจแฟนสาวของผมนัก ก็จะอะไรซะอีกถ้าเปรียบนัตตี้เป็นไม้เบื้อไม้เมากับเนม  เจ้าแสบกับนัตตี้คงเปรียบเป็นประจุขั้วเดียวกันถึงได้ผลัดกันไม่ชอบน้ำหน้ากันแบบนี้

         “ ไม่รู้คบไปได้ยังไง”

         นั่นๆยังบ่นพึมพำให้ผมได้ยินอีก ผมส่ายหน้าอย่างไม่สนใจนัก

         “ บ่นอะไรเรา”

         “ บ่นแฟนใครก็ไม่รู้ หึ น้องไม่ชอบ”

         “.......”


          ผมกอดอกมองน้องสาวนิ่งๆดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะรู้ตัวถึงได้ถอนหายใจก่อนจะอ้อมแอ้มขอโทษผม

         “ พี่รู้ว่าน้องไม่ค่อยชอบนัตตี้”

         “ ไม่ต้องดีต่อกันนักหรอก แต่อย่าทำเหมือนเป็นศัตรูกันเลย” ผมพูดเสียงเรียบจนเจ้าแสบทำหน้าสลด “ พี่ทำใจลำบากจริงๆเพราะพี่รักทั้งสองคนนั่นแหละ”


         “ รู้แล้ว”

         เจ้าแสบทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะแลบลิ้นใส่ผม ถ้าอยู่ใกล้ๆจะฟัดให้หัวร่อแน่

         “ จริงๆเลยน้า”

         “ พี่ยิมถือสายรอแป๊บนะ คุณแม่จะคุยด้วย”

         “ อือ”


         ระหว่างนั้นดูเหมือนเจ้าแสบตั้งไอแพดที่โทรมาไว้อยู่ใกล้ๆเลยทำให้ผมได้เห็นอิริยาบถของน้องสาวที่ก้มมองมือถือในมือตัวเอง ตัวแสบของบ้านทำตาโตกับอะไรสักอย่างก่อนจะยิ้มกว้างราวกับเจอของถูกใจ

        “โอ้ย พี่หมอปายของน้อง”

         ใยบัวกำมือถือแน่นพร้อมกับกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟา

        “ ทำอะไรตัวแสบ”

        เจ้าตัวยิ้มเผล่ “ น้องเจอเนื้อคู่แล้ว”

        “ หืม”

        เมื่อวานยังบอกว่าดูผู้ชายวันนี้เจอเนื้อคู่เอาสิน้องสาวผม

        “ พระเอกฟิคคนไหนอีกล่ะ”

        “ ไม่ใช่” น้องส่ายหัวยิกๆ “ คิ้วท์บอยในตำนาน”


        อะไรคิ้วๆว่ะผมทำหน้างงเจ้าหล่อนจึงได้เปิดปากอธิบาย

         “ พี่หมอปาย” น้องผมทำหน้าเคลิบเคลิ้ม

         “พี่ยิมรู้ป่าวพี่เขาเป็นหนุ่มหล่อที่ลงเพจคิ้วท์บอยเพียงวันเดียวและแค่รูปเดียวยอดคนติดตามเป็นหมื่น สาวๆมากรี๊ดกร๊าดกันเต็มเลย ที่สำคัญเขาเป็นตำนานเพราะดูลึกลับตามตัวยากแบบว่าไม่เล่นโซเชียลอะไรสักอย่าง ไม่ปรากฏภาพตามสื่อ ขนาดตามไปที่คณะยังไม่เจอตัว อุ้ย ลึกลับน่ากินอะไรเบอร์นี้”


         “ นี่คนหรือนินจา”

         เจ้าแสบค้อนให้ผม

         “ นี่แหละประชากรชายที่ควรค่าแก่การครอบครอง” พูดจบใยบัวก็หัวเราะร่า

         “ เยอะไปแล้วตัวแสบ”

        ใยบัวหัวเราะร่วน “ เขาเรียนอยู่มหาลัยเดียวกับพี่ด้วยนะ”


        “ หืม”

        ผมทำท่าสนใจแสดงว่าไอ้หมอปายที่ว่ามันเรียนคณะแพทย์ฯสินะ ว่าแต่คนห่าอะไรดูลึกลับซับซ้อนขนาดนั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันคงจะดังพอตัวไม่งั้นเจ้าแสบคงไม่รู้จักดีขนาดนี้

        “ โธ่ก็แค่เรียนหมอยังไม่ได้เป็นหมอซะหน่อย ที่สำคัญหน้าตาคงไม่เป็นสัปปะรดเท่าไหร่หรอกมั้ง”

         “ อย่ามาว่าพี่หมอปายของน้องนะ”

         ดูมัน ดูน้องสาวผมที่พร้อมใจปวารณาตัวไปเป็นน้องของคนอื่นหน้าตาเฉย

         “พี่ยิมก็หล่อสูสีกับพี่หมอเขานิดหน่อย”


          แสดงว่าผมยังมีความหล่ออยู่ขณะที่กำลังคิดตามก็ต้องเบรกหัวทิ่มเมื่อสาวเจ้าหลุดประโยคต่อมา “ แต่พี่หมอเค้าน่ากินกว่า”



         พระเจ้านี่คือคำพูดของเด็กสาววัยสิบเจ็ดผมส่ายหัวอย่างนึกปลง คำพูดของใยบัวทำให้ผมนึกอยากจะเห็นรูปไอ้หมอนี่ซะแล้วสิ แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยขอดูพอดีมารดาเดินเข้ามาในจอภาพแล้วชวนคุยเรื่องอื่นไปหลังจากคุยธุระเรื่อยเปื่อยกับมารดาไปสักพักจนวางสายแล้วสุดท้ายผมก็ลืมขอดูรูปไอ้หมอที่ว่าจากเจ้าแสบจนได้

         หมอปายงั้นเหรอ...จะสักแค่ไหนกันวะ

         ผมส่ายหัวไปมาอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก









เริ่มเปิดตัวกันมาทีละคนสองคน อะไรยังไงน้อ
ใครจะรุกละทีนี้ หุ #ทีมยิมปาย #ทีมปายยิ้ม

***ชอบไม่ชอบยังไงฝากเม้นท์เป็นกำลังใจด้วยเน้อ เพราะทุกความคิดเป็นกำลังใจในการทำงานนะจ๊ะ***
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: ayumu ที่ 14-03-2016 21:59:17
ทีมปายยิมค่ะ ยิมเหมาะมากกับการโดนพี่หมอปายสุดหล่อของคุณน้องเค้ากด555 :laugh:
เนมแอบชอบยิมรึเปล่าน้อ. เซ็งนัตตี้เลยค่ะแต่แอบสงสารล่วงหน้านิดหน่อย เพราะอีกไม่นานมีเหตุให้เลิกกับยิมแน่ๆ o18
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: amewa ที่ 14-03-2016 23:30:13
แวะเข้ามาถือป้าย 'ยิมปาย" เงียบๆ  :sad4:
คือเห็นมีแต่คนว่าปายยิม มีแค่เราที่ยิมปายสินะคะ555555555

เราคิดว่าปายเป็นรับที่ราชินี ซึนๆ พยศ เหมาะแก่การให้ยิมที่แสนกวนตีนมาปราบมากกกกกก
ตามชื่อเรื่องก็หลงกาว(น์)อีก เลยคิดว่ายิมจะต้องหลงในมุมของปายที่สดใสน่ารัก จนต้องตามจีบอ่ะ5555

จะรอติดตามเรื่องนี้นะคะ ไม่ว่าจะ ยิมปายหรือปายยิม ก็จะติดตามต่อไป ชอบมากค่ะ เมะชนเมะแบบนี้ อิ้อิ้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2016 23:37:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-03-2016 00:06:23
รอตอนต่อไปน้า~
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-03-2016 00:26:19
สนับสนุนให้ยิมโดนพี่ปายกด :L2:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2016 02:30:13
ทีมหมอปาย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-03-2016 07:31:48
รักไปได้ยังไงว่ะยัยนัตตี้อะไรเนี่ย นิสัยแม่งโคตรน่ารำคาญเลย
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-03-2016 10:36:07
#ทีมโอ๊คเนม ได้มั้ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 15-03-2016 11:08:31
#ทีมปายยิม #ทีมโอ๊ตเนม
ชะนีแหนดตี้ได้อยู่คนเดียวแน่นอลลล
ยิมสมควรโดนกดอย่างยิ่ง 5555555555
ทำไมเรานึกถึงภาพเคะหมาน้อย(?)ล่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 16-03-2016 08:57:07
กรี้ดดดดทันออนแอร์ :ling1: :ling1:
#ทีมปายยิม #ทีมยิมปาย
เอาทั้ง2ค่ะแบบไหนก็ดรั้ย  :hao7: :hao7: แอบเบนไปทาง #ปายยิม นิดๆ  :-[
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: nekochan ที่ 16-03-2016 19:26:58
คืออ่านเรื่องนี้แล้วมันใช่อะ แนวแบบจับไม่ถูกว่าใครจะเมะใครจะเคะให้ 555555 สนุกสนานกันละทีนี่ แต่้เห็นแววว่ายิมจะเคะ รึยังไงไม่แน่ใจ55555 ตอนนี้ก็ขอเชียร์น้องยิมเคะก่อนนะคะ อาจมีเปลี่ยนแปลงเมื่ออ่านตอนต่อไป
ฉะนั้นแล้ว มาต่อไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้อยู่นะจ๊ะ  :mew1::mew1:
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 17-03-2016 21:15:44




หลงที่ 3 : หมอปาย








         “จิ๊”

        ผมได้ยินเสียงดังอยู่ในลำคอตอนที่เปิดประตูห้องออกมาพอดีกับที่เพื่อนข้างห้องโผล่ออกมา ฝ่ายนั้นชักสีหน้าทันทีที่เห็นผม


         “ ซวยแต่เช้า”

         ฝ่ายนั้นพึมพำกับตัวเองแต่ผมบังเอิญหูดี จะว่าหูดีก็ไม่เชิงเพราะเหมือนว่าเขาจะจงใจให้ผมได้ยินด้วย ผมยิ้มขำก่อนจะคว้าถุงรองเท้าสตั๊ดติดมือออกมาจากห้องเพราะเย็นนี้มีแข่งฟุตบอลกระชับมิตรก่อนการแข่งกีฬาเฟรชชี่จริงๆ ผมเดินตามเพื่อนห้องข้างๆซึ่งเดินนำไปกดลิฟต์แล้วอย่างใช้ความคิดก่อนจะฮัมเพลงในลำคอ



***ลิ้นกับฟัน พบกันทีไรก็เรื่องใหญ่
น้ำกับไฟ ถ้าไกลกันได้ก็ดี
หมากับแมว มาเจอะกัน สู้กันทุกที
ต่างไม่เคยมีวิธี จะพูดจา***


เพลงคู่กัด : ศิลปิน เบิร์ด ธงไชย



        มันเหลือบตามองผมนิ่งแต่แววตาดูไม่สบอารมณ์

         “ หยุดร้องซะทีกูรำคาญ”

         “.....”

         ผมนิ่งไปก่อนจะยักไหล่แล้วเริ่มร้องต่อ

         “ พ่อมึงเป็นนกรึไงสัตว์”

         “.......”

         เราสบตากันนิ่ง

         “ เปล่าครับ” ผมถอนหายใจ “ คุณอยากรู้จักพ่อผมเหรอ”


         ผมตอบกลับหน้าตายนึกโมโหไม่น้อยที่คนตรงหน้าลามปามถึงบุพการีถึงจะรู้ว่ามันคงไม่ได้ตั้งใจแต่พูดจาไม่คิดแบบนี้ทำเอาเกิดอารมณ์เคืองไม่น้อย สงสัยว่าผมกับเขาคงพูดจากันดีๆไม่ได้หรอก

          “ ใครอยากรู้”

          ผมยืนมองมันนิ่งๆจนเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะรู้ตัว

          “ ผมว่าคุณมีความผิดปกติทางอารมณ์” ผมวิจารณ์นิ่งๆ “ เป็นอะไรมากรึเปล่าครับถึงได้ทำหน้าทำตาโกรธคนมาทั้งโลกแบบนี้”

          “.......” มันอ้าปากค้างแววตาเริ่มดุดัน

          “ มันจะเป็นอะไรนักหนากับการพูดจากับคนอื่นให้มันดีๆ ทำไมชอบใช้อารมณ์ คุณเก็บกดรึไง”

           “ มึง”

           “ ทำไมครับ..” ผมยิ้มยียวน “ผมพูดแทงใจดำคุณรึไง”

           “ หุบปากมึงซะถ้ายังอยากแดกข้าวได้ปกติ”

           “ ถ้าไม่ล่ะ”


         ผมเอียงหน้าหลบเมื่อสัมผัสได้ถึงความรวดเร็วของหมัดที่เฉียดสันจมูกไปเพียงนิดเดียว

          “ โอ้ย”

         ผมเอี้ยวตัวหลบก่อนจะเบี่ยงตัวหันกลับไปล็อคคออีกฝ่าย มันโมโหสะบัดตัวแรงๆจนผมรู้สึกเจ็บแต่ไม่ยอมปล่อย ผมล็อคคอยืนซ้อนหลังคนขี้โมโหก่อนจะดันใบหน้าของมันให้ส่องกับกระจกในลิฟต์


         “ ไหนลองยิ้มสิ”

         มือข้างนึงล็อคคอส่วนอีกข้างผมบีบปากแล้วแยกริมฝีปากที่เม้มแน่นให้คลี่ออก มันสถบดังสั่นก่อนจะสะบัดตัวแรงๆอีกครั้ง ผมเลยเพิ่มแรงบีบปากมันจนคล้ายกับว่ามันกำลังแสยะยิ้ม

         “ ไอ้สัตว์”

         “ ก็ยิ้มได้นี่หน่า” แววตาผมที่สะท้อนจากกระจกบ่งบอกว่าคงแค้นผมน่าดู “ เห็นมั้ยว่ามันไม่ยาก เพราะรอยยิ้มนี่แหละที่เป็นวิธีแรกๆในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น”

         “ ปล่อยกู”

         ใบหน้าฝ่ายนั้นแดงก่ำเนื้อตัวมันชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่ยังพยายามขัดขืนเต็มกำลัง

         “ วันนี้ผมสอนให้คุณรู้จักยิ้ม” ผมกระซิบข้างหูมันอีกฝ่ายหันมาจ้องผมอย่างอาฆาต “ วันหน้าผมจะสอนให้คุณแทนตัวเองที่เพราะกว่านี้”

         “ เสือก”

         “......”

         ผมส่ายหน้าไปมาอย่างเมื่อยล้าเพราะการล็อคมันอยู่อย่างนี้ทำเอาหมดแรงไปเหมือนกันในเมื่อเราตัวเกือบจะเท่าๆกัน

         “ ปล่อย”

         “ ถ้าปล่อยแล้วคุณเกิดเอาคืนผมล่ะ”

         “ กูทำแน่” น้ำเสียงมันดุดันมาก

         “ ครับ”


         ผมแกล้งกระตุกมือมันทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้านหลัง สีหน้าฝ่ายนั้นดูเจ็บไม่น้อยจนผมนึกตกใจก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออก มันเซถอยหลังกุมข้อมือตัวแน่นขณะที่ผมกำลังจะก้าวเข้าไปดูอาการ ทุกอย่างเหมือนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะผมรู้สึกถึงแรงถีบที่สะโพกแบบเต็มเหนี่ยวจนเซถลาออกจากตัวลิฟต์


         “ โทษทีพอดีตีนกระตุก”

         นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนประตูลิฟต์ที่มีฝ่ายนั้นอยู่ด้านในจะปิดลง

         ผมยืนอึ้งไปพักนึงก่อนจะรู้สึกเจ็บบริเวณสะโพกที่ไอ้หมอนั่นฝากรอยเท้าเอาไว้เต็มๆ ตีนนักไม่ใช่เล่นจริงบวกกับอารมณ์โกรธด้วยผมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเอวเคล็ดแบบนี้ ผมค่อยๆเดินโขยกเขยกไปกดลิฟต์อีกรอบด้วยความเจ็บใจที่ถูกเอาถีบเต็มแรงแบบนี้

        “ ตีนหนักชิบหาย”

         ผมบ่นพึมพำไปจนถึงชั้นล่างพอดีว่าเพื่อนสนิทซึ่งผมขออาศัยติดรถมันไปมหาวิทยาลัยผุดลุกขึ้นทันทีเห็นว่าผมลงมาแล้ว ผมมองไปรอบๆเพื่อหาต้นเหตุของอาการบาดเจ็บก็ไร้วี่แววสงสัยว่าโดดหนีไปไกลแล้ว

        “ ทำไมเดินแปลกๆวะ”

        เนมมันถามอย่างสงสัย

        “ โดนถีบ”

        “ หา” มันทำหน้าตกใจรีบกระวีกระวาดมาดูอาการผม

        “ ไม่เป็นไรกูโอเค แค่รู้สึกยอกเฉยๆ”

        “ แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ”

        “ กูไปสอนคนยิ้มมา”

        “ หา”

        “ ก็นั่นแหละ” ผมยักไหล่

        คราวนี้มันยิ่งงงหนักกว่าเก่าก่อนจะโบกมือไปมาราวกับว่ากำลังฟังเรื่องไร้สาระ “ โอ้ยพอ ถ้าไม่เป็นอะไรมากก็ไปเหอะ กูรีบ”

         “ ครับไอ้คุณเนม”

          เพราะไม่มีรถส่วนตัวเลยวันนี้เพื่อนสนิทจึงถ่อสังขารมารับถึงคอนโดแต่เช้าตรู่ ตอนแรกกะว่าจะใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างบีทีเอสแต่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเนมมันเลยอาสามารับ แต่มันบอกว่าคงจะแค่อาทิตย์เดียวหลังจากนี้ผมคงต้องหาทางไปเอง ผมกะว่าพออยู่ตัวสักระยะน่าจะซื้อรถส่วนตัวใช้เพราะมันสะดวกกับการเดินทางไปนอกสถานที่อย่างบ้านสวนของคุณยายที่อยู่แถบปริมณฑล


        “ มึง”

        “ หืม” ผมหันไปรับคำมัน

        “ กูขอแวะที่คณะก่อนนะเอาของไปให้รุ่นพี่ก่อน เดี๋ยวค่อยไปส่งมึงต่อ”

        “ เอาสิ”

         คณะที่ว่านี่คือคณะของเนมมันครับ เห็นมันดูเรื่อยๆหงิมๆแบบนี้หัวสมองมันระดับเทพนะไม่งั้นคงไม่สามารถสอบติดคณะแพทย์ฯจนได้กลายเป็นนิสิตแพทย์น้องใหม่ป้ายแดง และเพราะสอบได้นี่แหละป๊าม๊ามันดีใจใหญ่ถึงขนาดออกรถให้ไว้ใช้มาเรียนมันเลยทำให้ผมเองก็พลอยได้อานิสงค์ไปด้วย

         “ กินข้าวคณะกูก่อนป่าว”

         “ อืม”

         เมื่อมันรถจอดสนิทแล้วผมจึงลงเดินตามมันไปภายในอาคารโรงอาหารของคณะแพทยศาสตร์ ตอนเช้าภายในโรงอาหารเต็มไปด้วยบุคลากรทางการแพทย์และบรรดานิสิตแพทย์จับจองที่นั่งกันเต็ม


        “ สั่งข้าวรอก่อนนะ เดี๋ยวเอาของไปให้พี่รหัสแป๊บ”

        “ เออ มึงเอาเหมือนเดิมป่ะ”

         “ อ่าหะ”


         เหมือนเดิมที่ว่าอาหารสิ้นคิดอย่างกระเพราไก่ไข่ดาวของโปรดเนมมัน มันหันมายิ้มให้ผมซะกว้างก่อนจะหอบถุงอะไรไม่รู้ในมือวิ่งดุ๊กๆไปตึกข้างๆนั่นทันที ผมส่ายหัวกับท่าทางไม่โตของมันนี่ขนาดเข้ามหาลัยแล้วยังทำตัวเด็กไม่เปลี่ยนแปลง คิดแล้วก็นึกสงสารคนไข้ในอนาคตของมันล่วงหน้า

         ระหว่างนั่งรออาหารที่สั่งไปผมก็เดินออกไปทำธุระส่วนตัวค่าเวลา แต่มันต้องผ่านโถงใต้ตึกอะไรสักอย่างซึ่งบริเวณนั้นเต็มไปด้วยบอร์ดให้ความรู้ตั้งเป็นซุ้มอยู่มากมาย และมีนิสิตแพทย์บางส่วนนั่งประจำแต่ละฐานบางส่วนก็เดินกันขวักไขว่ไปมาเหมือนว่ามีงานนิทรรศการให้ความรู้อะไรสักอย่าง ผมเลยลองเดินดูไปรอบๆและขณะที่หยุดสนใจอยู่ซุ้มนึงผมก็รู้สึกได้ว่ามีคนสองคนหยุดยืนอยู่เบื้องหลังผม


        “ ปายกินข้าวมารึยัง”

        “ ยังเลยว่ะ”

        “ หิวป่ะ เดี๋ยวกูไปหาไรให้กิน”

        “ ไม่เป็นไรเดี๋ยวรอกินพร้อมหยกก็ได้”

        “ จะไหวเหรอหยกมันเพิ่งออกจากบ้านเองนะ”

        “ ไหว” ปลายเสียงกลั้วหัวเราะ “กูไหวแค่นี้เอง”

        “ แน่นะ”

        “ เออดิ”


          ผมเงี่ยหัวฟังบทสนทนานั้นอย่างตั้งใจคงเป็นเพราะชื่อ ‘ปาย’ ที่หลุดออกจากปากหนึ่งในนั้น ชื่อที่ได้จากปากน้องสาวมาสองครั้งแล้ว

         อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นอย่างกะว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน

         ขณะที่ผมเอี้ยวตัวมองไปยังนิสิตแพทย์สองคนที่ยืนคุยกันอยู่ผมเห็นแต่เบื้องหลังทั้งคู่ที่ใส่เสื้อกาวน์แบบยาวแต่แขนสั้น


        “ เออกูมีบิสกิตติดมามึงกินรองท้องก่อนมั้ย”

        “ ไม่เป็นไรอั้ม” ฝ่ายที่ถูกคะยั้นคะยอโบกมือปฏิเสธ “ กูไม่เป็นไร เมื่อเช้ากินนมรองท้องมาแล้ว เก็บไว้เหอะบิสกิตอันนี้หยกมันชอบกิน”


        “ แต่ว่า”

        “ อั้ม”

        “ เฮ้ย”

         ท่าทางว่าคนชื่อ ‘อั้ม’ นี่ดูจะห่วงใยฝ่ายนั้นเป็นพิเศษเห็นได้จากใบหน้าคมคามขาวผ่องภายใต้แว่นกรอบหนาดูเป็นกังวลและใส่ใจคนที่ยืนข้างๆกันขนาดนี้ ดูจากสายตาก็รู้แล้วว่ามันเกินกว่าเพื่อนกันขนาดไหนเสียแต่ว่าไอ้สองคนนี่มันดันเป็นผู้ชายทั้งคู่นี่สิ


 
         “ ปายแม่งก็อย่างงี้ทุกที”

         “ ....”

         “ มึงเป็นโรคกระเพาะนะโว้ย กินข้าวให้ตรงเวลาซะบ้าง”

         “ ขี้บ่นวะ”

         “ เชี่ยหัวกู”


         ทั้งคู่หยอกล้อกันกันไปมามือของคนชื่ออั้มนั่นขยี้หัวอีกฝ่ายไม่เบานักจนฝ่ายนั้นหลบไปด่าไป จังหวะที่คนถูกกระทำหันเสี้ยวหน้ามาทางนี้ถึงกับทำให้ผมยืนตะลึง จะไม่ให้ตกใจยังไงไหวเมื่อเจ้าของชื่อปายคือคนๆเดียวกันไอ้เจ้าของห้องข้างกัน ที่สำคัญท่าทางตอนมันอยู่กับเพื่อนชายดูจะร่าเริงผิดลุคอันแสนฮาร์ดคอร์ที่มักแสดงออกให้ผมเห็น และผิดไปจากตอนที่ผู้หญิงมาหามันถึงคอนโด


          หรือ...ไอ้หมอนี่จะเป็นประเภทรักร่วมเพศ

          ‘ เป็นเกย์’ งั้นเหรอ

          ถึงว่ามันถึงดูผลักไสไล่ส่งผู้หญิงนักที่แท้มันเป็นประเภทชอบมองข้างหลังกันอย่างนี้นี่เอง ผมกระตุกยิ้มมุมปากลอบสังเกตตัวอักษรสีเขียวที่ปักชื่อบริเวณอกด้านขวา


          ...นศ.พ. ปารมี  วงษ์วรกาญจน์...


          เรียนหมอจริงๆด้วย ชัดเลย หึ ไอ้แสบน้องรักกะว่าพบชายในฝันที่ไหนได้ชายที่ว่าแม่งแดกกันเอง ผมกดยิ้มมุมปากอย่างขบขันไม่ใช่รู้สึกรังเกียจหรือเวทนาอะไรกันหรอก เพราะตอนที่เรียนไฮสคูลอยู่ต่างประเภทผมมีเพื่อนที่เป็นแบบนี้ค่อนข้างเยอะเลยไม่ได้รู้สึกตระหนกตกใจอะไร


          แต่ที่รู้สึกอยากจะขำเพราะท่าทางที่ไอ้หมอนี่ อืมสมควรเรียกหมอนี่จริงๆเพราะมันเรียนหมอ นั่นล่ะท่าทางมันที่แสดงออกว่าดิบๆเถื่อนๆที่แท้ต้องการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองว่ามันรักชอบผู้ชาย

          ...โธ่เอ้ยถ้าแสดงออกมาตรงๆใครมันจะไปว่าอะไรวะ ในเมื่อเป็นตัวของตัวเอง คิดแล้วก็ได้แต่นึกปลงนึกสงสารผู้หญิงคนนั้นนี่หล่อนจะรู้มั้ยว่าการเทียวไปอ่อยไอ้หมอนี่มันไม่ได้ผลหรอกในเมื่อนั่นไม่ใช่แบบที่มันชอบ

         “ พี่หมอปาย”

         “ พี่หมอปายคะ”

          ไอ้หมอนั่นหันไปมองหน้าเพื่อนมันก่อนจะเดินไปตามเสียงร้องเรียก

         “ มีอะไรเหรอ”

         “ คือ พวกหนูมีเรื่องให้พี่ช่วยค่ะ” สาวๆกลุ่มนั้นน่าจะเป็นนิสิตชั้นปีหนึ่งสังเกตจากกระโปรงพรีทที่ใส่ทั้งยังรองเท้าขาวนั่นอีก ผมยืนพิงเสาเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งหมดอย่างสนใจ

         “ อะไร”

         “ คือ”

         “ พวกน้องมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า” คนที่ชื่ออั้มถามสาวๆพวกนั้น

         “ คืองี้นะคะ” สาวนางหนึ่งน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยขึ้น “ คืออีกไม่กี่นาทีจะมีสาธิตวิธีการใช้ถุงยางที่ถูกวิธีที่ซุ้มค่ะ แล้วทีนี้เพื่อนผู้ชายเรายังไม่มาสักคน แล้วคือพวกเรา...” ทางอึกอักของสาวๆพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำก็พอจะตีความหมายจากท่าทางนั้นไม่ยากคาดว่าพวกเธอคงจะอายที่จะสาธิตแน่ๆ


         “ พวกเราเลยจะขอให้พี่ช่วยเหลือ เอ่อ”

         “ ให้พวกพี่ช่วยสาธิต”

         ไอ้หมอนั่นพูดต่อให้ สาวๆพยักหน้าดีใจเมื่อรุ่นพี่ตรงหน้าพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินเข้าไปในซุ้มเป็นการตีความหมายว่าสองคนนั่นกำลังตกลงใจช่วยสาวๆกลุ่มนั้นแน่นอน


         ผมเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้บรรยากาศโดยรอบไม่ใช่มีแค่นิสิตแพทย์เท่านั้นแต่มันยังคึกคักไปด้วยบรรดาเด็กมัธยมในเครื่องแบบโรงเรียนต่างๆพาเดินกันให้ขวักไขว่ซ้ำประชาชนทั่วไปยังเดินปะปนอยู่โดยรอบเยอะพอสมควร ผมขมวดคิ้วมองไปรอบๆด้วยความแปลกใจก่อนจะถึงบางอ้อที่เงยหน้าขึ้นไปบนเวทีกลางที่มีป้ายประชาสัมพันธ์งานกิจกรรมแนะแนวของคณะแพทยศาสตร์

         มิน่าคนถึงเยอะขนาดนี้

         เมื่อนิสิตแพทย์ในชุดกาวน์ทั้งสองเดินไปประจำซุ้มดังกล่าวผู้คนที่เดินดูตามบอร์ดตามซุ้มอื่นก็ต่างมุ่งหน้าไปสนใจกิจกรรมที่กำลังใจเกิดขึ้นทันที แต่ผมยังยืนนิ่งพิงเสาที่ใหญ่พอจะกำบังกายตัวเองจากการสังเกตของคนโดยรอบถึงอย่างนั้นก็พอจะจับใจความและเสียงพูดคุยของคนเบื้องหน้าได้


         “ นั่นพี่หมอปายนี่”

         “ ไหนๆ”

         “ ที่ใส่กาวน์ยืนอยู่ข้างพี่หมอคนนั้นอ่ะ”

         “ จริงด้วย”

         “ โชคดีจังได้เจอตัวเป็นๆด้วย”

         “ นั่นสิ ไปขอพี่เค้าถ่ายรูปกัน”


        สองสาวในชุดนิสิตที่กำลังชี้ชวนดูภาพที่ผมกำลังให้ความสนใจ ท่าทางมันจะเป็นที่รู้จักของสาวๆพอสมควรเพราะตั้งแต่ได้ยินชื่อมันรู้สึกว่าผู้หญิงจะนิยมชมชอบเป็นพิเศษรวมถึงน้องสาวของผมด้วย ทำท่าทำทางอย่างกับมาดูสิ่งมหัศจรรย์ทั้งๆที่มันก็มีตา มีจมูก มีปากเหมือนกันมนุษย์โดยทั่วไป

         อ่อมีดีที่หนังหน้านิดหน่อยเท่านั้นเอง


         ผมลอบสังเกตอีกฝ่ายเงียบๆเอาจริงๆถ้าเจอกันข้างนอกโดยที่มันไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์คงจะนึกว่าท่าทางแบบนี้น่าจะเรียนพวกช่าง หรือไม่ก็เรียนวิศวะฯเป็นแน่ เพราะบุคลิกภายนอกดูกวนๆมันใส่เสื้อนิสิตแขนยาวสีขาวแต่พับแขนเสื้อขึ้นถึงศอกถึงแม้ชายเสื้อจะอยู่ในกางเกงซึ่งเป็นกางเกงแสล็คขาเดฟสีดำสนิท ใบหน้าเรียบเฉยไม่ค่อยจะยิ้มสักเท่าไหร่ ทั้งติ่งหูทั้งสองข้างก็เจาะใส่ตุ้มหูอันเล็กสีดำ เรียกได้ว่ามีภาพลักษณ์ที่ค่อยข้างอันตรายสำหรับผู้ที่พบเห็น

         แต่แปลกพอสวมเสื้อกาวน์ทับไปมันดับกลบภาพเหล่านั้นเหลือเพียงว่าคุณหมอหนุ่มอนาคตไกลราวกับมีแสงบางอย่างส่องสว่างไปทั่ว การกระทำทุกอย่างตอนหยิบจับอุปกรณ์สาธิตดูอ่อนโยน สายตาที่จดจ้องอยู่กับภารกิจตรงหน้าดูมุ่งมั่นอย่างประหลาด

         และในเสี้ยววินาทีนั้นผมเห็นมันหันไปยิ้มมุมปากให้เพื่อนมัน ยิ้มที่ไม่ใช่การแสยะยิ้มเวลาเจอกันหน้าผม ยิ้มที่แสดงออกว่านี่คงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของมัน



        “ กรี๊ด”

       สองสองเจ้าเดิมแอบปิดปากทำเสียงในลำคอ

        “ คนอะไรยิ้มทีใจฉันแทบจะละลาย”

        “ โอ้ย ใจสั่นไปหมด”

        “ คนอะไรทั้งน่ารักและหล่อในเวลาเดียวกัน”

        “ ใช่ยิ้มโครตน่ารักเลย”


        ...‘ยิ้มน่ารัก’ งั้นเหรอ...

         หึ คงจะจริงมั้งถ้ามันตั้งใจจะยิ้มให้ใครสักคนอะนะ


         เรียกได้ว่าวันนี้ผมคงโชคดีอย่างประหลาดที่เห็นคนซึ่งชอบทำหน้าบึ้งตึงยิ้มออกมาง่ายๆแบบนี้ ผมส่ายหน้าขำก่อนจะคิ้วกระตุกเมื่อมองภาพการสาธิตเบื้องหน้า

        นั่นอะไร


         อุปกรณ์สาธิตที่อยู่ในมือไอ้หมอปายทำให้ผมหลุดขำออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตรงกันข้ามกับเสียงสาวๆที่สูดปากทำหน้าเขินอายแต่ใจยังสู้เขยิบเข้าไปใกล้ขึ้นทั้งยังถือโทรศัพท์ตั้งถ่ายวีดีโอซะด้วย

        เออเนอะเห็นแบบนี้แล้วดันนึกถึงเจ้าแสบแทบจะทันที


         ผมมองกล้วยในมือมันซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้แทนจุดยุทธศาสตร์ของผู้ชาย แอบได้ยินเสียงหัวเราะโดยรอบแต่นิสิตแพทย์ทั้งสองก็ยังทำหน้านิ่งเฉยราวกับไม่ได้ยิน เสียงอธิบายประกอบการบรรยายสลับกันไปมาอย่างมีจังหวะจะโคนระหว่างว่าที่หมอทั้งสองที่กำลังทำการสาธิตไปด้วย ถุงยางอนามัยซึ่งหยิบออกมาจากซองที่ฉีกพร้อมใช้งาน มือคู่นั้นบรรจงบีบจุกถุงยางเพื่อไล่อากาศภายในก่อนจะใช้มืออีกข้างรูดห่วงลงมาอย่างช้าๆให้แนบชิดไปกันอุปกรณ์สาธิต


        สิ้นสุดการทดลองก็มีคำอธิบายเพิ่มเติมพักนึงแล้วหมอนั่นก็เอ่ยปากให้ผู้ที่สนใจรอบข้างได้สอบถามข้อสงสัย ระหว่างนั้นแหละผมถึงได้เดินไปหยุดอยู่แถวหลังสุดแต่เพราะเป็นคนตัวสูงเลยมองเห็นภาพตรงหน้าได้ไม่ยาก

        ตอนที่ก้าวเดินนี่แหละถึงได้รู้สึกเจ็บๆตรงสะโพกที่ถูกถีบยิ่งเห็นตัวต้นเหตุอยู่เบื้องหน้าด้วยแล้วยิ่งรู้สึกนึกเจ็บใจไม่น้อย “ ผมมีคำถามครับ”


        “.......”

        หืม

        ใครยกมือถามวะ

        เสียงจ้อกแจ้กจอแจเบื้องหน้าพลันเงียบลงทุกสายตาหันมามองผมอย่างสนใจ


        อ้าวนี่ผมยกมือถามงั้นเหรอชิบหายแล้ว ผมเกาหัวงงๆจนผู้คนโดยรอบแอบขำ ต่างจากผู้นำการสาธิตทั้งสองด้วยโดยเฉพาะเพื่อนข้างห้องของผมที่ทำหน้าขมวดคิ้วอย่างคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันที่นี่ แต่มันก็ยังมีสติที่จะปั้นหน้านิ่งก่อนจะพยักหน้ารับเมื่อเห็นว่ามีคนเอ่ยถาม


        “ ครับ”

        “ เอ่อ หมอคิดว่าสาธิตครั้งเดียวมันจำได้เหรอครับ”

        ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอาคืนเรื่องเมื่อเช้าซะหน่อยละกัน


         ผมยิ้มมุมปากตอนที่ไอ้หมอปายหน้าตึงขึ้นมาทันที ส่วนเพื่อนมันนิ่วหน้าคล้ายๆกับว่าไม่พอใจต่างกับผู้คนโดยรอบที่ดันหัวเราะร่วนราวกับเห็นว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน

         “ ผมเป็นแค่นิสิตแพทย์ ยังไม่ได้เป็นหมอ” ไอ้หมอนั่นกัดฟันแย้งเสียงเข้มสีหน้าแววตาดูโมโหผมไม่น้อย

         “ ครับคุณว่าที่หมอ”

         “.......”

         มันทำหน้านิ่งจ้องหน้าผม
 
         “ คุณมีปัญหาเรื่องความจำ ? ”

         “ ครับ” ผมยืดอกรับท่าทางกวนตีนไม่น้อย

         “ คุณ”

         “ ไม่เป็นไรอั้ม”


         มันกุมแขนเพื่อนหมอที่แสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจผมเท่าไหร่ หมอปายเดินแหวกคนเหล่านั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มันสบตาผมนิ่งท่าทางยังเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง

         “ นี่จะต่อยผมรึเปล่าเนี่ย”

         “ ต้องการอะไร”

         “ ผมมันคนความจำไม่ดี”

         “ จะบอกว่าตัวเองโง่”

         ผมหุบยิ้มหน้าตึง

         “ งั้น..” หมอปายแสยะยิ้มอีกแล้ว “ กูจะสงเคราะห์ให้”

         “ ยังไงครับ” เล่นกับไอ้หมอนี่ซะหน่อย

        “เดี๋ยวคืนนี้กูจะสาธิตให้มึงดูอีกรอบ”

         “ หืม”


         เอาแล้วไงเกย์จะเล่นกูแล้วมั้ยล่ะ ผมนิ่งคิดเลิกคิ้วอย่างนึกไม่ถึงเหมือนว่าเรื่องที่ได้ยินก่อนหน้านี้เป็นเรื่องไม่คาดฝัน มันยักไหล่กระตุกยิ้มมุมปาก


         “ มึงไม่กล้า”

         โอ้โหหยามกันขนาดนี้ใครจะไปยอม

         “ ก็เอาสิ”


         เราจ้องหน้ากันถ้าคนนอกมองมาคงจะสัมผัสได้ถึงประกายไฟอะไรสักอย่างที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของเราทั้งคู่ เสียแต่ว่าตอนนี้ผู้คนโดยรอบดันหันไปสนใจการสาธิตรายการต่อไปที่ซุ้มซะก่อน จะมีก็แค่สายตาของเพื่อนมันซึ่งยืนมองอยู่ไม่ไกลถึงอย่างนั้นก็ไกลเกินกว่าที่จะได้ยินประโยคสนทนาของเราทั้งสองคน


        “ ยิม”

        “....”

        “ พี่หมอปาย”

        ผมเอี้ยวหน้าไปตามเสียงเรียกของเพื่อนสนิทที่มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เนมมันทำหน้างงๆมองผมกับไอ้หมอปายสลับกันไปมา

      “ นี่รู้จักกันด้วยเหรอครับ”

      เนมหันไปถามรุ่นพี่คณะมันอย่างงงๆ

       “ เปล่าหรอก” ไอ้หมอนั่นส่ายหน้าไปมา

       “ แล้วทำไม”

       เนมขมวดคิ้วกับท่าทางระหว่างผมกับมันก่อนจะยิ้มเผล่ตรงเข้าไปควงแขนไอ้หมอปายอย่างสนิทสนม

       “ ไม่เป็นไร ไม่รู้จักกันก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวเนมแนะนำให้รู้จักกันเอง” เนมมันพูดเองเออเองทั้งยังเอาศีรษะไปไถแถวต้นแขนฝ่ายนั้น มันน่าแปลกที่ไอ้หมอนั่นไม่ยักกะผลักออกซ้ำยังทำท่าทำทางเหมือนว่าเอ็นดูเพื่อนผมไม่น้อย

       “ พี่หมอปายนี่ยิมเพื่อนเนมเองมันเรียนนิเทศฯภาคอินเตอร์อยู่ฝั่งโน้น”

       ‘โน้น’ ของเนมมันทำปากยื่นได้อย่างน่ารักน่าชังจนคนใส่เสื้อกาวน์ยิ้มน้อยๆ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมมันกลับทำหน้าบึ้งตึงเช่นเดิม


        “ ยิม” เนมสะกิดแขนผมเบาๆก่อนจะชี้มือไปที่หมอนั่น “ นี่พี่หมอปายรุ่นพี่สายรหัสกูเอง”

        “ หืม”

        “ อะไรอ่ะ” เนมทำหนางง

        “ รุ่นพี่นี่แก่กว่ากี่ปีวะ” ผมชะโงกไปกระซิบถามเพื่อนสนิทแต่แววตายังจับจ้องอยู่กับนิสิตแพทย์หน้านิ่ง

        “ พี่มึงหลายปีแล้วกัน”


        คนตอบคือไอ้หมอปายที่สวนขึ้นมาทันที เนมมันชะงักไปเล็กน้อยคงจะพอเดาอะไรได้ลางๆมันขึ้นตวัดใส่ตาเป็นเชิงถามว่าผมไปกวนใจอะไรรุ่นพี่มัน ผมกดยิ้มมุมปากก่อนจะยักไหล่แล้วเดินถอยหลังไปพิงเสาอยู่ไม่ไกลนักเพราะสายตาเนมมันบังคับให้ผมออกไปไกลๆจากตรงนี้ก่อน

        “ พี่หมอ”

        “ ครับ”

        ...ครับ...ไอ้หมอนั่นพูดครับก็เป็นด้วยผมทำหน้าประหลาดใจเรียกได้ว่าตั้งแต่เช้ามานี่มันทำให้ผมประหลาดใจหลายอย่าง

        “ เนมเอาของฝากมาให้เมื่ออาทิตย์ก่อนไปเที่ยวมา กะว่าจะเอาไปให้พร้อมกันทั้งสายเลยแต่เจอพี่หมอก่อน”

        “ ครั้งนี้จะอ้อนเอาอะไรฮึเรา”

        มันพูดยิ้มๆมือก็ลูบหัวเพื่อนผม เนมมันยิ้มเผล่เอียงหัวหลบฝ่ามือรุ่นพี่มัน “ เอาเท็คอนาโตมีกับสรีวิทยาก็พอ”

        “ โอ้ย”

        หมอปายดีดหน้าผากเนมมันเบาๆ “ ก็พอน้อยไปสิ”

        “ แหง่ะ”

        “ ขี้ขอจริงๆไอ้นี่ น้องใครก็ไม่รู้”

        “ น้องพี่หมอปาย”

        ผมยิ้มขำกับภาพการหยอกล้อของรุ่นพี่รุ่นน้องเบื้องหน้า ไอ้หมอปายมันมีมุมแบบนี้ด้วยรึไงวะ หลังจากพี่น้องร่วมคณะคุยกันสักพักไอ้หมอนั่นก็ขอตัว แต่ก่อนไปมันหันมามองผมก่อนจะเดินมาหยุดยืนตรงหน้า


      “ คืนนี้มึงเจอกูแน่”

       เป็นอันรู้กัน

       มันพูดเสร็จแล้วก่อนเดินกลับไปหาเพื่อนมันที่คอยท่าอยู่


        “ เมื่อกี้พี่หมอพูดอะไรกับยิมอ่ะ” เนมถามสีหน้าใคร่รู้

        “ เรื่องของผู้ใหญ่”

        เนมมันหน้างอ “กูอายุเท่ามึงเหอะยิม”

        ผมหัวเราะก่อนจะโยกศีรษะมันเล่น มันเลยแกล้งกลับด้วยการฟาดแขนผมแรงๆถึงอย่างนั้นผมก็หลบไปมาให้มันเจ็บใจเล่น สุดท้ายเนมมันเลยทำแก้มพองใส่ผมแล้วค้อนให้อย่างไม่จริงจังนัก

        ว่าแต่...เหมือนลืมอะไรไปอย่างนะ

        หืม ชิบหายแล้วสั่งข้าวไว้นี่หว่า ผมตาเหลือกก่อนจะวิ่งลากแขนเพื่อนตัวเล็กที่แทบจะกลิ้งตาม เนมมันโวยวายเสียงดังจนคนอื่นมองแล้วได้แต่อมยิ้ม








แอร้ย อะไรยังคืนนี้มีสาธิตกันด้วย อุ๊บปิดตาแป๊บ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao6:
ตอนหน้าไปเกาะขอบหน้าต่างรอพี่หมอเค้าสาธิตละกันเนอะ  :z1:

สนุกไม่สนุกยังไงเม้นท์บอกกันด้วยเนอะ #ทีมปายยิม #ทีมยิมปาย แอบมีคนชูป้ายไฟทีมโอ๊คเนมด้วยแหนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: KraTai ที่ 17-03-2016 22:44:41
 :-[  สาธิตด้วยวิธีไหนค่ะพี่หมอปาย
#ทีมปายยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 18-03-2016 01:27:40
ขอสาธิตหลายๆรอบเลยพี่หมอ
 :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 18-03-2016 01:33:27
จะสาธิตวิธีไหนคะพี่หมออ แอร้ยยย  :oo1: :oo1:
#ทีมปายยิม หาจุดยืนพบแล้วค่ะ  :o8:ช
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-03-2016 02:41:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-03-2016 04:18:02
รอพี่หมอปายมาสาธิตการใส่ถุงยางด้วยคน :z1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-03-2016 07:08:25
ตีกันบ่อยๆเขาว่าจะลูกดกนะ(?)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-03-2016 08:51:01
เตรียมตัวให้พร้อมนะยิม!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-03-2016 09:30:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 18-03-2016 20:38:35
เราให้สองคนผลัดกันก็ได้ 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 18-03-2016 22:11:16
อ่านตอนนี้ทำไมรู้สึกได้ถึง#ยิมปาย ล่ะ
หมอปายดูมีความเป็นราชินียังไงไม่รู้  :hao7:

ปล.รบกวนคนเขียนดูเรื่องการใช้คะ/ค่ะ ให้ถูกต้องหน่อยนะจ๊ะ เห็นว่ายังใช้สลับกันหลายที่เลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 19-03-2016 21:06:13
อ้างถึง
ปล.รบกวนคนเขียนดูเรื่องการใช้คะ/ค่ะ ให้ถูกต้องหน่อยนะจ๊ะ เห็นว่ายังใช้สลับกันหลายที่เลย  :กอด1:

***แก้ไขให้แล้วนะคะ ขอบคุณมากจ้าสำหรับคำติชม ถ้าหากว่ามีจุดไหนที่ผิดพลาดอีกบอกได้น้า ยินดีแก้ไขให้จ้า  :impress2:***
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-03-2016 13:45:30
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: april@tbl ที่ 20-03-2016 18:01:21
เรื่องนี้ลุ้นมาก

#ยิมปาย  ปาย เคะราชินี
#ปายยิม  ยิม   เคะที่กวน.. มาก

ลุ้นต่อไป #ยิมปาย #ปายยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Screen168 ที่ 20-03-2016 18:06:00
 :hao5: :hao6: เด็ดมากเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: FonJuz ที่ 22-03-2016 00:08:32
สนุกมากเลยยยยยย อยากอ่านต่อมากๆเลยค่ะ
รอดูว่าจะ ยิมปาย หรือปายยิม  :o8: :impress2:
แต่เชียร์ "ยิมปาย" ง่ะ 55555  :z1:
รอคนเขียนนะคะ สู้ๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 22-03-2016 21:17:13


              หลงที่ 4 : การสาธิต(50%)







         “ เชี่ยเอ้ยวิ่งกันหน่อยดิ”

         “ เฮ้ยพวกมึงตามองลูกด้วย”

         “ ยิงไอ้ยิมยิงสิวะ”

         “ ยิงเลย”

         “ เหี้ยยิม”



         โอ้ย


         ผมแทบอยากจะตะโกนให้สุดเสียง ร้อนก็ร้อนเพราะวิ่งกลางแดดตอนสี่โมงเย็นมันเลยทั้งร้อนทั้งเหนื่อย ไอ้โอ๊คมันส่งลูกกลมๆมาเข้าเท้าผมพอดีในจังหวะนั้นผมเลยตัดสินใจเลี้ยงหลบหลีกทีมตรงข้ามที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แล้วตัดสินใจใช้แรงทั้งหมดเลี้ยงลูกฟุตบอลไปใกล้ประตูก่อนจะซัดเต็มข้อ สุดท้ายลูกกลมๆนั่นนก็แหวกอากาศทะลุเข้าไปในประตูผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปได้อย่างสวยงาม

         “ เฮ้”

        เสียงโห่ร้องดังก้องไปทั่วสนามบรรดากองเชียร์คณะนิเทศศาสตร์ที่กำลังสันทนาการอย่างเมามันถึงกับลุกขึ้นตะโกนร้องอย่างดีใจ บ้างก็กระโดดโลดเต้น บางก็กรี๊ดจนเสียงดังกระหึ่ม ส่วนผมหลังจากซัดลูกเข้าไปประตูไปไม่ทันได้มองด้วยซ้ำว่ามันเข้าไปจริงๆรึเปล่าก็ล้มตัวนอนแผ่หราบนพื้นสนามหญ้าอย่างหมดแรง


       “ ไง”

       “ .....”


       ไอ้โอ๊คที่สวมชุดกีฬาทีมเดียวกันเดินมาฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น

       “ ร้อนชิบหาย”

       “ ไม่รู้ใครอุตริคิดมาให้แข่งบอลตอนนี้เนี่ย เชี่ยเอ้ยแดดจะเผากูอยู่แล้ว”

       “ แดกน้ำก่อน”

         มันยื่นน้ำมาให้ขวดหนึ่งหลังจากผมและมันถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีท้ายๆแล้ว รุ่นพี่ปีสี่ซึ่งเป็นทั้งพี่เลี้ยงและคนควบคุมทีมส่งผ้าเห็นให้ ผมเช็ดหน้าเช็ดตาและลำตัวให้คลายร้อนก่อนจะเปิดขวดน้ำแล้วเทใส่ศีรษะให้มันเย็นหัวสักหน่อย

       “ ไอ้ห่ายิมเมื่อกี้ทำพวกกูใจหายใจคว่ำ” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น

       “ เออพวกกูนี่นั่งลุ้นกันจนเยี่ยวเหนียว มึงสองตัวก็ทำชิ่งต่อบอลกันอยู่นั่นไม่ยิงสักที”

       “ มันไม่มีจังหวะไงพี่”

         โอ๊คมันพูดขำแต่จริงๆแล้วเป็นอันรู้กันว่าพวกผมต่อบอลกันไปมาตอนครึ่งแรกจนรุ่นพี่บ่นที่พวกผมไม่ตั้งใจทำประตูสักที จนเมื่อกี้นั่นแหละที่ทำประตูตีไข่แตกทั้งยังนำคณะรัฐศาสตร์คู่แข่งไปนาทีเกือบสุดท้าย

        “ เออ ลองพวกมึงยังเล่นๆกูจะส่งให้อีส้มโอจับพวกมึงส่งประกวดเดือนมหาลัยแน่”

         รุ่นพี่คนเดิมขู่สำทับทำเอาผมกับไอ้โอ๊คแทบจะสำลักน้ำ

        “ อย่าพี่พวกผมไหว้ล่ะ”

        “ พวกมึงกลัวมันขนาดนั้น”

        “แหะๆ”


         ผมยิ้มแห้งๆเมื่อนึกถึง ‘พี่ส้มโอ’ หรือเจ๊ส้มโอของน้องๆคือผู้ชายหัวใจสาวกิริยาอาการก็ออกไปทางผู้หญิงอย่างชัดเจน พี่แกเป็นพี่ปีสามที่กำลังมองหาเด็กปีหนึ่งเพื่อไปเป็นตัวแทนประกวดเดือนมหาลัย แล้วพอดีว่าความซวยดันมาตกที่ผมกับไอ้โอ๊คที่พี่แกเทียวไล้เทียวขื่อมาตั้งแต่ตอนสอบสัมภาษณ์เข้าแล้วว่าแกสนใจอยากให้ผมกับมันไปลองคัดตัวเพื่อประกวดเดือนมหาวิทยาลัย ซึ่งผมกับมันก็ปฏิเสธไปแต่พี่แกก็ยังตามตื้อไม่เลิก ทั้งขอร้องอ้อนวอนหนักข้อขึ้นทุกที สุดท้ายผมกับมันเลยโดดไปลงชื่อแข่งฟุตบอลเฟรชชี่เพื่อแลกกับการที่พวกพี่ๆนักบอลจะคอยกันไม่ให้พี่ส้มโอมายุ่งกับพวกผม



         “ ก็น่าเห็นใจมันไม่น้อยนะ ปีนี้ปีหนึ่งคณะอื่นแม่งเด็ดๆทั้งนั้น”

         “ แล้วยังไงอ่ะพี่”

         “ ก็ช่วงสามปีให้หลังนี่คณะเราได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยติดต่อกันมาตลอด พวกรุ่นพี่ส่วนใหญ่เค้าเลยคาดหวังว่าไอ้ตำแหน่งนี้มันจะยังเป็นของคณะเราต่อไปไง”

         “ ขนาดนั้น” ผมทำหน้าไม่อยากเชื่อ

         “ เออดิ มึงอยู่ไปเรื่อยๆก็จะรู้ว่านิเทศฯเรานี่มันหล่อสัดหมาจริงๆ”

         หล่อเฉยๆก็ได้มั้งพี่ถึงกับสัดหมาเลยเหรอ ผมส่ายหน้าขำๆ


        “ พวกมึงไม่คิดจะใจอ่อนกันบ้างรึไงวะ กูเห็นมันมาเฝ้าพวกมึงตั้งนานแล้วนะ” ว่าแล้วพี่แกก็พยักพเยิดไปยังกองเชียร์ของคณะที่มีพี่ส้มโอและบรรดาเจ๊ๆเพื่อนแกนั่งปะปนส่งเสียงเชียร์อยู่ด้วย

        ผมส่ายหน้าหวืว


         “ ไม่ดีกว่ามั้งพี่ ส่งพวกผมไปเดี๋ยวก็ได้อายเอาปีบเดินคลุมหัวกันทั้งคณะหรอก”

         “ ใช่พี่ไม่ไหวว่ะ  ผมว่าขืนให้มีโชว์ความสามารถพวกผมไม่ไปตั้งโกลด์เตะบอลกันบนเวทีเลยเรอะ”

         ไอ้โอ๊คพูดเองยังขำเองจนรุ่นพี่ต่างพากันหัวเราะร่วน

         “ ไม่ขนาดนั้นหรอกแหมไอ้พวกห่า” พี่แกส่ายมือไปมา “ แค่พวกมึงเอาหน้าหล่อๆขึ้นยืนประดับบนเวทีแค่นี้สาวๆทุ่มซื้อกุหลาบแจกมึงชิบหายล่ะ”


         ผมยังส่ายหน้าไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก แต่รุ่นพี่ตรงหน้ากลับทำหน้าเหม็นเบื่อพวกผมก่อนจะไสกองอะไรสักอย่างมาตรงหน้าพวกเขา

        “ เอ้า”

        “ อะไรอ่ะพี่”

        ผมกับโอ๊คสบตากันอย่างงงงวยก่อนจะผินหน้าหันไปมองของตรงหน้าซึ่งประกอบไปด้วยไปด้วยน้ำ ขนม ของกินต่างๆทั้งยังของใช้อีกจิปาถะจำนวนมากมายพอสมควร


        “ ของแฟนคลับพวกมึงไง”

        “หา”

        “ ไม่หาล่ะ” รุ่นพี่ทำหน้ายิ้มๆ “ กูว่าอิส้มโอคงเอารูปมึงไปให้แอดมินเพจคิวท์บอยลงรูปมึงแน่ ดูสิเนี่ยคนอื่นเลยพร้อมได้อานิสงค์ด้วยเลย”

        ผมทำหน้าอึ้งกวาดสายตาไปรอบๆเห็นทุกคนในทีมรวมถึงรุ่นพี่ก็มีขนมแบบเดียวกันด้วย


         “ เออพี่”

         “ อะไรวะ”

         “ ไอ้เพจคิ้วท์บอยที่มันคืออะไรวะ ได้ยินจากน้องสาวมาหลายครั้งแล้ว”

         รุ่นพี่มองผมแปลกๆก่อนจะยิ้มกว้าง


         “ มึงไม่รู้จัก”

         “ โธ่พี่ยิมมันเพิ่งกลับมาอยู่ไทยได้ไม่นาน” ไอ้โอ๊คมันแก้ตัวแทนผม “ เล่าให้พวกผมฟังหน่อยสิผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้เพจนี้มันคืออะไร”

         “ ตามที่กูเข้าใจอะนะ มันเป็นเพจที่อัพรูปไอ้พวกหน้าพรีเมี่ยมของนิสิตแต่ละคณะ เอาไว้เป็นแรงใจให้สาวๆกับเพศทางเลือกมั้ง” พี่แกอธิบายขำ “ขนาดแฟนกูยังเซฟรูปไอ้พวกห่านั่นมาลูบมาคลำทุกวัน นางบอกกูว่ามันคือแรงใจในการเรียน”


         “ หืม”

         “ ดูนี่สิ” รุ่นพี่ผมงัดมือถือขึ้นมา “ แฟนกูมันบังคับให้กูไปกดไลค์เพจด้วยเนี่ยมึงดูสิ” พี่แกกดเข้าไปในเพจแล้วภาพล่าสุดที่อัพคือภาพของผมกับไอ้โอ๊ค


‘อยากเป็นกล้องในมือน้องยิม’

น้องยิมของแอดมิน #ปี1 #นิเทศศาสตร์ #อินเตอร์



        “ ฮ่าๆ”

        ไอ้โอ๊คถึงกับหัวเราะร่วนตอนที่มันชะโงกหน้าไปดูภาพตรงหน้าโดยรูปดังกล่าวคือภาพที่ผมเงยหน้ามองอะไรสักอย่างแต่บังเอิญว่าในมือถือกล้องถ่ายรูปไว้ตัวหนึ่ง


         “ เหอะ”

         ผมเบ้หน้าใส่มัน “ รูปมึงก็มีเหอะไอ้ห่า”



        โอ๊คมันเหลือบตามองภาพมันแล้วยักไหล่ทำเฉย ผมเลยเลื่อนหน้าจอลงมาเรื่อยๆแล้วต้องมาสะดุดตาตรงรูปใบหน้าที่คุ้นเคยยอดคนกดไลค์หลายพันทั้งๆที่ดูจากระยะเวลาแล้วลงภาพมาไม่เกินสัปดาห์ ทั้งยอดคนแชร์ภาพมันก็อยู่ราวๆพันกว่า ผมพิจารณาภาพตรงหน้าอย่างสนใจ มันเป็นภาพเพื่อนข้างห้องผมซึ่งอยู่ในชุดกาวน์ในมือถือข้างหนึ่งมีแฟ้มเคทผู้ป่วย มืออีกข้างกำปากกาเหมือนเขียนอะไรบางอย่าง ในภาพมันกำลังโน้มตัวไปพูดอะไรสักอย่างกับคนไข้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



         ...ยิ้มเหมือนที่มันยิ้มเคยให้เพื่อนมันนั่นแหละ...

         ...เวลาที่มันยิ้มให้คนไข้ดูโครตอ่อนโยน...



         ภาพนั้นเหมือนถ่ายในระยะไกลราวกับว่าแอบถ่ายยังไงยังงั้นเพราะเจ้าตัวเหมือนกำลังเผลอๆไม่ได้จับจ้องสิ่งใดนอกจากคนไข้ตรงหน้า ผมเลื่อนไปอ่านสเตตัสใต้ภาพนั้นอย่างสนใจ


‘อยากป่วยค่ะพี่หมอปาย’

#หมอปาย #ปี4 #แพทยศาสตร์ #หมอหล่อบอกต่อด้วย


        หึ ท่าทางมันจะเป็นขวัญใจของสมาชิกที่กดไลค์เพจนี้น่าดู ด้วยความใคร่รู้ผมเลยกดเข้าไปอ่านคอมเม้นท์ใต้ภาพที่ยาวเหยียดเกือบร้อยข้อความ


       ‘ แอร้ย ยอมแล้วทูลหัวอยากมีผัวเรียนหมอ’

       ‘ ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน’

       ‘ อยู่ๆก็อยากป่วยค่ะหมอขา  #หมอหล่อบอกต่อด้วย’

       ‘ผัวก็คือผัว’

       ‘นังหน้าด้านเค้าเป็นของฉันคนเดียว’

       ‘โอกาสของเราคือศูนย์ค่ะหมอขา 08X-XXX-XXXX // เนียนๆไป’

       ‘อยากเป็นปากกาในมือหมอ’

       ‘ #ทีมสะใภ้วงษ์วรกาญจน์’




        ผมไล่อ่านแต่ละความคิดเห็นแล้วได้แต่หัวเราะอย่างขบขัน ผู้หญิงสมัยนี้เค้าไปถึงขนาดนี้กันแล้วเหรอเนี่ยคอมเม้นท์แต่ละอันชวนขบขันจนแทบกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหว แต่ผมมาสะดุดกับคำๆหนึ่ง

        “ ว่าไปก็คุ้นๆนะ”


        “ หืม” ไอ้โอ๊คหันมามอง “ คุ้นอะไรวะ”

        ผมเงยหน้าจากมือถือของรุ่นพี่ “กูคุ้นๆว่าเคยได้ยินนามสกุลวงษ์วรกาญจน์ที่ไหนวะ”

        “ อ๋อ”

        “ มึงรู้จัก” ผมถามมัน

        “ อืม” โอ๊ครับคำ “นามสกุลผู้ดีเก่าที่เขาเป็นเจ้าของวังวรกาญจน์ไง  เจ้าของวังคนปัจจุบันชื่อหม่อมหลวงศิววงศ์ วงษ์วรกาญจน์เค้าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจกับครอบครัวกู กูเลยได้ยินชื่อเค้าบ่อยๆ”

        “ เหรอ”

        เป็นเจ้าเลยเหรอถ้าหากเจ้าของนามสกุลนี้มีเชื้อสายแล้วเพื่อนข้างห้องผมที่ใช้นามสกุลเดียวกันจะมีความเกี่ยวข้องกันยังไงนะ

        “ เห็นว่าเค้ามีลูกชายคนนึง” ผมหูผึ่งขึ้นมาทันทีก่อนจะนิ่งฟังเงียบๆ “ ข่าวว่าเรียนหมออยู่มหาลัยเดียวกับเรานี่แหละ”


       ชัดเลย

       มีลูกชายเรียนหมอคงจะมีคนเดียวเท่านั้นล่ะมั้ง

       ผมเดาะลิ้นเล่นถึงว่าท่าทางไอ้หมอนั่นถึงได้ดูเก็กๆนิ่งๆทำหน้าเรียบเฉยอย่างอยู่แบบนั้นที่แท้มันคงเป็นมาดของคนชั้นสูงแบบมันซะละมั้ง

       “ ทำไมมึงรู้ลึกจังวะ”

       “ เค้ารู้กันทั้งเมืองไอ้ยิม”

       ผมทำหน้างง

       “ ก็เจ้าของวังคนนี้เคยมีข่าวโด่งดังเมื่อสามสี่ปีก่อนไง”

       “ ข่าวอะไรวะ”

      “ ข่าวที่ถูกกล่าวหาว่าเค้าฆ่าเมียตัวเองตายไง”


       ..ห่ะ..

       มันนั่งอึ้งคิดคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องราวอะไรแบบนี้ยังไม่ทันจะเปิดปากถามไอ้โอ๊คต่อมือถือในกระเป๋ากางเกงก็ร้องสั่นขึ้นมาอย่างขัดจังหวะพอดิบพอดี

       ผมเลยจ้องพับเก็บความสงสัยไว้ในใจเมื่อเห็นสายเรียกเข้าที่ปรากฏชื่อแฟนสาวที่อยู่ไกลกันคนละซีกโลก โอ๊คมันพยักหน้าเข้าใจเมื่อผมทำท่าว่าจะออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก ก่อนไปผมก็ยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นคืนให้รุ่นพี่

       ถึงอย่างนั้นเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้มาก็ทำให้มันรู้สึกแปลกๆนี่หรือเปล่า เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้หมอนั่นถึงชอบทำหน้าเคร่งเครียดราวกับมีเรื่องทุกข์ใจนักหนา

       ใบหน้านิ่งที่ชอบทำเฉยเวลาอยู่คนเดียวแต่แปลกพอสวมบทบาทว่าที่คุณหมอมันกลับมีบุคลิกที่น่าชื่นชมไม่น้อยเห็นได้จากภาพที่มันดูใส่ใจคนไข้แบบนั้น

       คนแบบนี้ท่าทางจะเป็นคนที่มีปมในใจซะละมั้ง

       บอกตรงๆว่าผมชักจะสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนข้างห้องคนนี้ซะแล้ว และคาดว่าคืนนี้คงจะรู้อะไรเพิ่มเติม

       หึ คืนนี้มึงเจอกูแน่   

       อืม ผมเองก็รอเจอคุณอยู่เหมือนกัน...หมอปาย...







เอาไปครึ่งนึงก่อนเนอะ ไปทำใจร่มๆรอครึ่งหลังในส่วนของการสาธิตนั้น..... :hao6:
#ทีมยิมปาย #ทีมปายยิม #จะทีมไหนๆก็ได้กัน (เหรอ????)  :-[




หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 22-03-2016 21:22:12
รอชมการสาทิตค่ะ หึๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 22-03-2016 21:42:11
แฟนสาว? หืออออออออออ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-03-2016 21:50:31
ทีมยิม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-03-2016 22:29:41
มานั่งรอหมอปายกับยิมเค้าเจอกัน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 22-03-2016 22:40:03
ไปปักหลักรอการสาธิตที่หน้าห้องหมอปายแล้วค่ะ
 :haun5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 23-03-2016 08:26:30
รอร้อรอ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-03-2016 11:58:47
รอชมการสาธิต   :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-03-2016 13:18:05
พี่หมอปายเป็นลูกจ้าว!?
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (50%) »» [22/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 25-03-2016 21:21:20


    (ต่อ)





         ผมกลับมาที่คอนโดก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มหลังจากที่ถูกรุ่นพี่ชวนไปเลี้ยงฉลองผลการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรพร้อมเพื่อนหลังจากผลการแข่งขันที่พวกเราสามารถคว้าชัยเอามาได้ เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันเรียกน้ำย่อยการก่อนแข่งขันฟุตบอลเฟรชชี่ที่จะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

        ผมมาหยุดยืนอยู่ที่บานประตูหน้าห้องแล้วสายตาก็เหลือบไปมองยังประตูห้องข้างๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าของห้องจะกลับมารึยังแล้วมันจะจำได้รึเปล่าว่าคืนนี้เรามีนัดอะไรกัน


      “เดี๋ยวคืนนี้กูจะสาธิตให้มึงดูอีกรอบ”

       “ คืนนี้มึงเจอกูแน่”



         หึ

        ผมมองประตูห้องมันนิ่งราวกับจะสามารถใช้สายตามองทะลุไปยังเจ้าของห้อง และราวกับเจ้าของห้องจะรู้ตัวเพราะประตูที่ผมยืนมองอยู่นานก็ถูกเปิดออกมา


       มันชะงักเมื่อเห็นผมยืนรอท่าอยู่

       มันยืนกอดอกพิงขอบประตูห้องตัวเองนิ่ง ขณะที่สายตาของเรามองสบตากันจังหวะนั้นราวกับผมกำลังเจอกับสิ่งท้าทาย เหมือนเลือดในกายเดือดพล่านคล้ายกับว่ากำลังจะลงสนามแข่งขันอะไรสักอย่างแล้วเจอคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ

       มันท้าทายและปลุกความความรู้สึกบางอย่างให้ลุกโชนขึ้นมาอย่างประหลาด

       “ โผล่หัวมาแล้วเหรอ”

       “ ก็อย่างที่เห็น” ผมยักไหล่

       มันกดยิ้มมุมปากคล้ายจะแสยะยิ้มแต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ร่างสูงโปร่งของคนตรงหน้าขยับเข้ามาแล้วเอื้อมมือมาลูบบ่าผมเบาๆความร้อนจากฝ่ามือที่สัมผัสชวนให้เกิดความรู้สึกประหลาดราวกับว่ามีกระแสไฟวิ่งวนไปทั่วร่างกาย ผมยืนนิ่งจนแทบจะหยุดลมหายใจ

       “ งั้นรอแป็บนึง”

       “.....”

       มันขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูผม ปลายจมูกนั้นเฉียวใบหูผมไปเล็กน้อยจนผมถึงกับชะงัก ตอนนี้ระยะห่างระหว่างเราใกล้เพียงแค่คืบเดียว มันใกล้มาก ใกล้มากจริงๆชนิดที่ว่าได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆจากตัวอีกฝ่าย


       ใกล้จนผมมองเห็นภาพตัวเองที่สะท้อนออกจากแววตาคู่สวย ใช่ต้องบอกว่าสวย มันเป็นผู้ชายที่ตาสวยจริงๆและที่แปลกคือขนตามันค่อนข้างยาวรับกับใบหน้าเรียวดูคมคายอย่างประหลาด สงสัยถ้าตาหวานกว่านี้อีกหน่อยผู้หญิงบางคนคงจะได้อาย

       “ เดี๋ยว”

       ผมขยับไปจับข้อมือมันไว้ตอนที่ฝ่ายนั้นเตรียมก้าวถอยหลังกลับไป แปลกฝ่ายนั้นแค่หยุดนิ่งไม่ได้สะบัดมือผมออกอย่างที่คิด ตรงกันข้ามมันแค่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม


        “ จะให้ผมรอไหน”

        มันปล่อยเสียงหัวเราะน้อยๆ

        หืม หัวเราะนี่มันหัวเราะต่อหน้าผมงั้นเหรอ ใช่เรื่องจริงหรือเปล่า นี่ผมฝันไปหรือเปล่าเนี่ย ผมยืนนิ่งและเข้าใจแล้วในวินาทีนั้นว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้เป็นขวัญใจของสาวๆและดูเหมือนว่ามันเองก็คล้ายกับว่าเป็นขวัญใจของเพื่อนสนิทมันด้วย

        นี่หรือเปล่าที่เค้าเรียกว่าเสน่ห์

        ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีเสน่ห์จริงๆ



         “ ห้องมึงสิ” มันพูดก่อนจะเหลือบตามองผม “ หรืออยากรอห้องกูล่ะ”

          พวกเรายืนนิ่งสบตากันอยู่นาน

          นานจนรู้สึกได้ว่าข้อมือของมันที่ถูกผมกุมอยู่มันขยับออกเบาๆ

         “ ห้องผม”


         มันโคลงศีรษะรับคำก่อนจะเดินหายลับ จังหวะนั้นแหละที่ทำให้ผมเดินเข้าห้องมาอย่างไม่มีสติ ราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนี่มันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่รู้จักกับเจ้าของห้องข้างๆดูเหมือนว่าชีวิตของผมมีอันต้องเผชิญกับความรู้สึกประหลาด ผมเป็นอะไรถึงได้ตอบตกลงที่จะทำเรื่องสัปดนชวนพิศวงแบบนั้น ทุกครั้งที่อยากรู้เรื่องของมันเหมือนว่าตัวผมเองกำลังเข้าใกล้มันมากขึ้น

        ผมเหลือบตาไปมองกรอบรูปของแฟนสาวที่ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งตรงโซฟา ภาพนั้นมีผมและเธอถ่ายคู่กันตอนไปเที่ยวช่วงวีคเอนเมื่อปีก่อน ผมสบตากับเธอในกรอบรูปอยู่นานจนรู้สึกได้ว่าหัวใจที่สั่นไหวแปลกๆมันสงบลงแล้ว



       .

       .


       ...ก๊อก ก๊อก...

        ผมเปิดประตูห้องออกมาก็เจอมันยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง ผมขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อมองเลยไหล่มันไปเจอสาว เอ่อ ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าสาวเกือบแท้ เพราะรูปร่างแต่ละคนบึกบึนไม่เข้ากับชุดเดรสสั้นแค่คืบที่สาวๆชอบใส่ตามสมัยนิยม ลำแขนเป็นมัดบ่งบอกถึงสภาพเพศที่แท้จริง


         “ นี่”

         “ เห็นมึงไม่ค่อยเก่งเรื่องพวกนี้” มันแสร้งถอนหายใจ “ กูเลยหาผู้เชี่ยวชาญมาสอนมึงให้”

         “ คุณ”


        ผมอ้าปากค้างมองมันและสาวเทียมทั้งสามคนตรงหน้าอย่างนึกไม่ถึง และรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จังหวะที่เตรียมถอยหลังชิ่ง ผมเห็นมันให้สัญญาณสาวๆกล้ามโตกลุ่มนั้นตรงเข้าชาร์ตผมทันที

        “ เชี่ย”

        “ อย่าดิ้นสิคะคุณพี่”


        ห่าเอ้ย ผมถูกกะเทย เอ่อ ขออนุญาตหยาบคายเพราะแรงของพวกเธอช่วงหนักหน่วงแม่งล็อคคอ ล็อคแขนจนแทบขยับไม่ได้ สีหน้าท่าทางของพวกหล่อนดูสนุกสนานไม่ต่างจากไอ้ตัวต้นเหตุ ไอ้หมอปายล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงมันแล้วกำ ต้องเรียกว่ากำเพราะมันกำซองถุงยางเต็มมือนับได้ราวๆเกินสิบชิ้นแน่นอน



        “ มึง”

        เป็นครั้งแรกที่ผมเรียกฝ่ายนั้นด้วยถ้อยคำแบบนี้

        “ จะขอบคุณกูหรอ” มันแสยะยิ้มมุมปาก “ ไม่ต้องหรอกขอแค่มันสนุกกับค่ำคืนนี้ก็พอ”

        “ ไอ้หมอปาย”

        “ ครับ” มันทำหน้ายิ้มก่อนจะโน้มใบหน้ามากระซิบข้างหูผมน้ำเสียงโครตยียวน “ น้องยิม”

        “ เหี้ย”

         ผมโกรธจนเลือดขึ้นหน้าจังหวะที่สาวๆเผลอเลยสะบัดพวกเธอจนหลุดไปกระชากคอเสื้อไอ้หมอปายทันที

        “ โอ้ย”

        “ แสบมากนะไอ้หมอ”

        “ มึงกวนตีนกูก่อน”

        ผมยืดยุดข้อมือมันไปมาแต่พักเดียวสาวๆทั้งสามที่ล้มระเนระนาดไปก่อนหน้านี้ก็รวมพลังมาดึงผมออกจากมัน

        “ ปึ๊ก”

        “ อุ๊ก”
จังหวะชุลมุนนั้นผมกระชากเสื้อมันจนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างหลบกระทบพื้น แต่พอมองไปรอบๆแล้วดันไม่พบเห็นสิ่งใดเลยยกเว้นซองถุงยางหล่นเกลื่อนกลาด มันยิ้มขำมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า


        “ กูคิดว่าผ่านคืนนี้ไปมึงคงใช้ถุงยางคล่องขึ้นนะ”

        “ โชคดีนะน้องยิม”

        พูดจบมันก็ยิ้มกวนๆให้ผมทีนึงและเดินยักไหล่ออกไปพร้อมกับปิดประตูห้องให้อย่างดิบดี ทิ้งให้ผมเชิญชะตากรรมกับสายตาหื่นกระหายของสาวเทียมทั้งสาม







        .

        .

        .



       “ ฮือ”

       “ ฮึก ฮือ”

       “ กระซิกๆ”

       “ เจ็บ” เสียงหนึ่งครางออกมา

       “ เจ็บจังเลย”

       “ระบมทั้งตัวโดยเฉพาะช่วงล่าง”

       “ โฮ”

       “ คุณพี่ใจร้ายกับพวกหนูมาก”



         ผมพ่นลมหายใจแรงๆตอนที่กระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาโดยที่สาวๆทั้งสามยังนั่งพังพาบกับพื้นบ้างก็กุมแก้ม บ้างก็กุมท้อง บ้างก็นั่งปาดน้ำตาเงียบๆ พวกหล่อนเงยหน้ามองผมแล้วพร้อมใจกับสะบัดหน้าใส่ผมแรงๆ ผมคลึงขมับถอนหายใจแรงๆด้วยความเหนื่อยเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งได้ออกกำลังกายอย่างหนักมา

        อย่าเข้าใจผิด

        ผมกับพวกหล่อนเราไม่ได้มีอะไรกัน แค่จังหวะที่เธอมะรุมมะตุ้มผมนั้นดัมันนสะกิดเส้นบ้าจี้ของผมให้กระตุกสุดท้ายพวกหล่อนจึงได้ไปนั่งล้มพับร้องไห้อยู่กับพื้นแบบนั้น


        “ โทษทีลืมบอกไปว่าเคยเรียนเทควันโดจนได้สายดำ”

        “......”

        สามคนนั้นอ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆคลานไปนั่งกอดกันอยู่ตรงมุมห้อง ผมมองภาพนั้นอย่างเห็นใจก่อนจะผุดลุกขึ้นแต่พวกเธอดันหวีดร้องกันเสียงหลง

        “ อย่าค่ะคุณพี่อย่า น้องช้ำไปหมดแล้ว”

        “ พอแล้วค่ะแค่แผลบนใบหน้านี่ก็ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหาย”

        “ อ๋อๆ” ผมทำเสียงในลำคอ “ ตอนเด็กๆเคยไปเรียนต่อยมวยเป็นประจำ”

        “ โฮ”


        สามสาวน้ำตาร่วงเผาะทันที พอผมขยับพวกเธอก็ครางฮือๆขยับหนีถอยหลังไปด้วย ผมสงสารเลยเดินไปคุ้ยหาอุปกรณ์ทำแผลแถวห้องครัวแล้วมายื่นให้พวกเธอ ทั้งสามกล้าๆกลัวๆก่อนจะยื่นมือมารับของตรงหน้าไปอย่างรวดเร็ว

        “ ถามจริงนี่กะจะทำผมจริงๆเหรอ”

         ผมถามขึ้นหลังจากพวกหล่อนนั่งช่วยกันทำแผลไปสักพัก หนึ่งในนั้นรีบส่ายหน้าหวืว “ พวกเราแค่ถูกจ้างมาให้แกล้งพี่เฉยๆกะว่าพี่หมดแรงเราจะถอดเสื้อแล้วถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์”

        “ ใครคิด” ผมถามเสียงเครียด

        “ แหะๆ”

        “ พวกเราค่ะ”

        สามคนนั้นรับคำเสียงอ่อยๆ

         “ แล้วไอ้หมอนั่น”

         “ พี่คนนั้นแค่จ้างมาให้แกล้งพี่ให้กลัวเฉยๆที่เหลือก็แล้วแต่พวกหนูจะจัดการต่อ”

         “ อ๋อ”

         ผมแสยะยิ้มพวกเธอก้มหน้าหลบกันจ้าละหวั่น

         “ พวกหนูขอโทษ”

         ทั้งสามยกมือไหว้ผมปลกๆ

         “ ผมไม่โกรธหรอก” ผมถอนหายใจ “ยังไงก็ขอโทษพวกคุณด้วยที่ทำให้เจ็บตัวแบบนี้”

         “ ไม่โกรธพวกเราจริงๆเหรอคะ”

          ผมพยักหน้ารับ “ แต่” พวกหล่อนสะดุ้งโหยง “ อย่าไปทำอะไรแบบนี้กับคนอื่นอีกก็แล้วกันนะครับ เรื่องแบบนี้มันเข้าข่ายใช้กำลังบังคับกันเผลอๆพวกคุณอาจจะถูกตำรวจจับ”

         “......”

         “ การใช้กำลังโดยที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจก็ไม่ต่างจากการกระทำของคนร้ายที่ฉุดคร่าผู้บริสุทธิ์หรอกครับ”


         พวกหล่อนพยักหน้ารับสีหน้าแววตาดูสลดจริงๆจนน่าเห็นใจ ผมเลยอาสาพาพวกหล่อนไปส่งด้านล่างจังหวะที่มองไปรอบๆก็ไปสะดุดตากับของบางอย่างซึ่งหล่นอยู่บนพรมหน้าห้อง มันคือโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสีดำที่เหมือนว่าถูกใช้งานมานานแล้วสามคนนั้นมองของในมือผมแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าว่าไม่ใช่ของตัวเอง

         ในเมื่อมันไม่ใช่ของผมและไม่ใช่ของพวกหล่อนก็ต้องเป็นของใครบางคนที่เคยเข้ามาในห้องนี้ก่อนหน้านี้ไม่นาน หึ ทีใครทีมันแล้วกันหมอปาย ในเมื่อมันทำให้ผมพื้นเสียมากมายวันนี้เห็นทีผมกับมันคงต้องเจอกันสักตั้ง
ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่นก่อนจะแสยะยิ้มแต่ท่าทางของผมทำเอาสามสาวต่างทำหน้าซีดเป็นไก่ต้ม


         “ คุณพี่อย่าทำหน้าแบบนี้น้องกลัว”

         ผมกดยิ้มก่อนจะหัวเราะร่วนแต่ใครจะรู้ว่าในใจผมร้อนรนแค่ไหน เรามาดูสักตั้งแล้วกันไอ้หมอปาย







"ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ยิมไม่ได้กล่าวไว้แค่มันรู้สึกเฉยๆ ฮ่าๆๆๆ #ทีมยิมปาย #ปายยิม #ทีมไหนๆก็ได้กัน (?)
#อ่านแล้วเม้นท์ด้วยเนอะ อยากรู้ว่าสนุกหรือไม่ยังไง บางทีไม่มีความคิดเห็นเลยคนเขียนก็น้อยใจนะเนี่ย แหะๆ ไม่ดราม่าน้าๆ


 เปิดจองรักข้างเดียววันนี้ - 2 พ.ค. 59  (https://web.facebook.com/karnsaii/photos/a.245517358969923.1073741826.245380738983585/495280307326959/?type=3&theater)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-03-2016 21:50:33
ทีมยิมๆๆๆๆ. อีหมอปายขี้เก๊ก ชิชิชิช จะแกล้งยิม รอไปสิบชาติเถอะ เหอะๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-03-2016 22:53:27
ยังเป็นทีมน้องยิมกินพี่ปายเหมือนเดิม :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 26-03-2016 01:11:51
น้องยิม เอาคืนให้หนักเลยยย
แล้วก็อย่าลืมบอกเลิกแฟนด้วยน้า 55555 :laugh:

สนุกมากอ่ะเรื่องนี้ รอค้าาา :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-03-2016 01:16:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 26-03-2016 01:28:18
ได้เวลาเอาคืนและยิม  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 26-03-2016 06:09:52
ยังคงมั่นคงในปายยิมค่ะ!! อ่าฮ่า!!!!~  :m19: :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-03-2016 06:51:58
ไม่ชอบหน้ากัน แกล้งกันไปมา เดี๋ยวก็ได้กัน เอ๊ะ! ยังไง ฮา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-03-2016 09:23:43
พี่หมอเจ้าเล่ห์จริงๆแกล้งยิมได้ลง คิคิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-03-2016 10:44:00
สมน้ำสมเนื้อ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 26-03-2016 12:41:56
 :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nnewy ที่ 26-03-2016 19:46:03
ยิมจัดหนักเลยยยยยย!! #ทีมยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 26-03-2016 21:24:09
เราสัมผัสได้ถึง #ยิมปาย อ่ะ แต่ใจดวงน้อยๆนี้ อยากให้เป็น #ปายยิม  :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-03-2016 22:35:16
หมอปายมีเสน่ห์ แต่ปายจะประทับใจยิมไหมนะ เชียร์ ปาย-ยิม :ling1:
สนุก ชอบ แต่อยากให้ลงยาวๆ กว่านี้  :mew1:
 รอตอนใหม่  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 27-03-2016 01:01:42
อ่านตอนนี้จบ คือ #ทีมยิมปาย แน่นอนนนน  :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 27-03-2016 07:45:11
ลุ้นหนักมาก
#ยิมปาย  :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nnewy ที่ 28-03-2016 16:26:12
#ทีมยิมปาย สนับสนุนขุ่นหมอค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 30-03-2016 21:09:55
ทั้งร้ายทั้งแสบกันทั้งคู่เลยคับ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 31-03-2016 22:21:33
หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%)


[หมอปาย]





       “ ปาย”

       “ หาอะไรวะ”

       “ ปาย”

       “ หืม”


       ผมถอนหายใจเมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วไม่พบสิ่งที่ควานหามาตลอดทั้งคืนจนถึงตอนนี้ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอสายตาคาดคั้นของเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้ ดวงตาสีเข้มภายใต้กรอบแว่นตามองเขาอย่างพิจารณาและสงสัยกับการกระทำประหลาดที่ตั้งแต่มาถึงก็นั่งค้นหาของบางอย่าง


        “ หาอะไรเหรอ”

        “ มือถือ”

        “ หืม”

        “ มือถือกูไม่รู้หายไปไหนหาไม่เจอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

        “ ลืมไว้ที่คอนโดรึเปล่า”

         ผมส่ายหน้าเพราะเมื่อคืนก็ลองค้นห้องเกือบจะทั้งคืนถ้าหากว่ามันอยู่ในห้องคงจะหาเจอได้ไม่ยากเสียแต่ว่าเขาอาจจะทำมันหล่นหายที่ไหนนี่สิ

         “ หาแล้วเหรอ”

         “ อืม”

        ‘อั้ม’ มันทำคิ้วขมวดก่อนจะลงมือช่วยค้นหาของดังกล่าวในกระเป๋าจนพักนึงนั่นแหละมันถึงเงยหน้าขึ้นแล้วส่ายหน้าไปมา



        “ ช่างเถอะ”

        “ ช่างได้ไงแล้วถ้ามันหายขึ้นมาจริงๆกูจะติดต่อมึงยังไง” มันแย้ง

         ผมยักไหล่จริงๆแล้วไม่ได้นึกเสียดายอะไรหรอกกับโทรศัพท์เครื่องเดียวเพราะไอ้เครื่องที่ว่านั่นใช้มานานแล้วตั้งแต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ เขาเป็นประเภทไม่ใช่คนติดแบรนด์หรือติดหรูอะไรมากมายดังนั้นสมาร์ทโฟนสีดำที่เป็นที่ยอดนิยมเมื่อหลายปีก่อนจึงถึงใช้งานมาจนถึงวันนี้...วันที่มันหายไปอย่างไร้ร่องรอย

        หายไปก็ดีเหมือนกันเพราะเขาเองก็เบื่อหน่ายกับปลายสายคนเดิมๆที่มักโทรมาวุ่นวายจนไม่เป็นอันทำอะไร จะเสียดายก็แค่ไฟท์งานและเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนบางส่วนเท่านั้น แต่ช่างเถอะของพวกนั้นยังไงก็คงพอหาใหม่ได้


       “ ช่างเถอะ”

       “ ปาย”

       อั้มมันถอนหายใจ “ เย็นนี้เดี๋ยวกูพาไปมึงซื้อโทรศัพท์ใหม่ละกัน”

       “ ไม่เป็นไร”

       “ มึงก็รู้ว่ากูคงไม่สบายใจถ้าติดต่อกับมึงไม่ได้”

        ผมนิ่งอึ้งเมื่อเห็นสายตาทอดมองอย่างมีความหมาย เป็นความหมายที่ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าห่วงใยในฐานะเพื่อนทั่วไป ผมรู้ดีว่ามีกระแสบางอย่างถูกส่งมาจากสายตาของมัน ผมรู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกอย่างไรแต่ผมตอบแทนความรู้สึกมันมากไปกว่าคำว่าเพื่อนไม่ได้


         ..เพราะชีวิตนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะรักใครได้อีก..



        “ กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

        “ อืม”

       อั้มมันหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยจนผมรู้สึกเสียใจ ผมถอนหายใจก่อนจะตบบ่ามันเบาๆมันเอื้อมมือมากุมมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

       “ กูขอโทษ”

       “ กูต่างหากที่ต้องขอโทษ”

        ผมพูดออกไปแล้วยืนนิ่งมองมันกุมมือผมแน่น

        “ กูจะรอ”

        “.....” ผมส่ายหน้า “ อย่าเลยอั้ม”

        “ อย่าห้ามกูเลยปาย”

        “.....”


         ผมไม่ได้ตอบอะไรไปตอนที่มันคลายมือผมออก ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะขยับก้าวเดินออกมาถึงอย่างนั้นก็อดจะเหลียวหลังหันไปมองแผ่นหลังกว้างของมันที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างนั้น

        “ ปาย”

        เสียงเรียกชื่อในระยะประชิดทำให้สติที่เหมือนจะหลุดลอยไปไกลหวนกลับมาอีกครั้ง ภาพตรงหน้าคือใบหน้ายิ้มแย้มของร่างสูงโปร่งแต่ติดจะขาวซีดกำลังชูถุงในมือขึ้นสูงก่อนจะโบกมือทักทายผมด้วยสีหน้าดีใจราวกับเด็กน้อย


        “ อ้าวหยก”


        ‘หยก’ เป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งที่รู้จักกันตั้งแต่มัธยมปลายเป็นเด็กเรียนที่ติดจะเรียบร้อยกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก และบวกกับบุคลิกที่ออกจะนิ่งๆเงียบๆ เอะอะก็ยิ้มลูกเดียวจึงทำให้คล้ายๆกับเป็นคนที่ไม่ใคร่จะทันคนนัก มันชอบทำเฉยเวลาที่มีใครมาหาเรื่องทั้งยังใจเย็นราวกับว่าชาตินี้ไม่เคยคิดจะโกรธใครได้เลย


       “ วันนี้ซื้อวุ้นมะพร้าวมาฝากด้วย”
 
        ว่าแล้วคนตัวซีดก่อนยกกล่องที่บรรจุของหวานชูขึ้น

       “ หึ”

       “ ของโปรดปายไง”

       ผมเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายยิ้มๆ “ แน่ใจเหรอ” ผมแสร้งถอนหายใจบุ้ยปากไปเบื้องหลัง “ ไอ้วุ้นมะพร้าวเนี่ยอั้มมากกว่ามั้งที่ชอบกิน”

       “ ก็”

        หยกมันทำปากพะงาบๆสีหน้าแดงก่ำจนเห็นได้ชัด ดวงตาคู่นั้นหลุบลงทันที “ ก็ เอ่อ”

        ผมยิ้มขำคนตัวซีดที่ทำตัวไม่ถูกมือไม้เกะกะไปหมดจนน่าสงสาร ผมรู้ดีว่าทำไมหยกมันถึงมีอาการประหลาดแบบนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนสนิทของผมอีกคน


       “ เข้าไปข้างในก่อนเลย เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ”

       หยกส่ายหน้าหวืวด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ตาก็คอยเหลือบมองนาฬิกาข้อมืออย่างแหยงๆ “ กูรอเข้าไปพร้อมมึงล่ะกัน”

       “ กลัวอะไรอั้มมันไม่กินหัวมึงหรอก”

       “ กลัวมันด่า” เสียงในลำคอดูเหงาหงอย ผมอดเห็นใจไม่ได้จึงลูบหัวมันเบาๆ “ เอองั้นรอแป๊บ”

       “ เดี๋ยว”

       “ หืม”

       “ เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาเห็นลุงหาญแวบๆที่ลานจอดรถ”


        ชื่อที่คุ้นหูซึ่งหยกมันเอ่ยถึงทำให้อดขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจไม่ได้  ผมถอนหายใจแรงๆก่อนจะพยักหน้ารับแล้วบ่ายหน้าไปยังจุดหมายที่เพื่อนสนิทพูดถึงก่อนหน้านี้ ก่อนไปก็อดเหลือบตามองไปด้านหลังอีกทีไม่ได้ ผมส่ายหน้าเมื่อหยกมันยืนรออยู่แถวๆนั้นโดยไม่มีท่าทีว่าจะเข้าไปในตัวอาคารจริงๆ

        อะไรจะกลัวไอ้อั้มขนาดนั้นวะ

        เออ...ถ้าเป็นหยกก็สมควรกลัวไอ้แว่นหน้านิ่งนั่นอยู่หรอก ผมส่ายหัว





     .

     .

     .



       “ ลุงหาญ”

        “ คุณชาย”


        ผมพ่นลมหายใจทันทีที่ได้ยินคำเรียกขานของผู้สูงวัยซึ่งแย้มยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นเขา ชายวัยกลางคนผมสีดอกเลาเกือบทั้งหัวแต่งกายด้วยชุดสุภาพกำลังทำท่านอบน้อมผมจนชวนปวดหัว เหนือสิ่งอื่นใดคนขับรถของบิดาดูจะดีใจหนักหนาเมื่อได้เห็นหน้าผม

       “ สวัสดีครับลุง”

       “ อย่าครับ...” ลุงหาญรีบตรงเข้ามาคว้ามือผมเอาไว้ “ อย่าไหว้ลุงเลยครับคุณชาย”

        ผมส่ายหัว “ อยู่กับผมอย่าเจ้ายศเจ้าอย่างเถอะครับมันชวนอึดอัด”


       “ คุณชาย”

       ผมถอนหายใจคว้ามือเหี่ยวย่นที่กุมข้อมือผมแล้วเขย่าเบาๆ

        “ คุณชายไม่กลับบ้านนานแล้วทุกคนบ่นคิดถึงกันมาก”

        “.......”


         “ ถ้าคุณผู้หญิง..”

         ผมยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ชายวัยกลางคนพูดต่อ ลุงหาญทำหน้าสลดก่อนจะฝืนยิ้มให้ผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ

         “ วันนี้ลุงมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ”

         ลุงหาญมีท่าทีกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ รถของคุณชายซ่อมเสร็จแล้ว ลุงเอาไปจอดให้ที่คอนโดแล้วนะครับนี่ก็แวะเอากุญแจรถมาให้ครับ”

        ผมทำหน้าเฉยไม่ได้ยินดียินร้ายกับความสะดวกสบายที่ใครต่อใครจัดหาให้ อาจจะเพราะชินซะแล้วกับการทำอะไรด้วยตัวเองตั้งแต่วันที่รับรู้ว่าเขาต้องอยู่คนเดียวให้ได้

        “ จริงๆแล้วผมไม่จำเป็นต้องใช้รถ” ผมถอนหายใจ “ ทุกวันนี้ใช้บริการสาธารณะก็สะดวกดี”

        “ คุณชาย”

        ผมหายใจแรงๆ “ เอากลับไปคืนเขาเถอะครับ”

        ลุงหาญถอนหายใจสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ คุณท่านบอกผมว่าคุณชายต้องพูดอย่างนี้ ท่านเลยฝากมาบอกว่า ถ้าไม่เอาก็เอากลับไปคืนเองที่บ้านครับ”

         ผมกำหมัดแน่นแววตาเครียดขมึง รู้สึกว่าทุกอย่างรอบตัวเกร็งไปหมดจนเมื่อฝ่ามือของคนขับรถที่อุ้มชูเขามาตั้งแต่ยังเล็กลูบที่บ่าเบาๆ ความรู้สึกเหล่านั้นถึงหายไป

        “ ผมไม่อยากได้”

        “ ลุงทราบครับคุณชาย” คุณหาญบีบบ่าเขาทีนึง “ แต่คุณชายไม่ควรขัดคำสั่งคุณท่าน”

        “......”

        “ เพราะยังไงผมก็แพ้เขาอยู่ดีใช่มั้ยครับ”


        “ ต่อให้ทะเลาะกันแค่ไหนสายเลือดก็ไม่มีวันตัดขาดจากกัน”

        ผมก้มหน้านิ่งในอกเหมือนมีกลองตีกระหน่ำรัวเสียงดัง ผมส่ายหน้าไม่อยากจะรับฟังใดๆก่อนจะรับกุญแจรถมาถือไว้อย่างไม่เต็มใจ

        “ ถ้าคุณชายว่างกลับบ้านบ้างนะครับ คุณชายเล็กเธอบ่นคิดถึง”

        “ หึ” ผมแสยะยิ้ม “ ที่นั่นไม่มีใครรอผมอยู่จริงหรอก”

        “ มีครับ”

        ผมทำหน้าไม่เข้าใจ

        “ น้องชายคุณยังไงล่ะครับ”

        “ ไม่” ผมปฏิเสธเสียงห้วน “ ผมไม่เคยมีน้องชาย”

        “ คุณชาย” ลุงหาญทำหน้าตกใจ

        “ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ”

         “.....” ผมยกมือไหว้คนตรงหน้าก่อนจะผละถอยออกมาทันได้ยินคำพูดบางอย่างลอยตามมาติดๆ “ คุณชายเล็กบ่นว่าคิดถึงพี่ชายทุกวัน รอให้พี่ชายกลับมาเล่นด้วย”


       หึ ใครมันอยากไปเล่นกับเด็กบ้าอย่างมัน

        เด็กบ้าๆแบบมัน

        เกลียด...เป็นความรู้สึกที่ผมกำลังเกลียดชังใครบางคน



         ผมหลับตานิ่งมือกำแน่นทั้งสองข้าง พอเปิดเปลือกตาขึ้นมองตัวเองในกระจกภาพตรงหน้าสะท้อนให้เห็นใบหน้าคมคาย ดวงตาคมสวยเหมือนนัยน์ตาของมารดาผู้ให้กำเนิด ริมฝีปากผมเม้มแน่นสั่นระริกก่อนจะรู้สึกหยาดใสๆของน้ำบางอย่างกำลังจะหลั่งริน นาทีนั้นผมรีบเปิดน้ำวักใส่หน้าให้น้ำเปล่าล้างน้ำตา

         ให้มันกลบเกลื่อนกัน...ให้มันรวมกันจนแยกไม่ออก...ให้มันเป็นแค่น้ำเปล่าเท่านั้น





     .

     .

     .




        “ ไปนานมาก”

        หยกมันทำหน้ายู่เมื่อผมย้อนกลับมาหามันอีกครั้ง

        “ ก็แล้วมึงทำไมไม่เข้าไปก่อนวะ”

        มันส่ายหน้าหวืวอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมเลยได้แต่ยิ้มขำก็จะรุนไหล่มันให้ออกเดินจนไปถึงโต๊ะอาหารโต๊ะหนึ่งซึ่งมีนิสิตแพทย์ใส่แว่นนั่งรอท่าอยู่ก่อนแล้ว  อั้มมันเหลือบตาขึ้นมองหยกด้วยสีหน้านิ่งๆยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรหยกมันก็รีบยกของในมือให้อีกฝ่าย

        “ กูซื้อมาฝาก”

        “ เพิ่งโผล่หัวมา” อั้มมันพูดเสียงเรียบแต่แววตาเฉือดเฉือนคนตัวซีดจนหน้าซีดตามสีผิวไปทันที

        “ กูขอโทษ พอดีกู..”

        “ มึงเลิกอ้างซะที” อั้มมันสถบจนผมเองยังตกใจ “ มึงก็รู้ว่าปายรอกินข้าวพร้อมมึง ยังจะเสือกมาช้าแทบทุกวัน มึงต้องรอให้ปายมันหิ้วท้องรอมึงไปอีกนานแค่ไหนว่ะ แล้วไอ้ขนมห่าเหวนี่อีกซื้อมาทำไม ถ้ามันทำให้มึงเสียเวลาเลทนัด”

        “ พอเถอะอั้ม”

        ผมตัดบทตรงไปตบบ่าอั้มให้มันเพลาๆลงหน่อยเพราะเพื่อนอีกคนสีหน้าโครตแย่เลย

        “ มึงเลิกเข้าข้างมันซะที”

        “......”


        อั้มมองหยกอย่างหัวเสีย “ มึงเป็นโรคกระเพาะต้องกินข้าวให้ตรงเวลา แต่ใครบางคนทำให้มึงแดกข้าวเช้าช้าตลอด”


        ผมถอนหายใจเพราะรู้ดีว่าอั้มมันห่วงผมแค่ไหน ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผมมันหัวเสียและใจร้อนได้เสมอโดยเฉพาะทุกเรื่องซึ่งมีหยกเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมสังเกตได้ถึงความผิดปกติที่อั้มมันแสดงต่อหยก ผมเป็นเพื่อนสนิทกับอั้มมาตั้งแต่จำความได้จนถึงช่วงม.ปลายที่หยกเริ่มเข้ามา ผมรู้สึกได้ว่าอั้มมันไม่เคยชอบหยกอาจจะเพราะผมมักให้ความสนใจหยกมากก็จะไม่ให้สนใจยังไงไหวในเมื่อหยกมันกลัวอั้มจะกินหัวอยู่ตลอดเวลา


        “ กูขอโทษ”

        หยกเสียงสั่นหน้าเสียจนผมนึกเห็นใจ “กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ กูรู้มึงห่วงปาย คราวหลังก็จะจำให้ขึ้นใจว่ากูไม่ควรให้ปายรอกินข้าวอีก”



        “ หยก”

        ผมทำหน้าไม่ถูกเมื่อหยกทำเสียงสั่นๆ

        “ รู้ก็ดี”

        “ มึงพูดแรงเกินไปอั้ม”

        ผมถอนใจแรงๆก่อนจะสาวเท้าตามหยกที่เดินตาแดงๆออกไป แต่อั้มมันดันคว้าข้อมือผมไว้

        “ ทำไมต้องเข้าข้างหยกมันขนาดนั้นวะปาย”

        ผมถอนหายใจ

        “ มึงแกล้งโง่หรือไม่รู้จริงๆว่าการกระทำของหยกที่ทำให้กูและมึงต่างกัน”

        มันยืนนิ่งก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

         “ แล้วไง”

         “ จะทำร้ายมันไปถึงไหน”

         “ กูไม่มีวันรู้สึกกับมันเปลี่ยนไป” อั้มพูดเสียงเรียบ

         “ อั้ม”

         “ ปาย”


        เราสองคนสบตากันนิ่ง สุดท้ายมันถอนหายใจก่อนจะยอมปล่อยข้อมือผม ผมเลยเดินตามหยกที่มาแอบอยู่คนเดียวตรงส่วนหย่อมแถวๆหน้าโรงพยาบาล เมื่อผมไปถึงหยกมันกำลังจิ้มวุ้นมะพร้าวเข้าปากด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก


        “ หยก”

         “ กินด้วยกันมั้ย”

         ผมส่ายหน้าหยกมันเลยทำหน้ายิ้มๆ ก่อนจะทำท่าทำทางเหมือนว่าของกินตรงหน้าอร่อยนักหนาทั้งๆที่ใบหน้าย่ำแย่เหมือนว่าจะร้องไห้เต็มแก่

         “ พอเถอะหยก” มันจิ้มเอาจิ้มจนของกินเต็มปากไปหมดแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลช้าๆด้วยสีหน้าเหยเก

         “ ถ้ากินไม่หมดเสียดายของ วันนี้ต้องกินให้เต็มที่เลย ” มันฝืนยิ้ม “เพราะคราวหลังคงจะไม่ซื้อมาอีกแล้ว”

          ผมจุกในอกก่อนจะสวมกอดมันซึ่งสะอื้นอยู่กับอกผม

          นี่แหละน้าความรัก ‘รักคนไม่มีใจก็เจ็บ แอบรักคนอื่นก็เจ็บ รักตอบไม่ได้ก็เจ็บเช่นกัน’

          ก็เพราะความรักนี่แหละที่ทำให้ผมสูญเสียผู้หญิงที่รักที่สุดไป เพราะรักนี่แหละที่ทำให้มันฝังใจถึงทุกวันนี้

          เพราะไม่ลืมจนคิดว่าอาจจะรักใครอีกไม่ได้แล้ว














เอาไปครึ่งนึงก่อนเนอะ เอ้เหมือนว่าหมอจะมีปมนะเนี่ย หุหุ #ทีมอั้มหยกก็มา มาแบบหน่วงๆไปอีก เฮ้ย
ครึ่งหลังไปหาอิยิมและมือถือเจ้าปัญหา บอกเลยว่าหมอปายงานเข้าแน่นอน 555555 #หนึ่งเม้นท์หนึ่งกำลังใจนะจ้า


หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-03-2016 23:18:25
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nnewy ที่ 01-04-2016 13:52:07
อั้มปากร้ายมากกก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-04-2016 17:14:56
สงสารหยก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 01-04-2016 17:27:13
เอ จะเอาคืนยังไงน้า...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-04-2016 23:21:53
 :ling1: รอปายโดนเอาคืน 
ปายก็มีปม ทั้งครอบครัว ทั้งคนในอดีต
 :angry2:อั้มปากร้าย ใจร้าย อยากให้หยกตัดใจ
หรือมีคนมาชอบหยก ให้อั้มรู้ถึงการสูญเสีย เสียดายหยก
ตามต่อ  :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-04-2016 15:00:31
รอตอนต่อไปนะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-04-2016 15:58:33
อั้มใจร้าย!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 03-04-2016 16:32:27
อั้มนิสัยไม่ดี  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 04-04-2016 21:51:56




[ยิม]  ครึ่งหลัง




     ...Rrrrr...


      “ อะไรวะ”

      ...Rrrrr...

      “ เชี่ยเอ้ย”

      ...Rrrrr...


      “ เหี้ย”

       ...โครม...



        ผมผุดลุกขึ้นอย่างหัวเสียหลังจากใช้มาตรการสะกิดสมาร์ทโฟนสีดำที่หวีดเสียงร้องจนหนวกหูมาเกือบนาทีให้ไปนอนนิ่งอยู่ปลายเตียง  จากนั้นจึงผุดลุกขึ้นแล้วเดินสะโหลสะเหลไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้ากระจกในห้องน้ำ ภาพตรงหน้าที่ปรากฏคือใบหน้าคมคายดูหมองคล้ำดวงตาลึกโหลราวกับคนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน ผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเป็นสภาพที่ดูไม่จืดสักเท่าไหร่ ผมถอนหายใจกับสภาพของตัวเองก่อนจะเปิดน้ำเพื่อวักใส่หน้า

       ...Rrrrr...


       แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังก่อกวนตลอดเช้านี้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง โทรศัพท์เจ้าปัญหานั่นไม่ใช่ของผมหรอกแต่เป็นของเพื่อนบ้านห้องข้างๆที่เพิ่งก่อสงครามกับผมมาสดๆร้อนๆเมื่อคืน หลังจากลงไปส่งสามสาวที่ถูกไอ้หมอนั่นส่งมาเล่นงานผมเสร็จ ผมเลยไม่มีกระจิตกระใจจะล้มตัวลงนอนต่อแล้วเลยนั่งแท็กซี่ไปคณะเพื่อช่วยรุ่นพี่ตัดต่อหนังสั้นซึ่งได้รับการขอร้องจากพวกพี่ๆให้ไปช่วยหน่อยเพราะเป็นงานคณะ

       คงเห็นว่าผมมีประวัติว่าสมัยเรียนไฮสคูลเคยทำหนังสั้นเข้าประกวดจนชนะในระดับประเทศ กว่าจะไปถึงสตูฯของพวกพี่แกก็ปาไปเที่ยงคืนดังนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมาผมแทบไม่ได้นอนกว่างานจะเสร็จก็หกโมงเช้าโน่น หลังจากนั้นก็หอบสังขารพังๆกลับคอนโดพอหัวถึงหมอนไม่ถึงชั่วโมงเสียงโทรศัพท์บ้าๆนั่นก็ดังรบกวนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุดหวีดร้องน่ารำคาญ

       ผมยืนจ้องเครื่องมือสื่อสารสีดำสนิทนิ่งๆราวกับจะจ้องให้ทะลุไปถึงเจ้าของมันซึ่งทำกับผมไว้เจ็บแสบมาก หึ ก่อนหน้านี้กะว่าถ้าตัวเองอารมณ์เย็นกว่านี้จะเอาไปคืนมันซะหน่อย แต่เสียงเรียกเข้านี่แม่งโครตปั่นประสาทจากที่ไม่อยากจะเสือกเรื่องของมันสักเท่าไหร่ตอนนี้ผมชักอยากจะทำอะไรพิสดารซะแล้วสิ

        ก่อนหน้านี้ผมลองรับสายไปครั้งนึงเพราะเข้าใจว่าเจ้าของมันคงโทรเข้าเครื่องตัวเองเพื่อขอคืนที่ไหนได้คนที่โทรมากลับเป็นผู้หญิงและถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงที่ว่านั่นคงจะเป็นคนเดียวกับที่มาหามันที่ห้องบ่อยๆ พอเจ้าหล่อนรู้ว่าใครไม่รู้รับโทรศัพท์ผู้ชายของตัว สาวเจ้าก็กระหน่ำโทรเรียกว่าสายตัดปุ๊บโทรใหม่ปั๊บจนต้องปิดเครื่องไป แต่อะไรไม่รู้ทำให้เครื่องที่ปิดสนิทเปิดขึ้นมาอีกครั้งนั่นอาจจะเป็นเพราะผมเผลอไปโดนปุ่มเปิดเข้าตอนนอน



       “ ฮัลโหล”

       “ ปายคะ”

       “ ผมไม่ใช่...” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอธิบายต่อเสียงแหลมก็หวีดร้องมาตามสาย

       “ แกอีกแล้วเหรอ”

       ผมกรอกตาใส่มือถือราวกับว่ามองเห็นสีหน้าฝ่ายนั้น

       “ ครับ”

       “ ปายไปไหน ทำไมไม่รับสายฉัน”

       “.....” ผมถอนหายใจ

        “ โทรไปเมื่อคืนก็ปิดเครื่อง เช้ามาก็มีใครที่ไหนไม่รู้มารับสาย”

        “ คุณ”

        “ แกเป็นใคร แล้วทำไมมือถือปายอยู่กับแก”

        “ นี่คุณฟัง..”

        “ ไปตามปายคุยกันฉัน ไปตามมาเดี๋ยวนี้”

        “ คุณ”

        “ ไปตามมาฉันจะคุยกับปาย”

        ผมเอียงหูหนีตอนที่เสียงแหลมตะโกนอย่างฉุนเฉียว เพราะไม่ได้นอนทั้งคืนซ้ำตื่นมายังมาเจอกับเรื่องปวดหัวแบบนี้อีก ผมคลึงขมับตัวเองพยายามให้ผ่อนคลายแต่ยิ่งทำยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกขุ่นมัว

        “ ไว้ค่อยโทรมาใหม่นะคุณ”

        “ แก”

        ว่าแล้วสาวเจ้าก็กรี๊ดใส่มือถือจนขี้หูผมเต้นระรัว ผมมองวัตถุสีดำในมืออย่างมีอารมณ์

        ...อะไรกันนักหันหนาวะ...

        “ ผู้ชายของคุณยังไม่ตื่น มันเหนื่อยมากเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน ส่วนผมเนี่ยโครตสบายตัวเลยเพราะเอาน้ำออกทั้งคืนเหมือนกัน”


        พูดจบผมก็ตัดสายทิ้งทันที

        หึ สะใจเป็นบ้า....ในใจก็นึกขอโทษเพศแม่ที่ผมดันไปกวนตีนใส่ แต่จะให้ทนยังไงไหวเล่นมากรี๊ดใส่หูแบบนี้จากที่ไม่ตื่นดีเลยตื่นเต็มตาเลยให้ตายเถอะ

       ดีนะว่าตัดสายทันไม่งั้นแก้วหูคงดับสนิทแน่ ผมส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์  ไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นมันเมายาสลบรึไงถึงได้ทนคบกับผุ้หญิงประเภทนี้ได้ คิดแล้วก็เหนื่อยแทนมัน ผมมองมือถือเจ้าปัญหาที่เงียบเสียงไปหลายนาทีสงสัยว่าปลายสายคงช็อคไม่น้อยที่ได้ยินแบบนั้น

        ทีใครทีมันละกันนะมึงไอ้หมอปาย

        ผมแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะนั่งพิจารณามือถือเจ้าปัญหาที่สงสัยว่าคงจะต้องเอาไปคืนไอ้หมอนั่นซะแล้วก่อนที่เขาจะประสาทเสียไปมากกว่านี้

        ...Rrrrr...


        สงสัยจะไม่เข็ด

        ผมกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่มีท่าทีว่าจะเงียบไปแล้วดังขึ้นอีกครั้ง สายตาผมมองของในมือนิ่ง ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอทิ้งทวนให้มันซะหน่อยแล้วกันนะ...หมอปาย...

       “ อะไรอีกครับคุณ”

       “.....”

       ปลายสายเงียบสนิทจนแอบนึกขำ

       “ เลิกโทรมาก่อกวนพวกผมสักที” ผมทำเสียงเหนื่อยๆ “ปายมันเป็นเกย์”

       “......”

       เสียงลมหายใจจากปลายเสียงดังฟืดฟาดราวคนขึงโกรธ

       “มันไม่ชอบผู้หญิงหรอกเลิกตามตื้อมันซะที”

      “ แค่นี้นะปายแม่งสะกิดผมอีกแล้ว ไม่ไหวว่ะอึดชิบหาย”


        พูดจบแล้วก็ตัดสายเช่นเดิม แต่ตอนวางดันเห็นปลายสายไม่ใช่เบอร์เดียวกับเจ้าของหมายเลขที่กระหน่ำโทรมาตั้งแต่เช้า ผมเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจแต่ก็ช่างเถอะผู้หญิงคนนั้นอาจจะใช้มือถืออีกเครื่องโทรเข้ามาก็ได้ ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนจะกดปิดเครื่องทันที

        หลังจากนั้นผมก็ลืมเรื่องโทรศัพท์เจ้าปัญหานี้ไปเสียสนิท


       .

       .

       .


       “ แดกข้าวกัน”

        ไอ้โอ๊คสะกิดบ่าผมแรงๆตอนที่หมดคาบเรียนช่วงเช้า ผมทำหน้าง่วงๆโงหัวจากโต๊ะเรียนที่ฟุบหลับตั้งแต่ก้าวเข้ามาดีว่าวันนี้ไม่มีควิชไม่งั้นคงได้เรื่อง  ผมสะบัดหัวไปมาไล่ความง่วงซึ่งไม่ใคร่จะได้ผลเท่าไหร่นัก

        “ เป็นอะไรวะ ท่าทางเหมือนคนอดหลับอดนอน”

        “ อืม”

        “ ไปทำไรมาอ่ะ”

        “ ไปช่วยพี่หนึ่งที่สตูเมื่อคืน”

        “ อ๋อ”


         มันทำพยักหน้ารับแบบยิ้มๆ จริงๆแล้วเมื่อคืนมันก็ถูกเรียกตัวมาช่วยเหมือนกันเสียแต่ไอ้ห่านี่ดอดหนีไปกกหญิงทั้งคืนตามตัวก็ไม่ได้โผล่มาอีกทีก็หน้าบานมาเชียว เห็นแล้วโครตหมั่นไส้ไอ้โอ๊คมัน ไอ้นี่ทำตัวสมกับเป็นคนโสดที่ใช้ชีวิตเสรีอย่างไม่มีกั๊กตั้งแต่เรียนอยู่ไฮสคูลแล้วยิ่งบวกดีกรีเป็นลูกเจ้าสัวคนดังสาวๆยิ่งติดกันเป็นพรวน

          แต่มันก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษซ้ำยังทำตัวเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ถึงมันจะเที่ยวหนักเล่นหนักแต่มันก็ไม่เคยให้กระทบเรื่องการเรียนเพราะเห็นมันเรื่อยๆเปื่อยๆไม่สนใจอะไรแต่เรื่องผลการเรียนนี่ไม่ได้ด้อยกว่าผมนะ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็แน่กว่ามันอยู่ อันหลังนี้เป็นการอวยตัวเองครับ

        “ เย็นนี้ซ้อมบอลเสร็จมึงโผล่หัวไปให้พี่หนึ่งเห็นหน้าด้วย”


        ‘พี่หนึ่ง’ ที่ว่าเป็นนายกสโมฯของคณะเป็นผู้ชายที่สาวๆนิยมชมชอบพอควรติดแต่พี่แกปากหมาไปหน่อยหญิงเลยไม่ค่อยกล้าจะเสี่ยงสักเท่าไหร่

        “ เออ” โอ๊ครับคำ

        “ ไปลุก แดกข้าว”

        “ เชี่ยง่วงชิบหาย”


        .

