พิมพ์หน้านี้ - "All of Me"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-04-2015 08:29:57

หัวข้อ: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-04-2015 08:29:57
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
********

"All of Me" ตอนที่ 1

แม้จะสวมเสื้อคลุมสีหม่น เนื้อผ้าหนาหนัก แต่ก็ยังเห็นได้ชัดเจนว่าคนที่เดินอยู่ตามลำพังบนถนนที่มุ่งสู่เขตเมืองหลวงมีรูปร่างผอมบาง มือหนึ่งถือห่อผ้าลักษณะยาวบ่งบอกว่าคือดาบ ส่วนอีกมือกระชับห่อผ้าสัมภาระ
รถม้าสินค้าแล่นผ่าน คนขับรถม้าใจดีจอดถามว่า กำลังเดินทางไปที่เมืองหลวงใช่หรือไม่ คนที่กำลังเดินอยู่ตอบรับ แล้วกระโดดขึ้นนั่งข้างกัน กล่าวขอบคุณขณะที่เปิดผ้าคลุมศีรษะออก เพื่อแสดงความสุภาพของการเป็นผู้โดยสาร ทำให้เส้นผมสีอ่อนพลิ้วไหว
“มาจากไหนล่ะ”
“มาจากหมู่บ้านแถวหุบเขา” เสียงตอบแผ่วเบา
“จะมาหางานทำในค่ายทหาร หรือจะไปสมัครงานกับพวกพ่อค้าล่ะ” ดวงตาของคนขับรถม้ามองห่อผ้าในมือ
“ค่ายทหาร” ดวงตาสีเขียวใสดูแปลกตา ฉายความไม่มั่นใจ แต่คนขับรถม้าสนับสนุน
“เจ้าใช้ดาบได้ แล้วใช้เวทย์ได้ไหม”
“ก็...นิดหน่อย”
“ลองดู” คนขับรถม้าบอก “เจ้าต้องแสดงฝีมือให้เต็มที่นะ มีคนพูดกันมากว่า พวกเมืองเหนือจะยกทัพมาบุกเรา เรากำลังต้องการคนมีฝีมือมาก”

อาณาจักรวัน หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าเมืองวัน มีพื้นที่กว้างขวางประกอบไปด้วยเมืองและหมู่บ้านเล็กๆ หลายแห่ง เป็นห้วงเวลาที่ผู้ใช้เวทย์ คือผู้ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับการช่วงชิงความได้เปรียบในการทำศึก และเพื่อลดความสูญเสีย
“ไม่มีใครชอบสงคราม ต่างคนต่างค้าขายกันก็น่าจะเพียงพอแล้ว” คนขับรถม้าสินค้าบอก

เมืองวันมีอาณาเขตติดต่อกับทะเลจึงมีความมั่งคั่ง แต่มีข้อห้ามใช้เวทย์ดำอย่างเด็ดขาด 
เมืองเหนือคือเมืองที่มีผู้ใช้เวทย์ดำ และต้องการยึดครองเมืองวันเพื่อหาทางออกทะเล
และเมืองบาสก์ เมืองทหารที่ปกครองด้วยความเข้มงวด แม้จะมีพื้นที่ติดต่อกับทะเล แต่ก็ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนักทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นหน้าผาและโขดหิน แม้จะพอทำการประมงได้ แต่หากเป็นการค้าทางทะเลยังต้องพึ่งพิงท่าเรือเมืองวันเป็นหลัก ทั้งหมดกดดันให้เมืองบาสก์ต้องยึดครองสถานะความเป็นกลาง เนื่องเพราะการที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับ 2 เมืองที่ต่อสู้กันมานานย่อมมิใช่เรื่องง่าย
ในการเดินทาง และติดต่อค้าขาย ต้องเดินทางผ่านประตูเมืองหน้าด่านที่เป็นไปตามหลักของข้อตกลง แต่อาณาเขตกว้างใหญ่ ยังต้องแบ่งกั้นด้วยภูมิศาสตร์ ทั้งแม่น้ำ หน้าผาสูงชัน และเวทย์คุ้มกัน
ตลอดจนแนวกันชนระหว่าง 3 เมือง ที่มีแต่เพียงพ่อค้าต่างเมืองเดินทางผ่าน จึงเป็นที่ตั้งของกลุ่มชนเผ่าอิสระ กับ หมู่บ้านโจร!

เมืองหลวงของเมืองวันมีพื้นที่กว้างใหญ่  แบ่งกลุ่มชุมชนไปตามชื่อของถนนในเมือง
จากถนนที่ทอดเข้าสู่ตัวเมือง คือบ้านที่ปลูกอยู่ห่างกันท่ามกลางทุ่งนาแล้วลดระยะห่างลงเรื่อยๆ
ด้านหนึ่งของเมืองหลวงติดทะเล แหล่งค้าขายสำคัญ
ด้านหนึ่งคือค่ายทหาร ใกล้กันคือวังของพระราชา
และอีกด้านหนึ่งคือชุมชนและทุ่งนา
คูคลองขนาดเล็กรับน้ำจากภูเขาสูงปันน้ำไปทั่วเมือง และรองรับน้ำทะเลในยามที่น้ำขึ้น
บ้านเรือนที่นี่จึงปลูกสูงกว่าถนน
 
คนขับรถม้าชี้ไปทางตะวันออก “ค่ายของแม่ทัพเชมัลอยู่ทางตะวันออก ตอนนี้บ่ายจัดแล้ว ถ้าเจ้าจะไปหางานทำ ต้องไปตอนพรุ่งนี้เช้า ตอนที่เขาออกมาฝึกทหาร จะมีหนุ่มๆ จากหมู่บ้านอื่นมาสมัครเป็นทหารตอนนั้นด้วย บางคนมาทดสอบตั้งหลายครั้งยังไม่ได้”
คนขับรถม้าชวนคุยต่อ “เจ้าเคยมาเมืองหลวงไหม”
“เคยมากับพ่อ เอาของมาส่งที่ตลาดนอกเมือง บางครั้งก็ขายเอง”
“งั้นก็ดี เจ้าน่าจะรู้จักถนนหนทางในเมืองอยู่บ้าง แล้วรู้เรื่องของพระราชาฟารัค กับแม่ทัพเชมัลอยู่บ้างไหม”
“ก็พอรู้อยู่บ้าง”
“เป็นพี่น้องที่รักกันมากนะ” คนขับรถม้าเล่าเรื่องของพระราชากับแม่ทัพ “แต่เพราะการที่รอบตัวแม่ทัพมีแต่คนที่เชี่ยวชาญทั้งอาวุธ และเวทย์ มันก็ทำให้มีความระแวง ว่ากันว่าที่แม่ทัพยังไม่แต่งงาน ก็เพราะคำสาบานไว้ว่าจะไม่มีทายาทสืบสกุล เพื่อไม่ให้เกิดความระแวงเรื่องชิงบัลลังก์จากพระราชา”
คนในชุดสีหม่นรับฟังเรื่องราว จนกระทั่งคนขับรถม้าส่งให้ลงเมื่อเข้าสู่เขตชานเมือง และจะต้องแยกไปทางตลาดส่งสินค้า
“ขอให้โชคดี”

จากที่ยืนอยู่ตรงนี้ ยังนับว่าห่างจากเขตรั้ว และวังของพระราชา แต่นั่นยังไม่ใช่เป้าหมายในการเดินทางมาเมืองหลวงในครั้งนี้
คนรูปร่างผอมโปร่ง ดึงผ้าขึ้นคลุมศีรษะอีกครั้ง แล้วเดินไปทางค่ายทหารทางฝั่งตะวันออก พ้นจากจากกลุ่มบ้านเรือน คือตลาดเล็กๆ ที่มีลูกค้าหลักคือทหาร ถัดจากนั้นจึงเป็นคอกม้า และลานดิน คั่นด้วยลำคลองคดเคี้ยว แล้วจึงเป็นส่วนที่ใช้ฝึกอาวุธ และโรงนอนปลูกเรียงเป็นแถวยาว ต่อให้ยืนอยู่บนสะพาน ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีเรือนหลังใดที่น่าจะเป็นที่รับสมัครทหารใหม่ 
คนรูปร่างโปร่งบางเดินกลับเข้าไปในเขตหมู่บ้านถามหาที่พัก หญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านชี้ให้ไปหาแม่เฒ่า ที่ย่านถนนผัก นางมีห้องพักสะอาดและปลอดภัยกว่าห้องพักใกล้ค่ายทหาร เมื่อเดินไปตามทางที่มีคนชี้บอก ระหว่างทางพบเห็นขอทานนั่งอยู่ แม้เบื้องหน้าจะมีชามแตกใส่เศษเหรียญ แต่ลักษณะบางอย่างกลับดูคุ้นเคย จนต้องแวะพักสั่งบะหมี่จากแผงข้างทาง ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ 2 คนกอดไหล่กันเดินตัวเอียงสวนมา เดาได้ว่ากำลังจะไปทางค่ายทหาร กลิ่นเหล้าคลุ้ง แต่ชาวเมืองที่พบเห็นกลับหัวเราะ ดูคุ้นเคยกับคนเมาเป็นอย่างดี ขอทานที่อยู่ห่างไกลออกไป เปิดผ้าคลุมหน้าเพื่อมองคนเมาที่กำลังเดินมาหา คนสูงโปร่งวางเงิน แล้วเดินตามคนเมา ดวงตาคมกริบกลับมองผ่านไปถึงขอทาน ทั้งขยับห่อผ้าในมือ
คนเมาเดินผ่านขอทานไป แต่คนสูงโปร่งหยุดยืนอยู่ที่ข้างหน้า
“ครั้งต่อไปที่ข้าเห็นเจ้า เจ้าจะไม่เหลือตาไว้มอง ไม่เหลือหูไว้ให้ได้ยินอีก”
ขอทานผู้นั้น เหลือบมองห่อผ้าในมือของคนกล่าวคำขู่แล้วยอมล่าถอยออกไป
ใจนั้นอยากกลับไปหาที่พักของคืนนี้ แต่คนสูงโปร่งกลับเดินตามขี้เมาคู่นั้นไปเรื่อย จนเห็นว่าทั้งคู่เดินเข้าไปในเขตค่ายทหาร
นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาของานทำจริงๆ ควรมาใหม่ตั้งแต่ตอนเช้า
 
“เฮ้” ชายสวมชุดสีเทาเรียกจากซุ้มเหล้าทางขวามือ ขณะที่เดินเข้ามาหา “มา 2 รอบแล้วนี่ไอ้ตัวเล็ก”
ชายผู้นี้รูปร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง ดวงตาคมเข้ม ริมฝีปากได้รูปสวย เป็นใบหน้าที่ต่อให้เพียงมองผ่าน แต่จะจดจำได้ตลอดไป หากเมื่อกล่าวคำเรียก –ไอ้ตัวเล็ก- ดวงตาคู่นั้นกลับมีแววของความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
...ยินดีอันใด ดั่งพวกเราเคยพบกันมาก่อนเช่นนั้น เราคุ้นเคยกันมากพอที่จะกล่าวเรียกผู้อื่นเช่นนั้นหรือไร!
ดังนั้น ดวงตาสีแปลกของคนที่ถูกเรียกจึงเปล่งประกายแปลกๆ
“ไม่ชอบให้เรียกตัวเล็กหรือ งั้นเจ้าชื่ออะไร”
“อาเม่ย”
....เม่ยเป็นชื่อของสตรี ทั้งยังเป็นชื่อของน้องสาวคนเล็กด้วย....แต่เจ้าตัวเล็กนี่ดูก้ำกึ่งระหว่างหญิงกับชาย....

“เสี่ยวเม่ย” อีกฝ่ายเปลี่ยนชื่อเรียกด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์ขบขัน เมื่ออีกคนยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม “ใกล้ค่ำแล้ว หนีแม่มาเที่ยวใกล้ค่ายทหารไม่ดีนะ กลับบ้านได้แล้ว”
“ข้าไม่ได้หนีแม่มาเที่ยว ข้าต้องการเป็นทหาร”
“เป็นอะไรนะ” อีกฝ่ายยังไม่เลิกล้อเลียน
“เป็นทหาร”
“ดาบนั่น ขโมยของใครมาถือไว้ เอาไปคืนเขาเสีย” ไม่ใช่แค่กล่าวคำ แต่มือใหญ่ยังโบกไล่
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายชอบล้อเลียน อาเม่ยจึงตอบโต้คำล้อเลียนด้วยการมองมานิ่งๆ
รูปร่างผอมบาง เส้นผมสีเงิน คิ้วเรียวยาว ดวงตาสีแปลก กับริมฝีปากเชิด บ่งบอกถึงความดื้อรั้น
ต่อให้ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังทำให้คนที่กำลังกล่าวคำล้อเลียนไม่อาจละสายตา

“ข้าไม่รับเด็กน้อยเป็นทหาร แต่ถ้าเจ้าอยากเป็นทหารก็ต้องเอาชนะข้าให้ได้”
“ท่านเป็นใคร”
คนผู้นั้นไม่ตอบ แต่กลับเดินข้ามสะพานตรงไปที่ลานฝึกด้านหน้าโรงนอนหลังหนึ่ง คนที่นั่งอยู่ที่ซุ้มเหล้าพากันเดินตามมาด้วย
“จะใช้ดาบของเจ้าหรือเลือกเอาจากที่วางไว้ก็ได้”
อาวุธที่วางอยู่ล้วนแต่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน แต่อาเม่ยส่ายหน้า บอกว่าต้องการใช้ดาบที่ถือมา ถึงตอนนี้ อากาศเริ่มเย็นลง ทหารที่อยู่ภายในโรงนอน และที่ออกไปข้างนอก เริ่มทยอยกลับมา จับกลุ่มดูผู้ที่กำลังเตรียมต่อสู้

“พร้อมเมื่อไหร่ก็มาได้เลย เสี่ยวเม่ย”
สิ้นคำว่าเสี่ยวเม่ย ดาบเล่มบางก็ออกจากฝัก เพลงดาบที่ดุดันผิดรูปร่างหน้าตา คนรูปร่างสูงใหญ่ตั้งรับอย่างรัดกุมด้วยมือเปล่า ไม่มีท่าทีว่าจะตอบโต้ ยิ่งนานเพลงดาบยิ่งดุดันกว่าเดิม คนตัวโตสะบัดฝ่ามือ ส่งให้อาเม่ยล่าถอยไป 5 ก้าว
“แสดงเวทย์ของเจ้ามา”
อาเม่ยกวาดตามองผู้คนรายรอบที่มองดูการต่อสู้ แล้วก้าวถอยห่างคู่ต่อสู้ออกมาอีก สอดดาบคืนฝัก แล้วหมุนดาบช้าๆ
ไอความร้อนแผ่กระจายจากดาบ ตรงมาหาอีกฝ่ายแล้วแผ่เป็นวงล้อม คู่ต่อสู้เพียงแค่พลิกฝ่ามือ ไฟก็ดับลง!
 
“ซัน” คนที่ถูกเรียก รูปร่างอ้วนใหญ่ รีบวิ่งออกมาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม
“ในที่สุดข้าก็พบพรรคพวกคนเล่นไฟอีกคนหนึ่งแล้ว” องครักษ์ซันกล่าวพลางกางแขนโอบกอดอาเม่ยแน่นๆ 
“พาไปบ้านพักองครักษ์ แล้วค่ำนี้ค่อยคุยกัน” คนตัวโตออกคำสั่ง องครักษ์ซันก็รีบโอบไหล่อาเม่ยพาไปตามคำสั่ง
“ข้าได้เป็นองครักษ์หรือ”
องครักษ์ซันหัวเราะ “แน่ละสิ คนเล่นไฟจะเป็นอะไรได้นอกจากองครักษ์”
“แต่เขาดับไฟของข้าได้ง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามือเองนะ” อาเม่ยไม่เข้าใจ
คนอ้วนใหญ่ เขย่าไหล่ของอาเม่ย “ท่านแม่ทัพบอกอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ”
“เฮ้! เดี๋ยวนะ ท่านแม่ทัพหรือ นั่นคือท่านแม่ทัพเชมัลหรือ” อาเม่ยทำตาโต คนท่าทางอวดดีคนนั้นคือแม่ทัพ คือพระอนุชาของพระราชาฟารัคงั้นหรือ “เขาไม่ได้อยู่ในเขตวังหรือไง”

….พระอนุชาเมืองไหนกัน นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่แผงขายเหล้าหน้าค่ายทหาร

“เจ้านี่มีคำถามมากมาย ไว้ข้าจะค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟังก็แล้วกัน” องครักษ์ซันเดินนำอาเม่ยไปทางกลุ่มที่พัก

ที่ด้านหลัง ชายหนุ่มอีกคนก้าวเข้ามายืนเคียงข้างกับแม่ทัพเชมัล มองตามหลังคนที่กำลังเดินห่างออกไป
“เจ้าคิดว่าเป็นอะไร” แม่ทัพถามโดยที่ไม่ได้หันมามองอีกฝ่าย
“น่าจะเป็นน้ำ” แม่ทัพไม่เห็นด้วย อีกฝ่ายเลยต้องบอกเหตุผล “คนที่แสดงไฟเพื่อเจตนาตบตาคู่ต่อสู้ มักจะมีเวทย์ที่แท้จริงตรงข้ามกับที่แสดง”
ยังเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยน่าเห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่การตั้งคำถาม และค้นหาความจริงของสมาชิกใหม่ ก็น่าสนุกดีไม่น้อย
แม่ทัพหันไปหาชายหนุ่มอีกคนที่มีรูปร่างโปร่งบาง ผมสีเข้มถักเปียยาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อย
“เก้า เจ้าคิดว่าเป็นอะไร”
ผู้ที่ถูกเรียกว่าเก้าตอบเบาๆ “ลมครับ”
“เอาอะไรมาคิดว่าเขาใช้เวทย์ลม...” ยังไม่ทันที่คนสูงโปร่งจะพูดจบประโยค แม่ทัพก็ขัดขึ้น
“ใกล้ค่ำแล้ว กลับบ้านไปหาเมียเถิด ฮูดา”
คนที่ชื่อฮูดา มีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมเข้ม แต่ดวงตาคมตวัดมององครักษ์เก้าอย่างไม่พอใจ แล้วหันกลับมาหาแม่ทัพ
“หากท่านต้องการให้ข้าอยู่เป็นเพื่อน...”
“กลับบ้านไปหาเมียของเจ้าเถิด”

เมื่อองครักษ์ฮูดาแยกกลับไป เช่นเดียวกับกลุ่มทหารที่มีครอบครัวแล้ว องครักษ์เก้ากับทหารอีก 4 คนเดินตามแม่ทัพเชมัลกลับมาจนถึงตึกที่พักขององครักษ์
โรงนอนของทหารส่วนอื่น เป็นโรงนอนขนาดใหญ่ แต่ที่พักส่วนนี้เป็นบ้านพักภายในมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยชัดเจน

องครักษ์ซันเดินนำอาเม่ยเข้าไปในบ้าน แล้วชี้บอกให้ถอดเสื้อคลุมแขวนไว้
“ส่วนอาวุธ เจ้าจะเอาไปนอนกอดก็ได้” คนอ้วนใหญ่พูดขำๆ แล้วกลายเป็นสีหน้าลำบากใจ เมื่ออาเม่ยถอดเสื้อคลุมสีหม่นแขวนไว้ที่ข้างประตู

กลุ่มที่เดินตามเข้ามาก็มีสีหน้าแปลกพอกัน
“เจ้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” องครักษ์ซันถาม
เป็นอีกครั้งที่ดวงตาสีแปลกบอกว่าไม่พอใจ มือผอมๆ ชี้ไปที่ลำคอ
“ลูกกระเดือกชัดขนาดนี้ จะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร หรือจะให้ถอดเสื้อ”
อาเม่ยขยับจะแก้สายรัดเอว แต่แม่ทัพเชมัลเข้ามาคว้าข้อมือไว้ อีกมือดันคางให้เงยหน้าขึ้น

...ก็ผู้ชาย แต่เวลานี้ทุกคนกลับรู้สึกลำบากใจ หากต้องอยู่ในบ้านพักหลังเดียวกันกับองครักษ์ชายคนอื่นๆ

“ท่านรับข้าไว้ในกองทัพแล้วนะ” อาเม่ยจ้องหน้าเชิงบังคับ เมื่อเห็นทุกคนหันไปมองหน้ากัน

“มันก็ใช่” แม่ทัพยอมรับ นึกถึงคำถามที่จะช่วยลดความตึงเครียดจากบรรยากาศแบบนี้ “เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว”
“19”
มีทหารหลายคนเข้ากองทัพด้วยอายุเท่านี้ แต่ทุกคนล้วนรูปร่างสูงใหญ่
“อ้อ....ที่แท้ก็เพราะว่ายังโตไม่เต็มที่นี่เอง” ในที่สุดแม่ทัพก็หาเหตุผลที่ช่วยลดความไม่สบายใจนี้ลง
หลายคนในกลุ่มองครักษ์ถอนหายใจยาว
“ต้องบอกพ่อครัวให้เพิ่มอาหารให้สมาชิกล่าสุดของเรา” องครักษ์ซันบอกแล้วแนะนำสมาชิกกลุ่มองครักษ์

(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-04-2015 08:37:54
(ต่อ)

“แม่ทัพเชมัล” องครักษ์ซันแนะนำคนที่ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือ “เจ้านายสายตรงของพวกเรา”
“พี่ใหญ่รอม” องครักษ์ซันชี้ไปที่คนที่ใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ “อาวุโสสุดในกลุ่มเรา”
“ข้าคือพี่รอง ส่วนนั่นคือ พี่สามแซน” คนตัวอ้วนใหญ่ทำเสียงล้อเลียนเมื่อเรียกพี่สาม คนผู้นี้รูปร่างสูง “แซนมันเป็นพวกเล่นน้ำ ส่วนเจ้ากับข้า เป็นพวกเล่นไฟ”
“เก้า” คนนี้ใช้ธนู “อาวุธที่เขาถืออยู่มีความรุนแรงเป็นพิเศษ แนะนำว่าอย่าไปแตะมัน” องครักษ์เก้าที่มักก้มหน้ามองพื้น เงยหน้าขึ้นมายิ้มรับคำแนะนำด้วยรอยยิ้มสว่าง
“ตง” คนผู้นี้ตัวสูงกว่าอาเม่ยเพียงคืบเดียว ใช้ดาบคู่เป็นอาวุธ “ผู้นี้ถือดาบคู่ก็จริง แต่ดาบไม่น่ากลัวเท่ากับเพลงที่ตงร้องเพราะมันคือเพลงสังหาร”
“โป” คนผู้นี้มีมีดเล่มเล็กเพียงเล่มเดียวเหน็บอยู่ข้างเอว “โปนิสัยไม่ค่อยดี ชอบเล่นมีด แล้วก็ขี้อวด”
อาเม่ยหันไปทำหน้าตาสงสัยกับผู้ที่ทำหน้าที่แนะนำทุกคน นิ้วมืออ้วนกลมจึงชี้ให้หันมามองคนที่ถูกระบุว่า ขี้อวด
องครักษ์โปดึงมีดจากเอว เพียงแค่กรีดมือ มีดเล็กก็เพิ่มจำนวน จากนั้นโยนขึ้นไปกลางอากาศ มีดเล่มเล็กกระจัดกระจาย แล้วกลับมารวมเป็นเล่มเดียวเหมือนเดิม เมื่ออยู่ในมือ
“ขี้อวดระดับเทพ” องครักษ์ซันสรุป ขณะที่องครักษ์โปยิ้มรับอย่างภาคภูมิใจ
“ยังมีอีกคนชื่อฮูดา” องครักษ์ซันยิ้มกว้าง “เขาเป็นพี่สี่ เพิ่งแต่งงานไป เลยต้องออกไปอยู่ข้างนอก เจ้าใช้ที่พักของฮูดาก็น่าจะได้”

“ห้องเดียวกับข้า” องครักษ์ตงบอก
“ดี” พี่ใหญ่รอมพูด “ตัวเล็ก 2 คนอยู่ห้องเดียวกัน จะได้ชวนกันกินอาหารมากๆ ออกกำลังกายมากๆ”
เมื่อพี่ใหญ่รอมกล่าวคำ ความรู้สึกลำบากใจว่าจะปฏิบัติกับอาเม่ยอย่างไรก็สลายไป กลายเป็นความรู้สึกว่า อาเม่ยคือน้องชายคนเล็กของกลุ่ม
นี่คือพลังเยียวยารักษาขององครักษ์รอม พี่ใหญ่ของกลุ่ม ผู้มีพลังเวทย์เป็นรองก็เพียงแต่แม่ทัพเชมัลเท่านั้น
 
และทั้งที่แม่ทัพเชมัลเป็นหัวหน้า และรอมเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม แต่องครักษ์ซันกลับเป็นเหมือนศูนย์กลาง เพราะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในค่ายทหารแห่งนี้

“ทั้งค่ายคือคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ถ้าจะไปหาผู้หญิง ก็ต้องอยู่ข้างนอกนั่น ห้ามพาเข้ามา ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ มีประจำอยู่ที่บ้านแต่ละหลัง แต่ไปกินข้าวที่โรงครัว” องครักษ์ซันชี้ไปข้างนอก ที่อาเม่ยก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนอ้วนใหญ่ชี้ไปที่ไหน “แต่ถ้าอยากกินอาหารข้างนอกก็ออกไปกินได้ ส่วนโรงฝึก” เป็นอีกครั้งที่องครักษ์ซันชี้ไปทางไหนก็ไม่รู้ “อยากไปฝึกเมื่อไหร่ก็ไปได้”

คนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้น ด้วยรู้ดีว่า ผู้มาใหม่ไม่เข้าใจทิศทางที่คนอ้วนใหญ่บอก  “ไว้จะพาไปดู”
อาเม่ยหันไปมองถึงได้รู้ตัว ว่าถูกอีกฝ่ายมองอยู่ และรู้ความสงสัยที่อยู่ในใจ
“เดินฟังซันมันคุย จนไม่ได้สังเกตอะไรเลยแน่ๆ” พี่สามแซนคนเล่นน้ำพูดขึ้น
“เออใช่ แล้วกินอะไรหรือยัง” องครักษ์ซันถามอย่างกระตือรือร้น
อาเม่ยคิดถึงบะหมี่ที่กินไปไม่ถึงครึ่งชาม เสียงท้องก็ร้องเตือน จนใบหน้าร้อนผ่าว

“แบบนี้แสดงว่าอิ่มมาก” คนที่ยืนอยู่ข้างๆ กล่าวแล้วดึงมือให้เดินตามออกมา “ไปดูที่โรงอาหารก่อนก็แล้วกัน”
โรงอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่พัก หัวหน้าคนครัวเป็นชายชราท่าทางเข้มงวด หันมามองกลุ่มคนที่เดินเข้ามา
“ค่ำแล้วจะกินอะไรกันอีก”
“ก็อยากกินอีก” องครักษ์ซันพูดพลางยิ้มอารมณ์ดี “วันนี้เรามีสมาชิกใหม่มา รบกวนท่านลุงดาจัดหาให้พวกเราอีกสักมื้อ”
พ่อครัวมีสีหน้าท่าทางไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็หันไปพยักหน้าบอกผู้ช่วยให้ลุกไปเด็ดผัก เตรียมอาหาร

เมื่อแม่ทัพปล่อยมือ แล้วเดินไปนั่งหัวโต๊ะ อาเม่ยถึงได้รู้ว่า แม่ทัพกับองครักษ์นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน
เมื่อองครักษ์รอมที่มีอาวุโสสูงสุดนั่งทางขวามือของแม่ทัพ ทุกคนที่เหลือก็นั่งเรียงตามลำดับอาวุโส ดังนั้น คนตัวเล็ก 2 คนจึงนั่งอยู่ข้างกันที่ปลายโต๊ะ ส่วนคนที่อยู่ตรงข้ามกับอาเม่ยคือองครักษ์โป
“เจ้าฝึกการใช้ดาบจากใคร” องครักษ์ตงผู้ใช้ดาบคู่เป็นอาวุธถามขึ้น
“จากอาจารย์ดาบในหมู่บ้าน”
“อายุมากหรือยัง”
อาเม่ยคิดก่อนตอบ “ตอนนี้ก็สัก 70 ได้แล้ว”
องครักษ์ตงพยักหน้ารับรู้ “คนอายุ 70 ที่ใช้เพลงดาบแบบที่เจ้าใช้ มีอยู่ไม่กี่คน”
สมาชิกใหม่มองมือตัวเอง ไม่ได้บอกว่าอาจารย์คือใคร
องครักษ์เก้าผู้ใช้ธนูที่ไม่ค่อยพูดถามบ้าง “แล้วคนที่สอนเจ้าใช้ไฟ เป็นคนเดียวกับที่สอนดาบหรือไม่”
“คนละคนกัน” อาเม่ยบอก “เขาสอนให้ใช้ไฟ เพราะมันมีประโยชน์มากกว่าอย่างอื่น”
องครักษ์แซนคนเล่นน้ำ ส่งเสียงท้วง “ใช้น้ำก็ดีนะ”
“ใช้ไฟมีประโยชน์มากกว่าจริงๆ” องครักษ์ตงเห็นด้วย “แต่ไม่ว่าจะเวทย์ใด สำคัญคือต้องควบคุมให้ดีทั้งนั้น”
“ข้าคิดอยู่แล้วว่าเจ้าต้องเป็นคนเล่นไฟ” องครักษ์ซันบอกมาจากทางหัวโต๊ะ “เพราะเจ้ามีกลิ่นควันไฟติดตัวเหมือนข้า”

ขณะที่หลายคนส่งเสียงเห็นด้วย มีเพียงองครักษ์เก้าที่ส่ายหน้าเล็กน้อยคล้ายไม่เห็นด้วย แต่ไม่ได้กล่าวคำ
ส่วนแม่ทัพเชมัลเพียงมองท่าทีของสมาชิกใหม่ด้วยความสงสัย

ผู้ช่วยในครัวทยอยวางอาหารจานผักก่อน ตามมาด้วยแกง แล้วถึงเป็นจานเนื้อ
แม้จะเป็นมื้อค่ำ และต่างก็กินมื้อเย็นกันมาแล้ว แต่เมื่อมีอาหารวางอยู่ตรงหน้า ทุกคนต่างก็เร่งตักอาหารเข้าปาก จนคนที่หิวที่สุดอย่างอาเม่ยต้องงุนงง

“หิวกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่รู้ว่ากระเพาะอาหารทำด้วยอะไร” ลุงดาพ่อครัวบ่น แต่ไม่วายหันไปยกถาดผลไม้วางรอไว้ที่โต๊ะข้างๆ
อาเม่ยหันไปมอง พ่อครัวก็ดุ “ทำไมไม่กิน”
คนตัวเล็กรีบคว้าน่องไก่ใส่ปากเคี้ยวคำใหญ่
“เออ ดี รีบๆ กินแล้วก็รีบๆ ออกไปจากครัวกันสักที” พ่อครัวยืนกอดอกมอง แล้วคอยบังคับให้กินอาหารทุกจานที่วางอยู่
“ไม่ชอบกินผักหรือไง แกงจืดนั่นเพิ่งปรุงใหม่เมื่อบ่ายนะ กินสิ ผัดหมี่นั่นก็รสดีนะ.....”


เมื่อเดินกลับมาที่บ้านพัก องครักษ์ตงหันมาถาม “อิ่มไหม”
“อิ่มสิ อิ่มอย่างที่ไม่เคยอิ่มมาก่อนเลย” อาเม่ยบอกตามตรง
องครักษ์โปคนเล่นมีดบอกขึ้น “พ่อครัวดา แกดุก็จริงแต่ถ้าหิวเมื่อไหร่ก็มาหาแกได้นะ”
องครักษ์ซันหันมาหัวเราะ “แต่ถ้าสั่งว่าอยากกินนั่นกินนี่ละก็ จะได้ตรงข้ามทุกที”
อาเม่ยหันมาหาตงที่กำลังกลายเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่ม
องครักษ์ตงเลยอธิบายต่อ “อย่างถ้าเจ้าบอกว่าอยากกินบะหมี่ เจ้าจะได้กินข้าวผัด อยากกินผัดผักจะได้เนื้อทอด”
“งั้นบอกแค่ว่าหิวก็พอ” อาเม่ยสรุป

เมื่อเดินเข้ามาใกล้ที่พัก อาเม่ยมองผ่านไปที่บ้านพักอีกหลังริมน้ำ
บ้านไม้ 2 ชั้นขนาดไม่ใหญ่นัก แสงไฟจากบ้านและริมฝั่งที่สะท้อนเป็นเงาในสายน้ำทำให้บ้านหลังนี้ทั้งสวยงาม และลึกลับ
“บ้านท่านแม่ทัพ” องครักษ์ตงบอก
“อ้อ...” อาเม่ยหันไปมองเจ้าของบ้านที่กำลังมองมา
การถูกมองอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องแปลก
แปลกที่คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยพูดคุยกันมากนัก มักจะมองอย่างเงียบๆ แล้วตัดสินจากการกระทำ

มีเสียงควบม้าเข้ามาใกล้
คนที่ควบม้าเข้ามา รายงานทันทีที่ลงจากหลังม้า
“พบกลุ่มโจรทางเหนือ”
แม่ทัพพยักหน้า แล้วหันไปหาผู้อาวุโสสูงสุดของกลุ่ม “รอม”

องครักษ์รอมคนใช้ดาบใหญ่รับคำสั่ง แล้วตรงไปที่โรงม้า ออกเดินทางในทันที
นอกจากรอมแล้วยังมีทหารอีกกลุ่มหนึ่งตามไปด้วย
ทั้งหมดมีจำนวนไม่ถึง 20 คน
แต่ทั้งหมดคือคนที่พร้อมที่จะออกเดินทาง และทำงานในทันที

ฟังจากที่ทุกคนคุยกันแสดงให้เห็นว่า กลุ่มโจรนี้ อาจไม่ได้เป็นกลุ่มโจรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กันชนระหว่าง 3 เมือง แต่เป็นกลุ่มโจรที่ก่อเหตุร้ายอยู่ในเขตเมืองวันนี้เอง

“แซนกับโปไปดูทางชายฝั่ง” แม่ทัพสั่งงานแล้ว บอกให้องครักษ์ตง องครักษ์เก้า และองครักษ์ซันไปดูที่ประตูเมืองอีกด้าน
อาเม่ยหันมามองเพื่อรอฟังคำสั่ง แต่คนสั่งงานกลับเดินไปที่บ้านพักริมน้ำของตนเอง
“แล้วข้าล่ะ” คนตัวเล็กถาม
“อยากไปที่ไหนล่ะ”

.....จะไปรู้ได้อย่างไรว่าต้องไปตรวจความเรียบร้อยที่ไหน เพิ่งมายังไม่ถึงวัน...

“กองเมืองเขาดูแลอยู่แล้ว เราก็แค่ไปดูๆ แล้วเดี๋ยวก็กลับมานอน”
อาเม่ยเดินตามอีกคนเข้ามาถึงข้างในบ้านที่เป็นระเบียบเรียบร้อย
“บ้านสวยมาก”
อีกคนหันมายิ้มมุมปาก
“จริงๆ นะบ้านท่านสวยมาก”
“บ้านเจ้าล่ะ”
“บ้านข้า” อาเม่ยนึก เดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ “เปิดประตูเข้ามา ก็เป็นยกพื้น เป็นครัว แล้วก็เป็นห้องนอนแล้ว ไม่มีอะไรแบบนี้หรอก” มือผอมๆ ชี้ไปรอบๆ “แล้วก็ไม่สะอาดแบบนี้ด้วย”
“อยากย้ายมาบ้านนี้ไหม”
คนตัวเล็กทำหน้าตาแปลกๆ “ไม่ละ ข้าเป็นลูกน้องไม่ควรทำตัวเสมอเจ้านาย” พูดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ “ขออภัย ที่ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นแม่ทัพ”
แม่ทัพโบกมือไม่สนใจ “เจ้าก็แค่ทำให้ข้าเสียความมั่นใจไปนิดหน่อยเท่านั้น”
“จริงหรือ” อาเม่ยไม่ค่อยเชื่อ “ตอนที่เจอที่หน้าค่าย ท่านก็ดูเป็นทหารนะ แต่ไม่น่าจะใช่แม่ทัพ ถึงตอนนี้ก็ไม่น่าจะใช่”
“อะไรกัน” อีกฝ่ายยิ่งพูด ก็ยิ่งทำให้ต้องพิจารณาตนเอง “ข้าน่ะออกจะแข็งแรงขนาดนี้”
“เรื่องนั้นไม่เถียงหรอก แต่แม่ทัพควรดูภูมิฐานกว่านี้ไม่ใช่หรือไง”
อีกคนยืดตัวขึ้น “ในที่นี้ ข้ายอมเป็นรองเรื่องภูมิฐานก็แต่พระราชาเท่านั้น”
“ข้าเคยเจอพระราชา” อาเม่ยร้องขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง “เคยเห็นห่างๆ ตอนเอาของมาส่งกับพ่อ พระราชาหล่อมาก”
“เฮ้...ข้าก็...”
“พระราชาหล่อมาก พ่อข้าก็บอกเหมือนกัน ว่าพระราชาปกครองเมืองนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย เก่งมากด้วยทั้งเวทย์ ทั้งยุทธ์”
“เฮ้....”
“เมืองวันกว้างใหญ่ มีหมู่บ้านเล็กๆ มากมายอยู่ในปกครอง คนดีมีฝีมือมากมายภักดีแบบนี้ พระราชาก็ต้องเก่งอยู่แล้ว”

...ชมพี่ชายก็ดีอยู่หรอกนะ แต่มันขัดหู ชวนให้หงุดหงิด...

“อิจฉาละสิ” อาเม่ยชี้ แล้วหัวเราะ

...เจ้าคนนี้ บอกว่าไม่อยากตีเสมอเจ้านาย แต่ที่พูดออกมาแต่ละคำ เหมือนเราเป็นเพื่อนเล่น...
จะพระราชาหรือกับพระอนุชาที่เป็นแม่ทัพคนนี้ ก็ไม่มีราชาศัพท์แม้แต่คำเดียว!

“เออใช่” นึกออกอีกเรื่อง “ยังมีองครักษ์อีกคนที่ข้ายังไม่ได้เจอเขา”
“เจ้าเจอฮูดาแล้ว”

....เปลี่ยนเรื่องเสียที....

อาเม่ยนึกทบทวน “ตอนที่ท่านทดสอบข้าน่ะหรือ”
“เจ้าเดินตามเขากลับมาที่ค่าย”
“เขาเป็นขี้เมาคู่นั้นหรือ แล้วอีกคนล่ะ”
“อีกคนคือหัวหน้ากองมู่”
อาเม่ยเกาต้นคอตนเอง ตระหนักดีว่าควรจำทุกคนในค่ายทหารให้ได้ แต่ทุกคนก็ล้วนสวมเครื่องแบบคล้ายกัน แยกแยะได้ยาก  “ผู้คนเยอะแยะ จำไม่ได้หรอก”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็พบกันเพราะเขาต้องมาฝึกเช้า แล้วก็ไปเฝ้าพระราชา”
“อ้อใช่ เขาเพิ่งแต่งงาน” จู่ๆ คนช่างคุยก็หยุดมองหน้าแม่ทัพ “ท่านมีอะไรพิเศษกับเขาหรือเปล่า”
“พิเศษอะไร คำถามอันใดของเจ้า”
“ท่านกับฮูดาชอบผู้หญิงคนเดียวกันหรือเปล่า”
แม่ทัพถึงกับหัวเราะเสียงดัง “เจ้านี่มัน! ฮูดาแต่งงานก็ออกไปอยู่กับครอบครัว มันเป็นเรื่องสามัญ”
“เพราะตั้งแต่ซันแนะนำว่า ยังมีฮูดาอยู่อีกคน ก็ไม่มีใครเล่าเรื่องของเขาเลยน่ะสิ”

แม่ทัพเชมัลมีสีหน้าบ่งบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ “การที่พวกเขากำลังสนใจเรื่องของเจ้า มากกว่าเพื่อนที่มีครอบครัวแล้วเป็นเรื่องสามัญ”
“ท่านต่างหากที่พูดจาพิกล”
“พิกลอะไร”
“ท่านพูดเหมือนพวกเขาคิดว่าข้าพิเศษ”
“มีของเล่นใหม่เข้ามา ก็ต้องสนใจเป็นเรื่องสามัญ”
“สามัญอีกแล้ว มีอะไรที่ไม่สามัญบ้าง”
“ทุกอย่างเป็นเรื่องสามัญ” แม่ทัพบอก

....แต่การฆ่าเวลาด้วยการคุยไร้สาระ กับเจ้าคนนี้ ไม่ใช่เรื่องสามัญ....

ดวงตาสีแปลกมองซ้ายขวาก่อนถามต่อ “มีเรื่องหนึ่ง ที่อยากรู้ว่ามันเป็นเรื่องสามัญหรือไม่”
แม่ทัพพยักหน้าให้ถาม “ว่ากันว่าคนในเมืองหลวง ไม่ถือสาเรื่อง....ชายหญิง”
แม่ทัพกอดอก
....เจ้าคนนี้ก็ไม่ใช่เด็กแล้ว....

“คนต่างจิตใจ ถึงทั่วไปจะไม่ถือสา แต่ต้องมีความรับผิดชอบ หลักกฎหมายของที่นี่คือความรับผิดชอบ”
อาเม่ยใช้ปลายนิ้วเคาะที่ขมับ “รวมถึงเรื่องที่ว่าก่อนจะแต่งงาน.....”
“นั่นมันเรื่องเหลวไหล” แม่ทัพรู้ว่า อาเม่ยหมายถึงเรื่องอะไร “ไม่ถือสาเรื่องชายหญิงก็คือ ไม่ว่าเขาจะเป็นหญิงหรือชาย หากพวกเขาพอใจกันและกัน แล้วจะหลับนอนด้วยกัน หรือแยกไปอยู่ด้วยกัน มันก็เป็นเรื่องสามัญ แต่ไอ้เรื่องที่เจ้าได้ยินมา มันเป็นเรื่องเหลวไหล”
ดวงตาสีแปลก จ้องมองอย่างตั้งใจ
“เรื่องที่ว่า ก่อนแต่งงาน เราจะจัดงานเพื่อที่จะสมสู่กันแบบสัตว์แบบนั้นมันเป็นเรื่องเหลวไหล”
แม่ทัพพูดเน้นคำ “นั่นเป็นข่าวลือที่พวกฝ่ายเหนือใช้ เพื่อให้พวกเราดูต่ำต้อยและป่าเถื่อน”

อาเม่ยหน้าแดงจัดด้วยความละอาย “ข้าได้ยินเรื่องนี้ ที่ถามก็เพราะว่าตอนที่จะมาเมืองหลวง มีคนบอกว่า ในเมืองหลวง ต่อให้เป็นผู้ชายก็ใช่ว่าจะปลอดภัย”

มือใหญ่จับศีรษะเล็กๆ โยก “ไม่รู้ก็ถาม แต่ข่าวลือแบบนี้ มันทำให้เกิดความรู้สึกดูหมิ่นกันอย่างรุนแรง”
“ใช่” อาเม่ยยอมรับ “พอบอกว่าฮูดาเพิ่งแต่งงานออกไป ข้าก็เลย.....” พูดแล้วก็ต้องหลบตาด้วยความละอาย “ขอโทษที่คิดว่าพวกท่านเป็นแบบนั้น”

“ก็คงเหมือนที่ข้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้หญิง แล้วเจ้าไม่พอใจ”
“จะพูดถึงอีกทำไมให้อารมณ์ไม่ดีนะ” สีหน้าชัดเจนว่าไม่พอใจ
“ก็เหมือนที่อยู่ดีๆ เจ้าก็ถามเรื่องนั้นให้ข้าไม่พอใจ”
“ท่านขี้อิจฉา”
“เจ้าตัวเล็ก ขี้โมโห”
อาเม่ยผุดลุกขึ้น “คนตัวใหญ่ แต่ขี้อิจฉา ชอบออกคำสั่ง!”
“ไอ้ตัวเล็ก ไอ้ๆๆๆๆ..”
“ขี้อิจฉา ๆๆๆๆๆๆ..”

ประตูบ้านเปิดออก องครักษ์โป กับองครักษ์ตงที่กลับมาก่อนก้าวเข้ามา
“คุยอะไรกัน ท่าทางสนุก” องครักษ์ตงถาม
“ทะเลาะกันต่างหาก” อาเม่ยบอก
2 คนที่เพิ่งเข้ามาหันมามองหน้ากัน แล้วส่ายหน้า
“แม่ทัพทะเลาะกับใครไม่เป็นหรอก”

นี่คือแม่ทัพเชมัล พระอนุชาของพระราชาฟารัค ผู้ปกครองเมืองวัน ควบคุมทหารองครักษ์ และกองทัพ อำนาจหน้าที่ยิ่งใหญ่ปานนี้ แม้จะมีช่วงเวลาที่แสดงความเป็นกันเองกับลูกน้องใกล้ชิด แต่ไม่ใช่ผู้ที่จะต่อปากต่อคำกับผู้ใดแน่นอน!

องครักษ์ซันเดินเข้ามาอีกคน “อันใดกัน ผู้ใดทะเลาะกัน”
“เม่ยบอกว่า ทะเลาะกับแม่ทัพ”
องครักษ์ซันก็เป็นอีกคนที่ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่ไม่ปล่อยให้อาเม่ยแก้ไขความเข้าใจผิด “ม้าเร็วจากแม่ทัพนาซิม แจ้งข่าวยืนยัน เกิดเหตุร้ายที่กลุ่มบ้านช่างเหล็กทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่มีใครรอด คนร้ายยังบุกไปวางเพลิงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างกันนัก”
ข่าวนี้มีพ่อค้าต่างเมืองนำมาบอกเล่าตั้งแต่ช่วงสาย แต่ไม่มีการยืนยัน จนกระทั่งมีม้าเร็วแจ้งข่าว
องครักษ์โปหันไปถามองครักษ์ซัน “บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้อยู่ในกลุ่มบ้านช่างเหล็กหรือ”
“ไม่” องครักษ์ซันบอก “บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ในกลุ่มบ้านเหมืองที่อยู่ถัดออกมา เป็นกลุ่มบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 100 หลัง ส่วนกลุ่มบ้านช่างเหล็กมีอยู่ประมาณ 20 หลัง”
องครักษ์โปหันไปมองหน้าตง “20 หลังหากถูกสังหารทั้งหมดก็นับว่าจำนวนไม่น้อยเลยนะ”
องครักษ์ตงช่วยตั้งข้อสังเกตต่อ “สังหารทั้งหมู่บ้าน แล้วบุกข้ามไปก่อเหตุที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอีกหรือ แสดงว่าคนร้ายก่อเหตุแบบเจาะจงมากเลยนะ”
องครักษ์ซันหันมารายงานลำดับเหตุการณ์ต่อแม่ทัพเชมัล “มีคนจากกลุ่มบ้านเหมือง ที่ตั้งของบ้านหัวหน้าหมู่บ้านไปแจ้งแม่ทัพทางเหนือ ทางแม่ทัพจึงส่งม้าเร็วมาหาเรา”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันเรื่องเหตุร้ายในหมู่บ้านห่างไกล องครักษ์โปก็หันไปมองด้านนอก “แซนกับเก้ายังไม่กลับมา”
แม่ทัพสั่งให้องครักษ์แซนกับองครักษ์โป ไปดูที่ท่าเรือ แต่เมื่อไปถึงทั้งคู่แยกกันตรวจตรา แต่องครักษ์โปกลับมาก่อน
“ถ้าแซนกลับมาถึงแล้วเก้ายังไม่มาค่อยออกไปดู”
แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คนกลับมาพร้อมกัน
“ไปแวะดื่มเหล้าที่ไหนมา” องครักษ์ซันถามเสียงดัง

“พวกคนงานท่าเรือทะเลาะกัน เลยเสียเวลา” องครักษ์แซนบอก พลางชักศอกใส่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ “กลับมาเจอเจ้าคนนี้เพิ่งออกมาจากบ้านแม่หญิง”
ทุกคนพากันหัวเราะ เว้นแต่แม่ทัพที่กอดอกนิ่ง
“ถ้าจะออกไปค้างข้างนอกก็บอก ช่วงนี้พวกเมืองเหนือกำลังเคลื่อนไหว”

องครักษ์เก้าก้มหน้ากล่าวขออภัย เพราะไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะไปหาคนรัก เพียงแต่เมื่อเสร็จงานแล้วเดินทางผ่านจึงแวะทักทายเท่านั้น
จากนั้นแม่ทัพเชมัลจึงบอกให้ทุกคนกลับไปพักผ่อน

“ไอ้ตัวเล็ก”
อาเม่ยที่กำลังจะเดินออกไปหันมาทันที
ส่วนองครักษ์ตงที่เป็นคนตัวเล็กอีกคน แต่แม่ทัพไม่เคยเรียกแบบนี้ หันมาเหมือนกัน แล้วก็เข้าใจ เพราะแม่ทัพชี้ไปที่คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
“เดินทางมาทั้งวัน อาบน้ำก่อนนอนเสียด้วย ไม่อย่างนั้นตงมันคงนอนไม่หลับเพราะมีคนตัวเหม็นร่วมห้อง แล้วอย่านอนตื่นสายล่ะ”
“ท่านต่างหากที่ตัวเหม็น” อาเม่ยเถียง แล้วรีบเดินนำออกมาจากบ้าน โดยมีเสียงหัวเราะก้องตามหลังมา

“แม่ทัพอะไรไม่รู้ ปากเสีย” อาเม่ยบ่น

องครักษ์ตงมองแม่ทัพแล้วมองอาเม่ยสลับกันไปมา
แม่ทัพเชมัลที่แสนจะเข้มงวด กำลังพูดเล่นกันองครักษ์คนใหม่! บอกไปผู้ใดจะเชื่อ!

…จบตอนที่ 1....

(http://image.free.in.th/v/2013/ia/150527024428.jpg) (http://picture.in.th/id/c78de615ce8811de8eef2099f5aa3b62)

สวัสดีครับ เราคือ jivetea ครับ รบกวนฝากอ่านเรื่องใหม่ของเราด้วยนะครับ
ตอนที่ 2 จะมาวันพุธที่ 8 เมษายนนี้
ขอบคุณมากครับ

  #ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3009326#msg3009326)  #ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3016230#msg3016230)  #ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3023960#msg3023960)  #ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3032739#msg3032739)  #ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3039452#msg3039452)  #ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3048082#msg3048082)  #ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3057134#msg3057134)  #ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3064945#msg3064945) #ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3072723#msg3072723) #ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3080310#msg3080310) #ตอนที่11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3087262#msg3087262) #ตอนที่12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3094823#msg3094823) #ตอนที่13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3102195#msg3102195) #ตอนที่14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3109745#msg3109745) #ตอนที่15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3117135#msg3117135) #ตอนที่16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3123443#msg3123443) #ตอนที่17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3131471#msg3131471) #ตอนที่18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3138276#msg3138276) #ตอนที่19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3145336#msg3145336) #ตอนที่20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3151492#msg3151492) #ตอนที่21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3156977#msg3156977) #ตอนที่22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3163197#msg3163197) #ตอนที่23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3168012#msg3168012) #ตอนที่24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3173608#msg3173608) #ตอนที่25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3178543#msg3178543) #ตอนที่26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3184110#msg3184110) #ตอนที่27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3190258#msg3190258) #ตอนที่28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3196207#msg3196207) #ตอนที่29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3202806#msg3202806) #ตอนที่30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3208834#msg3208834) #ตอนที่31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3214264#msg3214264) #ตอนที่32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3220827#msg3220827) #ตอนที่33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3227305#msg3227305) #ตอนที่34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3232987#msg3232987) #ตอนที่35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3239017#msg3239017) #ตอนที่36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3245207#msg3245207) #ตอนที่37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3251939#msg3251939) #ตอนที่38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3258808#msg3258808) #ตอนที่39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3263838#msg3263838) #ตอนที่40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3269333#msg3269333) #ตอนที่41 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3274952#msg3274952) #ตอนที่42 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3280994#msg3280994) #ตอนจบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3287206#msg3287206)
# ตอนพิเศษTime (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3292711#msg3292711)
#Cherish (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3298241#msg3298241)
#Just You (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3303772#msg3303772)
#Brothers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3311002#msg3311002)
#Dinner (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3360162#msg3360162)
#Vega-1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3430053#msg3430053)#Vega-2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3434757#msg3434757) #Vega-3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3440018#msg3440018) #Vega-4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3446074#msg3446074) #vega-5/1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3450440#msg3450440) #Vega5/2(จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.msg3452426#msg3452426)
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 01-04-2015 08:58:05
เอร๊ยยยย ยังไม่ได้อ่านหรือทำอันใดทั้งสิ้น
เข้ามากรี๊ดก่อนล้วนๆ 555 ก็คนมันดีใจ ^^

...................

เรื่องใหม่...แฟนตาซีได้อี๊กกกก
ท่าทางจะลึกลับซับซ้อน
แถมแก๊งนี้มีหลายคนให้จำด้วย
แว่บไปทำแผนผังส่วนตัวดีกว่า 555

ไม่น่ายาก...แต่น่าลุ้น อิอิ
ดีใจที่เห็นไจฟ์ทีกลับมานะคะ
เริ่มต้นลับสมองกันเล้ย!! ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-04-2015 09:06:14
 :L1:

แฟนตาซีซะด้วย ชอบมากกกกกค่ะ

ตามติด และติดตาม  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-04-2015 09:15:03
 :mc4:  :mc4: กรี๊ดดค่ะ ยังไม่ได้อ่านหรอกมากรี๊ดแค่เห็นชื่อคนแต่งไว้ก่อน กรี๊ดดอีกรอบเลื่อนมาเจอโอมาร์ :mew1: 5555 อ่านจบจะมาเม้นท์เนื้อเรื่องค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 01-04-2015 09:22:56
อาเม่ยน่ารักมากๆ มีความลึกลับในตัวบอกเลย ไม่ธรรมดา (เดาล้วนๆ) ดีใจทึี่เจอกันอีกนะจ๊ะ ไจฟ์ที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 01-04-2015 09:30:52
แหวกแนว ชวนติดตามอีกแล้ว
ดีที่ไม่ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน( รึเปล่า?)
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 01-04-2015 09:33:03
ชอบๆแนวนี้ ติดตามค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-04-2015 09:41:20
อาเม่ยน่ารักเนอะ :mew1: มาถึงค่ายแค่แป้บเดียว ทำให้แม่ทัพที่ไม่เคยทะเลาะกับใครทะเลาะด้วยได้

ไอ้ตัวเล็ก ทำไมถึงมาสมัครเป็นทหาร แล้วเล่นเวทย์สายไหนกันแน่นะ

อยากรู้จัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 01-04-2015 10:28:07
 o13 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 01-04-2015 11:30:53
กรี้ดดดดดดดด ตอนต่อไปอยู่ไหนคะ เอามาเสิร์ฟด่วนๆค่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 01-04-2015 11:45:29
อะไรไม่รู้ของคุณไจฟ์ที เราก็อ่านทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 01-04-2015 11:56:41
 :katai2-1: น่าหนุก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: SakeiooSakei ที่ 01-04-2015 12:30:10
ปลาบปลื้ม รอมานานในที่สุดเรื่องใหม่ก็มา
อาเหม่ย เจ้าจงเทพพพ. ใช้เวทได้5สาย8สาย
เอาให้แม่ทัพอึ้งและเสียเซลฟ์ยิ่งกว่านี้เลยเถอะ

ยินดีต้อนรับกลับมา
 :pig2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-04-2015 12:39:10
 :mc4: จุดพลุฉลองเรื่องใหม่ของคุณไจฟ์ที เป็นเรื่องแรกเลยน่ะเนึ่ยที่เป็นแฟนตาซีแบบนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 01-04-2015 12:42:16
ติดตามๆๆๆๆๆ :katai2-1:


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-04-2015 13:34:39



              อาเม่ย นี่ไม่มีความเกรงกลัวต่อท่านแม่ทัพในฐานะผู้บังคับบัญชาเลย  :hao3:  อิมเมจพระเอกนี่แบบ หล่อโฮกกกก

              หล่อมากกกกก  หล่อน่าลากกลับบ้าน :hao6:   รอตอนต่อไปนะคะ   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 01-04-2015 14:23:12
คิดถึงคุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชามาก ถึงมากที่สุด
อ่านแล้ว เดี๋ยวต้องกลับไปอ่านซ้ำ คนอ่านเริ่มชราภาพ ตัวละครออกมาเยอะมาก
อาเม่ย เกี่ยวข้องกับเหตุร้ายที่กลุ่มบ้านช่างเหล็กทางตะวันตกเฉียงเหนือหรือเปล่านะ
เพราะ องครักษ์ซันได้กลิ่นควันจากตัวอาเม่ย   
..... ทั้งหมดคือการเดา ซึ่งนิยายของคุณไจฟ์กะน้องน้ำชา  เราหน้าแตกเสมอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-04-2015 15:19:35
อาเม่ยไม่ธรรมดานะ มาวันแรกก็ได้เป็นองครักษ์แถมยังต่อปากต่อคำกับท่านแม่ทัพด้วย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 01-04-2015 15:30:40
กำลังบ่นคิดถึงและปรารภกับตัวเองว่า เมื่อไรคุณไจฟ์กับน้องทีจะนำเรื่องใหม่มาลงเล้าเป็ดอีก, ร่ำๆ จะส่งพีเอ็มไปหาแล้ว ก็ได้แต่ห้ามใจตัวเองว่า ทั้งสองคงกำลังซุ่มเขียนเรื่องใหม่ และทั้งที่คิดเช่นนั้น แต่วันนี้เปิดเข้าบอร์ดมาแล้วเจอเรื่อง All of Me หราอยู่หน้าแรก ก็ช่วยไม่ได้ต้องอุทานออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดไจฟ์ทีก็ลงนิยายเรื่องใหม่

แรกเห็นชื่อเรื่องนึกว่าเป็นเรื่องแนวฝรั่ง แต่ได้อ่านโดยรวมแล้วเข้าใจเลยว่าเป็นแฟนตาซี ซึ่งเป็นแนวหนึ่งของนิยายที่ชอบที่สุด

เรื่อง "ทั้งหมดของฉัน" นี้ อ่านเพียงประโยคเริ่มต้นก็รู้เลยว่ามันใช่ ยิ่งบรรยายว่าเสี่ยวเม่ยมีตาสีเขียว อิมเมจของเขาก็ยิ่งโผล่ผุดขึ้นมาในห้วงมโนภาพแบบชัดเจนอย่างยิ่ง กล่ินอายของแฟนตาซีและโลกจินตนาการเหนือจริงมันช่างเย้ายวน จนดิฉันกระโจนลงไปในโลกที่คุณทั้งสองสมมุติขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น

แรกแม่ทัพเชมัลออกฉาก ก็เอะใจว่าผู้ชายคนนี้เด่นในใจ แล้วก็ถูกเผงอย่างที่คิดเพราะเขากลายเป็นแม่ทัพพ่วงตำแหน่งพระอนุชาเสียด้วย (แม้ภาพในมโนสำนึกดิฉันจะไม่ตรงกับภาพประกอบที่อ้างมาก็ตามที แต่เชมัลสำหรับดิฉันก็หล่อเหลาเอาการ) ซ้ำยังมีความ "น่าดึงดูด" อยู่ในลักษณะการพูดจาปราศรัย ถ้าได้เข้าคู่กับน้องเม่ยยิ่งเคมีเข้ากันอย่างประหลาด และหวังว่าต่อไปในอนาคตจะได้คู่กัน ซ้ำเชมัลยังสาบานว่าจะไม่แต่งงาน ก็เป็นการเพิ่มพูนความหวังที่ว่า ลางทีเชมัลอาจถูกใจน้องเม่ยตั้งแต่แรกเห็น (คือครั้งก่อนหน้าที่มา เพราะเชมัลบอกว่า อาเม่ยมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง) ได้แต่หวังเช่นนั้นค่ะ

สิ่งที่ประทับใจมาก คือการสอดใส่เรื่องราวเวทย์มนต์ (ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของแฟนตาซี) ตรงนี้ทำได้อย่างแนบเนียนและเป็นธรรมชาติ ไม่ประดักประเดิดเลยจนทีเดียว ซ้ำร้ายยังเล่นกับทฤษฎีเวทย์ธาตุธรรมชาติอีก (แม้จะมีเวทย์อย่างอื่นเช่น มีดแยกร่างได้ ฯลฯ ก็ตาม) จะยังไม่ขอเดาว่าเม่ยใช้เวทย์อะไร ไว้ให้ผู้เขียนมาเฉลยเองดีกว่า

ติดใจกับกรณีฮูดา, ดิฉันว่าเขาน่าจะมีอะไร "เล็กๆ" กับแม่ทัพเชมัล แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปในทางใดกันแน่ จะเป็นเขารู้สึกฝ่ายเดียวกับแม่ทัพ หรือแม่ทัพก็เล่นด้วย แล้วมีเหตุให้เขาต้องออกไปแต่งงาน ฯลฯ มันเป็นปมที่น่าคิดมาก เพราะเมื่ออาเม่ยเข้ามาแล้วเป็นคนทำให้ "ความเป็นแม่ทัพเชมัล" เริ่มสั่นคลอน พูดจาเล่นหัวต่อปากต่อคำกับเจ้าตัวเล็กโดยผิด "สามัญ" มันก็ทำให้คิดไม่ได้ว่า นี่แม่ทัพจะตกหลุมกับความน่ารักของเสี่ยวเม่ยแล้วหรือ

อุ๊ย พล่ามมาก แต่อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้จริงๆ ชอบจนไม่รู้จะว่าอย่างไร ไจฟ์ทีมาลงเรื่องใหม่ มักจะมีอะไรให้ประหลาดใจเสมอ จะติดตามอ่านจนถึงที่สุดนะคะ ไม่ทิ้งกัน 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-04-2015 22:30:20
ดีอกดีใจมีเรื่องใหม่มาให้อ่าน

เสี่ยวเม่ยชอบพระราชา หรือว่าชมเพื่อแกล้งแม่ทัพนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 01-04-2015 23:56:50
ขอมาลงชื่อไว้ก่อนนะคะน้องชาย
คิดถึงมาก อีกไม่นานจะทวงสัญญา :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 02-04-2015 16:48:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 02-04-2015 22:28:27
กรีดร้องงงงงงงงง คุณ jivetea มาลงเรื่องใหม่แล้ว
ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่มาทันตอนแรกอ่ะ เห็นในเฟสเลยตามมาทัน อิอิ
เป็นกำลังใจให้นะคะ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: waan_warunee ที่ 03-04-2015 15:23:35
ดีใจที่กลับมานะะะะะ
หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกก
จนคิดว่าเลิกแต่งนิยายไปซะแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 03-04-2015 16:33:10
ติดตามๆ ชอบแฟนตาซีอยู่แล้ว เจอคนเขียนอีกยิ่งชอบไปใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 03-04-2015 19:35:47
ชอบค่ะ ^^ พล๊อตต่างออกไปจากเดิมมาก
แต่น่าติดตาม ... อาเม่ยกับแม่ทัพเชมัล ... รอตอนต่อไปนะคะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 03-04-2015 20:58:09
ชอบแนวนี้มาก :impress2: แต่ตัวละครเยอะสุดคงต้องใช้เวลาจำ
แต่นายเอกเหมืนจะมีอะไรๆอยู่นะตั้งแต่ขอทานคนนั้นแล้ว
แต่ไม่กล้าเดาอ่ะเพราะเดาทีไรแหกโค้งไปไกลมาก55555

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 04-04-2015 00:54:09
เมื่อไหร่จะถึงวันพุธซะทีน้ออออออออ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 04-04-2015 10:40:41
ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้ง...

นี่มันเรื่องแนวใหม่ของ JiveTea เลยนิ ช่างน่าสนใจเสียจริง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 04-04-2015 15:02:41
สองหนุ่มกลับมาแล้ว ^^
คราวนี้มาแนวแฟนตาซีปนลึกลับ ให้คนอ่านได้คาดเดาไม่ถูกกันอีกเรื่อง
ท่านแม่ทัพเชมัลตาคม ดูท่าจะมีพลังรุนแรงอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่อาเม่ยนี่สิ ข้าสงสัยในพลังของเจ้ายิ่งนัก (ลุ้นๆ ว่าจะเป็นอย่างที่คิดไว้มั้ย)   
ในเหล่าบรรดาองครักษ์แต่ละนาย ฮูดา เป็นคนที่อ่านแล้วรู้สึกถึงคลื่นใต้น้ำเลย หุหุ
รอติดตามตอนต่อไป ใครเป็นยังไง คงได้รู้กัน

ขอบคุณนะครับ
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 05-04-2015 09:24:30
เดี๋ยวตามมาอ่านะค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 05-04-2015 14:54:22
ท่านแม่ทัพสนใจตัวเล็กแล้วอ่ะสิ ไม่งันคงไม่แหย่ขนาดนี้
อารมณ์แบบ รักหรอกจึงหยอกเล่น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 06-04-2015 09:38:41
เข้ามาดัน  :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-04-2015 17:19:13
งวดนี้มาแนวแปลก แต่อ่านแล้วสนุกรอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 06-04-2015 22:59:39
สนุกมากกกกก รอติดตามจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่ 1หน้า1 (1เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 07-04-2015 09:59:05
เย้วววว
บวกและเป็ดต้อนรับเรื่องใหม่
มีวทมนตร์ให้ติดตามแบบนี้ต้องเกาะขอบจอกันเลยทีเดียว
ท่านแม่ทัพค่อดหล่ออ่ะ
อาเม่ยดวงตาสีเขียวสวยเชียว
คิดถึง doll ของ jiki chan กันเลยทีเดียว
พรุ่งนี้นะเวท-ลม
 :mew1:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 07-04-2015 14:08:00
ตอนที่ 2

ชีวิตการเป็นทหารเริ่มต้นด้วยการตื่นก่อนตะวันขึ้น แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เหมือนกับผู้อื่น จากนั้นจึงเป็นการฝึกอาวุธร่วมกับทหารคนอื่น และพบกับฮูดาองครักษ์ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่า ไม่ได้ต้องการเป็นมิตรด้วย อาเม่ยจึงเพียงกล่าวคำทักทายแล้วแยกไปฝึกอาวุธกับองครักษ์โป เสร็จแล้วก็กลับไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อจากการฝึกอาวุธ สวมเครื่องแบบองครักษ์แล้วออกมาสมทบกลุ่มเพื่อรอแม่ทัพเชมัล
ส่วนองครักษ์ฮูดาแยกกลับไปที่พัก เมื่อการฝึกซ้อมเสร็จสิ้น โดยแจ้งว่า จะไปรอที่หน้าพระราชวัง

ห้วงเวลาระหว่างการรอแม่ทัพ จึงเป็นห้วงเวลาผ่อนคลายของเหล่าองครักษ์
“ไปเฝ้าพระราชาเสร็จแล้วจะแวะหาแม่หญิงหรือเปล่า” องครักษ์ซันถามองครักษ์เก้า ที่อารมณ์ดียิ่งเมื่อตอบคำถาม “ดูเวลาก่อน”
องครักษ์โปกลับทำลายบรรยากาศ “ข้าอาจต้องไปสมทบพี่ใหญ่รอม”

องครักษ์พี่ใหญ่รอมกับทหารกลุ่มหนึ่ง ออกไปดูเหตุการณ์กลุ่มโจรป่าทางเหนือตั้งแต่เมื่อคืน
“หมู่บ้านของเจ้า อยู่ทางเหนือเหมือนพี่เก้าใช่ไหม” องครักษ์ตงหันมาถาม
อาเม่ยพยักหน้ายอมรับ แต่เมื่อไม่ได้พูดอะไรต่อ ทุกคนก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้ อย่างเรื่องขององครักษ์เก้ากับคนรักของเขา

ที่พักของเธอเป็นร้านขนมปังอยู่ที่ถนนลา ห่างจากเขตค่ายทหารไปทางใต้ไม่มากนัก ทำให้องครักษ์เก้าสามารถไปหาได้เป็นระยะ
“ไม่อยากย้ายไปอยู่ด้วยกันหรือ” อาเม่ยถาม
“ก็อยากอยู่ด้วยกันนะ แต่ว่า...” องครักษ์เก้าพูดไม่จบประโยค แล้วหันไปมองทางที่ไปที่พักของแม่ทัพ
“แต่ว่าอะไร” อาเม่ยไม่เข้าใจ 
องครักษ์ตงลดเสียงพูดคุยลง “เก้าห่วงท่านแม่ทัพน่ะ”

....ห่วงทำไม ทำไมต้องห่วง ไม่เห็นเข้าใจเลย...

“ฮูดากับเก้าเป็นผู้รับใช้ของแม่ทัพ”
เพราะวิธีการพูดขององครักษ์ตง กับท่าทางของทุกคนในกลุ่ม ทำให้อาเม่ยเข้าใจว่า คำว่ารับใช้ที่องครักษ์ตงพูดหมายความว่าอะไร
“เจ้าเป็นคนรักของแม่ทัพหรือ”
“ไม่ใช่” องครักษ์เก้าตอบทันที พลางโบกมือปฏิเสธ “แม่ทัพไม่มีคนรัก ข้ากับท่านพี่ฮูดาต่างเป็นเพียงผู้รับใช้ หากแม่ทัพต้องการก็เรียกหา”

องครักษ์ 2 คนที่มีคนรักแล้วต่างก็เป็น....ผู้รับใช้ใกล้ชิด...ของแม่ทัพ...

อาเม่ยคิดตาม “เพราะฮูดาแต่งงานออกไปแล้ว ไม่ได้รับใช้แม่ทัพแล้ว เจ้าก็เลยไม่อยากไปค้างข้างนอก เพราะกังวลว่าแม่ทัพจะเรียกหาหรือย่างไร" ไม่รอให้องครักษ์เก้าตอบคำถาม อาเม่ยก็พูดต่อ "แล้ว...ที่คนพูดกันว่า เขากล่าวคำสาบานว่าจะไม่แต่งงาน เพื่อตัดปัญหาเรื่องแย่งชิงบัลลังก์กับพระราชาเล่า”
“การหลับนอนกับสตรีเป็นเรื่องอันตราย สำหรับพระอนุชาของพระราชา” องครักษ์ตงบอก “แต่ผู้ชายในวัยท่านแม่ทัพน่ะ  อย่างไรก็ยังมีความต้องการ”
องครักษ์ซันช่วยอธิบาย “จะพบหรือพูดคุยกับหญิงใดก็จะถูกมอง เรียกหาคณิกายังไม่ได้เลย”
 
คนตัวเล็กเริ่มคิดทัน
“นี่อย่าบอกนะว่า...”
“แม่ทัพเมตตาเจ้า” องครักษ์เก้าบอก “แต่ถ้าเจ้าไม่ต้องการเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด ก็บอกกับท่านไปตามตรง”
“ข้าไม่ได้...” อาเม่ยนึกคำพูดไม่ออก “ข้าเพิ่งมาถึงเมื่อวาน แม่ทัพไม่ได้พูดอะไร”
องครักษ์เก้าหันไปมองหน้าตงที่เป็นเพื่อนร่วมห้องพักของอาเม่ย “เจ้าไม่ได้คุยอะไรกับเม่ยเลยหรือ”
องครักษ์ตงส่ายหน้า บอกว่าไม่ได้คุย เพราะเมื่อคืนนี้อาบน้ำเสร็จ เข้าห้องก็หลับทันทีจนรุ่งเช้า
“มิน่า ถึงได้ดูไม่ค่อยเข้าใจ” องครักษ์แซนบอก “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้า”
อาเม่ยหันไปหาองครักษ์ตงกับองครักษ์โป “แม่ทัพเคยเรียกเจ้าหรือเปล่า”
องครักษ์เก้าเป็นคนบอกอีกครั้ง “ไม่ มีแต่ข้ากับฮูดา”

อาเม่ยมององครักษ์เก้า คนผิวขาว และมีรูปหน้าควรมองที่สุดเท่าที่เคยพบ ทั้งยังมีท่าทางสุภาพ ส่วนธนูในมือก็เป็นอาวุธที่องครักษ์ซันเตือนตั้งแต่เมื่อวาน ว่าอย่าแตะต้อง
นี่คือคนที่สมบูรณ์แบบ 
ยอมรับได้ไม่ยาก ว่าหากหญิงใดจะมองหาคนรักก็ควรเป็นเช่นนี้
และแน่นอนว่า นี่ต้องเป็นลักษณะของคนที่....ผู้ที่มีอำนาจจะเลือกให้อยู่ใกล้ตัว
 
การรับใช้ใกล้ชิดผู้มีอำนาจในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับยุคที่ผู้ใช้เวทย์เรืองอำนาจ
ไม่ใช่แค่เมืองวัน เมืองอื่นก็เป็นเช่นกัน
ที่แปลกคือ การที่ผู้คนรอบตัวเข้าไปจัดการ บังคับเรื่องความรักของแม่ทัพ
..ความรักเป็นเรื่องของความสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ชิด ไม่ผิดลูกเมียผู้ใดมิใช่หรือ
..บังคับกันขนาดนี้ มันเกินเลยมากไปแล้ว!

“แล้วเขาก็ยอมให้ทุกคนมายุ่งกับความรักของเขา”
“เพื่อจะได้ไม่มีปัญหากับพระราชาเป็นเรื่องหลัก” องครักษ์ซันบอก “อำนาจเป็นเรื่องที่คนสามัญอย่างเราไม่ค่อยเข้าใจ”
“ส่วนเรื่องการเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดที่ข้าบอกนะ อย่าคิดอะไรซับซ้อน” องครักษ์เก้าบอกเมื่อเห็นแม่ทัพกำลังเดินมา “แม่ทัพไม่มีคนรัก ไม่มีคนสนิท ข้าเห็นว่าท่านเมตตาเจ้า และผ่อนคลายในเวลาที่คุยกับเจ้า หากข้าต้องออกไปอยู่ข้างนอก เขาก็ยังมีเจ้าที่ทำให้เขายิ้มได้”
“เขาไม่ยิ้มกับพวกท่านหรือไง” อาเม่ยหันไปหาองครักษ์ตงกับองครักษ์โปที่รีบส่ายหน้า
“ข้าไม่ได้มีสิ่งใดที่ชวนให้ผู้ใหญ่เรียกใช้ ทั้งยังทำม้าตายไป 20 ตัวตั้งแต่วันแรก ยิ่งไม่น่าประทับใจสักเท่าใด” องครักษ์ตงบอก “ข้าบอกว่า ข้าใช้เวทย์เพลงสังหาร แต่ไม่มีใครเชื่อ ปรากฏว่าพอข้าร้องเพลง ม้าล้มตาย แม่ทัพเลยลงโทษให้ข้าไปล้างครัวอยู่ 2 เดือน”
องครักษ์โปบอกบ้าง “ข้าไม่ได้สนใจที่จะเป็นผู้รับใช้อยู่แล้ว”
“อ้อ....งั้นถ้าแม่ทัพพอใจ....”
องครักษ์เก้าบอก “พอใจหรือไม่พอใจ มันเป็นความรู้สึกที่เรารับรู้ได้ด้วยตัวเราเอง เหมือนกับการที่เราต่างก็รู้ว่าเวทย์ของตนเองคืออะไร” คนสุภาพลดเสียงพูดคุยลงอีก “มันเป็นความรู้สึกของตัวเจ้าเอง”
 
องครักษ์ซันถามแบบที่ไม่ได้ต้องการคำตอบเมื่อแม่ทัพเข้ามาใกล้ “เป็นพระอนุชา แทนที่จะอยู่ในวัง แต่กลับต้องออกมานอนที่ค่ายทหารแบบนี้ เจ้าคิดว่าอย่างไร”

อาเม่ยตอบคำถามนี้ในใจว่า การเป็นพระอนุชาเมืองนี้ไม่ได้สะดวกสบายเลยสักนิด
เมื่อเดินเข้ามาใกล้ แม่ทัพเชมัลก็มองคนตัวเล็กด้วยหางตา “กำลังนินทาข้าอยู่ละสิ”
อาเม่ยกระตุกมุมปาก “ลูกน้องก็ต้องนินทาเจ้านายอยู่แล้ว”
“นินทาว่าอย่างไร”
“ถ้านินทาแล้วบอก จะเรียกว่านินทาไหม” อาเม่ยตอบโต้ “ตื่นก็สาย คนอื่นเขาตื่นมาฝึกตั้งแต่ยังไม่สว่าง มารอตั้งนานแล้ว”
“นี่!” ถ้าไว้หนวดยาว คงเห็นชัดเจนว่าหนวดกระตุก “รู้ได้อย่างไรว่าข้าเพิ่งตื่นนอนน่ะ”
“งั้นก็ไปกันสักทีสิ  มาก็ช้า แล้วยังอู้อยู่นั่นแหละ”
“เสี่ยวเม่ย” แม่ทัพพูดทิ้งท้ายแล้วเดินนำทุกคนออกจากค่ายทหาร
“คนขี้อิจฉา”
“เฮ้..” แม่ทัพหยุดเท้าหันมาชี้หน้า
“เร็วสิ ยังจะพูดอะไรไม่รู้”

อาเม่ยรู้ตัวดีว่า ในประโยคแรก ทุกคนล้วนประหลาดใจ จากนั้นองครักษ์ทุกคนล้วนหันไปลอบยิ้มให้กัน เมื่อเห็นการตอบโต้ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
แม่ทัพที่ทุกคนเกรงกลัว กลับลดอายุลงมาต่อคำกับทหารใหม่
พอแม่ทัพหันกลับไป อาเม่ยก็ส่ายหน้าให้กับตนเอง
....ข้าเอง ก็ไม่ได้มีนิสัยต่อปากต่อคำแบบนี้เลยสักนิด แต่เมื่ออยู่ใกล้คนนี้กลับหยุดคำพูดตัวเองไม่ได้
ลืมไปได้เลยว่าถ้อยคำสุภาพเป็นอย่างไร
ทุกคำพูดไม่ต่างจากพูดกับเพื่อนเล่น
จะโดนลงโทษเพราะไม่เคารพแม่ทัพในสักวัน

เมื่อออกมาด้านนอก ขบวนของกลุ่มองครักษ์ก็เปลี่ยนไป
องครักษ์ซัน องครักษ์แซน และองครักษ์เก้าเดินนำหน้า
แม่ทัพเชมัลอยู่กลางกลุ่ม
ปิดท้ายด้านหลังคือ องครักษ์ตง องครักษ์โป และอาเม่ย
เพียงแต่เมื่อมาถึงหน้าพระราชวัง ยังมีอีกคนที่รออยู่
“ฮูดา” องครักษ์โปบอกกับอาเม่ย
คนผู้นี้มีใบหน้าคมเข้ม ผิวเข้ม ไหล่กว้าง ตรงข้ามกับองครักษ์เก้า
เมื่อองครักษ์ฮูดาเข้ามาสมทบในกลุ่ม รูปขบวนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
องครักษ์ซัน องครักษ์แซน และองครักษ์ฮูดา เดินนำ
ซ้ายของแม่ทัพคือองครักษ์เก้า ด้านขวาคือ องครักษ์ตง
ด้านหลังคือองครักษ์โป กับอาเม่ย

เป็นการเรียงตามลำดับอาวุโสอย่างชัดเจน และหากพี่ใหญ่รอมอยู่ที่นี่ในเวลานี้ ลำดับทั้งหมดจะเลื่อนลงมาอีก

...เป็นภาพที่น่ามอง เมื่อองครักษ์เก้าเดินเคียงข้างไปกับแม่ทัพ ต่อให้อีกด้านคือองครักษ์ตง
ต่อให้มีคนรายล้อมอยู่
แต่ดวงตาก็ยังหยุดอยู่ที่ด้านหลังของ 2 คนนี้

ตามระเบียบ เมื่อเข้าสู่เขตพระราชวังทุกคนต้องวางอาวุธ แต่ขณะนี้องครักษ์ทุกคนต่างถืออาวุธเข้าสู่ห้องโถงใหญ่
“มาแล้ว” คนที่ลุกจากเก้าอี้สูง ก้าวลงมาหากลุ่มคนที่เข้ามาทันที คือพระราชาฟารัค

พระราชาฟารัคมีชันษา 30 ชันษาเศษ ทรงอภิเษกสมรสตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์กับธิดาของเสนาบดีหลี่ ซึ่งจนถึงวันนี้องค์ชายฮัมซาพระโอรสและว่าที่องค์รัชทายาทมีพระชันษา 14 ชันษาแล้ว แม้จะทรงปรีชาในหลายด้าน แต่พระราชากลับไม่เคยมีพระดำรัสเกี่ยวกับการแต่งต้ั้งเป็นองค์รัชทายาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอำนาจของเสนาบดีหลี่ กับเหล่าขุนนางฝ่ายพลเรือนรอบตัวที่เป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งสืบต่อมาจากพระราชาองค์ก่อน การเร่งแต่งตั้งอาจนำไปสู่ปัญหาทางการปกครองได้ เพราะในเวลาเดียวกันกลุ่มขุนนางใหม่ที่มีการแต่งตั้งในพระราชาองค์ปัจจุบัน ล้วนเป็นขุนนางฝ่ายทหาร   

กลุ่มขุนนางที่กำลังพูดคุยกับพระราชาอยู่ก่อนหน้า เมื่อเห็นแม่ทัพเชมัลก้าวเข้ามาพร้อมกับกลุ่มองครักษ์ ก็ก้าวถอยกลับไปนั่งที่เก้าอี้ที่จัดวางอยู่รอบห้อง
“มีหมู่บ้านทางเหนือถูกโจรป่าโจมตี”
“หัวหน้าองครักษ์รอมไปดูแล้ว” แม่ทัพบอก “ถ้าวันนี้ยังไม่กลับมา องครักษ์ซันกับแซนจะตามไป”
“แล้วเรื่องของกลุ่มบ้านช่างเหล็ก”
“แม่ทัพนาซิมส่งคนไปจัดการแล้วเช่นกัน”
“ต้องระวังหลุมพราง” เสนาบดีที่ท้วงขึ้นเป็นผู้ที่อยู่ในวัยชรา ใบหน้าแหลม และมีเครายาว คนผู้นี้วางท่าทางดั่งเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในห้องนี้
ซึ่งอันที่จริง เสนาบดีหลี่ผู้นี้ก็มีอำนาจเปี่ยมล้นจริง ด้วยเป็นบิดาของพระชายาแห่งพระราชาฟารัค!
แม่ทัพหันไปค้อมศีรษะขอบคุณที่ทักท้วง แล้วหันมาแนะนำ “องครักษ์เม่ย”
คนตัวเล็กคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ถวายความเคารพพระราชา
พระราชาฟารัคแตะแขนให้ลุกขึ้น แล้วบอกให้ทุกคนไปรอที่ห้องพักด้านหลัง
“ข้ายังเหลือเรื่องภาษีการค้าที่ต้องคุยกับท่านเลตู จะฟังด้วยกันไหม”
แม่ทัพส่ายหน้าทันที “กองทัพของข้าพระองค์ใช้เงินคลังไม่เปลือง เชิญพวกท่านพูดคุยกันเถิด”

เมื่อเข้ามาในห้องพักด้านหลัง ชายอีกคนเดินตามเข้ามาด้วย แม่ทัพหันมาแนะนำอีกครั้ง
“บาดา หัวหน้าราชองครักษ์ของพระราชา”
ราชองครักษ์บาดารับการทำความเคารพจากอาเม่ยแล้วหันไปถามแม่ทัพ “พระราชาเป็นกังวลสถานการณ์ทางเหนือมาก เราเคยมีพวกกลุ่มโจรมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ดูไม่น่าไว้ใจ เมื่อครู่ท่านรองแม่ทัพพูดเรื่องจัดทัพด้วย”

คาดเดาได้ว่า รองแม่ทัพและคนอื่นๆ ที่พูดถึง รวมถึงตัวของราชองครักษ์บาดา คือคนที่มีครอบครัวแล้ว ถึงไม่ได้อยู่ในค่ายทหาร 

แต่สถานการณ์ดูตึงเครียด และมีการหารือไปแล้วในเวลาที่แม่ทัพไม่อยู่
แม่ทัพเพียงรับฟังโดยไม่แสดงความเห็นตลอดเวลาที่ราชองครักษ์บาดารายงาน จนกระทั่งพระราชาเสด็จมา ก็มีรับสั่งถามทันที
“เราต้องใช้กำลังทหารเข้าไปจัดการไหม”
เป็นการทำงานที่รวบรัด และได้ผลดี
“อาจเป็นแค่การหยั่งเชิง เพราะพื้นที่นั้นกำลังจะมีสงคราม”
“ข้าก็คิดอย่างนั้น”
 
การพูดคุยวางแผนการทำงาน ระหว่างพระราชาฟารัคกับแม่ทัพเชมัลใช้เวลานาน จนกระทั่งคนรับใช้เข้ามาถามว่าจะเสวยที่ห้องทำงานหรือไม่ พระราชาก็ชี้บอกให้จัดโต๊ะในอุทยาน
ก็ยังคงเป็นการเสวยอาหารและทรงงานไปพร้อมกันจนอาหารมื้อนี้ผ่านไป ก็เปลี่ยนไปสนทนากันต่อในสวน โดยมีองครักษ์ทั้งของพระราชา และแม่ทัพที่ร่วมฟังด้วยและแสดงความเห็นเป็นระยะ

“ทำไมคุยกับพวกขุนนางไม่ง่ายเหมือนคุยกับเจ้านะ” พระราชาพูดขึ้น แล้วหันมามองหน้าสมาชิกใหม่ของกลุ่ม “เม่ยใช่ไหม”
อาเม่ยถวายความเคารพแล้วลุกขึ้นยืน
“เม่ยเป็นชื่อลูกสาวมิใช่หรือ”
อาเม่ยเกาหน้าผากตนเองก่อนตอบคำถาม “ท่านปู่เป็นคนตั้งให้ แล้วทุกคนก็เรียกแบบนี้กันทั้งหมู่บ้าน”
“คงเพราะเจ้าดูเหมือนผู้หญิง”
“เจ้าตัวเล็กนี่ไม่ชอบให้ทักแบบนั้น” แม่ทัพเชมัลท้วงยิ้มๆ
พระราชาจึงมองอาเม่ย แล้วหันไปหาองครักษ์ฮูดาคนคมเข้ม องครักษ์เก้าคนสุภาพ แล้วหันมามองอาเม่ยคนร่าเริง สุดท้ายก็คือน้องชายตัวเอง

“นี่ข้าคือพระราชาที่ไม่รู้ใจอนุชาของข้าเองจริงหรือนี่”

“อะไรกัน” พระอนุชาท้วง “จู่ๆ ก็เปลี่ยนจากเรื่องปราบโจรมาเป็นเรื่องนี้”
“เรื่องปราบโจรได้ข้อสรุปแล้วนี่ เลิกคุยเรื่องงานมาคุยเรื่องเจ้าดีกว่า” พระราชาหัวเราะแปลกๆ
“พี่น้องเหมือนกันจริงๆ” หนุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงกลางเผลอพูดแล้วต้องรีบปิดปากตัวเอง

...นี่แหละคือปัญหา ปกติไม่ใช่คนพูดจาอะไรแบบนี้เลยสักนิด แต่พออยู่ใกล้แล้วคุมปากตัวเองไม่ได้สักที...
ราชองครักษ์บาดาถึงกับสะดุ้ง เมื่อได้ยินคำพูดของอาเม่ย แต่พระราชายกมือเชิงบอกกับราชองครักษ์ว่าไม่ถือสา

“พี่น้องกันย่อมเหมือนกันอยู่แล้ว เจ้าล่ะไม่มีพี่น้องหรือไง” พระราชาถามอาเม่ย โดยไม่ใช้ราชาศัพท์บ้าง
อาเม่ยบอกตามตรง “เคยมี”
“อะไร เคยมี” พระราชาถามต่อ
“ก็เคยมี ข้ามีพี่ชาย แต่แม่พาเขาออกมาจากหมู่บ้าน แล้วก็ไม่เคยกลับไปอีกเลย”
“ยังไง พวกเขาหนีไปอยู่ที่อื่น หรือตายไปแล้ว”
“ไม่รู้ จำไม่ได้หรอกว่าพ่อเคยไปตามพวกเขาไหม รู้แต่ว่า แม่ออกไปกับพี่ แล้วก็ไม่กลับมา”
“แสดงว่า พวกเขาจากไปตอนที่เจ้ายังเล็กมาก”
อาเม่ยพยักหน้า “ตอนนั้นยังไม่ 5 ขวบเลย”
“งั้นก็จำหน้าไม่ได้ล่ะสิ”

แม้จะเป็นเรื่องปกติที่ผู้มาใหม่จะต้องถูกซักถามประวัติ โดยเฉพาะงานใกล้ชิดผู้ปกครองบ้านเมือง ที่จะต้องใช้คนที่เชื่อใจได้ แต่เมื่อเป็นเรื่องที่แทบไม่มีความทรงจำหลงเหลืออยู่ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
 
ทุกอย่างคงแสดงออกทางสีหน้า เพราะแม่ทัพเชมัลจับศีรษะเล็กๆ โยกเบาๆ “แค่นี้ก็จะร้องไห้เสียแล้ว เสี่ยวเม่ย”
“ใครเสี่ยวเม่ย ไม่ได้ชื่อเสี่ยวเม่ยนะ”
พระราชาชี้คนโวยวายแล้วหัวเราะเสียงก้อง “ขี้โมโหเสียด้วย อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ ต้องเป็นผู้ควบคุมลมแน่ๆ”
แม่ทัพหันไปยิ้มกับองครักษ์เก้า ที่คาดเดาว่าอาเม่ยใช้เวทย์ลมมาตั้งแต่วันแรกที่อาเม่ยทดสอบฝีมือ
แต่องครักษ์ซันเป็นคนที่ตอบคำถามของพระราชา
“เม่ยเป็นผู้เล่นไฟเหมือนข้า”
พระราชามองตาสีแปลกของอาเม่ยแล้วยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก ถ้าอารมณ์แบบนี้ ได้กลายเป็นไฟป่า เชมัลงานหนักแน่”

บางสิ่งบางอย่างในดวงตาของแม่ทัพเชมัลบอกว่า คิดเหมือนกับพระราชา แต่ไม่ได้พูดออกมา

“ข้าไม่เคยเห็นใครมีดวงตาสีนี้” พระราชาพูดถึงอาเม่ย แต่กลับหันไปหาน้องชาย “เพิ่งรู้ว่าเจ้าชอบอะไรแปลกๆ”
“อะไรเนี่ย” เป็นของแปลกนี่มันน่าสนใจที่ใดกัน “ดวงตาสีนี้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่แม่ทัพจะชอบอะไร”
“อ้อ.....” พระราชาลากเสียงล้อเลียน
อาเม่ยเหนื่อยใจ “พี่น้องกันไม่จำเป็นต้องนิสัยเหมือนกันขนาดนี้ก็ได้”
“ว่าไง ยังชอบพระราชาอยู่หรือเปล่า” แม่ทัพถามขึ้น แต่พระราชาคว้าหนุ่มตัวเล็กมากอด
“เจ้าชอบข้าหรือ”
“ข้าเคยเห็นพระราชาตอนที่เข้ามาในเมืองกับพ่อ” ความรู้สึกของลูกหมาลูกแมวที่ถูกเด็กซนกลั่นแกล้ง คงไม่ต่างจากอาเม่ยเวลานี้ “ถ้ารู้ว่านิสัยแบบนี้ไม่ชอบดีกว่า”
“ไม่ได้ๆ ชอบแล้วชอบเลยสิ” ท่าทางพระราชาจะได้ของเล่นถูกใจ
“พี่ชายขี้แกล้ง น้องชายก็ขี้อิจฉา”
2 พี่น้องกลับยิ่งอารมณ์ดี

อาเม่ยไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าทั้งเมืองนี้ มีตนเพียงคนเดียวที่พูดโต้เถียงกับพระราชา ทั้งไม่ใช่ราชาศัพท์
ไม่ใช่ไม่รู้ราชาศัพท์ แต่ปากไปไวกว่าสมองเสมอ จนเริ่มกลัวตนเอง
กระทั่งราชองรักษ์บาดาเตือนว่า ช่วงบ่ายแพทย์หลวงจะเข้าเฝ้าฯ พระราชาถึงได้คลายกอด
“ไว้มาคุยกันอีก”
“มาคุยกัน หรือมาให้แกล้งอีก”
พระราชาคว้ามากอดอีกรอบ “ไอ้คนนี้ มันช่างพูด”
เมื่อพระราชาคลายกอดคราวนี้ อาเม่ยต้องรีบก้าวหนีให้ไกล
“น้องชายไม่ยอมให้กอดแน่ๆ พี่ชายถึงได้ต้องไปกอดคนอื่นแบบนี้”
“รู้ได้อย่างไร”
“โหย.....” คนตัวเล็กโดนแกล้งลากเสียง แล้วเตือนพระราชาว่าแพทย์หลวงรออยู่

“พวกเราก็กลับค่าย ไปเตรียมงานกัน”
แต่ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะออกเดินทาง องครักษ์ฮูดาก็พูดขึ้น
“ขอให้ข้าไปกับซันได้ไหม”
แม่ทัพหันมามองคนอาสา แล้วบอกให้ไปคุยกันที่ค่ายทหาร

อาเม่ยเข้าใจความคิดขององครักษ์ฮูดา
แม้ตลอดเวลา 2 วันมานี้อาเม่ยมองเห็นการจัดลำดับตามระเบียบอาวุโสอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งในวัง เมื่อราชองครักษ์บาดาที่เป็นองครักษ์ของพระราชาพูด ทุกคนจะฟัง
เป็นการยกย่องให้เป็นที่หนึ่งสูงกว่าองครักษ์ซันซึ่งเป็นผู้ที่อาวุโสสูงสุดในเวลานี้
และสำหรับองครักษ์ฮูดาที่มีอาวุโสเป็นอันดับ 4 ของกลุ่ม เมื่อพี่ใหญ่รอมไปดูสถานการณ์โจรป่ายังไม่กลับมา แม่ทัพก็วางตัวให้องครักษ์ซันที่เป็นอันดับ 2 กับองครักษ์แซนที่เป็นอันดับ 3 ไปสนับสนุน
แต่องครักษ์ฮูดาเป็นผู้ที่มีความภูมิใจในการเป็นผู้รับใช้ของแม่ทัพ ยังทำให้มีความต้องการได้รับการยกย่องให้ทำงานสำคัญมากกว่าผู้อื่นอีกเช่นกัน   

เข้ามาในค่ายทหาร ทุกคนตรงไปที่พักขององครักษ์
เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะกลม องครักษ์โปก็รินน้ำชาแจกทุกคน เว้นแต่แม่ทัพที่องครักษ์ฮูดาเป็นคนรินน้ำชา
“ต่อไปข้าต้องเป็นคนรินน้ำชาใช่ไหม” อาเม่ยถามองครักษ์โป
“ใช่ แต่พวกเราช่วยกันก่อนก็ได้”
อาเม่ยรับรู้ ขณะที่มองท่าทีของแม่ทัพกับองครักษ์ฮูดา และองครักษ์เก้า
ความมั่นใจว่าตนเองมีความพิเศษกว่าคนอื่น และต้องการให้ทุกคนยกย่องว่าเป็นคนพิเศษ ช่างเป็นความรู้สึกที่ปิดบังได้ยาก
อย่างตัวเราเองที่เดินเข้าวังวันแรก ก็พูดเล่นกับพระราชาแล้วไม่โดนลงโทษ ฐานไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ยังทำให้หลงตัว
ยังดีที่มันค่อยๆ ลดลงไป ในทุกก้าวที่เดินออกมาจากวัง เพราะการอยู่รั้งท้ายของกลุ่ม
...แล้วแม่ทัพคนที่อารมณ์ดี ก็กลับมองตรงไปข้างหน้า ไม่มีรอยยิ้มสักนิด...

“ข้าต้องการไปปราบโจรที่หมู่บ้านชายแดน” องครักษ์ฮูดาบอกเมื่อน้ำชาแก้วแรกผ่านไป และองครักษ์โปก็รินเติมให้ทันที
“ข้าจัดให้ไปตามลำดับอาวุโส”
“การออกไปทำงานดูความเหมาะสม ท่านเป็นคนวางกฎนี้ และข้าชำนาญพื้นที่นั้นมากกว่า ทั้งพี่สามแซนก็ต้องดูแลท่าเรือ”

....แซน เป็นคนเล่นน้ำ เขาย่อมต้องดูแลท่าเรือ ไม่น่าลืมเรื่องนี้ไปได้เลย..
แต่สีหน้าขององครักษ์แซนบอกว่า เขาทำได้มากกว่าการดูแลท่าเรือ

“ที่ให้แซนไป ไม่ใช่เพราะข้ามีครอบครัวหรือ”
…ไม่ต้องเดินทางไปทำงานในที่ห่างไกล ได้อยู่กับครอบครัวไม่ดีหรืออย่างไร....
“ฮูดา” พี่สองซันเตือนเมื่อเห็นว่าองครักษ์ฮูดาเริ่มนำเรื่องส่วนตัวมาพูด
องครักษ์ฮูดาหันมาหาองครักษ์ซัน “ในตอนที่มีอาแต่งงานไปก็เป็นเช่นนี้ ท่านลดงานของเขา สุดท้ายท่านก็ให้เขาไปอยู่กับพระราชา”
“นั่นน่าจะเรียกว่าเลื่อนตำแหน่งนะ” อาเม่ยพูดแทรกขึ้นมา แล้วก็รีบปิดปากค้อมตัวขอโทษ “ขอโทษปากไว”

…คิดแล้วเชียวว่าพระราชาต้องไม่ได้มีบาดาเป็นราชองครักษ์เพียงคนเดียว เท่าที่รู้ตอนนี้ยังมีราชองครักษ์มีอาอีกคน และพวกเขาแบ่งงานกันทำ....

“ข้าไม่ให้เจ้าไป ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เจ้ามีครอบครัว การมีครอบครัวเป็นเรื่องที่ดี”
“ท่านกำลังจะย้ายข้าไปอยู่กับพระราชาจริงๆ” องครักษ์ฮูดาผุดลุกขึ้น “ท่านคิดไว้นานแล้ว หรือเพิ่งคิดเพราะท่านมีอาเม่ย”
“ฮูดา” แม่ทัพพูดเสียงหนักๆ เป็นท่าทีจริงจังที่ทำให้องครักษ์ฮูดานั่งลงและกล่าวคำขอโทษ

....นี่เกี่ยวอันใดกับข้า ข้าเพิ่งมาถึงที่นี่เมื่อวาน วันนี้ก็เพิ่งไปถวายความเคารพพระราชา เหตุใดองครักษ์ฮูดาพูดเหมือนเรื่องนี้เตรียมการณ์ไว้นานแล้ว…
...ยังมีเรื่องอันใดที่ข้าไม่รู้....
 
“หากมีเรื่องสำคัญข้าย่อมต้องให้เจ้าออกหน้าแน่นอน แต่คนพวกนี้เป็นเพียงกลุ่มโจรที่เข้ามาหยั่งเชิง เจ้ายังมีงานอื่นที่ต้องทำ”
องครักษ์ฮูดามีสีหน้าไม่เข้าใจ “งานอะไร”
“รอมไม่อยู่ ซัน และแซนไม่อยู่ เจ้าต้องเป็นพี่ใหญ่ของที่นี่” แม่ทัพลุกขึ้น สั่งอีกครั้ง “ซัน แซน ไปเตรียมตัวออกเดินทาง ส่วนเก้าคืนนี้ไปดูที่ท่าเรือแทนแซนด้วย”
แม่ทัพหันมาหาองครักษ์ฮูดา “ไปคุยกับพวกนายกอง เรื่องการจัดเวรยาม ข้าจะออกไปข้างนอก”

อาเม่ยมององครักษ์ตงกับโป ที่แม่ทัพไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ทั้ง 2 คนก็รู้งานของตัวเอง
คนตัวโตก้าวไปถึงประตูแล้วหันมา
ไม่ได้เอ่ยปากเรียก
แต่องครักษ์โปก็ผลักหลังอาเม่ยให้วิ่งตามแม่ทัพออกมา

....ทำแบบนี้มันดีจริงๆ หรือ ฮูดาต้องไม่พอใจข้ามากแน่ๆ....
...คนมากมาย เรื่องราวก็มากมาย ค่อยเรียนรู้ทำความรู้จักไป....

(http://upic.me/i/oa/qxf8r.jpg) (http://upic.me/show/55163164)

....จบตอนที่ 2....
ขออภัยที่มาก่อนเวลา เพราะวันพุธที่ 8 เมษา 58 ไม่อยู่น่ะครับ
รีบ ร้อน ลนลาน พยายามเล็งหาคำผิดแล้ว ขยายความแล้ว สำรวจหาความผิดพลาดที่อาจมีความไม่ชัดเจนซ่อนอยู่แล้ว หากมีวรรคไหนที่ผิดพลาด รบกวนบอกกันด้วยนะครับ ยินดีรับฟังและแก้ไขด้วยความยินดีอย่างยิ่ง
ป๋าผมมักบอกว่า เรายังไม่เก่งสมควรรับฟังคำแนะนำให้มาก
มาอีกที วันที่ 15 เมษาแน่นอน
.น้ำชากับป๋าไจฟ์ครับ.

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 07-04-2015 14:20:49
สงสารอาเก้า มีหรือคนที่โดนเรียกหา จะไม่หวั่นไหวอะไรบ้างเลย แต่ด้วยหน้าที่ทำให้แสดงออกมาไม่ได้ อาเม่ยก็ยังคงเป็นอาเม่ยที่ ฝีปากเก่ง อิอิ หวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่า เราจะไม่เห็นอาเม่ยกับอาเก้า ต้องรักผู้ชายคนเดียวกันนะ รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-04-2015 14:31:06
อาเม่ยน่ารักสุดๆ แต่ต้องระวังการพูดจาในวังนิดนะคะ ศัตรูรอบด้าน

ขอบคุณคุณ jivetea มากๆเลยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 07-04-2015 15:31:49
เดี๋ยวนะคนรับใช้ใกล้ชิดคือ.....รับใช้เรื่องนั้นด้วยอ่ะเหรอ
คือแบบว่า...ยังไง :mew2: มันไม่แปลกใช่ไหม (งงตัวเองว่าคิดอะไรอยู่ หรืออึ้งอะไร)

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-04-2015 16:00:08
ต้องโดนเขม่นจากคนเก่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 07-04-2015 16:29:53
ฮูดาหึงท่านแม่ทัพใช่ไหม หรือแค่กลัวว่าตัวเองจะถูกลดความสำคัญลงไป
อาเม่ยก็น้าาาาาา บางทีก็ปากไวไปหน่อยนะเรา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 07-04-2015 16:37:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 07-04-2015 16:44:46
นึกว่าตาฝาด เห็นบอกว่าจะมาวันที่ 8 อ่านมาจนสุดท้ายถึงรู้ว่าจะไม่อยู่ ไม่เป็นไรค่ะ มาวันไหนเราก็รออ่าน  o15

นั่งอ่านไปถึงกับต้องทำผังความสัมพันธ์ตาม (ยังงงนิดหน่อยค่ะ)
อ่านมาแล้วข้องใจผู้รับใช้ของแม่ทัพมีคู่กันทุกคนเลยอ่ะแสดงว่าแม่ทัพชอบคนที่มีคู่??? (จะโดนฆ่าไหมบังอาจคิดได้) แล้วถ้าอาเม่ยมาเป็นผู้รับใช้จริงๆ ก็ต้องมีคนรักนอกจากแม่ทัพ ไม่น้า!!!!! >>> :o <<<
ว่าแต่...แม่ทัพส่งเก้าออกไปท่าเรือซะแล้วคืนนี้จะเป็นไงน้าอาเม่ยจะอยู่อย่างสงบไม่ยั่วประสาทแม่ทัพได้ป่ะ  :laugh3:

อิมเมจรูปนั่นคือ ฮูดากับเก้า ไหมน๊อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 07-04-2015 17:01:30
ฮูดาไม่น่ากลัว
เป็นปรกปักษ์โต้งๆ ตั้งแต่แรกแบบนี้รับมือได้อยู่แล้ว
แต่คนสุภาพและงำความรู้สึกไว้ลึก+เงียบเชียบที่สุดอย่างองครักษ์เก้าต่างหาก
คนแบบนี้แค่เดินผ่านเค้าก็รู้สึกขนคอลุกอยู่ลึกๆ อ่ะ
เม่ยสู้ๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew1:
ปล.1 อิชชี่พระราชา
ได้กอดๆๆๆ ลูกแมวเม่ย 555
 :hao7:
ปล.2 เม่ยเป็นทั้งไฟและลมเลยนะ
ท่านแม่ทัพจะได้บ้าแน่

ปล.3 ชอบรูปหนุ่มเข้มล่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 07-04-2015 17:17:24
^
^
^
จิ้มข้างบนก่อน...ตื่นเต้นมาเจอ^^

เดี๋ยวไปอ่านแล้วมานะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 07-04-2015 17:35:16
รับใช้ใกล้ชิด... ยันเรื่องนั้นด้วยรึเปล่า :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 07-04-2015 17:43:01
กำลังสงสัยว่า "ผู้รับใช้ใกล้ชิด" นั้น ใกล้ชิดขนาดไหน ยิ่งพาดพิงเรื่อง "ความต้องการ" ของพระอนุชาด้วยแล้ว ยิ่งคิดไปไกลอีกว่า...น่าจะรวมเรื่องอย่างว่าด้วย

แม่ทัพไม่เคยมีคนรัก และไม่เคยรัก นั่นย่อมแสดงว่า การที่ฮูดาดูเหมือนจะถูกกันออกไปจากที่นั่นเรื่อยๆ อาจเพราะการที่เขาเริ่มจะคิดเกินเลยกับพระอนุชาหรือเปล่า เป็นผู้รับใช้ก็ต้องเป็นผู้รับใช้ ห้ามคิดเกินกว่านั้น พอมาเห็นอาเม่ยได้รับความเอาใจใส่จากแม่ทัพมากกว่าเคย ก็เลยเกิดอาการหึง, น้อยใจ, ริษยา... น่าคิดนะคะ

น้องเม่ยทำไมหนูเป็นคนปากไวจังลูก พูดกับพระราชายังไม่มีราชาศัพท์เลย  o22 ถึงมันจะแสดงความจริงใจว่าคิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น แต่มันจะกลายเป็นดาบสองคม ที่หันกลับมาแทงหนูได้ในอนาคตนะจ๊ะลูก ดังนั้นต้องหัดควบคุม และคิดก่อนพูดนิดนึง

ขอบคุณน้องทีกับคุณไจฟ์นะคะ ตอนนี้แอบสั้นนิดนึงเนอะ

ปล. เห็นด้วยกับ puppyluv นะคะ ที่ว่าองครักษ์เก้าเป็นคนนิ่ง, สุภาพ, และน่าจะ...ร้ายลึก ตอนนี้เพิ่งตอนที่สองเอง ยังไม่รู้ว่าอะไรยังไง ต้องรอดูไปเรื่อยๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 07-04-2015 18:08:24
ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่ของ jivetea นะคะ   :pig2:  มาไม่ทันตอนแรก  เลยได้อ่านสองตอนรวดเลย ^^
ตัวละครแต่ละคน มีสีสันแตกต่างกันดีอ่ะ  แต่ที่น่าจับตามองก็คงเป็นฮูดากับเก้าในฐานะผู้รับใช้ใกล้ชิด
ตอนแรกนึกว่าจะมีแค่ฮูดา  ที่ไหนได้ท่านแม่ทัพควบสองเลยรึเนี่ย  แล้วสองคนนี้บุคลิกก็แตกต่างกันซะด้วยสิ
อาเม่ย  ที่เข้ามาและมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้รับใช้คนต่อไป  จะทำให้เกิดความขัดแย้งอะไรในฐานะผู้รับใช้รึเปล่าน้อ
เพราะสองคนก่อน  เค้าดูหวงแม่ทัพกันพอดูนะ

อาเม่ย เป็นคนที่ดูมีอะไรซ่อนอยู่เยอะนะ  ทั้งเวทย์ที่ยังไม่แน่ชัด ว่าเป็นลมรึไฟ
ฝีมือการใช้ดาบก็น่าจะพอตัว  แต่ที่น่าห่วงก็คงเป็นเรื่องความปากไวนี่แหละ 
พูดออกไปโดยไม่ทันคิดแบบนี้  กลัวว่าจะมีปัญหาในสักวันนึง  แต่ดูรุ่นพี่องครักษ์ก็เอ็นดูเม่ยไม่น้อย
ก็คงจะพอช่วยกันดูแลได้อยู่  โดยเฉพาะท่านแม่ทัพที่คงจะเอ็นดูเม่ยเป็นพิเศษ  :z1:
ปล.  สุขสันต์วันปีใหม่ไทยล่วงหน้านะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-04-2015 20:02:50



       อาเม่ยนี่ไม่กลัวตายเลยนะ ต่อปากต่อคำและใช้คำพูดแบบไม่ให้ความเคารพต่อพระราชาและท่านแม่ทัพ หรือนี่จะเป็นนิสัย

       ของอาเม่ยที่ทำให้ท่านแม่ทัพสนใจรึเปล่า(เดาเอาล้วนๆ)   รอติดตามตอนต่อไปนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-04-2015 21:11:02
เป็นโชคดีของอาเม่ยที่ผู้ใหญ่เอ็นดูไม่ถือสาหาความแม้จะปากไวไปหน่อย
แต่ในความเอ็นดูที่ท่านมอบให้จะนำความเดือดร้อนมาด้วยหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 07-04-2015 21:25:37
ฮูดาจะเขม่นเสี่ยวเม่ยของเรามั้ย
อยากอ่านต่อแล้ว พรุ่งนี้วันที่สิบห้าไดมั้ย  :ling1:

ฮูดาแต่งงานเพราะอะไร
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 07-04-2015 22:07:55
อาเม่ยต้องค่อยๆๆปรับตัว

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 08-04-2015 15:29:57
หลงรักอาเม่ย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 09-04-2015 11:00:48
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวกลับบ้านจะอ่านนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 09-04-2015 11:10:43
ผ่านไปแค่สองวัน คิดถึงเสี่ยวเม่ยแล้ว  รีบมาไวๆน้า  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-04-2015 13:56:58



                                     :z2:    คือ คือ คือ ใครคือพระเอกของอาเก้า เห็นบอกดิบมากกกกกกกกกกก   :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 09-04-2015 13:59:30
มาต่อไวๆนะคะ แอร้ยๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-04-2015 16:48:52
ฮูดาน่าจะไม่ชอบอาเม่ย แต่ถ้าแม่ทัพชอบอาเม่ยเองนี่ อย่ามาไม่พอใจอาเม่ยคนปากไวนะ 5555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fanfic2010 ที่ 10-04-2015 01:11:02
มาอีกทีวันไหนเนี่ย ไม่ได้อ่านนิยายนานแล้ว
มา'หนับหนุน' ให้กำลังใจน้องชาย.... :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-04-2015 14:49:19
ของเขาดีจริงๆ อ่านแค่ตอนแรกก็ติดหนึบไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่ไปตามอ่านเลย

เสี่ยวเม่ย ตอนแรกก็ดูน่าจะเคร่งขรึม พอถอดเสื้อคลุมกลายเป็นหนุ่มน้อยร่าเริงผิดคาดเลย

รออ่านด้วยใจระทึก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 11-04-2015 20:02:46
พระราชาได้กอดนะ เชียร์ราชา คึ คึ


นิยาย น้ำชา ลึกๆแล้วมันเหมือนเงาจันทร์ในน้ำ
ยากคาดเดาและไม่กล้าคาดเดา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 12-04-2015 01:29:00
เข้ามาปูเสื่อรอเสี่ยวเม่ย  :katai3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 14-04-2015 16:51:40
พรุ่งนี้แล้วสินะคะ เข้ามารอแต่วันนี้เลยค่ะ สงกรานต์ไม่ได้ไปไหน นั่งนอนอยู่บ้านทั้งสามวัน  :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 14-04-2015 17:04:20
 :impress2 ขอบคุณสำหรับเรื่องใหม่
 

. :impress3: นั่งรอตอนต่อไปด้วยใจที่จดจ่อ


หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 14-04-2015 17:11:35
ตอนที่ 3
 
แม่ทัพเดินนำไปเรื่อยๆ โดยมีอีกคนเดินตามมาเยื้องไปทางด้านหลัง 1 ฝีก้าว จนกระทั่งออกมานอกเมือง แม่ทัพก็หันมาคว้าข้อมือให้เดินอยู่ข้างกัน ที่นี่ไม่ใช่เส้นทางที่อาเม่ยเดินทางมาเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังคงเป็นทุ่งนาเขียวชอุ่ม ต้นไม้ใหญ่ตามคันนา และกลุ่มบ้านเรือนหลังเล็ก
เป็นบรรยากาศเย็นๆ คล้ายทุกสิ่งทุกอย่างกำลังหมุนไปอย่างช้าๆ ตรงข้ามกับการใช้ชีวิตในค่ายทหาร โดยเฉพาะในเขตกำแพงวังที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด และเรื่องราวซับซ้อน ผู้คนมากมายจนยากที่จะทำความเข้าใจ
เมื่อหันไปมองคนรูปร่างสูงใหญ่ที่จับมือเดินอยู่ข้างกัน
เดี๋ยวนะ!
จับมือหรือ!
อาเม่ยยกมือตัวเองที่มีมือใหญ่กอบกุมอยู่ขึ้นมามอง แต่อีกฝ่ายทำเสียงดุในลำคอ ทั้งที่ดวงตาสีเข้มยังมองตรงไปข้างหน้า
ดวงตามองตรง ลำคอ ไหล่ หลังตรง ก้าวเท้าอย่างมั่นคง
ต่อให้เป็นคนต่างถิ่นจากแดนไกล หากมาพบเจอก็รู้ว่าคนผู้นี้เป็นทหาร ทั้งจากคำบอกเล่าของทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเป็นทหารที่มีความเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นการที่แม่ทัพเชมัล พระอนุชาของพระราชาฟารัคผู้นี้ พูดจาผ่อนคลายกับทหารใหม่ที่เพิ่งเดินเข้าไปในค่ายทหาร ทุกสายตาจึงจับตามอง
คนเหล่านี้ถือตนว่ามีเวทย์แข็งกล้า และเชื่อมั่นในเวทย์ของตนเอง หาใช่ความวางใจใน “คนแปลกหน้า” ที่ใช้พลังเวทย์ไฟเข้าทดสอบ 
ตลอดเวลาที่อาเม่ยยืนอยู่ที่กลางลานประลองกับแม่ทัพเชมัล เหล่าผู้ใช้เวทย์ต่างใช้เวทย์ของตนตรวจตราที่มาของ “คนแปลกหน้า”
ขอเพียงมิใช่เวทย์ดำ เมืองวันยินดีต้อนรับผู้มีความรู้ความสามารถเข้าร่วมในกองทัพ
การถูกตรวจสอบด้วยองครักษ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังเวทย์แข็งกล้า โดยเฉพาะแม่ทัพเชมัล ที่อ่านความคิดทั้งหมดของอาเม่ยจากทุกการเคลื่อนไหวในวันนั้น
หากเป็นผู้ใช้เวทย์ดำย่อมไม่อาจทานทน
แต่อาเม่ยไม่มีปฏิกิริยาใด นอกไปจากท่าทีลังเลเมื่อจะใช้เวทย์แห่งไฟ
กับท่าทีไม่ค่อยต้องการเล่าเรื่องที่หมู่บ้าน
การพาอาเม่ยเข้าเฝ้าพระราชาในวันถัดมา จึงไม่มีผู้ใดทักท้วง

แต่จนถึงยามนี้ อาเม่ยก็ยังสงสัยว่า คนเหล่านี้เชื่อมั่นในพลังเวทย์ของตนมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ.

อาเม่ยเหลือบตามองดวงตาสีเข้ม กับจมูกโด่ง รับกับริมฝีปากสวยอีกครั้งแล้ว ทำปากยื่นจนอีกคนหันมาถาม
“สีหน้าอะไรของเจ้า”
“อ้อ ในที่สุดก็พูดแล้ว”
แม่ทัพเชมัลเพียงยิ้มมุมปาก เดินไปถึงเนินดินสูงใต้ร่มไม้ใหญ่ ก็ดึงมือให้นั่งลงข้างๆ มองทุ่งนา
“ที่บ้านเจ้าทำนาหรือเปล่า”
“ทำสิ” อาเม่ยตอบขณะที่นั่งลงข้างๆ
“ทุกคนเลยหรือ”
“ใช่”
แม่ทัพพยักหน้า ท่าทางจะนึกคำถามต่อไปไม่ออก
นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่อยากรู้ แต่คงอยากหาเรื่องชวนคุยมากกว่า
"เสี่ยวเม่ย...แล้ว...." แม่ทัพเกาหน้าผากเมื่อจะถามต่อ ท่าทางคล้ายลังเลที่จะถามต่อทำให้ถ้อยคำถัดมาไม่ต่อเนื่องกัน "เจ้าไม่เคย...แล้ว..."
"ท่านจะถามอันใด ก็คนบ้านนอกน่ะ ปลูกทุกอย่างที่จะกิน”
อาเม่ยแน่ใจว่า ที่กล่าวออกมา ไม่ใช่สิ่งที่แม่ทัพต้องการถาม
"ท่านจะถามอันใด"

แม่ทัพหยุดมองดวงตาสีแปลกอึดใจหนึ่งแล้วส่ายหน้า เปลี่ยนใจไม่ถามในสิ่งที่สงสัย ทั้งเลือกที่จะกล่าวคำพูดคล้อยตามที่อาเม่ยกล่าวก่อนหน้านี้

“ผู้ชายทำนา ผู้หญิงอยู่บ้านทอผ้าใช่ไหม”
“ครึ่งเดียว” อาเม่ยตอบอย่างมั่นใจ “ที่บ้านเราน่ะ ผู้ชายทำนาแล้วก็มาทอผ้า ส่วนผู้หญิงทอผ้าแล้วก็ไปทำนา” ทั้งที่กล่าวคำยังไม่จบประโยค หนุ่มตัวเล็กก็กลับทำตาโต “ผลไม้!”
มือผอมๆ เด็ดผลไม้ลูกเล็กสีแดงจากพุ่มไม้ “แบร์รี่ กินไหม”
แม่ทัพส่ายหน้า “แบร์รี่แบบนี้กินแล้ว ลิ้นแดง ปากแดง”
“แต่มันเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยนะ”
อาเม่ยชวนกิน แต่แม่ทัพบอกให้กินตามสบาย
“เดินมาตั้งไกลไม่หิวน้ำหรือ”
“จะหิวน้ำก็เพราะเจ้าทักนี่แหละ” แม่ทัพบอก
“อ้าว....” อาเม่ยยื่นลูกแบร์รี่ในมือ “งั้นกินก่อน เดี๋ยวกลับไปดื่มน้ำแถวประตูเมืองกัน”
“เจ้านี่รู้เอาตัวรอดดีเหมือนกัน” แม่ทัพชมจนอีกฝ่ายยิ้มกว้าง
“ก็เราเป็นลูกพ่อค้า”
“แล้วทำไมถึงฝึกดาบฝึกเวทย์ ไม่ทำการค้าแบบพ่อ”
แบร์รี่ในมือหมดแล้ว “เขาเป็นคนให้เราฝึก” คนตัวเล็กลุกขึ้นชวนกลับ “อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง กลับกันเถอะ”
แม่ทัพกลับเป็นฝ่ายเดินตามกลับมา “รู้ได้อย่างไรว่าข้าอารมณ์ไม่ดี”

“ไม่รู้หรอก เดาไปเรื่อยน่ะ”
แม่ทัพมองคนตัวเล็กแล้วหัวเราะ
“อะไร หัวเราะทำไม”
“บอกแล้วว่าอย่ากินแบร์รี่นั่น ลิ้นเจ้าแดงไปหมดแล้ว”
อาเม่ยใช้แขนเสื้อเช็ดปาก แต่อีกคนยื้อแขนไว้ “เดี๋ยวไปดื่มน้ำที่ประตูเมืองไง”
“เม่ย...”
ดวงตาสีแปลกหันมามอง “อันใด เรียกชื่อแล้วเงียบ”
“หมู่บ้านที่เจ้ามาอยู่ในหุบเขา...”
“ใช่” ดวงตาคู่นั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง
“แล้วเจ้าจำ....”
“จำอันใด ท่านนี่แปลกนัก พูดจาครึ่งคำ ครึ่งประโยค”
“ช่างเถิด” คนตัวโตถอดใจยอมแพ้ แล้วเดินกอดคออีกคนกลับเข้าเมือง

...ดวงตาสีนี้ ผมสีนี้ไม่ผิดแน่ แต่จะมีประโยชน์อันใดหากจดจำเรื่องเหล่านั้นไม่ได้...

น้ำดื่มที่ประตูเมืองไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ที่ปากแดงเพราะแบร์รี่ก็ยังคงแดงจัดอยู่จนทหารยามที่แบ่งปันน้ำดื่มยังยิ้มกว้าง
แต่เมื่อเข้ามาถึงค่ายทหาร พบว่า องครักษ์ฮูดายังรออยู่
“ข้าว่า ท่านควรคุยกับฮูดากันตามลำพัง”

สิ่งที่อาเม่ยบอก ใช่ว่าแม่ทัพเชมัลจะไม่คิดไว้ในใจ แต่เพราะเกรงว่า หากทำอย่างนั้น จะยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดมากขึ้น ถึงได้เลี่ยงออกไปนอกเมือง

องครักษ์เก้า องครักษ์ตง และ องครักษ์โป เสร็จจากการคุยเรื่องการจัดเวรกับเหล่านายกองพอดี ทั้งหมดเลยพากันไปกินอาหารที่โรงครัว
ลุงดา พ่อครัวยังคงทำหน้าที่แบบเกินพอดีเหมือนเคย
อาหารเต็มโต๊ะสำหรับคน 4 คน
อิ่มเกินอิ่ม ลุงดาถึงได้ยอมให้ 4 คนออกมา

“เก้า ถามเรื่องแม่ทัพกับฮูดาได้ไหม” อาเม่ยกระซิบถาม
“ได้สิ” องครักษ์เก้ารับคำเพราะไม่มีเรื่องใดที่เป็นความลับ แล้วชวนไปคุยต่อที่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านพัก
“ท่านบอกว่า ฮูดาเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดของแม่ทัพเชมัล เหมือนกับท่าน”
“ใช่” องครักษ์เก้าตอบ “แต่ท่านพี่ฮูดาเป็นคนในเมือง อายุไล่เลี่ยกับนายท่านพวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนข้ามาจากหมู่บ้านทางเหนือเหมือนเจ้า”
เมื่ออยู่ส่วนตัว องครักษ์เก้าเปลี่ยนคำเรียกขานแม่ทัพมาเป็นนายท่านตามความเคยชิน โดยปราศจากน้ำเสียงโอ้อวดว่าเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด ต่างจากองครักษ์ฮูดาอย่างสิ้นเชิง

....คนสุภาพแบบอาเก้าไม่เหมาะกับการเป็นทหารเลยสักนิด....
 
“เจ้าบอกว่าแม่ทัพไม่มีคนรัก”
“แม่ทัพไม่มีคนรัก พวกเราเป็นเพียงผู้รับใช้” องครักษ์เก้าย้ำคำพูด โดยมีอีก 2 คนสนับสนุน

...คำว่าคนรัก ใช้กับคู่รักที่คบหากัน แต่สำหรับแม่ทัพเชมัล คำนี้กลับเป็นคำต้องห้ามและมีความซับซ้อนกว่าผู้คนทั่วไป..

“เขาถึงต้องมีพวกท่าน”

องครักษ์เก้าพยักหน้า รอยยิ้มเศร้าบ่งบอกว่า ภายใต้หน้าที่ของคำว่าผู้รับใช้ คือความภักดีที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าองครักษ์ฮูดา เพียงแต่ไม่ได้แสดงออก
“เขาเป็นคนที่ครอบครองใครไม่ได้ และไม่มีใครครอบครองได้”
“แล้วท่านยังมีคนรักอยู่ข้างนอก”
“ใช่” องครักษ์เก้ายิ้มกว้าง “และข้าก็อยากแต่งงานกับนาง ถึงแม้ว่าจะทำให้ต้องออกไปอยู่ข้างนอก หรือถูกย้ายไปทำงานในวังกับราชองครักษ์บาดา”
อาเม่ยถามตรงๆ “ท่านมีใจให้กับแม่ทัพใช่ไหม”
องครักษ์เก้าโอบไหล่อีกคนไว้หลวมๆ “สิ่งแรกของการเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดก็คือต้องมีใจ แต่ยิ่งนานไป ความรู้สึกต้องการครอบครองมันจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นอันตราย”
“แล้วท่านรักคนรักของท่านไหม”
“แน่นอน ตอนที่ได้พูดคุยกับนาง ข้าก็รู้แล้วว่า นี่แหละคือคนที่จะเป็นของข้าเพียงคนเดียว”
ดวงตาขององครักษ์เก้าดูแปลกไปเมื่อกล่าวคำนี้ แต่อาเม่ยคิดว่าจะเก็บไว้ถามเรื่องนี้ในวันหลัง
“ท่านก็เลยดีใจ ที่แม่ทัพพูดเล่นกับข้า เพราะคิดว่าเขาต้องการให้ข้าไปรับใช้เขา”
“ก็....” องครักษ์เก้าอยากยอมรับว่ามันคือความจริง แต่ก็เกรงว่าอีกคนจะรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยินดีหรือไม่ชอบที่เขาเรียกหา  แต่เพราะข้าเห็นเขาเมตตาเจ้า อย่างตงหรือโปก็ไม่ได้คุยเล่นขนาดนี้”
“พระราชาก็พูดเล่นเหมือนกัน”
“พระราชามีพระชายาแล้ว พระองค์จะไม่มายุ่งกับเจ้ามากไปกว่านั้น และอยากให้เข้าใจว่า แม่ทัพก็เป็นผู้ชายปกติธรรมดา ที่ยังมีความต้องการอยู่”

....ความสัมพันธ์เพศเดียวกันอาจไม่ยั่งยืน อยู่บนการยอมรับว่าทุกสิ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
แต่การสมรสจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อต่างเพศกัน และจะคงอยู่ตลอดไป
....ก่อนแต่งงานอย่างไรก็ได้ แต่หากแต่งงานแล้วต้องอยู่กับครอบครัว 

“ที่บ้านข้าไม่ได้เข้มงวดเหมือนเมืองหลวง” อาเม่ยบอก
องครักษ์โปช่วยอธิบาย “ที่บ้านข้าก็ไม่เป็น มีแต่ที่เมืองหลวงนี่แหละ ที่พวกเขามองว่า ความสัมพันธ์ชายกับชาย หรือหญิงกับหญิงล้วนเป็นเรื่องสามัญ รวมถึงหากวันหนึ่งพวกเขาจะแยกกันไปเพื่อสมรสและมีครอบครัว”
อาเม่ยส่งเสียงรับรู้ในลำคอ องครักษ์ตงก็เลยเล่าเรื่องของราชองครักษ์บาดา “ก่อนหน้านี้เขามีคนรัก” องครักษ์ตงย้ำคำ “คนรักเลยนะ เขาไม่เคยเป็นผู้รับใช้แบบพี่ฮูดาหรือพี่เก้า ค่ำลงท่านบาดาก็จะออกจากวังไปหา เป็นชายอยู่ร้านขายผ้าตรงถนนสายชายฝั่ง แต่มาวันหนึ่งพวกเขาก็แยกกัน ต่างคนต่างมีครอบครัว”
นอกจากราชองครักษ์บาดา ก็ยังมีอีกหลายคนในค่ายที่มีชีวิตรักในแบบเดียวกัน และมีไม่น้อยที่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แม้จะไม่มีงานสมรสก็ตาม...

“ที่สงสัยขึ้นมา ก็เพราะเห็นท่าทีของท่านพี่ฮูดาใช่ไหม” องครักษ์ตงถาม
อาเม่ยยอมรับ “เรื่องการคบหากัน หรืออยู่ด้วยกันน่ะเข้าใจ ส่วนเรื่องการเป็นผู้รับใช้ พ่อเคยเล่าให้ฟัง ว่า เจ้าเมืองหลายเมืองจะมีผู้รับใช้ ซึ่งเป็นเรื่องของผู้มั่งคั่ง ไม่ใช่คนแบบเราที่หากรักกันก็อยู่ด้วยกัน แต่พอข้าเห็นท่าทีของฮูดา มันทำให้คิดว่า เขาน่าจะรักท่านแม่ทัพมาก แล้วทำไมเขาถึงยังไปชอบสตรี แล้วแต่งงานออกไป ท่านเองก็เช่นกัน”

...ยิ่งได้พูดคุยกับองครักษ์เก้า ก็ยิ่งเข้าใจว่าคนผู้นี้ก็รักแม่ทัพเช่นกัน แล้วเหตุใดจึงรักผู้อื่นได้อีก
..ยุ่งยากยิ่งนัก!
...ความผูกพันที่อาเม่ยรู้จัก คือเรื่องของหัวใจ แต่เรื่องระหว่างแม่ทัพ องครักษ์ฮูดา และองครักษ์เก้า กลับเป็นเรื่องของหน้าที่มากกว่าหัวใจ..

“ท่านสงสัยว่า ท่านพี่ฮูดาแต่งงานออกไปแล้ว เหตุใดยังหวงท่านพี่เก้าใช่ไหม” องครักษ์ตงช่วยสรุป
“ใช่”
“เพราะเขารู้จักและรับใช้แม่ทัพมานาน ย่อมผูกพันมาก” องครักษ์เก้าพูดเบาๆ
“ท่านเอง ก็รับใช้แม่ทัพ” อาเม่ยใช้คำว่ารับใช้อย่างที่อีกฝ่ายมักพูดถึง “แต่ก็ยังพอใจหญิงอื่น”

เมื่อทั้งองครักษ์เก้า องครักษ์ตง และโป ต่างเงียบไม่ตอบคำถาม อาเม่ยก็กลับไปถามเรื่ององครักษ์ฮูดาอีกครั้ง 
“เขาเคย...เอ่อ หึงหวง หรือไม่พอใจท่านไหม”
“ข้าเห็นเขาทำแบบนั้นตั้งแต่วันแรก” องครักษ์ตงรีบบอก “ท่านพี่ซัน บอกว่า แม่ทัพพอใจพี่เก้ามาตั้งแต่แรก แต่พี่เก้าก็ดูนิ่งๆ แบบนี้ แล้วพี่ฮูดาก็ขัดขวางตลอด จู่ๆ คืนหนึ่งท่านก็มาเรียกพี่เก้าให้ไปหา ทำให้พี่ฮูดาโกรธ”
“ข้าไม่คิดมาก่อนว่าท่านจะเรียกให้รับใช้”
“ท่านไม่คิด แต่ทุกคนคิดหมด ขนาดพี่ฮูดายังคิดเลย” องครักษ์โปบอก ทั้งที่องครักษ์ตงกับโป ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น
“แล้ว....ท่านรับมือกับฮูดาอย่างไร”

“ก็นิ่งไว้น่ะสิ” องครักษ์ตงยังเป็นคนตอบอีกครั้ง
องครักษ์เก้าส่ายหน้า ย้ำคำที่พูดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง “แล้วจะให้ทำอย่างไร พวกเราต่างก็เป็นเพียงผู้รับใช้ ไม่ใช่คนรัก”
อาเม่ยหันไปถามองครักษ์ตงกับโป “จากนั้นแม่ทัพก็ไม่เรียกฮูดาอีกเลยหรือ”

“เรียก” องครักษ์เก้าบอก “แต่เวลาที่ท่านเรียกใช้ทั่วๆ ไป ก็ยังเป็นข้า เพียงแต่เรื่องนั้น....ข้าคงทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก”
องครักษ์โปไม่เห็นด้วย “ข้าว่า ถ้าไม่เรียกเลย ท่านจะต้องโดนพี่ฮูดากลั่นแกล้งหนักกว่านี้”
“เรียกไป ก็ไม่ใช่ว่าจะเรียกไปหลับนอน เรียกไปคุยงานต่างหาก” องครักษ์ตงบอก
“รู้ได้อย่างไร” องครักษ์โปหันมาถาม
องครักษ์ตงตอบทันที “ลืมไปแล้วหรือไง พี่ฮูดาเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องพักกับข้านะ ข้าต้องฟังเขาบ่นอยู่ทุกคืน”
“ท่านพี่ฮูดาไม่พอใจข้า แต่ไม่ได้กลั่นแกล้งข้า” องครักษ์เก้าช่วยแก้ไข “ตั้งแต่ที่แม่ทัพเรียกข้าครั้งแรก จนท่านพี่ฮูดาแยกออกไป มาถึงวันนี้ จำนวนครั้งที่ข้ารับใช้แม่ทัพ มันเทียบไม่ได้เลยกับช่วงเวลา 6 เดือนที่ข้าไปหาคนรักของข้า”

องครักษ์ตง โป และอาเม่ย หันมามองหน้ากันแล้ว หัวเราะร่วน จนองครักษ์เก้ารู้สึกอับอาย
“ไม่ต้องหัวเราะกันขนาดนี้ก็ได้” องครักษ์เก้าแก้เก้อด้วยการหันมาหาอาเม่ย “เมื่อข้าเห็นแม่ทัพเดินไปทักเจ้าที่หน้าค่าย ข้าถึงคิดว่า ท่านอาจพบคนที่ท่านพอใจ คนที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับใช้ใกล้ชิด”
“ก็ท่านพูดเอง ว่าเขาเป็นคนที่ครอบครองไม่ได้” อาเม่ยย้อนคำพูด ที่ทำให้องครักษ์เก้าต้องก้มหน้ากล่าวคำ
“ข้าเพียงหวัง....ว่า...จะเป็นเจ้า....”

คุยเรื่องคนนั้นคนนี้ จนกระทั่งแม่ทัพเชมัลมายืนอยู่ข้างหน้า
ทั้ง 4 คนลุกขึ้นยืนตัวตรง
“เจ้า 4 คนนี่ช่างนินทาเรื่องผู้นั้น ผู้นี้กันได้ทั้งวัน”
“อยากรู้ไหม ว่าพวกเรานินทาใคร”
แม่ทัพกอดอก หรี่ตามองสมาชิกใหม่ที่ช่างพูดคุย ยอกย้อนได้ทุกเรื่อง
“พวกเจ้าต้องนินทาข้าแน่ๆ”

องครักษ์ตง โป และอาเม่ย หันไปหัวเราะให้กัน ส่วนองครักษ์เก้าคนสุภาพก้มหน้าซ่อนยิ้ม
“เก้า”
“ครับ แม่ทัพ”
“ออกไปตรวจที่ท่าเรือ แล้วจะแวะหาแม่หญิงพริมก็ได้นะ”
องครักษ์เก้าเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพ คลี่ยิ้มกว้างกล่าวคำขอบคุณ แล้วหันมาหาอาเม่ย
ลักษณะการมองขององครักษ์เก้าทำให้แม่ทัพถามขึ้น “เจ้าตัวเปี๊ยกนี่ ทำอะไร”
“ไม่ใช่เช่นนั้น อาเม่ยไม่ได้ทำอะไร” องครักษ์เก้าชี้แจง “ข้าสงสัยว่า...แล้วคืนนี้”
“ไม่ต้องกังวล ไปทำหน้าที่ของเจ้าเถิด”
แต่องครักษ์เก้ากลับดูลังเล “ข้าไปเตรียมน้ำอาบ กับจัดที่นอนให้ท่านก่อนดีไหม” คนสุภาพพูดเสียงแผ่วเบา “นายท่าน”
“เรื่องพวกนี้ข้าทำเองได้” แม่ทัพ หันไปสั่งอีก 3 คน “ตง โป เม่ย ไปดูที่ประตูเมือง”
ทั้ง 3 คนรับคำสั่ง แล้วหันไปหยิบอาวุธ แต่องครักษ์เก้ายังไม่หยิบอาวุธ
“นายท่าน พวกเราอาจไม่อยู่หลายวัน”
“ข้าถึงคิดว่า เจ้าควรออกไปหาแม่หญิง” แม่ทัพจับไหล่ข้างหนึ่งขององครักษ์เก้า “ไม่ต้องกังวลเรื่องข้า มันถึงเวลาที่เจ้าจะต้องเติบโตเป็นผู้ชายเต็มตัว”
“นายท่าน”
“ไปทำในสิ่งที่ข้าไม่มีโอกาส”
องครักษ์เก้าพยักหน้า “ข้าคิดว่า อาเม่ย....”
“อย่าคิดไปเรื่อยเปื่อย”
“ข้าแค่ไม่อยากให้ท่านเงียบเหงา แล้วอาเม่ยก็ร่าเริงดี...”
“ข้าไม่ได้เงียบเหงา มีทหารอยู่เต็มค่าย กลางดึกก็ถูกปลุกให้เข้าวัง มีเวลาไหนให้เงียบเหงา”
องครักษ์เก้าพยักหน้าทั้งที่ไม่ค่อยเห็นด้วย
“พรุ่งนี้เช้าข้าจะรีบกลับมา”
“ขอร้องละ” แม่ทัพมีสีหน้าเหนื่อยหน่าย “ขอข้านอนสบาย อย่ามาปลุกข้าแต่เช้ามืดเลย”
“ไม่ปลุกก็ได้ แต่....”
“ไปทำงาน แล้วก็ไปหาแม่หญิงของเจ้าเถอะ”
แม่ทัพตัดบท ดันไหล่คนสุภาพให้ออกเดิน

อาเม่ยได้ยินทุกคำพูด เห็นทุกการกระทำ
การเรียกขานแม่ทัพว่านายท่านเมื่อสนทนาในเรื่องส่วนตัว บ่งบอกถึงการแบ่งแยกเรื่องส่วนตัวกับการทำงาน และไม่ว่าองครักษ์เก้าจะเรียกสิ่งที่ทำว่าอะไร อาเม่ยก็ยังคงเห็นว่ามันเป็นความรัก และความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจ
…รูปแบบของความรัก และการใช้ชีวิตแบบคนในเมืองที่ชาวบ้านแบบเราไม่มีวันเข้าใจ....
แล้วมันเรื่องอะไรที่ข้าถึงได้คาดหวังว่าแม่ทัพจะเรียกหา
ฟังทุกคนพูดมากไปหรือไง ถึงได้หลงตัวเองว่าแม่ทัพพอใจข้ามากกว่าความต้องการให้เป็นผู้รับใช้
...เพิ่งจะเป็นทหารได้ข้ามวันเองนะ
...คนที่แม่ทัพพอใจ ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเก้าคนสุภาพ เรียบร้อยคนนั้นต่างหาก
...พวกเขาต่างมีความรู้สึกที่ดี
...หากอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็มีบุตรไม่ได้ ไม่มีปัญหาเรื่องแย่งชิงบัลลังก์พระราชาอยู่แล้ว
...ทำไมพวกเขาต้องทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ...

...จบตอนที่ 3...

(http://upic.me/i/3y/8o8ea.jpg) (http://upic.me/show/55220022)

ก่อนนี้สัญญาว่าจะมาวันพุธ แต่สัญญาณเน็ตมันอืด หนืด เหนียวเหลือเกิน ดังนั้นเมื่อพอจะเจอสัญญาณจึงต้องรีบลงไว้ก่อนที่สัญญาณจะแวบหายไปเสียอีก
ตอนที่สี่มาวันพุธที่ 22 เมษายนนะครับ
สำหรับคุณที่อยากคุยกันในเฟส รบกวนพิมพ์ในกล่องบอกผมนิดนะครับ ว่ามาจากเล้าเป็ด หลายคนที่ขอแอดมาแล้วไม่ได้บอกก่อน ผมลบไปหมดแล้ว ถ้ายังอยากคุยกันอยู่ก็ทักมาใหม่นะครับ
ผมกลัวเข้ามารู้จักกันเพื่อขายของน่ะครับ
ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์กับทีครับ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 14-04-2015 17:28:23
ขอบคุณที่มาต่อให้ก่อน อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 14-04-2015 17:38:39
ถ้าอาเม่ยเป็นคนคิดมากคงหัวระเบิดแน่
เก้าสุภาพและนิ่งมาก
สมแล้วที่เชมัลจะเอ็นดูและอ่อนโยนเป็นพิเศษกว่าฮูดา
พอเรียกเก้ารับใช้ก็ไม่แตะฮูดาอีกเลย
อันนี้ชอบ

สงสัยที่ยั้งไม่พูด ไม่ถามต่อว่าอาเม่ยจำได้หรือไม่ได้เรื่องอันใด
อยากรู้ๆๆๆๆๆ
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew1:

edit: ถึงคนข้างล่าง
v
v
v
โอ๋ๆๆๆๆ
5555
 :hao6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 14-04-2015 18:11:47
^
^
^

ไม่ยอมค่ะ คนนี้ปาดหน้าเค้า ไม่ยอม  :laugh:

ขอตัวไปอ่านนะคะ

edit

มีหลายเรื่องที่ยังคงเป็นปริศนาเฝ้ารอการคลี่คลาย เช่น เสี่ยวเม่ยเป็นเวทย์สายอะไร, เขามาจากไหน, เขามีอะไรปิดบัง ฯลฯ แต่ที่น่ารู้มากที่สุดตอนนี้คือ แม่ทัพคิดอย่างไรกับเสี่ยวเม่ยกันแน่ สนใจอยากให้เป็น "คนรับใช้" หรือ เพียงแค่เอ็นดูว่าเป็นเด็กร่าเริงเท่านั้น

มันมีปมให้อยากรู้น่ะค่ะ ดังนั้นแป้งจี่ฯ จะตามและเฝ้าสิงกระทู้นิยายเรื่องนี้ ข้าวสารเสกหรือน้ำมนต์ก็ไล่ไม่ไป  :laugh:

ปล. มันคันหัวใจตรงที่แม่ทัพทำเรื่องมุจิ๊มุจิ๊กับทั้งฮูดาและพี่เก้านี่สิ เง้ออออออ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-04-2015 18:23:26
 :really2:

ความสัมพันธ์ซับซ้อนจริงๆ ว่าแต่ท่านแม่ทัพมองหน้าอาเม่ยแล้วคิดถึงใคร...?

 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-04-2015 18:30:36
เม่ยเหมือนคนรักเก่าของแม่ทัพหรอ ไม่อยากคิดเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 14-04-2015 23:23:58
สงสัยว่าท่านแม่ทัพกับอาเม่ยจะเคยเจอกันมาก่อนแล้วหรือเปล่าน้อออออ
แม่ทัพถึงได้คิดว่าอาเม่ยจำไม่ได้ เอ๊ะ หรือว่าอาเม่ยจะเคยความจำเสื่อม
ลุ้นๆๆๆ รออ่านตอนต่อไป
ตอนนี้อาเม่ยท่าทางจะเอนเอียงไปหาท่านแม่ทัพแล้วล่ะซี๊ ถึงได้แอบคาดหวังให้แม่ทัพเรียกไปรับใช้อ่ะ กิ๊วๆๆๆ

--------------------------------------------------------------

คุณ jivetea ย่องมาอัพแบบไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย ลืมเปลี่ยนหัวกระทู้หรือเปล่าคะ ตอนนี้ยังเป็นตอนที่ 2 อยู่เลย
อย่าลืมเปลี่ยนเป็นตอนที่ 3 ด้วยนะคะ เดี๋ยวแฟนๆนักอ่านจะคิดว่ายังไม่อัพอ่ะค่ะ เรายังเกือบพลาดไปเลย ดีนะที่เข้ามาดูอยู่เรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่2หน้า2 (7เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 14-04-2015 23:37:48
จิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่าน :z13:

ปล.เหมือนหัวข้อเรื่องจะยังไม่เปลี่ยนชื่อป่ะ

อีดิท...
แม่ทัพนี่พอใจเม่ยในด้านไหนนะ แค่เอ็นดูหรืออยากให้รับใช้

ทำไมแม่ทัพถึงทำท่าเหมือนเคยรู้จักเม่ยล่ะ

แล้วอาเก้านี่รักแม่ทัพแน่ๆล่ะ แต่มีแม่หญิงเพราะอะไร รักนางอย่างที่บอกมั้ย

เม่ยนี่เริ่มชอบแม่ทัพแล้วสินะ

มีเรื่องอยากรู้เต็มไปหมดเลย เกาะหนึบเฝยล่ะเรืาองนี้

ปล. ฝีก้าวจ้าไม่ใช่ฝีเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-04-2015 07:47:13
เอาล่ะซิ ท่านแม่ทัพแลดูมีความลับเรื่องของเม่ยเก็บไว้นะ คงไม่ใช่แอบไปทำสัญญากันไว้แต่เด็กนะ  :m13:
ส่วนเม่ยจะมีคติว่า "ความผูกพันมาพร้อมกับความรัก" ไหม แต่>>แลดูเม่ยจะมีใจนิดๆแฮะ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 15-04-2015 11:13:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-04-2015 11:50:03
ระหว่างแม่ทัพกับเม่ยมีความหลัง ความลับอะไรนะ :confuse:


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 15-04-2015 13:03:50
คิดมากแล้วอาเม่ย คนที่แม่ทัพต้องการคือตัวเองแหละ ส่วนอาเก้า ทำไมเรารู้สึกสงสารอาเก้าล่ะ เหมือนมีบางอย่างซ่อนไว้ รอต่อไปเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 15-04-2015 13:49:45
อาเม่ย เป็นสีสันของค่ายนี้เนอะ
ความลับของอาเม่ย เก้า และแม่ทัพ รออยู่เยอะเชียว
ขอบคุณมากนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-04-2015 14:12:44


           ท่านแม่ทัพเคยเจอกับอาเม่ยมาก่อนรึเปล่า  :hao3:  เห็นใจอาเก้าอยู่นะ ได้รับใช้ท่านแม่ทัพมา มันก็ต้องทั้งห่วงใย

           ทั้งผูกพันกันอ่ะนะ แต่ครอบครองไม่ได้ก็เลยต้องหาคนของตัวเอง :hao3: รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-04-2015 14:18:03
อ่านแล้ว มันชวนตามติดมากกว่าเดิม
แล้วกลับไปพิเคราะห์ชื่อเรื่อง อือม์คำเฉลยทุกเรื่องของนักเขียนมันอยู่ตรงเน้
แต่ชอบการผูกเงื่อนและคลายปมมากกกกกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-04-2015 14:39:14
ซับซ้อนเสียจริง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 15-04-2015 15:33:41
...ดวงตาสีนี้ ผมสีนี้ไม่ผิดแน่ แต่จะมีประโยชน์อันใดหากจดจำเรื่องเหล่านั้นไม่ได้...

เป็นปริศนาที่ชวนสงสัยยิ่งนัก เรื่องราวของท่านแม่ทัพกับอาเม่ยคืิออะไร
รอติดตามตอนต่อไป...


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 15-04-2015 17:57:39
ปริศนาน่าสนใจมากค่ะ ดังนั้นเราจะรอตอนต่อไปอย่างใจดใจจ่อ (แต่กลัวพลาดเพราะคนเขียนย่องมาอัพได้เงียบกริบมากเลยน่แหละค่ะ) อยากอ่านแฟนตาซีมานานแล้ว และหาอ่านยากมาก ขอบคุณค่ะที่นำเรื่องนี้มาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 15-04-2015 19:32:56
แม่ทัพเหมือนเคยเจออาเม่ย ? รึแค่เคยเจอคนที่คล้ายอาเม่ย ?
แอบเห็นด้วยกับอาเม่ยนะ  แม่ทัพนี่ยังไง อยากรู้อะไรก็อ้ำอึ้งอยู่ได้ ถามให้ชัดตรงประเด็นไปเลยสิ
แล้วตกลงแม่ทัพคิดจะให้อาเม่ยมาเป็นผู้รับใช้รึเปล่า  เพราะต่อไปเก้าก็ต้องแต่งงานกับคนรักอยู่ดี

ส่วนความเป็นมาของอาเม่ย  ก็ยังเป็นปริศนาต่อไป
เพราะตอนแม่ทัพถามเรื่องนี้  อาเม่ยก็ดูเลี่ยง ๆ จะตอบนะ กลายเป็นต่างคนต่างมีความลับต่อกันอยู่ รอลุ้นในตอนต่อไปค่า  ^^

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-04-2015 03:09:28
เด็กน้อยสับสน งงงวยกับความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่
ใจเย็นๆ นะเสี่ยวเม่ย เดี๋ยวท่านแม่ทัพก็ติวเข้มให้เอง   :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 17-04-2015 14:11:57
คุณ jivetea
กับนิยายเรื่องใหม่ (จุดพลุฉลองงงงง)
พึ่งได้เข้ามา
เห็นชื่อเรื่องแล้วเนื้อเพลงลอยมาก่อนเลย
พออ่านเนื้อ โฮ๊ววววว แนวแฟนตาซี
น่าอ่านๆ น่าติดตาม
รออ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 17-04-2015 16:11:55
เสี่ยวเม่ยเด็กน้อยของเราคงเป็นความสดใสให้กับเหล่าองครักษ์นะ
ความเป็นเด็กคงช่วยผ่อนคลายความเครียดของแม่ทัพได้
เอ๊ะ หรือจะทำให้เครียดกว่าเดิม 555
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-04-2015 16:33:41
อยากรู้อาเม่ยเป็นเวทย์สายอะไรกันแน่ และแม่ทัพเคยเห็นอาเม่ยมาก่อนหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 17-04-2015 16:58:40
เรื่องใหม่ ผ่านไป 3 ตอนแล้วพึ่งได้เข้ามา แฟนตาซี ชอบๆ
ความสัมพันธ์ซับซ้อนจริงๆ เดาไม่ถูกเลย คงต้องรออ่าน
แอบคิดว่าเม่ยเป็นแบบ divergent รึเปล่าที่มีความสามารถทุกทาง
ไม่ต้องเลือกว่าเก่งเวทย์สายไหน แต่ได้หมด 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 19-04-2015 12:31:18
คิดถึงเสี่ยวเม่ยแล้วนะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-04-2015 19:46:24



            เข้ามารออาเม่ยด้วยคน :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 21-04-2015 03:30:52
ทำไมท่านแม่ทัพเหมือนจะเคยรู้จักอาเม่ยมาก่อน

แอบลุ้นว่าอาเม่ยจะยอมรับใช้ท่านแม่ทัพหรือไม่ อิอิ

อาเม่ยน่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 22-04-2015 06:47:43
ปูเสื่อรอๆๆๆๆๆ วันนี้วันพุธ ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-04-2015 07:16:50
ตอนที่ 4

สิ่งที่อยากรู้ สามารถรู้ได้โดยไม่ยาก  เพราะองครักษ์ตงกับโป ต่างก็เป็นคนที่ช่างเล่า
แต่ทุกครั้งที่เล่า มักจะลงท้ายด้วยประโยคที่ว่า หากวันหนึ่งแม่ทัพเชมัลเรียกให้ไปรับใช้...
ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้น
แม่ทัพอาจให้ความเมตตามากกว่าคนอื่น พาไปด้วยทุกหนแห่ง แต่ก็ไม่เคยเรียกใช้ในลักษณะนั้น
ไม่แม้แต่จะมีท่าทีว่าจะทำเช่นนั้น
ขณะที่อาเม่ยเองก็มาเมืองหลวงเพื่อที่จะเป็นทหาร หาใช่การเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด
ดังนั้น การตั้งข้อสังเกตของทุกคน จึงกลายเป็นคำถาม ว่าพวกเขามองเห็นอะไร
 
หลังจากอยู่ในกลุ่มองครักษ์มาได้ครบสัปดาห์ องครักษ์รอม แซน และซันก็กลับมา แต่แม่ทัพให้ทั้ง 3 คนพักผ่อน และให้อาเม่ยออกตระเวนเป็นครั้งแรกกับองครักษ์เก้า ซึ่งทั้งคู่ตรงไปตรวจพื้นที่ที่ท่าเรือ
ย่านที่พักคนงานท่าเรือมีกองเมืองดูแลอยู่แล้ว จึงตรงไปตรวจแถวย่านร้านค้าใกล้ท่าเรือ ที่ยังมีคนงานดื่มกินอยู่หนาตา หลายคนหันมาทักทายเมื่อเห็นองครักษ์เก้าออกตรวจพร้อมกับสมาชิกใหม่ หลายคนถามถึงองครักษ์แซน บ้างถามถึงสถานการณ์ทางเหนือ
องครักษ์เก้าตอบสั้นๆ ว่าทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว และพาไปตรวจที่ประภาคารสูง
แสงไฟสว่างมองเห็นได้ไกล..   

ความอยากรู้ในเรื่องส่วนตัวของอีกคนรบเร้าให้อาเม่ยถามออกไป
"ท่านรักแม่ทัพใช่ไหม”
องครักษ์เก้าหันมาหาคนที่จู่ๆ ก็ตั้งคำถามขึ้น
....เคยคุยกันเรื่องนี้ไปแล้ว แต่อาเม่ยก็ยังคงรบเร้าถามถึง...
“อยากรู้เรื่องท่านแม่ทัพ กับข้า แล้วฮูดาหรือ”
อาเม่ยเกาแก้มตัวเอง
“ข้าสงสัยน่ะ ในเมื่อพวกท่านต่างก็รักเขา แล้วเหตุใดพวกท่านต่างก็ไปหาหญิงอื่น”
องครักษ์เก้ามองฝ่าทะเลไปในความมืด “ข้าคือคนที่ทำผิดต่อแม่ทัพ”

..ใช่..คนที่หันหลังให้แม่ทัพคือองครักษ์เก้า นักธนูที่สุภาพเรียบร้อยคนนี้ หาใช่แม่ทัพเชมัลคนที่เหนือกว่าในทุกด้าน..

“ทำผิดแล้วแม่ทัพไม่ให้อภัยท่านหรือ ท่านเองก็ยังรักท่านแม่ทัพอยู่แล้วเหตุใด ถึงยังไปหาหญิงอื่น”
อีกฝ่ายเพียงส่ายหน้า “วันหนึ่งเราทุกคนก็จะต้องมีครอบครัว”
“ท่านก็เลยเลือกที่จะมีครอบครัว ก่อนที่ท่านแม่ทัพจะปล่อยท่านไปงั้นหรือ”

ลมทะเลปะทะใบหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
จากหมู่บ้านชายแดนที่มุ่งฝึกคนหนุ่มเข้าเป็นทหาร
เก้าเข้ามาเมืองหลวงพร้อมกับคนหนุ่มรุ่นเดียวกันในหมู่บ้านอีกหลายคน
ทุกคนต่างผ่านการคัดเลือก บ้างถูกส่งไปประจำการที่ด่านชายแดน บ้างถูกส่งไปอยู่กองเรือ เว้นแต่เก้าที่บาดาราชองครักษ์ พาไปถวายงานพระราชาฟารัค
“พาไปฝากไว้กับเชมัล เขาคงพอใจที่มีนักธนูฝีมือดีอยู่ข้างตัว”
นอกจากงานในหน้าที่แล้ว องครักษ์เก้ายังเรียนรู้ว่า ในกลุ่มองครักษ์ของแม่ทัพ นอกจากการให้ความเคารพอาวุโสแล้ว องครักษ์ฮูดายังเป็นคนสนิทของแม่ทัพที่มีความภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างมาก

“ท่านมาสมัครเป็นทหารตอนอายุเท่าไหร่” คนข้างๆ ถามขึ้น
“20” องครักษ์เก้าตอบ “ข้ามากับเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกันหลายคน ทำไมเจ้ามาคนเดียว”
อาเม่ยบอก “พ่อสั่งให้มา”
“เจ้าไม่ได้อยากเป็นทหารหรือ”
“ไม่หรอก มาเพราะพ่อบอกให้มาน่ะ” อาเม่ยบอกแล้วกลับมาถาม “แม่ทัพต้องแสดงออกว่า เมตตาท่านมากกว่าฮูดาแน่ๆ”
องครักษ์เก้าพยักหน้าและคิดว่านั่นอาจเป็นเหตุที่ทำให้องครักษ์ฮูดาไม่ค่อยพอใจทุกครั้งที่จะต้องถูกส่งตัวไปทำงานนอกเมือง
เพราะองครักษ์รอมพี่ใหญ่ของกลุ่มจะให้องครักษ์เก้าไปทำหน้าที่คอยรับใช้

“ว่าจะถามหลายครั้งแล้ว เรื่องที่ท่านแม่ทัพไม่มีเด็กรับใช้” อาเม่ยถาม “หมายถึงคนที่คอยดูแลเรื่องส่วนตัวแบบมหาดเล็กน่ะ"
“ท่านไม่เคยมีเด็กรับใช้ พี่ใหญ่รอมบอกว่า ตั้งแต่เล็กมาเขาทำทุกอย่างด้วยตนเอง เข้ากองทัพเมื่ออายุ 15 จนเป็นแม่ทัพน้อยตอนอายุ 22 ย้ายไปอยู่เมืองชายแดน กลับมาเป็นแม่ทัพที่นี่ตอนอายุ 25”
องครักษ์เก้าหันไปมองคนที่กำลังอมยิ้ม “ยิ้มทำไม นี่เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้”
“แต่ข้าไม่รู้นี่”
คนที่จะเล่าเรื่องส่ายหน้า อาเม่ยต้องขอให้เล่าต่อ
“นายท่านรู้จักกับฮูดามาตั้งแต่เด็ก แต่กลุ่มขององครักษ์เวลานั้น มีผู้ที่อาวุโสกว่าอยู่หลายคน นายท่านเกรงใจ พี่ใหญ่รอมจึงให้ฮูดามาช่วยดูแลรับใช้ จนกระทั่งในวันหนึ่งฮูดาก็ทำให้ทุกคนรับรู้ว่า เขาไม่ใช่แค่ดูแลรับใช้ที่เตรียมน้ำอาบ จัดที่นอน หรือเตรียมเครื่องแบบให้ แต่เป็นผู้รับใช้”
…แม่ทัพไม่ได้เป็นคนพูด ทั้งไม่ได้แสดงออก แต่องครักษ์ฮูดาคือคนที่ทำให้ทุกคนรู้...
เมื่อองครักษ์เก้าเน้นเสียง อาเม่ยก็รับรู้ได้ “ตอนนั้นท่านยังไม่มา”
“ยัง พวกเขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว” คนสุภาพกล่าวคำเดิม “ส่วนเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปน่ะ ก็คงก่อนที่ข้าจะมาสัก 2 ปี”
...เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็สมควรอยู่หรอกที่จะไม่พอใจหากแม่ทัพเมตตาคนอื่น...
…และก็นับว่าท่านแม่ทัพรอคอยองครักษ์เก้าอยู่นาน....
นอกจากนี้อาเม่ยยังพบว่า องครักษ์เก้าเป็นคนที่มักจะกล่าวย้ำคำเดิมที่เคยพูดไปแล้ว โดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีรำคาญที่ต้องพูดซ้ำ นั่นเพราะพื้นฐานนิสัยที่สุภาพ อ่อนโยน หากไม่ได้เกิดในหมู่บ้านทหาร องครักษ์เก้าคงเป็นครูหรือไม่ก็นักบวชไปแล้ว
 
“พอท่านมา พี่ใหญ่รอมก็ให้ท่านไปดูแลรับใช้แม่ทัพเวลาที่ฮูดาไม่อยู่ เขาก็เลยระแวง”
“ใช่”
“ฮูดาต้องไม่พอใจพี่ใหญ่รอมด้วยแน่ๆ”
“ไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะพี่ใหญ่รอมเหนือกว่าในทุกด้าน”
...หรือองครักษ์เก้าเกรงกลัวองครักษ์ฮูดา จนต้องหลีกเลี่ยงการรับใช้ใกล้ชิดแม่ทัพ...
“ท่านเคยบอกว่า ท่านไม่ได้อยากเป็นผู้รับใช้ แล้วแม่ทัพก็ไม่เคยฝืนใจ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น”
องครักษ์เก้ายังคงมองตรงไปข้างหน้า ขณะที่ยิ้มเศร้า
“ท่านแม่ทัพไม่เคยฝืนใจ เพียงแต่ในเวลานั้น ข้าคิดว่านั่นคือสิ่งที่ควรทำ”

หลังการดูแลรับใช้แม่ทัพมาหลายเดือน คืนหนึ่งหลังจากที่จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เสร็จสิ้น แม่ทัพก็เรียกไว้
“ครับ ท่านแม่ทัพ”
“คืนนี้อยู่กับข้าได้หรือไม่”
แม้จะเป็นประโยคที่พี่ใหญ่รอมเคยบอกไว้ แต่องครักษ์เก้าก็ยังตกใจ ทุกอย่างฉายชัดอยู่ในสีหน้าแววตา จนคนที่เอ่ยปากนิ่งไป

....ดวงตาคมเข้มบ่งบอกความรู้สึกในใจอย่างชัดเจน
ดวงตาคู่นั้น ที่แม้อีกฝ่ายจะทำงานอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะกล้าสบตา
ทั้งที่องครักษ์ฮูดากีดกันหลายต่อหลายหนก็ยังคิดว่า อีกฝ่ายคิดไปเอง
เพราะรูปลักษณ์ และนิสัยของเราเอง ที่ทำให้ผู้คนคิดไป
“หากเจ้าไม่เต็มใจ ก็ไม่เป็นไร” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างจริงใจ
"ครับ” องครักษ์เก้ารับคำแผ่วเบา แล้วก้าวออกมาจากห้องนอนของแม่ทัพ ด้วยคำถามมากมาย
เมื่อเดินกลับมาจนถึงห้องโถงกว้าง ก็ยิ่งสับสน
รู้ตัวอีกทีเมื่อเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของแม่ทัพ
คนตัวโตเพียงเลิกคิ้วขึ้นสูง “ลืมของหรือ”
“ไม่ได้ลืมครับ ข้า..คือ...”
“ข้าคงทำให้เจ้าตกใจมาก”
“ข้าตกใจ” คนผอมบางยอมรับ “ข้า...ไม่คิด..คือ พี่ใหญ่รอมเคยบอก แต่ข้าไม่คิด...”
นิ้วมือใหญ่แตะแผ่วเบาที่ข้างแก้ม
สัมผัสแผ่วเบา ที่ทำให้จิตใจสับสนกลับกลายเป็นว่างเปล่า
“หน้าเจ้าซีดมาก ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
องครักษ์เก้าเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพเชมัลเต็มตา....
“ท่านมองข้ามาตลอด”
“ข้ามองเจ้าที่มักจะก้มหน้าอยู่เสมอ จนข้าสงสัยตัวเอง ว่าข้าคงขี้เหร่มาก ขนาดเข้ามาทำห้องให้ข้า เจ้ายังไม่มองข้าเลย ตอนนี้รู้แล้วว่านอกจากข้าจะขี้เหร่ ข้ายังน่ากลัวด้วย”
“ขออภัย”
“ไม่เป็นไร กลับไปพักผ่อนเถิด”
องครักษ์เก้ารับคำสั่ง ก้าวออกมาแล้วก็หยุดอยู่ที่หน้าประตู
คนตัวโตก้าวเข้ามาหาแล้วกอดไว้หลวมๆ
“ขอบใจที่ดูแลข้าเป็นอย่างดี ที่เจ้ากล่าวปฏิเสธข้าในคืนนี้ ข้าจะลืมมันไป”
“แต่ข้าไม่ลืม ข้าเพียงไม่เข้าใจ ท่านมีท่านพี่ฮูดาอยู่แล้ว”
แม่ทัพถอนหายใจหนัก จนองครักษ์เก้าต้องหันกลับมา “ขออภัย ข้าเพียงไม่อยากทำให้ท่านลำบากใจในวันข้างหน้า”
“ข้ากับฮูดารู้จักกันมาหลายปี เรื่องหลับนอนในครั้งแรกมันคือเรื่องของคนรุ่นหนุ่ม แต่เมื่อนานไปมันก็ยิ่งตระหนักได้ว่า มันไม่ถูกต้อง ฮูดาคือเพื่อนของข้า” แม่ทัพเกลี่ยเส้นผมยาวที่ระข้างแก้ม มองใบหน้าด้านข้างของคนที่หลบตาไปมองทางอื่น “ข้ารู้ว่าตั้งแต่เจ้ามาถึง ฮูดาก็ไม่พอใจเจ้ามาตลอด แต่ในคืนนี้ข้ากลับทำให้เจ้าตกใจกลัวข้าขนาดนี้”
“ตอนแรกตกใจ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”
“จริงหรือ ข้าทำให้เจ้าเกิดคำถาม และมีคำพูดมากกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเสียอีก”
แม่ทัพกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น
“เจ้ากลัวข้ามาก จนข้าเป็นกังวลว่า ข้าทำอะไรให้เจ้ากลัวข้าขนาดนี้”
องครักษ์เก้าส่ายหน้า ยิ่งนึกย้อนกลับไปยิ่งพบว่าแม่ทัพลำเอียงให้มากกว่าใครทุกคน
“ข้าเป็นทหารของท่าน ไม่ควรร้องขอ แต่ก็อยากร้องขอ...”
“อะไร” แม่ทัพดันคางให้เก้าหันมามอง
“ข้า...ร้องขอต่อท่าน.....อ่อนโยนกับข้าบ้าง....”
คำพูดที่น่าอับอาย คนเอ่ยปาก ใจเต้นแรง มือก็สั่นไหว จนแม่ทัพต้องจับมือไว้
“เก้า....”
“ข้า...ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร”
มือใหญ่ช้อนคางให้เงยหน้าขึ้นมอง “สิ่งแรกคือมองตาข้า”
การสื่อสารผ่านดวงตาแทนหมื่นพันคำพูด สัมผัสที่อ่อนโยนนำทางทุกการเคลื่อนไหวและสัมผัสแปลกใหม่ ความต้องการและความสุขเต็มเปี่ยม
ดวงใจ และความคิดล้วนเต็มไปด้วยแต่เรื่องราวและสิ่งที่จะทำให้แม่ทัพพอใจ
จนเมื่อองครักษ์ฮูดากลับมาและรู้ว่าองครักษ์เก้าเปลี่ยนจากคนรับใช้ เป็นผู้รับใช้ ความสุขทั้งหมดจึงเลือนหาย
 “เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาตีตนเสมอข้า”
องครักษ์ฮูดาคนที่ตัวสูงกว่ากันเป็นคืบพูดเสียงลอดไรฟัน “เจ้าคิดว่า เจ้าเป็นใครกัน”
องครักษ์เก้า ยังคงได้แต่ก้มหน้ามองพื้น ไม่ตอบโต้จนตงและโป 2 องครักษ์ที่เพิ่งมาใหม่พากันไปเล่าเรื่องให้พี่ใหญ่รอมฟัง จากนั้นองครักษ์ฮูดาก็ถูกลงโทษ
ผลจากการถูกลงโทษสะท้อนกลับมาหาองครักษ์เก้า ที่ถูกกลั่นแกล้งมากกว่าเดิม
สุดท้ายองครักษ์เก้าจึงต้องปฏิเสธแม่ทัพ
“เจ้าปฏิเสธข้ามาหลายครั้งแล้วนะ” แม่ทัพถามขึ้นในคืนวันหนึ่ง
“วันนี้ท่านพี่ฮูดาอยู่” องครักษ์เก้าบอก “นายท่านเรียกหาท่านพี่เถิด”
“ข้าไม่ได้เรียกหาฮูดา ข้าเรียกหาเจ้า” คนตัวโตบอกสิ่งในใจ “ข้าไม่อ่อนโยนกับเจ้าหรือ ทำไมเจ้ายังรังเกียจข้า”
องครักษ์เก้าแทบจะคุกเข่าลงกับพื้น “ท่านเป็นเจ้านาย ข้าจะรังเกียจท่านได้อย่างไร เพียงแต่...ข้าไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด และไม่อยากให้ข้าสำคัญตัวเองผิดไป”
“สำคัญอะไรผิดไป” อีกฝ่ายไม่เข้าใจ
“ข้าเป็นผู้รับใช้ และข้าเป็นรองท่านพี่ฮูดา ไม่ควรทำตนเสมอ”
“เจ้าคิดอะไรมากมายวุ่นวาย ถ้าข้าต้องการเจ้า ก็คือเจ้า ไม่ใช่ใครก็ได้ ข้าไม่ได้เป็นสัตว์ต่ำช้าที่จะสมสู่กับใครก็ได้”
ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมองก็รู้ว่าแม่ทัพไม่พอใจมาก และความไม่พอใจนั้นยังเป็นต่อมาอีกระยะ
แม้ช่วงเวลานั้น แม่ทัพจะไม่ได้เรียกหาองครักษ์ฮูดาในเวลากลางคืน  แต่องครักษ์ฮูดาก็ยังพึงพอใจ
 
จนกระทั่งวันหนึ่งที่แม่ทัพกลับมาจากท่าเรือแล้วส่งกล่องธนูให้ต่อหน้าองครักษ์ทุกคนในที่พัก
“ท่านให้ข้าหรือ”
“ธนูก็ต้องเป็นเจ้า จะให้เจ้าโปหรือไง”
องครักษ์โปคนเล่นมีดหัวเราะ “ธนูเป็นอาวุธที่ข้าถนัดน้อยที่สุด”
แม่ทัพชี้สมาชิกคนเล็กสุดของกลุ่มในเวลานั้น
“ดีเลย เจ้ากับตงต้องไปฝึกธนูกับนายกองมู่เพิ่มเติม”
“อ้าว....” องครักษ์ตงคนที่โดนสั่งให้ไปฝึกธนูด้วยหันไปมองหน้าน้องเล็กของกลุ่ม
“ไม่ต้องร้องอ้าว หัดใช้ธนู ดีกว่าร้องเพลงเพื่อล้มม้าของข้า”
ความผ่อนคลายที่เกิดขึ้นทำให้องครักษ์เก้าพลอยหัวเราะตาม
“หายโกรธข้าแล้วใช่ไหม” จู่ๆ แม่ทัพก็หันมาถาม
 
องครักษ์เก้าส่ายหน้าบอกว่า ไม่เคยคิดโกรธแม่ทัพ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงอะไร
“ถ้าไม่โกรธข้าแล้ว คืนนี้ก็ไปอยู่กับข้า”
พูดจบแม่ทัพก็เดินกลับออกไปทันที ขณะที่องครักษ์เก้าหันไปมองอีกคนที่แสดงสีหน้าไม่พอใจ
ส่วนองครักษ์พี่ใหญ่รอมพูดขึ้น
“เป็นผู้รับใช้ ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะมีสิทธิ์โกรธ หรือเรียกร้องอะไรจากท่าน อย่าหลงคิดไปว่าเจ้าคือคนรักของท่าน”
แรกนั้นองครักษ์เก้าคิดว่า คำพูดของรอม หมายถึงตนเอง แต่เมื่อทบทวนจึงรู้ว่าฮูดาก็เป็นคนที่ถูกตำหนิ
“เรามาที่นี่เพื่อเป็นทหาร เรื่องอื่นมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแม่ทัพ และของตัวเจ้าเอง อย่าทำให้มันกลายเป็นเรื่องชู้สาว และอย่าทำให้วินัยเสียหายเพราะเรื่องนี้”
เมื่อองครักษ์เก้าเข้าไปในห้องนอนของบ้านพักหลังใหญ่ คนในบ้านต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้าง และอ้อมกอดแข็งแรง
“ดีกันนะ”
“ข้าไม่เคยคิดโกรธท่านเลยสักครั้ง”
“งั้นอยู่กับข้า อย่าปฏิเสธข้าด้วยความคิดที่วุ่นวาย”
“ท่านไม่เรียกหาข้าต่างหาก”
“เพราะข้าไม่อยากถูกเจ้าปฏิเสธ ข้ารู้สึกย่ำแย่ในเวลาที่ถูกเจ้าปฏิเสธ”
“ก็ท่านมี....”
“อย่าพูดชื่อเขา เพราะในเวลานี้มีเพียงข้ากับเจ้า”
ต่อให้ย้ำเตือนตัวเองมากมาย แต่ความอ่อนโยนที่แม่ทัพมอบให้ก็ยังคงมีชัยเหนือทุกสิ่ง

แต่ในวันถัดมา องครักษ์ฮูดาขอออกตระเวนคู่กับเก้า หลังการเดินตรวจพื้นที่ด้านประตูเมือง ก็กลับมาที่ค่าย แต่ระหว่างทางองครักษ์ฮูดาชวนให้แวะดื่มเหล้าด้วยกัน
แม้ที่ผ่านมาองครักษ์ฮูดาจะไม่เคยมีท่าทีเป็นมิตร ทั้งกลั่นแกล้งหลายครั้งที่องครักษ์เก้าไม่เคยนับว่านั่นคือการกลั่นแกล้ง แต่การที่เป็นผู้ด้อยอาวุโส ทำให้องครักษ์เก้าไม่กล้าปฎิเสธ
เพียงแก้วเดียว...
องครักษ์เก้าตื่นนอนบนเตียงที่ไม่รู้จัก และคนที่นอนอยู่เคียงข้างคือหญิงสาวที่แม้จะเคยพบหน้ากัน แต่ก็ไม่เคยพูดกันสักคำ
“ข้า...ขออภัย”
องครักษ์เก้ารีบแต่งตัวโดยมีหญิงสาวเข้ามาช่วยเหลือ
“ข้าชื่อพริม” หญิงสาวแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แล้วพาองครักษ์เก้าลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน
พ่อและแม่ของพริมทำร้านขนมปัง ทำให้บ้านนี้มีกลิ่นหอมของขนมอบอวล คนสุภาพทำได้เพียงทำความเคารพพ่อและแม่จากนั้นก็รีบกลับมาที่ค่ายทหาร
องครักษ์ฮูดาเข้ามาทักถามด้วยความเป็นห่วง ว่าเมื่อคืนนี้ดื่มเหล้าด้วยกัน แล้วองครักษ์เก้าก็ขอตัวออกไปทำธุระแล้วไม่กลับมาที่ร้านอีกเลย
“ข้ารออยู่นาน คิดว่าเจ้าจะกลับมาที่ค่ายทหาร แต่ก็ไม่ได้กลับมา”
องครักษ์เก้ามองหน้าคนที่รู้จักกันมานานนับปีด้วยแววตาที่ไม่คาดคิด
“ไปนอนที่ไหนมาหรือ”
จากคำถามขององครักษ์ฮูดา ทำให้เก้าต้องยอมรับว่า ไม่รู้เรื่องของหญิงสาวผู้นั้นเลย
“หากเป็นผู้รักเสรี เขาย่อมภูมิใจหากองครักษ์ของแม่ทัพไปค้างคืนด้วย แต่หากเป็นคนที่อยู่ในครอบครัวดี มีองครักษ์ไปค้างด้วยคืนหนึ่งแล้วหายไปเลย เขาคงต้องอับอาย”
จริงอย่างที่องครักษ์ฮูดากล่าวทุกคำ
บ่ายวันนั้น องครักษ์เก้าจึงกลับไปที่บ้านของแม่หญิงพริมอีกครั้ง หญิงสาวจากครอบครัวคนทำขนมปังที่มีรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการสอนหนังสือให้เด็กๆ ในละแวกบ้าน
“ข้าคิดว่าท่านจะไม่กลับมาแล้ว” พริมกลั้นน้ำตา
การกล่าวคำว่าไม่เป็นไรด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลเช่นนี้ องครักษ์เก้ารู้จักเป็นอย่างดี
ยิ่งนางพูดน้อยคำ ทุกคำคือการบอกว่าพร้อมที่จะยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง องครักษ์เก้าก็ยิ่งเต็มไปด้วยความเข้าใจ
....พวกเรามีเรื่องราวที่เหมือนกันมากเกินไป จนไม่อาจทอดทิ้งให้นางต้องรับเสียงตำหนิจากผู้คนเพียงลำพัง...
จากนั้นพริมจึงแนะนำองครักษ์เก้าให้รู้จักกับพ่อและแม่ของนางอีกครั้ง
และเมื่อออกมาจากบ้านของพริม องครักษ์เก้าพบกับแม่ทัพและองครักษ์ฮูดา
เป็นการเผชิญหน้าที่ทำให้องครักษ์เก้าต้องจมดิ่งลงสู่ความมืดมนที่หาทางออกไม่เจอ
“มีคนบอกว่า เจ้ามาบ้านคนรัก”
คงดีเสียกว่า หากแม่ทัพแสดงความกราดเกรี้ยว หรือสั่งลงโทษ แต่แม่ทัพเชมัลกลับขอเข้าไปทำความรู้จักกับครอบครัวของพริม
พ่อและแม่ของพริมให้การต้อนรับแม่ทัพเป็นอย่างดี
“ขออภัยที่เพิ่งมาแวะมาดื่มชาด้วย เก้าไม่เคยบอกว่า คบหากับพริมอยู่”  แม่ทัพบอก
พ่อของพริมตอบตามประสาซื่อ “พวกเราเคยเห็นและได้ยินชื่อองครักษ์เก้ามานาน พอรู้ว่าพวกเขาคบหากันอยู่ จึงรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก”
องครักษ์หนุ่มหน้าตาดีที่มีทั้งหญิงและชายหมายปอง แต่องครักษ์เก้าก็ไม่เคยมองผู้ใด อาจเคยแวะเข้ามาซื้อของที่ร้าน แต่ก็ไม่เห็นว่าจะเคยมีท่าทีพิเศษใดๆ กับพริม
“พริมเป็นหญิงที่ดี” องครักษ์เก้าตอบไปเช่นนั้น แล้วก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก
เมื่อกลับมาถึงค่ายทหาร แม่ทัพเพียงสัมผัสมือขององครักษ์เก้า แล้วกลับเข้าบ้านพักตามลำพัง

“ทำไมถึงทำเช่นนี้”
องครักษ์ฮูดามีสีหน้าไม่เข้าใจ “ทำอะไร”
“ทั้งท่านและข้า ต่างก็เป็นผู้ใช้เวทย์ ข้ารู้ว่าท่านทำอะไร” องครักษ์เก้าบอก แต่องครักษ์ฮูดาทำเสียงไม่เห็นด้วย
“ไม่ว่าข้าจะทำอะไร แต่สุดท้ายเจ้าคือคนที่ตัดสินใจเลือกเอง”

ฟังเรื่องราวมาถึงตอนนี้ อาเม่ยก็ถามขึ้น “หลังจากนั้นฮูดาเป็นอย่างไร”
“หลังจากนั้น 2 วัน พี่ใหญ่รอมก็พาท่านพี่ฮูดาไปหาท่านบาดาเพื่อนัดดูตัวกับบุตรสาวของท่านผู้ตรวจการณ์เขตใต้”
“คนผู้นี้โชคดีเกินไป” คนตัวเล็กบ่นไม่พอใจ
…บุตรสาวผู้ตรวจการเขตใต้เชียวนะ!...
องครักษ์เก้ายิ้มเศร้า “เขารู้จักกับแม่ทัพมานาน จู่ๆ มีข้าเข้ามา เขาไม่พอใจเป็นสิ่งที่เข้าใจได้”
“แต่ก็ไม่ควรยอมรับ”
แม้อาเม่ยจะพูดจาอย่างคนที่ต้องการหาเรื่องมีปากเสียง แต่องครักษ์เก้าก็เป็นคู่สนทนาที่ไม่รู้ว่าการมีปากเสียงคืออะไร
“หากมีความขัดแย้ง แม่ทัพจะยิ่งไม่สบายใจ เราเป็นทหารไม่ควรปล่อยให้เรื่องส่วนตัวมีผลต่อการทำงาน ผู้คนชอบต่อความในเรื่องแบบนี้ สุดท้ายคนที่เสียหายคือแม่ทัพ”
เรื่องนี้อีกคนยอมรับ “ทั้งเสียใจ และเสียหาย คนคงพูดกันสนุกปาก” อาเม่ยหยุดเดิน เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน “แล้วทำไมฮูดาถึงสมรสแล้ว แต่ท่านยัง”
“ข้าเป็นองครักษ์ท่านแม่ทัพก็จริง แต่การแต่งงานยังต้องขึ้นอยู่กับพระราชา”

อาเม่ยพยักหน้าพลางลากเสียงเข้าใจ พอนัดดูตัวพระราชาก็จัดให้สมรสในทันที
...ถ้าข้าเป็นฮูดา ข้าก็คงไม่พอใจเช่นกัน...
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”
“บุตรีของท่านผู้ตรวจการณ์เป็นคนดี”
“ในความเห็นของท่าน มีใครบ้างที่เป็นคนไม่ดี”
องครักษ์เก้านิ่งเงียบ แล้วก้มหน้า เมื่อตอบคำถาม “ข้าคือคนไม่ดี มีแต่ทำให้เรื่องเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ”

อาเม่ย หันไปหาองครักษ์เก้า กล่าวคำจากใจ “ข้าไม่เข้าใจความรักของท่านเลยสักนิด”
องครักษ์เก้าส่ายหน้ายิ้มเศร้า “แม่ทัพเมตตาข้า ข้าภักดีต่อท่าน รับใช้ท่าน ไม่ใช่ความรักหรอก”
อาเม่ยยังไม่เห็นด้วย องครักษ์เก้าจึงแก้ไขคำพูดใหม่
“ข้าคงรักท่านแม่ทัพน้อยเกินไป ถึงได้ปล่อยให้ความเขลาเข้ามามีอำนาจมากกว่า”
ทั้ง 2 คนเดินมาถึงย่านร้านค้าใกล้กับร้านขนมปังของครอบครัวของพริม ส่วนที่เป็นร้านขนมปัง มีเพียงช่องหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นช่องทางติดต่อซื้อขายสินค้า ที่ในเวลานี้ปิดแล้ว กับด้านข้างที่เป็นทางเดินผ่านสนามหญ้าเล็กๆ ไปสู่ประตูบ้าน
ห่างไปที่หัวมุมถนน เป็นแผงเหล้าที่ยังเปิดขาย

“คืนนั้นท่านดื่มเหล้ากับฮูดาที่ไหน”
องครักษ์เก้ายิ้มมุมปาก รู้ว่าอาเม่ยกำลังคิดอะไรอยู่
“ร้านนั้น” เก้าชี้ไปที่แผงเหล้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“แล้วร้านขนมปังของครอบครัวพริม”
องครักษ์เก้าพาเดินห่างออกมาอีกไม่มากนัก ยังมีร้านค้าที่มีแขวนโคมไฟหน้าบ้าน ทั้งแสงไฟลอดออกมาจากหน้าต่าง
“ร้านนั้น”
อาเม่ยหันไปมองอีกฝ่าย “อย่าบอกนะว่าท่านไม่รู้จักเวทย์นี้”
“ข้ารู้จัก” องครักษ์เก้ากลับมามีท่าทีลำบากใจอีกครั้ง “แต่ทั้งหมดเกิดจากความอ่อนแอในหัวใจของข้าเอง....”
“หยุดโทษตัวเอง”
องครักษ์เก้าดูแปลกใจเมื่อเห็นอีกฝายพูดจาดุดัน
“มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด”
“แต่เราล้วนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้” องครักษ์เก้าพยายามอธิบายอย่างใจเย็น “ข้าควรอ้างว่าโดนเวทย์แล้วปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสตรีผู้หนึ่ง ทิ้งให้นางต้องเผชิญกับการลงโทษจากสังคมเพียงลำพังหรือ ชายชาติทหารไม่ทำเช่นนั้นแน่” องครักษ์เก้าหันไปมองที่ร้านค้าที่ยังมีแสงไฟ ประตูหน้าร้านเปิดออก หญิงสาวคนหนึ่งก้าวออกมา “จะอย่างไร นี่ก็เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในสักวันอยู่แล้ว เข้าไปพบกับพริมและพ่อกับแม่ของนางสิ”

(มีต่อครับ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่3หน้า3 (14เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-04-2015 07:17:57
(ต่อครับ)

พริม ตลอดจนพ่อกับแม่ของนางเป็นเพียงชาวบ้านที่ปราศจากความสามารถด้านการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง ต่อให้พ่อของพริมจะเคยเข้าทำงานที่กองทัพอยู่ปีเศษ แต่ก็ยังรับหน้าที่ในโรงครัว จากนั้นก็กลับมาทำงานที่ร้านขนมปังตามเดิม
หากพริมจะเป็นสตรีรักสนุก หรือพ่อกับแม่ของนางจะเป็นคนร้ายกาจเห็นแก่ตัว การตัดขาดจากครอบครัวนี้คงทำได้โดยง่าย
ทั้ง 3 คนมีท่าทีตื่นเต้นดีใจที่วันนี้องครักษ์เก้าพาเพื่อนมาด้วย พ่อรีบไปเตรียมขนมหลายชนิด เพื่อให้นำกลับมาเป็นของฝากคนที่ค่ายทหาร ส่วนแม่รีบบอกลูกสาวให้หาเครื่องดื่มมาต้อนรับ
“องครักษ์เก้าไม่ได้บอกว่าจะพาเพื่อนมาด้วย พวกเราเลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้” พ่อบอก
อาเม่ยบอกว่าไม่เป็นไร เพราะหลังจากที่กินอาหารเย็นก็ออกมาเดินตรวจการณ์ที่ท่าเรือ เสร็จแล้วถึงได้มาที่นี่
“หากผ่านมาแถวนี้ ก็แวะมารับขนมกลับไปกินได้” แม่บอก “พริมมักจะทำไว้เผื่อแจกเด็กๆ หลังจากที่สอนหนังสือกันอยู่แล้ว”

“ท่านพี่จะค้างที่นี่หรือไม่” พริมถามองครักษ์เก้าเบาๆ
อาเม่ยก็ต้องยกมือบอกว่าไม่เป็นไรอีกครั้ง
“ข้ากลับไปเองได้”

เมื่อองครักษ์เก้าเดินออกมาส่งอาเม่ยที่หน้าบ้าน คนตาสีแปลกยังคงไม่หมดความสงสัยโดยง่าย
“คนเดียวที่รู้สึกดีกับการตัดสินใจของท่าน ก็คือแม่หญิงพริม แต่ทั้งท่าน ทั้งแม่ทัพกลับมีแต่ความเสียใจ”
องครักษ์เก้าถอนหายใจหนักๆ “มองในทางที่ดีสิ พริมและครอบครัวเป็นคนดี”
“ข้าคงเป็นคนไม่ดี ที่รู้สึกโกรธที่ท่านยอมรับการถูกกลั่นแกล้งโดยง่าย”
แต่อีกฝ่ายเข้าใจ “หลายต่อหลายครั้งที่ข้ามีคำถาม ว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ ข้าจะกลับมาที่นี่ในวันนั้นไหม ข้าจะกล้าบอกกับท่านแม่ทัพว่าทุกสิ่งคือแผนการทำลายข้าไหม”
“ท่านไม่กล้าหรอก” อาเม่ยบอกแล้วก็ถอนหายใจหนักๆ
“ใช้คำอย่างที่เจ้ามักจะเรียกก็ได้ ความรัก” องครักษ์เก้าบอกด้วยรอยยิ้มเศร้า “ข้าคงยังรักท่านแม่ทัพไม่มากพอ” คนที่กำลังพูดหยุดมองไปทางด้านหลังของอาเม่ย คนตัวใหญ่ใบหน้าคมเข้ม ก้าวมาหาช้าๆ
อาเม่ยหันไปมองผู้ที่เดินมาหา แล้วหันมาหาองครักษ์เก้า
แต่องครักษ์เก้าชิงพูดขึ้นก่อน “อย่ายอมแพ้ให้กับสิ่งใด อย่าทำเรื่องโง่ๆ อย่างข้า”
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร..”
“สัญญาสิ อย่าทำให้เขาเสียใจ รักเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้ามี”
คนตาสีแปลกยิ้มขำ เมื่อเห็นท่าทีจริงจังขององครักษ์เก้า “อย่างกับเขาจะรักข้า”
“เขาไม่ใช่คนปกปิดความรู้สึก หากเจ้าจะยอมรับว่าเขามีความรู้สึกที่ดีกับเจ้าจริงๆ”
“แล้วท่านล่ะ”
“มันสายไปแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะเรียกความรู้สึกนั้นว่าอะไร ข้าก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว” องครักษ์เก้าบอก แล้วหันไปยิ้มให้กับแม่ทัพ “มารับอาเม่ยหรือครับ”

“พวกเจ้าหายออกไปนานมาก”
แม่ทัพบอก
...พวกเขารักกัน....ดวงตาของพวกเขาที่มองกันและกัน บ่งบอกทุกอย่าง
...แม่ทัพไม่ได้มารับเรา เขาแค่มาดูเก้าอยู่กับคนรักด้วยตาตนเอง เพื่อตอกย้ำให้หัวใจมันเจ็บกว่าเดิม...
แต่ก็อย่างที่องครักษ์เก้ากล่าวไว้ เพราะไม่ได้รักกันมากพอ ถึงได้ยอมคลายมือโดยง่าย

เมื่อเดินกลับมาอาเม่ยยังคงคิดถึงแต่เรื่องครอบครัวของพริมที่ต้องตื่นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบว่า มีองครักษ์ของแม่ทัพนอนอยู่ข้างๆ ลูกสาวก็คงเต็มไปด้วยคำถามมากมายเช่นกัน

“ไง ถึงกับนึกเรื่องที่จะทะเลาะกับข้าไม่ออกเลยหรือไง” คนตัวโตที่เดินอยู่ข้างๆ เรียกให้อีกฝ่ายกลับมาจากความคิด
“ใช่” ยอมรับโดยง่าย “ข้าไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคนดีๆ อย่างเก้าสักเท่าไหร่”
แม่ทัพวางแขนลงบนไหล่ของอีกฝ่าย
“คุยได้ไหม”
“ได้”
“ท่านเสียใจมาก แล้วทำไม....”
“เจ้าจะให้ข้าเดินเข้าไปที่ร้านขนมปังนั่น แย่งชิงเขามาจากสตรีคนหนึ่ง กักขังเขาไว้ในค่ายทหารให้อยู่กับข้าตลอดไปงั้นหรือ”

เป็นความจริงที่ไม่อยากยอมรับ
จะให้แม่ทัพไปแย่งชิงคนรักจากหญิงชาวบ้านเช่นนั้นหรือ
องครักษ์ฮูดา มองเห็นจุดอ่อนของแม่ทัพและองครักษ์เก้า แล้วใช้สิ่งนี้กลับมาทำลายทั้ง 2 คน จากนั้นพี่ใหญ่รอมก็ลงโทษองครักษ์ฮูดาด้วยสิ่งที่ไม่กล้าปฏิเสธ

อาเม่ยหยิบขนม 1 ชิ้นจากห่อที่พ่อของพริมจัดมาส่งให้กับแม่ทัพ
“กินไหม”
แม่ทัพมองด้วยสีหน้ายากบรรยายแล้วส่ายหน้า “เจ้านี่ช่างใจร้ายจริง”
“กินเถิด เพราะที่เหลือข้าจะเอาไปให้ท่านพี่ใหญ่รอม”
แม่ทัพถึงกับหยุดเดิน หันมามองหน้า “เพิ่งได้ยินเจ้าเรียกผู้อื่นยกย่องเช่นนี้”
“ข้าย่อมยกย่องผู้ที่ควรยกย่องอย่างแน่นอน” อาเม่ยยัดขนมใส่ปากของแม่ทัพ “กินขนมของคนที่ชิงคนรักของท่านไป ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย”
“เจ้านี่มัน...” ขนมปังหวานชิ้นใหญ่เต็มปากของแม่ทัพ จำต้องฝืนกลืนให้หมดชิ้น

...รักด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีมันเป็นอย่างไร อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่รู้เช่นกัน....
“ข้าไม่ใช่คนที่จะยอมรับการกลั่นแกล้งได้โดยง่าย”
“เสี่ยวเม่ย เจ้ามันตัวแสบ”
แม่ทัพพูดขึ้น
“แม่ทัพขี้อิจฉา”
“ตัวเล็กขี้โวยวาย”
“หล่อน้อยกว่าพระราชา แล้วยังอกหัก”
คนตัวโตถึงกับหยุดเดินยกมือแตะที่อก
“เจ้ามันวายร้าย ร้ายที่สุดจน....”
“นึกคำเถียงข้าไม่ออกเลยละสิ”
แม่ทัพชี้หน้าอย่างอาฆาต แล้วเหนี่ยวลำคอเล็กๆ คล้ายกำลังลากคอคนดื้อดึงกลับไปค่ายทหาร
“ข้านึกคำเถียงเจ้าไม่ออก แต่นึกออกว่าจะให้ไปช่วยงานในโรงครัวท่าจะดี”

....แบบนี้เรียกว่าไม่ปกปิดความรู้สึกหรือ.....เขาไม่ได้คิดพิเศษกับเรา...
เราก็แค่น้องชายตัวแสบของเขาเท่านั้น

....จบตอนที่ 4....


(http://image.free.in.th/v/2013/il/150527024702.jpg) (http://picture.in.th/id/0305e1f9551206b98ba6af61f85f3072)

 คนรับใช้ = ดูแลเรื่องส่วนคัว
ผู้รับใช้ = รับใช้เรื่องส่วนตัว
อยากสกายคิกฮูดาใช่ไหม ผมก็เหมือนกัน
มาอีกทีวันพุธที่ 29 นะครับ
.นายน้ำชา.



หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-04-2015 07:27:00
ติดไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่าน

อ่านแล้วกลับมาอีดิท
คือมันบีบหัวใจจนอึดอัดทำไมความรักของฮูดาถึงทำร้ายคนที่รักล่ะ ไหนบอกว่ารักแต่พอรู้ว่าเขาพอใจคนอื่นกลับทำร้าย

สงสารทั้งเก้าทั้งแม่ทัพแค่ความรักของคนเห็นแก่ตัวคนนึงทำให้คนสองคนที่รักกันกับไม่ได้อยู่ด้วยกัน

แม่ทัพไม่ได้ชอบเม่ยเชิงชู้สาวใช่มั้ยมองว่าแค่น้องชายรึปล่าวอยากรู้จัง แต่ตอนนี้ที่รู้คือแม่ทัพอยู่กับเม่ยแล้วสบายใจ

สุดท้ายเกลียดฮูดาอ่ะคนเห็นแก่ตัว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 22-04-2015 07:54:29
โถ ท่านแม่ทัพผู้น่าสงสาร ต้องให้อาเม่ยปลอบใจมั้ย

เก้าก็น่าสงสาร ต้องพยายามบอกตัวเองว่าไม่รัก เพื่อไม่ให้อะไรเลวร้ายขี้น

ส่วนฮูดา...ชริ ไม่อยากพูดถึง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 22-04-2015 08:02:34
เสี่ยวเม่ย. 55

งานนี้ สงสารอาเก้าอ่ะ

แต่พี่ใหญ่รอมนี่ ต้อง  o13

รอตอนต่อไปค่ะ

 :impress3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 22-04-2015 08:25:09
อยากสกายคิ๊กท่านแม่ทัพกับเก้ามากกว่า  :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-04-2015 09:04:25
สงสารเก้า   :mew6: อยากคิกแม่ทัพมากๆๆๆ :ling1:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-04-2015 09:27:06
ฮูดา.... = นางอิจฉาช่องหลากสีมาก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-04-2015 10:06:25
อาเก้าน่าสงสาร จะเป็นไรไหม ถ้าคิดอยากจะให้ให้กลับมาหา แม่ทัพ แต่อย่างว่า มันเดินมาไกลแล้ว และสองคนนี้ก็ยังรักกันอยู่ รักกันแต่ไม่สารถอยู่ด้วยกันได้ เศร้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 22-04-2015 10:14:07
เงิบบบบบบ
น้ำตาไหลเงียบๆ ไม่ขาดสาย
กดบวกและเป็ดเบาๆ ก่อนเซออกไปอย่างปวดร้าว
ขอทำใจแป๊บ
 :m15:

edit:
ผมอ่านอยู่ไม่กี่คน
jivetea กับ AGELA ที่เขียนเรื่องทหาร
ตอนนี้เป็นตอนที่ขอบอกว่า กูจำได้ดีเลยล่ะครัช /J

(ขอพี่แล้ว)
(มันไลน์มาทั้งน้ำตาบอกว่า วันนี้โกดไจฟ์ว่ะ 555)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-04-2015 10:18:29
โว๊ะ!!!!!!!!!!! ท่านแม่ทัพตัวแสบของท่านนี่ช่างรู้ใจทุกคนซะจริงๆ
คอยดู้อาเม่ยจะทำให้ท่านแม่ทัพหลงหัวปักหัวปำจนลืมว่าที่รักอาเก้านั้นเป็นไงเลยทีเดียว :m14:

แต่นะอาเก้านี่จะบอกว่าเป็นคนดีหรือเพราะรักแม่ทัพน้อยเกินไปมันก็บอกไม่ถูกแต่ที่ชัดคือเก้าเป็นคนที่ไม่กล้าขัดหรือสู้ฮูดาต่างหาก
ถึงแม้จะบอกว่าไม่อยากให้แม่ทัพไม่สบายใจถ้ามีเรื่องกันกับฮูดา ถ้าคิดกลับไปว่าถ้าแม่ทัพจะสบายใจจริงๆ ก็น่าจะดูออกว่าแม่ทัพพูดหรือทำแต่ละอย่างกับเก้าก็คือทั้งห่วง ทั้งใส่ใจกับตัวเองมาก ดังนั้นนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่แม่ทัพผ่อนคลายและสบายใจที่สุดแล้วถ้าได้อยู่กับตัวเองแต่ดั๊นกลัวซะนี่ ตอนนี้เลยได้แต่หวังว่าคนที่แสบๆอย่างอาเม่ยต่างหากที่จะกล้ากับฮูดาได้เลยต้องสนับสนุนอาเม่ย (คล้ายๆจะแก้แค้นให้ตัวเองด้วยไปในตัว) หรือเปล่า
คือไม่ได้เกลียดอาเก้า นะคะสงสารเหมือนกันแต่การกระทำของอาเก้าแบบนี้ทำให้รู้ว่าคนดีแบบนี้ก็เหมาะจะอยู่ในครอบครัวของแม่หญิงพริมนั่นแหล่ะ
มารอความแสบของอาเม่ยว่าจะทำยังไงให้ท่านแม่ทัพไม่โดดเดี่ยว ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดีกว่า  :a9:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 22-04-2015 10:33:54
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: โดดถีบฮูดา รัวๆๆ  :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 22-04-2015 11:06:36
ฮูดาร้ายกาจมากกกกกกกกกกกกก ขี้อิจฉาริษยา
บอกว่ารักเชมัลแล้วทำให้เค้าเสียใจทำไม แบบนี้มันเห็นแก่ตัว รักแต่ตัวเองชัดๆ
สงสารเชมัลกับเก้าจัง เป็นคนดีเกินไปก็ไม่ดีนะ
ถ้าต่อไปมาแกล้งอาเม่ย อาเม่ยอย่ายอมนะ เอาคืนหนักๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 22-04-2015 12:01:45
คุณไจฟ์มาอัพแล้ววววว
งืดดดด
สงสารเก้าอ่า
ไม่รู้สิ ไม่อยากให้เจ็บเลยยยย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-04-2015 12:11:43
โอยยยย พี่เก้ากับแม่ทัพ ทำไมมันเศร้าเช่นนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 22-04-2015 12:36:29
คนแก้เกมคือพี่ใหญ่รอม
คนที่ได้พุงปลา คือแม่หญิงพริม
อาเม่ย รอกินไข่ปลาดีกั่ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 22-04-2015 14:04:09
 :a5: เจ็บปวด ทำไมคนรักกันถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน
หรือว่ายังรักกันไม่มากพอ

 :hao5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-04-2015 14:23:38
เอาเถอะ ตอนนี้มันก็กลายเป็นเรื่องของอดีตไปแล้วคิดมากไปก็เท่านั้น สงสารไปก็เท่านั้นมารอลุ้นกับความแสบของอาเม่ยดีกว่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 22-04-2015 14:31:15
โอยยยยย  อ่านตอนนี้แล้วสงสารเก้ามาก ๆ เพราะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่มีปากเสียง เลยถูกกระทำแบบนี้สินะ
ส่วนฮูดา ขอมอบตำแหน่งตัวร้ายสุดของเรื่องให้ก่อนเลย  :beat:  555  นี่เพิ่ง 4 ตอนเองนะ แต่จะมีใครร้ายกว่าฮูดาอีกไหมอ่ะ
ตอนนี้แม่ทัพคงเศร้ากับเรื่องของเก้า  เพราะงั้นอาเม่ยก็คงต้องคอยลับฝีปากกับแม่ทัพ ทำให้แม่ทัพหายเศร้าไปก่อนเนอะ
อาเม่ยเจียมตัวตลอดว่าคนแบบตัวเอง คงไม่มีสิทธิ์เป็นผู้รับใช้
แล้วเมื่อไหร่แม่ทัพจะแสดงท่าทีให้เห็นนะ ว่าอาเม่ยจะเป็นคนต่อไปที่จะมาทำหน้าที่นี้  ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 22-04-2015 14:32:57
อาาาาาา
อย่างท่านแม่ทัพต้องได้ไอ้ตัวแสบมาป่วนนี่แหละ ชีวิตจะได้มีสีสันมากขึ้น
แถมยังไม่กลัวใครอีก ขนาดพระราชาก็ยังกล้าป่วน แถมยังได้รับการเอ็นดูอีก
ต่อให้มีกี่ฮูดา ก็บ่ยั่นเนอะ

ส่วนท่านเก้า ก็อาจจะเพราะด้วยนิสัย คิดมาก เจียมตัว รักสงบ
ถึงไม่เจอปัญหาครั้งนี้ ก็อาจจะต้องรับศึกอื่นๆอีกก็ได้
ยังไงก็ขอให้ท่านเก้ามีความสุขกับแม่นางพริมนะ
เสียสละ ยอมถอยออกไปแล้วนี่ ขอให้มีความสุขซะที อย่างน้อยก็ให้มากกว่าที่ฮูดามี 5555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-04-2015 15:15:20
ชีวิตมันจะเศร้าเกินไปแล้วว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 22-04-2015 16:21:19
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอยากตบกบาล แม่ทัพ รัวๆๆๆ ก็รู้ทั้งรู้ว่าอาเก้าโดนรังแกทำไมแกไม่ยื่นมือเข้าช่วยละฮึ อำนาจก็มีอยู่ในมือทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ต้องรอให้องครักษ์รอมมาแย่งซีนพระเอกซะงั้น
 
อาเก้าก็ดีเกิ้น :katai1: หรือที่จริงก็อย่างว่าแกไม่ได้รักแม่ทัพมากพอ หรือเพราะฮูดาคือพี่กว่าเลยไม่กล้าหือ ยังไงคะยังไง สรุปคือต้องตบกบาลมันรัวๆๆๆๆๆๆๆ เช่นกัน

ฮูดาอยู่ใครอยู่มันดิวะ แกมาก่อนแต่เค้าไม่รัก ต่อให้ดียังไงใกล้ชิดแค่ไหนเค้าก็ไม่รักแล้วจะไปแกล้งคนอื่นเค้าทำม้ายยยยยยยยย อินี่ต้องรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆหนักกว่าคนอื่นสิบเท่า

ตอนนี้บอกตง พี่ใหญ่รอมเอาไปกิน ฮีโร่สุดๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนอาเม่ยยกให้พระราชาไปเถอะ  :jul3:

สุดท้ายท่านแม่ทัพอยู่เฉย ๆ นอนตายให้นอนแ_ กไปซะ :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 22-04-2015 21:42:25
สมควรแล้วที่อาเม่ยจะโมโหแทนเก้า (เราก็ด้วย อยากเอาคืนฮูดาหนักๆ)
แต่เหตุผลของเก้า ยอมรับได้ จะเห็นแก่ตัวถือแต่ความรักของตัวเองเป็นใหญ่
พาคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเดือดร้อนเนอะ...
ยังติดใจที่มาของอาเม่ย และพี่ชายของอาเม่ยจัง...
ขอบคุณมากนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 23-04-2015 00:03:42
คือถ้าเรื่องนี้จะเป็นรักประเภท "เราสามคน" ดิฉันก็จะไม่ว่าอะไรเลย เพราะเห็นอะไรบางอย่างที่มันดูโอเคระหว่างแม่ทัพ, องครักษ์เก้า, และน้องเม่ย เรียกว่าเคมีของทั้งสามนั้นเข้ากันได้อย่างกลมกล่อม

แต่รู้ล่ะว่าเรื่องนี้คงไม่มีสามพี อิอิ ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะเชียร์น้องเม่ยให้ได้สมหวังกับแม่ทัพ (ถึงตอนนี้น้องเม่ยเองจะยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อแม่ทัพมาก เช่น แสดงว่ารักหรืออะไรก็ตามแต่, แต่ดิฉันก็เห็นว่าน้องเขาสมควรเป็นนายเอก, ก็คุณไจฟ์ตั้งไว้อย่างนี้แล้วใช่ไหมล่ะ) แต่ก็เห็นแล้วล่ะว่าเรื่องจะให้แม่ทัพหันมาชอบมารักน้องเม่ยได้โดยทันทีทันใดนั้นคงยากมาก ยากยิ่งกว่ายกภูเขาเสียอีก ก็ตอนนี้แม่ทัพยัง "แสดงออกทางสายตา" อยู่ว่า...ยังรักองครักษ์เก้า ก็หน้าตาคือหน้าต่างของหัวใจ ใจรู้สึกอย่างไร...มันก็บอกทางสายตาหมด ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่จะมาให้ทำให้แม่ทัพไม่คิดกับองครักษ์เก้าในทางชู้สาวดั่งเคย มันจะต้องมีอะไรที่สำคัญมากๆ เป็นตัวแปรมาเปลี่ยนความรู้สึกของแม่ทัพ เพราะตอนนี้ดิฉันเห็นด้วยกับคำพูดน้องเม่ยที่ว่า แม่ทัพเห็นน้องเม่ยเป็นเพียงน้องชายตัวแสบเท่านั้น ดูคำพูดโต้ตอบก็รู้แล้วว่า เป็นคำพูดหมั่นเขี้ยวที่ใช้กับน้องชาย โอย ปวดหัวใจเหลือเกิน คืออยากจะบอกว่า ฉากที่องครักษ์เก้าได้ยินคำขอมีสัมพันธ์ครั้งแรกของแม่ทัพ แล้วตกใจจนเดินออกมาจากห้องนอนแม่ทัพ แล้วแม่ทัพเดินออกมาตามพร้อมกับกอดจากด้านหลัง ฉากนี้มันกระแทกใจดิฉันมาก และรู้สึกว่ามันเป็นฉากที่โรแมนติกมากๆ ถูกล่ะที่ว่าก็แค่ฉากกอดธรรมดา มีได้ทั่วๆ ไปในนิยายมากเรื่อง แต่พอมันมาอยู่ในเรื่องนี้ อยู่ในบรรยากาศอย่างนี้ อยู่ในฉากเป็นเรือนไม้งดงามเช่นนี้ และเป็นฉากคำ่คืนอย่างนั้น พร้อมกับคำพูดของแม่ทัพ โอ๊ย...อยากจะบอกว่าโรแมนติกมาก, ณ จุดนี้ถ้าให้แม่ทัพกับองครักษ์เก้าหวนคืนดิฉันก็คงไม่ว่าอะไรเลยนะคะ เพราะฉากกอดมันแสดงให้เห็นเลยว่า แม่ทัพรักองครักษ์เก้ามากเพียงใด รักมาก จนไม่รู้ว่าความรักระหว่างแม่ทัพและน้องเม่ยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ดิฉันไม่รู้เลย...คงต้องรอให้ไจฟ์กับทีค่อยๆ เล่าให้ฟัง และความรักของแม่ทัพกับองครักษ์นี้มันยิ่งใหญ่และหวานละมุนในหัวใจเหลือเกินจนมันยุติธรรมแล้วที่ดิฉัน (ผู้อ่าน) จะรู้สึกเกลียดฮูดาอย่างเข้าใส้ สิ่งที่ทำลงไปนั่นน่ะมันร้ายกาจมาก ไปพรากคนรักกัน พอตัวเองเจอเข้าบ้างรู้สึกอย่างไรล่ะ? หึหึ อยากที่บอกว่าเรื่องนี้มีหลายปม และคุณไจฟ์เพิ่งเอา "ปม" ใหญ่อีกปมมาวางต่อหน้า "ปม" นี้ก็คือ ทำอย่างไรความรักของแม่ทัพจึงจะเกิดกับอาเม่ยได้ ในเมื่อแม่ทัพยังรักองครักษ์เก้าสุดหัวใจ (น้ำตาไหลพราก)

ค่ะ...ระหว่างเก้ากับแม่ทัพ นับว่าเป็นอดีตไปแล้ว (แต่ถ้าหวนคืนก็จะดีใจ) และดิฉันคิดว่าเก้านั้นไม่เหมาะรับมือฮูดา เพราะเป็นคนดีเกินไป และคล้อยตามง่ายเกินไป ไม่มีปากมีเสียง ยิ่งไม่เหมาะกับการจะเป็นคนรักของแม่ทัพ (ใช่ค่ะ สิ่งที่แม่ทัพแสดงต่อเก้านั้นมิใช่อย่าง "ผู้รับใช้" แต่เป็นอย่าง "คนรัก") แต่คนที่จะพอฟัดพอเหวี่ยง (หรืออาจจะเหลือรับ) และสามารถงัดข้อกับฮูดาได้ก็คืออาเม่ย ก็น้องเป็นคนโต้งๆ ดูไม่แคร์อะไรทั้งนั้น รักเป็นรัก เกลียดเป็นเกลียด นี่ลองฮูดาทำอะไรมาสิ น้องคงตอกกลับหน้าหงาย สงสารก็แต่แม่ทัพ อยู่ในตำแหน่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เฮ้อ ก็ตำแหน่งและความอิหลักอิเหลื่อมันค้ำคอเนาะ จะทำอะไรตามใจตัวเองก็ไม่ได้

อยากถามคุณไจฟ์กับน้องทีจังเลยค่ะ ว่าแม่ทัพจะรักน้องเม่ยตอนไหน เพราะดิฉันใจจะขาดแล้วค่ะตอนนี้ คือมันหน่วงตรงที่อ่านตอนนี้ แล้ว "รู้สึก" ว่า แม่ทัพไม่ได้คิดอะไรกับน้องเลย (คือดิฉันคิดว่าแม่ทัพ "คิด" อะไรกับน้อง แต่พอมารู้ว่าไม่ได้ "คิด" เลย จึงราวกับตกหล่นจากหน้าผาสูงลงไปทับกองมูลสัตว์เบื้องล่าง ฮือ)

ส่วนอีกใจนึงก็นึกหมั่นไส้แม่ทัพ ว่ายังอาลัยรักอะไรอีก เขาไปแต่งงานมีเมียแล้วนะ ลืมได้แล้ว มารักน้องเม่ยเถอะ แต่ก็นะ...คนมันเคยรักกัน จะให้ลืมปุบปับก็ไม่ได้ นี่แค่ผ่านมาเพียงครึ่งปีเท่านั้น หัวใจมันลืมยากจะตาย ใช่ไหมคะ

ปล. เข้าใจความรู้สึก puppyluv เลยค่ะ (กอดคอกันร้องไห้กับ puppyluv)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-04-2015 05:25:21

       อาเก้ายอมฮูดาเกินไป   :m16: ทั้งท่านแม่ทัพกับอาเก้าก็ไม่ได้สู้เพื่อความรักของตัวเองเท่าไหร่เลย  :เฮ้อ:

       อาเม่ยยังต่อปากต่อคำกับแม่ทัพเหมือนเดิม   :pig4:

       
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 23-04-2015 05:59:01
เอาเถอะคะ ถ้า เก้าไม่ยอมรามือ แล้วแม่ทัพจะเป็นของเม่ยหราคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 23-04-2015 06:19:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gear77 ที่ 23-04-2015 11:34:32
 :katai1: :ling1: มันจะมาม่ามั้ยเนี่ย เริ่มวุ่นวาย :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 24-04-2015 10:42:30
ฮึบๆ เข้ามาดันอาเม่ยคนน่ารัก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-04-2015 11:01:38
รู้ว่าถูกกลั่นแกล้งแต่ก็ยังยอม ทำไมเก้าถึงยอมรับได้นะ ไม่เข้าใจเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-04-2015 15:27:23
อ่านสองตอนลวด แต่กลับบรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย
อยากจะ :z6:ฮูดามาก ๆ
แล้วก็สงสารเก้า
ในใจลึก ๆ อยาก 3P ไปเลย  :mew3: หลากหลายมากมาย

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-04-2015 08:47:37
รักไม่มากพอจึงยอมคลายมือ...ช่างกล้าหาญและอ่อนโยนสมเป็นเก้า

เชมัลช่างน่าเห็นใจ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่4หน้า4 (22เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 26-04-2015 19:21:00
ตามมาอ่านจนทันแล้ว ^^
แม่ทัพขี้อิจฉากับตัวเล็กขี้โวยวาย จะเป็นส่วนเติมเต็ม
กันและกันให้ท่านแม่ทัพยิ้มได้ทุกครั้งเนอะ แต่สงสาร
องครักษ์เก้าจัง เฮอ ...
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 28-04-2015 14:22:43
ตอนที่ 5

รอม องครักษ์พี่ใหญ่แห่งแม่ทัพเชมัล และเก้าองครักษ์ลำดับที่ 5 แห่งแม่ทัพเชมัล กำลังศึกษาแผนที่ที่จะใช้ในการเดินทางไปเมืองทางเหนืออยู่ภายในห้องทำงาน ของอาคารด้านหน้าของค่ายทหาร แต่จู่ๆ อาเม่ยองครักษ์คนใหม่ก็โผล่พรวดเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงดัง
“ท่านพี่ใหญ่รอม ข้ามีคำถาม” เสียงดังหยุดลงทันที เมื่อเห็นองครักษ์เก้าอยู่ในห้องด้วย “เก้าก็อยู่ที่นี่หรือ”
“เจ้าผู้นี้มีคำถามทุกวัน” องครักษ์พี่ใหญ่รอมกล่าวแล้วกวักมือเรียกให้อาเม่ยเดินเข้ามาในห้อง
“ข้าต้องออกไปก่อนไหม” องครักษ์เก้าถาม แต่อาเม่ยยักไหล่
“ฟังด้วยกันก็ได้”
“คำถามของเจ้าล่ะ” พี่ใหญ่ถามด้วยรอยยิ้มใจดี
“แม่ทัพทดสอบเก้ากับเพื่อนๆ แล้วเหตุใดท่านส่งเก้าไปให้ท่านบาดา ท่านบาดาพาไปหาพระราชา แล้วก็กลับมาที่นี่อีก”
พี่ใหญ่รอมคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิมให้กับความคิดซับซ้อน
“ผู้ที่มีหน้าที่ทดสอบทหารใหม่มีเพียงข้ากับท่านบาดาเท่านั้น”
“แต่แม่ทัพทดสอบข้า” อาเม่ยถาม แล้วโบกมือวุ่นวายก่อนที่จะเริ่มตั้งคำถามใหม่ “เช่นนั้นใครทดสอบเก้ากับเพื่อน”
“ท่านบาดา” พี่ใหญ่รอมตอบ รอคอยคำถามต่อไป
“ท่านบาดาจัดเพื่อนของเก้าคนอื่นๆ ไปอยู่ที่นั่นที่นี่ แต่เขาพาเก้าไปหาพระราชา” คำกล่าวของอาเม่ยยังปราศจากราชาศัพท์อยู่เช่นเดิม
“ใช่”
“เหตุใด”
“เพราะเวทย์ธนูและความสุภาพ ที่ควรไปอยู่ใกล้ชิดผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่แนวหน้า”
อาเม่ยยังไม่เคยเห็นฤทธิ์ธนูขององครักษ์เก้า จึงได้แต่มองดูอาวุธที่วางอยู่ที่โต๊ะมุมห้อง
“ผู้ใช้ธนูย่อมมีจิตใจแน่วแน่”
“นั่นเป็นความจริง”
อาเม่ยยกมือขึ้นสรุปคำถามที่คิดไว้นานแล้ว “แต่ฮูดาสามารถเข้าถึงจิตใจของเก้าได้ ดังนั้น ฮูดาต้องเป็นผู้ใช้เวทย์อ่านจิต”
พี่ใหญ่รอมส่ายหน้า “ที่นี่ไม่มีใครใช้เวทย์ดำ”
“ก็เขา...” อาเม่ยชี้ไปที่องครักษ์เก้า ทำให้พี่ใหญ่รอมลากเสียงแสดงความเข้าใจ
“ฮูดาเป็นผู้สัมผัสดิน” พี่ใหญ่อธิบาย “เมื่อเขาสัมผัสดิน เขาสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวในที่ห่างออกไปได้ และนั่นทำให้เขามีความแม่นยำในเรื่องการสัมผัสจิตใจที่อ่อนแอ” คำกล่าวตรงไปตรงมา “แม้เก้าจะมีความภักดีต่อแม่ทัพ แต่ก็กลับเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตนเอง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการต่อสู้”
“พอดื่มเหล้า เกิดช่องว่างในจิตใจ เขาจึงลวงให้ท่านเข้าหาแม่หญิงพริม” อาเม่ยหันไปสรุปกับองครักษ์เก้า “แล้วเหตุใดท่านจึงไม่บอกความจริงกับแม่ทัพ”
องครักษ์เก้าส่ายหน้าเพราะเคยตอบอาเม่ยไปแล้ว
พี่ใหญ่รอมเป็นคนบอกอีกครั้ง “แม่ทัพรู้ว่าฮูดาทำอะไร” มือใหญ่ชี้บอกให้อาเม่ยนั่งลง “ผู้ใช้เวทย์ทุกคนย่อมรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่คนที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ก็คือแม่ทัพ กับ เก้า ไม่ใช่คนอื่น”
พออาเม่ยหันไปมององครักษ์เก้า ก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
“เจ้าควรดีกับคนที่ดีกับเจ้า ถ้าเขาร้ายมาเจ้าต้องร้ายกลับไปให้มากกว่าเดิมร้อยเท่า” อาเม่ยท่าทางจริงจัง
“หากทำเช่นนั้นผู้ที่จะลำบากใจ คือท่านแม่ทัพ”
อาเม่ยหันไปทำหน้าตาพิกลกับพี่ใหญ่รอม เมื่อองครักษ์เก้ากล่าวคำเดิม

“ข้าลำบากใจเรื่องอะไร” แม่ทัพก้าวเข้ามาพร้อมกับองครักษ์ซันและแซน พอเห็นอาเม่ยอยู่ในห้องก็รู้คำตอบ “เจ้านี่มันช่างสงสัย”
หนุ่มตัวเล็กทำตาขวาง “แต่ข้าไม่สงสัยหรอกนะ ว่าแต่ละวันท่านไปไหนนักหนา”
“ผู้ใดไปไหน มีแต่พระราชาที่ให้ข้าเข้าวังไปทำงาน”
“อ้อ...” อาเม่ยลากเสียงล้อเลียน “คิดว่าไปร้าน....”
คนตัวเล็กพูดไม่จบคำแม่ทัพก็รีบใช้มือปิดปาก “รีบออกไปหาตง แล้วชวนกันไปเดินเล่นที่เขตทางใต้”
“เขตนั้นมีอะไร” อาเม่ยย้อนถาม
“ไม่รู้เช่นกันว่ามีอะไร แต่เจ้ากับตง ต้องไปดู” แม่ทัพย้อนแล้วหัวเราะ
“มีความสุขจริงนะ เวลาเถียงชนะทหารใหม่”
“ใครบอกว่าข้าดีใจที่เถียงชนะเจ้า แต่เพราะวันนี้พระราชาอารมณ์ดี พระราชทานของฝากให้พวกเราทุกคนต่างหาก”
“ของข้าล่ะ” อาเม่ยทำตาโต มองกล่องของในมือขององครักษ์ซัน แต่แม่ทัพบอกว่าอย่าเพิ่งเปิดกล่อง
“ไปทำงานก่อนแล้วกลับมาเอาของ”
อาเม่ยทำหน้าตาไม่พอใจ แต่ก็ออกมาตามหาองครักษ์ตงที่โรงเสมียน เพื่อไปที่เขตใต้ด้วยกัน

เขตใต้เป็นย่านที่ผู้คนส่วนใหญ่จะทำงานในวังของพระราชา และพนักงานของทางการ
“บ้านของท่านพี่ฮูดาอยู่แถวนี้” องครักษ์ตงบอก “หากแถวนี้มีอะไรผิดปกติ เขาน่าจะรู้ก่อน”
อาเม่ยตั้งข้อสังเกต “พวกเขาคงมีอะไรที่จะคุยกัน แล้วไม่อยากให้พวกเราได้ยิน”
“จะอย่างไรก็รู้อยู่ดี” องครักษ์ตงบอก แล้วพาไปที่วัดด้านท้ายของเขต ซึ่งมีทั้งสุสาน ลำคลอง ข้ามฝั่งไปคือชุมชน
 
คนที่มีเวทย์ทางเพลงหยุดยืนบนสะพานมองไปที่ย่านชุมชน อาเม่ยก็ถามขึ้น
“ที่นี่มีพ่อค้าเร่ และขอทานมาก”
“ใช่” องครักษ์ตงบอกแล้วหันมายิ้ม “และมีมากกว่าที่ผ่านมา เราไปเดินเล่นดูสินค้าของพ่อค้าเร่กันสักพักเถิด”
เป็นทหารใช่ว่าจะมีเงินมากมาย องครักษ์ตงกับอาเม่ยหยุดยืนดูมายากลของพ่อค้าเร่ แล้วให้ทานไปด้วยเงินเหรียญ จากนั้นก็พากันกลับมาที่ค่ายทหาร
“คราวหน้า หากจะมาเขตชุมชนท้ายเขตใต้ ต้องขอเงินเหรียญจากท่านแม่ทัพมาด้วย” อาเม่ยบอก

เมื่อเดินมาใกล้ค่ายทหาร 
พ่อค้าที่แผงน้ำชา สะกิดบอกชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าสะอาดตาที่นั่งรออยู่ ว่าองครักษ์ตงกับเม่ยกลับมาแล้ว ชายหนุ่มบอกขอบใจวางเงินค่าเครื่องดื่มแล้วเร่งเท้าเข้ามาทัก
“องครักษ์อาเม่ยใช่หรือไม่”
อาเม่ยตอบรับ ท่าทางของชายผู้นี้ดูคุ้นตา ใบหน้าคมคาย รูปร่างสูง ไหล่กว้าง
ขณะที่อาเม่ยยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้จัก แต่ชายผู้นั้นก็แนะนำตัว “ข้าคือต้าซัน เจ้าจำข้าได้หรือไม่”
“ต้าซัน....” อาเม่ยพูดทวนแล้วก็นึกออก “ท่านคือพี่ใหญ่”
“ใช่แล้ว เป็นเจ้าจริงๆ” ต้าซันกอดน้องชายไว้แน่น “ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอกับเจ้าแล้วเสียอีก” ไม่รอให้อีกคนตอบคำถาม “พ่อพาเจ้าออกมาจากหมู่บ้านหรือ ดีจริง พ่ออยู่ไหนล่ะ”
ต้าซันถามถึงพ่อ แต่อาเม่ยหันไปบอกกับองครักษ์ตง ว่าพบเจอกับพี่ชายที่ไม่ได้พบกันมานาน มีเรื่องต้องพูดคุยกันมากมาย
“เช่นนั้นข้าจะกลับเข้าค่ายไปแจ้งแม่ทัพ” องครักษ์ตงบอก แล้วกลับไปที่ค่ายทหารตามลำพัง
“ที่พักของท่านอยู่ที่ไหน” อาเม่ยถามด้วยความยินดี ลืมเรื่องของพระราชทานไปเสียสิ้น
“อยู่ใกล้กับเขตใต้”
“พวกเราก็เพิ่งจะมาจากทางนั้น”
ต้าซันบอก “ใกล้ได้เวลาอาหารเย็น พวกเรากลับไปคุยกันต่อที่บ้านเถิด” 
ระหว่างที่เดินมาด้วยกัน ต้าซันยังคงถามไถ่ถึงเรื่องที่บ้านตลอดเวลา
“ข้าได้ยินข่าวร้ายที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน ก็ยังคิดเป็นห่วงพวกเจ้าอยู่ แต่อีกใจก็คิดว่าพ่อกับเจ้าต้องไม่เป็นไร ข้าดีใจจริงๆ ที่เจ้าไม่เป็นไร”

บ้านของต้าซันเป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ที่มีพื้นที่เล็กๆ หน้าบ้าน
“ตอนที่แม่พาข้าออกมาจากหมู่บ้าน เราเช่าบ้านอยู่หลังตลาด แต่เมื่อแม่กับข้าได้ทำงานในวัง เราก็เก็บเงินจนซื้อบ้านหลังนี้ได้” ต้าซันเล่าด้วยความภูมิใจ
“ดีจริง” อาเม่ยนึกคำพูดไม่ออก ความยินดีที่ได้พบเจอพี่ชาย มาถึงเวลานี้กลับถูกบางสิ่งเข้ามาบดบัง
ต้าซันเปิดประตูหน้าต่างบ้าน หันไปต้มน้ำชา เตรียมของว่างขณะที่เล่าเรื่องการใช้ชีวิตในเมืองหลวงไปเรื่อย
“ตอนแรกที่มาถึง แม่พาข้าไปเรียนหนังสือละแวกบ้าน ส่วนแม่ได้เล่นดนตรีในวัง จากนั้นก็พาข้าไปเล่นดนตรีด้วย”
“เจ้าชอบเล่นดนตรีอยู่แล้ว”
อาเม่ยบอกขณะที่มองดูเครื่องดนตรีบนหลังตู้
“นั่นของแม่หรือ”
“ใช่” ต้าซันบอก “จะหยิบลงมาเล่นก็ได้”
“ไม่หรอก” อาเม่ยบอก “ข้าเล่นไม่เป็น”
“จริงสิ” พี่ชายวางขนมลงบนโต๊ะ “เจ้าไม่ชอบเล่นดนตรี แต่ชอบฟังดนตรี”
อาเม่ยนึกถึงความทรงจำในวัยเด็กที่แทบไม่มีเหลืออยู่ “ทำไมถึงไปตามหาข้าที่ค่ายทหาร”

ต้าซันยิ้มกว้างขณะที่เล่าเรื่อง “มีคนเล่าว่า องครักษ์ใหม่มีดวงตาสีแปลก มาจากทางเหนือแล้วก็ชื่อเม่ย ข้าก็เลยลองไปถามหา แล้วก็เป็นเจ้าจริงๆ”
“ข้าจำเรื่องของท่านกับแม่ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” อาเม่ยสารภาพ และที่ไม่ได้ระแวงสิ่งใด ทั้งเดินตามมาจนถึงบ้านอาจเพราะความรู้สึกผูกพันในสายเลือด และความมั่นใจว่าจะไม่ถูกหลอกลวงได้โดยง่าย “ข้าพอจะจำเครื่องดนตรีของแม่ได้”
อาเม่ยชี้ไปที่เครื่องดนตรีของแม่ที่หลังตู้อีกครั้ง
“เจ้าชอบฟังเพลงที่ท่านแม่เล่น ยังคิดว่าเจ้าจะหัดเล่นดนตรี แต่สุดท้ายเจ้ากลับหยิบดาบ”

มีเสียงฝีเท้า และคนกลุ่มหนึ่งมาที่หน้าบ้าน ต้าซันหันไปมอง แล้วหันกลับมาหาอาเม่ย
“ท่านแม่ทัพกับองครักษ์มา”
“พวกเขาคงเกรงว่าข้าจะกลับค่ายไม่ถูก”

แม่ทัพเชมัลก้าวเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางเป็นกันเองอย่างยิ่ง “ตงบอกว่า เม่ยพบกับพี่ชาย”
“ข้าเป็นพนักงานดนตรีในวัง” ต้าซันแนะนำตัว
แม่ทัพพยักหน้า “ข้าจำเจ้าได้” คนตัวโตบอก “ข้าไม่ได้ต้องการจะมาขัดขวางการพบกันของพวกเจ้าพี่น้อง เพียงแต่พอจะออกมา เจ้าพวกนี้ก็พากันตามมาด้วยกันทั้งหมด”

เมื่อแม่ทัพกล่าวคำ อาเม่ยก็นึกออกว่า แม่ทัพมักจะไปไหนมาไหนตามลำพังเสมอ รวมถึงการไปดักรอองครักษ์เก้าที่หน้าบ้านของแม่หญิงพริม แต่ในครั้งนี้ อาจเพราะองครักษ์ตงเข้าไปบอกเรื่องที่อาเม่ยพบพี่ชาย และเมื่อแม่ทัพจะออกไปนอกค่ายตามนิสัย องครักษ์ฮูดาที่มีนิสัยระแวงก็คงจะขอตามไปด้วย ดังนั้น พี่ใหญ่รอมที่รู้ทันความคิดของทุกคนอยู่เสมอก็ย่อมต้องตามไปด้วย ก่อนที่องครักษ์ฮูดาจะสร้างปัญหาขึ้นมาอีก และแน่นอนว่าหากพี่ใหญ่รอมตามมาก็ยอมมีคนอื่นๆ ตามมาอีก

สุดท้ายจึงกลายเป็นการที่ทุกคนมาหาต้าซันด้วยกันทั้งหมด

“อาเม่ยมาอยู่ที่ค่ายหลายวันแล้ว แต่เพิ่งได้พบกับพี่ชาย” องครักษ์ซันคนอารมณ์ดีพูดขึ้น ต้าซันจึงหันไปตอบ
“ก่อนนี้มีคนเล่าว่า มีองครักษ์คนใหม่ ข้าไม่ได้สอบถามว่าเป็นใคร จนกระทั่งเมื่อบ่ายมีคนเล่าว่าองครักษ์คนใหม่มีดวงตาสีแปลกและมาทางทางเหนือ ข้าจึงไปลองถามดู แล้วก็ใช่จริงๆ” ต้าซันทำหน้าที่เจ้าของบ้านด้วยการรินน้ำชาต้อนรับทุกคน “วันนี้ เป็นวันของข้า นอกจากจะได้พบน้องชายแล้ว ท่านแม่ทัพและองครักษ์ยังมาเยือนบ้านข้าด้วย ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก”
“ตงก็เป็นคนร้องเพลง” อาเม่ยบอก แต่ทุกคนรีบห้ามองครักษ์ตงร้องเพลง
“เหตุใดจึงไม่ให้ท่านองครักษ์ร้องเพลง” ต้าซันคนที่ไม่มีเวทย์ และไม่รู้จักการต่อสู้ไม่เข้าใจ แม้จะเคยได้ยินเรื่องขององครักษ์ตงมาบ้าง แต่ก็เห็นว่าองครักษ์ผู้นี้ถือดาบเล่มหนึ่ง
ทุกคนพากันสนุกสนานกับการเล่าเรื่องของตง จนผู้ที่ถูกล้อเลียนต้องขอเป็นผู้ตอบคำถามนี้เอง
“ข้าใช้เวทย์บทเพลงเพื่อสังหาร แต่เพราะวันแรกที่ข้ามาที่ค่ายทหาร ข้าล้มม้าของแม่ทัพไปหลายตัว พวกเขาก็เลยไม่เชื่อข้าอีกเลย”

ต้าซันเกาหน้าผากตนเอง “บทเพลงเป็นศิลปะ ศิลปะย่อมไม่ทำร้ายผู้ใด”
“ตงไม่ได้ทำร้ายผู้ใด เขาล้มม้าของแม่ทัพ” องครักษ์โปบอกแล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทำให้ทุกคนพลอยหัวเราะตามไปด้วย

ใกล้ได้เวลาอาหารค่ำ ต้าซันเดินเข้าครัวอีกครั้ง องครักษ์แซนขอไปช่วยในครัว แม้เจ้าของบ้านจะปฏิเสธ
“ข้าทำอาหารกินเองง่ายๆ”
ประโยคนี้ของต้าซันทำให้คนที่มีครอบครัวแล้วอย่างองครักษ์ฮูดารู้ว่าต้องทำอย่างไร
“พวกเจ้าหุงข้าวไว้ เดี๋ยวข้ามา”
ก่อนที่จะออกจากบ้าน องครักษ์ฮูดาไม่ลืมคว้าข้อมือองครักษ์ซันให้ตามมาด้วย
ทั้งคู่หายไปเพียงชั่วอึดใจก็กลับมาพร้อมกับของสด
“พวกเราเป็นทหารกินง่ายอยู่ง่าย” แม่ทัพบอก “เจ้าไม่ต้องวุ่นวายไป มานั่งคุยกัน ปล่อยให้องครักษ์ฮูดาจัดการดีกว่า”

เพียงแค่แม่ทัพเอ่ยชื่อ พร้อมคำกล่าวที่แสดงถึงความไว้วางใจ องครักษ์ฮูดาก็ยิ้มได้
อาเม่ยมองตามแล้วหันมาหาองครักษ์เก้าที่ก็ยังยิ้มค้างอยู่เหมือนกัน
...ความรักอาจมีหลายรูปแบบ และความรักโดยไม่คาดหวังว่าจะครอบครองขององครักษ์เก้าเป็นเช่นนี้เอง...

แม้จะทำงานในวังมาเป็นเวลานาน ต้าซันก็ยังประหม่าเมื่อต้องใกล้ชิดกับผู้ปกครอง ยิ่งมีแม่ทัพกับองครักษ์ทุกคนมาอยู่ในบ้านด้วยแล้ว ยิ่งนานยิ่งทำอะไรไม่ถูก ทั้งแม่ทัพยังเรียกให้นั่งคุยร่วมโต๊ะเดียวกัน
“อาเม่ยไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่บ้าน” แม่ทัพชวนคุย
“แม่พาข้าออกมาจากหมู่บ้านตอนที่อาเม่ยยังเล็กมาก ตัวข้าเองก็จำอะไรไม่ได้มากนัก รู้แต่ทุกคนที่นั่น....” ต้าซันนั่งหลังตรงเล่าเรื่อง
อาเม่ยตอบเหมือนกับที่เคยบอกกับแม่ทัพก่อนหน้านี้ “ผู้ชายทำนา ผู้หญิงทอผ้า ผู้ชายทอผ้า ผู้หญิงทำนา”
ต้าซันหัวเราะพลางส่ายหน้า เช่นเดียวกับทุกคน อาเม่ยก็เลยถาม
“ก็จะให้ทำอันใดเล่า”
“เหตุใดพี่จึงเล่นดนตรี แล้วน้องชายใช้เวทย์” แม่ทัพถามในสิ่งที่อยากรู้
“แม่ของพวกเราเล่นดนตรี จึงหัดให้ข้าเล่นดนตรี....” เป็นอีกครั้งที่ต้าซันหยุดพูดแล้วหันไปมองน้องชาย “ตอนที่อาเม่ย 3 ขวบเขาเริ่ม....เล่น...”
“ดิน น้ำ ลม หรือไฟ” องครักษ์ฮูดาถาม
พี่ชายหันไปมองน้องชาย แต่น้องชายก็นิ่งเงียบ จึงตอบไปตามตรง “ทั้งดิน น้ำ ลม และไฟ พ่อพาเขาไปหาผู้เฒ่า แล้วแม่ก็ลักลอบพาข้าหนีออกมาจากหมู่บ้าน”

ขณะที่ทุกคนประหลาดใจและมีคำถาม แต่แม่ทัพกลับยกยิ้มมุมปาก

“แต่ผู้เฒ่าให้ฝึกการใช้เวทย์ไฟ เพราะมันมีประโยชน์ที่สุด” อาเม่ยหันไปพูดกับคนที่ยิ้มอยู่คนเดียว
ต้าซันเห็นด้วย “สำหรับหมู่บ้านเรา ไฟย่อมมีประโยชน์ที่สุดจริงๆ”
องครักษ์แซนที่เข้าไปช่วยองครักษ์ฮูดาเตรียมอาหาร เริ่มยกของออกมา
“เกรงใจพวกท่านจริงๆ” ต้าซันพูด
แม่ทัพโบกมือแล้วชวนเจ้าของบ้านชิมฝีมือขององครักษ์ฮูดา
เจ้าของบ้านกลับกลายเป็นแขก ส่วนแขกก็กลายเป็นเจ้าของบ้าน แม้เมื่อกินอิ่มองครักษ์ตงกับโปก็ไปช่วยกันเก็บล้าง

“เจอพี่ชายแล้วพูดน้อยลงนะ” องครักษ์ซันถามขึ้น
ต้าซันหันไปตอบ “อาเม่ยไม่ค่อยพูด”
อาเม่ยพยักหน้า แต่ทุกคนไม่เห็นด้วย
“เจ้าคนนี้มีคำถามทั้งวัน” พี่ใหญ่รอมบอก
“เถียงข้าทุกเรื่องด้วย” แม่ทัพบอกบ้าง
ต้าซันหันไปหาน้องชาย แล้วหันมาหาทุกคน “ไม่นะ อาเม่ยแทบไม่พูดอะไรเลย เขามักจะเล่น...อยู่คนเดียวเงียบๆ”
“ข้ายังเป็นเด็กดีด้วย”
และเป็นอีกครั้งที่มีเพียงต้าซัน ยืนยันคำกล่าว

ต่างคุยเล่นกันไปเรื่อย จนเมื่อมองออกไปด้านนอกเห็นบ้านเรือนหลายหลังดับไฟเข้านอนกันแล้ว แม่ทัพจึงลุกขึ้น
“วันนี้พวกเรามารบกวนเจ้านานมาก ได้เวลาที่จะต้องกลับกันแล้ว”
ทุกคนพลอยลุกตาม 
ต้าซันเดินออกไปส่งแล้วหันมาหาน้องชาย
“เจ้าจะออกมาพักกับข้าที่นี่ก็ได้นะ ข้าอยู่ตามลำพัง”
อาเม่ยคิดก่อนตอบ “อาจอีกสักวันสองวัน”

ดวงตาสีแปลกมองผ่านเงาสลัวไปที่บ้านหลังถัดจากบ้านของต้าซัน เห็นคนผู้หนึ่งหลังงองุ้มนั่งอยู่หน้าบ้าน แต่อาเม่ยมองผ่านแล้วหันมาหาต้าซัน “รักษาสุขภาพด้วย”

เมื่อกลับมาถึงค่ายทหาร องครักษ์ตงถามขึ้น “เจ้ากับพี่ต้าซันมีอะไรที่เหมือนกันบ้าง”
อาเม่ยตอบอย่างภาคภูมิใจ “พวกเรามีพ่อและแม่คนเดียวกัน”

...จบตอนที่5....

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/150527024819.jpg) (http://picture.in.th/id/4e2cd8cdbff5c75db1c0d836310402c5)

มาก่อนนัดอีกแล้ว เพราะเช้าวันพุธนี้มีความยุ่งเหยิงมารออยู่
และเวลาที่ลูกพี่ผมไม่อยู่ ความยุ่งเหยิงก็มักจะกลายเป็นเหตุจลาจลอยู่เสมอ
โปรดอ่านด้วยความสนุกสนาน เพราะหลังจากตอนนี้ไป...มันก็คือตอนที่ 6 สินะ :m20:
จะแวะมาอ่านข้อความที่คุณทิ้งไว้ แต่จะลงตอนต่อไป ในวันที่ 6 พฤษภาคมนะครับ
รักนะจ๊ะ ตะเอง
.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 28-04-2015 14:36:09
อาเม่ยมาแล้ว จิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวมาตามอ่าน


อีดิท...
มีพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันนานโผล่มา มีความสำคัญยังไงนะ
ที่จริงแล้วเม่ยพูดมากหรือไม่ค่อยพูด 555 เท่าที่อ่านมานี่ถามตลอดเถียงตลอด
ใครกันนะที่เม่ยเห็นก่อนกลับค่าย อยากรู้จัง
รอลุ้นกันต่อไป

ปล.หลงรักเม่ยมากขึ้นทุกครั้งเลย ทำไมน่ารัก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-04-2015 14:50:33
อาเม่ยเหมือน หนูพุก ซุกซนแต่น่ารัก. ใครคือคนปริศนาคนนั้น ผู้เฒ่าเหรอ? รอลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 28-04-2015 15:07:49
หืมมม..ดิน น้ำ ลม ไฟ เชียวนะไม่ธรรมดาจริง ๆ นายเอกเรา

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 28-04-2015 15:23:36
“ข้ายังเป็นเด็กดีด้วย”  :hao3:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 28-04-2015 15:45:04
จ้า เด็กดี :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 28-04-2015 15:45:48
มีปริศนาและตัวละคร เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆๆ
มึนงงกันต่อไป
ขอบคุณคะนะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 28-04-2015 15:46:03
ใครกันที่อยู่บ้านข้างๆ
ตอนชวนกินข้าวรู้สึกไม่ไว้ใจชอบกล
ดีว่าองครักษ์ทำอาหารเองเลยโล่งอก
แต่คนที่ไม่ค่อยคุยพูดจ๋อยๆตลอด ^^
รอตอนต่อไป ... ตอนที่ 6 สินะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 28-04-2015 15:59:17
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 28-04-2015 16:07:02
นี่ใช่อาเม่ยตัวจริงมั้ย??
อาเม่ยคนนี้เก่งทุกทางซะด้วย คู่ควรแก่ท่านไม่ทัพที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 28-04-2015 16:22:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 28-04-2015 16:29:10
ที่มีอยู่ก็ยังจำได้ไม่หมด ตัวละครใหม่มาอีกแล้ว  :z10:
อาเม่ยทำไมเปลี่ยนเวลาอยู่กับพี่ เป็นปริศนาอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-04-2015 17:02:34
อ่านตอนนี้แล้วอารมณ์แบบไหนมันเกิดขึ้นน่ะ อาเม่ยหรือช่างสงสัยช่างพูดช่างเถียง แต่ในมุมของพี่ชายเหมือนจะมองอาเม่ยแบบรักน้องหลงน้อง น้องดีน่ารักเหลือเกิน ผิดกับภาพที่คนอื่นเห็นมาจริงๆ555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 28-04-2015 17:47:13
 o18
ผู้เฒ่าหลังงองุ้ม คือผู้ใด
จะมาปรากฎให้ตื่นเต้นอีกมั้ย

เสี่ยวเม่ยของแม่ทัพ ยังคงช่างสงสัยต่อไป

  o13
รอติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-04-2015 19:23:34

     อาเม่ยไม่ค่อยตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่เลยกับการเจอพี่ชาย อาจเพราะจากกันตั้งแต่อาเม่ยยังเล็กๆ ความผูกพันใกล้ชิดสนิทสนม

     ระหว่างพี่น้องก็เลยแทบจะไม่มี :hao3:  รอตอนต่อไปนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 28-04-2015 19:55:53
แสดงว่าเมื่อก่อนอาเม่ยคิดว่าตัวเองแปลกแยกจากคนอื่นหรือเปล่า เลยชอบอยู่คนเดียวเงียบๆไม่ค่อยคุยสุงสิงกับใคร
แต่พอมาเจอคนใช้เวทย์เหมือนๆกัน รู้สึกไม่แปลกแยก ก็จ้อซะเต็มที่เลย 555555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-04-2015 20:29:29
ยังคงมีความลึกลับบางอย่างล้อมรอบตัวอาเม่ย ซึ่งต้องรอการอธิบายอีกเยอะ เช่นการสามารถใช้ ดิน, น้ำ, ลม, หรือไฟ ซึ่งเป็นปฐมธาตุ และนับเป็นเวทย์พื้นฐานด้วย หรืออาเม่ยจะเป็น "อวตาร" ฮ่า ๆ

ต้าซันนี่เป็นพี่ชายของอาเม่ยจริง ๆ หรือเป็นอย่างอื่น เพราะการเกี่ยวกับความเป็นมาของอาเม่ยนี่เอง ที่ทำให้ดิฉันไม่อาจปักใจเชื่อได้ว่า ต้าซันเป็นพี่จริง ๆ อาจมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง

ต้องรอต่อไปค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 28-04-2015 22:48:15
สนุกค่ะ เสี่ยวเม่ยน่ารักนะดูเป็นเจ้าหนูเจ้าปัญหา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-04-2015 23:12:44
คำถามเกี่ยวกับเม่ยผุดมาราวดอกเห็ดโคนในหน้าฝน...

ขอทานในตอนแรกที่เม่ยมาถึงเมืองหลวงคือใคร ทำไมเม่ยรู้จักและไล่ไป
แม่พาต้าซันหนีมาเพราะอะไร
พ่อหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นที่หมู่บ้าน
ทำไมเม่ยใช้ได้ทุกธาตุ มีอะไรเกี่ยวพันกับรูปลักณษ์ที่โดดเด่นอย่างตาสีมรกตและเส้นผมสีเงิน
เหตุใดเม่ยจึงสังเกตุคนแก่หลังงุ้ม

การรอคอยย่อมทรมานเช่นนี้เอง....
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 28-04-2015 23:39:41
ตัวละครโผล่มาอีกคนแล้ว  ต้าซันคนนี้ถึงจะบอกว่าเป็นพี่ของอาเม่ย
แต่กลับให้ความรู้สึกยังไม่น่าไว้วางใจ  แถมข้างบ้านยังมีคนลึกลับที่อาเม่ยสังเกตเจออีก
ประวัติของอาเม่ยก็ยังคงปริศนาต่อไป  แถมใช้เวทย์ได้ทุกประเภทอีกด้วยอ่ะ
อาเม่ยเราเนี่ยไม่ธรรมดาจริง ๆ ก็ต้องดูต่อไปว่า อาเม่ยจะยอมเล่าประวัติของตัวเองให้แม่ทัพฟังเมื่อไหร่กัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 29-04-2015 09:10:08
เอนี่เราอ่านข้ามไปตอนไหนไม๊น๊อ......ยังไม่รู้เลยว่าพี่ใหญ่รอมมีความสามารถอะไรนอกจากที่บอกว่าใช้ดาบเล่มใหญ่  :m28:
ซัน >>> ไฟ
แซน >>> น้ำ
ฮูดา >>> ดิน
เก้า >>> ธนู
ตง >>> ดาบคู่(ร้องเพลงสังหาร)
โป >>>เล่นมีด
อาเม่ย >>>ดิน น้ำ ลม ไฟ  ดาบ
แต่มันมีเรื่องของสีตาของอาเม่ยที่บอกว่ามันจะมีสีแปลกๆ คงไม่ใช่ว่าจะมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับดวงตาด้วยนะนั่น
อยากให้มีอะไรพิเศษๆ ของดวงตาด้วย อิอิ หรือว่าสีของดวงตาจะเปลี่ยนไปตามการใช้เวทย์
ก็นะเล่นมีอาจารย์ที่สอนทั้งดาบและทั้งเวทย์ มันต้องมีอะไรพิเศษมากขึ้นแน่ๆ  :m13:

ว่าแต่ยังไม่เห็นสองคนพี่น้องพูดถึงแม่และพ่อว่าเป็นอย่างไรยังมีชีวิตหรือตายหรืออะไรยังไง
ทำไมถึงไม่ได้อยู่ที่บ้านด้วยกันกับต้าซันและทำไมแม่ถึงได้ถึงขั้นลักลอบพาต้าซันออกมาจากหมู่บ้านมันจะมีเงื่อนงำอะไรไม๊น๊อ

ชักขี้สงสัยตามอาเม่ย  :m23:

 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 29-04-2015 13:41:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 29-04-2015 14:15:03
 :hao7:
(http://image.ohozaa.com/i/61e/RViklW.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/yjsjFDeT0D494Z0A)

ขอบคุณภาพจากกลูเกิ้ล
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 29-04-2015 21:09:07
รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 30-04-2015 16:24:34
อาเม่ยเจอพี่ชายแล้วดูจะเป็นอีกคนไปเลย
ต่างกับตอนอยู่กับท่านแม่ทัพสุดหล่อ เถียงคำไม่ตกฟากได้อีก
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกมีปริศนาและเงาอะไรบางอย่างที่ลึกลับวิ่งโคจรรอบตัวอาเม่ยจริงๆ
คนอ่านได้แต่เดาทางไปเรื่อยๆ หวังว่าจะถูกสักข้อ 55

รออ่านตอนต่อไป ขอบคุณนะครับ
ปล. พระราชาพระราชทานของฝากเป๋็นอะไรน๊อ  :m28:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 01-05-2015 01:13:08
กรีสสสสสสสน่าสนใจมากๆ รอติดตามอาเม่ยเดกช่างสงสัยนร้าาาาาาา ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 01-05-2015 12:39:21
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านเรื่องใหม่ของน้องไจฟ์กะน้องที
ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ยังคงความสนุกและน่าติดตามอ่านอยู่เสมอ เป็นนิยายที่เดาทางไม่ถูก ทำให้เวลาจบตอนนี้แทบลงแดง 5555

ตอนนี้มีพี่ของอาเม่ยเพิ่งมาอีกคน แต่ท่าทางไม่น่าไว้วางใจไงก็ไม่รู้ ช่วยกระซิบบอกอาเม่ยให้ระวังตัวทีนะคะ
ความรักของเก้า คงเป็นรักที่ไม่ต้องการการครอบครอง และคงเป็นอย่างที่เก้าพูดจริงๆเพราะรักยังไม่่มากพอเลยต้องปล่อยมือ  :m15:

ยังคงเอาใจช่วยท่านแม่ทัพกะอาเม่ยค่ะ
ฝากน้องทีกระโดดสกายคิกส์องครักษ์ขี้อิจฉาทีนะคะ  :z6:

ปล.ชื่อตัวละครเรื่องนี้เยอะมากเลยค่ะ พยายามจดจำอยู่  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-05-2015 18:34:14
อยากอ่านอาเม่ยทุกวันเลย :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: หนูน้อยหมวกแดง ที่ 01-05-2015 21:24:52
ปริศนาเยอะแท้ ค้างง อาเม่ยน่ารักกก
อยากอ่านต่อ รอรอรอรอ
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 01-05-2015 22:18:40
อ๋อยยย เข้ามาอ่านแล้วคิดเลยยย   :hao7:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-05-2015 14:50:14
 เหมือนพี่ชายของอาเม่ยมีความลับยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-05-2015 14:28:23
จำได้ว่าไจฟ์ทีมักมาต่อวันอังคารหรือพุธ งั้นขออนุญาตรอนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่5หน้า5 (28เมษา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 05-05-2015 17:22:56
รออาเม่ยอยู่นะ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 05-05-2015 17:59:55
ตอนที่ 6

หลังการทรงงานในวันนี้ พระราชาฟารัคแห่งเมืองวัน รั้งแม่ทัพเชมัลไว้หารือข้อราชการเป็นการส่วนพระองค์
แต่ถึงจะส่วนพระองค์ ก็ยังคงมีราชองครักษ์บาดาเดินตามอยู่ไม่ห่าง
ยามอยู่ท่ามกลางเหล่าขุนนาง พระราชามักนิ่งฟังความเห็นของทุกคนด้วยความใส่ใจ แต่ยามเมื่อเข้าสู่เขตอุทยานก็ทรงมีท่าทีที่ผ่อนคลายลง
“อย่าถือสาขุนนางผู้เฒ่าเหล่านี้เลย” พระราชาตรัสกับพระอนุชา
“ไม่ได้ถือสาอันใด” พระอนุชาส่ายหน้า “เพียงแต่พอฟังความเห็นจากหลายคน แล้วกลับพบว่ามีแต่การมองไปที่ปัญหา แล้วพอถามว่าจะทำให้ทำอันใด ก็กลับตอบไม่ได้ ช่างน่าเหน็ดเหนื่อย”
“ทำตามที่เจ้าเห็นสมควร แม่ทัพนาซิมบอกมาว่า พวกเมืองเหนือใช้เวทย์ดำมากขึ้น ข้าจึงแนะนำว่าการเดินทางครานี้เจ้าควรมีฮูดาไปด้วย” พระราชาตรัสแล้ว หันไปมองพระอนุชาตรงๆ  “พูดถึงเรื่องฮูดาแล้ว ข้าต้องขออภัยเจ้าอีกครั้ง”
แม่ทัพเชมัลยิ้มขำ “ตั้งแต่เกิดเรื่องพระองค์กล่าวขออภัยข้ามาไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งแล้ว”
“เจ้าก็พูดเกินความ นี่เป็นเรื่องที่ข้าต้องขออภัยเจ้าจริงๆ” พระราชาหยุดยืน ทอดพระเนตรไปไกล “และคำสาบานของเจ้าทำให้ข้ารังเกียจบัลลังก์ของข้าเอง”
“พระองค์กลับยิ่งต้องทรงงานหนักเพื่อชดใช้ให้ข้าต่างหาก”
พระราชาหันมาตรัสอย่างจริงจัง “หากเจ้าต้องการบัลลังก์นี้...”
พระอนุชารีบโบกมือ “สนทนากันเรื่องอื่นเถิด พระองค์ก็รู้ว่าข้าไม่สนใจ”
“แต่ที่เจ้าจะไม่มีทายาทเพราะข้า ข้าจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเจ้า อย่างน้อยข้าก็ต้องการให้เจ้ามีความสุข“
“ข้ามีความสุขดี และข้าเป็นผู้กล่าวคำสาบานนั้นเอง” พระอนุชากล่าว

คำสาบานรุนแรง ที่เป็นสิ่งยืนยันว่าแม่ทัพเชมัลจะไม่มีวันแย่งชิงบัลลังก์จากพระราชาฟารัค
เมืองวันที่มั่งคั่งและผาสุกแห่งนี้ กลับมีการเมืองภายในเข้มข้นถึงขนาดที่พระอนุชาต้องกล่าวคำสาบานที่ทำให้พระราชาไม่สบายพระทัยมาตลอด
แต่เมื่อการสนทนาเรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้าอันใด พระราชาจึงยอมเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ชอบพอฮูดามากกว่าการเป็นเพื่อนกัน แต่ยิ่งนานวันฮูดาก็ยิ่งทะนงตน พอวันหนึ่งที่บาดาพาเก้ามาหาข้า ข้าจึงส่งเขาไปให้เจ้า”
แม่ทัพถามพระเชษฐา “ข้าสงสัยมานานแล้วว่า ที่แท้พระองค์พอใจเก้า”
“เจ้ากำลังจะทำให้ข้าถูกลงโทษ” พระราชาแย้มพระสรวล ก่อนที่จะยอมรับ “แต่ก็เป็นเช่นนั้น เก้าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา หน้าตาดี ท่าทางสุภาพ อ่อนน้อม และฝีมือดี สมบูรณ์แบบที่สุด ดีที่สุด แต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้ข้าพลาดพลั้งในสักวัน ดังนั้นข้าจึงส่งเขาไปอยู่กับเจ้า เพราะข้าเชื่อว่า เจ้าจะต้องพอใจเขา ลดทอนความมั่นใจของฮูดาลง ข้าอยากให้เขาอยู่กับเจ้าไปชั่วชีวิต แต่ฮูดาก็กลับทำลายแผนการของข้า”

สีหน้าของพระราชาบ่งบอกว่า ยังคงไม่พอใจองครักษ์ฮูดาอยู่

“ตามระเบียบการ เมื่อฮูดาสมรสแล้วข้าต้องย้ายให้มาอยู่กับบาดา แต่ก็เกรงว่ายิ่งพบเห็นจะยิ่งไม่พอใจ ส่วนที่ยังไม่ให้เก้าสมรสกับพริม ก็เพราะข้ายังคงมีความหวังว่าสักวัน เจ้ากับเก้าจะได้อยู่ด้วยกันดังเดิม จนกระทั่งวันที่เจ้าพาอาเม่ยของเจ้าเข้ามา ข้าถึงรู้ว่า แผนการพ่อสื่อของข้าไม่มีวันเป็นจริงได้เลย”
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้างจนพระเชษฐาทัก “เจ้าน่ะออกนอกหน้าจนเห็นได้ชัดเจน เจ้ารู้จักอาเม่ยมาก่อนนี้หรือไร"
"ตอนพบครั้งแรกข้าคิดว่าเขาเป็นคนที่เคยพบ" แม่ทัพยอมรับ "แต่เมื่อพูดคุย ก็มีบางคราที่ทำให้แน่ใจว่าใช่ แต่บางคราก็มั่นใจว่าไม่ใช่ ทำให้คิดไปว่า หรือข้าจะสับสนต้องการให้อาเม่ยเป็นคนนั้น แต่พอนานวันกลับรู้สึกได้เองว่า ที่ข้ามีความสุขก็เพราะอาเม่ยคนนี้"
"อา...." พระราชาฟารัคหันไปสรวลกับราชองครักษ์บาดาที่มีท่าทียินดีไม่ต่างกัน
“พระองค์รู้ ทุกคนก็บอก แต่เสี่ยวเม่ยกลับไม่เคยเชื่อว่าข้าชอบเขา”
พระราชาเลิกคิ้วสูง รอให้พระอนุชากล่าวต่อ
“เขามักถามผู้คนไปทั่วเรื่องข้ากับเก้า”
“คงเพราะเจ้ายังแสดงความหวังดีกับเก้าอยู่”
“ข้าก็ดีกับฮูดา ดีกับลูกน้องของข้าทุกคนเช่นกัน แต่ก็มีบ้างที่ยังเสียใจที่ละเลยความรู้สึกของเก้าจนทำให้เกิดเรื่องขึ้น”
พระราชาหันมาซักพระอนุชา “เจ้าชอบเก้าใช่ไหม”
“เคยชอบ” แม่ทัพยอมรับ “พระองค์กำลังสงสัยว่าชอบ แล้วเหตุใดจึงปล่อยให้เก้าไปจากข้าง่ายๆใช่ไหม”
เมื่อพระราชาพยักหน้า แม่ทัพก็กล่าวต่อ
“ประการแรกคือเก้าต้องการรับผิดชอบต่อพริม ประการต่อมาคือนางไม่ได้ผิดอะไร และสุดท้ายคือใจของข้าเองที่กลับคิดว่า...เป็นเช่นนี้ก็ดี”
“ดีได้อย่างไร” พระราชาเสียงดัง “เจ้าสูญเสียคนรักไปทั้งคน แต่กลับคิดว่าดีได้อย่างไร เหตุใดข้าไม่ถามเจ้าตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องนะ”
“นั่นแสดงให้เห็นว่า ข้าไม่ได้รักเก้ามากพอ ข้ายอมรับมานานแล้วว่า เก้าไม่มีวันที่จะเป็นคนของข้าได้ แต่เสี่ยวเม่ยกลับยังคงทึกทักเอาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนแปลง”
พระราชาเลิกคิ้วขึ้นสูง “ข้าก็คิดเช่นนั้น”
“แต่ความรู้สึกของข้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
พระราชาเดินวนเป็นวงกลมแล้วหยุดเดิน
“ข้าเข้าใจแล้วว่าในเวลานี้ หัวใจของเจ้าอยู่ที่อาเม่ย” ไม่เพียงสรุปเรื่องอย่างรวบรัด แต่พระราชายังหันไปขอการสนับสนุนจากราชองครักษ์บาดาที่เห็นพ้องทันที  “เมื่อแผนเป็นพ่อสื่อให้เจ้ากับเก้าล้มเหลวไปแล้ว เพราะเจ้ามีใจให้กับอีกคน แต่ข้าก็ยังมีอีกคนที่พอจะกู้หน้าให้ข้าได้”
“อีกคน”
“แม่ทัพนาซิม” เมื่อเรื่องราวของพระอนุชาองค์เล็กราบรื่น ก็หันไปจัดการพระอนุชาอีกองค์ที่อยู่ห่างไกล
“อ้อ...เขาดูสนใจเก้า”
“ใช่” พระราชาตรัส “แสดงว่าเจ้าก็มองเห็น”
“ข้าเคยไปเมืองหน้าด่านโดยมีเก้าไปด้วย ก็เห็นท่านพี่นาซิมมองอยู่ แต่ไม่เห็นว่าจะพูดคุย หรือมีท่าทีพิเศษ”
พระราชาตรัส “เพราะนาซิมยังไม่รู้ว่าเก้าจะคิดอย่างไร ก็ต้องรั้งรอดูท่าทีเป็นธรรมดา แต่ผู้ชายที่ชมชอบการใช้อำนาจเช่นเรามักแพ้ทางคนอ่อนน้อม สุภาพอยู่แล้ว” 
พระราชาไม่ยอมเปิดโอกาสให้อีกคนแสดงความเห็น ชิงตรัสขึ้นก่อน “ไปเมืองหน้าด่านคราวนี้ พาเก้าไปด้วย หากนาซิมสานต่อความสัมพันธ์ ข้าก็ต้องการให้เจ้าส่งเสริม ข้ายังคงคิดถึงความสุขเวลาที่เห็นเจ้าอยู่กับเก้าอยู่เสมอ แต่การที่เรื่องราวพลิกผันและไม่อาจหวนคืน ข้ายังต้องรับผิดชอบให้เก้ามีความสุขมากกว่าการอยู่กับหญิงที่เขาไม่ได้รัก”
“ที่ยังไม่เลิกการเป็นพ่อสื่อ ไม่ใช่เพราะท่านยังไม่ชนะฮูดาหรือ”
“ข้าไม่ยอมแพ้ต่อความริษยา และจะต้องลงโทษฮูดาเมื่อมีโอกาส แต่เวลานี้ข้ามีโอกาสที่จะได้จัดการชีวิตของเก้า”

...ตกลงพระองค์ต้องการจัดการชีวิตของเก้า หรือของท่านพี่นาซิมกันแน่..

“ไม่ใช่ว่าท่านลงโทษฮูดาไปแล้วหรือ”
“นั่นยังไม่พอ”
”นอกจากนี้ท่านยังต้องการเข้าไปจัดการชีวิตขององครักษ์เก้าอีกครั้ง”
พระราชายอมรับ “ข้าส่งเขาไปให้เจ้า ก็เพื่อให้เจ้ามีความสุข แต่เพราะฮูดา ทำให้พวกเจ้าทั้ง 2 คนมีแต่ความทุกข์”
“ความทุกข์นั้นอยู่เพียงชั่วคราว ข้ายอมรับได้เพราะพริมเป็นคนดี  ส่วนข้าเองวันนี้ก็มีความสุขดี”
“พริมและครอบครัวเป็นคนดี ไม่ได้หมายความว่าเก้าจะมีความสุขไปด้วย”
“ท่านรู้ได้อย่างไร ว่าไม่มีความสุข เก้าไปหานางทุกครั้งที่มีโอกาส”
แม่ทัพมองหน้าพระเชษฐาแล้วหันไปหาราชองครักษ์บาดาที่รีบหันไปมองทางอื่น
พระราชาฟังเรื่องราวจากราชองครักษ์บาดา และราชองครักษ์บาดาก็ย่อมรับฟังเรื่องมาจากองครักษ์รอมกับองครักษ์คนอื่น
พระราชายิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า “ข้ารู้เรื่องของพวกเจ้า โดยที่ไม่ต้องไปเฝ้าหน้าบ้านใคร”
“ข้าไม่ได้ไปเฝ้ารอเก้า”
พระราชายิ้มกว้างรู้ทันพระอนุชา “เจ้าไปตามหาเสี่ยวเม่ยของเจ้า รวมถึงการทำทีว่าจะไปที่อื่นแล้วสุดท้าย ก็แสร้งว่า บรรดาลูกน้องของเจ้ากดดันให้เจ้าต้องไปหาเสี่ยวเม่ยที่บ้านต้าซันด้วย” 
“พระราชาฟารัค พระองค์ส่งคนสะกดรอยข้าหรือไร”
“แน่นอน” พระราชาเท้าเอว ยืดตัว “ข้าคือพระราชาบ้าอำนาจที่มีน้องชายเกเรตั้ง 2 คนเชียวนะ”

เมื่อจัดการเรื่องราวทุกอย่างที่ดำริไว้ จู่ๆ พระราชาก็ใช้นิ้วชี้กดที่ขมับด้านขวา ท่าทีผ่อนคลายสลายไป เหลือเพียงความกังวลอย่างแท้จริง
“เสี่ยวเม่ยของเจ้า ไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าเห็น”
แม่ทัพเชมัลถอนหายใจหนัก แล้วพยักหน้า
“เมื่อแรกที่เจ้าพาเขามาหาข้า เขายังมีกลิ่นไฟ แต่กลิ่นนั้นไม่ได้เกิดจากการใช้ไฟในการทดสอบ”
พระราชามองน้องชายนิ่งๆ ขณะที่ตรัสต่อ “สิ่งที่เขาทำ มันจะกลับมาทำร้ายเขา และเจ้าเอง เจ้ายังคิดที่จะเปลี่ยนใจหรือไม่”
แม่ทัพเชมัลคลี่ยิ้มกว้าง “ข้าพบเจอผู้คนมามากมาย กว่าที่จะพบคนนี้ที่ทำให้ข้ารักตัวเองมากขึ้น ต้องการทำในสิ่งดีๆ เพื่อผู้อื่น ข้าย่อมไม่เปลี่ยนใจอย่างแน่นอน”
“เจ้าแน่ใจว่ารักเสี่ยวเม่ย”
“ข้ารักเสี่ยวเม่ย และจะไม่มีวันยอมเสียเขาไป ไม่ว่าอนาคตจะเกิดสิ่งใดขึ้นก็ตาม”
“ดี” พระราชาลูบคาง “เจ้าต้องเปิดโอกาสให้นาซิมกับเก้า เพื่อที่ข้าจะนำมาใช้ต่อรองเรื่องของเจ้ากับเสี่ยวเม่ยในอนาคต”
แม่ทัพเชมัลไม่เข้าใจแผนการของพระราชา แต่ยังคงรับฟังต่อ
“เพียงแค่เปิดโอกาส และส่งเสริมพวกเขา ส่วนเรื่องพริม เรื่องฮูดา ข้าจัดการเอง”

หากเป็นผู้อื่นกล่าวคำเช่นนี้ วางแผนเช่นนี้ แม่ทัพเชมัลคงไม่เชื่อใจ แต่เมื่อเป็นพระราชาฟารัค ผู้เป็นเชษฐาที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้น้องชายสมหวัง แม่ทัพเชมัลก็รู้สึกวางใจ แม้จะยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรก็ตาม


“ไปเรียกทุกคนเข้ามา เราจะต้องไปที่เมืองหน้าด่านทางเหนือ” แม่ทัพสั่งเมื่อก้าวเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ของค่ายทหาร
ตามแผนการมีเพียงองครักษ์ซันที่ต้องอยู่ที่ค่ายทหาร ส่วนที่เหลือติดตามแม่ทัพเชมัลไปที่เมืองหน้าด่านที่ใช้เวลาในการเดินทาง 2 วัน
และเป็นอีกครั้งที่องครักษ์ฮูดายังคงเป็นผู้ที่มีปัญหาในการจัดคนออกเดินทาง
“ครั้งก่อนข้าไม่ให้เจ้าไป เจ้าก็มีคำถาม ครั้งนี้ให้ไปเจ้าก็ยังมีคำถามอีก”
คนใบหน้าคมเข้ม ใช้หางตามององครักษ์เก้า “มีทั้งข้า ทั้งเก้า แล้วก็ยัง...” คราวนี้ผู้ที่ถูกมองคืออาเม่ย ที่เมื่อถูกมองก็ถามทันที 
“ทำไมข้าไปไม่ได้”
พี่ใหญ่รอมบอกก่อนที่จะมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น “แม่ทัพจัดวางคนแล้ว ย่อมแสดงว่าทุกคนย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องทำ”
องครักษ์ฮูดาไม่กล้าเถียงพี่ใหญ่รอมอย่างที่องครักษ์เก้ากล่าวไว้

ทั้งหมดใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานนักก็ออกเดินทางในทันที

ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดแม่ทัพถึงจัดคนทำงานเช่นนี้  แต่จากการที่ต้องอยู่รั้งท้ายของกลุ่มทำหน้าที่เฝ้ามองจากทางด้านหลัง อาเม่ยคิดว่า แม่ทัพเองก็ไม่ได้อยากจัดคนเช่นนี้

ระหว่างทางพี่ใหญ่รอมเล่าเรื่องของเมืองหน้าด่านให้องครักษ์ตง โป และอาเม่ยฟัง
เมืองหน้าด่านมีครอบครัวของพระอนุชา พระราชาองค์ก่อนปกครองอยู่ ในเวลานี้ผู้ปกครองคือเจ้าชายนาซิม ซึ่งมีอาวุโสน้อยกว่าพระราชา แต่มากกว่าแม่ทัพเชมัล

อาเม่ยคิดตาม พระราชาองค์ก่อนให้น้องชายไปอยู่เมืองหน้าด่าน แต่พระราชาฟารัคให้แม่ทัพเชมัลอยู่ใกล้ตัว ทั้งไว้วางใจเรียกหาตลอดเวลา
แม้คนที่เป็นน้องจะถูกกดดันจากความระแวงว่าจะแย่งชิงบัลลังก์จากพี่ แต่มันคือทางเลือกของคนที่เป็นพี่ว่าจะวางน้องไว้ที่ไหน

“พระอนุชาของพระราชาองค์ก่อนเคยคิดแย่งชิงบัลลังก์จากพี่ชายหรือ ถึงได้ส่งพวกเขาไปอยู่เมืองหน้าด่าน”
พี่ใหญ่รอมตอบอย่างระมัดระวัง “เรื่องนั้นไม่มีหลักฐาน แต่เมื่อผู้คนพูดกันมากเรื่องขุมกำลังทางทหารที่กล้าแข็งขึ้น พระราชาองค์ก่อนก็หารือกับพระอนุชา จากนั้นพระอนุชาก็พาครอบครัวออกจากเมืองหลวง และไม่กลับมาอีกเลย”
“แต่ตอนนี้ผู้ที่ปกครองที่นั่นคือเจ้าชายนาซิม ที่พวกเราเรียกพระองค์ว่าแม่ทัพนาซิม”
ชาวเมืองวันมักจะขานคำนำหน้าชื่อด้วยตำแหน่งในกองทัพเสมอ จนวันหนึ่งก็ลืมเลือนไป
แม้แต่องครักษ์ 3 คนที่ฟังเรื่องจากรอมอยู่ก็ยังส่งเสียงว่าเพิ่งจะนึกข้อเท็จจริงนี้ออกเช่นกัน
“แม่ทัพนาซิมสมรสมาหลายปี พอมีบุตรชาย ภริยาก็เสียชีวิต พระราชาเคยมาขอหลานกลับไปเลี้ยงในวัง แต่แม่ทัพยังไม่ให้ไป”

และเมื่อต้องหยุดพักในระหว่างทาง อาเม่ยหันไปถามแม่ทัพเชมัล “ใครแนะนำให้พาฮูดา เก้าและเรามาด้วย”
“เจ้าคิดว่าใคร” แม่ทัพหันมาถาม
คนตัวเล็กหรี่ตา “พระราชาฟารัคแน่ๆ”
แม่ทัพชี้นิ้วเชิงบอกว่าสิ่งที่คิดไว้ถูกต้อง
“พระราชาคนนี้ กลับไปต้องคุยกันหน่อยแล้ว ว่าทำเช่นนี้ไม่สนุกเลยสักนิด”
องครักษ์ฮูดาเองยังยอมรับ ว่าคำกล่าวของอาเม่ยนั้นถูกต้อง
“หวังว่าจะเสร็จงานแล้วจะได้กลับไปโดยเร็ว”
ถึงจะตระหนักว่า พี่ใหญ่รอมทั้งกล่าวปราม และส่งสายตาตำหนิที่ใช้คำพูดไม่สุภาพ แต่เพราะอาเม่ยเมื่อเริ่มกล่าวคำ ก็กลับไม่ยอมหยุดกล่าวโดยง่าย ทั้งแม่ทัพก็ไม่ได้ปรามคำพูด สุดท้ายพี่ใหญ่รอมต้องถอนใจหนัก
“จะอย่างไรก็ตัดสินใจแล้ว บ่นว่าไปก็เท่านั้น”

องครักษ์แซนทำให้อาเม่ยฮูดาผ่อนคลายลงด้วยการชวนกันไปหาผลไม้ป่า “เจ้ามาจากทางเหนือ น่าจะรู้จักป่าแถบนี้เป็นอย่างดี”
“บ้านข้าอยู่ในหุบเขา” อาเม่ยเกี่ยง แต่การออกนอกทางไปกับองครักษ์แซน ย่อมยังดีกว่าการที่ต้องอยู่ใกล้กับองครักษ์ฮูดาตลอดเวลา
ส่วนคนที่แทบไม่ได้กล่าวคำใดเลยก็คือองครักษ์เก้า

เมื่อถึงเวลาเย็น แม่ทัพเชมัลสั่งตั้งค่ายพักง่ายๆ บริเวณทุ่งกว้าง ไม่ได้เข้าไปพักที่หมู่บ้านใกล้เคียง
เพียงตั้งกระโจมเล็กๆ กับก่อกองไฟรอในระหว่างที่องครักษ์เก้ากับโปออกไปหาเนื้อสัตว์
ใช้เวลาเพียงไม่นานนัก ทั้ง 2 คนก็ถือไก่ป่าและผลไม้กลับมา
“มีแบร์รี่ไหม” แม่ทัพถามองครักษ์โป
องครักษ์ฮูดาที่ติดตามแม่ทัพมานานยังสงสัย “ท่านอยากกินแบร์รี่หรือ”
“ไม่ใช่หรอก เห็นว่ามีผลไม้มาด้วย” แม่ทัพหันมาถามองครักษ์โปอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่มี แม่ทัพมองดูผลไม้ที่หามา สลับกับอาหารที่จัดเตรียมไว้แล้วหันมาถามอาเม่ย
“ไม่มีแบร์รี่ แต่มีเมลอน กินหรือไม่”
เมื่อถูกถามโดยไม่ทันตั้งตัว อาเม่ยที่ยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว และท่าทีระหว่างแม่ทัพ องครักษ์ฮูดา และองครักษ์เก้าอยู่ทั้งวันกลับสะดุ้งตกใจ
"ห๊ะ"
“ข้าถามเจ้า ว่าไม่มีแบร์รี่ มีแต่เมลอนที่ฮูดาเตรียมมาจากเมืองหลวง กับผลไม้ป่าที่โปเก็บมา เจ้าจะกินไหม ถ้าไม่กินเราออกไปเดินหาแบร์รี่กัน”
อาเม่ยหน้าตาตื่น ส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้า “ข้ากินได้”
องครักษ์ตงยิ้มกว้าง รีบผ่าเมลอนส่งให้แม่ทัพ แม่ทัพก็กลับส่งให้อาเม่ยชิ้นหนึ่ง ตนเองถืออีกชิ้นหนึ่งแล้วเดินเลี่ยงออกมาด้านนอกกลุ่ม
องครักษ์ตงยังคงต้องเป็นคนที่ดันหลังให้อาเม่ยตามแม่ทัพออกมา
“เหตุใด จู่ๆ พูดถึงแบร์รี่”
“ก็เจ้าชอบแบร์รี่”
“อ๋อ..” อาเม่ยลากเสียงยาวแล้วหัวเราะอารมณ์ดี “คิดว่าท่านลืมไปแล้วเสียอีก”
แม่ทัพส่ายหน้า กัดเมลอนในมือแล้วหันไปเช็ดมุมปากให้อีกคน
“ฮูดาทำไก่ป่ารสชาติดีมาก เจ้าต้องลองชิมดู แล้วตัดสินว่า ระหว่างแบร์รี่ที่เจ้าชอบกับไก่ป่า เจ้าชอบสิ่งใดมากกว่ากัน”
อาเม่ยทำปากยื่น “ไม่ต้องรอชิมก็รู้แล้วว่า ต้องฝีมือฮูดา”
“เจ้าเคยชิมแล้วหรือ” แม่ทัพหันไปมองฮูดาที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อมีคนชมฝีมือ “เจ้าเคยทำให้เสี่ยวเม่ยชิมตั้งแต่เมื่อใด”
“ที่บ้านพี่ต้าซันไง” อาเม่ยบอก “แล้วกลิ่นหอม....ขนาดนี้ ท้องไส้ข้ากำลังตีกลองร้องเรียกอาหารอยู่ได้ยินไหม” คนช่างพูดมององครักษ์ฮูดาที่กำลังอารมณ์ดีแล้วหันมาหาแม่ทัพ
“ท่านทำอาหารสู้ฮูดาไม่ได้หรอก”
“เหตุใดจะสู้ไม่ได้ ก็แค่ทำอาหาร”
แม่ทัพบอกแล้วลุกกลับมาที่เตาทำอาหาร
“พี่เก้ากับโป ไปเตรียมหาเนื้อสัตว์มาเพิ่มได้เลย เพราะแม่ทัพจะทำของเสียหายแน่ๆ” อาเม่ยบอก
“ไม่ต้องเลย ก็แค่ทำอาหาร รับรองว่า ข้าทำออกมาดีที่สุด”
“จริงนะ” อาเม่ยถาม ทำสีหน้าไม่มั่นใจ
“จริงสิ”
“จริงนะ”
“จริงสิ ข้าทำได้”
“ข้าว่า....อย่าเลย”
“ข้าทำอาหารได้นะ”
อาเม่ยพยักหน้า “ก็ได้ ท่านทำอาหารได้ แต่มื้อนี้ให้ฮูดาทำอย่างเดิมดีกว่า”
“แต่ข้าทำได้จริงนะ”
อาเม่ยแกล้งลากเสียง “รู้แล้ว...ว่าท่านทำได้ ทำได้ดีกว่าฮูดาด้วย” กล่าวแล้วก็เดินหันหลังให้กลับออกมา
แม่ทัพต้องเป็นฝ่ายเดินตามมา
“ข้าทำอาหารได้”
“ฮื่อ เช่นนั้นแหละ”

“เสี่ยวเม่ย” แม่ทัพเรียก
“แม่ทัพขี้อิจฉา” อาเม่ยหันกลับมาทันที
“เสี่ยวเม่ย เจ้าเด็กแสบ”
“แม่ทัพตัวใหญ่ หล่อน้อย แล้วก็ยังขี้อิจฉา”
“เจ้านี่มัน....” แม่ทัพกล่าวแล้วหันไปหัวเราะกับรอมพี่ใหญ่ของกลุ่ม “ลูกน้องของเจ้านี่มันช่างเถียงเสียจริง”

หลังมื้ออาหารผ่านพ้น องครักษ์แซนกับตง อาสาอยู่ยามก่อน และหลังเที่ยงคืนจึงเป็นองครักษ์เก้ากับโป
“ข้าล่ะ” อาเม่ยถาม “ให้ข้าอยู่กับตงก็ได้”
นั่นหมายถึง 4 คนที่อยู่ในกลุ่มรุ่นเล็กจะต้องเฝ้าเวร ซึ่งทุกคนเห็นดีด้วย
แต่เมื่อทุกคนแยกไปพักผ่อน แม่ทัพกลับเดินออกมาจากกระโจมที่พัก
“เสี่ยวเม่ยอยู่กับตงหรือ”
ทั้ง 2 คนตอบว่าถูกต้อง
“ท่านต้องการสิ่งใด” อาเม่ยถาม แต่แม่ทัพไม่บอกทั้งเดินนำออกมานั่งลงที่โคนต้นไม้ใหญ่ อาเม่ยตามมานั่งลงข้างๆ
“มีเรื่องไม่สบายใจหรือ”
“ไม่หรอก”
อาเม่ยพยักหน้า แต่พอจะลุกขึ้นแม่ทัพก็คว้าข้อมือไว้
“มีอันใด”
“นั่งอยู่ด้วยกันก่อน”
“เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก ผู้อื่นไม่ต้องนอนพักกันพอดี”
“เช่นนั้นก็อยู่เฉยๆ”
 
แม่ทัพดึงข้อมือให้เข้ามานั่งใกล้แต่ไม่ได้กล่าวคำอะไร
มีเพียงดวงตาสีเข้มที่มองไปรอบๆ แล้วหันกลับมามอง
“ง่วงหรือ”
“ไม่หรอก”
มือใหญ่จับเอวของอีกคนให้ขยับเข้ามาใกล้จับศีรษะเล็กให้พิงไหล่ “หลับเถิด”
อาเม่ยขืนตัว แต่แม่ทัพดุ “อยู่นิ่งๆ เป็นหรือไม่”
“ข้าว่ามันไม่ใช่นะ”
“ข้าไม่ได้ถามเจ้าสักคำว่าใช่หรือไม่ใช่ ข้าบอกให้เจ้าหลับ และอยู่นิ่งๆ”
“แต่ข้าต้องอยู่ยามคู่กับตง”
“ก็อยู่ไปสิ”
“นั่งอยู่แบบนี้ ไม่เรียกว่าอยู่ยามหรอก”
“หรือจะเข้าไปพักในกระโจม แล้วให้ข้าเรียกรอมออกมา”
“แม่ทัพเชมัล” อาเม่ยหันกลับไปมองภายในค่าย จึงเห็นว่า ตอนนี้พี่ใหญ่รอมกำลังเดินยามคู่อยู่กับองครักษ์ตง และมีพลทหารอีก 2 คนอยู่อีกด้านของกระโจม “พี่ใหญ่ตื่นแล้วจริงๆ”
แม่ทัพยิ้มไม่เปิดริมฝีปากแล้วลุกขึ้น แต่ยังคงดึงมือให้อีกคนลุกขึ้นมาด้วย
“เจ้าต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่”
“เพราะข้าต้องอยู่ยาม แต่กลับต้องรบกวนพี่ใหญ่ให้ตื่นขึ้นมา”

จู่ๆ แม่ทัพก็กลับหันมามองคนช่างพูด ไม่ได้ต่อคำด้วย ทำให้อีกคนสงสัย
“ท่านมีเรื่องในใจใช่ไหม”
“มี” แม่ทัพยอมรับ แล้วย้อนถาม “เจ้าล่ะ มีเรื่องในใจใช่ไหม”
อาเม่ยหันไปมองทางอื่น ปิดบังความในใจ “ท่านไปพักเถิด”
แม่ทัพคลายมือออก แต่ก้าวเดินไปได้เพียง 2 ก้าว ก็กลับมาคว้าข้อมือให้เดินมาด้วยกัน
“เจ้าไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะต้องอยู่เวรมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” แม่ทัพชี้บอกให้อาเม่ยนอนบนเตียงผ้าใบ ส่วนตัวเองกลับล้มตัวลงนอนพื้น ที่เป็นที่นอนของรอม “ห้ามกล่าวคำแม้แต่คำเดียว ไม่เช่นนั้น ข้าจะขึ้นไปนอนกับเจ้าบนเตียง”
อาเม่ยอ้าปากจะกล่าวคำแม่ทัพก็ขยับตัวจะลุกขึ้นมา จึงต้องหยุดปาก แล้วล้มตัวลงนอน

...จบตอนที่6...

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/150527024922.jpg) (http://picture.in.th/id/7598fb1cc861d5b72af1ddf7fc778653)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 05-05-2015 18:34:51
 เปิดตัวคู่อาเก้าแล้วสินะ พระราชานี่ร้ายจริงๆจับคู่อีกแล้ว
อยากให้เก้ามีความสุขมากๆเหมือนที่เก้าอยากให้เชมัลมีความสุข

สรุปว่าเชมัลกับเม่ยน่าจะเคยรู้จักกันใช่มั้ย?

ความรักของเชมัลครั้งนี้จะมีอุปสรรคมากมั้ย ฮูดาจะทำยังไงต่อไป อยากรู้เร็วๆจัง

ยังคงรอคอยช่วงเอาคืนอยู่นะช่วยจัดการฮูดาเร็วๆได้มั้ย

รอตอนต่อไปครับผม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-05-2015 18:43:13
รอติดตามแผนการของพระราชา

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: บี ที่ 05-05-2015 18:48:34
ว้าวววววท่านแม่ทัพโรแมนติกจัง ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 05-05-2015 19:10:19
กรี๊ด กรีดร้องไปสามบ้านแปดบ้าน
อยากกระโดดกอดพระราชา เสมือนเรามีศัตรูคนเดียวกัน 55555  :hao6:

ท่านแม่ทัพเริ่มรุกคืบแล้วใช่มั๊ยคะ มีสละเตียงนอนให้ด้วยอะ ให้นอนพิงบ้างอะ
อ่านไปแอบอมยิ้มไป ชอบค่ะชอบ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Raycira ที่ 05-05-2015 19:31:45
 :hao6:  :hao6: อย่าไปเกรงงงงงงง ขึ้นมานอนคู่เลยพี่!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 05-05-2015 19:36:32
เก้ากับนาซิม คู่นี้ หึหึหึ อาเก้าของเขาต้องโดนรังแกให้ชีช้ำกะหล่ำปลีแน่ๆ (เดาล้วนๆ) 5555 จะคอยดูว่าคน เถื่อนๆอย่างนาซิมจะมีหัวใจรักอย่างไร แม่ทัพผู้มีลูกติดกับจอมเวทย์ผู้ใจดี๊ดี อุอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 05-05-2015 19:38:42
หมั่นไส้ฮูดาอ่ะ ทำไมต้องมีปัญหา อยากเป็นคนพิเศษตลอดเวลา
นี่ถ้ามาแกล้งอาเม่ยอย่ายอมนะ เดี๋ยวเห็นแม่ทัพชอบอาเม่ยก็มาแกล้งอาเม่ยอีกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 05-05-2015 20:25:23
เม่ยนี่ชั่งซับซ้อนจริงๆ :hao4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-05-2015 20:59:58
แม่ทัพขี้ตู่ แม่ทัพจอมบงการ รุกเอาเม่ยจนอีกคนปฏิเสธไม่ได้เชียว
ดีใจนะคะ ได้ฟังจากฝั่งของแม่ทัพแล้วว่าคิดอย่างไรกับอาเม่ย
คงมีแต่อาเม่ยเท่านั้นที่ยังปักใจว่า แม่ทัพยังรักองครักษ์เก้า

แม่ทัพนาซิม...แค่ฟังชื่อก็ดูเหมือนจะออกแนวตบจูบ ฮ่าๆ หวังว่าจะไม่ร้ายกับเก้านะคะ

แอบคิดว่า อาเม่ยเคยทำอะไร ฆ่าล้างหมู่บ้าน? อดีตเป็นตัวแปรของอนาคต เกรงว่าอาจมีเรื่องร้ายแรงเข้ามาขวางความสัมพันธ์ของแม่ทัพและอาเม่ย แต่มั่นใจว่าแม่ทัพจะพาอาเม่ยผ่านไปได้

ขอบคุณไจฟ์ทีค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 05-05-2015 21:54:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-05-2015 22:29:53
ช่างเป็นพระราชาที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเสียจริง ตัวเองก็ชอบเก้าแต่ไม่สามารถ เลยต้องเที่ยวจับคู่ให้
ถามเก้าสักคำไหมว่าต้องการอย่างนี้หรือเปล่า
แม่ทัพเชมัลก็ช่างหลงเด็กปากกล้าเสียจริง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 05-05-2015 22:31:42
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 05-05-2015 22:32:40
ความในใจของแม่ทัพ ทำเอาเราอึ้ง  แต่ชัดเจนนะ

#ทีมราชา เราเกลียดฮูดาเหมือนกานนนนนนน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-05-2015 23:08:02
ขอบคุณก่อนเลยรอให้ถึงวันที่ 6 อยู่แต่เปิดมาเจอวันนี้ถือว่าโชคดีแถมยาวด้วย
มาเจอพี่ชายแบบนี้คุณน้องชายเหนื่อยไหม ดูพระราชาสนุกเหลือเกินกับการจับคู่หาคู่ให้น้องชายเนี่ย งานหนักเนอะ  :hao3:
คุณแม่ทัพเองก็เปิดตัวขนาดนี้แท้ๆอาเม่ยของเราก็ยังไม่รู้ตัวอีก  :z3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-05-2015 23:16:46
ใจแบ่งเป็นสองฝ่าย
อยากให้เก้าอยู่กับนาซิม แต่ก็อยากให้อยู่กับพริมคนอ่อนโยนเช่นกัน

อา....เอาใจช่วยใครดี ตอนนี้รู้สึกว่าเก้าเป็นนายเอกแฮะ

เสี่ยวเม่ยยังคงลึกลับ และน่ารักเช่นเดิม

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-05-2015 23:20:38
เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ

เพิ่งเห็นจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-05-2015 01:42:54


     อ่านตอนนี้แล้วทำให้รู้ถึงความรู้สึกของแม่ทัพเชมัลที่มีต่ออาเก้าและต่ออาเม่ยซะกระจ่างแจ้งเลย  :katai2-1:

     และมาปูเสื่อรอท่านแม่ทัพนาซิม :katai5:     :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 06-05-2015 07:40:58
 o13

ขอบคุณที่มาต่อค่าา

รอแม่ทัพต่อไป

อิอิ  :mew4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 06-05-2015 14:49:21
แม่ทัพ แสดงออก คนอื่นๆ ก็เดาทางออก
ทำไมอาเม่ย ถึงได้มึน หรือว่า รู้แต่ไม่ยอมรับ
หวังว่า เจ้าชายนาซิมจะโปรดปรานเก้า
จินตนาการต่อว่าถ้าเก้าต้องไปเลี้ยงลูกติดของเจ้าชายคงจะสนุกมาก
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 06-05-2015 15:48:49
เอ้อออ เอาจริงๆนี่อาเก้ามีแต่คนรุมรักรุมชอบ แต่ไหงถึงได้โยนกันไปโยนกันมาอย่างนั้นเล่า
แระถ้าเก้าต้องได้คู่กับแม่ทัพนาซิมอย่างที่พระราชาว่ามา แล้วแม่นางพริมจะทำยังไงล่ะนั่น
เป็นคนดีๆนี่อยู่ยากแท้  :sad2:

ส่วนพระราชาดูแล้วเป็นจอมวางแผนที่ดูมีความสุขที่สุด   :impress:

นี่เตรียมตะหงิดๆ ที่พระราชาบอกว่าจะเอาเรื่องอะไรมาใช้ต่อรองเรื่องของแม่ทัพเชมัลกับเสี่ยวเม่ยในอนาคต
จะน่าสงสารคู่แม่ทัพคนไหนดีระหว่างแม่ทัพนาซิมกับแม่ทัพเชมัล รอชมอย่างจดจ่อ  :o9:


สุดท้ายแม่ทัพเชมัลยอมรับว่ารักอาเม่ย เหอ เหอ เรื่องของคนที่ชอบมากๆ ชอบจริงๆนี่เหมือนผงเข้าตาจริงๆเน๊อะ
จะมองออกไหมน่ะว่าทำไมอาเม่ยถึงคิดว่าแม่ทัพยังอาลัยเก้า
แต่เอาเถ่อะถือว่ามีพัฒนาในที่สุดก็ยังสามารถเอามานอนด้วยได้แล้วล่ะเนาะคืนนี้
(สงสัยไม่ชอบให้ชวนนะท่านแม่ทัพอาเม่ยของท่าน เพราะท่านชวนทีไรไม่ค่อยยอมดีๆ สักที ภาคบังคับนี่ใช้ได้ผล คงต้องจัดบทเรียนเฉพาะนี้ให้อาเม่ยตลอดแน่ๆ  :t2:)

มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้วซินะกับอาเม่ยคนนี้แม่ทัพเชมัล คนในอดีตไม่สำคัญเท่าปัจจุบันท่านทำถูกแล้ว  o7
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 06-05-2015 18:31:04
ท่านแม่ทัพรับว่ารักน้องซะแล้นนนนน เป็นไงมาไงหนอ
 :mew3:
อยากให้เก้าสมหวังดังใจจริงๆ จังๆ เหมือนกัน (แอบเกรงใจในความดีของพริม)
บวกและเป็ดให้พระราชาพ่อสื่อ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-05-2015 21:17:36
เบาใจหน่อยที่แม่ทัพรักอาเก้าไม่มาก

ตอนแรกคิดว่ารักมากๆซะอีก เพราะอ่านจากอาเม่ยแล้วก็นะ

รู้แล้วว่าอาเม่ยคิดเองเออเอง อิอิ

ตอนนี้เท่าที่อ่านมา

เหมือนอาเก้าจะเด่นกว่าอาเม่ยของเรายังไงไม่รู้นะคุณคนแต่ง

ปกติจะชอบนายเอกเด่นๆ แต่นี่ดูยังไงๆอาเก้าก็เด่นกว่า(หรือเราคิดไปเองแบบอาเม่ย)

ตอนหน้าขอให้แม่ทัพนาซิมถูกใจอาเม่ยเถอะ ท่านแม่ทัพของเราจะได้หึง เพราะอาเม่ยเป็นนายเอกยังไงๆต้องเด่นกว่าอาเก้าอยู่แล้ว

ติดตามจ้าเรื่องสนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: ดินสอ ที่ 06-05-2015 22:38:51
ชอบเรื่องนี่ๆๆๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 08-05-2015 06:56:46
ดันๆๆๆ ฮึบๆๆๆๆ

รออาเม่ยทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 08-05-2015 20:50:41
แม่ทัพรุกหนักมาก

น้องเม่ยหลุดฟอร์มตลอด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-05-2015 16:33:46
ที่แท้พระราชาก็เป็นคนจัดการเรื่องชีวิตคู่ของแม่ทัพ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 12-05-2015 06:42:18
วันนี้มาไหม......มาใช่ไหม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 12-05-2015 18:39:19
 :impress2:

มารอเสี่ยวเม่ย กับแม่ทัพ

 :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 12-05-2015 22:07:20
ปูเสื่อรออาเม่ยแล้วนะ มาเร็วๆเลย :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 12-05-2015 22:54:13
ถึงปากจะบอกรักเม่ย แต่คำพูดกลับไม่กินใจไม่รู้สึกลึกซื้งเท่าไหร่
แต่การกระทำกับความรู้สึกเวลาอยู่กับเก้ามันนวล ๆ ออกนุ่มละมุนมากกว่า
ก็ไม่รู้ซินะว่าเม่ยจะรู้สึกเหมือนกันมั้ย ............

ปวดใจกับพระเอกน่ามึน เปลี่ยนพระเอกกลางอากาศตอนนี้ยังทันไหม   :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 12-05-2015 23:01:22
ถึงปากจะบอกรักเม่ย แต่คำพูดกลับไม่กินใจไม่รู้สึกลึกซื้งเท่าไหร่
แต่การกระทำกับความรู้สึกเวลาอยู่กับเก้ามันนวล ๆ ออกนุ่มละมุนมากกว่า
ก็ไม่รู้ซินะว่าเม่ยจะรู้สึกเหมือนกันมั้ย ............

ปวดใจกับพระเอกน่ามึน เปลี่ยนพระเอกกลางอากาศตอนนี้ยังทันไหม   :laugh:

เห็นด้วยเลยค่ะ ถึงปากจะยอมรับว่ารักเสี่ยวเม่ย แต่การกระทำดิฉันว่ายังไงก็ยังไม่ใกล้เท่ากับองครักษ์เก้า หรือว่าเพราะเป็นคนละคน การปฏิบัติตัวเลยแตกต่างกันไปด้วย?

ปล. นั่งรอ นอนรอ คาดว่ารอถึงเช้า 55+   :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่6หน้า6 (5พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-05-2015 02:37:25

  วันนี้วันพุธแล้ว อาเม่ยจะมามั้ยน้าาาา มารอค่ะ มารอ  :z13:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ587)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 13-05-2015 07:30:22
ตอนที่ 7

เมืองหน้าด่านมีผู้ใช้เวทย์อยู่หลายคน ร่วมด้วยทหารฝีมือดีที่ถูกส่งเข้ามาสมทบ นับตั้งแต่พบการเคลื่อนไหวผิดปกติ
แต่เมื่อขบวนของแม่ทัพเชมัลเข้าใกล้เมืองหน้าด่าน ก็พบม้าเร็ววิ่งสวนมาแจ้งข่าวว่า พบกลุ่มฝ่ายตรงข้ามในลักษณะที่ไม่น่าไว้วางใจ
แม่ทัพเชมัลจึงสั่งให้กลุ่มองครักษ์เร่งม้าตรงไปตามตำแหน่งที่ม้าเร็วแจ้งข่าว

กลุ่มมนุษย์และอมนุษย์จำนวนร้อย รวมอยู่ในทุ่งกว้าง ห่างจากแนวรั้วของเมืองหน้าด่านไม่มากนัก สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากบนกำแพงเมือง
แม่ทัพนาซิมผู้ปกครองเมืองหน้าด่าน เป็นนักรบที่ใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ ดวงตาคมกริบ เตรียมพร้อมที่จะเข้าต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา
ผมสั้น ผิวสีเข้ม ดวงตาดุดันกึ่งเย้ยหยันผู้คนอยู่ในที
และแม่ทัพผู้นี้ กำลังต้อนรับแม่ทัพเชมัลกับกลุ่มองครักษ์ที่ล่วงหน้ามาก่อนทหารราบบนกำแพงเมือง หาใช่ที่ห้องประชุม บ่งบอกถึงความจริงจังต่อหน้าที่

“เมื่อรุ่งเช้าชาวบ้านมาบอกว่า มันอยู่ห่างออกไปประมาณครึ่งวัน ครู่เดียวพวกมันก็เข้ามาถึงที่นั่นแล้ว ข้าจึงให้ม้าเร็วไปแจ้งข่าว”
“พวกมันผ่านหมู่บ้านโจรเข้ามา ข้าเคยไปปราบโจรที่นั่น” พี่ใหญ่รอมบอก แต่ผู้คุมเมืองหน้าด่านแจ้งว่า หมู่บ้านนั้นไม่ได้ถูกทำลาย แต่พวกมันใช้วิธีเดินทางอ้อมหมู่บ้านหลายแห่งจนเข้ามาถึงแนวรั้วของเมือง
องครักษ์ฮูดาลงจากหลังม้า สัมผัสพื้นดิน แล้วบอก
“ครึ่งหนึ่งเป็นอมนุษย์ที่มาจากดิน อีกครึ่งเป็นมนุษย์”
...เวทย์ดำ...

แม่ทัพนาซิมถามผู้ที่มีศักดิ์เป็นน้อง “พวกเจ้าเพิ่งเดินทางมาถึง...”
“ข้าอยากอวดฝีมือขององครักษ์ใหม่ต่อท่านพี่”
แม่ทัพนาซิมเลิกคิ้วสูงเชิงถาม แม่ทัพเชมัลก็ชี้ไปที่องครักษ์ตง โป และอาเม่ย
“คนใช้มีดสั้นคือโป อีกคนคืออาเม่ย ส่วนอีกคนคือตง...ไว้ก่อนดีกว่า”
องครักษ์ตงได้แต่พูดเสียงอ่อย “ข้าทำได้มากกว่าล้มม้าจริง ๆนะ”
มีเสียงหัวเราะหลายเสียงผสานขึ้น แต่ดวงตาของแม่ทัพนาซิมกลับไปหยุดอยู่ที่องครักษ์เก้าผู้ใช้ธนู
ดวงตา และรอยยิ้มที่คล้ายกำลังดูหมิ่นผู้อื่น กลับอ่อนโยนลง
“วันนี้เจ้าก็มาด้วย”
องครักษ์เก้าเพียงแค่พยักหน้าแล้วก้มหน้าเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
อาเม่ยพยักหน้าให้กับความคิดของตนเอง คนผู้นี้เพียงมีบุคลิกดูหมิ่นผู้อื่น แต่เนื้อแท้ตรงข้าม อาจเพราะการที่ต้องปกครองเมืองทหารแห่งนี้โดยลำพัง 

แม่ทัพเชมัลดูความพร้อมของทุกคนอีกครั้งแล้วขอให้ทั้งหมดเตรียมพร้อมอยู่ที่ด้านหน้าของแนวกำแพง แต่นำกลุ่มองครักษ์เข้าหาฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเข้าไปใกล้ กลุ่มมนุษย์และอมนุษย์ในทุ่งกว้างก็จัดขบวนแถวรอรับ
ผู้ที่ก้าวมายืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มมีรูปร่างสูงใหญ่ พี่ใหญ่รอมบอกทุกคน “เป็นกองโจรที่สนับสนุนพวกเมืองเหนือ”
แม่ทัพลงจากหลังม้า ฝูงม้าก็กลับไปรอที่กำแพงเมืองโดยไม่ต้องสั่งการ
มีผู้ที่เหลืออยู่ตรงนี้เพียง 6 คนเปรียบเทียบกับฝ่ายตรงข้ามแล้วห่างกันไกล แต่แม่ทัพเชมัลไม่ได้เป็นกังวลในเรื่องนั้น

“แซน ฮูดา เก้า โป เม่ย”
4 คนเตรียมพร้อมที่จะเป็นกลุ่มนำ แต่อาเม่ยกลับเสนอแผนที่ดีกว่า
“ข้ามีทางลัด พี่เก้า ธนูของท่านแรงขนาดไหน”
องครักษ์เก้าชี้บอก “หากต้องการให้ยิงข้ามไปถึงด้านหลังของฝ่ายตรงข้ามก็ได้”
“ดี” อาเม่ยบอก “พี่แซนส่งน้ำให้ข้าด้วย”

ขณะที่คนอื่นยังไม่ค่อยเข้าใจแผนการนี้ แต่แม่ทัพกับพี่ใหญ่รอม กลับคลี่ยิ้มพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดขององครักษ์คนใหม่
องครักษ์เก้า โก่งคันธนูแล้วยิงธนูออกไป จากธนูดอกเดียวแตกออกเป็นร้อย  พร้อมกับที่องครักษ์แซนเรียกสายน้ำจากกลางอากาศ และ...
อาเม่ยกระโดดขึ้นเหยียบธนูเพียงหนึ่งดอกพุ่งตรงไปกลางกลุ่มฝ่ายตรงข้าม
องครักษ์ฮูดาร่ายเวทย์เสริมแรงน้ำขององครักษ์แซนเพื่อเร่งสลายร่างดินของฝายตรงข้าม

ส่วนแม่ทัพ พี่ใหญ่รอม และองครักษ์ตง ที่เป็นกลุ่มผู้ใช้ดาบเป็นหลัก ต่างก็ใช้อาวุธในมือฟาดฟันคู่ต่อสู้ที่เป็นมนุษย์
ที่น่าประหลาดก็คือลูกธนูที่ไม่ขาดสายขององครักษ์เก้ากลับไม่สัมผัสฝ่ายเดียวกัน

ท่ามกลางการต่อสู้ชุลมุน หัวหน้าของฝ่ายตรงข้ามซัดอาวุธใส่คนที่ยืนอยู่บนธนูจนตกลงมากระแทกพื้น  แต่เพียงอึดใจดาบของแม่ทัพก็ผ่าแยกร่างหัวหน้ากลุ่ม
ทั้งหมดปราบกลุ่มผู้บุกรุกนับร้อยในเวลาเพียงชั่วอึดใจ
ที่ผ่านมาเป็นที่รู้ว่า แม่ทัพเชมัลเป็นคนที่จัดการทุกสิ่งทุกอย่างอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว ศัตรูถึงเกรงกลัว ดังนั้นในครั้งนี้ที่มีศัตรูเพียงหยิบมือจึงไม่น่าเป็นกังวล
แต่การกำจัดทั้งหมดคราวนี้ก็ยังหมดจดรวดเร็วเกินไป

เมื่ออมนุษย์ที่มาจากดินถูกองครักษ์ฮูดาฝังและกำชับด้วยเวทย์เพื่อไม่ให้กลับคืนขึ้นมาอีก จึงเหลือแต่ร่างของผู้ที่เป็นมนุษย์ล้มตายเกลื่อนอยู่บนผืนดิน
“อาเม่ย” แม่ทัพมองหาคนที่หายไป แล้วหยุดที่ร่างที่นอนคว่ำหน้า
คนตัวโตจับให้พลิกหงายแล้วช้อนอุ้มขึ้น จากนั้นหันมาหาอีกคนที่มีอาการเหนื่อยหอบ ที่ก้าวตามมาอยู่ใกล้ชิด
“ไหวไหมฮูดา” 
“ไหว”
แม่ทัพพยักหน้า “เดี๋ยวเข้าไปพักในเมือง ขออภัยที่มาถึงก็ให้เข้าปะทะทันที” จากนั้นเดินนำกลับมาที่กำแพงเมือง สวนกับแม่ทัพนาซิม
“ต้องการให้ฮูดาอยู่ช่วยฝังศพคนพวกนี้ก่อนหรือไม่”
“เรื่องเล็กน้อย” แม่ทัพนาซิมบอก “พวกท่านเข้าไปพักผ่อนก่อนเถิด”

แต่อีกไม่ถึง 5 ก้าวถัดมาคนที่อุ้มอยู่ก็ขยับตัว
“ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะยังไม่ตื่นในเวลานี้” คนตัวใหญ่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “เจ้าเป็นคนเดียวในกลุ่มพวกเราที่ล้มในกลุ่มศัตรู ขณะที่คนอื่นไม่มีแม้แต่รอยข่วน”
“อะไรนะ!”
อาเม่ยลืมตาโพลง ทั้งดิ้นจนคนที่อุ้มอยู่ต้องปล่อยมือ แถมพอปล่อยมือ ก็ยังเสียหลักล้มลงอีก
“แย่จริง” คนตัวโตแสร้างทำสีหน้าเบื่อหน่าย “ล้มแล้วล้มอีก”
องครักษ์เก้าเข้ามาช่วยดึงมือให้อาเม่ยลุกขึ้น
“ข้า เป็นคนเดียวที่ล้มในการปะทะจริงหรือ” อาเม่ยถามองครักษ์เก้าที่กำลังยิ้มขำ ทั้งยังพยักหน้าบอกว่า คำกล่าวของแม่ทัพนั้นถูกต้อง 
เมื่อหันไปมองทุกคนรอบด้าน ไปจนถึงแถวทหารที่ประตูเมือง ที่พากันหัวเราะอาเม่ยยิ่งรู้สึกอับอาย ตั้งใจจะโอ้อวดฝีมือ แต่เหตุใดผลลัพท์จึงออกมาในทางตรงข้ามเช่นนี้!
“ก็บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งตื่นขึ้นมาตรงนี้” แม่ทัพเชมัลบอก
องครักษ์เก้าส่งดาบคืนให้อาเม่ย “ขอโทษที่ข้ายิงธนูไม่มั่นคง ทำให้เจ้าตกลงมา”
“อย่าเข้าข้างกันอย่างไร้เหตุผล” แม่ทัพยังมีสีหน้าเบื่อหน่ายไม่เลิก “โดนคนฟาดจนตกลงมา ไม่เกี่ยวกับธนูของเจ้าหรอก”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน” อาเม่ยแทบร้องตะโกนด้วยความไม่พอใจ เดินกลับไปที่ประตูด่าน ยังเห็นทหารพากันยิ้มขำ
ไม่ได้ไม่พอใจที่ถูกคนเหล่านี้ขำ
แต่ไม่พอใจแม่ทัพที่...จะด้วยเหตุใดก็ช่าง ไม่พอใจที่สุด!
ขนาดองครักษ์ฮูดาที่ขัดตากันมาตลอด ยังยิ้มขำ
มีแต่แม่ทัพคนนี้ที่เอาแต่ทำสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วก็ส่ายหน้า มันช่างน่าโมโหอย่างยิ่ง!

เมื่อกลับเข้ามาอีกครั้ง จึงพบว่า เมืองหน้าด่านไม่ได้ต่างจากค่ายทหารที่เมืองหลวง ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่คือทหาร บ้านเรือนขนาดเล็กปลูกสร้างมั่นคง และตลาดเล็กๆ ที่คนในหมู่บ้านใกล้เคียงนำของมาวางขายเฉพาะในยามเย็นไปถึงค่ำ มิใช่วางขายกันตลอดวัน

เจ้าหน้าที่กรมเมืองเข้ามาเชิญให้ทั้งหมดไปพักผ่อนก่อน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่จะเตรียมสิ่งใดทัน
ตั้งแต่กลุ่มแม่ทัพเชมัลมาถึง ออกไปรบ แล้วก็กลับเข้ามา ช่างรวดเร็วเกินไป
ผู้ทำงานทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโดนแม่ทัพนาซิมลงโทษฐานบกพร่องต่อหน้าที่ด้วยกันทั้งสิ้น!

“ข้าให้คนไปเรียกท่านหมอแล้ว ท่านองครักษ์เป็นอย่างไรบ้าง” นายด่านถามด้วยความเป็นห่วง แต่อาเม่ยยกมือบอกว่าไม่เป็นไร
ยามนี้ โดนผู้อื่นล้อเลียนหรือยิ้มขำก็ไม่ได้รู้สึกอันใดแล้ว แต่พอเป็นอีกคนกลับยังรู้สึกโกรธอยู่
มีสิ่งใดน่าขำ น่าเบื่อหน่ายนักหนา....

ทั้งแม่ทัพเชมัล และเหล่าองครักษ์ต่างรั้งรออยู่ในห้องประชุมใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยตู้เอกสาร กับโต๊ะตัวใหญ่ที่มีแผนที่วางอยู่บนโต๊ะ
ยังมีไม้แกะสลักตัวเล็กเป็นรูปของอมนุษย์ และมนุษย์ วางอยู่เหนือตำแหน่งต่างๆ กับยังมีรูปม้าสีดำตัวหนึ่งที่วางอยู่ในเขตป่า....
แต่ก็ยังมีสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายสัตว์หลายชนิดผสานกันวางอยู่ใกล้กับเขตเมืองเหนือ ....
 
แม่ทัพนาซิมกลับเข้ามาเมื่อรวบรวมอาวุธจากกลุ่มผู้บุกรุกเสร็จสิ้น แล้วสั่งการให้ทหารจัดการเรื่องราวต่อ
“สายที่ส่งออกไป พบการเคลื่อนไหวผิดปกติที่เมืองหน้าด่านฝั่งนั้น” นิ้วมือใหญ่ชี้ไปตามแผนที่แผ่นใหญ่บนโต๊ะ “พวกมันเดินทางเร็วมาก แต่หากเราออกไปตั้งรับห่าง ก็อาจถูกกล่าวหาว่าล้ำดินแดนได้” 

ในเวลาที่ฟังรายงาน ฟังแผนการบุกโจมตีไม่มีความรู้สึกขุ่นเคืองใด
แต่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในทันทีที่ การหารือเสร็จสิ้นแล้วแม่ทัพเชมัลหันมาส่งเสียงเบื่อหน่าย พลางส่ายหน้า
“ต่อไปข้าจะไม่ถูกล้อเลียนเรื่องม้าแล้ว” องครักษ์ตงบอกด้วยความยินดี

จนกระทั่งอาหารมื้อค่ำผ่านไป อาเม่ยออกไปช่วยพี่ใหญ่รอม และองครักษ์แซนจัดเตรียมอาวุธ
“เจ้าเป็นผู้เหินลม แล้วทำไมถึงเล่นไฟในตอนที่คัดเลือก” พี่ใหญ่รอมถาม
อาเม่ยหลบตาพี่ใหญ่ของกลุ่มองครักษ์ “ถึงต้าซันจะบอกว่า ข้าทำได้หลายอย่าง แต่ที่จริงแล้วไม่ได้ดีสักอย่าง”
องครักษ์แซนหลุดหัวเราะเสียงดัง แม้แต่ทหารที่อยู่ใกล้ก็ยังพากันหัวเราะ
“เพราะเอาดีไม่ได้สักอย่าง พ่อก็เลยบอกว่า ข้าน่าจะลองทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์บ้าง”
“เจ้าหมายถึงเจ้าใช้เวทย์ได้ทุกอย่างในระดับที่เท่าๆ กันงั้นหรือ” คำกล่าวของพี่ใหญ่ดีเกินกว่าความเป็นจริง
“เราใช้ได้อ่อนในระดับที่เท่าๆ กัน”
“ไม่หรอก” พี่ใหญ่รอมให้กำลังใจ “จากที่เห็น เจ้าเหินลมได้ดีกว่าใช้ไฟ”

การให้กำลังใจและเสริมความมั่นใจเป็นเวทย์ของหัวหน้าองครักษ์รอม แต่พี่ใหญ่ผู้นี้กลับไม่ค่อยได้ใช้ความสามารถด้านนี้บ่อยนัก ด้วยเห็นว่า ความมั่นใจในตนเองสมควรเป็นสิ่งที่ตนสร้างขึ้นเอง มิใช่พึ่งพิงจากผู้อื่น จึงมักจะใช้วิธีการพูดเพื่อกระตุ้นให้ทุกคนมีความมั่นใจมากกว่า
 
อาเม่ยไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำกล่าวของพี่ใหญ่ “ตอนที่ทดสอบ แค่แม่ทัพพลิกฝ่ามือก็ดับไฟได้แล้ว ส่วนครั้งนี้ยังตกลงมาเสียอีก ข้าไม่ได้เรื่องจริงๆ”
“ตงกับเจ้านี่เหมือนกันอยู่อย่าง เวลาที่ถูกล้อเลียนแล้วไม่ตอบโต้รุนแรง” องครักษ์แซนกล่าวด้วยความเอ็นดู
อาเม่ยยิ้มกว้าง “เพราะมันคือความจริงที่เรายังไม่เก่ง จึงผิดพลาด แล้วพวกท่านก็เพียงล้อเลียนไม่ได้กลั่นแกล้งกันแบบเด็กๆ”
แต่พี่ใหญ่รอมส่ายหน้าพร้อมกล่าว “เรื่องตนเองไม่ถือสา แต่กลับไปถือสาเรื่องของผู้อื่น”
“เรื่องผู้ใด” องครักษ์แซนถาม
“เรื่องของเก้า”
องครักษ์แซนกล่าวคล้ายกับที่พี่ใหญ่รอมบอกอยู่เสมอ “อย่าได้แสดงความเห็นเรื่อยไป เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา และพวกเขาต่างก็ตัดสินใจแล้ว” 

แต่ภายในห้องประชุมยามนี้ องครักษ์ฮูดากลับเป็นคนเดียวที่ยิ่งนานยิ่งอ่อนเพลีย ใบหน้าที่เคยคมเข้มขาวซีด จนองครักษ์ตงยังสงสัย
“ข้าไม่เคยเห็นท่านเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้มาก่อนเลย”
“ข้าไม่เคยเป็นเช่นนี้” องครักษ์ฮูดาสงสัยตนเอง “ข้ามาที่นี่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เหน็ดเหนื่อยขนาดนี้”
“ตงพาฮูดาไปนอนพัก ข้ายังมีเรื่องคุยกับท่านพี่นาซิม”
แต่เมื่อองครักษ์ฮูดากับตงออกไปแล้ว แม่ทัพนาซิมกลับชวนแม่ทัพเชมัลให้เดินตามออกไปที่ด้านนอก
ยามนี้เหลือเพียงองครักษ์เก้าที่ตามแม่ทัพไปที่บ้านพักอีกหลังที่ปลูกสร้างอย่างมั่นคง

เมื่อเข้ามาถึงเจ้าของบ้านก็เทสุราใส่ถ้วยใหญ่ขึ้นดื่มทันที
ส่วนแม่ทัพเชมัลมองหาไปทั่วบ้าน “หลานชายของข้าล่ะ”
“ให้ท่านน้าพาไปฝากพระราชาแล้ว” แม่ทัพนาซิมบอก แต่ดวงตากลับมองคนที่ก้มหน้ามองพื้น จนน้องชายต้องกระแอมเรียก
“มิน่าเล่า ตั้งแต่มาถึงไม่เจอ ที่แท้ก็เดินทางสวนกันนี่เอง”
“พอเห็นว่าพวกมันเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนั้น ก็ไม่ไว้ใจ พาไปฝากไว้ในเมืองดีกว่า” แม่ทัพนาซิมรินเหล้าใส่แก้วดินเผาให้กับน้องชาย “มาดื่มกัน”
“ข้ากังวลเรื่องที่ฮูดาป่วย" แต่แม่ทัพเชมัลก็ยังนั่งลง แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ “ฮูดาผู้สัมผัสดินมีอาการอ่อนเพลียมากตั้งแต่มาถึง”
แม่ทัพนาซิมที่กำลังจะยกอีกถ้วยชะงักมือ แล้วเดินออกไปเรียกหาผู้ช่วยที่ด้านนอก “ที่นี่มีผู้ใดที่อาการอ่อนเพลียผิดปกติบ้างหรือไม่”
ผู้ที่อยู่ด้านนอกล้วนตอบว่าไม่ แม่ทัพนาซิมจึงหันมาตอบน้องชาย
“ที่นี่มีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เพราะฮูดามีสัมผัสพิเศษเขาจึงรับรู้ก่อนผู้อื่น ข้าจะให้แพทย์หลวงไปตรวจดูอาการ แล้วจะประกาศให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวัง"

หลังจากที่แม่ทัพนาซิมสั่งงาน 2 พี่น้องก็กลับมานั่งดื่มด้วยกันต่อ ส่วนองครักษ์เก้าขอติดตามผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิมไปหาแพทย์หลวง

เมื่อคนอื่นทราบเรื่องขององครักษ์ฮูดา ต่างก็พากันไปรวมกลุ่มอยู่ในห้องพักขององครักษ์ฮูดา “พี่ใหญ่รอมรักษาท่านฮูดาไม่ได้หรือ” องครักษ์โปถามขึ้น
“อาการอ่อนเพลียเช่นที่เกิดกับฮูดา ข้ารักษาได้แต่ตัวของข้าเอง แต่รักษาผู้อื่นไม่ได้” พี่ใหญ่รอมบอกด้วยความรู้สึกผิด
องครักษ์ฮูดาโบกมือ “ไว้รอถามแม่ทัพดีกว่าว่าต้องทำอย่างไร ข้าเป็นแบบนี้แสดงว่าศัตรูแทรกซึมเข้ามาทางดินอย่างไม่ต้องสงสัย”
พี่ใหญ่รอมหันไปบอกองครักษ์แซนกับตงไปตรวจดูบ่อน้ำภายในค่ายทหาร “ทำในสิ่งที่ทำได้ไปก่อน”
เมื่อแพทย์หลวงตรวจอาการขององครักษ์ฮูดาเสร็จ ก็สั่งยาบำรุงและบอกให้พักผ่อน
“พวกเราคงต้องใช้ท่านเป็นตัววัดความร้ายกาจของศัตรูอีกสักพัก”
องครักษ์ฮูดาทำหน้าเหนื่อย “ไม่สนุกเลยที่ต้องมาเป็นคนป่วยในสถานการณ์คับขันแบบนี้”
พี่ใหญ่รอมให้กำลังใจ “เราจะปกป้องทุกคนได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว ฮูดา เจ้าต้องอยู่ที่นี่เพื่อมองดูความผิดปกติของตัวเจ้าเองแล้วบอกกับเราว่าต้องทำอย่างไร”
องครักษ์ฮูดาพยักหน้ารับคำสั่ง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับองครักษ์ฮูดา จะเกิดขึ้นกับทุกคนในที่นี่ในเร็ววัน
เพราะสัมผัสดินเมื่อแรกมาถึง ทั้งยังใช้พลังมากเพื่อสลายอมนุษย์ ทั้งหมดนี้จึงมีผลต่อองครักษ์ฮูดาโดยตรงและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะหลับตาลง องครักษ์ฮูดาก็กล่าวกับพี่ใหญ่รอม “ช่วยสั่งทุกคนว่าอย่าเพิ่งออกไปที่ด้านนอกด่าน พรุ่งนี้เช้าข้าจะออกไปตรวจดูอีกครั้ง”

องครักษ์เก้าออกไปส่งแพทย์หลวงถึงที่พัก แม้แพทย์หลวงจะปฏิเสธโดยอ้างเรื่องที่ตนเป็นเจ้าบ้านส่วนองครักษ์ของแม่ทัพเชมัลเป็นผู้มาเยือน แต่คนสุภาพก็ยังคงดึงดันที่จะเดินไปส่ง
เมื่อเดินกลับมาตามลำพัง องครักษ์เก้ามองเห็นเงาเคลื่อนไหวที่บริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ แต่ประสาทสัมผัสไม่รู้สึกถึงความประสงค์ร้ายจึงเดินผ่าน หากเมื่อเดินผ่านกลับถูกดึงกลับมาที่ต้นไม้ใหญ่แขนใหญ่รัดเอวไว้แน่น อีกมือหนึ่งกดปิดริมฝีปาก
“อย่าเสียงดังไป”
แม่ทัพนาซิมออกคำสั่งขณะที่เหลียวมองไปรอบตัว แล้วคลายมือที่ปิดปากออก
“ครับ ท่านมีเรื่องใด” องครักษ์เก้าถาม พลางแกะมือที่รัดเอวออก แต่แม่ทัพนาซิมกลับรัดเอวแน่นขึ้นกว่าเดิม “อย่าทำเช่นนี้ ข้า ข้ามีคนรักแล้ว”
ผู้อาวุโสกว่าคลายมือที่เอว “เจ้ามีคนรักแล้วหรือ ข้าขออภัย ข้ารู้ว่ามีแต่เพียงฮูดาที่มีครอบครัวแล้ว”
“ฮูดามีครอบครัวแล้ว ส่วนข้ามีคนรักแล้ว” องครักษ์เก้าที่ก้มหน้ามองพื้น เหลือบตาขึ้นมองแล้วก็กลับตาอีกครั้ง
วิธีการมองเช่นนี้ ทำให้แม่ทัพนาซิมกระชับกอดเอวบางใหม่
“ปล่อย ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้” องครักษ์เก้ารู้สึกขัดใจ ที่แม่ทัพผู้นี้มือไวยิ่งนัก
“คนรักของเจ้าเป็นหญิงหรือชาย”
“หญิง”
“ไม่ใช่” แม่ทัพกล่าวทันที “ถ้าคนรักของเจ้าเป็นหญิง ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่ถ้าเป็นชายแสดงว่าข้ายังมีสิทธิ์ที่จะชอบเจ้า”

หากคนรักเป็นเพศเดียวกันนั่นคือรักนั้นยังไม่มั่นคง แต่หากคนรักต่างเพศแสดงให้เห็นว่าจะนำไปสู่การแต่งงานและครอบครัวอย่างแท้จริง...

“คนรักของข้าเป็นหญิง นางชื่อพริม”
“ไม่ใช่ คนรักของเจ้าไม่ใช่หญิง”
“นางเป็นหญิง” องครักษ์เก้าเงยหน้าขึ้นมองตาอีกฝ่าย “ท่านเป็นผู้ปกครองที่นี่ ไม่ควรทำผิดด้วยการล่วงเกินผู้ที่มีคนรักอยู่แล้ว”
มือใหญ่จับท้ายทอยของอีกฝ่ายไว้แน่น ขณะที่ก้มลงจูบ
องครักษ์เก้าลืมตาโพลงเมื่อริมฝีปากใหญ่บดเบียดริมฝีปากบางจนรู้สึกเจ็บ กลิ่นเหล้าแตะจมูก ยิ่งขัดขืนก็ยิ่งถูกกอดรัดแน่นขึ้น
แม่ทัพละริมฝีปากออกก้มลงจูบแก้ม “เจ้าไม่ใช่คนที่จะชอบหญิง”
“แต่ข้าเป็น และท่านกำลัง....”
ริมฝีปากหนากดจูบ สอดลิ้นเข้าหา 2 มือทั้งทุบทั้งผลัก เท้าก็เตะเข้าที่หน้าแข้ง แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะอยู่ในลำคอ
เมื่อริมฝีปากใหญ่ละออก องครักษ์เก้ากล่าวคำทันที “ข้าเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดของแม่ทัพเชมัล”
รอยยิ้มยินดีหายไปเหลือเพียงความคาดไม่ถึง “อะไรนะ”
“ข้าเป็นผู้รับใช้ของแม่ทัพเชมัล และข้าก็มีคนรักเป็นหญิง”
“หมายถึง เขาเรียกหาเจ้า ทั้งที่เจ้ามีคนรักงั้นหรือ”
“ข้าไม่ตอบเรื่องนั้น แต่คำพูดของท่านคือการยอมรับว่า ข้ามีคนรักแล้ว ดังนั้นก็ปล่อยข้ากลับไป”

เมื่ออีกฝ่ายเบี่ยงตัว องครักษ์เก้าก็รีบวิ่งกลับมาที่ที่พักทันที
เมื่อเข้าใกล้เขตที่พักชะงักเท้าผ่อนลมหายใจ บังคับมือไม่ให้สั่น ขณะที่เดินช้าๆ ไปที่ที่พัก
“เจ้าหายไปนาน” แม่ทัพเชมัลก้าวเดินออกมาจากเงาของบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
“ขะ ข้า ข้า...” องครักษ์เก้าอึกอัก
“เจอกับท่านพี่หรือไม่”
เมื่อแม่ทัพเชมัลถาม องครักษ์เก้าก็ยกมือขึ้นปิดปากทันที ทำให้แม่ทัพต้องหันไปทางอื่น
“แย่จริง”
“ข้า ขอ อภัย”
องครักษ์เก้าตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
แม่ทัพเพียงแต่ยกมือ ใบหน้าที่หันไปทางเงามืดทำให้เก้าไม่รู้ว่าแม่ทัพมีสีหน้าเช่นไร
“ท่านแม่ทัพ ข้า ข้าขออภัย”
แม่ทัพหันมามองคนที่ก้มหน้า มือใหญ่สัมผัสแก้มที่เปียกหยาดน้ำตา
“เจ้าชอบพอท่านพี่หรือไม่”
องครักษ์เก้าส่ายหน้าแรง “ข้ามีเพียงท่าน”
แม่ทัพถอนหายใจหนักๆ
“คนที่เจ้าต้องรับผิดชอบไม่ใช่ข้า แต่เรื่องนี้ จะอย่างไรก็ไม่ควรให้พริมรู้” แม่ทัพหันไปมองทางด้านหลังขององครักษ์เก้า “ข้าเป็นอดีตสำหรับเจ้า อย่าถือเรื่องของข้าไว้เป็นภาระของเจ้า”
แม่ทัพนาซิมได้ยินคำพูดบางคำของน้องชาย
“ข้าตามมาเพื่อขออภัยต่อเจ้า”
แม่ทัพเชมัลโบกมือ “ขออภัยข้าด้วยเรื่องอันใด ทั้งท่านและข้าต่างก็เป็นผู้ที่ต้องเป็นฝ่ายไป” น้องชายเดินเข้าไปโอบไหล่พี่ชายพาเดินกลับไปที่บ้านของแม่ทัพนาซิม “พวกเรากลับไปดื่มสุรา ตามประสาผู้แพ้กันดีกว่า”
องครักษ์เก้ามองผ่านม่านน้ำตาตามหลังของ 2 พี่น้อง กระทั่งรู้สึกตัวเมื่ออาเม่ยแตะที่ข้อศอก
คนตัวเล็กผมสีเงินกล่าวเบาๆ “พี่ฮูดาบอกให้ข้าออกมาดูท่าน”
การเข้าถึงจิตใจที่อ่อนแอเป็นหนึ่งในความชำนาญขององครักษ์ฮูดา 
องครักษ์เก้าเช็ดน้ำตาขณะที่พยักหน้า เดินตามอาเม่ยกลับมานั่งที่เก้าอี้ไม้ที่หน้าบ้านพัก

นิ่งไปครู่หนึ่งคนสุภาพก็กล่าวขึ้น “เม่ย....ข้าไม่มีความสุขเลย”

...จบตอนที่ 7...

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/150527025035.jpg) (http://picture.in.th/id/d557bfc6c72c2b034bb5077b4d3e09c6)

ขอบ่นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เขียนนิดนึงนะครับ
เช้านี้ ผมคลิ๊กหาชื่อตัวเองในกูเกิ้ล (ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำไปทำไม สงสัยจะเป็นลางสังหาร) ก็เห็นชื่อ jivetea ต่อท้ายด้วยชื่อบอร์ด ไปปรากฏอยู่ในเว็ป xxx ซึ่งผมมั่นใจโดยที่ไม่ต้องโทรไปถามพี่ไจฟ์ก่อนว่านั่นเขาหรือใคร เพราะว่านั่นไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา และไม่ใช่ผมแน่นอน
หรือหากคุณจะคลิ๊กไปเจอชื่อนี้ในเว็ปใดก็ตาม ผมขอให้คุณมั่นใจเช่นกันว่านั่นไม่เรา 2 คน ซึ่งอันที่จริง ถ้าคุณรู้จักเราคุณก็รู้ได้เองแหละว่านั่นไม่ใช่ แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ทั้งกับเราเองและกับบอร์ด ผมคิดว่า อาจถึงเวลาที่จะต้องขอเปลี่ยนชื่อ หลังจากที่ใช้ชื่อนี้มานานหลายปี ซึ่งก็ยังมีเวลาอีกนานละนะ กว่าที่พี่ๆ จะเปิดให้เปลี่ยนชื่อ
โดนลอกเรื่อง โดนทำลิงค์ คราวนี้เอาชื่อไปใช้ในเว็ป xxx อีก ผมว่าผมเริ่มเครียดแล้วนะ
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
.น้ำชา.
     
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 13-05-2015 07:53:12
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

เป็นกำลังใจให้ต่อสู้กับคนที่ชอบแอบอ้างนะคะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 13-05-2015 08:17:36
เฮ้ออออออออออ เป็นอาเก้าก็น่าหนักใจ มีคนมารุมรัก แต่ก็ไม่มีความสุขเพราะไม่สมหวังในรัก อึดอัดแทนเก้าจัง

ปล. คุณไจฟ์น้องทีสู้ๆค่ะ คนบางคนก็อยากมีตัวตนในสังคม แต่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
จึงมักจะใช้วิธีมักง่ายด้วยการแอบอ้างเป็นคนอื่นที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-05-2015 08:39:03
นาซิมเก็บอาการนิดนึง ส่วนเก้าน่าสงสาร เชื่อว่าเก้ายังสับสนในตัวเองอยู่ กับแม่ทัพน่าจะเป็นความผูกพันธ์ รักและเคารพมากกว่า  ระวังนะ ยิ่งหนียิ่งเจอ หุหุหุ

ปล. อย่าเครียดๆ ทุกอย่างมีทางออก นอนยันเลย ไม่ใช่ไจฟ์และน้องทีแน่นอนจ้า......
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-05-2015 09:15:19
คราวนี้ฮูดารับบทหนัก ทำความดีด้วย เลิกเกลียดแป๊บ
องครักษ์เก้ายังน่าสงสารเหมือนเดิม
ยังตัดใจจากท่านเชมัลไม่ได้ใช่ไหม แล้วยังมีท่านนาซิมเพิ่มมาอีกคน เครียดนะนี่
อาเม่ยจะให้คำแนะนำว่ายังไงฮึคนเก่ง

ปล.ทุกปัญหามีทางออก อย่าเครียดนะน้องที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 13-05-2015 09:18:52
ถึงรบชนะ แต่อารมณ์หม่นมาเต็มเลย  :mew2:

ชื่อนี้เป็นชื่อของนักเขียน ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 13-05-2015 09:38:26
อาเม่ยทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งสักอย่างจริงมั้ย 

อ่านตอนนี้แล้วสงสารเก้ามากๆเลย ยิ่งคำพูดสุดท้าย ที่บอกว่าไม่มีความสุขเลย อ่านแล้วอยากทำให้เก้ามีความสุขจัง

เก้ารักแม่ทัพมากจริงๆ รักกันแต่ต้องฝืนใจ เจ็บปวดมากจริงๆ T^T
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 13-05-2015 09:47:22
น่าอิจฉาอารมณ์ขันของแม่ทัพเชมัล (ตรงไหนนนนนนน???) ขี้แกล้งชมัดคอยดูเถ่อะอาเม่ยจะเอาคืนยังไง 555555
ว่าแต่ไอ้ที่ท่าทางเบื่อหน่ายนี่ คือ ได้อุ้มเจ้าตัวเล็กแปบเดียวป่ะ เลยไม่พอใจ  :m12:

แต่ๆๆๆๆ ไอ้ที่สงสัย อาเม่ยเราก็มีเวทย์ดินนิหน่า แล้วจะเป็นเหมือนฮูดาไม๊หนอที่พอสัมผัสดินแล้วมีอาการป่วย

...สับสนไปกับเก้าสงสารก็น่าสงสาร เก่งเรื่องต่อสู้แต่อารมณ์อ่อนไหวของเก้าทำให้เรื่องมันบานปลาย
ได้แต่คิดตามที่แม่ทัพนาซิมพูด จริงแหล่ะ บุคลิกอย่างเก้าเหมาะกับการให้คนอื่นมาดูแล และไม่เหมาะที่จะชอบหญิง
โฮยยยยยยยยยยย ได้แต่ร่ำร้องในใจ ขอให้พระราชามาแก้ไขได้ในเร็วๆนี้สักทีค่ะ

เรื่องชื่อ เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าเครียดมากนะคะ   :กอด1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 13-05-2015 10:18:38
อ่านตอนนี้แล้วอยาก  :z6: เชมัลสัก 2 ที   ก๊ากกกกก
แบบปากบอกว่ารักอาเม่ย  แล้วดูที่ทำสิ  แกล้งเม่ยตลอดเวลา 
รู้ไหม...เม่ยเค้าน้อยใจ  เดี๋ยวโดนอาเม่ยเอาคืนแล้วจะรู้สึก   #ทีมเม่ย

ส่วนเก้า  น่าสงสารอ่ะ  ดูสับสนมาก  หน้าที่กับความรู้สึกมันไปด้วยกันไม่ได้เหรอ  เราต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอเหรอ
ไม่รู้ใครจะเป็นคนทำให้ปมนี้ในใจของเก้าหายไป  ถ้าเชียร์นาซิมจะมีลุ้นไหมอ่ะ   :hao4:
ปล. เรื่องที่โดนเอาชื่อไปแอบอ้าง  ขอให้มีทางแก้ไขที่ดีนะคะ  คนอ่านรู้แน่นอนว่าไจฟ์ทีเป็นยังไง
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ  ทุกปัญหามีทางออกเสมอ  สู้ ๆ ค่ะ   :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 13-05-2015 10:21:31
งืดดดดด
เหมือนพลาดอย่างหนัก พึ่งเห็นว่ามาอัพ
ฉันเอาตาไปไว้ไหนนนนนน

อารมณ์เก้านี่....มันก็จริงนะ ไม่เหมาะหรอก
ต้องให้....มาดูแล

อาเม่ยน่ารักน่าแกล้งก็งี้แหละ

โฮกกกกกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-05-2015 10:37:57
เก้าดูเหมือนกำลังสับสน  :mew6:

เรื่องชื่ออย่าเครียดคะน้องที คนอ่านรู้ว่า jivetea เป็นยังไง :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-05-2015 10:49:08
เก้ากะพี่นาซิม เย้ววววววววววววววว
ปันใจชูป้ายไฟจากท่านแม่ทัพกับน้องดวงตาสีแปลกแป๊บนะ
บวกและเป็ด เก้า+นาซิมๆๆๆๆๆ
 :hao7:
ปล.เครียดกับข้อนี้มากเหมือนกัน
ลอกงานกับก๊อปไปลงโดยไม่บอกกล่าว ได้ยินทีไรเฟลทุกที น้องน้ำชาใจเย็นๆ
ปล. อีกที jivetea ที่ติดตามมีล็อกอินเดียว เห็นแล้วรู้แน่นอนไม่ต้องกังวลนะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 13-05-2015 12:05:33
สงสารเก้านะ เหมือนกับกำลังอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออก มั่นใจว่าเก้าไม่ได้รักพริมจนนิดเดียว แต่ความรับผิดชอบแต่เกียรติและศักดิ์ศรีของหญิงสาวทำให้เขาไม่อาจทำใจทิ้งนางได้ลง แม้ในใจจะไม่ได้รักผู้หญิงก็ตาม ซ้ำยังตัดใจจากแม่ทัพเชมัลไม่ได้อีก ทั้งรักทั้งเห็นแก่หน้าที่ผู้รับใช้ด้วย พอมาถูกแม่ทัพนาซิมจู่โจมยิ่งทำให้เขาเตลิดไปใหญ่ แล้วตอนนี้อีก...ยังโดนแม่ทัพเชมัลพูดให้อีกว่า ข้าเป็นอดีตสำหรับเจ้า...อุ้ย...ถึงเก้าจะรู้และเข้าใจอยู่แล้วก็ตาม แต่ฟังแบบนี้น่าจะสะอึกบ้างไม่มากก็น้อย

่ส่วนฮูดา แม้จะยังไม่ชอบใจที่นางทำกับเก้า แต่เพราะสิ่งที่นางประสบตอนนี้ทำให้รู้สึกเห็นใจขึ้นมา ก็ว่าอยู่ว่าทำไมจึงจัดการกับกองกำลังครึ่งอมนุษย์ครึ่งมนุษย์นั้นได้อย่างรวดเร็ว นี่มันแสดงว่ามีอะไรยิ่งใหญ่กว่านั้นกำลังมาเยือน โห แล้วการแบกรับเพื่อคนอื่นอย่างที่ฮูดากำลังเป็นอยู่นี่ มันหนักหนามากๆ เลยนะคะ แม้ว่าจะเป็นเพราะผลพวงจากเวทย์ดินในตัวก็ตามที

อาเม่ย สรุปหนูยังเด็กอยู่เนอะลูก ยังไงก็ใช้เวลาพัฒนาเวทย์สักอย่างให้มันดีกว่าอย่างอื่นด้วยเนอะ ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายมาก แต่ถ้าไปเจอการสู้รับที่เดิมพันกับความเป็นความตาย เจ๊ว่าหนูอาจสร้างความลำบากให้กับแม่ทัพนะ ดังนั้นต้องรีบขันฝึกตัวเองให้เก่งกว่านี้นะจ๊ะ

ปล. ชื่อ jivetea เหมือนเป็นตราประจำตัวไปแล้วนะคะ เหมือนป้ายโฆษณาเลย ใจจริงไม่อยากให้เปลี่ยน แต่ถึงจะเปลี่ยนนั่นก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของทั้งคุณไจฟ์และน้องที เพราะถึงยังไงถ้าได้อ่านสิ่งที่เขียน ก็จะรู้ทันทีว่าเป็นคนนี้เขียน

ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-05-2015 14:17:19
เก้าช่างน่าเห็นใจ เป็นผู้ถูกกระทำโดยตลอด แม้แต่เชมัลก็ไม่อาจปกป้องได้อย่างที่คนรักกันสามารถทำได้
ดีใจที่ตอนนี้เก้าเปิดเผยความรู้สึกออกมา

เอ๊ะ! นี่ฉันคิดว่าเก้าเป็นนายเอกไปแล้วนะเนี่ย เห็นใจจนอินสุดๆ

เม่ยน่าเอ็นดูจริงๆ ตระหนักในระดับฝีมือของตนและยอมรับความจริง
แถมอาการฉุนเฉียวเชมัลนั่นก็งอนชัดๆ อร๊ายยยย!!! น่าฟัด

แต่อ่านแล้วงงนิดๆ ยุทธวิธีคือ ธนูพร้อมน้ำจะพุ่งเข้าปะทะอมนุษย์ที่เป็นดินจนทำให้สลายไปใช่ไหม??
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 13-05-2015 14:25:03
ท่านแม่ทัพ....จะมาทำหน้าเบื่อหน่าย อาเม่ย ไม่ได้นะคะ
ฮูดา.... ได้คะแนนชื่นชมขึ้นมานิดหนึ่ง
เก้า.... ยังน่าเห็นใจ ในความยุ่งเหยิงของความรัก
อาเม่ย.... เก่งจัง เก่งหลายอย่าง แต่ต้องฝึกเยอะๆ หน่อยนะ

ขอบคุณคุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชานะคะ

เหมือนเคยเห็นเวลาเข้าหานิยายของ JiveTea ในอากู๋ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร
คนที่พยายามเดินตามรอยคนอื่น ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนคนที่เดินนำเสมอไป
แต่คนที่พยายามลอกเลียน ฉวยโอกาส ทำซ้ำ หลอกลวง แอบอ้างคนอื่น ดีที่สุดของผู้นั้นคือ กำลังหลอกตัวเอง

เป็นกำลังใจให้นะคะ  แฟนนิยายของคุณไจฟ์กะน้องน้ำชา ถ้าอ่านมาหลายๆ เรื่อง จะจดจำสำนวน รูปแบบ คำบรรยาย หรือที่เรียกว่า "Signature JiveTea" ได้ค่ะ  มั่นใจนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-05-2015 15:03:18
ช่วงนี้กังวลเรื่องเก้าก่อนอาเม่ยไว้ทีหลังแล้วกัน
*ติดกับชื่อนี้ แค่เห็นชื่อก็็หมือนเห็นสำนวนการเขียน อย่างไรก็ตามอยู่ที่การตัดสินใจของคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 13-05-2015 16:29:57
 :hao7: :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-05-2015 19:22:04
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-05-2015 19:58:42
เอากันตรงๆ

ว่าเรื่องนี้เปลี่ยนนายเอกดีกว่าไหม

เอาอาเก้าเป็นนายเอกก็สิ้นเรื่องแล้ว

อ่านนิยายมาตั้งนาน เพิ่งเคยเห็นเรื่องนี้ที่คนอื่นเด่นกว่านายเอกของเรื่อง

ขอโทษที่พูดกันตรงๆ และบอกกันตรงๆว่าแค่ไม่ชอบใจที่อาเก้าเด่นกว่านายเอก

และไหนแม่ทัพ ไหนบอกว่ารักอาเม่ย ยังอาลัยอาวรอาเก้าอะไรนักหนา พูดแล้วขัดใจมากกกกกกกกกกๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-05-2015 21:33:13
เย้! เปลี่ยนชื่อแล้ว
 :mew3:
เข้ามาเชียร์เก้ากับพี่นาซิมอีกที
เก้านาซิมๆๆๆๆๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 13-05-2015 21:34:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 13-05-2015 23:28:05
อารมณ์ในตอนนี้ แบบว่า. เออออออ ฮูดาก็แอบมีข้อดีเหมือนกันนิ
แอบให้อาเม่ยมาดูเก้าด้วยอะ อย่างน้องก็ยังเป็นห่วงเพื่อนอะเนอะ

ส่วนอาเม่ย ตอนนี้แอบเล่นตลก ตกมาจากธนูให้ท่านแม่ทัพล้อเลียน 555 โดนล้อยันลูกบวชแน่ๆ  :o8:

ตอนนี้ก็สนุกอีกแล้วค่ะ เรียกว่าอยากอ่านๆๆๆๆๆๆต่อไปเรื่อยๆเลย

ปล.1 ฝากดูแลฮูดาด้วยนะคะ แอบเป็นห่วงนัดๆ
ปล.2 น้องทีอย่าไปเครียดเรื่องชื่อน๊า พวกเราแม้จะรู้จักกันแต่ในบอร์ด แต่ความคิดของน้องไจฟ์กะน้องทีก็สะท้อนออกมาในงานเขียน ซึ่งพี่ว่าคนอ่านทุกคนเค้ารู้แหละว่าในบอร์ด xxx นั่นอะไม่ใช่ยูสเซอร์ในบอร์ดนี้

อ่านแล้วงงมั๊ยคะ อยากเขียนให้กำลังใจ แต่ท่าทางจะอ่านแล้วงง 5555  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-05-2015 02:47:27

  มีแต่คนสงสารอาเก้า คงกำลังสับสนมาก ยังตัดใจจากแม่ทัพเชมัลไม่ได้ ก็มาเจอแม่ทัพนาซิมจับจูบเอาซะอีก

  ไหนจะแม่หญิงพริมที่จะต้องรับผิดชอบแต่งงานด้วย  :hao3:  สำหรับฮูดาเก่งมาก  o13       
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-05-2015 19:31:50
มาให้กำลังใจจ้า

กด+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 15-05-2015 13:44:48
ขอวิจารณ์หน่อยนะ ในฐานะที่เราติดตามอ่านนิยายของไจฟ์ทีมาทุกเรื่องและประทับใจมาโดยตลอด
เอากันตรง ๆ นะเนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามทุกตอน  o13 อันนีขอชมเชย
ตัวละครแต่ละตัวมีคาแรคเตอร์ คนเขียนช่างคิดดีเนอะอันนี้ชอบมาก :katai2-1:
แต่.....ตัวละครทุกตัวมีความโดดเด่น ทำให้พระ-นาย ลดบทบาทความสำคัญลงไปเยอะ
ยกตย.ล่าสุดตอนที่สู้รบและเม่ยพลาดท่า แม่ทัพเข้าไปช่วย(อุ้ม)ฉากนี้ธรรมดามาก ๆๆๆ  :a6:
คนอ่านแอบหวังว่าจะได้ฟินกับคู่ พระ-นาย บ้างไรบ้างแต่มันก็ยังไม่มีจุดนั้นให้เห็น  :katai1:
ต่างกับบทของเก้าและแม่ทัพนาซิม ทุกอย่างเข้าล็อคหมดทั้งแอบมอง บทสนทนา ตามจีบ จับจูบ มาเต็ม :m1:

สรุป นิยายสนุกค่ะ แต่ขาดความฟิน คือสนุกแต่มันไม่สุดค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-05-2015 18:40:06
อ่านเรื่องนี้แล้ว...ชอบจัง ชอบอาเม่ย ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 17-05-2015 09:43:15
ขอนอกเรื่อง

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เห็นเปลี่ยนชื่อเลยเข้ามา

อิอิ

กลับไปรออาเม่ยต่อ

 :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 17-05-2015 20:58:49
อิ๊ อิ๊ เข้ามาปูเสื่อรอดีกว่า  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 17-05-2015 21:49:10
อีกสองวันพี่เชก็จะมาละ อยากเจอพ๋อหล่อเลือกได้แล้ว เอามาใฟก้เจอด่วนๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 18-05-2015 16:46:23
ชีวิตแบบเก้านี้มันอึนจัง เหมือนจะเสน่แรงหน้าตาดีเลือกได้
แต่จริง ๆ มันเป็นกรรมหรือเปล่าเนี่ย  :เฮ้อ:

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 18-05-2015 21:59:26
โถๆๆ เกิดมาชื่อเก้า(ก้าว)ทั้งที อย่าก้าวถอยหลังกับความรู้สึกตัวเองนักสิ ก้าวเดินหน้าได้แล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 19-05-2015 02:46:19
 :m20:

 :L2:
 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 19-05-2015 20:19:38
พรุ่งนี้แล้วสินะ รอยู่นะคะพี่เช  :katai3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 19-05-2015 22:12:40
ไหงกลายเป็นเราต้องเปลี่ยนชื่อล่ะ น้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่7หน้า7 (13พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 20-05-2015 04:28:13
การต่อสู้ครั้งนี้ เคืองพระราชาจอมวางแผน ทำให้อาเก้าไม่มีความสุขเลย และอยากหยิกท่านแม่ทัพ ชอบจริงๆ ได้แกล้งคนที่ตัวเองรักให้หงุดหงิดเนี่ย...
แล้วดูท่าพลังของเวทย์ดำจะรุนแรง ขนาดทำให้พี่ดาของเราป่วยได้ หวังว่าจะไม่มีใครโดนพ่นพิษใส่อีกนะ (แอบคิดไปเองว่า คนทั้งหมู่บ้านจะล้มตาย เหอๆ คิดไปโน่น)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 20-05-2015 07:44:03
ตอนที่ 8

อาเม่ยมองคนที่นั่งก้มหน้า เช็ดน้ำตาเงียบๆ 

....นี่เป็นความรู้สึกที่เราไม่มีวันเข้าใจ...
การเป็นคนที่ใครอยู่ใกล้ก็พอใจแบบนี้ มองภายนอกเราอาจภูมิใจ แต่การที่องครักษ์เก้าคนเรียบร้อยออกปากว่าไม่มีความสุข ทำให้ต้องฉุกใจคิด ได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ จนกระทั่งองครักษ์เก้าเช็ดน้ำตาอีกครั้งแล้วหันมาถาม

“ข้าทำให้เจ้าเป็นกังวลไปด้วย” ทั้งที่เป็นทุกข์แต่องครักษ์เก้ากลับเป็นห่วงคนที่นั่งข้างๆ
“ไม่หรอก” อาเม่ยบอกตามตรง “แค่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ที่ผ่านมาท่านไม่ค่อยพูด แต่ไม่เคยรู้เลยว่าท่านเป็นทุกข์”
องครักษ์เก้าไม่ชอบเล่าเรื่องของตนเองมากนัก เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล
“ข้าเพียงอยากทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่อยากทำให้นายท่านต้องผิดหวัง แต่ก็กลับทำให้เขาผิดหวังตลอดเวลา” บางครั้งองครักษ์เก้าก็จะเรียกแม่ทัพเชมัลแบบนี้
มีเสียงเปิดประตูบ้าน ทำให้ทั้ง 2 คนหันไปมอง เป็นองครักษ์ฮูดาที่ออกมาเรียก
“เข้ามาคุยกันในบ้าน” คนตาคมหันมาหาอาเม่ย “ควรรู้ว่าสิ่งใดควรพูด ไม่ควรพูด”
....ข้าเพิ่งได้พูดเพียงไม่กี่คำเองนะ...

องครักษ์ฮูดาเดินนำเข้ามาในบ้าน จนถึงห้องพักแล้วนั่งลงบนเตียงนอน หันมามององครักษ์เก้าตรงๆ 
แม้จะเป็นผู้ใช้เวทย์ดิน แต่คนผู้นี้กลับตรงไปตรงมาอย่างยิ่งเมื่อสอบปากคำ
“เจ้าคุยอยู่กับใคร”
“แต่แรกคือแม่ทัพเชมัล จากนั้นก็มีแม่ทัพนาซิม”
“เกิดอะไรขึ้น ข้ารู้ว่าข้างนอกนั่นมีคนที่ผิดหวัง”
องครักษ์เก้าไม่ใช่คนโกหก “ข้าทำให้แม่ทัพผิดหวัง”
องครักษ์ฮูดากัดเม้มริมฝีปาก
ที่รับรู้ได้คือผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ นั่นย่อมเป็นองครักษ์เก้าอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนจิตใจที่ผิดหวัง นั่นคือแม่ทัพเชมัลงั้นหรือ...
“ข้าเห็นสายตาที่แม่ทัพนาซิมมองเจ้า แต่ไม่เคยรู้ว่าเจ้ามีใจ”
“ข้าไม่ได้มีใจ" องครักษ์เก้าชี้แจงเสียงสั่นเครือ "ข้ากลับมาจากส่งแพทย์หลวง แล้วพบแม่ทัพนาซิม จากนั้นก็รีบกลับมา แต่พบแม่ทัพเชมัลรออยู่ที่นี่”
องครักษ์เก้าโกหกไม่เป็น แต่ก็รู้ว่าสิ่งใดควรเล่าข้าม
“ทั้ง 3 คนก็เลยคุยกัน”

...หรือผู้ที่ผิดหวังคือแม่ทัพนาซิม...
องครักษ์ฮูดายังไม่แน่ใจว่า ใครคือผู้ที่ผิดหวัง

องครักษ์เก้าก้มหน้า “ท่านแม่ทัพทั้ง 2 คนต่างก็....ข้าไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร”
“เจ้ามีพริมเป็นคนรักอยู่แล้ว”
“ข้าบอกแม่ทัพนาซิมไปแล้ว และเมื่อครู่แม่ทัพเชมัลก็บอกกับท่านนาซิมเช่นนั้นอีก แต่ท่าทีของแม่ทัพเชมัลทำให้ข้ากลับรู้สึกว่าทำเรื่องเลวร้ายอย่างยิ่ง ข้าทำให้ท่านเสียใจตลอดเวลา”
องครักษ์เก้าเองก็เสียใจอย่างยิ่งเช่นกัน

อาเม่ยกัดริมฝีปาก หันไปมองทางอื่น
...ปวดใจยิ่งนัก...

องครักษ์ฮูดาจ้องมององครักษ์เก้า แล้วหันมาหาอาเม่ย ด้วยเรื่องราวยังคลุมเครือ ทั้งตนเองก็ยังไม่แข็งแรงไม่อาจด่วนตัดสินใจในเรื่องนี้
“ข้าต้องการฟังสิ่งที่เจ้าพูดกับแม่ทัพนาซิม”
องครักษ์เก้าพยักหน้า “ข้าบอกกับเขาว่าข้ามีพริมเป็นคนรักอยู่แล้ว แต่เขาไม่เชื่อ กระทั่งข้าบอกว่า ข้าเป็นผู้รับใช้ของแม่ทัพเชมัล เขาจึงยอมถอย แต่กลับตามมาถึงบ้านพักและพูดกับแม่ทัพเชมัล”
คนตาคมแตะที่หน้าผาก
“ไม่ดีเลย”
“ไม่ดีอย่างไร เป็นเรา เราก็ต้องทำแบบนั้น” อาเม่ยเถียง
องครักษ์ฮูดาหันมาทันที “หากคนพูดว่า แม่ทัพเชมัลมีผู้รับใช้ 3 คนอยู่ในบ้านเดียวกันจะดีได้อย่างไร” คนตาคมไม่รอให้อาเม่ยแสดงความเห็นก็พูดต่อ “แม้ในความจริง เขาจะไม่ได้รักข้า ไม่แตะต้องเก้ามานานแล้ว และในเวลานี้มีแต่เจ้าเพียงคนเดียว”
... 3 คนคือฮูดา เก้า และเม่ย..
“เราไม่ใช่...”
องครักษ์ฮูดาโบกมือ ไม่รอให้อาเม่ยพูดจบ
“ข้าแต่งงานแล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายไปทำงานในวัง เก้าคบหากับพริมมาหลายเดือนพระราชาก็ยังไม่อนุญาตให้แต่งงาน จนเขามีเจ้า เหตุนี้เรื่องที่ผู้คนจะนำไปพูดก็มีเพียงเรื่องเสื่อมเสียต่อท่านแม่ทัพ แล้วยิ่งมีเรืองพี่น้องแย่งชิงผู้รับใช้เข้ามาอีก”
...องครักษ์รอมพี่ใหญ่ก็กังวลเรื่องนี้มาตลอดเช่นกัน...

อาเม่ยเข้าใจแล้ว องครักษ์ฮูดาไม่ได้กำลังพูดถึงความรู้สึกของตนเอง ไม่ได้สนใจความทุกข์ขององครักษ์เก้า ทั้งไม่ได้สนใจความจริงที่เกี่ยวกับอาเม่ย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับจิตใจของใครเลยสักคน
...สิ่งเดียวที่เป็นกังวล คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับแม่ทัพเชมัล

“ข้าจะไปขอเดินทางกลับเมืองหลวงก่อน” องครักษ์เก้าพูดขึ้น
องครักษ์ฮูดาเห็นด้วยแต่ก็ยังมีข้อติดขัด “พระราชาส่งพวกเรามาสนับสนุนแม่ทัพนาซิม เหลือเพียงซันที่อยู่ค่าย พระองค์อาจต้องการใช้เจ้าทำบางอย่าง อย่างไรก็ลองหารือกับพี่ใหญ่รอมก่อน”
องครักษ์ฮูดาบอกให้อาเม่ยออกไปนอกห้อง จากนั้นจึงกล่าวกับองครักษ์เก้า
“เจ้าเห็นสายตาที่แม่ทัพเชมัลมองอาเม่ยใช่ไหม”
องครักษ์เก้าพยักหน้า องครักษ์ฮูดาจึงกล่าวต่อ
“ข้าเห็นเรื่องแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ในเวลาที่แม่ทัพเชมัลเห็นเจ้าครั้งแรก แล้วความริษยาของข้าเองก็ทำให้สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจเมื่อมองเจ้า กระทั่งข้าเห็นสายตาแบบนั้นอีกครั้งเมื่อเขามองอาเม่ย” คนที่กำลังกล่าวคำรู้สึกปวดใจ “พวกเราเป็นอดีตไปแล้ว และข้าไม่อาจยอมรับหากเขาจะเสียใจอีก”
“ข้าก็ไม่อาจยอมรับเช่นกัน”
องครักษ์ฮูดาชี้นิ้วสั่ง
“เจ้าต้องไปแก้ไขเรื่องแม่ทัพนาซิม บอกกับเขาให้ชัดเจนว่า เจ้าเพียงรอคำสั่งจากพระราชา และการย้ายไปทำงานในวังหลวง ข้าไม่สนใจเจ้า ไม่สนใจแม่ทัพนาซิม ไม่สนใจอาเม่ย ข้าทำผิดและแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ข้ารู้ว่าจะต้องไม่มีใครทำให้ แม่ทัพเชมัลเสียใจอีก” คนตาคมกล่าวย้ำ "ทั้งเจ้าและข้าต่างทำให้เขาเสียใจ ข้าริษยาเกินไป เจ้าอ่อนแอเกินไป  แต่เมื่อเขามองเม่ยแล้ว ข้าต้องวางความริษยา เจ้าเองก็ต้องเข้มแข็งขึ้นเช่นกัน อย่าทำผิดซ้ำซาก"

องครักษ์เก้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่ไม่เคยพูดดี หรือทำดีต่อกันเลยสักครั้ง
คนที่ไม่เคยได้รับความรักจากแม่ทัพเชมัล
แต่มีความภักดีต่อแม่ทัพเชมัลไม่ต่างกัน
ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้ม แล้วก้าวออกมาจากห้องพัก

รุ่งเช้าองครักษ์ฮูดาก็แข็งแรงขึ้นจนเหมือนกับเมื่อวานไม่ได้เกิดสิ่งใดขึ้น คนรูปร่างสูงโปร่งเดินนำอาเม่ยกับองครักษ์ตงออกไปที่ด้านนอกของค่าย
จนถึงบริเวณลานกว้างที่เมื่อวานเป็นสมรภูมิรบ องครักษ์ฮูดามีอาการหายใจลำบากแล้วก็กลับมาควบคุมตนเองได้ ส่วนองครักษ์ตงดูระแวดระวัง
“พวกเรากำลังถูกจับตามองอยู่”
องครักษ์ฮูดาเห็นด้วย ขณะที่อาเม่ยกระชับดาบในมือ
ห่างออกมานกใหญ่สีดำด่างตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ จับตาการเคลื่อนไหวของทั้ง 3 คนด้วยความระมัดระวัง
องครักษ์ตงหันหลังให้นกตัวนั้น กล่าวกับองครักษ์ฮูดาและอาเม่ย
“ปิดหูของพวกท่าน”
องครักษ์ฮูดากับอาเม่ยหันมามองหน้ากัน แต่ก็ทำตามที่องครักษ์ตงบอก
หนุ่มตัวเล็กท่าทางคล่องแคล่ว หันมาหานกตัวใหญ่ ที่กางปีกเตรียมโผบิน แต่ช้ากว่าองครักษ์ตงที่กระโดดเข้าหาพร้อมกับเปล่งบทเพลง นกตัวใหญ่กางปีกค้างหยุดอยู่กับที่ดั่งกลายเป็นต้นไม้ที่เกาะอยู่แล้วหงายตกจากต้นไม้

องครักษ์ตงลากนกตัวใหญ่เดินกลับมาหา
“นอกจากจะล้มม้าได้ ข้ายังสังหารนกยักษ์นี่ได้อีกด้วย”

แต่แม่ทัพเชมัลไม่ยอมให้องครักษ์ตงนำนกยักษ์เข้าเมือง กลับเดินออกมาดู แล้วสั่งให้ทุกคนช่วยกันทำลายซากนกยักษ์ องครักษ์ตงก็เลยต้องลากกลับไปที่เดิม ให้องครักษ์ฮูดาร่ายเวทย์ขุดหลุมแล้วให้องครักษ์ตงโยนซากลงไป จากนั้นอาเม่ยก็ร่ายเวทย์เพลิงเพื่อเผานกยักษ์ ปิดท้ายด้วยการที่องครักษ์ฮูดาร่ายเวทย์ดินฝังกลบนกยักษ์
เมื่อเดินกลับมาที่ประตูหน้าด่านชายแดนด้วยกัน องครักษ์ตงก็กล่าวขึ้น
“เผาแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะถ้าขืนให้ท่านพี่เก้ายิงธนูระเบิดมัน ซากมันคงกระจัดกระจาย ต้องมาตามเก็บมันฝังลงหลุมอีก”
องครักษ์ฮูดายิ้มพลางส่ายหน้า แล้วหันมาหาอาเม่ย
“แม่ทัพให้งานเจ้าแล้วหรือยัง”
อาเม่ยส่ายหน้า องครักษ์ฮูดาจึงกล่าวต่อ “ดีแล้ว งั้นเจ้าต้องดูแลแม่ทัพเชมัลให้ดี อย่าให้มีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจอีก”
...เราจะไปมีบทบาทอะไรให้แม่ทัพเสียใจ ก็เราเป็นแค่น้องชาย คนเดียวที่มีอิทธิพลต่อแม่ทัพก็คือเก้าต่างหาก...

เมื่อเข้ามารายงานการทำงานต่อแม่ทัพทั้ง 2 คนที่ค่ายเสร็จสิ้น แม่ทัพเชมัลก็เรียกอาเม่ยไว้
“เป็นอันใด”
“เป็นอันใด คืออะไร ใครที่ไหนจะเป็นอันใดนอกจากท่าน”
ไม่เพียงแต่แม่ทัพนาซิมประหลาดใจเมื่ออาเม่ยต่อคำกับแม่ทัพเชมัล ตัวคนพูดเองก็ยังประหลาดใจ เพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเมื่อครู่ก็ยังไม่ใช่คนช่างพูด จนกระทั่งถูกทัก ก็กลับมาเป็นเช่นนี้อีกแล้ว
แต่ผู้ที่เป็นสาเหตุกลับไม่รู้ตัว หันไปหัวเราะพี่ชายที่มีสีหน้าแปลกๆ
“เสี่ยวเม่ยช่างพูดช่างถามเช่นนี้ทั้งวัน ถ้าไม่พูดไม่ถามแสดงว่าไม่สบาย”
“อ้อ....” แม่ทัพนาซิมลากเสียง
ส่วนอาเม่ยไม่รอให้ต้องหลุดคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพผู้บังคับบัญชาอีก รีบก้าวหนีออกมา แต่อีกฝ่ายกลับเดินตามมาด้วย
“เจ้าดูแปลกไปจริงๆ”
“ท่านสิแปลก”
เมื่ออาเม่ยหันไปมองรอบตัว แม่ทัพเชมัลจึงคว้าข้อมือพาไปที่บ้านพักของแม่ทัพนาซิม
“ไม่สบายใจเรื่องอันใด”
“ข้าไม่ได้เป็นอันใด ท่านต่างหาก เดี๋ยวอกหัก เดี๋ยวร่าเริง ผู้อื่นทำตัวไม่ถูก”
แม่ทัพเชมัลถอนหายใจหนักๆ ใครกันแน่ที่ผิดปกติแล้วยังไม่ยอมรับ เมื่อเข้าไปในบ้าน ก็ชี้บอก “นั่งลงคุยกัน”
“ท่านเป็นแม่ทัพ แล้วข้าก็เป็นองครักษ์ ไม่จำต้องคุยดีกับข้านักหรอก”
...นี่ข้ากำลัง..กล่าวคำอันใดออกไปกัน...
อาเม่ยเคาะหน้าผากตนเองพลางนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามตามคำสั่ง แต่แม่ทัพกลับขยับมานั่งข้างกัน
“ข้าสรุปง่ายๆ ก็แล้วกันว่าพวกเราต่างก็สับสนกับเรื่องของตนเอง”
อาเม่ยพยักหน้า “คงเป็นเช่นนั้น แต่ข้ามเรื่องของข้าไปเลยก็ได้ เพราะข้าเป็นผู้น้อย”
“เช่นนั้นไม่ได้ เพราะสำหรับข้าแล้วพวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน”

...เพราะท่านเป็นผู้มีน้ำใจเช่นนี้ ทั้งฮูดา และเก้าถึงไม่สามารถตัดใจจากท่านได้...
....บอกว่าตัดใจ แต่การกระทำยังเป็นเช่นที่ผ่านมา แล้วจะมีที่ว่างเหลือให้ข้าได้อย่างไร...

“คิดอะไรอยู่บอกข้าได้ไหม”
“...ท่านมีพี่ฮูดากับพี่เก้า” อาเม่ยพูดแล้วกัดปากตัวเอง คำไม่กี่คำแต่ช่างเหมือนกำลังหึงหวงคนที่ไม่มีสิทธิ์จะหึงหวง “ช่างเถิด อย่าใส่ใจเลย ข้าก็เป็นเช่นนี้ ทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากข้าฟังผู้คนพูดมากเกินไป"

“เสี่ยวเม่ย ข้าเพิ่งบอกเจ้าว่าข้าใส่ใจความรู้สึกของเจ้า”
เวลาที่แม่ทัพเชมัลเรียกชื่อเช่นนี้ อาเม่ยมักไม่พอใจ แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกแปลก
“ข้าเพิ่งกล่าวว่าอย่าใส่ใจ เพราะข้ากำลังใส่ใจความไม่สบายใจของท่าน”
“ข้าก็จะบอกว่าอย่าใส่ใจความรู้สึกของข้า เพราะข้ากำลังใส่ใจความรู้สึกของเจ้าเช่นกัน"

ผู้ที่กำลังเต็มไปด้วยความสับสนต่างคลี่ยิ้มแล้วหัวเราะให้กันเบาๆ
 
“เช่นนี้เอง พี่ฮูดากล่าวเสมอว่า ข้าควรอยู่ใกล้ท่าน แม้เขาจะรู้สึกขัดตาข้าอย่างยิ่งก็ตาม เพราะพวกเราต่างก็ไม่เข้าใจตนเองเลยสักนิด”
แม่ทัพแก้ไข “ไม่นะข้าเข้าใจตัวของข้าเอง เจ้าต่างหากที่ไม่เข้าใจตนเอง”
“เช่นใดกัน” อาเม่ยเถียง “หากท่านเข้าใจ แล้วเหตุใดจึงผิดหวังเรื่องของพี่เก้าอยู่อีก”
แม่ทัพยิ้มเศร้า ขณะที่ใช้นิ้วหัวมือเกลี่ยแก้มใส แล้วแตะปลายนิ้วชี้ที่ขมับ 2 ของอีกฝ่าย ดวงตาสีอ่อนจ้องมองลึกลงไปในดวงตาอีกฝ่าย

อาเม่ยรู้สึกสมองว่างเปล่าไปชั่วครู่ จนเมื่อแม่ทัพเลื่อนปลายนิ้วลงมาที่แก้มใส ได้ยินเสียงของแม่ทัพอีกครั้ง จึงกะพริบตาถี่ๆ

“นั่นเพราะข้าต้องสูญเสียเก้าไปในเหตุที่ข้าทำอันใดไม่ได้เลย”
“แต่หากไม่มีเหตุ พวกท่านก็จะ...”
“แต่ความจริงมันมีเหตุ และเก้าก็เลือกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างไม่อาจหวนคืน”
ดวงตาสีแปลกจ้องมองคนที่อยู่เบื้องหน้า
“ท่าน...เสียใจ และไม่ได้อยากหวนคืน”
“ใช่ เสียใจที่ความรักของข้า อำนาจของข้าไม่อาจช่วยอะไรได้เลย”
แม้ยังสงสัยในความผิดปกติเมื่อครู่ แต่อาเม่ยก็เข้าใจความคิดนี้
“ท่านยังรัก...พี่เก้าอยู่หรือไม่”
นิ้วมือใหญ่แตะที่ปลายคาง ขณะที่ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้
“เจ้าคิดว่าอย่างไร”
“ข้าคิดว่าท่านยังรักพี่เก้าอยู่”

“เจ้าคิดผิด”

คิดผิดได้อย่างไร ในเมื่อนี่เป็นความคิดที่ทุกคนเห็นพ้องกัน
ไม่ใช่!
ที่ผ่านมา ทุกคนคิดอะไร พูดอะไร
แล้วเมื่อครู่แม่ทัพพูดว่าอะไร
อาเม่ยทบทวนเรื่องราวอีกครั้ง

เสียใจที่ความรักสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องการอยู่ด้วยกัน
ใช่...ทั้งเห็น ทั้งได้ยินหลายครั้ง ที่แม่ทัพบอกให้ทั้งฮูดาและเก้าแยกไป แล้วเรียกข้าไว้

เมื่อริมฝีปากหนาเข้ามาใกล้ อาเม่ยก็เบี่ยงหน้าหนีแต่จมูกคมกลับติดแก้ม
แขนใหญ่รัดเอวบางให้ขยับขึ้นมานั่งบนตัก

“ตลอดเวลาเจ้ามัวแต่มองทุกคน ยกเว้นข้า ทั้งที่ข้าดีต่อเจ้าจนทุกคนกล่าวถึง แต่เจ้าก็ปฏิเสธ”
“ก็ท่านเสียใจ”
“เสียใจก็เสียใจ เวลาที่เจ้าเลี้ยงหมาแมว เจ้าย่อมรักมัน หากวันหนึ่งที่มันจากไป เจ้าก็จะเลิกคิดถึงมันหรือไม่ แต่ในเวลาเดียวกันเจ้าต้องยอมรับว่ามันไม่อาจฟื้นคืน”
“แต่เมื่อคืนท่านกลับมาดักรอพี่เก้า”
“ใครบอกว่าข้ามารอเก้า”
“ก็....”
“ท่านพี่นาซิมออกไปข้างนอก ข้าไม่ชอบดื่มลำพัง นึกได้ว่าบ้านพักของพวกเจ้าคับแคบ แล้วฮูดาก็ไม่สบาย ก็เลยจะมาดู เผื่อว่าจะมีน้องน้อยอยากมานอนที่บ้านนี้ แต่กลับเห็นเก้ากลับไปที่บ้านพักทั้งสีหน้าตื่นตกใจพอถามไถ่ก็รู้ว่าคนที่ไม่ใช่อย่างไรก็ไม่ใช่จริงๆ”
“นั่นเรียกว่าท่านยังคงมีความหวัง และอกหัก”
“ข้าไม่ได้หวังว่าวันคืนเก่าๆ จะกลับมา”
...หากต้องการวันคืนเก่าๆ กลับมา ก็เพียงใส่ใจแต่ความต้องการของตนเองเป็นใหญ่ ใช้อำนาจบังคับเพื่อให้ได้มา...

“พี่ฮูดาบอกว่า มีคนที่ผิดหวังมาก”
“นั่นคือท่านพี่นาซิมต่างหาก” ริมฝีปากหนากดจูบแก้ม “ฮูดาจับความรู้สึกของเก้าได้เพราะเก้ามักจะไม่มั่นใจในความรู้สึกของตนเอง ส่วนพี่นาซิมทั้งมึนเมา ทั้งผิดหวังที่รู้ความจริง”
อาเม่ยตาโต หันกลับไปมองแม่ทัพเต็มตา
“ท่านจับความรู้สึกของพี่เก้าได้เช่นกัน”
รอยยิ้มของแม่ทัพทำให้อาเม่ยรู้สึกตัวเบา ทุกปัญหา ทุกความสับสนล้วนคลี่คลาย
“ผู้อื่นล้วนเข้าใจท่านผิด”
“ผู้ที่เข้าใจข้าผิดมีแต่เจ้าคนเดียว เสี่ยวเม่ย” มือใหญ่บีบจมูกรั้นขณะกล่าวคำ “เจ้าตัววุ่นวาย”
อาเม่ยรู้สึกหมดแรงก้มหน้าแนบหน้าผากลงกับไหล่กว้าง

เรื่องราวไม่ได้สลับซ้อนอันใด
ไม่เลยสักนิด
ไม่ว่าวันวานแม่ทัพจะคิดอย่างไร
ในวันนี้ เขาคิดแต่เรื่องของข้า...
..และมีแต่ข้าที่พยายามให้เขายังมีความรู้สึกเดิมต่อเก้า....
 
“แล้วเจ้าจะให้ความหวังข้าได้ไหม จะทำให้เสียใจหรือไม่”
“อันใดกัน ข้าไม่รู้เรื่องอันใดทั้งนั้น” คนที่ซุกหน้าอยู่กับไหล่กว้างไม่ยอมเงยหน้าขึ้น
“เจ้าเต็มไปด้วยคำถาม และความไม่เข้าใจ ทั้งที่ข้าพร้อมที่จะตอบคำถามของเจ้าอยู่เสมอ”
“ถามไปท่านก็ตอบเช่นเดิม”
“เพราะมันคือความจริง”
อาเม่ยหายใจเข้าลึกๆ “เช่นนั้นก็ออกไปข้างนอกกันเถิด”
แต่แขนที่กอดอยู่กลับยังไม่คลายออก “อยู่เช่นนี้อีกนิด”
“ปล่อยเถิด ผู้คนข้างนอกมากมาย พวกเราเข้ามานานแล้ว”
“เจ้าพูดเหมือนหญิงสาว”
“ไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาอาจคิดว่า ข้าต้องโดนท่านดุ โดนท่านลงโทษแน่ๆ”
แม่ทัพหัวเราะเบาๆ แล้วจูบแก้มที่พยายามเบี่ยงหลบ
“เสี่ยวเม่ย”
“ก็...ข้าไม่คุ้นชินกับการโอบกอดแบบนี้”
“หากเจ้าคุ้นชิน ข้าคงไม่...รู้สึกกับเจ้าแบบนี้”
“คุ้นชินแล้วเป็นอย่างไร” อาเม่ยถามโดยพยายามที่จะไม่หันไปหาอีกคน เพราะริมฝีปากที่ยังอยู่ติดแก้ม
“หากคุ้นชินก็จะ...อธิบายไปเจ้าก็ต้องมีคำถามต่อไปอีก”
“ไม่ต้องอธิบายก็ได้ ไม่ต้องกอด ไม่ต้อง...ทำแบบนี้เถิด”
“ไม่ชอบหรือ” จมูกที่อยู่ติดแก้มถอยห่างให้อีกฝ่ายหันมาหาได้
“ก็...ไม่คุ้นชิน”
รอยยิ้มของแม่ทัพทำให้ใบหน้าร้อนผ่าว
มือใหญ่แตะปลายคางให้เงยหน้าขึ้น เมื่อริมฝีปากหนาเข้ามาใกล้อาเม่ยก็รีบบอก
“ข้าไม่เป็นผู้รับใช้ของท่านได้ไหม”
“ได้”
“จริงนะ”
ริมฝีปากหนากดจูบอย่างนุ่มนวล รับรู้ถึงลมหายใจอุ่น และสัมผัสจากอ้อมแขนที่อบอุ่น

...เจ้าเป็นมากกว่านั้น เสี่ยวเม่ย...


...จบตอนที่ 8…

บอกกันอย่างตรงไปตรงมา "แม่ทัพโกหก"
มาอีกทีวันพุธหน้าครับ
.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-05-2015 08:37:21
ท่านแม่ทัพโกหกอัลไลลลลลล  :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-05-2015 09:06:08
ห๊ะ!!!!!!!!! อะไรคือ แม่ทัพโกหก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 20-05-2015 09:28:24
ตอนนี้อ่านมาอย่างฟิน เลย :-[
แต่......พอเจอประโยคนี้เข้าไป
.
.
.
.

"บอกกันอย่างตรงไปตรงมา "แม่ทัพโกหก" "  :katai1: :ling1:

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 20-05-2015 09:31:46
“เจ้าคิดผิด”

แต่ๆๆๆๆๆ
ไอ้รอยยิ้มเศร้าาาาาาา
นี่มัน...
 :z3: :z3: :z3:
งอนแม่ทัพว้อย!!!

ตอนนี้บวกและเป็ดให้ฮูดาดีกว่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-05-2015 11:08:43
ชิ เชมัลคนเจ้าเล่ห์ มือไว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2015 11:32:14
โอยบาดตา บาดหู...ท่านแม่ทัพป้อเด็กใหม่
สงสารก็แต่คนเก่าละน้อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 20-05-2015 11:41:17
คนนี้ใช้ได้ไหม? ฮูดา
'Devran Taskesen

แต่อยากให้คนนี้เป็นพี่ใหญ่รอม
(http://upload.siamza.com/file_upload/modify/200515/1982357.jpg) (http://upload.siamza.com/1982357)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 20-05-2015 12:05:45
กดบวกๆๆๆๆให้ฮูดา 5555 ให้อภัยแล้ว เพราะกลับตัวกลับใจ  :z2:
 
แอบกระซิบเบาๆ เค้าชอบเรื่องนี้นะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 20-05-2015 14:36:47
 :z3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-05-2015 14:49:23
ถ้าเรื่องนี้เป็น'เอนิเมะ'คงสนุกน่าดู~ ยิ่งอ่านยิ่งชอบอาเม่ย ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-05-2015 14:55:02
เหมือนอาเม่ยวิ่งเต้นไปคนเดียวเลยเนื่องฟังมากสงสัยมากแล้วก็คิดมากอยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-05-2015 15:45:16
อยากรู้ตรง แม่ทัพโกหก
แม่ทัพเชมัลชอบอาเม่ยจริงๆใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 20-05-2015 15:53:01
ฮูดาทำดี  o13

แม่ทัพเจ้าเล่ห์มากๆๆ :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-05-2015 15:57:43
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 20-05-2015 16:23:15
นี่ๆๆๆๆๆๆๆ ท่านแม่ทัพ ท่านนี่เสมือนมีขุนแผนอยู่กับตัวเองจริงๆ ไม่ต้องเป่ามนต์ให้ใครหลงแค่พูดก็ทำให้เคลิ้ม
ผู้มีน้ำใจในสายตาของอาเม่ยทำเราหมั่นใส้ๆๆๆๆๆๆ แถมเจ้าตัววุ่นวายของแม่ทัพก็เหมือนมีใจให้แม่ทัพแล้วซะอีก
น่าหมั่นใส้ที่สุดดดดดดดดดดดดดด
นี่ถึงขนาดที่ว่ามีความสามารถเหมือนอ่านใจคนอื่นได้เข้าไปอีก น่าหมั่นใส้ยิ่งกว่าที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

^
^
^
ทั้งหมดที่เขียนไปเพราะประโยค "แม่ทัพโกหก" แท้ๆ   :m14:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-05-2015 17:11:37
มาให้กำลังใจก่อน

เดี๋ยวคืนนี้มาอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-05-2015 17:17:55

 มาสปอยว่าพี่เชโกหก แล้วโกหกเรื่องอะไร โกหกใคร วุ้ยยย!อยากรู้ อยากรู้ อยากรู้อ่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 20-05-2015 17:28:23
โกหกตรงบอกว่า "ได้" ล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 20-05-2015 18:49:46
ตอนนี้ฮูดาชนะเลิศค่าาาาาาาาาา
ปรบมือให้รัวๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-05-2015 19:40:54
เหมือนฮูดาจะตัดใจจากแม่ทัพแล้วใช่มั้ย แล้วเก้าล่ะจะยอมรับรักนาซิมมั้ย อยากรู้จัง
ใจของแม่ทัพล่ะ อยู่ที่ใครใช่เม่ยจริงมั้ย

โกหกอะไรอยู่แม่ทัพ เผยออกมาเดี๋ยวนี้เลย  :katai4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 20-05-2015 20:02:51
ความสัมพันธ์เสี่ยวเม่ย

ขยับใกล้กันอีกนิดแล้ว

รอตอนต่อไปค่า :L2:

 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-05-2015 20:30:20
ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา

ตอนนี้เป็นอะไรที่เข้าใจและปลื้มมากที่สุด

รู้ความในใจของท่านแม่ทัพ

และรู้ว่าท่านแม่ทัพแค่เป็นห่วงอาเก้าเท่านั้น

ไม่มีความรักให้อาเก้าอีกต่อไป

แบบนี้ดีกว่ามาก อาเม่ยอย่าสับสนและอย่าเชื่อที่คนอื่นพูดก็พอ

มั่นใจในตัวท่านแม่ทัพนะอาเม่ย

ปล สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งจากที่ดูจากชื่อเรื่องแล้ว

อาเม่ย เป็นทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-05-2015 20:59:44
โดยส่วนตัวคิดว่า แม่ทัพกับเก้าจะไม่มีวันเป็นจริงและคงไม่หวนกลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อน เพราะมันได้เกิดความผิดพลาดมาแล้ว และแม่ทัพคงไม่อยากทำอะไรให้มันร้ายแรงลงไป ดังนั้นจึงเชื่อว่า หลายอย่างที่แม่ทัพได้แสดงออกมานั้น คืออาการห่วงอย่างห่างๆ ของคนเคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ไม่มาก, และไม่น้อยกว่านั้น

ช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง เล่นเอาดิฉันจิกหมอน วุ้ย...ถึงขั้นดึงมานั่งตักกอด จะไวไปหรือเปล่าคะแม่ทัพขา แถมยังคำก็หอมแก้ม คำก็จูบ คนที่กำลังสับสนอย่างเม่ยเลยไปไม่เป็นทีเดียว

ตอนนี้ปัญหาเดียวคาใจคือ ประโยคสุดท้ายที่น้องน้ำชาทิ้งไว้ให้เป็นปม "แม่ทัพโกหก" อยากรู้ว่าโกหกเรื่องอะไร มีประโยคไหนที่ดิฉันอ่านข้ามไปหรือเปล่า หรือมันจะเกี่ยวกับช่วงหนึ่งที่แม่ทัพจับจุดตรงขมับทั้งสองข้างของเม่ย แล้วทำให้เม่ยรู้สึกสมองว่างเปล่า? หรือว่าความรู้สึกของแม่ทัพต่อเก้ายังคงเป็นเช่นเดิม แต่ที่บอกว่าไม่ได้รักเก้าแล้วนั้น เป็นเพียงถ้อยคำหว่านล้อมเพื่อให้เม่ยตายใจ เพื่อให้สามารถตะล่อมเด็กน้อยคนนี้ได้สะดวก เพราะแม่ทัพไม่ได้ "ถูกรับใช้" มานานแล้วตั้งแต่เก้าไปมีพริม โอ๊ย อยากรู้จังเลยค่ะ นี่ถ้าแม่ทัพโกหกเพื่อหลอกกินน้องเม่ยนะ ดิฉันจะต้องโกรธแม่ทัพอย่างมากแน่ๆ เลย

(คิดมากจนเข้าขั้นเพ้อเจ้อค่ะ ฮือ)

ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-05-2015 21:13:32
 :katai1: :katai1: :katai1:รู้สึกว่าาา อาเหม่ยอย่าเพิ่งไปยอมแม่ทัพพพพพพ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 20-05-2015 21:51:58
แม่ทัพโกหกเรื่องอะไรหนอ  :hao4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 21-05-2015 00:35:22
 o13

 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 21-05-2015 11:50:13
อย่าพึ่งพังเรือเค้าาา
กำลังเดินทางฟินๆ
มาเจอว่าท่านแม่ทัพโกหกนี่คือ
เรือแทบพังงงงง

อาเม่ยยยย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 21-05-2015 16:29:25
เขินแทนอาเม่ย  แม่ทัพเปิดใจแล้วนะ
อาเม่ยอย่ามาทำไม่รู้ไม่ชี้

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 21-05-2015 18:20:51
คาใจอ่ะ ท่านแม่ทัพโกหก  :z3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 23-05-2015 18:38:31
ช่วยดันพี่เชหน่อย ฮึบๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 24-05-2015 22:33:43
 :katai5:   :katai5:   :katai5:  ปูเสื่อรอวันพุธอย่างใจจดใจจ่อ  :katai5:   :katai5:   :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 25-05-2015 22:20:22
ท่านแม่ทัพโกหกที่ยอมรับคำขอร้องไม่เป็นผู้รับใช้ของเสี่ยวเม่ยใช่มั้ยละ
บอกว่าได้แต่ลวนลามไปเดี๋ยวเด็กมันก็เผลอ 5555
ในที่สุด2อดีตผู้รับใช้ก็มาแท็กทีมช่วยแก้ไขให้ท่านแม่ทัพบ้างแล้ว
เสี่ยวเม่ยก็เริ่มโอนเอนมากขึ้น. รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักแม่ทัพเต็มที่ในไม่ช้า :-[

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 26-05-2015 02:59:02
ปักจุดยืนฮ่ะ

Edit :
คือชอบเรื่องนี้มาก เป็นกำลังใจให้นะ คุณTeaJive อารมณ์เหมือนอ่านวรรณกรรมเเฟนตาซีที่ชอบอ่านเเต่ก่อน รักเลย /*กอดดดด  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ไม่คิดว่าจะได้อ่านเเนวนี้


'เเม่ทัพโกหก' พอบอกละไปไล่อ่านใหม่เลยทีเดียว T____T  :katai1:  :katai1:  :katai1: ยังค้างคาใจอยู่ว่าตกลงเเม่ทัพกับหนูเม่ยมีความหลังอะไรกัน เเละนี้เเหละคงจะเป็นที่มาของชื่อเรื่องใช่ไหม?? รอนะฮะ

ส่วนหนูเม่ยดูท่าจะเป็นผู้เล่นลม ตามที่บอกไว้จริงหรอเนี่ย หวังว่าหนูจะเก่งขึ้นเเละไม่เป็นเป็ดนะลูก 555   :katai2-1: :katai2-1:

ยังงเชียร์เก้าให้ได้กับนาซิมอยู่วันยังค่ำ เราอยู่ฝั่งพระราชา 5555   :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่8หน้า8 (20พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 26-05-2015 18:57:51
 :call:
:call:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 26-05-2015 19:57:52
ตอนที่ 9

อาเม่ยเคยคิดล่วงหน้าไปตามนิสัย ว่าหากแม่ทัพเชมัลมีความพอใจตนเองตามที่ทุกคนกล่าวกันอยู่เสมอ ผู้ที่จะรู้สึกลำบากใจมากที่สุดในยามพบหน้าคือองครักษ์เก้า แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงกลับพบว่า การเข้าหน้าองครักษ์ฮูดาคือเรื่องที่ลำบากใจมากกว่า

เมื่อออกจากบ้านพักของแม่ทัพกลับมาถึงบริเวณที่พักของเหล่าองครักษ์ จึงพบกับทุกคนรวมถึงองครักษ์ฮูดา และองครักษ์เก้า

องครักษ์เก้าหันมามองด้วยรอยยิ้มกว้างด้วยความยินดี
...ช่างเป็นรอยยิ้มที่ทำให้อีกคนเก้อเขิน...
ส่วนองครักษ์ฮูดาหันมามองแล้วกลับไปให้ความสนใจการเตรียมอาวุธเหมือนเดิม
…แต่ความนิ่งเฉยแบบฮูดากลับทำให้รู้สึกต้องการเข้าใกล้มากกว่าท่าทีเป็นมิตรของเก้า..

อาเม่ยเดินเข้าไปหาองครักษ์ฮูดา “ฮูดา”
คนตาคมตวัดตามอง เช่นเดียวกับน้ำเสียงที่ห้วนและแสดงถึงความไม่เป็นมิตร “เจ้าต้องเรียกข้าว่าท่านพี่”
ความภาคภูมิใจ และความมั่นใจขององครักษ์ฮูดาไม่เคยเป็นรองใคร
ยิ่งยามนี้ ยิ่งเหมือนกับมีรั้วหนามขวางกลางระหว่าง 2 คน
อาเม่ยทำหน้าพิกล “ข้าก็แค่....”
พอองครักษ์ฮูดาหันมามองเต็มตาด้วยสายตาเย็นชา อาเม่ยก็ต้องลดเสียงเบาลง
“คือข้ายังไม่ได้...ท่านพี่”
อาเม่ยไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ ไม่ว่ากับใครทั้งสิ้น ทำให้อีกคนต้องคลายยิ้ม
แต่ยังมีบางเรื่องที่ไม่ควรกล่าวต่อหน้าผู้คนมากมาย
องครักษ์ฮูดาพยักหน้าให้อีกคนเดินตามมาพูดคุยในที่ห่างออกมาอีกหลายก้าว
แต่ทั้งอยู่ห่างจากคนอื่น คนตาคมก็ยังก้มลงกัดฟันกระซิบ

“ข้ารักแม่ทัพเชมัลมานานหลายปี และข้าไม่เคยชอบเจ้า แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการที่เขารักเจ้า และข้ารอวันที่เจ้าจะทำให้เขาเสียใจ เพราะเมื่อถึงวันนั้น ข้าจะจัดการเจ้าด้วยมือของข้าเอง!”
ประโยคขององครักษ์ฮูดาฟังยาก เข้าใจยาก แต่เมื่ออาเม่ยเงยหน้าขึ้นสบตา คนตัวเล็กกว่าก็กลับยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง
...นั่นเป็นคำอวยพรที่แปลกประหลาด แต่เป็นคำกล่าวที่จริงใจอย่างที่สุด
องครักษ์ฮูดาและองครักษ์เก้าต่างก็เป็นคนในอดีตของแม่ทัพเชมัล
ความรักของพวกเขาข้ามผ่านความต้องการครอบครองไปแล้ว
มีแต่ความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจ
เพียงคนที่ถือเกียรติอย่างองครักษ์ฮูดา จะให้ยิ้มกว้าง ยอมรับ และกล่าวยินดีอย่างอ่อนหวานย่อมเป็นไปไม่ได้
คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าแล้วกอดแขนขององครักษ์ฮูดาไว้
“ข้ายังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร”
“อนาคตเจ้ามันเรื่องของเจ้า ข้าสนใจแต่เรื่องที่เกี่ยวกับแม่ทัพเท่านั้น”
“โห....” อาเม่ยลากเสียง
“ทำไม่ได้ใช่ไหม เช่นนั้นข้าจะได้จัดการเจ้าเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย”
พอองครักษ์ฮูดาเงื้อมือ อาเม่ยก็ยิ่งกอดแขนแน่นขึ้น จนองครักษ์ฮูดาสงสัย
“การต่อสู้อันใดของเจ้ากัน ข้าเงื้อมือแล้วเจ้ากลับยิ่งกอดข้า”
“นี่คือท่าไม้ตายของข้าไง สู้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องหนีให้เสียเวลา”

องครักษ์ฮูดาหันไปมองแม่ทัพเชมัลที่กำลังมองมา เช่นเดียวกับคนอื่น และเสียงหัวเราะประสานอยู่รอบตัว
คนตาคมก้มลงมองคนที่ยังกอดแขนอยู่
ดวงตาสีแปลก เส้นผมสีแปลก นิสัยร่าเริง
....ข้าไม่ใช่ผู้พยากรณ์ มองไม่เห็นอดีตและไม่ล่วงรู้อนาคต แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีความรู้สึกว่าครานี้แม่ทัพเชมัลจะต้องเสียใจอย่างใหญ่หลวง
...เป็นความรู้สึก หรือคือเบื้องลึกในจิตใจที่อยากให้เกิดขึ้น….
…คนเพียงผู้เดียวที่แยกแยะได้คือพระราชาฟารัค...

และในขณะที่องครักษ์ฮูดายังคงระแวดระวัง องครักษ์เก้ากลับผ่อนคลายยิ้มแย้มมากขึ้น เพราะมีคนจากหมู่บ้านเดียวกันหลายคนประจำอยู่ที่ด่านชายแดนแห่งนี้ ทำให้มีความคุ้นเคยกับผู้คนมากมาย และสามารถแยกไปพูดคุยกับผู้อื่นได้ง่าย
เมื่อพบพ่อค้าจากต่างแดนที่เข้ามาส่งสินค้าได้เพียงตลาดนัดชายแดน แล้วต้องเดินทางกลับออกไปกำลังแสดงความไม่พอใจที่ไม่สามารถเดินทางเข้าไปค้าขายถึงเมืองหลวง ก็เข้าช่วยเจรจาคลี่คลาย
แม้ตลาดชายแดนจะมีพ่อค้าของเมืองวันมารับซื้อของไปหลายอย่าง แต่ก็ยังมีกำไรไม่มากนัก
นอกจากนี้เมืองวันยังติดชายทะเล สินค้าจากต่างแดนส่วนใหญ่จึงมาจากทางทะเลไม่ใช่ทางบก
ข้อได้เปรียบเพียงประการเดียวคือการลดวันเวลาในการค้าขายในเมืองวัน

“จะได้กลับบ้านไปพักผ่อน ไปซื้อหาสินค้าจากอีกเมืองมาขายได้อีก ไม่ดีหรือไร” องครักษ์เก้าถาม
แต่พ่อค้าส่ายหน้า “ไม่ได้พักหรอก เมืองอีกฝั่งก็ได้แค่เลียบเมือง ต้องเดินทางอ้อมไปหา เมืองบาสก์ กว่าจะถึงบ้าน แทบไม่เหลือกำไร”
พ่อค้าคนนี้ไม่ได้มาจากเมืองเหนือ แต่มาจากเมืองบาสก์ ดังนั้นเขาจึงต้องเดินทางผ่านพื้นที่รอยต่อระหว่างเมืองใหญ่เหล่านี้  ซึ่งมีแต่ชุมชนอิสระทั้งยังเสี่ยงต่อโจรร้าย
องครักษ์เก้าสอบถามสถานการณ์และกำหนดเวลาที่จะเดินทางกลับ เพราะอยากฝากคนติดตามไปด้วย
พ่อค้าไต่ถามถึงคนที่จะฝากเดินทางไปด้วย องครักษ์เก้าจึงแนะนำ และให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“เส้นทางอันตราย ให้คนงานของพวกเราไปส่งท่านถึงเมืองบาสก์ก็พอ ท่านไม่ได้แวะเข้าเมืองเหนือมิใช่หรือ”
“นั่นก็จริง” พ่อค้ายังดูลังเล
“ไม่ต้องเผชิญหน้ากับทหารเมืองเหนือ แล้วก็ยังมีผู้คุ้มครองเพิ่มเข้ามาอีก ไม่ดีหรือ”
“แล้วเรื่องค่าจ้าง....”
องครักษ์เก้ายิ้มขำ “ข้าไม่เกี่ยงเรื่องนั้น เพราะคนที่จะฝากไปมีความจำเป็นจะต้องเดินทาง”
พ่อค้าคิดคำนวณแล้วตอบตกลง
ทีแรกคิดว่าต้องจ่ายค่าจ้างคนงานเพิ่ม แต่นี่กลับได้คนงานเพิ่ม และได้เงินเพิ่มด้วย ช่างเป็นการค้าที่คุ้มค่านัก
“ข้าจะออกเดินทางในเวลาบ่าย เจ้าพาคนของเจ้ามาก่อนเวลาก็จะดี”

องครักษ์เก้าจ่ายเงินล่วงหน้า แล้วแยกไปซื้อหาสินค้าต่างเมือง เมื่อหยิบปิ่นปักผมด้ามเงินสลักลวดลายสวยงามขึ้นมาพิจารณาแล้วถามไถ่ราคาจากพ่อค้า หากแต่เมื่อจะจ่ายเงินให้กลับมีมือใหญ่ส่งเงินให้กับพ่อค้าก่อน
“มิเป็นไร ข้าจ่ายเองได้”
องครักษ์เก้ากล่าวขึ้น แต่แม่ทัพนาซิมกลับส่งเงินให้พ่อค้าแล้วเดินนำออกมาทันที ทำให้องครักษ์เก้าต้องเร่งเท้าตามมา
“ให้ข้าคืนเงินให้ท่านเถิด”
“ข้ารู้แล้วว่าเจ้ามีเงิน แต่ข้าอยากจ่ายเงินนั้น”
“ข้าซื้อปิ่นนี้ไปฝากคนรักของข้า”

แม่ทัพนาซิมหยุดเท้า
หากคนรักของเก้าเป็นชาย ยังมีสิทธิ์แข่งขัน แต่หากคนรักเป็นหญิงจำต้องหลีกทาง

“ข้าจะซื้อปิ่นนี้ไปฝากพริม หากท่านเป็นคนจ่ายเงินก็เท่ากับท่านคือคนซื้อของฝากให้พริม”
“คิดเช่นนั้นก็ได้” แม่ทัพนาซิมบอกแล้วก้าวเดินต่อไป
หากองครักษ์ฮูดาไม่พูดเรื่องแม่ทัพนาซิมไว้ก่อนหน้านี้ องครักษ์เก้าก็คงไม่คิดจะพูดคุยด้วยอีก
“ท่านแม่ทัพนาซิม”
แม่ทัพแห่งเมืองหน้าด่านชายแดนหันมามอง แต่เมื่อเห็นว่าองครักษ์เก้าก้มหน้าอยู่ ก็ก้าวเดินต่อไป
“ที่นี่มีผู้คนพลุกพล่าน”
แต่องครักษ์เก้าเคยพบเจอกับแม่ทัพนาซิมในช่วงเวลาที่ไม่มีผู้คน และตระหนักว่าไม่ใช่เรื่องดีเลยหากต้องพูดคุยกันตามลำพังจึงเดินตามมาพอให้พ้นจากผู้คนหนาแน่นจึงกล่าวคำ
“เรื่องที่ข้ารับใช้แม่ทัพเชมัล....”
“มันจบไปแล้ว” อีกฝ่ายตอบทั้งที่ยังก้าวเดินต่อไป ทำให้องครักษ์เก้าต้องเร่งเท้าไปดักด้านหน้า
“ถูกต้องที่มันจบไปแล้ว และเวลานี้ข้ามีพริมเป็นคนรัก”
“เจ้าเคยบอกข้าแล้ว” ดวงตาสีเข้มมองปิ่นในมือขององครักษ์เก้า ขณะที่ลดเสียงพูดลง “แต่ข้าไม่เชื่อ”
“แต่มันคือความจริง รวมถึงเรื่องที่ท่านบอกว่า มันจบไปแล้วด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนส่งผลเสียต่อแม่ทัพเชมัล”
อีกฝ่ายทำเสียงขึ้นจมูก “จบก็คือจบ”
“เป็นเช่นนั้น" องครักษ์เก้าย้ำคำ "แต่ตราบใดที่ข้ากับพริมยังไม่แต่งงานกัน หากผู้คนพูดเรื่องที่ไม่ดีงามย่อมมีการผูกโยงไปถึงแม่ทัพในที่สุด”
แม่ทัพนาซิมใช้ลิ้นดุนแก้มพยักหน้าช้าๆ
“ทุกคำที่เจ้าพูดมีแต่เชมัล กับพริม”
องครักษ์เก้ายอมรับ “ข้าจึงขอพูดกับท่านอย่างชัดเจน ว่าอย่าติดตามข้าแบบนี้.....”
 
คนตัวสูงใหญ่ก้าวขา แต่กลับหันมาคว้าต้นแขนของอีกฝ่ายให้เดินตามมา ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านหันมามอง จากย่านตลาดชายแดน ตรงต่อไปยังเขตค่ายพัก และกระท่อมหลังเล็กในมุมอับของเมืองค่ายทหาร คาดเดาได้ไม่ยากว่าที่นี่คือสถานที่ไว้ใช้หลบซ่อนบุคคล หรือ สิ่งของ
สีหน้าตระหนกขององครักษ์เก้าเมื่อหันไปมองรอบกระท่อมอับชื้น ทำให้แม่ทัพนาซิมกระแทกเสียงในลำคออีกครั้งก่อนที่จะกล่าวคำ

“จะอยู่กับข้าที่นี่ หรือจะไปกับเชมัล”

องครักษ์เก้าหันมามองอีกฝ่ายเต็มตา “ข้าเป็นองครักษ์ของแม่ทัพเชมัล หากท่านขังข้าไว้ที่นี่ ย่อมสร้างความเสียหายอย่างไม่คาดคิด พวกเรากำลังจะมีศึก พวกเราต่างมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำก่อนเรื่องส่วนตัว”
แม้จะเคยมาที่ด่านชายแดนแห่งนี้ แต่ที่ผ่านมาองครักษ์เก้าพูดคุยกับแม่ทัพนาซิมไม่มากนัก  ได้แต่รับฟังเรื่องราว และคำบอกเล่าจากคำพูดของบุคคลอื่นทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้สรุปได้ว่า แม่ทัพไม่เชื่อเรื่องพริมอย่างสิ้นเชิง ทั้งเชื่อว่า เป็นเพียงคำโกหกเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ที่นี่

“ข้ารักเจ้า ทั้งที่เจ้าไม่เคยมองข้า และข้ายอมถอยเมื่อรู้ว่าเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเชมัล แต่วันนี้ เขาไม่ได้รักเจ้าแล้ว เขารักอาเม่ย”
“แต่ท่านกักขังข้าไม่ได้!”
เมื่ออีกฝ่ายไม่เชื่อเรื่องพริม องครักษ์เก้าก็ต้องพยายามยกเรื่องภาระหน้าที่ขึ้นมากล่าวถึง
“ข้าต้องไปหาพี่ใหญ่รอม เพื่อรายงานเรื่องแผนการที่จะส่งคนไปสอดแนม”
แม่ทัพนาซิมก้มหน้าแล้วพยักหน้าช้าๆ ทำให้องครักษ์เก้าเดินเลี่ยงไปหาประตู แต่กลับถูกดึงให้กลับมาหา
องครักษ์เก้าตวัดปิ่นยาวในมือกรีดใบหน้าอีกฝ่าย
แม่ทัพนาซิมไม่คาดคิดว่าคนสุภาพแบบองครักษ์เก้าจะตอบโต้ ผงะถอยพลางแตะปากบาดแผลตื้น
“ข้าผ่านการสู้รบมากมาย แต่กลับถึงเลือดด้วยปิ่นของสตรี ในมือของคนที่ข้ารัก”

องครักษ์เก้าตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ
บางอย่างที่องครักษ์ฮูดาสัมผัสจากดินในวันที่มาถึงในวันแรก
เพราะก่อนที่กลุ่มของแม่ทัพเชมัลมาถึง แม่ทัพนาซิมย่อมต้องออกตรวจดูพื้นที่นอกด่าน!
“ท่านออกไปที่นอกด่านก่อนที่พวกเรามาถึงใช่หรือไม่!”
ดวงตาที่จ้องมองมายิ่งแข็งกร้าวกว่าเดิม
“ท่านสัมผัสดินหรือไม่!”
คนตัวสูงใหญ่ยังคงก้าวเข้าหาคนที่ก้าวเท้าถอยหลังจนกระทั่งติดผนังห้อง
“ฮูดาเตือนว่าที่นี่มีสิ่งผิดปกติ ท่านคือผู้นำของที่นี่ อย่าปล่อยให้เวทย์ดำทำร้ายท่าน!”
แม่ทัพนาซิมหยุดเท้า กำมือแน่น เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มหน้าผาก
“รีบ ออก ไป”

องครักษ์เก้ารีบวิ่งออกไปจากกระท่อมหลังเล็กทันที แต่เมื่อพบเจอกับเด็กหนุ่มระหว่างทาง กลับต้องหยุดชะงัก
....เราวิ่งหนีออกมา แต่หากมีคนไปพบกับแม่ทัพในเวลานี้....
องครักษ์เก้าบอกให้เด็กหนุ่มเดินเลี่ยงไปทางอื่น อ้างว่า ด้านในมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ แรกเด็กหนุ่มก็ยังสงสัย แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดมาจากบ้านที่อยู่ด้านใน ก็เลี่ยงไปทันที
คนสุภาพเดินกลับมาหยุดอยู่ที่หน้ากระท่อมอีกครั้ง
ยังยินเสียงครางต่ำๆ อย่างเจ็บปวดมากจากด้านใน
องครักษ์ฮูดาเป็นผู้มีเวทย์ใช้ดิน สามารถคลี่คลายเวทย์ดำชนิดนี้ได้เอง
อีกคนที่ทำได้ก็คือพี่ใหญ่รอมที่เป็นผู้รักษา แต่รอมก็รักษาได้แต่ตนเองเช่นกัน
...ยังมีอีกคน...
“ข้า จะไปเรียกหาแม่ทัพเชมัล ท่านอย่าเพิ่งออกมา”
แต่ประตูบ้านกลับเปิดออก
ใบหน้าของแม่ทัพนาซิม กลับกลายเป็นสีแดง ดวงตาแข็งกร้าว
มือใหญ่คว้าแขนคนที่ก้าวถอยแล้วดึงกลับเข้าไปในบ้าน
ตลอดชีวิตไม่เคยมีผู้ใดแสดงความก้าวร้าว ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือการกระทำ เพราะองครักษ์เก้ารับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาด้วยความรอมชอมเสมอ
แต่มือใหญ่ที่กดรวบข้อมือตรึงไว้กับที่นอนกระด้าง ร่างกายสูงใหญ่ที่กดทับ ริมฝีปากหนาที่กดจูบมีแต่ความก้าวร้าว และเต็มไปด้วยความรุนแรง
เข็มขัดหนาถูกปลดออก กางเกงถูกดึงรั้ง แล้วจับพลิกคว่ำ
จากการพูดขอร้อง อ้วนวอนด้วยเหตุผลนานาที่ล้วนไม่เป็นผล องครักษ์เก้าร่ำไห้ รู้ดีว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้คือความเจ็บปวด และเรื่องราวที่เลวร้ายลงไปยิ่งกว่าเดิม
“อย่า...อย่าทำเช่นนี้”
น้ำตาอาบหน้า
.....เหตุใดข้าถึงเป็นคนที่นำพาแต่ปัญหามาให้แม่ทัพเชมัล.....
.....เหตุใดถึงไม่หนีไปให้พ้น...
.....เหตุใดต้องเป็นห่วงชายหนุ่มคนนั้น ที่อาจผ่านมาแล้วถูกทำเช่นนี้....
.....เหตุใดต้องกล่าวคำว่าจะไปเรียกหาแม่ทัพเชมัล....
นิ้วมือใหญ่บีบก้นกลมเต็มแรง แล้วแทรกนิ้วเข้าสู่ช่องทางด้านหลัง คนรูปร่างผอมดิ้นหนีด้วยความเจ็บ
“เจ้าโกหกว่าเป็นผู้รับใช้เชมัล” เสียงคำรามข้างหู
“ข้าไม่เคยโกหก” ตอบด้วยน้ำตา ความเจ็บเกินกว่าจะทานทน "ท่านถูกเวทย์ดำครอบงำ.."
“เจ้าโกหก! เจ้ายังบริสุทธิ์อยู่”
แม่ทัพนาซิมดันคางสวยให้หันมารับจูบ ขณะที่แทรกนิ้วเพิ่ม
ความเจ็บทำให้แทบหยุดหายใจ
“เจ้าเป็นของข้า ไม่ใช่เชมัล ไม่ใช่สตรีที่เจ้าอ้างถึง”
“ไม่...อย่าให้ข้าทำผิดต่อพริม”
เมื่อนิ้วมือใหญ่ถอนออก ทำให้องครักษ์เก้าผ่อนลมหายใจคลายความเจ็บ แต่มือใหญ่ยังคงจับสะโพกไว้
“อย่าให้ เวทย์ดำมีอำนาจเหนือท่าน”
เป็นอีกครั้งที่แม่ทัพนาซิมหยุดชะงัก
“เก้า....”
“ได้โปรด....ท่านชนะมันได้...”
แม่ทัพนาซิมยันตัวให้ออกห่างอย่างยากลำบาก ร่างกายสูงใหญ่หนักอึ้ง สมองเต็มไปด้วยใบหน้า ร่างกาย ไออุ่น ของคนที่กำลังร้องไห้
การดึงสติไปหาสิ่งอื่นยิ่งยาก
มีแต่ความต้องการที่จะครอบครอง
หากไม่ใช่เวลานี้ ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!
คนผู้นี้จะจากไป และจะไม่มีวันกลับมาที่นี่อีก!
ร่างกายสูงใหญ่กดทับ แล้วเบียดเข้าหาอย่างรุนแรง
องครักษ์เก้ากรีดร้องจนสุดเสียง ความเจ็บปวดเกินกว่าร่างกายจะทานทน
“เจ้าไม่เคยเป็นของเชมัล! เจ้าโกหกข้า! ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป เจ้าต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับข้า......”
....
จนเมื่อร่างกายขับความต้องการออกมาจนหมด หยาดเหงื่อ หยดจากปลายคาง แม่ทัพนาซิมจึงได้สติจ้องมองคนร่างกายเปล่าเปลือยผอมบางที่เต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกทำร้าย
“อาเก้า! อาเก้า!”
แม่ทัพนาซิมพลิกกอดคนที่มีลมหายใจรวยรินไว้แน่น เสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาด ยังพอสวมใส่ได้ แต่หากอุ้มออกไปในเวลากลางวันเช่นนี้ย่อมถูกผู้คนมากมายพบเห็น คนร่างกายสูงใหญ่ใช้ผ้าปูที่นอนผืนใหญ่ห่อหุ้มจนเหลือเพียงปลายจมูกที่โผล่พ้นแล้วรีบอุ้มออกมาจากกระท่อมหลังเล็ก
ระหว่างทางพบกับยามที่หน้าค่าย สั่งให้ไปเรียกหาแม่ทัพเชมัล ตามไปหาที่บ้านพัก

เมื่อวางองครักษ์เก้าลงบนที่นอน คลี่ผ้าออก แม่ทัพเชมัลก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับองครักษ์คนอื่น แต่แม่ทัพนาซิมรีบออกมาสั่งให้คนอื่นออกไปรอที่ด้านนอกของบ้านพัก แล้วพาน้องชายเข้าไปด้านในเพียงคนเดียว
“เชมัล ข้า...เสียใจ....ข้าไม่เคยเป็นเช่นนี้...ข้าเสียใจ.. เก้าจะตายไหม  เชมัล ข้าทำร้ายเขา”
พี่ชายผู้เข้มแข็ง กำลังมีน้ำตาอาบแก้ม มือกร้านกำลังสั่นแรง แม่ทัพเชมัลหันออกไปเรียกพี่ใหญ่รอม
“อย่า อย่า อาเก้าไม่อยากให้เจ้าเดือดร้อน”
แม้ตลอดเวลาที่ทำเรื่องร้ายแรง ความเป็นจริงเหล่านี้จะเลือนหาย แต่ในยามนี้ทุกสิ่งกลับชัดแจ้ง
เสียงร้องขออ้อนวอนเหล่านั้นยังก้องอยู่ในหู!

“ไว้ใจรอมได้ ข้าจะให้เขาช่วยท่านอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนข้าจะดูแลเก้าเอง”
“เชมัล ข้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าได้ยินเสียง ข้ามองเห็น รับรู้ทุกอย่างแต่ข้ากลับหยุดตัวเองไม่ได้...”
แม่ทัพเชมัลกอดไหล่พี่ชายไว้ หันไปมองหัวหน้าองครักษ์รอมที่ก้าวเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตกใจ
“แม่ทัพ...”
“ดูแลแม่ทัพนาซิมก่อน แล้วให้ฮูดาดูแลต่อ ส่วนเจ้าเสร็จจากแม่ทัพนาซิมเข้ามาหาข้า”
“เชมัล”
“ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้”
แม่ทัพเชมัลเดินตามออกมานอกห้อง เทน้ำจากเหยือกใส่อ่าง ผ้าผืนเล็ก แล้วถือกลับมาหาคนที่นอนหายใจรวยริน
ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้ว แต่บาดแผล และร่องรอยต่างๆ ก็ยังรุนแรงกว่าที่คิดไว้
“เก้า ได้ยินข้าไหม”
น้ำเสียงที่พูดเต็มไปด้วยความอบอุ่น เมื่อองครักษ์เก้าส่งเสียงตอบรับในลำคอ แม่ทัพเชมัลก็พูดต่อ
“ข้าจะรักษาเจ้าก่อน แล้วจะให้แซนพาเจ้ากลับไปหาพระราชา”
องครักษ์เก้าปรือตามอง ขยับริมฝีปากบวมช้ำ ทั้งมีบาดแผล “ขอโทษ....”
“อย่ากล่าวคำนั้น และข้าขอเพียงอย่าโทษตัวเอง”

แม่ทัพเชมัล ไม่อาจล่วงรู้ว่าพระราชามีแผนอะไรอยู่ แต่ไม่อาจให้องครักษ์เก้าอยู่ที่นี่โดยมีแม่ทัพนาซิมอยู่ใกล้ๆ
และไม่อาจให้ใครทำร้ายเก้าได้อีก!
มือใหญ่วางเหนือหน้าผากแล้วแตะลงแผ่วเบา
“พักผ่อนก่อนเถิด”
"นายท่าน...ขอโทษ...." เสียงกล่าวคำขอโทษแผ่วเบาจากริมฝีปากช้ำ ยิ่งทำให้ผู้ฟังเจ็บปวดกว่าเดิม

เมื่อแม่ทัพเชมัลก้าวออกมาจากห้องนอนก็พบกับ แม่ทัพนาซิมและพี่ใหญ่รอมที่เพิ่งชำระล้างเสร็จสิ้นเช่นกัน
“รอให้เก้าอาการดีขึ้นอีกสักนิด จะให้แซนพากลับไปหาพระราชา ให้พระองค์ช่วยดูแล แต่ระหว่างนี้ข้าต้องขอให้ท่านอยู่ห่างจากเก้า”
แม่ทัพนาซิมพยักหน้ายอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ทั้งรู้ตัวดีว่า หากเป็นผู้อื่นทำเช่นนี้ต้องโดนแม่ทัพเชมัลผ่าร่างไปตั้งแต่แรก
“ข้า รู้ตัวทุกอย่าง แต่หยุดตัวเองไม่ได้” พี่ชายหันมาขอร้องด้วยดวงตาแดงช้ำ “เจ้าต้องล่ามข้าไว้ในห้องขัง ก่อนที่ข้าจะทำร้ายใครอีก”
แต่น้องชายส่ายหน้า “มีแต่เก้าที่มีอิทธิพลเหนือใจท่าน”
“ข้าจะไปดูอาการของเก้าก่อน” พี่ใหญ่รอมพูดขึ้น “แล้วค่อยหารือกันว่า...จะต้องควบคุมอย่างไร”
แม่ทัพเชมัลพยักหน้าให้พี่ใหญ่รอมแยกไป แต่ทันทีที่พี่ใหญ่รอมเข้าไปในห้อง แม่ทัพนาซิมก็หันมา
“เจ้ารักษาอาเก้าไม่ได้หรือ”
เมื่อแม่ทัพเชมัลส่ายหน้า อีกฝ่ายก็ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ ซบหน้าลงกับฝ่ามือ “ข้าทำอะไรลงไป เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ข้านำภัยพิบัติมาสู่อาเก้าและเจ้าด้วย”
“หากพระราชาเห็นบาดแผล เขาย่อมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
แม่ทัพนาซิมพยักหน้ายอมรับทั้งที่ยังซบหน้าอยู่กับฝ่ามือ
ผู้เป็นน้องชายก้าวมายืนอยู่ทางด้านหลัง แตะนิ้วมือลงที่ท้ายทอยของพี่ชาย
แม่ทัพนาซิมได้แต่เลื่อนมือมาจับขอบโต๊ะไว้แน่น ไม่ส่งเสียงบอกความเจ็บปวดจากการถูกกดจุด
เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดจากกลางหน้าผากหยดลงที่ปลายคาง ร่างกายหนาเกร็งเครียด แม้แต่จะหายใจยังไม่กล้า เมื่อแรงกดคลายลง แม่ทัพนาซิมก็ต้องซบหน้าลงกับโต๊ะ
....การถูกลงโทษด้วยการยังมีชีวิตอยู่กลับยิ่งเจ็บปวด.....

เมื่อพี่ใหญ่รอมออกมาจากห้องด้วยสีหน้าไม่สู้ดี แม่ทัพนาซิมก็ตัดสินใจ
“ข้าจะย้ายไปอยู่ที่พักของทหารยามที่ประตูด่าน” พี่ชายก้มหน้าเดินออกไป
เมื่อเปิดประตูบ้าน ถึงได้เห็นว่า ทุกคนยังคงรออยู่ รวมถึงกลุ่มผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิมที่มารายงานข่าว
“เมื่อครู่มีพ่อค้าต่างเมืองมาแจ้งเรื่องที่จะท่านองครักษ์เก้าจะฝากคนงานเดินทางไปด้วย เขาขอให้ไปหาก่อนมื้อเที่ยง”
แม่ทัพทั้ง 2 พยักหน้า ไม่อาจให้เรื่องที่เกิดขึ้นกับองครักษ์เก้าเล็ดลอดไปถึงผู้ใด
แต่ที่นี่เต็มไปด้วยผู้ใช้เวทย์ รวมถึงทุกคนที่ยืนรออยู่ที่นี่ พวกเขาอาจรู้แล้ว แต่ด้วยวินัยทหาร หากไม่เอ่ยปากถามก็ไม่ควรแสดงความเห็น
แม่ทัพเชมัลเรียกทั้งหมดเข้ามาในห้องโถงของบ้าน เปิดเผยเรื่องที่แม่ทัพนาซิมถูกเวทย์ดำ จนทำร้ายองครักษ์เก้า จึงต้องให้องครักษ์ฮูดาจัดการเรื่องการเดินทางไปกับพ่อค้า ส่วนองครักษ์แซนต้องพาเก้ากลับไปหาพระราชาที่เมืองหลวง
“หากแม่ทัพนาซิมถูกเวทย์ดำ ก็ไม่มีใครในที่นี่อีกแล้วที่จะปลอดภัย” ผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิมพูดขึ้น
อีกหลายคนช่วยเสริมเรื่องเพิ่มการตรวจตราอาหาร และน้ำดื่ม ทั้งการจัดหาแพทย์ไปกับองครักษ์แซนและองครักษ์เก้า แต่แม่ทัพเชมัลบอกปัด
“ที่นี่ต้องการแพทย์คอยดูแลมากกว่าเก้า”
“ให้แพทย์ไปกับอาเก้าเถิด” แม่ทัพนาซิมขัด แต่ฝ่ายน้องชายขอเพียงรถม้าให้องครักษ์เก้าเท่านั้น
เมื่อการสั่งงานเสร็จสิ้น ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนอาเม่ยกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าขององครักษ์เก้า

แม่ทัพเชมัลนั่งอยู่บนเตียงจับมือขององครักษ์เก้าไว้ ส่วนของข้อมือที่พ้นจากผ้าห่มผืนบาง ยังเห็นรอยช้ำ แต่ไม่เท่ากับร่องรอย และบาดแผลที่ใบหน้า
อาเม่ยหยุดยืนอยู่ตรงประตูห้อง ไม่แน่ใจว่าควรจะเดินเข้าไปหาหรือไม่
แม่ทัพเงยหน้าขึ้นมองแล้วพยักหน้าให้เดินเข้าไปหา
“มาสิ”
“ข้าเอาเสื้อผ้ามาให้ท่านพี่เก้า ไม่รู้ว่า.....”
เมื่อเดินเข้ามาใกล้ แม่ทัพเชมัลก็ปล่อยมือองครักษ์เก้า แล้วดึงให้อาเม่ยเข้ามานั่งตัก
อ้อมแขนแข็งแรงกอดแน่น จูบที่หน้าผากแล้วแนบแก้มอยู่ข้างหู
ไม่มีคำพูดใดจนกระทั่งองครักษ์ฮูดาก้าวเข้ามา
“ขอข้าดูเก้าได้ไหม”
แม่ทัพพยักหน้า องครักษ์ฮูดาก็เดินเข้ามาหา แตะปลายนิ้วที่หน้าผากที่มีรอยบวมจากการถูกจับกระแทก
“เก้าไม่ได้ถูกเวทย์”
“ใช่” แม่ทัพบอก “ท่านพี่นาซิมเป็นคนที่ถูกเวทย์ดำ”
องครักษ์ฮูดาหันมามองอาเม่ยที่แม่ทัพยังคงไม่ยอมปล่อยให้ลุกจากตัก
“พวกท่านออกไปพักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะดูแลเก้าเอง”
“ไม่เป็นไร” แม่ทัพบอก แต่องครักษ์ฮูดาขัดขึ้น
“เราต่างก็รู้ดีว่า ช่องว่างในจิตใจทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น” คนตาคมมองอาเม่ย “เชื่อมั่นหัวใจของเจ้าเอง”

เมื่อแม่ทัพลุกขึ้น ฮูดาก็เข้ามาแทนที่ จับมือ แล้วหลับตาลง
....แม่ทัพและฮูดาต่างถ่ายพลังชีวิต ให้องครักษ์เก้า...

*-*จบตอนที่ 9*-*

(http://image.free.in.th/v/2013/ic/150526080350.jpg) (http://picture.in.th/id/a2c13f24b81ceba9e717f98011415861)

เดี๋ยวมาอังคารเดี๋ยวมาพุธ ขึ้นอยู่กับว่าโดนทวงหรือเปล่า เอ้ย ไม่ใช่ พอดีผมจะโกหกว่าพรุ่งนี้งานยุ่ง เชื่อผมนะว่ายุ๊งยุ่ง

น้ำชาศิษย์ป๋าไจฟ์ฮะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-05-2015 20:21:13
ม่ายยยย อาเก้าคนดีทำไมต้องโดนทำยี่ยงนี้ หรือนี่คือแผนของพระราชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 26-05-2015 20:24:33
 :sad11:

ตอนนี้สงสารอาเก้า

แต่อีกคู่ก็เริ่มมุ้งมิ้งนะ

  o13

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 26-05-2015 20:32:16
อาเก้าของพี่ไม่น่าเลย เรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไงกันนะ อาเก้าเป็นของนาซิมไปแล้ว เป็นเพราะเวทย์ดำด้วย
อาเก้าจะโกรธแม่ทัพมั้ย จะลงเอยกันแบบไหน

ฮูดามาเห็นฉากปวดใจอีกละ น่าสงสารจัง

รอตอนต่อไปรีบมานะครับ

มาอีดิทอีกทีเพราะกลับมาอ่านอีกรอบ พระราชาเจ้าแผนการจะเป็นคนทำเรื่องนี้มั้ยนะ น่าสงสัยจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-05-2015 20:41:08
มาให้กำลังใจจ้า

ขอตัวไปอ่่านก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 26-05-2015 20:52:24
 :hao5:
ไม่ซับซ้อน ไม่ซ่อนเงื่อน ไม่มีปม(.?)
ตามรอยไปเรื่อยๆ แต่มันหน่วงจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-05-2015 21:08:43
 :เฮ้อ: น่าสงสารเก้า

ฝีมือพระราชารึเปล่าเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 26-05-2015 21:10:16
แผนการของใครกันแน่
พระราชานี่ก็น่าสงสัยเหมือนกันนะ
หรือมีคนต้องการให้เชมัลเจ็บปวด ไม่ให้มีความสุข
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-05-2015 21:39:15
อ่านไปอ่านมา

อ่านกี่ทีๆ

ไม่เข้าใจทำไมพระเอกของเราถึงอาลัยอาวรและเป็นห่วงเก้านัก

เหมือนเดิมอาเม่ยไม่มีบทจ้า

ปล กด+จ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 26-05-2015 21:40:06
 :katai1:

 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 26-05-2015 21:50:51
อาเก้าโชคร้ายจริงๆๆๆ :hao5:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 26-05-2015 22:01:23
เก้าหายเร็วนะ
พูดไม่ออกเลย หายเร็วนะ T_________T
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-05-2015 23:04:47
เวทย์ดำมีอิทธิพลต่อนาซิม

แล้วเชมัลล่ะ? ที่บอกรักเม่ยเป็นจริงแค่ไหน?
เม่ยเองล่ะ คิดหรือรู้สึกอย่างไร?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-05-2015 23:07:52
เก้าโดนตลอด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-05-2015 23:26:24
การเป็นคนดีไม่ช่วยอะไรใช่ไหมเก้า แอบสงสัยพระราชา!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 26-05-2015 23:30:22
 :o12: งื้อออออออ เค้าสงสารอาเก้าอ่า  :o12:
แม่ทัพนาซิมคะ กรุณารับผิดชอบเลยนะ รังแกอาเก้าผู้แสนดีได้ไง ชริ ชริ ชริ

ปล.ตอนนี้ฮูดาก็เป็นคนดีอีกแล้ว แอบปันใจให้นิดนึง  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 26-05-2015 23:49:09
เก้าเป็นคนที่จิตใจดี ใจอ่อน ความใจอ่อนนี่แหละ ถึงทำให้ตัวเองต้องเจ็บ ทำไมนะ ทั้งๆที่รักแต่กลับผลักไสกัน (เอ๊ะ หรือว่าคิดไปเอง) หลังจากนี้ทุกอย่างมันจะเป็นไปในทิศทางไหนเนี่ย....หน่วงจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-05-2015 00:52:26
 อะไร อะไร ก็อาเก้า ทั้งๆที่มีแต่คนรักและสนใจอาเก้า แต่อาเก้าก็โดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจตลอด  :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 27-05-2015 04:55:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-05-2015 07:42:30
ตอนนี้เก้าจะเด่นไปแล้วนะะะะะะะ!!!   :hao4: :hao3: :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 27-05-2015 09:30:17
อาเก้าโดนอีกแล้ว  :mew6:
เนื้อหาในตอนนี้อาจไม่เกี่ยว แต่คนอ่านรู้สึกไม่ไว้ใจอาเม้ยยังไงไม่รู้อ่ะ  :mew2:
เหมือนอาเม้ยจะมีเบื้องหลังแปลก ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ตลาดละ

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 27-05-2015 11:17:57
ชอบจัง
สงสารเก้านะ
แต่รู้สึกว่าตัวละครเก้ามีมิติน่าติดตามมากๆเลยค่ะ
จะเดินต่อไปยังไง
โฮกกกก
โศกเศร้าได้อีก มันไม่สำคัญว่าตอนนี้เก้าจะเป็นของใคร
มันอยู่ที่เก้าต่อไปที่เก้าเลือกจะเดิน
สู้ๆนะเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 27-05-2015 11:23:23
จุดพลุฉลองให้พี่นาซิม เย้วววว!!!
 :mc4:
ไปเมากันเถอะเพ่
บวกและเป็ดให้ฮูดาอีกทีวันนี้

ปล. เดี๋ยวนี้กลายเป็นไอ้น้องแก้วมันไลน์มาบอก
"พี่ๆ มายทีลงแล้วนะ ตอนนี้ผมว่า ผมหลับสบายแล้วแหละ" แล้วมันก็ไป
555
พอดีอยู่ป่าค่อดๆ จะเข้าเน็ตทีต้องลุ้นแอร์การ์ดตัวโก่ง
รออ่านอยู่
 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-05-2015 12:31:15
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-05-2015 13:27:12
โอ๊ยยยยยยยยยยย สงสารอาเก้าอ่าาาาาาาาา หายเร็วๆนะ
จากนี้ไปขอให้นาซิมทำดีกับเก้าให้มากๆ ดูแลเก้าให้ดีๆ
เก้าจะโกรธก็อย่าขัดใจเก้านะ
คราวนี้เห็นว่าทำไปเพราะโดนเวทย์ดำหรอกนะ ไม่งั้นเละแน่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 27-05-2015 14:29:04
สงสารเก้าจัง... ทำไมฮูดาถึงคิดว่า แม่ทัพจะต้องเสียใจเพราะเสี่ยวเม่ย
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 27-05-2015 16:56:12
เก้า ช่างเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-05-2015 17:37:36
ตอนนี้เก้าจะเด่นไปแล้วนะะะะะะะ!!!   :hao4: :hao3: :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 27-05-2015 18:48:43
โอ๊ยยยย  เก้า  ชีวิตทำไมรันทดแบบนี้  เจอเรื่องร้ายตลอด
แล้วการที่เก้าเป็นแบบนี้  จะส่งผลกระทบต่อเชมัลและคนอื่น ๆ มากน้อยขนาดไหนนะ
ไม่กล้าเดาอะไรล่วงหน้าจริง ๆ กลัวมันหน่วงกว่านี้อ่ะ   :hao5:
แอบหวังว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อาเม่ยจะมีบทบาทอะไรสักอย่าง
ไม่ใช่อะไรหรอก แบบว่าเป็นทีมอาเม่ย เลยอยากเห็นความเจ๋งของอาเม่ยบ้างแล้ว  ^^

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 28-05-2015 06:38:00
เอ้าาาาาาา อาเก้า :sad3: การเป็นคนดีมันทำร้ายตัวเองแบบนี้หวังว่าอาเก้าคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมนะ

แต่ถ้าเพราะเวทย์ และผู้ที่เก่งเวทย์มากที่สุดคือแม่ทัพเช ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจับไม่ได้ว่าแม่ทัพนาซิมถึงโดนเวทย์
เมื่อตอนที่คุยกันรึ ตอนที่นั่งกินเหล้าด้วยกัน ทำไมเชมัลไม่รู้สึก 

ส่วนหลังจากนี้คือแม่ทัพเชมัลจะต้องปกป้องอาเม่ยแน่ๆ เพราะมนต์ดำมันเกิดกับคนใกล้ตัวทั้งคู่ ........หรือเปล่า?  :m23:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 29-05-2015 14:40:54
เย้!!! ตามอ่านทันแล้ว นี่เป็นเรื่องล่าสุดที่อ่าน จากการไล่อ่านนิยายของ JiveTea มาทีละเรื่องๆ ตอนนี้คิดว่าครบละค่ะ  รอติดตามอ่านตอนต่อไปนะคะ... เรื่องนี้สนุกดี แปลกกว่าทุกเรื่องที่เคยอ่านมา เพราะปกติไม่เคยอ่านแนวเวทย์มนต์หรือแฟนตาซีอะไรแบบนี้มาก่อน

ชอบคาแรคเตอร์ของพระเอก นายเอก ในนิยายไจฟ์ทีทุกเรื่องค่ะ ดูมีมิติ และหลายๆเรื่องทำให้รู้สึกหน่วงๆในอก อินมากมายเลยทีเดียว   o13

ปล.ขอแอดเฟสไปนะคะ แต่ยังไม่รับแอดเลย T_T เค้าไม่ได้ขายของนะ...  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 31-05-2015 20:41:05
คิดถึงพี่เชขาจังเลย เมื่อไหร่จะวันพุธ :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่9หน้า9 (26พฤษภ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 02-06-2015 01:36:23
ดัน ดัน ดัน
ปูเสื่อนอนรออาเม่ยตรงนี้ดีกว่า
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 03-06-2015 06:34:26
ตอนที่ 10

ที่ห้องโถงของบ้านพักแม่ทัพนาซิม ที่เจ้าของจำต้องย้ายไปพักอยู่กับทหารยาม เวลานี้มีแม่ทัพเชมัลและองครักษ์ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อหารือแผนการทำงาน

“เกรงว่า ผู้ที่จะต้องปลอมตัวไปกับพ่อค้าอาจมีเพียงตง กับ โป เนื่องจากผู้อื่นล้วนแต่เป็นที่จดจำได้” องครักษ์รอมพี่ใหญ่กล่าวขึ้นก่อน
อาเม่ยท้วงขึ้น “แล้วข้าเล่า ท่านจะให้ข้าไปมิใช่หรือ”

ตามแผนที่วางไว้ องครักษ์เก้าจะเป็นคนไปเจรจากับพ่อค้าเพื่อฝากคนงาน 3 คนคือองครักษ์ตง องครักษ์โป และอาเม่ยให้เดินทางไปด้วย
องครักษ์รอมหันไปมองแม่ทัพเพื่อขอความเห็น
“ให้เสี่ยวเม่ยไปเช่นเดิม”
“แต่ว่า...” องครักษ์รอมพี่ใหญ่ค้านไม่เต็มเสียง เพราะเป็นห่วงจิตใจของแม่ทัพในเวลานี้
“เมื่อส่งเก้าไปถึงมือพระราชาก็ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว หากให้ไปกันแค่ตง กับโป อาจไม่เพียงพอในเวลาที่ต้องกลับมากันตามลำพัง”
องครักษ์รอมรับคำสั่ง แล้วสรุปเรื่องที่ทั้ง 3 คน จะต้องแฝงตัวไปกับพ่อค้าอีกครั้ง
เมื่อองครักษ์รอมกล่าวจบ ไม่มีใครที่มีคำถาม แม้แต่อาเม่ยคนที่มีคำถามมากมายเสมอ ก็กลับหันไปมองเพียงประตูห้องนอนที่ปิดอยู่

“อยากรู้เรื่องใด” แม่ทัพถาม
“แม่ทัพนาซิมเป็นคนเข้มแข็ง เหตุใดจึงถูกทำร้ายด้วยเวทย์ดำโดยที่เขาไม่รู้ตัว แล้วท่านพี่เก้า...หากเป็นคนทั่วไปคงสิ้นลมไปแล้ว”
แม่ทัพนั่งลงที่เก้าอี้แล้วดึงข้อมืออาเม่ยให้นั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆ
“ท่านพี่นาซิมอยู่ประจำที่นี่ ย่อมต้องออกไปที่นอกด่านเมื่อมีพวกอมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น จึงทำให้ถูกเวทย์ดำ ฮูดาเองก็สัมผัสเวทย์ดำเหล่านี้ได้ตั้งแต่แรก”
องครักษ์ตงรีบยกมือขึ้น สีหน้าตกใจ
“ข้าจับนกอสูรตัวนั้น”
องครักษ์ตงหมายถึงตอนที่ออกไปตรวจสอบพื้นที่นอกด่าน พร้อมกับองครักษ์ฮูดา และองครักษ์เก้า แล้วองครักษ์ตงพบนกที่อีกฝ่ายส่งมาสอดแนม จึงใช้เสียงเพลงสังหารแล้วลากกลับมา

องครักษ์รอมพี่ใหญ่เป็นคนตอบ “ฮูดาตรวจเจ้าแล้ว เจ้าไม่ได้ถูกเวทย์ดำ”
องครักษ์ตงยังทำหน้าตาเหรอหรา ไม่รู้ว่าองครักษ์ฮูดาตรวจตั้งแต่เมื่อใด แต่ก็ยังไม่ค่อยวางใจ
“ท่านแม่ทัพกดจุดสกัดให้ข้าก่อนไปได้ไหม หากระหว่างทางข้าหันไป...” องครักษ์ตงใช้สันมือฟันลงกลางอากาศ
“เจ้าจะกลายเป็นเม่นด้วยมีดของข้าในทันที” องครักษ์โปผู้ใช้มีดเล่มเล็กตอบก่อนที่องครักษ์ตงจะพูดจบ
“เป็นเช่นนั้นก็ดี” อีกฝ่ายยอมรับโดยไม่ต้องคิด
แม่ทัพถามคนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ  “ไม่เป็นกังวลใช่ไหม”
อาเม่ยส่ายหน้า จากแผนที่องครักษ์รอมบอกไม่มีเรื่องใดที่เป็นกังวล
เรื่องที่เป็นกังวลกลับกลายเป็นเวทย์ดำที่กล้าแข็งถึงขั้นที่สามารถชักนำให้แม่ทัพนาซิมทำร้ายองครักษ์เก้าปางตายเช่นนั้น
สิ่งเดียวที่สามารถป้องกันได้คือจิตใจที่เข้มแข็งปราศจากช่องว่าง
“หากพูดถึงจิตใจที่เข้มแข็ง ข้าเชื่อใจตงกับโปโดยไม่ข้อโต้แย้งอยู่แล้ว แต่ข้าจะบอกกับเจ้าเช่นเดียวกับตง จัดการข้าก่อนที่ข้าจะทำอะไรที่จะเป็นการทำร้ายกันเอง”
องครักษ์แซนที่นิ่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น “คิดไม่ถึงว่า พวกเจ้าออกหาข่าวครั้งแรกก็ต้องกล่าวคำสาบานเช่นนี้แล้ว”

ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงานต่อ องครักษ์ฮูดาก็เดินออกมาจากห้องพักสีหน้าซีดเซียว บอกให้พี่ใหญ่รอมเปลี่ยนเข้าไปดูแลองครักษ์เก้า องครักษ์ตงจึงอาสาพาองครักษ์ฮูดาไปพักที่บ้านพักอีกหลัง แต่องครักษ์ฮูดากลับเรียกองครักษ์โปให้เดินตามมาด้วย
“พวกเจ้ายังต้องเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเอง”
แต่พออาเม่ยจะลุกตามมาอีกคน องครักษ์ฮูดากลับชี้ให้อยู่ที่เดิม
“เจ้าต้องฝึกจากท่านแม่ทัพเชมัล ไม่ใช่ข้า ส่วนแซนไม่ไปเตรียมรถม้าหรือไร”
องครักษ์ฮูดาพูดจบก็เดินนำออกไป จนองครักษ์แซนต้องหันมาส่ายหน้ากับองครักษ์รอมพี่ใหญ่ที่ควรเป็นผู้สั่งการเรื่องเหล่านี้
…ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงฮูดาได้...
 
“ท่านจะไปพักหรือไม่” อาเม่ยหันมาถามแม่ทัพ แต่แม่ทัพกลับมองห้องพักอีกห้องเป็นคำตอบ ห้องนั้นอยู่ถัดจากห้องที่องครักษ์เก้าพักอยู่ ทำให้คนถามนึกได้เอง
“ท่านพักที่นี่”

เพราะแม่ทัพนาซิมเป็นคนพาองครักษ์เก้ามา จึงให้อยู่ในห้องนอนของตนเอง ส่วนอีกห้องย่อมเป็นที่พักของแม่ทัพเชมัล

คนตัวสูงใหญ่หันมาจ้องมองดวงตาสีแปลก “ตอนที่เข้าไปเห็นข้าอยู่กับเก้า เจ้าคิดอะไร”
“มิได้คิดอะไร” อาเม่ยก้มหน้า แล้วก็ยอมรับ “คิดเล็ก คิดน้อย”
“อะไรคือคิดเล็กคิดน้อย”
อาเม่ยกำมือที่เริ่มเย็นเฉียบของตัวเอง
“ข้าแค่คิดว่า......”
แม่ทัพเชมัล ดึงข้อมือให้อาเม่ยขยับขึ้นมานั่งตัก “ข้าไม่เคยคุ้น เวลาที่เจ้าพูดจาอึกอักเช่นนี้”
“ข้าก็ไม่เคยคุ้นกับความรู้สึกของข้าเองเหมือนกัน”
“ข้าชอบที่เจ้าไม่เคยคุ้นกับความรู้สึกนี้”
“ไม่คิดว่าแปลกหรือไร” อาเม่ยหันมาถาม “เป็นผู้ใช้เวทย์ อ่านดิน อ่านลมได้ แต่กลับไม่รู้ว่าอาการแปลกๆ ของตนเอง เกิดจากอะไร”
แม่ทัพยิ้มขำก้มลงหอมหน้าผากสวยของอีกคน
“ท่านเองก็แปลก นับวันก็ยิ่งแปลกมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้สึกถึงความแปลกของตนเองหรือไร”
“แปลกอย่างไร”
“ตั้งแต่มาถึงท่านพี่ฮูดาอาการไม่ดี ตอนนี้ท่านพี่เก้าอาการหนักอยู่ในห้อง ท่านที่มีสีหน้าคล้ายคนจะร้องไห้อยู่เมื่อครู่ แต่ตอนนี้กลับ.....ลวนลามผู้อื่น”
“อ้อ.....” แม่ทัพลากเสียง
“อ้อ อันใด อธิบายให้ข้าฟัง”
มือทัพใช้ 2 มือประคองใบหน้าใสไว้ แต่พอจะก้มลงหา อาเม่ยก็รีบเอามือปิดปาก “อธิบายก่อน”
“จูบก่อนแล้วจะอธิบาย”
ใบหน้าใสเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ “เช่นนั้นก็ไม่อยากฟังแล้ว”
“จูบของข้าแย่เช่นนั้น” แม่ทัพทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
“จูบของท่านมิได้แย่ แต่เพราะท่านต่อรองว่าจะจูบก่อนเล่าเรื่องต่างหาก”
“บอกมา ผู้ใดจูบได้ดีกว่าข้า”
อาเม่ยหน้าตาไม่เข้าใจ ลดมือลง “ท่านพูดอันใดของท่าน ข้าเพิ่งมีจูบแรกกับท่านไปเมื่อวาน” คนพูดก้มหน้า “ท่านนี่เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว”
มือใหญ่ช้อนด้านหลังคอให้เงยหน้าขึ้นมาหา แล้วบดริมฝีปากจูบปากบางช่างเจรจา ความอ่อนโยนที่ทำให้ทุกสรรพเสียงรอบตัวเลือนหาย
ทุกความกังวล
ทุกผู้คนล้วนอยู่ห่างไกลจากความสนใจ
“เสี่ยวเม่ย”
อาเม่ยลืมตาขึ้นมองอีกฝ่าย
“เจ้าพร้อมที่จะเป็นปัจจุบัน และอนาคตของข้าหรือไม่”
เมื่อมองสบตา อาเม่ยรู้ดีว่า ทุกคำกล่าวของแม่ทัพยามนี้ คือความจริง
“ขอเวลา มันรวดเร็วเกินไป” อาเม่ยต้องบังคับตัวเองให้พูดต่อ “ข้ารู้ว่าท่านมีความหวังดีต่อข้า แต่ข้าก็....”
“เสี่ยวเม่ย”
“ข้าถึงกล่าวว่ามันแปลก ข้าไม่เข้าใจว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น วันก่อนท่านยังเป็นเหมือนพี่ชายชอบแกล้งอยู่เลย พอวันถัดมา ท่านก็.....” อาเม่ยคิดทบทวน “ข้าไม่ได้...คือ....ทำไมมันยากเช่นนี้นะ”
แม่ทัพกอดคนสับสนไว้แน่น
“ท่านเป็นคนที่ดี ดีที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา แม้จะชอบที่ท่านกอดข้าแบบนี้ แต่อีกใจก็ยังท้วงว่า นี่เป็นเรื่องที่รวดเร็วเกินไปอยู่ดี”
“มิเป็นไร แต่ขอให้เชื่อใจ ว่าเจ้าคือหัวใจของข้า ในวัน.....”
อาเม่ยรีบใช้มือปิดปากอีกฝ่าย “อย่ากล่าวคำสาบาน”
แม่ทัพดึงข้อมือบางให้ลดมือลง “นี่คือคำสาบานของข้า ที่ข้าอยากให้เจ้าเชื่อ ว่าในกาลข้างหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าทำเพื่อเจ้าคนเดียวเท่านั้น”
คนผู้นี้มักกล่าวคำสาบานที่มีความจริงจัง
และยึดถือคำสาบานนั้นยิ่งกว่าสิ่งใด

“ข้าอาจทำให้ท่านผิดหวัง”
“เสี่ยวเม่ย...มีแต่เจ้าไม่ได้รักข้า จึงจะทำให้ข้าผิดหวัง”
อาเม่ยขยับตัวขึ้นจูบปาก
นิ้วมือใหญ่ที่แตะแก้มสัมผัสหยดน้ำจากดวงตาคู่สวย
ริมฝีปากหนาละจูบที่ริมฝีปากบาง แตะเบาๆ ที่น้ำตาอาบแก้ม แล้วเรื่อยลงมาหาลำคอขาว
นิ้วมือผอมจิกต้นแขนใหญ่ไว้แน่น เมื่อร่างกายผอมบางกลับสั่นไหว เสียงครางแผ่วเบาตอบรับสัมผัสอ่อนโยน จนกระทั่งประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดลงทันที ทำให้อาเม่ยรีบกระโดดออกจากตัก แต่แม่ทัพยังตามมาช่วยจัดเสื้อผ้าให้ เรียกถามคนที่ยังอยู่หน้าประตู
“ผู้ใด”
ประตูแง้มออก คนที่โผล่หน้าเข้ามาคือองครักษ์ตง
“อย่าบอกท่านพี่ฮูดานะ ว่าข้าไม่เคาะประตูก่อน”
แม่ทัพส่ายหน้า แล้วโบกมือให้เข้ามาด้านในบ้าน “มีเรื่องอันใด”
“ข้ากำลังจะไปบอกที่โรงครัวให้เตรียมข้าวต้มให้ท่านพี่เก้า ก็เลยจะแวะมาถามว่าท่านแม่ทัพจะรับมื้อเย็นที่นี่หรือจะไปที่โรงครัว”
“เตรียมมื้อเย็นให้เก้ากับรอมที่นี่ ส่วนข้ากับเม่ยจะไปกินที่โรงครัว”

องครักษ์ตงรีบวิ่งนำออกไปก่อน โดยมีแม่ทัพเชมัลเดินตามไป รั้งท้ายคืออาเม่ยที่เดินห่างออกไป 2 ก้าว แม้อีกคนจะหันมามองให้เร่งเท้าเดินขึ้นมาข้างกัน แต่อาเม่ยกลับยิ้มให้และบอกว่า จะเดินห่างเท่าเดิม

เมื่อถึงที่โรงอาหาร แม่ทัพนาซิมมาถึงก่อนแล้ว และกำลังปฏิเสธเมื่อผู้ช่วยกำลังจะรินเหล้าให้
แม่ทัพเชมัลเดินไปนั่งร่วมโต๊ะ อาเม่ยจึงเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับองครักษ์แซน ที่ชวนคุยเรื่องความแตกต่างระหว่างค่ายทหารของแม่ทัพเชมัล กับแม่ทัพนาซิม

จนกระทั่งมื้อนี้ผ่านไป แล้วเดินออกมาด้วยกัน องครักษ์แซนก็ทักขึ้นว่า
“ครานี้เจ้าไม่ได้ซักถามเรื่องแม่ทัพเชมัล ฮูดา และเก้า”
อาเม่ยเพิ่งรู้ตัว “ข้าคงกังวลเรื่องที่จะต้องออกไปนอกด่าน”
“มีเรื่องอันใดให้ต้องกังวล”
องครักษ์แซนถามเพราะไม่อยากเชื่อว่าอาเม่ยที่เดินเข้าไปที่ค่ายทหารเพียงลำพังจะกังวลเรื่องการออกไปนอกด่าน กับเพื่อนอีก 2 คน
“พวกเขาใช้เวทย์ดำ”
พี่สามของกลุ่มเข้าใจประเด็นนี้ “พวกเราไม่อาจรู้ได้ว่าเวทย์ดำนั้นมาจากใคร หรือซ่อนเร้นอยู่ในสิ่งใด จึงทำได้แต่เพียงการควบคุมจิตใจไม่ให้เกิดช่องว่าง"
ทุกคำกล่าวขององครักษ์แซนเป็นสิ่งที่ผู้ใช้เวทย์ทุกคนตระหนักเป็นอย่างดี แต่เมื่อผู้ที่มีเวทย์กล้าแข็งอย่างแม่ทัพนาซิมยังพลาดพลั้งทำให้หวาดระแวง
จู่ๆ อาเม่ยก็หยุดเดิน “เวทย์ที่พี่ฮูดาใช้....”
“ฮูดาใช้เวทย์ดิน ไม่ใช่เวทย์ดำ” องครักษ์แซนตอบอย่างจริงจัง “ข้าเคยบอกกับเจ้าไปแล้ว ความสุขของพริมและเก้าคือคำตอบของทุกสิ่ง แต่แม่ทัพนาซิมถูกเวทย์ดำ เก้าจึงถูกทำร้ายปางตาย”
“ใครๆ ก็รักท่านพี่เก้า” อาเม่ยพูดเสียงอ่อย “จะไม่ประหลาดใจเลย หากพระราชาก็จะชอบท่านพี่เก้าเช่นกัน”
“เหลวใหล เจ้าน่ะมักจะมองแต่คนนั้น คนนี้ จนไม่ได้มองว่าใครกำลังมองเจ้าอยู่” องครักษ์แซนกล่าวพลางส่ายหน้า
อีกคนทำหน้าตายู่ๆ “ใครจะไปคิด”
“ทุกคนคิด” องครักษ์แซนบอก “เพราะทุกคนเห็นว่าแม่ทัพพอใจเจ้า”
“เมื่อเขาพอใจข้า ข้าก็ต้องพอใจเขาหรือไร”
องครักษ์แซนที่เดินมาด้วยกันหยุดเท้าในทันที ทั้งดึงแขนอีกฝ่ายให้หันมา
“แม่ทัพเชมัลมีอันใดที่ด่างพร้อย”
พี่สามของกลุ่มองครักษ์เป็นผู้มีนิสัยเยือกเย็นเหมือนสายน้ำ แม้แต่ในเวลาที่ไม่พอใจ ก็ยังเย็นกว่าผู้อื่นเช่นเดิม
“ข้าไม่ได้ว่าแม่ทัพเชมัลด่างพร้อย เขาเป็นคนดีมาก แต่คงเพราะข้าไม่คาดคิดมาก่อน”
“เจ้ากล่าวคำว่าไม่คาดคิดมาตั้งแต่วันที่ 2 ที่เจ้าเข้ามาที่ค่าย จน 1 เดือนผ่านไปเจ้าก็ยังกล่าวคำเดิม”
“หากทุกคนกล่าวว่า แม่ทัพพอใจท่าน ท่านจะเชื่อได้ทันทีหรือไม่” อาเม่ยสวนพี่สามของกลุ่มทันที

ทั้ง 2 คนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ

“เปรียบเทียบอะไรของเจ้า”
“ช่างเถิดๆ” อาเม่ยโบกมือ “ค่ำนี้ จะต้องมีการฝึกดาบกันอีกหรือไม่”
วันนี้เป็นวันที่มีเรื่องราวมาตั้งแต่เช้า จนทำให้ไม่มีใครได้ฝึกซ้อมการใช้อาวุธ
“วันนี้มีเรื่องราวมากมาย....” องครักษ์แซนหยุดพูดไปชั่วอึดใจเพื่อให้อีกฝ่ายรอฟัง “ไปเรียกตงกับโป แล้วไปพบข้าที่ลานฝึกดาบ”

องครักษ์แซนเริ่มการฝึกดาบและสอนเทคนิคการพรางตนให้แก่ทั้ง 3 คน ด้วยการชี้ให้เห็นข้อด้อยของแต่ละคน
องครักษ์ตงนั้นเป็นคนสุภาพ แม้ไม่เทียบเท่าองครักษ์เก้า แต่หากจะพรางตนก็ต้องเป็นคนงานเช่นเดียวกับคนอื่น มีนิสัยกินง่ายอยู่ง่าย
ส่วนองครักษ์โปที่มีนิสัยโอ้อวด โดยเฉพาะความสามารถในการใช้มีด ยิ่งต้องระมัดระวังตน เพราะฝ่ายตรงข้ามย่อมต้องล่วงรู้ความสามารถพิเศษขององครักษ์
“ส่วนเม่ย จิตใจของเจ้าไม่ต่างจากสายลม แปรเปลี่ยนตลอดเวลา เจ้าต้องตัดความสงสัย และมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตนเองแล้วกลับมา”

อาเม่ยพยักหน้าด้วยความเข้าใจ และเมื่อมองผ่านไปเห็นคนที่ยืนมองอยู่ยิ่งเข้าใจ
เมื่อเสร็จการฝึกซ้อม อาเม่ยเดินเข้าไปหาคนที่รออยู่
“หากไม่มีเรื่องเหล่านี้ ไม่มีทัพเหนือเข้ามาใกล้ ข้าไม่ต้องออกไปนอกด่าน ท่านพี่เก้าไม่ถูกทำร้าย ท่านจะ...เร่งรัดข้าหรือไม่”
แม่ทัพเชมัลยกยิ้มมุมปาก แล้วก้มลงมากระซิบข้างหู “ข้าจะไม่เร่งรัดเจ้า แต่จะรวบรัดให้เจ้าเป็นของข้า ภายในสัปดาห์แรกที่เจ้าเข้าไปอยู่ที่ค่ายของข้าแล้ว”
แก้มคนตัวเล็กแดงเรื่อ “แต่เรามีข่าวทัพเหนือมาใกล้นานแล้ว”
“เพราะมีทัพเหนือเข้ามาใกล้ หากข้ารวบรัดเจ้า อาจส่งผลเสียต่อการนำทัพ”
อาเม่ยก้มหน้ามองพื้น “แปลว่า......ที่ท่านปล่อยให้ข้า...วิ่งไปวิ่งมา ก็เพราะ.......มิใช่สิ มิใช่....”
แม่ทัพเชมัลใช้แขนเดียวรั้งอีกคนเข้ามากอด
“เสี่ยวเม่ย อย่าได้สงสัยความรู้สึกของข้า ข้าต้องการเจ้าตั้งแต่แรกเห็น แต่ข้ารอได้”
คนตัวเล็กพยักหน้าให้กับอกกว้าง
“เข้าใจแล้ว รอข้ากลับมานะ”
แม่ทัพเชมัลก้มลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อ
“ข้าจะรอจ้าอยู่ที่นี่”

...จบตอนที่ 10...