        .

        .
 


       “ ยิม”

       “ อ้าวเนม”

       เสียงเรียกผมไม่เบานักดังขึ้นที่หน้าคณะพอดีกับที่ร่างขาวแบบนีออนของเนมมันยืนโบกมือหยอยๆอยู่ไม่ไกล

       “ มาทำไรแถวนี้อ่ะ”

       “ เรียนเจนเอด”


        ‘วิชาเจนเอด’ หรือ General Education เป็นวิชาเลือกเสรีที่บังคับให้นิสิตต้องเรียนให้ครบภายในสี่ปีมีทั้งหมดสี่หมวดวิชา ได้ยินว่าพวกเด็กแพทย์ฯต้องเก็บให้ครบตั้งแต่ปีหนึ่งเพราะพอขึ้นปีสองก็ไม่มีโอกาสได้มาเรียนนอกคณะแล้วเพราะตารางเรียนแน่นเอี๊ยดจนไม่มีเวลาว่าง

        “ คนเดียวเนี่ยนะ”

        “ มากับเพื่อนที่คณะ”

        “ อ้าว” ผมทำหน้างงมองไปรอบๆเห็นมันยืนอยู่คนเดียว “ แล้วไปไหนกันหมดวะ”

        “ พวกนั้นไปกินข้าวที่สยาม” เนมมันตอบ “แต่กูอยากมาเปลี่ยนบรรยากาศลองกินข้าวที่นิเทศฯดู”
เนมมันทำหน้ายิ้มๆมองไปรอบๆอย่างนึกสนุก

        “ ผู้หญิงคณะมึงนี่น่ารักจัง”

        ผมส่ายหัวท่าทางมันมองผู้หญิงเห็นแล้วขัดตาแปลกๆ มันจะรู้ตัวมั้ยว่าโครตไม่เข้ากับบุคลิกฝ่ายรุกเลย “ สรุปจะมากินข้าวหรือมาส่องหญิง”

        “ ทั้งสอง” มันยิ้มเผล่

        “ พุดจาไม่ดูสภาพตัวเองเลยไอ้นี่” ประโยคนี้ผมไม่ได้พูดครับแต่เป็นไอ้โอ๊คที่ยืนนิ่งเป็นตัวประกอบอยู่นาน เนมมันเบ้ปากก่อนจะค้อนให้อีกทีนึง เออเอาสิผมยิ้มขำคนที่บอกจะมาส่องสาว

        “ เออๆไปแดกข้าว”

        “ นำไปดิ”

        เนมมันบุ้ยปากก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่โอ๊คตอนที่เพื่อนผมมันเดินกระแทกไหล่เนมนำไปแบบขำๆ

        “ โอ้ย” เนมมันเบ้หน้าทำท่ากระฟึดกระฟัด

        “ คนนะไม่ใช่เสาจะได้กระแทกได้”

        “ อ้าวคนเหรอ” ไอ้โอ๊คมันทำหน้ายิ้มๆมองไอ้นีออนเดินได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “ นึกว่าหลักกิโล”

         พูดแล้วมันก็หัวเราะอย่างดังจนผมขำตามแต่เนมแม่งทำตาเขียวปั๊ดตรงเข้าไปเตะตัดขาอีกฝ่ายแรงๆทีนึงก่อนจะวิ่งมาหลบหลังผม

         “ หายกัน”

         นั่นๆสู้เค้าไม่ได้แล้วยังจะมาทำท่าเป็นลิงหลบซ้ายหลบขวาอยู่หลังผมอีก

         “ ตัวเล็กๆทำไมเตะแรงจังวะ” โอ๊คมันบ่นมือก็ลูบขาที่โดดเตะสีหน้าขำๆ “ ฤทธ์เยอะนะเตี้ย”

         “ ไม่ได้เตี้ย” เนมมันเถียงสีหน้าสีตาดูไม่สบอารมณ์

         “ โอ้โห้สั้นลงกว่านี้สักนิดกูนึกว่าคนแคระแล้ว”

         “ ไอ้โอ๊ค”

         เนมมันแหวะใส่สีหน้าบิดเบี้ยวก่อนจะสะบัดหน้าหนีพรึด

         “ โกรธเหรอ”

         “.......”

         “ เตี้ยแล้วยังจะขี้ใจน้อยเหรอวะ” ไม่พูดป่าวมันดึงแก้มเนมให้ยืดจนฝ่ายนั้นร้องโวยวายฟาดใส่มือผู้ร้ายเสียงดังตุบตับ

         “ มือมึงสกปรกอย่ามาจับแก้มกู”

         “ จะจับ”

         “ ไม่ให้จับ”

         “ จับแล้วนี่ไง” โอ๊คมันจิ้มแก้มอีกข้างของเนมสีหน้าดูสนุก

         “ นี่”


         เนมแยกเขี้ยวเตรียมจะงับมืออีกฝ่ายดีว่ามันหลบทัน ทั้งคู่เลยฟาดงวงฟาดงาใส่กันอย่างไม่จริงจังนักอยู่สักพัก เมื่อนั้นมันคงรู้ตัวว่าผมยืนหัวเราะพวกมันเงียบๆอยู่มันจึงเลิกรากันไป แต่นอกจากสายตาผมแล้วยังมีผู้ร่วมเหตุการณ์อีกกว่าสิบชีวิตที่ยืนมองอย่างสนใจบางคนถือกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือซะด้วย ที่สำคัญหนึ่งในนั้นมีพี่ส้มโอที่ตามติดชีวิตพวกผมยืนอยู่ด้วย

         ผมกรอกตาขำๆ งานนี้ไอ้โอ๊คไม่น่ารอด เหมือนมันจะรู้ตัวเหมือนกันถึงได้ทำหน้าเซ็งๆก่อนจะยักไหล่เหมือนไม่แคร์เท่าไหร่นัก ส่วนเนมมันยังคงเอ๋อเหมือนเดิม มองคนโน้นที คนนี้ทีอย่างงงๆ ผมเลยรุนหลังมันให้ออกเดินไปยังโรงอาหาร จังหวะนั้นไอ้โอ๊คมันนึกห่าอะไรไม่รู้ตรงมาโอบบ่าเนมแล้วออกแรงให้เดินไปพร้อมกัน

        “ ไม่ต้องมาจับ กูเดินเองได้” เนมมันบ่นงุ้งงิ้งอะไรไม่รู้

        “ กลัวมึงหลงไง”

        “ ไม่ใช่เด็กสามขวบนะ”

        “ แต่ขนาดตัวมึงใกล้เคียงเนม”

        “ ไอ้เชี่ยโอ๊ค”

        ผมซึ่งเดินปิดท้ายได้แต่ส่ายหัวขำๆในสิ่งที่พวกมันทะเลาะกัน ถึงอย่างนั้นก็ได้ยินคำพูดบางประโยคลอยเข้ามากระทบหูอย่างจัง

        “ โอ๊คเนมโครตฟิน”

        “ ซัมติงรองกันชัวร์”


        นั่นไง


         ประโยคนี้คุ้นๆว่าเคยได้ยินจากน้องสาวเวลาที่เจ้าหล่อยอ่านนิยายวายแล้วเขินจนบิดไปมา หึ สาวๆพวกนี้ทำให้ผมนึกถึงยัยเด็กแสบขึ้นมาทันทีเลยให้ตายเถอะ



       .

       .

       .


        “ เจอกันพรุ่งนี้พวกมึง”

        รุ่นพี่ที่คุมทีมฟุตบอลเฟรชชี่ตระโกนบอกพวกเราเสร็จสับแล้วต่างก็แยกย้ายกันออกไป ผมกับไอ้โอ๊คซึ่งเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวต่างก็วักน้ำใส่หน้าก่อนจะเดินเสื้อเบียกๆตัวโทรมๆกันออกไปแบบนั้นจนเพื่อนในทีมต่างร้องถาม

        “ ไม่อาบน้ำที่โรงยิมก่อนเหรอวะ”

        ผมส่ายหน้าก่อนจะก้มดมที่จั๊กแร้ซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วได้แต่เบ้หน้า กลิ่นดีใช้ได้แต่ผมก็ขี้เกียจเกินกว่าจะห่วงหล่อ ท่าทางของผมเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนที่ส่ายหน้ารับไม่ได้

        “ ถ้าเหม็นขนาดนั้นก็ไปอาบเถอะไอ้ห่า เมื่อกี้มึงเบ้หน้าได้โครตทุเรศ”

        “ อาบน้ำแต่งตัวหล่อๆไปเรียกคะแนนนิยมให้ทีมบอลนิเทศฯหน่อยดิ”

        “ เรื่องไร หาเรื่องให้กูอีกแล้ว”

        “ ไอ้ห่าสาวๆเค้ารอมึงเต็มอยู่ข้างนอกขืนเอากลิ่นตัวแรงๆไปให้เค้าดมเดี๋ยวก็หนีหายหมดหรอก”

         ผมยักไหล่ไม่สนใจ “ กูมีแฟนแล้ว”

        เสียงโห่แซวผมรอบทิศน้ำเสียงแต่ละดูไม่เชื่อในคำพูดผมเท่าไหร่ “ โอ้โหรักเดียวใจเดียวซะด้วย”

        “ ให้มันจริง”

        “ ยิมคนจริงโว้ย”

        “ รักเดียวใจเดียว รักจริงหวังฟัน” เสียงลูกคู่ดังขึ้นทันที

        “ ประโยคหลังไม่ใช่กูละ” ผมยิ้มขำๆ

        “ กูไปนะ”


        โบกมือลาพวกมันก่อนจะเดินไปสมทบกับไอ้โอ๊คซึ่งมีสาวมาส่งเสบียงให้ถึงที่ตรงหน้าสนามบอล มันหันมายักคิ้วให้ผมทีนึง ก่อนจะหันไปสนหญิงตัวเองต่อ  ผมเลยเดินออกมาเงียบๆเลี่ยงไปทางหลังคณะเพื่อพบปะผู้คนให้น้อยที่สุด อย่างที่เพื่อนผมพูดนั่นแหละทุกๆเย็นหลังซ้อมบอลเสร็จก็มีพวกหญิงจำนวนนึง เอ่อ รวมเพศทางเลือกอีกพอสมควรซึ่งคนเหล่านั้นเรียกตัวเองแฟนคลับตามมาให้กำลัง บางทีก็มีน้ำมีขนมมาฝากจนผมเกรงใจแต่ผมก็ไม่สามารถตอบแทนอะไรคนเหล่านั้นได้นอกจากคำขอบคุณ ซึ่งรวมไปถึงยอมให้พวกเขาถ่ายรูปคู่ด้วย

         คิดแล้วก็ได้แต่นึงปลงเพราะไม่อยากสร้างความลำบากให้คนเหล่านั้นผมเลยพยายามมาซ้อมในเวลานัดพบดิบพอดีพอซ้อมเสร็จก็เนียนกลับไปเงียบๆ โดยหวังว่าสักวันนึงคนเหล่านั้นคงจะเลือกใส่ใจผมไปเอง ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดพราะเมื่อวานก่อนยัยแสบยังแคปหน้าจอภาพที่ผมลงในเพจอะไรนั่นมาให้ผมดู น้องสาวผมกรี๊ดกร๊าดใหญ่ต่างจากเจ้าของอย่างผมที่ได้แต่นึกปลงๆ

        ผมไม่ชอบเป็นที่สนใจ ไม่ชอบการเป็นจุดเด่น

        ดังนั้นผมจึงค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงจนเพื่อนสนิททุกคนเข้าใจ ถึงแม้ผมจะชอบมีมุมสงบๆอยู่บ้างแต่เรื่องกินเที่ยวตามประสาวัยรุ่นก็เป็นปกติเพราะผมเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะมาตั้งแต่เด็กๆ

        “ รถใครวะ”

         ผมทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นรถแปลกตาจอดสนิทอยู่ลานจอดรถใต้คอนโด จะไม่ให้แปลกยังไงไหวในเมื่อไอ้รถที่ว่ามันเป็นรถยุโรปหรูติดอันดับหนึ่งในสิบที่แพงหูฉี่ ตัวรถออกแบบคล้ายๆกับรถสปอร์ตสีเงินล้อแม็กซ์สีดำสนิทดูเรียบหรูและคงแพงเอาการ ว่าแต่มันมาจอดอยู่ตรงได้ยังไงในเมื่อคลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมไม่เคยพบเห็นไอ้รถที่ว่านี่เลย ก็พอจะรู้ว่าคอนโดที่นี่คงจะมีเจ้าของที่พอมีระดับแต่ไม่นึกว่าจะมีระดับขนาดที่ว่าขับรถราคาหลายสิบล้าน ทำเอาลูกทูตแบบผมดูกระจอกไปเลย

         แต่ผมไม่ได้นึกอิจฉาอะไรหรอกเพราะก่อนหน้านี้บิดาเคยออกปากว่าถ้ามีธุระจะใช้รถให้ไปเอารถของสถานทูตมาใช้ก่อนได้แต่ผมก็เกรงใจซ้ำยังไม่มีความคิดจะไปไหน ความคิดที่จะใช้บริการรถสถานทูตจึงพับเก็บไปและอีกอย่างกะว่าถ้าอยู่ตัวสักเดือนสองเดือนจะใช้เงินเก็บซื้อรถใช้เอง

        “ อะไรวะ”

        “......”

        ผมเดินหลบบีเอ็มรุ่นอันลิมิตเต็ดคันสีดำที่จอดอยู่หน้าคอนโดก่อนที่ผู้โดยสารในชุดสูทเต็มตัวจะก้าวออกมาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก เจ้าของชุดสูทหรูนั่นคือชายวันกลางคนรูปร่างสูงใหญ่กำลังก้าวฉับๆเข้าไปโดยมีผู้ติดตามอีกคนเดินประกบไม่ห่าง บุคลิกท่าทางราวกับคนมียศศักดิ์เพราะพอไปถึงที่ล็อบบี้พนักงานเหล่านั้นต่างก้มศีรษะให้อย่างนอบน้อม

        ผมเฝ้ามองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความสงสัยก่อนจะเผลอก้าวตามบุคคลเหล่านั้นไป

        บริเวณคอนโดชั้นหนึ่งมีห้องรับรองกว้างขวางสำหรับพักผ่อนหย่อนใจแต่ ณ ตอนนี้ผู้ชายวัยกลางคนนั่นกำลังนั่งกอดอกพิงพนังตัวตรงด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ผู้ติดตามในชุดซาฟารีเนื้อดียืนก้มศีรษะเงียบๆราวกับรอรับคำสั่ง และไม่นานหลังจากนั้นผมเห็นร่างคุ้นตาใส่ชุดนิสิตแขนยาวแต่พับชายเสื้อสูงขึ้นจนถึงศอกก้าวย่างเข้ามาอย่างช้าๆ

        นาทีที่ร่างคุ้นตามาถึงชายวัยกลางคนนั้นก็ผุดลุกขึ้นทันที

        “ มีธุระอะไรกับผม”

        ณ จุดที่ผมยืนอยู่สามารถได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนดีว่าต้นไม้ใหญ่ในกระถางที่ตั้งโชว์ความสวยงามมันสามารถบดบังร่างกายของผมไม่ให้ผู้ใดสังเกต

        “ นี่เป็นคำทักทายที่ลูกอย่างแกพูดกับคนเป็นพ่อเหรอ”

        ‘พ่อ’ งั้นเหรอ


        ผมพิจารณาใบหน้าของชายวัยกลางที่แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานานแล้วยังมีร่องรอยถึงความหล่อเหลาในวัยเยาว์ไม่ต่างจากคนเป็นลูก ผมมองใบหน้านั้นสลับกับใบหน้าของเพื่อนข้างห้องแล้วก็ความคล้ายคลึงกันบางอย่างที่บอกได้ว่าไอ้หมอปายกับผู้ชายคนนั้นมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันแน่นอน

        พ่อกับลูกชายงั้นเหรอ...ถ้าอย่างนั้นที่ว่าพ่อลูกไม่ลงรอยกันก็เป็นจริงสินะ

        ผมทวนคำพูดในหัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่ไอ้โอ๊คเคยเล่าให้ฟังครั้งก่อนว่าพ่อลูกคู่นี้มีปัญหาไม่ลงรอยอะไรกันบ้างอย่าง

        “ มีอะไรกับผมครับคุณศิววงศ์”

        “ ไอ้ปาย”

        ชายวัยกลางคนตวาดมันเสียงดังลั่นแต่ไอ้หมอนั่นก็สติยังดีมันถึงไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย

        “ ถ้าไม่ธุระอะไรฉันจะมาหาแกวันนี้เหรอ”

        “ แล้วมันเรื่องอะไรล่ะครับ” น้ำเสียงหมอปายมีความเบื่อหน่าย

        “ แกมันวิปริต” พ่อไอ้หมอนั่นชี้นิ่วใส่หน้าลูกชาย “ สัปดนจะรักชอบผู้ชาย”

        “.......”


       หา

       ผมอ้าปากค้างไม่ต่างจากเจ้าตัวที่ทำหน้ามึนงง

       “ คุณพูดอะไร”

        “ วันนี้ฉันโทรหาแกแล้วไอ้คู่ขานั่นมันก็พูดจาระยำใส่หูฉัน ว่าแกกับมัน...” ท้ายประโยคมีแต่เสียงอึกอักอยู่ในลำคอ สีหน้าคนพูดบ่งบอกว่าชิงชังเกินกว่าจะพูดออกมา

       โทรมางั้นเหรอ...โทรศัพท์มันอยู่ที่ผม

        แล้วถ้าโทรมาตอนที่ผมรับก็แสดงว่า “ปายมันเป็นเกย์”

        ชิบหายแล้วถ้าสายสุดท้ายนั่นที่โทรมาคือพ่อของมันแล้วคำพูดเหล่านั้นที่ผมพูดไปตามสาย ผมยืนอึ้งกลืนน้ำลายเพราะรู้สึกแห้งผากในลำคอ

        “ ผมทำไม”

        “ แกมันวิปริตไง”

        “ อยู่ดีไม่ว่าดีอยากเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ แกจะทำให้ฉันอับอายขายหน้าไปถึงเมื่อไหร่ จะทำเรื่องขัดใจฉันไปหมดให้ได้ใช่มั้ย”

        “......”

        “ สรุปคือคุณไม่พอใจที่ผมเป็นเกย์”

        “ หยุด” พ่อมันตวาด “ หยุดพูดคำโสโครกพวกนั้น ฉันไม่อยากได้ยิน”

        “ แกขัดคำสั่งฉันอยากเรียนหมอบ้าบอนี่แทนเรียนบริหารฉันก็พอทำใจได้ แต่ถ้าแกเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ฉับรับไม่ได้ ต้นตระกูลฉันไม่มีใครวิปริตผิดเพศอย่างแก”

        “ อายเหรอครับ” มันยิ้มขื่นให้พ่อมัน  “ อายเหรอที่มีลูกอย่างผม”

        “ อย่ามายอกย้อนฉัน”

        “ คุณไม่เคยพอใจทุกสิ่งที่ผมทำอยู่แล้วนี่” มันพูดไปยิ้มไปแต่เป็นยิ้มที่คนเห็นแล้วรู้สึกเจ็บแทน “ และถ้าจะอายที่ผมเป็นเกย์เพิ่มอีกสักเรื่องคนไม่เป็นไรหรอกมั้ง”


        ...เพี๊ยะ...


         ผมยืนอึ้งตัวชาตอนที่มันโดนฝ่ามือใหญ่ของพ่อมันตบเข้าให้ ใบหน้าคมคายหน้าหันจนแทบจะเซล้มลงไปผู้ติดตามของพ่อมันผวาเข้ามาคว้าตัวมันไว้ ผมเห็นเลือดค่อยๆไหลซึมออกจากมุมปากมันอย่างช้าๆ สีหน้าแววตามันเรียบเฉยและดูนิ่งจนเกินไป ในเสี้ยววินาทีนั้นผมเห็นความเสียใจในแววตาคู่นั้น

         “ น้ำหนักมือคุณยังแรงเหมือนเดิมเลยนะครับ”

         “ แก” พ่อมันถลาใส่มันอีกครั้งดีว่าผู้ติดตามห้ามไว้ก่อน

         “ อย่าครับคุณท่านอย่าทำโทษคุณชายแบบนี้อีกเลย”

         “ ปล่อยฉันไอ้หาญปล่อย ฉันจะเอาเลือดปากมันออกอีก มันจะได้จำให้ขึ้นใจสักทีว่าคนที่มันเถียงคำไม่ตบฟากตรงหน้านี่คือพ่อของมัน”

        “ อย่าครับแค่นี้คุณชายก็เจ็บแล้ว”

        “ เหรอ” น้ำเสียงพ่อมันยังเกรี้ยวกราดไม่เปลี่ยน “ แต่คุณชายของแกมันยังอุตส่าห์ปากดีกับฉัน”

        “ จำใส่สมองของแกไว้ด้วยไอ้ลูกนอกคอก ถ้าไม่มีเงินแม่แกที่คอยคุ้มกะลาหัวแกอยู่ อย่าหวังว่าคนอย่างแกที่ประกาศปาวๆว่าจะออกมาใช้ชีวิตข้างนอกคนเดียวและยอมละทิ้งทุกอย่างของวงษ์วรกาญจน์แล้วออกมาแต่ตัว จะมีที่ซุกหัวนอนแบบวันนี้”

        “.......”


         “ อย่าปากดีให้มาก แกมันก็แค่เด็กมีปัญหาที่เรียกร้องความสนใจแบบผิดๆ” ฝ่ายพ่อยังคงใส่อารมณ์ “ สักวันนึงที่เงินแม่แกหมดเมื่อไหร่วันนั้นฉันจะคอยดูแกซมซานกลับมาหาฉัน”

        “ มันจะไม่มีวันนั้น”
           มุมปากบวมช้ำยังมีเลือดไหลซึมขยับเบาๆแต่คำพูดนั้นกระทบใจบิดาซึ่งโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง

          “ ไอ้ปายไอ้ลูกนอกคอก”

          พ่อมันกระชากคอเสื้อมันแล้วเขย่าแรงๆ

          ...Rrrrr...

         เสียงโทรศัพท์มือถือของพ่อมันดังขึ้นเป็นการยุติบรรยากาศที่ตึงเครียด พ่อมันก้มมองมือถือก่อนจะปรับอารมณ์ให้เข้าที่แต่ถึงอย่างนั้นท่าทางก็ดูหัวเสียไม่น้อย

         “ เย่อหยิ่งเข้าไปเถอะ อวดดีเข้าไป”

         “.......”

         “ เด็กมีปัญหาแบบแกจะทำอะไรได้นอกจากเรียกร้องความสนใจแบบโง่ๆ” พ่อมันชี้นิ้วใส่ “ สักวันหนึ่งแกก็ต้องกลับมาตายรัง...รังที่แกเผยออยากจะออกมาโดยไม่คิด”

        “ แล้วอย่าให้ฉันรู้ว่าแกเป็นพวกผิดเพศ เพราะถ้าแกเป็นจริงๆ ฉันเอาแกตายแน่”


         ไอ้หมอปายยังยืนนิ่งไม่ขยับจนเมื่อพ่อมันเดินหัวเสียออกไป คนติดตามนั่นเดินมาลูบบ่ามันเบาๆอย่างให้กำลังใจก่อนจะตัดใจเดินตามเจ้านายตัวเองออกไป ในวินาทีนั้นผมเห็นไหล่กว้างที่ตั้งตรงดูทระนงกลับลู่ลงไร้เรี่ยวแรง แววตาคู่สวยที่เคยเด็ดเดี่ยวดูอ่อนล้า

         ผมเห็นหยาดน้ำใสๆรอบขอบตาสีแดงก่ำแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่ไหลออกมาให้เห็นแม้แต่หยดเดียว มือข้างหนึ่งกำแน่นคล้ายกับพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเอง มันดูอดทนอดกลั้นไม่ให้ความอ่อนแอหลุดออกจากสีหน้าที่ดูเรียบเฉยแต่ทำไมผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดทรมานของมัน

         ผมจุกในอกที่เห็นความเจ็บปวดที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย

         มันต้องถูกเข้าใจผิดเพราะผม

         มันต้องถูกทำร้ายก็เพราะผม

         ผมคิดว่าผมควรมีส่วนรับผิดชอบกับความเข้าใจผิดครั้งใหญ่หลวงนี้ด้วย ผมเดินตามแผ่นหลังที่ทระนงองอาจซึ่งให้ทั้งความรู้สึกยิ่งใหญ่และหนักหนา มันต้องแบกรับเรื่องเลวร้ายอะไรมากมายขนาดนั้นเชียวเหรอ ผมมองเห็นแผ่นหลังกว้างค่อยๆหุบเล็กลงเรื่อยๆกลายเป็นแค่แผ่นหลังบางๆของคนๆนึง

        ...เป็นแผ่นหลังที่ชวนให้รู้สึกอยากโอบกอดและปลอบประโลมที่สุด...










่อ่อยๆๆๆ #ทีมโอ๊คเนมก็มา งานดราม่าก็มี ไงล่ะอิยิมปากพาพี่หมอซวบเลยดูซิ พี่หมอของน้อง  :hao5:
ตอนหน้าสปอยว่ามีเสียจูบ อุ้ย เอาล่ะสิ ใครจะจูบใครจะเริ่มอะไรยัง #ทีมยิมปาย #ทีมปายยิม
#หนึ่งคอมเม้นท์คือหนึ่งกำลังใจนะจ๊ะ



 เปิดรีปริ้นท์รักข้างเดียววันนี้ - 2 พ.ค. 59  (https://web.facebook.com/karnsaii/photos/a.245517358969923.1073741826.245380738983585/495280307326959/?type=3&theater)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kung ที่ 04-04-2016 22:09:58
ขอเตะปากยิมสักทีได้ป่ะ สงสารหมอปายมากๆอะ ที่บ้านก็กดดันแถมมาเจออิยิมแกล้งเข้าไปอีก เราไม่อยู่ทั้ง #ทีมยิมปาย หรือ #ทีมปายยิม แล้ว เราโกรธอิยิมมาก พูดเลย  :z6: เราอยู่ทีมปายเฉยๆ555 #กอดปายแน่นๆ #ปายสู้ๆนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 04-04-2016 22:26:52
ได้เรื่องเลยไหมล่ะยิม
คุณพ่อก็นะคะ เจ้าอารมณ์ไปหน่อย
สงสารหมอปายจัง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 04-04-2016 23:04:06
รู้สึกอยาก :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: พ่อหมอปายมากกก  :m16: :m16: :m16: สงสารหมอปาย #กอดดดด
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-04-2016 23:22:18
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-04-2016 00:36:21
อิยิมเพราะปากแกนั่นแหละ ทำพี่หมอเจ็บตัวเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-04-2016 09:20:05
ไปขอโทษหมอปายเลยนะยิม
แล้วอย่าปล่อยหมาในปากไปกัดหมอซะล่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-04-2016 09:36:41
ดราม่าก็มา...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Poopookung ที่ 05-04-2016 17:44:35
เริ่มติดตามคุณพี่มาตั้งแต่เรื่อง เล่นนเพื่อน เนื่องจากชอบฉากบีบหัวใจดี  :hao6: พอได้มาเห็นชื่อเรื่องเรื่องนี้ ก็รู้สึกอยากจะไปหยิบกระปุกกาวมาดมกันเลยทีเดียว 555+ การเขียนของคุณพี่ก็ยังมีสเน่ห์อยู่เหมือนเดิม อ่านแล้วทำความเข้าใจได้ง่าย ไม่น่าเบื่อ เนื้อเรื่องกระชับดี  :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 06-04-2016 00:06:42
โอ้ยย นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นพ่อแท้ๆนี่ จะคิดว่าเป็นพ่อเลี้ยงนะ ทำไมคุณพ่อทำแบบนี้  :m16: สงสารปายยยย น้วงยิมมมม แกทำไรสักอย่างสิ้  :เฮ้อ: #ทีมโอ๊คเนม นั้ลล้ากง่าาา 5555 :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sb_ng ที่ 06-04-2016 00:40:32
ขอหลงกาว(น์)ด้วยคนค่ะะะะ เห็นเรื่องนี้ผ่านตาไปหลายรอบ ได้เข้ามาอ่านซักที
สนุก น่าติดตาม ชอบค่าาาา พี่หมอปายดูน่าค้นหา ขอให้ยิมเปิดใจหมอปายให้ได้เนอะ
สงสารหมอปาย มียิมมาป่วนเพิ่มอีก รีบปลอบพี่หมอเลย โอกาสมาแล้ว 55555
มีรุกรับคิดไว้ในใจ แต่ไม่รู้จะถูกไหม 55555555 เอ๊ะหรือเขาจะแมนๆผลัดกันครับ 555555
โอ๊คเนมก็น่ารักกกก และคู่ที่เชียร์มาก #อั้มหยก แม้ตอนนี้จะหมันไส้อั้มมากก็เถอะ
แต่ก็เชียร์ให้คู่กันนะ ระวังจะได้เจ็บปวดบ้างนะอั้มนะ สงสารหยกกกกกกก

รอติดตามต่อค่าาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 06-04-2016 13:37:48
ยิมเอ้ย แกล้งจนได้เรื่อง สงสารปายเลยอ่ะ ยิมรับผิดชอบด้วยไปปลอบเลย  :-[

ชอบคู่รองโอ๊คเนม ก็ดีงาม อั้มหยกก็น่าจะสนุก
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-04-2016 15:48:13
โอ๊คเนมน่ารักอ่ะ  :-[
เป็นไฃล่ะยิม แกล้งพี่ปายจนเป็นเรื่องเลย
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 10-04-2016 19:49:43
สนุกจริงจัง o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 10-04-2016 21:54:27

หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก

[ยิม]







        [ Line Group : P. Family]

        Yim_YOTid : ทำยังไงดีครับผมทำให้เพื่อนคนนึงต้องโดนเข้าใจผิด

        BuaBua : ชะนีเหรอ ?

        Mom-Nidtaya : พูดจาไม่น่ารักเลยใยบัว // ว่าแต่ยิมไปทำอะไรให้เพื่อนโกรธเหรอลูก

        BuaBua : **สติกเกอร์หมีปิดตา**

        Yim_YOTid : ผมทำให้เขาถูกเข้าใจผิดครับแม่

        Ambassador[Aus] : ลูกผู้ชายรู้ตัวว่าผิดแล้วต้องยอมรับแล้วไปขอโทษเพื่อนซะ

        Mom-Nidtaya : แม่เห็นด้วยกับพ่อนะ

        BuaBua : พี่ยิมสู้ๆ

        Ambassador[Aus] : หิ้วเหล้าไปสักขวดทุกอย่างจะดีขึ้น ฮ่าๆๆๆๆ

        Mom-Nidtaya : แนะนำอะไรลูกคะพ่อ

        Ambassador[Aus] : แมวพิมพ์อ่ะแม่ ^^

        BuaBua : #ทีมพ่อบ้านใจกล้า //  **สติกเกอร์หมีส่ายก้นไปมา**

        Yim_YOTid : งั้นผมไปขอโทษเขาก่อนนะครับ

         Ambassador[Aus] : เบรน 285 กำลังดีนะยิมพ่อว่า

         Mom-Nidtaya : เดี๋ยวเถอะพ่อนี่ ยิมลูกได้ความยังไงโทรมาเล่าให้แม่ฟังบ้างนะ แม่เป็นห่วงนะลูก

         BuaBua : **สติกเกอร์ P. Family Fighting**

         Yim_YOTid : คิดถึงทุกคนครับ




         ผมอมยิ้มก่อนจะปิดโปรแกรมแชทไลน์ เวลาที่ผมมีเรื่องไม่สบายใจหรือคับข้องใจอะไรสำหรับผมแล้วครอบครัวเป็นที่พึ่งสำหรับผมได้จริงๆ แม้พวกเราจะอยู่ไกลกันขนาดนี้แต่พวกเรายังคงไถ่ถามความเป็นอยู่กันโดยตลอด ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขผมก็ยังมีคนเหล่านี้อยู่เคียงข้าง ผมยอมรับว่าอาจโชคดีกว่าใครๆที่มีครอบครัวซึ่งพร้อมจะเข้าใจและรับฟังทุกอย่าง

         ต่างจากมันซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามันจะมีใครนอกจากอยู่ตัวคนเดียวอยู่ในคอนโด มันซึ่งพบเจอเรื่องแย่ๆมาวันนี้แต่ต้องอยู่เพียงลำพังแบบนั้นจะรู้สึกยังไง ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ทโฟนสีดำไปคืนเจ้าของพร้อมกับคำขอโทษ


         ...ออด...


          ผมกดออดหน้าห้องมันไปพักนึงก็ยังไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆจากหลังประตูนั่นจนผมนึกร้อนรน จึงกดกริ่งรัวอีกครั้งและครั้งนี้ไม่ต้องคอยนานเพราะเสียงประตูห้องขยับเปิดออกทันที ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะโผล่ออกมาจังหวะนั้นแหละที่ผมเผลอมองไปยังมุมปากอีกฝ่ายที่บัดนี้บวมช้ำจนกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้ว


        “ มีอะไร”

        มันถามเสียงเรียบ ผมถอนหายใจก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้อีกฝ่าย มันเบิกตากว้างมองของในมือผมแล้วขบกรามแน่น แววตาเรียบเฉยมีร่องรอยไม่สบอารมณ์ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น มันหลับตานิ่งก่อนจะบุ้ยปากไปยังชั้นวางรองเท้าติดกับผนังห้อง

         “ เอาวางไว้นั่นก็แล้วกัน”

         “ คุณ”

         มันเอี้ยวตัวหันมามองผมนิ่งๆ

         “ ขอผมเข้าไปในห้องคุณได้มั้ย”

          อาจจะเพราะมันเหนื่อยล้าคล้ายกับคนหมดแรงมันจึงพยักหน้าอนุญาตให้ผมเหยียบย่างเข้ามาในพื้นที่ของมัน ผมก้าวตามเข้าไปก่อนจะปิดประตูห้อง มันทรุดตัวนอนหลับตานิ่งอยู่ที่โซฟากลางห้องไม่ได้สนใจว่ามีผมใช้ลมหายใจร่วมกันในห้องเลย

         “ คุณ”

         “ มึงอยากทำอะไรก็ทำ” ฝ่ายนั้นพูดทั้งที่ยังหลับตา ผมเลยได้โอกาสวางกล่องอาหารเย็น เหล้าสี่ห้าขวด ทั้งน้ำแข็งและโซดาวางลงบนโต๊ะ มันผงกหัวขึ้นมาดูก่อนจะปิดเปลือกตานิ่งตามเดิม

         “ ทำอะไร”

         มันสะดุ้งเบือนหน้าหนีตอนที่ผมเอาน้ำแข็งซึ่งห่อด้วยผ้าสะอาดมาประคบให้ตรงมุมปากที่บวมช้ำ มันดันมือผมออกก่อนจะถอยหลังไปไกล

        “ ผมขอโทษ”

         “.......”

         มันถอนหายใจก่อนจะเอนตัวพิงโซพา “ มึงเห็นงั้นเหรอ”

         “ ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้พ่อคุณเข้าใจผิด”

         มันแสยะยิ้มก่อนจะยักไหล่ราวกับไม่แคร์อะไร “ มึงทำกูแสบมาก”

         เราสบตากันนิ่งก่อนที่มันจะกระตุกยิ้ม “ ถือว่าหายกันละกัน”


         ผมยิ้มตามก่อนจะยื่นผ้าที่ห่อน้ำแข็งให้อีกฝ่าย มันรับไปกระคบให้ตัวเองแล้วระหว่างเราก็เกิดความเงียบอีกครั้ง

         “ ผมอนุญาตใช้ครัวคุณนะ”

         มันพยักหน้ารับ

         หลังจากนั้นไม่นานอาหารที่ผมซื้อมาก็ถูกจัดวางอย่างสวยงามในจาน

         “ กินข้าวกัน”

         มันเหลือบตามองผมนิ่งก่อนจะปิดเปลือกตาไม่สนใจอะไร

         “ กินเหล้ากันมั้ย”

         “.....”

         ยังไร้ซึ่งคำตอบจนผมต้องใช้สายตามองอีกฝ่ายนิ่งๆแล้วลงมือทำอะไรบางอย่าง

         “ โอ้ย”

         “ ทำเหี้ยอะไรเนี่ย มากดแผลกูทำซากอะไร”

         “ คุณมีความรู้สึกด้วยเหรอครับ”

         “ มึง”

         เราสบตากัน


        “ เหนื่อยก็ต้องพัก เจ็บหนักก็ต้องรักษา” ผมพูดนิ่งๆ “และถ้ารู้สึกไม่ไหวมาก็ต้องระบายให้ใครสักคนได้ฟัง”


         “......” มันปิดปากนิ่งเงียบก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

          “ กินข้าวเถอะ”

          “ อย่ามายุ่งกับกู”

          “ กินข้าวจะได้มีแรง และถึงตอนนั้นเราจะทะเลาะกันต่อผมก็โอเค”

          “ กินข้าวเถอะคุณ”

          “ เชี่ยเอ้ย”


         มันสถบเสียงดังลั่นก่อนจะคว้าแก้วแถวนั้นมาใส่น้ำแข็งแล้วรินน้ำสีอำพันใส่แก้วก่อนจะยกดื่มรวดเดียวแล้วกระแทกก้นแก้วลงโต๊ะเสียงดัง

         ผมอมยิ้ม ‘อย่างน้อยก็กินเหล้าล่ะวะ’


         ผมยักไหล่ก่อนจะลงมือกินอาหารตรงหน้า ยังไม่ทันจะได้ลิ้มรสอะไรเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นขัดจังหวะ มันปรายตามองผมแวบนึงก่อนจะกรอกของมึนเมาใส่คอ ผมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาแล้วก็ยิ่งแปลกใจเมื่อเห็นปลายสายที่เพิ่งแยกกันเมื่อไม่นานนี้เอง
 

        ‘ว่าไงเนม’

        ‘ยิมช่วยกูด้วย’

        ปลายสายละล้ำละลักจนผมนึกเป็นห่วง ‘เนมมีเป็นอะไรวะ ทำไมทำเสียงแบบนั้น’

         ‘ คือ’

         ‘เฮ้ย พูดมาเร็วกูห่วงนะเนี่ย’

         ‘เอ่อกู คือกูรถชนว่ะ’

         ‘ฮะ’


         ผมตะโกนลั่นจนเจ้าของห้องหันมามองก่อนที่มันจะหันไปสนใจกับของกิน หึ นึกว่าจะทนได้แค่ไหนสุดท้ายก็ตักกับกินข้าวเขากินล่ะวะ


         ว่าแต่เมื่อกี้เนมมันว่าไงนะ...รถชนเหรอวะ

        ชิบหายแล้วบอบบางแบบไอ้นีออนเดินได้แบบนั้นด้วย

         ‘เนมแล้วมึงเป็นยังไงบ้างวะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า แล้ว แล้วตอนนี้อยู่กับใคร เนมตอบกูสิวะ’

         ‘ใจเย็นๆยิม กูไม่เป็นอะไร’

         ‘แล้วมึง’

         ‘เฮ้ยๆ พอก่อน ฟังกูก่อน กูขับรถชนฟุตบาท’

         ‘ว่าไงนะ’

         ‘แหะๆ’ ปลายสายหัวเราะแห้งๆ ‘คือกูกะระยะผิดเลยขับรถชนฟุตบาทที่ลานจอดรถคณะ ตัวกูไม่เป็นไรแค่ฟกช้ำ แต่รถบุบว่ะ’


         ผมคลึงขมับนึกขึ้นได้ว่ามันเพิ่งได้ใบขับขี่มาไม่นานนี้เองก็น่าจะเอะใจว่าคงอาการของมือใหม่หัดขับ เสียแต่ว่าถ้าป๊าม๊ามันรู้เข้าอย่าหวังเลยว่าจะจับรถคันนี้ได้อีก...ไอ้นีออนเอ้ย

        ‘มึงไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว’

        ’อืม‘

        ’แล้วตอนนี้มึงทำอะไรอยู่‘

        ’รอประกัน‘ มันทำเสียงอุบอิบ  ’เอ่อ มึงสะดวกมั้ยมาอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยดิ‘


         ผมนิ่งคิดทั้งใจก็นึกห่วงมันไม่น้อย สภาพอย่างนั้นอยู่คนเดียวคงมีวิตกกันบ้าง ขณะเดียวกันสายตาผมก็มองยังเจ้าของห้องที่กุมแก้วเหล้าหลังพิงพนักโซฟาแต่สายตาเหม่อมองไปไกล ตอนนั้นผมเห็นแววตาคู่นั้นของมันดูเศร้าสร้อยพิกล แววตาแบบนั้นไม่เข้ากับใบหน้ามันเลยสักนิด

         ‘ งั้นมึงรออยู่นั่นแหละ’

         มับรับคำก่อนจะวางสายไป ผมคลึงขมับก่อนจะเลื่อนหน้าจอหาเบอร์ที่มั่นใจว่าไหว้วานได้อย่างแน่นอน

         ‘ ไงมึง’

         ‘ มึงยังอยู่สตูฯกับพวกพี่หนึ่งป่ะ’

         ‘ อืมอยู่’ ปลายสายได้ยินเสียงโหวกเหวกของคนจำนวนไม่น้อยคาดว่าคงทำงานกันอยู่

         ‘ กูมีอะไรให้ช่วย’

         ‘ ว่ามาดิ’

         ‘ ไปดูเนมที่คณะแพทย์ฯให้กูหน่อย’

         ‘ ทำไมว่ะ มันหาทางกลับบ้านเองไม่เป็นรึไง’

         ‘ มันขับรถชนฟุตบาทไม่รู้เป็นไงบ้าง กูวานทีไปดูมันให้หน่อย เสร็จแล้วยังไงมึงไปส่งมันที่บ้านให้ด้วยนะ’


         ผมตัดบททั้งที่มันยังไม่ได้รับคำ แต่เชื่อเถอะว่าคนอย่างไอ้โอ๊คมันมีน้ำใจพอที่จะช่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนๆนั้นคือเนมเพื่อนสนิทของผม 

         หลังจากโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่งผมก็เดินมาทรุดตัวลงนั่งที่เดิม เจ้าของห้องเหลือบตามองผมนิดนึง


         “ ไม่ไปรึไง”

         ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามอีกฝ่ายว่ามันหมายความว่ายังไง

         “ ท่าทางมึงเหมือนจะมีปัญหา” ผมยักไหล่

         “ นานๆผมจะได้เข้าห้องคุณผมไม่กลับง่ายๆหรอก”

         ผมสัพยอกอีกฝ่ายซึ่งมันเพียงแค่นยิ้ม

         “ ระวังมึงจะหาทางออกไม่เจอ”

         “ มันขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะออกไปหรือกคุณอยากไล่” ผมพูดยิ้มๆ “ ถ้าเป็นอย่างแรกมันก็อยู่ที่ใจผม แต่ถ้าเป็นอย่างหลังผมคงห้ามไม่ได้”

         “ มึงมันปากดี” มือข้างที่ควงแก้วของมันชี้หน้าผม “ ปากหมาตั้งแต่วันแรกที่กูเจอ”

         “ อ๋อ...ตอนที่ผมเปิดมาเจอคุณกับสาวกำลังศึกษาอนาโตมีขั้นสูงกันน่ะเหรอ”


         มันเผลอหัวเราะ

         ผมชะงักมองปฏิกิริยาของมันอย่างแปลกใจ ไม่ยักกะโกรธแฮะทุกทีพอผมแซวนี่ด่าจนฟังไม่ทันบ้างที

         เมื่อรู้ตัวถูกมองอยู่มันจึงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ผมยักไหล่ก่อนจะตอบ “ ผมแค่แปลกใจ”

         “อะไร”

         “ คุณหัวเราะ”

         “ แล้วไง”

         “ ขอโทษนะผมไม่ได้ตั้งใจจะแซวเรื่องคุณกับผู้หญิงของคุณ”

         “ ไม่ใช่” ผมเลิกคิ้วเมื่อฝ่ายนั้นส่ายหน้าปฏิเสธ

         “ ไอไม่ใช่ผู้หญิงของกู”

         “ .......”

        “ เขาเป็นแม่เลี้ยงกู”

        ห่ะ

        ผมอ้าปากค้างแอลกอฮอล์ที่ไหลลงคอทำเอาสำลัก ผมกุมคอไอไปทุบอกตัวเองไปอย่างทรมานเพราะเหมือนว่าอาหารไหลลงหลอดลม มันยื่นทิชชู่มาให้ตรงหน้าสีหน้าดูเวทนาเขาผมไม่น้อย

        “ นี่คุณกับแม่เลี้ยง”

        แม่เลี้ยงสาวอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขากับลูกเลี้ยงหนุ่มหล่อ อื้อหืมเข้าพล็อตละครยุงชุมเลยนะเนี่ย

        มันถอนหายใจ “ ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด เขาเคยเป็นเพื่อนกับกูมาก่อน”

        “ อย่าบอกนะว่า”

        เข้าอิหรอบนี้ไม่พ้นว่าเคยปั๊บปี้เลิฟกันมาก่อนหรอกนะ ท่าทางสาวเจ้าดูจะคลั่งไคล้มันมากทีเดียว

        “ เคยกิ๊กกัน”

        ผมโยนหินถามทางแต่มันส่ายหน้าปฏิเสธ “ ไม่ใช่”

        พูดจบสายตามันก็เหม่อมองไปไกลก่อนจะกระดกแก้วในมือจนหมด สีหน้าแววตามีแววครุ่นคิด

        “ คุณ”

        “ กูชื่อปาย” มันพูดนิ่งๆ

        “ ผมชื่อยิม” ผมแนะนำตัวเองอีกครั้ง “ ยินดีที่ได้รู้จักกันอย่างทางการครับ”

        มันยักไหล่

        “ ในเมื่อรู้จักกันแล้วคุณสะดวกให้ผมเรียกคุณแบบไหน”

        “ แล้วแต่มึง”

        “ ปาย”

        มันหรี่ตามอง “ กูพี่มึงหลายปี”

        “ ผมไม่อยากเรียกคุณว่าพี่ปายฟังแล้วแม่งโครตจั๊กจี้” มันหน้าบึ้งก่อนจะสถบออกมาแรงๆ

        “ หมอ..”

        “ งั้นผมเรียกคุณว่าหมอปาย”

        มันส่ายหน้า “ กูเป็นแค่นิสิตแพทย์ ยังไม่ได้เป็นหมอ ส่วนใหญ่ไม่มีใครเค้าเรียกนิสิตว่าหมอหรอก”

        “ งั้นผมเรียกเอง” ผมพูดยิ้มๆ “ หมอปาย”

        ฝ่ายนั้นถอนหายใจแรงๆเหมือนไม่สบอารมณ์ “ งั้นก็เรื่องของมึง”

        “ ครับหมอปาย”

        “ เชี่ย”

        มันสถบอีกรอบก่อนจะกระดกแอลกอฮอล์อีกรอบ

        “ ขี้หงุดหงิดง่ายจัง”

        “ ถ้าเป็นเวลาปกติมึงไม่ได้มานั่งตีฝีปากในห้องกูหรอก” หมอปายเหลือบตามองจึงทำให้ผมสังเกตได้ว่าดวงตาคู่คมของมันเริ่มปรือปรอยหยาดเยิ้มเหมือนคนเมา ผมมองไปยังเหล้าที่หิ้วมาเกือลครึ่งโหลบัดนี้เหลือแค่ขวดเดียวที่ยังไม่ปิด แสดงว่าช่วงเวลาที่ออกไปโทรศัพท์มันกินคนเดียวไปเกือบสองขวด

         ก็แล้วจะไม่ให้เมายังไงไหว

         “ หมอปาย”

         “........”

         “ ผมขอโทษคุณอีกครั้งที่ทำให้คุณถูกพ่อเข้าใจผิด”


         เราสบตากันนิ่ง แววตาของผมที่สะท้อนออกไปบ่งบอกความรู้สึกทุกอย่าง ผมเสียใจจริงๆที่ทำให้มันต้องเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มันลงเอยแบบนี้ ...ไม่เคยคิดเลย...

        “ ขอโทษ”

        “ อืม”

        “ ผมยินดีอธิบายเรื่องนี้กับพ่อคุณนะ”

         มันส่ายหน้า “ ไม่จำเป็นเพราะรู้กับไม่รู้มันก็ไม่มีอะไรแตกต่าง” มันพูดเสียงเรียบก่อนจะยักไหล่เหมือนไม่แคร์สิ่งใด แต่แปลกที่ผมกลับมองเห็นด้านที่อ่อนแอของมัน

        “ หมอปาย”

        มันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ ถ้าสถานการณ์แรกที่เราเจอกันดีกว่านี้ เราคงจะเป็นเพื่อนกันได้”

        “ มึงคิดไปเองรึเปล่า”

        “ ไม่รู้สิ”

        พอผมพูดจบหมอปายก็ดันหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่ปี่ไม่มีขลุ่ย ผมเคยบอกรึยังว่าหมอปายเป็นคนที่มีดวงตาสวยงามมาก มันสวยขนาดที่ว่าหัวใจผมเผลอเต้นแรงที่ได้ประสานกับมันในระยะประชิดแบบนี้

        ผมกุมหัวใจตัวเองแน่น

        ชิบหายแล้วผมเผลอใจเต้นแรงกับผู้ชายและผู้ชายที่ว่านี่คือหมอปาย ผมสะบัดศีรษะแรงๆก่อนจะขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำมันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะควงแก้วหลับตานิ่งพิงพนักโซฟา

        มันเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมซึ่งแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอดชีวิต ซ้ำตอนนี้ยังมีเจ้าของหัวใจแล้วกลับรู้สึกแปลกๆกับผู้ชาย ตั้งแต่ที่เริ่มสนใจในความเป็นอยู่ของมันจนถึงวินาทีที่มันถูกเข้าใจผิดเพราะผม

        หมอปาย...ผู้ชายที่สาวๆทั้งมหาลัยต่างหมายปอง

        ผมวักน้ำใส่หน้าแรงๆก่อนเดินออกทันได้เห็นหมอปายนอนคุดคู้อยู่บนโซฟา ผมมองภาพนั้นอย่างประหลาดใจก่อนจะค่อยๆสาวเท้าเข้าไปใกล้ ร่างสูงโปร่งกอดตัวเองเนื้อตัวสั่นเทา

        “ หมอ”

        “ หมอปาย”

        ผมเขย่าอีกฝ่ายซึ่งฝ่ายนั้นแค่ทำเสียงอือออในลำคอแต่ดวงตายังปิดสนิท ผมพิจารณาภาพนั้นอย่างตกใจเมื่อสังเกตเห็นน้ำใสๆค่อยๆไหลรินออกจากดวงตามันอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากมันเม้มแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ในตอนนั้นผมตรงเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้

        “ หมอปาย คุณเป็นอะไร”

        มันเปิดเปลือกตาขึ้นแววตาคู่สวยฉ่ำไปด้วยน้ำตา หากมองลึกลงไปนัยน์ตามันพร่ามัวเหม่อลอยไปไกล ฝ่ามือของมันลูบไล้ใบหน้าผมเบาๆก่อนจะผุดลุกขึ้น มันร้องไห้ก่อนจะสวมกอดผมแน่น ผมมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก

        “ หมอ”

        “ อุ๊บ”

         ผมตาค้างตอนที่ริมฝีปากสีส้มอมชมพูของหมอปายประกบริมฝีปากผมอย่างแผ่วเบา ก่อนที่มันจะค่อยๆเคลื่อนไปทั่วใบหน้าแล้วเนื้อหยุ่นนั่นก็วนกลับมาบดคลึงที่ปากผมอีกครั้ง

        ผมไม่โทษของมึนเมา

        ผมไม่โทษการกระทำของหมอปาย

        ผมโทษตัวเอง ผมโทษที่ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ถึงได้พลิกตัวให้หมอปายนอนราบไปกับโซฟาแล้วตัวเองขึ้นคร่อมก่อนจากที่เป็นฝ่ายนิ่งเฉยกลับเป็นฝ่ายรุกขึ้นมา ผมตอบโต้คนเมาด้วยการบดจูบฝ่ายนั้นอย่างที่ไม่ควรกระทำ ลิ้นของผมชอนไชเข้าไปในโพรงปากของหมอปายอย่างย่ามใจก่อนที่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงตามฤทธิ์ของแอลกอฮอล์


         คนข้างใต้ประท้วงด้วยการเบี่ยงหน้าหลบทั้งที่ไม่ค่อยมีสติ ผมยอมรับว่าจูบของหมอทำเอาสติตะลึงพรึงเพลิดไปไกลมือข้างหนึ่งเกี่ยวปรอยผมที่ปกปิดใบหน้าขาวให้คลายออก หมอปายสมกับเป็นผู้ชายที่สาวๆต่างก็หมายปองเพราะทั้งจมูก คิ้ว คาง ทุกอย่างลงตัวเหมาะเจาะราวกับปั้นแต่ง

         เป็นชายที่คมคายน่ามอง

         หากเป็นหญิงก็คงจะงดงามจับใจ

         “ ยะ อย่า”

        เสียงครางของอีกฝ่ายทำให้สติที่หลุดลอยไปไกลกลับมาอีกครั้ง ผมถอนหายใจก้มมองสภาพตัวเองที่ซุกซบซอกคอของหมอปายอย่างเพลิดเพลิน นี่ผมทำอะไรลงไปวะ

        ผมถอนหายใจก่อนจะบรรจุติดกระดุมเสื้อนิสิตให้อีกฝ่าย

        ทุกอย่างเหมือนเป็นไปอย่างอัตโนมัติเมื่อผมโน้มไปจูบขมับฝ่ายนั้นเบาๆ หมอปายพึมพำอะไรสักอย่างก่อนจะหลับไปในที่สุด

        “ พ่อ ฮือ พ่อครับ พ่อไม่ได้ฆ่าแม่ใช่มั้ยครับ”

         เสียงละเมอของหมอปายที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบทำให้ผมที่เก็บกวาดซากของกินตรงหน้าถึงกับชะงัก ผมยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินจากปากหมอ

          ณ วินาทีนั้นผมรู้แล้วว่าแววตาที่ผมมองหมอปายเปลี่ยนไปไม่ต่างจากความรู้สึกบางอย่างที่มันกำลังก่อตัวขึ้น ผมละทิ้งงานที่ทำอยู่ในมือตรงเข้าไปโอบกอดคนที่ละเมอไม่ได้สติไว้แนบอก








แอร้ยยยยยย ตอนนี้มีความ #ยิมปายขึ้นมานีสนึง หุๆๆๆ #นิยายยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร 5555 :hao6:
เป็นเรื่องราวที่มีปมเยอะเจงๆ เฮ้ย ปาดเหงื่อ ตอนหน้ามีโอ๊คเนมมาปั่นป่วนนะฮะ
#หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะจ้า #เจอกันตอนหน้าจ้า
:bye2:

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MRchai ที่ 10-04-2016 22:47:58
ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-04-2016 23:41:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 11-04-2016 00:11:50
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-04-2016 00:21:11
อือ .... เรื่องมันมีจริงๆ  :เฮ้อ:
แม่เลี้ยงมาถึงเนื้อถึงตัว   :m16:
 พ่อฆ่าแม่  :m31:
น่าเห็นใจ น่าสงสาร หมอปาย  :mew2:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-04-2016 00:49:16
ดีงามค่ะ สานสัมพันธ์กันไวๆนะคะ
จะยิมปาย ปายยิมก็ดีหมดล่ะค่ะ 555555  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 11-04-2016 01:16:43
พี่ปายเค้ามีปมครอบครัว น่าสงสาร เพราะฉะนั้นสนับสนุนให้ยิมกอดพี่ปายกันเถอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-04-2016 02:16:10
ทีม #ปายยิม ล่ะกันค่ะ ปักธง 55555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-04-2016 02:35:43
ชีวิตหมอปายยิ่งกว่าละคร...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 11-04-2016 03:21:36
ต่อเร็วๆๆเลยชอบ
#ยิมปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 11-04-2016 03:45:12
ชีวิตหมอปายช่างซับซ้อน   :m15:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-04-2016 09:09:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 11-04-2016 09:11:13
 :hao5: หมอปาย
#ยิมปาย รัวๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-04-2016 21:41:10
จูบแบบไม่รู้ตัว แอร๊ยยย~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 12-04-2016 11:00:26
ทีมยิมปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 12-04-2016 11:50:10
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 12-04-2016 12:48:09
สงสารปาย :hao5:
ถึงตอนนี้จะมีความเป็น ยิมปาย แต่เราอยากให้เป็นปายยิม :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-04-2016 13:30:32
พี่หมอปายน่าสงสารจัง น้องยิมช่วยดูแลด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 23-04-2016 23:52:15




      หลงที่ 7 : เสียงหัวใจที่แปลกไป







         [โอ๊ค]




       
      “ ไง”

      “ ไม่ไง”

      “ หึ”

      “ อะไร”

      “ เสียใจเหรอที่คนที่มาไม่ใช่ไอ้ยิม” โอ๊คสัพยอกอีกฝ่ายที่ทำหน้าบึ้งตังทันทีที่เห็นหน้ากัน  ฝ่ายนั้นค้อนให้อย่างไม่จริงจังนัก เนมหรี่ตามองคนที่ไม่ได้รับเชิญซึ่งมันมาทรุดตัวลงนั่งเบียดเขาอย่างจงใจ

      “ ขยับออกไป”

      “ ก็กูอยากนั่งตรงนี้”

      “ เก้าอี้มีตั้งเยอะแยะ” เนมทำหน้างอชี้นิ้วไปรอบๆซึ่งมีเก้าอี้ว่างเรียงรายอยู่มากมาย แต่ไอ้คนจอมกวนนี่ดันมานั่งเบียดอยู่ได้

      “ แล้วไง” โอ๊คยักไหล่ “ กูพอใจจะนั่งตรงนี้”

      “ งั้นกูไปเอง”

      “ เดี๋ยว”

       เนมสะบัดข้อมือซึ่งอีกฝ่ายกอบกุมอยู่

       “ อะไร”

       “ รถมึงล่ะจอดอยู่ไหน”

       เนมถอนหายใจกับกิริยาสอดส่ายสายตาหาของโอ๊ค

       “ บริษัทประกันมาลากไปแล้ว”

       “ เสียหายหนักเหรอ”

       “ อืม”

       นิสิตแพทย์ตัวขาวทำเสียงอือออในลำคอ “ด้านหน้ายุบ”

       “ หึ”

       “ อะไร”

       “ ถามจริง” โอ๊คเหลือบตามอง “ เพิ่งได้ใบขับขี่มารึไง”


        ฝ่ายที่ถูกถามหน้านิ่วก่อนจะทำหน้าบึ้งเมื่อโดนจี้จุดอย่างจัง เออสิ ใบขับขี่เพิ่งได้มายังไม่ถึงเดือนเลย ใครจะไปคิดว่ากะระยะผิดนิดหน่อยรถจะยุบไปทั้งแถบ คิดแล้วก็ได้คลึงขมับถ้าหากป๊าม๊ารู้เรื่องคงหมดหวังที่จะได้จับรถคันนั้นอีก

       “ งั้นไป”

       “ ไปไหน”

       “ กลับสิวะ เดี๋ยวกูไปส่ง”

       “ กูรอกลับพร้อมยิม”

       “ งั้นเหรอ” โอ๊คกระตุกยิ้มมุมปาก “ งั้นมึงคงต้องรอเก้อละมั้ง”

       “ หมายความว่าไง”

       “ มันไม่ว่างเลยวานให้กูมาดูมึงแทน” โอ๊คพูดยิ้มๆ “ ทำไมผิดหวังเหรอที่มันไม่มา” สีหน้าขาวนั่นซีดเผือดลงแม้เพียงแวบเดียวแต่โอ๊คก็สามารถจับสังเกต นิสิตแพทย์หลุบตาลงก่อนจะทำเฉยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

       “ พูดอะไร”

       “ มึง” โอ๊คมองใบหน้าขาวนั่นตรงๆก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะชี้ใส่คนที่นิ่งอึ้ง “ เสียใจที่มันไม่มา”

       “ ไม่ใช่”

       “ หึ” โอ๊คยักไหล่ “ จะยังไงก็แล้วแต่มึงต้องกลับกับกู”

       “ กูกลับเองได้”

       “ ก็แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่กลับล่ะ”


        เนมหน้าเจื่อนเมื่อสบเข้ากับสายตารู้ทันของคนตรงหน้า ฝ่ายนั้นมองนิ่งก่อนจะยิ้มราวกับว่าพบเจอเรื่องน่าสนใจ สีหน้าแววตาของอดีตนักเรียนไฮสคูลบ่งบอกว่ารู้ชัดแจ้งทุกความรู้สึกของเขา

        นิสิตแพทย์เบือนหน้าหลบก่อนจะผุดลุกขึ้นแต่ติดที่มือหนาคว้าข้อมือเขาไว้แน่น

        “ รถกูอยู่ทางโน้น”

        “ กูจะกลับเอง”

        “ กูไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก” โอ๊คพูดนิ่งๆด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาดุดันอย่างไม่เคยที่พบเห็นมาก่อน “ และกูไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้ยิมของมึง ฉะนั้นอย่ายวนกูมากนัก”

        โอ๊คยิ้มแต่เป็นการแสยะยิ้มจนคนมองเสียวสันหลัง เนมยืนอึ้งอย่างคาดไม่ถึงเพราะไม่เคยพบเห็นท่าทางแบบนี้มาก่อน ปกติโอ๊คที่รู้จักมันเป็นคนขี้เล่นถึงจะกวนตีนไปบ้างแต่ไม่ใช่บุคลิกที่ยิ้มเย็นๆแต่แววตาดุดันแบบนี้เลย


        “ นำไปสิ”

        “ ก็แค่นั้น”

        เนมก้มหน้าเดินตามอีกฝ่ายเงียบๆ จึงไม่ทันเห็นใบหน้าคมคายของคนนำที่หลุดขำด้วยรอยยิ้มกว้าง

        “ โอ๊ะ”

        “ หยุดแล้วทำไมไม่บอกวะ”

        เนมกุมจมูกตัวเองที่กระแทกแผ่นหลังอีกฝ่ายเต็มๆเมื่อไอ้คนตรงหน้ามันดันหยุดเดินเอาซะดื้อๆ โอ๊คเอี้ยวตัวหันมามองไอ้นีออนเดินได้ที่ทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างขำๆ

        “ มึงก็เดินมองทางบ้างสิ ก้มหน้าหาเห็บอยู่รึไง”

        “ เออ” เนมสวนกลับ “ เห็บที่กระเด็นจากตัวมึงอ่ะ”

        “ ว่าไงนะ”

        โอ๊คหรี่ตามอง เนมเผลอขยับถอยหลังหนี

        “ มึงว่ากูเป็นหมางั้นเหรอ”

        “ มึงพูดเองนะ”

        “ หึ”

        “ โอ้ย”

        เนมอุทานตกใจเมื่อไอ้แรงควายตรงหน้ากระชากเขาให้กลิ้งหลุ่นๆเข้าไปปะทะอกอีกฝ่าย

        “ ไอ้เชี่ย กูเหม็น”

        นิสิตแพทย์กุมจมูกทำท่ารังเกียจเมื่อใบหน้าตัวเองไปซุกอยู่ใต้รักแร้อยู่ฝ่ายเพราะถูกแกล้ง ยิ่งขยับตัวหนีไอ้คนขี้แกล้งยิ่งจับใบหน้าเขาให้มุดไปใต้รักแร้แบบที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ จมูกจึงถูกอัดให้สูดดมกลิ่นกายอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้

        “ ไอ้โอ๊คปล่อยกู”

        “ รังเกียจกูงั้นเหรอ”

        “ ไอ้เชี่ยปล่อยกู”


        โอ๊คหัวเราะขำกับอาการดิ้นรนหนีตายของคนตัวเล็ก มันชกไหล่เขาถูกบ้างไม่ถูกบ้างและพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่ยิ่งหนีเขายิ่งกดใบหน้ามันแนบชิดยิ่งกว่าเดิมจนสุดท้ายนึกสงสารใบหน้าแดงจมูกแดงๆของมันจึงปล่อยให้เป็นอิสระ  เนมมันเซถอยหลังไปหัวเหอยุ่งเหยิงไปหมดสีหน้าก็เบ้หนัก แววตาของมันที่จ้องมองกลับมาดูโมโหไม่น้อยแต่แปลกที่ท่าทางเหล่านั้นทำให้คนมองยิ่งขำหนัก 

        เนมมันจะรู้ตัวมั้ยว่าเป็นผู้ชายที่ประหลาดก็เพราะไอ้ท่าทางค้อนลมค้อนแรงไปเรื่อยเนี่ยถ้าผู้ชายทั่วไปทำเขาคงแทบจะขย้อนอาหารในกระเพาะออกมา  แต่พอมันทำแล้วนอกจากไม่น่าเกียจมันยังดูออกจะน่ามอง

       หึ แปลกดีแท้

       เนมมันชกไหล่เขาแรงๆก่อนจะวิ่งนำหนีไป ส่วนคนที่ถูกทำร้ายร่างกายแค่หัวเราะขำก่อนจะยกแขนขึ้นแล้วก้มหน้าไปดมจักแร้ตัวเอง

       ...กลิ่นดีใช้ได้...

        เจ้าตัวยักไหล่ขำๆ เมื่อนึกได้ว่าตั้งแต่ซ้อมบอลเสร็จก็รีบรุดไปช่วยรุ่นพี่สตูฯ ไม่ได้อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำถือว่าเป็นโชคดีของไอ้นีออนเดินได้นั่นแล้วกัน โอ๊คยิ้มมุมปากก่อนจะเดินตามนิสิตแพทย์ที่วิ่งหน้าตูมนำไปไกลแล้ว


       “ ปวดขี้รึไง”

        เนมแยกเขี้ยวใส่คนที่เอ่ยทักเมื่อทั้งคู่เข้ามาอยู่ห้องโดยสารในรถแล้ว คนแกล้งถามยิ่งขำหนักเมื่อฝ่ายตรงข้ามทำหน้าเหม็นเบื่อซ้ำยังทำปากขมุบขมิบราวกับบ่นว่าเขาไม่เลิก

        “ พูดออกเสียงด้วยดิ กูจะได้รู้ด้วยว่ามึงด่าอะไรกูบ้าง” โอ๊คยักคิ้ว “ ไม่ต้องทำตาขวาง ถ้าอึดอัดมากด่าออกมาเป็นคำพูดเหอะ”

        “ ไอ้บ้า”

        โอ๊คขำก๊ากเมื่อฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะหมดความอดทนก่อนจะระเบิดคำว่าเขาแต่ฟังยังไงก็ไม่เจ็บปวดสักกะนิด

        “ นี่หยาบสุดแล้ว”

        เนมเบ้ปากค้อนตาคว่ำ

        “ ไอ้สกปรก”

        โอ๊คกุมท้องขำ “ กูโครตเจ็บปวดกับคำด่ามึงเลยว่ะให้ตายเถอะ” ว่าแล้วก็เอี้ยวตัวไปเบาะหลังก่อนจะคว้าเสื้อกีฬาที่กองๆอยู่แถวนั้นติดมือมาด้วยหมายจะเปลี่ยนไอ้ตัวเน่าๆที่ใส่อยู่นี่ออก

        “ มึงจะทำอะไร”

        “ อะไร”

        “ ถอดเสื้อทำไม”

       เนมทำหน้าตื่นใบหน้าขาวซีดขึ้นสีตรงแก้มก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเจ้าของรถนอกจากไม่ให้คำตอบอะไรแล้วยังถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็คท่าทางชิวๆ

       “ โอ้ย”

       โอ๊คคว้าม้วนกระดาษทิชชู่ที่ฝ่ายนั้นปาใส่ได้ทัน

       “ เป็นเชี่ยอะไรของมึง”

       “ ก็มึงถอดเสื้อทำไมล่ะ”

       โอ๊คเลิกคิ้วมองอาการประหลาดของคนตรงหน้า มันทำปากพะงาบๆหลุบตามองตักตัวเอง แต่แววตาดูหลุกหลิกบ่งบอกว่ามันกำลังขัดเขินอะไรบางอย่าง

       ...เขินงั้นเหรอ...

       โอ๊คกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะโน้มใบหน้าไปใกล้ๆมัน เนมหน้าตื่นถอยหลังทำตัวลีบจนแทบจะรวมร่างไปกับประตูรถ

       “ ออกไปไกลๆกู” เนมพูดเสียงหลง

       “ มันเป็นอะไร”

       “ กูเหม็นมึง”

       “ งั้นเหรอ” โอ๊คยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโน้มหน้าผากไปชิดกับหน้าผากอีกฝ่าย “ กูเหม็นจริงเหรอ ไม่ใช่ว่ามึงเขินกูอยู่เหรอ”

       “ ไม่ใช่”

        ตอบไปก็พยายามไปมองแผ่นอกของมันซึ่งกระแทกเบ้าตาเต็มๆ ไม่เห็น ไม่เห็นอะไรเลย เนมบอกตัวเองแบบนั้น แต่ว่านะกล้ามมันแน่นมากไอ้หกลูกตรงหน้าก็โครตเด่นเลย มันเป็นร่างกายที่เขาปรารถนาอยากจะเป็นมาตลอด แต่ออกกำลังกายแค่ไหนมันก็ไม่มีผลเลย

        “ จริงอ่ะ”

        “........”

        เนมยื่นมือดันแนอกเปล่าเปลือยอีกฝ่าย แววตาพวกเขาทั้งคู่สบกันนิ่ง ในระยะใกล้ชิดที่ได้ยินแม้แต่ลมหายใจของกันและกัน

       “ เขินกูเหรอ”

       “.......”

       “ มึงเขินกูเหรอเนม” เสียงกระซิบประชิดใบหู


        ...Rrrrrrrrr...

        เนมสะดุ้งโหยงเมื่อเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าสั่นระรัว นับว่าเป็นระฆังช่วยชีวิตเนมลนลานควานหามันก่อนจะชะงักเมื่อเห็นรายชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอ เขานิ่งเงียบลังเลใจว่าจะรับสายดีรึเปล่าพอดีหางตาเหลือบไปมองต้นเหตุที่ทำเขาปั่นป่วนวันนี้ มันกำลังสวมเสื้อตัวใหม่อยู่พอดี

        เนมถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะกดรับ

       ‘ครับ’

       ‘รับสายฉันได้แล้วเหรอ’

       เพียงแค่เอาโทรศัพท์แนบหูก็ได้ยินเสียงแหลมดังทะลุมาตามสาย เนมสะดุ้งทำหน้าแหยรีบเบี่ยงหูหนีจนฝ่ายที่จ้องมองอยู่ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ

       ‘ครับ’

       ‘ไปตามยิมมารับสายฉัน’

       ‘เอ่อ’ เนมทำท่าอึกอักยิ่งโอ๊คทำไม้ทำมือเป็นเชิงถามว่าปลายสายคือใคร
 
       ‘ยิมไม่ได้อยู่กับผมครับ’

       ‘ถ้าไม่ได้อยู่กับนายแล้วทำไมถึงติดต่อไม่ได้ ปกติเขาไม่เคยไม่รับสายฉันถ้าไม่ใช่ว่าเขาอยู่กับนาย’

       ‘ยิมไม่ได้อยู่กับผมจริงๆครับ’

       ‘ฉันไม่เชื่อ นายโกหก ไปตามยิมมารับสายฉันเดี๋ยวนี้’

       สีหน้าลำบากใจของเนมทำเอาคนที่นิ่งฟังแล้วรู้สึกคุ้นหูกับเสียงที่ลอดมาจนต้องถือวิสาสะคว้าไปคุยเสียเอง

        ‘นายบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ อย่าโกหกตอแหลจนเคยตัวแบบนี้ไอ้ตัวซีด’

        โอ๊คทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินทุกถ้อยคำที่ลอดมาตามสาย เขาเหลือบตาเจ้าของมือถือที่ก้มหน้าหลบก่อนจะกรอกเสียงไปตามสาย

        ‘ยิมไม่ได้อยู่กับเนมหรอกนัตตี้’

        ‘อะ โอ๊ค’

        ปลายสายเหมือนจะชักงักไปพักนึงก่อนจะตอบเสียงอ่อยๆ

        ‘ผมกล้ายืนยันได้ว่ายิมไม่ได้อยู่กับเนม ตอนนี้มีแค่ผมกับเนม ส่วนไอ้ยิมมันกลับคอนโดไปตั้งแต่เย็นแล้ว’

        ‘จริงเหรอ’

        ‘ผมจะโกหกนัตตี้ทำไม ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย แล้วอีกอย่างนะนัตตี้คุณโทรมาถามเนม คุณควรใช้คำพูดที่ดีกว่านี้สักหน่อย คุณมาขอความช่วยเหลือเขาควรจะทำกิริยาที่มันสมเหตุสมผลที่เขาจะให้ความช่วยเหลือหน่อย’

        ‘คำพูดคำจาบางอย่างมันบ่งบอกถึงกิริยาการศึกษา ซึ่งแน่นอนว่าคุณคงรู้ดีกว่าใครและที่คุณต้องรู้อีกอย่างคือเนมมันคือเพื่อนคนสำคัญของไอ้ยิม และยิมมันเป็นคนรักเพื่อนมันคงไม่พอใจเท่าไหร่ถ้าคุณจะพูดจาแบบนี้กับเพื่อนของมัน ’

        เนมนั่งอึ้งมองเจ้าของรถที่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆเรื่อยๆแต่ท่าทางไม่ได้สอดคล้องกับคำพูดเลย ไม่รู้ว่าปลายสายตอบกลับว่าอย่างไรเพราะพอพูดจบโอ๊คมันก็กดวางสาย แต่ก่อนวางสายโอ๊คจ้องหมายเลขที่โทรเข้าอย่างแปลกใจ

        ทำไมเหมือนเบอร์ที่โทรภายในประเทศทั้งๆที่ฝ่ายนั้นอยู่คนละซีกโลก


       “อ่ะ”

       โทรศัพท์เครื่องบางเฉียบยื่นมาตรงหน้า

       “ เนม”

       “ หืม”

       “ มึงเคยไปแย่งใช้เครื่องสำอางค์กับนัตตี้ป่าววะ”

       “ อะไรนะ” เนมทำหน้างง

       “ เขาดูไม่ชอบขี้หน้ามึงขนาดนี้ แสดงว่ามึงเคยคิดจะแย่งของเธอแน่ๆ”

       เนมนั่งอึ้งยิ่งแววตาของโอ๊คมองมาตรงๆก็ได้แต่นิ่งเงียบ เขาไม่อยากคิดอะไรไม่อยากคิดว่าในประโยคนั้นมีนัยยะอะไรแอบแฝง

       “ กูไม่เคยคิดจะแย่งของใคร”

       “ กูก็ว่างั้น” โอ๊คยักไหล่

       “ ทำไมมึงถึงเชื่อกูล่ะ”

       “ กูไม่ได้เชื่อ” โอ๊คพูดยิ้มๆ “ แต่กูรู้สึกได้ว่าน้ำหน้าอย่างมึงแย่งอะไรกับใครเค้าไม่เป็นหรอก”

       “ อ้าว”

       “ เพราะมึงเหมาะกับการถูกแย่งมาครอบครองมากกว่า”

        โอ๊คหันมาพูดแล้วสบตากับอีกฝ่ายตรงๆก่อนจะหันไปบังคับพวงมาลัยมุ่งสู่ถนนเบื้องหน้า ทิ้งให้ผู้โดยสารนั่งกุมมือแน่น ด้วยใบหน้าร้อนผ่าวๆซ้ำข้างในอกยังคันยุบยิบแปลกๆ





      .

      .

      .



     [ยิม]



 


       “ อื้อ”

       “ หืม”

       “ เหี้ย”

       ...โครม...

       “เหี้ยอะไรวะ”



        ผมสถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่อรู้สึกถึงแรงกระทำที่รุนแรงส่งผลให้ไปตื่นอยู่บนพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว หลังจากขยี้ตาจนหายมึนงงจึงเห็นสภาพตัวเองที่นั่งกุมขมับอยู่ข้างเตียง ส่วนเจ้าของห้องมันนั่งหน้าบูดทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเตียง

        “ เกิดอะไรขึ้น”

        “ กูถีบมึงลงไปเอง”

       ห่ะ


       ฝ่ายนั้นทำหน้าแค้นๆใส่ผมจนจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก

       “ นี่คุณทำไมโหดร้ายจังวะ”

       “ ก็มึง...”

       ไอ้หมอปายทำเสียงอึกอักก่อนจะยกมือกุมเป้าตัวเองอย่างเผลอตัว ท่าทางแบบนั้นทำเอาผมมองตามอาการแบบนั้นทำให้นึกถึงอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นของตัวเองก่อนหน้า จำได้ว่าใบหน้าผมซุกกับอะไรสักอย่างนุ่มนิ่มคล้ายๆกับว่ามันทั้งนุ่มและลื่นซ้ำยังเด้งไปมาอีกถึงอย่างนั้นก็ให้ความรู้สึกที่โครตดี


       ...แต่เดี๋ยวก่อน...

       หวังว่าคงไม่ใช่ ผมทำหน้าตื่นจ้องตากับมันที่นั่งกุมเป้านิ่งแต่ใบหน้าขาวค่อยๆซีดลงต่างจากใบหูทั้งสองข้างที่แดงก่ำ

       “ ไอ้เชี่ย”

       “ โอ้ย”

        ผมหน้าหงายเมื่อหมอนใบโตปลิวมากระแทกหน้าอย่างจังก่อนที่มันจะวิ่งตึงตังเข้าห้องน้ำไป

        มึนไปมั้ยล่ะมึง ผมคลึงขมับตัวเองก่อนจะสถบในลำคอ แม่งแค่นอนซุกเป้าแค่นี้เองถึงขนาดยันเขาลงมาจากเตียงไหนจะหมอนที่ปลิวกระแทกหน้าอีก โหดร้ายเกินไปแล้วไอ้หมอปาย

        “ กี่โมงแล้ววะ”

        ผมสะบัดหัวไปมาไล่ความมึนงงก่อนจะควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อดูเวลา เมื่อเปิดเข้าไปก็ยิ่งแปลกใจเมื่อปรากฏสายที่ไม่รับเกือบยี่สิบสาย แค่เฉพาะของแฟนสาวก็สิบกว่าแล้ว นอกนั้นก็เป็นเบอร์ทางไกลจากต่างประเทศครอบครัว และอื่นๆก็เป็นเบอร์เพื่อนสนิททั้งสองคน

        โอ้โหปิดสั่นคืนเดียวนี่คนคิดถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ

        ผมทำหน้ามึนงงสงสัยพอดีกับที่มือถือในมือสั่นและหน้าจอสว่างวาบ รายชื่อที่ปรากฎคือยัยเด็กแสบเขาจึงรีบกดรับพร้อมกับเปิดกล้อง หลังจากเหลือบตามองนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาสายโด่งแล้วดังนั้นช่วงเวลาที่ซีกโกลนั่นคงดึกดื่นพอควรแล้ว



       ‘ว่าไงตัวแสบ’

       ‘พี่ยิมหายไปไหนมา’

       ‘อ๋อ พอดีพี่หลับแล้วดันเปิดมือถือสั่น’

       ‘โธ่เอ้ยไอ้เราก็นึกเป็นห่วง คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงมากนะโทรหาพี่แล้วไม่รับสาย  แล้วยัยพี่นัตตี้ยังโทรมากวนคุณแม่อีกว่าพี่ไม่รับโทรศัพท์วุ่นวายไปหมด คุณพ่อเพิ่งพาคุณแม่ไปนอนเมื่อกี้เอง’

       น้องสาวผมเหมือนว่าอัดอั้นมากพอผมรับสายเธอถึงได้พรั่งพรูคำพูดใส่ผมอย่างไม่หยุดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ผมถอนหายใจเมื่อได้ยินว่าแฟนสาวผมไปรบกวนบิดามารดาอีกแล้วเวลาที่โทรหาผมไม่ติด และก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ไม่ได้รับสายครอบครัวซึ่งโทรคุยกับผมทุกวัน

        “ พี่ขอโทษ” ผมยอมรับผิด “ พอดีวันนี้ดื่มนิดหน่อยรู้อีกทีเมาหลับไปเลย”

        “......” ตัวแสบถอนหายใจแรงๆ

        “ พี่ยิม”

        “ ว่าไง”

        “ คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงพี่มากนะ” สายตาน้องสาวผมแสดงออกชัดเจนว่าห่วงใยผมไม่ต่างจากบิดามารดา

        “พี่รู้...พี่ขอโทษนะใยบัวที่ทำให้เป็นห่วง”

        “ อืม”

        “ รอให้ที่โน่นเช้าก่อนพี่จะโทรไปขอโทษคุณพ่อคุณแม่”

        “.......”


         ยัยแสบยิ้มกว้างทำหน้าแป้นแล้นจนนึกอยากจะหอมเหม่งนั่นแรงๆ

        “ กรี๊ดดดดดดด”


         ผมสะดุ้งโหยงแทบจะทำโทรศัพท์มือถือร่วง ภาพในจอคือน้องสาวผมร้องเสียงดังชี้นิ้วใส่ผมแล้วดิ้นเร่าๆจนผมตกใจ

        “ ใยบัวเป็นอะไร”

        “ กรี๊ดดดด”

        “ ใยบัวตอบพี่หน่อย เป็นอะไร”

        ภาพในจอหลังจากที่ใยบัวดิ้นเร่าๆหล่อนก็ผุดลุกขึ้นมานั่งบิดตัวไปมาด้วยท่าทางเขินอาย สาวเจ้ากัดปากแล้วเผยอน้อยๆก่อนจะชี้ไม้ชี้มือไปข้างหลังผม

        “ นั่นมันพี่หมอปาย พี่หมอปายของน้อง”

         ผมมองตามนิ้วมือของน้องสาวทันเห็นมันถือผ้าขนหนูซับหน้าเดินออกมาจากห้องน้ำ มันมองผมงงๆส่วนผมก็แค่ยักไหล่ก่อนจะหันมาสนใจสาวน้อยที่ทำหน้าเคลิ้มฝันไปในโลกจินตนาการแล้ว

        “ พี่หมอปายขา”

        “ อะไรนะ”

        “ พี่หมอคนนี้ไงที่น้องบอกว่าเค้าคือคิวท์บอยในตำนาน” พูดไปยิ้มไป “ ว่าแต่พี่ยิมรู้จักพี่เค้าได้ยังไงอ่ะ”

         สีหน้าใคร่รู้ของเจ้าแสบดูจะทำเอาตอบแทบไม่ถูก

        “ ไปรู้จักกันยังไง แล้วทำไมอยู่ห้องเดียวกัน”

        “ เอ่อ”

        “ หรือว่าพี่ยิมกับพี่หมอปาย”

        ใยบัวชูนิ้วชี้ทั้งสองข้างแล้วเคลื่อนมาชนกันทั้งยังทำหน้าทำตาตื่นเต้นไปอีก

        “ พอๆเลิกมโน”

        น้องสาวผมหุบยิ้มก่อนจะค้อนให้

        “ แล้วทำไมพี่เค้ามาอยู่กับพี่ได้ แล้วพี่เค้าตัวจริงเป็นยังไงบ้าง หล่อมั้ยแล้วนิสัยดีรึเปล่า แล้ว..”

        “ พอๆ...ถ้าอยากรู้ก็คุยกันเองแล้วกัน”


         ผมส่ายหัวอย่างขำๆก่อนจะเดินดุ่มไปยัดโทรศัพท์มือถือใส่มือมัน หมอปายทำหน้ามึนงงยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามอะไรผมก็ชิ่งหนีเข้าห้องน้ำแทนที่มันเลย

        ผ่านไปหลายนาทีเหมือนกันกว่าผมจะทำธุระส่วนตัวเสร็จ แต่พอออกจากห้องน้ำดันได้ยินเสียงหัวเราะขบขันของใครบางคน ผมขมวดคิ้วประหลาดใจเมื่อเห็นภาพมันกำลังหัวเราะน้อยๆกับหน้าจอโทรศัพท์ ไม่ต่างจากน้องสาวตัวเองที่หัวเราะเสียงใส

        ...คุยอะไรกัน...

        ผมสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆด้วยความสงสัย “ หัวเราะอะไรกัน”

        คู่สนทนาทั้งคู่ไม่ตอบได้แต่อมยิ้มจนผมต้องยอมแพ้ไม่สนใจไปเอง ไม่นานหลังจากนั้นใยบัวก็หาววอดๆผมถึงได้ไล่ให้ไปนอนเพราะเวลานี้ในอีกซีกโลกคงดึกมากแล้ว

        “ ท่าทางคุณกับน้องสาวผมจะเข้ากันดี”

        “ น้องสาวมึงน่ารัก” หมอปายพูดยิ้มๆสีหน้าแววตาคงจะเอ็นดูยัยแสบไม่น้อย

        “ แล้วพี่มันล่ะ”

        ผมยักคิ้วแกล้งถามอย่างกวนๆ มันแสยะยิ้มกอดอกพิงเคาน์เตอร์โซนครัวแล้วยักไหล่

       “ มึงก็กล้าถามเนอะ”

       “ แล้วผมเป็นยังไงในสายตาคุณ”

       “ กวนตีน”  หมอปายพูดนิ่งๆ แต่ผมขำพรืด

      หมอยักไหล่ก่อนหันไปสนใจอาหารตรงหน้าคาดว่าคงจะเอาออกมาเวฟช่วงที่ผมเข้าห้องน้ำ ถึงว่าน้ำย่อยในกระเพาะถึงเริ่มทำงานเพราะหอมหวลที่ยั่วน้ำลายตรงหน้านี่เอง

       “ กินด้วยสิ”

       หมอปายเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะบุ้ยปากไปยังตู้เย็น “ อาหารแช่แข็งอยู่ในตู้อยากกินก็เวฟเอา”

       “ ผมอยากกินอันนี้นี่”


       อันนี้ที่ว่าคือ ‘สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน’ อาหารที่ผสมผสานความเป็นไทยและสากลที่จัดวางอยู่ในจานอย่างสวยงาม มันเขม่นมองผมก่อนจะคว้าจานหนีผมทันที

        “ อันนี้ไม่ได้”

        “ แค่นี้ก็หวงด้วย”

        “ แค่เฉพาะอันนี้”

        “ ผมไม่แย่งคุณกินก็ได้”

        ผมส่ายหน้าขำเมื่อเห็นภาพร่างสูงซ้อนทับกับภาพของเด็กน้อยที่หวงของกิน  หลังจากพวกเราจัดการกับอาหารเช้าอย่างรวดเร็วแล้วก็เตรียมตัวกลับห้องพอดีเสียงสั่นของโปรแกรมไลน์เข้ามาพอดี  ผมเปิดอ่านข้อความที่ส่งมาก่อนจะยิ้มขำ


       “ ผมกลับห้องก่อนนะ”

       “ อืม”

       “ เฮ้ย”

       “ เชี่ย มึงทำอะไร”


        หมอปายชกไหล่ผมแรงๆ ดีว่าไม่เอาเข่ากระแทกผมด้วยและแรงหมัดเต็มเหนี่ยวนั่นก็โดนจังๆทำเอาเจ็บเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ปล่อยอ้อมแขนที่โอบกอดมันเอาไว้

       “ มึงเป็นเกย์รึไง”

       “ คุณสิเป็นเกย์” ผมสวนกลับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่มันเริ่มจูบผมก่อนทั้งยังเรื่องที่มันมีเพื่อนชายมาแอบชอบ มันพ่นลมหายใจแรงๆก่อนจะดิ้นผละหนีแรงๆ

       “.........”

      “ น้องสาวผมฝากกอดคุณ”


         แรงที่ดิ้นหนีกลับหยุดนิ่ง มันยืนนิ่งปล่อยให้ผมโอบกอดเอาไว้ “ ใยบัวบอกผมว่าให้กอดคุณแน่นๆแล้วบอกว่าสู้ๆนะ”

         ผมรู้สึกได้ถึงตัวมันแข็งเกร็งขึ้นก่อนจะผ่อนคลายลงในที่สุด เมื่อนั้นผมถึงได้รู้สึกฝ่ามือมันลูบไล่ผมเบาๆเสมือนการกอดตอบ ผมรับรู้ได้ว่ามันยอมรับอ้อมกอดนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป


        “ ฝากบอกน้องสาวมึงด้วย”

        “.....”

        “ กูคงไม่มีอะไรตอบแทนความหวังดีของเค้าได้นอกจากคำว่า ‘ขอบคุณ’ ขอบคุณมาก”

         ผมกลับมาที่ห้องตัวเองแล้วทรุดตัวลั่งนั่งที่โซฟากลางห้อง ผมนิ่งเงียบพยายามฟังเสียงบางอย่างที่สั่นระรัว และก็ได้ตำตอบว่าเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้นอย่างรุนแรง








หายไปนานค่ะ พอดีช่วงสงกรานต์คอมฯเสียเพิ่งซ่อมเสร็จจ้า เอามาเสิร์ฟดึกหน่อยน้า สดๆร้อนๆเลย :hao5:
ตอนนี้เริ่มหลงกันยังน้อ ไม่รู้ใครจะหลงใครเนอะ แต่เค้าหลงกันแล้วล่ะดูเอาสิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
#หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะจ้า #เจอกันตอนหน้าจ้า
:bye2:

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: [x]-SayHi ที่ 24-04-2016 00:09:57
อาการละเมอ ครึ่งหลับครึ่งตื่นนี่มันเพลินดีแท้นะคับ ^^-
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-04-2016 00:27:31
อียิม. หยอดหมอแยมตลอดๆ. อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-04-2016 02:43:21
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-04-2016 03:35:49
สนุกกกมากอย่าหายไปอีกนะ :hao5: :hao5: :hao5:
ซื้อคอมสำรองเลย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-04-2016 07:20:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-04-2016 08:35:53
เริ่มหวั่นไหวกันแล้ว~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 24-04-2016 09:19:12
สนุกมากกกกก ติดตามจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 24-04-2016 10:35:33
สนุกมากค่ะ เกือบจำตัวละครไม่ได้..
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: benicezii ที่ 24-04-2016 11:13:36
กรี้ดดดดดดด :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 24-04-2016 12:34:34
สงสารหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 24-04-2016 12:38:58
เกลียดดดดด. เกลียดตัวเองนี่แหละ ว่าจะรอใกล้ๆจบค่อยอ่าน
แต่ทนเสียงหัวใจไม่ไหวเลยต้องอ่าน55555
รักกกก รักน้องยิมมากกกก
ชอบผู้ชายแบบนี้. แบบนี้แหละถึงจะดูแลพี่หมอได้
เวลาพระเอกเรียกปายเฉยๆชอบง่าาา
รู้สึกถึงความพิเศษ
รอวันที่น้องจะทำให้คนพี่แทนชื่อตัวเองน่ารักๆนะ5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 24-04-2016 16:55:10
ฝากให้กอดก็กอด ถ้าฝากให้กดจะกดมั้ย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 24-04-2016 23:30:07
ปายเริ่มประทับใจขึ้นมาบ้างแล้วเนอะ
ตอนนึ้ลุ้นอีกคู่ก่อนค่ะ สงสารเนม ไม่รู้ว่าโดนฤทธิ์เพื่อนแฟนมานานขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 24-04-2016 23:49:07
ใครเมะใครเคะเดาไม่ถูกเบย :laugh:
เนมกับโอ้ตก็น่ารักค้า เชียร์ๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 25-04-2016 09:16:14
ลุ้นทั้งสองคู่  :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-04-2016 00:43:48
โอ๊คเนมก็น่ารัก ยิมปายก็ฟิน
จะรออ่าตอนต่อไปนะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-04-2016 14:03:00
หมอปายน่าสงสารจัง แม่เลี้ยงหมอปายคงไม่ใช่คนรักเก่าของหมอหรอกนะ
แล้วไหนเลยถึงกลายเป็นเมียพ่อไปได้ล่ะ แล้วพ่อของหมอไม่รู้เลยเหรอ
ว่านั่นน่ะคนรักของลูกตัวเองน่ะ หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น และไหนน้องชายของหมออีก
คงเป็นลูกที่เกิดกับแม่เลี้ยงใช่มั้ย ปายถึงรับไม่ได้ยั้งงี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-04-2016 15:36:17
ใครจะรุกใครเนี่ย ลุ้นปายยิมได้มั้ยอ่ะ

ปล.เอายัยโรคจิตนัตตี้ไปเก็บไกลๆได้มั้ยคะ น่ารำคาญมากกกกกกกกก :mew5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 05-05-2016 17:16:07
สนุกกกๆๆๆดันๆชอบ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 09-05-2016 01:36:02
อย่างนี้ต้องยืมมือน้องช่วยเป็นสะพานเชื่อมนะยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 10-05-2016 18:31:21
ปายยิม ปายยิม ปายยิม ปายยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: {TN} ที่ 10-05-2016 22:51:46
อ่านแล้วขอเชียร์ยิมปายนะ
กิกิกิ

รอมาอัพต่อนะคะ ><
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 11-05-2016 22:31:15



         หลงที่ 8 : รักสามเศร้า



         

         [ยิม]





        “ ยังติดต่อไม่ได้หรอวะ”


         ผมถอนหายใจก้มมองปลายสายที่เพียรโทรหาซึ่งอยู่กันคนละทวีปก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบที่ไอ้โอ๊คมันถาม มันยักไหล่พร้อมทำหน้าเบื่อหน่าย

        “ ติดแต่ไม่มีคำรับ”

        “ งั้นก็หมายความว่าเขาไม่อยากรับสายมึง”

        ใช่ เห็นจะเป็นอย่างที่มันกล่าวอ้างนั่นแหละ

        ผมคลึงขมับตัวเองแน่นแล้วถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน ผมพยายามติดต่อกลับไปหาแฟนสาวเพื่อขอโทษเรื่องที่เมื่อคืนปล่อยให้เธอโทรตามกว่าสิบสายแต่พยายามเท่าไหร่ความพยายามของผมก็ไม่สำเร็จผลสักที นั่นหมายความว่าเธอโกรธผมมากแน่นอน


        “ใจเย็น” มันตบบ่าผม

        “ อืม”

        “ ปล่อยไปก่อนให้ใจเย็นกว่านี้ก่อนค่อยคุยกันไม่ดีกว่าเหรอ”

        “ แต่กู”

         ผมถอนหายใจอย่างปลงๆนึกห่วงความรู้สึกของเธอไม่น้อย ยิ่งอยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลกเวลาจะพูดคุยทำความเข้าใจก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ขนาดอยู่ใกล้กันกว่าจะง้อได้แต่ละครั้งก็เล่นเอาหืดขึ้นคอ ผมทราบดีว่าตลอดเวลาที่คบกันมาเธอเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจและแสนงอนเป็นที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นนัตตี้ก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักเพราะเวลาเธอดีก็ดีแสนดีซ้ำทุกการกระทำที่
แสดงออกว่าเธอรักผมมากมันทำให้ผมละอายใจที่ผมรักเธอได้ไม่เท่ากับที่เธอรักเลย

         คิดถึงความสัมพันธ์ตลอดสามปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะนาน เหมือนว่าเรารู้จักกันและกันเป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงแล้วเราแทบจะไม่รู้จักกันเลยหรือแท้จริงแล้วเราแทบไม่รู้จักกัน

         ผมวางมือถือลงเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณฝากข้อความจากปลายสาย...สุดท้ายเธอก็ปิดมือถือหนีผม

         “ เฮ้ย”

        บางทีผมก็ง้อจนเหนื่อย

        ยิ่งห่างไกล...ยิ่งเหมือนใจจะเลือนราง

        ผมเหม่อมองไปเบื้องหน้าในหัวเต็มไปด้วยความคิดหลากหลาย แน่นอนว่ามีเรื่องของเธออยู่ในนั้นแต่แปลกไปคือช่วงแวบ นึงผมกลับเห็นภาพของเพื่อนข้างห้องหลุดเข้ามาในห้วงแห่งความคิด ผมมองเห็นภาพของหมอปายยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มสว่างไสวก่อนที่เราจะแยกกันเมื่อเช้า

        “ มึงนั่งกุมอกทำไมวะ”

        โอ๊คมันทำหน้าแปลกๆที่เห็นผมยกมือข้างนึงกุมหน้าออกของตัวเอง

        “ เช็คน่ะ”

        “ เช็คอะไรวะ”

        “ กูรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแปลกๆ”

        “ มึงเป็นโรคหัวใจเหรอ”  ไอ้โอ๊คทำหน้าตื่นจนผมยิ้มขำ

         “ น้ำหน้าอย่างมันเป็นโรคหัวใจขาดรักน่าจะเหมาะกว่า”


        พี่หนึ่งซึ่งนั่งดื่มอยู่ใกล้ๆเอ่ยแซวทำเอาลูกทีมซึ่งประกอบไปด้วยทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ผมที่ไปช่วยพี่แกที่สตูฯเกือบสิบคนเป่าปากแซวมันกันใหญ่ “ อย่าเศร้าไปไอ้น้องแค่แฟนไม่รับสายแค่นี้”

        “ เชื่อกูหล่อๆอย่างมึงเดี๋ยวกูหาสาวๆมาดามใจให้”

        “ หาให้ผมด้วยดิพี่”

        “ แล้วที่เรียงคิวไปให้มึงป้อหลังซ้อมบอลนั่นล่ะกูว่าแค่นั้นก็ยาวเป็นหางว่าวแล้วมั้ง”

        พี่หนึ่งสวนไอ้โอ๊คซึ่งสอดปากขึ้น มันยักไหล่ขำๆ “เค้าเรียกว่าใช้ชีวิตคนโสดให้คุ้มค่าพี่”

        “ คุ้มมากไอ้ห่า งั้นแบ่งมาเผื่อเพื่อนมึงด้วย”

         โอ๊คมันโบกมือปฏิเสธ


        “ ไอ้ห่ายิมมันคนดี มันพ่อพระไม่เคยออกนอกลู่นอกทางหรอกพี่ ขนาดพาไปปาร์ตี้ขากลับเค้าได้สาวไปเป็นคู่ๆ ไอ้ห่านี่เสือกพาเค้าไปส่งบ้านแล้วกลับออกมาเฉยๆ”

        “ สุภาพบุรุษสุดตีน”

        ผมส่ายหน้าอย่างไม่ใคร่จะยอมรับคำปรามาสนั่นเท่าไหร่ก็จะให้ทำอะไรแบบนั้นได้เล่าในเมื่อเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ไอ้เรื่องนอกกายนอกใจมันถึงไม่มีอยู่ในสมองเลย

        “ ไอ้ห่าที่เทวดามาเกิดรึไงวะ” พี่หนึ่งแซว “ กูอยากรู้นักว่ามันจะมีใครมาทำให้พ่อพระนี่ตบะแตกคิดอยากจะนอกกายนอกใจแฟนบ้างวะ”

        “ คงยากพี่”

        ไอ้โอ๊คยักคิ้วหลิ่วตามาทางผม “เพราะมันตายด้าน”

         “ อ้าวๆไอ้โอ๊ค”

        ผมสถบก่อนจะถีบเก้าอี้มันแรงๆ โดยที่รอบข้างต่างสงเสียงแซวกันดังลั่นร้านเหล้าหลังมหาวิทยาลัย ผมส่ายหน้าพอดีกับสายตาหันไปเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้าน

        หัวใจผมกระตุกวาบ

        เพราะหนึ่งในนั้นคือคนที่เพิ่งนึกถึงไปก่อนหน้านี้ หมอปายกับเพื่อนของมันกำลังเดินมาทางนี้ บ่าของมันถูกเพื่อนที่ชื่ออั้มพาดแขนแสดงถึงความสนิทสนมของทั้งคู่ใกล้กันนั้นมีผู้ชายร่างเล็กตัวออกจะขาวซีดก้าวตามมาติดๆ นอกนั้นก็น่าจะเป็นนิสิตแพทย์รุ่นพี่อีกสี่ห้าคนเดินพูดคุยหัวเราะกันเข้ามา

         ผมจ้องมองภาพนั้นนิ่งทั้งที่ในใจมีความรู้สึกที่แปลกไป

         “ กูอยากรู้นักว่ามันจะมีใครมาทำให้พ่อพระนี่ตบะแตกคิดอยากจะนอกกายนอกใจแฟนบ้างวะ”

         ไม่แน่หรอกอาจจะมีใครบางคนที่ทำให้ผมผิดบาปด้วยการนอกใจแฟนตัวเอง

         แค่คิดก็ผิดแล้วไอ้ห่ายิม...ผมคิดในใจ


         “ จ้องขนาดนั้นมึงรู้จักรึไง” ไอ้โอ๊คก้มลงมากระซิบกระซาบ

         “ .......”

         “ เฮ้ยปาย”

         “ อ้าวไงวะหนึ่ง”

         ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบเพื่อนสนิทพี่หนึ่งแกก็ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนข้างห้องผมอย่างดัง ฝ่ายนั้นเอี้ยวตัวหันมามองด้วยความแปลกใจก่อนที่มันจะหันไปดูอะไรไม่รู้กับเพื่อนมันแล้วผละมาทางโต๊ะผม

         “ ไง”

         “ สบายดีมึงล่ะ”

         “ ก็ดี” หมอปายเหลือบตามองผมแวบหนึ่งก่อนจะกวาดตาไปรอบๆ จังหวะนั้นที่ผมเองกดยิ้มมุมปาก

         “ ไม่เห็นไปช่วยงานอบจ.เลยวะ”

         “ กูไม่ค่อยว่างช่วงนี้ขึ้นราวน์วอร์ด”

         “ อ๋อ”

         “ คงเรียนหนักสิมึง”

        “ อืม มึงก็ใกล้จบแล้วสิ”

        “ เออ ช่วงนี้ทำโปรเจ็คหนังสั้นได้น้องๆพวกนี้มาช่วย” พี่หนึ่งผายมือมาที่พวกเรา “โดยเฉพาะไอ้ยิมนี่มือหนึ่งตัดต่อเชียวล่ะ” พี่แกชี้นิ้วมาทีผม หมอปายมองตามมือพี่หนึ่งมาที่ผม

       เราสบตากันนิ่ง

       มันยิ้มมุมปากก่อนจะรับคำในลำคอ “ อืม”

       “ กูไปก่อนนะไว้ๆว่างไปแดกเหล้ากัน”

       “ อืม”

       ผมเงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างมันกับพี่หนึ่งเงียบๆ ก่อนที่มันจะขอตัวผละออกไป

       “ ใครเหรอพี่”

        เพื่อนผมคนนึงในโต๊ะถามขึ้น พี่แกเหลือบตามองก่อนจะหัวเราะขำ “นี่พวกมึงไม่รู้จักคิวท์บอยในตำนานรึไง”

        “ อ๋อ” เจ้าเดิมทำหน้าเหมือนคุ้นเคย “ ใช่ที่เค้าว่าเรียนหมอรึเปล่าพี่”

        “ อืม ไอ้หมอปายรุ่นเดียวกับกูนี่แหละ สมัยมันเข้ามาปีหนึ่งใหม่ๆนะหน้าใสกิ๊กโครตเกาหลี เค้าจะให้มันประกวดเดือน  มหาลัยด้วยแต่เสือกไม่เอานี่ขนาดมันไม่ได้ตำแหน่งอะไรนะสาวๆนี่ตามหากันให้ควั่ก”

        “ ขนาดนั้นเลย” พวกนั้นทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

        “ แล้วพี่ไปรู้จักได้ไงอ่ะ”

        พี่หนึ่งยิ้มๆก่อนจะตอบ “เคยทำงานให้สภามหาวิทยาลัยตอนปีหนึ่งด้วยกัน”

        “ ข่าวว่าโครตลึกลับจริงป่าวพี่”

        คราวนี้ทั้งโต๊ะต่างพร้อมกันอยากรู้ประวัติของหมอปาย คนตอบจึงขมวดคิ้วนิดๆ ส่วนผมแค่นั่งจิบเบียร์ไปตามเรื่องตามราว

        “ นี่พวกมึงปราวารนาตัวเป็นแฟนคลับมันรึไง”

        “ เปล่าพี่ๆ” เพื่อนเขาโบกมือปฏิเสธ

        “เก็บข้อมูลเอาไว้เวลาคุยกับสาวๆจะได้รู้เรื่อง” เพื่อนๆเขาพูดไปหัวเราะไป “ ช่วงนี้สาวๆในคณะพูดถึงแต่เรื่องหมอปายกัน รู้ไว้จะได้มีเรื่องชวนคุยกับสาวๆเค้า”

        “ เออ ความคิดพวกมึงเข้าท่าเนอะ” พี่หนึ่งสัพยอก

        “ ว่าก็ว่าเถอะนะ พี่หมออะไรนั่นเรียนเก่งแล้วแม่งยังเสือกหล่ออีก พี่เค้าจะเพอร์แฟ็คอะไรขนาดนั้นวะ”

        “ เออจริง”


        บทสนทนาเหล่านั้นเข้าหูผมก่อนจะผ่านเลยไป คนอย่างหมอปายนะเหรอน่าอิจฉา คนอย่างมันนะเหรอที่แสนจะเพอร์แฟ็ค คงไม่มีใครรู้ว่าลึกลงไปผู้ชายที่เก่งกาจไปรอบด้านซึ่งชอบทำหน้านิ่งเฉยกับทุกเหตุการณ์แท้จริงแล้วมันกำลังทำเฉยเพื่อผ่านเลยเหตุการณ์ที่แสนเจ็บปวดไปให้ได้ การที่มันดูนิ่งเฉยนั้นบางทีข้างในมันอาจจะร้องไห้อยู่ก็ได้ใครจะไปรู้ได้ แต่นั่นละเรื่องนั่นผมบังเอิญก้าวเข้าไปร่วมรับรู้ด้วย

         คนที่แสนจะสมบรูณ์แบบกลับมีมุมเด็กๆอย่างการหวงของกินและเขินอายทุกครั้งที่มีคนแสดงความห่วงใย

         หึ แท้จริงแล้วหมอปายมันไม่ได้เพอร์แฟ็คหรอกแต่เพราะมันเป็นของมันแบบนั้น ใครต่อใครต่างกล่าวขวัญถึงเพราะมันมีในสิ่งที่หาได้ยากคือเสน่ห์ในแบบของไอ้หมอปาย

         เสน่ห์ที่ทำให้คนมองเพียงแรกพบกลับหลงใหลและพอได้รู้จักชิดใกล้กลับเป็นความรู้สึกถอนใจไม่ได้เลย









                                                   **********************************




          [หมอปาย]



         “ โทษทีนะพี่ผมไม่มีของอะไรติดมือมาให้เลย”

         “ ไม่เป็นไร”

         พี่รหัสในสายโบกมือปฏิเสธอย่างไม่ใส่ใจ

         “ แค่ปายมาก็ดีแล้ว”

         “ พูดเหมือนผมหาตัวยากขนาดนั้น”

         รุ่นพี่ผู้หญิงปีห้าหัวเราะร่วนพาให้ทุกคนในโต๊ะหัวเราะตาม “ ก็ใครต่อใครพูดกันว่าปายหาตัวยากนิ”

         “ หาไม่ยากหรอกพี่อยู่ที่ว่าปายมันอยากจะมารึเปล่า”

         อั้มมันสัพยอกผม

         “ โอ้โห้ปกป้องคู่จิ้นตัวเองซะด้วย”

         รุ่นพี่ผู้หญิงแซวพร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมกับอั้ม ผมแค่ยิ้มอ่อนๆนึกถึงเรื่องราวของผมกับอั้มที่ถูกจับให้เป็นประเด็นด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งเพราะสนิทกันมากตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาจริงๆไม่เชิงว่าอยู่ด้วยกันสองคนหรอกมีหยกอยู่ด้วยอีกคน  แต่เพราะพอถูกแซวทีไรอั้มมันชอบออกรับแทนเลยไม่แปลกที่รุ่นพี่ในสายเขาจะจับประเด็นแซวกันขำๆแบบนี้ ยิ่งวันนี้เป็นวันรวมตัวกันของสายรหัสเขาเนื่องจากเป็นวันเกิดของรุ่นพี่ปีห้าที่เอ่ยแซวก่อนหน้านี้


         “ คู่จิ้นอะไรล่ะพี่”

         “ แหน่ะมีอาการ”

         “ โธ่พี่”

         “ หึ”

        อั้มขยับมาโอบบ่าผมไว้เป็นการแกล้งเล่นเรียกเสียงเฮจากรุ่นพี่ผู้หญิงที่พร้อมใจกันปิดปากแล้วทำเสียงเล็กเสียงน้อย ผมยิ้มขำก่อนจะโบกมือปฏิเสธเมื่อเหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทอีกคนนั่งเงียบตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน

        “ หยก”

        “ หืม”

        ใบหน้าขาวซีดยิ้มรับ “อะไรเหรอ”

        “ เห็นบ่นอยากกินตั้งแต่กลางวันไม่ใช่เหรอ” ผมยื่นจานทอดมันให้

        “ อ๋อ”

        หยกสะดุ้งเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ใบหน้าขาวดูเจื่อนลง ผมถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปแตะหลังมือมันเอาไว้

        “ หยก”

        “ กูไม่เป็นไร”

        มันพึมพำเสียงแผ่ว

        “ มีอะไรรึเปล่า”

        อั้มมันถามขึ้นเมื่อเห็นผมก้มลงไปกระซิบกระซาบกับหยกอยู่สองคน ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นขมวดมุ่นก่อนจะเหลือบมองหยกนิ่งทำให้อีกฝ่ายเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

        ผมแกล้งถองศอกใส่ท้องอั้มแรงๆจนมันสะดุ้งแล้วเขม่งมองหน้ามันแล้วบุ้ยปากไปที่จานทอดมันตรงหน้า อั้มถอนหายใจก่อนจะคว้าของกินดังกล่าวยื่นไปตรงหน้าหยก


       “ อ่ะ”

       หยกทำหน้าอึ้ง

       “ กินสิ”

       “.......”

        “ ช่วงนี้มึงไม่ค่อยกินข้าว หาอะไรใส่ท้องบ้างเดี๋ยวจะไม่สบาย”

        จบประโยคยืดยาวของอั้ม หยกมันก็จิ้มของกินตรงหน้าเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ใบหน้าขาวซีดดูสดใสมากขึ้น ผมมองภาพนั้นแล้วยิ้มออกมา

        อย่างน้อย

        อย่างน้อยก็อยากจะรักษาความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของพวกเราไปให้นานที่สุด ถ้าเปรียบอั้มเป็นเพื่อนรัก หยกก็คือเพื่อนแท้ของผม ผมไม่อยากต้องเสียใครคนใดคนหนึ่งไปในวันที่ความรู้สึกของพวกเราคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนไป

        ถึงความรู้สึกของใครบางคนอาจจะไม่เหมือนเดิมแต่ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเราเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี


        “ นั่งเหงานานแล้วอ่ะ ไหนๆคู่จิ้นขึ้นไปร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ”

        “ เอาจริงเหรอพี่”

        “ เออดิ” รุ่นพี่ทำหน้าจริงจังก่อนจะพยักพเยิดมาทางพวกผม “นี่อุตส่าห์ปิดโซนฝั่งนี้เพื่ออยากได้ความเป็นส่วนตัวเลยนะเนี่ย”

        ผมมองไปรอบๆร้านอาหารกึ่งบาร์ซึ่งแบ่งเป็นโซนและแต่ละมุมความเป็นส่วนตัวซ้ำยังเวทีเล็กๆพร้อมเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้นสำหรับเฉลิมฉลองกันแบบไม่จริงจังนัก

        “ ผมขอตัวพี่ให้อั้มมันร้องเลย”

        “ อะไรว้า”

        “ .....” ผมส่ายหน้าไปมา สุดท้ายอั้มมันเลยขึ้นไปนั่งเกลากีตาร์เบาๆอยู่ตรงเวทีเล็กๆคนเดียว

        “ ไม่เอาเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์นะน้องอั้ม อารมณ์นี้พี่ขอหวานๆเลย”

        “ จัดไปครับพี่”



        อินโทรเสียงกีต้าร์ขึ้นเบาๆเรียกเสียงปรบมือจากคนทั้งโต๊ะ พร้อมกับเสียงโห่แซวที่พร้อมใจกันส่งมาให้ผม ผมกับหยกสบตากันอย่างประหลาดใจพอดีกับที่เนื้อเพลงถูกขับกล่อมออกมา


**อยากรู้ ใจเธอมีฉันหรือเปล่า
อยากรู้ ว่าเธอได้ยินบ้างไหม**



       “ ฮิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

       “ เฮ้ยๆ นี่พวกมึงจีบกันออกสื่อเลยเรอะ”

        ทั้งโต๊ะเป่าปากแซวอย่างขบขัน ผมนิ่งเงียบอยากจะหลับตานิ่งเพราะรู้สึกได้ถึงอาการสั่นสะท้านของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน  ผมเหลือบตามองอั้มนั่งเกลากีต้าร์พร้อมกับปล่อยเสียงทุ้มนุ่มหูออกมาให้ฟัง แววตาคู่นั้นของมันจดจ้องมาที่ผมอย่างแน่นอน



**ก็เสียงใจมันบอก ว่ารักเธอมากมาย
ร่ำร้องเรียกภายในใจเท่านั้น**



         ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมไม่อยากสบตากับมัน ผมไม่อยากเห็นว่ามีกระแสบางอย่างมันถูกถ่ายทอดออกมาจากแววตาคู่นั้น ผมรู้ดี รู้มาตลอดว่ามันคิดยังไงทั้งคำพูดและการกระทำทุกอย่างบ่งบอกมันคิดกับผมเกินเพื่อน อั้มคือเพื่อนสนิทตั้งแต่จำความได้ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกของมันเปลี่ยนไป

        ความรู้สึกของเรากำลังสวนทางกันในขณะที่มันรักผมเกินกว่าเพื่อน แต่ผมรักมันมากเกินกว่านั้นไม่ได้ ผมไม่มีวันรู้สึกกับมันเปลี่ยนไป

        “ กูไปเข้าห้องน้ำนะ”

        หยกมันผุดขึ้นก่อนจะรวบรัดบอกผมเสียงแหบพร่า ผมหลับตานิ่งรู้สึกได้ถึงหัวใจที่วูบโหวงก่อนจะผุดลุกขึ้นตามหยกออกไป รุ่นพี่ในโต๊ะทำหน้ามึนงงที่เห็นผมลุกพรวดพราดตามหยก วินาทีนั้นผมเหลือบตามองคนบนเวทีที่มองตามมา แววตามันดูเจ็บปวด

        กูขอโทษ...ได้แต่บอกมันในใจก่อนจะก้าวตามเพื่อนสนิทอีกคนออกไป

        ผมไม่รู้หรอกว่ามันร้องเพลงนั้นจบมั้ย

        ผมไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง

        ผมขอโทษเพราะรู้ว่ามันจะเสียใจกับการกระทำที่ผมลุกออกมาดื้อๆแบบนี้ แต่ผมทำไม่ได้ในเมื่อยังมีเพื่อนอีกคนกำลังร้องไห้อยู่ตอนนี้


       “ หยก”

       “ ....”