(http://image.free.in.th/x/i/ir/takayamahidafolkvillage5.jpg) (http://picture.in.th/id/09c770eab4d567ef6eb1458a42d2ee8c)

คนเขียนหลักเรื่องนี้ใจเย็นและบรรจงเล่าเรื่องจนผิดวิสัยยิ่งนัก แต่แรกก็วางโครงเรื่องไว้ 20 ตอนแต่บัดนี้เล่าเรื่องเกินไปหลายตอนจึงเพิ่งจะคลายปมไปไม่ถึงครึ่ง ทำให้คนช่วยเขียนเริ่มไม่แน่ใจว่า รูปที่วางคู่กันไว้แต่แรกนั้น ยังเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ อันนี้หาได้สปอล์ยแต่อย่างใด เพราะเขายืนยันว่า ก็เป็นไปตามรูป แต่คนเขียนหลักเขาพยายามแก้ไขปัญหาจากเรื่องที่ผ่านๆ มา แต่ถ้ามันช้าเกินไปก็โปรดบอกกัน ยืนยันว่าเราอ่านทุกรีพลาย จริงจังกับทุกคำแนะนำ คุณอินตอนอ่านเรื่องอย่างไร เราก็อินตอนอ่านคำแนะนำของคุณเช่นนั้น และพร้อมที่จะนำไปแก้ไขให้ดีขึ้น

ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์กับที

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 03-06-2015 06:50:20
 o18

ชอบตอนนี้ที่เสี่ยวเม่ย อึกอักไปไม่ถูก

ให้กำลังใจเก้าต่อไป รอเก้าฟื้นอยู่นะ

แม่ทัพเชมัล เริ่มรุกอาเม่ยหนักแล้ว เขินแทน อิอิ

รอตอนต่อไปนะคะ

  o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-06-2015 07:32:42
จากเสี่ยวเม่ยปากกล้ากลายเป็นหนุ่มน้อยขวยเขิน
น่าร้ากกกกกกก

แต่เม่ยน่าเป็นห่วงนะ จิตใจยังไม่นิ่ง แล้วออกไปแบบนี้จะเป็นอันตรายไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-06-2015 08:54:08
ขอให้ปลอดภัยกลับมานะอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-06-2015 09:35:20
ตงนะตง เค้ากำลังจูจุ๊บกันอยู่ดันมาขัดจังหวะซะได้ :m16:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 03-06-2015 09:47:21
ชักอย่างเห็นฉากบู้แล้วดิ (จะมีไหมหนอ)
อยากรู้ว่าอาเม่ยจะฝีมือแค่ไหน

 :pig4: ค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-06-2015 09:52:16
อาเม่ยรีบใจอ่อนเร็วๆนะ ให้คนแก่รอนานๆเดี๋ยวเฉาตายก่อนนะ 5555.  อาเก้าผู้น่าสงสารของเราก็ยังอาการไม่ดีเลย แต่เดี๋ยว!!!... รูปที่คู่กันนี่ไม่เปลี่ยนแน่นะ กลัวใจจริงๆอิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 03-06-2015 09:56:27
อาเม่ยยยยยย สู้ๆนะ
สภาวะจิตใจแบบนี้ งึดดด

เก้าาาาา เรารอเก้าอยู่นะ
บางที ที่ยังไม่ฟื้น...สภาพจิตใจหรือเปล่า?

บางคำพูดของอาเม่ย ทำให้รู้สึกสงสารเก้ามากกว่าอาเม่ยนะ
คืออาเม่ยคิดว่าทุกคนรักแต่เก้า
นั่นแสดงว่ากำลังอิจฉาเก้าใช่ไหม?
ทั้งที่เก้ายังไม่ฟื้นอาเม่ยก็ยังคิดแบบนี้(จริงๆก็คิดมาตลอด)

ไม่รู้จะอารมณ์ไหนดี งึดดดด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 03-06-2015 11:16:03
สับสนในอารมณ์เพราะแม่ทััพเชล้วนๆ ซินะอาเม่ยยย  :m12:
ส่วนที่ฮูดาบอกว่าต้องไปฝึกกับแม่ทัพน่ะให้ไปเรียนเรื่องอะไรกันแน่ เห็นแม่ทัพสอนแต่วิธีจูบกับกอดเห่อะ :m23:
แต่น่าสงสัย (อีกแล้ว  :m17:) การกดจุดสกัดมีผลเสียว่าทำให้ความสามารถลดลงหรือยังไง เพราะเห็นท่านเชใช้เฉพาะรักษาหลังเกิดเรื่องทุกที
ส่วนอาการของแม่ทัพนาซิมหายแล้วเหรอหลังการสกัดจุด ??? แล้วอาการของอาเก้านี่ทำไมหายช้าล่ะ ??? แต่ด้วยความจงรัก และ ภักดีต่อนายท่านของอาเก้า คาดว่าถ้าหายจะกลับมาช่วยทางนี้อีกแน่ๆ ก็ต้องมาเจอท่านนาซิมอีกซิ ???

ส่วนเรื่องที่คนเขียนหลักบรรจงเล่าเรื่องมาขนาดนี้เราอยากจะบอกว่าขอให้บรรจงต่อไปเช่นนี้ คนช่วยเขียนอย่าได้ห้าม เพราะคนอ่านชอบๆๆๆ ฮี่ ๆ ๆ ๆ  นี่นึกไปถึงที่คนช่วยเขียนบอกว่านิยายจะมีประมาณ 20 กว่าตอน มันจะจบในเดือนส.ค - ก.ย คนอ่าน เศร้าไว้รอเลยนะเนียะ
(ตกลงเม้นท์ในเรื่อง 2 บรรทัด เองซินะ 555555)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 03-06-2015 12:47:11
เสี่ยวเม่ยน่าร้ากกกกกกก
เชียร์พี่นาซิม เฮ้ๆๆๆๆๆ
สู้ๆ นะเพ่ รอเก้าฟื้นแป๊บ
บวกและเป็ดขอบคุณ ไจฟ์กับที
ชอบรูปประกอบตอนท้ายทุกตอน ชอบๆๆๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2015 13:36:04
แหมะ!!! กำลังเขินอายได้ที่ไม่น่ามาขัดจังหวะเลย เดี๋ยวนี้เขินบ่อยเนอะอาเม่ย รออีกจ๊ะรออีกอยากเห็นคนเข้าหอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 03-06-2015 13:52:56
รอเสี่ยวเม่ยกลับมา

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 03-06-2015 14:50:15
 ขอสารภาพนะ เอาจริงๆ เรื่องนี้ สำหรับเรามันเข้าใจยาก หรือเราหลงประเด็น
เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ แต่เหมือนมีอะไรมันยั้งๆ ไม่เคลียร์ แต่ก็สนุกมาก
สำหรับการคาดเดาเรื่อง มีเดาผิดบ้าง ถูกบ้าง ... ส่วนมากจะเดาผิด 5555
ขอบคุณมากนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา 
และขออภัยหากการแสดงความคิดเห็นที่อาจทำให้ไม่ถูกใจ   :ped149:

คุณไจฟ กะ น้องน้ำชา
ขอบคุณมากนะคะ และขอโทษจริงๆ อีกครั้ง
หากทำให้เกิดความเข้าใจผิด 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 03-06-2015 14:54:29
ห่วงอาเม่ยอะ ส่งไปแบบนี้จะเป็นอันตรายไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-06-2015 15:21:33
นั่นสิ ๆ เวทย์ดำมาจากไหน ศัตรูภายนอกหรือศัตรูภายใน และเจาะจงเล่นงานเป็นบางคนหรือเปล่า
อืม...ขณะที่สถานการณ์อึมครึมท่านแม่ทัพของเราก็มิอาจละเว้นการแทะโลมเด็กน้อย วุ้ย...เว้นหน่อยก็ดีนะ
ก็รู้ว่าอดทนมานาน แต่มันใช่เวลาไหม เขากำลังเครียดกันนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-06-2015 16:29:31
 :katai3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 03-06-2015 16:38:31
เขินนน เเม่ทัพเชมัล
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-06-2015 17:20:48
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 03-06-2015 18:36:20
เสียวเม่ยจะปลอดภัยมั้ยนะ ขอให้รอดกลับมา  :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-06-2015 19:14:39
มาเม้นท์ให้กำลังใจก่อน

เดี๋ยวมาอ่าน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-06-2015 20:20:47
อาเม่ยมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นใช่ไหม

เพราะเป็นนายเอกต้องมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่แน่

ส่วนแม่ทัพเชมัลดูยังไงๆจะอ่านกี่ตอน

เหมือนกับยังรู้สึกอยู่ว่ายังรักเก้าอยู่

ถึงคนแต่งอธิบายยังไงก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดี

แต่คนอ่านยิ่งอ่านยิ่งคิดว่าท่านแม่ทัพยังไม่ลืมเก้า

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 03-06-2015 21:29:15
ทำไมเขินคนจีบกัน555
รู้สึกเหมือนพี่เชจะรุกเม่ยหนักขึ้นทุกวัน สู้ๆนะพี่
เม่ยก็อย่าให้พี่ท่านรอนานนะ^^

ปล. อาเก้ายังคงไม่ฟื้น น่าสงสารจริงๆ รีบฟื้นเร็วๆนะ


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 03-06-2015 23:01:15
อ๊ายยยยยย อ่าตอนนี้จบ น้ำตาจิไหลพราก
เริ่มหวานขึ้นมาแล้ว ชอบค่ะชอบ

ตอนนี้ได้แต่ส่งใจไปให้เก้า จะได้หายไวๆ
แล้วก็ส่งใจไปให้อาเม่ย ให้ปลอดภัยกลับมา
ขืนเป็นอะไรไป ท่านแม่ทัพชีช้ำหมด 5555  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 03-06-2015 23:56:23
 o13 o13 o13


 :L1: :L2: :กอด1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 04-06-2015 05:15:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 04-06-2015 22:03:36
อ่านไปอ่านมา เชมัลนี่มือไวกว่าที่คิดนะเนี่ย
เดี๋ยวๆกอด เดี๋ยวๆจูบ อาเม่ยช้ำหมดพอดี อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 07-06-2015 08:55:28
อาเม่ยยังคงไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนเคย
แต่ถ้ากล้าถาม แล้วแม่ทัพเองก็ตอบทุกข้อข่องใจแบบนี้
มีแววจะไปได้สวย
ท่านแม่ทัพยังฮุคด้วยการบอกว่าถ้าไม่มีสงครามนี่เสร็จพี่แต่แรกแล้วละน้อง
เขินแทนเสี่ยวเม่ยเลย  :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-06-2015 08:45:41
พรุ่งนี้วันพุธแล้ว :katai2-1: เข้ามาลงชื่อรอพี่เชกับอาเม่ย :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่10หน้า10 (3มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 09-06-2015 19:05:42
รออยู่นะอาเม่ย  :katai5:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 09-06-2015 20:02:53
ตอนที่ 11

เช้าวันถัดมาองครักษ์เก้ามีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะมีเพียงร่องรอยบอบช้ำภายนอกที่จางลง แต่ความบอบช้ำภายในยังคงอยู่ สามารถตอบคำถามขององครักษ์รอมพี่ใหญ่ได้เล็กน้อยแล้วก็หลับไป แม่ทัพเชมัลจึงให้องครักษ์แซนเตรียมตัวเดินทางในเวลาเดียวกันกับที่องครักษ์ตง โป และอาเม่ยออกเดินทางไปพร้อมกับคณะพ่อค้า
ทุกคนเข้าใจแผนการนี้ เพราะภาพรวมที่จะออกมาคือก็ทั้ง 3 คน คือองครักษ์ตง โป และอาเม่ย จะกลับเข้าเมืองหลวงไปพร้อมกับองครักษ์เก้าที่ถูกทำร้าย

เพียงแต่ในเวลานี้ ทั้งองครักษ์รอม และ องครักษ์ฮูดาต่างก็อ่อนเพลียจากการรักษาเก้า ยิ่งองครักษ์ฮูดายิ่งอ่อนเพลียมากทั้งจากอิทธิพลของเวทย์ดำในพื้นที่นี้ และจากการรักษา
“เมื่อส่งเก้าออกไป พวกเราก็ได้พักแล้ว” องครักษ์รอมพี่ใหญ่กล่าวให้กำลังใจ

ผ่านจากเรื่องหนึ่งก็ยังพบปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนต่างหนักใจ เพราะองครักษ์ฮูดาไม่สามารถปลอมตัวให้อาเม่ยได้
เส้นผมสีอ่อนยังคงเดิม ไม่ว่าจะใช้สารใดก็ตาม
“ยังมีผู้ใดที่รู้วิธีปลอมตนที่ข้าไม่รู้อีกไหม" คำถามของฮูดาแปลกและแตกต่างในแบบของผู้ที่มีความมั่นใจในตนเองสูงยิ่ง
แต่องครักษ์รอมพี่ใหญ่ และองครักษ์แซนที่รู้นิสัยคนพูดเป็นอย่างดี จึงไม่ถือสา

“ดวงตาสีแปลก ผมสีเงิน ต่อให้ข้าเอาเจ้าไปคลุกโคลน ใครๆ ก็รู้ว่านี่คือองครักษ์อาเม่ย” องครักษ์ฮูดายังคงมีน้ำเสียงและสีหน้า ดังเป็นความผิดของอาเม่ย ที่ไม่สามารถปลอมตัวได้
“ตัดผมให้สั้นๆ แล้วใช้ผ้าพันไว้ดีไหม” องครักษ์โปเสนอ “แต่ก็เสียดายเส้นผมสีนี้”
อาเม่ยจับเส้นผมของตนเอง ไม่ได้นึกเสียดาย แต่กำลังขบคิดว่า ต้องตัดสั้นเพียงใด
ระหว่างการหารือแม่ทัพเชมัลก็เดินนำแม่ทัพนาซิมเข้ามาที่ห้องโถงของบ้าน
“มีอะไร”
องครักษ์ฮูดาจับเส้นผมของอาเม่ย “ข้าไม่สามารถเปลี่ยนสีเส้นผมของเม่ย โปเสนอให้ตัดสั้นแล้วใช้ผ้าพันไว้”
“ตัดไหม” แม่ทัพเชมัลถามยิ้มๆ
“อย่างไรก็ได้” อาเม่ยตอบความจริง 

มือใหญ่จับรวบปลายผม เส้นผมสีเงินก็เปลี่ยนเป็นสีเข้ม จากนั้นแตะที่เปลือกตา เมื่ออาเม่ยลืมตาขึ้น ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีเดียวกับเส้นผม
“เส้นผม และดวงตาสีนี้ จะอยู่กับเจ้าเพียง 7 วัน”
เวทย์โดยทั่วไปจะเป็นเช่นนั้น แต่การออกไปสอดแนมอาจใช้เวลานานกว่า
อาเม่ยจับเส้นผมของตนเอง แล้วถามอย่างตรงไปตรงมา
“ท่านทำอะไรไม่ได้บ้าง”
คนรูปร่างสูงใหญ่กอดอก พลางทำท่าครุ่นคิด
“ไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้”
อาเม่ยทำหน้าเบื่อหน่าย “ถ่อมตนไง ที่ท่านทำไม่เป็น แม่ทัพหลงตัวเอง”
แม่ทัพกลับรั้งคนช่างพูดเข้ามากอด “ดูแลตัวเอง แล้วรีบกลับมา”
คนที่อยู่ในอ้อมแขนพยักหน้า
“ข้าส่งเจ้าได้แค่นี้ ให้ฮูดาพาพวกเจ้า 3 คนไปหาพ่อค้า”
คนที่อยู่ในอ้อมแขนพยักหน้าอีกครั้ง
“ดูแลตนเองด้วย”
อาเม่ยนึกอยากกล่าวคำล้อเล่นเหมือนที่ผ่านมา แต่เมื่อมีแม่ทัพนาซิมอยู่ในห้องนี้ด้วย ก็ต้องสงวนคำพูดไว้ แล้วก้าวเดินตามองครักษ์ฮูดา ตง และโปออกมา

องครักษ์ฮูดาคนจริงจังไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษ เมื่อพาคนงาน 3 คนไปฝากไว้กับขบวนของพ่อค้า
“หนทางในป่าอันตราย ฝากให้เดินทางไปจนถึงอีกเมืองเท่านั้น” คนตาคมส่งเงินให้กับพ่อค้า “รบกวนท่านด้วย”
กล่าวคำจบองครักษ์ฮูดาก็หันหลังเดินกลับไปในทันที
พ่อค้าต่างเมืองผู้นี้ช่างโชคดี เพราะได้รับเงินมัดจำจากองครักษ์เก้าแล้ว และยังได้รับอีกจำนวนมากจากองครักษ์ฮูดา ทั้งยังได้คนงานเพิ่มมาอีก 3 คนที่ถูกใช้ให้ทำงานสารพัด
เดิมพ่อค้าคนนี้มีคนงานอยู่ 1 คนเป็นชายวัยกลางคน ทำหน้าที่ทั่วไปทั้งขนสินค้าและขับรถม้า กับยังมีผู้คุ้มกันอีก 2 คนที่รับจ้างทำงานเมื่อพ่อค้าจะต้องเดินทางข้ามเมืองเท่านั้น
การค้าขายต่างเมือง ไม่อาจเดินทางตามลำพัง แต่จะเป็นการรวมกลุ่มกับพ่อค้าคนอื่นอีกหลายคน เพื่อร่วมกันว่าจ้างคนคุ้มกันในการเดินทางที่ต้องผ่านเส้นทางอันตราย

“พ่อค้าเอาเงินที่รับมาจากเจ้านายของพวกเจ้ามาจ่ายค่าแรงข้า” คนคุ้มกันบอก “เพราะเที่ยวนี้เข้าไปถึงเมืองหลวงไม่ได้ กำไรก็เลยน้อย ต้องขอบใจพวกเจ้าจริงๆ”
ผู้คุ้มกัน 2 คนนี้ ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเดินไปทั่วตลาดระหว่างที่บรรดาคนงานของพ่อค้าทุกคนช่วยกันลำเลียงสินค้าขึ้นรถม้า
หลังมื้อเที่ยงผ่านไป ทั้งหมดก็ออกเดินทาง โดยพ่อค้าทั้งหมดต่างก็เข้าไปนั่งอยู่ในรถสินค้าของตน โดยมีคนงานทำหน้าที่ขับรถม้าไปช้าๆ   
มีคนคุ้มกันเดินนำหน้า ขณะที่บรรดาคนงานคนอื่นรวมถึง ตง โป กับอาเม่ย เดินอยู่รอบๆ ขบวนรถ จึงไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก
ระหว่างทางพบหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีคนเดินออกมามองเมื่อเห็นรถม้าผ่านมา พ่อค้าร้องถามว่าต้องการสินค้าหรือไม่ แต่เมื่ออีกฝ่ายเพียงแค่ยืนมอง พ่อค้าก็บอกให้คนงานขับรถผ่านไป

หลังจากที่ขบวนรถของพ่อค้าต่างเมือง ผ่านประตูเมืองออกไป แม่ทัพเชมัลก็อุ้มองครักษ์เก้าไปขึ้นรถม้าอีกคันหนึ่ง มีทหารรูปร่างเล็กอีก 3 คนรีบตามขึ้นไปในรถม้า และองครักษ์แซนเป็นผู้ขับรถม้า
เหลือเพียงแม่ทัพเชมัล องครักษ์รอม กับ องครักษ์ฮูดาที่รอส่งจนรถม้าลับสายตา
เมื่อหันกลับมาพบแม่ทัพนาซิมยืนรออยู่อย่างสงบ
“ออกไปนอกด่าน” แม่ทัพเชมัลกล่าวถ้อยคำสั้นๆ เมื่อเดินผ่าน
น้ำเสียงห้วนสั้น เปี่ยมด้วยพลัง หลังตรง ดวงตาแข็งกร้าว
รังสีแห่งความไม่พอใจฉายชัดจนไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวคำ

ความอ่อนโยนลดลงเมื่อปล่อยอาเม่ยจากอก และความใจดีหายไปเมื่อวางองครักษ์เก้าลงในรถม้า
ยามนี้เหลือเพียงแม่ทัพเชมัลผู้จริงจัง เคร่งเครียด และยอมหักไม่ยอมงอ!

เสื้อคลุมเครื่องแบบถูกถอดทิ้งไว้ในเขตประตูเมือง

ประตูเมืองหน้าด่านเปิดกว้าง เหล่าผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิม ยืนเรียงแถว ต่อด้วยองครักษ์รอม และ ฮูดา
ที่ด้านนอก แม่ทัพ 2 คนยืนห่างกันหลายก้าว
ห่างไกลออกไป คือนกตัวใหญ่สีดำสนิท จ้องมองมาด้วยดวงตาสีแดงดั่งเปลวเพลิง!

แม่ทัพ 2 คน ที่ต่างสวมเพียงเสื้อตัวใน กับกางเกงยาวบ่งบอกถึงเรื่องที่เกิดจากนี้คือเรื่องส่วนตัว!
ต่างไม่ได้ถืออาวุธ ยืนประจันหน้ากันเพียงอึดใจ ก็วาดมือเป็นวงกลม ลำแสงสีขาวปะทะกันส่งเสียงดังก้อง เปลวไฟปะทุขึ้นกลางอากาศแล้วสลายไป
แม่ทัพนาซิมกลับเป็นฝ่ายล่าถอยไปหลายก้าว แต่เมื่อจะยกมือขึ้นอีกครั้ง ก็ถูกพลังอีกฝ่ายฟาดเข้าใส่จนกระเด็นลงไปนอนอยู่กับพื้น
ภาพในสมองหมุนวน ดวงตาพร่าเลือน แต่ยังรู้สึกถึงรสฝาดในปาก
แม่ทัพเชมัลก้าวเข้ามายืนค้ำ ดวงตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง และเสียใจ
"เจ้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!"
ฝ่ายพี่ชายเช็ดเลือดจากมุมปาก ทั้งรู้สึกเจ็บราวซี่โครงเมื่อลุกขึ้นนั่ง
“ข้าเฝ้าดูแลทนุถนอม เก็บไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เหตุใด...”
“เหตุใดจึงถูกสตรีไร้ฝีมือคนหนึ่งช่วงชิงไปอย่างง่ายดาย” ฝ่ายที่ยังนั่งอยู่กับพื้นตอบโต้ ทำให้ถูกเตะเข้าเต็มแรงจนกลิ้งไปกับพื้น
“สตรีไร้ฝีมือ กับผู้ชายโง่งมที่กล้ายกตนเป็นพี่ชายของข้า!” แม่ทัพเชมัลกล่าวเสียงก้อง เส้นเลือดเต้นตุบที่ขมับทั้ง 2 ข้าง
"ข้าถูก...เวทย์” แม่ทัพนาซิม กล่าวอย่างยากลำบาก แต่คนที่ก้าวตามมากลับเตะอัดซี่โครงอีกครั้ง!
“จิตใจที่สกปรก คิดแย่งชิงของท่านต่างหากที่ทำร้ายคน”
แม่ทัพเชมัลคุกเข่าลงข้างหนึ่ง 
“หากไม่ใช่เพราะพระราชารับสั่งไว้ ท่านจะปราศจากลมหายไปนานแล้ว!”
แม่ทัพนาซิมบ้วนเลือดสีเข้ม “ทั้งข้ายังโชคดี ที่ทำร้ายคนแล้วสามารถอ้างเวทย์ดำ ทั้งยังแย่งชิงคนรักจากเจ้าด้วย!”
แม่ทัพเชมัลเงื้อหมัดแล้วชกเข้าที่ใบหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง!

เมื่อแม่ทัพเชมัลหันหลังให้แล้วเดินกลับไปที่ประตูด่านชายแดน
สิ่งเดียวที่คนที่ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้นึกออกก็คือ ไม่ควรทำให้น้องชายคนนี้โกรธอย่างเด็ดขาด!!

ที่ประตูเมือง องครักษ์รอมยืนเคียงข้างอยู่กับองครักษ์ฮูดา คนตาคมหันไปมองหน้าพี่ใหญ่ของกลุ่มองครักษ์ที่กำลังส่ายหน้า
“อันใดกัน” องครักษ์ฮูดาถาม
แต่องครักษ์รอมยังคงส่ายหน้า “ไม่ค่อย...เต็มที่สักเท่าไหร่”
“หากเต็มที่ เราคงต้องหาแม่ทัพเมืองหน้าด่านใหม่แล้ว” องครักษ์ฮูดาบอก ขณะที่ใช้หางตามองกลุ่มผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิม พบว่ามีอยู่คนหนึ่งแยกออกจากกลุ่ม
ส่วนองครักษ์รอมกำลังจ้องมองไปที่นกสีดำในที่ห่างไกล

องครักษ์ฮูดาพูดเบาๆ “อย่างช้าเย็นพรุ่งนี้ พระราชาต้องส่งคนมาจัดการพระอนุชาทั้งคู่”
“แม่ทัพเชมัลต้องการเวลาแค่สัปดาห์เดียว เพื่อรอหัวใจของเขากลับมา”
คนตาคมใช้ข้อศอกกระทุ้ง “กล่าวมาแต่ละคำ..”
“อย่ากล่าวเท็จกับข้า ว่าเจ้าไม่ได้อยากให้เจ้าตัวเล็กนั่นกลับมา”
องครักษ์ฮูดาหันมามองพี่ใหญ่ของกลุ่มตรงๆ แล้วคลี่ยิ้ม “ข้าคงต้องมีหัวใจที่ทำด้วยเพชรหากคิดจะกล่าวเท็จกับท่าน เราทุกคนย่อมต้องการให้เจ้าตัวเล็กกลับมา...ก็ทั้ง 3 คนนั่นแหละ” ผู้มีอาวุโสลำดับที่ 4 หันไปมองแม่ทัพเชมัลที่กำลังก้าวกลับมาที่ประตูด่าน “ข้ารักแม่ทัพเชมัลคนที่มีความสุข และข้าย่อมรักคนที่ทำให้เขามีความสุขด้วย”
องครักษ์รอมยิ้มพลางพยักหน้า ทำให้องครักษ์ฮูดาหัวเราะเบาๆ
“ท่านเป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นองครักษ์ของแม่ทัพเชมัลอย่างแท้จริง”
“แล้วเจ้าล่ะ”
“ข้าเป็นเพื่อน อย่างไรก็เป็นได้แค่เพื่อน”

เมื่อแม่ทัพเชมัลก้าวผ่านประตูเข้ามา องครักษ์ฮูดาก็เข้าไปช่วยสวมเสื้อคลุมให้
แล้วหันไปมองแม่ทัพนาซิมที่ยังคงพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก
แม้ทุกคนจะต้องการเข้าไปช่วยพยุง แต่ผู้ที่กระทำผิดต้องพยายามลุกขึ้นมาเอง แล้วลากเท้าก้าวเดินช้าๆ กลับเข้ามา
ที่ยังหยุดรอ ก็เพราะที่นี่คือเมืองหน้าด่าน จะอย่างไรแม่ทัพนาซิมยังต้องปกครองที่นี่ และเป็นการประกาศต่อทุกคนว่า ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องคลี่คลายด้วยการดวลกันที่นอกด่านแล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่ทุกคนจะกลับมาทำหน้าที่ของตนเอง
จนเมื่อผ่านประตูเมือง ผู้ช่วย 2 คนจึงเข้าไปช่วยพยุงไหล่
“ขอบใจ...” แม่ทัพนาซิมกัดฟันบอกกับแม่ทัพเชมัลที่ยืนรอ
อีกฝ่ายเพียงพยักหน้ารับแล้วหันหลังเดินกลับไปที่บ้านพัก
ส่วนผู้ที่บาดเจ็บ แยกกลับไปที่ห้องพักของยาม องครักษ์รอมเดินตามไปด้วย แต่เมื่อไปถึงแพทย์หลวงมารออยู่ก่อนแล้ว
มีเพียงเสียงถอนหายใจหนักๆ และการที่ผู้ช่วยแต่ละคนต่างหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้กล่าวคำ
สุดท้ายแม่ทัพนาซิมถึงกล่าวขึ้น “ข้าเป็นคนผิด และต้องขอบใจเชมัลที่ให้อภัยข้า”
ผู้ที่บาดเจ็บหันมาหาองครักษ์รอม รอให้กล่าวคำ แต่องครักษ์รอมกลับกล่าวให้แม่ทัพนาซิมพักผ่อน
เมื่อออกมานอกห้องพัก ทุกคนจึงเข้ารุมล้อมเพื่อสอบถามจากองครักษ์รอมอีกครั้ง

“แม่ทัพนาซิมเป็นผู้ปกครองเมืองหน้าด่านแห่งนี้ วันหนึ่งพวกท่านมาถึง องครักษ์เก้าบาดเจ็บหนักกลับไป แม่ทัพนาซิมต้องมาพักที่ห้องพักของยามคับแคบ แล้วแม่ทัพ 2 คนก็ดวลกัน”
ซึ่งเป็นการดวลที่แม่ทัพนาซิมบาดเจ็บหนัก โดยที่ไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย
องครักษ์รอมมองผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิม ก่อนตอบคำถาม
“พวกเขาเป็นพี่น้องกัน ต่างก็เป็นแม่ทัพ และจะอย่างไรแม่ทัพนาซิมก็เป็นผู้ปกครองที่นี่ เมื่อมีความขัดแย้งกัน พวกเขาดวลกัน ความขัดแย้งนั้นก็จบลง”
“ความขัดแย้งนั้นคืออะไร”
องครักษ์รอมแสร้งทิ้งช่วงให้ทุกคนกระวายกระวายใจ ทำท่าจะกล่าวคำ แล้วก็เปลี่ยนใจ ส่ายหน้า
“ข้าเป็นหัวหน้าองครักษ์แม่ทัพเชมัลไม่ควรให้เรื่องนี้ออกจากปากข้า หากแม่ทัพนาซิมเห็นว่าควรให้พวกเจ้ารู้ ก็ให้ออกจากปากเขาเองเถิด”

เมื่อกลับมาที่บ้านพัก แม่ทัพเชมัลกำลังจิบน้ำชา
องครักษ์ฮูดาคือคนที่ถามในทันที “พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”
“ย่อมอยากรู้”
“พวกเขาย่อมอยากรู้ แต่อยากรู้ว่าอย่างไร”
องครักษ์รอมไม่ตอบคำถาม แต่หันไปหาแม่ทัพเชมัล “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
“ไม่เป็นไร”
องครักษ์รอมกอดอกมอง “นกดำตัวนั้นจับจ้องท่านตลอดเวลา แต่คล้ายไม่อาจทำอะไรท่านได้เลย”

ตลอดเวลาที่องครักษ์รอมและองครักษ์ฮูดาแสดงความกังวล แม่ทัพเชมัลมองถ้วยชาในมือ ในใจกลับคิดถึงคนที่ติดตามไปกับขบวนสินค้า
…ข้ารู้ดี ว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งมากพอ ถึงได้กล้าเดินทางเข้าเมืองหลวงโดยลำพัง แต่นอกด่านนั่นเป็นพื้นที่ที่แตกต่างกัน....

“อยากติดตามออกไปหรือไม่” องครักษ์ฮูดาถาม
แต่องครักษ์รอมเป็นผู้ตอบ “หากทำเช่นนั้น เจ้าตัวเล็กก็จะเป็นเพียงน้องเล็กตลอดไป”
แม่ทัพเชมัลถอนหายใจยาว แล้วเดินเข้าห้องนอน
องครักษ์ฮูดาหันมามองหน้าพี่ใหญ่ของกลุ่ม แล้วต่างคนต่างก็ถอนหายใจเช่นกัน

...จบตอนที่ 11...

(http://image.free.in.th/v/2013/ir/150609080950.jpg) (http://picture.in.th/id/790adfd0d3426f4205ef987a968eb269)

พบกันอีก 7 วันข้างหน้า
ขอบคุณมากครับ
น้ำชา กับหมา..อะ...ไม่ใช่น้ำชากับป๋าไจฟ์ครับ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 09-06-2015 20:26:39
ง่าาาาา อาเหม่ยออดน้อยจังงงววว :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 09-06-2015 20:41:23
พออ่านจบปุ๊บ รู้สึก...

สั้นอ่ะ ยังไม่หายคิดถึงเลย

 o22

เสี่ยวเม่ย ออกนิดเดียวเอง

แต่ตอนนี้จัดว่า แม่ทัพโหด

รอตอนต่อไปค่ะ

 o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 09-06-2015 20:43:20
พี่เชจัดหนักให้นาซิม แก้แค้นให้เก้า ในฐานะไหน แค่องครักษ์ใช่มั้ย
ยังรักเก้าหรือแค่ผูกพันธ์ทำให้ยังคงตัดไม่ขาดทั้งๆที่รักเม่ย

เม่ยออกเดินทางแล้ว รีบกลับมาไวๆนะ พี่เชเป็นห่วง ส่วนอาเก้าของเราก็หายไวๆนะ

เจอกันอีกเจ็ดวันข้างหน้าจ่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-06-2015 20:44:29
งงเข้าไปอีกกับการกระทำของแม่ทัพนาซิม
รักแล้วต้องทำร้ายกันถึงเพียงนี้ ไม่เข้าใจ ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-06-2015 20:46:24
ถอนหายใจแล้วรออาเม่ยกลับมา

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2015 20:47:17
รออยู่ตั้งแต่เช้า ตอนนี้สมใจล่ะ ท่านแม่ทัพเชมัสนี้คือของแท้ใช่ไหมไอ้ความร้ายกาจนั้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 09-06-2015 20:47:42
 :L1: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 09-06-2015 20:50:57
กรี๊ดดดดด  อ่านตอนนี้รู้สึกว่าทำไมมันสั้นจัง  ฮือออออ  อยากอ่านอีก ๆๆๆๆๆ
ขอให้อาการป่วยของเก้าหายไว ๆ ร่างกายกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน
การเคลียร์กันของแม่ทัพเชมัลกับนาซิมเจ๋งดีนะ  แมน ๆ ต่อยกันครับ  555
ยังไงก็พี่น้องกันเนอะ  ยังต้องอยู่ร่วมกันทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง
แต่เรื่องระหว่างแม่ทัพนาซิมกับเก้าเนี่ย  ยังมองไม่ออกเลยว่าจะป็นยังไงต่อไป
ส่วนคู่หลักของเรา  มีเรื่องให้ต้องห่างกันซะแล้ว  แม่ทัพจะทนได้จริงเปล่า อาเม่ยไปนานพอสมควรนะ
แอบฮาตอนอาเม่ยแซะแม่ทัพว่าเรื่องเดียวที่แม่ทัพทำไม่ได้คือการถ่อมตัว  อ่านแล้วขำอ่ะ  คือใช่มาก
เมื่อไหร่อาเม่ยจะกลับมา  ได้ข่าวว่าเพิ่งออกเดินทาง  555  คิดถึงการต่อปากต่อคำของแม่ทัพกะอาเม่ยที่สุด   :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-06-2015 21:24:08
อาเม่ยทำให้แม่ทัพอ่อนโยน ฮูดาก็น่ารักไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 09-06-2015 21:31:53
ขอบคุณนะคะ  คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-06-2015 21:52:41
ความอบอุ่น อ่อนโยน การต่อปากต่อคำของพี่เชมีให้สำหรับอาเม่ยคนเดียวเท่านั้นนะฮ้าาา :katai2-1: ส่วนแม่ทัพนาซิมคงรู้ตัวเองว่าได้ทำร้ายอาเก้าทั้งร่างกายและจิตใจก็เลยยอมและไม่ต่อสู้กับแม่ทัพเชมัล :katai3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-06-2015 22:17:11
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 09-06-2015 22:27:34
“ข้าเฝ้าดูแลทนุถนอม เก็บไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เหตุใด...”  ถามแบบนี้ บางทีก็แอบคิดนะว่า ตัดบัวแต่ยังเหลือใยน่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-06-2015 22:27:42
เฮ้อ...อ่านแล้วตะหงิดๆ

คันปาก อิอิ

รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 09-06-2015 23:29:51
สุดยอด ออกไปดวลกันหน้าด่านแบบแมนๆ ข้าน้อยขอคาราวะ  :call:
ว่าแต่ว่า อาเม่ยจะไม่เป็นอะไรร้ายแรงใช่มั๊ยยยยย ต้องปลอมตัวแบบนั้น อดเป็นห่วงไม่ได้

ปล.อยากเอาคำที่เคยว่าฮูดาคืนค่ะ พาร์ทนี้ได้ใจเราไปเลย ตอนที่คุยกับรอมว่าอยากให้เม่ยกลับมา
รู้สึกได้ว่า ตัดใจจากเชมัลได้แล้ว แล้วก็เอ็นดูอาเม่ยจริงๆ  :hao3:

ขอบคุณน้องทีกะน้องไจฟ์นะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-06-2015 08:38:08
ดวลกันแค่นี้จบแล้วเหรอ!? เก้าเจ็บกว่าแม่ทัพนาซิมเยอะเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 10-06-2015 10:23:50
“ข้าเฝ้าดูแลทนุถนอม เก็บไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่เหตุใด...”  ถามแบบนี้
บวกและเป็ดให้เลยเม้นต์นี้
 :mew1:
พี่นาซิมสู้ๆ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก เย้ว!
บวกและเป็ดขอบคุณน้องน้ำชาและไจฟ์

แม่ทัพก็ใจเย็นๆ เดินทางครั้งนี้อาเม่ยต้องเก่งขึ้นแน่ๆ
แถมกลับมาก็รวบรัดเลยก็ดี
เพราะพี่คิดถึงงงงงงงงงงง
555
 :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 10-06-2015 10:31:27
แลดูท่านเชเป็นพระเอ๊ก พระเอกเน๊าะ ปกป้องทั้งคนเก่าและเป็นห่วงคนใหม่ไปพร้อมๆกันเนียะ  :ซูโม่:
เอาจริงๆตอนที่อัดท่านนาซิมนี่แก้แค้นให้ตัวเองป่ะ (แขว่ะยังไม่จบ 5555555) ก็เป็นพระเอกที่น่าหมั่นใส้ที่สุดตอนนี้มาเอาใจอาเม่ยไปได้ง่ายๆ  :a14:
แต่ถ้าจะบอกว่าความอ่อนโยนและความใจดีมีเฉพาะเวลาที่เม่ยอยู่ด้วย ท่านน่ะแหล่ะที่จะเป็นคนทำให้น้องเล็กไม่โตและทำร้ายเม่ย หากมีความใจดีพร่ำเพรื่อแบบนี้น่าจะสอนให้เม่ยรู้จักนำเอาความแข็งแกร่งของตนเองมาใช้ให้ถูกและเป็นประโยชน์ให้เท่ากับคนอื่นๆของท่านด้วยตะหาก เพื่อที่ว่าน้องเล็กจะได้รู้สึกเท่าเทียมสักที
^
^
^
อารมณ์หมั่นใส้อิตาพระเอกสุดๆ  :3043:

ว่าแต่เหมือนว่ามีหนอนบ่อนใส้ที่ด่านนี้เหรอ หวังว่าคงไม่ทำให้ชาวเมืองเดือดร้อนไปมากกว่านี้นะ ถ้าจะมีใครเป็นอะไรอีกคงไม่ใช่ท่านเชแน่ๆ แล้วใครล่ะนั่น อย่าให้เป็นเม่ยที่มารับเคราะห์เลย (แต่ถ้ารับมาจริง อิตาเชคงล้างบางกันคราวเดียว ชักอยากเห็นตอนโกรธสุดๆเหมือนกันแฮะ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 10-06-2015 15:02:51
พี่น้องคู่นี้เค้าเครียกันแรงดีแท้ :m17:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 10-06-2015 21:51:56
นกนั่นถูกสั่งให้มาทำอะไรกันนะ

พี่น้องก็เคลียร์กันได้1ยกละ  เหลือพี่ใหญ่อีกคน อยากรู้ว่าจะเล่นอะไรต่อ เหอะๆ

ท่านแม่ทัพเก่งเวออออออออร์
คนเก่ง ละเงียบแบบนี้ดีแล้วที่มีเสี่ยวเม่ยมาป่วน
ถ้าไม่มีเจ้าตัวเล็กนี่ ใครจะมาเจื้อยแจ้วเถียงท่านแม่ทัพกันเนอะ
หายไปไม่ต้องถึง7วัน แค่วันแรกๆทุกคนก็คงรู้สึกเหงาหูแน่ๆ

ขอให้อย่ามีเรื่องราวสาหัสเกิดกับอาเม่ยเลย
แค่นี้ท่านแม่ทัพก็ห่วงจะแย่แล้ว

รอตอนหน้าต่อไปซินะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-06-2015 22:16:03
เชมัลขาโหดดดดดดดดดดดดดด
แต่ก็ดีแล้วล่ะ เคลียร์ให้จบๆกันไปเลย ต่างคนต่างจะได้ไม่มีอะไรค้างคาในใจอีก

รออาเม่ยกลับมา


พร้อมทั้งรออ่านตอนต่อไปด้วย ^______________^





ปอลอลิง เปลี่ยนงานใหม่ ยุ่งมากกกกกกกกก เลยต้องรออ่านตอนค่ำอย่างเดียวเลย . . . ใจจะขาด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 10-06-2015 23:15:54
อาเม่ยยย ตอนนี้หนูออกนิดเดียว ค่าตัวเเพงใช่ไหมจ้ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-06-2015 00:45:49
รออาเหม่ยกลับมา

กลับมาเร็วๆและปลอดภัยนะ

แม่ทัพเป็นห่วงมากๆรู้ไหม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 11-06-2015 15:09:03
ถ้าเราเป็นอาเม่ยก็ไม่มั่นใจว่าเชมัลรักจริงหรือเปล่า
การกระทำบางอย่างชวนให้น้อยใจจริงๆ
แต่ว่าขอให้อาเม่ยปลอดภัยทีเถอะ -/\-
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 12-06-2015 12:20:22
สงสารอาเก้า ต้องเสียคนรัก(แม่ทัพเชมัล)เพราะความริษยาขององครักษ์ฮูดา แล้วยังต้องมาเจ็บตัวเพราะแม่ทัพนาซิมอีก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 16-06-2015 00:54:55
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: 13 จ้าวนภา ที่ 16-06-2015 10:32:52
 :L1: มาไวไว  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่11หน้า11 (9มิถุน58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 16-06-2015 18:35:28
อาเม่ยกลับมารึยังจ๊ะ คิดถึงสุดๆเลย

อีดิทชื่อนายเอกสักหน่อย
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 16-06-2015 19:43:43
ตอนที่ 12

การเดินทางไปเมืองบาสก์ใช้เวลา 5 วัน โดยต้องเดินทางผ่านป่าทึบ เข้าสู่ทุ่งกว้าง ผ่านหมู่บ้านเถื่อน และสายตาของผู้ประสงค์ร้ายที่ซุ่มมอง
ตง โป และอาเม่ยต่างระมัดระวังคำพูด เพียงสื่อสารกันทางสายตา และท่าทางเป็นหลัก ต่างจากเวลาที่สนทนากับผู้คุ้มกันและคนงานคนอื่นๆ ทั้ง 3 คนต่างปรับเข้ากับทุกคนได้อย่างกลมกลืน
“ทำไมเด็กๆ อย่างเจ้าถึงคิดจะไปเมืองบาสก์กัน” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งถามขึ้น
ตงเป็นคนตอบ “อย่างน้อยที่นั่นก็ไม่มีสงครามเข้ามาคุกคามอย่างเมืองวัน”
“ที่นั่นก็ใช่ว่าจะไม่ระมัดระวัง” ผู้คุมบอก “เมืองวันกำหนดให้ต้องขนถ่ายสินค้าตั้งแต่เมืองหน้าด่าน แต่ที่หน้าด่านของเมืองบาสก์ เราต้องผ่านการทดสอบจากผู้ครองเวทย์”
โปถามทันที “นั่นแสดงว่าผู้ครองเวทย์เมืองบาสก์จะต้องกล้าแข็งมาก”
“เป็นเช่นนั้น”
ทั้งผู้คุ้มกันและคนงานต่างบอกเล่าเรื่องราวมากมายในเมืองบาสก์
“เมืองเหนือคุกคามทั้งบาสก์ทั้งวันในเวลาเดียวกัน ก็คงต้องมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงยิ่ง” ตงบอก
“พวกเขาใช้เวทย์ดำ ผู้ใช้เวทย์เช่นนี้มักหลงลำพองในตนเอง”
ผู้คุ้มกันมองกลุ่มคนงานที่ต่างตั้งใจฟังเรื่องราวมากมาย ก็คิดไปว่า เด็กๆ เหล่านี้มีความสนใจในเรื่องราวอย่างยิ่ง จึงบอกเล่าเรื่องราวที่แต่งเติมจนเกินจริง
“ท่านรู้เรื่องมากมายนัก” อาเม่ยบอก
ผู้คุ้มกันยืดตัวอย่างภาคภูมิใจ
“พวกเราเดินทางไปทั่ว ไม่ใช่แค่เมืองบาสก์ เมืองวัน และเมืองเหนือนี่หรอก หากพวกเจ้ารักการเดินทางไปเรื่อย ก็ย่อมรู้เรื่องมากมายเช่นกัน”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา การเดินทางและการค้าระหว่าง 3 เมืองสร้างความมั่งคั่งให้กับเหล่าพ่อค้า จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้ที่กฎระเบียบการค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย จนกลายเป็นการตรวจค้นสินค้าอย่างเข้มงวดในเวลานี้

เมื่อมาถึงเมืองบาสก์ พ่อค้าต่างแยกกลุ่มกัน เพื่อตั้งค่ายพักชั่วคราว รอเวลาที่แต่ละกลุ่มจะต้องผ่านประตูเมืองเพื่อให้นายด่านตรวจค้นสินค้า ทั้ง 3 คนยังคงสร้างความกลมกลืนไปกับคนอื่น จนกระทั่งถึงเวลาที่นายด่านเรียกให้พ่อค้ากลุ่มนี้เคลื่อนรถเข้าไปในเขตเมือง
ชายรูปร่างผอมสูง สวมชุดยาวกรอมเท้า ยืนอยู่ด้านในจ้องมองทุกคนที่เดินผ่าน บ่งบอกว่าคือผู้ใช้เวทย์กล้าแข็งที่มีหน้าที่ตรวจตราทุกผู้คน
ตัวพ่อค้าเดินนำเข้าไปก่อน จากนั้นทุกคนจึงเดินตามเข้าไป
ดวงตาคมของผู้ใช้เวทย์จ้องมองเหมือนจะผ่านเข้าไปถึงจิตใจ
แม้จะเป็นเพียงคนงานที่มีฝีมือต่อสู้เพียงการวิ่งหนีเอาตัวรอด ยังต้องหวาดกลัวก้มหน้าเมื่อเดินผ่าน ตง โป และ อาเม่ยก็เป็นเช่นเดียวกัน

ผ่านเข้ามาถึงตลาดชายแดน พ่อค้าจึงหันมาบอกกับทั้ง 3 คน
“ข้าจะกลับไปที่หมู่บ้านของข้าก่อน แล้วจะเดินทางไปต่อที่อีกเมือง อาจนานกว่า 1 เดือนถึงจะกลับไปที่เมืองวัน”
“พวกเราจะหางานรับจ้างทำ”  ตงบอกกับพ่อค้า ทั้งรอจนกระทั่งการตรวจสินค้าเสร็จสิ้น ส่งขบวนสินค้าออกไปจากเขตด่านเมืองบาสก์
จากนั้นทั้ง 3 คนจึงชักชวนกันไปหาอาหารและที่พักในคืนนี้
เมื่อนั่งอยู่ที่ร้านอาหารผู้ใช้เวทย์รูปร่างผอมสูงคนนั้นเดินเข้ามา แล้วนั่งลงหันหน้ามาทางโต๊ะของทั้ง 3 คน
จู่ๆ อาเม่ยก็หันไปมอง แล้วหัวเราะ
อีก 2 คนก็พลอยหัวเราะตาม
แม้แต่ผู้ใช้เวทย์ผู้นั้นก็ยังหัวเราะ
ผู้คนในร้านได้แต่สงสัยคนพวกนี้หัวเราะเรื่องอันใด

เมื่อผู้ใช้เวทย์พบกับผู้ใช้เวทย์ แทบไม่ต้องใช้คำอธิบายมากนัก ก็พอจะเข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายได้โดยคร่าว

จนกระทั่งอาหารมื้อนี้ผ่านไป ทั้ง 3 คนเดินออกจากร้านอาหารกลับไปที่พัก ผู้ใช้เวทย์คนนั้นยังคงเดินตาม
มาถึงขั้นนี้ ทั้ง 3 คนได้แต่ต้องทำหน้าที่ต้อนรับ
“หากต้องการมาก็มา เหตุใดต้องปะปนมากับขบวนพ่อค้า”
โปแบมือ “เส้นทางอันตราย พวกเรา 3 คนต่างไม่ชำนาญทาง”
ผู้ใช้เวทย์เมืองบาสก์หันมามองหน้าอาเม่ย แล้วหันกลับไปถามโป
“พวกเจ้าต้องการอะไร”
ตงเป็นคนบอก “การป้องกันการคุกคามจากเมืองเหนือ”
ผู้ใช้เวทย์ส่ายหน้า “ในเวลานี้พวกเราไม่ข้องเกี่ยวกับเมืองเหนือ พ่อค้ามีเสรีที่จะเดินทางไปเมืองวัน หรือจะเมืองใดก็ได้แต่ห้ามเข้าไปที่เมืองเหนือเด็ดขาด”
“นั่นเพราะพวกเขาใช้เวทย์ดำ”
“ใช่ พวกเราจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดของผู้ที่เดินทางเข้ามา”
เมื่อต่างก็เป็นผู้ใช้เวทย์ขาว จึงไม่มีคำกล่าวเท็จ และเมื่อทั้ง 3 คนปฏิบัติอย่างสุภาพ ผู้ใช้เวทย์เมืองบาสก์จึงปฏิบัติกับพวกเขาอย่างสุภาพเช่นกัน
รวมถึงการไล่ออกไปจากเมืองอย่างสุภาพด้วย!
กลางดึกคืนนั้น ประตูเมืองเปิดแง้มเพียงเล็กน้อย ชายหนุ่ม 3 คนเดินออกมาแล้วหายเข้าไปในป่า.....

ในตอนที่หัวหน้าราชองครักษ์บาดามาแจ้งว่า องครักษ์แซนพาองครักษ์เก้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมา พระราชาฟารัคเพียงสงสัยว่าอาการสาหัสเพียงใดถึงต้องพามาหา จึงบอกให้นำไปพักที่ห้องพักรับรอง แต่เมื่อพบเห็นสภาพบอบช้ำลมหายใจรวยริน พระราชาก็ใช้ผ้าผืนใหญ่คลุมร่างขององครักษ์เก้า อุ้มไปที่เรือนพักหลังเล็กภายในอุทยาน 
มือใหญ่แตะที่หน้าผาก ใช้เวลาในการถ่ายพลังรักษาอย่างยาวนานเพื่อให้องครักษ์เก้าฟื้นตัวอย่างช้าๆ
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาล่าถอยออกมานอกห้อง เพื่อสอบถามเหตุการณ์จากองครักษ์แซน เมื่อฟังจบหัวหน้าราชองครักษ์บาดาก็ถอนหายใจยาว
“โจมตีผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอที่สุด”
องครักษ์แซนพยักหน้ายอมรับ ในกลุ่มองครักษ์ของแม่ทัพเชมัล องครักษ์เก้าเป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอที่สุด และอ่อนโยนที่สุด
“พวกเราผลัดกันถ่ายพลังชีวิตให้เก้า แต่ก็ทำได้แค่บรรเทาร่องรอยภายนอก และต่อลมหายใจ แต่ไม่อาจรักษา”

หลังรับฟังเรื่องราวอีกครู่หนึ่ง ราชองครักษ์บาดาก็บอกให้องครักษ์แซนไปพักผ่อน
“เจ้าต้องดูแลคนเจ็บมาตลอดทาง กลับไปพักผ่อนเถิด ทางนี้ข้าจะดูแลเอง”
องครักษ์แซนเป็นผู้ที่เยือกเย็นเสมอมา ทุกคำพูดจึงน่าเชื่อถือ “นี่ไม่ใช่ความผิดของเก้า”
“ข้ารู้” หัวหน้าราชองครักษ์บาดาตอบ
...หากจะมีใครสักคนที่เป็นคนผิด นั่นก็คือพระราชาฟารัค...
ระหว่างนั้นราชองครักษ์ลาทิฟ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านยาต่างๆ ถูกราชองครักษ์บาดาเรียกตัวออกมาห้องยาและเตรียมความพร้อมอยู่ด้วยกัน

ผ่านไปหลายชั่วยาม เมื่อพระราชาฟารัคออกมาที่ด้านหน้าของเรือนเล็กในสวนก็สั่งให้เสนาบดีหลี่ผู้มีศักดิ์เป็นพระสัสสุระ (พ่อตา) กับราชองครักษ์จาบีผู้มีความเคร่งครัดจริงจังเตรียมพร้อมเดินทางไปด่านชายแดน
จากนั้นก็กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง
ใกล้เวลาอาหาร หัวหน้าราชองครักษ์บาดายกเครื่องเสวยมาวางในห้องโถงแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนด้านหลัง พระราชาประทับนั่งอยู่บนเตียงขณะที่จับมือซีดของคนเจ็บไว้
“เสวยก่อนเถิด” หัวหน้าราชองครักษ์กล่าวเบาๆ
พระราชาพยักหน้า แล้วเสด็จออกมาประทับนั่งที่โต๊ะอาหาร
“ให้คนไปเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เก้าด้วย”
หัวหน้าราชองครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งเรื่องวาระการทรงงานของวันนี้ “ข้าพระองค์แจ้งนายท่าเรือไปแล้วว่า วันนี้ฝ่าบาทยังไม่สะดวกหารือกับเขา”
พระราชาถอนพระทัยหนักๆ “ฝากขออภัยด้วยที่ทำให้เสียเวลา แล้วพรุ่งนี้ข้าจะคุยกับนายท่าเรืออีกครั้ง”
“ฝ่าบาททรงอ่อนเพลียมาก หลังเสวยแล้ว ทรงพักผ่อนสักครู่เถิด”
มือที่ถือส้อมค้างอยู่ และรับสั่งให้เรียกเหล่าราชองครักษ์ทั้งหมดมาร่วมการหารือ
“เรียกพระสัสสุระ กับองครักษ์แซนมาหาข้าด้วย”
“เวลานี้หรือพระองค์” ก่อนหน้านี้พระราชาเพิ่งมีรับสั่งให้เสนาบดีหลี่ไปเตรียมตัวเดินทาง
“เวลานี้” พระราชารับสั่ง “ไปจัดการเรื่องที่ข้าบอกเวลานี้”
หัวหน้าราชองครักษ์ได้แต่ล่าถอยออกไปตามคำสั่ง
ไม่นานนักหัวหน้าราชองครักษ์บาดาก็เข้ามาถวายรายงานพระราชาว่า ทั้งหมดมาถึงแล้ว

นับครั้งได้ที่บรรดาราชองครักษ์ทั้ง 10 แห่งพระราชาฟารัคจะอยู่กันพร้อมหน้า ด้วยพระราชามีภารกิจมากมายที่วางพระทัยให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานต่างๆ
นอกจากนี้การที่ทุกคนต่างเป็นผู้มีเวทย์เข้มแข็ง บ้างหักล้างกันและกัน บ้างเสริมกันและกัน เมื่อมาอยู่พร้อมหน้า จึงต้องใช้เวทย์ควบคุมพลังของตนเอง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นการสร้างความเสียหาย

พระราชาประทับยืนอยู่ที่หน้าบ้านพักหลังเล็ก เบื้องหน้าคือเสนาบดีเฒ่าและเหล่าราชองครักษ์ที่รอรับพระบรมราชโองการ

“แม่ทัพเชมัล แม่ทัพนาซิม และองครักษ์เก้าทำผิดกฎหมาย”
ทั้งหัวหน้าราชองครักษ์บาดา และ องครักษ์แซนต่างส่งเสียงคัดค้านเพียงในใจ
“เก้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าจะจองจำเขาตามกฎหมาย แม่ทัพเชมัลต้องรับผิดในฐานะที่เป็นหัวหน้า ส่วนแม่ทัพนาซิม....” พระราชาทอดเสียงเพื่อดูปฏิกิริยาของทุกคน “โอรสของเขาอยู่กับข้า จึงขอให้พระสัสสุระไปแจ้งแก่แม่ทัพ ทั้ง 2 ว่า ให้เอาหัวของแม่ทัพหน้าด่านเมืองเหนือมาแลกโอรสแห่งแม่ทัพนาซิมกลับไป” 
เสนาบดีหลี่ท้วงขึ้น “พวกเขาทำผิดอันใด ถึงต้องลงโทษเพียงนั้น”
“องครักษ์เก้าเป็นผู้รับใช้ของแม่ทัพเชมัล แม้หน้าที่นั้นจะหมดไปเมื่อเก้ามีคนรักเป็นสตรี แต่เมื่อเก้ากลับไปหลับนอนกับแม่ทัพเชมัล ดังนั้นพวกเขาทั้ง 3 คนจึงต้องรับโทษ”

ในความจริงหลังจากที่องครักษ์เก้าคบหากับพริม แม่ทัพเชมัลก็ไม่ได้เรียกหาอีก นอกจากนี้พระราชายังมีเจตนารับสั่งข้ามเรื่องที่แม่ทัพนาซิมทำร้ายองครักษ์เก้าด้วย เสนาบดีหลี่มองเห็นเพียงเค้าโครงของเรื่องราวความขัดแย้งส่วนตัวเหล่านี้ รวมถึงเรื่องที่พระราชาเจตนาปกปิด จึงตั้งใจว่าจะสอบถามจากผู้อื่นต่อไป

ขณะที่ความคิดเห็นคัดค้านของหัวหน้าราชองครักษ์บาดากลับรุนแรงจนพระราชาต้องหันมารับสั่ง
“ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของข้าหรือบาดา”
“มิกล้า.....” ราชองครักษ์บาดาก้มหน้า ไม่เข้าใจเป้าหมายของพระราชาแม้แต่น้อยที่ตัดสินเช่นนี้
องครักษ์เก้าถูกทำร้ายถึงเพียงนั้น จะใช้คำเรียบง่ายแล้วลงโทษได้อย่างไร

"ทั้ง 2 คนเป็นพระอนุชาของข้า" พระราชา รับสั่งกับเสนาบดีหลี่โดยตรง “ให้องครักษ์ไปแจ้งคงไม่เหมาะ จึงต้องรบกวนท่านแจ้งข่าวและกำชับให้ทั้ง 2 คนปฏิบัติตาม”
รับสั่งจบก็หันหลังให้ทุกคนแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านพักรับรองทันที
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาที่เดินตามมามองสำรับที่พระราชายังไม่ได้เสวย
“ฝ่าบาทเสวยสักนิดเถิด”
พระราชาฟารัคเพียงแค่หันมามองสำรับอาหาร แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องพักขององครักษ์เก้า

เสนาบดีหลี่เป็น 1 ในข้าราชบริพารไม่กี่คนที่มีท่าทีไม่ชอบแม่ทัพเชมัลอย่างเปิดเผย ด้วยหวาดระแวงว่ากำลังซ่องสุมกำลังเพื่อโค่นอำนาจพระราชาฟารัค
การเดินทางมาที่ด่านชายแดนเพื่อกล่าวโทษแม่ทัพเชมัลในครั้งนี้ย่อมทำให้เสนาบดีเฒ่ามีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ทั้งตลอดการเดินทางยังพยายามซักถามองครักษ์ซันว่า เกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่ไม่คิดจะถามราชองครักษ์จาบี ด้วยรู้ดีว่าราชองครักษ์ผู้นี้ไม่มีทางเปิดปากเล่าเรื่องใด นอกไปจากการปฏิบัติตามรับสั่งของพระราชาอย่างเคร่งครัด
องครักษ์ซันรู้เรื่องราวจากคำบอกเล่าขององครักษ์แซน แต่บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยอ้างว่า เรื่องราวไม่แน่ชัด ขอให้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดเมื่อเดินทางถึงเมืองหน้าด่านพร้อมกันจะเหมาะสมกว่า
“องครักษ์เก้า โดดเด่นทั้งหน้าตาและฝีมือ ท่าทางสุภาพเรียบร้อย กลับสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายได้เพียงนี้ ต้องถือว่าเหนือความคาดหมายจริงๆ”
เสนาบดีหลี่ส่งเสียงกล่าวคำไปเรื่อย ขณะที่องครักษ์ซันตำหนิพระราชาแต่เพียงในใจ
ตั้งแต่แรกมา องครักษ์เก้าเป็นเพียงผู้ถูกกระทำมาตลอด
เพราะสุภาพเกินไป และดีเกินไป
หลังตั้งคำถามมากมาย วิจารณ์ไปมากมายแล้วเห็นว่าองครักษ์ซันคนอารมณ์ดีแสดงท่าทีคับข้องใจ เสนาบดีหลี่ก็ยิ่งมีความสุขทวีคูณ

เมืองหน้าด่านเวลานี้มีคนของกรมการค้ามาประจำการเพิ่มขึ้น เพราะคับคั่งไปด้วยพ่อค้าเมืองวันกับพ่อค้าต่างเมืองที่ต้องมาแลกเปลี่ยนสินค้ากันที่นี่ เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ที่ห้ามพ่อค้าต่างเมืองเดินทางต่อไปจนถึงท่าเรือ

เมื่อมาถึงเสนาบดีหลี่ก็ตรงไปที่ค่ายทหาร
แม่ทัพเชมัลคือผู้ที่รออยู่ในห้องทำงาน สีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง โดยมีเจ้าหน้าที่ของเมืองหน้าด่านยืนหน้าซีดอยู่ที่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน เมื่อเสนาบดีมาถึง เจ้าหน้าที่ของเมืองหน้าด่านก็รีบทำความเคารพแล้วล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว เสนาบดียังทันได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นลอบผ่อนลมหายใจยาว
คาดเดาได้ว่า จะต้องถูกแม่ทัพเชมัลตำหนิการทำงานอย่างรุนแรง แต่ยังไม่ทันได้สอบถามอันใด แม่ทัพนาซิมที่เป็นเจ้าบ้าน ก็ก้าวเข้ามาในห้องทำงาน
เหล่านี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ณ บัดนี้ผู้ใดควบคุมเมืองหน้าด่าน
เสนาบดีเฒ่าขอให้องครักษ์และผู้ช่วยของทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาในห้องนี้ เพื่อรับฟังเรื่องราวทั้งหมดพร้อมกัน

“พระราชาฟารัคมีคำสั่งมาถึงพวกท่าน แต่ข้าก็ยังต้องการรับฟังเรื่องราวสักเล็กน้อยก่อนที่จะประกาศพระราชดำรัสของพระองค์”
นั่นเพราะถามเรื่องอันใดองครักษ์ซันก็ไม่รู้เรื่อง ยิ่งราชองครักษ์จาบีที่พระราชาส่งมาด้วยก็ยิ่งไม่เปิดปาก เสนาบดีเฒ่าจึงต้องการรับฟังเรื่องราวจากผู้ที่อยู่ที่นี่

ท่ามกลางผู้คนมากมายในห้อง แม่ทัพนาซิมหันออกไปมองภาพที่ประดับฝาผนัง ขณะที่แม่ทัพเชมัลพยักหน้าก่อนกล่าวคำ
“แม่ทัพนาซิมละเมิดต่อองครักษ์เก้า และในฐานะที่ข้าเป็นผู้บังคับบัญชา ข้าดวลกับแม่ทัพนาซิมไปแล้ว”
เป็นคำสรุปที่รวบรัดยิ่ง และไม่ทำให้เสนาบดีหลี่พึงพอใจแม้แต่น้อย

..ก่อนนี้พระราชามีรับสั่งว่า องครักษ์เก้ามีหญิงคนรักแล้ว แต่ยังกลับไปมีความสัมพันธ์กับแม่ทัพเชมัลมิใช่หรือ..เรื่องนี้ช่างน่าสนุกสนานยิ่งนัก...

“ดวลอย่างไร”
“เราสู้กันที่นอกด่าน”
“ท่านหมายถึง...” เสนาบดีหลี่ชี้ไปทางด้านนอกของด่าน ดวงตาเรียวยาวบ่งบอกชัดเจนว่ามีความอยากรู้เรื่องราวมากกว่านี้
“พวกเราคลี่คลายเรื่องนี้ไปแล้ว” แม่ทัพเชมัลกล่าวสั้นๆ
เสนาบดีเฒ่าเพียงกลอกตา แล้วหันไปมองกลุ่มผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิม

....ดูท่า การรับฟังเรื่องราวจากกลุ่มผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิม จะได้รับฟังเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นมากกว่าการฟังจากแม่ทัพเชมัล

“พระราชามีรับสั่งอย่างไร”
เสนาบดีหลี่กระแอมเพื่อเรียกความสนใจจากทุกคนก่อนกล่าวคำ
“พระราชาฟารัคมีรับสั่งว่า แม่ทัพเชมัล แม่ทัพนาซิม และองครักษ์เก้าทำผิดกฎหมาย ซึ่งในเวลานี้องครักษ์เก้าอยู่ที่วังหลวงแล้ว และจะถูกจองจำตามกฎหมาย ส่วนท่านแม่ทัพเชมัลต้องรับผิดในฐานะที่เป็นหัวหน้า ส่วนแม่ทัพนาซิม โอรสของท่านอยู่กับพระราชา ดังนั้นพระราชาจึงต้องการให้ท่านทั้ง 2 นำศีรษะของแม่ทัพหน้าด่านเมืองเหนือมาแลกกลับไป”
“นั่นไม่ยุติธรรมเลย!” แม่ทัพนาซิมท้วงขึ้นด้วยเสียงอันดัง
เรื่องนี้มีแต่ฝ่ายของแม่ทัพเชมัลที่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนกลุ่มผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิมทราบเรื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เก้าไม่ได้ทำผิดอันใด..”
“พระราชามีคำตัดสินโทษของพวกท่านแล้ว”  เสนาบดีหลี่ไม่ยอมให้แม่ทัพนาซิมกล่าวจบคำ เพราะแค่ไม่กี่คำของผู้ปกครองเมืองหน้าด่านที่แก้ต่างแทนองครักษ์เก้า ก็พอจะคาดเดาได้ว่า เรื่องนี้จะเป็นสีสันของวงสนทนาต่อไปอีกหลายวัน
“บางเรื่องก็ไม่ควรกล่าวคำออกมาหากจะทำให้ผู้อื่นเสียหาย” คำกล่าวของเสนาบดีตรงกันข้ามกับความคิดอย่างสิ้นเชิง
“องครักษ์เก้าไม่ได้ทำผิดอะไร” แม่ทัพนาซิมยังคงกล่าวคำออกมาในที่สุด
“พวกเรารับพระราชโองการของพระราชา”
แม่ทัพเชมัลกล่าวสรุป “ท่านเสนาบดีเร่งเดินทางมา โปรดพักผ่อน และเยี่ยมชมเมืองหน้าด่านก่อนเถิด”

ผู้ช่วยคนหนึ่งของแม่ทัพนาซิม พาเสนาบดีเฒ่าออกไปจากห้องประชุม
องครักษ์ฮูดาหันไปหาองครักษ์ซัน “เหตุใดพระราชาจึงส่งเสนาบดีผู้นี้มากล่าวโทษแม่ทัพทั้ง 2”
แม่ทัพเชมัลนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง
“เพื่อที่จะเตือนพวกเราว่า ยังมีคนที่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นพวกเราผิดพลาด”
“แล้วยังคำกล่าวโทษนั่นอีก เก้าถูกทำร้าย เหตุใดจึงต้องคุมขัง แล้วยังโอรสท่านแม่ทัพนาซิมอีก” องครักษ์ฮูดาส่ายหน้า “พระองค์คิดอ่านอันใดกัน”
แม่ทัพเชมัลยังคงต้องเป็นผู้ที่แปลความหมายของพระราชาอีกครั้ง “แปลว่า พวกเราไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ให้ยืดยาว”
เมื่อกล่าวคำนี้ทุกคนในห้องล้วนมีท่าทีกระตือรือร้นขึ้นจนแม่ทัพเชมัลหันไปมองแม่ทัพนาซิมในเชิงถาม
อีกฝ่ายนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามเมื่อร่วมวางแผน
“พวกเราอยู่ที่นี่ คับข้องใจกับพวกเมืองเหนือมาเป็นเวลานาน หากจะให้ข้ามไปจัดการเรื่องราวบางอย่างเพื่อคลายความคับข้องใจนี้ ก็น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง”
และสำหรับแม่ทัพนาซิมแล้ว การกำจัดหนึ่งในผู้นำของเมืองเหนือย่อมเป็นอีกหนึ่งในการระบายความเคียดแค้นในใจอย่างแน่นอน!

....จบตอนที่ 12...

 (http://www.mx7.com/i/1f8/G8EkzN.jpg) (http://www.mx7.com/view2/ypEGuYN1s6epjB6j)


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-06-2015 19:50:35
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 16-06-2015 20:15:50
อะไรมันจะลึกลับซับซ้อนขนาดนี้
อ่านไปคิ้วขมวดไป ตอนแรกงงกับพระราชามากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ต้องมาให้พี่เชมัลแปลไทเป็นไทย สุดยอดของการแปลรหัส 55555

ยังรออ่านต่อนะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-06-2015 20:20:44
ทำไมหมั่นไส้ลุงหลี่คนนี้จังฟระ เป็นพระสัสสุระ แต่มาดเหมือนลุงจอมเผือกเก็บเรื่องคนอื่นไปนินทาอะไรทำนองนั้น

คำสั่งลงโทษมีอะไรซับซ้อนแท้  เหมือนวางแผนให้ทำอะไรซักอย่าง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 16-06-2015 20:23:10
 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-06-2015 20:28:17
แม่ทัพนาซิมกับแม่ทัพเชมัลถ้าร่วมมือกันจะถล่มเมืองเหนือได้มั้ย :hao3: สู้สู้นะเฮียทั้งสอง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 16-06-2015 20:35:47
พระราชามีแผนอะไรอยู่ :confuse:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 16-06-2015 20:36:01
เสนาบดีหลี่นี่ อาจจะเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังเรื่อง ชั่วๆแน่ คิดว่าอาจจะแอบมีความสัมพันธ์กันกับทางเมืองเหนือ ขอให้คลี่คลายได้โดยเร็วเถิด ที่เอาองครักษ์เก้ามาไว้ เพราะไม่อยากให้นาซิมห่วงหน้าพะวงหลังปะเนี่ย (โว๊ะ!!!! เดาสุดกู่ 55555)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-06-2015 20:40:48
อาเหม่ยบทน้อยอีกแล้ว

พระราชานี่ความคิดความอ่านซับซ้อนจัง

คนแบบนี้น่ากลัวนะว่ามะ

อาเก้าบทเด่นเกินหน้าเกินตาอาเหม่ยอีกแล้วนะ อิอิ

ปล ติดตามเสมอจ้า กด+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 16-06-2015 20:47:46
รู้ใจพี่จริงๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 16-06-2015 20:50:47
อิตาลุงหลี่นี่ชั่วมั้ย หรือแค่ไม่ชอบเชมัลเพราะกลัวว่าจะโค่นบัลลังค์พระราชา แล้วพระราชานี่วางแผนอะไรอีกแน่ๆเลยใช่มั้ย เอาเก้ามาไว้ใกล้ตัวเพราะอยากให้สองคนนั้นเสร็จสิ้นภารกิจโดยไม่ต้องห่วงสินะ
ตอนนี้ขมวดปมเข้าไปอีก ขอให้เรื่องราวคลี่คลายเร็วๆ ขอให้เก้าหายเร็วๆด้วยนะ

มาอีดิทอีกนิดนึง การที่พระราชาส่งลุงหลี่ไปเมืองหน้าด่านต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆเลย (เดานะ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 16-06-2015 20:55:58
ท่านพี่เชมัลเจ้าคะ น้องมารอพี่ทุกวันเลย
ในที่สุดก็มา
ตอนนี้แสดงความสามารถอีกระดับของท่านแม่ทัพ
สมองดีเลิศ รู้ใจพี่ชายเป็นที่สุด
ตอนหน้าคงได้เห็นนาซิมทำดีไถ่โทษแล้วกระมัง
ไปปราบฝ่ายเหนือให้ราบคาบซะ

รอฉากอาเม่ยโชว์อยู่นะเจ้าคะ
แฟนโชว์บุ๋นไปแล้ว ให้อาเม่ยโชว์บู๊แทนละกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-06-2015 21:16:19
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 16-06-2015 21:20:47
ขอบคุณนะคะ  คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-06-2015 21:22:43
ร้ายที่สุดคงเป็นพระราชานี่แหละ สุดท้ายคิดจะฮุบองครักษ์เก้าไว้คนเดียวสินะ
ลุงหลี่แกนี่ก็สนุกกับการเผือกเสียจริง ๆ
ภาษาของพระราชาคงมีแต่แม่ทัพเชมัลเข้าใจ 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 16-06-2015 21:29:44
สรุป พระราชาเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของทุกคนไว้ใช่เปล่าเนี่ย
เชมัลกับนาซิมต้องไปถล่มเมืองเหนือ อาเม่ยก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ
ทุกคนคือมีภารกิจที่ต้องจัดการ ขอให้งานของทุกคนเสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว
เพราะคิดถึงบรรยากาศมุ้งมิ้ง (?) ของเชมัลและอาเม่ยแล้ว   :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-06-2015 22:25:33
โอ้!หมั่นไส้เสนาบดี!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-06-2015 22:35:04
ซับซ้อนเหลือ วางแผนอะไรอีก ใครดีใครร้ายกับใครกันแน่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-06-2015 23:42:10
ยังคงต้องสงสัยต่อไป

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-06-2015 00:15:16
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-06-2015 08:36:40
เหมือนพระราชาฟารัค รู้ว่ามีเกลือเป็นหนอนเน่าเลยคิดแผนการการกวาดล้างไม่เหลือซาก
แต่.......... ถึงกับเก้าเจ็บตัวแบบไม่คาดคิดขนาดนี้มันต้องมีผลตอบแทนให้เก้ามีความสุขซะที น่าจะจากการเลือกสิ่งที่ตนอยากครอบครองหรืออยากได้มากที่สุดจากใจจริงๆ
แล้วอิตาเสนาบดีเฒ่าแลดูขี้โก้งงง ขี้โกงง เหมือนห่วงว่าจะมีใครมาแย่งอำนาจพระราชาฟารัคแต่เพราะตัวเองตอนนี้เป็นถึงพระสัสสุระด้วยหรือเปล่า เหมือนจะเป็นพวกสอพลอและช่างยุยังไงก็ไม่รู้
ส่วนอาเม่ยกับเชมัล ยังต้องพิสูจน์ความเชื่อใจกันครั้งอีกไหมนี่ บทคู่นี้มันน๊อยยยน้อย (มันน่าจะมีเวทย์อ่านจิตกันได้เนาะ ว่าแต่มันคือเวทย์ดำป่ะถ้ามีจริง  :mew2:)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Running girl~ ที่ 17-06-2015 08:57:10
นั่งไล่อ่านตั้งแต่ตอน1ถึงล่าสุดอย่างไว สนุกมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 17-06-2015 09:45:23
พระราชานี่กะเชือดน้องหวังให้หนอนบ่อนไส้โผล่หัวรึเปล่า
แผนลึกชะมัด เก้าเลยโดนหางเลขในฐานะสามเส้าเต็มๆ
เกาะติดขอบจออย่างใจจดใจจ่อ
อ้อ ช่วงนี้ขออย่าเพิ่งอย่าเอาอาเม่ยออกมาเยอะนะ
กลัวน้องโดนมนต์ดำนั่นนี่ เดี๋ยวป๋าเชจะอกแตกตายซะก่อน 555

บวกและเป็ดเชียร์พี่นาซิมดีก่า เย้ววววว
 :mew3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 17-06-2015 11:19:50
ก็ยังไม่ชอบพระราชาอยู่ดี  :m16:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 17-06-2015 14:16:24
จะชมใครดีเนี่ย คนส่งสาร หรือคนแปลสาร ช่างลึกล้ำเกินบรรยาย  :mew5:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 17-06-2015 15:22:23
ซับซ้อนเกินไปละ
รอๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 17-06-2015 18:39:48
มาต่อไว ไว นะคะ

กำลังลุ้น

  o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 17-06-2015 22:25:37
เรื่องนี้ลึกลับซับซ้อนดี
ตามความคิดแต่ละคนไม่ทันเลย โดนเฉพาะคนเขียน อิอิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 18-06-2015 17:27:08
สนุกมากกกกกกกกกกค่ะ
เนื้อเรื่องแนวแฟนตาซี ลับซ้อน ซ่อนเงื่อน
ชอบที่สุด > <"
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 18-06-2015 21:57:02
นี่อ่านแล้วหมั่นไส้พระราชา555 แผนเยอะจริงพอคุณณณ ดีๆทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 19-06-2015 10:52:44
ไม่ชอบที่เชทำตัวแบบนี้เลย
คือสงสารเก้า
เจออะไรมาเยอะ
แล้วดูคนที่รักที่ไม่เหลือใจแต่มาทำตัวเหมือนอาลัยลาวรณ์ทั้งที่ไม่รู้สึกอะไร
เพราะมีรักใหม่คืออาเม่ยไปแล้ว

คือความเป็นพระเอกสุภาพบุรุษมันก็ดี
แต่ทำแบบนี้ยิ่งทำให้เก้าเจ็บหรือเปล่า
คือไม่รู้ แต่คนอ่านอึดอัดแทน

อยากให้เก้าหลุดพ้นซะที
ชีวิตเก้าไม่มีอะไรดีดีเข้ามาเลย
สงสาร ยิ่งอ่านยิ่งสงสารเก้า

โถ่วววว เก้าของเค้าาาา

ขอบคุณน้ำชากับไจฟ์นะคะ
รอติดตามค่ะ
เรื่องมันซับซ้อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่12หน้า12 (16มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 20-06-2015 09:41:58
สวัสดีค่ะ เป็นนักอ่านเงามาได้เกือบปี แต่เพราะงานของคุณสองคน ทำให้ตัดสินใจสมัคร
เพื่อบอกว่า
ชอบอ่านงานของคุณมาก
มีอะไรให้คาดเดา
ให้ต้องคิดตาม
ให้ต้องลุ้นอยู่บ่อยๆ

ยังคงติดตามผลงานอยู่เสมอ
 :กอด1:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 23-06-2015 14:17:42
ตอนที่ 13

เมืองหน้าด่านยามค่ำคืนยังคงคึกคักด้วยพ่อค้ามากมาย ผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิมพาเสนาบดีหลี่เที่ยวชมเมืองและดื่มกินที่ร้านค้าใหญ่ที่สุดในพื้นที่ แล้วจัดให้เข้าพักในห้องพักชั้นดี ไม่ได้พากลับมาพักที่ค่ายทหาร เพราะที่นั่นปราศจากสิ่งบันเทิง

ส่วนในการพูดคุยเรื่องแผนการจัดการแม่ทัพเมืองหน้าด่านของเมืองเหนือยังเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะต้องมีความรัดกุมอย่างยิ่ง เมื่อการหารือเสร็จสิ้น ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน
แม่ทัพนาซิมที่ลงโทษตัวเองด้วยการไปพักที่เรือนพักยาม ยังมีเรื่องที่ต้องสอบถามจากแม่ทัพเชมัล จึงกลับมาหาอีกครั้งในยามที่ผู้คนส่วนใหญ่พักผ่อนไปแล้ว
เมื่อเข้ามาในที่พัก องครักษ์ฮูดาที่พักอยู่ที่เรือนอีกหลังก็กลับเดินตามเข้ามาด้วย แสดงว่าองครักษ์ฮูดาคือคนที่อยู่เวรยามในคืนนี้
“ขออภัยที่มารบกวนเจ้าในเวลานี้”
ฝ่ายน้องชายกลับโบกมือและเรียกให้นั่งลง
องครักษ์ฮูดาเข้ามารินน้ำชาให้แม่ทัพทั้ง 2 คนแล้วล่าถอยออกไปรอที่มุมห้อง
“ข้าไม่อาจข่มตาให้หลับได้ เพราะพระราชาลงโทษอาเก้าในความผิดของข้า”
แม่ทัพเชมัลเชื่อว่าเมื่อพระราชาทอดพระเนตรบาดแผลขององครักษ์เก้า จะต้องทราบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่การลงโทษนี้ย่อมมีเหตุผล
“บาดแผลของเก้าอาจต้องใช้เวลารักษาหลายวัน ระหว่างนี้พระองค์คงไม่ใจร้ายถึงขนาดคุมขังคนเจ็บหนัก อาจขู่ให้เราเร่งลงมือมากกว่า”

“ข้าก็อยากคิดเช่นนั้น แต่พระราชาฟารัคเป็นคนที่คาดเดาจิตใจได้ยาก ยิ่งข้าเป็นคนที่อยู่ห่างไกล ยิ่งไม่อยากคาดเดา”
กล่าวโดยง่ายก็คือ แม่ทัพนาซิมอยู่ที่เมืองหน้าด่านนี้มาตลอดชีวิต โอกาสเข้าเฝ้าพระราชาก็ต่อเมื่อพระองค์เสด็จมาที่นี่เท่านั้น แต่แม่ทัพเชมัลคือน้องชายผู้รู้ใจพระราชาเป็นอย่างดี
ที่สำคัญคือ พระราชาพระองค์นี้เป็นผู้ที่มีความคิดซับซ้อนและลึกซึ้งยากที่หยั่งถึง

องครักษ์ฮูดาพูดขึ้น “การลงโทษเก้า ยังมีผลให้พริมต้องเลือกว่าจะคบหากับเก้าต่อไปหรือไม่”
แต่แม่ทัพนาซิมยังไม่เห็นด้วย “ข้อสำคัญคือข้าบังคับ ข้าทำร้ายอาเก้า”
“หรือท่านไม่ต้องการรับผิดชอบเก้า”
องครักษ์ฮูดาย้อนถาม ขณะที่ดวงตาคมจ้องมองแม่ทัพ 2 คนที่พ่ายแพ้ต่อสตรีคนเดียวกัน
“ข้าย่อมต้องการรับผิดชอบต่ออาเก้า” แม่ทัพนาซิมกล่าว “และข้าย่อมให้เกียรติแก่คนรักของอาเก้า แต่คำกล่าวโทษอาเก้านั้น หาใช่ความจริง เพราะความจริงคือข้าทำร้ายเขาอย่างสาหัส การที่พระองค์ลงโทษเขาต่างหากที่ข้าไม่อาจยอมรับ”
“เหมือนกับที่แม่ทัพเชมัลตัดสินใจในเรื่องของเก้าก่อนหน้านี้” องครักษ์ฮูดากล่าวอย่างตรงไปตรงมา “พวกท่านไม่รู้จักคำว่าแย่งชิงหรืออย่างไร”
“พวกเราไม่อาจแย่งชิงคนรักกับสตรีอยู่แล้ว” แม่ทัพเชมัลกล่าวประชดพลางจิบชา “ความรักของชายด้อยค่ากว่ารักของหญิงยิ่งนัก”

ฝ่ายพี่ชายทอดถอนใจ ขณะที่มองน้องชายผู้มีท่าทีครุ่นคิดตลอดเวลา
อาจเพราะห่วงอาเม่ย และกังวลอาการของเก้า ทั้งยังมีเรื่องของปีศาจและอมนุษย์ของเมืองเหนืออีก

“ออกไปเดินเล่นแถวกำแพงเมืองกันไหม” พี่ชายชักชวน
แต่ฝ่ายน้องชายกลับยิ้มเศร้า “ท่านกับข้ากำลังบาดหมางกันอยู่ จะชวนกันไปเดินเล่นให้เกิดข้อสงสัยได้อย่างไร”
แม่ทัพนาซิมส่ายหน้า “อย่างน้อยอาเก้ากับลูกชายของข้าก็อยู่กับพระราชา แต่คนของเจ้าอยู่ข้างนอกนั่น”
องครักษ์ฮูดาขัดความเห็นของแม่ทัพนาซิมอีกครั้ง เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่เปลี่ยนเรื่องสนทนาไปหาอาเม่ย “เมื่อครู่ท่านเพิ่งจะกล่าวว่าเป็นห่วงเก้ากับบุตรชายของท่าน”
“ตอนนี้ข้าก็ยังเป็นห่วงพวกเขา” แม่ทัพนาซิมหันมาโต้เถียงกับองครักษ์ฮูดา “แต่เมื่อเชมัลกล่าวว่าพระราชาจะรักษาอาเก้า และที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อให้พวกเราเร่งลงมือ ข้าก็เชื่อตามนั้น แต่การออกไปนอกด่านของพวกอาเม่ยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
“พวกเขาผ่านการสู้รบมามากกว่าที่ท่านคาดคิด”
คำกล่าวขององครักษ์ฮูดาทำให้แม่ทัพนาซิมหันมามองแม่ทัพเชมัล
“พวกเขาเพิ่งสอดแนมเป็นครั้งแรกมิใช่หรือ"
“ใช่ พวกเขาเพิ่งสอดแนมร่วมกันเป็นครั้งแรก” แม่ทัพเชมัลกล่าว
ก่อนที่แม่ทัพนาซิมจะกล่าวคำต่อ องครักษ์ฮูดาก็ขัดขึ้น “ท่านควรเป็นห่วงเรื่องที่เสนาบดีหลี่มาที่นี่”
“คนผู้นี้ชั่วร้าย” แม่ทัพนาซิมกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “การที่เขาออกไปพักที่สถานพักแรม ทำให้ข้าหายใจได้คล่องขึ้น”
“ผู้คนกล่าวกันว่าแม่ทัพนาซิมมีจิตใจกว้างขวาง ไม่นึกว่าก็มีข้อแม้เช่นกัน” องครักษ์ฮูดากล่าว
“ข้าไม่มีความสามารถในการอ่านใจผู้คน แต่คนผู้นี้ให้ความรู้สึกเลวร้าย จนต้องหวนกลับไปคิดว่าเหตุใดพระราชาจึงสมรสกับบุตรีของเขา และมอบยศตำแหน่งใหญ่โตให้”

แม่ทัพเชมัลเดินออกไปส่งแม่ทัพนาซิมเพียงหน้าบ้านพัก ฝ่ายพี่ชายก็หันมากล่าว
“พรุ่งนี้ข้าจะนำทหารออกไปลาดตระเวนนอกด่าน”
“ระมัดระวังด้วย”
คนรูปร่างสูงใหญ่ยังคงยืนส่งพี่ชายที่เดินกลับไปยังที่พัก
แต่สายตากลับมองผ่านไปในที่แสนไกล องครักษ์ฮูดาก้าวเข้ามายืนข้างๆ
“พรุ่งนี้ข้าจะออกไปลาดตระเวนร่วมกับแม่ทัพนาซิม”
“เช่นนั้นเจ้าควรไปพักผ่อน”
"ข้าจะส่งท่านก่อน"
แม่ทัพเชมัลส่ายหน้า "การอยู่ที่นี่ทำให้สุขภาพของเจ้าไม่แข็งแรงเต็มที่ กลับไปพักผ่อนเถิด"
"อย่าอ่อนโยนกับข้านัก เพราะอาจทำให้ผู้อื่นคิดมาก"
"เจ้าเป็นเพื่อน อ่อนโยนกับเพื่อนจะเป็นไรไป"
"เพื่อนกัน ก็เพียงไล่ให้ไปนอน ส่วนคำพูดที่เหลือไม่ควรกล่าวออกมา"
แม่ทัพเชมัลส่ายหน้าให้กับคนดื้อรั้น
....ดูท่าฮูดาจะอารมณ์ไม่ดี...
"ท่านเข้านอน แล้วข้าจะกลับไปเอง"
"ฮูดา"
องครักษ์ฮูดายืนหลังตรง รอฟังคำสั่ง
"ไปนอน เพราะข้ายังมีเรื่องให้คิด"
องครักษ์ฮูดายกยิ้มที่มุมปาก "เช่นนี้แหละ ทำบ่อยๆ ไม่นานก็ชิน"

นับตั้งแต่ถูกขับออกมาจากเมืองบาสก์อย่างสุภาพ องครักษ์ตง โป และอาเม่ยก็แฝงตัวเข้าสู่เขตป่า หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มโจร และเมื่อผ่านพ้นกลุ่มหมู่บ้านคนเถื่อนไปได้ครึ่งวัน ทั้ง 3 คนจึงรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากใต้ฝ่าเท้า อมนุษย์ร่างกายสูงใหญ่ ผิวสีขาวซีด 2 ตนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
องครักษ์ตงกระซิบถาม “พวกมันต้องไปทางหมู่บ้านคนเถื่อน”
“เส้นทางเบื้องหลังของพวกมันอาจเหลือเพียงหมู่บ้านร้าง” องครักษ์โปคาดเดาต่อ
“แล้วเราจะปล่อยให้พวกมันไปทำลายหมู่บ้านนั้นหรือ” อาเม่ยถาม
ถึงจะเป็นหมู่บ้านคนเถื่อนที่ใช้ชีวิตเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงกับเมืองใด ทั้งสุ่มเสี่ยงอันตรายจากกลุ่มโจรอยู่ทุกวัน แต่หากต้องเผชิญกับอมนุษย์จากเมืองเหนือคู่นี้ ย่อมยากลำบากกว่าการรับมือกับกลุ่มโจรหลายเท่า
ทั้ง 3 คนหันมามองหน้ากัน แล้วตรงเข้าไปล้อมอมนุษย์ทั้งคู่
ร่างสูงใหญ่ก้มลงมองมนุษย์ที่มีความสูงไม่ถึงเข่าแล้วส่งเสียงหัวเราะดังก้องป่า ฟาดอาวุธหนาหนักในมือลงมาหา

แต่ทั้ง 3 คนต่างก็เป็นนักสู้ที่มีท่าร่างว่องไว
แม้องครักษ์ตงจะเป็นนักสู้ที่ใช้เวทย์เพลงเป็นอาวุธ แต่เมื่อต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ในระยะประชิดก็ใช้อาวุธได้ดี เช่นเดียวกับองครักษ์โปที่ใช้มีดสั้น
ส่วนอาเม่ยใช้ดาบยาวประจำกาย แต่การต่อสู้ของคู่นี้กลับกลายเป็นทำลายต้นไม้และก้อนหินในอยู่รอบๆ ที่อมนุษย์รื้อถอนขึ้นมาฟาดใส่อาเม่ยที่วิ่งหลบหลีกไปทั่ว
ท่ามกลางการต่อสู้ทำลาย อาเม่ยรู้สึกถึงไอร้อนจากส่วนกลางในอกที่ลุกลามไปทั่วร่างกาย แล้วกลายเป็นความเจ็บที่ดวงตาจนต้องกัดฟันผ่อนลมหายใจ
ฉับพลันกลับมองเห็นจุดอ่อนของอมนุษย์ที่กำลังต่อสู้กัน ความเคลื่อนไหวรอบตัวเชื่องช้ากว่าที่เป็นจริง อาเม่ยกระโดดขึ้นสุดตัวแล้วปักดาบลงไปที่ดวงตาของอมนุษย์
ร่างสูงใหญ่ส่งเสียงร้องดังก้อง อาเม่ยถอนดาบออกแล้วปักดาบลงที่ดวงตาอีกข้าง ร่างสูงใหญ่ล้มครืนลง อาเม่ยหันไปหาอมนุษย์อีกตน ที่ก้าวถอยกรูด แล้วเปลี่ยนเป็นวิ่งหนีเมื่ออาเม่ยไล่ตามแล้วกระโดดขึ้นเหนือหัวปักดาบลงกลางหัว ร่างสูงใหญ่ล้มครืนลง
อีก 2 คนยืนดูการต่อสู้อย่างตะลึงลาน
ควรทราบว่าอาเม่ยเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุด รูปร่างหน้าตาอ่อนหวานที่สุด มีนิสัยร่าเริงดั่งน้องน้อย การต่อสู้ที่ผ่านมามักบ่งบอกถึงความอ่อนด้อยและผิดพลาด แม้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ช่วงแรกก็ยังเป็นฝ่ายล่าถอยเป็นส่วนใหญ่ แต่จู่ๆ ก็กลับกลายเป็นโหดเหี้ยม ตรงเข้าปลิดชีพของอีกฝ่าย
องครักษ์ตงขมวดคิ้วแน่น นึกถึงครั้งแรกที่อาเม่ยแสดงเพลงดาบในการต่อสู้กับแม่ทัพเชมัลที่ค่ายทหาร ก็ดุดันผิดกับรูปร่างหน้าตาเช่นนี้
แต่นั่นเป็นเพลงดาบ ที่แสดงออกเพื่อรับการทดสอบ
ครานี้เป็นการมุ่งสังหารเพียงอย่างเดียว!

องครักษ์โปตรงเข้าไปหาอาเม่ย “เจ้าบาดเจ็บหรือไม่”
ชั่ววูบหนึ่งที่อาเม่ยหันมาหา ดวงตาสีแปลกคู่นั้นมีสีดำสนิทแล้วเปลี่ยนกลับมาเป็นเช่นเดิม
“เม่ย...”
องครักษ์โปกระพริบตา ไม่แน่ใจว่าการมองเห็นของตนผิดเพี้ยนไปหรือไม่
“ข้าไม่เป็นไร” แต่เมื่อหันไปมองอีก 2 คนที่มีท่าทีแปลกๆ อาเม่ยก็ต้องกล่าวย้ำ “ข้าไม่เป็นไรจริงๆ”
“เช่นนั้นก็เร่งไปกันต่อเถิด ข้างหน้าอาจมีพวกมันที่ตามมา” องครักษ์ตงกล่าวให้ทั้งหมดเร่งเท้าต่อไป

ระหว่างการเร่งรีบเดินทาง องครักษ์ตงยังเก็บข้อสงสัยเรื่องเพลงดาบดุดันนั้นไว้ในใจ ขณะที่องครักษ์โปยังคงไม่แน่ใจการมองเห็นของตนเอง
ผู้ใช้ไฟบางคนจะมีดวงตาเป็นสีแดงในยามต่อสู้ แต่อาเม่ยมีพลังเวทย์ที่หลากหลายการเป็นผู้มีดวงตาสีแปลกจึงไม่ได้ทำให้รู้สึกกังขา
แต่ดวงตาสีดำสนิทคือสัญลักษณ์ของผู้ใช้เวทย์ดำ!
แต่หากใช้เวทย์ดำทุกคนในค่ายทหารย่อมล่วงรู้
แม่ทัพเชมัลจะไม่เดินเข้าไปทักทายด้วยดี
องครักษ์รอมจะไม่ยินยอมให้เดินเข้าเมืองได้โดยง่าย
ต้องถูกองครักษ์ซันเผาทั้งเป็นตั้งแต่แรก
องรักษ์แซนต้องซัดเกลียวคลื่นโถมใส่ให้จมหาย
ไม่ต้องพูดถึงองครักษ์ฮูดา ที่จะต้องฝังคนผู้นี้จมสู่ห้วงลึกที่สุดของแผ่นดินในทันที

หรืออาเม่ยยังมีเวทย์อันใดอีก แต่ไม่ว่าจะเป็นเวทย์ใด หากมีดวงตาสีดำสนิท นั่นหมายถึงอันตราย
....อันตรายที่ต้องรีบเตือนผู้ร่วมทางอีกคนโดยเร็ว!..


ทั้ง 3 คนยังเร่งรีบเดินทางต่อโดยไม่แวะพัก จนถึงใกล้ค่ำ กลิ่นคาวเลือดปะทะจมูก องครักษ์ตงส่งสัญญาณให้อีก 2 คนหยุดเท้า แล้วกระโดดขึ้นบนยอดไม้สูงเพื่อมองไปยังที่หมายที่อยู่ห่างไกลออกไป
องครักษ์ตงเห็นลานดินกว้างและบ้านเรือนประมาณ 10 หลัง
กลางลานดินคือศพผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมากองไว้รวมกัน
องครักษ์ตงมองไปรอบๆ ไม่เห็นอมนุษย์อยู่อีก จึงลงมาจากต้นไม้ บอกเล่าสิ่งที่พบเห็นให้อีก 2 คนฟัง
“พวกมันส่วนหนึ่งอาจกลับไปที่เมืองเหนือหลังการทำลายหมู่บ้าน แต่เจ้า 2 ตนที่อาเม่ยสังหารอาจล่วงหน้าไปดูลาดเลา”
คำกล่าวขององครักษ์ตงคือการยกความชอบให้แก่อาเม่ย
แม้ผู้ได้รับการยกย่องจะไม่เห็นด้วย แต่ตัดสินใจที่จะเก็บคำโต้เถียงไว้ในยามที่กลับถึงด่านชายแดนเมืองวัน

องครักษ์โปถามขึ้น “พวกมันไม่ได้เผาทำลายบ้านเรือน แต่ฆ่าคน”
เมื่อองครักษ์ตงพยักหน้า องครักษ์โปก็เสนอความเห็น “พวกเราควรเดินทางเลี่ยงหมู่บ้าน”
อาเม่ยสงสัย “ที่หมู่บ้านอาจมีผู้รอดชีวิตที่รอความช่วยเหลือ”
องครักษ์โปส่ายหน้าพลางอธิบาย “การวางเพลิงคือสัญญาณบ่งบอกว่า ไม่เหลือผู้ใดแล้ว ที่ไม่วางเพลิงก็เพื่อหลอกล่อให้เราเข้าไป”
องครักษ์ตงกล่าวย้ำอีกครั้ง “ที่นั่นไม่เหลือคน มีแต่เพียงกับดัก”
เมื่ออาเม่ยยังแสดงท่าว่ามีคำถาม องครักษ์ตงจึงกล่าวเตือน
“พวกเรามีเวลาเพียง 7 วันก่อนที่เวทย์ของแม่ทัพต่อเจ้าจะคลายลง และเวลานี้เราก็เหลือเวลาอีกเพียง 1 วันเท่านั้น”

เวลาของทั้ง 3 คนใช้ไปกับการเดินทางตามขบวนของพ่อค้า จากนั้นก็คือการเดินป่า เมื่อคำนวณดูแล้วเหลือเวลาไม่มากนัก
อาเม่ยตัดสินใจ “เช่นนั้นก็เร่งเดินทางไปเมืองเหนือกันเถิด”
องครักษ์ตงนำทางเดินอ้อมหมู่บ้านที่ถูกทำลาย ตรงไปยังเมืองเหนือที่อยู่ห่างออกไป

..จบตอนที่ 13..

(http://image.free.in.th/v/2013/ip/150623022859.jpg) (http://picture.in.th/id/75a99f5015b8d3cf3d76d3f5f5c6d137)


ตกมาหน้า 4  :m15: มันช่างเศร้าใจยิ่งนัก
ไม่ชอบพระราชา ไม่ชอบพี่เช ผมเข้าใจนะฮะ แต่ผมไม่สามารถเร่งให้คนเขียนรวบรัดตัดตอนให้อาเม่ยมาเร็วขึ้นได้ ด้วยสาเหตุใด จะเฉลยนับจากนี้เป็นต้นไป
อยากคุยใจจะขาด แต่คุยท้ายเรื่องด้วยความไร้สาระทีไร กลับสร้างความหนักใจให้กับคุณผู้อ่านซะทุกครั้งไป นินทาพี่ไจฟ์ในนี้เยอะไป ก็จะทำเรื่องเสีย ดังนั้น ถ้าอยากคุยกัน ตามไปในเฟสนะฮะ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นเพื่อนกัน รบกวนส่งคำขอซ้ำนะฮะ
ย้ำ ** สงสัยไม่เข้าใจอะไรคุยกันนะฮะ **
น้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-06-2015 14:49:16
ลุ้นไปกับการเดินทางที่เหมือนจะมีอันตรายอยู่รอบด้าน

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 23-06-2015 15:23:32
 :katai5:
ความระแวงเริ่มมา
อาเม่ย ยังคงความลึกลับและซ่อนอีกหลายๆเรื่องไว้
ตามอ่านการคลายเกลียวอย่างไม่เร่งรัด

น้ำชานินทาคุณไจฟ์ ก็ได้นะเพราะอ่านเพลินเหมือนกัน :pigha2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 23-06-2015 15:32:35
อ่านตอนนี้แล้วสงสัยในที่มาที่ไปของอาเม่ยเหลือเกิน
ทำไมท่านแม่ทัพใช้คำว่าสอดแนมด้วยกัน "ครั้งแรก"
งั้นอาเม่ยของเราไปสอดแนมใครก่อนหน้านี้??
ทั้งสีตา พลังต่างๆที่เริ่มจะแสดงออกมาอย่างเต็มตัวก็เก่งเกินไป

หรือว่าเอาเม่ยถูกส่งมาสอดแนมท่านแม่ทัพแล้วเกิดมาหลงรักฝ่ายนี้เข้ากันนะ
รออ่านตอนหน้าต่อไปค่ะ :impress2:

ปล.แอดเฟซบุ๊คไปนะคะ อยากฟังคำนินทาพี่ไจฟ์ 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-06-2015 17:13:42
ความลับของอาเม่ยไม่แน่แม่ทัพอาจจะรู้    :L2: ให้ความเก่งที่เริ่มสำแดงฤทธ์ิของอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 23-06-2015 17:34:59
 :mew2:

รอ รอ รอ

รอตอนต่อไป
 o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-06-2015 17:51:28
อาเม่ยมีความลับอะไรซ่อนอยู่นะ!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-06-2015 17:55:26
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 23-06-2015 18:43:24
ตอนนี้เริ่มลุ้นอาเม่ยล่ะ
ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีดำได้ด้วย
โอ้ว้าว!!!
แวมไพร์โหมดต่อสู้นี่นา
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew1:

ปล. ยังเชียร์พี่นาซิมอยู่ตลอด
พี่นาซิมๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-06-2015 19:07:50
มาตามอ่านแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-06-2015 19:23:01
อาเม่ยเป็นใครมาจากไหน

พี่เชต้องช้ำใจอีกครั้งหรืออย่างไร
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-06-2015 19:43:42
อาเหม่ยคือคนที่อันตรายที่สุด

ถ้าดูจากอะไรหลายๆอย่าง

เช่นอาจเป็นได้ว่าอาเหม่ยอาจเป็นทั้ง ดิน น้ำ ลม และก็ ไฟ อิอิ

ก็เดาจากชื่อเรื่องอะนะ

เป็นนายเอกทั้งทีจะให้น่อมแน้มได้ไงจริงไหม ถึงตอนนี้อาเก้าบทจะเด่นกว่า(ซึ่งขัดใจบ้าง)

พึ่งเข้าใจตอนนี้เองว่าท่านแม่ทัพเชมัลเป็นห่วงคนอื่นเท่าเทียมกัน ซึ่งความเป็นห่วงคนอื่นนี้เองที่ทำให้คิดหลายครั้ง

ว่ารักและอาลัยอาวรอาเก้าอยู่(คิดตลอดนะถึงตอนนี้ก็คิดอยู่อาจเป็นได้ว่าอ่านไม่เข้าใจเองหรือเปล่า)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 23-06-2015 20:03:41
ท่านเชประชดใคร ตอนที่กล่าวว่า " ความรักของชายด้อยค่ากว่ารักของหญิงยิ่งนัก"

ท่านย่อมรู้ดีว่าความรักของท่านเป็นเช่นไร

เอ....ท่านดูถูกตัวเอง หรือว่า..........จริงๆแล้วท่านเป็นอย่างที่ท่านพูด

 :beat:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-06-2015 20:20:01
เดาเอานะ คิดว่า อาเม่ยมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเหนือ เป็นแน่แท้ อาจจะเป็นลูกครึ่งมีพ่อหรือแม่เป็นคนทางนั้น บางทีรู้ตัวเองว่ามีพลังนี้ เข้ามาเพื่อที่จะค้นหาความจริงบางอย่าง..... ยังไงก็ให้กำลังใจคนเขียนฮะ กอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-06-2015 20:42:54
ดวงตาของอาเม่ยต้องพิเศษแน่ๆ ใช้มองหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้และก็เปลี่ยนสีตามอารมณ์ของอาเม่ยรึเปล่า(เดาเอาล้วนๆ) :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-06-2015 22:30:18
น้องเม่ยโหดสุด หวังว่าจะควบคุมอำนาจที่มีไม่ให้ทำร้ายฝ่ายเดียวกัน
ปริศนาทั้งหลายก็ยังคงมืดมนต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 24-06-2015 00:00:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 24-06-2015 07:22:40
อาเหม่ยเตรียมปลดปล่อยบังไึค :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 24-06-2015 07:50:58
ดวงตาของเม่ยพิเศษใช่มั้ย ที่สีตาแปลกก็เพราะดวงตามีพลังพิเศษสินะ ยังมีอะไรซ่อนอยู่ในตัวของอาเม่ยอีกบ้างอยากรู้มากๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-06-2015 11:12:21
อาเม่ยยังเป็นบุคคลต้องสงสัยสำหรับเราเสมอ
แต่ก็ยังหวังลึก ๆ ว่าอ่าเม่ยคงไม่ใช่ตัวแม่ของทางฝ่ายศัตรูหลอกนะ

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-06-2015 11:13:32
ดับเครื่องชนซินะอาเม่ย ~~~เผ็ดจริงจริงเลยนะตัวแค่นี้ มันจะร้อนอะไรอย่างงั้น ตัวนิดเดียว อย่างกับพริกขี้หนู ปานนั้นเชียว ~~~ เห็นเพลงนี้แล้วเข้ากับเม่ยตอนนี้มาก :a9:
กำลังเข้มข้น +เป็ดเลยจ้า
ว่าแต่นินทาคนเขียนออกอากาศบ่อยๆ คนอ่านชอบน๊า   :m23:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 24-06-2015 11:23:49
โอ๋ โอ๋
น้องทีอย่าน้อยใจไป กอดๆๆๆๆ  :กอด1:
เรื่องนี้ตามพล็อตเค้าว่าก็สนุกดี มีปมให้ต้องติดตาม
เพียงแต่มันแหวกกว่าเรื่องเดิมๆที่เคยแต่งไง เค้าเลยแบบว่าเครียดตาม ลุ้นตาม
แต่ก็ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆนะ
ปล.คุยท้ายตอนก็สนุกดี เค้าชอบ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-06-2015 22:44:34
น้องน้ำชาอย่าคิดมากค่ะ
เรื่องนี้พล็อตแปลกใหม่ แถมยังแนวแฟนตาซี
ก็ต้องค่อยๆปรับกันไปทั้งคนเขียนและคนอ่าน
คนอ่านบางคนอาจจะไม่ชินกับแนวนี้ หรือบุคลิก นิสัยตัวละครแปลกๆแบบนี้อ่ะค่ะ ก็อาจจะมีขัดอกขัดใจกันไปบ้าง
เราก็ดำเนินเรื่องไปตามแบบที่วางไว้นั่นแหละ นี่เพิ่งจะเริ่มๆเรื่องเอง เหลืออีกตั้งหลายตอน เดี๋ยวอ่านๆไปคนอ่านก็จะเข้าใจเอง
สู้ๆนะคะ
-----------------------------------

ยิ่งอ่านไปๆ ยิ่งสงสัยในตัวตนและที่มาของอาเม่ยจัง ลึกลับซับซ้อนมากๆ
แต่ยังไงก็รักอยู่ดีนะ อาเม่ยคนช่างพูดช่างถาม น่ารักฝุดๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 26-06-2015 20:35:46
คิดถึงพี่เช
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 27-06-2015 19:51:45
เรากำลังจะได้เห็นพลังของอาเม่ยแล้วใช่ไหม?

แต่กำลังสงสัยว่าเมื่อก่อนท่านแม่ทัพเคยพบอาเม่ยในตอนใด
สถานะใด และที่ใด

รออ่านต่อค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 29-06-2015 21:28:49
อีกสองวันจะได้เจอกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-06-2015 22:15:34
รอๆๆ

อยากให้รู้ว่าฉันรอท่านแม่ทัพเชมัล กับ อาเหม่ย อยู่นะ

All of me เรื่องโปรดของฉัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่13หน้า13 (23มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 30-06-2015 14:24:27
ปูเสื่อรอ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 30-06-2015 14:41:16
ตอนที่ 14

องครักษ์ตง โป และอาเม่ยยังอยู่ห่างจากแนวเมืองเหนือในชั่วการเดินประมาณครึ่งวัน แต่ที่ทุ่งหญ้าลาดต่ำลงไปเบื้องหน้าเวลานี้ คือค่ายของมนุษย์ และอมนุษย์จำนวนมากกว่า 200 คน
ค่ายนี้อยู่ห่างจากถนนที่พ่อค้าจะใช้ในการเดินทางไปมาก ส่วนหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นหมู่บ้านโจรที่อยู่ห่างออกไปในช่วงการเดินครึ่งวัน
ทั้ง 3 คนซุ่มมองจากระยะไกลแล้วถอยห่างออกมา ก่อนที่จะถูกพบ

“ที่นี่อยู่ห่างจากเมืองวันเพียงชั่วการเดินเท้า 3 วัน และข้าเชื่อว่าหมู่บ้านโจรที่เราผ่านมาอาจเป็นสายของพวกมัน” องครักษ์ตงบอก
อาเม่ยคิดคำนวณ “จากที่นี่กลับไปเมืองวันอาจมีหมู่บ้านโจร ให้ความคุ้มครองอยู่เช่นกัน”
โปพยักหน้าช้าๆ ขณะที่ทั้ง 3 ต่างมองหน้ากัน
พวกเราตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู!
และแน่นอนว่าในเวลานี้ไม่สามารถเดินทางกลับไปที่เมืองวันได้
ทางเดียวที่ทำได้คือกลับไปที่เมืองบาสก์ แม้ว่ามันจะหมายถึงการนำภัยไปสู่เมืองบาสก์ก็ตาม!

หากการเดินทางกลับไปอย่างราบรื่นค่อยเดินทางอ้อมกลับไปเมืองวัน
แต่หากถูกขัดขวางก็เหลือเพียงทางเดียวคือต้องจัดการในลักษณะเดียวกันกับที่จัดการกับหมู่บ้านอื่นๆ
โชคร้ายที่การเดินทางกลับ ทั้ง 3 ต้องเผชิญหน้ากับโจรป่ารูปร่างสูงใหญ่ 5 คนที่ยืนขวางทาง
องครักษ์ตงยังไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ อาเม่ยก็เป็นฝ่ายตวัดดาบในมือฟาดฟันใส่กลุ่มโจรก่อน
เพลงดาบที่ดุดันชัดเจน
ขณะที่องครักษ์ตง กับ โป แยกรับมือกับโจรป่าอีก 2 คน
เมื่อหันมาอีกครั้งคืออาเม่ยยืนรออยู่ท่ามกลางชิ้นส่วนศพของโจรป่าที่กระจัดกระจายอยู่แทบเท้า แล้วเร่งนำกลับไปที่หมู่บ้านโจรป่า
“เราต้องจัดการกับพวกมันให้เป็นเช่นเดียวกับที่พวกอมนุษย์ทำกับหมู่บ้านอื่น”
อีก 2 คนอ้าปากจะพูดแต่ก็กลับทำได้เพียงแค่มองหน้ากัน
ยิ่งต่อสู้อาเม่ยก็ยิ่งลงมือโหดเหี้ยมมากขึ้นเรื่อยๆ

อาเม่ยเร่งเท้านำไปได้ระยะหนึ่ง องครักษ์โปก็กลับขึ้นแซงแล้วซัดมีดไปยังต้นไม้ใหญ่ทางขวามือ
ร่างหนึ่งร่วงหล่นมา ทำให้อาเม่ยหยุดเท้า หันมากล่าวขอบคุณองครักษ์โป
“ข้าไม่รู้สึกเลยว่าถูกจับตาอยู่”

องครักษ์โปเพียงพยักหน้ารับคำขอบคุณ แล้วขึ้นนำจนกระทั่งมาหยุดอยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่มากนัก กลุ่มหมู่บ้านเล็กๆ นอกจากบ้านเรือนยังมีเรือนหลังใหญ่ที่คาดเดาได้ว่าคือคลังอาวุธ กลุ่มชายและหญิงกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ที่กลางหมู่บ้าน
องครักษ์โปซัดมีดสั้นใส่กลุ่มคนที่กลางหมู่บ้านล้มลงก่อน จากนั้นบุกเข้าบ้านหลังที่อยู่ใกล้ที่สุด

ส่วนเวทย์ขององครักษ์ตงคือเพลงสังหาร แต่ถึงจะใช้ดาบยาวก็ยังได้ผลดีไม่ต่างกัน

แม้หมู่บ้านโจรจะมีคนไม่มากนัก แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธ เล่ห์เหลี่ยม และ บางคนยังสามารถใช้เวทย์ดำ
เมื่อเผชิญกับชายรูปร่างผอมสูง บดบังใบหน้าด้วยหมึกสีดำเข้ม องครักษ์ตงก็เปล่งเสียงเพลงสังหาร โจรร้ายที่พุ่งเข้ามาหากลับถูกพลังดีดกลับจนกระแทกฝาผนังแล้วร่วงลง
เมื่อออกมาเห็นบ้านหลังที่อยู่ด้านนอกถูกจุดไฟเผา
เปลวไฟลุกลามจากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง อีกครู่หนึ่งไฟอาจลามถึงคลังอาวุธ องครักษ์ตงจึงถอยออกมาด้านนอก
ด้านหนึ่งองครักษ์โปกำลังจัดการกับคนที่กำลังวิ่งหนีออกไปจากหมู่บ้าน องครักษ์ตงจึงเข้าไปช่วยจัดการ เมื่อโจรร้ายหมดลมหายใจลงไปกองอยู่กับพื้นก็เห็นอาเม่ยวิ่งมาหา ทั้งร้องบอก
“ไฟถึงคลังอาวุธแล้ว!”
อีก 2 คนรีบวิ่งนำออกจากหมู่บ้าน เสียงระเบิดดังก้อง แรงระเบิดผลักทั้ง 3 คนกระเด็นไปข้างหน้าอีกไกล

อาเม่ยพลิกตัวขึ้นนอนหงาย แต่ยังไม่ยอมลุกขึ้นนั่ง ผิดกับองครักษ์ตงที่รีบลุกขึ้นแล้วหันไปเร่งอีก 2 คน
“เร็วเถิด อย่ามัวแต่นอนอยู่”
“ผู้ใดอยากนอนกัน” อาเม่ยลุกขึ้นนั่ง มือซ้ายแตะที่ซี่โครงที่รู้สึกเจ็บร้าว
องครักษ์โปลุกขึ้นแล้วหันมามองอีกคนที่ยังนั่งอยู่
“เสียงระเบิดจะเรียกคนในละแวกใกล้เคียงมา ไปกันเถิด”
คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มพยักหน้ากัดฟัน แล้วลุกขึ้น เร่งเท้าตามอีก 2 คน
องครักษ์ตงคำนวณเส้นทางจากดวงอาทิตย์ ใช้อีกเส้นทางเพื่อกลับไปเมืองวัน ไม่หยุดพักแม้ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็ยังใช้พระจันทร์ และแสงดาวนำทาง
อาเม่ยทั้งเหน็ดเหนื่อย ทั้งรู้สึกเจ็บซี่โครงจนแทบหายใจไม่ออก แต่เข้าใจได้ว่า ที่องครักษ์ตงไม่ยอมหยุดพักด้วยเหตุใด 
แต่การเดินทางกลางคืนในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ต้องหยุดเท้าลงในที่สุด
“ราวเที่ยงพรุ่งนี้ เราอาจถึงเมืองวัน”
เมื่อหยุดเท้า อาเม่ยก็ต้องทิ้งตัวลงนอน องครักษ์โปก้าวเข้ามาหา
“หากหยุดตอนนี้ เจ้าอาจไม่มีแรงก้าวต่อไป”
“ครู่เดียว ขอเวลา เพียง ครู่เดียว เท่านั้น” อาเม่ยกล่าวอย่างยากลำบาก แล้วหลับตาลง
ทั้งองครักษ์ตงและโปคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ต่างแน่ใจว่าอาเม่ยบาดเจ็บแต่ไม่มีเวทย์ในการรักษาตนเอง
“ขึ้นหลังข้าไหม” องครักษ์ตงอาสา
แต่อาเม่ยส่ายหน้า เพียงครู่เดียวก็ลืมตาขึ้น
“นี่เป็นเวลาที่เราอยากมีเวทย์ในการรักษาตนเองมากที่สุด”
“มันเป็นเวทย์ที่ใครๆ ก็อยากมีทั้งนั้น” องครักษ์โปบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“นิดหน่อย” อาเม่ยบอก “แต่เจ้าต้องให้ข้าพักทุก 2 ชั่วยาม”
องครักษ์ตงพยักหน้าทั้งที่ยังเป็นกังวล อาเม่ยจึงพูดต่อ
“พวกเราต้องรีบสูญหายไปก่อนที่พวกเมืองเหนือจะรู้ตัว”

“ขออภัยที่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าบาดเจ็บ”
องครักษ์ตงกล่าวทั้งที่มีคำถามในใจเพิ่มขึ้น
ผู้บาดเจ็บย่อมมีลมหายใจผิดปกติ
อาเม่ยมีฝีเท้าเชื่องช้าลง แต่โดยทั่วไปต้องนับว่าไม่ได้ผิดไปจากตอนที่เริ่มต้นออกเดินทางเลยสักนิด
ขณะที่ทั้งตนเองและโปกลับมีท่าทีเหน็ดเหนื่อยจากการเร่งรีบเดินทาง
ทั้ง 3 มองหน้ากันแล้วเร่งเท้าเดินทางต่อไป
ชั่วระยะหนึ่งจึงได้ยินเสียงน้ำ
เรี่ยวแรงที่ใกล้เหือดหายพลันกลับมาใหม่
เพราะสายน้ำเล็กๆ คือสัญลักษณ์ของเมืองวัน
องครักษ์ตงหันมาหาอีก 2 คนพยักหน้าแล้วกลับหยุดยืนนิ่ง
องครักษ์โปและอาเม่ยเตรียมพร้อมอาวุธในมือ
องครักษ์ตงกล่าวเบาๆ “พวกเราต่างเหน็ดเหนื่อย หากเพลี่ยงพล้ำจะกลายเป็นการนำภัยร้ายไปสู่เมืองวัน”
อาเม่ยขยับจะกล่าวคำพูดแต่องครักษ์ตงหันมาสั่ง
“เจ้าต้องกลับไปแจ้งข่าว”
...และไม่ว่าเจ้าจะมีความผิดปกติใด แม่ทัพเชมัลจะรักษาเจ้าได้...
“ไม่” อาเม่ยบอก “เรามากัน 3 คนก็ต้องกลับไปทั้ง 3 คน”
เสียงฝีเท้าม้าเคลื่อนเข้ามาใกล้
องครักษ์โปพยักหน้าเตือนให้ทั้งหมดแยกย้ายปีนป่ายขึ้นต้นไม้สูงคนละต้น

นี่เป็นช่วงเวลากลางดึก อากาศรอบตัวที่เย็นลงแล้วกลับอุ่นขึ้น
ม้าตัวนั้นมีสีแดงดั่งเปลวเพลิง ผู้ขับขี่เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีขาวซีด
ฝีเท้าม้าย่างเหยาะผ่านต้นไม้ใหญ่ตรงมาทางที่ทั้ง 3 คนต่างแยกย้ายกันอยู่
อาเม่ยรู้สึกใจเต้นแรง ฝ่ามือชื้นเหงื่อ
ทั้งที่ต้องการหันกลับไปมององครักษ์ตงกับโป แต่กลับไม่อาจละสายตาจากคนที่นั่งอยู่หลังม้าได้
ไม่ต้องสงสัยว่าคนที่ขี่ม้าเจตนาผ่านต้นไม้ทั้ง 3 ต้น เพราะเมื่อผ่านพ้นไปแล้วก็หันม้ากลับมา เงยหน้าขึ้นมามอง
อาเม่ยทิ้งตัวลงจากต้นไม้ ตามมาด้วย ตง และโป
ดวงตาของคนขี่ม้ามีสีดำสนิท ฉุดรั้งตัวตน และลมหายใจ!

เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งอาเม่ยกำลังก้าวเดินอย่างยากลำบากมุ่งหน้าสู่ประตูเมือง
ดาบในมือยังไม่เข้าฝัก ทั้งอาบชุ่มไปด้วยเลือด
เส้นผมสีเงินระอยู่ข้างแก้ม
ไม่มีองครักษ์ตงนำหน้า ไม่มีองครักษ์โปเดินตามหลัง!
ยามนี้ใกล้เที่ยงวันแล้ว
เวลาตามที่องครักษ์ตงคาดการณ์ไว้ ว่าหากเดินทางโดยไม่หยุดพัก พวกเราจะกลับมาถึงเมืองวันทันเวลา
แต่เวลานี้ทั้ง 2 คนกลับหายไป
เช่นเดียวกันความทรงจำของอาเม่ย
สิ่งเดียวที่จำได้คือดวงตาสีดำคู่นั้น!
และอาการเจ็บร้าวที่ดวงตา!
กับการที่ไม่สามารถหยุดเท้าของตนเองได้!
มองเห็นทหารยามที่ยืนอยู่เหนือประตูเมืองส่งสัญญาณบางอย่าง และประตูเมืองเปิดออก
คน 2 คนวิ่งนำออกมา
คนหนึ่งคือแม่ทัพเชมัล และอีกคนคือแม่ทัพนาซิม
เหน็ดเหนื่อยประหนึ่งร่างกายจะแตกร้าว แต่ 2 ขากลับยังก้าวเดินต่อไป
แม่ทัพเชมัลเร่งเท้าเข้ามาหา แล้วรับร่างกายอิดโรยที่ล้มลงในทันที!

รับรู้ได้ในทันทีที่อาเม่ยล้มลงในอ้อมแขน ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ แต่การไม่พากลับเข้าในกำแพงเมืองกลับอันตรายมากกว่า
แม่ทัพนาซิมเองก็รู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
เมื่อก้าวมาถึงหน้าประตู องครักษ์ฮูดาคือผู้ที่ชักเข้าขัดขวาง ไม่ให้แม่ทัพเชมัลอุ้มอาเม่ยผ่านเขตประตูเมือง
“ไม่ได้”
“ข้าต้องพาเสี่ยวเม่ยเข้าไป”
“ไม่ได้ เม่ยมีบางอย่างผิดปกติ” องครักษ์ฮูดาไม่ยอม สายตาที่จ้องมองคนที่แม่ทัพเชมัลอุ้มอยู่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวล
แม่ทัพเชมัลเสียงแข็งจนผิดปกติ “เจ้าคิดว่าข้าไร้ความสามารถถึงขนาดที่จะช่วยเสี่ยวเม่ยไม่ได้งั้นหรือ!”
องครักษ์ฮูดาลังเล แล้วเลี่ยงหลบไปด้านข้าง

นานมากแล้วที่แม่ทัพเชมัลไม่ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้
ใช่ว่าจะไม่เชื่อมั่นแม่ทัพเชมัล
แต่ยังมีอีกประการหนึ่งที่ยังต้องเป็นกังวล
นั่นคือเสนาบดีหลี่ที่ยังอยู่ที่เมืองหน้าด่านแห่งนี้!

ชายชราใบหน้าแหลม ดวงตาเรียวยาว จ้องมองแม่ทัพเชมัลที่อุ้มอาเม่ยเข้าไปในบ้านพักของแม่ทัพนาซิมอย่างรวดเร็ว แต่พอจะก้าวตามเข้าไป กลับถูกฮูดาองครักษ์อันดับ 4 เข้าขัดขวาง
“โปรดรอ”
“ทำไมข้าต้องรอ แม่ทัพอุ้มองครักษ์เม่ยเข้าไปในห้องนั่นมิใช่หรือ”
องครักษ์รอมพี่ใหญ่กล่าวเตือน “ท่านก็เห็นว่า ท่านแม่ทัพเพิ่งอุ้มเม่ยเข้าไป นอกด่านนั่น หรือจะที่นี่ล้วนมีแต่เรื่องราวแปลกประหลาด  หากให้ท่านติดตามเข้าไป แล้วเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับท่าน พวกเรามีอีก 10 ศีรษะก็ไม่พอให้พระราชาสั่งประหารดอก” พี่ใหญ่ของกลุ่มโน้มน้าวด้วยถ้อยคำอ่อนโยน “พวกเราก็อยากรู้เรื่องราวไม่ต่างกับท่านเช่นกัน”

แต่อาเม่ยที่อยู่ในห้องพักกลับสงบนิ่งไม่ต่างจากคนที่หลับลึก
แม่ทัพนาซิมออกมาเอาน้ำเข้าไปให้แม่ทัพเชมัลเช็ดหน้าให้เม่ย แต่ผ่านไปครู่หนึ่งฝ่ายน้องชายก็เงยหน้าบอกกับพี่ชาย
“ข้าอยากจับเขาอาบน้ำ ขัดถูคราบไคลเหล่านี้มากกว่า”
แม่ทัพนาซิมมองน้องชาย สลับกับอาเม่ย “อาเม่ย..มิได้...”
แม่ทัพเชมัลหันมามองพี่ชายเต็มตา “ท่านจับสิ่งผิดปกติมิได้หรือ”
“ได้” พี่ชายยอมรับ “แต่เพราะข้าก็เป็นอีกคนที่ถูกเวทย์นั้นทำร้าย ความรู้สึกของข้าเวลานี้อาจเป็นเรื่องหลอกลวง”
“เวทย์ดำนั่นทำลายความมั่นใจของท่านไปเสียสิ้น”
“เชมัล ข้าไม่เคยทำร้ายผู้ใดปางตายเช่นนั้น ยิ่งเป็นอาเก้าด้วยแล้ว ยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัสมาตลอด ข้าถามตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าทำร้ายเขาได้อย่างไร”
น้องชายพยักหน้าด้วยความเข้าใจ วานให้แม่ทัพนาซิมบอกองครักษ์ฮูดาให้เตรียมน้ำอาบ และแจ้งต่อเสนาบดีว่า อาเม่ยอ่อนเพลียมาก ขอเวลาสักวัน 2 วันทุกคนก็พร้อมที่จะออกไปทำตามคำสั่งของพระราชา
“แล้วผู้ใดจะดูแลอาเม่ย...”
“ข้าพอจะมีวิธี”
แต่เมื่อจะก้าวเดินออกไป พี่ชายก็หันกลับมาอีกครั้ง “เชมัล...ข้าเสียใจ”
“ข้าก็เสียใจ แต่พวกเราต้องก้าวไปข้างหน้า ข้าจะช่วยให้ท่านได้คนของท่านคืนมา แต่ท่านก็ต้องช่วยให้ข้าได้อยู่กับคนที่ข้ารักเช่นกัน”
แม่ทัพนาซิม ที่สูญความมั่นใจไปเสียสิ้นกลับยิ้มและพยักหน้าด้วยความมั่นใจ

 *-*จบตอนที่ 14*-*

 (http://www.mx7.com/i/e6c/km558o.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yrqtS38VvhiqdMVM)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 30-06-2015 15:17:41
ม่ายยยยยย อาเม่ยห้ามเป็นอะไรดิ
ไม่เอาๆๆๆ
แล้วองครักษ์ทั้งขบวนล่ะ หายหัวปายหนายยยยยยย
บวกและเป็ดลุ้นเกาะขอบจอรอถ่ายทอดตอนต่อไป
อยากรู้ๆๆๆๆ
 :z3:
รูปชุดดำเท่มว้ากกกก
 :mew3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-06-2015 15:17:51
ตงกับโปยังอยู่ดีไหม
โดนเวทย์ดำไปกี่คนแล้วนี่ จับมือใครดมไม่ได้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-06-2015 15:19:51
เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาอาเม่ยรึเปล่า :ruready แม่ทัพเชมัลจะช่วยอาเม่ยได้มั้ย  :mew6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 30-06-2015 15:36:04
อาเม่ยเป็นอะไรมากหรือเปล่า  :mew5: ตงกับโปไปไหน :katai1:

 :กอด1: :L2: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 30-06-2015 15:43:13
อาเหม่ยยยยยยยยยยยย :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2015 15:43:37
โดนอะไร!!!!! จะเป็นอะไรมากไหม!!!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-06-2015 16:20:36
ไอ้ที่ขี่ม้ามามันเป็นใคร!? แล้วตงกับโปหายไปไหน??
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 30-06-2015 16:57:37
เดี๋ยวนะ เกิดไรขึ้นเราโดนมนต์สะกดไปด้วยหรือ
ตงกับโปไปไหน อย่าเป็นอะไรเลยนะ แล้วที่อาเม่ยรอดเพราะเก่งหรือเป็นคนที่ถูกเลือก
โอ้ววววว.... คำถามมากมายเลยอ่ะ  :z3:
สรุปต้องบอกตัวเองห้ามเดา รอตอนต่อไปเท่านั้น

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 30-06-2015 16:58:18
อยากรู้จริงๆว่าชายคนนั้นคือใคร
แล้วองครักษ์ตงกับโปยังมีชีวิตอยู่มั้ยเนี่ย
หวังว่าท่านแม่ทัพจะช่วยอาเม่ยได้นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 30-06-2015 17:02:54
แอบสงสัยว่า อาเม่ยจะมีอีกจิตนึงอยู่ในร่างรึป่าว แบบ มี 2 จิตในร่างเดียว จิตนึงคืออาเม่ยตัวจิงที่อยุกับแม่ทัพเชมัล แต่อีกจิตคือมือสังหารโหดที่ถูกปลุกขึ้นมา... เดามั่วมากก รอติดตามต่อไปค่ะ
:pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 30-06-2015 17:47:56
รอลุ้นตอนต่อไปคะ :mew6:

 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-06-2015 17:52:43
เม่ยไม่ได้ฆ่าตงกับโปใช่มั๊ย??




ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 30-06-2015 18:56:20
เกินอะไรขึ้นกับองครักษ์ตงและโป เลือดที่ติดอยู่กับตัวเป็นของใคร คนที่ขี่ม้าเหรอ ขอแค่อาเมยอย่าศุนย์เสียความเป็นตัวตนไปก่อนนะ หลังดวงตาที่ปิดนั้น เปิดออกมาแล้วยังจะเป็นอาเม่ยคนเดิมอยู่ไหม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-06-2015 19:14:52
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-06-2015 19:48:00
คนคนนั้นเป็นใครหนอ

ถึงทำให้อาเหม่ยเป็นแบบนี้ไปได้

แล้วองค์รักษ์ตงกับโปหายไปไหน

ไม่ใช่ว่าอาเหม่ยถูกมนดำแล้วฆ่าตงกับโปหรอกนะ

ปล กด+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 30-06-2015 20:39:48
 ทำไมเม่ยถึงจำอะไรไม่ได้ โดนเวทย์ดำจากดวงตาสีดำสนิทของคนบนหลังม้าแล้วใช่มั้ยตื่นมาจะเป็นยังไงนะ (จำได้ว่าตอนที่แล้วตงบอกว่าดวงตาสีดำคือเวทย์ดำ เลยเดาเอาว่าน่าจะโดนจากคนนี้อ่ะ)

ตงกับโปหายไปไหน โดนใครทำร้าย แล้วทำไมเม่ยถึงหยุดเดินไม่ได้ทั้งๆที่เหนื่อยจนแทบจะไม่ไหว

อ่านตอนนี้แล้วลุ้นมากกลั้นหายใจเป็นพักๆเลย เกาะขอบรอตอนหน้านะ สู้ๆนะเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-06-2015 21:34:17
ตงกับโปต้องไม่เป็นอะไรนะ

เชมัลต้องช่วยเม่ยให้ได้นะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-07-2015 09:36:56
ตอนนี้อยากรู้ว่าในใจของอาเม่ยมีช่องโหว่เรื่องอะไรน๊อ ถึงได้โดนเวทย์นั้นครอบตัวเองได้
ส่วนโปกับตง ขอให้ปลอดภัยหรือแค่บาดเจ็บรอคนไปช่วยเหลือได้ทัน  :katai1:
มันคาใจๆๆๆ อยากให้ถึงพุธหน้าเร็วๆอยากอ่านตอนต่อไปแล้ววววว
 :pig4: MyTeaMeJive


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 01-07-2015 15:46:43
อาเหม่ยอย่าเป็นอะไรนะ
และหวังว่าองค์รักษ์โปและตง
จะไม่เป็นไรด้วยเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-07-2015 20:35:55
แวะมาบวกเป็ด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 02-07-2015 05:27:38
โอ๊ยๆๆๆๆๆ เป็นห่วงอาเม่ย เป็นห่วงตงกับโป
ฮือๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งมีใครเป็นอะไรไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 04-07-2015 00:12:51
ห่วงอาเม่ย ห่วงตง ห่วงอาโป

ไม่อยากคาดเดา :ling3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 05-07-2015 13:00:55
อาเม่ย หนูเป็นอะไรไปคะลูก
ขอให้ท่านแม่ทัพแก้มนต์ดำได้ด้วยเถิดดดดด
แต่ตงกะโปก็อย่าเป็นอะไรนะ
โอ๊ย รอลุ้น รอลุ้น  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-07-2015 15:00:20
มารออาเหม่ยผู้เร้นลับ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: botan botan ที่ 06-07-2015 15:28:04
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ เราไม่ค่อยได้เมนต์เท่าไหร่หาเวลาจับคอมยากมากกกก  แต่อยากจะบอกว่าเราชอบนิยายทุกเรื่องที่คนเขียนแต่งนะ มันดูละมุนดี 555 
ปล.  ขอยืมตัวน้องทีมาเล่นที่บ้านวันนึงเซ่....  อิอิ
:mew2:  :mew3:  :mew1:   
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 07-07-2015 00:06:01
 :call:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 07-07-2015 11:37:10
วันนี้พี่เชจะมามั้ยน้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 07-07-2015 12:00:14
หนูเม่ยของป้าาาา
มันเกิดอะไรขึ้นนนนน
คือจินตาการตามแล้วแบบ
คือเรื่องนี้มันแฟนตาซีจนเรากลัวใจเลย
ชอบค่ะ ตามติดๆ
#คิดถึงเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่14หน้า14 (30มิถุนา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-07-2015 19:07:56
จะมาเมื่อไร่หนอ

หรืออาเหม่ยโดนมนต์ดำไปไกลแล้ว
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-07-2015 05:48:51
ตอนที่ 15

เวลาผ่านข้ามวันไปอีกวัน อาเม่ยจึงรู้สึกตัวและลืมตาขึ้น
แสงอาทิตย์ลอดผ่านหน้าต่าง มีเสียงพูดคุยดังอยู่ด้านนอก แต่เงียบลงในทันทีที่คนในห้องขยับตัวลุกขึ้นนั่ง จากนั้นประตูก็เปิดออก
องครักษ์รอมพี่ใหญ่ก้าวเข้ามาในห้องเป็นคนแรก เมื่อเข้ามาก็ตรงเข้ามาจับข้อมือ แล้วแตะหน้าผาก
“หิวหรือไม่”
อาเม่ยพยักหน้า “ตงกับโปเป็นเช่นใดบ้าง”
องครักษ์รอมหันไปบอกทหารยามด้านนอกให้ไปแจ้งแม่ทัพ และบอกครัวให้เตรียมอาหาร จากนั้นจึงนั่งลงบนที่นอน
“มีแต่เจ้าที่กลับมา พวกเราส่งคนออกไปตามหาทั้ง 2 คนแต่ยังไม่มีความคืบหน้า”
เมื่อประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง แม่ทัพเชมัล และแม่ทัพนาซิม กับองครักษ์ฮูดาก้าวเข้ามา องครักษ์รอมพี่ใหญ่จึงลุกขึ้นยืน

“เจ้าตื่นแล้ว”
“พี่ใหญ่รอมบอกว่ามีเพียงข้าที่กลับมา” อาเม่ยหันมาถามทันที
แม่ทัพเชมัลนั่งลงแทนที่องครักษ์รอม “เจ้าควรพักผ่อนอีกสักนิด"
อาเม่ยหันมากอดแขนหนาไว้ ท่าทางเต็มไปด้วยความกังวล
“เสี่ยวเม่ย”
คนที่เพิ่งฟื้น พยายามทบทวนเรื่องราวต่างๆ แล้วเงยหน้าขึ้นบอกความจริง
“ข้า...จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เจ้าควรพักผ่อนอีกสักนิด”
อาเม่ยพูดช้าๆ “พวกเราไปถึงเมืองบาสก์ ถูกจับได้ว่ามีอาคม แต่เพราะไม่ได้มีเจตนาร้าย จึงถูกขับออกจากเมืองมาในตอนค่ำ เดินป่าไปทางเมืองเหนือ พบหมู่บ้านโจร และกลุ่มอสูร มีค่ายใหญ่ของเมืองเหนือเตรียมพร้อมอยู่ไม่ห่างจากที่นี่มากนัก”
“เสี่ยวเม่ย เรื่องนั้น...”
“พวกมันมีทั้งอสูร และอมนุษย์ จำนวนนับพัน” อาเม่ยเงยหน้าขึ้นมอง “พวกเรา สังหารอสูรกลุ่มหนึ่ง เผาหมู่บ้านโจรอีกแห่งหนึ่ง แล้วหนีกลับมา” คนตัวเล็กแตะที่เอว “ข้าบาดเจ็บทำให้การเดินทางล่าช้า แต่เพราะค่ายของพวกมันเตรียมพร้อมแล้ว ตงจึงให้เร่งเดินทางต่อมา จากนั้นในเวลากลางคืน พวกเราพบคนขี่ม้าสีแดง...แล้ว...ทุกอย่างมันก็หายไป”

แม่ทัพนาซิม หันไปมององครักษ์รอมกับฮูดาดั่งถามความเห็น
องครักษ์รอมเพียงพยักหน้าให้รับฟังคำกล่าวของอาเม่ย

“เจ้าเพิ่งฟื้น บางเรื่องอาจสับสน ต้องใช้เวลาเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำที่หายไป” มือใหญ่จับใบหน้าซีดเซียวไว้ “อย่าเร่งรัดบังคับตนเอง”
อาเม่ยพยักหน้า แต่ยังต้องการบอกความกังวลในใจ “พวกเมืองเหนือเตรียมพร้อมแล้ว พวกมันอาจตามมา”
“พวกเราก็เตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน” องครักษ์ฮูดากล่าว “ที่พวกเราให้เจ้า 3 คนออกไปก็เพราะเราต้องการความมั่นใจ”
“แต่ข้าทำให้ตงกับโปหายไป ดังนั้นข้าจะออกไปด้วย” อาเม่ยพูดพลางลุกขึ้น
องครักษ์รอมกับแม่ทัพนาซิมมีท่าทีคัดค้าน แต่แม่ทัพเชมัลพูดอย่างสุขุม “ข้าจะให้เจ้าไป หากเจ้าจะกินอาหารให้อิ่ม ฟื้นฟูกำลัง ไม่เป็นภาระต่อผู้อื่น”
“ท่านจะเดินทางเมื่อใด”
“พรุ่งนี้เช้า เจ้ายังพอมีเวลา”
แต่เมื่อแม่ทัพเชมัล กล่าวให้นอนพักต่อ อาเม่ยก็ปฏิเสธ “ข้าต้องรับผิดชอบที่ทิ้งพวกเขาไว้เช่นนั้น”
แม่ทัพเชมัลยังคงตามใจ หันไปเรียกทหารยามด้านนอกให้จัดเตรียมอาหาร
“แม่ทัพ” องครักษ์รอมทักท้วง
“พวกเราเอง ก็ต้องกินเหมือนกัน นั่งกินอาหารพร้อมกัน แล้วคุยกันดีกว่า” แม่ทัพหันมากล่าวกับอีกคน “เจ้าเองเมื่อกินอิ่มก็นอนพัก แล้วเมื่อตื่นค่อยซ้อมดาบกัน”

ตามที่องครักษ์ฮูดากล่าวไว้ แผนการต่างๆ ถูกวางไว้นานแล้ว และรอเพียงตำแหน่งที่แน่ชัดของฝ่ายศัตรูเท่านั้น การสนทนาในระหว่างมื้ออาหารจึงเป็นการทบทวนแผนการต่างๆ ให้อาเม่ยรับฟังอีกครั้ง
ตลอดเวลาองครักษ์ฮูดายังคงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจับตาทุกการเคลื่อนไหว และทุกคำพูดของอาเม่ย จนกระทั่งมื้ออาหารผ่านพ้นไป และทหารยามเก็บจานชามออกไปแล้ว อาเม่ยจึงหันมาหาองครักษ์ฮูดา
“มีวิธีทำให้ข้านึกอะไรออกบ้างไหม”
องครักษ์ฮูดายังไม่ละสายตาจากอาเม่ยเมื่อตอบคำถาม “เจ้าต้องออกไปอีกครั้ง”
“ถ้าออกไปจะจำได้จริงหรือ”
“อาจจะ” องครักษ์ฮูดาถอนหายใจ “แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย พวกเราต้องพาอีก 2 คนกลับมา แล้วแม่ทัพก็ยังต้องกำจัดแม่ทัพฝ่ายเหนือให้ได้ พวกเราไม่อาจอยู่สภาพที่ระแวงเจ้าตลอดเวลา”
ไม่อาจมีใครในแผ่นดินนี้ที่กล่าวคำอย่างตรงไปตรงมาได้เช่นเดียวกับองครักษ์ฮูดาอีกแล้ว
อาเม่ยมองมือตัวเอง “ก่อนที่จะออกไป เรา 3 คนต่างกล่าวคำสาบาน หากถูกเวทย์ดำให้อีก 2 คนสังหารก่อนเป็นภัยร้าย ข้าอยากขอร้อง....”
องครักษ์ฮูดาลุกขึ้นยืน “ข้าไม่รับคำสาบานนั้น” คนตาคมหันไปมองแม่ทัพเชมัล ดั่งกล่าวคำพูด ว่าเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้อาเม่ยถูกเวทย์ดำจริง แม่ทัพเชมัลก็จะไม่ยอมให้ใครลงมือกับอาเม่ยได้ “แต่หากเจ้าทำร้ายแม่ทัพเชมัล ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องหมดลมหายใจ”

องครักษ์รอมลุกขึ้นตาม “พักผ่อนเถิด พรุ่งนี้พวกเราทุกคนที่นี้ล้วนคือกำลังสำคัญ”
แม่ทัพนาซิมบอกกับน้องชาย “พวกเราอาจพบ 2 คนอยู่ในทัพของฝ่ายเหนือ แต่หากไม่อยู่ในที่นั้น เราก็ค่อยแบ่งคนออกติดตาม”

ทุกคนล้วนเข้าใจในเรื่องนี้โดยดี
แต่เมื่อแม่ทัพเชมัลจะลุกขึ้นบ้าง อาเม่ยกลับจับมือไว้ แม่ทัพนาซิมจึงกล่าวด้วยความเข้าใจ
“คืนนี้เหลือเพียงเตรียมอาวุธให้พร้อม เจ้าอยู่เป็นเพื่อนเม่ยก่อนเถิด”
แม่ทัพเชมัลมองคนที่ก้มหน้า
ยังมีความจริงบางอย่างที่อาเม่ยยังไม่ได้กล่าวออกมา
และความจริงข้อนั้นกำลังรบกวนจิตใจ
ในฐานะแม่ทัพ ไม่อาจปล่อยทหารที่มีสภาพจิตใจเช่นนี้ออกสู่สนามรบ
และในฐานะ.......ยิ่งไม่อาจ......
“อยากออกไปเดินเล่นหรืออยากพักอยู่ที่นี่”
เมื่อแม่ทัพเชมัลกล่าวคำ คนอื่นก็ล่าถอยออกไป ส่วนอาเม่ยนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า จากนั้นจึงกล่าวคำ
“ข้าถูกเวทย์ดำใช่หรือไม่”
“เรื่องนั้นไม่มีผู้ใดรู้ จนกว่าเจ้าจะแสดงมันออกมา”
อาเม่ยลุกขึ้นยืนแล้วเงยหน้ามองสบตา คนรูปร่างสูงใหญ่
“ข้าอาจฆ่าตงกับโป”
“พวกเขาอาจปกป้องเจ้า จากชายขี่ม้าสีแดงคนนั้น เพื่อให้เจ้ารอดกลับมา” อ้อมแขนใหญ่กอดคนรูปร่างผอมบางไว้ “สัญชาตญาณพาเจ้ากลับมาที่นี่”

.....การใช้หัวใจผูกพันอาเม่ยไว้ นำทางให้อาเม่ยกลับมาถึงที่นี่....

“มีอีกเรื่องที่...ข้าอยากบอกกับท่าน”
คนตัวเล็กสวมกอดเอวหนาไว้
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าเป็นเช่นนี้” 
แม่ทัพเชมัลดันคางสวยให้เงยหน้าขึ้นสบตา
“ครั้งแรกคือ ในตอนที่เจ้าปรากฏตัวที่เมืองหลวง”
อาเม่ยยิ้มที่มุมปาก
“ท่านรู้...”
แม่ทัพเชมัลพยักหน้า “หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับเจ้าไม่ชัดเจน”
“แล้วเหตุใดท่านยังให้ข้าอยู่กับท่าน”
แม่ทัพเชมัลก้มลงจูบปากสวย “เพราะหัวใจของข้าบอกว่า หากข้าปล่อยเจ้าไป ข้าจะต้องเสียใจไปตลอดกาล”
อาเม่ยเบี่ยงหน้าหลบจูบทำให้ริมฝีปากหนากดจูบที่ข้างแก้ม “ข้าบอกกับท่านทุกเรื่องที่จำได้ เพียงแต่ความทรงจำบางอย่างมัน....”
มือใหญ่ช้อนใต้สะโพกยกอุ้มขึ้นพากลับมาในห้องนอน คนตัวเล็กเหลียวมองไปทางด้านหลัง คนที่อุ้มอยู่ก็กล่าวให้เล่าต่อ
“ท่านจะให้ข้านอนพักอีกแล้วหรือ”
“เจ้าเหน็ดเหนื่อยมามาก เล่าไปเรื่อยๆ ก็ได้”
“แต่ข้าอยากบอกกับท่าน ก่อนที่จะหลงลืมเรื่องใดไปอีก”
“เล่าสิ”
ริมฝีปากหนากล่าวคำแล้วก้มลงจูบไซ้ลำคอขาว มือใหญ่แทรกเข้าใต้สาบเสื้อ
“มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน และพ่อสั่งให้ข้ามาเมืองหลวง ข้าจะปลอดภัยหากเราอยู่ในค่ายทหาร”
ทั้งริมฝีปาก และมือซุกซนหยุดนิ่ง
แม่ทัพเชมัลมองสบตาสีแปลกนิ่งๆ แล้วพยักหน้า
“นั่นก็เพียงพอแล้ว”
“เพียงพอได้อย่างไร ข้าจำได้แค่เดินออกมาจากหมู่บ้าน รู้สึกตัวอีกที คือมองเห็นเมืองหลวงอยู่ข้างหน้าแล้ว แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ข้าอาจเป็นคนลงมือสังหารเพื่อน...”
“เจ้าจำไม่ได้ พวกเรายังไม่พบทั้ง 2 คน หากเจ้านำสิ่งนี้ติดตัวไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ เจ้าอาจเป็นอันตรายและพวกเราอาจไม่พบตงกับโปตลอดกาล”
อาเม่ยส่ายหน้า ดวงตาแดงก่ำ “ท่านปกป้องข้าไม่ได้หรอก”
“มีแต่ข้าที่ทำได้”
“ท่านแม่ทัพ” หยาดน้ำตาไหลเรื่อย “ข้าอาจทำร้ายท่าน”
“เจ้าทำร้ายข้าไม่ได้หรอก” มือใหญ่ช่วยเช็ดน้ำตาให้ “อย่าคิดวุ่นวายไป ในเวลานี้ ข้าขอให้เจ้าเพียงคิดทบทวนว่า จุดสุดท้ายที่เจ้าอยู่กับตงและโปคือที่ใด”
อาเม่ยคิดทบทวน “มันมืด...แต่ตงบอกว่า ข้างหน้าไม่ไกลมีแม่น้ำ”
“เราจะไปตามหาพวกเขา และตอบคำถามวุ่นวายในใจของเจ้าตกลงไหม”
อาเม่ยพยักหน้า แต่ยังคงดูครุ่นคิด แม่ทัพจึงกล่าวขึ้น
“ตอนที่ข้ายังเล็ก เวลาที่ข้าซุกซนวุ่นวายทำข้าวของเสียหายมาก พระราชาองค์ก่อนจะจับข้ามายืนตัวตรงแล้วบอกให้ข้าหายใจเข้าลึกๆ 3 ครั้ง”
อาเม่ยมองอีกฝ่ายแล้วคลี่ยิ้ม
“ยิ้มอันใด เจ้าต้องหายใจเข้าลึกๆ 3 ครั้งต่างหาก”
“ข้าคิดวุ่นวาย แต่ไม่ได้ซุกซน”
แม้คำพูดจะเริ่มผ่อนคลายแต่ดวงตายังเต็มไปด้วยความหมองหม่น
“หลับตา แล้วหายใจเข้าลึกๆ บอกกับตนเองว่า....เจ้าคือคนของข้าตลอดไป”
“ข้าไม่สมควรได้รับความเมตตาเช่นนี้”
“หลับตา ทำตามที่ข้าบอก”
อาเม่ยหลับตาลงตามที่อีกคนสั่ง มีรอยยิ้มจางๆ อยู่ที่ริมฝีปาก
แม่ทัพเชมัลใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยริมฝีปาก  แล้วจูบที่หน้าผากสวย
จู่ๆ อีกคนก็ลืมตาโพลง “ผู้ใดทำความสะอาดข้า”
“ย่อมเป็นข้าอยู่แล้ว” รอยยิ้มยั่วจากอีกคนทำให้คนตั้งคำถามใบหน้าร้อนผ่าว “เจ้าไม่ต่างอะไรจากคนไม่ได้อาบน้ำมาทั้งเดือน ข้าทั้งล้าง ทั้งขัดตัวเจ้า...”
“พอแล้ว!” อีกคนร้องขึ้น แล้วซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง “ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้ได้อีกแล้ว”
อาเม่ยยอมพ่ายแพ้ต่อทุกสิ่ง “ทำไมไม่มีเรื่องดีๆ บ้างเลยนะ”
“การที่เจ้ากลับมาคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว” ดวงตาสีเข้มจ้องมองคนที่เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีแปลกยังคงแดงเรื่อ “ขอเพียงเจ้ากลับมา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนคลี่คลายได้”
อาเม่ยพยักหน้า แล้วเอียงใบหน้ารับจูบ
ริมฝีปากหนากดจูบเนิบช้า มือใหญ่ปลดเสื้อตัวใหญ่สัมผัสแผ่นหลังบาง เสียงครางแผ่วเบาเมื่อริมฝีปากกดจูบที่ต้นคอ นิ้วมือเล็กกดแน่นที่ต้นแขนใหญ่เมื่อไล้ลิ้นที่ใต้ใบหู
...ร่างกายนี้อ่อนหวาน และอ่อนไหวยิ่งนัก...

“เสี่ยวเม่ย....” คนตัวโตละจูบแนบหน้าผากต่อหน้าผาก ลมหายใจร้อนผ่าว ยากที่จะหยุดยั้งตนเอง “พรุ่งนี้เรามีสงคราม”
อาเม่ยกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เข้าใจความหมายของแม่ทัพ ขยับตัวลุกขึ้น หันไปมองหาเสื้อที่ถูกแม่ทัพถอดอยู่กับพื้น แต่มือใหญ่กลับจับเอวบางเข้ามาหา ริมฝีปากหนาจูบที่ปลายอกบาง
อาเม่ยหายใจหอบ สอดนิ้วมือแทรกผมนุ่มของแม่ทัพ
“ทรมาน....ยิ่งนัก...”
มือใหญ่รั้งขอบกางเกงของอีกคนลง
“ไม่..ไม่ได้..”
แต่อีกคนกลับถอดกางเกงออก แล้วจับให้นอนลง
“พรุ่งนี้...พวกเรา...”
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนพักไว้ก่อนได้ทั้งสิ้น เมื่อคนๆ นี้แสดงให้เห็นด้านที่อ่อนหวาน
“ยังพอมีเวลา...เสี่ยวเม่ย...”
ริมฝีปากหนาจูบอีกครั้งเมื่อกล่าวคำจบ มือใหญ่ลูบไล้ที่อกบางสะกิดส่วนปลาย แล้วเลื่อนลงหาส่วนกลาง มือเล็กรีบคว้าข้อมือไว้
“ข้า....”
อีกคนหันมาจูบปากแล้ว เลื่อนตัวลงมาจูบที่หน้าท้อง
“อย่า..”
อีกฝ่ายพยายามดันไหล่ คนที่ก้มลงแตะปลายลิ้นที่ส่วนปลาย แล้วกลายเป็นจิกปลายนิ้วไว้แน่น เสียงครางกระชั้น
นิ้วมือใหญ่เลื่อนกระชับก้นกลมไล้ปลายนิ้วที่รอยแยก แล้วยกสะโพกบางขึ้น 
อาเม่ยแอ่นกายตาม ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนใดๆ จนกระทั่งความต้องการถึงขีดสุด กลั่นน้ำสีขาวหยดจากส่วนปลาย หอบหายใจแรง
“ท่านแม่ทัพ...”
คนตัวใหญ่ขยับกายขึ้นคร่อม ปัดไรผมที่หน้าผากและข้างแก้ม
อาเม่ยแตะที่สายรัดเอวของอีกฝ่าย แต่มือใหญ่จับข้อมือไว้
“รอให้พวกเรากลับมาก่อนก็ได้” ขยับผ้าห่มให้อีกคน แล้วลงนอนข้างๆ ม้วนกอดอีกคนไว้ “เสี่ยวเม่ยของข้า”
แขนบางๆ กอดตอบ “ท่านพี่....”

....ที่ผ่านมาไม่เคยนึกกังวลถึงความหลงลืมห้วงเวลาในการเดินทางมาเมืองหลวง เพราะไม่เคยคิดว่ามันคือเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกับการหลงลืม เรื่องราวหลายอย่างในชีวิต หากไม่ได้ใส่ใจ
แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
เพื่อน 2 คนสูญหายไป เหลือเราเพียงคนเดียวที่กลับมา
อาจกลับมาด้วยสัญชาตญาณ อาจด้วยคำกล่าวย้ำของแม่ทัพ และอาจด้วยคำกล่าวของตงกับโปก็ยังคงย้ำเรื่องนี้หลายครั้งเช่นกัน
ในเมื่อจดจำคำพูดเหล่านั้น จดจำม้าสีแดงตัวนั้นกับคนในชุดดำได้ เหตุใดกลับจำเรื่องราวหลังจากนั้นไม่ได้
เกิดเรื่องใดขึ้น!!...

ริมฝีปากหนาจูบที่หน้าผากชื้นเหงื่อ “อยู่ข้างๆ ข้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
“ท่านพี่...เสี่ยวเม่ย...รักท่าน..”
อ้อมแขนใหญ่กระชับแน่นขึ้น
“ข้ารักเจ้าเสี่ยวเม่ย”
....ข้ารักเจ้า รักโดยไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น รู้แต่รักและจะไม่มีวันเสียใจที่ได้รัก ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ขอเพียงมีเจ้าอยู่เคียงข้าง ข้าพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น...
“หลับเสีย เสี่ยวเม่ยของข้า เจ้าต้องพักผ่อนให้มาก”

...จบตอนที่15...

(http://i.imgur.com/7VVNCmr.jpg)

 :m21:
มาอีกทีพุธที่ 15 กรกฎนะฮะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 08-07-2015 06:32:55
คิดว่าหนึ่งในสองคงตายแล้ว เม่ยกังวลใจเหรอเวทย์ดำถึงได้ครอบงำ แต่อีกใจนี่คิดว่า เม่ยมีความเกี่ยวข้องกับเวทย์ดำอยู่บ้าง เพราะไม่ใช่ครั้งแรก จะแสดงออกมาต่อเมื่อเจอกับ ความหวาดกลัวที่อยู่ในใจ รอติดตามดีกว่า เริ่มเดาอีกแล้ว. อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 08-07-2015 07:28:22
 :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 08-07-2015 07:39:40
คนในชุดดำอาจเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านของเสี่ยวเม่ยทำให้ต้องมาเมืองหลวง และเสี่ยวเม่ยมีเวทดำแต่ถูกผนึกไว้จากท่านพ่อก่อนมาเมืองหลวงรึป่าว เดากันอีกยาวๆ ลุ้นต่ออาทิตย์หน้าจ้าา
 :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 08-07-2015 07:43:24
ดูเหมือนท่านแม่ทัพจะรู้อะไรเยอะแยะนะ
แล้วก็เลือกที่จะใช้ความรักความผูกพันเป็นบ่วงรั้งสติอาเม่ยไว้บ้าง
แต่โอ๊ยยย อิท่านแม่ทัพนี่กว่าจะคายอะไรบอกออกมาได้แต่ละคำ
พี่นี่ลุ้นจะตายอยู่แล้วค่าาา :serius2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-07-2015 08:26:50
เกราะกำบังต่ออำนาจต่างๆอาจแลกมากับการหลงลืมชั่วครู่ของเม่ยหรือเปล่า

ได้แต่หวังว่าสองคนนั้นจะยังปลอดภัย  :ling3:

แรงผลักดันของรัก จะช่วยให้อาเม่ยรอดพ้นเหตุการณ์ร้ายๆ ข้างหน้าอีกแน่ๆ (เดาแต่คงไม่ใช่)

ตอนนี้มอบ  o13 ให้พี่เช

 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-07-2015 08:39:08
ตอนนี้พี่เชกับเสี่ยวเม่ยของเราก็หวานกันเบาๆก่อนจะเจอศึกหนัก :katai2-1:  อาเม่ยอาจจะเกี่ยวข้องกับเชื้อพระวงศ์ของเมืองเหนือรึเปล่า ด้วยความที่มีสีผม สีตา ที่แปลกกว่าคนอื่นเลยถูกส่งมาเพื่อล่อลวงพี่เชโดยเฉพาะ  ตัวจริงอาเม่ยอาจจะไม่ได้ร้ายคิดยังไงก็พูออย่างนั้นแต่ในเวลาคับขันจวนตัวจิตสำนึกเลยสั่งให้แสดงด้านมืดใช้เวทย์ดำออกมา :z2: (เดาเอาล้วนๆเลย ไม่รู้เดาจนออกทะเล ออกแม่น้ำไปรึยัง) :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 08-07-2015 09:13:19
หวานกันเบาๆๆ รอลุ้นตอนต่อไป :mew2:

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 08-07-2015 09:49:00
หวังว่าตงกับโปจะยังปลอดภัย
อ่านมาถึงตอนนี้รักพี่เชขึ้นมาเลย ปลอบใจอาเม่ยเก่งจริงๆนะ

ความรักที่เม่ยมีต่อพี่เชทำให้เม่ยเกิดช่องว่างในใจและโดนเวทย์ดำ และความรักอีกนั่นแหละที่ผูกพันให้เม่ยกลับมา ชอบประเด็นนี้นะ

รอตอนหน้าจ้า

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 08-07-2015 10:00:24
ดูเหมือนท่านแม่ทัพจะรู้อะไรเยอะแยะนะ
แล้วก็เลือกที่จะใช้ความรักความผูกพันเป็นบ่วงรั้งสติอาเม่ยไว้บ้าง
แต่โอ๊ยยย อิท่านแม่ทัพนี่กว่าจะคายอะไรบอกออกมาได้แต่ละคำ
พี่นี่ลุ้นจะตายอยู่แล้วค่าาา :serius2:

ไลค์ด้วยบวกและเป็ดให้เม้นต์นี้  555

ท่านพี่รอได้
 :hao7:
โอ้ ท่านพี่ช่างกล้าหาญชาญชัย (ในการหักห้ามใจตนเองยิ่งนัก)
สององครักษ์จะเป็นไงหนอ
ดูรูปตอนท้ายมิได้แหละ
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :hao5:
ปล.15 เชียว
เหมือนจะน๊าน นานแต่ก็รอ

edit: ดูได้แล้ว ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-07-2015 10:25:35
ขออย่าให้อาเม่ยเป็นคนฆ่าเพื่อนเลยน่ะ  :mew2:
อาเม่ยแปลก ๆ ชักจะกลัวแล้วว่าอาเม่ยจะทำร้ายท่านแม่ทัพในซักวัน
เพราะดูจากกำลังที่มีเวลาที่ต่อสู้แล้วเริ่มกลัว ๆ แล้วสิ
แต่ก็ยังไม่เคยเห็นฝีมือท่านแม่ทัพเลยหวังว่าจะต่านกันไหวนะ
รอคอยตอนหน้าเพราะอยากอ่านตอนเปิดศึก

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 08-07-2015 15:31:29
จริงๆก็แอบคิดนะ
เม่ยมีความมืดในใจให้มนต์ดำครอบงำได้
ทั้งเรื่องปมที่ชอบคิดว่าคนอื่นรักเก้ามากกว่าก็ด้วย
เม่ยอาจไม่ได้ใสอย่างที่เราคิดมาตลอด
ม่ายยยย อาเม่ยของเค้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-07-2015 17:24:51
 :z3:

สะกดจิตบอกตัวเองว่าไม่ค้างคา ไม่ค้างคา ไม่ค้างคา
อ๊ากกกกก!

อะไรทำให้เชมัลรักเม่ยขนาดนี้นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-07-2015 17:26:47
ทายาทเวทย์ดำหรือเปล่า มีสองบุคลิก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-07-2015 17:29:37
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-07-2015 18:40:06
รอตอนต่อไป หวังว่าอาเม่ยคงไม่ได้ฆ่าตงกับโปนะ!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-07-2015 19:25:22
ในที่สุดก็มา

ขอตัวไปอ่านก่อน

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 08-07-2015 19:34:16
ขอให้ตงกับโปปลอดภัย  อย่าเป็นอะไรมากเลยนะ
ส่วนอาเม่ยยิ่งเป็นปริศนามากขึ้น  ว่าทำไมถึงกลับมาได้ แล้วทำไมถึงจำอะไรไม่ได้
การสู้กับฝ่ายเหนือก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ดูทุกอย่างคลุมเครือไปหมด
แต่นะ ถึงจะยังดูวุ่นวายสับสน แต่ขอกรี๊ดดัง ๆ หนึ่งที แบบว่าเค้าบอกรักกันแล้วอ่ะ
แถมอาเม่ยยังเรียกเชมัลว่าท่านพี่ด้วย  แล้วดูเชมัลเหมือนจะรักอาเม่ยมากเลยนะ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ก็ยังเชื่อมั่นในเค้าสองคนนะ #ทีมเชมัลอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-07-2015 20:32:59
ยิ่งอ่านยิ่งกลัวใจอาเหม่ย

กลัวว่าสักวันจะทำร้ายท่านแม่ทัพ

หวังว่าอาเหม่ยจะเข้มแข็ง

และไม่ยอมถูกมนต์ดำครอบงำนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-07-2015 22:14:10
เบื้องลึกเบื้องหลังของอาเม่ยก็ยังอึมครึมต่อไป
หวั่นใจต่อเรื่องที่จะเกิดขึ้น

ปล. คำเรียก "ท่านพี่" ทำเอาใจสั่น หวานไป๊
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 08-07-2015 23:23:22
โอ๊ยยยยยย ตอนนี้แอบมีฉากหวานๆปนสยิวเล็กๆ
เพิ่งรู้สึกว่าพี่เชน่ารักก็วันนี้แหละ

รอลุ้นๆ ว่าตงกับโปเป็นยังไงบ้าง
ขอให้ปลอดภัยกลับมาทั้งคู่เลยนะ เพี้ยงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 09-07-2015 01:09:44
ตาม :katai5:
อาเม่ยใจแตกแล้วนะน้อง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 11-07-2015 19:52:49
ทุกทีเป็นท่านแม่ทัพ คราวนี้เป็นท่านพี่ ^^
รอความคลี่คลายค่ะ


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 14-07-2015 10:14:24
มารอเม่ยเม่ยกับพี่เช พรุ่งนี้ก็วันพุธแล้ว :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 14-07-2015 10:39:00
บีบคั้นหัวใจจริงๆ
ตงกะโปขอให้รอดเถอะ อาเม่ยจะได้ไมารู้สึกผิดมากกว่านี้  :hao5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่15หน้า15 (8กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 14-07-2015 11:02:41
ลุ้นมากกกๆๆๆ อยากให้ถึงพรุ่งนี้ไวๆจัง อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 14-07-2015 14:12:49
ตอนที่ 16

การจัดทัพของแม่ทัพเชมัล ยังคงเน้นรูปแบบที่มีจำนวนนักรบและทหารเพียงหยิบมืออยู่เช่นเดิม
แต่ที่แตกต่างไปจากเดิม และต่างจากผู้อื่นก็คือองครักษ์ฮูดา ที่นอกจากอาวุธดาบเล่มบางแล้ว ยังมีห่อผ้าสัมภาระกระชับแนบลำตัว ดูแปลกตาจนอาเม่ยยังต้องมองซ้ำอยู่หลายครั้งจนถูกดุว่าให้มีสมาธิกับภารกิจ

อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้คือผู้ใช้เวทย์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญอาวุธจำนวน 100 คน มีแม่ทัพเชมัล กับแม่ทัพนาซิมเป็นผู้นำกลุ่มใหญ่ 2 กลุ่มที่ยังแบ่งเป็นกลุ่มย่อยอีก 5 กลุ่ม
เมื่อทั้งหมดทยอยควบม้าออกจากกำแพงเมืองไปเป็นระยะทางหนึ่ง ต่างก็ลงจากหลังม้า ปล่อยให้ฝูงม้ากลับเข้าไปในเมือง จากนั้นก็แยกกลุ่มเพื่อเดินเท้าต่อไปยังค่ายทหารของฝ่ายเมืองเหนือที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กันชน
ผู้ช่วยของแม่ทัพนาซิม ล่วงหน้าไปก่อนเพื่อสังหารหน่วยยามที่เฝ้าสังเกตการณ์ จากนั้นให้สัญญาณแยกย้ายตามที่วางแผนไว้
เมื่อไม่มียาม แม้จะมีอสูรและผู้มีเวทย์ดำอยู่ในกลุ่ม แต่การรับรู้เรื่องราวต่างๆ ก็จะช้าลง ดังนั้นเมื่อผู้ที่พักอยู่รอบนอกค่ายเห็นฝ่ายเมืองวันที่ลอบเข้ามา ยังไม่ทันจะได้ร้องเตือนคนอื่น ก็ถูกจัดการเสียแล้ว

แม่ทัพนาซิมมุ่งตรงไปที่ตัวนายกอง ส่วนแม่ทัพเชมัลตรงเข้าหาผู้นำของกลุ่มอสูรร้าย โดยมีอาเม่ยติดตามอยู่ไม่ห่าง
ทั้งพลังเวทย์และพลังดาบที่เข้าปะทะอย่างรุนแรง บีบคั้นให้ยิ่งต้องลงมืออย่างเด็ดขาด
แต่การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเหมือนในครั้งแรกที่เมืองเหนือส่งทัพไปหยั่งเชิงที่กำแพงเมือง แม้จะสังหารฝ่ายตรงข้ามไปได้หลายคน
เวลาสู้รบผ่านไปอึดใจ เหลือเพียงผู้ที่มีฝีมือเข้มแข็งที่ยังยืนอยู่
 
องครักษ์ฮูดาสังเกตเห็นว่าอาเม่ยเหลียวมองไปรอบตัว คล้ายกำลังตามหาบางสิ่งบางอย่าง
“หาสิ่งใด ไว้ก่อน เจ้าสูญเสียสมาธิอาจพลาดพลั้งได้”
อาเม่ยหันมาพยักหน้า แต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด จากนั้นหันไปเข้าหาคู่ต่อสู้ จนเมื่อคู่ต่อสู้ล้มลงด้วยปลายดาบ ก็มองรอบตัวอีกครา เห็นแม่ทัพนาซิมกำลังต่อสู้กับคนผู้หนึ่งใบหน้าดุร้าย ส่วนแม่ทัพเชมัลฟันอสูรอีกตนหนึ่งล้มลง
“ที่นี่ไม่มีคนชุดดำบนม้าสีแดง” อาเม่ยบอกกับองครักษ์ฮูดา
คนรูปร่างสูงโปร่งพยักหน้าด้วยความเข้าใจ หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับใคร ก็ย่อมต้องค้างคาใจเช่นกัน
“พวกเราสำรวจดูในที่นี่ เผื่อจะมีเบาะแสของตงกับโป”

จากที่เมื่อเดินเข้าสู่สนามรบ อาเม่ยอยู่เคียงข้างแม่ทัพเชมัล
เมื่อการสู้รบคลี่คลาย อาเม่ยก็กลับเดินเคียงข้างองครักษ์ฮูดา
องครักษ์รอมที่เฝ้าจับตาดูอยู่ไม่ห่าง มองเห็นความเหมือนกันในข้อนี้ ระหว่างแม่ทัพนาซิมกับอาเม่ย
หากถูกทำร้ายด้วยเวทย์ดำ ความมั่นใจในตนเองก็จะสูญเสียตามไปด้วย

แม่ทัพนาซิม และแม่ทัพเชมัล ยังคงสู้กับศัตรู แต่อาเม่ยเดินตามองครักษ์รอมกับองครักษ์ฮูดาไปทั่วค่ายที่ถูกทำลายลง
“เผาเลยไหม” อาเม่ยถามองครักษ์รอม
พี่ใหญ่ของกลุ่มองครักษ์ไม่เห็นด้วย “จะอย่างไรนกปีศาจที่เคยไปเฝ้ามองพวกเรา อาจไปรายงานที่ประตูเมืองหน้าด่านของพวกมันแล้ว ไม่จำต้องเผาที่นี่เพื่อเร่งให้พวกมันมาเร็วขึ้นดอก”
อาเม่ยพยักหน้ารับความเห็น
องครักษ์ฮูดาท้วงถาม “ทำไมเจ้าถึงคิดว่าควรเผาที่นี่”
อาเม่ยส่ายหน้า "ตอนที่เข้าป่ากับตงและโปพวกเราก็เผาหมู่บ้าน จึงคิดว่าสมควรเผาเช่นกัน" เมื่อเห็นว่าแม่ทัพเชมัลที่เพิ่งฟาดศัตรูล้มลงกำลังเดินมาหา ก็กล่าวต่อ “ข้าต้องไปตามหาตงกับโป”
องครักษ์ฮูดารีบท้วง “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปตามลำพัง”
“เสี่ยวเม่ยย่อมไม่ได้ไปตามลำพัง”
แม่ทัพเชมัลบอกขณะที่เข้ามาใกล้ อาเม่ยเลิกสงสัยไปนานแล้วว่า แม่ทัพเชมัลได้ยินคำสนทนาของทั้ง 3 คนได้อย่างไร
“เจ้า 2 คนอยู่ช่วยแม่ทัพนาซิมจัดการเรื่องทางนี้ก่อน พวกเราจะรีบกลับมา”
หากเมื่อแม่ทัพนาซิมทราบเรื่องกลับบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล  เนื่องด้วยมีผู้ช่วยที่เป็นผู้ใช้เวทย์อยูู่หลายคนซึ่งมีพลังกล้าแข็งมากพอที่จะยับยั้งนกดำที่จะไปแจ้งข่าวที่ประตูเมืองหน้าด่าน ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งฝ่ายเหนือจึงจะปะติดปะต่อเรื่องราวและติดตามมาแก้แค้น
“เมื่อถึงเวลานั้น ข้ายังพอจะมีเวลาสำหรับการเจรจาและโยนความผิดให้มัน ที่รุกล้ำพื้นที่กันชน” แม่ทัพนาซิมให้กำลังใจน้องชาย “พวกเจ้าเร่งกลับมา หากต้องเผชิญหน้ากับพวกมันในระหว่างทาง ก็ขอให้จัดการอย่างเด็ดขาด ด้วยข้ออ้างเดียวกัน”

แม่ทัพเชมัลหันมาทางอาเม่ย “เราควรจะเริ่มจากที่ใกล้แม่น้ำ”
เมื่อพบแม่น้ำทั้งหมดยังต้องเดินตามทางน้ำต่อไป เพราะไม่แน่ชัดว่าอาเม่ยข้ามแม่น้ำตรงจุดใด แต่ในเบื้องต้นนี้ ต่างตกลงใจกันว่าจะตรงไปหาหมู่บ้านโจร ที่อาเม่ยกับตงและโป ช่วยกันวางเพลิงเป็นจุดแรก
ทั้ง 4 คนยังคงก้าวเดินตรงไปข้างหน้า ดวงตาคอยมองหา หูคอยฟังเสียง
จนกระทั่งใกล้จะตกดิน จู่ๆ อาเม่ยก็หยุดเท้า คว้าข้อมือของแม่ทัพเชมัลไว้ แล้วหันไปมองรอบตัว แล้วชี้ไปที่อีกด้านของแม่น้ำ
เมื่อก้าวขึ้นอีกฝั่ง แม่ทัพเชมัลก็บอกให้หยุดพักกันสักครู่
“ข้าอยากไปต่อ” อาเม่ยบอก
แม่ทัพเชมัลดึงเข้ามากอดลูบหลัง “พักกินอาหาร และหารือกัน แล้วจะเร่งเดินทางต่อทันที”
คนตัวเล็กในกลุ่มหันไปมององครักษ์ฮูดาที่แกะห่อผ้า หยิบอาหารแห้งส่งให้กับแม่ทัพ
นี่ไม่ได้อยู่ในแผนการที่ตกลงกันไว้
ทั้งตลอดเวลาที่นั่งลงกินอาหาร แม่ทัพ และเหล่าองครักษ์จะไม่ได้กล่าวคำอะไร แต่อาเม่ยยังคงร้อนใจจนไม่รู้รสอาหาร

...ทั้งไฟ และลมที่อยู่ภายในมวลกายต่างเร่งพลัง โหมแรงกันและกันจนการควบคุมตนทำได้ยากยิ่ง!...

ขณะที่อาเม่ยกำลังพยายามควบคุมตนเองอยู่นั้น แม่ทัพเชมัลก็ทิ้งเศษอาหารที่เหลืออยู่ในห่อ และเทน้ำทิ้งลงบนพื้นดิน อาเม่ยได้ยินเสียงกรีดร้อง และเสียงกระพือปีกของสัตว์ปีกขนาดใหญ่จากที่ด้านหลังต้นไม้ เมื่อลุกขึ้นมอง เสียงกระพือปีกก็กลับห่างไกลออกไป

...ทั้งไฟ และลมที่อยู่ภายในมวลกายกลับสงบนิ่ง...

หันมาอีกทีทั้ง 3 ก็ลุกขึ้นแล้ว
"ขอบคุณ" อาเม่ยกล่าวเบาๆ ไม่จำต้องถามแล้วว่า แม่ทัพเชมัลล่วงรู้ได้อย่างไร
มือใหญ่ลูบผมสีเงิน กับรอยยิ้มอ่อนโยน พาจิตใจของอาเม่ยพุ่งตรงกลับไปถึงสถานที่ที่อยู่ร่วมกับองครักษ์ตงและโปเป็นจุดสุดท้าย

สิ่งที่ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกกับคนอื่น ก็คือนับตั้งแต่การหยุดอยู่ที่อีกฝั่งของแม่น้ำ มาจนถึงบัดนี้ล้วนเป็นการคาดเดาทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ไม่มีแม้แต่ตำแหน่งของหมู่บ้าน
มีแต่เพียงเส้นทางไปยังเมืองบาสก์เท่านั้นที่อยู่ในความทรงจำ
ได้แต่ฝากความหวังไว้กับแม่ทัพเชมัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในการเดินทางผ่านป่าแห่งนี้
 
....บางทีแม่ทัพอาจรู้ว่าอยู่ที่ใด...

จากบ่ายคล้อยจนใกล้ค่ำ
ถัดจากต้นไม้ใหญ่ด้านหน้า คือ ลานหญ้าที่มีขนาดเพียงพอให้ปลูกบ้านสักหนึ่งหลัง ถัดออกไปจึงเป็นพุ่มไม้ และแนวของต้นไม้ใหญ่
จู่ๆ แม่ทัพเชมัลก็หยุดอยู่ที่แนวต้นใหญ่ ยกมือให้อีก 3 คนหยุดยืน แต่ตนเองกลับก้าวออกไปยืนอยู่ที่ลานหญ้า
ลักษณะท่าทางคือการหยุดรอ
เมื่ออาเม่ยหันมามององครักษ์รอมกับฮูดา ทั้งคู่ก็จับดาบเตรียมพร้อม
แต่เพียงอาเม่ยที่กำลังพยายามรวบรวมสมาธิที่กระจัดกระจายวุ่นวาย เพราะความไม่แน่ใจเรื่องเส้นทาง หากเมื่อทำไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ถึงความผิดปกติที่ทำให้ทั้ง 3 คนเตรียมพร้อม ก็ยิ่งตื่นตระหนกกว่าเดิม
เป็นตื่นตระหนกที่เกิดจากการที่ต้องสูญเสียความสามารถใช้เวทย์เพื่อระวังภัยไปอย่างสิ้นเชิง!

...ต้องมีเหตุร้ายสิ แม่ทัพเชมัล รอม และ ฮูดาจึงเตรียมพร้อมเช่นนี้ แต่เหตุใดข้าไม่รู้สึกถึงเหตุร้าย! เกิดอันใดขึ้นกับข้า! พลังดาบข้ายังอยู่ เวทย์ไฟข้าก็ยังใช้ได้อยู่เมื่อครู่ แต่ตอนนี้ข้าระวังภัยตนเองไม่ได้ นี่มันเกิดอันใดขึ้น!..

ความมืดเริ่มเข้าปกคลุม อากาศรอบตัวกลับร้อนอบอ้าว ม้าสีแดงดุจเปลวเพลิงก้าวย่างช้าๆ ออกมาจากต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงข้าม
ผู้ที่อยู่บนหลังม้าสวมชุดสีดำ กับดวงตาสีดำที่น่าหวาดกลัว  ดั่งสามารถกลืนกินวิญญาณและลมหายใจของผู้ที่จ้องมอง

แม่ทัพเชมัลสลายพลังเวทย์ดำที่กดทับมากขึ้นทุกย่างก้าวที่ม้าสีแดงตัวนั้นก้าวเข้ามาใกล้ แต่คนบนหลังม้ากลับควบคุมให้ม้าหยุดนิ่ง ที่แนวต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงข้าม
เสียงแหบแห้งพ้นจากริมฝีปากฝ่ายตรงข้าม ได้ยินชัดเจน
“เชมัล”
“เฮยอั้น”
“ไม่เจอกันนาน”
“เจ้ากลายเป็นผู้ใช้เวทย์ดำโดยสมบูรณ์”
ผู้ที่อยู่บนหลังม้าส่ายหน้าช้าๆ อย่างคนที่มั่นใจว่าตนเองเหนือกว่า “นั่นคือสิ่งที่ข้าเหนือกว่าเจ้าไง เพราะข้ามีความกล้าที่จะเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่ข้ามี แต่เจ้าไม่กล้า...”
แม่ทัพเชมัลไม่สนใจถ้อยคำดูหมิ่นแหบแห้งนั้น   
“ข้าเพียงต้องการให้เจ้าคืนคนของข้า”
ผู้ที่อยู่บนหลังม้าส่งเสียงฝืนหัวเราะ นิ้วมือผอมแห้งดั่งโครงกระดูกชี้ไปทางด้านหลังของแม่ทัพเชมัล “ถามคนสำคัญของเจ้า....”

แม้คำกล่าวนี้จะไม่เต็มประโยค แต่แม่ทัพเชมัล องครักษ์รอม และฮูดาต่างก็เข้าใจความหมายนั้นเป็นอย่างดี
แม่ทัพเชมัลกำดาบแน่น “ลงมาจากหลังม้า!”
แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มแย้มกล่าวอย่างเปิดเผย ขณะที่ชักดาบจากฝัก “เจ้าก็รู้ว่า พลังของข้าจะสมบูรณ์ที่สุดเมื่ออยู่บนหลังม้า และข้าก็รู้ดีว่าพลังของเจ้าจะลดทอนลงไปเมื่อเจ้าอยู่ในความโกรธ”

แม่ทัพเชมัลวาดดาบออกในแนวขวาง ม้าสีแดงที่ดูน่าเกรงขามกลับก้าวเท้าถอยหลัง สะบัดคอ จนเฮยอั้นต้องดึงสายบังคับให้หยุดนิ่ง แต่กลายเป็นทำให้ม้าพ้นออกมาจากแนวของต้นไม้ใหญ่อยู่ 2 ก้าว

แม่ทัพเชมัลกระโดดเข้าหาคนที่อยู่หลังม้า พลังเวทย์และพลังดาบที่ปะทะกันดังก้อง เปลวไฟแผ่ขยาย ม้าสีแดงพลันยกตัวขึ้นดีดคนบนหลังม้าตกลงมา
พลังเวทย์ปะทะต้นไม้ใหญ่ด้านหลังล้มครืน

เฮยอั้นฝืนกล่าวคำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ต่อให้เจ้าฆ่าข้าได้ เจ้าก็ไม่อาจสลายเวทย์ของข้าได้โดยง่าย”
“แต่ในลำดับแรกคือข้าต้องฆ่าเจ้าก่อน”
แม่ทัพเชมัลกล่าว ขณะที่เตรียมพร้อมใช้เวทย์อีกครั้ง

ที่ผ่านมาเฮยอั้น นักรบคนสำคัญของฝ่ายเหนือ คือผู้ใช้เวทย์ดำอันดับ 1 ของเมือง ที่เคลื่อนไหวเป็นอิสระ และนานหลายปีแล้วที่จุดประสงค์เดียวของเฮยอั้นคือ การเอาชนะ 3 พี่น้องของเมืองวัน โดยเฉพาะแม่ทัพเชมัล!

เมื่อครั้งยังเยาว์วัย เฮยอั้นเคยพบเจอกับเชมัลที่เขตนอกด่านแห่งนี้แต่ก็พ่ายแพ้ให้อย่างสิ้นเชิง ต่อมาแม้จะฝึกฝนเวทย์ดำจนถูกเวทย์กลืนกิน ก็ยังไม่อาจฝ่ากำแพงเมืองที่ถูกปกป้องด้วยพลังเวทย์แน่นหนานั่นเข้าไปได้
แม่ทัพนาซิมกับพรรคพวกออกมาลาดตระเวณที่ด้านนอกด่านเป็นระยะ ตอกย้ำว่าพลังเวทย์ของพวกเขากล้าแข็งอย่างยิ่ง ที่ทำได้คือการส่งนกปีศาจเข้าไปในเมืองเพื่อวางยา แต่นกนั่นก็กลับสลายร่างไปจนไม่อาจรู้ได้ว่าทำงานสำเร็จหรือไม่

ที่รู้คือเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เวทย์จากเมืองวันเพียงหยิบมือ ขยี้เหล่าอสูร และนักรบแนวหน้าของเมืองเหนือจนแหลกลาญ!!!
พื้นที่นี้เป็นเขตกันชน ตามข้อตกลงปราศจากทหาร
ความสูญเสียนี้ไม่อาจกล่าวโทษเมืองวันได้เลย!

“เจ้าไม่อยากรู้หรือไงว่าอีก 2 คนเป็นอย่างไร”
“เรื่องนั้นข้าจัดการเองได้” แม่ทัพเชมัลบอกพลางวาดดาบ กระโดดเข้าหาอีกครั้ง
พลังเวทย์รุนแรงจนแผ่นสะเทือน เปลวไฟจากปลายดาบ แผ่ปกคลุมทั้ง 2 คน
แต่เมื่อเปลวเพลิงสงบลง คือร่างของเฮยอั้นที่กำลังล้มลงแล้วระเบิดสลายไปกลายเป็นเพียงชิ้นเนื้อ
ความเสียหายรอบตัวมากเกินกว่าที่คาดคิด
แม่ทัพเชมัลหอบหายใจแล้วหันกลับมามอง
องครักษ์รอมและฮูดา เพิ่งได้สติหันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง!
 
ผิวกายสีขาวซีด แต่ดวงตากลับเป็นสีดำมืดมิด!
เสียงแหบพร่าร้องตะโกนผ่านริมฝีปากซีด ก่อนที่องครักษ์รอมและฮูดาจะลงมือ แม่ทัพเชมัลกระโดดเข้ากอดรวบ ต่อสู้โดยใช้มือเปล่า พลางร้องบอก
“ฮูดา! กำไล!”
องครักษ์ฮูดารีบหยิบกำไลโลหะ ออกจากห่อผ้าส่งให้
แม่ทัพเชมัลคว้าจับล็อคแขน แล้วสวมกำไลใส่ข้อมือขวา ริมฝีปากหนาร่ายเวทย์ กำไลนั้นกลับหดรัดพอดีกับข้อมือ ทั้งเพิ่มน้ำหนักจนอีกฝ่ายไม่สามารถแบกรับต้องทรุดตัวลงนั่ง ข้อมือถูกติดตรึงอยู่กับพื้น เสียงคำรามแหบแห้งยังผ่านพ้นลำคอ

“ขออภัยที่ลืมเรื่องกำไล” การพบเจอกับผู้ใช้เวทย์ที่กล้าแข็ง ทำให้สมองเลอะเลือน แม้จะวางแผนกันมาเป็นอย่างดี แต่องครักษ์ฮูดาก็กลับละเลยคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
แม้แต่องครักษ์รอมพี่ใหญ่ยังต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หากในระหว่างที่แม่ทัพเชมัลต่อสู้กับเฮยอั้น แล้วอาเม่ยที่อยู่เบื้องหลังเงื้อดาบสังหาร ทั้ง 2 คนก็คงสิ้นลมหายใจไปแล้ว

อาเม่ยที่ถูกตรึงอยู่กับพื้นด้วยกำไลข้อมือ ส่งเสียงคำราม อีกมือที่ไม่ได้สวมกำไลอาละวาดดึงทึ้งใบไม้ใบหน้า ดวงตาสีดำเข้มบดบังทุกความรู้สึกภายใน
“เฮยอั้นส่งพลังเวทย์โจมตีเม่ย ในลมหายใจสุดท้ายของมัน” แม่ทัพเชมัลบอก
องครักษ์ฮูดาตัดสินใจ“ข้ากับรอมจะไปหาตงกับโป” 
แม่ทัพเชมัลพยักหน้าคล้ายเห็นด้วยกับความคิดขององครักษ์ฮูดา แต่กลับสั่งให้อยู่กับอาเม่ย
“ทั้ง 2 คนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ข้ากับรอมต้องไปจัดการ”
องครักษ์ฮูดา มองอาเม่ยแล้วหันกลับไปมองแม่ทัพ “หมายความว่า....”
“กลับมาแล้วค่อยพูดคุยกัน” แม่ทัพบอกแล้วลุกขึ้นก้าวนำองครักษ์รอมไปทางที่เฮยอั้นปรากฏตัวขึ้น

จากนั้นไม่นาน ที่เบื้องหน้าขององครักษ์ฮูดาจึงมีสายลมอ่อน พัดพาใบไม้หมุนวนแล้วพุ่งขึ้นไปทางดวงจันทร์ แทนคำกล่าวอำลาขององค์รักษ์ลำดับ 6 และ 7 แห่งแม่ทัพเชมัล
คล้ายได้ยินคำกล่าวขอบคุณ และถ้อยคำสุภาพแบบองครักษ์ตง
ดั่งมองเห็นรอยยิ้มกว้างกับประกายมีดสั้นที่โปภูมิใจ
คนสูงโปร่งเช็ดน้ำตาที่รื้นขึ้นมา แล้วหันไปมองคนที่ยังอาละวาดใส่ใบไม้และเศษดินรอบตัว

“คนสำคัญของแม่ทัพเชมัล ถูกทำร้ายด้วยเวทย์ดำของเฮยอั้น พวกมันย่อมไม่ได้ต้องการแค่ให้เจ้าทำร้ายแค่ตงกับโปแน่ๆ”   


...จบตอนที่ 16 ...

(http://image.free.in.th/v/2013/ik/150714022950.jpg) (http://picture.in.th/id/e7bba00ead0e9710bb3b32369bae6e92)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 14-07-2015 14:51:02
หมายความว่าไง ตงกับโปตายแล้วเหรอ  :ling2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 14-07-2015 14:53:50
เงิบบบบ...
 :heaven
พูดไม่ออกตรงที่องครักษ์ตงกับโปสลายกลายเป็นสายลมอ่อนลอยวนพุ่งขึ้นไปหาดวงจันทร์นี่ล่ะ
บวกและเป็ดเซออกจากกระทู้
เปลี่ยนข้างเชียร์เฮยอั้น (ในร่างอาเม่ย) เว้ย!
 :fire:

ปล.ชอบรูปท้าย ส้วย สวย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 14-07-2015 15:02:02
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ตงกับโป T^T
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 14-07-2015 15:34:15
 :a5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 14-07-2015 15:39:39
 :monkeysad:   :monkeysad: ตงกับโป  ทำไมไม่เป็นอย่างคิดหวัง  :monkeysad:  :monkeysad:

ตอนนี้ที่หวังอีกอย่างคือ หวังว่าคงไม่ใช่อาเม่ยที่ฆ่าสองตนนั้น  :m15:  :m15:

ที่สำคัญตอนนี้คืออาเม่ย เป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอและเปาะบางที่สุดเลยโดนเวทย์ครอบไปแล้ว
หาทางแก้ให้อาเม่ยหายโดยด่วนด้วยพี่เช

โอยยย เม้นไม่ถูกต่อไม่เป็นอารมณ์เศร้าเกินบรรยาย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-07-2015 16:13:40
ตงกับโป :mew6:

รูปสวยแต่ทำไมดูแล้วซึม :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-07-2015 17:07:48
มาเร็วมากๆ

ไหนบอกจะมาพรุ้งนี้

แต่ก็ดีมากๆ จะได้อ่านซะที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-07-2015 17:32:59
ตงกับโปตายแล้วหรือเนี่ย :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-07-2015 18:02:47
ตายจริงด้วย...เศร้าๆ~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-07-2015 18:07:09
 :a5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 14-07-2015 18:54:36
ไจฟ์กะที โหดเสมอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-07-2015 19:41:32
บ๊ายบายตงกับโป




ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 14-07-2015 19:52:07
เร็วไปตามไม่ทัน สรุปคือตงโปตายแล้วหรอ เม่ยเป็นคนลงมือ? :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 14-07-2015 20:11:52
ก็ยังหวังว่า สายลมอ่อนนั่นคือ ความรู้สึกของฮูดาคนเดียว ตงและโปอาจจะยังมีชีวิตอยู่ (ทั้งที่เป็นไปไม่ได้)เม่ยคงรู้สึกผิดไปตลอดกาล มีพบต้องมีจากสินะ สัจธรรมของชีวิต สู้ต่อไปนะเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 14-07-2015 20:19:37
เความรู้สึกของอาเม่ยจะแย่ขนาดไหนนะตอนที่รู้ว่าตัวเองทำร้ายตงกับโป เป็นห่วงความรู้สึกจัง ยังคงหวังว่าสายลมนั่นจะเป็นแค่ความรู้สึกของฮูดา  อ่านถึงตอนนี้แล้วเศร้าเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-07-2015 20:28:59
ถ้าอาเม่ยรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป คงแทบทนไม่ได้
ลาก่อนตง ลาก่อนโป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 15-07-2015 10:27:04
ตงกับโป จากไปแล้วจริงๆ? ถ้าเม่ยรู้ว่าตัวเองเปนคนลงมือ คงจะเศร้ามากแน่ๆ ฮือออ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 15-07-2015 10:43:26
เฮ้ย!!!!!!
ตงกะโปตายแล้วจริงดิ อย่างนี้เสี่ยวเม่ยก็จะยิ่งรู้สึกผิดปะ
งื้อออ สงสารน้องอ่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 15-07-2015 23:37:07
ฮือออออออออออออออออ ตงกับโปอ่าาาาาาาาาาา
 :serius2: :serius2: :serius2: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 16-07-2015 10:47:43
ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นนิยายสีเทาแบบนี้จริงๆนะ
เม่ยต้องเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งให้มากขึ้น
อย่าปล่อยให้เกิดขึ้นอีก
สูญเสียเพื่อเรียนรู้นะเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 16-07-2015 14:37:04
 ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา   :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-07-2015 18:38:04
สะอึกสะอื้นแล้วเดินระทดระทวยออกไปจากกระทู้

สงสารตงกับโป สงสารอาเม่ย ถ้ารู้สติขึ้นมาต้องเสียใจมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-07-2015 20:52:47
ขอแสดงความเสียใจ

ตงกับโปด้วย

แล้วท่านแม่ทัพเชมัล

จะทำอย่างไรกับอาเหม่ยดี
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 18-07-2015 23:16:01
ฮือ...ขอโทษน๊า เราเพิ่งพิมพ์ไทยได้ เลยเพิ่งได้เมนท์

ไม่จริงใช่ไหมน้องน้ำชา ตงกับโปยังไม่ตายจริงๆใช่ไหม ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ  อย่าบอกนะว่า ความจริงมักจะเลวร้ายเสมอน่ะ

 :a5: :mew2: :mew2:


 :L2: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 20-07-2015 14:40:40
 :mew6: อ่านจบแล้วใจหายสงสารตงกับโปร และถ้าอาเม่ยมีสติรับรู้จะทรมานแค่ไหน :katai1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-07-2015 19:50:09
วันนี้วันจันทร์แล้ว อีกวันนึงก็จะได้เจอเม่ยแล้ว

นั่งนับวันรอเม่ยทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 21-07-2015 19:32:37
เข้ามาดัน :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 21-07-2015 20:36:19
รออยู่นะอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2015 20:44:31
วันนี้ไม่มา รอพรุ่งนี้ต่อ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-07-2015 06:03:11
ตอนที่ 17

แม่ทัพเชมัลและองครักษ์รอมพบร่างขององครักษ์ตงกับโปในพื้นที่ห่างจากจุดที่ต่อสู้กับเฮยอั้นไม่มากนัก จากสภาพศพที่พบ สามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าเสียชีวิตด้วยเหตุใด และทำให้ต้องเปลี่ยนความตั้งใจ จากที่ตั้งใจไว้ว่า จะนำร่างของทั้งคู่กลับเข้าเมือง มาเป็นการเผาร่างในที่นี้
องครักษ์รอมเตรียมกิ่งไม้แห้งเพื่อเป็นเชื้อไฟ ขณะที่แม่ทัพเก็บอาวุธของทั้ง 2 คนออกมา แล้วร่ายเวทย์ปลดปล่อยความผูกพัน ความกังวล และภาระหน้าที่ทั้งปวงของผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงจุดไฟ 
ไฟแห่งเวทย์ร้อนแรง แต่ไม่ลุกลามไปที่แห่งอื่น ทั้งจะไม่ดับลงจนกว่าร่างทั้ง 2 จะมอดไหม้
ร่างสูงใหญ่ทั้ง 2 คนทำความเคารพ ส่งวิญญาณของผู้กล้าหาญสู่สันติ
เสียงกิ่งไม้แตกหัก เปลวไฟพุ่งขึ้นสูงม้วนตัวกลับมาลงหา แล้วพุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง
สายลมอ่อนหมุนวนรอบกายทั้ง 2 คนแล้วผ่านไปทางด้านหลัง
รู้...ว่าสายลมนี้หมายถึง...ใคร..และกำลังจะไปอำลาผู้ใด
เปลวไฟร้อนแรงไม่นานนักก็เหลือเพียงเถ้าถ่าน องครักษ์รอมใช้ผืนผ้าบรรจุเศษเถ้าถ่านที่เหลือ เพื่อนำกลับไปเก็บไว้ในสุสานทหาร

เมื่อกลับมาถึง เห็นองครักษ์ฮูดานั่งอยู่บนขอนไม้ห่างรัศมีที่มือของอาเม่ยจะเอื้อมถึง สีหน้าดูก้ำกึ่งระหว่างความเสียใจ กับความไม่พอใจ แต่เมื่อคนตาคมเห็นว่าแม่ทัพเชมัลกลับมาก็ลุกขึ้นยืน
หากไม่ใช่ผู้ใช้เวทย์ ก็คงต้องเล่าความกันยืดยาว แต่สำหรับองค์รักษ์ฮูดาผู้อ่านดิน เรื่องราวกลับชัดแจ้งดั่งร่วมอยู่ในทุกเหตุการณ์
แม่ทัพเชมัลคุกเข่าลงข้างหนึ่งด้านหน้าของอาเม่ย คว้าจับข้อมือที่เงื้อเข้าหา
“เสี่ยวเม่ย จากที่เจ้าเป็นอยู่ในเวลานี้ข้าไม่อาจพาเจ้ากลับเข้าเมือง พวกเราต้องเดินทางไกล และข้าจะรักษาเจ้า ไม่ว่ามันจะใช้เวลานานเพียงใด” แม่ทัพหันมาหาองครักษ์รอม และฮูดา “ฝากแจ้งท่านพี่นาซิม ว่าข้าจำต้องตัดสินใจเช่นนี้ ทั้งหมดนี้มิใช่ความผิดของอาเม่ย และข้าไม่อาจพาเขากลับไปเพื่อให้รับโทษที่สังหารเพื่อนร่วมรบ ไม่อาจพาเขากลับเข้าเมืองเพื่อให้ทุกคนหวาดกลัวเขา ทั้งต้องไหว้วานพวกเจ้านำเถ้าถ่านของตงและโปกลับไปประกอบพิธีให้สมเกียรติ สุดท้ายคือบอกแซนว่า อีกเดือนหนึ่งให้ไปหาข้าที่เกาะมรกต”
ตั้งแต่ได้ยินแม่ทัพกล่าวคำว่าจะพาอาเม่ยไปรักษา ทั้ง 2 คนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด จนกระทั่งคำสั่งสุดท้ายที่บอกให้องครักษ์แซนลูกทะเลไปหาที่เกาะเล็ก ๆ กลางทะเลทั้งคู่จึงยิ้มได้ และขานรับคำสั่ง
แม่ทัพหันกลับไปหาอาเม่ยอีกครั้ง จับข้อมือด้านที่สวมกำไลรัดแน่น
กำไลนั้นกลับเบาดุจไร้น้ำหนัก
อาเม่ยส่งเสียงคำรามต่ำ ๆ ในลำคอ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองคนที่กล่าวย้ำคำ “พวกเราต้องเดินทางไกล”
“พวกเราไปส่งท่านอีกสักนิด” องครักษ์ฮูดากล่าว แต่แม่ทัพยกมือ
“รีบกลับเข้าเมืองเถิด พวกเราออกมานานแล้ว ท่านพี่จะเป็นกังวล”

หนทางข้างหน้ายาวไกล เพราะต้องเดินทางอ้อมเมืองไปตามรอยต่อระหว่างเมืองวัน กับเมืองบาสก์ แต่เมื่อถึงช่วงหนึ่ง ก็ต้องกลับเข้ามาในเขตเมืองวัน หลีกเลี่ยงการเข้าสู่เขตเมืองหลวง เพื่อที่จะหาทางออกไปทะเล ตรงไปให้ถึงเกาะเล็ก ๆ ห่างไกลแห่งนั้น
มีแต่ที่นั่นที่อาเม่ยจะปลอดภัยได้อย่างแท้จริง
 
ที่พระราชวังเมืองวัน พระราชาฟารัคกำลังใช้นิ้วมือนวดขมับตนเองช้า ๆ หลังจากที่ฟังเสนาบดีหลี่ผู้เป็นพระสัสสุระ (พ่อตา) เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เมืองหน้าด่าน
แม้เรื่องสำคัญคือการที่เมืองเหนือวางกำลังทหาร อสูร และยักษ์ไว้ในเขตพื้นที่ทึ่ควรเป็นเขตปลอดทหาร แต่เรื่องราวจากปากผู้เฒ่าส่วนใหญ่กลับเป็นเรื่องราวของพระอนุชาทั้ง 2 พระองค์

“แม่ทัพนาซิม สังหารนายกองเมืองเหนือที่ควบคุมกำลังทหารในเขตกันชนได้ก็จริง แต่ยังไม่ใช่แม่ทัพตามพระบรมราชโองการ จึงไม่ควรผ่อนปรนคืนคนให้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ พระองค์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า องครักษ์เก้าเป็นหนึ่งในผู้ใช้เวทย์ แล้วก็พาตนเองเข้าไปสู่สถานการณ์วุ่นวาย เขาเข้าไปพัวพันกับแม่ทัพนาซิม ทั้งที่ตนเองมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมา นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่จะละเว้นการลงโทษย่อมไม่ถูกต้อง"
"ส่วนเรื่องของแม่ทัพเชมัลกับองครักษ์เม่ย เรื่องราวไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดองครักษ์เม่ยที่ออกเดินทางไปพร้อมกับองครักษ์อีก 2 คน จึงกลับมาเพียงคนเดียว แล้วองครักษ์ตงและโปหายไปอย่างไร ต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่ แล้วองครักษ์เม่ยหนีเอาตัวรอดกลับมา การทอดทิ้งเพื่อนเช่นนี้ย่อมมีความผิด แล้วนี่แม่ทัพเชมัลที่นำกองทหารออกไปก็กลับพากันสูญหายไปด้วยกันอีก ความผิดนี้คือหนีทัพ ทั้งที่มีศึกอยู่ข้างหน้า"
"พระองค์ต้องลงโทษพวกเขา!”
พระราชาฟารัคพยักหน้า
...เรื่องราวเป็นเช่นนั้นจริง..
เสนาบดีหลี่กล่าวต่อ “บทลงโทษนั้นมีอยู่”
ดวงตาสีเข้มมองเสนาบดี ขณะที่ใช้ข้อมือกดขมับอยู่เช่นเดิม “ข้ารู้บทลงโทษนั้น”

พระราชาฟารัคกังวลที่จะต้องใช้บทลงโทษเหล่านั้นมานับตั้งแต่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับองครักษ์เก้า และสั่งลงโทษแม่ทัพนาซิมไปแล้ว แต่เมื่อถูกย้ำเตือนเช่นนี้ ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยง

เรือนหลังเล็กที่ตั้งอยู่ด้านในของพระราชวัง เคยเป็นที่อยู่ของเหล่าข้าหลวง แต่ถูกปิดร้างมานานหลายปีกระทั่งมีรับสั่งให้ซ่อมแซม จากนั้นผู้ที่เข้ามาพักคือองครักษ์เก้า
ผู้ที่มีรูปร่างผอมบางกับรอยยิ้มอ่อน และมักจะก้มหน้ารับฟังคำสั่งอยู่เสมอ เวลานี้กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่กับเด็กชายอีกคนอายุไม่ถึง 10 ปี โดยมีข้าหลวงพี่เลี้ยงอยู่ใกล้ๆ เมื่อเห็นพระราชาฟารัคเสด็จมาพร้อมกับราชองครักษ์บาดา ทั้งหมดก็ลุกขึ้นถวายการเคารพ
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าพระองค์ดีขึ้นมากแล้ว”
“แล้วเจ้าล่ะ” พระราชาหันไปถามเด็กชายตัวน้อย “คิดถึงบ้านหรือไม่”
เจ้าชายองค์น้อยแห่งแม่ทัพนาซิมอย่างมั่นใจ “คิดถึงขอรับ แต่ท่านพ่อบอกไว้ว่าเมื่อเสร็จเรื่องจะมารับ”
“เจ้าเข้มแข็งไม่ต่างจากพ่อของเจ้า” พระราชาจับศีรษะเล็ก ๆ บุตรชายของแม่ทัพนาซิมผู้นี้เสียมารดาไปตั้งแต่เล็ก จึงถอดนิสัยของผู้เป็นบิดามาทั้งหมด “ใกล้เที่ยงวันแล้ว ไปกินอาหารและพักผ่อนเถิด”
เมื่อองค์ชายน้อยถวายความเคารพพระราชาแล้วล่าถอยออกไป พระราชาจึงประทับนั่งที่เก้าอี้ตัวยาว
“วันนี้พริมมาเยี่ยมหรือยัง”
“ยังกระหม่อม”
องครักษ์เก้าตอบแล้วยืนนิ่ง ทำให้พระราชาตบที่นั่งข้างตัว “มานั่งที่นี่”
คนสุภาพเงยหน้ามองพระราชา แล้วหันไปมองราชองค์รักษ์บาดา ที่พยักหน้าบอกให้ทำตามรับสั่ง จากนั้นก็เดินเลี่ยงออกไปยืนในที่ห่างออกมาแล้วหันหลังให้

“รู้ใช่ไหมว่า เจ้ามีคนรักอยู่แล้ว แต่ยังมีความสัมพันธ์กับชายอื่นจะต้องถูกลงโทษ”
องครักษ์เก้าที่เพิ่งนังลงข้างๆ พระราชา รีบขยับตัวจะลงนั่งคุกเข่ากับพื้นเพื่อรับการลงโทษ แต่พระราชาดึงข้อมือไว้
“ฟังข้าพูดให้จบก่อน”
องครักษ์คนสุภาพพยักหน้า
“ในระหว่างที่เจ้ารับโทษ ข้าอยากให้เจ้าเลือกว่า จะยังคงคบหากับพริมต่อไป หรือจะไปเมืองหน้าด่านเพื่อรับใช้นาซิม”
“ข้า....”
พระราชายกมือ ไม่ยอมให้องครักษ์กล่าวจบประโยค ”นอกจากเจ้าจะต้องไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ยังมีพี่ชายขององครักษ์เม่ยด้วย”
ครานี้นอกจากองครักษ์เก้าที่เงยหน้าขึ้นมองพระราชาเต็มตาแล้ว หัวหน้าราชองครักษ์บาดาก็หันมามองเช่นกัน
“เจ้าอาจคิดว่าข้าไม่ยุติธรรม แต่กฎหมายเป็นเช่นนั้น”

ดวงตาคมของราชองครักษ์บาดามองพระราชา
พระราชาไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกให้องครักษ์คนหนึ่งนั่งลงข้าง ๆ แล้วอธิบายเหตุผลที่จะต้องลงโทษคนผู้นั้นเลยสักนิด
ทุกการกระทำที่ผ่านมาของพระองค์ บอกถึงบางสิ่งที่ไม่ได้ตรัสออกมา นั่นคือ พระองค์ไม่ต้องการให้องครักษ์เก้าเข้าใจผิด
“ตง โป และเม่ยออกไปหาข่าว มีแต่เพียงเม่ยที่กลับมา แล้วเมื่อเชมัลนำทหารออกไปปราบกองทัพฝ่ายเหนือในเขตปลอดทหาร เขาก็พาเม่ยหนีไป”
แม้ที่ผ่านมาองครักษ์เก้าจะพักรักษาตัวอยู่ภายในพระราชวัง แต่ก็ยังมีองครักษ์และพริมมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีใครเล่าเรื่องที่ด่านชายแดนให้ฟัง
และแม้จะได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่องครักษ์เก้าก็ยังไม่เห็นด้วย
“พวกเขาไม่ได้คิดหลบหนี”
“นายท่านของเจ้าไม่ใช่คนที่มีนิสัยหลบหนี” พระราชาคล้อยตาม
องครักษ์เก้าย้ำคำกล่าวนั้น “เขาย่อมมีเหตุผลที่พาเม่ยไป”
“หากเรียกรอมกลับมาจากเมืองหน้าด่าน พวกเราย่อมได้คำตอบที่ชัดเจน แต่ยามนี้ข้าอยากให้เขาอยู่ช่วยเหลือนาซิมก่อน” ดวงตาคมมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โดยปราศจากคำพูดจนกระทั่งผู้ที่ถูกมองเงยหน้าขึ้นมอง
"พระองค์ มีเรื่องอันใด ก็ขอได้โปรดรับสั่งเถิด"
"เจ้า......" ตรัสเพียงคำเดียวก็ถอนหายใจยาว
องครักษ์เก้าไม่เข้าใจ แต่ก็พร้อมที่จะทำตามหน้าที่ 
"ข้าพระองค์ อาการดีขึ้นมากแล้ว หากต้องย้ายไปอยู่ในเรือนจำก็ไม่ผิดแปลก"

"จำคุกเจ้าที่ถูกทำร้าย กับการจำคุกพี่ชายของเม่ยที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องราวใด ล้วนเป็นเรื่องผิดแปลกที่ข้าไม่อยากยอมรับ"
พระราชาฟารัคตรัสในที่สุดแล้วถอนพระทัยยาวอีกครั้ง
...ต้องลงโทษคนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยนี่มันเป็นกฎหมายประเภทใดกัน..

"การย้ายไปอยู่เรือนจำ ก็คงไม่ต่างกันสักเท่าใด"
พระราชา ส่งเสียงในลำคอ "ขออภัยที่บ้านหลังนี้คับแคบ จนเจ้าคิดว่าไม่ต่างจากคุก"
องครักษ์เก้าถึงกับหน้าซีดเผือด แต่พอจะลุกขึ้นพระราชาก็กลับดึงข้อมือไว้
"ข้าเพียง...." แล้วก็เป็นอีกครั้งที่พระราชาตรัสไม่จบประโยค
องครักษ์เก้าได้แต่มองด้วยความสงสัย ครั้นหันไปมองหัวหน้าราชองครักษ์บาดา ก็เพียงมองสบตาแล้วหันหลังให้เช่นเดิม
"พระองค์ หากทรงมีเรื่องไม่สบายพระทัยเกี่ยวกับข้า ก็ขอทรงมีรับสั่งเถิด"
"เช่นนั้นต้องเริ่มจากการที่เจ้าต้องมองข้า เวลาที่ข้าพูดกับเจ้า"

องครักษ์เก้าพยักหน้าทั้งที่ไม่เข้าใจ
"แม้ข้าจะบอกให้เจ้าเลือก แต่ที่จริงแล้วข้ากลับคิดอยากสั่งให้เจ้าเลือกคนที่ข้าอยากให้เจ้าเลือก"
องครักษ์เก้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่พอจะก้มหน้า พระราชาก็มีรับสั่งให้เงยหน้าขึ้น
"อาจเพราะข้าพอจะรู้ว่า เจ้าจะเลือกใคร จริงอยู่ที่พวกเรายึดถือความรักชายหญิงไว้เหนือกว่าทุกสิ่ง แต่แท้จริง รักก็รัก แล้วทั้งเชมัลและนาซิมต่างก็เป็นน้องชายของข้า หากต้องเห็นพวกเขา 2 คนต่างก็ผิดหวัง ข้าก็รู้สึก...ย่ำแย่"
"แต่พริมไม่ได้ผิดอันใด"
"ข้ารู้ แต่...เจ้า...."
"ข้ารับใช้ผู้ชายมา 2 คนสกปรกยิ่งนัก"
"นั่นไม่ถูกต้อง"
พระราชารั้งคนที่กำลังกล่าวโทษตนเองเข้ามากอด
"ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ากล่าวโทษตนเอง เจ้ารับใช้เชมัลด้วยความเต็มใจ เจ้าเข้าหาพริมเพราะจิตใจที่อ่อนไหว และถูกนาซิมทำร้ายด้วยเวทย์ดำ"

องครักษ์เก้าตกใจเมื่อถูกกอด แต่เมื่ออ้อมกอดนั้นไม้ได้แนบแน่น หรือบังคับ ทั้งพระดำรัสที่เป็นการอธิบาย ก็ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง
"นายท่านเชมัล มีเม่ยแล้ว เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนหากข้าจะกลับไปหาเขา"

เหลือเพียงพริมกับนาซิม ซึ่งยากนักที่จะทำให้เก้าเลือกนาซิมคนที่องครักษ์เก้าไม่เคยแม้แต่จะมอง

"ข้าไม่ได้พอใจท่านนาซิม แต่กับพริมก็รู้สึก...."
พระราชาลูบด้านหลังของศีรษะสวย
"พระองค์คิดว่าข้าควรไปที่ใด"

"เจ้าไม่ต้องไปที่ใด" เสียงหญิงสาวดังขึ้น ขณะที่เดินเข้ามาใกล้
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาเห็นพระชายาเสด็จมาแต่ไกล ทั้งพยายามเตือนพระราชาที่กำลังสนทนาอยู่กับองครักษ์เก้า แต่พระราชาก็หาได้สนใจไม่ จนกระทั่งพระชายารับสั่งขึ้น
"น้องหญิง"
ดวงตายาวมองมือของพระราชา ทำให้มือโอบเอวบางอยู่ต้องคลายออก
"ขอหม่อมฉัน แสดงความเห็นเรื่องขององครักษ์เก้าสักนิดเถิด" หญิงสาวตัวเล็กก้าวผ่านกลางระหว่างคน 2 คน แล้วนั่งลง ทำให้องครักษ์เก้า ต้องลุกขึ้นและก้าวถอยหลังออกมาอีก 2 ก้าว
"ข้ารู้เรื่องที่ท่านพ่อ" พระราชาหมายถึงเสนาบดีหลี่ "มาพบท่าน และก็เห็นสมควรให้ยึดกฎหมายเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องที่ว่าองครักษ์เก้าจะไปที่ใดนั้น หากพระองค์ไม่ต้องการให้เขาไป ก็ควรบอกกับเขาไปตามตรง"

พระราชาเพียงมองพระชายาแล้วหันมามององครักษ์เก้า
พระชายามีพระดำรัสเรียบเรื่อย
"เจ้าคงต้องเลือกระหว่าง พระราชา แม่ทัพใหญ่ แม่ทัพด่านเหนือ กับหญิงสาวร้านขนมปัง"
ดวงตาขององครักษ์เก้าเต็มไปด้วยความตกใจอย่างคาดไม่ถึง
พระชายายังคงกล่าวคำต่อไป "เจ้ายังมีเวลาให้คิด ขณะที่อยู่ในเรือนจำ" พระชายาหันไปกล่าวกับราชองครักษ์ "ราชองครักษ์บาดาที่นี่มีผู้กระทำความผิดอยู่ เหตุใดเจ้าจึงเพิกเฉยไม่จับกุม ปล่อยให้พูดจาท้าทายต่อพระราชาอยู่อีก"
องครักษ์เก้าหันไปมองถามราชองครักษ์บาดาที่นิ่งเฉย จนกระทั่งพระราชามีพระดำรัส 
"ให้บาดาพาเจ้าไป"
องครักษ์เก้าถวายความเคารพทั้ง 2 พระองค์ จากนั้นก็เดินตามราชองครักษ์บาดาไปโดยง่าย

เมื่อทั้ง 2 คนห่างออกไปพระราชาฟารัคตรัสขึ้น
"น้องหญิง พวกเราพูดเรื่องนี้กันแล้ว"
"เพคะ เราพูดกันแล้ว แต่หม่อมฉันเพิ่งแน่ใจในสิ่งที่คิดก็วันนี้"
"เจ้าคิดอันใด"
พระชายาลุกขึ้นยืน
"คิดว่าพระองค์ก็เป็นอีกคนที่พอใจองครักษ์เก้า"
"ไม่ใช่เช่นนั้น"
"หม่อมฉันเป็นชายาของพระองค์นะเพคะ รับรู้อยู่ทุกวันว่าพระองค์เป็นกังวลเกี่ยวกับอาการขององครักษ์เก้ามากเพียงใด สัปดาห์แรกที่เขามาถึงพระองค์ก็วางทุกเรื่อง แล้วไปดูแลเขาจนไม่พักผ่อน ไม่ทรงงาน ทั้งที่ให้ราชองครักษ์ลาทีฟ ให้หมอหลวงมาดูแลก็ได้ พอเขาอาการดีขึ้นก็ทรงแวะเวียนมาหาเขาอยู่เช้าเย็น" พระชายาหันไปมองทางอื่น "หากต้องการจะให้เขาอยู่เคียงข้าง หม่อมฉันก็ไม่ถือสา อย่างน้อยเขาก็เป็นชาย ไม่อาจให้โอรสหรือธิดากับพระองค์ได้อยู่แล้ว"
พระราชาฟารัคผ่อนลมหายใจก่อนที่จะมีพระดำรัสตอบ
"ขอบใจที่เจ้าคิดเช่นนั้น แต่สุดท้ายแล้ว ยังต้องขึ้นอยู่กับองครักษ์เก้า ว่าเขาจะเลือกอย่างไร"
พระชายาหันมามอง "ในผู้คนที่รายล้อมเขาอยู่ พระองค์ด้อยกว่าผู้ใด"
พระราชากล่าวตามตรง "ด้วยศักดิ์ข้าย่อมเหนือกว่าผู้อื่น แต่การที่เราจะเลือกอยู่กับผู้ใดย่อมขึ้นอยู่กับความรัก ไม่ใช่ศักดิ์"
ทั้งที่พระราชาตรัสอย่างหนักแน่น แต่พระชายายังมองพระราชาด้วยพระเนตรที่เต็มไปด้วยคำถาม
“พระองค์พอใจองครักษ์เก้าใช่ไหม”
“น้องหญิง” พระราชาไม่ทราบแล้วว่าควรตอบอย่างไร
“ขอเพียงพระองค์ยอมรับ ว่าพระองค์พอใจเขา และเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะพระองค์พยายามผลักไสเขาไปให้กับคนที่ไม่ได้รักเขาจริง”
พระราชาหันไปทอดพระเนตรทางอื่น

“พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เยาว์ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พระองค์ให้พระโอรสและพระธิดากับหม่อมฉัน สนับสนุนบิดาและครอบครัวของหม่อมฉันมาตลอด ดังนั้นหากพระองค์จะยอมรับหัวใจตนเองในเรื่องนี้หม่อมฉันยังรับได้”
พระราชาโอบกอดพระชายาไว้

...เรื่องราวหาได้ง่ายดายเช่นนั้น
ด้วยนิสัยของเก้า คาดเดาได้ว่าจะต้องเลือกที่จะกลับไปหาพริม นั่นอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แต่ยังไม่ใช่ความสุข....

“พ่อของเจ้าคงเล่าทุกเรื่องให้เจ้าฟังแล้ว” พระราชาตรัสขึ้น
“เพคะ หลังจากที่รายงานต่อพระองค์ ท่านพ่อก็มาหาหม่อมฉันที่ตำหนักแล้วเล่าให้ฟัง หม่อมฉันถึงได้มาที่นี่ แล้วก็เห็นว่าพระองค์.........”
พระราชาฟารัคได้แต่ส่ายพระพักตร์ เสนาบดีหลี่เป็นพระสัสสุระ เมื่อเสนอความเห็นต่อพระราชาแล้วยังเกรงว่าพระราชาจะไม่ตัดสินพระทัยอย่างที่ตนต้องการ จึงไปเร่งรัดผ่านทางบุตรสาวอีกทางหนึ่ง
ช่างเป็นคนที่จัดการได้ยากเสียจริง

ในบรรดาเรื่องราวทั้งหมด การทำให้พระชายาเชื่อมั่นว่า พระราชาไม่ได้ชอบพอองครักษ์เก้าในแง่นั้น กลับเป็นเรื่องที่ยุ่งยากที่สุด
หรือเพราะแสดงออกถึงความปรารถนาดีต่อองครักษ์เก้ามากเกินไป
นี่เป็นปัญหาเดียวกันกับที่แม่ทัพเชมัลพบในความสัมพันธ์กับอาเม่ย
เพราะแม้จะมีใจให้อาเม่ย แต่ก็ยังมีความหวังดีและคอยดูแลองครักษ์เก้า

พระราชาทอดถอนพระทัย "ความผิดที่ข้ามีต่อเก้ามันซับซ้อน คล้ายยิ่งทำดีด้วย กลับยิ่งเป็นการทำร้าย และข้าไม่ต้องการยอมแพ้..."
แม้จะอธิบายอย่างไร พระชายาก็ยังคงคิดหึงหวงอยู่เช่นเดิม

...เชมัลก็คงพบกับความยากลำบากแบบเดียวกันนี้เวลาที่ต้องทำความเข้าใจกับอาเม่ยสินะ...

..จบตอนที่ 17..