        ผมวิ่งตามไปคว้าแขนของหยกตอนที่คนตัวซีดเดินสะโหลสะเหลอยู่แถวๆข้างร้าน คนตรงหน้าผมนิ่งเงียบแต่เนื้อตัวสั่นเทาผมได้ยินเสียงสะอื้นที่เบาแสนเบาแต่ฟังแล้วโครตเจ็บปวด

      “ ไม่เป็นไร”

       “ หยก”

       “ กูไม่เป็นไร”

         ผมสวมกอดหยกเอาไว้แน่น มันหันมาซุกใบหน้ากับอกผมแล้วปล่อยน้ำตาไหลอย่างอัดอั้นตันใจ ผมได้แต่ลูบไล้แผ่นหลังมันเบาๆระหว่างเราไม่มีคำพูดใดๆ หยกมันกัดฟันแน่นสีหน้าดูเจ็บช้ำทั้งแววตาที่แดงก่ำยังดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน

        “ ร้องออกมาเถอะ ร้องออกมาให้หมด”

        “ ฮือ”

        หยกมันปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น

        “ ไม่เป็นไร” มันกระซิบบอกผมเสียงแผ่ว “ กูไม่เป็นไร”

        ผมกอดมันแน่นในใจมันเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก ท่าทางหยกมันอดทนอดกลั้นอย่างสุดกำลัง ผมรู้ดีว่ามันกำลังไม่ไหว ไหล่น้อยๆของมันกำลังแบกรับความเจ็บช้ำอย่างแสนสาหัส

        “ มึงเสียใจได้หยก” ผมบอกมัน “ แต่มึงหยุดรักตัวเองไม่ได้”

       มันพยักหน้าร้องไห้อยู่กับอกผม

        “ เดี๋ยวพรุ่งนี้มันจะดีขึ้น” ผมหลับตานิ่ง “ มันต้องดีขึ้น”

        มันร้องไห้กับอกผมอยู่นาน

        นานมากจนรู้สึกได้ว่าเข็มนาฬิกาขยับเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้ว หยกค่อยๆโผล่หน้าออกจากอกผม มันเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะค่อยๆส่งยิ้มให้

        “ ขอบคุณมากปาย อย่างน้อยกูก็มีมึง”

        “ อืม”

        หยกมันผุดลุกขึ้น “ วันนี้น้องชายมารับ” มันบอกผมก่อนจะพยายามทำหน้าร่าเริงทั้งที่ดูฝืนเหลือเกิน

        “ กูปล่อยมึงไปเองได้ใช่มั้ย”


        หยกพยักหน้ารับรัวๆนัยน์ตายังแดงก่ำแต่สีหน้าดูสดใสขึ้นถึงแม้แววตาจะเศร้าจับใจ ผมเดินไปส่งมันพอดีกับที่น้องชายมันมารอรับกลับ ผมมองตามรถมันไปก่อนจะเดินมาหยุดอยู่จุดเดิมที่ปลอบประโลมหยกอยู่นานสองนานก่อนหน้านี้


        “ ออกมาเถอะ”

        “......”

        “ กูรู้มึงอยู่แถวนี้”

         ผมกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นร่างของนิสิตแพทย์ที่ใส่แว่นขยับตัวออกมาจากเงามืด

        “ อั้ม”

        “ กูขอร้อง” ผมสบตากับอั้มนิ่ง “ถ้ามึงไม่รัก...ขอร้องอย่าถึงขนาดต้องทำร้ายกัน”

        อั้มมันยืนนิ่งแต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น

        “ กูไม่คิดเคยคิดทำร้ายมัน”

        “ แต่สิ่งที่มึงทำอยู่คือการทำร้ายมัน”

        “ มันต้องยอมรับความจริง” อั้มพูดเสียงเรียบแววตาก็นิ่งไม่ต่างจากน้ำเสียง “ ความจริงที่กูไม่ได้รักมัน แต่กูรักมึง”
ผมหลับตานิ่งรู้สึกได้ถึงฝีเท้าของมันที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

        “ ขอร้อง” ผมพึมพำ “ กูขอร้องอย่าทำร้ายมัน”

        มันเอื้อมมือมาเกลี่ยปอยผมที่หน้าผากผมเบาๆ “ กูไม่มีวันรักหยก”

        “ อั้ม”

         ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้ากับทุกอย่างที่ประดังประเดเข้ามา


        “ กูรู้สึกกับมึงไม่ต่างจากความรู้สึกที่มึงมีต่อหยกหรอก”

        มันทำหน้าอึ้ง ส่วนผมเบือนหน้าหนีก่อนจะผละออกมาแต่มันก้าวเข้ามาโอบหลังผม ผมนิ่งไปก่อนจะเอื้อมมือไปปลดข้อมือที่กุมเอวผมอยู่แล้วเดินออกมาโดยที่ไม่หันกลับดูมันด้วยซ้ำ

        ผมใจร้ายใช่มั้ย

        ผมทำลายความรู้สึกดีๆที่เพื่อนมีต่อผมลงแล้วใช่มั้ย

        น่าตลกกับความสัมพันธ์ประหลาดของพวกเรา เหมือนว่าเราอยู่ในวงกลมเดียวกันโดยที่หยกมองไปอั้ม ส่วนอั้มมองมาที่ผม แล้วผมล่ะควรจะมองไปทางไหนดี

        ผมนั่งกุมขมับแล้วหลับตานิ่งเสมือนปิดการรับรู้แต่เพียงไม่นานก็รู้สึกเหมือนใครสักคนหย่อนตัวลงนั่งใกล้ๆกัน


       “ รักสามเศร้างั้นเหรอ”

       “......”

       “ คุณนี่มันแน่จริงๆหมอปาย”

       ผมสบถเบาๆก่อนจะเปิดเปลือกตามาเห็นรอยยิ้มกวนประสาทของไอ้ตัวป่วนข้างห้อง ใบหน้าคมคายส่งยิ้มสว่างไสวมาให้ก่อนจะเลิกคิ้วมองผมเป็นเชิงถาม

        “ ไปไกลๆตีนกู” ผมโบกมือไล่มัน

        มันทำหน้ายิ้มๆก่อนจะก้มมองปลายเท้าผมแล้วขยับหนีไปประมาณสองก้าวได้ นี่คือกวนตีนใช่มั้ย

        ผมกำหมัดแน่นอารมณ์ที่ไม่คงที่อยู่แล้วทำให้ขึ้นง่ายกว่าทุกครั้ง อาจจะเพราะขาดสติถึงได้ผุดลุกขึ้นเตรียมยกเท้าถีบอีกฝ่ายเสียแต่ว่ามันก็ไวเหลือเกินถึงได้ผุดลุกหนีพร้อมกับปล่อยเสียงหัวเราะร่วน  รอยยิ้มของมันทำให้ผมโกรธควันออกหูเตรียมวิ่งไปจัดการไอ้ตัวป่วนนี่ซะหน่อย


       “ เฮ้ย”

       “.....”

       “ ระวัง”

       “ โอ้ย”


        เพราะยืนชิดริมฟุตบาธริมถนนพอมันถอยหลังหนีขาข้างหนึ่งจึงก้าวพลาดลงถนนอย่างไม่ได้ตั้งใจ เป็นจังหวะที่รถเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับมาอย่างรวดเร็วเฉี่ยวมันจนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนที่มอเตอร์ไซค์คนนั้นจะบิดหนีหายไปในความมืด

        ผมตะลึงตอนที่มันล้มลงไปแขนข้างหนึ่งได้เลือดทันที ภาพเลือดตรงหน้าซ้อนทับกับภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน หัวใจผมสั่นระรัวด้วยความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน

       ผมกำลังหวาดกลัว

       กลัวว่ามันจะเกิดเหตุการณ์เหมือนวันนั้น

       “ มึง”

       “ หมอปาย” มันทำหน้าเหย “ ช่วยพยุงผมที”

        ผมตั้งสติได้ตอนที่เสียงมันร้องขอความช่วยเหลือ พอพามันขึ้นมาจากถนนได้ถึงได้มีโอกาสสำรวจเนื้อตัวมันอย่างละเอียด

       “ มึง”

       “ สงสัยเป็นคราวซวยชนแล้วหนีซะด้วย” มันบ่นน้ำเสียงไม่จริงจังนักทั้งๆที่เลือดอาบแขนจนหยดลงพื้น ผมยืนนิ่งเนื้อตัวแข็งทื่อ เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวเลือด แต่มันเป็นความกลัวที่ว่าใครสักคนจะหายไป

       “ ผมไม่เป็นไรหมอปาย”

       “ เลือดมึงออก”

       “ ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไรหมอปาย” มือข้างที่ไม่เจ็บของมันสอดเข้ามากุมมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ ความรู้สึกอบอุ่นค่อยๆแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

        ผมถอนหายใจก่อนจะช่วยประคองมันไปที่รถก่อนจะคว้าเอาเสื้อยืดหลังรถมาซับเลือดแล้วพันประคองไว้เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดีว่าแถวนี้อยู่ใกล้โรงพยาบาลแถวมหาวิทยาลัย

        ค่ำคืนนี้เป็นครั้งแรกที่ผมขับรถมือเดียว เพราะอีกมือหนึ่งกุมมือข้างที่ไม่เจ็บของมันไว้

        มือเรากุมกันอยู่นั้น

        น่าแปลกมั้ยที่ผมลืมความรู้สึกอึดอัดก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว แต่มันกลับแทนที่ด้วยความรู้สึกประหลาดอะไรบางอย่าง ทั้งๆที่เหงื่อจากฝ่ามือของผมซึมออกมาแต่มันกลับกุมมือผมเอาไว้แน่นกว่าเดิม









มาแล้วๆ หานหัวไปนานเช่นเคย แหะๆ
ขอบคุณทุกเสียงที่ตามไปทวงนิยายนะฮะ เสียงของคุณดังถึงเราแล้ว หุหุ :laugh:
ตอนนี้ทีมใครไม่รู้ทีมใครละเนอะ ลุ้นกันยาวๆ หุหุ 
**เครดิตเพลงคนไม่มีสิทธิ์ ของคุณฮิวโก้ นะจ๊ะ**
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-05-2016 23:49:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 12-05-2016 02:06:29
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-05-2016 02:17:21
คิดถึงหมอปายมากเลยค่ะ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 12-05-2016 04:15:04
ไม่รู้เรารู้สึกไปเองมั้ย คือหมอปายเองก็พยายามรักษาความรู้สึกเพืื่อนทั้งสองฝ่าย

แต่อั้มก็พยายามทำให้ความรู้สึกตัวเองชัดเจน แบบไม่สนใจความรู้สึกใครอีก

หยกก็พยายามบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรไปพร้อมกับพยายามสื่อความรู้สึกตัวเองถึงอั้ม

แต่สุดท้ายคำพูดการกระทำของอั้มมันใจร้ายกับหยกมาก มากจนเราคิดว่าที่ปายทำมันยังไม่ใจร้ายเท่าเลย

แต่ทำสำคัญและฟินกว่าคือ ยิมๆ ได้จับมือกับปายด้วย แถมดูเหมือนจะมีความสำคัญกับปายอีก เฮ้อออ ฟินนนน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 12-05-2016 06:05:38
สงสารหยกจัง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-05-2016 07:47:32
เฮ้อ~รักสามเศร้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: benicezii ที่ 12-05-2016 08:07:42
สงสารหยก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 12-05-2016 12:17:12
คิดถึงหมอปายยยยยยยยน เอาอีกๆๆ 55555+
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-05-2016 12:57:23
ปายไม่ใจร้าย อั้มต่างหากที่ใจร้าย อยากให้ปายเมินอั้มเลยด้วยซ้ำ ทำให้เหมือนที่อั้มทำกับหยก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-05-2016 17:56:15
รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: sb_ng ที่ 12-05-2016 20:23:22
รู้สึกว่าความรู้สึกคู่ยิมปายปายยิมจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ได้นอกใจนอกกายจริงๆแน่อ่ะยิมเอ้ยยย ดังนั้นรีบเคลียร์กับแฟนซะนะยิมนะ
ส่วนอั้มหยก ยังคงเจ็บปวดดดด
สงสารหยก สงสารปายด้วยเป็นคนกลางที่อึดอัด จริงๆก็น่าสงสารหมด
อั้มก็รักเค้าข้างเดียวเหมือนกัน อั้มหยกนี่ก็คล้ายๆกันนะสำหรับเรา รักเค้าแต่ไม่โดนรักตอบ
แต่แค่อั้มค่อนข้างสร้างความอึดอัด จะมีหวังไหมไม่รู้คู่นี้ แต่ก็ขอเชียร์อั้มหยกต่อไปค่ะ 55555
หมอปายไปอยู่กับยิมบ่อยๆนะ คลายเครียดๆ 5555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 12-05-2016 22:21:41
อยากให้หยกได้เจอคนที่ดีเร็วๆเลย อั้มใจร้ายเกิน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 12-05-2016 23:56:37
รู้สึกแบบ หมอปายไม่ได้รักหยก แต่ห่วงในฐานะเพื่อน ส่วนอั้มนี่ก็เกินเยียวยาอะ
หลบไป ตอนท้ายพระเอกมา
รออ่านตอนต่อไปป
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 13-05-2016 00:19:48
นานจนลืมตอนที่แล้วไปแล้ว555555
หมอปายยยย. คิดถึงที่สุดเลยยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 14-05-2016 21:16:26





         หลงที่ 9 : สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน (ครึ่งแรก)





         [ยิม]  50 เปอร์เซ็นต์








         “ กระดูกแขนซ้ายบริเวณข้อศอกได้รับแรงกระแทกพอสมควรหมอเลยใส่เผือกอ่อนสักสองอาทิตย์ก็น่าจะถอดได้แล้วแต่ต้องระวังอย่าพึ่งใช้งานด้านนี้มากเกินไป ส่วนเข่าที่ถลอกจนแผลเปิดนี่ต้องล้างแผลทุกวันป้องกันบาดทะยักนะ นอกนั้นเอ็กซเรย์ดูแล้วไม่มีอะไรแค่ฟกช้ำตามตัวนิดหน่อยครับ”



        จบประโยคที่ยืดยาวของหมอหน้าขาวตรงหน้าทำเอาว่าที่หมอซึ่งนั่งเงียบอยู่นานก็ถอนหายใจแรงๆ มันเป็นอาการที่เห็นแล้วอยากจะขำแต่ขำไม่ออก ผมเสก้มมองสภาพตัวเองซึ่งแขนใส่เฝือกอ่อนประคองไว้ทั้งเนื้อทั้งตัวเมื่อยขบไปหมด

        “ ครับ”

        “ คนไข้สะดวกมาล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวันมั้ยครับ ถ้าไม่สะดวกไปคลินิกแถวที่พักก็ได้”

        ผมนิ่งคิดก่อนจะเหลือบตามองว่าที่หมอซึ่งกอดอกยืนนิ่งฟังอยู่เงียบๆ

        “ ทุกวันเลยเหรอครับคุณหมอ”

        “ ครับ”

        ผมเบ้หน้า “ น่ากลัวว่าผมจะลืมนะสิ” พูดไปนึกปลงตัวเอง

        นายแพทย์หนุ่มหน้าขาวยิ้มอ่อนค่อยอธิบายอย่างใจเย็น

        “ ข้อควรระวังคือคนไข้แผลต้องล้างทำความสะอาดทุกวันเพื่อป้องกันการติดเชื้อครับ”

        “ งั้น..”

        ผมเหลือบตามองไปที่มันอีกรอบเพราะนึกอะไรดีๆออก

        “ ผมไปล้างกับว่าที่คุณหมอได้รึเปล่าครับ”


         นายแพทย์ตรงหน้าทำหน้ามึนงงก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจเมื่อเห็นสายตาผมมองเลยบ่าหมอไปยังว่าที่คุณหมอซึ่งยังนิ่งเงียบไม่รับรู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตา

         ไม่นานหมอปายคงจะรู้ตัวแล้วว่ามีคนมองอยู่มันถึงเงยหน้าขึ้นสบตากับผม

         “ อะไร”

         “ หมอปายเค้าอาสาล้างแผลให้ผมทุกวันครับ” ผมตู่เอา

         นายแพทย์ตรงหน้ายิ้มรับ “ งั้นก็แล้วแต่คนไข้สะดวกเลยครับ” หมอยิ้มๆแล้วหันไปพูดกับหมอปาย “ ว่าไงล่ะปาย”
มันถอนหายใจแรงๆอย่างไม่รักษามารยาทเลยคาดว่ามันกับหมอที่รักษาผมคงจะรู้จักกันเป็นการส่วนตัวแน่แท้เห็นทักกันอย่างสนิทสนทตั้งแต่แรกแล้ว


          “ ถ้าผมปฏิเสธการรักษาจะผิดจรรยาบรรณแพทย์ป่ะพี่เอิ้น”

         มันแยกเขี้ยวใส่ผม

          “ เอาน่าถ้ามันทำให้การรักษาประสบผลและตัวคนไข้เองรู้สึกดีมันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ”

          หมอปายกรอกตาไปมาจนหมอที่รักษาผมยิ้มขำ

          “ เอาล่ะเรียบร้อยแล้ว” หมอว่าตอนที่ทำความสะอาดแผลที่เข่าพร้อมกับปิดผ้าก๊อชให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

          “ ขอบคุณครับพี่เอิ้น ขอโทษที่มารบกวนตอนที่พี่จะออกเวร”

         มันไหว้ขอบคุณหมอแต่หางตาเหลือบมองผมอย่างขัดเคืองเรื่องก่อนหน้านี้ ผมยิ้มขำก่อนจะยกมือไหว้หมอตามมัน

         “ เฮ้ยไม่เป็นไร”

         “ ขอบคุณครับ”

         “ ว่าแต่เพื่อนเราเหรอ” หมอถามแล้วมองผมสลับกับมัน “ ท่าทางห่วงกันน่าดู”

         ผมตาโต....ส่วนมันเม้มปากแน่นก่อนจะกรอกตาเซ็งๆ

         “ เพื่อนข้างห้องครับ” ผมตอบแทนให้พอดีกับที่มันสวนขึ้นมา “ คนรู้จัก”

          หมอยิ้มน้อยๆมองคนโน้นคนนี้ทีแล้วยักไหล่

          “ เอาเถอะจะเพื่อนข้างห้องหรือคนรู้จักยังไงก็ดูแลกันดีๆล่ะ ห้ามให้โดนแผลน้ำล่ะเข้าใจมั้ยทั้งคนไข้และว่าที่หมอเจ้าของไข้”

          ผมหัวเราะขำหมอก่อนจะยกนิ้วโป้งให้แกไปทีนึงส่วนไอ้หมอปายโน่นเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปโน่นแล้ว
คนห่าอะไร...โกรธตลกชิบหายดูสิเดินหน้ามุ่ยไปลิบๆแล้ว




       .

       .



         “ ผมหิวข้าว”

         มันทำหน้ายุ่งมือที่กำพวงมาลัยอยู่เหมือนจะเกร็งขึ้น สีหน่าบ่งบอกมันกำลังหงุดหงิดไม่น้อยถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงถูกถีบลงจากรถแน่นอน แต่นี่มันคงเห็นว่ามีส่วนให้ผมเจ็บตัววันนี้เลยไม่ได้รุนแรงอะไรกับผมมาก

         “ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่บ่ายเลย”

         ผมพูดไปเรื่อยๆเมื่อเห็นมันยังนิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิม

         “ ผมหิวอ่ะหมอปาย”

         “.......”

         “ หมอ”

         “ หุบปาก”

        มันหันมาตวัดตาใส่ผมก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย ผมยิ้มมุมปากเหลือบตามองคนขับที่พยายามเกร็งใบหน้าให้เบื่อหน่ายแค่ไหนแต่แววตาคู่นั้นบอกว่ามันเองก็รู้สึกไม่ต่างจากผม

        “ หมอปาย”

        “.......”

        “ เปิดเพลงได้ป่ะ”

        มันไม่ตอบแต่ไม่ได้ห้ามอะไรผมจึงยื่นมือข้างที่ไม่เจ็บไปกดปุ่มวิทยุ แล้วเสียงเพลงเบาๆก็ดังขึ้นทำให้บรรยากาศในรถดูไม่อึมครึมเหมือนก่อนหน้านี้ ผมนิ่งฟังดนตรีแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างดูบรรยากาศภายนอก


        “ มึง”

        “ ครับ”

        “ กู..”

        “ ครับ”

        “ กูขอโทษ”

        “ เรื่อง?” ผมทำหน้ามึน

        มันถอนหายใจก่อนจะบุ้ยปากไปที่แขนข้างที่ใส่เฝือกอ่อนอยู่

        “ ถ้าหมอรู้สึกผิดก็รับผิดชอบผมสิ”



        ...เอี๊ยด...


         “ เฮ้ย”

        ผมกุมคอนโทรลรถแน่นเมื่ออยู่ดีๆหมอปายแม่งเหยียบเบรกกะทันหันขนาดนี้ดีว่าไม่มีรถตามมาไม่งั้นคงได้เสยตูดกันเป็นเรื่องเป็นราวแน่น มันเสยผมทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะจ้องมองเขม่ง

        “ มึงอยากจะเจ็บอีกข้างรึไง”

        “ หมอนั่นแหละจะทำให้ผมเจ็บ”

        “ ก็มึง..” หมอปายชะงักไป

        “ ผมทำไม”

        มันทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ มึงพูดอะไรล่ะเมื่อกี้”


        ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะระลึกความทรงจำว่าก่อนหน้านี้พูดอะไรออกไปบ้าง “ อ๋อ” ผมยิ้มมุมปากขณะที่หมอปายหรี่ตามองผมอย่างไม่ไว้ใจ

       “ ที่ผมบอกว่าให้หมอรับผิดชอบผมน่ะเหรอ” ผมเผลอหัวเราะออกมาเมื่อหมอปายทำหน้าเหมือนกินยาขม “ ผมหมายถึงให้หมอรับผิดชอบด้วยการล้างแผลให้ทุกวันแค่นี้”

        “เรื่องอะไร”

        “ก็หมอแม่งทำผมเจ็บ”

        “ มึงทำตัวเองรึเปล่า”

         “ หมอก็มีส่วนนะ”

         “ เชี่ย” หมอสบถท่าทางหัวเสียไม่น้อย  “ หมอเอิ้นน่าจะเย็บปากมึงด้วยนะ พูดมากชิบหาย”

         ผมอมยิ้ม

         “ ผมรู้..”

         หมอปายหันมามองผมเหมือนรอว่าผมจะพูดอะไรต่อ “ ผมรู้ว่าหมอไม่มีทางทนเห็นผมเจ็บได้หรอก”

         มันทำหน้าอึ้งก่อนเบือนหน้าหนีแล้วหันไปสนใจถนนตรงหน้าทำเหมือนว่าไม่ได้ยินไม่รับรู้อะไร ส่วนผมแค่เบือนหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มออกไปนอกหน้าต่าง

        ผมรู้สึกว่าในอกมันตื้นตันแปลกๆ และความรู้สึกประหลาดนี้มันก็มีสาเหตุมาจากคนข้างๆนี่แหละ ก่อนหน้านี้ผมทำใจกล้ากุมมือมันตลอดทางจนถึงโรงพยาบาลและก็แปลกที่หมอปายไม่สะบัดมือผมทิ้งตรงกันข้ามมันยอมให้ผมกุมมือมันนิ่ง

        ผมยังจำสีหน้าแววตาที่มันมองบาดแผลผมได้ติดตา หมอปายหน้าซีดเผือดทั้งยังอึ้งไปชั่วขณะผมรู้ดีว่าหมอไม่ได้กลัวเลือดหรือกลัวกับภาพอุบัติเหตุนั้น แต่เหมือนว่ามันมีอะไรในใจมากกว่า อะไรบางอย่างที่ผมเองก็เดาได้ถูกเช่นกันว่าสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจหมอมันคืออะไร

        แต่ที่ผมรู้ได้คือแววตาที่หมอมองผมมันเปลี่ยนไป ปกติมันชอบมองเหมือนเหยียดๆไม่โฟกัสและผ่านเลยไปราวกับว่าไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น แต่ครั้งนี้ผมเห็นความห่วงใยจากแววตาคู่นั้น ผมเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าหมอเป็นคนตาสวยและมันน่ามองแค่ไหนเวลามันจดจ้องและใส่ใจกับอะไรบางอย่าง

        บางอย่างซึ่งคือผมที่หมอมองอย่างห่วงใยเหมือนว่าเข้าข้างตัวเองแต่แค่คิดในอกมันก็สั่นแปลกๆ แม้เพียงแวบเดียวตอนที่หมอเผลอมองผม แค่แวบเดียวหัวใจก็เหมือนจะพองโต


        “ สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน”



         ...หืม...

        ผมเงยหน้าจากเมนูเมื่อได้ยินเมนูคุ้นหูหลุดออกมาจากหมอปายหลังจากที่เราแวะร้านอาหารแถวนี้  หมอมันเงยหน้าขึ้นมองผมเป็นเชิงถามประมาณว่าสงสัยอะไรผมเลยได้แต่ยักไหล่ไม่ใส่ใจ ทั้งที่ในความเป็นจริงชักสงสัยแล้วว่าไอ้เมนูสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานดูท่าจะเป็นของโปรดของหมอปายจริงๆ

        “ สงสัยอะไร”

        ผมทำหน้างงแต่คนตรงหน้าพ่นลมหายใจแรงๆ

        “ หน้ามึงอยากเสือกขนาดนั้น” หมอเหน็บผม

        “ แค่อยากรู้”

        “ อะไร”

        “ ทำไมหมอชอบกินสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานอ่ะ”

        “ ถ้ากูไม่ตอบ..” หมอเลิกคิ้วถามกวนๆ

        “ ผมก็จะถามใหม่ครั้งหน้า”

         ผมยักไหล่ชิว ทำเอาอีกฝ่ายเบ้หน้าหงุดหงิด “ยังไงกูต้องตอบคำถามมึงสินะ”

        “ หมอพูดเองนะ” ผมยิ้มรับ
 
        “ มึง”

        “ โธ่หมอผมก็แค่อยากรู้”

        “ ถ้าอยากจะรู้เรื่องชาวบ้านไปทั่ว มึงควรรู้เรื่องตัวเองให้มากกว่านี้ด้วย” ว่าแล้วหมอก็โยนซองยาที่ได้จากโรงพยาบาลมาตรงหน้า ผมตาโตเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินยาก่อนอาหารซ้ำตัวเองยังลืมซองยาไว้บนรถ แต่หมอซึ่งดูไม่ใส่ใจอะไรผมนักหนากลับหยิบมันติดมือลงมาด้วย

        “ มันเป็นเมนูที่แม่กูชอบทำให้กิน”

        ผมเลิกคิ้วประหลาดใจหลังจากกินยาเรียบร้อยแล้วหมอก็เริ่มต้นบทสนทนากับผม

        “ แสดงว่าแม่หมอทำกับข้าวอร่อย”

        “ คงงั้นมั้ง”

        “ ดีเลยไว้วันหลังผมจะไปฝากท้องบ้าง”

        หมอปายส่ายหน้า “ มึงไม่มีบุญได้กินหรอก”

        “ อ้าว”

        “ แม่กูเสียไปหลายปีแล้ว”

         ผมรู้สึกได้ว่าประโยคนั้นดูแผ่วเบาเหลือเกินซ้ำแววตาคู่สวยยังหรุบลงทันที ผมถอนหายใจว่าแล้วเชียวว่าหมอต้องมีปมอะไรเกี่ยวกับครอบครัวแน่ๆ แต่เรื่องราวที่ลงลึกไปมากกว่านี้ก็ยากจะคาดเดาได้

        “ ขอโทษ ผมไม่รู้...”

        หมอยักไหล่ก่อนจะทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่หากสังเกตดีๆผมมองเห็นความเศร้าในแววตาคู่นั้น ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกว่าผมอยากทำให้มันมีแต่ความสดใส

        “ ผมชอบกินข้าวผัดปลาสลิด”

        “ บอกกูทำไม”

        เราประสานตากันนิ่ง สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยขณะที่ผมแค่ยิ้ม

         “ แค่อยากให้รู้”

         “........”

        “ ผมแค่อยากให้หมอจำไว้ว่านอกจากสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานแล้วยังมีข้าวผัดปลาสลิดอีกเมนูนึงที่น่าลองแค่นั้นเอง”

         หมอเสหน้าหลบไปทางอื่นก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม พอดีกับที่พนักงานร้านเอาอาหารที่สั่งไปก่อนหน้านี้มาเสิร์ฟเมื่อนั้นเราทั้งคู่ก็ต่างสนใจกับอาหารตรงหน้าทันที อย่างที่บอกว่าผมรู้สึกหิวตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลแล้วเพราะเมื่อหัวค่ำที่ร้านเหล้านั้นกระดกแต่ของมึนเมายังไม่มีสารอาหารอะไรสักอย่างตกถึงลงท้อง

         “ เฮ้ย”

         หมอยกจานตัวเองหนีผม ซ้ำยังมองผมตาเขียวปั๊ด “ ทำอะไรของมึง”

         “ แค่ขอชิม”

         ผมยิ้มขำเมื่อนึกถึงรสชาติของอาหารในจานหมอที่ผมวิสาวะใช้ช้อนตักมันมาชิม ดูท่าทางหมอจะห่วงของกินจานโปรดไม่น้อยไม่งั้นมันคงไม่มองผมตาเขียวขนาดนี้

        “ แล้วเป็นไง”

        “ อร่อยครับ”

        “ สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานของหมออร่อยดี” ผมเท้าคางมองอาหารในจานหมอนิ่ง “ ผมว่าผมเริ่มชอบมันแล้วล่ะ”

         ผมเงยหน้าจานอาหารแล้วมองหมอตรงๆ

         ผมรู้สึกว่าตัวเองชักจะเริ่มชอบเมนูโปรดของหมอเข้าซะแล้ว เหมือนผมกำลังเปิดใจรับรู้เรื่องของหมอมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้สิยิ่งได้รู้จักหมอปายผมว่าผมเหมือนก้าวเข้าในโลกอีกใบ โลกที่ผมไม่รู้จักแต่ให้ความรู้สึกท้าทายและน่าค้นหาชะมัด

          ผมดันจานอาหารตัวเองไปตรงหน้าอีกฝ่าย


         “ ลองชิมข้าวผัดปลาสลิดของผมมั้ย” หมอแม้มปากแน่น “ เผื่อหมอจะเริ่มชอบมันขึ้นมาบ้าง”

         “ กูไม่ชอบกินข้าวผัด”

         “ ทำไมครับ”

         “ กูว่ามันไม่อร่อย”

         “ วันนี้อาจจะอร่อยก็ได้” ผมพูดยิ้มๆ “ ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ”


         ...ถ้าไม่ลองคงไม่รู้...

        เราต่างฝ่ายต่างนิ่งไปเหมือนวัดใจกัน สุดท้ายหมอปายก็ค่อยๆยื่นช้อนมาตักอาหารในจานไปผมชิม ผมนิ่งมองอีกฝ่ายอย่างลุ้นๆตอนที่มันทำหน้าเฉยเคี้ยวอาหาร

        “ เป็นไงบ้างครับ”

        “ ไม่รู้สิ”

        “ ไม่อร่อยเหรอครับ”

        “ กูว่ามันไม่ค่อยรู้รสอะไรเท่าไหร่” หมอพูดเบาๆ “ แต่ถ้าได้ชิมบ่อยๆคงจะรู้รสมั้ง”

        “ ครับผมก็เชื่ออย่างงั้นว่าถ้าหมอได้ชิมบ่อยๆความรู้สึกในรสสัมผัสมันจะต้องเปลี่ยนไป”

         ...ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป...


         เรามองสบตากันนิ่งก่อนที่ต่างฝ่ายต่างเบือนไปคนละด้าน ผมว่าอาหารมื้อนั้นโครตอร่อยเลยตั้งแต่กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิด ทำไมน่ะเหรอเพราะมันรู้สึกอิ่มในใจยังไงก็ไม่รู้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าผมกินข้าวไปแล้วยิ้มไปด้วย










ช่วงนี้มาบ่อยเนอะ ฮ่าๆ อิยิมนี่มันยังไงหยอดหมออยู่นั่น
แล้วยังไงดีจ๊ะหมอปาย ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวเหรอ อิอิ
เอาไปครึ่งนึงก่อนเนอะ ใจร่มๆน้า :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 14-05-2016 21:43:18
หยอดแรงงงง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-05-2016 21:49:38
  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 14-05-2016 22:01:13
หมอไม่ใช่ขนมครก ไม่ต้องหยอดขนาดน้านนนน  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-05-2016 22:57:31
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 14-05-2016 23:13:51
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-05-2016 02:49:02
ยิมรีบเลิกกับแฟนแล้วมาคบกับหมอปายเร็วๆนะ 555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 15-05-2016 03:09:47
ลืมเปลี่ยนเลขตอนหรือ?
หรือเราคิดไปเอง

รอตอนต่อไป

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 8 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 15-05-2016 07:04:40
ลืมเปลี่ยนเลขตอนหรือ?
หรือเราคิดไปเอง

รอตอนต่อไป

 :katai5: :katai5: :katai5:


แก้ไขให้แล้วนะคะ
ขอบคุณที่ช่วยตรวจตราให้น้า :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-05-2016 08:09:01
มีหมอเอิ้นมาแจมด้วย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-05-2016 09:56:51
ยิมเพ้อ 55
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-05-2016 12:08:51
ยิมมาแบบเนียนๆอ่ะ หมอปายน่ารักกกกกกกกกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 15-05-2016 23:41:02
มาน้อยแต่อ่อยแรงมากกกกกก
มีความอ้อยแรงกล้าของน้องยิม
หมอปายกินข้าวผัดปลาสลิดแล้วอยากกินบ้างงง
55555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-05-2016 13:06:43
เริ่มหวั่นไหวแล้ว...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-05-2016 13:43:50
ขยันหยอดเนอะยิม o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 16-05-2016 21:50:12
มาต่ออีกไวๆน้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 17-05-2016 23:05:58
หยอดเก่งขนาดนี้ ที่บ้านขายขนมครกเหรอคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mox2224 ที่ 24-05-2016 22:13:17
โอยยยยยย หมอปายของยิม :katai1:  :katai1:
ยิมปายรัวๆๆๆค่ะ ฮรือดีกับใจมากจริงๆ
ตอนนี้มีพี่หมอเอิ้นโผล่มาด้วย น่ารักเชียว
#โอ๊ตเนม ก็ดีกับใจมาก หวังว่าเนมจะเปลี่ยนใจจากยิมมาหาโอ๊ตได้ไม่ยาก
#อั้มหยก นี่ลุ้นกันไป อั้มอกหักจากหมอปายแล้วจะมีหยกอยู่ข้างๆคอยดามใจไหมนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 04-06-2016 15:37:00
โอ๊ยยยย อะไรจะหยอดเบอร์นั้นคะยิม
รอตอนต่อไปคร้าบ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 10-06-2016 01:35:02

มารายงานตัวค่ะ


จริงๆไม่ได้หายไปไหนนะ วนเวียนมาส่องในเล้าอยู่น้า แต่ตอนนี้ไม่สามารถกระดิกตัวทำอะไรได้จริงๆค่ะ
เพิ่งหาเวลาแวะมาทักทายได้ก็วันนี้แหละ แหะๆ  ตอนนี้กำลังปล้ำกับโปรแกรม cu e-thesis
ซึ่งใช้ทำเล่มวิจัยเตรียมสอบจบค่ะ มันวุ่นมากนอนเกือบเช้ามาตลอดหลายสัปดาห์แล้ว
คิดว่าหลังวันที่ 13 นี้คงจะดีขึ้นแล้วกลับมาอัพให้หายคิดถึง (เค้าสอบจบวันที่ 13 นี้จ้า)
ส่วนตอนนี้ขออนุญาตทำภารกิจงานส่วนตัวก่อนนะ หายไปนานกลัวนักอ่านน้อยใจ
เค้ามีความจำเป็นจริงๆ อยากให้เข้าใจกันหน่อยเนอะ ถ้าผ่านมันไปได้ อีกไม่นานเราจะได้เจอกันค่ะ


คิดถึงนักอ่านทุกคนนะคะ :sad4:
...karnsaii...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 10-06-2016 10:17:08
 รอๆ
เราจะรอยิมปาย ปายยิม
 :mew1:

o13 o13 o13
สู้ๆนะคะคนเขียน
จะสอบจบแล้ว
คนอ่านก็กะลังจะสอบเปิดเล่มเลยค่า
555555
วันหลังมาสอนใช้มั่งนะคะ cu e-thesis มีความปวดตับไปกับมัน



หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tuhtahz12345 ที่ 19-06-2016 03:36:19
สู้ๆนะเป็นกำลังใจให้ มาต่อเร็วๆนะอยากอ่านมากกกกกกกก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-06-2016 22:03:42
ยังรออ่านอยู่นะคะ  o7 o7
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 28-06-2016 14:48:36
สู้ๆ นะคะขอให้สอบผ่านค่ะ
รอต่อไปปปแปป  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-07-2016 04:53:57
พึ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ชอบค่ะ เมะชนเมะที่เราตามหา เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-07-2016 15:37:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: AllStaRK ที่ 16-07-2016 18:56:51
มุ้งมิ้ง :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-07-2016 21:22:22
หมอปายโดนหยอดตลอด :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: KIIIIIM ที่ 18-07-2016 09:30:53
อ่านทันแล้วววว ติดตามเลยค่าาาา :katai2-1: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ แจ้งข่าวค่ะ »» [10/6/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 19-07-2016 22:19:09


    (ครึ่งหลัง)




     [หมอปาย]




       “ รถติดจัง”

       เสียงมันบ่นขึ้นเมื่อมองไปถนนเบื้องหน้ารถหลากหลายยี่ห้อจอดติดไฟแดงยาวเป็นขบวน ผมเหลือบตามองนาฬิกาบนหน้าปัดรถที่บอกเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วไม่น่าจะใช่เวลาที่รถติดเท่าไหร่ แต่อย่างว่าวันนี้เป็นสุดสัปดาห์ที่พนักงานเงินเดือนทั้งหลายต่างพร้อมใจออกมาท่องราตรีหาความสำราญเลยทำให้รถติดกันยาวเหยียดทั้งสองเลนถนนซ้ำฝนยังลงเม็ดพร่ำๆยิ่งทำให้ศุกร์สุดสัปดาห์เช่นนี้รถไม่ขยับไปไหนได้ไกล

        ผมเคาะนิ้วกับพวงมาลัยตามจังหวะเพลงที่เปิดคลอเบาๆในรถ ไม่ต่างจากไอ้เด็กโข่งที่โยกศีรษะตามเนื้อเพลงอย่างไม่เจียมสังขารอาการบาดเจ็บของตัวเอง ต้องยอมรับว่ามันก็อดทนน่าดูเพราะดูจากอาการภายนอกแล้วมันคงจะเจ็บไม่น้อยยิ่งตอนที่พามันไปหาหมอรุ่นพี่ที่โรงพยาบาลนั่น ตอนเข้าเฝือกอ่อนก็หนักหนาพอควรแต่เจ้าตัวยังยิ้มเฉยซ้ำมันยังอุตส่าห์พูดจาให้กำลังใจเขาอีก ตกลงเลยไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเจ็บ

       ไอ้ยิมมันเป็นคนประหลาดที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา คนบ้าอะไรกวนตีนได้ทุกสถานการณ์ก็เพราะความเกรียนของมันแบบนี้นี่แหละที่เป็นสาเหตุให้ต้องเจอเรื่องเจ็บตัวแบบนี้  ซ้ำยังไม่ซ่าเพราะปากนี่คอยหาเรื่องให้ผมอารมณ์ขึ้นตลอด ไอ้ผมนี่ก็แปลกรู้ว่ามันชอบแซวชอบแกล้งก็ยังบ้าประสาทเสียตามอย่างเช่นตอนนี้

        “ วันที่ฝนตกไหลลงที่หน้าต่าง”

         ผมเหลือบตามองมันครางตามเสียงเพลงด้วยคีย์ที่เพี้ยนวายป่วง แต่ยังอุตส่าห์ดันทุรังร้องไปเรื่อย ร้องถูกเนื้อบ้างผิดเนื้อบ้างก็ดำน้ำไปเฉย ไม่ได้รู้สึกเกรงใจเจ้าของรถที่ต้องทนนั่งฟังเสียงมันเลยด้วยซ้ำ

        “ ทำยังไงมึงถึงจะเงียบวะ”

       มันหัวเราะร่วน

       “ ก็ผมเห็นหมอนั่งเงียบกลัวจะหลับใน เลยร้องเพลงให้ฟังไงครับ”

       ผมหรี่ตามองมันนิ่งๆแต่อีกฝ่ายแค่ยักไหล่ก่อนจะดำน้ำต่อไป “ เสียงอยากกะควายออกลูก”

       “ หมอเคยฟังเหรอ”

       “ อะไร”

       “ เสียงควายออกลูกน่ะ เคยฟังเหรอถึงได้รู้ว่ามันเป็นยังไง”

       “ มึง”

       “ ครับหมอปาย” มันยักคิ้ว


       ....Rrrrrrr....


        เสียงโทรศัพท์เหมือนเป็นระฆังช่วยชีวิตมัน เพราะไม่งั้นผมคงได้พามันไปโรงพยาบาลอีกรอบแน่ มันยิ้มกว้างแล้วชี้นิ้วใส่มือถือเครื่องเล็กที่แผดเสียงดังลั่น รถติดอย่างนี้ผมเลยถือโอกาสชะโงกไปดูหมายเลขที่โทรเข้าได้ง่ายหน่อย แต่พอเห็นภาพหน้าจอเจ้าของเสียงเรียกเข้าก็ได้แต่ชะงักแล้วนิ่งไป

       “ ไม่รับล่ะหมอ”

       “......” ผมถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น และไม่นานปลายสายก็เงียบไปผมจึงได้มีโอกาสจ้องมองวัตถุสีดำสนิทที่นอนนิ่งอยู่บนคอนโซลหน้ารถเช่นเดิม

        ไม่ใช่ว่าไม่อยากรับหรอกแต่ผมไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรตอนนี้ และปลายสายมันคงรู้ถึงโทรมาแค่ครั้งเดียวแล้วก็เงียบไปแบบนี้ ผมไม่อยากทำแบบนี้กับเพื่อน ไม่อยากทำเลยแต่ผมใจไม่แข็งพอหากรับสายอั้มแล้วหากมันกำลังแย่อยู่ ผมเองคงทนไม่ได้ที่จะรีบไปหามัน หากเป็นอย่างงั้นความสัมพันธ์แบบนี้คงไม่จบสิ้น

        ผมยอมรับว่าแคร์ทั้งมันและหยกไม่ต่างกันเลย อย่างที่บอกตั้งแต่เล็กจนโตอั้มเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผม ผมถือว่ามันเป็นคนสำคัญในชีวิตของผมไม่ต่างจากครอบครัว หยกเองก็เช่นกันถึงแม้จะมาสนิทกันตอนม.ปลายแต่หยกทำให้ผมรู้ว่าแม้จะรู้จักกันไม่นานแต่มันเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับผม ‘ถ้าเปรียบอั้มเป็นเพื่อนรัก...หยกคงเป็นเพื่อนแท้ของผม’ ผมจึงทิ้งใจคนหนึ่งเพื่อรักษาอีกคนหนึ่งไม่ได้จริงๆ

        ดังนั้นต่อให้ผมรู้สึกกับอั้มมากกว่าคำว่าเพื่อนผมก็ไม่มีทางทำให้หยกต้องเสียใจเด็ดขาด ผมอยากจะรักษาความสัมพันธ์แบบเพื่อนของเราตลอดไป แต่ในความเป็นจริงความรู้สึกของคนเราเปลี่ยนไปได้ทุกวัน มันไม่มีอะไรแน่นอนต่อให้เป็นคนรักกันสักวันคงถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันไป

        ถ้าหากว่าอั้มมันหันกลับมามองคนที่เฝ้ารอมันอย่างหยกได้แม้เพียงสักนิด หรือหยกมันยอมหันหลังให้กับหัวใจมันสักครั้งทุกอย่างคงจะดีขึ้น แต่บังเอิญว่าทั้งอั้มและหยกมันต่างเป็นคนที่เหมือนกันคือความรักของพวกมันมีให้แค่คนๆเดียวและต่อให้คนๆนั้นไม่รับไป มันก็จะมั่นคงเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

        ความรู้สึกที่อั้มมีต่อผมเหมือนกระจกสะท้อนความรู้สึกที่หยกมีต่ออั้ม สุดท้ายก็ไม่มีใครสมหวัง ท้ายสุดทุกคนก็ได้รับความเจ็บปวดและเจ็บช้ำกันไปถ้วนหน้า


       ...คนหนึ่งรักมากมายจนอยากแสดงออกทุกความรู้สึกออกไป...

        ...คนหนึ่งรักไปช้ำไปแต่ถึงยังไงก็ยังรักมั่นคง...

        ...ส่วนอีกคนอึดอัดอยู่ตรงกลางทนมองความผิดหวังอย่างไม่มีทางเลือก...




        ทุกความรู้สึกเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทั้งๆที่รู้แต่ทำไมคนเราถึงไม่หยุดเลือกทางใดสักทางจะได้ออกไปจากวงวนแบบนี้ แต่ใครจะรู้ว่าถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้เราจะทำยังไง

        ไม่มีใครอยากเจ็บปวดกับความรัก ถ้ารู้แต่แรกคงไม่รัก แล้วเมื่อนั้นคงไม่มีใครผิดหวัง

        “ หมอ”

        “ หมอโอเครึเปล่า”

        มันถามผมสีหน้าแววตาที่จ้องมองมาทำให้ความรู้สึกอึดอัดในใจค่อยมลายหายไป มันแปลกใช่มั้ยที่เป็นแบบนี้ ผมไม่เคยมีความรู้สึกชื่นชอบผู้ชายด้วยกัน ความคิดนั้นไม่มีอยู่ในหัวเพราะตั้งแต่โตมาผมมีแฟนแค่คนเดียว เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักแต่เสียดายที่เธอจากผมไปนานแล้ว ถึงแม้จะนานแล้วแต่ผมไม่มีวันลืมความรู้สึกในครั้งนั้น มันทำให้ผมรู้สึกว่าคงจะรู้สึกแบบนั้นคงเกิดกับใครไม่ได้อีกแล้ว

        ผมบอกตัวเองอย่างนั้นจนกระทั่งอุบัติเหตุเมื่อหัวค่ำ สาเหตุที่ทำให้มันต้องเข้าเฝือกอ่อนตรงแขน ตั้งแต่วันที่ผมต้องสูญเสียผู้หญิงที่รักผมที่สุดอย่างแม่ไปตลอดกาลผมไม่เคยรู้สึกห่วงหาและใจหายแบบนี้อีกแล้ว แปลกใช่มั้ยที่มันทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น แปลกถึงขนาดยอมให้มันจับมืออยู่ได้ตั้งนานสองนาน

        ผมว่ามันทำตัวแปลกๆกับผม ทั้งคำพูด แววตาและท่าทาง มันไม่เหมือนวันแรกที่เราทะเลาะกันเลย ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างในความรู้สึกที่ต่างออกไป มันไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไรแต่มันเหมือนเส้นใยเล็กๆที่ดึงรั้งให้ผมกับมันได้เข้ามาใกล้กันแบบนี้

       “ ถ้ากูไม่โอเคล่ะ”

       “ ผมก็จะได้ทำให้หมอโอเคไง”

       “ มึงจะทำอะไร”

       มันส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะชี้นิ้วไปข้างนอก “ ฝนตกหนักๆก็เหมือนความรักที่ไม่ลงตัว มันตกไม่นานเดี๋ยวก็จางหายทิ้งไว้แต่รอยร่องความเปียกชื้น พอมันหยุดตกท้องฟ้ามักจะสดใสเสมอ เหมือนความรักถ้าไม่สมหวังก็เหลือไว้แต่หยดน้ำตาและสุดท้ายมันก็จะผ่านไปและดีขึ้นในที่สุด”

        “ เข้าใจเปรียบเทียบนะ ถ้าเป็นมึงล่ะมึงจะเลือกใครระหว่างคนที่ยืนกางร่มคอยอยู่ข้างหน้าแต่กว่ามึงจะฝ่าฝนไปหาได้ก็คงต้องเปียกและซ้ำอาจจะต้องทิ้งใครบางคนให้ร้องไห้อยู่ข้างหลัง กับอีกคนที่มึงไม่รู้จักไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำมึงต้องฝ่าฝนจนตัวเปียกไปหาเค้าเอง”



       “ ผมเหรอ”

        มันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

      “ ผมคงเลือกคนที่ใช่” มันสบตาผมนิ่ง “ เพราะถ้าเป็นคนที่ใช่ถ้าให้ต้องฝ่าฝนเปียกปอนขนาดไหนผมก็จะไปให้ถึง”

        “ แต่มึงจะเปียกมากนะ”

        “ ก็แค่เปียก ดีกว่าตัวแห้งแล้วไม่ทำอะไรเลยปล่อยให้ความบังเอิญผ่านไป”

        “ อื้ม”

        ผมรับคำรู้สึกถึงฝ่ามือของมันที่เลื่อนมากุมทับไว้

        “ หมอเคยหนีแม่ออกไปวิ่งเล่นท่ามกลางสายฝนรึเปล่า”

        ผมส่ายหน้าปฏิเสธมันเลยทำตาโตประหลาดใจ

        “ อะไรกันหมอปาย ตอนเด็กๆมันต้องมีโม้เม้นท์มาวิ่งกลางสายฝนบ้างดิ ผมนี่ทำประจำจนถูกแม่ตีเพราะดันพาใยบัวไปวิ่งเล่นด้วย” มันเล่าไปยิ้มไปบ่งบอกว่ารู้สึกดีมากแค่ไหนที่พูดถึงคนในครอบครัว

        ท่าทางของมันทำให้ผมเสียววูบในใจเพราะไม่เคยรู้สึกดีๆแบบนี้มาก่อนเลย ผมไม่เคยมีช่วงเวลาที่สนุกสนานและน่าจดจำกับครอบครัวตั้งแต่จำความได้

        “ กูไม่เคย”

        “ หืม”

        “ แม่กูเจ็บออดๆแอดๆตั้งแต่กูยังเด็ก กูไม่เคยออกไปเที่ยวไหนเพราะต้องกลับมาดูแลแม่ ไม่มีหรอกช่วงเวลาที่ไปเที่ยวเล่น แต่กูไม่เคยเสียใจเลยที่เอาแต่อยู่กับแม่ เพราะเค้าเป็นผู้หญิงที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตกู”

       ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวางใจพูดเรื่องครอบครัวกับเพื่อนบ้านข้างห้องที่เริ่มแรกเราก็ไม่ได้ญาติดีกันนักแต่เหมือนว่ามันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

        “ จอดรถสิหมอ”

        “ มึงจะทำอะไร”

        ผมไม่เข้าใจแต่ก็ค่อยๆชะลอลงแถวๆสวนสาธณารณะแห่งหนึ่งซึ่งคนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่เพราะสายฝนที่ร่วงหล่นมาไม่ขาดสาย ทันทีที่ผมหยุดรถมันก็ปลดล็อกแล้วหมายจะเดินออกจากรถทันที ผมร้องโวยวายแล้วควานหาถุงพลาสติกใส่แขนข้างที่เจ็บของมันก่อนที่ไอ้เด็กบ้านี่จะถลาลงไปทำตัวร่าเริงท่ามกลางสายฝน

       “ เฮ้ยมึงทำจะอะไรวะ”

       มันกวักมือเรียกผมสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข

        “ ไอ้เหี้ย อย่าให้แผลโดนน้ำ”

        “ เล่นน้ำฝนกันหมอ”

        “ แผลมึงโดนน้ำไม่ได้ไอ้ห่า”

        “ ช่างแม่งก่อนเหอะหมอ”

        “ มึง”

        “ ไปเร็ว”

        “ ไอ้เชี่ย”

        มันหัวเราะร่วนทั้งๆที่เนื้อตัวเริ่มเปียกปอนไม่ต่างจากผมที่วิ่งไล่จับมันเข้ารถก็เปียกเช่นกัน มันวิ่งหนีไปเรื่อยไม่สนว่าฝนจะลงเม็ดหนักขึ้น ผมวิ่งตามมันจนหนีก่อนจะเผลอหัวเราะออกมา

        หัวเราะงั้นเหรอ...ใช่ผมหัวเราะจริงๆ หัวเราะเพราะมัน

        บางทีการวิ่งเล่นกลางสายฝนแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน

        “ ลองทำอะไรนอกกรอบบ้าง ลองกลับไปเป็นเด็กบ้าง มันก็ไม่เลวนะ” มันพูดยิ้มๆ

        “.....”

        หึ ลองกลับเป็นเด็กงั้นเหรอ ผมคิดตามก่อนจะออกวิ่งไล่จับอีกฝ่ายที่โยนอะไรไม่รู้ใส่ตัว ผมสนุกจนลืมไปว่าพวกเราวิ่งเล่นกันเป็นเด็กๆแบบนี้ทั้งๆที่ฝนกำลังโหมกระหน่ำ เปียกไปถึงเนื้อในแต่สุขใจอย่างประหลาด

        “ ทำอะไรตามใจตัวเองซะบ้าง ชีวิตแม่งมีอะไรให้ทำเยอะแยะเชื่อผมหมอปาย”

        “ อื้ม”

        มันหันมายิ้มให้ผม ไม่ต่างจากผมที่เผลอหัวเราะออกมา




      .

      .

      .





        “ เชี่ยโครตหนาวเลย”

        ผมทำหน้าสมเพชมันหลังจากพวกเราวิ่งเล่นท่ามกลางสายฝนอยู่พักใหญ่จนมันหยุด และพวกเราก็เปียกไปถึงเนื้อในสมใจไอ้คนชวนแล้วจึงมาทรุดตัวนั่งบนม้านั่งริมน้ำใกล้ๆสวนสาธารณนั่นแหละ ไอ้เด็กโข่งหน้าซีดตัวสั่นแต่สีหน้าแววตายังสดใสร่าเริงไม่เข้ากับสังขารมันเลย

        “ ไข้แดกแน่”

        ผมมองสภาพมันแล้วถอนหายใจปลงๆอักเสบจากแผลไม่พอยังเสือกตากฝนอีกไม่ไข้ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ผมถอนหายใจก่อนจะเปิดกระเป๋ากล่องปฐมพยาบาลที่ผมเอาใส่ติดรถไว้เสมอแล้วโยนเสื้อกาวน์ที่หยิบติดมือมาโยนใส่ตัวมัน

        “ อะไรอ่ะหมอ”

        มันคว้าเสื้อกาวน์เอาไว้แล้วทำหน้างงๆ

        ผมปรายตามอง “ รองเท้ามั้ง”

        “ หมอแม่งกวนตีนว่ะ”

        “ แล้วมึงถามคำถามโง่ๆทำไม”

        “ โหดจังวะ” มันบ่นๆก่อนจะเอาเสื้อกาวน์ผมไปคลุมตัวไว้ “ เอามาให้ผมใส่กันหนาวก็บอกดีๆก็ได้”

        “ ขอบคุณนะหมอ” มันยิ้มกว้างเสื้อกำชายเสื้อสีขาวแน่น ผมถอนหายใจแรงๆก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

        ผมไม่ตอบอะไรเสหน้าไปค้นหาอุปกรณ์ทำแผล ดีว่าแขนข้างที่ใส่เผือกของมันผมหาถุงพลาสติกใส่กันน้ำให้เป็นโชคดีที่น้ำมันไม่ไหลเข้าไม่งั้นคงต้องบากหน้าพามันไปหมอที่โรงพยาบาลอีกแน่  แต่หัวเข่าที่ถลอกดันเปียกชุ่มจนต้องล้างทำแผลใหม่ ผมจึงคุ้ยหาอุปกรณ์ในกล่องปฐมพยาบาลแล้วลงมือทำแผลให้มันเงียบๆ

        ผมก้มหน้าแล้วคุกเข่าอยู่ตรงหน้ามันจึงไม่ทันเห็นว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองผมอยู่เงียบๆ

         “ หมอ”

         “ อะไร”

         “ หมอแม่งเย็นชามากเลยรู้ป่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นสบตามันตรงๆทันเห็นแววตาพราวระยับตรงหน้า “ แต่เป็นคนเย็นชาที่โครตเอาใจใส่คนอื่นเลย”

         “ พูดอะไร”

         “ พูดเรื่องจริง”

         “ อะไรของมึง”

         “ ผมรู้จักหมอคนนึง เค้าเป็นคนที่ชอบทำหน้าบึ้งตึงโกรธคนทั้งโลก แต่มีน้ำใจเอาเสื้อกาวน์มาให้ผมใส่กันหนาวและยังทำแผลให้โครตมือเบาเลย”

         “ หมอคนนั้นแม่ง”

         “.......”

         ผมนิ่งไปจนรู้สึกได้ว่าหัวใจตัวเองมันเต้นแปลกๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ทำไมถึงได้รู้สึกประหลาดใจกับแววตาที่ทอดมองมาตรงหน้านี้

          “ โครตน่ารักว่ะ”

          “ พูดเชี่ยอะไร”

          “ โอ้ย”

          ผมเผลอลงน้ำหนักมือกับแผลมันแรงไปหน่อยจนอีกฝ่ายทำหน้าเหยเก “ กูไม่ขอโทษหรอกนะเพราะมึงทำตัวเอง”

          “ ครับ”

          มันยิ้มเผล่เท้าแขนข้างที่ไม่เจ็บไปข้างหลัง สีหน้าแววตาเหมือนคนไม่เจ็บไม่ปวดใดๆจนน่าหมั่นไส้ แววตาวาวๆของมันที่จ้องใบหน้าผมความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาทำให้ต้องหลุบสายตามองไปทางอื่น

         “ เขินเหรอหมอ”

         “ ถ้ามึงพูดไม่คิดอีกมึงเจอตีนกูแน่”

         “ โหดจังว้า”

         “ ไอ้ยิม”

         “ ครับหมอปาย”

         มันเอื้อมมือมาคว้าข้อมือผมที่เตรียมจะประทุษร้ายมันทันที

         “ หมอ”

         “ หมอรู้ป่ะว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง” ผมชักใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าแววตาแบบนี้ของมัน “ ผมอยากจูบหมอว่ะ”

         “ ไอ้เชี่ย”

         ผมสถบเสียงดังลั่นก่อนจะออกวิ่งไล่เตะมัน แต่ไอ้ยิมมันเสือกไหวตัวทันวิ่งหนีไปแล้ว มันวิ่งไปหัวเราะไปสีหน้าแววตามีความสุข ไม่ต่างจากผมเลยที่เผลอยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

         “ หมอแม่งน่ารักจริงๆว่ะ”













กลับมาแล้วค่ะ อย่างที่ทราบว่าเค้าหายไปจัดการกับThesis ซึ่งตอนนี้เล่มเสร็จสมบรูณ์เหลือก็แต่บทความซึ่งรอลุ้นอยู่นะ หายไปนานไม่รู้ว่าลืมกันไปรึยังน้อ เค้ากลับมาแล้วนะจะพยายามอัพให้บ่อยขึ้น หวังว่าจะถูกใจคนที่รอคอยกันน้า :mc4:

ปล.1 ขอบคุณทุกความคิดเห็นและทุกกำลังใจที่มีให้กันมาตลอดน้า ขอบคุณค่ะ

ปล.2 อยากจะถามว่าเนื้อเรื่องสนุกมั้ยคะ อ่านแล้วเม้นท์บอกกันบ้างนะ ทุกความคิดเห็นคือกำลังใจของนักเขียนค่ะ บางทีลงไปไม่มีเม้นท์อะไรเลยก็แอบนอยนะ มีแวบนึงนึกอยากจะลบเรื่องนี้ทิ้งแล้วเขียนเรื่องใหม่ เพราะไม่รู้ว่าที่มีคนอ่านรึเปล่า มันนอยมากค่ะ แต่ได้สติว่ายังมีนักอ่านจำนวนนึงที่รออ่านอยู่ความคิดที่จะลบทิ้งเลยไม่มีแล้ว แต่ยังอยากทราบว่ามันเป็นยังไง สนุกไม่สนุกยังไงบอกได้นะคะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ


..KARNSAII..
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-07-2016 22:30:17
 :mew1: :mew1: :mew1:
รอ ความสัมพันธ์ที่มากขึ้นของทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: .Koi4541 ที่ 19-07-2016 23:34:03
โอ๊ย ไรท์กลับมาแล้วว / ปาดน้ำตา 5555
รอคอยมาตลอด เมื่อไรจะมาน้า จะมารึยังน้อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! 55555 ปกติเป็นนักอ่านเงาอยู่ในเล้ามาโดยตลอดเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่มาเม้น นิยายสนุกมากจริงๆคะ ชอบมาก กลับมาที่เนื้อเรื่อง ตอนนี้หมอปายคนซึนเริ่มหวั่นไหวมากขึ้นแล้ว แถมเขินโหดซะด้วย 5555 อยากได้ผู้ชายแบบยิมสักคนในชีวิต ทำไมน่ารักแบบนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 19-07-2016 23:42:37
แทบกรี๊ดค่ะ  ไม่สิ  กรี๊ดแล้ว
ฮอลลลลลลลพรี่ยิมคนดี๊คนดี คนดีของหมอปายยยยย
น่ารักอะชวนกันเล่นน้ำฝน (มันสนุกจริงๆนะเออ)
เขินแทนหมอปายตอนที่ถูกบอกว่าน่ารัก ง้อยยยยยนยยยน  :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: s_gob ที่ 20-07-2016 00:36:20
สนุกมากเลยครับ
ผมได้อ่านครั้งแรกก็ตามอ่านจนทัน
ผมรออยู่นะครับ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: putt__p ที่ 20-07-2016 01:49:38
เราอยากรู้ว่าจะเป็นปายยิมหรือยิมปายคะ อยากให้เป็นปายยิมมมมมม :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-07-2016 02:07:14
เล่นเป็นเด็กๆเลย อิยิมหาเรื่องทำให้ตัวเองไม่สบาย หมอปายจะได้มาดูแลใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: - ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่2 :ยินดีที่(ไม่)รู้จัก »» [14/3/59] 100%
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 03:05:41
เนมอาจจะชอบยิมหรือเปล่าาา
หมอปายนี่ด่าเจ็บอะ ชอบ 5555555
เราอยากให้ปายยิมนะ แต่ถ้ายิมปายก็ได้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 3 : หมอปาย »» [17/3/59] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 03:34:08
จะสาธิตยังไงล่ะเนี่ยยย
แต่ปายตอนอยู่กับเพื่อนกับเนมดูน่ารักอะ
ตอนนี่มีความยิมปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 4 : การสาธิต (100%) »» [25/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 04:07:03
ปายอย่างแสบบบบบ
ถึงจะทีมปายยิม
แต่ว่ารู้สึกถึงความยิมปายมันแรงมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 04:22:48
ปายมีปม หมอร้องไห้ด้วย อยากปลอบบบบ
อั้มใจร้ายอะ พูดไม่ดีกับหยกเลย ถึงตัวเองจะไม่มีใจให้หยก แต่ก็ไม่้ห็นต้องพูดแรงๆแบบนั้นอะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 :ความจริงอีกด้าน (100%) »»[4/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 04:46:29
สงสารหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 6 : ทำความรู้จัก »» [10/4/59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 05:07:16
สงสารหมอปาย
กับแม่เลี้ยงคือยังไง ไม่ได้กิ๊กกัน เป็นเพื่อนกันด้วย ??
ยิมเผลออะ จูบหมอปายซะแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 7 :เสียงหัวใจที่แปลกไป »» [24/4/59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 05:34:45
หนูเนมหวั่นไหวกับโอ๊คหรอคะ งื้อออออ โอ๊คคงชอบเนมบ้างแหละดูท่าแล้ววว
รำแฟนสาวของยิมอะ แบบโทรไปกวนพ่อแม่ยิม ก่อนหน้านั้นก็โทรไปฟ้องเรื่องเนม บ้าเปล่า น่ารำคาญ พูดกับเนมไม่ดีอีก.แล้วที่โทรหาเนมนี่เป็นเบอร์ในประเทศงั้นหรอ ไม่ได้อยูตปทหรอ
ยิมรีบๆเคลียร์ยัยนี่ออกเลย ไม่ปลื้มเลยหงะ
ยิมก็หวั่นไหวกับหมอปายแล้ววว .
หมอปายน่ารักอะนะ มีเสน่ห์ ใครจะทนได้ .คุยกับน้องบัวแล้วหัวเราะ ยิ้มได้ด้วยก็ดีแล้ววส น่ารัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 8 :รักสามเศร้า »» [11/5/59] P.5 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 06:02:58
อั้มใจร้ายอะ สงสารหยก แบบอั้มไม่ชอบไม่รักหยกก็ไม่อะไรหรอก แต่การกระทำมันใจร้ายอะ ไม่ถนอมความเป็นเพื่อนเลยอะ.  ตอนนี้นอกจากยิมจะได้เลือดแล้ว ยิมยังได้จับมือหมอปายอีกด้วยยนนน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-07-2016 07:17:40
อยากจูบหมอรอไปเคลียร์แฟนก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-07-2016 07:26:22
ความสัมพันธ์กระเตื้องขึ้นมานิดนึงล่ะ หวังว่ามันจะดียิ่งๆ ขึ้นไปนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-07-2016 08:16:11
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:ห้ามลบนะเราอ่านยุชอบเรื่องนี้ออกใครไม่อ่านเราอ่านนะรีบมาต่อนะจร้าาาาาาาา :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-07-2016 08:47:23
มีความอบอุ่น...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-07-2016 09:13:23
ในที่สุดก็กลับมาแล้ววววววววว คิดถึงมากๆอ่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 20-07-2016 10:08:31
เพิ่งได้เข้ามาอ่านนนน
ชูป้าย *ปายยิม* 55555555  :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Kimdodo ที่ 20-07-2016 11:15:54
อ่านของหมอปายแล้วอยู่ๆๆก็แวปขึ้นมา ปายยิมแน่ๆ #ทีมปายยิม 5555555 นานจนลืมแอบไปอ่านตอนเก่ามาด้วยแหละ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 20-07-2016 12:19:40
หมอปายเริ่มเปิดใจแล้ว เชียร์ยิมปายนะ
แต่ยิมควรไปเคลียร์เรื่องแฟนก่อนป่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: pinknocchio ที่ 20-07-2016 12:21:50
ยัง ยิมปาย เหมือนเดิมค่ะ ฮือ
หมอปายน่ารัก  :o8:
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ หลงที่ 9 :สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน »» [14/5/59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 14:02:26
ยิมหยอดหมอปายยย งื้ออ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 20-07-2016 14:29:46
หมอปายน่ารักจริงๆ
แต่ยิมอย่าลืมว่าตัวเองมีแฟนละนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-07-2016 17:19:08
น่ารักเบาๆ หวังว่านายยิมจะช่วยให้พี่หมอปายหายจากความเศร้าในใจได้นะครับ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 20-07-2016 17:46:52
กลับมาแล้ววววววววววง :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 20-07-2016 20:49:43
อยากจูบก็จูบเลย แกจะบอกให้เหยื่อรู้ตัวทำไมยิม ไม่เป็นงาน!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: mox2224 ที่ 20-07-2016 21:43:37
ยิมปาย! ยิมปาย! ยิมปาย!
แงงงงงงงง กลับมาแล้ว
เรารออยู่นะคะ เราชอบมากเลย เราอ่านทุกเรื่องเลย แต่ไม่ได้เม้นทุกตอนขอโทษด้วยนะคะ
เรารอทุกเรื่องของคนแต่งอัพอยู่นะคะ
เรื่องนี้เราก็ชอบมาก สนุกมากค่ะ สำหรับเรา
แต่สารภาพเลยว่าแอบลืม เพราะคนแต่งหายไปนานเชียว
เดี๋ยวกลับไปอ่านใหม่ เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะะะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-07-2016 00:31:53
หมอปายกลับมาแล้ว ดีใจ~ :hao5:
ก่อนจะมาจูบหมอแกควรไปเคลียร์กับแฟนก่อนนะ

เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ สู้ๆ จะรออ่านตอนต่อไปนะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: that girl ที่ 21-07-2016 01:26:48
ปายยิม ปายยิม ปายยิม

5555 สนุกดีค่ะ ชอบเนื้อเรื่อง ชอบการบรรยายนะคะ

ถึงจะท้อแต่ห้ามทิ้งนะคะ รอเสมอค่ะ

ปล.ลงบ่อยเมนท์บ่อยนะคะ 555 แอบขู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 21-07-2016 04:50:28
ความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ใกล้กันเข้าไปอีกนิดแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-07-2016 13:19:19
ชอบเรื่องนี้จ้า สนุก :katai2-1:
แอบเชียร์ปายยิมแหละ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: gneuhp ที่ 21-07-2016 15:33:28
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ เพราะจำนวนตอนเริ่มเยอะแล้ว...เรากลัวค้างเติ่ง แต่สุดท้ายก็ค้างอยู่ดี 5555
เนื้อเรื่องน่ารักมากอ่าา อ่านแล้วหลงรักตัวทั้งยิมและหมอปายเลย
อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วแต่ละคนจะก้าวข้ามปัญหาของตนเองได้ยังไง รอตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 22-07-2016 22:16:55
ชอบมาก สนุกดีครับ

ยิมปาย ปายยิม,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 24-07-2016 09:47:21
 o18 พี่หมอใจดี อิอิ อยากออกไปเล่นน้ำฝนด้วยเลยยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 25-07-2016 22:58:37
อ๊ากกก คนเขียนกลับมาแล้ว
ดีใจหล๊ายหลายยยย
หมอคะเริ่มใจอ่อนยัง
น้องยิมนี่ตกหลุมไปจังเบอเร่อแล้วค่ะ
น่าจะขึ้นจากหลุมไม่ได้แล้ว
วานพี่หมอดูแลด้วยนะคะ 55555+
ปล. รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่9:สปาเก็ตตี้ฯ »» [19/7/59] P.7(กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 05-08-2016 20:59:49


       หลงที่ 10 : สับสน


        [ยิม]


        “ มึงเจ็บมากมั้ย”

        สีหน้าแววตาของเนมแสดงออกว่าห่วงใยผมไม่น้อย ทำให้ผมอมยิ้มบางๆก่อนจะโยกศีรษะมันเบาๆด้วยความเอ็นดู เนมมันทำหน้ายู่แล้วคว้าข้อมือข้างที่ไม่เจ็บมากุมเอาไว้

        “ กูไม่เป็นไรแล้วเห็นมั้ย” ผมชี้มือไปที่แขนข้างที่โดนใส่เผือก “ ไปหาหมอแล้ว”

        “ อืม”

        “ ไม่ต้องห่วงหรอก”

        โยกศีรษะมันอีกครั้งจนอีกฝ่ายเริ่มยิ้มออก

        “ บอกมันด้วยสิมึงกินยาตามหมอสั่ง เสร็จแล้วก็นอนห่มผ้าหลับสนิทจนถึงเช้า”

        เสียงกระเซ้าเย้าแหย่ที่จงใจพูดใส่เพื่อนตัวน้อยของผมดังขึ้นมาจากมุมหนึ่งของห้อง เนมชักสีหน้าทันทีขณะที่เจ้าของคำพูดอย่างไอ้โอ๊คแค่ยักไหล่กวนๆ เมื่อเช้าผมโทรไปหาบอกโอ๊คว่าวันนี้คงไปเรียนไม่ไหวเพราะกว่าจะกลับมาถึงห้องแล้วพักผ่อนก็ดึกดื่นค่อนคืนซ้ำยังรู้สึกว่าตัวเองมีไข้อ่อนๆอีกกะว่าจะให้มันลาอาจารย์ให้ แต่หลังจากนั้นไม่นานห้องผมก็มีเหตุให้ต้องต้อนรับเพื่อนทั้งสองที่ดันโผล่มาเยี่ยมในตอนเช้า และที่เหนือความคาดหมายคือการที่เนมมากับไอ้โอ๊คด้วย แต่ถึงจะมาด้วยกันไหงกันแง่งๆใส่กันตั้งแต่มาถึงห้องผมก็ไม่รู้

        ผมว่าพวกมันสองคนที่ชักแปลกๆ

        “ กวนตีน”

        เสียงเนมพึมพำเบาๆในลำคอแต่เพราะผมอยู่ใกล้ไงเลยบังเอิญได้ยิน แน่นอนว่าเนมมันไม่ได้หมายถึงผมแน่นอนเพราะตั้งแต่ที่มันมาถึงก็แสดงออกชัดเจนว่าห่วงใยผมนักหนาซ้ำยังหอบข้าวเช้าสำหรับคนป่วยและอีกสารพัดยามาฝากผมด้วย ดังนั้นมันคงไม่พึมพำด่าผมแน่ และแน่นอนว่าเป้าหมายคงจะหมายถึงไอ้โอ๊คที่นั่งกระดิกปลายเท้าๆอยู่ฝากโน้นชัวร์

        “ ด่าอะไรกูเตี้ย”

        เหมือนว่าฝ่ายนั้นจะจับสังเกตคำพูดของเนมได้ ไอ้นั่นถึงสวนกลับนิ่งๆ

        “ ไม่ได้เตี้ย”

        “ เหรออออ”

       ไอ้โอ๊คลากเสียงยาวซ้ำยังยืดตัวขึ้นพร้อมกับมองสำรวจเนมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วผิวปากหวืว  “ สูงมาก สูงกว่าตอหม้อนิดนึง”

        “ ไอ้โอ๊ค”

       หมอนอิงในมือเนมปลิวไปทางไอ้โอ๊คแทบจะทันทีดีว่าฝ่ายนั้นเบี่ยงหลบทันก่อนจะก้มลงไปคว้าหมอนดังกล่าวมาแกว่งไปมาท่าทางกวนไม่น้อย ยิ่งทำให้เพื่อนตัวน้อยของผมฮึดฮัดไปกันใหญ่

        “ เฮ้ยเดี๋ยวๆ”

        ผมซึ่งนั่งฟังอยู่นานยกมือห้ามก่อนที่ไอ้นีออนข้างตัวนี่จะกระโจนใส่ไอ้ตัวดีที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ฝั่งโน้น ไอ้ตัวเล็กข้างตัวที่ก็ไม่ดูตัวเองเลยตัวกระเปี๊ยกแค่นี้จะไปไฟว้กับตึกอย่างไอ้โอ๊ค

        “ อะไรของพวกมึงเนี่ย มาถึงก็แง่งๆใส่กันเลย ตกลงนี่มาเยี่ยมกูหรือมาเปลี่ยนที่ทะเลาะกัน ฮึ”
เนมกระแทกตัวนั่งลงที่โซฟาก่อนจะสะบัดหน้าพรืด หน้าขาวๆของมันงอเป็นจวัก

        “ พวกมึงทะเลาะอะไรกัน”

        “.......”

        โอ๊คมันแค่ยักไหล่ไม่ตอบอะไร ผมเลยหันมาถามเนมซึ่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างๆ มันทำแก้มพองไม่พูดไม่จาเหมือนกันผมเลยโยกศีรษะมันอย่างเคยชิน เพราะเวลามันงอนหรือไม่พอใจถ้าง้อด้วยวิธีนี้มันจะหายโกรธแทบจะทันที

        “ เป็นอะไรฮึ”

        “ ก็..”

       ผมขยับตัวตรงๆเหมือนตั้งใจฟังในสิ่งที่มันพูด ขณะที่ไอ้โอ๊คทำท่าแคะหูได้อย่างโครตกวน ผมส่ายหน้าขำๆมองคนโน้นทีคนนี้ที

       “ ก็ป๊าอ่ะ”

       ป๊าในที่นี้คือพ่อมันครับ ครอบครัวเนมมันมีเชื้อสายจีนตัวมันถึงออกมาขาวจั๊วได้ขนาดนี้

       “ ก็ตั้งแต่ขับรถชนฟุตบาทตอนนั้นป๋าไม่ให้กูขับรถอีกเลยอ่ะ”

       อ๋อ ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะรู้ดีว่าป๊าม๊ามันหวงมากยิ่งเป็นลูกคนเล็กซ้ำยังอ้อนแอ้นโอโมะขนาดนี้พ่อแม่ที่ไหนจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ล่ะ

       “ แล้วไงวะ”

       “ ก็..” มันทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะมองเลยไปยังคู่กรณีที่นั่งเล่นมือถืออยู่ “ กูต้องไปไหนมาไหนกับไอ้หมอนั่นอ่ะดิ” ปากน้อยๆยื่นไปทางนั้นอย่างไม่ชอบใจ

       “ ทำไมวะ”

       อันนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องไปไหนมาไหนกับไอ้โอ๊ค

        “ บอกไปสิว่าวันที่กูไปส่งมึงที่บ้าน บังเอิญว่าคุยกันไปมาเลยรู้ว่าป๊ามึงรู้จักกับพ่อกู บังเอิญว่าบ้านเราอยู่ซอยเดียว บังเอิญป๊ามึงเกิดไว้ใจกูให้ช่วยรับส่งมึงตอนไปมหาลัยด้วย  บังเอิญว่ามึงแม่งคุณหนูจะไปไหนทีต้องมีคนพาไป บังเอิญว่ามึงโดนยึดกุญแจรถ และบังเอิญว่ากูดันตบปากรับคำ”

       คำอธิบายเหยียดยาวจากคนที่เล่นมือถืออยู่ดังขึ้น ทำเอาผมกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว รู้จักกันมาตั้งนานผมก็นึกขึ้นได้ว่าบ้านพวกมันอยู่ใกล้กัน ว่าแล้วทำไมไอ้นีออนนี่ถึงได้หัวเสียนัก คงเพราะประกาศิตของป๊ามันซึ่งยากจะทัดทานทำให้เจ้าตัวต้องจำใจปฏิบัติตามสินะ

        “ เอาน่าเดี๋ยวผ่านไปสักพักป๊ามึงอาจใจอ่อนคืนกุญแจรถให้ก็ได้ ช่วงนี้ก็ไปไหนมาไหนกับไอ้โอ๊คมันก่อนให้ป๊ามึงสบายใจ”

       “ทำไมไม่ให้คนขับรถที่บ้านไปส่งวะ ป๊าแม่งคิดอะไรก็ไม่รู้” เนมมันบ่นน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ

       “ เค้ารู้ไงว่ามึงชอบหนีคนขับรถไปเอง แต่ถ้าไปกับกูมึงไม่รอดแน่”

       โอ๊คมันสวนขึ้นอย่างรู้ทันทำเอาฝ่ายนี้หน้าตูมยิ่งกว่าเดิม

        “ ก็กูไม่อยากไปกับกับมึงนี่”

        นี่ก็งอแงแบบเด็กอีก

        “ มึงก็ทำตัวให้คนอื่นเชื่อถือสิ ถ้าทำได้รับรองป๊ามึงปล่อยมึงแน่” โอ๊คมันพูดเสียงเรียบ “ ไม่ใช่ทำตัวง้องแง้งแบบนี้เมื่อไหร่เค้าถึงจะปล่อยมึง”

        “ พูดมาก”

        “ ก็ดีกว่าพูดไม่รู้เรื่องแบบมึง”

        ผมชักเวียนหัวกับพวกมันแล้ว ผมคลึงขมับไปมาพอดีกับที่เสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้น ผมเลยปล่อยให้พวกมันทะเลาะกันให้พอใจก่อนจะหันไปสนใจเสียงออดที่ดังอย่างต่อเนื่อง

       ทันทีที่เปิดประตูออกก็เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งของเพื่อนบ้านข้างห้องซึ่งตีสีหน้านิ่งอยู่เบื้องหน้า ผมเปิดยิ้มกว้างทักทายขณะที่อีกฝ่ายแค่ยักไหล่ก่อนจะมองสำรวจแขนและหัวเข่าซึ่งได้รับบาดเจ็บ

         “ ดูดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี่”

         “ จะชมว่าผมหล่อก็พูดตรงๆก็ได้ครับ”

         หมอปายพ่นลมหายใจแรงๆจนผมเผลอขำออกมา หมอทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วหันไปมองข้างหลังตัวเองบ่อยๆ

        “ กูมาทำแผลให้ ขอเข้าไปหน่อย”

        หมอหันไปมาข้างหลังอีกครั้ง คราวนี้ผมว่ามันชักจะแปลกๆเหมือนว่าหมอกำลังหนีอะไรบางอย่าง

        “ มีอะไรครับหมอ”

        “ ให้กูเข้าไปก่อนแล้วจะบอก”

        ผมกระตุกยิ้มมุมปากเอาแขนข้างที่ไม่เจ็บของตัวเองยืนค้ำประตูเหมือนจะปิดทางเข้า หมอเหลือบตามองผมอย่างเซ็งๆ

        “ หมอหนีอะไร”

        “......”

         ยังไม่ทันที่หมอจะได้ตอบเสียงเอ่ยเรียกชื่อหมอก็ดังมาแต่ไกล “ ปายคะ” หมอถอนหายใจแรงๆทั้งที่ยังไม่ปรากฎร่างเจ้าของเสียงผมก็พอเดาได้ว่าเสียงแบบนี้คงไม่พ้นแม่เลี้ยงวัยสาวของหมอปายเป็นแน่

         ผมยิ้มมุมปากมองอีกฝ่ายล้อๆขณะที่หมอแค่ชักสีหน้า

        “ หนีสาวนี่เอง”

        “ ตกลงจะให้กูเข้ามั้ย”

        เรายืนสบตากันนิ่งก่อนที่หมอจะก้าวถอยหลังแล้วเตรียมผละไปทางลิฟต์ แต่ผมคว้ามือหมอเอาไว้ทัน

        “ เดี๋ยวสิหมอ”

        “.......” หมอมองข้อมือที่ถูกผมกุมนิ่งๆ แต่ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้กระตุกข้อมือนั้นให้เข้ามาในห้อง “ ขี้งอนเหมือนกันนะเนี่ย”

        “ มึงพูดอะไร”

        “ ผมจะบอกว่า...” ผมดันหมอจนแผ่นหลังหมอชนกับประตูที่ผมดึงปิดก่อนที่แม่เลี้ยงสาวจะทันเห็น หมอมองผมนิ่งตอนที่ผมโน้มใบหน้าไปกระซิบข้างหูหมอเบาๆ “ ทำไมหมอขี้งอนจังครับ”

        “ โอ้ย”

        ผมสะดุดโหยงตอนที่หมอสะกิดแผลที่หัวเข่าอย่างไม่เบามือนัก แต่ก็ทำให้ผมเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด หมอกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะหรี่ตามองผม
 
       “ มึงนี่ก็ขี้สำออยเหมือนกันนะ”

       พูดจบหมอก็เดินเข้าไปในห้องผมทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่าทิ้งให้คนข้างหลังอย่างผมกุมแผลยิ้มเหมือนเป็นบ้า

       “ อ้าวพี่หมอ”

       เนมร้องทักทันที่เห็นเพื่อนข้างห้องของผมไปทรุดตัวนั่งลงที่โซฟา

       “ ไงเนม”

        “ นี่พี่หมอ...”

        “ พี่มาล้างแผลให้เพื่อนเรา”

        “ อ๋อ”

        “ ไม่ยักกะรู้ว่าพี่หมอสนิทกับยิมด้วย” เนมถามพาซื่อ “ เห็นครั้งก่อนยังเหมือนจะทะเลาะกันอยู่เลย” ท้ายประโยคให้มามองผมกับหมอปายอย่างงงๆ

        “ นั่นมันเมื่อก่อน” ผมขยี้หัวเนม “ ตอนนี้ซี้กันแล้วจริงป่ะหมอ”

        “ เปล่า”

        หมอปายตอบหน้าตายจนเนมกับไอ้โอ๊คที่เพิ่งเดินออกจากโซนครัวหัวเราะร่วน ผมทำหน้ายุ่งส่วนหมอปายก็หัวเราะน้อยๆ
เดี๋ยวนะรู้ว่าเมื่อกี้หมอจะหัวเราะเพราะผมรึเปล่า ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะจ้องเพื่อนข้างห้องที่ทำตัวเป็นกันเองกับเพื่อนทั้งสองข้างผมโดยเฉพาะกับไอ้โอ๊คที่เพิ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกถ้าไม่นับตอนเจอกันที่ร้านอาหารที่พี่หนึ่งพาไปเลี้ยง แต่ดันพูดคุยกันเป็นปกติต่างจากผมที่ใช้เวลาตั้งนานกว่าหมอจะยอมพูดดีๆด้วย

        ...หมอแม่ง...

        “ ทำหน้าอะไรของมึง”

        “ หืม”

        ผมหันไปทำหน้างงกับไอ้โอ๊ค

        “ กูว่าสายตามึงมองหมอปายแปลกๆว่ะ”

        “ ยังไง”

        “ ไม่รู้สิ มันเหมือนกับ...”

        ไอ้โอ๊คสบตากับผมนิ่งก่อนที่มันจะตบบ่าผมเบาๆ “ มึงรู้แก่ใจดีไอ้ยิม อย่าให้กูพูด”

        โอ๊คมันมองผมยิ้มๆ

         หลังจากจัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วโอ๊คก็มันลากเนมไปมหาวิทยาลัยทันที  ดังนั้นตอนนี้จะเหลือแค่ผมกับหมอปาย  ผมนั่งหมอหมอที่กำลังเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำแผลให้ผม มือเรียวที่สวมถุงมือป้องกันหยิบจับโน่นนี่อย่างคล่องมือเสร็จแล้วจึงหันมาทางผม

        “ ยื่นขามา”

        “ ครับ”

        “ เจ็บหน่อยนะ”

        หมอเอาสำลีไปชุบแอลกอฮอลแล้วมาเช็ดรอบๆแผลอย่างเบามือ ใบหน้าคมคายดูตั้งใจจดจ่อกับงานตรงหน้ามากจนผมเผลอยิ้มออกมา เป็นจังหวะที่หมอเงยหน้าขึ้นมาเราจึงได้สบตากัน

       “ อะไร” หมอถาม

       “ ที่มาทำแผลให้เพราะหมอเป็นห่วงผมใช่มั้ย”

       “.......”

       หมอนิ่งไปก่อนจะลงล้างแผลต่อ

       “ หมอ” ผมจ้องต้นคออีกฝ่ายที่ก้มๆเงยๆอยู่กับแผลผม “ ผมรู้สึกดีมากนะ”

       หมอชะงักมือทันที

        “ แปลกเนอะที่ผมดันรู้สึกดีกับใครสักคนทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน”

        “ มึงมันคนใจง่ายไง”

        หมอเปิดปากพูดกับผมเป็นครั้งแรกหลังจากเงียบอยู่นาน

       “ มีทางรักษามั้ย”

       “ อะไร”

       หมอเงยหน้าขึ้นมาถามผมอีกครั้ง

      “ อาการใจง่ายทางการแพทย์มีทางรักษามั้ยหมอ แล้วต้องใช้ยาแบบไหนรักษาถึงจะหาย”

        คราวนี้หมอหยุดมือที่ล้างผมแล้วเงยหน้าที่มองสบตาผมนิ่ง ในความเรียบเฉยในแววตาคู่นั้นของหมอมีประกายประหลาดจนผมเผลอโน้มใบหน้าลงไปใกล้มากขึ้น

       ใกล้จนระยะห่างระหว่างเราช่างบางเบา

       ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจอีกฝ่าย

        “ ไม่มีหรอกยาแบบนั้น” หมอถอนหายใจแรงๆก่อนจะเบือนหน้าหลบ

        “ แต่ผมว่ามี..”

        “......”

        “ เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจก็ต้องใช้หัวใจรักษาสิ หมอว่ามั้ย”

        “ มึงมันเพ้อเจ้อ”

        หมอสถบในลำคอก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำแผลให้ผมต่อ

        “ หมอ”

        “ ถ้ามึงพูดมากระวังจะเจ็บแผลกว่าเดิม”

        ผมอมยิ้มตอนที่หมอก้มหน้าหลบตาผม ไม่รู้สิผมว่าในอกผมมันอุ่นๆและอิ่มเอิบยังไงไม่รู้ มันรู้สึกดีมากดีจนถึงขนาดที่ผมลืมอะไรไปบางอย่าง

         “ เสร็จแล้ว”

       หลายนาทีที่ยาวนานมีเพียงความเงียบและเสียงอุปกรณ์ล้างแผลจนสิ้นสุด หมอเก็บของเมื่อการล้างแผลเสร็จสิ้นขณะที่มองได้แค่นั่งมองหมอนิ่งๆ

       “ หมอ”

       “ อะไร”

       “ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้อีกฝ่ายแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาแค่หมอปายพยักหน้ารับ

       “ เสร็จแล้วกูขอตัว”

        “ ผมเดินไปส่ง”

        “ อืม”

        ผมเดินตามแผ่นหลังของหมอไปถึงหน้าประตู จังหวะที่หมอกำลังกำลูกบิดเปิดออกผมก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือหมอเอาไว้ หมอทำหน้าสงสัยก่อนจะพยายามบิดข้อมือออกจาการเกาะกุมของผม

       “ อะไรของมึง”

        ผมส่ายหน้าก่อนจะค่อยๆปล่อยข้อมือหมอปายจนฝ่ายนั้นเปิดประตูแล้วเดินเข้าลิฟต์ไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

        “ หมอปาย” ผมพูดคนเดียว “ ผมว่าผมแม่งเป็นโรคใจง่ายแล้วว่ะ”

         ผมกระซิบกับตัวเองเหมือนว่าคำเหล่านั้นจะถึงส่งผ่านไปถึงหมอปาย






*********************************************





      [ปาย]






      “ ปาย”

      “ หืม”

      “วันนี้ดูเหม่อๆนะ เป็นอะไรรึเปล่า”

       ผมส่ายหน้าปฏิเสธสีหน้าห่วงใยของเพื่อนสนิท หยกทำหน้าแคลงใจก่อนจะหันไปสนใจหนังสือตรงหน้า ผมถอนหายใจมองไปรอบๆเพื่อหาเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งซึ่งตั้งแต่เช้าจนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่เห็นอั้มเลย ผมเหลือบตามองหยกที่ทำเหมือนสนใจหนังสือตรงหน้าเสียเต็มประดาทั้งที่ก่อนหน้านี้มันก็เหลียวมองหาอะไรอยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาอั้มมันเป็นยังไงบ้างเพราะตั้งแต่มันโทรหาเมื่อคืนแล้วผมไม่รับสายมันก็ไม่โทรหาผมอีกเลย

        ยอมรับว่าผมเองก็แคร์มันไม่น้อยอย่างที่เคยบอกว่ามันเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นทุกช่วงเวลาทุกข์สุขที่ผ่านมาผมมีอั้มเคียงข้างอยู่ตลอดและเพราะเราสนิทกันมากมันเลยทำให้ผมไม่เอะใจสักนิดว่ามันคิดกับผมเกินกว่าคำว่าเพื่อน จนวันที่หยกเข้ามาถึงทำให้เห็นการเปลี่ยน ทำให้มันกล้าแสดงอาการบ้างอย่างออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีให้เห็น

       ผมถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันตอนที่เห็นหยกหยิบมือถือขึ้นมามองแล้ววางไว้ดังเดิมเป็นเช่นนี้หลายรอบจนเจ้าตัวฟุบหน้าไปกับกองหนังสือ ท่าทางแบบนี้ทำให้ผมยิ่งเห็นใจเพื่อนตัวขาวคนนี้ ถ้าหากว่าเพื่อนผมใจตรงกันสักนิดทุกอย่างคงจะง่ายขึ้น

       “ ปาย”

       “ หืม”

        หยกมันเรียกผมเสียงเบามือบางเอื้อมมากุมข้อมือผมเอาไว้ “ มึงไม่คิดจะเปลี่ยนใจบ้างเหรอ”

       “ เรื่องอะไร”

       แววตาสวยวาววับราวกับเคลือบไปด้วยหยดน้ำ แม้มันจะไม่เอ่ยออกมาทันทีแต่ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันหมายถึงอะไร

       “ ถ้ากูจะขอร้อง”

       “ หยก” ผมโยกศีรษะ “ เรื่องของหัวใจบังคับกันไม่ได้หรอก”

       “ ต่อให้มึงขอร้องให้ตายยังไงกูก็เปลี่ยนใจไม่ได้ ถ้ากูจะรักอั้มกูคงรักมันไปนานแล้ว” มันยิ้มเจื่อนๆก่อนจะพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน

       “ อย่าขอร้องกูแบบนี้อีก อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองแบบนี้ มึงความสุขจริงๆเหรอถ้าสุดท้ายความพยายามของมึงสำเร็จ อย่าโกหกตัวเองว่ามึงมีความสุขทั้งที่กำลังทำหน้าจะร้องไห้แบบนี้”

         หยกก้มหน้านิ่งแล้วมันก็ตัวสั่นผมจึงรวบมันมากอดเอาไว้ “ แค่ยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน ถึงมันจะเจ็บปวดแต่พวกเราจะผ่านมันไปได้ดีกว่าต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แล้วผลลัพธ์สุดท้ายพวกเราก็เจ็บกันทุกฝ่าย”

        “ เห็นแก่ตัวบ้างเถอะหยก อย่าทำเพื่อคนอื่นนักเลย”

        ผมกอดหยกอยู่นานจนเจ้าตัวผละออกแล้วฝืนยิ้มให้ถึงจะเป็นยิ้มที่ดูจืดจางแต่ยังแจ่มใส ในตอนนั้นเองที่ผมเห็นเงาของคนในหัวข้อสนทนามาหยุดอยู่เบื้องหน้า

       “ อั้ม”

       หยกก้มมองเท้าตัวเองขณะที่ผมยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย

       “ คุยกันหน่อยสิ”

       อั้มมันพูดขึ้นหางตามันมองหยก ไม่ใช่แววตาที่ดุดันเหมือนเคย ผมฉุดมือหยกให้ลุกตามอั้มไปยังสวนหย่อมหน้าโรงพยาบาล หยกยังคงก้มหน้ามองเท้าเช่นเดิม ขณะที่ผมและอั้มยืนพิงขอบเสากันอยู่คนละมุม

       เนิ่นนานที่พวกเราสบตากันก่อนที่อั้มมันจะเปิดปากพูดเป็นคนแรก

       “ ขอโทษ”

       ผมหันไปสบตากับหยกแล้วฝ่ายนั้นก็มองไปยังอั้มแวบนึงแล้วก้มมองปลายเท้า

        “ ขอโทษที่ทำให้พวกมึงไม่สบายใจ” อั้มมันพ่นลมหายใจแรงๆ “ ขอโทษที่กูงี่เง่าและเผลอทำร้ายมึง” ท้ายประโยคมันผินใบหน้าไปทางหยก

        เพื่อนตัวขาวของผมกุมมือตัวเองแน่น

        “ หยก”

        “.......”

        อั้มไปทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆหยก “ กูเหมือนผู้ร้ายที่คอยจ้องแต่จะทำร้ายมึงสินะ”

        หยกส่ายหน้าปฎิเสธแต่ใบหน้ายังก้มต่ำ

        “ อย่าร้องไห้เพราะกูอีกเลย” น้ำเสียงของอั้มดูนุ่มขึ้นมันมองไปที่หยกแล้วลูบศีรษะฝ่ายนั้นเบาๆ “ กูทำมึงเจ็บขนาดนี้อย่ารู้สึกดีๆกับกูอีกเลย กูมันคนใจร้ายต่อให้มึงทำดีขนาดไหนกูก็ตอบแทนความรู้สึกของมึงไม่ได้”

       อั้มมองมาที่ผมแล้วยิ้มจางๆให้เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าแปลกๆ

       “ คนไม่รักทำดีให้ตายก็ได้แค่ทำ”

        ผมเบือนหน้าหนีเพราะคำๆนั้นเหมือนว่าอั้มมันกำลังพูดกับผม ความรู้สึกที่มันส่งมาให้มากมายเกินกว่าแค่คำว่าเพื่อน เป็นความรู้สึกลึกซึ้งที่ทั้งรักและเจ็บปวดในคราเดียวกัน

        หยกมันร้องไห้เงียบๆเป็นครั้งแรกที่อั้มมันกอดหยก มือหนาของมันลูบไล้แผ่นหลังหยกอย่างแผ่วเบา “ กูใจร้ายใช่มั้ยหยก เอาความรู้สึกดีๆที่มีค่าของมึงเก็บไว้ให้คนที่คู่ควรเถอะ กูมันไม่คู่ควรหรอก”

        เพื่อนตัวขาวของผมเริ่มสะอื้นมันกำชายเสื้อของอั้มแน่นก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้น

        “ กูขอเวลาได้มั้ย”

        หยกพูดแล้วสะอื้นเป็นห้วงๆ “ อย่าเพิ่งไล่กูไปไหน กูขอแค่ได้อยู่ข้างๆมึง ไม่นานหรอก ไม่นานกูสัญญา”

        “ กู.... กูจะพยายามกลับไปรู้สึกกับมึงแค่...แค่เพื่อน”

         อั้มมันพยักหน้ารับก่อนจะเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าหยกเบาๆ ผมมองภาพตรงหน้าแล้วอดน้ำตาคลอไม่ได้ ผมรู้ดีว่าตอนนี้ทั้งคู่เจ็บปวดมากแค่ไหน เป็นครั้งแรกที่พวกมันเปิดอกคุยกัน

         “ กินข้าวแล้วดูแลตัวเองบ้างหยก มึงผอมลงมากรู้ตัวมั้ย”

         พอจบประโยคนั้นของอั้ม หยกซึ่งกลั้นสะอื้นอยู่นานก็ปล่อยโฮออกมาทันที ผมรู้ดีว่ามันทั้งเจ็บและน่ายินดีแค่ไหน

         “ ขอโทษ”

         อั้มบอกกับหยกอีกครั้ง

         “ ขอโทษ”

        อั้มมองมาที่ผม และผมเห็นความจริงใจที่มันถ่ายทอดออกมา ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆพวกมันแล้วโอบบ่าของคนทั้งสองไว้ ถึงจะเจ็บปวดแต่อย่างน้อยพวกเราก็ทำดีที่สุดแล้วที่พยายามประคับประคองความสัมพันธ์ของพวกเราให้ยาวนาน
 
         ผมรู้ว่าผมได้เพื่อนรักทั้งสองคนกลับมาแล้ว และคาดหวังว่าอีกไม่นานมันจะดีกว่านี้



    .

    .


         ผมเดินทอดน่องจากลิฟต์ของคอนโดมาเรื่อยๆวันนี้ผมเหนื่อยกับการเรียนและสอบทั้งวันถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่าในใจมันอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ดีว่าการที่คนเราจะตัดใจมันต้องใช้เวลาไม่ใช่แค่วันสองวันเท่านั้นถึงจะทำได้ แต่เมื่อเริ่มที่จะลงมือทำก็ไม่นานหรอกที่ผลลัพธ์มันจะสัมฤทธิ์ผล

        แต่ความรู้สึกอิ่มเอมของผมมีอันต้องสะดุดลงเมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วไม่เจอกุญแจและคีย์การ์ดห้องพัก ผมคลึงขมับอย่างจนใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมเพิ่งเปลี่ยนกุญแจคอนโดใหม่หมดเพราะก่อนหน้านี้ไอลดาแอบเอากุญแจชุดเก่าไปปั๊มทำให้หล่อนสามารถเข้าออกคอนโดผมได้อย่างง่ายดาย แล้วเมื่อเช้าผมรีบไปหน่อยเลยลืมกุญแจคอนโดที่ทำมาใหญ่ไว้ข้างใน ครันไปขอนิติบุคคลข้างล่างให้ตามช่างมาช่วยเปิดป่านนี้คงกลับบ้านไปหมดแล้ว

        ผมยืนพิงประตูห้องตัวเองแล้วครุ่นคิดหาทางออกก่อนจะมองเลยไปยังห้องข้างๆซึ่งปิดเงียบ คาดว่าคนป่วยคงพักผ่อนไปแล้วมั้ง ผมยืนพิจารณาหมายเลขห้องอยู่นานก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อรับรู้ถึงแรงสะกิดที่หัวไหล่

       “ หมอมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ”

       คนป่วยที่ผมคาดว่ามันน่าจะพักผ่อนยืนยิ้มเผล่อยู่เบื้องหลังซ้ำมันใช้มือข้างที่ไม่เจ็บหอบอะไรสักอย่างอยู่

       “ แล้วมึงอ่ะไปไหนมา”

       ผมถามกลับไม่พอใจนิดๆเมื่อรู้ว่าดึกป่านนี้มันยังไม่พักผ่อนอีก

       “ อ๋อ ผมไปเอาของให้น้องสาวครับ ว่าแต่ผมแล้วหมออ่ะมายืนจ้องประตูห้องผมทำไมเนี่ย” มันหรี่ตามอง “ หรือว่าหมอคิดถึงเจ้าของห้อง”

        ผมเบือนสายตามองบนเป็นสัญลักษณ์ว่าอืมระอามัน และแทนที่คนถูกว่าจะรู้สึกอะไรมันกลับหัวเราะขำซะได้

       “ กูลืมกุญแจห้อง”

       “ หืม”

       มันทำหน้าสนใจ

       “ งั้นคืนนี้หมอก็เข้าห้องตัวเองไม่ได้น่ะสิ”

       “ เออ”

      มันยิ้มกริ่มก่อนจะล้วงกุญแจและเสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องตัวเองพร้อมกับผายมือไปในห้อง “ งั้นคืนนี้หมอนอนห้องผมแล้วกันนะครับ”

      ผมเลิกคิ้วมองมันตรงๆกับท่าทางมัดมือชกของมัน

      “ เข้ามาสิหมอ”

      “ ใครบอกว่ากูนอนห้องมึง”

       ผมถามกวนๆ

       “ หมอกลัวผมเหรอครับ”

        ใบหน้ายียวนของมันปรากฏขึ้นทันที แววตาคู่คมวิบวับเหมือนกำลังล้อเลียนผมอยู่ทำให้รู้สึกยอมแพ้ไม่ได้ยังไงยังงั้น

       “ ใครกลัวมึง”

       “ หมอไง”

        เราจ้องตากันอยู่พักนึงก่อนที่ฝ่ายนั้นจะถอยหลังเปิดทางให้ผมก้าวตามมันเข้าไปในห้อง

        “ มองอะไร”

        มันเดินไปวางของที่กลางห้องก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่เจ็บค้ำโซฟาแล้วมองผมนิ่งๆ

        “หมอไม่กลัวผมจริงๆเหรอ”

        “ทำไมกูต้องกลัวมึง”

        “ ก็” มันพูดแค่นั้นก่อนจะเดินมาใกล้ผมแล้วดันให้แผ่นหลังผมชนกับกำแพง “ ก็กลัวจะเผลอใจให้ผมไง”

        มันยิ้มกว้างแววตาเปล่งประกายเวลามองมา ท่าทางแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆก่อนจะยันแผ่นอกมันเอาไว้แล้วพลิกฝ่ายนั้นให้หลังพิงกำแพงแทนที่ผม

        “ ใครกันแน่ที่จะเผลอ”

        มันยิ้มน้อยแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ จนแววตาของเราอยู่ในระดับเดียวกัน

        ในวินาทีผมดันนึกถึงภาพที่เผลอจูบกันตอนที่ผมเมา

         จูบกันงั้นเหรอ แค่คิดก็รู้สึกหวิวๆในใจชอบกล


         ...Rrrrrr...

        เสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้นในความเงียบในจังหวะที่แค่นิดเดียวริมฝีปากเราจะสัมผัสกัน เรามองหน้ากันนิ่งจนเสียงนั้นมันเงียบลง มันยิ้มกริ่มก่อนจะช้อนสายตามองผม

        “ ต่อมั้ยหมอ”

        ผมส่ายหน้าก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเมื่อเสียงโทรศัพท์นั่นดังขึ้นอีกครั้ง มันยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะวางของตอนนั้นเองที่เพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะนั้นมีรูปผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งตั้งเด่นหรา แปลกที่ผมเองก็ไม่เคยสังเกตเลย ผมถอนหายใจอย่างพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างยิ่งตอนที่มันจ้องหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

        มันหันมามองผมแล้วพยายามยิ้มให้ ทำไมตอนนั้นผมถึงนึกเปรียบเทียบตัวเองกับแม่เลี้ยงอย่างไอลดา

        ทำไมผมรู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก

        ทำไมกัน







หายไปจัดการเรื่องทุนวิจัยค่ะ ตอนนี้เรียบร้อยแล้วน้า
จะพยายามมาอัพบ่อยๆแล้วน้า ตอนล่าสุดนี่มันอึมครึมแปลกๆเนอะ ฮ่าๆๆๆ
อ่านแล้วขอสักหนึ่งคอมเมนท์นะคะ ถือเป็นกำลังใจให้กับคนเขียนด้วยค้า:hao5:
เจอกันตอนหน้าค่ะ


หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 05-08-2016 21:50:48
ยิมเอาแต่ป้อปายด้วยคำพูด
มันดูเหมือนว่าถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
จนลืมไปว่าตัวเองมีห่วงผูกคออยู่
ยิมขอร้องล่ะ...ไปเคลียร์เรื่องตัวเองให้จบก่อนเถอะ..นะ
สงสารปายอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 05-08-2016 21:51:29
อุ๊ย! หมอหวั่นไหว  :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-08-2016 22:38:01
ยิมนายรีบเขี่ย เอ๊ย เคลียร์แฟนเก่าก่อนเลย ถ้าคิดจะจีบหมออ่ะ :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-08-2016 23:27:18
เค้ามีความรู้สึกดีดีให้กันแล้วใช่มั้ย :mew3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 06-08-2016 00:22:10
จัดการแฟนเก่าได้ละยิม,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 06-08-2016 00:22:45
ปายยิมกลับมาแร้นนนนนน :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 06-08-2016 01:58:24
ก้างชิ้นโตสินะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 06-08-2016 03:25:39
เคลียร์ให้เรียบร้อย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 06-08-2016 06:16:36
เคลียทั้งสองฝ่ายแล้วคบกันเลยไหมหมอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 06-08-2016 06:48:21
มนุษย์แฟนเก่า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-08-2016 06:52:48
อ่านแล้วสงสารหยกจัง :sad4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 06-08-2016 08:55:46
จะฟินก็ฟินไม่สุด เพราะนังยิมมีแฟนแล้ว ถ้ายังไม่เคลียร์ก็อย่ามาเต๊าะหมอปายนะ ไม่อยากให้หมอเสียใจ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 06-08-2016 09:19:29
เลิกๆไปเถอะะนัตตี้อ่าาาา นิสัยไม่ดีไม่ใช่หรออออ แถมครอบครัวก็ไม่ชอบ เพื่อนก็ไม่ชอบ มีใครชอบนัตตี้บ้างวะ 55555555
อยากตียิมมากอ่ะ มาอ่อยหมอปายทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้ว แล้วหมอปายหวั่นไหวแล้วดิตอนนี้อ่ะ สงสารหมอปายยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 06-08-2016 11:26:04
ยิมรีบเคลียร์ตัวเองเลย #ทีมหมอปาย :z2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: s_gob ที่ 06-08-2016 12:11:26
แฟนสาวของยิมอ้ะ เลิก เลิก เลิก!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-08-2016 13:27:07
ดราม่า~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 07-08-2016 03:18:25
 :pig4:รู้จักนิยายน้องเรื่องแรกคือพรานล่าเนื้อค่ะ อ่านเพราะชื่อเรื่องดึงดูดมากๆ^^
แล้วตามไปอ่านที่ลงจบแล้วทุกเรื่องเพราะหลงรักในตัวหนังสือของน้อง สนุกทุกเรื่องจริงๆค่ะ
ชอบความเหมือนที่แตกต่างที่นิยายของน้องมี เพลินกับภาษาที่อ่านได้ไหลลื่น
ชอบความหื่นอย่างพอดี ความหน่วงที่พอเหมาะ ความรักและความหวานที่พอเพียง
อ่านเพลินอ่านสนุกทุกเรื่องเลยค่ะ อ่านซ้ำไปหลายรอบแล้วด้วย^^
คอยติดตามอยู่และจะเป็นกำลังใจต่อๆไปนะคะ :man1:
 :L1:

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: twinkletwinklelittlestar ที่ 07-08-2016 12:41:01
ยิมรีบๆไปเคลียร์ตัวเองเลยย แล้วจะเชียร์เต็มที่กว่านี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-08-2016 14:32:28
กลับมาแล้วววว :heaven
แอบหวังคู่อั้มกับหยก สงสารอยากให้คู่กัน :katai1:
แล้วคู่หลักล่ะ??? เหมือนจะอึมครึม :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-08-2016 01:39:42
ยิมเลิกกับแฟนไปเลย แล้วมาเดินหน้าจีบหมอปายให้เต็มที่เลยนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 10: สับสน »» [5/8/59] P.8 (กลับมาแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 15-08-2016 20:02:22







       หลงที่ 11 : จุดเปลี่ยน







         [ ยิม]





         “ มีสมาธิกับเกมหน่อยยิม”

         “ ครับพี่”

         ผมได้แค่รับคำโดยที่หูผ่านเลยคำพูดเหล่านั้นของรุ่นพี่ไปอย่างเฉยชา ผมยอมรับว่าไม่มีทั้งสติหรือแม้แต่สมาธิกับเกมการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศแมทช์นี้เลย สมควรแล้วที่รุ่นพี่ปีสูงจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผมแบบนี้แต่จะให้ผมทำใจให้นิ่งยังไงไหวในเมื่อมีเรื่องราวมากมายให้ขบคิดอยู่ในหัว ผมหลับตานิ่งนิ้วเรียวยาวคลึงขมับตัวเองไปมา


        “ อ่ะน้ำ”

        ไอ้โอ๊คยื่นน้ำเปล่าขวดหนึ่งมาให้ดูก็รู้ว่าสีหน้ามันสงสัยกับอาการประหลาดของผมไม่น้อยแต่มันไม่ได้ซักถามใดๆคงจะรอให้ผมเปิดปากเล่าเอง เพราะตอนนี้ตัวผมเองก็ยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไร ผมเทน้ำใส่ศีรษะแล้วสะบัดเบาๆเพื่อให้เกิดความรู้สึกชดชื่นกระฉับกระเฉงทั้งที่ในใจร้อนรนและเต็มไปด้วยความคิดสับสนมากมาย

        โอ๊คมันถอนหายใจมองผมเงียบๆเหมือนว่ามันอยากจะพูดอะไรกับผมสักอย่าง แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังนิ่งเงียบไปเสียเฉยๆผมเลยผ่านเลยความรู้สึกสงสัยนั้นไปแล้วหวนคิดถึงเรื่องที่รบกวนจิตใจผมในตอนนี้

         ผมรู้สึกว่าหมอปายกำลังหลบหน้าผมอยู่

         นับตั้งแต่วันที่หมอมานอนห้องผมวันนั้นจนตอนนี้ผ่านมากว่าสองอาทิตย์แล้วผมไม่มีโอกาสได้พบเจอหรือพูดคุยกับหมออีกเลยหมอทำเหมือนกำลังหลบลี้หน้ากัน ตอนแรกผมก็ไม่เอะใจจนเมื่อมีพยาบาลสาวคนหนึ่งซึ่งทราบว่าหมอเป็นคนจ้างมาล้างแผลให้ผมโดยให้เหตุผลว่าช่วงนี้หมอยุ่งเรื่องสอบไม่มีเวลาแม้แต่จะกลับห้องหรือแวะมาดูอาการผมเลย

         ราวกับว่าหมอปิดทุกทางที่จะติดต่อกัน

        สองสัปดาห์จนถึงวันที่ผมนัดไปเอาเฝือกออก ตอนนี้ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บหายดีจนสามารถลงแข่งฟุตบอลเฟรชชี่ในนัดสุดท้ายได้แล้ว ผมไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อนข้างห้องเหมือนว่าคนๆนั้นไม่ได้กลับมาห้องเลยตลอดสองอาทิตย์ ผมรู้สึกอึดอัดเหมือนว่าหายใจลำบากทุกครั้งที่มองไปยังประตูห้องที่ปิดสนิท ทำให้หวนนึกถึงค่ำคืนนั้นแววตาหมอดูเศร้าแปลกๆผมไม่รู้ว่าวันต่อมาหมอจะหายไปราวกับล่องหน

        หมอไปไหน หมอจะรู้มั้ยว่าผมกำลังทรมานเพราะความรู้สึกผิดและเหนือสิ่งอื่นใดผมคิดถึงหมอ แค่คิดถึงก็หน่วงไปทั้งหัวใจแล้ว

        และความทรมานนี้คงเหมือนเป็นบทลงโทษสำหรับคนบาปแบบผม คนบาปที่กำลังเผลอใจให้คนอื่นโดยที่ผมเองก็มีคนของตัวเองแล้ว เหมือนเป็นบาปจริงๆเพราะทุกอย่างประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนพร้อมกับข่าวไม่สู้ดีจากน้องสาวที่โทรจากแดนไกลมาเล่าให้ฟัง


         “ พี่ยิมรู้มั้ยว่าตั้งแต่พี่ไปเรียนที่ไทยยัยพี่นัตตี้ควงผู้ชายคนใหม่ทั่วเมือง แล้วทำมาเป็นโทรมาฟ้องคุณแม่ว่าพี่ยิมเปลี่ยนไปทั้งๆที่ตัวเองนั่นแหละกำลังจะนอกใจพี่”

         “ บัวอาจจะเข้าใจผิด”

         “ พี่ยิมบัวก็ไม่อยากพูด พูดไปก็เหมือนใส่ร้ายแฟนพี่แต่ผู้ชายคนนั้นบัวเห็นเค้าไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งแต่พี่ยิมยังอยู่ที่อังกฤษด้วยซ้ำ”

         เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ


         ผมยอมรับว่าทั้งตกใจและเสียใจไม่น้อยกับข่าวที่ได้ยิน บางทีมันอาจจะเป็นการเข้าใจผิด บางทีน้องสาวผมอาจจะพูดเกินจริง บางทีมันอาจจะไม่มีอะไร

         แต่ทำไมพอได้ยินเรื่องแบบนี้ผมถึงจุกแน่นไปหมด ผมไม่ได้คร่ำครวญฟูมฟายแต่ข้างในมันเจ็บปวดแสนสาหัส หรือว่านี่อาจจะเป็นผลลัพธ์ของความรู้สึกที่เผลอไผลไป ผมยอมรับว่าผมรู้สึกแปลกๆกับหมอปาย ผมยอมรับว่าผมกำลังเผลอใจไปแต่ทุกครั้งที่คิดเรื่องราวเหล่านั้นภาพของแฟนสาวก็ผุดขึ้นมาแม้จะเลือนรางแต่ยังชัดเจนในความรู้สึก ผมเคยคิดว่าหากผมได้มีโอกาสเจอหมอช่วงก่อนหน้านี้ผมอยากจะขอโทษหมอ อยากให้หมอรู้ว่าผมรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้หมอต้องปฏิบัติตัวกับผมแปลกไป ผมยินดีที่จะยอมรับผิดกับความรู้สึกเปราะบางนี้แต่เพียงผู้เดียว

         ขอแค่ให้หมอพูดคุยและยอมรับเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็พอ

         แต่วันนี้วันที่ได้ยินข่าวร้ายจากทางไกลผมถึงกับซวนเซเหมือนคนไม่มีแรง วินาทีนั้นผมเห็นภาพหมอในใจสว่างวาบขึ้นมาอย่างชัดเจน ผมหลับตานิ่งในหัวคิดวุ่นวายสับสนไปหมด ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ไม่รู้ว่าทำอะไรก่อนดี โทรศัพท์ของแฟนผมปิดเครื่องตั้งแต่เมื่อวานจากที่ตอนแรกผมร้อนเป็นไฟแต่พอนานไปผมกลับรู้สึกชินชา

        อย่างที่บอกยิ่งเราห่างกัน เรายิ่งไม่เข้าใจกัน

        หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเราแค่พยายามเข้าใจกัน แต่พอเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ที่ประคับประคองมาถึงมันมีอันต้องแปรเปลี่ยนไป  ความเข้าใจผิดที่ไม่ได้เคลียร์หรือทำความเข้าใจยิ่งปล่อยให้มันทับถมวันหนึ่งคงจะประทุขึ้นและผลลัพธ์มันคงทำลายล้างพวกเราให้เจ็บปวดกันถ้วนหน้า
 
        ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่นตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ผมติดต่อเธอไม่ได้เลย เหมือนว่าเธอปิดโทรศัพท์หนีผม ผมยอมรับว่าตัวเองก็กลัวไม่น้อยหากโทรไปแล้วรู้เธออยู่กับใคร ผมกลัวคำตอบราวกับเป็นคนขี้ขลาด ผมกลัวว่ามันนั้นมันจะมาถึงแล้ว ความสัมพันธ์มันถึงบิดเบี้ยวแบบนี้ซ้ำผมยังดึงหมอซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยเข้ามาในวังวน ผมทำให้หมอต้องเสียความรู้สึกจนหลบหน้าผมไปแบบนี้

        แม่งเอ้ย

        ผมกุมขมับตัวเองอีกรอบก่อนจะผุดลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นสักหน่อย ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปผมคงทำให้เกมวันนี้พังแน่ ผมเดินเรื่อยมาจนถึงห้องน้ำใต้สเตเดียมของสนามการแข่งขันแล้วตรงไปยังก๊อกน้ำแล้ววักน้ำใส่หน้าแล้วพยายามรวบรวมสมาธิซึ่งดูจะยากเย็นเหลือเกิน

        “ ยิม”

        “ อ้าวเนม”

       ตอนที่ออกจากห้องน้ำเพื่อนตัวน้อยก็ถลาวิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวยื่นผ้าเย็นกับของกินถุงเบ้อเร่อให้ทันที “ เราซื้อมาฝาก ยังไงวันนี้สู้ๆน้าเดี๋ยวจะไปนั่งเชียร์ที่อัฒจรรย์”

       “ ขอบใจนะเนม”

       ผมยักหัวมันเบาๆ ไอ้เนมหันมาปัดมือผมอย่างไม่จริงจังนักมือข้างหนึ่งมันถืออมยิ้มอมเล่นราวกับเด็กน้อย ไม่ว่าจะโตขนาดไหนแล้วก็ตามมันยังชอบทำตัวเหมือนเด็กๆ ทั้งรูปร่างหน้าตามันที่ดูเปราะบางไม่ใกล้เคียงกับเพศดั้งเดิมเลยทำให้มันดูน่ารักไม่หยอกจนบางครั้งผมอดคิดไม่ได้ว่ามีน้องชายตัวเล็กๆมากกว่ามีเพื่อนเสียอีก

        “ แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ”

        “ เปล่า” มันยิ้มตาหยีส่ายหน้าไปมา “มากับรุ่นพี่ อ้าว” มันเกาหัวงงๆเหมือนว่ามองหาใครบางคน ผมเลยกวาดสายตามองตามมัน

        “ มองหาใครวะ”

        “ ก็รุ่นพี่ไง”

        “ หืม”

        “ พอดีรุ่นพี่พากูไปเลี้ยงข้าวที่สามย่าน ขากลับกูนึกได้ว่ามึงมีแข่งที่นี่เลยชวนพี่เค้ามาดู”

        “ เหรอ”

        ผมมองไปรอบๆภาวนาให้รุ่นพี่ที่ว่าเป็นหมอปายเพราะผมอยากเจอหมอ อยากมีโอกาสได้คุยกับหมอตรงๆสักครั้ง แต่คำภาวนาของผมไม่เป็นผลเมื่อรุ่นพี่ที่ว่าทั้งสี่คนที่เดินมาสมทบกับเนมนั้นไม่มีหมอปายอยู่เลย ผมถอนหายใจแรงๆก่อนจะพยักหน้ารับตอนที่เนมมันชี้ไม้ชี้มือเป็นสัญลักษณ์ว่าจะเป็นนั่งเชียร์ที่อัฒจรรย์ด้านบนพร้อมกับรุ่นพี่มัน

        “ ปาย”

        “ ปาย ทางนี้โว้ย”

        ...หืม...