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/150722062131.jpg) (http://picture.in.th/id/830e3ea6a760b1388b7ae593a8dbba78)
 :mew4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-07-2015 06:18:31
 :z13:
 พระราชาคงจะไม่ได้ชอบอาเก้าแบบคนรักใช่มั้ย? พระราชาคงจะอยากจัดการเสนาบดีลี่อยู่เหมือนกันสินะ ติดที่ตรงเป็นพ่อตานี่   แหละ
  :pig4:
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 22-07-2015 07:52:07
ถ้าพระราชาไม่ได้รักเก้า แค่อยากช่วย แต่ถ้าช่วยแล้วก็ช่วยไม่ได้สุดๆ
พระราชาก็ปล่อยองครักษ์เก้าไปเถอะค่า หรือไม่ก็แอบช่วยนิดๆหน่อยๆพอ ไม่ต้องออกหน้าออกตา
ให้เขาเลือกเองและอยู่กับสิ่งที่เขาเลือก
ทำแบบนี้เมียก็หึงแล้วเดี๋ยวก็มีปัญหาโน่นนั่นนี่ตามอี๊ก
เก้าจะยิ่งโดนหนัก

ท่าแม่ทัพของเรารักและหนักแน่นจริง
พาอาเม่ยไปรักษาให้ได้นะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 22-07-2015 09:26:34
"สายลมอ่อนหมุนวนรอบกายทั้ง 2 คนแล้วผ่านไปทางด้านหลัง
รู้...ว่าสายลมนี้หมายถึง...ใคร..และกำลังจะไปอำลาผู้ใด"

อ่านแล้วน้ำตาซึม :mew6:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-07-2015 09:32:51
ตอนนี้สงสารเก้ามากๆๆ   :sad4:

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-07-2015 09:34:50
 :hao5: ยังคงเศร้ากับตง และ โป ขอไว้อาลัยอีกรอบ  :hao5: และๆๆๆๆๆๆๆ ไม่เป็นอย่างที่หวังอีกเรื่อง สุดท้ายอาเม่ยเราเป็นคนทำ  :hao5: เอาเถ่อะเราเชื่อพี่เชว่าจะมีวิธีการแก้ปัญหาได้ ไม่งั้นรอมกับฮูดาไม่ยิ้มกับประโยคนั้นหรอก (รอ ร๊อ รอ)

ส่วนอีตาพ่อตานี่ สงสัยใช้มนต์ดำให้ลูกตัวเองได้เป็นพระชายาป่าวเนียะ พยายามที่จะขจัดคนเก่งรอบๆตัวพระราชายังไงก็ไม่รู้ สุดท้ายคงไม่ได้หวังขึ้นครองเมืองแทนนะนั่น

แต่ธรรมดาอ่ะนะด้วยบุคลิกอาเก้านี่อยู่กับใครก็ต้องหลงรักด้วยกันทั้งนั้น(แลดูดี๊ดี อิอิ) ดังนั้นหากพระราชาเป็นอีกคนที่หวั่นไหวกับเก้าก็ไม่แปลก (เอ แต่ถ้าจะให้เก้าได้กับพี่น้องทั้ง 3 คนก็กะไร ) <<<< ตอนนี้เวิ่นนอกเรื่อง ขออภัย


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-07-2015 09:51:30
พระราชาทำความผิดเรื่อง ความรักของเก้าสินะ พยายามทำความดีแก้ตัว เก้าเหมือนจะยอมรับชะตากรรมของตัวเอง  เขาว่ากันว่า คนที่อ่นแอที่สุด อาจเป็นคนแข็งที่สุดก็ได้ เอาใจช่วยอาเก้านะ บางทีอาเก้ารู้ว่าตัวเองชอบใครแล้ว แต่ติดอยู่ที่พริม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-07-2015 10:02:05
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 22-07-2015 12:48:23
หนึ่งเดือน
บนเกาะที่มีแต่เราาาาาา
 :hao6:
บวกและเป็ดขอบคุณ
ชูป้ายไฟเชียร์พี่นาซิมต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ เย้วๆๆๆ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-07-2015 12:49:31
ปล่อยเก้าไปเถอะ เลิกคิดแทนเก้าซะที.. เลิกหวังดีทั้งๆที่เป็นการทำร้ายเก้าเถอะ




ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-07-2015 12:55:35
พระราชาทำผิดกับเก้าตั้งแต่ส่งไปให้พี่เชแล้วใช่มั้ย รักแต่เก็บไว้ใกล้ตัวไม่ได้กลัวเมียเข้าใจผิดต้องผลักไปให้น้องชายดูแลแทน สงสารเก้าที่ต้องเจ็บซ้ำๆ แล้วตอนนี้ที่ทำทุกอย่างก็เพื่อจะไถ่โทษเก้าสินะ

ลุงหลี่นี่ต้องการอะไรนะ อยากกำจัดพี่เชกับนาซิมรึไง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 22-07-2015 13:53:05
เป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างซับซ้อนจริงๆ
สงสารความรู้สึกของเก้ากะอาเม่ยมากค่ะตอนนี้
RIP ตงกะโปอีกทีนะคะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 22-07-2015 17:55:02
อารมณ์เหมือนเก้าคือทุกคำตอบของปัญหาาาา :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-07-2015 17:55:58
เห็นใจเก้ายิ่งนัก

ความหวังดีบางทีก็คือมีดที่บาดมือผู้รับ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-07-2015 19:50:40
อ่านไปอ่านมา

ชักสับสนว่าใครเป็นนายเอก

เก้่าหรืออาเหม่ย

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 22-07-2015 20:54:58
ไว้อาลัยให้องครักษ์ตงกับโป  เสียใจอ่ะ    :hao5:
ส่วนเก้า  แต่ละคนก็ดูจะวุ่นวายกับชีวิตเก้ากันนะ  คือปล่อยให้เก้าใช้ชีวิตตามต้องการเถอะ
จะมีความสุข รึไม่มี มันก็เป็นสิ่งที่เก้าเค้าเลือกเอง  โดยเฉพาะพระราชา
หน้าที่เกี่ยวกับบ้างเมืองก็มีป่ะ ทำไมจะต้องมายุ่งกับเก้าขนาดนี้ 
แม่ทัพกับอาเม่ย จะไปอยู่เกาะกัน ก็หวังว่าแม่ทัพจะทำให้เม่ยกลับมาเป็นคนเดิมโดยเร็ว
คิดถึงโหมดเถียงกันของแม่ทัพกับเม่ยเป็นที่สุด   :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 22-07-2015 21:17:10
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

รอให้อาเม่ยหายดี กลับมาแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ
และอาเก้าพบความสุขที่ตัวเองต้องการจริงๆ สักที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-07-2015 23:29:32
ปล่อยเก้าไปเถอะ เลิกคิดแทนเก้าซะที.. เลิกหวังดีทั้งๆที่เป็นการทำร้ายเก้าเถอะ






ขอบคุณ :)


คิดเหมือนกันเลยค่ะ พระราชาตัวยุ่ง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 23-07-2015 11:43:12
สงสารเก้า
ชีวิตนี้ความรักคืออะไร
ชีวิตพบแต่ความเจ็บปวด
เดินไปเหมือนวนอยู่กับที่
สงสารเก้าอ่า

TT^TT ชอบจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 25-07-2015 09:16:11
ทำไมมีแต่คนไปวุ่นวายกับเก้า
ไม่สงสารเก้าบ้างหรือไร
นอกเมืองก็ยังอึมครึม ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง
รอตอนคลี่คลายค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Lovetree ที่ 25-07-2015 09:44:50
ใครๆก็ชอบเก้า  ขนาดรู้ว่าเก้าไม่ใช่นายเอกเรื่องนี้ เราก็ยังชอบเก้าเลยค่ะ  หลงเสน่ห์เก้าไปอีกคนเลย555

รอลุ้นว่าสุดท้ายแล้วเก้าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับใคร  ใครจะเป็นผู้โชคดีกัน

ขอบคุณนักเขียนมากๆค่ะ :L2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 25-07-2015 18:49:52
เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ชอบตอนบทต่อสู้นะ ถึงแม้ตงกับโปจะต้องจากไปก็ตาม (แอบลุ้นให้พระราชามีเวทย์คืนชีพ หุหุ)
เรื่องเก้า พระราชาคงเหนื่อยหน่อย เพราะสิ่งใดที่คนปักใจเชื่อไปแล้ว มันยากที่จะอธิบายให้เข้าใจจริงๆ
การแสดงออกของความรักกับความหวังดี มันทำให้คนเข้าใจผิดมานักต่อนัก
แต่ก็เชื่อนะว่าพระราชาจอมวางแผนจัดการได้แน่นอน ส่วนพี่เชกับน้องเม่ย ก็รอลุ้นตอนต่อไป

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-07-2015 15:23:21
มาจิ้มรอ อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 28-07-2015 18:56:03
"เก้า"all of us :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-07-2015 19:41:07
รู้สึกขัดใจ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 28-07-2015 19:48:04
ตอนที่ 18

เจ้าหน้าที่กองเมืองไปพาต้าซันมาจากกองงานดนตรีของพระราชวัง เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองเมือง ซึ่งความผิดของต้าซันก็คือน้องชายผิดวินัยทหารทั้งสังหารเพื่อนและหนีทัพ จากนั้นก็พาไปเปลี่ยนเป็นชุดนักโทษสีขาว แล้วจึงพาไปที่เรือนจำ

เรือนจำนี้ไม่ได้อยู่ใต้ดินของกองเมืองที่ไว้คุมขังนักโทษในคดีร้ายแรง
แต่เป็นเรือนจำอาคารชั้นเดียวที่ปลูกสร้างด้วยไม้ ยกพื้นสูง แบ่งเป็นห้องจำนวน 10 ห้อง ผนัง 3 ด้านปิดทึบเหลือเพียงด้านหน้าที่เป็นซี่กรงหนา และระเบียงยาว
ราชองรักษ์คนหนึ่งยืนรออยู่ด้านหน้าของห้องที่ 4
ต้าซันจำราชองครักษ์มีอาผู้นี้ได้ดี แม้จะเป็นผู้ที่แทบจะไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนักก็ตาม แต่นอกเหนือจากงานหน้าที่ในวังหลวงที่จำต้องรู้จักผู้มีอำนาจแล้ว เรื่องราวซุบซิบนินทาที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่อยู่ในวังก็น่าสนใจไม่ต่างกัน

ต้าซันมองไปที่ห้องขังอื่นๆ นักโทษบางคนบ้างกำลังอ่านหนังสือ บ้างกำลังเขียนภาพ ดูผ่อนคลายและหาได้สนใจผู้ที่ถูกพามาใหม่ ส่วนที่อยู่ในห้องขังที่ 4 คือองครักษ์เก้า ที่ส่งยิ้มทักทาย
“ข้าชื่อต้าซัน” หนุ่มนักดนตรีแนะนำตัวต่อราชองครักษ์มีอา
ราชองครักษ์รูปร่างสูงใหญ่กล่าด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าไม่ได้ทำผิด แต่ที่ถูกพามาเพราะน้องชายของเจ้าทำความผิด”

จนถึงตอนนี้ ต้าซันก็ยังคงมีแต่คำถามว่า อาเม่ยสังหารเพื่อนทหารด้วยกันแล้วหนีไปกับแม่ทัพเชมัลจริงหรือ
อาเม่ยกล้าทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไร
ยิ่งแม่ทัพเชมัลที่เป็นผู้นำทัพ กลับหนีทัพเสียเอง มันจะเป็นไปได้อย่างไร
ที่แท้เกิดเรื่องอันใดขึ้น!
ราชองครักษ์มีอาชี้ไปที่ห้องขังที่องค์รักษ์เก้าอยู่ เป็นห้องพักที่สะอาดเอี่ยม ทั้งกั้นพื้นที่เป็นส่วนที่อาบน้ำและส้วม แถมด้วยที่นอนใหม่ 2 หลัง
ต้าซันมองตามมือแล้วหันมาหาราชองครักษ์มีอา
“เหตุใดท่านองครักษ์เก้าจึงถูกคุมขังด้วย”
“พวกเจ้ามีเวลาพูดคุยกันอีกนาน ว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” ราชองครักษ์มีอาลดเสียงลงพอให้ได้ยิน 2 คน “หน้าที่ของเจ้าคือจับตาดูว่า หากเขาเจ็บป่วยให้ตะโกนเรียกผู้คุมในทันที หากมี...คนอื่นมาหาเขาต้องจดจำไว้ และอย่าให้เข้าใกล้”
หนุ่มนักดนตรีงุนงง คำสั่งของราชองครักษ์ผู้นี้ช่างแปลกประหลาด
“เข้าใจหรือไม่”
“ไม่หรอก แต่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”
คล้ายกับจะให้มาดูแลองครักษ์เก้า...

ที่กล่าวกันว่าราชองครักษ์มีอาเป็นผู้ปราศจากความรู้สึกอาจเป็นเพียงคำนินทาที่ปราศจากความจริง เพราะเวลานี้เขากำลังยกยิ้มมุมปากแล้วหันไปเปิดประตูห้องขังขององครักษ์เก้า

“ฝากต้าซันให้อยู่กับเจ้า” แต่เมื่อต้าซันจะเดินเข้าไปในห้อง ราชองครักษ์มีอาก็ถามขึ้น “เจ้าต้องการให้นำเครื่องดนตรีของเจ้ามาด้วยไหม”
ต้าซันส่ายหน้า แล้วถามกลับ “ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าเม่ยจะกลับมาใช่ไหม”
ราชองครักษ์มีอาพยักหน้าไม่ได้อธิบายสิ่งใดเพิ่มเติมอีก
แต่นั่นก็มากเกินพอ และดีเกินพอสำหรับคนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่กลับต้องมารับโทษ
ทันทีที่เข้ามาอยู่ภายในห้องขัง ต้าซันคนซื่อก็ถามองครักษ์เก้า
“ท่านก็มีญาติที่หนีทัพเช่นกันหรือ”
องครักษ์เก้ายิ้มพลางส่ายหน้า “ข้าผิดเรื่องชู้สาว”
เสียงขององครักษ์แผ่วเบา ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาอิดโรย ทำให้ต้าซันต้องขยับเข้าไปใกล้
“ท่านป่วยหนักแล้ว”
เมื่อครู่นี้เองที่ราชองครักษ์มีอาเพิ่งกล่าวว่า หากเก้าเจ็บป่วยให้ร้องเรียกยาม ดังนั้นต้าซันจึงขยับตัวจะร้องเรียกคน แต่คนเจ็บดึงไว้
“ไม่ต้องเรียกยามหรอก”
ต้าซันพยักหน้าทั้งที่ไม่ไว้ใจ

....เจ็บป่วยก็ยังถูกคุมขัง ความผิดเรื่องชู้สาวกลายเป็นความผิดรุนแรงถึงขั้นนี้เมื่อใดกัน....

แต่เมื่ออีกฝ่ายบอกไม่ให้เรียกยาม ต้าซันก็ไม่เรียก แล้วเปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องที่เกี่ยวกับอาเม่ย แต่อีกฝ่ายก็ไม่รู้เรื่องมากนัก เพราะได้รับบาดเจ็บจนถูกส่งตัวกลับมาก่อน
“ข้าแยกกับน้องตั้งแต่เล็กก็จริง แต่เม่ยไม่ใช่คนที่จะทำร้ายเพื่อนได้” พี่ชายพูดอย่างมั่นใจ "เม่ยชอบเล่นใบไม้อยู่คนเดียวก็จริง แต่นั่นไม่ใช่เพราะน้องหนีใครหรอก"
“เจ้ายังจดจำเรื่องที่หมู่บ้านได้หรือไม่”
“จำได้สิ” ต้าซันยิ้มกว้าง “บ้านของพวกเราไม่ห่างจากประตูด่านทางเหนือมากนัก แต่ค่อนมาทางตะวันออก เข้าไปในเขตหุบเขา”
องครักษ์เก้าพลอยยิ้มตาม “เม่ยเคยเล่าว่า บ้านของเขาอยู่ในหุบเขา”
“ใช่ เป็นหุบเขา บ้านของพวกเราอยู่ในกลุ่มบ้านช่างเหล็ก บ้านของพวกเราตีดาบ”
องครักษ์เก้าขมวดคิ้ว เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และคำบอกเล่าของอาเม่ย

บ่ายคล้อยคนที่มาเยี่ยมถึงเรือนจำแห่งนี้ ยิ่งทำให้ต้าซันประหลาดใจกว่าเดิม
พระราชาฟารัค!
แม้จะฉลองพระองค์เหมือนบุคคลทั่วไป แต่นั่นก็ยังเป็นพระราชา ที่มาพร้อมกับหัวหน้าราชองครักษ์บาดา ที่ไม่ได้สวมเครื่องแบบเช่นกัน
ผู้ที่อยู่ในห้องขังล้วนทำความเคารพ แต่พระราชายกมือบอกว่า เสด็จมาเป็นการส่วนพระองค์แล้วตรงมาที่ห้องขังที่ 4
“ต้าซัน อาเก้า เดือดร้อนพวกเจ้าทั้ง 2 คนแล้ว”
ต้าซันหันไปมององครักษ์เก้าที่ได้แต่ก้มหน้า จึงเป็นฝ่ายตอบพระราชาเสียเอง
“ไม่เดือดร้อนหรอกพระองค์ ที่นี่สบายกว่าบ้านของข้าพระองค์มากนัก ทั้งยังไม่ต้องทำงานด้วย”
พระราชาสรวลเบาๆ “เจ้าช่างเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดี”

ราชองครักษ์บาดา เดินไปเปิดประตูห้องขัง เรียกให้องครักษ์เก้าออกมาภายนอก จากนั้นให้ต้าซันช่วยยกเบาะนอนขององครักษ์เก้าออกมาวางที่ทางเดินหน้าห้องขัง
เมื่อองครักษ์เก้านั่งลงบนเบาะนอน พระราชาก็เริ่มต้นการรักษา
ขณะที่พระราชาให้การรักษา  ต้าซันจึงเข้าใจ ห้องขังนี้แม้จะสวยงาม และดูคล้ายเป็นที่พักผ่อนมากกว่าห้องขัง นั่นก็เพราะที่นี่มีการลงเวทย์ไว้อย่างแน่นหนา ผู้ที่อยู่ภายในห้องขังเหล่านี้จึงกลายเป็นบุคคลทั่วไป
ดังนั้นหากพระราชาจะใช้เวทย์รักษา จึงต้องทำที่หน้าห้องขัง
และพระราชาผู้นี้ก็มีความมั่นใจมากพอที่จะแสดงให้เห็นเวทย์ที่กล้าแข็งของตนเองต่อหน้าผู้ใช้เวทย์ทุกคน!
และพระราชาก็เสด็จมารักษาองครักษ์ผู้นี้ทุกวัน!
ส่วนแม่หญิงพริมที่เป็นคนรักขององครักษ์เก้านั้น ต้าซันเคยพบนางเมื่อครั้งที่ไปซื้อขนมปัง และเมื่อนางมาเยี่ยมคนรัก ที่ต่างก็นั่งกันอยู่คนละด้านของห้องขัง แล้วพูดคุยกันเบาๆ เรื่องให้รักษาสุขภาพให้ดี
แม้จะไม่เคยมีคนรัก แต่ต้าซันก็รู้สึกพิกล
มีคนรักที่กระทำความผิดเรื่องชู้สาว ปฏิกิริยาของฝ่ายหญิงจะเป็นเช่นนี้หรือ...
แล้วองครักษ์เก้า คนที่ทำผิดจะมีท่าทีเป็นเช่นนี้หรือ...

..ข้าเคยเห็นแต่ฝ่ายหญิงร่ำร้องโวยวาย กับฝ่ายชายที่ได้แต่ก้มหน้าด้วยความสำนึกผิด หรือไม่ก็ไม่ยอมรับผิด จนกลายเป็นโต้เถียงทะเลาะตบตีกัน วุ่นวาย บ้างถึงกับทำลายข้าวของ มีที่ไหนกันที่นั่งคุยกันเงียบๆ แบบนี้...
..ถึงเวลาที่พระราชาเสด็จมา ก็มาครู่เดียว รักษาเสร็จก็กลับไป...

ต้าซันมองผู้นั้นทีมองผู้นี้ที รู้สึกตัวก็เมื่อมือใหญ่ตีที่หน้าผากจนแทบน้ำตาร่วง
เป็นราชองครักษ์มีอา คนที่ใครๆ ต่างก็บอกว่า เป็นคนหน้าตายไม่รู้จักยิ้มแย้ม แต่ต้าซันมั่นใจว่าเวลานี้ คนผู้นี้กำลังยิ้ม
"เจ็บนะ"
แต่ราชองครักษ์มีอากลับทำสีหน้าดั่งจะบอกว่า ไม่เจ็บก็แปลก
...เออ ทำไมข้าถึงได้รู้ว่าสีหน้าแบบนี้แปลว่าอันใด....
ต้าซันกระตุกชายเสื้อของราชองครักษ์ผู้ควบคุมเรือนจำ
"พูดเป็นไหม"
ราชองครักษ์มีอาใช้หางตามอง แต่ต้าซันก็ดันรู้เสียอีกว่า อีกคนไม่ได้ดูหมิ่นหากเป็นเพราะคนหนึ่งนั่งคนหนึ่งยืนอยู่ต่างหาก
"ไม่รู้ว่าจะพูดอันใดละสิ"
ราชองครักษ์มีอาเลิกคิ้วสูง ต้าซันก็ก่อกวนต่อ
"ที่คนเขาพูดกันว่าท่านปราศจากความรู้สึก และเคร่งครัดในกฎระเบียบนั่นไม่จริง ที่จริงเพราะท่านมีความบกพร่องด้านภาษาต่างหาก"
ต้าซันได้ยินเสียงหัวเราะจากผู้คนรอบตัวก็ยิ่งได้ใจ "ที่ต้องคุมเรือนจำเวทย์ หาใช่เป็นผู้ยึดมั่นในกฎระเบียบ แต่เพราะไม่ต้องคอยอธิบาย หรือรายงานอันใดให้ผู้อื่นฟัง เวลาใครถามอันใด ก็ตอบสั้นๆ ว่าเป็นไปตามระเบียบ ช่างง่ายดายดีแท้"
ราชองครักษ์มีอาจะตีที่หน้าผากของคนช่างกล่าวคำอีกที แต่ต้าซันเบี่ยงตัวหลบทัน
"อะ แบบนี้แถวบ้านข้าเรียกว่าวืด"
ราชองครักษ์มีอาส่ายหน้า แล้วกอดอกหันไปหาพระราชาที่กำลังรักษาองครักษ์เก้าต่อ แต่ต้าซันก็กระตุกชายเสื้อ หาเรื่องมาสนทนาต่อ
"นี่ๆ ข้าขออาหารกลางวันเพิ่มได้ไหม"
ราชองครักษ์มีอาหันมาพร้อมกับการขยับมือขวา แต่เมื่อต้าซันเบี่ยงหลบ กลับถูกดึงผมที่รวบมัดไว้ทางด้านหลัง จนหน้าหงาย
"เหวย" จากนั้นก็บ่นพึม "แค่ขออาหารเพิ่ม ถึงกับต้องทำร้ายกันด้วย"

"เหมือนเม่ยจริงๆ" องครักษ์เก้ากล่าวขึ้น ต้าซันก็หันมาเถียง
"ข้าเป็นพี่นะ เม่ยต้องเหมือนข้าสิ มิใช่ข้าเหมือนเม่ย"
"อ่า......" องครักษ์เก้าพยักหน้าอึ้งๆ
พระราชาที่รักษาองครักษ์เก้าเสร็จแล้ว หันไปตรัสกับหัวหน้าราชองครักษ์บาดา
"เวลานี้ทั้ง 2 คนอยู่ที่ใดกัน"
ดำรัสของพระราชาทำให้ทุกคนที่เรือนจำเวทย์ถึงกับเงียบไปชั่วครู่ กระทั่งพระราชาหันมารับสั่งกับต้าซัน "ขอโทษที่ต้องให้เจ้ามาอยู่ที่นี่ แต่คิดว่า หลายวันมานี้เจ้าคงจะเข้าใจเหตุผลแล้ว"

ที่จริงต้าซันเพิ่งจะเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ต้องมาอยู่ที่นี่ก็ในตอนที่พระราชามีพระดำรัส
ไม่ใช่เพียงแค่การรับโทษแทนน้องชาย หรือการดูแลองครักษ์เก้า แต่เพราะที่นี่คือเรือนจำเวทย์ คนที่ไม่มีเวทย์จึงเป็นผู้ที่มีเสรีภาพอย่างแท้จริง และนั่นคือต้าซัน
คนที่ไม่มีเวทย์ ที่สามารถเคลื่อนไหว คิด และกล่าวคำได้ดั่งเดิม
ต้าซันขยับเฉพาะดวงตามองซ้ายขวาแล้วพยักหน้าช้าๆ
...ให้ข้าเก็บข้อมูลของผู้มีเวทย์เหล่านี้ด้วยสินะ...
พระราชาถึงกับพระสรวลเสียงก้อง
"เป็นเช่นนั้น"
 
ในรอบ 1 วันช่วงเวลาที่เป็นเรื่องตื่นเต้นสำหรับต้าซันจึงมีเพียงช่วงเวลาที่พระราชาเสด็จมาพร้อมกับราชองค์บาดา และมีอาเท่านั้น
ชีวิตในห้องขังที่ช่างสะดวกสบายนี้ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า....

*-*

ก่อนที่จะแยกออกจากรอมพี่ใหญ่ของกลุ่มองครักษ์ และ ฮูดาองครักษ์ลำดับที่ 4 ทั้งแม่ทัพเชมัล และอาเม่ยต่างถอดเครื่องแบบส่งคืนให้องครักษ์ทั้ง 2 คนนำกลับมาที่ค่าย เพื่อที่จะเดินทางต่อไปได้อย่างราบรื่นขึ้น
แต่เมื่อเป็นแม่ทัพของเมืองใหญ่ อย่างไรก็ยังเป็นที่จดจำ ขณะที่สีผมของอาเม่ยก็เป็นที่จดจำได้โดยง่ายเช่นกัน การเดินทางไปให้ถึงที่หมายที่นัดแนะไว้ในอีก 1 เดือนข้างหน้า จึงต้องหลบหลีกจากเส้นทางหลักและหมู่บ้านเถื่อนตลอดเส้นทาง
มือใหญ่ต้องจับข้อมือซึ่งสวมกำไลโลหะพาเดินคู่กันไป เพราะหากปล่อยมือ ข้อมือข้างนั้นจะตกลงและถูกตรึงติดอยู่กับผืนดิน
ทุกครั้งที่ทำเช่นนั้น อาเม่ยจะส่งเสียงไม่พอใจ ดั่งบังคับให้จับมือแล้วเดินต่อไป
เวทย์ดำของเฮยอั้นมักทำให้ผู้ที่ถูกเวทย์มีอาการคลุ้มคลั่ง ยากที่จะควบคุมความต้องการในส่วนลึกของจิตใจ ดั่งที่เกิดขึ้นกับแม่ทัพนาซิม 
แต่อาเม่ยมีอาการนิ่งเงียบเช่นนี้มาตั้งแต่แรก นั่นอาจเพราะยังไม่พบสิ่งที่ไปกระตุ้นให้แสดงความก้าวร้าวออกมา แม่ทัพได้แต่เฝ้าสังเกตอาการและรอคอย...
และมั่นใจว่า การที่เฮยอั้นลงมือกับอาเม่ย ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

บ่ายคล้อยใกล้ค่ำ แม่ทัพเชมัลเห็นไก่ป่าหากินอยู่ไม่ไกล จึงพาอาเม่ยไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทันทีที่ปล่อยมือ ข้อมือข้างนั้นก็เพิ่มน้ำหนัก รั้งให้ต้องนั่งลงโดยที่ข้อมือจนถึงศอกข้างนั้นถูกตรึงติดพื้น ทั้งทำให้ต้องนั่งค้อมตัว จนเจ้าตัวส่งเสียงไม่พอใจ พยายามถอดกำไลออก แต่กำไลนั้นผนึกแน่น
“เราจำเป็นต้องพักกินอาหารและหาที่พัก” แม่ทัพบอก แล้วผละไปหาไก่ป่า หยิบชิ้นไม้ขนาดเพียงข้อนิ้วดีดจากระยะไกลถูกส่วนหัวของเป้าหมายอย่างแม่นยำ ได้มื้อเย็นสำหรับวันนี้
“ข้าควรเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางมากกว่านี้” แม่ทัพยังคงกล่าวอยู่คนเดียวเช่นเดิมในระหว่างที่หันมาเตรียมอาหาร แต่เมื่อมองดูข้อมือที่ถูกตรึงติดอยู่กับพื้น จึงเห็นแผลจากรอยเล็บที่เจ้าตัวพยายามจะถอดกำไลออก
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ได้เตรียมการไว้...
แม่ทัพเชมัลใช้เวลารักษาในระหว่างที่อาเม่ยกำลังกินอาหาร ที่เจ้าตัวดูอารมณ์ดีขึ้น เพราะเมื่อแม่ทัพจับมืออยู่ ก็ทำให้สามารถนั่งตัวตรงได้
“เจ้าชอบเคลื่อนไหวไปเรื่อย กลับถูกรั้งไว้ด้วยกำไลนี้ย่อมทำให้เจ้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่นานนัก ทันทีที่เราไปถึงเกาะนั้น ข้าจะถอดกำไลออกให้” จากนั้นส่งผลแบร์รี่ให้ “ของชอบของเจ้า จำได้ไหม”
อีกฝ่ายจะคว้าไปกินแต่แม่ทัพคว้ามือไว้ก่อน “เช็ดมือก่อนสิ”
เห็นได้ชัดว่า อาเม่ยได้ยินและรับรู้คำพูด แต่ตัวตนที่แท้จริงถูกกักขังไว้ในส่วนลึก เหลือเพียงสัตว์ป่าที่เฮยอั้นใช้เวทย์ดำเข้ามาครอบครองจิตใจ
หลังอาหารมื้อนี้ผ่านไป คนตัวโตก่อกองไฟเพิ่มอีกจุด แล้วใช้ใบไม้รองพื้นจัดเป็นที่นอน
“ข้ามักคิดลามกกับเจ้าอยู่เสมอ อยากกอดเจ้า สัมผัสเจ้าตลอดคืน แต่ไม่คิดเลยว่า จะได้กอดเจ้าในเวลาเช่นนี้”
มือใหญ่รั้งอีกคนเข้ามานอนหนุนแขน
ดวงตากลมสีดำขลับเงยขึ้นมองคนที่กล่าวคำมากมาย แล้วหลับตาลง

อากาศยามเช้าเย็นสบายคนที่เป็นฝ่ายให้นอนหนุนแขนตื่นก่อนนานแล้ว แต่กลับยังไม่กล้าขยับตัว ได้แต่นอนมองอีกคน มือใหญ่เกลี่ยเส้นผมสีเงินที่ระแก้มใส
รอจนอีกคนขยับตัวตื่น จึงได้ลุกขึ้น เตรียมอาหารเช้า พร้อมเสบียงระหว่างการเดินทางแล้วก้าวต่อไป
แม่ทัพเชมัลพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้สายน้ำ เพราะนอกจากสัตว์ป่าแล้วผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง ก็ย่อมใช้น้ำเพื่อการดำรงชีวิตเช่นกัน
แต่แผลที่ข้อมือ จากการที่พยายามถอดกำไลออก ทำให้สุดท้ายแม่ทัพก็ต้องพาอาเม่ยไปยังสายน้ำ  เพื่อล้างแผล
ลำธารเล็กทอดตัวลงจากหุบเขา คนตัวใหญ่จับข้อมือจูงเดินหาช่วงโค้งของลำธารเพื่อเป็นที่หลบซ่อนและอาบน้ำ
“ทำแผลให้เจ้า อาบน้ำ และกินอาหารมื้อเย็น จากนั้นก็พักแถวนี้ เจ้าเห็นเป็นอย่างไร” ดวงตาสีเข้มหันมามองคนข้างๆ เผื่อจะได้ยินเสียงตอบโต้ดั่งเคย แต่กลับเป็นดวงตาที่มองตรงไปข้างหน้า
“พักริมน้ำไม่เหมาะ ข้าอาจต้องหาต้นไม้ใหญ่ผูกเปลให้เจ้านอน หรือไม่ก็หาที่ห่างออกมาอีกนิด จะปลอดภัยกว่า”

แม่ทัพยืนมองต้นไม้ใหญ่ริมลำธารที่ทอดรากยึดชายฝั่ง ทั้งโขดหิน เหมาะสำหรับการหยุดพัก แต่ไม่เหมาะสำหรับการนอนค้างที่นี่
คนตัวใหญ่วางข้อมือของอีกคนลงบนก้อนหิน ถอดเสื้อผ้าของตนเองก่อน แล้วจึงถอดให้อีกคน แช่ผ้าไว้ในแอ่งน้ำเล็กๆอาเม่ยเพียงขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสน้ำเย็น แต่ก็ยอมให้ทำความสะอาดให้ด้วยดี
แม่ทัพเชมัลร่ายเวทย์เพื่อคลายกำไล แต่ยังไม่วางใจที่จะถอดออก เพียงเลื่อนขึ้นไปใต้ศอก แล้วล้างแผลที่ข้อมือทำความสะอาด จากนั้นก็วางแขนข้างนั้นไว้ที่โขดหิน  แล้วค่อยหันไปซักผ้า วางพาดไว้
ทุกครั้งที่หันไปมอง อาเม่ยก็เพียงนั่งอยู่นิ่งๆ จนต้องกลับมาอาบน้ำสระผมให้
ผิวกายที่เปื้อนฝุ่นสกปรก กลับมาสดใส เหลือเพียงดวงตาสีดำสนิท ไม่มีคำพูด และไม่มีการเคลื่อนไหว
จับให้อยู่ที่ใดก็อยู่ที่นั้น
“หนาวหรือไม่ ต้องการขึ้นไปนั่งบนโขดหิน หรือต้องการแช่น้ำอยู่เช่นนี้”
ถามไปก็ยังคงไม่มีคำตอบ แม่ทัพจึงปล่อยให้แช่น้ำต่อไป ขณะที่ต้องถอยตนเองออกมาแล้วหันหลังให้
ไม่ง่ายเลยเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนรักเช่นนี้
ใจนึกกล่าวโทษเฮยอั้น คนที่สลายร่างกายไปแล้ว ที่ช่างล่วงรู้จุดอ่อนนี้
แม้น้ำจะเย็น แต่ความแข็งขึงร้อนรุ่มกลับเพิ่มขึ้น มือใหญ่กอบกุมส่วนกลางของตนเองที่อยู่ภายใต้สายน้ำขยับข้อมือรูดรั้ง รับรู้สายตาที่ยังมองมาจากทางด้านหลัง ไหล่กว้างไหวเยือก น้ำสีขาวขุ่นหยาดหยดจากส่วนปลาย ผ่อนลมหายใจยาวแล้วว่ายน้ำห่างออกมา
เมื่อหันไปอีกที จึงเห็นริมฝีปากสวยกลายเป็นสีม่วง บ่งบอกว่า เจ้าตัวหนาวมาก แต่ไม่มีเสียงร้อง รีบว่ายน้ำกลับมาหาแล้วพาให้นั่งอยู่บนโขดหิน
“ขอโทษนะเสี่ยวเม่ย” คนตัวโตพร่ำกล่าวคำขอโทษ หยิบเสื้อตัวในสีขาวของอีกคนมาสวมคลุมให้ “นั่งรับแดดสักครู่”
จากนั้นหันไปสวมกางเกง แล้วหันมาโอบกอดไว้ลูบแผ่นหลังบางจนร่างกายของอีกคนอุ่นขึ้น
“ที่นี่อาจมีปลาให้เจ้ากินได้ ข้าจะก่อไฟ และทำอาหาร เจ้าชอบปลาหรือไม่”
อาเม่ยเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อมือใหญ่สัมผัสใบหน้าใส
“ข้าทำให้เจ้าต้องลำบากแล้ว”
มีแต่เพียงดวงตาสีดำสนิทที่มองกลับมา....

บ่ายคล้อยแม่ทัพเชมัลทำอาหารมื้อเย็น ป้อนปลาให้กับอาเม่ย มีเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ แต่ยังคงป้อนปลาให้อีกคนต่อไป
คนที่มาไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่เมื่อเข้ามาใกล้ทั้งหมดกลับหยุดยืน
“เจ้ามาจากที่ใด” เสียงกรรโชกถามดังขึ้น แม่ทัพเชมัลเพียงหันไปมอง
เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในป่าคือใคร ผู้มาทั้งสิ้น 5 คนต่างก็ก้าวถอยพลางหันมองหน้ากัน ผู้ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มถามขึ้น
“แม่ทัพเชมัล เหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่”
“มีความจำเป็นน่ะ” แม่ทัพหันมาป้อนปลาให้อาเม่ยต่อ
“พวกเราเห็นควันไฟ” หากเป็นผู้อื่นแสดงท่าทีเมินเฉยต่อกลุ่มโจรป่า คงได้กลายเป็นศพอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเป็นแม่ทัพเชมัล กลุ่มโจรป่ากลุ่มนี้กลับมีท่าทีให้ความเคารพ
“ท่านลุงอาลีสบายดีหรือไม่”
“หัวหน้าสบายดี” หัวหน้ากลุ่มโจรตอบ “น้องชายท่านนั้นไม่สบาย พวกท่านเข้าไปพักที่หมู่บ้านเถิด”
หัวหน้ากลุ่มโจรบอกอย่างคนที่รู้ดี ว่าหากเชิญให้แม่ทัพเชมัลเข้าไปพักที่หมู่บ้าน แน่นอนว่าจะได้รับคำปฏิเสธ แต่จากท่าทีของแม่ทัพที่กำลังดูแลหนุ่มน้อยผู้นี้ แสดงให้เห็นว่า ต้องเป็นผู้ที่มีความสำคัญ
แม่ทัพป้อนอาหารอีกคำ แล้วกล่าวขึ้น “รอสักครู่”
หัวหน้ากลุ่มหันไปมองรอบๆ “เมื่อหลายวันก่อน มีคนเห็นพวกอสูรปรากฏตัว พวกเราควรกลับไปก่อนค่ำ”

แม่ทัพเชมัลพยักหน้า หมู่บ้านโจรแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้เขตเมืองวัน หัวหน้าหมู่บ้านชื่ออาลี เป็นผู้มีนิสัยรักอิสระ ปฏิเสธการปกครองของทางการ และต่อต้านกฎหมาย จึงพากลุ่มผู้สนับสนุนออกมาตั้งหมู่บ้านโจรอยู่นอกเมือง
เมื่อเข้ามาถึงเขตหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านในวัยเกือบ 40 ปีออกมาต้อนรับด้วยความยินดี

“ถึงพวกเราจะเป็นโจร แต่หากเป็นท่านที่เดินทางผ่านมา ก็สมควรแวะพักทักทายกันสักครู่”
กลุ่มบ้านโจรของอาลีมีไม่ถึง 20 หลังแต่ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเป็นผู้มีฝีมือดี
แต่เมื่ออาลีเห็นดวงตาสีดำสนิทของอาเม่ยก็หยุดชะงัก
“หากท่านลำบากใจ พวกเราจะพักที่นอกหมู่บ้าน” แม่ทัพกล่าวอย่างเกรงใจ
“ไม่หรอก มีอันใดที่จะต้องลำบากใจ” อาลีบอก และพาไปพักที่บ้านหลังหนึ่ง “ทำไมเขาถึงถูกเวทย์ของเฮยอั้น”
แม่ทัพจับให้อาเม่ยนั่งลงที่แคร่ไม้ตัวใหญ่ในบ้าน แต่ยังไม่ปล่อยมือออก “พวกเราต่อสู้กับกองทัพของฝ่ายเหนือ จากนั้นก็ออกมาตามหาทหาร 2 คนที่สูญหายไป ข้ากำจัดเฮยอั้น แต่อาเม่ยกลับถูกเวทย์ทำร้าย”
อาลีส่ายหน้า พลางถอนหายใจยาว “เฮยอั้นเกลียดชังพวกท่านพี่น้องมาแต่ไหนแต่ไร แต่การปล่อยเวทย์ในลมหายใจสุดท้ายเช่นนี้ ต้องถือว่าเกินไป”
นั่นเพราะทำให้การแก้ไขทำได้ยากกว่าเดิมไปอีกหลายเท่า

ผู้ปกครองของเมืองต่างๆ ย่อมรู้จักกันมาหลายชั่วอายุคน แต่ยิ่งนานเมืองเหนือยิ่งให้ความสำคัญต่อการใช้เวทย์ดำ ขณะที่เมืองวันกลับเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
ชั่วเวลาหนึ่งที่แม่ทัพเชมัลมาประจำการที่ประตูด่านทางนี้ ย่อมต้องเคยออกมาท่องเที่ยว และพบปะผู้คน หัวหน้าหมู่บ้านอาลีที่มีนิสัยนักเลงถูกชะตากับผู้มีความกล้าหาญแบบแม่ทัพเชมัล แต่ไม่ชื่นชอบพระราชาฟารัคมากนักเพราะเห็นว่าเป็นผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยม ขณะที่แม่ทัพนาซิมก็เป็นผู้ปกครองที่มีความในใจตลอดเวลา จึงไม่ให้ความรู้สึกไว้วางใจ

ส่วนเรื่องราวของเมืองเหนือ...
“ลือกันว่ามเหสีองค์รองของเมืองเหนือวางยารัชทายาทเจิ้งเทียน เพื่อแย่งชิงตำแหน่งให้กับเจ้าชายองค์รอง แต่เรื่องนี้ไม่แน่ชัด เพราะมีแต่พวกค้าอาวุธที่นานเป็นเดือนจึงนำเอาของไปส่งที่เมืองเหนือ พวกนี้ชอบโอ้อวด จนไม่รู้ว่าเรื่องที่พูดมาเหลือความจริงอยู่กี่ส่วน แต่หากเป็นจริง เรื่องนี้ย่อมหมายถึงศึกในของเมืองเหนือ”
แม่ทัพเชมัลกล่าวช้าๆ
“พวกกองกำลังเวทย์ดำ กำลังพยายามสร้างผลงานด้วยการรบกวนเมืองวัน นั่นอาจเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ”
อาลียิ้มมุมปาก “ท่านดูคล้ายไม่ประหลาดใจกับข่าวนี้”
แม่ทัพเชมัลส่ายหน้า
การใช้เวทย์ดำก็บ่งบอกอยู่แล้ว ว่าเป็นผู้ไม่เคารพต่อความถูกต้องและพร้อมที่จะทำร้ายกันเองทุกเมื่อ
อาลียังบอกเล่า ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในป่านี้อีกหลายเรื่องให้ฟัง ทั้งการปรากฏตัวของเหล่าอสูร และยักษ์
แม่ทัพเชมัลจึงกล่าวอย่างเป็นกังวล “หากพบพวกมันบ่อยครั้งขึ้น ท่านควรนำผู้คนกลับเข้าไปอยู่ที่เมืองหน้าด่านชายแดน”
แต่อาลีกลับหัวเราะ “เป้าหมายของมันไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นพวกท่านต่างหาก”

…จบตอนที่ 18...

(https://www.img.in.th/images/173abe2d51abca24daee0f3829569ebc.jpg)

อย่านะ อย่ามาถามผมเรื่องต้าซันนะ ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ จริงๆ นะเออ :m13:
จากใจผมเลยนะ
พี่ๆ ที่ขัดใจเรื่องเก้า ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็เฉลยแล้วครับ
แล้วก็ต้าซันด้วย เอามาเบรคเรียกรอยยิ้มนิดเดียว แล้วก็จะข้ามไปตอนเกือบจบ
ถ้าอ่านแล้วรู้สึกขัดตา ขัดใจ ขัดอารมณ์ ผมขอโทษครับ
.น้ำชา.

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-07-2015 20:26:58
ตาชันทำให้ยิ้มได้ ในสถานะการณ์ที่กำลังตึงเครียด เชมัลต้องรับบทหนักหลังจากนี้ไปสินะ ชะตาอาเม่ยจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่อาจรู้ แง๊ๆๆๆๆ สงสารทุกฝ่ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 28-07-2015 20:27:53
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

รออาเม่ยคนเดิมกลับมา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 28-07-2015 20:43:25
ต้าซันน่ารักมากกก อ่านไปยิ้มไปเลยล่ะ

พี่เชรับบทหนักที่สุดล่ะตอนนี้ อยากรู้ว่าเฮยอั้นทำร้ายเม่ยเพราะอะไร อยากแก้แค้นพี่เชก็เลยทำร้ายคนสำคัญเหรอ

สงสารเม่ย หายไวๆนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 28-07-2015 21:14:31
กรี๊ดดดดดดดด
เขาสองคนมีโมเมนต์ร่วมกันแล้ว เรารู้สึกได้
แม้นตอนต้นๆพี่ต้ากะองค์รักษ์ผู้คุมจะแย่งซีน
แถมด้วยโฆษณาแอบแฝงของพระราชากะเก้า  นาซิมเป็นสูญากาศเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-07-2015 21:43:27
ตัวรองบทเด่นอีกล่ะ ต้าซันโผล่มานิดเดียวเรียกคะแนนได้จม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-07-2015 21:49:25
มาแล้วๆ

กำลังคิดถึงอยู่พอดี
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 28-07-2015 22:00:42
พี่เชรับบทหนักเนาะตอนนี้   เอาใจช่วยเม่ยให้หายเร็วๆๆ


เชื่อคุณน้ำชาไม่ถามก็ได้ :กอด1: :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-07-2015 22:19:09
ต้าซันพี่ชายของอาเหม่ย

ชิวๆมาก นี่ขนาดอยู่ในคุกนะ

แบบว่าช่างเป็นคนไม่คิดอะไร

มองโลกในแง่ดีมากๆ

เมื่อไรอาเหม่ยจะหายซะที

แล้วท่านแม่ทัพแอบไปทำอะไรเหรอ อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 28-07-2015 22:24:22
อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว ทำให้อยากรู้ในพลังเวทย์ของพระราชาเลย ว่าจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน (ขนาดในคุก คุณพี่ยังไม่หวั่นว่าจะโดนตีหัว)
ต้าซันกับมีอานี่ก็เคมีเข้ากันอีกคู่นะ ลุ้นๆ อย่าบอกนะว่าเป็นแผนของคุณพระราชาจอมเจ้าเล่ห์ หุหุ
อาการอาเม่ยนี่คงต้องลุ้นกันต่อ นิ่งสนิทติดทนนานแบบนี้ วิธีรักษาคงไม่ธรรมดาแน่ พี่เชสู้ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-07-2015 22:41:50
เชมัลคงทุกข์มาก เม่ยที่แสนสดใสกลายเป็นตุ๊กตาเช่นนี้

ต้าซันนี่เหมือนน้องจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2015 03:20:58
พี่ชายขโมยซีนแล้วเม่ย รีบหายรีบกลับมาไวไว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-07-2015 03:33:56
รูปภาพประกอบท้ายตอนสวยจัง  o13 รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 29-07-2015 09:24:00
 :laugh: อีกเป็นเดือนๆเลยนะพี่เช กว่าจะถึงที่หมาย

แต่นะ พระราชาของเมืองเหนือนี่ก็น่าสงสารนะ เดาว่าคงไม่มีพี่น้องคือเป็นลูกคนเดียวเลยกลายเป็นอิจฉาเมืองวันที่พี่น้องช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้อยู่อย่างสงบ แต่ฝั่งเมืองเหนือมีแต่ผู้คนที่คอยแย่งชิง แถมฝีมือยังสู้เมืองวันไม่ได้เลยทำให้ต้องหันไปพึ่งเวทย์ดำ สุดท้ายยยย เวทย์ดำนั้นก็จะเข้าตัว 5555555
นี่ถ้าข่าวที่บอกว่ามเหสีองค์รองของเมืองเหนือวางยารัชทายาทเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนั่นเป็นความจริง นี่ก็เดาต่อไปว่าคนที่อิพ่อตาของพระราชาฟารัคสมคบคิดด้วยนี่น่าจะเป็นคนนี้แน่ๆ อ่ะ
^
^
นั่นคือเดาเล่นๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องแต่อย่างใด  o18
ส่วนต้าซัน นี่ต้องบอกว่ามันคือความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาตอนแรกไม่คิดว่าจะเหมือนเม่ยได้ซะขนาดนี้นะนี่ 55555 บ้านนี้น่ารักเน๊าะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-07-2015 10:30:56
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-07-2015 11:47:37
มีต้าซันมาเบรคอารมณ์ช่วยได้จริงๆ ชอบ~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-07-2015 14:04:09
คุกที่นี่เป็นสีชมพู  :mew3:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 29-07-2015 14:29:51
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ต้าซันน่ารัก อาเม่ยก็น่ารัก(ก่อนโดนเวทย์)
ตัดสินใจยาก รักพี่เสียดายน้อง....เก็บกลับบ้านเราทั้งสองเลยดีกว่า   :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 29-07-2015 19:14:53
 :laugh:  สารภาพตามตรง
ตอนที่พี่ชายของอาเม่ยปรากฏตัวตอนแรก แอบสงสัยว่าจะเป็นคนไม่ดีรึเปล่า
พอมาตอนนี้ แอบถอนหายใจ  :เฮ้อ:  โล่งอก ท่าทางจะโอเคอยู่
ตื่นเต้นอยากอ่านตอนต่อแล้วอะค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 29-07-2015 21:17:00
แม่ทัพเชสู้ๆนะคะงานนี้ รักษาอาเม่ยให้ได้น้าาาาาาาาาา
ขอให้อาเม่ยหายเร็วๆ จะได้กลับมาเป็นอาเม่ยคนช่างสงสัยเหมือนเดิมซักที คิดถึงจะแย่อยู่แล้ววววววววว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-08-2015 23:13:23
ไม่ขัดอกขัดใจอะไรค่ะ แต่ดิฉันอ่านแล้วงงเอง
เพราะอ่านไม่ติดต่อกัน  :try2: จะตามลุ้นตลอดนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 03-08-2015 12:35:26
มารอเม่ย จะมามั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่18หน้า18 (28กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 04-08-2015 11:26:50
เก้าของเค้าาาาา
มานิดๆดีกว่าไม่มา ฮ่ะๆๆๆ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 04-08-2015 18:26:41
ตอนที่ 19

แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยออกเดินทางจากหมู่บ้านของอาลีตั้งแต่เช้ามืด พร้อมด้วยอาหารแห้งและน้ำดื่ม
“ข้าอาจเกลียดชังผู้ปกครองของเมืองวันจนไม่อาจยืนอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันได้ แต่ข้าก็เว้นท่านไว้หนึ่งคน" หัวหน้าหมู่บ้านบอก “และแม้ว่าเดินอยู่ในป่านี้ได้เหมือนกับการเดินเล่นอยู่ในค่ายทหารของท่านก็จริง แต่การที่มีเวทย์ดำของเฮยอั้นอยู่ข้างกายตลอดเช่นนี้ เท่ากับท่านมีสัตว์ร้ายอยู่ใกล้ตัว รอแต่จะทำร้ายท่านเมื่อไหร่เท่านั้น โปรดระมัดระวัง”
แม้จะไม่พอใจที่อาลีเรียกอาเม่ยเช่นนั้น แต่แม่ทัพเชมัลก็ยอมรับว่ามันคือความจริง
ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า สิ่งใด หรือการกระทำใด ที่จะเป็นดั่งกุญแจปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายจากอาเม่ย ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นกำไลที่ผนึกไว้ก็อาจยังไม่เพียงพอ
แต่ลึกลงไปในใจ แม่ทัพเชมัลยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมได้
บางสิ่งบางอย่างในใจร้องบอกว่า อาเม่ยเองก็กำลังพยายามอย่างมากที่จะเอาชนะเวทย์นี้อยู่เช่นกัน

ลำพังเวทย์ของตนเอง แม่ทัพเชมัลสามารถเดินทางต่อเนื่องได้โดยไม่หยุดพัก และอาจใช้เวลาไม่ถึง 10 วันในการเดินทางอ้อมเมืองไปจนถึงประตูด่านแห่งสุดท้าย ซึ่งจากที่นั่นจะใช้เวลาเดินทางต่อไม่ถึงครึ่งวันก็จะถึงท่าเรือขนาดเล็กที่สามารถหาซื้อเรือ เดินทางต่อไปถึงเกาะที่หมาย
หรือหากเป็นอาเม่ยในยามที่เป็นปกติก็อาจใช้เวลานานกว่าเพียงเล็กน้อยในการเดินทาง
แต่อาเม่ยในเวลานี้ อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถคาดเดาสิ่งใดได้ทั้งสิ้น แม่ทัพเชมัลจึงเผื่อเวลาไว้มาก
ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา อาเม่ยได้แต่เดินตามมาเรื่อย กว่าที่อีกคนจะรู้ว่าอ่อนเพลียก็ต่อเมื่ออาเม่ยสะดุดรากไม้ เพราะเหน็ดเหนื่อยจนไม่อาจก้าวขาได้อีก
เมื่อหันไปมองจึงเห็นใบหน้าซีดเผือด หอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ต้องจับให้นั่งพัก และทุกครั้งที่ป้อนน้ำป้อนอาหารให้ก็จะกินหมดอย่างหิวโหย แล้วหลับไปในทันทีที่กินอิ่ม จากเดิมที่ตั้งใจจะเดินทางต่อทันทีที่กินอาหารเสร็จ จึงมักกลายเป็นการเริ่มการเดินทางในเช้าวันถัดไป

“ขอโทษนะเสี่ยวเม่ย ที่ทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้”
มือใหญ่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้คนที่หลับ แล้วเกลี่ยเส้นผมอ่อนนิ่ม จากนั้นก็รวบถักเปียให้
“ขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้ปกป้องเจ้า คิดเพียงพวกเจ้าทั้ง 3 คนเพิ่งเข้ามาในกองทัพ ยังไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนนอกด่าน ปล่อยให้เจ้าออกมาเผชิญอันตราย แล้วกลับต้องสูญเสียไปทั้งตงและโป ส่วนเจ้า.....ข้าสามารถขจัดเวทย์ดำให้เจ้าได้ แต่นั่นต้องใช้เวลา”

การเดินทางยิ่งนานยิ่งช้าลง เมื่ออาเม่ยอ่อนเพลียมากขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงประตูเมืองเล็กๆ แห่งสุดท้าย ก่อนที่จะเป็นหน้าผาสูงชัน และทะเลลึก

แม่ทัพเชมัลตัดสินใจแบกอาเม่ยขึ้นหลัง
“ข้ารู้ว่าเจ้าอ่อนเพลีย แต่หากเรารั้งรอหยุดพักเจ้าก็จะยิ่งอ่อนเพลียลงไปอีก อดทนอีกนิดเดียวเท่านั้น”
แนวกันชนที่เคยเป็นเหมือนดินแดนแห่งการผจญภัยของเชมัลเมื่อครั้งที่ถูกส่งตัวมาเป็นรองแม่ทัพที่เมืองหน้าด่าน ยามนี้กลับเป็นเพียงเส้นทางที่ผู้ชำนาญเส้นทางเพียงมุ่งหวังไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด
เมื่อมาถึงเป็นยามบ่ายจัด ประตูเมืองแห่งสุดท้ายที่แทบไม่เคยเปิดออก ส่งเสียงดังก้องยามกลไก และข้อต่อต่างๆ ขยับตัว พร้อมกันกับที่คนที่อยู่ภายในแทรกตัวออกมาหาในทันทีที่สามารถลอดตัวออกมาได้
เป็นองครักษ์แซนที่นัดหมายให้ไปหาที่เกาะห่างไกลในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ในบรรดาองครักษ์ทั้งหมด องครักษ์แซนเป็นคนที่เยือกเย็นที่สุด แม้การฝืนคำสั่งมารอที่ประตูเมืองแห่งนี้จะเป็นที่เข้าใจได้ แต่แม่ทัพเชมัลก็ยังต้องตักเตือน
“ข้าไม่ได้นัดพบเจ้าที่นี่” คนตัวโตกล่าวโดยที่ยังไม่ยอมหยุดเท้า จนเข้ามาภายในเขตเมืองวัน
องครักษ์แซนพร้อมรับการลงโทษ แต่เมื่อจะเอื้อมมือไปรับคนที่หลับอยู่บนหลังของแม่ทัพ แม่ทัพก็เบี่ยงตัวหลบไม่ให้แตะต้อง มือที่เอื้อมมาหาจึงค้างอยู่กลางทาง
ดวงตาสีน้ำทะเลมองแม่ทัพที่ออกคำสั่งต่อทันที
“เราต้องเร่งเดินทางต่อ”
เมื่อหันไปมองรอบตัว องครักษ์ฺแซนจึงเข้าใจ เมื่อม้าที่ผูกไว้ใกล้เคียงมีอาการกระสับกระส่าย พ่นลมหายใจแรง ทั้งบางตัวยังพยายามดึงรั้งเชือกที่ผูกไว้ จนคนคุมม้าต้องพยายามเข้าไปปลอบ
“พวกม้าดูตื่นกลัว”
“พวกเราจึงต้องเดินเท้าเท่านั้น” แม่ทัพยังคงกล่าวคำต่อไป โดยไม่หยุดฝีเท้า 
องครักษ์แซนจึงต้องเป็นฝ่ายรับหน้านายด่านที่เพิ่งผละจากการทำงานมาต้อนรับ
“ทหารยามแจ้งว่า แม่ทัพเชมัลมาทางนี้”
“ใช่ แต่แม่ทัพเร่งเดินทางต่อไปแล้ว” แซนหันไปมองม้าที่กลับมามีท่าทีสงบลงทันทีที่แม่ทัพพ้นไป
“เกิดเรื่องเร่งด่วนอันใดขึ้น”
“ข้าเองก็ไม่ล่วงรู้เช่นกัน” องครักษ์แซนกล่าวความจริง “ยังไม่ทันได้พูดคุยอันใด แม่ทัพก็เดินทางต่อทันที”
“แล้ว...ม้ากับเสบียงที่ท่านให้เตรียมไว้” นายด่านยังคงเป็นกังวลว่าจะทำหน้าที่บกพร่อง
“ขอบใจท่านมากที่ช่วยเป็นธุระจัดหาสิ่งของต่างๆ ไว้” องครักษ์แซนหันไปรวบรวมเสบียงสิ่งของต่างๆ “ข้าจะเรียนแม่ทัพว่าท่านเตรียมการรับรองแม่ทัพไว้เป็นอย่างดี ขออภัยที่ข้าเองก็ต้องเร่งติดตามท่านแม่ทัพไปเช่นกัน”

หลังกล่าวคำอำลาอย่างสุภาพ องครักษ์แซนจึงเร่งเท้าออกติดตามมาจนทัน
แม่ทัพเชมัลเลือกใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงชุมชน และเดินทางโดยไม่หยุดพัก จนกระทั่งถึงท่าเรือเล็ก องครักษ์แซนชี้ไปยังเรือที่เตรียมไว้
คนรูปร่างสูงมองแม่ทัพที่ประคองอาเม่ยลงนอนภายในเรือ แล้วจึงส่งน้ำดื่มให้ แต่แม่ทัพก็หันไปป้อนให้อาเม่ยก่อน
“เสี่ยวเม่ย ลืมตาขึ้นสักนิด ดื่มน้ำก่อน”
น้ำเสียงอ่อนโยนผิดแผกไปจนองครักษ์แซนต้องเลี่ยงออกมาด้านนอก คัดท้ายเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะที่อยู่ห่างไกล
ครู่หนึ่งแม่ทัพเชมัลจึงออกมาหาที่ด้านท้ายเรือ
“ขออภัยที่ฝ่าฝืนคำสั่ง” องครักษ์แซนกล่าวขึ้นก่อน แม่ทัพเพียงพยักหน้ารับ “เมื่อพี่ใหญ่รอมกลับไปถึง และบอกคำสั่งข้าก็จัดหาเสบียงและออกเดินทางมาเลย”
แม่ทัพเชมัลยิ้มมุมปาก องครักษ์แซนคนใจเย็นกลับฝ่าฝืนคำสั่งของทั้งแม่ทัพ และหัวหน้าองครักษ์รอม
“ข้ามาถึงตั้งแต่เมื่อ 5 วันก่อน ยังแปลกใจที่ท่านเดินทางมาถึงล่าช้ากว่าปกติ จนกระทั่งเห็นเม่ย...” องครักษ์แซนหันไปมองในเรือ “พี่ใหญ่รอมไม่ได้บอกอาการของเขา ข้าจึงไม่ได้เตรียมยามาด้วย แต่ส่งท่านก่อนแล้วข้าจะ....”
“ไม่เป็นไร” แม่ทัพขัดขึ้นก่อน “เจ้าส่งพวกเราไว้ที่เกาะ แล้วอีก 1 เดือนข้างหน้าค่อยเอาเสบียงอาหารมาส่งอีกครั้ง หนทางห่างไกล ทั้งพระราชายังต้องการให้เจ้าทำงานสำคัญมากกว่าการดูแลข้า”
องครักษ์แซนพยักหน้า ทั้งที่ตั้งใจจะฝ่าฝืนคำสั่งอีกครั้ง
“ท่านน่าจะได้พักผ่อนสักครู่”
“เมื่อถึงเกาะ ข้าก็จะได้พักผ่อนอย่างสบายแล้ว”
องครักษ์แซนส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ ส่วนแม่ทัพถอนหายใจหนักๆ “รอมเล่าอะไรให้ฟังบ้าง”
คนรูปร่างสูงบอกตามตรง ว่ารอมองครักษ์พี่ใหญ่ของกลุ่ม บอกแต่เพียงว่า องครักษ์ตงและโปเสียชีวิตแล้ว ขณะที่อาเม่ยถูกเฮยอั้นผู้ครองเวทย์ดำแห่งเมืองเหนือทำร้ายในลมหายใจสุดท้ายก่อนที่จะสลายร่าง แม่ทัพจึงไม่อาจเสี่ยงพาอาเม่ยเดินทางเข้าเขตเมืองวัน จำเป็นต้องเดินทางอ้อมเมือง และนัดให้ไปพบในอีก 1 เดือนข้างหน้า
“เมื่อพี่ใหญ่รอม บอกว่า เป็นเฮยอั้นเจ้าเวทย์ดำคนนั้น ข้ายังไม่คิดว่าเม่ยจะบาดเจ็บหนักเพียงนี้"
“ข้าเองก็ประมาท เพราะเห็นว่าทุกคนต่างก็เป็นผู้ใช้เวทย์ น่าจะป้องกันตนเองได้”
เป็นความประมาทร้ายแรงเกินกว่าจะให้อภัยตนเอง!
“พี่ใหญ่รอม กับน้องสี่ฮูดาเคยเผชิญหน้ากับเฮยอั้น พวกเขาย่อมรู้วิธีหลีกเลี่ยง”

แต่เฮยอั้นที่พบกับอาเม่ย ตง และโป กลับใช้เวทย์ดำโจมตีอาเม่ยให้หันไปสังหารเพื่อน แล้วก็โจมตีเม่ยอีกครั้งในการใช้พลังเวทย์ครั้งสุดท้าย เพื่อหวังผลบางอย่างที่มันจะต้องคุ้มค่ากับความตายของตนเอง!
แม้หัวหน้าองครักษ์รอมและองครักษ์ฮูดาจะไม่ได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้แซนรู้ ทั้งองครักษ์แซนยังเร่งออกมาจากเมืองก่อน จึงไม่ล่วงรู้ว่าเสนาบดีหลี่นำเรื่องนี้ไปแจ้งให้พระราชา เพื่อลงโทษพี่ชายของอาเม่ยแล้ว
 
องครักษ์แซนคัดท้ายเรือไปยังเกาะเล็ก ที่ไม่มีท่าเรือ จึงต้องคัดท้ายเรือเข้าไปจนกระทั่งท้องเรือติดผืนทรายแล้วลากต่อขึ้นไปอีกต่อ
แม่ทัพเชมัลอุ้มอาเม่ยลงจากเรือแล้วก้าวขึ้นฝั่ง ตรงไปยังบ้านพักหลังเล็กที่ปลูกสร้างอยู่ในที่สูงท่ามกลางต้นไม้ใหญ่บนเกาะแห่งนี้
องครักษ์แซนถือสัมภาระติดตามมาถึงที่พัก และขอต่อเวลาในการดูแลอีกชั่วยามด้วยการเตรียมอาหารไว้ให้แล้วจากไป
แม่ทัพปลุกคนที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมากินอาหารแล้วอุ้มไปอาบน้ำล้างตัวให้ และเป็นเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา
เมื่อกินอิ่มอาเม่ยก็หลับต่อไปในทันที แม้จะลืมตาขึ้นมองเมื่อร่างกายสัมผัสน้ำเย็นอยู่ครู่หนึ่งก็ตาม

เพียงแต่เมื่อกลับมาถึงที่พัก สวมเสื้อผ้าแล้วเช็ดผมจนแห้ง จับให้ลงนอน เมื่อแม่ทัพเอนตัวลงนอนข้างๆ อาเม่ยกลับลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่ง
“เสี่ยวเม่ย”
อาเม่ยมองคนที่ถาม
“นอนนาน ทำให้ไม่อยากนอนพักแล้วหรือไง” อีกคนถามด้วยรอยยิ้ม “หรือเมื่อเย็นยังกินไม่อิ่ม”
อาเม่ยกะพริบตาสีดำสนิทแล้วก็กลับล้มตัวลงนอนเอง ทั้งดึงเสื้อของอีกคนให้นอนลงข้างๆ ครู่หนึ่งก็ขยับตัวเข้ามานอนซุกหน้ากับต้นแขนใหญ่
อาเม่ยต้องการไออุ่นจึงซุกตัวอยู่ข้างกัน แต่แม่ทัพเชมัลกลับรู้สึกลำบากใจกับความต้องการที่เกิดขึ้น
ตลอดเวลาในการเดินทาง ยามที่อยู่ในห้วงเวลาผ่อนคลายทั้งในยามที่อาบน้ำล้างตัวให้ และในเวลาที่นอนหลับเช่นนี้ ความต้องการเป็นหนึ่งเดียวกันมักเกิดขึ้น จนต้องละอายตัวเอง
ก่อนนี้จะเปลี่ยนความสนใจไปที่ความตั้งใจฟังเสียงการเคลื่อนไหวรอบตัว เพื่อระวังภัย แต่เมื่อมาอยู่บนเกาะกันตามลำพัง ความตั้งใจนี้กลับยากเย็นยิ่งนัก!

เช้าวันถัดมา หลังจากที่ให้กินอาหารเช้าเสร็จ อาเม่ยไม่มีทีท่าว่าจะนอนต่อ แม่ทัพเชมัลก็จูงมือพาไปที่ชายหาด แล้วถอดกำไลโลหะให้
ทันทีที่กำไลหลุดออก อาเม่ยส่งเสียงครางต่ำๆ ขณะที่หลับตาลง
คนตัวใหญ่ก้าวถอยออกมา 5 ก้าว โดยยังไม่ละสายตาไปจากอีกคน
อาเม่ยเกร็งมือ ผิวกายสีขาวซีดกลับกลายเป็นสีดำไม่ต่างจากดวงตา จากเสียงครางต่ำ กลายเป็นเสียงร้องตะโกนก้องปล่อยพลังที่อัดไว้ออกมา
ลมแรงกระแทกต้นไม้ใหญ่ชายหาดล้มครืน คลื่นทะเลปั่นป่วน ฝุ่นทรายหมุนวนรอบตัว แม่ทัพเชมัลต้องใช้แขนปิดบังจมูก พยายามลืมตามองความเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
แต่อาเม่ยกลับไม่มีท่าทีที่จะตรงเข้าทำร้ายแม่ทัพเชมัล เพียงแต่ปล่อยพลังที่อัดไว้ออกแล้ว ทรุดตัวลงคุกเข่า หอบหายใจ
“เสี่ยวเม่ย” แม่ทัพเรียก ขณะที่จับข้อมือของอีกคนไว้ ร่ายเวทย์รักษา
แต่อาเม่ยพยายามขืนตัว แม่ทัพต้องใช้ต้นแขนหนีบแขนของอีกฝ่ายไว้ อาเม่ยจึงมองไม่เห็นเมื่อปลายมีดคมกรีดลงที่ฝ่ามือ
แม่ทัพเชมัลร่ายเวทย์รักษา ขณะที่กดปลายมีดกรีด หยดเลือดสีดำจากปากแผล ตกลงสู่ผืนทรายก่อให้เกิดประกายไฟเล็กๆ  ผิวกายกลับมาเป็นสีขาวดุจหิมะดังเดิม
แรงขัดขืนลดลง แม่ทัพเชมัลจึงหันมาจับกอดให้ซุกหน้าไว้กับอกกว้าง แต่ยื่นมือที่ยังมีบาดแผลจากมีดกรีดออกไปสุดแขน
เมื่อคนที่กอดอยู่อ่อนล้าลงแม่ทัพก็สวมกำไลโลหะให้ ใช้ผ้าสะอาดพันแผล แล้วอุ้มพากลับมาที่พักเพื่อทำแผลให้อีกครั้ง

ต้าซัน พี่ชายของอาเม่ยเคยเล่าว่า อาเม่ยสามารถใช้พลังเวทย์ได้หลายอย่าง ขณะที่เจ้าตัวเคยใช้เวทย์ไฟเมื่อตอนที่ทดสอบเข้าร่วมกองทัพ
แต่องครักษ์เก้าเชื่อว่า พลังที่แท้จริงของอาเม่ยคือลม
และวันนี้ พลังเวทย์เพียงอย่างเดียวที่อาเม่ยปลดปล่อยออกมา มีเพียงลม
แต่หยดเลือดนั่นเป็นไฟ

แม่ทัพเชมัลปล่อยให้อาเม่ยนอนพัก ส่วนตัวเองออกไปสำรวจความเสียหายเมื่อครู่ แล้วเดินไปทางฝั่งที่แซนจอดเรือเมื่อวันก่อน
ยังมีต้นไม้ประเภทไม้ผล สวนผักขนาดเล็ก ไก่หลายตัวอยู่ในกรง และบ่อปลาขนาดเล็ก
ต้นไม้เหล่านี้มีอยู่บนเกาะนี้มานาน ส่วนสิ่งอื่นคาดเดาได้ว่า ต้องเป็นฝีมือของบรรดาองครักษ์ที่มาช่วยกันปลูกเตรียมไว้ ซึ่งอาจเป็นองครักษ์ซัน หรือรอม แล้วทั้งหมดก็พากันกลับไปเมื่อวานนี้
ที่ไม่คิดว่าจะเป็นองครักษ์ฮูดา ก็เพราะด้วยนิสัยแล้ว คนผู้นี้จะต้องอยู่รอจนกว่าจะพบ และจัดการความเป็นอยู่ที่นี่อีกหลายวันจึงจะกลับไป
ไม่แน่ว่าอาจต้องมีปากเสียงกันก่อน ถึงจะยอมสะบัดหน้าจากไป

แม่ทัพหยิบไข่ไก่ และผลไม้กลับมาด้วย แต่เมื่อเดินเข้าไปในที่พัก อาเม่ยที่นอนหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นลุกนั่ง ส่งเสียงไม่พอใจที่ข้อมือถูกตรึงไว้กับพื้น
“อยากไปเดินเล่นหรือ” แม่ทัพนั่งลงบนที่นอน มือใหญ่คลายเส้นผมยุ่ง แล้วรวบถักเปียให้ใหม่ “เห็นเจ้าอ่อนเพลียมาหลายวัน ไม่คาดคิดว่า แท้จริงเจ้ามีพลังที่แข็งแกร่งมาก ถึงขนาดที่ล้มต้นไม้ใหญ่ที่ชายหาดไปหลายต้น”   
ดวงตาสีดำที่ปราศจากสีขาวล้อมรอบ จ้องมองมือที่มีผ้าพันแผล แม่ทัพก็บอกโดยที่ไม่ต้องมีคำถาม “ข้าขับเลือดสีดำออกไป เจ็บแผลหรือไม่”
มือใหญ่จับมือข้างนั้นไว้ หยุดมองเพื่อรอคอยคำตอบ
แต่มีเพียงเสียงครางต่ำๆ 
“ไปเดินเล่นกัน”

อย่างน้อยวันนี้ก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ดีกว่าหลายวันที่ผ่านมา แต่แม้จะกล่าวชวนกันไปเดินเล่น อาเม่ยก็ยังทำได้เพียงการเดินตามอีกคนไปเรื่อย
“เกาะนี้อยู่ห่างไกล พวกเรานำสัตว์ป่ามาปล่อยไว้ และปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ออกผลให้แก่นักเดินเรือที่พลัดหลงมา แต่เมื่อครั้งยังเด็ก ข้ากับพระราชาก็เคยมาถึงที่นี่ เพื่อฝึกหัดการเอาตัวรอด” แม่ทัพเชมัล ดึงมืออีกคนให้นั่งลงข้างกันที่โขดหิน มองผืนทะเลที่สงบนิ่ง “ผู้ใหญ่เรียกมันว่าการเอาตัวรอด แต่สำหรับข้ากับพระราชาแล้ว ที่นี่คือสถานที่ที่น่าเบื่อหน่ายยิ่งนัก ที่เขตกันชนระหว่าง 3 เมืองใหญ่นั่นต่างหากจึงจะเรียกว่า ที่ฝึกหัดเพื่อเอาตัวรอด”
ดวงตาสีเข้มหันมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ปลายนิ้วแตะแก้มใส
“การที่เฮยอั้น ใช้เวทย์ดำกับเจ้า เพื่อให้เจ้าหันไปทำร้ายตงกับโป ย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันต้องรู้ว่าเจ้าสำคัญกับข้า มากกว่าชีวิตของข้าเอง และเพราะมันรู้ว่าเจ้าคือคนสำคัญ มันจึงเลือกทำร้ายเจ้าเช่นนี้” ริมฝีปากหนาจูบที่หน้าผากมน “ขอโทษนะเสี่ยวเม่ย”

...จบตอนที่ 19...

(http://image.free.in.th/v/2013/id/150804065305.jpg) (http://picture.in.th/id/d40ef18dad60414a2605bacc4b6dd790)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 04-08-2015 18:31:39
มองสภาพของอาเม่ยออกเลยนะในตอนนี้ แง๊ๆๆ ขอร้องไห้ให้กับอาเม่ยสักครั้งเหอะ ไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์เลย มีชีวิตแต่ไม่มีหัวใจ เชมัลท่านต้องสู้นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 04-08-2015 18:56:59
งื้อออออ เค้ายังอ่านไม่สะใจเลย
พี่ไจฟ์กะน้องทีมาลงสัก 10 ตอนไม่ได้เหรอคะ 5555  :impress2:
อ่านๆไปแล้วสงสารเชมัลอะ คงเจ็บปวดน่าดูที่เห็นเม่ยเป็นอย่างนี้
รออ่านและเอาใจช่วยนะคะ #ทีมเชมัล  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 04-08-2015 19:26:11
สงสารพี่เชคงเจ็บมากที่เห็นเสี่ยวเม่ยเป็นแบบนี้ :mew6:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-08-2015 19:52:17
เฮยอั้นทำร้ายอาเม่ยก็เหมือนทำร้ายพี่เช แถมยังทำให้พี่เชเจ็บใจยิ่งกว่าที่ทำร้ายอาเม่ยต่อหน้าพี่เชได้ นอกจากเวทย์ลมกับไฟ อาเม่ยยังใช้เวทย์อื่นได้อีกรึเปล่าล่ะเนี่ย :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-08-2015 20:05:47
อาเหม่ยจากที่แย้วๆ

ถามโน้นถามนี่

ตอนนี้กลับเงียบๆมันแปลกไปจริงๆ

ปกติเวทต์จะคลายเมื่อเจ้าของเวทต์ได้ตายไป

แต่นี่เจ้าของเวทต์ตายไปแล้ว

เวทต์ยังไม่คลายแสดงว่าเป็นเวทต์ที่รุนแรงมากๆ

แล้วจะรักษาอาเหม่ยยังไง เห็นใจท่านแม่ทัพมากๆ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 04-08-2015 20:20:34
เม่ยถูกเวทย์จากเจ้าของเวทย์ชั่วร้ายผนึกไว้ด้วยชีวิตของตัวเองสินะ
จะสมน้ำหน้าพี่เช ก็สงสารจิตสำนึกของเม่ยที่ถูกกักขังไว้ในใจตัวเอง
คิดว่าเม่ยคงรู้แล้วล่ะว่าแม่ทัพ"รัก"มากแค่ไหน


มะไรคนอ่านจะได้ฉ่ำชื่นหัวใจคะ ?
 ตอบ....สิคะ
ณ เวลานี้ตอนหน้าไม่เอาเก้า พี่ชาย พระราชา องครักษ์ฯลฯ ขอเชเม่ย เต็มๆค่ะ
 :dont2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 04-08-2015 20:25:18
 :mew6: :mew6:

คิดถึงตกกับโป....

ชอบเเม่ทัพเชที่ทักผมให่อาเม่ยย :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-08-2015 20:37:30
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-08-2015 22:11:47
สู้ๆนะเสี่ยวเม่ย มีชีวิตเพื่อตงกับโปด้วยนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 04-08-2015 22:28:42
 ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา :)

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 04-08-2015 22:44:10
ง่า...

เสี่ยวเม่ย
 :mew6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 04-08-2015 23:32:03
ชอบฉากที่อาเม่ยลุกขึ้นมานั่ง --> พี่เชคุยด้วย --> เม่ยกระพริบตาแล้วล้มตัวลงนอน --> ดึงเสื้อพี่เชให้นอนลงข้างๆ --> เอาหน้าไปซุกแขนพี่เช
ฉากนี้น่ารักมุ้งมิ้งมากๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกว่าเม่ยเหมือนตุ๊กตาเลย
เสียดายพี่เชดันหื่น คิดอกุศลกับเม่ยซะงั้น เสียบรรยากาศโหม๊ดดดดดดดดดดด 555555555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-08-2015 23:57:13
พี่เชน่ารักนะดูแลอาเม่ยอย่างดี แต่บางทีก็แอบหื่น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-08-2015 07:56:59
บำเพ็ญตบะให้แก่กล้านะท่านเช

อย่าใจแตกปล้ำตุ๊กเม่ยซะก่อนรักษาหาย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 05-08-2015 09:53:04
แต่คิดว่าเม่ยต้องดีใจนะเพราะอย่างน้อยๆที่ตัวเองโดนกระทำจากเฮยอั้นแบบนี้คือสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเพราะตัวเองเป็นที่รักมากของพี่เช ดังนั้นเม่ยไม่ยอมแพ้หรอก
นี่กำลังคิดว่าหลังจากที่ต้องกลับไปรับโทษจากพระราชาฟารัคจะโดนลงโทษแบบไหน จะขับไล่ให้ออกไปอยู่ด้วยกันนอกเมืองไม๊น๊อ หรือจะโดนจับแยก  :mew2:

..แต่ประโยคของหัวหน้าหมู่บ้านที่บอกว่าเกลียดผู้ปกครองเมืองวัน แปลว่าท่านฟารัคนี่ก็ร้ายใช่เล่นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2015 11:16:32
อาเม่ยคนเดิมกลับมาเร็วๆน่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-08-2015 11:37:53
ช่วยอาเม่ยให้ได้นะพี่เช!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 05-08-2015 14:08:35
 :sad4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 05-08-2015 17:03:50
ถือซะว่าอาเม่ยความจำเสื่อมชั่วคราวแล้วกันนะ :mew2:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 05-08-2015 18:52:22
เป็นกำลังใจให้แม่ทัพเชมัลกับอาเม่ยนะ  :กอด1:

แม่ทัพเองก็ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาอาเม่ย  ส่วนอาเม่ยเองก็ต้องกลับมาเป็นปกติให้ได้โดยเร็ว
เจออาเม่ยโหมดนี้ไม่ชินเลยจริง ๆ คิดถึงตอนมุ้งมิ้ง  ต่อปากต่อคำกับแม่ทัพอ่ะ หายเร็ว ๆ น้าอาเม่ย

อยู่กันสองต่อสองแบบนี้ ความอดทนของแม่ทัพจะหมดเมื่อไหร่นะ 
ถึงเม่ยจะป่วยอยู่ก็เถอะ  อยากกอด  อยากรักก็ทำไปเล้ยยยยย  เรื่องนี้เชียร์แม่ทัพอยู่นะ  ก๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 05-08-2015 20:15:10
คิดว่าเม่ยรับรู้ทุกอย่างที่พี่เชทำให้ใช่มั้ย แค่ตอบโต้อย่างเคยไม่ได้เพราะโดนเวทย์ของเฮยอั้น สงสารพี่เชนักโดนทำร้ายหัวใจขนาดนี้

ส่วนเรื่องนั้นอดทนไว้นะพี่เช เม่ยหายแล้วค่อยมาว่ากันอีกที

มาใหม่ ลืมบวกเป็ด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 11-08-2015 14:09:58
ดันพี่เช ฮึบๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 11-08-2015 15:07:05
มาตามอ่าน  เม้นรวบเลยเนอะ

ตอนที่ 18
ส่วนใหญ่ก็ดูหม่นๆ แต่ได้ตอนพี่ต้าซันมาช่วยเบรคอารณ์ได้จริงๆนะ
นิสัยเดียวกับอาเม่ยอย่างที่เก้าว่า...ช่างพูดนัก
คิดถึงเสี่ยวเม่ยคนเดิมจริงๆอ่ะ
ตอนนี้ก็ได้แต่ส่งสารท่านแม่ทัพ
ข่มใจไว้ค่ะพี่  :laugh:

ตอน 19
ตอนนี้ยิ่งสงสารทั้งท่านแม่ทัพและเสี่ยวเม่ย
เสี่ยวเม่ยต้องสู้ต่อไปนะ ท่านแม่ทัพพยายามหาทางช่วยมาถึงขนาดนี้
แถมยังอุตส่าห์อดกลั้นไม่จับเด็กน้อยกินอีก 555
เป็นกำลังใจให้เชมัลรักษาเม่ยให้ได้ค่ะ
เอาไว้ฉลองวันแห่งความสุขสันต์หลังพายุพ้นผ่านไปเนอะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 11-08-2015 16:13:25
โอ้วววว เพิ่งรู้ว่าคนแต่งเรื่องนี้คือคนเดียวกันกับไจฟ์น้ำชา (Jivetea )ชอบนิยายของ ไจฟ์ทีมากกกก
เพิ่งอ่าน I will make you smile กับ  Never Let you go จบ เป็นรอบที่2แล้ว  เฮียชาโต้ กับน้องคีย์  :กอด1:
เดี๋ยวขออ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นก่อนค่อยมาเมนท์นะ ^_^   
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่19หน้า19 (4สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 11-08-2015 18:33:30
"แต่ลึกลงไปในใจ แม่ทัพเชมัลยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมได้"
ประโยคนี้อ่านแล้ว ทำไมหวั่นใจยังไงพิกล  o8


หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 11-08-2015 22:21:18
ตอนที่ 20

หลังอาหารเช้า หรือหากจะเรียกอย่างถูกต้อง ก็สมควรที่จะเรียกว่าอาหารมื้อแรกของวันนี้ แม่ทัพเชมัลจับข้อมือที่สวมกำไลโลหะพาอาเม่ยไปยังชายหาดอีกครั้ง

เกาะแห่งนี้ไม่ได้มีอาณาเขตกว้างขวางมากนัก จากบ้านพักที่ตั้งอยู่ใกล้กับสายน้ำ เดินเรื่อยๆ ผ่านต้นไม้สูงใหญ่ และพุ่มไม้ผลที่ยังไม่ออกดอกออกผล คนตัวโตหันไปชวนคุย และเล่าเรื่องของต้นไม้ใหญ่น้อยในที่นี้
บ้างมีอยู่เดิมตามธรรมชาติ บ้างปลูกขึ้นใหม่
ส่วนสัตว์ต่างๆ ในที่นี้ยกเว้นนก คือสัตว์ที่ถูกนำมาปล่อยไว้เช่นกัน
อากาศที่นี่ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ เห็นอยู่ว่ามีแดดแรง แต่ชั่วครู่เดียวก็มีฝนตก
ทั้งเมื่อมีฝนตก แต่ขณะที่เราวิ่งกลับไปหาที่หลบฝน ฝนอาจหยุดตกไปเฉยๆ
แต่ในขณะที่กำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเกาะแห่งนี้ ที่ล้วนเป็นเรื่องเดิม ที่เคยเล่ามาแล้วหลายครั้ง คนเล่าเรื่องก็เริ่มรู้สึกว่าเรื่องที่เล่าไม่สนุกเหมือนกับในรอบแรก

เมื่อก้าวลงมายืนใกล้ชายหาด แม่ทัพจึงร่ายเวทย์ขณะปลดกำไลโลหะออกจากข้อมือผอม
ผิวกายขาว กลายเป็นสีดำ เช่นเดียวกับผมสีเงินที่กลายเป็นสีดำสนิท
อาเม่ยสะบัดข้อมือทันที! พร้อมเสียงคำรามก้อง!
เปลวไฟลุกจากปลายนิ้วตกใส่ผืนทรายห่างออกไปวาเศษ กลายเป็นระเบิดทรายขนาดเล็ก!
ทั้งที่แม่ทัพเชมัลยังยืนข้างๆ แต่อาเม่ยไม่มีท่าทีว่าจะหันมาทำร้าย กลับสะบัดลูกไฟใส่ผืนทราย แล้ววิ่งตะบึงไปอีกทาง
แม่ทัพเชมัลก็ปล่อยให้อาเม่ยวิ่งไปโดยไม่ขัดขวาง ทิ้งหลุมทรายกับดวงไฟกองเล็กเป็นแนว 2 ข้างทาง
เพียงแต่เมื่อไปจนสุดทางอาเม่ยก็หันกลับมา แล้วหยุดยืนนิ่ง ดวงตาสีดำสนิทมองตรงมา
เป็นการมองตรงๆ โดยไม่อาจรู้ว่ากำลังมองสิ่งใดอยู่
แม้จะหอบหายใจแรง แต่เวลานี้สีผิวไม่ได้เป็นสีดำสนิทแล้ว  รอยริ้วสีผิวที่จริงของอาเม่ยปรากฏให้เห็น ทั้งที่ใบหน้า และแขน
แม่ทัพเชมัลเข้าประชิดตัว ล็อคแขนไขว้หลัง  ร่ายเวทย์รักษาขณะที่จรดปลายมีดลงที่ฝ่ามือ เลือดสีดำจากปากแผลหยดลงสู่ผืนทราย
แม้อาเม่ยจะขัดขืน แต่ไม่มีทีท่าว่าจะใช้พลังเวทย์กับแม่ทัพเชมัล เมื่อปากแผลเปิดก็ส่งเสียงดังก้อง!
เสียงร้อง ดั่งเสียงคำรามของสัตว์ร้าย ที่ไม่ใช่เสียงของอาเม่ย ยิ่งได้ยินยิ่งรู้สึกปวดร้าวในอก!
แม่ทัพเชมัลกรีดมีดลงที่ฝ่ามือของตนเอง กดฝ่ามือแนบสนิทกับมือของอาเม่ย
ความร้อนจากหยดเลือดของอีกฝ่ายกำลังผลักดันให้ต้องดึงมือออก แต่แม่ทัพกดมือไว้แน่นกว่าเดิม
เสียงคำรามร้องที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นดังก้อง คนตัวเล็กต่อสู้สุดแรงแต่แม่ทัพยังไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งเสียงคำรามขาดหาย ร่างผอมบางเริ่มอ่อนแรง จึงออกคำสั่งกำกับ พร้อมกับคลายมือออก

“ออกไปจากเสี่ยวเม่ย!”

ฉับพลันกลุ่มเงาสีดำพวยพุ่งผ่านปากแผลที่ฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเสือตัวใหญ่ แต่แม่ทัพไม่รอให้การก่อตัวเสร็จสิ้นก็ส่งพลังติดตามแล้วระเบิดสูญหายไปในอากาศ!
คนที่ถูกจับล็อคแขนไว้ หมดแรงรูดตัวลงคุกเข่ากับผืนทราย 
แม่ทัพเชมัลลูบแผ่นหลังบาง แล้วช้อนอุ้มใต้สะโพกให้ซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง....
เป็นความเครียดและเหน็ดเหนื่อยจนต้องผ่อนลมหายใจออกจากปาก

จากพลังของไฟที่สะเปะสะปะ หาทิศทางที่แน่นอนไม่เจอ แตกต่างจากพลังในการบังคับลมทำให้แน่ใจ.....
"เสี่ยวเม่ย เจ้าคือสายลม จิตใจของเจ้าจึงเป็นดั่งสายลม รวนเรไม่แน่นอน ข้าผิดเองที่ไม่อาจทำให้เจ้าเชื่อใจว่าข้ารักเพียงแต่เจ้าเท่านั้น...ทำให้เจ้าถูกทำร้ายเช่นนี้"

ผ่านไปหลายวัน
คนตัวเล็กยามนี้ยิ่งเล็กลงไปกว่าเดิม เนื่องจากการใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนพัก หลังการถ่ายเลือดรักษาในวันนี้แม่ทัพเชมัลที่อุ้มอีกคนกลับมาบ้านกลับต้องคิดมาตลอดทางว่าจะทำอย่างไรอาเม่ยจึงจะกลับมามีสุขภาพที่ดีดั่งเดิม
มิใช่....
ต้องดีกว่าเดิม เพราะแต่แรกมาก็ตัวเล็กกว่าคนอื่นๆ อยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งตัวผอมกว่าเดิมเสียอีก
ขณะที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าแล้วทำแผลที่มือ รวมไปถึงรอยช้ำตามตัว จู่ๆ คนที่หลับอยู่ก็ลืมตาโพลง แต่พอจะผุดลุกขึ้น แม่ทัพเชมัลก็รีบสวมกำไลโลหะให้ อาเม่ยส่งเสียงคำรามอย่างขัดใจเมื่อข้อมือถูกกดตรึงอยู่กับพื้นอย่างรวดเร็ว
นี่แหละคือผลของการย้ำเตือนตัวเองว่าต้องมีความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา

“ยังไม่หมดง่ายๆ สินะ” มือใหญ่จับผมยุ่งมัดรวบให้แล้วพาออกมานั่งที่ด้านนอก “วันนี้เจ้าออกแรงมาก ออกไปนั่งข้างนอก กินผลไม้ที่เจ้าชอบกันดีกว่า”
แต่พอให้ออกมาข้างนอกอาเม่ยก็กลับนั่งเฉย ไม่มีท่าทีไม่พอใจหรือหงุดหงิดอันใด
ดูท่าทางแล้วจะชอบอยู่ข้างนอกนี่ มากกว่าในบ้าน  ทั้งยังยอมกินผลไม้ที่ป้อนให้
แม่ทัพเชมัลยิ้มให้กับคนที่นั่งนิ่งๆ มองตรงไปข้างหน้า ขณะที่ตนเองกำลังทำงานอย่างอื่นต่อไป

เมื่อไม่ใช่คนช่างพูด ช่างเล่า แต่ต้องพูดต้องเล่าอยู่คนเดียวมาหลายวัน เรื่องที่ออกจากปากก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ
“ยังมีเรื่องใดที่ข้ายังไม่ได้เล่าให้เจ้าฟังอีกไหม”
แม่ทัพเชมัลวางท่อนฟืนลงข้างๆ คนที่นั่งนิ่งเหมือนรูปปั้น
“ข้าเล่าเรื่องการผจญภัยของข้าจนไปพบเด็กน้อยตาสีเขียวใสให้เจ้าฟังแล้วใช่ไหม" ดวงตาสีเข้มที่มองคนที่นั่งฟังนิ่งๆ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก "เบื่อที่ข้าพูดไปเรื่อย จนเจ้าไม่มีโอกาสได้กล่าวคำซักถามข้าหรือยัง”
มือใหญ่แตะที่แก้มใส
"เล่าเรื่องอยู่คนเดียว แต่ไม่มีคำถามจากเจ้ามันช่างไร้ความสนุกสนานอย่างสิ้นเชิง" มือใหญ่ช่วยเก็บเส้นผมสีเงินที่ระแก้ม "ข้ากำลังมีนิสัยชอบเล่นผมสีเงินของเจ้า หากในวันที่เจ้าหายดีแล้วเจ้าไม่ยอมให้ข้าทำเช่นนี้อีก ข้าคงต้องรู้สึกรำคาญตนเองแน่นอน”
จากเส้นผม มือใหญ่ละมาจับข้อมือข้างที่สวมกำไลโลหะ เครื่องคุ้มกันที่อาเม่ยมักจะพยายามถอดมันออกอยู่เสมอ ผิวเนื้อที่ข้อมือจึงมีทั้งรอยข่วน และรอยช้ำ
เมื่อย้ายไปสวมกำไลโลหะที่มืออีกข้าง อาเม่ยก็ทำแบบเดิม ทำให้ข้อมือทั้ง 2 ข้างเต็มไปด้วยรอยแผล

“มีทั้งแผลที่เจ้าทำตัวเอง และที่ข้ากรีดแผลเพื่อคัดเลือดให้เจ้า”
แม่ทัพเชมัลถอนใจยาว ขณะที่ล้างแผลให้ในยามที่ต้องจับให้อาบน้ำ
นี่ยังเป็นความเคยชินอีกเรื่องที่แม่ทัพเชมัลเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้คนรูปร่างผอมบางจะเพียงแค่มองตรงไปข้างหน้าในยามที่ถูกจับถอดเสื้อผ้า สีหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ในเวลานี้ แต่ความต้องการของแม่ทัพเชมัลกลับเพิ่มมากขึ้น
“ข้านี่ช่างเลวร้ายนัก คิดแต่เรื่องลามกต่อเจ้า ทั้งที่ข้าทำให้เจ้าถูกทำร้าย”
แม่ทัพเชมัลอุ้มร่างกายเปล่าเปลือยลงสู่สายน้ำเย็น เมื่อวางข้อมือที่สวมกำไลไว้บนรากไม้ อาเม่ยจึงส่งเสียงต่ำๆ ในลำคออย่างขัดใจ
“หนาวหรือ เช่นนั้นจะรีบอาบน้ำให้เจ้าก่อนนะ”
มือใหญ่ล้างหน้าล้างตัวให้อาเม่ย โดยที่พยายามไม่สนใจผิวกายละเอียดที่อยู่ข้างหน้า ทั้งไม่สนใจความร้อนรุ่มของตนเอง
อากาศรอบตัวเริ่มเย็นลง ทั้งมีทีท่าว่าฝนอาจกำลังจะตก ตามลักษณะอากาศของเกาะกลางทะเล
อาเม่ยหันไปแสดงความขัดใจกับมือที่ถูกตรึงไว้ โดยใช้มืออีกข้างทุบข้อมือตนเอง  จนคนที่กำลังอาบน้ำให้ต้องยื้อข้อมือไว้ 
“เสี่ยวเม่ย ทำอย่างนี้เมื่อไหร่จะอาบน้ำเสร็จ”
คนตัวโตต้องเปลี่ยนเป็นสวมกอดไว้จากทางด้านหลัง จับมือข้างที่เป็นอิสระไว้แน่นเพื่อไม่ให้ทำร้ายตัวเอง ส่วนอีกมือก็ขัดถูตัวให้
“รู้แล้วว่าหนาว แต่เจ้าดื้อแบบนี้ น้ำก็ขุ่น อาบอย่างไรก็ไม่สะอาด”
อาบน้ำให้แต่ไม่ต่างอะไรจากการต่อสู้กับคนดื้อที่ได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัด ไม่ยอมอาบน้ำโดยง่าย
ที่ผ่านมาก็ไม่ใช่คนที่ละเลยการทำความสะอาดตัวเองมากนัก หลายครั้งที่เหน็ดเหนื่อยจากการฝึกหนักกลับมาก็ล้มตัวลงนอนโดยไม่อาบน้ำ
แต่เมื่อต้องดูแลอาเม่ย กลับคิดแต่จะรักษาความสวยงามให้คนนี้ คอยดูแลคนนี้อยู่ตลอดเวลา
 
...ตั้งแต่จำความได้ นี่เป็นคนแรกที่ทำให้เช่นนี้...

สังเกตว่า เมื่อกล่าวคำไปเรื่อยๆ อาเม่ยจะนิ่งฟัง คนที่กำลังพยายามจะอาบน้ำให้ก็ต้องเริ่มกล่าวคำไปเรื่อย....อีกครั้ง
“เจ้าเป็นคนสวยงาม มีดวงตาสีสวย เส้นผมสวย ผิวกายละเอียด ทั้งหอมอ่อนๆ แม้มีเพียงฝุ่นละอองทำให้เจ้ามัวหมองก็กลับทนไม่ได้ ใจของข้า ลมหายใจของข้า...มีแต่เรื่องของเจ้าอยู่ตลอดเวลารู้ไหม...”
คนที่อยู่ในอ้อมแขนหยุดขัดขืน นิ่งฟังสิ่งที่อีกคนกล่าว
แต่เมื่อเรื่องที่กล่าวคือการบรรยายถึงคนในอ้อมกอด ความต้องการที่ไม่เหมาะสมก็กลับเกิดขึ้น
...มีเรื่องให้กล่าวตั้งมากมาย เหตุใดจึงเลือกกล่าวถึงความเย้ายวนของอีกฝ่ายในเวลาเช่นนี้...
“ข้า...กำลัง...คิด....ในเรื่องที่ไม่เหมาะสม....ต่อเจ้า”
ริมฝีปากหนากดจูบที่แก้ม และไหล่บาง มือใหญ่ละจากข้อมือผอมบาง มาสัมผัสที่อก
“เสี่ยวเม่ย....ข้า...ขอโทษ...”
มือข้างหนึ่งสัมผัสที่อกบางของอีกฝ่าย สะกิดปุ่มปม บีบส่วนปลาย ทั้งออกแรงบีบเคล้น ส่วนมืออีกข้างเร่งรูดรั้งให้กับตนเอง
ตลอดเวลาอาเม่ยเพียงนั่งนิ่ง ดวงตาสีดำขลับมองไปข้างหน้า ไม่มีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่รับรู้สิ่งใด แม้ยอดอกจะแข็งเป็นไต ทั้งเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด ไหล่บางมีร่องรอยจากการจูบเน้น ยามเมื่อความต้องการของอีกคนกำลังไต่ขึ้นสูง
กระทั่งความรุ่มร้อนถูกปลดปล่อยจึงละริมฝีปากจากไหล่บางแล้วหายใจหนักๆ จากนั้นก็ต้องรีบอุ้มขึ้นจากน้ำ 
แม้คนตัวใหญ่จะปลดปล่อยความต้องการ แต่ก็กลับยังรู้สึกค้างคา และไม่เพียงพอ..
ต้องห้ามสายตาตัวเอง ห้ามใจตนเองขณะที่เช็ดตัว สวมเสื้อผ้าให้คนตัวเล็กก่อน แล้วจึงหันมาสวมเสื้อผ้าของตัวเอง เดินกลับมาใกล้ถึงที่พักฝนก็ตกหนัก จนต้องหันไปอุ้มวิ่งกลับมาบ้าน จับมือซ้ายที่สวมกำไลให้กอดรอบคอหนาไว้

เมื่อเข้ามาในบ้านพัก แม่ทัพเชมัลก็ปล่อยให้อาเม่ยลงยืนเองเพื่อที่จะหันไปหยิบผ้าผืนใหญ่ มาห่มให้ แต่น้ำหนักที่ข้อมือที่เพิ่มขึ้นทันที กลับทำให้อาเม่ยต้องกระแทกตัวลงกับพื้นบ้านอย่างแรง
เสียงดังจนคนที่กำลังจะผละไป ต้องรีบหันมากล่าวคำขอโทษ
คนที่นิ่งเฉยไม่รับรู้สิ่งใดกำลังทำสีหน้าไม่พอใจทั้งอาจมีความรู้สึกเจ็บรวมอยู่ด้วย แต่คนที่เป็นสาเหตุกลับอดไม่ได้ที่จะยิ้มขำ
"ขอโทษที่ปล่อยมือเจ้าทั้งที่เจ้ากำลังยืนอยู่" แม่ทัพคว้าจับข้อมือข้างที่ถูกกระแทกกับพื้นขึ้นมาลูบเบาๆ รวมไปถึงข้อศอกและเข่าที่กระแทกพื้นลงมาพร้อมกัน แต่อีกคนอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จนใช้มืออีกข้างทุบที่ต้นแขนใหญ่
แม่ทัพเชมัลไม่ได้ป้องกันตนเอง แต่กลับยิ้มกว้าง
"โมโหขนาดนี้ ท่าทางจะเจ็บมากเลยสินะ"
อาเม่ยหยุดทุบที่ต้นแขนเปลี่ยนเป็นผลักไหล่กว้าง แต่คนตัวใหญ่ก็ไม่ได้ถอยไปจากจุดที่นั่งคุกเข่าอยู่ ทั้งทุบทั้งผลักอยู่หลายครั้ง จู่ๆก็กลับเปลี่ยนเป็นจับไหล่ไว้
แม้ดวงตายังเป็นสีดำสนิท แต่ลักษณะการเคลื่อนไหวบ่งบอกถึงความรู้สึกบางอย่างที่กลับคืนมา

“เสี่ยวเม่ย...ข้าคือเชมัล จำข้าได้ไหม” แม่ทัพเชมัลกล่าวเบาๆ "เสี่ยวเม่ย..."
เจ้าของชื่อเอียงหน้ามองคนที่กำลังพูด   
“เสี่ยวเม่ย ข้ารอให้เจ้ากลับมาอยู่ทุกลมหายใจ ตอบข้า หรือแสดงสัญลักษณ์อะไรบางอย่างก็ได้ ว่าเจ้าจำข้าได้”
ยิ่งกล่าวคำ ใจก็ยิ่งร้อนรน ไม่อยากปล่อยให้ช่วงเวลาที่อาเม่ยเปลี่ยนจากการปฏิเสธเป็นท่าทีที่คล้ายจะจำกันได้นี้ต้องหลุดลอยไป
อาเม่ยตอบรับด้วยการขยับเข้ามาใกล้ จูบแตะริมฝีปากแผ่วเบาแล้วถอยห่างออกมาเพียงเล็กน้อย
หัวใจใต้อกหนากระตุกแรงด้วยความยินดี
ความคิดยับยั้งชั่งใจสูญหาย...
ริมฝีปากหนาตามไปกดจูบริมฝีปากแผ่วเบา จากแผ่วเบาค่อยเพิ่มน้ำหนัก แต่เมื่อผละออก อาเม่ยก็กลับกระแทกริมฝีปากกลับมา เป็นจูบที่เหมือนเด็กเล่น
 
...ก่อนนี้มักคิดเข้าข้างตนเอง ว่าอาเม่ยชอบการโอบกอดสัมผัส และชอบฟังคำบอกรัก แต่เมื่อตนเองเป็นผู้ที่อ่อนด้อยเรื่องการบังคับตนเอง จึงพยายามหลีกเลี่ยง
แต่การปลดปล่อยในยามที่อาบน้ำด้วยกันยังค้างคา...
และเมื่ออาเม่ยแสดงให้เห็นว่ามีความพอใจ...

แม่ทัพเชมัลจูบอีกครั้งด้วยความอ่อนโยน ยกมือข้างที่สวมกำไลขึ้นกอดคอไว้ แล้วช้อนอุ้มมาที่เตียงนอน
ริมฝีปากที่ปิดสนิทเผยอรับจูบ กะพริบตาสีดำสนิทแล้วหลับตาลง
ร่างกายผอมบางไม่ได้ขัดขวางมือใหญ่ที่ปลดสายรัดเอว แทรกมือแตะเอว
อีกมือจับข้อมือบางที่สวมกำไล วางไว้เหนือศีรษะ รั้งให้นอนลง
เพียงนอนนิ่ง ยอมให้จัดท่าทางตามที่อีกคนต้องการ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมอง แล้วหลับตาลงอีกครั้งเมื่อริมฝีปากหนาตามลงมาพรมจูบไปทั่วใบหน้า แล้วกลับมาจูบริมฝีปาก แต่เมื่อจูบไซ้ที่ซอกคอขาว ร่างกายในอ้อมแขนจึงเริ่มสั่นไหว
"ตรงนี้หรือ" ริมฝีปากหนากดจูบไซ้ มือหนาเคล้นคลึงยอดอกบาง
น้ำเสียงทุ้มต่ำกล่าวคำบอกรักครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่อาเม่ยปราศจากน้ำเสียงที่บอกความพอใจ มีเพียงร่างกายที่สั่นไหว ตอบรับการถูกลูบไล้สัมผัส
ปลายลิ้นโลมเลียยอดอก ดูดเน้นจนแข็งเป็นไตขบฟันซ้ำ แลัวยกตัวขึ้นกระซิบคำบอกรักที่ข้างหู
มือใหญ่ปลดล็อคกำไลโลหะออก แล้วค่อยคลายมือที่จับไว้
ดวงตาสีเข้มมองความเปลี่ยนแปลง เมื่ออาเม่ยดูงงงันวูบที่จู่ๆ น้ำหนักที่ข้อมือหายไป แต่สีของผิวกายยังคงเดิมเช่นเดียวกับสีผม
นิ้วมือใหญ่ลากจากข้อมือผ่านพับแขนมาที่ต้นแขน ไหล่ ลำคอขาว แต่เมื่อแตะที่แก้มใส อาเม่ยก็ส่งเสียงกรีดร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด
แม่ทัพเชมัลสวมกอดไว้แน่น มือใหญ่ลูบแผ่นหลังปลอบโยน
"เสี่ยวเม่ย นี่ข้าเอง ข้าอยู่ที่นี่ อย่ากลัวนะ เจ้าต้องกลับมาได้ ข้าอยู่ที่นี่ เสี่ยวเม่ย..."
อาเม่ยหยุดร้องตะโกน เหลือเพียงอาการหายใจแรงและน้ำเสียงในลำคอที่บ่งบอกความไม่พอใจ ตามมาด้วยมือเล็กๆ ที่ทุบที่แผ่นหลังกว้าง
"โกรธ ไม่พอใจ อยากทุบ อยากตี ก็ทำได้เลย ทั้งหมดนี้เพราะข้าผิดเอง เสี่ยวเม่ย กลับมาเถิด"

ร่างกายเปล่าเปลือยเสียดสีจากการขัดขืน พาความรุ่มร้อนกลับมาได้ไม่ยากนัก

คนตัวโตจูบที่แก้มใส เตรียมพร้อมหากอาเม่ยจะแสดงพลังที่อัดอยู่ภายในออกมา แต่ที่เปลี่ยนแปลงไปกลับเป็นความต้องการของตนเองที่ยิ่งกอดไว้แบบนี้ ก็ยิ่งทำให้มีความต้องการมากกว่าเดิม
มือใหญ่เลื่อนลงหาแก่นกายอ่อนนุ่มของอีกคน ร่างกายผอมบางกระตุกวูบ คว้าข้อมือหนาไว้แน่น 
คนถูกกอดรัดและลูบไล้ ส่งเสียงทักท้วงในลำคอ แต่เมื่อริมฝีปากหนากดจูบริมฝีปากบางอย่างร้อนแรง อาเม่ยก็กลับหยุดนิ่งรอรับสัมผัสต่างๆ มือเล็กๆ แตะที่ไหล่หนาแล้วกอดรัดไว้แน่น ปลายลิ้นตอบรับจูบร้อน น้ำเสียงผ่านลำคอ และลมหายใจบ่งบอกความต้องการที่มีไม่ต่างกัน
มือใหญ่สัมผัสร่างกายผอมบาง เลื่อนตัวลงพรมจูบหน้าท้องและจุดอ่อนไหว มือใหญ่เน้นย้ำที่ก้นกลม แล้วแทรกปลายนิ้วเข้าหาช้าๆ
เพียงข้อนิ้วเดียวอาเม่ยก็ผลักไส ทั้งกรีดร้องต่อต้าน มือใหญ่ยังไม่ยอมคลายออก ปลายลิ้นตวัดเลียส่วนปลายแล้วครอบริมฝีปากลง
ได้ยินเสียงสะอื้นแรง ทั้งรู้สึกถึงปลายนิ้วและเล็บที่จิกอยู่ที่ไหล่หนา มองเห็นใบหน้าที่แหงนเงย
แต่ไม่คิดที่จะหยุดความต้องการนี้
นิ้วมือใหญ่ถอนออก  คนที่กรีดร้องก็ทิ้งตัวลงอย่างผ่อนคลาย แล้วผวาสุดตัวเมื่ออีกคนสอดนิ้วเข้าหาอีกครั้ง เมื่อกดปลายนิ้วหาจุดอ่อนไหว จนพบจึงกดย้ำกระทั่งแท่งเนื้อภายในปากเคร่งเครียด
2 ขาเรียวเกร็ง สะโพกบางกระตุกหาริมฝีปาก
เสียงครางต่ำๆ และลมหายใจผ่อนคลายลงเมื่อหยาดน้ำสีขาวขุ่นปรี่ล้นจากส่วนปลาย ยินยอมให้มือใหญ่รีดเคล้นทุกหยาดหยด
ร่างกายสูงใหญ่ขยับนั่ง ยกสะโพกของอีกฝ่ายขึ้น จดจ่อความรุ่มร้อนของตนเข้าหา ร่างกายผอมบางผวาเฮือกหยาดน้ำตาไหลพราก 2 มือผลักไสอีกฝ่าย ทั้งส่งเสียงต่อต้าน
ริมฝีปากหนาที่จะกดจูบ กลับถูกขบกัดจนได้เลือด แต่พอกดความแข็งขึงสอดลึก  อาเม่ยก็คลายฟันส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บ มือเล็กๆ ทั้งทุบทั้งข่วน
ยิ่งช่องทางบีบรัดต่อต้าน อาเม่ยยิ่งเจ็บปวด อีกฝ่ายกลับขยับสะโพกจนสุดแล้วผ่อนลมหายใจอย่างยากลำบาก
รับรู้ทั้งแรงต่อต้าน ทั้งกล้ามเนื้อที่ตอดรัดไว้ ร่างกายรุ่มร้อนจนไม่อาจหยุดนิ่งได้ สาวสะโพกออกแล้วโถมส่วนแข็งขึงกลับเข้าไปจนสุด
เป็นความรู้สึกดีอย่างยิ่ง แม้แต่เสียงกรีดร้อง หมัดเล็กๆ ที่ชกแขน เล็บคมที่ข่วนเข้าที่กลางอก
หยดเหงื่อจากปลายคางหยดลงที่ใบหน้าของอีกฝ่าย ผสานหยาดน้ำตาที่เปียกแก้ม
แต่ในเวลาเดียวกันหน้าท้องยังรับรู้แก่นกายอุ่นร้อนของอีกคน มือใหญ่กอบกุมไว้ แล้วกลับถอนตัวออก อีกฝ่ายเพียงมองตามแล้วบิดตัวเมื่อมือใหญ่รูดให้เบาๆ จนกระตุกร่างกายพ่นหยาดน้ำสีขาวแล้วทิ้งมือลงข้างตัว หอบหายใจจนตัวโยน
มือใหญ่ยกสะโพกบางขึ้นอีกครั้งฝืนสอดเข้าหา อีกคนได้แต่ส่งเสียงต่อต้านอย่างขัดใจ แต่ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน คนที่ถาโถมเข้าหาอย่างรุนแรง จนกระทั่งหยาดน้ำปรี่ล้นจากช่องทางด้านหลัง ถอนตัวออกอย่างอ้อยอิ่งแล้วกอดจูบวนเวียน ริมฝีปาก ใบหน้า ลำคอ
ความต้องการที่ยังไม่หมดไปโดยง่าย

ฝนหยุดตกแล้ว มีเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องอยู่ภายนอก ไม่อาจกลบเสียงหอบหายใจของคนที่อยู่ในห้อง อากาศที่เย็นลง ไม่มีผลให้ความเร่าร้อนถดถอย

เนิ่นนานจากนั้น แม่ทัพเชมัล จึงทิ้งตัวลงกอดคนที่หลับใหลอยู่ในอ้อมแขน และไม่คิดที่จะสวมกำไลโลหะให้อีก

*-*จบตอนที่ 20 *-*

(http://image.free.in.th/v/2013/il/150811102649.jpg) (http://picture.in.th/id/d956b6cfae75d2a04694d7860c2b56d3)

ภาพนี้มาจาก http://photography.nationalgeographic.com/photography/photo-of-the-day/forest-rain-afternoon/

ก่อนนี้เราใช้ชื่อ JiveTea ครับแต่คาดว่าชื่อนี้จะเรียกแขกหรือไงไม่ทราบ มีคนเอาไปใช้ในเว็ปอโคจร ผมจึงรบกวนให้พี่โมเปลี่ยนชื่อให้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามเสมอมา
ps.1 ตอนที่ 19 เป็นอะไรที่นายน้ำชาลุ้นมาก ว่าจะได้ลงตอนที่ 20 ในหน้าเดิมไหมหว่า จึงขอกราบขอบพระคุณพี่ดันทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
ps.2 ผมจะโดนใบสั่งให้คัดคำที่ถูกต้องของคำว่าไหมหว่า แล้วคำนี้ภาษาไทยที่ถูกต้องคืออะไร จะได้เตรียมคัดไว้เลย
.น้ำชา คนน่ารัก ดี๊ดี และหล่อมั่กมั่ก.

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himecrazy ที่ 11-08-2015 22:39:20
 :sad11: ท่านเช จะเรียกว่าอาเม่ยสมยอมก็ไม่เต็มปาก แต่จะว่าหักหาญน้ำใจก็ไม่ได้  แต่ก็อยากให้อาเม่ยรู้สึกตัวและหายดีไวๆจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-08-2015 22:44:22
เราเชื่อว่า ความรัก ชนะทุกสิ่ง เราไม่โทษและไม่ว่าเชมัลว่า ฉวยโอกาส บางครั้งแค่คำพูดมันก็ไม่เท่าภาษากาย อาเม่ยก็ต่อสู้ในแบบของอาเม่ยอยู่ ร่า่งกายของอาเม่ยในตอนนี้ ปรากฏภาพ นางผีชุดดำแว๊บมาในสมองเฉยเลย ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส นะอาเม่ย สู้่ต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 11-08-2015 22:45:12
 :m25:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-08-2015 22:52:11
ลุ้นจัง อาเม่ยดีขึ้นๆ เอาใจช่วยอาเม่ยกะเชมัล
ปกติเชมัลก็ไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้ว ต้องคอยเล่าเรื่องเดิมๆ คงอึดอัดพอดูไม่มีอาเม่ยมาชวนคุย

มีคำผิดนิดนึงตรง
"สี"ครางต่ำๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2015 23:03:14
ใกล้หายแล้วใช่ไหมอาเม่ย ถึงได้ไม่ทำร้ายท่านแม่ทัพ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-08-2015 23:15:40
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-08-2015 23:19:58
นี่เป็นสัญญาณที่ดีใช่ไหม!? ที่อาเม่ยคนเดิมจะกลับมา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 11-08-2015 23:37:58
อยากให้เสี่ยวเม่ยหายดีไวๆ คิดถึงเสี่ยวเม่ยคนที่คอยซักถามอยู่ตลอด พี่เชก็คงคิดถึงเหมือนกันสินะ
สงสารเสี่ยวเม่ยแผลเต็มไปหมดแล้ว สงสารพี่เชด้วยที่ต้องมามองดูคนที่รักเจ็บปวด แต่คิดว่าเสี่ยวเม่ยน่าจะรับรู้ทุกอย่างที่พี่เชทำให้นะ แค่ตอบโต้ไม่ได้เพราะเวทย์เท่านั้นเอง นอกจากเสือแล้วมีสัตว์ร้ายอะไรอีกนะ
หวังว่าเม่ยจะหายในเร็ววัน

ปล. ไหมหว่า ไม่ได้เขียนแบบที่น้ำชาเขียนหรอกเหรอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-08-2015 23:42:21
ขอให้สัมผัสรักครั้งนี้นำพาเม่ยกลับมา

หวังว่าคงไม่มีผลร้ายแอบแฝงนะ

อย่าเลย ได้โปรด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-08-2015 02:50:55
ในยุคพี่เชนี่มันทำไมไม่มีพวกเจลหล่อลื่นนะ เสี่ยวเม่ยของเจ๊จะได้ไม่เจ็บตัวมากนัก :z1:  อาเม่ยปล่อยพลังไปสองรอบแล้ว(ถ้าจำไม่ผิด)พี่เชก็กำจัดเสือไปได้หนึ่งตัว เวทย์ดำในตัวอาเม่ยก็น่าจะลดลงมาบ้างล่ะนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-08-2015 06:26:19
หวังว่าความรักจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

 :กอด1:  :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-08-2015 06:35:24
อะโหหหหหห ก่อนหน้านี้รอลุ้นฉากอัศจรรย์ตั้งนานก็ยังไม่มา บทจะมาก็มาแบบไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว
ตอนนี้เป็นตอนที่ทำให้รู้สึกเลยว่าพี่เชรักอาเม่ยมากกกกกกกกกกกก ก่อนนี้คงเพราะพี่เชเป็นคนไม่ค่อยแสดงออก อาเม่ย(และคนอ่าน)เลยไม่ค่อยแน่ใจว่าพี่เชรักอาเม่ยจริงๆ
ตอนนี้น่ารักมุ้งมิ้งมากอ่ะ ชอบตอนอาเม่ยโกรธที่พี่ทำหล่น น่ารักจริงๆ อ่านแล้วยิ้มตามพี่เชเลย ตอนอาเม่ยเอาปากกระแทกพี่เชอีก น่ารักๆๆๆๆๆๆ อรั๊ยๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 12-08-2015 07:33:50
เดิมพันครั้งสุดท้าย รอตอนเม่ยตื่นขึ้นมา จะเป็นยังไงต่อ.?

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 12-08-2015 07:41:23
ทำไมรู้สึกว่าเม่ยไม่ยินดีไปกับพี่เช หรือเพราะเวทย์ดำ..เเอบคิดว่าหลังจากนี้พี่เชจะต้องเหนื่อยกว่าเดิม เป้นบทรักที่อ่านเเล้วรู้สึกสงสารเม่ย กลับมาไวๆนะเม่ยนะ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-08-2015 07:56:17
จนได้นะพี่เช หื่นตัวพ่อ
สงสารอาเม่ย มีสติรับรู้ความจริงแค่ไหน หรือยังล่องลอยอยู่
หรือการรวมร่างจะเป็นการรักษาอย่างหนึ่ง...เดาใจคนเขียน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 12-08-2015 08:57:05
...เราจะทำตามสัญญา  ขอเวลา "อ่าน" ไม่นาน   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 12-08-2015 10:30:45
จุดพลุฉลอง  :mc4:
ตั้งแต่อ่านมาจนถึงตอนที่ 20 ขอบอกเลยว่ารักตอนนี้ที่สุด 555555
ไม่ใช่เพราะมีบทอัศจรรย์นะคะ  :-[. แต่ว่าเป็นตอนที่ท่านแม่ทัพรู้จักแสดงความรู้สึก ความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาต่างหาก จริงจริ๊งงงง

รอลุ้นนะคะ ว่าอาเม่ยจะหายดีเมื่อไหร่

กอดน้องทีกะน้องไจฟ์  :กอด1:  ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 12-08-2015 10:33:14
นี่อาเม่ยเค้าจะจำได้ว่าท่านแม่ทัพเราพูดหรือเล่าเรื่องราวต่างๆมากมายให้ฟังหลังจากที่อยากรู้มานานหลังจากที่ความจำกลับคืนมาได้มั้ยน๊อ :confuse:
อาการสงบเวลาที่ได้ยินเสียงหรือการโอบกอดคือสิ่งที่เฝ้ารอเพื่อให้แน่ใจและมั่นใจถึงการได้รับความรักตอบจากแม่ทัพจริงๆ
เพราะลึกๆคงจะคิดว่าคนที่ได้เป็นคนรับใช้คงมีเพียงตนเองที่ยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์หรือเปล่า

แต่น่าสงสารแม่ทัพอิตอนต้องพูดต้องบอกเล่าทั้งๆที่ตนเองไม่ใช่คนชอบพูดแต่เน้นการแสดงออกเท่านั้นเลยขัดบุคคลิกตนเองน่าดูซินะนั่น ซ้อมไว้นะท่านแม่ทัพรับรองอาเม่ยหายเมื่อไหร่ท่านจะได้ใช้บทเรียนนี้อีกแน่ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-08-2015 12:55:29
เสี่ยวเม่ยหายเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fanfic2010 ที่ 12-08-2015 13:08:10
เขียนบรรยายฉากรักเสียงดงาม อ่านแล้วได้อารมณ์หลากหลาย
ที่แน่ ๆ คือ อ่านจบ หันไปมองอีกคน พร้อมสะกิด..... อิอิอิ
ว่าแต่ ไหนบอกว่า เรื่องนี้ไม่ยาวไง ยี่สิบตอนจบ....ใช่ป่ะ
สรุปว่า เรื่องนี้ สี่สิบตอนจบ??
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 12-08-2015 13:37:06
 :z1: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 12-08-2015 15:20:45
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ดีใจจัง.. เสี่ยวเม่ยเริ่มตอบสนองกับท่านแม่ทัพบ้างแล้ว
หายเร็วๆ นะ เสี่ยวเม่ย   :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 12-08-2015 17:27:27
แอร๊ยยยยยย  ในที่สุดแม่ทัพก็อดใจไม่ไหว  อาเม่ยเราเสร็จแม่ทัพจนได้  :z1:
แต่ว่านะ  ฉากนี้คิดว่าอาเม่ยต้องมีสติรับรู้บ้างแหละว่าตัวเองกับแม่ทัพทำอะไรกันอยู่
เพราะแม่ทัพก็ถอดกำไลออกด้วยนี่นา หายเร็ว ๆ นะเม่ยเอ๊ยยยยยย  คนอ่านใจจะขาดด้วยความสงสารแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-08-2015 19:46:17
มาตามอ่านแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 12-08-2015 20:02:19
ตามมาอ่านเรื่องใหม่..น่าติดตามเหมือนเดิม  สำนวนภาษาสวยงาม
พล๊อตเรื่องเป็นอะไรที่เป็นในแบบไจฟ์ทีมาก..ลึกลับ ปมปริศนาต่างๆ
เดาไม่ค่อยออก ชอบเสน่ห์พระเอกและนายเอกนิยายของไจฟ์ทีทุกคน
อาเม่ยและพี่เชในเรื่องนี้ก็เหมือนกัน..อ่านแล้วรักเลย
..ดีใจที่เห็นเขียนเรื่องใหม่มาลง...ขอบคุณมากๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 13-08-2015 08:49:37
เป็นกำลังใจให้แม่ทัพเช..ช่วยอาเม่ยให้หายไวๆนะ
 :กอด1: :mew2:
Ps.1.จำpasswordเดิมไม่ได้ สมัครใหม่เลย
Ps.2.ขอมารอติดตามเรื่องใหม่ด้วยคน ^_^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 13-08-2015 10:14:08
อ่านมากระทั่งตอนนี้..ยังหาจุดร่วมระหว่าชื่อเรื่องกับเนื้อหาไม่เจอ (ฮา) เห็นชื่อเรื่องนึกว่าจะแบบแนวฝรั่ง เปิดมา อ้าว แนวจีนซะงั้น   สนุกดีค่ะ  ชอบบบบ(ทำหน้าเบนชลาทิศ)  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 13-08-2015 11:20:38
ความหวังที่หนึ่งบรรลุแล้วววว.... :z1:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-08-2015 11:48:55
 :impress2: :impress2: :impress2:
คลั่งเลยตอนนี้ (ล่าสุด)
ท่ายเชมัลช่างงงงงงงงง
 :hao7:
ไม่ต้องใส่แล้วกำไร

ยุ่งเรื่องบัตรสีเขียวๆ อยู่แต่ติดตามอ่านซำเหมอ
ชูป้ายไฟโบกบวกๆๆๆ ให้ป๋าเช
ปล่อยเป็ดน้อยลอยคอให้น้องน้ำชา คนหล่อๆ น่ารักมั่กมว้ากกกกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 13-08-2015 16:17:59
ตามอ่านจนทันในที่สุดค่ะ 20 ตอนใน 2 วัน ตะลุยอ่านเป็นรอบที่ 2 หลังจากพักเบรคไปตั้งแต่ตอนที่ 12 ด้วยภารกิจส่วนตัว.. อิอิ

จุดหนึ่งที่รู้สึกคือ เม่ยกับเฮียเช มีความหลังต่อกันครั้งวัยเยาว์หรือในอดีตที่ผ่านมาแหงๆ เฮียเชจำได้ แต่หนูน้อยเม่ยจำไม่ได้ คงต้องรออ่านต่อไปว่าเมื่อไหร่ คุณไจฟ์กับน้ำชาจะแก้ปมตรงนี้ให้

อีกจุดคือเม่ยรักเฮียตอนไหน มีอะไรเป็นอินสไปเรชั่น รู้สึกว่ามันไม่ค่อยชัดเจนน่ะค่ะ เฮียรักเม่ยน่ะ รู้ชัดเจน เพราะเล่นมาดักรอที่หน้ากำแพงเมืองเหมือนรอเม่ยมาสมัครเป็นทหาร แล้วยังบอกว่ามาสองครั้งแล้วด้วย แสดงว่าเคยพบเจอกันมาก่อนแล้วแน่ๆ

เรื่องราวดำเนินมาหลายเพลาแล้ว แต่ดูท่าทางว่าปมต่างๆยังไม่เริ่มคลี่คลายเท่าที่ควร จะรออ่านต่อไปนะคะ อ่านมาถึงตอน 20 แล้วเพิ่งเจอฉากอีโรติคแบบดุเดือดครั้งแรก เริ่มน่าสนใจติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ..แหะๆ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 13-08-2015 16:24:55
อีกเรื่องคือช่วงที่เฮียเชพาน้องเม่ยรอนแรมรักษาตัว มันมีบรรยากาศของความเงียบเยอะอยู่เหมือนกันนะคะ เฮียคุยคนเดียว ไม่มีรีแอคชั่นกลับมา น่าสงสารอ่ะค่ะ พี่ไจฟ์น้องน้ำชาจะมี  part พิเศษ แบบ เสียงร่ำร้องครวญหาของน้องเม่ยที่อยู่ใต้พลังเวทย์ดำออกมาบ้างมั้ยคะ อยากรู้ความคิด ความรู้สึก ของเม่ยต่อการกระทำต่างๆของเฮีย  :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fanfic2010 ที่ 13-08-2015 20:56:56
ช่วยดัน ๆ  เดี๋ยวมีแมวบางตัวนอยด์  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 13-08-2015 21:02:05
แอบอยากอ่านเหมือนเมนท์คุณ nuna อิอิ..
อยากรู้อาเม่ยคิดอะไร ใจคงสับสนวุ่นวายไปหมด
คงมีสติเป็นพักๆแบบรางเลือน..ตอนหน้า จะเป็นไงหนอ
ร๊อรอ..แต่ไม่กดดันคนเขียนน๊าาา :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 14-08-2015 14:58:24
หายไวไวนะเม่ย
จะได้สมยอม เอ๊ยแม่ทัพจะได้หายห่วง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 15-08-2015 20:29:57
วิ่งเล่นรอพี่เชรักษาอาเม่ยให้หายเร็วๆ :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 15-08-2015 22:18:14
แวะมาดันกระทู้ แต่ไม่กดดันคนแต่งนะคะ แค่จะรออ่านตอน 21 ต่อไปเท่าน๊านเอง  :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 16-08-2015 11:06:23
แวะมารอเหมือนกัน :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 16-08-2015 13:37:58
โธ่ถังกะละมังบุบ พี่เช ตบะแตกจนได้
เม่ยเองก็ดูเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น หวังว่าเม่ยจะจำเรื่องหวานๆ ในคืนนั้นได้นะ
ว่าไปแล้วก็อยากรู้ความรู้สึกของเม่ยแบบที่คุณ nuna บอกเหมือนกัน
เงียบๆ แบบนี้ เดาใจไม่ออกเลย
รอลุ้นตอนต่อไป ว่าเม่ยยังต้องใส่กำไลต่อมั้ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 16-08-2015 21:12:56
ตามมาอ่านละนะคะ เหมียว ^_^
รอเม่ยเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
อยากอ่านตอนต่อปากต่อคำกันอีกค่ะ  :m23:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-08-2015 10:36:05
ถ้าหากจิตส่วนลึกของเม่ยที่ไม่ได้ทำการต่อต้านและยอมแพ้ต่อทั้งอำนาจที่เหนือกว่าของท่านเชครั้งนี้เป็นไปโดยการที่มีร่างอื่นๆสิงอยู่ในร่างจริงของอาเม่ย งั้นนี่คือท่านเชก็ทำเสน่ห์ให้กับร่างอีกร่างที่สิงอยู่ในตัวอาเม่ยด้วยหรือเปล่า
งั้นได้แต่หวังว่าอาเม่ยจะยังพอมีสติแม้จะเรือนรางว่าได้รับใช้ท่านเชอย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิดใจ แล้วก็เป็นไปด้วยความเข้าใจของทั้งสองด้วยกัน และให้เข้าใจว่าโดยเจตนาของท่านเชมีเพียงเม่ยเท่านั้น
^
^
มันคงไม่ใช่แบบนี้ เข้ามาเม้นรอนู๋เม่ย เผื่อจะมีปาฏิหาริย์ หายเร็วขึ้นกว่าเดิม   :a1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 17-08-2015 18:59:46
จากเหตุการณ์นี้ทำให้อยากรู้ว่าถ้าเม่ยตื่นมาโดยไม่มีกำไลจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่20หน้า20 (11สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 18-08-2015 11:22:46
เข้ามารอพี่เชและน้องเม่ย อิอิ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 18-08-2015 11:30:19
ตอนที่ 21

นับจากการบังคับอาเม่ยในค่ำวันก่อน  แม่ทัพเชมัลก็ต้องเพิ่มการบังคับตนเองให้มากขึ้น ด้วยการหันไปมองทางอื่นยามเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิด กำหนดความคิดให้คิดถึงเรื่องที่อยู่ห่างไกล
แต่ก็ยังทำได้ยาก...
หากความต้องการเกิดขึ้นในยามที่อาบน้ำให้ ก็จะเร่งรีบอาบแต่งกายให้ก่อน แล้วจึงไปปลดปล่อยตนเอง
หากความต้องการเกิดขึ้นยามที่นอนอยู่เคียงกัน ก็จะผลุนผลันลุกออกไป
แต่จะสั่งตนเองให้ไม่อยู่ใกล้ชิด ไม่ดูแล ไม่นอนเคียงกัน กลับทำได้ยากยิ่งกว่า
“เหตุใดข้าจึงเป็นคนที่ทั้งสับสนและเลวร้ายได้เช่นนี้...”

การถ่ายเลือดดำจากอาเม่ยที่ชายหาดยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ ห้วงเวลาที่อาเม่ยจะนั่งนิ่งและมองตรงไปข้างหน้าก็ลดลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน
แต่แรกนั้นแม่ทัพเชมัลตั้งใจว่าจะเลิกสวมกำไลให้กับอาเม่ย แต่สุดท้ายก็ต้องใช้วิธีสวมกำไลให้ตามอาการที่ปรากฏ
หรือในทันทีที่ผิวกายของอาเม่ยแปรเปลี่ยน
แต่หากไม่มีสิ่งใดผิดปกติ กำไลโลหะนั้นก็ไม่จำเป็น
เมื่อไม่มีสิ่งที่ถ่วงรั้งไว้ ทำให้อาเม่ยอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม ในบางครั้งถึงกับเดินไปทั่ว จนเมื่อหมดแรงก็จะนั่งลง หรือล้มตัวลงนอนทันที คนที่เดินตามจึงอุ้มกลับมาที่พัก

วันหนึ่งที่อาเม่ยเดินไปจนถึงหน้าผา แล้วก็เดินกลับมาที่พักด้วยตนเอง แต่การที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าเตาครัว ทำให้คนที่ได้แต่เดินตามต้องยิ้มขำ “ถ้าไม่หิวก็คงไม่กลับบ้านสินะ” มือใหญ่ชี้บอก “ไปล้างมือก่อน แล้วมากินปลา”
แต่อาเม่ยเพียงแค่มองไปที่อาหารบนเตา คนที่บอกให้ไปล้างมือก่อน จึงต้องจูงมือให้ไปล้าง แล้วกลับมานั่งรอ
ครู่หนึ่งแม่ทัพวางปลาย่างใส่จานพร้อมข้าวมาวางข้างหน้า
“แซนคงตั้งใจที่จะอยู่ดูแลพวกเราที่นี่ด้วยตนเอง จึงทิ้งเสบียงไว้มาก” มากพอที่จะอยู่ได้ถึงครึ่งปี “เจ้าเองก็กินได้ทีละน้อย เมื่อพวกเรากลับไป ชาวเรือที่มาพักที่นี่คงต้องบอกว่าโชคดีอย่างยิ่ง”
อาเม่ยกินได้ไม่มากก็จริง แต่เป็นคนที่กินง่าย ไม่ว่าจะป้อนอะไรให้ก็กินได้ทั้งนั้น แต่ครั้งนี้ป้อนอาหารได้เพียง 2 คำอาเม่ยก็คว้าข้อมือไว้
“ปลาไม่อร่อยหรือไง” คนทำมองอาหารในจาน “ข้าก็ปรุงรสเหมือนทุกครั้งนะ หรือเพราะเหมือนเดิมทุกครั้งเจ้าเลยไม่อยากกิน”
ดวงตาสีดำกะพริบมองคนพูดแล้วหยิบอาหารจากจานกินเอง ทำให้คนทำอาหารยิ้มกว้าง เมื่อกินเสร็จก็ล้มตัวลงนอนตรงนั้นเอง ทำให้ต้องอุ้มเข้าไปนอนพักในห้อง แล้วกลับมาทำงานอื่น แต่ในตอนที่แม่ทัพกำลังผ่าฟืนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน อาเม่ยก็เดินออกมา แม่ทัพก็เดินตามไปห่างๆ
คนรูปร่างผอมบางไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าผาสูง
ลมพัดแรง จนเส้นผมพลิ้วไหว
เส้นผมที่กลับกลายเป็นสีดำเช่นเดียวกับผิวกาย
อาเม่ยกางแขนทั้ง 2 ข้าง เรียกกระแสลมแรงหมุนวนรอบตัว

...ที่เดินตามมาก็เพราะกังวลว่าอาเม่ยอาจแสดงพลังออกมาได้ทุกเมื่อ
แต่การแสดงพลังที่หน้าผาสูงชันแห่งนี้ เป็นอันตรายเกินไป!
สมควรสวมกำไลให้ แต่กลับเข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้ ด้วยด้านหน้าของอาเม่ยที่เป็นหน้าผา
คนตัวใหญ่ต้องใช้แขนปิดบังจมูก เมื่อลมแรงหอบฝุ่นละออง และเศษใบไม้ปลิวว่อน
อาเม่ยก้าวไปทางหน้าผา และก้าวต่อไปดั่งมองไม่เห็นว่า ที่ตรงนั้นเป็นอากาศ แม่ทัพเชมัลกระโดดตามไปคว้าตัวไว้ แต่อาเม่ยยามนี้มีเรี่ยวแรงมากมายกลับพยายามผลักอีกคนออก
สุดท้ายจึงตกลงสู่เบื้องล่างทั้ง 2 คน!

แรงกระแทกผิวน้ำรุนแรงจนอาเม่ยหยุดดิ้นรนไปชั่วครู่ แต่แล้วก็กลับบังคับน้ำเป็นคลื่นสูงก่อตัวเข้ากระแทกฝั่ง แต่เพราะแม่ทัพเชมัลยังไม่ยอมปล่อยมือ คลื่นทะเลจึงม้วนตัวพาทั้ง 2 คนลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง
แม่ทัพเชมัลมองหาทิศทาง ดึงอาเม่ยให้กลับเข้าสู่ชายหาด เมื่อร่างกายตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นไปพ้นน้ำ แขนใหญ่ก็พลิกกอดล็อกแขนผอมบางให้ไขว้หลัง ร่ายเวทย์รักษาขณะที่กดปลายมีดลงที่ฝ่ามือ ทั้งลมและคลื่นแรงสงบลงในทันที แต่เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้อง!
หยดเลือดสีดำไหลลงสู่ทะเลแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเสียเลือดร่างกายจะยิ่งหนาวเย็นลง แต่แม่ทัพเชมัลยังคงรั้งรอจนกระทั่งเสียงกรีดร้องหยุดลง และทิ้งน้ำหนักตัวลงซุกหน้ากับอกกว้าง 
คนตัวใหญ่ช้อนอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมาจากชายหาด พบองครักษ์แซนยืนรออยู่ที่แนวต้นไม้
“ข้าได้ยินเสียงร้อง จึงเร่งมาตามเสียง”
“ได้เวลาเดือนหนึ่งแล้วหรือ” แม่ทัพเชมัลกล่าวตำหนิ “ต่อไปนึกอยากทำเช่นไร ก็ทำไปเถิด”
ผู้เป็นเจ้านายไม่ได้โกรธ ทั้งเข้าใจความเป็นห่วงขององครักษ์ลำดับที่ 3 แต่การทำเช่นนี้จะเป็นอันตรายกับองครักษ์แซนเอง หากอาเม่ยหันไปแสดงพลังเข้าใส่
องครักษ์แซนก้มหน้าเดินตามกลับมา “ข้าเพียงเตรียมข้าวกับอาหารแห้ง และเสื้อผ้ามาให้พวกท่านผลัดเปลี่ยน”
คนที่เดินนำหันมามองหน้า “และเจ้าก็กำลังตั้งใจว่า เจ้าจะกลับไปเตรียมยามาให้อีก”
องครักษ์แซนนิ่งเงียบ ยอมรับว่า สิ่งที่แม่ทัพพูดคือความตั้งใจอย่างแท้จริง
เมื่อกลับมาถึงที่พักจึงพบว่า องครักษ์ผู้เชี่ยวชาญทะเลเตรียมมามากกว่าที่กล่าวไว้
“หนทางจากแผ่นดินใหญ่มาถึงที่นี่ยาวไกล ต่อให้เจ้าเชี่ยวชาญทะเล ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องเสี่ยงอันตราย”
แม่ทัพเชมัลอุ้มอาเม่ยเข้าไปนอนในห้องพักทำแผลที่มือให้แล้วจึงกลับออกมา จากนั้นองครักษ์แซนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง ทั้งออกปากไม่เข้าใจการกระทำของพระราชา
แม่ทัพเชมัลฟังจนจบเรื่องจึงเอ่ยปาก “เก้าอยู่ที่เรือนจำผู้ใช้เวทย์ปลอดภัยมากกว่าในเขตวัง ต้าซันเองก็จะปลอดภัยไม่ถูกนำตัวไปเป็นเครื่องต่อรองใดๆ”

องครักษ์แซนนิ่งคิดชั่วครู่แล้วจึงเข้าใจ
.....มีแต่ที่นั่น จึงไม่มีใครสามารถใช้เวทย์ทำร้ายทั้ง 2 คนได้

“แล้วท่านพี่นาซิมเป็นอย่างไรบ้าง”
แซนเล่าว่า แม่ทัพนาซิมยังคงรั้งอยู่ที่เมืองชายแดน เพราะแม้ว่าผู้ใช้เวทย์ดำคนสำคัญจะถูกแม่ทัพเชมัลกำจัดไปแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจวางใจ
“ทุกคนต่างเล่าลือกันว่า ท่านอยู่ที่นั่นเพียงไม่กี่วัน ก็กำจัดผู้ใช้เวทย์ดำอันดับ 1 ของเมืองเหนือได้ แม่ทัพนาซิมรั้งเมืองอยู่ที่นั่นมาตลอด กลับไม่ทำอะไร”
“ข้าทำเช่นนั้น เพราะถูกกดดัน ไม่ได้ต้องการข่มอำนาจของแม่ทัพนาซิม”
“แต่ทุกคนล้วนพูดกันว่า หากท่านคิดจะจัดการกับพวกเมืองเหนือ ท่านจะลงมือเมื่อไหร่ก็ได้”
แม่ทัพเชมัล มองไปในที่ห่างไกล “ไม่คิดว่านั่นเป็นหลุมพรางเพื่อแยกข้ามาอยู่บนเกาะที่ห่างไกลที่สุดจากเมืองเหนือหรือ”
องครักษ์แซนคิดตาม “ข้าไม่คิดว่าพวกมันยอมเสียผู้ใช้เวทย์คนสำคัญเพื่อแยกท่านออกไปไกล”
“เสี่ยวเม่ยถูกเวทย์ดำจึงสังหารตงและโป จะอย่างไร ข้าก็ต้องพาเขาไปรักษาในที่ที่ห่างไกลจากผู้อื่นให้มากที่สุด ขณะที่ข้าเองเมื่อพบเจอเฮยอั้นก็กลับปล่อยให้ความโกรธแค้นบังตา....” แม่ทัพเชมัลกล่าวไม่จบความ กลับหันไปหาองครักษ์แซน “เจ้าเอง ยิ่งเป็นกังวลมาคอยดูแลข้ากับเสี่ยวเม่ย ยิ่งทำให้แม่ทัพนาซิมอ่อนแอลง การเคลื่อนไหวของคน 1 คน มีผลต่อทั้งหมด ข้าจึงออกคำสั่งให้เจ้ามาที่นี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้า เพราะไม่อยากให้เมืองหน้าด่านอ่อนกำลังลง”
“แล้ว...เรื่องยาให้เม่ย”
แม่ทัพเชมัลยิ้มมุมปาก องครักษ์แซนผู้มีจิตใจดี ยังคงคิดที่จะกลับมาที่นี่อีกในไม่กี่วันข้างหน้าจริง “ที่นี่มีสมุนไพรเพียงพอ ข้าเพียงคัดเลือดดำออกไป แล้วเสี่ยวเม่ยก็นับว่าดีขึ้นมากแล้ว”
องครักษ์แซนมองหน้าแม่ทัพอย่างลังเล “จากวันแรกที่ข้ามาส่งท่านที่นี่ก็อีก 2 สัปดาห์เท่านั้น”
“1 เดือน” แม่ทัพบอก “และหากเจ้ามาก่อนเวลาอีก ข้าก็จะนับเวลาอยู่ที่นี่ต่อไปอีก 1 เดือนเช่นกัน”
คำกล่าวย้ำของแม่ทัพ ทำให้องครักษ์หนักใจ “ท่านแม่ทัพ”
“ขอบใจที่เป็นกังวล พวกเราทุกคนต่างก็มีหน้าที่ ที่จะต้องรับผิดชอบ"
สุดท้ายองครักษ์จึงรับคำสั่ง แต่ไม่วายหันมามองอีกครั้ง จนผู้เป็นนายต้องกล่าวเตือน
“1 เดือนนะแซน”

สภาพอากาศในแต่ละวันที่เกาะห่างไกล ยังคงไม่อาจคาดเดาได้อยู่เช่นเดิม วันนี้แม่ทัพเชมัลเดินตามอาเม่ยเข้าไปในเขตป่าโปร่งตอนกลางของเกาะ จู่ๆ ก็มีฝนตกลงมา
คนตัวเล็กหยุดเดิน ค่อยกางแขน 2 ข้างออกช้าๆ อีกคนก็เตรียมพร้อม ไม่ว่าจะใช้เวทย์อันใดออกมา ขอเพียงไม่ใช่การทำร้ายตนเองเท่านั้น!
แต่ครานี้อาเม่ยหันมาซัดลูกไฟใส่แม่ทัพเชมัล! แต่แม่ทัพเชมัลก็สลายลูกไฟที่เข้ามาปะทะได้ทันที
หลังจากลูกไฟก็เปลี่ยนเป็นการบังคับดินโคลนที่เกิดจากการฝนตกก่อนหน้า
แม่ทัพเชมัลขมวดคิ้ว รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ เพราะหลังการซัดใส่เพียงครั้งเดียว อาเม่ยก็ชะงักมือค้างอยู่กลางอากาศ สีหน้าท่าทางดั่งมีการต่อสู้กันอยู่ภายใน
ทางหนึ่งต้องการโจมตี อีกทางหนึ่งไม่ต้องการโจมตี
อาเม่ยส่งเสียงกรีดร้องแหลมเล็กด้วยความอึดอัดทรมาน

แม่ทัพเชมัลซัดลูกไฟลงใกล้เท้าของอาเม่ย แล้วหันหลังกลับวิ่งนำไปทางชายหาด อาเม่ยก็วิ่งตาม ทั้งซัดลูกไฟโจมตีอย่างต่อเนื่อง 
แต่เมื่อแม่ทัพสลายไฟเป็นน้ำบ้าง เป็นละอองควันบ้าง อาเม่ยก็ยิ่งโกรธ ลูกไฟที่ซัดตามหลังมายิ่งรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งตามมาถึงชายหาด และวิ่งตามลงมาถึงเข่าก็หยุดยืนแล้วเปลี่ยนเป็นการบังคับน้ำ ให้หมุนวนรอบตัว แล้วระเบิดออกทุกทิศทาง
กลับเป็นพลังน้ำที่ไม่ได้ทำร้ายผู้ใด
หลังการปล่อยพลังครั้งนี้ อาเม่ยยังทรุดตัวลงคุกเข่า แม่ทัพเชมัลตามเข้ามากรีดเลือดจากฝ่ามือที่ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน

อาเม่ยกระตุกตัวแรง เงาสีดำพวยพุ่งออกมาจากดวงตา ยังไม่ทันก่อตัวเป็นรูปงูตัวใหญ่ได้เสร็จสิ้นก็ถูกแม่ทัพเชมัลซัดพลังจนสลายไปก่อน

แม่ทัพเชมัลอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมานอนอยู่บนชายหาด แล้วเค้นเลือดสีดำให้หยดลงสู่ผืนทราย
เมื่อหันไปมองดวงตาสีดำสนิทที่มองกลับมา ค่อยกลับกลายเป็นสีแปลกตาอย่างช้าๆ
อาเม่ยกะพริบตามอง
“เสี่ยวเม่ย เป็นอย่างไรบ้าง”
“เหนื่อย.....” น้ำเสียงแหบแห้ง เหนื่อยล้า “แล้วก็หนาว.....”
“อีกนิดเดียว เสี่ยวเม่ย เจ้าหลับไปก็ได้ ข้าจะพากลับบ้านเอง”
อาเม่ยพยักหน้า แล้วหลับตาลงตามที่อีกคนบอก
จากผิวกายสีดำ กลับกลายเป็นสีขาว
หยดเลือดที่ไหลรินยังมีสีเข้ม แต่อาเม่ยอ่อนเพลียเกินกว่าที่จะถ่ายเลือดได้อีก แม้อยากเร่งรักษาให้หายดี แต่ใบหน้าขาวซีดลมหายใจอ่อนแรง จนต้องตัดใจใช้ผ้าพันไว้ ช้อนอุ้มใต้สะโพกให้ซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง
“กลับบ้านกันนะ”
คนที่ซุกหน้ายังมีแรงพอที่จะพยักหน้า ครู่หนึ่งลมหายใจก็กลับมาเป็นปกติ
ฝนหยุดตกแล้ว อากาศยิ่งสดชื่นกว่าเคย มีความสุขกว่าเคย และมีกำลังใจมากกว่าเคย เมื่ออาเม่ยมีอาการดีขึ้น

อาเม่ยลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อแม่ทัพกำลังทายาให้
“เจ็บหรือเสี่ยวเม่ย ยังหนาวอยู่หรือไม่”
อีกคนพยักหน้าเป็นคำตอบ
ผ้าห่มทุกผืนที่มีอยู่ในบ้านถูกนำมาห่มให้อีกคน
“อุ่นขึ้นไหม”
อาเม่ยพยักหน้าอีกครั้งแล้วหลับต่อไป

บ่ายจัดประตูบ้านเปิดออก คนที่เดินออกมาหาคนที่กำลังผ่าฟืนอยู่ที่ลานบ้าน มีท่าทีงุนงง
“ดีขึ้นแล้วหรือ”
แม้จะพยักหน้าตอบรับ แต่ดวงตาที่มองไปรอบตัวยังมีแต่คำถาม
“เจ้าไม่ค่อยสบาย ไปนั่งพักอยู่ในที่ร่มเถิด” แม่ทัพเชมัลวางขวาน แล้วจับข้อมือเล็กให้เดินตามมา
อาเม่ยหยุดยืน รั้งมองมือใหญ่ที่จับอยู่
“ข้าคือเชมัล จำข้าได้หรือไม่”
อาเม่ยส่ายหน้าช้าๆ แต่อีกคนยิ้มให้กำลังใจ
“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พวกเรายังมีเวลาพูดคุยกันอีกนาน”
อีกคนเอียงใบหน้าเล็กๆ มองคนที่กำลังพูดแล้วก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่มีคำพูดใด มีเพียงดวงตาสีแปลกคู่นั้นที่มองไปรอบๆ แล้วกลับมาหยุดอยู่ที่อีกคน
“อยากดื่มน้ำหรือไม่”
แม่ทัพเชมัลพยายามชวนคุย แต่อาเม่ยพยักหน้าเดินตามอีกคนกลับเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านพัก มองตามมือใหญ่ที่รินน้ำให้ดื่ม แล้วช่วยเช็ดที่มุมปากให้
คิ้วสวยขมวดแน่น อีกคนจึงถามคำถาม
“สงสัยอันใด”
พออาเม่ยส่ายหน้า อีกคนก็ชวนคุย “หากสงสัยก็พูดคุยกัน เจ้าปล่อยให้ข้าคุยอยู่คนเดียวมาหลายวันแล้ว จนข้าไม่รู้จะหาเรื่องอันใดมาคุยกับเจ้าอีก”
“ไม่รู้....” อาเม่ยกล่าวอย่างไม่เข้าใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างว่างเปล่า จนไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากที่ใด
“ข้า...กอดเจ้าได้ไหม”
อาเม่ยยังคงพยักหน้า แม่ทัพเชมัลโอบกอดอย่างแผ่วเบาดั่งประคองแก้วบาง แล้วค่อยเพิ่มแรง
เมื่อแขนผอมบางยกขึ้นกอดตอบอย่างลังเล น้ำตาก็ไหลซึมผ่านดวงตาสีเข้ม
“เสี่ยวเม่ยของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมาหาข้าแล้ว”
อาเม่ยเงยหน้าขึ้นมอง ยิ่งเช็ดน้ำตาให้ อีกคนก็ยิ่งร้องไห้
“ท่านร้องไห้...”
แม่ทัพเชมัลจูบปลายนิ้วที่ช่วยเช็ดน้ำตาให้ แล้วกระชับอ้อมกอดผู้เป็นที่รักยิ่งไว้แน่น

...อ้อมกอดแบบนี้...
...ไม่มีสถานที่ใดหลงเหลืออยู่ในความทรงจำ เว้นแต่อ้อมกอดนี้ และน้ำเสียงที่ช่างคุ้นเคย...

เมื่ออยู่ข้างกันฟังคำบอกเล่า ที่ไหลเรื่อยเหมือนสายน้ำ ล้วนเป็นเรื่องราวที่ฟังดูคุ้นเคย
อาจเพราะทุกสิ่ง เริ่มต้นจากความเชื่อที่ว่า คนผู้นี้กล่าวความจริง
ความทรงจำที่คล้ายภาพวาดที่ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถูกเก็บขึ้นมาจัดเรียงใหม่อีกครั้ง

ดวงตาสีแปลกมองผลไม้ลูกเล็กที่มือใหญ่ส่งให้
“พืชและสัตว์บนเกาะนี้มากกว่าครึ่งเป็นพวกเราปลูกขึ้น ที่นี่จึงมีผลไม้ที่เจ้าชอบอยู่ด้วย”
“แบร์รี่”
“ใช่” มือใหญ่ป้อนถึงปาก “ข้าป้อนนะ”
แบร์รี่ลูกเล็กสัมผัสริมฝีปากแต่กลับทำให้ใบหน้าแดงเรื่อ ทั้งยิ่งแดงกว่าเดิมเมื่อดวงตาสีแปลกสบตาสีเข้ม แล้วหลบวูบ
“ชอบไหม”
คนหน้าแดงส่งเสียงในลำคอ อยากปัดนิ้วมือใหญ่ที่สัมผัสแก้ม
“ยังต้องการนอนพักหรือไม่” เมื่ออีกคนส่ายหน้า ก็ชวนไปเดินเล่น
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง การเดินเล่นด้วยกันเป็นหัวข้อที่เกิดขึ้นเสมอ เมื่อคนที่ทำหน้าที่เล่าเรื่องนึกไม่ออกว่าจะเล่าเรื่องอันใดให้อีกฝ่ายฟัง
เพราะเมื่อเดินเล่น หัวข้อของเรื่องเล่าก็จะเปลี่ยนไปที่เรื่องของต้นไม้ พืช และสัตว์ที่มีอยู่บนเกาะแห่งนี้แทน ส่วนใหญ่แล้วอาเม่ยจะมีรอยยิ้มจางๆ ทำหน้าที่รับฟัง จนกระทั่งมาถึงพุ่มไม้เตี้ย คนตัวโตก็ชี้บอก
“พุ่มแบร์รี่ ไว้หากเจ้าอยากกินก็เดินมาที่นี่ได้”
มือขาวซีดที่มีผ้าพันแผลเด็ดลูกแบร์รี่มามอง ในความทรงจำที่ว่างเปล่ากลับมีบางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นเองโดยที่อีกคนไม่ได้บอกให้จำ
“ข้าคิด....ว่า ข้าไม่ได้ชอบแบร์รี่มากนัก แต่.....” เมื่อมองดูแบร์รี่ในมือ ดวงตาสีแปลกมีแต่ความไม่แน่ใจ แต่เมื่อหันมาสบตาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่รอคอยคำตอบ กลับส่งประกายแปลกตา
“แต่เพราะข้ากำลังหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม....แล้วก็อยากให้.....สนใจข้าบ้าง ไม่อยากเป็นน้องชาย สุดท้าย...ข้าก็กลับชอบมันจริงๆ”
เมื่ออาเม่ยจะก้มหน้าลงอีกครั้ง แม่ทัพเชมัลก็ช้อนคางให้เงยหน้าขึ้นมองสบตา
แม้คำบอกเล่าจะสะดุด ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ก็ไม่ยากที่จะคาดเดา

“เจ้าไม่ใช่น้องชาย แต่ตอนนั้นพวกเราเพิ่งได้พบเจอกัน.....อีกครั้ง....ข้าเกรงว่าเจ้ามองข้าเป็นคนไม่ดี หากแสดงความพึงพอใจออกไปตามที่ใจคิด ทั้งที่ข้ารักเจ้ายิ่งนัก”
จากที่เป็นฝ่ายฟังเพียงฝ่ายเดียวมาครึ่งวัน อาเม่ยเริ่มจากการกล่าวสิ่งที่อยู่ในความคิดเวลานี้
“ในความว่างเปล่า ข้าได้ยินคำนี้นับครั้งไม่ถ้วน คำที่ช่วยรั้งข้าไว้ไม่ให้หลับใหล”
“ข้ารักเจ้า”
ในความว่างเปล่าที่กินพื้นที่กว้างมากมายในความทรงจำ คำบอกรักนี้กลับชัดเจนกว่าสิ่งใด

ฝนเม็ดใหญ่โปรยปราย ต้นไม้ใหญ่ไหวเอนจวนเจียนจะล้มทับบ้านหลังน้อยได้ตลอดเวลา แต่ผู้ที่อยู่ในบ้านหาได้สนใจไม่
คำบอกรักมากมาย จูบมากมาย สัมผัสมากมายด้วยความรักที่ไม่อาจรั้งรอ ผสานเสียงหอบหายใจ และหยาดเหงื่อ
เล็บบางกรีดแผ่นหลังหนายามเมื่อความต้องการมากขึ้น ทั้งเร่งเร้าให้อีกฝ่ายตามใจ แต่อีกฝ่ายเล้าโลมอย่างเนิ่นนาน ด้วยเคยบังคับร่างกายผอมบางนี้ และเกรงว่า การร่วมรักจะซ้ำเติมร่างกายบอบช้ำ จนกระทั่งอาเม่ยพร้อมจึงค่อยสอดแทรกเข้าหา
ร่างกายผอมบางไหวสะท้าน จิกเล็บมือลงกับต้นแขนหนา ดวงตาสีแปลกมีน้ำตารื้น อารมณ์และความต้องการช่วงหนึ่งเชื่องช้าลง แล้วก็ทะยานไปข้างหน้า จากนั้นก็ผ่อนลง และกลับกลายเป็นพายุ
ร่างกายผอมบางซุกตัวอยู่ภายในอ้อมกอดแข็งแรง เงยหน้าขึ้นมองสบตา
“หลับเถิด”
อาเม่ยพยักหน้า แต่กลับกล่าวคำอย่างไม่แน่ใจ “ที่นี่มีเพียงท่านกับข้าใช่หรือไม่”
“ใช่”
“แต่ในใจข้ากลับคิดเปรียบเทียบ”
แขนใหญ่คลายออกเพียงนิดเดียว “เปรียบเทียบอันใด”
อีกคนส่ายหน้า “ไม่รู้เหมือนกันว่าเปรียบเทียบอันใด แต่กลับคิดเปรียบเทียบกับใครสักคน...เปรียบเทียบว่า ท่านดีกับเขามากกว่าข้าหรือไม่....”
อีกคนจูบปิดปากอย่างหวามไหว แล้วผละออก รอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตาบอกคำว่ารักชัดเจน
“เจ้าจะเปรียบเทียบกับใครที่เจ้ายังไม่รู้ว่าเขาเป็นใครไปเพื่ออันใด”
อาเม่ยยิ้มหวาน แล้วจูบที่ปลายคาง อีกคนพลิกตัวคร่อมไว้  “เจ้ารำคาญคำบอกรักของข้าหรือไม่”
อีกคนทำตาโตแก้มแดงเรื่อ “ผู้ใดกันจึงจะรำคาญคำนั้น”
ริมฝีปากหนากดจูบ “ข้ารักเจ้า  รักที่จะกล่าวคำรัก และรักเวลาที่เจ้าเขินอายเมื่อข้าบอกรัก”
น้ำตาหยาดรื้นดวงตาสีแปลก “ข้าก็คง.....รัก....เมื่อท่านกล่าวคำว่ารัก...ไม่รู้...ข้าไม่รู้จะเปรียบเทียบสิ่งใด รู้แต่เพียงขอเพียงมีท่านเท่านั้น ”
จูบที่อ่อนหวานครั้งแล้วครั้งเล่า สัมผัสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการ ร่างกายเปลือยเปล่ากอดรัดแนบแน่น
“ข้ารักเจ้าเสี่ยวเม่ย”

*-*จบตอนที่  21*-*

(http://i.imgur.com/wIAMsOP.jpg)
ภาพจาก prince.org /// Jekyll Island, Georgia
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-08-2015 11:55:18
ดีใจ อาเม่ยดีขึ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-08-2015 12:03:24
 :mc4: ยินดีกับเชมัสดีใจกับอาเม่ย ในที่สุดก็รู้สึกตัวสักที ได้ร่วมหอลงโล่งกันอีกครั้งทั้งที่ยังมีสติดี :
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 18-08-2015 12:24:30
อ่านตอนนี้ยิ้มตลอดเลย ทำไมรู้สึกว่าเม่ยน่ารักมากๆเลยนะ พี่เชก็ต้องพยายามกันต่อไปนะ เม่ยกำลังจะหายดีแล้ว จดจำสัมผัสของพี่เชได้แล้ว ดีใจจัง หายเป็นปกติไวๆนะเม่ย

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-08-2015 12:27:27
โอ้!! เป็นเรื่องน่ายินดี เสี่ยวเม่ยตัวน้อยๆจะกลับมาแล้ว ความทรงจำ สร้างใหม่ได้ ไม่เป็นไรนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-08-2015 12:36:48
รัก...ล้ำลึกถึงจิตใต้สำนึก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 18-08-2015 12:42:39
อ่านไป เขินไป.. :-[  ทำไมแม่ทัพเชหวานปานน้ำผึ้งเยี่ยงนี้ ถึงอาเม่ยจะจำเรื่องราวเก่าๆไม่ได้ แต่ความทรงจำใหม่สร้างได้ และเชื่อได้ว่าอาเม่ยก็คงตกหลุมรักเฮียเชอีกครั้งแน่ๆ :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-08-2015 13:17:14
เรื่องน่ายินดีเริ่มกลับมาแล้ว

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 18-08-2015 13:36:32
 :hao5: :hao5:
 อาเม่ยกลับมาเเล้ว เเต่ไม่อยากให้เม่ยจำได้ว่าทำร้ายตงกะโป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 18-08-2015 14:28:05
 ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ดีใจจัง อาเม่ยดีขึ้นมากแล้ว   :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-08-2015 14:56:30
ดีใจที่อาเม่ยกลับมา ถึงจะยังไม่เต็มร้อยก็เถอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-08-2015 16:15:06
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-08-2015 16:32:22
เสือโดนกำจัดไปตอนที่แล้ว ตอนนี้ก็เป็นงู ตอนต่อไปจะมีตัวอะไรอีกมั้ย :ling2: เฮียเชเก่งอยู่แล้วเสี่ยวเม่ยหายแน่ๆ o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 18-08-2015 17:25:04
 :mew3: น่ารักอ่ะ  :-[
อาเม่ยก็เหมือนจะดีขึ้นมากแล้ว

 :pig4: ค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 18-08-2015 17:29:25
แม่ทัพเช กับอาเม่ย เคยเจอกันมาก่อนแล้ว แล้วแม่ทัพเชรักอาเม่ยตอนไหนหว่า..
เหมือนเราจะสับสนเอง 555 ..ย้อนไปอ่านใหม่ดีกว่า :impress3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 18-08-2015 17:54:35
ป๋าต้องกินน้องบ่อยๆ รับรองหายชัวร์
ดวงตากับผิวขาวกลับมาแล้ว เย้ว!
บวกและเป็ดขอบคุณ
ที่บอกแซน อีกเดือนนึงนะ นี่โบ๊ยความผิดให้ลูกน้องเพราะตัวเองอยากอยู่ยาวก็บอกมาเถอะ อุอุ
 :mew3:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 18-08-2015 19:37:36
หยอดกระปุกเติมรักให้เต็มหัวใจ
รู้สึกมีความสุขที่อ่านตอนนี้ค่ะ
เหมือนพี่เชแก้ตัวกับน้องเลยว่ารักมาตลอด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-08-2015 19:41:47
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 18-08-2015 19:43:26
ฉลองให้กับแม่ทัพเชมัลและตัวเองค่ะ :mc4:
ในที่สุดเสี่ยวเม่ยก็ดีขึ้น ดูมีความหวังและกำลังใจที่จะรักษากันต่อไปเนอะ

คนอ่านก็ลุ้นจนเหนื่อย มีข่าวดีแถมยังได้ลึกซึ้งกันอีก :กอด1:

สงสารแซนนิดนึง เป็นห่วงมากซินะ แต่ต้องเชื่อใจและมั่นใจท่านแม่ทัพ
อุตส่าห์ออกตัวขออยู่ลำพังเองขนาดนี้
งั้นแซนก็ใจแข็งเป็นตัวแทนไปปกป้องอีกทางหนึ่งด้วยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 18-08-2015 19:51:40
อั๊ยยะ!!! ตอนนี้หวานเวอร์วัง น่ารักมากอ่าาาาาาาาาาาาาาา

ดีใจที่อาเม่ยหายแล้ว ยินดีต้อนรับกลับมานะจ้ะ เสี่ยวเม่ยของพี่เช
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 18-08-2015 21:31:18
เพราะผลกระทบจากคำสาปเหรอเม่ยเลยจำอะไรไม่ได้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 18-08-2015 22:24:11
ฮือออออ  ตอนท้าย ๆ ละมุนมากอ่ะ  อ่านแล้วได้บรรยากาศของความรักอบอวลเลย
ดีใจที่อาเม่ยดีขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้ว  สู้ไปด้วยกันกับแม่ทัพอีกนิดนะ อีกไม่นานเม่ยคนเดิมต้องกลับมาแน่ ๆ   :กอด1:
ปล. แอบแซวแม่ทัพ ที่ห้ามแซนมาเกาะบ่อย ๆ เพราะเป็นห่วงเมืองสัก 10%
ส่วนอีก 90% เนี่ย เพราะอยากอยู่สองต่อสองกับเม่ยใช่เปล่า  อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-08-2015 23:31:33
ถ้าหายแล้วความจำอาเม่ยจะกลับมาไหม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 18-08-2015 23:57:54
น้องเม่ยของเราจะหายแล้วใช่ม๊ายยยยย
ตอนที่อ่าน ใจนึงก็อยากให้เม่ยจำได้เร็วๆ จะได้หายไวๆ แต่ใจนึงก็ไม่อยากให้จำได้ จะได้ลืมเรื่องที่ฆ่าตงกะโป
อยากฝากน้องทีกะน้องไจฟ์ให้ไปบอกพี่เชมัลทีนะคะว่า ถ้าพี่ชัดเจนอย่างนี้ตั้งแต่แรก น้องเม่ยก็ไม่คิดมากหรอก ขนาดความทรงจำหล่นๆหายๆ ยังคิดเปรียบเทียบเลยอะ น่าสงสารเม่ยตัวน้อยยยยยยย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 19-08-2015 08:37:43
นี่เม่ยเรามาครบเลย ดิน น้ำ ลม ไฟ ตอนนี้ถึงจะมาแต่เพียงต้องมาตอนรักษาตัวเองในเกาะไม่เป็นไร๊ เหอ เหอ คอยดูคราวต่อไปที่ความเก่งกล้าสามารถนี้ต้องได้ใช้ตอนออกจากเกาะแล้วต่อสู้กับเมืองเหนือกับทีมให้ทุกคนตะลึงๆๆๆๆ   :a1:
เพียงแต่รู้สึกเหมือนว่าช่วงความทรงจำของเวลาหลังฟื้นมานี่มันยังคาบเกี่ยวกันระหว่างสองความทรงจำของเม่ย นี่ก็สงสัยว่าอาเม่ยหลังจากที่โดนเวย์ให้เข้ามาเป็นทหารคงฝังใจเรื่องความสับสนของความรู้สึกในตอนนั้นว่าก่อนจากกันมาคืออะไรหรือสับสนว่าท่านเชจะรักหรือหลอกหรือลวงแน่ๆ เลยทำให้โดนเวทย์ไปเต็มๆ เพราว่าเมื่อมาถึงในค่ายก็เหมือนว่าในจิตส่วนลึกบอกให้โฟกัสไปที่อยากเคลียร์ให้ชัดเจนถึงความรู้สึกที่แท้จริงของท่านเชเหมือนมาตอกย้ำให้ชัดเจนกันทีเถ่อะอะไรงี้แน่ๆเพราะตัวเม่ยเองนั้นคงรักท่านเชตั้งแต่แรกแล้วที่ต้องคอยซักคอยถามนู่น นี่ นั่นมากมายเพราะด้วยอยากให้รู้ชัดน่ะแหล่ะ แต่แหม่ก็ยังกลัวว่าพี่เชไม่รักถึงขนาดต้องบอกว่าชอบแบรี่เพื่ออยากให้พี่สนใจ งั้นแสดงว่าอิตาพี่เชนี่ก็เก่งเรื่องอื่นแต่เรื่องรักนี่ แพ้เม่ย

แต่นะ เรื่องรู้ใจพระราชานี่ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากท่านเชจริงๆ คงเป็นเพราะเคยมาอยู่ที่เกาะนี้ด้วยกันแน่ๆแต่ทำไมตอนนั้นไม่มีแม่ทัพนาซิมมาอยู่ด้วยน๊อ ไหนว่าเป็นการมาฝึก เราอ่านข้ามไปหรือไงหว่า  :m28:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 20-08-2015 09:57:48
ท่านแม่ทัพสู้ๆ เม่ยของเราค่อยๆกลับมาแล้ว
ปลื้มปริ่ม
แลตอนนี้น้ำตาลขึ้นจอเบาๆ เอิ้กๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 21-08-2015 19:57:21
อาเม่ยกลับมาแล้ว..แม้ความจำจะยังไม่สมบูรณ์  แค่นี้พี่เชก็มีกำลังใจล้นเหลือ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-08-2015 21:31:20
เฮยอั้นตายไปแต่ศึกยังไม่จบ การที่เม่ยโดนเวทย์ซ้ำเป็นการจงใจ แต่เพื่ออะไรกันนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 23-08-2015 12:43:14
ตอนนี้ทำเอาน้ำตารื้นตามพี่เชไปด้วยเลย
ดีใจที่เม่ยมีอาการดีขึ้น แต่คงวางใจ 100 % ไม่ได้

“เจ้าไม่ใช่น้องชาย แต่ตอนนั้นพวกเราเพิ่งได้พบเจอกัน.....อีกครั้ง
คนเคยรักกันมาก่อนนี่เอง อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 24-08-2015 08:52:25
มาเปิดบ้านรออ่านค่ะ  :impress2:  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 24-08-2015 18:56:00
ดันๆๆๆ รออ่านเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: omelet ที่ 24-08-2015 19:11:54
อาเม่ยจะกลับมาจำได้มั้ยเนี่ย...รอๆคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 24-08-2015 21:31:11
อาเม่ยดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว อยากให้อาเม่ยหายเร็วๆ จำเรื่องราวต่างๆได้และแข็งแรงขึ้น

ส่วนท่านแม่ทัพ รังแกเสี่ยวเม่ยอีกแล้วนะ!!!!! ไหนว่ากลัวบอบช้ำไง เผลอเป็นไม่ได้เชียว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 25-08-2015 18:58:49
ดันพี่เช ฮึบๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 26-08-2015 05:47:59
ตื่นมาปูเสื่อรอพี่เชกะอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่21หน้า21 (18สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 26-08-2015 06:43:26
 :pig4:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 26-08-2015 07:17:28
ตอนที่ 22

อาเม่ยไม่แสดงอาการของเวทย์ดำอีกเลยนับจากวันที่ซัดลูกไฟใส่แม่ทัพเชมัลในครั้งนั้น 
ทั้งเครื่องหมายภายนอก ไม่ว่าจะดวงตา เส้นผม ผิวกาย ก็กลับมาเป็นดังเดิม และไม่มีท่าทีเตรียมพร้อมที่จะแสดงพลังใดๆ อีก
เว้นแต่เมื่อมีท่าทีนิ่งเฉย อีกคนก็จะตั้งคำถาม และชวนคุย เพราะเป็นที่ชัดเจนว่า การที่อาเม่ยมีอาการดีขึ้นก็เพราะการที่อีกฝ่ายไม่ท้อถอยที่จะชวนคุย
แรกนั้นอาเม่ยเพียงแต่รับฟัง จากนั้นก็เริ่มตั้งคำถาม
บทสนทนาส่วนใหญ่จึงเป็นเพียงการถาม-ตอบในเรื่องต่างๆ
 
ดวงตาสีแปลกมองคนที่กำลังทำแผลที่มือทั้ง 2 ข้าง “เลือดของข้าเคยเป็นสีดำหรือ”
“เวทย์ดำของเฮยอั้นควบคุมร่างกายของเจ้า ดวงตาของเจ้า สีผม และสีผิวของเจ้าล้วนเป็นสีดำเช่นเดียวกับเฮยอั้น”
...เชมัลเอ่ยชื่อของผู้คนมากมาย ที่ล้วนเป็นความว่างเปล่า แล้วเฮยอั้นที่กล่าวถึงครานี้คือใคร....
อาเม่ยมองสีผิวของตนเองเปรียบเทียบกับอีกคน
“ดำอย่างไร”
“ดำสนิท เหมือนสีของกลางคืน”
อาเม่ยคิดตาม “ข้าต้องน่ากลัวแน่”
“ไม่หรอก” แม่ทัพบอกแล้วเปลี่ยนไปทำแผลที่มืออีกข้าง “ภาพลักษณ์ภายนอกไม่ได้ทำให้เจ้าดูน่ากลัว แต่การที่เจ้าอ่อนเพลียลงอย่างรวดเร็ว แล้วกลายเป็นหลับแทบจะตลอดเวลา ทำให้ข้ากลัว”
“หลับตลอดเวลามีอันใดให้ต้องกลัว”
“ข้ากลัวที่เจ้าจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก"
คำกล่าวนี้ทำให้ดวงตาสีแปลกรู้สึกปวดร้าว จนหยาดน้ำตาไหลริน
ริมฝีปากสวยก้มลงจูบแก้มเปียกน้ำตา “เจ็บแผลหรือ”
คนที่ร้องไห้ส่ายหน้า บอกความรู้สึกที่แท้จริง “จู่ๆ ก็รู้สึกปวดร้าวที่รอบดวงตา มันร้อน แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเอง” 
เมื่อทำแผลที่มือทั้ง 2 ข้างเสร็จ คนตัวโตก็ดึงให้อีกคนนั่งพิงอกกว้างไว้
“ไม่มีเรื่องอันใดให้ต้องกังวล”
“ท่านก็มีความกังวล แล้วเหตุใดจึงห้ามข้ากังวล”
“เพราะความกังวล ความรักและความกลัวของข้าล้วนวนเวียนอยู่กับเจ้าทั้งสิ้น ยิ่งเจ้ากังวลข้าก็ยิ่งกังวลกว่าเดิม”
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น”
“เพราะข้ารักเจ้า”
“แล้ว...” คนถามก้มหน้าซ่อนแก้มแดงเรื่อ “ท่านเป็นแม่ทัพจริงหรือ”
“จริง ข้าฝึกทหารตั้งแต่จำความได้ เพราะพี่ชายของข้าคนหนึ่งเป็นพระราชา อีกคนเป็นลูกอา เขาเป็นเจ้าเมืองหน้าด่าน ข้าเลยต้องอยู่ทั้งเมืองหลวงและเมืองหน้าด่าน หลายคราที่ต้องออกไปอยู่นอกด่านตามลำพัง”
เรื่องราวนี้ทำให้อาเม่ยแตะที่หน้าผากตนเอง คนอีกก้มลงถาม
“เป็นอย่างไร ปวดหัวหรือ”
อาเม่ยส่ายหน้า แตะที่หน้าผากตนเอง บอกความจริง “มีภาพบางอย่างในนี้ ข้าเห็นท่านเดินนำอยู่ข้างหน้า กับคนอีกหลายคน” ดวงตาสีแปลกมองเสื้อที่อีกคนสวมอยู่ “ท่านไม่ได้แต่งตัวเช่นนี้ แล้ว...มีบ้านเรือน”
“ข้าแต่งตัวอย่างไร”
“ท่าน...สวมชุดทหาร”
นั่นย่อมเป็นวันแรกที่พาอาเม่ยไปเข้าเฝ้าพระราชา
“พวกเราไปหลายคนหรือ”
“หลายคน ท่านอยู่ตรงกลาง แต่...ไปที่ใดกัน ไม่มีภาพต่อไปแล้ว”

...เช่นนั้นก็ควรเล่าเรื่องราวในวันแรกที่พาอาเม่ยไปเข้าเฝ้าพระราชาฟารัค และความสดใสร่าเริงของอาเม่ยที่ทำให้พระราชาประทับใจ...

“ท่านควรอยู่ในกองทัพ แต่เพราะท่านกังวลเรื่องของข้า ท่านจึงละทิ้งทุกสิ่ง เพื่อมา...ดูแลข้า” คนในอ้อมกอดหันมามอง “ข้ามีอาการดีขึ้นมากแล้ว ท่านกลับไปที่กองทัพเถิด” หยุดคิดครู่หนึ่งแล้วก็โอบกอดไว้แน่น “พาข้าไปด้วย”
“ข้าย่อมต้องพาเจ้าไปด้วย” มือใหญ่ลูบเส้นผมสีเงินยาว “จะไม่ยอมให้เจ้าห่างจากข้าอีกแล้ว”
อาเม่ยดูลังเล “ข้าเคยอยู่ในเมืองใช่ไหม”
“เจ้าอยู่ในหมู่บ้านทางเหนือของเมืองวัน แล้วมาอยู่ในกองทัพเป็นองครักษ์ของข้า”
อาเม่ยทำหน้าตาพิกล “เช่นนั้นข้าสมควรดูแลท่าน มิใช่ท่านดูแลข้า”
“พวกเรา...สมควรดูแลกันและกัน”
ริมฝีปากหนาจูบที่แก้มอีกครั้ง จนอีกคนเขินอายจนต้องเปลี่ยนคำถาม
“ก่อนนี้ข้าเป็นอย่างไร ท่านกอดข้าตลอดเวลาเช่นนี้หรือไม่”
“เจ้าเป็นคนช่างถาม มีเรื่องสนใจอยากรู้ตลอดเวลา” ดวงตาที่มองมาหวานจนอีกคนไม่กล้าสบตา “อยู่ที่ค่ายทหารข้าย่อมกอดเจ้าเช่นนี้ไม่ได้ แต่ที่นี่...ไม่เหมือนกัน...”
ก่อนนี้อาเม่ยเหมือนเด็กซุกซนช่างซักถามเป็นคนรักที่เหมือนน้องชายและเพื่อน
แต่ในเวลานี้อ่อนหวานเป็นคนรักที่เป็นคนรักอย่างแท้จริง
“ข้ารักเจ้า”
ยิ่งท่าทีเขินอายเมื่อได้ยินคำรัก ยิ่งทำให้อยากบอกรักสักพันครั้ง...
“ทำแผลเสร็จแล้ว ท่านบอกว่าจะไปหาบน้ำมาเตรียมทำอาหาร” คนที่ซุกใบหน้าแดงจัดกับอกกว้าง เปลี่ยนเรื่องพูดคุยอีกครั้ง
“จริงสินะ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียดาย จนอีกคนแตะที่ไหล่เบาๆ
“ข้าไปด้วย”
“มิเป็นไร เจ้ารอที่นี่เถิด” แม่ทัพเชมัลลุกขึ้นยืน
“เช่นนั้นข้าจะเข้าไปปัดกวาดในบ้าน” กล่าวพลางลุกขึ้นตาม
“หาบน้ำเสร็จข้าจะกลับมาทำเอง”
อาเม่ยยิ้มหวาน “เมื่อครู่ท่านบอกว่า พวกเราสมควรดูแลกันและกัน”
“แต่มือของเจ้ายังเจ็บอยู่ ข้ากลับมาทำครู่เดียวก็เสร็จ”

ครู่เดียวที่แม่ทัพเชมัลหาบน้ำกลับมา กลับพบว่าอาเม่ยนั่งหลับพิงราวบันไดอยู่ที่หน้าบ้าน จึงช้อนอุ้มพาเข้ามานอนในห้อง 
อาการหลับอย่างง่ายดายเช่นนี้ไม่ได้พบเห็นมาหลายวันแล้ว และเมื่อจู่ๆ กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งก็ทำให้รู้สึกหนักใจ นั่งมองอยู่ข้างที่นอนจนมีเสียงฝีเท้าที่ด้านนอกบ้าน
เสียงฝีเท้าที่ก้าวช้าๆ สม่ำเสมอดั่งเดินเล่นอยู่ในสวนเขตบ้านของตนเองทำให้แม่ทัพเชมัลกระชับผ้าห่มให้คนที่กำลังหลับ แล้วเดินออกมาหาคนที่ยืนรออยู่ด้านนอก
ผู้ที่กำลังยืนอยู่หน้าบ้านเป็นชายวัยประมาณ 40 ปี ท่าทีองอาจ
แท่ทัพเชมัลค้อมศีรษะทำความเคารพ “พระราชาเมืองบาสก์”
พระราชาเมืองบาสก์ยกมือรับการเคารพ 

“อยู่ตามลำพังอย่างเสรี แต่ยังคงความเป็นระเบียบ” นิ้วมือที่สวมเครื่องประดับชี้ไปที่สิ่งของต่างๆ ที่ลานบ้าน “ช่างสมกับที่เป็นเจ้า”
“ข้าพระองค์ไม่ได้อยู่ตามลำพัง”
ดวงตาคมมองเลยไปที่ด้านหลังของอีกคน พลางส่งเสียงในลำคอ
“แทบไม่รู้สึกถึงพลังชีวิต ขอให้ข้าดูเขาได้หรือไม่”
ทั้งที่ยังมีท่าทีอ่อนน้อม แต่แม่ทัพเชมัลกลับชักเท้าขวาง “ข้าพระองค์รักษาเขาได้”
พระราชาเมืองบาสก์ยิ้มอย่างไม่ถือสา หันไปกล่าวกับใครอีกคนที่รออยู่ด้านนอก
“ข้าบอกแล้วว่า วิธีนี้ไม่ได้ผล น้องชายท่านหวงคนที่อยู่ในบ้านสมกับที่ผู้คนกล่าวถึงจริง”
ผู้ที่เดินออกมาครานี้คือพระราชาเมืองวัน
“พระองค์เล่นอันใดกัน” เมื่อเห็นหน้าพระเชษฐา แม่ทัพเชมัลก็หมดความเกรงใจ เพราะรู้ดีว่าพระราชาฟารัคแห่งเมืองวันมีนิสัยชอบเข้าไปจัดการเรื่องราวต่างๆ ของผู้คนรอบตัว
“เจ้าหยุดพักนานเกินไปแล้ว ข้าให้องครักษ์แซนมาตาม เจ้าก็ไล่กลับ แล้วพูดจาข่มขู่อะไรกันไว้องครักษ์แซนก็ไม่ยอมเอ่ยปากสักคำ ดื้อดึงพอกันทั้งแม่ทัพ ทั้งองครักษ์ สุดท้ายข้าต้องไปขอร้องให้พระราชาเมืองบาสก์มาช่วย”
คำกล่าวยืดยาวนี้ทำให้ผู้ที่ละทิ้งการงานมานานเป็นกังวล
“เมืองเหนือรุกคืบหรือ”

หากมิใช่เรื่องนี้พระราชาฟารัคคงไม่ร้อนพระทัยเช่นนี้

“แม้ข้าจะวางใจนาซิม และผู้คนที่มีอยู่ แต่เมื่อมีศึกใหญ่ แล้วน้องชายของข้ากลับยังเฝ้าคนรักอยู่เช่นนี้ มันเหมาะสมหรือไม่”
แม่ทัพเชมัล กล่าวตามความจริง “เสี่ยวเม่ยดีขึ้นมากแล้ว แต่ความทรงจำยังกลับมาเพียงเล็กน้อย ต้องใช้การพูดคุยเพื่อให้ฟื้นความทรงจำ”
พระราชาฟารัคถามย้ำ “เฮยอั้นซ่อนความทรงจำทั้งหมดของเม่ยเช่นนั้นหรือ”
แม่ทัพเชมัลตอบอย่างระมัดระวัง “เวทย์ดำครอบงำทั้งร่างกาย และจิตใจของเสี่ยวเม่ย ความทรงจำถูกซ่อนไว้ เมื่อพูดคุยทบทวน ก็ค่อยจดจำเรื่องราวบางอย่างได้”
“เจ้าจึงเป็นกังวล และไม่อยากพา...” พระราชาเมืองบาสก์ไม่แน่พระทัยว่าควรเรียกอาเม่ย ว่า เสี่ยวเม่ยอย่างแม่ทัพเชมัล หรือ เรียกเม่ยอย่างพระราชาฟารัค “...คนรักของเจ้ากลับไปในเวลานี้”
“เช่นนั้น พระองค์” แม่ทัพเชมัลยอมรับ
มีเสียงการเคลื่อนไหวจากภายในบ้าน กลุ่มผู้ที่กำลังสนทนาอยู่จึงหันไปมอง แม่ทัพเชมัลเดินไปหาคนที่เปิดประตูบ้านแล้วก้าวออกมา
“เจ้าเพิ่งหลับไปได้ครู่เดียว”
อาเม่ยพยักหน้า ดวงตาสีแปลกมองพระราชาฟารัค แล้วมาหยุดนิ่งที่พระราชาเมืองบาสก์
แม่ทัพเชมัลจับตามองตามตลอดเวลา เพื่อดูว่าอาเม่ยจำใครได้บ้าง แต่เมื่ออาเม่ยหันกลับมามองพระราชาฟารัคก็กล่าวขึ้น
“ข้ารู้จักท่าน”
“นั่นคือพี่ชายของข้า พระองค์เมตตาเจ้ามาก และเจ้าก็มักจะบอกว่า พระองค์ชอบแกล้งเจ้า”
ดวงตาสีแปลกของอาเม่ยมีประกายของความยินดีเมื่อจำได้ “พระราชา”
“ข้าเล่าเรื่องของข้ามากมาย เจ้ายังจำข้าไม่ได้ แต่พอพระองค์เสด็จมา เจ้าก็บอกว่าจำได้เช่นนั้นหรือ เชื่อแล้วว่าเจ้าชอบพระราชาจริงๆ”

จู่ๆ แม่ทัพเชมัลก็กลับไปพูดถึงเรื่องราวตั้งแต่แรกพบกัน ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้พระราชาเมืองบาสก์ต้องหันไปมองเชิงถามพระราชาฟารัค
พระราชาฟารัคก็หันมามองพระอนุชาที่ส่งสัญญาณทางสายตาให้พูดจาคล้อยตาม
...สรุปว่านี่คือขั้นตอนของการรื้อฟื้นความทรงจำของอาเม่ยเช่นนั้นหรือ
ที่ว่าถูกซ่อนความทรงจำ นี่คือจำใครไม่ได้เลย แม้แต่เชมัลเช่นนั้นหรือ
....ช่างน่าปวดใจยิ่งนัก
แล้วนี่น้องชายของข้ายังกลับดึงดันที่จะรักษาอาเม่ยตามลำพัง ทั้งที่ปวดใจอย่างหนักเช่นนี้
หากปล่อยให้อยู่กันตามลำพังที่นี่ต่อไป ไม่นานคงต้องรักษาเชมัลไปด้วยอีกคน

ผู้เป็นใหญ่แห่งเมืองวัน หันไปสนทนากับพระราชาเมืองบาสก์  “น้องชายขี้อิจฉาของข้าพระองค์มักเป็นเช่นนั้น” คำกล่าวนี้หลีกเลี่ยงการใช้ราชาศัพท์ “ที่จริงแล้วเม่ยชอบข้ามาตั้งนาน แต่เชมัลกลับรวบรัดเก็บเขาไว้ข้างกายตามประสาน้องชายขี้อิจฉา”
อาเม่ยคลี่ยิ้มแล้วพยักหน้า ชี้ไปที่แม่ทัพเชมัล “น้องชายขี้อิจฉา”  แล้วก็ชี้ไปที่พระราชา "กับพี่ชายชอบแกล้ง"
“พวกเรามาไม่เสียเที่ยวเปล่าจริงๆ” พระราชาเมืองบาสก์ พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง
พระราชา 2 พระองค์ของ 2 ดินแดนแย้มพระสรวลให้กันอย่างเบาพระทัย

แม่ทัพแสร้งหันมาบ่นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ "เหอะ พอคนที่ชอบมาหาก็จำเขาได้ทันที ข้าอยู่กับเจ้ามาตั้งนาน พูดคนเดียวมาตั้งหลายวัน กว่าที่เจ้าจะจำข้าได้ เจ้านี่มันเหลือเชื่อจริงๆ"
อาเม่ยกอดแขนใหญ่ของแม่ทัพเชมัลไว้แน่น "แต่ข้ารักคนขี้อิจฉานะ"
พอแม่ทัพเชมัลยิ้มกว้างด้วยความเก้อเขิน พระราชาทั้ง 2 พระองค์ก็หันมาล้อเลียน
"บอกตามตรงว่า คนตัวใหญ่ยิ้มยากอย่างเจ้าไม่เข้ากับท่าทีเขินอายเลยสักนิด"
"ผู้ใดว่าข้าเขินอายกัน" ยิ่งเห็นอาเม่ยยิ้มได้ พูดคุยมากขึ้นก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจพองโต "ข้ากำลังมีความสุขมากต่างหาก"
"ไม่ได้อิจฉาหรือ"
"อ่า......." คนตัวโตลืมไปว่า เมื่อครู่กำลังแสร้งอิจฉา "ก็อิจฉาอยู่นะ แต่เห็นเจ้ายิ้มได้ หัวเราะได้แบบนี้ พักความอิจฉาไว้ก่อนก็ได้"
"ท่านต่างหากที่เหลือเชื่อเลยจริงๆ" อาเม่ยกล่าวคำต่อว่าทั้งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แม่ทัพเชมัลกอดอาเม่ยไว้แน่น หันไปค้อมศีรษะขอบพระทัยพระราชา 2 พระองค์ ที่เสด็จมาพร้อมกัน กลายเป็นทางลัดในการรักษาอาเม่ย


พระราชาฟารัคนั้นเป็นผู้ที่มีพลังของผู้ปกครองเหนือกว่าพระราชาทุกพระองค์เท่าที่เคยมีมา และหากจะเปรียบเทียบกับพระราชาของเมืองเหนือ กับเมืองบาสก์ก็ยังนับได้ว่า เหนือกว่าอยู่หลายส่วนเช่นกัน
ส่วนพระราชาเมืองบาสก์ก็เป็นผู้ที่มีพลังด้านการสกัดสิ่งชั่วร้าย การที่พระราชาฟารัคให้พระราชาเมืองบาสก์เสด็จเข้ามาพบกับอาเม่ยก่อน ก็เพื่อให้สลายเวทย์ดำของอาเม่ย
แต่การทำเช่นนี้ต้องสูญเสียพลังไปมาก เชื่อว่า พระราชาฟารัคต้องจัดการแลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พระราชาเมืองบาสก์ต้องเสด็จมาด้วยพระองค์เอง

ลำพังพระราชาฟารัคจะเสด็จมาเอง ยังเป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ยิ่งพระราชาเมืองบาสก์จะเสด็จมาด้วยยิ่งเป็นสิ่งที่
แม่ทัพเชมัลไม่เคยคาดคิดเช่นกัน
แต่เหล่านี้ล้วนย้ำว่า สถานการณ์ในเมืองตึงเครียดเพียงใด

แม่ทัพเชมัลจูบหน้าผากสวย แล้วแนบคางที่เส้นผมสีเงิน

....ไม่ว่ากาลเวลาข้างหน้าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น ข้าจะไม่ยอมให้มีใครทำร้ายเจ้าอีก...


...จบตอนที่ 22…

(http://i.imgur.com/7al82Ur.jpg)

ภาพจาก
http://webneel.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 26-08-2015 07:42:12
จองพื้นที่  edit. เพิ่มเติม. ทั้งขี้หึงและขี้อิจฉาเลย 555 อยากรู้ว่าข้อแลกเปลี่ยนของ พระราชาบาสก์คืออะไร ต้องไม่ธรรมดา รอยยิ้มแรกของอาเม่ยปรากฏแล้ว หมดเคราะห์สักทีนะ. จะเป็นอย่างไรน้อ ถ้าเม่ยรู้เรื่อง ตงและโป คงจะต้องโทษตัวเองแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 26-08-2015 08:14:13
 :pig4: :pig4: :pig4:

เม่ยกลายเป็นหนุ่มหวาน...อยากให้กลับมากวนๆซ่าๆในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 26-08-2015 08:51:30
กำลังจะต้องแยกกันอีกแล้วใช่มั้ย หรือว่าหลังจากนี้เม่ยจะหายดีแล้วสามารถเคียงบ่าเคียงใหล่ในสนามรบได้

อ่านไปเขินไป น่ารักที่สุดเลย ต่อไปนี้พี่เชก็จะหายปวดใจเพราะเม่ยจำไม่ได้แล้ว ดีใจจัง

ถ้าเม่ยจำทุกอย่างได้เรื่องตงกับโปจะทำให้เม่ยเจ็บปวดมากแค่ไหนกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 26-08-2015 09:13:12
3 ผู้ยิ่งใหญ่มาช่วยอาเม่ยกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-08-2015 09:20:26
นี่เพราะรู้ว่าเค้าเป็นพันธมิตรและร่วมมือกันระหว่างเมืองวันกับเมืองบาสก์ แล้วพระราชาเมืองเหนือที่สู้ไม่ได้เลยหันไปเล่นเวทย์ดำแทน
ที่ให้เฮยอั้นมาเป็นด่านแรกยังทำให้ท่านแม่ทัพเชระส่ำระสายได้นี่ก็ไม่ธรรมดา แสดงว่าคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามคือเป็นกลุ่มคนที่มีความอิจฉาในใจและมีปมอาจจะเป็นเรื่องของพลังการต่อสู้ที่พ่ายแพ้มาตลอดแน่ๆ
นี่เฮยอั้นมาตายไปแค่คนเดียวแต่สามารถทำให้พระราชาเมืองวันกับเมืองบาสก์ มาตามแม่ทัพคนเก่งถึงที่แบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะมีแผนการในใจที่ขี้เล่นเป็นทุนเดิมของพระราชาฟารัค ก็แสดงว่าสถานการณ์น่าจะรุณแรงจริงๆ
สงสัยต้องแสดงพลังร่วมกันทั้งหมดถึงจะต่อต้านพลังมืดของเมืองเหนือแน่ๆ

สุดท้าย.>>>> อาเม่ยเราเริ่มจะจำได้แล้ว  :katai2-1:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 26-08-2015 09:28:03
ท่านแม่ทัพเชมัลกับอาเม่ยหวานนนน...ใส่กันยิ่งนัก  :o8:

คนอ่านอย่างข้า จักละลายตามไปด้วยแล้ว  :m1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 26-08-2015 10:03:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 26-08-2015 10:32:17
 :-[ ไม่แปลกที่มีแต่คนหลงรักแม่ทัพ
เพราะเป็นคนอ่อนโยนหลบในนี่เอง :impress2:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-08-2015 11:16:00
ศึกใหญ่กำลังเกิด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-08-2015 11:17:34
ทะเลหวานไปเลย เสียวเม่ยช่างน่าฟัด

สถานการณ์รบร้อนจนไฟจะลุกแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-08-2015 13:18:41
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 26-08-2015 15:24:23
หลังจากนี้พี่เชคงจะไม่ปล่อยให้อาเม่ยห่างตัวแล้วนะ


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 26-08-2015 17:49:37
ช่างออดช่างอ้อนนัดอาเม่ยตัวน้อย
อย่างนี้ไม่ให้พี่เชมัลตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่าได้ยังไง
คุณพี่ฟารัคกะคุณพี่ราชาเมืองบาสท์รีบๆช่าวเม่ยตัวน้อยเร็วๆเลยค่ะ พี่เชมัลจะได้มีความสุขซะที  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-08-2015 17:57:31
อาเม่ยค่อยๆจำได้แล้ว แต่ศึกใหญ่กำลังใกล้เข้ามาแล้วสินะ!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-08-2015 20:02:47
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 26-08-2015 21:42:19
อาเม่ยเวอร์ชันนี้ขี้อ้อนอ่าาาาาาาาาา น่ารักๆๆๆๆๆๆ อยากจับไปฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว
พี่เชอยู่ใกล้อาเม่ยขนาดนี้ จะอดใจไหวได้ยังไง อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 27-08-2015 08:30:01
จำได้ซะทีนะอาเม่ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-08-2015 01:17:44
อยากเห็นพี่เชเขินจังเลย :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 28-08-2015 08:10:06
แวะเอาลิงค์ตอน 18-22 มาฝากค่ะ  :impress2:

ตอนที่ 18 --  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.510.msg3138276#msg3138276

ตอนที่ 19 --  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.540.msg3145336#msg3145336

ตอนที่ 20 --  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.570.msg3151492#msg3151492

ตอนที่ 21 --  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.600.msg3156977#msg3156977

ตอนที่ 22 –  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46120.630.msg3163197#msg3163197
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 28-08-2015 19:12:47
แวะมาเยี่ยมนะเม่ย หายดีไวๆนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 29-08-2015 21:37:17
อาเม่ยน่ารัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 30-08-2015 00:17:00
เพิ่งได้มีโอกาสกลับมาอ่านและติดตามอีกรอบ (เพราะงานประจำแย่งเวลาไปหมด)

ยังคงชอบเรื่องนี้อยู่เช่นเดิม นับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องมีเสน่ห์เรื่องหนึ่งของไจฟ์ที แม้ว่าในระหว่างเจ็ดแปดตอนแรกๆ จะยังเดินเรื่องอย่างเรียบเรื่อย แต่ก็เป็นไปเพื่อเจตนาสำหรับปู "ฐาน" ของเรื่อง ซึ่งยิ่งทำให้เนื้อเรื่องต่อมาภายหลังสนุกยิ่งๆ ขึ้น

เมืองเหนือกลายเป็นนครแห่งมนต์ดำไปเสียแล้ว เข้าเค้ากับความเชื่อที่ว่า ดินแดนเหนือมักเต็มไปด้วยความลึกลับ ดำมืด ดิฉันว่านครทั้งสาม คือ วัน, บาสก์, และเมืองเหนือ ต่างก็คานอำนาจกันและกัน แต่เพราะบาสก์กับวัน ดูจะเข้ากันได้ดีกว่า ดังนั้นเมืองเหนือซึ่งน่าจะไกลกว่าเมืองอื่นๆ จึงหันเข้าไปใช้ศาสตร์มืดในการทำกิจสงคราม และการที่อาเม่ยถูกโจมตีก็สมเหตุสมผลดี เพราะการที่อาเม่ยเป็นคนสำคัญสำหรับแม่ทัพเชมัลนั้นย่อมมิใช่ความลับ (คิดว่าสายลับของเมืองเหนือน่าจะมีอยู่ในเมืองวันอยู่แล้ว) และอีกทั้งแม่ทัพเชมัลก็เป็นกำลังสำคัญทางทหารของเมืองวัน ดังนั้นหากโจมตีซึ่งๆ หน้าไม่ได้ ก็ถือโอกาสจัดการตัดกำลังแม่ทัพเชมัลด้วยการทำร้ายคนสำคัญเสียเลย การที่ต้องใช้ "พลัง" รักษาอาเม่ยนี้คงทำให้แม่ทัพอ่อนแอลงกว่าเดิมเป็นแน่

ยังมีข้อข้องใจอีกอย่างคือ อาเม่ยและเชมัลเคยมี "สัมพันธ์" ใดกันมาก่อนหรือไม่ เพราะจะอย่างไร เรื่องราวก่อนหน้าที่อาเม่ยจะมาเข้าร่วมเป็นหน่วยองครักษ์ของแม่ทัพเชมัลก็ยังคลุมเคลือ เราทราบเพียงว่า อาเม่ยมาจากหมู่บ้านช่างตีเหล็กของทางเหนือ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ข้อมูลยังไม่ถูกเปิดเผย นับว่าตัวตนของอาเม่ยนี้มีความลับลมคมในอยู่ จึงน่าติดตามต่อไปอย่างยิ่ง

ต้องขอบใจทั้งคุณไจฟ์และน้องทีเป็นอย่างมาก ที่ได้เขียนเรื่องนี้ออกมาให้อ่าน จะติดตามต่อไปค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 30-08-2015 16:12:16
นี่คือความน่าเกรงขามของพระราชาฟารัคสินะ ถึงกับพาพระราชาเมืองบาสก์มาได้ คาดว่าข้อแลกเปลี่ยนคงไม่ธรรมดาแน่ พี่เชสืบมาด่วนๆ
อาการของเม่ยก็ดูจะดีวันดีคืนขึ้นแล้ว อย่าให้มีอะไรมาตลบหลังอีกแล้วกันนะ (ทำไมยังรู้สึกว่ามีบางอย่างแอบซ่อนลึกๆ อยู่ในตัวเม่ยก็ไม่รู้)

รอติดตามตอนต่อไป ขอบคุณสองหนุ่มครับ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 31-08-2015 08:55:18
อาเม่ยกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็น่ารักขึ้นเรื่อยๆด้วย งานนี้ท่านแม่ทัพหลงมากกว่าเดิมแน่ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 31-08-2015 14:30:15
เอร้ยยยย ดีใจที่พระราชาอุตส่าห์มาช่วยกระตุ้นให้อาเม่ยฟื้นความจำได้
ท่านแม่ทัพจะได้มีกำลังใจพยายามต่อไป
เอ๊ะหรือจะอารมณ์เสีย พระราชามาแบบนี้เป็นสัญญาณว่าวันหยุดลาพักร้อนหมดแล้ว 555

ปล.2 คนรักนั้นเค้าแอบงุ้งงิ้งมุ้งมิ้งกันด้วย น่ารักกก >///<
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 31-08-2015 20:44:55
ดัน ดั๊น ดัน  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-09-2015 18:38:22
วันนี้ไม่มา?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่22หน้า22(26สิงหา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-09-2015 19:21:46
มาแอบดูพี่เช อิอิ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-09-2015 20:57:28
ตอนที่ 23

พระราชา 2 พระองค์ และแม่ทัพเชมัล หารือเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่าง 3 เมืองใหญ่ เมื่อเมืองเหนือแสดงท่าทีที่ชัดเจนมากขึ้น ว่าต้องการหาทางออกทะเลผ่านทางเมืองวันให้ได้
ในทางการเมือง เมืองบาสก์วางตนห่างเหินกับเพื่อนบ้านทั้งสองและไปผูกมิตรกับอีกเมืองที่ตั้งอยู่อีกด้าน แต่ในเวลานี้พระราชาเมืองบาสก์กลับเดินทางมาที่เมืองวันเป็นการส่วนพระองค์

เมื่อพระราชาทั้ง 2 พระองค์ไม่เปิดเผยเกี่ยวกับข้อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน แม่ทัพเชมัลก็รักษามารยาทด้วยการยึดถือสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ว่าหากเมืองเหนือมีชัย การค้าของเมืองบาสก์ที่ใช้ท่าเรือใหญ่ของเมืองวันย่อมเสียหายไปด้วย

แต่แม่ทัพเชมัลคาดว่า บางทีพระราชาฟารัคอาจเสนอเรื่องการเปิดประตูเมืองฝั่งที่อยู่ใกล้กับเมืองบาสก์มากที่สุด เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง
ประตูเมืองหน้าด่านแห่งนี้ ยังเป็นประตูที่แม่ทัพเชมัลพาอาเม่ยเดินทางผ่าน หลังจากที่ถูกเวทย์ของเฮยอั้น
ที่ผ่านมาเหตุผลสำคัญเพียงข้อเดียว ที่พระราชาเมืองวันไม่อาจเปิดประตูนี้อย่างถาวรก็เพราะไม่ต้องการเพิ่มข้อขัดแย้งกับเมืองเหนือ เมืองบาสก์เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่เมื่อเพื่อนบ้านอย่างเมืองเหนือยังคงแสดงท่าทีคุกคาม ก็ไม่มีความจำเป็นที่อีก 2 เมืองจะต้องเสแสร้งว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

นอกจากนี้ เมืองเหนือเองก็ตระหนักดีว่า 2 เมืองริมทะเลต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ข้อสนทนาที่เป็นการแจ้งให้แม่ทัพเชมัลทราบ ก็คือการนำทัพผู้ใช้เวทย์ไปสู้รบกับ อสูร ยักษ์และผู้ใช้เวทย์ของเมืองเหนือ โดยเมืองบาสก์พร้อมที่จะเป็นฝ่ายสนับสนุน

ข้อตกลงที่ช่างฟังดูขัดใจ แต่หากจะมองย้อนอดีตและสถานการณ์ในปัจจุบัน ถือว่าเมืองบาสก์เอาเปรียบอยู่เพียงเล็กน้อย เพราะเหตุการณ์นี้ คู่กรณีโดยตรงคือเมืองวันกับเมืองเหนือ ส่วนเมืองบาสก์คือผู้ได้รับผลกระทบ

“ข้าพระองค์ขอเวลาอีก 2 วันให้แซนกลับมารับข้าและเสี่ยวเม่ย”
“ลำพังเพียงแค่ความจำเสื่อมไม่น่าให้เจ้าต้องเป็นกังวลเพียงนั้น” พระราชาผู้เป็นพี่ชายรับสั่งถาม
แม่ทัพเชมัลยอมรับ “เสี่ยวเม่ยความจำเสื่อม ทั้งยังอ่อนเพลีย สภาพร่างกายยังไม่แข็งแรง หากพากลับไปทั้งที่ยังเป็นเช่นนี้ อาจตกเป็นเป้าหมายในการถูกทำร้ายซ้ำ”
พระราชาฟารัคคิดถึงองครักษ์เก้าที่ถูกทำร้าย และยังต้องรับการรักษาอย่างสม่ำเสมออยู่ในเวลานี้

เมืองวันที่เข้มแข็ง กลับช่างอ่อนแออย่างยิ่ง เมื่อคนสำคัญของผู้ปกครองถูกทำร้าย

พระราชาฟารัคจึงหันไปรับสั่งกับพระราชาเมืองบาสก์ “พวกเราสมควรเดินทางกลับกันได้แล้ว”
“แล้วเรื่องการเดินทัพ” พระราชาเมืองบาสก์ยังเป็นกังวล
แม่ทัพเชมัลจึงให้คำรับรองเรื่องการกลับไปทำหน้าที่ และขอให้เมืองบาสก์เตรียมพร้อมรับมือทัพของเมืองเหนือที่อาจหลบหนีอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 เมือง

การสนทนาระหว่างทั้ง 3 คนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและจริงจัง จนอาจหลงลืมไปได้ว่า ผู้หนึ่งคือพระราชาเมืองบาสก์ ที่อาจจะหันไปเลือกข้างเมืองเหนือได้ทุกเมื่อ
แต่เมื่อหันไปสบตาพระราชาฟารัค แม่ทัพเชมัลก็กลับเชื่อมั่นว่า หากพระราชาเมืองบาสก์จะคิดตลบหลัง คงต้องเป็นผู้ที่มีกำลังขวัญกล้าแข็งมาก
พระราชาฟารัคผู้นี้ ไม่ใช่คนคิดแค้นผู้ใดหากเป็นเรื่องส่วนตัว
แต่หากเป็นเรื่องของแผ่นดิน มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง!
ทั้งในระหว่างการสนทนายังมีบางครั้ง ที่แม่ทัพเชมัลรู้สึกถึงพลังอำนาจจากพระราชาฟารัค ที่ตรงเข้าหาพระราชาเมืองบาสก์ ดูผิวเผิน คล้ายเป็นพลังที่พลั้งเผลอออกมา ยามที่จดจ่อกับเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นพิเศษ
แต่เพราะเป็นพระอนุชาที่อยู่ใกล้ชิดมาตลอด จึงรู้ว่า นี่เป็นเจตนา

...เมื่อกล่าวถึงเรื่องเล่ห์เหลี่ยม ต้องถือว่าพระราชาฟารัคไม่เคยเป็นรองผู้ใด เห็นทีว่า เมื่อกลับเข้าเมืองจะต้องถามให้ได้ ว่าพระองค์ยื่นข้อแลกเปลี่ยนอันใด แต่ดูท่า ว่าข้อแลกเปลี่ยนนั้น แท้จริงแล้วจะได้มาด้วยการข่มขู่ และเมืองวันจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียด้วย...

เมื่อคิดถึงตรงนี้ แม่ทัพเชมัลก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม จนพระราชาฟารัคหันมาทำตาขวาง แล้วกล่าวเรื่องแผนการเคลื่อนไหวต่อไป
ส่วนพระราชาเมืองบาสก์ที่มีความอาวุโสกว่า เพียงมีท่าทีสุขุม และรับพิจารณาเฉพาะในทางที่จะไม่เพิ่มความเสี่ยงแก่ฝ่ายตน

....เมื่อต้องเสียเปรียบในบางสิ่งบางอย่าง ก็จะต้องไม่สูญเสียทหาร ไม่สูญเสียพลเมือง และไม่ทำให้การค้าเสียหายมากนัก....


ระหว่างการสนทนาแม่ทัพเชมัลคอยหันมามองอาเม่ยเป็นระยะ
ดวงตาสีแปลกคู่นั้นมองตามการเคลื่อนไหวขององครักษ์แซนที่ทำความสะอาดและเตรียมอาหาร
“ข้าไม่ค่อยคุ้นชินเวลาที่เจ้าเอาแต่นั่งมอง โดยไม่มีคำถาม” องครักษ์แซนเริ่มบทสนทนา
อาเม่ยส่ายหน้า มองตามมือที่กำลังเตรียมอาหาร “ไม่รู้จะถามอันใด”
“นั่นยิ่งไม่คุ้นชิน เพราะเจ้าไม่เคยหมดคำถาม”
“แต่ท่านก็มีคำตอบให้ข้าทุกครั้ง” อาเม่ยตอบพลางเกาที่หน้าผากตนเอง เรื่องราวมากมายจู่ๆ ก็หวนกลับมา “ตอนที่ท่านพี่เล่าเรื่องมากมายข้าก็คิดว่าจำได้ รู้ว่าเรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง แต่นึกถึงภาพต่างๆ ไม่ค่อยออก หมายถึง...ใบหน้าผู้คนน่ะ”
แซนเข้าใจ
“แต่พอเห็นพระราชา ภาพต่างๆ มันก็กลับมา แต่ที่ยังรู้สึก...งงๆ ไม่แน่ใจ เพราะเหมือนยังมีบางคน บางอย่าง ที่หายไป”
องครักษ์ผู้ครองเวทย์น้ำหันไปมองแม่ทัพเชมัลในเชิงถาม ทำให้แม่ทัพเชมัลแยกออกมาจากกลุ่มนั่งลงข้างๆ อาเม่ย
“เมื่อพวกเรากลับไปถึงเมืองวัน เจ้าอาจนึกเรื่องเหล่านั้นออก”
“ข้าอาจเป็นภาระของท่าน” อาเม่ยหันมาบอก การที่ความทรงจำยังกลับมาไม่ครบถ้วนอาจส่งผลเสียต่อภาระหน้าที่ของแม่ทัพเชมัล “แต่ข้าก็อยากกลับไปพร้อมกับท่าน”
“พวกเราจะกลับไป แต่วันนี้ให้แซนส่งเสด็จพระราชาทั้ง 2 พระองค์ก่อน แล้วค่อยกลับมารับพวกเรา”

ความรอบคอบระมัดระวังของแม่ทัพเชมัล ยิ่งทำให้อาเม่ยเป็นกังวล ถึงเรื่องราว และผู้คนที่เป็นความว่างเปล่าอยู่ในความทรงจำ
สิ่งนี้ต้องเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้นำทหารต้องละทิ้งหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง

ดวงตาสีแปลกมองตามเรือเล็กของแซน ที่นำส่งเสด็จพระราชา 2 พระองค์
ด้วยเรือลำเล็กขนาดนี้ หากเป็นผู้อื่นบังคับเรือเดินทางในทะเลกว้างนี่อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แต่เมื่อเป็นองครักษ์แซน กลับเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่ง
แม่ทัพเชมัลเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนที่เดินทางมา องครักษ์แซนก็ใช้เรือลำนี้พาทั้ง 2 คนมาส่งที่นี่เช่นกัน เมื่อมาส่งแล้วก็กลับไป

ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด ความว่างเปล่านั้นก็ยังคงเป็นความว่างเปล่าอยู่เช่นเดิม
“การที่พระราชา 2 พระองค์ต้องวางท่าทีทางการเมือง แล้วมาตามท่านกลับไป แสดงว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่ และจริงจัง เหตุใดท่านจึงไม่กลับไปในทันที”
“เพราะหากกลับไปในทันที หากสถานการณ์ยุ่งยากเกินกว่าคาดไว้ เราจะไม่มีทางให้ถอย”
อาเม่ยหันมามองเชิงถาม แม่ทัพเชมัลจึงตอบตามตรง
“ทุกแห่งย่อมมีสายลับ 2 หน้า และพวกเราควรกลับไปเมื่อข้าแน่ใจ”
“รวมถึง...ท่านพี่ต้องแน่ใจเรื่องข้าด้วยใช่หรือไม่”
แม่ทัพเชมัลจูบที่หน้าผากสวย ก่อนที่จะตอบคำถาม “ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าเจ้าคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของข้า”
แขนผอมบางกอดเอวหนาไว้ “ท่านมีหน้าที่ หากอยู่ด้วยกันแล้ว ทำให้พระราชา 2 พระองค์เป็นทุกข์เช่นนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง”
แม่ทัพเชมัลยิ้มจาง
ทุกผู้คนต่างก็มีผลประโยชน์ของตนเองที่จะต้องปกป้องด้วยกันทั้งนั้น
และเมื่อเป็นพระอนุชา ทั้งเป็นชายชาติทหาร การเลือกที่จะปกป้องคนรักเป็นลำดับแรกย่อมเป็นเรื่องไร้เกียรติ
“ท่านกังวลเรื่องที่ความทรงจำข้ายังไม่กลับมา แล้วก็ยังมีเรื่องที่ข้าอาจกลับไปมีผิวสีดั่งกลางคืนแล้ว เหวี่ยงลูกไฟใส่ท่านใช่ไหม” อาเม่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “หากข้าทำเช่นนั้น ท่านก็....”
แม่ทัพเชมัลจูบปิดปาก “ข้าไม่มีวันทำร้ายเจ้า เสี่ยวเม่ย”

อาเม่ยเอนตัวพิงอกกว้าง แม่ทัพเชมัลมีเรื่องให้ต้องกังวลมากมาย มีภาระหน้าที่มากมายรออยู่ แต่กลับละทิ้งทุกสิ่ง
การตัดสินใจเช่นนี้ ถูกต้องแล้วหรือ
“ข้ารู้ว่าท่านไม่คิดทำร้ายข้า แต่ในเวลานี้ข้ากลับทำร้ายท่านอยู่”
อีกคนส่งเสียงคัดค้านในลำคอ แต่อาเม่ยกล่าวต่อ
“อย่าให้ข้าทำร้ายท่านเช่นนี้ หากท่านรักข้า ก็อย่าให้ข้าเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านต้องถูกผู้คนก่นประณาม”
“ไม่คิดว่าข้ากำลังหาเหตุให้ได้อยู่กับเจ้าตามลำพังหรือไร”
อาเม่ยยิ้มกว้าง “ท่านก็เรียกใช้ข้าอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วนี่”
“เช่นนั้นหรือ” อีกคนทำสีหน้าประหลาดใจ “ข้าไม่รู้ตัวเลย ว่าทำเช่นนั้น”
“ท่านเป็นเช่นนั้น” อาเม่ยเดินนำกลับที่พัก “เดี๋ยวเรียกหา เดี๋ยวก็เล่าเรื่องนั้น เรื่องนี้ แล้วก็น้อยใจอิจฉาคนอื่นตลอดเวลา”
“ไม่นะ” อีกคนเดินตามมาจับมือไว้ แล้วเดินไปด้วยกัน “ข้าเป็นทั้งพระอนุชา เป็นทั้งแม่ทัพ จะน้อยใจ และอิจฉาผู้อื่นได้อย่างไร”
“นอกจากนี้ ท่านยังปรากฏตัวอยู่ที่นั่นที่นี่ ข้าจะไปไหนก็ต้องพบเจอท่านอยู่ร่ำไป”
“อ้อ.......”
อาเม่ยหยุดเดินหันมามอง “ท่านตามข้าไป”
“เรื่องนั้น”
“คำถามนี้ท่านพี่ต้องตอบข้า ไม่ควรให้ข้าหลงตัวเองไปว่า ท่านติดตามข้า เพราะท่านพอใจข้า”
อีกคนแกล้งลูบท้ายทอย “เรื่องนี้ ข้าคิดว่าข้าเคยบอกไปแล้วนะ”
“บอกเมื่อใด ก็ข้าเพิ่งถามท่าน ท่านต้องตอบข้ามาก่อน”
แม่ทัพเชมัลประคองใบหน้าสวยไว้ในฝ่ามือ แต่พอจะก้มลงจูบ อีกคนก็ถลึงตาใส่
“ตอบคำถามก่อน”
“จูบก่อนไม่ได้หรือ”
“ไม่ได้ เพราะท่านอาจเลี่ยงไม่ตอบ แล้วทำให้ข้าสำคัญตนผิดไปก็เป็นได้”
“เจ้าไม่ได้สำคัญตนผิด” ริมฝีปากสวยอยู่แนบชิดเมื่อกล่าวคำตอบ “ข้าติดตามเจ้า หาเรื่องอยู่ใกล้ชิดเจ้า พัวพันกับเจ้าไม่เลิกรา เพราะข้ารักเจ้า”

แก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ เช่นทุกครั้งที่ได้ยินคำบอกรัก จูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากเพิ่มน้ำหนักและความต้องการ
แขนผอมบางโอบกอดรอบคอแกร่ง ปล่อยให้มือใหญ่ลูบไล้เข้าใต้สาบเสื้อ
เสียงกระซิบบอกความต้องการที่ข้างหูทำให้อีกคนหยุดชะงักแล้วพยักหน้าอย่างเก้อเขิน

เพียงแค่เข้าเขตที่พัก ฝนก็เริ่มตก อาเม่ยหันมาหาอีกคนยกแขนโอบรอบคอกว้างให้อุ้มเข้าบ้าน ใช้เท้าทั้งถีบเปิดประตูแล้วเหนี่ยวปิดประตูอย่างง่ายดาย คนตัวเล็กหัวเราะเสียงสดใส
“หัวเราะอันใด รู้หรือไม่ การที่ต้องอดทนจนกลับมาถึงที่พักมันช่างยากเย็นนัก”
“จากท่าเรือกลับมาถึงบ้านเพียงไม่กี่ก้าว จะยากเย็นอันใด”
อีกคนตอบด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พริบตาเสื้อผ้าของอีกคนก็พ้นร่าง
อาเม่ยยกตัวจูบแผ่วเบาที่ปลายจมูกสวย
“เสี่ยวเม่ยรักท่าน”
“ไม่ถูกต้อง”
ความเก้อเขินยามเมื่อเอ่ยคำรักก่อน กลายเป็นความประหลาดใจ
“ไม่ถูกต้องอันใด”
“เจ้าต้องจูบเช่นนี้” ริมฝีปากหนากดจูบที่ริมฝีปากสวย เต็มเปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อนต้องการจนอาเม่ยต้องจิกปลายนิ้วลงที่ไหล่กว้าง
สัมผัสและอ้อมกอดเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความต้องการกันและกันอย่างท่วมท้น แม้ภายนอกจะมีฝนตกและอากาศเริ่มเย็นลง แต่ภายในอ้อมกอดนี้กลับอบอุ่นยิ่งนัก
ทั้งคำบอกรักและการกระทำที่ยืนยันว่ารัก
“ท่านพี่”
“หืม...”
“หนาว...”
อาเม่ยกล่าวเท็จ เมื่ออีกคนหัวเราะในลำคออย่างรู้ทันก็กล่าวย้ำ
“จริงนะ เสี่ยวเม่ยหนาว”
“ข้ารู้วิธี...”
ริมฝีปากหนาจูบแก้ม มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางเรื่อยลงหาสะโพกกลม
จมูกแตะจมูก ริมฝีปากแตะริมฝีปาก
“ท่านพี่...”
“หืม...”
“เสี่ยวเม่ย....” อาเม่ยกดริมฝีปากลมหายใจสะดุด เมื่อมือใหญ่ซุกซน “หยุดสักครู่ได้หรือไม่...”
“ก็เจ้าบอกว่าหนาว”
“ท่านรู้ว่าข้ากล่าวเท็จ”
“แต่เมื่อข้าเชื่อว่ามันคือความจริง มันก็ย่อมเป็นความจริง”
อาเม่ยหัวเราะเสียงสดใส
“เช่นนั้นก็จูบข้าเถิด”
“เป็นคำสั่งที่ควรปฏิบัติตามในทันที”
อ้อมกอดนี้ สัมผัสนี้อบอุ่นยิ่งนัก

...จบตอนที่ 23...

(http://www.mx7.com/i/53c/k34uKy.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yzyxmKPzRJBeVu35)

รูปนี้มาจาก https://www.flickr.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-09-2015 21:12:17
เขิน :-[ ท่านพี่

ศึกใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว สู้ๆนะทั้งพี่เชทั้งเสี่ยวเม่ย

ความว่างเปล่าที่เม่ยคิดไม่ออกคือเรื่องของตงกับโปหรือเปล่านะ?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-09-2015 21:14:18
อ๊ายยยยย เสี่ยวเม่ยโหมดหวานแหว๋ว  :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-09-2015 21:22:12
มีความรู้สึกว่าพระราชาฟารัค น่าจะเก่งและน่ากลัวกว่าพระราชาอีกสองเมือง อาจจะเก่งกว่าแม่ทัพเชมัลด้วย ถ้าพระราชาฟารัคนำทัพออกศึกกับเมืองเหนือเองปัญหามันจะจบเร็วกว่ามั้ย :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-09-2015 21:49:20
มาตามอ่าน

มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 01-09-2015 21:54:56
 :a5: :a5:




อาเม่ยสายเเบ๊ววว...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 01-09-2015 21:56:28
พระราชาเมืองบาส์กต้องการสิ่งของแลกเปลี่ยนเป็นคน (ใช่ไหม)ถ้าใช่ แง๊ๆๆๆๆๆๆๆ
 :( ส่วนเสี่ยวเม่ย ชอบจัง คำว่า ท่านพี่ มันดูละมุน มากกว่าเรียกท่านแม่ทัพเป็นไหนๆ เอิ๊กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 01-09-2015 22:45:59
 เสี่ยวเม่ย กับท่านพี่ :o8:  เติมความหวานไว้รอศึกไหญ่

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 01-09-2015 23:21:37
ในเรื่องนี้ พระราชาฟารัคน่ากลัวสุดแล้วมั้งเนี่ย แบบทั้งเก่งและเดาใจไม่ถูกว่าคิดอะไรอยู่
แต่ขออย่างเดียว อย่าทำอะไรที่ต้องให้แม่ทัพเชกับอาเม่ยตกที่นั่งลำบากอีกเลย
ส่วนคู่เอกของเราก็หวานกันเชียว   เติมพลังใจให้กันก่อนกลับไปรับศึกหนักเนอะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 01-09-2015 23:44:34
โอยยยย อ่านมายี่สิบกว่าตอน
สารภาพว่าดิฉันชอบตอนนี้ที่สุด

อ่านไปเขินไปจนตัวบิดเป็นเลขแปดแล้วเจ้าค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-09-2015 23:55:09
ความรักช่างหอมหวาน
แต่เรากลับระแวงอย่างไรก็ไม่รู้

พี่เชต้องเคยเจอน้องเม่ยมาก่อนน้องเม่ยเข้ากองทัพแน่นอน
คนในชุดคลุมในตอนแรกที่อาเม่ยปรากฎตัวยังคงค้างคาในใจเรา

ซับซ้อนยิ่งนัก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 02-09-2015 06:24:19
แปะก่อน เดี๋ยวมาอ่าน  :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-09-2015 09:14:24
หูยยยยยยยยยยย ท่านแม่ทัพอันนี้ต่อมหื่นทำงานจริงจังบนเกาะซะเหลือเกิน ทำเอาเราเขินนนนนทันที  :-[  :-[
แหมๆๆๆๆ เล่นตามติดตามดูอาเม่ยไม่ให้คาดสายตานั่นคือหวงล่ะซินะ

หวังว่าข้อแลกเปลี่ยนของพระราชาจะไม่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนคน (ไม่อยากคิดว่าเป็นอาเก้า  :mew2:)

ตอนหน้าจะได้เห็นอาเม่ยเราใช้เวทย์แบบเต็มๆแล้วซินะ  :a2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 02-09-2015 11:25:22
รู้สึกว่าพระราชาฟารัคจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซ่อนไว้อีกมาก ดังนั้นน่าจะมีเรื่องของพระองค์แยกออกไปต่างหาก (ดีไหมคะคุณไจฟ์น้องที?)