        ผมหันขวับเมื่อได้ยินชื่อที่ใครบางคนเอ่ยเรียกแล้วคนที่ผมมองหามาตลอดก็ปรากฏขึ้นทันที  หมอหันไปยิ้มให้เพื่อนมันก่อนจะหันมามองผม เราสบตากันนิ่งแล้วหมอก็พยักพเยิดบอกเพื่อนมันให้ไปก่อน ผมยืนนิ่งในใจสั่นระรัวตอนที่ค่อยๆเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม


       “ หมอ”

       “ อืม”

       “ ใจร้าย” ผมตัดพ้อหมอทันทีที่เปิดปากได้

       หมอเลิกคิ้วกอดอกแล้วมองผมตรงๆ “ เรื่อง” หมอถามสีหน้าดูเรียบเฉย

       “ .....”

       เรายืนนิ่งมองหน้ากันนิ่งก่อนที่หมอจะถอนหายใจแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น “ ดูดีขึ้นแล้วนี่” หมอเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจแขนข้างที่เคยใส่เฝือกแต่ตอนนี้ถอดออกแล้ว

       “ หมอ คือผม”

       “ ไอ้ยิม”

       ขณะที่พวกเราได้แต่นิ่งเงียบไม่มีบทสนทนาใดๆเสียงตะโกนชื่อผมก็ดังมาแต่ไกล

       “ เร็วมึงจะลงสนามแล้ว”

       “ เออเดี๋ยวกูไป”

       “ เร็วๆนะมึง รุ่นพี่แม่งจะแดกหัวอยู่แล้วโดยเฉพาะมึง ไปทำสมาธิก่อนจะลงสนามด้วย” เพื่อนผมอธิบายยืดยาวก่อนจะวิ่งนำไปก่อน ผมจึงหันกลับมายังหมอที่ยืนนิ่งอยู่เช่นเดิม

       “ ผม...”

       “ โชคดี” หมอเอ่ยเบาๆ “ มึงทำได้อยู่แล้ว” พูดจบแล้วหมอก็เตรียมผละออกไป

       “ หมอ”

        หมอหันมามองข้อมือที่ถูกผมกุมอยู่ “ หมอให้กำลังใจผมอยู่ใช่มั้ย”

       “ กูพูดอย่างงั้นเหรอ” หมอส่ายหน้าไปมาแต่ผมมองออกว่าหมอกำลังปากไม่ตรงกับใจ

       “ ขอบคุณครับ”

       ผมวิ่งลงสนามด้วยสีหน้าที่คนทั้งทีมได้แต่ประหลาดใจ ไอ้โอ๊ควิ่งซอยเท้าเข้ามาใกล้ๆแล้วเอ่ยถาม “ ยิ้มขนาดนี้ไปได้ยาดีอะไรมาวะ”

       “ กำลังใจดีๆ”

       ผมตอบเสียงแผ่วมองไปยังอัฒจรรย์ที่จุดหนึ่ง ผมเห็นเนมมันโบกมือให้ไหวๆแล้วมองเลยไปยังคนหน้านิ่งซึ่งหันหน้าคุยกับเพื่อนไม่ได้สนใจอะไรในสนามเลย ผมอมยิ้มมองภาพนั้นนิ่งโดยที่ไม่เห็นเลยว่าคนที่มองอยู่หันมามองกลับทันทีที่ผมหันหลังวิ่งลงสนามไปแล้ว




        “เย้”

        “ ฉลอง อย่างงี้ต้องฉลอง”

        รุ่นพี่และเพื่อนที่คณะซึ่งตามมาเชียร์เฮกันลั่นกับผลการแข่งขันซึ่งคณะผมสามารถเอาชนะทีมคู่แข่งไปได้ขาดลอย สีหน้ายิ้มแย้มของทุกคนทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ในขณะที่รุ่นพี่รุ่นน้องในคณะเข้ามาแสดงความยินดีกับทีมฟุตบอลของพวกเรา ผมบังเอิญเหลือบไปเห็นเนมกับรุ่นพี่มันกำลังผุดลุกขึ้นแล้วเคลื่อนตัวออกจากอัฒจรรย์ ขาทั้งสองข้างของผมจึงซอยเท้าวิ่งไปตามจุดหมายนั้นทันที

         “ ไปไหนวะยิม” เสียงตะโกนถามตามหลังมา

         “ เดี๋ยวกูมา”

        ผมไม่ได้หันไปดูด้วยซ้ำว่าไอ้โอ๊คจะทำหน้าสงสัยแค่ไหนได้แต่ออกวิ่งไปให้ทันก่อนที่คนกลุ่มนั้นจะเดินหายลับไป
ผมวิ่งไปยืนหอบอยู่ตรงทางออกกลุ่มเพื่อนหมอแวะเข้าห้องน้ำขณะที่หมออกมายืนรออยู่ตรงทางออกพอดี ดีว่าประตูฝั่งนี้คนไม่พลุ่กพล่านซ้ำบริเวณนี้มีแค่หมอคนเดียวที่ยืนอยู่


        “ หมอ” ผมเรียกหมอปายเสียงแผ่วเพราะหายใจไม่ทันเนื่องจากวิ่งออกจากสนามอย่างไม่คิดชีวิต

        “ มึงวิ่งมาเหรอ”

        “ ครับ”

        “ มีอะไร” หมอเลิกคิ้วมอง

        “ ผมอยากจะขอบคุณหมอ”

        “ เรื่องอะไรวะ”

        “ เพราะหมอทำให้ผมมีสมาธิวันนี้” ผมพูดยิ้มๆ “ ขอบคุณอีกครั้งครับ”

        “ อืม” หมอพยักหน้าไปแบบส่งๆ

        “ แล้วผมก็มีเรื่องอยากจะถามหมอ”

        เราสบตากันก่อนที่หมอจะหลุบตามองต่ำ

        “ หมอหลบหน้าผมทำไม”

        “ กูเปล่า”

        “ ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรให้หมอโกรธหรือไม่สบายใจ แต่ผมอยากขอโทษหมอถ้าการกระทำบางอย่างของผมทำให้หมอไม่ชอบใจ ผมขอโทษครับ”

        “ กูไม่ได้โกรธ”

        “ หมอไม่โกรธแต่หมอหลบหน้าผม หมอไม่กลับห้องเลยเป็นอาทิตย์เพราะผมใช่มั้ย” ผมถามตรงๆขณะที่หมอแค่ถอนหายใจ

        “ ทำไมมึงถึงคิดว่ามึงมีอิทธิพลกับกูขนาดนั้น”

        “ ไม่รู้สิ” ผมถอนหายใจ “ เพราะผมแคร์หมอมั้ง”

        หมอส่ายหน้า

        “ มึงคิดไปเองมั้ง”

        “ ผมเชื่อความรู้สึกตัวเองและผมก็รับรู้ได้ว่าผมรู้สึกดีกับหมอ หมอไม่ต้องกังวลหรอกนะผมแค่อยากบอกเฉยๆว่าผมรู้สึกดีกับหมอจริงๆ”

        “ มึงรู้สึกดีกับคนๆหนึ่งทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้วนะเหรอ”

        หมอพูดยิ้มๆทำเอาผมสะอึกเพราะสิ่งที่หมอพูดมันเป็นเรื่องจริง

        “ ครับผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ” ผมยอมรับ “ ผมคงจะแย่มากใช่มั้ยในสายตาหมอ”

        “ นั่นอยู่ที่มึงคิด”

        “ แล้วหมอล่ะคิดกับผมยังไง”

        หมอกระตุกยิ้มมุมปาก “กูไม่มีความคิดอยากจะเป็นมือที่สามของใคร”

         “ ผมก็จะไม่มีทางดึงหมอลงมาแปดเปื้อนกับผม”

        ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆตราบใดที่ผมมันคาราคาซังอยู่แบบนี้ผมจะไม่ทำให้หมอต้องทุกข์ใจกับเรื่องนี้เด็ดขาด ผมรู้ว่าผมกำลังอ่อนไหวและในความรู้สึกไม่มั่นคงนี้คงจะเผลอทำร้ายใครต่อใครให้เจ็บช้ำ

        “ ผมขอแค่ให้หมอยอมรับผมเป็นเพื่อนก็พอ”

        “ มึงขอมากไป”

        เรามองตากันเหมือนการวัดใจ “ แต่กูให้ได้”

        “หมอ” ผมครางออกมาอย่างยินดีส่วนหมอตีหน้าเฉยทั้งที่ผมแอบเห็นผมยิ้มเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น แค่นี้ก็ทำให้ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

        “ แค่เพื่อน” หมอพูดเสียงเรียบและทำหน้ากวนๆ

         “ หมอปาย”

         “ อะไรอีก”

         “ วันไหนที่ผมอยากจะขยับฐานะเป็นมากกว่าเพื่อน...ผมจะทำทุกอย่างให้ชัดเจน”

         “ บอกกูทำไม” หมอทำหน้าบึ้งตึง

         “ อยากรู้ไว้”

         “ ใครอยากรู้กับมึง”

          หมอปายตาเขียวใส่ผมก่อนจะบ่นพึมพำอะไรสักอย่างเป็นคำด่าผมแน่นอน แต่แปลกที่ผมกลับหัวเราะชอบใจไล่หลังหมอที่เดินไปสมทบเพื่อนแล้วเดินจากไป








*************************************************************







           ตั้งแต่พวกเรามาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งรุ่นพี่เฮโลพากันมาฉลองแชมป์ผมรู้สึกว่าพี่หนึ่งและไอ้โอ๊คทำหน้าแปลกๆเมื่อเห็นผม  ทั้งคู่จะหันไปคุยอะไรบางอย่างกันเงียบๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มันออกจะแปลกใจไม่น้อยเพราะขณะที่ทุกคนในทีมและรุ่นพี่ในคณะที่ตามมาสมทบกำลังฉลองกันอย่างสนุกสนานบ้างก็คุยถึงจำนวนประตูที่ยิงถล่มฝั่งตรงข้ามอย่างออกรสออกชาติ แต่สองคนนั้นกลับทำหน้าเหมือนมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรสักอย่าง ปกติผมไม่ค่อยใจสนใจเรื่องของคนอื่นเท่าไหร่แต่วันนี้ท่าทางของสองคนนั้นดูแปลกๆเวลามองผม นั่นอาจจะหมายถึงพวกเขากำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของผม


        “ มีอะไรเหรอ”

        ผมถามขึ้นอย่างทนไม่ไหวเมื่อสองคนนั้นเหลือบตามามองผมอีกครั้ง

        “ ไปคุยกันข้างนอกเถอะ” พี่หนึ่งเป็นเอ่ยปากขึ้นผมเลยเดินตามไอ้โอ๊คกับพี่หนึ่งซึ่งเดินนำไปก่อนแล้ว

        “ บุหรี่มั้ย”

        “ ครับ”

        ผมรับมามวนนึงแล้วขอต่อไฟกับพี่แก ควันสีเทาถูกพ่นลอยสู่อากาศพาให้จิตใจที่ร้อนรุ่มผ่อนคลายลงบ้าง

        “ พี่มีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ”

        “ ยิม” พี่หนึ่งพ่นควันบุหรี่สีหน้าไม่สู้ดี “ มึงกับแฟนยังคบกันดีอยู่มั้ยวะตอนนี้”

        “ ครับ”

        ผมรับคำแล้วนึกเอะใจ ทำไมช่วงสองสามวันที่ผ่านมาถึงมีแต่คนพูดถึงแฟนสาวของผม มันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่า บังเอิญจนน่าหวั่นใจ

        “ มึงรู้มั้ยว่าตอนนี้เค้าอยู่ที่ภูเก็ต”

        “ อะไรนะ”

        ผมมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกนึกประหลาดใจขึ้นมา ในเมื่อเธอมาถึงไทยแล้วทำไมถึงไม่โทรบอกผมทำไมผมถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยในตอนนี้  ผมนั่งนิ่งเริ่มพิจารณาในใจแล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสองสามวันก่อนเธอโทรหาผมด้วยเบอร์โทรศัพท์ภายในประเทศแต่ผมในตอนนั้นไม่ได้นึกเอะใจอะไร ในเมื่อนัตตี้อยู่ใกล้ผมขนาดนี้ทำไมเธอถึงไม่บอกหรือขอร้องให้ผมไปหา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

        ถ้าหากว่าเธออยู่ภูเก็ตแสดงว่าเธอมาเที่ยวงั้นเหรอ แล้วมากับใคร



        “ พี่ไม่ได้ล้อผมเล่นใช่มั้ย”

        “ ถ้านี่คือรูปแฟนมึงจริงๆเชื่อกูเถอะว่ากูไม่ได้พูดเล่น” ผมทำหน้าประหลาดใจเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ที่มีรูปแฟนสาวตัวเองกำลังโพสภาพคู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ไม่แปลกหรอกที่พี่หนึ่งจะรู้จักแฟนผมในเมื่อผมไม่เคยคิดปิดบังว่าตัวเองมีแฟนแล้วกับเพื่อนๆซ้ำพอขอดูรูปผมก็เคยให้ดูมาก่อน แต่ที่หน้าประหลาดใจคือเธอถ่ายรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งหน้ารีสอร์ทซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของพี่หนึ่งที่ภูเก็ต

         นั่นหมายความว่าเธออยู่ที่ภูเก็ตจริงๆ


         “ ทำไม”

         “ กูบังเอิญกลับบ้านที่ภูเก็ตแล้วแวะไปรีสอร์ท เห็นครั้งแรกแค่รู้สึกคุ้นๆกูเลยถ่ายแล้วส่งมาให้ไอ้โอ๊คมันดู” พี่หนึ่งหันไปทางไอ้โอ๊คซึ่งพยักหน้ารับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ ให้โอ๊คมันช่วยดูให้แน่ใจว่าเป็นแฟนมึงจริงๆ พวกกูถึงตัดสินใจมาพูดกับมึง”

         “ เค้ามากับใครครับ”

         “ .....”

         พี่หนึ่งกับโอ๊คมันเงียบไป

         “ ทำไม” ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะหน้ามืด

         “ กูโครตตกใจที่แฟนมึงไปกับคนอื่นและคนอื่นที่ว่าก็ยังถูกทุกคนที่รีสอร์ทเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน”

         “ พี่กำลังจะบอกอะไรผม” ผมกำมือถือในมือแน่น

         “ เค้ามีคนอื่น” พี่หนึ่งพูดช้าๆชัดๆ “ เค้านอกใจมึง”

         “ นานแค่ไหนแล้ว ทำไมผมไม่เคยรู้ ผมไม่รู้อะไรเลย”

          ผมอึ้งเอามือลูบใบหน้าอย่างหมดแรง

         “ เค้ามาพักผ่อนกับผู้ชายคนนี้สองต่อสองตลอดสองปีเพราะเป็นลูกค้าขาประจำที่รีสอร์ทบ้านกู”
ผมคอแห้งผากในอกมันสั่นระรัวไปหมด ใครก็ได้บอกผมทีว่าสิ่งที่ได้ยินมาไม่ใช่เรื่องจริง ผมหูฝาดใช่มั้ย ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ

          “ สองปีที่นัตตี้มีคนอื่นทั้งๆที่เป็นแฟนกับผม”

         หมายความว่าผมเป็นแฟนเธอมาสามปี ขณะที่เธอคบผู้ชายคนอื่นได้ราวๆสองปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอเป็นแฟนกับผม

        ....ยิ่งกว่าโดนหลอก ยิ่งกว่าเสียใจ ยิ่งกว่าคำว่าเจ็บปวด...

         มันเป็นการตอบแทนที่ผมเผลอใจให้หมอใช่มั้ย เรื่องราวมันถึงได้เลวร้ายขนาดนี้

         ผมรู้สึกตัวชาหน้าชาไปหมด ในหัวผมมึนงงสับสนและหูทั้งสองข้างอื้ออึงไม่ได้ยินเสียงอะไร สีหน้าของคนตรงหน้าดูจะกังวลไม่น้อยกับท่าทีของผม

        “ มึงโอเคมั้ย”

        “ ไม่รู้สิ”

        ผมรู้สึกเลยว่าเสียงที่เปล่งออกมาเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

        “ ที่พวกกูบอกเพราะพวกกูไม่อยากให้มึงทนอยู่กับความไม่รู้ กูไม่อยากให้อะไรมันเลวร้ายมากไปกว่านี้ อย่างน้อยถ้ามึงรู้มึงจะได้ทำอะไรให้มันชัดเจน พวกกูห่วงมึงนะ ถึงแม้เรื่องที่กูบอกอาจจะทำร้ายมึง แต่ขอให้รู้ว่าพวกกูหวังดี”


        “หรือไม่บางทีมันอาจจะมีความเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง กูอยากให้มึงไปเคลียร์กับเค้าแล้วทำทุกอย่างให้มันจบ ขอโทษวะที่ทำให้มึงต้องรู้ด้วยวิธีนี้” พี่หนึ่งตบบ่าผมเบาๆ

         แววตาคนทั้งคู่บ่งบอกว่าห่วงใยผมจากใจจริงแต่ตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะรับรู้เรื่องใดๆ

         “ ผมขออยู่เงียบๆสักพัก”

         “ ยิมมึงไหวแน่นะ”

         “ ไหวสิ กูไหว”


         ผมฝืนยิ้มค่อยๆเดินออกมาโดยที่สายตาของคนทั้งคู่มองตามมา พวกนั้นขยับตัวตามผมแต่ผมยกมือห้ามไว้ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่เห็นด้วยแต่ทั้งคู่ก็ยอมปล่อยผมออกมา ผมเดินมาเรื่อยๆเรียบฟุตบาทไปอย่างไม่รู้ทิศทางไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหน จนมาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นริมแม่น้ำแห่งหนึ่งใกล้ๆกับสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ลมเย็นๆพัดปะทะใบหน้าไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยตรงกันข้ามผมรู้สึกว่ามันโครตเงียบเหงาเลย

         ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเห็นเบอร์ของไอ้โอ๊คกับพี่หนึ่งรวมสิบกว่าสาย และเบอร์แปลกๆอีกห้าสาย ผมปัดหน้าจอแล้วจึงกดเบอร์ที่โทรออกเป็นประจำเกือบทุกวัน รูปของเธอยังปรากฏอยู่หน้าจอตอนที่โทรออก รอยยิ้มของเธอยังสว่างไสวเหมือนเดิม


         “ เลขหมายนี้ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง”


          ผมนั่งฟังเสียงระบบฝากข้อความอัตโนมัติพูดประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาก่อนที่หน้าจอจะดับพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลอาบแก้มผม







 
:hao5: มาแล้วๆ ฮือเศร้าเนอะ สงสารอิยิมจริงๆ พี่หมอปายอยู่ไหนคะมาช่วยปลอบน้องที :hao5:
ช่วงนี้มรสุมดราม่าเยอะหน่อย อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า อดทนหน่อยอีกไม่กี่ตอนเราจะกลับสำเริงสำราญกัน
รอน้องยิมจอมกวนคัมแบ็คหน่อยน้า ช่วงนี้ให้น้องได้เคลียร์ตัวเองก่อน ถถถถถถถ  :sad4:
*** อ่านแล้วเม้นท์ด้วยน้า หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจจ้า ***
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-08-2016 21:10:15
ดีแล้วยิมทำใจซะอย่ายอมให้ชีมาสวมเขา แล้วอย่าลืมขอภาพมาเป็นหลักฐานแล้วให้พี่หนึ่งมาเป็นพยานด้วยเผื่อชีแกจะตอแหลว่ายิมมีคนอื่นทั้งๆ ที่ยังไม่มีแต่แค่เผลอใจนิดหน่อยแค่นั้น ประจานแม่งเลยมีอย่างที่ไหนไปบอกแม่ยิมว่ายิมเปลี่ยนไปทั้งที่ตัวเองหน้าด้านมีคนอื่นแบบนั้น น่าเกลียดจริงไม่รักกันแล้วก็มาบอกตรงๆ ซิ ไม่ใช่จับปลาสองมือแบบนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-08-2016 21:19:24
พี่หมอมาปลอบน้องด่วนนนนนน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-08-2016 21:43:06
น่านไง อิชะนีผีทำออกลายแล้ว ร้ายนะยะ  :angry2:
จากตอนที่แล้วที่รู้สึกกับยิมติดลบเบาๆ แต่พอมาอ่านตอนนี้ก็รู้สึกดีกะนังมากขึ้น นังแมนดี พูดตรงๆ ชอบก็บอกชอบ มีแฟนแล้วก็ว่ามีแฟนแล้ว ก็แอบสงนังอยู่อ่ะ โดนชะนีผีนอกใจ 2ปีเลยอะที่นอกใจ เลวจริงๆ
รอตอนต่อไป หมอปายปลอบยิมหน่อยยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 15-08-2016 22:08:02
ไม่เป็นไรนะยิม
ทิ้งผู้หญิงแย่ๆคนนั้นไปเถอะ
มาเทใจให้หมอปายดีกว่า
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-08-2016 22:11:50
ยิมทำใจให้ดีๆแล้วเลิกกับนังชะนีร้องหาปั๋วนั่นซะเถอะ เลวชิบ!!!!!!!!!! :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 15-08-2016 22:41:37
รอพี่หมออออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 15-08-2016 23:21:00
ชัดเจนละ. เดินหน้าจีบหมอปายต่อไป,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: blankmkmejj ที่ 15-08-2016 23:23:43
ยิมจ๊ะ จุดเปลี่ยนก็เปลี่ยนสิคะรออะไร :mew1: ชอบหมอปายอ่ะ กวนตีนได้น่ารัก :hao3: เดินหน้าจีบเลยลูก ไรเตอร์ปูทางขนาดนี้แล้ว  :katai4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 15-08-2016 23:59:01
เคลียร์ตัวเองให้ดีก่อนแล้วค่อยคิดเริ่มใหม่กับอีกคน ยิมแอบเลวเบาๆนะถ้านัตตี้ไม่นอกใจก่อนแต่นางดีมากๆๆยิมก็จะกลายเป็นคนไปทำร้ายนางเพราะงั้นเครียร์ซะแล้วไปเริ่มกับหมอปาย :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:FCหมอค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 16-08-2016 02:04:06
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้แต่อยากบอกน้องคนแต่งว่าชอบ มาต่อบ่อยๆนะจ๊ะ
ถึงมันจะดราม่ากันตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ใช่พลอตใสๆแนวนิยม
แต่มาแบบกวนตีน สบตากันแบบมีนัย&จูบแบบเมาๆก้อเคยกันแล้ว
เชียร์ให้หมอมาดามใจหนุ่มข้างห้องไวๆ 555
หลงกาวน์ จะได้เมากาวน์กันบ้างงานนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-08-2016 05:44:32
เราขอโทษค่ะยิม แต่เราไม่สงสาร5555555555 ตัวก็กำลังหวั่นไหวกับพี่หมออยู่ปะ ก็แค่ยังไม่ทำ พี่หมอก็หยอด แฟนก็ยังไม่เลิกที รู้สึกศีลเสมอกันกับแฟนเธอเลยอะ55 ระยะเวลาไม่เกี่ยวหรอก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 16-08-2016 10:46:25
ทำไมเราไม่สงสารยิมด้วยอ่ะ รักหมอปายเหมือนเดิม จุ้บๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 16-08-2016 15:01:31
ยิมร้องไห้ทำไมอ่ะ แมนๆหน่อย
เสียใจได้แต่อย่าเสียน้ำตากะคนที่นอกใจเรา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-08-2016 16:49:50
เลิกกับมันไปซะยิม!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-08-2016 01:36:47
ยิมแค่รู้สึกดีกับหมอปาย แต่นังนัตตี้ถั่วเน่านั่นแอบคบซ้อนหลอกยิมมาตั้งหลายปี โคตรร้ายกาจเลย เลิกเถอะยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 17-08-2016 12:34:46
 :sad4: ยิมมมมม เข้มแข็งไว้ พี่หมอรออยู่เว้ยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 19-08-2016 01:06:07
ยิมสู้ๆ หมอปายรออยู่ (เอ๊ะ! จะเศร้าหรือจะชง)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-08-2016 19:11:29
รู้ความจริงแบบนี้ ยิมจะได้เดินหน้าจีบปมอปายได้อย่างสบายใจไง :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 20-08-2016 12:08:18
คนนอกใจก็เลิกค่ะยิม มาหาหมอปายนี่มา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 20-08-2016 17:19:05
อย่ามัวแต่ดราม่าค้ะนังยิมมมมมม  :katai4: :katai4: เดินหน้าจีบพี่หมอเลยสิ้ อย่าช้าค่ะอย่าช้าาาา :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 22-08-2016 03:26:54
ไปหาหมอปายได้แล้วทีนี้555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 23-08-2016 00:30:07
ยิมจ๋า ทำใจซะนะ เสียใจตอนนี้ยังดีกว่าเสียใจไปตลอดชีวิตอ่ะ  :hao5:
หลังจากนี้ก็เดินหน้าจีบหมอปายต่อโลดดดด
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 24-08-2016 20:06:08
ช้ำ  :hao5:
เอาน่าไปเคลียให้เรียบร้อย แล้วค่อยกลับมาคิดว่าจะเอาไงต่อ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 11: จุดเปลี่ยน »» [15/8/59] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 06-09-2016 20:19:54

              หลงที่ 12 : การตัดสินใจ







          [หมอปาย]



         ผมกำลังขับไปตามท้องถนนโดยเหลือบตามองทางสลับกับการสอดส่ายสายตาหาใครบางคน ผมไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ผมถึงได้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนอย่างการตามหาใครบางคนเพียงเพราะมันกำลังติดต่อไม่ได้ เหตุเกิดจากก่อนหน้านี้เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นพร้อมกับการมาเยือนของเพื่อนสนิทของไอ้ยิมซ้ำยังพ่วงเอาไอ้หนึ่งเพื่อนที่ผมรู้จักตั้งแต่ปีหนึ่งมาด้วย ทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งเครียดตอนที่มาถึงพร้อมกับยิงคำถามเข้าประเด็นเลยทันทีที่ผมเปิดประตูห้องรับ


       “ ไอ้ยิมอยู่ที่นี่มั้ยครับ” เพื่อนไอ้ยิ้มมันเปิดปากพูดก่อน

       ในตอนนั้นผมส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความมึนงง

       “ แล้วมันติดต่อมึงมารึเปล่าวะ” คราวนี้ไอ้หนึ่งถามอย่างร้อนใจ

       “ ไม่”

       “ เชี่ยเอ้ย” เพื่อนไอ้ยิมสถบจนชวนให้สงสัย

       “ เกิดอะไรขึ้น”



        พวกนั้นไม่ได้ขยายความอะไรมากมายบอกเพียงแค่ว่าตอนนี้มันมีเรื่องไม่สบายใจแล้วก็หายไปจนติดต่อไม่ได้ แต่สีหน้าเป็นกังวลของคนทั้งคู่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับไปพร้อมฝากฝังผมว่าถ้าหากมันติดต่อมาหาให้โทรบอกพวกมันด้วย ผมรับคำโดยที่ขาทั้งสองข้างพาก้าวมายังรถส่วนตัวก่อนที่จะพามันทะยานมาตามท้องถนน ผมได้ยินว่าพวกนั้นเตรียมแยกกันไปตามหาที่ต่างๆที่ไอ้ยิมเคยไป พวกนั้นไม่ได้ขอร้องให้ผมช่วยเหลือแต่เหมือนร่างกายผมทำตามคำสั่งนั้นอย่างอัตโนมัติ


        นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ผมขับรถออกมายามค่ำคืนเพื่อตามหามัน ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน เราเป็นแค่เพื่อนข้างห้องเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น แต่ทำไมผมต้องทำแบบนี้ ความรู้สึกห่วงใยที่มันเกิดขึ้นนี้มันคืออะไรกัน

       “ แค่เพื่อนงั้นเหรอ”

       ผมหวนนึกถึงสิ่งที่พูดกับมันเมื่อเย็น นึกถึงสิ่งที่มันร้องขอความเป็นเพื่อนระหว่างเราก็พอจะมีเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่าที่ผมทำไปทั้งหมดนั่นหมายถึงผมห่วงมันในฐานะเพื่อน

      ...แค่เพื่อนที่รู้จักคนหนึ่ง...

       หลายชั่วโมงที่ขับรถวนไปมาพร้อมกับโทรไปยังเบอร์ของมันที่ขอมาจากไอ้โอ๊คเพื่อนมัน น่าแปลกที่เรารู้จักกันมาตั้งนานแล้วผมไม่เคยคิดที่จะแลกเปลี่ยนเบอร์มือถือกับมัน ช่างเป็นความสัมพันธ์ของคนรู้จักที่ดูประหลาด

       สุดท้ายผมไปจอดรถอยู่ตรงสวนสาธารณะแห่งหนึ่งจำได้ว่ามันเป็นสถานที่เดียวกับที่ครั้งหนึ่งเคยมาวิ่งตากฝนกับมัน เวลาในขณะนี้เกือบเช้าแล้วเพราะแสงจากดวงอาทิตย์กำลังสาดส่องลงมาทำให้ความมืดมิดรอบกายกลับค่อยๆสว่างไสวขึ้น ผมไม่คิดว่าจะเจอมันที่นี่หรอกเพียงแค่อยากจะพักบ้างหลังจากขับรถวนไปมาอย่างไม่มีจุดหมาย ทั้งๆที่ผมสามารถเฝ้ารอข่าวมันได้ที่ห้องแต่ใจมันร้อนรนมากกว่าที่จะนิ่งเฉยได้ สุดท้ายถึงได้มานั่งจดจ่ออยู่นี่ที่อย่างมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี

       ผมขยับปลายเท้าเดินเหยียบไปตามสนามหญ้าสีเขียวและในวินาทีนั้นผมเห็นคนที่ตามหามาทั้งคืนนั่งพิงต้นไม้มองไปยังสระน้ำเบื้องหน้า ผมไม่เห็นสีหน้ามันหรอกเห็นแต่แผ่นหลังที่เหยียดตรงแค่เห็นว่ามันปลอดภัยความรู้สึกถ่วงในอกก็แทบจะสูญสลายหายไป ผมพ่นลมหายใจแรงๆทีนึงแล้วยืนมองมันนั่งนิ่งโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง



        “ มึง”

       มันขยับศีรษะเงยขึ้นพร้อมกับหยีตาแล้วเพ่งโฟกัสมาที่ผม สีหน้ามันดูซีดเผือดแววตาที่เคยเปล่งประกายกลับหมองลง มันยิ้มให้ผมก่อนจะขยับตัวแบ่งพื้นที่ให้ผมนั่งด้วย

        “  หมอมาทำอะไรแถวนี้ครับ”

       มันถามโดนไม่หันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ ผมจึงเพิ่งสังเกตสีหน้าด้านข้างของมันนิ่งๆ ในมือมันกำโทรศัพท์มือถือมียี่ห้อแน่นไม่ยอมปล่อย

        “ มึง”

        “ ครับ”

        “ หิวมั้ย”

        ผมถามมันเสียงเรียบ เหม่อมองไปเบื้องหน้า “ นิดหน่อยครับแล้วหมอล่ะ”

        “ กูหิว”
 
       ผมตอบเบาๆเพิ่งนึกว่าตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาผมยังไม่มีอะไรตกถึงท้องด้วยซ้ำ มันหันมามองผมแล้วยิ้มอ่อนๆ

        “ อยากกินสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานจังหมอ”
 

        “ งั้นก็ลุกสิ เดี๋ยวก็พาไปกินร้านอร่อยๆ”

         มันส่ายหน้าไปมา “ อยากกินฝีมือหมอ” แววตาอ้อนเหมือนเด็กหลงทางของมันทำเอาผมชะงักไปทำอะไรไม่ถูก

        “ แค่บอกเฉยๆหมอไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้ แค่บอกว่าอยากกินหมอไม่ต้องลำบากทำหรอก” ผมพูดยิ้มๆสีหน้าแววตาดูร่าเริงเกินไปจนผมรู้สึกได้ว่ามันกำลังกลบเกลื่อนร่องรอยความเจ็บปวด

        “ หมอยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยว่าหมอมาที่นี้ได้ยังไง”

        “ ถ้ากูตอบว่ามาตามมึงล่ะ”

        “ ถ้าเป็นเรื่องจริงผมโครตดีใจเลยนะหมอ” มันยิ้มกว้างสีหน้าดีใจจริงๆเหมือนที่มันพูดไม่มีผิด แววตาคู่คมวาววับราวกับยินดีเสียเต็มประดา

        “ กูพูดจริง”

        “ ต่อให้มันไม่ใช่เรื่องจริง ต่อให้หมอโกหกเพื่อให้ผมรู้สึกดี แต่แม่งโครตได้ผลเพราะผมโครตดีใจเลย ผมดีใจมากๆเลยครับหมอ”


       มันหันมาสบตากันผม ใบหน้าคมคายของมันคลี่ยิ้มน้อยๆ

       “ กูตามหามึงจริงๆ ไม่เชื่อดูโทรศัพท์สิ กูโทรหามึงตั้งหลายรอย”

       มันทำหน้าตื่นก่อนจะยิ้มมุมปาก “ คงเป็นเบอร์แปลกๆที่ไม่ได้รับมั้งครับ ขอโทษด้วยที่ผมไม่รับสายหมอ”

       “ อืม”

       “ หมอรู้มั้ยว่าตอนที่ผมทุกข์ใจ หมอเหมือนเป็นแสงสว่างของผมเลยนะ”

       “ งั้นเหรอ”

       “ แม่งโครตเจ็บปวดเลยวะหมอ” สีหน้ามันเหมือนกำลังเจ็บปวด แต่พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกนั้นทิ้ง “ ข้างในผมแม่งโครตแย่เลย”

       “.....”

       “ กรรมกำลังจะตามสนองผมแล้ว”

       “ ทำไม”

        “ ขณะที่ผมกำลังคิดนอกใจแฟน แต่ผมดันถูกเซอร์ไพร์สกลับแบบไม่ทันตั้งตัว”
มันแค่นยิ้ม “ น่าสมน้ำหน้ามั้ยละหมอ”


         ผมส่ายหน้าไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรหรอก แต่พอจะคาดเดาได้ว่าคนทะเล้นแบบมันมีเรื่องทุกข์ใจทีเรื่องนั้นคงใหญ่น่าดูไม่งั้นทั้งเพื่อนสนิทมันและไอ้หนึ่งคงไม่ร้อนรนตามหามันแทบจะทั้งคืน

        “ ผมไม่อยากให้เรื่องที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง” น้ำใสๆคลอหน่วยตามัน “ เพราะนั่นหมายถึง....” มันหยุดพูดก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

        “ ถึงมันจะแย่แค่ไหนมึงก็ต้องยอมรับมัน” ผมพูด “ กูรู้มันยากแต่เชื่อเถอะว่ามึงทำได้”

        “ โครตแย่เลยวะหมอ”

        “ อืม”


       ผมไม่ใช่คนที่ปลอบคนเก่ง ผมรู้ว่าตัวเองทำหน้าที่นี้ได้ไม่ดีหรอก ผมแค่อาศัยความเงียบแล้วนั่งอยู่เป็นเพื่อนมันเท่านั้น ผ่านไปพักนึงมันจึงหันมายิ้มให้ผมถึงแม้จะเป็นยิ้มดูซีดเผือด


       “ ถ้ามันฝืนขนาดนั้นมึงก็ร้องออกมาเถอะ”

       มันสบตาผมแล้วยิ้มกว้างแต่เป็นยิ้มที่คนเห็นรู้สึกเจ็บปวดแทน “ ไม่เอาหรอกหมอ ถ้าผมร้องไห้ต่อหน้าหมอผมคงเป็นคนที่โครตอ่อนแอในสายตาหมอแน่ๆ”

        “แล้วมึงจะเข้มแข็งไปทำไม”

        “ เพื่อให้ผมดูดีในสายตาหมอมั้ง”

        เราสบตากันแล้วมันก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น

        “มึงเคยบอกกูว่า ‘เหนื่อยก็ต้องพัก เจ็บหนักก็ต้องรักษา...และถ้ารู้สึกไม่ไหวมาก็ต้องระบายให้ใครสักคนได้ฟัง’ จำได้มั้ย”


        “ ครับ”

        “ คนเราไม่ต้องเข้มแข็งไปซะทุกอย่างหรอก”

        มันหันมาสบตาผม “ ผู้ชายร้องไห้ไม่ใช่เพราะว่าอ่อนแอบางทีก็แค่อยากจะระบายให้ใครสักคนได้ฟัง”

         “ แค่หมออยู่ตรงนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นแล้ว”

         พูดจบมันก็หันมองไปเบื้องหน้า

          “ กูหิวแล้ว” ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะผุดลุกนั่งโดยมีมันผุดลุกตามมาติดๆ ถึงแม้สีหน้ามันจะดูแย่แค่ไหนแต่อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่ามันคงจะทำใจได้ไม่นาน


          “ หมอ”

          “ หืม”

          “ขอให้หมอช่วยอะไรสักอย่างสิ”


          ผมชะงักปลายเท้าแล้วเอี้ยวตัวหันไปมองมัน “ ไปส่งผมที่สนามบินหน่อยได้มั้ย”

           “อืม”




     .

     .

     .


      หลังจากที่พวกเรากินข้าวกันเรียบร้อยแล้วผมก็ขับรถพาไปมันไปส่งที่ดอนเมืองโดยก่อนหน้านั้นผมโทรไปบอกไอ้หนึ่งให้รู้ว่าตอนนี้ผมเจอมันแล้วคาดว่าพวกเพื่อนของมันคงอยู่ด้วยกัน เพราะมันบอกว่าจะไปรอเจอไอ้ยิมที่สนามบิน


      “ ยิม”

       เมื่อไปถึงสนามบินนอกจากไอ้หนึ่งและไอ้โอ๊คแล้วยังมีเนมมายืนรอตรงบริเวณช่องทางผู้โดยสารขาออกทุกคนมีสีหน้ากังวลและดูเป็นห่วงเป็นใยไอ้ยิมไม่น้อยโดยเฉพาะเนมที่ถึงกับน้ำตาคลอเมื่อไอ้ยิมมันไปถึง

       “ ยิม”

       เนมมันพุ่งเข้ากอดมันแล้วถึงกับร้องไห้ ไอ้ยิมฝืนยิ้มให้เพื่อนแล้วลูบศีรษะเนมเบาๆ

       “ พวกมึงมากันทำไมเยอะแยะเนี่ย”

       “ กูจะไปด้วย” โอ๊คมันไม่ตอบคำถามแต่บอกความต้องการของตัวเองทันที

       “ อย่าเลย”

       “ มึงไหวเหรอ” ไอ้หนึ่งมันถามตบบ่าน้องมันสีหน้าดูเป็นกังวล
 
       “ ไหวพี่” มันตอบ “ ผมอยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนสักที”

       “ ให้พวกกูไปด้วยเถอะ”


        มันส่ายหน้าก่อนจะหันมาสบตากับผม แววตาของมันดูไม่มีประกายเหมือนเคย ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะไหน แต่พอจะรู้ว่าสาเหตุของความทุกข์ใจของมันครั้งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับใครคนที่ทำให้มันเจ็บปวดและคนๆนั้นต้องเป็นมีความสำคัญกับมันมาก
ผมสัมผัสได้ว่ามันกำลังเจ็บปวดเสียใจอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมเคยเจอแต่ภาพใบหน้าทะเล้นๆและรอยยิ้มกวนๆของมันบอกตรงๆว่าทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นคนอย่างมันทำหน้าเศร้าใบหน้าคมคายพยายามฝืนยิ้มให้ทั้งที่รู้ว่ามันช่างยากเย็นเหลือแสน

       คนสำคัญคนนั้น ผู้หญิงของมันคงทำให้มันเจ็บปวดน่าดู ก่อนหน้านี้ผมได้ยินมันตัดพ้อเงียบๆแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ตลอดเวลาที่มันพูดถึงเขาผมสัมผัสว่ามันคงรักเธอคนนั้นมากทีเดียว  มันเหมือนกับคนเสียศูนย์และเหมือนว่ามันเสียหลักจนทำอะไรไม่ถูก ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ถูกกดทับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มให้กับผู้อื่น


       ท่าทางประหลาดแบบนี้ทำให้รู้สึกไม่คุ้นชินจนหวนคิดถึงใบหน้าคมคายที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

       น่าแปลกที่ผมกำลังคิดถึงยิมคนก่อนหน้านี้

       “ ไม่ต้องห่วงกูเหรอ” มันปฏิเสธเนมซึ่งมันโอบกอดอยู่

       “ สัญญานะ”

       “.......”

       “ สัญญาว่ามึงต้องกลับมาพร้อมรอยยิ้ม”

      มันพยักหน้ามองผ่านไหล่ของเนมมาสบตากับผมอีกครั้ง “ สัญญาว่าจะกลับมาทำให้ดีที่สุด”

       “ แน่ใจเหรอว่าจะไม่ให้พวกกูไปด้วย”

       ไอ้หนึ่งถามซ้ำอีกครั้ง แต่มันยังส่ายหน้าปฏิเสธเช่นเดิมจนพวกเพื่อนมันถอนหายใจ คนเหล่านั้นหันมามองผมแล้วขอร้องด้วยสายตาประมาณว่าให้ช่วยพูด แต่ผมได้แต่ยืนนิ่งมองมันเดินมาหยุดยืนเบื้องหน้า

        “ อย่าขอร้องผมแทนพวกมันเลยหมอ”

        “ มึง”

        “ ถ้ามันเป็นความจริงที่ผมต้องเผชิญผมขอไปตามหาความจริงด้วยตัวเอง”

        “ แต่”

        มันยิ้มน้อยๆเป็นรอยยิ้มที่เริ่มดูดีขึ้น

        “ ผมอยากให้หมออวยพร”

        “ กูไม่รู้จะพูดอะไร”

        “ หมอบอกว่าขอให้ผมเดินทางโดยสวัสดิภาพแบบคนทั่วไปก็ได้”

        ผมส่ายหน้า “ มึงต้องกลับมาเป็นยิมคนเดิม” ผมหลุบตามองพื้น “ เพราะยังมีเพื่อนๆของมึงรออยู่”

        “ แล้วหมอล่ะ”

        “ กูก็ยังอยู่ที่เดิม”

        มันหัวเราะออกมาทั้งที่สีหน้าไม่แจ่มใสนัก เรียกความสนใจจากเพื่อนๆของมันที่หันมามองอย่างสงสัย มันยิ้มให้ผมเสียกว้างแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนมัน ไอ้โอ๊คถอนหายใจก่อนจะยื่นตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ตให้ มันรับมาก่อนจะกวาดสายตามองทุกคนอีกครั้งแล้วตัดสินใจเดินเข้าเกทไป

        ทุกคนถอนหายใจแรงๆแล้วไอ้หนึ่งก็เดินมาตบไหล่ผลแล้วพึมพำขอบคุณที่มาช่วยตามหาน้องมัน ไอ้โอ๊คหันมาก้มศีรษะให้ผมเป็นเชิงขอบคุณเช่นกัน ส่วนเนมสบตาผมแล้วยิ้มเพียงแค่แวบเดียวก่อนจะหลุบมองพื้นจนน่าประหลาดใจ ยังไม่ทันที่ผมจะไถ่ถามว่าน้องรหัสผมเป็นอะไร เนมก็เดินเลี่ยงไปอีกทางแล้วโดนมีโอ๊คเดินตามไปติดๆ พอดีกับที่มีเสียงข้อความเข้าโทรศัพท์ของผมเจ้าของความดังกล่าวเป็นเบอร์คุ้นเคยที่จดจำได้ขึ้นใจตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา

        ...ผมก็จะกลับไปที่เดิมเหมือนกัน...

        น่าแปลกที่ผมดันเผลอยิ้มกับถ้อยคำเพียงแค่บรรทัดเดียว






********************************************************



       “ เนม”

       “ เนมมึงจะรีบเดินไปไหน”

       “ เนม”

       เพราะเรียกหลายรอบแล้วเนมมันไม่หันสักทีโอ๊คเลยวิ่งไปคว้าไหล่บางของมันจนเซมาปะทะแผ่นอกคนที่รอรับอยู่

       “ เนม”

       “ ฮือๆๆๆๆ”



        โอ๊คทำอะไรไม่ถูกเมื่อใบหน้าขาวของเพื่อนตัวน้อยซุกลงที่อกเขาก่อนจะปล่อยโฮจนน้ำหูน้ำตาไหลเปียกปอนเลอะเสื้อ ร่างสูงได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้ไอ้นีออนนี่ปลดปล่อยน้ำตาให้เต็มที่ มันขยำคอเสื้อเขาไว้เสียแน่นโอ๊คเลยอดไม่ได้ต้องเลื่อนฝ่ามือไปลูบไล้แผ่นหลังมันคล้ายกำลังปลอบประโลม

        “ ฮือ”

        “ เนม”

        “ ฮึก”

        “ มึงร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว” โอ๊คพูดแล้วเกลี่ยปลายนิ้วกรีดน้ำตาที่อาบเต็มแก้ม

        “ ฮึก” คนตัวเล็กยังสะอื้นไห้จนใบหน้าแดงก่ำเห็นแบบนี้เขายิ่งรู้สึกว่าเวลามันร้องไห้ทำไมถึงได้น่าสงสารนัก ใบหน้าขาวแดงเห่อไปหมดท่าทางเหมือนเด็กน้อยน่าทะนุถนอมเหลือเกิน โอ๊คไม่รู้ตัวเลยว่ามันกำลังโอบกอดคนในอ้อมแขนแล้วโยกเบาๆ


        “ ตัดใจซะเถอะ”

        “ ฮึ”

        “ มึงจะเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนมันไม่ได้หรอก ถ้ามึงคิดหวังมากกว่าเพื่อนมึงจะไม่มีทางสมหวังซ้ำยังอาจจะต้องเจ็บปวดซ้ำๆแบบเดิม แต่ถ้าหากมึงรู้สึกกับมันแค่เพื่อนเชื่อกูเถอะมึงจะเป็นเพื่อนคนพิเศษของไอ้ยิมแน่นอน”

        “ มันรักมึงนั่นคือความจริง แต่มันรักมึงแค่เพื่อน”

        “ กะ กูรู้”

        “ แต่ความรักแบบเพื่อนของมันจะทำให้มึงมีความสุขกว่าใครๆ เพราะนอกจากคนที่มันรักแล้วมึงจะเป็นคนสำคัญลำดับถัดมาแน่นอน”

        “ เก็บความรักที่มันเกินขอบเขต เก็บความพยายามที่ไม่เป็นผลไว้ใช้เป็นแรงขับเคลื่อนเรื่องดีๆในชีวิตเถอะ”


         เนมกำขายเสื้อโอ๊ค มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด ทั้งๆที่พยายามปิดบังซ้อนเร้นแต่คนตรงหน้ากลับรู้ทันไปเสียหมด มันรู้แม้กระทั่งความรู้สึกที่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครต่อใครได้รู้ ถึงจะรู้ก็แค่นิ่งเฉยและจ้องมองอยู่ห่างๆ นับว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้เพราะมันไม่เคยปริปากบอกใคร

         เนมมันเก็บความรู้สึกแอบรักเพื่อนสนิทอย่างยิมมานานแสนนาน แม้แต่ยิมเองก็ไม่อาจรู้ จะมีรู้ก็แค่คนตรงหน้ากับแฟนสาวของไอ้ยิมที่บังเอิญเคยเห็นรูปยิมในกระเป๋าเขา นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นัตตี้จงเกลียดจงชังเขาชนิดที่ว่าพวกเราไม่มีทางญาติดีกันได้

         ในตอนนั้นเนมได้แต่ขอโทษนัตตี้ที่ทำให้เธอไม่สบายใจ แต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมเลิกราทำทุกวิถีทางหาเรื่อง เนมก็ยอมมาตลอดเพราะรู้ตัวดีว่ามันเองไม่มีสิทธิ์อะไรซ้ำยังผิดที่คิดกับยิมมันเกินเลย มันอาศัยความเป็นเพื่อนอยู่เคียงข้างยิมมาตลอด ใช้ความใกล้ชิดคอยเฝ้ามองยิมแค่นี้เนมก็มีความสุขแล้ว มันคงจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปถ้าหากว่าเมื่อวานเนมจะไม่ได้ยินเรื่องอะไรบางอย่างมา


        “ผมแค่อยากบอกเฉยๆว่าผมรู้สึกดีกับหมอจริงๆ”




          ยิมมันสารภาพว่ารู้สึกพิเศษกับรุ่นพี่เขา มันบอกว่ามันรู้สึกดีกับอีกฝ่าย เนมมันบังเอิญได้ยินก็แทบจะซวนเซ ไม่ปฏิเสธหรอก ว่าที่มันขออยู่ข้างๆยิมแบบนี้มันก็แอบหวังว่าสักวันหนึ่งมันจะกล้าพอที่จะเผยความรู้สึกที่อัดแน่นเต็มอกให้ยิมได้รับรู้ แต่เนมคงไม่มีโอกาสเพราะต่อให้ไม่มีนัตตี้ เนมก็ไม่มีโอกาสได้อยู่เคียงข้างยิมอยู่ดี


          ...เพราะต่อให้ยิมมันหันมาชอบผู้ชาย ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่เนม...


         คราวของนัตตี้ก็ว่าเจ็บแล้วพอมาครั้งนี้เจ็บยิ่งกว่าเป็นไหนๆ ยอมรับว่าแวบแรกก็ดีใจไม่น้อยที่มันมีเหตุร้าวฉานกับนัตตี้แต่พอเห็นสภาพของเพื่อนแล้วเนมได้แต่นึกด่าทอตัวเองที่คิดเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น ต่อให้เนมอยากยืนเคียงข้างยิมขนาดไหนก็ทำใจไม่ได้หากเห็นท่าทางย่ำแย่ของมันแบบนี้

         ในเวลาที่ยิมมันเจ็บปวด เนมรู้ว่าไม่เข้มแข็งพอที่ปลอบใจยิม ไม่กล้าพอที่จะพามันก้าวผ่านวันคืนอันเลวร้าย ต่างจากพี่หมอปาย เนมรู้อยู่เต็มอกว่าคงไม่มีใครถ้าไม่ใช่พี่หมอที่เหมาะที่จะยืนเคียงข้างยิม

         ยิ่งเห็นพี่หมอปายมากับยิม ทั้งคู่มาด้วยกันแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเนมต้องเจ็บปวดอีกครั้ง

         แวบแรกที่เห็นพี่หมอที่สนามบินมันเกิดอคติและอิจฉาที่ในเวลาเช่นนี้รุ่นพี่มันมีโอกาสได้อยู่กับยิม เวลาที่ยิมอ่อนแอพี่หมอปายดูแลมันไม่ห่าง ภาพนั้นเหมือนอาวุธแหลมคมที่ทิ่มแทงหัวใจ แต่จะโทษใครได้ในเมื่อพี่หมอไม่ได้ทำอะไรผิด และยิมมันก็ไม่ผิดที่จะรักพี่เค้าในเมื่อมันเป็นสิทธิ์ของหัวใจมัน


        ...เค้าแค่รักกัน แต่เค้าไม่รักเราเท่านั้นเอง...

        เนมยิ่งคิดยิ่งสะอื้นไห้หนักขึ้น ไม่น่าเชื่อว่านอกจากโอ๊คจะไม่ต่อว่ามือหนาของมันยังลูบไล้เส้นผมของเนมอย่างแผ่วเบา เป็นความอบอุ่นที่สว่างวาบขึ้นท่ามกลางความรู้สึกสับสน


        “ ไม่ใช่มีแค่มึงหรอกที่เสียน้ำตาเพราะความรัก วันนี้อาจมีคนเป็นแสนๆบนโลกที่กำลังร้องไห้เพราะอกหัก อย่างน้อยมึงก็มีเพื่อนที่ร้องไห้เป็นเพื่อนมึง”


       “ นี่กำลังปลอบใช่มั้ย”

       “ เปล่า”

       “ อะไร”

       “ แค่เล่าให้ฟัง”

       เนมเงยหน้าจากอกกว้างแล้วสบตากับดวงตาคู่คมที่ทอดมองอยู่ “ มึงแม่ง”

       “ หยุดร้องไห้ได้แล้วมั้ง”

       “ กูจะร้อง” เนมเชิดปลายจมูกทำเหมือนไม่พอใจแล้วปาดน้ำตาตัวเองป้อยๆ

       “ หน้าตาก็ขี้เหร่อยู่แล้วยังร้องไห้อีก ดูไม่จืดเลยวะบอกตรงๆ”

        “ ไอ้โอ๊ค”

        “ ร้องจนน้ำมูกไหลยืดติดเสื้อกูยาวเป็นกิโลแล้ว” โอ๊คแซวขำๆแต่คนโดนแซวทำหน้าคว่ำทั้งที่ใบหน้ายังเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาดูไม่จืดทีเดียว


        “ เว่อร์” เนมค้อนให้

        “ อกหักจากคนนี้ มึงก็หาคนใหม่สิวะยากอะไร”

        “ กูไม่ใช่มึงนะที่เปลี่ยนคนควงเหมือนเปลี่ยนทิชชู่อ่ะ”

        “ ก็เข้าทีนะ”

        “ อะไร”

        “ คนอกหักกับคนรักเยอะ” โอ๊คมันพูดยิ้มๆ

        “ พูดอะไรไม่เข้าใจ”

        “ ลองดูมั้ยล่ะ” โอ๊คสีหน้ากรุ้มกริ่มนึกอยากแกล้งให้มันยิ้มซะหน่อย เพราะเห็นหน้าขาวๆปากแดงๆร้องไห้คร่ำครวญแล้วใจไม่ดียังไงไม่รู้ มันห่วงบอกไม่ถูก

        “ อกหักจากผู้ชายแสนดีลองมาทางผู้ชายดีบ้างเลวบ้างดูมั้ย ถึงไม่สุภาพชวนหวั่นไหวแต่ก็ทำให้มึงใจสั่นได้นะ”

        “ ไอ้บ้า”

        เนมมันอ้าปากพะงาบๆเหมือนหาเสียงตัวเองไม่เจอ แก้มขาวแดงก่ำเพราะก่อนหน้านี้ร้องไห้หนักมาก แต่บัดนี้มันแดงด้วยสาเหตุอื่น

        “ เอ้าพูดเรื่องจริงนะ”

       “ ไม่รู้”

       “ ลองมั้ย”

       “ อะไรเล่า”

       “ ลองคบกันมั้ย”

       โอ๊คแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

       “ บ้า”

       “ หลุดจากไอ้ยิมมามีกูรอบเสียบนี่ถือว่าโชคดีนะ”

       “ พูดดีๆเสียบเสิบอะไร”

       “ ถ้าคบกันแล้วไอ้เรื่องเสียบๆเสียวๆมันก็ต้องมีบ้างล่ะ”

       “ ไอ้โอ๊ค ไม่พูดด้วยแล้ว” เนมทำหน้าฮึดฮัดยกมือไปหูทั้งสองข้างแล้วส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่ยอมรับฟัง

       “ ยิ้มได้แล้วนี่”

        เนมมันเผลอยิ้มออกมาจนคนมองเอ่ยแซว

       “ คุยกับคนบ้าไม่ยิ้มยังไงไหว พูดแต่ละเรื่อง”

       “ คนบ้าก็รักจริงนะโว้ย ลองดูมั้ยละ” โอ๊คถามยิ้มๆ “ อกหักมารักกับผม”

       “ ร้องเพลงบ้าอะไร”

       เนมแหวใส่

       “ อกหัก อกหักมารับกับผม”

        เนมหน้าแดงค้อนควับก่อนจะแลบลิ้นใส่อีกฝ่ายแล้ววิ่งหนีไปก่อน ทิ้งให้คนข้างหลังได้แต่นึกขำ เหมือนว่าเนมมันจะลืมไปชั่วขณะรึเปล่าว่ามันกำลังอกหักมา มันกำลังเสียใจที่ความรักข้างเดียวกับเพื่อนสนิทมีมันต้องหยุดชะงักไม่ใช่หรือ น่าแปลกที่มันแค่ร้องไห้ได้ไม่นานแล้วกลับยิ้มออกมาง่ายๆเพราะใครบางคน ลืมไปรึเปล่าที่บอกว่าเสียใจหนักหนาแต่พอเค้าแหย่มันไม่นานทุกอย่างก็ดีขึ้น


         เหมือนว่าความรู้สึกบางอย่างกำลังงอกเงยขึ้นในใจคนอกหัก








:hao5:มาแล้วๆ หายไปนานเพราะไม่สบายค่ะนี่ก็เพิ่งดีขึ้น ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมกันน้า :katai1:
ปกติถ้ามีแจ้งข่าวอะไรเกี่ยวกับการอัพจะแจ้งเฉพาะในเพจนะคะ ถ้ายังไงไปกดติดตามกันไว้น้าถ้านักเขียนหายไปจะแจ้งข่าวตลอดค่ะ
ช่วงนี้ดราม่าอีกแล้วทนหน่อยเนอะ เดี๋ยวจะได้ยิ้มกันแล้ว
***หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจน้า***

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-09-2016 21:15:07
คือหมอน่ารักอ่ะ บอกไม่ห่วงแต่ยังตามหาจนเจอ หุๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 06-09-2016 23:00:22
รอหมอกับยิมคบกันนะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-09-2016 02:03:14
กอดยิมแน่นๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 07-09-2016 12:49:29
ยิมสู้ๆ ไรท์ก็สู้ๆด้วยน๊า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 07-09-2016 13:40:08
อยากให้ยิมเป็นคนเข้มแข็งกว่านี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-09-2016 13:41:30
ยิมสู้ๆ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 07-09-2016 14:29:43
ถูกใจคำว่า   เค้าแค่รักกันแต่เค้าไม่รักเรา

อยากให้ผู้ที่อยู่ในสภาวะ  แอบรัก   ทุกคนพยายามเข้าใจจุดๆนี้เพื่อจะได้ไม่เจ็บมากเจ็บนาน

คอยเป็นกำลังใจให้คนแต่งอยู่นะคะ รักษาสุขภาพด้วยน้า หายป่วยไวๆนะคะ^^ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-09-2016 14:34:53
กลับมาพร้อมดราม่า~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 07-09-2016 19:53:33
รีบเคลียร์ให้จบเลยน้ายิม พี่หมอปายยังคอยอยู่
ส่วนโอ๊คเนม เห้ยยย แอบน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 07-09-2016 20:09:56
พี่หมอปายคือไอดอลลลลลลลลลลล :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-09-2016 18:46:11
โอ๊คหยอกน่ารัก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 12: การตัดสินใจ »» [6/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 09-09-2016 20:05:46





           หลงที่ 13 : ข้อความ





             [ยิม]



        มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก

        ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะผ่านมันไปได้รึเปล่า บอกตรงๆว่าในหัวผมตอนนี้มึนเบลอไปหมดไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหน ผมมองไปรอบๆท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินกันขวักไขว่เต็มสนามบิน ต่างตนต่างเดินไปยังจุดมุ่งหมายที่รอคอย ทั้งที่ผู้คนรอบกายผมเต็มไปหมดแต่ทำไมลึกๆแล้วผมกลับรู้สึกโดดเดี่ยว อาจเป็นเพราะผมนั่งอยู่คนเดียวตามลำพังหรืออาจจะเพราะข้างในใจมันกำลังรู้สึกว่าเหงาเหลือเกิน

         เหงาจนแทบอยากจะร้องไห้


        แปลกที่พอได้เผชิญหน้ากับความเป็นจริงเพียงลำพัง ผมกลับก้าวผ่านมันมาได้อย่างช้าๆโดยไม่มีแม้แต่น้ำตาเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ ไม่ใช่เพราะเข้มแข็งจนไม่มีน้ำตาแต่เพราะมันเจ็บลึกอยู่ข้างในจนไม่อาจที่จะเอ่ยเอื้อนออกไปว่าข้างในของผมกำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวด ก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อหวนนึกถึงการบอกเลิกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

        ผมตัดสินใจมาตามหาความจริงคนเดียวที่ภูเก็ต ตลอดระยะเวลาที่นั่งเครื่องมาก็ได้คิดทบทวนอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความเจ็บปวด ความสับสน ความไม่เข้าใจ ตีกันวนไปมาในหัว และต่อให้ผมทำใจมากแค่ไหนเมื่อเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นจริงๆเต็มสองตา ผมก็ยังรู้สึกเจ็บไม่น้อยเลย ไม่ต่างจากเธอที่แสดงออกว่าตกใจมากที่เห็นผม นัตตี้หน้าซีดเผือดจนด้วยคำพูดก่อนที่เราจะออกไปคุยกันเงียบๆ ผู้ชายคนนั้นทำหน้าลุแก่โทษเมื่อเห็นหน้าผมซึ่งผมก็ได้แต่ส่ายหน้าว่าไม่เป็นไรก็เท่านั้น

        ตอนที่เราได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเธอเอาแต่ปิดหน้าร้องไห้ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปาก



        “ นัตตี้”

        “ ฮึก ยิม”

        “ อย่าร้องไห้เลย” ผมเกลี่ยน้ำตาให้เธอเบาๆ “ ตาบวมหมดแล้ว”

        เธอเอื้อมมือมาลูบใบหน้าผมเบาๆแล้วโผเข้ากอดผมร้องไห้เสียงอู้อี้ “ยิม”

        “ ขอโทษ”

        “ถ้าจะถามหาคนผิด เราคงผิดด้วยกันทั้งคู่”

        เธอส่ายหน้าปฎิเสธเป็นเชิงว่านี่ไม่ใช่ความผิดของผม ผมจึงได้แต่ยิ้มทั้งที่น้ำตากำลังเอ่อคลอเบ้า

        “ ด่าว่าเราสิยิม ด่าว่านัตตี้เลว นัตตี้ชั่ว พูดสิยิมอย่าเอาแต่ยิ้มแบบนี้”

        “ ผมก็ผิด”
 
        “ นัตตี้เลวเอง เลวจนเกินกว่าจะให้อภัยได้”

        “ คงงั้นมั้ง”

        เธอทำหน้าอึ้ง ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้จึงเช็ดน้ำตาที่ไหลพรากไม่ขาดสาย “ นัตตี้เสียใจ”

        “ ผมรู้” ผมพึมพำ “ เพราะผมเองก็เสียใจ”

        “ ขอโทษ”

        “ ผมก็ต้องขอโทษที่คงเป็นแฟนที่ไม่ดีให้ความสุขนัตตี้ได้ไม่มากพอ”

        “ ยิม”

        “ ผมขอโทษ” ผมถอนหายใจ “ เพราะผมเองก็ทำไม่ต่างจากนัตตี้เลย”

        “ หมายความว่าไง”

        “ ผมรู้สึกกับใครคนหนึ่งตอนที่กลับมาอยู่ที่นี่”

        “ ยิม”

         เธอทำหน้าช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน “ นี่หมายความว่า”

         “ ยิมถึงบอกไงว่าถ้าจะถามหาคนผิดเราคงผิดด้วยกันทั้งคู่ เพราะเราเองต่างก็รู้สึกว่ารักของเรากำลังจืดจาง ผิดกับคนที่มาใหม่ซึ่งทำให้เราใจเต้นแรงจนหลงลืมไปว่าเราเองต่างก็มีเจ้าของแล้ว”

         “ ยิมไม่รักนัตตี้แล้วเหรอ”

         “.......”

         “ ถ้านัตตี้เลิกกับเขาแล้วยิมจะยังอยู่ข้างๆนัตตี้มั้ย”

         “ แก้วที่มันร้าวแล้วมันประสานอีกไม่ได้หรอก”
 
         “ ยิมหมดรักนัตตี้แล้วจริงๆเหรอ” เธอปิดหน้าร้องไห้ “ นัตตี้ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ถ้ายิมยังรอ นัตตี้จะไปเลิกกับเขา”

         “ อย่าเลยถึงยังไงทุกอย่างก็ไม่มีวันเหมือนเดิม”

         “ ชอบเขามากเหรอ” เธอถามผม “ คนนั้นนะ”

         “ อืม”

         ผมกดยิ้มเมื่อนึกถึงหมอปาย

         “ แล้วนัตตี้ล่ะ”

         “ ยิมยังรักนัตตี้เหมือนเดิมแต่ไม่ได้รักในฐานะคนรัก ยิมรักนัตตี้เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง รักและปรารถนาดี” ผมหยุดเว้นจังหวะ “ ถ้าอยู่กับเขาแล้วมีความสุข นัตตี้ก็ควรเปิดเผยและทำทุกอย่างให้ชัดเจนสักที เขาคงรักนัตตี้มากไม่งั้นคงไม่ทันอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก


         “ ยิม”

         “ ไปรักเขาเถอะ นัตตี้ไม่มีพันธะกับยิมแล้ว”

         “ เราลองมาเริ่มต้นกันใหม่นะยิม”

         “ สำหรับความรักถ้าจะเริ่มใหม่กี่ครั้งก็ย่อมได้ แต่ความเชื่อใจที่ถูกทำลายต่อให้เริ่มใหม่อีกกี่ครั้งมันย่อมพังทลายเพราะไม่มีอะไรที่เหมือนเดิม”

         เธอปิดหน้าร้องไห้

        “ เราแค่เลิกคบกันในฐานะคนรักไม่ได้หมายความว่าเราไม่รักกัน แต่เราสามารถไปรักกันในฐานะอื่นได้”

        “ นัตตี้ควรไปพาเขามายืนในที่สว่าง ควรรักษาความรักที่มีในมือให้ดีที่สุด ยิมอาจจะเสียใจแต่ไม่เคยโกรธ ถ้าหากมันเป็นความสุขของนัตตี้”

        “ เราต้องเลิกกันจริงๆใช่มั้ย”

        “ เลิกเพื่อกลับไปคบกันใหม่ ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง”

        “ แล้วคนนั้นของยิมล่ะ”

        “ ผมจะไปหาเขาที่ ‘ที่เดิม’






         ผมถอนหายใจคลึงขมับเมื่อนึกถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านไปก่อนจะผุดลุกขึ้น พอดีกับที่แอปพิเคชั่นไลน์ดังขึ้นผมจึงเปิดเข้าไปจึงเห็นวีดีโอจากไลน์กรุ๊ปของครอบครัวส่งมาให้ เห็นภาพเคลื่อนไหวดูวุ่นวายเพราะบิดามารดากำลังจับไมค์ร้องเพลงโดยให้ใยบัวเด็กแสบเป็นคนถือกล้องถ่าย เห็นแล้วนึกถึงกิจกรรมครอบครัวของผมที่หากมีเวลาว่างก็จะจับไมค์ร้องเพลงกันเป็นประจำ โดยผมจะเป็นมือกีต้าร์ส่วนใยบัวก็คอยเลือกเพลงให้พ่อกับแม่ ทุกคนในรูปมีสีหน้ายิ้มแย้มก่อนที่พ่อกับแม่จะพูดใส่ไมค์พร้อมกัน

        “ คิดถึงเมืองไทย และคิดถึงลูกมากนะยิม”

        ...คิดถึงทุกคนเหมือนกันครับ...

        ผมพิมพ์ไลน์ตอบไป ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเมื่อครู่หายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรักและผูกพันของคนไกล

        ...ไม่จริงหรอกที่ผมเคยคิดว่าตัวเองไม่มีใคร ผมคิดถึงผิดเพราะจริงๆแล้วผมยังมีครอบครัวที่รักผมที่สุด...


      ผมเผลอกดไปยังระบบรับฝากข้อความอัตโนมัติในมือถือ เพราะปิดเครื่องตั้งแต่มาถึงพอเปิดเครื่องก็พอดีกับที่ไลน์กลุ่มเด้งขึ้นมา และก่อนจะกดปิดหน้าจอก็กดไปยังระบบรับฝากข้อความจนคลิปเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอย่างนึกไม่ถึง

        ‘ยิม’

       เสียงทุ้มดูห้วนๆทำให้พอจะนึกภาพคนพูดออกว่าต้องกำลังแสดงสีหน้ายุ่งยากใจมากแค่ไหน

        ‘คือ เอ่อ’

       เสียงนั้นเงียบไปเกือบนาทีก่อนที่จะหลุดประโยคยาวๆออกมา ‘ วันนี้กูบังเอิญทำสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานพอดีว่ามันเหลือ ถ้ามึงสนใจ ก็เอ่อ  แต่ถ้ามึงกินข้าวแล้วก็ไม่เป็นไร’


       ประโยคยาวเหยียดนั้นคนพูดรัวๆแทบจับความไม่ได้ ฟังดูเหมือนจะหายใจแทบไม่ทันด้วยซ้ำแล้วข้อความเสียงก็หายไปเหมือนยุติอยู่แค่นั้น

       แค่นั้นจริงๆ แต่ทำไมผมถึงยิ้มกว้างขนาดนี้

       ความทุกข์ใจที่บ่าทั้งสองข้างแบกรักไว้สลายหายไปในอากาศ เพราะนอกจากครอบครัวแล้วผมยังมี ‘หมอปาย’

       ผมชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบินในใจก็เร่งเวลาและนาทีให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตัวจะอยู่ที่นี่แต่หัวใจติดปีกบินไปรออยู่หน้าห้อง 1017 แล้ว






*************************************







           ถึงจะเร่งเวลามากสักเพียงไหนสุดท้ายกว่าผมจะมาถึงคอนโดได้ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน พอออกจากลิฟต์ได้ผมรีบสาวเท้าตรงไปยังจุดมุ่งหมายทันทีจึงทันได้เจอเหตุการณ์บางอย่างโดยบังเอิญ ภาพตรงหน้าผมเป็นการยื้อยุดกันระหว่างเพื่อนข้างห้องผมกับแม่เลี้ยงสาวของเขา


         “ อย่าทำแบบนี้เลยไอ”

         “ แต่ไอรักคุณ”

         “ หยุดพูดแบบนี้เถอะ คุณไม่ละอายใจบ้างเหรอที่ทำแบบนี้” หมอปายพูดเสียงเข้ม “ เผื่อคุณจะจำไม่ได้ว่าคุณเป็นแม่เลี้ยงของผม เป็นภรรยาของพ่อ และเป็นแม่ของปอ”

         “ ไอไม่เคยลืม แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเรื่องทั้งหมดไอไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ไอผิดมากเหรอที่รักคุณ”
หมอปายถอนหายใจ

         “ ถ้าให้พูดกันตรงๆมันผิดทั้งศีลธรรมและความรู้สึก”

         “ ปาย” แม่เลี้ยงสาวครางออกมา “ เมื่อก่อนคุณไม่เคยเป็นแบบนี้ ทำไมตอนนี้คุณถึงเย็นชากับไอนัก เพราะคุณมีคนอื่นเหรอคะ คุณรักคนอื่นอยู่ใช่มั้ย”

         หมอทำหน้ายุ่งยากใจจนผมนึกเห็นใจ

         “ คุณไม่ตอบแสดงว่าคุณแค่ประชดไอ คุณไม่ได้มีคนอื่นใช่มั้ยคะ ตอบไอสิ”

         “ ไม่ใช่ครับ”

         คนทั้งคู่หันขวับมาทางผมทันที ผู้หญิงตรงหน้าทำหน้าเคลือบแคลงสงสัยผม ขณะที่หมอปายเองก็ทำหน้างงไม่ต่างกัน

          “ บอกเขาไปสิหมอ”

          หมอทำหน้างงก่อนจะเขม่นมองผมอย่างต้องการคำอธิบาย

          “ บอกเขาไป” ผมเดินไปยืนข้างๆหมอแล้วถือวิสาสะโอบบ่าหมอกลายๆ “ ว่าผมกับหมอ...เรา...” ผมจงใจเว้นวรรคให้แม่เลี้ยงของหมอชักสีหน้าไม่พอใจเมื่อพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

          “ แกพูดอะไร”

         ไอลดาตวาดผม

          “ อย่ายุ่งกับหมอเลยครับ” ผมสวมบทคนสนิทของหมอโดยการเปลี่ยนจากโอบมากระชับฝ่ามือหมอ


          “ เพราะเขาไม่ชอบแบบคุณหรอก หมอเขาชอบแบบผม”

          ...ชอบแบบผม...


         ผมย้ำเสียงหนักแน่นจนอีกฝ่ายอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง เธอมีสีหน้าโกรธจัดอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวแทบไม่เหลือเค้าความงาม

        “ ไม่จริงใช่มั้ยปาย”

       หมอถอนหายใจ “กลับไปเถอะไอ”

        “ นี่ปายยอมรับว่าตัวเองผิดปกติเหรอ”

        “ แล้วผมปฏิเสธไอรึเปล่าล่ะ” หมอทำเสียงห้วนตวัดสายตามองผมนิ่งๆคาดว่าหลังจากนี้ผมคงหมอด่าหูชาแน่

        “ ปาย”

        “ เชื่อเถอะครับ” คว้ามือที่ประสานกับหมอชูขึ้นมาให้เห็น “ ผมจับมือหมอแล้วผมไม่มีวันปล่อยเขาหรอก” พูดจบแล้วก็ขยิบตาให้อีกฝ่ายที่เดินกระแทกส้นเท้าไปพร้อมกับพายุอารมณ์

        ท่าทางของผมคงกวนประสาทน่าดู ทำเองก็ยังรู้สึกว่ามันกวนตีนไม่น้อย นึกแล้วก็ได้แต่ขอโทษสาวเจ้าในใจ ขอโทษหล่อนที่ผมทำให้เข้าใจผิด แต่การกระทำทั้งหมดผมยอมรับว่าจงใจให้บุคคลที่สามเข้าใจผิดเต็มๆ


         “ โอ้ย”

         หมอชกหัวไหล่ผมเต็มๆก่อนจะบ่นแกมด่า “ เล่นของอะไรของมึงเนี่ย”

         ผมหัวเราะขำก่อนจะทำเนียนเดินตามหมอเข้าห้องอีกฝ่าย หมอปายหรี่ตามองผมอย่างคาดโทษกับบทบาทสมมติก่อนหน้านี้

        “ ใครใช้ให้มึงสวมรอยเล่นแบบนี้”

        “ มันก็ได้ผลดีไม่ใช่เหรอครับ”

        หมอทำหน้าหงุดหงิด “ แต่มึงทำให้ไอเข้าใจกูผิด”

        “ หรือหมออยากให้เขาเข้าใจถูกและกลับมาตามหมอแบบเดิม”

        หมอสบถอะไรสักอย่างในลำคอด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ

        “ ผมก็แค่หวังดีกับหมอ”

        เราสบตากันเงียบๆ แต่เป็นผมที่กระตุกยิ้มจนหมอหลบตา อาการแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกดีแปลกๆ

        “ มึงนี่มัน” หมอทำหน้างุ่นง่านอย่างไม่รู้จะทำยังไงแต่ผมกลับมองว่ามันเป็นการกลบเกลื่อนอาการเขินอายของหมอ

        “ หมอครับ”

        “ อะไร”

        “ สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานของผมล่ะ” ผมถามยิ้มๆรู้สึกว่าหมอแก้แก้อด้วยการเผลอกรอกตาไปมา

        “ หมอ”
 
        ผมเรียกเสียงอ่อน

        “ อยู่ในตู้เย็นถ้าจะกินก็เวฟเอา”

        ผมยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินไปค้นหาของกินดังกล่าว และระหว่างที่ผมยืนคิดอะไรเงียบๆ เสียงหมอก็ดังขึ้น

         “ แล้วมึง” หมอถามเสียงแผ่ว “ โอเคใช่มั้ย”

         ผมหันกลับมามองหมอยิ้มๆ ถึงหมอจะดูเหมือนว่าถามไปงั้นๆแต่ผมกลับรู้สึกว่าผมมองเห็นความห่วงใยจากแววตาคู่นั้น

         “ อกหักนะหมอมันจะโอเคได้ยังไง”

         “ ปากมึงเนี่ยนะ”

         ผมหัวเราะ

         “ แผลสดนะหมอคงไม่หายง่ายๆหรอก” พูดแล้วก็เหม่อมองไปไกลจนรู้ตัวเมื่อหมอมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าที่มีเพียงเคาน์เตอร์ครัวกั้นอยู่

         “ กูมียาแดงนะ ให้กูราดแผลให้มั้ย”

         แววตาหมอกวนตีนนิดๆ หนำซ้ำท่าทางก็ยังดูจะสะใจไม่น้อย ผมเลยเท้าแขนไปกับเคาน์เตอร์แล้วยืดตัวขึ้นให้สูงกว่าหมอนิดหน่อย

         “ ถ้ารักษาหาย ผมยินดีจ่ายด้วยของมีค่าที่สุดที่ผมมีนะหมอ”

         “ อะไร”

         หมอทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ


         “ หัวใจของคนไข้ไงครับหมอ”


        ...พลั๊ก...

        “ โอ้ย”

        กล่องทิชชู่ปลิวเฉียดหัวผมไปนิดเดียว หมอทำหน้าสะใจก่อนจะผละหนีไปแต่ผมเร็วพอที่จะคว้าแขนอีกฝ่ายไว้แล้วกระตุกให้ใบหน้าผมกับหมอใกล้กันเพียงนิด

        เราจ้องหน้ากันนิ่ง หมอปายเลิกคิ้วเป็นเชิงท้าทายว่าผมจะทำอะไร ผมกดยิ้มไล้นิ้วมือไปตามโครงหน้าและขอบปากสีชมพูอมส้มของหมอพอได้สัมผัสจริงๆจึงรู้ว่ามันทั้งนุ่มทั้งน่าสัมผัส

        ผมแอบกลืนน้ำลายในใจคิดอกุศลอยากจะสัมผัสความนุ่มนิ่ม  ยิ่งเห็นหมอยืนนิ่งไม่หลบแต่อย่างใดผมยิ่งได้ใจ ในอกมันอุ่นๆจนจะร้อนเมื่อแววตาคู่สวยหรี่มองผมอย่างท้าทาย ผมสั่นไปหมดรู้สึกหายใจไม่คล่องแค่สบตากัน ใจก็พาลจะเต้นผิดจังหวะ

         “ หมอ” ผมครางคล้ายกับละเมอ

         “ หมอเล่นกลใส่ผมรึเปล่าวะ”

         “ พูดอะไรของมึง”

         “ หมอรู้ป่ะว่าตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่” หมอยักไหล่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผมเลยบีบข้อมือหมอให้แน่นขึ้น

         “ จะทำอะไร”

         “ อยากจูบหมอว่ะ”

         ผมโน้มใบหน้าไปใกล้ๆคนตรงหน้าโดยมีเป้าหมายคือริมฝีปากสีสวยสุขภาพตรงหน้า หมอเอียงคอน้อยๆคล้ายกับเปิดทางให้ผม เพียงแค่นิดเดียวก่อนที่ริมฝีปากเราจะสัมผัสกัน

        ...ตึ้ง...

         เสียงไมโครเวฟดังขึ้นเสมือนเป็นระฆังที่บอกเวลาสิ้นสุด หมอผละหนีถอยห่างไปจนผมเผลอทำหน้าเสียดาย หมอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินหนีไปแต่ผมทันได้ยินเสียงหัวเราะเป็นเชิงขบขันจากเจ้าของห้องจนผมอดยิ้มตามไม่ได้

          ...หมอแม่ง...


          โครต...เลยว่ะ








โครตไรว้า ฮิ้วๆๆๆๆๆ เกือบจูบแล้ว ฮือ :o8:
อินังยิมนี่มันยังไงเพิ่งอกหักไม่ใช่เรอะ หยอดหมออีกล่ะนั่งนี่ หุหุหุ  :m20:
อ่านแล้วขอเม้นท์ด้วยน้า ความเห็นไม่ขยับเลยแอบน้อยใจนะคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 09-09-2016 21:23:04
อย่าน้อยใจเลย เราเชียร์ยิมถูกหมอปายกดอยู่ :katai3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-09-2016 21:38:08
ยัยไอนั่นน่ารำคาญมากกกกกกก เขาไม่เอายังตามตื้ออยู่ได้ ตัวเองก็เป็นเมียพ่อเขา ยังอยากได้ลูกชายเขาเป็นผัวอีกคนด้วยนะ ทุเรศชะมัด
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-09-2016 21:59:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 09-09-2016 22:17:38
โคตรอะไรหว่า ยิมใสๆจะตายเนอะ  :z2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-09-2016 22:22:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-09-2016 00:35:49
ยังไงยัยไอนี่ มึงเป็นแม่เลี้ยงเขานะถ้ารักจริงมึงคงไม่ไปอ่อยชาวบ้านเขาจนท้องหรอกมิหน่ำซ้ำยังเป็นพ่อของแฟนตัวเองอีกด้วย อีกเรื่องที่เราอยากรู้พ่อหมอปายรู้หรือเปล่านั่นน่ะเคยเป็นแฟนของลูกตัวเองมาก่อน ถ้ายังไม่รู้ก็แล้วไปแต่ถ้ารู้แล้วจะทำยังไง และถ้ารู้อยู่แล้วแต่ยังจะเอานี่แม่งโคตรแย่มากๆ เลยโคตรเป็นพ่อที่เลวมากๆ เลยที่แย่งแฟนของลูกตัวเองนี่ แต่เราว่าคงจะยังไม่รู้หรอก เราอยากให้รู้จริงๆ นะแล้วถ้าพ่อปายหย่าได้จะดีมากเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mox2224 ที่ 10-09-2016 00:38:12
ยิมปายยยยยยยเท่านั้นอิอิ :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 10-09-2016 01:59:43
ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบินในใจก็เร่งเวลาและนาทีให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตัวจะอยู่ที่นี่แต่หัวใจติดปีกบินไปรออยู่หน้าห้อง 1017 แล้ว

คือเครื่องบินมันชะโงกออกหน้าต่างไม่ได้ป่ะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 10-09-2016 10:02:05
 :impress2: อยากจะได้ยาจากหมอปายบ้างจุง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Walitya ที่ 10-09-2016 13:43:11
เริ่มมุ้งมิ้งกันแล้ว อิอิ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: barbiehateken ที่ 10-09-2016 14:57:19
 :hao7:
สนุกกกกกกกกกกกก
ชอบบบบค่ะ ตามอ่านทันแล้วววว เค้ากิ๊กก๊าวกันแล้ววววว
มาต่อไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: blankmkmejj ที่ 10-09-2016 16:23:35
 :z3: ทำไมห้องหมอปายต้องมีไมโครเวฟด้วยฟร่ะ ยิมปายคือดีงามค่ะ อ่านไปเขินไปขำไป ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-09-2016 18:41:03
เกือบได้(จูบ)กันแล้วเชียว... :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 10-09-2016 20:50:07
ความฟินกำลังมาซินะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-09-2016 01:26:35
เกือบจูบกันแล้ว เสียดายจัง
จะรออ่านนะคะ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 11-09-2016 02:17:30
ยิมอกหักจิงป้ะเนี้ยยยยย :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-09-2016 08:35:21
พึ่งเลิกกับแฟนไม่ใช่เหรอยิม?
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 11-09-2016 10:57:45
ไมโครเวฟ น่าทุบทิ้งนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lpiyamas ที่ 11-09-2016 14:40:38
เกลียดไมโครเวฟ
 :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 11-09-2016 22:52:58
รักกันได้ไม่ผิดบาปแล้ว
จีบบ่อยๆหมอใจอ่อนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 12-09-2016 00:11:53
โอ๊ย... คนกำลังลุ้น
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-09-2016 13:24:49
หมอปาย......น่ารัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 13-09-2016 19:25:59
อิชั้นอยากพังไมโครเวฟ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-09-2016 23:13:28
อะไรๆ กำลังดีขึ้นสินะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 13: ข้อความ »» [9/9/59] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 20-09-2016 19:01:49








           หลงที่ 14 : คืนฝนพรำ




           [หมอปาย]



          “ ปาย”

          ผมยิ้มขำๆตอนที่เพื่อนตัวซีดวิ่งดุ๊กๆมาแต่ไกล ซ้ำมือทั้งสองข้างยังหอบเอาของกินมามากมายเต็มไม้เต็มมือ

          “ หอบอะไรมาพะรุงพะรัง”

          “ ปาย”

          หยกยิ้มแป้นชูขนมในมือขึ้นสูงก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแล้วเลื่อนสารพัดของหวานมากองไว้ตรงหน้า ผมออกจะแปลกใจไม่น้อยที่คนชอบของหวานเป็นชีวิตจิตใจแบบหยกมันไม่ยักกะอ้วน ซ้ำยังดูเหมือนว่ากินไปเท่าไหร่ก็ดูจะไม่น่ามีเนื้อมีหนังไปมากกว่านี้


         “ ไม่กลัวอ้วนรึไงดูซิหิ้วมาแต่ละอย่าง”

         “ ไม่ดีเหรอจะได้กลิ้งทับปายได้ไง”

         ผมขำก๊ากเมื่อดูสภาพคนร่างสูงโปร่งที่ติดจะผอมไปด้วยซ้ำ ผิวก็ขาวซีดแบบนี้มันเลยทำให้ผมนึกภาพหยกในเวอร์ชั่นขยายข้างจนสามารถทับผมไม่ออกจริงๆ

         “ ขำอะไรเล่าปายก็”

         หยกค้อนให้แล้วหันไปสนใจขนมใส่ไส้ตรงหน้าต่อ

         “ หยกรู้ตัวมั้ย”

         “ หืม”

        ใบหน้าขาวแก้มกลมเพราะอาหารเต็มปากเงยขึ้น

        “ ช่วงนี้หยกยิ้มบ่อยขึ้นนะ”

        “ ก็” หยกเกาแก้มตัวเอง “ ก็คงงั้นมั้ง”

        “ มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นรึเปล่า”

        หยกส่ายหัวแล้วยิ้มบางๆ “แค่ปล่อยวาง”

        “ ยังไง”

        “ รักที่ไม่คาดหวัง รักที่ปล่อยวางมันสบายขึ้นนะ”

         หยกก้มหน้าถอนหายใจ แต่ประกายตาสดใสแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อนตัวขาวของผมเหม่อมองไปเบื้องหน้าไม่สามารถเดาความคิดหรือความรู้สึกใดๆได้ ก่อนที่หยกจะหันมายิ้มให้ผม

        “ ปาย”

        “ อะไร”

        “ ขอบคุณนะ”

        “ เรื่องอะไร”

        ผมทำหน้างงจนอีกฝ่ายหัวเราะน้อยๆ

        “ ปายจำได้ป่ะ...ปายเคยบอกให้เรารักตัวเองให้มากๆ” หยกพูดขึ้น “ ขอบคุณที่ปายพูดแบบนั้น”

        “ ให้รักคนอื่นน้อยลง แล้วลองรักตัวเองให้มากขึ้น มันสมดุลง่ายๆที่ถ้าลองทำแล้วโครตดีเลย”

        ผมอมยิ้มตามหยก “ดีแล้ว”

        “ หยก”

        “ หืม”

        “ ตัดใจจากอั้มมันได้แล้วจริงๆเหรอ”

        หยกนิ่งไปพักนึงก่อนจะส่ายหน้า “ เปล่าหรอก ความรักที่เรามีให้อั้มยังเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกอยากครอบครองต่างหากที่เบาบางลง”

        นั่นสินะ หากจะให้ตัดใจจากใครสักคนมันคงต้องอาศัยวันเวลาเป็นเครื่องเยียวยา เพราะขนาดความรู้สึกรักยังต้องใช้เวลากว่ามันจะงอกเงยและงดงามอยู่ในใจ จึงไม่แปลกถ้าวันเวลาจะทำให้บาดแผลจากความรักหายสนิท

        ถึงจะตกสะเก็ดเป็นแผลเป็นแต่มันคือร่องรอยของความทรงจำ

        “ งั้นเรามาฉลองกัน”

        ผมเอื้อมมือไปหยิบวุ้นมะพร้าวรูปเป็ดในกล่องโฟมชูขึ้น ถึงหยกจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็เอื้อมมือไปหยิบวุ้นเป็ดขึ้นมาเช่นกัน

        “ ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้เป็นสิ่งที่สวยงาม”

        “ อืม”

        “ชน”

        เราหันส่วนหน้าของวุ้นเป็ดชนกันเบาๆ ก่อนจะพร้อมใจกันปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

        “ ฉลองอะไรกัน ขอร่วมด้วยคนสิ”

       เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นเหนือหัวพวกเขา ก่อนที่มันจะถือวิสาสะทรุดตัวลงนั่งข้างๆกันกับหยกโดยที่คนซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วขยับที่นั่งให้อย่างเต็มใจ

       “ มาพอดีเลยอั้ม กินขนมที่หยกซื้อมาฝากดิ”

       อั้มพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมไปหยิบอะไรสักอย่างด้วยท่าทางสบายๆ เป็นภาพที่แปลกใจสำหรับผม เพราะตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันสามคนเมื่อก่อนมันดูอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก แต่วันนี้ความรู้สึกเหล่านั้นหายไป

        “ ว่าแต่เมื่อกี้ฉลองอะไรกันเหรอ”

        หยกเหลือบตามองผมแล้วอมยิ้มคล้ายกับว่าจะให้ผมเป็นผู้ให้คำตอบ

        “ เรื่องดีๆน่ะ”

        “ เรื่อง”

        อั้มทำหน้าสงสัย

        “ เรื่องดีๆของคนเป็นเพื่อนกัน”

        อั้มทำหน้าสงสัยกว่าเดิมจนพวกผมหัวเราะดังลั่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่คิดจะอธิบายต่อ

        “ อะไรวะ”

        “ เอาน่า ฉลองกัน”

        “ หืม”

        หยิบวุ้นเป็ดอันเดิมขึ้นมา หยกหน้าเผือดไปเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของอั้มที่มองวุ้นในกล่องคงจะนึกถึงเหตุการณณ์ที่ครั้งหนึ่งอั้มเคยเหวี่ยงใส่จนไม่กล้าซื้อวุ้นมาให้เห็นอีก อั้มมันมองวุ้นรูปเป็ดสีขุ่นนิ่งก่อนจะค่อยๆหยิบมันขึ้นมา ผมเลยสะกิดหยกเบาๆให้ทำตาม

        ...พวกเราจ่อส่วนหัวของวุ้นเป็ดชนกันแล้วตะโกนอย่างพร้อมเพรียง...

        “เชียร์”

        “ อร่อยดีนะ”

        อั้มหันไปพูดกับหยกตอนที่เคี้ยววุ้นเนื้อนุ่มแล้วกลืนลงท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกรอยยิ้มหวานๆจากใบหน้าขาวซีด

        “ หยก”

         “ หืม”

         “ ถ้ามึงสะดวกช่วยซื้อมาให้กินอีกนะ”

         หยกพยักหน้ารับคำอั้ม ก่อนที่ทั้งคู่จะเผลอหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจผมพองฟูราวกับว่าสิ่งที่กดทับมานานมันกำลังค่อยสลายหายไป

         มันอาจดูเก้อกระดากสำหรับก้าวแรกในความสัมพันธ์แบบเพื่อน แต่เชื่อเถอะว่าพวกเราจะประคับประคองมันให้ดีที่สุด ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เฝ้ารอมานานมันกำลังเกิดขึ้นพวกเรานั่งกินขนมไปแล้วหัวเราะอย่างง่ายดายกับเรื่องตลกที่ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากตอนที่ผมมองไปเบื้องหน้าแล้วเห็นอั้มกับหยกนั่งอยู่เคียงข้างกันแบบนี้...โครตดีเลย



        .

        .

        .





       “ พี่หมอปาย”

       จากที่เดินมึนๆลงมาจากตึกคนไข้ก็มีอันต้องตาสว่างเพราะเสียงเรียกชื่อผมดังลั่น

       “ พี่หมอ”

       “ หืม”

       “ ไปแข่งรถกัน”

       “ หา”

       ผมร้องอุทานจนรุ่นน้องทำหน้ายู่ “ พี่หมอปายอ่ะ”

       “ เมื่อกี้เราว่าไงนะจะไปแข่งรถเหรอ”

        เนมโบกมือปฎิเสธเป็นพัลวัน “ ไม่ใช่เนมไม่ได้แข่งแต่จะไปดูเขาแข่งรถกัน”

       “ นึกยังไงล่ะเรา”

        “ เนมจะไปเชียร์เพื่อน”

         อาจจะเพราะสีหน้าไม่ไว้วางใจกับกิจกรรมที่เอ่ยถึงฝ่ายนั้นจึงรีบอธิบาย “ สนามแข่งถูกกฎหมายครับ”

         ผมพยักหน้ารับไปงั้นๆทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจสักท่าไหร่ กะว่าจะปฎิเสธแต่น้องดันทำหน้าอ้อน “ พี่ปายไปเป็นเพื่อนเนมหน่อยน้า”

         รุ่นน้องหน้าขาวเอาศีรษะมาถูๆแถวไหล่ผมอย่างอ้อนๆ เพราะสนิทกันมากน้องจึงรู้ว่าผมค่อนข้างตามใจอีกฝ่าย โดยเฉพาะกับเนมถึงแม้ว่าวันนั้นที่สนามบินผมจะรู้สึกแปลกๆกับท่าทางของน้อง แต่พอหลังจากนั้นทุกอย่างก็เหมือนเดิม ซ้ำเจ้าตัวขาวนี่ยังกลับมาอ้อนเก่งยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ

         “ วันนี้ยิมมันลงแข่งเนมอยากไปเชียร์อ่ะพี่ปาย”

         ...หืม...

         ชื่อของคนที่วนเวียนอยู่ใกล้ตัวช่วงสองสามวันนี้ทำให้อดที่จะหูผึ่งไม่ได้ ในอกก็รู้สึกอุ่นๆแค่ได้ยินชื่อนี้ ไม่รู้สิผมไม่รู้ว่าอาการประหลาดของตัวเองมันคืออะไร ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีไอ้เด็กข้างห้องก็มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆกันแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะเราเป็นผู้ชายเหมือนกันมั้งถึงทำให้รู้สึกสบายที่ได้อยู่ใกล้อีกฝ่าย

        ...แล้วผู้ชายที่ไหนมันสนิทสนมกันจนเกือบจูบกันหรือว่าเคยจูบกันไปแล้ววะ...

        ผมสะบัดหัวแรงๆไล่ความคิดประหลาดนี้ออกไปจากหัว

        “ ทำไมเราถึงมาชวนพี่ล่ะ ช่วงนี้เพื่อนมารับมาส่งตลอดไม่ใช่เหรอ” เพื่อนที่ว่าไม่ใช่เพื่อนคนข้างห้องผมหรอก แต่เป็นอีกคนหนึ่ง

        “ ไอ้โอ๊คน่ะเหรอครับ”

        ผมพยักหน้า

        “ ก็มันห้ามไม่ให้เนมไปอ่ะ”

        “ อ้าว”

        “ มันบอกเป็นกีฬาพวกผู้ชายแมนๆเนมไม่ควรไปดู ดูมันพูดดิพี่ปาย แม่งพูดงี้โครตกวนตีนเลยเนมไม่แมนตรงไหนวะ”
 
        ...ทุกตรงครับ...

        นั่นเป็นแค่คำพูดในใจ เพราะผมไม่ได้บอกออกไปขืนพูดไปใบหน้างอเง้านี่คงได้งอเป็นจวักถาวรแน่

          “ ถ้าเพื่อนเราห้ามขนาดนั้นก็อย่าไปเลยมันอาจจะอันตรายก็ได้”

          “ ไม่จริงอ่ะ เนมเคยตามยิมไปไม่เห็นเป็นอะไรเลย สนุกดีออก”

         แสดงว่าเด็กข้างคงจะลงสนามบ่อย ยังไม่ทันได้ถามรุ่นน้องตัวขาวก็เล่าต่อทันที

         “ ยิมเมื่อก่อนอ่ะสิงห์สนามเลยนะพี่ปาย จนช่วงสองสามปีนี่แหละที่เหมือนจะเลิกไปนี่ไม่รู้นึกยังไงไปลงแข่งอีก เนมเลยห่วงอยากไปดูซะหน่อยยิ่งเพิ่งอกหักมาใหม่ๆด้วย”

         ...นั่นสินะ...หวังว่าไอ้เด็กนั่นคงไม่คิดอะไรสั้นๆหรอกนะ

         ผมคิดตามแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมสักหน่อยที่ต้องห่วงไอ้เด็กนั่น

         “ พี่ปาย”

         เนมทำตาอ้อนๆ แต่แววตาดูเจ้าเล่ห์แปลกๆผมสังเกตว่าช่วงหลังๆมานี้เนมมักเอ่ยถึงไอ้เด็กข้างห้องผมบ่อยๆซ้ำพอผมทำหน้าจะสนใจ แววตากลมโตก็มักมีประกายวิบวับ ซ้ำยังยิ้มเหมือนถูกใจอะไรบางอย่างบอกไม่ถูก

         “ น้า”

         “ น้าพี่ปายน้า”

         คราวนี้เพิ่มออฟชั่นด้วยการโถมตัวใส่ผมเต็งแรงซ้ำยังเอาหัวมาสีต้นแขนผมอย่างจริงจังคาดว่าถ้าไม่ตกลงเจ้านี่คงไม่หยุด

         “ อืม”

         สุดท้ายผมก็ตกกระไดพลอยโจรเซไปตามแรงจูงของรุ่นน้อง คล้ายๆกับว่าถูกน้องหลอกล่อไปยังไงก็ไม่รู้



         สนามแข่งรถที่นี่มีขนาดใหญ่มากสมเป็นสนามที่ได้มาตรฐานซึ่งมีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่รองรับผู้เข้าชมซ้ำยังมีการตรวจตราจากเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยก่อนที่ผู้ชมจะได้ก้าวสู่พื้นที่ด้านใน ผมมองไปรอบๆเพื่อพิจารณากลุ่มคนหลากหลายที่รวมตัวกันสำหรับการเชียร์นักแข่งที่ตัวเองชื่นชอบ ขาทั้งสองข้างก้ามตามแรงจูงของรุ่นน้องที่ดูรีบร้อนเหลือเกิน เนมมองไปรอบๆเหมือนมองหาใครสักคน แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงห้วนห้าวจากขอบอัฒจันทร์ก็ตะโกนเรียกดังลั่น

        “ เนม”

         รุ่นน้องผมสะดุ้งโหยงพอดีกับที่โอ๊คมายืนหน้าทำหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้า

        “ มาทำอะไรที่นี่”

        “ ก็”

        “ กูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามา” โอ๊คมันทำหน้ายุ่งก่อนจะเหลือบตามาทางผมแล้วก้มศีรษะเป็นเชิงทักทาย “ นี่คงไปลากพี่หมอมาสินะ”

        “ เปล่าสักหน่อย”

        “ เชื่อยาก”

        เนมทำหน้างอจนอีกคนต้องโยกศีรษะเบาๆ ท่าทางของคนทั้งคู่มันดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ราวกับว่ามันลึกซึ้งกว่าความเป็นเพื่อน
 
        “ มึงไม่คิดบ้างรึไงว่างบางทีพี่ปายอาจจะอยากมาเป็นเพื่อนกูก็ได้” เนมเถียง

        “ ไม่มีทาง”

         โอ็คจิ้มหน้าผากเพื่อนตัวขาว “ กูเชื่อว่ามึงต้องไปอ้อนจนเขาปฏิเสธไม่ได้ ถึงได้โดนมึงลากมาด้วยแบบนี้”

        ...ถูกเผง...

        ผมกลั้นยิ้มจนปวดแก้มกับการวิเคราะห์ของเด็กนิเทศฯซึ่งเดาทุกอย่างได้อย่างแม่นยำจนรุ่นน้องผมทำหน้างอขัดใจ

         “ เออมึงพูดถูก”

         เนมกระชากเสียงตอบก่อนจะไปมองไปรอบๆ “ ว่าแต่ยิมอยู่ไหนอ่ะ”

         ผมมองตามปลายนิ้วโอ๊คซึ่งชี้ไปยังรถแข่งคนสีดำคาดขาวกำลังดริปโชว์อยู่กลางสนาม ภาพตรงหน้าดูน่าใจหายเพราะความเร็วในการหมุนขนาดดูด้วยสายตาเปล่ายังแทบจะดูไม่ทัน ซ้ำสภาพอากาศตอนนี้ยังมีฝนตกลงมาพรำๆ การขับรถน่าหวาดเสียวแบบนั้นจะไม่มีอุปสรรคบ้างรึไงในสภาพอากาศขมุกขมัวแบบนี้

         รถคันนั้นกลับมาขับแบบปกติวิ่งตามถนนที่จัดให้อีกครั้งท่ามกลางเสียงถอนหายใจโล่งอกของเนมกับผมต่างจากโอ๊คที่ดูชิวๆกับภาพที่เห็น ขณะที่พวกเรากำลังจะทรุดตัวลงนั่งรถแข่งคันสีดำคาดขาวก็ส่ายไปมาแปลกๆ จนผมต้องเพ่งพิจารณาดูอย่างแปลกใจและพอจังหวะเข้าโค้งรถคันนั้นก็มีอาการท้ายปัดจนส่วนหัวพุ่งออกนอกสนามไปชนกับบังเกอร์ยางรถสูงเกือบเมตรพาให้รถพลิกคว่ำทันที


       “ ฉิบหาย”

       “ ยิม”

        เสียงเพื่อนมันคนร้องเสียงหลง ไม่ต่างหัวใจของผมที่กระตุกวาบ แล้วขาก็ขยับตามสองคนนั้นที่กระโจนไปดูเพื่อนมันทันที ผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงราวกับว่ามันจะทะลุออกจากอก นัยน์ตาผมพร่ามัวแทบมองอะไรไม่เห็น ในอกก็ร่ำร้องเหมือนใจจะขาดแล้วภาพเหตุการณ์วันนั้นเมื่อหลายปีก่อนก็สว่างวาบขึ้นมาในหัว

        มันเป็นวันฝนพรำเช่นนี้ในเวลาพลบค่ำวันนั้นมีอุบัติเหตุรถคว่ำเกิดขึ้น เสียงกรีดร้องและรอยเลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้น หยาดน้ำตาที่ไหลมาเป็นสาย ผมจำภาพนั้นได้จนติดตา เสียงร่ำไห้ของคนที่รักและเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาจนสุดท้ายคนที่ผมรักที่สุดก็จากไปตลอดกาล

        ภาพตรงหน้าเหมือนภาพซ้อนทับเรื่องราวในอดีต มันเหมือนเป็นฝันร้ายที่ไม่อยากจดจำ ผมกำหมัดแน่นเนื้อตัวสั่นเทาก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ




***********************************




           [ยิม]



         “ หมอ”

         “ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว”

         ผมกระตุกข้อมือคนที่นั่งนิ่งมาตลอดตั้งแต่โรงพยาบาลจนมาถึงคอนโด หมอมีอาการแปลกๆดูเหมือนตกใจหรืออาจจะช็อกกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้  รถที่ผมใช้ลงสนามเกิดยางระเบิดในจังหวะเข้าโค้งพอดีซ้ำถนนยังลื่นเลยไม่แปลกถ้ามันจะพลิกคว่ำ แต่ดีว่าเขาเซฟทุกอย่างพอแงะตัวเองออกจากรถได้จึงมีบาดแผลตรงหางคิ้วซึ่งกระแทกกับพวงมาลัยจนคิ้วแตก และมีแผลที่ข้อศอกยาวเกือบนิ้วเท่านั้นเอง ส่วนตามลำตัวก็แค่ฟกช้ำเล็กน้อยจนต้องขอบคุณเซฟตี้ของตัวรถด้วย เพื่อนทั้งสองของผมดูตกอกตกใจรีบพาส่งโรงพยาบาลทั้งที่ยืนยันแล้วว่าผมไม่ได้บาดเจ็บอะไรร้ายแรง

        ทุกอย่างรอบกายดูวุ่นวายจนผ่านไปสักพักผมจึงได้มีโอกาสสังเกตว่ามีใครบางคนนั่งนิ่งมาตั้งแต่ต้น หมอนั่งนิ่งจนไม่ได้รับรู้ว่าผมกำลังยืนมองแววเหม่อลอยนั้นด้วยความห่วงใย จนได้รับการยืนยันจากแพทย์แล้วว่าผมปลอดภัยทุกอย่างสองคนนั้นจึงล่าถอยกลับไปหลังจากพามาส่งถึงห้อง

        หมอปายขอแยกตัวไปแต่เพราะอาจจะยังเบลออยู่ผมถึงได้ทำเนียนเดินเข้าห้องหมอ มันน่าแปลกที่หมอไม่บ่นหรือเอ่ยปากไล่อย่างที่แล้วมา มันน่าตกใจที่เห็นหมอเหม่อลอยเหมือนมีอะไรในหัวให้ขบคิดมากมาย


        “ หมอ”

        ผมเรียกหมออีกครั้ง

        “ อะไร”

        “ หมอโอเคมั้ย”

        หมอหันมามองงงๆก่อนจะหรี่ตามองแผลตรงหางคิ้ว “ กูมากกว่าที่ต้องถามว่ามึงโอเครึเปล่า”

        “ โอเคสิหมอ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

        “ ก็ดีแล้ว” หมอปายหันมาถามต่อ “ มึงชอบแข่งรถงั้นเหรอ”

        “ ครับ ผมว่าเวลาที่มันเคลื่อนไหวไปเร็วๆมันเหมือนว่าหัวโล่งดี เหมือนว่าเราบินได้”

        “ ไม่กลัวรึไง”

        ผมส่ายหน้าปฏิเสธ

        “ ผมชอบความท้าทายครับหมอ”

        “ มันน่าสนุกตรงไหน”

        “ ตรงที่มันไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันอยู่ตรงไหน” ผมตอบ

        หมอหันมาสบตากับผมตรงๆและมองอยู่อย่างนั้นนิ่งๆ

        “ สำหรับผมแล้วหมอคือความท้าทายที่น่าพิชิตเหมือนกัน”

        “ ยังไง” หมอเลิกคิ้ว

        “ คงเหมือนช้อยส์ข้อสอบมั้งครับ ดูมีหลายคำตอบดี”

        “ กูนึกว่ามึงจะเล่นมุขเปรียบกูกับหนังสือซะอีก” หมอพูดเสียงเรียบแววตาดูขบขันไม่น้อยจนผมเผลอยิ้มตาม

        “ หมอไม่เหมาะเป็นหนังสือหรอกครับ เป็นช้อยส์คำตอบน่ะดีแล้ว”

         หมอส่ายหัวไม่จริงจังนักแล้วเล่นผมกลับ “ งั้นมึงจะเลือกข้อไหนล่ะ”

         “ ผมเหรอ” ผมชี้นิ้วใส่ตัวเอง “ ผมคงเลือกทุกข้อ”

         หมอชะงักแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ขณะที่ผมกระตุกยิ้ม ในใจมันฟูแปลกๆบอกไม่ถูก

         “ ถ้ามึงจะกลับออกไปล็อคประตูให้ด้วยกูจะไปอาบน้ำ”

         “ ไม่ครับ”

         หมอกอดอกแล้วสบตาผมนิ่งคงจะนึกว่าผมตอบกวนตีน “ เพราะคืนนี้ผมจะนอนห้องหมอ”




       .
 
       .

       .



       สุดท้ายหลังจากหน้าด้านและมารยาอ้อนจนหมอพยักหน้ารับอย่างระอา ผมก็กลับไปอาบน้ำที่ห้องแล้วมายืนเสนอหน้าอยู่กลางห้อง

       “ เพราะมึงบอกว่ากลัวเจ็บแผลตอนกลางคืนหรอกนะ ไม่งั้นมึงไม่มีทางมานอนได้หรอก”

       “ เจ๊ากันไงหมอ”

       “ อะไร”

        “ ตอบแทนที่ผมเคยให้หมอไปนอนที่ห้องไง”

        หมอเบ้ปากก่อนจะปาหมอนใส่แต่ผมดันรับไว้ทันก่อนจะยิ้มกริ่มเดิมตามหมอเข้าห้องไปติดๆ หมอแสยะยิ้มชี้นิ้วไปที่ผ้าห่มซึ่งกองอยู่ตรงพื้นใกล้ๆเตียงก่อนที่เจ้าตัวจะกระโดดขึ้นเตียงท่าทางไม่แยแส ผมเลยได้แต่ยักไหล่ปูที่นอนตรงพื้นข้างเตียงก่อนจะเดินไปปิดไฟ

        “ อย่าปิดไฟ”

        เสียงทุ้มดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

        “ ทำไมครับ”

        “.......”

         “ หมอ”

         หมอปายลุกขึ้นนั่งก่อนจะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งบรรยากาศภายนอกมีสายฝนที่โปรยปรายลงมา “ ฝนมันตก”

          ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจแต่หมอก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรเพิ่มเติม ก่อนจะล้มตัวลงนอนหันหลังให้ผม

         “ กูชอบนอนเปิดไฟเวลาฝนตก ถ้ามึงนอนไม่ได้ก็กลับห้องมึงไป”

         ผมส่ายหน้ามองคนชอบนอนเปิดที่ห่อไหล่หลังงองุ้มเนื้อตัวสั่นเทา ท่าทางแบบนั้นบอกถึงความผิดปกติ ความรู้สึกตอนนั้นผมอธิบายไม่ถูกรู้แค่ว่าโครตอยากอยู่ข้างๆหมอเลย ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินไปปิดไฟ พอความมืดปกคลุมไปทั้งห้องจนหมอถึงกับสะดุ้งโหยง

         “ มึง”

         “ กลับห้องมึงไป”

        ผมไม่ตอบแต่เดินไปทรุดลงบนเตียง หมอขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะผลักอกผมแรงๆ ผมจึงสวมกอดหมอเอาไว้เต็มอ้อมแขน

         “ ปล่อยกู”

         “ หมอ” ผมลูบแผ่นหลังคนที่สั่นไปหมดทั้งตัว “ อย่ากลัวผมอยู่ตรงนี้”

         “ ปล่อยกู”

         “ ผมอยู่ตรงนี้ครับหมอ”

         “ ปล่อย”

         “ ผมอยู่ตรงนี้ครับ ผมอยู่ตรงนี้ ผมอยู่กับคุณ...หมอปาย”

        สักพักคนในอ้อมแขนที่ดิ้นเร่าก็หยุดดิ้น หมอนิ่งไปจนสัมผัสได้แต่ลมหายใจที่แผ่วเบา

         “ กูเกลียดการนอนปิดไฟในวันที่ฝนตก”

         “ ทำไมครับ”

         “ มันเป็นวันที่กูต้องสูญเสียแม่ไปตลอดกาล”

         “ หมอ”

         “ ขอร้องไปเปิดไฟเถอะ” หมอพูดเสียงแผ่ว “ กูนอนไม่ได้”

         “ หมอนอนได้” ผมค้าน

         “ ปล่อย” ผมค่อยๆ ดันหมอให้หงายหลังลงนอนหมอดูอึกอักไม่ทำตามแต่ผมก็ไม่ยอมเช่นกัน สุดท้ายหมอจึงยอมนอนลง ขณะที่ผมทรุดตัวลงนอนใกล้โดยที่มือของพวกเรากุมกันแน่น


         “ หลับเถอะครับ”

         “ มึง”

         “ นอนเถอะครับ ผมอยู่ตรงนี้”

         .