น้องเม่ยแม้ตอนมีอิทธิพลของเวทย์ดำครอบงำร่างกาย ก็ยังแสดงออกว่ารักพี่เชมัล หวังให้น้องหายไวๆ และหวังให้ศึกกับเมืองเหนือไม่ร้ายแรงจนเกินไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 02-09-2015 13:42:15
ตอนนี้หวานสุด  :o8:
อยากอ่านตอนทำศึกจัง คงมันน่าดู

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-09-2015 13:56:35
"ท่านพี่"ชอบที่อาเม่ยเรียกพี่เชแบบนี้ เขินนน~ >///<
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 02-09-2015 13:59:04
แม่ทัพเชรับคำสั่งเม่ย>>>เป็นคำสั่งที่ต้องทำทันที :ling1:

แล้วพระราชาสั่งล่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 03-09-2015 07:45:58
มิรู้จะกล่าวอันใด อ่านแล้วรู้สึกเขินเหลือเกิน  :o8: 

เสี่ยวเม่ยกับท่านพี่หวานกันตล๊อดดด...ตลอดด เหมือนมาฮันนี่มูนบนเกาะส่วนตัวเรย  :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 04-09-2015 06:06:38
อั๊ยยะ!!! อาเม่ยเรียกเชมัลว่าท่านพี่อ่าาาาาาาาาา
เขิลลลลลลลลลลลล  :-[  :-[

ตอนนี้หวานมากกกกกกกกกก ถึงจะไม่ชินกับอาเม่ยเวอร์ชันนี้ แต่ชอบอ่ะ
ชอบอาเม่ยขี้อ้อนๆ แบบนี้ น่ารักๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-09-2015 07:48:37
ชอบเวลาที่แม่ทัพกับเม่ยอยู่ด้วยกันจังเลย
ดูอบอุ่น น่ารักอ่ะ
อยากให้เสี่ยวเม่ยจอมซนกลับมาป่วนเร็วๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 05-09-2015 21:26:25
แอบมาอย่างเงียบๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-09-2015 11:23:18
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 06-09-2015 11:30:04
ท่านพี่เชมัล อิอิ จำได้ก็หวานเลยนะอาเม่ย
ต่อจากนี้จะเป็นงัยต่อหนอ..รักระหว่างรบสินะ
เป็นกำลังใจให้^^ :กอด1:

กดบวกเป็นกำลังใจคุณไจฟ์น้องน้ำชาจ้าาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 07-09-2015 18:53:27
อาเม่ยกับท่านพี่ ตอนนี้หวานเสียยิ่งนัก ^^ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 07-09-2015 21:58:48
ย่องมาแอบส่องพี่เชขา คิดถึงอาเม่ยจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 08-09-2015 08:18:08
ตีตั๋วมานั่งรอตอนต่อไป   :give2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 08-09-2015 14:50:34
พระราชาฟารัคนี่สุดยอดอะ ทั้งร้ายกาจและเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
ตอนที่พี่เชแอบยิ้มขำรู้ทันพี่ชาย น่ารักเชียว 55
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 08-09-2015 19:35:54
 แอบย่องมาดัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่23หน้า23(1กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2015 20:05:06
มารอ วันนี้หรือพรุ่งนี้
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 09-09-2015 07:33:54
ตอนที่ 24

เมื่อเรือขององครักษ์แซนเทียบท่าเรือ แม่ทัพเชมัลก็หันมามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้างเชิงถาม
อาเม่ยหันมายิ้มกว้าง “พี่ใหญ่รอมคนใช้ดาบใหญ่ พี่รองซันคนเล่นไฟที่ให้คำแนะนำข้าเป็นคนแรก พี่สามแซนคือคนที่บังคับเรือพาเรากลับมา และอีกคนคือท่านพี่ฮูดา พ่อบ้านของพวกเรา”
มือใหญ่โอบไหล่บางเข้ามากอดแล้วก้มลงจูบหน้าผากสวย
เมื่อก้าวลงจากเรือองครักษ์ทั้ง 3  ทำความเคารพ แล้วตามแม่ทัพกลับมาที่ค่ายทหาร
ขณะที่องครักษ์ฮูดาช่วยแต่งกายให้กับแม่ทัพเชมัล เพื่อไปเตรียมตัวเข้าเฝ้าฯ ก็ถามไถ่ถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่เกาะห่างไกลเป็นอย่างไรบ้าง เพราะองครักษ์แซนที่ทุกคนฝากให้เป็นธุระจัดการเรื่องราวต่างๆ กลับถูกไล่กลับ และแทบไม่รู้เรื่องราวอันใดเลย นอกจากแม่ทัพเชมัลพยายามรักษาอาเม่ยโดยลำพัง
แม่ทัพเชมัลกล่าว “ข้าควรดูอาการของเสี่ยวเม่ยอีกสักวันสองวัน และยังไม่ไว้วางใจว่าเวทย์ดำจะหมดไปจริง ขณะที่เรื่องความทรงจำ...เม่ยจำเก้า ตง และโปไม่ได้”
มือที่กำลังช่วยแต่งกายหยุดชะงัก “อาจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านนอกด่าน” จากนั้นฮูดาก็เล่าเรื่องของเก้าที่พระราชามีคำสั่งให้คุมขังไว้ที่คุกผู้ใช้เวทย์
“เหตุใดพระราชาจึงมีรับสั่งเช่นนั้น”
“ราชองครักษ์บาดาบอกว่า เป็นเพราะเสนาบดีหลี่และพระชายา 2 พ่อลูกคู่นี้” องครักษ์ฮูดาถอนหายใจ “พี่ใหญ่รอมพยายามมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยเก้าก็ปลอดภัยจากเวทย์ต่างๆ หากอยู่ในนั้น แต่การที่องครักษ์ของแม่ทัพเชมัลต้องไปอยู่ในคุกเช่นนี้ เป็นเรื่องเสื่อมเสียเกียรติของท่าน”
องครักษ์ฮูดายังคงเป็นผู้ที่ยกให้เรื่องของแม่ทัพเชมัลเป็นเรื่องสูงสุดอยู่เสมอ
“พ่อลูกคู่นี้ ไม่ละเว้นจากการหาโอกาสกำจัดท่านให้พ้นทางของพวกเขา”
แม่ทัพเชมัลปล่อยให้เพื่อนเก่ากล่าวคำเพื่อบรรเทาความคับข้องใจ จนเมื่อออกนอกห้องพบองครักษ์ซัน และ แซนรออยู่

ในกลุ่มผู้ใช้เวทย์ ล้วนดูแลอาเม่ยได้ หากอาเม่ยแสดงถูกเวทย์ดำครอบงำ แต่ในกลุ่มผู้ที่ไม่ต้องการจะดูแลต้องมีองครักษ์ฮูดารวมอยู่ด้วย
ดังนั้นแม่ทัพเชมัลจึงมอบให้องครักษ์รอมเป็นผู้ดูแล

อาเม่ยเองก็เข้าใจเรื่องนี้ จึงไม่ประหลาดใจ เมื่อพี่ใหญ่รอมเข้ามาพูดคุยในระหว่างเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ดวงตาสีแปลกมองเตียงนอน 2 เตียงในห้องพัก
“ท่านพี่บอกว่า ตงผู้ใช้เวทย์เสียงเพลงเป็นเพื่อนร่วมห้องของข้า แต่ข้านึกเรื่องราวของเขาไม่ออก”
องครักษ์รอมนั่งลงที่เตียงขององครักษ์ตง ขณะที่กล่าวคำ “หากพบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตงเจ้าอาจนึกออก เช่นเดียวกับตอนที่เจ้าพบพระราชาก็นึกเรื่องราวของพวกเราออก”
แต่อาเม่ยก็ยังไม่สบายใจ “การที่พวกเราพักในห้องเดียวกัน ย่อมต้องสนิทกันมาก แต่เหตุใดข้าถึงนึกถึงเรื่องของเขาไม่ออก นึกหน้าก็ไม่ออก เป็นความว่างเปล่าที่ช่างรบกวนจิตใจ” เมื่อสวมเครื่องแบบเสร็จ อาเม่ยก็กล่าวต่อ “ตอนที่อยู่บนเกาะ ข้าทำร้ายแม่ทัพ เขารักษาข้าด้วยการขับเลือดดำ” เมื่อองค์รักษ์พี่ใหญ่พยักหน้า อีกคนจึงนึกได้ว่า นี่ย่อมเป็นเรื่องที่พี่ใหญ่รู้อยู่แล้ว “หากข้าแสดงอาการออกมา หรือทำร้ายท่านพี่อีก ข้าอยากขอรบกวนท่าน...”
“ข้าไม่รับปากเจ้า เพราะต่อให้เจ้าทำร้ายคนทั้งเมืองวัน ท่านแม่ทัพก็จะปกป้องเจ้าเช่นเดิม”
“ท่านกล่าวเกินไป”
องครักษ์รอมยิ้มขำ “แม่ทัพของเราเป็นเช่นนั้น และเจ้าควรเชื่อมั่นในความรักของเขาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง”

ดังนั้นเมื่อออกมาจากที่พักขององครักษ์จึงพบว่า แม่ทัพเชมัลเป็นฝ่ายรอองครักษ์น้องเล็กของกลุ่ม
อาเม่ยยิ้มกว้าง จะกล่าวคำพูดบางอย่าง แต่กลับหยุดชะงักไม่กล่าวออกมา องครักษ์ฮูดาจึงถามขึ้น
“คิดอันใดอยู่”
อาเม่ยเกาท้ายทอย “ข้าเคยพูดล้อแม่ทัพ และจำได้ว่ายังมีคนอยู่ใกล้ๆ ที่คุยกับข้า แต่...นึกไม่ออก”
“เดี๋ยวก็นึกออก” องครักษ์ซันพี่รองของกลุ่มกล่าว “พวกเราสมควรไปเข้าเฝ้าฯ พระราชาได้แล้ว”
“นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ ที่พวกท่านบอกกับข้าเช่นนี้”
“อันใดกัน” องครักษ์ซันที่มีอารมณ์ร่าเริงหันมาทำหน้าตาตื่นตระหนก “นี่เจ้าลืมวิธีการนับไปด้วยเช่นนั้นหรือ”
อาเม่ยทำปากยื่น องครักษ์ซันก็กล่าวต่อ “ไม่ได้การแล้ว นอกจากข้าต้องสอนเรื่องระเบียบกองทัพ ข้าจะต้องสอนวิธีการนับ แล้วต้องสอนการอ่านด้วยหรือไม่”
“สอนสิ ท่านต้องสอนวิธีการสั่งอาหารท่านลุงดาให้กับข้าด้วย เพื่อที่เวลาที่ข้าสั่งหมี่ผัดแล้วจะไม่ต้องกินข้าวกับผัดผักอีก”
เสียงหัวเราะดังก้อง ก่อนที่จะทั้งหมดจะออกเดินไปยังพระราชวัง
อาเม่ยมองรูปขบวนที่คุ้มครองแม่ทัพเชมัล ยิ่งเต็มไปด้วยคำถาม
ขบวนที่ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามองครักษ์รอมที่เป็นพี่ใหญ่จะเดินนำหน้าเสมอ แต่องครักษ์ซันที่เป็นพี่รองเดินเคียงข้าง จากนั้นซ้ายและขวาของแม่ทัพจึงเป็น องครักษ์แซน และองครักษ์ฮูดา ขณะที่รั้งท้ายคืออาเม่ย น้องเล็กของกลุ่ม
....ไม่สิ!
.....ขบวนไม่ได้เป็นเช่นนี้ ช่องว่างที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลายังคงรบกวนจิตใจ
.....มีครั้งที่แม่ทัพเดินเคียงข้างกับใครอีกคน
.....และข้างๆ ข้าคือองครักษ์อีก 2 คน หนึ่งในนั้นคือคนที่พักอยู่ห้องเดียวกัน
ขบวนนี้มีคนที่หายไป 3 คน
3 คนที่ยังเป็นเช่นช่องว่างของสถานที่ ของการสนทนา และเรื่องราวต่างๆ
ยิ่งทุกคนบอกว่า ไม่นานก็จะจำได้ แต่เมื่อยังจำไม่ได้ก็ยิ่งรำคาญใจตนเอง

เมื่อเข้าสู่พระราชวัง แม่ทัพเชมัลเดินนำเข้าสู่ห้องทรงงาน ยังมีเสนาบดีหลายคนที่ยังอยู่ในห้อง
อาเม่ยจดจำทุกคนได้ แต่เมื่อเห็นผู้ที่นั่งอยู่ข้างพระราชาฟารัค องครักษ์น้องเล็กก็กลับมีใบหน้าซีดเผือด หลังการถวายทำความเคารพแล้วก็ได้แต่ยืมก้มหน้ารับฟังคำสนทนาของผู้คนในห้อง
เหตุผลของการเดินทางเข้าเมืองหลวงกระจ่างชัด!

ได้ยินที่พระราชามีรับสั่งถาม อาเม่ยตอบไปเพียงไม่กี่คำ จนถูกล้อว่า กลับมาเมืองหลวงอีกครั้งกลับกลายเป็นคนที่กล่าวคำน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นจึงเป็นการสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

เมื่อกลับออกมา ที่นอกพระราชวัง อาเม่ยจึงจะขอแยกไปเยี่ยมต้าซันผู้เป็นพี่ชาย แม่ทัพเชมัลจึงขอให้กลับไปพูดคุยกันที่ค่ายทหาร
และเป็นอีกครั้งที่มีการเอ่ยถึงชื่อขององครักษ์เก้า ที่ให้อย่างไรอาเม่ยก็นึกใบหน้าและเรื่องราวของคนผู้นี้ไม่ออก แต่รู้ว่าต้าซันถูกคุมขังอยู่กับองครักษ์เก้า
“ต้าซันไม่มีเวทย์ เหตุใดจึงถูกขังในคุกผู้ใช้เวทย์”
“พระราชาอาจต้องการให้ต้าซันช่วยดูแลเก้า” องครักษ์รอมเป็นผู้ตอบ และเสนอความเห็น “แต่ถึงตอนนี้ เก้าก็ดีขึ้นมากแล้ว การคุมขังอาจเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของพระชายากับเสนาบดี พรุ่งนี้พวกเราควรไปเยี่ยมในเวลาที่พระราชาเสด็จ”
“หากจะพิจารณาคดีนี้ ก็จะต้องมีท่านพี่นาซิมกับแม่หญิงพริมมาด้วย” แม่ทัพเชมัลกล่าวหลังฟังเรื่องราวอยู่นาน
“เช่นนั้นก็ถามพระราชาในวันพรุ่งนี้เถิด”
“ที่ไม่พูดคุยกันเรื่องนี้ ในตอนที่พวกเราเข้าเฝ้าฯ ก็เพราะเสนาบดีหลี่ใช่หรือไม่” อาเม่ยถามขึ้น
“เป็นเช่นนั้น” องค์รักษ์ซันกล่าว “ไว้รอกราบทูลเป็นการส่วนพระองค์น่าจะดีกว่า”
จากนั้นองครักษ์ฮูดาก็ชักชวนทั้งหมดไปรับประทานอาหารและสนทนากันต่อที่โรงอาหารของลุงดา พ่อครัวที่แสนเข้มงวด อิ่มจากอาหารก็ชักชวนกันไปดื่มต่อที่ร้านเหล้าด้านหน้าค่ายทหาร
เมื่อมาถึงอาเม่ยก็ยิ้มขำ
“ยิ้มอันใด” แม่ทัพเชมัลหันมาถาม
อาเม่ยหันมายิ้มหวาน “ขี้เมาหน้าค่ายทหาร”
แม่ทัพเชมัลหันมากอดไหล่คนตัวเล็กไว้ “เจ้าเด็กหนีแม่มาเที่ยวเล่น วันนี้พวกเราทุกสมควรดื่มกันให้เต็มที่!”
ทั้งหมดดื่มเหล้ากันจนดึกจึงกลับเข้าค่ายทหาร มีเพียงองครักษ์ฮูดาที่แยกกลับบ้าน
แม่ทัพเชมัลส่งอาเม่ยที่หน้าห้องพัก 
“ไม่ไปพักที่บ้านข้าจริงหรือ”
“ท่านพี่นอนให้สบายสักคืนเถิด”
แม่ทัพก้มลงจูบหน้าผาก เข้าใจว่าอาเม่ยอาจต้องการเวลาที่จะอยู่ตามลำพัง หลังจากที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลามาหลายวัน
“อย่าได้เป็นกังวล ทั้งเรื่องของเจ้า และต้าซัน ให้ข้าจัดการเอง”
อาเม่ยยิ้มจาง “ข้าเชื่อว่าท่านพี่ทำได้ แต่เรื่องนี้ซับซ้อน” ทั้งยิ่งแก้ไขอาจยิ่งทำให้ความขัดแย้งบานปลาย เมื่อผู้ที่จะต้องต่อกรด้วยมีทั้ง คนในเมืองวันอย่างเสนาบดีหลี่ และคนต่างเมืองที่เมืองเหนือ “ข้าเชื่อว่า สุดท้ายแล้วปัญหาจะคลี่คลายลงได้”

แต่ในคืนนั้นทหารยามก็เข้ามาแจ้งหัวหน้าองครักษ์รอมว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นต่อเสนาบดีหลี่
องครักษ์รอมจึงเรียกทุกคนออกไปพบแม่ทัพ แต่ยังไม่รอให้ทุกคนออกมาจากห้องก็มาแจ้งเรื่องให้แม่ทัพทราบก่อน
ในตอนที่องครักษ์ซันและแซนไปถึงจึงได้ยินเพียงคำถามทวนซ้ำของแม่ทัพ
“ในบ้านของท่านเสนาบดีน่ะหรือ”
“ขอรับ” องครักษ์รอมตอบ แล้วหันมาหาอีก 2 คนที่เพิ่งเข้ามาในห้อง แจ้งข่าวเรื่องที่มีผู้พบศพเสนาบดีถูกสังหารในห้องนอน แล้วถามถึงอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในที่นี้
“เม่ยเล่า”
องครักษ์แซนตอบว่าอาเม่ยไม่ได้อยู่ในห้องพัก
“เสี่ยวเม่ยมีเรื่องวุ่นวายใจ รบกวนแซนตามหาเม่ยให้ด้วย ส่วนรอมกับซันตามข้าไปที่บ้านท่านเสนาบดี”

บ้านพักของเสนาบดีเป็นกลุ่มบ้านหลายหลังที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน พร้อมด้วยการวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อไปถึงมีเจ้ากรมการเมือง และองครักษ์ฮูดารออยู่แล้ว
ห้องนอนของเสนาบดีเป็นห้องพักแบบที่มี 2 ชั้น ชั้นแรกมีโต๊ะกลมตัวหนึ่ง กับเก้าอี้ และตู้ไม้วางเครื่องตกแต่ง ด้านในจึงเป็นเตียงนอน และตู้เก็บของใช้ส่วนตัว ขณะที่ภริยาของเสนาบดีพักอีกห้องหนึ่งที่มีผนังและประตูส่วนห้องนอนเชื่อมต่อกัน เจ้ากรมการเมืองรายงานให้ฟังว่า  ปกติแล้วพ่อบ้านจะเข้ามาเตรียมน้ำสะอาดไว้ให้ท่านเสนาบดีก่อนรุ่งสาง โดยจะวางไว้บนโต๊ะเล็กในห้องนอน แต่เมื่อเช้านี้ สังเกตเห็นประตูห้องนอนชั้นในปิดไม่สนิท คิดว่าท่านเสนาบดีตื่นนอนแล้วจึงเปิดประตูเข้ามาดูและพบว่าเสนาบดีเสียชีวิตแล้ว โดยยังมีมีดสั้นปักอยู่ที่อกด้านซ้าย
ขณะที่ประตูห้องนอนที่เชื่อมต่อกับห้องของภริยาของเสนาบดียังปิดจากทั้ง 2 ฝั่งเช่นเดิม นางหลับสนิทและไม่ได้ยินเสียงผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อต้องตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ว่าเสนาบดีถูกคนร้ายสังหาร นางก็ได้แต่ร่ำไห้ ขณะที่กำลังพูดคุยพระชายาก็เสด็จมาพร้อมกับพระราชา
พระองค์ทรงรับรายงานแล้วมีรับสั่งให้เร่งหาคนร้ายให้ได้ จากนั้นก็เลี่ยงออกมาพูดคุยกับแม่ทัพเชมัลเป็นการส่วนพระองค์
เสร็จแล้วแม่ทัพก็กลับออกมาพร้อมกับเหล่าองครักษ์
ทันทีที่แม่ทัพแยกออกไป พระชายาก็รับสั่งถามเรื่องราวต่างๆ ทันที
“เจ้ากรมเมืองยังต้องซักถามผู้คนในบ้าน เกี่ยวกับช่องทางที่คนร้ายเข้ามา และเรื่องของศัตรูคู่แค้นด้วย แต่ระหว่างนี้ คงไม่เหมาะหากท่านแม่จะพักอยู่ที่ห้องติดกัน” พระราชาตัดสินพระทัย “พวกเราจำต้องปิดบ้านหลังนี้ และรบกวนท่านแม่ไปพักที่เรือนรับรองสักวันสองวัน”
ภริยาเสนาบดีที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าได้แต่พยักหน้าเห็นพ้อง พระชายาจึงทูลขออยู่กับท่านแม่จนกว่าพิธีศพของเสนาบดีจะเสร็จสิ้น
“แม้จะมีราชองครักษ์อยู่รอบตัว แต่พวกเจ้าก็สมควรระวังตัวให้มาก”

แม่ทัพเชมัลกลับออกมาจากบ้านพักของเสนาบดี ก็ตรงกลับมาที่ค่ายทหาร
องครักษ์ซันเข้ามารายงานว่าอาเม่ยอยู่ที่โรงครัว
“เสี่ยวเม่ยไปทำอะไรที่โรงครัว”
“ไปช่วยพ่อครัวดา บอกว่า นอนไม่หลับ แต่.....” องครักษ์ซันลังเล 
แม่ทัพเชมัลเพียงหันมามอง แล้วก็ก้าวเดินต่อไป
ที่หลังครัว ส่วนที่กันไว้สำหรับการเตรียมเนื้อสัตว์ กลิ่นคาวเลือดยังเจืออยู่ในอากาศ
อาเม่ยอยู่ในครัว นั่งเก้าอี้ตัวเล็กกำลังทำปลาตัวสุดท้ายสำหรับเตรียมทำอาหารในวันนี้
ใบหน้าซีดขาว ดวงตาที่มองปลาในมือไร้ความรู้สึก
จนกระทั่งร่างกายสูงใหญ่คุกเข่าลงข้างๆ ส่งเสียงเรียกหาอย่างอ่อนโยน อาเม่ยก็สะดุ้งสุดตัว
“เสี่ยวเม่ย กลับบ้านกันนะ”
ดวงตาที่หันมามองแวบแรกนั้น ดั่งจำไม่ได้แล้วค่อยสั่นไหว “ท่านพี่...”
“ล้างมือ แล้วกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยมากินข้าวเช้ากัน” แม่ทัพเชมัลจับมือผอมบางไปล้างให้ กล่าวถึงสิ่งที่กำลังทำให้ ทุกสรรพเสียงในครัวที่วุ่นวายยามเช้าพลอยเงียบกริบ
“เจ้าทำปลาเป็นด้วยหรือนี่ ทุกครั้งข้าจะเป็นคนทำให้เจ้ากินเสมอ กลับบ้านกันนะ แล้วถ้านอนไม่หลับอีก ก็อย่าได้เดินไปทั่ว เพราะผู้อื่นไม่รู้ว่าเจ้าหายไปที่ใด พลอยค้นหาเจ้าให้วุ่นวาย ไปเรียกข้าที่ห้องพักก็ได้ อย่างน้อยข้าก็พอจะเป็นเพื่อนคุยให้เจ้าได้”

พ่อครัวดาสะกิดบอกกับองครักษ์ซัน “เจ้าตัวเล็กนั่นไม่สบายสินะ”
องครักษ์ผู้ร่าเริงพยักหน้า พ่อครัวก็เลยบอกต่อ “ถ้าไม่สบายแล้วมาที่นี่ครัวนี่ก็ไม่เป็นอันใดหรอก ไม่ได้รบกวนผู้ใด แล้วผู้คนเยอะแยะ ได้ช่วยกันดูแล จะไม่ให้ไปไหนไกล”
องครักษ์ซันหันไปส่งยิ้มกว้าง “ขอบใจมาก”
หากเป็นเช่นนั้น คงไม่มีผู้ใดหนักใจ
องค์รักษ์เม่ย ผู้ที่ปรากฏตัวด้วยกลิ่นควันไฟจางๆ ในเวลานี้กลับมีกลิ่นคาวเลือดจาง ที่ไม่จำต้องถามไถ่องค์รักษ์พี่ใหญ่รอม ก็สามารถรู้ได้ ว่านั่นไม่ใช่เลือดของปลาหรือไก่ในครัวนี้
แต่มันคือกลิ่นคาวเลือดมนุษย์!

*-*จบตอนที่ 24*-*

(https://www.img.in.th/images/55d662d6126eb8358dfe1c471bd8d9e3.jpg)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 09-09-2015 07:39:21
จองพื้นที่ไว้ก่อน อิอิ. edit เม่ยโดนควบคุมจิตใจอยู่ใช่ไหม คงคิดฆ่าเสนาบดีหลี่ปิดปากสินะ  ใช้เม่ยเป็นเครื่องมือ แสดงว่าหนอนคงอยู่ในเมืองจริงๆ สงสารเม่ย คนที่คิดอะไรไม่ออกทั้งๆที่คุ้นเคยนี่มันทรมานนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 09-09-2015 07:49:51
แปะแป๊บบบบ... :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-09-2015 08:17:10
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 09-09-2015 09:03:26
 :hao5: อาเม่ย ยังโดนครอบงำจิตอยู่อีกนี่? หรือว่าคำสั่งที่ได้รับตอนโดนเวทย์ไว้ยังคงมีผลถ้ายังทำงานไม่สำเร็จ?
หรือว่าพวกเมืองเหนือเค้าระแวงเสนาแล้ว? หรือว่าถึงแม้เฮยอั้นจะตายแต่ยังมีคนที่สามารถควบคุมเวทย์นั้นได้อยู่อีก
หรือว่าเป็นการฆ่าปิดปาก จะได้ไม่ต้องสาวไปถึงคนต่อไปแสดงว่ายังมีคนที่ใหญ่กว่าเสนาเป็นสายลับในเมืองวัน?
จะเป็นคนใกล้ตัวพระราชาฟารัคไม๊หนอ ?
อ่านมาถึงตอนนี้ มีแต่ คำถาม????????
แต่ไม่อยากนึกถึงตอนที่อาเม่ยได้รับโทษเลยจริงๆ ถึงแม้จะดีใจที่อิตาเสนานี่ตายก็เถ่อะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 09-09-2015 09:29:41
 :mew1: ตามอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ค่อยได้ เม้น เพราะเป็นคนอ่านที่ไม่ชอบเดาเรื่อง (หรือเดาก็ไม่เคยถูก ฮา) ก็เลยชอบอ่านแบบไปเรื่อยแล้วแต่เนื้อเรื่องจะพาไป เห็นท่านอื่น เม้นกันไป ว่าจะไปทางไหน เอแล้วเราคิดว่ามันจะยังงัยหว่า คิดไปออกก็เลยไม่เม้น  :z6:
ไป add FB น้องทีมา(หลายวันล่ะ ช้าได้อีก ฮา) แล้วสารภาพตามจริงว่าเป็นคนอ่านที่ตามอ่านอย่างเดียวไม่เม้น (นิสัย...เนอะ) น้องทีบอกว่า เม้นบ้างก็ดีนะครับ คนเขียนจะได้รู้ว่ายังมีคนอ่าน ไม่งั้นเหมือนคนที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว เข้าใจความรู้สึกคนเขียนขึ้นมาทันใด :hao5: เม้นเนื้อเรื่องไม่เป็น งั้นเอาเป็นให้กำลังใจล่ะกันเนาะ  :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 09-09-2015 09:33:03
ในที่สุดเสนาบดีหลี่ตัวร้ายก็โดนจนได้ สมควรแล้ว  :katai2-1: อาเม่ยคงต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับต้นๆแน่เลย  :mew5:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 09-09-2015 09:36:41
สงสารเม่ยเเต่สะใจที่้เสนาลีจากไป..555

 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-09-2015 09:40:14
บทจะตายก็ตายง่ายกันจัง นึกว่าจะอยู่กวนกันอีก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 09-09-2015 09:45:39
ขอสารภาพว่าตอนแรกอ่านพอถึงตอนที่อาเม่ยอยู่ในครัวกับเนื้อคาวๆ
เรามีคำผุดขึ้นมาให้หัวว่า "อาเม่ยเป็นปอบ"  :laugh:

ถึงแม้จะแอบมีปมเครียด แต่เราก็ว่ามันไม่เครียดเท่าที่ผ่านมานะ
(หรือว่าเครียดมาเยอะเลยชินชา?)
รออ่านความคืบหน้าคดีเสนาบดีหลี่ต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-09-2015 09:48:17
เสี่ยวเม่ยจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยแน่ๆ :mew5:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-09-2015 09:54:39
ใจจริงก็ดีใจนะที่เสนาบดีหลี่ตาย แต่ก็ไม่อยากให้เป็นฝีมืออาเม่ยที่ทำให้ตาย :ling2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 09-09-2015 10:19:17
ท่านแม่ทัพอย่าปล่อยเม่ยไว้คนเดียวเลย
กลัวไปทำอะไรคนอื่นเข้าอีกจะมีความผิดเอา

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-09-2015 10:52:49
หรือว่าอาเม่ยจะเป็นคนฆ่าเสนาบดีหลี่!??
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-09-2015 12:08:02
เอาออีกแล้วเสี่ยวเม่ย  :ling3: จะปกป้องยังไงดี
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-09-2015 14:35:16
ทำไมอาเม่ยต้องฆ่าเสนาหลี่
ฆ่าพ่อตาพระราชาไม่น่าจะเป็นเรื่องเล็ก ท่านเชมัลจะช่วยยังไงดี
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 09-09-2015 16:07:45
อย่าบอกนะว่าที่เม่ยคิดออกว่าทำไมถึงมาเมืองหลวงทันทีที่เห็นฟกน้าเสนาหลี่ เพราะโดนเวทย์ครั้งแรกบังคับใด้มาฆ่าตาลุงหลี่นี่อะ หรือว่าจะมีคนร้ายตัวจริงแฝงตัวอยู่ ฆ่าปิดปากลุงแล้วก็ใส่ร้ายเม่ย แง!!เดาไม่ถูก สงสารเม่ยแท้

ความทรงจำของเม่ยที่หายไปแค่ของ ตง โป เก้า เป็นเพราะอะไรกันนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-09-2015 19:48:17
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 10-09-2015 09:59:01
ลืมขอบคุณที่มาแปะตอนใหม่ให้อ่านค่ะ  :L2:
.
.
.
.

อิอิ..เข้ามาดัน  :a11:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-09-2015 17:57:02
ตายแล้ววววววววววววว เวทย์ดำในตัวอาเม่ยยังไม่หมดอีกเหรออออออออออ
พี่เชช่วยรักษาอาเม่ยให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 11-09-2015 16:33:44
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

สงสารอาเม่ยจัง... เมื่อไหร่จะหายดีเสียที
สงสารแม่ทัพ... มีหลายเรื่องที่รอให้ท่านเชแก้ไข ที่หนักอกที่สุดคงเป็นเรื่องอาการของเสี่ยวเม่ย
ปอลอ. เพิ่งได้อ่านสองตอนรวด อารมณ์สวิงไปมา ตอนที่แล้วเจอท่านพี่คำเดียว คนอ่านหลับฝันดี
ตอนล่าสุด คนอ่านเหนื่อยใจแทนท่านพี .... เสี่ยวเม่ย สู้ๆๆ นะ  คนอ่านรอบทหวานอยู่นะคะ
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-09-2015 20:49:55
หรือเหตุการณ์ครั้งนี้พระราชาจะมีส่วนเกี่ยวข้อง อยากที่จะคาดเดารออย่างดีกว่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 11-09-2015 23:51:25
ดูท่าจะมีเบื้องลึกมากกว่าที่ปรากฏ เสนาบดีหลี่ที่ถูกฆ่าอาจเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องใดสักอย่าง แต่เอะใจอยู่อย่าง...คือตอนที่เข้าเฝ้าพระราชา เม่ยเห็นหน้า "คนๆ หนึ่ง" แล้วพลันหน้าซีด ตรงนี้แอบแปลกใจว่า เขาเห็นใคร และบางทีคนผู้นั้นอาจเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง หรืออาจเป็นคนที่วางมนต์ดำใส่เม่ยก็ได้ ฯลฯ

มนต์ดำนี่นับว่ารุนแรงจริงๆ ขนาดแม่ทัพช่วยขับเลือดพิษออกแล้ว ยังมีผลให้อาเม่ยไม่อยู่กับร่องกับรอยขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อาเม่ยจะกลับมาเป็นอาเม่ยเหมือนเดิม เอ...หรือว่าการที่เอาเม่ยเข้ามาร่วมในกองทัพ มันเป็นแผนการของใครบางคนตั้งแต่แรกแล้ว?

ไม่ใช่ว่าเพิ่งถูกมนต์ดำ แต่ถูกมนต์ดำมาตั้งนานแล้วหรือเปล่า?

น่าคิดมากๆ

ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 12-09-2015 13:36:37
อาเม่ยจะเป็นคนลงมือจริงหรือไม่จริงยังไม่รู้ แต่ตอนที่ท่านแม่ทัพ พาอาเม่ยไปล้างมือ
แถมรู้เต็มอกว่า นั่นคือกลิ่นคาวเลือดมนุษย์  สงสัยจัง ตอนนั้นในใจท่านแม่ทัพคิดอะไรอยู่หนอ..


ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องทีค่ะ^^ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-09-2015 18:42:39
เม่ย ใครช่างทำร้ายเม่ยขนาดนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 12-09-2015 20:41:15
หวังว่าคงไม่ใช่อาเม่ยนะ..
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 13-09-2015 19:33:04
ย่องมาดัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 13-09-2015 19:59:24
เดี๋ยวนะ ! เพิ่งรู้ตัวว่าอ่านชื่อ อาเม่ย เป็น"อาเหม่ย" มาตลอด :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 15-09-2015 07:43:32
 :mew3:มารออออ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่24หน้า24(9กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-09-2015 13:19:39
เข้ามาอ่านตอนเดิมรอ อ่านแล้วก็ได้แต่กลัวว่าบทลงโทษที่อาเม่ยจะได้รับคืออะไร หรือว่าจะเป็นตัวเม่ยเองที่จะลงโทษตัวเอง :o11:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่25หน้า25(15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 15-09-2015 14:02:15
ตอนที่ 25

ในสายตาขององครักษ์ฮูดาผู้มีอาวุโสอันดับ 4 คนตัวเล็กที่ถูกแม่ทัพเชมัลโอบกอดอยู่ในเวลานี้ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด!
ต่อให้พยายามคิดแบบมองแต่ในแง่มุมที่ดีสักเท่าใด พยายามเปลี่ยนมุมมองไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับแม่ทัพเชมัล หรือ คนดีอย่างองครักษ์พี่ใหญ่รอม ก็ยังไม่เคยคิดว่าอาเม่ยจะเป็นคนอ่อนแอ
ในทางตรงข้าม อาเม่ยผู้นี้ทั้งแข็งแกร่งทั้งซับซ้อน เปรียบเสมือนภาพวาดงดงามที่วาดทับภาพแห่งความจริง ที่ไม่เคยมีใครจะค้นหาความจริง
ด้วยเพราะภาพที่มองเห็นมันช่างงดงามยิ่งนัก
ซึ่งในเรื่องนี้ องครักษ์ฮูดายอมรับว่าตนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน นั่นคือแม้จะรู้สึกถึงอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชอบความสวยงามที่อยู่ภายนอก สุดท้ายก็คือก้าวข้ามข้อสงสัยของตนเอง

คนตาคมเคยกล่าวถึงความคิดนี้กับหัวหน้าองครักษ์รอม แต่ก็ถูกพี่ใหญ่ตำหนิอย่างรุนแรง ว่าเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาจนไม่ยอมรับความจริงว่านี่คือคนที่แม่ทัพเชมัลรอคอย
เพราะคำนี้ ทำให้องครักษ์ฮูดาได้แต่กัดริมฝีปากตนเอง
ดังนั้น แม้ที่ผ่านมาจะละเลยข้อสงสัยของตนเอง แต่ก็ยังมีความตั้งใจที่แน่วแน่ ว่าหากอาเม่ยทำให้แม่ทัพเสียใจจะจัดการด้วยตนเอง
การครุ่นคิดขณะที่จับตามองไม่วางตา ทำให้พี่ใหญ่รอมต้องกล่าวเตือนอีกครั้ง
“เจ้าทำเหมือนอาเม่ยจะทำร้ายแม่ทัพ”
องครักษ์ฮูดาไม่ตอบโต้ เพราะสิ่งที่กล่าวไปไม่เคยมีใครเชื่อ ที่ทำได้คือการไม่ยอมละสายตา พี่ใหญ่รอมจึงกล่าวเตือนอีกหลายคำ ว่าอาเม่ยไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำร้ายแม่ทัพเชมัล แล้วบอกให้ไปเตรียมการทำงาน

...การทำร้ายกันไม่ได้มีแค่การใช้อาวุธหรือเวทย์ หากแต่ยังมีอีกมากมายหลายวิธี
...หลายครั้ง คนดีเหล่านี้ก็ช่างน่ารำคาญ และสร้างความเสียหายรุนแรงกว่าคนร้าย!

ผ่านไปข้ามวันกองเมืองยังไม่มีความคืบหน้าในการสืบคดีสังหารเสนาบดี ขณะที่แม่ทัพไม่ปล่อยให้อาเม่ยอยู่ห่างกาย
ผู้ทำหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์เช่นองครักษ์ฮูดา จึงคาดเดาว่า มากกว่าความรักอย่างมากมาย แม่ทัพจะล่วงรู้บางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับอาเม่ย
ยามบ่ายคล้อยเมื่อความเครียดของการสืบคดีเริ่มผ่อนคลาย อาเม่ยจึงถามถึงต้าซันผู้เป็นพี่ชายที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเวทย์อีกครั้ง
 
“พี่ใหญ่ต้าซันถูกลงโทษเพราะข้าใช่หรือไม่”
แม่ทัพกล่าวตามความเป็นจริง “กฎหมายเรื่องนี้อาจไม่เป็นธรรมนัก แต่ก็เพื่อป้องกันการหนีทหาร และเพื่อให้ทหารที่หลบหนีไปกลับเข้ามามอบตัว”
“ข้ากลับมาข้ามวันแล้ว” อาเม่ยบอก “ท่านควรส่งตัวข้าให้กับกรมเมือง และข้าก็อยากพบพี่ใหญ่ด้วย”
เรื่องการส่งตัวอาเม่ยให้กรมเมือง ตลอดจนการปล่อยตัวต้าซัน เป็นเรื่องที่ควรทำตั้งแต่อาเม่ยเดินทางกลับมา แต่ที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ก็เพราะทุกคนเห็นว่าอาเม่ยยังมีอาการป่วยอยู่ ทั้งในความเห็นของผู้ที่อยู่ที่นี่ทุกคนต่างก็เห็นว่า สำหรับคนธรรมดาอย่างต้าซันแล้ว การได้ไปอยู่ในเรือนจำเวทย์ น่าจะเป็นการตกรางวัลให้ได้พักผ่อนมากกว่า

มือใหญ่เกลี่ยผมสีแปลกที่หน้าผากสวย ใคร่ครวญเรื่องที่จะพาอาเม่ยไปที่เรือนจำเวทย์
แม่ทัพไม่คิดว่าการที่อาเม่ยพบกับต้าซันแล้วจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น หากแต่เป็นกังวลที่องครักษ์เก้า
เพราะคนที่สูญหายไปจากความทรงจำของอาเม่ย 3 คน 2 คนแรกคือผู้ที่อาเม่ยสังหาร ส่วนองครักษ์เก้ายังไม่แน่ชัดว่าเพราะเหตุใดจึงหายไปจากความทรงจำเช่นกัน
เมื่อออกมาหน้าบ้านพัก พบกับองครักษ์รอมกับฮูดาที่กำลังฝึกทหารใหม่อยู่จึงเรียกให้ตามมาด้วยทั้ง 2 คน

เขตเรือนจำเวทย์ที่เป็นเพียงเรือนไม้โปร่ง มีทหารยามที่เฝ้าอยู่ทำความเคารพ คนหนึ่งแยกไปรายงานหัวหน้าเรือนจำ ส่วนอีกคนพาทั้งหมดไปที่ห้องขังด้านใน
ผู้ที่ยินดีอย่างยิ่งในเวลานี้ คือต้าซัน ที่ถึงกับยื่นมือข้างหนึ่งออกมานอกห้องขัง ทั้งร้องตะโกนเรียกน้องชายด้วยความยินดี ทั้งร้องบอกนักโทษคนอื่น ว่าน้องชายไม่ได้หนีทัพอย่างที่ทุกคนกล่าวหา
บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ต้าซันเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีอย่างยิ่ง!
ดวงตาสีแปลกมองพี่ชายขณะกล่าวคำทักทาย แล้วไปหยุดมองอีกคนที่อยู่ข้างๆ แต่ไม่ได้เอ่ยทักทายก็กลับมาพูดคุยอย่างปกติกับพี่ชาย
แม่ทัพเชมัลและองครักษ์คนอื่นๆ ต่างยืนมองการพูดคุยอยู่ครู่หนึ่ง ราชองครักษ์มีอา กับหัวหน้าเรือนจำแห่งนี้ก็มารายงานเรื่องการคุมขัง รวมถึงการที่วันนี้พระราชาไม่ได้เสด็จมารักษาองครักษ์เก้า ทำให้ทั้ง 2 คนยังไม่ได้ออกมาภายนอกตลอดวันนี้
แม่ทัพเชมัลเพียงพยักหน้ารับฟังรายงาน

ก่อนที่จะก้าวเดินเข้ามาในเขตของเรือนจำผู้ใช้เวทย์ อาเม่ยยังนึกถึงเรื่องขององครักษ์อีกคนที่ถูกคุมขังอยู่กับพี่ใหญ่ต้าซันไม่ออก
แม้ที่ผ่านมาจะมีองครักษ์ซัน คอยเล่าเรื่องมากมายเพื่อหวังรื้อฟื้นความทรงจำ แต่เรื่องของคนผู้นี้ก็ยังคงเป็นดั่งช่องว่างในทุกเรื่องราวเช่นเดิม
กระทั่งเมื่อก้าวเดินเข้ามาภายในเขตของเรือนจำเวทย์ อาเม่ยกลับรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง ทั้งที่ก่อนนี้ อาการส่วนใหญ่ที่ปรากฏคือความว่างเปล่า หากครั้งนี้กลับเป็นอาการปวดศีรษะ
และเมื่อได้พบ.....
เพียงแค่มองผ่าน อาการปวดศีรษะรุนแรงพลันหายไป พร้อมกับช่องว่างทั้งหมดที่ถูกเติมเต็ม!
ทุกสิ่งล้วนปรากฏชัด!
ไม่เพียงเรื่องขององครักษ์เก้าแต่ยังมีเรื่องขององครักษ์ตงและโป และเรื่องราวทั้งมวลที่เกิดขึ้นก่อนเดินทางมาถึงเมืองวัน!
...เรื่องราวที่ทำให้ต้องเดินทางมาเมืองวัน!
อาเม่ยยังไม่เอ่ยปากเรื่องความทรงจำที่กลับคืน แต่หันไปขออนุญาตผู้มีตำแหน่งสูงสุดในที่นี้
“ให้พี่ใหญ่ออกมาคุยกันข้างนอกได้ไหม”
แม้แม่ทัพเชมัลจะมีตำแหน่งสูงสุด แต่อาเม่ยก็ตระหนักดีเช่นกันว่าหากผู้คุมเรือนจำเวทย์ ไม่อนุญาต คนผู้นี้ก็จะไม่ฝ่าฝืนกฎเพื่อที่จะตามใจตนอย่างแน่นอน

แต่หากนำคำถามนี้ไปถามกับหัวหน้าองครักษ์รอม ก็จะได้คำตอบว่า แม่ทัพเชมัลพร้อมที่จะข้ามกฎระเบียบทุกข้อ หากอาเม่ยต้องการ

และแม้เรือนจำเวทย์จะมีผู้คุม แต่ผู้คุมก็ยังต้องหันไปขอความเห็นจากราชองครักษ์มีอาอีกทอดหนึ่ง
เมื่อราชองครักษ์มีอาอนุญาตให้เปิดประตูให้ต้าซันออกมาคุยกันที่ด้านนอกได้ อาเม่ยก็ต้องลอบผ่อนลมหายใจยาว เพื่อคลายความเครียด
พี่ชายผู้ไร้เวทย์ยิ่งมีท่าทียินดีอย่างยิ่งที่ได้พบกับน้องชาย หลังการทำความเคารพแม่ทัพ และแสดงความขอบคุณราชองครักษ์อีกครั้ง ก็หันมาสวมกอดน้องชายไว้แน่น ไม่มีคำกล่าวตำหนิใดๆ ออกจากปาก แม้ข้อกล่าวหาว่าน้องชายหนีทหารจะทำให้ต้องติดอยู่ในเรือนจำ มีแต่ความเป็นห่วงที่น้องชายสูญหายไป
 
หลงป่าไปในที่แห่งใด
โจรผู้ร้ายมีอยู่ทั่วไป กินอยู่อย่างไร
ลำบากอย่างไร ...
ทุกคำพูดมีแต่ความเป็นห่วงกังวล
“ใบหน้าของเจ้ายังซีดมากอยู่เลย เจ้าป่วยหนักมากนะ ที่นี่ พระราชาเสด็จมาให้การรักษาองครักษ์เก้าทุกวัน แต่วันนี้พระองค์ยังไม่เสด็จ ถ้าเจ้ามาที่นี่ช่วงสายๆ ก็จะได้เข้าเฝ้าพระองค์ด้วย พระองค์จะได้รักษาเจ้าได้”
ความเป็นห่วง ทำให้พี่ชายใหญ่หลงลืมไปว่าเมื่อกลับมาถึง เหล่าองครักษ์ต้องเข้ารายงานตัว องครักษ์เม่ยย่อมได้เข้าเฝ้าฯ พระราชาแล้ว
มาถึงตอนนี้ องครักษ์เก้า ออกมานั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นไม้หน้าห้องขัง ห่างจากประตูที่เปิดกว้างเพียงก้าวเดียว แต่อยู่ใกล้กับอาเม่ยเพียงแค่เอื้อมมือ
ขณะที่อาเม่ยหันหน้าเข้าหาพี่ชาย และมีแม่ทัพเชมัลยืนอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งกล่าวคำ....
“พระองค์มีเมตตาต่อเจ้ามาก”
นี่ย่อมเป็นการสนทนากับองครักษ์เก้าอย่างมิต้องสงสัย แต่อาเม่ยกลับรู้สึกถึงลูกไฟที่อยู่ในอกที่ค่อยๆ ก่อตัว

....ไม่ใช่ในเวลานี้!... อาเม่ยร่ำร้องอยู่ในใจ

จากนั้นได้ยินเสียงองครักษ์เก้ากล่าวตอบ “ข้าทูลพระองค์ไปแล้วว่า ดีขึ้นมากแล้ว แต่พระองค์ยังไม่วางพระทัย”
“เจ้าเองก็ต้องพักผ่อนและรักษาตนเองให้ดี”

ฉับพลัน!

ทุกสิ่งทุกอย่างในสายตาล้วนกลายเป็นสีแดง! ลูกไฟพุ่งออกจากฝ่ามือสีซีด ตรงเข้าหาองครักษ์เก้าเต็มแรง!...
ไฟลูกแรกโดนองครักษ์เก้าอย่างเต็มที่ เพราะไม่มีผู้ใดเฝ้าระวัง องครักษ์เก้าเองก็ไม่ได้ระวังตน คนสูงโปร่งถูกลูกไฟซัดกระแทกกับลูกกรงของห้องขัง เสื้อผ้ามีไฟลุกไหม้ แต่ได้ราชองครักษ์มีอาส่งเวทย์คุ้มกันควบคุมทั้งไฟและอาการบาดเจ็บให้ในทันที แต่กระนั้นองครักษ์เก้าก็ยังหมดสติไป
ทั้งเมื่ออาเม่ยจะซัดลูกที่ 2 ตามไปซ้ำแม่ทัพเชมัลรีบใช้ตัวขวางองครักษ์เก้าไว้ ขณะที่องครักษ์รอม และฮูดา ตรงเข้าสู้ผลักดันให้อาเม่ยออกห่างมาจากลานด้านหน้าของห้องขังเรือนจำเวทย์

ภาพที่แท้จริงเป็นเช่นใดอาเม่ยมองไม่เห็น
ที่เห็นคือ แม่ทัพเชมัลปกป้ององครักษ์เก้า
ดังนั้น ลูกไฟที่ซัดใส่คู่ต่อสู้ที่เวลานี้คือหัวหน้าองครักษ์รอมและฮูดา ยิ่งมีพลังรุนแรงกว่าเดิม
 
สติรับรู้ที่เลือนหาย!
ไม่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของแม่ทัพเชมัลที่ห้ามผู้ใดทำร้ายอาเม่ย ไม่รู้ว่าแม่ทัพเชมัลกำลังพยายามร้องตะโกนเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา
สิ่งเดียวที่ติดอยู่ในหู คือคำสนทนาของแม่ทัพกับองครักษ์เก้า! สิ่งที่เห็นคือแม่ทัพเชมัลปกป้ององครักษ์เก้า!
ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่า ซัดลูกไฟใส่แม่ทัพเชมัล จนต้องล่าถอยไปหลายก้าว
สุดท้ายแม่ทัพต้องซัดมวลน้ำขนาดใหญ่กระแทกจนอาเม่ยล้มลง

ท่ามกลางความเงียบสงบที่เกิดขึ้นในทันใด!
ใครคนหนึ่งวิ่งเข้ามาคว้าข้อมือของอาเม่ยแล้วพาวิ่งหนีออกมาจากเขตเรือนจำเวทย์
ที่ตรงนั้นมีแต่ผู้ใช้เวทย์ การติดตามย่อมไม่ยาก แต่ทุกคนในที่นั้นล้วนหยุดนิ่ง มอง 2 คนที่พากันวิ่งหนีออกมาซึ่งหน้า
จนเมื่อลับหายไปในเขตต้นไม้ใหญ่ ราชองครักษ์มีอาจึงร้องตะโกนให้ติดตามผู้หลบหนี
ผู้ที่พาอาเม่ยหลบหนี เป็นผู้ที่มีความชำนาญเส้นทางต่างๆ ทั้งเขตทหาร และเขตวังหลวง
เส้นทางสายหลักย่อมไม่สามารถเดินทางได้ ต้องลัดเลาะใช้ประตูพ่อค้า เส้นทางโจร จนกระทั่งออกมาจากเมืองหลวง

อาเม่ยได้วิ่งตามคนที่จูงไป
คนที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำเช่นนี้เมื่อนานมาแล้ว!

ข้าคือต้าซัน
ข้าคือพี่ชายของอาเม่ย
ข้าไม่มีเวทย์ แต่น้องชายของข้ามีเวทย์
แม่พาข้าหนีออกมาจากหมู่บ้าน
ตลอดเวลาหลายปีมานี้ ข้าสงสัยมาตลอดว่าเหตุใดจึงต้องหนี
เหตุใดแม่จึงทิ้งน้องไว้ข้างหลัง
แม่ไม่เคยบอกข้า
แต่ข้าตั้งใจไว้ หากพบกับน้องอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าจะไม่ทอดทิ้งเขา
เพราะอาเม่ยคือน้องชายของข้า!


แม่ทัพเชมัลที่ยืนมองต้าซันพาอาเม่ยหลบหนีไป ยังคงยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นอีกพักใหญ่ จึงได้หันมาดูกลุ่มองครักษ์ทั้ง 3 คนที่ได้รับบาดเจ็บ
องครักษ์เก้าที่โดนลูกไฟโดยตรงมีอาการสาหัสจนราชองครักษ์มีอาต้องเรียกแพทย์หลวงในทันที
ส่วนองครักษ์ฮูดา มีท่าทีเจ็บใจและโกรธแค้นรุนแรงมากกว่าอาการบาดเจ็บที่ตนเองได้รับ
ส่วนหัวหน้าองครักษ์รอมมีพลังในการรักษาตนเอง และกำลังเดินพลังอยู่

"เด็กนั่นกล้าดีอย่างไร ถึงลงมือต่อท่าน" องครักษ์ฮูดากัดฟันพูด "ไหนแซนบอกว่า เขาไม่ทำร้ายท่าน"
แม่ทัพเชมัลได้แต่ส่ายหน้า
"คอยดูนะ ถ้าเจอกันอีกข้าจะฆ่าเจ้าเด็กนั่นให้ได้"
"ฮูดา" หัวหน้าองครักษ์รอมปรามคำพูดของคนตาคม พลางพยักหน้าไปทางแม่ทัพเชมัลที่มีสีหน้าหม่นหมองลง
คนตาคมได้แต่ทำน้ำเสียงขัดใจ แต่ในอีกอึดใจถัดมา ทั้งหัวหน้าองครักษ์รอมและฮูดา 2 คนจึงรู้ว่า ในที่นี้องครักษ์เก้าเป็นผู้เดียวที่บาดเจ็บสาหัส แต่แม่ทัพเชมัลก็ไม่ได้เข้าไปดูแล เพียงยืนมองอยู่ห่างๆ ปล่อยให้ราชองครักษ์มีอากับแพทย์หลวง ทำหน้าที่ดูแล
สองเท้ายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง ขณะที่สองตามองไปรอบตัว แล้วกลับไปหยุดอยู่ที่เส้นทางซึ่งอาเม่ยหลบหนีไป

ความเสียใจใหญ่หลวงของแม่ทัพเชมัลเป็นเช่นนี้เอง.....
...เขาจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออาเม่ย คนที่มาเพื่อสร้างความเสียหายแก่เมืองวันจริงๆหรือ...
องครักษ์ฮูดาหันไปมองหัวหน้าองครักษ์รอม ที่มองผู้เป็นหัวหน้าด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า กำลังตั้งคำถามแบบเดียวกัน


....จบตอนที่ 25....


(https://www.img.in.th/images/e6432ce2e65cac85ce8e58715ed008cf.jpg)
รูปนี้มาจาก http://www.incrediblesnaps.com/55-lovely-and-beautiful-photographs-of-rain


ปวดตับปวดไตไมเกรนจะขึ้น  :ling3: อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะ เพิ่งได้ครึ่งเรื่องเอง ...

.น้ำชา.


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-09-2015 14:23:24
ขออนุญาตพักร้อน รออ่านตอนท้ายเรื่องนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 15-09-2015 14:30:50
โอยยย...อาเม่ยหึงแรงจริงๆ แล้วแม่ทัพจะทำยังไงต่อไปล่ะเนี่ย อาเม่ยมีหลายคดีติดตัวแล้ว แม่ทัพก็ทั้งรัก ทั้งห่วง แต่หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่ จะแหกกฏเสียเอง ก็คงทำไม่ได้ รอเอาใจช่วยแม่ทัพเชมัลให้แก้ปัญหาให้ได้ค่ะ เพราะคนอ่านก็ยังเดาทางไม่ถูกเหมือนกัน  :mew5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 15-09-2015 14:34:52
 o22 o22 o22

ม่ายยยยยยยย...อึดอัดเป็นที่สุด
ต้าซันทำเราอึดอัด อาเม่ยทำเราอึดอัด....
อยากรู้ไปหมดว่าทำไมมมมม :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-09-2015 14:52:32
เอิ่ม จะรอดไหมอาเม่ย คดีเยอะเกิ๊น ต่อให้แม่ทัพเชมัลรักแค่ไหนก็ต้องเห็นแค่ผู้เสียหายบ้างล่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-09-2015 14:52:51
 :monkeysad: และแล้ววันที่เม่ยกลายเป็นศัตรูกับฮูดาก็มาถึงจริงๆ ทั้งๆที่ไม่คิดว่าจะมีวันที่อาเม่ยจะทำร้ายเชมัลได้ลง
คิดไม่ถึงจริงๆว่าเพราะแรงหึงที่รุณแรงกลับกลายเป็นชนวน ความรักเล่นตลกกับทุกคนแล้วซินะ ทั้งความรักหนุ่มสาว และ ความรักของพี่กับน้อง ได้แต่กรีดร้องในใจมันบีบหัวใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 15-09-2015 15:18:58
ความหึงหรือเปล่าที่เกิดกับอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-09-2015 15:33:29
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-09-2015 15:36:34
 :a5:ใครจะช่วยอาเม่ยได้หนอ

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 15-09-2015 16:14:10
แปะแป๊บบบ.. :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 15-09-2015 16:34:59
เพราะความไม่เชื่อใจ ความหึงเข้ามา จิตใจเข้าสู่ด้านมืด

ตรงจุดนี้ เชมัลลืมไปแล้วรึยังไง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-09-2015 19:09:04
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 15-09-2015 20:08:00
เชมัลเลือกที่จะปกป้องเก้าหรือเปล่าหว่า ทำไมเรารู้สึกแบบนั้น อาเม่ยหึงสินะ? ถึงได้แสดงออกไปแบบนั้น ยังเอาใจช่วยความรักของทั้งสองอยู่ ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-09-2015 20:24:00
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ตอนนี้สงสารพี่เชเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 15-09-2015 20:50:12
ขอหนีพายุเช่นกัน....ข้า ขอลา~~~~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 15-09-2015 20:51:58
 ความระแวงในตัวแม่ทัพและเก้าทำให้มีช่องว่างและโดนเวทย์ พอมาตอนนี้การเจอเก้าก็ทำให้เกิดความระแวง และการที่สองคนนั้นคุยกันทำให้เกิดความโกรธสินะ(เดาล้วนๆเลยอะ) ตอนนี้สงสารพี่เชจับจิตเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 15-09-2015 20:55:53
สงสารอาเก้า คงไม่เข้าใจว่าอาเม่ยมาทำร้ายทำไม  :sad11:
สงสารแม่ทัพเชมัล  จะปกป้องอาเม่ยได้นานแค่ไหน :monkeysad:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-09-2015 21:08:43
บอกตรงๆแอบสะใจนิดๆ

ที่อาเหม่ยซัดลูกไฟใส่อาเก้าและแม่ทัพเชมัล

อาเหม่ยหึงรุนแรงมาก เอาใจช่วยอาเหม่ย อาเหม่ยสู้ๆ

เป็นไงละเพราะความเป็นห่วงที่แม่ทัพเชมัลมีต่อเก้า

ลดความเป็นห่วงคนอื่นลงบ้างนะ หรือว่ายังตัดใจไม่ได้เอ่ยท่านแม่ทัพ

(ทีมอาเหม่ยไงก็นะเม้นท์ไปโน้นนนนนเลย)

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 16-09-2015 06:56:59
โอ๊ยยยยยยยยย ตอนนี้สงสารพี่เชอ่าาาาาา
อาเม่ยก็ยังไม่หายเป็นปกติ ไหนจะเรื่องการบ้านการเมืองอีก แล้วนี่ยังมีเรื่องนี้แทรกเข้ามาอีก
พี่เชจะทำยังไงดีเนี่ย สู้ๆนะพี่เช
อาเม่ยหนีออกไปแบบนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ต้าซันดูแลน้องดีๆนะ
อีกคนที่น่าสงสารที่สุดก็คืออาเก้า ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยแต่โดนกระทำตลอดเลย เฮ้ออออออออออ

อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆอย่างนึงคือ อาเม่ยหึงพี่เชล่ะนะ
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ลุ้นมันส์ตลอดเลย ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ ซับซ้อนดี ชอบๆๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆนะคะคุณไจฟ์น้องที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-09-2015 08:09:02
สะเทือนใจกับความโชคร้ายของเก้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 16-09-2015 10:52:19
สองพี่น้องนี่ยังไง เป็นคนธรรมดาอย่างที่เราเห็นในฉากหน้านี่หรือเปล่าเริ่มไม่แน่ใจ :katai1:
แต่ที่แน่ ๆ ใครเกิดเป็นเก้าบอกเลยว่าดวงคุณมันสุด ๆ จริง ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยอยู่เฉย ๆ เรื่องมันจะมาหาคุณเอง :hao5:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 16-09-2015 20:11:58
อาเม่ยเอ๊ยยย :เฮ้อ: ไม่สงสารอาเก้าเลยหรือไง อ้อ ลืมไป ว่าจำอาเก้าไม่ได้ :sad11:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-09-2015 22:43:35
ง่ะ!ตั้งตัวไม่ทัน!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 16-09-2015 23:02:13
โหอาเม่ยอารมณ์หึงหวงชั่งรุนแรงนัก
ทำเอาเก้าสลบเลยอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-09-2015 08:44:48
นี่คิดว่าก่อนโดนเวทย์นี้ได้แม่ทัพต้องทำอะไรให้เม่ยไม่ไว้ใจแน่ๆ คงไม่ใช่ประเด็นเพียงเพราะมาเห็นอาเก้าที่กองทัพนี้เท่านั้น
เพราะว่าสิ่งที่ลืมเลือนไปก็คือเรื่องของความไม่ไว้ใจในตัวแม่ทัพว่าจะมีแค่ตัวเองเพียงคนเดียว หากมีอะไรมาสะกิดก็จะทำให้ความมืดเข้าครอบงำทันทีแบบนี้ น่าจะมีเรื่องก่อนที่จะมาเป็นทหาร ตอนนี้ได้แต่คิดถึงว่าคนที่จะช่วยอาเม่ยได้อีกคนก็น่าจะเป็นอาจารย์ที่เคยสอนเวทย์ให้ :ling3:
^
^
#ทีมอาเม่ย  #อาเม่ยไม่ผิด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 20-09-2015 16:11:16
ชะแว๊บบเข้ามาดู.. :m32:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-09-2015 19:21:43
ตอนนี้ตื่นเต้นเหลือเกิน การที่ต้าซันซึ่งเป็นคนไม่มีเวทย์มนต์ใดๆ มาอาศัยช่วงฉุกละหุกพาตัวอาเม่ยหลบหนีไปอย่างนี้ มันต้องมีอะไรลึกลับซับซ้อนแน่ๆ ลางสังหรณ์ดิฉันไม่ผิดพลาดจริงๆ เมื่อแรกปรากฏตัว ก็ว่าอยู่...ว่ารู้สึกแปลกๆ กับตัวละครต้าซัน ไม่คิดว่าจะเป็นเพียงแค่คนธรรมดา มันมีเรื่องอะไรเบื้องหลังอย่างนั้นใช่ไหมคะ อยากรู้จริงๆ เลยค่ะ

ส่วนตอนนี้ทั้งสงสารแม่ทัพ สงสารอาเม่ย แล้วก็สงสารอาเก้า (เคราะห์ซ้ำกรรมซัดตลอดเลยคนนี้) อยากให้เรื่องคลี่คลายในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 21-09-2015 21:26:12
ย่องเงียบเข้ามาดันพี่เช  ฮึบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 22-09-2015 01:43:33
โอ้ย สงสาร
ที่ทำร้ายเพราะว่าโดนความไม่มั่นใจทำให้เป็นจุดอ่อนแอแล้วครอบงำอีกครั้งสินะ
เข้าใจแล้วว่าทำไมลืมเก้า
เพราะเก้าเป็นคนที่ทำให้เม่ยไม่มั่นใจในความรักที่มีให้สินะ
น่าสงสารแท้แท้

ทีนี้ก็ต้องมาลุ้นเรื่องของพี่ต้าซันแล้วสินะว่าจะออกมายังไง

ปล. เพิ่งมีเวลาอ่านจนจบ เหนื่อยมากๆ อ่านรวดเดียวเลย :-)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-09-2015 21:23:14
ตอนที่ 26

องครักษ์ฮูดามิใช่ผู้ที่มีนิสัยร่าเริง  มิใช่ผู้ที่มองโลกในแง่ดี และยิ่งมิใช่ผู้อ่อนน้อมถ่อมตน
ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุขึ้นต่อหน้า ทั้งที่เฝ้าจับตามองด้วยความระแวงอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง!
และเมื่อทบทวนการใช้พลัง นับจากการที่อาเม่ยซัดลูกไฟลูกแรกใส่องครักษ์เก้า จนมาถึงอาเม่ยหันมาซัดลูกไฟใส่แม่ทัพ ที่พยายามเข้าไปปกป้อง และสุดท้ายคือแม่ทัพต้องชัดมวลน้ำเพื่อหยุดอาเม่ย
ด้วยพลังเวทย์ดิน ทำให้องครักษ์ฮูดาตระหนักถึงความโกรธ หึงหวง และริษยาอย่างรุนแรงแฝงอยู่ในลูกไฟทั้งหมดที่อาเม่ยซัดออกมา
แต่อาเม่ยหึงหวงองครักษ์เก้าด้วยหรือ อารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดจึงไม่เคยรู้สึกถึงมันเหล่านั้นมาก่อน!
ยิ่งคิดไม่เข้าใจก็ยิ่งโกรธ!
เพราะที่ผ่านมา ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวที่องครักษ์ฮูดาจับได้ ก็คือการที่อาเม่ยมีความเคารพ และความชื่นชมองครักษ์เก้า
ส่วนที่มาคู่กันก็คือ ลางสังหรณ์ว่า อาเม่ยคือผู้ที่จะทำให้แม่ทัพต้องเสียใจอย่างรุนแรง
แต่เพราะลางสังหรณ์กับสิ่งที่คาดหวังให้เกิดขึ้นจริง หลายครามันก็อยู่ใกล้เคียงกันจนไม่แน่ใจ จึงทำได้แค่ขู่ แล้วก็บอกกับตนเองว่าให้ระมัดระวัง
แต่มาถึงยามนี้ที่เรื่องราวเกิดขึ้นแล้ว องครักษ์ฮูดาก็แน่ใจว่า แม่ทัพเชมัลย่อมเสียใจมากที่ไม่อาจหยุดอาเม่ยไม่ให้ลงมือ
ความเสียใจนั้นเกิดขึ้นจริง แต่.....
......เวทย์ดินของข้ามีอันใดบกพร่องจึงจับความรู้สึกของอาเม่ยต่อองครักษ์เก้าไม่ได้
หรือหากมีข้อผิดพลาดบกพร่อง แล้วแม่ทัพเชมัลอาจรักอาเม่ยจนมองข้ามความผิดปกตินี้
แต่พระราชาย่อมต้องรู้เรื่องนี้ และย่อมไม่ปล่อยไปอย่างเด็ดขาด
ต่อให้พระองค์เมตตาต่อองครักษ์น้องเล็กผู้นี้มากเพียงใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้น
...นี่ข้ารู้เรื่องอันใดบ้าง
...ทุกสิ่งทุกอย่างช่างน่าขัดใจไปเสียทั้งหมด
ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โกรธไปเสียทุกคนโดยเฉพาะตนเอง!


องครักษ์ฮูดายังไม่ยอมอยู่ห่างจากแม่ทัพเชมัล แม้ในยามที่พระราชาเสด็จมาดูอาการแม่ทัพเชมัลและองครักษ์เก้า แม้อาการของแม่ทัพเชมัลนั้นไม่น่าวิตก ด้วยเป็นผู้ที่มีเวทย์แข็งแกร่ง หากแต่องครักษ์เก้ากลับยิ่งทรุดหนัก การรักษาจึงต้องใช้พลังมากกว่าเดิม
แต่ครานี้ หัวหน้าราชองครักษ์บาดาผู้รอบคอบ ไม่ยินยอมให้พระราชาและแม่ทัพเชมัลเป็นผู้รักษา กลับไปเรียกราชองครักษ์ลาทีฟ ผู้มีอันดับ 3 ในกลุ่มราชองครักษ์มารักษา และให้ย้ายองครักษ์เก้าไปรักษาที่สถานพยาบาลในค่ายทหาร
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาเป็นผู้สุขุมรอบคอบ มักวางแผนคล้อยตามพระดำริของพระราชา มีไม่บ่อยนักที่จะเสนอความขัดแย้ง
ครานี้เมื่อเสนอความเห็นแย้ง ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เพราะเหตุผลสำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือ ทั้งพระราชาและแม่ทัพจะต้องพร้อมสำหรับศึกใหญ่ที่มารออยู่

แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองวันกลับยิ่งเลวร้ายลง และแม่ทัพเชมัลคือผู้ที่ถูกกล่าวโทษ เนื่องด้วยเรื่องราวทั้งหมดถูกสรุปอย่างง่ายดาย ว่าอาเม่ย องครักษ์ที่หนีทหารแล้วถูกแม่ทัพเชมัลตามจับตัวกลับมา คือผู้ลงมือฆ่าเสนาบดีหลี่ แล้วลงมือทำร้ายองครักษ์เก้าต่อหน้าแม่ทัพเชมัล และเหล่าองครักษ์คนอื่นๆ ที่เรือนจำเวทย์ขณะที่พาไปพบกับพี่ชายที่ถูกคุมขังรับโทษแทนน้องชาย
เรื่องราวการสังหาร และการต่อสู้ที่เรือนจำถูกเติมเรื่องราวจนอาเม่ยกลายเป็นประหนึ่งผีร้ายที่แฝงตัวเข้าไปลอบสังหารคนอื่นในยามดึก

องครักษ์ฮูดาถอนหายใจยาวเมื่อรับฟังเรื่องราวที่แม่หญิงผู้เป็นภริยาได้รับฟังมา จากนั้นจึงอธิบายส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงให้ผู้เป็นภริยารับทราบ
“เรื่องเสนาบดีหลี่ ต้องรอฟังท่านเจ้ากรมเมือง เพราะเป็นผู้ตรวจสอบหลักฐานและเรื่องราวทั้งหมด อีกอย่างคือเม่ยใช้ดาบยาว และครองเวทย์ไฟ ไม่ได้ใช้มีดเล็กเช่นที่พบที่ศพของเสนาบดี ถ้าเม่ยจะจัดการคน น่าจะฟันขาดแล้วเผา” คนตาคมสะดุดคำพูดตนเอง แล้วกล่าวต่อ “ส่วนเรื่องที่หน้าเรือนจำ มันเกิดขึ้นเพียงอึดใจเดียว แล้วเม่ยก็หนีไปกับพี่ชาย”
“แปลว่า องครักษ์เม่ยเจตนาจะชิงตัวพี่ชายหรือไร” แม่หญิงผู้เป็นภริยาถาม
“นั่นไม่อาจรู้ได้ เจ้าอย่าคาดเดาไป ยิ่งคาดเดายิ่งทำให้เรื่องราวไปกันใหญ่จนไม่รู้ว่าความจริงอยู่ที่ใดกันแน่” องครักษ์อันดับ 4 ทบทวนคำกล่าวของตนเองอีกครั้ง

...อาเม่ยใช้ดาบยาว กับเวทย์ไฟ แต่พระราชา แม่ทัพ และเก้า เชื่อมาตลอดว่านั่นไม่ใช่เวทย์ที่แท้จริงขององครักษ์น้องเล็กผู้นี้
ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่เพราะทิฐิทำให้เกิดความผิดพลาดที่มีแต่เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ 
...ข้าควรคิดลำดับเรื่อง โดยแยกตนเองออกมาจากเรื่องนี้สินะ..

เมื่อกล่าวถึงพระราชากับองครักษ์เก้า มาถึงยามนี้หลายคนล่วงรู้แล้วว่า การที่พระราชาเสด็จมาให้การรักษาองครักษ์เก้าด้วยพระองค์เองทำให้พระชายาหึงหวงไม่พอใจ
ความหึงหวงของสตรี ต่อให้เป็นผู้ตาบอด หูหนวก ก็ยังล่วงรู้ได้ และย่อมเป็นอีกหัวข้อสนทนาที่ถูกต่อเติมขยายความออกไปเช่นกัน
องครักษ์ฮูดา ทบทวนความคิดของตนเองอีกครั้ง
ในเวลาที่ตนคิดร้ายต่อองครักษ์เก้า ก็เพราะความอิจฉา ริษยาเมื่อเห็นว่าแม่ทัพเมตตาองครักษ์เก้า
ที่พระชายาหึงหวง จนองครักษ์เก้าต้องย้ายออกจากเรือนรับรองหลังเล็กมาอยู่ในเรือนจำ ก็เพราะพระราชา
นั่นไม่ได้ต่างจากที่อาเม่ยรู้สึกกับองครักษ์เก้า
ต่างกันที่องครักษ์ฮูดาไม่ปิดบังความรู้สึก
ส่วนพระชายาในพระราชาฟารัค เพียงใช้ผู้อื่นทำงานแทน....

"จำเป็นด้วยหรือที่ท่านจะต้องรู้และเข้าใจทุกเรื่อง" แม่หญิงผู้เป็นภริยาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าองครักษ์ฮูดาเอาแต่ครุ่นคิด
"จำเป็นสิ ข้าคือผู้ใช้เวทย์ดินนะ เกิดเหตุร้ายต่อหน้าเช่นนี้ได้เช่นไร"
แม่หญิงผู้เป็นภริยา ที่ยังมีบิดาเป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่โตของเมืองวัน แสร้งถอนหายใจ "ความทุกข์ของผู้ครองพลังและครองเวทย์สินะ รู้แล้วเป็นอย่างไร ไม่รู้แล้วเป็นอย่างไร ต่างกันตรงไหน ในเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว และที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ก็คือแม่ทัพเชมัลเป็นทุกข์อย่างยิ่ง"

องครักษ์ฮูดาโบกมือ แสดงท่าทีว่ารำคาญคำกล่าวของภริยา ทั้งที่ในใจยอมรับว่ามันคือความจริง
คนตาคมพยักหน้าให้กับตนเอง แม่ทัพเชมัลต้องรู้เรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับอาเม่ย และเพราะความรักทำให้แม่ทัพเชมัลปกปิดเรื่องราวนั้น
และเมื่อความพยายามนั้นให้ผลในทางตรงข้าม แม่ทัพเชมัลจึงหันหลังให้กับทุกสิ่ง แล้วหันหน้าเข้าหาสุรา
ตลอดชีวิตนับจากการเป็นเพื่อนกัน จนถึงเป็นแม่ทัพกับองครักษ์ เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด แล้วก็กลายเป็นองครักษ์อีกครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่แม่ทัพเชมัล หันหน้าเข้าหาสุรา!
ยามที่ผิดหวังจากองครักษ์เก้า แม่ทัพเชมัลเพียงเศร้าซึมไปชั่วครู่เมื่อทราบเรื่อง แล้วก็กลับยินดีให้กับทั้ง 2 คน
แต่ยามนี้แม่ทัพเชมัลผิดหวังอย่างยิ่ง
วันแรกที่อาเม่ยจากไปพร้อมกับต้าซัน ทุกคนคิดเช่นเดียวกัน ว่าแม่ทัพเชมัลจะต้องออกตามหา แต่ 3 วันผ่านไป แม่ทัพยังคงอยู่ที่ค่ายทหารแล้วเรียกหาแต่สุรา เมื่อไม่นำมาให้แม่ทัพก็ย้ายที่ไปนอนอยู่ที่โรงครัว จนองครักษ์รอมต้องยอมให้ดื่มต่อและย้ายกลับมาที่พักตามเดิม
7 วันผ่านไป แม่ทัพเชมัลก็ไม่ต่างอันใดกับขี้เมาคนหนึ่ง
ผู้ที่เดือดร้อนใจที่สุดย่อมเป็นพระราชาฟารัค หลังจากที่พระอนุชาไม่ได้เข้าวังมา 3 วันติดต่อกัน ก็ต้องเสด็จมาหาถึงที่ค่ายทหารด้วยพระองค์เอง

แต่แรกนั้นก็ยังจะพอคุยกันเข้าใจ แม่ทัพเชมัลยังพอจะยอมเล่าเรื่องความผิดหวังที่ไม่สามารถคุ้มกันอาเม่ยจากเวทย์ดำ
“แน่ใจนะ ว่าที่เสียใจมากมายเพราะผิดหวังที่ไม่สามารถป้องกันเสี่ยวเม่ยของเจ้า ไม่ใช่เพราะเพิ่งรู้ตัวว่า แท้จริงเจ้ารักเก้า ไม่ใช่เพราะคนรักใหม่ ไปทำร้ายคนรักเก่าของเจ้า”
แม่ทัพเชมัลโกรธพระราชาเป็นอย่างยิ่งที่กล่าวคำนี้ถึงขนาดขับไล่พระราชาออกจากค่ายทหาร “อาเก้าจากข้าไปนานแล้ว และรักของข้ามีเพียงเสี่ยวเม่ยเพียงคนเดียวเท่านั้น”
และหลังจากนั้น แม่ทัพเชมัลก็ไม่พูดคุยกับพระราชา ตลอดจนคนอื่นอีก

หัวหน้าองครักษ์รอมที่คอยดูแลอยู่ พอจะได้ยินคำกล่าวของแม่ทัพเชมัลในยามเมามายอยู่หลายคำ แต่ถ้อยคำเหล่านั้น ก็ยังไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวอันใดได้ นอกไปจากความผิดหวังที่ทำให้อาเม่ยต้องถูกเวทย์ดำ และถูกกักขังอยู่ในเวทย์ดำนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
...ไม่มีเรื่องของอาเก้า และยิ่งไม่มีฮูดา
เรื่องนี้องครักษ์ฮูดารู้ดีแก่ใจตนเอง ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับแม่ทัพเป็นได้เพียงเพื่อน หากวันนั้นไม่มีสุราเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ไม่อาจได้เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด และเพราะรู้แก่ใจจึงรังเกียจองครักษ์เก้ายิ่งนัก เพราะทันทีที่ก้าวเข้ามา แล้วเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็กลับได้รับความรักจากแม่ทัพ และได้รับความเมตตาจากพระราชา จนถึงวันที่ทำร้ายองครักษ์เก้าแล้วพบว่าแม่ทัพผิดหวังยิ่งนัก จึงได้ตระหนักว่าตนเองกลับเสียใจยิ่งกว่า
แต่กับอาเม่ย ถ้าจะกล่าวอย่างถูกต้อง ก็ต้องกล่าวว่า แม่ทัพเป็นผู้ที่เดินไปหาแล้วเรียกให้เข้ามาทดสอบฝีมือ
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ แต่ต้องไม่ทำให้แม่ทัพเสียใจอีก...

พระราชาถอนพระทัยอย่างกลัดกลุ้ม “แม่ทัพเชมัลของพวกเจ้ารักเสี่ยวเม่ยของเขามากอย่างไม่ต้องสงสัย ที่พวกเราควรทำก็คือให้เวลาเขาสักเดือนหนึ่ง เพื่อทบทวนตนเอง ข้าเชื่อว่า หลังจากที่ปล่อยตนเองให้เสียใจอย่างที่สุดไปแล้ว เขาจะสามารถกลับมาได้เอง”

แต่สองเดือนผ่านไป แม่ทัพเชมัลยังไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม แม่ทัพนาซิมจากเมืองหน้าด่านแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวทางเมืองเหนือเป็นระยะ จนพระราชาต้องออกคำสั่งให้หัวหน้าราชองครักษ์บาดาเป็นผู้แทนพระองค์นำเหล่าองครักษ์ และทหารในสังกัดของแม่ทัพเชมัลไปสมทบกับทหารของแม่ทัพนาซิม
องครักษ์เก้าอาการดีขึ้นมากแล้ว และต้องการเดินทางรวมไปกับเหล่าองครักษ์คนอื่น แต่ทุกคนล้วนลงความเห็นว่า องครักษ์เก้าควรอยู่ห่างจากแม่ทัพนาซิม
“อยู่ที่นี่ และช่วยมีอาถวายงานรับใช้พระราชา นี่เป็นหน้าที่ที่จะต้องมาถึงผู้ที่จะมีครอบครัวเช่นเจ้าในสักวันอยู่แล้ว” หัวหน้าราชองครักษ์บาดากล่าวสรุป

แต่องครักษ์เก้าไม่ได้กังวลเรื่องการถวายงานให้แก่พระราชฟารัค หากกังวลเรื่องความหึงหวงของพระชายามากกว่า
ในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเวทย์ องครักษ์เก้าย่อมเคยถามราชองครักษ์มีอา ว่าเหตุใดจึงถูกย้ายมาที่เรือนจำเวทย์ และเหตุใดต้าซันจึงถูกย้ายมาคุมขังไว้ที่เดียวกัน
แรกนั้นราชองครักษ์มีอาก็ไม่ได้ต้องการเล่าความจริงให้ฟัง แต่เพื่อให้องครักษ์เก้าวางตนอย่างระมัดระวังจึงยอมบอกเล่าสาเหตุที่แท้จริง
“ข้าไม่ได้ทำสิ่งใด”
ราชองครักษ์มีอากล่าวความจริง “บางคนทำ บางคนไม่ทำ แต่ความเดือดร้อนมักตกอยู่กับผู้ที่อยู่ในฐานะที่เล็กที่สุดในเหตุการณ์อยู่เสมอ”
ต่อมาเมื่อถูกอาเม่ยทำร้ายซ้ำโดยที่ไม่ได้รู้สาเหตุ และต้องย้ายจากเรือนจำเวทย์ไปอยู่ที่สถานพยาบาล ได้รับรู้เหตุการณ์อื่นๆ ทั้งเรื่องที่เสนาบดีถูกสังหาร และอาเม่ยพาต้าซันหลบหนีไป องครักษ์เก้าได้แต่ส่ายหน้าไม่ต้องการยอมรับ
“เรื่องทั้งหมดนี่ไม่เกี่ยวกันใช่หรือไม่”
หัวหน้าองครักษ์รอมกล่าวคำ “ยามนี้เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ล้วนถูกแยกให้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ส่งผลถึงเรื่องของบ้านเมืองก็เพราะแม่ทัพเชมัลยังไม่ยอมวางถ้วยสุรา ส่วนพระราชาไม่ไว้วางพระทัยที่จะให้แม่ทัพนาซิมคุมทัพใหญ่เผชิญหน้ากับเมืองเหนือ”
“เราต้องไปพาเม่ยกลับมา” องครักษ์เก้าตัดสินใจ

แต่หัวหน้าองครักษ์รอมกล่าวย้ำจนถึงยามที่จะต้องออกเดินทางไปสมทบกับทัพของแม่ทัพนาซิม ว่าห้ามองครักษ์เก้าวู่วามออกจากเมืองหลวงไปตามหาอาเม่ยโดยเด็ดขาด

“ฮูดาทำร้ายเจ้าเพราะเขาเกลียดเจ้า แม่ทัพนาซิมทำร้ายเจ้าเพราะถูกเจ้าปฏิเสธ แล้วเม่ยทำร้ายเจ้าเพราะเหตุใด ไม่มีผู้ใดรู้ เวทย์ของข้าและฮูดา ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาต้องการทำร้ายเจ้า หากไม่รู้ก็แก้ไขไม่ได้ อยู่ที่นี่ รักษาตนให้หายดี แล้วตามไปสมทบเมื่อแม่ทัพมีความพร้อม ยังเป็นประโยชน์กว่าการออกไปตามหาแล้วทำให้ต้องส่งคนออกไปตามหาเจ้าอีกที”
องครักษ์เก้ามองหัวหน้าองครักษ์รอมด้วยดวงตากลมโต เพราะหัวหน้าองครักษ์ผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่กล่าวคำยืดยาว แม้จะมีความเป็นห่วงต่อผู้อื่น แต่ก็เป็นการแสดงออก ไม่ใช่การกล่าวคำ
“มองเช่นนี้ เข้าใจหรือไม่”
องครักษ์เก้าพยักหน้า “เข้าใจขอรับ”
หัวหน้าองครักษ์รอมยกยิ้มมุมปาก “วันนี้ข้าดุมากใช่หรือไม่ เจ้าจึงใช้คำสุภาพกับข้า”
องครักษ์เก้ายิ้มตอบ “ที่จริง ข้าคือองครักษ์ที่สุภาพเรียบร้อยที่สุดในเมืองวัน”
องครักษ์ซัน คนอารมณ์ดี ส่งเสียงกระแอมพร้อมกับรอยยิ้มซุกซน “พวกเราต้องเลื่อนวันเดินทางออกไปเป็นวันพรุ่งนี้หรือไม่ เพราะหัวหน้าองครักษ์ กับองครักษ์อันดับ 5 มีเรื่องให้ต้องหารือกันนาน”
องครักษ์เก้าก้มหน้ามองเท้าตนเอง การถูกทักในเชิงหยอกล้อทำให้รู้สึกไม่คุ้นเคย และไม่กล้ากล่าวคำพูดต่อไป เป็นท่าทีที่ทำให้องครักษ์ซันต้องส่ายหน้า
“เพราะเจ้าเป็นเช่นนี้ จึงมักถูกเข้าใจผิด ถูกหึงหวง และถูกทำร้ายอยู่ตลอดเวลา”
องครักษ์แซน ผู้เชี่ยวชาญน้ำกล่าวขึ้นมาลอยๆ “จะมีปัญหาก็เพียงข้อเดียวที่พี่ใหญ่ถือพรหมจรรย์เพื่อครองเวทย์รักษาเท่านั้น”
พี่ใหญ่รอมจึงได้แต่ส่ายหน้า หันไปบ่นองครักษ์อันดับ 2 และ 3 “เวลาที่ข้าไม่ตักเตือน พวกเจ้าก็ว่าข้าละเลย พอข้าตักเตือน พวกเจ้าก็พูดจาเกินเลยเหลวไหล” มือใหญ่ขององครักษ์รอมจับที่ศีรษะขององครักษ์เก้า “เวลานี้เก้ามีเรื่องยุ่งยากใจมากพออยู่แล้ว ทั้งพระราชา แม่ทัพเชมัล และแม่ทัพนาซิม”
“ไม่ใช่ทั้ง 3 คน” องครักษ์เก้ากล่าวแล้วหันไปมองทางอื่น “ท่านไม่ควรลืมว่าพริมคือหญิงคนรักของข้า อย่างไรความรักระหว่างชาย ก็ไม่อาจทัดเทียมความรักระหว่างชายหญิง พวกเขาทั้ง 3 คนไม่ต้องรับผิดต่อข้า แต่ข้าต้องรับผิดต่อพริม” จากนั้นก็หันมาอวยพรให้ทั้งหมดออกเดินทางโดยสวัสดิภาพ

*-*จบตอนที่26*-*

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/150922023409.jpg) (http://picture.in.th/id/f7857ac7541f850cf92f9ec1040dbb30)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่25หน้า25 (15กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-09-2015 21:24:54
พี่เชมีลูกน้องที่ดี

 :กอด1: :L2: :pig4:




 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-09-2015 21:37:30
ฮูดานี่ถ้า ไม่แต่งงานก่อนนะจะยุให้หาคู่ให้สักคน เชมัลต้องสู้ต่อไป รักแล้วต้องอดทนและเชื่อใจ มีเรื่องอื่นนอกเหนือจากความหึงหวงอีกไหมเนี่ย ชักอยากรู้แล้วสิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-09-2015 21:48:28
อ่านแล้วซับสนเลย เรื่องเยอะเกิน 5555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-09-2015 21:51:13
สงสารพี่เช สู้ๆนะพี่ ไม่รู้ว่าเม่ยทำร้ายเก้าทำไมแต่คิดว่าน่าจะไม่ใช่แค่หึงหวงรึเปล่านะ อยากรู้มากๆเลยแล้วจะทำยังไงให้เม่ยกลับมาล่ะนี่ หนีไปอยู่ไหนกันก็ไม่รู้อะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 22-09-2015 21:53:03
ลุงเชทำไมไม้่ตามอาเม่ยล่ะ เมาอยู่ได้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-09-2015 21:56:39
ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 22-09-2015 22:03:11
พรุ่งนี้...ดวงอาทิตย์นั้นยังขึ้นที่ดังเดิม แต่ใจเจ้านั้น เปลี่ยนไปทางใดฤา??? ถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้....
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-09-2015 22:09:26
ซับซ้อนยิ่งนัก

ขออย่าให้เม่ยเป็นคนที่ถูกส่งมาจากเมืองเหนือเพื่อทำลายเมืองวันเลย

สงสารทุกคน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-09-2015 22:22:15
อาเหม่ยหายไปไหนอ่า

ทำไมท่านแม่ทัพเชมัลถึงไม่ออกตามหาอาเหม่ยละ

ป่านนี้อาเหม่ยเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

ท่านแม่ทัพไม่เป็นห่วงหรือ

ตลกที่บอกว่า"ท่านแม่ทัพไม่ยอมวางถ้วยสุรา"

และที่ไม่ชอบใจก็ประโยคที่ว่า"อย่างไรความรักระหว่างชายกับชาย ก็ไม่อาจทัดเทียมความรักระหว่างชายหญิง" อันนี้ไม่เห็นด้วยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 22-09-2015 22:38:36
มันจะยิ่งน่าสงสัยถ้าอาเม่ยไปหลบอยู่ที่เมืองเหนือ...ปมซ้อนปมจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-09-2015 22:41:20
วุ่นวายดีจริงๆ :ling2: เอาใจช่วยให้พี่เชเลิกเมาแล้วกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 22-09-2015 23:13:31
รู้สึกว่าเวทย์ดำนี่รุนแรงกว่าที่คิดจัง
เก้าฟื้นมาก็ดีแล้ว
เชื่อว่าเก้าต้องมาทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแน่แน่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 23-09-2015 00:31:32
รู้สึกว่าฮูดาเหมือนสเนปในเรื่องพ่อมดน้อยมากๆ อาจถูกมองไม่ดีจากใครหลายคน แต่เขาคือคนที่ห่วงแม่ทัพมากๆ ส่วนเก้าก็ยังคงเป็นคนที่ถูกทำร้ายอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เหตุการณ์ตอนนี้เริ่มตรึงเครียด กำลังคิดว่า ถ้าแม่ทัพยังปักรักมั่นกับอาเม่ย แต่อาเม่ยได้ "ทำผิด" ต่อเมืองวันไปแล้ว ดังนี้, เหตุการณ์จะคลี่คลายไปทางไหนกันแน่ น่าคิดมากๆ  :mew1:

ขอบคุณไจฟ์ทีมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 23-09-2015 09:25:18
นี่แสดงว่าอาเม่ยไม่ได้เป็นคนฆ่าเสนาหลี่ซินะ แต่ก็ต้องหาคนร้ายตัวจริงให้ได้เท่านั้นถึงจะคลี่คลายและลดความผิดนั้นลงได้  :hao5:
สุดท้ายแล้วคนที่มีจิตใจอ่อนโยนอย่างเก้าจะเลือกใคร อ่านมุมมองในตอนที่โดนนาซิมข่มขืนครั้งโน้นเข้าใจว่านี่คือคนที่จะทำให้เก้ามีความสุข
แต่ไม่ใช่ซินะ>>>เก้าไม่ได้รักนาซิม นี่คือสำคัญ<<<   :sad4:

คนที่ก่อปัญหาตั้งแต่แรกของความสัมพันธ์คือท่านเช แต่ช่วงคนที่มาต่อให้ความสัมพันธ์มันยุ่งและบิดเบี้ยวเป็นปมคือฮูดา
แต่ในตอนนี้คือฮูดาเป็นผู้มองเห็นปัญหาและมองสิ่งที่เกิดหวังว่าฮูดาจะมีวิธีการแก้ไขและหนทาง
แต่..........นะ ผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับทุกคนในเรื่องนี้คือผู้ที่น่าสงสัยจริงๆ ตอนนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-09-2015 10:18:59
มึนงง สับสน มันใช่รักแน่เหรอทุกคน??



ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 23-09-2015 10:19:22
 :ling3:  ลุ้น ลุ้น ลุ้น ยากจะคาดเดาจริง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 23-09-2015 11:30:03
มีปมซ่อนอยู่ในเรื่องนี้มากมาย
น่าสนุกที่จะติดตาม

รอแม่ทัพวางถ้วยสุราซะที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-09-2015 11:32:08
อาเม่ยไปไหน!? พี่เชโดนเมียทิ้งเมาหัวรานำ้ไปแล้ว เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 23-09-2015 14:14:28
คิดตามฮูดาซะมึนไปเลย  :ling1:
แม่ทัพทำไมทำแบบนี้ ต้องบ้านเมืองมาก่อนซิ
เรื่องอาเม่ยไว้ค่อยว่ากันนี่อะไรมานั่งไรสาระเป็นเดือนๆ
เดี๋ยวเมืองเหนือโจตีบ้านเมืองเสียหายกันหมดพอดี :m16:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 23-09-2015 14:42:30
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

สงสารอาเก้า โดนกระทำตลอดๆ
สงสารท่านพี่ กว่าอาเม่ยจะหาย ท่านพี่จะตับแข็งซะก่อน
สงสารอาเม่ย เมื่อไหร่น้องจะหายดีสักที  ....สู้ๆๆๆ นะทุกคน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 23-09-2015 16:07:19
แปะก่อนๆเดี๋ยวมา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 24-09-2015 10:47:01
นอกเรื่องนิดนึง --->   "...แต่อาเม่ยหึงหวงองครักษ์เก้าด้วยหรือ อารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดจึงไม่เคยรู้สึกถึงมันเหล่านั้นมาก่อน! "  o22

ติดอยู่ตรงประโยคนี้แป๊บนึง เพราะงุนงงกับคำว่าอาเม่ยหึงหวงองครักษ์เก้า แล้วดันตีความว่า..เอ๊ะ อาเม่ยแอบรักองครักษ์เก้าเมื่อไหร่ จึงได้หึงหวงองครักษ์เก้า อ่านไป งงไป แล้วก็สรุปว่าตัวเองงงเอง เหตุเพราะภาษาไทยมันดิ้นได้.. (นึกๆก็สงสารชาวต่างชาติที่เรียนภาษาไทยนะคะ 555+)  :jul3:

--------------------------

อ่านถึงตอนนี้แล้วชักสงสัย... หรือพี่ใหญ่รอม จะเป็นผู้ที่มีบทบาทด้านความรักต่อ "องครักษ์เก้า" เป็นคนต่อไปนะ ส่วนพระราชา กับแม่ทัพเชมัลน่ะ คงไม่ใช่เนื้อคู่องครักษ์เก้าแน่ เพราะต่างมีคู่ชิดคู่เชยกันหมดแล้ว ตอนนี้ที่เห็นๆก็มีแม่ทัพนาซิม กับคนใหม่ที่โผล่มาสะกิดใจแว๊บๆคนนี้  :katai2-1:

ส่วนท่านแม่ทัพเชมัล น่าสงสัยจริงๆที่..เหตุใดจึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับความทุกข์จนลืมที่จะหาทางแก้ปัญหา ปล่อยให้เม่ยหนีหายไปหลายเดือน มีความทุกข์ใจอื่นใดแอบแฝงและไม่สามารถบอกผู้ใดได้หรือเปล่า  แล้วด้านอาเม่ยล่ะ เป็นอย่างไรบ้างนะ ชักอยากรู้  คิดไปคิดมาก็มึน รอท่านพี่ไจฟ์กับท่านน้องทีมาไขปัญหาให้อ่านในบทต่อไปดีฝ่า ...5555+  :katai3:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 24-09-2015 13:23:57
แม่ทัพอาการหนักกว่าคิดนะ  เฮ้อออ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 24-09-2015 20:33:06
อ่านรวบอีกแล้วค่ะ แหะๆ
ตอนที่แล้วนี่ปวดใจมากมาย
แต่แอบเอนเอียงเข้าข้างอาเม่ยมากกว่าใคร
เอาเป็นว่าห่างกันสักพักไปก็แล้วกัน
ให้อาเม่ยไปสงบสติอยู่ไกลๆจากสิ่งรุมเร้าซะหน่อย
พอควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวเล็กหึงโหดมากขนาดนี้
ท่านแม่ทัพก็เอาเวลานี้ไปทำการบ้านเพื่อรับมือก่อนเนอะ

ปล. เห็นเขียนว่าเพิ่งจะครึ่งเรื่อง
โอยยยยยย. แล้วจะเครียดกว่านี้อีกที่เท่า :z3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 28-09-2015 18:42:24
ความรักของแม่ทัพ จะแก้ไขเรื่องนี้ให้อาเม่ยยังงัย
สงสารแม่ทัพกับอาเก้าหนักมาก :sad11:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 28-09-2015 19:33:47
แวะมาดันๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 28-09-2015 20:44:16
เรื่องราวซับซ้อนไปกันใหญ่ ความหึงหวงมันฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของอาเม่ยแบบไม่รู้ตัวสินะ
สงสารพี่เช เสียศูนย์เลย เอาใจช่วยให้กลับมาเข้มแข็งในเร็ววัน
ใครว่างบ้าง ไปพาหัวใจกลับมาหาพี่เชหน่อย...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่26หน้า26 (22กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 29-09-2015 20:50:56
ดันๆๆ :m32:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 29-09-2015 21:11:09
ตอนที่ 27

หนทางจากเขตเมืองหลวง มุ่งหน้าไปยังเมืองหน้าด่านชายแดนกลายเป็นเส้นทางที่เหล่าองครักษ์ของแม่ทัพเชมัลมีความคุ้นเคยดั่งให้หลับตาก็ยังเดินทางมาถึงที่หมายได้อย่างถูกต้อง
จากทุ่งนาสลับกับหมู่บ้านจนมาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1 ใน 3 ของบุคคลทั่วไปก็ถึงที่หมาย เนื่องด้วยกลุ่มผู้ที่เดินทางในครานี้ ล้วนเป็นกลุ่มผู้ใช้เวทย์ที่นำโดยหัวหน้าราชองครักษ์บาดา แห่งพระราชาฟารัค
คนที่หากไม่ถึงคราจำเป็น จะไม่ยอมอยู่ห่างจากพระราชาอย่างเด็ดขาด
กลุ่มผู้ใช้เวทย์เพียงเปลี่ยนม้าแล้วเดินทางต่อในทันที จนกลายเป็นทิ้งเหล่านายกองพลทหารราบไว้เบื้องหลัง
เมืองหน้าด่านยามนี้ มีทหารจากประตูด่านทางอื่นมาสมทบรออยู่แล้ว ขณะที่แม่ทัพนาซิมแม้จะมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังคงมีท่าทีไว้ตัว และดวงตาที่ดูหมิ่นผู้อื่นอยู่เช่นเดิม หลังการต้อนรับหัวหน้าราชองครักษ์บาดาในฐานะผู้แทนพระองค์ตามพิธีการแล้ว ทั้งหมดจึงเข้าร่วมการหารือที่ห้องประชุมของค่ายทหาร

"ตามธรรมเนียมข้าควรจัดเลี้ยงก่อนคุยเรื่องงาน แต่ครานี้ต้องขอคุยเรื่องงานก่อน" แม่ทัพนาซิมออกตัว ที่ทำหน้าที่เจ้าบ้านบกพร่อง
แต่หัวหน้าราชองครักษ์บาดาเห็นด้วย "รับฟังสรุป แล้วค่อยไปหารือกันก็ไม่สาย"
ทุกคนต่างเข้ามาล้อมโต๊ะตัวใหญ่กลางห้องประชุม
แบบจำลองเหนือแผ่นผ้าผืนใหญ่ที่เป็นต้นไม้และลำคลอง ที่เปลี่ยนไปจากการประชุมครั้งก่อนก็คือ ตำแหน่งของไม้แกะสลักจำลองซึ่งแทนอสูรสัตว์ประหลาดหลายชนิด อมนุษย์ที่เกิดจากดิน ไปจนถึงผู้ใช้เวทย์เมืองเหนือ และมนุษย์ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเมืองเหนือ
แม่ทัพนาซิมชี้บอกตำแหน่งที่เปลี่ยนไป และกำลังสะสมที่เพิ่มขึ้น

"แม้แม่ทัพเชมัล ทำลายเฮยอั้นผู้ครองเวทย์ดำอิสระของเมืองเหนือไปเมื่อหลายเดือนก่อน" มือใหญ่ชี้ไปยังเขตป่าทึบที่เคยวางม้าสีแดง แต่บัดนี้ว่างเปล่า "แต่กลับยังมีอสูร และอมนุษย์เพิ่มขึ้น ส่วนทหารที่เป็นมนุษย์ในเขตป่านอกเมืองมีน้อยลง คาดเดากันได้ 2 ทาง คือถูกพวกอสูรฝ่ายเดียวกันทำร้าย หรืออาจโยกย้ายกลับเข้าไปในเมือง"
องครักษ์ฮูดาอาสาทันที "เรื่องนี้ข้าออกไปสำรวจได้"
"ไว้ก่อนเถิด" หัวหน้าราชองครักษ์บาดาเตือน แล้วหันไปบอกให้แม่ทัพนาซิมรายงานสถานการณ์ต่อ
องครักษ์ฮูดาที่ไม่ชอบการถูกขัดขวางการทำงานชักสีหน้าทันที แต่ยังสงบปากคำ จนองครักษ์ซันคนอารมณ์ดีที่อยู่ข้างๆ ต้องลอบอมยิ้ม

"ส่วนเรื่องการจัดการกลุ่มชาวบ้านในเขตป่า พวกเราพยายามชักชวนให้ย้ายเข้ามาอยู่ในเขตเมืองได้เพียงเล็กน้อย  ส่วนใหญ่แม้จะรับรู้ว่ามีภัยคุกคาม แต่ก็ปฏิเสธที่จะเดินทางเข้าเมือง พวกเขาไม่มาหาเรา ทั้งไม่ไปเมืองบาสก์" มือใหญ่ชี้ไปที่เขตภูเขา ซึ่งตั้งอยู่ค่อนไปทางเมืองเหนือ "ส่วนกลุ่มบ้านที่อยู่ห่างไกลออกไปทางหุบเขา หน่วยสอดแนมไม่พบเห็นควันไฟมาหลายวันแล้ว พวกเขาอาจละทิ้งหมู่บ้าน หรืออาจถูกกวาดล้าง แต่เพราะพื้นที่อันตราย แม้แต่หน่วยสอดแนมก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้ ได้แต่สังเกตการณ์อยู่ในที่ห่างไกล”
"พวกเขาเชื่อมั่นว่าจะสามารถต้านทานได้" ผู้ช่วยคนหนึ่งของแม่ทัพนาซิมช่วยเสริม
องครักษ์รอมพยักหน้าช้าๆ "หรือเพราะเชื่อว่า นี่เป็นการสู้รบระหว่างเมืองเหนือ กับเมืองวัน"
"คนที่ยอมย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหน้าด่านส่วนใหญ่พูดอย่างนั้น และไม่เชื่อเรื่องสงครามจนกระทั่งเข้ามาแล้วเห็นว่า ฝ่ายเรากำลังระดมคนไว้ในเขตเมือง แต่เรายังไม่ขยายพื้นที่ออกไปที่นอกกำแพงเมือง" กล่าวมาถึงตอนนี้ แม่ทัพนาซิม หันไปบอกให้เหล่าผู้ช่วยออกไปเตรียมการเรื่องการจัดเลี้ยง และรอจนเมื่อทุกคนออกไปแล้ว แม่ทัพนาซิมจึงถอนหายใจยาว
จากคนที่แสดงท่าทีไว้ตัวและดูหมิ่นผู้อื่น กลับกลายเป็นคนที่มีท่าทีลังเล ที่ทุกคนในห้องนี้ตระหนักว่า เป็นผลมาจากเวทย์ดำที่ทำให้ทำร้ายองครักษ์เก้าในครั้งก่อน

"ข้าไม่วางกำลังไว้นอกเมือง เพราะเกรงเรื่องเวทย์ดำ"
แม่ทัพนาซิมกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
"เมื่อข้าเองยังโดนเวทย์นั้น แม้แต่ฮูดาในครั้งก่อนก็ยังย่ำแย่ ข้าจึงต้องวางคนอย่างรอบคอบกว่าเดิม แม้แต่สายสืบที่อยู่ในป่า ก็ยังเป็นผู้ที่ไม่มีครอบครัวและพร้อมที่จะทิ้งชีวิตไว้ที่นั่น ไม่กลับเข้ามาอีก"
องครักษ์แซนกล่าวอย่างจริงจัง "มันคือหน้าที่"
เมื่อได้ยินคำนี้แม่ทัพนาซิมจึงหันมาหาหัวหน้าราชองครักษ์บาดา
“เชมัลเป็นอย่างไรบ้าง เราจะรอเขากลับมาหรือไม่”
หัวหน้าราชองครักษ์บาดา เพียงมองแนวของทัพฝ่ายเหนือในเขตป่า "เวทย์ดำทำลายความมั่นใจของท่าน และทำลายหัวใจของแม่ทัพเชมัล"

องครักษ์ฮูดายก 2 มือขึ้น
"เดี๋ยวนะ"
จากนั้นองครักษ์อันดับ 4 ที่เป็นผู้อ่อนวัยที่สุดในที่นี้ ก็เริ่มเดินวนไปรอบโต๊ะใหญ่ ขณะที่ทุกคนรอคอยจนกระทั่งองครักษ์ฮูดากลับมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าของราชองครักษ์บาดา
การที่องครักษ์ฮูดาแสดงท่าทีสับสน เป็นเรื่องยากที่จะพบเห็น แต่ไม่น่าแปลกใจ เนื่องด้วยเวลานี้ ไม่มีแม่ทัพเชมัลอยู่ในห้อง ทั้งไม่มีกลุ่มองครักษ์ที่ด้อยอาวุโสกว่า องครักษ์ฮูดาจึงคลายความเคร่งเครียดลง
"หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็คือส่วนหนึ่งของการทำลายแม่ทัพเชมัล"
ในความคิดขององครักษ์ฮูดา ไม่มีเรื่องใดยิ่งใหญ่ไปกว่าเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ทัพเชมัล
นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!

ราชองครักษ์บาดาหัวเราะในลำคอ ชี้มือสั่งให้องรักษ์ฮูดาไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งในห้อง
"หากจะมองย้อนไปถึงเรื่องราวที่เจ้าทำว่าเป็นความผิด เรามิต้องมองย้อนไปถึงความขัดแย้งระหว่าง 3 เมืองตั้งแต่อดีตพระราชาเลยหรือไร"
ผู้อาวุโสสูงสุดในที่นี้ไม่รอให้อีกฝ่ายโต้เถียง "ครานี้ เราจะมองที่การตัดกำลังสำคัญของพระราชาฟารัค"
องครักษ์ฮูดามีสีหน้าขัดใจ "แต่แม่ทัพเชมัล..."
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาปรายตาเชิงปรามให้อีกคนหยุดเถียง "กำลังสำคัญของพระราชาฟารัคมีเพียงคนเดียว นั่นคือแม่ทัพเชมัล พระองค์ไว้พระทัยพระอนุชามากกว่าตนเอง แต่พระอนุชาก็เป็นผู้ที่มีฝีมือแข็งแกร่ง พวกมันโจมตีโดยตรงไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีที่พวกมันถนัด นั่นคือการโจมตีที่หัวใจ"

ในความเป็นจริงคำกล่าวทั้งหมดของราชองครักษ์บาดา คือการถ่ายทอดพระดำรัสของพระราชาฟารัค ที่ทรงวิเคราะห์ไว้หลังจากที่ อาเม่ยทำร้ายองครักษ์เก้า

"กล่าวกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ เม่ยเดินทางเข้าเมืองหลวงด้วยจุดประสงค์นี้" ราชองครักษ์บาดากล่าวต่อทันที "อย่าเพิ่งกล่าวโทษเม่ย เพราะมาถึงวันนี้ มันแสดงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เม่ยเองก็ถูกทำร้ายมาอีกทอดหนึ่งเช่นกัน"
แม่ทัพนาซิมที่คุ้นเคยกับเมืองเหนือมากที่สุดในที่นี้กล่าวเห็นด้วย "พวกมันเป็นอย่างนั้น ทำร้ายคนหนึ่ง เพื่อให้ไปทำร้ายคนอื่นต่อ มันทำร้ายข้า เพื่อให้ข้าทำร้ายอาเก้า ซึ่งนั่นหมายถึงการทำร้ายเชมัลด้วย"
องค์รักษ์แซนถามขึ้นบ้าง "ทำร้ายเม่ย เพื่อให้เม่ยทำร้ายแม่ทัพเชมัล....แสดงว่าพวกมันรู้จักทั้งแม่ทัพเชมัลและรู้จักเม่ย แล้วก็รู้ว่าแม่ทัพเชมัลกับเม่ยรู้จักกันมานานแล้ว"
องครักษ์ซันทุบกำปั้นลงกับฝ่ามือ "พวกเราสงสัยเรื่องที่มาของเม่ยกันมาตลอด แต่เมื่อแม่ทัพและพระราชาวางพระทัย เราก็วางใจ แต่เท่าที่เห็นก็คือ แม่ทัพเชมัลต้องรู้จักเม่ย แต่เม่ยกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
"เม่ยโดนลบความทรงจำ" หัวหน้าองครักษ์รอมพี่ใหญ่ ตอบคำถามนี้ "แม่ทัพต้องพาเม่ยไปที่เกาะห่างไกล เพื่อรื้อฟื้นความทรงจำ"
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาช่วยเสริม "พระราชาสงสัยเรื่องที่แม่ทัพเชมัลพอใจเม่ยมาตั้งแต่ต้น เพราะผิดวิสัยที่จะวางตนสนิทกับผู้อื่นอย่างเปิดเผยเช่นนั้น  แม่ทัพเชมัลยอมรับว่า เม่ยเหมือนคนที่เคยพบกันมาก่อน แม้ต่อมาจะอ่านความทรงจำแล้วไม่พบ คิดว่าไม่ใช่คนที่เคยพบ แต่ความในใจก็ยังไม่เปลี่ยน พระราชาจึงสนับสนุนพระอนุชาในเรื่องนี้"
ผู้อาวุโสสูงสุดในห้องประชุม หันไปมองแม่ทัพนาซิม แล้วหันไปมององครักษ์ฮูดา
"อย่างที่พวกเรารู้กัน ว่าพระราชาต้องการให้พระอนุชามีความสุข จึงทรงจัดการอะไรหลายอย่าง แต่ทุกอย่างผิดแผน จึงตัดสินพระทัยไปพบแม่ทัพเชมัลที่เกาะห่างไกล และทำให้พระองค์แน่พระทัย ในเรื่องที่เม่ยถูกเวทย์ดำ"
องครักษ์แซนกล่าวถึงคราที่พาพระราชาฟารัค และพระราชาเมืองบาสก์เสด็จไปที่เกาะห่างไกล
"เราทุกคนล้วนแน่ใจเรื่องนั้น แต่ก็สงสัยว่าเม่ยอยู่ใกล้ชิดแม่ทัพตลอดเวลา ทั้งเข้าเฝ้าฯ พระราชาหลายครั้งกลับไม่ถูกพบเห็น"
"นั่นเป็นอีกเรื่องที่ทำให้พวกเราหวนกลับมาไม่แน่ใจในตนเอง" ราชองครักษ์บาดาชี้ชัด

...กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนต้องกลับมาทบทวนพลังอำนาจของตนเองกันทั้งหมดเลยทีเดียว..

"เหมือนแม่ทัพนาซิมไม่แน่ใจการตัดสินใจของตนเอง เหมือนแม่ทัพเชมัลไม่มั่นใจตนเองว่านั่นใช่คนที่เคยพบกันมาก่อนหรือไม่"
องครักษ์ซันกล่าวย้ำ "เมื่อวิเคราะห์ทั้งหมดแล้ว จะกลับไปที่การโจมตีไปที่จิตใจของแม่ทัพเชมัล"
"เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า ....." ราชองครักษ์บาดา หันไปมองแม่ทัพนาซิมโดยตรง "ทั้งที่แม่ทัพนาซิมเองก็โดนทำร้ายเช่นกัน แต่กลับเป็นผู้ที่มีความเข้มแข็งมากกว่า"

แม่ทัพนาซิมหัวเราะกระแทกเสียงในลำคอ ยกยิ้มมุมปาก ท่าทีดูหมิ่นผู้อื่นอย่างเปิดเผยกลับมาอีกครั้ง "ท่านเองก็รู้จักการโจมตีที่จิตใจผู้อื่นเช่นกัน ฝากทูลพระราชาด้วยว่า ทันทีที่รู้ว่าท่านนำเหล่านักเวทย์มาที่นี่ ข้าก็รู้ตัวว่า จะต้องถูกนักการทูตปากร้ายเช่นท่านบังคับให้ต้องลุกขึ้นสู้" ทั้งจิตใจเข้มแข็งขึ้น และสมองที่ปลอดโปร่งมากกว่าที่ผ่านมา "แต่ขอให้รู้เช่นกัน ว่าสถานการณ์ของข้าในเวลานี้เป็นเรื่องจำเป็น ข้าจำเป็นต้องทำเป็นเข้มแข็ง ทำเป็นมั่นใจ ทั้งที่ข้ากังวลอยู่ตลอดเวลา ว่าหากวันหนึ่งข้าหันไปฟันดาบใส่คนของข้าเอง จะมีใครหยุดข้าได้ไหม"
"เวลานี้ท่านแสร้งเข้มแข็ง หรือเข้มแข็งอย่างแท้จริง" ราชองครักษ์บาดาบังคับให้อีกคนยอมรับ แต่แม่ทัพนาซิมไม่คล้อยตาม
"เมื่อในที่นี้มีทั้งหัวหน้าราชองครักษ์บาดาและหัวหน้าองครักษ์รอม ข้าไม่อาจโอ้อวดว่า ความเข้มแข็งนี้จู่ๆ ก็เกิดขึ้นได้ด้วยตัวข้าเอง แต่มาจากทั้ง 2 คนที่เสริมความมั่นใจนี้ให้ข้า และข้าขอขอบใจพวกท่านเป็นอย่างยิ่ง"
"แล้วพระราชาเล่า" องครักษ์ซันคนอารมณ์ดีกล่าวยิ้มๆ
"เอาไว้ก่อนเถิด พระราชาฟารัคเจ้าเล่ห์ไม่เป็นรองใคร ทั้งบุตรชายข้ายังอยู่กับพระองค์เช่นนี้" แม่ทัพนาซิมโบกมือ "จะอย่างไรข้าก็ต้องออกไปสนามรบ และมีชีวิตรอดกลับมาเพื่อไปรับลูก"
"แล้วอีกคนเล่า" องครักษ์ฮูดาถามขึ้นบ้าง
แม่ทัพนาซิมมีท่าทีหม่นหมองลงเมื่อกล่าวตอบ "นั่นขึ้นอยู่กับเขา ว่าจะตัดสินใจอย่างไร"

หัวหน้าราชองครักษ์บาดายังอยู่ที่เมืองหน้าด่านต่ออีก 1 วันเมื่อเห็นว่า แม่ทัพนาซิมมีท่าทีที่เข้มแข็งและปกครองเมืองสำคัญนี้ด้วยความเข้มงวดดังเดิมจึงเดินทางกลับเข้าเมืองหลวง
พระราชาลูบคางเมื่อฟังคำสรุปเรื่องราวจากหัวหน้าราชองครักษ์ที่เข้าถวายรายงานทันทีที่มาถึง จากนั้นจึงบอกให้ไปพักผ่อน
ในตอนที่รับฟังรายงาน พระราชาฟารัคตั้งพระทัยที่จะทำตามแผนการในวันถัดไป แต่เพราะเย็นวันนี้การทรงงานเสร็จสิ้นเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ จึงเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ออกมาที่นอกวังหลวง โดยมีราชองครักษ์มีอาตามเสด็จเพียงคนเดียว

ราชองครักษ์มีอาเป็นคนเข้มงวด และปราศจากอารมณ์ขันอย่างสิ้นเชิง จึงมักรับหน้าที่สำคัญด้านตุลาการและดูแลเรือนจำผู้ใช้เวทย์
ในวันที่อาเม่ยทำร้ายผู้อื่นต่อหน้าแม่ทัพเชมัลแล้วหลบหนีไป ราชองครักษ์มีอาก็อยู่ที่นั่น

ที่ๆ พระองค์เสด็จไป คือร้านขนมปังของครอบครัวพริม

...แผนนี้มันออกจะเดินทางอ้อมไปสักนิด แต่ก็ดีกว่ารอเชมัลไปเรื่อยๆ....

เมื่อคราวที่เหล่าแม่ทัพเชมัลและองครักษ์มาเยือน พ่อและแม่ของพริมตื่นเต้นดีใจมาก แต่ครานี้ทั้ง 2 คนยิ่งดีใจมากกว่าเดิม
พระราชายิ้มแย้มแจ่มใสรับการทำความเคารพ แล้วประทับนั่ง รับสั่งให้ทั้ง 3 คนนั่งร่วมโต๊ะ ด้วยร้านขนมปังเปิดตั้งแต่เช้า และปิดในยามบ่าย ในเวลาที่เสด็จมาถึงจึงเป็นเวลาที่ร้านปิดแล้ว
"พวกท่านสบายดี" พระราชาถามไถ่แล้วชวนสนทนาเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป
ข้อดีของการที่มีราชองครักษ์มีอาตามเสด็จก็คือ เวทย์ที่สนับสนุนให้ระเบียบความคิดมีความชัดเจนมากขึ้น แตกต่างจากหัวหน้าราชองครักษ์บาดา ที่จะเน้นไปที่การเจรจารอมชอมเพื่อให้ได้ตามที่วางแผนไว้
แต่ปัญหาก็คือ การบังคับให้เดินไปตามแผนการซับซ้อนที่วางไว้นั่นต่างหาก
สุดท้ายพระราชาฟารัคต้องออกปากให้ราชองครักษ์มีอา ออกไปรอที่หน้าบ้าน และพระองค์ขอหารือกับ 3 คนพ่อแม่ลูกตามลำพัง
แต่จะให้ไกลอย่างไร พระองค์ตระหนักดีว่า ราชองครักษ์ย่อมได้ยินบทสนทนา
หลังจากที่ชวนสนทนาในเรื่องอื่นอีกสักครู่ จึงทรงกลับมาที่เรื่องที่ตั้งพระทัยไว้
"เรื่องขององครักษ์เก้าที่ได้รับบาดเจ็บ" พระราชาหันไปหาพริม "แต่แรกคิดว่าจะให้แม่ทัพเชมัลมาคุยเอง เพราะเขาเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะทำงาน ส่วนเก้า ข้าก็ดูแลอย่างเต็มที่"
หลังทั้ง 3 คนกล่าวขอบพระทัย พระราชาก็รับสั่งต่อ
"แต่เรื่องที่เก้าถูกทำร้าย นั่นขึ้นอยู่กับพริม ว่าคิดเห็นอย่างไร เรื่องนี้ค่อย ๆ คิดไปข้าไม่ได้มาเพื่อเร่งรัด เพียงแต่มีเรื่องที่อยากให้พริมช่วยเหลือ"
ทั้ง 3 คนต่างยินดีที่จะได้ช่วยงานของพระราชาในเรื่องนี้
"แต่ว่าพริมจะต้องเดินทางไกล ไปหมู่บ้านทางเหนือ ข้าจะให้ราชองครักษ์ลาทีฟไปกับเจ้า ปกติแล้วเขาจะอยู่ในห้องยาเป็นหลัก อยากให้เจ้ากับลาทีฟไปดูว่า ที่นั่นมีคนอยู่หรือไม่ หากมีคนอยู่ ก็ช่วยพาคนหนึ่งกลับมาหาเชมัล"

พ่อกับแม่ของพริมยังไม่รู้ว่าคนที่พระราชาตรัสถึงคือใคร แต่เมื่อนึกคนที่หายไปและจะต้องพากลับมาหาแม่ทัพเชมัล พริมก็พอจะนึกได้ว่าคือใคร จึงกราบทูลพระราชา ว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
"ส่วนเรื่องของท่านพี่เก้า....ที่จริงแล้วข้าไม่ได้รังเกียจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแต่แรกเริ่มมา แม้จะรู้ดีว่าท่านพี่เก้าอ่อนโยนกับเข้ามาตลอด แต่ดวงตาของเขามักจะมองผ่านข้าไปเสมอ"
พระราชาตรัสความจริง "เก้าเป็นคนจิตใจดี เหมือนเจ้ากับพวกเจ้า 3 คนพ่อแม่ลูก ที่จริงข้าก็เกรงใจพวกเจ้ายิ่งนัก"
พ่อของพริมรีบโบกมือบอกว่าไม่เป็นไร เรื่องนี้มิได้เป็นเรื่องใหญ่เลยสักนิด
"พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่ง"
"แต่ก็ต้องขอรบกวนให้พริมเดินทางไปสักหลายวัน เพราะถ้าส่งคนของข้าไปก็คงได้ตีตรวนคนกลับมา แล้วก็จะหนีกลับไปอีก ข้าจำเป็นต้องให้เชมัลพร้อมที่จะนำทัพโดยเร็วที่สุด ให้พริมไปกับลาทีฟน่าจะได้ผลดีมากกว่า เพราะคนหนึ่งใจเย็นอีกคนก็เป็นหมอยา"
พริมครุ่นคิด "คนผู้นั้นบาดเจ็บหรือเจ้าคะ"
"คนผู้นั้นถูกเวทย์บางอย่าง แต่มันไม่มีผลกับผู้ไร้เวทย์ เพราะเท่าที่รู้มา พี่ชายของคนผู้นั้นเป็นคนไร้เวทย์ และก็ดูสุขสบายดี"
จากนั้นจึงตรัสถามเกี่ยวกับหน้าที่การงานที่ยังค้างอยู่ เมื่อพริมบอกว่า ไม่มีเรื่องใด ทั้งหมดจึงนัดหมายการเดินทางในเช้าวันถัดไป

“อีกเรื่องที่ข้าอยากมาบอกกับพวกเจ้าด้วยตนเองก็คือ องครักษ์เก้าแข็งแรงขึ้นมากแล้ว แต่เมื่อมีศึกเมืองเหนือมารออยู่ ข้าจะจัดงานสมรสให้พวกเจ้าในเร็ว ๆ นี้ ต้องรอแจ้งทางครอบครัวของฝ่ายองครักษ์เก้าด้วย จากนั้นอีก 1 เดือนข้าจึงจะแต่งตั้งเป็นราชองครักษ์อยู่ในวังหลวง”
เป็นรับสั่งที่ทำให้พ่อและแม่ของพริมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ค่ำวันนั้นเมื่อกลุ่มราชองครักษ์สรุปการทำงานประจำวัน หัวหน้าราชองครักษ์บาดาก็ส่ายหน้า
“พระองค์ไม่ย่อท้อต่อการจับคู่ให้บรรดาผู้ใกล้ชิดจริงๆ”
“ถือเสียว่าเป็นการผ่อนคลายความเครียดจากการทรงงาน” ราชองครักษ์ลาทีฟหมอยา กล่าวขึ้น แล้วหันไปถามราชองครักษ์มีอาคนจริงจัง “จะเกิดอันใดขึ้นหากพระองค์เป็นพระราชาของเมืองเหนือ”
ราชองครักษ์มีอายิ้มมุมปาก “มี 2 ทาง ทางหนึ่งคือเมืองวันและเมืองบาสก์จะสูญหายไป หรือไม่บรรดาผู้ใช้เวทย์ดำในเมืองวันจะหันไปหักล้างกันเอง”

...จบตอนที่ 27...

(https://www.img.in.th/images/368eb412afcce32dd0b204cb3fb81900.jpg)

ภาพนี้จาก www.magic4walls.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 29-09-2015 21:46:16
จอมวางแผนมาจัดการเองทั้งที พริมต้องพาเม่ยกลับมาให้พี่เชได้แน่ๆ รอก่อนนะพี่เช

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 29-09-2015 22:04:29
ลุงเชยอมแพ้ซะแล้ว
ต้องให้จอมเจ้าเล่ห์ลงมืออย่างสนุกสนาน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Love U All ที่ 29-09-2015 22:09:34
ตามอ่านย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน  ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่าเดาเรื่องนี้ไม่ถูกสักอย่าง 555
นี่เป็นเอกลักษณ์งานเขียนของไจฟ์ทีเลยจริง ๆ อ่านไป ก็ให้คนอ่านได้เดาเรื่องตามไปด้วย
เดาถูก เดาผิดไปบ้าง  แถมส่วนใหญ่เดาผิดทั้งนั้น   อิอิ

ตอนนี้ เป็นห่วงอาเม่ยที่สุด  ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง
ก็ได้แต่หวังว่าแผนการครั้งนี้มันจะออกมาราบรื่นและสำเร็จเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-09-2015 22:21:00
ซับซ้อนยิ่งนัก

พริมมาเป็นตัวแปรได้อย่างเหนือความคาดหมาย

พระราชาฟารัคเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 29-09-2015 22:30:56
ถ้ายังไม่เจอเม่ย คาดว่า ท่านเชของเราจะเป็นโรค  ตับแข็งไปสักก่อนนะ 555 กลับมามีความคิดสงสัยในตัวอาเม่ยอีกแล้ว อย่าถามเหตุผล เพราะไม่มี555 เอ๊ย!!! มีแต่คนน่าสงสัย รอตอนต่อไป เดายังไงก็ไม่ถูก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 29-09-2015 22:34:27
 :ling1: :ling1:

ซับซ้อนมาก...เเต่ใจคิดว่าถ้าราชาฟารัคครองทั้งสองเหมือน..ประชาชนจะมีคู่หมด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 29-09-2015 22:38:36
กลายเป็นว่าตอนนี้สงสัยต้าซันคนดีแล้วด้วยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-09-2015 23:14:17
อาเหม่ยยังไม่โผล่อีกเหรอ

และก็แม่ทัพเชมัลด้วย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-09-2015 01:19:39
 :hao5: อาเม่ยยังไม่มา ซับซ้อนไปหมดจนหลงประเด็นแล้วมั้งเรา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 30-09-2015 09:39:16
อ่อ ...นี่เราสงสัยตะแรกว่าที่ต้าซันพาเม่ยหนีได้เพราะสายเลือดเดียวกันเลยไม่มีอันตรายซะอีก กลายเป็นคนที่ไม่มีเวทย์ถึงอยู่กับอาเม่ยได้หรือนี่
แล้วที่แม่พาตาซันหนีตั้งแต่แรกนี่คือแม่ของเม่ยมีเวทย์เหรอ  :m28: แต่ไม่น่าจะใช่ น่าจะรู้แค่ลูกโดนเวทย์ดำเลยกลัว (หรือเปล่า)
ตอนนี้แม่นางพริมคือฮีโร่ของเรา  ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย :a9:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-09-2015 10:13:07
หมั่นไส้พระราชา!!คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงจับคู่ให้คนนั้นคนนี้!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 30-09-2015 10:27:37
หวังว่าแผนนี้จะสำเร็จ o12

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 30-09-2015 10:47:58
พระราชาน่ากลัวสุดละ o18

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-09-2015 11:27:07
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 30-09-2015 13:47:32
มา + ก่อน ทำงานก่อนแล้วเย็น มาอ่าน  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 30-09-2015 14:52:46
ขอให้พริมพาเม่ยกลับมาได้ด้วยเถิด
แล้วก็ขอให้เม่ยเข้มแข็งจะได้ไม่โดนทำร้ายด้วย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-09-2015 17:13:58
พระราชาฟารัคจะจับคู่พริมกับต้าซันใช่มั้ย :mew3:  เป็นพระราชาฟารัคนี่ไม่ง่ายนะคะ ต้องเก่ง ฉลาด รู้จักใช้คนและต้องเจ้าเล่ห์มากๆด้วย :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 30-09-2015 19:50:28
ได้อ่านซักที 2 สัปดาห์มานี้ยุ่งมากกกกกกกกก
กว่าจะเสร็จงาน ตี 2 ตี 3 ทุกวันเลย

-----------------------------------------

ขอให้พริมตามอาเม่ยกลับมาให้ได้นะ จะได้พาอาเม่ยมารักษาให้หาย

คิดถึงอาเม่ยแล้วอ่าาาาาาาาา พี่เชก็คิดถึง ถ้าอาเม่ยกลับมาอะไรๆก็น่าจะดีขึ้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 30-09-2015 22:41:38
อ่านไปมึนไป พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยค่า ว่าจะดำเนินไปทิศทางใด รอคุณไจฟ์กับน้องทีมาเฉลยทีละเปลาะต่อไป

อันที่จริงก็แปลกใจนิดๆอ่ะ ว่าพระราชามีองครักษ์และข้าทาสบริวารมากมาย ทำไมถึงต้องให้พริมเป็นคนเดินทางไปทำภารกิจ ทั้งที่เป็นหญิง มันเสี่ยงอันตรายกว่ากันอ่ะ



หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 01-10-2015 20:30:04
แปะๆก่อน  :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 02-10-2015 14:27:46
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

รอคอยอาเม่ยต่อไป ...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 03-10-2015 16:47:53
พระราชาจอมบงการและเอาแต่ใจ 555
เอาเถอะ เห็นแก่ความตั้งใจอันดี(ถึงจะมีผลประโยชน์มาเอี่ยวก็ตาม)
ขอให้ตามเสี่ยวเม่ยกลับมาทันเวลาก็แล้วกันนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 05-10-2015 12:45:19
จิ้มรอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่27หน้า27 (29กันยา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 05-10-2015 21:34:43
ย่องเข้ามาดัน
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 06-10-2015 14:32:56
ตอนที่ 28

เมื่อกล่าวถึงกลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์ ย่อมเป็นผู้ที่สมรสแล้ว ส่วนราชองครักษ์ลาทีฟ ยังนับเป็นผู้ที่มีความอาวุโสผู้หนึ่ง ด้วยมีอายุมากกว่าราชองครักษ์ทุกคน แต่ยินดีกับตำแหน่งหน้าที่ ที่อยู่ในหอตำราและแพทย์หลวงเท่านั้น นอกจากนี้แม่หญิงผู้เป็นภรรยาก็ยังเสียชีวิตไปหลายปีทิ้งไว้เพียงบุตรสาวชื่อลาทิฟา ว่ากันว่า หากไม่มีบุตรสาวรออยู่ที่บ้าน ราชองครักษ์ผู้นี้คงได้ยึดหอตำราหลวงเป็นบ้านพักถาวร
และเมื่อพระราชามีราชโองการให้ออกเดินทางไกล ราชองครักษ์ทุกคนถึงกับต้องทวนถามอีกครั้ง ว่าใช่ราชองครักษ์ลาทีฟจริงหรือ วุ่นวายกันจนหัวหน้าราชองครักษ์บาดาต้องให้ทุกคนหมุนเวียนกันอ่านพระราชโองการ จากนั้นก็พากันคาดเดาว่า ภารกิจครานี้มีการใดเฉพาะ ที่ทำให้ราชองครักษ์ลาทีฟต้องออกเดินทาง

แต่ในความเป็นจริง บทสนทนาระหว่างการเดินทางของราชองครักษ์ลาทีฟกับแม่หญิงพริม เริ่มต้นด้วยเรื่องของเด็กหญิงลาทิฟาที่ผู้เป็นพ่อเล่าอย่างภาคภูมิใจ
“เมื่อเช้าตอนที่พาไปฝากไว้กับตาและยายเขา เพราะพ่อต้องเดินทางไกลหลายวันก็มีท่าทีคล้ายจะร้องไห้อยู่เหมือนกัน แต่แล้วก็กลับเข้มแข็งบอกให้พ่อเดินทางด้วยดี จะว่าไปทางหนึ่งก็ดีใจที่เขาเข้มแข็งขึ้น แต่อีกทางหนึ่งก็กลับผิดหวังที่ลูกสาวไม่ร้องตาม คล้ายเขาไม่ต้องการพ่อแล้ว”
พริมหัวเราะอย่างสดใส “ข้าไม่เคยจากพ่อกับแม่ไปไหนเลย ต่อให้เคยไปพักผ่อนเที่ยวน้ำตกด้วยกัน เราก็ยังไปด้วยกันทั้งหมด”
“น้ำตกที่ใด”
“หุบเขาใกล้กับหมู่บ้านที่ปลูกถั่วงาเจ้าค่ะ เดินทางครึ่งวันเท่านั้น”
“อ้อ....” ราชองครักษ์ลาทีฟลากเสียง “ไว้กลับไปข้าจะพาลาทิฟาไปเที่ยวบ้าง”
“ดีเจ้าค่ะ ตอนที่พวกเราไป เราไปกับบ้านอีก 2 หลังที่อยู่ติดกัน เช่ารถม้าเดินทางไปเที่ยวเล่นจนบ่าย ค่ำลงกินอาหาร ถึงบ้าน ท่านพ่อก็เข้าครัวเตรียมอบขนมปังเลย”
“พ่อของเจ้าน่ะหรือ” พ่อของพริมมีอาวุโสมากกว่าราชองครักษ์ลาทีฟเพียงไม่กี่ปี “เขาไม่พักผ่อนเลยหรือ”
“พักสิเจ้าคะ พ่อหลับมาตลอดทาง กลับมาถึงก็ทำงาน เช้าขึ้นมา ข้ากับแม่ก็เป็นคนขายของ”
“ช่างเป็นครอบครัวที่เกื้อกูลกันเป็นอย่างดี” ราชองครักษ์กล่าวจากใจ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่ที่จริงแล้ว พ่อกับแม่เป็นห่วงพวกลูกค้าเจ้าประจำที่มาซื้อขนมปังทุกเช้าด้วย เราหยุดไปเที่ยวแล้ววันหนึ่ง ทำให้เขาต้องซื้อล่วงหน้าเก็บไว้ หากหยุด 2 วันพวกเขาอาจเปลี่ยนไปซื้อขนมปังที่ร้านอื่นแทน” หญิงสาวถามบ้าง “ท่านเดินทางบ่อยไหมเจ้าคะ”
“ไม่หรอก” ราชองครักษ์ลาทีฟกล่าว “หน้าที่หลักของข้าอยู่ในหอยา หากออกมาก็คือการขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร”
“ท่านยังต้องออกไปเก็บสมุนไพรเองหรือเจ้าคะ”
“หากไม่หาเรื่องออกไปเก็บสมุนไพร ข้าคงไม่ได้ออกจากเขตเมืองหลวงแน่นอน”

พริมหัวเราะสดใส พูดคุยสนุกสนานตลอดการเดินทาง โดยยอมรับกับตนเองว่า การได้พบกับองครักษ์เก้าทำให้ได้เข้าเฝ้าฯ พระราชา ได้พูดคุยกับแม่ทัพ ราชองครักษ์ และองครักษ์หลายคน แต่ละคนล้วนมีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป แม้จะให้ความรู้สึกหวั่นเกรงเพราะตนเองเป็นคนธรรมดา แต่ก็ได้รับรู้เรื่องราวใหม่ๆ มากมายเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว ยังได้รู้ว่า บรรดาราชองครักษ์ และองครักษ์เหล่านี้ ต่างก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล หาใช่ผู้ที่คร่ำเคร่งต่อหน้าที่การงานตลอดเวลาจนไม่รู้จักผ่อนคลายแต่อย่างใด 

เมื่อถึงเวลากลางคืนที่ต้องพักค้างแรม ราชองครักษ์ลาทีฟก็ไปขอเช่าห้องพักจากบ้านของชาวนาเพื่อให้พริมได้อาบน้ำ และพักผ่อนอย่างสะดวกสบาย แม้จะทำให้ใช้เวลาในการเดินทางนานขึ้นกว่าเดิมถึง 2 วันก็ตาม

เส้นทางที่เดินทางผ่าน ในช่วงแรกคือเส้นทางหลักที่มุ่งตรงไปยังเมืองหน้าด่านของแม่ทัพนาซิม แต่เมื่อไปถึงช่วงท้าย กลับเลี้ยวซ้ายไปทางตะวันตก มุ่งหน้าสู่หุบเขา
เมื่อเข้าสู่เขตหุบเขาราชองครักษ์ลาทีฟจึงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่ององครักษ์เก้ากับผู้ที่พระราชามีราชโองการให้ไปพบ
“เจ้าอาจลำบากใจเมื่อพบหน้าเขา เพราะรู้ว่าเขาทำร้ายองครักษ์เก้าคนรักของเจ้า เพียงแต่อยากให้เจ้าเข้าใจว่า คนผู้นั้นทำเรื่องราวทุกอย่างไปโดยที่ไม่รู้ตัว”
พริมพยักหน้ารับและกล่าวสิ่งที่ได้รับรู้มาก่อนหน้านี้
“ท่านพี่เก้าเคยพาคนผู้นั้นมาที่บ้าน พวกเราสนทนากันอย่างถูกคอ พ่อกับแม่ก็ชอบในอัธยาศัย ต่อมาจึงรู้ว่าเขาเป็นผู้ที่ท่านแม่ทัพพึงพอใจ เรื่องราวของเขาจากนั้นล้วนเป็นเรื่องที่ผู้คนพูดกันไป จนกระทั่งทราบว่าท่านพี่เก้าถูกเขาทำร้ายที่เรือนจำเวทย์ แต่ท่านพี่เก้าไม่เคยเล่าเรื่องอันใดเลยเจ้าค่ะ”
“เจ้าคิดกล่าวโทษเขาไหม”
พริมส่ายหน้าทันที “ข้ารับรู้เรื่องราวผ่านผู้อื่น ส่วนท่านพี่เก้าเองก็ไม่ได้เล่าเรื่อง ข้าไม่อาจกล่าวโทษเขาได้”
“พระราชาส่งเจ้ามาก็ด้วยเหตุนี้” ราชองครักษ์ลาทีฟกล่าวสรุป “หากเขาเห็นว่า ทั้งเจ้าและองครักษ์เก้าไม่ได้ถือโทษอันใด เขาน่าจะยอมกลับไปกับเรา”
“หากข้าไม่สามารถพาเขากลับไปได้ละเจ้าคะ” พริมถามอย่างเป็นกังวล
“สำคัญคือเจ้ามา และแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ถือโทษ” เมื่อพริมยังไม่ค่อยเข้าใจ อีกฝ่ายจึงอธิบายต่อ “คนผู้นั้นทำร้ายองครักษ์เก้า ไม่ว่าในตอนที่ลงมือจะรู้ตัวหรือไม่ แต่เมื่อหนีมาก็แสดงให้เห็นว่ารู้ตัวแล้ว และเพราะองครักษ์เก้าดีกับเขามาโดยตลอด สำนึกรู้ผิดรู้ชอบจะรบกวนจิตใจ การแสดงให้เห็นใจจริง ว่าเจ้าไม่ได้กล่าวโทษเขา อาจช่วยให้เขาตระหนักถึงหน้าที่สำคัญต่อเมืองวันได้”
พริมพูดเบาๆ “เป็นเช่นนี้เอง ข้ากังวลมาตลอดว่าข้าไม่มีเวทย์ใด เป็นเพียงหญิงชาวบ้าน”
“แต่เจ้ามาในฐานะตัวแทนขององครักษ์เก้า”
หญิงสาวคลี่ยิ้ม “หากข้ากล่าวเท็จ เขาจะรู้ไหมเจ้าคะ”
“เท่าที่รู้มาเขามีเวทย์ทั้ง 4 แต่อ่านจิตไม่ได้นะ” ราชองครักษ์ลาทีฟหันมายิ้มสนุก “หรือเราจะลองดู”
“ไม่ดีกระมังคะ” พริมกังวล “ท่านมีเวทย์เหมือนกัน คงเอาตัวรอดได้ แต่ข้าไม่มีเวทย์....”

บทสนทนาขาดหายเมื่อเข้าสู่เขตหมู่บ้านในหุบเขา
แม้พริมจะไม่ค่อยเดินทางออกมานอกเมือง แต่ก็เชื่อว่าที่นี่ต้องเป็นหมู่บ้านที่เคยสวยงามน่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง
จากทุ่งนา สวนผัก เรือนหลังใหญ่ที่เคยเป็นโรงตีเหล็กอยู่ทางด้านหน้า ถัดเข้าไปจึงเป็นกลุ่มบ้าน
แต่บัดนี้ทั้งหมดเหลือเพียงเศษของความเสียหาย ต้นไม้ใหญ่เพิ่งผลิใบ ทุ่งนาและสวนผักที่ถูกละเลย ซากโรงเหล็กเหลือเพียงเศษกองไม้ ซากบ้านหลายหลังที่ถูกเผาทำลาย  เว้นเพียงบ้าน 2 หลังที่โดดเด่นอยู่กลางหมู่บ้าน กับคนผู้หนึ่งที่แปลงผักเล็กๆ ทางด้านหลังกำลังยืนมองมา
เมื่อเข้ามาใกล้ ราชองครักษ์ลาทีฟลงจากที่นั่งคนขับ แล้วไปผูกม้าไว้กับตอไม้ที่ด้านหน้าซากอาคารหลังใหญ่ที่น่าจะเคยเป็นโรงตีเหล็ก
ขณะที่พริมลงจากรถเอง แล้วมายืนอยู่ทางด้านหลังของผู้อาวุโสกว่า
ระหว่างนั้น อีกฝ่ายก็กลับวิ่งเข้ามาหาพร้อมถือจอบมาด้วย
ราชองครักษ์ลาทีฟ ไม่คิดที่จะเสแสร้งว่าเดินทางผ่านมา แต่กลับทักทายอย่างตรงไปตรงมา
“เจ้าคงเป็นต้าซัน”
อีกคนก็พยักหน้ายอมรับเช่นกัน แม้ราชองครักษ์ยามนี้จะไม่ได้สวมเครื่องแบบ แต่คนที่คุ้นเคยกับการทำงานในวังก็ยังนึกรู้
“ท่านมาจากวังหลวงหรือ”
“ใช่”
ต้าซันถือจอบแนวขวางท่าทางพร้อมสู้กับอีกฝ่าย “ถ้าจะเอาเม่ยไป ท่านต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
ราชองครักษ์ลาทีฟยิ้มขำ “ข้าคือราชองครักษ์ลาทีฟ ส่วนนี่คือแม่หญิงพริม”
“พริม...คนรักขององครักษ์เก้าน่ะหรือ”
ต้าซันมองหญิงสาวทางด้านหลังที่พยักหน้ายอมรับ แล้วหันไปถามราชองครักษ์ด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายลง
“พวกท่านมาทำไม”
“พวกเราแค่ต้องการให้พวกเจ้าเลิกหลบหนี และกลับไปร่วมทัพ”
ต้าซันเกาหน้าผากตนเอง จากที่ทำงานในวังหลวง ทำให้เคยได้ยินเรื่องของราชองครักษ์ผู้นี้มามิใช่น้อย  “เรื่องที่จะไม่ให้หลบหนีน่ะทำได้ แต่เรื่องไปร่วมทัพ เม่ยคงไปไม่ได้แล้ว”
ราชองครักษ์ลาทีฟถาม “เม่ยเป็นอย่างไร”
“เม่ยไม่สบาย” ต้าซันบอกแล้วถามอีกครั้ง “ท่านใช้เวทย์ใช่ไหม”
“ข้าเป็นราชองครักษ์ย่อมใช้เวทย์ และเป็นหมอยาช่วยพระราชารักษาองครักษ์เก้า ส่วนพริมไม่มีเวทย์”
คนซื่อยังไม่ค่อยแน่ใจ “ถ้าท่านรักษาองครักษ์เก้า ก็คง...ไม่เป็นอันใด แต่เจ้า” นั่นคือพริม “เม่ยทำร้ายท่านเก้านะ”
“ที่ข้ารู้ก็คือท่านพี่เก้าไม่ได้ผูกใจเรื่องนั้น”
ต้าซันดึงผมตนเอง “ข้าได้ยินผู้คนพูดถึงองครักษ์เก้าในแง่นั้นมาตลอด เจ้าเองก็เหมือนกัน พวกคนดีผิดที่ผิดทาง แต่ว่าเม่ยเขา....ถ้าท่านเป็นหมอยาก็..ลองดูก็คงได้”
“หากเจ้าไม่แน่ใจ ลองบอกอาการของเม่ยให้ข้าฟังก่อนได้หรือไม่”
ราชองครักษ์ลาทีฟกล่าวอย่างใจเย็น ด้วยเข้าใจความกังวลของต้าซันนักดนตรีแห่งวังหลวงผู้นี้เป็นอย่างดี

..ตนเองก็ไม่มีเวทย์ แล้วกลับพาน้องชายที่ถูกเวทย์ดำหลบหนีมาตามลำพัง ช่วงเวลาที่ผ่านมาคงคิดกังวลวุ่นวายมากมาย

“หลังจากที่เม่ยทำร้ายท่านเก้า และคนอื่นที่เรือนจำเวทย์แล้ว ข้าก็พาเขาหนีมาที่นี่ เพราะไม่รู้ว่าจะหลบหนีไปที่ใด แต่ตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงบัดนี้....เม่ยคล้ายลืมทุกอย่าง ทั้งเวทย์ของเขาด้วย....แต่ก็...ไม่รู้สิ....ถ้าท่านบอกว่าเป็นหมอยา...ก็...ลองดูแล้วกัน....” คนซื่อกล่าวคำที่แทบไม่เป็นประโยค แต่เมื่อจะเดินนำเข้าไปที่หมู่บ้าน ก็ยังไม่วายหันมากล่าวย้ำ “ไม่มาจับกุมเม่ยแน่นะ เพราะข้าจะไปช่วยเม่ย แล้วพวกท่านจะไม่พบเจอเขาอีกเลย ช่างเมืองวัน ช่างพระราชา ข้าไม่สนใจผู้ใดทั้งนั้น นอกจากน้องของข้า”
พริมอดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะคำกล่าวซื่อๆ ของต้าซัน จนทำให้อีกฝ่ายหันมามอง
“หัวเราะอันใด”
พริมพูดเสียงสดใส “ข้าคิดว่าตนเองเป็นกังวลอยู่คนเดียว ที่แท้ท่านก็เป็นกังวลมากเช่นกัน”
“ไม่ให้กังวลได้อย่างไร นั่นน้องชายข้านะ”
“หากท่านราชองครักษ์คิดจะพาน้องชายของท่านกลับไป คิดว่าจอบนั่นจะขัดขวางได้หรือ”
ต้าซันหันไปกล่าวกับราชองครักษ์ “ท่านกล่าวแล้วนะ ว่าเพียงให้พวกเราเลิกหลบหนี และเม่ยกลับไปร่วมทัพ ไม่ใช่การจับกุมกลับไป”
“เป็นเช่นนั้น” ผู้อาวุโสให้คำมั่น

อาเม่ยที่ราชองครักษ์ลาทีฟและพริมได้พบ ในบ้านไม้หลังเล็ก ไม่ได้แตกต่างจากที่เคยพบในวังหลวง
ผมสีเงิน ดวงตาสีแปลก ผิวขาวจัด เพียงสวมเสื้อผ้าสีหม่นแบบที่ชาวบ้านในแถบนี้สวมใส่
เมื่อต้าซันพาทั้ง 2 คนเข้ามา อาเม่ยเพียงมองมาด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่มีทีท่าว่าจะจำทั้ง 2 คนได้
“ข้ารู้มาว่าเจ้าไม่ค่อยสบายก็เลยจะมารักษา”
ระหว่างกล่าวคำ ราชองครักษ์ลอบใช้เวทย์ทดสอบว่า อาเม่ยยังมีเวทย์ใด และพบว่าเวทย์ทั้ง 4 ของอาเม่ยยังอยู่ครบถ้วนเพียงแต่เบาบางลงมาก และถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด!
“ข้าสบายดี” อาเม่ยตอบแล้วหันไปต้มน้ำเพื่อชงชาต้อนรับแขก จากนั้นไม่ว่าจะตั้งคำถามอย่างไร อาเม่ยก็ไม่ได้กล่าวคำอีก เพียงชงชาให้ แล้วกลับมาแกะสลักไม้
ต้าซันเองก็อับจนปัญญา จึงถามไถ่เรื่องที่พัก
“บ้านของพวกเราจริงๆ อยู่ค่อนไปทางด้านหลัง” ต้าซันชี้ไปทางหลังหมู่บ้าน “แต่มันถูกเผาจนเหลือแต่ถ่าน เหลืออยู่ 2 หลังที่ยังพอเหลือเสา เหลือหลังคาให้หลบแดดหลบฝน พวกเราก็เลยพักที่หลังเล็ก ระหว่างที่ซ่อมหลังใหญ่”
บ้านทั้ง 2 หลังอยู่ติดกัน มองผ่านหน้าต่างก็ยังมองเห็นบ้านอีกหลังที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ย่ำแย่จนต้าซันเกรงใจพริมที่เป็นหญิง
“พวกท่านจะอยู่สักกี่วัน”
ราชองครักษ์ลาทีฟคิดคำนวณ “ขอเวลาสัก 3 วัน หากเม่ยยังไม่ยอมให้รักษา พวกเราก็จะกลับไป”
“เช่นนั้น พวกท่านพักที่เรือนใหญ่เถิด ข้ากับเม่ยจะมาพักที่หลังเล็กเอง”
“ได้อย่างไร” พริมโต้แย้ง แต่ต้าซันยกมือ
“ที่นี่เป็นหุบเขา กลางคืนยังมีสัตว์ป่าลงมา ควรพักอยู่ในที่ปลอดภัย”
จากนั้นต้าซันก็หันไปบอกน้องชายหุงหาอาหารมื้อค่ำต้อนรับแขก ส่วนตนเองออกไปช่วยราชองครักษ์ลาทีฟขนย้ายข้าวของเข้ามาที่บ้าน ทั้งช่วยย้ายม้าเข้ามาอยู่ใกล้ที่พักกว่าเดิม

คืนนั้นต้าซันกับอาเม่ยช่วยกันก่อกองไฟเล็กๆ 2 กองไว้ใกล้ที่พัก
“เม่ย เจ้ารู้จักพวกเขาหรือไม่”
แต่อาเม่ยกลับหันมามองหน้าพี่ชาย “พี่ใหญ่รู้จักพวกเขามิใช่หรือ”
“ตอนที่ทำงานในวังเคยเห็นท่านลาทีฟจากที่ไกลๆ ส่วนพริมเพิ่งจะเคยพบกันก็วันนี้แหละ” พี่ชายถามอีกครั้ง “เจ้าไม่รู้จักพวกเขาหรือ”
อาเม่ยส่ายหน้า “เขาบอกว่าจะมารักษาข้า คิดว่าท่านไปตามพวกเขามาเสียอีก”
“ก็.....” ต้าซันคนซื่อเกาท้ายทอยตนเอง “ข้าไม่ได้ไปตาม แต่มีผู้ใหญ่ในวังหลวงส่งมา”
“ท่านก็กว้างขวางเหมือนกันนะ” อาเม่ยตอบ
“ข้าไม่ได้กว้างขวางอันใด” ต้าซันถอนหายใจแล้วพาน้องชายกลับมาที่พัก

เช้าวันถัดมา ต้าซันตื่นมารดน้ำผัก เห็นราชองครักษ์ลาทีฟยืนอยู่ที่สุสานด้านหลังของหมู่บ้าน จึงเดินไปพูดคุย
“คนในหมู่บ้านข้างเคียงช่วยกันฝังศพคนในหมู่บ้านน่ะ”
“เกิดเรื่องอันใดขึ้นที่นี่”
ต้าซันเล่าตามที่ได้ยินมา “เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบ้านช่างเหล็ก หมู่บ้านของเราตีดาบแต่วันหนึ่งก็กลับถูกโจรป่าบุกเข้ามาเผา ไม่มีผู้ใดรอด เหตุเกิดในวันเดียวกับที่ผู้นำของบ้านช่างเหล็กที่อยู่หมู่บ้านถัดไปถูกคนร้ายฆ่าตาย วันถัดมาคนในหมู่บ้านใกล้เคียงก็เข้ามาช่วยฝังศพของคนในหมู่บ้าน”
“แล้ว....ที่เม่ยฝึกเวทย์”
ต้าซันหันมามองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ “เป็นวิหารที่อยู่บนเขา มีผู้เฒ่าทั้งสี่พักอยู่ เม่ยฝึกกับพวกเขา แต่ตอนที่พวกเรากลับมาอีกครั้งพบผู้เฒ่าดินอยู่เพียงคนเดียว ท่านเป็นคนที่หาตัวเจอยากยิ่ง ยิ่งอยากเจอยิ่งไม่ได้เจอ ไม่อยากเจอกลับมายืนอยู่หน้าอะไรทำนองนั้น ตอนที่มาถึงข้าพาเม่ยไปหา แต่ผู้เฒ่าบอกว่ารักษาเม่ยไม่ได้”
“หากมีเวลาข้าอยากไปพูดคุยกับเขา”
“ข้าพาท่านไปได้ หากมีวิธีใดที่จะช่วยเม่ย ข้ายินดีทำทุกอย่าง” ต้าซันอาสา
แต่เมื่อทั้ง 2 คนจะเดินกลับมาที่พัก ราชองครักษ์ลาทีฟ พบความผิดปกติของหลุมฝังศพใหม่
ผู้อาวุโสกว่าไม่ได้ตั้งคำถาม หากแต่หันไปมองต้าซัน
คนหนุ่มเกาท้ายทอยตนเองแล้วจึงเปิดปากเล่าเรื่อง “เช้าวันถัดมาจากวันที่เดินทางมาถึงข้าพบศพขอทานคนหนึ่งอยู่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่ จึงนำมาฝัง แต่ถัดมาอีกสัปดาห์หนึ่งก็พบศพคนชรา เป็นคนที่เคยอยู่บ้านติดกันในเมืองหลวง ถามเม่ยว่าได้ยินอะไรผิดปกติหรือไม่ เม่ยบอกว่าไม่ได้ยิน”
“เจ้าคิดว่าคนลงมือเป็นใคร”
“ข้าไม่รู้” ต้าซันตอบตามตรง “พวกเราไม่มีอาวุธ มีแต่มีดทำครัว กับจอบเสียมอย่างที่ท่านเห็น แต่อาวุธที่คนร้ายใช้ ทำให้เกิดแผลทะลุหลัง” คนซื่อใช้กิ่งไม้ขีดรูปให้อีกฝ่ายดู “แบบนั้นมันต้องใช้อาวุธยาวใช่หรือไม่”
ราชองครักษ์พยักหน้าว่าใช่ แล้วเหลียวมองรอบตัว “หลังจากนั้นพบอีกหรือไม่”
“ไม่มีแล้ว แต่ก็ยังต้องคอยระวังตลอด ยิ่งพบว่า เป็นคนที่เคยเห็นหน้ากันอยู่ทุกวันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ข้าเป็นกังวล คิดอยู่ว่าถ้าจวนตัวขึ้นมา คงต้องพาน้องหนีไปอีก แต่ในชีวิตข้าออกจากที่นี่ก็คือเข้าเมืองหลวง ทั้งชีวิตรู้อยู่แค่นี้ แต่ถ้า.....”
ราชองครักษ์ตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ “อย่าเพิ่งคิดร้อนใจ ข้าจะคุยกับเม่ยสักหน่อย แล้วจะไปถามพวกพ่อเฒ่า หากไม่อยากพาเม่ยกลับเข้าเมืองหลวง ข้าก็ยังพอจะหาที่หลบซ่อนให้พวกเจ้า 2 คนพี่น้องได้”

ผู้อาวุโสกว่าเชื่อคำกล่าวของต้าซัน เพราะจากการตรวจสอบไม่พบว่าอาเม่ยมีกลิ่นคาวเลือด ย่อมหมายถึงการที่ไม่ได้ฆ่าใคร
แต่กลับนึกสงสัยคนผู้หนึ่งที่กลับกลายเป็นคนเหลวไหลในช่วงเวลาที่ผ่านมา 
เมื่อกลับมาถามอาเม่ย บางสิ่งในดวงตาบอกว่าอาเม่ยรู้ว่าใครเป็นผู้ลงมือสังหาร แต่กลับไม่กล่าวคำใดอีก ราชองครักษ์จึงเปลี่ยนไปสนทนากับผู้เฒ่าบนยอดเขาแทน

ยอดเขาสูงตระหง่านมีสิ่งปลูกสร้างสลักลงไปในหุบเขาซึ่งเป็นวิหารเก่า ส่วนที่พักของผู้เฒ่า 4 คนผู้เชี่ยวชาญ ดิน น้ำ ลม และไฟ กลับเป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ที่ปลูกอยู่แยกห่างจากกัน และบัดนี้มีผู้เฒ่าที่เชี่ยวชาญเวทย์ดินเหลืออยู่เพียงลำพัง ที่บ้านหลังเล็กซึ่งอยู่ห่างออกมา
เมื่อเป็นเวทย์ดินเกี่ยวข้องโดยตรงกับจิตใจ ทำให้เมื่อราชองครักษ์มาถึง ก็แทบไม่ต้องกล่าวคำใด
“ข้าบอกคนที่เป็นพี่ชายไปแล้ว ว่ารักษาคนที่เป็นน้องชายไม่ได้ ต่อให้ส่งหมอยาอย่างเจ้ามาพูดคุย คำตอบของข้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม”
“ข้ามีคำถามมากมาย”
“เจ้ารู้คำตอบอยู่แล้ว” ผู้เฒ่าบอกปัด ขณะที่หันไปเกลี่ยสมุนไพรในถาด ที่ทำให้ความสนใจของราชองครักษ์เปลี่ยนไปครู่หนึ่ง
“นั่นคือน้ำตาฟ้าสมุนไพรล้างพิษ”
ดอกไม้น้ำสีฟ้า ที่ตากแดดแล้วจะกลายเป็นสีขาว สามารถล้างพิษทั่วไปได้
“ใช่” ผู้เฒ่าอธิบายต่อ “ต่อให้ใช้น้ำตาฟ้าจนหมดแผ่นดินก็ช่วยไม่ได้หรอก เพราะเจ้าคนนั้นถูกเวทย์ดำ”
ราชองครักษ์พยักหน้า ลูบคาง “ข้านึกสงสัยว่า เขาถูกเวทย์ดำจากที่ไหน ในเมื่อเมืองวันห้ามใช้เวทย์ดำ”
“ห้ามแล้วทุกคนต้องทำตามหรือไร เมืองวันมีพลเมืองเท่าไหร่ เจ้าใสซื่อขนาดนั้นเชียวหรือ”
แม้ถ้อยคำที่ผ่านมาจะมีแต่คำจิกกัด แต่ผู้เฒ่าดินก็หาได้ไล่ราชองครักษ์กลับไป เช่นนี้แล้วอาจเป็นไปได้ว่า เมื่อต้าซันพาอาเม่ยมา แล้วพบกับถ้อยคำเช่นนี้ จึงคิดไปว่าพ่อเฒ่าปฏิเสธการรักษา
แต่ที่จริงแล้วพ่อเฒ่า เพียงต้องการกล่าวว่า อาเม่ยถูกเวทย์ดำจากคนในเมืองวันนี้เอง และพ่อเฒ่าไม่สามารถรักษาได้
“เช่นนี้แล้ว พ่อเฒ่ามีวิธีการใดบ้าง เพราะเรื่องราวยุ่งยากพัวพัน อย่างน้อยข้าเพียงต้องการให้เขาสมัครใจเดินทางกลับไปที่ค่ายทหาร เพื่อให้คนผู้หนึ่งกลับไปทำงานของตนเอง”
“สำนึกของคน ใช้ยาไม่ได้ พูดบังคับก็ยิ่งไม่ทำ” พ่อเฒ่ามองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม “เจ้านี่โง่กว่าที่คิดนะ ไหนบอกว่าเป็นราชองครักษ์ คิดว่าจะฉลาดกว่านี้เสียอีก”
ราชองครักษ์งงไปชั่วครู่แล้วหัวเราะเสียงก้อง

เมื่อกลับลงมาจากเขา ราชองครักษ์รอจนกระทั่งต้าซันไม่อยู่ใกล้แล้ว จึงถามกับอาเม่ยว่า คนที่สังหาร 2 ศพนั้นยังมาที่นี่อีกหรือไม่ อาเม่ยหยุดมือที่แกะสลักไม้ แล้วส่ายหน้า จากนั้นไม่ว่าจะพูดจะถามอย่างไรอาเม่ยก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก
แม้ 3 วันนี้จะพาอาเม่ยและต้าซันกลับเมืองหลวงไม่ได้แต่ราชองครักษ์ก็พึงพอใจการทำงานของตนในระดับหนึ่ง
“นี่เป็นการเดินทางที่ดีจริงๆ” ราชองครักษ์กล่าวเบาๆ พลางพยักหน้าให้อาเม่ย มองพริมที่กำลังสอนต้าซันซ่อมแซมเสื้อผ้าให้
อาเม่ยหันมามองราชองครักษ์แล้วคลี่ยิ้มเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน

*-*จบตอนที่ 28*-*
(http://www.uppic.org/image-FAD7_56137A48.jpg) (http://www.uppic.org/share-FAD7_56137A48.html)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 06-10-2015 14:53:14
งงเง็กปอเต๊กตึ๊งกันเลยทีเดียว....
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 06-10-2015 14:56:47
ดูเหมือนราชองครักษ์ลาทีฟกับอาเม่ย จะรู้คำตอบแล้วว่าใครคือคนลงมือฆ่าชาวบ้านสองคนนั้น แต่คนอ่านอย่างเรายังงงต่อไป แหะๆ..เหมือนกับจะมีมือที่สาม หลังจากนี้จะมีมือที่สี่ มือที่ห้า โผล่มาอีกหรือเปล่า  :m28:

อ่านช่วงแรก รู้สึกเหมือนราชองครักษ์ลาทีฟถูกส่งตัวมาทำงานนี้ เพื่อผลสองประการคือ รักษาอาเม่ย และถูกจับคู่กับพริม... :m21:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 06-10-2015 15:36:25
 :katai2-1:  :katai2-1: พึ่งส่งโหวตไปปุ๊บ มาเจอตอนใหม่พอดี เข้าไปอ่านก่อนทันใด  :pig4:


ในที่สุดอาเม่ยเราก็พ้นมลทินแล้วซินะ ท่านอาจารย์ก็คอยหาทางช่วยอาเม่ยขนาดนั้นต้องมีวันหายแน่ๆ  :hao5:

แต่...อ่านแล้วกังวล มันเหมือนจะมีอะไรแอบแฝงจะใช่ท่านเชมัลมั้ยหนอในประโยคที่ท่านอาจารย์กับท่านราชองครักษ์ลาทีฟคุยกัน  :katai1:  แล้วก็สงสัยจังว่าความทรงจำที่หายไปของเม่ยทำไมหายไปแค่บางส่วน(แต่ตอนนี้จำพี่ชายได้)
มันมีแต่เรื่องให้คิดสงสัยและมาให้คอยติดตามเรื่อยๆ ใหม่ๆ ตลอดจริงๆ ท่านอาจารย์ตอนนี้ท่านคือความหวังของเรา 5555 (ความหวังเราเปลี่ยนได้ทุกตอนซิหน่า ให้ตาย)

ปอ.ลอ เดี๋ยวนี้น้ำชาไม่ค่อยคุยก่อนจบเลยแอบเหงาตอนท้ายนะนี่ (ไม่ต้องสปอยก็ได้นะ รอจ้า)

 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 06-10-2015 16:00:39
ผู้เฒ่าดินเหมือนจะรู้อะไรหลายๆๆอย่าง  :m21:


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 06-10-2015 16:46:54
อึมครึมกันต่อปายยย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 06-10-2015 16:50:15
อาเม่ย คือ คนที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องแล้วนะ. 555. ผู้เฒ่าดินจะรู้อะไรลึกๆมากกว่านี้ไหม และเหมือนอาเม่ย. ยังมีอะไรที่ปิดปังอยู่ (เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-10-2015 17:39:23
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-10-2015 18:25:16
ยังไงกันล่ะ!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 06-10-2015 18:50:43
มีเซอร์ไพร์สให้งงให้ลุ้นตลอด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-10-2015 19:41:52
อาเม่ย คือ คนที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องแล้วนะ. 555. ผู้เฒ่าดินจะรู้อะไรลึกๆมากกว่านี้ไหม และเหมือนอาเม่ย. ยังมีอะไรที่ปิดปังอยู่ (เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ)

เห็นด้วยกับเธอนะ

เราก็คิดแบบนี้

ตอนนี้พริมกับต้าซัน เข้ากันดีนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 06-10-2015 21:40:31
หนึ่งในสี่ผู้เฒ่ารึปล่าวนะที่ทำเวทย์ดำใส่เม่ย มีเรื่องให้อยากรู้อีกมาก เม่ยปิดบังอะไรอยู่กันแน่ อยากรู้ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 06-10-2015 23:13:46
เอ๋? หรือต้องฆ่าคนที่ใช้เวทย์ดำจริงๆ เม่ยถึงจะหาย
นึกไม่ออกเลยว่าเป็นใคร

ปล. พริมกับต้าซัน คู่กันหน่อยมั้ย ฮิๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-10-2015 01:29:02
ซับซ้อนดั่งดอกเบญจมาศ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-10-2015 01:56:34
สรุปใครใช้เวทย์ดำกับอาเม่ยล่ะเนี่ย ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริงๆ :ling2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 07-10-2015 02:07:48
สำนึกของคน ใช้ยาไม่ได้ พูดบังคับก็ยิ่งไม่ทำ

ชอบคำพูดนี้ของพ่อเฒ่าพลังดินจริงๆ คมมาก โดนใจอย่างยิ่ง

ตอนนี้เกิดสงสัยว่า หากผู้ที่ใช้เวทย์ดำกับอาเม่ยคือคนในเมืองวันเอง ดังนี้ก็ต้องแสดงว่ามีหนอนบ่อนไส้ หรือไม่งั้นอาจเป็นสายลับที่ถูกใช้งานให้เข้ามาแทรกแซง อาจเป็นคนใกล้ชิด?

อยากจะบอกว่าไม่เคยเดาได้ถูกต้องเลย ดังนั้นจะตามอ่านไปเรื่อยๆ และรอเฉลย แต่ชอบตอนนี้นะคะ เหมือนได้อ่านเรื่องจากมุมมองหลากหลาย ไม่ใช่แค่โฟกัสอยู่ตรงตัวเอกอย่างเดียว มันได้มองเรื่องในแบบ 360 องศา ทำให้เห็นภาพกว่าดีค่ะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 07-10-2015 09:37:22
ทุกคนล้วนมีเงื่อนงำดำมืดจนไม่แน่ใจใครดีใครไม่ดี
และทุกอย่างยังเป็นเครื่องหมายคำถาม ที่คนอ่านอยากรู้คำตอบมาก ๆ ฮืออออ... :hao5:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 08-10-2015 13:41:13
  :o11:  อยู่ ๆ ก็ นึกถึงตอนที่อาเม่ยเข้าเมืองมาตอนแรก ๆ ที่ขู่ใครซักคนว่าถ้าโผล่มาให้เห็นอีกจะฆ่าทิ้งอ่ะ ตกลงอาเม่ยมีอะไรปิดบังอีกใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 08-10-2015 16:06:16
ไม่สามารถเดาอะไรได้ ไม่เดาล่วงหน้าละกันเนอะ
เอาเป็นว่าเราจะรออย่างสงบก็แล้วกันนะคะ 5555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 09-10-2015 11:46:04
พี่เชแอบมาดูอาเม่ยใช่ไหมเนี่ยยยยยยยยยย แอบฟินเบาๆ อิอิ
ขอให้อาเม่ยรีบกลับไปหาพี่เชเร็วๆนะ พี่เชคิดถึงจะแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 11-10-2015 10:30:20
คาดเดาอะไรไม่ได้เลย.. บทสรุปจะเป็นอย่างไร
ได้แต่รอต่อไป

ขอบคุณค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 12-10-2015 11:38:38
ถ้าคนที่อาเม่ยเห็น คือแม่ทัพเช
นั่นคืออาเม่ย จำได้ หรือไม่ได้หนอ...
หน่วงใจ สงสารแม่ทัพเช  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่28หน้า28 (6ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Map ที่ 13-10-2015 03:20:20
อ่านแล้วติดไม่หลับไม่นอนจนตีสามกว่า  o22
ยิ่งอ่านปมเรื่องราวต่างๆ ปัญหาต่างๆ เริ่มเข้ามาเยอะเรื่อยๆเลยน้า ติดตาม  :bye2:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 13-10-2015 17:35:21
ตอนที่ 29

ตลอดเวลา 3 วันที่พักอยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบ้านช่างเหล็ก คนที่ดูผ่อนคลายที่สุดยังคงเป็นต้าซัน คนที่ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะมีความลับอันใดทั้งสิ้น ราชองครักษ์ลาทีฟสัมผัสความจริงจากใจของต้าซันได้ทุกคำพูดที่กล่าวออกมา จนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากต้าซันกับพริมจะพึงพอใจกันและกัน
แต่เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ราชองครักษ์ก็ต้องส่ายหน้าให้กับตนเอง
....ต้าซันอาจพอใจใครอยู่ ส่วนแม่หญิงพริมก็มีองครักษ์เก้า....
....ข้าได้นิสัยชอบจัดการเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นมาจากพระราชาเสียแล้ว...
.....หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็คือการพาอาเม่ยกลับไปต่างหาก...

แน่ใจว่าอาเม่ยแสร้งทำเป็นจำตนเองไม่ได้ แต่มิใช่ปัญหา เพราะในการทำงานสำคัญนี้ติดอยู่ที่ปัญหาเดียว คืออาเม่ยไม่กล่าวสิ่งใด แม้ในวันสุดท้ายที่ให้คำมั่นไว้กับต้าซัน ราชองครักษ์จะกล่าวคำพูดยืดยาวถึงความจำเป็นที่อาเม่ยควรกลับไป ทั้งให้คำมั่นว่าจะไม่ต้องรับโทษ จนกระทั่งขอแค่ไปพูดให้แม่ทัพออกศึก หรือแม้แต่กล่าวเกินจริงไปว่า แผ่นดินนี้อาจถูกเมืองเหนือยึดครอง แต่อาเม่ยก็ยังแกะสลักไม้ไปเรื่อยๆ
สิ่งที่พูดไปคล้ายเป็นแค่สายลมที่ผ่านไป
ราชองครักษ์ลาทีฟหมอยายอมแพ้ต่ออาเม่ยอย่างหมดรูป
ที่ยังพอเยียวยาจิตใจให้ดีขึ้นได้ก็คือเมื่อจะออกรถม้าแล้วเห็นว่า ต้าซันลอบส่งดอกไม้ป่าให้กับพริม
...ก็ไม่ได้กลับเมืองหลวงไปมือเปล่าเสียทีเดียวหรอกนะ...

ระหว่างการเดินทางกลับ และหยุดพักที่บ้านของชาวนาเหมือนเช่นตอนที่เดินทางมา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาที่พบเห็นทำให้ราชองครักษ์ทบทวนข้อสงสัยบางอย่าง
แม้หมู่บ้านที่ 2 พี่น้องอาศัยอยู่บัดนี้จะเหลือเพียง 2 หลัง ส่วนอื่นถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว แต่เมื่อไฟไหม้จากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง รวมถึงโรงตีดาบ แสดงให้เห็นว่าไฟนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง แต่กลับไม่ได้ลุกลามลงไปถึงส่วนที่เป็นทุ่งนา
นั่นอาจหมายถึงไฟที่เกิดจากเวทย์!
ข้อต่อมาก็คือ เมื่อเป็นหมู่บ้านตีดาบ คนในหมู่บ้านย่อมรู้เชิงดาบ แต่กลับมีอาเม่ยที่รอดมาเพียงผู้เดียว!
แล้วผู้ใช้เวทย์คนอื่นเล่า
หรือเพราะในละแวกนั้นมีอาเม่ยเพียงคนเดียวที่กำเนิดมาพร้อมกับเวทย์ จึงเป็นความแตกต่างที่ทำให้บิดาตัดสินใจส่งไปอยู่กับเหล่าผู้เฒ่า จากนั้นมารดาพาต้าซันหนีไปเมืองหลวงเพียงลำพัง ในเมืองหลวงมีงานมากมาย แต่มารดากลับตั้งใจอย่างยิ่งที่จะพาต้าซันเข้าทำงานในวังหลวง
นั่นอาจเพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง
คุ้มครองจากผู้ใด
จากอาเม่ยหรือ
เป็นไปไม่ได้!
2 พี่น้องไม่มีท่าทีเป็นอันตรายต่อกันและกันเลยสักนิด!
เช่นนั้น ผู้เป็นแม่พาต้าซันหนีใครมา!
สุดท้ายก็คือที่นั่นคือกลุ่มบ้านช่างเหล็ก ยังมีซากของโรงตีดาบหลงเหลืออยู่ อาเม่ยเติบโตมาจากที่นั่น แต่ตลอดเวลา 3 วัน อาเม่ยไม่ได้จับโลหะใด นอกไปจากมีดทำครัว และมีดเล็กแกะสลักไม้!
นั่นอาจหมายถึงการที่อาเม่ยเองก็พยายามสะกดอำนาจบางอย่างที่ครอบคลุมตนอยู่

เมื่อมาถึงเมืองหลวงและรายงานข้อสงสัยเหล่านี้ต่อกลุ่มราชองครักษ์ทั้ง 9 แห่งพระราชาฟารัค 
ทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีเวทย์ที่แข็งแกร่ง เสริมด้วยความรู้ความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ต่างก็แยกย้ายกันทำงานตามพระบัญชา และมีเพียงหัวหน้าราชองครักษ์บาดาที่อยู่ใกล้ชิด นอกจากการเป็นผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว ยังเป็นผู้ที่มีความคิดสุขุมรอบคอบ เชี่ยวชาญเรื่องการใช้วาจาโน้มน้าวผู้คน และที่สำคัญที่สุดคือเวทย์ของราชองครักษ์บาดาในการเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้อื่น
ราชองครักษ์ผู้หนึ่งที่เชี่ยวชาญเรื่องธาตุดินและไม้ให้ความเห็น “เรามักใช้ไม้เพื่อสะกดธาตุลม เพราะธาตุลมคือตัวแทนของอารมณ์ที่อ่อนไหว ที่นั่นเป็นพื้นที่แห่งไฟ ถ้าไฟพบกับลมก็มีแต่จะเป็นไฟป่า”
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาทักขึ้นในทันที “พระราชาเคยมีรับสั่งเช่นนี้ ตอนที่แม่ทัพพาอาเม่ยมาเข้าเฝ้าพระราชาครั้งแรก ดังนั้นที่ว่าอาเม่ยกลับไปจำอันใดไม่ได้นั้นเป็นเรื่องเท็จ”
“เวทย์ที่สามารถพรางตนเองจนทั้งพระราชา ทั้งแม่ทัพตลอดจนพวกเราทุกคน ทั้งค่ายทหารยังจับไม่ได้” ราชองครักษ์จาบีผู้กล่าวคำกำลังกุมขมับตนเอง “มันคือเวทย์ดำที่มาจากที่ใด หากไม่รู้ที่มา ก็ไม่อาจรู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร”
คนผู้นี้มีรูปร่างผอม สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดจริงจังต่อทุกสิ่ง เมื่อกล่าวคำขึ้นมาทุกคนในที่นั้นล้วนถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
อย่างไรก็ตาม ในความอับจนเรื่องของอาเม่ย ยังมีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนพอจะคาดเดาได้ตรงกัน ว่าบุคคลที่กำจัดผู้ที่ลักลอบติดตาม 2 พี่น้องคือใคร
“มีอยู่เพียงคนเดียว ที่เมามายแล้วกลายเป็นผู้ที่เดี๋ยวพบเจอ เดี๋ยวสูญหายไป พระราชายังไม่รู้เรื่องนี้ หากทรงรู้เรื่องก็คงจะเบาพระทัยขึ้น”
แต่ราชองครักษ์จาบีผู้ที่ยังเป็นกังวลเรื่องเวทย์ที่อาเม่ยพยายามควบคุมอยู่ ทักท้วงคำกล่าวของหัวหน้าราชองครักษ์บาดา “เบาพระทัยก็จริง แต่หากให้กลับมาทั้งที่ยังคุมเวทย์ไม่ได้ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือไม่ ในการเดินทัพสิ่งสำคัญที่สุดคือการไว้วางใจกัน”

*.*

ต้าซันไม่รู้ว่าจะพาน้องชายหนีไปที่แห่งใด เมื่อพ้นจากตัวเมืองออกมาก็ได้แต่เดินเท้า สลับกับอาศัยรถม้าของผู้อื่น เพราะไม่มีเงินติดตัว กลางคืนก็จำต้องให้น้องนอนในโรงนา ส่วนตนเองรับจ้างทำงานแลกอาหาร
จากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง 
เรื่องที่จะให้ถามเรื่องราวต่างๆ จากอาเม่ยนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยอาเม่ยไม่ยอมกล่าวสิ่งใด แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ต้าซันพอจะจับได้ว่า น้องกำลังหวาดกลัว กังวล และเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
คาดเดาแบบผู้ที่ไม่มีเวทย์ และไม่มีความคิดซับซ้อนหลายชั้น ต้าซันสรุปว่า อาเม่ยหึงหวงที่แม่ทัพพูดจาเป็นอย่างดีกับองครักษ์เก้า
แม้ตอนที่ซัดพลังใส่ จะรุนแรงไปมาก และการต่อสู้กับผู้อื่นในเวลานั้นจะเป็นเรื่องเกินเลย
แต่จะให้สรุปเป็นเรื่องอื่นได้อย่างไร!
ดังนั้นก็ต้องพาน้องหนีออกมาให้ห่างไกลจากเมืองหลวงที่สุด
แต่สุดท้าย 2 คนพี่น้องก็กลับมาหยุดอยู่ที่หมู่บ้านที่เสียหายเพราะเพลิงไหม้ และถูกทิ้งร้าง
ต้าซันเกาผมยุ่งๆ หันไปหาน้องชายที่ดูแปลกใจที่พี่ชายมาพาที่นี่เช่นกัน

“นี่ต้องเป็นเพราะทั้งชีวิต ข้ารู้จักแต่วังหลวงกับที่นี่เท่านั้น ไปสำรวจกันก่อนว่าพอจะมีที่ให้เจ้าพักไหม แล้วข้าจะค่อย ๆ ซ่อมไปนะ”
แต่ในวันแรกที่หมู่บ้าน อาเม่ยไม่ได้นอนพัก หากแต่คอยช่วยต้าซันอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา จนกระทั่งกลางคืนที่อาเม่ยได้ยินเสียงผิดปกติ  จึงลุกขึ้นมองฝ่าความมืด หันมามองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ยังหลับอยู่จึงลุกออกไปดู
ได้ยินเสียงสนทนาจากผู้ที่อยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ตามมาด้วยเสียงอาวุธที่ทะลุผ่านเนื้อพร้อมกับเสียงร้อง จากนั้นคนรูปร่างสูงใหญ่ก็ก้าวออกมาหา
“เสี่ยวเม่ย ที่นี่ไม่ปลอดภัย ไปกับข้าเถิด”
อาเม่ยชักเท้าก้าวถอย พลางส่ายหน้า แล้ววิ่งกลับมาหาต้าซัน ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่ ว่าหากคนผู้นั้นเดินเข้ามาที่บ้าน ก็ชวนพี่ชายหลบหนีต่อไปอีก
แต่คนผู้นั้นไม่ได้ติดตามเข้ามาที่บ้านพัก อาเม่ยอยากปลุกต้าซัน แต่พี่ชายก็เหน็ดเหนื่อยมาหลายวันติดต่อกัน ได้แต่ตั้งใจว่าหากคนผู้นั้นเข้ามาก็จะปลุก สุดท้ายกลายเป็นหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
จากวันนั้นแม้จะไม่พบเห็นคนผู้นั้นอีก แต่กลับยังนึกรู้ว่ายังอยู่ใกล้ ด้วยในบางวันที่ตื่นเช้ามาพบผลไม้ป่ามาวางไว้ที่หน้าบ้านพัก 
ต้าซันกลับคิดไปว่าอาจมีสัตว์ป่า หรือนกที่คาบผลไม้มาวางทิ้งไว้ให้
“อย่าออกไปไหนไกลคนเดียวนะ” พี่ชายกล่าวเตือน 
จนเย็นวันหนึ่งที่อาเม่ยออกไปหาผลไม้ห่างออกมาทางเชิงเขา พบศพชายแก่คนหนึ่งจึงกลับมาบอกต้าซัน
2 พี่น้องช่วยกันฝังศพ ระหว่างนั้นต้าซันเผยว่า เคยเห็นคนตายทั้ง 2 คน คนหนึ่งเป็นขอทานที่มักเดินผ่านหน้าบ้าน ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนบ้าน แต่ไม่รู้ว่าทั้งคู่มาที่นี่ได้อย่างไร
ต้าซันหันมาหาน้องชายที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากความนัก “ภายใน 3 วันนี้ถ้ามีใครเข้ามาที่นี่ ข้าจะถือเป็นสัญญาณให้พวกเราเดินทางต่อ และครานี้พวกเราจะเดินทางไปเรื่อย ไร้หลักแหล่ง ไม่ว่าผู้ใดก็หาพวกเราไม่พบ...ตกลงหรือไม่”
อาเม่ยพยักหน้ารับคำของพี่ชาย
และเมื่อมองไปทางต้นไม้ใหญ่ทางด้านหลังของพี่ชาย....คนผู้นั้นก็ยืนมองอยู่ คาดว่าจะได้ยินทุกคำกล่าวของต้าซัน ดวงตาที่มองกันและกันหยุดนิ่ง อาเม่ยกัดริมฝีปาก ค้อมตัวลงช้าๆ และเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง....คนผู้นั้นก็หายไปแล้ว....

เรื่องราวหลังจากนั้นก็คือการที่อาเม่ยเริ่มแกะสลักไม้อยู่ที่หน้าบ้านพัก และทำสวนครัว ขณะที่ต้าซันซ่อมบ้านตามที่ตั้งใจไว้ และพูดอยู่เสมอว่า จะเอาไม้แกะสลักของอาเม่ยไปขายในหมู่บ้าน
“เจ้าแกะให้มันเป็นปิ่นปักผมของผู้หญิง หรือเป็นด้ามยาสูบ เป็นถ้วยชาอะไรก็ได้ที่มันใช้การได้สิ ข้าจะได้เอาไปขายง่ายๆ เจ้าแกะเป็นม้า เป็นนกแบบนี้ มันขายยาก” ต้าซันเสนอความเห็น
คนแกะไม้ทำหน้ายุ่งๆ จากนั้นก็เปลี่ยนรูปร่างของไม้แกะสลักในมือเป็นเครื่องประดับ และสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อให้ต้าซันนำไปขาย
แต่เมื่อต้าซันหยิบม้าและนกที่อาเม่ยแกะไว้ขึ้นมาพิจารณาถึงได้พบว่า สัตว์แกะสลักความสูงครึ่งคืบเหล่านี้ล้วนมีรูปร่างแปลกประหลาด
....ทั้งแปลกประหลาดและน่ากลัว....
“อาเม่ยนี่มัน.....”
“มันเป็นของอัปมงคลอย่าเอาไปขายเลย”
ต้าซันเกาหน้าผากตัวเอง “ว่าที่จริง มันก็สวยดีนะ แต่ถ้าเป็นของไม่ดี ก็อย่าเก็บไว้สิ”
ที่จริงต้าซันอยากกล่าวว่า ของไม่ดีแกะขึ้นมาทำไม แต่ก็เพราะรู้ว่าอาเม่ยต้องมีเหตุผลที่แกะมันขึ้นมา
เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อาเม่ยทำลงไป มันต้องมีเหตุผลสิ!
และว่าที่จริง การที่อาเม่ยไม่ค่อยพูด ทั้งนั่งแกะสลักไม้อยู่ตามลำพังที่หน้าบ้านเช่นนี้ ไม่ได้ต่างจากอาเม่ยในตอนที่ยังเล็กเลยสักนิด
เพียงแต่ในเวลานั้น อาเม่ยมักจะเล่นไฟ หรือบังคับลมให้ประคองใบไม้ อยู่เหนือฝ่ามือบ้าง ควบคุมก้อนหินก้อนดินเล็กๆ ให้เปลี่ยนทิศทาง แบบที่ต้าซันมักบอกกับมารดาว่า ตนกำลังทำงานและมีน้องเล่นอยู่คนเดียวใกล้ๆ
“อาเม่ยเจ้ายัง.....” ต้าซันถามแค่ครึ่งประโยค
น้องชายผู้มีดวงตาสีแปลกหันมาถาม “กลัวหรือ”
“เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่เคยกลัวเจ้า และรู้ว่า 2 ศพที่พบนั่นไม่ใช่ฝีมือเจ้า แต่หากพวกเราต้องเดินทางต่อไป หากจำต้องหนีออกจากเมืองวัน ไปเมืองบาสก์ หากเจ้ายังมีเวทย์ พวกเราอาจถูกขับออกมา”
เพราะแน่ใจว่า คนผู้นั้นไม่อยู่แล้ว อาเม่ยจึงกล่าวขึ้น “ข้ารู้จักที่อีกที่หนึ่งที่อยู่ห่างไกล หากยังมีผู้ติดตามมาอีก เราไปที่นั่นก็ได้”

แต่เมื่อราชองครักษ์ลาทีฟกับพริมตามมาถึงที่นี่และจากไป ทั้งอาเม่ยและต้าซันกลับไม่ได้พูดถึงเรื่องการหลบหนีต่อไปอีก

*-*จบตอนที่ 29*-*

 (http://www.mx7.com/i/553/p7gjl1.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yEW46NLbcN3Qbqn3)

ภาพนี้จาก www.etsy.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-10-2015 17:40:39
แปะ Edit ลาทีฟไม่สนใจที่จะเข้ามาจัดการชีวิตให้กับ ต้าซันบ้างเหรอ 555 ตอนนี้รู้สึกสงสารในชะตากรรมของสองพี่น้องจัง มีความรู้สึกว่า เขามีกันแค่สองคน ต้าซันรู้เรื่องบางอย่างของน้องแต่บอกคนอื่นไม่ได้ จะเป็นไปได้ไหม ที่อาเม่ยมีอีกจิตสำนึกนึง ทำให้กลายเป็นคนสองบุคคลิก พอเจอเหตุการณ์ที่ไปสะกิดใจหน่อยก็กลายเป็นอีกคนนึง  แล้วไม้ที่แกะสลักอยู่ คือ วิธีสะกดเวทย์ดำสินะ การให้กำเนิดเม่ย  ตัวแม่ของเม่ย ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับคนใหญ่คนโตในเมืองที่มีแต่ความชั่วร้ายนั่นแน่ๆ (ทั้งหมดนี่เดามากกกกกกกกกก)

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 13-10-2015 19:09:48
เป็นช่วงเรื่อยๆของเรื่องที่ชวนให้ติดตามตอนต่อจริงๆ
ต้าซันรักน้องมากๆ มากจนเราคิดว่า...คนเเต่งอาจจะทำให้ต้าซันมีเหตุให้จากไปเเล้วอาเม่ยกลายเป็นผู้ใช้เวทย์ดำไปจริงๆ
เพื่อไปต่อสู้กะเเม่ทัพเช

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-10-2015 19:17:03
 :pig4:  :3123: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 13-10-2015 19:44:15
อ่านตอนนี้จบ ไม่กล้าเดาเนื้อเรื่องเลย เกรงจะเงิบเหมือนตอนที่แล้ว 555+ ถ้าซื้อล็อตเตอรี่ ก็คงถูกกินเรียบ...  :a6: แต่ตอนนี้ รู้สึกถึงความมีชีวิตจิตใจ มีเลือดเนื้อ ของอาเม่ยขึ้นมาอีกนิด จากที่ก่อนหน้า อาเม่ยเป็นเหมือนตุ๊กตา ไม่แสดงความคิด ความรู้สึกใดๆ

ชอบต้าซันมากขึ้น จากเรื่องราวความผูกพันระหว่างพี่กับน้อง ต้าซันรักน้องโดยไม่มีเงื่อนไข พยายามปกป้อง ประทับใจมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-10-2015 19:47:04
ต้าซันๆๆ  :กอด1: อยากให้พี่น้องได้อยู่ด้วยกันดีๆๆๆ :mew2:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 13-10-2015 19:58:10
โฮ๊ยยยยยยยยยยย สงสารพี่เชกะอาเม่ยจัง เมื่อไหร่เม่ยจะหายน้อ
ต้าซันก็เก่งนะเนี่ย พาน้องหนีมาจนถึงที่นี่ได้ ที่จริงต้าซันกับพริมก็น่ารักดีนะ มองโลกในแง่ดีทั้งคู่ ไม่มีเวทย์เหมือนกันด้วย อยากให้สองคนนี้คู่กันจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 13-10-2015 20:24:39
ยิ่งอานยิ่งสับสน

เดาใจไม่ออก

เมื่อไรอาเหม่ยจะหาย บุคคลลึกลับคนนั้นเป็นใครหนอ

ตอนนี้ท่านแม่ทัพยอมวางถ้วยเหล้าแล้วหรือยัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-10-2015 20:36:39
ไม่อยากคาดเดา รออ่านอย่างเดียวเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-10-2015 22:17:22
แล้ว"คนผู้นั้น"มันเป็นใครล่ะ พี่เชรึเปล่า!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-10-2015 22:18:37
อาเม่ยดูมีชีวิตชีวา ดีจังเลย

ต้าซันเป็นพี่ที่ทุ่มเทเพื่อน้องจริงๆ อยากให้ต้าซันมีชีวิตที่ดี มีคนรัก

พี่เชตามดูแลตลอดๆ

ลุ้นๆ กันต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 14-10-2015 02:51:38
จะผิดไหมถ้าจะคิดว่า "คนผู้นั้น" คือแม่ทัพเชมัล ซึ่งได้คอยมาให้ความดูแลคนรักของตนแม้อีกฝ่ายจะได้หนีออกมาจากเมืองหลวง เพราะแม่ทัพรู้ว่า ตอนนี้รอเพียงให้จิตใจของอาเม่ยเข้มแข็งเท่านั้นก็จะสามารถทำลายล้างมนต์ดำไปได้ นั่นคือสิ่งที่ต้องการตอนนี้คือ...เวลา ส่วนศพของชายสองคนที่ถูกฆ่านั้น อาจเป็นคนใช้เวทย์ดำที่มาสังเกตการณ์จึงถูก "คนผู้นั้น" ฆ่า?

...ถ้าเอาเรื่องนี้ไปเขียนเป็นหนังสือภาพ น่าจะสวยและน่าอ่านนะคะ  :mew1:

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 14-10-2015 09:19:11
อาเม่ยนี่โดนใช้เป็นเครื่องมือมาตลอดเลยทั้งจากอดีตที่โดนเวทย์ดำ น่าจะเพราะให้มาทำเป็นศัตรูกับพระราชาฟารัคและท่านแม่ทัพเชแน่ ๆ
ส่วนตอนนี้ที่อาเม่ยทำเป็นจำอะไรไม่ได้ เพราะเหมือนจะรู้ว่าต้องโดนใช้เป็นเครื่องมือต่อรองของพระราชาฟารัคกับท่านแม่ทัพหรือเปล่า ท่านพี่เชเราถึงดื้อกับพระราชาคือมีแอบต่อต้านเล็กๆ ไปในตัว
หากเก้าคือผู้ที่โดนกระทำคือการทำร้ายทางด้านร่างกาย (แต่นั่นยังมีโอกาสรักษาได้) แต่อาเม่ยนี่คือคนที่โดนกระทำทางจิตใจล้วนๆ ซึ่งต้องต่อสู้เพียงลำพังกับจิตส่วนลึกที่โดนกักขังไว้  :mew2: ยังดีที่ตอนนี้พี่เชเรายังคอยตามมาดูแลไม่ห่าง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 14-10-2015 11:43:16
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น ไม่กล้าเดาอะไรเลย
มีอะไรที่ทำให้คาดไม่ถึงโผล่มาในทุกตอนจริงๆ

แอบคิดว่าผู้นั้นคือพี่เชเช่นกัน พี่ท่านไม่น่ายอมปล่อยเม่ยหายไปง่ายๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 14-10-2015 13:12:19
นี่ขนาดเดาทางไว้ในใจยังเงิบเลย
ดีนะไม่พูดออกมา 5555+++
แบบว่าเดาขวาไปซ้าย เดาซ้านไปขวากันเลย  :jul3:
รอลุ้นดีกว่าไม่เดาทางละ

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-10-2015 13:54:06
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 14-10-2015 19:05:17
เม่ยแกะสลักไม้เพื่อที่จะสะกดเวทย์ดำแน่ๆเลยใช่มั้ย ด้วยความที่รู้ตัวว่าตัวเองจะทำร้ายคนอื่น ทำร้ายพี่เชอีกก็เลยไม่อยากจะกลับไปเหรอ ต้าซันรู้อะไรมากไปกว่าที่รู้ว่าน้องโดนเวทย์บ้างนะ มีเรื่องให้อยากรู้เยอะแยะไปหมดเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 15-10-2015 08:03:46
ยิ่งอ่าน...ยิ่งถอนหายใจ ชีวิตหนอชีวิต...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 15-10-2015 20:43:46
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 15-10-2015 22:01:00
ต้าซันรักน้องมากจริงๆ..อึมครึมกันไปหมด
คนที่อาเม่ยสบตาและค้อมศรีษะให้คือใครหนอ
ทำไมเรากลับคิดว่าไม่ใช่แม่ทัพเชมัล..

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-10-2015 10:22:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 19-10-2015 10:48:00
 :mew2: มาเป็นกำลังใจขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เฮ้อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-10-2015 10:22:18
มารอพี่เชกับอาเม่ยค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-10-2015 19:58:37
เม่ยจ๋าเป็นยังไงบ้าง เค้าแวะมาหาเค้าคิดถึงเม่ยแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่29หน้า29 (13ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-10-2015 20:07:20
มารอด้วยคนนนนน
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่30หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 20-10-2015 20:51:41
ตอนที่ 30

พระราชาถึงกับสะกดความดีพระทัยเอาไว้ไม่ได้ เมื่อหัวหน้าราชองครักษ์บาดากราบทูลว่า องครักษ์เก้าและพริมขอเข้าเฝ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ จึงมีรับสั่งให้ทั้งคู่ไปรออยู่ที่หน้าเรือนพักหลังเดิมที่องครักษ์เก้าเคยพักก่อนหน้านี้

เมื่อครั้งที่ถูกแม่ทัพนาซิมทำร้าย องครักษ์เก้าถูกส่งตัวมารับการรักษาที่นี่เพื่อความสะดวกของพระราชาเอง ต่อมาจึงถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำเวทย์ จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่ค่ายทหารหาได้กลับมาพักที่เดิมไม่
แต่ไม่ว่าจะถูกย้ายไปที่ใดพริมก็จะไปเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ ทำหน้าที่คนรักโดยไม่ขาดตกบกพร่อง แม้แต่เมื่อพระราชารับสั่งให้ไปเจรจากับอาเม่ย หญิงสาวก็หาได้บ่ายเบี่ยง

“ข้าพระองค์มิอาจถวายคำเตือน ด้วยทราบดีว่าพระองค์มีแนวทางอยู่ในพระทัย แต่หนุ่มสาวคู่นี้ต่างเรียนรู้และผ่านเรื่องราวมามากมาย...” หัวหน้าราชองครักษ์บาดา กราบทูลเมื่อเดินตามพระราชาออกมาจากห้องทรงงาน
พระราชาแสร้งถอนพระทัย ด้วยรู้ดีว่า ราชองครักษ์ผู้นี้เป็นหนึ่งในเรื่องการเจรจา “ข้ารู้หรอกน่า ว่าเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องให้พวกเขาตัดสินใจ”
..ไม่เห็นหรือไง ว่าข้าดีใจขนาดไหน ที่ทั้ง 2 คนมาขอพบข้า..

แต่เมื่อก้าวเข้าสู่เขตอุทยาน มองเห็นหลังคาของเรือนหลังเล็กผ่านพ้นยอดไม้ พระราชากลับประทับยืนอยู่ที่หน้าสระบัว แล้วหันมาหาหัวหน้าราชองครักษ์
“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากบอกกับเจ้าไว้”
“กระหม่อม”
ราชองครักษ์ค้อมตัวเตรียมรับคำสั่งจนพระราชาต้องโบกพระหัตถ์ “ข้าไม่ได้ให้งานเจ้า แต่อยากทำความตกลงกับเจ้าไว้ก่อน ว่าที่ข้าคิด ข้าทำลงไปทั้งหมดนี้ ข้าเพียงอยากให้เชมัลมีความสุข อยากให้เขาได้อยู่กับคนที่เขารัก”
เรื่องนี้หัวหน้าราชองครักษ์ที่รับใช้ใกล้ชิดทราบเป็นอย่างดี
“ในวันแรกที่เขาพาอาเม่ยมาหา ข้ามองเห็นความทุกข์ของเชมัลที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่ข้าคิดว่าข้าสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ ถึงกับส่งอาเก้าไปหานาซิม เพราะหวังว่าอาเก้าจะมีความสุขอยู่กับนาซิม ส่วนฮูดาแม้ข้าจะไม่เคยชอบคนผู้นี้ แต่ก็ไม่มีความสำคัญต่อจิตใจของเชมัลมากไปกว่าคำว่าเพื่อน จึงให้อยู่สนับสนุนงานในสนามรบของเชมัลต่อไป”
หัวหน้าราชองครักษ์ไม่ได้ประหลาดใจที่พระราชา รับสั่งอย่างตรงไปตรงมาเรื่องที่ล่วงรู้อนาคตของแม่ทัพเชมัล และทรงจัดการเรื่องราวมากมายเพื่อไม่ให้พระอนุชาต้องเสียพระทัย แต่วันนี้ก็ยังมาถึงอยู่เช่นเดิม

“แผนของข้าก็คือ นาซิมต้องดูแลอาเก้า และพวกเขาจะต้องสนับสนุนเชมัลรบชนะเมืองเหนือ” พระราชาหันมาตรัสย้ำ “แต่ในเวลาเดียวกัน ในความยิ่งใหญ่ของเชมัล เขากลับถูกขัดขวางจากความผิดหวังในเรื่องความรัก ดังนั้นข้าถึงบอกให้เชมัลและทุกคนสนับสนุนเรื่องของนาซิมกับเก้า ความสำเร็จของพวกเขาจะช่วยให้ข้าสามารถนำมาต่อรองเพื่อบรรเทาโทษของอาเม่ย เพื่อให้สามารถอยู่กับเชมัลได้....แต่จนถึงวันนี้ เชมัลยังคงเสียใจ และเส้นทางของนาซิมกับเก้า ไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คาดหวังเลยสักนิด”
พระราชาฟารัคเคยต้องส่งพระราชสาส์นไปหารือกับพระราชาเมืองบาสก์ และร่วมการเดินทางไปหาแม่ทัพเชมัล และอาเม่ยที่เกาะมรกตที่อยู่ห่างไกลด้วยกันมาแล้ว
“มันมี...ความผิดพลาดในเรื่องการลำดับเวลา”

“ฝ่าบาท" ราชองครักษ์บาดากล่าวขึ้น แต่พระราชาโบกพระหัตถ์
“ข้าตั้งใจไว้นะ ในวันนี้ ไม่ว่าอาเก้ากับพริมจะตัดสินใจอย่างไร ข้าก็จะยอมรับ เช่นเดียวกับเชมัล ถ้าเขาอยากไปหาอาเม่ย ข้าก็จะยอมให้ไป”
“ทัพเมืองเหนือเล่าฝ่าบาท”
“ทัพเมืองเหนือรอเชมัล เชื่อข้าสิ” พระราชารับสั่งด้วยความมั่นพระทัยอย่างเต็มเปี่ยม “พวกมันกลัวเชมัลยิ่งกว่าข้าเสียอีก มันถึงได้ส่งอาเม่ยมาเล่นงานเชมัลโดยตรง”
ราชองค์รักษ์บาดาส่งเสียงในลำคอ
“พวกเจ้าคิดว่าข้าอ่านอาเม่ยไม่ได้ละสิ” พระราชายกดัชนีตวัดไปมา “ข้าบอกแล้ว ว่าทั้งหมดนี้ข้าทำเพื่อเชมัล ถ้าเชมัลรักคนนี้ ก็คือคนนี้”
“พระองค์ไม่ได้กังวลว่าเวทย์ดำจากอาเม่ยอาจจะทำร้ายผู้อื่นหรือไร”
“ไม่ เพราะเชมัลก็มองเห็น และรู้ว่าจะปกป้องอย่างไร” พระราชาหันมาถามหัวหน้าราชองครักษ์ “เจ้ามองไม่เห็นหรือ”
หัวหน้าราชองครักษ์ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ไม่เลยฝ่าบาท เมื่อวานนี้เหล่าราชองครักษ์หารือกันเรื่องที่ลาทิฟกลับมาจากหมู่บ้าน ก็ถามกันเรื่องนี้ ทุกคนต่างยอมรับว่าไม่มีผู้ใดมองเห็น”
“คนที่วางเวทย์ดำไว้ที่เม่ยเป็นใครข้าไม่รู้ แต่คนผู้นี้ต้องอยู่ในเมืองวัน ส่วนเฮยอั้นไปกระตุ้นให้เวทย์ดำตื่นขึ้นและทำให้เม่ยหันมาสังหารเพื่อน”
รับสั่งของพระราชาแสดงให้เห็นว่า ทรงล่วงรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

หัวหน้าราชองครักษ์บาดานึกขึ้นได้ “ลาทีฟได้พบกับผู้เฒ่าที่เป็นอาจารย์ของอาเม่ยแล้ว”
“อา.........” พระราชาฟารัคลูบคาง “เสร็จจากเรื่องของเก้ากับพริมในวันนี้ คงต้องถามไถ่กันสักหน่อยว่ามีใครอยากไปเที่ยวหมู่บ้านในหุบเขาบ้างไหม”

แต่การเข้าเฝ้าขององครักษ์เก้า และพริม ทำให้พระราชาต้องเปลี่ยนแปลงแผนการอีกครั้ง

ราชองครักษ์เก้าผู้สุภาพเรียบร้อย กับแม่หญิงพริม นั่งอยู่เคียงกันแล้วลุกขึ้นยืนถวายความเคารพเมื่อพระราชาเสด็จมาถึง
และเห็นได้ชัดเจนว่า องครักษ์เก้าไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นการเข้าเฝ้าในครั้งนี้ เมื่อพริมกล่าวขึ้นก่อน
“หม่อมฉันขอให้พระองค์ถอนการหมั้นหมายระหว่างหม่อมฉันกับองครักษ์เก้าเพคะ”
ทุกคนในที่นี้ล้วนประหลาดใจ แม้เหตุผลของพริมจะเรียบง่าย

“พวกเราไม่ได้ชอบพอกันมาตั้งแต่แรก หากเรื่องราวทั้งหมดกล่าวออกไปแล้วจะมีแต่ความเสื่อมเสีย” พริมไม่รู้ว่า ทุกคนในที่นี้ล้วนรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว จึงเล่าเรื่องตั้งแต่แรก “แต่หม่อมฉันยอมรับว่ายินดีอย่างยิ่งที่เป็นท่านพี่ ได้ดูแลกันและกัน แม้ในยามที่ท่านพี่บาดเจ็บกลับมา หากแต่ในความจริงแล้ว พ่อและแม่เป็นผู้ที่บอกให้หม่อมฉันมาดูแลท่านพี่อยู่ทุกวัน มิใช่ว่าหม่อมฉันไม่อยากมา” พริมหันไปกล่าวกับองครักษ์เก้าที่มีใบหน้าซีดเผือด “แต่เวลาที่มา ก็กลับเป็นห่วงงานที่ร้าน ห่วงเด็กๆ มีแต่ความคิดว่า ไม่จำเป็นต้องมาทุกวัน แต่ก็ต้องมา หากเพียงเท่านี้ยังไม่ชัดเจนที่จะตัดสินใจว่า ความรู้สึกที่แท้จริงเป็นเช่นใด เพราะท่านพี่ยังดีกับหม่อมฉันไม่เปลี่ยนแปลง"
"แม้ในวันที่พระองค์รับสั่งให้ออกไปนอกเขตเมืองหลวงเพื่อช่วยงาน และรับสั่งว่า เมื่อกลับมาจะประทานสมรสให้ หม่อมฉันตกใจ หากแต่ก็ไม่ได้คิดวิเคราะห์อันใดอย่างจริงจัง คิดไปว่า อาจเพราะไม่ค่อยได้เดินทางไกล ทำให้จิตใจว้าวุ่นสับสน  ต่อเมื่อกลับมา แล้วคิดถึงไปเรื่องที่พวกเราจะต้องสมรสกัน ต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปขึ้นมา หม่อมฉันก็รู้สึกว่า หม่อมฉันไม่พร้อม.......”

“หากเจ้ายังไม่พร้อมแต่งงานก็ไม่เป็นไร รอไปก่อนก็ได้” พระราชาตรัสขึ้น
แต่พริมยังคงกล่าวคำเดิม ทั้งกล่าวกับองครักษ์เก้าที่ยังมีสีหน้าซีดเผือดคล้ายจะหมดสติลงไปได้ทุกเมื่อ
“ท่านพี่เป็นคนดีอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งคิดว่าในชีวิตจะไม่มีผู้ใดที่ดีกับข้าได้เช่นนี้อีกแล้ว แต่ข้าต้องยอมรับว่า ความรู้สึกว่าท่านดีอย่างยิ่งนั้นมิใช่ความรัก ข้าเป็นหญิงข้าจึงต้องการสมรสกับชายที่ข้ารัก มิใช่คนที่ข้าควรจะรัก”
“พริม...” องครักษ์เก้ากล่าวได้เพียงแค่นั้น
“จะบอกว่าการตัดสินใจนี้ไม่มีเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นเข้ามาเกี่ยวข้องก็คงไม่ได้ เพียงแต่ทำให้ข้ารู้ความรู้สึกของตนเองชัดขึ้นกว่าเดิม และไม่อยากฝืนความรู้สึกนี้”
ท่าทีตกใจขององครักษ์เก้า ทำให้พริมต้องหยุดกล่าวคำ แล้วจับมือขององครักษ์เก้าไว้แน่น
มือที่มักจะจับธนูคู่นั้นเย็นเฉียบ “ท่านพี่ ข้าขอโทษ”
อีกคนพยักหน้า ทั้งที่สมองกำลังว่างเปล่า สุดท้ายพระราชาจึงตัดสินพระทัย
“เรียกนางวังหลวงออกไปส่งพริมให้ถึงที่ร้านขนมปัง และเรียกลาทีฟมาดูเก้า”

พริมคลายมือจากองครักษ์เก้า แล้วถวายความเคารพพระราชา จากนั้นจึงหันไปกล่าวคำขออภัยองครักษ์เก้าอีกครั้งแล้วจากมา  สวนกับราชองครักษ์ลาทีฟ

“ฝ่าบาท”
“ดูเก้า”
ถึงจะไม่มีรับสั่ง แต่ราชองครักษ์อาวุโส ก็เห็นความผิดปกติของคนผู้นี้มาตั้งแต่แรก
ใบหน้าซีดเซียว ท่าทางตกใจเสียขวัญเช่นนี้
ขณะที่ราชองครักษ์ลาทีฟกำลังตรวจดูองครักษ์เก้า ฝ่ายราชองครักษ์บาดา ก็กราบทูลพระราชา
“ผิดแผนหรือฝ่าบาท”
พระราชาพยักพระพักตร์ยอมรับแล้วรีบโบกมือ “ก็...ไม่เชิง เรื่องนี้ก็อยู่ในความเป็นไปได้ ก็บอกแล้วนี่ว่าตัดสินใจอย่างไรก็ยอมรับ ข้าแค่...ไม่คิดว่าสตรีอ่อนแอ และเป็นผู้ตามอยู่เสมอเช่นนั้น วันหนึ่งกลับชักชวนคู่หมั้นมาบอกเลิกกับเขาต่อหน้าข้าเช่นนี้”
ในความจริง พระราชาฟารัคทรงคาดว่า ทั้งคู่จะมาเร่งรัดถามเรื่องกำหนดวันสมรส หรือในทางตรงข้าม ก็คือทั้งคู่เห็นพ้องกันที่จะยุติความสัมพันธ์ เพราะพริมพอใจชายอื่นแล้ว
แต่นี่กลับกลายเป็นว่า พริมมิได้พอใจผู้ใด แต่กลับรู้ใจตนเอง ว่ามิได้ชอบพอองครักษ์ และไม่ต้องการคบหากันต่อไปอีก

หัวหน้าราชองครักษ์ลอบยิ้มมุมปาก
“เช่นนั้นข้าพระองค์สมควรใช้คำว่าประหลาดพระทัยเป็นอย่างมาก”
“อืม เช่นนั้นแหละ” พระราชาหันมามองราชองครักษ์คู่พระทัย “เจ้าดูจะพอใจนะ”
“ข้าพระองค์เพียงอยากให้ทรงยอมรับว่าเราควบคุมจิตใจผู้คนไม่ได้”
“ฮึ่ย..”  พระราชาโบกพระหัตถ์อีกครั้ง “ทำไมทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเก้ามันถึงได้ผิดพลาดไปเสียทุกครั้งนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ” เมื่อราชองครักษ์กระแอมเตือน พระราชาก็ถอนพระทัยแรงๆ “ไม่เข้าใจ และไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ”
ยิ่งมีรับสั่ง ความไม่พอพระทัยก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
“แล้วฝ่าบาทเปลี่ยนพระทัยเรื่องแม่ทัพนาซิม กับองครักษ์เก้าแล้วหรือ”
“เปลี่ยนใจตั้งแต่เขาทำร้ายเก้าแล้ว” พระราชายอมรับ “เมื่อเราทำร้ายคนจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม เราต้องพยายามไถ่โทษ แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องนาซิมทำอะไร ส่งคนมาอยู่กับข้าแล้วก็ทำตัวกล้าหาญอยู่ที่แนวหน้า พวกเจ้าเดี๋ยวไปหน้าด่านเดี๋ยวกลับเมืองหลวง เขาเคยฝากของมาเยี่ยมสักชิ้นไหม ข้าให้โอกาสครั้งสุดท้ายจนถึงวันที่ส่งเจ้าไปเมืองหน้าด่าน เขากลับอ่านความคิดของข้าไม่ออก ดังนั้น ข้าจึงไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว เอาเป็นว่า องครักษ์เก้าตัดสินใจอย่างไรก็อย่างนั้น”
“อ้าว...” ราชองครักษ์ทั้ง 2 คนร้องขึ้นพร้อมกัน

แม่ทัพเชมัล และหัวหน้าราชองครักษ์บาดา ที่รับใช้อยู่ใกล้ยังไม่รู้พระทัย แล้วแม่ทัพนาซิมที่อยู่ห่างไกลจะรู้พระทัยได้อย่างไร
พระราชาคงผิดหวังเรื่องพริมเป็นอย่างมาก ถึงได้มีท่าทีดั่งวัยรุ่นไม่ได้ดั่งใจ พาลผู้คนรอบตัวเช่นนี้

“ตอนที่แม่ทัพนาซิมทำผิดต่อเก้า ฝ่าบาทรับสั่งให้แม่ทัพจัดการฝ่ายเมืองเหนือแล้ว” หัวหน้าราชองครักษ์บาดาช่วยแก้ไข
“แล้วจัดการหรือยัง พอถูกเวทย์ดำก็สูญเสียความมั่นใจ ตั้งหน้าตั้งตารอให้เชมัลไปสนับสนุน เชมัลนี่ก็อีกคน พอหยุดเวทย์ดำในตัวอาเม่ยไม่ได้ ก็พาลเสียศูนย์ น้องชายข้าแต่ละคนนี่มันไม่ได้อย่างใจเลยจริงๆ”
พระราชามีทีท่าว่าจะบ่นยาว แต่เมื่อเห็นว่าองครักษ์เก้ามองอยู่จึงหันมาถาม “เจ้าจะตัดสินใจอย่างไร”
องครักษ์เก้าส่ายหน้า พระราชาก็พาลหาเรื่องต่อไป
“เอาเป็นว่า คุยกันอย่างตรงไปตรงมาเลยแล้วกัน พริมทิ้งเจ้าแล้ว และเจ้ากลับไปอยู่กับเชมัลไม่ได้ เพราะเขารอแต่เสี่ยวเม่ยของเขา ส่วนนาซิมนั่นข้าคัดค้านเต็มที่เพราะนาซิมสังหารเจ้าแน่ หรืออยากไปไหนยังไงก็บอกมา”
องครักษ์เก้าที่มีสีหน้าดีขึ้นแล้ว กลับไปมีสีหน้าซีดเผือดอีกครั้ง จนราชองครักษ์ทั้ง 2 คนรู้สึกสงสาร
“ฝ่าบาท จะเร่งให้เก้าตัดสินใจตอนนี้ได้อย่างไร”
“เพราะข้ามีเรื่องต้องทำน่ะสิ” พระราชาตรัสแล้วประทับยืน
“ฝ่าบาทจะเสด็จไปที่ใด”
“ไปหาเชมัล”
พระราชาตรัสแล้วก้าวพระบาทนำไปอย่างรวดเร็ว ทำให้อีก 3 คนต้องเร่งเท้าตามมา
 
ตอนที่เสด็จไปถึงแม่ทัพเชมัลยังนอนอยู่ในห้องพัก แม้ทหารยามจะเข้ามาเรียกว่าพระราชาเสด็จมาถึงแล้ว แต่อีกฝ่ายก็แค่ลืมตาขึ้นมามองแล้วหลับต่อ ทำให้พระราชาต้องเสด็จเข้ามาถึงห้องพัก
ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวที่ไม่ว่าสิ่งใดก็ล้วนไม่เป็นไปตามที่คิด พระราชามีพระดำรัสด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดและดังจนยามที่อยู่หน้าที่พักยังได้ยินอย่างชัดเจน
“เชมัล! ข้าไล่เจ้าออกจากตำแหน่งแม่ทัพ ข้าเรียกองครักษ์ของเจ้า ทหารของเจ้า ค่ายนี้ของเจ้ากลับมาเป็นของข้า ส่วนเจ้าจะไปไหนก็ไป!”
คนที่ถูกไล่ออก กลับมีรอยยิ้มที่มุมปากขณะที่ลุกขึ้นนั่งแล้วพยักหน้า
แต่คนที่คล้ายจะร้อนใจที่สุดคือองครักษ์เก้า
“ฝ่าบาท ทำเช่นนี้ไม่ได้” องครักษ์ผู้สุภาพเรียบร้อย คว้าข้อมือของพระราชาไว้
“ทำไมจะทำไม่ได้ เรื่องของตัวเจ้าเองยังยุ่งเหยิงจนแก้ไขไม่ได้ แล้วจะยังกล้าเสนอความเห็นกับข้าอีกหรือ”
สีหน้าขององครักษ์เก้าเวลานี้ ทำให้ทุกคนในห้องต้องใจอ่อนลง แม้แต่พระราชาที่กำลังไม่พอใจทุกสิ่งก็หันกลับไปหาเรื่องกับพระอนุชา
“ให้อยู่ในค่ายทหารก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อผู้อื่น”
“ฝ่าบาท” องครักษ์เก้า คุกเข่าลงแต่ยังไม่คลายมือ “ขอพระกรุณา อย่าลงโทษท่านแม่ทัพเช่นนั้นเลย”
“แล้วจะให้เขาเอาแต่เมาไปวันๆ ทั้งที่เมืองเหนือทั้งอสูร ทั้งปีศาจเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันเช่นนั้นหรือ”
ขณะที่องครักษ์เก้ากำลังร้อนใจ ราชองครักษ์ในที่นั่นอีก 2 คนกลับมองเห็นท่าทียินดีของคนที่กำลังถูกลงโทษให้พ้นจากตำแหน่ง
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” แม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้น
“นาย...ท่านแม่ทัพอย่ากล่าวเช่นนั้น”
แต่แม่ทัพเชมัลส่ายหน้าช้าๆ ลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ แล้วเข้ามากอดพระราชาไว้แน่น “ขอบพระทัย”
จากนั้นคนรูปร่างสูงใหญ่ก็ก้าวออกไปจากค่ายทหารเพียงลำพัง
เมื่อทอดพระเนตรตามหลังพระอนุชาไปจนลับสายตา จึงมีรับสั่งกับกับบรรดานายกอง
“นับจากวันนี้ให้ราชองครักษ์มีอามาดูแลพวกเจ้า ถ้าใครยังทำอะไรตามใจ เหลวไหลไม่รับผิดชอบหน้าที่ตนเองอีก ข้าจะไล่ให้ไปอยู่นอกด่านชายแดนให้หมด!”

แต่ก่อนที่จะเสด็จกลับ ทรงหันมาหาราชองครักษ์บาดาแล้วส่ายพระพักตร์
จากนั้นก็ก้าวพระบาทไปอีก 2 ก้าวแล้วประทับยืน
"ตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอสัก 2 เดือนสินะ"

หัวหน้าราชองครักษ์บาดา หันมามองหน้ากับราชองครักษ์ลาทีฟแล้วส่ายหน้าให้กันและกัน
เป็นไปไม่ได้เลยที่พระองค์จะไม่ยื่นพระหัตถ์เข้าไปจัดการเรื่องของแม่ทัพเชมัล
ราชองครักษ์ลาทีฟหันไปถามหัวหน้าราชองครักษ์บาดาถึงเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจ
"ที่พระราชาส่งข้ากับพริมไปตามเม่ย พระองค์รู้ได้อย่างไรว่าเม่ยอยู่ที่หมู่บ้านนั้น มีใครมากราบทูลพระองค์หรือ"
ราชองครักษ์บาดาส่ายหน้า "ไม่ใช่ข้า"
"แล้วข้าก็สงสัยว่า แม่ทัพเชมัลตามไปพบเม่ยที่นั่นก่อนหน้าที่ข้าจะไปถึงแล้วก็กลับมาเมาอยู่ที่ค่ายทหาร"

สุดท้ายราชองครักษ์ 2 คนหันมามองหน้ากันแล้วถอนหายใจหนักๆ
"พี่น้อง 3 คนนี้ เหลือเชื่อเลยจริงๆ"

*-*จบตอนที่30*-*

(http://i.imgur.com/AB1yAl0.jpg)
ภาพนี้มาจาก goodwp.com/
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-10-2015 20:58:28
ขอคนแรก

และขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 20-10-2015 21:14:25
พระราชานี่จอมวางแผน ชอบจัดการชีวิตใครต่อใคร จุ้นจริงๆ...พี่ไจฟ์น้องที ช่วยจัดแผนการดัดหลังพระราชาแบบแสบๆให้หน่อยสิคะ หมั่นไส้อีตานี่มาหลายตอนแล้ว ชริส์... o12
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-10-2015 21:22:19
บางครั้ง...พระราชาก็ดูจะชอบจัดการกับชีวิตของคนอื่นนะ ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามวาระล่ะ มันจะดีกว่าไหม ชื่นชมพริม เด็ดเดี่ยวมาก นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าหาญ คราวนี้เก้าจะจัดการกับชีวิตอย่างไร เชมัลคราวนี้ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จสักทีนะ คนอ่านก็ลุ้นใจจะขาดเหมือนกัน 555555555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-10-2015 21:35:08
นั่นท่านแม่ทัพจะไปไหน

ไปตามหาอาเหม่ยใช่ไหม

หลายๆปมเริ่มคลี่คลายแล้ว

ยังอีกหลายปมเลย

คนอ่านต้องใจเย็นๆใช่ไหม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 20-10-2015 21:47:32
 :m16: :m16: :m16:

สามพี่น้องนี่เหลือเชื่อจริงๆ

 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-10-2015 22:53:26
สุดท้ายก็ยังไม่ทิ้งลายนะพระราชา อะไีรๆก็มีแผนการไปซะหมด หวังว่าแผนให้พี่เชไปหาเม่ยครั้งนี้จะสำเร็จดั่งใจหมายสักทีนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-10-2015 06:13:03
พระราชาฟารัคนี่เหมือนกับตัวละครเอกในเรื่องเอ็มม่าไม่มีผิด คอยจับคู่และเข้าไปยุ่งเกี่ยวชีวิตรักคนนั้นคนนี้ แต่ในท้ายที่สุดสิ่งที่วางแผนไว้ก็ล้มครืนไม่เป็นท่า อย่างที่ราชองครักษ์บอก "จิตใจคนมันบังคับไม่ได้"

ในเรื่องนี้สงสารแม่ทัพเชมัลมาก เพราะทางหนึ่งก็หน้าที่ ทางหนึ่งก็คนรัก จะให้ละทิ้งหน้าที่แม่ทัพซึ่งสำคัญต่อความมั่นคงของชาติไปก็กระไรอยู่ ตรงนี้พระราชาจึงทรง "ปลด" เชมัลจากตำแหน่งแม่ทัพ เพื่อให้ไปจัดการเรื่องยุ่งๆ ของหัวใจให้เสร็จสิ้น เมื่อทุกอย่างคลี่คลายแล้วจะได้กลับมาปฏิบัติภารกิจปกป้องชาติได้อย่างไม่มีข้อยุ่งยากหัวใจให้วอกแวก นับว่าพระราชาฉลาดสมกับเป็นผู้ครองประเทศ

หวังว่าเมื่อถูก "ช่วยเหลือ" ทางอ้อมอย่างนี้แล้ว เชมัลจะรีบไปตามอาเม่ยกลับมาเพื่อรักษาให้เรียบร้อย แล้วก็ให้ตายเถอะ...ใครที่เป็นคนวางเวทย์ดำใส่อาเม่ยควรจะถูกจับมาสำเร็จโทษได้แล้วนะ เอ๊ะ...หรือจะเป็นคนใกล้ตัว?

ว้ายๆๆ ลุ้นค่ะ อยากรู้เรื่องว่าจะคลี่คลายออกมาในรูปแบบไหน แล้วชีวิตขององครักษ์ที่บัดนี้ได้ตัดขาดจากแม่หญิงพริมแล้วนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-10-2015 08:58:35
เรื่องมันยุ่งเหยิงเพราะพระราชาฟารัคเจ้ากี้เจ้าการรึเปล่านะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 21-10-2015 09:06:50
"พี่น้อง 3 คนนี้ เหลือเชื่อเลยจริงๆ"
เห็นด้วยกับคำของท่าน :o

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 21-10-2015 09:09:05
มีพี่ชายอย่างพระราชาคงปวดหัวมิใช่น้อย
แต่พี่เชดีใจออกนอกหน้าไปมั๊ยคะ พี่ถูกไล่ออกน๊า 55555  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 21-10-2015 09:48:39
ในที่สุดท่านฟารัคก็หงายการ์ด "ตามใจน้อง" ออกมาจนได้ซินะ แต่นะถึงขนาดที่รู้ว่าทัพจากเมืองเหนือรอท่านเชมัลได้นี่ คงไม่คิดแผนซ้อนแผนไว้อีกนะคะท่าน แต่ทำไมไม่รู้ รู้สึกชอบตัวท่านฟารัคแฮะดูเป็นคนใจดีแค่แบบขี้แกล้งดูร้ายแต่ความคิดล้ำมาก
พอเห็นความผิดพลาดที่ตัวเองคาดไม่ถึงนี่อารมณ์มาเต็มเหมือนเด็กโดนขัดใจ (นึกถึงตอนเด็กนี่คงแสบใช่ย่อย)  o18
...ส่วนอาเก้า .....ทั้งร่างกายและจิตใจโดนทำร้ายซะขนาดนี้ กลัวว่าเก้าจะกลายเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกเรื่องความรักไปซะจริงๆ :sad4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 21-10-2015 10:34:04
พี่ชายนี่น่ากลัวจริงๆๆ :ling2:

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-10-2015 19:19:00
ยังคงสงสารเก้าที่สุด

พี่เช ได้ไฟเขียวขนาดนี้ก็ไปจัดการอะไรๆ ให้เรียบร้อยล่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 21-10-2015 23:42:19
ถ้าพระราชาจะเจ้าแผนการขนาดนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 21-10-2015 23:58:10
ร้ายสุดในเรื่องความเจ้าเล่ห์ก็พระราชานี่หละ!
อยากให้อาเก้าเปลี่ยนใจ ห้นมาดัดนิสัยพระราชาเสียให้เข็ด
เจ้าบงการดีนัก เป็นไงหละ ผ้ดแผนกระจุย

แต่พี่แกเปิดการ์ด "ตามใจน้อง" จริงๆ
รู้เลยว่าไม่ใช่ปลดธรรมดาแน่ๆ มันต้องมีนัยยะ555
ได้เวลาตามช่วยเม่ยอย่างจริงจังแล้วเนอะเชชช
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 22-10-2015 00:42:03
ไปๆมาๆ ที่เรื่องมันยุ่งเหยิงอย่างทุกวันนี้นี่เพราะพระราชาใช่ไหมเนี่ยยยยยยยยยยยย
จัดการไปหมดทุกอย่างเลย แถมผิดแผนไปแล้วก็ยังไม่เลิก จนยิ่งผิดแผนไปมากขึ้นเรื่อยๆเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 23-10-2015 20:45:46
คนที่น่าสงสารที่สุดคือเก้า :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: You MakeMe ที่ 24-10-2015 18:09:21
หาสามีดีๆมาให้เก้าสักคนเถอะครับ ได้โปรด  :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-10-2015 10:29:24
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 25-10-2015 17:02:23
สนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 25-10-2015 18:44:17
กอดๆอาเก้า :กอด1:
จะอาภัพไปไหน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-10-2015 21:52:28
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: plugie ที่ 27-10-2015 04:26:14
สงสารท่านแม่ทัพ :hao5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 27-10-2015 08:02:10
 o15 แหะ แหะ แวะมารอแต่เช้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 27-10-2015 12:45:32
เข้ามาปูเสื่อรออ่านค่า  :mew3: :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 27-10-2015 13:03:20
ดันให้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่30 หน้า30 (20ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-10-2015 13:11:14
มาดันด้วยอีกคน ฮึบ ฮึบ ฮึบ :katai5:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 27-10-2015 15:03:04
ตอนที่ 31

นับจากต้าซันพาอาเม่ยหลบหนีออกมาจากเมืองหลวง แม่ทัพเชมัลก็หันหลังให้กับทุกสิ่ง และมีแต่เพียงสุราเป็นดั่งเพื่อนรักตามที่ทุกคนกล่าวถึง
แต่หลังจากที่ตื่นนอนด้วยอาการเมาค้างในคืนหนึ่ง กลับคิดได้ว่า การคร่ำครวญไม่ได้ทำให้อาเม่ยกลับคืนมา จึงออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านทางเหนือ

แม่ทัพเชมัลย่อมรู้จักหมู่บ้านแห่งนี้เป็นอย่างดี ติดขัดที่ความลังเล ความไม่แน่ใจ และข้ออ้างมากมายที่ทำให้ไม่ได้กลับมา

พื้นที่นี้อยู่ห่างจากด่านชายแดนของแม่ทัพนาซิม ในระยะเดินทางประมาณ 1 วันสำหรับคนธรรมดาทั่วไป แต่หากเป็นผู้ใช้เวทย์ที่สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องหยุดพักจะใช้เวลาเพียงครึ่งวัน

กลุ่มบ้านช่างเหล็ก ย่อมหมายถึงการอยู่ใกล้สายแร่เหล็ก หัวหน้ากลุ่มบ้านจึงเป็นผู้มีอิทธิพล
แต่ส่วนที่เป็นเหมืองแร่ อยู่ในเขตภูเขาห่างไกลใกล้กับชายแดนที่ติดต่อกับเมืองเหนือ การที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแบ่งเขตเมืองด้วยเวทย์แข็งแกร่ง ทำให้พื้นที่ป่าช่วงรอยต่อระหว่างเมืองกลายเป็นเพียงลานหินกว้าง ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ และแร่ธาตุที่อยู่ใต้ดินกลายเป็นทรัพยากรที่ไม่อาจนำออกมาใช้
อย่างไรก็ตามเมืองเหนือที่ทำเหมืองแร่เป็นหลัก ยังต้องการเมืองท่าของเมืองวันเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากจะคิดจะทำลายคน และทำลายหมู่บ้านสักแห่งย่อมไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
หมู่บ้านที่ตกเป็นเป้าหมายกลับเป็นหมู่บ้านของช่างตีดาบที่อาเม่ยเติบโตขึ้นมา

การเดินทางมาถึงในครานี้ แม่ทัพเชมัลรั้งรออยู่ไม่ทันข้ามวัน เพราะเมื่อเดินสำรวจไปทั่ว ทำให้มองเห็นความสำคัญของพื้นที่ ช่องว่าง และปัญหาที่เกิดขึ้น จนต้องเร่งเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมไปกับการสำรวจตามเส้นทางเผื่อว่าจะพบว่า 2 พี่น้องพักอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง
เมื่อมาถึงเป็นเวลากลางดึกแล้ว แต่ก็กลับโวยวายดื้อรั้นจะเข้าเฝ้าฯ พระราชาฟารัคให้ได้ พอถวายรายงานเสร็จก็กลับไปทุบประตูร้านเหล้าในระหว่างทาง เดินกอดไหสุรากลับไปที่ค่ายทหาร
เรื่องงานก็เรื่องหนึ่ง แต่หัวใจที่ปวดร้าวยังเหมือนเดิม พอเริ่มต้นด้วยการร่ำสุรา แทนที่จะกลับมารอที่หมู่บ้าน ก็กลับกลายเป็นการทิ้งเวลาไปกับตั้งคำถามวกวนที่ไม่มีทางออก ทุกคนจึงตัดสินว่า แม่ทัพเชมัลผิดหวังรุนแรง ยิ่งมาซ้ำด้วยการที่ทหารยามเห็นว่ากำลังนอนกอดไหสุราอยู่หน้าบ้าน ทุกคนก็ยิ่งไปร่ำลือกันต่อไป
แม่ทัพเชมัลย่อมไม่สนใจคำกล่าวเหล่านั้น แต่สิ่งที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ ก็คือความคิดถึงที่ท่วมท้นหัวใจ ต่อให้ยังไม่รู้ว่าหากพบแล้วจะทำอย่างไรให้ก็ยังอยากพบหน้าอีกสักครั้งหนึ่ง
ดังนั้น แม่ทัพเชมัลจึงเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านนี้เป็นรอบที่ 2 ด้วยความเชื่อที่ว่า หากไม่กลับบ้าน 2 คนพี่น้องจะไปอยู่ที่ใดได้อีก!
และก็เป็นดั่งคาด...
การกลับมาในรอบที่ 2 พบ 2 คนพี่น้องอยู่ที่บ้านเล็กๆ แห่งนั้น
หมู่บ้านที่เหลือเพียงซากกองไม้ จากไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อนหน้า แต่บัดนี้มีบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง
ต้าซันกำลังพยายามซ่อมแซมมันโดยมีอาเม่ยกำลังช่วยอยู่
ดูท่าว่าจะเพิ่งมาถึงก่อนหน้าไม่นานเช่นกัน

ใจคิดว่าควรเดินเข้าไปหาและพูดคุย แต่ 2 เท้าก็กลับหยุดนิ่งอยู่ในที่ห่างไกลและเฝ้ามอง
ทั้งที่มาถึงที่แล้ว แต่ก็กลับไม่มีความกล้าที่จะเดินเข้าไป เพื่อกล่าวคำขอโทษ
แต่ก็ไม่อยากกลับไป เพื่อทำงานในหน้าที่
ไม่ทำอันใดสักอย่าง
แม่ทัพเชมัลได้แต่เฝ้ามองความเคลื่อนไหวนั้นจากที่ห่างไกล ...