         .


         “ โอ้ย”

        ผมถลาตกเตียงด้วยแรงถีบของหมอ หมอผุดลุกขึ้นนั่งแม้ในความมืดผมก็เดาสีหน้าหมอออกว่ามันฉุนเฉียวแค่ไหน

        โธ่ โกรธอะไรนักหนาแค่ผมเผลอล้วงมือข้างที่ว่างไปในเสื้อหมอเท่านั้นเอง ผมล้วงผิดหรอกกะจะดึงผ้าห่มมาคลุมให้ต่างหาก นี่ถึงขนาดโกรธจนเท้ากระตุกเลยเหรอเนี่ย

        “ ไอ้หมายิม”

        “ มือมันลั่นอ่ะหมอ” คราวนี้หมอนอีกใบปลิวมาโดนหน้าผมเต็มๆ

        “ ไสหัวไปนอนพื้นเลย”

        “ ครับ”

         ผมรับคำพร้อมกับกลั้นเสียงหัวเราะ ผ่านไปสักพักนึงผมจึงค่อยๆย่องขึ้นเตียงไปทรุดตัวลงนอนใกล้ๆเพราะห่วงกลัวหมอจะมีอาการแปลกๆอีก คราวนี้ผมแค่ลองจับมือหมอเฉยๆแต่ผมกลับรู้สึกว่าฝ่ามือของหมอกระชับมือของผมให้แน่นขึ้น ไอร้อนจากตัวหมอแผ่วเบาลงคล้ายกับว่าเจ้าตัวผ่อนคลายขึ้น

         แล้วเราก็กุมมือกันและกัน หลับใหลไปอย่างสนิทตลอดคืน





มาแล้วๆ หายไปเป็นอาทิตย์เพราะไปจัดการธุระในเมืองเสียหลายวันค่ะ
ตอนนี้เหมือนอะไรๆจะดีขึ้นเนอะ หุหุหุ เตรียมหมอนเตรียมใจให้ดีต่อจากนี้เราจะพาคุณไปฟินแลนด์ ฮ่าๆๆๆๆๆ
#หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจของนักเขียนนะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-09-2016 21:41:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: blankmkmejj ที่ 20-09-2016 22:06:11
แพ็คกระเป๋าเรียบร้อยเตรียมไปฟินแลนด์ :hao6: ทีมยิมปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-09-2016 22:22:30
มือลั่นนนนนนน ไม่ค่อยเลบนะยิม ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-09-2016 22:47:18
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:ฟินไปยาวๆๆเลยจร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 20-09-2016 23:22:09
เตรียมรอความฟินครับผม,,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 20-09-2016 23:25:22
 :katai2-1:รอไปฟินแลนด์ด้วยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-09-2016 23:28:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 20-09-2016 23:32:43
รอตอนหน้าดีกว่า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: pinknocchio ที่ 20-09-2016 23:58:10
มือลั่นบ่อยๆก็ดีนะยิม
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 21-09-2016 03:00:12
เกลียดการบอกว่ามือลั่นของยิม กำลังโรแมนติกเลย.  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 21-09-2016 06:49:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-09-2016 08:10:27
เหมือนหมอปายจะค่อยๆ เปิดใจให้ยิมแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 21-09-2016 08:31:34
มือลั่นเจอตีนลั่น ผลคือตกเตียง 555 ...รอไปฟินแลนด์  :z2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-09-2016 09:14:40
ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 21-09-2016 14:37:02
ยิมเจอตีนลั่นเข้าไปเป็นคะจุกดีมั้ย  :m20:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-09-2016 23:09:51
ทุกอย่างค่อยๆคลี่คลายออกมาแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 22-09-2016 13:11:20
ยิมเนียนระดับสิบ :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 14: คืนฝนพรำ »» [20/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 23-09-2016 20:13:03





        หลงที่ 15 : คนที่รอคอย




        [หมอปาย]




        “ หมอ”

        “........”

        “ หมอครับ”

        ผมจงใจถอนหายใจแรงๆใส่โทรศัพท์เพราะอยากให้คนในสายได้ยินชัดๆ แต่แทนที่มันจะไม่พอใจไอ้บ้านี่กลับหัวเราะชอบใจราวกับคนบ้า สมกับเป็นมันจริงๆไอ้เด็กข้างห้องซึ่งเพิ่งโดนสาวหักอกมาไม่ทันไรใบหน้าเปื้อนยิ้มของมันก็กลับมาระรี้ระริกอีกครั้งจนน่าหมั่นไส้

        ถึงแม้ลึกๆผมเองก็อดดีใจไม่ได้ที่เห็นมันคนเดิมกลับมาแล้ว

        แล้วนี่ผมจะยิ้มทำไมวะ ผมส่ายหน้าให้กับจอโทรศัพท์อย่างรับตัวเองไม่ได้จนปลายสายทำเสียงอ้อนชวนสยองผ่านมาตามสาย

        “ อะไร”

        “ เจ็บแผลจังครับ”

        “ ตอแหล”


        ผมสวนกลับไปนิ่มๆทันได้ยินมันโอดครวญได้โคตรมารยา จริงๆแล้วแค่แผลคิ้วแตกกับแผลที่ศอกไม่ได้ร้ายแรงอะไรเบากว่าตอนที่มันถูกรถเฉี่ยวครั้งก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำยังมีหน้ามาขอให้ผมไปทำแผลให้ ทั้งยังเนียนมาขอข้าวเย็นห้องผมกินแทบทุกวัน ขนาดโดนผมไล่ก็ยังมาเสนอหน้าให้เห็นได้ทุกวัน หรือจริงๆแล้วแล้วนอกจากความกวนตีนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าแสนทะเล้นแล้วยังมีอาการหน้าหนาอยู่ด้วย

        “ มึงนี่นะมีอะไรขอตรงๆ เร็วๆ”

        “ ถ้ามารยาคือเจ็บแผล แต่ความจริงคืออยากเจอหน้าหมอ”

         ...นี่ก็ตรงไป...

        ผมถอนหายใจกับคำพูดและการกระทำแบบตรงๆของมัน ยังจำได้ว่ามันเคยพูดว่า ‘ถ้าอยากเปลี่ยนสถานะมันจะทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น’ แล้วมันก็ทำจริงๆ  ผมบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไงที่โดนเพศผู้เหมือนกันหยอดทุกวันแบบนี้ แรกๆก็คิดว่ามันคงทำไปขำๆสักพักคงเลิกไปเองที่ไหนได้มันชักรุกหนักขึ้นทุกวันจนน่าปวดหัว

       “ เอ่อ”

       “ หมออยู่ไหนครับ”

       “ กำลังขับรถกลับคอนโด” เออผมนี่ก็แปลกดันตอบมันกลับไปอีก

       “ ผมรออยู่นะ”

       “ รออะไร”

       “ รอกินข้าวกับหมอ” แล้วทำไมต้องทำเสียงทุ้มวะ ผมยกมือถือออกจากหูแล้วดูรายชื่อสายที่โทรมาอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าปลายสายเสียงนุ่มหูนี่คือมันจริงๆ

       “ ไม่ต้องรอ ถ้าหิวก็กินไปเลย”

       “ ผมจะรอ”

       “ อย่ารอ”

       “ ผมเต็มใจรอหมอครับ”

       แล้วมันก็วางสายใส่ผมทันที ทิ้งให้ผมหงุดหงิดอยู่กับหน้าจอที่กลายเป็นสีดำสนิท



       หลังจากฝ่าการจราจรช่วงเย็นจากโรงพยาบาลมาถึงคอนโดได้ก็เกือบทุ่ม และพอก้าวเข้าห้องตัวเองได้ไม่เท่าไหร่เสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับผู้มาเยือนหน้าคุ้นตา มันไม่รอให้ผมเชิญเข้าห้องด้วยซ้ำทั้งยังเดินผ่านหน้าผมเข้าไปอย่างเคยชิน

       “ วันนี้มีของโปรดหมอด้วยน้า”

       มันชูขนมอย่างพายลูกตาลเมนูโปรดของผมขึ้นสูง ไม่รู้ว่าไปสืบรู้ได้ยังไงว่าผมชอบซื้อมาตุนไว้เวลาอ่านหนังสือดึกๆ ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจแต่คนอย่างไอ้ยิมหรือจะแคร์เพราะมันหันไปเทอาหารใส่จานราวกับว่านี่เป็นห้องของตัวเอง แต่ไม่ทันที่จะเปิดปากด่ามันอย่างที่ทำเป็นประจำพอดีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น ชื่อที่โชว์หราเป็นสายเรียกเข้ายิ่งชวนให้แปลกใจ


      ’คุณชายครับ‘

       ’ลุงหาญ‘

       ’คุณชายเล็กไม่สบายมากตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลครับ‘


       ทันที่ที่วางสายจากคนสนิทของบิดาผมก็รีบวิ่งไปคว้ากุญแจที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะทันที

        “ หมอจะไปไหนครับ”

        “ กูมีธุระ”

        “ งั้นผมไปด้วย” มันถอดผ้ากันเปื้อนเตรียมเก็บอาหารที่ซื้อมาใส่ฟรีซ

        “ ไม่ต้อง มึงรออยู่เนี่ยแหละ”

        “ ให้ผมไปด้วยเถอะ” มันมองมาที่มือผมซึ่งถือกุญแจด้วยมืออันสั่นเทา “ เดี๋ยวผมขับรถให้”

        สุดท้ายผมจึงปล่อยให้กุญแจในมือหลุดไปอยู่ในมือมัน แล้วก้าวตามแรงจูงของอีกฝ่ายไปอย่างเงียบๆ






       [ยิม]



         ธุระที่หมอพูดไว้คือโรงพยาบาลเอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งซึ่งคนมีฐานะมีอันจะกินส่วนใหญ่ชอบมาใช้บริการ ผมเดินตามหลังหมอไปติดๆท่าทางของคนตรงหน้าดูรีบร้อนชอบกล หรือว่าคนที่หมอมาหาถึงโรงพยาบาลจะเป็นคนสำคัญ อาจจะเป็นคนในครอบครัวหรือใครสักคนที่ทำให้คนเย็นชาแบบหมอดูจะลืมเลือนตัวตนไปชั่วขณะ

        ความห่วงใยที่แผ่ซ่านไปรอบๆทำให้ผมสัมผัสได้

       “ คุณชาย”

       “ ลุงหาญ”

       ผมเพิ่งสังเกตว่ามีชายวัยกลางคนในชุดซาฟารีสีเทาที่ยืนรอหมอปายอยู่หน้าห้อง สังเกตว่าคนๆนั้นทำหน้าดีใจเมื่อเห็นหมอนั่นจึงทำให้ผมจำได้ว่าผู้ชายกิริยานอบน้อมคนนี้คือคนสนิทของพ่อหมอปาย แต่พอมองไปรอบๆแล้วดันไม่เห็นบุรุษซึ่งเคยตามไปเอาเรื่องหมอปายถึงคอนโดจนทำให้ผมรู้สึกกับหมอเปลี่ยนไป

       “ แล้วเขาล่ะ”

       “ คุณท่านไปต่างประเทศครับ”

       ผมเผลอถอนหายใจนึกหวั่นว่าจะได้พบเจอกับเหตุการณ์ที่พ่อกับลูกต้องปะทะกันซะแล้ว เพราะจากที่เห็นวันนั้นก็เข้าใจว่าพ่อลูกคู่นี้หัวแข็งด้วยกันทั้งคู่ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกันซ้ำหมอยังดูชอบยั่วโทสะพ่อตัวเองซะด้วย

       “ อืม”

       “ แล้วไอล่ะ”

       “ คุณไอลดาไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วครับ” ชายวัยกลางคนที่หมอเรียกว่า ‘ลุงหาญ’ ทำหน้าไม่สู้ดีนักจนหมอถึงกับถอนหายใจแรงๆ

       “ สรุปคือไม่มีใครอยู่บ้าน”

       “ ครับ”

       “ แล้วปอเป็นนานเท่าไหร่แล้ว”

       “ เกือบอาทิตย์แล้วครับ” ลุงหาญก้มศีรษะอย่างรู้สึกผิด “ แม่บ้านก็ดูแลตลอดครับ แต่คุณชายเล็กเธอกินยายากซ้ำยังงอแงไม่เอาใครอีก”

       “ หึ”

       หมอปายทำเสียงในลำคอ

       “ ตอนนี้ก็ร้องไห้งอแงไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้จนพยาบาลต้องจับไว้ครับ”

       “ น่ารำคาญ”

        หมอทำหน้าเบื่อหน่าย เดาว่าคงไม่ได้หมายถึงคนสนิทของบิดา แต่น่าจะมีสาเหตุมาจากเสียงร้องไห้โยเยที่ดังมาจากในห้อง

       “ คุณชายครับ”

        ลุงหาญเอ่ยขึ้น “ คุณชายเล็กเธอยังเด็ก ซ้ำตอนนี้ยังเจ็บป่วยเลยงอแงเป็นธรรมดา”

       “ ธรรมดางั้นเหรอ”

       หมอทำเสียงสูงดูมีอารมณ์ “ มันสร้างความวุ่นวายแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว”


        ผมทำหน้าตกใจเพราะไม่เคยหมอโกรธมากขนาดนี้มาก่อน หมอปายทำหน้าหงุดหงิดมือทั้งสองข้างกำแน่นอย่างพยายามสกัดกลั้นอารมณ์ ส่วนลุงหาญได้แต่ก้มหน้านิ่งแววตาดูเสียใจไม่น้อยเมื่อเห็นอาการของเจ้านายหนุ่ม ผมได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ทีแล้วเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ

        แต่ผมไม่ต้องสงสัยอยู่นานเมื่อหมอผลักประตูเข้าไปจึงเห็นภาพเด็กชายตัวน้อยกำลังแหกปากร้องดังลั่น ขนาบด้วยพยาบาลทั้งซ้ายและขวาซึ่งกำลังปลอบให้หยุด หมอค่อยๆก้าวเดินไปอย่างช้าๆจนไปหยุดอยู่ข้างเตียง พยาบาลเหล่านั้นจึงหยุดชะงักมือที่กำลังยื้อยุดกับเด็กตัวขาว


        “ พี่ชาย”

        เสียงแหบพร่าเพราะร้องไห้อย่างหนัก ใบหน้าขาวอย่างลูกผู้ดีกลับแดงก่ำเหยเกชวนสงสาร น้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าดูช่างน่าเวทนา มือน้อยๆทั้งสองข้างยื่นชูขึ้นมาหมายจะให้พี่ชายสวมกอด ทั้งแววตากลมโตยังมามองอย่างออดอ้อนไร้เดียงสา

       “ พี่ อึก ชาย”

       สองมือยื่นไขว่คว้าพี่ชายตัวเองซึ่งยืนกอดอกนิ่งเฉยด้วยใบหน้าเย็นชา ผมมองแล้วนึกสงสารเด็กตัวน้อยที่ร่ำร้องเรียกหาคนเป็นพี่แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความว่างเปล่า

       ผมรู้สึกว่าตอนนี้หมอปายออกจะใจร้ายไปหน่อย เพราะหมอใจแข็งมากนอกจะไม่สนใจท่าทางต้องการอ้อมกอดของพี่ชายแล้ว หมอยังก้าวถอยหลังทิ้งให้ระยะห่างเพิ่มมากขึ้น เด็กน้อยร้องไห้โฮหงายหลังดิ้นไปมาบนเตียงดูเป็นภาพที่น่าตกใจ แต่หมอกลับมองนิ่งเฉยจนผมทนไม่ไหวต้องเข้าไปโอบอุ้มร่างน้อยๆนั่นไว้ เพราะตอนนี้นางพยาบาลทั้งหลายออกไปหมดแล้ว ซ้ำลุงหาญยังรออยู่ข้างนอกอีก ดังนั้นตอนนี้ในห้องจะเหลือแต่หมอปายกับผมเท่านั้น

      “ โอ๋ ไม่ร้องนะครับ”

      “ ฮึก พี่ชาย”

       เด็กน้อยดิ้นหนีพยายามยื่นมือไปยังทิศทางที่หมอปายยืนอยู่ เสียงน้องแหบพร่าถึงแม้ถูกปฏิเสธก็ยังร่ำร้องหาแต่พี่ชายอย่างไร้เดียงสา ดูรู้เลยว่าเด็กนี่คงจะรักหมอปายไม่น้อยทีเดียว

      “ ฮึก”

       ดิ้นไปดิ้นมาจนเหนื่อยใบขาวจึงซบอยู่ที่อกผมซ้ำมือทั้งสองข้างก็ขยำคอเสื้อผมแน่น ทำให้ต้องโอบประคองเด็กชายเอาไว้เต็มอ้อมแขน มืออีกข้างที่ว่างก็ลูบแผ่นหลังน้อยๆเป็นการปลอบประโลมจะเรียกว่าชินก็คงไม่เชิงเพราะผมค่อยข้างถูกโฉลกกับเด็กๆ เนื่องจากว่าผมได้มีโอกาสดูแลน้องสาวมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะบิดามารดามีงานล้นมือดังนั้นหน้าที่ดูแลน้องสาวจึงตกเป็นของผมไปโดยปริยายและตัวผมเองก็ยินดีและเต็มใจทำ มันเลยทำให้ผมกับใยบัวสนิทสนมกันมาก ไม่แปลกถ้าหากเด็กในอ้อมแขนจะสงบเสียงร่ำไห้ลงได้ถึงแม้จะได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆก็ตาม


       “ หมอครับ”

       หันไปเรียกคนที่ทำตัวเงียบเชียบตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง หมอแค่เหลือบตามองเด็กในอ้อมแขนเพียงแวบเดียวก่อนจะมองไปทางอื่น

       “ ฮึก พี่ชายโกรธ”

       เด็กในอ้อมแขนกระซิบบอกเสียงสะอื้นจนอดไม่ได้ที่จะเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าให้ ใบหน้าขาวผ่องแดงก่ำคงเพราะร้องไห้อยู่นาน  ผมพินิจพิจารณาใบหน้าน้อยๆนี่แล้วเหลือบตามองไปทางหมอปาย  จึงได้คำตอบว่าสองคนนี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างไม่ต้องสงสัยในสายเลือดเลย

       เด็กตัวน้อยนี่เหมือนหมอปายขนาดย่อส่วนจะต่างก็แค่น้องมีดวงตาดูกลมโตและแก้มสีชมพูพองลม แต่โดยรวมแล้วเป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ ยิ่งผิวกายขาวสะอาดราวกับเป็นคุณหนูน้อยๆที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี เสียแต่ตอนนี้ทำหน้าเหยเกดูทั้งน่าขำและน่าเอ็นดู

       “ แล้วพี่ชายจะโกรธอะไร เอ่อน้อง”

        ผมหยุดไปเมื่อยังไม่รู้จักชื่อเด็กตัวขาวนี่เลย

        “ แล้วน้องชื่ออะไรเอ่ย”

        “ ปอ” ปากน้อยๆขยับอ้า “ ชื่อน้องปอ”

        “ โอเคน้องปอ พี่ชื่อยิมน้า”

        ดวงตาใสแจ๋วที่เคยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองตามนิ้วชี้ของผมที่ชี้เข้าหาตัว เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักต่างจากพี่ชายที่ทำเสียง “เหอะ” ตอนที่ผมทำเสียงเล็กเสียงน้อยเวลาพูดกับเด็กน้อย

        “ น้องปอ”

        “ ครับ”

        น้องรับคำอย่างน่าเอ็นดู น่ารักแบบนี้ทำไมหมอปายถึงใจร้ายไม่คิดจะดูดำดูดีแบบนี้ ผมลูบศีรษะทุยสวยที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีดำสนิทนุ่มมือ น้องเอียงหัวตามมือผมคล้ายกับกำลังออดอ้อนถ้าหากเป็นน้องของผมจริงๆผมคงจะรักตายเลย ขนาดเด็กแสบอย่างใยบัวมาอ้อนขออะไรทีผมนี่แทบจะทุ่มให้ทุกอย่าง

        น่าแปลกที่หมอปายดูชิงชังเด็กตาดำๆแบบนี้

        “ ไม่ร้องเนอะคนเก่ง”

        เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงักสูดน้ำมูกจนอดไม่ได้ที่จะล้วงผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดให้อย่างไม่รังเกียจ

        “ ดูซิเนี่ยร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว”

        “ แก้มก็บวม”

        คนที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น  เด็กตัวขาวอมลมจนแก้มพอง ผมเลยได้แต่ส่ายหน้าเมื่อหมอปายแกล้งเหน็บแก้มขาวที่อวบอูมน่าหยิก น้องซุกหน้าลงที่บ่าผมแต่แอบเหล่ตามองพี่ชายหน้ายักษ์ของตัวเอง ผมเลยค่อยๆวางน้องลงบนเตียงแต่เด็กนี่ยังเกาะแน่นไม่ยอมปล่อย

        “ ทำไมครับ”

        “ พี่ชายดุ” น้องปอซุกหน้าแนบไหล่ผมให้แน่นขึ้น “ พี่ชายโกรธน้อง”

        “ หืม”

        เด็กน้อยตัวสั่นเห็นแล้วได้แต่นึกโทษหมอปายที่ทำหน้าทำตาเบื่อโลกอยู่ได้

        “ หมอครับ”

        ผมเอ่ยปรามคนที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าตัวเองกำลังทำให้เด็กกลัวอยู่

        “ อะไร”

        “ ยิ้มหน่อยสิครับ”

        หมอทำหน้าหงิกทันที

        “ น้องปอดูสิ” ผมสะกิดไหล่น้องให้หันไปมอง “ เห็นยักษ์มั้ย ยักษ์มีเขี้ยว น่ากลั๊วน่ากลัว”

        ผมทำตัวสั่นจนเจ้าตัวเล็กขำคิกแต่หมอกลับทำหน้าบูดกว่าเดิมซ้ำยังชี้หน้าผมอย่างเอาเรื่อง

        “ สงสัยพี่หมอจะไม่สบายหน้าเลยบูด”

         ผมกระซิบกระซาบกับเด็กน้อย “ น้องปอยิ้มสิครับ ยิ้มเร็วพี่ชายจะได้หายหน้างอ”

         น้องปอว่าง่ายจริงๆบอกอะไรก็ทำหมดพอผมพูดจบน้องก็ยิ้มแฉ่งแววตากลมโตใสซื่อมองไปที่หมออย่างไร้เดียงสา หมอปายถอนหายใจแรงๆใบหน้าไม่บูดบึ้งแล้วแต่ก็ยังไม่ยิ้ม ก็ยังดีแค่นี้ก็ดีแล้วผมยักคิ้วให้หมอ ฝ่ายนั้นจึงใช้สายตาคู่คมจ้องกลับมาชวนให้หนาวสันหลังแปลกๆ

        สายตาของหมอพร้อมจะทิ่มแทงผมจริงๆให้ตายเถอะ

        “ ขออนุญาตนะคะ”

        ระหว่างที่เราจ้องกันอยู่สักพักพอดีพยาบาลสองคนเข็นรถเข็นเข้ามาพอดี

        “ ครับ”

        “ ขอฉีดยาคนเก่งหน่อยนะคะ”

         พอได้ยินว่าจะถูกฉีดยาเด็กในอ้อมกอดก็ตัวสั่นขึ้นทันที “ ไม่เอา...น้องเจ็บ”

         น้องเริ่มดิ้นจนผมต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ ทำไมครับถ้าไม่ฉีดน้องปอจะไม่หายนะ”

         “ ไม่เอา”

         “ นิดเดียวนะคนเก่ง”

         “ ฮึก”

         น้องเริ่มร้องไห้อีกครั้งตอนที่พยาบาลเริ่มเช็ดแอลกอฮอลทั้งๆที่นางฟ้าในชุดขาวต่างสรรหาคำพูดมาปลอบประโลมแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อน้องเริ่มดิ้นแรงขึ้น

        “ ปอ”

        เสียงทุ้มของหมอดังขึ้น ผมจึงเพิ่งรู้ตัวว่าหมอมาหยุดยืนข้างเตียงแล้ว น้องลดเสียงสะอื้นแล้วเบี่ยงหน้าไปหาหมอปายทันที มือน้อยๆคว้าชายเสื้อหมอเอาไว้

        “ เงียบซะ”

        น้ำเสียงติดจะดุถึงจะห้วนห้าว แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนมีอิทธิพลต่อจิตใจของเด็กชาย น้องปอเงียบเสียงสะอื้นซุกหน้าอยู่กับอกผม แต่มือน้อยๆกำชายเสื้อหมอเสียแน่น และน่าแปลกที่หมอก็ไม่ยักกะปัดออกตามที่ผมนึกกลัว ซ้ำยังขยับเข้าไปใกล้น้องมากขึ้น

        ผมขอถอนคำพูดว่าหมอปายใจร้าย ไม่จริงเลยผมรู้สึกว่าภายใต้ท่าทางเย็นชากลับมีความห่วงใยแอบแฝงอยู่ ภายใต้ท่าทางแข็งๆแบบนั้นกลับโคตรอ่อนโยนตอนที่มือหนาเอื้อมมาลูบหลังน้อง ตอนที่เข็มฉีดยาแทงเข้าเนื้ออ่อนตรงแขน

        น้องปอร้องไห้จ้าทันทีด้วยความเจ็บจนผมต้องจับขึ้นอุ้มแล้วเขย่าพาเดินไปรอบๆห้องหลังจากพยาบาลทั้งสองคนกลับออกไป ช่างน่าสงสาร ตัวก็เล็กซ้ำยังมาเจ็บป่วยแบบนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำไมช่างใจดำทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเช่นนี้ เพราะร้องไห้หนักบวกกับเพลียพอโดนจับฉีดยาไม่นานเด็กน้อยก็หลับคอพับคออ่อนจนต้องวางลงนอนดีๆบนเตียง

        เราสองคนนั่งมองเด็กน้อยเงียบๆสักพักผมจึงเหลือบตามองหมอที่นั่งเหม่อเงียบๆ

        “ อยากจะถามอะไรก็ถามมา”

        หมอเปิดปากพูดก่อนซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกำลังจะถามพอดี ผมเลยยิ้มเขินๆให้อีกฝ่ายที่รู้ทัน

         “ น้องปอนี่เป็นน้องชายของหมอจริงๆรึเปล่าครับ”

         “ คนละแม่” หมอถอนหายใจ

         “ แล้ว”

         “ ปอเป็นลูกของไอลดากับพ่อกู”

        ผมพยักหน้าเงียบๆพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง น้องชายต่างมารดาที่เกิดกับเพื่อนสาวคนสนิทหรืออดีตคนรักวะ

         “ กูกับไอไม่ได้เป็นอะไรกัน”

        หมอพูดเสียงเรียบหรี่ตามองผมเหมือนกำลังเดาความคิดเห็นผมได้

        “ ผมยังไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย”

        “ หน้ามึงบอก” หมอทำเสียงเข้ม “ อย่าให้กูรู้ว่ามึงคิด เพราะกูเคยบอกแล้วว่ากูกับไอไม่ได้เป็นอะไรกัน”

        “ แล้วทำไมแม่เลี้ยงหมอถึง ‘อยาก’ ได้หมอขนาดนี้ล่ะ”

         หมอทำหน้าไม่ถูกเมื่อผมเน้นคำว่า‘อยาก’ จนหมอชักสีหน้า

        “ พูดดีๆ”

        ผมยกมือทั้งสองขึ้นเหมือนยอมแล้ว

         “ ไอเป็นเพื่อนกูมาก่อน”

         “ หมอเคยบอกผมแล้ว”

        หมอถอนหายใจ “ หลังจากที่แม่กูเสียไม่นาน พ่อก็พาไอลดาเข้าบ้านเพราะเธอท้องมันน่าตกใจไม่น้อยที่จากสถานะเพื่อนจะกลายมาเป็นแม่เลี้ยง”

        “ ผมว่าคุณไอลดาเขาชอบหมอมาก่อน แต่คงมีความผิดพลาดอะไรบางอย่างที่ทำให้จากอยากได้ลูกมาได้พ่อแทน” ผมวิเคราะห์

        “ กูไม่รู้”

        “ ผมถามจริงๆเถอะพ่อหมอรู้รึเปล่าว่าภรรยาตัวเองชอบหมอมาก่อน”

        หมอส่ายหน้าปฏิเสธ “ ก่อนหน้านี้ไอไม่เคยแสดงออกว่าชอบกูด้วยซ้ำจะแปลกไปก็ตอนที่เขาเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงนี่แหละ”

         “ น่าสงสัยทำไมตอนที่เป็นเพื่อนกันเขาถึงไม่บอกว่าชอบหมอ”

        หมอถอนหายใจเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแววตาคู่คมดูเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก อาการที่แปลกไปของหมอทำให้ผมนึกเอะใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องให้หมอคลายสีหน้าเคร่งเครียดนั่น

         “ เพราะอย่างงี้รึเปล่าหมอถึงตั้งแง่รังเกียจน้องปอนัก”

         หมอส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง “ เพราะมันทำให้ตัวหารสมบัติเพิ่มขึ้นต่างหาก”

         หมอตอบหน้าตายถึงปากจะบอกว่าเกลียดชังแต่ผมแอบเห็นว่าหมอไปขยับผ้าห่มคลุมให้น้องอย่างอ่อนโยน ผมอมยิ้มมองคนปากแข็งนิ่งๆ สงสัยจะมองนานไปหน่อยหมอถึงตวัดสายตามองผมเขม่งด้วยท่าทางเอาเรื่อง ผมเลยได้แต่ยิ้มๆก่อนยักไหล่

        “  อะไร”

        “ แน่ใจเหรอครับว่าหมอไม่ชอบน้องจริงๆ” หมอชะงักมือที่กำลังขยับผ้าห่มนิ่ง

        “ กลับไปเลย”

        หมอชี้นิ้วไปที่ประตู “ดึกแล้ว...มึงกลับไปได้แล้ว”

         “ แล้วหมอล่ะครับ”

         “ กูจะนอนนี่”

         “ งั้นผมนอนด้วย”

         หมอทำหน้าระอาที่ไล่แล้วผมไม่กลับสักที หมอเลยเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ใกล้เคาน์เตอร์ซึ่งถูกแบ่งโซนเป็นห้องครัวและห้องนั่งเล่น ช่วงสะดวกสบายสมเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังจริงๆ ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทุกอย่างแบบนี้

         ผ่านไปสักพักจนผมเข้าใจว่าหมอหลับไปแล้ว เสียงสะอื้นคล้ายละเมอของเด็กน้อยก็ดังขึ้น ผมเตรียมขยับลุกพอดีเห็นเงาใครบางคนในความมืดขยับตัวอย่างเร็วตรงไปยังเตียง


        “ ชูร์”

        เสียงทุ้มดังขึ้น “ เงียบซะ...อย่าร้อง”

       แม้ในความมืดผมก็รู้ว่าเป็นหมอปาย เงาดำๆนั้นโน้มใบหน้าลงไปใกล้เด็กน้อย แสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาเห็นมือคู่นั้นลูบศีรษะน้องเบาๆ ซ้ำยังกระซิบเสียงนุ่มด้วยถ้อยคำปลอบประโลม

       ...ภาพนั้นทำให้ผมรู้ว่าหมอเป็นคนเย็นชาที่โคตรอ่อนโยน เป็นคนแข็งกระด้างที่โคตรอบอุ่น...


        ผมนอนมองภาพนั้นเพลินไปหน่อยจึงทำให้หมอปายรู้ตัวจนหันมามอง ผมเลยจำต้องผุดลุกขึ้น


       “ หมอ”

       “ อะไร”

       “ เด็กก็เหมือนผ้าขาว เขาบริสุทธิ์เกินกว่าจะรู้เรื่องสกปรกของผู้ใหญ่ ใครจะแต่งแต้มอะไรใส่ให้เขาก็รับรู้อย่างไร้เดียงสา หมอจะโกรธจะเกลียดใครแล้วมาลงที่น้องผมว่ามันไม่ยุติธรรม ถ้าหมอจะสังเกตสักนิดหมอคงรู้ว่าน้องปอเขารักพี่ชายตัวเองมากแค่ไหน”

       “ มึงจะพูดอะไร”

       “ ถ้ารักหรือรู้สึกดีกับใคร หมอแสดงออกบ้างก็ได้นะครับ บางทีคนที่รอคอยอยู่เขาคงจะดีใจ”

       “ อืม”

        หมอเงียบไปนานก่อนจะรับคำแล้วล้มตัวลงนอน

       “ เพราะผมเองก็เป็นคนนึงที่รอคอยหมออยู่เหมือนกัน”
ผมยิ้มกว้างๆเมื่อสังเกตว่าใบหน้าหมอขยับนิดๆ ซึ่งผมขอเข้างตัวเองแล้วกันว่าหมอกำลังยิ้มเช่นเดียวกับผม


        “ ถ้ามึงไม่เหนื่อยที่จะรอ อีกไม่นานหรอกความหวังมึงจะเป็นจริง”

         ฉิบหายผมแม่งยิ้มจนปวดแก้มเลยว่ะ








มาแล้วๆ ตอนนี้มีความเอ็นดูน้องปอของพี่ปาย เด็กตัวขาวของพี่  :-[
รอดูกลเม็ดการหยอดของนังยิมที่เข้มข้นขึ้นทุกตอน ฮ่าๆๆๆ ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวค่ะเก็บกระเป๋ารอเลย
#หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจสำหรับคนเขียนนะคะ #หนึ่งเม้นท์หนึ่งหัวใจ  :hao5: :hao5: :hao5:

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 23-09-2016 20:31:59
ชอบตอนนี้มันดีกะใจ น้องปอน่ารัก(คงไม่ได้แม่)^o^
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-09-2016 20:33:51
คือหมอปายน่ารักอ่ะ ว้ายๆๆๆๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 23-09-2016 20:53:09
น้องปอน่ารักและน่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 23-09-2016 21:46:20
น้องปอกี่ขวบบบบ
ฮื่ออออ น่ารักมากกกก
น่าเอ็นดู พี่หมอเอาน้องมาเลียงด้วยจิ
อยากเห็นน้อง ฮ่าาาาาาาาาาาาา
มีความหลงเด็ก

ส่วยอิพี่ยิมก็หยอดหมออยู่นั่น รออีกไม่นานละนะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 23-09-2016 22:13:36
ยิมเอ๊ยยิ้มมากๆระวังปากฉีกถึงรู้หูนะเฮ้ย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 23-09-2016 22:15:46
ร้ายนะหมอ มีความอ่อยให้รอด้วย :m19:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-09-2016 22:19:04
หมอปายน่ารัก  :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 23-09-2016 22:35:38
รู้สึกเอ็นดูน้องปอจังงง :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-09-2016 23:23:38
นึกว่าน้องปอเป็นลูกหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 23-09-2016 23:24:23
หมอปายน่ารัก

ยิมก็น่ารัก,,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-09-2016 00:44:58
แบบนี้ก็แสดงว่าพ่อหมอปายมีชู้ตั้งแต่แม่หมอปายยังไม่ตายซินะ และเราก็อยากรู้จริงว่าถ้าพ่อหมอปายรู้ว่าเมียตัวเองมาให้ท่าลูกชายจะทำยังไง จะโกรธเมียหรือลูกชายกันแน่นะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-09-2016 01:04:54
เราจะนั่งรอหมอเป็นเพื่อนอิยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 24-09-2016 02:22:43
ยิมนี่มีแววคุณแม่สูงเลยนะ 555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-09-2016 02:29:12
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 24-09-2016 16:38:29
น้องปอน่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-09-2016 22:20:34
รอด้วยความหวังเนาะยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-09-2016 01:23:03
อ่านทันแล้ว

ชอบมากๆ

ขอติดตามอ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 25-09-2016 18:53:29
ยิมแกหื่นออกนอกหน้ามากไปนะ มีมือล่งมือลั่น ทีหลังลั่นลงข้างล่างนะ  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 15: คนที่รอคอย »» [23/9/59] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 26-09-2016 20:21:59



       หลงที่ 16 : ทะเล





         [หมอปาย]


         “ ฮ่าๆๆ”

        เสียงหัวเราะของคนในห้องดังลั่นทันทีตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องชุดคอนโดของตัวเอง ด้วยความสงสัยผมจึงค่อยๆสาวเท้าเข้าไปยังที่มาของเสียงทันได้เห็นไอ้เด็กข้างห้องที่วันนี้ทำตัวเป็นเด็กโข่งเพราะนำทีมเป็นหัวหน้าโจกพาเด็กตัวขาวอีกคนเล่นกันอะไรกันก็ไม่รู้ เห็นผุดลุกผุดนั่งอยู่หลายรอบก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะร่วนราวกับว่าสนุกสนานเสียเต็มประดา

        ผมคลึงขมับมองภาพตรงหน้าแล้วนึกเวียนหัว สาเหตุที่ทั้งสองมาอยู่ห้องผมได้ก็เพราะว่าหลังจากที่เมื่อวานก่อนผมไปเยี่ยมน้องชายต่างมารดาที่โรงพยาบาลจนได้มีโอกาสเฝ้าไข้ทั้งคืนมันทำให้ผมเปลี่ยนแปลงความคิดบางอย่าง หากเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่นึกพิศวาสหรืออยากเข้าใกล้น้องชายที่มีสายเลือดเดียวกันเพียงครึ่งเดียว นั่นเพราะทุกๆครั้งที่เห็นหน้า ‘ปอ’ มันทำให้ผมนึกถึงมารดาผู้ล่วงลับ

        มันเป็นความรู้สึกทรมานเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ผมสูญเสียผู้หญิงที่รักที่สุดไปไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำที่บิดาพาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้านที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือผู้หญิงคนนั้นดันเป็นเพื่อนของผมซ้ำเธอยังอุ้มท้องลูกชายคนใหม่ให้พ่อ

        ในตอนนั้นผมโกรธพ่อจนถึงขนาดที่เราไม่พูดกัน ผมเสียใจที่พ่อพาผู้หญิงคนใหม่มาแทนที่แม่ของผมได้เร็วจนน่าตกใจ ยิ่งกว่านั้น ‘ไอลดา’ ซึ่งอุ้มท้องอยู่ดันแสดงท่าทีกับผมในเชิงชู้สาว มันเลยทำให้ผมทั้งเกลียดและขยะแขยงเธอรวมไปถึงเด็กในท้องด้วย


        เด็กชาย “ปรมินทร์” หรือ “น้องปอ” เกิดมาท่ามกลางความรักความเอาใจใส่ของบิดา ต่างจากผมที่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพ่อผู้ให้กำเนิด เพราะผมทำทุกอย่างที่บิดาสั่งห้ามเรียกได้ว่าถ้าหากบิดาสั่งให้ไปทางซ้ายผมจะไปทางขวาทันที จนถึงวันหนึ่งที่ความอดทนของแต่ละฝ่ายสิ้นสุด พวกเราระเบิดอารมณ์ใส่กันอย่างรุนแรงผมพลั้งปากในสิ่งที่สงสัยมาตลอดว่าบิดาอาจจะมีส่วนในอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตแม่ของผม พ่อโกรธจัดถึงขนาดลงมือกับผมด้วยการตบหน้า ผมจึงก้าวออกจากบ้านหลังนั้นโดยไม่คิดจะหันกลับไปท่ามกลางคนไม่พอใจของบิดา


        ประมุขของบ้านตัดขาดความช่วยเหลือผมแทบทุกอย่างในปีแรกๆเพื่อให้ผมซมซานกลับบ้าน แต่เคราะห์ยังดีที่ผมมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งของแม่ในธนาคารที่แม่ฝากไว้ให้ตั้งแต่เกิดทำให้ผมใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้ไม่ลำบากนัก ถึงแม้หลังๆมาบิดาจะนำเอาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่บิดาจัดหามาให้โดยผ่านคนกลางอย่างลุงหาญมือขวาของพ่อ

        แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ของผมกับบิดาก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่  ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายต่างมารดาซึ่งวนเวียนอยู่ใกล้ผมตลอด พอรู้ความแล้วเจ้าเด็กนั่นดันรู้สึกรักและอย่างเข้าใกล้ผมอย่างประหลาด วันเกิดของเด็กนั่นทุกปีเจ้านั่นมักโยเยกับทุกคนเพื่อมาฉลองวันเกิดกับผม ทั้งๆที่ผมกับปอเราแทบไม่ได้ใกล้ชิดกันเรียกได้ว่าห่างเหินด้วยซ้ำ แต่ทำไมไม่รู้เด็กตัวขาวที่ผมสร้างกำแพงในใจดันนึกพิศวาสผมนัก ทั้งๆที่ถูกผมตั้งแง่รังเกียจแต่เจ้านั่นกลับอยากเข้าใกล้ผม

       ยิ่งถูกผลักไสน้องชายต่างมารดายิ่งอยากเข้าใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ

       ความใสซื่อไร้เดียงสานั่นค่อยๆทลายกำแพงที่ผมสร้างขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งได้ยินในสิ่งที่ไอ้เด็กข้างห้องพูดกับผมเมื่อวันก่อน ‘เขายังบริสุทธิ์เกินกว่าจะรู้เรื่องสกปรกของผู้ใหญ่’

       ใช่ ปอยังเด็กเกินกว่าจะรับรู้เรื่องของผู้ใหญ่และมันใจร้ายเกินไปถ้าผมจะผลักไสเด็กนั่นเหมือนที่แล้วมา

       สุดท้ายผมก็เผลอใจอ่อนยอมให้น้องชายต่างมารดาก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวแบบนี้ ผมถอนหายใจนึกถึงเมื่อวานที่ปอมีอาการดีขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วลุงหาญจึงเอ่ยขอร้องให้ผมรับเอาเด็กนั่นมาดูแลชั่วคราวระหว่างที่พ่อกับแม่ไปกันคนละทิศละทางแบบนี้ ครันจะให้กลับบ้านที่นั่นก็มีแค่ลุงหาญกับแม่บ้าน หากเกิดงอแงเอาแต่ใจขึ้นมาคนเหล่านั้นคงจะรับมือยาก

       สุดท้ายเลยต้องเลยตามเลย แล้วก็ช่างบังเอิญพอพามาอยู่ด้วยกันเข้าคู่กับไอ้เด็กโข่งข้างห้องนี่เหลือเกิน ดูซิพากันเล่นอะไรก็ไม่รู้น่าเวียนหัวฉิบหาย

       “ พี่ชาย”

       ผมกระพริบตาปริบๆก้มมองเด็กตัวน้อยที่สูงเลยเข่าเขามานิดเดียว มือน้อยๆสองข้างกำลังประคองแก้วน้ำอย่างระมัดระวัง แววตากลมโตกำลังออดอ้อนให้ผมขยับเข้าไปใกล้

       “ อะไร”

       “ น้องเอาน้ำมาให้พี่ชาย”

        ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเหลือบตามองไปยังตัวต้นคิดยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์อยู่โน้น ไม่รู้สั่งสอนอะไรเด็กซื่ออย่างปอถึงได้วิ่งตุบตับมาพร้อมกับแก้วน้ำมือเสมือนต้อนรับผมกลับมา

        “ พี่ชาย”

       มือเล็กกระตุกขากางเกงผมอีกรอบ เลยต้องจำใจย่อตัวไปรับน้ำเย็นฉ่ำจากมือคู่นั้น

        “ ขอบใจ”

        ปอยิ้มแก้มปริ่มก่อนจะร้องไชโยอย่างดีใจแล้วไปกอดไอ้ตัวต้นคิด พร้อมแท็คมือกันอย่างสนุกสนาน ผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะทำอะไร จึงเดินเลี่ยงไปยังโซนครัวซึ่งถูกเตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้วคงไม่พ้นฝีมือสองคนนั้น ทั้งๆที่รู้จักกันได้แค่วันสองวันแต่ดูเหมือนคู่หูต่างวัยนี่จะสนิทกันกว่าสายเลือดเดียวกันแบบผมซะอีก

       “ ทะเล ทะเล้ ทะเล”

      ...หืม...

        “ ทะเลจ๋า”

        “.......”

        “ โอ้ทะเลแสนงาม”

        คราวนี้มาเป็นเพลงผมเลยหรี่ตามองต้นกำเนิดเสียงที่ครางหงุงหงิงเดินวนไปมารอบตัว และเหมือนว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวแล้วว่าผมมองอยู่ศีรษะทุยสวยจึงเงยขึ้นพร้อมกับยิ้มแฉ่ง ก่อนจะโผมากอดขาผมอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ

        “ ทำอะไรปอ”

        แววตาใสแจ๋วสบตาผมนิ่ง จนได้แต่ถอนหายใจเพราะผมเพิ่งรู้ความจริงว่าไอ้เด็กนี่อ้อนเก่งขนาดไหน โดยเฉพาะมันรู้ว่าถ้าผมสบตาเมื่อไหร่ผมมักจะใจอ่อนยอบอย่างประหลาด

       “ จะขออะไร”

       ใบหน้าขาวฉีกยิ้มทันที แสดงว่าที่ทำดีกับผมก่อนหน้านี้หวังผลสินะ

       “ ทะเล”

       “ อะไรนะ”

       “ น้องอยากไปทะเล”

        นั่นไงเล่นมาอ้อนขนาดนี้คงอยากได้อะไรสักอย่างจริงๆเหมือนที่ผมคาดเดาเอาไว้ไม่มีผิด

       “ ฉันไม่ว่าง”

       “......”

       ใบหน้าขาวเหยเก แววตากลมโตหรุบลงดูน่าสงสารทั้งริมฝีปากยังเบะกว้างราวกับว่าจะปล่อยเสียงโฮเสียเดี๋ยวนี้ ผมถอนหายใจแรงๆกับปฏิกิริยาแสนงอนแบบนี้เพราะชักจะเริ่มชินเสียแล้ว และพอผมทำไม่สนใจคราวนี้เจ้าของศีรษะทุยสวยก็โผเข้าซุกที่อกซ้ำยังขยับไถหัวไปมาอย่างออดอ้อนสุดชีวิต

       ...มารยา...

       ผมหรี่ตามองต้นฉบับเจ้ามารยาที่ทำเป็นนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่โซฟาโน่น แล้วผมก็เห็นริมฝีปากมันขยับยิ้ม นี่คงสอนกันมาสินะ

      หึ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก และนึกแปลกใจตัวเองที่ยิ้มง่ายกับเรื่องแบบนี้

       “ ปอ”

       “ ไปทะเล”

       คราวนี้เล่นปืนขึ้นตัวผมมือทั้งสองข้างรัดคอผมแน่น ซ้ำขายังเกี่ยวเอวผมเอาไว้เรียกได้ว่าเกาะไม่ปล่อยแน่นอน ครันจะลุกหนีก็กลัวเจ้านี่จะตกจึงจำใจโอบอุ้มเอาไว้

       ...เจ้าเล่ห์นักไอ้เด็กนี่...

        “ ฮ่าๆ”

        ผมตวัดมองไปยังต้นกำเนิดเสียงที่ขยับปากหัวเราะอย่างขบขัน ผมเลยชี้นิ้วใส่มันอย่างคาดโทษ แต่ก็ไม่ถนัดนักเมื่อเจ้าเด็กนี่เล่นเกาะหนึบขนาดนี้ หากเป็นเมื่อก่อนผมคงตวาดลั่นแล้วไล่ตัวป่วนนี่ให้กลัวจนหัวหด แต่นี่อะไรแค่ได้ดูแลกันวันสองวันทำไมผมถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้

       ความเดียงสานี่ทลายกำแพงที่แข็งแรงได้จริงๆเหรอ

       “ พี่ชาย” ปอกระซิบข้างหูผมคล้ายกำลังกล่อมอะไรสักอย่าง “น้องอยากไปทะเล ทะเลมีหาดสวย มีคุณปูด้วย น้องอยากไปจับคุณปู”

       “ แล้วไง”

       “ ทะเลสวย”

       แล้วก็ทำตาปริบๆได้อย่างน่ารักน่าชัง

        “ แล้วถ้าไม่ได้ไปล่ะ”

        “ น้องเสียใจ”

        คราวนี้ทำหน้าเบ้ “ ทะเลสวยนะพี่ชาย” แล้วเอาหน้าผากมาสีไหล่ผมอีกที

        จริงๆน้าไอ้เด็กนี่ ผมถอนหายใจแรงๆรู้สึกว่าเด็กนี่ชักจะรับมือยากขึ้นทุกวัน ‘ เด็กบ้านี่อะไรจะอ้อนเก่งขนาดนี้วะ ให้ตายเถอะ’

        “ พี่ชาย” ปอทำเสียงอ่อย

        “ เฮ้ย”

        “ น้องอยากไปทะเล”

        ผมถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้

        “ อยากไปทะเล” กระซิบข้างหูผมอีกครั้ง

        “ โอเคไปทะเล” สุดท้ายก็รับคำไปอย่างเผลอไผล

        คราวนี้ไอ้เด็กข้างห้องหัวเราะดังลั่น “ หมอแพ้เด็กแล้วครับ”

        “ เออ”

        ผมสบถเมื่อเด็กขี้อ้อนไถลลงจากตัวผมแล้ววิ่งปรู๊ดไปหาคู่หูต่างวัยแล้วพากันชี้ชวนดูที่พักในจอแท็ปเล็ตราวกับว่าตระเตรียมกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


        ...นี่ผมเสียรู้เด็กพวกนี้เหรอวะ ให้ตายเถอะ...



       .

       .


        “ กลับห้องมึงไปเลย”

        ผมชี้นิ้วไล่ไอ้ยิมกลับห้องมันไปหลังจากจำใจตกลงกับเด็กน้อยว่าจะไปทะเลกันพรุ่งนี้ซึ่งตรงกับช่วงเสาร์อาทิตย์ซ้ำวันจันทร์ยังเป็นวันหยุดชดเชยตามเทศกาล พอได้ยินคำตอบน่าสนใจตัวป่วนก็ทำตัวดีทันทีคือหลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้วก็วิ่งตุบตับไปอาบน้ำเองดีว่าปอถูกสอนให้ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงแม้รอบกายจะพรั่งพร้อมไปด้วยบริวารมากมาย แต่เด็กนี่ยังเรียนรู้ที่จะทำอะไรด้วยตัวเองยกเว้นแต่ตอนที่งอแงเท่านั้นที่จะเอาแต่ใจเพราะมีแต่คนที่ตามใจตลอดเวลา

         “ หมอ”

        คราวนี้เป็นเด็กโข่งที่ทำหน้าออดอ้อนบ้าง แต่มันไม่ได้น่ารักน่าชังเหมือนปอซ้ำยังทำเอาขนลุกแปลกๆสิ่งที่มันทำไม่ได้น่าเกลียดอะไรตรงกันข้ามมันดูดีมาก ดูดีเกินไปพาลให้หัวใจผมพยศเจ้าของมันแบบนี้ หากว่ามันไปทำหน้าตาออดอ้อนสาวๆขี้คร้านผู้หญิงคงติดกันเป็นพรวน ผมไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าคนอย่างไอ้ยิมมันเป็นผู้ชายดูดีถ้าจะพูดให้ถูกมันคงหล่อแบบพิมพ์นิยมสาวๆ เพราะบุคลิกที่ดูสดใสขี้เล่นบางทีก็กวนตีนทำให้กลายเป็นอีกคนที่น่าสนใจ

        มันเป็นผู้ชายที่มีหลากหลายบุคลิกในตัว มีหลายด้านที่น่าประหลาดใจ เป็นผู้ชายยียวนกวนตีนเมื่ออยู่กับผม บางทีก็เจ้าเล่ห์และตรงไปตรงมาจนคาดไม่ถึง พออยู่กับปอกลับเป็นผู้ชายที่อบอุ่นดูเหมือนพี่ชายใจดี เดาได้ไม่ยากว่าน้องบัวคงโชคดีไม่น้อยที่มีพี่ชายอย่างมัน

        “ หมอครับ”

        “ กลับห้องไป”

        “ครับ”

        มันยิ้มๆแล้วทำเนียนเดินเข้าห้องนอนของผมไปเฉย

        “ ไอ้ยิม” มันยิ้มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้โคตรกวนตีน

        “ ห้องมึงไม่ใช่ห้องนอนกู”

        ผมชี้นิ้วไปที่ประตูทางออก

        “ อะไรนะ” มันทำเสียงเหมือนคุยกับใครบางคน “ อ๋อ ให้พี่ยิมแต่งตัวให้เหรอครับ”

        ผมทำหน้างง

        “ ได้สิครับ เดี๋ยวพี่ยิมเข้าไปช่วยน้า” มันหันมาขยิบตาให้ผมก่อนเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องนอนผมเฉย ปล่อยให้ผมยืนอ้าปากค้างในความเนียนของมัน เพราะก่อนหน้านี้ผมยังไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากที่มันพูดเองเออเอง

        ...ไอ้ตอแหล...

        ผมได้แต่นึกเข่นเขี้ยวในใจ




**************************************************





         [ยิม]


         ผมพยายามกลั้นขำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของหมอเพราะน้องปอที่ถูกปลุกให้ลุกแต่เช้าดันงอแงเพราะความง่วงกว่าจะพาไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อยซ้ำยังหลับคอพับคออ่อนเกาะหมอปายจนแน่นไม่ปล่อย สุดท้ายผมเลยต้องทำหน้าที่เป็นสารถีไปโดยปริยาย หมอทำหน้าหงิกเมื่อเห็นผมทำหน้ายิ้มมาตั้งแต่เช้ามันจะแปลกอะไรถ้าหากผมจะยิ้มเพราะมีความสุข...ความสุขที่เกิดจากหมอ...

        หมอปายคงไม่รู้ว่านับวันเขาจะเข้ามายึดพื้นที่ในหัวใจผมมากขึ้น มากเกินกว่าคำว่าชอบไปไกลแล้ว หลังจากผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดจากการเปลี่ยนสถานะจากคนรักเป็นแค่เพื่อนกัน นัตตี้โทรหาผมสองครั้งพร้อมกับคำขอโทษเช่นเดิม แต่ผมไม่ได้ติดใจอะไรอีกแล้ว ผมพร้อมที่จะให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่างซ้ำยังนึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ผมเจอกับหมอ

        เพียงไม่นานที่รู้จักกันผมกลับรู้สึกว่าผมรู้จักหมอมานานแล้ว ยิ่งได้รู้ว่าภายใต้ใบหน้าเฉยชากลับซ่อนความอบอุ่นไว้มากมาย ผมอิจฉาไม่น้อยที่ปอได้รับความอบอุ่นที่หมอมอบให้ถึงแม้หมอจะดูเย็นชาและเว้นระยะห่างกับน้องชายต่างมารดา แต่แววตาคู่นั้นกลับดูห่วงใย ผมเคยบอกแล้วว่าหมอเป็นผู้ชายที่มีรอยยิ้มและดวงตาสวย เป็นผู้ชายโครงหน้าเรียวบางมุมดูหล่อเหลาน่าค้นหา อีกมุมก็ดูสวยงามอย่างประหลาด ดังนั้นเวลาที่หมอยิ้มทั้งปากทั้งตามันอดทำให้ผมยิ้มตามทุกที

        หมอรู้มั้ยว่าหมอเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก


       “ หมอ”

       “อะไร”

       “ หมอรู้ตัวมั้ยว่าหมอยิ้มสวย”

       หมอรีบหุบยิ้มทันที แต่ไม่ทันเสียแล้วในเมื่อผมเห็นหมอยิ้มให้ปอที่หลับตาพริ้มในอ้อมกอดหมอ

       “ ยิ้มบ่อยๆสิครับ”

       “ พูดบ้าอะไร” หมอพยายามเปลี่ยนเรื่องมองออกไปนอกหน้าต่าง

       “ ผมหวงนะ” ผมพูดยิ้มๆ “ หมออย่ายิ้มแบบนี้กับใครอีกนะ”

       “ เรื่องของกู”

       “ ครับ”

       ผมขยิบตาให้ “ สักวันหนึ่งจะทำให้มันเป็นเรื่องของเรา”

       “ พูดมากมึงขับรถตาก็มองไปถนนโน้น”

        ผมหัวเราะร่วน

       “ หมอ”

       “ อะไรอีก”

       “ ผมขอจีบหมอนะ”

        ผมเหลือบตามองหมอที่นิ่งเงียบไปนานจนได้ยินแต่เสียงแอร์ดังหึ่งๆ



        “ แล้วที่ผ่านมามึงไม่ได้จีบรึยังไง”


        ...เชี่ย...

       ผมเหยียบเบรกกะทันหัน หมอร้องโวยวายทำเอาน้องปอตื่นแต่ยังงัวเงียเลยทำท่าจะหลับต่อ ผมพึมพำขอโทษก่อนยิ้มระรื่นทั้งที่โดนหมอด่าเสียงดังลั่น

       ผมฮัมเพลงไปเรื่อยโดยมีสายตาของหมอปายมองปรามๆ เมื่อสุดท้ายห้ามผมไม่ได้หมอเลยสะบัดหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างรถ

        “หมอ”

        “......”

        “ ผมถือว่าหมอรับรู้แล้วว่าผมจะจีบหมอ”

        “ เหอะ”

        หมอทำเสียงในลำคอ

        “ เตรียมใจให้ดีนะหมอ” หมอเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ ครั้งนี้ผมเอาจริง”

        ผมขยิบตาให้หมอ

        น่าแปลกที่ครั้งนี้หมอไม่ยักกะตอบโต้นอกจากหันไปยิ้มให้กับกระจกข้างรถ

         ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ชนะในการแข่งขันวิ่งยังไงไม่รู้

        ...รู้สึกดีเป็นบ้า...








ฮิ้วๆๆๆๆๆๆ หลงกาว(น์)มั้ยล่ะตอนนี้ 55555++++
มีความเอ็นดูน้องปอของพี่ปาย ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูแบบเน้คะเด็กน้อย :-[
ปล1.ขอแจ้งข่าวว่าจะงดอัพหนึ่งอาทิตย์เนื่องจากติดซ้อมรับปริญญาค่ะ ใครว่างๆไปเจอกันที่จุฬาฯได้น้า ^^
ปล2.เจอกันตอนหน้าวันจันทร์หน้านะจ๊ะ
ปล3.อ่านแล้วเม้นท์ด้วยน้า หนึ่งความคิดเห็นคิดเห็นกำลังใจให้นักเขียนจ้า

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 26-09-2016 20:58:56
สั้นจุงงงง ยังไม่หายคิดถึงหมอปาย พี่ยิม น้องปอเบยยยย :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-09-2016 21:08:03
น้องปอน่ารัก น้องยิมก็น่ารัก....เนอะพี่หมอ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 26-09-2016 21:13:18
ฮิ้ว~ หลงกาว(น์)หัวปักหัวปำเลยค้าบบบบ น้องปอก็น่ารักขอฟัดซักกะทีเหอะ หมั่นเขี้ยว :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 26-09-2016 21:21:37
หลงกาวน์นี่ไม่น่าจะหลงแค่ยิมนะ
น้องปอก็ดูหลงเหมือนกัน พี่ชายย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-09-2016 21:38:07
โหยยยย มีความอบอุ่น น่ารักจังเวลาน้องปออ้อน คึคึ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-09-2016 22:28:20
มีความเป็น พ่อ แม่ ลูก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 26-09-2016 23:32:47
ครอบครัวสุขสันต์,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-09-2016 00:01:47
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 27-09-2016 00:24:34
น้องปอน่ารักจัง ยิมสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-09-2016 01:56:06
แล้วที่ว่าหมอปายระเบิดอารมณ์ใส่พ่ออ่ะ มีพูดเรื่องที่นางเป็นเพื่อนด้วยหรือเปล่า แล้วมีบอกด้วยมั้ยว่านางอ่ะเคยตามจีบน่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 27-09-2016 07:32:23
หลงนิยายเรื่องนี้มาก :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 27-09-2016 11:35:53
#ทีมหมอปาย# รอทะเลหวานตอนหน้านะ :z2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-09-2016 13:18:34
พี่หมอแพ้ของน่ารักใช่ม่ะ ถึงยอมลงให้ทั้งยิมทั้งปอแบบนี้ หุๆๆๆ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-09-2016 14:36:09
หมอปายแพ้ทางให้กับความขี้อ้อนสินะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 27-09-2016 15:13:32
น้องปอน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 27-09-2016 17:36:33
หมอนี่ใจอ่อนไปเยอะแล้ว 555 รอโดนจีบอย่างเป็นทางการ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 27-09-2016 23:33:36
 :-[ เลือกมะถูก หมอปายก็ดี ยิมก็ได้ ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 28-09-2016 11:00:31
 :hao7: :hao7: :hao7: รอน๊าาาาา:กอด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-09-2016 19:34:18
ขอมาตามอ่านก่อน

มาลงตอนไหน

ทำไมเพิ่งเห็น
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-09-2016 20:15:08
ยิมหลงหมอปายนี่เอง

ที่มาของชื่อเรื่อง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: blankmkmejj ที่ 29-09-2016 22:21:35
หมอปายคราวนี้้ยิมเอาจริง หมอก็ให้ยิมเอาจริงไปเลย :hao6: ปล.น้องปอน่ารักเว่อร์ ไม่เจอตั้งอาทิตย์คิดึงแย่เลย ไรเตอร์สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 30-09-2016 11:13:52
 :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 30-09-2016 21:27:39
โอ้ยยย หมอแพ้ลูกอ้อนอะไรเบอร์นี้คะ
น้องปอน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-10-2016 10:54:23
หมอน่ารัก จิตใจอ่อนไหว
ยิมช่วยหมอได้มากเลย ครอบครัวช่วยได้จริงๆ ยิมมีความอบอุ่น ปลื้มมม

เป็นคู่กันแล้ว ยังไงก็ไม่พลาดหรอกเนาะ ดีแล้วที่ทุกอย่างชัดเจนสักที
ยิมก็ไม่ต้องเป็นคนซื่อ ที่รู้สึกผิด ปายก็อยู่ที่เดิมรอ

อยากเห็นฉากหวาน น้ำทะเลยังอายแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 02-10-2016 20:59:01
น่าสนใจ ตามๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Bangzazazall ที่ 03-10-2016 11:33:31
จากที่น้องสังเกตการณ์แล้ว ดูท่ามีแนวโน้ม ยิมปาย สูงมากข่ะ! พี่หมอปายต้องเป็นฝ่ายพลิกกลับมาให้ได้น้าาาา น้องปอน่ารักมาก555555 สู้ๆนะคะไรท์ ติดตามอยู่จ้า  :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 16: ทะเล »» [26/9/59] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 03-10-2016 20:01:16






           หลงที่ 17 : จูบ

           [ยิม] 50 %





         “ น้องชอบ”

        ปอทำหน้ายิ้มแฉ่งเลียขนมสายไหมท่าทางเอร็ดอร่อย ใบหน้าขาวเต็มไปด้วยเหงื่อเพราะอากาศที่ร้อนแต่แววตายังร่าเริงสดใส ตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯผมก็พาแวะตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆตามรายทางก่อนจะถึงจุดมุ่งหมายคือชะอำ และก่อนจะถึงรีสอร์ทที่พักเลยพาหมอกับน้องปอแวะทานอาหารเช้าก่อน ซึ่งก็ดูเหมือนเป็นที่ถูกอกถูกใจสองพี่น้องคู่นี้พอสมควร

        น้องปอร่าเริงเป็นพิเศษวิ่งวนไปรอบตลอดจนบรรดานักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าต่างให้ความเอ็นดู ทั้งที่เหงื่อท่วมตัวแต่ยังยิ้มแฉ่ง ก่อนหน้านี้ผมน้องปอที่ยาวดูน่ารำคาญจนคนเป็นพี่ต้องหายางมามัดเป็นจุกข้างหน้าชูขึ้นเป็นทรงน้ำพุ เวลาขยับศีรษะที่จึงเด้งไปมาจนน่าดีด


         สภาพหมอตอนนี้เหมือนพ่อลูกอ่อนเพราะมีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ พาดบ่าเอาไว้คอยซับเหงื่อให้น้องที่ดูเป็นคนขี้ร้อนมากเดินได้ไม่ถึงชั่วโมงเหงื่อจึงท่วมตัวได้ขนาดนี้

        “ ปอมาเช็ดหน้าก่อน”

       หมอกวักมือเรียกเจ้าตัวเล็กที่กำลังเอร็ดอร่อยกับขนมสายไหมแต่ถึงอย่างนั้นน้องก็ว่าง่ายโดยการเอียงใบหน้าให้หมอซับเหงื่อแต่โดยดี ก่อนหมอจะจับจูงน้องออกเดินไปยังรถทันทีด้วยกลัวว่าน้องปอจะวิ่งเล่นจนเพลินลืมเวลา


       “ มึง”

       “ ครับ”

       “ จากนี่ไปที่พักอีกไกลมั้ย”

        หมอหันมาถามผมเพราะผมเป็นคนจองที่พักซึ่งเป็นของคนรู้จักบิดาเลยได้ราคาลดพิเศษ ที่สำคัญถ้ากลับไทยทีไรผมมักมาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ ซึ่งยังดูเหมือนว่าหมอไม่ค่อยสันทัดในการท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ หมอบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่เคยได้ออกมาเที่ยวไกลจากกรุงเทพฯเลย

        นึกๆแล้วคนเรียนหมอนี่ก็น่าเห็นใจเพราะชีวิตดูไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนคนอื่นเขาสักเท่าไหร่ เรียนก็หนัก  ซ้ำเนื้อหาวิชายังเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคนทำให้เครียดน่าดู แต่หมอปายดูจะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ผมเชื่อเพราะแววตาของหมอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักทั้งๆที่เมื่อคืนกว่าหมอจะได้นอนก็เกือบเช้าเพราะอ่านหนังสือ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เห็นว่าหมอจะบ่นที่ต้องตื่นเช้าแล้วมาดูแลเด็กน้อยที่เริ่มงอแงตั้งแต่ตื่นนอน

        ผมรู้ว่าหมอเป็นคนดี และผมก็เริ่มจะ ‘รัก’ คนดีแบบหมอเข้าซะแล้ว

        “ มองอะไร”

        หมอเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นผมมองนิ่ง “ เลิกมองกูด้วยสายตาแบบนี้สักทีมันขนลุก”

        หมอทำหน้ารับไม่ได้จนผมหัวเราะร่วน

        “มองแบบไหนเหรอครับหมอ”

         หมอปายจิ๊ปาก

         “ ผมมองหมอแบบไหนเหรอครับ บอกผมทีสิครับ”

         “ เหมือนคนโรคจิต”

         หมอย้ำชัดๆทีละคำจนน้องปอหันมามองแล้วพูดตามหมอ “ โรคจิต ฮ่าๆๆ”

         “ พี่ยิมโรคจิต”

         ผมหรี่ตามองเด็กน้อยก่อนจะวิ่งไปจับตัวหมายจะฟัดสักหน่อย แต่เจ้าตัวดีดันวิ่งไปหลบหลังหมอแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก ผมเลยวิ่งไปหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าหมอโดยที่อีกฝ่ายยักคิ้วเป็นเชิงท้าทายว่าผมจะทำอะไร ผมเลยขยับไปใกล้ใบหูหมอแล้วกระซิบเบาๆ

        “ ที่หมอถามผมว่ามองอะไร ผมขอตอบว่าผม ‘มอง’ หมอและผมก็หวังว่าหมอจะ ‘มอง’ ผมเหมือนกัน”

        หมอเงียบแล้วจูงมือน้องปอเดินหนีไปแต่ถึงอย่างนั้นผมก็แอบเห็นว่าใบหูหมอมีสีแดงเรื่อ



       .

       .






        “ ทะเล”

        “ ทะเลจ๋า น้องมาแล้ว”

        น้องปอร้องดีใจ กระโดดเหยงๆร่ำๆว่าจะวิ่งลงไปเล่นน้ำทะเลเสียเดี๋ยวนี้แต่คิดที่หมอคว้าตัวเอาไว้ก่อนแล้วหยิบเอาครีมกันแดดมาละเลงตามพื้นผิวนอกร่มผ้าให้เด็กน้อยที่เห่อวิ่งไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำกางเกงขาสั้นแนบเนื้อ เจ้าตัวดิ้นแด่วๆหนีฝ่ามือหมอคงเพราะรู้สึกจั๊กจี้ น้องปอหัวเราะคิกคักจนหมอปายเผลอขำตาม กว่าจะเสร็จเด็กน้อยก็หัวเราะจนเหนื่อย หมอเหลือบตามองมาทางผมซึ่งเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงว่ายน้ำขาสั้นเปลือยท่อนบนเหมือนน้องปอ


        “ ผมมองหมอ”

        “ ใครถาม”

        หมอทำเสียงเหวี่ยง

        “ก็เห็นหมอมองมาทางนี้พอดี ผมก็นึกว่าหมอจะถามว่าผมมองอะไร”

        “ สู่รู้”

        ผมยักไหล่ “ แต่ครั้งนี้ผมว่าหมอ ‘มอง’ ผมเหมือนกัน”

       “ มึง”

       หมอทำหน้าบึ้ง

       “ เอาเป็นว่าเรามองกันและกันเนอะ” ผมยักคิ้วให้แล้วยิ้มแบบที่คิดว่าดูดีที่สุด

       “ ประสาท”

        เสียงหมอไล่ตามมาติดๆ ตอนที่ผมยิ้มกริ่มจูงมือน้องปอไปเล่นน้ำ



        บรรยากาศยามบ่ายแก่ๆแดดร่มลมตกทำให้ผมกับน้องปอมาทรุดตัวลงนั่งก่อกองทรายกันอย่างสนุกสนาน น้องหน้าเบ้ทุกครั้งที่คลื่นซัดเข้าฝั่งทลายปราสาททรายที่ตัวเองก่อขึ้น แต่พักเดียวก็กลับมาฉีกยิ้มชักชวนผมก่อกองทรายขึ้นมาใหม่ทำแบบนี้หลายรอบซ้ำๆแต่สำหรับน้องแล้วคงสนุกสนานน่าดู ผมเองก็ไม่ต่างกันบางครั้งการลองกลับไปทำอะไรสนุกๆแบบเมื่อครั้งยังเด็กก็น่าสนุกไม่น้อย ลองปล่อยความคิดไปพร้อมกับรับรู้ความเป็นอิสระรอบกาย

        บางทีคนเราถ้าไม่ยึดติดกับอะไรแบบเดิมๆแล้วลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์แบบใหม่บางทีมันอาจจะมีอะไรที่น่าค้นหารออยู่ก็ได้ คงเหมือนกับความสัมพันธ์ของผมกับหมอปายในตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกับหมอเราเป็นอะไรกัน มันไม่สามารถนิยามความสัมพันธ์นี้ได้เลย

        แต่สำหรับผมหมอคือคนที่ทำให้ใจเต้นแรงทุกครั้งที่สบตา ทุกท่วงท่าของหมอทำให้ผมกรอกตามองตามไม่รู้เบื่อ ภายใต้ท่าทางแข็งๆดูเข้าถึงยากแต่พอได้สัมผัสจริงๆผมว่าหมอชอบกลบเกลื่อนด้วยการโหวกเหวก ชอบเสียงดังเวลาโดนต้อนให้จนมุม และชอบเงียบใส่เวลาที่กำลังเขินอาย แต่ทุกอย่างที่รวมเป็นหมอยังคงน่าสนใจสำหรับผมเสมอ


        อย่างเช่นตอนนี้ที่ผมลอบมองคนในชุดเสื้อกล้ามสีขาวคลุมทับด้วยเชิ้ตลายสดใสแขนสั้นอีกที ท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้นพอดีเข่าเผยให้เห็นท่อนขาเรียวแต่ดูแข็งแรง ภาพตรงหน้าดูไม่คุ้นชินเพราะผมไม่เคยเห็นหมอใส่กางเกงขาสั้นมาก่อน หมอนั่งกอดอกพิงต้นไม้แล้วเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างไกล


        “ หมอ”

        ผมเดินมาทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆกับหมอตาก็คอยมองน้องปอที่นั่งก่อกองทรายสนุกสนานอยู่คนเดียวไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก

        “ หมอไม่เปลี่ยนชุดเล่นน้ำเหรอ”

        หมอปายส่ายหน้า

        “ หมอไม่ชอบทะเลเหรอครับ”

        “ ทำไมมึงถึงถามอย่างนั้นล่ะ”

        “ ผมเห็นหมอดูไม่กระตือรือร้นในการมาทะเลเท่าไหร่”

        “ เปล่าหรอก” หมอปฏิเสธ “กูไม่ชอบเล่นน้ำเพราะมันเหนียวเหนอะหนะ เวลามาทะเลกูชอบนั่งนิ่งๆฟังเสียงคลื่นมากกว่า”

        “ งั้นเหรอครับ”

        “ อืม แล้วมึงล่ะชอบเล่นน้ำเหรอ” หมอถามกลับเพราะพอเปลี่ยนชุดเสร็จผมกับน้องปอก็พากันไปดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเลเกือบชั่วโมงก่อนจะพานั่งพักเหนื่อยก่อกองทราย

        “ ผมชอบอาบแดดครับ”

         ชผมตอบ “ ซัมเมอร์ที่ต่างประเทศเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ได้มีโอกาสไปปิคนิคกันเป็นครอบครัวและไปเที่ยวทะเลเพื่ออาบแดด มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ทำให้ที่โน่นไม่ต้องผจญกับอากาศที่หนาวเหน็บ”

        “มึงไม่ชอบฤดูหนาวเหรอ”

        “ ก็ไม่เชิงนะครับ” ผมส่ายหน้า “ แต่มันทำให้ผมทำกิจกรรมกลางแจ้งได้น้อยลงเพราะทนหนาวไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องมาหลบในห้องนั่งเล่นเพื่อผิงไฟ บางวันครอบครัวผมก็หอบผ้าห่มมานอนรวมกันหน้าเตาผิงไฟ”

        ผมหัวเราะเมื่อนึกถึงครอบครัวที่อยู่ต่างประเทศ

        “ ดูมึงสนิทกับครอบครัว”

        “ ครับ” ผมอมยิ้ม “ พ่อกับแม่เลี้ยงพวกเรามาเหมือนเพื่อนและให้อิสระทางความคิดไม่เคยปิดกั้นหรือสั่งห้าม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราบนพื้นฐานความถูกต้อง มีอะไรเราก็เปิดอกคุยกันตลอด ทุกวันนี้มีเรื่องอะไรผมยังปิดแม่เขาไม่ค่อยได้เลย”

        ผมคิดอย่างขำๆแต่เหลือบตามองหมอปายที่นิ่งไป หมอไม่พูดอะไรแต่แววตาโครตเศร้า


        “ หมอครับ ครอบครัวของแต่ละคนก็มีวิธีการเลี้ยงดูสั่งสอนที่ต่างกันไป การแสดงออกบางอย่างก็เช่นกันแต่มันไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ไม่รักเรา”

        หมอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

        “ บางทีที่เขาชอบพูดให้เราเสียใจก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเกลียด เหมือนกับที่เขาไม่แสดงว่ารักอะไรมากก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักหมอ”

        “ มึงจะพูดอะไร”

        ผมเอื้อมมือไปกุมมือหมอไว้

        “ นอกจากสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานก็ยังมีข้าวผัดปลาสลิดนะหมอ”

         ไม่รู้ว่าหมอจะจำได้รึเปล่าที่ผมเคยพูดประโยคนี้กับหมอ ผมอมยิ้มขณะที่หมอชะงักก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมเลยอาจหาญเกลี่ยปลายนิ้วไปตามใบหน้าของหมอแนวโน้มตัวไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกจนใบหน้าเราใกล้จนสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายได้



        “ ผมจูบหมอได้มั้ย”

       ตึก

       ตึก


       “ แล้วใครห้ามมึงล่ะ”


        ผมกระตุกยิ้มก่อนจะประทับจูบบนกลีบปากสีชมพูอมส้มของหมอ ผมอาศัยความมึนของรสสัมผัสขบเบาๆตรงขอบปากทำให้หมอเปิดริมฝีปากเพื่อให้ผมเข้าไปสำรวจหาความอ่อนหวานอยู่เนิ่นนาน


         หมอพลาดล่ะ...เพราะตั้งแต่วินาทีนี้ไปผมจะไม่มีทางปล่อยให้หมอหลุดมือไปแน่นอน และมีแค่หนทางเดียวเท่านั้นคือหมอต้อง ‘รัก’ ผมแล้วล่ะ





จะ จะ จูบกันอีกแหล่วววววว ฮิ้วๆๆๆๆๆๆ เอาไปครึ่งนึงก่อนเนอะ
อีกครึ่งอัพพุ่งนี้จ๊ะ รับรองว่าฟินลืม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ :o8: :impress2:
ปล.หนึ่งความคิดเห็นคิดหนึ่งกำลังใจสำหรับคนเขียนนะคะ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-10-2016 20:08:40
อั๊ยยยยย เขาจูบกันแล้วววววววว ว๊ายยยยๆๆๆๆ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 03-10-2016 20:39:36
 :-[ เขินแทนหมอละกัน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-10-2016 20:52:39
ว๊ายยยยย ริมหาดเลยนะ คึคึ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 03-10-2016 20:59:58
ดีต่อใจอย่างยิ่ง ถูกใจให้เป็ด อิอิ ว่าแต่ยิมที่บอกจะไม่ปล่อยเค้าไปน่ะ เตรียมตัวเตรียมใจเป็นเมียหมอหรือยัง เพราะดูยังไงนายก็ไม่น่ารุกหมอได้ 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-10-2016 21:53:02
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-10-2016 23:07:12
ความสัมพันธ์

ขยับขึ้นอีกขั้น

แบบนี้นานๆไปหมอเสร็จแน่
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 03-10-2016 23:36:11
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

แอร๊ยยยยยย
จูบบบบบบบ จูบบบบ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-10-2016 23:37:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 03-10-2016 23:55:20
จูบบบบบบบบบบบบ
ฮื่ออออ

มาต่อๆ อัพต่อ อยากฟินลื้มมมม :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-10-2016 06:43:08
โอ๊ะ....พัฒนาไปอีกขั้น
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 04-10-2016 09:47:01
          :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:ดีงสมพระรามแปดมากค่าาาาาาจูบกันแว้ว :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-10-2016 16:18:21
เขินนนน~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (50%) »» [3/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 04-10-2016 19:38:02


       [หมอปาย] 
 
       (50% >> ครึ่งหลัง)





       ผมจูบกับมันอีกแล้ว

       ซ้ำยังเป็นการจูบในตอนที่ผมเองก็มีสติสัมปชัญญะสมบรูณ์ แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นคือในอกผมมันกลับอุ่นๆราวกับว่ามีอะไรมาโอบรัด ไม่ต่างจากหัวใจที่เต้นถี่เหมือนว่าวิ่งมาเป็นระยะทางไกล มันดูเหนื่อยอ่อนแต่เป็นความเหนื่อยที่สุขใจอย่างประหลาด

       ช่างแตกต่างจากตอนที่อั้มสารภาพว่าชอบผมทั้งๆที่มันก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ บอกตรงๆว่าผมไม่ได้มีอคติกับเพศทางเลือก แต่ก็ไม่ได้นึกพิศวาสคนเพศเดียวกัน น่าแปลกที่ผมไม่รู้สึกขยะแขยงหรือรังเกียจสัมผัสของมันเลย ตรงกันข้ามเราเหมือนจะคุ้นชินสัมผัสของกันและกันเสียแล้ว

       น่ากลัวเหลือเกินที่ผมชักจะชินเสียแล้วที่มีมันอยู่ข้างๆแบบนี้

       เราไม่ได้ปฏิบัติต่อกันแปลกไป ผมเองก็ไม่ได้เคอะเขินราวกับคนเพิ่งแรกรัก แต่สิ่งที่แปลกไปคงเป็นรอยยิ้มที่พวกเรามีให้กันมากขึ้น ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันผิดปกติหรือไม่ดีเช่นไร ผมรู้แค่ว่าผมมีความสุขที่มันเป็นแบบนี้


       “ น้องอยากกินอีก”

       ปอดูสนุกสนานกับการมาเที่ยวงานวัดครั้งแรก แถมยังชื่นชอบขนมสายไหมซึ่งได้ลิ้มลองเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา พอพามาวัดซึ่งจัดอยู่ใกล้ๆกับรีสอร์ทที่พักเลยร้องขอกินอีก ก่อนหน้านี้หลังจากปล่อยให้สองคนนั้นเล่นน้ำกันจนเย็นก็ตกลงว่าทานข้าวเย็นที่รีสอร์ท แต่เห็นพนักงานเล่าให้ฟังว่าวัดแถวๆรีสอร์ทมีจัดงานประจำปี ยิมมันเลยออกความคิดเห็นว่าพวกเราควรออกมาเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง

       จริงๆแล้วตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯก็ถือว่าเป็นโอกาสพักผ่อนสำหรับผมแล้ว เพราะตั้งแต่สอบติดหมอตัวผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนหรือไปเที่ยวไหนไกลๆเหมือนกัน

       “ วันนี้กินไปเยอะแล้วครับ”

        มันตะล่อมเด็ก “ กินอันอื่นดีกว่าเนอะ งานวัดนี่มีของกินอร่อยๆทั้งนั้นเลยน้า”

        ปอทำหน้าสนใจลืมขนมสายไหมที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลเยอะขนาดนั้นทันที ซ้ำยังจูงมือไอ้ยิมให้พาไปยังโซนของกินอย่างนึกสนุก ตลอดเวลาหลายวันที่อยู่ด้วยกันมาทำให้ผมหลงใจอ่อนกับความช่างอ้อนของน้องชายต่างมารดาไปแล้ว ผิดกับเมื่อก่อนที่ผมคงรังเกียจความน่ารักน่าชังของปอ

        ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ที่แสนยุ่งเหยิงภายในครอบครัวตัวเองจนนึกอิจฉาครอบครัวของคนข้างห้อง ไม่แปลกเลยที่คนอย่างไอ้ยิมมันถึงดูพร้อมจะให้ความรักใครต่อใครแบบนี้ เพราะมันได้รับมาจากคนรอบข้างอย่างเพียงพอ มันจึงสว่างไสวจนทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆรู้สึกอบอุ่นไปด้วย

        และความอบอุ่นนี้ก็พร้อมที่จะทำให้กำแพงในใจของผมพร้อมที่จะพังทลาย ด้วยสัมผัสที่อบอุ่นอ่อนโยนซึ่งทำให้รู้สึกอยากครอบครองเป็นเจ้าของตลอดไป


         “ ไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันหมอ”

         “หา..”

         มันกลับมาพร้อมกับปอที่มีของกินเต็มไม้เต็มมือ ก่อนจะพยักพเยิดไปยังเครื่องเล่นที่มีที่นั่งเป็นกระเช้าหมุนรอบเป็นวงกลมมีผู้คนมากมายกำลังต่อแถวเข้าคิวเพื่อขึ้นไปนั่ง

        “ มึงอยากนั่ง”

        มันส่ายหน้าชี้ไปที่ตัวต้นเหตุที่กัดขนมครกเต็มปาก “ เมื่อกี้เดินผ่านมาครับ น้องปอเห็นเลยอยากนั่งใช่มั้ยเรา”

        “ น้องอยากนั่ง”

        เจ้าตัวชูสุดแขนตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแป้นแล้น

        “ ตัวแสบ”

        “น้า”

        “ อะไรปอ”

        “ น้า ให้น้องเล่นนะพี่ชาย” ออดอ้อนด้วยการถลามากอดขาเหมือนเดิม และก็เหมือนเดิมที่ผมดันใจแข็งได้ไม่นาน

        “ เย่ พี่ชายใจดีที่สุด”

        “ หึ”

        “ น้องรักพี่ชาย”


       พูดจบก็เหนี่ยวคอผมแล้วกดจูบเสียงดังฟอดที่แก้มผมเต็มๆ ปากที่เปื้อนขนมครกจึงติดแก้มผมอย่างไม่ต้องสงสัย เสร็จแล้วก็ทำตาปริบๆทั้งน่าขำและน่าโมโหเลยจริงๆ


       “ มึง”

       “ ครับ”

       “ มึงขึ้นไปกับปอนะ เดี๋ยวกูรออยู่ข้างล่าง”

       “ ได้ไงล่ะหมอ”

       “ มึงจะให้ผู้ชายตัวอย่างกะยักษ์สองคนขึ้นไปนั่งเบียดในกระเช้าอันแค่นั้นอะนะ”

        ผมชี้นิ้วไปที่กระเช้า มันเลยทำหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะเดินไปคุยกับพนักงานที่ดูแลเครื่องเล่นก่อนจะเดินหน้ายิ้มระรื่นกลับมา พอดีถึงคิวพวกเรามันจึงดันผมให้เข้ากระเช้าไปคนแรก

       “ อะไรของมึง”

       “ เข้าไปเหอะหมอ”

       “ แต่”

       มันไม่ฟังซ้ำยังส่งปอให้ผมอุ้มอีก แล้วมันก็เดินตามเข้ามานั่งกระเช้าเดียวกันแล้วปิดประตูเองเสร็จสรรพ ไม่นานหลังจากนั้นชิงช้าก็ค่อยๆเคลื่อนไปอย่างช้าๆ กระเช้าที่สูงขึ้นทำให้เห็นพื้นที่เบื้องล่างในมุมกว้าง มองลงไปเห็นแสงไฟและผู้คนมากมาย ภาพเหล่านั้นทำให้ผมเผลออมยิ้ม


        “ หมอ”

        “ หืม”

        “ เค้าว่ากันว่าถ้าได้มีโอกาสมานั่งชิงช้ากับคนที่ชอบ พอถึงจุดที่กระเช้าขึ้นสูงสุดให้กลั้นหายใจอธิษฐานแล้วความรักจะสมหวัง”

        ผมเหลือบตามองมันเป็นจังหวะที่กระเช้าที่เรานั่งถึงจุดที่สูงที่สุดแล้วชิงช้าก็หยุดหมุน ผมกับมันเผลอสบตากันเงียบๆแล้วเงี่ยหูฟังเสียงรอบข้าง น่าแปลกที่ผมเผลอกลั้นหายใจ

       “ ผมอธิษฐานว่า” มันหยุดพูดแล้วนิ่งไป “ บนโต๊ะอาหารของหมอขอให้ข้าวผัดปลาสลิดได้มีโอกาสที่หมอจะยอมให้มันขึ้นโต๊ะก็พอ”

      ปอเหลือบตามองคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างงงๆ พอดีกับที่พลุในงานถูกจุดเสียงดังสนั่นและสีของมันก็สวยงามน่ามองเด็กน้อยเลยลุกไปยืนเกาะกระเช้าดูอย่างตื่นเต้น

       ผมกระซิบเสียงเบา “ อืม กลับไปคงจะลองกินดู”

        เสียงผมเบามากเมื่อเทียบกับเสียงอึกทึกกึกก้องรอบตัว แต่ผมว่ามันได้ยินเพราะมันยิ้มกว้างแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ชิงช้าสวรรค์หมุนครบรอบแล้วพวกเราจึงค่อยๆก้าวออกมาจากกระเช้า แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้องใจผมจนต้องกระตุกชายเสื้อมันเพื่อถามข้อข้องใจ

       “ มึง”

       “ ครับ”

       “ เค้าที่ว่าเรื่องความเชื่อนี่มันใครกันวะ ทำไมกูไม่เคยได้ยินมาก่อน”

       “ อ๋อ”

       มันหัวเราะร่วน


        “ เค้าเอง” ชี้นิ้วใส่ตัวเองแล้วทำเสียงเล็กเสียงน้อย ท่าทางแบบนั้นทำให้ผมหลุดขำแทบจะทันที
.
        ..เค้าเอง...

        ...เค้าที่แหละที่จะเป็นคนลิขิตความรักด้วยตัว ‘เขาเอง’ ”

         ยิมหันมายิ้มและขยิบตาให้ผมหลังจากที่มันก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ
         .
         .

         ‘มึงคงไม่รู้ว่า...กูก็อธิษฐานเหมือนกันว่าขอให้ข้าวผัดปลาสลิดอยู่เคียงข้างกับสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน’






จะสวีทกันก็ช่วยสนใจน้องปอด้วย ถถถถถถ  :o8:
น้องปอบอกว่าตามสบายเลยฮะพี่ๆ ปอโอเค ถึงแม้บางทีปอจะคิดว่าตัวเองยังจำเป็นอยู่มั้ย  :laugh:
แจ้งข่าวว่าจะหายไปสีห้าวันนะ เพราะต้องกลับไปซ้อมรับปริญญารอบที่สอง ฉะนั้นเจอกันจันทร์หน้านะคะ ^^
ปล.หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจสำหรับคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-10-2016 19:46:27
น้องปอบอกยอมให้พี่ๆ สวีทกัน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-10-2016 19:52:50
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้ว หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 04-10-2016 20:57:14
เค้าเองงงงง :hao6: :hao6:
อยากกินสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานใส่ปลาสลิดจัง
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 04-10-2016 22:27:34
  :impress2: หวานกว่าสายไหมของน้องปอก็ยิมกับหมอปายไง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-10-2016 22:34:18
หมอเปิดใจแล้ว

ทีนี้ยิมลุยโลด

เดี๋ยวก็ได้หมอมานอนกอดแล้ว

สู้ๆนะยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 04-10-2016 23:11:22
โอ้ยยยเขินนนมากกกก ตายยยยยยย
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-10-2016 00:15:39
หวานไม่เกรงใจน้องปอเลยนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 05-10-2016 15:44:20
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
เขิลอิอิมีปลาสะโลงสะลิดด้วยแหมๆๆๆๆหวานไปนะ :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Bangzazazall ที่ 05-10-2016 17:33:41
กรี๊ดดดดด ฉันเข้าใจแล้ว นังพี่หมอเคะชัวร์ๆ! น้องปอน่ารักไปอี๊กลูก ดูซิพี่หมอใจอ่อนแล้ว น่าร๊ากๆ สู้ๆนะคะไรท์
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 05-10-2016 18:37:41
สวีทไม่เกรงใจน้องปอกันเล้ยยยย :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-10-2016 20:18:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-10-2016 20:52:16
หวานกันเกรงใจน้องปอด้วย 5555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-10-2016 07:43:24
เอาล่ะ หมอเปิดใจแบบนี้แล้วคงอีกไม่นานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-10-2016 20:46:32
ยินดีด้วยนะคะ

น้องปอน่ารัก อยู่กับพี่ยิมมากไปหรอ 5555

ยิมได้ใจหมอไปเต็มๆ หมอไม่พลาดหรอก ข้าวผัดปลาสลิด

ชอบเหมือนกันเลยอะ 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-10-2016 22:07:50
หวานนนนนน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 09-10-2016 22:53:50
น้องปอเป็นหมาหัวเน่าละงานนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 17: จูบ (ครึ่งหลัง) »» [4/10/59] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 11-10-2016 18:51:51






            หลงที่ 18 : หลงกาว(น์)







           “ ไปทะเลมาเหรอ”

          ผมเงยหน้าจากแอพพลิเคชั่นซึ่งใช้สำหรับโพสรูปภาพอย่างอินสตราแกรมซึ่งล่าสุดผมอัพรูปถ่ายทะเลยามค่ำไปเมื่อเช้า แล้วพยักหน้าตอบคำถามอั้ม ก็จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงในเมื่อผมหิ้วของฝากจากทะเลมาฝากมันด้วย อั้มนิ่งไปมันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไปก่อนจะคลึงพวงกุญแจเปลือกหอยในมือเล่น เห็นของฝากดังกล่าวแล้วนึกถึงปอเพราะเจ้านั่นร่ำร้องจะเอาให้ได้จนอ้อนให้ผมซื้อให้สุดท้ายเลยต้องหอบซื้อมาเผื่ออั้มกับหยกมันด้วย

          ทริปทะเลจบลงเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งเพื่อนข้างห้องอาสาขับรถมาให้จนมันจอดสนิทอยู่ใต้คอนโด ลุงหาญมารับปอกลับตั้งแต่หัวค่ำเพื่อพาเจ้านั่นกลับบ้านใหญ่ แต่ปอก็งอแงอยู่นานต้องใช้สารพัดวิธีงัดมาปลอบใจกว่าใบหน้าขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาเพราะต้องถูกแยกกลับไปจะดีขึ้น นึกแล้วก็ยังอดขำไม่ได้เพราะปอคาดคั้นเกี่ยวก้อยสัญญากับผมเป็นนานสองนานว่าให้ไปหาที่บ้านทุกอาทิตย์จนผมต้องรับคำนั่นแหละเด็กนั่นถึงอิดออดกลับไปพร้อมลุงหาญ

          ทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะปกติหลังจากกลับจากทะเลจะมีก็แต่ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนข้างห้อง ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ยังจะเรียกมันเป็นแค่ ‘คนรู้จัก’ ได้รึเปล่า เพราะผมไม่สามารถนิยามความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ได้เลย รู้แต่ว่า ‘มัน’ มีอิทธิพลกับความรู้สึกผม ตั้งแต่วันที่มันบอกว่าจะจีบผมและมันก็ได้ลงมือทำจริงๆบอกเลยว่าผมใจเต้นแรงทุกครั้ง เพราะทุกการกระทำของมันสั่นสะเทือนต่อหัวใจผมจริงๆ ทั้งๆที่ผมคิดมาตลอดว่าผมคงจะไม่เปิดใจให้ใครเข้ามาอีกแล้ว และผมก็ไม่คิดว่าผู้ชายเพศเดียวกันแท้ๆจะสั่นคลอนความรู้สึกของผมได้

          คิดแล้วก็ได้แต่ปลงตก เฮ้ย บางครั้งมันก็เหนื่อยยากเหลือเกินกับการยอมรับว่าหัวใจผมกลับมาเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง

          “ ไปกับใครเหรอ”

          อั้มนิ่งไปนานแล้วถามขึ้นอีกครั้ง มันดูเป็นคำถามธรรมดาน้ำเสียงก็ดูเรียบเฉยไม่ได้มีนัยยะอะไร แต่แววตาภายใต้กรอบแว่นกลับดูเศร้าแปลกๆ อั้มมันหรุบตามองพื้นอาการเหล่านั้นทำให้อดถอนหายใจตามไม่ได้

        “ อั้ม”

        “ มันยากนะ” มันพูดช้า “ยากจริงๆว่ะที่ต้องยอมรับ”

        “ มึงจะพูดอะไร”

         มันหันมายิ้มให้ผมถึงเป็นรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเหลือเกิน “ เจ็บเหมือนกันนะโว้ยที่วันนี้มันมาถึงแล้ว วันที่กูต้องยอมรับว่ามึงเปิดใจให้คนอื่นแล้ว สุดท้ายกูก็ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นได้แค่เพื่อนมึง”

         “......”

        “ มึงรู้มั้ยว่าต่อให้มึงปฏิเสธกูทุกครั้งกูก็ยังมีความหวังมาตลอด จนเมื่อเช้าที่กูเห็นมึงมากับคนอื่น ไอ้เด็กนั่นโคตรโชคดีเลยว่ะที่ทำให้มึงกลับมายิ้มได้อีกครั้ง”

        ผมคลึงขมับนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่ยิมขอติดรถมาด้วย และอั้มมันคงบังเอิญเห็นเข้า

        “ อั้ม”

        ผมเอื้อมมือไปตบบ่ามัน “ กูขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกไม่ดี”

        มันส่ายหน้าก่อนจะเอื้อมมือคว้าข้อมือผมเอาไว้ “ กูยอมรับว่าเสียใจและยังทำใจไม่ได้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างมึงไม่ใช่กู แต่กูไม่เคยโกรธมึงเลย กูคิดกูหวังของกูเองทั้งๆที่ก็รู้ดีว่าสุดท้ายแล้วมันไม่มีอะไรทำให้ความสัมพันธ์ของเราขยับเข้าไปใกล้กันมากกว่าคำว่า ‘เพื่อน’ ”

         “ ขอเวลากูหน่อย ขอให้กูทำใจหน่อย”

         ผมลูบบ่ามันเบาๆ เมื่อจับได้ถึงน้ำเสียงสั่นเครือ “ได้สิ ถ้าเพื่อนขอทำไมกูจะให้ไม่ได้ มึงโกรธกูได้นะอั้มที่กูตอบรับมึงไม่ได้ แต่ขอเถอะนะอย่าโกรธกูนานได้มั้ย สำหรับกูแล้วกูขาดเพื่อนแบบมึงไม่ได้จริงๆ”

         “ อืม”

         ผมสวมกอดมันแล้วนึกถึงเรื่องราวตั้งแต่เด็ก ผมมีเพื่อนคนแรกคืออั้ม และมันเป็นเพื่อนคนเดียวที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอดไม่ว่าจะเจอกับเรื่องร้ายแรงขนาดไหน มันก็ยังอยู่ที่เดิมถ้าผมต้องเสียมันไปเพราะเรื่องนี้ผมคงทนไม่ได้เช่นกัน

        “ ไม่นานหรอกปาย...กูสัญญาว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม”

        มันลูบศีรษะผมแบบที่ชอบทำเหมือนเมื่อครั้งอดีต ก่อนที่เราจะเผลอหัวเราะออกมาพร้อมกันถึงสีหน้ามันอยากจะร้องไห้เต็มแก่ แต่แววตามันบอกผมว่า ‘อีกไม่นาน’ จริงๆที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม



       .

       .

       .

       “ ปาย อั้ม”

       หยกวิ่งหน้าบานมาแต่ไกลก่อนจะหยุดชะงักหน้าเจื่อนลงเมื่ออั้มกำลังผุดลงขึ้นเดินสวนออกไป เพราะเข้าใจผิดว่าอั้มมันไม่อยากคุยด้วยจนหน้าเสีย อั้มมันเลยหยุดอยู่หน้าหยกก่อนจะยิ้มบางๆให้

       “ กูไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวกลับมา”

       หยกพยักหน้ารับยิ้มน้อยๆ ตอนที่มือของอั้มโยกศีรษะมันเบาด้วยท่าทางอ่อนโยน

        “ อื้ม”

        “ อะแฮ่ม”

        ผมทำเสียงในลำคอเมื่อเห็นเพื่อนตัวน้อยยืนมองตามแผ่นหลังอั้มไปแล้วยิ้มน้อยๆ

        “ ไงหยก”

        “ ไม่ไงหรอกปาย” หยกยิ้มๆทำลอยหน้าลอยตาก่อนจะทำตาโตเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้แล้วแล้วล้วงแท็บเล็ตในกระเป๋าออกมา

        “ เออปายดูนี่สิ”

        “ อะไร”

        หยดเปิดเข้าไปในเพจคิ้วท์บอยซึ่งเป็นเพจที่มักมีคนแอบถ่ายรูปผมไปลง ที่ผมรู้เพราะหยกนี่แหละที่คอยเล่าให้ฟัง แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งๆที่เป็นคนชอบความเป็นส่วนตัวขนาดนี้ ผมมองตามนิ้วของหยกไปเห็นรูปๆหนึ่งพร้อมแคปชั่นแปลกๆ




Status : ‘ เอาแหล่ว อะไรยังไงจ๊ะหนุ่มๆ cuteboy’



(http://image.free.in.th/v/2013/ij/161011112506.jpg) (http://picture.in.th/id/d59a3bde5fc4d1d2336ee6cb6abdac0a)





         ภาพตรงหน้าเป็นภาพแคปหน้าจออินสตราแกรมส่วนตัวของใครคนหนึ่งซึ่งโพสภาพเสื้อกาวน์พร้อมแคปชั่นสั้นๆว่า “หลงกาว(น์)” ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของไอจียังแท็คชื่อผมตรงบริเวณเสื้ออีกด้วย ภาพนั้นพาให้หัวใจผมสั่นระรัววูบวาบไปหมด บอกตรงๆว่ามันไม่ได้เลวร้ายเกินรับไหว ตรงกันข้ามมันรู้สึกอุ่นๆในใจ และเหนือสิ่งอื่นใดผมสัมผัสได้ว่าใครบางคนกำลังสื่อสารอะไรกับผม

         มันกำลังจะบอกอะไรผมสักอย่าง


         “ ปาย” หยกเขย่าไหล่ผมแรงๆเพื่อดึงสติผมให้กลับมา “ ปายทำไมนิ่งไปอ่ะ”

         “ เปล่านี่”

         “ โกหก” หยกยิ้มเผล่ “ มีอะไรจะเล่าให้ฟังรึเปล่า” สีหน้าแววตาหยกเหมือนพอจะเดาอะไรบางอย่างออก

         “ ไม่มีอะไรนี่” หยกกอดอกหรี่ตามองผมยิ้มๆ “ ถ้าเป็นคนเดียวกับที่มาพร้อมปายเมื่อเช้าก็หล่อดีนะ”

         “ หยก”

         “ แสดงว่าคนเดียวกัน” หยกหัวเราะจนผมหน้าร้อนไปหมด “ เด็กนั่นคงมีอะไรดีๆสินะ”

         “ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”

         “ จีบกันมาได้สักพักแล้วสิ”

         “ มันก็แค่เด็กข้างห้อง” หยกปิดปากเมื่อผมหลุดปากอธิบาย “ไม่มีอะไรทั้งนั้น”

          “ มี”

         หยกพูดยิ้มๆ “รับมือยากแล้วล่ะปาย...เพราะเด็กนั่นเล่นประกาศจีบขนาดนี้”

         ผมถอนหายใจแรงๆนึกอยากจะด่าตัวต้นเรื่องที่มันทำอะไรพิเรนทร์แบบนี้ ก่อนหน้านี้นเห็นเขาโพสรูปทะเลจนต้องจำใจกดติดตามไอจีอีกฝ่าย ใครจะไปคิดว่ามันจะโพสอะไรอุตริแบบนี้ซ้ำยังแท็คผมมาอีกเป็นใครก็ต้องคิดว่าระหว่างผมกับมันคงมีสถานะพิเศษระหว่างกัน

         บ้าเอ้ย ผมหัวเสียและมันคงจะบ้าจริงๆที่รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองมันกระตุกแปลกๆ

         แล้วนี่ผมจะยิ้มทำไมวะ ผมนึกรำคาญปฏิกิริยาประหลาดของตัวเองที่พยายามแค่ไหนทำไมถึงรู้สึกว่าหุบยิ้มลงไม่ได้เลย.....แม่งเอ้ย....









*** ก่อนต้องขออภัยที่บอกว่าจะอัพวันจันทร์( เมื่อวาน) พอติดธุระค่ะ เลยยกยอดมาวันนี้แทนนะ***
เอาไปแค่นี้ก่อน ที่เหลือให้เวลาพักให้หุบยิ้มกันบ้าง โฮ๊ะๆๆๆๆ
ปล. รูปไม่ค่อยชัดเลยอ่ะ ยังไงตามไปดูเต็มๆที่เพจนะคะ :hao5:
หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจสำหรับคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-10-2016 19:05:02
อยากยิ้มก็ยิ้มกว้างๆเลยน้องปายยยยยย :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 11-10-2016 19:37:31
นั่นๆๆๆ ชอบใจละสิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 11-10-2016 20:42:06
หมอน่ารักนะ ยอมเปิดใจบ้างแล้ว
ยิมมีแทคนะคะ กะจะจองไว้ก่อนเลย คนอื่นห้ามยุ่ง

สงสารอั้ม แต่ก็ดีกว่าไม่บอกกันเนาะ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-10-2016 21:58:11
รุกจีบหนักเลยนะยิมมมสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-10-2016 21:59:50
เขินแทนหมออ่ะ แบบนี้ คึคึ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Skyflower ที่ 11-10-2016 23:12:07
 :katai2-1:รักหมอ หลงยิม มาต่อไวไวนะ :3123:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Skyflower ที่ 11-10-2016 23:14:50
เริ่มน่ารักแล้วอ่ะ ทีมพี่หมอ :katai3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 11-10-2016 23:52:01
เขินล่ะสิๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 11-10-2016 23:55:02
จีบแบบรัวๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 12-10-2016 00:12:01
เรากก็เหมือนกันอ่ะหมอปาย หุบยิ้มไม่ได้เลย หนุ่มๆ เดี๋ยวนี้เปิดเผ๊ยเปิดเผย ชะนีเยี่ยงเราก็ฟิ๊นฟิน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 12-10-2016 04:05:42
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
มีความน่ารักไปอีก
แอบสงสารปอนะกลับไปบ้านก็คงไปอยู่กับคนใช่ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-10-2016 15:06:41
หมอซึนได้น่ารักมากค่ะ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 13-10-2016 07:27:15
พี่หมอเอาไงๆ ยิมรุกขนาดนี้แล้ววววว รุกกลับเล้ยยย :m20:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 13-10-2016 11:47:45
ยิมรุกจีบหมอแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 14-10-2016 19:57:53
มาแบบสั้นๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-10-2016 08:24:10
หวานนนน~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 16-10-2016 00:56:12
เริ่มมีแววได้เป็นแฟนในไม่ช้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (30%) »» [11/10/59] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 17-10-2016 19:19:26


แจ้งข่าวนะคะ

ประกาศงดอัพนิยายเนื่องจากติดภารกิจรับพระราชทานปริญญาบัตร (จุฬาฯไม่เลื่อนค่ะ)
ฉะนั้นนักเขียนจะหายไปประมาณหนึ่งสัปดาห์นะคะ เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ


KARNSAII
[17.10.59]
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - แจ้งข่าวค่ะ [17/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-10-2016 21:59:13
รอค่าาาาาาาาาาา :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - แจ้งข่าวค่ะ [17/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-10-2016 11:24:51
จ้า ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - แจ้งข่าวค่ะ [17/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 22-10-2016 01:01:10
รับทราบค่ะ
ปล. ยินดีด้วยนะคะ
ปล.2 รอนิยายอยู่นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - แจ้งข่าวค่ะ [17/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: manneewan ที่ 22-10-2016 09:20:03
 o13ยินดีด้วยนะค่ะสำหรับความสำเร็จอีกก้วหนึ่งของชีวิต
นิยายสนุกมากเลยขอบคุณที่แต่งให้อ่านค่ะ5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - แจ้งข่าวค่ะ [17/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 28-10-2016 20:22:18

         (ต่อ)


        ผมคลึงขมับอย่างอ่อนล้าหลังจากเดินสะโหลสะเหลออกมาจากตึกผู้ป่วยในเวลาบ่ายแก่ๆ ทั้งยังรู้สึกรำคาญสายตาใครต่อใครทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่ทำหน้ายิ้มแปลกๆ เวลาที่ผมเดินผ่าน ไม่รู้เพราะพวกรูปบ้าๆนั่นของไอ้ยิมรึเปล่าที่ทำให้ทุกคนยิ้มประหลาดใส่ผมแบบนี้ และมีสองสามรายที่ใจกล้าขอถ่ายรูปผมก่อนจะจบประโยคทิ้งท้ายพาลให้นึกโมโหคนต้นเรื่องที่ว่า


        “ พี่หมอปายเป็นแฟนพี่ยิมจริงๆเหรอคะ หนูชอบพวกพี่มาก คบกันนานๆนะคะ”


         ...แม่ง...


       ได้แต่ยืนอ้าปากค้างทำใจตั้งนานกว่าจะตั้งสติได้แล้วตัวต้นเหตุก็โผล่มายืนพิงรถเสนอหน้าอยู่หน้าตึก มันยิ้มร่าเริงทันทีก่อนจะสาวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้าผม


        “ ผมมารับหมอครับ”

        “ มึงเอารถใครมา” ผมเหลือบตามองเลยไหล่มันไปเห็นบีเอ็มซีรีย์สีดำสนิทเงาวับคันใหม่

        “ รถที่บ้านน่ะครับ พอดีเดือนหน้าครอบครัวผมจะกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้ว พ่อเขาเลยซื้อจากที่โน่นแล้วเพิ่งนำเข้ามา”

        “ อืม”

        ผมพยักหน้ารับก่อนจะตวัดสายตามองมันนิ่งๆ เพราะยังเคืองเรื่องก่อนหน้านี้

        “ ขึ้นรถก่อนเถอะครับหมอมีอะไรไปคุยกันบนรถ”

        “ ได้...เพราะกูก็มีเรื่องจะคุยกับมึงเหมือนกัน”

        รถออกตัวมาได้สักพักผมยิ่งนึกหมั่นไส้เจ้าของรถที่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเสียเต็มประดาซึ่งพอมองมากๆยังมียักคิ้วหลิ่วตาให้อีกจนผมชักจะหมดความอดทน

         “ วันนี้มึงทำอะไร”

         “ เปล่านี่ครับ”

         “ โอ้ยหมอ ผมขับรถอยู่นะ”

        ผมชะงักฝ่ามือที่เตรียมจะฟาดบ่ามันอีกที มันดันหัวเราะร่วนแล้วตบไฟเลี้ยวซ้ายขับไปจอดในสวนสาธารณะที่ผมกับมันเคยมาด้วยกัน

        “ หมอ”
 
 
         “........”

         “ หมอครับ” มันทำเสียงอ้อน “ ผมไม่ขอโทษหรอกนะเพราะผมตั้งใจทำมันจริงๆ”

         “ มึง”

        มันคว้าข้อมือผมที่เตรียมจะประทุษร้ายมันอีกครั้ง “ เผื่อหมอจะยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ‘หลงกาวน์’ สำหรับผมหมายถึง ผมหลงรักหมอเข้าแล้วล่ะ”


         “.....” ระหว่างเรามีแต่ความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย

         “ หมอที่ผมทำทุกอย่างผมจริงจังนะ ไม่ใช่แค่หยอดหมอเล่น”

         “ รู้ด้วยรึไงว่ามึงมันสันดานเสียชอบหยอดให้ความหวังคนอื่นไปเรื่อย”

         “ คนอื่นที่ไหนผมหยอดหมอคนเดียวเหอะ”

         “ ตอแหล”

        ผมด่าให้แต่มันกลับหัวเราะร่วน “ ผมพูดจริงๆนะครับ”

         “ หมอครับ เรามาลองคุยกันจริงๆมั้ย”

        คำถามนั้นทำให้ต้องหยุดนิ่งคิด แล้วลองทบทวนอยู่ในใจเงียบๆ ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่ารู้สึกดีจริงๆกับสิ่งที่เป็นอยู่ขณะนี้ มันดีมากจนกลัวว่ามันอาจจะหายไปสักวันหนึ่ง”

        “ หมอไม่สนใจอยากเป็นหมอเจ้าของไข้ผมงั้นเหรอครับ”

        “ ขอคบ? ”

        ผมถามตรงๆอย่างไม่จริงจังนักแต่มันดันพยักหน้ารับหน้าตาย “ ครับ คบกันมั้ย”

        “ เดี๋ยวๆ เมื่อกี้มึงเพิ่งบอกว่าลองคุยกัน แล้วอยู่ดีๆมาขอคบมึงไหวมั้ยเนี่ยยิม” ผมคลึงขมับ “มึงนี่มันประหลาดโดยแท้ ถ้าขอเป็นเจ้าของไข้แปลว่าขอคบ ถ้างั้นชวนไปเดทมึงไม่บอกว่าชวนไปกินน้ำแดงโซดาเลยรึไง”

        คราวนี้มันหัวเราะเสียงดังลั่นจนน้ำหูน้ำตาไหล ทำเอาอารมณ์แย่ๆของวันหายไปเหลือไว้แต่ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

        “ มึงแม่ง”

        “ คงงั้นมั้งครับหมอ”

         “ อะไร”

         มันลูบหลังมือผมเบาๆ “ ไปกินน้ำแดงโซดากันมั้ยครับ เผื่อหมอจะมีเหตุผลประกอบการตัดสินใจเป็นหมอเจ้าของไข้ของผม” พูดแล้วก็หันมายักคิ้วฉีกยิ้มโชว์ฟันเรียงสวยครบทุกซี่


         ...เชี่ยเอ้ย แล้วกูจะยิ้มทำห่าอะไรเนี่ย...