ไม่รู้ตัวเลยว่าเฝ้ามองเช่นนั้นอยู่นานเพียงใด กระทั่งในยามค่ำคืนที่พบเห็นความผิดปกติ เมื่อคนผู้หนึ่งมาถึง
คนผู้นี้มีท่าทีพิรุธชัดเจน เพราะคอยเหลียวมองรอบตัวตลอดเวลา แม่ทัพเชมัล จึงคิดหาเรื่องด้วยการเจตนาก้าวเข้าไปหยุดยืนอยู่ที่ด้านหลัง
คนผู้นั้นหันมาสะดุ้งสุดตัว แล้วส่งเสียงตะกุกตะกัก หากแต่เมื่อไต่ถามว่าเป็นผู้ใด มาที่นี่ด้วยเหตุใด ก็กลับเปิดฉากลงมือกับแม่ทัพก่อน
เพียงดาบเดียวคนผู้นั้นก็ล้มลง เป็นการต่อสู้ด้วยความเคยชิน ที่เป็นไปอย่างรวบรัดอย่างที่แก้ไขได้ยาก แต่เมื่อหันไปมองทางด้านหลัง แม่ทัพเชมัลก็พบว่า อาเม่ยกำลังยืนมองอยู่ด้วยใบหน้าตกใจ จึงเดินเข้าไปหาเพื่อกล่าวชักชวนให้กลับไปด้วยกัน
“เสี่ยวเม่ย ที่นี่ไม่ปลอดภัย กลับไปกับพี่เถิด”
แต่การที่อาเม่ยรีบกลับไปที่บ้าน ทำให้แม่ทัพเชมัลเห็นว่า การบังคับพาอาเม่ยกลับไปเมืองหลวง ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง
ทั้งที่รู้ว่า อาเม่ยเติบโตที่หมู่บ้านแห่งนี้ แต่ก็ยังอดที่จะเป็นห่วง และกังวลไปล่วงหน้า ว่าการใช้ชีวิตที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่พอทำได้ก็คือการช่วยล่ากระต่าย นก หรือหาผลไม้ไปวางไว้ให้ที่หน้าบ้านพักหลังน้อยในเวลากลางคืน ซึ่งทำให้อาเม่ยรู้ว่ายังเฝ้ามองอยู่ เพียงแต่ไม่ได้เดินเข้าไปหา
หลายครั้งที่ อาเม่ยออกมาที่บริเวณแปลงปลูกผักทางด้านหลังบ้าน แล้วเหลียวมองหา เมื่อเห็นดังนั้น แม่ทัพเชมัลจึงก้าวออกมาจากที่หลบซ่อน

...พี่อยู่ที่นี่...

แต่ทันทีที่อาเม่ยหันมาเห็นว่ากำลังก้าวเดินไปหา ก็จะรีบเก็บของแล้วกลับเข้าบ้าน คนที่ก้าวออกมา จึงได้แต่ยืนนิ่งและอดทนรอต่อไป
ถัดมาอีกไม่กี่วัน แม่ทัพเชมัลก็พบชายอีกคน แต่เพื่อให้ได้รู้ความเป็นจริง จึงลากตัวให้ออกมาห่าง เพื่อสอบถามที่มาที่ไป
คนผู้นี้รับสารภาพเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้แม่ทัพเชมัลจำต้องฆ่าทิ้งไปอีกคน! และตั้งใจว่า จะรอกระทั่งต้าซันออกมา แล้วจะถามไถ่ต้าซันโดยตรง แม้ตลอดหลายวันมานี้ ต้าซันมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรื้อค้นซากปรักหักพังและการซ่อมแซมบ้าน
จนกระทั่ง 2 พี่น้องออกมาพบศพและช่วยกันนำศพไปฝัง บทสนทนาระหว่างพี่น้องที่ได้ยิน ทำให้จำต้องกลับเข้าเมืองหลวงด้วยจิตใจย่ำแย่
กลับมาครานี้ คล้ายกับตกอยู่ในฝันร้าย กลายเป็นคนไร้ค่าแห่งเมืองวันไปอย่างแท้จริง และไม่สนใจผู้ใด แม้แต่องครักษ์เก้าที่บาดเจ็บก็หาได้คิดถึงไม่
ในใจมีแต่เพียงความผิดหวัง และเสียใจอยู่ท่วมท้นหัวใจและร่างกาย จนกระทั่งวันหนึ่งที่พระราชาฟารัคเสด็จมาด้วยพระองค์เองและขับออกจากตำแหน่ง
นั่นกลับทำให้รู้สึกยินดี จนเข้าไปสวมกอดเชษฐาแล้วออกมาจากค่ายทหารเพียงลำพัง

หวังแต่เพียงว่า ครานี้จะมีความกล้ามากพอที่จะเดินเข้าไปหาเพื่อกล่าวคำสารภาพความในใจทั้งหมดทั้งมวล

ตอนที่ไปถึงเป็นเวลาเย็นแล้ว มองจากที่ไกลเห็นเพียงต้าซันที่กำลังซ่อมหลังคาบ้านหลังใหญ่ แต่ไม่เห็นอาเม่ย คาดว่าจะอยู่ในบ้าน อาจกำลังเตรียมอาหารอยู่
ต้าซันเอง เพราะอยู่ที่สูง จึงเห็นคนขี่ม้าตรงเข้ามา ก็รีบลงจากหลังคาออกมารออยู่หน้าหมู่บ้าน
เมื่อเข้าไปใกล้ยิ่งเห็นว่าต้าซันมีท่าทีตื่นเต้นทั้งตึงเครียด  จนถึงกับรีบเข้ามารับม้าไปผูกไว้ที่ที่เคยเป็นโรงตีเหล็กด้านหน้า แต่บัดนี้ต้าซันขึ้นโครงบ้านมีหลังคา พอให้เป็นโรงม้าได้อย่างสบายๆ
“ตั้งแต่ราชองรักษ์ลาทีฟมากับแม่หญิงพริม ข้าก็คิดอยู่ว่าสักวันท่านจะต้องมาเอง”
แม่ทัพเชมัลไม่ได้กล่าวความจริงว่านี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่มาที่นี่ หากแต่พยักหน้าเงียบๆ
ต้าซันรีบกล่าว “เม่ยไม่สบาย ราชองรักษ์บอกท่านหรือยัง หากเขาดูแปลกๆ ไปก็อย่าได้บีบคั้นเขา อย่าบังคับพาเขากลับไป”
เป็นอีกครั้งที่แม่ทัพเชมัลพยักหน้า ทำให้ต้าซันเบาใจลงและถามต่อ
“ท่านจะอยู่สักกี่วัน บ้านหลังใหญ่ยังซ่อมไม่เสร็จ เพราะมัวแต่มาซ่อมที่พักด้านหน้า คราก่อนที่ราชองครักษ์มา ข้ายังกลัวว่า พวกสัตว์ป่าจะมาลากม้าไปกิน”
แม่ทัพกล่าวตอบว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะพักสักกี่วัน เพราะในเวลานี้เพียงอยากกล่าวบางอย่างกับอาเม่ยก่อน
ต้าซันส่งเสียงในลำคอ “เช่นนั้น ก็เข้าไปที่บ้านกันเถิด เม่ยกำลังเตรียมอาหารเย็น”

เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน อาเม่ยที่สวมเสื้อผ้าสีหม่นเนื้อหนา ผมสีเงินยาวถักเปียไว้หลวมๆ กำลังยกอาหารมาวางที่โต๊ะตัวเล็กในครัว
บ้านหลังเล็กอย่างที่อาเม่ยเคยเล่าให้ฟัง
เพียงยกพื้นขึ้นมา แล้วเป็นครัว กับส่วนที่กั้นเป็นห้องนอน
“เม่ย ท่านแม่ทัพมา” ต้าซันกล่าว ทั้งที่เห็นอยู่ว่าทั้ง 2 คนกำลังมองกันอยู่
แต่คำกล่าวนี้ทำให้อาเม่ยได้สติ หันหลังให้ในทันที
“เสี่ยวเม่ย” แม่ทัพกล่าวอย่างยากลำบาก “พี่ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายทั้งหมดนี้”

ต้าซันไม่รู้อะไรเลย รู้แต่สรรพนามเรียกหาที่แม่ทัพใช้ แสดงถึงการที่เม่ยอยู่ในฐานะคนรัก และเห็นว่า แม่ทัพเชมัลก้าวเข้าไปยืนด้านหลังอาเม่ยแล้วคุกเข่าลง
“เสี่ยวเม่ย พี่ขอโทษ”
อาเม่ยยังคงยืนหันหลังให้ ขณะที่แม่ทัพเชมัลกล่าวช้าๆ
“ขอโทษที่พี่ไม่มั่นคง ทั้งที่รู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ แต่ก็ยังทำให้เจ้าและทุกคนที่นี่ถูกทำร้าย....”
 
เรื่องที่ต้าซันได้ยิน เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายโดยสิ้นเชิง

“ตั้งแต่เล็ก พี่เคยได้ยินเรื่องของ 4 ผู้เฒ่าแห่งยอดเขาหมู่บ้านช่างเหล็กว่าเป็นผู้มีเวทย์แข็งแกร่ง แม้จะมีอาจารย์หลายคนเตือนว่า เวทย์ของพวกเขาใกล้เคียงกับเวทย์ดำ หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรปะทะ เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด แต่ในตอนนั้น พี่ยังอยู่ในวัยคึกคะนอง อายุเพียง 15 ปี แม้จะถูกทัดทานแต่ยังเดินทางมาที่นี่โดยลำพัง ด้วยเชื่อมั่นในพลังเวทย์และเพลงดาบ แต่ปรากฏว่าพี่กลับพ่ายแพ้ต่อผู้เฒ่าลมที่พบที่เชิงเขา แต่ในตอนนั้นเองที่พี่พบเจ้า....”

แม่ทัพเชมัลหวนนึกถึงคราวที่พบกันครั้งแรก

หลังถูกผู้เฒ่าลมซัดจนหมดสติ ทั้งถูกทิ้งไว้ที่เชิงเขา เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เชมัลในวัย 15 ปีก็พบกับเจ้าของดวงตาสีเขียวใสและเส้นผมสีเงิน ของคนที่กำลังยืนก้มลงมองคนที่นอนหมดสติอยู่กับพื้นหญ้า และท่าทางจะยืนมองอยู่เช่นนี้มาครู่หนึ่งแล้ว
พอเห็นว่าลืมตาขึ้นอีกคนจึงเปิดปากถาม
“ลุกไหวไหม” เด็กชายคนนี้น่าจะมีอายุไม่ถึง 10 ปี
“อืม...” เชมัลยังปวดร้าวคล้ายกระดูกจะร้าวไปทั้งตัว
อาจารย์เฒ่านั่นไม่ออมมือให้สักนิด แค่พูดจาไม่กี่คำก็พาลโมโห นี่หากไปพบกับผู้เฒ่าอีก 3 คนจะเป็นอย่างไรนะ
ระหว่างที่คิดกล่าวโทษผู้เฒ่าสายลม เด็กน้อยคนนี้ก็ลงนั่งยองๆ มองหน้าเขาอยู่เงียบๆ ไม่ได้ถามไถ่สิ่งใด จนเชมัลขยับตัวลุกนั่งตัวงอกดซี่โครงของตนเองอยู่ เด็กน้อยจึงส่งขวดยาเล็กให้
“กินสิ”
“ยาอะไร”
“แก้ช้ำใน”
“จริงหรือ”
“จริง”
“รู้ได้อย่างไร”
“ข้าก็กินยานี้”
“ทำไมเจ้าต้องกิน”
“ข้าก็เคยเจ็บแบบนี้”
ช่างถามคำตอบคำดั่งจะแกล้งกวนประสาทกัน แต่การที่อีกคนไม่ยอมลุกไปไหน หากนั่งมองเชิงบังคับให้กินยานั่นต่างหาก ที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาดี
เจ้าตัวไม่ได้พูดซ้ำว่าให้กินยา หากแต่นั่งมองหน้านิ่งๆ จนสุดท้ายเชมัลก็ต้องดื่มยาจนหมด
รอยยิ้มกว้างที่ตามมาเป็นดั่งรางวัล และเป็นรอยยิ้มที่เชมัลจดจำไว้ได้จวบจนลมหายใจสุดท้าย
ส่วนยารสชาติเฝื่อน หากเมื่อไหลผ่านลำคอกลับให้ความรู้สึกสดชื่น บรรเทาอาการเจ็บร้าวภายในจนสามารถเดินตามเด็กน้อยผู้นี้ไปพักที่เพิงพักเล็กๆ ในเขตเชิงเขา ตลอดทางเชมัลพยายามถามคำถามหลายอย่าง แต่เด็กน้อยก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง
อันที่ตอบก็ตอบสั้นๆ เหมือนเดิม ส่วนอันที่ไม่ตอบด้วยคำพูด เจ้าตัวจะหันมามองหน้า ดั่งจะถามว่า จะอยากรู้ไปทำไม
“เจ้าช่วยข้า ข้าก็อยากรู้ไว้บ้าง ภายภาคหน้าจะได้มาตอบแทนเจ้าได้ไง”
แล้วก็โดนคนมองด้วยสายตาแบบเดิมอีกครั้ง
เพิงพักแห่งนี้ที่มีเพียงผนัง 3 ด้านกับแคร่ไม้เพียงตัวเดียว เพื่อให้ผู้ที่กำลังเดินป่าแวะพักหลบฝน
พอมาส่งถึงที่เด็กน้อยก็หมุนตัวจะเดินกลับออกไป
“เดี๋ยว ข้าชื่อเชมัล เจ้าชื่ออะไร”
เด็กน้อยหันมามอง ดวงตาสีเขียวใสเป็นประกาย “เดี๋ยวก็ลืม”
เชมัลเถียงทันทีว่าไม่ลืม แต่เด็กน้อยก็หันหลังกลับไป
เด็กน้อยอายุไม่ถึง 10 ขวบเที่ยวเล่นอยู่ในป่าเพียงลำพัง แถมพกยาแก้ช้ำในไว้กับตัว คงต้องเป็นเด็กที่ฝึกเวทย์กับผู้เฒ่า แต่ตนเองมาท้าทายผู้เฒ่าจนถูกสั่งสอนขนาดนี้ แล้วก็กลับให้เด็กน้อยเอายามาให้ ต้องนับว่า ผู้เฒ่าสายลมผู้นี้มีจิตใจกว้างขวางมากทีเดียว
เด็กน้อยหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับอาหาร และยาอีกขวด
“กินข้าว กินยา แล้วกลับไป”
คำพูดของเจ้าคนนี้ช่างขัดกับหน้าตาและการกระทำเสียจนเชมัลต้องหยิกแก้มใสนั่น เพราะต่อให้อาจารย์สั่งให้มาดูแล โดยเจ้าตัวไม่เต็มใจก็น่าจะพูดจาให้ดีสักนิด
“เจ้าตัวเล็กนี่ ข้าเจ็บหนักนะ จะเร่งให้กลับไปทำไม”
เด็กน้อยปัดมือ ดวงตาที่จ้องมองมารู้ทันว่าเชมัลไม่ได้กล่าวความจริง
จ้องนิ่งๆ เหมือนก่อนหน้านี้จนเชมัลต้องยอมแพ้
“ก็ได้ๆ ข้ายังไม่กลับเพราะข้าจะเอาชนะผู้เฒ่าสายลมให้ได้ก่อน”
เด็กน้อยส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก”
“ต้องได้สิ” แม่ทัพเชมัลกล่าวอย่างมั่นใจ และยังไม่ยอมจากไป ทั้งเริ่มเดินพลังเพื่อฟื้นฟูร่างกายจนกระทั่งหายดีก็ไปท้าทายผู้เฒ่าสายลมอีกครั้ง
ในระหว่างนี้เด็กน้อยจะแวะมาหาเพียงวันละครั้ง เพื่อเอาอาหารมาให้ และคำกล่าวบั่นทอนจิตใจ ว่าเชมัลยังห่างไกลจากผู้เฒ่าสายลมอยู่มาก
ดังนั้น เมื่อพ่ายแพ้เป็นครั้งที่ 2 ชนิดที่หมดรูป พอได้สติลืมตาขึ้นมา เด็กน้อยก็ส่งขวดยาให้พร้อมกับสีหน้าดั่งจะบอกว่า ....หาเรื่องเจ็บตัวโดยแท้ ... จากนั้น เด็กน้อยก็เดินนำเขากลับไปพักที่เพิงพักชั่วคราว
สีหน้าท่าทางของเด็กน้อยกลับทำให้เชมัลยิ่งต้องการชัยชนะ
“ข้าจะต้องชนะผู้เฒ่าให้ได้”
“ไม่ได้หรอก” เด็กน้อยที่เดินนำอยู่ตอบโดยไม่ได้หันมามอง
“ทำไม”
“พลังท่านด้อยกว่าผู้เฒ่าถึง 4 ส่วน ทั้งวู่วาม ดื้อรั้น ดันทุรัง ไม่ใช้สมอง” ช่างตอบอย่างตรงไปตรงมา จนคนฟังเจ็บในอกรุนแรงกว่าที่โดนซ้อม “ยาขวดสุดท้าย ให้ท่านเอากลับไป ฝึกให้แข็งแกร่ง อีก 5 ปีค่อยกลับมา” คนพูดหันมามองเต็มตา ส่งขวดยาให้อีกขวด
ไม่รู้ว่าสิ่งใดที่ทำให้เชมัลกล่าวออกไปเมื่อรับยาขวดสุดท้ายนี้ “อีก 5 ปีเจ้าจะอยู่ที่นี่ไหม”
เด็กน้อยพยักหน้า
“ดี งั้นอีก  5 ปีข้าจะกลับมา”
เชมัลจากมาด้วยความมั่นใจว่าจะมาที่นี่อีกครั้งในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาจไม่ได้มาเพื่อสู้กับผู้เฒ่า แต่อาจมาเพื่อรับเด็กน้อยคนนี้กลับไปที่ค่ายทหารด้วยกัน
เพราะในอีก 5 ปีข้างหน้า เชมัลจะมีตำแหน่งที่สูงขึ้นและสามารถมีผู้รับใช้ใกล้ชิดได้แล้ว!
ชีวิตคงดีไม่น้อยหากมีเจ้าหนุ่มคนนี้อยู่ข้างๆ
อาจกวนประสาทไปหน่อย พูดน้อยไปสักนิด แต่หากเปรียบเทียบกับคนที่พูดไม่ตรงกับใจที่พบเจออยู่ทุกวันแล้ว เชมัลต้องการอยู่กับหนุ่มตาสีเขียวแปลก ผมสีเงินผู้นี้โดยไม่ต้องสงสัย
แต่เพราะยังเป็นคนหนุ่มที่ทะนงตน เมื่อพ้นออกมาจากเขตหมู่บ้านแทนที่เชมัลจะกลับเข้าค่ายทหาร ก็กลับเดินทางขึ้นไปที่เมืองหน้าด่าน แล้วออกไปที่นอกประตูเมือง
ไปเพื่อเรียกความมั่นใจในตนเองกลับคืนมา!
การเรียกความมั่นใจในเขตเมืองวัน ที่เวทย์ดำเป็นสิ่งต้องห้าม สำหรับคนหนุ่มเลือดร้อนแล้วนั่นไม่นับเป็นความท้าทาย เชมัลต้องการเรียกความมั่นใจและชื่อเสียงจากการเอาชนะใครสักคนที่ใช้เวทย์ดำ
และที่นั่น เชมัลพบกับเฮยอั้น!
ผู้ครองเวทย์ดำแห่งเมืองเหนือในเวลานั้น ยังไม่ได้ถูกเวทย์ดำกลืนกินโดยสิ้นเชิง ทั้งยังมีทหารติดตามอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากันก็ย่อมเริ่มต้นด้วยคำพูดท้าทาย ดูหมิ่น
คนอย่างเฮยอั้นย่อมรู้ว่า อีกฝ่ายมีเจตนาท้าตีท้าต่อย ทั้งจับได้ว่า จิตใจของพระอนุชาแห่งพระราชาฟารัคผู้นี้ มีคนผู้หนึ่งเข้าไปรบกวนจิตใจ
คนหนึ่งมั่นใจในเวทย์ดำที่นำมาซึ่งชัยชนะ อีกคนก็มาเพื่อหาเรื่อง เมื่อเผชิญหน้ากันในเขตป่าที่ไร้กฎระเบียบ ย่อมนำมาซึ่งการต่อสู้ประหนึ่งโกรธเกลียดกันมานาน และผลคือเฮยอั้นเพลี่ยงพล้ำจนตกจากหลังม้า
ผู้สวมชุดดำเช็ดเลือดที่มุมปาก ขณะที่มองเชมัลที่ยืนค้ำอยู่

“เด็กน้อยตาสีเขียวแปลก ผมสีเงิน งดงามดั่งตุ๊กตากระเบื้อง น่ารักดีนี่”

เชมัลชะงัก “เจ้ากล้าอ่านจิตข้างั้นหรือ”
“ทำไมจะอ่านไม่ได้” เฮยอั้นบอก “ที่นี่ไม่ใช่เมืองวัน ไม่มีกฎหมายบ้าบอ ข้าทำในสิ่งที่อยากทำ”
แต่เชมัลยักไหล่ “สู้กันตัวต่อตัวไม่ได้ ก็คิดจะไปทำร้ายคนอื่น ช่างกล้าหาญเสียจริง”
“ที่เจ้าพอใจเด็กเล็กขนาดนั้น น่าจะเรียกเจ็บป่วยทางจิตมากกว่ากล้าหาญนะ”  เฮยอั้นกล่าวล้อเลียน แต่มันทำให้เชมัลโกรธอย่างยิ่ง
เพราะการอ่านจิตก็ไม่ต่างอันใดไปจากการยืนเปลือยกายต่อหน้าผู้อื่น ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะของบรรดาทหารที่ติดตามเฮยอั้น เชมัลก็คิดแต่จะสร้างความอับอายแก่อีกฝ่ายเช่นกัน
ยิ่งถูกล้อเลียนว่าชอบเด็กน้อยกลับยิ่งพาลโกรธ
เพียงตวัดดาบในมือไม่กี่ครั้ง เสื้อผ้าของเฮยอั้นก็ขาดวิ่น
“เจ้าไม่ได้ดูน่ารัก และไร้เดียงสาอย่างเด็กคนนั้น ข้าไม่สนใจเจ้า”
เชมัลกล่าวคำดูหมิ่นสองแง่สองมุม ที่ยิ่งเพิ่มความอับอายทวีคูณ ด้วยคำกล่าวเหล่านั้นทำให้เกิดเสียงนินทา ที่จะยิ่งทำให้เฮยอั้นทั้งโกรธทั้งอับอายมากขึ้น

หลังจากนั้นเมื่อเชมัลขึ้นเป็นรองแม่ทัพและต้องย้ายมาอยู่ที่เมืองหน้าด่านก็พบกับเฮยอั้นอีกหลายครั้ง ได้รับรู้ว่า เฮยอั้นเดินหน้าเข้าสู่เวทย์ดำมากขึ้นเรื่อยๆ การปะทะกันในเวลาต่อมายิ่งเพิ่มความรุนแรง
ครั้งหนึ่งรองแม่ทัพเชมัล เผชิญหน้ากับรัชทายาทเจิ้นเทียนแห่งเมืองเหนือ ที่เดินทางมากับเฮยอั้น แต่รองแม่ทัพเชมัลในเวลานั้นไม่คิดที่จะเป็นฝ่ายถอยตามมารยาททางการทูต ยิ่งเมื่อถูกท้าทายว่า
“แม้เราจะอาวุโสกว่าเจ้า แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่คนเกเรอย่างเจ้าต้องออมมือให้เรา”
ดังนั้น รองแม่ทัพเชมัลจึงซัดเต็มที่!
ทั้งรัชทายาท และเฮยอั้นพ่ายให้กับรองแม่ทัพเชมัลอย่างหมดรูปต่อหน้าทหารติดตามจำนวนมาก!
เพราะความขัดแย้งกับคนพาลโดยแท้ที่ทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตในเวลาต่อมา
เมื่อฝ่ายตรงข้าม เฝ้ารอวันที่จะแก้แค้นด้วยความใจเย็นอย่างยิ่ง!
ชื่อเสียงของเชมัลในเมืองเหนือยิ่งนานก็ยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัว การได้รับการยกย่อง กับหน้าที่การงานมากมายทำให้เชมัลมองข้ามเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กน้อยแห่งกลุ่มบ้านช่างเหล็กในหุบเขาไปในที่สุด
แม้ในการเอาชนะเฮยอั้นครั้งหนึ่ง ฝ่ายผู้ที่พ่ายแพ้จะเยาะเย้ยว่า สามารถเข้าถึงหัวใจของรองแม่ทัพเชมัลได้แล้ว แต่รองแม่ทัพเชมัลในเวลานั้นก็ไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่

"รู้ไหม ตุ๊กตากระเบื้องสวยงามก็จริง แต่มันกลับไม่มีค่าอะไรนอกจากวางไว้เฉยๆ และช่างเป็นสิ่งที่ถูกทำลายได้ง่ายดายยิ่ง"

ไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังมองข้ามไปเสียสิ้นด้วยความเชื่อมั่นว่าเวทย์ดำของเฮยอั้น ไม่มีทางผ่านเข้าไปถึงเมืองวันได้โดยเด็ดขาด
ผู้พ่ายแพ้ในวันนั้น หัวเราะเยาะเย้ยใส่หน้าของผู้ชนะ ทำให้ผู้ชนะยิ่งลงมือหนัก เมื่อยิ่งลงมือหนัก กลับยิ่งทำให้เฮยอั้นยิ่งพึงพอใจ
แต่หากถามว่าเหตุใดรองแม่ทัพเชมัลจึงไม่ฆ่าเฮยอั้นเสีย คำตอบก็แสนง่าย นั่นคือไม่มีเหตุให้ต้องฆ่า เพราะแม้เฮยอั้นของเมืองเหนือในเวลานั้นจะเป็นดั่งอันธพาล หาเรื่องกันทุกครั้งที่ออกไปตรวจตรานอกประตูด่าน แต่เฮยอั้นไม่เคยก้าวข้ามเข้ามาในเมืองวัน
ไม่เคยสร้างความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นให้ต้องฆ่าฟันกัน เพราะฝ่ายของเมืองวันเองแม้ต้องการป้องกันหมู่บ้านเถื่อนในพื้นที่ แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะอยู่นอกเขตเมืองวัน
สุดท้ายความขัดแย้งนี้ จึงดูเหมือนเป็นเรื่องราวระหว่างคน 2 คน
แต่การล้างแค้นของเฮยอั้น ยิ่งใหญ่กว่าเรื่องส่วนตัว เพราะย่อมผูกความแค้นของรัชทายาทเจิ้นเทียนเข้าไปด้วย นอกจากนี้ยังมีบัญชาจากพระราชาเมืองเหนือ ให้แทรกแซงและเอาชนะเมืองวันให้ได้ เพื่อเป็นทางไปสู่ทะเล

เฮยอั้นจึงมีเหตุผลสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่กว่า ในการวางแผนการที่ซับซ้อน และเดินหน้าเข้าสู่เวทย์ดำเต็มตัว

ฝ่ายรองแม่ทัพเชมัลเมื่อย้ายจากเมืองหน้าด่านกลับเข้าสู่เมืองหลวง เติบใหญ่ในหน้าที่การงานรับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ก็พาลหลงลืมสัญญาที่จะกลับไปที่หมู่บ้านในหุบเขาไปเสียสิ้น!
จนกระทั่งอาเม่ยเดินมาที่หน้าค่ายทหาร ถึงได้คิดถึงเรื่องสัญญาเก่าก่อน
แต่เด็กน้อยคนที่เคยพบไม่ใช่คนช่างเจรจา ทั้งไม่ตั้งคำถาม ตรงข้ามกับอาเม่ยที่พบที่ค่ายทหารอย่างสิ้นเชิง

(มีต่อ)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 27-10-2015 15:05:20
(ต่อครับ)


“แรกเริ่มนั้นเพราะพี่เชื่อมั่นในตนเอง ดันทุรัง จนสร้างศัตรูที่คิดแค้นฝังใจ ต่อมาคือพี่ไม่ชัดเจนต่อเจ้าให้มากพอ ช่วงแรกก็ติดอยู่กับคำถามที่ว่า เจ้าใช่เด็กน้อยคนนั้นหรือไม่ ทั้งที่นั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรักที่พี่มีต่อเจ้า เจ้าจะใช่หรือมิใช่พี่ก็รักเจ้า ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ ว่าเจ้าไม่มั่นใจในความรักที่พี่ให้เจ้า แต่พี่ก็ยังให้ความสำคัญกับอดีต จนปล่อยให้เวลาผ่านไป การย้ำกล่าวและทำดีกับเจ้าในเวลาเพียงวันสองวันก่อนที่จะออกเดินทางย่อมไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าเชื่อได้อย่างหมดใจ ช่องว่างในหัวใจจึงมีอยู่มากมาย ทั้งเมื่อได้เจ้ากลับมา ก็กลับทำให้เจ้าหวั่นไหวเมื่อเห็นพี่กับเก้าอีก”
แม่ทัพเชมัลคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังของอาเม่ย กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “รัชทายาทเจิ้นเทียน และเฮยอั้นทำร้ายพี่โดยตรงไม่ได้ แต่มันสามารถทำร้ายเจ้าได้ เฮยอั้นมันวางเดิมพันด้วยพลังทั้งหมดที่มันมีเพื่อวางเวทย์ดำใส่เจ้า”

ทำร้ายอาเม่ย ก็ไม่ต่างจากทำร้ายแม่ทัพเชมัล และย่อมมีผลถึงความมั่นคงของเมืองวัน เพราะพระราชาฟารัควางพระทัยพระอนุชาผู้นี้อย่างยิ่ง!

“พี่รู้ว่า เจ้าไม่เคยวางใจเรื่องระหว่างพี่กับเก้า แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเก้า มันไม่ใช่ความผิดของเขา การที่พี่พูดดีกับเขาไม่ได้หมายความว่าต้องการวันเวลาเก่าๆ กลับคืนมา พี่เพียงไม่อยากวางตนห่างเหินเมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกายแล้ว เพราะหากทำเช่นนั้น พี่ก็จะกลายเป็นคนที่ซ้ำเติมเก้า”
คนที่ยืนหันหลังให้มีท่าทีตึงเครียดขึ้น
“เสี่ยวเม่ยเชื่อพี่เถิด ใจของพี่มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น”
คำกล่าวนี้แม้จะทำให้คนที่ยืนหันหลังให้ยังไม่ยอมหันมามอง แต่ไหล่ที่สั่นไหวทำให้ต้าซันที่ยืนฟังอยู่ด้วยกันรีบฉวยโอกาสไว้

"อะ เอ่อ....มีเรื่องอันใด ก็ค่อยคุยกันดีกว่าไหม เวลานี้อาหารเย็นชืดหมดแล้ว เม่ย อย่างไรก็...ให้ท่านแม่ทัพกินอาหารด้วยกันก่อน แล้วเจ้าจะตัดสินใจอย่างไร ก็ค่อยว่ากัน มันมี...มีเอ่อ...มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แม่ทัพไม่รู้เรื่องที่เกิดกับเจ้า เจ้าเองก็ไม่รู้ว่าแม่ทัพพบเจอกับอะไรมาบ้าง ก็....ค่อยๆ คุยกันไป " ต้าซันไม่รู้จะหาเหตุอันใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว
อาเม่ยก้าวไปข้างหน้า อีกคนก็แทบผวาตาม "เสี่ยวเม่ย"
แต่อาเม่ยไม่ได้หันมา เพียงแค่ชี้มือไปทางด้านหลัง ให้แม่ทัพนั่งที่โต๊ะกินข้าว
"แม่ทัพเชิญนั่ง กินข้าวกัน" ต้าซันรีบแปลท่าทางของอาเม่ย พลางแตะศอกให้แม่ทัพเชมัลลุกขึ้น จากนั้นก็พยายามหาหัวข้อขึ้นมาสนทนา แต่ก็กลายเป็นการพูดอยู่คนเดียว เพราะแม่ทัพเชมัลเพียงแค่พยักหน้า ส่วนอาเม่ยก็ไม่ได้กล่าวคำใด เมื่อกินอิ่มแล้วต้าซันก็รีบลุกออกไป
"จะไปไหน" อาเม่ยถามพี่ชาย
"จะ จะ จะไปดูม้าให้แม่ทัพไง"
อาเม่ยมองพี่ชายด้วยสายตารู้ทันแล้วก็พยักหน้า
แต่เมื่อต้าซันออกมาจากบ้าน ทั้งอาเม่ยและแม่ทัพเชมัลต่างก็วางตะเกียบในมือ

"ข้า ตั้งใจไว้ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านเดินเข้ามาที่นี่ ข้าจะหนีไปกับต้าซัน"
....เสี่ยวเม่ยเคยเรียกพี่ว่าท่านพี่ แต่คำเรียกขานยามนี้ช่างห่างเหินจนปวดใจ...
"เสี่ยวเม่ย" แม่ทัพเชมัลคว้าจับข้อมือของอีกฝ่ายไว้ทันที "อย่าหนีไปอีกเลย พี่......"
"มันไม่ใช่ความผิดของท่าน" อาเม่ยตัดบท "มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น อย่ากล่าวโทษตนเอง แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเรา..."
"พวกเราสามารถทำความเข้าใจกัน ให้โอกาสพี่อีกครั้งเถิดนะ"
"ท่านไม่ได้ทำผิดอันใด" อาเม่ยบอก ดึงมือออกจากมือใหญ่ที่กอบกุมอยู่ "กลับไปเถิด"
"พี่ไม่ไปไหน ถ้าไม่มีเจ้าไปด้วย"
อาเม่ยมองคนที่กล่าวคำอย่างดื้อดึง แล้วถอนหายใจ ลุกขึ้นเก็บถ้วยชามไปล้าง โดยมีอีกคนคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ

ต้าซันที่ยังคงแอบฟังอยู่นอกบ้านก็พลอยถอนหายใจยาว
เมื่อครั้งที่อยู่ในเมืองหลวง เคยบอกกับแม่ทัพเชมัลและเหล่าองครักษ์ไปแล้ว ว่าอาเม่ยไม่ใช่คนช่างพูด แต่ทุกคนก็กลับหัวเราะขบขัน ไม่มีผู้ใดเชื่อเลยสักคน
หากในเวลานี้ต้าซันกลับอยากให้น้องชายเป็นคนช่างพูดและร่าเริงเหมือนกับที่อยู่ในเมืองหลวง เรื่องราวจะได้คลี่คลายลงด้วยดี

เสียงฝีเท้าของต้าซันห่างออกไป อาเม่ยก็หันหลังให้กับแม่ทัพเชมัล
"ต้าซันเป็นห่วงเจ้ามาก"
อาเม่ยแค่พยักหน้าตอบรับ แม่ทัพเชมัลก็กล่าวต่อ "แต่พี่เป็นห่วงเจ้ามากกว่า คิดวุ่นวายอยู่ตลอดเวลาว่า พี่ควรทำอย่างไรต่อไป"
อาเม่ยยังเลือกที่จะนิ่งเฉย ทำงานบ้านต่อไปจนเสร็จก็จะออกไปข้างนอก
"เสี่ยวเม่ย"  แม่ทัพเรียกไว้
"ท่านพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้จะได้รีบออกเดินทางแต่เช้า คืนนี้ข้าจะไปพักกับพี่ใหญ่"
คนตัวใหญ่รีบสวมกอดอีกคนไว้จากทางด้านหลัง
"เสี่ยวเม่ย พี่ขอโทษ...."
"มันไม่ใช่ความผิดของท่าน" อาเม่ยแกะมือที่กอดอยู่ แต่กลับยิ่งถูกกอดรัดมากกว่าเดิม
"หากไม่ใช่ก็ช่วยดีกับพี่สักนิด เพราะที่เจ้าเมินเฉยกับพี่ มันคือการกล่าวโทษพี่อย่างชัดเจน"
แรงขัดขืนของคนในอ้อมกอดหยุดลง
"ข้าไม่ได้กล่าวโทษ แต่ต้องการให้ท่านกลับไป"
"เสี่ยวเม่ย"
"ข้าควรทำอย่างไรให้ท่านกลับไป"
"พี่ไม่ไปหากไม่มีเจ้า"

อาเม่ยได้แต่ส่ายหน้า
"ท่านพักที่นี่ ข้าจะไปหาพี่ใหญ่"
"เช่นนั้นพี่ก็ไปด้วย"
"ท่านแม่ทัพ"
"พี่มิใช่แม่ทัพ พระราชายึดตำแหน่งและคนของพี่ไปทั้งหมดแล้ว" คนที่กล่าวคำหาได้รู้สึกเสียใจที่ถูกลงโทษสักนิด ทั้งยังเห็นเป็นโอกาสที่จะได้ทำให้สิ่งที่ต้องการ
มือใหญ่ที่กอดรัดแน่น ขณะที่แนบแก้มข้างแก้มใส
"หัวใจเจ้าเต้นแรงมาก" แขนใหญ่ที่โอบรัด ทาบแน่นที่อกบาง
ที่กล่าวไปหาได้มีเจตนาใด นอกไปจากการบอกว่า แขนใหญ่ที่รัดอยู่ยังรู้สึกถึงหัวใจของอีกคนที่เต้นแรง แต่อาเม่ยกลับร้องตะโกนด้วยใบหน้าแดงจัด
"แม่ทัพเชมัล เจ้าคน ลามก!"
เมื่อแม่ทัพเชมัลคลายกอดด้วยความแปลกใจในท่าที  อาเม่ยก็หันมาผลักอีกคนเต็มแรง
"ท่านมันคนโกหก คนเอาแต่ใจ! ข้าไม่ได้ต้องการให้ท่านอยู่กับข้าตลอดไป แต่หากจะหลอกใช้ข้า ก็ช่วยหยุดกล่าวถึงเก้าสักครั้งไม่ได้หรือไง"
"พี่ไม่ได้หลอกเจ้า และพี่อยากอธิบาย"
"แต่ข้าไม่อยากฟัง! ทั้งที่ท่านกล่าวว่ารักข้า ท่านดีต่อข้าในเวลาที่พวกเราอยู่ด้วย ในเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่ในทันทีที่เก้าเดินเข้ามา สายตาของท่านก็จะหยุดไว้ที่เขา ท่านรู้บ้างไหมว่ามันทำให้ข้าเสียใจเพียงใด รักของท่านมันเป็นรักแบบไหนกัน"
"เสี่ยวเม่ย พี่รักเจ้านะ"
"รักข้า หรือกำลังหลอกใช้ข้า"

แม่ทัพเชมัล มองคนที่กำลังโกรธจนมือสั่น หยาดน้ำตาที่ไหลจากดวงตาคู่สวยอาบแก้มใส
"เสี่ยวเม่ย พี่ไม่เคยโกหกที่บอกว่ารักเจ้า"
แม่ทัพเชมัลเข้าใจความรู้สึกของอาเม่ยเป็นอย่างดี เพราะความรู้สึกที่เป็นดั่งช่องว่างในจิตใจนี้ ที่ทำให้เวทย์ดำสามารถทำร้ายอาเม่ยได้อย่างง่ายดาย
"ข้าไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากท่านเพื่อให้ข้ากลับไปสู้รบให้เมืองวัน ข้าต้องการแค่ความจริง ท่านมาที่นี่เพื่ออะไร"
"พี่มาเพื่อกล่าวคำขอโทษ"
"ท่านกล่าวคำนี้หลายครั้งแล้ว สมควรกลับไปได้แล้ว"
"แต่พี่จะกลับไปก็ต่อเมื่อเจ้าไปด้วย"
อาเม่ยเหวี่ยงกำปั้นอย่างขัดใจ ทั้งขัดขืนสุดตัวเมื่ออีกคนเข้ามาสวมกอด
แต่ความดื้อร้นของแม่ทัพเชมัลยังคงมีมากกว่า
"เจ้าจะด่าว่าพี่อย่างไรก็ได้ จะเข้าใจผิดไปอย่างไรก็ยอมทุกอย่าง ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ เจ้าเท่านั้น ถ้าเจ้าอยากอยู่ที่นี่ พี่ก็อยู่ที่นี่กับเจ้า"
กำปั้นเล็กๆ ทุบที่แผ่นหลังกว้าง คนในอ้อมแขนสะอื้นแรง

"ตอนที่พี่ยืนมองเจ้าจากที่ห่างไกล ทบทวนการกระทำของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า พี่รู้แล้วว่าสิ่งที่ทำไปคล้ายพี่หลอกลวงเจ้า ควรแล้วที่เจ้าจะไม่วางใจพี่อีก"
แม่ทัพเชมัลกอดคนที่ได้แต่ร่ำไห้อยู่ในอ้อมแขน
คิดว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นดีที่สุดแล้ว แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะทุกสิ่งล้วนมาจากความคิดของตน ในมุมมองของตนเพียงฝ่ายเดียว ไม่เคยมีความเห็นพ้องของอีกฝ่ายเลยสักครั้ง
"เสี่ยวเม่ย พี่ขอโทษ"

..จบตอนที่ 31..

(http://www.uppic.org/image-14E3_562F2F5D.jpg) (http://www.uppic.org/share-14E3_562F2F5D.html)

ภาพนี้จาก http://www.thoughtpursuits.com

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 27-10-2015 15:12:35
จองไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านค้าบ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 27-10-2015 15:34:45
เจ็บกันทั้งคู่ตอนนี้   :mew5:พี่เชจะทำให้น้องเชื่อใจได้อีกไหม :เฮ้อ:

 :กอด1: :L2: :pig4:


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 27-10-2015 15:43:22
แอบเดาไว้ตั้งแต่ตอนก่อนหน้า ว่าเป็นพี่เชแน่ๆที่ตามมาดูแล
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงตนให้ออกมาให้ใครรู้ซินะ

ตอนที่องครักษ์กลับไปรายงานแล้วตั้งข้อสงสัยอะไรต่างๆ
สงสารอาเม่ยมาก ที่บอกว่า อาเม่ยเองก็พยายามสะกดอะไรบางอย่าง
มือแตะแค่มีดทำครัว และมีดเล็กแกะสลักไม้
อาเม่ยยยย อดทนอีกนิดนะ :oo1:
ตอนนี้พี่เชได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการแล้ว มาช่วยได้แล้ว
ในที่สุดพระราชาก็ยอมเห็นใจพี่เช

ว่าแล้วก็สมน้ำหน้าพี่ท่าน
วางแผนดีนัก ผิดแผนซะบ้าง ทีนี้แหละรับหน้าที่ดูแลเก้าเองซะ
แต่ขอให้เก้าเล่นตัวเยอะๆ เอาให้ลิ้มรสชาติโดนป่วนจนหัวปั่นบ้าง  :laugh:

ปล.
เห็นว่าอยากลงตอนใหม่แล้ว
รู้สึกผิด ต้องรีบมาตามอ่านของเก่าเก็บก่อน 555
ขอโทษไว้ในที่นี้เลยก็แล้วกันนะคะ
มัวแต่เวิ่นที่อื่น ไม่ได้เข้ามาในเล้าอย่างจริงๆจังๆ เค้าผิดไปแว๊วว T^T

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ตอนที่ 31
ห๊ะ อะไรนะ ตอนที่ 31แล้วเพิ่งจะรู้ความหลังครั้งเก่าว่าเขาประทับใจกันยังไง
เชื่อแล้วแหละว่าเรื่องนี้หนทางคงอีกยาวไกลจริงๆ 555

โอยยยย ตอนนี้ปวดใจมาก
พี่เชคงต้องสู้และพิสูจน์ใจกันอีกนาน
แต่อย่างน้อยอาเม่ยก็ได้ระบาย ได้ด่าพี่เชให้ฟังกันต่อหน้าแล้วเนอะ
รับรู้ความรู้สึก ความทุกข์ของเม่ยแบบนี้จะได้ไม่ต้องเดาว่าคิดอะไรอยู่
ยังพอมีความหวังให้พี่เชหาทางเอาความเชื่อใจกลับคืนมา
พี่เชสู้ๆค่ะ กอดน้องบ่อยๆรัดให้รู้สึกถึงความรักเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 27-10-2015 15:54:05
อร๊ายยย..เพิ่งจะทราบเบื้องลึกเบื้องหลังและความเป็นมาของแม่ทัพเชมัลและอาเม่ย เมื่อล่วงมาได้ 31 ตอน ดูเหมือนว่าเส้นทางรักนี้ ยังอีกยาวไกลไม่น้อย ไหนจะศึกรบ ศึกรัก จะเอาเวลาที่ไหนมาพิสูจน์รักแท้กันหนอ...

เป็นกำลังใจให้พี่ไจฟ์ น้องน้ำชานะคะ.. ตัวละครยังเหลืออีกเยอะเลยอ่า ไม่รู้เรื่องราวจะจบลงอย่างไร ไม่กล้าเดาทาง  :mew2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 27-10-2015 16:10:20
เป็นตอนที่ หนักหน่วงและโล่งอกในเวลาเดียวกัน 555555 อาเม่ยขี้หึงนะ ถ้าไม่ได้ทั้งหมด ก็ไม่เอา  เราเข้าใจเม่ย อยู่ที่แม่ทัพแล้วล่ะ การที่ประคับประคองเก้ามากเกินไปก็กลายเป็นดาบสองคมเนอะ แม่ทัพต้องปล่อยเก้าเดินเองบ้าง ถ้าในชีวิตจริง คล้ายๆกับว่า ต่อให้เป็นแฟนเก่า ถ้าเลิกกันแล้ว ก็ไม่ควรเข้าไปมีบทบาทในชีวิตของอีกฝ่ายนึงเลยนะ 5555555555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 27-10-2015 16:26:57
แปะก่อน อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-10-2015 18:39:58
ขอโทษไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ท่านพี่เชผิดเต็มๆผิดมาก!รู้ความจริงแล้วสมนำ้หน้าไงไม่รู้ โฮะๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-10-2015 18:57:20
อดีตช่างทำร้ายปัจจุบันอย่างเจ็บแสบ

นี่หมายความว่า เม่ยไม่ได้เป็นตัวเองเลยตั้งแต่เข้ามาอยู่ในค่าย

เอาใจช่วยพี่เช เอาใจช่วยเม่ย เอาใจช่วยเก้า

 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-10-2015 19:06:09
เอากำลังใจมาส่งจ้า

กด+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-10-2015 19:08:54
อ่านตอนนี้แล้วเลิกอวยพี่เชชั่วคราว เพราะความคะนอง อยากเอาชนะของพี่ ความซวยเลยไปตกลงที่น้อง ส่วนเก้าเราก็ยังอยากให้เค้าได้กับแม่ทัพนาซิมอยู่นะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 27-10-2015 19:44:50
 :mew4: พี่เช...ลืมเม่ยได้ยังไกันนนน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 27-10-2015 19:51:38
"ไม่สนใจผู้ใด แม้แต่องครักษ์เก้าที่บาดเจ็บก็หาได้คิดถึงไม่" คำนี้เหมือนกับว่า

อะไรที่ข้องใจ  เคือง และในความไม่ชัดเจนของท่านแม่ทัพเชมัลกับเก้า

หายข้องใจ ไปหมดเลย ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ท่านแม่ทัพรักอาเหม่ยจริง

อาเหม่ยก็หายงอนและกลับไปกับท่านแม่ทัพได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 27-10-2015 20:46:40
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

คำกล่าวที่ว่า  การกระทำในอดีต ส่งผลถึงปัจจุบัน และอนาคต
คงจะจริงสินะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 27-10-2015 21:13:40
สงสารเม่ยย เป็นเครื่องมือของคนอื่นเพราะพี่เชคนเดียวเลย คนนิสัยไม่ดี ลืมสัญญายังไม่พอ เจอกันอีกทีก็ยังมีคนอื่น เป็นห่วงคนอื่นไปซะแล้ว มันเศร้า

รีบมาต่อไวๆนะ อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 27-10-2015 21:37:13
สงสารเม่ย ถ้าตอนนั้นไม่ถูกใจก็คงไม่ต้องโดนแบบนี้

อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจเม่ยชัดเจนมาก พอมองจากมุมของเม่ยก็คงไม่แปลกที่จะไม่ไว้ใจ
ไม่มีอะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวนอกจากคำพูดเลย
เอาใจช่วยมากๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 27-10-2015 21:43:41
บัดนี้แม่ทัพก็ได้กล่าวขอโทษต่อความลังเลของตัวเองในระยะที่ผ่านมา เพราะแม่ทัพยังหนุ่มแน่น ไม่แปลกที่จิตใจจะวอกแวก ซ้ำยังอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสพบผู้คนมากมาย และยิ่งไม่แปลกหากแม่ทัพจะชอบเก้า แต่บัดนี้เมื่อรู้ใจตัวเองแล้ว และก็สำนึกกับสิ่ง "สิ่งผิดพลาด" ที่ตัวเองได้กระทำลงไป เม่ยก็ควรจะเห็นใจและให้อภัยแม่ทัพด้วยเถิด เพราะจริงๆ แล้ว ใจของเม่ยก็รักแม่ทัพมากๆ หากไม่รักจะปั้นปึ่งอย่างนี้หรือ ดังนั้นกลับมารักกันเถอะนะ แล้วช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อจะได้รับมือทางเมืองเหนือ ซึ่งตอนนี้คงต้องการจะบุกเมืองวันอย่างจริงจัง

ว่าแต่...เรื่องราวการพบเจอกันในอดีตของเชมัลกับอาเม่ยนี่มันน่ารักน่าประทับใจเหลือเกินนะคะ อ่านแล้วแบบต้องยิ้มตาม เชมัลหนุ่มกับอาเม่ยน้อย ว้าย...น่ารักใสๆ ค่ะ รักแรกของแม่ทัพใช่ไหมนั่น

ขอบคุณค่ะไจฟ์กับน้องที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 28-10-2015 08:42:18
เอาจิงนี่ตอนแรกคิดว่าคนที่เริ่มปมคือฮูดา......มันอะไรกันนี่ เพราะท่านเชมัลซะงั้น ลืมเพราะความจำเป็นเช่นโดนทำร้ายหรือโดนเวทย์หรืออะไรก็ได้แต่นี่ลืมคำสัญญาเพราะตำแหน่งที่ใหญ่โตและความคึกคะนอง ..โอยย อยากจะให้อาเม่ยหนีไปให้ท่านเชสำนึกให้มากขึ้นกว่านี้ กลายเป็นท่านเชทำร้ายทั้งอาเม่ยและทั้งเก้า บาป 2 เด้งค่ะ เคืองมากค่ะแอบเคืองท่านตอนนี้จริงๆถึงแม้จะมาสารภาพบาป แต่อยากให้สำนึกอีกนิด (ความชัดเจนที่เกือบมาไม่ทันการณ์)
ปมความรักมันแก้ยากกว่าเรื่องเมืองเหนือมาประชิดประตูเมืองซะอีกนะนั่น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 28-10-2015 09:10:07
อร๊ายยยยยยยยย ตอนนี้แอบมีหวานกันช่วงท้ายแฮะ
ดีแล้ว เปิดใจคุยกันให้หมดเปลือกแบบนี้แหละ โล่งอกไปที
อาเม่ยน่ารักอ่าาาาาาา ขี้หึงกว่าที่คิดนะเนี่ย
ขอให้ปรับความเข้าใจกันได้เร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 28-10-2015 11:30:18
สมน้ำหน้าไอ้พี่เชดีไหมเนี่ย :m16:
ก่อเรื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลย

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 28-10-2015 17:21:29
ต้องบอกว่าแอบหนีไปไม่อ่านมาหลายตอน
แบบว่ามันเครียดมว๊ากกกกกกกกกก  :ling3:
ลึกลับซับซ้อนซ้อนเงื่อนสุดๆ แบบว่าไม่สามารถคาดเดาได้เลยทีเดียว
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเครียดที่สุดตั้งแต่อ่านงานน้องไจฟ์น้องทีมา
แต่ก็น่าติดตามมิใช่น้อย เรื่องราวมันเข้มข้นจริงๆค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 29-10-2015 17:28:13
เชมัสใจร้าย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 29-10-2015 19:28:55
ตอนนั้นที่เชมัลผิดสัญญา.. ก็ยังไม่ได้รักกันไม่ใช่เหรอ..
ยังไม่ได้มีความผูกพันธ์มากพอที่จะยึดคำสัญญาที่ให้ไว้

แต่แหมมมมม พี่เชนะพี่เช นอกจากไม่ได้กลับไปหาแล้ว
ตอนอาเม่ยเข้าวังมายังจำไม่ได้อีก
ตาสีนี้ ผมสีนี้ พี่เชคิดว่าจะมีสักกี่คนเชียวหืมมม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: You MakeMe ที่ 30-10-2015 05:12:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Theshadowreader ที่ 31-10-2015 02:17:45
อยากทุบท่านแม่ทัพ

แต่ก่อนทำอะไร คิดน้อยไปจริงๆ

ยังไม่หายโกรธ ชริ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-10-2015 19:04:57
หลังจากไม่ได้มาอ่านอยู่สองตอนท้าย เพิ่งจะมีโอกาสมาอ่านต่อและแล้วก็ได้รู้ถึงอดีตของทั้งคู่สักที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-11-2015 10:04:03

"แต่ข้าไม่อยากฟัง! ทั้งที่ท่านกล่าวว่ารักข้า ท่านดีต่อข้าในเวลาที่พวกเราอยู่ด้วย ในเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่ในทันทีที่เก้าเดินเข้ามา สายตาของท่านก็จะหยุดไว้ที่เขา ท่านรู้บ้างไหมว่ามันทำให้ข้าเสียใจเพียงใด รักของท่านมันเป็นรักแบบไหนกัน"

โอย เจ็บจื๊ดแทนเม่ย แล้วท่านเชมัลจะแก้ไขอย่างไรต่อไป ...

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-11-2015 09:39:16
แวะมารอทั้งๆที่วันนี้แค่วันจันทร์  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 02-11-2015 14:38:17
เข้าใจอาเม่ยนะ เป็นฝ่ายรอสัญญา ระหว่างทางพี่เชก็ไปรักเก้า
ไม่ผิดที่อาเม่ยจะไม่เชื่อใจ ...หน่วงกันไปอีก :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 02-11-2015 18:21:56
มารอตอนใหม่ฮะ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 02-11-2015 21:59:19
ความจริงในอดีตเริ่มเปิดเผยแล้วสินะ เกินจากที่คาดเดาไว้มาก
อิพี่เชนี่ห้าวเป้งมากอะ เลือดร้อนมุทะลุสุดๆ น่าทุบแรงๆ สักพลั่กสองพลั่ก
น่าสงสารอาเม่ย ตกเป็นเหยื่อของเฮยอั้น แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ อาเม่ยงอนแรงๆ เลยลูก!!

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 03-11-2015 10:58:32
แวะมาดันน้องเม่ย ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่31 หน้า31 (27ตุลา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-11-2015 16:50:44
มารอ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 03-11-2015 20:42:33
ตอนที่ 32

ทั้งหมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านพักอยู่เพียง 2 หลัง บ้านหลังเล็กที่อยู่ในสภาพที่ดีบ่งบอกชัดเจนว่ามีผู้อาศัยอยู่
บ้านหลังนี้มีโครงสร้างยกพื้น 3 ระดับจากลานดินหน้าบ้าน คือส่วนที่เป็นครัวกับห้องน้ำอยู่ในระดับที่ 1 ระดับที่ 2 คือส่วนที่เป็นห้องโถง ที่ใช้ทั้งกินข้าวและใช้งานอื่น และที่สูงที่สุดในระดับเพียงบันไดขั้นที่ 3 คือห้องนอนที่มีเพียงห้องเดียว
บ้านอีกหลังแม้จะมีขนาดใหญ่กว่า แต่ยังปลูกสร้างไม่เสร็จ หน้าต่าง หลังคา ยังไม่เรียบร้อย หากยังสามารถเข้าพักได้ บ้านหลังนี้มีพื้นครัวและห้องน้ำเสมอกับลานดินหน้าบ้าน แต่ส่วนที่เป็นห้องนอนอยู่สูงกว่าครัว 3 ขั้นบันได
ทั้ง 2 หลังไม่ใช่บ้านหลังเดิมที่ต้าซันและอาเม่ยเคยพัก แต่ต้าซันปรับปรุงขึ้นใหม่ โดยอาศัยแบบบ้านจากในเมืองหลวงมาดัดแปลง เนื่องจากที่นี่อยู่ในหุบเขา ยามเมื่อฝนตกอาจมีน้ำหลากจากภูเขาไหลลงมา
นอกจากความละเอียดรอบคอบจะทำให้ต้าซันใช้เวลาในการทำงานนานกว่าปกติ เจ้าตัวยังซ่อมบ้านหลังเล็ก 1 วัน หลังใหญ่ 1 วัน ไปซ่อมโรงเก็บม้าบ้าง ซ่อมบ่อน้ำบ้าง สุดท้ายจึงไม่มีอะไรที่นี่ที่เสร็จสมบูรณ์

มิใช่!...สิ่งปลูกสร้างที่เสร็จสมบูรณ์มีเพียงบ้านพักหลังเล็กที่อาเม่ยพักอยู่เท่านั้น

รุ่งเช้าอาเม่ยก้าวออกมาจากบ้านพักหลังเล็ก มองผ่านหน้าต่างที่ยังเป็นช่องผนังของบ้านหลังใหญ่ เห็นต้าซันกำลังเตรียมอาหาร จึงเดินเข้าไปหา
“ข้ากำลังจะเตรียมอาหารเช้า ดีที่เดินมาดูก่อน”
ผู้เป็นพี่ชายหันมายิ้มกว้าง “บ้านนี้กว้างขวางกว่า มากินที่นี่เถิด” เว้นไปนิดหนึ่งก็ทำสีหน้าอยากรู้ “คุยกันแล้วสินะ”
พออาเม่ยส่ายหน้า พี่ชายมีท่าทีผิดหวังแล้วปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้คุยกันงั้น....”
“ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ” อาเม่ยกล่าว

ต้าซันเป็นคนที่สามารถอ่านความคิดและความรู้สึกได้ง่ายดายที่สุด ต่อให้เป็นเด็กเล็กที่ไม่มีความสามารถใดๆ ก็ยังรู้ ว่าต้าซันกำลังคิดอันใดอยู่ ยิ่งยามนี้ที่มีสีหน้าท่าทางอยากรู้เรื่องราวมากมาย ชัดเจนกว่าการถามออกมาตามตรงเสียอีก
ที่สำคัญคือ ต้าซันไม่ได้ติดใจอันใด ว่าอาเม่ยจำราชองครักษ์ และพริมที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ได้
เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ควรปล่อยให้มันผ่านไป สิ่งสำคัญคือ เมื่อแม่ทัพเชมัลเดินทางมาด้วยตนเอง ย่อมหมายถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

“ข้านอนบนเตียง และอยู่ในห้อง ส่วนเขานอนที่แคร่ตัวยาวหน้าห้อง”
“อ้าว....."
อาเม่ยส่ายหน้าให้กับน้ำเสียงผิดหวังของพี่ชาย ขณะที่ช่วยจัดการมื้อเช้า ทั้งที่จิตใจยังคงเต็มไปด้วยความสับสนลังเล ควรบอกสิ่งใด ไม่ควรบอกสิ่งใด หรือไม่ต้องบอกสิ่งใดเลย ปล่อยให้มันผ่านไปแบบที่ต้าซันทำอยู่ ยิ่งเมื่อคิดย้อนถึงคำกล่าวของต้าซันที่ให้พูดคุยกันก็เห็นว่าจริงตามนั้น เพราะเมื่อแยกจากกันแล้ว ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น ที่ไม่ได้เกิดเพราะความผิดของแม่ทัพเพียงอย่างเดียว

“หากรู้สึกผิดที่กล่าวคำรุนแรงเกินไป ก็ต้องกล่าวขออภัย แล้วค่อยๆ คุยกัน ทำความเข้าใจกัน”
ต้าซันกล่าวขณะที่กำลังผัดผัก
“เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ ผู้คนมากมายทั้งยกย่องและหวั่นเกรงเขา แต่เขากลับยอมทิ้งทุกอย่างมาหาเจ้า คุกเข่าขอให้เจ้ายกโทษให้แบบนั้น ต่อให้เขากำลังหลอกลวงเจ้าไม่ว่าจะเพื่อใคร ก็ยิ่งสมควรทำความเข้าใจกันและกันให้ดี” พี่ชายตักผัดผักใส่จานที่น้องชายถือไว้ “แต่หากพบว่าเขาจริงใจ และเจ้าเข้าใจผิดไปเอง เจ้ายิ่งสมควรกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ”

อาเม่ยคิดตามพี่ชายแล้วพยักหน้า ต้าซันจึงบอกให้ไปเรียกอีกคนมากินอาหารเช้า แต่คนที่ถูกกล่าวถึงเดินเข้ามาพอดี
ต้าซันใช้ศอกกระทุ้งเอวน้องชาย เชิงบอกให้เรียกแม่ทัพกินข้าวด้วยกัน
อาเม่ยอึกอัก หันไปมองทางอื่น ขณะที่กล่าวเบาๆ “....กินข้าว”
ต้าซันยิ้มพลางถูมือ “กินข้าวกัน วันนี้มีคนมาเพิ่ม ข้าจะได้ซ่อมท่อส่งน้ำเสียที”
“พี่ใหญ่” อาเม่ยหันมาทำเสียงตกใจกับพี่ชาย พี่ชายก็รีบบอก
“ถ้าเจ้าอยากจะแกะไม้ ไม่อยากทำงานสกปรกเลอะเทอะก็ตามใจเจ้า ข้าไม่ได้กล่าวชวนเจ้าเสียหน่อย”

อาเม่ยทำเสียงในลำคอ แล้วกินข้าวต่อไปเงียบๆ มีเพียงต้าซันที่ชวนแม่ทัพเชมัลคุยเกี่ยวกับการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้
เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จเชมัลก็ออกไปช่วยต้าซันทำงาน ส่วนอาเม่ยยกกล่องเครื่องมือออกมาวางที่หน้าบ้านแล้วเริ่มต้นการทำงาน
ได้ยินเสียงสนทนาเป็นระยะจนกระทั่งเสียงเงียบหายไป จึงเหลียวมองหาว่าทั้ง 2 คนไปอยู่ที่ใด เดินวนรอบบ้านพักทั้ง 2 หลังก็ยังไม่พบ ระหว่างที่กำลังยืนมองหาจากทางสวนผักหลังบ้าน เห็นต้าซันกำลังชู 2 มือสุดแขนเรียกหา
อาเม่ยยิ้มกว้างแล้วกลับมาทำงานต่อ
แต่เพียงครู่เดียว คนตัวใหญ่ก็เดินมานั่งลงข้างๆ
อาเม่ยหันมามองแล้วแกะไม้ต่อไป จนเมื่อรู้สึกเมื่อยหลัง เพียงยกมือขึ้นกดที่ไหล่ตนเอง มือใหญ่ก็รีบเข้ามาบีบนวดให้
“มิเป็นไร”
อีกคนขยับตัวเข้ามาใกล้แต่ยังบีบนวดให้ต่อไป

ต้าซันที่ลอบมองจากที่ห่างไกลได้แต่ส่ายหน้า
ไม่พูดคุยทำความเข้าใจ ก็เท่ากับสะสมความไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งก็จะจากกันไปด้วยความไม่เข้าใจนั้นเอง
หลังอาหารกลางวันต้าซันเลี่ยงไปนอนพักอยู่ในโรงม้า เมื่อแดดอ่อนลงก็ชวนแม่ทัพเชมัลไปทำงานต่อ
สายลมพัดเย็น ยอดไม้เอนลู่ บ่งบอกว่าอีกไม่นานฝนคงจะตก
แต่ฝนกลับตกหนักในช่วงค่ำ ต้าซันสั่งให้อาเม่ยอยู่ในบ้าน ส่วนตัวเองกับแม่ทัพออกไปช่วยกันเสริมไม้ค้ำสวนผัก เสร็จแล้วมีเพียงแม่ทัพที่กลับเข้ามาที่บ้านหลังเล็ก ส่วนต้าซันมีท่าทีว่าจะยึดบ้านหลังใหญ่เป็นการถาวร
อาเม่ยส่งผ้าขนนุ่มผืนใหญ่ให้แม่ทัพเชมัล แล้วดันหลังให้เข้าไปอาบน้ำ หันไปอุ่นข้าวต้มใส ให้คนอีกคน
ข้าวต้มเปล่าๆ ที่น่าจะเรียกว่าเป็นน้ำข้าวเสียมากกว่า กลับให้ความรู้สึกอุ่นขึ้น
“ขอบใจมาก” แม่ทัพบอกขณะที่ส่งคืนถ้วยเปล่าให้กับอีกคน “เจ้ากินหรือยัง”
อาเม่ยพยักหน้า นำถ้วยไปล้าง หันมาเห็นแม่ทัพกำลังหยิบม้าแกะสลักจากกล่องไม้ขึ้นมาดู
“ม้าของเฮยอั้น”
อาเม่ยเม้มริมฝีปากขณะที่พยักหน้าอีกครั้ง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวในครัว
“เมื่อวาน ข้ากล่าวคำรุนแรงเกินไป”
“พี่ไม่ได้ถือสาเรื่องนั้น”
อาเม่ยกล่าวคำขอบคุณ “ข้าเองก็มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย แม้เมื่อวานจะกล่าวโทษท่าน แต่....ใจจริงข้าไม่อยากให้ท่านกล่าวโทษตนเอง" ดวงตาคู่สวยมองมือตนเอง "จะอย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแสดงให้เห็นว่า ข้าไม่สมควรกลับไปเมืองหลวงกับท่าน”
“เสี่ยวเม่ย หากเจ้าไม่อยากกลับไป ก็ไม่ต้องกลับไป”
“แต่ท่านต้องกลับไป” อาเม่ยบอก “หน้าที่ของท่านต่อเมืองวัน ยิ่งใหญ่กว่าเรื่องของข้ามากนัก ท่าน....ไปทำหน้าที่ก่อน” น้ำเสียงแผ่วเบาเมื่อกล่าวคำต่อไป “ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่”

แม่ทัพเพียงเก็บม้าแกะสลักใส่กล่องไม้ไว้เช่นเดิม
“พี่เคยแกะไม้แบบนี้อยู่ครั้ง 2 ครั้งแต่เพราะใจไม่เย็นพอ ทำให้พอจะรู้ว่าเป็นตัวอะไร แต่ไม่มีรายละเอียดขนาดนี้ ดูท่าว่าอยู่ที่นี่จะได้พัฒนาฝีมือ”
“ท่านแม่ทัพ”
“เจ้าเอ่ยถึงใครกัน ที่นี่มีเจ้ากับพี่ แล้วก็ต้าซัน”
อาเม่ยถอนหายใจแล้วเดินไปปูที่นอนให้กับแม่ทัพที่แคร่ตัวยาวหน้าห้องนอน แต่แม่ทัพรั้งเอวให้คนตัวเล็กกว่านั่งลงข้างๆ บนที่นอนที่ยังปูไม่เสร็จ
“เสี่ยวเม่ย”
“ข้าไม่ใช่เสี่ยวเม่ยของท่าน”
“จะเมื่อใดเจ้าก็คือเสี่ยวเม่ยของพี่”
“ข้าไม่ได้....”
แม่ทัพใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากบาง “เสี่ยวเม่ย หากอดีตมีแต่ทำร้ายเรา ก็ปล่อยให้มันผ่านไป แล้วอยู่กับวันนี้ไม่ได้หรือไง”
แต่อาเม่ยส่ายหน้า “ข้าทำไม่ได้ เพราะ.......” คนตัวเล็กก้มหน้ามองมือตัวเอง “ข้าก่ออาชญากรรมมากมาย ทั้งสังหารผู้นำหมู่บ้าน สังหารตงกับโป และ....เสนาบดีหลี่”
คนฟังเพียงพยักหน้า ทำให้อาเม่ยหันมามองด้วยความสงสัย “ท่านไม่ประหลาดใจ”
“ไม่”
“ท่านรู้อยู่แล้วหรือ”
แม่ทัพพยักหน้ายอมรับ อาเม่ยก็ถอนหายใจยาว “เช่นนี้ท่านยังโทษตนเอง แทนที่จะกล่าวโทษข้าอีกหรือ”
“เสี่ยวเมย ที่พวกมันทำให้เจ้ากลายเป็นเครื่องมือสังหาร ก็เพราะพี่”
อาเม่ยส่ายหน้า “นั่นเพราะข้าไม่เข้มแข็งพอ”
“เพราะในเวลานั้นเจ้ายังเด็ก” แม่ทัพดึงอีกคนเข้ามาโอบกอดไว้ “ข้าเพิ่งแน่ใจว่าไม่มีเรื่องใดเป็นเรื่องบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเกี่ยวข้องกันดั่งห่วงโซ่ ก็เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง”
อาเม่ยยอมให้อีกคนกอดไว้ “ข้าเองก็คล้ายเพิ่งตื่นจากการนอนหลับอย่างยาวนาน และมีเรื่องราวหลายอย่างที่ข้ายังไม่อยากเชื่อว่าตนเองเป็นผู้ลงมือ” ไม่ยอมให้อีกคนเอ่ยขัด “เรื่องของเสนาบดีหลี่....”

“หลายปีก่อน เสนาบดีหลี่มาพบผู้เฒ่าทั้ง 4 ข้าเป็นศิษย์ไม่รู้เรื่องที่พวกเขาสนทนากัน รู้แต่เพียงว่า เสนาบดีหลี่กลับไป ผู้เฒ่าไฟ ที่เป็นผู้สอนเวทย์ไฟและเพลงดาบให้ข้าก็ไปเมืองเหนือ”
อาเม่ยลอบสังเกตสีหน้าของอีกฝ่าย แต่เห็นรับฟังด้วยความตั้งใจจึงกล่าวต่อ
“ผู้เฒ่าจากไปนานนับปี เมื่อกลับมาทั้ง 4 ก็ขัดแย้งกันรุนแรง ทั้งมีปากเสียงกัน บางครั้งถึงกับลงมือต่อกัน จนบ่ายวันหนึ่งผู้เฒ่าน้ำสั่งให้ข้าลงจากเขามาอยู่กับพ่อสักหลายวัน ห้ามขึ้นเขาไปหาพวกท่านไม่ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น จนกว่าท่านจะส่งสัญญาณมาเรียก แต่คืนนั้นพวกเรากลับได้ยินเสียงระเบิดและเห็นเปลวเพลิง ข้ากับพ่อขัดคำสั่งผู้เฒ่า พากันกลับขึ้นไปบนเขา พบว่าผู้เฒ่าน้ำและลมเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้เฒ่าไฟ และดินแยกกันอยู่คนละด้านของภูเขา พวกเขาต่างปิดปากเงียบไม่ได้เล่าเรื่องใด”
อาเม่ยเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "แน่นอนว่าพวกท่านผู้เฒ่ามีความขัดแข้งกัน และสังหารกันเอง ข้ากับพ่อต่างรู้สึกว่าพวกเราเลือดเย็นยิ่งนัก อาจารย์ผู้เฒ่าเกิดเรื่องร้ายแรง กลับได้แต่ฝังศพให้ และนำอาหารไปส่งให้เป็นครั้งคราว"
“การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นกี่ปีแล้ว”
อาเม่ยคำนวณเวลาก่อนตอบ “ราว 5 ปีได้”

...เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เฮยอั้นกล่าวถึงอาเม่ยอยู่หลายปี แสดงให้เห็นว่า เสนาบดีหลี่ถูกใช้ให้มาพบเหล่าผู้เฒ่าที่เป็นอาจารย์ของอาเม่ย....

“จนเมื่อต้นปีนี้เองที่ข้าขึ้นเขาไปหาผู้เฒ่าดิน แต่พบหัวหน้าของกลุ่มบ้านช่างเหล็กคุยอยู่กับผู้เฒ่า ท่าทางเคร่งเครียด  เมื่อหัวหน้ากลุ่มบ้านกลับไป ผู้เฒ่าดินก็ให้ข้าอยู่เรียนวิชากับท่านต่อ ข้าจึงกลับลงมาบอกพ่อ พ่อบอกว่าให้ระวังตนให้มาก หากผู้เฒ่าไม่อยากเล่าเรื่องความขัดแย้งก็อย่าได้ไปซักถามให้ท่านลำบากใจ จากนั้นข้าจึงขึ้นเขา แต่วิชาดิน ควบคุมธาตุ การอ่านจิต ข้าไม่เก่งนัก แม้ผู้เฒ่าจะย้ำความสำคัญแต่ข้าก็ไม่ค่อยมีความคืบหน้า นี่เป็นเวทย์ที่ข้าไม่ได้เรื่องที่สุดแล้ว"
"คืนหนึ่งผู้เฒ่าปลุกข้าขึ้นมากลางดึก บอกว่า บ้านช่างตีดาบของเราถูกไฟไหม้ ผู้เฒ่ากับข้าจึงลงจากเขามาพร้อมกัน แต่เมื่อมาถึง......”
ดวงตาคู่สวยแดงเรื่อ "ยังมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือให้ได้ยิน แต่พวกเราเข้ามาไม่ได้ ข้าเห็น...พ่ออยู่กลางถนนทางท้ายหมู่บ้านที่จะตรงไปทางภูเขา....พ่อ...คงตั้งใจจะไปหาข้า แต่ก็กลับ...."
แม่ทัพเชมัลหันไปโอบกอดคนที่กำลังร่ำไห้
“ข้ารู้ว่าท่านผู้เฒ่ามองเห็นตั้งแต่แรก ว่าไฟที่ไหม้ที่นี่มิใช่ไฟธรรมดา แต่คือไฟเวทย์”
เพราะไฟนี้ลุกไหม้จำกัดอยู่ในขอบเขตหมู่บ้าน ไม่ได้ลุกลามไปที่อื่น
“ไฟนี้ล้อมรอบหมู่บ้าน แล้วลุกลามจากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง ดั่งมันมีชีวิตของมันเอง รู้ว่ามันจะต้องเผาใคร หรือที่ใดบ้าง ข้าและผู้เฒ่าดินพยายามที่จะฝ่าเปลวไฟที่ล้อมรอบหมู่บ้านเข้ามาเพื่อหวังว่าจะช่วยผู้คน แต่เราเข้ามาไม่ได้ เวทย์ของพวกเราทำอะไรมันไม่ได้เลย ข้าได้แต่มองไฟที่ลามมาหาพ่อที่นอนอยู่บนพื้นถนน แต่ในระหว่างที่ไฟยังลุกลามอยู่ พวกเราพบกับผู้เฒ่าไฟ ทำให้ท่านผู้เฒ่าดินและไฟต่อสู้กัน สิ่งที่ข้าจำได้ก็คือผู้เฒ่าดินเพลี่ยงพล้ำ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ เหตุใดข้าจึงถือดาบไปลอบสังหารหัวหน้าของกลุ่มบ้านช่างเหล็ก จากนั้นข้าก็ไปที่เมืองหลวง เพื่อตามแฝงตัวเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร และรอที่จะสังหารเสนาบดีหลี่”
หยดน้ำตายังคงไหลริน เมื่ออาเม่ยเล่าต่อ “ที่ข้าอยากบอกต่อท่านก็คือ ความทรงจำส่วนนี้ เพิ่งกลับมาในตอนที่ท่านหันไปกล่าวคำกับเก้าที่หน้าเรือนจำเวทย์”
“เสี่ยวเม่ย”

"เวลาและความทรงจำของข้ามันหายไป ครั้งแรกมันหายไปเมื่อข้าเห็นไฟไหม้หมู่บ้าน แล้วไปตื่นที่หน้าประตูเมืองหลวง ที่ท่านซักถามข้า ข้าจำได้แค่คืนที่ผู้เฒ่าปลุกข้ากลางดึกแล้วบอกว่าบ้านของเราถูกไฟไหม้ จากนั้น เวลาของข้าก็หายไปเมื่อพบเฮยอั้น แล้วตื่นขึ้นมาที่เกาะห่างไกล มีท่านอยู่ข้างๆ ตื่นมาครั้งนี้ข้าจำบางอย่างได้ บางอย่างจำไม่ได้ ทุกอย่างสับสน ไม่รู้ว่าอะไรเกิดก่อนเกิดหลัง แต่ในสมองของข้ากลับได้ยินเสียงผู้เฒ่าดินที่บอกให้จัดการกับเสนาบดีหลี่ จนทันทีที่เห็นท่านกล่าวคำกับเก้า ข้ากลับจำทุกเรื่องราวได้ ทั้งไฟที่ลุกลามเข้าหาพ่อ ทั้งการลงดาบต่อตงและโป ทั้งวันเวลาที่ท่านดีต่อข้าอย่างยิ่งที่เกาะห่างไกลนั่น จนถึงการที่ข้าลอบสังหารเสนาบดีหลี่"
“ท่านเข้าใจหรือไม่ ความทรงจำของข้าถูกแยกเก็บในกล่องหลายใบ วันนี้เปิดกล่องหนึ่ง อีกวันหนึ่งก็เปิดอีกกล่องหนึ่ง จนถึงวันนี้ข้าก็ยังไม่แน่ใจว่าทุกกล่องมันเปิดขึ้นมาหมดแล้วจริงหรือไม่ หรือแท้จริงมันคือกลลวง แล้วมันจะถูกปิดลงทั้งหมด หรือกล่องใดกล่องหนึ่งอีกเมื่อใด หรือยังมีกล่องที่ยังปิดอยู่และรอให้ถึงเวลาที่มีบางสิ่งบางอย่างเปิดขึ้นมา”
คนตัวเล็กสะอื้นไห้อยู่กับอกหนา “ข้ายังฆ่าคนโดยไม่รู้ตัว ข้าทำร้ายคนที่ไม่ได้มีความแค้นต่อกันเลยสักนิด”

แม้จะทบทวนคำที่กล่าวต่อแม่ทัพมาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องกล่าวออกมา อาเม่ยก็ยังไม่แน่ใจว่า แม่ทัพเชมัลจะเข้าใจความสับสน ความหวาดกลัว และไม่ต้องการเป็นผู้นำความเสื่อมเสียมายังอีกฝ่ายหรือไม่

"ข้าเป็นคนร้าย...."
“เสี่ยวเม่ย อย่าได้โทษตนเอง เรื่องนี้เจ้าเพียงถูกหลอกใช้”
“ท่านไม่เข้าใจ” อาเม่ยสะอื้นแรงขึ้น “ตงกับโปไม่เกี่ยว แต่ข้าสังหารพวกเขา โดยที่ไม่รู้ว่าทำอย่างนั้นทำไม ส่วนเก้าแม้จะพบคำตอบว่า เพราะข้าหึงหวง แต่ทำไมถึงหึงหวงขนาดลงมือทำร้ายคน ข้ามีจิตใจคับแคบขนาดนั้นเชียวหรือ หากตอนนั้นพวกท่านไม่ได้อยู่ด้วย เขาก็จะตายเหมือนตงกับโปใช่หรือไม่”
“ข้าเป็นมากกว่ามือสังหารของเมืองเหนือ เพราะข้ายังสังหารเพื่อน ทำร้ายคนอื่น เพราะข้าควบคุมตนเองไม่ได้.....”

มือใหญ่ลูบแผ่นหลังให้ใจเย็นลง รอจนกระทั่งเสียงสะอื้นผ่อนลง ก็ชวนให้ลุกไปล้างหน้า

“ร้องไห้มากขนาดนี้ จะทำให้เจ้าไม่สบาย”
อาเม่ยหันมาบอกทั้งที่น้ำตายังเปียกแก้ม “ที่นี่อยู่ห่างจากด่านชายแดนไม่มากนัก เสนาบดีหลี่เป็นพระสัสสุระ แม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เรื่องนี้ย่อมเกี่ยวพันถึงพระชายา”
“เรื่องนั้นไม่แน่ว่า กองเมืองอาจมีเบาะแสอยู่ แต่หากเจ้าไม่วางใจ อีก 2 วันข้างหน้าเมื่อต้าซันเอาไม้แกะสลักไปขาย พี่จะฝากจดหมายไปกับต้าซันให้เอาไปให้ท่านพี่นาซิม”
“ท่าน....”
“พี่ไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่ตามลำพังที่นี่แน่นอน”
อาเม่ยปาดน้ำตา คลี่ยิ้มเศร้า “ก่อนนี้ข้าก็อยู่คนเดียวเวลาที่พี่ใหญ่เอาของไปขาย”
“แต่ตอนนี้เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เจ้ายังมีพี่อยู่ด้วย”
อาเม่ยยังมีอีกเรื่องที่ตั้งใจไว้ว่าจะกล่าวกับแม่ทัพเชมัลก่อนที่วันนี้จะผ่านพ้นไป “ที่เมืองเหนือยังไม่ข้ามเข้ามา อาจเพราะพวกมันเกรงกลัวท่าน แต่หากท่านหายไปนาน อาจทำให้พวกมันลงมือมาได้”

มือใหญ่ช่วยเก็บปอยผมที่ระแก้มเปียกน้ำตา
“เรื่องการศึกนี้ พี่คิดว่า หากพวกเราจะมองพระราชาในแง่มุมที่ร้ายกาจที่สุดแล้วนะ พี่คิดว่า ที่พระองค์ปลดพี่ออกจากกองทัพ ก็เพื่อให้พี่สะสางความรู้สึกตัวเองให้ชัดเจนแล้วกลับไปทำงานในหน้าที่ เพราะนั่นเป็นเป้าหมายสำคัญของพระองค์ ประการต่อมาก็คือการที่พี่อยู่ที่นี่ แม่ทัพนาซิมสามารถเรียกพี่ไปเสริมกำลังได้เร็วกว่าการที่พี่อยู่ในค่ายทหารที่เมืองหลวง พวกเขารู้ว่า พี่ไม่มีวันทิ้งเมืองวันได้ ประการสุดท้ายก็คือ ก่อนหน้านี้ พี่มักเคลื่อนไหวเป็นอิสระ ไม่แน่ว่า ในเวลานี้ที่เมืองหน้าด่านอาจมีข่าวลือว่าพี่ท่องเที่ยวอยู่ในเขตป่าก็เป็นได้”
“นั่นเป็นเรื่องที่ท่านคาดเดา หรือ พระราชามีดำริเช่นนั้นจริงๆ” อาเม่ยไม่เข้าใจความคิด และแผนการของพระราชาฟารัค
“นั่นย่อมเป็นเรื่องคาดเดา แต่พี่เชื่อว่าพระองค์มีแผนเช่นนั้น เพราะพี่ก็เหมือนเจ้า พวกเรารับรู้เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเราเอง เท่านั้น”
“หากพรุ่งนี้ แม่ทัพนาซิมให้คนมาหาท่าน”
“นั่นก็เป็นเรื่องของแม่ทัพนาซิม พี่บอกเจ้าแล้ว ว่าพี่ไม่ไปไหนหากไม่มีเจ้าไปด้วย”

อาเม่ยอ้าปากคล้ายจะกล่าวคำแต่เปลี่ยนเป็นถอนหายใจยาว
รุ่งเช้าวันถัดมาเมื่อพบหน้ากัน ต้าซันก็ถามด้วยประโยคเดิม แต่อาเม่ยก็ตอบเช่นเดิม ทำให้พี่ชายรู้สึกผิดหวัง
“คิดว่าเจ้าคุยกันแล้วเสียอีก”
“คุยกันแล้ว แต่......”
....แต่ยังมีบางเรื่องที่ข้าไม่มีความกล้ามากพอที่จะบอกกับเขา....

*-*จบตอนที่ 32*-*

(https://www.img.in.th/images/8928accbf153449ca580450e53bd14a5.jpg) (https://www.img.in.th/image/7e19)

ภาพนี้มาจาก nature.desktopnexus.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 03-11-2015 21:14:06
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-11-2015 21:19:30
ว้าว ยังซับซ้อนอยู่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 03-11-2015 21:26:11
 :z3: :z3:

ยิ่งอ่านยิ่งสงสารเม่ย เหมือนเป็นตุ๊กตาที่ถูกคนนั้นเชิดที คนนี้เชิดที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-11-2015 21:27:06
บอกเรื่องอารายยยยยยยยยยยยย กลับมาก๊อนนน บอกว่า ข้าก็รักท่านใช่ไหม อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-11-2015 21:36:55
สงสารเม่ย โดนใช้เป็นเครื่องมือ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 03-11-2015 22:00:14
สงสารน้องเม่ยจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-11-2015 22:36:02
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-11-2015 23:32:59
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย สงสารอาเม่ยอ่าาาาาาาาาาา
จะต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดไปอีกนานแค่ไหน
ยิ่งอ่านยิ่งเกลียดเมืองเหนือกับเฮยอั้น อยากจะจับมาแล่เนื้อแล้วเอาเกลือทาจริงๆ ทำแบบนี้กับอาเม่ยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ยังไง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 04-11-2015 08:27:25
ต้าซันคนซื่อ  :mew1:
ตอนนี้ได้แต่รอให้พี่เชมัลและอาเม่ยยอมที่จะเปิดใจคุยกันจริงๆจังๆ

สงคราม กับความสูญเสียที่มาพร้อมกับการล้างแค้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 04-11-2015 08:31:32
ยังมีความลับเรื่องอะไรอีกหนอ ที่อาเม่ยยังไม่กล้าบอกกับท่านแม่ทัพ  :เฮ้อ:  ที่ผ่านมา แต่ละเหตุการณ์ก็ตึงเครียด จนแอบคิดว่าทั้งสองจะกลับมาอยู่ด้วยกันได้ยังไง นี่ยังจะมีเรื่องอะไรอีกหรือ... :mew5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-11-2015 11:10:47
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 04-11-2015 13:11:42
เรื่องใหญ่แค่ไหนนะที่อาเม่ยยังไม่ได้บอก  o22

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-11-2015 13:59:09
เหมือนจะดีนะ แต่...ยังไงไม่รู้!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 04-11-2015 15:10:03
อีกเรื่องที่ยังไม่กล้าบอกโอ้ววววว...
คนหนึ่งคนเก็บทุกอย่างไว้กับตัวมากขนาดนี้เลยเหรอ :katai1: อึดอัดแทนเลย
แต่อยากบอกว่ายังลุ้นศึกสองเมืองอยู่นะเพราะอยากเห็นคนที่ชักใยพวกเวชดำ

 :pig4: ค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 04-11-2015 16:33:57
โอวววววว ยังมีปมอะไรซ่อนไว้อีกมั๊ยคะเนี่ย
ลึกลับซับซ้อนสุดๆอะ  :m28:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-11-2015 17:59:20
รู้สึกราวกับนั่งอยู่ใจกลางกลุ่มไหมที่โดนแมวเล่นจนยุ่งเหยิง....

หลุดจากหนึ่งปมเพื่อพบว่าตัวเองยังอยู่ท่ามกลางปมอีกมากมาย

ซูฮก MyTeaMeJive
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 05-11-2015 16:30:53
 :sad2: สงสารอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-11-2015 16:03:41
อาเม่ยไม่กล้าบอกเรื่องอะไรกับพี่เชอีกล่ะเนี่ย  :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-11-2015 19:47:26
ความลับเยอะมากๆเรื่องนี้

คลายปมเรื่องหนึ่ง

มีปมมาเพิ่มอีก อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 09-11-2015 04:42:24
ยิ่งเปิดเผยความจริง ปมยิ่งซับซ้อน พันกันยุ่งเหยิง
สงสารทั้งเม่ยและต้าซัน...เฮ้อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 09-11-2015 08:11:45
รอวันคลี่คลาย
 :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 09-11-2015 10:54:26
เข้ามาแวะอ่านตอนเก่ารอ ..... :L2:

อคติในใจตอนแรกอ่านแล้วหมั่นใส้ท่านเชมัลชมัด แต่..พอมาอ่านอีกที อืมมมมม นะเค้าง้อกันนะ 55555 อิป้าผู้นี้ก็แอบเขิน

นี่เวทย์จะคลายเองได้ไม๊นะหากอาเม่ยเรารู้สึกว่าเชมัลรักตัวเองจริงๆหรือว่าต้องมีเหตุให้ทำร้ายกันอีกรอบ
^
^
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 09-11-2015 19:40:56
ยังอึมครึมกันอยู่
แต่อาเม่ยน่าจะเชื่อใจแม่ทัพเชได้บ้างแล้วนะ

ขอบคุณคนแต่งค่ะ ^_^
 :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: XL ที่ 09-11-2015 20:08:25
ลุ้นๆน่าติดตามมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-11-2015 20:16:03
มาส่องมารอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 09-11-2015 20:46:15
เข้าใจอาเม่ยเลย คงกำลังกลัวความทรงจำของตัวเอง เพราะไม่รู้ว่า ตื่นมาอีกทีในวันรุ่งขึ้นจะจำได้ว่าตัวเองได้ลงมือสังหารใครไปแล้วบ้าง จนกว่าเวทย์ดำที่ครอบงำน้องจะหายไปหมด เมื่อนั้นคิดว่าจะยังคาราคาซังอยู่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่เอาใจช่วยอาเม่ยนะคะ ขอให้ผ่านพ้น ordeal นี้ไปให้ได้ ขอให้เชมัลอยู่กับน้อง เป็นเพื่อนน้อง และอย่าละทิ้งน้อง ถ้ารักจริงก็ใช้รักนั้นทำให้น้องเห็นแสงสว่างด้วยเถอะ

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: jeab12 ที่ 09-11-2015 21:21:25
ตามติดเลย เป็น FC  คนแต่ง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 10-11-2015 12:12:44
 :katai2-1:  ปูเสื่อรอ...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 10-11-2015 16:07:48
ย่องมาแอบดูพี่เช
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 10-11-2015 17:25:54
 :katai4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่32 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-11-2015 19:07:39
แอบมาปูเสื่อรอ คิดถึงอาเม่ยกะพี่เชจะแย่ละ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 11-11-2015 11:19:58
ตอนที่ 33

ตั้งแต่แรกมาองครักษ์เก้าเชื่อมั่นว่าหากมีความตั้งใจดีในการทำสิ่งใดก็ตาม ผลที่ออกมาก็ย่อมที่จะดีงามไปด้วย แต่สิ่งที่พบเจอกลับช่างห่างไกลคำว่าดีงาม
เป็นผู้ที่ถูกทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงสุดท้ายแม้แต่พริมก็ยังหันหลังให้
แต่ที่ประหลาดใจก็คือเมื่อถูกพริมปฏิเสธ ตกใจก็จริง แต่กลับไม่ได้ใช้เวลาไปกับความผิดหวังครั้งนี้มากนัก
อาจเพราะตั้งแต่วันแรกที่เดินกลับเข้าไปพบพ่อและแม่ของพริม ก็คิดอยู่ว่าวันนี้ต้องมาถึงสักวัน
อีกส่วนหนึ่งคือการไม่มีเวลาให้เสียใจ เนื่องจากการงานที่ช่างวุ่นวายยิ่งนัก

...หรือว่าหัวใจเริ่มชินชา...

เมื่อต้องรับหน้าที่ดูแลกิจการงานต่างๆ ในค่ายทหารอยู่เพียงคนเดียวเพราะบรรดาองครักษ์ และนายกองผู้คุมกำลังพล ต่างเดินทางไปประจำที่เมืองหน้าด่านเพื่อเตรียมความพร้อม ทำให้งานที่เคยเป็นของหัวหน้าองครักษ์รอม ตลอดจนบรรดานายกองทั้งหมดมาตกอยู่กับองครักษ์เก้า
เนื่องจากราชองครักษ์มีอาที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการนั้น เป็นผู้ที่มีงานล้นมืออยู่แล้ว

มิได้ร่ำไห้เพราะผิดหวังในความรัก แต่กำลังร่ำไห้เพราะงานมากมายที่อยู่ข้างหน้า

สายวันหนึ่ง มีทหารมหาดเล็กมาแจ้งว่า พระราชาฟารัคมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า องครักษ์เก้าถึงได้เงยหน้าขึ้นจากร่างแผนการจัดกำลังพลที่เตรียมเสนอต่อราชองครักษ์มีอาตามขั้นตอน
ที่ผ่านมาพระราชามักรับสั่งให้ไปรอที่เรือนเล็กหลังอุทยาน แต่ครานี้มีรับสั่งให้เข้าเฝ้าในห้องทรงงานที่เหล่าราชองครักษ์อยู่พร้อมหน้า
แรงกดดันจากเวทย์ทุกคนในห้องนี้ทำให้องครักษ์เก้าถึงกับต้องผ่อนลมหายใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง
แต่ก็ยังอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายที่ไรผม

แม้จะประทับนั่งอยู่ห่างออกไปหลายก้าว แต่เมื่อพระราชาโบกพระหัตถ์ องครักษ์เก้าก็หายใจได้ดีขึ้น
"ขอบพระทัยฝ่าบาท" องครักษ์เก้า กล่าวหลังจากที่ถวายการคำนับ

เวทย์ของพระราชาฟารัคลึกล้ำจนไม่อาจคาดเดาได้ เหมือนอุปนิสัยที่เล่นหรือจริงจังก็คาดเดาไม่ถูก

หลังจากที่ทรงไต่ถามเรื่องการงานที่เพิ่มขึ้น พระราชาจึงรับสั่งถึงเรื่องที่เรียกมาในวันนี้

"ข้าตั้งใจไว้ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า หากไม่เห็นด้วย หรือไม่ต้องการทำในสิ่งที่ข้ากล่าวเจ้าก็ปฏิเสธได้"
สีหน้าขององครักษ์เก้าบอกชัดเจนว่า องครักษ์ผู้นี้ไม่รู้จักคำกล่าวปฏิเสธ
"อย่างที่เจ้าเห็นว่า ราชองครักษ์ของข้า ล้วนเป็นพวกเวทย์สายแข็ง" พระราชาชี้ไปที่ราชองครักษ์ลาทีฟหมอยา "ลาทีฟที่ว่าใจเย็นที่สุด แต่หากจะดื้อขึ้นมา ก็หลบหน้าข้าไปอยู่ในห้องยาเหมือนกัน"
ราชองครักษ์ลาทีฟส่ายหน้า "กระหม่อมเพียงไม่ชอบการโต้เถียง"
"อ้อ..." พระราชาสรวลเบาๆ แล้วหันมาหาองครักษ์เก้า "ข้ารู้ว่า ถ้าเป็นเจ้า ต่อให้เป็นเรื่องที่ไม่อยากทำ แต่ถ้าข้าสั่งให้ทำเจ้าก็จะยอมทำ ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาข้าเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของเจ้ามากเกินไป แต่หลังจากที่พริมปฏิเสธการสมรส เจ้าก็ยังมีแม่ทัพนาซิม"
องครักษ์เก้าไม่ได้กล่าวสิ่งใด หากแต่ส่ายหน้า
"หมายความว่า เจ้าไม่ได้อยากไปรับใช้แม่ทัพนาซิม"
องครักษ์เก้าพยักหน้าตอบรับ ดวงตาคู่สวยแดงเรื่อ ริมฝีปากเม้มสนิท สีหน้าคล้ายจะร่ำไห้ได้ทุกเมื่อ จนพระราชาต้องก้าวพระบาทเข้ามาหา
"ข้าไม่ได้บังคับเจ้านะ นั่นคือทางเลือกที่หนึ่ง ยังมีอื่นๆ อีก ที่พวกเรายังหารือกันได้"

ความหวาดกลัวขององครักษ์เก้า เป็นสิ่งที่ทุกคนในห้องนี้รับรู้ได้ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้กล่าวคำใดออกมาก็ตาม

"ข้าปลดเชมัลออกไปจากกองทัพแล้วก็จริง แต่เชมัลจะไปไหนได้นอกจากไปหาเสี่ยวเม่ยของเขา และจะอย่างไรก็ต้องพากันกลับมาที่นี่ แต่ถ้าเจ้ายังเป็นองครักษ์ของเชมัลต่อไป มันจะไม่ดีกับเชมัล เจ้าเข้าใจใช่ไหม"
องครักษ์เก้าพยักหน้ายอมรับ
แม้ที่ผ่านมาอาเม่ยจะไม่เคยแสดงออก แต่การลงมือในครั้งล่าสุด ก็เป็นเรื่องที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี
"เวทย์ของเจ้าเหมาะกับการอยู่ในสนามรบ แต่การไปอยู่กับแม่ทัพนาซิมเป็นความเสี่ยง ข้าจึงต้องถามเจ้าก่อน และเจ้าก็ตัดสินใจแล้วว่า ไม่อยากไป แต่ยังมีอีกทางที่ข้าก็พยายามหลีกเลี่ยงมาตั้งแต่แรก....."
จู่ๆ พระราชาก็ไม่ได้ตรัสสิ่งใดต่อ หากแต่ทอดพระเนตรมององครักษ์เก้านิ่งๆ จนอีกฝ่ายใจเสีย

"ทางเลือกนี้อาจทำให้เจ้ารู้สึกว่ากำลังถูกลดขั้น ข้าต้องการให้เจ้ามาเป็นต้นห้องให้ข้า"

องครักษ์เก้าเงยหน้าขึ้นมองพระราชา แล้วหันไปมองหัวหน้าราชองครักษ์บาดา
"ข้ารู้ ว่าเจ้ากำลังสงสัยเพราะข้ามีทั้งต้นห้องผู้ใหญ่ที่ดูแลมาตั้งแต่อดีตพระราชา มีทั้งบาดาที่คอยดูแลอยู่แล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ จะทำให้ทุกคนสบายใจขึ้น"
"แต่พระชายา..."
"นาง....ก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน สืบเนื่องมาจากพระสัสสุระเสนาบดีหลี่"
พระราชาหยิบรายงานที่วางอยู่บนโต๊ะทรงงานให้องครักษ์เก้า
เป็นรายงานจากแม่ทัพนาซิมที่เมืองทางเหนือ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านห่างไกล
"ข้ารู้มานานว่าเสนาบดีหลี่ไม่ซื่อตรง แต่ตระกูลของเขาสืบทอดอำนาจมาตั้งแต่อดีตพระราชา 2 พระองค์ก่อน มีฐานอำนาจกว้างขวางจึงไม่อาจหักหาญกันได้ แม้แต่เรื่องที่เขาชักนำเมืองเหนือเข้ามา ตามที่แม่ทัพนาซิมแจ้ง หากมองด้วยความเป็นธรรม ก็ยังเป็นเรื่องของการให้การฝ่ายเดียว เพราะเสนาบดีหลี่ตายไปแล้ว"

"พระชายาอาจไม่รู้เรื่องนี้" องครักษ์เก้ากล่าวขึ้น

ไม่เพียงพระราชาที่แย้มพระโอษฐ์ แต่เหล่าราชองค์รักษ์ทุกคน ต่างก็หันไปยิ้มให้กัน ทำให้องครักษ์เก้ารู้สึกว่าตนเองช่างตื้นเขินยิ่งนัก

"นั่นเป็นเรื่องที่พวกเราต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นางยิ่งเพิ่มความระมัดระวังตน ส่วนตำแหน่งที่ข้ามอบให้แก่เจ้า ก็ขอให้เป็นเพียงชื่อตำแหน่งไปก่อน เพราะเจ้ายังต้องทำหน้าที่สนับสนุนมีอาที่ค่ายทหารไปจนกว่าเชมัลหรือรอมจะกลับมา เมื่อนั้นเจ้าก็ค่อยมาทำงานให้ข้าเต็มตัว และขอให้วางใจ เมื่อใดก็ตามที่เจ้าพบคนที่เจ้าพึงพอใจ ข้าพร้อมที่จะสนับสนุน"
องครักษ์เก้ายังมีท่าทีลังเล
"ข้าบอกแล้ว ว่าเจ้าไม่รับข้อเสนอนี้ก็ได้ หรือหากเจ้ามีทางอื่นที่ดีกว่า ก็คุยกัน"

องครักษ์เก้าก้มหน้าคิดตาม

"อันที่จริงยังมีอีกเรื่อง พระราชาเมืองบาสก์เรียกร้องให้ข้าเปิดประตูเมืองฝั่งที่ติดต่อกับเมืองบาสก์ แต่เรื่องนี้ เอาไว้คุยกันอีกทีหลังจากที่จัดการเรื่องเมืองเหนือเสร็จ"

ครานี้องครักษ์เก้ากลับเงยหน้าขึ้นมอง คล้ายจะถามว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับตนเองตรงส่วนไหน ทำให้พระราชาฟารัค ผู้มีเรื่องราวและแผนการในใจมากมายรีบโบกพระหัตถ์ "ถ้าอยากไปเฝ้าประตูเมืองด้านนี้ ก็ไว้ค่อยมาคุยกัน แต่ตอนนี้อยากให้ตัดสินใจก่อนว่า จะย้ายมานั่งตำแหน่งต้นห้องให้ข้าก่อนไหม"

ข้อเสนอนี้ ดูไปแล้วเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนำหน้าชื่อ เพื่อลดปัญหาของแม่ทัพเชมัล ให้เหลือเพียงการมุ่งมั่นต่อหน้าที่
จริงดั่งที่พระราชามีรับสั่ง การอยู่ในตำแหน่งเดิมจะเป็นปัญหาต่อความสัมพันธ์ระหว่างแม่ทัพเชมัลกับอาเม่ย

"ข้ายังต้องให้เจ้าช่วยดูแลงานที่ค่ายทหาร" ราชองครักษ์มีอากล่าวขึ้น
องครักษ์เก้าพยักหน้าช้าๆ แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง "ต้นห้องเก้า พร้อมรับพระบัญชา"

พระราชาแตะข้อศอกให้องครักษ์เก้าลุกขึ้น
"ข้ารู้ว่าเจ้าลำบากใจ แต่ข้าให้คำมั่นว่า ข้ายังคงให้เจ้าเป็นผู้เลือกอนาคตของตัวเจ้าเอง" ท่ามกลางเหล่าราชองครักษ์ ผู้ที่ล้วนมีพลังเวทย์ที่กล้าแข็ง พระสุรเสียงที่เปล่งออกมาเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ "เลือกอยู่ในที่ที่เจ้ามีความสุขนะเก้า"


มีฝนตกพรำในเขตหุบเขาต่อเนื่องมานานหลายชั่วยามแล้ว
หมู่บ้านแห่งนี้ มีบ้านเพียง 2 หลัง ปลูกสร้างคล้ายกัน และมีหน้าต่างที่ออกแบบพิเศษเพื่อกันฝน โดยทำเป็น 2 ชั้น ทั้งกันแมลง และกันฝน
ยามอากาศหนาวเย็นจัดก็ปิดทั้ง 2 ชั้น หากร้อนนักก็เปิดได้ทั้ง 2 ชั้น
ยามนี้ฝนตกพรำ อาเม่ยก็เพียงแต่เปิดชั้นนอกไว้ ปล่อยให้สายลมเย็นพัดสู่บ้าน แต่เม็ดฝนไม่อาจลอดผ่านเข้ามาได้
ในเวลากลางคืน อาเม่ยก็มักเปิดหน้าต่างเช่นนี้ ทั้งที่ต้าซันเตือนหลายครั้ง ว่าให้ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เพราะอาจมีสัตว์ร้าย หรือคนร้ายเข้ามาได้ แต่ฝ่ายน้องชายก็ไม่เคยคิดกลัว

แน่นอนว่าการออกแบบที่พัก ย่อมเป็นอีกหนึ่งความคิดดัดแปลงของต้าซัน ที่เจ้าตัวไม่เคยคิดว่านี่เป็นความสามารถพิเศษ หากแต่มองว่า นี่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้
คนที่เคยเป็นนักดนตรีอยู่ในวังหลวง แต่กลับมีความคิดผสมผสานสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างเหมาะสม
แต่ในยามที่ฝนกำลังตกพรำหลังคาลื่นเช่นนี้ จะให้ขึ้นไปซ่อมหลังคาบ้านคงทำไม่ได้ หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จสิ้นก็ไปอยู่ที่โรงม้า เมื่ออาเม่ยถามว่ากำลังทำสิ่งใด ก็บอกว่าเป็นความลับ ทั้งยังกล้าขอให้แม่ทัพเชมัลไปช่วยดูแลผักสวนครัว ที่ในเวลานี้กลายเป็นสวนผักที่มีพื้นที่กว้างขวางขึ้น
แม่ทัพเชมัลเองก็หาได้เกี่ยงงอน เพราะสวนผักนี้ก็อยู่เพียงหลังบ้าน ห่างจากอาเม่ยที่แกะสลักไม้เพียงไม่กี่ก้าว
ดูท่าทุกคนต่างก็มีหน้าที่ที่จะต้องจัดการ
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทุกครั้งที่เม่ยเปิดประตูบ้านออกมา คนที่มาถึงก่อนเพื่อกล่าวห้ามออกไปนอกบ้าน คือต้าซัน

...หากเป็นแม่ทัพเชมัล ก็ไม่นับว่าแปลกที่มาได้อย่างรวดเร็ว หรือต้าซันจะมีพลังเวทย์ใหม่ๆ ที่เราไม่รู้จัก

"ไม่เห็นต้องใช้เวทย์อันใด แต่เพราะข้ารู้อยู่แล้ว ว่าเจ้าจะต้องแอบย่องออกมาแน่ๆ น่ะสิ" ต้าซันบอก "แล้วนี่จะไปไหน"
"อยากไปดูไม้เนื้ออ่อน"
"ที่ใด ขึ้นเขาไปน่ะหรือ"
อาเม่ยพยักหน้า หันไปหาคนตัวโตที่ยืนอยู่ด้านหลัง แต่คนนั้นก็ส่ายหน้าไม่เห็นด้วยในทันที ส่วนอีกคนอาสาจะไปหาให้เอง
"ฝนตกข้ามวันข้ามคืนเช่นนี้ อาจมีดินโคลน หรือน้ำป่า อย่าไปไหนไกลเลย" อาเม่ยบอก
เมื่อทั้ง 3 คนต่างก็กล่าวห้ามกันเอง สุดท้ายต้าซันและแม่ทัพเชมัลจึงกลับไปทำงานเช่นเดิม แต่พอทั้ง 2 คนคล้อยหลังไปได้อึดใจหนึ่ง อาเม่ยก็จะแง้มประตูออกมาดู ทั้งคู่ก็จะกลับมายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านในทันที
"อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ" พี่ชายสั่งห้าม
เป็นอยู่อย่างนี้ทั้งวัน จนแม่ทัพเชมัลต้องไกล่เกลี่ย
"เดี๋ยวฝนหยุดตก พวกเราขึ้นเขาไปด้วยกัน อาจได้เห็ดป่ามาทำอาหารด้วย"
"พี่ใหญ่คิดว่าข้าป่วย"
"พี่ก็คิดว่าเจ้าป่วยอยู่เช่นกัน"
อาเม่ยกลับไปทำตาขวาง หน้างอใส่พี่ชายของตนเองแล้วเดินเข้าบ้าน ทำให้ต้าซันถามขำๆ กับอีกคน
"เหตุใดข้าจึงเป็นคนเดียวที่โดนงอนตลอดเลยนะ"
แม่ทัพเชมัลหันไปยิ้มให้กับประตูบ้าน แล้วเปลี่ยนไปช่วยต้าซันที่โรงเก็บม้าต่อ
บ่ายจัดอาเม่ยที่ลองทำขนมเปิดประตูออกมาเรียกทั้ง 2 คนมาช่วยชิม
ขนมบัวลอยที่เพิ่งหัดทำเป็นครั้งแรก แต่คนชิม 2 คนทำหน้าตาดั่งว่าอร่อยมากมาย
"มันอร่อยจริงๆ หรือพวกท่านกำลังให้กำลังใจข้าอยู่"
"อร่อยมาก" แม่ทัพบอกจากใจ
"ยิ่งฝนตกนานหลายชั่วยามแล้วอากาศเย็นลงเช่นนี้ กินบัวลอยอุ่นๆ นี่มันดีจริงๆ นะ" ต้าซันช่วยย้ำ
แต่พอท้องอุ่นขึ้นต้าซันก็หาวหวอด ลาไปนอนพักเสียดื้อๆ
"นอนพักยามนี้น่ะหรือ" แม่ทัพเชมัลท้วง แต่ต้าซันโบกมือ
"ขอพักสักครู่เถิดแม่ทัพ"

ต้าซันคนดีเดินออกไปแล้ว อาเม่ยก็หันมาถาม "ท่านจะนอนพักด้วยหรือไม่"
แม่ทัพเชมัลส่ายหน้า ทั้งกลับย้อนถาม "เจ้ากินหรือยัง"
"ชิมไปนิดหน่อย"
"อ้าว" น้ำเสียงประหลาดใจ "เช่นนั้นควรกินสักหน่อย ฝนตกพรำเช่นนี้เจ้าอาจไม่สบาย"
"ข้าอยู่แต่ในบ้าน ไม่เป็นไรหรอก"

อาเม่ยคนนี้ ตรงข้ามกับคนที่พบเจอที่ค่ายทหารอย่างสิ้นเชิง
อาเม่ยคนนั้น มีคำถามตลอดเวลา และจะไม่ยอมอยู่ในบ้านตามคำสั่งของพี่ชายแน่ๆ
"เสี่ยวเม่ย"
หากเรียกเช่นนี้ อาเม่ยคนที่ค่ายทหารจะต้องย้อนถามด้วยเสียงอันดัง ว่ามีเรื่องอันใด แต่อาเม่ยคนนี้แค่หันมามอง
แต่จะเป็นคนไหน เพียงแค่อยู่ใกล้ก็รับรู้ถึงความสุข
มือใหญ่แตะที่ใต้ใบหู สบตาสีแปลก แต่เมื่อก้มใบหน้าลงไปหา อาเม่ยก็หันหน้าหนี แต่เพราะยังยืนอยู่ที่เดิม แม่ทัพเชมัลจึงเปลี่ยนเป็นสวมกอดเอวบางไว้หลวมๆ
"ขอโทษ" คนในอ้อมกอดกล่าวเบาๆ กับอกหนา
"ไม่เป็นไร พี่รอได้"

ค่ำลงฝนหยุดตกแล้ว ต้าซันกลับมากินข้าวมื้อเย็นด้วยกัน พลางเล่าถึงเรื่องราวสนุกสนานจากการทำงานตลอดวันนี้ จากนั้นก็หายออกไปแถวโรงเก็บม้าครู่หนึ่งก็กลับมาใหม่พร้อมกับขวดดินเผาความสูง 1 คืบ ภายในคือเหล้าฝีมือของต้าซันเอง
"เมื่อบ่ายพวกเราชิมขนมฝีมือเม่ย ตอนนี้มาชิมเหล้าฝีมือข้าบ้าง"
ที่แท้การซ่อมบ้านเรือนและสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีความคืบหน้าก็เพราะต้าซันหลบไปต้มเหล้านี่เอง
ต้าซันรินเหล้าใส่ถ้วยส่งให้แม่ทัพ
"ข้าเคยช่วยผู้อื่นต้มเหล้า แต่ไม่เคยทำเองตั้งแต่เริ่มแรกแบบนี้ ยังไม่ค่อยกล้าอวดสักเท่าไหร่ แต่ว่าทุกคนล้วนมีสิ่งที่ต้องทำเป็นครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้น" คนต้มเหล้ารอให้แม่ทัพดื่มก่อน แต่แม่ทัพก็ไม่ยอมดื่ม เพราะประโยคที่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยทำตั้งแต่เริ่มแรกนี่แหละ
"เสี่ยวเม่ย พี่ดื่มได้ไหม"
อาเม่ยเองก็ดูลังเล "พี่ใหญ่ลองชิมดูก่อนสักนิดสิ" ดวงตาสีแปลกมองน้ำสีใสในถ้วยที่มือใหญ่ของแม่ทัพ "ดื่มแล้วจะตายไหม"
ต้าซันจิ๊ปาก "กลัวอันใดกัน" แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ค่อยกล้าดื่ม
เมื่อไม่ยอมดื่มก่อนอาเม่ยก็ไม่บอกให้แม่ทัพดื่มได้เช่นกัน
"กลิ่นมันใช้ได้นะ" ต้าซันกล่าวแล้วจิบเพียงนิดเดียว จากนั้นก็ดื่มช้าๆ จนหมดถ้วย "เหล้าไม่แรงสักเท่าไหร่ ท่านแม่ทัพอาจคิดว่ามันเป็นน้ำเปล่า แต่สำหรับเม่ย....." ต้าซันหรี่ตามองน้องชาย "ข้าขอเสียสละดื่มเองแล้วกัน"
อาเม่ยหัวเราะพี่ชายเบาๆ แต่พอจะหยิบไหเหล้ามาเทใส่ชามตนเอง ต้าซันกลับหยุดมือไว้ "เอาจริงหรือเม่ย"
อาเม่ยตีมือพี่ชายแล้วยกเหล้าขึ้นจิบเพียงเล็กน้อยแล้ววางลง
"ข้าว่า ท่านเอาดีทางนี้ไม่ได้หรอก"
"ข้ารู้ๆ" ต้าซันกล่าว "เอาเป็นว่า ไปขายของรอบหน้า ข้าจะไปศึกษาวิธีต้มเหล้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยแล้วกัน"
"ศึกษาเรื่องอื่นมิได้หรือไง อยากดื่มก็ไปซื้อมา ถึงขนาดหมักต้มเองนี่มันเกินไปไหม"
"ข้าไม่ไปขายของเจ้าไม่บ่นสักคำ แต่กลับบ่นเรื่องข้าต้มเหล้าเนี่ยนะ"
ต้าซันยังกล้าเถียง แต่เมื่ออาเม่ยมองตาขวาง พี่ชายก็เงียบ ทำให้ผู้ฟังหัวเราะเสียงก้อง
เหล้าวันนี้ไม่แรง ชีวิตที่หมู่บ้านร้างก็เรียบง่าย แต่กลับได้หัวเราะเสียงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใด

"เม่ย พรุ่งนี้อยากได้ปลามาเผาไหม" ต้าซันกล่าวแล้วนึกทบทวน "ตกลงพรุ่งนี้ข้ามีเรื่องต้องทำกี่อย่างกัน"
"มากมาย" น้องชายบอก "จำไม่ได้แล้วละสิ"
พี่ชายโบกมือ "ไว้วันพรุ่งนี้ข้าก็นึกออกเอง" จากนั้นคนอารมณ์ดีหันมาชวนแม่ทัพเชมัลดื่มต่อ

อาเม่ยล้างถ้วยชามเสร็จก็ไปปูที่นอนให้กับแม่ทัพที่หน้าห้องนอนเหมือนคืนก่อน แล้วไปอาบน้ำล้างตัว ออกมาเหล้าก็หมดไปแล้ว เห็นแม่ทัพกำลังล้างถ้วยชาม ส่วนต้าซันกำลังเช็ดโต๊ะ
"อิ่มแล้วหรือ"
"ดื่มแค่ที่เอามา เพราะยังไม่ได้ที่"
"ยังมีอีกกี่ขวด"
"มีอีก 5 ไหใหญ่ๆ" พี่ชายกางมือ
อาเม่ยทำตาโต "นั่นรินแบ่งมาหรือ"
"ก็บอกแล้วไงว่าลองทำดู ยังกะคะเนไม่ถูกว่าควรทำมากน้อยแค่ไหน แต่เห็นว่าฝนตกแล้วอากาศเริ่มเย็นลง สมควรดื่มเหล้าทำให้ร่างกายอบอุ่นกันสักเล็กน้อย"
อาเม่ยส่ายหน้า "เหล้าไม่ได้นำความอบอุ่นเข้ามา แต่มันระบายความร้อนออกไปต่างหาก หากท่านหนาวก็ห่มผ้าหนาๆสิ"
"รู้แล้วน่า" ต้าซันโบกมือเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วก็ไม่รู้ "ข้าไปนอนละนะ"

อาเม่ยเดินไปส่งพี่ชายที่หน้าประตูบ้าน คนที่เป็นพี่ชายหันมามองแล้วลดเสียงกล่าวกับน้องชาย
"หลายวันมานี้ เจ้าร่าเริงขึ้น ทานอาหารได้มากขึ้น ข้าอยากให้เจ้าสุขภาพแข็งแรงเช่นนี้ไปตลอด"
"ข้าแข็งแรงดี"
"เหลือเพียงให้อภัยตนเอง" ต้าซันกล่าวอย่างจริงจัง "เม่ย ไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไร อย่าลืมว่า ข้าอยู่ข้างเดียวกับเจ้าเสมอนะ ถึงข้าจะไม่มีเวทย์อันใด สู้รบก็ไม่เป็น แต่ยังพอแบกอาวุธวิ่งตามเจ้าได้"
อาเม่ยกอดพี่ชายไว้แน่น
มือใหญ่ลูบศีรษะน้องชาย
"ความสุข ความทุกข์อยู่ข้างหน้าเรานี่เอง อยู่ที่เจ้าจะเลือกอะไร"
ต้าซันบอกน้องชาย แล้วพยักหน้าให้กับคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็รีบวิ่งกลับไปบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ถัดไป

"่ท่านจะอาบน้ำอุ่นหรือไม่"
"ไม่เป็นไร พี่อาบน้ำธรรมดาก็ได้"
อาเม่ยพยักหน้า ดับตะเกียงในส่วนห้องครัว เหลือเพียงส่วนที่แม่ทัพเชมัลนอน แล้วเข้าไปจุดตะเกียงในห้องนอนของตนเอง
ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่ดูท่าว่าจะตกลงมาอีกได้ทุกเมื่อ ลมยังพัดต้นไม้กิ่งบางเอนลู่ เมื่อเลื่อนปิดหน้าต่างกันฝน ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดสลัว

แม่ทัพเชมัลดับตะเกียงที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเล็กแล้วล้มตัวลงนอน
ครู่หนึ่งประตูห้องนอนก็เปิดออก คนที่นอนอยู่จึงลุกขึ้นนั่ง
"มีอันใด ไม่สบายหรือ"
คนที่ก้าวออกมาจากห้องดึงมืออีกคนให้ลุกขึ้นเดินตามเข้าไปในห้อง แล้วหยุดอยู่ที่ข้างเตียงนอน
"เตียงนี้...อาจคับแคบเมื่อเทียบกับ...ที่ค่ายทหาร"
คนกล่าวคำก้มหน้างุด จนอีกคนต้องช้อนคางให้เงยหน้าขึ้นมารับจูบ
เมื่อริมฝีปากใหญ่ละไปจูบแก้ม ก็รู้ได้เองว่าไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องกล่าวคำ
ดวงตาหวาน กับรอยยิ้มอ่อนโยน มือใหญ่ที่ปลดเสื้อนอนออกจากตัว แล้วจึงถอดของตนเอง
อาเม่ยไล่สายตามองจากอกหนา ขึ้นไปหยุดอยู่ที่ดวงตาคู่นั้น รู้สึกเพียงความอบอุ่นและความปรารถนาดีที่อีกคนมอบให้ จูบอ่อนโยน และมือหนาที่สัมผัสเอวบาง
อาเม่ยส่งเสียงท้วงเบาๆ เมื่อมือใหญ่แทรกเข้าใต้กางเกงนอนตัวบางกระชับสะโพกกลม บีบคลึงแล้วแตะปลายนิ้วที่รอยจีบ
ปลายนิ้วเล็กๆ แตะที่ปลายคางสาก แล้วจูบริมฝีปาก
 
แม่ทัพเชมัลก้มลงช้อนใต้สะโพกกลม อุ้มไปนอนบนเตียง ตามด้วยจูบปาก เรื่อยลงมาที่ลำคอ อกบาง จนถึงหน้าท้อง และจุดอ่อนไหว
ผิวเนื้ออ่อน ไวต่อการสัมผัส เกร็งเครียดรับปลายลิ้นและริมฝีปาก ยอดอกบางเต่งตึงรับปลายลิ้น และริมฝีปาก
กลิ่นหอมผสานความหวานของผิวเนื้อที่ชวนให้หลงใหล ยิ่งเสียงครางแผ่วเบา และปลายนิ้วที่ไหล่ยิ่งทำให้ไม่อยากละออก ส่วนกลางอ่อนนุ่มรุ่มร้อนรับฝ่ามือดึงดูดใจให้ต้องเลื่อนจูบลงไปหา
เพียงแค่ริมฝีปากที่แตะส่วนปลาย อาเม่ยก็งอตัว เลื่อนมือจากไหล่มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังคอของอีกคน แต่พอสบตาสีเข้มที่จ้องมองมาเปี่ยมไปด้วยความต้องการ ก็ผ่อนลมหายใจ ละมือไปทึ้งที่นอนไว้แน่น
เมื่อรูดริมฝีปากจากส่วนที่รุ่มร้อน อาเม่ยก็กรีดร้องเบาๆ สะโพกบางยกตัวตาม เปิดช่องทางด้านหลังให้แตะปลายลิ้น แล้วเปลี่ยนเป็นปลายนิ้วที่แทรกเข้าหา เสียงร้องห้ามที่บอกว่าเจ็บ กลายเป็นคำร้องขอให้เร่งพาไปถึงจุดสูงสุด
เมื่อถูกปลุกเร้าทั้งด้านหน้าและหลังได้เพียงครู่ หยดน้ำสีขาวก็ข้นเอ่อล้นจากส่วนปลาย อกบางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แม่ทัพเชมัลจูบที่แก้มบางพลิกตัวลงนอนข้าง ทำให้คนที่กำลังเหนื่อยอ่อนหันมามอง มือผอมแตะส่วนรุ่มร้อนผ่านเนื้อผ้ากางเกง รูดให้ช้าๆ จากนั้นก็ขยับขอบกางเกงลง เพื่อจะทำให้แบบเดียวกัน แต่คนตัวใหญ่จับไหล่ไว้ จูบที่แก้มใสแล้วลุกออกไปนอกห้อง ปล่อยให้อีกคนได้แต่มองตาม แต่เพียงชั่วกะพริบตาก็กลับมาพร้อมกับขวดแก้วใสขวดเล็กๆ
คนที่นั่งอยู่บนเตียงหันมองทางอื่นเพื่อซ่อนยิ้มเขินอาย ไม่กล้ามองคนที่กำลังถอดกางเกงออก แล้วขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง
"เสี่ยวเม่ย"
น้ำเสียงอบอุ่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปร กลับทำให้หัวใจเต้นแรงพร้อมไปกับความอุ่นร้อนรอบดวงตา
มือใหญ่แตะปลายคางสวยให้หันมามอง
"เจ้า......งามมากรู้ตัวไหม"
อาเม่ยส่ายหน้า ทำท่าจะหันไปมองทางอื่น แต่มือใหญ่ก็บังคับให้หันกลับมาหาเช่นเดิม
"การที่มีเจ้าอยู่ใกล้ ทำให้พี่มีกำลังใจ ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ไปตั้งมากมาย รู้ตัวไหม"
คนตัวเล็กยังคงส่ายหน้า หยาดน้ำตารื้น
"ความสุข ความทุกข์ ความกล้าหาญของพี่ มาจากเจ้า รู้ตัวไหม"
อีกฝ่ายโผเข้ากอดไหล่อีกคนไว้แน่น
"เสี่ยวเม่ย เจ้าคือทุกอย่างของพี่"
"....ท่านพี่"
รู้สึกถึงหยดน้ำตาสัมผัสที่ไหล่กว้าง 
"ข้า...รักท่าน"
มือใหญ่ประคอง 2 แก้มไว้
"เสี่ยวเม่ย"
"ข้ารักท่าน แม้จะบอกตนเองอยู่ตลอดเวลาว่าท่านเห็นข้าเป็นเพียงน้องชาย ข้ากลับยิ่งรักท่านมากขึ้นเรื่อยๆ"
"พี่รักเจ้า รักคนที่มักจะบอกว่าตนเองเป็นเพียงน้องชาย รู้ตัวไหม"
อาเม่ยพยักหน้า แม้อีกคนจะเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลเรื่อย แต่น้ำตานั้นก็ยังไม่เหือดแห้งไป
"ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยได้ไหม ว่าเจ้ารู้ตัวไหม"
"รู้" อาเม่ยสะอื้น "ไม่รัก ก็คงไม่ดีต่อข้า เอาใจข้าขนาดนี้หรอกใช่ไหม"
"รักมากกว่ารักตนเองด้วยนะ"
แม่ทัพเชมัลยิ้มยั่ว ทำให้อาเม่ยพลอยยิ้มตามไปทั้งน้ำตา

ริมฝีปากหนากดจูบแล้วผละออก ทำให้ดวงตาสีแปลกเต็มไปด้วยคำถาม แล้วเปลี่ยนเป็นความเก้อเขิน
"นั่นขวดอะไร"
มือผอมๆ ชี้ไปที่ขวดแก้วเล็กๆ ที่แม่ทัพหยิบเข้ามา
"น้ำมันกุหลาบ"
"เอามาทำอะไร ใช้นวดหรือ"
แม่ทัพทำหน้าตาที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม จนไม่ต้องเอ่ยคำตอบออกมา คนที่ถามก็หน้าแดงจัด
ริมฝีปากหนาจูบเม้มริมฝีปากบางแล้วแทรกลิ้นจูบอย่างดูดดื่ม มือใหญ่ยั่วเย้ายอดอกบางที่ยังสีแดงเรื่อ ทั้งบีบคลึง การเคลื่อนไหวตอบรับให้ความรู้สึกดีจนเพิ่มแรงดูดที่ลำคอขาวจนทิ้งรอย
มือเล็กๆ ผลักไหล่หนาออก เพียงเหลือบตาไปทางขวดแก้ว อีกคนก็จูบแก้มแรงๆ อีกครั้ง แล้วค่อยจับให้พลิกคว่ำยกสะโพกขึ้นสูง จูบที่กล้ามเนื้อแน่นก่อนจากนั้นจึงจูบที่ผลแฝด ลากลิ้นมาหารอยจีบ ที่หดตัวพร้อมกันกับที่ร่างกายผอมบางสั่นไหว ไม่ต่างกับเสียงห้าม แต่อีกคนกลับยิ่งฝังใบหน้าลงหา
ดวงตาเหลียวมามองฉ่ำไปด้วยอารมณ์ที่ใกล้ปรี่ล้น
ริมฝีปากหนาจูบที่เอวบางอีกครั้ง ถึงเอื้อมไปหยิบขวดแก้วใส เมื่อเปิดขวดกลิ่นกุหลาบหอมอ่อนๆ ก็แตะจมูก
"หอม..."
"แต่เจ้าหอมกว่า"
ทั้งจมูกและริมฝีปากหนาวนเวียนอยู่ที่ด้านหลังคอ ขณะที่มือใหญ่บีบสะโพกกลมแล้วแทรกนิ้วมือเข้าหาช้าๆ แตะจุดอ่อนไหวภายในอย่างยั่วเย้า พร้อมกับจูบแรงที่ไหล่บางและแผ่นหลัง จนเมื่อช่องทางคลายความเคร่งเครียดจึงเพิ่มนิ้วมือ
ร่างกายผอมบางเปิดรับทุกสัมผัส ที่เปลี่ยนเป็นความรุ่มร้อนที่แทรกเข้าหาช้าๆ
มือผอมทึ้งผ้าปูที่นอน ใบหน้าสวยแหงนเงย หยาดน้ำหยดจากหางตา
"เจ็บหรือ"
อีกคนพยักหน้า
"นิดเดียวนะ อีกนิดเดียว"
ความคับแน่นตลอดการสอดใส่ให้ความรู้สึกคล้ายจะถึงฝั่งได้ทุกเมื่อ
ยิ่งเสียงหายใจ
ยิ่งริมฝีปากแดงเรื่อ
ยิ่งดวงตาหรี่ปรือ ที่ชื้นน้ำตา
ความหอมหวานที่เพิ่มมากขึ้นทุกการเคลื่อนไหว
"เสี่ยวเม่ย..."
แม่ทัพเชมัลก้มลงจูบไหล่บางดูดแรงจนทิ้งรอย ขยับสะโพกถอนออกเพียงครึ่งแล้วเข้าหาใหม่
คนในอ้อมแขนกรีดร้อง พัดพาทุกสิ่งทุกอย่างในความคิดจนเหลือเพียงคนที่กำลังกอดอยู่ ขอเพียงทำให้คนนี้พึงพอใจ มีความสุข เร่าร้อน และกรีดร้องต้องการให้มากที่สุดเพียงเท่านั้น....
"เสี่ยวเม่ย เจ้าต้อง...ทำให้พี่รู้...ว่าเจ้าต้องการพี่และเป็นของพี่..เท่านั้น..."

ผ่านไปค่อนคืน แม่ทัพเชมัลอุ้มคนที่อ่อนแรงไปอาบน้ำทำความสะอาด แล้วพากลับมานอนกอดไว้เช่นเดิม
ปัญหาคือ เตียงนี้เล็กเกินไปสำหรับผู้ชาย 2 คนเมื่อนอนกอดกันเช่นนี้ คนหนึ่งเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรง แต่อีกคนที่เก็บความรู้สึกไว้มานานหลายวันกลับนอนไม่ได้
"เสี่ยวเม่ย.." แม่ทัพถามคนที่นอนกอดอยู่
คนผอมบางพลิกตัวหนีออกจากอ้อมแขน "มันเจ็บ...ไม่ไหวแล้ว"
"นะ ไม่หรอก"
"แต่มัน มันเจ็บ จริงๆ นะ"
"พี่จะทำช้าๆ ไม่เจ็บหรอก...นะ"
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกุหลาบและบทรักที่เนิบช้า เกินกว่ากำลังของคนที่เหนื่อยอ่อนจะขัดขืน


...จบตอนที่33...

(http://www.oyegraphics.com/o/rain/rain_025.gif) (http://www.oyegraphics.com/rain/beautiful-rainy-days-photo/)

ภาพนี้จาก oyegraphics.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-11-2015 11:30:55
ปักหมุด อิอิ  edit. :  น้ำมันกุหลาบคือ อารายยยยย. :) บทอัศจรรย์นี้ทำเอาเขินไปตามๆกัน. ยินดีที่เม่ยจะมีความสุข เชื่อมั่นในกันและกันนะ. ส่วนเก้า สุดแล้วแต่เก้าว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต. ชีวิตคนเรามันสั้น อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำ ความรักใช้หัวใจคิดนะอาเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 11-11-2015 11:39:18
บวกเป็ดจองไว้ก่อน

ยิ้มจนแก้มแตก ในที่สุดความสุขจริงๆของคนคู่นี้ก็กลับมาสักที ส่วนเก้าตัดสินใจยังไงก็เอาที่ตัวเองมีความสุขนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 11-11-2015 12:36:58
อ่านไปเขินไป บิดตัวไปมา  :-[  บทจะหวานก็หวานแบบไม่ให้คนอ่านทันตั้งตัวเลยนะคะ 555+ :o8:

ขอบคุณสำหรับความหวานชโลมใจคนอ่านค่ะ   :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 11-11-2015 13:10:01
 :-[ :-[ :-[

อ่านไปเขิลไปประหนึ่งตัวเองเป็นอาเม่ย :o8:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 11-11-2015 13:17:35
หวังว่าเก้าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด :เฮ้อ:

หวานกันแบบไม่ทันตั้งตัวเลยเสี่ยวเม่ยกับพี่เช :o8:

 :กอด1: :L2: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-11-2015 13:34:57
เม่ยหมดแรงไปหลายวันแน่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 11-11-2015 14:55:06
 :o8:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 11-11-2015 15:00:06
 ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

จินตนาการว่า น้ำมันกุหลาบ คงจะหอมมากกกก :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 11-11-2015 16:06:12
 :-[ ท่านเชมัลจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งก็ควรเห็นแก่สภาพร่างกายอาเม่ยบ้างนะท่าน แต่นะ  o13 เข้าใจกันแล้ว
ทำเอาอารมณ์หม่นๆ และอยากร้องให้ไปกับเก้าสะดุดเลยเชียวตอนอ่านมาเจอซีนตอนท้าย

เก้า........ผู้มีจิตใจอ่อนโยน ความสุขของเก้าอยู่ตรงไหน  T T
(ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเก้าโอนเอียงไปตามคนอื่นให้ทำมาตลอด  แต่.....เก้าทำด้วยใจมาตลอด รวมถึงรับผิดชอบในสิ่งที่ทำมาด้วยดีเสมอ อารมณ์ตัดพ้อในตอนแรกของเก้าทำเอาซึม อย่าเลยนะ คนดีๆแบบนี้อย่าให้กลายเป็นคนไร้หัวใจเลย)

#กอดเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 11-11-2015 19:36:34
แปะก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-11-2015 20:47:09
กลิ่นกุหลาบอบอวล

ความรักช่างหอมหวาน

ขอให้เก้าได้พบความสุขเสียที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: XL ที่ 11-11-2015 22:33:12
ร้องเยสสสสสส ดังมาก
ในที่สุดคู่นี้ก็เสร็จ เอ้ย สมหวังเสียที
ไม่เสียแรงที่เชียร์ท่านเลย พี่เช
 o13 o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 11-11-2015 23:03:36
กรีดร้องงงงงงงงงงงงงง อรั้ยๆๆๆๆๆๆๆ
พี่เชเก็บกดมานานสินะ ถึงได้กดเอาๆ ถนอมๆอาเม่ยหน่อยสิพี่เช
แหมมมมมมมมม อาเม่ยช้ำหมดพอดี
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า32(3พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-11-2015 23:14:11
เอากำลังใจมาส่งจ้า

แปะไว้ก่อน

คืนนี้มารู้ตอนดึกแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 12-11-2015 09:45:58
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารเก้า
เค้าเป็นอะไรรรรร
ขณะแม่ทัพเชกำลังมีความสุขกับเม่ย
ความสุขของเก้าอยู่ตรงไหนหาไม่เจอเลย TT^TT
คือตอนนั้นเชลังเล เม่ยเจ็บเพราะคนผิดสัญญา
แต่ตอนนี้เข้าใจกัน รักกัน
คนที่เจ็บและไม่เหลืออะไรคือเก้า
ทำไมฉันต้องมาดราม่าด้วยยยยยย
ต้องมีความสุขกับเม่ยสิ ง๊ากกกก
ทำไม่ได้ สงสารเก้าเกินจะมองความสุขของแม่ทัพเชนั้นควรได้รับ
เฮ่อออออ
สนุกค่ะ แต่เราติดดราม่าไปหน่อย 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-11-2015 13:18:54
คืนดีกันแล้ว~ พี่เชโรแมนติก >///<
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2015 14:44:01
มันทำให้เราเขินอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-11-2015 18:01:17
พี่เชเก็บกดมานาน  :z1: ยังงัยก็ถนอมอาเม่ยหน่อยน้าาาาา :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 12-11-2015 18:20:49
ดีกันแล้วววว :o8:
ต้าซันพูดถูก สุขทุกข์อยู่ข้างหน้าแล้วแต่จะเลือก
อาเม่ยเลือกถูกแล้ว
ปล.ชอบฉากบรรยายบทรักของคนแต่งทุกเรื่องเลย  :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: NoknoiIndy ที่ 12-11-2015 18:27:13
 :mew3: ติดตามมากจาก นายรักอ่านค่ะ ขอมากรี๊ดไว้ก่อนจะไปตามหานิยายของป๋าไจฟ์กะน้องเรื่องอื่นๆอีก อิ อิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 12-11-2015 20:25:08
แอบปันใจให้ต้าซัน ดูนางเป็นคนดีและรักน้องมากมาย
ตอนนี้ทำเอาเราแอบเอามือปิดตาแล้วกางนิ้วมาอ่าน  :z1:  ชอบอ่าาาาาา
อาเม่ยดีขึ้นแล้วชิมิ พี่เชรีบหาทางให้เม่ยเป็นปกติเร็วๆเข้า เราลุ้นตัวโก่งแล้วเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-11-2015 20:35:16
ก็นะนานๆได้ที

เอาซะหนักเลย

มีความสุขกันทั่วหน้า

ขอแบบนี้บ่อยๆนะ

อยากให้อาเหม่ยและท่านแม่ทัพมีความสุข
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 13-11-2015 08:04:45
อาเม่ยกับพี่เชก็เข้าใจกันแล้ว
ก็ขอให้อาเก้ามีความสุขกับเขาบ้างนะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 13-11-2015 13:16:08
จริง ๆ โทษพี่เชหื่นไม่ได้นะต้องโทษที่เตียงมันเล็กเกินไปสำหรับผู้ชาย 2 คน เนอะพี่เชเนอะ :z1:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 13-11-2015 16:02:37
ท่านฟารัคกับเก้า เป็นความเหมือนที่แตกต่างกันยังไงก็ไม่รู้

ท่านฟารัคคู่ที่มีไม่รู้ว่าจะรักตัวเองจริงหรือต้องการในอำนาจที่ตัวเองมี

ส่วนเก้าเพราะหน้าตาบวกกับจิตใจและนิสัยที่ไม่ชอบมีเรื่องจึงทำให้โดนเอาเปรียบอยู่เรื่อยๆ


ไม่มีอะไรค่ะ...............แค่รู้สึกว่าเคมีคู่นี้เข้ากั๊น เข้ากัน   :impress:  :impress:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 13-11-2015 20:51:07
มาอ่านอีกรอบ  :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-11-2015 13:49:52
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 15-11-2015 21:12:30
โอย ... พูดไม่ออก   :-[
ขอบคุณค่า <3 <3

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 16-11-2015 21:36:39
 :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 16-11-2015 22:23:50
แวะมาดัน เม่ยจ๋า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่33 หน้า33(11พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-11-2015 22:44:12
ป่านนี้อาเม่ยคงหลับฝันดี  :กอด1:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34(18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 18-11-2015 06:49:22
ตอนที่ 34

แสงแดดอ่อนลอดผ่านรอยไม้เข้ามาถึงที่นอน ได้ยินเสียงนกร้องอยู่ข้างหน้าต่าง คนตัวใหญ่ลืมตาแล้วขยับตัวช้าๆ เพื่อไม่ให้คนที่เพิ่งได้นอนเมื่อสัก 1 ชั่วยามก่อนต้องตื่นขึ้น แง้มหน้าต่างอีกเพียงเล็กน้อยให้อากาศสดชื่นยามเช้าผ่านเข้ามาได้มากขึ้นแล้วค่อยไปล้างหน้า ล้างตัว เสร็จแล้วจึงเดินมาที่บ้านข้างๆ มองผ่านช่องหน้าต่างที่ยังทำไม่เสร็จ เห็นต้าซันที่กำลังต้มข้าวต้มมื้อเช้า หันมายิ้มกว้างทักทาย
"เม่ยล่ะ"
"ยังไม่ตื่น"
"ห๊ะ ไม่สบายหรือเปล่า" พี่ชายทำหน้าตาตกใจ
"เม่ยเพิ่งได้นอนเมื่อใกล้สว่างนี้เอง"
ต้าซันกะพริบตามองแล้วกลายเป็นหัวเราะ "คิดแล้วเชียว ว่าท่านจะยอมนอนหน้าห้องได้สักกี่วัน"
แม่ทัพเชมัลยิ้มรับ ทั้ง 2 คนต่างมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขไม่ต่างกัน
"เช่นนั้นก็ปล่อยให้นอนพักนานๆ เถิดนะ"

แม่ทัพเชมัลเดินมามองข้าวต้มในหม้อ ต้าซันก็รีบบอก
"ท่านกินก่อนแล้วค่อยตักแบ่งใส่หม้อดินยกไปบ้านโน้นก็ได้ เม่ยตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยอุ่น"
แม่ทัพรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วส่งให้
"พี่ใหญ่"
คนที่กำลังยิ้มอารมณ์ดี กลายเป็นยิ้มค้างอย่างเก้อเขิน
"เอ่อ...ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของท่านกับเม่ยนะ น้องรักใคร ข้าก็รักด้วยอยู่แล้ว แต่เพราะพระเชษฐาของท่านคือพระราชาฟารัค หากท่านเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ จะอย่างไรก็กลายเป็นตีตนเสมอ หากท่านไม่รังเกียจ เรียกข้าต้าซันเหมือนเดิม แล้วดีกับเม่ยให้มากๆ ก็พอ"

หลังกล่าวคำอีก 2 ประโยค ลำดับต่อมาคือความกังวลอีกเรื่องของต้าซัน "เรื่องผู้เฒ่าบนยอดเขาน่ะ"
ในช่วง 2 วันแรกที่แม่ทัพเชมัลเข้ามาพักที่บ้านนี้ อาเม่ยก็พาแม่ทัพเชมัลขึ้นไปหาผู้เฒ่าดินที่พักอยู่ตามลำพังบนเขา แต่ไม่พบ จากนั้นก็ขึ้นไปอีก 2 ครั้งแต่ก็ยังไม่พบเช่นกัน จนกระทั่งฝนเริ่มตกการเดินทางอันตรายมากขึ้น จึงไม่ได้ขึ้นไปอีก

"มาคิดดูก็น่าแปลกอยู่เหมือนกัน แม้ผู้เฒ่าจะปฏิเสธการรักษาเม่ย แต่ตอนที่ราชองครักษ์ลาทีฟมาที่นี่ เขาก็ได้พบกับผู้เฒ่านะ เห็นว่าสนทนากันหลายเรื่องด้วย หรือเป็นเพราะท่านไปกับเม่ย แต่ผู้เฒ่าไม่อยากพบเม่ยถึงทำให้ไม่ได้พบสักที" ต้าซันคาดเดาไปเรื่อย
..เหตุใดผู้เฒ่าจึงไม่อยากพบอาเม่ย..
เมื่อแม่ทัพเชมัลยิ้มขำ ต้าซันก็อธิบายความคิดของตน
"ข้าคิดเรื่องนี้เช่นนี้นะ ท่านผู้เฒ่าอาจไม่สะดวกใจหากต้องพบเม่ย เพราะนอกจากเรื่องที่ท่านรักษาไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องความขัดแย้งระหว่างพวกผู้เฒ่าแล้วก็เรื่องร้ายที่หมู่บ้านนี้ด้วย คือสำหรับเม่ยกับข้าแล้ว จะอย่างไรท่านผู้เฒ่าก็เป็นผู้มีพระคุณ"  ต้าซันกล่าวขอร้อง "หากท่านพบผู้เฒ่า ฝากบอกท่านด้วยว่า ไม่ต้องลำบากใจเรื่องเม่ย ตอนนี้เขาแข็งแรงขึ้นมาแล้ว พูดคุยมากขึ้น ยิ้มมากขึ้น....บางทีอาจเพราะมีท่านอยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างท่านกับพวกเมืองเหนือเหล่านั้น เม่ยเล่าให้ข้าฟังแล้ว พวกเรารู้ว่าท่านเองก็พยายามอย่างเต็มที่"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้า "เมื่อฝนหยุดตก ข้าจะขึ้นเขาไปคนเดียว อาจได้พบท่านผู้เฒ่า"
"รบกวนท่านด้วย ผู้เฒ่าดินเป็นผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของพวกเราแล้ว"

"แล้วเรื่องของผู้เฒ่าไฟ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านผู้เฒ่า" แม่ทัพถามขึ้นบ้าง
"บ้างว่าหลังจากที่ท่านทำลายหมู่บ้านนี้แล้ว ท่านก็ไปเมืองเหนือ บ้างก็ว่า ท่านเดินทางไปทั่วเมืองวัน"
"แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ก็ล้วนเป็นอันตรายต่อที่นี่ทั้งสิ้น"
ต้าซันยอมรับ ข้าวต้มมื้อเช้าที่เริ่มต้นด้วยดี กลับเริ่มไม่รู้สึกอยากกินต่อ "ผู้เฒ่าไฟสอนวิชาให้เม่ย ให้ความรู้แก่ทุกคนในหมู่บ้าน แต่สุดท้ายกลับทำลายหมู่บ้านของเรา ข้าไม่เข้าใจคนที่มีความคิดเช่นนี้เลยจริงๆ" น้ำเสียงที่กล่าวต่อมาจมอยู่ในลำคอ "มีเรื่องมากมายที่พวกเราไม่รู้ แถมเรื่องที่รู้มา ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง"


แม่ทัพเชมัลกินมื้อเช้าเสร็จก็ถือหม้อดินบรรจุข้าวต้มมื้อเช้ากลับมาที่บ้านพักของตนเอง เสียงเปิดประตูห้องนอนทำให้คนผอมบางรู้สึกตัวหันมามองแล้วนิ่วหน้า มือผอมๆ กดที่เอวบาง
"สายแล้ว"
"ใช่ ต้าซันทำข้าวต้มไว้ให้ ตอนนี้ออกไปที่หมู่บ้านใกล้ๆ บอกว่าจะไปขอซื้อลูกเจี๊ยบมาเลี้ยงสักหลายตัว" คนตัวใหญ่เดินมานั่งบนเตียงนอน "เจ้านอนพักก่อนก็ได้"
อาเม่ยขยับตัวลุกนั่งอย่างยากลำบาก 
"เจ็บหรือ"
คนตาสีแปลกมองค้อน แทนคำตำหนิที่เป็นต้นเหตุ แต่คนถูกค้อนกลับหัวเราะ
"ถามแล้วไม่ตอบ กลับมองค้อนกันแบบนี้ พี่จะแปลเข้าข้างตัวเองดีหรือไม่" กล่าวพลางจมูกโด่งก้มลงมาหาแก้มใส
"ครั้งแรก...ก็เป็นเช่นนี้หรือเปล่า"
"คงเป็นอย่างนั้น แล้วจำอะไรได้"
"จำได้ว่า..." ดวงตาสีเขียวนั่นยังฉายชัดว่ายังงอนอยู่ "ท่านเอาแต่ใจมาก"

แม่ทัพเชมัลหัวเราะเสียงก้อง แล้วกอดฟัดอีกคนโดยไม่ยอมฟังเสียงอุทธรณ์ว่ายังเจ็บ ยังปวดเมื่อย จนกระทั่งร่างกายเปล่าเปลือยนอนกอดก่ายกัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังเจือจางอยู่ในห้องนอน
มือเล็กๆหยิกที่เอวหนา จนคนถูกหยิกแสร้งร้องโอดโอยเจ็บปวดเกินจริง
"ลุกไปล้างตัวแล้วกินข้าวต้มกันเถิดสายมากแล้ว"

อาเม่ยคร้านจะเถียงว่าผู้ใดที่ทำให้ตื่นสายเช่นนี้ แขนผอมโอบรอบคอกว้างให้อีกคนอุ้มไปอาบน้ำแต่งตัวให้โดยดี
ความเอาใจใส่ที่มอบให้อย่างสม่ำเสมอ และพิเศษกว่าผู้อื่นเช่นนี้ เหตุใดที่ผ่านมาจึงเชื่อว่า ตนเป็นเพียงตัวสำรองให้กับองครักษ์เก้า ในวันที่แม่ทัพเชมัลไม่อาจโอบกอดองครักษ์เก้าได้อีก

"เมื่อฝนหยุดตกท้องฟ้าปลอดโปร่ง พวกเราออกไปจับปลาเอามาให้เจ้าทำน้ำซุป ไปให้ผู้เฒ่าดินดีไหม"
แม่ทัพถามขึ้นขณะที่กำลังอุ่นข้าวต้มในหม้อดิน ส่วนอาเม่ยกลับเป็นฝ่ายนั่งรอ
"จะอย่างไรท่านก็เป็นผู้ใหญ่ของเจ้า พี่สมควรเพิ่มความพยายามในการพบท่านอีกสักนิด"
อาเม่ยยิ้มขำ เพราะขึ้นเขาไปหาผู้เฒ่าหลายครั้งแล้ว แต่ไม่พบ ซึ่งจากที่รับใช้มาตั้งแต่ยังเด็กทำให้รู้ว่า ผู้เฒ่าดินกลับเป็นผู้ที่รักเสรียิ่งกว่าผู้เฒ่าลม ผู้ที่แม่ทัพเชมัลเคยพบ
ดังนั้นผู้เฒ่าจึงอาจแค่เพียงออกไปเก็บสมุนไพร หรือท่องเที่ยวไปเรื่อย มิใช่การหลีกเลี่ยงการพบหน้า
"ท่านผู้เฒ่าอาจเดินทางไปที่อื่น"
"ต้าซันเดาว่า ท่านผู้เฒ่ารู้ล่วงหน้าว่าพี่กับเจ้าจะขึ้นไปหา แต่ท่านผู้เฒ่าไม่อยากพบก็เลยหลบหน้า"
ผู้ที่เป็นศิษย์กะพริบตาไม่เข้าใจ "ผู้ใดจะทำเช่นนั้นได้"
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้าง "เจ้าทานข้าวต้ม ดื่มยาแล้วเมื่อท้องฟ้าโปร่งเมื่อไหร่ พวกเราออกไปหาปลากัน"
อาเม่ยหันออกไปมองนอกหน้าต่าง
"เวลานี้ก็ไปได้แล้ว"
"นั่นก็ใช่นะ" คิ้วเข้มขมวดแน่นแล้วเพิ่มเงื่อนไขอีกหลายข้อ "เช่นนั้น เจ้ากินข้าวต้ม ดื่มยา นอนพัก แล้วหากไม่มีฝนตกลงมาอีก พวกเราก็ไปหาปลากัน"
เป็นอีกครั้งที่อาเม่ยได้แต่ส่ายหน้า คร้านที่จะต่อปากต่อคำด้วย

อาเม่ยนอนพักได้ครู่เดียว ก็ลุกขึ้นมาทำข้าวห่อสำหรับ 3 คนไปกินในป่า แต่พอจะมาตามที่โรงเก็บม้า กลับพบว่า ต้าซันยังไม่กลับมา
"พี่ใหญ่ยังไม่กลับมา" แม่ทัพบอก
"นอกจากเรื่องไปซื้อลูกเจี๊ยบ อาจไปพูดคุยสอบถามเรื่องต้มเหล้าด้วย"
แม่ทัพพยักหน้าพลางมองห่อข้าวในมือของอาเม่ย "เอาไปวางไว้ในครัวที่บ้านใหญ่แล้วกัน เดี๋ยวกลับมาก็กินเอง"
ต้าซันช่างเป็นคนที่มีความสนใจที่หลากหลาย บ้านที่พักอยู่ยังซ่อมไม่เสร็จ ก็ไปสนใจเรื่องอื่นต่อไปอีกแล้ว
"ท่านน่าจะบอกให้พี่ใหญ่ไปทำเหล้านอกโรงเก็บม้าของท่าน"
"กลัวต้าซันจะเอาเหล้ามาให้ม้าของพี่ชิมหรือ"
"มันมีส่าเหล้า" อาเม่ยตอบอย่างจริงจัง "มันเป็นพิษ"
แม่ทัพเชมัลดึงอีกคนเข้ามาจูบหน้าผาก "เจ้าไม่บอกเองเล่า"
"ไม่ละ ท่านบอกสิ" อาเม่ยบอกปัดง่ายๆ

ตลอดสายน้ำที่ทอดตัวลงมาจากเขา จะไปหาปลาที่จุดใดก็ไม่ต่างกัน แต่แม่ทัพเชมัลกลับพิถีพิถันเป็นพิเศษ พาเดินย้อนสายน้ำไปจนเกือบจะถึงเชิงเขา มีร่มไม้ใหญ่ และดอกไม้ป่าส่งกลิ่นหอมถึงได้หันมาบอก ว่าจะหาปลาที่ตรงนี้
คนที่เป็นผู้ติดตามเพียงยิ้มอ่อนๆ จนคนที่นำทางหันมาหยิกแก้ม

...ในใจแม้จะยอมรับว่านี่คือเสี่ยวเม่ยคนเดิม แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบว่า เสี่ยวเม่ยตัวน้อย กับเสี่ยวเม่ยคนที่อยู่ข้างกันในเวลานี้ ช่างมีนิสัยแตกต่างจากเสี่ยวเม่ยคนช่างซักช่างถาม และอารมณ์เปลี่ยนแปลงโดยง่ายดั่งสายลมที่พบเจอกันที่ค่ายทหาร...
...เสี่ยวเม่ยใช้เวทย์ไฟและเพลงดาบไฟเป็นหลัก แสดงนิสัยที่ดุจดั่งสายลมในช่วงเวลาหนึ่ง เคยเป็นไฟในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ตอนนี้สงบนิ่งไม่ต่างจากดิน และเรียบเรื่อยเหมือนสายน้ำ....
...คนที่ครองเวทย์แห่งธาตุทั้ง 4 ที่เติบโตในหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา...

"เสี่ยวเม่ย"
เจ้าของชื่อหันมามอง ดวงตาสีเขียวใสดูจริงจัง
"พี่รักเสี่ยวเม่ย"
แก้มใสแดงเรื่อขึ้น ขณะที่พยักหน้า
"พยักหน้าแปลว่าอันใด"
"แปลว่ารู้แล้ว"
"รู้แล้วจริงหรือ"
พอถามย้ำ อาเม่ยก็ชี้บอกให้เปลี่ยนใส่เสื้อตัวเก่า เพราะเวลาที่หาปลาเสื้อผ้าจะไม่เลอะเทอะ
"ที่ผ่านมาเวลาเจ้าหาปลาต้องหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนหรือไม่"
อาเม่ยส่ายหน้า
"แล้วทำอย่างไร"
อาเม่ยหันไปมองสายน้ำ ยิ้มจางๆ เมื่อนึกถึงอดีต "พ่อเพียงถอดเสื้อแล้วทอดแห"
"แล้วเจ้าเล่า"
ครานี้รอยยิ้มของคนเล่ากว้างขึ้นกว่าเดิม "ข้าใช้เวทย์"
"เจ้าขี้โกงนี่" คนตัวใหญ่ทำเสียงโวยวาย "คนอื่นหาปลาเหน็ดเหนื่อย เจ้ากลับใช้เวทย์ แบบนี้อึดใจเดียวก็ได้หลายตัวแล้ว"
"เรียกมาแต่ตัวใหญ่ๆ สัก 3 ตัวก็พอที่จะทำอาหารให้พ่อและเหล่าผู้เฒ่าแล้ว ไม่จำเป็นต้องจับมามากมายไปใส่โอ่งไว้หรอก"
คนชี้แจงดูเก้อเขิน ไม่กล้าสบตาอีกคนที่มองมาด้วยสายตาหวาน

"กินข้าวเถิด เดี๋ยวค่อยหาปลา"
กำลังกินข้าวกับอาหารที่เตรียมมาแม่ทัพก็มองไปรอบตัว
"ตั้งแต่มาถึงยังไม่เจอพุ่มแบร์รี่"
อาเม่ยเพียงเหลือบตามองอีกคน "มีพุ่มแบร์รี่อยู่อีกด้านของหมู่บ้าน"
"อ้าว พี่พามาผิดที่หรือนี่" แม่ทัพทำหน้าตาประหลาดใจ
"ท่านสำรวจรอบหมู่บ้านอยู่ทุกวันไม่รู้ได้อย่างไร"
"แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพี่สำรวจรอบหมู่บ้านอยู่ทุกวัน"
อาเม่ยก้มหน้าแล้วจะหันไปมองทางอื่น แต่ปลายนิ้วที่แตะปลายคาง ให้หันกลับมามองสบตาสีเข้ม
"เห็นว่าแกะไม้ หรือไม่ก็ทำครัวอยู่ทั้งวัน กลับมีเวลาแอบดูผู้อื่น"
"ก็....พวกเรา...มีกันอยู่แค่นี้"
จบคำตอบคือจูบหวาน
มือเล็กตีที่ไหล่หนาเบาๆ "กินข้าวแล้วก็หาปลาเถิด จะได้รีบกลับไปทำซุปปลา ท่านจะได้ขึ้นเขาไปหาผู้เฒ่าทันเย็นนี้"
"พี่กำลังคิดว่าจะไปหาตอนพรุ่งนี้เช้า"

อาเม่ยไม่รู้เท่าทันความคิดก็พยักหน้าตามใจ
กินมื้อเที่ยงด้วยกันแบบนี้ ข้าวที่เตรียมมามากกว่าปกติแม้กินจนหมดกลับยังไม่รู้สึกอิ่ม ได้ปลาตัวใหญ่ 5 ตัวใส่ข้องที่เตรียมมาก็ชวนกันกลับ
อาเม่ยทำปลาอยู่หลังครัว ใกล้กันคือแม่ทัพเชมัลที่ขุดหัวมัน และผักสดมาล้างอยู่ข้างกัน เตรียมให้อาเม่ยนำไปทำซุป
ถึงยามนี้ต้าซันก็กลับมา โดยส่งเสียงทักทายมาแต่ไกล
"ทำอะไรกันอยู่"
"ทำซุปปลา" แม่ทัพตอบ
แต่อาเม่ยถาม "พี่ใหญ่ไปที่ใดมาทั้งวัน"
"ไปหมู่บ้านใกล้ๆไงแม่ทัพมิได้บอกเจ้าหรือ"
"บอกหลังจากที่เสี่ยวเม่ยเตรียมอาหารให้พี่ใหญ่ เพราะคิดว่าจะกลับมาเร็ว จะได้ออกไปจับปลาด้วยกัน ตอนนี้ข้าวห่อยังอยู่ในบ้านแน่ะ" แม่ทัพบอกยืดยาว พลางส่งสัญญาณให้อีกคนรีบหนีไปบ้านตนเอง แต่อาเม่ยเรียกไว้
"แล้วตอนไปหมู่บ้านข้างๆ เอาของไปขายหรือเปล่า"
"อ่า......." ต้าซันเกาหัวเก้อๆ พอเห็นว่าฝนเบาลงก็รีบไป ไม่ได้เตรียมสิ่งใดติดตัวไปทั้งสิ้น เพราะคิดว่าไปครู่เดียวก็จะกลับ แต่สุดท้ายกลับพูดคุยติดลม จนบ่ายจัดถึงได้กลับบ้าน
"พี่ใหญ่ พวกเรายังต้องใช้เงินในการซื้อของใช้ และซ่อมบ้านนะ"
"เอาน่า" ต้าซันรีบโบกมือ "ข้าหิวแล้ว ไปกินข้าวก่อนนะ"
"พี่ใหญ่แล้วลูกเจี๊ยบอยู่ไหนล่ะ"
แต่ต้าซันรีบวิ่งเข้าบ้านไปแล้ว

อาเม่ยส่ายหน้า แล้วทำปลาต่อไป
"พี่ใหญ่เป็นนักดนตรี มักอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก แต่เขากลับต้องมาซ่อมบ้าน ทำสวน เขาคงคิดถึงเวลาเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน"
แม่ทัพเชมัลมองคนที่ก้มหน้าทำปลา รู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างน่ารักและแสนดี จนทั้งหัวใจที่มอบให้ไปก็ยังไม่เพียงพอ
ดวงตาสีแปลกเงยขึ้นมามอง
"จ้องหน้าเช่นนั้นมีอันใด"
"กำลังคิดว่าเจ้าน่ารักมาก เป็นคนดีมาก และคิดว่า หากพี่จะบอกความรู้สึกของตนเอง ที่มากกว่าพี่รักเจ้า พี่ควรพูดว่าอย่างไรดี"
อาเม่ยยิ้มเขินรับคำหวาน จนถึงเวลาที่ช่วยกันทำซุปปลาจนเสร็จ แล้วตักใส่ถ้วยเล็กๆ ให้แม่ทัพชิม
"คาวไหม"
"ไม่หรอก"
อาเม่ยชิมบ้าง "เคี่ยวอีกนิดก็ได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยอุ่นอีกครั้งแล้วกรองก้างปลาออก หากข้าหลับเพลินท่านต้องปลุกข้าแต่เช้านะ"
"เอ่อ...เสี่ยวเม่ย" ผู้ช่วยทำครัวอึกอักไม่ยอมพูดจนอีกคนต้องเร่งให้กล่าวคำออกมา
"พี่คิดว่าพรุ่งนี้เช้า พี่จะขึ้นเขาไปคนเดียว"
อาเม่ยหันมามองหน้าตรงๆ สีหน้าท่าทางบ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจ และเมื่อเจ้าตัวส่งทัพพีตักแกงให้ จากนั้นก็เข้าไปในห้องนอนปิดประตูทันที

..ชัดเลย...ข้ากำลังถูกงอน..

"เสี่ยวเม่ย.."
แม่ทัพเชมัลเคาะประตูห้องเรียก ลำพังประตูแค่นี้พังเข้าไปได้โดยง่าย แต่หากทำเช่นนั้นจะถูกโกรธ ถูกคนงอนใส่หนักกว่าเดิมอย่างแน่นอน
"พี่เห็นว่าพวกเราขึ้นไปพร้อมกันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้พบสักที ก็เลยคิดว่าจะลองไปเพียงคนเดียว"
"ข้าบอกท่านแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้" เสียงตอบมาจากในห้องนอน "ท่านเองก็เห็นด้วย"
แต่แม่ทัพพยายามชี้แจง "อีกอย่างคือสภาพอากาศช่วงนี้
"ข้าอยู่ที่นี่มาตลอดนะ" น้ำเสียงห้วนๆ แบบนี้ท่าทางจะโกรธมาก
"พี่เพียงเป็นห่วงเจ้า หากต้องขึ้นเขา"
"ข้าเดินทางระหว่างวิหารผู้เฒ่าทั้ง 4 กับหมู่บ้านนี้ในสภาพอากาศเช่นนี้มากี่ครั้งท่านรู้ไหม"
คนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ได้แต่เกาท้ายทอยตนเอง
"ก็ได้ๆ พวกเราไปพร้อมกัน"
อาเม่ยเปิดประตูห้องทันที ดวงตาสีแปลกจ้องมอง ริมฝีปากยื่น
หากเป็นยามอื่นคงแกล้งหยิกแก้มใส แต่ยามนี้ได้แต่ทำหน้าจืดกล่าวขออภัย
"ไม่โกรธนะ พี่ยอมแล้ว พรุ่งนี้เช้าพวกเราไปด้วยกัน"
แต่อีกคนยังทำหน้างออยู่
"พวกเราไปเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า"
"ก็..."
"หากรอพรุ่งนี้เช้า ท่านอาจหนีขึ้นเขาไปก่อน" อาเม่ยรู้ทัน "หรือไม่ก็อาจมีฝนตกลงมาอีก ท่านหยิบผ้าขาวบางออกมา"

มือใหญ่วางผ้าขาวบางลงบนปากหม้อดินแล้วใช้เชือกผูกขึงผ้าไว้ จากนั้นอาเม่ยก็ค่อยตักน้ำแกง กรองก้างปลาไว้เหลือเพียงน้ำแกงสีสวย หันไปตักชิ้นผักใส่ในหม้อใบเล็ก ห่อผ้าอย่างเรียบร้อยแล้วจึงเตรียมน้ำดื่มสะอาดสำหรับทั้ง 2 คน
ก่อนที่จะออกเดินทางไม่ลืมแวะบอกต้าซัน
"หากพบท่านผู้เฒ่า พวกเราอาจต้องอยู่ค้างบนเขา"
ต้าซันจะกล่าวคำว่าเดินทางเวลานี้อาจเป็นอันตราย แต่นึกได้ว่า ทั้ง 2 คนต่างก็เป็นผู้ใช้เวทย์ ตนเองเสียอีกที่อาจเป็นอันตรายหากมีโจรเข้ามา

จากเขตนาร้างจึงเข้าสู่พื้นที่เชิงเขาและป่ารก มาจนถึงช่วงทางแคบเลียบหน้าผา จุดนี้เองที่เป็นจุดอันตรายที่ไม่ควรเดินทางหากมีฝนตก
"หากเดินทางมาจากอีกด้านหนึ่งของเขาก็ไม่ต้องผ่านหน้าผานี้ แต่ต้องเสียเวลาเดินอ้อม"
อาเม่ยกล่าวพลางชี้ไปยังเทือกเขาที่ทอดตัวต่อเนื่องกัน
"ป่าที่เจ้ามาพบข้า อยู่อีกทาง"
อาเม่ยพยักหน้ายอมรับว่าถูกต้อง

นั่นเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้แม่ทัพเชมัลเสียโอกาสที่จะได้แสดงเจตนาที่ดี เพราะมัวแต่ลังเลไม่มีความมั่นใจว่า อาเม่ยมีความเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านที่ถูกทำลายหรือไม่
...ซึ่งแม้ในแง่ความรักจะคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
...แต่ในแง่มุมของความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งต่ออาเม่ย หมู่บ้านนี้ ไปจนถึงเมืองวัน ต้องยอมรับว่านี่เป็นจุดที่ ใครบางคนเจตนาทำให้มันเกิดขึ้น....
 
จากระยะทางจะพบว่าหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ใกล้กับวิหารของเหล่าผู้เฒ่ามากกว่าหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่บริเวณเดียวกัน แต่จุดที่แม่ทัพพบกับเม่ยครั้งที่ยังเป็นเด็ก อยู่อีกด้านของภูเขา ทั้งเพิงพักที่เคยให้พัก ก็ยังเดินไปอีกทาง
จนมาถึงจุดที่มองเห็นยอดวิหารที่ถูกสลักลงในภูเขาผ่านพ้นจากยอดไม้ แต่อาเม่ยพาไปอีกที่หนึ่ง เป็นที่พักปลูกสร้างด้วยดินผสมที่มีความแข็งแรง ดั่งสร้างด้วยก้อนหินผนึกแน่นทั้งหลัง
อาเม่ยหันมายิ้มให้ "เหตุใดท่านเห็นบ้านของผู้เฒ่าทีไรต้องทำหน้าตาเช่นนี้ทุกครั้ง"
"เปลี่ยนดินให้กลายเป็นหินเช่นนี้ ช่างลึกล้ำยิ่งนัก"

ก่อนที่จะสนทนากันต่อทั้งคู่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันสายหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพบกับผู้มีเวทย์ระดับสูง แต่ทันทีที่รู้สึกถึง ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
ผู้เฒ่าดินผู้นี้มีหนวดเคราขาวโพลน สวมเสื้อผ้าสีขาวขุ่น และแบกตะกร้าสมุนไพร หากแต่น้ำเสียงยามเมื่อกล่าวคำกลับทุ้มกว้าง ให้ความรู้สึกถึงผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่

"ในที่สุดก็กลับมาถึงบ้านสักที"
ถึงถ้อยคำจะบอกเหน็ดเหนื่อย แต่น้ำเสียงและฝีเท้าของผู้เฒ่าดินกลับไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด
แม่ทัพเชมัลยืนตะลึงมองจนอีกคนก้าวเข้ามาหา ห่างออกไปเพียง 5 ก้าว จึงคุกเข่าลง
"พระปัยกา (ปู่ทวด) หลานเชมัลถวายคำนับ"
อาเม่ยที่กำลังเข้าไปช่วยผู้เฒ่าเก็บตะกร้าสมุนไพรถึงกับหยุดชะงัก
"พระ...ปัยกา"
"อะไร ตกใจอันใด" ผู้เฒ่าดินหันไปเสียงดังกับศิษย์ แล้วหันมาตบไหล่คนที่คุกเข่าให้ลุกตามมา
"ไม่อยู่บ้านนานหลายวัน ฝนก็ตก เข้ามาก่อน" หันมาเห็นศิษย์รักยังยืนงงก็กลับกล่าวเร่ง "มาเร็วๆ มีเรื่องต้องคุยกันมากมายมิใช่รึ"
อาเม่ยหันไปมองหน้าแม่ทัพเชมัลเชิงถาม แต่อีกคนรีบบอกทันที
"พี่ไม่รู้อันใดเลยจริงๆนะ"
นี่คือความจริงยิ่งกว่าความจริงทั้้งหมดที่เคยกล่าวมาในชีวิตแล้ว

เมื่อเข้ามาในบ้าน อาเม่ยรีบคว้าผ้ามาเช็ดเก้าอี้ ในบ้านแล้วเชิญผู้เฒ่านั่งลง จากนั้นก็จะรีบไปทำความสะอาดบ้านให้ แต่ผู้เฒ่าเรียกให้มาคุกเข่านั่งลงตรงหน้า แล้วก้มลงมาประคองใบหน้าให้เงยขึ้น
ดวงตาของผู้สูงวัยจ้องมองดวงตาสีแปลกอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็บอกให้อีกคนไปทำความสะอาดบ้านตามที่เจ้าตัวอยากจะทำ แต่ตนเองนั่งลงสนทนากับแม่ทัพเชมัล
"อยากรู้เรื่องไหนก่อนล่ะ"

ที่ผ่านมาสิ่งที่อยากรู้ก็คือเหตุใดจึงไม่รักษาอาเม่ย ทั้งต้องการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มาถึงยามนี้กลับพบว่ามีเรื่องที่อยากรู้มากมายจนไม่แน่ใจว่าควรถามเรื่องใดก่อน
ผู้เฒ่าดินหันไปมองอาเม่ยที่กำลังติดไฟในครัว เพื่อเตรียมอุ่นน้ำแกงและอาหารมื้อเย็น แล้วหันมาหาแม่ทัพเชมัล
"เรื่องในอดีตหลายอย่างปล่อยให้มันผ่านไป เพราะหากพูดขึ้นมาแล้วมันไม่ได้แก้ไขปัญหา มีแต่จะทำให้ท้อแท้ใจ"
บ้านนี้เป็นบ้านที่หลังเล็กยิ่ง ต่อให้อยู่ในห้องนอนก็ยังได้ยินเสียงสนทนา  ยิ่งเป็นผู้เฒ่าดินที่มีเอกลักษณ์เสียงดังฟังชัด ต่อให้ไปยืนอยู่นอกบ้านก็ยังได้ยินอย่างชัดเจนไม่ต่างกัน

"มีคนเล่าเรื่องของ 4 ผู้เฒ่ามากมาย แต่ไม่เคยมีผู้ใดพูดว่าพระองค์คือผู้เฒ่าดิน"

ผู้เฒ่าดินโบกมือ "สิ่งแรกเลยคือ อย่าเรียกข้าว่าพระปัยกานั่น ข้าอยู่ห่างไกลจากตำแหน่งทั้งหลายเหล่านั้น เรียกข้าว่าปู่ทวดเล็กก็แล้วกัน ส่วนคำถามของเจ้า ไม่มีใครรู้เพราะข้าไม่ได้คิดจะบอกใคร แล้วมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมากแล้ว"

(มีต่อ)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 18-11-2015 06:56:04
(ต่อ)

เรื่องราวของผู้เฒ่าดินต้องเล่าย้อนกลับไปในสมัยของพระราชาเอลมัส ที่ทรงปกครองพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมไปถึงบางส่วนของเมืองเหนือ และเมืองบาสก์ในปัจจุบัน ทรงมีพระราชโอรสและธิดาหลายพระองค์ จากพระชายา 3 พระองค์
แต่ในกลุ่มพระราชโอรส มีอยู่ 5 พระองค์ที่มีพลังเวทย์ ทั้งเป็นพลังเวทย์ที่กล้าแข็ง แต่เป็น 4 พระองค์ที่ต่างก็พยายามแย่งชิงตำแหน่งจากองค์รัชทายาทฟามี
ส่วนผู้เฒ่าดินหรือเจ้าชายมูซัดที่เป็นพระโอรสองค์เล็กที่เกิดจากพระชายาในลำดับที่ 3 แม้จะมีความกระหายในความยิ่งใหญ่เช่นกัน แต่การที่พระองค์มีพลังเวทย์ดินที่กล้าแข็ง ทำให้ทรงมองเห็นปลายทางของการต่อสู้ของพี่น้อง จึงฉวยโอกาสที่พระราชาเอลมัสรับสั่งให้ไปตรวจราชการในพื้นที่ห่างไกลทางเหนือ ซึ่งก็คือเมืองเหนือในปัจจุบัน แสร้งทำเป็นป่วยหนักในระหว่างการเดินทางแล้วสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
พระราชาเอลมัสส่งคนออกค้นหาพระโอรสองค์เล็กอยู่นานนับปี เนื่องเพราะยังไม่มีผู้ใดพบพระศพ ประกอบกับเวทย์ของพระองค์เองที่ทำให้รู้ว่าพระราชโอรสยังมีชีวิตอยู่
เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ พระราชโอรสอีก 4 พระองค์ต่อสู้กันกระทั่งเจ้าชายชามาพระโอรสลำดับที่ 4 เพลี่ยงพล้ำเสียชีวิต จากนั้นองค์รัชทายาทฟามี ทรงมีชัยเหนือเจ้าชายฮามิดเจ้าชายลำดับที่ 2 ขณะที่เจ้าชายฮามัลที่อยู่ในลำดับที่ 3 ยอมวางอาวุธ
ระหว่างที่ถูกจองจำ เจ้าชายฮามิดหลบหนีไปทางเหนือได้สำเร็จ
พระราชาฟามีในเวลานั้นจึงเลือกที่จะเจรจากับพระอนุชาฮามัล และแบ่งดินแดนเมืองบาสก์ให้ปกครอง เพื่อหวังให้เจ้าชายฮามิดกลับมามอบตัวและเจรจากัน แต่นอกจากพระองค์จะไม่กลับมาแล้ว พระองค์ยังเริ่มสะสมกำลังเพื่อตั้งตนเป็นอิสระ

"แต่นั่นอาจเพราะพระราชาฟามีไม่อยากถอนรากถอนโคนน้องชายคนรองก็เป็นได้ เพราะเมื่อมองจากเมืองวัน จะเมืองบาสก์หรือเมืองเหนือต่างก็เป็นน้องชายทั้งนั้น"

แต่ความสัมพันธ์กับเมืองบาสก์จะเป็นไปในลักษณะรอมชอมมากกว่าความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ
ส่วนช่วงที่เมืองเหนือเริ่มแบ่งแยกตนเองชัดเจน เกิดขึ้นในสมัยของพระราชาฟาดิลผู้ปกครองเมืองวันองค์ถัดมา
และการกำหนดเขตกันชนระหว่าง 3 เมืองเกิดขึ้นในสมัยของพระราชาจาวาด ผู้เป็นพระราชบิดาของพระราชาฟารัค และ เจ้าชายเชมัล
ยุคของพระราชาจาวาด จึงเป็นยุคของการเรียกระดมเหล่านักเวทย์มากมายของเมืองวัน เพื่อลงเวทย์ป้องกันตลอดแนวชายแดน
ซึ่งในครั้งนั้น เหล่าผู้เฒ่าทั้ง 4 ก็มารวมตัวกันอยู่ที่หมู่บ้านนี้แล้ว แต่มีเพียงผู้เฒ่าลมเพียงคนเดียว ที่ไปเข้าร่วมกับผู้ใช้เวทย์คนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการลงเวทย์กำกับกำแพงเมือง 

"ไม่ใช่แค่ไม่ไว้ใจเพื่อนบ้าน แต่จาวาดยังไม่ไว้ใจน้องชาย ถึงได้ส่งน้องชายไปอยู่เมืองหน้าด่าน นาซิมจึงเติบโตที่นั่น ยังทำให้พ่อของเจ้าอาจต้องกลายเป็นคนไม่มีพี่ไม่มีน้องไปด้วย แต่ฟารัคไว้ใจทั้งเจ้าและนาซิม แถมผูกมิตรกับเมืองบาสก์ เขาจึงเป็นคนที่มีพี่น้องอยู่เสมอ แต่ก็นั่นแหละ ข้าโทษว่า มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่จาวาดต้องพบเจอมาในรุ่นพ่อของเขา เขาก็เลยไม่ไว้ใจใคร" 

อย่างไรก็ตามแม้เจ้าชายมูซัดที่กลายเป็นผู้เฒ่าดินจะมีเจตนาหันหลังให้กับความวุ่นวายทางการเมือง แต่เมื่อพระราชาเอลมัสสิ้นพระชนม์และองค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ต่อ ผู้เฒ่าดินก็จะเดินทางไปในนามของเจ้าชายมูซัด เพื่อแสดงความยินดี เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่พระราชาฟาดิล พระราชาจาวาด และพระราชาฟารัคขึ้นครองราชย์
นั่นทำให้แม่ทัพเชมัลเคยพบกับพระปัยกา แต่ไม่เคยรู้ว่านี่คือผู้เฒ่าดินที่ทุกคนเอ่ยถึง

เมื่อคำนวนดูแล้วผู้เฒ่าดินที่มีชีวิตมาตั้งแต่ยุคพระราชาเอลมัส ต่อเนื่องมาถึงพระราชาฟารัคในปัจจุบัน อาจมีอายุร่วมร้อยปี แต่ยังมีความจำดีเยี่ยมและไม่ได้แตกต่างไปจากตอนที่แม่ทัพเชมัลพบเจอครั้งสุดท้าย ในวันพระราชพิธีพระราชาจาวาด สละราชบัลลังก์ให้แก่พระราชาฟารัคแม้แต่น้อย

"ตั้งแต่ออกจากวัง ท่านปู่ทวดเล็กก็อยู่ที่นี่มาตลอดหรือ"
"ไม่หรอก ข้าไปนั่นไปนี่ กำแพงเมืองกั้นข้าไม่ได้หรอก แผ่นดินนี้มีเรื่องให้สมควรเรียนรู้มากมาย"
ผู้เฒ่าดินลูบเครายาวสีเทา
"ต้าซันพี่ชายของอาเม่ยไม่มีพลังจึงไม่จำเป็นต้องฝึกเวทย์ อาเม่ยมีพลังทั้ง 4 ก็ต้องฝึกเวทย์ทั้ง 4 เพื่อควบคุมพลังนั้น ส่วนเจ้ามีมากกว่า 4 นั้นก็ย่อมต้องฝึกมากกว่า นั่นเป็นเรื่องพื้นฐาน หากไปฝึกเวทย์เพื่อควบคุมพลังที่ตนไม่มีมันจึงเป็นดั่งเวทย์ดำ ที่เลวร้ายลงไปอีกในระดับที่ชาวบ้านใช้ เรียกคุณไสย ยาสั่ง"
ผู้เฒ่าดินมีสีหน้าดูหมิ่นเมื่อกล่าวคำในตอนท้าย
"เป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าอย่างยิ่ง"

"เรารู้ว่าเวทย์จะผันแปรไปตามพลังของผู้นั้น แล้วเจ้ารู้ไหมว่า พระราชาแต่ละพระองค์ต่างกันอย่างไร แน่นอนละ ว่าทุกพระองค์มีพลังมีเวทย์ที่กล้าแข็ง แต่ที่มากกว่านั้นคืออำนาจแห่งผู้ปกครอง ซึ่งพระราชาเอลมัสพ่อของข้ามีอำนาจแห่งผู้ปกครองนั้น แต่ฟามีพี่ชายคนโตของข้าไม่มี เขาถึงต้องแย่งชิงกับน้องๆ ฟาดิลปู่ของเจ้าไม่มีอำนาจแห่งผู้ปกครอง พอเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่งก็เจ็บป่วยจนต้องสละบัลลังก์ มาถึงจาวาดพ่อของเจ้าก็ไม่มีเช่นกัน แต่เขามีฟารัคพี่ชายของเจ้าที่ช่วยสนับสนุนให้พ่อของเจ้าอยู่ในบัลลังก์ได้นาน"
ผู้เฒ่ากล่าวอย่างหนักแน่น "พระราชาเอลมัส กับพระราชาฟารัคถึงได้มั่นใจว่าจะอยู่ในตำแหน่งได้โดยไม่มีผู้ใดต่อกร"
"อำนาจนี้มันหายไป 3 ชั่วคน แล้วมันกลับมาที่ฟารัค แน่นอนว่าพระราชาเมืองบาสก์รู้ว่า ฟารัคมีอำนาจนี้ เพราะทั้ง 2 พระองค์เป็นมิตรที่ดีต่อกัน ได้พูดคุยกัน แต่พระราชาเมืองเหนือแม้จะรู้มาจากข่าวที่มีผู้นำไปเล่าให้ฟังแต่ก็ไม่เชื่อ เพราะเขาเชื่อมั่นในเวทย์ดำมากกว่า"
"อำนาจของฟารัคกล้าแข็ง ไม่ต่างจากพ่อของข้า แต่พ่อของข้าไม่รู้จักผูกมิตรอย่างที่ฟารัคทำ เจ้าพวกองครักษ์ฝีมือธรรมดา พอสมรสได้เลื่อนตำแหน่งเข้าไปรับใช้ใกล้ชิด ยิ่งนานยิ่งมีพลังและเวทย์กล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ นั่นเพราะอำนาจของฟารัค เขาถึงต้องมีเจ้าราชองครักษ์บาดานั้นอยู่ข้างๆ เพื่อสร้างสมดุล เมื่อวันก่อนเขาส่งเจ้าหมอยาลาทีฟมาหาข้า เจ้านั่นก็มาทางพลังอ่อนโยนเหมือนกัน เดาว่าที่ผ่านมา ฟารัคต้องไม่ให้เจ้านี่อยู่ห่างตนเองเช่นกัน"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้ายอมรับความคิดของผู้เฒ่าดิน เพราะราชองครักษ์บาดาอยู่ใกล้ชิดพระราชาโดยตลอด ส่วนราชองครักษ์ลาทีฟ ก็อยู่แต่ในเขตพระราชวังเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่คนอื่นจะถูกแบ่งงานแตกต่างกันออกไป
ดังนั้น เวลาที่ทั้งหมดมาอยู่พร้อมหน้ากัน ทุกคนจึงรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก

"ว่าที่จริง ถ้าฟารัคได้สายอ่อนโยนมาอยู่ใกล้ชิดอีกสักคนก็น่าจะดี"
แม่ทัพเชมัลนึกถึงใครคนหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้ากับอาเม่ย ทำให้ผู้เฒ่าดินถามขึ้น
"มีแล้วหรือ"
"เรื่องนี้ เหลนไม่ทราบ เพราะตอนที่มา เหลน..."
"ไม่ได้สนใจอะไรเลย นอกจากคนที่นี่ละสิ" ผู้เฒ่าโคลงศีรษะช้าๆ 

อาเม่ยหันไปลอบอมยิ้มกับอาหารเย็นที่กำลังทำอยู่ เมื่อเห็นว่าแม่ทัพเชมัลพยักหน้ายอมรับกับพระปัยกาอย่างเก้อเขิน

"แต่ถึงฟารัคจะไม่มีพลังด้านนี้เข้ามาเสริมก็ไม่เป็นไร ใช้วิธีโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ดี"
"ท่านปู่ทวดเล็กรู้เรื่องในวังหลวงมากมาย" ทั้งแม่ทัพเชมัล และอาเม่ยต่างก็รู้สึกประหลาดใจ
ผู้เฒ่าดินหัวเราะอารมณ์ดี "มันอดไม่ได้น่ะ"


ผู้เฒ่าดินกับแม่ทัพเชมัลมีเรื่องพูดคุยกันมากมาย ได้เปลี่ยนเรื่องคุยก็ต่อเมื่ออาเม่ยยกซุปปลามาให้ผู้เฒ่า
"ฝีมือดีจริงๆ" ผู้เฒ่าเอ่ยชม แล้วบอกแม่ทัพ "เจ้าคนนี้ชอบผลไม้มาก"
เรื่องที่อาเม่ยชอบผลไม้นั้น เป็นสิ่งที่แม่ทัพเชมัลรู้มานานแล้ว
"คราก่อนๆ ที่เจ้ามาแล้วเจอกับผู้เฒ่าลมตอนนั้น ข้าไม่อยู่ มิเช่นนั้นก็จะบอกเคล็ดลับเอาชนะตาเฒ่านั่น ไม่ต้องโดนซัดจนต้องคลานกลับไปหรอก"
เมื่อเล่าถึงตอนนี้ ผู้เฒ่าดินก็ถอนหายใจ "สายลม พัดพาความร่มเย็น สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสม แต่กลับเป็นสิ่งแรกที่ถูกทำลาย"

ผู้เฒ่าดินยังมองเห็นอาเม่ยเป็นเด็กน้อยอยู่เสมอ ค่ำลงก็บอกให้อาเม่ยนอนหนุนตักแม่ทัพเชมัล ฟังเรื่องราวในอดีต จนกระทั่งเห็นว่า อาเม่ยหลับไปแล้วผู้เฒ่าดินจึงลดเสียงลงเมื่อกล่าวคำ
"เรื่องที่เจ้าคนนี้มันโดนเวทย์ดำน่ะ มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับเจ้าโดยตรง"

แม่ทัพเชมัลก้มหน้ายอมรับคำตำหนินี้โดยดี

"เจ้ารู้ดีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เจ้ารู้ตัวดีว่ามีแต่เจ้าเพียงคนเดียวที่รักษาเจ้าคนนี้ได้ ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่พระราชาฟารัค เมื่อเวทย์ดำเข้าครอบคลุม เจ้าคนนี้จะกลายเป็นอะไรได้บ้าง เจ้าก็รู้เห็นกับตาตัวเองแล้วนี่นะ ก็ขอให้ดูแลกันไป"
"เฮยอั้นพบกับผู้เฒ่าไฟที่เมืองเหนือหรือขอรับ"
"เป็นเช่นนั้น"

นั่นอาจไม่ใช่เรื่องที่มีการเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้า แต่เพราะเวทย์ดำคือการทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายใครบ้าง เด็กน้อยอย่างอาเม่ยจึงกลายเป็นเครื่องมือทำลายที่ผู้เฒ่าไฟเพาะเลี้ยงขึ้นมากับมือ
"ข้าเองก็ผิดมาก รู้ทั้งรู้ว่าผู้เฒ่าไฟกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็กลับสนใจแต่เรื่องของตนเอง หันหน้าเข้าหาตำรา อ้างหลักวิชาการว่าทุกอย่างเกิดจากดิน ย่อมกลับสู่ดิน จนกระทั่งวันหนึ่งขัดแย้งกันหนัก พวกเราหันมาสู้กันเอง และสายลมจากไปก่อน จากนั้นจึงเป็นสายน้ำ แต่ข้ากับไฟเอาชนะกันไม่ได้"

เรื่องราวหลังจากนี้ อาเม่ยเล่าให้แม่ทัพเชมัลฟังแล้ว ผู้เฒ่าดินจึงกล่าวข้ามไป

"หลังจากที่ไฟทำลายหมู่บ้านแล้ว อาเม่ยก็เดินทางเข้าเมืองหลวง" ท่ามกลางแสงไฟจากน้ำมันตะเกียง ผู้เฒ่าดินกล่าวขอร้องแม่ทัพเชมัล "อย่าได้ถือโทษโกรธเจ้าตัวเล็ก ทุกอย่างที่มันทำไป เป็นเพราะผู้เฒ่าไฟ และในฐานะที่ข้าเป็นผู้ละเลยการทำหน้าที่ ข้าจะขอแก้ไขเรื่องนี้เอง"
"ท่านปู่ทวดเล็ก เหลนไม่เคยโกรธเสี่ยวเม่ยด้วยเรื่องนี้ แม้จะไม่ได้รู้เรื่องราวอย่างละเอียด แต่ก็เชื่อว่าเสี่ยวเม่ยไม่ใช่คนที่จะทำลายหมู่บ้านนี้ หรือฆ่าพ่อของเขาเอง"
"ไม่ๆ" ผู้เฒ่ารีบปฏิเสธ "ตอนนั้นเม่ยมารับใช้ข้า เขานอนอยู่ในห้อง แล้วข้ารู้สึกถึงแรงสะเทือนของผืนดิน และไอร้อนจากต้นไม้ใบหญ้า เมื่อพิจารณาจากพลังจึงรู้ว่ามาจากหมู่บ้านในหุบเขา ถึงได้ไปปลุกเม่ย แต่เมื่อลงไปหมู่บ้านก็ถูกไฟเวทย์ล้อมรอบแล้ว" ผู้เฒ่าใช้นิ้วมือเคาะที่หน้าผากตนเอง "เม่ยเห็นพ่อที่ตรงท้ายหมู่บ้าน ร้องบอกให้ลูกชายหนีไป เจ้าตัวเล็กนั่นขวัญเสียมาก กลายเป็นเปิดช่องว่างในจิตใจให้ผู้เฒ่าไฟ ฝังความเชื่อใหม่"
"บอกว่า พ่อสั่งให้ไปที่ค่ายทหาร หากอยู่ที่นั่นจะปลอดภัย" ผู้เป็นเหลนนึกเรื่องราวส่วนนี้ได้ในทันที
"ตอนที่กล่าวคำเหล่านี้ จับเท็จไม่ได้ใช่ไหม"
"ไม่ได้ขอรับ ตลอดเวลาที่อยู่ที่ค่ายทหาร แม้จะมีช่องว่างเกี่ยวกับอดีต แต่เสี่ยวเม่ยไม่เคยกล่าวคำเท็จ และไม่มีวี่แววของเวทย์ดำแม้แต่น้อย"
ผู้เฒ่าดินถอนหายใจยาว
"ตอนเล็กๆ ที่พ่อเขาพามาหา เราต่างก็จับได้ว่า แม้จะมีพลังทั้ง 4 อย่างที่หาได้ยาก และต้องฝึกให้ครองเวทย์ทั้ง 4 แต่เด็กคนนี้โดดเด่นที่สายลม" มือใหญ่โบกไปมา "ก็สายลมน่ะ หวั่นไหว แปรปรวน เอาแน่เอานอนไม่ได้ ผู้เฒ่าลมก็แบบนั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย มีเจตนาดีแต่ข้อเสียคือตัวเองรู้อยู่คนเดียว แต่คนอื่นใครจะไปรู้ด้วย วันนี้บอกว่าดีแล้ว วันถัดมาบอกว่าไม่ดีเสียนี่ อย่าว่าแต่เด็กเลย พวกเราอีก 3 คนยังไม่รู้ใจ"
"ที่อ่อนที่สุดคือดิน เด็กคนนี้อ่านจิตใครไม่ได้เลย เพราะลมที่มันอยู่เหนือกว่าไง เขาจึงไม่มีสมาธิมากพอที่จะอ่านจิตใคร แต่บังคับควบคุมดินได้ แต่ก็....ไม่มากนัก คล้ายจะเป็นเรื่องเล่นสนุกของเขามากกว่าจะเอาจริง อาจเพราะเจ้าตัวไม่ชอบด้วย ข้าก็ไม่บังคับ ได้แต่สอนหนังสือไปตามเรื่อง"
"น้ำนี่ก็พอไหว แต่เจ้าคนนี้ไม่ใช่น้ำเพื่อการต่อสู้ ไม่ชอบเลย หลักๆ แล้วจึงตกเป็นหน้าที่ของผู้เฒ่าไฟ เพราะเห็นพ้องกันว่า ไฟใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ได้ทั้งเวทย์ทั้งเพลงดาบจากไฟ"
แม่ทัพเชมัลก้มลงมองใบหน้าคนที่นอนหลับอยู่ "เสี่ยวเม่ยเคยบอกว่า เขาใช้เวทย์ทั้ง 4 ได้เพียงเล็กน้อย"
ผู้เฒ่าดินช่วยแก้ไข "มันไม่สนใจต่างหาก ผู้เฒ่าอย่างข้าก็ไม่ชอบบังคับ เพราะไม่อยากมีเรื่องกับผู้เฒ่าไฟ...ผลสุดท้ายเลยเป็นเช่นนี้"


..จบตอนที่ 34..

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-11-2015 07:12:29
แปะไว้ก่อนเดี๋ยวมา ศึกสายเลือดสินะ พี่น้องฆ่าแกงกันเองมีถมไป..ถ้าจบแล้วเฉลยว่าเป็นฝีมือของ พระราชานี่ เอาหัวโม่งกำแพงเลยนะ 555// ท่านเชบทจะหวานก็ ไม่เกรงใจ. คนอ่านเขิลแทน  มีความรู้สึกว่า.  เก้าจะไร้คู่  อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: NoknoiIndy ที่ 18-11-2015 07:24:05
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 18-11-2015 07:46:05
จองที่ไว้ แล้วขอย้อนอ่านอีกนิด จะมาคอมเม้นท์นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 18-11-2015 07:52:01
เย็นนี้เจอกัน แปะไว้ก่อน
 :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 18-11-2015 08:05:32
สรุปว่าที่พระราชาฟารัคชอบเจ้ากี้เจ้าการกับคนโน้น คนนี้ สาเหตุคือเพื่อจัดสมดุลย์ให้ "อำนาจของผู้ปกครอง" ที่ตัวเองมีอยู่สินะ..  เก้าไปอยู่ใกล้ชิดพระราชาแล้ว อีกหน่อยเก้าจะเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่าน๊าาา ชักเป็นห่วง  :hao4:

ขอบคุณที่มาต่อให้ค่ะ...ข้อสงสัยต่างๆเริ่มคลี่คลายทีละเล็กทีละน้อยแล้ว ^^





หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 18-11-2015 09:41:22
มีความรู้สึกว่าเรื่องต่างๆค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดี
ที่สำคัญตอนนี้หวานมากกกกก อาเม่ยน่ารักมากๆๆๆๆๆๆ งุ้งๆงิ้งๆ น่ารักๆๆๆๆๆ
พี่เชก็ปากหวาน ชอบที่พี่เชบอกรักบ่อยๆ เพราะบางครั้งถึงแม้จะรู้ว่ารัก แต่การได้ยินจากปากมันรู้สึกดีกว่าเป็นไหนๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 18-11-2015 09:50:28
 :pig4: :pig4:
ความกระจ่างกำลังคืบคลานเข้ามาซินะ..เม่ยยังน่ารักเหมือนเดิม :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-11-2015 10:25:16
ไปๆมาๆ ก็พี่ๆน้องๆกันไปหมด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-11-2015 10:48:56
เรื่องราวค่อยๆเปิดเผยออกมาแล้ว

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-11-2015 11:10:49
ถ้าจะบอกว่าท่านฮามิดคือผู้เฒ่าไฟคนนั้น โหววว งั้นท่านผู้เฒ่ามูซัดต้องรู้ดีที่สุดว่าจุดอ่อนและจุดแข็งคืออะไร ถูกต้องล่ะ แต่ว่าแล้วจะทำยังไงล่ะก็ในเมื่อผู้เฒ่าดินบอกว่าดินกับไฟเอาชนะกันไม่ได้ คงไม่ใช่สละตัวเองไปพร้อมกันนะ
แสดงว่าช่วงที่เหล่าผู้เฒ่าทั้ง 4 มารวมตัวกันอยู่ในตอนที่ระดมกำลังของเหล่าผู้มีเวทย์ มันน่าจะเป็นจุดที่โชคชะตาพลิกเปลี่ยนที่ดูเหมือนโชคจะมาเข้าทางด้านมืด และเพราะเป็นช่วงอาเม่ยเข้ามาพอดีด้วย  :katai1:


นี่เอาจริงๆถ้าเราเป็นพระราชาเอลมัสก็ต้องเศร้าใจนะที่ต้องมาเห็นลูกๆตัวเองมาแย่งชิงตำแหน่งกันตั้งแต่ยังไม่ตาย แต่ว่านะเมื่อก่อนการหลงลืมว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ จึงทำให้มองข้ามอนาคตไป


ตอนนี้ท่านเชกำลังย้อนรอยอดีตในความทรงจำไปกับอาเม่ยซินะ  :mew1:

ส่วนท่านฟารัค......ด้วยหลายๆอย่างของพระราชาผู้นี้ เราว่าน่าจะเป็นผู้ที่จบปัญหาทุกอย่างได้แน่นอนเพราะมีครบทุกอย่างทั้งเวทย์ทั้งอำนาจผู้ปกครอง

>>>> สุดท้ายอาเก้าคงไม่ใช่อยู่อย่างมีความสุขแบบโดดเดี่ยว แต่ก็เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจและมองคนอื่นที่อยู่แบบสงบสุขในบั้นปลาย (แอบเอาคาคาชิมาเปรียบ)  :mew2:

เรื่องกำลังเข้มข้น ตอนต่อไปคือฉากการต่อสู้จะมาถึงแล้วซินะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 18-11-2015 12:32:52
มาบวกไว้ก่อน เดี๋ยว บ่ายแก่ ๆ มาอ่านจ๊า  :bye2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 18-11-2015 15:29:40
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ท่านผู้เฒ่าออกมาตอนนี้ เรื่องราวกระจ่างไปหลายเรื่อง
แอบเคยไม่พอใจพระราชาฟารัค ที่คอยจัดการทุกเรื่อง
อาเม่ยเริ่มยิ้มหวานมีความสุขแล้ว  รอคอยให้อาเก้ามีความสุขเหมือนกันนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 18-11-2015 16:02:00
ชัดเจนขึ้นเลื่อย ๆ คงเหลือเพียงว่าใครกันผู้ครองเมืองเหนือและมีเวทย์ดำที่จะต่อกรกับพี่เชเรา
แต่ "ส่วนเจ้ามีมากกว่า 4" หมายความว่าอะไรอ่ะมีมากกว่า 4 เราข้ามตรงไหนไป   :katai1:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 18-11-2015 19:24:41
มาแล้วววว 
ขอไปอ่านก่อนค่อยมาเมนท์   :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-11-2015 19:38:59
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 18-11-2015 19:48:46
เริ่มรู้ที่มาที่ไปมากขึ้น
เนื้อหาล้ำมากกกก
มีอะไรค่อยๆหลุดมาให้เราต้องนึกย้อนภาพรันตามตลอด
แต่ฟินกับความหวานของคู่นี้นำทุกความรู้สึกค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-11-2015 20:32:42
แล้วถ้าอาเหม่ยจะฝึกเวททั้ง4

ให้แข็งแกร่งได้หรือไม่

ถ้าสนใจจริงๆคงได้ละนะ

ท่านแม่ทัพตอนนี้เอาใจคนอ่านไปเลย

แบบว่าหนักแน่นและรักอาเหม่ยมากๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 18-11-2015 21:53:11
รายละเอียดเบื้องหลังความขัดแย้งได้เผยออกมาแล้ว ที่แท้ก็เป็นศึกสายเลือด แม้จะเป็นหลายรุ่นต่อมา แต่ก็ยังนับว่าทั้งสามเมืองนั้นเกี่ยวดองกัน พระราชาฟารัคที่ดึงเอาเก้าซึ่งมีพลังสายอ่อนโยนเข้าไปอยู่ด้วยได้อย่างแยบยลก็สัมฤทธิ์ผลในแง่ของการสร้างสมดุลให้แก่พลังเวทย์ในราชสำนัก และยิ่งทำให้รัชกาลของพระองค์กล้าแข็งขึ้นอีกด้วย นับว่าเป็นพระราชาที่เต็มไปด้วยเพทุบายคนหนึ่ง คราวนี้ก็ต้องมาดูว่า เชมัลที่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้แล้ว จะทำอย่างไรกับศึกเมืองเหนือที่คาราคาซัง

อย่างไรก็ตาม, ในท่ามกลางเหตุการวุ่นวายและตรึงเครียดนี้ ก็นับว่าเป็นสิ่งดีที่เชมัลและอาเม่ยได้ตุนาหงันกันเป็นที่เรียบร้อย หวังว่ากลิ่นน้ำมันกุหลาบจะทำให้อาเม่ยได้คลายจากเวทย์ดำอย่างหมดจดเสียที จะได้รักกันมากๆ กว่าเดิม และหวานกันมากๆ กว่าเดิม

ส่วนอาเก้านั้น ดิฉันเห็นว่า การไม่มีคู่อาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างอื่น เพราะดูท่าเก้าจะเป็นคนอาภัพเรื่องรัก จะคู่หญิงก็มีเรื่องมาขวาง จะคู่ชายก็ต้องคลาดแคล้ว ซ้ำยังถูกทำร้ายด้วยผลจากเวทย์ดำอีก ถ้าสุดท้ายแล้วได้ตกล่องปล่องชิ้นกับพระราชาฟารัคก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่

แอบชอบตรงข้อมูลที่ว่า หากมีเวทย์อันใดก็ควรฝึกเวทย์อันนั้นเพื่อควบคุมพลัง หากฝึกเวทย์อื่นก็จะกลายเป็นเวทย์ดำหรือคุณไสย ชอบใจตรงนี้ค่ะ มันดูมีเหตุมีผลดี นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกนักเวทย์ทะเยอทะยานจึงใช้เวทย์ดำ เพราะบางทีไปฝึกเวทย์ที่ตนเองไม่มีในตัว เมืองเหนือเลยกลายเป็นรังของเวทย์ดำไปซะงั้น

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ สำหรับนิยายน่ารักๆ และสนุกสุดๆ สองตอน รอคอยตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 18-11-2015 22:56:30
รู้สึกถึงการปูเรื่องก่อนจะเจ้มจ้นอีกรอบ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-11-2015 09:17:48
มันเป็นศึกสายเลือดนี่เอง  :เฮ้อ: มีความรู้สึกว่าอาเก้าจะไม่ได้กับแม่ทัพนาซิมแน่ๆเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-11-2015 14:11:37
ยุ่งเหยิงเป็นใยแมงมุม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 19-11-2015 16:04:07
ศึกสายเลือดแท้ๆเลย สุดท้ายเรื่องราวจะเป็นยังไงนะ แล้วที่ผู้เฒ่าดินบอกว่าจะแก้ไขเองนี่จะทำยังไง ถ้าเรื่องนี้เกิดจากผู้เฒ่าไฟ แล้วผู้เฒ่าดินจะทำยังไงล่ะในเมื่อเอาชนะกันไม่ได้

ที่พระราชาอยากให้เก้าไปเป็นต้นห้องเพราะอยากได้สายอ่อนโยนไปอยู่ข้างกายสินะ

เรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คลายปทไปเรื่อยๆ คนอ่านก็ตื่นเต้น รีบมาต่อนะ

ปล. พี่เชหวานเวอร์ไปนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 19-11-2015 16:54:46
ตกลงผู้เฒ่าดินมาช่วยเฉลยเรื่องหรือยิ่งเพิ่มปมเนี่ยยยยยย
ชีวิตน้อยๆของอาเม่ยช่างน่าสงสาร โดนผู้เฒ่าไฟหลอกใช้ ท่านพี่เชต้องคอยช่วยเม่ยนะ ห้ามทอดทิ้ง
ปล.ชอบตอนพี่เชกะน้องเม่ยหวานกันมากๆๆๆๆๆๆๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-11-2015 22:12:41
อิพี่เช! จัดหนักน้องเม่ยตลอด ตลอด ตลอด หมั่นไส้!!!

ภูมิหลังซับซ้อนยิ่งนัก

เก้าจะมาอยู่ข้างกายฟารัคไหม อยากให้เก้าได้เป็นที่รักอย่างแท้จริง ได้สมหวัง ได้เป็นเพียงหนึ่งเดียวของหัวใจรักของใครสักคน

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกสุดๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-11-2015 22:13:04
ชอบฉากเม่ยงอนแล้วท่านพี่เชง้อ อร๊าย~มันได้ฟีลแบบกลัวเมียมากๆ >///<"
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 20-11-2015 15:50:04
บทสรุปจะเป็นยังไงหนอ...รอต่อไป^^

ขอบคุณค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 23-11-2015 09:00:57
ซับซ้อนไปอีก

ขอบคุณค่า :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 23-11-2015 12:35:14
มาปัดกวาดเช็ดถูเรือน..รออ่านค่า อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 24-11-2015 07:15:17
มารอๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-11-2015 08:44:51
หวังว่าสายลมที่โดดเด่นในตัวอาเม่ยจะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องเหมาะสม ตามที่ผู้เฒ่าดินพูดไว้
........ว่าแต่วันนี้อาเม่ยจะแวะมาพาไปชมที่ไหนมั้ยน๊อ (เปิดบ้านมารอแต่เช้า อิ_อิ) ..........
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่34 หน้า34 (18พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-11-2015 23:55:43
ปูเสื่อนอนรอ คิดถึงอาเม่ยจะแย่อยู่แล้ว
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 25-11-2015 07:40:40
ตอนที่ 35

อาเม่ยตื่นนอนขึ้นมาในห้องพักเล็กๆ ในบ้านของผู้เฒ่าดิน ส่วนคนที่มักจะตื่นนอนก่อนอยู่เสมอกลับยังหลับอยู่ คาดว่าเมื่อคืนคงพูดคุยกับพระปัยกาผู้เฒ่าดินจนดึก
และเชื่อว่า คนตัวใหญ่คนนี้คงเป็นคนอุ้มเข้ามานอนในห้อง
ริมฝีปากบางจูบคางสาก กระซิบบอกให้นอนต่อ
"เหมือนพี่เพิ่งจะเข้านอนเมื่อครู่นี้เอง" เสียงบอกงัวเงีย แต่ก็ยังจะพยายามลุกขึ้นนั่ง อาเม่ยจึงดันไหล่ให้นอนต่อ
"เตรียมอาหารเช้าเสร็จจะมาเรียก"

สำหรับอาเม่ยแล้วการทำงานบ้านไม่ใช่งานหนัก เป็นเพียงการบังคับลมให้นำพาฝุ่นและเศษดินต่างๆ ออกไปจากบ้าน ซึ่งมีเพียงที่นี่เท่านั้นสามารถใช้พลังเวทย์ของตนเองได้อย่างเต็มที่
หากเป็นที่อื่น โดยเฉพาะที่หมู่บ้าน กลับไม่กล้าที่จะแสดงออก เพราะทุกคราที่ใช้พลังจะได้รับสายตาตกใจ และความห่างเหินเป็นรางวัลตอบแทน
ลำพังรูปร่างหน้าตา สีตา สีผม ก็ต่างจากผู้อื่นอยู่แล้ว ยังมีพลังที่แตกต่างจากผู้อื่นเสียอีก...
ตั้งแต่แรกมา มีคนเพียงคนเดียวที่ชื่นชมพลังเหล่านี้และให้กำลังใจมาตลอด นั่นคือต้าซัน
ตอนที่พบเจอกับต้าซันอีกครั้งที่หน้าค่ายทหารหลังไม่ได้พบกันนานหลายปี แม้จะอธิบายได้ว่าเป็นความคุ้นเคยในฐานะผู้มีสายเลือดเดียวกัน แต่ความรู้สึกถึงกำลังใจที่ดีที่แสนเคยคุ้นนั่นคือสิ่งแรกที่ทำให้วางใจ

ตอนที่แม่พาต้าซันหนีไป อาเม่ยยังเด็กมาก  ทั้งความทรงจำก็ยังสับสน หลายสิ่งหลายอย่างถูกสลับสับเปลี่ยน และหลายอย่างถูกซ่อนไว้ หลายสิ่งหลายอย่างถูกบิดเบือน
แต่กำลังใจและความผูกพันกับต้าซันคือสิ่งที่อยู่ในความทรงจำมาตลอด

ต้าซันคือพี่ใหญ่....
ส่วนแม่ทัพเชมัล....

แม้แม่ทัพเชมัลจะแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำว่ารักมาก แต่เมื่อนานไปแล้วหากตระหนักได้ว่าอาเม่ยคนนี้ที่แท้จริงแล้ว แตกต่างจากอาเม่ยที่แม่ทัพพบเจอที่ค่ายทหาร จะยังรักอยู่ไหม...
ขณะที่ความคิดเริ่มวุ่นวาย อาเม่ยก็สะดุ้งเมื่อแขนใหญ่โอบกอดเอวบางจากทางด้านหลัง
"ทำอะไรอยู่"
"ข้าวต้มธัญพืช"
"ใส่หัวเผือกด้วย" ริมฝีปากคนถามจูบที่แก้มใส
"ท่านผู้เฒ่าชอบข้าวต้มแบบนี้ ทำไมท่านไม่นอนต่ออีกนิด"
แขนใหญ่กอดกระชับแน่นกว่าเดิม ขณะที่จมูกคมคลอเคลียอยู่ที่แก้ม "นอนคนเดียวมันแปลกๆ"
อาเม่ยอมยิ้ม "แปลกอย่างไร"
"แขนมันว่างๆ ไม่มีคนนอนหนุน แล้วก็ทำให้หนาวด้วย"

"กำลังคิดว่าจะต้องเตรียมยาบำรุงสุขภาพให้เจ้าตัวเล็กจะได้ฟื้นฟูกำลังได้ไวขึ้น แต่ดูแล้ว ข้าคงต้องเพิ่มตัวยาอีกสักอย่างสองอย่างเสียแล้ว"
ผู้เฒ่าดินแสร้งพูดเสียงดังเมื่อเดินออกมาจากห้องนอน เดินผ่านครัวแล้วก็ออกจากบ้านไป
"ท่านผู้เฒ่า กลับมากินข้าวก่อน" อาเม่ยร้องเรียก
"เดี๋ยวมา ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" เสียงตะโกนตอบกลับมา ทั้งที่ตัวของผู้เฒ่าห่างออกไปหลายก้าวแล้ว
"อย่าไปนานนะ" ศิษย์รู้ใจรีบร้องเตือน แล้วก็ยืนส่ายหน้าอยู่ตรงประตูบ้าน เมื่อผู้เฒ่าสะพายตะกร้ายาเดินออกไปเฉยๆ 
ส่วนคนอีกเดินตามมายืนอยู่ด้านหลัง
"เป็นแบบนี้เสมอหรือ"

อาเม่ยพยักหน้า
..นี่แหละท่านผู้เฒ่าดิน คนที่คิดแล้วต้องลงมือทำในทันที...
ท่านไม่ใช่คนใจร้อน แต่เห็นว่า เมื่อพบเจอสิ่งที่ควรลงมือทำ ก็ควรทำในทันที อย่าได้ขอเวลาผัดผ่อนไปเรื่อย..
 พอผู้เฒ่าลับต้นไม้ใหญ่ออกไป อาเม่ยก็หันมาถาม "ท่านหิวหรือยัง"
"ยัง" มือใหญ่ช่วยเกลี่ยปลายผมที่ระแก้มของอีกคน "เจ้าหิวหรือยัง"
อาเม่ยส่ายหน้า
"เช่นนั้น ไปเดินเล่นกันไหม"

คนตัวเล็กตามใจ หันไปพักหม้อข้าวต้ม เกลี่ยไฟในเตา แล้วพาเดินไปที่วิหารซึ่งสลักลงไปในภูเขา
เมื่อเปิดประตูบานใหญ่ โคมไฟภายในห้องโถงจุดสว่าง มีความเยือกเย็น และสายลมอ่อนๆ พัดผ่าน บ่งบอกถึงความสมดุลระหว่างธาตุทั้ง 4

แม้จะเรียกว่าวิหาร แต่ที่นี่ไม่มีแท่นบูชา มีเพียงตู้หนังสือ หนังสือม้วนที่เรียงซ้อนกันสูง และอาวุธ
อาเม่ยมองไปรอบๆ
"ไม่น่าจะใช้คำเรียกที่นี่ว่าวิหารเลยใช่ไหม"
แม่ทัพเชมัลเห็นพ้อง "น่าจะเรียกหอสมุดมากกว่า"
อาเม่ยยิ้มกว้าง
"ทีแรกพี่คิดว่า ที่นี่จะมีแท่นบูชา หรือน่าจะมีสัญลักษณ์หรือตราที่บ่งบอกที่มา หรือเกียรติยศของท่านผู้เฒ่าทั้ง 4 "
คนตัวเล็กพยักหน้า "มี" จากนั้นก็ชี้ไปที่ด้านใน
ซึ่งจากสภาพที่เป็นอยู่ สมควรเรียกว่า อาเม่ยเดินนำลึกเข้าไปในถ้ำ กระทั่งพบห้องกว้าง นอกจากที่นอนแล้ว ยังมีโต๊ะ เก้าอี้ อาวุธและสิ่งของเครื่องใช้มากมาย
แม่ทัพมองไปรอบๆ ห้อง
"ห้องนี้มีอุณหภูมิสูงกว่าภายนอก นี่ต้องเป็นที่พักของผู้เฒ่าไฟ" ดวงตาสีเข้มหยุดมองแผ่นป้ายผ้าผืนใหญ่ประทับตราราชวงศ์เมืองเหนือ "ท่านผู้เฒ่ามาจากเมืองเหนือ"
รู้สึกถึงแรงดึงเสื้อจึงหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"ท่าน....แม่ทัพ....."
อาเม่ยก้มหน้ามองมือตัวเอง ขณะที่กล่าวถ้อยคำแผ่วเบา
...เรื่องราวที่ลังเลมาตลอดว่าควรบอกไปหรือไม่..