*************************************************************





          [ยิม]




         ผมรู้ว่าหมอเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด

         เปล่าเลย ผมไม่ได้ชวนหมอไปกินน้ำแดงโซดาธรรมดา ผมรู้ว่าคุณคงรู้เหมือนกันว่าผมหมายความว่ายังไง

         บอกตามตรงว่าตอนนี้มองไปทางไหนก็รู้สึกดีชะมัดแค่เพราะหมออมยิ้มแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างแบบนั้น ผมตั้งใจพาหมอไปกินข้าวที่ร้านอาหารริมแม่น้ำแห่งหนึ่งซึ่งบรรยากาศค่อนข้างชิว เพราะโต๊ะอาหารวางติดพื้นมีเสื่อปูพร้อมกับเบาะรองนั่ง ซ้ำยังนั่งห้อยขาได้สบายคล้ายๆกับแพริมน้ำ การตกแต่งที่ดูชิวๆทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่จึงมีทั้งวัยเรียนและวัยทำงานมาใช้บริการ

        ผมนั่งเท้าคางมองหมอที่กวาดสายตามองไปรอบๆอย่างสนใจ

        “ ชอบมั้ยครับ”

        “ บรรยากาศดี” หมอตอบ “แล้วมึงรู้จักที่นี่ได้ยังไง”

        “ ร้านของลูกพี่ลูกน้องผมเองครับ”

        “ อืม”

         หมอรับคำแววตามองไปเรื่อยท่าทางเหมือนเด็กที่ตื่นเต้นเวลาพบเจอสิ่งแปลกใหม่

        “ หมอปาย”

        “ หืม”

        “ ผมถามอะไรสักอย่างได้มั้ย”

        “ เอาสิ ถ้ากูตอบได้จะตอบ” หมอจิบน้ำเปล่าที่พนักงานเอามาเสิร์ฟแล้วกดยิ้มมุมปาก

        “ ทำไมถึงเรียนหมอล่ะครับ”

        หมอชะงักไปก่อนจะค่อยๆตอบ “ ทำไมน่ะเหรอ คงเพราะแม่กูร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงตั้งแต่กูจำความได้มั้ง”

        “ หมออยากเป็นหมอเพราะแม่เหรอครับ”

       ผมยิ้มกว้างในใจมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หมอปายเป็นคนที่ดูเย็นชาจนคนรอบข้างสัมผัสได้แต่ใครจะคิดว่าลึกลงไปหมอเป็นคนที่แคร์คนอื่นและทำเพื่อคนอื่นมากมายขนาดนี้

        “ คงงั้นมั้ง” หมอถอนหายใจ “ แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ไม่สามารถช่วยแม่ได้ในวันที่เขาต้องการ”

        “ ไม่จริงหรอกครับ”

        ผมกุมมือหมอเอาไว้ “ แค่หมออยากเป็นในสิ่งที่มันยากลำบากแบบนี้ก็ดีมากพอแล้ว เพราะอาชีพของหมอมันสามารถช่วยชีวิตคนได้มากมาย”

        “ กูไม่ได้คิดขนาดนั้นหรอก ก็แค่ไม่อยากให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องเจ็บปวดมั้ง”

        หมอเหม่อมองไปข้างหน้า “ แค่อยากรักษารอยยิ้มของคนที่เฝ้ารอคนไข้ไว้ให้นานที่สุด เพราะกูเข้าใจดีว่าการรอคอยด้วยความหวังมันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน”

        คำตอบของหมอทำให้ความรู้สึก ‘ชอบ’ เมื่อแรกกลับกลายเป็น ‘ความรัก’ เพิ่มมากขึ้น โดยไม่ต้องหาคำตอบใดๆ ผมรู้แล้ว่าวินาทีนี้ผมอยากให้หมอใช้ความรักที่มีรักษาคนไข้ ส่วนผมจะใช้ความรักของหมอรักษาความเย็นชานี้ให้ทลายลงให้ได้สักวันหนึ่ง
ผมจะทำให้หมอดีขึ้นด้วยความรักของผม

        “ แล้วมึงล่ะ”

        “ ผมทำไมเหรอครับ” ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

        “ ทำไมถึงเรียนนิเทศ”

        “ ผมชอบถ่ายรูปครับ” ผมยิ้มกว้างทั้งยังไม่ปล่อยมือที่กุมข้อมือของหมอเอาไว้ “ เพราะผมคิดว่าเสน่ห์ของภาพถ่ายคือมันยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าทุกอย่างในภาพจะเปลี่ยนไป”

        เราสบตากันนิ่งพอดีอาหารมาเสิร์ฟนั่นแหละหมอถึงพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของผม

         “ ปล่อย”

        หมอกระซิบเสียงรอดไรฟันเพราะไม่อยากกระโตกกระตากให้พนักงานเสิร์ฟจับสังเกตได้จนอาหารเต็มโต๊ะแล้วคนเหล่านั้นเดินหลบไปหมอจึงเตะขาผมแรงๆทีนึง

         “ โอ้ย”

         “ ปล่อยมือกู”

         “ ครับ”

         ผมค่อยๆปล่อยข้อมือหมออย่างเชื่องช้า เมื่ออีกฝ่ายเตรียมปากล่องทิชชู่ใส่ผม

          “ ใจเย็นครับ”

          “ ไอ้ยิม”

          ผมหัวเราะก่อนจะรีบเลื่อนอาหารจานหนึ่งไปตรงหน้าหมอ อีกฝ่ายทำหน้าไม่เข้าใจก้มมองข้าวผัดปลาสลิดสลับกับมองหน้าผม

         “ อะไร”

         “ หมอบอกว่ากลับมาจากทะเลจะลองกินนี่ครับ”

         หมอยิ้มๆก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ

          “ กูกินได้เลยมั้ย”

         ผมพยักหน้ามองอาหารมากมายบนโต๊ะ แต่หมอกลับตักข้าวผัดปลาสลิดตรงหน้าเข้าก่อนจะค่อยๆเคี้ยวเพื่อรับรู้รสชาติอาหาร

        “ เป็นไงครับ”

        “ ก็ดี”

        “ แล้ว” ผมจ้องริมฝีปากหมอที่ขยับไปมาเพราะกำลังเคี้ยวอาหารนิ่งๆ

        “ แล้วอันนี้กับอันนี้อันไหนอร่อยกว่ากันครับหมอ”


         ผมชี้ไปที่ข้าวผัดแล้วชี้มาที่ตัวเองก่อนจะอาศัยความใจกล้าถามหมอตรงๆ หมอนิ่งไปจนต้องเท้าศอกกับโต๊ะอย่างรอคอยคำตอบ เนิ่นนานก่อนที่ผมจะถอนหายใจเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา


        “ Both of them”


      .

      .

      .


        ระหว่างเรามีแต่ความเงียบทั้งที่เดินเคียงข้างกันมาตั้งแต่ประตูลิฟต์เปิดออกจนถึงหน้าห้องพักของแต่ละคน ผมเหลือบตามองใบหน้าของอีกฝ่ายที่เรียบเฉยผิดกับใบหูแดงก่ำท่าทางแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจยังไงก็ไม่รู้

        “ กูเข้าห้องก่อนนะ”

         หมอเอ่ยขึ้นเป็นการทำลายความเงียบ

        “หมอ”

        “.....”

        หมอหันกลับมามอง ผมเลยเผลอมองริมฝีปากหมอที่อยาใกล้แค่เอื้อมทำเอาคนมองแบบผมรู้สึกใจเต้นระส่ำ จะเรียกว่าความบ้าก็ได้ที่ผมคว้าข้อมือหมอเอาไว้ตอนที่ฝ่ายนั้นกำลังจะผลักประตูเข้าไป หมอปายทำหน้างงเมื่อถูกผมดันเข้าไปในห้อง แล้วผลักให้หมอยืนพิงประตูห้องที่ปิดสนิทปลอดจากสายตาคนภายนอก

        “ มึงจะทำอะไร”

        “ เห็นหมอบอกว่าผมอร่อย” ผมยิ้มตาพราวนึกถูกใจสีหน้าเงอะงะของหมอ “ ผมเลยอยากจะให้หมอได้ชิมมันอีกสักครั้ง”

        “ มึง”

        “ ชิมสิครับ”

        “ อื้ม”


        หมอครางเสียงแผ่วตอนที่ริมฝีปากผมประกบจูบกลีบปากของอีกฝ่ายแล้วค่อยๆบดคลึงอย่างแผ่วเบา การจูบครั้งนี้ทำให้ผมจังสังเกตอาการสั่นของอีกฝ่ายได้ว่ามันหมายความว่ายังไง

         และครั้งนี้ผมขอเข้าข้างตัวเองว่าหมอก็ใจตรงกับผมเช่นกัน

          “ Can you hear my heart? ”

          “ Uhm” หมอคราง

          “ It’s telling that ‘love’....‘ I love you’






หมอนขาดกันรึยัง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ :-[ :impress2:   :-[
กลับมาอัพแล้วค่ะ ขอบคุณนักอ่านที่ร่วมยินดีในความสำเร็จของเราน้า ขอบคุณมากๆค่ะ
ต่อไปนี้เป็นไทแล้วค่ะเพราะจบมายังไม่มีงานทำคงจะได้อัพนิยายบ่อยๆแล้ว 555555++++
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 28-10-2016 21:05:14
 :-[ เขิลเลย อารายจะดูโรแมนติกงุ้งงิ้งขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-10-2016 22:19:22
บทจะหวานก็มุ้งมิ้งซะะะะะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-10-2016 22:28:03
มุ้งมิ้งมากมายยยยย อั๊ยยย อ่านไปยิ้มไปเลยทีเดียว น่ารักกกกกกกกก :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 28-10-2016 22:34:21
เขินจริง ไรจริง วู้ววว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 28-10-2016 23:39:24
หวานมากกกก

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 28-10-2016 23:52:35
 :z3: :z3:
ฟินกำแพงแตก
ฮื้อออ :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - แจ้งข่าวค่ะ [17/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 29-10-2016 00:13:12


          “ It’s telling that ‘love’....‘ I love you’



                  :mew1: :mew1: ประโยคนี้อ่านแล้วไปฟินแลนด์เลยจร้าาาาาาาาา :mew1: :mew1: :mew1:






หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 29-10-2016 02:38:37
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 29-10-2016 03:35:48
อ๊อยยยยยยยยยยยยย เขินนนนนนนนนนนน >////<  //นิยายเรื่องนี้มันดีจริงๆตามอ่านมาตลอดแต่ไม่ได้เม้นท์เลย แต่ชอบบบบมาก สนุกกกก อบอุ่นโรแมนดราม่านิด โอเคอ่ะ พระนายเคมีกันม๊ากกกก อ่านไปยิ้มไป น่าร๊ากกกกกกกกก //หลงงงงงงงงงหมอปายหมายิมจัง 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-10-2016 10:33:35
หวานมาก เขินมากเลย
ยินดีกับไรท์ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-10-2016 11:51:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-10-2016 13:44:40
อ๊ายยยย บอกรักแระ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-10-2016 14:24:25
นี่มันยิม-ปายชัดๆ!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 29-10-2016 14:25:18
กะลังหวานเชียว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-10-2016 13:36:08
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 30-10-2016 14:07:58
โฮยยยยยย หมอแย่แล้ววววววววววววววววววววว เจอแบบนี้อร่อยไปเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-10-2016 14:59:54
จัดว่าเด็ด จัดว่าแซบ อร่อยจริงอะไรจริง

เป็นเจ้าของไข้แล้ว ไปกินแดงโซดาแล้ว รอรอบหน้าจะเป็นอะไรดี 555

น่ารักมากเลยค่ะ ยิมทำหมอใจละลาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 30-10-2016 17:51:35
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 31-10-2016 22:04:17
อ่านแล้วรู้สึกว่า นังยิมนี่มันร้ายจังเลย ทำไมปากหวานได้ขนาดนี้!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-11-2016 06:50:21
โอ๊ยยยยยยย ทำไมยิมปากหวานได้เยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 01-11-2016 15:59:32
เรื่องน่ารักมากค่ะ น่ารักแบบหน่วงๆอะ คือเหมือนว่ามันรู้แหละว่าหนทางข้างหน้ามันเหมือนจะมีดราม่า แต่ระยะทางที่กำลังอ่านอยู่มันน่ารักอะ มันละมุนไปหมดเลย ชอบ ติดตามนะคะ o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 18: หลงกาว(น์) (100%) »» [28/10/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 05-11-2016 19:19:44



            หลงที่ 19 : อยากมีแฟนเรียน ‘หมอ’




            [หมอปาย]  30%



      ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืดซึ่งฝนกำลังตกพรำๆพาให้บรรยากาศโดยรอบเย็นชื้น ทั้งที่ใกล้ถึงเวลาที่สมควรผละออกจากที่นอนแต่เพราะยังต้องการความอบอุ่นจึงซุกตัวอยู่ในผ้าห่มต่อไป ยิ่งได้ซุกซบในตำแหน่งที่มีใครบางคนอาศัยนอนทั้งคืนยิ่งก่อให้เกิดความอบอุ่นแม้ว่าเจ้าตัวจะลุกออกไปแล้ว  กลิ่นกายของฝ่ายนั้นทำให้ผมนอนหลับฝันดีทั้งที่เมื่อคืนฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่เพราะมันอยู่ตรงนี้ มันนอนจับมือผมทั้งคืนทำให้ความรู้สึกหวาดกลัวเสียงฝนในยามค่ำคืนหายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ผมยอมรับแล้วว่ามันก้าวเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของผมแล้ว น่าแปลกที่คนหวงพื้นที่อย่างผมกลับยอมให้มันก้าวเข้ามาง่ายๆแบบนี้ ซ้ำยังให้อภิสิทธิ์มันมานอนด้วยกันแบบนี้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า ‘นอน’ ในที่นี้มันหมายถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เราแค่ ‘นอนหลับ’ แบบปกติทั่วไปไม่มีอะไรเกินเลย ทั้งที่มันแสดงออกอย่างทะลึ่งตึงตังอย่างทีเล่นทีจริงจนผมเองก็มีใจสั่นไปเหมือนกัน
   ผมผุดลุกขึ้นก่อนจะก้าวไปตามเสียงหัวเราะร่วนของใครบางคน เหมือนว่ามันกำลังคุยเล่นกับใครบางคนอย่างอารมณ์ดีเพราะเสียงหัวเราะจากโซนครัวดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย และผมไม่ต้องสงสัยนานเมื่อเห็นมันกำลังเอ่ยเย้าแหย่สาวน้อยในจอโทรศัพท์ซึ่งโทรมาจากทางไกล

        “ กรี๊ด”

        ผมทำหน้าตกใจรีบยกมือปิดหูแทบไม่ทัน เมื่อเจ้าหล่อนเหลือบตามาทางผมแล้วเกิดปฏิกิริยาชวนพิศวงคือปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ดก่อนจะไถลลงไปนอนดิ้นๆกับโซฟา

       “ อะไรตัวแสบ”

       มันถามน้องสาวตัวเองอย่างประหลาดใจไม่แพ้กัน

        “ นี่ นี่” เจ้าหล่อนบิดตัวไปมา “ นี่พวกพี่อยู่ด้วยกันเหรอคะ”

        ผมสะดุ้งกับคำถามชวนคิดลึกแบบนี้ แต่มันกลับแค่ยักไหล่และตอบยิ้มๆว่า “ อืม”

        “ กรี๊ด”

        คราวนี้ล้มกลิ้งไปหลายตลบ “พวกพี่คบกันแล้วเหรอคะ  งื้อ ตอบให้น้องชื่นใจสิคะ”

        “ ไม่ครับ”

        ใยบัวทำเหวอไม่ต่างจากคนเป็นพี่ชาย “ อะไรหมอนอนกันโครมๆขนาดนี้ยังไม่เป็นอะไรกันอีกเหรอ”


        “ ไอ้ยิม”

        “ โอ๊ย”

         มันแกล้งร้องตอนที่ผมปาปาท่องโก๋ที่วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์ใส่มันทันที ก่อนจะหันไปดูหน้าจอโทรศัพท์ที่ดับไปแล้ว แต่ผมเห็นว่าก่อนที่มันจะดับไปน้องสาวมันยิ้มกว้างแล้วสาวเจ้าก็แหกปากเรียกพ่อกับแม่เสียงดังลั่น ผมเท้าสะเอวมองคนต้นเรื่องที่ยักไหล่ชิวๆไม่เดือดร้อนกับอะไรทั้งนั้น

        “ มึงแม่ง พูดอะไรอย่างงี้วะ น้องสาวมึงเข้าใจไปไกลแล้วเนี่ย ไม่รู้ว่าวิ่งไปบอกใครบ้าง”

        “ บอกพ่อกับแม่”

        มันตอบอย่างขำๆ แต่ผมกลับมองว่าท่าทางแบบนั้นแม่งโคตรกวนตีน

        “ ไอ้หมายิ้ม”

        “ ก็ผมนอนกับหมอจริงๆนี่ครับ”

        “ พูดดีๆถ้าไม่อยากเจอตีนกู” ผมเตรียมยกเท้าใส่มันแต่เจ้าตัวดันหลบทัน

        “ เรานอนด้วยกัน”

       มันยักคิ้วใส่ “ ก็แค่นอนหลับแล้วจับมือกัน” มันค่อยๆขยายความอย่างขยักขย่อนชวนให้คิดจนผมอดใจไม่ไหวปากล่องทิชชู่ใส่อีกที

       “ หมอแม่ง ใจร้ายว่ะ”

       มันบ่นทั้งที่รับกล่องทิชชู่ได้อย่างสบาย “ เกิดผมหลบไม่ทันนี่ได้เสียโฉมกันพอดี คราวนี้แหละหมอจะเสียใจที่ไม่มีแฟนหน้าหล่อๆแบบผม”

        “ ใครแฟนมึง”

        “ คนใจแข็งแถวๆนี้แหละครับ” มันขยิบตาให้ทีนึง


        “ จีบอยู่นะ...รู้ยัง” มันเดินมากระซิบข้างหูก่อนจะเดินตัวปลิวคว้าปาท่องโก๋ที่คาดว่ามันคงลงไปซื้อมาให้ใส่ปาก ผมยืนนิ่งเพราะใจยังสั่นกับเสียงกระซิบแผ่วเบานั้นมันพาให้นึกถึงคำๆหนึ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวตลอดทั้งคืน


        ...It’s telling that ‘love’....‘ I love you’...

         ผมเผลอยิ้มออกมาก่อนจะยกมือกุมหน้าอกที่เต้นสั่นระรัวให้มันสงบนิ่ง อย่าให้มันได้รู้เด็ดขาดว่าผมกำลังเผลอใจให้มันซะแล้ว


        “ ใจเต้นแรงเพราะผมสินะครับ”

        ผมตวัดสายตามองมันที่กดยิ้มมุมปากแล้วพิงสะโพกกับโซฟาแล้วกอดอกมองผมนิ่ง แค่สบตากับมันก็รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวทั้งยังมีผลข้างเคียงทำให้ผมจนด้วยคำพูดใดๆอยู่พักหนึ่ง

        “ เพ้อเจ้อ”

        เมื่อตั้งสติได้ผมเลยเดินไปหยิบของว่างยามเช้าในมือมันมาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

        “ อร่อยมั้ยครับ”

        “ อืม”

        “ นี่จะไม่แบ่งผมเลยเหรอครับ”

        มันเนียนมาทรุดตัวนั่งข้างๆ

        “ อยากกิน”

        เลิกคิ้วถามมันก่อนจะหยิบปาท่องโก๋ชิ้นสุดท้ายมาคาบไว้ในปากครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครั้งเลยริมฝีปากออกมา ผมใช้ลิ้นดุนให้มันกระดกไปมาเป็นการยวนใส่อีกฝ่าย แต่ผมคงคิดผิดเพราะแทนที่มันจะล่าถอยมันกลับขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนใบหน้าเราห่างกับเพียงคืบได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน

        “ ผมไม่แย่งหมอกินหรอกครับ”


        มันคลี่ยิ้มลากมือข้างหนึ่งมาคลึงริมฝีปากผมเบาๆ “ เพราะผมอยากให้หมอได้กินชิ้นสุดท้าย เพราะหมอจะได้มีแฟนหล่อๆ ‘แบบผม’ ”

        ...ไอ้เชี่ยยิม...


        ผมนึกเข่นเคี้ยวตอนที่มันยักคิ้วให้ก่อนจะผละออกไป ทิ้งไว้แต่หัวใจที่เต้นไม่เป็นปกติของผม มันยอมรับยากจริงๆแต่ถึงอย่างนั้นคงจะปฏิเสธหัวใจตัวเองอีกไม่ได้แล้วจริงๆ

        ผมคงต้องยอมรับว่า...ผมคง ‘ชอบ’ มันเข้าให้แล้ว

        “ หมอครับ”

        หลังจากมันผลุบเข้าไปในห้องก่อนจะเดินออกมาใหม่ในชุดนักศึกษาที่มันแอบเอามาแขวนไว้ในห้องผมทีละชุดสองชุดจนตอนนี้มันไม่ต้องกลับไปเปลี่ยนที่ห้องตัวเองแล้วเรียกได้ว่าแทบจะมาอาศัยอยู่ที่นี่อย่างถาวร


         “ ผมไปก่อนนะ พี่หนึ่งเรียกไปช่วยงานที่สตูฯถ่ายภาพ”

         ผมพยักหน้ารับ

         “ อืม”

        ...จุ๊บ...

        มันอาศัยความเร็วในการเคลื่อนไหวโน้มใบหน้าลงมาประทับจูบที่ริมฝีปากผมเบาๆ แล้วผละออกไปอย่างรวดเร็ว


        “ ปาท่องโก๋วันนี้โคตรหวานเลย”

        มันลูบริมฝีปากตัวเองตาก็จ้องมาที่ริมฝีปากผม ยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้อะไรมันก็ชิ่งหนีออกไปราวกับพายุ ผมจึงได้แต่กำมือค้างแล้วเลื่อนมาจับริมฝีปากตัวเองก่อนจะเผลอยิ้มออกมาบางๆ






มาแล้วค่ะ ช่วงนี้เก็บแต้มฟินๆตุนกันเยอะหน่อยน้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ :-[
ถ้าพรุ่งนี้ว่างจะมาอัพส่วนที่เหลือนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ
หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 05-11-2016 19:27:40
โอ๊ย!!!!! ปวดแก้ม อมยิ้มหนักมากกกกก  :pighaun:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 05-11-2016 21:29:44
  :impress2: รีบมาต่อนะจ๊ะ หมอปายกำลังเขิล 555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 05-11-2016 21:31:39
 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-11-2016 21:34:07
คือความฟินจิกหมอนขาดกระจุยอ่ะ
อย่าต้มมาม่ามากนักนะคะ เบื่อมาม่าแล้ววววววววว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-11-2016 21:40:58
ฟินกันแต่เช้าเลยนะยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 05-11-2016 22:06:14
ดีต่อใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 05-11-2016 23:40:10
อ๊ากกกกกกกก
เขินนนนนนนแทนนนหมอออปาย
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 05-11-2016 23:50:54
ฟินไป3บ้าน ยิมหยอดหนักมาก

ปล. ยินดีย้อนหลังกับคนแต่งด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 05-11-2016 23:57:10
ยิมหยอดไม่เกรงใจหมอเล้ยยยย

 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-11-2016 02:53:23
อมยิ้มแก้มตุ่ยเลยเรา ยิมก็หยอดหมอเหลือเกิน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-11-2016 05:28:01
ยิมมันร้าย ค่อยๆตอด 555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-11-2016 07:59:06
จากเครียดๆเศร้าๆ ตอนนี้กำลังน่ารักเลย
 :-[

 :L2:  :L1: :pig4::
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-11-2016 08:16:17
มีความฟิน~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 06-11-2016 09:28:27
เขินนน เค้าหวานกันมากเลยค่ะคุณผู้ชม ~

 :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 06-11-2016 19:26:50
 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 06-11-2016 21:30:30
อร๊ายยยยยยยย น่าร๊ากกกกกก #ปายยิม  :o8: //ขำสาววายน้องสาวยิม ถ้าเป็นเรา เจอแบบนี้ก็ลงไปกรี๊ดแดดิ้นเหมือนกันละว่ะ 55555555 รอ 70% นะคะ! ^^
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 07-11-2016 11:40:19
น่าร๊าาากกกกกกกกกกกกก  :m3: :m3: :m3:
ยิมนี่แพรวพราวดีจริงๆ
ดูท่าว่าจะเป็น #ยิมปาย นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 07-11-2016 15:04:28
ยิมรุกหนักเลยนะ. หมอปายเริ่มชอบแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-11-2016 16:44:53
อร๊ายยยยย น่ารักมากเลย  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-11-2016 17:11:08
ไอ้หมายิ้มมันร้ายจริง ตอนจีบสาวใช้มุกแบบนี้ด้วยหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 07-11-2016 18:43:13
 :hao7: ดีดดิ้น ยิมเพ้อเจ้อหรือละเมอไม่รู้

รู้อย่างเดียว ตอนนี้หมอตกหลุม ขึ้นไม่ทันแล้ววว 555

ยิมทำหมอเปิดใจได้ ดีงามมาก
หมอยอมรับแล้วว เหลือแค่เลิกปากแข็ง วิ้ววววว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ »» [5/11/59] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 07-11-2016 19:41:09
       
 

          (ต่อ)




         บรรยากาศตอนสายซึ่งแสงแดดส่องลงมาหลังจากที่ฝนหยุดตกในช่วงเช้า ขณะผมกำลังเร่งฝีเท้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังคณะนิเทศศาสตร์ เพราะก่อนหน้านี้ดันไปตบปากรับคำกับไอ้หนึ่งว่าจะมาถ่ายโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานกิจกรรมของมหาวิทยาลัย หวังว่าจะไม่เจอเด็กนั่นหรอกนะยิ่งได้ยินเมื่อเช้าว่ามันจะมาช่วยงานรุ่นพี่มัน  ภาวนาว่าคงไม่ใช่งานเดียวกันไม่งั้นผมเองก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงถ้าต้องทำงานด้วยกัน เฮ้ย ภาวนาว่าอย่าเพิ่งเจอกันเลยเพราะผมไม่อยากให้หัวใจตัวเองต้องทำงานหนักกว่านี้เลย ให้ตายเถอะ


      “ เฮ้ยปาย”

      “ ไงมึง”

      “ นึกว่ามึงไม่มาซะแล้ว”

       ไอ้หนึ่งแซวขำๆ ผมเลยได้แต่ยิ้มตอบก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆสตูดิโอซึ่งเต็มไปด้วยทีมงานมากมาย ผมแอบพิจารณาบริเวณที่ช่างกล้องกำลังยืนคุยกันก็ไม่เห็นคนที่คาดไว้เลยแอบถอนหายใจโล่งอก

        “ มองอะไร”

        “ เปล่านี่”

        “ เออๆงั้นเอาชุดไปเปลี่ยนจะได้รีบถ่ายรีบเสร็จ”

        “ เออ”

        ผมคว้าเอายีนส์เดฟสีดำสนิทกับเสื้อยืดลายสแกนงานกิจกรรมสีชมพูที่ไอ้หนึ่งมันยื่นให้ไปเปลี่ยนในห้องลองเสื้อใกล้ๆ แต่พอกลับมาอีกครั้งดันเห็นไอ้บ้านั่นมาอยู่ในสตูฯตอนไหนก็ไม่รู้  ผมถอนหายใจแล้วพยายามทำเหมือนไม่เห็นมันแต่ก็ช่างบังเอิญขณะที่มันกำลังเช็ตกล้องอยู่หน้าฉาก พอดีมันเงยหน้าขึ้นมาแล้วปรายตามองมาทางนี้วินาทีที่เราสบตากันไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงขนาดนี้ ยิ่งตอนที่มันกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วให้แบบนั้น

        ผมรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ด้วยแล้ว

        “ ปาย”

        “ หืม”

        “ ยืนมองอะไรวะ”

        ไอ้หนึ่งสะกิดไหล่ผมเบาๆ จนต้องรีบส่ายหัวปฏิเสธ

        “ ถ้าไม่มีอะไรแล้วมึงไปยืนในฉากเลย”

        มันชี้นิ้วไปที่ฉากหลังสีขาวมีอุปกรณ์กีฬาจัดอยู่ตามมุมต่างๆ เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากจังหวะที่ผมยืนหมุนซ้ายหมุนขวาหามุมให้ตัวเองก็รู้สึกถึงฝ่ามือของใครบางคนสะกิดหัวไหล่เบาๆ

        “ หมอ”

        เด็กยิมยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า “ ไม่เห็นบอกผมเลยว่าหมอก็ต้องมาถ่ายแบบงานนี้ด้วย”

        “ มึงยังไม่บอกเลยนี่ว่ามาที่นี่”

        ผมสวนกลับไปอย่างไม่จริงจังนักขณะที่มันเองก็แค่ยักไหล่ขำๆ

        “ งั้นเราก็เจ๊ากัน” มันพูดยิ้มๆ “ และต่อไปนี้ถ้าผมมีอะไรผมจะพูดจะบอกกับหมอทุกอย่าง”

        “ ไม่จำเป็น”

        “ จำเป็นครับ”

        ผมเลิกคิ้วมองมัน “ จำเป็นอะไร”

      “ จำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้มั้ยครับหมอ” มันก้มลงมากระซิบข้างหู เสียงทุ้มที่ดังออกมาอย่างแผ่วเบาทำเอาหน้าผมร้อนวูบวาบไปหมด


         ถึงจะโมโหมันมากแค่ไหนผมก็ได้แต่กำหมัดนิ่งมองมันขยิบตาให้ด้วยท่าทางกวนๆ และหลังจากนั้นไม่นานไอ้หนึ่งก็เข้ามากำกับการโพสท่าของผม โดยมีไอ้เด็กข้างห้องเป็นคนกดชัตเตอร์การถ่ายแบบครั้งนี้เพื่อจะเอาไปใช้โปรโมทงานกีฬากระชับสัมพันธ์ระหว่างคณะต่างๆ ได้ยินจากไอ้หนึ่งว่ามันไปขอความร่วมมือให้คิวท์บอยของแต่ละคณะมาถ่ายแบบเพื่อโปรโมทกิจกรรมด้วย



        “ ถอดเสื้อได้ป่ะปาย”

        “ อืม”

          หลังจากพยักหน้ารับแล้วบรรดาช่างแต่งตัวก็มารุมทึ้งผมแทบจะทันที รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนเรียบร้อยแล้วยังดีว่ายีนส์เดฟสีดำยังแนบสนิทอยู่กับท่อนขา พอกลุ่มคนเหล่านั้นแต่งตัวให้ผมจนพอใจแล้วก็พากันไปยืนทำหน้ากระลิ้มกระเหรี่ยอยู่ด้านข้างพาให้นายกสโมสรคณะนิเทศฯอย่างไอ้หนึ่งกลั้วหัวเราะอย่างขบขัน

   
          ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆเมื่อเห็นสายตาของสาวแท้สาวเทียมโฟกัสอยู่ที่หน้าอกเปลือยเปล่าของผม จึงได้แต่ทำเนียนคว้าเอาอุปกรณ์ประกอบฉากอย่างพวกลูกบอลมาถือเอาไว้แก้เก้อ ผมคงจะไม่รู้สึกหน้าร้อนไปมากกว่านี้ถ้าไม่บังเอิญเหลือบตามองไปยังเพื่อนข้างห้องซึ่งพ่วงตำแหน่งช่างถ่ายภาพด้วย ไอ้ยิมกระตุกยิ้มมุมปากดูเครียดๆซ้ำแววตาที่มันมองผมยังชวนเสียวสันหลังแปลกๆ

          กว่าจะถ่ายเสร็จก็กินเวลาไปนานเล่าเอาผมยืนเปลือยหน้าอกล่อตาคนมองตั้งนานสองนาน พอได้ยินไอ้หนึ่งบอกว่าเสร็จงานแล้วผมเลยรีบคว้าเอาเสื้อมุ่งไปยังห้องน้ำทันที จริงๆผมไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรหรอกเพราะการเปลือยท่อนบนสำหรับผู้ชายเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่สายตาที่มองทะลุผ่านเลนส์ของตากล้องข้างห้องนี่สิทำเอาผมรู้สึกร้อนๆหวานๆยังไงไม่รู้ พอเสร็จผมเลยรีบชิ่งไปห้องน้ำทันที

 







          [ยิม]
 



         “ ขอตัวแป๊บนึงนะพี่”

         “ ไปไหนวะ”

         พี่หนึ่งหันมาถามผมสีหน้ากรุ้มกริ่มเหมือนรู้ว่าผมจะไปไหน

         “ ไปจับหมอครับ”

         “ ไอ้ห่ามึงกูตรงไป” รุ่นพี่ผมหัวเราะ “ ไปเถอะ กูจะไม่บอกใครหรอกว่ามึงไปจับหมอในห้องน้ำกับไอ้ปาย”

         พี่หนึ่งยักคิ้วทำหน้ารู้ทัน

         “ พี่รู้”

         “ก็พอจะเดาได้” พี่แกยักไหล่  “จับไอ้หมอปายนี่จับยากหน่อยนะ”

         “ ครับผมรู้”

         “ แต่ไม่ยากเกินความสามารถมึงหรอก”



        ผมหัวเราะร่วนก่อนจะเดินตามเป้าหมายไปในห้องน้ำ เปิดเข้าไปทันได้เห็นหมอปายกำลังสวมเสื้อพอดีผมเลยพิงสะโพกกับอ่างล้างมือมองเพลินๆ หมอเลิ้กคิ้วมองผมก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังล็อกเกอร์เก็บของด้านหลังสตูดิโอถ่ายภาพหลังคณะ

        “ มีอะไร”

        หมอหันมาทำหน้ายักษ์ใส่ผม

        “ หมอนี่หุ่นดีนะครับ” ผมตอบยิ้ม  “ ผมเพิ่งรู้ว่า...”

        “ หยุด”

         หมอชี้นิ้วใส่ผม

         “ ผมหวงนะครับ หมอเล่นโชว์หุ่นแบบนี้ผมก็แย่สิ”

          “ อะไรของมึง”

          ผมไม่ตอบแต่เดินเข้าไปใกล้หมอมากขึ้น จนอีกฝ่ายก้าวถอยหลังขณะที่ผมกำลังย่ามใจหมอก็หยุดนิ่งก่อนจะยืนพิงผนังมองผมนิ่ง “ มึงจะทำอะไร”

         ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปดันกำแพงที่หมอยืนพิง ทำให้เราสองคนต้องอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ใบหน้าของเราอยู่ในระดับเดียวกันในขณะที่ผมเหมือนจะคร่อมตัวอีกฝ่าย แต่หมอก็ไม่ได้แสดงท่าทางหวาดหวั่นแค่กอดอกเลิกคิ้วเป็นเชิงท้าทาย

         “ หมอ”

         ผมพึมพำข้างหูอีกฝ่าย “ เมื่อไหร่จะใจอ่อนกับผมสักทีครับ ผมจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาหวงหมอแบบนี้”

         ผมเกลี่ยปลายนิ้วไปตามใบหน้าอีกฝ่าย หมอแค่กระตุกยิ้มมุมปาก

         “ ถ้ากูไม่ใจอ่อนล่ะ”

         “ เจ็บเลย” ผมทำเสียงคล้ายกำลังงอนอีกฝ่าย “ ผมเจ็บแบบนี้หมอไม่สนใจเป็นหมอเจ้าของไข้ผมหน่อยเหรอครับ”

         หมอหรี่ตามองตามมือของผมที่กุมหัวใจตัวเองแล้วมองนิ่งๆ

         “ ก็ดูไม่เป็นอะไรมากนี่ ดูแลตัวเองได้อยู่มั้ง”

         “ หมออ่ะ”

         ผมถอนหายใจเมื่อหมอทำไม่รู้ไม่ชี้ดูไม่เข้าใจความนัยของประโยคนี้ ผมเลยโน้มใบหน้าไปใกล้จนปลายจมูกเราชนกัน

         “ คำขอให้หมอเป็นเจ้าของไข้ หมายถึงผมขอหมอเป็นแฟนอยู่นะครับ”

         “ อ้าวเหรอ” หมอกลั้วหัวเราะ “ นี่กูเข้าใจผิดมาตั้งนานเหรอเนี่ย”

         ผมหรี่ตามองคนที่ทำเนียนไม่เข้าใจอะไรเลย ทั้งๆที่ผมเคยพูดประโยคนี้กับหมอแล้วครั้งหนึ่ง และเป็นหมอเองที่ดูจะเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดีวันนั้น

         “ หมอ”


        คราวนี้ผมโน้มใบหน้าจนหน้าผากเราชิดกัน “ ทำไมหมอถึงเจ้าเล่ห์แบบนี้ครับ”

         “มึงพูดอะไรกูไม่รู้เรื่อง”

         “ หมอใจร้าย”

         ผมยิ้มอ่อนตอนที่หมอดีดหน้าผากผมเบาๆ ตอนนี้เราเหมือนเล่นเกมจ้องตากันอยู่ เชื่อมั้ยว่ายิ่งจ้องยิ่งทำให้ยากจะละสายตา

         “ ยิม”

        เป็นครั้งแรกที่หมอเรียกชื่อผมได้อ่อนโยนขนาดนี้ และยิ่งมองเข้าไปในแววตาคู่นี้ผมก็แอบเข้าข้างตัวเองว่าเราคงจะรู้สึกไม่ต่างกัน


        ...รู้สึกว่าหัวใจของเราเต้นไปพร้อมๆกัน...

        “ ครับ”

        “ ถ้ากูอยากให้มึงพูดว่าตอนนี้มึงรู้สึกอะไรอยู่ มึงพอจะบอกได้มั้ย”

        ผมยิ้มกว้างเลื่อนไปกุมข้อมือหมอเอาไว้

        “ ตอนนี้ในหัวผมมีคำพูดเป็นล้าน มีหลายอย่างที่อยากจะบอกออกไป แต่เอาเข้าจริงๆกลับนึกแทบไม่ออก” ผมหัวเราะอย่างขำๆก่อนจะสบตากับหมอตรงๆ “ ผมรู้แค่ว่าผมกำลังขอโอกาส ขอดูแลหมอ เป็นแฟนผมนะหมอปาย”


        “ แล้วไงต่อ”

        หมอกอดอกยิ้ม

        ผมส่ายหัว “ ผมอยากมีแฟนเรียนหมอครับ”




        .

        .



         หมอหัวเราะ ก่อนจะผลักให้ผมถอยห่างแล้วหันหลังเดินไปทำเอาผมใจแทบร่วง แต่ขณะที่ผมกำลังจะก้าวตามคนข้างหน้าหยุดชะงักแล้วพูดเสียงแผ่วเบาว่า



        “ อืม กูก็อยากมีแฟนเรียนนิเทศฯเหมือนกัน”











เอาแหล่วววววว เมื่อพี่หมออยากมีแฟนเรียนนิเทศฯ
ฮืออออ หมอนน้องขาดแล้วค่ะทูลหัว ถถถถถ  :-[
#หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะคะ
#เจอกันตอนหน้าเราขอเตือนว่าเตรียมหมอนไว้จิกด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-11-2016 19:54:28
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 07-11-2016 19:58:34
ใจตรงกันเลยนะ ยิมปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-11-2016 20:19:09
เขินไปซิ่ ตอบกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 07-11-2016 20:45:56
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-11-2016 20:48:15
กรี๊ดดดดดดดดดดดด พี่หมออ่อยยิมมมมมมมมมมม ว๊ายยยๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-11-2016 20:50:26
 :impress2: :impress2:เด็กนิติก็อยากได้แฟนเป็นหมอเหมือนกัน :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 07-11-2016 21:27:53
รอตอนหน้าแทบจิไม่ไหว :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 07-11-2016 21:57:20
เชรดดดดดด!!หมอปายมาเล่นพูดแบบนี้ ฆ่าเราตายก่อนยิมเลยเถอะ เขินนนนนนโว้ยยยยย >///< 555555 วุ้ยยยยยยแฟนหมอแฟนนิเทศน์ ต่างคนก็ต่างปรับจูนเข้าหากัน มันดีกับใจเจรงๆ 555 รอตอนต่อไปเป็นแฟนกันแล้วจะหวานหึงหวงนัวเนียขนาดไหน รอค่ะรอ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ktsingto ที่ 07-11-2016 22:33:16
หมอปายอ่อยยยย ยิมน่าร้ากกกดด  :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-11-2016 22:55:43
ฮิ้ววววว เป็นแฟนกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 07-11-2016 22:59:25
ฮันน่ะ ฮันน่ะ ฮันน้าาาาาาาาาาาาา

เป็นแฟนกันแบ๊วววววว :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: skysky ที่ 07-11-2016 23:12:45
เราชอบเรื่องนี้ๆมากๆ เราหลงกาว(น์)เหมือนกัน อิอิ
หลงรักหมอปาย หลงรักยิม
หลงกาว(น์) ทำเราอมยิ้มได้ตลอด
โอ๊ย การจีบของยิมเนี่ย จริงๆนะ ผู้ชายแบบนี้ร้ายชะมัด ทำหมอปายหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย

เราเพิ่งอ่านเรื่องนี้เมื่อคืน ทำเรานอนดึกเลยอ่ะ วันนี้เลยง่วงทั้งวัน 555
ในที่สุดเราก็อ่านถึงตอนปัจจุบันแล้ว เย่ๆ เราก็อยากมีแฟนเรียนหมอกับนิเทศเหมือนกันนะ  :laugh:
ชอบเรื่องนี้มากๆ ขอยืนยันอีกรอบ 555
รอติดตามเรื่องราวหลงต่อๆไป
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 07-11-2016 23:38:47
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

แต่ว่าาาาขอเป็นแฟนหน้าล๊อกเกอร์เนี่ยนะ
ไม่ไหวเลย
เอาใหม่ขออีกที กลางสนามบอลเลยวันแข่งกีฬา 55555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-11-2016 02:20:57
 :L2: :L1: :pig4:

อ่อยมาก็อ่อยกลับ
แฟร์ๆ โด่วว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 08-11-2016 12:41:09
 :hao7: โอ้ยๆๆๆ ทำไมมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งแบบนี้

เราอ่านตอนแรกแบบเมะชนเมะ ต้องห้าวๆโหดๆ แต่นี้อะไร อ่านไปอ่านมาทำไมหวานแบบนี้

เราว่าละยินปายแน่ๆ ดูปายออกแนวนางพญา ><  รอวันพบป่ะครอบครัวน้า~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 08-11-2016 14:03:05
โมเม้นนี้ตายมั้ยยยยย :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-11-2016 22:25:19
สรุปเป็นแฟนกันแล้วเนาะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 08-11-2016 23:29:37
 :katai2-1: ในที่สุดหมอปายก็ใจอ่อนซะที อิอิ ต่อไปเป็นไงน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 08-11-2016 23:58:59
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-11-2016 18:30:47
เค้าอยากมีกันและกัน กิ้วๆๆๆ

ยิมก็ชงเข้มมาก หนักมาก เนียนทำฟินตลอด
หมอก็ไม่ทนพอ ตกหลุมยิมแล้วค่ะ

ยิมได้หมอเป็นเจ้าของไข้แล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-11-2016 23:37:59
น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 10-11-2016 00:02:31
เพิ่งมาตามอ่านค่ะ เชียร์ #ยิมปาย มาก 55555555
ยิ่งนานหมอยิ่งน่ารักกกกกกกกกก
แล้วนี่หมายความว่าเขาคบกันแล้วใช่มั้ยคะ /////
หวังว่าจะไม่มีดราม่าอะไรน้า T_T
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 10-11-2016 21:36:35
สาแก่ใจทั้งคู่แน่ค่ะงานนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 10-11-2016 21:42:55
ฮือ เขินอะะะะะะะ เอาฉากหวานๆอีกกกกกก

ประกาศว่าคบกันเลยค่ะะะะะะ ฮืออ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 19: อยากมีแฟนเรียนหมอ100% [7/11/59] P.16
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 12-11-2016 19:40:04



        หลงที่ 20 : เมษา




        [ยิม]



        “ น้องง่วง”

       เด็กตัวขาวนี่พูดไปหาวไปไม่นานหลังจากนั้นดวงตากลมโตก็ค่อยๆหรี่ลง ก่อนจะปิดสนิทในที่สุดก็จะไม่ให้ง่วงยังไงไหวตั้งแต่มาถึงนี่เล่นไม่หยุด ชวนให้ไปนอนตั้งแต่หัวค่ำก็ไม่ยอมนอน สุดท้ายเด็กน้อยก็นอนหลับกอดหุ่นยนต์ที่หมอซื้อให้เสียแน่นมันชวนเอ็นดูจนต้องก้มลงไปหอมหน้าผากน้องเบาๆ แล้วค่อยช้อนร่างน้อยเข้าไปนอนในห้อง


       “ ปอหลับแล้วเหรอ”

       “ ครับ”

       ผมหันไปตอบคำถามหมอซึ่งยืนหาววอดๆอยู่หน้าประตูห้องนอน พอได้คำตอบแล้วหมอก็พยักหน้าหงึกหงักเดินไปปิดโคมไฟซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือด้านนอก แล้วเดินตาปิดคลำทางมา ผมยิ้มขำกับท่าทางง่วงจัดของหมอ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าตัวเองเดินมึนๆขี้หูขยี้ตาน่ามองแค่ไหน สุดท้ายแล้วหมอก็ยอมแพ้ให้กับความง่วงจนคลานขึ้นเตียงไปนอนมุดผ้าห่มกับน้อง มันเป็นภาพที่น่าดูไม่น้อยเมื่อสองพี่น้องขยับเข้าหากันแทบจะทันที น้องปอละเมอไปซุกอกหมอขณะที่คนพี่ก็อ้าแขนรอรับศีรษะทุยสวยทันที


        “ หมอ”

        “ อื้อ”

        “ ราตรีสวัสดิ์ครับ”


        ผมก้มลงไปประทับจูบริมฝีปากสีสดของหมออย่างแผ่วเบา อีกฝ่ายทำเสียงอืออาส่ายมือเปะปะชกไหล่ผมเบาๆ ยังดีว่าตอนนี้หมอครึ่งหลับครึ่งตื่นถ้าเป็นตอนที่มีสติครอบถ้วนอยู่ผมคงโดนสะกิดหน้าหงายแน่

        ผมถอนหายใจคิดถึงเวลาเกือบเดือนแล้วผมเปิดอกคุยกับหมอและหมอเองก็เหมือนจะตอบตกลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็ยังเหมือนเดิมเหมือนตอนก่อนหน้านี้ที่เราเป็นแค่เพื่อนข้างห้องกัน ถึงเราจะปฏิบัติต่อกันเหมือนเดิมแต่ผมสัมผัสได้ว่าความรู้สึกข้างในต่างหากที่เปลี่ยนไป ผมเกลี่ยปลายนิ้วไปตามใบหน้าอีกฝ่ายก็โดนหมอปัดทิ้งอย่างรำคาญ ผมยิ้มและนึกเห็นใจหมอไม่น้อยเพราะตลอดเดือนที่ผ่านมาหมอยุ่งมากแค่ไหน

        หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสอบของมหาวิทยาลัยซึ่งผมเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอด จึงไม่แปลกที่จะเห็นหมอตาลึกโหลเหมือนคนอดหลับอดนอนขนาดนี้เพราะทั้งเรียนด้วยสอบด้วย ไหนจะราววอร์ด สรุปเคทอะไรอีกมากมายที่เห็นหมอทำอยู่ตลอดเวลา พอตกกลางคืนแทนที่จะได้นอนต้องมานั่งอ่านหนังสือดึกดื่น แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนผมก็ไม่ยักกะเห็นหมอบ่นสักคำ ผมรู้ว่าหมอมีความสนใจในสิ่งที่ทำอยู่ ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนแต่แววตาหมอกลับมีประกายทุกครั้งที่เราสบตากัน

        วันนี้เป็นวันแรกในรอบเดือนที่เราได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน เพราะนอกจากหมอจะติดสอบและเรียนหนักจนบางครั้งไม่ได้กลับมานอนที่คอนโดแล้ว ผมเองก็ยุ่งเพราะช่วงนี้ผมกำลังส่งภาพถ่ายเข้าประกวด เพราะเหตุนี้เราเลยต่างคนต่างยุ่งจนไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันเป็นเดือนๆ โชคดีที่วันนี้น้องปอโทรมาอ้อนหมอให้ไปรับที่โรงเรียนอนุบาล เห็นหมอบอกว่าไม่มีใครอยู่บ้านอีกแล้วน้องเลยงอแงให้ไปหาสุดท้ายหมอก็ใจอ่อนไปรับมาอยู่ด้วยเพราะตรงกับเสาร์อาทิตย์พอดี ก่อนหน้านี้หมอก็พาน้องไปกินไอศกรีมในห้างซ้ำยังใจดีซื้อหุ่นยนต์ให้เด็กขี้อ้อนอีก ไม่แปลกที่น้องปอจะนอนกอดหุ่นยนต์เสียแน่นขนาดนี้

        ผมกอดอกนั่งมองสองพี่น้องหลับใหลสักพักหนึ่งก่อนจะคว้าเอากล้องถ่ายรูปตัวโปรดของผมที่เก็บเงินซื้อตั้งแต่อยู่อังกฤษมาปรับแสงก่อนจะเล็งสายตามองผ่านเลนส์ โดยมีจุดโฟกัสคือใบหน้าหมอยามหลับใหล หมอไม่รู้ว่าเวลาที่หมอหลับผมแอบถ่ายรูปอีกฝ่ายตลอด เพราะเวลาที่อีกฝ่ายหลับใหลใบหน้าเรียบเฉยนั่นดูอ่อนโยนผ่อนคลายอย่างประหลาด ผมชอบที่สุดมันเหมือนว่าหมอได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่ต้องแบกรับมาตลอด มันดูผ่อนคลายเผยให้เห็นความสดใสที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน

        ผมเกลี่ยปลายนิ้วไปตามใบหน้าอีกฝ่ายหลังจากแอบถ่ายรูปหมอไปเสียหลายรูป หมอเป็นคนผิวดีแม้ใบหน้าจะดูอิดโรยเพราะหมอไม่ค่อยได้พักผ่อน ผมนิ่งมองอีกฝ่ายเหมือนกลัวว่าหมอจะหายไปคิดดูสิจากวันแรกที่รู้จักกันอย่างไม่เป็นมิตรนักจนถึงตอนนี้ผมได้มีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นคนสำคัญของหมอ ถึงหมอจะไม่ค่อยพูดหรือแสดงออกอะไรมากนักแต่ผมกลับชอบความสัมพันธ์แบบนี้


        ...มันไม่น้อยไป ไม่มากไป...

        ...ไม่ได้ใกล้จนหายใจไม่ออก แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลจนเอื้อมไม่ถึง...

        ถึงเราจะไม่ได้พูดอะไรให้อีกฝ่ายรับรู้มากนัก แต่การกระทำและความรู้สึกระหว่างกันดูชัดเจนขึ้น

        “ หมอ”

        ผมกระซิบข้างหูอีกฝ่าย “ ขอให้หมอฝันดี ฝันถึงผมด้วยนะครับ”

        หลังจากนั้นผมก็เดินออกมาจากห้องนอน เพื่อมาทำงานของตัวเองต่อ ก่อนจะปิดประตูห้องกันไม่ให้แสงสว่างจากห้องครัวสาดเข้ามาผมทันเห็นรอยยิ้มของหมอปายยามหลับใหล

        ...ยิ้มหมอยิ้มเดียว ก็เหมือนว่าจะมีแรงทำงานทั้งคืนแล้ว...



       .

       .

       .

      ....Rrrrrr...

      เสียงโทรศัพท์หมอที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือดังขึ้นในความเงียบ ทำให้ต้องละความสนใจจากงานตรงหน้าทันทีเพราะกลัวว่าเสียงนั้นจะดังเข้าไปรบกวนการนอนของหมอในห้อง ผมถอนหายใจเมื่อเห็นชื่อ ‘ไอลดา’ เป็นรายชื่อสายเรียกเข้า คราแรกได้แต่นิ่งมองโทรศัพท์มือถือในมืออย่างไม่รู้จะทำยังไง ครันจะกดปิดก็กลัวว่าอีกฝ่ายอาจจะมีธุระสำคัญในเวลาดึกดื่นขนาดนี้ แต่จะให้ไปปลุกหมอมารับก็ไม่มีทางซะล่ะ สุดท้ายผมเลยถือวิสาสะกดรับโทรศัพท์เอง


       ‘ครับ’

       ‘ปาย’ ปลายเสียงทำเสียงอ้อแอ้คล้ายคนเมา

       ‘หมอปายนอนแล้วครับ’

       ‘แล้วแกเป็นใคร สะเออะมารับสายปายทำไม’

        ผมถอนหายใจเมื่อเจ้าหล่อนดูจะมีอารมณ์
       
        ‘มีธุระอะไรกับหมอครับ’

        ‘ไปตามปายมาคุยกับฉัน’

        ‘ผมบอกคุณไปแล้วว่าหมอนอนแล้วไม่สะดวกมารับสายคุณ ถ้ามีธุระสำคัญฝากผมไว้ก็ได้ครับ’

        ‘แกไอ้คู่ขาปายวันนั้น’

        เหมือนหล่อนจะจำได้ซะแล้วว่าเคยปะทะกับผมในวันนั้น

        ‘นี่แกอยู่กับปายเหรอ’

        ‘ครับ’

        ‘ไม่จริง ไม่มีทาง ปายไม่มีทางเลือกคนอย่างแก’

        ‘แล้วทำไมหมอถึงเลือกผมไม่ได้ล่ะครับ’ ผมเดาะลิ้นกวนๆ

        ‘เขาไม่มีทางชอบใครได้อีก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย’ ปลายสายฟูมฟาย ‘ปายไม่มีทางลืมรักแรกของเขาได้ ไม่มีทาง’


        ...รักแรกงั้นเหรอ...

        ผมรับรู้ถ้อยคำเหล่านั้นด้วยอาการที่วูบโหวงในใจแปลกๆ มันรู้สึกยังไงไม่รู้ที่รู้ว่าหมอมีรักแรกที่ไม่อาจลืมเลือน
‘แกไม่มีทางแทนที่ “เมษา” ได้ไม่มีวัน ’

        ไอลดาเริ่มร้องไห้ ‘ถ้าปายจะรักใครอีก คนๆนั้นต้องเป็นฉันเพราะฉันอยู่เคียงข้างเขามาตลอด’

        ...เมษา...

        ผมพึมพำชื่อใครคนหนึ่ง โดยปล่อยความคิดให้หลุดลอยไปลืมฟังแม้กระทั่ง ถ้อยคำด่าทอที่อีกฝ่ายด่ามาตามสาย ผมนิ่งเงียบปล่อยให้โทรศัพท์ดับไป

        ผมนิ่งอยู่นานในหัวกำลังทบทวนชื่อที่ได้ยินมา เธอคนนั้นเป็นใคร เธอมีความสำคัญกับหมออย่างไร ถึงว่าเวลาที่หมอพูดถึงอดีตหมอถึงดูเศร้าสร้อยและเจ็บปวดทุกครั้ง เพราะหมอคงจะเก็บเธอไว้ในส่วนลึกสินะ เธอคนนั้นคงมีอิทธิพลกับหมอจริงๆ ผมยอมรับว่าอดใจหายกับข่าวที่ได้ยินไม่ได้ ไม่สิไม่ใช่ใจหายแต่กำลังน้อยใจหมออยู่ต่างหาก เพราะนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หมอดูเย็นชาปิดรับความรู้สึกรอบข้าง

        แล้วยังไง ผมต้องมัวมานั่งน้อยใจกับอดีตโดยไม่คิดถามหมองั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอกต่อให้เธอจะมีตัวตนจริงหรือไม่แต่ก็ตามในตอนนี้ ผมเองก็มีความสำคัญกับหมอไม่ต่างจากคนๆนั้นเหมือนกัน

        “ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”

        เพราะมัวแต่เหม่อจึงไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้หมอตื่นมายืนมองผมอยู่ใกล้ๆแค่นี้

        “ หมอตื่นมาทำไมครับ”

        หมอปายปิดปากหาว แต่สีหน้าดูสดชื่นขึ้นคงเพราะไม่พักสายตา ผมเหลือบตามองไปยังนาฬิกาที่แขวนบนฝาผนังบอกเวลาตีสองกว่าแล้ว แสดงว่าหมอไปนอนได้เกือบสองชั่วโมงแล้วสินะ

         “ กูตื่นมาอ่านหนังสือต่อแล้วมึงล่ะยังไม่นอนอีกเหรอ”

         ผมส่ายหน้า

         “ ยังทำงานไม่เสร็จครับ” หมอพยักหน้ารับก่อนจะบิดขี้เกียจ เดินไปทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ ผมเลยได้แต่มองตามแผ่นหลังอีกฝ่ายไปเงียบๆ เพราะเวลาดึกสงัดรอบกายผมจึงได้สงบเงียบเช่นนี้ หากเป็นก่อนหน้านี้ผมคงรู้สึกดีไม่น้อยเพราะผมต้องอาศัยความเงียบในการทำงาน แต่ตอนนี้ความเงียบแบบนี้กลับชวนอึดอัดเพราะเรื่องราวที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้

         ...มันอึดอัดอยู่ในใจจนอยากระบายออกมา...

         “ หมอครับ”

         “ หืม”

          หมอทำเสียงในลำคอ สายตายังจดจ้องที่ตำราเรียนภาษาอังกฤษเล่มหนาซึ่งเต็มไปด้วยภาพร่างกายของมนุษย์ ผมถอนหายใจจนหมอสัมผัสได้จึงเงียบไป ฝ่ายนั้นจึงละมือจากหนังสือตรงหน้าหันมามองผมทันที

         “ มีอะไร”

         “ เมื่อกี้คุณไอลดาโทรมาครับ”

         “ แล้วไง”

         “ ผมถือวิสาสะรับสายครับ”

         “ มันคงไม่ใช่แค่นี้มั้งที่มึงจะบอกกู” หมอกอดอกมองผมนิ่ง “ มีอะไรจะพูดก็พูดมา”

         ผมถอนหายใจอีกครั้ง

         “ เธอพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อ ‘เมษา’ ”

         หมอถอนหายใจคลึงขมับตัวเองไปมา ผมเลยลอบสังเกตอาการอีกฝ่ายที่ดูจะแปลกไปแววตาหมอไหววูบดูเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก อาการเหล่านั้นทำเอาผมใจวูบโหวง

         “ ไอบอกอะไรมึงบ้าง”

          “ เธอบอกแค่ว่าหมอไม่มีทางรักใครได้ เพราะหมอไม่เคยลืมเมษา”

         เราสบตากันนิ่งและเป็นผมเองที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น ส่วนหมอขยับตัวไปยังโต๊ะอาหารที่ครัวจนต้องผมต้องลุกตาม ผมมองหมอเทนมใส่แก้วแล้วเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ ก่อนจะวนมาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

         “ กูไม่มีทางลืมเมษา”

         หมอพึมพำแววตาเหม่อมองไปไกล หมอแสดงออกว่ารู้สึกห่วงหาใครบางคนจนผมสัมผัสได้ ถึงในใจผมวูบโหวงแต่ก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกของหมอมันเป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์น่าจดจำ

         “ เมษาเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของกู” หมออมยิ้มเมื่อพูดถึงเธอ “ เธอสวยน่ารัก เมษาเป็นคนอ่อนโยน เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน นอกจากอั้มที่สนิทกับกูมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว กู เมษา และไอลดาเรามาสนิทมากันตอนเรียนม.ปลายเพราะเราเรียนห้องเดียวกันจากความสนิทสนมทำให้กูรู้สึกดีๆกับเมษาจนขอเธอเป็นแฟน”

         ...เป็นคนสำคัญของหมอปายจริงๆสินะ ผมแค่นยิ้มก่อนจะถอนหายใจอย่างอ่อนล้า...

        “ แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนครับ”

         หมอเงยหน้าขึ้นสบตากับผมไม่รู้ว่าตาฝาดไปรึเปล่าที่เห็นหยาดน้ำใสๆในแววตาคู่นั้นของหมอ

        “ ถ้ามึงจำได้กูเคยเล่าว่าแม่กูประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต” หมอเสียงสั่นๆ “ แล้วรถคันนั้นเมษาก็นั่งไปด้วย”

        ...งั้นก็แสดงว่า...

        ผมอ้าปากค้างนึกโกรธตัวเองที่พาลไปรู้สึกไม่ดีกับผู้หญิงที่ล่วงลับไปแล้ว ซ้ำเธอยังไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับผมด้วยซ้ำ ผมคิดเองเออเองต่างหาก โธ่เอ้ยไอ้ยิม

         “ ผมเสียใจด้วยนะครับ”

         “ มันนานมาแล้ว” หมอพูดเสียงเบา “นานจนเวลามันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว”

         “ ผมขอโทษที่รื้อฟื้นมันทำให้หมอต้องคิดถึงความเจ็บปวดตอนนั้น”

         หมอส่ายหน้าปฏิเสธ “ ถึงยังไงแม่กับเมษาก็ไม่ฟื้นขึ้นมา พวกเขาไม่มีทางกลับมาหากู กูยอมรับว่ายังเสียใจอยู่แต่พวกเขาคือความทรงจำ คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่กูเคยมี”

         ผมเอื้อมไปกุมข้อมือหมอแล้วเขย่าเบาๆ

         “ เก็บพวกเขาเอาไว้เถอะครับหมอ เก็บเมษาไว้ในความทรงจำ ถึงแม้จะเศร้าใจทุกครั้งที่ได้คิดถึงแต่ยังดีกว่าไม่มีใครให้คิดถึง”

         “ อืม”

         “ หมอครับ”

         ผมขยับเข้าไปใกล้หมอ “ ครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องของเมษาผมยอมรับว่ากำลังคิดน้อยใจ และไม่เข้าใจหมอ ผมขอโทษที่คิดแบบนั้น”

        “ อย่าน้อยใจเลย”

        หมอลูบปลายคางผม

        “ ถ้าเมษาคืออดีตที่สมควรจดจำ มึงก็คือปัจจุบันที่กูควรรักษาเอาไว้”

        ผมไม่นึกว่าหัวใจตัวเองจะเต้นแรงขนาดนี้ เมื่อได้ยินประโยคง่ายๆของหมอแต่ฟังแล้วลึกซึ้งสำหรับผมเหลือเกิน แปลกมั้ยสำหรับความรักบทจะหวานก็พาให้หัวใจสั่นไหว พอเศร้ามาเยือนครั้งใดก็เหมือนว่าใจจะจาดเสียให้ได้

        ...ประหลาดแท้ความรัก...

        “ ผมบอกตัวเองตั้งแต่ได้ยินเรื่องของเมษาว่า ต่อให้เธอจะมีตัวตนหรือไม่ก็ตาม ผมก็จะไม่ยอมให้เมษาหรือใครๆมีความสำคัญกับใจหมอเท่ากับผม ผมขอคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมสำคัญเป็นที่หนึ่งสำหรับหมอ”

         ระหว่างเรามีแต่ความเงียบจนเสียงไมโครเวฟดังขึ้น

         “ มึงคิดถูกแล้วล่ะ” ไม่ผิดใช่มั้ยถ้าผมจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังหัวใจพองโต

         หมอขยับรอยยิ้มก่อนจะเดินไปหยิบนมที่อุ่นจนร้อนในไมโครเวฟ แล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะยกนมขึ้นเดิม แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามที่เห็นผมมองอยู่ ผมเลยชี้ไปที่ขอบปากหมอแล้วอธิบาย

         “ นมเลอะขอบปากครับหมอ”

         หมอเม้มปากแน่นก่อนจะแลบลิ้นเลียขอบปากของตัวเอง ผมเลยผุดลุกขึ้นไปยืนอยู่ใกล้ๆหมายจะหยิบทิชชู่เช็ดให้ พอดีหมอเงยหน้ามองผม จะเรียกว่าทุกอย่างมันยากเกินกว่าที่ผมจะควบคุมก็ได้เมื่อผมยืนเท้ามือข้างหนึ่งไปที่พนักเก้าอี้ของหมออีกข้างยันที่โต๊ะก่อนจะโน้มใบหน้าไปประกบริมฝีปากที่เลอะคราบนม ถึงจะประหลาดใจที่หมอซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้เงยหน้ารับจูบของผม แต่เหมือนบรรยากาศรอบข้างจะหยุดลงฉับพลัน เหมือนว่านาฬิกากำลังหยุดเดิน ตอนที่ปลายลิ้นผมไล่ดูดคราบนมแล้วป้อนให้หมอปายผ่านลิ้น ไม่นานลิ้นของเราทั้งสองก็เกี่ยวกระหวัดกันจนมั่วไปหมด ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองหูอื้อ ตาลายแทบจะจำอะไรไม่ได้ ผมจำจดได้แต่สัมผัสของเราสองคน

         ผมอยู่ในท่าประหลาดคือคร่อมทับหมอซึ่งถูกผมอุ้มไปนอนแผ่อยู่บนโต๊ะอาหาร ถึงอย่างนั้นริมฝีปากเราก็ไม่แยกจากกันเลย ตรงกันข้ามผมรู้สึกว่าเราสัมผัสกันแนบแน่นมากขึ้น ทั้งมือก็ลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อเรียงสวยของหมอ ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังร้อนเป็นไฟ ท้องน้อยเสียววูบวาบไปหมดเหมือนมีอะไรอัดอั้นอยู่ภายใน ยิ่งเสียงของหมอครางท่ามกลางความเงียบยิ่งพาให้สติผมกระเจิดกระเจิง หมอปายหดขาหนีตอนที่ลำตัวช่วงล่างของผมกำลังสีที่ต้นขา


         “ หมอครับ”

         “ อื้ม”

         “ ผมกำลังร้อนเพราะหมอ”

         “ ยิม”

        หมอครางเสียงกระเส่าตอนที่ปลายนิ้วผมคีบติ่งไตทั้งสองบนหน้าอกแล้วสะกิดไม่เบานัก สีหน้าหมอดูยั่วยวนอย่างประหลาดและปฏิกิริยานั้นกลับทำให้อารมณ์ผมพุ่งทะยาน

          “ ปล่อยกู”

          “ ผมรักหมอ”

         ผมกระซิบชิดริมฝีปากอีกฝ่ายซ้ำยังถูไถส่วนกลางที่ก้นอีกฝ่ายอย่างหยาบโลน ภาพตรงหน้าชวนตื่นเต้นตอนที่หมอบิดตัวไปมาทำเอาผมปวดไปหมดเมื่อสัมผัสระหว่างเรามีแค่กางเกงเนื้อบางที่กางกั้นตัวตนของแต่ละฝ่าย

        “ กะ กูต้องอ่านหนังสือ”

        “ ครับ”

         ผมรับคำโดยไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าหมอพูดว่าอะไร รู้แต่ว่าผมปรารถนาในตัวหมอจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

         “ ปล่อย”

         หมอครางไม่เต็มเสียงตอนที่ผมฝังใบหน้าที่ซอกคออีกฝ่าย

          “ หมอ”

          “ โอ้ย”

         หมองอเข่าจนมันกระแทกหน้าท้องผมเต็มๆ ความเจ็บนั้นทำเอาผมเผลอปล่อยมือจากหมอจนฝ่ายนั้นผละถอยหลัง หมอทำหน้าบอกบุญไม่รับหัวหูแดงก่ำ ริมฝีปากบวมเจ่อ เสื้อยืดเลื่อนหลุดไหล่ไปข้างหนึ่ง ภาพตรงหน้าโคตรยั่วอารมณ์ผมเลยให้ตายเถอะ

          ผมอมยิ้มมือยังกุมท้องที่โดนหมอกระแทกเข่าใส่ไม่เบาแรงเลย

         “ หน้าผมมีอะไรติดรึเปล่าครับทำไมหมอไม่มองหน้าผมเลย

         “ หน้ามึงนะไม่มีอะไร” หมอเงยหน้ามองผมอย่างโกรธเคืองก่อนจะเหลือบตามองกึ่งกลางลำตัวผม

         “ แต่ลูกมึงเนี่ยจะชี้หน้ากูไปถึงไหน”

          ผมหัวเราะดังลั่นขณะที่หมอทำตาเขียวมองผมอย่างเอาเรื่อง

         “ เช้าๆก็งี้แหละหมอ น้องผมมันแข็งแรง”

         หมอกรอกตาไปมาทำหน้าบอกบุญไม่รับแล้วชี้นิ้วไปทางนาฬิกาตรงฝาผนัง

         “ ตอนนี้เพิ่งตีห้าเช้าบ้านมึงสิ”

         “ มันเตรียมยืนตรงเคารพธงชาติไงครับ พอแปดโมงจะได้ไม่ต้องเรียกรวมพลนาน”

          “ ไอ้เหี้ยโคตรเสื่อม”


         หมอทำหน้ารังเกียจผมทันที

         “ หมอใจร้าย”

         ผมเกรียนใส่ “ ไม่รับไหว้ลูกชายผมเลย”

         “ ไอ้หมายิม”

        หมอฮึดฮัดเดินหน้าแดงกลับไปยังโต๊ะอ่านหนังสือทันที ผมเลยแปลงเนื้อเพลงร้องแซวหมอขำๆ‘ ได้เกิดมาเจอหมอทั้งที ไม่ว่ายังไงก็อยากลองดีสักวัน’

        “ ลองตีนกูก่อนมั้ย”


        เสียงหมอดังแหวกอากาศมาพาให้บรรยากาศยามเช้ามืดครื้นเครง ผมรู้สึกว่ามันโคตรดีเลยว่ะ ถ้าตื่นมาเจอกันทุกๆวันแบบนี้ ผมหมายถึงตื่นมาเจอหน้าหมอนะไม่ใช่ตีนหมอ







จะ จูบกันอีกแล้ว เมื่อไหร่จะได้ไปต่อคะ (หมอปายบอกว่าอย่าแม้แต่จะคิด หึ !!!) ฮ่าๆๆๆ  :haun4:

ช่วงนี้อัพหัวค่ำหน่อยเนื่องจากว่านักเขียนอยู่บ้านที่ตวจ.อัพดึกแล้ววังเวง ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเหลย ฮ่าๆๆๆ
หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะจ๊ะ จุ๊บๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-11-2016 20:09:30
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 12-11-2016 20:36:17
ดีต่อใจจิงๆ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 12-11-2016 20:41:19
ก ก กะเกือบแล้ววว
เกือบเสียตัวแล้วหมอ55
รอสอบเสร็จก่อน
เสร็จยิมแน่หมอ :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-11-2016 20:44:49
คิดว่าจะมาม่าซะแล้ว โล่งใจ 555555
ชอบเวลาเค้าจูบกันจังเลยค่ะ ถ้าได้มากกว่าจูบก็คงดี
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 12-11-2016 20:45:58
โอ้ยย ชอบสุดไรสุด ดีต่อใจจจ ❤
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-11-2016 20:48:38
เมื่อไรหมอปายจะอ่อนโยนกะยิมบ้าง 5556
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-11-2016 20:50:43
หุๆๆๆๆ เกือบแล้วๆๆๆ แหมะ น่าเสียดายเน้อออออออออออออ :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: flimflam ที่ 12-11-2016 21:03:14
หมอจะเสร็จยิมหรือยิมจะเสร็จหมอเข้าซักวัน
ลุ้นยิ่งกว่าอะไรค่ะ 55555555555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: pinknocchio ที่ 12-11-2016 21:25:50
ระวังน้องปอตื่นมาเห็น
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-11-2016 23:47:17
อีกนิดเดียวนะยิม 55555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: darksnow ที่ 13-11-2016 00:01:47
อีกนิสสสส หมอปายจะพลาดท่า ยิมละนะ หมอต้อง รุก สิ อย่าไปยอม หมอเขินแรง หมอจะโดนยิมกดเอาน้า 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 13-11-2016 01:24:08
555555
คบกันเป็นเดือน พึ่งได้จูบ
ว่าจะได้หมอก้ เรียนจบอะยิม 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-11-2016 08:14:09
 :-[ หมออ่ะ ไม่น่าแทงเข่าเลยอารมณ์ชะงัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 13-11-2016 15:02:06
ว๊ายยเขินนนน >//< เคลัยร์กันก็ดีแล้ว แต่เอาไว้ว่างๆไม่มีสอบไม่มีงาน ชิลๆนะ จะได้จัดยาวๆ รอหมายิมรวบรัดกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวหมอปาย 5555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 13-11-2016 19:17:23
#ใต้ความหื่น#ใต้ความเขิน#ใต้ความโหด#ทีมหมอปาย :m19:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-11-2016 22:19:16
เกือบเสร็จยิมแล้วหมอ!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-11-2016 22:33:27
กำลังเคลิ้ม ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 14-11-2016 03:10:56
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 14-11-2016 12:28:08
ดีต่อใจมาก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-11-2016 13:01:47
เขินแทนหมออ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: xokcib ที่ 15-11-2016 03:00:56
พึ่งตามอ่านทันค่ะ :katai4:
โง้ยยยย ใครจะได้ใครลุ้นมากกก
แต่เรา #ทีมปายยิม นะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 15-11-2016 11:19:45
ยิมเอ้ยยย แค่นี้ก็ไม่ทนแล้ว แค่นี้หมอก็ไปไหนไม่รอดแล้ว

หมอน่ารัก แอบยอมนะ แต่ก็ปากแข็งด้วย
มีความรักน้อง ยิมก็ปลื้มไปสิ ยิ่งหมอบอกแบบนั้น ยิ่งปลื้มหนัก

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 17-11-2016 00:14:10
5555 หมอเกือบแล้วนะ อีกนิดเดียวก็หลงทางยิมละนะ

ยิมน่ารัก คืออบอุ่น คือดี ชัดเจน

หมอปากแข็งตลอด แต่ก็ยังดีที่ยังยอมบอก ปัจจุบันสำคัญกว่าเนาะหมอ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-11-2016 01:59:05
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 20 : เมษา [12 /11/59] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 21-11-2016 19:32:19





           หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียน ‘นิเทศ’





         [หมอปาย]



           “ ปอ”

          ผมทำเสียงขุ่นเท้าสะเอวมองตัวต้นเหตุที่ทำให้ของขึ้นแต่เช้าซึ่งกำลังส่ายเอวดุ๊กดิ๊ก ปอยิ้มทะเล้นใส่นอกจากจะไม่ฟังเสียงผมแล้วยังวิ่งหลีกหนีผ้าเช็ดตัวที่ผมกางรอท่าเจ้าตัวแสบที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างเปล่าเปลือยของเด็กตัวขาวนี่วิ่งฉิวไปผึ่งพุงสะบัดเกี๊ยวของตัวเองอยู่หน้าทีวีท่าทางน่าตีไม่น้อย

          “ พี่ชายจับน้องให้ได้สิ”

          “ ทำไมซนจังวะ”

          ผมสบถยิ่งเหลือบตาไปมองไอ้ยิมซึ่งทำหน้าที่อาบน้ำให้ปอ แต่สภาพมันออกจากห้องน้ำมาเปียกปอนไปทั้งตัวราวกับว่าไปเป็นคนอาบซะเอง ดูสิเนื้อตัวเปียกโชคซะขนาดนั้น

          “ หมอให้ปอกินอะไรเนี่ย คึกตั้งแต่เช้าเลย ปกติอาบเองได้ วันนี้นึกยังไงไม่รู้ว่าชวนเล่นน้ำซ้ำยังสาดน้ำใส่ผมโครมๆ”
มันเขย่าชายเสื้อที่เปียกชุ่มไปมา สภาพที่เห็นชวนขบขันไม่น้อย

          “ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไป”

          “ ครับ”

          มันรับคำแต่เหมือนมันนึกอะไรขึ้นได้จึงหันกลับมาถามผม “ ว่าแต่หมอจะกางผ้าเช็ดตัวรอเช็ดตัวให้ผมป่ะ”

          “ ตีน”

         พูดไม่พอผมยังยกปลายเท้าใส่มันเป็นการยืนยัน ไอ้คนชอบแหย่เลยรีบหลบฉากไปทันทีพร้อมเสียงหัวเราะร่วน หลังจากนั้นผมจึงหันมาจัดการตัวป่วนของเช้านี้

          “ ปอ”

          “ ครับ”

          รับคำเสียงใสเชียว

           “ มานี่”

          ปอพยักหน้าหงึกหงักเมื่อเห็นผมเอาจริงเลยรีบวิ่งตุบตับมาเกาะขาผมแล้วมารยาออดอ้อนที่ทำแล้วได้ผลทุกครั้ง กว่าจะแต่งตัวให้ปอเสร็จก็พอดีมันอาบน้ำแต่งตัวออกมาพอดี วันนี้ผมตื่นตั้งแต่เช้า จริงๆแล้วจะเรียกว่า‘ตื่น’ คงไม่ถูกเพราะผมยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่ตื่นมาคุยกับมันตอนดึกสงัด ไม่ใช่ว่านอนไม่หลับหรืออะไร แต่ผมต้องอ่านหนังสือไปทะเลาะกับมันไปนั่นแหละ

           จริงๆแล้วการอดนอนถือเป็นเรื่องธรรมดาของนิสิตแพทย์โดยเฉพาะช่วงสอบที่พวกเราแทบจะหัวหมุนถึงอย่างนั้นผมก็ชินซะแล้ว เพราะผมเป็นคนเลือกเส้นทางนี้เองแม้จะเหนื่อยยากลำบากแค่ไหนผมก็พร้อมจะอดทน เหมือนที่ใครๆบอกว่าถ้าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักย่อมต้องอดทนเพื่อให้อยู่กับสิ่งที่รักได้ นั่นอาจจะรวมถึง ‘มัน’ ด้วย มันที่ว่าก็ไอ้เด็กข้างห้องเจ้าของใบหน้ากวนๆนั่นแหละ น่าแปลกที่ผมโคตรอุ่นในเวลาที่อยู่ใกล้มัน และยิ่งแปลกไปกว่านั้นคือผมเองเป็นคนยอมให้มันก้าวเข้ามายึดครองพื้นที่ในใจของผมซะแล้ว

          ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมารู้สึกดีๆกับผู้ชาย ไม่เคยคิดว่าคนที่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อนแบบผมจะมาใจเต้นแรงกับเพศเดียวกัน แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นแล้ว ผมยอมรับว่าชอบและรู้สึกดีกับมัน ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ผมอ่อนไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน ทำให้มีความสุขทุกครั้งที่ได้คิดถึงคงไม่ต่างจากมันที่พูดและแสดงออกว่ามันคิดกับผมยังไง

          ...และถ้าวันไหนผมมีความกล้ามากพอ ผมจะบอกทุกอย่างที่รู้สึกให้มันได้รับรู้...

          “ หมอจะไปไหนเหรอครับ”

          “ เดี๋ยวถึงแล้วก็รู้”

          ผมตอบยิ้มๆก่อนจะหันไปสนใจถนนข้างหน้า หลังจากเช้าที่วุ่นวาย มันและปอก็ขึ้นรถมาแบบงงๆก่อนที่ผมจะขับพาทั้งสองมุ่งสู่ถนนนอกเมือง จากตึกสูงใหญ่ค่อยๆกลายเป็นชุมชนหมู่บ้านแถบชานเมืองเมื่อถึงจุดหมายผมจึงจอดรถนิ่งสนิทอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งบรรยากาศโดยรอบดูนิ่งสงบ

         ไอ้ยิมมันทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ก็ตามผมไปซื้อพวงมาลัยที่มีชาวบ้านร้อยขายอยู่ตรงทางเข้า ไม่นานหลังจากนั้นปอที่หลับมาตลอดทางก็ตื่นขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ

          เด็กน้อยงึมงำ “ น้องเคยมากับคุณพ่อ”

         “ มากันสองคนเหรอ”

         ปอพยักหน้าหงึกหงัก “ แอบหนีแม่ไอมาฮะ คุณพ่อบอกว่ารักที่นี่ เพราะแม่ใหญ่อยู่ที่นี่”

         “ ว่ายังไงนะ”

         ผมขมวดคิ้วนึกประหลาดใจเพราะนึกไม่ถึงว่าบิดาจะเคยพาปอมานี่ที่ และยิ่งไปกว่านั้นผมยังประหลาดใจกับคำพูดในตอนท้ายของปอ

         “ แม่ใหญ่อยู่ที่นี่ คุณพ่อรักแม่ใหญ่”

         “ ไม่จริง”

         ปอทำหน้านึกๆก่อนจะชี้ไปทางธาตุเก็บอัฐิด้านหลังวัด “ คุณพ่อบอกว่าแม่ใหญ่อยู่ที่นี่ คุณพ่อพาน้องมาไหว้แม่ใหญ่ บอกให้น้องเป็นเด็กดีเหมือนพี่ชายแล้วแม่ใหญ่จะได้คุ้มครอง”

          ผมเบือนหน้าหนีรู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว ซ้ำยังจุกๆในลำคอบอกไม่ถูก จนกระทั่งยิมมันแตะบ่าผมเบาๆ รอยยิ้มของมันทำให้ความรู้สึกอึดอัดใจหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น เหมืองปอจะคุ้นเคยที่นี่ถึงขนาดรู้จักกับเด็กวัดที่เดินผ่านมาพอดี เด็กนั่นจึงอ้อนขอเล่นรอตรงลานวัดกับเพื่อนวัยเดียวกัน

          บรรยากาศวัดในสุดสัปดาห์ช่วงสายยังเงียบสงัดเห็นแต่ภิกษุรูปหนึ่งกวาดลานวัดอยู่ไม่ไกล ผมสาวเท้าไปยังจุดหมายซึ่งเป็นที่ตั้งของธาตุหินอ่อนขาวบริสุทธิ์หลังใหญ่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ทุกอย่างรอบตัวเงียบงันจนได้ยินเสียงลมพัดผ่านรอบกาย ผมวางพวงมาลัยลงที่พานแล้วสบตากับผู้หญิงในรูปที่แปะอยู่หน้าธาตุ ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนจะผ่านออกมาทางแววตาคู่นั้น เหมือนว่าแม่กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน

         “ แม่ของหมอสวยจังเลยนะครับ”

        ใช่ สวยมาก แม่เป็นผู้หญิงที่งดงามทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เสียดายสวรรค์ให้เวลาเธอน้อยไปหน่อย เธอถึงจากผมไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้คนที่อยู่ข้างหลังได้แต่จดจำวันเวลาที่สวยงามนั้น

         “ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหมอถึงยิ้มสวยนัก” ยิมมันยิ้มน้อยๆก่อนจะวางพวงมาลัยใส่พานแล้วยกมือไหว้แม่อย่างตั้งใจ

         “ ผมเชื่อว่าถ้าคุณน้ายังอยู่จะต้องภาคภูมิใจที่ลูกชายคุณน้าเก่งขนาดนี้”

         มันสบตากับผมแล้วยิ้มกว้าง


         “ หมอปายเป็นคนยิ้มยากครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาเป็นคนอ่อนโยนเหลือเกิน คุณน้าเลี้ยงดูเขามาดีมากครับ เพราะลูกชายที่แสนเย็นชาของคุณน้ากลับพร้อมจะหยิบยื่นความหวังดีให้ใครต่อใคร เขาทำแผลให้ผมอย่างเบามือ เขาใส่ใจคนไข้เหมือนเป็นญาติ และเอ็นดูคนที่แม้จะเข้ามาแย่งความรักความอบอุ่นที่เขาควรได้รับ”

          ผมเบือนหน้าหนี


          “ ขอบคุณที่คุณน้าคลอดเขาออกมา และดูแลอย่างดี ขอบคุณที่ทำให้ผมกับหมอได้เจอกัน”

          “ พอเถอะ”

          ผมพูดเสียงแผ่วแต่มันกลับยิ้มเฉยแล้วกุมข้อมือผมแน่น

         “ คุณน้าครับผมขออนุญาตกุมมือลูกชายคุณน้านะครับ” มันสอดนิ้วประสานกันทำให้มือของเรากุมกันแน่น “ ผมคิดว่าตั้งแต่คุณน้าจากไปก็เหมือนว่ารอยยิ้มของหมอจะหายไปด้วย ถ้าไม่เป็นการขอมากเกินไป ผมขอเป็นคนรักษาและดูแลรอยยิ้มของลูกชายคุณน้านะครับ”

         “ นี่มึง”

         ยิมมันส่ายหัว เมื่อผมจะพูดแทรก “ อาจจะดูผิดกาลเทศะไปบ้าง แต่ผมอยากให้คุณน้าอวยพรให้เรา ขอให้เรากุมมือกันให้แน่น แม้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามในวันข้างหน้า ขอให้หมอปายกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม ขอให้เขาเป็นที่รักของผมและขอให้เขาเป็นหมอปายคนที่พร้อมจะรักษารอยยิ้มของคนที่เฝ้ารอคนไข้ไว้ให้นานที่สุด”


          ผมน้ำตาร่วงทันทีที่มันพูดจบ ในหัวผมเต็มไปด้วยคำพูดมากมายแต่ยากที่จะเอ่ยเอื้อน ผมมองภาพแม่นิ่งเหมือนสัมผัสได้ถึงความรักความคิดถึงจากภาพถ่ายใบนั้น และผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในใจจากความร้อนที่แผ่ซ่านผ่านทางฝ่ามือของมันที่กระชับมือผมแน่น



         .

         .

         .



         “ ผมบอกเธอว่า ผมขอบคุณที่ในช่วงเวลาหนึ่งเธอทำให้หมอมีความสุข และขอโทษหากผมจะเป็นคนทำให้หมอมีความสุขในวันที่ไม่มีเธอ ทำให้เธอกลายเป็นแค่คนในความทรงจำของหมอ สุดท้ายผมขอโอกาสที่จะรักหมอแทนเธอตลอดไป”

         ผมนิ่งฟังในสิ่งที่มันบอกผมว่าพูดอะไรบ้างที่หน้าธาตุของเมษาซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากแม่ผม ก่อนหน้านี้ผมเห็นมันยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าบ้านหลังสุดท้ายของเมษาอยู่นาน จนตอนนี้เรากลับมานั่งพิงฝากระโปรงหน้ารถใต้ต้นไม้มองปอและเด็กวัดเล่นกันอย่างสนุกสนาน


          อย่างที่บอกว่าผมไม่เคยลืมเธอ จนถึงขนาดที่ไม่คิดอยากจะเริ่มต้นใหม่กับใคร จนกระทั่งวันหนึ่งมันก้าวเข้ามาทุกอย่างที่คิดไว้ถึงเปลี่ยนไป  มันทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป แต่ความคิดเธอยังชัดเจนอยู่ในหัวเหมือนเป็นความรู้สึกดีๆที่อยากเก็บเอาไว้ มันทำให้ความคิดถึงคนในอดีตไม่เจ็บปวดทรมานเหมือนก่อน กำแพงแข็งแรงที่ผมสร้างขึ้นเพื่อกันไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บปวดได้ทะลายลงแล้วเพราะความรู้สึกดีๆของมัน


           ผมยอมแล้ว ผมยอมรับแล้วว่ากำลังพ่ายแพ้ให้ความรู้สึก ‘รัก’ อีกครั้ง




         “ ยิม”

         “ ว่าไงครับ”

         ผมอมยิ้มมองไปยังปอที่ทำสีหน้าสนุกสนานเมื่อได้เล่นกับเด็กวัยเดียวกัน

         “ กูคิดเสมอว่าตั้งแต่แม่จากไป กูคงไม่มีความสำคัญกับพ่ออีกต่อไป กูยอมรับว่าโกรธและน้อยใจเขาถึงขนาดคิดใส่ร้ายกล่าวหาว่าเขาอาจจะมีส่วนรู้เห็นในการตายของแม่”

        มันทำหน้าประหลาดใจ


         “ แต่ตอนนี้กูไม่อยากรับรู้อีกแล้วว่าแม่จากไปเพราะอะไรจะเป็นอุบัติเหตุหรือฝีมือใครนั่นไม่มีประโยชน์อะไรกับกูอีกแล้ว เพราะแม่ยังอยู่ในใจกูเสมอ กูเข้าใจแล้วว่าเขาไม่เคยไปไหน  ความรักของแม่ทำให้กูพร้อมจะให้อภัยทุกคนหากนั่นไม่ใช่อุบัติเหตุ เพราะอย่างน้อยเขาก็เคยพาปอมาที่นี่ อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยลืมแม่”


         “ หมอไม่ได้มีตัวตนแค่กับคุณน้านะครับ ตั้งแต่วินาทีที่ผมรู้สึกกับหมอเปลี่ยนไป หมอมีความสำคัญและมีตัวตนกับผมตลอดไป”



          เราต่างคนต่างยืนนิ่งเงียบเพื่อฟังเสียงลมที่พัดรอบกายผสานกับเสียงหัวเราะของปอ ผมเหลือบไปมองมันซึ่งเท้าแขนไปด้านหลังกับฝากระโปรงรถท่าเดียวกันกับผม แต่ถึงอย่างนั้นมือข้างหนึ่งของมันก็ยังวางทับฝ่ามือผมอีกที ผมเลยขยับเข้าไปใกล้ให้มันกุมได้ถนัดขึ้น แล้วเราต่างคนต่างก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนรอยยิ้ม


          ...ไม่ใช่ผมมีตัวตนสำหรับมันฝ่ายเดียวหรอก เพราะมันเองก็มีตัวตนสำหรับผมเหมือนกัน...








          [ยิม]



          หลังออกจากวัดหมอพาแวะเที่ยวตลาดน้ำแถวๆนั้น น้องปอดูตื่นเต้นมากเจ้าตัวบอกว่าไม่เคยเที่ยวแบบนี้ถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกครั้งที่หมอจับจูงพาเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ผมสังเกตว่าใบหน้าของสองพี่น้องดูมีความสุขก็อดยิ้มตามไม่ได้ ระหว่างนั้นผมก็ยกกล้องที่ติดมาด้วยแอบถ่ายใบหน้ายิ้มๆของหมอ แต่ทุกครั้งที่หมอหันมาผมก็ทำเป็นถ่ายภาพบรรยากาศทำให้ผมเก็บภาพอิริยาบถสบายๆของหมอไปเยอะ


          ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายของกินที่หากินยากอย่างบุหลันดั้นเมฆของโปรดของแม่ผมแล้วส่งไปในไลน์กลุ่มครอบครัว เพียงไม่นานคนอีกซีกโลกก็ส่งสติกเกอร์น้ำลายไหลมาทันท่วงที จนอดตกใจไม่ได้ยิ่งดูนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาบ่ายกว่า หากเป็นอีกซีกโลกคงดึกมากแล้ว


         Mom-Nidtaya : ไปเที่ยวเหรอยิม

         Yim_YOTid : ครับแม่

         BuaBua : พาแฟนเที่ยวเหรอ อิอิ

         Mom-Nidtaya : หา ยิมมีแฟนใหม่แล้วเหรอลูก

         BuaBua : คนนั้นไงที่บัวเล่าให้ฟังอ่ะ

         Yim_YOTid : เล่าอะไรตัวแสบ

         Ambassador[Aus] : เล่าว่าแฟนใหม่เราหล่อมาก

         Yim_YOTid : ........

         Mom-Nidtaya : หึ กลับไปคราวนี้คงต้องคุยกันยาว


         แค่ข้อความก็อดเสียวสันหลังไม่ได้เมื่อนึกถึงเสียงหวานๆใบหน้ายิ้มๆแต่มองแล้วสยองทุกครั้งที่แม่เริ่มซักฟอก


          Yim_YOTid : ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอครับ

          Mom-Nidtaya : แม่เตรียมแพ็คเก็บของน่ะลูก

          Yim_YOTid : ครับ




          หลังจากนั้นแม่ก็ขอตัวไปเก็บของพร้อมกับพ่อและน้องสาว ผมเลยได้แต่อมยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสัปดาห์หน้าครอบครัวผมจะย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาสักที พ่อผมคงจะได้พักผ่อนหลังเกษียณอายุราชการ ส่วนแม่คงจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลพ่อและพวกเราตามที่แม่ปรารถนามาตลอด


         ...แค่คิดถึงวันที่พวกเรากลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งผมก็มีความสุขแล้ว...

         คงเหมือนกับความรู้สึกที่ผมมีหมออยู่ข้างๆกันแบบนี้



         “ หมอครับ”

        ผมยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมากดชัตเตอร์ตอนที่หมอหันมาทางผมแล้วยิ้มน้อยๆ พอรู้ว่าโดนแอบถ่ายหมอชูนิ้วกลางให้ผมก่อนจะคว้ามือน้องน้องปอไปนั่งให้อาหารปลาที่ริมแม่น้ำ

        “ หมอครับ”

        “ อืม”

        “ อาทิตย์หน้าหมอไปรับครอบครัวผมที่สนามบินนะ”

         หมอทำหน้างงๆในตอนแรกก่อนจะพึมพำเหมือนนึกขึ้นได้ เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยบอกว่าครอบครัวผมจะย้ายกลับมาอยู่ไทยอย่างถาวรหลังจากบิดาเกษียณอายุราชการในตำแหน่งทูต

        “ ไปด้วยกันนะครับ”

         “ แล้วมึงจะแนะนำกูกับพ่อแม่มึงว่ายังไงล่ะ” หมอถามเสียงแผ่วหรุบตามองสายน้ำเบื้องหน้าซึ่งน้องปอกำลังเกาะรั้วกั้นพร้อมกับตั้งอกตั้งใจให้อาหารปลาไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย

        “ แล้วหมออยากให้ผมแนะนำว่าอะไรล่ะครับ”

        ผมถามกลับซึ่งหมอก็แค่ยักไหล่เช่นเดิม

        “ นั่นสินะ มึงกับกูเป็นอะไรกัน”

         หมอหันมาถามผมยิ้มๆ ผมเลยอาจหาญเลื่อนมือไปกุมฝ่ามือของหมอแล้วบีบเบาๆ

        “ เพื่อนข้างห้องดีมั้ย”

        “ เพื่อนข้างห้องไม่จูบกันหรอกหมอ” ผมแซวกลับ

        “ เชี่ย”

        หมอสบถไม่จริงจังนักใบหน้าคมคายกดยิ้มมุมปาก

         “ แล้วจะเป็นอะไรกันดีล่ะทีนี้”

         “ เพื่อนข้างห้องก็เป็นไม่ได้ เพื่อนสนิทก็ไม่น่าเชื่อถือ ถ้างั้น” ผมหยุดพูดก่อนจะสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง

         “ งั้นคงมีสถานะเดียวเท่านั้นแหละครับ”

         “ อะไรล่ะ”

         “ เป็นแฟนผมสิ”

         ผมยักคิ้วให้อย่างกวนๆ หมอทำตาโตก่อนจะเหลือบตามองผม “ นี่ยังไม่ได้เป็นอีกเหรอ”

         “ หมอ”

         ผมครางเมื่อหมอหันมายักคิ้วให้ด้วยสีหน้ายิ้มๆ แต่มันทำให้ผมใจเต้นแรงจริงๆ

         “ มึงบอกกูแล้วนี่ว่าอยากมีแฟนเรียนหมอ”

         “ แล้วหมอก็บอกผมด้วยว่า หมออยากมีแฟนเรียนนิเทศ”

         “ งั้นก็ดีล” หมอตัดบทด้วยสีหน้ายิ้มๆ


         ...ดะ ดะ เดี๋ยวนะ...

         “ นี่ความหมายว่า”

         ผมกุมหัวใจที่เต้นแรงแทบจะทะลุมานอกอก

          “ หมอ จริงเหรอครับหมอ”

          ผมกระตุกชายเสื้อหมอแรงๆ เพื่อให้เจ้าของใบหูแดงก่ำหันมาอธิบายเพิ่มเติม

          “ หมอครับ”

          “ อืม”

          “ อืมอะไรครับ”

          “ กูอยากมีแฟนเรียนนิเทศ”

         เสียงหมอแผ่วเบาแต่กลับดังก้องในใจผม

         “ หมายความว่าหมอกับผม”

         “ โอ้ย”

         หมอชกไหล่ผมแรงๆ “ เออ จะให้พูดย้ำอะไรบ่อยๆวะ กูก็อายเป็นนะโว้ย”


         หมอหันมาทำหน้ายักษ์ใส่ด้วยใบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะแก้เก้อด้วยการเดินไปจูงมือน้องปอให้เดินไปทางอื่น จนเด็กตัวน้อยทำหน้างงๆ เพราะกำลังสนุกสนานกับการให้อาหารปลา

         หมอนี่แม่ง....โคตร ‘น่ารัก’ เลยวะ



@Yim_YOTiD
- ผมมีเจ้าของไข้แล้วครับ -






งื้อออ  :hao5: เป็นแฟนกันแล้วววววววว  :o8: นิเทศนี้งานดีย์ งานแน่น 5555+++
วันนี้อัพหัวค่ำเช่นเดิมเพิ่มเติมคือรีบอัพเพราะติดสายโลหิตหนักมาก ถถถถถ
ปล.หนึ่งความคิดเห็นคิอหนึ่งกำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-11-2016 19:52:44
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 21-11-2016 20:15:00
คบกันล้าวววววววววว  o13
อมยิ้มจนปวดแก้ม
#ยิมปายเเน่ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-11-2016 21:23:13
เห้ยย ชอบบบบ ดีลกันง่ายดี ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 21-11-2016 21:28:33
/ปูเสื่อรอฉากหมอปายกะครอบครัวยิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-11-2016 21:31:46
เขาเป็นแฟนกันแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 21-11-2016 21:41:10
น่ารักเว่อร์ เขียนดี ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mmdzcg ที่ 21-11-2016 22:11:34
ยิมมมมม โง้ยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-11-2016 22:12:26
ยิมกับหมอปายเป็นแฟนกัน งานนี้น้องสาวยิมคงกรี๊ดขั้นสุดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-11-2016 22:36:46
โอ๊ยยยยยยย พี่หมอออออออออ จะน่ารักไปไหนนนนนคะ///จิกหมอนๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Hemelcl ที่ 21-11-2016 22:55:05
แม่คะ พี่เค้าเป็นแฟนกันแล้วว น่ารักมากกกก ยิ้มแด้มแตก เพื่อนข้างห้องที่ไหนจูบกัน  :katai1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-11-2016 23:54:33
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: nsai.ss ที่ 22-11-2016 00:40:07
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: bearybee ที่ 22-11-2016 00:55:46
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:อ๊ากกกก เขิน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 22-11-2016 01:36:23
งื้อออออทั้งซึ้งและหวาน น่าร๊ากกกกกกก ยิมพูดดีเต็ม 10 ให้ 100  ขอแม่ขอแฟนเก่า ขอคบตอบตกลงเป็นแฟนนน อร๊ายยยย #ยิมปาย >//< พี่น้องและฉันสุขสันต์หรรษาวันหยุด คิคุ!!!! ^^ //รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 22-11-2016 02:10:03
แน่ะๆๆๆๆมีความเบาหวานริซึ่ม  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-11-2016 02:33:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-11-2016 10:47:08
เขินนนนนน เค้าเป็นแฟนกันแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-11-2016 11:07:23
เป็นแฟนกันแล้ว~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: natty58 ที่ 22-11-2016 17:45:34
มันดีต่อหัวใจมาก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 22-11-2016 19:11:51
ดีลลลลลลลลลลฃ :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 22-11-2016 22:26:29
เคลียร์ปัญหาคาใจกันได้ไปเปราะหนึ่ง ได้มีคุณหมอส่วนตัวละสิยิม ที่นี้ก็เตรียมรับครอบครัวตัวฮาละ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 22-11-2016 22:56:47
เป็นแฟนกันแล้ววววว,,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: pkjoe ที่ 23-11-2016 13:36:25
มันดีต่อใจมากจริงๆ อ่านรวดเดียวจนทัน

ขอให้ปัญหาข้างหน้าอย่าได้เยอะนักนะ รอลุ้นอยู่
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-11-2016 02:39:08
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:อยากมีแฟนเป็นหมอปาย.....อุ๊ยๆๆๆยิมตบหัวทิ่ม :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: wakwan ที่ 24-11-2016 13:44:51
เพิ่งเริ่มอ่านเรื่องนี้ จนถึงตอนล่าสุด ขอสมัครเป็นFC cuteboy คู่นี้ได้ไหมคะ  :hao7: :hao7: / มันดียยยยยย์ต่อใจ หลงกาว(น์)ไปกับยิมด้วยคน!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 25-11-2016 08:12:32
ลองเข้ามาอ่าน แล้วหยุดไม่ได้ สนุก ฟินมาก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 25-11-2016 21:34:05
คิดถึงแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 21 : อยากมีแฟนเรียนนิเทศ [21 /11/59] P.18
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 26-11-2016 21:04:04




         หลงที่ 22 : ครอบครัว




         [ยิม]




         ผมกำลังนิ่งมองอดีตเพื่อนข้างห้องซึ่งขยับสถานะมาเป็นคนรู้ใจแล้วตอนนี้กำลังหลับคอพับคออ่อนคาโต๊ะหนังสือที่เต็มไปด้วยตำรับตำราทางวิชาการที่เข้าใจยาก มันเป็นภาพชินตาที่เห็นภาพหมออ่านหนังสือดึกดื่น ซ้ำในเวลากลางวันยังเต็มที่กับการเรียนและการราวน์วอร์ดในทุกๆเช้า

         หมอปายขยันจนผมนึกระอาในความขี้เกียจของตัวเอง เพราะนอกจากการเรียนซึ่งไม่ได้ยุ่งยากเหมือนหมอแล้ว ผมก็มีแค่ทำโปรเจ็กต์ภาพถ่ายส่งประกวดเท่านั้นเอง มันเลยทำให้ผมมีเวลาว่างพอสมควรถึงขนาดมานั่งดูคนนอนหลับคาโต๊ะแบบนี้เป็นนานสองนาน

         “ หมอครับ”

         “.......”

         “ หมอครับ” ผมเกลี่ยปลายนิ้วไปตามใบหน้าขาว “ลุกไปนอนในห้องดีๆเถอะครับ”

         “ อื้ม”

         หมอปายเริ่มขยับตัวแต่ดวงตายังปิดสนิท คิ้วเรียงสวยขมวดมุ่นเหมือนไม่สบายตัว


         “ หมอปาย”


         “ อืม”

         ผมโน้มใบหน้าลงไปใกล้กับใบหน้าของหมอก่อนจะกดจูบที่ขอบปากสีชมพูอมส้มอย่างมันเขี้ยว ปฏิกิริยาตอบสนองของหมอก็รวดเร็วเหลือเกินเมื่อฝ่ามือคู่นั้นฟาดหัวไหล่ผมเต็มๆ
 

          “ มึงแม่ง”

          หมอขยี้ตาตื่นทำหน้าเคืองใส่ผมก่อนจะผุดลุกขึ้นเดินสะโหลสะเหลไปล้มตัวลงนอนที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ท่าทางครึ่งหลับครึ่งตื่นของหมอน่าดูไม่หยอก ยิ่งทรงผมชี้ฟูไม่เป็นทรงยิ่งทำให้หมอดูเด็กลงถนัด ผมมองภาพนั้นแล้วรู้สึกดีไม่น้อยที่หมอยอมที่จะละทิ้งท่าทีแข็งกร้าวภายนอก ให้เหลือแต่ท่าทางสบายๆแบบเป็นกันเองซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน

          ผมหันกลับไปปิดโคมไฟที่โต๊ะหนังสือของหมอแล้วเดินไปปิดไฟทั่วห้องก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนอนเคียงข้างหมอ หมอหลับตาอยู่แต่สะลึมสะลือมือกอดหมอนนอนตะแคงข้าง ผมเลยสอดแขนไปรองคอให้หมอแล้วใช้มืออีกข้างกอดเอวหมอจากด้านหลัง

         “ ทำไมไม่ไปนอนในห้องล่ะครับ”

         “........”

         หมอส่ายหัวใบหน้ายังซุกอยู่ที่หมอนแล้วตอบเสียงอู้อี้ “ เผื่อตอนตื่นเช้าจะไปใส่บาตร”


         ช่วงนี้แม้หมอจะนอนดึกแค่ไหนแต่ก็ยังอุตส่าห์ตื่นไปใส่บาตรเพราะเหตุผลที่ว่าอาทิตย์นี้เป็นช่วงวันเกิดของมารดาผู้ล่วงลับซึ่งหมอยังไม่มีเวลาว่างไปทำบุญถวายสังฆทานอย่างที่ทำทุกๆปี หมอเลยตั้งใจว่าจะตื่นมาใส่บาตรทั้งอาทิตย์เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้มารดา

         บอกตรงๆว่าการกระทำของหมอดังกล่าวทำให้หมอรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ว่าหมอเป็นคนน่ารักและอ่อนโยนขนาดไหน ยิ่งได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกรักหมอมากขึ้นจริงๆ

         “ อย่ามากอด กูร้อน”

         โธ่หมอ ร้อนอะไรกันข้างนอกฝนตาปรอยๆทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นขึ้นจนต้องเพิ่มอุณหภูมิขึ้นขนาดนี้  ซ้ำหมอยังเอาผ้ามาคลุมแบบนี้ ยิ่งทำให้ข้ออ้างของหมอดูไม่น่าจะฟังขึ้นเท่าไหร่ นอกจากความคิดเห็นของผมที่คิดว่า ‘หมอคงจะเขินผมอยู่’

         “ แต่ผมหนาว”

         ผมเลยเอาคางไปวางที่ไหล่หมอก่อนจะสีไปมาชวนจั๊กจี้ หมอทำหน้ารำคาญก่อนจะพลิกตัวกลับมา

         “ หนาวมากใช่มั้ย”

         "ครับ”

          “ ดี” หมอทำหน้าแสยะยิ้ม ก่อนจะกดศีรษะผมให้ซุกลงที่แถวๆจั๊กแร้และแผ่นอก ตอนนี้เลยเหมือนว่าผมกำลังนอนซุกอกหมออยู่

          “  หมอ”

          “ หุบปาก กูจะนอน”
     
          “ ครับนอนก็นอน”

          ผมนอนนิ่งได้สักพักฟังเสียงลมหายใจที่ขยับขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอของหมอ มือของหมอข้างที่ผมซุกอยู่ถูกวางไว้บนศีรษะผม ซึ่งก่อนหน้านี้หมอขยับมือลูบไปมาราวกับกำลังกล่อมผมนอน คล้ายๆกับว่าหมอจะเข้าใจว่าคนในอ้อมแขนคือน้องปอซึ่งมักชอบมานอนซุกให้หมอกล่อมนอน


          ในความมืดผมมองเห็นแต่เงาสลัวๆของเราทั้งสองที่นอนเคียงข้างกัน หัวใจผมรู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆที่เราอยู่เคียงข้างกันแบบนี้

          “ ฝันดีนะครับหมอ”

          ผมขยับไปจูบปลายคางอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาก่อนจะขยับมาซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของหมอตลอดทั้งคืน




          .

          .


          สุดท้ายหมอก็ตื่นไม่ทันไปใส่บาตรครับ นั่นคงเป็นเพราะหลายวันมานี้หมออ่านหนังสือดึกแล้วต้องตื่นเช้าจนสุดท้ายร่างกายก็ไม่ไหว เมื่อได้พักผ่อนหลับสนิทในคืนที่ผ่านมาเลยหลับยาวจนตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ดีว่าเป็นเสาร์อาทิตย์ผมเลยไม่ปลุกเพราะอยากให้หมอได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่

          หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวแล้วผมก็ลุกขึ้นมาเตรียมอาหารกลางวันให้อีกฝ่ายซึ่งยังทำหน้ามึนกินโกโก้ร้อนอยู่ในครัว พอจัดการกับมื้อเที่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมเลยพาหมอไปแวะถวายสังฆทานที่วัดแถวชานเมืองก่อนจะพาหมอไปรอรับครอบครัวผมซึ่งจะเดินทางมาถึงวันนี้ที่สนามบิน ตั้งแต่เช้าที่ผมเห็นหมอทำหน้าเครียดๆก็พอจะเดาออกว่าหมอกำลังขบคิดเรื่องอะไรในใจ

         “หมอ”

         “ อะไร”

         ผมเลื่อนมือไปกุมมืออีกฝ่ายแล้วบีบเบาๆ

         “ อย่ากังวลไปเลยครับ พ่อกับแม่ผมใจดี”

         “ มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่มันเป็นเรื่องผิดปกติ”

         “ ไม่คิดครับ”

         ผมตอบยิ้มๆเพราะผมคิดแบบนั้นจริงๆมันจะผิดธรรมชาติยังไงในเมื่อมันเป็นแค่ความรู้สึก ‘รัก’ ของคนสองคน ถึงแม้จะเป็นความรักของเพศเดียวกันที่ไม่ได้เปิดเผยแพร่หลายมากนักในสังคม แล้วยังไงในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมันเรียกว่า ‘ความรัก’ เหมือนๆกัน
หมอถอนหายใจแรงๆ “ มึงยังมีโอกาสเปลี่ยนใจนะ”


         “ ผมขอใช้สิทธิ์ไม่เปลี่ยนครับ”

         “ แน่ใจเหรอ”

         “ แน่ที่สุดในชีวิตเลยครับ”

          ผมสำทับแล้วบีบมือหมออีกที

         “ จำคำพูดของมึงวันนี้ให้ดี”

         “ ทำไมครับ”

         ผมทำใจกล้าสบตากับหมอตรงๆ ก่อนที่ฝ่ายนั้นแสยะยิ้มมุมปากขึงตาใส่ “ วันไหนที่มึงผิดสัญญากูฆ่าหั่นศพมึงแน่”
หมอบีบข้อมือแรงๆก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างเหี้ยมโหด






*************************************************





          [หมอปาย]




         “ พี่ยิม”

         ...หืม...

         “ พี่ยิมทางนี้”

         ขณะที่พวกเรากำลังชูป้ายต้อนรับครอบครัวมันพอดีเสียงสดใสคุ้นหูก็ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างของสาวน้อยซึ่งได้มีโอกาสคุยกันผ่านหน้าจอมือถือ เด็กสาววัยเรียนตรงหน้ากำลังฉีกยิ้มสดใส ดวงตาคู่สวยกลมโต ริมฝีปากเป็นกระชับรับกับใบหน้าเกลี้ยงเกลาบ่งบอกว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงกลายเป็นสาวสะพรั่งและงดงามอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้าตัวไว้ผมหน้าม้าส่วนผมที่ยาวสลวยซึ่งเคยปล่อยยาวถูกถักเป็นเปียเดี่ยวไว้ด้านหลัง

         ใยบัวฉีกยิ้มดีใจก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายของตัวเองแล้วเจ้าตัวไม่รอช้าจูบแก้มซ้ายขวาของไอ้ยิ้ม มันหัวเราะแล้วทำกลับไปเช่นเดียวกันแต่เปลี่ยนจากหอมเป็นจูบหน้าผากน้องสาวสุดรักของมัน ทั้งคู่กอดกันกลมจนผมยิ้มตาม

         “ กอดน้องแล้วก็มากอดพ่อกับแม่ด้วยสิยิม”

         “ คุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ”

         ยิมมันผละจากน้องสาวตรงเข้าไปสวมกอดและหอมแก้มผู้หญิงวัยกลางคนซึ่งอยู่ในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนลายดอกไม้เรียบแต่หรูและคลุมทับด้วยเสื้อคลุมไหมพรมเนื้อดีสีดำสนิท ใบหน้างดงามนั่นยิ้มกว้างทันทีตอนที่เอียงหน้าให้ลูกชายแสดงความรัก แวบแรกที่เห็นผมอดประหลาดใจไม่ได้ที่แม่ของไอ้ยิมถึงได้ดูสาวขนาดนี้ ซ้ำยังดูเป็นผู้หญิงทันสมัยที่คล่องแคล่วซะเหลือเกิน ท่าทางการเดินเหินก็ราวกับนางพญาทั้งสง่าและสวยอย่างบอกไม่ถูก

         ส่วนท่านทูตพ่อของมันคือชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ออกจากลงพุงนิดๆ แต่เพราะท่านสูงเลยมีรูปร่างใกล้เคียงกับผู้ชายไซค์ฝรั่งที่ตัวหนา แต่ถึงอย่างนั้นบุคลิกภายนอกก็ดูคล้ายกับผู้ใหญ่ใจดี เพราะใบหน้านั่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนไอ้ยิมไม่มีผิด ไอ้ยิมมันโชคดีที่ได้ส่วนดีของพ่อกับแม่มาอย่างละนิดละหน่อย ดังนั้นเวลาที่ครอบครัวนี้ยืนอยู่ด้วยกันมันเลยไม่แปลกเลยที่ผมจะรู้สึกว่าเป็นครอบครัวที่ดูแล้วอบอุ่น


        “ ยิมเป็นยังไงบ้างลูกสบายดีมั้ยลูก”

        “ ครับ”

        มันกุมมือแม่ที่ลูบเนื้อลูบตัวมันแล้วเขย่าเบาๆ “ แล้วพ่อกับแม่ล่ะครับสบายดีมั้ย”

         “ ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกเพราะแม่เราบ่นคิดถึงเราให้พ่อฟังทุกวัน”

         “ แหมคุณก็”

         พ่อมันเอ่ยเย้าแม่ดูแล้วเหมือนรักที่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันจนน่าอิจฉา ภาพเหล่านั้นทำให้ผมจุกในอกนึกอิจฉามันไม่ได้เพราะยิมมันโชคดีเหลือเกินที่มีครอบครัวแบบนี้

         “ พ่อครับ แม่ครับ”

         “ ว่าไงจ๊ะ”

         “ ผมมีคนมาแนะนำให้รู้จักครับ”

         “ ใครเอ่ย”

         “ หมอ”

         มันสะกิดไหล่ผมจนสะดุ้งโหยง พอเงยหน้าขึ้นจึงเห็นแววตาประหลาดใจของทั้งสาม และเป็นน้องสาวมันคนแรกที่ร้องออกมา “ พี่ปาย”

         “ พี่หมอปายตัวจริงๆ ตัวเป็นๆใช่มั้ยคะ”

         ว่าแล้วก็โผเข้ากอดผมเสียแน่น ศีรษะทุยสวยสีไปที่ต้นแขนเป็นกิริยาอออดอ้อนเหมือนปอไม่มีผิดจนอดใจไม่ไหวต้องยื่นมือลูบศีรษะน้อง

        “ ครับ”

        แล้วหันไปยกมือไหว้พ่อกับแม่มันซึ่งท่านทั้งสองก็ยิ้มรับด้วยความยินดี

        “ เพื่อนยิมเหรอลูก”

        “ ไม่ / ครับ”

        ผมกับมันพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่มันจะหันมาทำหน้าล้อๆผมที่ไม่ยอมให้มันบอกสถานะที่แท้จริงระหว่างเรา ก็จะทำแบบนั้นได้ยังไงเมื่อท่านทั้งสองเพิ่งมาเหนื่อยๆเกิดมารับรู้เรื่องนี้แล้วช็อกขึ้นมาผมคงรู้สึกผิดไม่น้อย

        “ ว่าแต่น้องบัวไปรู้จักพี่เขาได้ยังไง ดูสิกระโดดกอดพี่เขาอย่างสนิทสนมขนาดนั้นเชียวลูกคนนี้” น้องบัวยู่หน้า “ ความลับค่ะคุณแม่”

        “ แก่แดดจริงยัยหนูบัว” แม่มันส่ายหน้า “ ว่าแต่เพื่อนยิมชื่ออะไรเหรอลูก”

        “ ปายครับ”

        “ พี่หมอปายค่ะคุณแม่”  ใยบัวภูมิใจนำเสนอ

        “ เรียนหมอเหรอลูก” แม่ทำหน้าประหลาดใจ “ ท่าทางดูเป็นเด็กเรียนขนาดนี้ไม่น่าจะมาคบกับจอมกระล้อนอย่างลูกแม่ได้นะ”

         “ โธ่แม่ครับ”

         มันโอดครวญจนผมเผลออมยิ้ม

         “ เราเป็นเพื่อนข้างห้องกันครับ”

         พ่อกับแม่มันสบตากันแวบนึงก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “ อ๋อ อย่างนี่เอง”

         “ ช่วงที่ยิมมากรุงเทพฯใหม่ๆคงจะสร้างเรื่องปวดหัวให้พี่หมอไม่น้อยสินะ”

         ‘พี่หมอ’ สรรพนามที่แม่มันเรียกผมฟังแล้วชวนจั๊กจี้ แต่ก็ไม่อาจหาญที่จะท้วงติงเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

         “ ไม่เท่าไหร่หรอกครับ”

         ผมปฏิเสธทั้งที่การพบเจอกันในครั้งแรกเป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่าโคตรไม่ชอบขี้หน้าและมันก็สร้างเรื่องปวดหัวให้ผมไม่น้อยจริงๆ เหมือนที่แม่มันพูดนั่นแหละ

         “ อะไรกันครับแม่” มันบ่นไม่จริงจังนัก “ ยิมออกจะน่าคบขนาดนี้”

         “ จ๊ะน่าคบมาก”

 
          แม่มันทำหน้าไม่เชื่อ แต่มันกลับหันมาขยับปากให้ผมเห็นเหมือนรู้กันสองคนว่า ‘มันน่าคบ’ และตอนนี้ ‘เราก็คบกันแล้ว’ ผมเลยขยับปากด่ามันทันที

         “ อะไรกันสองคนนี้”

         ผมสะดุ้งโหยงเมื่อแม่มันเดินมาโอบเอวผม “ ไปลูกแม่หิวแล้วไปกินข้าวกันดีกว่า”

         มันพยักหน้ารับทราบเพราะก่อนหน้านี้มันโทรไปจองร้านอาหารแล้วเนื่องจากคาดว่าเมื่อมาถึงทุกคนในครอบครัวคงจะหิวกันพอดี

         “ ผม”

         “ ไปพี่หมอ ไปกินข้าวกับแม่”

         “ เอ่อ ครับคุณน้า”

         “ คุณน้าอะไรกัน เรียกแม่สิพี่หมอ แม่ได้ยินว่าตอนที่ยิมกลับมาใหม่ๆ เพื่อนข้างห้องดูแลเขาดีไม่น้อย แม่ต้องขอบคุณมากนะพี่หมอที่ช่วยดูแลยิม”

         จริงๆแล้วเราห่างไกลคำว่าดูแลมากในตอนแรก ผมได้แค่คิดในใจไม่ได้พูดออกไป ยิ่งตอนนี้อยู่ตรงกลางขนาบข้างซ้ายขวาด้วยใยบัวและแม่มัน พอเอี้ยวหันกลับไปเห็นมันกำลังยิ้มขำผมอยู่ แล้วผละไปเข็นรถเดินคุยกับพ่อไม่คิดจะช่วยอะไรผมเลย




           [ยิม]


          ผมมีความรู้สึกว่าหมอปายดูจะเป็นขวัญใจของคนในครอบครัวผมซะแล้ว เพราะตั้งแต่ร้านอาหารจนกลับมายังคอนโดของผม ทุกคนโดยเฉพาะแม่กับใยบัวก็ยังติดพันบทสนทนากับหมอไม่หยุด จนพ่อผมหันมายิ้มให้ผมราวกับว่าท่านพอจะรู้อะไรบางอย่าง

          ตอนนี้พวกเราทุกคนกำลังเดินออกมาจากตัวลิฟต์หลังจากที่อิ่มท้องมาจากร้านอาหาร วันนี้ครอบครัวผมตัดสินใจที่จะค้างที่คอนโดผมแทนการกลับบ้านของเราที่ตั้งอยู่แถบชานเมืองซึ่งก่อนหน้านี้ผมจ้างแม่บ้านไปดูแลทำความสะอาดแล้ว แต่แม่และคนอื่นๆก็ยืนยันว่าอยากจะนอนกับผมที่นี่สักคืนก่อน ซึ่งมันก็ดีไม่น้อยเพราะนานมากแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้


          “ ห้องพี่หมออยู่ข้างๆนี่เองเหรอลูก”

          แม่ผมถามเมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าห้อง

          “ ครับ”

          “ ดีเลย คืนนี้พี่หมอมานอนคุยกับแม่มั้ยลูก”

          “ เอ่อ”

          หมอปายทำเสียงอึกอักเมื่อแม่ผมถามยิ้มๆ แต่ท่าทางไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธเลย
 
          “ คุณเอ่อ คุณแม่ มาเหนื่อยๆพักผ่อนให้สบายดีกว่ามั้ยครับ”

          “ ไม่หรอก”

         คุณหญิงนิตยาเขย่ามือหมอเบาๆ “ เพิ่งมาถึงแม่ยังปรับตัวให้นอนตามเวลาบ้านเราไม่ได้หรอกเนอะพ่อเนอะ” หันไปขอความเห็นจากบิดาที่ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดี “ พี่หมอมานอนคุยเป็นเพื่อนแม่ด้วยกันคืนนี้นะลูก”

          “ นะคะ”

          คราวนี้ใยบัวกอดแขนหมดเสียแน่น หมอทำหน้าไม่ถูกกันมาขอความช่วยเหลือจากผม แต่ผมก็ได้แต่ยักไหล่เพราะว่าลองแม่ได้เอ่ยปากแล้วล่ะก็ผมยากที่จะทัดทานเหมือนกัน ขนาดท่านทูตใหญ่อย่างพ่อยังไม่ค่อยอยากเอ่ยขวางอะไรเลย คิดดูสิว่าแม่ผมมีอิทธิพลขนาดไหนในบ้านเรา

          “ นะลูก คืนนี้มานอนกับแม่นะ”

          “ ครับ”

          สุดท้ายแล้วหมอก็รับคำเสียงอ่อย ก่อนจะขอแยกตัวไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องก่อน แม่ยิ้มกริ่มทันทีเมื่อได้รับคำตอบที่ถูกใจก่อนจะเดินเข้าห้องไป ผมนึกตงิดๆในใจตอนที่แม่กับใยบัวเดินกระซิบกระซาบกันเข้าไปในห้องนอน ทิ้งให้ผมกับพ่อไม่แต่มองตากันปริบๆ ก่อนจะช่วยกันรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าซึ่งก่อนหน้านี้ทางสถานทูตไทยส่งรถมารับ พ่อเลยให้ขนมาเฉพาะกระเป๋าเดินทางจากสนามบินมาไว้ที่นี่ก่อน

          จริงๆแล้วพ่อบอกว่าตอนแรกจะมีข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศมาต้อนรับแต่ท่านต้องการความเป็นส่วนตัวและอยากใช้เวลากับครอบครัวมากกว่า เพราะถึงยังไงสิ้นเดือนนี้ก็มีงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการของพ่ออยู่ดี  ผมชินซะแล้วเพราะพ่อเป็นคนสบายๆไม่มีพิธีรีตองอะไร แม้จะดำรงตำแหน่งสูงใหญ่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่เวลาที่อยู่กับครอบครัวพ่อเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ และมันทำให้ผมกล้าพอที่จะเปิดปากเล่าทุกเรื่องของผมให้ท่านฟัง


          “ นี่ครับพ่อ”

          ผมยื่นน้ำเปล่าเย็นๆให้ตอนที่พ่อถอดสูทสากลออกซ้ำยังพับแขนเสื้อขึ้นให้ดูสบาย

          “ ขอบใจลูก”

         พ่อรับแก้วน้ำขึ้นดื่ม “ เป็นยังไงบ้างฮึเรา พอได้มาอยู่คนเดียวแบบนี้”

          “ แรกๆก็ปรับตัวยากเหมือนกันนะครับ มาอยู่ในที่ใหม่ๆก็ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆเยอะ”

          ใบหน้าที่มีริ้วรอยของกาลเวลาขยับยิ้ม

          “ สิ่งเหล่านั้นมันจะทำให้ยิมโตขึ้น”

          “ ครับผมจำได้ว่าตอนอยู่ที่โน่นผมต้องไปโรงเรียนด้วยรถไฟประจำ ทั้งๆที่ก็มีรถของสถานทูตมาคอยให้บริการ ตอนนั้นยังนึกน้อยใจพ่อว่าทำไมถึงไม่ให้ผมใช้ชีวิตสบายๆเหมือนลูกทูตคนอื่นๆบ้าง”
พ่อหัวเราะ

          “ เป็นลูกทูตหรือลูกคนธรรมดาก็คนเหมือนกัน ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน ถ้าพ่อหยิบยื่นความสะดวกสบายให้ยิมจนเคยตัว เราก็จะไม่รู้ว่าชีวิตนอกบ้านที่ไม่มีพ่อกับแม่มันเป็นยังไง ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ที่จะทำอะไรด้วยตัวเองเพราะชินชากับความสะดวกสบายที่พ่อแม่ประเคนให้ แล้วถึงวันนั้นยิมจะไม่มีวันเติบโตและเป็นที่พึ่งให้กับคนอื่นได้”

           “ ครับผมเข้าใจ”

           ผมอดยิ้มนึกถึงคำสอนของพ่อที่ได้ยินมาตั้งแต่เล็กๆ “ พ่อบอกผมเสมอว่าลูกผู้ชายที่แท้จริงคือคนที่พร้อมจะเอื้อเฟื้อให้กับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าและต้องเป็นที่พึ่งพาให้กับคนที่รักได้”


          ท่านหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆ “ มันคือความรู้สึกภาคภูมิใจที่เราสามารถเป็นที่พึ่งให้กับที่คนเรารักได้”


          ‘ที่พึ่ง’ ที่คอยกุมมือหมอให้หลับสนิทในวันฝนพรำ

          ‘ที่พึ่ง’ ยามที่หมอหมดเรี่ยวแรงและเติมรอยยิ้มให้กำลังใจกัน

          ‘ที่พึ่ง’ เวลาที่หมอมักคิดว่าตัวเองไม่มีใคร

          และเป็นที่ ‘พักใจ’ เพื่อให้รักของเราก้าวต่อไปอย่างมั่นคง

          “ ยิ้มแบบนี้แสดงว่ายิมเป็น ‘ที่พึ่ง’ ให้เขาคนนั้นได้แล้วสิ”

          ผมนึกเอะใจตอนที่พ่อพูดว่า ‘เขา’ แต่ยังไม่ถามกลับไปพอดีเสียงเรียกของแม่ให้ไปช่วยดูอะไรสักอย่างพอดี พ่อเลยผุดลุกขึ้นไปหาทันที

          “ จ๊ะแม่”

         พ่อรับคำแม่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เต็มไปด้วยความรักที่แฝงอยู่ในกระแสเสียงนั้น ความรักของพ่อที่มีให้แม่และครอบครัวทำให้ผมรู้สึกศรัทธาและผมคิดว่าผมอยากเป็นแบบพ่อ อยากเป็นคนดูแลและเป็นที่พึ่งให้กับคนที่รักให้ได้



         .

         .

         .

        ...ออด...

         เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นตอนที่เรานั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่กลางห้อง ผมเลยลุกไปเปิดประตูรับหมอซึ่งพร้อมอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้วไม่ต่างจากพวกเรา แต่หมอคงจะแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นสภาพห้องนั่งเล่นที่บัดนี้ราบเรียบเพราะผมกับพ่อยกโซฟาไปวางไว้รอบๆห้อง แล้วลากฟูกมาปูนอนเรียงอยู่กับพื้น

         “ ทุกครั้งที่พวกเราต้องห่างกันไปไกลๆ พอกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเราจะหอบที่นอนมานอนรวมกันแบบนี้แหละครับ”

         ผมอธิบายให้หมอฟังกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า หมอยิ้มน้อยๆเมื่อแม่กวักมือเรียกให้ไปใกล้ๆ

          “ พี่หมอ”

          “ ครับ”

          “ คืนนี้นอนพื้นกันนะลูก ไม่รู้ว่าพี่หมอจะนอนได้รึเปล่า แต่แม่ปูผ้าห่มหลายชั้นนะรับรองว่านิ่มไม่ต่างจากเตียงเลยเชียว”

          “ น่าอบอุ่นดีนะครับ” หมอพึมพำ

          “ เมื่อก่อนพ่อกับแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้ยิมกับใยบัวมากนัก กลับจากงานที่สถานทูตทีไรสองพี่น้องนี่ก็นอนกอดกันกลมแล้ว” แม่เล่าขำๆ “ เห็นแล้วสงสารตั้งแต่นั้นมาถ้าใครไปธุระไกลๆหรือไปงานหลายวัน เราจะมีข้อตกลงกันว่าต้องมานอนรวมกันจนกว่าจะหายคิดถึง”

          “ แบบนี้ใช่มั้ยคะ”


         ใยบัวถลากมานอนหนุนตักแม่ทันที แม่เลยได้แต่ส่ายหัว ถึงอย่างนั้นมือคู่นั้นของแม่ก็ลูบศีรษะน้องสาวผมเบาๆ ภาพนั้นทำให้ผมนึกอยากอ้อนแม่ขึ้นมาเหมือนกันเลยเนียนไปแย่งตักแม่นอนเบียดเจ้าแสบจนเด็กนั่นโวยวายเคล้าเสียงหัวเราะของพ่อ

         “ พี่หมอ”

         ผมสะดุ้งโหยงเมื่อแม่อุทานเสียงดังลั่น ซ้ำยังขยับไปใกล้คนของผมแทบจะทันทีทำให้ผมกับใยบัวผุดลุกหนีแทบไม่ทัน

         “ ขอโทษครับ”

         หมอพึมพำเสียงแหบพร่า

         “ ร้องไห้เหรอลูก” น้ำเสียงแม่อ่อนโยนทำเอาหมอหรุบตามองพื้น “ เป็นอะไรบอกแม่ได้นะพี่หมอ”

          หมอส่ายหน้า “ พอดีฝุ่นมันเข้าตาเลยเคืองๆครับ” สีหน้าแววตาหมอดูฝืดเฝื่อน “ ว่าแต่ครอบครัวของคุณแม่ดูอบอุ่นดีนะครับ”

          แววตาของหมอโคตรน่าสงสารจนผมรู้สึกใจหายขณะที่กำลังจะขยับไปปลอบ แม่ก็อ้าแขนออกกว้างพร้อมกับยิ้มรอท่า

          “ไหนมาให้แม่กอดทีซิ”

           หมอทำหน้าอึ้งแววตาคู่นั้นสั่นระริกเป็นกิริยาที่ผมนึกเอ็นดูอย่างประหลาดใจ

          “ ขยับไปสิคะพี่หมอ”

         ใยบัวดันหลังหมอให้ขยับเข้าไปใกล้แม่ก่อนที่แม่จะโอบกอดหมอแล้วลูบไล้แผ่นหลังนั้นเบาๆ แล้ววงแขนของหมอจึงค่อยๆโอบรัดแม่แล้วซุกใบหน้าที่ลำคอ ผมสัมผัสได้ว่าหมอกำลังตัวสั่น

         “ นิ่งซะนะ”

         แม่ปลอบเสียงอ่อนโยน “ พี่หมอกอดแม่ให้แน่นขึ้นสิ ให้เรารู้สึกว่า ‘แม่’ อยู่ตรงนี้”

         “ ขอบคุณครับ”

         เนิ่นนานกว่าหมอจะหลุดคำขอบคุณด้วยเสียงแหบพร่า

         “ ไม่เป็นไรแล้วน้า”

         “ ครับ”

         เมื่อหมอยกมือไหว้แม่แล้วเลยไปที่พ่อซึ่งนั่งยิ้มรอท่าอยู่

         “ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจนะครับ”

         “ ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะพ่อ” แม่หันไปถามพ่อ

         “ เอาล่ะ เมื่ออยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วเรามาเล่นเกมกันดีกว่า”

         ใยบัวทำตาเป็นประกายก่อนจะฉวยเอาเกมเศรษฐีออกมาวางกลางวง ท่าทางมีเลศนัยนั่นทำเอาทุกคนหัวเราะขำ

         “ อะไรกันตัวแสบ”

          “ กติกาง่ายๆใครแพ้ถูกทำโทษ”

          “ ด้วยวิธีไหน”

         ผมถามพอดีพ่อลุกไปหยิบขวดไวน์ซึ่งหอบมาจากต่างประเทศ

          “ อะไรกันน่ะพ่อ”

          “ ไวน์แดง” ใยบัวตาเป็นประกายจนแม้ค้อนให้ “ ใครแพ้ดื่มตาละแก้ว”

          “ พ่อเอาของแบบนี้มาใช้ลงโทษได้ยังไงคะ ใยบัวยังเด็กแม่ไม่ให้ลูกดื่มหรอก”

          “ โธ่แม่คะทีพี่ยิมยังแอบกินตั้งแต่สิบสามเลย ตอนนี้หนูสิบเจ็บแล้วนะคะ”

          นั่นย้อนผมเข้าจนได้ ดูสิแม่ทำตาเขียวใส่ผมอีกคนเลย

          “ เอาน่าแม่ อย่างน้อยถ้าลูกเมาก็ยังมีพ่อกับแม่คอยดูแลนะ ดีกว่าไปอยากรู้อยากลองนอกบ้านเพียงลำพังนะแม่” พ่ออธิบายมือก็โยกศีรษะยัยแสบไปด้วย

          “ นะคะแม่” ใยบัวอ้อนแม่

          “......”

          “ นะคะ”

          “ แม่จ๋า”

          “ ก็ได้”

          แม่พยักหน้ารับ “ แม่เห็นว่าพ่อกับยิมอยู่หรอกนะ แล้วอย่าริอาจไปลองเองลับหลังแม่ล่ะ”

         “ ครับป๋ม”

         พอตัดปัญหาเรื่องนี้ได้พวกเราก็เริ่มสนุกสนานกับเกม ผมเลยเหลือบตามองใบหน้าของหมอที่ดูจะตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ

         “ เล่นด้วยกันนะครับ”

         “ อืม”

         ขณะที่คนในครอบครัวกำลังจดจ่ออยู่ในกระดานเกม ผมเลยขยับไปกุมมือหมอเอาไว้จนฝ่ายนั้นรู้สึกตัว

         “ หมอครับ”

         “ อะไร”

         “ นอกจากผมแล้วหมอยังมีครอบครัวของผมนะครับ”

         ผมกระชับฝ่ามือแล้วบีบเบาๆ

         “ อืม”

         “ เย้”


         ผมกับหมอสะดุ้งโหยงถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ปล่อยมือจากกัน ก่อนจะมองไปยังต้นกำเนิดเสียงคือยัยเด็กแสบที่ดีใจเสียเต็มประดาที่ตัวเองแพ้ตาแรกเพราะนั่นหมายถึงเจ้าตัวแสบจะได้ดื่มของมึนเมา พ่อหัวเราะขำมือก็รินไวน์แดงใส่แก้วขณะที่แม่ทำหน้ามุ่ยไม่ชอบใจนักแต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็มองเด็กแสบด้วยความเอ็นดู

         ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มี ‘ครอบครัว’ และ ‘ หมอปาย’

         ผมโชคดีจริงๆที่ได้เห็นรอยยิ้มหมอในระยะใกล้ชิดแบบนี้







โย่ว โย่ว ครอยครัวสุขสันต์มั้ยล่ะตอนนี้ คนมีความสุขก็เงี้ยยิมปายไม่ได้กล่าว เค้ากล่าวเอง ฮ่าๆๆๆๆๆ
ตักตวงความสุขกันให้พอ (หัวเราะด้วยความร้ายกาจ อิอิอิ)
หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะจ๊ะ จุ๊บๆๆๆ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-11-2016 21:35:51
น้ำตาซึมตามหมอปายเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-11-2016 21:40:17
ตักตวงความสุขให้พอจากนักเขียนที่ทำเอาหนาวสันหลังวาบๆ ว่ามาม่าจะโผล่  :mew5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: jamesnaka ที่ 26-11-2016 21:40:53
รอตอนต่อไปจ้า   :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 26-11-2016 21:49:15
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและน่ารักมาก :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-11-2016 21:58:41
ครอบครัวยิมน่ารักกกกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 26-11-2016 22:22:05
หมอมีความสุข เราก็ดีใจ งือ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 26-11-2016 22:26:25
น่ารัก อ่านเพลิน แป็บเดียวจบตอนแล้ว~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-11-2016 22:59:53
ครอบครัวยิมน่ารัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 26-11-2016 23:53:25
ซึ้งงงงง แม่ยิมกอดหมอปาย TT ดีใจกับหมอปายที่มาเจอครอบครัวอบอุ่นน่ารักแบบนี้ ดีจริงๆ ชอบมากไม่ต้องกังวลนะหมอ พ่อแม่ยิมใจดี ^^ น้องใยบัวน่าร๊ากกกก ต่อไปยิมจะกลายเป็นหมาหัวเน่าละ ใครๆก็โอ้หมอปาย น้องใยบัวติดหนึบล่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 27-11-2016 00:53:39
ครอบครัวยิมอบอุ่นมากเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-11-2016 05:37:29
น้ำตาไหลตามหมอปายไปด้วยเลย :mew4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 27-11-2016 09:45:05
 :-[ แบบนี้ยิมหมดสิทธิ์เลิกกับหมอล่ะ เดี๋ยวโดนหมอชำแหละ 555+ ครอบครัวยิมดี๊ดี อบอุ่น น่ารัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-11-2016 15:53:39
ด้วยประโยคที่ว่า  ตักตวงความสุขกันให้พอ (หัวเราะด้วยความร้ายกาจ อิอิอิ)  :ling3: :ling3:
พ่อของหมอเสิร์ฟมาม่าเหรอ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 27-11-2016 17:39:35
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-11-2016 23:19:29
ครอบครัวอบอุ่นมาก. อ่านไปยิ้มไป,,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 27-11-2016 23:37:52
ความสุข มันสุขมาก จนคิดว่าจากนนี้ต้องเจออะไรเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: chuagporz ที่ 30-11-2016 03:04:38
มีความเอ็นดูหมอ
แอบน้ำตาคลอตามเลยตอนที่แม่ยิมโผเข้าไปกอด อะฮึก....
ยิมโชคดีมากที่มีครอบครัวดีแบบนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 30-11-2016 11:12:35
 :monkeysad: หมอปายสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 22 : ครอบครัว [26 /11/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 02-12-2016 20:45:42



        หลงที่ 23 : เผชิญหน้า





         [หมอปาย]





         “ จริงๆมึงไม่ต้องมาส่งกูก็ได้ห้องกูอยู่แค่นี้” ผมพูดกับมันตอนที่ไอ้ยิมอาสาเดินจากห้องมันมาส่งถึงหน้าห้องผม

         “ ได้ไงล่ะครับ  แฟนทั้งคน”

         มันแซวขำๆเลยได้รับหมัดตรงหัวไหล่ขวาจนฝ่ายนั้นเบ้หน้า

         “ กลับห้องมึงไปได้แล้ว เดี๋ยวพ่อกับแม่จะรอนาน”

         “ ไม่เปลี่ยนใจไปกับผมเหรอครับ”

         “ ไม่”



         ผมส่ายหน้าปฏิเสธคำชวนของมันเนื่องจากวันนี้สายๆมันจะไปส่งพ่อแม่และน้องสาวที่บ้านแถบชานเมือง ก่อนหน้านี้พ่อแม่มันก็เอ่ยชวนให้ไปค้างอีกสักคืน แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะอยากให้มันได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ และบ่ายนี้ผมเองก็สัญญากับปอไว้ด้วยว่าจะไปรับที่โรงเรียน ดีว่าช่วงนี้เป็นเวลาปิดภาคการศึกษาของเด็กมหาลัยผมเลยมีเวลาว่างเต็มๆเกือบสองอาทิตย์ก่อนจะกลับไปลุยเรื่องเรียนต่อ ช่างเป็นช่วงเวลาปิดเทอมที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับนิสิตคณะอื่นๆที่ปิดเทอมที่เป็นเดือนๆ


        “ วันนี้กูต้องไปรับปอที่โรงเรียน สัญญากับน้องไว้ว่าจะพาไปกินไอศกรีม”

        “ งั้นก็รอไปพร้อมกับผมสิครับ”

        ผมส่ายหน้าอีกครอบ “ มึงน่ะไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวซะบ้าง ไม่เจอกันตั้งนานไปอยู่กับพ่อแม่และน้องสาวให้หายคิดถึงไป๊” มันเบ้หน้ารวบมือผมไปเขย่าเบาๆ “ อย่างนี้ผมก็คิดถึงแฟนแย่สิ”

        คำพูดตรงไปตรงมาของมันทำให้ลมหายใจผมแทบจะสะดุด รู้สึกได้เลยว่าใบหน้าตัวเองร้อนเห่ออย่างไม่มีสาเหตุ ไอ้ยิมยิ้มกว้างโน้มใบหน้ามาจนหน้าผากเราชิดกัน

        “ หมอครับ”

        “ เออๆ” ผมตัดบททำทีว่ารำคาญ ทั้งที่ใจหวิวๆชอบกลที่ได้สบตากันในระยะประชิดเช่นนี้ “ ถ้าคิดถึงก็อย่าไปนานสิ”

        “ อะไรนะผมได้ยินไม่ชัด”

        มันทำท่าแคะหูต่างจากสีหน้าที่ยิ้มแย้มจนน่าหมั่นไส้

        “ ไม่ได้ยินก็ถือว่าไม่ได้พูด”

        “ โธ่หมอ”

        ผมหันหลังหนีเตรียมเสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้อง แต่ติดที่ว่าไอ้ยิมมันมือไวเพราะมันรีบกอดผมจากด้านหลังโดยวางคางไว้ที่หัวไหล่ผม ทำให้ริมฝีปากมันใกล้กับใบหูแบบไม่ต้องสงสัย

        “ เชี่ยยิมมึงจะทำอะไรเนี่ย” ผมดิ้นหนี “ ปล่อยนะโว้ยนี่มันหน้าห้องนะ”

        “ งั้นหมอรีบเสียบคีย์การ์ดสิครับ จะได้เข้าไปทำในห้อง”

        “ กูไม่ได้หมายความแบบนั้น”

        "งั้นผมทำหน้าห้อง”

        “ กวนตีน” ศอกใส่แต่มันหลบทัน “ กูไม่ให้มึงทำอะไรทั้งนั้นเข้าใจมั้ย”

        “ ไม่อยากเข้าใจ”

        “ ไอ้หมายิม”

        ผมถอนหายใจคิดดูสิว่าผู้ชายสองคนมายืนกอดกันบริเวณโถงหน้าห้องแบบนี้ ถ้าหากเจ้าของห้องคนอื่นๆในชั้นนี้เปิดประตูออกมาเห็นที่นี้แหละคงไม่รู้จะทำหน้ากันยังไง

        “ อยู่นิ่งๆก่อนสิครับหมอ”

        “ ปล่อยเถอะ”

        “ แป๊บนึง”

        เสียงลมหายใจที่กระซิบข้างหูชวนจั๊กจี้ แต่กระแสเสียงอ่อนโยนนั่นทำให้ผมหยุดนิ่ง

        “ ผมดีใจนะครับที่หมอยิ้มอย่างมีความสุขเวลาที่อยู่กับครอบครัวผม”

        ‘ มีความสุข’ งั้นเหรอ คงจะจริงอย่างที่มันพูด ผมรู้สึกผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองจริงๆ เวลาที่อยู่กับครอบครัวนี้ เพราะรู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ไม่แปลกใจเลยที่ยิมมันถึงเป็นคนที่มีความคิดทางบวกแบบนี้เพราะมันมีครอบครัวที่ดีที่เป็นเบ้คอยหล่อหลอม


        “ ต้องขอบคุณมึง”

         ผมหันมาเผชิญหน้ากับมัน

        “ ขอบคุณผม” มันทำหน้างง “ ขอบคุณผมทำไมครับ”

        “ ก็ขอบคุณที่มึงพากูไปเจอสิ่งดีๆ”

        มันอมยิ้ม “แค่ขอบคุณงั้นเหรอครับ”

        “ อืม”

        “ ไม่มีรางวัลสำหรับคนทำดีเหรอครับ”

        แววตามันพราวระยิบท่าทางดูเจ้าเล่ห์ จนผมต้องหรี่ตามองอย่างจับผิด

        “ จะเอาอะไร”

        “ แล้วแต่หมอจะกรุณา”

        ผมกระตุกยิ้มก่อนจะยืดตัวขึ้น ดันให้มันถอยหลังไปจนชิดกำแพงแล้วยกแขนขึ้นเท้ากับผนังเป็นการปิดทางให้มันถอยหนี เจ้าตัวมันก็เหมือนจะเต็มใจเมื่อมันเอื้อมมือข้างหนึ่งมาคล้องที่บ่าผมแล้วเชิดใบหน้าให้หงายแหงนเป็นเชิงท้าทาย


        “ ได้สิ”

        ผมก้มลงไปประกบริมฝีปากมันอย่างอย่างแผ่วเบา จากนั้นเลื่อนใบหน้าไปบริเวณซอกคอของอีกฝ่ายก่อนจะกระซิบเบาๆว่า ‘ขอบคุณ’ แล้วเม้มเนื้ออ่อนบริเวณนั้นจนขึ้นสีแดงเรื่อยทันทีทันใด


        “ โอ้ย”

       มันหลุดอุทานออกมาก่อนจะตวัดพลิกตัวให้ผมไปแทนที่ตำแหน่งมัน ผมพยายามบ่ายเบี่ยงแต่แผ่นหลังที่ติดกำแพงทำให้ขยับมากไม่ได้ ซ้ำมือของมันยังรัดรอบเอวเสียแน่น ไอ้ยิมมันยิ้มกว้างตาเป็นประกายโคตรไม่น่าไว้ใจ ขณะที่ผมกำลังคิดวิธีเอาตัวรอดมันก็ประกบปากจูบผมโดยไม่ทันให้ได้คิดเลย


        “ อื้อ”

       มันขบตามขอบปากผมเบาๆหวังให้เปิดริมฝีปากใหมันเข้าไปสำรวจ แต่ผมรู้ทันเลยเม้มปากแน่น

       “ เปิดปากหน่อยสิครับหมอ”

       “ ไม่”

       “ อื้ม”

       มันยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะคว้ามือข้างหนึ่งของผมไปวางที่กึ่งกลางลำตัวของมน แรกสัมผัสส่วนที่โป่งนูนทำเอาผมสะดุ้งโหยงเผลออ้าปากให้มันเข้ามารุกรานได้สำเร็จ คราวนี้มันเลยบดจูบอย่างเอาแต่ใจ

       “ พอ”

       “ ไม่พอ”

       “ กูหายใจไม่ทัน”

       คราวนี้มันค่อยๆผ่อนจูบลงเปลี่ยนจากการบังคับหนักหน่วงกลายเป็นสัมผัสที่แผ่วเบาและวนชิมริมฝีปากของอยู่นานสองนาน ผมแทบจะยืนไม่อยู่ตอนที่มันถอนริมฝีปากถอยออกไป แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดปากด่ามัน บุคคลที่ผมไม่อยากให้มาเจอในสถานการณ์แบบนี้ที่สุดกลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้า


       “ ไอ้ปาย”


       “ คุณพ่อ”

        ผมยืนตะลึงสบตากับพ่อที่หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ลมหายใจผมสะดุดเป็นช่วงๆจนรับรู้ได้ถึงฝ่ามือของมันที่สอดเข้ามากุมมือกันเอาไว้ พ่อมองภาพผมกับมือกุมมือกันแล้วถึงกับตัวสั่นก่อนจะกระชากแขนผมแรงๆเพื่อแยกพวกผมให้แยกออกจากกัน


        “ เอาตัวมันกลับบ้าน”

        “ หมอ”



        ทุกอย่างรอบตัวผมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก บอดี้การ์ดนับสิบในชุดสีดำตรงเข้าจับตัวผมก่อนจะผลักมันออกไป ผมพยายามดิ้นหนีแต่ไร้หนทางได้แต่มองมันที่ถูกผลักจนหงายล้มไปกองกับพื้น ผมเจ็บเหลือเกินกับภาพที่มันพยายามตะเกียกตะกายพุ่งมาหาผมได้คว้าได้แต่อากาศ

        ภาพนั้นค่อยๆหลายไปจากสายตาเมื่อเราห่างกันมากขึ้น ไม่นานพวกเราก็มองไม่เห็นกันแล้ว วินาทีนั้นผมเห็นแววตาสะใจของไอลดาที่ยืนอยู่เบื้องหลังพ่อ นั่นหมายความว่าการที่พ่อซึ่งไม่ค่อยจะใยดีผมเท่าไหร่มาเหยียบที่นี่ได้ก็เพราะเธอ



      .

      .

      .




        ผมรู้ว่าพ่อกำลังโกรธ ไม่ใช่แค่โกรธธรรมดา แต่โกรธจัดจนผมเดาอารมณ์พ่อไม่ได้เลย หากพ่อลงไม้ลงมือกับผม ผมคงไม่ทรมานแบบนี้ แต่นี่พ่อแค่เหลือบตามองผมด้วยแววตาที่ชวนอึดอัด พ่อไม่เคยมองผมอย่างผิดหวังและเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลยแม้แต่ตอนที่ผมทะเลาะกับพ่อเสียใหญ่โตและตัดสินใจก้าวออกจากบ้าน พ่อก็แค่โกรธไม่นานหลังจากนั้นก็เหมือนจะทำลืมๆไป แต่วันนี้ความผิดหวังเสียใจปรากฏชัดในแววตาคู่ที่ผมถอดแบบท่านออกมา ทุกครั้งที่มองหน้ากันเหมือนเห็นภาพสะท้อนตัวตนของอีกฝ่าย พ่อไม่ปริปากพูดกับผมสักคำเดียว มีแค่เสียงลมหายใจรุนแรงที่บ่งบอกถึงอารมณ์โกรธ

         ระหว่างเรามีแต่ความเงียบจนกระทั่งบีเอ็มซีรีย์สีดำสนิทพามาจอดสนิทอยู่หน้าบ้านซึ่งนานมากแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาเหยียบตั้งแต่ประกาศกร้าวว่าจะออกไปใช้ชีวิตตามลำพังข้างนอก ผมกวาดตามองคฤหาสน์หลังงามที่เป็นสมบัติตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทุกอย่างภายนอกยังคงความสวยงามสมกับเป็นวัง เพราะที่คือความภาคภูมิใจของตระกูล “วงษ์วรกาญจน์” ไม่แปลกหากพ่อผู้มียศศักดิ์ถึงได้ภาคภูมิใจในเชื้อสายของตัวเองนัก และคงไม่แปลกหากพ่อจะเกลียดชังรอยด่างพร้อยของตระกูลแบบผม



         ผมก้าวเดินตามประมุขของบ้านเข้าไป โดยมีบอดี้การ์ดนับสิบประกบหน้าหลังราวกับนักโทษ ผมถอนหายใจเพราะจนป่านนี้บิดาก็ยังไม่เปิดปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งพ่อไปหยุดยืนอยู่ที่มุขหน้าบ้าน


        “ เฝ้ามันเอาไว้ให้ดี” พ่อหันไปสั่งบอดี้การ์ดด้วยเสียงเฉียบขาด “ อย่าให้มันเล็ดลอดออกไปทำความขายหน้าให้ฉันได้อีก” ท้ายประโยคเหลือบตามองผม

        “ คุณพ่อ”

       ผมเรียกผู้ให้กำเนิดเสียงแผ่วตอนที่ท่านกำลังจะเดินผละออกไป พ่อหยุดชะงักก่อนจะเหลือบตามองผมอีกครั้ง

        “ ฉันไม่อยากคุยกับแก” พ่อตวาดเสียงดังลั่น “ แกทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ”

        ผมกำหมัดแน่นตอนที่พ่อฉุนเฉียวขึ้นไปยังห้องทำงาน ในอกผมร้อนรนเต็มไปด้วยความอึดอัด ผมถอนหายใจแรงหันกลับมาเห็นบอดี้การ์ดสี่คนยืนนิ่งเฉยเสมือนผู้คุมยังไงยังงั้น พอกวาดสายตามองไปด้านนอกชายชุดดำจำนวนไม่น้อยก็กระจายอยู่รอบบ้าน


        หึ...นี่คงเป็นกรงขังอย่างสมบรูณ์แบบ


        ผมหลับตานิ่งพยายามคิดหาหนทาง หากเป็นก่อนหน้านี้ผมคงมุทะลุลองงัดข้อกับพ่อสักตั้ง แต่วันนี้สถานการณ์ตอนเช้าบอกผมว่าการทะเลาะกันครั้งนี้ไม่มีอะไรที่เหมือนเดิม หากผมลองดีคงส่งผลลัพธ์ที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ ผมไม่นึกห่วงตัวเองหรอกจะห่วงก็แต่มันและครอบครัว ภาพที่มันล้มหงายหลังแววตาดูเจ็บปวดยังติดตามผมอยู่ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไง



        ...มันจะคิดถึงผมแบบที่ผมกำลังคิดถึงมันรึเปล่า...


        “ ปายคะ”

        ผมเบือนหน้าหนีตอนที่ไอลดาถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องผม หล่อนพยายามฉีกยิ้มให้ผมแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกขยะแขยงรอยยิ้มของเธอนัก

        “ ปาย”

        “.......”

        “ ไอดีใจนะคะที่คุณกลับมาอยู่บ้านสักที”

        “ แต่ผมเสียใจ”

        เธอทำหน้าเสีย “ ทำไมละคะ”

        “ ผมเสียใจที่ต้องกลับมาเจอคุณ”

        “ ปาย”

        ไอลดากรีดร้องเสียงดัง ใบหน้างดงามบิดเบี้ยว “ ทำไมคะ เสียใจมากเหรอที่ต้องห่างไอ้คู่ขานั่น”


         “ ครับ”

        ผมรับคำสีหน้ายิ้มๆ ทำให้เธอโมโหกระฟัดกระเฟียด

         “ ทำไมคุณใจร้ายกับไอแบบนี้”

         “ แล้วคุณล่ะไอ ทำไมถึงใจร้ายกับผมนัก”

        ผมจ้องมองเธอจนอีกฝ่ายหน้าเสีย

         “ คุณบอกพ่อเรื่องผมกับยิม”

         “ ไอเปล่า”

          เธอละล้ำละลักปฏิเสธ “ ไอไม่ได้บอก พ่อคุณรู้เอง”


        “ งั้นเหรอ”

        ผมแค่นยิ้ม ปฏิกิริยาร้อนตัวแบบนี้ทำไมผมจะไม่รู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือใคร แต่จะยังไงก็ช่างถึงไม่มีไอลดาสักวันหนึ่งพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว

        “ ขอบคุณคุณมากไอ” ผมยิ้มให้เธอ “ เพราะมันทำให้ผมกล้าที่จะคบเขาอย่างเปิดเผย”

        “ ปาย”

        หล่อนร้องเสียงสูงสีหน้าตกใจสุดขีด “ ปายจะต้องเสียใจเพราะมัน”


        “ ไม่เป็นไรหรอก เพราะผมได้เลือกมันแล้วต่อให้เจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหนผมจะไม่มีวันเสียใจ”

         ไอลดากรีดร้องเสียงดัง ก่อนจะปล่อยโฮแล้วผลุนผลันออกจากห้องผมไป

         ผมลูบใบหน้าตัวเองให้คลายความตึงเครียดทั้งที่ในอกมันเต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจ ถ้าหากมันอยู่ตรงนี้ด้วยก็คงดี ถ้ามันอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆกัน


        ...เวลาแบบนี้ผมโคตรอยากมีมัน...

        สายฝนข้างนอกกำลังโปรยปราย บรรยากาศรอบข้างมืดครึ้มเสียงฟ้าร้องคำรามพาให้รู้สึกหวาดหวั่น ถ้าหากฝนตกในค่ำคืนนี้ผมจะนอนได้ยังไง หากไม่มีมันนอนกุมมือเหมือนในวันฝนพรำที่มีมันอยู่ข้างกาย ผมเงี่ยหูฟังเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้หันไปมองได้แต่ส่งเสียงออกไปเมื่อผู้มาเยือนมาถึง



       “ ออกไป”

      เสียงประตูปิดลงก่อนที่ใครคนนั้นจะสาวเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

       “ บอกให้ออกไป”

       “ พี่ชาย”

       เสียงเจื้อยแจ้วของปอดังขึ้นก่อนที่เจ้านั่นจะโผเข้ากอดผม “ น้องเอง”

       “ ปอ”

       ผมสวมกอดร่างเล็กๆนั่นทันที ความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่โดดเดี่ยวหายวับไปทันตาดวงตากลมโตช้อนมองผมแล้วฉีกยิ้ม ความไร้เดียงสานั่นทำให้ผมอดน้ำตาซึมไม่ได้

       “ น้องคิดถึง”

       “ อื้อคิดถึงเหมือนกัน คิดถึงที่สุด”


        ผมกระซิบบอกคนในอ้อมแขน หวังจะให้คำๆนั้นถูกสายลมพูดพาไปให้คนที่ ‘คิดถึง’ ได้ยิน

        ...คิดถึงมากเจ้าของ 1216...

        ...คิดถึงใจจะขาด...







          [ยิม]


         “ ผมมีเรื่องจะบอกพ่อกับแม่ครับ”

        ผมเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน พ่อกับแม่พยักหน้ารับพร้อมกับยืดตัวขึ้นเหมือนเตรียมพร้อมจะรับฟังทุกอย่าง ผมยิ้มบางๆรู้สึกดีใจมากที่พ่อกับแม่ผมอดทนรอฟังทุกอย่างจากปากผม ไม่ซักไซ้และทำให้รู้สึกอึดอัดใจ ทุกครั้งที่มีปัญหาก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างและโอบอุ้มไว้ไม่ต่างจากตอนวัยเยาว์

        ...ในวันที่มืดมนก็ยังมีมือพ่อกับแม่คอยจับประคอง...

        ผมผุดลุกขึ้นก่อนจะสาวเท้าไปทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นก่อนจะพนมมือก้มกราบปลายเท้าท่านทั้งสอง พ่อกับแม่ดูตกใจไม่น้อยรีบดันตัวผมให้เงยหน้าขึ้น

        “ อะไรกันลูกยิม”

        “ ผม”

        “ มีอะไรอยากบอกพ่อกับแม่มั้ย”

         พ่อตบบ่าผมเบาๆ แววตาที่จ้องมองกลับมาดูอาดูร

        “ ถ้าผมผิดปกติไปจากคนอื่น พ่อกับแม่จะรังเกียจในสิ่งที่ผมเป็นมั้ยครับ”


         แม่รีบส่ายหน้ามือบางลูบใบหน้าผม “ ผิดปกติของลูก แม่ไม่รู้หรอกว่ามันหมายความถึงอะไร แต่สำหรับแม่ ผิดปกติหมายถึงคนที่ชอบดูถูกคนอื่นและรังเกียจเดียดฉันท์ในความต่างของฐานะในสังคม เพราะนั่นหมายถึงเขามีจิตใจที่มืดบอด คนเหล่านั้นมักมองความผิดพลาดของคนอื่นเป็นเรื่องใหญ่ และยกตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง ถ้าลูกแม่ไม่ได้ประพฤติตัวเช่นนั้นลูกก็ไม่เห็นมีอะไรที่ผิดปกติ”


        “ ผมชอบผู้ชายครับ”

          ผมสารภาพอย่างหนักแน่น เพราะยอมรับหมดหัวใจว่าผม ‘รัก’ หมอ และในเมื่อรักแล้วผมพร้อมจะรับสภาพทุกอย่าง


         “ ยิมลูก พ่อกับแม่เราต่างใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมานาน เรามองเห็นความเปลี่ยนไปหลายอย่าง ได้พบเห็นหลายๆเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และได้รู้จักกับความรักหลากหลายรูปแบบ แต่ทุกรูปแบบมันมีสิ่งดีๆที่น่าจดใจ เราไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งเราจะมีความรู้สึกเปลี่ยนไป ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอเมื่อถึงเวลา”


          พ่อเอ่ยขึ้นเบาๆ “ เรื่องของจิตใจมันห้ามไม่ให้รู้สึกไม่ได้หรอกลูก ยิมไม่ได้ทำไม่ดี ไม่ได้ฆ่าใครสักหน่อย ทำไมพ่อกับแม่ถึงจะยอมรับไม่ได้ ถ้ามันคือชีวิตของลูกคือความรักของลูกเอง พ่อขอให้ยิมจำไว้ว่าถ้ารู้สึกแล้วขอให้รับผิดชอบกับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นต้องยอมรับผลของมันให้ได้”

          “ ครับ”

         แม่ลูบขอบปากผมซึ่งก่อนหน้านี้แม่ลงมือทำแผลให้โดยไม่ปริปากถามอะไร ทั้งๆที่ท่านดูตกใจไม่น้อยที่เห็นสภาพผมในตอนแรก “ ยิมกับพี่หมอคบกันนานรึยัง”


         “ แม่รู้ได้ไงครับว่าเป็นหมอ”

         แม่หันไปยิ้มกับพ่อก่อนจะบุ้ยปากไปที่ขอบประตูซึ่งน้องสาวผมยืนแอบฟังอยู่ และเหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัวถึงได้ค่อยๆกระมิดกระเมี้ยนเดินมาหา ผมอ้าแขนโอบกอดน้องสาวที่ถลาวิ่งมาซุกอก

         “ พี่ยิมเจ็บมากมั้ย” ใยบัวลูบมุมปากผมเบาๆ “ พี่ยิมอย่ายอมแพ้นะตามพี่หมอกลับมาให้ได้” ผมรับคำแล้วลูบศีรษะใยบัว

         “ ยิม”

         “ ครับผม”


         “ ถ้าเราชอบพอกัน พ่อว่าไปคุยกับพ่อเขาให้รู้เรื่องเถอะ ยิมคงจะรู้ว่าเรื่องนี้มันละเอียดอ่อนยากจะที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆ พ่อกับแม่น่ะเห็นเรื่องพวกนี้มาจนชินตอนที่อยู่ต่างประเทศมันเลยให้ทำให้พวกเรายอมรับได้ แต่ไม่ใช่กับพ่อของหมอปายนะ ศิววงษ์น่ะเป็นคนปากร้ายใจดี ที่ทำแบบนี้มันคงช็อคไม่น้อยที่มารับรู้ความสัมพันธ์ของลูกเขากับเรา”


         “ พ่อรู้จักพ่อหมอปายด้วยเหรอครับ”

         พ่อพยักหน้าน้อยๆ “ เคยเรียนรุ่นเดียวกันตอนมัธยม ก่อนที่จะแยกย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศ”

         ผมทำหน้าประหลาดใจ


         “ ศิววงษ์มันเป็นคนเงียบๆ เป็นพูดน้อยมาแต่ไหนแต่ไร แต่เป็นคนเอาการเอางานและจริงจังกับทุกเรื่อง บางครั้งมันถึงดูเคร่งขรึมจนยากที่จะเข้าหา แต่เชื่อเถอะว่าพ่อทุกคนย่อมรักลูกของตัวเอง ถึงไม่ได้พูดแต่การกระทำก็แสดงออกชัดเจนว่าเขารักลูกเขา และมันเป็นสิทธิ์เขาที่จะปกป้องลูกจากสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ถูกไม่ควร แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเราแสดงความจริงจังซะ อย่างแสดงออกให้เขาเห็นพ่อว่าศิววงษ์ต้องยอมรับได้สักวัน”




       .

       .

       .



        ผมตัดสินใจขับรถมาจอดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังจากรวบรวมกำลังใจมาอย่างเต็มเปี่ยม แต่พอยามหน้าประตูเห็นหน้าผมก็ไล่กลับออกมาแทบไม่ทัน ผมเดาได้ไม่ยากคงเป็นเพราะคำสั่งประมุขของบ้าน ผมถอนหายใจโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของหมอแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าเราตัดขาดจากกันอย่างถาวร ผมนั่งนิ่งเหลือบตามองออกไปนอกรถที่ฝนกำลังลงเม็ด


         ...อากาศแบบนี้ไม่รู้ว่าหมอจะนอนยังไง...

         ...หมอจะรู้มั้ยว่าผมห่วงเขามากแค่ไหน...


        ผมกวาดตามองฝ่าความมืดไปยังคฤหาสน์ที่เงียบสงัด หมอกลับมาบ้านแบบนี้คงยากที่จะเข้าถึง ผมคลึงขมับก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน้องปอมีโทรศัพท์เครื่องเล็กที่ผู้ปกครองให้ติดตัวเอาไว้ แต่น้องไม่ค่อยได้ใช้หรอกเพราะหมอไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ ผมเคยแอบโทรคุยกับน้องบ่อยๆ แต่ต้องเป็นตอนที่น้องมีคนดูแลอยู่ด้วยไม่งั้นน้องก็ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์เด็ดขาด
ยังไงก็แล้วแต่ผมจะลองเสี่ยงดู

        ผมเบอร์น้องโทรออกไม่นานแค่เสียงรอสายก็ทำให้ผมกระวนกระวานใจแล้ว ผมภาวนาไม่กี่อึดใจก็ได้ยินเสียงกดรับสาย

        “ สวัสดีจ้า”

        เสียงเด็กน้อยลอดมาตามสาย ทำให้ผมเผลอยิ้มไม่ได้

        “ น้องปอ”

        “ พี่ยิม น้องปอเอง” น้องร้องอย่างตื่นเต้น

        “ ครับ น้องปอพี่ปายอยู่แถวนั้นมั้ยเอ่ย”


        ปลายสายไม่ทันได้ตอบแต่ผมได้ยินเสียงกุกๆกักๆและเสียงน้องปอบอกคนที่อยู่ใกล้ๆตัวว่าผมโทรมา


        “ หมอ”

        “มึง”

        น้ำเสียงของหมอดูตื่นเต้นทำให้หัวใจผมอิ่มเอมอย่างประหลาด

        “ หมอปายครับ”

        “ มึงจริงๆด้วย”

        “ ครับผมเอง”

        “ มึงเป็นยังไงบ้าง แผลที่โดนต่อยเจ็บมากมั้ย แล้วมึงทำแผลรึยัง ตอบกูสิยิมว่ามึงไม่เป็นอะไรแล้ว”

        ผมอมยิ้มนึกภาพใบหน้าหมอร้อนรนกระวนกระวายเพราะผม แค่คิดก็รู้สึกสุขใจอย่างประหลาด

        “ ผมไม่เป็นไรครับ”

        “ มึงแน่ใจนะ”

        “ ครับ”

        หมอทำเสียงงึมงำ ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งที่ผมฟังแล้วหัวใจเต้นแรง “ กูคิดถึง”

        “ ผมก็คิดถึงหมอครับ”

        “ กูคิดถึงมึงมากกว่า”

        “ ผมคิดถึงหมอมากที่สุด”

        ผมกับหมอหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน

        “ แล้วมึงอยู่ไหน”

        “ ผมอยู่หน้าบ้านหมอครับ”
 
        “ พูดจริง”

        ผมเหลือบตามองไปยังคฤหาสน์ที่มืดมิดอยู่ๆไฟก็สว่างขึ้นที่ห้องๆหนึ่งแล้วเห็นร่างของหมอเปิดประตูตรงระเบียงออกมา

        “ ทำไมมึงถึงอยู่ตรงนี้”

        “ ผมเป็นห่วง”

        ผมมองฝ่ายสายฝนไปเบื้องหน้าเพื่อให้แน่ชัดว่าหมอยังอยู่สบายดี

        “ หมอครับ ผมอยู่ตรงนี้นะ หมออย่ากังวล อย่ากลัวการนอนหลับท่ามกลางความมืดในวันฝนตก อย่ากลัวเพราะผมจะเฝ้ามองหมอจากตรงนี้”


       “ ยิม”

       “ ครับ”


       ผมตอบรับหมอก่อนที่หมอจะพูดคำๆหนี่งที่แผ่วเบาแต่กลับดังกล้องอยู่ในใจผมอย่างไม่ลืมเลือน


       “ กูรัก” หมอหยุดไปพักหนึ่งแล้วสูดลมหายใจ “มึง”










อ้าวต้มน้ำเดือดรึยังจ๊ะ ใส่มาม่าเร้ววววววว ฮ่าๆๆๆๆ :laugh:
ท่ามกลางมาม่าพี่หมอก็หลุดปากบอกรักแล้วน้า อิอิ อีกสามตอนก็จบแล้วอู้ๆๆๆ ลุ้นๆ
หนึ่งความคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 02-12-2016 21:42:21
จุกมาม่าเลย ชามใหญ่ไปมั้ยยยยย :m8:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-12-2016 22:27:45
โอ๊ยยยยย กำลังดี กำลังอบอุ่น
มาเจอหมัดฮุคพ่อปายไป เป็นอันจบข่าวเลยค่ะ

สงสารปาย คงเคว้งมาก คิดว่าพ่อไม่เข้าใจอีกแน่

ครอบครัวยิมดีค่ะ อบอุ่น ยิมก็ดี อบอุ่น จนปายบอกรักได้
แถมยังเหงา รู้สึกขาดไม่ได้ไปอีก

ยิมจะได้เจอปายตอนไหน หรือต้องให้พ่อกับแม่ยิมบุก

น้องปอเป็นกามเทพตัวน้อยนะคะ ทำให้พี่ชายได้บอกรักพี่ยิม

ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 02-12-2016 22:29:22
ยิมพร้อมไฟท์เพื่อหมอปาย อุปสรรคใหญ่แค่ไหนมาเล้ยยยยยย อืมมมใหญ่สุดแล้วละเนี้ย #หมอปายหมายิม สู้ๆ ถึงยากแต่ถ้ารักมั่นคงแบบนี้ เราเชื่อใจ ยิมปายเอาอยู่~~ //เกลียดชะนีไอจังว่ะ คนแบบนี้จริงๆนะหรอที่จะให้มาอยู่ในตระกูลนี้ เห๊อะ ดูลดค่าตระกูลไปเยอะเลย อย่าให้มันเยอะไปนะคะคุณพ่อ ดูผู้หญิงข้างกายคุณก่อนไหม ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้จะไม่อะไรกับคุณพ่อเลยนะ คือจะขัดขวางยากยังไงก็พอฟัง แต่นี้แบบ ดูสิผู้หญิงข้างกายตัวเอง นิสัย! ดูสมเพช!! หึ!! //รอตอนต่อไปเลยค่ะ จะทำอะไรยังไง เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ แต่เขินจังยิ้มแก้มปริตอนแรกก่อนถูกจับได้อ่ะ 555 >///<
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 02-12-2016 22:53:08
งื้อ ยิมปายสู้ๆน้า :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-12-2016 23:00:34
คุณพ่อช่วยพูดกับเพื่อนหน่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 02-12-2016 23:03:00
ทำให้พ่อยิมรับให้ได้นะครับ

เป็นกำลังใจให้,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 02-12-2016 23:50:37
 :o12: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-12-2016 00:44:29
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-12-2016 00:52:48
เราว่าเราเจออัศวินแล้วหล่ะ คุณพ่อยิมนี่แหละ คึคึ
แต่ยิมก็ต้องสู้ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 03-12-2016 01:07:19
คุณพ่อช่วยเป็นกองหนุนให้ลูกชายที

ไหนๆก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนละ :call:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-12-2016 02:20:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 03-12-2016 09:26:19
อู้วๆๆๆ ถึงจะเศร้าแต่ก็หว้านหวาน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 03-12-2016 12:20:12
คำว่ารักยิ่งใหญ่เสมอ ยิมกะปายต้องผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี  o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 03-12-2016 18:25:31
อ๊ากกกก จะตายกับประโยคสุดท้ายของหมอ หมอปาย ยิม สู้ๆนะ ผ่านมันไปให้ได้ ส่วนอีไอ :z6:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-12-2016 19:53:45
อยากให้พ่อหมอปายรู้จริงๆ ว่าคนที่เป็นเมียอยู่ตอนนี้เคยเป็นแฟนเก่าลูกตัวเองและคิดจะเคลมหมอปายอยู่จริง
ถ้ารู้คงจะสนุกพิลึกทีเดียว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 03-12-2016 20:08:52
อ่านตั้งแต่ต้นยันล่าสุดรวดเดียว ขุ่นแม่! ลูกพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงงงงง? #งานดี อะไรเบอร์นั้น กล้ามชนกล้าม (แม้หลังๆหมอจะลดความห้าว อิยิมจะเริ่มมุ้งมิ้งผิดสถานะขึ้น ก็ตามเหอะ) หวานปนดราม่า แทรกความอบอุ่น มีความรักเอาใจใส่ ดูแลกัน กุมมือกันตลอดเวย์แบบนี้ ชอบมากกกกก  :mew1:

หมอปาย มีศักดินาเป็นถึงคุณชาย คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณพ่อจะยอมรับ แต่ปมหลังเรื่องครอบครัว ความเข้าใจผิดต่อกันน่าจะค่อยๆเคลียร์ เพราะหมอเองก็เริ่มเปิดใจ ปล่อยวางมากขึ้น ยอมรับน้องปอ รู้สึกดีที่คุณพ่อพาน้องปอไปกราบแม่ใหญ่ พอหมอปายซอฟลง คุณพ่อคงเริ่มอ่อนลงบ้าง แถมยังมีกองหนุนทัพใหญ่ครอบครัวยิมคอยซัพพอร์ตอยู่ ครอบครัวท่านฑูต แถมเป็นเพื่อนเก่าแก่เรียนด้วยกันมาเชียวนะ  ความรักของยิมปายคงไม่ถึงกับริบหรี่นัก

ชอบความอบอุ่นในตัวยิม ยิมได้รับความรักมาจากครอบครัวเต็มเปี่ยม ทำให้ยิมพร้อมจะเผื่อแผ่ความรัก ความเอาใจใส่ให้กับคนรอบข้างเสมอ ไม่ใช่แค่คนรักอย่างหมอปาย แต่กับเพื่อนอย่างเนม อย่างโอ๊ค ก็ได้รับความอบอุ่น จริงใจจากยิมไปเต็มๆเช่นกัน. รักยิม  :L1:  แต่ #ทีมหมอปาย #FC คนซึนปากหนัก  :hao3:  :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 03-12-2016 20:25:38
พี่หมอกับยิมสู้ๆน้ะ อุปสรรคมีให้ฝ่าฟัน o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-12-2016 23:20:07
ท่ามกลางความขมยังคงมีความหวานอยู่...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-12-2016 07:31:57
สู้ๆนะทั้งสองคนต้องผ่านมันไปได้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Arzumi ที่ 04-12-2016 12:46:14
ท่ามกลางมาม่า มีขนมหวานคั่นกลาง สู้ๆนะพี่หมอหนูยิม  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 04-12-2016 15:28:11
กินมาม่าคู่น้ำแดง. วุ้ยยยค่อยมีกำลังใจ

 :heaven   :heaven   :heaven   :heaven

...
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 04-12-2016 19:04:02
รอๆๆๆไ น้องปอน่ารักมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 04-12-2016 19:48:47
มาเม้นให้กำลังใจ
แปะไว้ก่อน
ระงับมาม่า เดี๋ยวเราไม่มีกำลังใจทำโปรเจค
ใกล้จะส่งแล้ว ถ้าส่งแล้ว
จะแวะมาอ่านนะ
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 04-12-2016 20:03:26
 :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: skysky ที่ 06-12-2016 12:37:00
ครอบครัวยิมอบอุ่นและน่ารักจริงๆ พีหมอของเราปายของเราก็บอกความรู้สึกกับยิมตรงๆแล้ว
ชอบมากเลย ที่เถียงเรื่องคิดถึงกัน 555 น่าร้ากกก
ส่งกำลังใจ รออ่านตอนต่อไปค่าาา ^^/
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 06-12-2016 13:15:11
 :-[ :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 08-12-2016 12:33:15
คุณพ่อรู้จักกันด้วย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: chuagporz ที่ 08-12-2016 23:15:02
อู้หูว~ หมอปายบอกรักแล้วอ้ะ!!!!!!!! เขินนนนนนน  :-[
สู้นะปายยิม อย่ายอมแพ้ สักวันพ่อจะต้องเข้าใจ!!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-12-2016 20:36:10
สู้ๆนะยิมปาย ขอให้พ่อหมอปายยอมรับและเข้าใจนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 23 : เผชิญหน้า [2/12/59] P.19
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 11-12-2016 21:28:15




        หลงที่ 24 : ความจริง


        [ยิม]




       “ สรุปคือมึงกับพี่หมอปายคบกัน”

       “ อืม”

       “ เรียกว่าแฟนได้มั้ย”

       “ อืม”

      ผมหรี่ตามองไอ้โอ๊คที่พยายามกลั้นหัวเราะและเนมที่ยิ้มกริ่มพวกมันสองตัวแสดงออกว่าตื่นเต้นกับข่าวที่ได้ยินมาไม่น้อยจนถึงขนาดผลัดกันซักถามจนผมตอบคำถามแทบไม่ทัน


       “ เรื่องจริงใช่มั้ยยิม”

       เนมเขย่ามือผมท่าทางดีใจ

       “ แล้วเนมคิดว่าไงล่ะ” ผมย้อนถามกลับทำให้ฝ่ายนั้นหน้านิ่วคิ้วขมวด

       “ ก็สงสัยนะสิ เห็นยิมกับพี่หมอปายตัวติดกันบ่อยๆ” เนมวิเคราะห์ “ เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เห็นแวบๆว่ายิมติดรถพี่หมอมาลงที่คณะด้วย”

       “ อ่าหะ”

       “ ไม่คิดว่าจะคบกันเร็วขนาดนี้ แต่ก็ดีใจด้วย”

        เนมอมยิ้มแก้มๆตุ่ย ไอ้โอ๊คเห็นมันคงนึกมันเขี้ยวถึงได้โยกศีรษะไปมาจนเพื่อนตัวขาวผมร้องโวยวาย แต่สีหน้ามีความสุขบอกไม่ถูก ท่าทางของมันทั้งคู่ดูสนิทสนมเป็นพิเศษทั้งที่ก่อนหน้านี้พอเจอหน้าก็แง่งๆใส่กันตลอด ความสัมพันธ์ของพวกมันทำให้ผมนึกเอะใจว่าตัวเองพลาดอะไรไปบางอย่าง แต่ถ้าถามไปตรงๆเนมมันไม่มีทางปริปากบอกหรอก คงต้องรอโอกาสที่ได้อยู่ตามลำพังกับไอ้โอ๊ค

        “ แล้วมึงจะให้กูช่วยอะไรวะ”

        ผมถอนหายใจเมื่อไอ้โอ๊คถามตรงประเด็น จริงๆแล้วที่นัดเจอพวกมันวันนี้เพราะแค่อยากจะปรับทุกข์และระบายเรื่องราวหนักอกหนักใจของผมให้พวกมันฟังก็เท่านั้นเอง ผมหายใจแรงๆอีกครั้งก่อนจะเปิดปากเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดให้มันฟัง


        “ ดูท่าเรื่องนี้จะหนักวะ”

         ไอ้โอ๊คเปิดปากพูดคนแรก “ กูรู้มาว่าพ่อหมอปายเป็นถึงหม่อมหลวง มียศมีหน้ามีตาขนาดนั้นคงจะหวงหน้าตาน่าดูไม่มีทางที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆหรอก”

        “ถึงอย่างนั้นเนมก็จะหาทางช่วยยิมให้ได้”

        เนมปรารภเสียงหนักแน่นแล้วทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆแล้วเดินยิ้มกริ่มออกไปโทรศัพท์ข้างนอก

        “ ทำอะไรเนม”

        “ เรามีตัวช่วยแล้ว”

        ผมมองตามแผ่นหลังเนมไปแล้วหันไปมองไอ้โอ๊คเป็นเชิงถาม ซึ่งฝ่ายนั้นก็แค่ยักไหล่

        “ ถามจริง”

        “ อะไร”

        “ มึงกับเนมเป็นอะไรกัน”

        ไอ้โอ๊คจุดยิ้มมุมปากทันทีที่ผมถามจบ

        “ กูจีบมันอยู่”

       ผมหันไปมองมันเป็นเชิงถาม “ แล้ว”

       “ แล้วดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มที่เนมมันจะเอนเอียงมาทางนี้”

       “ ขนาดนั้น”

       ผมถามกวนๆ

       “ แน่สิ มือชั้นนี้แล้ว”

       “ มึงจริงจัง? ”

        ผมถามอย่างกังวลใจเพราะสนิทกันจนรู้สันดานอีกฝ่าย  ผมกับไอ้โอ๊คมันคนประเภทเดียวกันลองได้ชอบอะไรแล้วมันก็พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะได้มาครอบครองเหมือนกัน เสียแต่มันสันดานเสียเจ้าชู้รักเผื่อเลือกซ้ำยังทำตัวลอยชายไปเรื่อยผมเลยกลัวว่ามันจะทำกับเนมเหมือนหมาหยอกไก่ซะมากกว่า

        ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมคงยอมไม่ได้เพราะเนมมันเป็นยิ่งกว่าเพื่อน ผมเองก็รักมันเหมือนน้องเหมือนนุ่งถึงยอมปล่อยให้ไอ้โอ๊คมันทำอะไรตามอำเภอใจแบบที่แล้วมาไม่ได้

        “ มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูคงไม่ยอมแน่ๆ ถ้ามึงทำกับเนมเหมือนที่แล้วๆมา”

        “ กูรู้” มันหันมายักคิ้วให้ผม  “ กูไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่เรียกว่าจริงจังรึเปล่า แต่กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน มันเป็นคนแรกที่ทำให้กูร้อนใจเวลามันโกรธ และมันเป็นคนแรกที่ทำให้กูไม่อยากมองใครอีก”

        “กูรู้สึกดีที่ได้ยินแบบนี้”

        “ มึงเชื่อที่กูพูดเหรอ”

        “ เปล่า”

        ผมส่ายหน้า “ กูเชื่อแววตาของมึง”


        ใช่ผมเชื่อแววตาของมันเพราะมันเป็นแววตาที่ผมใช้มองหมอ แววตามันอ่อนโยนทุกครั้งที่มองเพื่อนตัวขาวของผมซ้ำบางทีมันยังเผลอหัวเราะตอนที่เนมทำหน้ายุ่งเวลาที่คุยกับคนในสาย ผมว่าผมตาไม่ฝาดที่เห็นความรักจากแววตาคู่นี้ของมัน

        “ ฝากเนมมันด้วย กูเชื่อว่ามึงจะดูแลมันให้มีความสุขได้”

        “ อืม”



       .

       .

       .


       เนมหายไปสักพักหนึ่งก่อนจะเดินยิ้มแต้มาแต่ไกล และเหนือสิ่งอื่นใดนอกจากมันแล้วยังมีอีกสองคนซึ่งผมไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ผมนึกแปลกใจจนผุดลุกขึ้นเพื่อมองภาพตรงหน้าให้ชัด เพื่อนตัวขาวของผมเอ่ยแนะนำคนที่มาพร้อมด้วยน้ำเสียงแจ่มใส พวกเราเลยเอ่ยทักทายกันถึงจะเคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนแต่พวกเราก็ไม่เคยพูดคุยสนทนากัน ดูเหมือนไอ้โอ๊คจะเป็นคนเดียวที่งงที่สุดเพราะมันไม่เคยรู้จักกับเพื่อนสนิททั้งสองคนของหมอปายเลย


        ‘หมออั้ม’ เป็นผู้ชายร่างสูงที่สวมแว่นท่าทางเรียบเฉยใบหน้าคมคายเหมือนจะไม่เป็นมิตร แต่จริงๆแล้วคงเป็นท่าทางปกติของเขาเพราะจากที่ผมสังเกตคงมีแต่หมอปายคนเดียวที่ทำให้ใบหน้านิ่งๆนั่นขยับรอยยิ้มได้ ไม่น่าแปลกเลยที่ว่าที่คุณหมอตรงหน้าดูจะทำเหมือนไม่ถูกชะตาผมสักเท่าไหร่ในเมื่อพวกเราต่างก็คิดหวังกับหมอปายไม่ต่างกันเลย ส่วนอีกคนคือ ‘หมอหยก’ นี่ท่าทางคล้ายกับเนมอย่างกะแฝด ที่คิดแบบนี้เพราะเป็นผู้ชายตัวเล็กเหมือนๆกันซ้ำส่วนสูงยังไม่ต่างจากกันนัก แต่เรื่องความขาวคงต้องยกให้หมอหยกเพราะออกจะขาวซีดมากกว่าหน่อย



         “ กูหาผู้ช่วยมาให้มึงได้แล้วยิม”

         ผมทำหน้าประหลาดใจ ต่างจากหมออั้มที่ดูไม่สบอารมณ์นักส่วนหมอหยกแค่ยิ้มบางๆเหมือนจะให้กำลังใจ

         “ อะไรกันเนม”

         “ ถ้ายิมอยากเจอพี่หมอ ยิมต้องพึ่งพี่อั้มกับพี่หยก”

         ผมทำเสียงงึมงำในลำคอ ขณะที่หมออั้มกระตุกยิ้มมุมปากปรายตามองทางผม “ สภาพอย่างนี้เหรอที่จะทำให้อาหม่อมยอมรับได้”

         ผมยิ้มน้อยๆเมื่อถูกหมออั้มปรามาสซึ่งๆหน้า และตอบโต้กลับไปแค่การขยับปากยิ้มรับท่าทางของพวกเราคนสองคงเหมือนการประกาศสงครามกันกลายๆ หมอหยกถึงกับหน้าเสียรีบกระตุกแขนเพื่อนตัวเองเป็นการปรามซึ่งได้ผลเพราะหมออั้มทำสีหน้าอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงแววตาก็ยังมองผมเหมือนจะประเมินอยู่ตลอดเวลา

         “ ปายเป็นลูกคนเดียว ถึงจะมีน้องชายแต่ก็คนละแม่ อาหญิงแม่ของปายเป็นผู้หญิงที่อาหม่อมรักมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่จะทำให้ครอบครัวปายยอมรับนายได้”

        หมออั้มพูดเสียงเรียบไม่ได้เจาะจงว่าพูดกับใครแต่ผมรู้ดีว่าเขาพูดกับผม

        “ ผมทราบครับ”

        “ แล้วยังไง”

        ต้องยอมรับว่าหมออั้มกำลังทดสอบผมอยู่ เพราะท่าทางผู้ช่วยที่เนมการันตีดูจะจงใจกวนประสาทผมจริงๆเลย ให้ตายเถอะ

        “ แล้วผมก็ไม่คิดจะปล่อยมือหมอครับ”

        “ หึ”

        หมออั้มยิ้มเครียด “ ต่อให้จับกันแน่นแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องปล่อยมือถ้าคนรอบข้างไม่ได้ยินดีด้วย”

        ผมนิ่งงันรู้สึกราวกับหายใจไม่ออกเพราะเรื่องที่ได้ยินมันเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับ

        “ ถึงปายกับอาหม่อมดูจะไม่สนิทสนมกันเท่าไหร่แต่เชื่อเถอะถ้าสุดท้ายแล้วถ้าต้องเลือก ปายไม่มีทางเลือกนาย”

        “ ไม่เอาน่าอั้ม”

        หมอหยกปรามอีกครั้ง ใบหน้าจิ้มลิ้มของหมอหยกยิ้มให้กำลังใจผม “ อย่าคิดมากเลยนะน้องยิม อั้มก็พูดเกินไปมันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก ถึงภายนอกอาหม่อมจะดูดุแต่ท่านเป็นคนใจดีในระดับนึงนะ”

         “ แต่ก็ไม่ได้ดีใจเสมอไปกับคนที่ทำให้ลูกชายท่านผิดแปลกไปจากเดิม”

         ผมยิ้มน้อยๆทั้งที่ในใจเต้นระส่ำ “ ผมรู้ครับ” ผมสบตากับหมออั้มตรงๆ “ ผมรู้ว่าถ้าต้องเลือก หมอปายไม่มีทางปล่อยมือครอบครัวของตัวเอง ถึงหมอจะไม่เลือกผม ผมไม่สนใจหรอก เพราะผมเลือกหมอแล้วผมไม่มีเปลี่ยนใจ”

        “ ก็ดี”

        หมออั้มพูดเสียงเรียบจนที่เหลือโล่งอกถอนหายใจ แต่ยังไม่ทันที่หมอหยกจะได้เปิดปากพูดอะไรทั้งที่เหมือนคนตรงหน้ากำลังบอกอะไรบางอย่าง หมออั้มก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม

        “ เล่นบาสกัน”

        “ ครับ”

        ผมไม่ได้รับคำหรอก แต่มันเป็นคำตอบเชิงถามว่าสิ่งที่ได้ยินมาไม่ได้หูฝาด เมื่อหมออั้มชวนผมเล่นบาสทั้งที่ก่อนหน้านี้หมอยังดูเหมือนจะชวนผมตีด้วยซ้ำ

         “ เมื่อกี้หมอพูดว่าอะไรนะครับ”

        หมออั้มยักไหล่ปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดบนแล้วถอดเข็มขัดดึงชายเสื้อในกางเกงสแล็คออกมา แล้วเดินนำไปยังสนามบาสใกล้ๆกัน ถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่หมอจะสื่อแต่ผมก็เดินตามไปอย่างไม่อิดออด จนเราไปยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางสนามว่าที่คุณหมอก็โยนลูกกลมๆสีส้มมาให้ผมรับเอาไว้
 
        “ ใครชู้ตได้สิบลูกก่อนชนะ”

        “ แล้วยังไงครับ”

        ผมถามกลับไป

        “ ถ้าฉันชนะนายก็ไม่ควรพยายามในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป”

        “ แล้วถามผมชนะล่ะครับ”

         หมอทำสีหน้ายุ่งยากใจแต่ก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “ ฉันจะช่วยนายทุกอย่าง”

        “ หมอพูดแล้วนะครับ”

        “ ชนะให้ได้ก่อนเถอะ”

        หมออั้มตอบกวนๆก่อนจะวิ่งตรงไปมาแย่งลูกบาสในมือได้สำเร็จแล้วพุ่งตัวอย่างรวดเร็วเลี้ยงลูกกลมๆในมือไปโยนใส่ห่วงตาข่ายอย่างมั่นยำราวกับจับวาง ผมสะตุกยิ้มมุมปากมองไปยังข้างสนามที่ไอ้โอ๊คไปยืนประจำอยู่ตรงกลางราวกับลงมาเป็นกรรมการ ส่วนสองพี่น้องที่มีความใกล้เคียงทางพันธุกรรมความสูงก็ร้องเย้วๆเชียร์อยู่ขอบสนาม

        จริงๆแล้วผมเป็นคนไม่ชอบอะไรยุ่งยาก แต่หมออั้มคงไม่รู้ว่าผมเป็นคนชอบอะไรที่ท้าทาย และสิ่งท้าทายที่ผมปรารถนาที่สุดในตอนนี้คือหมอปาย ดังนั้นไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนผมย่อมทำได้ไม่คิดชีวิต ผมหลับตานิ่งก่อนแล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาก่อนจะพุ่งไปแย่งลูกบาสที่หมออั้มกำลังเลี้ยงเพื่อเตรียมทำแต้มอีกครั้ง

        “ ผมไม่ยอมแพ้หมอหรอกครับ”

        ผมว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างจะดุดันในเมื่อเราเผชิญหน้ากันต่อตัวต่อ เกมกีฬาที่เล่นอาศัยการจังหวะชิงไหวชิงพริบและความเร็ว เราไม่ได้ยึดกติกากันมากนักดังนั้นมันจึงไม่แปลกถ้าเราจะเล่นนอกเกมกันบ้างด้วยการกระแทกอีกฝ่ายให้ล้มแล้วชิงเอาลูกบาสไปโยนยัดห่วง เรากระแทกกันหลายรอบจนรู้สึกว่าเริ่มเจ็บตรงหัวไหล่และหัวเข่าที่กระแทกกับพื้นสนามก่อนหน้านี้ แต่ถึงจะเจ็บผมก็ไม่ยอมแพ้หรอก

        ผมเหลือบตามองเลขบนสกอร์บอร์ดที่ผมกำลังตามหมออยู่สองแก้มขณะที่หมออั้มกำลังอยู่ในช่วงสำคัญเพราะอีกแต้มเดียวเขาก็จะชนะผมได้ ผมหายใจแรงๆด้วยความเหนื่อยต้องยอมรับว่าหมออั้มเล่นบาสได้ไม่เลวเลยจริงๆต้องพูดว่าเล่นเก่งราวกับเป็นนักกีฬามาก่อน ผมสบตากับฝั่งตรงข้ามที่มองมาเสมือนกำลังขยับรอยยิ้มหยัน วินาทีนั้นอะไรไม่รู้ทำให้ผมฮึดสู้ใจขาดดิ้นด้วยการพลิกตัวไปเกี่ยวเอาลูกบาสในมือเขามาครอบครองและตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นหมออั้มที่วิ่งตามลูกบาสในมือผมแทน ผมไม่รอเวลาให้สูญเปล่าเมื่อตวัดปลายนิ้วและกระโดดยัดลูกกลมๆนี่ลงห่วง

         ช่วงเวลาเกือบสี่สิบนาทีชั่วโมงเหมือนราวกับว่าผ่านมานานนับวัน ผมเหนื่อยสุดๆเพราะวิ่งตลอดไม่มีได้หยุดพักซ้ำยังเป็นเกมที่รุนแรงจนร้าวระบมไปทั้งตัว ไม่ต่างจากหมออั้มที่หอบหายใจแรงๆนอนแผ่หลาอยู่กับพื้นหลังจากที่ผมบ้าระห่ำทำคะแนนสามแต้มติดๆไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หมอได้จับลูกเลย

        เนิ่นนานหลังจากนั้นหมออั้มผุดลุกขึ้นใบหน้าขาวแดงก่ำ เสียหน้าแววตาดูเสียใจที่ต้องยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้แต่เขาก็มีน้ำใจนักกีฬามาก ตอนที่ยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อให้ผมยึดจับแล้วผุดลุกขึ้นทำให้ผมกลับมาทรงตัวยืนได้อีกครั้งผมเลยกล่าวขอบคุณเขา

        “ ถ้านายทำให้ปายเสียใจ ฉันจะทำทุกวิธีทางเพื่อทำให้ชีวิตนายไม่มีความสุข และฉันจะทำให้นายไม่มีปัญญาได้เขากลับไป” หมออั้มพูดเสียงเรียบมองหน้าผมตรงๆ “ ถ้าปายเจ็บเพราะนาย...นายจะไม่มีวันได้ปายกลับไปอีกเลยตลอดชีวิต”

        ผมสัมผัสได้ถึงแววตาจริงจังและคำพูดที่หนักแน่นของคนตรงหน้า หมอปายโชคดีจริงๆที่มีเพื่อนอย่างเขาเพราะผมเชื่อว่านอกจากผมแล้วผู้ชายตรงหน้าคือคนที่จะทำทุกอย่างเพื่อหมอ ผมมองเห็นความจริงใจที่แสดงออกมาให้เห็น ผมเชื่อว่าถ้าหากไม่ใช่ผม เขาจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมพร้อมจะให้ดูแลหมอปายแทนผม

         “ผมสัญญาครับ”

         “ สัญญาแค่ลมปากไม่พอหรอก” หมออั้มพูดนิ่งๆ “ สัญญาด้วยการกระทำต่างหากที่เป็นของจริง”

         หมออั้มขยับปลายเสื้อระบายความร้อนก่อนจะหันหลังกลับไปยังขอบสนามที่เพื่อนตัวเองรออยู่

         “ หมออั้ม”

         “.......”

         หมอหยุดชะงักแต่ยังหันหลังให้ผมเช่นเดิม

         “ ขอบคุณครับ”

         ผมกล่าวขอบคุณแผ่นหลังเขาที่ยืดตรงเมื่อกล่าวจบ

        “ อืม”

        เสียงในลำคอดังขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ยอมหันกลับมาเผชิญหน้ากันเลย “พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปหาอาหม่อม ถ้านายว่างก็ไปด้วยกันสิ”

        ผมเผลอยิ้มตอนที่หมออั้มพูดทิ้งท้ายแล้วเดินลับไป น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้ผมโคตรเหนื่อยทั้งยังเจ็บหัวไหล่เอามากๆ แต่พอได้ยินในสิ่งที่หมออั้มพูดขึ้นมาแล้วทำให้ความเหนื่อยความเจ็บหายเป็นปลิดทิ้งเลย

        “ ยิ้มอะไรขนาดนั้นวะยิม”

        ไอ้โอ๊คถามอย่างสงสัย

        “ อืม”

        “ อืมอะไรวะ”

        ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่หันไปยื่นมือรับขวดน้ำที่เนมส่งมาให้แล้วมองไปเบื้องหน้า ผมสัมผัสได้ว่าหมออั้มเป็นคนดีในระดับหนึ่งและความดีของเขาคงทำให้ได้เจอสิ่งดีๆอย่างการมีเพื่อนที่ดีอย่างหมอหยก ผมนิ่งมองภาพตรงหน้าที่หมออั้มยิ้มรับขวดน้ำที่หมอหยกยื่นให้พร้อมโยกศีรษะเพื่อนตัวเล็กเป็นเชิงหยอกล้อ

         ผมพอจะรู้มาบ้างว่าระหว่างหมอปายและเพื่อนสนิททั้งสองมีเรื่องบางอย่างยากเกินกว่าที่คนนอกจะเข้าใจ มันเป็นความสัมพันธ์ประหลาดคล้ายกับความรู้สึกที่มีให้กันมันเหมือนวงกลมเพราะไม่มีใครได้ครอบครองความสุขเลยสักคน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับรักษาความเป็นเพื่อนกันมาได้ขนาดนี้ คงต้องอาศัยระยะเวลาและโชคชะตาที่จะทำให้สองในสามที่เหลือได้พบเจอกับความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ว่าเพราะผมเป็นผู้ได้รับชัยชนะแล้วจะเหยียบย่ำซ้ำเติมผู้พ่ายแพ้ด้วยความหยิ่งผยองในฐานะผู้พิชิต ผมเข้าใจว่าความรู้สึกผิดหวังมันทรมานใจแค่ไหนและไม่ปรารถนาให้ใครอีกที่ต้องเจ็บปวดแบบผมเหมือนที่แล้วมา


         (มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 11-12-2016 21:29:16

            (ต่อ)


            [หมอปาย]
   


           บางครั้งการได้นั่งเงียบๆเพียงลำพังก็เหมือนกับการได้คิดทบทวนการกระทำที่แล้วมาของตัวเอง ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้การได้อยู่กับตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ผมคิดว่ามันดี ผมถอนหายใจแรงๆตอนที่ยืนกอดอกพิงขอบหน้าต่างเหลือบตามองไปยังหน้าคฤหาสน์และทางเข้าซึ่งเต็มไปด้วยชายฉกรรจ์ในสูทสีดำสนิทมากมายเต็มไปหมด หึ สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างจากนักโทษที่รอคอยการตัดสินพิจารณาโทษเลย ดีหน่อยที่ประมุขของบ้านยังเมตตาให้เดินไปไหนมาไหนได้ในบริเวณบ้าน เรียกว่าไม่ถึงกับจำกัดอิสรภาพเพราะผมยังได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับคนในบ้านซึ่งก็มีแค่ปอกับลุงหาญเท่านั้นที่มักเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจ ต่างจากคนอื่นๆที่แค่นิ่งมองและจ้องดูราวกับกลัวว่าผมจะหาวิธีหลบหนีออกไปได้

   ชีวิตในแต่ละวันช่วงนี้มีแค่กินกับนอน ดังนั้นเวลาที่ปอกลับมาจากเรียนพิเศษข้างนอกคือช่วงที่มีความสุขที่สุด เสียงเจื้อยแจ้วของน้องทำให้ความรู้สึกเงียบเหงาถูกปัดเป่า ปอเหมือนพรวิเศษที่ทำให้คนที่รอบข้างสามารถขยับรอยยิ้มได้โดยไม่ต้องอาศัยการเสแสร้งใดๆ อาจจะเพราะน้องยังเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์มันเลยทำให้ความคิดวุ่นวายต่างๆในหัวถูกแทนที่ด้วยความสดใสของน้อง มันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา เพราะนานมากแล้วที่ผมรู้สึกไม่อยากยิ้มเลยตั้งแต่ผมเสียแม่ไป นานมากแล้วที่ผมเผลอหัวเราะในขณะที่กำลังพบเจอเรื่องยากลำบากขนาดนี้

   หากเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่รีรอหรือยอมให้บิดากุมชะตาชีวิตแบบนี้ น่าแปลกที่ตอนนี้ผมนึกภาพที่ตัวเองดันทุรังปีกกล้าขาแข็งออกไปอยู่ตามลำพังไม่ออก ภาพจำในวันที่เราพ่อลูกทะเลาะกันใหญ่โตแล้วผมก็ก่อนออกจากบ้านอย่างไม่คิดหวนกลับ ตลอดเวลาหลายปีที่อยู่คนเดียวตามลำพังทำให้ได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนเย่อหยิ่งเพียงไหน ทั้งพยายามสร้างกำแพงในใจเพื่อกันใครต่อใครเข้ามาล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัว ทำเข้มแข็งทั้งที่ในใจโคตรเงียบเหงา ทำเหมือนไม่สนใจสิ่งรอบกายทำใจให้นิ่งเพื่อรับรู้สิ่งต่างๆ แต่ลึกลงไปสิ่งที่ผมปรารถนามาตลอดแค่อยากกลับไปเป็นเด็กเหมือนเมื่อครั้งที่แม่ยังอยู่

   ผมโหยหาความอบอุ่นของครอบครัวในวันวาน เพราะข้างในมันอ่อนแอถึงต้องทำตัวให้เข้มแข็งเข้าไว้ ผมรู้ดีว่าทิฐิของผมกับพ่อมีมากจนยากที่จะทลายมันลงได้จนเกิดช่องว่างระหว่างเราที่ปล่อยให้มันขยายตัวขึ้นทุกวัน ถึงอย่างนั้นผมก็อยากให้เขาจดจำผมได้ จดจำว่าผมยังเป็นลูกชายเขาคนหนึ่ง ยังเป็นที่ต้องการแม้จะมีเพียงแค่ความเย็นชาเท่านั้นที่ได้รับกลับมา ผมทำให้เขาเสียใจและเสียความรู้สึก ผมทำให้วงษ์วรกาญจน์แปดเปื้อนในสิ่งที่ผมเป็น มันยากเหลือเกินที่คนรอบข้างจะยอมรับได้ ไม่แปลกเลยที่เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเขาและแววตาไม่แน่ใจที่พ่อมองผมแต่ละครั้ง เจ็บทั้งคนมองและคนถูกมอง เจ็บที่ผมเป็นในสิ่งที่พ่อรังเกียจ เจ็บจริงๆ

   ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ผมกลับนึกถึงมันที่สุด มันที่นำพารอยยิ้มมาให้ผมอีกครั้ง ทำให้โลกที่บิดเบี้ยวของผมกลับสมบรูณ์ขึ้น ทำให้การมองโลกรอบด้านเป็นสิ่งที่สมควรทำ สอนให้รักและใส่ใจผู้อื่นมากขึ้น สอนให้การนอนจับมือในวันฝนตกเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาที่สุด สอนให้รู้ว่าการมีตัวตนของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีแค่ไหน


   ....โคตรดีทุกครั้งที่มีมันอยู่ข้างๆกัน...


   ผมเหม่อมองไปเบื้องหน้าอากาศยามเย็นมีลมอ่อนๆพัดเข้ามาในหน้าต่าง เสียงรอบกายเงียบสงัดจนได้ยินฝีเท้าของใครสักคนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ร่างโปร่งบางของแม่เลี้ยงสาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าในมือของเธอมีถาดอาหารหน้าตาน่ากิน แต่เพราะคงตรงหน้าคือเธอความรู้สึกอยากอาหารของผมเลยไม่มีอยู่เลย


       “ ปายคะ”

       “.......”

       “ ไอซื้อโจ๊กเจ้าดังมาให้ค่ะ” หล่อนยิ้มเอาใจ “ ปายลองชิมหน่อยสิคะ ไอรับรองว่ามันต้องอร่อยถูกปากคุณแน่นอน”

        ผมถอนหายใจเหลือบตามองใบหน้างดงามที่แย้มยิ้มสดใส ภาพใบหน้านี้ทำให้ผมนึกถึงความงดงามในวัยเยาว์ ในอดีตเธอเคยงดงามทั้งกายและใจแต่พอเวลาผ่านไป กาลเวลาหมุนเปลี่ยนทุกอย่างจนทำให้คนดีในวันวานแปรเปลี่ยนไปตามกระแสของการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใครแต่การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นมาได้ด้วยการกระทำของคนทั้งนั้น



       “ ไอ”

       “ คะ”

       “ คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”

        เธอชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มเสียกว้าง แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนทนเหลือเกิน กี่วันแล้วที่เธอทำแบบนี้แต่สิ่งที่ได้กลับไปมีแต่ว่างเปล่า ราวกับว่ากำลังเล่นสงครามความเงียบใส่กัน ฝ่ายที่ทนไม่ได้ก็คงจะพ่ายแพ้ไปในที่สุด เธอยังคงทู่ซี้ทำดีกับผมเพราะหวังให้ผมเปลี่ยนใจเข้าสักวัน ขณะที่ผมนั่งมองสิ่งเหล่านั้นด้วยหัวใจที่แห้งแล้งความรู้สึกดีๆในฐานะของเพื่อนนับวันจะถดถอยลง

         “ ไอไม่เหนื่อยหรอก เพราะไอทำให้คนที่ตัวเองรัก”

         “ คุณไม่ละอายใจบ้างเหรอ” ผมถอนหายใจแรงๆ “ คุณบอกรักผมทั้งที่ยังอยู่ในฐานะแม่เลี้ยงของผม ซ้ำยังเป็นภรรยาของพ่อ ไอลดาคุณรักพ่อผมบ้างรึเปล่าผมไม่อยากรู้ แต่อยากให้คุณจำไว้ว่าปอเป็นลูกของคุณ เขารักแม่ด้วยใจบริสุทธิ์โดยไม่รู้ว่าแม่ตัวเองกำลังทำเรื่องสกปรก”

         “ ปาย”

        ไอลดาแหวขึ้นเสียงดัง

         “ คุณไม่สงสารปอเหรอ”

         “ สงสารแล้วยังไง แล้วใครบ้างที่มาสงสารเห็นใจไอ ไอไม่อยากให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้” หล่อนหลุดสะอื้น “ ไอพลาด ไอไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงปาย ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ปอเกิดมา”


         ...ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ปอเกิดมา...


         ผมตัวสั่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ชีวิตน้อยๆของปอทำไมถึงได้มีเรื่องเลวร้ายแบบนี้

        “ แต่เขาเกิดมาแล้วไอลดา ในเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทำไมคุณไม่ยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่”

        “ ไม่มีทาง”

         ไอลดากรีดร้องทั้งน้ำตา “ ไอรักปายก่อนใคร ก่อนที่เมษาจะรักปายซะอีก ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจ”


        “ พูดตอนนี้แล้วทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เหรอ คุณมีครอบครัวแล้วขณะที่ผมก็มีคนรักแล้วเหมือนกัน เราต่างคนต่างมีหน้าที่และความรับผิดชอบ”

        ไอลดากรีดร้องปล่อยโฮด้วยใบหน้าสิ้นหวัง ใบหน้าสะสวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเพราะพิษรักที่ทำลายคนเราให้แหลกสลายได้ในพริบตา


        “ ทำไม ทั้งๆที่ไม่มีเมษาแล้ว ทำไมปายถึงไม่มองมาที่ไอบ้าง ทั้งที่ไออยู่เคียงข้างคุณมาตลอด ไอมาก่อนทุกคน มาก่อนเมษา มาก่อนไอ้เกย์นั่นทำไมกันปาย ทำไมปายถึงใจร้ายนัก ทำไมคุณถึงไม่มองคนที่อยู่เคียงข้างคุณมาตลอดบ้าง”

        “ เมษาคือรักแรก และยิมมันคงจะเป็นรักสุดท้ายของผม ส่วนคุณไอลดา คุณคือเพื่อนของผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

        “ ไม่”

        ไอลดาถลามาตีอกผมราวกับควบคุมสติของตัวเองไม่อยู่

        “ ปายต้องรักไอสิ ไออุตส่าห์ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้รักคุณ กำจัดนังเมษาแล้วทำไมไอ้เกย์นั่นถึงได้โผล่มาจากไหนไม่รู้ ปายต้องรักไอสิ”


          ...กำจัดนังเมษา...


         หัวสมองผมชาวาบ หยุดนิ่งปัดป้องตัวเองจากโทสะของเธอ ไอลดาร้องไห้โฮสบตากับผมที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย


         “ หมายความว่าไงไอ คุณอะไรเมษา”

        ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวแววตาคู่งามด้วยเลื่อนลอยแต่มีร่องรอยความสะใจจนผมนึกใจหาย ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ไอลดาที่ผมรู้จักเลย เหมือนว่าผมไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนเลย

        “ พูดมาสิไอคุณทำอะไรเมษา”

         “ ฆ่ามัน”

         ผมแทบทรุดในอกสั่นระรัว หัวสมองมึนชาราวกับโดนค้อนทุบ ความเสียใจจากไหนไม่รู้มากมายถาโถมเข้ามัน ทำไมกัน ทำไมเธอถึงทำร้ายเพื่อนรักของตัวเองได้ขนาดนี้ ทำไม

         “ นังผู้หญิงนั่นมันทำใสซื่อแกล้งอ่อนแอให้ปายต้องดูแล สุดท้ายปายก็ตกหลุมพรางมัน มันทำให้ไอแทบบ้าที่รู้ว่าท่าทางหงิมๆนั่นสุดท้ายมันได้ปายไปครอบครอง สมน้ำหน้ามันสุดท้ายก็ตายไม่ต่างจากหมาข้างถนน”

         “ คุณทำอะไรเมษา”

          ผมถามเสียงแหบพร่า เจ็บในอกเหมือนหายใจไม่ออก

         “ ไอตัดสายเบรกรถมัน ทำให้มันไปซะ ไม่มีมันปายจะได้รักไอคนเดียว ฮือ แต่ปายก็ไปรักคนอื่นอีก ไอเจ็บนะ เจ็บที่สุด ทำไมคุณถึงใจร้ายกันไอนัก”


        ...ตัดสายเบรก...


          หัวสมองผมขาวโพรนเมื่อนึกถึงอุบัติเหตุในครั้งนั้น เหตุการณ์เลวร้ายที่พรากคนที่รักผมไปถึงสองชีวิต พยายามเข้าใจว่ามันคงเป็นอุบัติเหตุไม่นึกว่าได้ยินมันกับหูจากเพื่อนตัวเองแบบนี้ ผมเหมือนคนหัวใจสลาย เจ็บเหมือนจะขาดใจตาย

          “ คุณรู้มั้ยว่าแม่ผมนั่งไปในรถคนนั้นกับเมษา คุณรู้มั้ย” ผมเหมือนคนเสียสติพุ่งไปเขย่าไหล่เธอแรงๆพร้อมกับตวาดด้วยเสียงกึกก้อง ในใจแสบร้อนเหมือนอยู่ในกองเพลิง ในหูอื้ออึงไม่ได้ยินเสียงใด ภาพผู้หญิงตรงหน้าแจ่มชัดจนอยากจะฉีกร่างเธอให้แหลกคามือ


          “ ไอ ไม่รู้ ฮึก ฮื้อ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ปาย ไอไม่รู้ ขอร้อง”

          เธอร่ำร้องขอชีวิตหน้าดำหน้าแดงตอนที่ผมลืมตัวบีบคอเธอด้วยแรงเรี่ยวที่มี


          “ คุณฆ่าแม่ผม”

          “ ไอไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ ฮือปายฟังไอก่อน ปาย”

         ผมปล่อยมือจากคอของเธอก่อนจะหันหลังแต่เธอผวาเข้ามากอดผมจากข้างหลังท่าทางละล้ำละลัก

          “ ปล่อย”

          “ ไอแค่รักคุณ ไอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าแม่คุณเลย มันเป็นอุบัติเหตุ”

          “ อุบัติเหตุที่เกิดจากฝีมือคุณ”

          “ ไอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าแม่คุณเลยปาย ฮือ ไอรักคุณ”

          “ เธอว่ายังไงนะ”


          ผมมองฝ่าม่านน้ำตาไปเจอภาพบิดาที่ยืนกำหมัดนิ่งอยู่หน้าประตู ใบหน้าถมึงทึงบ่งบอกว่าพ่อคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วไม่ต้องสงสัย ไอลดาหน้าซีดตัวสั่นทรุดลงไปกองกับพื้น เธอร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนเสียสติ ไม่ต่างจากบิดาที่ทำหน้าจ้องมองเธอราวกับเป็นของชั่วร้ายน่ารังเกียจ

          “ เธอมีส่วนในการตายของภรรยาฉันเหรอ”

         น้ำเสียงแหบพร่าของพ่อแต่แฝงไปด้วยความดุดันจนน่ากลัว ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นบิดาแสดงออกว่าโกรธที่สุดในที่ชีวิตได้ขนาดนี้ พ่อพุ่งถลาไปเขย่าตัวเธอแรงๆแล้วตบหน้าไอลดาจนร้องไห้โฮ เธอหมอบลงกับพื้นเหมือนสติล่องลอยไปไกล นับเป็นครั้งแรกในที่ชีวิตที่ผมเห็นพ่อทรุดตัวลงกับพื้นแล้วร้องไห้

          ผมปาดน้ำตาช้าๆมองไปรอบกายเห็นลุงหาญยืนทำหน้าตกใจอยู่หน้าห้อง ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับรู้มาวันนี้หนักหนาซะเหลือเกินมันดูจะเกินไปมากสำหรับผมในตอนนี้  ผมก้าวเท้าออกจากห้องนี้ช้าๆแล้วมุ่งตรงไปยังห้องนอนของแม่ ทุกอย่างในห้องยังดูเรียบร้อยสวยงามเหมือนเมื่อครั้งที่แม่ยังอยู่ ทุกย่างก้าวในห้องเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายเหมือนว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้
ผมเอื้อมมือไปหยิบเอากรอบรูปของแม่ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมากอดแนบไว้กับอก ขอบกรอบรูปสีทองพอได้สัมผัสกลับอุ่นขึ้นอย่างประหลาด ผมทรุดตัวนั่งพิงขอบเตียงแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลลงช้าๆ

          ...สิ้นสุดกันสักที...






มาพร้อมมาม่าอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ถึงวันนี้ สงสัยหมอปายจังเลย  :hao5:
อดทนหน่อยเนอะเดี๋ยวมาม่าก็ผ่านไป ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

หนึ่งความดคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะคะ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 11-12-2016 21:50:01
ยิมรีบมากอดหมอเร็วอย่าให้หมอเศร้าอยู่คนเดียว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 11-12-2016 21:51:40
อาาาาาห์ แม้ตอนนี้จะดราม่าหนักหน่วง และหมอปายกับยิมก็ไม่ได้เจอกัน แต่เรากลับเห็นแสงลิบๆ ที่พอปมการตายของคุณแม่เปิดเผยออกมา น่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อและหมอปายเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้โดยมีน้องปอเป็นตัวเชื่อมที่ดี  o13

ผ่านเรื่องครอบครัวไปได้ก็เหลือเรื่องแฟนละ อย่าให้ถึงมือท่านฑูตต้องมาเจรจาเองนะ 5555  o18
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-12-2016 22:01:20
เคลียร์ครอบครัวจบรอเคลียร์เรื่องยิมต่อจ้าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-12-2016 22:33:49
สงสารน้องปอ ทำไมมีแม่แบบนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 11-12-2016 22:42:24
ในที่สุดก็มีความกระจ่างกับเรื่องที่ค้างคาใจมานานกันสักที
หวังว่ายิมจะได้โอกาสเข้ามาให้กำลังใจหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 11-12-2016 22:43:22
หมอปายยยยยยยยย ฮืออออ

ยิมอยู่ไหนรีบมาหาหมอเร็วดิยิมมม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 11-12-2016 22:50:56
แง้~ หมอปาย นี่อยากรู้มากพ่อปายไปเอานังไอได้ไง
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว ปาย~❤
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 11-12-2016 22:56:11
เออ ต้องแอบขอบคุณความคลั่งรักของชะนีไอ เผลอปากพล่อยปล่อยความจริงออกมาหมด ดีจริ๊งจริง เออตาสว่างสักทีเหอ๊ะคุณพ่อ เอาชีไปไกลๆดิ๊ รังเกียจ รังเกียจจนพาลไปรังเกียจคนที่เกี่ยวข้องด้วย ให้อภัยไม่ได้อ่ะ ตระกูลดูมีค่าขึ้นมาทันทีถ้าชีออกไป ค่อยยังชั่วหน่อย อย่างน้อยมันก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์พ่อลูกดีขึ้นบ้างอะนะ ตัวเองขอรับผิดที่เอาผู้หญิงคนนี้เข้ามา แล้วช่วยเห็นใจเข้าใจปายยิมทีเถอะ แง่งงงง หมายิมสู้ๆนะ #ยิมปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 11-12-2016 22:59:05
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

อีนังไอ เลวววบริสุทธิ์จริงๆ
เอามันเข้าคุกไปเลย
ไล่มันออกไป
ยังไงก้ไม่เคยดูแลน้องปออยู่แล้วนิ เลววมากก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-12-2016 23:26:12
 :z6:เลวไปนะไอ

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 11-12-2016 23:41:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-12-2016 00:09:10
เลวมาก เลวคั้งแต่เด็กเลยนะไอลดา

หมอปายสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-12-2016 00:48:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-12-2016 01:08:31
ยิมอยู่ไหน รีบมากอดหมอปายเร็วเข้า
นังผู้หญิงคนนี้มันร้ายกาจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-12-2016 07:46:21
สงสารหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-12-2016 13:38:52
ในที่สุดก็รู้ความจริงทั้งหมดซะทีว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ และพ่อของหมอปายก็ได้รู้ความสัมพันธ์ของหมอปายกับไอซะที
ยัยไอเอ๋ยเอ็งคงไม่พ้นตะรางแน่ๆ หรือไม่ก็คงไม่ได้อยู่บ้านนี่แล้วล่ะคนบ้านนี่คงไม่มีใครยอมรับแล้ว
จะสงสารก็แต่หนูปอคงได้แยกจากแม่แน่ๆ งานนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: chuagporz ที่ 13-12-2016 01:29:51
ไอลดาออกไปจากชีวิตปายได้แล้ว ไปแบบไม่ต้องกลับมาอีกเลยนะ!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 14-12-2016 11:13:16
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 14-12-2016 13:03:46
ยิมรีบๆมาหาพี่หมอปายด่วนๆเลย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 14-12-2016 22:25:49
เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจมากกกก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-12-2016 13:23:45
นี่คือความ น่ากลัวของ ผู้หญิงที่ เห็นแก่ตัว



สงสารน้องปอ ที่มีแม่ โรคจิต
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 16-12-2016 20:31:20
 :L2:เอาใจช่วยทั้งหมอปายกับยิมเลย

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 16-12-2016 20:42:33
 :L2: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Tatangth ที่ 17-12-2016 02:07:20
สงสารหมอปายอ่ะฮือ
ไอรดาถูกเนรเทศแน่!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 17-12-2016 12:10:23
รอเจ้าคะ รอตอนต่อไป :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 17-12-2016 19:59:23
เข็มแข็งไว้น้ะหมอออ o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 18-12-2016 20:47:00
โอ้ยความจริงมาแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 19-12-2016 22:59:23
 o22 o22 o22 :a5: :a5:

รู้สึกสงสารปอขึ้นมาทันที

 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 20-12-2016 20:31:55
รอจ้า อย่าหายไปนาน :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 24 : ความจริง [11/12/59] P.20
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 21-12-2016 21:01:04



              หลงที่ 25 : คลี่คลาย





            [ยิม]



           “ คุณ”



         เสียงเรียกผมดังขึ้นตอนที่ผมก้าวเข้ามาเหยียบวังวรกาญจน์ น่าแปลกที่กลุ่มชายชุดดำซึ่งเคยเห็นเดินกันกันวุ่นวายตอนที่ผมทำได้เฝ้ามองหมอจากประตูรั้วเมื่อวานก่อนบัดนี้หายไปราวกับว่าไม่เคยมีคนเหล่านั้น บรรยากาศโดยรอบตึกหลังใหญ่ดูเงียบเหงาวังเวงบอกไม่ถูกเมื่อผมและหมออั้มมาถึง

        ก่อนหน้านี้ยามหน้าที่ประตูรั้วมองผมแปลกๆเพราะตั้งแต่หมอปายถูกพากลับมาอยู่ที่นี่ผมก็วนเวียนมาเฝ้าที่หน้าบ้านหมอตลอดถึงแม้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในก็เถอะ แต่วันนี้หมออั้มอาสาพาผมเข้ามาด้วยยามคงจะแปลกใจแต่ต้องจำใจปล่อยผมเข้ามาเพราะเกรงใจหมออั้ม



          หมออั้มให้ผมรออยู่แถวๆมุขหน้าบ้านก่อนเพราะเขาบอกว่าจะเข้าไปดูลาดเลาก่อน นั่นแหละที่ทำให้ผมมาเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวๆสนามหญ้าซึ่งมองไปทางไหนก็เงียบสงัดไม่มีแม้แต่วี่แววของหมอปายด้วยซ้ำ ขณะที่กำลังคิดถึงหมอเพลินๆอยู่นั่นแหละชายวัยกลางคนคนสนิทของพ่อหมอที่ผมได้ทำความรู้จักแบบจริงๆจังๆตอนที่น้องปอเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านและคอนโดของหมอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า


         “ ลุงหาญ”

         “ คุณนั่นเอง”
 
         “ สวัสดีครับลุง”

         ผมยกมือไหว้แล้วแอบกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อมองหาหมอปายอีกสักครั้งแต่ดูเหมือนจะยังไร้วี่แววเหมือนเดิม

        “ มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะครับ ทำไมไม่เข้าไปในบ้าน”

        ผมแค่ยิ้มตอบแต่ท่าทางแบบนั้นลุงหาญคงจะนึกเดาออกว่าผมคงไม่ใช่แขกที่เจ้าของบ้านยินดีต้อนรับนัก ลุงหาญยิ้มเหมือนให้กำลังใจ

        “ อดทนหน่อยนะครับ ผมเชื่อว่ายังไงสักวันหนึ่งคุณท่านต้องเข้าใจ”

        “ ผมก็ภาวนาให้เป็นแบบนี้” ผมยิ้มรับไม่ได้นึกปิดบังความสัมพันธ์ระหว่างผมกับหมอเลยเพราะผมเต็มใจและพร้อมที่จะยอมรับการจับจ้องด้วยท่าทางต่างๆจากคนรอบข้าง ดีหน่อยที่ลุงหาญเป็นคนหนึ่งที่ยิ้มรับไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจอย่างที่นึกกลัว


        “ คุณท่านเป็นคนดุ แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็รักคุณชายไม่น้อยไปกว่าคุณ ท่านไม่มีทางทำร้ายลูกชายที่ท่านรักได้หรอกครับ เพราะยังไงสายเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ถ้าท่านเกลียดคุณชายจริงๆคงไม่พากลับมาที่บ้าน ท่านคงตัดหางปล่อยวัดไม่ดูดำดูดีหรอก ถึงท่านจะกักขังอิสรภาพคุณชาย แต่ผมอยากให้คุณเข้าใจคุณท่านด้วย ในแง่ของความเป็นพ่อแล้วไม่มีใครอยากให้ลูกถูกมองไม่ดี อาจจะเพราะรักมากถึงได้เสียใจมากเป็นของธรรมดา”


        ผมพยักหน้ารับน่าแปลกที่ไม่ได้นึกโกรธเคืองที่พ่อหมอพยายามกีดกันเรา แต่ตรงกันข้ามผมรู้สึกดีไม่น้อยเพราะหมอเคยแสดงออกว่าน้อยใจในความรักของพ่อ แต่บัดนี้ท่านได้ทำหน้าที่พ่อด้วยการปกป้องและดูแลหมอ อย่างน้อยผมก็มองเห็นถึงความห่วงใยที่พ่อหมอมีให้กับหมอ มันอาจจะดูห่างเหินจนหมอเข้าใจว่าเขาไม่เป็นที่ต้องการของพ่อ แต่ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าพ่อหมอรักหมอเหมือนอย่างที่ลุงหาญบอกจริงๆ


       “ ผมเข้าใจครับ ผมทราบดีว่าเรื่องระหว่างผมกับหมอคงยากที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆ แต่ผมไม่มีทางยอมแพ้หรอกครับลุงหาญ”

       ลุงหาญยิ้มน้อยๆ “ ถ้าอย่างนั้นอย่าปล่อยมือคุณชายนะครับ อย่าปล่อยให้คุณชายต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง ยิ่งในเวลาแบบนี้ผมอยากให้คุณอยู่ข้างๆคุณชาย”


        “ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ”

        ลุงหาญถอนหายใจหรุบตามองต่ำ ท่าทางอึดอัดใจบอกไม่ถูกแต่จนแล้วจนรอดชายวัยกลางคนนี่ก็ไม่ยอมหลุดปากพูดอะไรออกมาสักคำเดียว นอกจากฝากผมดูแลหมอปาย

        “ มันเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากครับ” ลุงหาญถอนหายใจแรงๆ “ คุณครับตั้งแต่คุณแม่ของคุณชายเสีย คุณชายก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนเก็บตัว เก็บรอยยิ้ม แยกไปอยู่ตามลำพังเหมือนอยากจะตัดตัวเองออกจากโลกเดิมๆ แต่ผมสังเกตว่าคุณชายยิ้มบ่อยขึ้นเพราะคุณ เพราะฉะนั้นถ้าผมจะขออะไรสักอย่างผมขอให้คุณอยู่ข้างๆคุณชาย ให้กำลังใจคุณชายด้วยนะครับ”


        ผมไม่เข้าใจหรอกในสิ่งที่ชายวัยกลางคนพูดแต่ถึงอย่างนั้นผมก็พร้อมจะตกลงทุกอย่างถ้านั่นหมายถึงการทำให้หมอมีรอยยิ้มที่สว่างไสวในทุกๆวัน

        “ พามันเข้ามาทำไม”

        เสียงตวาดดังลั่นจากบุคคลที่สามทำเอาลุงหาญสะดุ้งโหยง ส่วนผมได้แต่ยืนนิ่งรอให้ประมุขของบ้านก้าวมาเผชิญหน้ากับผม สีหน้าแววตาของพ่อหมอดูเกรี้ยวกราดไม่น้อยที่เห็นหน้าผม รังสีเห็นความโกรธแผ่ซ่านไปทั่ว แววตาดุดันของท่านประกาศชัดเจนว่าไม่ต้อนรับกับการมาเยือนของผมเลย ผมได้แต่ยิ้มสู้หางตาเหลือบไปเห็นหมออั้มทำสีหน้ายุ่งยากใจอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

        “ สวัสดีครับคุณลุง”

        “ ฉันไม่เคยมีหลานอย่างนาย”

        ประมุขของบ้านสวนกลับทันทีตอนที่ผมกำลังประกบฝ่ามือเตรียมพนมไหว้

        “ อาหม่อมครับ”


        “ หยุดไปเลยอั้ม อาผิดหวังจริงๆที่เราพาผู้ชายคนนี้เข้ามาในบ้านอา อาเคยบอกเราแล้วนี่ว่าอาไม่ต้อนรับผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะพูดยังไงก็ตามอาไม่อยากฟัง”

       “ แต่อาหม่อมครับรับฟังคำพูดของพวกผมหน่อยเถอะครับ”

        ประมุขของบ้านจ้องหน้าผมเขม่งถ้าจะไม่ได้ปฏิเสธคำขอของหมออั้มแต่ท่าทางก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่พร้อมรับฟัง


       “ อาหม่อมครับ ผมทราบดีว่าไม่สมควรพาเขามาที่นี่ แต่ผมอยากให้อาได้รับรู้และรับฟังในสิ่งที่เขากำลังจะบอก อาหม่อมครับผมเป็นเพื่อนปายมาตั้งแต่เด็กๆ ตลอดชีวิตของปายมีแม่คนเดียวเป็นที่ยึดเหนี่ยวสำหรับเขา พอวันหนึ่งอาหญิงมาด่วนจากไปเขากลายเป็นคนปฏิเสธสังคม ตลอดที่อยู่ด้วยกันผมสัมผัสได้ว่าเขาเจ็บปวดขนาดไหน ปายเสียใจมากนะครับที่อาหม่อมทำเหมือนไม่รักปาย”

         ประมุขของบ้านกำหมัดแน่นสีหน้าแดงก่ำ

         “ มันคิดไปเองน่ะสิ หัวดื้อหัวรั้นขนาดนั้น ให้รักมันมากเท่าไหร่มันก็ไม่รู้สึกหรอกว่าเติมเต็มหรอก”

         “ ไม่จริงหรอกครับ” หมออั้มเอ่ยแย้ง แล้วเหลือบตามองผมมแวบนึง

         “ ปายไม่เคยร้องขอความรักจากใคร แต่เขาต่างจากที่พร้อมจะให้รักกับใครต่อใคร ปายทำเหมือนเข้มแข็งทั้งที่เขาอ่อนแอ ทำเหมือนไม่แคร์ทั้งที่กำลังต้องการใคร แล้วยิมก็เข้ามา เขาเข้ามาแล้วทำให้ปายเปลี่ยนไป ปายยิ้มมากขึ้น บางครั้งก็เผลอหัวเราะออกมา อาหม่อมรู้มั้ยตั้งแต่อาหญิงจากไปผมไม่เคยเห็นปายยิ้มเลยจนกระทั่งผู้ชายที่อาหม่อมรังเกียจ เขาก้าวเข้ามาในชีวิตปาย”


          “ เหอะ งั้นเหรอ”

          ประมุขของบ้านเหยียดยิ้ม “ จะให้อายอมรับความสัมพันธ์น่าขยะแขยงนี้เหรอ อั้มไม่รู้รึไงว่ามันเป็นสิ่งที่สังคมรังเกียจไม่มีใครรับได้ ปายเป็นลูกอาเขาเป็นทายาทของวังวรกาญจน์ พวกเรามีหน้ามีตาในสังคมแต่กลับเป็นในสิ่งที่สังคมรับไม่ได้อย่างงั้นเหรอ มันน่าภาคภูมิใจนักเหรอที่ลูกชายอามันชอบผู้ชาย”

         พ่อหมอเบือนหน้าหนี

         “ เป็นเกย์แล้วยังไงครับ ผู้ชายกับผู้ชายเราจะมีความรู้สึกดีๆให้กันไม่ได้เหรอครับ” ผมเอ่ยขึ้นสบตากับประมุขของบ้านนิ่ง   

         “ มันผิดมากเหรอครับที่เรามีความรู้สึกดีๆต่อกัน  ผมแค่รักหมอ ผมแค่อยากดูแลเขา อยากเช็ดน้ำตาให้เขาเวลาที่เศร้าใจ อยากจับมือเขานอนในวันที่ฝนตก อยากให้เขายิ้มและหัวเราะดังๆแทนที่ใบหน้าเรียบเฉย อยากนั่งฟังเขาพูดเวลาที่เขาอยากระบาย อยากห่มผ้าห่มให้เวลาที่หมอนั่งอ่านหน้าสือดึกๆจนหลับ อยากพาไปกินอาหารดีๆแทนที่อาหารขยะที่เขาชอบกิน อยากเป็นกำลังใจให้เวลาที่เขากำลังทำหน้าที่รักษารอยยิ้มของคนไข้ ผมอยากเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขา แค่ขอให้เขามีความสุขก็พอ”


         บรรยากาศรอบกายมีแต่ความเงียบลุงหาญก้มหน้านิ่งน้ำตาคลอ ประมุขของบ้านเบือนหน้าหนีไปทางอื่นผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่แต่ผมสังเกตว่าพ่อหมอถึงกับสะอึกตอนที่ผมพูดถึงหมอ น่าเสียดายที่ผมไม่รู้ความคิดของคนอื่นไม่งั้นผมคงได้ยินเสียงบิดาหมอที่รำพึงรำพันว่าผมช่างรู้เรื่องของหมอมากกว่าคนเป็นพ่อแท้ๆ


         “ คุณชายครับ ผมขออภัยที่ต้องพูดแบบนี้” ลุงหาญยกมือไหว้เจ้านายตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ชวนจุกอก “ คุณท่านทิ้งคุณชายให้อยู่เพียงลำพังมานานเกินไป มันนานจนมีใครสักคนก้าวเข้ามาดูแลคุณชายแล้ว”


          พ่อหมอกำมือแน่นพร้อมกับหลับตานิ่งท่าทีเกี้ยวกราดก่อนหน้านี้อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ริมฝีปากจะขบกันแนเหมือนภายในใจกำลังต่อสู้กันเพราะความคิดเห็นถูกแบ่งเป็นสอง

          “ และผมก็เชื่อคนๆนั้นก็ดูแลคุณชายเป็นอย่างดี”

          “ พูดพอรึยัง”

         ประมุขของบ้านพูดเสียงสั่นตวัดสายตาไปมองมือขวาของตัวเองก่อนจะหันมาสบตากับผมตรงๆ

          “ ในเมื่อนายตั้งใจมาพูดฉันก็ฟังแล้ว ต่อไปนี้ขอฉันพูดบ้าง นายมาทางกลับไปทางนั้นเพราะตอนนี้ปายไม่ได้อยู่บ้าน ถ้าอยากรู้ว่าไปไหนก็ไปตามหากันเอาเอง”

          ผมทำหน้ามึนงงมองไปทางหมออั้มซึ่งมีท่าทีไม่ต่างกันเลย  ขณะที่ลุงหาญที่ยิ้มแก้มปริมองตามแผ่นหลังเจ้านายที่กำลังจะผละออกไป


          “ เดี๋ยวครับคุณลุง”

          “.......”