"ข้า....."
แม่ทัพหันมากอดไว้หลวมๆ เพื่อให้กำลังใจ
"พ่อของข้า เป็น...ผู้ที่มาจากเมืองเหนือ...."
มือใหญ่ที่ยังลูบหลังอยู่ทำให้อาเม่ยเงยหน้าขึ้นมอง "ท่านไม่มีความเห็นใดหรือ"
"ไม่นี่"
"ก็....มันยิ่งย้ำชัดเจนว่า....."
"พี่รู้ที่มาของเจ้าตั้งแต่ได้ยินชื่อของเจ้า แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราจะระแวงสงสัยใคร พวกเราเป็นพี่น้องกัน"
"แต่สถานการณ์ตอนนี้มันต่างออกไป"
"เมืองวันมีกฎหมายแปลกๆ หลายข้อก็จริง แต่เราไม่กล่าวหาหรือลงโทษผู้ใดเพียงเพราะสืบต้นตระกูลไปแล้ว เขาเดินทางมาจากเมืองอื่น พระปัยกาเองก็เล่าให้ฟังแล้วว่า แต่เดิมพวกเราเป็นเมืองเดียวกัน"
"ข้ากังวลว่า เพราะที่มาของข้า เพราะสิ่งที่ข้าทำลงไป จะทำให้ท่านต้องเสื่อมเสีย"
"พี่ไม่เคยกังวล แล้วเหตุใดเจ้าต้องกลัว"

คำกล่าวหนักแน่นที่ทำให้อาเม่ยกอดตอบเช่นกัน
"ข้ารู้ว่าท่านดีต่อข้ายิ่งนัก แต่ยิ่งท่านดีต่อข้ามากเท่าใด ข้ากลับยิ่งเป็นกังวลว่าจะทำให้ท่านต้องเสื่อมเสียมากขึ้นเท่านั้น"

"เสี่ยวเม่ย" ดวงตาสีเข้มมองสบตา เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และความเชื่อมั่น "อย่ากังวลความคิดเห็นของผู้อื่น เพราะสิ่งสำคัญระหว่างเรา 2 คนก็คือ พวกเรารักกัน และสิ่งเดียวที่พี่ขอจากเจ้าก็คือ อย่าหนีหายไปจากพี่อีกเท่านั้น"
อาเม่ยพยักหน้า น้ำตารื้น
"ข้าช่างเป็นคนที่โชคดีนัก"
เมื่อกลับออกมา และหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านพักของผู้เฒ่าดิน แม่ทัพเชมัลก็หันมาถาม
"วันวานพี่เรียกต้าซันว่าพี่ใหญ่ เจ้าจะเห็นด้วยไหมหาก....พี่จะขอให้เจ้ากราบพระปัยกา...เอ่อ..."
เมื่อคนหนึ่งดูเก้อเขิน อีกคนก็พลอยเก้อเขินตามไปด้วย
"แล้วแต่ท่านเถิด ว่าแต่จะเรียกผู้เฒ่าว่าอย่างไร"
แม่ทัพเชมัลเกาท้ายทอยเก้อเขินหนักกว่าเดิม
"ให้ท่านผู้เฒ่าเลือกเองก็แล้วกัน"

"คุยอันใดกัน" เสียงดังก้องมาจากนอกบ้าน จากนั้นผู้เฒ่าดินก็เดินพ้นออกมาจากร่มไม้ใหญ่
อาเม่ยตรงเข้าไปรับตะกร้าทันที ขณะที่ผู้เป็นเหลนรีบเข้าไปเช็ดเก้าอี้ในบ้านรอให้ผู้เฒ่านั่งลง
ผู้เฒ่าดินมองซ้ายทีขวาทีแล้วส่ายหน้า
"พวกเจ้าสลับหน้าที่กันแล้ว"
ทั้ง 2 คนหันมามองหน้ากัน จากนั้นแม่ทัพเชมัลก็จูงมืออาเม่ยเข้ามาคุกเข่าข้างหน้า
"พวกเราไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหน เหลนขอรบกวนท่านปู่ทวดเล็ก อวยพรให้กับพวกเราด้วย"
ผู้เฒ่าดินยิ้มขำ อดไม่ได้ที่จะแกล้งอีกสักเล็กน้อย
"แต่งงานทั้งที แค่คุกเข่าแบบนี้มันง่ายไปไหม"
แม่ทัพเชมัลหันไปมองหน้าอาเม่ย ตัดสินใจไม่ถูก
"ในฐานะที่ข้าเป็นปู่ทวดเล็กของเจ้า ข้าเห็นว่า ทำแบบนี้มันไม่ให้เกียรติอาเม่ย แล้วในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์อาเม่ย ข้าก็เห็นว่า ทำง่าย ๆ แบบนี้มันดูหมิ่นกัน"
ฟังอย่างไรก็แสดงให้เห็นว่าอยู่ฝ่ายเดียวกับอาเม่ย ทำให้แม่ทัพเชมัลรู้สึกผิดที่ตัดสินใจรวบรัดง่ายดายเกินไป
สีหน้าที่ยากต่อการบรรยายทำให้ผู้เฒ่ากลั้นยิ้ม
"แล้วจะให้อวยพรแบบใดกัน แบบบ้านของอาเม่ย หรือ แบบในรั้วในวังของเจ้า"

"แบบที่จะทำให้พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข" อาเม่ยเป็นฝ่ายตอบ ดวงตาสีแปลกเปี่ยมไปด้วยประกายของความสุข "ไม่จำเป็นต้องมีพิธีการ พวกเราขอเพียงคำอวยพรจากท่าน"
"ดี" ผู้เฒ่าดินหัวเราะเสียงก้อง "ข้าขัดหูมาตั้งแต่ได้ยินพวกเจ้าสนทนากันแล้ว"
ท่าทางของผู้เฒ่าดิน ชัดเจนว่าจะไม่มอบคำอวยพรโดยง่าย
"พวกเจ้าเรียกกันและกันช่างขัดหู"
จากที่แม่ทัพโดนตำหนิว่าขอสมรสเรียบง่าย ก็มาที่อาเม่ยในเรื่องคำพูด
แต่อาเม่ยรู้ดีว่า ผู้เฒ่าจะตำหนิว่าอะไร
"ก็ข้า..."
"เมื่อเจ้าเป็นคนของเชมัล ต้องเรียกเชมัลว่าอะไร"
".....ท่านพี่...." อาเม่ยตอบเสียงเบา แต่คนที่คุกเข่าอยู่ข้างกันกำลังยิ้มกว้าง
"แล้วเจ้าควรเรียกตนเองว่าอะไร"

อาเม่ยมองหน้าผู้เฒ่า ในดวงตามีแต่คำถามว่าควรเรียกตนเองว่าอย่างไร
ที่เคยได้ยินมาก็เรียกแทนตัวเองว่า ข้า และเรียกอีกฝ่ายว่าท่านพี่ หรือไม่ก็น้องหญิง หากเป็นแถวบ้านในชนบท สามีบางคนเรียกคนที่เป็นภรรยาว่า นี่ หรือ เจ้า กันทั้งนั้น

"เรียกตัวเองว่าน้องดีไหม" ผู้เฒ่ากล่าวยิ้มๆ ดวงตาสนุกสนานที่บ่งบอกถึงความสุขเช่นนี้กลับชวนให้คิดไปถึงพระราชาฟารัคยิ่งนัก
อาเม่ยที่พยายามทำสีหน้าเรียบเฉย กลับมีแก้มแดงเรื่อ ทั้งลามไปจนถึงใบหูและลำคอ
คนที่อยู่ข้างๆ เห็นเช่นนี้จึงหัวเราะเสียงดัง จนอาเม่ยได้แต่ปิดแก้มตนเอง
"แปลว่าเห็นด้วยใช่หรือไม่"
"..ขอรับ..." อาเม่ยยิ้มหน้าแดงกว่าเดิม

"แล้วพวกเจ้าจะเรียกข้าว่าอะไร"
ยามนี้อาเม่ยแตะปลายนิ้วที่หน้าผากตนเองขณะที่ส่ายหน้า คิดอันใดก็ไม่ออกแล้ว  ส่วนแม่ทัพเชมัลตอบเสียงดังฟังชัด
"เรียกท่านปู่ทวดเล็กเหมือนข้าสิ เพราะอาเม่ยเป็นคนของข้าแล้ว"
"ตกลงเช่นนั้น" ผู้เฒ่าหัวเราะอารมณ์ดี "มาๆ รับคำอวยพรจากข้า"
มือใหญ่วางบนศีรษะของทั้ง 2 คน

"การสมรสคือการอยู่ด้วยกัน เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและทุกข์ ดูแลกันและกัน เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ไม่วางตนเป็นศูนย์กลาง ดังนี้แล้ว ชีวิตจึงจะมีความสุข ยิ่งทำให้คนรักของเรามีความสุขมากเท่าใด เราจะได้รับความรักกลับมามากขึ้นเท่านั้น"
"มีคำกล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะยั่งยืนตลอดไป แต่ตราบใดที่ยังมีความหวังดีต่อกัน ต้องการอยู่เคียงข้างกัน รักของพวกเจ้าก็จะยั่งยืนตลอดกาล"

อาเม่ยรู้ว่ากำลังร้องไห้ ก็ตอนที่นิ้วมือใหญ่ช่วยเช็ดน้ำตาให้
ในใจอิ่มเอมไปด้วยความสุข
การเป็นที่รัก ทำให้เป็นสุขเช่นนี้เอง
หลังจากคำอวยพร ทั้งหมดรับประทานอาหารพร้อมกัน จากนั้นผู้เฒ่าดินก็สนทนากับแม่ทัพเชมัลต่อไป ขณะที่อาเม่ยเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้ผู้เฒ่า จากนั้นทั้ง 2 คนจึงกลับลงมาที่หมู่บ้านในช่วงบ่าย

นี่เป็นเส้นทางที่อาเม่ยเดินมาตั้งแต่เด็ก ต้นไม้ทุกต้น ดินทุกก้อนล้วนจดจำได้และไม่เห็นว่าจะมีอันใดที่น่าสนใจ เว้นแต่มีสิ่งผิดแผกแตกต่างเกิดขึ้นมา นั่นจึงน่าสนใจ
แต่ครานี้ แม้แต่แสงแดดที่ลอดผ่านใบไม้ก็ยังแลดูสวยงาม
ผ่านพ้นช่วงหน้าผามาถึงเขตป่าเชิงเขาที่มีต้นไม้ใหญ่ จู่ๆ แม่ทัพเชมัลก็หันมากอดเอวดึงอีกคนเข้ามาจูบ
อาเม่ยกะพริบตางุนงง แม้ไม่ได้ขัดขืน แต่ร่างกายที่แข็งทื่อ ทำให้คนฉวยจูบต้องงุนงงตามไปด้วย
"นี่เป็นปฏิกิริยาที่แปลกประหลาดมาก"
"อย่างไร"
"พี่คิดว่าน้องจะเขิน หรือไม่ก็ตอบรับ"
"ก็....ที่จริงก็เขินนะ แต่...ตกใจมากกว่า"
"งั้นมีวิธีที่ทำให้หายตกใจ" แม่ทัพบอกแล้ววางตะกร้าที่ถืออยู่
มือใหญ่โอบกอดเอวไว้หลวมๆ ริมฝีปากบดจูบย้ำ แล้วแทรกลิ้นเข้าหาทั้งไล้เลียและดูดกลืน จนอาเม่ยไร้เรี่ยวแรงจะยืนอยู่ต้องกอดไหล่อีกคนไว้แน่น
เมื่อริมฝีปากหนาละจูบ ไปที่แก้ม และลำคอ อาเม่ยก็ตีที่แขนเบาๆ
"พอเถิด"
ริมฝีปากหนาจูบย้ำที่แก้มอีกที "ต้องอย่างนี้สิ ค่อยมั่นใจหน่อย"
ดวงตาสีเข้มมองใบหน้าแดงจัด กับท่าทีเขินอายแล้วยิ่งพึงพอใจ
"น้องไม่ใช่..."
แม่ทัพเชมัลรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะพูดอะไร "พี่ไม่ได้อยากให้น้องเป็นในสิ่งที่ไม่ได้เป็น แต่เวลาที่น้องพยายามทำสีหน้านิ่งเฉย หรือ ดูงุนงงนี่มันช่างน่าแกล้ง พี่รู้สึกอยากทำให้เจ้ารู้สึกเขินอาย หรือไม่ก็.."
"พอแล้วๆ" อาเม่ยรีบขัด "นั่นเป็นเพราะ หากน้องไม่พยายามควบคุมตนเอง ก็จะกลายเป็นสายลม แล้วจะทำให้ผู้คนรอบข้างวุ่นวาย" ดวงตาสีแปลกมองค้อนคนที่กำลังอารมณ์ดี "ท่านพี่ก็รู้ดีอยู่แล้ว"
"แต่อยากได้ยิน"
2 มือยังโอบกอดรอบเอวบาง ใบหน้าที่มีรอยยิ้มแห่งความสุขอยู่ตรงหน้า คนที่กำลังจะกล่าวคำก็หมดความสามารถในการเก็บซ่อนรอยยิ้ม
"ถ้าไม่ควบคุมตนเอง จะคิดนั่นนี่วุ่นวาย เรื่องที่ไม่ควรคิดก็กลับมาคิด ทั้งยังมีพลังและเวทย์ไฟ แล้วก็น้ำอีก ยิ่งปั่นป่วนหนักมากขึ้น สิ่งเดียวที่จะยึดน้องไว้ได้ก็คือดิน"
"ตอนนี้กำลังคิดวุ่นวายหรือไม่"
อาเม่ยมองค้อน
"พี่รู้สึกว่าใจน้องเต้นแรงมาก"
"แล้วท่านพี่เล่า เอ่อ....." อาเม่ยหยุดกล่าวคำ เพราะอีกฝ่ายไม่เห็นจะใจเต้นแรง ใบหน้าก็ไม่ได้เจือสีแดงอย่างที่ตนเองกำลังเป็นอยู่เลยสักนิด "ท่านพี่ไม่รู้สึกอันใดเลยหรือ"
"รู้สึกสิ"
"รู้สึกอันใด"
"รู้สึกว่า การมีน้องอยู่ข้างๆ ทำให้พี่สงบ และมั่นคง"
"แล้ว.....เวลาอยู่กับ...." อาเม่ยพยายามหยุดคิดเปรียบเทียบวุ่นวาย "น้องกำลังจะเริ่มคิดวุ่นวาย"
"เราย่อมมีคำถามถึงช่วงเวลาที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมอยู่ด้วยเช่นกัน"
อาเม่ยลังเล แม่ทัพก็บอกให้กล่าวต่อ "น้องจะถามอะไร"
"เวลาที่อยู่ในที่อื่น กับ...ผู้อื่น....เป็น...เช่น....นี้..หรือ..ไม่"
"ไม่"
ดวงตาสีแปลกมองสบตาบอกว่า รับรู้ถึงความจริงจังในคำตอบนี้
"น้อง...อ่านจิตไม่ได้ แต่ก็รู้ว่า....." อาเม่ยอึกอักไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
แม่ทัพเชมัลรอคอยให้อีกคนกล่าวคำออกมา แต่มือสวยกลับโอบรอบคอ ริมฝีปากสวยขยับเข้ามาหา จูบของอาเม่ยนั้นอ่อนหวานช่างตรงข้ามกับจูบเร่าร้อนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการของแม่ทัพเชมัล
"น้องรักพี่ หากทำอันใดให้ผิดหวัง หรือไม่พอใจก็บอกกัน อย่า...เหนื่อยล้าจนทิ้งกันไป"
 แขนใหญ่กอดรัดไว้แน่น แนบคางสากกับศีรษะและเส้นผมสีสวย
"ขอสาบานด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง เลือดเนื้อ และชีวิต ตราบจนลมหายใจสุดท้าย เชมัลจะอยู่กับเสี่ยวเม่ย"
"เสี่ยวเม่ยก็จะอยู่กับเชมัลตราบจนลมหายใจสุดท้ายเช่นกัน"

กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็บ่ายคล้อย ฝนเริ่มตั้งเค้ามาอีกครา เห็นต้าซันคนอารมณ์ดีกำลังทำคอกสัตว์ไว้ในโรงเก็บม้า โดยมีแพะตัวหนึ่งผูกอยู่ใกล้ๆ
"แพะหรือ" อาเม่ยถามขึ้น "ไหนบอกว่าจะไปเอาลูกเจี๊ยบ"
มาถึงบ้าน แม่ทัพเชมัลก็มาช่วยต้าซันทำงานทันที ส่วนต้าซันก็ทำงานไปตอบคำถามของน้องชายไป
"แต่แรกก็จะขอซื้อลูกเจี๊ยบ แต่พอข้าเอาไม้แกะสลักให้พ่อค้าดู เขากลับให้แพะตัวนี้มา แล้วก็ยังมีผ้าพับอีก 2 พับด้วยเลยเอาไปให้แม่หญิงที่หมู่บ้านช่วยตัดชุดให้"
"ไม้แกะสลักอันใด" อาเม่ยนึกถึงพวกสายสร้อย และเครื่องประดับเหล่านั้น
"ม้าแปลกๆ ที่อยู่ในกล่องไง" ต้าซันตั้งท่าเล่าเรื่องใหม่ "เมื่อเช้าก็ว่าจะไปขอซื้อลูกเจี๊ยบ ก็เลยรวบรวมของ เอาไปทั้งพวกเครื่องประดับของใช้แล้วก็พวกเสือ กับกวางไม้ที่เจ้าแกะ แต่มีม้าตัวนี้ด้วยเลยเอาไป ดูมันน่ากลัวนะ แต่เจ้าแกะเสียละเอียด คิดว่าน่าจะถูกใจพวกผู้ชาย"
ต้าซันหยุดเล่าเมื่อเห็นว่า อาเม่ยกำลังมองหน้าแม่ทัพเชมัล
"มีอันใด เป็นของสำคัญของพวกเจ้าหรือ"
"ไม่ๆ" อาเม่ยโบกมือ "อาจเพราะข้าฝังใจ จึงแกะม้าตัวนั้น ขายไปก็ดีเหมือนกัน"น้องเล็กของบ้านพยักหน้าให้กับตนเอง แล้วกล่าวกับพี่ชาย "ข้าไปเตรียมอาหารละนะ"

เมื่ออาเม่ยคล้อยหลังไป ต้าซันก็หันมาถาม "ท่านผู้เฒ่าดีต่อท่านหรือไม่"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้า "ท่านคือพระปัยกาองค์เล็กของข้าเอง"
"ห๊า" ต้าซันทำเสียงสูง "นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง"
 
*-*จบตอนที่ 35*-*

(http://www.uppic.org/image-BEFD_565504A5.jpg) (http://www.uppic.org/share-BEFD_565504A5.html)

ภาพนี้มาจาก worldfortravel.com
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 25-11-2015 09:11:41
ขอบคุณพี่ไจฟ์ น้องน้ำชา สำหรับของขวัญวันลอยกระทงนะคะ  :L2:

ตอนนี้ก็หวานมากกกก ชอบๆๆ..อ่านแล้วมีแต่รอยยิ้ม ท่านแม่ทัพเชมัลกับอาเม่ย น่ารักมากๆ สรรพนามที่เรียกกันและกันว่า " ท่านพี่ , น้อง " อ่านแล้วเขินสุดๆ :impress2:  ช่วงนี้มีแต่ซีนประทับใจ เช่น ท่านปัยกาที่อวยพรและทำเหมือนจัดพิธีสมรสให้แก่หลานและศิษย์รักทั้งสอง และคำสาบานรักที่เรียบง่ายของคู่รัก  ได้แต่หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ใดมาทำให้ต้องพลัดพรากจากกันไปได้นะคะ

ช่วงสุดท้าย..ต้าซันขายม้าแกะสลักให้พ่อค้า ดูท่าทางจะมีเรื่องราวซ่อนเงื่อนต่อไปอีก รอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-11-2015 09:30:47
 :m3:  :m3: ของขวัญแต่งงานจากท่านปู่ทวดเล็ก ถูกใจมากค่ะ  o13  o13 น้องกับพี่  :angellaugh2:


ว่าแต่วิหารมี 4 ห้องป่าวอ่ะ ทำไม เหมือนจะมีบอกถึงแค่ห้องของผู้เฒ่าไฟห้องเดียว
เหมือนกับว่าผู้เฒ่าไฟเป็นผู้ก่อตั้งวิหารแห่งนี้และอีก 3 คนคือผู้ที่ผู้เฒ่าไฟเอาไว้คอยสร้างสมดุล (เพราะคิดว่าคุมอีก 3 อยู่)แต่เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้เลยทำลาย
^
^
(เดาอีกแล้ว)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 25-11-2015 09:34:01
มาแปะไว้เดี๋ยวเจอกัน :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 25-11-2015 09:36:15
อ่านจนมาถึงตอนสุดท้ายของตอน สิ่งที่แว๊ปเข้ามาในหัว "แพะมีมนต์ดำติดมาด้วยป่าวอ่ะ"
แล้วไม่นานก็นั่งฮาตัวเอง ปมของนิยายทำให้เราระแวงแม้กระทั้งแพะเลยเหรอเนี่ย  :laugh:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 25-11-2015 10:13:35
ปูเสื่อจองที่ไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 25-11-2015 10:14:45
ต้าซันคนน่ารัก ชอบจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 25-11-2015 11:01:57
 :-[ :-[
เขินเเทนตอนนี้หวานๆแสดงว่าอีกไม่นานมาม่าจะมาเพื่อเพิ่มความสมดุลชิมิ
เเอบอยากรู้ที่มาของสีผมกับตาของอาเม่ยเพราะถ้าอ่านไม่ผลาดต้าซันก้อไม่ได้มีสีผมกับสีตาเเบบอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 25-11-2015 11:51:54
ใจตรงกับปู่เล็กเลย คิดไว้ว่าเมื่อไหร่อาเม่ยจะเรียก เชมัลว่าพี่สักที สมใจล่ะงานนี้ อิอิ  ขอให้ความรักราบรื่นไปตลอดนับจากนี้นะ กลัวว่าจะมีพายุตั้งเค้ามานี่สิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-11-2015 12:37:46
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 25-11-2015 14:31:25
มาบวกไว้ก่อน เดี๋ยวเย็นมาอ่าน :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 25-11-2015 16:00:53
ท่านพี่กับน้องหวานกันมากๆ :-[

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-11-2015 16:49:03
 :กอด1: มีความสุขกันทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 25-11-2015 17:09:09
แปะก่อนเลยยยย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-11-2015 18:00:23
พี่เชทำเราเขินหนักมาก!! ฟินจิกหมอนขาด >///<
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 25-11-2015 18:41:29
หู้ยยยยยยยยยยยยย ตอนนี้หวานน้ำตาลท่วมเลย
อาเม่ยตอนเขินน่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาา อยากจับมาฟัดแก้ม อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 25-11-2015 19:04:01
อั๊ยยะ รักระหว่างรบ  :m3:  ช่างหอมหวานนัก
แต่ไหงตอนจบทิ้งปมเรื่องไม้แกะสลักอีกแล้วอ่า  :m21:

ปล.คิดถึงช่วงทอล์คหลังตอนจบแต่ละตอนจังค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-11-2015 19:58:12
แต่งงานกันแล้ว

แต่งแบบเงียบๆมากๆ

ขนาดต้าซันยังไม่รู้

ก็ขอให้มีความสุขมากๆ

รักกันไปนานๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 25-11-2015 23:18:46
หวานจนเขิน ท่านปู่ทวดเล็กทำดีมาก คำแทนตัวนี่ทำเอาเขินมากๆ ขอให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคแล้วนะ  :call:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-11-2015 00:24:37
หวานมากกกก อิ่มใจที่สุด
ท่านพี่กับน้อง....แอร๊ยยยยยยยยย

ฟินตัวแตกกันไปเล้ย!

แต่ก็ยังคงรูสึกระแวงอยู่ดี
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 26-11-2015 04:16:44
รู้สึกตอนนี้ท่านพี่จะมีความสุขมากๆ แต่ทำไมอ่านแล้วยิ่งรู้สึกว่าอาเม่ยน่าสงสาร ถูกปิดบัง ถูกอำนาจบังคับให้ทำโน่นนี่ จนไม่มั่นใจในตัวเองและไม่ไว้ใจผู้อื่น แม้ในขณะที่มีความสุขที่สุดอย่างตอนนี้ แต่ในใจก็ยังหวาดระแวงว่าถ้าท่านพี่รู้เรื่องนั้นจะทิ้งไปมั้ย ถ้าท่านพี่รู้เรื่องนี้จะไม่พอใจมั้ย เป็นเด็กน้อยที่เปราะบางมาก หวังว่าท่านพี่จะสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาให้อาเม่ยได้ ให้กลับมามีความสุขแบบเต็มร้อย และมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้

ขอบคุณนายน้ำชาและป๋าไจฟ์นะครับ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 26-11-2015 04:21:42
โห คำเรียกขานกันและกันเป็น "ท่านพี่" กับ "น้อง" นี่ช่างหวานจนแทบจิกหมอน ทั้งเชมัลกับเม่ยตอนนี้ก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วสินะ ขอให้รักกันนานๆ และมั่นคงตลอดไป เชมัลก็อย่า "รังแก" น้องมากไปล่ะ เดี๋ยวน้องจะเตลิดไปไกลกันพอดี

พูดถึงเรื่องแกะสลักม้า กำลังคิดว่า อาเม่ยเอาความทรงจำจากสิ่งใดมาเป็นต้นแบบของไม้แกะสลัก สิ่งนี้บอกอะไรบางอย่างหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าอาเม่ยเป็นผู้สืบเชื้อสายกษัตริย์ของเมืองทางเหนือมา แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเรื่องจะดำเนินไปทางใด เพราะถ้าเป็นดังคาด ไม่ใช่ว่าเชมัลกับอาเม่ยจะเป็นญาติกันหรือ? เอ...แต่ถ้าเป็นญาติกัน ท่านผู้เฒ่าดินซึ่งรู้เรื่องประวัติศาสตร์ราชวงศ์ดี ก็น่าจะทัดทานความสัมพันธ์ ดังนั้นความเป็นไปได้อีกอย่างคือ ม้าไม้ที่อาเม่ยแกะสลักอาจโยงไปถึงตัวผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องขัดแย้งทั้งหมด

รอค่ะ ทุกอย่างทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น  :mew1:

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 26-11-2015 20:44:12
ตามอ่านทันจนได้ เม้นรวบยอดเลยว่าชอบมว้ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 27-11-2015 19:06:27
ตอนนี้ทำเอาคนอ่านปลื้มใจ ว่าแต่...อาเม่ยหายจากเวทย์ดำแล้วหรือยังเนี่ย

ขอบคุณคนแต่ง  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 28-11-2015 15:00:58
ท่านพี่ กับ น้องของพี่  :o8:  :-[

ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 28-11-2015 15:14:06
พอมีความสุขเรื่องนึงแล้ว
เรื่องอื่นๆที่ดีก็เริ่มเรียงรายเข้ามา
เสี่ยวเม่ยก็คงหายกังวลใจแล้วเนอะ
พี่เชก็คงโล่งที่น้องพูดอะไรออกมา ไม่หนีหายไป
ขอให้รักกันนานแสนนานนนนนนค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 28-11-2015 20:45:59
 ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

อ่านแล้วมีความสุขมาก :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 29-11-2015 15:49:02
ท่านพี่ท่านน้องหวานกันไปแล้ววววว :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 30-11-2015 09:08:18
มาอ่านอีกรอบ มันจะมีประเด็นม้าแปลกๆที่ขายไปอีกมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-11-2015 14:19:25
ท่านพี่กับน้อง เรียกกันน่ารักจัง รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่35 หน้า35 (25พฤศจิกา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-12-2015 20:26:23
ดันๆๆๆ :katai5:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-12-2015 20:53:13
ตอนที่ 36

หลังอาหารค่ำผ่านไปท่ามกลางเรื่องเล่าและเสียงหัวเราะของต้าซันเกี่ยวกับการเจรจาการค้า ที่ถูกแม่ทัพเชมัลขัดคอเป็นระยะ ว่าเงินที่นำติดตัวมาจากเมืองหลวงเพียงพอที่ทั้ง 3 คนจะใช้ชีวิตได้อย่างสบายในหมู่บ้านกลางหุบเขาแห่งนี้ ไม่มีความจำเป็นที่ต้าซันจะต้องรับผิดชอบทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเอง เหมือนที่ผ่านมา
แต่ต้าซันมองว่าการทำงาน และการดูแลน้องชายหาใช่งานหนักแต่อย่างใด

"มันสนุกมากเลยนะ จากไม้แกะสลักของอาเม่ย แล้วก็ผักผลไม้ ข้าค่อยๆ รวบรวมไปแลกกับอาหารและของใช้ แลกแล้วก็แลกจนกลายมาเป็นแพะ 1 ตัวได้เนี่ย แถมยังมีแป้ง มีน้ำตาล มีเกลือให้อาเม่ยทำอาหารให้พวกเรากิน" พี่ใหญ่ของบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
สุดท้ายแม่ทัพต้องยอมแพ้ไปด้วยเสียงหัวเราะดังก้องบ้าน

ดึกแล้วต้าซันถึงได้กลับไปนอนที่บ้านพักหลังใหญ่เช่นเคย
เมื่อประตูบ้านปิดลง อาเม่ยก็กล่าวขึ้น
"พี่ใหญ่คงคิดปักหลักที่นี่อย่างถาวร"
แม่ทัพเชมัลถามขึ้น "น้องไม่ได้คิดเช่นนั้นหรือ"
"น้องย่อมคิดหวังที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป แต่พวกเราทุกคนต่างก็รู้ดีว่า วันหนึ่งท่านพี่ต้องกลับไป"
"พี่ไม่กลับไปหากเจ้าไม่ไปด้วย"
อาเม่ยคร้านที่จะต่อคำกับอีกฝ่ายในเรื่องนี้
เพราะไม่ว่าจะยกเหตุผลใดๆ  สุดท้ายแม่ทัพเชมัลก็จะสรุปอยู่เช่นเดิม ว่าจะไม่ไปไหนหากมิได้ไปด้วยกัน
 
"พวกท่านอยู่ที่นี่ก็เพราะข้าดื้อรั้นที่จะอยู่ พี่ใหญ่เองอยู่ที่นี่เขาต้องทำเองทุกอย่าง ทั้งไม่ได้เล่นดนตรีเลย" อาเม่ยลังเลอยู่ชั่วครู่  "น้องยังสงสัยเรื่องพ่อค้าที่รับซื้อม้าแกะสลักตัวนั้น"
แม่ทัพเชมัลยกคิ้วสูง ทำเสียงในลำคอเป็นคำถาม เมื่อจู่ๆ อาเม่ยก็เปลี่ยนเรื่อง ซึ่งแม่ทัพเชมัลมองว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ที่มีพลังเวทย์ลมเช่นอาเม่ย
"ม้านั่นมิใช่ของสวยงาม พ่อค้าที่รับแลกของคิดอย่างไรถึงได้รับแลก"
"เขาเป็นพ่อค้าอาจคิดถึงลูกค้าที่มีเงินเหลือใช้ และชอบของแปลก"
"หากเป็นเช่นนั้นก็ดี แต่หากมีใครที่ซื้อไปเพราะจำได้ว่านั่นคือของเฮยอั้น แล้วเขาสืบหามาจนถึงที่นี่ มันอาจนำความเดือดร้อนกลับมา"
"แต่พวกเราพร้อมที่จะรับมือ" แม่ทัพสรุปด้วยความมั่นใจ แต่อาเม่ยส่ายหน้า
"ท่านพี่กับน้องย่อมพร้อมที่จะรับมือ แต่หากเป็นพี่ใหญ่ นั่นอันตรายอย่างยิ่ง"

แม้โดยทั่วไปผู้ครองเวทย์จะไม่ทำร้ายผู้ไม่มีเวทย์ แต่นี่เป็นกรณียกเว้นหากผู้ลงมือคือผู้ที่มาจากเมืองเหนือ
อาเม่ยจึงกังวลว่าต้าซันจะไม่มีความปลอดภัย

"อยากให้พี่ไปติดตามหาพ่อค้าคนนั้นไหม"
อาเม่ยกล่าวช้าๆ "แล้วแต่ท่านพี่จะเห็นสมควรเถิด ที่น้องเป็นกังวลอาจเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ก็เป็นได้" เรื่องที่เกิดขึ้นย่อมหมายถึงการที่หมู่บ้านถูกเผา และการเห็นพ่อต้องตายต่อหน้าตนเอง "หากท่านพี่มั่นใจว่า พากเราสามารถป้องกันพี่ใหญ่ได้ น้องก็คิดว่า ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปหาพ่อค้าคนนั้นหรอก"
แม่ทัพเชมัลมองยิ้มๆ อาเม่ยจึงหันหลังให้และทำงานบ้านต่อไป จากนั้นก็บอกให้อีกฝ่ายเข้านอนก่อน
"แล้วน้องจะทำอะไร"
"แกะไม้ ต้องควบคุมความคิดสับสนวุ่นวาย ที่มันไม่เป็นผลดี" คนตัวเล็กดูกลุ้มใจ "คิดเรื่องอันใดก็ไม่รู้ คิดๆ อยู่แล้วก็คิดข้ามไปอีกเรื่อง กลายเป็นจะคิดจะทำอันใดก็ไม่จบเรื่องสักอย่าง" 

ท่อนแขนใหญ่โอบกอดจากด้านหลัง แนบคางสากที่ข้างศีรษะ
"ความคิดเป็นห่วงพี่ใหญ่เป็นเรื่องที่ดี หาใช่ความสับสนวุ่นวาย น้องพยายามควบคุมตนเอง จนเข้าใกล้ผู้ปราศจากความสุขเข้าไปทุกที"
"มันยาก" อาเม่ยกล่าวเพียงสั้นๆ "ท่านพี่มีพลังและเวทย์หลากหลาย ท่านทำให้พลังเหล่านั้นสมดุลได้อย่างไร"

เพราะอาเม่ยมีพลังลมโดดเด่น แต่กลับไปเน้นการฝึกเวทย์ไฟ ขณะที่บรรดาอาจารย์แต่ละคนต่างก็เป็นผู้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงอย่างยิ่ง
.....กล่าวอีกอย่างก็คือ อาเม่ยมีพลังลมโดดเด่น แต่ผู้เฒ่าลมหาได้ตั้งใจสั่งสอน กลับให้เป็นหน้าที่ของผู้เฒ่าไฟที่มีเจตนาแอบแฝงที่สั่งสอนศิษย์ผู้นี้อย่างเต็มที่ ผู้เฒ่าดินและน้ำที่สมควรสั่งสอนการควบคุมตนก็หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้เฒ่าไฟ
สุดท้ายอาเม่ยจึงเป็นดั่งไฟป่า...


"พี่จะอธิบายช้าๆ นะ หากมีอันใดที่พี่เรียงลำดับผิดไป น้องต้องทักท้วงนะ"
คนในอ้อมแขนพยักหน้า

"เจตนาของผู้เฒ่าดินที่ให้น้องแกะไม้ ไม่ใช่การควบคุม หากแต่คือการละทิ้งความคิดไหลเรื่อยนั้นไปชั่วคราวและให้คิดถึงการทำงานที่อยู่ข้างหน้า"
"แต่ว่า..."
"หากนี่คือคำกล่าวของผู้ทรงพลังเวทย์ท่านอื่น อาจหมายถึงการควบคุม แต่ถ้านั่นออกมาจากปากของพระปัยกาแล้วละก็ นั่นย่อมแตกต่างออกไปอย่างแน่นอน"
"นั่นสินะ" อาเม่ยยอมรับ "ท่านผู้เฒ่าไม่เคยสอนอันใดอย่างตรงไปตรงมาสักครั้งเดียว"

ผู้เฒ่าดินมักสอนเพียง 1 ใน 10 ส่วนที่เหลือให้คิดเอาเอง
หากเป็นพระราชาฟารัคหรือแม่ทัพเชมัลก็คงศึกษาต่อด้วยตนเองได้ แต่เมื่อเป็นอาเม่ยที่เป็นสายลมที่ช่างสับสนเรื่องที่จะศึกษาเองจึงเป็นเรื่องยากกว่าปกติ

"เพราะท่านไม่ชอบการวางตนเป็นอาจารย์ ไม่ชอบพิธีการ ยิ่งน้องปฏิบัติต่อท่านเป็นอาจารย์ ท่านก็ยิ่งจะปฏิบัติต่อน้องในทางอื่น"
"เรื่องนั้นน้องก็รู้อยู่ แต่จะอย่างไรท่านก็เป็นอาจารย์ผู้เฒ่า จะให้พูดกับท่าน เหมือนที่ท่านพี่พูดกับท่าน แค่คิดก็ยังไม่กล้า..." คำกล่าวตอนท้ายแผ่วเบา แสดงให้เห็นชัดเจนว่าอาเม่ยให้ความเคารพผู้เฒ่าเป็นอย่างยิ่ง

แม่ทัพเชมัลคล้อยตาม "ที่ท่านไม่ได้รักษาน้องตั้งแต่แรก จึงมิใช่การปฏิเสธ หากแต่เป็นเพราะท่านไม่สามารถทำให้พลังของน้องสมดุล แต่มันต้องเกิดจากตัวของน้องเอง"
"พี่ใหญ่โมโหท่านผู้เฒ่าอยู่หลายวัน" อาเม่ยหัวเราะเบาๆ "น้องรู้ว่าท่านอาจมีเหตุผล แต่พี่ใหญ่ก็เห็นว่า ผู้ทรงพลังเวทย์นั้นเข้าใจยาก"
มือใหญ่ลูบต้นแขนบางเบาๆ "ก็เข้าใจยากจริง แต่ถ้าเราคิดถึงการที่ท่านอยู่มานับร้อยปี โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าท่านคือใครก็น่าจะพอนำไปทำความเข้าใจวิธีคิดของท่านได้นะ" คนตัวใหญ่อธิบายต่อ "เวลานี้พลังไฟและลมของน้องโดดเด่นจนล้ำหน้าไปไกลมาก ขณะที่ดินและน้ำถดถอยลงไปเรื่อยๆ ตามที่พี่คุยกับท่านปู่ทวดเล็กเมื่อคืน ท่านบอกว่า พลังดินกับน้ำของน้องลดลง ซึ่งท่านเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ลำพังท่านเองสามารถช่วยเหลือเรื่องเวทย์ดินได้ แต่นั่นอาจทำให้พลังน้ำหายไปในที่สุด"
อาเม่ยคิดตาม
"สิ่งที่เราสมควรทำก็คือการฝึกเวทย์เพื่อให้พลังเวทย์ดินและน้ำเพิ่มกำลังขึ้น ไม่ใช่การควบคุมลมและไฟแบบที่น้องกำลังทำอยู่"
"แต่ท่านพี่และท่านผู้เฒ่ากล่าวเองว่าพลังดินกับน้ำของน้องมันช่าง....." อาเม่ยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย แล้วเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นทันที "ที่แท้ท่านผู้เฒ่าดินรอให้ท่านมา ท่านผู้เฒ่ารู้ว่าสุดท้ายท่านจะมาใช่หรือไม่"
อาเม่ยหันมามองดวงตาสีเข้ม
"แต่ท่านพี่ก็ยังไม่ได้สอน เรื่องความสมดุลนั่น"
"ข้อนั้น...." แม่ทัพเชมัลยอมรับ "ที่ผ่านมาทุกคนมักบอกให้พี่สอนน้อง แต่ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน พี่กลับไม่คิดที่จะตั้งใจสอนเลยสักครั้ง"
อาเม่ยมองคนที่กำลังกล่าวคำ 
"เพราะพี่เห็นแก่ตัว อยากให้น้องพึ่งพิงแต่พี่เท่านั้น ไม่ใช่พระราชา ไม่ใช่อาจารย์ผู้เฒ่าของน้อง ที่น้องมักจะกล่าวถึงด้วยความชื่นชมตลอดเวลา แม้ว่าทั้งพระราชา ไปจนถึงรอมและฮูดา จะบอกให้พี่ฝึกเจ้า พี่ก็กลับคิดไปว่า ความไม่สมดุลนี้จะทำให้น้องต้องพึ่งพาพี่ตลอดไป....จนกระทั่งมันกลับมาทำร้ายเจ้า...ขอโทษนะเสี่ยวเม่ย"

...นับครั้งไม่ถ้วนที่แม่ทัพเชมัลกล่าวคำขอโทษ แม้บางครั้งทำให้สงสัยว่าขอโทษด้วยเหตุใด แต่คำขอโทษในครั้งนี้ชัดเจนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา....

"อยากโกรธเหมือนกันนะ แต่ก็โกรธไม่ลง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม" อาเม่ยกล่าวยิ้มๆ "เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านพี่มักบอกน้องว่าอย่าโทษตนเอง ท่านพี่ก็ไม่ควรกล่าวโทษตนเองเช่นกัน เพราะน้องเองเวลาที่ถูกบอกให้ไปเรียนรู้กับท่านพี่ ก็กลับไม่เคยท้วงถามว่า ท่านพี่กำลังสอนอันใดกัน" อาเม่ยยิ้มทั้งน้ำตาคลอ "เวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกัน มันยากมากที่จะสอนและเรียนเวทย์"
แม่ทัพเชมัลยอมรับ "ยากมาก"
"ต่อให้ท่านบังคับสอน น้องก็คงไม่ได้ตั้งใจเรียน และก็มีแต่คำถามนั่นนี่ตลอดเวลา"
แม่ทัพเชมัลหัวเราะเบาๆ "แล้วพอรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นพวกเรากำลังโต้เถียงกันด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนเวทย์ใดๆ"
อาเม่ยหันมากอดไหล่หนาของอีกคนไว้
"รบกวนท่านพี่ช่วยสอนเวทย์ดินและน้ำแบบไม่ต้องเร่งรีบ เพื่อให้น้องต้องพึ่งพิงท่านพี่ไปอีกนานๆ ได้ไหม"
แขนใหญ่กระชับกอดไว้แน่น
"เสี่ยวเม่ยของพี่"


หลายวันถัดมา ขณะที่แม่ทัพเชมัลกับต้าซันออกไปข้างนอก เหลือเพียงอาเม่ยอยู่ที่บ้านตามลำพัง ความสั่นไหวของแผ่นดินใต้ฝ่าเท้าบ่งบอกว่า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาที่หมู่บ้าน
คน 3 และ ม้าอีก 3 
เป็นดั่งที่แม่ทัพเชมัลบอก ไม่จำต้องควบคุมพลังลมและไฟ แต่ต้องฝึกเวทย์ดินและน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อให้พลังที่มีอยู่มีความสมดุลมากขึ้น จิตใจก็สงบลงได้เอง
อาเม่ยเพียงเก็บอุปกรณ์แกะสลักลงกล่องไม้ ล้างหน้า และจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินออกมาหยุดรออยู่ที่ด้านหน้าโรงม้า ที่ยามนี้ยังมีแพะที่ต้าซันผูกไว้ด้วย
แพะตัวนี้เชื่องมาก หากต้าซันอยู่บ้าน มันจะเดินตามต้าซันไปทุกที่  แต่ยามนี้อาเม่ยอยู่บ้านเพียงลำพัง ต้าซันจึงผูกมันไว้ ใกล้กับม้าของแม่ทัพเชมัล

ฝีเท้าม้าเข้ามาใกล้ คนที่อยู่บนหลังม้าเหวี่ยงตัวลงมา อาเม่ยคุกเข่าถวายความเคารพ
"ลุกขึ้นเถิด" พระราชาแตะที่ไหล่อาเม่ยให้ลุกขึ้น แต่เมื่ออาเม่ยลุกขึ้น พระราชาก็พยักพระพักตร์ด้วยความพึงพอใจ "เชมัลรักษาเจ้าแล้ว"

อาเม่ยกล่าวอย่างสุภาพ  "ท่านพี่สอนเวทย์ดินและน้ำเพื่อสร้างสมดุลกับไฟและลม"
พระราชาขมวดขนง แล้วหันไปหาหัวหน้าราชองค์รักษ์บาดา และ ลาทีฟที่ติดตามมา "มีวิธีรักษาแบบนี้ด้วยหรือ"
แต่ราชองครักษ์ทั้ง 2 คนกลับมีสีหน้านิ่งเฉยไม่รับมุกของพระราชาอารมณ์ดี ทำให้พระองค์เก้อไปเล็กน้อย
"2 คนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะคิดว่าข้ายังไม่ควรจะมาที่นี่ในเวลานี้" รอยแย้มสรวลยังระบายอยู่เต็มพระพักตร์ "ขออภัยที่มารบกวน"
"มิเป็นไรมิได้" อาเม่ยรีบบอก "เพียงแต่ท่านพี่กับพี่ใหญ่ไม่อยู่ ต้องรบกวนพระองค์ และ ท่านราชองครักษ์เข้าไปรอที่ด้านใน"
"แล้วพวกเขาไปไหนกัน" พระราชาถามขึ้นขณะที่ก้าวพระบาทตามมา แล้วหยุดยืนอยู่กลางหมู่บ้าน ทอดพระเนตรไปรอบๆ แล้วหันไปหาราชองครักษ์ลาทีฟ
รอยแย้มสรวลหายไปจากพระพักตร์
"เจ้าไม่ได้บอกข้าเรื่องนี้!"
อาเม่ยรู้สึกถึงพลังความร้อนและแรงกดดันรุนแรงจากพระราชาฟารัค
ราชองครักษ์ลาทีฟคุกเข่าลงในทันที
ส่วนราชองครักษ์บาดามีดวงตาที่แข็งกร้าวขึ้น
ขณะที่อาเม่ยมีใบหน้าซีดเผือด รู้สึกว่าโลหิตในกายกำลังเหือดหาย กระทั่งพระราชาหันกลับมาแล้วโบกพระหัตถ์ อาเม่ยเซไปวูบแล้วกลับมามีอาการปกติ
ราชองครักษ์บาดารีบเข้ามาดูอาการ ขณะที่ราชองครักษ์ลาทีฟรีบกล่าวคำ "ข้าพระองค์สะเพร่า ไม่ได้สำรวจให้ละเอียด ต้องขออภัย"
พระราชาเพียงส่งเสียงในลำคอ แสดงให้เห็นว่าไม่ยกโทษให้ และราชองครักษ์เตรียมตัวรับโทษในทันทีที่กลับถึงเมืองหลวง
แต่น้ำเสียงตรัสกับอาเม่ยกลับอ่อนโยนยิ่ง "ดีขึ้นหรือยัง แล้วอีกนานไหม กว่าที่เชมัลจะกลับมา"
"สักครู่ก็คงกลับมา ท่านพี่บอกว่าจะกลับมากินมื้อเที่ยงที่บ้าน"
"เช่นนั้นพวกเราก็เข้าไปในบ้าน"

มีเพียงพระราชากับอาเม่ยที่เข้ามาในบ้าน ส่วนหัวหน้าราชองค์รักษ์บาดา กับราชองครักษ์ลาทีฟกลับเดินสำรวจไปรอบหมู่บ้าน
ยังได้ยินเสียงบ่นของหัวหน้าราชองครักษ์บาดาอยู่แว่วๆ ที่อีกคนทำหน้าที่ไม่รอบคอบ แต่อาเม่ยไม่ได้ยินคำตอบของฝ่ายราชองครักษ์ลาทีฟ
อาเม่ยหันมามองเชิงถามพระราชาฟารัค
แต่แรกนั้นพระราชาตั้งพระทัยว่าจะรอถามจากแม่ทัพเชมัลก่อน แต่เพราะความเมตตาที่มีให้กับอาเม่ยมาตั้งแต่แรกทำให้เปลี่ยนพระทัย
"ยังมีเวทย์ไฟที่เป็นเวทย์ดำค้างอยู่ในหมู่บ้านนี้"
อาเม่ยหน้าตาตื่น หันไปมองที่กล่องเครื่องมือแกะสลักไม้
"กล่องนั่นมีอันใดอยู่"
อาเม่ยจึงเล่าเรื่องการแกะไม้ให้ฟัง
"ไม่ใช่หรอก ของที่เจ้าแกะสลักไม่ได้มีเวทย์อันใดเจือปนอยู่ ความชั่วร้ายที่ข้าสัมผัสได้มันเจือจางอยู่ในอากาศ เรื่องนี้เชมัลน่าจะรู้"
บทสนทนายังไม่มีความคืบหน้า แม่ทัพเชมัลก็กลับมาพร้อมกับต้าซัน

"ขออภัยที่มาในเวลานี้" พระราชาตรัสขึ้นก่อนที่ทั้ง 2 คนจะถวายความเคารพ "มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น ที่ทำให้ข้าต้องมาหาพวกเจ้า"
"อันที่จริงพวกเราก็มีเรื่องที่จะทำให้พระองค์ประหลาดพระทัยเช่นกัน" แม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้นบ้าง
แต่พระราชารับสั่งให้แม่ทัพเชมัลเล่าเรื่องก่อน
"ผู้เฒ่าดิน อาจารย์ของเสี่ยวเม่ยคือพระปัยกามูซัค"
พระราชาถึงกับต้องตั้งสติอยู่ชั่วครู่
"ข้าไม่ควรแปลกใจสินะ เพราะนั่นคือผู้เฒ่าดิน และพระปัยกาผู้ทรงรักอิสระยิ่งกว่าสิ่งใด" สุดท้ายพระราชาก็ต้องส่ายพระพักตร์ "เจ้าทำให้ข้ากำลังจะลืมไปว่ามาที่นี่ทำไม"
พระราชาฟารัคชี้ไปที่ส่วนในของหมู่บ้าน
"เอาเรื่องในหมู่บ้านนี้ก่อน เวทย์ดำที่มันเจือจางอยู่ที่นี่ เจ้าเจตนาทิ้งมันไว้อย่างนั้นเพราะเหตุใด"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้ายอมรับว่าเจตนา แต่ยังไม่ทันจะกล่าวตอบ พระราชาก็รับสั่งต่อ "เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อเม่ยหรือไง"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้ายอมรับอีกครั้ง
"เฮ่ย...." พระราชาโบกพระหัตถ์ "ออกไปจัดการให้มันหมดๆ ไปข้าไม่ชอบให้มีของแบบนั้นอยู่ในบ้านของข้า"
"แต่น้อง..." แม่ทัพเชมัลหันมาหาอาเม่ยที่ยังคงมีสีหน้าไม่รู้เรื่องอันใด
"ที่นี่มีข้า มีเจ้า แล้วยังพระปัยกาอีก จะไปกลัวอันใด ไปเร็วๆ" พระราชาโบกมือไล่น้องชาย แล้วหันมาหาอาเม่ย "เมื่อครู่เจ้ากำลังจะเตรียมอาหารใช่หรือไม่"
น้ำเสียงที่กล่าวกับอาเม่ยช่างเต็มไปด้วยความเมตตา จนแม่ทัพเชมัลที่กำลังจะออกไปข้างนอกต้องหันมามอง

อาเม่ยหัวเราะเบาๆ ส่วนพระราชายิ้มกว้าง "น้องชายขี้อิจฉาของข้า"
แม่ทัพเชมัลแสร้งทำตาขวาง ชี้บอกต้าซัน ว่าห้ามอยู่ห่างจากอาเม่ยโดดเด็ดขาด
ต้าซันได้แต่บ่นพึมไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น
"จริงอย่างที่เขาว่าจริง ทุกคนล้วนมีเด็กน้อยซ่อนอยู่ในตัว"
อาเม่ยยังคงยิ้มค้างเมื่อหันมากล่าวกับพี่ชาย
"มาช่วยกันทำมื้อเที่ยง"
ต้าซันพับแขนเสื้อ หันไปหยิบก้อนแป้งที่หมักเตรียมไว้มาทำเส้นก๋วยเตี๋ยว ตั้งใจไว้ว่า เมื่ออยู่กันตามลำพังจะต้องถามให้ได้ว่าที่หมู่บ้านนี่มีอะไร เกิดอะไรขึ้น อาเม่ยดูท่าจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องไปถามจากแม่ทัพเชมัล
....โอย ข้านี่ช่างมีคำถามมากมาย....
"พวกเราเตรียมของไว้น้อยเกินไป" อาเม่ยกล่าวขึ้นเมื่อมองก้อนแป้งที่เตรียมไว้
พระราชารับสั่งกับต้าซัน ก่อนที่อาเม่ยจะหันไปหยิบผักออกมาเพิ่มเติม "เจ้าออกไปเอาของที่หลังม้าของบาดา มีของแห้งอยู่"

แต่ยังไม่ทันที่ต้าซันจะก้าวขาออกไปเอาของ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมเล็กดังขึ้น
อาเม่ยยกสองมือปิดหู ยอบตัวซุกหน้าผากลงกับเข่าของตนเอง ต้าซันรีบวิ่งกลับมากอดน้องชายไว้แน่น
สรรพเสียงที่ได้ยินช่างน่าหวาดกลัว แต่พระราชากำลังทอดพระเนตรสองพี่น้องด้วยรอยยิ้มชื่นชม กระทั่งเสียงเงียบลงแล้วอาเม่ยเงยหน้าขึ้น แต่ต้าซันยังกอดน้องไว้แน่น
"มาที่นี่สิ"
อาเม่ยลุกเดินมาหาพระราชา
พระเนตรสีเข้มมองลึกเข้าไปในจิตใจของอาเม่ยแล้วรับสั่งถาม
"เมื่อครู่ไม่ได้เจ็บปวดอันใดใช่หรือไม่"
อาเม่ยส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้เจ็บปวด เพียงรู้สึกว่าเสียงนั้นดังมาก จนรู้สึกตกใจ ต้าซันเองก็ตกใจเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าอาเม่ยกำลังหวาดกลัว ก็กลับลืมความรู้สึกของตนเอง
"หัวใจข้าพระองค์แทบกระโดดออกมาอยู่ข้างนอก" ต้าซันทำหน้าตาตื่น
"ไม่เป็นไรแล้ว ออกไปเอาของเถิด" พระราชามีรับสั่ง
เมื่อต้าซันออกไป แม่ทัพเชมัล ราชองครักษ์บาดา และลาทีฟก็กลับเข้ามา แล้วไปล้างหน้า ล้างมือ จากนั้นจึงกลับมาร่วมโต๊ะสนทนากับพระราชาฟารัค

ระหว่างเตรียมอาหาร ต้าซันจึงมีโอกาสถวายรายงานเกี่ยวกับผู้ครองเวทย์ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยพระราชาทรงซักถามเป็นระยะ ต้าซันก็ถวายรายงานอย่างครบถ้วน พร้อมด้วยการตั้งข้อสังเกตหลายเรื่องจากมุมมองของคนที่ไม่มีความสามารถเชิงเวทย์ใดๆ

อาหารมื้อนี้เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะหยิบตะเกียบหยิบช้อนส้อม พระราชาและแม่ทัพเชมัลก็เดินออกไปรออยู่หน้าบ้าน ครานี้ผู้ที่มาถึงคือผู้เฒ่าดิน

"ขอโทษที ข้าชราเกินไปแล้ว ใช้เวลานานเกินไปนับจากได้ยินเสียงความผิดปกติ จนมาถึงที่นี่ ช่างใช้เวลานานเหลือเกิน"
ผู้เฒ่าดินรีบออกตัวทั้งที่ยังไม่มีผู้ใดกล่าวโทษสักคำ จากนั้นถึงได้หันมารับการถวายคำนับจากราชองครักษ์ทั้ง 2 คน
"ไม่ต้องคำนับแล้ว ที่นี่ข้าเป็นเพียงปู่ทวดเล็ก"
จากนั้นก็หันมาถามพระราชา
"พวกเรายังต้องรอใครอีกไหม"
"แม่ทัพนาซิมขอรับปู่ทวดเล็ก" พระราชารับสั่ง "คาดว่าอีกสักครู่คงมาถึง"

ต้าซันกระตุกชายเสื้อของน้องชายเบาๆ เพราะไม่เข้าใจการกระทำและบทสนทนาเหล่านี้ ที่คล้ายเป็นคำตอบที่ปราศจากคำถาม
"ท่านผู้เฒ่า รู้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่นี่ ผ่านแรงสั่นสะเทือนของดินจึงเร่งเดินทางมา"
"อ้อ......" ต้าซันลากเสียงยาว แล้วจัดอาหารมาเพิ่ม "ท่านผู้เฒ่ารับอาหารก่อนเถิด"

"พระองค์จะบอกสาเหตุที่เสด็จมาถึงที่นี่ได้หรือยัง" แม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้น
"ยัง" พระราชารับสั่งตอบในทันที "เรื่องนั้นไว้รอคุยกับนาซิมพร้อมๆ กันแต่ยังมีอีกเรื่องข้าอยากถามพวกท่านทั้ง 2 คนก่อน"

อาเม่ยที่กำลังทำอาหารเพิ่ม ยังรู้สึกถึงพลังบางอย่างจากพระราชาฟารัค
....ไม่สิ นี่ไม่ได้เรียกว่าพลัง แต่คืออำนาจที่ผู้เฒ่าดินบอกไว้ก่อนหน้านี้
อำนาจที่หาได้ยากยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นผู้นำ....

"โดยมารยาทข้าสมควรถามเรื่องที่ท่านปู่ทวดเล็กแฝงตัวอยู่ที่นี่เป็นลำดับแรก แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ข้าอยากรู้ว่าใครใช้เวทย์ดำที่หมู่บ้านนี้"

ในการลำดับการทรงงานของพระราชาฟารัค จะเริ่มจากสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องของผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อน และวางเจตนาของพระองค์ไว้ท้ายสุดเสมอ

ผู้เฒ่าดินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านที่ทำให้ทุกคนในที่นี้ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ต้าซันโอบไหล่น้องชายไว้แน่นดั่งให้กำลังใจ
จากนั้นพระราชาจึงสรุป "เหตุใดท่านจึงผนึกเวทย์ดำไว้ ไม่คิดทำลายมันไปเสียเล่าขอรับ"
"พลังข้าเพียงลำพัง ไม่เพียงพอที่จะจัดการมันได้น่ะสิ" ผู้เฒ่ากล่าวแล้วถอนหายใจ "พลังของข้าไม่สมดุล แต่เจ้านี่ทำได้"
พระราชาจึงหันไปหา -เจ้านี่- ที่กำลังทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ "เหตุใดไม่ทำลายมันตั้งแต่แรกที่มาถึง"
"ข้า...เพียงอยากจัดการทีละเรื่อง"
"เชมัล" พระราชาเน้นเสียง "มีเวทย์ดำอยู่กลางหมู่บ้าน ที่มีทั้งเม่ยทั้งต้าซัน เจ้ายังใจเย็นอยู่ได้อย่างไร"
"ก็...." แม่ทัพเชมัล "ข้ามิได้ใจเย็น แต่เพราะ....."
พระราชาฟารัค หันไปสบเนตรกับพระปัยกาที่ก็ส่ายหน้าไม่เข้าใจเช่นกัน 
"เชมัล ถ้าเจ้ายังไม่พูดข้าจะลงโทษเจ้าแน่"
แม่ทัพเชมัล เกาหน้าผากตนเอง "พวกเรารู้ว่าน้องถูกเวทย์ดำ" ทุกคนต่างสะดุดหูที่แม่ทัพเชมัลเรียกอาเม่ยว่าน้อง หากสรรพนามที่เปลี่ยนไปนี้ สามารถเข้าใจได้ "แม้ข้าจะรักษาเม่ยได้ แต่เพราะต้าซันและเม่ย ตรงมาที่หมู่บ้านนี้ทันทีที่เกิดเรื่อง พวกเขาก็ดำเนินชีวิตได้เป็นปกติดี ข้าจึงไม่แน่ใจว่า หากข้ากำจัดมันแล้วจะมีผลต่อทั้งคู่หรือไม่ มันอาจเป็นเหมือนตอนที่ข้ากำจัดเฮยอั้นก็ได้"


(มีต่อ)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-12-2015 20:53:59
(ต่อ)

พระราชาลูบคาง ยอมรับว่าความกังวลนี้มีเหตุผล เพราะเมื่อพระองค์มาถึงและบอกให้ออกไปจัดการ แม่ทัพเชมัลก็มิได้เกี่ยงในเรื่องนี้ นั่นเพราะในยามที่ตนเองออกไปอยู่ข้างหน้า ก็ยังมีพระราชาที่คุ้มครองอาเม่ยอยู่

"แล้วทำไมถึงได้บอกกับข้ายากนัก กว่าจะกล่าวออกมาได้แต่ละคำ"
"ก็....." แม่ทัพเชมัลเหลือบตามองอาเม่ย "ข้าเป็นหัวหน้าครอบครัวนะ ให้มากล่าวถึงความกังวลต่อหน้าน้องแบบนี้มันออกจะเกินไปหน่อย"

พระราชาทำเสียงขลุกขลักในลำคอแล้วกลายเป็นเสียงหัวเราะก้องที่ประสานกับผู้เฒ่าดิน
ส่วนอาเม่ยเพียงเดินมายืนข้างๆ แล้วก้มลงหอมแก้มแม่ทัพเชมัล
"ขอบคุณมาก"
ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่แม่ทัพเชมัลหน้าแดงก่ำ
คนที่หน้าด้านหน้าทน เกินกว่าจะเปรียบเทียบกับสิ่งใด กำลังทั้งเขินอาย ภูมิใจ และดีใจอย่างหาที่สุดมิได้

..รับรองว่า เรื่องนี้ทุกคนในเมืองวันไปจนถึงเมืองบาสก์จะต้องล่วงรู้!....


หลังมื้ออาหารผ่านไป แม่ทัพเชมัลก็ชวนทุกคนย้ายที่ออกมานั่งคุยกันที่โรงม้าด้านนอก เพื่อให้อาเม่ยได้พักผ่อนในช่วงบ่าย
"น้องยังไม่ค่อยแข็งแรง ช่วงบ่ายต้องพักผ่อน พวกท่านนึกจะมาก็มา ช่างไม่เกรงใจกันบ้างเลย" แม่ทัพเชมัลทำบ่น แต่กลับหันไปยิ้มกว้างกับอาเม่ย
"เฮ่ย..." ผู้เฒ่าดินทำเสียงถอนหายใจล้อเลียน "เม่ยอ่อนแอก็เพราะโดนคนอื่นทำร้าย แต่เจ้ามันอ่อนแอเพราะทำตัวเองแท้ๆ"

แต่ช่วงบ่ายทั้งหมดก็พากันไปดื่มน้ำชา และสนทนาเรื่องราวในอดีตกันอยู่ที่โรงม้า
เรื่องราวนับร้อยปีที่มีผลผูกพันมาถึงปัจจุบันและจะต่อเนื่องไปจนถึงอนาคต

"คนแก่ 4 คนต่างคนต่างมีที่มาแตกต่างกัน แต่ที่มาฝังรากลึกอยู่ที่นี่ก็เพราะรู้ดีว่าเมื่ออยู่ด้วยแล้ว จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีความสมดุล ผิดที่พวกเราอยู่มานานเกินไป ความเชื่อมั่นในพลังและเวทย์ของตนเอง ความคิดอยากลองดีแบบเด็กๆ มันก็ล้ำหน้าจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ข้าเองก็ชอบศึกษาไปเรื่อย คิดเห็นแก่ตัวว่า ไม่ไปยุ่งด้วยจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน สุดท้ายจึงสำนึกได้ว่า รู้แต่ไม่ลงมือทำ ก็สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้เกิดขึ้นเช่นกัน" ดวงตาสีเข้มมองไปทั่วหมู่บ้านร้าง "ผู้คนนับร้อย สัตว์เลี้ยง บ้านเรือนตกอยู่ในกองไฟ เสียงร้องขอความช่วยเหลือในคืนวันนั้น อย่าว่าแต่มันจะหลอกหลอนเจ้าตัวเล็กนั่นไปจนวันตายเลย แม้แต่ข้าเองก็ย่ำแย่มิใช่น้อย"
"ยกโทษให้อาเม่ยเถิดนะ" ผู้เฒ่าดินหันมาหาพระราชาฟารัค "เด็กนั่นถูกทำร้ายมากเกินไปแล้ว"

พระราชาฟารัคพยักหน้ายอมรับ และหันมารับสั่งกับแม่ทัพเชมัลตามตรง
"พอเจ้าไม่อยู่ ข้าต้องสลับคนวุ่นวายไปหมด หลักๆ ก็ต้องให้มีอาไปดูที่ค่ายทหารในเมืองหลวง แต่เพราะอาเม่ยป่วย ข้าก็ต้องใช้ลาทีฟเป็นหลักเวลาที่จะมาที่นี่" พระราชาจิบน้ำชาในถ้วย "น่าปวดหัว"
"ถ้าข้าพระองค์กลับไป ก็คือน้องต้องไปด้วย"
"ข้ารู้ๆ" พระราชารับสั่งก่อนที่พระอนุชาจะกล่าวจบ "ยิ่งนับวันยิ่งกลัวเมีย"
"ว่าแต่น้องแล้วเจ้าล่ะ จัดการกับเมียอย่างไร"
พระราชาถอนพระทัยยาว "นั่นก็ยุ่งยากไม่ต่างกัน แม้ความผิดที่รู้เห็นกับเสนาบดีหลี่พระสัสสุระจะชัดเจน นางสนับสนุนให้พระสัสสุระขึ้นเป็นพระราชา หวังเปลี่ยนราชวงศ์ เป็นความผิดรุนแรงถึงขั้นประหาร แต่ข้าไม่อยากให้พระโอรสต้องเสียใจและสับสน ที่พ่อสั่งฆ่าแม่ ได้แต่ย้ำเตือนให้นางอย่าสร้างวุ่นวายขึ้นมา"
ความผิดของนางเริ่มจากความหึงหวง ที่ถูกเติมด้วยเชื้อไฟแห่งอำนาจยิ่งใหญ่
"ตั้งแต่แรกมา นางเชื่อมาตลอดว่า พวกเราสมรสกันก็เพราะข้าต้องพึ่งพิงอำนาจของเสนาบดีหลี่"
ผู้เฒ่าดินกระแทกเสียงในลำคอ
"ไม่ต้องมีไส้ศึกคนนั้น เจ้าก็ดูแลเมืองนี้ได้"
"แต่นางเชื่อเช่นนี้ แม้แต่การที่ข้าไม่สั่งประหาร นางก็กลับเห็นว่าข้าต้องการทรมานนาง"
พระราชาหันไปหาพระอนุชาที่เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี "นี่ยังเป็นเรื่องที่ข้าอยากคุยกับเจ้าและนาซิมพร้อมๆกัน"
 
"ฟังดูเหมือนเวลานี้ เจ้ากำลังทำเพื่อลูกมากกว่าเมีย" ผู้เฒ่าดินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา "หากไม่สบายใจ ก็รับเมียใหม่อีกสักคน"
"นั่นมิใช่วิธีแก้ปัญหา แต่มันคือการเพิ่มปัญหาต่างหาก" พระราชารับสั่งตอบในทันที "ประวัติศาสตร์ก็มีอยู่ ว่ามันช่างวุ่นวายจนบั่นทอนกำลังในการทำงาน"
"แต่ปู่มองเห็น สายลมอยู่ใกล้เจ้านะ"
"สายลมหรือขอรับ" พระราชาหันไปมองแม่ทัพเชมัล "ถ้าสายลมน่าจะเป็นอาเม่ย เช่นนั้นก็ควรเป็นเชมัลมิใช่ข้า" 
"เม่ยเป็นลูกไฟ ที่มีแต่เชมัลจะควบคุมได้ แต่ที่ข้ารู้สึกเป็นสายลมอีกแบบหนึ่งที่มีความแหลมคมอยู่ด้วย"

แม่ทัพเชมัลนึกรู้ว่า ผู้เฒ่าดินหมายถึงผู้ใด

"พลังและเวทย์ที่เกื้อหนุนเจ้าอยู่ในเวลานี้ค่อนไปทางความแข็งแกร่ง แทบไม่มีความอ่อนโยนอยู่เลย หากมีพลังนี้เข้ามาก็จะดีขึ้น"
พระราชาเพียงส่ายพระพักตร์ "ที่แข็งแกร่งขึ้นนั่นก็เพราะพลังของข้าที่ชี้นำพวกเขาไปทางนั้น สายลมที่ท่านว่าหากมาอยู่กับข้า อีกไม่นานก็จะกลายเป็นพายุไปอีกคนหนึ่ง"
ครู่ใหญ่แม่ทัพนาซิมก็มาถึงพร้อมกับราชองครักษ์มีอา
"ไหนพระองค์ตรัสว่า ให้มีอาดูแลค่ายทหาร" แม่ทัพเชมัลท้วง พลางคิดว่า แล้วเวลานี้ผู้ใดเฝ้าเมืองหลวง และค่ายทหาร
"ก็ที่บอกว่าต้องโยกย้ายคนไง ลาทีฟต้องมารักษาเม่ย บาดาต้องอยู่กับข้า แล้วจะให้ใครไปตามนาซิม มองซ้ายมองขวา ก็มีอานี่แหละ อาจจะดุและโหดมากไปหน่อย แต่ถ้ามีเรื่องฉุกเฉิน ก็ยังพอให้มีอาดูหน้าด่านแทนนาซิมได้"

แม่ทัพนาซิมถวายเคารพพระราชาแล้วยืนตัวตรงรอรับพระบรมราชโองการ แต่พระราชารับสั่งให้นั่งลงร่วมการสนทนา จากนั้นจึงแนะนำผู้เฒ่าดินในฐานะพระปัยกามูซัค
"พระองค์จะเสด็จมาก็ต่อเมื่อผลัดแผ่นดิน จากนั้นจะหายสาบสูญไป" แม่ทัพนาซิมกล่าวอึ้งๆ "แต่ที่แท้พระองค์อยู่ใกล้ข้าเพียงเดินทางไม่ถึงหนึ่งวัน"

"ดังนั้นตอนนี้ข้าคือปู่ทวดเล็ก อย่าเอาข้าไปผูกไว้กับตำแหน่งใหญ่โตเช่นนั้นเลย เพราะดินก็คือดิน ให้ข้าได้เกื้อหนุนเจ้า ในฐานะดินที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเจ้า ตั้งแต่เกิดจนตาย ดีกว่าเอาข้าไปเคลือบสี ใส่ตู้รอวันแตกร้าวโดยเปล่าประโยชน์"


......

 
ที่แม่ทัพเชมัลกล่าวว่า อาเม่ยจะพักผ่อนในช่วงบ่ายนั้น แท้จริงก็เป็นเพียงการแกะไม้ หรือการทำงานเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในบ้านพัก ขณะที่ต้าซันพอช่วยงานเก็บล้างเสร็จก็บอกว่า จะไปหาเนื้อสัตว์ และเตรียมผักผลไม้มาเพิ่มสำหรับการทำมื้อเย็น
"ปกติอยู่กัน 3 คน มีข้าว และกับสัก 2 อย่างก็อยู่กันได้ แต่พอเป็นพระราชาเสด็จมาเองเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าเรายังขาดอะไรไปมากมาย"
นั่นเพราะต้าซันทำงานในวังหลวงมานาน จึงรู้ดีว่า การถวายงานต่างๆ ล้วนต้องสมบูรณ์แบบ
"ข้าออกไปช่วยนะ"
"ไม่ๆ ข้าทำเองได้ เจ้าเตรียมของที่นี่แล้วกัน" พี่ชายรีบบอก "เกิดกำลังหาปลา ดักไก่ป่ากันอยู่แล้วเจ้าเป็นอะไรขึ้นมา ข้าไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร"
อาเม่ยอยากกล่าวว่า สามารถจัดการเรื่องเหล่านั้นได้ง่ายดายกว่าต้าซันลงมือเองไม่รู้กี่เท่า แต่ก็เห็นว่า นั่นคือความภูมิใจของต้าซัน
กำลังสนทนากันอยู่ ได้ยินเสียงม้าเข้ามาใกล้ ต้าซันมองผ่านหน้าต่างบ้านออกมาแล้วยืนมอง
อาเม่ยที่กำลังคิดว่า จะทำงานแกะไม้ หรือจะเริ่มหมักเนื้อสัตว์สำหรับทำอาหารเย็นก่อนดี มองเห็นความผิดปกติของพี่ชาย จึงก้าวมายืนข้างๆ เพื่อมองตาม
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่ผ่านใต้ฝ่าเท้าบ่งบอกว่ามีคนเดินทางมา
แต่การมีผู้เดินทางมาไม่ได้ทำให้ประหลาดใจ เพราะได้ยินพระราชารับสั่งไว้ก่อนหน้านี้ว่า รอแม่ทัพนาซิมอีกคน หากท่าทีของพี่ชายต่างหากที่ทำให้อาเม่ยประหลาดใจ
"พี่ใหญ่"
"เขามาด้วย" ต้าซันพึมพำ
อาเม่ยหันมามองหน้าพี่ชาย "เขา...ราชองครักษ์มีอาน่ะหรือ"
ต้าซันพยักหน้ายอมรับ แต่ยังไม่ละสายตาจากคนที่ลงจากหลังม้าแล้ว จูงม้าตามแม่ทัพนาซิมเข้าไปที่โรงม้าด้านหน้า
"พี่ใหญ่ ท่านราชองครักษ์เขา...."
"เขาสมรสแล้ว ข้ารู้ดี..."

อาเม่ยเข้าใจแล้ว....

...จบตอนที่ 36...



อีก 6 ตอนก็จะจบแล้วนะเออ ไม่กล้าคุยในนี้ก็ไปคุยในเฟสก็ได้นะ
.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-12-2015 21:02:41
คนแรกเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-12-2015 21:28:55
อืมม์ ต้าซันชอบมีอาหรือนี่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-12-2015 21:34:56
ราชองค์รักษ์มีอากับต้าซันเค้ามีอะไรกันรึเปล่า?  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-12-2015 21:40:36
ตอนนี้ย๊าวยาว ชอบอ่ะ ต่อจากนี้ก็สู้กันแล้วสินะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย ซับซ้อนซ่อนเงื่อนค่อยๆคลายออกมา หลังจากนี้ก็มาลุ้นกันต่อว่าสงครามระหว่างสองเมืองจะลงเอยยังไง ผู้เฒ่าดินจะจัดการผู้เฒ่าไฟได้มั้ย

สายลมที่ผู้เฒ่ารู้สึกถึงคือเก้าใช่มั้ย จะได้คู่พระราชามั้ย หรือจะต้องไร้คู่ตลอดไปมาลุ้นกันต่อเถอะ ส่วนต้าซัน อยากให้สมหวังแต่ทำไงดีท่านมีอาแต่งงานแล้ว ต้าซันของเราจะสมหวังด้วยมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-12-2015 21:48:26
แปะไว้ก่อน มีหลายเรื่องเหลือเกินที่จะต้องทำความเข้าใจ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 01-12-2015 21:52:15
 :ling1: :ling1:

ค้างอ่ะ!!
 ต้าซัน...ไม่สนเเม่หญิงหรือเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-12-2015 22:04:27
อะไรๆต้าซันแอบหลงรักมีอาหรอกรึ

แล้วเมื่อไรอาเหม่ยจะหายดี

ตอนแรกคิดว่าอาเหม่ยเป็นตัวแปรสำคัญ

ในการที่มีพลังมากกว่าคนอื่นซะอีก

อ่านถึงตอนนี้คงไม่ใช่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 01-12-2015 22:51:47
สายลม คือใคร ต้าซัน ไม่น่าจะมีเวทย์นะ ถ้าคำว่า สายลม คือความ รักอิสระ เย็น ต้าซันก็เหมาะกับคำนี้นะ แต่มองไม่ออกว่าเข้ากันได้ ถ้าหมายถึงมีอา ก็ไม่แน่ อาจจะมีเหตุให้ต้องเลิกกับภรรยา (อันนี้เชียร์สุดฤทธิ์ 555) ต้าซันก็ต้องอกหัก โอ๊ยยยยยย ทางไหนก็ต้องมีคนเสียสละ 1 คน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 01-12-2015 23:06:24
ตอนนี้ยาวสะใจมากกกกกกกกกกกกก
พี่เชก็น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะตอนเขิน อิอิ
ไหงท่านปู่ชงพระราชากับเก้าล่ะ แถมมีเรื่องต้าซันกับมีอาเข้ามาอีก อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าเร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-12-2015 23:08:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-12-2015 23:37:29
มากันเต็มไปหมด ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 02-12-2015 00:51:29
เหมือนตาฝาดที่เห็นพี่เชเขินอายและกลัวเมีย 555555
เดาว่าสายลมของฟารัคคือเก้า
แต่ที่งงกว่า คือ ความรักของต้าซัน โผล่มาได้ไงเนี่ย  :a5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-12-2015 09:31:09
น้ำตารื้นกับตอนที่ต้าซันวิ่งมากอดน้อง นี่ซินะที่ว่าสายสัมพันธ์ของสายเลือดมันเข้มข้น
แต่เชื่อนะว่าท่านพระราชาฟารัคก็ย่อมมองเห็นจุดนี้เหมือนกัน และเชื่อว่าสายสัมพันธ์แบบนี้ตัดไม่ขาดแน่นอน
เห็นได้จากที่ทำกับของชายทั้งสองคือท่านเชมัลและท่านนาซิมก็ไม่เคยใช้อำนาจอันเกินควรมีทั้งพระเดชและพระคุณ
(หรือนี่คุณสมบัติของอำนาจแห่งผู้ปกครอง) ถึงจะดูว่าชอบจัดการเรื่องของคนอื่นแต่จิตใจของท่านพระราชาองค์นี้ช่างยุติธรรมและไม่กดขี่ข่มเหงคนอื่นนะ 
ท่านรอมชอมกับทุกคนที่อยู่รอบกายเพียงแต่เอาความขี้แกล้งมาบังหน้า
เหมือนกับประโยคของต้าซันที่บอกว่าทุกคนล้วนมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว (ชอบนิสัยนี้เป็นการส่วนตัว  :mew1: )

ส่วนท่านเชมัลเจ้าขา จนถึงตอนนี้นอกจากขี้อิจฉานี่ มีคำอีกคำที่อยากยกให้นะเจ้าคะ ขี้หึงเจ้าค่ะ
ยินดีกับสมาคมพ่อบ้านใจกล้าที่มีสมาชิกเพิ่มเติม  :m20:

ลุ้นตอนต่อไปต้าซันกับอาเก้า  :hao5:  :hao5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 02-12-2015 10:01:01
ตอนนี้อ่านจุใจมากค่ะ  ชอบๆ..ขอบคุณพี่ไจฟ์ น้องน้ำชา นะคะ สำหรับตอนยาวๆ   :pig4:

เนื้อเรื่องช่วงนี้น่าติดตามมากๆ หลายๆอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี เหมือนจะมีคู่ใหม่ ต้าซัน-มีอา เข้ามาให้ได้ลุ้นเพิ่ม 555+ แต่ยังมีประเด็นที่รู้สึกเป็นห่วงอาเม่ยก็คือ ตัวอาเม่ยเองยังมีความผิดติดตัวอยู่หลายเรื่อง ถ้าจะกลับไปครองคู่แม่ทัพเชมัล จะตกเป็นที่ครหา แล้วจะแก้เรื่องนี้ได้อย่างไร ยังคิดแทนพระราชาไม่ออก 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-12-2015 11:04:42
ต้าซันพี่ชายที่น่ารักมากๆๆ

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-12-2015 14:46:14
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 02-12-2015 16:06:13
 :give2: มาบวกจ๊า คงได้อ่านพรุ่งนี้ งานจะทับล่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 03-12-2015 10:46:48
ต้าซันชอบมีอา แต่เราชอบต้าซันนะ 5555+++

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-12-2015 14:24:43
ปมปัญหายังตามมามิได้ขาด

หึหึหึ เชมัลกลัวเมีย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 03-12-2015 17:37:15
ขอแปะก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 03-12-2015 22:50:46
อ่านตอนนี้แล้วสงสารต้าซัน ดูยังไงก็อยากที่จะสมหวังกับมีอา เฮ้อ น่าสงสาร ส่วนเม่ยกับแม่ทัพหวานละมุนมาก อย่าให้มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอีกเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-12-2015 19:30:05
ประทับใจกับความรักของต้าซันที่มีให้น้อง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็จะนึกถึงน้องรีบวิ่งมากอดเลย

พี่เชขี้หึง ขี้หวง
เออเนอะ พระราชารู้จุดแบบนี้น่าหาเรื่องแกล้งไปตลอด
พี่เชมาดหลุดก็น่ารักดี 5555

พระราชาก็อย่ามัวจับคู่ให้แต่กับคนอื่นนะ ดูแลความรักตัวเองด้วย
ส่วนพี่ต้าซัน ไม่รู้จะลุ้นยังไงแฮะ เอาเป็นว่าถึงจะอกหักก็ให้มีคนมาดามใจแล้วกันนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 04-12-2015 20:35:47
ต้าซันรักน้องมากมาย  :กอด1:
สุดท้ายขอให้ต้าซันและอาเก้า แฮปปี้บ้างนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 06-12-2015 09:38:07
กอดๆต้าซัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 06-12-2015 21:41:37
ชอบคำพูดเรื่องดินของท่านปู่ทวดเล็ก บ่งบอกตัวตนและความหนักแน่นได้ชัดเจน ปู่สตรองมากค่ะ
ความรักของอาเม่ยกับพี่เช น่าจะไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วเนอะ
ไปลุ้นพี่ต้าซันกัน ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 07-12-2015 06:39:14
ฟารัคแค้นฮูดาอยู่ไม่ใช่หรอ? จับนางทำเมียซะเลยสิ 555 แล้วให้นาซิมเค้าคู่กับเก้าไปซะ นาซิมน่าสงสารนะเค้ารักของเค้าเป็นที่ยิ่ง ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเก้าหรอก เห็นๆอยู่ว่าฮีโดนมนต์ดำเล่นงาน พอได้สติฮีก็เสียใจสุดพลัง ถ้าจะให้นาซิมไม่สมหวังดูก็จะใจร้ายกันเกินไปรึปล๊าวววววววว!!!! คิคิ   :katai2-1: ส่วนท่านผู้เฒ่าดินโปรดว่างถุงกาวลงก่อน อย่าเที่ยวจับคู่ไปเรื่อย อย่าลืมว่าชายาของฟารัคยังอยู่ถึงแม้นางจะโดนลดบทบาทแต่ความหึงหวงยังเต็มเปี่ยม เก้าจะเป็นอันตรายได้ ส่วนทางด้านของนาซิมโล่งสบายเมียตายเรียบร้อยแถมออฟชั่นพิเศษแต่งตอนนี้แถมฟรีลูกชายอายุ 10 ขวบอีกหนึ่งหน่อ 55555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 07-12-2015 09:08:56
อยากรู้จังว่ามีพลังอื่นๆอันใดที่อยู่ในตัวแม่ทัพเชมัล
มันน่าจะตรงกันข้ามกับพลังอำนาจแห่งผู้ปกครอง
หรือมันคือจิตแห่งความว่างเปล่าคือพลังที่สามารถเปลี่ยนให้พลังที่ได้รับมาสะท้อนกลับ (ทั้งหมดคือเดาล้วนๆ)

 :confuse: 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 08-12-2015 09:04:31
เรื่องนี้มีรายละเอียดเยอะมาก ต้องกลับไปอ่านทวนอีกหลายๆรอบ 55 เก่งมากนะไจฟ์&น้ำชา

อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้ว อ่านดูเหมือนเรื่องจะเริ่มคลี่คลายไปเรื่อยๆ ต้องติดตาม

ส่วนท่านหัวหน้าครอบครัว ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่า ท่านเกรงใจเมีย ม๊ากมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-12-2015 09:32:09
เข้ามารอแต่หัววัน ......  :a1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 08-12-2015 10:36:33
มาดักรอ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่36 หน้า36(1ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 08-12-2015 19:07:02
แวะมาดันหนูเม่ย
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-12-2015 21:39:45
ตอนที่ 37

พระราชาฟารัคทรงเริ่มการหารือด้วยกล่าวขออภัยพระอนุชาคือแม่ทัพเชมัลก่อนเป็นลำดับแรก
"ข้ารู้ว่าเชมัลยังไม่พร้อมที่จะทำงาน เพราะยังกังวลเรื่องเม่ย พวกเราไม่อาจเข้าสู่สนามรบในสภาพจิตใจที่ไม่พร้อม แต่สถานการณ์ในเวลานี้มันเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะลงมือ สายข่าวในเมืองเหนือรายงานว่า รัชทายาทเจิ้นเทียนถูกวางยาจริงตามที่เชมัลบอกมาก่อนหน้านี้ แต่เพราะยังไม่ตาย ทำให้ลุกขึ้นมากวาดล้างฝ่ายตรงข้ามครั้งใหญ่ แน่นอนว่า ในจำนวนนั้นมีคนของพวกเราที่แทรกซึมอยู่ที่นั่นด้วย"

เรื่องนี้คือการยืนยันคำกล่าวลือที่แม่ทัพเชมัลได้ยินมาตั้งแต่หลายเดือนก่อน ซึ่งทั้งฝ่ายเมืองวันและเมืองบาสก์ต่างก็รอเวลาที่เมืองเหนือจะอ่อนแอลงจากการทำร้ายตนเอง
ความขัดแย้งภายใน ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทัพอสูรของเมืองเหนือยังไม่บุกข้ามมาที่เมืองวัน

"ข้าไม่ต้องการทำสงครามใหญ่" พระราชายอมรับตามตรง "จะเมืองเหนือหรือเมืองบาสก์ก็มีญาติพี่น้องของเราด้วยกันทั้งนั้น แต่ข้าต้องการกำจัดรัชทายาทเจิ้นเทียนให้ได้ และต้องการความแน่ใจว่ารัชทายาทพระองค์ใหม่จะไม่เป็นภัยคุกคามพวกเรา"

แม่ทัพเชมัลขมวดคิ้วขณะที่หันไปหาแม่ทัพนาซิม แม่ทัพนาซิมก็กล่าวขึ้นในทันที
"ในตอนที่พระราชามีรับสั่ง ข้าคิดถึงแผนการอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา แต่ทันทีที่เจ้าหันมา ข้ากลับเห็นแต่การใช้เวทย์ดำทำลายล้างเวทย์ดำ"
พระราชากลับยอมรับความคิดนี้
"เพราะเวทย์ของเชมัลก้ำกึ่งและอยู่ใกล้กับพวกมันมากที่สุด พวกมันจึงเกรงกลัว อันที่จริงพวกมันร่ำลือกันว่า เวลานี้เจ้าอยู่ในนั้นแล้ว"
แม่ทัพเชมัลหันกลับมามองที่บ้านหลังเล็กภายในหมู่บ้าน ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล

"ถ้าจะต้องไป ข้าพระองค์จะพาน้องไปด้วย"
"นั่นอันตรายมาก เม่ยอาจหันมาทำร้ายเจ้าเมื่อใดก็ได้" พระราชาท้วงขึ้น
แม่ทัพเชมัลกลับยกมุมปาก ทำให้พระราชาต้องรับสั่งเตือน "ข้าให้เจ้าไปจัดการเจิ้นเทียนเพราะไม่ต้องการปัญหาบานปลาย ไม่ได้ให้เจ้าไปฆ่าตัวตาย เช่นนั้นก็พบกันครึ่งทาง เจ้าจะพาเม่ยหรือใครไปก็ได้ แต่ทุกคนต้องกลับมาหาข้า" พระราชากล่าวย้ำเสียงดังจนเหล่าราชองครักษ์ที่ยังตรวจตราอยู่ใกล้ๆ ต้องเดินกลับมา "ห้ามขาดหายไปแม้แต่คนเดียว นี่คือคำสั่ง เข้าใจไหมเชมัล!"
แต่เมื่อแม่ทัพเชมัลไม่รับคำ พระราชาก็ยื่นคำขาด "เช่นนั้นก็ถือว่าข้าไม่ได้มาที่นี่ ข้าจะส่งมือสังหารคนอื่นไปแทนเจ้า"
พระอนุชาส่ายหน้า "ข้าพระองค์ไม่ชอบเวลาที่ฝ่าบาทเข้ามาอยู่ในสมองแบบนี้เลย"
"ข้าไม่จำเป็นต้องอ่านความคิดของเจ้า แต่เพราะเจ้าเป็นน้องจึงรู้ใจว่า ความแค้นระหว่างเจ้ากับเจิ้นเทียนจะทำให้เจ้าตัดสินใจแลกกับพวกมัน"

"ปู่จะไปด้วย" จู่ๆ ผู้เฒ่าดินก็แทรกขึ้นมา "เพราะถ้าพูดถึงเรื่องความแค้น ปู่ก็มีเรื่องต้องจัดการกับผู้เฒ่าไฟที่อยู่ที่นั่น" และไม่รอให้พระราชาปฏิเสธ "ปู่ไปโน่นมานี่ตลอดเวลาหลายสิบปี ไม่เคยมีใครจับได้ ถ้าพวกเจ้าจะแทรกซึมเข้าไปที่นั่นเพื่อทำงานใหญ่ ไม่พึ่งพาปู่แล้วเจ้าจะพึ่งใคร"
"เช่นนั้น..." แม่ทัพนาซิมกล่าวขึ้นยังไม่จบประโยคพระราชาก็ขัดขึ้นทันที
"ข้าไม่ให้เจ้าไป"
"นี่เจ้ากลายเป็นคนไม่กล้าเสี่ยง ตั้งแต่เมื่อใด" ผู้เฒ่าดินดุพระราชา "คิดทำงานใหญ่แท้ๆ เมียเป็นกบฏก็ไม่กล้าประหาร สงครามมารออยู่หน้าบ้านก็กลับเลือกใช้แผนกองโจร"

"ท่านปู่ทวดเล็ก" แม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้นอย่างรู้พระทัยพระราชาเช่นกัน "พระราชาของพวกเราร้ายลึก พระองค์ไม่ได้คิดแผนชั้นเดียวแน่นอน โปรดระวังหลุมพราง"

"เฮ้ย!" พระราชาร้องเสียงดังอีกครั้ง
ครานี้ผู้เฒ่าดินถึงกับถึงกับลุกขึ้นยืน  "ถ้าเจ้าไม่บอกแผนการทั้งหมดออกมา ข้าจะไม่นำทางพวกเจ้าเข้าไป" ดวงตาสีเข้มกวาดตามองทุกคน "ข้ากับไฟหักล้างกันไม่ลงมานาน แต่ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว เจ้ามีงานของเจ้า ข้ามีแค้นของข้าที่จะต้องสะสาง ถึงเจ้าไม่ให้ข้าไป ข้าก็จะไป และข้าก็หาได้สนใจไม่ ว่าจะไปทำลายแผนการของใคร"

แต่พระราชากลับลูบคาง ไม่กล่าวคำ
เพราะทุกแผนการที่วางไว้แต่แรกไม่มีผู้เฒ่าดิน
แต่เพราะผู้เฒ่าดิน คือพระปัยกา คือผู้ที่มีฝีมือกล้าแข็ง และคืออาจารย์ของอาเม่ย การมีผู้เฒ่าดินย่อมทำให้ได้เปรียบ ...นี่อาจเป็นการจัดการอย่างรวบรัดหมดจด แต่ก็เสี่ยงที่จะสูญเสียทั้งพระปัยกา และพระอนุชา เพราะทั้ง 2 คนมีท่าทีที่จะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับเมืองเหนือ...

ระหว่างที่พระราชาครุ่นคิดผู้เฒ่าดินก็หันมากล่าวกับแม่ทัพเชมัล
"พระราชาพระองค์นี้เจ้าเล่ห์และร้ายกาจมากกว่าพระราชาเมืองเหนือหลายเท่านัก"
"ไม่เลย ข้าคือพระราชาที่....รักการยืนอยู่บนชัยชนะ ด้วยการใช้ทั้งมิตรและศัตรูมาสร้างประโยชน์ให้ข้าได้ทั้งสิ้น" พระราชาฟารัคโต้เถียง ขณะที่ยังคงใคร่ครวญผลดีผลเสียอย่างจริงจัง

ผู้เฒ่าดินส่ายหน้าแรงๆ "เจ้าเลี้ยงอสรพิษไว้รอบตัว และไว้ชีวิตเมีย ก็เพราะเหตุนี้เอง"
"ไม่ๆๆ" พระราชารีบปฏิเสธ "เรื่องเมีย...เอ่อ..พระชายานั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง"
"เรื่องเดียวกันนั่นแหละ" ผู้เฒ่าดินกล่าว "ตาเฒ่าไฟวางเวทย์ดำใส่เม่ยให้ไปฆ่าเสนาบดีหลี่ เจ้าก็พลิกวิกฤติจนพระชายากลายเป็นตัวประกัน ตราบใดที่นางทำตัวดีพระราชโอรสจะยังเป็นรัชทายาท นางก็ยังอยู่ในอำนาจ แต่ถ้านางคิดไม่ซื่อเจ้ามีเมียใหม่ ทุกคนในกลุ่มจะโดนเจ้าจัดการหมดแน่"
"อ่า..........." พระราชาอับจนถ้อยคำ
พระอนุชา 2 พระองค์หันไปหัวเราะให้กัน
ส่วนราชองครักษ์ลาทีฟที่เคยเจอฝีปากของผู้เฒ่าดินมาก่อนหน้านี้ ถึงกับหันไปยักคิ้วให้กับราชองครักษ์อีก 2 คน
 
"ดังนั้น เจ้าต้องบอกแผนการที่เหลือออกมา เจ้าเล่นใช้งานหมากทุกตัวแบบนี้ พวกเราสมควรรู้ด้วย มิเช่นนั้นเกิดข้าพลั้งมือไปปัดหมากตัวหนึ่งตัวใดของเจ้าจนล้มคว่ำคากระดานขึ้นมา ทำเจ้าเสียแผน จะมากล่าวโทษกัน"
พระราชาทรงตรึกตรอง "ก็ไม่เป็นไรนะ เพราะถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็ยังมีหมากสำรองอยู่เสมอ จะหมากฝ่ายไหนข้าก็ใช้งานได้ทั้งนั้น เพียงแต่ข้าไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อโดยไม่จำเป็น พวกเวทย์ดำในเมือง ข้ายกให้พวกท่านปู่ทวดเล็กและเชมัลจัดการ แต่พวกอสูรที่พวกมันวางไว้รอบเมือง ข้ายกให้นาซิม หรือหากระหว่างทางพวกท่านคันไม้คันมือจะจัดการพวกมัน ข้าก็ไม่คิดว่าจะทำให้แผนการเสียหาย"
ทุกรับสั่งคือการแปรเปลี่ยนทุกสถานการณ์มาสนับสนุนแผนการของพระองค์ทั้งสิ้น

"แล้ว...." ผู้เฒ่าดินรอฟังแผนการต่อไป
หากพระราชายืนยัน "แผนการมีแค่นี้....จริงๆ"
"เจ้าเป็นพระราชาที่วางใจพระอนุชาขนาดนี้เชียวหรือ"
"แน่นอน" พระราชาตอบรับทันที "แต่เพราะทุกการกระทำล้วนมีผลสืบเนื่องไปถึงกันและกัน ข้ารู้ว่าเชมัลและนาซิมเป็นทหารต่อให้ต้องตายจากไป เขาก็ยังเป็นทหารอยู่ แต่เพราะเชมัลห่วงเม่ย ข้าก็ให้เวลาเขาได้จัดการเรื่องที่ค้างคาในใจ ก็คิดอยู่ว่า อยากจะรออีกสัก 1 เดือน แต่ตอนนี้เราเสียคนของเราในเมืองเหนือไปหลายคนแล้ว จนข้าไม่อยากรอ ส่วนเรื่องของนาซิม ยังต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ แต่สุดท้ายแล้ว จะเชมัล หรือนาซิม ก็จะต้องมีผลงานที่โดดเด่นเหนือทุกคน ข้าไม่ยอมให้ใครมานำหน้าน้องชายทั้งสองคนของข้าเป็นอันขาด แล้วข้าก็เชื่อว่าเขาทำได้"
แม่ทัพเชมัลกอดอกหรี่ตามองพระราชา "ยกยอกันขนาดนี้แสดงว่าทรงจะเข้าเรื่องที่สองใช่หรือไม่"
พระราชายอมรับ "ใช่ ตอนนี้เก้ามาเป็นต้นห้องให้ข้า"
แม่ทัพนาซิมถึงกับเงยหน้าขึ้นมองหลังคาของโรงม้า จนพระราชามีพระดำรัสถาม
"ถอดใจเลยหรือนาซิม"
"ข้าได้ยินมาเหมือนกัน แต่เพราะพระองค์ทรงมีมหาดเล็กต้นห้องอยู่แล้ว ก็ยังคงคาดหวังว่ามันจะเป็นข่าวลือ"
"แต่ไม่เห็นเจ้าจะถาม"
"ข้ากลัวว่าท่านจะตอบว่าใช่ " คนกล้าหาญยอมรับ "อีกทั้งเขาเองก็ไม่เคยมองข้า แล้วยังทำเรื่องเลวร้ายกับเขาอีก แต่ข้าก็บอกตนเองเสมอว่าตราบใดที่เขายังไม่ได้สมรส ข้าก็ยังมีหวัง แล้วนี่เขาไปอยู่กับพระองค์"
"เขามาเป็นต้นห้องให้ข้า ไม่ได้แต่งงานกับข้า แล้วเขาก็ไม่ได้พอใจข้าแบบนั้นด้วย"

...ตลอดเวลาที่ผ่านมา คือความรู้สึกพอใจ สบายใจที่ได้อยู่ใกล้ เหมือนกับที่เชมัลพอใจเก้า แต่ก็ยั้งใจตนเองไม่ให้มันมากไปกว่านี้ ไม่ให้ถึงขนาดที่ว่าขาดไปไม่ได้..

ทั้งสามรอฟังพระดำรัสต่อไป
คุยเรื่องงานกลับราบรื่น คล้อยตามกันโดยง่าย แต่เรื่องส่วนตัวกลับยากที่จะกล่าวออกมา

"เรื่องอื่นพวกเราพี่น้องพูดคุยทำความเข้าใจกันได้โดยง่าย แต่พอมันเป็นเรื่องของเก้า ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดมันถึงได้ยุ่งยากนัก อย่างเรื่องอาเม่ย" ทรงชี้ไปที่แม่ทัพเชมัล "ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไรเลย เชมัลเก็บใส่กล่องไว้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เชมัลจัดการเองหมด แต่พอเป็นเรื่องของเก้า" ครานี้กลับชี้ไปที่หัวหน้าราชองครักษ์บาดา แม่ทัพเชมัล แล้วกลับมาหาแม่ทัพนาซิม "มันกลับกลายเป็นว่า ไม่มีอะไรที่ถูกต้องเลยสักอย่าง พูดก็ไม่ได้ ไม่พูดก็ไม่ได้ จัดการก็ไม่ดี ไม่จัดการก็ไม่ได้"

หัวหน้าราชองครักษ์บาดา รู้ว่าเพราะอะไร แต่ไม่ใช่หน้าที่ที่จะสอดแทรกในเวลานี้

"แต่ที่สุดแล้ว ข้าก็คิดว่า ข้าสมควรบอกกับนาซิมและเชมัลด้วยตนเองพร้อมๆ กันนี่แหละ ก็เพราะเกรงว่า หากไปได้ยินอะไรบางอย่างมาอาจทำให้เข้าใจผิด" ดำรัสนี้มีต่อแม่ทัพนาซิมโดยตรง "คิดจะให้มีอามาเชิญเจ้าไปคุยกัน แต่ก็ติดว่าที่หน้าด่านไม่มีใครที่วางใจได้ แต่ไหนๆ วันนี้จะมาหาเชมัล ก็เลยให้มีอาไปเชิญเจ้ามาคุยกันตรงๆ ดีกว่า"
แม่ทัพเชมัลมองหน้าพระเชษฐา "ปกติพระองค์ไม่เคยต้องเกริ่นอะไรที่มันยืดยาวเช่นนี้มาก่อน"
"เว้นแต่ในครั้งนี้ ที่อยากทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน" พระราชาตอบพระอนุชาผู้รู้พระทัย "เข้าเรื่องเลยก็ได้ เรื่องของเรื่องก็คือ ข้าคิดจะให้เก้าสมรสกับพริมจะได้ย้ายมาเป็นราชองครักษ์ แต่ปรากฎว่า พริมปฏิเสธ"
แม่ทัพนาซิม ขยับนั่งตัวตรงในทันที
"ข้าเองก็ตกใจนะ ว่ามันเกิดอันใดขึ้น เพราะตอนนั้นเชมัลก็กำลังเกเรได้ที่ ไม่เป็นอันทำการงานอันใด วันที่พริมปฏิเสธก็เป็นวันเดียวกันกับที่เชมัลทิ้งข้าออกมาจากวังนั่นแหละ" พระราชาหันมาหาพระอนุชาองค์เล็ก "นี่พวกเจ้ายังไม่ได้คุยกันหรือ"
"ข้าได้แต่ส่งข่าวเรื่องอื่นไปหาพี่นาซิม แต่เรื่องนี้....ก็กังวลเหมือนพระองค์ ว่าหากส่งข่าวกันเป็นทอดๆ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด แล้วมันก็ดูไม่เหมาะ คิดว่าจะคุยกันส่วนตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปพูดอย่างไร ไม่อยากให้รู้สึกว่าข้าเจ้ากี้เจ้าการ"
"ตกลง เช่นนี้นะนาซิม" พระราชามีท่าทีเกรงใจแม่ทัพนาซิมเป็นอย่างมาก "เมื่อไม่ผูกพันกับพริมแล้ว เก้าเป็นอิสระเข้าใจไหม แต่เมื่อข้าให้มีอาไปดูแลค่ายทหาร แต่เก้ามีตำแหน่งเป็นองครักษ์ของเชมัล ลำดับการสั่งงานมันก็สับสน ทั้งทำให้เขาอยู่ในจุดที่ตัดอดีตไม่ขาด เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ แถมไม่มีอำนาจสั่งการในกองทัพ ข้าให้เขาเลือกเองว่าจะทำอย่างไร เลือกในสิ่งที่ทำแล้วสบายใจ เขาก็เลือกที่จะเป็นต้นห้อง ซึ่งมันก็เป็นเพียงชื่อตำแหน่งที่ทำงานอยู่กับข้า แต่งานในกองทัพยังเหมือนเดิม เพื่อให้เขาสามารถออกคำสั่งในนามของข้าได้" พระราชาหันไปหานาซิมอีกครั้ง "อย่าคิดมาก ข้าจำสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าได้ ทำงานเสร็จเมื่อไหร่ก็มาพาคนกลับไป"
"หากเขาไม่เลือกไปกับข้าเล่า"
"นั่นก็เรื่องของเจ้ากับเขาแล้ว"

ผู้เฒ่าดินกล่าวขึ้น "รู้ใช่ไหมว่า ถ้ามีคนนี้อยู่ข้างกาย อำนาจของเจ้าจะสมบูรณ์แบบขึ้น"

ไม่มีใครไม่ทราบเรื่องนี้

"ข้าไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แบบ ท่านปู่ทวดเล็ก ข้ามีสิ่งที่ข้าต้องการอยู่แล้ว ข้ามีเพื่อน" พระองค์หันไปหาบาดา "มีน้องชายที่ไม่จำต้องกล่าวคำมากมายก็รู้ว่าควรทำอะไร แล้วข้าจะต้องการอันใดอีก"
"ข้าไม่ได้หมายถึงการทำงาน ข้าหมายถึงเรื่องส่วนตัว"
"ถึงเมียข้าจะขี้หึง และมักใหญ่ใฝ่สูง หวังที่จะให้พ่อครองบัลลังก์นี้เองแต่นางก็เป็นแม่ที่ดี"
ผู้เฒ่าดินมีความเห็นขัดแย้ง แต่พระราชาอธิบาย
"ท่านอาจมองเห็นความมั่นคง และอนาคตของข้า แต่หากให้เก้าอยู่กับข้า จะมีข้าสบายเพียงคนเดียว ขณะที่เขาลำบากใจ แต่ถ้าเขาอยู่กับนาซิม จะดีต่อนาซิม ดีแต่องค์ชายน้อยและดีต่อกองทัพด้วย แต่ก็เป็นการเสี่ยงชีวิต ข้าจึงเห็นว่า สิ่งสำคัญคือเขาต้องเลือก"
"เฮ่ย...." ผู้เฒ่าดินขัดใจ
"ท่านปู่ทวดเล็ก ข้ามีในสิ่งที่พระราชาควรมีอยู่แล้ว แต่น้องชายของข้าถูกเวทย์ดำทำลายความมั่นใจของเขาไป และทำให้เขาไม่กล้าที่จะเดินหน้าเรื่องของเก้า ซึ่งมันต้องใช้เวลา เรื่องนี้เชมัลก็รู้ดี"
แม่ทัพเชมัลเพียงพยักหน้ายอมรับเงียบๆ

"ข้าทำร้ายเขา แค่คิดจะส่งของไปเยี่ยมยังไม่กล้า" แม่ทัพนาซิมก้มหน้าพูดกับมือของตนเอง
"ก็ส่งไปสิ" พระราชาพูดเสียงดังอีกครั้ง "จะรออันใด เห็นส่งของไปให้ลูกอยู่แทบทุกสัปดาห์"
"ก็เขามีพริมอยู่"
"ตอนนี้ไม่มีแล้ว"
พระราชาย้ำแล้วย้ำอีกเพื่อให้แม่ทัพนาซิมมีความมั่นใจ "ก่อนนี้ข้าก็ระแวง จนถึงตอนนี้ก็ระแวง แต่เมื่อได้คุยกันเช่นนี้ ข้ากลับรู้สึกว่า หากเจ้าจริงใจก็ไม่ควรเอาแต่กังวลว่าอาจจะพลั้งมือทำร้ายเขาอีก เพราะขอเพียงเจ้ามีความเข้มแข็ง และตั้งใจจริงที่จะไม่ทำให้เขาเสียใจ ไม่ว่าสิ่งใดก็ทำร้ายเจ้ากับเก้าไม่ได้"

ตลอดเวลาการสนทนาพระราชาสังเกตท่าทีของน้องชายทั้งสองคน
เชมัลนั่งฟังไม่แสดงความเห็นดั่งฟังเรื่องของคนอื่น
ส่วนนาซิมดวงตาเป็นประกายเปี่ยมไปด้วยความหวังและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้บางคำพูดจะลังเลไม่แน่ใจก็ตาม

ทั้งหมดสนทนากันอย่างยาวนาน จนถึงเวลาอาหารหัวหน้าราชองครักษ์บาดา จึงขอให้ 2 พี่น้อง ต้าซันและอาเม่ยช่วยกันตั้งโต๊ะอาหารที่โรงม้านั้นเอง
ส่วน 2 พี่น้องแยกมารับประทานอาหารที่บ้านพักหลังเล็ก
ราชองครักษ์มีอาเดินเข้ามาในบ้านแล้วส่งเครื่องดนตรีให้กับต้าซัน
พิณตัวเก่าที่ถูกทิ้งอยู่ที่บ้านพักในเมือง
ต้าซันรับไว้แล้วมองหน้าคนที่มีสีหน้าเรียบเฉย "พิณของแม่ข้าเอง มันอยู่ในบ้าน ท่านไปเอามาหรือ"
ราชองครักษ์มีอาเพียงแค่พยักหน้า แล้วก็เดินกลับออกไปโดยไม่ได้กล่าวสักคำ
ต้าซันจึงต้องหันมาอธิบายกับน้องชาย "ตั้งแต่วันแรกที่ข้าถูกขังอยู่กับองครักษ์เก้าที่เรือนจำเวทย์ ท่านราชองครักษ์ก็ถามว่าจะเอาเครื่องดนตรีไหม แต่ข้าบอกว่าไม่เอาเพราะคิดว่า คนอื่นเขาถูกคุมขังอยู่ ข้าจะมานั่งเล่นดนตรีอยู่มันไม่เหมาะ"
"พิณนี้เป็นของท่านแม่ใช่ไหม" อาเม่ยมองพิณในมือของพี่ชาย
"เขาคงเห็นว่ามันดูเก่าที่สุดในบ้านกระมัง ถึงได้เอามาให้"
"พี่ใหญ่"
"มันคือพิณของแม่"
...และใจของข้ากำลังคิดไปไกล....

อาเม่ยเข้าใจความว้าวุ่นใจของต้าซัน จึงจับมือพี่ชายไว้ "พี่ใหญ่...."


เมื่อราชองครักษ์มีอาเดินกลับมาจากบ้านพักหลังเล็ก ก็พบกับหัวหน้าราชองครักษ์บาดารออยู่
"มีอะไรหรือ"
"พิณน่ะขอรับ"
"เหตุใดถึงเอาพิณมาให้พวกเขา"
ราชองครักษ์มีอายืนตัวตรงเมื่อเล่าถึงความรู้สึกค้างคามาตั้งแต่ตอนที่คุมขังต้าซันไว้ในเรือนจำเวทย์
"ที่ผ่านมา ในความคิดของข้ามีแต่เพียงผิดกับไม่ผิด และการลงโทษคนที่ไม่ผิดทำให้ข้ารู้สึกขัดแย้งในตนเองมาก"
หัวหน้าราชองครักษ์บาดาพยักหน้าด้วยความเข้าใจ พยักหน้าเรียกให้เดินกลับไปหาพระราชาด้วยกัน
"ข้าเข้าใจนะ แล้วนี่ดีขึ้นหรือยัง พระราชายังต้องใช้พลังจากเจ้าเพื่อเจรจากับแม่ทัพนาซิม"
ราชองครักษ์มีอาหยุดเดิน อีกฝ่ายจึงหันมากล่าวเบาๆ พอให้ได้ยินเพียง 2 คน
"พวกเราไม่ใช่เด็กๆ แล้วและล้วนแต่เป็นผู้ที่มีครอบครัวแล้วทั้งสิ้น เจ้าคงมองเห็นได้โดยไม่ยาก ว่าแท้ที่จริงแล้วพระองค์พยายามจัดการเรื่องของต้นห้องเก้าเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะอยากจะเอาชนะใคร หรือสิ่งใด แต่เป็นเพราะทรงตั้งมั่นที่จะไม่ทำผิดเองมาตั้งแต่แรก"
ราชองครักษ์มีอาพยักหน้าช้าๆ
"ข้าก็คิดอยู่ แต่ไม่กล่าวคำ เพราะมันไม่ถูกต้อง"
หัวหน้าราชองครักษ์ตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ เพราะพลังของราชองครักษ์มีอาที่ตัดความรู้สึกทั้งมวลออกจากงานหน้าที่ จนทำให้กลายเป็นผู้ที่ตัดสินทุกเรื่องด้วยเกณฑ์ ถูกหรือผิด ส่งผลให้ราชองครักษ์มีอากลายเป็นผู้ที่ไร้ความรู้สึก
แต่ความรู้สึกว่าตนเองทำไม่ถูก จนถึงกับเอาพิณมาคืนให้กับ 2 พี่น้อง อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่ราชองครักษ์ผู้นี้จะรู้จักการผ่อนปรนลงบ้างก็เป็นได้

"นั่นคือหน้าที่ของเจ้า ทำให้พระองค์ทำในสิ่งที่ทรงดำริไว้ให้ลุล่วง เพราะหากเป็นข้า หรือ หัวหน้าองครักษ์รอมแล้วละก็ ผลจะออกมาในอีกทางหนึ่ง" ก่อนที่กลับไปสมทบกลุ่มกับราชองครักษ์ลาทีฟ ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มยังถามย้ำอีกครั้ง "ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่"
"ไม่แล้วขอรับ"

ครู่ใหญ่อาเม่ยก็ออกมาถามหัวหน้าราชองครักษ์บาดาเรื่องการจัดที่ประทับของพระราชาในคืนนี้ แต่หัวหน้าราชองครักษ์ กลับพาอาเม่ยไปเข้าเฝ้าฯ ด้วยกัน
"เห็นว่าจะทรงมาหารือกับท่านแม่ทัพแล้วก็จะกลับเลยนะ แต่ดูท่าจะคุยกันติดลมเสียแล้ว"
เมื่ออาเม่ยตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม หัวหน้าราชองครักษ์ก็หยุดมอง
"ท่านกำลังคิดว่าข้าเปลี่ยนไปละสิ"
"เช่นนั้น" หัวหน้าราชองครักษ์ยอมรับ "เจ้ากับพี่ชายดูสลับร่างกัน"
อาเม่ยยังคงยิ้มเมื่อตอบคำถามนี้ "ที่แท้จริงแล้วข้าเป็นเช่นนี้ คนร่าเริงที่ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้คือพี่ใหญ่ ไม่ใช่ข้า"
เป็นคำกล่าวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ จนหัวหน้าราชองครักษ์รู้ชัดแจ้ง ว่าจุดอ่อนที่ทำให้อาเม่ยถูกเวทย์ดำโจมตีคืออะไร
"แต่แม่ทัพเชมัลไม่ใช่คนที่อยากอยู่ใกล้ต้าซันแน่นอน เพราะแม้จะหารืออยู่กับฝ่าบาทแต่คอยชะเง้อมองหาเจ้าเป็นระยะ ฝ่าบาทก็ช่างใจร้าย เปลี่ยนมาหารือกันที่บ้าน หรือไม่ก็ให้ข้ามาเรียกเจ้าไปอยู่กับแม่ทัพ ก็น่าจะหมดเรื่องแล้ว"
ดวงตาที่เมื่อครู่ฉายแววเศร้า เปลี่ยนเป็นสดใสขึ้น รอยยิ้มก็อ่อนหวานกว่าเดิม
"นี่ก็ถึงกับบอกว่า จะไม่ไปไหนถ้าเจ้าไม่ไปด้วย ทุกคำที่แม่ทัพกล่าวถึงเจ้า ทำให้ข้าคิดถึงเมียที่บ้านจริงๆ"
อาเม่ยตีที่แขนใหญ่ของราชองครักษ์เบาๆ "พอเถิด ข้ารู้แล้วว่า ท่านมีคารมเป็นเอก"
"นี่ไม่ต้องแสดงคารมอันใด หรือต่อให้เจ้าไปถามลาทีฟ หรือมีอา ก็ต้องบอกเหมือนกับที่ข้าบอกนี่แหละ"
ราชองครักษ์ลาทีฟคล้อยตามแต่ไม่วายขัดคอ "เมียข้าตายไปแล้ว คงต้องเปลี่ยนเป็นลูกสาว"
ขณะที่ราชองครักษ์มีอาคนพูดน้อยเพียงแค่ยิ้มกว้าง
...กับคนผู้นี้ ที่ทำให้คิดไปถึงต้าซัน ทำให้อาเม่ยไม่รู้ว่าจะพูดคุยอย่างไรดี...

ทั้งหมดจับกลุ่มสนทนาเพียงไม่กี่คำ คนที่กำลังถูกนินทาก็เดินมาหา
"คุยอันใดกัน"
หัวหน้าราชองครักษ์บาดา หันไปยิ้มกับราชองครักษ์อีก 2 คนในทันที
"นินทาข้าละสิ"
แขนใหญ่โอบกอดอาเม่ยไว้แน่น ทำให้ใบหน้าคนที่ถูกโอบกอดแดงจัด
"เหนื่อยไหม"
อาเม่ยส่ายหน้า "น้องจะถามว่า จะจัดที่ประทับถวายพระราชาอย่างไร แต่ท่านบาดาจะมาทูลถามก่อน"
"ให้นอนโรงม้านี่แหละ" แม่ทัพเชมัลกล่าวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
คำกล่าวแบบนี้มีแต่แม่ทัพเชมัลที่กล้ากล่าวกับพระราชาฟารัค ส่วนคนอื่นได้แต่ยิ้มขำ
มีเพียงอาเม่ยที่ส่งเสียงไม่เห็นด้วยในลำคอ

แต่พระราชาตัดสินพระทัยที่จะกลับเมืองหลวงในคืนนี้
"เพราะถ้าจะว่ากันตามตรง วันนี้ข้าหนีออกจากบ้านมาคุยกับน้องชายน่ะ" พระราชามองอาเม่ยนิ่งๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดีว่าทรงกำลังทำอันใดอยู่ "เม่ย ข้าไม่อาจสัญญาได้ว่า นี่คือคำขอร้องครั้งสุดท้าย แต่ข้าไม่อาจให้ผู้ใดทำหน้าที่นี้แทนเชมัล"
อาเม่ยหันไปหาแม่ทัพเชมัล ใบหน้าซีดเผือดไม่ได้กล่าวคำพูดใด จนเมื่อหันไปเห็นต้าซันที่เดินมาหา อาเม่ยก็กล่าวขึ้น
"ข้าอยากพาพี่ใหญ่ไปส่งที่ค่ายทหารก่อน พ่อเคยบอกไว้ว่า พวกเราจะปลอดภัยหากอยู่ที่นั่น"

ผู้เฒ่าดินจับที่ไหล่บาง "อาเม่ยเอย คำกล่าวนั้นมันไม่มีอยู่จริง"
อาเม่ยไม่เข้าใจ "ก็...."
"ข้าอยู่กับเจ้าในเวลานั้น นึกออกหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่ผู้เฒ่าไฟบอกกับเจ้า มิใช่พ่อของเจ้า ตาเฒ่านั่นมันบิดเบือนความทรงจำของเจ้า"
อาเม่ยมองหน้าผู้เฒ่าดินด้วยสีหน้าตกใจ แล้วก้าวถอยหลัง หันไปกอดแม่ทัพเชมัลไว้แน่น
มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบาง
ทุกคนต่างลงความเห็นในใจ อาเม่ยยังไม่พร้อมสำหรับการเดินทางไปเมืองเหนือ ตามที่แม่ทัพเชมัลกล่าวไว้จริง

อาเม่ยเวลานี้ยิ่งกว่าคำว่าเปราะบาง จนพระราชาเองยังเกรงใจ
"ขอโทษนะเม่ย ข้าเองก็รู้ ว่าเจ้าต้องการเวลาทั้งเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และยังเรื่องความทรงจำอีก เช่นนั้นข้าคงต้อง...."
"มิเป็นไร" อาเม่ยกล่าวกับพระราชา ทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่กับอกกว้างของแม่ทัพเชมัล
พระราชาวางพระหัตถ์ลงที่ศีรษะของอาเม่ย
"ขอโทษนะเม่ย"

...นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่พระราชาเสด็จมาเรียกให้แม่ทัพเชมัลกลับไปทำงานให้....
"ข้าไม่อาจให้สัญญา เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่อาจทำได้ แต่ข้าสัญญา ว่า ข้าจะดูแลพี่ใหญ่ของเจ้าให้ดี ในเวลาที่เจ้าไปทำงาน"

รับสั่งถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็หันมาหาพระราชาฟารัคเพียงจุดเดียว
"ข้ารู้ ว่าข้ามันเห็นแก่ตัวพอใจกันหรือยัง แต่ถ้าไม่จัดการตอนนี้ ก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว"
อาเม่ยหันไปหาพระราชา "ขอเวลาอีก 2 วันได้หรือไม่"
พระราชาจ้องมองลึกลงไปในดวงตาสีแปลก แล้วส่ายพระพักตร์
"หากศึกเมืองเหนือเสร็จสิ้นแล้วเจ้าไม่กลับมารับต้าซัน ข้าจะสั่งประหารพี่ชายของเจ้า"

รับสั่งจบก็หันหลังให้อาเม่ยทันที
ผู้เฒ่าดินที่ติดตามไปจนถึงม้าทรง เอ่ยปากถามให้ได้ยินกันเพียง 2 คน "เจ้าก็ใช้เวทย์กับเม่ยไม่ได้ใช่หรือไม่"
"ไม่ได้"
พระราชาไม่เข้าพระทัย เคยขอให้พระราชาเมืองบาสก์ช่วยล้างเวทย์ดำให้ ก็ล้างได้เพียงบางส่วน ทั้งยังมีผู้เฒ่าดิน และแม่ทัพเชมัลช่วยกันฟื้นฟู แต่กลับยังมีไอจางๆ ของเวทย์ดำที่ค้างอยู่
"ตั้งแต่มาถึงข้าพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ รู้แต่ว่าอาการดีขึ้นแล้ว แต่ส่วนใหญ่ข้าต้องอ่านเม่ยผ่านต้าซัน แต่ทำอะไรกับเม่ยไม่ได้เลย ที่ท่านรักษาเม่ยไม่ได้ก็เพราะเหตุนี้เช่นกันใช่หรือไม่"
ผู้เฒ่าดินยอมรับ "ข้าจะเอ่ยปากออกมาตามตรงก็เกรงว่าจะทำให้ทุกคนวิตกกังวลกันไปใหญ่ ได้แต่ให้ยาบำรุง และให้พักผ่อนมากๆ เชมัลก็ได้แต่สอนเวทย์ดินและน้ำเพื่อสร้างสมดุล แต่ก็ยังมีช่องว่างอยู่มาก"
"ผู้เฒ่าไฟคนนี้มันร้ายนัก ถ้าท่านเจอมัน รบกวนสับมันเป็นหมื่นชิ้น!"
"รับรองว่า มันไม่ตายดีแน่ๆ"

พระราชาฟารัค และพระปัยกามูซัค ต่างหมายมั่นปั้นมือจะจัดการกับผู้เฒ่าไฟชนิดไม่เหลือซาก!

...จบตอนที่ 37...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 08-12-2015 21:46:31
ปูเสื่อจองที่ไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-12-2015 22:23:00
ขอให้จัดการผู้เฒ่าไฟให้ได้ด้วยเถอะ :call:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 08-12-2015 22:39:39
ฟารัคนี่ คือ ซุนกวน+ขงเบ้งดีๆนี่เอง. ตอนหน้าเขาจะรบกันแล้ว. ไปเตรียมป๊อบคอร์นกับน้ำอัดลมแป๊บ
ปอลิง..ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเม่ยอีกเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-12-2015 22:51:03
ใคร ๆ ก็ทำร้ายเม่ย
เก้าก็เจ็บปวดเพราะคนอื่น ๆ เอาเปรียบ

เมื่อไรสองคนนี้จะมีความสุขจริงเสียที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 08-12-2015 22:52:14
จะรบกันแล้ว ผู้เฒ่าดินจะจัดการล้างแค้นได้มั้ยนะ แล้วเม่ยล่ะถ้าเจอผู้เฒ่าไฟจะเป็นอะไรมั้ย เม่ยยังไม่หายเลยนะ ขออย่าให้เป็นไรเลย เรื่องของเก้ากับนาซิมจะลงเอยแบบไหน อยากรู้ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2015 23:02:43
ศึกหนักกำลังรออยู่
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 08-12-2015 23:11:39
ทำไมพระราชาชอบจัดการเรื่องของเก้าจริง
ดูแล้วเก้าคงไม่มีความสุขเมื่ออยู่กับแม่ทัพนาซิม
เลิกเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเก้าซะที ปล่อยเก้าไปเถอะ

พระราชายุ่งเรื่องของเก้าจนเรารำคาญ อะไรกันนักกันหนา

ไม่ชอบแม่ทัพนาซิม เพราะให้ความรู้สึกไม่มั่นคงและปลอดภัย
ไม่ชอบตั้งแต่คุยกับเก้าใต้ต้นไม้แล้วเก้าบอกไม่ชอบก็ยังตื้อแล้วก็บังคับจูบเก้าอีก
เป็นถึงแม่ทัพแต่ทำตัวไร้ศักดิ์ศรี รังแกผู้น้อย เอาความรู้สึกเป็นใหญ่แล้วจะนำทัพได้ยังไง

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 08-12-2015 23:19:15
พระราชาฟารัคนี่เหมาะกับตำแหน่งกษัตริย์จริงๆ นับถือ นับถือ
อ่านถึงตอนนี้ได้แต่หวังว่าตอนจบจะไม่เศร้าแบบท่านผู้เฒ่าดินตาย พี่เชหรือเม่ยยอมแลกชีวิตกับตัวโกงเมืองเหนือนะคะ
อ่านมาตั้งนานไม่จบแบบเศร้าเนอะๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-12-2015 23:31:51
นึกว่าอาเหม่ยจะหายแล้วซะอีก

แต่ไม่เป็นไร

เอาใจช่วยให้กำจัดผู้เฒ่าไฟให้ได้
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 08-12-2015 23:38:10
ลางสังหรมันบอกอะ กลัวผู้เฒ่าดินตายจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 09-12-2015 09:25:48
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่านตอนนี้เเล้วรู้สึกว่าเม่ยเป็นกระต่ายน้อยในฝูงหมาป่า...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 09-12-2015 09:41:11
เอาจริงๆนี่เรื่องที่วุ่นวายเพราะเรื่องมีมเหสีมากมายเลยทำให้ท่านพระราชาฟารัคไม่อยากมีเมียหลายคนหรือเปล่าตั้งแต่ครั้งอดีตมาเลยทีเดียว  :m13:
คือมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นแบบนี้เลยทำให้ท่านพระราชาฟารัคเราถึงกับยอมสัญญากับมเหสีตัวเองว่าจะไม่มีเมียใหม่แน่ๆ
((มองได้อีกมุมว่าเป็นการวางแผนซ้อนแผนให้เมียตายใจหรือเชื่อใจตัวเองว่าถึงอย่างไรโอรสของมเหสีก็จะยังได้เป็นรัชทายาทด้วยในตัว ))
ถ้าหากแผนการเป็นแบบนี้ เราว่าท่านพระราชาฟารัคเป็นคนที่รักครอบครัวตัวเองมากเลยนะต้องคอยจัดการปัญหามากมายและต้องเป็นการแก้ปัญหาที่เน้นไปถึงความมั่นคงของอนาคตลูกหลานด้วย  :L2:  :katai2-1:

ขนาดตอนนี้ที่ฝั่งเมืองเหนือเพราะที่รัชทายาทเจิ้นเทียนโดนมเหสีองค์รองวางยาก็น่าจะเพราะอยากให้ลูกของตัวเองได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทแทน นี่ข้องใจว่าทำไมอิตาผู้เฒ่าไฟถึงกับต้องฆ่าเสนาหลี่นะ มันมีปมขัดแย้งอะไรถึงขนาดที่ต้องสั่งให้มาฆ่า หรือเพราะว่าทางเจิ้นเทียนจับได้ว่าอิตาเสนาหลี่สมคบคิดกับมเหสีองค์นี้ แล้วถ้าอย่างนั้นคนของท่านฟารัคที่แฝงตัวอยู่ที่เมืองเหนือแล้วโดนฆ่าก็ต้องมีอีกฝ่ายหรือเปล่า หรือรวมอยู่ใน2กลุ่มนี้ (โอโห นี่เราคิดปมซับซ้อนไปไหนนี่ )

ในตอนหน้าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเด็ดแล้วแน่ๆ ลุ้นใจระทึก ว่าท่านฟารัคมองเห็นอะไรในความคิดของท่านเชมัล อาเม่ยจะเป็นอย่างไรเมื่อเข้าไปที่เมืองเหนือและอาเก้าเราจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 09-12-2015 09:43:15
โอ๊ยยยยยยยยย ตอนหน้าจะบู๊กันแล้วใช่มั้ย
ขอให้ทุกคนปลอดภัยกลับมานะ ขออย่าให้มีใครเป็นอะไรไปอีกเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 09-12-2015 09:50:52
ขอบคุณค่ะ พี่ไจฟ์ น้องที สำหรับตอนใหม่..

อ่านถึงตอนนี้แล้ว รู้สึกสงสารพระราชา ใครๆก็กำลังจะมีคู่ แต่พระราชากลับมีคู่ที่ไม่ดีอยู่ข้างตัว คิดโค่นล้มตลอดเวลา น่าฉงฉาน...555+ แต่ก็นะ..เจ้าแผนการนัก ก็สมควรแล้วที่จะต้องคอยบริหารความคิดต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-12-2015 10:58:10
มีอีกหลายเรื่องที่ยังต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-12-2015 12:53:40
ท่านปู่ก็ใช่ย่อยนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 09-12-2015 13:21:38
ตั้งหน้าตั้งตารอศึกใหญ่ที่กำลังจะมาเลย
แต่ก็อดห่วงเม่ย และคนใกล้ตัวเม่ยไม่ได้
ถ้าเม่ยทำไรไม่รู้ตัวจะทำไงเนี่ย

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 09-12-2015 17:25:40
จองที่ไว้ก่อน  :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-12-2015 21:16:54
เม่ยไปเมืองเหนือคราวนี้จะมีเรื่องอะไรรึเปล่านะ!?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-12-2015 13:19:01
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 10-12-2015 14:25:44
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
อ่านแล้วคิดตาม  คนมีอำนาจ มีวิชา ถ้าใช้ในทางที่ดีงาม ถูกต้อง จะเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก
แต่ถ้าใช้ในทางที่ผิด ก่อให้เกิดความทุกข์กับส่วนรวม
เมื่อไหร่อาเม่ยจะหมดไอดำสักที  ใครจะมารักษาอาเม่ย  หรือต้องรอให้จิตใจอาเม่ยเข้มแข็งเอง
สนุกมาก จบตอนแล้วอยากอ่านต่อตอนต่อไปอีก  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 11-12-2015 09:55:51
ถ้าเวทย์ของอาเม่ยหักล้างได้ด้วยความรักและความเชื่อใจในตัวท่านเชมัลเท่านั้นมันก็น่าจะหายได้แล้ว
เพราะตั้งแต่ที่ท่านเชมัลมาอยู่ด้วยที่บ้านนี้ก็แสดงให้เห็นและอาเม่ยยอมรับว่าเชื่อใจแล้วนี่นา
นี่เวทย์นั้นยังคงเหลืออยู่ จะมีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ไปเมืองเหนือไม๊น๊อ  :ling3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 11-12-2015 10:52:27
เรารู้สึกตัวเองหลงรักตัวละครรองของคุณไจฟ์กับน้ำชามากๆเลยค่ะ
อย่างเรื่อง Never Let You Go ก็หลงรักเอก
เรื่องนี้เราก็หลงรักเก้า
เฮ่อออออออ
บางทีถ้าทุกคนปล่อยให้เก้าได้ใช้ชีวิตของตัวเองบางคงดี
มีแต่คนชอบบงการชอบเอาเปรียบเก้า
แอบคิดว่าราชาหลงรักเก้าหรือเปล่าเจ้ากี้เจ้าการเกิน
ส่วนนาซิมก็ชอบบังคับ แต่เราก็ชอบนาซิมนะ 555
สนุกมากๆเลยค่ะ ><
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 11-12-2015 16:07:35
พระราชารักน้องชายมากกว่ารักคนอื่น ยอมเสียสละให้น้องเสมอ(อันนี้คิดแบบมองโลกในแง่ดี) แต่อีกแง่นึงคือการยกเก้าให้นาซิมจะเป็นการดีอย่างยิ่ง เพราะนาซิมรักเก้า ซึ่งจะส่งผลให้นาซิมภักดีไม่มีเสื่อมคลาย นาซิมจะรบจนสุดความสามารถ ดูยังไงพระราชาก็ยังเจ้าเล่ห์อยู่ดีอ่ะ 5555 แล้วเก้าจะเลือกใครกันน๊อ??
ส่วนต้าซันผู้น่าสงสารรักเค้าข้างเดียว สู้ๆนะตะเอง ตอนย้ายเข้าไปในวังอย่าลืมไปกล่อมเก้าให้เลือกนาซิมนะลูก เดี๋ยวป้าให้ตังค์กินขนม :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 11-12-2015 17:50:12
อาเม่ยไปกับพี่เช ปลอดภัยกลับมาหาพี่ต้าซันนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 14-12-2015 10:17:22
 :a12: แวะมารอแบบสงบเสงี่ยม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 14-12-2015 18:47:15
มาบวก ตอนใหม่จะมาอยู่ล่ะ เพิ่งได้เข้ามา ฮา :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 14-12-2015 18:50:04
ศึกช้างชนช้างมารอแล้ว
หวังว่าจะไม่มีใครเป็นอะไรหนักหนา
เม่ยต้องไปด้วยนี่กังวลแทนพี่เชเลย
อย่าเผลอแปลงร่างนะลูก
แต่ที่แน่ๆ พระราชาฟารัค สุดยอดของคนเจ้าเล่ห์อะ  :a2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 14-12-2015 19:38:44
อาเม่ยจะควบคุมตัวเองได้หรือเปล่าหนอ   :ruready
รอๆ ตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 15-12-2015 17:31:16
มาแปะไว้รอเน้อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-12-2015 20:36:14
แวะมาส่อง

มารอจ้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 15-12-2015 20:58:32
แวะมาส่องพี่เชขา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่37 หน้า37(8ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-12-2015 21:11:27
มารอด้วยอีกคน :katai5:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 16-12-2015 06:59:09
ตอนที่ 38

พระราชาเสด็จกลับเมืองหลวง หลังมีรับสั่งอีกครั้งว่ารู้สึกเสียพระทัยที่ต้องเร่งรัดทั้ง 2 คนให้ต้องเดินทางไปเมืองเหนือทั้งที่ตระหนักดีว่า อาเม่ยยังไม่มีความพร้อม
"ต่อให้ข้าวางแผนสำรองไว้มากมาย สุดท้ายกลับต้องมารบกวนพวกเจ้าอยู่เสมอ ข้าขอโทษพวกเจ้าจากใจจริง"

ทั้งแม่ทัพเชมัลและอาเม่ยต่างรู้ว่าพระองค์ลำบากพระทัย และรู้ดีว่า ไม่ควรถ่วงเวลาอีกต่อไป
เมื่ออยู่ตามลำพัง แม่ทัพเชมัลจึงกล่าวกับอาเม่ยด้วยความกังวล
"หากน้องยังไม่พร้อม พวกเรายังพอจะมีหนทางอื่น"
อาเม่ยเพียงส่ายหน้าเพราะไม่เห็นว่าจะมีทางอื่น ในเมื่อทุกคนพูดชัดเจนว่า มีแต่แม่ทัพเชมัลที่จะต้องรับหน้าที่นี้
"น้องก็เข้าใจเรื่องหน้าที่และความกังวลของท่านพี่ ยิ่งมาถึงขั้นที่พระราชาเสด็จมาด้วยพระองค์เองเช่นนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่านี่เป็นเรื่องจำเป็น แล้วที่จริงพระองค์ก็คงอยากจะให้ท่านพี่ออกรบตั้งแต่คราที่ไปตามพวกเรากลับมาจากเกาะ แต่น้องก็กลับทำเสียเรื่องเสียเวลามาตลอด"

...ยิ่งท่านดีต่อข้ามากเท่าใด ข้าก็ยิ่งกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเท่านั้น..

"อย่าคิดเช่นนั้น พี่เองก็ไม่อาจตัดใจจากน้องไปเพียงลำพังเช่นกัน"
อาเม่ยตัดสินใจ "น้องจะไปคุยกับพี่ใหญ่"
แม่ทัพเชมัลทำเสียงในลำคอดั่งเป็นคำถาม อาเม่ยจึงกล่าวอธิบาย "สุดท้ายแล้ว น้องต้องยอมรับความจริง ว่านี่คือหน้าที่ของท่านพี่ ทางเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ ก็คือน้องต้องละทิ้งความกังวลว่าเวทย์ดำนั้นอาจหวนกลับมา และน้องอาจทำร้ายผู้อื่นอีก"

ทั้งในวันนี้ อาเม่ยยังได้เห็นแล้วว่า แม่ทัพนาซิมเองก็พยายามอย่างยิ่งที่จะฝืนตนเองเพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะที่ตนเองนั้นกลับนับว่าโชคดีมากกว่า เพราะได้รับความเมตตาจากพระราชาฟารัค ไปจนถึงพระราชาเมืองบาสก์ ผู้เฒ่าดิน โดยเฉพาะแม่ทัพเชมัลที่ต่างก็พยายามให้กำลังใจอย่างเต็มที่
ตนเองเสียอีกที่คิดกังวล คอยแต่จะหลีกเลี่ยง และหลบหนี

"ดังนั้น..."
"ดังนั้นน้องจะไปด้วย"
แม่ทัพเชมัลกอดอาเม่ยไว้แน่น
"ขอบใจมาก พี่ติดค้างน้องมากเหลือเกิน"
อาเม่ยซุกหน้ากับอกกว้าง แล้วผละออก "น้องจะไปคุยกับพี่ใหญ่"
"พี่ไปด้วย" ไม่รอให้น้องคัดค้านก็รีบกล่าวต่อ "พวกเราสมควรร่วมกันผิดชอบต่อพี่ใหญ่ด้วยกัน"

..มีเรื่องให้ต้องกังวลและติดค้างผู้คนมากมายจนหนักใจ...
คงเพราะแม่ทัพแสดงความรู้สึกกังวล และรู้สึกผิดออกมาอย่างชัดเจน อาเม่ยจึงจับข้อมือหนาไว้
"น้องเชื่อ..ว่าท่านพี่จะสามารถพาพวกเราผ่านพ้นเรื่องราวพวกนี้ไปได้ด้วยดี"
แม่ทัพเชมัลจูบที่หน้าผากคนกล่าวคำให้กำลังใจ
"เจ้ามันช่างฉลาดกล่าวคำ"

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ใช่ว่าแม่ทัพเชมัลจะไม่มีแผนการบุกเมืองเหนือ แต่ในทุกแผนที่วางไว้ กลับไม่มีอาเม่ยร่วมอยู่ด้วยแม้แต่แผนเดียว
เพราะที่นั่นคือเมืองเหนือ เมืองแห่งผู้ใช้เวทย์ดำที่อาจมีสิ่งปลุกเร้าให้ผู้ที่เคยถูกเวทย์ดำหันมาทำร้ายผู้อื่น หรือทำร้ายตนเองได้ตลอดเวลา
ทั้งอาเม่ยและแม่ทัพนาซิมต่างก็เป็นกังวลในเรื่องนั้น
พระราชาฟารัคจึงกำชับให้แม่ทัพนาซิมกำจัดบรรดาอสูร และผู้ใช้เวทย์ดำที่อยู่ในเขตป่านอกเมือง มิได้ให้เข้าไปในเมือง เพราะลำพังอาเม่ย หากถูกเวทย์ดำครอบงำก็ยังมีแม่ทัพเชมัลที่อยู่ใกล้ๆ คอยควบคุมไว้ แต่แม่ทัพนาซิมมีเวทย์ที่แข็งกล้ามากกว่าอาเม่ย จะหาผู้ใดไปทำหน้าที่คุ้มครอง....ไม่มีเลย

นอกจากนี้ เรื่องที่อาเม่ยจะทำร้ายผู้อื่น แม่ทัพเชมัลมิได้ใส่ใจ แต่หากอาเม่ยทำร้ายตนเองจะป้องกันได้อย่างไร
นั่นคือความคิดแรก
ส่วนความคิดในลำดับต่อมา ที่ต้องคิดกันใหม่ ก็คือการที่ต้องมีอาเม่ยติดตามไปด้วย ตามที่เจ้าตัวกล่าวขึ้นมาในครั้งนี้ แผนการในใจต้องกำหนดขึ้นใหม่
แต่ทุกแผนล้วนหมายถึงความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น
และไม่แน่ว่า นี่อาจเป็นการบุกโจมตีครั้งสุดท้าย!
พลันที่อาเม่ยกล่าวคำที่แสดงถึงความเชื่อมั่นว่า แม่ทัพเชมัลจะพากลับมาได้ กลับยิ่งต้องวางแผนให้รอบคอบกว่าเดิม
ทั้งอาจต้องใช้คนมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่มีความถนัด
แม่ทัพเชมัลแห่งเมืองวัน ถนัดการใช้กำลังพลเพียงหยิบมือ และการจัดการที่รวบรัด ไม่เคยเลยสักครั้้งที่จะต้องเดินเข้าสู่สนามรบด้วยความกังวลเช่นนี้...

นอกจากนี้ยังมีคำกล่าวของผู้เฒ่าดินที่ทำให้สะดุดใจ
ดินกับไฟที่เอาชนะกันไม่ได้
ผู้เฒ่าอาจมีแผนการในใจ
จะเป็นแผนการใดๆ แม่ทัพเชมัลยอมรับได้ แต่หากจะเป็นแผนการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย นี่เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้!
ดวงตาสีเข้มมองคนที่ยิ้มให้กำลังใจ
"พี่จะพาทุกคนกลับบ้าน"
อาเม่ยพยักหน้า เขย่งปลายเท้าจูบที่แก้มสาก "ไปหาพี่ใหญ่กัน"

เมื่อออกมาดูที่บ้านหลังใหญ่ พบว่าต้าซันยังไม่เข้านอน แต่ไปอยู่ที่โรงม้าด้านหนัา ขณะที่ผู้เฒ่าดินเดินช้าๆ อยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ 
"ผู้เฒ่าไม่เคยอยู่ที่หมู่บ้านนานเช่นนี้มาก่อน หรือว่าที่นี่ยังไม่ปลอดภัย" อาเม่ยหันมาถามแม่ทัพเชมัล
"ท่านเพียงเดินพลังในยามที่จิตใจสงบ ส่วนเรื่องเวทย์ดำที่แฝงเร้นอยู่ที่นี่พี่จัดการมันไปแล้ว"
อาเม่ยเพียงหรี่ตามอง แม่ทัพก็รีบกล่าว "จริงๆ ไม่เหลือไว้เลยสักนิดเดียว พี่กับราชองครักษ์เดินสำรวจรอบหมู่บ้านกันละเอียดขนาดนี้"
อาเม่ยแสร้งทำท่าว่ายังไม่ไว้ใจ แม่ทัพก็ย้ำอีกครั้ง
"รับรองว่าไม่มีแล้ว"
กล่าวคำรับรองอยู่หลายครั้ง จนเมื่อเดินไปถึงโรงม้า คนตัวเล็กจึงเรียกพี่ชาย "พี่ใหญ่ รอท่านผู้เฒ่าหรือ"
คนที่ถูกเรียกกำลังให้ข้าวโพดเลี้ยงแพะแก่ตัวนั้น และถอนหายใจหนักๆ ก่อนที่จะตอบคำถาม "ฮื่อ เราเป็นเจ้าบ้าน ทั้งผู้เฒ่าอายุมากแล้วจะเข้านอนก่อนได้อย่างไร" พี่ชายหันมามองน้องชายแล้วมองเลยไปหาแม่ทัพที่เดินตามมาด้วย "พวกเจ้าช่างไม่ยุติธรรมต่อข้าเลยสักนิด"
"พี่ใหญ่" อาเม่ยเรียกคำเดิม ขณะที่นั่งลงข้างๆ
ต้าซันไม่รอให้น้องชายกล่าวคำก็ต่อว่าทันที "เวลาที่พวกเจ้า 2 คนสัญญาต่อกันว่าจะไม่ทิ้งกัน พวกเจ้ารักษาสัญญานั้นอย่างจริงจัง แต่กับข้าที่เป็นพี่ชาย เจ้าไม่สนใจคำสัญญาของข้าเลยสักนิด"
"พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านเป็นกังวล แต่ข้าก็ตั้งใจไว้ว่าจะกลับมารับท่านไง"
"หากเจ้ากลับมา นั่นก็เพราะเจ้าตามรับสั่งของพระราชา ไม่ใช่เพราะสัญญาที่พวกเราจะไม่แยกจากกันอีก" ต้าซันมองเมล็ดพืชในมือ "ถึงข้าจะเป็นคนธรรมดา ข้าก็รู้ว่าเจ้าตั้งใจที่จะทิ้งชีวิตไว้ที่เมืองเหนือ"

อาเม่ยไม่ได้ชี้แจงคำกล่าวของต้าซันที่ช่างตรงกับที่ใจกำลังคิดอยู่
คนที่เป็นพี่ชายปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
"ผู้เฒ่าไฟฆ่าพ่อของเรา ฆ่าคนทั้งหมู่บ้าน บังคับให้เจ้าฆ่าคนมากมาย หากข้าเจอเขา ข้าก็ต้องเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตกับเขาเช่นกัน แล้วแม่ทัพเชมัลที่ผูกความแค้นกับรัชทายาทมาอย่างยาวนาน ซ้ำด้วยการที่พวกมันทำร้ายเจ้าอีก เขาย่อมแลกชีวิตกับพวกมันเช่นกัน"
"ไม่จำเป็นต้องมีพระบรมราชโองการใดๆ ข้าก็รู้ว่า สุดท้ายแล้วพวกเจ้าต้องไป เพียงแต่เมื่อพระราชาเสด็จมาด้วยพระองค์เอง แสดงให้เห็นว่า พวกเราไม่อาจรั้งรอไว้ได้อีกต่อไป" ดวงตาซื่อๆ ของต้าซันหันไปมองผู้เฒ่าดิน "ตอนที่แม่พาข้าหนีไปเมืองหลวง แม่บอกว่า ทันทีที่พ่อพาเจ้าไปฝากไว้กับผู้เฒ่าบนเขา ก็เท่ากับแม่เสียเจ้าไปแล้วตลอดกาล แต่ข้าไม่เชื่อ ข้าตั้งใจไว้ว่าจะพาน้องกลับมา เจ้าจะมีพลัง จะมีเวทย์อันใดก็ตาม เจ้าก็แค่เด็กที่เล่นอะไรไม่เหมือนกับคนอื่น เป็นน้องของข้าตลอดไป ข้าเพียงอยากทำตามความตั้งใจนี้ เสียดายที่ข้าได้ทำหน้าที่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น"

"พี่ใหญ่ เวลานี้ข้าไม่ได้เป็นเด็กเล็กๆ ที่นั่งเล่นใบไม้อยู่หลังครัวอีกต่อไปแล้ว แต่ข้าควบคุมลม" จากระยะไกล อาเม่ยเพียงชี้นิ้วไปที่ตะเกียง ไฟนั้นก็เคลื่อนไหวไปตามมือ "และข้าบังคับไฟ"
ต้าซันหันมามองน้องชาย ดวงตาแดงช้ำ กัดริมฝีปากไว้แน่น
"แต่ไม่ว่าอย่างไร ท่านก็ยังเป็นพี่ชายของข้า" อาเม่ยเอียงหน้าพิงไหล่ของพี่ชาย
ทั้งที่อาเม่ยเป็นผู้ที่มีพลังทั้ง 4 ส่วนต้าซันเป็นผู้ปราศจากพลังพิเศษใดๆ แต่เมื่ออยู่เคียงข้างกันอาเม่ยกลับมีรูปร่างที่เล็กกว่าต้าซันอยู่มาก
"ในช่วงเวลาหลายปีที่ข้าฝึกเวทย์มากมาย แทนที่ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ข้ากลับเหมือนต้นไม้ที่มีมอดกินเนื้อไม้อยู่ภายใน การทำร้ายคนอื่นเท่ากับการทำร้ายตนเอง ทำให้ข้ากังวล และไม่มีความมั่นใจ ว่าข้าจะกลับมา" ความรู้สึกของคนที่เป็นพี่ชายนั้นถูกต้อง อาเม่ยมากล่าวลา และไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่เมืองวันอีกจริงๆ "แต่.....ทั้งหมดนี้ เมื่อข้าคิดไปถึงช่วงเวลาที่ทุกคนมองว่าข้าแตกต่างจากคนอื่น ข้าจำได้ว่า ข้ามีท่านอยู่ใกล้ๆ เสมอและ...มีเพียงท่านคนเดียวที่นั่งมองข้าเล่นใบไม้ ชื่นชมว่าข้าเก่ง..."
บางคำในประโยคของอาเม่ย ทำให้ต้าซันเป็นห่วงความรู้สึกของแม่ทัพที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง
"อันที่จริง ไม่ได้มีแต่ข้าเพียงคนเดียวที่ดีต่อเจ้านะ แม่ทัพก็ดีต่อเจ้ามากเช่นกัน"
อาเม่ยส่ายหน้า ไม่ได้กล่าวคำที่ยังคงติดค้างอยู่ในใจ

"เม่ย" จู่ๆ น้ำตาของต้าซันก็เหือดแห้ง โอบกอดน้องชายไว้แน่น "อย่าได้คิดว่ามีเจ้าอยู่เพียงลำพัง" พี่ชายกล่าวให้กำลังใจ "ทิ้งความน้อยใจที่จะทำให้ตนเองถดถอยแบบนั้นไว้ที่ข้า เอาความขลาดกลัวนั้นไว้ที่ข้า และหากข้าจะมีส่วนที่ดีอยู่บ้างก็เอามันไป"
"ใครจะทำได้" อาเม่ยพลอยยิ้มตามคำกล่าวของพี่ชาย แม้ในเวลาเช่นนี้ สุดท้ายแล้วต้าซันก็ยังทำให้ยิ้มได้
"ทำได้สิ เจ้าเป็นน้องชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดของข้า" ต้าซันเช็ดน้ำตาของตัวเองอีกครั้ง "นะ อะไรที่คิดว่าดี ข้าให้เจ้าหมดเลย"
"พี่ใหญ่...." อาเม่ยกอดพี่ชายไว้แน่น "ข้าเป็นห่วงท่านนะ"
"ข้ามีอันใดให้ต้องห่วง" ต้าซันเถียง "ข้าไม่ต้องออกไปสู้รบ ไม่ทะเลาะวิวาทกับผู้ใด เจ้าต่างหากที่เที่ยวไปต่อยตีกับผู้คนมากมาย"
"นี่ตกลงในสายตาท่าน ข้าเป็นผู้ใช้เวทย์ หรือเป็นนักเลงกันแน่"
"เป็นน้องชายขี้กลัว" ต้าซันกล่าวอย่างหนักแน่น จนแม่ทัพเชมัลที่ยืนฟังคำสนทนาก็ต้องหัวเราะเบาๆ ให้อาเม่ยหันไปส่งค้อน
"แต่เอาเถอะ" ต้าซันกล่าวต่อ "สนทนากันมากมายยืดยาว จะอย่างไรพวกเจ้าก็ต้องไปอยู่ดี"
"พี่ใหญ่"
"ข้าแค่ขอว่า เจ้าต้องกลับมา"
อาเม่ยพยักหน้า "ตอนที่พระราชาเสด็จมา ข้าก็คิดอย่างที่พี่ใหญ่พูดมาจริงๆ เพราะข้าไม่รู้เลยว่า ข้าจะทำร้ายใครอีกเมื่อไหร่ หากแลกชีวิตกับพวกมันแล้วเรื่องร้ายๆ สงบลงได้ข้าก็จะทำ จนถึงเมื่อครู่นี้ที่พูดคุยกับท่านพี่ ข้ากลับมีความเชื่อมั่น ว่าข้าจะต้องมีชีวิตกลับมา"
ต้าซันกอดน้องชายไว้แน่น หยาดน้ำตายังไหลเป็นสาย

"แล้ว...พี่ใหญ่จะกลับไปเมืองหลวงหรือจะรอพวกเราอยู่ที่นี่ หากท่านจะไปเมืองหลวง พวกเราก็จะไปส่งท่านก่อน" อาเม่ยถาม
ต้าซัน แต่ต้าซันกลับหันไปขอความเห็นแม่ทัพ
"ท่านอยู่ที่นี่ตามลำพังย่อมไม่ดีแน่นอน แต่หากให้กลับไปอยู่บ้านหลังเดิมในเมืองหลวง สายลับเมืองเหนือที่อยู่ในเมืองอาจส่งข่าวไปแจ้งฝ่ายเหนือ เรื่องความเคลื่อนไหวของพวกเรา"

ต้าซันถูกคนของเมืองเหนือจับตามองมาตั้งแต่ก่อนที่อาเม่ยจะเดินทางเข้าเมืองหลวงเสียอีก ดังนั้นต้องหาที่แห่งใหม่ให้ต้าซันพักอยู่ด้วย

ยามรุ่งเช้าผู้เฒ่าดินออกเดินทางไปเมืองเหนือล่วงหน้า 
แต่ในช่วงกลางดึกของวันถัดมา แม่ทัพเชมัล และอาเม่ยพาต้าซันไปที่บ้านพักของราชองครักษ์ลาทีฟ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเวทย์รักษา ทั้งหมดทำความตกลงกัน หากจะมีคำถามว่าที่ผ่านมาต้าซันไปอยู่ที่ใดมา
ข้อตกลงเหล่านี้ไม่มีเรื่องใดที่น่าเป็นกังวลมากไปกว่านิสัยส่วนตัวของราชองครักษ์เอง
"ข้ามักทำงานจนหลงลืมเวลา จนกลายเป็นทิ้งลูกสาวให้อยู่กับคนรับใช้ในบ้าน มีต้าซันมาอยู่ด้วยอีกคน น่าจะเป็นการช่วยแบ่งเบาข้ามากกว่าการเป็นภาระ ส่วนเรื่องคำพูดและท่าทีของคนในบ้าน รุ่งเช้าข้าจะบอกกับพวกเขาพร้อมๆกัน"
ราชองครักษ์ผู้เชี่ยวชาญทางยาผู้นี้ เป็นผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำงานจนหลงลืมการดูแลตนเองชนิดที่ไม่มีผู้ใดในเมืองวันที่ไม่ล่วงรู้
แต่ก่อนที่ทั้งแม่ทัพเชมัล และอาเม่ยจะจากมา ต้าซันขอเวลาในการพูดคุยกับน้องชายอีกครั้ง

"ผู้คนยกย่องผู้ที่พลีชีพในสนามรบว่าเป็นวีรบุรุษก็จริง แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากทุกคนพากันเป็นวีรบุรุษด้วยการเอาชีวิตไปทิ้งไว้ในสนามรบ ที่พวกเรายังมีลมหายใจ และยังมีเมืองวันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะยังมีคนที่รู้จักการวางแผน และหลีกเลี่ยง คนที่จำต้องกลืนเลือดตนเองจากการถูกกล่าวประณาม ข้าไม่มีคำอวยพรใด นอกจากคำขอให้เจ้าให้เวลากับการคิดเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าให้มากกว่าการคิดย้ำอยู่กับเรื่องราวในอดีต" 

อาเม่ยกอดพี่ชายไว้แน่น "ข้าจะจดจำไว้เสมอ"

จากนั้นทั้ง 2 คนจึงลอบออกมาจากบ้านของราชองครักษ์ลาทีฟ เมื่อออกมาถึงนอกเมือง ก็ปล่อยม้าของแม่ทัพเชมัลที่ผูกไว้ให้เดินกลับไปที่ค่ายทหารเอง

3 วันถัดมา จึงมีผู้พบต้าซันเดินอยู่ในตลาด แล้วไปเก็บข้าวของเครื่องใช้มาจากบ้านหลังเก่า บอกขายบ้าน และใน 1 สัปดาห์จากนั้นจึงกลับเข้าไปทำงานที่กองดนตรีในพระราชวังดังเดิม
ลือกันว่า หลังจากที่ต้าซันพาน้องชายหลบหนีไป ก็กลับถูกน้องชายทอดทิ้งไว้ ด้วยความที่คนหนึ่งเป็นผู้ปราศจากเวทย์ แต่อีกคนเป็นผู้มีเวทย์กล้าแข็ง ต้าซันผู้ไม่เคยพบเจอกับความยากลำบากจึงกลับมาที่เมืองหลวง รับโทษคุมขังในเรือนจำอยู่ระยะหนึ่ง ก็ถูกลดโทษให้มาเป็นคนรับใช้ที่บ้านของราชองครักษ์

"ท่านอาถูกท่านอาเม่ยทิ้งไว้กลางทางจริงหรือเจ้าคะ" ท่านหญิงลาทิฟา ธิดาวัย 7 ขวบของราชองครักษ์ลาทีฟถามขณะที่ต้าซันกำลังสอนหนังสือ
คนอารมณ์ดียิ้มกว้าง "เรื่องราวเป็นเช่นนั้นแหละ"
"นั่นเพราะท่านไม่มีเวทย์หรือเจ้าคะ"
ต้าซันยอมรับ
ท่านหญิงลาทิฟาจึงกล่าวให้กำลังใจ "ไม่มีเวทย์ไม่ใช่ข้อด้อยนะเจ้าคะ ท่านลุงมีอา เคยกล่าวไว้ว่า บรรดาผู้มีเวทย์เข่นฆ่ากันเอง สุดท้ายคนที่ไร้เวทย์จะเป็นผู้ครองเมือง"
"จริงหรือ" ต้าซันทำตาโต ทั้งที่ใจเต้นแรงกว่าเดิมเมื่อได้ยินชื่อของราชองครักษ์มีอา
ท่านหญิงใช้สองมือปิดปากขณะที่หัวเราะคิกคัก "จะเป็นไปได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ เวลาที่พวกเขาสู้กัน คนธรรมดาอย่างเราย่อมต้องเดือดร้อน"
"แล้วหัวเราะอันใดเนี่ย"
"ก็หัวเราะที่จู่ๆ ท่านก็หน้าแดงน่ะสิเจ้าคะ ข้ากำลังกล่าวถึงผู้มีเวทย์ ท่านก็กลับหน้าแดง มันตลกมากเลยนะเจ้าคะ"

....อ่า.....ท่านหญิงลาทิฟา แม้จะยังเป็นเด็ก และไม่มีพลังพิเศษใด แต่เพราะบิดาของท่านหญิงคือราชองครักษ์ลาทีฟ ความฉลาดรอบรู้อาจสืบทอดทางสายเลือด ข้าต้องระมัดระวังคำพูด และการแสดงท่าทีมากกว่าเดิม....

"ท่านอาเป็นคนขี้อายหรือเจ้าคะ"
"ไม่หรอก ขี้อายจะเล่นดนตรีต่อหน้าคนมากมายได้อย่างไร"
"แล้ว ท่านเล่นดนตรีได้กี่อย่างเจ้าคะ ร้องเพลงได้ไหมเจ้าคะ เขียนโคลงกลอนได้ไหมเจ้าคะ"
...ฯลฯ...


ทหารยามเข้ามาแจ้งว่า องค์ชายน้อยดาริมแห่งแม่ทัพนาซิม นำนางข้าหลวงเข้ามาที่ค่ายทหาร ทำให้ต้นห้องเก้าเงยหน้าขึ้นจากสมุดรายงานมากมายที่อยู่ตรงหน้า แล้วลุกขึ้นมาต้อนรับ
"ท่านเก้า" องค์ชายน้อยวัย 10 ชันษาทักขึ้นเมื่อต้นห้องเก้าทำความเคารพ "ท่านไม่ได้เข้าวังมาหลายวันแล้ว"
"ขอรับ พอดีมีรายงานและเรื่องราวให้ต้องเตรียมการมากมาย จึงต้องอยู่ที่ค่ายทหารนี้ มิทราบว่าองค์ชายน้อยมีกิจอันใด"
"กิจสำคัญของข้า ก็คือการส่งของจากบิดาให้กับท่าน"
องค์ชายน้อยดาริมแห่งแม่ทัพนาซิม ยังคงเป็นผู้ที่ถอดนิสัยทื่อๆ ของผู้เป็นบิดามาได้อย่างคงเส้นคงวา ต่อให้มาอยู่ในพระราชวังนานหลายเดือน ก็ยังคงเป็นผู้ที่กล่าวถ้อยคำไม่ต่างจากผู้เป็นบิดา
สิ่งของที่นางข้าหลวงถือมา คือกล่องหลายใบที่ต้นห้องเก้าได้แต่ยืนมอง
"ท่านพ่อคัดเลือกสิ่งของเหล่านี้ให้ท่าน ด้วยมือของท่านพ่อเอง ดูก่อนว่าชอบหรือไม่"
ยังไม่ทันที่ต้นห้องเก้าจะกล่าวตอบ และยังไม่ทันจะได้รับสิ่งของมา ประตูห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง ครานี้เป็นองค์ชายฮัมซา ซึ่งเป็นว่าที่รัชทายาทแห่งเมืองวัน
"เดินเร็วจริง"
ต้นห้องเก้าต้องคุกเข่าถวายความเคารพ
"ต้นห้องไม่สบายหรือ" องค์ชายฮัมซาวัย 15 ชันษาหันมาถาม
"ข้าพระองค์มีงานที่ต้องสะสาง"
"ต้นห้องอันใด ไม่เข้าวังแต่อยู่ในค่ายทหาร" องค์ชายฮัมซาตำหนิต้นห้องเก้า แต่กลับหันไปหาผู้อ่อนอาวุโสกว่า "ส่งของเสร็จแล้วก็กลับสิ"
องค์ชายน้อยแห่งแม่ทัพนาซิม มีท่าทางดั่งต้องการกล่าวคำบางอย่าง แต่ติดที่มีผู้คนมากมายอยู่ในห้อง ทั้งเวลานี้ ราชองค์รักษ์มีอายังตามเข้ามาในห้องทำงานอีกคน
"ท่านเก้า" องค์ชายน้อยวัย 10 ชันษากล่าวด้วยเสียงหนักๆ
"ขอรับ"
"มีข้อความจะฝากไปถึงท่านพ่อไหม"
"อ่า...." ต้นห้องไม่รู้จะกล่าวคำใด ทำได้เพียงส่ายหน้า
ขณะที่องค์ชายฮัมซากระแทกเสียงหัวเราะในลำคอ
"แต่ข้ามีข้อความจากพระราชบิดามาให้ท่าน"
"ขอรับ"
"พระราชบิดารับสั่งว่า เสร็จงานที่นี่อย่าลืมเข้าวังไปให้ท่านตรวจอาการ"
"ขอรับ"
ครานี้มีเสียงหัวเราะเบาๆ จากองค์ชายน้อย
ก่อนที่ความขัดแย้งในห้องทำงานนี้จะลุกลาม ราชองครักษ์มีอาก็ขัดขึ้น
"ต้นห้องมีงานต้องเร่งสะสาง หากยังสนทนาอยู่ก็จะยิ่งเสียเวลาที่จะได้เข้าวัง"
องค์ชายทั้ง 2 พระองค์มองหน้ากันดั่งจะเกี่ยงให้อีกคนต้องออกไปก่อน ต้นห้องเก้าจึงเดินนำไปส่งถึงหน้าค่ายทหาร
"ข้าพระองค์จะรีบทำงานให้เสร็จ แล้วจะไปถวายการรับใช้ ต้องขออภัยองค์ชายทั้ง 2 ที่ทำให้ต้องเสียเวลา"

เมื่อองค์ชายทั้ง 2 พระองค์ขึ้นรถม้ากลับไปที่พระราชวัง ต้นห้องเก้าถึงกับถอนหายใจหนักๆ
...ผู้เป็นบิดาว่าร้ายกาจ บุตรชายทั้ง 2 ก็ร้ายกาจ...ไม่ต่างกัน..

"ถ้าไม่เร่งตัดสินใจให้แน่ชัด เจ้าก็จะต้องถอนหายใจเช่นนี้อยู่ร่ำไป"
ต้นห้องเก้าเพียงก้มหน้าตอบราชองครักษ์มีอา
"ข้าตัดสินใจไปนานแล้ว บอกกล่าวไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีใครฟังคำพูดของข้าเลยสักครั้ง"
"ท่านต้นห้อง"
"มันเหมือน....ทุกสิ่งที่ข้าเลือกมันผิด แล้วก็ต้องเลือกใหม่จนกว่าจะถูกใจผู้อื่น"
ราชองครักษ์มีอาต้องพลอยถอนหายใจหนักๆ ตามไปด้วย


*-*

การเดินทางจากเมืองหลวงไปยังเมืองหน้าด่าน ย่อมไม่อาจใช้ถนนหลวง
แม่ทัพเชมัลหันกลับมามองคนที่เดินตามมาโดยทิ้งระยะห่างไว้ 2 ก้าวตลอดการเดินทาง จนสุดท้ายต้องหันไปจับข้อมือให้เดินคู่กัน
มีเรื่องร้อนรออยู่ข้างหน้า และมีแต่ความไม่มั่นใจในตนเอง แต่อาเม่ยกลับเชื่อว่า คนที่จับมือให้เดินไปข้างกันจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด

"ท่านพี่"
"อย่างไร"
"น้องมีแผนบางอย่าง ที่คิดว่ามันไม่ค่อยดีสักเท่าใด"
"เช่นนั้นก็ลืมมันไป"
อาเม่ยหันไปยิ้มขำกับต้นไม้ข้างทาง จนแม่ทัพเชมัลต้องดึงจมูกเล็กเบาๆ
"ก็รู้อยู่แล้วว่า พี่ต้องไม่เห็นด้วย แล้วยังจะเสนอมาอีก"
"แล้วแผนของท่านเล่า"
"แผนของพี่ก็คือ ย่องเข้าไปแล้วป่นรัชทายาทเจิ้นเทียนให้เป็นผุยผง" คนกล่าว กล่าวอย่างมั่นใจ แต่คนฟังอ้าปากค้าง
"แผนนี้ไม่มีอันใดซับซ้อน เหตุใดเจ้าดูงุนงง"
"ก็...ขั้นตอนในการย่องเข้าไป ขั้นตอนในการป่นเป็นผุยผงเล่า"
"ย่องก็คือ ไม่ให้พวกมันรู้ตัว ส่วนตอนที่ป่น..." ยังกล่าวไม่จบคำ คนฟังก็ทำหน้าพองทั้งตีที่แขนใหญ่
"ท่านพี่เป็นแม่ทัพหรือเป็นโจรป่ากันแน่นะ"
"น้องอยากให้พี่เป็นอะไร พี่ก็เป็นเช่นนั้นแหละ"
ทั้งที่กำลังงอนที่แม่ทัพไม่เปิดเผยแผนการ แต่อาเม่ยก็ยังหน้าแดงเรื่อ "จริงจังหน่อยได้หรือไม่ ไม่เห็นหรือไงว่าผู้อื่นเขาเป็นกังวล"
"ไม่เห็นต้องเป็นกังวล" แม่ทัพกล่าวเท็จ "เดี๋ยวพอพบพวกมันก็รู้ได้เองว่าควรทำอย่างไร"
"อย่าบอกนะว่านั่นคือแผนการทั้งหมดของท่าน"
"นั่นคือแผนการทั้งหมดของพี่" แม่ทัพเชมัลยังคงกล่าวคำเท็จอยู่เช่นเดิม


*-*จบตอนที่ 38 *-*

อีก 5 ตอนจะจบแล้วนะตะเอง


น้ำชาศิษย์ป๋าไจฟ์ฮะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 16-12-2015 07:45:07
ปัญหาของเรื่องนี้คือความเชื่อใจกันของตัวละครจริงๆเนอะ อยากให้ถึงวันนึงแล้วอาเม่ยสามารถก้าวข้ามความกลัว ความไม่เชื่อใจในพี่ใหญ่เชมัลได้สักที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 16-12-2015 07:57:29
ตอนนี้ประทับใจความรักฉันท์พี่น้องระหว่างต้าซันกับอาเม่ยค่ะ ดูอบอุ่น มีความห่วงใยซึ่งกันและกัน ส่วนความรักของแม่ทัพกับอาเม่ย ก็ดูน่ารัก ราบรื่น ถ้อยทีถ้อยอาศัย   :กอด1:

ต้าซันแอบมีใจให้องครักษ์มีอา แต่ดันกลับมาอาศัยอยู่กับองครักษ์ลาทีฟ แล้วเมื่อไหร่ต้นรักของต้าซันกับมีอาจะเติบโตล่ะนี่ หวังว่าจะไม่มีการผิดฝาผิดตัว กลายเป็นคนเลี้ยงลูกให้องครักษ์ลาทีฟไปซะนะคะ 555+

อ่านเรื่องขององครักษ์เก้าในค่ายทหาร แต่ดูแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววว่าเก้าจะสมหวัง และมีความสุขเสียที เศร้าจัง...ต่อมจิ้นดันกำเริบตอนอ่านเรื่องขององค์รัชทายาทกับองค์ชายน้อยดาริมแทน 5555+

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 16-12-2015 09:04:59
อ่า................... เราขอพักเบรคเรื่องหนักๆของรุ่นใหญ่สักพัก
ตอนนี้องค์ชายน้อยทั้งสอง ทำไมน่ารักเยี่ยงนี้เล่า
คล้ายจะชอบเอาชนะกันและกันแต่ทำไมนะมันทำให้เราฟินนนนนนนนนนนน  :oni1:  :oni1:

ดูเหมือนข้อความที่ทั้งสององค์น้อยจะสื่อนี่คือการที่อยากจะได้ต้นห้องเก้าให้อยู่กับพ่อของตัวเองซินะ
ความสุขของเก้าที่เลือกคืออะไรน๊อ.......
การอยู่กับตนเองและเป็นกองหลังเพื่อคอยเป็นกำลังหนุนหลังให้กับคนอื่น (นี่คิดถึงคาเคชิ นินจาก๊อปปี้ที่สุด)
แต่>>>>>> อยากให้เก้ามีคู่ (ฮรือออออออออออออออออออออ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 16-12-2015 09:16:08
 :hao5: :hao5:
น้ำตาซึมให้กับต้าซันเเละเม่ย เป้นพี่น้องที่รักกันมากจริงๆ องค์ชายทั้งสองนี่เเย่งเก้ากันเองชิมิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 16-12-2015 09:49:17
ประทับใจกับความรักของพี่น้องต้าซัน กับอาเม่ยมากๆๆ

 :pig4: :กอด1: :L2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 16-12-2015 10:19:06
พ่อยังไง ลูกก็อย่างนั้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-12-2015 11:11:57
เอาใจช่วยพี่เชกับอาเม่ยและผู้เฒ่าดินจัดการพวกเมืองเหนือให้สำเร็จ :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 16-12-2015 11:59:28
โอ้ย ลุ้นไปกับเก้ายิ่งกว่าการสู้ของเชเม่ยอีก5555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 16-12-2015 12:46:29
อ่านตอนนี้แล้วแบบว่า พี่ไจฟ์กะน้องทีช่วยพาพี่เชกะน้องเม่ยกลับมาด้วยนะคะ555
มันทำใจยากน๊าที่อ่านมาตั้งสามสิบกว่าตอนแล้วสุดท้ายตายหมดอ่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 16-12-2015 12:53:00
 ตั้งแต่อ่านมา เพิ่งรู้ว่า เม่ย เข้มแข็ง 555. เอาล่ะ ไม่ว่าใครจะคู่ใคร รักใคร ไม่รักใคร ขอให้กลับมาครบทุกคน หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นอีกนะ แล้วๆๆๆต้าซันจะใจเต้นแรงกับชื่อ มีอา ทำไม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 16-12-2015 12:56:37
ต้าซันมีความรักที่ยิ่งใหญ่ให้น้องชาย ความรักของพี่น้องคู่นี้เหนียวแน่นมากจริงๆ

ใกล้เผชิญหน้ากันแล้ว แค้นจะได้รับการสะสางอย่างง่ายดายมั้ย ผู้เฒ่ามีแผนอะไรในใจอยู่ อยากรู้จัง

เก้าจะต้องอยู่คนเดียวเหรอ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ขอให้เก้ามีความสุขกับทางที่เลือก (แต่ก็ยังอยากให้มีคู่นะ)

ปล. ต้าซันก็จะอกหักด้วยเหรอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-12-2015 13:07:09
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 16-12-2015 13:31:56
รอลุ้นการรบของพี่เช น้องเม่ย และลืมไม่ได้ผู้เฒ่าดินขิงแก่ :hao3:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 16-12-2015 13:58:08
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

องค์ชายทั้งสอง  คือ ลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นอย่างแท้จริง   :pigha2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 16-12-2015 14:43:56
เป็นห่วงเม่ย ช่วยให้เม่ยกับเชมัลกลับมาอย่างปลอดภัยด้วยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-12-2015 15:17:20
มาแล้วๆขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-12-2015 15:42:55
ปัญหาของอาเหม่ยคือ

ไม่เชื่อมั่นในตัวเองใช่ไหม

ท่านแม่ทัพเชมัล กับ อาเหม่ย ขอให้ทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเถิด...สาธุ....
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-12-2015 16:54:53
ห่วงพวกไปรบ
ห่วงเก้าที่มีตัวลูก ๆ มารบกันแทนตัวพ่อ ๆ
ห่วงหัวใจต้าซัน
ห่วงหมดเลย


หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 16-12-2015 20:23:07
ขอแปะก่อนน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 16-12-2015 20:38:25
ต้าซันถูกทิ้งไว้กลางทาง เห็นประโยคนี้ที่ต้าซันโดนถามถึงกับฮาก๊าก 555
ถึงแม้จะต้องพลัดพราก แต่เราชอบบรรยากาศของเรื่องแฮะ
มีความอบอุ่นของหลายๆความสัมพันธ์ หลายๆอย่างต่องดีขึ้นรวมถึงการเล่อกของเก้าด้วย
หลังสงครามหนีไปอยู่บ้านนอกมั้ย ดูทุกคนจุ้นจ้านจังเลย เอาซะให้เข็ด หึหึ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-12-2015 23:07:21
ขอให้สำเร็จตามแผน!! ต้าซันถูกทิ้งไว้กลางทาง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 17-12-2015 22:22:54
สงสารต้าซัน :กอด1:
ปล. ทำไมเมนท์เราส่วนใหญ่เมนท์ถึงแต่ต้าซันกับอาเก้านะ ^_^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 17-12-2015 23:07:30
อะโหยยยยยยยยยย แอบมีศึกชิงนาง(แทนพ่อ)เล็กๆแฮะ องค์ชายทั้งน่ารักจัง
แอบเหนื่อยใจแทนเก้าด้วย เหมือนโดนกดดันอยู่ตลอดเวลา เลือกอะไรก็ไม่ดีไปซะหมด

ส่วนพี่เชกะน้องเม่ย รีบไปรีบจัดแล้วก็รีบกลับเลยนะ ต้าซันรออยู่
ขอให้อยู่รอดปลอดภัย ได้กลับมาครองคู่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า สู้ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-12-2015 10:45:33
อดทนรอตอนต่อไป  :a1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 21-12-2015 15:02:02
แวะมาส่องอาเม่ยเป็นพักๆ เผื่อจะมาก่อนเวลา  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 22-12-2015 12:07:36
เก้ามาแว้วววววว
โอ้ยยยย ทำไมรู้สึกฟิน
ฮ่ะๆๆๆ
ต้นห้อง??
เห็นตอนนี้แล้วค่อยชื่นใจกับเก้า
โอ้ย หลงรัก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-12-2015 16:39:45
:z12: วันนี้จะมาไม๊น๊ออออ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-12-2015 17:14:07
 :call:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่38 หน้า38(16ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-12-2015 20:35:24
แวะมาดันพี่เช จงมาๆ :call:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 23-12-2015 06:46:14
ตอนที่ 39

แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยมาถึงค่ายทหารของเมืองหน้าด่านในเวลากลางคืน ขณะที่แม่ทัพนาซิมกำลังหารืออยู่กับหัวหน้าองครักษ์รอมที่บ้านพัก

แน่นอนว่าทั้ง 2 คนไม่ได้เดินเข้ามาทางประตูด้านหน้า หากแต่ปีนหน้าต่างบ้านเข้ามาทางด้านหลัง แล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบกริบจนทำให้ผู้ที่กำลังสนทนากันอยู่ ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

ควรทราบว่าทั้ง 2 คนคือผู้ที่มีความแข็งแกร่งที่สุดแล้วในเมืองหน้าด่านแห่งนี้ แต่การที่มีคน 2 คนลอบเข้ามาในบ้าน รู้สึกตัวอีกทีทั้งคู่ก็เข้ามายืนประชิดตัวเช่นนี้ หากเป็นคนร้าย ทั้ง 2 คนคงหมดลมหายใจไปโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับตน!
ก่อนที่แม่ทัพนาซิมจะเอ่ยคำใด แม่ทัพเชมัลก็ยกนิ้วชี้แตะริมฝีปากเชิงบอกให้เงียบเสียง จากนั้นหันไปเอ่ยเบาๆให้หัวหน้าองครักษ์รอมไปเรียกคนอื่นๆ มาหารือ
อาเม่ยหันมามองแม่ทัพเชมัล ที่หันมายิ้มตอบ
รู้ได้เอง ว่านี่คือวิธีที่แม่ทัพเชมัลบอกว่า คือการลักลอบเข้าไปในเมืองเหนือ
ที่เชื่อมั่นมาตลอด จนถึงวินาทีนี้ก็ยิ่งมีความเชื่อมั่นมากกว่าเดิม

"ต้องเป็นท่านผู้เดียวเท่านั้น"

แม่ทัพนาซิมไม่ได้รู้ที่มาของคำกล่าวนี้ เห็นเพียงคน 2 คนที่หายไปนานแล้วกลับมาปราฏตัวอยู่ตรงหน้า กำลังยิ้มให้กันจากนั้นอาเม่ยก็กล่าวคำนี้ขึ้นมา ทำให้คิดว่านี่คือคำบอกรักของทั้งคู่ถึงกับกระแอมไล่ลมในคอเพื่อเรียกความสนใจ ว่าที่นี่ยังมีอีกผู้หนึ่งที่นั่งอยู่
เมื่อประตูเปิดออกอีกครั้ง หัวหน้าองครักษ์รอมย่อมเป็นผู้ที่เดินนำเข้ามา แต่เมื่อองครักษ์ฮูดาที่อยู่ในอันดับ 4 มองผ่านเข้ามาแล้วเห็นว่าแม่ทัพเชมัลอยู่ที่นี่ ก็ถึงกับก้าวมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าด้วยความยินดี แต่เมื่อจะจับมือของแม่ทัพเชมัลก็กลับชะงักค้าง ดวงตาคมหันมามองอาเม่ยแล้วเอ่ยคำว่าขอโทษ จากนั้นก็ชี้หน้ากล่าวคำต่อว่าในทันที
"สำนึกไว้ด้วยว่า เหตุผลเดียวที่ทำให้เจ้ายังมีลมหายใจอยู่ ก็เพราะแม่ทัพรักเจ้า"
อาเม่ยเพียงพยักหน้า "ข้า...."
"ข้าไม่ได้อยากรู้เรื่องของเจ้า สิ่งเดียวที่ข้าสนใจก็คือแม่ทัพเท่านั้น"
"ฮูดา" แม่ทัพเชมัลเอ่ยปราม ทำให้ฮูดาส่งเสียงขัดใจอยู่ในลำคอ จากนั้นก็กลับไปยืนเข้าแถวในลำดับต่อจากองครักษ์แซน เพียงแต่ลำดับถัดจากฮูดาลงมากลับเป็นอาเม่ย

3 ตำแหน่งที่หายไปทำให้รู้สึกใจหาย...
ยิ่งเมื่อรู้ว่าหายไปเพราะเหตุใดยิ่งรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม...

อาเม่ยหลับตา แล้วหายใจเข้าลึกๆ เมื่อความคิดวนเวียนอยู่กับการที่ทั้ง 3 คนหายไป
แต่จู่ๆ กลับรู้สึกถึงกระแสลมอุ่นๆ แล่นเข้าสู่จุดกึ่งกลางหน้าผากแล้วไหลสู่หัวใจ เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบกับดวงตาอบอุ่นของแม่ทัพเชมัลที่กำลังมองมา เช่นเดียวกับสายตาของทุกคนที่มองมา
แม้จะเป็นศูนย์รวมของทุกสายตา แต่อาเม่ยก็รู้ว่าพลังนี้มาจากใคร
ใบหน้าแดงเรื่อขณะที่กล่าวคำขอบคุณ จากนั้นการประชุมเพื่อวางแผนการจึงเริ่มต้นขึ้น.....

หลังการประชุมหารือเสร็จสิ้นลง แม่ทัพเชมัลและอาเม่ย นอนพักที่บ้านพักของแม่ทัพนาซิม แล้วลอบเดินทางออกจากเมืองวันในเวลากลางคืน
มือใหญ่ที่จับข้อมือไว้ ส่งพลังที่ช่วยให้ฝีเท้าทั้งเบาขึ้น และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
อาเม่ยมีพลังทางลม แต่เพราะไม่เคยมีความมั่นใจ ก่อนหน้านี้จึงต้องใช้ธนูของต้นห้องเก้าในการพุ่งเข้าหาฝ่ายศัตรู มาครานี้เพราะมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งได้พลังเสริมจากแม่ทัพเชมัล ฝีเท้าจึงรวดเร็ว ภายในรอบชั่วเวลาเพียง 1 วันที่ออกเดินทางก็มาถึงแนวเขตแดนของเมืองเหนือแล้ว
แม่ทัพเชมัลพาอาเม่ยขึ้นไปนอนพักอยู่บนต้นไม้สูง รอเวลาที่จะลอบเข้าไปภายในเขตเมืองเหนือ
ภายใต้พุ่มไม้ทึบ อาเม่ยนอนพิงอกกว้างมองดูแสงแดดที่ลอดผ่านใบไม้ แขนใหญ่กอดเอวไว้หลวมๆ
"นอนมองอันใด ทำไมไม่หลับตาพักผ่อน"
"แล้วท่านพี่เล่า ทำไมไม่หลับตาพักผ่อน"
มือใหญ่บีบจมูกคนเถียง "นอนเสีย เพราะเข้าไปในเขตเมือง ต้องครองเวทย์ต่อเนื่องกันหลายชั่วยาม น้องจะอ่อนเพลีย"
อาเม่ยคว้ามือใหญ่มาบีบเล่น "ที่เร่งเดินทางมาล่วงหน้า ก็เพื่อให้น้องมีเวลาพักมากขึ้นสินะ"
พอแม่ทัพเชมัลไม่ตอบ อาเม่ยก็เงยหน้าขึ้นมอง
รอยยิ้มอบอุ่น และดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก คือคำตอบของแม่ทัพเชมัล
"ตอนนั้น น้องไม่ได้ทำดีกับท่านพี่มากมายสักหน่อย....." อาเม่ยเก้อเขินจนไม่อาจสบตาต่อไปได้อีก "เหตุใดท่านจึงดีกับน้องมากมายเพียงนี้"
"นั่นสินะ" ดูท่าว่าจะเป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้องเพราะอาเม่ยทำปากยื่น แล้วหันหน้าไปอีกทาง
"อ้าว..งอนเสียแล้ว"
แม้จะยังยอมให้นอนกอดอยู่ แต่ก็กลับนิ่งเฉย
"น้อง..." คนตัวใหญ่กล่าวขึ้น "ที่พี่รักน้องมาก มันไม่มีเหตุผลหรอก รักก็คือรัก ต่อให้น้องอยู่เฉยๆ พี่ก็รัก"
"และต่อให้น้องทำร้ายคนรักของพี่ พี่ก็ยังรักใช่หรือไม่"
"คนรัก" คนถามทำเสียงไม่เข้าใจ "น้องจะทำร้ายตนเองนั่นหรือ"
"ไม่ใช่ น้องหมายถึง..."
"น้อง...เสี่ยวเม่ย คนเดียวที่พี่รักมาตลอดคือน้องคนเดียวเท่านั้น น้องอาจเห็นหรือได้ยินว่าพี่ดีกับใคร แต่มันไม่ใช่รัก ไม่ใช่ความต้องการที่จะอยู่กับเขาตลอดไป ที่พี่ทิ้งทุกอย่างเพื่อน้อง นั่นยังไม่อาจทำให้น้องเชื่อพี่ได้อีกหรือ"
อาเม่ยพลิกตัวขึ้นกอด

"พี่รักน้อง ก็เพราะว่าเป็นน้อง ไม่ว่าจะเป็นเด็กดื้อยิ้มยาก เป็นตัวป่วนในกองทัพ เป็นปีศาจร้ายที่รองรับเวทย์ของเฮยอั้น และแม้แต่คนที่มีอารมณ์ไม่คงที่....พี่ก็ยังรักและรักมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย" ริมฝีปากหนาจูบแก้ม "ใครจะโชคดีเท่าพี่ที่ได้รักเจ้า ที่มีความหลากหลายเช่นนี้"

อาเม่ยกะพริบตามอง "นั่นคือข้อดีของน้องหรือ"
"ดีหรือไม่ดีนะ" แม่ทัพยิ้มแกล้ง
อาเม่ยพลอยยิ้มตาม แล้วจูบแก้มสาก "เพราะท่านเป็นเช่นนี้ ใครเล่าจะไม่หลงรักท่าน"
"แต่คนที่พี่รักมีเพียงน้องเพียงคนเดียว"
อาเม่ยยิ้มให้กับแสงสว่างที่ลอดใบไม้ กอดแขนใหญ่ แล้วผ่อนลมหายใจ
"....ดีจริง....."
"หืม...อะไรดี"
อาเม่ยหัวเราะเบาๆ ไม่ตอบคำถาม แล้วผล็อยหลับไป

เมื่อความมืดเข้าปกคลุม แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยจึงออกเดินทางต่อ
แนวเขตแดนเมืองเหนือให้ความรู้สึกกดดัน และเคร่งเครียด ยิ่งอาเม่ยยังเป็นกังวลเรื่องเวทย์ดำยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นกว่าเดิม
"ผลักมันออกไป" แม่ทัพเชมัลหันมากล่าวด้วยรอยยิ้ม "อย่ารับมันไว้"
อาเม่ยลังเล "ท่านพี่เอากำไลนั่นมาด้วยหรือไม่ สวมให้น้องเถิด"
แม่ทัพเชมัลยิ้มไม่เปิดริมฝีปาก แล้วหันไปมองแนวรั้วของเมืองเหนือ บ่งบอกว่าจะไม่สวมกำไลให้อีกแล้ว
อาเม่ยหายใจเข้าลึกๆ บอกกับตนเองว่า เมื่อได้รับความเชื่อมั่นจากอีกคนมากขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะไม่เชื่อมั่นในตนเอง

....

การทำหน้าที่เป็นต้นห้องถวายพระราชาฟารัค เป็นงานที่ต้นห้องเก้ามีหน้าที่เพียงยืนมองบรรดามหาดเล็ก กับคนรับใช้ทำงานไปจนเสร็จสิ้น จากนั้นก็จะกลับไปพักที่ค่ายทหารตามเดิม ทำให้แม้จะถวายงาน แต่ก็แทบจะไม่ได้เข้าเฝ้าฯเป็นการส่วนตัว หากแต่ในวันนี้ ต้นห้องเก้ายังรอจนกระทั่งพระราชาจะเข้าบรรทม

พระราชาฟารัครับรู้ว่าต้นห้องเก้ามีเรื่องในใจ แต่อาจเป็นที่พระองค์เองยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถาม จึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น สุดท้ายต้นห้องเก้าจึงคุกเข่าลงเบื้องหน้าพระพักตร์
"ฝ่าบาท ได้โปรดเมตตา"
พระราชาฟารัคก้าวพระบาทไปยืนอยู่ที่หน้าต่าง ทอดพระเนตรมองไปไกล
"ฝ่าบาท ข้าพระองค์ทราบว่า พวกราชองครักษ์ และเหล่าองครักษ์ที่เมืองหน้าด่านมีการเคลื่อนไหวแล้ว จึงขอพระราชานุญาตให้ข้าพระองค์ติดตามไปด้วย"
"เจ้าเป็นต้นห้องของข้าจะตามพวกเขาไปเพื่ออันใด"
"ฝ่าบาท ขอได้โปรดเมตตา"
"อันที่จริง ข้าก็เมตตาเจ้าเป็นพิเศษมาตลอดนะเก้า" พระราชาฟารัคก้าวพระบาทกลับมาหยุดอยู่ข้างหน้า "ลุกขึ้นมาคุยกันก่อน"
ต้นห้องเก้าส่ายหน้า ทำให้พระราชาต้องรับสั่งซ้ำอีกครั้ง ถึงได้ลุกขึ้น
"รู้ไหมว่าถ้าเจ้าไปมันจะยิ่งทำให้เรื่องยุ่งยากกว่าเดิม"

ต้นห้องเก้าได้แต่ก้มหน้ายอมรับ เพราะรู้ตัวแล้วว่า ตนเองคือชนวนจุดไฟในใจของอาเม่ย แต่เมื่อรู้ว่าพี่น้องในกลุ่มองครักษ์แม่ทัพเชมัลไปอยู่แนวหน้ากันจนหมดแล้ว จะให้นิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร
สำนึกในเวลานี้รู้แต่เพียงไม่อาจรั้งรออยู่ในวังหลวงประหนึ่งเมืองวันอยู่ในภาวะสงบสุขได้อีก

"รู้แล้วยังอยากไปเช่นนั้นหรือ"
"ข้าจะหลีกเลี่ยงอาเม่ย จะไม่เข้าใกล้ท่านแม่ทัพเชมัล จะอยู่ให้ห่างจากแม่ทัพนาซิม จะไม่ทำให้พระองค์ลำบากพระทัย"
พระราชาฟารัคส่ายพระพักตร์ ต้นห้องเก้าก็จับพระหัตถ์ไว้
"ฝ่าบาท พระองค์ทรงรู้ดีว่า ข้าไม่ได้...."
"เจ้าไม่ได้อยากรับใช้ข้า คนเดียวที่เจ้าต้องการรับใช้ก็คือเชมัล ข้ารู้ดี แต่ถ้าส่งไปแล้วเรื่องมันจะยุ่งกว่าเดิม และทำให้เชมัลตกอยู่ในอันตราย ข้ายอมขังเจ้าไว้ในคุกหลวงอย่างเดิมดีกว่า"

ต้นห้องเก้าได้แต่กัดปากตนเอง
ที่ร้อนใจอยู่ในเวลานี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแม่ทัพเชมัล แต่หากกล่าวมากความไปอาจยิ่งพัวพันทำให้เข้าใจผิด จึงเลือกที่จะกล่าวอย่างเด็ดขาด
"ฝ่าบาท" ต้นห้องเก้าเงยหน้าขึ้น "เช่นนั้นก็ขังข้าไว้เถิด เพราะจะอย่างไรข้าก็จะต้องไปให้ได้"
"อาเก้า!"
ต้นห้องเก้าคุกเข่าลงอีกครั้ง
"ฝ่าบาท ทรงมีพระกรุณาด้วยเถิด กระหม่อมทราบดีว่าพระองค์ทรงมีเมตตาจึงโปรดให้มารับใช้ แต่ข้าพระองค์....."
"เจ้ามาเพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า พอมาถึงตอนนี้ เจ้ามองเห็นทางเลือกแล้ว และกำลังจะไป"
ต้นห้องเก้าก้มหน้าอีกครั้ง ได้แต่เถียงรับสั่งของพระราชาในใจ
"ข้าจะระมัดระวัง"
"นี่เจ้ายังคิดว่า เจ้าสามารถควบคุมอะไรได้อยู่อีกเช่นนั้นหรือ ในเมื่อ.."
ต้นห้องเก้าไม่ได้รอให้พระราชารับสั่งจบ "ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับข้า ล้วนแต่เดินไปในทางที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จนพระองค์ไม่อาจวางใจได้ว่า ข้าพระองค์จะไม่ก่อเหตุอันใดขึ้นอีก"
พระราชาฟารัคหรี่ตาลง "เจ้าคิดจะพูดอะไร"
"ขอพระราชทานอภัย"
"เจ้ากล่าวคำหนึ่ง ขอโทษอีกคำหนึ่ง ตำหนิข้าอีกคำ แล้วก็ขอโทษ" พระราชาโบกพระหัตถ์ "ลุกขึ้นแล้วพูดในสิ่งที่เจ้าอยากพูดมาเถอะ เพราะข้าไม่ให้เจ้าไปทำให้เชมัลต้องเสียแผนที่วางไว้แน่ๆ"

...มีบางสิ่งเข้ามารบกวนในใจ แต่เพราะความตั้งใจที่จะทำไปตามแผนการที่วางไว้ ทำให้พระราชารอฟังคำกล่าวของต้นห้องเก้า..

ต้นห้องเก้าตัดสินใจกล่าวเรื่องทั้งหมดโดยอ้อม
"เรื่องที่พระโอรสเสด็จไปตามข้าพระองค์ที่ค่ายทหาร เรื่องนั้น ข้าพระองค์ขออภัยที่ทำให้พระองค์วุ่นวายพระทัย"
"ฮัมซาเป็นศิษย์ของมีอา แล้วเขาก็ไปหลายครั้งแล้วนี่"
ต้นห้องเก้ากล่าวตอบ "นั่นก็จริง แต่เรื่องนี้ข้าคิดจะกล่าวทูลถามอยู่หลายครา แต่ไม่แน่ใจว่าเหมาะสมหรือไม่"
พระราชากระแทกเสียงในลำคอ "วันนี้เจ้าต่อว่าข้าหลายคำแล้ว ถ้าจะกล่าวต่อว่าข้าอีกสักคำสองคำ มันก็ไม่ได้ต่างกันนักหรอก"
ต้นห้องเก้ากล่าวช้าๆ "ขอฝ่าบาทโปรดอภัย ที่ทรงมีรับสั่งว่า เรื่องของข้าพระองค์ยิ่งจัดการ ก็ยิ่งเลวร้ายลง นั่นอาจเพราะแท้ที่จริงแล้ว นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก"
"นั่นคือคำถามของเจ้าหรือ"
"ฝ่าบาท....รักข้าพระองค์ใช่หรือไม่"
เมื่อถามคำถามนี้คนถามหัวใจเต้นแรง ทั้งมือเย็น คล้ายวางเดิมพันครั้งสุดท้ายด้วยทุกสิ่งที่มีอยู่
"มันไม่สำคัญหรอก" พระราชากลับเป็นฝ่ายเลี่ยงตอบคำถาม
"สำคัญสิ เพราะที่จริงแล้ว ชีวิตคนเรามันก็มีทั้งสุข ทั้งทุกข์ หมุนเวียนกันไป ข้าพระองค์อาจเป็นฝ่ายที่ถูกทิ้งมากหน่อย ถูกทำร้ายอยู่บ่อยๆ หากเปรียบเทียบกับองครักษ์คนอื่น แต่หากจะพิจารณาให้ดี เรื่องที่เกิดขึ้นหาใช่เรื่องแปลก เราทุกคนก็ล้วนถูกทิ้ง ถูกทำร้ายกันทั้งนั้น สมหวังกับผิดหวังหมุนเวียนไป ข้าพระองค์ยอมรับมัน แต่ที่ฝ่าบาทไม่ยอมรับ และไม่วางมือจากการจัดการชีวิตของข้า ก็เพราะฝ่าบาทรักข้า"
"นั่นมัน...."
"เพราะฝ่าบาทรักข้าแต่ครอบครองไม่ได้ เพราะพระองค์ราชาภิเษกแล้ว จึงผลักไปให้กับแม่ทัพเชมัล แต่ก็ยังตัดพระทัยไม่ได้ ครั้นข้าถูกท่านฮูดาทำร้าย ถูกแม่ทัพนาซิมทำร้าย ฝ่าบาทก็ยิ่งวุ่นวายพระทัยยิ่งพยายามจัดการ ทั้งที่...ทั้งหมดนี้เพราะฝ่าบาทปฏิเสธพระทัยตนเอง แต่สุดท้ายแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ทำร้ายข้า แม่ทัพไม่ทิ้งข้า ฝ่าบาทก็คงไม่พอพระทัยอยู่เช่นเดิม"
พระราชาฟารัคส่ายพระพักตร์ จำต้องหันหน้าไปทางอื่น "เมื่อเรายังเด็ก เราทำตามใจเราต้องการ แต่เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ สิ่งที่ทำต้องยึดความเหมาะสม"
"ท่านรักข้า แต่ผลักข้าไปอยู่กับผู้อื่นตลอดเวลา ฝ่าบาทยอมรับสักทีได้หรือไม่ ว่าเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับข้า ก็เพราะฝ่าบาทปฏิเสธที่จะยอมรับหัวใจของตนเอง"

พระราชานิ่งอึ้ง "อาเก้า ข้า..เสียใจที่ทำให้เจ้ารู้สึกเช่นนั้น" ดวงเนตรปวดร้าว "ความรักของผู้อื่นขึ้นอยู่กับหัวใจ แต่สำหรับข้า....มันขึ้นอยู่กับ..."
"ราชบัลลังก์" ต้นห้องเก้าต่อคำให้จนจบถ้อยคำ "ฝ่าบาทมีรับสั่งไว้แล้ว ว่าให้ข้าเป็นผู้ตัดสินใจอนาคตของตนเอง"
"อย่างไรก็ได้ เจ้าจะต่อว่าข้าสักกี่หมื่นคำก็ตามใจ แต่ต้องไม่ไปทำลายแผนของเชมัล"
"ในเมื่อความรักของพระองค์ที่มีต่อข้ามันไม่อาจเป็นจริง และไม่ว่าพระองค์จะพยายามวางแผนจัดการอย่างไรข้าพระองค์ก็คงจะไปไม่ได้ไกลกว่านี้ จะให้ข้าอยู่ที่นี่เพื่อสร้างความลำบากใจแก่พระองค์ ยิ่งไม่สมควร"
"ห้ามไปเมืองเหนือเข้าใจไหม"
"แต่ข้าพระองค์สมควรไป ในเมื่อนักรบทุกคนไปที่นั่น แล้วจะให้ข้าอยู่ที่นี่เพื่ออันใด"
"เรื่องนี้มันเกินมือเจ้าไปแล้ว"
"พระองค์จะให้ข้าอยู่ที่นี่เพื่ออะไร"
"เพื่อ..."
"หากไม่อยากให้ไปวุ่นวายกับแม่ทัพเชมัลและอาเม่ย พระองค์ส่งข้าไปเฝ้าท่าเรือ หรือไปอยู่เมืองบาสก์ก็ยังได้ พระองค์ให้ข้าอยู่ข้างๆ เพื่ออันใด รักของท่านต่อข้าเป็นไปไม่ได้ รักของข้าต่อท่านแม่ทัพก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน แต่เราต่างก็สามารถทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารัก ข้าพร้อมที่จะสนับสนุนแม่ทัพเชมัลในที่ห่างไกล และ....หากจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นข้าก็ไม่กลัว และหากฝ่าบาทรักข้าจริง ก็ขอให้ทรงรักษาสัญญา ให้ข้าได้เลือกทางของข้าเอง"

สีพระพักตร์ที่เปลี่ยนไปของพระราชาฟารัค ทำให้ต้นห้องเก้าจับพระหัตถ์ไว้ "พระองค์ ข้า...ขอพระราชทานอภัยที่กล่าวคำ..."
"นั่นเพราะเจ้าร้อนใจ อยากไปช่วยเชมัล"
"อาจเป็นการร้อนใจ อยากทำงานให้ฝ่าบาทก็เป็นได้"
"อาเก้าเอย" รอยแย้มสรวญช่างโศกเศร้าพระทัยยิ่งนัก "หลังจากที่เจ้าต่อว่าข้ามากมายถึงเพียงนี้ จะมากล่าวคำปลอบใจก็ไม่ทันแล้ว"
"ฝ่าบาท ถึงตอนนี้ ข้าพระองคฺ์ยอมรับความผิดที่ล่วงเกิน แต่จะขอกลับมารับพระอาญาในภายหลังได้หรือไม่"
พระราชาได้แต่ส่ายพระพักตร์
"ข้าพระองค์ร้องขอเมตตา  ขอใช้การที่เป็นบุคคลที่ฝ่าบาทรัก ได้โปรดอนุญาตให้ข้าไป"

ต้นห้องเก้าเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องกล่าวคำมากมายที่เป็นการตอกย้ำจิตใจของพระราชา ทั้งคำกล่าวเท็จมากมาย เพียงเพื่อให้ได้ไปเมืองเหนือ
....เมื่อกลับมา ข้าจะสารภาพความจริง จะยอมรับการลงโทษโดยไม่ต่อรอง...

"เจ้ารู้ไหม ทั้งเชมัล ทั้งราชองครักษ์ของข้าทุกคนรู้ทันข้าทั้งนั้น แต่ก็หลีกเลี่ยงที่จะกล่าวคำนี้เพราะมันไม่สมควร ข้าเองเวลาที่พระชายาเขาพูดออกมา ข้าก็ไม่เคยยอมรับ"
"ข้าเองก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้ จนกระทั่งพระโอรสฮัมซาเสด็จไปที่ค่ายทหารและทวงให้ข้ากลับมาทำงาน" ที่จริงต้องกล่าวว่า นี่เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการคาดคิดไปมาก เพราะพระราชาตลอดจนผู้คนรอบข้างไม่เคยมีท่าทีใด "ข้าเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่า ในวันหนึ่งจะนำมาใช้ต่อรองฝ่าบาท"
"ตั้งแต่ฮัมซารู้เรื่องแม่กับตาของเขา ก็มีท่าทีต่อต้าน อธิบายอย่างไรก็ดื้อดึง เขาคงมองเห็นอะไรบางอย่างถึงได้มาบอกให้ข้ารับเจ้าเข้าวัง....แต่มันเป็นไปไม่ได้"

.....เป็นรักที่ล้วนเป็นไปไม่ได้.......

"อาเก้า เจ้าอยากไปเมืองเหนือมากถึงเพียงนี้เลยหรือ"
ต้นห้องเก้าจะคุกเข่าลงอีกครั้ง แต่พระราชาจับข้อศอกไว้
"มองตาข้า แล้วตอบมาตามตรงว่าที่อยากไปเพราะอะไร"
ต้นห้องเก้าสบเนตรสีเข้ม ภายในสมองกลับรู้สึกมึนงง และกล่าวตามความจริง
"เพราะข้าคือทหาร"
"เจ้าจะกลับมาใช่ไหม"
"ข้าพระองค์ย่อมต้องกลับมา และเมื่อกลับมาพระองค์จะให้ข้าเป็นม้า เป็นลา ข้าก็จะไม่เกี่ยงอีกแล้ว"
"แล้ว....เชมัลเล่า"
"ข้าเคยรักเขา"
"นาซิม"
"ข้าไม่ได้รักเขา"
"พริม"
"ข้าไม่อยากให้นางเสียใจ"
"ดี"
พระหัตถ์ที่จับข้อศอกอยู่คลายออก ต้นห้องเก้าเซถอยไปก้าวหนึ่ง ทำให้พระราชาต้องคว้าจับไว้อีกครั้ง

..ดูท่าจะใช้พลังมากเกินไป เก้าอ่อนแอกว่าที่คิด...

"ข้าอนุญาตให้เจ้าไปในฐานะต้นห้องเป็นตัวแทนของข้า ไม่ใช่องครักษ์ ดังนั้น เจ้าต้องรู้ขอบเขตหน้าที่ของตนเอง"
ต้นห้องเก้าคุกเข่ากล่าวขอบพระทัย แต่เมื่อก้าวถอยออกมาได้ 2 ก้าว ก็กลับเปลี่ยนใจโผเข้ากอด ทั้งแตะริมฝีปากที่โอษฐ์แผ่วเบา
พระราชาแปลกพระทัย แต่ต้นห้องเก้าตกใจในการกระทำของตนเอง คลายอ้อมกอดด้วยใบหน้าซีดเผือด
"อะ...เอ่อ...ฝะ ฝ่าบาท ขะ ขอพระราชทานอะ...อภัย"

ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อครู่ใช้พลังบังคับให้ต้นห้องเก้ากล่าวความจริงออกมา ก็คงคิดว่า อีกฝ่ายดีใจมากที่จะได้ออกไปจากวังหลวงจนลืมตัว
พระราชาเพียงโบกพระหัตถ์ แล้วกลับเป็นฝ่ายหันหลังให้
"กลับมาแล้วค่อยคุยกัน"


ตลอดทางที่กลับมาจากวังหลวงถึงค่ายทหาร ต้นห้องเก้าได้แต่ถามตนเองว่าทำอะไรลงไป
เรื่องเก่ายังค้างคา แล้วนี่ยังมาผูกเรื่องใหม่ หากทำให้เกิดความเข้าใจผิดจะทำเช่นใด จากนั้นก็กลับไปตั้งคำถามตนเองว่าทำอะไรลงไป
"ข้านี่มันช่างหาเรื่องให้กับตนเองได้ไม่จบไม่สิ้น"
ต้นห้องเก้า เข้าไปลาราชองครักษ์มีอาที่เรือนพัก แล้วออกเดินทาง
พักเรื่องในพระราชวังไว้ที่นั่น
ตั้งใจไว้ว่า เมื่อถึงหน้าด่านต้องหลีกเลี่ยงการอยู่กับแม่ทัพนาซิมตามลำพัง อย่าได้สร้างความลำบากใจ
จากนั้นไปสมทบกับพวกหัวหน้าราชองครักษ์บาดา และหัวหน้าองค์รักษ์รอม
อย่าทำตัวเป็นปัญหา เพราะนี่อาจเป็นเพียงโอกาสเดียว ที่ข้าจะได้พิสูจน์ตนเอง ว่าข้าไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะเป็นผู้แพ้!

...จบตอนที่ 39...
 :m4: ขอบคุณมากครับ

.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-12-2015 07:22:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 23-12-2015 08:02:22
ทิ้งท้ายไว้ให้ขบคิดเองอีกแล้ว  อาเก้ากลัวจะแพ้ผู้ใดหนอ...ขอให้เรื่องราวของอาเก้า จบอย่างสวยงามนะค๊าาา   :call:...

เพราะอาเก้าเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องนี้แล้ว  :mew2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 23-12-2015 08:06:50
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ค่า
คนหนึ่งก็ >>> คนเดียวที่พี่รัก<<<< พูดอีกซิคะ ไม่ใช่เม่ยแต่เขินนนนนน

ส่วนอีกคน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดตามมาติดๆ ใช่ม๊ายยยย ท่านฟารัคกับเก้า (ถึงแม้ตอนกลับมาทำได้แค่รักกันแต่ได้อยู่เคียงข้างในฐานะคนรู้ใจกัน ก็ยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม) แต่องค์ชายน้อยฮัมซานี่คือคิวปิคของท่านพ่อแน่ๆ   :katai2-1:


ตอนนี้ทำไมเรามีความสุขจัง 55555 ทั้งๆที่เรื่องหนักๆ มันกำลังจะคืบคลาน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 23-12-2015 10:36:40
ขอความฟินนี้จงสถิตอยู่กับท่านเเละเราด้วย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 23-12-2015 10:41:44
ชะอุ้ยอาเก้าใจตรงกับพระราชาหรือ :mew3:
อย่าชิงเป็นไรไปก่อนนะอาเก้าเพราะยังอยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วเจ้าเกิดมาเพื่อใคร

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 23-12-2015 10:47:03
แหม ดันไม่ถามความรู้สึกของเก้าต่อตัวเองเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-12-2015 11:07:27
มีเรื่องให้คิดได้ตลอดสิน่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ศตรัศมี ที่ 23-12-2015 11:59:37
ขอแสดงความเสียใจกับนาซิมล่วงหน้า ดูท่าแล้วน่าจะแห้วรับประทาน เก้าดูท่าจะมีใจให้พระราชาอยู่นะ แล้วแม่ทัพนาซิมของเราล่ะ TT^TT คงต้องโดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล ปูนาขาเกตัวใหญ่ซะม่ายยยยมี ~°*°~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 23-12-2015 12:09:41
มาบวก & จองที่นั่ง ฮา :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-12-2015 12:36:09
ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิง...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-12-2015 12:59:50
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-12-2015 13:01:22
เอาใจช่วยให้เก้าได้พบคำตอบที่ต้องการ :กอด1:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-12-2015 13:17:45
กลับมาแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรก็ได้งั้นเหรอ อิอิ  แปลว่ายังมีความหวัง ทิ้งไว้ให้คนอ่านอยู่สินะ 555. มาเอาใจช่วยกับความรักในครั้งนี้ของ ฟารัคกัน ....รอตอนต่อไปอย่างลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 23-12-2015 14:56:44
อาเม่ยกับพี่เชมัลน่ารักมากๆ หวานแม้กระทั่งจะลอบเข้าค่ายของศัตรู หุหุ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 23-12-2015 15:49:42
บอกเลยตอนที่พี่เชกะเม่ยอยู่ด้วยกัน ยิ้มแก้มปริ บิดตัวเป็นเลขแปด
พอมาอ่านช่วงพระราชาฟารัคกะเก้า น้ำตาปริ่มกันเลยทีเดียว แอบเดาแบบเข้าข้างฟารัค เก้าเคยรักพี่เแต่ตอนนี้รักพี่ฟาปะคะ  :-[
ภาวนาให้ทุกคนปลอดภัยกลับมา  :call:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-12-2015 17:33:21
ดีใจกับเก้าที่ได้เลือกทางเดินของตัวเอง
เก้าเข้มแข็งมาก

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 23-12-2015 17:37:26
แปะก่อนนนนน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-12-2015 18:35:27
ลุ้นให้อาเก้ากับพระราชาฟารัคได้สมรักกันสักทีนะ รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 23-12-2015 18:51:03
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

คนอ่านยิ้มหวาน ตายสลบ กับ ประโยคนี้ "มันไม่มีเหตุผลหรอก รักก็คือรัก"
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 23-12-2015 20:14:48
กลับจากศึกครั้งนี้ เก้าก็จะมีความสุขแล้ว หลังจากต้องเจอแต่เรื่องทุกข์ใจ หวังว่าตะได้สมหวังกับรักครั้งนี้นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-12-2015 20:38:29
กลัวว่าอาเก้าไป

จะเป็นปัญหาต่ออาเหม่ยจัง

อาเหม่ยยิ่งหึงแรงอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 23-12-2015 22:18:22
แล่วๆๆๆๆๆ อย่าบอกนะว่าเก้ารัดพระราชาฟารัคอ่ะ
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ อะไรกันเนี่ยยยยยยยยย
โอ๊ยยยยยยยยย ลุ้นเรื่องเก้าจนลืมความหวานของพี่เชกะอาเม่ยเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 25-12-2015 20:30:00
แล้วพระราชาจะหาทางออกเรื่องนาซิมยังไง..
จะผิดใจกับน้องชายไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 27-12-2015 16:55:51
หุหุ อ่านแล้วถึงกับยิ้มมุมปาก พระราชาจอมเจ้าเล่ห์จนมุม
ยกนิ้วให้อาเก้าเลย สตรองงงงงงง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 27-12-2015 21:41:45
ขอให้เก้ามีความสุขสักที อาภัพเหลือเกิ๊นนนน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 28-12-2015 12:40:04
ปัดกวาดกระทู้รอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 28-12-2015 17:49:23
มารอด้วยคน ^_^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 29-12-2015 09:02:16
คิดอยู่ว่าจะไปโพสต์ที่หน้าเฟซคุณไจฟ์น้องน้ำชาหรือในเล้าเป็ดดี คิดไปคิดมาก็ตกลงปลงใจว่ามาเม้นท์ที่เล้านี่ดีกว่า

ต้องขอโทษอย่างแรงค่ะที่เพิ่งมาอ่าน คือตั้งใจเอาไว้แต่แรกว่าจะอ่านเรื่องนี้ตอนที่ลงจบเรียบร้อยแล้ว
เผอิญว่าเมื่อคืนรู้สึกเบื่อๆ บวกกับนอนไม่หลับ เลยเปิดเล้าหาอะไรอ่านแก้เซ้งดีกว่า ก็มาจิ้มเอาเรื่องนี้เข้า

ใจจริงๆ ตอนเริ่มอ่านกะว่าจะอ่านแค่ตอนแรกๆ กะว่าแบบปูทางคร่าวๆ พอรู้แนวเฉยๆ
อ่านไปอ่านมาปรากฎว่าเรื่องนี้มันสนุกมากหยุดอ่านไม่ได้นี่สิ
จากที่หาอะไรอ่านแก้เซ็ง กลับกลายเป็นว่าตั้งหน้าตั้งตาอ่านแบบเอาจริงเอาจัง
อ่านไปลุ้นไป 39 ตอนรวดไม่หลับไม่นอน พออ่านจบ 39 ตอนแล้วปัญหาก็เกิดสิทีนี้
มันค้างอ่ะ ค้างมาก คือประมาณต้องมานั่งนับนิ้ว 7 วันถัดไปรอตอนที่ 40 กันเลยทีเดียว

ขอสารภาพว่าอ่านตอนแรก ไม่สามารถจำได้ว่าใครเป็นใคร สลับกันอีรุงตุงนังไปหมด
มีจำแม่นๆ อยู่แค่ 3 คนถ้วน คือ แม่ทัพเชมัล อาเม่ย และเก้า
ถึงขนาดต้องจดแยกต่างหากออกมาเป็นแผนผังกันเลยว่า
องครักษ์อันดับนี้ ชื่ออะไร ถืออาวุธอะไร ใช้เวทย์ไหน มีบุคลิกลักษณะอย่างไร

แล้วก็รู้สึกประทับใจและชอบใจในบุคลิกของเก้าตั้งแต่แรก
เพราะอ่านแล้วดันมีจินตนาการล้ำเลิศไปถึง เลโกลัสในเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงส์

ตกใจในความเป็นกันเองของพระราชากับแม่ทัพเชมัลที่มีต่ออาเม่ย
แล้วก็มาอึ้งตอนที่รู้ว่าฮูดากับเก้าต่างก็เป็นผู้รับใช้ของท่านแม่ทัพเชมัล

ชื่นชอบความรักความผูกพันระหว่างพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็น พระราชาฟารัคและแม่ทัพเชมัล หรือ พี่ต้าซันและอาเม่ย
ชื่นชมความรัก ความซื่อสัตย์ และความจงรักภักดี ที่เหล่าทหารองครักษ์มีต่อผู้บังคับบัญชาและแผ่นดินของตนเอง

ส่วนอาเม่ยในบทบาทเจ้าหนูจำไมนี่ก็น่าเอ็นดูเป็นที่สุด
ขยันถามในส่วนที่คนอ่านเองก็สงสัยเช่นกันแต่คำตอบที่ได้รับก็เหมือนเดิมทุกที ฮ่าๆ

เอาจริงก็แอบเชียร์ให้แม่ทัพเชมัลกันเก้ากลับมารักกันเหมือนกันนะ
แต่อ่านไปอ่านมาก็เออเน๊าะ แม่ทัพเชมัลกับอาเม่ยนี่เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดแล้ว

ใจหายเรื่องอาโปกับอาตงอ่ะ คือเร็วไปตั้งรับไม่ทัน
เสียดายที่สีสันส่วนหนึ่งของทีมหายไป แอบผิดหวังด้วยนะตอนที่รู้ว่าอาเม่ยเป็นคนลงมือ

สงสารอาเม่ยผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ โดนเวทย์ดำครอบงำ
แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี ที่มีทั้งพี่ต้าซันและแม่ทัพเชมัลอยู่เคียงข้างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ที่น่าสงสารที่สุดคือเก้าที่ดีแสนดี ไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ต้องกลายเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ร่ำไป
ไหนจะโดนฮูดาวางแผนร้ายเพราะเกลียดจนต้องผิดหวังในความรักครั้งแรก
ไหนจะโดนแม่ทัพนาซิมทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายเพราะถูกปฏิเสธจนเกือบไม่รอดชีวิต
ไหนจะโดนอาเม่ยลงมือทำร้ายโดยการซัดลูกไฟใส่เพราะความหึงหวงจนอาการทรุดหนัก
ไหนจะโดนแม่หญิงพริมขอถอนหมั้นต่อหน้าพระราชา (อันนี้คนอ่านดีใจมาก)
หลังจากโดนหญิงพริมถอนหมั้นยังต้องมาฟังพระราชาพาลใส่ หาเรื่องว่า นู่น นี่ นั่น อีก

ขัดใจพระราชาฟารัคมาก เมียไม่ดียังจะเก็บเอาไว้ทำไมก็ไม่รู้ แถมยังคอยผลักไสเก้าไปนู่นไปนี่อีก
เจ้าวางแผนนัก เดี๋ยวให้ไปอยู่กับเชมัลบ้างล่ะ ไปอยู่กับนาซิมบ้างล่ะ ให้แต่งงานกับพริมงี้ น่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
ตอนนี้คือเอาใจช่วยให้เก้าสมหวังในความรักกับพระราชาฟารัคนี่แหละ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นไปได้หรือเปล่า
หวังว่าคุณไจฟ์และน้องน้ำชาจะไม่ใจร้ายกับเก้าจนเกินไปนัก (เป็นแฟนคลับองครักษ์เก้า เอ้ย ต้นห้องเก้า)

สุดท้าย ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องทีมากที่แต่งเรื่องสนุกๆ แบบนี้มากให้ได้อ่านกัน
ส่วนตัวชอบเรื่องของคุณไจฟ์และน้องทีมาก ตามอ่านทุกเรื่องค่ะ ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง ไม่ใช้ภาษาวิบัติ
ที่สำคัญมีวินัยในการลงเนื้อเรื่องในแต่ละตอนได้ชนะเลิศมาก  ขอปรบมือให้ค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่39 หน้า39(23ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 29-12-2015 19:42:01
แวะมาส่องพี่เช
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 30-12-2015 06:36:36
ตอนที่ 40

แม่ทัพเชมัลในเมืองเหนือ เป็นดั่งคนละคนกับที่ผ่านมา
แม้ดวงตาสีเข้มที่มองสบกันจะยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก กับรอยยิ้มกว้างที่ทำให้วางใจ ว่าขอเพียงอยู่เคียงข้างกัน ไม่ว่าอุปสรรคใดๆ ก็สามารถก้าวข้ามไปได้โดยง่ายดาย
แต่เมื่อละสายตาจากกัน ดวงตาที่มองไปข้างหน้ากลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดจริงจัง
มือใหญ่ที่จับข้อมือของอีกคนไว้ ก็ยังกระชับแน่นกว่าที่ผ่านมา

ทั้ง 2 คนใช้เวลาเดินทาง 5 วันจากเมืองชายแดน จนถึงเขตเมืองหลวงของเมืองเหนือ นั่นหมายความว่า เมืองเหนือมีอาณาเขตที่กว้างขวางกว่าเมืองวัน
แต่ที่นี่แห้งแล้งกว่า และมีผู้คนอาศัยอยู่น้อยกว่า ยิ่งเดินทางขึ้นเหนือยิ่งพบเห็นแต่ความแห้งแล้ง และสีหน้าเป็นทุกข์ของชาวบ้าน
แม้แต่น้ำในแม่น้ำลำคลองก็ไม่ใสสะอาดอย่างเมืองวัน
"ตอนที่อยู่ใกล้ชายแดนเขตทำเหมือง ก็ยังคิดว่าเป็นเพราะการทำเหมือง แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่มีเหมือง แล้วเหตุใดน้ำจึงเป็นสีนี้"
อาเม่ยถามขึ้นในระหว่างพักกินอาหารกลางวัน
น้ำในลำคลองที่อยู่เบื้องหน้าเป็นสีขุ่น ดั่งมีฝนตกหนักจนพัดพาดินโคลนลงมาหา
เพียงแต่นับตั้งแต่เดินทางเข้ามาในเขตเมืองเหนือ อาเม่ยยังไม่พบว่ามีฝนตกเลยสักครั้ง
ต่างจากที่หมู่บ้านในหุบเขา ที่นั่นมีฝนตกแทบจะทุกวัน

"แผ่นดินก็เหมือนกับหัวใจของผู้ปกครอง"
อาเม่ยคิดตาม
"ท่านหมายความว่า เจ้าเมืองเหนือ จิตใจแห้งแล้ง ขุ่นมัวเช่นนั้นหรือ"
แม่ทัพเชมัลพยักหน้า "ผู้ปกครองที่ดีย่อมใส่ใจปัญหาของทุกคนที่อยู่ใต้ปกครอง ทุกคนจึงเดินไปในทางที่ดีและมีความสุข ผู้ปกครองที่ไม่ดี ใส่ใจเพียงความสุขของตนเอง เพิกเฉยต่อความทุกข์ของผู้อยู่ใต้ปกครอง สุดท้ายเมืองทั้งเมืองจึงเป็นอย่างที่เจ้าเห็น ไร่นาถูกทิ้งให้แห้งแล้ง ผู้คนอยู่อย่างหวาดกลัว"

ในเวลากลางคืนผู้คนในเมืองเหนือต่างพากันอยู่แต่ในบ้าน เพราะหวาดกลัวเหล่าอสูรที่อาจเดินทางผ่านมา
แต่อาเม่ยก็ยังไม่เคยพบนกปีศาจหรือสัตว์ร้ายอื่นใด นอกไปจากอสูรตัวสูงใหญ่ แบบเดียวกับที่เคยพบเจอที่ด่านนอกเมือง
เพียงแต่ยิ่งเข้าใกล้เมืองหลวง กลับพบหมู่บ้านร้างมากขึ้น ผู้คนบางตาลงเรื่อยๆ จนถึงเขตเมือง ที่มีผู้คนพักอาศัยอยู่เพียง 1 ใน 5 ส่วนของเขตเมืองหลวง ในเมืองวัน

ตลอดเส้นทางจนมาอยู่ในเขตเมืองหลวง ยังไม่พบเจอผู้ใช้เวทย์แม้แต่คนเดียว แม้จะพบร่องรอยของอสูรที่ทิ้งไว้ แต่ก็ไม่มีการเผชิญหน้า
การที่ไม่พบไม่ได้แปลว่าไม่มี แต่เพราะแม่ทัพเชมัลมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่ที่พระราชวัง
...นี่ย่อมต้องเป็นเวทย์คุ้มครอง ที่ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการพบเจอฝ่ายตรงข้าม แต่การครองเวทย์ต่อเนื่องยาวนานถึง 5 วันติดต่อกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา...
คนตาสีแปลกยังสรุปเรื่องราวในใจ เมืองเหนือเป็นเมืองใหญ่ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ล้วนใหญ่โต แต่ผู้คนใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัว ยิ่งเมื่อซ้ำด้วยการปิดประตูเมืองฝั่งที่เชื่อมต่อไปยังเมืองวันและเมืองบาสก์ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เมืองเหนือกลายเป็นเมืองที่ไม่น่าพักอาศัยอยู่เลยสักนิด

อาเม่ยไม่ได้กังวลภัยอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า แต่กังวลที่แม่ทัพแสดงท่าทีชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะบุกเข้าไปในวังหลวงตามลำพัง
"น้องจะไม่รออยู่ข้างนอกนะ ท่านพี่สัญญาไว้แล้ว ว่าจะไม่อยู่ห่างกัน" อาเม่ยเอ่ยขึ้นทันทีที่เข้ามาพักในบ้านที่ถูกทิ้งร้างหลังหนึ่ง แล้วแม่ทัพบอกให้อาเม่ยพักผ่อน
แม่ทัพเชมัลใช้ข้อนิ้วกดที่ขมับ อาเม่ยก็กล่าวต่อ "ขอไปด้วยนะ"
คำตอบรับคือเสียงถอนหายใจยาว แล้วบอกให้นอนพักผ่อน "เช้ามืดพวกเราจะเข้าไปคุยกับพระราชาเมืองเหนือกัน"
อาเม่ยพยักหน้าเร็วๆ หันไปเตรียมข้าวต้มสำหรับ 2 คน

ระหว่างนั้น แม่ทัพเชมัลรื้ออิฐปูพื้น ใต้หน้าต่างฝั่งขวาของบ้าน แล้วหยิบกล่องเหล็กใบเล็กขึ้นมา  ภายในกล่องคือกระดาษแผ่นเล็กที่มีข้อความเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในเมืองเหนือ พร้อมด้วยแผนที่ของพระราชวัง
แม่ทัพเชมัลจดจำจนขึ้นใจแล้วเผากระดาษนั้น

อาเม่ยชะงักมือที่กำลังเตรียมอาหาร หันไปมองรอบตัว คำถามและความกังวลมากมายผุดขึ้นมาไม่หยุด
..ที่นี่คือที่นัดพบของสายลับจากเมืองวัน
คนที่มาแจ้งข่าวยังอยู่หรือตายไปแล้ว
พระราชาเคยมีรับสั่งว่าเสียสายข่าวไปแล้วหลายคน ทำให้ต้องเร่งให้แม่ทัพมาจัดการเมืองเหนือ
การติดไฟเพื่อเตรียมอาหารจะปลอดภัยหรือไม่
เมืองหลวงที่แทบทิ้งร้าง มีคนแปลกหน้าเข้ามา จะปลอดภัยได้อย่างไร...
"ท่านพี่"
แม่ทัพเชมัลหันมามองอาเม่ยที่กำลังทำหน้าตาตื่นหันไปมองรอบตัว ส่วนมือก็ยกถ้วยข้าวขึ้น
"ไม่เป็นไรหรอก ระมัดระวังมากต่างหากที่จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัย" แม่ทัพเชมัลพยักหน้าไปทางบ้านข้างๆ ที่ยังมีคนพักอยู่
พวกเขาเพียงลอบมองจากหน้าต่างบ้านของตนเอง
"ใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวแบบนี้ ต้องเป็นบ้าในสักวัน" เว้นไปอึดใจหนึ่งก็กล่าวขึ้นต่อ "เมืองใหญ่โต มั่งคั่ง แต่คนกลับอยู่อย่างหวาดกลัว มันจะดีได้อย่างไรกัน"

หลังการกินอาหารเสร็จ อาเม่ยจึงมาล้มตัวลงนอนอยู่ข้างแม่ทัพเชมัลที่เตรียมอาวุธ
"กลัวว่าพี่จะหนีเจ้าถึงขนาดนี้เชียวหรือ"
"ใช่สิ" อาเม่ยกอดแขนใหญ่ไว้ "ท่านพี่ชอบทำอะไรตามลำพัง ท่านต้องลอบเข้าไป แล้วก็กลับออกมาเพื่อรอคนอื่นๆ แน่"
มือใหญ่บีบจมูกสวย "เจ้านี่มันช่างรู้ใจนัก"
อาเม่ยปัดมือใหญ่ออกแล้วกล่าวขึ้น "บางคราน้องก็สงสัย ว่าหากท่านไม่ใช่พระอนุชา คงไม่ได้เป็นแม่ทัพ หากแต่กลายเป็นโจรป่าอยู่นอกเมืองแน่"

ในคืนนั้นแม่ทัพเชมัลก็นำอาเม่ยลอบเข้าสู่เขตพระราชวัง 
กำแพงสูงใหญ่ แต่เมื่อมีมือใหญ่จับมือกันไว้ อาเม่ยก็กระโดดข้ามไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ลัดเลาะผ่านทหารยามที่ถูกอาบไว้ด้วยเวทย์ดำ ตรงไปยังพระราชฐานส่วนใน ซึ่งเป็นพระตำหนักหลังใหญ่ของพระราชา ล้อมรอบด้วยพระตำหนักหลังรองลงมาของรัชทายาทเจิ้นเทียน พระชายา และเหล่าสนม
มาถึงตรงนี้ อาเม่ยนึกถึงความเป็นไปได้ที่พระราชา รวมถึงรัชทายาท จะไม่ได้พำนักอยู่ในตำหนัก แต่เพราะจนถึงบัดนี้ความสามารถในการอ่านเวทย์ต่างๆ ยังไม่กลับมา จึงทำได้แต่เพียงสังเกตท่าทีของแม่ทัพเชมัลที่เป็นผู้นำทาง
ความเชื่อมั่น ที่ปราศจากความลังเลอย่างสิ้นเชิงทำให้อาเม่ยหยุดตั้งคำถามในใจ ตามอีกคนข้ามผ่านหน้าต่างในพระตำหนักหลังใหญ่ เข้าสู่ห้องบรรทม
มือใหญ่ชี้บอกให้อาเม่ย ไปหยุดยืนเตรียมพร้อมอยู่ที่ด้านข้างประตูห้อง นั่นเพราะในทันทีที่เข้าประจำตำแหน่ง แม่ทัพเชมัลก็คลายเวทย์คุ้มครองของทั้ง 2 คน
ฉับพลันได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมเล็กดังขึ้นจากทุกทิศทุกทาง ตามมาด้วยความรู้สึกรับรู้ว่า เหล่าผู้ใช้เวทย์เมืองวันทั้งราชองครักษ์ และองครักษ์ ล้วนเข้าประจำการตามจุดต่างๆ ทั้งภายในเขตพระราชวัง ด้านหน้าพระราชวัง และในเขตเมืองหลวง!

จากที่ผ่านมา รู้แต่เพียงว่ามีแม่ทัพเชมัลที่อยู่ข้างกัน แต่ยามนี้ รับรู้ว่ายังมีคนอื่นอีกหลายคนที่เคลื่อนไหวอยู่ในที่นี้
ทั้งแรงใจ และแรงกายกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ!

พระราชาเมืองเหนือสะดุ้งตื่นขึ้นมาตั้งแต่ได้ยินเสียงกรีดร้องดังก้องคราแรก ถึงยามนี้ได้นั่งนิ่งอยู่บนเตียงและมองหน้าแม่ทัพเชมัลที่ยืนกอดอกอยู่ข้างเตียง
"ชะ เชมัล"
แม่ทัพเชมัลยิ้มจริงใจที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ที่พูดออกมาคือคำสั่งให้เลือก
"จะทรงสละเวลาสนทนากับข้าที่ห้องนี้ หรือจะเสด็จออกไปข้างนอก คุยกันพร้อมหน้ากับเจิ้นเทียน"
"ชะ เชมัล เจ้า เจ้า"

ที่ผ่านมา พระราชาเมืองเหนือ ไม่พอใจพระราชาฟารัค แม่ทัพเชมัล และแม่ทัพนาซิมมาตลอด แต่ความไม่พอใจนั้น ยังไม่ถึงขั้นที่จะคิดทำสงครามกัน ต่างจากองค์รัชทายาทเจิ้นเทียนที่ถูกแม่ทัพเชมัลดูหมิ่นครั้งแล้วครั้งเล่าที่นอกด่านนั่น
การเพาะเลี้ยงบรรดาผู้ใช้เวทย์ดำ ไปจนถึงการสร้างสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นขึ้นมา ก็เป็นความคิดขององค์รัชทายาททั้งสิ้น ซึ่งแม้พระองค์จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่คิดที่จะห้ามปราม ตราบใดที่พระองค์ยังอยู่ในพระราชอำนาจ

และในยามนี้ พระราชาเมืองเหนือทรงรู้ดี ว่าการที่ยังทรงมีลมหายใจอยู่ เป็นเพราะแม่ทัพเชมัลผู้นี้ไม่ได้คิดจะเอาชีวิต แต่การแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สามารถบุกรุกเข้ามาอย่างง่ายดายจนถึงข้างเตียงโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้แบบนี้  มันคือการดูหมิ่นกันยิ่งนัก

ยิ่งท่าทีกอดอกยืนมองมานิ่งๆ แบบนั้น ท่าทีแบบนั้นมัน...
..เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดรัชทายาทเจิ้นเทียนถึงได้เคียดแค้นแม่ทัพผู้นี้อย่างยิ่ง!
เพราะทั้งสีหน้า ท่าทาง รวมไปถึงการที่บรรดาผู้ใช้เวทย์จากเมืองวันทยอยคลายเวทย์คุ้มครอง ที่บ่งชี้ว่า พวกเขาล้อมรอบพระราชวังไว้ ทั้งกำลังเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆ ได้โดยไม่ถูกขัดขวาง ยิ่งทำให้พระราชาเมืองเหนือใกล้จะคลุ้มคลั่งเต็มที!
...น้องชายยังอวดดีถึงเพียงนี้ พระราชาฟารัคคนเจ้าเล่ห์นั่น จะขนาดไหน
...ไม่สิ แผนการเหยียดหยามข้าถึงขนาดนี้ ต้องเป็นความคิดของพระราชาเจ้าเล่ห์คนนั้น!

พระราชาเมืองเหนือถ่วงเวลาเพื่อใคร่ครวญแผนการที่จะจัดการกับเหล่าผู้ใช้เวทย์เมืองวัน ด้วยการเปลี่ยนเครื่องทรงแล้วเดินตามแม่ทัพเชมัลออกมาที่ห้องโถงด้านนอก
ที่นั่น มีทั้งองค์รัชทายาทเจิ้นเทียน กับเหล่าพระชายา พระโอรส และพระธิดา ที่ถูกควบคุมตัวออกมารออยู่
ผู้ที่ควบคุมองค์รัชทายาทคือ ราชองครักษ์มีอา ส่วนหัวหน้าองครักษ์รอมกับองครักษ์ฮูดา ควบคุมกลุ่มพระชายา
องครักษ์ฮูดานั้นมีสีหน้าผ่อนคลายลงเมื่อเห็นว่าแม่ทัพเชมัลยังปลอดภัย
อาเม่ยเองก็ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นทุกคนพร้อมหน้า จนอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าขององครักษ์ฮูดา
แต่คนตาคมเพียงเดาะลิ้นอย่างขัดใจ ส่งสายตาเตือนให้ระมัดระวังรักษาหน้าที่

แม่ทัพเชมัลเชิญให้พระราชาเมืองเหนือ ประทับนั่งที่พระเก้าอี้ ส่วนตัวเองก้าวมาหยุดยืนอยู่กลางห้อง ประหนึ่งว่าที่นี่คือเมืองวัน มิใช่เมืองเหนือ
อาเม่ยยังคงคิดเปรียบเทียบ
ตอนที่อยู่ในค่ายทหาร แม่ทัพเชมัลวางตนเป็นเหมือนหัวหน้ากลุ่มนักดาบ มิใช่การวางท่าใหญ่โตเช่นนี้
เมื่อหันไปมองรัชทายาทเจิ้นเทียน ที่สีหน้าแววตาคับข้องใจยิ่งนัก กลับรู้สึกสงสารแบบแปลกๆ
....เป็นรัชทายาทก็ดีอยู่แล้ว ไม่น่ามาหาเรื่องกับหัวหน้าโจรป่าอย่างท่านพี่เชมัลเลยจริงๆ...

ดวงตาแข็งกร้าวที่กวาดมองฝ่ายเมืองเหนือช้าๆ คือการสะกดพลังของทุกคนในที่นี้ด้วยความใจเย็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะพระราชา หรือรัชทายาท ล้วนกลายเป็นเพียงคนธรรมดาที่อยู่ต่อหน้าแม่ทัพเชมัล

"อันที่จริงหากจะนับกันแล้วพวกเราก็เป็นญาติพี่น้องกัน" เมื่อแม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้น รัชทายาทเจิ้นเทียนก็ขัดขึ้นทันที
"ข้าไม่เคยนับว่าเจ้าเป็นพระญาติ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนทั้งสิ้น!"
แม่ทัพเชมัลหันไปมอง "ขอบใจที่ไม่นับญาติ เพราะนั่นช่วยให้พวกเราแก้ไขปัญหาได้ง่ายดายขึ้น"
"เจ้ามันคนอวดดี!"