          ผมขยับไปยืนขวางหน้าท่านก่อนจะยกมือประนมไหว้บิดาของหมอ “ผมทราบครับว่าตอนนี้คุณลุงอาจจะสับสนว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ว่ามันถูกต้องสมควรหรือเปล่า แต่ผมอยากให้คุณลุงเฝ้าดูครับ ผมจะทำให้หมอยิ้มได้ทุกๆวัน เพราะผมรู้ครับว่ารอยยิ้มของหมอก็สำคัญกับผมไม่ต่างจากคุณลุงเลย”

         ท่านเหลือบตามองผมแวบหนึ่งก่อนจะเดินฉุนเฉียวออกไปทันที

         “ คุณครับ คุณชายไปที่โรงพยาบาลครับ ถ้าคุณจะไปหาไปตอนนี้เลยเพราะคุณชายเพิ่งออกไปก่อนหน้าที่คุณจะมาครับ”

         ลุงหาญผายมือเชิญชวนไปที่รถ นับไปครั้งแรกตั้งแต่ห่างจากหมอที่ผมอยากจะยิ้มกว้างแล้วโห่ร้องระบายอารมณ์ ในอกผมรู้สึกเหมือนเบาบางขึ้น มันสบายขึ้นอย่างบอกไม่ถูกไม่ต่างจากหมออั้มที่ยิ้มน้อยๆให้ผม พอรู้ตัวว่ากำลังยิ้มผู้ชายตรงหน้าก็เก็กหน้านิ่งเช่นเดิม แต่ผมรู้ว่าเขาก็กำลังดีใจกับผมเช่นกัน




*******************************************




          [หมอปาย]



          “ฝากปอด้วย”

          “......”

          “ ฝากดูแลปอ ฝากบอกเขาว่าแม่ไอรักเขามาก ฝากบอกปอ”

          “ ฝากดูแลปอด้วย”




          น่าแปลกที่พอคนเรารู้ว่านั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่จะได้พูดมันออก คนเหล่านั้นกลับใช้คำพูดธรรมดาไม่ได้หรูหราแต่มีความหมายที่ชวนให้คิด ถ้อยคำเหล่านั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าครั้งไหนๆ มันอาจจะเป็นการพูดครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอถึงทำให้ไอลดาพูดมันอย่างหนักแน่น แม้จะเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจในสายตาใครต่อใครแต่อย่างน้อยเธอก็มีความเป็นแม่ เธอรักลูก ผมดูออกและสัมผัสได้ว่าเธอรักปอหมดหัวใจ ถ้าหากเธอไม่รักจนเกินพอดี ถ้าหากเธอรักอย่างมีสติและเรียนรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างต่อให้อยากได้แค่ไหนก็ต้องทำใจถ้าไม่ได้มันมาครอบครอง ไม่แน่ว่าตอนนี้เธอกับปออาจจะไม่ต้องพรากจากกันแบบนี้


         สีหน้าแววตาตอนที่เธอฟื้นคืนสติหลักจากหมดสติไปเมื่อเย็นดูแห้งแล้งราวกับไร้ชีวิตจิตใจ ผมมองไม่เห็นถึงร่องรอยความมีชีวิตชีวาในแววตาคู่นี้เลย เหมือนว่าผลจากการหลับใหลจะทำให้ไอลดาคนเก่าหายไปเหลือไว้เพียงแต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หมดแล้วซึ่งความสดใสในชีวิต แม้ตอนตื่นลืมตาขึ้นมาจะมีคนในเครื่องตำรวจยืนรายล้อม เธอเพียงหลับตานิ่งราวกับยอมแพ้ในโชคชะตาและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามผลของการกระทำ


        ‘ พ่อปายไม่เคยรักไอเลย เราอยู่ด้วยกันเพราะความรับผิดชอบ ถึงปอจะเกิดมาจากความไม่ตั้งใจแต่ไอรู้ดีว่าเขารักปอไม่น้อยไปกว่าปายเลย’ แววตาคู่งามเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ‘มันเป็นความผิดพลาด เพราะไอรักปาย รักมานานแล้ว จนเมื่อเมษาจากไปไอถึงได้คิดทำอะไรบางอย่าง ไอรู้ว่าปายรักอาหญิงมาก ปายทำใจไม่ได้ทุกคืนปายจะแอบไปนั่งร้องไห้ที่ห้องอาหญิง’

         ผมกำหมัดแน่นเมื่อถึงความสูญเสียที่อยากจะลบเลือน


          ‘ แต่คืนนั้นคนที่อยู่ในนั้นกลับไม่ใช่ปาย’ เธอกลั้นเสียงสะอื้น ‘อาหม่อมเมาไม่ได้สติเขาเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญหาแต่อาหญิง สุดท้ายทุกอย่างก็เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นแล้วยากเหลือเกินที่จะย้อนกลับไปแก้ไข ไออยากเป็นคนรักปายไม่ได้อยากเป็นแค่แม่เลี้ยง แต่เพราะปอเกิดมา ทุกอย่างถึงได้เป็นแบบนี้’

        เธอปล่อยเสียงร้องไห้โฮ แววตาดูเจ็บปวดอย่างแท้จริง

        ’ เกลียดไอเถอะ ไอเป็นสาเหตุให้อาหญิงจากไปจริงๆ‘


        ใช่ เธอคือสาเหตุของอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตมารดาของผม ผมหลับตานิ่งได้แต่กำหมัดแน่น หากเป็นเมื่อสี่ปีก่อนผมคงไม่รอช้าที่จะลงมือกับคนที่ทำร้ายผู้หญิงที่ผมรักถึงสองคนให้ตายอย่างไม่มีวันหวน แต่ตอนนี้ ณ เวลานี้ ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในโสตประสาทดูจะเชื่องช้าล่องลอย ผมได้แต่มองเธอให้เต็มตาเป็นครั้งสุดท้าย มองเพื่อจดจำความงดงามที่ผ่านมา เพื่อระลึกว่าครั้งหนึ่งความรักที่เกินพอดีมันมีผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากแค่ไหน


         ความรักที่ไม่พอดีของผู้หญิงคนหนึ่งทำลายสองชีวิต และส่งผลกระทบต่อเด็กที่เกิดมาโดยไม่รู้อะไรกับปมปัญหาความขัดแย้งของผู้ใหญ่ ความรักไม่ได้น่ากลัวเลยแต่คนเรากำลังครอบครองความรักในทางที่ผิด มันผิดจนทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมามากมาย มากจนตัวเราเองคาดไม่ถึง

         ผมตัดสินใจก้าวถอยหลังออก จนกระทั่งเสียงของเธอค่อยๆเงียบหายไปจากโสตประสาท


        “ ขอโทษ ไอขอโทษ”


        แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ได้ยินคำโทษนั้นดังตามหลังมาอย่างแผ่วเบา เสียงฝ่าเท้าของผมที่กระทบพื้นดังเป็นจังหวะเหมือนการกำหนดลมหายใจเข้าออก เหมือนเป็นเครื่องเตือนสติตัวเองว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมเดินออกมาไกลพอสมควร เดินออกมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแปะกับเก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างหมดแรง


        ความรู้สึกของผมตอนนี้เหมือนคนหลงทางมองไปทางไหนก็เจอแต่ความรู้สึกมืดมน ทั้งโดดเดี่ยวและเหน็บหนาวจนเกินรับไหว ตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนนี้ผมได้รับรู้เรื่องราวที่เป็นปริศนามากมาย มันมากจนยากที่รับรู้ในคราวเดียวกัน มันยากจริงๆ


         ‘คุณชายครับ เรื่องบางไม่รับรู้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ารู้แล้วมันก็ช่วยให้เราเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น ก็สมควรที่ต้องรู้เอาไว้ เพราะอย่างนี้ ผมขอละลาบละล้วงพูดอะไรสักอย่างเถอะนะครับ ผมทราบดีว่าช่องว่างของคุณชายกับคุณท่านมันห่างเหินมากขึ้น บางครั้งมันห่างเหินจนยากที่จะเข้าหน้ากันติด แต่ผมอยากให้คุณชายรู้ว่าคุณท่านเสียใจทุกครั้งที่ทำเหมือนไม่สนใจคุณชาย’

         บทสนทนาของผมกับลุงหาญเมื่อเย็นที่ผ่านมาดังขึ้นในหัวผมทันที ทุกอย่างพร่างพรูราวกับสายน้ำไหลวน

       ‘ คุณชายอาจจะน้อยใจที่คุณท่านทำเหมือนไม่รักไม่แคร์ จริงๆแล้วท่านไม่รู้ว่าจะทำยังไง คุณท่านรู้ว่าคุณชายเสียใจที่ต้องสูญเสียคุณผู้หญิงไปกะทันหัน ซ้ำยังพาเพื่อนของคุณเข้ามาอยู่บ้านในฐานะภรรยา ทุกอย่างมันดูอึดอัดยากที่จะอธิบายอาจจะเพราะคุณชายเหมือนคุณท่านเหลือเกิน เหมือนทั้งนิสัยและท่าทาง ผมขอโทษที่ต้องพูดว่าคุณชายหัวแข็งเหมือนคุณท่านไม่มีผิด เหมือนเห็นภาพสะท้อนของตัวเอง คุณท่านเป็นคนทิฐิสูงเพราะท่านเป็นหัวหน้าครอบครัวซ้ำท่านมีภาระที่ต้องดูแลรักษาหน้าตาของตระกูล บางครั้งการเกิดมาสูงกว่าคนอื่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ใช้ชีวิตสุขสบายเสมอไปเพราะมันต้องแลกกับภาระหน้าที่ในการรักษาสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด’


       ลุงหาญพูดถูกทุกอย่าง เพราะตั้งแต่จำความได้ผมกับพ่อเราเหมือนมีเส้นบางๆแบ่งกันอย่างชัดเจน มีแค่แม่เท่านั้นที่เป็นตัวกลางซึ่งคอยย่นระยะห่างของเราให้มาบรรจบกัน แต่พอวันหนึ่งต้องสูญเสียคนกลางก็เหมือนว่าผมกับพ่อเราจะอยู่ละโลก

       ตั้งแต่จำความได้ภาพจำของพ่อคือผู้ชายเย็นชาและพูดน้อย แม่ได้แต่พูดปลอบว่าเพราะพ่อมีภาระหน้าที่ต้องดูแลรับผิดชอบ ผมจึงเติบโตมาโดยมีแค่แม่คนเดียวที่เข้าใจ ส่วนพ่อนั้นเวลาที่เราคุยกันทุกครั้งก็มักจะจบด้วยการระเบิดอารมณ์ใส่กันยิ่งนานมันก็เหมือนว่าเราเป็นคนแปลกหน้า จนสุดท้ายคนกลางอย่างแม่ก็ไม่มีโอกาสจะได้ห้ามพวกเราอีกแล้ว


        ‘ คุณชายครับ อย่าโกรธคุณพ่อเลยนะครับตั้งแต่วันที่คุณชายออกไปอยู่นอกบ้าน ผมไม่เคยเห็นท่านยิ้มเลย ตอนดึกๆผมมักเห็นท่านชอบเข้าไปในห้องคุณชาย แค่ไปนั่งเฉยๆบางครั้งก็อยู่จนสว่าง ท่านอยากให้คุณชายกลับบ้านนะครับ แต่ท่านเป็นคนปากหนัก เชื่อผมเถอะนะครับที่ท่านไม่พูดไม่ได้หมายความว่าไม่รัก ท่านอาจจะรักมากจนไม่อยากบังคับให้คุณชายต้องรู้สึกไม่ดีกับท่านมากไปกว่าเดิมก็ได้’

         ในตอนนั้นผมได้แต่นิ่งเงียบและปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป แต่ถึงอย่างนั้นคำพูดเหล่านั้นของลุงหาญมีผลกระทบต่อจิตใจผมมาก อาจจะเพราะแววตาของคนสนิทบิดาที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ลุงหาญไม่เคยโกหกผมพอๆกับที่ไม่เคยพูดอะไรได้ยาวเหยียดขนาดนี้ น่าแปลกที่คำพูดของลุงหาญทำให้ผมนึกถึงยิม วันนั้นที่ริมทะเลมันเป็นคนที่พูดประโยคนี้กับผมและทำให้ผมเริ่มที่จะมองทุกอย่างให้รอบคอบ พร้อมกับเปิดใจรับอะไรให้มากขึ้น


         “ หมอครับ ครอบครัวของแต่ละคนก็มีวิธีการเลี้ยงดูสั่งสอนที่ต่างกันไป การแสดงออกบางอย่างก็เช่นกันแต่มันไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ไม่รักเรา...บางทีที่เขาชอบพูดให้เราเสียใจก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเกลียด เหมือนกับที่เขาไม่แสดงว่ารักอะไรมากก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักหมอ”


          มันคงจะจริง


          ผมหยิบเอารูปแม่ในกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วลูบไล้ใบหน้าที่แย้มยิ้มให้อ่อนโยน แม่ชอบยิ้มแบบนี้ให้ผมทุกครั้ง รอยยิ้มของแม่ทำให้ผมไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิตแม่ก็ยังยิ้มให้ผม ผมกอดรูปของแม่ไว้แนบอกเหมือนอยากจะซึมซับทุกสัมผัสเอาไว้ และเหมือนได้ยินเสียงแม่ที่เคยกระซิบอย่างอ่อนโยนข้างๆหูเวลาที่เราพ่อลูกทะเลาะกัน


         ‘ ปายเกิดวันอังคารพ่อเขาเลยตั้งชื่อว่าปารมีซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะกับคนที่เกิดวันนี้ เป็นชื่อที่มีความหมายดี เป็นปารมีของคุณพ่อ’


        ...น่าแปลกที่อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาเมื่อนึกถึง...



       .

       .



       ...ตึ้ง...หลังจากปล่อยอารมณ์ไปได้สักพักเสียงแจ้งเตือนอะไรสักอย่างก็ดังขึ้น




[ Line Group : P. Family]
Yim_YOTid เชิญคุณเข้ากลุ่ม
ปฏิเสธ                        เข้าร่วม





        ผมนิ่งไปเมื่อแอพพลิเคชั่นสีเขียวขึ้นแจ้งเตือนว่ายิมมันเชิญผมเข้ากลุ่มอะไรสักอย่าง พอกดเข้าไปก็มีข้อความถามว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับ ผมเลยกดยอมรับแล้วหน้าต่างสนทนาที่ว่างเปล่าก็ปรากฏขึ้น นอกจากนี้ยังมีแจ้งเตือนที่โน้ตเรียกให้ต้องกดเข้าไปดู ผมจึงเห็นยิมมันโพสข้อความหนึ่งไว้ที่โน๊ต


         Yim_YOTid : ถ้าแฟนไม่สบายใจต้องทำยังไงเขาถึงจะดีขึ้นครับ

         BuaBua : สติกเกอร์รูปหัวใจ

         Mom-Nidtaya : จับมือกันให้แน่นแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

         Ambassador[Aus] : พ่อเห็นด้วยกับแม่ทุกประการ



         ผมเผลอยิ้มออกมา ความรู้สึกอึดอัดค่อยๆคลายออกราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ในวันที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นวันที่แย่ที่สุดมองไปทางไหนเหมือนมีแต่ความมืด ขณะเดียวกันมันก็ก้าวเข้ามาเป็นเหมือนแสงสว่างท่ามกลางพายุร้าย เหมือนได้รับความอบอุ่นทุกครั้งที่มันอยู่ใกล้ๆจนอุ่นไปถึงหัวใจ

         “ หมอ”

         ผมเงยหน้าจากจอโทรศัพท์เห็นมันยืนยิ้มอยู่เบื้องหน้า วินาทีนั้นผมโคตรรู้สึกดี มันดีจนบอกไม่ถูก

        “ ไปกินน้ำแดงโซดากันมั้ยครับ”

        “ อืม”

        ผมกุมมือมันก้าวออกเดินไปอย่างช้า แต่ทุกความรู้สึกกลับหนักแน่นอยู่ในใจ

        “ แม่ผมบอกว่าให้ผมจับมือหมอให้แน่นแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

       ผมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกระชับมือมันให้แน่นขึ้น “ อืม กูก็กำลังจะพิมพ์ตอบว่าขอให้มึงอยู่ใกล้ๆทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”

        “ ผมก็ว่าอย่างงั้น”


       มันหันมายักคิ้วให้พร้อมกับส่งรอยยิ้มกวนๆ ไม่รู้ทำไมผมถึงว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้เจอมัน





หายไปนานเนอะ ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรมากแค่จะบอกว่าดราม่าหมดแล้ว เตรียมไปยิ้มแก้มแตกกันได้
ปล.เหลืออีกสองตอนก็จะจบแล้วน้า โฮ๊ะๆๆๆๆๆ



มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกแจกหนังสือฟรีส่งท้ายปีจ้า  (https://www.facebook.com/karnsaii/photos/a.245517358969923.1073741826.245380738983585/611848495670139/?type=3&theater)


(https://www.mx7.com/i/c1b/tyV3du.jpg) (https://www.mx7.com/view2/zyReJKpCcxoW2etG)


หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-12-2016 21:11:55
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 21-12-2016 21:19:14
โอ๊ย ร้องไห้  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 21-12-2016 21:37:55
 :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-12-2016 21:40:23
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-12-2016 22:16:55
เห้อออออกว่าจะคลี่คลาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 21-12-2016 22:23:43
ขอบคุณคะ  อย่าหายไปนานน่ะคนอ่านคิดถึง :L2: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 21-12-2016 22:36:58
  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-12-2016 22:39:26
ดีจังที่ทุกอย่างคลี่คลายลงด้วยดี แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้คงต้องให้พ่อหมอกับหมอคุยกันมากกว่านี้แล้วล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 21-12-2016 23:34:40
มาม่าหมดหม้อแล้วใช่มั้ยยย ต่อไปก้อฟินยาวววๆ :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-12-2016 23:49:16
ดีจังที่พ่อเริ่มยอมรับบ้างแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-12-2016 00:42:02
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-12-2016 01:11:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 22-12-2016 01:23:49
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 22-12-2016 06:20:08
หมอออ มีปมอ่ะ น่าสงสาร เข้าใจแล้วว่าทำไมเป็นคนแบบนั้น ที่แท้ก็เพื่อสร้างเปลือกให้ตัวเองไม่เจ็บสินะ
ปล. อ่านถึงตอน   5  มาเม้นก่อน งื้ออ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 22-12-2016 06:33:20
อ๋อยยยยย ดราม่าทั้งตอนทำอะไรเราไม่ได้ เมื่อเจอคำพูดแต่ละคำของยิม ดีเหลือเกินทูนหัวของบ่าว  :กอด1:  ไม่เสียแรงที่เป็นลูกท่านฑูต 55555. ปายโชคดีจริมๆที่ได้ยิมมากดูแล อิจหมอปายมาก งือออออ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 22-12-2016 08:04:11
อ่านถึงตอนไหนไม่รู้ แต่หมั่นไส้ยิมมากกกกก
ปัญหากับแฟนฮีไม่เคลียให้จบไป แต่เผลอใจให้คนอื่นซะงั้นง่ะ ฮึยยยย น่าจับมาตี 55555
คือถ้าแค่รู้สึก ก็ไม่ไรนะยิม แต่ยูไปจูบเค้าแล้วด้วย

ส่วนรักสามเศร้า  ไม่อยากให้หยกสมหวังกับคนที่แอบชอบเลย คือเราคิดนะว่าถ้าเขาชอบกลับจริง จะเป็นการชอบที่ออกมาจากความรู้สึก หรือแค่แบบเออชอบ รักไปงั้นๆ  ต่างฝ่ายก็ไม่มีความสุข
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 22-12-2016 08:22:10
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 22-12-2016 09:50:50
เข้าใจเลย คนที่แข็งๆแสดงออกไม่เป็น พูดจาดีๆหวานๆก็ไม่เก่ง คนอยู่ด้วยถ้าไม่เข้าใจคงอึดอัด หมอปายกับพ่อยิ่งนิสัยเหมือนกัน ก็เลยไปกันใหญ่ หวังว่าพ่อจะเข้าใจเร็ววัน

ดราม่าไวและไปไวมาก  :hao4: เรื่องแม่และไอ คลีคลาย เหลือแค่เรื่องพ่อละสิ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 22-12-2016 14:27:17
อ่านถึงที่โพสไว้แล้วค่า
ชอบเรื่องนี้มากกกก
น่าสงสารไอลดา ถ้าเธอรักอย่างมีสติ รักอย่างรู้ว่าหากรักใครสักคน มันไม่จำเป็นต้องได้ครอบครองก็มีความสุขได้

ขอคืนคำก่อนหน้า ที่หมั่นไส้ยิม ฮีพระเอกสุดๆ มีเหตุผล น่ารักมากๆๆๆๆๆๆ  และครอบครัวฮีก็ดีด้วย ชอบคุณแม่ พ่อยิมนี้นิสัยพ่อเราเลย น่ารักสุด
เราน้ำตาซึมตอนที่แม่ยิมกอดพี่หมอ แบบเฮ้ยยย เขาได้รับความรักจากอีกครอบครัว มันเป็นความอบอุ่นที่พี่หมออาจไม่เคยเจอ ซึ้งงงง

พ่อหมออีก เราเข้าใจฮีนะ ว่าทำไม ตอนแรกก็ไม่ชอบแหละ แต่จากคำอธิบาย ทำให้เราเกตเลย ว่าพ่อก็รักหมอ แต่ความที่เป็นคนเย็นชา แข็งๆ เลยไม่รู้หรือเปล่าว่าจะแสดงความรักกับลูกยังไง
แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี :)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 22-12-2016 14:54:37
รีบๆกลับมาทำให้เรายิ้มแก้มแตกเร็วๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 22-12-2016 23:57:49
จับมือกันไว้แล้วมันจะดีขึ้นเอง,,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-12-2016 00:43:24
จับมือกันไว้ อย่าปล่อยมือไปไหนนะ หมอปายสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 23-12-2016 00:57:52
จับมือกันไว้ให้แน่นๆแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: chuagporz ที่ 23-12-2016 02:23:02
พ่อก็ปากหนักลูกก็หัวรั้น รักกันอต่ทำตัวซึนทั้งคู่
แบบนี้ถ้าไม่มีตัวกลางก็คงไม่มีวันคุยกันดีๆ ได้แน่ๆ
นอกจากยิมแล้วตอนนี้ลุงหาญโคตรพระเอกอะ!!!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Tatangth ที่ 24-12-2016 01:47:44
คุณพ่อใจอ่อนแล้วววว
เขาก็รักของเขาแต่ไม่แสดงออก
ยิมมาช่วยทำให้ทุกอย่างสดใสเร้ว 55555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 24-12-2016 09:24:18
คลี่คลายจริงๆค่ะ คลี่คลายทุกเรื่องเลย ความจริงเปิดเผย แต่อย่างน้อย ปายก็พอทำใจได้ ทำความเข้าใจได้
เวลามีอาจจะดีแล้ว อาจจะดีกว่าถ้ารู้ตั้งแต่ตอนนั้น
สงสารเด็กน้อย น้องปอ

ยิมน่ารัก หมอปายก็น่ารัก เป็นไปด้วยดีแล้ว

เนมมีคนจองแล้ว 5555
อั้มใจเย็นขึ้น ช่วยยิมด้วย หมอปายคงสบายใจ เหมือนที่หยกก็สบายใจ

พ่อหมอคงทำใจได้ หมอจะได้กลับบ้านแบบปลอดโปร่งนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-12-2016 08:23:31
ดราม่าหมดซะที เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 26-12-2016 18:11:52
ตามทันแล้วววววววววววววววววว ~~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 26-12-2016 19:00:06
แล้วเรื่องร้ายๆ ก็ผ่านไป รอยิ้มไปกับยิมและหมอปาย :)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 26-12-2016 22:24:02
เตรียมตัวรอรับความหวานที่ตะทำเรายิ้มแก้มแตก :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: kokilolylove ที่ 27-12-2016 01:51:23
สวัสดีครับ

ผมตามมาจากทวิตคุณ -west- เห็นรีทวิต หลงกาว(น์) รีตั้งแต่ช่วงสอบอยู่ เราเลยรอให้สอบเสร็จก่อน แล้วมาอ่าน หลังจากไม่ได้อ่านนิยายมาหลายเดือน 5555

สนุกมาก !! เราชอบมากๆเลย มันรู้สึกครบรส นุ่ม ละมุน อบแนอย่างบอกไม่ถูก อ่านมาจนถึงตอนนี้ คงต้องเป็นยิมปายแล้วสินะ 5555 ยิมก็กวนซะเหลือเกิน แต่ก็เป็นผู้ชายที่อบอุ่น คุณหมอก็น่ารัก หลังๆหวานเชื่อมเลย 5555 มีบทให้คนอ่านอย่สงเราเสียน้ำตาด้วย แต่แล้วดราม่าก็จบลง เหลืออีก 2 ตอนละ อยากอ่านเรื่องของ เนม โอ๊ค ต่อจัง 55555

ปล. Congratulations นะครับ เพิ่งตามมาอ่าน อวยพรช้าไปหน่อยอย่าว่ากัน ปล.ขอสมครเป็น FC นะครับ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 27-12-2016 13:06:23
รอคุณพ่อใจอ่อนอีกนิด
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 25 : คลี่คลาย [21/12/59] P.21
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 27-12-2016 20:39:13

          หลงที่ 26 : ก้าวใหม่


          [หมอปาย]



          “ จะพากูไปไหนเหรอ”

          “ ตามผมมาเถอะครับ”

          มันไม่ได้ให้คำตอบให้กระจ่างแต่กลับกุมข้อมือผมให้ออกเดินเคียงข้างกันไป ผมไม่รู้หรอกว่ามันกำลังฉุดมือผมให้เดินไปไหนแต่ผมกลับรู้สึกไว้วางใจฝ่ามือที่เลื่อนมาโอบกระชับกันให้แน่นขึ้น ผมเหลือบตามองไปรอบๆซึ่งน่าจะเป็นตลาดยามค่ำคืนคล้ายๆกับถนนคนเดินเพราะมีของกินของใช้และงานแฮนด์เมดต่างๆวางขายเรียงรายโดยแบ่งเป็นโซนต่างๆให้ผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยมีทางเดินอย่างสะดวกสบาย เวลายามค่ำเช่นนี้ร้านรวงต่างก็ประดับประดาหลอดไฟสีสวยราวกับจะแข่งกันแย่งความสนใจจากผู้ที่มาเดินเที่ยว

         ผมเผลอยิ้มออกมาตอนที่มองไปรอบๆแล้วเห็นบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ทั้งมันยังชี้ชวนให้ผมดูโน่นดูนี่ไปตลอดทาง บางครั้งผมได้ยินมันเผลอหัวเราะออกมาเมื่อเรียกชื่อของเหล่านั้นผิดไป ใบหน้าคมคายของมันเปิดรอยยิ้มกว้างดูสบายจนต้องยิ้มตาม และจากมือที่กุมกันไว้มันก็เปลี่ยนจากกุมมือผมมาโอบบ่าผมตอนที่ผู้คนเริ่มเดินกันหนาตามากขึ้น

        “ เดี๋ยวหลงครับ”

        “ อืม”

        ผมรับคำแล้วเดินให้ช้าลงพร้อมกับเบียดหัวไหล่ตัวเองให้ชิดมันมากขึ้น ทุกครั้งที่เดินหัวไหล่เราเลยเสียดสีกันไปตลอดทาง มันหันมายิ้มให้ผมเสียกว้างท่าทางมีความสุขจริงๆและคงไม่แปลกถ้าผมจะยิ้มตอบมัน เราเดินจนถึงหน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่งซึ่งด้านในเป็นลานกว้างมีการจัดตกแต่งบาร์แบบเปิด โดยตรงกลางมีเวทีเล็กๆคล้ายกับเปิดให้ทำกิจกรรมเปิดหมวก พอไปถึงผมเห็นกลุ่มคนนับสิบกำลังจัดเตรียมเวทีและเซ็ทเครื่องดนตรีตระเตรียมในการแสดงอะไรสักอย่างและที่น่าประหลาดใจคือห้าในสิบนั่นเป็นคนที่ผมรู้จักเคยคุ้นเป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นสองคนในนั้นมีเพื่อนสนิทของผมอยู่ด้วย


        “ หยก อั้ม”

        ผมครางออกมาเมื่อเห็นเพื่อนสนิทสองคนโบกมือทักทายมาจากหลังเวที และไม่ต้องรอให้สงสัยอยู่นานสองคนนั้นก็สาวเท้าตรงเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

        “ มาทำอะไรกัน”

       ยิมมันหันมาบอกขอตัวไปช่วยเพื่อนที่เวทีตอนที่สองคนนั้นเดินมาพอดี ผมยิ้มน้อยๆมองตาแผ่นหลังมันไปจนหยกยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับทำหน้าล้อเลียน

        “ ฮั่นแน่”

        “ อะไร” ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้และทวนคำถามซ้ำอีกครั้ง “ ว่าแต่สองคนนี้มาทำอะไรที่นี่”

        “ มาช่วยหนึ่งมัน เห็นว่าวันนี้จะร้องเพลงเปิดหมวกเอาเงินไปสมทบการจัดกิจกรรมสโมสรของมหาลัย เมื่อวันก่อนเจอกันมันเลยชวนมาช่วยเล่นดนตรี นี่ก็มีรุ่นน้องคณะมันส่วนหนึ่งมาช่วยเตรียมงานแล้วก็กลับไปบางส่วนแล้ว เห็นว่าร้านนี้เป็นของรุ่นพี่ที่หนึ่งมันรู้จักเลยขอมาเล่นที่นี่”

         อั้มมันตอบ คงไม่แปลกหรอกเพราะทั้งอั้มและหยกต่างก็เคยทำงานที่สโมสรส่วนกลางของมหาลัยพวกเราเลยรู้จักกับนายกสโมสรคณะนิเทศฯอย่างไอ้หนึ่งเป็นอย่างดี แต่ที่ผมแปลกใจคือดูเหมือนว่าอั้มกับหยกจะรู้จักกับไอ้ยิมเป็นอย่างดีทีเดียวเพราะเมื่อกี้ก่อนยิมมันผละออกไปพวกมันดันทักทายกันอย่างสนิทสนม

         “ ร้านนี้บรรยากาศดี”

         หยกมันพูดยิ้มๆสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ตอนที่พากันมานั่งอยู่โต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเวที ตอนที่มองไปยังเวทีผมเห็นยิมกับเพื่อนมันอีกสองคนกำลังแสดงความคิดเห็นอะไรกันไม่รู้ สุดท้ายผมเห็นเนมมันเดินหน้าตูมมานั่งแปะอยู่ข้างๆผม พร้อมกับทำตาประหลับประเหลือกและสะบัดหน้าใส่เพื่อนสองคนนั้นที่ทำหน้าขบขันล้อเลียนรุ่นน้องผมอยู่

          “ เป็นอะไรเนม”

          ผมถามรุ่นน้องตัวเองที่นั่งอมลมจนแก้มพอง เนมมันสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะขยับมาเบียดผมมากขึ้น

          “ ไอ้สองตัวนั้นมันไล่ผมออกมา”

          “ หืม”

          “ มันบอกว่าเนมไปเกะกะพวกมัน และยังบอกอีกว่านั่งไปเป็นเพื่อนพี่หมอเหอะอยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรขวางทางเปล่าๆ พี่หมอดูพวกมันพูดดิ โคตรน่าเตะปากเนมอุตส่าห์มาช่วยยังพูดงี้อีก”


          พูดไปก็ทำหน้าจะร้องไห้จนผมกับหยกสบตากันเลิ่กลั่ก ส่วนอั้มมาชิ่งไปช่วยพวกนั้นตั้งแต่สังเกตถึงเค้าความดราม่า ท่าทางรุ่นน้องตัวจ้อยที่อยากจะร้องไห้จนเต็มแก่ ร้อนถึงหยกตั้งผมแอบให้คำนิยามว่าพี่ชายฝาแฝดของเนมถึงกับรีบถลามาลูบบ่าลูบไหล่เป็นการปลอบประโลม

         “ ใจเย็นๆก่อนพวกนั้นคงไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นหรอก เราก็รู้นี่ว่าเพื่อนเรามันห่ามกันขนาดไหนมันคงไม่ได้ตั้งใจให้มีความหมายไปในทางไม่ดีหรอก”

         “ คอยดูนะ ถ้าพวกมันมาง้อเนมจะสั่งให้มันพวกมันทำเรื่องขายหน้าจนขยาดเลย”

         เนมทำตาขวางน้ำเสียงขุ่นมัว สายตาจ้องไปที่ตัวต้นเรื่องสองคนซึ่งหันมายักคิ้วให้ทางนี้พอดี  คราวนี้น้องผมถึงกับทำกระฟัดระเฟียดท่าทางเลือดขึ้นหน้า ผมได้แต่ถอนหายใจเอื้อมมือไปลูบบ่ารุ่นน้องที่ถูกพวกมันปั่นหัวจนขึ้นง่ายขนาดนี้ ดูสิโมโหจนไม่รู้ว่าพวกมันทำแบบนี้เพราะหยอกเล่นเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ ปกติน้องผมไม่ใช่คนโกรธโมโหใครง่ายๆนี่หน่า เท่าที่รู้จักกันมาไม่รู้ไอ้พวกนั้นไปทำอะไรให้เนมมันโกรธจริงโกรธจังเอาขนาดนี้

          “ ไอ้พวกบ้า”

         เนมงึมงำในลำคอก่อนจะผลุนผลันลุกขึ้นยืนแล้วก้าวฉับๆไปทางหลังร้าน ทิ้งให้ผมกับหยกสบตากับปริบๆและเป็นหยกที่ลุกขึ้นตามไปดูน้องให้ เพราะขณะนั้นไอ้ยิมกำลังเดินมาทางนี้พอดี ส่วนโอ๊คเพื่อนมันอีกคนแค่หัวเราะราวกับถูกอกถูกใจอะไรสักอย่าง

        “ พวกมึงไปแกล้งอะไรเนม”

        ยังไม่ทันที่ยิมจะทรุดตัวลงนั่งผมก็ยิงคำถามใส่มันทันทีจนอีกฝ่ายหัวเราะน้อยๆ

        “ ไม่เกี่ยวกับผมเลยเหอะหมอ”

        “ ก็เมื่อกี้น้องมันยังทำท่าทำทางโกรธพวกมึงอยู่เลยนี่”

         “ ไอ้โอ๊คคนเดียวไม่เกี่ยวกับผมเลย” มันยักไหล่ชิวๆ “ มันแค่อยากทดสอบอะไรสักอย่าง”

         “ อะไร”

         “ อยากรู้เหรอครับ”

         มันโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ผม เหมือนว่าศีรษะมันจะอยู่เหนือผมเล็กน้อยทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองมัน เพราะใกล้กันแค่นี้ทำให้ผมเห็นสีหน้าแววตามันใกล้ๆ แววตามันพราวระยิบเหมือนกับถูกใจอะไรบางอย่าง แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือการที่ผมไม่คิดจะหลบใบหน้าคมคายตรงหน้านี้เลยตรงกันข้ามกลับเงยใบหน้าของเราให้ตรงกันพอดี ใกล้จนปลายจมูกแทบจะชิดกันอยู่แล้ว

         “ถ้ากูบอกว่าอยากรู้ล่ะ”

         “ ผมก็จะบอก”

         ผมเลิ่กคิ้วมองมันเพราะแปลกใจที่มันยอมให้ง่ายขนาดนี้ มันเลยยิ้มให้น้อยๆยื่นนิ้วชี้ในเกลี่ยใบหน้าผมอย่างแผ่วเบา

          “ แปลกใจเหรอครับ”

          “ ก็นิดหน่อยกูนึกว่ามึงจะยึกยักมากกว่านี้ซะอีก”

          “ ไม่หรอกครับ”

         มันตอบ “ ผมยอมหมอทุกอย่างแหละ ยอมแค่หมอคนเดียว”

         “ งั้นเหรอ” ผมยิ้มมุมปาก

         “ ถ้าบอกว่าเลิกกันเหอะ กูเจอผู้ชายคนใหม่มึงจะว่ายังไง”

         มันทำหน้านิ่วไปพักนึงก่อนจะตอบเสียงเครียดๆ “ตายสิครับ”

         “ จะฆ่ากูเลยรึไง” ผมเอ่ยกระเซ้ามัน

         “ เปล่าครับไม่ใช่หมอ” มันกระซิบข้างหูผมเบาๆ “ ไอ้หมอนั่นต่างหากที่จะตาย ส่วนหมอผมจะทำให้ไม่กล้าพูดคำนี้อีก”

         “ ทำยังไงไม่ให้พูด”

         ผมว่าผมพลาดที่พูดแบบนี้ออกไปเพราะเสี้ยววินาทีต่อจากนั้นริมฝีปากของมันก็ประทับจูบบดขยี้ริมฝีปากแรงๆทีนึง มันไม่ได้อ่อนโยนอะไร แต่เหมือนมันกำลังฟัดอะไรสักอย่างด้วยความมันเขี้ยว ผมเลยได้แต่ถอนหายใจเมื่อมันถอนริมฝีปากออกไปก่อนจะทำเนียนก้มลงมาอีกครั้ง ผมเลยรีบยันหน้าอกมันเอาไว้เพราะตอนนี้ลูกค้าในร้านเริ่มจะหนาตามากขึ้น ดีว่าโต๊ะใกล้เวทีตรงนี้หลบอยู่ในมุมไปงั้นคงได้กลายเป็นหนังสดให้คนอื่นดู


        “ ไอ้ยิม”

        “ ห้ามพูดแบบนี้อีกนะครับหมอ”

        “ กูพูดอะไร”

         ยิมมันยิ้มเครียดๆเป่าลมหายใจใส่หูผมจนชวนจั๊กจี้ ยิ่งแววตาตอนนี้ของมันดูเจ้าเล่ห์ชอบกลยังไงบอกไม่ถูก “ ถ้าหมอจะพูดผมอยากให้หมอพูดว่าเป็นแฟนผมแม่งโคตรดี เอวสี่จีซอยก็ถี่แถมยังชอบเบิ้ล”

         “ ไอ้เหี้ย”

         ผมเตะต้นขามันแรงๆในหัวอื้ออึงไปหมด รู้สึกว่าตัวเองใบหน้าร้อนผ่าวจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกยิ่งมันตะปบมือเข้าที่สะโพกผมแล้วคลึงไม่เบามือนัก

        “ พูดสิครับ”

        “ มึงนี่มัน”

        ผมชกไหล่มันแรงๆอีกทีแต่มือปลาหมึกนี่ยังวนเวียนยุ่มย่ามอยู่ที่ร่างกายผมไม่เลิก

        “ ไอ้หมายิม”

        มันหัวเราะร่วนจนสุดท้ายคงจะเจ็บเพราะผมชกแรงขึ้นมันถึงหยุดมือ ผมเลยขยับถอยไปนั่งอีกเก้าอี้ให้ไกลจากมันแต่มันยังอุตส่าห์หน้าด้านตามมาติดๆ เลยได้แต่ถอนหายใจพรืด

        “ ไม่อยากรู้เรื่องของโอ๊คกับเนมแล้วเหรอครับ”

        “ ก็เล่าสิ”

        “ ครับ”

        “ มือมึงน่ะ” ผมทำตาขวางใส่มันที่เท้าแขนยาวมาถึงพนังเก้าอี้ของผมซ้ำมือมันยังเขี่ยหัวไหล่ผมชวนสยิวอีก พอถูกมองนานๆมันเลยละมือออกทำเป็นยืดเส้นยืดสายได้อย่างน่าหมั่นไส้

         “ มีผู้หญิงมาขอเบอร์โอ๊คมันนะครับตอนที่เซ็ทเครื่องดนตรีอยู่ เนมมันทำท่าไม่พอใจ โอ๊คมันเลยแกล้งให้เบอร์ผิดไปก่อนจะไล่เนมมันออกมาเพราะอยากดูปฏิกิริยาบางอย่าง”

         “ สองคนนั้นชอบกันเหรอ”

         ผมถามอย่างสงสัยถึงจะสังเกตมาได้สักพักแล้วว่าพวกมันดูมองกันแปลกๆแต่นึกไม่ถึงพวกมันจะมาซ้ำรอยแบบผมกับไอ้ยิมได้ เพราะพวกมันดูเหมือนไม่ค่อยกินเส้นกันในตอนแรกไม่นึกว่าสุดท้ายจะชอบกันได้ แต่อย่างว่าขนาดผมกับไอ้ยิมเคยเกลียดขี้หน้ากันแทบตายสุดท้ายก็ลงเอยกันแบบนี้ไปซะได้

         “ พนันกับผมมั้ยหมอ”

         “ พนันอะไร”

         “ ผมว่าวันนี้ความสัมพันธ์ของพวกมันขยับจากเดิมชัวร์”

         “ เอาสิ” ผมนึกสนุกเพราะท่าทางเนมมันหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้นไม่ฆ่ากันตายวันนี้ก็ถือว่าโชคดีแค่ไหนแล้วขืนโอ๊คมันไปพูดไม่คิดมีหวังจากรักคงจะได้รบกันแน่ “ กูว่ายังไม่ใช่วันนี้”

         “ งั้นผมขอเป็นคนกำหนดขอรางวัล”

         ผมหรี่ตามองมันเพราะดูยังไงผมก็เสียเปรียบอยู่ดี

         “ พูดอย่างงี้กูก็เสียเปรียบสิวะ ในเมื่อกูไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรถ้าแพ้พนันมึง ขืนมึงให้ทำอะไรประหลาดๆกูก็แย่ดิ”

         “ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”

         “ แล้วมึงจะเอาอะไร”

         มันยิ้มบางๆ เลื่อนมือมากุมข้อมือผมไว้แล้วอีกข้างหนึ่งก็ลากนิ้วชี้วาดลงที่ฝ่ามือด้วยประโยคๆหนึ่ง

         “ งั้นดีล”

         “ ดีลครับ”


        ผมมองตามแผ่นหลังมันซึ่งเดินหายลับไปหลังเวทีแล้วเผลอยิ้มออกมา มันไม่ได้ขออะไรมากเหรอมันขอแค่ ‘สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน’ เท่านั้นเอง







*******************************************************




           เวลานี้บรรยากาศภายในร้านยิ่งดึกคนยิ่งหนาตา ยิ่งมีดนตรีสดๆเล่นให้ฟังแลกกับการรับบริจาคเงินสำหรับใช้ในกิจกรรมของมหาลัย นักดนตรีมือสมัครเล่นจำนวนห้าคนซึ่งประกอบไปด้วย ยิม อั้ม หนึ่งและรุ่นน้องผู้ชายคณะมันอีกสองกำลังเริ่มขับกล่อมลูกค้าด้วยเพลงช้าๆก่อนจะเพิ่มจังหวะให้รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบรรดานักท่องเที่ยวนั่งชิวก็เริ่มลุกออกไปเต้นหน้าเวทีอย่างสนุกสนาน ไม่ต่างจากพวกเราบนโต๊ะที่ขยับศีรษะไปมาพร้อมกับร้องเพลงคลอไปด้วย


           ผมเพิ่งสังเกตว่าหลังจากที่เนมมันไปหายไปพักใหญ่ก่อนจะกลับมาด้วยสีหน้าแดงเรื่อกับโอ๊ค ท่าทางทั้งคู่ดูขัดเขินเป็นภาพที่แปลกตาผมกับหยกมาก ผมยิ้มมุมปากเพราะสังหรณ์ใจว่าผมคงแพ้พนันยิมมันซะแล้ว หลังจากนั้นโอ๊คมันก็กระโดดขึ้นประจำตำแหน่งกีต้าร์คู่กับยิม ผมสังเกตว่าพวกมันเผลอหัวเราะออกมาแล้วยิมมันก็หันมายักคิ้วให้ผมเป็นการตอกย้ำความพายแพ้ของผมอย่างราบคาบ

           ผ่านไปสามสี่เพลงจากเพลงโยกเบาๆก็กลายเป็นเพลงมันส์ๆจนเหล่านักท่องเที่ยวต่างกระโดดเย้วๆสุดเหวี่ยง ผมนั่งท้าวคางมองมือกีต้าร์ที่ยิ้มเสียกว้างตอนที่โยกศีรษะแรงๆเพราะดนตรีที่เร้าอารมณ์ อย่างที่บอกว่ายิมมันเป็นมีหลายบุคลิกทั้งสดใส สนุกสนานและบางครั้งก็ดูกวนตีน แต่ทุกอย่างที่รวมเป็นมันทำให้ผมอบอุ่นบอกไม่ถูก และเป็นมันที่ทำให้ความรู้สึกแย่ๆเบาบางเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น

           ผมนึกสงสัยตัวเองว่าตั้งแต่เจอมันวันนี้ผมยิ้มออกมาแล้วกี่ครั้ง มันคงมากมายจนนับไม่ถ้วนมันเป็นเรื่องง่ายดายเหลือเกินที่ยิ้มออกมาเวลาที่มีมันอยู่ข้างๆ เพราะตอนนี้ผมเองก็กำลังยิ้มอยู่และมันก็หันมายิ้มให้เช่นกัน ผมชูมือเหวี่ยงไปมาและโยกตัวตามจังหวะเพลงขณะที่มันดีดกีต้าร์มือเป็นระวิง แต่ถึงอย่างนั้นสายตาเราก็ไม่ละจากกันเลย

          หลังจากจบการแสดงที่กินเวลาไปชั่วโมงกว่าพร้อมเสียงตอบรับอย่างถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยว พี่หนึ่งยิ้มหน้าบานเพราะจำนวนเงินที่คนร่วมกับบริจาค เหล่านักดนตรีต่างได้รับความสนใจด้วยมีคนมาขอถ่ายรูปเนิ่นนานกว่าที่พวกนั้นจะกลับมาที่โต๊ะ สีหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยเหงื่อที่ผุดขึ้นมากมายแต่แววตาทุกคนกลับเต็มไปด้วยความสุข มันทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ใกล้ๆผมก่อนจะคว้ามือผมไปหยิบเอาผ้าเย็นแล้วเอามาเช็ดหน้ามัน

          ผมเผลอหัวเราะออกมาเพราะแทนที่มันจะทำเองกลับจับบังคับมือผมให้ทำให้ แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับเต็มใจทำให้ผมจากใจจริง มันเอียงหน้าไปมารับกับมอผมที่มาจับอยู่กำลังลูบไล้ผ้าไปตามโครงหน้าของมัน


         “ เอ่อ ขอโทษนะคะ”

          ผมหยุดชะงักมือขณะที่มันเอี้ยวใบหน้าไปหาต้นเสียง ทันได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดรัดรูปกำลังยิ้มให้มันอย่างขวยเขิน ท่าทางของเจ้าหล่อนดูแสดงออกชัดว่าปลื้มมันไม่น้อย

          “ ครับ”

          “ จะเป็นอะไรมั้ยคะ ถ้าจะขอเบอร์”

         ผมกระตุกมุมปากตอนที่มันหันมาสบตากัน ยิมทำหน้าเหวอก่อนจะยิ้มอ่อนไปให้หญิงสาวคนเดียวในที่นี้  มันกุมข้อมือผมให้กระชับแน่นขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า

          “ ต้องถามเจ้าของเขาก่อนครับ”

          หญิงสาวทำหน้าแปลกใจหันมามองผมตามสายตาของมัน “ ว่าไงครับหมออยากให้มั้ย”

          “ ก็ให้ไปสิ”

         เมื่อได้ยินแบบนี้สาวเจ้าถึงกับฉีกยิ้มกว้าง ส่วนไอ้ยิมได้แต่หัวเราะขำก่อนจะยื่นมือไปรับโทรศัพท์เธอมากด

          “ ผมให้เบอร์หมอ”

          “ หืม”

         หญิงสาวทำหน้าประหลาดใจเมื่อยิมมันยื่นโทรศัพท์มาให้ผมแล้วหันไปคุยกับเธอ “ ผมให้เบอร์แฟนผมนะครับ ถ้าคุณอยากคุยคงต้องโทรเข้าเครื่องเขา”

         หล่อนทำหน้าเหวอ “ นะ นี่พวกพี่สองคน”

         “ อย่างที่เข้าใจล่ะครับ นี่แฟนผม” ยิมมันยิ้มกว้างโอบไหล่ผมเสียแน่น ทิ้งให้ผมทำหน้าเหวอแทนเพราะคาดไม่ถึงว่ามันจะกล้าขนาดนี้ ตอนแรกแค่จะแกล้งเรื่องให้เบอร์ใครจะไปคิดว่ามันจะตลบหลังเขาแบบนี้

         “ งะ งั้นไม่ขอแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ ขอให้รักกันนานๆ” หญิงสาวละล้ำละลักบอก รีบคว้าโทรศัพท์มือถือในมือผมไปอย่างรวดเร็วแล้วผละจากไปอย่างรวดเร็ว

         “ โอ้ย”

         มันร้องโอดโอยเมื่อโดนผมดีดหน้าผากไม่เบานัก ถึงหน้านั้นสีหน้าแววตามันกลับตรงกันข้ามเพราะมันเต็มไปด้วยประกายขบขัน

         “ พูดอะไรแบบนั้นวะ”

         “ พูดเรื่องจริงสิครับ ผมมีแฟนแล้วนี่จะให้เบอร์คนอื่นซี้ซั้วไปยังไง” มันเลิ่กคิ้วถาม “ หมอพูดแบบนี้ผมน้อยใจนะเนี่ย พูดอย่างกะว่าหมอไม่หึงผมเลยอย่างงั้นแหละ”

          มันหรี่ตามองทำท่าน้อยอกน้อยใจ

         “ หรือว่าหมออายครับที่จะบอกใครต่อใครว่าเป็นแฟนผม”

         “ กูเปล่า”

         มันถอนหายใจก่อนจะเงียบไป อาการที่ผิดแปลกไปจากปกติทำให้ผมนึกเอะใจ ตลอดเวลามันไม่เคยรบเร้าอะไรกับเรื่องนี้เลย แต่บางครั้งมันอดคิดไม่ได้นั่นแหละเพราะผมไม่เคยพูดอะไรออกไปเลย

         “ ยิม”

         “ ครับ”

         ผมเอื้อมมือสอดประสานฝ่ามือมันแล้วบีบเบาๆ “ กูไม่เคยอายที่เป็นแฟนมึง แต่เรื่องบางมันเป็นเรื่องของคนสองคนที่กูไม่ป่าวประกาศไม่ได้ต้องการปิดบัง เพราะไม่มีใครถาม แต่ถ้าใครถามกูก็จะตอบเขาไป”

        “ ตอบว่าอะไรครับ”

        ผมหรี่ตามองมันจนแอบเห็นว่ากำลังกลั้นยิ้ม

         “ มีแฟนแล้ว”

         “ แล้วหมอรักแฟนหมอมากมั้ยครับ”

         “ คิดว่าไงล่ะ” ผมย้อนมัน

         “ ต้องรักมากสิครับ”

         มันตอบสีหน้ามั่นอกมั่นใจในตัวเองจนผมส่ายหัว

          “ เอาที่สบายใจ”

          “ หมอทวนคำตอบให้ผมฟังหน่อยสิครับ”

          “ เออมีแฟนแล้ว เป็นเด็กเหี้ยๆข้างห้อง พูดจากวนประสาท ชอบทำเนียนมาจีบแล้วสุดท้ายก็ตกกระไดพลอยโจรไปกับคนบ้าๆแบบมัน ที่สำคัญหน้ามันดูเหมือนหมาเหงาๆเลยต้องรักมันมากๆหน่อย รักมากจนอยากจะฆ่าทิ้งเวลาที่มันกวนตีน”

          จบประโยคยืดยาวของผมมันดันหัวเราะก๊ากท่าทางขบขันจริงๆ

          “ รักมากขนาดนี้สงสัยต้องมีรางวัลให้”

          “ แต่งงานกันเลยมั้ยล่ะ มึงจะมีผัวไวๆทันใช้”

          ผมเหน็บมันอย่างไม่จริงจังนัก แต่มันสิดันตาโตแล้วขยับมากระซิบข้างหูผมเบาๆ “ ใครผัวใครเมียพูดดีๆหมอ”

          “ เอ้านี่มึงยังไม่รู้สถานะตัวเองอีกเหรอ”

          “ ความหยาบไม่มีผลในแนวราบนะครับ”

          มันยักคิ้วสองจึก “ แต่ความเสียวมีผลในทุกๆแนว”

          “ ไอ้หมายิม”

         มันไหวตัวทันตอนที่ผมเตรียมซัดไหล่มันไปสักที ก่อนที่มันจะระเบิดเสียงหัวเราะจนโต๊ะรอบๆหันมามอง ไม่ต่างจากสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนในโต๊ะที่เหมือนจะนิ่งฟังบทสนทนาของพวกเราจนเก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด

          “ ฉลองสิครับยืนรอเหี้ยอะไร คนจะได้กัน” ไอ้หนึ่งลุกขึ้นชูแก้วร้องนำ

          “ ฮิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

          ไอ้พวกห่านี่



          (มีต่อ)

         

       

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 27-12-2016 20:39:42

          หลังจากจบงานเปิดหมวกที่ร้านเหล้านั้นแล้วทุกคนก็แยกย้ายส่วนมันก็ขับรถมาส่งผมที่บ้าน ผมมารู้สึกตัวตื่นตอนที่รถมันมาจอดสนิทอยู่ที่มุขหน้าบ้านสงสัยจะเพลียจากเหตุการณ์ทั้งวัน พอนึกถึงสิ่งที่ค้างคาใจมาตลอดได้คลี่คลายและต้นเหตุของทุกอย่างก็ได้รับผลกรรมแล้วผมก็ได้แต่ถอนใจ ช่วงเวลาที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่ผมยากจะข่มตานอนได้ แต่พอได้อยู่กับมันแล้วทำไมไม่รู้ผมถึงได้ผ่อนคลายนัก

          “ ตื่นแล้วเหรอครับ”

           “ อืม”

          มันเอื้อมมือมาเกลี่ยใบหน้าผมเบาๆ ก่อนจะหัวเราะเพราะท่าทางที่งัวเงียของผม

           “ งั้นหมอรีบไปเข้าไปพักผ่อนเถอะครับ”

           “ เข้าใจแล้ว”

          ผมกำลังจะดันประตูเปิดออกแต่มันคว้าข้อมือผมเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้ากดจูบที่หลังมือผมเบาๆ “ ฝันดีครับ”

           “ เหมือนกัน”

           ตอนที่มันปล่อยมือข้างนั้นผมเลยดีดนิ้วข้างนั้นใส่หน้าผากมันแกล้งเล่น ซึ่งไอ้หมอนี่ก็รับมุขด้วยการยิ้มอ่อนๆให้จนผมต้องรีบถอยให้ห่างไม่งั้นคงแสดงอาการประหลาดให้มันจับสังเกตได้ ผมยืนมองรถมันเคลื่อนออกจากบ้านไปอย่างช้าๆก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในบ้าน บรรยากาศยามค่ำเช่นนี้เงียบสนิทเหมือนทุกชีวิตหลับใหลกันหมดแล้ว แต่ผมคิดผิดเมื่อเห็นประมุขของบ้านยังนั่งนิ่งอยู่ห้องรับแขก

           ผมหยุดยืนมองแผ่นหลังของพ่อนิ่ง ตั้งแต่เกิดเรื่องและได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากของไอลดาทำให้นึกละอายใจและทิฐิในใจเหมือนจะดับไปพร้อมกับไฟปรารถนาที่ไอลดามีต่อผมทุกอย่างมอดไหม้เหลือไว้เพียงละอองของมันจางๆ ถึงแม้ผมยังไม่มีโอกาสจะได้คุยกับพ่อเลย แต่ผมรู้สึกว่าการสบตากับพ่อในเวลาต่อมามันดูอบอุ่นอย่างประหลาด ไม่สิคงต้องเรียกว่าผมรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

          ท่ามกลางความเงียบพ่อหันเห็นผมแล้วเลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ ท่านขยับตัวน้อยๆเมื่อผมก้าวเข้าไปหา

          “ กลับมาแล้วเหรอ”

          “ ครับ”

          “ หมอนั่นมาส่งงั้นเหรอ”

          ‘หมอนั่น’ ที่พ่อหมายถึงคนเป็นไอ้ยิม เพราะก่อนหน้านี้มันเล่าให้ฟังว่ามามันอาจหาญมาสารภาพกับพ่อว่าชอบผม ตอนแรกที่ได้ยินผมตกใจไม่น้อยและที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือมันสามารถรอดพ้นออกมาจากบ้านได้ยังไงโดยไม่โดนพ่อผมแพ่นกบาลเอา นับว่าเรื่องที่ได้ยินทำให้แปลกใจจริงๆ


         “ ครับ”

         “ อืม” พ่อรับคำก่อนจะมองไปเบื้องหน้า “ ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นไปนะซะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าเก็บของเก็บของกลับคอนโดแกไปซะ ฉันจะให้หาญมันไปส่งหรือไม่งั้นแกก็ให้หมอนั่นมารับก็ได้”

         ประโยคยืดยาวที่นานๆครั้งจะได้ยินพ่อพูดกับผม แต่ความหมายในเนื้อความทำให้ผมอดน้อยใจไม่ได้นั่นหมายความว่าพ่อทำเหมือนจะไล่ผมออกจากบ้านอีกครั้ง ผมก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจเพาะเข้าใจดีว่าพ่อยังรับไม่ได้กับสิ่งที่ผมเป็น ท่านคงทำใจลำบากและไม่อยากรับรู้

        พ่อผุดลุกขึ้นเหลือบตามองผมแวบนึงก่อนจะหันหลัง ขณะที่กำลังก้าวเดินผ่านหน้ามา เสียงแหบพร่าของพ่อก็เอ่ยขึ้น

         “ ฉันไม่ได้จะไล่แก แต่พรุ่งนี้แกก็เปิดเทอมแล้วนี่ แล้วคอนโดมันอยู่ใกล้มหาลัยสะดวกกว่าอยู่บ้านเป็นไหนๆ ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้แกเรียนหนักคงไม่มีเวลามากนัก ถึงอย่างนั้นแต่อย่าลืมซะล่ะว่าบ้านหลังนี้มีแค่คนแก่กับเด็กคนนึงรออยู่”

         พูดจบท่านก็ออกเดินทันทีแต่ติดที่ผมโผเข้าไปกอดแผ่นหลังผมเอาไว้เสียแน่น ทุกอย่างมีแต่ความเงียบจนพ่อเอื้อมมาลูบมือผมที่กอดอยู่ สัมผัสที่แผ่วเบาทำให้ผมอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ผมเข้าใจมาตลอดว่าพ่อไม่เคยสนใจใยดีผมโดยไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วพ่อมองเห็นผมอยู่ตลอดเวลา

        “ เผื่อแกจะยังไม่รู้ ความรู้สึกที่ฉันมีให้ปอไม่ต่างกันเลยความรู้สึกที่ฉันมีให้แก ฉันยังจำได้เสมอว่าฉันเป็นคนตั้งชื่อให้แก”

        ผมกลั้นเสียงสะอื้นเมื่อนึกถึงเสียงของแม่ที่พร่ำบอกผมมาตลอด ‘ ปายเกิดวันอังคารพ่อเขาเลยตั้งชื่อว่าปารมีซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะกับคนที่เกิดวันนี้ เป็นชื่อที่มีความหมายดี เป็นปารมีของคุณพ่อ’


         “ ขอบคุณครับพ่อ”

         “ น้องกอดด้วย”

         ผมรีบปาดน้ำตาก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องชายตัวจ้อยวิ่งมาแทรกกลางระหว่างผมกับพ่อแล้วกางมือโอบเอวพวกเราเอาไว้ ผมหันไปยิ้มกับพ่อแล้วโคตรรู้สึกดีตอนที่ท่านลูบศีรษะผมกับปอเบาๆ

         “ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีกฮึปอ”

         “ น้องกำลังเขียนสมุดทำความดี”


         ปอตอบพ่ออย่างฉะฉาน ก่อนจะชูสมุดเล่มเล็กในมือโบกไปมา เผยให้เห็นลายมือโย้เย้แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ น้องชายผมยิ้มดีใจก่อนจะสาธยายเรื่องราวในเล่มด้วยแววตาที่สดใส

         “ แล้วทำไมปอถึงทำล่ะ”

         “ คุณพ่อบอกว่าแม่ไอทำไม่ดีเลยโดนคำสาปทำให้ต้องหายไป พ่อเลยให้น้องทำความดีเยอะๆ เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนแล้ววันหนึ่งแม่ไอจะหายจากคำบาปแล้วกลับมาหาน้อง น้องอยากเขียนบันทึกความดีที่ทำ แม่ไอจะได้กลับมาเร็วๆ”

         ผมจุกในอกนิ่งฟังถ้อยคำไร้เดียงสาเหล่านั้น คงเพราะปอยังเด็กเกินกว่าจะรับรู้ว่าแม่แท้ๆกำลังถูกจองจำจากผลของการกระทำของตัวเอง ความใสซื่อของปอทำให้ผมนึกสะท้อนอยู่ในใจและได้แต่หวังว่าเธอจะอดทนจนถึงวันใดวันหนึ่งข้างหน้าไอลดาได้รับผลกรรมจนสิ้นสุดแล้ว เธอจะก้าวออกมายังโลกภายนอกได้อย่างเต็มภาคภูมิสมกับที่ปอรอคอยเธออยู่

        ผมโอบกอดปอเอาไว้แล้วกดจูบที่ขยับน้องเบาๆ เพื่อซึมซับเอาความรู้สึกรักและผูกพันเอาไว้เป็นแรงใจการดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า ผมสบตากับพ่อเห็นแววตาท่านหม่นลง ผมรู้ดีว่าท่านเสียใจไม่น้อยไปกว่าผมเพราะพ่อต้องจำใจให้กฎหมายลงโทษแม่ของลูกคนหนึ่งซึ่งทำร้ายแม่ของลูกอีกคน ข้างในท่านคงอ่อนแอไม่น้อย ผมประสานมือกับพ่อแล้วกระชับมันให้แน่นขึ้น พ่อยิ้มออกมาแล้วบีบมือตอบผมเบาๆ

         ....อย่างน้อยเรื่องที่ผ่านเข้ามาก็ทำให้รู้ว่าเรารักกันแค่ไหน...

         ...ถึงครอบครัวผมจะไม่ได้ดีเหมือนใครๆ แต่วันเวลาก็ทำให้รู้ว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมแค่ไหน เพราะที่นี่เป็นจุดเล็กๆที่ทำให้เกิดความรักดีๆที่หาไม่ได้จากคนภายนอก...





เชิญค่ะเชิญ เชิญฉีกยิ้มกันตามสบาย ตอนหน้าก็จบแล้วนะ โฮ๊ะๆๆๆ :impress2:

 มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกแจกหนังสือฟรีส่งท้ายปีจ้า  (https://www.facebook.com/karnsaii/photos/a.245517358969923.1073741826.245380738983585/611848495670139/?type=3&theater)


(https://www.mx7.com/i/c1b/tyV3du.jpg) (https://www.mx7.com/view2/zyReJKpCcxoW2etG)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 27-12-2016 21:03:28
 :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-12-2016 21:10:09
ยิม o13 o13 o13 o13เราชอบประโยคนี้จริงๆ เลย " เป็นแฟนผมแม่งโคตรดี เอวสี่จีซอยก็ถี่แถมยังชอบเบิ้ล " :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 27-12-2016 21:53:26
 :katai2-1: :katai2-1:
 :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-12-2016 21:57:49
ว้าาาาา ตอนหน้าจบแล้วหรอ???
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-12-2016 22:35:07
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Tatangth ที่ 27-12-2016 23:14:22
อแง จะจบแล้วเหรอ ฮือออออ
หมายิมโคตรกวนอ่ะ
หมอก็แอบอ่อยอยู่นะคะหม๊อออออ
5555555555555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-12-2016 23:31:14
มี ผ ทันใช้นี่ดีจิมๆ นะหมอปาย ฮ่าๆๆๆๆ
ฉากที่บ้านทำเราร้ำตาซึมเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 27-12-2016 23:41:37
เหมือนจบแล้วเลย
จบแล้วหรออออ
ขออีกได้ไม๊
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 28-12-2016 00:30:05
จะจบแล้วหรอยังไม่อยากให้จบเลยยย :o12:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 28-12-2016 00:39:50
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-12-2016 00:46:35
ยังไม่อยากให้จบเลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: kokilolylove ที่ 28-12-2016 01:11:37
ต้นตอนยิ้มเขิน
ปลายตอนน้ำตาไหลพลากๆ ในที่สุดหมอกับพ่อก็เข้าใจกะน ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-12-2016 01:15:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-12-2016 09:20:57
อบอุ่นหัวใจ~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-12-2016 11:42:20
อบอุ่นหัวใจพ่อลูกเข้าใจกันแล้ว แต่เศร้าใจที่ตอนหน้าจะจบแล้วววววววว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 28-12-2016 11:43:28
ชอบเรื่องนี้จัง  :m15:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: semen ที่ 28-12-2016 12:17:42
 :o8: ไม่อยากให้จบเลยอ่าาาาาาา เพิ่มตอนอีกได้อ่ะป่าวคร้าฟฟฟฟฟ แบบเอาคู่ของเนมกะโอ๊คต่ออีกอ่าาาาาาาา :o12:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 28-12-2016 15:57:06
โหยยย เพิ่งมาเจอเรื่องนี้แปปเดียวก็จะจบละ  เสียใจจังเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 28-12-2016 19:30:21
จะจบแล้วววววววว ไม่อยากให้จบบบ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 28-12-2016 23:47:40
อย่าเพิ่งจบได้มั้ย

กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 29-12-2016 14:57:36
สนุกมากกก น่ารักมากก
ยิมอบอุ่นมากกจริงๆอะ
เป็นผู้ชายกวนตีนที่อบอุ่นมาก
หมอปายก้เป็นผู้ชายเย็นชาที่ขี้ใส่ใจมากจริงๆ
คือน่ารักกมากอะคู่นี้
มาทันรอตอนจบพอดีเลยค่ะ5555
ยังไม่อยากให้จบเลยยอะ
แต่ถ้าจบแล้วก้จะรอติดตามเรื่องหน้านะคะ
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 29-12-2016 17:11:09
อยากให้มีเรื่องน้องปอต่อจังเลยคะ
ชอบความสดใจของน้อง
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-12-2016 18:10:10
หวานกันหนักมาก

หมอปายพอเปิดใจ ทุกอย่างดีขึ้น แถมมียิมอยู่ด้วย โลกสดใสเป็นกองเลย
ชอบค่ะ โมเมนท์ทะเล้นๆ แล้วยอมให้รุกหนักมาก

ยิมกวนประสาท แล้วได้กำไรด้วยนะ ชอบค่ะ ยิมเปิดตัวมาก 5555

น่ารักมากเลยค่ะ พามาสวีทกันอีกนะ

หมอปายกับพ่อเข้าใจกันแล้ว ต้องขอบคุณที่พ่อยอมแสดงออก น้องปอก็น่ารัก น้องน้อยเป็นเด็กดี
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 01-01-2017 19:48:15
น่ารักมาก!!!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 01-01-2017 21:16:41
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: peppier ที่ 02-01-2017 16:21:39
ผมห่างหายจากบอร์ดไปน๊านนนนนาน
กลับมาอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย
พอเห็นชื่อเรื่องแล้วทำให้อยากอ่านขึ้นมาทันที อิอิ
(เรียนคณะเดียวกับพี่ปายครับ ฮ่าๆ)

เป็นเรื่องที่สนุกมากครับ อ่านรวดเดียวจบเลย
ขอบคุณพี่ด้วยที่สรรสร้างเรื่องดีๆน่ารักแบบนี้มาให้อ่าน
ขอบคุณจากใจครับ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: chuagporz ที่ 10-01-2017 01:54:03
ชอบความเป็นยิมมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ถึงรักยิมน่ะ....
ตอนหน้าจะจบแล้วหรอ ฮือ~ ยังไม่อยากให้จบเลย
งอแงได้ไหม อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆๆๆๆ อะ!!!!
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 26 : ก้าวใหม่ [27/12/59] P.23
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 17-01-2017 20:37:12

     

หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END]






Page : Cuteboy



(http://image.free.in.th/v/2013/ig/170116012052.jpg) (http://picture.in.th/id/5b39c45ab8ecb7b7f6700c3d54141427)  (http://image.free.in.th/v/2013/it/170116012753.jpg) (http://picture.in.th/id/0fa1a13892c60b89719291542d4dc65a)




Status : ความรักดีๆ เกิดที่คิวท์บอย #แฟนหมอ #แฟนนิเทศ #ลุ้นแทบตายสุดท้ายก็ได้กัน


- Comment -



‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด’

‘#หมอมีแฟนหล่อบอกต่อด้วย’

‘#ทีมยิมปาย #ทีมปายยิม’

‘ทีมน้ำตาเช็ดหัวเข่า’

‘ตายอย่างสงบศพสีชมพู’

‘ไปค่ะ ไปแต่งงานกันเลย ฮืออออ’

‘ผัวทั้งสองทำไมทำกับเมียเช่นนี้ ต่อไปนี้เมียคงต้องกินน้ำตาแทนข้าว ถถถถถถ’





        [ยิม]




        “ไอ้หน้าด้าน”

        ไอ้โอ๊คเงยหน้าจากจอแท็ปเท็ตที่ปรากฏภาพเพจๆ หนึ่งที่แคปภาพจากโปรแกรมการโพสรูปส่วนตัวของผมกับหมอไปโพส มันเลื่อนดูไปมาก่อนจะหันมาด่าผมอย่างขบขัน

        “มึงนี่มันช่างกล้า” มันยังแซวต่อเนื่อง “นี่คงไปบังคับให้หมอลงด้วยสินะ”

        ผมแค่หัวเราะ อยากจะตอบว่าเปล่าเลย ตอนแรกกะจะแค่หยอกหมอเล่นใครจะไปคิดว่าหมอจะสวนกลับเร็วขนาดนี้ แต่ไม่รู้ทำไมมันเป็นการรู้ทันกันที่ผมโคตรชอบเลย จริงอย่างที่หมอปายบอกผมว่าเขาไม่เคยคิดปิดบังเรื่องเราคบกันเลย เพราะในเมื่อมีใครถามหมอก็ตอบ แต่ต่อไปนี้คงไม่ต้องตอบแล้วเพราะเล่นประกาศผ่านสื่อกันขนาดนี้

        ผมยิ้มอย่างครึ้มอกครึ้มใจตอนที่มารับหมอที่คณะแพทยศาสตร์พร้อมกับไอ้โอ๊ค จริงๆ แล้วต่างคนต่างก็มารับคนของตัวเอง เหมือนผมจะลืมเล่าอะไรไปบางอย่าง  ผมลืมบอกไปว่าตอนนี้เพื่อนผมทั้งสองมันกระชับสัมพันธ์แนบแน่นด้วยการก้าวข้ามความเป็นเพื่อนไปเรียบร้อยแล้ว

        “กูอนุญาตให้มึงเอาไปลองเล่นกับเนมมันดู”

        “เออเข้าท่าดี”

         ไอ้โอ๊คทำท่าทำทางเห็นด้วย แต่สีหน้าแววตามันโคตรเจ้าเล่ห์เห็นแล้วนึกกลัวแทนเพื่อนตัวน้อยของผมจัง ไอ้ห่านี่ยิ่งชอบทำอะไรสัปดนๆ อยู่ ไม่รู้คบกันอิท่าไหนผมเห็นเนมมันเดินขาเป๋มาเรียนได้เกือบทุกวัน ผมคิดแล้วได้แต่ส่ายหน้าพอดีที่นิสิตแพทย์สามคนเดินทำหน้าเหนื่อยอ่อนมาแต่ไกล

         ผมอมยิ้มเมื่อเห็นสภาพของหมอที่ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว ยิ่งท่าทางอิดโรยแบบนั้นเห็นแล้วชวนสงสารเพราะตั้งแต่เปิดเทอมมาผมเห็นหมอเรียนหนักทุกวัน เวลาว่างส่วนใหญ่จะหมดไปกับการนอนนิ่งๆ ที่คอนโดมากกว่าการออกไปเที่ยวด้วยกันตามประสาคนรัก



        “ไหวมั้ยครับเนี่ย”

        หมอพยักหน้าหงึกหงัก โบกมือลาหมออั้มกับหมอหยกที่สภาพไม่ต่างกัน แล้วสองคนนั้นก็เดินลับไปยังลานจอดรถ ทันได้เห็นหมอหยกเดินเซไปมาจนหมออั้มต้องโอบเอาไว้ ผมเหลือบตามองหมอปายที่ยิ้มเสียกว้างเมื่อเห็นภาพนั้นทั้งๆ ที่ตัวเองตาจะปิดอยู่แล้ว

        “งั้นกูไปหาเนมก่อนนะมึง”

        คราวนี้ไอ้โอ๊คก็ลาไปอีกคนหลังจากทักทายกับหมอเรียบร้อยแล้ว หลังจากพาตัวเองเข้ามาในห้องโดยสารได้หมอก็หลับสนิททันทีจนผมต้องปรับเบาะให้เอนลงเพื่อหมอจะได้นอนสบายหน่อยแล้วผมจึงได้หันกลับไปสนใจกับถนนต้องหน้า ผมใช้เวลานานพอสมควรเนื่องจากตอนเย็นเป็นเวลาเลิกงาน พาหนะบนท้องถนนถึงได้ติดแน่นจนไม่ขยับ แต่ดีอย่างเพราะรถติดนานๆ ทำให้ผมได้หันมาสังเกตใบหน้าหลับพริ้มของหมอ คงจะเหนื่อยจริงๆ เพราะเห็นนอนไม่ขยับเปลี่ยนท่าทางเลย

        ผมเกลี่ยปลายนิ้วไปใบหน้าและริมฝีปากอย่างเบามือเพราะกลัวจะไปรบกวนการนอนของหมอ เสียงเพลงเบาๆ จากวิทยุที่เปิดคลอในห้องโดยสารทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสบายขึ้นทั้งที่รถติดกันแน่นขนาดนี้ ผมนั่งฮัมเพลงคลอไปพลางมองหน้าหมอไปพลาง ในหัวก็กำลังคิดว่าวันนี้จะทำอะไรกินดี ทุกวันนี้ผมแทบจะไปขลุกอยู่ในห้องหมอแทน นับครั้งได้ที่ไปนอนห้องตัวเองคิดแล้วก็ขำ ดีว่าเก็บห้องไว้ให้น้องสาวที่ไปขอพ่อกับแม่ว่าถ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยติดจะย้ายมาอยู่คอนโด ไม่งั้นผมคงขายไปไม่ก็ปล่อยให้เช่าแทน เพราะสภาพห้องทุกวันนี้เหมือนร้างยังไงก็ไม่รู้


        ผมใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงฝ่าการจราจรมาถึงคอนโดที่ห่างจากมหาลัยเพียงไม่ถึงสิบกิโล พอรถจอดสนิทได้สักพักหมอก็เริ่มขยับตัวตื่นขึ้นพอดี

       “ถึงแล้วเหรอ”

       “ครับ”
 
       หมองัวเงียคว้าเอากระเป๋าแล้วเดินมาวางมือผมที่ยื่นรอท่าอยู่ แล้วพวกเราก็เดินกุมมือเดินเคียงข้างกันไป

       “แล้วนี้กินอะไรดีครับ”

       หมอทำท่านึกๆ ก่อนจะยิ้มออกมา “วันนี้กูจะทำสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน”

       “จริงเหรอครับ?”

       “อืม”

       “งั้นผมจะรอกิน”

        ผมพูดยิ้มๆ จำได้ว่าเคยพนันกับหมอว่าถ้าผมชนะผมอยากกินของโปรดฝีมือหมอ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสสักทีเพราะหมอยุ่งเหลือเกินจนคิดว่าหมอลืมมันไปแล้วซะอีก อยู่ๆ หมอมาพูดว่าจะทำให้กินแบบนี้ในอกผมมันเลยรู้สึกอุ่นๆ บอกไม่ถูก

        ตั้งแต่พวกเราตกลงเป็นแฟนกัน ถึงภายนอกจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป แต่เรารับรู้กันเองว่าภายในใจต่างหากที่เปลี่ยนไป เราคงไม่สังเกตว่าต่างฝ่ายต่างพยายามปรับตัวเข้าหากันให้มากขึ้น เรียนรู้ตัวตนของอีกฝ่ายและพร้อมจะทำให้เรื่องของตัวเองเป็นเรื่องของเราสองคน หมอไม่ใช่คนที่ชอบพูดแต่การกระทำของหมอมันชัดเจนเสมอและมันทำให้ชีวิตรักของเราดำเนินไปอย่างเรียบง่าย

        พอมาถึงห้องหมอรีบวางกระเป๋าก่อนจะสวมผ้ากันเปื้อนแล้วเดินเข้าครัวไป ผมอมยิ้มยืนมองแผ่นหลังหมอขยับไปมารอบๆ ครัว ไม่รู้ทำไมภาพตรงหน้าถึงทำให้ผมมีความสุขนัก ไม่นานกลิ่นหอมของอาหารก็โชยมาจนผมต้องขยับเข้าไปยืนซ้อนหลังพ่อครัววันนี้ ผมวางมือข้างหนึ่งที่สะโพกของหมอแล้วบีบเบาๆ หมอแค่หันมาก่อนจะใช้ช้อนตัวอาหารที่กำลังร้อนๆ อยู่ในกระทะขึ้นมาเป่าแล้วส่งให้ผมชิม


        “ร้อนนะระวังหน่อย”

        หมอเอ่ยเตือนทั้งๆ ที่ตัวเองเป่าให้มันเย็นอยู่ตั้งนานกว่าจะส่งให้ผมได้ชิม ผมอมยิ้มแล้วก้มไปงับอาหารในช้อน รสสัมผัสแรกที่โดนลิ้นนุ่มละมุนจนเผลอยิ้ม

        “อร่อยครับ”

        “ไปจัดโต๊ะรอเลย”

        “ครับ”

        รับคำแล้วก็ก้มลงไปกดจูบต้นคออีกฝ่ายเสียหน่อย หมอก็เร็วพอตัวเพราะพอผมเงยจากคอขาวๆ นั่นฝ่ามือหมอก็กระทบอกผมเต็มๆ

        “ไอ้ห่านี่”

        “ก็ผมมันเขี้ยว”

        “กูคนไม่ใช่ตุ๊กตายางที่มึงจะขยี้ขยำยังไงก็ได้นะ”

        “ถ้าเป็นตุ๊กตายางจริงๆ ผมแทงไปนานแล้ว”

        ...พลั๊ว...


        “ไอ้ห่านี่ในหัวมีแต่เรื่องแบบนี้รึไงวะ” หมอทำเสียงเขียว “มึงนี่มันเสื่อมจริงๆ”

        “ผมก็คิดทุกครั้งที่ใกล้หมอนั่นแหละ ผมพูดจริงนะหมอได้สักครั้งผมจะตั้งใจเรียนเลยเอา”

        ผมยืดอกรับแมนๆ เพราะตั้งแต่คบกันมามากสุดก็แค่กอดจูบ ผมรู้ว่าหมอพยายามบ่ายเบี่ยงถึงจะไม่ปฏิเสธผมตรงๆ ผมก็พอจะรู้ที่หมอไม่ให้คงเพราะยังกังวลอยู่ ก็แหงล่ะในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มียอมเป็นฝ่ายถูกกระทำ พออารมณ์ถึงขีดสุดกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มมันก็พังไม่เป็นท่าไปเสียทุกครั้ง

        นึกแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

        “มึงก็ยอมกูสิ เดี๋ยวกูจัดให้เลย”

        “หมอทำไหวเหรอ หัวถึงหมอนก็นอนหลับสนิทขนาดนั้น” ผมเอ่ยแซวจนอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำ “ผมว่าหมอนอนเฉยๆ ดีกว่า ผมทำเอง”

        “มึงแม่ง”

        “ผมไม่ทำหมอเจ็บหรอกเชื่อสิ”

        “ไอ้ตอแหล”

        “หมอใจร้ายว่ะ ผมทำใจลำบากนะโว้ยอยู่กับแฟนแทบจะตลอดเวลา ไม่คิดก็แปลกแล้วครับก็หมอทำตัวน่ารักทำไม”

        “น่ารักพ่องมึงดิ”

        หมอหน้าแดงเตะขาผมแรงๆ “ไปเลยไสหัวไปจัดโต๊ะเลย ไม่งั้นไม่ต้องแดกข้าว”

         “ไม่กินข้าวแต่กินหมอแทนได้มั้ย”

         หมอสบถ “กินตีนกูนี่” แล้วยกเท้าให้ผมเสร็จสรรพ

         “โธ่หมอ”


         เป็นอันว่าเรื่องนี้ก็ตกไปเมื่อถึงเวลาทานข้าว หลังจากนั้นผมกับหมอก็แยกไปทำงานของตัวเองคนละมุม ผมเงยหน้าขึ้นมาอีกทีอีกสี่ทุ่มกว่าแล้วดีว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเลยรู้สึกดีหน่อยไม่ต้องเร่งรีบเข้านอนเหมือนวันธรรมดา ผมเดินไปรินน้ำในห้องครัวก่อนเยี่ยมหน้าไปแถวโต๊ะหนังสือของหมอแต่กลับไม่เห็นเจ้าตัว ปกติผมไม่ค่อยอยากกวนเวลาที่หมออ่านหนังสือเพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการสมาธิ แต่เสียงน้ำจากห้องน้ำที่ไหลเอื่อยๆ บ่งบอกว่าหมอกำลังอาบน้ำอยู่ นั่นแหละทำให้ผมนึกอยากทำอะไรแผลงๆ อย่างครึ้มอกครึ้มใจ

          ผมปลดเสื้อผ้าออกจากตัวก่อนจะเดินอย่างเงียบเชียบเข้าไปในห้องน้ำ หมอมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ไม่ชอบล็อกประตูห้องน้ำซึ่งมันเป็นนิสัยที่ผมโคตรชอบเลย อาจจะเพราะเสียงน้ำจากฝักบัวที่ดังพอสมควรทำให้หมอไม่รู้ว่าผมมายืนมองหมอเปลือยกายอยู่ด้างหลัง

          ผมชอบสรีระของหมอจริงๆ ให้ตายเถอะ หมอเป็นผู้ชายร่างสูงโปร่งมีกล้ามเนื้อในส่วนที่สมควรมีถึงแม้รูปร่างไม่ต่างจากผมมากนัก จะห่างก็แค่ส่วนสูงที่ผมสูงกว่าเล็กน้อย และสีผิวที่หมอขาวกว่ามากเนื่องจากผมเป็นคนชอบเล่นกีฬากลางแจ้งทำให้ผิวที่เคยขาวกลับคล้ำลง ผมก้าวเข้าไปเรื่อยจนไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวเช่นเดียวกับหมอนั่นแหละหมอถึงเพิ่งรู้ตัว


         “ไอ้หมายิม”

         “ครับ”

         “มึงเข้ามาได้ยังไง”

         “ ก็หมอไม่ได้ล็อกนี่”

         หมอทำหน้าเหมือนกินยาขม

         “มึงออกไปก่อนไปกูใกล้จะเสร็จแล้ว” ผมอมยิ้มมือเลื้อยไปตะปบเอวอีกฝ่าย หมอหน้าตื่นผลักอกผมออกทันทีแต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะผมดันหมอเข้าข้างกำแพงแล้วแล้วประกบจูบอีกฝ่ายทันที

         “อื้ม”

         “หมอครับ”

         “ปล่อย ปล่อยก่อน”

         ผมไม่ฟังปากก็ทำหน้าที่บดคลึงไปทั่วใบหน้า มือก็ลูบไล้ร่างกายอีกฝ่ายโดยเฉพาะบริเวณบั้นท้ายผมจับคีบเนื้อแถวๆ บีบคลึงอย่างมันมือ รู้สึกได้เลยว่าคนในอ้อมแขนตัวสั่นขึ้น หมอทุบอกผมแรงๆ เพราะถูกจูบจนหายใจไม่ทันพอถอนจูบออกมาหมอถึงกับเซจะล้มดีว่าผมคว้าตัวไว้ทัน

         “......”

         “ไอ้ห่ายิม ไม่เอา”

         “เอาเหอะหมอ ผมไม่ไหวแล้ว”

         “เอากับผีน่ะสิ”

         “เอากับหมอนี่แหละ”


          หมอยกขาเตรียมกระแทกกึ่งกลางลำตัวผม แต่ขอโทษครั้งนี้ผมซ้อมมาดีเพราะเตรียมการเอาไว้แล้ว หมอเลยเสยลมวืดอย่างหัวเสีย ผมจึงได้โอกาสคว้าขาหมอข้างนั้นแล้วดึงให้สูงขึ้นแยกจากอีกข้าง ก่อนจะก้าวไปสอดตัวอยู่ที่หว่างขาอีกฝ่าย สังเกตว่าหมอหน้าแดงก่ำทั้งยังกระหน่ำทุบผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมเลยจัดการด้วยการงับปากหมอแรงๆ มือข้างหนึ่งเค้นคลึงร่างกายหมอมันมือ อีกข้างก็เลื่อยไปยุ่มย่ามตามสะโพกและบั้นเอวอีกฝ่าย หลังจากสู่รบกันพักนึงสุดท้ายหมอถึงกับหอบหายใจไม่ทัน ลมหายใจสั่นสะท้ายดูเหนื่อยอ่อน สุดท้ายหมอเลยซบใบหน้าลงที่แผ่นอกอย่างยอมจำนน

          “ยอมยัง”

          “......”

          “อะไรนะครับ?”

          เสียงหมองึมงำอยู่ในอกจนต้องถามย้ำอีกครั้ง หมอผงกหัวจากอกผมแล้วมองตาขวาง

          “จะทำอะไรก็ทำไอ้เหี้ย”

          “ โธ่แล้วก็ไม่พูดดังๆ ไอ้ผมก็นึกว่าเหนื่อยที่แท้ก็เสียวอยู่”

          “กูเกลียดมึงฉิบหายไอ้หมานี่”

          หมอตะโกนเสียงดังลั่นจนขี้หูผมแทบเต้น ซ้ำยังซัดหมัดมาอีกตุบ แล้วพิงแผ่นหลังกับผนังห้องน้ำท่าทางราวกับจะหลับเสียให้ตาย

          “เฮ้ยหมอหลับไม่ได้นะ เรายังไม่บรรลุวัตถุประสงค์กันเลย”

          ผมขยับไปอุ้มอีกฝ่ายทันที ก่อนจะค่อยๆ พาไปยังที่เตียงในห้องนอน หมอปรือตาขึ้นมาสีหน้าเหมือนอยากจะด่าผมเต็มแก่ เมื่อแผ่นหลังหมอสัมผัสกับเตียงนอนหมอก็ขยับไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ผมสังเกตว่าทั้งใบหน้าและลำคอของหมอแดงเรื่อยโคตรน่ามอง ผมอมยิ้มขยับไปหยิบของสำคัญที่ซื้อเตรียมไว้ตรงลิ้นชักข้างเตียงนานแล้ว เสียงฉีกซองทำเอาคนในผ้าห่มสะดุ้งโหยง ก่อนที่หมอจะค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม

         “เอาจริงเหรอวะ”

         หมอถามเสียงอ่อย “ไว้วันหลังไม่ได้เหรอวะ วันนี้กูง่วงอยากนอน ”

          “รีบทำรีบนอนไงหมอ”

          หมอสบถในลำคอแล้วกลับมาทำตาขวางใส่ผมอีกครั้ง “เออ ไอ้เหี้ย”

          ผมหัวเราะก๊ากขยับไปสอดตัวในผ้าห่มผืนเดียวด้วยท่าทางที่คร่อมทับอีกฝ่าย ผมโน้มไปไซร้คออีกฝ่ายแต่หมอยกฝ่ามือดันอกผมเอาไว้ ผมเลยเลิ่กคิ้วถาม

         “สัญญากับกูก่อน”

         “ครับ”

         “นอกใจกูเมื่อไหร่มึงตาย”

         “ครับ”

         “ทำให้กูเสียใจเมื่อไหร่มึงตาย”

         “อ่าฮะ”

         “ยอมเป็นรับให้กูเถอะ ถ้าไม่อยากตาย”

         “อะ”

         เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ขณะที่กำลังจะตกปากรับคำอย่างคล่องปากก็รู้สึกเอะใจในคำพูดของหมอ ดีว่าไหวตัวทันไม่งั้นสถานการณ์พลิกผลันสบายตูดแน่กู ผมหรี่ตามองจับผิดหมอซึ่งอีกฝ่ายสบถอย่างหัวเสียที่ผมดันรู้ทัน

         “หมอนี่ร้ายชะมัด”

         “ถ้าไม่รีบทำก็ลงไปจะนอน” หมอพูดเสียงดังดูมีน้ำโห

         “หมอนับ 1 2 3 เลย”

         หมอสบตาผมนิ่งแล้วเริ่มนับ “1 2 3”

         “โอ้ย”

         หมอร้องลั่นจิกหนังศีรษะผมอย่างจนหน้าหงาย ดีว่าผมประคองตัวทันไม่งั้นโดนพลิกแน่

         “1 2 3 เริ่มสิโว้ย ไม่ใช่ 1 2 3 แทง”

         ผมหัวเราะร่วนก่อนจะจูบหน้าผากหมอเบาๆ “ไม่นับแล้วเสียเวลา เอาจริงเลย”

         “ไอ้เหี้ย”

         ผมโอบประคองหมอเอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับกดจูบที่หน้าอกข้างซ้ายตรงหัวใจอีกฝ่าย และพร่ำบอกหมอว่าหมอไม่ต้องกังวลใดๆ หรอก เพราะผมบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าตั้งแต่วันที่หมออยู่ในสายตาของผม ผมไม่มีทางมองเลยหมอไป ความรู้สึกของผมตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไป หมอที่ผมเจอในวันแรกกับหมอที่อยู่ในอ้อมกอดผมเป็นเจ้าของไข้ของผมแล้ว


        หมอเป็นของผมแล้ว

        เราเป็นเจ้าของกันและกัน



         จริงๆ แล้วการพบเจอของคนสองคนก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ บางครั้งก็พบเจอรู้จักเพื่อที่จะจากลาไป บางครั้งความรู้สึกก็นำพาให้ข้องเกี่ยวกันจนเกิดเป็นความรัก ผมไม่รู้ว่ากาลเวลาจะทำให้เรื่องราวเปลี่ยนไปหรือเปล่า ผมรู้แค่ว่าวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้รับความรักดีๆ ของหมอ

        “ผมรักหมอครับ”

        “แต่กูเกลียดมึง โอ้ย”



         ผมบอกหมอแล้วว่าผมอ่ะ “หลงกาว(น์)” และผมตอนนี้ผมก็หลงหมอที่สุด หมอปายของผมแม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ ผมหอมหน้าผากหมอแล้วก้มลงไปกระซิบข้างหูหมอว่า ‘เป็นแฟนผมแม่งโคตรดี เอวสี่จีซอยก็ถี่แถมยังชอบเบิ้ล’




- END -







บทส่งท้ายแล้วนะคะ สุดท้ายก็สามารถอดทนฝ่าฝันมาจนถึงตอนนี้ 5555++++
ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจที่มีให้กันมาตลอด  :hao5: :sad4:
หลงกาว(น์) เริ่มเขียนตอนกำลังเริ่มทำทีสีสลากยาวมาจนกระทั่งเรียนจบ (ยาวนานมาก)
เรียกได้ว่าเป็นการเขียนที่ผลุบๆโผล่ๆมาตลอด หายไปนานๆจนรู้สึกท้อต่อไม่ติด
แต่ต้องขอบคุณนักอ่านที่รอคอยกัน ให้กำลังใจกัน ทำให้มีวันนี้จนได้ ขอบคุณจริงๆนะคะ
แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่ะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 17-01-2017 21:42:52
เขาได้กันแล้วว
 :heaven :hao5:เราจะรอติดตามเรื่องต่อไป
 :katai5: :katai5:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 17-01-2017 22:07:05
เป็นนิยายอีกเรื่องที่เข้าลิสต์นิยายในดวงใจของผมเลย ขอบคุณมากครับ

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-01-2017 22:13:27
ยิมตลกตลอดเวลาอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-01-2017 22:21:44
สโลแกนนายสุดยอดมากยิม 55555555 o13 o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-01-2017 22:27:02
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 17-01-2017 22:48:10
จบละ :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 17-01-2017 22:51:44
จบแล้ววว. ดีงาม

สนุกมากครับ

ขอบคุณคนแต่งด้วยนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-01-2017 22:54:48
 :3123: :3123: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 17-01-2017 23:01:22
น่าร้ากกกก ครั้งหน้าหมอสนใจออนท็อปบ้างมั้ยคะ 5555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-01-2017 23:08:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 18-01-2017 00:03:20
จบแล้ว ดีใจด้วยย  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-01-2017 01:05:46
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 18-01-2017 01:09:12
หมอต้องเอาคืน จิงงง เชื่อดิ 55555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 18-01-2017 01:15:35
สโลแกนสุดท้ายนี่ตลก หมอได้ยินคงฟาดอีกที 555555 กวนมาก  :m20:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 18-01-2017 01:41:49
ขอบคุณมากค่าา
ยิมมันกวนตีนจนหยดสุดท้ายจริงๆ 555
งี้หมอเหนื่อยตาย คิคิ อดทนไว้นะหมอออ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 18-01-2017 06:32:59
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:จบแล้วคงคิดถึงหมอปายกับยิมไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-01-2017 08:11:29
จบแล้ว สนุกมากๆเลย~
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: asakurafy ที่ 18-01-2017 17:13:35
 :impress2: 555+ ยิมเกือบหลงกลล่ะ
จบแล้วก็แอบเสียดาย แต่ไม่เป็นไรเรื่องต่อไปเราก็จะตามนะ
จริงๆอยากให้มีตอนของเนมกับโอ๊คอีกก็ดีนะ อั้มกับหยกด้วย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: munoy ที่ 18-01-2017 18:11:29
ยิม ปายน่ารักกกก สุดท้ายก็ได้กัน    :-[ :-[

เรื่องนี้สนุก น่ารัก ลุ้นตลอดเรื่องเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆน้าาาา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 18-01-2017 19:07:52
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-01-2017 21:04:19
เป็นเรื่องราวแบบอบอุ่นดีนะ
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Imagine_chic ที่ 19-01-2017 10:16:27
จบแล้วววว
หมั่นไส้ยิมมาก อยากให้นางโดนกดบ้าง :hao3:
ชอบพล็อตและการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้มาก
แต่มีคำผิดหรือเขียนสลับกันเยอะมาก
ถ้าแก้ไขตรงนี้ได้เราว่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆเรื่องนึงเลย
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้และรอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 19-01-2017 21:57:36
5555 จบได้น่ารักมากกกค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ZeeKiN ที่ 19-01-2017 22:16:26
อ่านรวดเดียวจบ ค่าาาา.รอสเป 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 20-01-2017 04:07:13
555 ขำสโลแกรนนางจริงๆ
ต่อไปพี่หมอคงได้เจอถี่แน่ๆ >„<
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-01-2017 21:40:18
หมอปายยยยย รับรองไม่เหงา ไม่เปลี่ยวแน่  5555
ยิมชอบแบบนี้ก็ไม่บอก เร็ว แรง ถี่ แถมไม่มีให้สัญญาณ รับรองฉลุยย

น่ารักมากเลยค่ะ เค้ามีโมเมนท์ดูแลกัน มีย้ายเข้าห้องหอ
ที่สำคัญเค้าเปิดเผยค่ะ ดีต่อใจจริงๆ

จบจริงๆแล้วใช่ไหมคะ คิดถึงแย่เลย มาต่ออีกก็ได้นะคะ 5555



หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 21-01-2017 08:17:32
น่ารักอะ ขอบคุณคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: missyaoi ที่ 21-01-2017 13:30:51
ดีต่อใจจริงๆ ค่ะเรื่องนี้ ขอติด #หลงกาว(น์) ด้วยคน  o13 o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 21-01-2017 19:22:02
ในที่สุดดดด หมอปายก้ไม่รอด5555
เกลียดสโลแกนยิมมากอะ
บ่งบอกเกินไปมั้ยเธอออว์
จบแล้ววน่ารักมากค่ะ ยังไม่อยากให้จบเลย
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 22-01-2017 14:49:49
หมอน่าร๊ากกกกกก น่ารักไปไหนนนนนน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-01-2017 02:22:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: heyguy ที่ 23-01-2017 21:05:05
เกลียดสโลแกนอิน้องยิม 5555555555 ขอตอนพิเศษจ้าบๆหมอปายจับกด เอาให้สี่จีซอยถี่ไม่เป็นไปสักพัก หมั่นใส้
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ รอเรื่องต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: chuagporz ที่ 24-01-2017 03:30:58
โอย~ ในที่สุดก็ได้กัน เย่!!!!!!!!!!
สโลแกนนี้ชัวร์หรือมั่วนิ่มรบกวนหมอปายรีวิวด้วยค่ะ 555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 24-01-2017 14:21:53
โอ้ยยยยย หมอไม่เอวเคล็ดให้มันรู้ไป
เอ้อออ น่ารักมากๆเลย
อยากได้ตอนที่หมออยู่พ่อกับน้องปออ่ะค่ะ
คิดถึงความอบอุ่นนั้น
เลิ้บๆเลย  หมอกับนิเทศงานดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: หลงลำดวน ที่ 24-01-2017 20:29:56
อ่านไปท่านี้ไป 5555  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: kokilolylove ที่ 02-02-2017 01:33:30
ฟินนนนนน อะจึกๆ  :oo1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 02-02-2017 19:39:42
ยิมมีความกวนตีน และทนมือทนตีนหมอปายได้ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Tatangth ที่ 12-02-2017 14:31:41
ยิมหมาหื่น 5555555555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 15-02-2017 17:53:32
ขอบคุณนะครับสำหรับนิยายเรื่องนี้
สนุกดีครับ อ่านเพลินๆ

ขอบคุณผู้แต่งสำหรับนิยายนะครับ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 17-02-2017 01:24:21
เขินหนักมากจริง ๆ ชอบการบรรยายไม่สะดุดเลย แก้ปมเคลียร์มาก น้องปอน่ารัก ขี้อ้อนจริงๆ อยากได้ตอนพิเศษอีก 2 คู่จังเลยค่ะ จะติดตามอ่านเรื่องอื่น ๆ นะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายที่น่ารักละมุนละไมเรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 17-02-2017 13:55:16
สนุกมากกก
อ่านรวดเดียวเลย ชอบหมอปายมากกกกก
เป็นเรื่องที่ฟีลกู๊ดสุด ขอบคุณนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงสุดท้าย : ก้าวต่อไป [END] ll 17/01/60 ll P.24
เริ่มหัวข้อโดย: skysky ที่ 19-02-2017 20:33:25
ชอบเรื่องนี้ ชอบความรักของทั้งคู่ค่ะ หมอปาย กับ หมายิม :)
เราได้รับความรู้สึกดีๆหลายๆอย่างจากเรื่องนี้ ขอบคุณนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 05-03-2017 22:50:08
 :mew1: :mew1: :mew1:
 :katai5: :katai5: :katai5:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-03-2017 00:27:28
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-03-2017 00:52:28
 :L2: :L1: :pig4:

หมอปราย หมายิม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 06-03-2017 07:47:03
รอเล่มไม่ไหวล้าววววววว
น่ารักมากจริงๆ อยากเห็นมุมสวีทคู่นี้เลย

คนเป็นแฟนหมอ เป็นเพื่อนหรือครอบครัวหมอ
ก็ต้องเข้าใจกันแบบนี้ล่ะ

หมอปายหนักแน่นเข้าไว้
หมายิมไม่ไปมองใครหรอก
เค้ารักของเค้า เนอะยิม :')
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-03-2017 08:30:31
ยิมออกจะรักหมอขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-03-2017 21:39:13
พี่หมอปายน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-03-2017 21:56:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-03-2017 22:05:00
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 07-03-2017 03:50:42
น่ารักว่ะ ชอบ รักกันดีกว่าทะเลาะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 07-03-2017 13:22:21
น่ารักทั้งคู่เลยครับ ยิมก็น่ารัก หมอปายก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 07-03-2017 21:19:17
 :L1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 07-03-2017 21:47:28
สโลแกนนี่คิดได้ยังไง ฮ่าาาา่
สงสารหมอปายเลย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 09-03-2017 07:30:53
เพื่อนก็ช่างแกล้ง ดีที่ไม่เป็นเรื่องใหญ่ ว่าแต่พ่อของยิมไปเจอพ่อของหมอปายยังเนี่ย เห็นเป็นเพื่อนกันนิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-03-2017 21:40:57
ใจจะวาย ดีใจมากค่ะ คิดถึงยิมหมอปาย

หมอคะ เป็นคนคิดมากนะ นอยด์ง่ายด้วยเนาะ แถมปากแข็งเสมอต้นด้วย แต่ก็ยังน่ารัก
ยิมอบอุ่น ดูแลหมอดีมากเลย เข้าใจหมอ พูดอะไรที หมอก็ยอมไปล่วงหน้าแล้ว มีความหวานเสมอปลาย

น่ารักมากเลยค่ะ หมอนอยด์ฟรีเลยนะ แต่ถ้าหึงก็บอกกัน ไม่งั้นไม่เสียแค่จูบนะ 5555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 09-03-2017 22:04:40
รักสุดดดด
ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆมาให้อ่าน . :katai2-1: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 09-03-2017 22:09:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 12-03-2017 20:50:38
Thanks for the best story
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-03-2017 08:19:45
อมยิ้มแก้มพองงง มีความดีงาม
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 13-03-2017 10:05:12
หูยยยยยยยยยยยยยยยยยย สนุกมาก แมนๆ ได้กันเอง 5555555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 13-03-2017 10:46:45
อ๋อยยย น่ารักอะไรเบอร์นี้
แต่ชอบสโลแกนมากกกกก 5555+
ปล. จะรอติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆ นะคะ
เป็นกำลังใจให้จ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: tepzakiku ที่ 15-03-2017 11:14:47
เป็นเรื่องที่ละมุนมากกคะ สนุกมากกกกกกก ขอบคุณนักเขียนที่แต่งนิยายดีๆออกมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 15-03-2017 11:36:09
เพื่อนตัวดีทั้งหลาย ชอบสร้างปัญหาให้จริ้งๆๆๆๆๆๆ

แต่ยิมก็ชอบเลย เห็นปายหึง ใช่มะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-03-2017 14:26:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 15-03-2017 21:03:12
ยิมโคตรโง่ เรื่องอื่นฉลาดนัก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 18-03-2017 13:15:59
น่ารักมากค่ะ อบอุ่นนนน ยิมกับหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 24-03-2017 22:36:27
แอร๊ยยยย น่ารักอ่ะ
ชอบ ผช แบบยิมจังดูอบอุ่น
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: white feather ที่ 25-03-2017 15:04:23
น่ารักกกกกกกกก
หลงกาวน์สะแล้วสิ
ขอหมอปายได้ไหมค่ะยิม
5555555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 02-04-2017 13:55:06
หมอน่ารัก :man1: :L1: :L1:
ไม่แปลกที่อิยิมจะหลงขนาดนี้ :z1:
ขอบคุณค่าาาาา :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 02-04-2017 20:35:51
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Kkookai ที่ 03-05-2017 11:02:32
กรีดร้อง...ดีงามมากๆๆๆ  #หลงกาว(น์)
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 19-05-2017 21:59:52
น่ารักอะ รักหมอ ห่ามดีแท้  สุดท้ายหมอก็แพ้เด็กอิอิ
แต่เด็กมันก็น่ารัก. ดีๆชอบ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 20-05-2017 23:53:18
โอ๊ย อ่านละปวดกราม  :mew3:
อมยิ้มทั้งเรื่องจริงๆ ดราม่าพอหอมปาก
//หอมปากที่ว่าก็แอบน้ำตาซึม 555555
สรุปคือรักนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: pangham301 ที่ 17-06-2017 14:01:05
 :mew1: :mew1: :mew1:
อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากเลยค่ะ >.<
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 21-06-2017 17:11:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 23-06-2017 09:01:38
ยิม คืออบอุ่นมากกก เลยเผื่อแผ่ความอบอุ่นมาให้คนอื่นๆด้วย

และที่ชอบสุด คือครอบครัวของยิม ดีมากกกก
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: zaferianight ที่ 04-07-2017 10:09:58
ยิมจัดการยัยถั่วเน่าก่อนที เริ่มรำคาญหนักมากและ ป้อหมอแต่ลืมว่ามีแฟน ไม่อยากให้หมอเสียใจจจจจจจ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: sb_ng ที่ 04-07-2017 23:26:24
เคยอ่านค้างไว้เมื่อนานมากแล้วตั้งแต่มีไม่กี่ตอน ตอนนี้กลับมาอ่านใหม่แล้วค่ะ อ่านจบเรียบร้อย สนุกกกกค่ะ มีทั้งความน่ารัก ดราม่า อบอุ่น ปมต่างๆก็เคลียร์ได้ เช่น เรื่องแม่และพ่อหมอปาย เรื่องเมษา ไม่รู้สึกติดขัดอะไร ตัวละครนี่ก็ชอบทั้งยิมทั้งหมอปายเลย น่ารักทั้งคู่ ดีทั้งคู่
ยิมคือปัจจุบันที่ควรรักษาไว้จริงๆ ดีงามมาก หมายิม(ของหมอปาย)น่ารักมากจริงๆ แต่หมันไส้สโลแกนเอวสี่จี 555555555 ครอบครัวยิมก็น่ารักอบอุ่น จนเผื่อแผ่ความรักไปถึงหมอปายเลย ยิมผู้คืนความสุขและรอยยิ้มให้หมอปาย
เวลาเป็นฉากหมอปายกับพ่อ จะรู้สึกอึดอัดอยู่ตลอด แต่พอเจอตอนที่พ่อบอกว่าไม่ได้จะไล่แล้วหมอปายไปกอด เป็นจุดที่ทำให้ความอึดอัดระหว่างพ่อลูกหายไปเยอะเลยจริงๆ คุณพ่อแค่พูดไม่เก่ง พูดจาไม่หวานเท่านั้นเองเนอะ
โอ๊คเนมก็น่ารัก โชคดีที่กลุ่มนี้สมหวังกันหมดเลย แม้เนมจะผิดหวังก่อน แต่สุดท้ายก็แฮปปี้กันทุกฝ่ายเนอะ ส่วนกลุ่มหมอปาย นี่เชียร์อั้มหยกตั้งแต่แรกๆ จนอ่านจบก็ยังคงเชียร์อั้มหยกค่ะ 555555
อาจจะเพราะสงสารหมอหยกตั้งแต่แรกๆด้วย เลยอยากให้หมอหยกสมหวัง แต่กลุ่มนี้คือชื่นชมทุกคนมากๆเลย ที่ยังรักษาความเป็นเพื่อนกันได้แม้จะมีเรื่องราว ชอบการวางตัวของหมอปายที่มีต่อเพื่อนด้วย เป็นคนกลางที่แบบ ฮือออดีจังงงง
หมอปายมีความน่ารัก เวลาอยู่กับคนเด็กกว่าหรือกับน้องนี่แบบ น่ารักกกกก
รวมๆแล้วคือไม่แปลกที่ยิมจะหลงกาว(น์)อ่ะเนอะ เพราะนี่ก็หลงกาว(น์)ไปด้วยเหมือนกันจ้าาา 5555555

ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ  เป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปค่าา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Pine_apple ที่ 17-07-2017 17:23:20
 :L2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 26-07-2017 09:53:39
สนุกมากกก หมอปายน่ารัก
หมายิมดีน่าาา แต่สโลแกนแรงไปนิด.ฮ่าา
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: Napa ที่ 28-07-2017 12:39:17
สนุกค่ะ  หมายิมกับหมอปาย
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: FRXNKP ที่ 05-08-2017 15:23:15
มันดีมากเลย;_____;
ครบรสที่แท้ทรู
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-09-2017 18:17:56
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 17-09-2017 21:20:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 20-09-2017 22:46:57
หมอปายท่าทางจะหล่อและมีฟอร์มมาก แต่พออยู่กับยิม หมอปายโคตรน่ารักเลย! ชอบครอบครัวของยิมที่คุยและปรึกษากันได้ทุกเรื่อง อบอุ่นและเป็นครอบครัวตัวอย่างที่สุด น้องปอก็น่ารักมากเหมือนกัน มาทีไรแย่งซีนทุกที 5555 อยากอ่านคู่โอ๊คเนมมากเลยค่ะ จะมีตอนพิเศษอีกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 22-09-2017 01:50:02
ขอบคุณสำหรับนิยาย สนุกมากครับต  o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjunsu ที่ 26-09-2017 11:45:53
5555 หมายิมนี่มันแน่จริงๆ ชนะใจหมอจนได้ยอมใจจริงๆ
ดูแลหมอไปนานๆนะลูกหมา
คิดถึงน้องปอจังเลยค่ะลูก น้องน่ารักมากกก ตอนรับโทรศัพท์นี่ยิ่งน่ารัก "สวัสดีจ้า" โอ๊ยหลงน้องปอ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 04-10-2017 22:03:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 25-10-2017 12:39:49
น่ารักเกินไปแล้ว ตอนแรกคิดว่ายิมจะรับเสียยอีก 555555
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 31-10-2017 22:22:39
น่ารักทั้งคู่เป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: silasa ที่ 29-01-2018 20:54:26
อ่านไปอ่านมาเลยหลงตามเค้าไปด้วยอีกคน..
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 08-02-2018 06:54:56
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องยกมือขึ้นปิดจมูกตลอดเวลา.... เห็นฟามรัก :o8:

 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 04-06-2018 09:30:07
น่ารัก  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 06-06-2018 08:27:13
 :mew4: เค้าจีบกันน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-06-2018 12:51:26
ดีต่อใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 27-06-2018 06:33:59
ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 16-07-2018 16:31:26
ฟินตรงท้าย  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-07-2018 10:15:36
สนุกมากกกกกกก //ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ ของหมอปาย - น้องยิมนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงพิเศษ ll 5/03/60 ll P.25 >>UP
เริ่มหัวข้อโดย: c4jeab ที่ 28-10-2018 20:24:25
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 25-03-2019 02:17:37
 :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kazamaki ที่ 31-03-2019 10:43:24
ขอบคุณค่ะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 03-04-2019 07:54:08
 o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 05-09-2019 16:09:12
ยิมเป็นคนที่คิดดีมากเลยอ่ะ #แต่ดันแอบนอกใจแฟนนะ 55555 ส่วนหมอปายก็ซึนมากเลยค่ะ น่ารักกกก  :hao3:
มีพี่หมอเอิ้นแซมๆให้มาในเรื่องนิสนุงด้วย

ปล. อยากอ่านตอนคู่โอ๊คกะเนมจังงง "ไม่รู้รักกันอิท่าไหน เดินเป๋มาเรียนทุกวันเลย" 55555  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: nishihimitsu ที่ 07-09-2019 13:24:54
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ มีคำผิดอยู่บ้างประปรายนะคะ เเต่ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสเลยค่ะ สนุกมากๆ สงสารหมอปายในระดับนึงเลย เเต่โชคดีเเล้วที่ยิมเข้ามาในชีวิตหมอปลาย


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlyoil231 ที่ 07-09-2019 21:38:58
หมอปายยยยยย

Sent from my CPH1723 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 09-09-2019 23:42:53
สนุก..มีครบทุกบทบาท
น่ารักทุกคู่เลยยยย...
รอคอยตอนพิเศษต่อไป.. :mew1:
ขอบคุณนักเขียน. จากใจนักอ่าน
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 04-04-2020 20:33:03
2วันจบ น่าอ่านน่าติดตาม สนุกดีครับ ขอบคุณครับ o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: opal2606 ที่ 09-04-2020 22:39:15
...


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 10-04-2020 13:47:19
 :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 11-04-2020 23:15:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 12-04-2020 22:03:32
 o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TaddyC ที่ 17-05-2020 10:52:09
 :oo1:  อร้ายยยยยย เขาได้กันแล้ว  :oo1:  :oo1:  :oo1:   :o8: :-[ :impress2:

เป็นอีกเรื่องที่ชอบมากๆเลบคร้าบบบ  :hao7: :hao5: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueWizard ที่ 31-05-2020 08:02:35
ชอบมากเลยครับ สนุกดีครับ   o13

ชอบหมายิมที่ทะเล้นซนๆดีแต่ก็อบอุ่นเป็นที่พึ่งพาได้  ชอบหมอที่ซึนๆแม้ชอบวางฟอร์มแต่ก็พูดง่ายตรงๆแมนๆ พูดจารู้เรื่อง ไม่เยอะ.  :laugh:

ขอบคุณผู้เขียนด้วยนะครับกับเรื่องสนุกๆแบบนี้ พักผ่อนเยอะๆนะครับ จะได้มีแรงเขียนเรื่องต่อไป รออ่านเรื่องถัดไปอยู่นะครับ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 19-01-2021 20:00:56
หมอปายน่ารักอะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Eakkadoor ที่ 05-06-2021 07:23:27
ผมได้อ่าน 3 เรื่อง น่ารักสนุกทุกเรื่องเลยครับ
ชอบมาก แต่อ่านมา 3 เรื่อง
- ค่ายสร้างรัก
- ป่าหม่รัก
และเรื่องนี้ แอบติดใจเรื่อง พี่ปืนกับน้องแรกที่สุดเลยครับ
แต่สนุกทั้ง 3 เรื่องเลย
เดี๋ยวจะอ่านต่อจบครบทุกเรื่องเลยครับ
ผมไม่มั่นใจผู้เขียนชื่ออะไร แต่ขอบอกว่าเก่งมากๆเลยครับ
สนุกมากๆ ชอบมากๆครับ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Goplayz ที่ 07-07-2021 17:00:39
ชอบมากกกกกก
ปล.ขอตอนพิเศษหน่อยแบบว่าน้องบัวสอบติดย้ายมาอยู่ข้างห้องหมอ....ความป่วนกวนวายจึงบังเกิด...อะไรงี้....น่าสนุกนะ
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 22-08-2021 02:03:14
น่ารักมากๆค่ะ อ่านไปยิ้มไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥...[L+U+C+K+Y]...♥ ที่ 25-08-2021 21:32:46
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ - หลงที่ 5 : ความจริงอีกด้าน (50%) »»[31/3/59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 07-11-2021 21:04:45
แต่ผมไม่ได้นึกอิจฉาอะไรหรอกเพราะก่อนหน้านี้บิดาเคยออกปากว่าถ้ามีธุระจะใช้รถให้ไปเอารถของสถานทูตมาใช้ก่อน
รถสถานทูตคือรถของราชการ ไม่ใช่รถส่วนตัว พ่ออนุญาตแบบนี้แสดงว่าเป็นข้าราชการที่ชอบเบียดเบียนใช้ของหลวงจนเคยชิน
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 10-11-2021 00:42:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
เริ่มหัวข้อโดย: SeventeenCarat ที่ 30-01-2022 15:34:28
ดีงามเรื่องนี้

น้องยิมน่ารักจัง รักมั่นคงดี

หมอก็น่ารักขึ้นเรื่อยๆ 

 o13