แม่ทัพเชมัลกลับมีสีหน้ายอมรับคำกล่าวหา ที่ทำให้อีกฝ่ายโกรธกริ้วกว่าเดิม
สีหน้าท่าทางแบบนี้เอง ที่ทำให้รัชทายาทเจิ้นเทียนและเฮยอั้นโกรธแค้น จนนำไปสู่ความขัดแย้งบานปลาย
"สรุปว่าทั้งหมดทั้งมวลนี่ เป็นเรื่องผลประโยชน์ของเมืองเหนือ หรือเพราะการที่-เจ้า-แพ้- ข้า- มาตลอด"

ก่อนที่รัชทายาทจะกล่าวคำที่ผิดพลาดออกมาอีก พระราชาเมืองเหนือก็รับสั่งขึ้น
"เจ้าต้องการอะไร"
"ข้าต่างหากที่ต้องถามว่า ท่านต้องการอะไร ถึงได้ต้องทำร้ายเพื่อนบ้าน และทำร้ายคนในเมืองของท่านเองถึงเพียงนี้"
แม่ทัพเชมัลที่ยืนอยู่กลางห้อง หันไปมองพระราชาเมืองเหนือตรงๆ
ท่าทีดั่งหนึ่งนี่คือบ้านของแม่ทัพเชมัล และพระราชาเมืองเหนือเป็นเพียงผู้รับใช้

"แรกนั้น ท่านต้องการทางออกทะเล พวกเราก็ทำไปตามข้อตกลงที่วางไว้มานานหลายสิบปี เมืองวันไม่เคยคิดไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขมัน ด้วยเห็นว่า จะอย่างไรพวกเราก็ล้วนสืบทอดสายเลือดมาจากพระราชาเอลมัสด้วยกันทั้งสิ้น พระราชาฟารัคทรงยอมรับได้หากมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบ้าง ตามประสาพี่น้องที่อยู่ห่างไกลกัน แต่ถ้าถึงกับส่งคนเข้าไปทำร้ายกันถึงในบ้านอีกฝ่าย ทำร้ายคนของตนเอง และใช้เวทย์ดำกันแบบนี้ พระราชาฟารัคก็ไม่อาจอยู่เฉยได้อีก"
"พวกเรา...พวกเรา...."
พระราชาเมืองเหนือไม่ใช่ผู้ที่มีนิสัยแข็งกร้าว ที่เดินทางผิดก็ด้วยการชี้นำจากรัชทายาทและฝ่ายใน เมื่อมาเผชิญแรงกดดันจากแม่ทัพเชมัล ร่วมด้วยเหล่าราชองครักษ์ และองครักษ์ของเมืองวันกลับไม่สามารถคิดอ่านการใดได้
ทำได้แต่เพียงนั่งฟังแม่ทัพผู้นี้กล่าวคำ

ในเวลาเดียวกันนั้น รัชทายาทเจิ้นเทียนกลับพยายามรวบรวมพลังเวทย์ดำเพื่อต้านทานพลังที่ควบคุมตนอยู่ แต่พลังนั้นกลับเลือนหายไปจนกลายเป็นความว่างเปล่า หลังจากที่พยายามอยู่ 2 ครั้งก็รู้สึกอ่อนแรงลงไปมากจนต้องเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพเชมัลที่กำลังมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ
แต่แม่ทัพเชมัลกลับพยักหน้าไปทางคนรูปร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างๆ คนผู้นั้นคือราชองครักษ์มีอา
ดวงตาเรียวยาวที่มองลงมา กับการยกยิ้มที่มุมปาก ช่างทำให้อยากร้องตะโกน
...ที่เมืองเหนือ ไม่มีใครต่อกรข้าได้
จะมนุษย์ หรือ อมนุษย์ ข้าก็อยู่เหนือกว่าผู้อื่น! แล้วเหตุใด แค่ราชองครักษ์หน้าตาไร้ความรู้สึกผู้หนึ่งถึงสลายพลังของข้าได้อย่างง่ายดาย!
ที่สำคัญ ไอ้สีหน้าท่าทางแบบนี้! พวกมันฝึกวิชาดูหมิ่นผู้อื่นด้วยสีหน้าแบบนี้กันทุกคนเลยหรือไร ตั้งแต่หัวหน้าจนถึงลูกน้องช่างอวดดีนัก!

แรกนั้นแม่ทัพเชมัลสะกดพลังของรัชทายาทไว้ แต่เพราะในที่นี้มีผู้ใช้เวทย์ดำอยู่หลายคน การให้แม่ทัพดูแลทั้งหมดเป็นการเสี่ยงเกินไป จึงต้องให้ราชองครักษ์และองครักษ์รับช่วงต่อ

เมื่อสู้ไม่ได้แม้แต่ราชองครักษ์ รัชทายาทแห่งเมืองเหนือก็กวาดสายตาหาคนผู้หนึ่ง...

แม้เรื่องราวทั้งหมด จะเกิดขึ้นจากความแค้นของรัชทายาทเจิ้นเทียน แต่พระราชาเมืองเหนือก็ไม่คิดที่จะกล่าวโทษ
"เหตุใดเจ้าจึงกล่าวว่าข้าทำร้ายคนของข้าเอง ทั้งที่พวกเขาอยู่ด้วยความสงบสุขปราศจากความขัดแย้งใดๆ"
แม่ทัพเชมัลยืนเอามือไขว้หลัง "ท่านออกไปนอกเขตพระราชวังครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่"
"นั่น....เพราะข้าสุขภาพไม่ดี"
"เพราะอะไรท่านถึงสุขภาพไม่ดี"
พระราชาเมืองเหนือเองก็เคยตั้งคำถามเรื่องนี้ ด้วยคิดระแวงถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพระราชวัง แต่เมื่อถูกแม่ทัพของเมืองวันถามขึ้นมา ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ที่คิดมาตลอดนั้นถูกต้อง แต่ด้วยทิฐิจึงกล่าวต่อไป
"เมื่อข้าเลือกที่จะเดินทางสายเวทย์ดำ มันก็ย่อมมีข้อแลกเปลี่ยนกันบ้าง ข้าย่อมรู้วิธีควบคุมมัน แต่ข้ายังติดใจ เรื่องที่เจ้าพูดถึงประชาชน"
"ที่นี่เป็นบ้านของท่าน แต่ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะนำชมให้ท่านเห็นด้วยตาตนเอง"

เมื่อออกมาด้านนอกท้องฟ้ายังมืดอยู่ แม่ทัพเชมัลเพียงเดินอยู่ด้านข้างขวาของพระราชา แต่ที่ลานด้านหน้าของพระราชวัง กลับมีชายชราผมสีแดงดั่งเพลิง สวมชุดสีหม่นยืนกอดอกอยู่กลางลาน
รัชทายาทเจิ้นเทียนมีสีหน้ายินดีอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่อาเม่ยใบหน้าซีดเผือดเมื่อกล่าวคำ
"ท่านผู้เฒ่าไฟ"
ผู้เฒ่าไฟมีดวงตาสีแดงเข้ม ใบหน้าผอมซูบ ผิวกายส่วนที่พ้นผ้าขาวซีดมองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่ห่างออกมาอีกหลายก้าว
พระราชาเมืองเหนือรับสั่งขึ้น "ท่านผู้เฒ่า ได้พบท่านก็ดีมากแล้ว เชมัลบุกรุกเข้ามาและบอกกับข้าว่า ประชาชนข้างนอกนั่นทุกข์ยาก"

เมื่อพบกับผู้เฒ่าไฟ แม่ทัพเชมัลก็คิดรู้ว่า ที่ผ่านมาพระราชาเมืองเหนือต้องพบกับเวทย์ที่สร้างการรับรู้บิดเบือนความเป็นจริง เหมือนกับที่ใช้กับอาเม่ย 
อาเม่ยมีนิสัยพื้นฐานที่ดี กลายเป็นการถูกทับซ้อน และซ่อนความทรงจำไว้เป็นชั้นๆ
ส่วนพระราชามีความหยิ่งความทะนงตน ลุ่มหลงในความยิ่งใหญ่ของตนเอง จึงมองเห็นเพียงสิ่งที่ตนต้องการเห็นเท่านั้น
เพียงแต่ตอนนี้ที่ทรงมีอาการตื่นรู้ขึ้นมาได้ ก็เพราะการที่แม่ทัพเชมัลใช้เวทย์กดพลังเวทย์ดำของทุกคนที่นี่ไว้

ยังไม่ทันที่ผู้ใดจะเอ่ยปาก ประตูของเมืองเหนือก็เปิดออก ผู้ที่ก้าวเข้ามาคือผู้เฒ่าดิน
"ขออภัยอย่างยิ่งที่เพิ่งมาถึง ข้าอายุมากแล้ว มาร่วมงานเลี้ยงช้าไปสักนิด นี่เริ่มกันไปแล้วใช่หรือไม่" ทั้งที่กล่าวคำว่าอายุมาก และคำว่าช้า แต่เมื่อกล่าวจบประโยค ผู้เฒ่าดินก็กลับมายืนอยู่ด้านหน้าของผู้เฒ่าไฟที่หันไปมอง

นั่นทำให้ผู้เฒ่าไฟ หันหลังให้กับทุกคน

"ผู้เฒ่าไฟ เพื่อนเก่า สบายดีหรือไม่"
ผู้เฒ่าไฟไม่ตอบคำ กลับยังยืนกอดอกอย่างสงบนิ่ง
ทั้ง 2 คนเพียงยืนมองหน้ากัน ซึ่งทุกคนในที่นี้รู้ดี ว่าทั้งคู่ต่างต่อสู้กันอยู่ ที่ไม่คาดคิดคือผู้เฒ่าดินกลับเปิดฉากซัดก้อนหินก้อนดินใส่ผู้เฒ่าไฟก่อน ผู้เฒ่าไฟก็ซัดกลับ จนกลายเป็นลูกไฟกระจายไปทั่ว
คนที่วุ่นวายคือ องครักษ์ซันและแซนที่ต้องพากลุ่มสตรีที่ไม่มีพลังเวทย์ถอยห่างออกมา ทั้งยืนคุ้มกันให้ด้วย
แม่ทัพเชมัลหันไปถามพระราชา "จะเสด็จออกไปดูข้างนอกกันหรือไม่"
"แต่..." พระราชาเมืองเหนือชี้ไปที่คู่ต่อสู้ รวมถึงความวุ่นวายของกลุ่มสตรีและเด็กๆ  แต่แม่ทัพเชมัลกลับดูผ่อนคลาย
"เช่นนั้นพวกเราก็ชมการต่อสู้ของผู้เฒ่ากันอีกสักนิดเถิด"
แสงสว่างจากลูกไฟในการต่อสู้ ทำให้พระราชาเมืองเหนืองทรงเพ่งตามองผู้เฒ่าดิน "ผู้เฒ่าดินนั่น...."
"พระปัยกามูซัค"
คำตอบสั้นๆ ของแม่ทัพเชมัลทำให้ทุกคนในที่นั้นถึงกับนิ่งเงียบ กระทั่งพระราชาเมืองเหนือเอ่ยขึ้น "นี่ข้าทำอะไรลงไป"

ระหว่างผู้เฒ่าทั้งสองคนปะทะกัน มีเสียงฝีเท้าม้าเข้ามาใกล้ เป็นต้นห้องเก้าที่มาพร้อมกับราชองครักษ์ลาทีฟ

แม่ทัพเชมัลพร้อมใช้แผนสำรองที่คิดเผื่อไว้ในใจ ดวงตาสีเข้มหันไปมองพระราชาเมืองเหนือ
"คำถามก็คือ พระองค์จะยอมหยุด....ลอบกัด....พวกเราหรือไม่"
พระราชาเมืองเหนือ หันไปมองผู้เฒ่าดินและผู้เฒ่าไฟ ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ที่ลานด้านหน้าของพระราชวัง แต่ในยามนี้ ผู้เฒ่าดินกลับพุ่งตรงไปที่พระตำหนักหลังใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ทรงงาน และประชุมเหล่าเสนาบดี ลูกไฟขนาดใหญ่กระแทกปูนปั้นรูปสิงโตตัวใหญ่เชิงบันไดจนแตกกระจาย
"นี่มัน มิใช่เรื่องที่ตัดสินใจได้โดยง่าย" พระราชาเมืองเหนือหันมารับสั่งตอบ ขณะที่ความกังวลว่าการต่อสู้ของผู้เฒ่าทั้งสองจะสร้างความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม
"เสียดายที่ข้ามีเวลาไม่มากนัก"
"เชมัล เรื่องของบ้านเมือง ตัดสินใจลำพังไม่ได้ ข้าต้องเรียกประชุม...."
"เช่นนั้นก็ตอบคำถามนี้ก่อนก็ได้ พระองค์รับรู้เรื่องที่เจิ้นเทียนและผู้เฒ่าไฟ ทำร้ายคนของเมืองวันใช่หรือไม่"
สิงโตตัวที่ 2 ถูกลูกไฟของผู้เฒ่าไฟ จนสลายเป็นฝุ่นผง
"ใช่" พระราชาเมืองเหนือตอบในทันที

...จริงอย่างที่พระราชาฟารัครับสั่งไว้ พระราชาผู้นี้ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากความยิ่งใหญ่แต่เพียงภายนอก พระราชวังใหญ่โตสวยงาม กับทรัพย์สินเต็มท้องพระคลัง ส่วนความทุกข์ยากของประชาชนไม่ได้อยู่ในความสนใจแม้แต่น้อย....

"งั้นเราก็กลับไปที่คำถามแรก หยุดลอบกัดพวกเราได้หรือไม่"
"เชมัล...เรื่องนั้น"
"พวกเราจะเอาเมืองวัน!" รัชทายาทเจิ้นเทียนตะโกนตอบมาในทันที
แม่ทัพเชมัลหันไปมองคนที่ถูกราชองครักษ์มีอาควบคุมตัวไว้ แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์
"ดูเหมือน ที่นี่จะมีพระราชาสองพระองค์สินะ ตัดสินใจช้าเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่ทันการณ์แล้ว"


แม่ทัพเชมัลหันไปหาต้นห้องเก้า ที่หยุดรอห่างจากประตูวังเพียง 2 ก้าว เพราะรู้ดีว่า หากเข้ามาใกล้จะทำให้อาเม่ยไม่ชอบใจ จึงมีเพียงราชองครักษ์ลาทีฟที่ตรงเข้ามาหา

"มีเรื่องบางอย่างที่ควรบอกกับเจ้าก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้รับฟัง" แม่ทัพเชมัลมองรัชทายาทเจิ้นเทียนด้วยตาเหยียดหยาม "เจ้าด้อยกว่าข้ามาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ หรือที่ไหน เจ้าก็แพ้ข้า ถ้าข้าอยู่ในเมืองวันจะมีกติกามากหน่อย การจัดการอะไรก็ต้องยึดกติกาเหล่านั้น เมื่อพบกันที่เมืองหน้าด่าน เป็นอิสระก็จริงแต่ข้าไม่อยากเสี่ยงที่จะต้องกลับไปรับโทษเมื่อกลับเข้าเมือง ทั้งไม่อยากให้ใครว่า ถือดีว่าเป็นพระอนุชา แต่ที่นี่...ข้าไม่ต้องกลัวอันใด"
"ชะ เชมัล เจ้า เจ้า" เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มหลัง
"พระราชาฟารัคมักรับสั่งว่า มีแต่ข้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จัดการเมืองเหนือได้ เจ้ารู้ไหมว่าเพราะอะไร"
รัชทายาทเจิ้นเทียนได้แต่จ้องมองคนพูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แสดงให้เห็นว่ารู้ แต่ยังต้องการท้าทาย
แม่ทัพเชมัลยิ้มเย็น
"ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว และยังต้องการท้าทาย เช่นนั้นก็ ชื่นชมกับวาระสุดท้ายของเจ้าให้เต็มที่"

"รบกวนท่านลาทีฟ มาทำหน้าที่แทนฮูดา" แม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้น
ราชองครักษ์ลาทีฟสลับตำแหน่งกับองค์รักษ์ฮูดาในทันที
ในระหว่างที่องครักษ์ฮูดาเดินมาหาแม่ทัพเชมัล รู้สึกถึงพลังในการอ่านความรู้สึกของผู้คนรอบตัวเพิ่มขึ้นทวีคูณ เมื่อมองแม่ทัพเชมัลที่พยักหน้าส่งสัญญาณให้เตรียมพร้อม ก็รู้ได้ว่าพลังสนับสนุนนี้มาจากที่ไหน

...และเพิ่งรู้เช่นกัน ว่าแม่ทัพเชมัล ก็มีพลังในการสนับสนุนพลังเวทย์ของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเช่นเดียวกับพระราชาฟารัค...

ลำดับต่อมาคือการที่แม่ทัพเชมัลหันไปกล่าวทักทายต้นห้องเก้า
"เจ้าสบายดี"
แม้ท้องฟ้าจะยังไม่สว่าง ทั้งต้นห้องเก้ายังอยู่ห่างไกลจากผู้อื่น แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่า คนรูปงามมีใบหน้าซีดเผือดในทันที ดวงตาคู่สวยเปลี่ยนมาจ้องมองอาเม่ย ขณะที่กล่าวตอบแม่ทัพเชมัล
"สะ สบายดีขอรับ"

คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านหลังแม่ทัพเชมัล เกร็งพลังส่งเสียงร้องคำรามดังก้อง จนทุกคนในที่นี้หยุดชะงัก
เป็นพลังรุนแรง ตรงข้ามกับรูปร่างหน้าตาอย่างสิ้นเชิง!
แม้แต่คนที่กำลังสู้กันอยู่ก็ยังหยุดมือ หันมามอง

"ฝีมือของเจ้าไง ผู้เฒ่าไฟ ถึงเวลาที่เจ้าจะได้รับชมผลงานที่เจ้าวางไว้ ด้วยตาเจ้าเองแล้ว" ผู้เฒ่าดินกล่าวขึ้น

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง องครักษ์ฮูดาร้องตะโกนเรียกต้นห้องเก้า ให้วิ่งตามมา
ทิศทางที่วิ่งนำไปคือเรือนรับรองหลังเล็กที่อยู่ใกล้เคียง
ต้นห้องเก้าเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อหันมาอีกครั้งกลับพบว่า อาเม่ยวิ่งตามมาด้วย
ดวงตาคู่สวยเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท รอยเส้นสีดำเข้มพาดผ่านใบหน้า
ไม่มีเวลาได้ร้องถาม ว่าที่นี่มีเหยื่อมากมายให้เลือกใช้ เหตุใดทั้งแม่ทัพและองครักษ์ฮูดาจึงเลือกให้ตนเป็นเหยื่อล่ออาเม่ย ลูกไฟลูกแรกก็เฉียดเท้าไปเพียงนิดเดียว!

"เร่งเท้าขึ้นอีกเก้า ถ้าเจ้ายังไม่อยากตาย"
องครักษ์ฮูดาหันมาเร่งด้วยน้ำเสียงสนุกสนานอย่างยิ่ง แต่หัวใจของต้นห้องเก้ากำลังจะหล่นลงไปอยู่ที่เท้า สมองคิดประมวลผลใดๆ ก็ไม่ทันทั้งสิ้น รู้แต่ว่าต้องหนีให้เร็วกว่านี้
จากที่เคยถูกทำร้ายบาดเจ็บมาครั้งแล้วครั้งเล่า ครานี้อาจต้องตายที่เมืองเหนือก็เป็นได้
เพราะที่นี่คือเมืองเหนือ และอาเม่ยถูกเวทย์ดำของเมืองเหนือ พลังในการสร้างความเสียหายจึงรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า

ลูกไฟถัดมาที่ไล่ตามหลังต้นห้องเก้า พลาดเป้าหมายไปที่หน้าต่างของเรือนหลังเล็กแล้วเริ่มลุกไหม้ 
องครักษ์ฮูดาร้องบอกให้ต้นห้องเก้ายิงธนูในมือ ผู้รับคำสั่งก็ยิงไปทั่ว โดยที่ไม่ได้กำหนดเป้าหมายใดๆ ยิ่งกลายเป็นการทำลายสิ่งปลูกสร้างหลายหลัง

องครักษ์ซันซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องไฟพึมพำขึ้น "หน้าที่นี้น่าจะเป็นข้านะ แต่ก็เข้าใจว่าฮูดาต้องโกรธแน่ ถ้าพลาดโอกาสได้กลั่นแกล้งเก้า"

องครักษ์ฮูดานำทางกลับมาที่พระตำหนักหลังใหญ่ บุกทะลวงนำทางเข้าไปทางหน้าต่างหลังหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่ง ผู้เฒ่าดินก็กำลังตะโกนยั่วยุผู้เฒ่าไฟให้ตามเข้ามาในพระตำหนักหลังใหญ่
ทั้งผู้เฒ่าไฟ และอาเม่ย ต่างคือผู้ใช้ไฟ ย่อมเป็นผู้ที่อารมณ์เป็นใหญ่ ยามเมื่อพลังแห่งไฟก่อเกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ควบคุมได้นอกจากปล่อยให้ไฟนั้นแผดเผาตนเอง

ภายใต้สีหน้ามั่นใจของแม่ทัพเชมัล จึงเป็นความกังวลว่าไฟของอาเม่ยจะไปสิ้นสุดลงที่ใด และได้แต่หวังว่าองครักษ์ฮูดาผู้ใช้ธาตุดินที่อยู่ใกล้กับอาเม่ยที่สุดในเวลานี้ จะสามารถป้องกันอาเม่ยได้ในทันที ที่อาเม่ยไปถึงจุดที่จะทำลายตนเอง

เมื่อพายุแห่งไฟ 2 ลูกบุกเข้าไปเผาพระตำหนักหลังใหญ่ พระราชาเมืองเหนือก็แทบจะยืนไม่อยู่
"บอก ... บอกพวกเขา หยุดสู้กันได้แล้ว"
"พวกเราเป็นผู้น้อย ผู้เฒ่าไฟคงไม่รับฟังคำพูดของเรา ส่วนอาเม่ยก็ไม่เคยหยุดจนกว่าจะหมดแรงไปเอง"
"หมายความว่าอย่างไร" พระราชาหันมาถาม
แม่ทัพเชมัลเพียงหันไปหารัชทายาทเจิ้นเทียน "เจ้าวางเวทย์ดำไว้เช่นนั้นมิใช่หรือ ให้เม่ยทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง"
"ข้า...ข้าเพียง..." รัชทายาทเจิ้นเทียนนึกคำพูดไม่ออก เมื่อเห็นเปลวเพลิงพวยพุ่งผ่านหน้าต่างออกมา

..
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 30-12-2015 06:37:06
เห็นเงาร่างขององครักษ์ฮูดา ตามมาด้วยต้นห้องเก้า ออกไปทางด้านหลังของพระตำหนักหลังใหญ่แล้ววนอ้อมมาทางด้านขวา ทิ้งกองไฟลูกเล็กๆ ไว้ตามทาง ส่วนผู้เฒ่าดินแยกไปอีกทาง ตรงไปยังหอสูงที่เป็นหอตำราหลวง ที่นั่นคือเชื้อเพลิงอย่างดี
เพราะทางที่ผู้เฒ่าดินตรงไปเป็นหอสูง  เปลวเพลิงที่เกิดขึ้นจึงดึงทุกสายตาไปหา แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ที่นางสนมผู้หนึ่งในพระราชาเมืองเหนือกรีดร้องขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปในทางเดียวกันพากันส่งเสียงร้องห้าม
หอหลังนั้นเป็นเพียงหอหลังเล็กปลูกยกพื้นสูง มีทางเข้าออกเพียงประตูเดียวด้านหน้า แต่ปราศจากหน้าต่าง การตกแต่งโดยรอบไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ ทั้งอาจเดินผ่านไปโดยง่าย
องค์รักษ์ฮูดา ไม่ได้บุกทะลวงเข้าประตู  แต่กลับขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคา เคียงข้างคือต้นห้องเก้าที่เหน็ดเหนื่อยจนแทบจะทรุดตัวลงไปนั่ง ต้องใช้ธนูที่เป็นอาวุธประจำกายยันตัวไว้
"ที่นี่ช่างน่าสนใจยิ่งนัก" องครักษ์ฮูดารวบรวมพลังทั้งหมดกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง
จังหวะเดียวกันนั้นเอง ที่ผู้เฒ่าดินพยายามจะนำผู้เฒ่าไฟไปทางพระตำหนักที่ประทับส่วนใน แต่เมื่อผู้เฒ่าไฟเห็นว่าองครักษ์ฮูดายืนอยู่ที่หอหลังเล็กก็ตกใจ จนรีบกลับมาหา
องครักษ์ฮูดา สั่งให้ต้นห้องเก้าโยนธนูเวทย์ คนที่ได้รับคำสั่งซึ่งเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่งก็โยนอาวุธตามคำสั่ง แล้วจึงนึกขึ้นได้ เมื่อเห็นว่าอาเม่ยซัดลูกไฟเข้าใส่ธนู
ต้นห้องเก้ากลับต้องเป็นฝ่ายที่ใช้พลังครั้งสุดท้าย ดึงองครักษ์ฮูดาให้กระโดดลงมาจากหลังคา

..ธนูของต้นห้องเก้าเป็นอาวุธที่สั่งทำขึ้นพิเศษ ประกอบกับพลังเวทย์ที่มีอยู่ ทำให้ธนูนี้ยิ่งเพิ่มอำนาจในการทำลายล้าง....
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้อง แล้วตามมาด้วยลูกไฟขนาดใหญ่ แตกตัวแล้วลุกท่วมหอหลังเล็กในทันที

เสียงกรีดร้องรอบตัวชะงักค้าง พระชายาทั้ง 2 คนของพระราชาเมืองเหนือล้มลงในสภาพดวงตาเหลือกถลน โลหิตสีดำหลั่งจากทวารทั้ง 5 ขณะที่รัชทายาทเจิ้นเทียนกลับทุกข์ทรมานนานกว่านั้น ดวงไฟลุกไหม้จากภายในร่างกาย ทำลายอวัยวะแล้วจึงเผาทำลายร่างกาย สลายเป็นเพียงเถ้ามนุษย์กองหนึ่ง สภาพน่ากลัวยิ่งนัก

หันมาทางผู้เฒ่าไฟที่ส่งเสียงร้องคำราม พลังแห่งไฟปกคลุมท่วมตัว จนกลายเป็นลูกไฟดวงหนึ่ง
"ข้าบอกต่อเจ้าหลายครั้ง ว่าทุกสิ่งเกิดจากดิน ย่อมต้องกลับไปสู่ดินตามเดิม" ผู้เฒ่าดินกล่าวขึ้น
"ข้าคือไฟ ไฟไม่พ่ายแพ้ต่อดินไร้ค่าเช่นเจ้า" น้ำเสียงตอบโต้แข็งกร้าวจากผู้ที่รวมพลังแห่งไฟทั้งหมดที่มีอยู่
"ข้าไม่ได้บอกว่า เจ้าแพ้ข้า ข้าบอกว่าเจ้ากำลังกลับไปอยู่ในที่ที่เจ้ามา"
ผู้เฒ่าไฟเตรียมพร้อมที่จะระเบิดพลังใส่ผู้เฒ่าดินอีกครั้ง หวังว่าแม้จะต้องตาย ก็จะต้องทำให้อีกฝ่ายตายไปพร้อมกัน 

...เป็นการปล่อยพลังครั้งสุดท้าย คล้ายกับเมื่อครั้งที่เฮยอั้นใช้พลังครั้งสุดท้ายเพื่อโจมตีอาเม่ย...

แต่ที่ประหลาดคือ เมื่อรวบรวมพลังขึ้นมาแล้ว ความร้อนกลับติดค้างอยู่ที่ฝ่ามือของตนเอง หาได้พุ่งตรงเข้าหาผู้เฒ่าดิน เมื่อหันมาจึงพบว่าเป็นแม่ทัพเชมัลที่มองมา


"เมื่อเจ้ารู้ว่านั่นคือหัวใจของข้า ก็ไม่ควรคิดร้ายกับหัวใจของข้า"
เสียงของแม่ทัพเชมัลดังก้อง ได้ยินกันทั่วทุกคน

ความร้อนที่ถูกกักขัง กลับกลายเป็นเปลวเพลิงที่เผาไหม้ฝ่ามือของผู้เฒ่าไฟเอง แล้วลุกลามไปทั่วตัว

ที่กล่าวกันว่า ต้องเป็นแม่ทัพเชมัลเท่านั้น
ที่กล่าวกันว่า พลังของแม่ทัพเชมัลใกล้เคียงกับเวทย์ดำเพียงเส้นบางๆ ที่กั้นอยู่
เป็นเช่นนี้เอง!
ในห้วงความคิดสุดท้ายของผู้เฒ่าไฟ คือผู้ที่ยืนมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผู้ที่ครองพลังเวทย์ยิ่งใหญ่ แต่ไม่สนใจที่จะใช้มัน และยินดีเพียงตำแหน่งแม่ทัพ กับการได้อยู่กับผู้เป็นที่รัก

เมื่อผู้เฒ่าไฟถูกเผาด้วยพลังของตนเอง แม่ทัพเชมัลก็หันมาหาพระราชาเมืองเหนือที่ยังคงทรุดตัวลงมองเถ้าถ่านของรัชทายาท และพระชายาทั้ง 2 พระองค์ 
ดูท่าแล้วควรให้เวลาพระราชาเมืองเหนือได้ใคร่ครวญความเสียหายที่เกิดขึ้นอีกสักครู่
สรรพเสียงรอบตัว เหลือเพียงเสียงของเปลวไฟที่เผาไหม้ลุกลาม โดยที่ไม่มีทหารคนใดกล้าเข้าไปดับไฟ

แม่ทัพเชมัลจึงหันมาขอให้ผู้เฒ่าดินมาดูแลพระราชา
"มือของเจ้าไม่ควรต้องเปื้อนเลือด" ผู้เฒ่าดินกล่าวขึ้น
แม่ทัพเชมัลยิ้มมุมปาก "เหลนให้สัญญากับหลายคนไว้ ว่าจะพาทุกคนกลับไป"
"ที่ผ่านมาพวกเราเอาชนะกันไม่ได้เพราะรู้ว่าต้องแลกด้วยอะไร แต่ครานี้พวกเราต่างก็ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว เจ้ากลับมาแทรกแซงการตัดสินใจนี้เสียได้"
"เหลนต้องขออภัยท่านปู่ทวด แต่ยังมีวิธีที่ดีกว่าแลกชีวิตกัน ที่สำคัญแลกชีวิตกับคนแบบนั้น มันไม่คุ้ม" แม่ทัพเชมัลค้อมตัวอย่างสุภาพ แล้วขอตัวไปหาอีกคน
ระหว่างทางมาหอหลังเล็ก ยังได้ยินเสียงระเบิดดังก้อง
 
องครักษ์ฮูดา และต้นห้องเก้าถูกแรงระเบิดกระแทกมาทางหนึ่ง ส่วนอาเม่ยอยู่ในทิศทางตรงข้าม
ทั้ง 3 คนไม่ได้บาดเจ็บอันใด นอกจากหมดแรง
...มิใช่...หากจะเรียงลำดับกันแล้วต้องถือว่าองครักษ์ฮูดาเพียงเหน็ดเหนื่อย ส่วนองครักษ์เก้าเหนื่อยจนละทิ้งท่าทีสง่างาม นั่งพิงต้นไม้ใหญ่ในสวน ดวงตามองเศษชิ้นส่วนธนูที่ถูกระเบิด ขณะที่อาเม่ยหลังจากที่ปล่อยพลังแห่งไฟไปนับร้อยลูก ตอนนี้กำลังนอนหอบหายใจอยู่กลางพุ่มดอกไม้ในสวน
"ฝีมือเม่ย" องครักษ์ฮูดาพูดหอบๆ ชี้ไปที่ซากธนูของต้นห้องเก้า แต่สีหน้าแววตามีความสุขอย่างยิ่ง
แม่ทัพเชมัลได้แต่ส่ายหน้าให้กับเพื่อนรัก ขณะที่เดินไปหาคนที่นอนอยู่กลางพุ่มดอกไม้

....หากมิใช่ว่า ใกล้กันมีเพลิงไหม้อยู่ และยังมีเสียงระเบิดขนาดเล็กดังขึ้นเป็นระยะ ต้องถือว่าภาพนี้งดงามยิ่งนัก

"ว่าไง" แม่ทัพเชมัลวางฝ่ามือใหญ่ลงบนหน้าผาก
ไอเย็นดั่งสายน้ำไหลผ่านฝ่ามือเข้าสู่ร่างกาย อาเม่ยลืมตาขึ้นมอง ดวงตาสีเขียวใสแปลกตา กับยิ้มจางริมฝีปากแดงเรื่อ แล้วหลับตาลง
"เหนื่อยมาก แต่ก็ชอบเวลาแบบนี้มากเช่นกัน"
"แบบใด"
"แบบที่...." อาเม่ยไม่ตอบคำ กลับยิ้มน้อยๆ แล้วค่อยผ่อนลมหายใจ หลับต่อไปอย่างง่ายดาย

แม่ทัพเชมัลนั่งลงข้างๆ กวาดตามองไปรอบตัว แล้วก้มลงยิ้มให้กับคนที่นอนหลับ
"ตัวแสบ..."

..จบตอนที่ 40..
อีกสามตอนจบแล้วนะตัว เร็วจังเนอะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคน พี่ๆ น้องๆ ที่กรุณาติดตามกันมายาวนานถึง 40 ตอนเข้าไปแล้ว จากเดิมที่คนเขียนวางพล็อตไว้ 20 ตอน แต่จริงๆ เขาเขียนมา 45 ตอนเพราะมีทั้งที่ตัดทอนลงไป และก็มีที่ยกรวบตอนจนเหลือ 43 ตอนก็จบ จากนั้นจะมีตอนพิเศษอีก 3 ตอน
ขอบคุณมากครับ

น้ำชากับป๋าไจฟ์

 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-12-2015 07:36:28
พี่เชยิ่งใหญ่ทว่าเรียบง่าย

แต่ใช้เก้าเป็นตัวล่อนี่ร้ายนัก!

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 30-12-2015 07:47:23
ยาวสะใจมาก อ่านไปตื่นเต้นไป ลุ้นมาก!! เก้าเป็นเหยื่อล่อชั้นดีของเม่ยเลย ตอนแรกตกใจคิดว่าเก่าจะโดนซะแล้ว พี่เชนี่แผนการลึกซึ้งมากจริงๆ เก่งมากกกก ในที่สุดก็ไม่สูญเสียใครเลย ใกล้จบละด้วย ไม่อยากให้จบอะต่ออีกสักห้าหกตอนได้ป่าว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 30-12-2015 07:53:04
#กรีดร้องงงงงง
ตอนนี้มันใช่อะ สนุกมาก พี่เชเท่ห์มากๆ แตืถ้าพี่เก่งขนาดนี้พี่น่าจะมาถล่มเมืองเหนือตั้งนานแล้วนะ  :laugh:
แต่อาการของเม่ยตอนเจอเก้ายังดูไม่ปกติ น้องเม่ยจะยังไม่หายเหรอ แบบแอบสงสารเก้าอ่า  :hao3:

ตอนนี้ถูกใจเรามากๆเลย ขอบคุณนะคะ

เชื่อว่าตอนนี้คงเป็นตอนสุดท้ายของปีนี้ งั้นขอ สวัสดีปีใหม่ ล่วงหน้าให้คุณไจฟ์กะน้องที มีความสุชมากๆนะคะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 30-12-2015 08:28:50
นี่แหละนะที่เขาว่า คนเก่งมักไม่อวดอ้างตัว..ยกโป้งให้แม่ทัพเชมัล แอบสงสารเก้านิดนึงที่ต้องเป็นเหยื่อล่อ..แต่ไม่มีไฟใดจะรุนแรงเท่าไฟรักและความหึงหวงสินะ ..เฮ้อจบเรื่องราวสักที(มั้ง)ต่อจากนี้ชีวิตของทุกคนจะดำเนินการไปในรูปแบบใด ก็คงต้องแล้วแต่ ไจฟ์ทีลิขิตล่ะนะ 555. สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเลยเน้อ จะจบแล้วนี่เราอ่านกันข้ามปีเลยนะเนี่ย!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 30-12-2015 09:12:42
อรั๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ อาเม่ยหายสนิทแล้วสินะ กลับมาเป็นอาเม่ยคนเดิมเสียที เย้ๆๆๆๆๆ
แบบนี้ต้องตบรางวัลให้พี่เชหนักๆเลยนะ อิอิ
ตอนนี้พี่เชเท่มว๊ากกกกกกกกก ชูป้ายไฟเชียร์รัวๆ
หมดทุกข์หมดโศกกันซักทีนะทั้ง 2 คน
ส่วนฮูดาก็ยังแสบเหมือนเดิมเลย แกล้งอาเก้าอีกแล้ว
สงสารปนขำอาเก้าอ่ะ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่ต้องมาวิ่งหนีจนขาขวิด แถมธนูยังมาพังอีก
ทีนี้ก็เหลือแต่ปัญหาหัวใจล่ะสิน้ออออออออ รอเอาใจช่วยอาเก้ากันต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 30-12-2015 09:40:27
อ่านตอนนี้แล้วนั่งขำ นึกภาพตอนฮูดาวิ่งนำเก้า หนีอาเม่ย..เป็นภาพการ์ตูน มันออกมาตลกๆดีค่ะ ฮูดานี่แสบไม่ใช่เล่น ส่วนเก้า ก็วิ่งหนีจนเสียมาดสุขุม อาเม่ยก็..555+ หึงจนไฟลุก ทำไปด๊ายยย --- แต่ที่น่าตี คือแม่ทัพเชมัลอ่ะ ใจร้ายยย ปล่อยให้เก้าต้องวิ่งตามฮูดา หนีลูกไฟจากอาเม่ยจนหัวซุกหัวซุน  :mew5: ไหนว่าปรารถนาดีต่อเก้าไง ชริส์...

มาขำอีกจุดคือหลังจากอาเม่ยอาละวาดจนพินาศสันตะโรไปหมดทั้งเมืองแล้ว ก็กลับมานอนหงายหลังผลึ่งหลับกลางพุ่มดอกไม้ คงจะหลับฝันดีแน่ๆเลย 555+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 30-12-2015 09:50:18
ตอนนี้อ่านแล้วลุ้นมากกก...ท่านแม่ทัพเท่เวอร์
อาเม้ยเราเหมือนเก็บกดแล้วได้ปลดปล่อยเลยอ่ะ
นะตอนนี้อาเก้ายังเป็นบุคคลที่ดวงชงที่สุด555++

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 30-12-2015 10:26:06
 :a5: :a5:

พี่เชนี่ซุ่มมาก มาเงียบๆเเต่เก็บเรียบทุกคน เเถมพาเม่ยมาวิ่งเล่นกะเก้าอีกสนุกเค้าหล่ะ!!!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 30-12-2015 10:32:04

.
.
.
.

แล้วก็รู้สึกประทับใจและชอบใจในบุคลิกของเก้าตั้งแต่แรก
เพราะอ่านแล้วดันมีจินตนาการล้ำเลิศไปถึง เลโกลัสในเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงส์



คิดเหมือนกันเลยค่ะ เก้าในจินตนาการของเราคือคนนี้เลย

http://f.ptcdn.info/465/013/000/1387340578-Legolas02-o.jpg
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-12-2015 10:55:40
เท่มากๆๆๆๆๆๆๆเลยท่านแม่ทัพ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 30-12-2015 11:39:01
โอ๊ยยยยยยย ใจหายใจคว่ำหมด เล่นอะไรกันเนี่ย แม่ทัพเจ้าเล่ห์แต่เท่มากกกกกกกกก
ลุ้นตลอดกลัวเก้าจะโดนทำร้ายอีก เชมัลกับฮูดาสมแล้วที่เป็นเพื่อนรักกัน มองตาก็รู้ใจ
ชอบใจแผนการของแม่ทัพเชมัลมา เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง แต่กลับง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ

ดูท่าเรื่องต่างๆ น่าจะคลี่คลายลงแล้ว แต่เราไม่สามารถเดาคนเขียนเรื่องออกจริงๆ
ต่อไปก็ทำได้แค่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยตอนหน้าว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางใด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-12-2015 15:41:35
เมืองเหนือพังยับ คนก็ยับ (ยิ้มอ่อน^^)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 30-12-2015 15:46:28
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

สนุกมากกกก  แต่เหนื่อยแทนอาเก้าจริงๆๆ
ขอให้อาเก้ามีบทบาทเดินยิ้มหวาน เก็บดอกไม้ มีความสุขมั่งเหอะ
คนอ่านไป ลุ้นไป 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 30-12-2015 17:25:09
สงสารองครักษ์เก้า โดนใช้เป็นตัวล่ออาเม่ยซะเหนื่อยแฮ่กเลย555 อยากให้เก้าได้สมหวังสักที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 30-12-2015 18:20:42
จะพิมม้ายยยยยยยยย  จะได้รีบเกบตัง อยากนอนกอด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-12-2015 19:03:25
ตอนนี้เป็นตอนที่สนุกสนานมาก  ฮูดากับอาเก้าวิ่งลืมตายกันเลยทีเดียว อ่านไปก็ลุ้นไปว่าสองคนนี้จะวิ่งหนีอาเม่ยทันมั้ย :laugh:
พระราชาฟารัคกับแม่ทัพเชมัลสมกับเป็นพี่น้องกัน ฉลาด เก่งและรู้จักใช้คน o13 รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 30-12-2015 20:24:59

.
.
.
.

แล้วก็รู้สึกประทับใจและชอบใจในบุคลิกของเก้าตั้งแต่แรก
เพราะอ่านแล้วดันมีจินตนาการล้ำเลิศไปถึง เลโกลัสในเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงส์



คิดเหมือนกันเลยค่ะ เก้าในจินตนาการของเราคือคนนี้เลย

http://f.ptcdn.info/465/013/000/1387340578-Legolas02-o.jpg

จริงค่ะ พออ่านเจอว่าเก้าเก่งธนูบวกบุคลิกนิ่ง เงียบ นี่คิดไปถึงเลโกลัสเลยค่ะ เพียงแต่ความแมนและความจีนไม่ได้เท่านั้นเอง ฮ่าๆ

อิมเมจหน้าอาเก้าเราเป็นแบบนี้ค่ะ
(http://upic.me/t/l0/s8iii.jpg) (http://upic.me/show/57553787)

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 30-12-2015 20:31:34
พี่เชร้ายกาจมากๆๆ  o13    อาเม่ยคงหายสนิทแล้วคราวนี้

หลังจากเป็นเหยื่อล่อเก้าคงได้พบเรื่องดีๆบ้างจากนี้ :กอด1:


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 30-12-2015 20:32:43
รักเรื่องนี้ สนุกมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-12-2015 20:47:12
เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมมากๆ

ต่อจากนี้ไป อาเหม่ยจะหายดีหรือไม่

ในเมื่อผู้เฒ่าไฟตายไปแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 30-12-2015 23:15:06
คนรู้ก็อยากเป็นตัวล่อ
คนไม่รู้ก็คงนึกว่า "ทำไมถึงต้องเป็นเรา"
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 01-01-2016 01:05:44
สุนต์สันต์วันปีใหม่นะคะ ฉากสู้กันมันมากค่ะ  อาเม่ยน่าสงสาร โดนควบคุมอีกแล้ว แต่พี่เชมัลก็พระเอ๊กพระเอกฆ่าตัวโกงตายแล้วเข้ามาหาอาเม่ยท่ามกลางดอกไม้  หวานท่ามกลางมรสุมรบ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 01-01-2016 20:42:31
สิ่งที่รั้งทุกอย่างไว้คือความไม่มั่นใจและลังเล ต่อเมื่อได้ทำให้ตนเองมั่นใจแล้ว จึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ไม่ได้ตามอ่านเสียนาน ทิ้งไปช่วงหนึ่งเพราะยุ่ง แต่ตอนนี้กลับมาอ่านแล้วค่ะ ชอบมากๆ ตอนนี้ถือว่าจัดการตัวเป้งของเมืองเหนือไป ผู้เฒ่าไฟก็ถูกกำจัด รัชทายาทเจิ้นเทียนก็ตายไปแล้ว รอดูต่อว่ายังมีใครที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ อีกสามตอนที่เหลือนั้นน่าจะเป็นสำหรับการคลี่คลายปัญหาหัวใจของอีกหลายคู่ เชมัล-อาเม่ย, พระราชาฟารัค-อาเก้า, ราชองครักษ์มีอา-ต้าซัน...

แหม ชอบจริงๆ เลยค่ะคู่ของฟารัคกับอาเก้า ดิฉันคิดไว้นานแล้วว่าต้องคู่กัน จริงๆ แล้วอาเก้านี่เหมาะเป็นเคะราชินีมากๆ นะคะ โฮะๆๆ

รออ่านตอนต่อไป และขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีมากๆ เลยค่ะ  :mew1:

ปล. ขอเพิ่มอีกนิด อ่านตอนก่อนหน้า เห็นออกมาหน่อยเดียวแต่ชอบมากๆ คว้าเอาใจดิฉันไปเลยก็คือ ท่านหญิงซามินา (อาจต้องเปลี่ยชื่อเป็นท่านหญิงจำไม เพราะถามเยอะเหลือเกิน ฮ่าๆ นึกถึงหลานสาวที่บ้านเลยค่ะ) ส่วนที่เห็นมีแววก๊าวใจอีกคู่แต่ยังเด็กคือ องค์ชายรัชทายาทฮัมซา กับองค์ชายน้อยดาริม ดิฉันอาจจะคิดมากไป แต่เหมือนมีซัมธิงอยู่นะคะ ถ้าสามารถเขียนเป็นเรื่องต่อของรุ่นลูกได้จะดีมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 03-01-2016 09:06:46
ความสามารถของท่านเชนี่เหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ลำบากแน่ท่าจะเป็นศัตรูกับคนผู้นี้

ต่อไปคือการกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ทั้งเมืองเหนือที่ต้องฟื้นฟูเมืองใหม่รวมถึงความสัมพันธ์ของแต่ละคู่

อ่านมาเจอประโยคสุดท้ายของเนื้อเรื่องที่บอกว่าใกล้จะจบ (แอบเสียดายในใจ)

 :กอด1: และขอบคุณน้ำชากับป๋าไจฟ์ มากค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-01-2016 21:17:56
พี่เชมัลของน้องท่านพี่ช่างเก่งกล้าและเท่เกินใคร
ยิ่งตอนท่านกล่าวประโยคจบชีวิตผู้เฒ่าไฟ น้องแทบละลายเลยค่ะ

ปล.เก้าตอนนี้น่ารักดีจัง มีมุมสดใสๆจนรู้สึกว่าก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวบ้าง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่40 หน้า40(30ธันวา58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 05-01-2016 19:18:41
มารอพี่เชขา :mew1:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 05-01-2016 20:26:10
ตอนที่ 41

ท้องฟ้าสว่างแล้ว มองเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในเขตพระราชวังอย่างชัดเจน
เพลิงยังคงลุกไหม้หอสูง และหอพระคลังหลวง ส่วนตึกหลังใหญ่อีกหลายหลังหากไม่ถูกทำลายจนพังราบ ก็กลายเป็นเถ้าถ่านด้วยเปลวไฟ
มองออกไปที่ด้านนอกรั้วพระราชวัง มองเห็นสภาพบ้านเรือนทรุดโทรม
เวลาประมาณ 5 ปีที่เวทย์ดำแผ่อำนาจปกคลุมเมืองเหนือ สามารถกัดกินทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

เหล่าราชองครักษ์และองครักษ์จากเมืองวันปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน ในการแยกชาววังของเมืองเหนือ ที่ไม่ได้ถูกเวทย์ดำให้กลับไปเก็บกวาดที่พักซึ่งรอดพ้นจากการถูกทำลาย
ส่วนผู้ที่ถูกเวทย์ดำ ยังมีอาการอ่อนเพลีย ถูกพาไปนอนพักอยู่ในศาลาหลายหลัง 

อาเม่ยเป็นเพียงคนเดียวที่หลังจากนอนพักเต็มที่ ก็ออกมาช่วยหัวหน้าองครักษ์รอมสำรวจพื้นที่รอบนอกของพระราชวัง และไปแจ้งข่าวต่อเจ้ากรมเมือง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
บรรยากาศในเมืองหลังการทราบข่าวเรื่องการทำลายเวทย์ดำ จึงเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย หลังจากที่ทุกคนต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวมานานนับปี

แต่บรรยากาศของความผ่อนคลายนั้น ยังเว้นไว้ที่หนึ่ง คือพระตำหนักของรัชทายาทเจิ้นเทียนเป็นหนึ่งในพระตำหนักที่ถูกทำลายจนราบ ราชองครักษ์มีอามีสีหน้าตึงเครียดกว่าเดิมขณะที่สำรวจความเสียหาย และค้นหาความลับที่รัชทายาทซุกซ่อนไว้
อีกที่หนึ่งคือ ที่พระตำหนักหลังใหญ่ของพระราชาเมืองเหนือได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ยังพอให้พระราชาเมืองเหนือ ผู้เฒ่าดิน และแม่ทัพเชมัลนั่งสนทนากันที่ห้องทรงงานในพระตำหนักได้
ประตูหน้าต่างพระตำหนักเปิดกว้าง พระราชาเมืองเหนือทอดพระเนตรมองซากอาคาร ที่กลายเป็นกองหินกองปูนแล้วทรงเหน็ดเหนื่อยจนแทบไม่อยากคิดอยากกล่าวอันใดอีก
ด้วยความแค้นสะสมมาตั้งแต่อดีต ทำให้ที่ผ่านมาพระราชาเมืองเหนือแทบไม่ได้ยกย่องบรรพบุุรุษมากนัก แม้ในครั้งนี้ที่นิ่งเงียบก้มพระพักตร์ต่อหน้าผู้เฒ่าดิน ผู้เป็นพระปัยกา นั่นก็เพราะการที่ผู้เฒ่าดินคือผู้ครองเวทย์แข็งแกร่ง หาใช่เพราะการที่เป็นพระปัยกาแต่อย่างใด
ความพ่ายแพ้อย่างราบคาบเช่นนี้ ทำให้ต้องเก็บปากคำเพื่อรักษาอำนาจไว้

"เมื่อเจิ้นเทียนชักนำเวทย์ดำเข้าสู่เมือง เจ้าไม่มีสติฉุกคิดแม้สักครั้งเลยหรือว่า เภทภัยร้ายจะเกิดขึ้นตามมา" ผู้เฒ่าดินเอ่ยขึ้น แล้วถอนหายใจยาวเมื่อพระราชาเมืองเหนือนิ่งเงียบ "เมื่อจัดการกันในแบบเครือญาติไม่ได้ เราก็จัดการปัญหานี้โดยยึดกฎระเบียบที่มีมาแล้วกัน"

ผู้เฒ่าดินเองก็ทราบดีว่าพระราชาพระองค์นี้ทรงคิดอันใดอยู่ จึงทำหน้าที่เป็นเพียงคนกลางขณะที่แม่ทัพเชมัลกล่าวสรุปให้พระราชาเมืองเหนือยึดตามหลักการเดิมในเรื่องการลำเลียงสินค้า และใช้ท่าเรือของเมืองวัน ส่วนเรื่องการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำร้ายคนนั้น แม่ทัพเชมัลเพียงปัดให้เป็นความผิดของรัชทายาทเจิ้นเทียน ผู้เฒ่าไฟ และ เฮยอั้น ที่ล้วนเป็นผู้ซึ่งหาชีวิตไม่แล้ว
"เจ้าให้อภัยเช่นนั้นหรือ" พระราชารับสั่งถาม แม่ทัพเชมัลเพียงยิ้มมุมปาก ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

ยามบ่ายคล้อยที่ทุกคนกลับมารวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกัน หัวหน้าองครักษ์รอมจึงชักชวนทุกคนพูดคุย หลังการเกริ่นนำยืดยาวเพื่อให้ต้นห้องเก้าเชื่อว่า อาเม่ยไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้าย แต่อาเม่ยกลับตอบสั้นๆ ว่า
"ข้ารู้ตัวว่า ข้าลงมือ"
ทุกคนเงียบกริบหันไปมองหน้ากัน อาเม่ยก็ย้ำอีกครั้ง
"ตอนที่อยู่ที่หน้าเรือนจำเวทย์ แล้วซัดออกไปครั้งแรกข้าคิดว่าไม่รู้ตัว แต่เมื่อมาทบทวนอีกครั้ง ข้ามั่นใจว่ารู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป รวมถึงเมื่อเช้ามืดนี้ด้วย"
มีเพียงองครักษ์ฮูดา ที่หัวเราะร่วนอยู่คนเดียว "ข้าเกลียดเจ้าคนนี้ไม่ลงก็เพราะแบบนี้แหละ"
ต้นห้องเก้าก้มหน้า เหลือบตามององครักษ์ฮูดา "ข้าไม่ได้ทำอันใด ทำไมถึงถูกเกลียดขนาดนี้"
"ตั้งแต่แรกมา เจ้าก็เพียงแค่ยืนก้มหน้า ประหยัดถ้อยคำ ทุกคนโดยเฉพาะแม่ทัพก็เมตตาเจ้า ข้ารับใช้แม่ทัพเชมัลมานาน เขาไม่สนใจข้าเลยสักนิด อาเม่ยเองก็ถูกแม่ทัพทิ้งมาหนหนึ่ง จนต้องมีเรื่องร้ายถึงได้กลับมาเมืองหลวงเพื่อทวงสัญญา ถ้าไม่โกรธเจ้าแล้วจะโกรธใคร"
ต้นห้องเก้าหันมาหาอาเม่ยเพราะไม่รู้เรื่องราวในส่วนนี้ ทำให้องครักษ์ฮูดารู้สึกขัดใจ ที่ต้องเล่าเรื่องราวให้ทุกคนฟังอีกครั้ง
เรื่องราวมีรายละเอียดจนแม้แต่อาเม่ยเองก็ยังประหลาดใจที่องครักษ์ฮูดารู้เรื่องมากมาย 

"เจตนาแรกของข้า คือต้องการฆ่าอาเม่ย" อาเม่ยถึงกับชี้ที่จมูกตนเอง องครักษ์ฮูดาพยักหน้าเล่าเรื่องราวต่อ "ข้ากล่าวสาบานไว้แล้วว่า ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้หากเจ้ากล้าลงมือต่อแม่ทัพ แต่การจะจัดการเจ้า ข้าก็ต้องรู้เรื่องราวของเจ้าก่อน ทำให้ต้องไปสืบเสาะ แต่สุดท้ายเมื่อรวบรวมเรื่องราวเข้าด้วยกัน ข้ากลับรู้สึกว่าหากข้าเป็นเม่ย ข้าก็จะโกรธแม่ทัพที่ไม่รักษาสัญญา แถมเมื่อตามมาจนเจอ ก็กลับพบว่าเขาดีกับเก้ามากกว่าเจ้าเสียอีก"

"แต่ตอนนั้นข้าจำเรื่องตนเองยังไม่ได้นะ" อาเม่ยเถียง "แล้วเรื่องลำดับเวลามันก็ไม่ใช่ด้วย ทั้งข้าเองจนถึงตอนนี้บางคราข้าก็ยังงงตนเองอยู่เหมือนกัน ว่าคิดอันใดไม่รู้วุ่นวาย แต่เมื่อท่านถามว่า ข้ารู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป ข้าก็ตอบว่าข้ารู้ตัว"
"เบื้องต้นเราต้องเข้าใจก่อน ว่าตอนที่เจ้าจำไม่ได้ เจ้ากลับให้ความสนใจอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่ทัพกับเก้ามากใช่ไหม อยากรู้มากจนผิดปกติ" องครักษ์ฮูดา ดูมีความสุขอย่างยิ่ง "คนอื่นมองว่า เป็นความอยากรู้แบบคนที่มาใหม่ แต่หากมาคิดย้อนไป ข้าว่ามันคือคำถามที่ซ่อนอยู่ภายใต้จิตสำนึก คือสิ่งที่เจ้าสงสัยว่า เพราะคนนี้ใช่ไหม เขาถึงไม่รักษาสัญญา...ต่อมา เจ้าทำร้ายเก้าในทันทีที่จำทุกเรื่องได้ มันชัดเจนว่า เจ้ากล่าวโทษเขา"
"แต่ข้า ไม่รู้...."
ต้นห้องเก้ากล่าวยังไม่จบคำ องครักษ์ฮูดาก็หันไปทำน้ำเสียงเหน็บแนม "ทางที่ดีอย่ากล่าวอะไรออกมา เพราะอาเม่ยเป็นทั้งลมและไฟ อารมณ์ของเขามาก่อนเหตุผล นั่งก้มหน้าอย่างที่เจ้าถนัดน่ะดีแล้ว" หยุดจิบน้ำชาเล็กน้อยจึงกล่าวต่อ "แม่ทัพรู้และเข้าใจทุกสิ่ง เขาจึงไม่เคยกล่าวโทษเลยสักครั้ง และที่ไม่เคยอธิบายอันใด นั่นเพราะเขาก็กล่าวโทษตนเองเช่นกัน"

หัวหน้าองครักษ์รอมกล่าวขึ้นบ้าง "เหตุผลใช้กับผู้มีพลังแห่งไฟไม่ได้ก็จริง แต่ก็ขอให้เข้าใจว่ารักแรก คือรักที่ไม่มีใครผ่านมันไปได้ แต่ในชีวิตของเราล้วนต้องพบเจอผู้คนมากมาย ยิ่งมีตำแหน่งใหญ่โตยิ่งมีเรื่องราวให้ต้องจัดการ และแม่ทัพไม่เคยลืมเจ้า" เมื่อองครักษ์พี่ใหญ่กล่าวมาถึงตอนนี้ อาเม่ยก็น้ำตาซึม พยักหน้าช้าๆ

การที่ผู้เฒ่าไฟ และเฮยอั้นทำร้ายอาเม่ย เพื่อให้มีผลไปถึงแม่ทัพเชมัลคือคำตอบของทุกสิ่ง
ความพอใจเด็กน้อยที่ถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปล้อเลียน กลับทำให้ปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริง หากเมื่อได้พบกันอีกครั้ง ในเวลาที่อาเม่ยเป็นคนหนุ่มแล้ว จึงสามารถเปิดเผยความรู้สึกได้อย่างตรงไปตรงมา

"แม่ทัพดีกับข้ามากก็จริง แต่เขาไม่ได้รักข้าหรอก" ต้นห้องเก้ากล่าวขึ้น ขณะที่มองถ้วยชาในมือ "ความรู้สึกนี้ ข้าเชื่อว่าท่านพี่ฮูดาเข้าใจเป็นอย่างดี" ดวงตาเศร้ามองอาเม่ยเต็มตา "ยิ่งเมื่อเขาพบเจอเจ้าอีกครั้ง เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเจ้าอีกเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขารักเจ้ามาก เจ้ารู้ดีที่สุดเช่นกัน"

"ตอนนั้นข้ายังเด็ก ต่างก็ไม่รู้จักชื่อของกันและกัน แต่...เขาบอกว่าจะกลับมา...."

องครักษ์แซนกล่าวขัดขึ้นเรียบๆ "บางอย่างเจ้าควรทำความเข้าใจกับแม่ทัพ เพราะที่นี่มีคนที่ประกาศด้วยความจริงใจว่ามีเจตนาร้ายต่อเจ้า"
องครักษ์ฮูดาหยิบก้อนดินใกล้มือขว้างใส่คนรูปร่างสูงใหญ่ ทำให้ทุกคนหัวเราะผ่อนคลายกว่าเดิม
"เรามักทำอะไรลงไปโดยไม่มีเหตุผล เวลาที่ต้องมาคิดหาเหตุผลรองรับในภายหลัง มันจึงมักสรุปด้วยคำว่า ไม่อยากเชื่อเลยว่าทำอะไรลงไป" องครักษ์ซันที่เป็นอีกคนที่ใช้ไฟ กล่าวขึ้น "ข้าเองใช้ไฟเป็นหลัก มุทะลุใจร้อน ใครห้ามก็ไม่ฟัง แต่เมื่อตั้งใจว่าจะเปลี่ยนตนเอง ใช้เวลาหยุดคิดก่อนพูด ก่อนลงมือ มันก็ไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนใจไม่ลงมือหรอกนะ แต่ทำให้เราสามารถจัดการเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น" แขนใหญ่กอดไหล่อาเม่ยไว้ แล้วหัวเราะเสียงก้อง
อาเม่ย มองเหล่าองครักษ์ทุกคน แล้วกล่าวขึ้น "ขอโทษ ที่หลอกทุกคน"
"หลอกอันใด ใครถูกหลอก" องครักษ์ฮูดารีบแก้ไข "ที่นี่ไม่มีใครถูกหลอกทั้งนั้นแหละ เก่งกันทุกคน"
เสียงหัวเราะของกลุ่มองครักษ์ ช่างขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับสภาพความเสียหายที่อยู่รายรอบ

อาเม่ยได้แต่เถียงอยู่ในใจ แต่ก็ยอมรับคำเตือนขององครักษ์แซนที่ว่า นี่ควรเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกับแม่ทัพเชมัลโดยลำพัง

เจตนาของเมืองวันไม่ใช่การยึดครองเมืองเหนือ จึงไม่มีการควบคุมตัวพระราชา หรือผู้นำคนใด เป็นเพียงการพูดคุยที่ใช้เวลายาวนาน ค่ำลงทั้งหมดก็ออกไปพักที่บ้านร้างซึ่งตั้งอยู่นอกเขตพระราชวัง โดยแม่ทัพเชมัลยังคงกล่าวทิ้งท้ายให้ผู้ที่อยู่ในพระราชวังมีความหวาดกลัว
"ผู้ใช้เวทย์ดำผูกจิตตนเองไว้ในหอหลังเล็กของพระราชวัง ถึงจะตายไปแล้วก็ไม่น่าไว้ใจ ส่วนผู้ที่เคยถูกเวทย์ก็มิน่าไว้วางใจเช่นกัน ข้าขอออกไปนอนข้างนอกดีกว่า"

เมื่อแม่ทัพกลับมาถึงที่พัก อาเม่ยก็ทำข้าวต้มอุ่นๆ ให้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม คิดว่ายามนี้สมควรพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดก่อน
"ท่านกับพระราชา ใครเจ้าเล่ห์มากกว่ากัน"
แม่ทัพเชมัลแทบสำลักข้าวต้ม "อันที่จริงไม่เคยมีใครบอกว่า พี่เจ้าเล่ห์มาก่อนเลยนะ"
"น้องก็คิดอย่างนั้นมาตลอดเหมือนกัน ดูผิวเผินแล้ว ท่านดูเป็นคนตรงไปตรงมา"
"ดูผิวเผินหรือ"
อาเม่ยพยักหน้า "ใช่ ดูผิวเผิน"
"ถ้าน้องหมายถึงเรื่องต้นห้อง นั่นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นไปตามแผนการของพระราชาฟารัค พี่แค่ทำตามคำสั่ง"
"อ้อ.........." อาเม่ยแกล้งลากเสียงยาว
"เสี่ยวเม่ย ไม่เอาน่า พี่ก็แค่พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส"
"แต่มันไม่สนุกเลยนะ ที่ต้องถูกทุกคนชี้หน้าว่า น้องเป็นคนขี้หึงถึงขนาดที่พังพระราชวังได้น่ะ"
แม่ทัพเชมัลใช้นิ้วเคาะโต๊ะ "ความจริงก็คือ ต้องบอกว่า พวกเจ้าทั้ง 5 คนช่วยกันพังพระราชวังสินะ"
อาเม่ยลุกขึ้นยืนในทันที สีหน้าเรียบเฉยไม่สนุกกับคำกล่าวของแม่ทัพเชมัลเลยสักนิด
"เสี่ยวเม่ย" มือใหญ่รีบคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้
อาเม่ยถอนหายใจหนักๆ "ความหึงหวงที่นำไปสู่การทำลายเช่นนั้น มันไม่ใช่เรื่องดี มันไม่มีเหตุผล และไร้สาระมาก ที่สำคัญก็คือน้องเข้าใจดีว่า นี่ไม่ได้เกี่ยวกันอันใดกับ....." แม้แต่จะเอ่ยชื่อก็ยังทำให้อารมณ์ไม่ดี "คนที่น้องสมควรลงมืออย่างเด็ดขาดก็คือท่านต่างหาก คนที่ไปไหนมาไหนได้ทั่ว แต่แค่กลับไปพูดคุยกันสักคำยังทำไม่ได้" ดวงตาสีเขียวแปลกมองตรงไปข้างหน้า

"ตอนที่พบกับท่านพี่ครั้งแรก น้องไม่ได้ติดใจอันใด ทั้งเมื่อบรรดาผู้เฒ่ารู้เรื่องที่ท่านสู้กับผู้เฒ่าลม ทุกคนต่างก็เห็นพ้องกันว่า ท่านก็ไม่ได้ต่างจากผู้ร้อนวิชาคนอื่น ที่กล่าวคำท้าทายไว้เมื่อพ่ายแพ้ จึงลืมเรื่องของท่านไป จนถึงวันที่เดินทางมาเมืองหลวงกับพ่อเพื่อขายสินค้า แล้วพบท่านพี่กับพระราชา"
แม่ทัพเชมัลนึกออกในทันที อาเม่ยเคยเล่าเรื่องพบพระราชา แต่ไม่เคยคิดต่อไปว่า ถ้าพบพระราชาก็ย่อมต้องพบกับตนเองด้วย
"พอเห็นก็จำได้ ว่านี่คือคนที่ไปท้าทายกับผู้เฒ่า เป็นคนที่บอกว่า แล้วจะกลับมา แต่ที่เห็น ท่านกลับ...มีความสุขดีกับ........." การเล่าเรื่องต่อไปช่างยากเย็นนัก ทั้งยังรู้สึกถึงลูกไฟที่ก่อตัวขึ้นในอก "ผู้คนมากมายมีหญิงและชายห้อมล้อม ข้าก็สรุปได้ว่า คนขี้แพ้คนนั้น ยังเป็นเพียงพวกรักสนุก หลงใหลในงานรื่นเริง พูดจาเรื่อยเปื่อย"
"ตอนนั้นน้องถึงชอบพระราชามากกว่าพี่"
น่าแปลกที่คำกล่าวประชดนี้กลับทำให้ลูกไฟในอกสลายไปในทันที ทั้งทำให้มีรอยยิ้มที่มุมปาก
"หากท่านพี่เป็นน้อง ท่านพี่จะชอบใครมากกว่ากัน"

แม่ทัพเชมัลยกมือแสร้งยอมแพ้ ทั้งที่ใจยังไม่ยอมรับที่อาเม่ยพอใจพระราชามากกว่าตน อาเม่ยเองเมื่อมองตาอีกฝ่ายก็รู้ว่าคิดอันใดอยู่จึงกล่าวต่อ

"ความทรงจำที่มันสับสน และซ่อนอยู่ หลายครั้งน้องก็ไม่รู้ว่าที่จริงคิดอันใดอยู่กันแน่ จนถึงวันที่พี่ใหญ่พากลับไปหมู่บ้านเดิม แล้วค่อยคิดทบทวน จึงรู้ว่า ตั้งแต่ตอนที่ท่านเข้ามาทักที่หน้าค่ายทหาร น้องชอบท่านในตอนนั้นเอง"
เมื่อต้องเดินเข้ามาในเมืองใหญ่เพียงลำพัง การได้รับความเมตตาจากคนแปลกหน้า ที่ออมมือให้ต่อหน้าผู้คนมากมาย การพูดคุยที่เป็นกันเอง...ผู้ใดกันที่จะไม่รักคนเช่นนี้..
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้างจนอาเม่ยต้องตีที่แขนเบาๆ
"คนใจดี ไม่ถือตนว่าเป็นผู้มีอำนาจ และมีพลังเข้มแข็ง ท่านคือวีรบุรุษในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ใครๆ ก็รักท่านพี่ แต่ที่เห็นก็คือ ท่านดีกับ...คนนั้นมาก...ทั้งที่เขามีคนรักแล้ว น้องอยากให้ท่านพี่มองน้องบ้าง จิตใจวุ่นวายอยากรู้เรื่องของท่านพี่กับคนนั้น ถามคนไปทั่ว แม้ทุกคนจะกล่าวว่า ท่านพี่พอใจน้อง น้องก็กลับคิดว่าท่านเห็นน้องเป็นเพียงตัวสำรอง  แต่ถึงจะต่อให้เป็นตัวสำรองก็มิเป็นไร....ขอเพียงได้อยู่ข้างท่านก็พอ"

แม่ทัพเชมัลขยับตัวจะค้าน แต่อาเม่ยแตะแขนใหญ่ ขอกล่าวความในใจที่ค้างคา

"หลังพบเฮยอั้น แล้วตื่นขึ้นอีกครั้งที่เกาะห่างไกล น้องจำเรื่องราวได้บางส่วน เมื่อรวมกับที่ท่านพี่กล่าวว่า น้องถูกเฮยอั้นทำร้ายก็เพราะเขาพบน้องในความทรงจำของท่านพี่" ดวงตาสีแปลกก้มมองมือตนเอง "น้องกลับคิดว่า หากท่านพี่มีน้องมาตั้งแต่แรก แล้วเหตุใดจึงไม่กลับไปหา เหตุใดจึงเลือกชีวิตที่ไม่มีน้อง เหตุใดจึงมีคนอื่นในหัวใจ สรุปแล้ว ที่น้องถูกทำร้าย ที่พ่อต้องตาย ที่ทุกคนในหมู่บ้านต้องตาย หมู่บ้านของเราถูกทำลาย เพราะท่านเคยมีน้องอยู่ในหัวใจ แล้วท่านก็ไปดีกับผู้อื่น แล้วพอเขาจากไป ท่านก็มีน้องเป็นตัวรอง"
แม่ทัพเชมัลลุกขึ้นมากอดอีกคนไว้แน่น
"นั่นไม่จริงเลย"
"ตอนที่เห็นเขาที่เรือนจำเวทย์แล้วจำได้ ความคิดแรกก็คือ ท่านพี่รักเขามากกว่าน้อง"
"ไม่จริง" แม่ทัพแย้งในทันที ทั้งน้ำเสียงยังห้วนกว่าปกติ จนอาเม่ยต้องเงยหน้าขึ้นมอง
"ไร้เหตุผลมากใช่ไหม" ยิ่งกล่าวน้ำตาก็ยังคงไหลเรื่อย "ทำไมไม่ยอมรับสักที ว่าเขาเป็นอดีต น้อง...น่ารำคาญมากใช่ไหม ที่เอาเรื่องปัจจุบันไปตัดสินอดีต ทั้งที่ตอนนั้นน้องยังไม่ได้ชอบท่านเลยด้วยซ้ำ"
"พี่ไม่ได้หมายความเช่นนั้น พี่เพียงอยากบอกว่า พี่ให้ความเมตตา แต่ไม่ใช่รัก พี่ไม่ได้ใส่ใจในความรู้สึกของเขาแบบที่พี่รู้สึกต่อน้อง"
อาเม่ยพยักหน้า "เรื่องนี้ก็รู้นะ น้องสร้างปัญหามากมายขนาดนี้ ท่านยังลำเอียงเข้าข้างมาโดยตลอด"
"เรื่องนั้นไว้เราค่อยคิดแก้ไข"

"น้องรู้ว่าท่านพี่เสียใจ น้องก็เสียใจ แต่อยากเล่าให้ท่านพี่เข้าใจ ว่าน้องเกลียดคนนั้น เพราะคิดไปว่าเขาทำให้ท่านพี่ไม่กลับไปหาน้อง ต่อให้รู้ดีว่า เขาเองก็เพิ่งเข้ามาในกองทัพ ทั้งท่านเองก็ปล่อยเขาไปแล้ว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีอันใดเกี่ยวกับเขา แต่น้องก็ยังกล่าวโทษและเกลียดเขามาก น้องเป็นคนที่มีจิตใจคับแคบเช่นนี้ น้อง...ไม่..สมควร..."
แม่ทัพเชมัลลูบแผ่นหลังบางของคนที่กำลังร้องไห้
"ตอนที่อยู่ที่หมู่บ้าน น้องอยากเล่าความในใจให้ท่านฟังอยู่หลายครั้ง แต่ก็กลับกลัวว่าท่านจะเกลียดชังที่น้องช่างมีจิตใจคับแคบ ไร้เหตุผล ยิ่งท่านดียิ่งนัก รักน้องยิ่งนัก กลับทำให้น้องรู้สึกกลัว"
"เมื่อเรารักใครสักคน เหตุผลใดๆ ก็ไม่มีความหมาย"

แม่ทัพเชมัลนึกถึงรับสั่งของพระราชาฟารัค ที่ต้องการให้ตนกับอาเม่ยสร้างผลงานเพื่อนำไปต่อรองกับความผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้น

"ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะพวกเราไม่ทำความเข้าใจกัน ต่างคนต่างกล่าวโทษตนเอง แต่หากการกล่าวถึงเรื่องในอดีตแล้วทำให้เป็นทุกข์ พวกเราก็อย่าเพิ่งกล่าวถึงมันเลย"
คนตัวเล็กสูดจมูกน้ำเสียงแง่งอน "ท่านพี่ต่างหาก ที่เป็นคนที่ชอบนำเรื่องในอดีตมาล้อเล่น เอามันมาใช้ประโยชน์ รื้อฟื้นเพื่อให้ความโกรธนั้นมันคงอยู่  ทั้งที่เราอยู่กับปัจจุบัน ที่วันนี้พวกเรารักกัน และอยู่ด้วยกัน มันยังดีไม่เพียงพอหรือไง ไม่สนุกเลยนะที่ต้องกลายเป็นลูกไฟ รู้ตัวว่าอะไรควรหรือไม่ควร แต่หยุดไม่ได้น่ะ" อาเม่ยก้มลงให้หน้าผากแตะที่ไหล่หนา "ขอร้อง....อย่าทำแบบนี้อีก.....คนนั้น...เขาไม่ได้ทำผิดอะไร เขาอยู่เฉยๆ แล้วท่านก็ไปดีกับเขาเอง ไปล้อเล่นกับชีวิตของเขา แล้วพอน้องโกรธเขา ก็กลับหยุดตัวเองไม่ได้ ท่านพี่ไม่เข้าใจหรอก ว่าน้องเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ขนาดไหน"
"ขอโทษ ตกลงพวกเราจะหยุดเรื่องนี้ไว้ที่นี่ตกลงไหม"
"มันขึ้นอยู่กับท่านพี่" อาเม่ยทำเสียงแข็ง ดวงตาสีแปลกที่จ้องมองมาก็ทำให้อีกคนต้องแสร้งยกมือยอมแพ้อีกครั้ง
"ตกลง ไม่ทำอีกแล้ว พี่กินข้าวได้แล้วใช่ไหม"
อาเม่ยพยักหน้า จะเดินไปเตรียมที่นอน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นองครักษ์ฮูดาที่เข้ามาแจ้งว่า ม้าเร็วจากพระราชาฟารัคล่วงหน้ามาถึงแล้ว และ พรุ่งนี้มหาเสนาบดีในฐานะผู้แทนพระองค์จะเดินทางมาถึง จากนั้นจึงกลับออกไปพักที่บ้านหลังใกล้เคียง
อาเม่ยหันมาถามด้วยนึกขึ้นได้
"ผู้เฒ่าดินพักที่ไหน"
"เห็นว่าจะไปพักที่เรือนหลังเดียวกันรอม" แม่ทัพบอกขณะที่กินข้าวต้มต่อไป
"ดูท่า พระราชาที่นี่ไม่ให้ความเคารพต่อบรรพบุรุษเลย" อาเม่ยตั้งข้อสังเกต
แม่ทัพเชมัลพยักหน้า "เรื่องในอดีตน่ะ"

เจ้าชายมูซัคผู้หลีกเลี่ยงความขัดแย้งในกลุ่มพี่น้อง และเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบโดยลำพัง ย่อมสร้างความขัดใจต่อเหล่าทายาทผู้สืบเชื้อสายของเจ้าชายฮามิดผู้พ่ายแพ้ในสงครามชิงเมือง จนต้องถูกเนรเทศไปเมืองเหนือ นอกจากนี้เจ้าชายมูซัคเอง ยังใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองวันอีกด้วย

"รุ่นปู่ของน้องก็อยู่ที่นี่มาก่อนนะ" อาเม่ยเล่าบ้าง "ปู่เล่าว่า ที่ย้ายไปเมืองวันเพราะไม่อยากทำเหมือง ปู่พาย่าไปอยู่ที่หมู่บ้าน แล้วก็ตีดาบทำเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ พวกเราถึงมีอะไรหลายอย่างที่ต่างจากคนในเมืองหลวง อย่างพวกอาหารการกินก็ไม่เหมือนกัน"
แม่ทัพเชมัลแกล้งส่ายหน้าคัดค้าน "คนในเมืองหลวงกินทุกอย่างต่างหาก จะขนมปัง แผ่นแป้งทอด หรือข้าว ก็กินทั้งนั้น"
อาเม่ยตีมือหนา "อย่าพาเสียเรื่องสิ" คนตาสีแปลกมองค้อน "ทั้งปู่ พ่อ หรือผู้ใหญ่ทุกคนในหมู่บ้านสอนให้พวกเราเคารพบรรพบุรุษ ก่อนนี้น้องยังคิดว่า มันคือประเพณี แต่พอเห็นท่าทีที่พระราชากับพวกในวังปฏิบัติต่อผู้เฒ่าดินแล้ว...หงุดหงิด"
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้าง เอื้อมมือไปกดที่แก้มใสจนเกิดรอยยิ้ม "มันคือประเพณีที่ดีงาม แต่คนเหล่านี้" มือใหญ่ชี้ไปที่ทิศทางที่ตั้งของพระราชวัง "มีจิตใจที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดดำที่เขาสร้างมันขึ้นมาเอง มิใช่เวทย์ดำใดๆ เป็นความลุ่มหลงในอำนาจ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง เป็นความต้องการที่จะครอบครองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันก็ย่อมตรงข้ามกับดินอยู่แล้ว"

อาเม่ยคิดถึงคำกล่าวของผู้เฒ่าดิน "ทุกอย่างเกิดขึ้นจากดิน ย่อมกลับไปสู่ดิน และไม่มีอะไรที่เผาผลาญไฟได้ นอกไปจากไฟที่เกิดจากใจตนเอง"
แม่ทัพเชมัลเอื้อมมือมาจับมือไว้ "น้องไม่ได้มีแต่ไฟ แต่มีลม น้ำ และดินเช่นกัน พี่จะไม่มีวันยอมให้น้องเผาไหม้ตนเองโดยเด็ดขาด"
อาเม่ยยิ้มกว้าง แล้วส่ายหน้า "กินให้เสร็จสักทีเถิด ดึกมากแล้ว จะได้นอนพักเสียที"

...จบตอนที่ 41...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 05-01-2016 20:51:22
แหม่ พี่เชมัลของเราก็ร้ายกาจจริงๆ
แอบซ่อนอะไรไว้เนียนมากแต่จริงๆแผนการก็มีไม่แพ้พระราชาผู้พี่
สงสารและแอบขำเก้าตอนฮูดาเฉลยลำดับความต่างๆ แล้วบอกให้ฮูดานิ่งไว้อย่างเคย
คือถ้าเป็นเรานี่แบบอะไรว้า ตูอยู่เฉยๆแต่ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง 5555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-01-2016 20:53:31
ดีแล้วที่อาเม่ยกับพี่เชพูดเรื่องที่ค้างคาในใจต่อกัน


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 05-01-2016 21:11:25
ใกล้จบเข้ามาทุกที ทุกคนเข้าใจกันแล้ว เรื่องค้างคาใจของเม่ยก็กระจ่างแล้ว แต่ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะขอต่ออีกสักสิบตอนได้ไหม อยากอ่านต่อ

ปล. ลำดับต่อไปลุ้นเก้ากันต่อเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 05-01-2016 21:14:28
เปิดมาอ่านทวนตอนที่ 40 พออ่านทบทวนจบแล้วก็มาเจอตอนที่ 41 หูยยยยยย ดีใจมากกกกก

โอ๊ยยยยยยย สงสารเก้าจนป่านนี้แล้วยังโดนรังแกตลอด
คนที่มีความสุขที่สุดเห็นจะไม่พ้นองครักษ์ฮูดาสินะ เหน็บแนมอาเก้าของเราด้วยคำพูดตลอดๆ ฮ่าๆๆ
"ทางที่ดีอย่ากล่าวอะไรออกมา.... นั่งก้มหน้าอย่างที่เจ้าถนัดน่ะดีแล้ว" ประโยคนี้ทั้งขำทั้งสงสารอาเก้า

"ท่านกับพระราชา ใครเจ้าเล่ห์มากกว่ากัน" ประโยคนี้ของเม่ยทำเอาท่านแม่ทัพผู้เก่งกาจถึงกับสำลักเลยทีเดียว
การพูดคุยถึงเรื่องราวในอดีตของเชมัลกับอาเม่ยทำให้ปมหลายๆ อย่างคลี่คลาย อะไรที่คนอ่านติดใจอยู่ก็สลายไปเช่นกัน
ชอบการผูกเรื่องและการแก้ปมคลี่คลายปมของคุณไจฟ์และน้องน้ำชามากค่ะ (ชอบการคลายปมในทุกๆ เรื่องที่แต่งเลย)

อาเม่ยนี่ฝังใจมากจนไม่อยากเอ่ยชื่ออาเก้าออกมาเลยทีเดียว เก้าทำผิดอะไร เก้าทำผิดตรงไหน ใครๆ ก็ไม่รัก
หวังว่าจากนี้ทุกคนจะไม่ต้องใจหายใจคว่ำไปกับอะไรอีกแล้วนะ คนอ่านต้องพลอยลุ้นอยู่เรื่องเชียว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 05-01-2016 21:15:00
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา  :mew1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 05-01-2016 21:33:57
โธ่!!! เก้าลูกแม่ พูดก็ยังจะโดนเหน็บอีกนะ 555 . เดี๋ยวเถอะจะออดอ้อนให้คนนั้นลงโทษเลย (อุ๊ย!!!) ดีนะที่เปิดใจคุยกัน. อะไรที่ค้างคาจะได้เข้าใจกัน 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 05-01-2016 21:38:28
 :กอด1:
เม่ยคงหมดข้อข้องใจเเล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-01-2016 22:03:45
ตามไปอ่านโล้ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-01-2016 22:38:53
ตบตีพี่เชสามที :beat: ทำให้อาเม่ยหึงแล้วพาลไปทำร้ายเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-01-2016 22:52:54
บางครั้งก็น่าโมโหเชมัสนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-01-2016 23:10:08
หายข้องใจเรื่องอาเก้าซะที

ตั้งแต่อ่านมาคนอ่านก็ข้องใจเหมือนอาเหม่ยนั่นแหละ

ว่า ท่านเชมัล รักอาเก้า  ตอนนี้ถึงรู้ว่ามันไม่ใช่

คนอ่านมโนไปเอง อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 05-01-2016 23:33:06
ดีนะที่เม่ยกะพี่เชพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา คราวหลังพี่เชจะได้ไม่ทำอย่างนี้อีก
เราว่าคนที่ซวยที่สุดในเรื่องคือเก้านะ  :เฮ้อ:  มามะเค้าจะกอดให้กำลังใจเอง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 06-01-2016 01:11:06
หมดเรื่องร้ายๆแล้ว ต่อไปก็หวานกันให้มดขึ้นจอไปเลยนะ อิอิ
ใจนึงก็ดีใจที่เรื่องร้ายๆผ่านไปได้ด้วยดี อีกใจนึงก็ใจหายไม่อยากให้จบเลย
เป็นกำลังใจให้คุณไจฟ์น้องทีนะคะ
รอติดตามผลงานอยู่เสมอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-01-2016 08:42:51
อาเม่ยคิดอะไรไว้มากมายจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 06-01-2016 09:24:43
"เก้า" คนดีที่แสนจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่กลับโดนคนโน้น คนนี้ จับเล่นเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมรัก ล้อเล่นกับความรู้สึกของเก้า จนน่าสงสาร ...พระราชาก็ใจร้าย เชมัล ชายที่รัก..ก็ใจร้าย ฮูดาใจร้าย นาซิมใจร้าย..แม้กระทั่ง อาเม่ย คนตัวเล็กที่เคยเอ็นดูกัน ก็ยังกลับมาเกลียดชังเก้าเพราะความหึงหวง  :m17:  ใครจะชดเชย ชดใช้ความเจ็บปวดกาย เจ็บปวดใจเหล่านี้ให้เก้าได้หนอ

อาเม่ยสับสนในตัวเองจนเหมือนจับต้นชนปลายความคิดไม่ถูก พาให้คนอ่านคนนี้รู้สึกมึนหัวไปด้วย ช่างเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่ใจ และเอาใจยากจริงๆ  :เฮ้อ:

ใกล้จบแล้ว รออ่านต่อด้วยใจจดจ่อยิ่งค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 06-01-2016 09:29:58
นี่ทำเอาคิดไม่ออกว่าระหว่างอาเม่ยกับอาเก้า เราสงสารใครมากกว่ากัน o6

ที่แน่ๆ ตอนนี้อ่านแล้วมันโล่งอกเรื่องของน้องกับพี่หมดเรื่องปมในใจกันจริงๆสักที

ส่วนบทลงโทษจอมเจ้าเล่ห์ของสองพี่น้องนี่ น่าจะให้เม่ยกับเก้าลงโทษมั่ง
เอาให้แสบๆสมกับเป็นเม่ย และเอาให้ซึมลึกแบบเก้า ท่าจะดี  :katai3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-01-2016 14:33:17
เก้าคนน่าสงสาร
แค่เงยหน้ามาพูดก็ผิดแล้ว ฮือออออ

ดีใจที่เม่ยกับพี่เชได้คุยเปิดใจเสียที

พี่เชคนเฮงซวย! เจ้าแผนการนัก! อยากให้โดนเม่ยงอนอีกสักที ชิ!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 06-01-2016 16:43:05
เอาจริงๆ นะ ทั้งที่ตัวละครเข้าใจกัน แต่ดิฉันเองกลับยังเคลียร์ความรู้สึกไม่ได้ ทั้งที่เชมัลเป็นตัวละครที่ดิฉันรู้สึกกลางๆ ด้วยมาโดยตลอด แต่พออ่านตอนนี้แล้วกลับรู้สึกไม่ชอบซะอย่างนั้น คำพูดของเขาเหมือนเป็นการกระทำวัวหายล้อมคอก หรือวัวสันหลังหวะ เข้าใจว่าต้องอยู่กับปัจจุบัน ไม่ควรจมอยู่กับอดีต เพราะในอดีตบางเรื่องก็กลับมาทำร้ายเรา และเข้าใจอีกว่า สิ่งที่เชมัลทำในระหว่างที่เวทย์ดำในตัวอาเม่ยกำเริบ ก็แสดงให้เห็นว่า เชมัลรักอาเม่ยจริงๆ แต่ไอ้ความรู้สึกที่ว่า สามีแอบไปมีชู้เพราะอารมณ์เปลี่ยวชั่ววูบนี่ ทำอย่างไรก็ไม่อาจสลัดทิ้งได้สักที มันติดค้างในใจค่ะ สรุปอ่านตอนนี้แล้วกลายเป็นไม่ชอบแม่ทัพเชมัลซะงั้น เฮ้อ ให้ตาย...ไม่ชอบจริงๆ กับอาการ "แสร้งยกมือยอมแพ้" ของแม่ทัพตอนที่คุยปรับความเข้าใจกับอาเม่ยเนี่ย มันเหมือนอาการสามีแสร้งทำเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นไปครั้งหนึ่งๆ (ขอโทษด้วยนะคะ พี่รู้สึกอย่างนี้จริงๆ ค่ะ คุณไจฟ์น้องที)

เก้ายังคงเป็นตัวละครที่ดิฉันเห็นว่า ควรได้รับความสุขเสียที ชีวิตคนเรามันต้องมีสิ่งที่ดีบ้างไม่ใช่หรือ เขาคงไม่ต้องจมอยู่กับความมืดหม่นตลอดชีวิตใช่หรือไม่ อยากอ่านข้อสรุปของชีวิตเก้าจังเลยค่ะ อยากให้ลงเอยกับพระราชา แต่เหมือนกฏเกณฑ์ต่างๆ น่าจะบีบบังคับให้พระราชารักเก้าอย่างเปิดเผยไม่ได้ แล้วอย่างนี้ระหว่างพระราชาฟารัคกับอาเก้าจะเป็นอย่างไรคะนี่?

สุดท้าย ฮูดากลายเป็นตัวละครที่ดิฉันชอบที่สุด (ฮา) เพราะเป็นคนที่เหน็บแนมได้น่ารักที่สุด เอาจริงๆ แล้ว ฮูดาเป็นคนที่มีหัวใจน่าชื่นชมมากนะ เพราะทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวรัก (ถึงเขาจะไม่รักเราตอบกลับมาเลยแม้สักน้อยก็ตาม)

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ รอตอนต่อไปเน้อ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-01-2016 18:07:02
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 06-01-2016 20:44:05
เคืองพี่เชดีไหมหืมมมม....เจ้าเล่นัก
แต่อ่านแล้วทำไมรู้สึกยิ้มขำกับอาเก้าละ :mew1:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 07-01-2016 03:12:44
ฮูดาอธิบายซะเห็นภาพเลย เก้าเหมือนคนที่ซวยที่สุด ไม่ได้รู้เรื่ิองราวอะไรด้วยเลย   ส่วนพี่เชมัล คราวหลังห้ามทำให้อาเม่ยไม่พอใจจนหึงจัดแบบนี้อีกนะ  หุหุ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: maimai2015 ที่ 08-01-2016 16:44:44
อาเก้านี่น่าสงสารที่สุด :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-01-2016 18:32:52
องครักษ์ฮูดารู้ทุกสิ่ง
ต่อไปพี่เชกับน้องคงจะเข้าใจกันดีขึ้นนะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 11-01-2016 10:37:18
เข้ามารอตอนต่อไปค่า  :a12:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 11-01-2016 11:03:12
เก้าถูกคนหลอกใช้ตลอดเลย
ทำไมรู้สึกแบบนี้นะ
โดยเฉพาะท่านเช
ขนาดเชมัลจะแสดงให้เม่ยหึง
ยังมาใช้เก้าเลย
โหดร้ายจังนะ

แต่เอาเถอะ หวังว่าจะมีตอนจบที่ดีสำหรับเก้านะคะ
เอาใจช่วยเก้าตลอดเลย

ขอบคุณนะคะ สนุกมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-01-2016 22:13:21
มารอเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่41 หน้า41(5มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 12-01-2016 09:22:02
จ๊ะเอ๋ๆๆๆ ฮาหลูๆๆๆ วันนี้จะมาไหมน๊อ   :L2:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 12-01-2016 15:04:54
ตอนที่ 42

เสนาบดีผู้แทนพระองค์ แม่ทัพเชมัล ร่วมด้วยผู้เฒ่าดิน หารือกับฝ่ายเมืองเหนือตลอดวันถัดมา ขณะที่อาเม่ยแยกไปช่วยงานของราชองครักษ์และองครักษ์คนอื่นๆ ในการกระจายข่าวว่าสถานการณ์กลับเข้าสู่ความสงบแล้ว พร้อมไปกับการสำรวจหาผู้ใช้เวทย์ดำที่อาจซ่อนตัวอยู่
ขณะที่บรรดาอสูรและอมนุษย์จำนวนที่ถูกผูกไว้กับผู้เฒ่าไฟ หรือ รัชทายาทเจิ้นเทียนต่างถูกทำลายลงไปพร้อมกัน แต่การฟื้นฟูเมืองต้องใช้เวลายาวนาน
เริ่มจากการเปิดด่านชายแดน ซ่อมแซมพระราชวัง และประกาศให้ผู้คนที่เคยอยู่ในเมืองหลวงกลับเข้ามาอีกครั้ง ชาวนา ชาวสวนในพื้นที่ใกล้เมืองหลวงเตรียมการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ส่วนพื้นที่ที่ไม่พบการรุกรานจากกลุ่มอมนุษย์ ก็เริ่มส่งสินค้าและผลผลิตเข้าสู่เมืองหลวง 

หลายวันถัดมา แม่ทัพนาซิมจึงมาที่เมืองหลวงของเมืองเหนือพร้อมกับนายทหารผู้ช่วย  แล้วเข้าไปหารืออยู่ที่พระตำหนักหลังใหญ่ของพระราชาเมืองเหนือ
ขบวนม้าของแม่ทัพเมืองหน้าด่าน เดินทางเข้ามาเพื่อตอกย้ำว่าเมืองวัน ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งกว่าเมืองเหนือหลายเท่านัก
หัวหน้าองครักษ์รอมหันมากล่าวกับต้นห้องเก้าที่เลื่อนลำดับขึ้นมายืนอยู่ข้างกันในขบวนแถว
"ถึงเวลาที่ควรพูดกันให้เข้าใจหรือยัง"
ต้นห้องเก้าได้แต่ถอนหายใจ "ข้าพูดไปแล้วหลายครั้ง แต่เขาก็ยังจะทำในสิ่งที่เขาอยากทำอยู่เช่นเดิม"
ความดื้อรั้นของแม่ทัพนาซิมช่างยากจะรับมือจริงๆ
"ต่อให้นิ่งเฉยไม่รับของฝาก เขาก็ยังคงส่งมาอยู่เช่นเดิม จนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว"
หัวหน้าองครักษ์รอมคิดว่ายังพอมีวิธี
"ชวนฮูดาไปเป็นเพื่อนตอนที่ไปคุยกับแม่ทัพนาซิมสิ"
ต้นห้องเก้ายิ้มอ่อนเพราะรู้ดีว่าองครักษ์ฮูดาเป็นผู้ที่กล่าวคำทุกคำล้วนตรงกับใจ ทั้งมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด ตรงข้ามกับตนเองยิ่งนัก
แต่คนตาคมกลับย้อนถาม เมื่อต้นห้องเก้ามาขอให้ไปด้วยกัน
"ผู้ใดแนะนำให้เจ้ามาชวนข้าไปหาแม่ทัพนาซิม"
ต้นห้องเก้าตอบตามตรงว่าพี่ใหญ่รอม ทำให้อีกฝ่ายถอนหายใจ "คิดแล้วเชียว คนที่ไม่เคยมีความรัก ก็มักคิดอะไรง่ายๆ เช่นนี้"
หลังบ่นเรื่องคำแนะนำของพี่ใหญ่รอมอีกสองสามคำ จึงกลับมาที่เรื่องของต้นห้องเก้า
"การจะพูดคุยกัน มันย่อมต้องขึ้นอยู่กับอีกฝ่าย ว่าเขาอยากคุยกับเจ้าไหม ถ้าเขาไม่อยากคุยมันก็เสียแรงเปล่า สู้เอาเวลาไปหาคนรักใหม่ดีกว่า"
ต้นห้องเก้ามองหน้าผู้ที่ให้คำแนะนำ
"มันไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก"
"ตราบใดที่เจ้ายังเป็นคนโสด เขาก็ยังคิดว่ายังมีโอกาส" คนตาคมเอียงหน้าเข้ามาใกล้ "เจ้าไม่คิดจะถูกใจผู้ใดเลยหรือ ไม่มีใครที่สื่อความรู้สึกให้เจ้ารับรู้ได้ว่า นี่คือคนที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปตลอดเลยหรือ"
ต้นห้องเก้าครุ่นคิดพลางส่ายหน้า
"งั้น ก็ทำเช่นนี้" องคักษ์ฮูดาตั้งท่าสอน "เมื่อเจ้าเป็นฝ่ายผู้เสียหายจากสิ่งที่เขาทำ เคยอยู่เฉยๆ อย่างไรก็จงเฉยต่อไปเช่นนั้น หากเขาเข้ามาสนทนาด้วยเรื่องการงาน ชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปมันก็เป็นเรื่องสามัญหาได้มีอันใดผิดแปลก แต่หากเขาชักชวนเจ้าไปในที่ที่ต้องอยู่เพียงลำพัง เจ้าจึงค่อยกล่าวปฏิเสธแล้วบอกเขาไปตามตรงเลยว่า เจ้าไม่ต้องการทำเช่นนั้น หากเขากล่าวคำว่าพอใจเจ้า นั่นถึงเป็นความเหมาะสมที่จะพูดอย่างแน่วแน่ ว่าเจ้าไม่มีใจให้เขา และมันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะรักคนที่ทำร้ายเจ้า" องครักษ์ฮูดาเน้นคำพูด "มองหน้าเขาแล้วพูดในสิ่งที่ใจเจ้าคิด อย่ามัวแต่ก้มหน้า อย่าเกรงใจ หรือติดว่าเขาเป็นแม่ทัพ เพราะสุดท้ายมันก็จะกลับไปเป็นดั่งเดิม"

ต้นห้องเก้ามองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความนับถือ
"ข้าบอกแล้ว ว่าเวลาที่ข้าจะเล่นงานใคร ข้าต้องศึกษาเขาก่อน" องครักษ์ฮูดาอวดโอ่

และในค่ำวันนั้นเองที่ต้นห้องเก้าต้องทำในสิ่งที่องครักษ์ฮูดาสั่งสอนมา

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน การเจรจาหยุดพัก ผู้แทนพระองค์ แม่ทัพเมืองวันทั้ง 2 คนและผู้เฒ่าดินจึงกลับออกมาจากพระราชวัง และตรงไปพักที่โรงเตี๊ยมเก่าที่มีพลทหารซ่อมแซม ปัดกวาดให้ทั้งหมดเข้าพัก ไม่มีใครถือสาเรื่องความไม่พร้อมเหล่านี้ ในทางตรงข้ามกลับรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าการพักอยู่ในพระราชวัง ส่วนบ้านร้างอีกหลายหลังที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกจับจองเช่นกัน เว้นแต่ส่วนที่เป็นอาคารร้านค้าที่มีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยและขายสินค้าและอาหารให้กับทหารของเมืองวัน ที่กลายมาเป็นลูกค้ากลุ่มหลัก
แม่ทัพเชมัลกำชับเหล่าทหารหลายครั้งหลายหนให้ปฏิบัติตนดั่งเป็นผู้มาเยือน ไม่ใช่ผู้รุกราน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากความคิดคับแคบของผู้ปกครอง ทั้งชาวบ้านเหล่านี้ ต่างก็ต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวมานานหลายปี อาจมีความโลภหรือความเห็นแก่ตัวอยู่บ้างก็อย่าได้ถือสา
แต่เพราะเมืองวันเป็นเมืองติดทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งการเคลื่อนทหารมายังเมืองเหนือก็มีการเตรียมพร้อมมานานหลายเดือน สุดท้ายแล้วการใช้จ่ายของเหล่าทหารก็มีเพียงแค่สุราและอาหารประจำถิ่นเท่านั้น

ราชองครักษ์ องครักษ์ เหล่าผู้ช่วย และนายกอง  กินอาหารร่วมกันที่โรงเตี๊ยมหลังใหญ่ แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนที่ห้องพักด้านใน แต่มีพลทหารเข้ามาแจ้งว่า  แม่ทัพนาซิมรั้งรออยู่ที่ด้านหน้าของโรงเตี๊ยม แม้พลทหารจะไม่ได้กล่าวให้จบประโยค ว่าแม่ทัพนาซิมมารั้งรอใคร แต่ทุกคนก็ล้วนหันไปมองต้นห้องเก้า ที่ยังคงพักรวมอยู่กับองครักษ์

แม่ทัพนาซิมคนกล้าถึงกับใจเต้นแรง เมื่อเห็นว่าต้นห้องเก้าเดินออกมาพบที่ด้านหน้าของโรงเตี๊ยม
ใบหน้างดงามกึ่งชายกึ่งหญิง ดวงตาโศกที่มักก้มลงมองพื้น เครื่องแบบต้นห้องสีอ่อนช่วยเสริมให้ท่าทีสงบนิ่งดั่งว่าต่อให้มีพายุอยู่ข้างหน้า ก็ไม่ทำให้คนผู้นี้หวั่นไหว
ต่างจากตอนที่อยู่กับแม่ทัพเชมัล ยามนั้นเครื่องแบบทหารทำให้ดูปราดเปรียว และคล่องตัว ดูร่าเริงกว่าในยามนี้
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปก็คือความงามดั่งรูปสลัก
"เจ้าสบายดี"
แม่ทัพนาซิมกล่าวทักทาย ต้นห้องเก้าค้อมตัวเล็กน้อย "สบายดีขอรับ"
"ถ้าเจ้าไม่รังเกียจข้าอยากเชิญเจ้าไปร่วมดื่มที่ที่พักของข้าเพื่อสนทนากัน"
"ขออภัยขอรับ" ต้นห้องเก้าตอบขณะที่เงยหน้าขึ้นมอง สบตานิ่งๆ แล้วกล่าวคำ "หากท่านมีเรื่องจะกล่าว ก็ขอเชิญที่นี่เถิด"
"อ่า....เอ่อ....ก็ ก็ได้"
ตอนที่สุภาพเรียบร้อยก็งดงาม แม้ในยามที่วางท่าเจรจาอย่างเข้มแข็งก็ยังคงความงดงามนั้น มิใช่ ยิ่งงดงามและยากที่จะละสายตามากกว่าเดิม....

อาเม่ยกับแม่ทัพเชมัลพักอยู่ด้วยกันที่บ้านพักหลังเดิมที่เคยพักตั้งแต่แรกที่เดินทางมาถึง จากตำแหน่งของหน้าบ้านทำให้พอมองเห็นว่า แม่ทัพนาซิมยืนสนทนาอยู่กับต้นห้องเก้าที่ด้านหน้าโรงเตี๊ยมที่พักนายทหารชั้นผู้ใหญ่ 
อาเม่ยยืนมองอยู่นาน จนกระทั่งแม่ทัพเชมัลเดินออกมาดู
"ดึกมากแล้ว ยืนดูอันใด"
อาเม่ยเพียงชี้ไปทางที่ต้นห้องเก้าคุยกับแม่ทัพนาซิม "เขาจะคุยกันรู้เรื่องไหม"
"ไม่น่าจะคุยกันรู้เรื่องนะ" แม่ทัพเชมัลตอบตามตรง ในความเห็นของฝ่ายแม่ทัพนาซิม "การตัดใจน่ะมันเป็นเรื่องที่เราต้องรู้ตัวเราเอง ไม่ใช่ให้ใครต่อใครมาบอก"
คนตัวเล็กแสดงความเห็นด้วย
"แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนนั้นน่ะ มันก็ยากเกินกว่าจะยอมรับได้"

แต่เดิมนั้นต้นห้องเก้าก็ไม่ได้มีใจให้กับแม่ทัพนาซิมอยู่แล้ว แล้วยิ่งมาถูกทำร้าย แม้บาดแผลทางกายจะจางไป แต่ให้วางใจใช้ชีวิตร่วมกันช่างมองไม่เห็นทาง
"อย่าว่าแต่จะให้อยู่ด้วยกันเลย ลำพังเขายืนคุยกันอยู่ น้องยังอดคิดไม่ได้ว่า แม่ทัพนาซิมจะอาละวาดบีบคอคนนั้นตอนไหน คนรักกันต้องรู้จักดูแลกัน มิใช่ทำร้ายกันปางตาย"
แม้อาเม่ยจะมีเรื่องในใจจนไม่สามารถเอ่ยชื่อของอีกคนได้ แต่จากความเห็นที่กล่าวออกมา แสดงให้เห็นว่ายังมีความเป็นห่วงอยู่มาก
"ทำร้ายกันไปแล้ว ต่อให้มาทำดีสักเพียงไหน มันก็ไม่อาจวางใจ ไม่มีความวางใจจะรักได้อย่างไร"

"หากเป็นเจ้า เจ้าจะเลือกผู้ใด" แม่ทัพเชมัลตั้งคำถามโดยไม่ได้คิดถึงคำตอบที่จะตามมา
อาเม่ยยิ้มมุมปาก "ข้าย่อมเลือกพระราชาอยู่แล้ว"
"เดี๋ยวนะ" แม่ทัพเชมัลรีบท้วง ทั้งนึกรู้ตัวว่าพลาดท่าที่ตั้งคำถามนี้ "พี่พูดว่าหากเจ้าเป็นเขานะ"
อาเม่ยพยักหน้ายืนยัน "เพราะอาเม่ยคนนี้จะไม่ยอมยกท่านให้เขาแน่อนอยู่แล้ว ทีนี้ หากเลือกอยู่กับแม่ทัพนาซิมอย่างที่ใครๆ ก็เห็นว่าอาจจะถูกฆ่าตายเมื่อไหร่ไม่รู้ หรือเลือกกลับไปตามตื้อแม่หญิงพริม ดูท่าทางคนนั้นก็ไม่ใช่คนที่จะหยุดตนเองไว้กับอดีต และเท่าที่รับฟังมาแม่หญิงพริมก็เข้มแข็งเด็ดขาดมากกว่าคนนั้นเสียอีก ส่วนที่เลือกพระราชา ก็เพราะแม้จะมีเรื่องกฎหมายการสมรส แต่จากความผิดของพระชายา ต่อให้วันนี้พระราชาฟารัครับสตรีหรือบุรุษอีกสักสิบคนเข้าวัง พระนางจะทำอันใดได้"
แม่ทัพเชมัลนิ่งอึ้งมองคนกล่าวคำชี้แจงยืดยาวแล้วหัวเราะ
"ร้ายกาจจริง" จากนั้นจึงกล่าวต่อ "แต่พระราชาไม่มีวันทำเช่นนั้น  พระองค์เคร่งครัดกับตนเองแล้วไปวุ่นวายกับเรื่องของคนใกล้ชิดตลอดเวลา"

"น้องยังเคยได้ยินเรื่องที่องครักษ์คุยกันว่า พระราชาให้พระโอรสนำของมามอบให้กับคนนั้น แข่งกันกับฝ่ายของแม่ทัพนาซิมด้วย"
"หากไม่ใช่ว่าพระราชาเปลี่ยนไป ก็ต้องบอกว่า พระโอรสน่าสงสัยมากกว่า" จากนั้นแม่ทัพเชมัลก็ส่ายหน้า "พวกเรานินทาผู้อื่น และกำลังเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเรื่องของผู้อื่นอยู่นะ"
อาเม่ยหัวเราะคิกคัก ทำให้แม่ทัพเชมัลกอดอกหรี่ตามอง
"ในระหว่างที่พี่กำลังเจรจางานเมือง พวกเจ้าต้องพากันนินทาทุกคนกันอย่างสนุกสนานแน่ๆ"
อาเม่ยหัวเราะร่วน ด้วยน้ำเสียงมีความสุขอย่างยิ่ง

"ว่าแต่ที่เจ้าเลือกพระราชานี่คือเรื่องสมมุติใช่ไหม" แม่ทัพเชมัลถามย้ำอีกครั้ง
แต่อาเม่ยไม่ตอบ กลับเดินหัวเราะเข้าไปในบ้าน

มีความเหมือน ความคล้าย และความต่างแฝงอยู่ในกลุ่มบุคคลที่ถูกเวทย์ดำ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ
แม่ทัพเชมัลหลงรักเด็กน้อยอาเม่ยจนเฮยอั้นและผู้เฒ่าไฟล่วงรู้จึงใช้เป็นจุดอ่อนที่กลับมาโจมตี เฮยอั้นหวังเพียงการสร้างความอับอาย แต่ผู้เฒ่าไฟ หวังให้อาเม่ยสร้างความเสียหายร้ายแรงกว่านั้น จึงฝังเวทย์ดำไว้อย่างซับซ้อน
แม่ทัพนาซิมถูกเวทย์ดำโดยทางอ้อม  เพราะเป็นการสุ่มวางมากับดินและน้ำ เมื่อได้รับเชื้อจากจิตใจที่เต็มไปด้วยความต้องการแย่งชิงมาครอบครอง จึงลงมืออย่างรุนแรง แม้ต่อมาแม่ทัพเชมัลจะสะกดเวทย์นั้นไว้ และตัวของแม่ทัพนาซิมเองก็พยายามรักษาตนเอง ทำให้ไม่ปรากฏอาการใดๆ ขึ้นอีกในการพบเจอกันหลังจากนั้น แต่ต้นห้องเก้าก็ไม่คิดที่จะเสี่ยง
ด้วยสาเหตุที่เป็นจุดเริ่มต้น นั่นคือการที่ไม่ได้มีใจให้มาตั้งแต่แรก
เรื่องนี้จึงกลายเป็นรักข้างเดียวที่จะยืดเยื้อไปอีกนาน
เพราะสิ่งที่อยู่เคียงข้างกับความต้องการครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว ก็คือความรักมั่นจนไม่อาจตัดใจ

อาเม่ยนึกถึงคนที่เดินตามเข้ามาในบ้าน ความรักของแม่ทัพเชมัลผู้นี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งใด และเขาก็ไม่รั้งรอที่จะพิสูจน์ให้เห็นมาโดยตลอด แม่ทัพนาซิมก็คงรักคนนั้นไม่น้อยไปกว่ากัน แต่เพราะเป็นคนที่คิดมากเกินไป รั้งรอ และวุ่นวายกับงานในเมืองหน้าด่านที่มีศึกมารออยู่
..ควรตอบรับความปรารถนาดีนั้นแล้วต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเสี่ยงเช่นนั้นหรือ..
..ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ทำให้เราอุ่นใจไม่ดีกว่าหรือ...
"ต้องเลือกพระราชาสิ" อาเม่ยกล่าวขึ้นอีกครั้ง
แม่ทัพเชมัลต้องดึงเข้ามากอดฟัดแก้มใส "ใครเลือกพระราชานะพูดใหม่สิ"
"ท่านพี่ให้น้องสมมุติไง"
"สมมุติแน่นะ"
อาเม่ยแกล้งทำตาวิบวับ "สมมุติดีไหมนะ"
แม่ทัพเชมัลก็รู้ว่าอีกคนแกล้งแหย่ แต่เหนืออื่นใดคือเสียงหัวเราะสดใสแบบนี้ "มีคนมากมาย ทำไมเจ้าต้องเลือกพระราชาทุกครั้งเลยนะ"
อาเม่ยได้แต่หัวเราะ สีหน้าท่าทางมีความสุขมากที่อีกคนมีท่าทางอิจฉา ทั้งบ่นมาตลอดจนเข้ามาในบ้าน

แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องพักส่องสว่าง อากาศเมืองเหนือเย็นสบาย 
อาเม่ยพลิกตัวนอนหนุนแขนใหญ่ โอบกอดเอวหนาไว้ขณะที่ผ่อนลมหายใจนอนหลับสบาย ริมฝีปากหนาที่จูบหน้าผากทำให้ส่งเสียงในลำคอแต่ยังไม่ลืมตา
แม่ทัพเชมัลมองใบหน้าหวาน พรุ่งนี้และวันถัดไปยังมีเรื่องราวที่รอให้เราต้องสะสางอีกมากมาย ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างกันเช่นนี้ ก็จะไม่มีอุปสรรคใดที่ขัดขวางพวกเราได้อีกต่อไป

*-*

นานนับเดือน แม่ทัพเชมัลและอาเม่ย จึงกลับมาเข้าเฝ้าพระราชาฟารัคที่เมืองวัน
ในห้องท้องพระโรง พระราชาฟารัคประทับนั่งที่พระราชอาสน์ เคียงข้างด้วยพระชายา เหล่าราชองครักษ์ องครักษ์ เสนาบดี และนายเมืองพร้อมหน้า
เป็นการประชุมใหญ่ ที่นอกไปจากการประกาศความสำเร็จ ยังเป็นการชำระความคดีที่ค้างอยู่ด้วย
พระราชาฟารัคจึงเริ่มต้นการประชุมในครั้งนี้ ด้วยการแนะนำผู้เฒ่าดิน ในฐานะเจ้าชายมูซัคพระปัยกาผู้มีการเคลื่อนไหวเป็นอิสระ
กล่าวยกย่องความสำเร็จและความเสียสละของแม่ทัพทั้ง 2 คนจนเลิศลอย ตามมาด้วยการซักถามเกี่ยวกับการทำงานในเมืองเหนืออยู่ครึ่งวัน จากนั้นจึงได้เรียกแม่หญิงพริม และต้าซันเข้ามา

แม่ทัพนาซิม และอาเม่ยก้าวเข้ามายืนอยู่กลางห้องโถง จากนั้นจึงถอดหมวกเครื่องแบบแม่ทัพ และองครักษ์ ส่งมอบอาวุธให้กับราชองครักษ์มีอา จากนั้นจึงคุกเข่าลง

"เรื่องราวในส่วนของพวกเจ้ามันช่างยุ่งเหยิงจนไม่รู้ว่าข้าควรเริ่มจากตรงไหน" เพียงแค่มีพระดำรัสคำแรกออกมา ผู้เฒ่าดินก็ขยับตัวพร้อมที่จะออกหน้ารับทุกความผิดของทั้ง 2 คน
"ข้ารู้ว่า การถูกเวทย์ดำไม่สามารถนำมาหักล้างในความผิดใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น เพราะเวทย์ดำนั้นจะแทรกแซงเข้ามาที่ช่องว่างของจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความแค้น และความเกลียดชังอย่างรุนแรง แต่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะความรัก แล้วความรักกลับกลายเป็นความผิดไปตั้งแต่เมื่อใด"

"ข้าเพียงอยากถาม" พระชายาผู้สูญเสียบิดากล่าวขึ้น "อาเม่ย สังหารพ่อของข้าใช่หรือไม่"
อาเม่ยเงยหน้าขึ้นสบตาพระชายาแล้วตอบตามตรง "ใช่"
"เจ้าไม่... เจ้าไม่ได้สำนึกผิดเลยหรือไง เจ้ากล้าสังหารเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่ของเมืองวันเชียวนะ!" น้ำเสียงของพระชายาดังก้องห้องโถงแห่งนี้
แต่อาเม่ยยังคงมองมาตรงๆ ไม่ได้เอ่ยคำใด เพราะรู้ว่านั่นมิใช่คำถาม การกล่าวคำใดๆ ออกไปก็ตาม จะยิ่งทำให้พระชายายิ่งโกรธแค้นมากกว่าเดิม
หลังปล่อยให้กล่าวอีกสองสามคำ ผู้เฒ่าดินจึงขัดขึ้น "แล้วเหตุใดเขาจึงฆ่าพ่อของเจ้า"
"เรื่องนั้น" พระชายาอึกอัก
ผู้เฒ่าดินโบกมือ "ฆ่าคนย่อมต้องรับผิด ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะขอบรรเทาโทษของเขา แต่ทุกการกระทำล้วนมีที่มา ในเมื่อจะกล่าวโทษคนก็ควรฟังให้จบเรื่องราว" ผู้อาวุโสสูงสุดหันมาหาอาเม่ย
แต่อาเม่ยกลับตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่พาดพิงถึงผู้ใด
"ข้าสังหารหัวหน้าหมู่บ้านช่างเหล็ก แล้วเดินทางเข้าเมืองหลวง ฆ่าองครักษ์ตงและโป ในพื้นที่ป่านอกเมืองวัน จากนั้นก็กลับมาเพื่อลอบฆ่าเสนาบดีหลี่ที่บ้านพัก"
"เพราะเหตุใด" ผู้เฒ่าดินพยายามถามเพื่อให้ความช่วยเหลือ
แต่อาเม่ยยังคงมองตรงไปข้างหน้า
"ยังมีอีก ข้ากล่าวคำเท็จมากมายต่อราชองครักษ์ องครักษ์ ทั้งทำร้ายแม่ทัพเชมัล ทำร้ายองครักษ์ ละทิ้งหน้าที่ หนีทหาร"
"พอแล้ว!" ผู้ที่กล่าวแทรกขึ้นมาคือต้าซัน ที่รีบเข้ามากอดน้องชายไว้แน่น "อย่าพูด คนมากมายทำความผิด เจ้าไม่อาจรับมันไว้คนเดียว เพราะข้าก็ผิดที่ไม่รู้จักปกป้องน้องชาย ทำให้คนทำร้ายเจ้า เพราะข้ามันโง่ ที่เมื่อคิดพาเจ้าหนีไป กลับทำให้พวกเขาพาเจ้ากลับมาเสียอีก" ยิ่งกล่าวคำต้าซันก็กลับร้องไห้จนไม่อาจกล่าวคำใดๆ ได้อีก
ผู้เฒ่าดินจึงหันไปขอให้พักการพิจารณาโทษของอาเม่ย และพิจารณาเรื่องของแม่ทัพนาซิมก่อน แต่พระชายาไม่ยินยอม ยังคงทักท้วงเรื่องที่อาเม่ยฆ่าเสนาบดี

ต้าซันโกรธจนลุกขึ้นยืนชี้หน้าพระชายาโดยไม่เกรงกลัวใดๆ
"เม่ยไม่ได้ปฏิเสธเรื่องฆ่าบิดาของพระองค์ เขาก็อยู่ที่นี่แล้ว จะลงโทษอย่างไรก็พร้อมที่จะยอมรับ แล้วพระองค์ยังต้องการอันใดอีก พ่อของพวกเราไม่ได้ถูกคนอื่นฆ่าหรือไร เขาถูกคนทำร้ายแล้วเผาต่อหน้า ที่น้องของข้ายังมีสติครบถ้วนอยู่จนถึงวันนี้ ไม่ถือว่าดีหรือไร ชีวิตบิดาของพระองค์มีค่ามากกว่าพ่อของเราหรือไร ท่านเสียใจและคิดแก้แค้น แล้วพวกเราเล่า ไม่เสียใจไม่คิดแก้แค้นหรือไร แล้วใครอยู่เบื้องหลังการฆ่าพ่อของพวกเรา เผาหมู่บ้านของพวกเรา เม่ยฆ่าบิดาของพระองค์ ก็เพราะบิดาพระองค์อยู่เบื้องหลังการทำลายหมู่บ้านของเรา คิดวางแผนใส่ร้ายสร้างความขัดแย้ง ว่ามีโจรป่าบุกเข้ามา หวังให้เกิดสงครามระหว่าง 2 ดินแดนเพื่อให้พระองค์ครองอำนาจ ทุกคนในที่นี้ไม่ว่าจะผู้มีเวทย์ หรือไม่มีเวทย์ก็รู้เรื่องนี้กันทั้งนั้น แต่พวกเราไม่พูดเพราะเห็นแก่พระราชา ที่มีพระชายาคิดแย่งบัลลังก์ของพระองค์เอง แต่พระชายากลับกดดันพวกเรามากเกินไป"
อาเม่ยกลับต้องเป็นฝ่ายลูบหลังพี่ชายเตือนสติให้ระงับคำพูด "พี่ใหญ่"
แต่ต้าซันปาดน้ำตากล่าวอีกคำก่อนนั่งลงข้างน้องชาย "คิดว่าตัวเองเจ็บปวดเป็นคนเดียวหรือไง"
น้องชายหันไปกราบทูลพระราชา "สิ่งเดียวที่ข้าไม่ได้ทำก็คือเรื่องการวางเวทย์ดำแม่ทัพนาซิม"

แม่ทัพนาซิม รู้ว่าเพราะตนเองมีตำแหน่งที่สูงกว่า จึงต้องรอรับการพิจารณาในภายหลัง แต่เมื่ออาเม่ยกล่าวยอมรับว่ากระทำความผิดอย่างตรงไปตรงมา แม่ทัพนาซิมก็มีท่าทีไม่พอใจ ดั่งถูกแย่งชิงบทบาทสำคัญไป ดังนั้น เมื่อถูกเอ่ยชื่อถึง ก็ยืดอกรับอย่างกล้าหาญเช่นกัน "ข้าปล่อยให้จิตใจลุ่มหลงคนผู้หนึ่งจนกลายเป็นการเปิดโอกาสให้เวทย์ดำแทรกแซงและทำร้ายเขาจนปางตาย ข้าไม่โทษผู้ใดและพร้อมยอมรับความผิดนั้น" เมื่ออยู่เฉยๆ แม่ทัพนาซิมก็ดูเป็นคนเย่อหยิ่งไม่สนใจผู้ใดอยู่แล้ว และตลอดคำกล่าวนี้ ก็ยังคงท่าทางไม่แยแสผู้ใดอยู่เช่นเดิม ทั้งใช้สายตาดั่งจะบอกว่า อาเม่ยไม่ได้เป็นผู้ที่พลังเวทย์กล้าแข็ง ถึงกับจะสามารถทำร้ายตนเองได้ จนกระทั่งหันมาทางแม่หญิงพริมจึงมีสีหน้าท่าทางสำนึกผิด "คนที่ข้าติดค้างก็คือเจ้า ข้าขอโทษและพร้อมที่จะชดใช้ให้กับเจ้า ตามแต่เจ้าจะร้องขอ"
แม่หญิงพริมกล่าวตอบ "ท่านมิได้ติดค้างข้า"
อันที่จริงพริมสงสัยว่าแม่ทัพนาซิมติดค้างต้นห้องเก้า แต่เหตุใดจึงกล่าวว่าติดค้างนาง แต่เมื่อหันไปมองต้นห้องเก้า ก็เห็นว่าก้มหน้ามองพื้นอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา จึงได้แต่รู้สึกเป็นกังวลแทน

แม่ทัพนาซิม เมื่อดึงความสนใจจากทุกผู้คนกลับมาได้ก็กล่าวต่อในทันที "ความรักของข้ามิใช่เกิดขึ้นจากแรกเห็น แต่เป็นความรักที่ค่อยก่อเกิดขึ้น แม้จะรู้ว่าไม่มีความหวังว่าจะได้รับความรักตอบกลับมา ก็ไม่อาจตัดใจ หากท่านจะลงโทษข้าเพราะความรักของข้า ข้าก็พร้อมที่จะยอมรับ"

ท่ามกลางความเงียบ อาเม่ยกลับเอ่ยขึ้น "ช่างอวดโอ่โง่งม"
แม่ทัพนาซิมหันมาและลุกขึ้นยืนทันที "ที่นี่ยังมีคนอวดโอ่โง่งมด้วยความรักอีกคน คือแม่ทัพเชมัล เพราะเขารักเจ้ามากจนเฮยอั้นและผู้เฒ่าไฟมองเห็น ถึงได้ใช้เจ้าชักนำภัยพิบัติมาจ่อถึงประตูเมือง"
"ท่านพี่รักและเกื้อกูลข้า มิใช่เอามาอ้างเพื่อทำร้ายคน" อาเม่ยลุกขึ้นกำหมัดแน่น ดวงตากร้าวเมื่อมองคนที่กล่าวคำพาดพิงแม่ทัพเชมัล
แม่ทัพนาซิมชี้หน้าคนตัวเล็ก "ถูกคนใช้เป็นเพียงเบี้ยนักฆ่าตัวหนึ่งยังฝีปากกล้ามาท้าทายข้าอีกหรือ"
อาเม่ยกลับยิ้มเยาะ "เบี้ยนักฆ่าคนนี้ บุกไปทำลายพระราชวังเมืองเหนือมาแล้ว มิใช่เอาแต่รั้งรออยู่ในบ้านตนเอง"
"อาละวาดไม่รู้ทิศรู้ทางแบบนั้นยังกล้าอวด"
"ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ไม่มีอันใดมาอวด นอกจากการถากถางผู้อื่น!"
"เจ้า!"
"ยังมี ข้ายังระเบิดธนูเวทย์ของคนนั้นด้วย" อาเม่ยชี้ไปทางต้นห้องเก้า ที่กำลังชมการโต้เถียงด้วยสีหน้าประหลาดใจ "แล้วท่านทำอะไรบ้าง! คนอวดโอ่โง่งม!"
ทั้งแม่ทัพนาซิมและอาเม่ยต่างขยับเท้า วาดมือจะฟาดฟันกัน แต่พลังที่เรียกขึ้นมากลับหยุดแต่เพียงภายในฝ่ามือแล้วสลายไป
สุดท้ายทั้ง 2 คนต่างรู้ตัวหันไปมองผู้ที่ประทับนั่งเท้าคางทอดพระเนตรมาจากพระเก้าอี้ในตำแหน่งสูงสุด

นี่คือความแตกต่างของพระราชากับแม่ทัพเชมัล
พลังของพระราชาอยู่ในเวทย์ขาวอย่างแท้จริง ไม่ว่าผู้นั้นจะมีเวทย์นั้นจะรุนแรงเพียงใด พระราชาจะทรงสลายไปโดยมิได้ทำร้ายผู้ใด
แต่หากเป็นแม่ทัพเชมัลที่มีเวทย์ใกล้เคียงกับเวทย์ดำอย่างยิ่ง จะผลักดันพลังเวทย์นั้นกลับ เวทย์นั้นจึงกลับมาทำร้ายตนเอง ดั่งที่เกิดกับผู้เฒ่าไฟ
บรรดาเสนาบดีตลอดจนผู้มีอำนาจจึงหวั่นเกรงแม่ทัพเชมัล จนกระทั่งกดดันให้แม่ทัพต้องกล่าวสาบานว่าจะไม่สมรส และไม่มีทายาท เพื่อตัดโอกาสในการแย่งชิงบัลลังก์

รอยยิ้มสนุกสนานของพระราชาฟารัคทำให้ทั้งคู่ต้องประสานมือขอพระราชทานอภัยแล้วคุกเข่าลงตามเดิม
"ที่นี่มีผู้ที่มีเวทย์อยู่มากกว่าครึ่งร้อย พวกเจ้ายังกล้า"
อาเม่ยย่นจมูก "ครึ่งร้อย ยังไม่เท่าพระองค์เพียงคนเดียว"
"ขอบใจที่ชม" พระราชายังคงรอยแย้มสรวล ขณะที่หันไปหาพระชายา "เรื่องราวทั้งหมด ความรัก ความแค้นของทุกคนล้วนเกี่ยวพันกัน เจตนา ไม่เจตนาหลายคราก็ยากที่จะแยกแยะ นั่นเพราะพวกเราล้วนเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน เป็นครอบครัวเดียวกัน สุดท้ายแล้วทุกคนล้วนกลายเป็นผู้สูญเสีย ถ้าอภัยไม่ได้ ก็ขอให้มองถึงความผิดที่ตนเองทำลงไป"

พระราชาฟารัคทอดพระเนตรไปทั่วห้องโถง แล้วเอ่ยขึ้นด้วยพระสุรเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจ
"ทั้งหมด ฟังคำตัดสินของข้า......."


...จบตอนที่ 42...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 12-01-2016 16:18:07
กรี๊ดดดดดดดดด หลงรักท่านฟารัคเจ้าค่ะ  :m3:

มันคาใจสุดๆๆๆๆ คำตัดสินจะเป็นยังไง  o9


ว่าแต่ท่านเชมัลขี้อิจฉามาแล้วซินะ ถึงยังไงก็ยังแพ้ให้เม่ย ฮิ้ว ฮิ้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-01-2016 16:20:52
เอียงหูรอฟังเจ้าค่ะ

แบบว่า.....อ่านเม่ยเถียงกับนาซิมอย่างกับดูมวยคู่เอก

แหม่...แลกหมัดกันมันส์หยด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 12-01-2016 16:34:08
 :katai2-1: กำลังเถียงกันมันส์ อ้าวว...จบซะแระ พระราชารีบกลับมาตัดสินนะเจ้าคะ เรื่องมันพัวพันอีนุงตุงนังดี ปวดหัวแทนเจ้าค่าาา 555+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-01-2016 16:59:15
ลุ้นยิ่งกว่าคราออกศึก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 12-01-2016 17:09:22
โอ๊ยยยยยย ยัยชายานั่น ขอซักทีเหอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-01-2016 19:22:03
รอฟังคำตัดสินของพระราชา

 :กอด1: :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 12-01-2016 20:27:48
ต้าซัน เอาใจเค้าไปเลย #ปาหัวใจใส่รัวๆ   :m3: ทั้งเรื่องเราว่าต้าซันปกติที่สุดแล้ว และเป็นคนเดียวที่แสดงอารมณ์ออกมาอย่างตรงไปตรงมา 5555
ตอนที่ต้าซันปกป้องเม่ยโดยว่าพระชายา อยากยืนขึ้นปรบมือมาก

ปล.ฟารัคเป็นคนที่สนุกที่สุดตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงตอนที่ 42  :m12:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 12-01-2016 20:33:48
นาซิม-อาเม่ย มวยคู่เอกมาก อ่านแล้วมันส์สันใจ ฝีปากคมคายเหลือเกินนะท่าน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 12-01-2016 21:50:48
เถียงกันเพลินๆ จบไม่รู้ตัวเลย คิดว่าเม่ยกับนาซิมจะได้วางมวยกันซะแล้ว เรื่องราวของเก้ากับนาซิมจบลงแล้วใช่มั้ย? อยากรู้ว่าพระราชาจะตัดสินยังไง อยากรู้เรื่องราวต่อจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 12-01-2016 22:21:07
กรี๊ดด ค้าง!! รอฟัง.  ชอบแม่ทัพนาซิมมากทั้งๆที่บทน้อย แต่ชอบลักษณะ (ชอบคนเลวสินะ) 55 ขอทางออกให้นาซิมแบบไม่เจ็บไม่ปวดได้ไหม ขอมากไปหรือเปล่า อิอิ ส่วนตอนนี้เม่ยน่ารักมากจนอยากฟัดแก้ม
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-01-2016 23:06:29
ตัดสินยังไง

ก็ขอให่อาเหม่ยได้เปรียบหน่อย

นั่นน้องสะไภ้นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 12-01-2016 23:36:24
พระราชาจะตัดสินว่า อย่างไรกันน่ะ  ตื่นเต้นๆๆ เดาใจพระองค์ไม่เคยถูกสักทีเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-01-2016 08:56:28
จะตัดสินโทษยังไงล่ะเนี่ย ลุ้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-01-2016 09:54:50
ตอนนี้สนุกอ่ะ ปะทะกันมันส์!
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 13-01-2016 11:23:55
 :laugh: :laugh: :laugh:

เม่ยเหมือนเด็ก 5 ขวบ ที่อวดว่าวันนี้หนูกินผักด้วย 55
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 13-01-2016 11:46:03
มาบวก และมาลุ้น  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 13-01-2016 12:11:03
จนแล้วจนรอด อาเม่ยก็ไม่สามารถเอ่ยชื่ออาเก้าออกมาได้ตรงๆ (เรียก "คนนั้น" ตลอด ทำให้นึกถึงน้องน้ำชาเลย)
ตอนอาเม่ยหยอกท่านแม่ทัพเชมัลเรื่องเลือกพระราชา เป็นอะไรที่น่ารักมากอ่ะ แม่ทัพขี้อิจฉา ฮ่าๆ

เกลียดพระชายาอ่ะ นางทำขนาดนี้ทำไมพระราชาฟารัคยังเก็บไว้ข้างกายอยู่อีก ขัดใจมาก
ตอนนี้พระเอกของเราคือพี่ต้าซันค่ะ ยกความดีความชอบให้เลย ชนะเลิศผู้ครองเวทย์ทั้งปวง
แอบถูกใจการโต้เถียงระหว่างแม่ทัพนาซิมกับอาเม่ยมาก ฟาดฝีปากกันได้ดุเด็ดเผ็ดมันจริงๆ
อ่านไปขำไป คือแบบทั้งนาซิมทั้งอาเม่ยต่างก็โดนเวทย์ดำครอบงำมาด้วยกันทั้งคู่ ดันมาทะเลาะกันเองอีก

แต่หูยยยยยยยยย คุณขาาาาาา ตัดจบได้แบบ.......  :katai1:
ตอนต่อไปจะเป็นการรอคอยที่คนอ่านจะต้องมโนไปเองว่า "ทำไมช่างยาวนานเหลือเกิน" แน่นอน
ขนาดเพิ่งจะอ่านจบตอนยังอยากรู้คำตัดสินของพระราชาฟารัคใจจะขาดแล้ว โอ๊ยยยย ลุ้นมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-01-2016 13:51:48
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 13-01-2016 20:13:02
ขอบคุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชานะคะ

ตาซันรักน้องมาก อิจฉาอาเม่ย เราไม่มีพี่ชาย
ระหว่างรอคอยคำตัดสิน...
อ่านสองสามตอนที่ผ่านมา เราชอบฮูดามากขึ้นนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 14-01-2016 07:16:56
พระราชาจะกล่าว verdict ตัดสินโทษของทุกคนแล้ว รอคอยค่ะว่าจะออกมาอย่างไร กรณีของอาเม่ยนั้นนับว่าร้ายแรงสุดอยากรู้ว่าพระองค์จะตัดสินอย่างไร

ดิฉันว่าพระราชาเท่ห์มากเลยนะ ไม่ว่าใครจะมีเวทย์อะไร แต่ก็โดนพระองค์สลายได้หมด เลิศมากจริงๆ สมกับเป็นพระเอก(?)ของเรื่องนี้ ฮ่าๆ

ขอบคุณมากๆ นะคะ สำหรับตอนนี้ (อยากให้อาเก้าสมหวังกับพระราชาจริงๆ นะ มันจะสุขมากๆ เลยค่ะคุณ)

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 14-01-2016 08:36:54
อาเม่ยตอนนี้น่ารักสุด เถียงกับนาซิมแง้วๆๆๆๆ
ที่โกรธมากขนาดนี้ เพราะนาซิมว่าพี่เชล่ะสิ
ปลื้มมมมมมมม น่าร้ากกกกกกก >/////<
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 14-01-2016 12:55:00
ฟังเค้าเถียงกันเพลินไปนิดจนอ่านมาบรรทัดสุดท้าย
 :a5: เฮ้ยจบตอนแล้ว แล้วคำตัดสินละ  :katai5:
รอลุ้นผลการตัดสินต่อไป :katai3:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 18-01-2016 16:03:06
เข้ามาดันกระทู้+จองที่รออ่านค่ะ  อยากรู้คำตัดสิน :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 18-01-2016 18:54:43
เพิ่งเห็นเรื่องนี้.....พลาดได้ไงเนียเรา... :mew5: #แวะมาให้กำลังใจค่ะ เด๋วขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 19-01-2016 06:11:03
 มาดักรอ อาเม่ย  :mew3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่42 หน้า42(12มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 19-01-2016 16:31:15
ฝีปากอาเม่ยนี่คงเส้นคงวาจริงๆ เถียงกันไม่ลดละ 55
อาเก้าเองก็ดูจะมีจิตใจเข้มแข็งขึ้นมาก คำสอนของฮูดานี่กดไลค์ให้เลย งานนี้เจ็บแล้วต้องจำ  :a2:
รอฟังคำตัดสินของพระราชา ลุ้นๆ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 19-01-2016 21:49:14
all of me ตอนจบ

เมืองวัน เมืองเหนือ และเมืองบาสก์มีพระราชาปกครอง ซึ่งหากจะนับย้อนกลับไปนับร้อยปี พวกเขาคือพี่น้องกัน แต่เพราะเวลาที่ผ่านไปนับร้อยปีนั่นเอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นจางลงไปจนเหลือเพียงความสัมพันธ์ในทางผลประโยชน์และการค้าเท่านั้น
มิใช่...ยังมีเรื่องความยำเกรงอำนาจ และพลังเวทย์ของเมืองวันอยู่ด้วยในระดับหนึ่ง

เมืองวันที่มั่งคั่ง แบ่งกลุ่มบ้าน และการปกครองชุมชนเล็กๆ ที่เป็นอิสระ กำแพงเมืองหลวงไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน แต่รู้ได้เองเมื่อเดินข้ามสะพานข้ามลำธารสายเล็ก แล้วเข้าไปในย่านการค้า เขตเมืองที่มีผู้คนมากมาย

หลังแม่ทัพเชมัลปราบปรามผู้ใช้เวทย์ดำจากเมืองเหนือเสร็จสิ้น ก็คือการเจรจาอย่างยาวนาน เพื่อทำข้อตกลงกับผู้ปกครองเมืองเหนือ จากนั้นแม่ทัพเชมัล และแม่ทัพนาซิม จึงเดินทางกลับมาที่เมืองวัน เพื่อรับความดีความชอบ และรับโทษในส่วนที่กระทำความผิดในเรื่องที่ไม่รู้จักแยกแยะ จนทำให้ส่งผลกระทบถึงการทำหน้าที่สำคัญ
แต่การลงโทษนั้นกลับแปลกประหลาดในแบบของพระราชาฟารัค

นั่นเพราะแม่ทัพนาซิม ถูกส่งให้ไปประจำการอยู่ที่เมืองหน้าด่านเช่นเดิม แต่มีพื้นที่ตรวจตรารับผิดชอบครอบคลุมไปจนถึงเมืองหน้าด่านของเมืองเหนือ กับต้องเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อให้แม่ทัพเชมัลรักษาเป็นระยะ
พิจารณาอย่างไร ก็เห็นว่านี่คือการบำเหน็จรางวัลให้แม่ทัพนาซิม เพราะหมายถึงการครองเมืองเหนือโดยนัยยะ ทั้งได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
คนผู้นี้ยังคงหมั่นส่งของมาให้ต้นห้องเก้าเป็นระยะ แม้รู้ว่าไม่มีหวัง แต่ก็ไม่เหลือที่ว่างในใจให้กับผู้ใด
ด้วยความรักที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้นโง่งมเช่นนี้เอง จึงถูกเวทย์ดำทำร้าย

เมื่อกล่าวถึงแม่ทัพนาซิมย่อมต้องกล่าวถึงอีกคนหนึ่ง คือต้นห้องเก้า คนผู้นี้เพราะมีจิตใจอ่อนแอจึงเกิดช่องว่างให้องครักษ์ฮูดาทำร้าย หลังจากที่อาเม่ยทำลายธนูที่ได้รับมาจากแม่ทัพเชมัลไปแล้ว เขาก็ได้รับธนูคันใหม่ที่ส่งมาจากหมู่บ้านทหารที่เป็นบ้านเกิดในอีก 1 เดือนถัดมา แต่การทำหน้าที่เป็นต้นห้องให้กับพระราชาฟารัค ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ธนู
นอกจากนี้แล้ว ยังได้พลังอำนาจจากพระราชาช่วยส่งเสริมให้จิตใจมีความเข้มแข็งมากขึ้น จนสามารถกล่าวคำปฏิเสธแม่ทัพนาซิมอย่างเด็ดขาด สิ่งของที่ถูกส่งมาจึงถูกส่งกลับไป
สำหรับต้นห้องเก้าแล้ว เมื่อไม่ได้รัก ก็คือไม่รัก ทั้งไม่อาจคาดเดาได้ว่าแท้จริงแล้วคนผู้นี้รักใคร หรือบางทีอาจเพราะยังไม่พบกับใครที่สามารถรักได้ทั้งหมดของหัวใจอย่างที่เคยกล่าวไว้กับอาเม่ยเมื่อนานมาแล้ว
คงมีสักวันที่ต้นห้องเก้าจะพบเจอกับคนผู้นั้น

ส่วนเรื่องของแม่หญิงพริม หญิงสาวที่ถูกองครักษ์ฮูดาชักจูงเข้ามาเกี่ยวข้องกับต้นห้องเก้า ซึ่งจนสุดท้ายนางก็ยังไม่รู้ว่า เรื่องราวในคืนนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากองครักษ์ฮูดา เนื่องด้วยต้นห้องเก้ามิเคยกล่าวพาดพิงไปถึง เรื่องราวที่อยู่ในความรับรู้ของแม่หญิงแสนดีก็คือ การที่ต้นห้องเก้าแอบเข้าหาในคืนหนึ่ง มีการคบหากันอย่างเรียบง่าย จนถึงวันหนึ่งที่ต้นห้องเก้าถูกแม่ทัพนาซิมทำร้าย นางจึงพบว่า คนที่ดีอย่างยิ่งนั้นมิใช่คนที่รักอย่างยิ่ง แต่นางก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีกับต้นห้องเก้า รวมถึงต้าซัน คนที่เป็นพี่ชายแสนดีอย่างยิ่งของอาเม่ย แต่เพราะต้าซันมีความตั้งใจที่แน่วแน่ว่าจะดูแลน้องชายเป็นเรื่องหลัก ดังนั้นแม่หญิงพริมกับต้าซันจึงมิเคยแม้แต่จะเริ่มต้นคบหากัน ว่าที่จริงพระราชาฟารัคเคยคิดที่จะวางแผนนัดดูตัวให้กับแม่หญิงพริม กับบุตรชายของเสนาบดีคนหนึ่ง แต่หัวหน้าราชองครักษ์บาดาทักท้วงไว้ แม้ต่อหน้าพระราชาจะรับปาก แต่ในใจกลับคิดหาคู่ให้แม่หญิงพริมไปเรื่อย จนสุดท้ายต้นห้องเก้าต้องทูลขอไว้ เนื่องด้วยนางเป็นหญิง การเที่ยวนัดแนะทำความรู้จักเช่นนั้น ทำให้ดูไม่งาม ต่อเมื่อนางพบคนถูกใจแล้วพระราชาจะช่วยส่งเสริมให้ย่อมดีกว่า
...คิดว่าพระราชาจะรับฟังข้อเสนอนี้หรือไม่...

มาที่องครักษ์ฮูดา ผู้ได้รับความชอบพระราชทานตำแหน่งราชองครักษ์ให้แบบที่พระราชาฟารัคไม่ได้ทรงเต็มพระทัยเลยสักนิด หากแต่เลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว คนผู้นี้มีความซื่อตรงต่อจิตใจตนเองอย่างยิ่ง รักคือรัก และเกลียดก็คือเกลียด ที่เป็นปัญหาก็คือ การอยู่ใกล้พระราชาฟารัค ทำให้พลังอำนาจของราชองครักษ์ลำดับที่ 10 ผู้นี้แข็งแกร่งขึ้น จนกลายเป็นการรบกวนพลังของผู้อื่น โดยเฉพาะราชองครักษ์มีอาผู้ซื่อตรง สุดท้ายงานในหน้าที่หลักจึงกลายเป็นงานสืบสวนสอบสวน
อาจกล่าวได้ว่า นี่คือผู้ที่มีความสุขอย่างยิ่ง เพราะในปีต่อมาภริยาให้กำเนิดบุตรฝาแฝด เมื่อเติบโตขึ้นมาคนหนึ่งมีพลังไฟ อีกคนมีพลังทางน้ำ จำต้องส่งให้ไปรับการศึกษาเวทย์จากองครักษ์ซันและแซน นอกจากนี้ยังมีบุตรสาวอีก 2 คนที่รับการศึกษาจากในวังหลวง

ยังมีพระปัยกามูซัค หรือผู้เฒ่าดิน ซึ่งถูกลงโทษฐานที่ละเลยในการดูแลอาเม่ยผู้เป็นศิษย์ ก็จะต้องรับหน้าที่สั่งสอนอบรมเจ้าชายฮัมซา พระราชโอรสแห่งพระราชาฟารัคเป็นเวลา 5 ปี นั่นหมายความว่า เมื่อเจ้าชายมีพระชนม์ 20 พรรษาจะดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาทของเมืองวันอย่างเป็นทางการ
แต่เดี๋ยวก่อน
พระราชาฟารัค ทรงแต่งตั้งแม่ทัพเชมัลผู้เป็นพระอนุชาโดยสายเลือดเป็นองค์รัชทายาทอันดับ 1 และ มีเจ้าชายฮัมซาผู้เป็นพระราชโอรส เป็นองค์รัชทายาทอันดับ 2 และมีเงื่อนไขว่า อีก 5 ปีข้างหน้า หากมีพลังเวทย์กล้าแข็งขึ้น จึงจะมีพระวินิจฉัยในเรื่องนี้อีกครั้ง
ว่ากันว่า ทั้งแม่ทัพเชมัล และเจ้าชายต่างก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดของพระราชา ด้วยแม่ทัพเชมัลไม่เคยต้องการเป็นรัชทายาทแม้แต่น้อย ส่วนเจ้าชายพอทราบว่าต้องติดตามผู้เฒ่าดินออกเดินทางไปทั่วดินแดนก็ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการร่ำลาหญิงสาวหลายคนในเมืองหลวง แต่เมื่อออกเดินทางไปได้เดือนเศษก็กลับมีความสุขดีกับชีวิตที่เป็นอิสระ จากนั้นก็มีจดหมายถึงพระราชาฟารัค แนะนำให้มีพระโอรสและธิดาอีกสักหลายๆ พระองค์ มิเช่นนั้น บัลลังก์อาจตกเป็นของเจ้าชายน้อยดาริมแห่งแม่ทัพนาซิม เพราะมีความเป็นไปได้ว่า สุดท้ายแล้ว เจ้าชายฮัมซาอาจเลือกทางเดินถือบวชและครองเวทย์ในแบบเดียวกับผู้เฒ่าดินไปอีกคนหนึ่ง
ผ่านไปครึ่งปี ก็มีจดหมายจากผู้เฒ่าดิน ที่ฝากมากับพ่อค้าเมืองบาสก์ แจ้งข่าวเรื่องการตัดสินพระทัยของเจ้าชายฮัมซา ถัดมาอีก 2 เดือนพระราชาฟารัคจึงรับพระชายาใหม่อีก 2 พระองค์ครานี้ ทรงมีพระโอรสองค์น้อยในเวลาไล่เลี่ยกันอีก 2 พระองค์

ที่ผ่านมาแม่ทัพนาซิมเองก็มีความต้องการฝากเจ้าชายน้อยดาริมให้ไปเรียนวิชากับผู้เฒ่าดินเช่นกัน แต่พอทราบเรื่องของเจ้าชายฮัมซา จึงเปลี่ยนใจ ฝากให้ศึกษากับเหล่าราชองครักษ์ของพระราชาฟารัคเช่นเดิม มิใช่ว่าต้องการแย่งชิงบัลลังก์ แต่เพราะแม่ทัพนาซิมมีโอรสเพียงองค์เดียว หากต้องการติดตามผู้เฒ่าดินไปอีกคน มิใช่ต้องรับภริยาใหม่อีกคนหรือ

ยังมีอีก แม่ทัพเชมัลรับผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธทยอยเข้ามาสมทบในกองทัพอีก 5 คน แต่ผ่านการคัดเลือกและแต่งตั้งเป็นองครักษ์เพียงคนเดียว ส่วนอาลีหัวหน้าหมู่บ้านคนเถื่อนที่อยู่นอกเขตชายแดนส่งคนเข้ามาแจ้งว่า พบเด็กน้อยคนหนึ่งอายุเพียง 4 ขวบแต่มีพลังในการควบคุมลมจึงให้คนพามาหาแม่ทัพนาซิม และพามาหาแม่ทัพเชมัลอีกทอดหนึ่ง สุดท้ายเด็กน้อยจึงได้เข้ารับการศึกษาเวทย์เพื่อควบคุมการใช้พลังทางลมกับราชองครักษ์คนหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ว่ากันว่าหัวหน้าหมู่บ้านอาลีผิดหวังอยู่ไม่น้อยที่แม่ทัพเชมัลไม่รับสอนวิชาให้
ก็อย่างที่ทราบกัน หัวหน้าหมู่บ้านผู้นี้ ไว้วางใจแม่ทัพเชมัลแต่เพียงผู้เดียว

ส่วนต้าซันคนซื่อ มีความผิดฐานที่พาอาเม่ยหลบหนี ทั้งเมื่อลอบกลับมาเมืองหลวงก็ไปพักอยู่กับราชองครักษ์ลาทีฟ สอนหนังสือให้กับท่านหญิงลาทิฟาบุตรสาวของราชองครักษ์ แต่เมื่อรวมกับการที่ก่อนหน้านี้เคยรับโทษจำคุกเพราะอาเม่ยผู้เป็นน้องชายหนีทหารมาแล้วระยะหนึ่ง พระราชาจึงให้ปลดออกจากกองงานดนตรีในพระราชวัง แต่ให้ไปสอนหนังสือแก่ท่านหญิงลาทิฟาต่อไป
หากราชองครักษ์ลาทีฟเป็นคนหนุ่ม ก็อาจคิดได้ว่าพระราชากำลังคิดจับคู่ แต่เพราะเป็นผู้ที่มีอายุมากแล้ว เรื่องนี้จึงตกไป แต่กล่าวกันว่า อาจเพราะพระราชามีดำริเตรียมท่านหญิงลาทิฟาให้เป็นพระชายาของเจ้าชายฮัมซา ต่อมาแม้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะเปลี่ยนไป ก็ยังมีเมตตาต่อท่านหญิงลาทิฟาอยู่เช่นเดิม
ส่วนเรื่องหัวใจของต้าซัน ที่มีเพียงอาเม่ยที่ล่วงรู้ ดังนั้น มันจึงสมควรเป็นความลับระหว่างพี่น้องต่อไป

มาถึงอาเม่ยที่อยู่ในความก้ำกึ่งระหว่างเหยื่อกับมือสังหาร พระราชาจึงให้สวมกำไลโลหะเพื่อควบคุมการใช้พลังและเวทย์ ทั้งห้ามเข้ามาในเขตเมืองหลวง
แต่เรื่องนี้ ต้องนับว่าแต่ละคนมีเจตนาที่จะร่วมกันไม่กล่าวความจริงออกมา นั่นเพราะทั้งผู้เฒ่าไฟ รัชทายาทเจิ้นเทียน จนถึงเฮยอั้นต่างก็หาชีวิตไม่แล้ว อาเม่ยซึ่งได้รับการรักษามาเป็นระยะตั้งแต่แม่ทัพเชมัล พระราชาเมืองบาสก์ มาจนถึงพระราชาฟารัคเอง จึงย่อมกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า อาเม่ยผู้นี้ปราศจากเวทย์ดำแล้ว
แต่ทุกคนที่รู้ความจริง กลับพร้อมใจกันเงียบเฉย
แม้แต่ราชองครักษ์ฮูดา ก็ยังทำไม่รู้ไม่เห็นในเรื่องนี้ไปด้วยอีกคน

สุดท้ายคือแม่ทัพเชมัล ที่กลับมามีตำแหน่งใหญ่โตกว่าเดิม ทั้งมีผู้มีเวทย์จากหลายเมืองมาพบไม่ขาดสาย หลายเรื่องต้องบ่ายเบี่ยงให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าราชองครักษ์บาดา และหัวหน้าองครักษ์รอมเป็นผู้ดูแล 
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงเป็นผู้ที่มีงานมากมาย เพราะพระราชาก็โอนงานต่อมาให้เช่นเดียวกัน
นี่อาจเป็นวิธีการลงโทษแบบพระราชาฟารัคก็เป็นได้

เล่ากันว่า หลังจากที่พระราชาฟารัค มีพระอาญาลงโทษพร้อมไปกับการบำเหน็จรางวัลแก่ทุกคนเสร็จสิ้นแล้ว พระราชาฟารัค แม่ทัพนาซิม และ แม่ทัพเชมัลก็ร่วมหารือกันเป็นการส่วนพระองค์ในแบบ "พี่น้อง" กันอย่างแท้จริง ที่ศาลาหลังเล็กในพระราชอุทยาน
หัวหน้าราชองครักษ์บาดา และหัวหน้าองครักษ์รอม ที่ว่าเป็นผู้เข้มงวดยังทำได้แค่ยืนรอคอยอยู่ห่างๆ แต่นั่นย่อมยังอยู่ในระยะที่ได้ยินเสียงสนทนา
ปัญหาคือเมื่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คือ 2 คนนี้ เรื่องเล่าต่อมา ย่อมขาดความสนุกสนานไปมากอย่างน่าเสียดาย เหลือแต่เพียงคำกล่าวที่ว่าพระราชาโกรธกริ้วพระอนุชา 2 พระองค์ที่ช่างลังเล ไม่ได้ดั่งพระทัย เรื่องให้ไปสู้รบกับคนอื่น ช่างรวดเร็วและทำได้ดีเกินคาด แต่พอเป็นเรื่องหัวใจของตนเองกลับลังเล เชื่องช้า ไม่แน่ใจ
สุดท้ายคือ เมื่อพระราชาฟารัค ใช้ถ้อยคำรุนแรงตำหนิ ว่า "ช่างโง่งมจนเกินกว่าจะเข้าใจได้"
แม่ทัพเชมัล กลับย้อนด้วยคำเดียวกัน "พวกเรา 3 คนต่างก็กลายเป็นคนโง่ เมื่อมีความรัก หรือท่านมิใช่"
พระราชาฟารัคถึงได้สงบลง ตามมาด้วยแม่ทัพนาซิมที่ได้แต่ยอมรับเช่นเดียวกัน "ชายชาตรี ไม่เกรงฟ้า ไม่กลัวไฟ แต่กลัวเขาไม่รัก ช่างน่าสมเพชจริงๆ"
นี่หากเปลี่ยนให้ราชองค์รักษ์ฮูดาทำหน้าที่ถวายการรักษาความปลอดภัยในวันนั้น พวกเราคงได้ฟังเรื่องราวที่สนุกสนานกว่านี้

...

เมืองวันมีฝนตกมาหลายวันแล้ว ไร่นาเขียวชอุ่ม ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส รถม้าขนพืชผักส่งขายไปถึงแดนไกล เรือลำใหญ่จากต่างเมืองนำสินค้าเข้ามาเทียบท่า การแลกเปลี่ยนสินค้าที่ยิ่งเสริมความมั่งคั่งและเข้มแข็ง
พ่อค้าต่างเมืองลำเลียงสินค้าจากท่าเรือ เดินทางผ่านเมืองหลวง ใช้เส้นทางถนนสายหลักมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ตลอดเส้นทางในเมืองวัน ไม่มีความจำเป็นต้องมีผู้คุ้มกัน ไปจนถึงเมืองหน้าด่านค่อยหาว่าจ้างผู้คุ้มกันจากสำนักคุ้มกันที่นั่นแล้วเดินทางต่อไปเมืองบาสก์หรือเมืองเหนือ แล้วต่อไปยังเมืองอื่นที่ห่างไกลออกไป

ผ่านประตูเมืองหลวง ไปตามถนนสายหลักไม่ไกลนัก มีทางแยกอยู่สายหนึ่งปลูกต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มตลอดเส้นทาง ปลายทางคือแนวรั้วไม้สูงเพียงระดับเข่า
ป้อมยามที่ด้านหลังแนวรั้วยามนี้ว่างเปล่าไม่มีคน แต่ถัดเข้าไปคือโรงม้าเล็กๆ โรงม้านี้แปลก ที่มันยังมีคอกแพะแก่ตัวหนึ่งเล็มหญ้าอย่างสบายอารมณ์ มองดูทหารยามที่เข้ามานอนพัก เนื่องด้วยฝนที่ตกพรำ ทหารยามที่ปกติก็มิได้ทำอันใดมากไปกว่าการรดน้ำผักในแปลงปลูกเล็กๆ ข้างคอกม้า จึงแอบมานอนหลับสบาย
ใกล้กับคอกม้ายังมีเรือนคนรับใช้ และบ้านพักหลังขนาดพักอาศัยอยู่คนเดียวอีกหนึ่งหลัง โดดเด่นด้วยกระถางดอกไม้ที่วางตามขั้นบันไดและระเบียงหน้าบ้าน
ข้างประตูกลับมีเครื่องดนตรีชนิดเครื่องสายแขวนไว้
ในอีกด้านหนึ่งคือเรือนไม้หลังใหญ่ที่เพิ่งปลูกสร้างเสร็จ เจ้าของบ้านเพิ่งเข้าพักเมื่อเดือนก่อน ด้านหนึ่งของเรือนพักหันหน้าเข้าหาลำธารที่ไหลผ่าน

ท่ามกลางสายฝนพรำ คนผู้หนึ่งขี่ม้าตรงมาที่บ้าน แพะแก่ส่งเสียงเรียกทหารยามที่หลับอยู่จนสะดุ้งตื่นแล้ววิ่งมาเปิดประตู รับม้าเข้าไปในโรงม้า ส่วนผู้รับใช้รีบออกมาจากโรงครัว รับห่อผ้าขนาดใหญ่ไปจัดการ 
ประตูบ้านหลังใหญ่เปิดออก ผู้ที่ก้าวออกมาถือผ้าทอรอรับ
เส้นผมสีเงิน ดวงตาสีเขียวใสเป็นประกาย กับรอยยิ้มกว้าง
มือข้างขวาที่สวมกำไลโลหะ ยื่นมารองน้ำฝนที่ไหลผ่านหลังคาบ้านพัก แม้จะทำให้มือขาวซีดเย็นเฉียบแต่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย ส่วนเสื้อคลุมตัวยาวเนื้อผ้าอ่อนนุ่มที่สวมใส่อยู่กลับเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย แต่นี่คือสัญลักษณ์ของการพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ในค่ายทหารแล้ว
คนตัวใหญ่ที่เดินฝ่าสายฝนตรงกลับมาที่เรือนพักตามลำพัง เสื้อคลุมกันฝนสีหม่น ไม่อาจบดบังความสง่างามและอำนาจที่ฉายออกมาอย่างโดดเด่น
จมูกคมก้มลงหาแก้มใสกระซิบคำบอกรักและคำคิดถึง จากนั้นเดินเข้าไปในบ้านพักดื่มน้ำสมุนไพรอุ่นที่ไม่เคยชื่นชอบ แต่เพราะผู้ที่รออยู่ที่บ้านตั้งใจเตรียมไว้ให้ จึงดื่มจนหมดแล้วรับรางวัลเป็นรอยยิ้มสดใส
เวลาไหลเอื่อย ฝนขาดเม็ด กินอาหารมื้อค่ำเร็วกว่าเคย
อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หลังดื่มเหล้าอุ่นอีกเล็กน้อย จึงหยิบเสื้อคลุมกันหนาวตัวหลวมโคร่ง สวมให้คนที่ตัวเล็กกว่า
คนสวมให้ส่ายหน้าเมื่อเห็นเสื้อผ้าขนาดไม่พอดีตัว แสร้งเรียกคนรับใช้เข้ามาโวยวาย แต่พอคนรับใช้ส่งห่อผ้าผืนใหญ่ให้ ก็กลับหันมายิ้มกว้าง อย่างที่ไม่อาจเสแสร้งได้อีกต่อไป 
มือผอมบาง ลูบเนื้อผ้านุ่มมือ กล่าวขอบคุณเสียงหวาน สวมเสื้อคลุมตัวใหม่แล้วจับมือเดินเคียงคู่กันออกมาจากบ้าน

ท้องฟ้ากลางคืนยามฝนผ่านไป ใสกระจ่างมองเห็นดวงดาวนับพัน สายลมเย็นกระทบแก้ม
กลิ่นดอกไม้หอมในลมหายใจ เสียงเพลงจากหมู่บ้านดั่งเสียงเรียกให้เร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้านเด็กหญิงเด็กชายวิ่งมาต้อนรับ โอบกอดคนตัวเล็กแน่นๆ แล้วหันมาแบมือขอขนมจากคนตัวโตที่แกล้งบ่ายเบี่ยงว่ามิได้นำมา ทำให้ถูกโวยวาย จนต้องส่งขนมให้ทั้งห่อ เด็กน้อยจึงจูงมือไปที่ลานกลางหมู่บ้าน ที่ตกแต่งด้วยกระดาษสี ดอกไม้ และโคมไฟ

ผู้เป็นพี่ชายกับคนรับใช้ที่ล่วงหน้ามาก่อนร่วมร้องเพลงอยู่ในงาน หันมาโบกมือทักทายน้องชายกับผู้ที่มาด้วย แล้วก็หันไปสนุกสนานกับงานเลี้ยงต่อไป

เจ้าสาวคนงามประดับผมด้วยดอกไม้หอม ในเครื่องแต่งกายสีขาว เคียงข้างกับเจ้าบ่าว
ผู้ที่เพิ่งมาถึงอวยพรให้ทั้งคู่อยู่เคียงคู่กันตราบลมหายใจสุดท้าย

เสียงเพลงพื้นบ้าน การเต้นรำ และการดื่มกิน ดำเนินไปจนถึงยามเที่ยงคืน จึงได้เวลาส่งตัวคู่บ่าวสาว งานเลี้ยงที่ด้านนอกจึงเปลี่ยนเป็นเสียงเพลงที่อ่อนหวานกว่าเดิม หัวหน้าหมู่บ้านจึงเดินมาส่งแขกสำคัญของงานที่ปากทางหมู่บ้าน ส่วนผู้เป็นพี่ชาย กับคนรับใช้ยังคงล่วงหน้ากลับบ้านไปก่อน เช่นเดียวกับขามา

เมื่อเดินกลับมาด้วยกันคนตัวเล็กยกสองมือป้องปาก แม้จะเกิดและเติบโตจากหมู่บ้านทางเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น แต่ถึงยามนี้มือก็ยังเย็นเฉียบ คนที่เดินอยู่ข้างกันหันมามอง กุม 2 มือเล็กขึ้นมาแนบแก้มสาก สัมผัสไออุ่นจากแก้มและมือใหญ่ที่กอบกุมอยู่

ท่ามกลางแสงจันทร์ ข้ามองเห็นเพียงรอยยิ้มของพี่....

....ท่ามกลางประกายของดวงดาวพี่เห็นเพียงประกายความสุขในดวงตาเจ้า

ข้าไม่กังวลสิ่งใด....

....พี่ไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใด

ข้าข้ามผ่านอดีต....

....พี่มองเห็นวันพรุ่งนี้ที่มีแต่เรา

ใจนี้....

....กายนี้

ลมหายใจนี้....

....ชีวิตนี้

เป็นของพี่....

....ขึ้นอยู่กับเจ้าจะสั่งการ

ใต้ผืนฟ้า และดวงดาว ยามฟ้าสว่างหรือมืดมิด ขอมีเพียงท่านเท่านั้น....

....จะทะเลกว้าง หรือทะเลเพลิง พี่จะไม่ยอมคลายมือจากเจ้า

ไม่มีท่าน ไม่มีข้า...

....มีเพียงเราที่จะอยู่คู่กัน....นิรันดร....

...จบ...

ยังมีตอนพิเศษอีกสามตอนนะครับ หากไม่เป็นการรบกวนเกินไป โปรดแวะมาอ่านกันต่ออีกสามครั้งนะครับ :m15:
มีเรื่องที่อยากเล่าเยอะแยะ แต่หาสาระอันใดมิได้เลย ดังนั้นก็โม้ไปเรื่อยละกันนะ
A การเขียนแฟนตาซีแบบนี้มันยากมากจริงๆนะ แถมมาอ่านชาร์ตที่คนเขียนเขาทำไว้ก็งุนงงสับสน เขียนกันนานเป็นปี บอกไปใครเขาจะเชื่อ เพราะมันเวอร์มาก แต่มันคือความจริง เพราะหลายครั้งที่เวลาผ่านไปเป็นเดือนพี่ไจฟ์ยังไม่ได้พิมพ์อะไรลงไปสักตัว  ผมจะโม้เองก็จะกลายเป็นนิยายฮาเฮ แทนที่จะเป็น "ทั้งหมดที่ข้ามี"
B ในการเขียนเรื่อง ผมต้องมีต้นแบบเพื่อบรรยาย แต่จนถึงตอนนี้ผมก็หารูปพระราชาฟารัคที่ถูกใจเจ้านายไม่เจอ ใครมีหนุ่มตาแขกในดวงใจอายุ 30+ รบกวนแนะนำผมด้วย ไม่ต้องแนบรูปก็ได้ เกรงใจจัง
C อย่าถามถึงเรื่องต่อไป เพราะมันยังเป็นบันทึกช่วยจำอยู่เลย
D ขอบคุณที่คุณรักเรื่องนี้ แต่เราไม่พิมพ์ขาย ไม่เคยพิมพ์สักเรื่อง ใช่ครับ เพราะเรายังไม่เก่ง

** อังคาร หรือ พุธ หน้าเป็นตอนพิเศษที่ 1 นะครับ **

ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์กับที

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 19-01-2016 22:17:33
อ่า....... เป็นตอนจบที่สวยงามและทำน้ำตาซึมน้อยๆ ชอบคำๆนี้ "พี่มองเห็นวันพรุ่งนี้ที่มีแต่เรา" เพราะมันบอกทุกการกระทำของเชมัล  ทุกคนมีเส้นทางเป็นของตัวเอง รวมถึงหัวใจ ไม่มีใครบังคับหัวใจของใครได้ เก้าไม่รักคือไม่ ช่างเด็ดขาดจริงๆ นาซิมก็จงก้าวต่อไป รักอย่างมีสติก็แล้วกัน (สารภาพว่าลืมไปแล้วว่า นาซิมมีลูกชาย) 555 จะรอตอนพิเศษนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: himecrazy ที่ 19-01-2016 22:18:30
 :pig4: ขอบคุณค่ะ ที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่านตลอด ชอบอาเม่ยมากตั้งแต่แรกที่ได้อ่านจนตัวเม่ยมีการเปลี่ยนแปลงก็ยังคงชอบ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 19-01-2016 22:32:26
จบแล้ว ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องทีมากค่ะ

รอคอยตอนพิเศษนะคะ หวังว่าจะมีเรื่องของอาเก้าบ้าง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 19-01-2016 22:56:45
จบแล้วววว สุดท้ายความรักก็สวยงามเสมอ ความรักของเม่ยกับพี่เชผ่านอะไรมามากมาย สุดท้ายถ้าแค่เรารักกันและผ่านอุปสรรคไปได้ ความสุขก็จะคงอยู่จนวันสุดท้าย

ความรักของนาซิม ทำให้รู้ว่าต้องมีสติให้มากไม่ใช่รักอย่างโง่งม

เก้าเข้มแข็งขึ้น สุดท้ายคนไม่รักก็คือไม่รัก ความรักบังคับกันไม่ได้ แต่หวังว่าเก้าจะเจอคนที่จะรักได้อย่างหมดหัวใจสักวัน

สุดท้าย ขอบคุณทั้งสองคนมาก สำหรับเรื่องราวดีๆ ความรักในหลายแง่มุม

ปล. จะรอตอนพิเศษนะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-01-2016 22:59:28
 :pig4:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-01-2016 23:10:02
รอคอยตอนพิเศษนะ  :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 19-01-2016 23:14:39
ไม่อยากให้จบเลยค่ะ 555 กำลังอ่านเพลินๆเลยเชียว
ชินกับการต้องมาตามอ่านทุกอาทิตย์  :impress2:

เราชอบตอนจบของทุกคนนะ ยกเว้นเก้า
เราว่าเก้าเป็นคนที่ถูกกระทำที่สุดอะ น่าสงสารถ้าจะโดดเดี่ยวอย่างนี้
จะรอตอนพิเศษนะคะ เผื่อจะฟลุคได้อ่านฉากหวานๆของพี่เชกะเม่ย หรือเก้ามีคู่  :hao3:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 19-01-2016 23:16:04
จบสวยงามมากๆค่ะ   ขอบคุณนะคะ  เป็นแฟนซีที่เดาเรื่องไม่ถูกเลยสักตอน 5555 ลุ้นอาเม่ยตลอด เหมือนเป็นน้องชาย เพราะความจริงใส และความตรงๆ แต่พอโดนมนต์ดำ บอกตรงๆสงสารน้องอาเม่ยมากๆ พี่เชมัลตอนแรกเฉยๆ แต่พอหลังๆ รู้สึกว่า น่ารัก อบอุ่น ยิ่งกลายเป็นท่านพี่กับน้อง เป็นคู่รักกันแล้ว ชอบมากดูมีรักแท้ที่ยิ่งใหญ่


รอตอนพิเศษอีก3 ตอนสนุกจุใจเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 19-01-2016 23:30:45
จบแล้วววววววว แอบใจหายเล็กน้อย (ถึงจะมีคู่พิเศษตามที)
ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นเรื่องที่แหวกแนวปกติเลย
แต่ตามอ่านเพราะไจฟ์ทีนี่หละ

ชอบตอนจบแบบนี้ เป็นการจบที่ดี
ต่างคนต่างมีชีวิตของตนเองที่แตกต่างกัน
อาจจะไม่ได้สมบูรณ์ แต่นี่หละคือชีวิตมนุษย์ :-)

ขอบคุณไจฟ์ ขอบคุณน้ำชา
นิยายเรื่องนี้ทำให้เรากลับไปมองอะไรหลายๆ อย่างในโลกความจริงของเรามากๆ
 และทำให้เรามีสติแก้ไขเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ แบบนี้มา (ถึงแม้จะอ่านยากกว่าปกติก็ตาม555)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-01-2016 00:59:35
ตอนพิเศษอีก 3ตอน จะมีตอนที่อาเก้าเจอคนของตัวเองรึเปล่านะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-01-2016 02:15:55
ไม่นึกว่าจะโดนย้ายมาอยู่ห้องนี้แล้ว เพราะหาไม่เจอ
อ่านตอนจบแล้วเหมือนมีฉากแบบละครวิ่งไปวิ่งมาโดยไม่ต้องมีบทพูดบทบรรยายอะไรเลย แค่ให้เรามองภาพการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนเอา ดูดีอะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 20-01-2016 06:25:15
จบได้อบอุ่นมากกกกกกกก เม่ยดูน่ารักอ่อนหวานขึ้น ส่วนพี่เชก็ยังอบอุ่นอ่อนหวานเหมือนเดิม หวานกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ
ขอบคุณคุณไจฟ์น้องที ที่เขียนเรื่องสนุกๆให้อ่านกันนะคะ
รอติดตามต่อไปค่ะ ทั้งตอนพิเศษและเรื่องใหม่เลย สู้ๆค่ะ ^_______^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 20-01-2016 08:04:11
จบได้อย่างสวยงามมากค่ะ ประทับใจ แม้ว่าหลายๆคน อาจจะไม่มีคู่ แต่ในโลกนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ ที่ทุกคนจะพบกับความสุขเสมอ แต่สุดท้ายแล้ว..ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป (อินกับนิยายและตัวละครมากไปนิสสส)

ต้องขอบคุณพี่ไจฟ์และน้องทีมากๆที่เขียนนิยายสนุกๆมาให้อ่าน เป็นนิยายแฟนตาซีในจำนวนน้อยนิดที่เคยอ่านมา เพราะปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอลองอ่านเรื่องนี้แล้ว มันสนุกจนต้องคอยติดตามเรื่องราวและจินตนาการของผู้เขียนมาตลอด และที่ดีใจที่สุดคือ ยังจะมีตอนพิเศษให้อ่านอีก 3 ตอน ดีใจมากที่เรื่องนี้ยังไม่จบลงเพียงแค่นี้ แล้วทำไม..จะไม่ตามอ่านล่ะค่ะ เราติดตามกันมาตลอดหลายเดือน จนเป็นนิสัยที่จะต้องรอคอยในคืนวันอังคารเสมอๆว่า จะมีตอนใหม่ๆมาให้อ่าน มันเป็นความผูกพันธ์นะ ^^

จะติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปของพี่ไจฟ์และน้องทีเสมอ ตราบเท่าที่คนเขียนยังมีเวลาเขียน และคนอ่านยังมีเวลาอ่านค่ะ

 :pig4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 20-01-2016 09:37:22
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

รอเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 20-01-2016 10:14:22
 :hao5:  :hao5: จบแล้ววว

กว่าจะฟันฝ่ากันมาจนจบได้ ทำเอาคนอ่านอย่างเราได้แต่คอยทุบอกว่าใจเย็นๆ ถ้ามันเคลียร์เร็วมันก็จบแล้วซิอะไรอย่างนี้

ไม่เสียดายเวลาที่อ่านมาเกือบปีเลย แต่ใจหายแทน ที่มันจบซะแล้ว

การเดินทางของตัวละครบอกตรงๆ มีผิดคาดไปมากเหมือนกัน 5555 ตอนแรกคิดว่าฮูดาคือคนที่น่าจะเป็นฝ่ายโลกมืด ดั๊นนนไม่ใช่ อาเก้าตอนแรกคิดว่าเป็นคนที่น้ำนิ่งไหลลึก กลายเป็นคนที่อ่อนแอสุด 5555555  :mew2:

สามพี่น้อง ท่านฟารัค ท่านเชมัลและท่านนาซิม (สุดท้ายผู้ที่โชคดีที่สุดคือท่านเช ทั้งเรื่องงานและความรัก) แต่ทำไมชอบท่านฟารัคจังเลย ทั้งความคิดและการกระทำ มีอยู่เพื่อคนส่วนใหญ่เท่านั้น  :mew1:

ส่วนเจ้าชายฮัมซานี่ก็ผิดจากที่คิดอีกคน555555555 ตอนแรกคิดว่าจะมีปมเรื่องแม่คอยยุแยง แต่เห็นได้ว่าอยู่กับท่านปู่มูซัคเลยเปลี่ยนไปในทางนั้น ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลย (ใจไม่อยากเห็นเจ้าชายองค์นี้อยู่ในวังวนความแค้น)

สุดท้ายอาเม่ย ไอ้ตัวเล็กของแม่ทัพ ผ่านเรื่องราวและโดนใช้ประโยชน์มากที่สุด แต่นั่นก็ทำให้น้องเล็กคนนี้เป็นคนที่สมควรได้รับความสุขในตอนสุดท้ายที่สุด ได้หวังว่าจะมีการเดินทางของน้องกับพี่ คู่นี้มาให้ติดตามอีกเป็นระยะๆ


จบแล้ววววว  :mew6:  อยากจะบอกขอบคุณคุณไจฟ์และน้ำชาที่มีนิยายสนุกๆ มาให้อ่านแบบนี้นะคะ ได้ยินว่ายังเหลือตอนพิเศษอีก 3 ตอน รอคอยอย่างใจจ่อ และจะรอคอยเรื่องต่อไปเสมอค่ะ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 20-01-2016 10:19:07
ประทับใจตอนท้ายเรื่องจัง มันดูอบอุ่น เรียบง่าย และมีความสุขมาก ๆ  :กอด1:
แต่กับคนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วอาเก้าเรา ที่ไม่ได้คู้กับใครเลย ฟ้าลิขิตจริง ๆ เลยพ่อคุณ :heaven

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-01-2016 12:50:23
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 20-01-2016 14:27:10
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

สำหรับความสุขที่แบ่งปันมาให้ จากนิยายแสนสนุก
จะรอคอยตอนพิเศษ และเรื่องต่อๆ ไปที่จะตามมานะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-01-2016 15:53:59
จบแล้ว~ สนุกมากๆเลยชอบอาเม่ยสุดๆขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-01-2016 20:37:49
อุ่นใจเหลือเกิน
ในที่สุดทุก ๆ คนก็ได้เดินในทางที่ตนเลือก

ดีใจกับเก้าที่ในที่สุดก็ได้เข้มแข็ง และได้เลือกทางแห่งตน
ขอให้ได้พบกับรักแท้นะ

พี่เชกับน้องเม่ยนี่ทำเอาเราเขินไปเลย ช่างเป็นชีวิตเรียบง่ายและอบอุ่นไปด้วยความรัก

ที่ใดจะสุขไปกว่าที่ที่มีเจ้า...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-01-2016 09:53:11
สมกับเป็นตอนจบจริงๆ ให้อารมณ์อบอุ่นราวกับล่องลอยอยู่ในฝันเปี่ยมสุข ตามอ่านมาตั้งแต่ต้นเรื่อง แม้เพียงตอนแรกที่อ่านก็รับรู้แล้วว่าเรื่องนี้ดีจริงๆ และมีเสน่ห์จริงๆ เรื่องนี้จะเรียกว่าแฟนตาซีก็คงเรียกได้ไม่เต็มปาก อาจจะออกไปทาง 'ลิเกฝรั่ง' เล็กน้อย ตามคอนเส็ปต์ของความเป็นโลกสมมติ แต่การสร้างโลกและการสร้างตัวละครนั้นดีมาก สะท้อนสังคมปัจจุบันของเราได้อย่างเห็นภาพ อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมายจริงๆ ค่ะ

ความรักในเรื่องนี้ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องสมหวัง บางคนมีคู่ บางคนไม่มีคู่ บางคนทำตามใจตน บางคนต้องเห็นแก่หน้าที่ บางคนรักปักมั่น บางคนรักโลเล บางคนรอคอย บางคนมองไปข้างหน้า นับว่าแสดงให้เห็นถึงความรักอันหลากหลายดีค่ะ

ไจฟ์ทีใช้ภาษาเรื่องนี้ได้ดีค่ะ เข้ากับอารมณ์ของเรื่อง อ่านแล้วไม่สะดุดเลย อยากชื่นชมตรงนี้ ใช้ภาษาสั้น ง่าย และตรง ไม่ต้องอ่านซ้ำหลายรอบก็เข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อ ขอบคุณที่เขียนมาแบ่งปันกันอ่านนะคะ แม้จะไม่ตีพิมพ์แต่ก็ยังสามารถเข้ามาเปิดอ่านที่นี่ได้ทุกครั้งที่ต้องการ

มอบหัวใจให้คนละดวงนะคะ ไจฟ์ที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 21-01-2016 14:32:27


ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: smilymoon ที่ 21-01-2016 20:44:00
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆทุกเรื่องค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 23-01-2016 18:16:58
เป็นตอนจบที่อิ่มเอมค่ะ
ตอนท้ายๆยิ่งหวาน อ่านแล้วอมยิ้มค่ะ
จะรอตอนพิเศษนะคะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 23-01-2016 19:19:45
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 23-01-2016 22:00:27
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ เป็นครั้งแรกที่อ่านแนสหนังจีนแฟนซีแบบนี้ สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 24-01-2016 00:07:09
มาลงชื่อไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 24-01-2016 15:56:01
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
อ่านกันยาวนานมากเช่นกัน
(บทรายละเอียดเยอะแบบนี้. ก็สมควรจะเป็นปีล่ะค่ะท่านไจฟ์)

ในที่สุดพี่เชและน้องเม่ยก็ผ่านเรื่องราวต่างๆกันจนมีวันนี้ได้
ผ่านหลายศึกเหลือเกิน
รอตอนพิเศษหวานๆนะคะ (นี่ไม่ได้กดดันนะ. หุหุ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนจบหน้า43(19มกรา59)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-01-2016 14:15:22
คิดถึงเม่ย  :ling1:  :ling1:
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 26-01-2016 14:26:36
ตอนพิเศษ ..Time <3

ขบวนม้าของแม่ทัพเชมัล เดินทางจากเมืองเหนือเข้าสู่เขตประตูเมืองวันตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน หลังจากการทำงานในเมืองเหนือนานนับเดือน
การข่าวแจ้งว่า การทำงานของแม่ทัพเชมัล เสนาบดีกลาโหม และเสนาบดีการคลัง ในเมืองเหนือรอบนี้มิใช่เรื่องง่าย เนื่องด้วยผู้ปกครองไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน หากมีเพียงแม่ทัพเชมัลกับเสนาบดีกลาโหมเดินทางไปด้วยกัน อาจเกิดเหตุวางเพลิงขึ้นอีกรอบ แต่ดีที่มีเสนาบดีการคลังไปด้วย จึงไม่มีเหตุวางเพลิงทั้งการเจรจายังมีความคืบหน้า
แต่ก็เป็นการเจรจาที่เหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม การเดินทางกลับ กลับยังต้องใช้เวลานานกว่าที่ผ่านมา เพราะในขบวนของคณะทำงานมีผู้อาวุโสอยู่หลายคน จำต้องหยุดพักเป็นระยะ กว่าที่จะเข้าถึงเขตเมืองหลวง และเข้าถวายรายงานต่อพระราชาฟารัค หัวหน้าคณะเจรจาอย่างแม่ทัพเชมัล ต้องยับยั้งตนเองไม่ให้ควบม้าล่วงหน้า แยกจากคณะกลับมาบ้านก่อนผู้อื่น
ทั้งเมื่อมาถึงยังต้องเข้ารายงานต่อพระราชานานหลายชั่วยาม จนใกล้ค่ำ แม่ทัพเชมัลจึงกลับมาถึงบ้านที่อยู่นอกเขตเมืองหลวง

เล่ากันว่า คืนที่แม่ทัพกลับมาถึงบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่อยู่นอกเมือง จุดคบไฟสว่างตลอดเส้นทางที่แยกจากถนนใหญ่จนถึงบ้าน และแม้จะค่ำแล้ว แต่บรรดาผู้รับใช้ในบ้าน ก็ยังนำของฝากมากมายไปแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมคำขอบคุณ

....

ยามสายใต้ร่มไม้ใหญ่เชิงเขา มองเห็นสวนดอกไม้หลากสีกว้างสุดสายตา กลิ่นหอมของดอกไม้เจืออยู่ในสายลม ชายหนุ่มสวมชุดสีฟ้าเข้มนั่งพิงโคนต้นไม้ แต่คนที่นั่งซ้อนตักอยู่ในอ้อมแขนคือชายหนุ่มในชุดเสื้อสีอ่อน
มีผ้าเนื้อหนาปูรองนั่ง ด้านข้างยังมีห่อผ้าอาหารกลางวันที่ยังไม่ได้แกะออก
ต่างคนต่างมองตรงไปข้างหน้า พูดคุยและหัวเราะให้กับเรื่องราวมากมาย

"ยังรู้สึกรำคาญกำไลโลหะอยู่ไหม"
"ไม่หรอก กำไลจากเมืองบาสก์ เพียงห้ามใช้เวทย์แต่ไม่ได้ตรึงน้องไว้กับพื้น อย่างกำไลของท่านพี่" ดวงตาคู่สวยมองค้อน

อันที่จริง มีหรือไม่มีกำไล ก็ไม่มีผลใดๆ เพราะเวทย์ดำนั้นสลายไปหมดแล้ว

"นั่นเพราะตอนนั้นพี่ยังไม่รู้ว่าน้องจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง จึงร่ายเวทย์คุมไว้ทั้งหมด"
"อันนี้ มีลวดลายแล้วก็เบากว่าด้วย" ข้อมือผอมบางยกขึ้นสูงให้ดูลวดลายสวยงาม
"ชักอยากทำอันใหม่ให้แล้วสิ"
คนตัวเล็กหัวเราะร่วน ในทันทีที่อีกคนกล่าวคำอิจฉา "แค่เอ่ยชมยังจะอิจฉา"
อีกคนพูดแก้ไข "พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจต่างหาก"
"ไม่ค่อยสบายใจ" น้องหันมามองหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"ก็...ไม่ชอบน่ะ"
"ไม่ชอบ" ครานี้ยิ้มกว้างกว่าเดิม
ยอมรับอีกครั้ง "ก็ได้ อิจฉา ไม่อยากให้ชมผู้อื่น"
อาเม่ยหัวเราะร่วน แล้วหอมแก้มอีกคน "ก็ชมผู้อื่นบ้าง เราไม่ได้อยู่กันตามลำพังสองคนนี่นา แต่สุดท้ายน้องก็ชอบของที่ท่านพี่ทำให้ที่สุดอยู่ดี"
"จริงนะ"
น้องพยักหน้า
"งั้นเดี๋ยวพี่หากำไลอันใหม่ที่งามกว่าเดิมแล้วลงเวทย์ให้น้องดีกว่า" ยังอดไม่ได้ที่จะหวงคำชมของน้องไว้ที่ตนเองแต่เพียงผู้เดียวอยู่เช่นเดิม
"นี่ของพระราชทานเชียวนะ น่าเสียดาย" อาเม่ยยังแกล้งหยอดอีกคำ แล้วก็ต้องง้อเอง "ก็ได้ๆ ท่านพี่ทำให้ใหม่ก็ได้ ขอแบบที่มีลายสวยๆ แล้วก็เบาด้วยนะ"
แม่ทัพเชมัลชี้ที่แก้มอีกข้าง เอียงหน้ารอให้จมูกรั้นเข้ามาหอม
พออีกคนแนบตัวเข้ามาหอมก็กอดไว้แน่น
"แน่นไปแล้ว"
"ก็อยากกอดไว้แน่นๆ"

อาเม่ยทำหน้ายู่ ชวนคุยเรื่องอื่น 
"ท่านพี่เรียนเวทย์จากที่ใด"
แม่ทัพเชมัลมองด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม "น้องไม่รู้หรือ"
อาเม่ยส่ายหน้า "น้องไม่เคยเห็นท่านพี่เรียกผู้ใดว่าอาจารย์เลยสักคน"
"ตอนเด็กเรียนจากราชองครักษ์ของพระราชาองค์ก่อน แล้วก็ไปเรียนเวทย์จากสำนักที่เมืองบาสก์ แล้วก็กลับมา"
"มิน่า...." อาเม่ยลากเสียง "ทุกคนถึงรู้จักท่านพี่ เพราะท่านไปที่นั่นที่นี่ จนทั่วนั่นเอง"
"ก็เรียนทุกอย่างที่ผู้ปกครองควรรู้ พระราชาฟารัค กับแม่ทัพนาซิมก็เช่นกัน พระราชาองค์ก่อนส่งพวกเราออกเดินทางไปทั่ว แรกๆ ก็จะมีอาจารย์ที่เป็นราชองครักษ์บ้าง เป็นผู้ครองเวทย์จากเมืองบาสก์บ้างติดตามไปคอยตรวจสอบ แต่พอมาระยะหลังกลับให้ราชองครักษ์ เป็นผู้สร้างสถานการณ์ขึ้น เพื่อให้แก้ไข"
"ท่านพี่ต้องชอบมากแน่ๆ"

อาเม่ยแน่ใจว่า ทั้งพระราชาฟารัคและแม่ทัพเชมัลต้องชื่นชอบสถานการณ์ที่ถูกสร้างขึ้นแน่นอน แต่กับแม่ทัพนาซิม ยอมรับว่ามิได้รู้จักมากพอที่จะคาดเดาได้ ว่าสนุกสนานหรือไม่

"เจ้ามันช่างรู้ใจนัก" มือใหญ่บีบจมูกรั้น "นั่นมันคือชีวิตช่วงก่อนหน้า แต่เมื่อได้พบกับน้องอีกครั้ง การที่ต้องอยู่ห่างกัน กลับเป็นเรื่องคับข้องใจมากขึ้นเรื่อยๆ"
"คับข้องใจ" อาเม่ยอดไม่ได้ที่จะจับคำพูดซึ่งแสดงถึงความรู้สึกของแม่ทัพเชมัล
"ใช่ คับข้องใจ" คำนี้ถูกต้องที่สุดแล้ว "มีแต่คำถามว่า เจ้าจะกินอยู่อย่างไร ทำอันใดอยู่ บางคราถึงกับระแวงไปว่า ต้าซันจะพาน้องหนีไปไหนอีกหรือไม่"
อาเม่ยตอบความกังวลนี้ด้วยอ้อมกอด 
"แต่ด้วยบทสรุปของความเป็นห่วงนี้ คือการที่กลับมาบ้านแล้วเห็นว่าน้องแข็งแรงดี มีกำลังใจที่ดี ความกังวลที่ผ่านมาก็ไม่มีความหมายแล้ว" เว้นไปอึดใจหนึ่งก็กล่าวต่อ "หลังจากที่เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย พี่อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลว่า อาจมีใครต้องการทำร้ายเจ้าอยู่อีก"

นิ้วมือใหญ่ลากตามแนวคิ้วสวย สันจมูก ลงมาหาริมฝีปาก

....ดินนุ่ม น้ำใส สายลมอ่อน และลูกไฟ...ในอ้อมแขนของพี่...

"รำคาญที่พี่มักจะวุ่นวายกับเจ้าหรือไม่"
อาเม่ยส่ายหน้า
"ที่จริงแล้ว น้องกลับรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระของท่านพี่ หากไม่มีน้อง ท่านพี่น่าจะทำการงานได้มากมายกว่านี้"
"ผิดแล้ว"  มือใหญ่ประคองใบหน้าสวยไว้ "เพราะมีเจ้า พี่ถึงทำสิ่งใดได้มากมาย"
"ถ้าไม่มีน้อง พี่ก็คงจะต้องเกเร และเป็นหัวหน้ากองโจรต่อไปสินะ"
"เจ้านี่มันช่าง...."
"รู้ใจ" อาเม่ยต่อคำท้ายประโยคให้

อ้อมกอดแข็งแรง คำกล่าวที่ต่างก็รู้ทัน ในสายตามีเพียงกันและกัน
ผ่านพ้นเรื่องราวมากมาย ยังต้องการรางวัลใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้...
 
"สรุปว่าน้องไม่ชอบหรือใช้เวทย์ดินไม่ได้เรื่องกันแน่"
พอคนตัวโตถาม คนที่ตอนนี้เปลี่ยนลงมานั่งอยู่ข้างๆ ก็ทุบที่ต้นขาอีกฝ่ายเบาๆ
"เขาเรียกว่าเวทย์อ่อน"
"แล้วมันต่างกันอย่างไร"
คนที่กล่าวคำว่าเวทย์อ่อนทำปากยื่น "ไม่คุยด้วยแล้ว"
"อ้าว น้องไม่คุยกับพี่ แล้วพี่จะคุยกับผู้ใด"
"ไปคุยกับนก กับแมลงพวกนั้นเลยไป" มือขาวๆ ที่สวมกำไลโลหะชี้ไปทั่ว สายลมอ่อนจากปลายนิ้วพาใบไม้พริ้วไหว
ช่างแสร้งงอนเล่น ได้เหมือนงอนจริง จนอีกคนต้องช้อนคางให้หันมามองสบตา
"จะให้พี่ไปคุยกับนกกับแมลงจริงหรือ"
"ฮื่อ...คนเขามีจิตใจดี คุยด้วย ก็ยังชอบขัด"

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้อยู่ในสายลมเย็น ที่ยังพากลีบดอกไม้สีหวานสัมผัสที่แก้มใส มือใหญ่ปัดกลีบดอกไม้ออก แต่กลับยังไล้แก้มนิ่ม ดวงตาสีสวยดั่งแก้วใสเหลือบมองแล้วอมยิ้ม
"ยิ้มอันใด"
"ไม่บอก"
"ไม่บอกก็รู้"
"รู้แล้วยังถาม"
"ก็ชวนคุยไง เมื่อครู่มีคนบอกว่าจะไม่ยอมคุยกับพี่"
คนตัวเล็กทำปากยื่นอีกครั้ง ทำให้อีกคนหัวเราะเสียงดัง ทั้งกอดรัดไว้แน่น จนคนตัวเล็กร้อง
"กระดูกจะหักแล้ว"
บ่นว่าอีกฝ่ายมักจะชอบเล่นแรงๆ แต่คนบ่นก็กลับซุกหน้ากับอกกว้าง แสร้งใช้หน้าผากถูไถที่อกหนา จนอีกคนหัวเราะอารมณ์ดี
"เล่นอันใดกันเนี่ย อย่างกับลูกหมาลูกแมว"
"หากเป็นลูกแมว ท่านจะโดนข่วนหน้าไปแล้ว" อาเม่ยกางมือ แม่ทัพเชมัลแสร้งทำสีหน้าตื่นตกใจ
"พลังเวทย์นี้ช่างร้ายกาจ ขอท่านผู้ครองเวทย์โปรดออมมือ"
แต่ผู้ที่กล่าวคำขอเมตตา พอกล่าวจบก็กลับกอดฟัดจูบแก้มใส จนถูกทุบที่ข้างเอว ถึงได้ยอมคลาย

"กินอาหารเที่ยงกันเถิด" คนตัวเล็กแกะมือใหญ่ที่กอดรัด แล้วขยับไปแกะห่อผ้า
ภายในของห่อผ้ายังมีอาหารกล่องใหญ่ ห่อผลไม้ และขวดใส่น้ำดื่ม
อาหารในกล่องจัดเรียงอย่างสวยงาม คนตัวเล็กใช้ช้อนไม้ตักปลานึ่งป้อนถึงปาก
"รสดีไหม"
"ดีมาก พอกินอาหารที่น้องทำ แล้วต้องไปกินอาหารที่ผู้อื่นทำนะ พาลรู้สึกว่าไม่ถูกลิ้นถูกปากเอาเสียเลย ติคนทำครัว จนเขาจะเอาข้าวเปล่าให้กินอยู่แล้ว"
อาเม่ยทำหน้าตาไม่เชื่อถือคำพูด ทำให้คนที่ติดรสมือคนนี้เสียแล้วต้องรีบย้ำ "จริงๆ นะ ที่ผ่านมาพี่ก็ไม่ใช่คนเรื่องมากในการกินอยู่ ใครทำอะไรมาก็ว่าดี แต่พอมากินฝีมือน้อง กลับเห็นว่าคนนั้นทำอาหารสุกเกินไป คนนี้ทำจืดชืดเกินไป"
มือใหญ่จะแย่งช้อนมาป้อนบ้าง ทำให้ถูกตีมือ
"ห้ามแย่ง"
"ให้พี่ป้อนน้องบ้างไง" มือใหญ่เปลี่ยนไปที่ผลไม้ "งั้นดูสิ ในนี้ต้องมีแบร์รี่แน่ๆ"
ดวงตาสีเข้มแพรวพราวเมื่อพบผลไม้สีแดงอยู่ภายในห่อผ้าอย่างที่คาดคิด
คนที่ชอบผลไม้รีบอ้าปาก พลางชี้ให้ป้อน
"พี่จะเรียกน้องว่าแบร์รี่ก็เดี๋ยวจะทำให้เข้าใจผิดได้"
คนที่กำลังเคี้ยวแบร์รี่ ป้อนปลาให้พี่อีกคำพลางถาม
"เข้าใจผิดอันใด"
"คนอาจคิดว่าพี่เรียกเจ้าแบร์รี่ เพราะริมฝีปากเจ้าแดงเหมือนลูกแบร์รี่ แล้วเขาอาจตีความไปว่าพี่ลามก"

คนตัวเล็กหัวเราะร่วนจนแทบจะลงไปนอนกลิ้งกับพื้น

"เอ้า หัวเราะขนาดนั้น พอดีขาดใจตายพอดี"
แต่การหัวเราะทั้งตัวแบบนี้ บ่งบอกถึงความสุขที่ล้นออกมาจากหัวใจ ยิ่งทำให้อีกคนมีความสุขจนอยากหยุดเวลาไว้ที่นี่ตลอดกาล
"พอแล้วเสี่ยวเม่ย" มือใหญ่ลูบหลังคนที่หัวเราะอย่างมีความสุข
"ยังมีใครที่ไหนคิดซับซ้อนเหมือนท่านอีกหรือไร"
"แล้วอยากให้เรียกแบร์รี่ไหม"
อาเม่ยส่ายหน้าจนเส้นผมสีอ่อนสะบัดตาม
"เรียกแบบเดิมดีแล้ว"
"แบบไหน"
"แบบที่ท่านพี่ชอบเรียกน่ะแหละ"
"ก็แบบไหนเล่า"
มือที่จับช้อนเปลี่ยนมาหยิกแก้มอีกคน "ช่างถามจริงนะ ทำงานหนักจนสติเลอะเลือนไปแล้วแน่ๆ ถึงได้ถามนั่นถามนี่วกวนไม่หยุด"
มือใหญ่ดึงเอวให้กลับมานั่งคร่อมบนตัก ป้อนแบร์รี่ให้อีกลูก ส่วนคนที่เคี้ยวแบร์รี่ก็ป้อนปลาให้พี่อีกคำ
"ก็จะได้รู้ไง ว่าเวลาถามคนอื่นไม่หยุดน่ะ คนตอบเขามึนงงขนาดไหน"
"ดี" อาเม่ยกระแทกเสียง "งั้นไม่ต้องคุยกันเลย" คนตัวเล็กพยายามจะลุกออกจากตัก แต่มือใหญ่กอดยื้อไว้
"ปล่อยเลย กินเองเลย ไม่สนใจแล้ว"
"โอ๋ ไม่งอนนะ จะตอบแล้ว ถามมาใหม่" มือใหญ่ป้อนแบร์รี่สีแดงสด เอาใจ
"คนนี้ชื่ออะไรบอกมา"
"ชื่อเจ้าตัวแสบ"
อาเม่ยกระแทกเสียงในลำคอ หน้างอง้ำ "ไม่ตลกนะ ใครคือเจ้าตัวแสบ"
"นี่ไง" มือใหญ่ป้อนแบร์รี่อีกลูก "เจ้าตัวแสบ ชอบตั้งคำถาม พอต้องมาเป็นฝ่ายตอบคำถามก็อารมณ์ไม่ดี"
"ไม่สิ" คนหน้างอสะบัดไหล่ใส่ "บอกมาก่อน ชื่ออะไร"
"เสี่ยวเม่ย"
อาเม่ยทำสีหน้าครุ่นคิด "ก็ได้ ชื่อนี้ก็ได้ ว่าแต่ข้าชื่อนี้จริงๆ หรือ"
"โอย....." คนตัวโตยอมแพ้ "วันนี้เจ้าตัวแสบเกิดอันใดขึ้นกัน พี่ขอยอมแพ้เสียตั้งแต่ต้นมือนี่เลยดีกว่า"
"ก็ใครเริ่มก่อนเล่า กินอีกคำ ปลาจะหมดแล้ว"
มือใหญ่เปลี่ยนไปหยิบข้าวปั้นคำเล็กในกล่อง "น้องก็กินข้าวด้วยสิ"
"ท่านพี่กินสิ ข้างในเป็นไส้หมูหวาน" มือเล็กแย่งป้อน
"ข้าวปั้นนี้ต้องแบ่งกินด้วยกัน"
"ท่านพี่กินก่อน"
แม่ทัพเชมัลแสร้งหรี่ตา "มันต้องมีบางอย่างอยู่ในปลา และข้าวแน่ๆ น้องถึงไม่ยอมกิน"
"มันไม่มีอันใดหรอกน่า"
"มันต้องมีสิ" แม่ทัพเชมัลยังบ่ายเบี่ยง "วันนี้น้องป้อนพี่มาหลายคำแล้ว แต่ตัวเองกินแต่ผลไม้ ช่างน่าสงสัยยิ่งนัก"
"คนเลอะเลือน" อาเม่ยต่อว่า "น้องเตรียมอาหารให้ท่านพี่ตั้งนาน อยากให้ท่านกินให้อร่อย พักผ่อนให้สบาย เพราะทำงานหนักมาหลายวัน กลับคิดวุ่นวาย"
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้าง อาเม่ยก็พยักหน้า "เล่าได้นะ มีเรื่องไม่สบายใจอันใด ก็เล่าให้น้องฟังได้ อย่าเก็บไว้ให้ต้องเป็นทุกข์อยู่เพียงคนเดียว"

"มันก็ไม่มีเรื่องใหญ่อันใดหรอก" ใจไม่อยากเล่าปัญหาในการทำงาน แต่เพราะอาเม่ยก็เคยอยู่ในกองทัพ รู้จักผู้คนมากมาย จึงเล่าเรื่องในภาพรวม "ท่านเสนาบดีคลังเป็นคนใจเย็น ตรวจบัญชีไปเจรจากันไป เลยใช้เวลามากหน่อย แต่ก็ลุล่วงไปด้วยดี"
อาเม่ยป้อนข้าวอีกคำ ขณะที่ยิ้มกว้าง "ตอนที่พี่ใหญ่กลับมาเล่า ว่าท่านต้องไปตรวจบัญชี พวกเรายังหัวเราะกัน ว่ามันไม่ได้เข้ากับท่านเลยสักนิด แต่ถ้านึกถึงว่าเป็นท่านนาซิมไปตรวจบัญชี ยิ่งตลกมากกว่า"
แม่ทัพเชมัลพลอยหัวเราะตาม เมื่อนึกถึงคนตัวหนา ผมสั้นเกรียน สีหน้าดุดันกำลังอ่านบัญชีสินค้า
"มันคือหน้าที่" มือใหญ่ชิงป้อนข้าวให้อีกคน "ชอบหรือไม่ชอบก็ต้องทำ แต่ที่จริงแล้วพี่มีหน้าที่ไปขู่พวกเขาไม่ให้ปิดบังสิ่งใด เพราะท่านเสนาบดีกลาโหมก็มีหน้าที่ไปตรวจตราเรื่องกำลังพล แล้วท่านคลังไปดูเรื่องบัญชีการเงิน"
"ท่านเลยต้องวิ่งไปทางนั้นที ทางนี้ทีสินะ" อาเม่ยทำปากยื่น "เหนื่อยแย่เลย"
"กลับมาบ้าน เห็นรอยยิ้มของน้องก็หายเหนื่อยแล้ว"
อาเม่ยหน้าแดงเรื่อ ขณะที่ยิ้มเขิน ป้อนข้าวคำสุดท้ายแล้วเตรียมน้ำดื่ม

"พี่เล่าแล้ว ครานี้น้องต้องเล่าบ้าง"
"เล่าอันใด"
"เวลาที่พี่ไม่อยู่ มีเรื่องราวใดผิดปกติหรือไม่"
อาเม่ยส่ายหน้า แต่ไม่ได้สบตาพี่
ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถอันใด ก็รู้ได้ว่าอาเม่ยมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง
ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ที่ชวนกันออกมาเดินเล่นอาเม่ยก็ดูลังเล แต่ก็ไม่ได้ขัดใจพี่ ทั้งลุกมาเตรียมอาหารตั้งแต่เช้า 
"พี่รู้สึกว่า น้องไม่ค่อยอยากออกมาข้างนอกกับพี่"
"ไม่ใช่สักหน่อย" อาเม่ยยังคงก้มหน้ามองคอเสื้อของอีกคน
"ไม่เล่าแน่นะ" แม่ทัพเชมัลเปลี่ยนมาใช้ไม้แข็ง ทำให้อาเม่ยต้องเหลือบตามอง มือขาวๆ เกี่ยวปอยผมสีเงิน
"น้องแค่คิดกังวล ไม่อยากให้คนพูดถึงท่านไม่ดี"
แม่ทัพเชมัลกระแทกเสียงในลำคอ

...ข้าเคยสนใจคำกล่าวของผู้คนด้วยหรือ...

"น้องรู้ว่าท่านไม่สน แต่น้องสนนี่ ไม่อยากให้ใครว่าท่าน"

แม่ทัพเชมัลกระแทกเสียงในลำคออีกครั้ง อาเม่ยถึงได้กอดแขนหนาไว้
"อย่าเพิ่งไม่พอใจสิ น้องได้ยินมาว่า ผู้คนมากมายพูดถึงน้องว่าเป็นปีศาจร้าย"
พอแม่ทัพเชมัลขยับตัว อาเม่ยก็ยิ่งกอดแขนไว้แน่น "ฟังให้จบก่อน หากท่านพี่ไม่ฟังให้จบน้องจะร้องไห้ละนะ"
คนที่อารมณ์เริ่มคุกรุ่นหันมาโอบกอดไว้ ให้พิงอกหนา
"พวกคนรับใช้ไปได้ยินข่าวลือมาจากที่ตลาด ก็พยายามจะไปหาตัวคนที่ปล่อยข่าว แต่ไม่มีใครยอมรับ ต่างบอกว่าได้ยินต่อๆ กันมา พี่ใหญ่เองก็บอกว่า เคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่ไม่เห็นมีใครมาถามตรงๆ ทีนี้พอเป็นคำที่กล่าวลอยๆ ก็ได้แต่ฝากไปบอกว่า ทุกคนที่นี่ยังอยู่กันอย่างเป็นปกติ น้องก็กังวลว่าขนาดพี่ใหญ่กับคนรับใช้รู้เรื่องพวกเขายังวุ่นวายใจ หากเป็นท่าน...."
อาเม่ยมองหน้าคนที่มองตรงไปข้างหน้า สีหน้าชัดเจนว่าไม่พอใจ
คนตัวเล็กถอนหายใจ "ไม่น่าเล่าให้ฟังเลย"
"ถ้ารู้เองทีหลังสิ จะโกรธกว่านี้อีก"

....กล้ากล่าวหาว่าเมียข้าเป็นปีศาจ ไม่ว่าใครก็ตามที่พูดคำนี้ข้าจะหักคอมัน!...

"ท่านพี่....คนเขาก็พูดกันไปเรื่อย อย่าไปสนใจเลยนะ เมื่อครู่ท่านยังไม่สนใจอยู่เลยนี่นา"

....นั่นเพราะเป็นเรื่องของพี่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของน้อง พี่ไม่อาจข้ามผ่านมันไปได้โดยง่าย....

"ท่านพี่....อย่าโกรธเขาเลยนะ ปล่อยคนเขาพูดกันไปเขาจะได้ไม่มายุ่งกับน้องไง พวกเราจะได้อยู่ที่บ้านกันเงียบๆ ดีไหม"

....ถ้าเงียบก็ดี แต่ข่าวลือในทางร้ายส่วนใหญ่มักบานปลายกลายเป็นเรื่องเลวร้าย....

"ท่านพี่....คำพูดทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก"

....คำร้ายเกี่ยวกับเจ้าไม่ทำร้ายเจ้า แต่มันทำให้พี่โกรธ....


"ท่านพี่....."

.....

"ท่านพี่...."

.......

"ท่านพี่...."

แม่ทัพเชมัลหันมามอง
"ยิ้มหน่อยสิ ยิ้มเป็นไหม เมื่อครู่ยังยิ้ม ยังหัวเราะอยู่เลย"

...อยู่กับน้องทำให้อารมณ์ดี มีความสุขและยิ้มง่ายกว่าเคยก็จริงอยู่ แต่ไอ้คนที่มันให้ร้ายเมียข้า ข้าไม่อาจปล่อยพวกมันไปโดยง่าย...

"ท่านพี่ หากท่านเป็นอย่างนี้ ต่อไปน้องก็ไม่อยากเล่าเรื่องให้ท่านฟังแล้ว การตามไปจัดการเขาน่ะ มันหยุดคำกล่าวของคนไม่ได้หรอก"
แม่ทัพเชมัลยักไหล่ "ไว้อีกสักสองวันพวกเราก็ไปเที่ยวเล่นที่ตลาดกันดีกว่า"
อาเม่ยมองหน้าคนชวนไปเที่ยวตลาด แล้วค่อยคลี่ยิ้ม
"ท่านนี่ช่าง....." คนตัวเล็กนึกคำกล่าวไม่ออก "คนอื่นดีกับข้าท่านก็อิจฉา คนอื่นว่าร้ายท่านก็โกรธ"
"รับรองว่าพี่จะไม่ไปทะเลาะกับใคร พี่แค่อยากพาปีศาจน้อยของพี่ไปอวดคนอยากรู้อยากเห็น อยากรู้จักเจ้า แต่กลับปล่อยข่าวลือที่เป็นเท็จ ดีไหม"
อาเม่ยพยักหน้าเร็วๆ
"รักท่านพี่ที่สุดเลย"
แม่ทัพเชมัลรีบเอียงแก้ม "รางวัลเล่าเร็วๆ เลย"
อาเม่ยจูบแก้มสาก "นี่ดีว่ากำลังกินข้าว มิเช่นนั้นต้องเรียกร้องให้จูบแน่ๆ"
"น้องนี่ช่างรู้ใจพี่เสียจริง"
อาเม่ยป้อนข้าวคำสุดท้ายแล้วหันไปรินน้ำให้ดื่ม

หลังอาหารกลางวัน แสงแดดยังแรงกล้า แม่ทัพเชมัลนอนมองท้องฟ้า ในอ้อมแขนคืออาเม่ย
"น้องอยากเป็นคนรู้ใจท่านเช่นนี้....ไปนานๆ"
"ตำแหน่งนี้เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียวมาตั้งแต่แรก...และตลอดไป"
"ตำแหน่งเดียวหรือ"
"ทุกตำแหน่งเลย มีกี่ตำแหน่งยกให้ทั้งหมด ทุกอย่างที่พี่มียกให้เจ้าได้ทั้งหมด อยากได้สิ่งใด ขอเพียงเอ่ยปากบอกมา พี่จะเอามาให้เจ้า"
"ต้องเอ่ยปากบอกด้วยหรือ รู้เองไม่ได้หรือไง"
"ไม่ได้"
"อ้าว..." ดวงตาสีแปลกขยับขึ้นมาบดบังท้องฟ้า "ทำไมเล่า"
"ก็ตำแหน่งผู้รู้ใจยกให้เจ้าไปแล้วนี่ ดังนั้น หากเจ้าต้องการสิ่งใดเจ้าจึงต้องบอกพี่มา"
อาเม่ยหัวเราะคิก เอียงหน้าจูบปาก "น้องมักถามตนเองอยู่เสมอ ว่าอะไรทำให้ท่านรักน้องมากขนาดนี้"
"ไม่รู้สิ กำลังรอให้น้องบอกพี่อยู่"
ริมฝีปากหวานบดจูบ ปลายลิ้นพัวพัน ดวงตาหวานที่มองกันและกัน
ไม่จำต้องทำสิ่งใด หรือไม่ทำสิ่งใด รักมากมายนี้มาจากที่ไหน ปล่อยให้เป็นคำถามที่อยู่ในสายลม
ร่างกายสูงใหญ่พลิกกลับขึ้นมาอยู่ด้านบน นิ้วมือใหญ่เกลี่ยผมสีเงินที่ระแก้ม
"คิดถึงเจ้าทุกลมหายใจ อยากเห็นเจ้าอยู่ในสายตาตลอดเวลา พี่หวงเจ้ามากจนกลัวว่าจะทำให้เจ้าอึดอัดไม่สบายใจ"
อาเม่ยส่ายหน้า "เป็นที่รักของแม่ทัพเชมัล มีอันใดให้อึดอัดไม่สบายใจ"
"พี่..."
"เสี่ยวเม่ยรักท่านนะแม่ทัพเชมัล อาจไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับที่แม่ทัพเชมัลรักเสี่ยวเม่ย แต่ขอยืนยันว่า ความรักของเสี่ยวเม่ยมีเพียงท่าน ต่อให้หมดลมหายใจก็ไม่อาจหยุดรักท่าน"

หัวใจภายใต้อกหนาเต้นแรง รู้สึกได้ว่าใบหน้าแดงจัด ยิ่งอีกคนหัวเราะเสียงใส ก็ยิ่งเก้อเขิน
.........ไม่คิดเลยว่า จะได้ยินคำรักหวานปานนี้จากน้อง........
ก็ที่ผ่านมา ทุกคราที่แม่ทัพเชมัลที่มักกล่าวคำรักหวาน แล้วทุกครั้งอาเม่ยก็จะยิ้มเก้อเขิน หน้าแดง เขินมากๆ ก็จะพาลหันมาทุบแขน
แต่ครานี้ แม่ทัพเชมัลกลับเป็นฝ่ายเก้อเขินจนนึกคำพูดไม่ออก
เสียงหัวเราะสดใสของอาเม่ยแทรกปนอยู่ในเสียงของสายลม และกลิ่นหอมของดอกไม้
"เสี่ยวเม่ยรักแม่ทัพเชมัล"
แม่ทัพเชมัลกลับทำได้แค่พยักหน้าแล้วกอดคนบอกรักไว้แน่น ร้อยพันคำหวาน หมื่นแสนคำบรรยายจากใจ ไม่อาจเทียบเคียงคำกล่าวเพียงคำเดียวที่มาจากใจผู้เป็นที่รัก แม้มิใช่ครั้งแรกที่อาเม่ยกล่าวคำนี้ แต่หัวใจก็อิ่มเอม เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขทุกครา

เมื่อมีเจ้าก็ไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว..

*-*-*จบตอนพิเศษ Time<3*-*-*

อังคารหรือไม่ก็พุธหน้า ...อยากรู้เรื่องเก้า แวะมานะ
.น้ำชา.

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-01-2016 14:42:18
อบอุ่น อ่อนโยน แต่หนักแน่นและมั่นคง

รักนี้เป็นดั่งรางวัลล้ำค่าของชีวิต

ขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 26-01-2016 14:59:28
ดินนุ่ม น้ำใส สายลมอ่อน และลูกไฟ...ในอ้อมแขนของพี่... ประโยคนี้ ขอกรี๊ดด เชมัลขี้อิจฉาเหมือนใครบางคน 55555555 (แซวเล่นนะ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 26-01-2016 15:11:46
 :-[ :-[ :-[
คือเขิน คือฟิน ขอบคุณค๊าาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 26-01-2016 15:17:00
หวาน..หวานมาก...หวานที่สุดดดด อ่านจบแล้วน้ำตาลขึ้น ท่านเชมัลเป็นสุดยอดแห่งบุรุษที่มอบรักแท้ให้อาเม่ยคนเดียว น่าอิจฉาจริงๆ  :กอด1:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษมากๆนะคะ ชอบจัง.. :L1:   จะรออ่านเรื่องของเก้าด้วยนะคะ เอาใจช่วยเก้า อยากให้สมหวังในรักกับเค้าบ้างค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 26-01-2016 15:44:53
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

หวานมากกก.... อเมริกาโนบ่ายนี้ของพี่ไม่ต้องใส่น้ำตาล
อากาศเย็นๆๆ  รักษาสุขภาพกันนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 26-01-2016 15:46:57
หวานมากๆๆๆๆ   :-[

 ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-01-2016 16:55:17
 :m11:  :m11:   โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย #หวานล้ำ #หวานนำ #หวานฆ่าคนโสด

ท่านเช......ผู้น่าอิจฉา รู้สึกหมั่นใส้อาการอิจฉาของท่านอ่ะ เหมือนมีแผนอยากอ้อนน้อง


 :pig4: สำหรับตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-01-2016 19:03:22
โอยยยย หวานเหลือเกิน ขนน้ำตาลมาทั้งโรงงานเลยมั้งเนี่ย :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-01-2016 19:38:58
บรรยากาศดี feel goodมั่กมากๆ ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2016 20:02:01
หวาน~~~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 26-01-2016 21:21:55
ถ้าจะจีบกันจนเบาหวานขึ้นขนาดนี้ เค้าเขินอย่างกะเป็นเม่ยแน่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 26-01-2016 23:28:02
อะไรจะหวานได้ปานน้านนนนนนนน แหมพี่เชคะ ก่อนหน้านี้ไม่มีซะหละจะหวานหยดติ๋งๆอย่างนี้ พอเป็นตอนพิเศษนี่จัดเต็ม สมกับเป็นตอนพิเศษจริงๆเลย  :-[ น่ารักและหวานมากค่ะ เราเดาว่าปลาที่เม่ยป้อนพี่เชต้องเป็นปลาเชื่อมใช่มั๊ยคะ  :laugh:

ชอบจังเวลาที่สองคนนี้เค้าห่วงกัน ทั้งพี่เชทั้งเม่ยต่างห่วงความรู้สึกซึ่งกันละกัน มันดีอะ

ฝากบอกคนที่ปล่อยข่าวลือเรื่องเม่ยด้วยนะคะ ระวังจะโดน  :z6: 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 27-01-2016 07:50:40
หวานจนมดขึ้นจอเลย โอ้โห
อ่านแล้ววอิ่มใจ ผ่านอะไรกันมาเยอะ ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน ได้หวานสักที5555
น่าจะเป็นครั้งแรกมั้ยน้อที่อาเม่ยบอกรักพี่แบบเต็มปากเต็มคำขนาดนี้ กรี๊ด น่ารักที่สุด

รอตอนเก้านี่หละ ลุ้นแรงงงงงงง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-01-2016 19:23:03
กรี๊ดดดดดดดดด ใครนะ ช่างมาว่าอาเม่ยได้ พี่เชไปจัดการให้เรียบเลยนะ โกรธๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 27-01-2016 21:58:41
สนุก หวาน อิ่มเอมมากค่ะ อาเม่ยน่ารักมากถึงมากที่สุด แม่ทัพเชมัลก็หวานซะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-01-2016 10:07:24
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนี้นะคะ ได้เห็นอาเม่ยกับแม่ทัพในมุมที่สบายๆ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาการต่อสู้หรือรบทัพจับศึก ได้เห็นว่าวันที่เขาสองคนอยู่ด้วยกันนั้นเป็นอย่างไร ตอนนี้เป็นภรรยาที่น่ารักมากๆ (ฮา) เรียกว่ามีเสน่ห์ปลายจวักผัวรักผัวหลง ไม่ใช่หลงธรรมดา แต่หลงจนโงหัวไม่ขึ้น แม่ทัพเชมัลตอนนี้รักภรรยามากจริงๆ นะคะ คนที่คิดจะว่าร้ายอาเม่ย ขออย่าทำต่อหน้าแม่ทัพก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นระวังหัวจะไม่ได้อยู่ติดบ่า

อยากรู้เรื่องอาเก้าเหมือนกันค่ะ งั้นพุธหน้าจะมารอที่นี่เหมือนเดิมนะคะ

ขอบคุณไจฟ์กับทีมากจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 28-01-2016 15:16:16
อ่านจบแล้ววววว   :mc4:
สนุกมากกกกก ไจฟ์ทีไม่เคยทำให้ผิดหวัง   :m3:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 28-01-2016 23:36:09
รอ น้องเก้า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-01-2016 11:00:00
โอ้ยยยย...หวานมาก ให้อารมณ์เหมือนครอบครัวสุด ๆ  :-[ :-[
รออาเกานะว่าชีวิตจะยังมือมนหรือจะเริ่มสดใส  :mew1:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 30-01-2016 20:53:58
หวาน อ่านแล้วนึกถึงคนเขียนค่ะ  :mew3:
แล้วจะแวะมาอ่านตอนของเก้านะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-01-2016 20:59:36
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 31-01-2016 23:29:34
เพิ่งตามมาอ่าน สนุกมากค่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 02-02-2016 07:16:11
มาแปะรอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Time<3 หน้า44(260159)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-02-2016 11:13:01
 o15 หวาน 2 วันนี้จะมาไหมน๊อออ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 02-02-2016 14:14:04
ตอนพิเศษ
Cherish <3


พิธีรับพระสนมใหม่องค์ที่ 2 ในพระราชาฟารัคแห่งเมืองวัน ผ่านพ้นไปหลายชั่วยาม แต่เสียงดนตรีจากส่วนที่มีการจัดงานรื่นเริงยังได้ยินมาถึงพระตำหนักหลังเล็กของพระสนมองค์ที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน
ที่ด้านหน้าของพระตำหนัก ยังมีมหาดเล็กต้นห้องที่ยืนรอถวายการรับใช้ ทั้ง 2 คนพูดคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับงานรื่นเริงในวันนี้
ต้นห้องเก้าที่เพิ่งเสร็จงานจากพระตำหนักที่ประทับหลังใหญ่ เดินกลับมาดูที่พระตำหนักหลังเล็ก สอบถามถึงท่านต้นห้องใหญ่อามีนว่ากลับไปพักผ่อนแล้วหรือไม่ มหาดเล็กแจ้งให้ทราบว่า หลังจากที่ส่งเสด็จพระราชาเข้าห้องพระสนมพระองค์ใหม่แล้ว ท่านอามีนก็กลับไป โดยมีหัวหน้าราชองครักษ์บาดากลับไปพร้อมกัน
ผู้ปฏิบัติงานทุกคนล้วนเข้าใจในข้อนี้ เนื่องจากท่านอามีนมีอายุมากแล้ว ทำหน้าที่เป็นต้นห้องรับใช้มาตั้งแต่พระราชาพระองค์ก่อน หัวหน้าหน้าราชองครักษ์บาดาจึงอาจเพียงแค่เดินไปส่งแล้วจะกลับมาทำหน้าที่เช่นเดิม เนื่องจากพระราชาไม่มีรับสั่งว่าคืนนี้จะประทับที่พระตำหนักหลังนี้ หรือจะกลับไปประทับที่พระตำหนักหลังใหญ่เพียงลำพัง เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา

การรับพระสนมใหม่นี้ เกิดขึ้นจากแรงกดดันจากพระญาติ และเสนาบดีผู้ใหญ่ ที่เป็นกังวลเรื่องการสืบราชสกุล หลังพระราชโอรสฮัมซา ซึ่งเป็นโอรสเพียงพระองค์เดียวปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งรัชทายาท และเลือกที่จะเดินตามรอยพระปัยกามูซัค หรือ ผู้เฒ่าดิน ขณะที่แม่ทัพเชมัลซึ่งเป็นผู้ประกาศคำ ว่าชีวิตนี้จะไม่สมรสเพื่อตัดปัญหาเรื่องราชบัลลังก์นั้น แม้เหล่าพระญาติจะแสดงความเสียดาย แต่ก็มิได้สร้างแรงกดดันให้ต้องกลับคำประกาศ
มีเหตุผลหลายประการที่บรรดาพระญาติไม่กล้าเข้าไปแทรกแซงการตัดสินใจของแม่ทัพเชมัล หนึ่งในนั้นคือการที่ ทุกคนล้วนประจักษ์แล้วว่า แม่ทัพเชมัลผู้มีพลังเวทย์ใกล้เคียงกับเวทย์ดำเพียงแค่เส้นด้ายคั่นกลาง
ดังนั้นทุกคนจึงสรุปว่า สิ่งใดที่แม่ทัพต้องการ ก็ตามนั้นแล..
ส่วนแม่ทัพนาซิม นี่ต่างหากคือผู้ที่เหล่าพระญาติเป็นกังวล เนื่องจากเจ้าชายน้อยที่อยู่ในการดูแลของราชองครักษ์นั้น หากเจริญพระชันษาจะมีพลังกล้าแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีความเป็นไปได้ว่าพระราชาฟารัคอาจพระราชทานตำแหน่งรัชทายาทให้
อย่างไรก็ตาม ขณะที่พระญาติเป็นกังวล ตัวของแม่ทัพนาซิมก็กังวลเช่นกัน ถึงกับต้องเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อร่วมเจรจาให้พระราชารับพระสนมเพิ่ม
"เพราะการเป็นพระราชาแห่งเมืองวัน สำคัญคือต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทุกคน และเป็นที่รู้กันดีว่าเจ้าชายน้อยมีนิสัยตรงๆ ไม่โปรดการรอมชอม จึฃอยากให้กลับไปอยู่ที่เมืองหน้าด่านเพื่อสานต่องานจากข้าพระองค์มากกว่า กฎระเบียบทุกข้อล้วนย่อมมีหนทางผ่อนปรน ฝ่าบาทย่อมทราบดีว่า การดึงดันที่จะรักษากฎหมายที่พระองค์เป็นผู้ตราขึ้นเองนี้จะนำพาเมืองวันไปทางไหน"

สุดท้ายพระราชาฟารัคจึงต้องยอมรับรูปแบบของครอบครัวในแบบที่ทรงปฏิเสธมาโดยตลอด
คราที่รับพระสนมองค์แรกเมื่อเดือนก่อน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายล้วนเหน็ดเหนื่อย วุ่นวาย ด้วยพระราชาฟารัคไม่มีงานพระราชพิธีบ่อยนัก มาถึงครานี้คล้ายทุกคนจะรู้หน้าที่ของตนเองแล้ว ทำให้งานทุกอย่างราบรื่นไปมาก

แสงไฟเรื่อเรืองจากโคมไฟภายในพระตำหนัก ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าคืนนี้จะทรงประทับที่พระตำหนักนี้หรือไม่ ต้นห้องเก้าจึงบอกให้มหาดเล็กกลับไปพักผ่อน และหากพบหัวหน้าราชองครักษ์บาดาก็ขอให้แจ้งว่า คืนนี้จะเข้าเวรถวายการรับใช้พระราชาแทน
โดยทั่วไปแล้วในการถวายงานรับใช้ จะต้องมีราชองครักษ์อย่างน้อย 1 คนกับมหาดเล็ก 2 คนแต่วันนี้มีงานรื่นเริง ทุกคนต่างก็ต้องการใช้เวลาเพื่อการดื่มกินอย่างเต็มที่ 
มหาดเล็กต้นห้อง 2 คนนี้ก็มีสีหน้ายินดีอย่างยิ่ง ที่ต้นห้องเก้าอาสา รีบรับปากว่าจะแวะบอกกับหัวหน้าราชองครักษ์ที่อาจสวนกันกลางทาง

เมื่อเหลืออยู่เพียงลำพังที่หน้าพระตำหนักหลังเล็ก คนรูปร่างผอมบางเงยหน้ายิ้มให้กับท้องฟ้า และอากาศเย็นสบาย
หายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกมา เผื่ออาการมึนงงจากการดื่มสุราในงานเลี้ยงคืนนี้จะบรรเทาลงไปบ้าง

ต้นห้องเก้าเติบโตจากหมู่บ้านที่ผู้คนในหมู่บ้านคือผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ ดังนั้นทุกคนในหมู่บ้านไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าจะมีเวทย์หรือไม่ จึงล้วนเป็นทหาร นักรบรับจ้าง และ ผู้คุ้มกัน หรือเคยเป็น
ดังนั้นต้นห้องเก้าจึงมีความสามารถเรื่องการดื่มกินไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใด
แต่สุราในงานมงคลในคืนนี้แตกต่างออกไป
สุราร้อนแรง และมีรสหวาน ทำให้ดื่มได้มากกว่าปกติ และมึนเมาได้มากกว่าปกติเช่นกัน
ต้นห้องเก้าเหลียวมองไปรอบตัวพลางคิดว่าหากได้น้ำดื่มสักถ้วยมาล้างปากคงดีไม่น้อย

เสียงประตูพระตำหนักเปิดออก ต้นห้องหันมาค้อมตัวทำความเคารพ แล้วยืนตัวตรงรอรับสั่ง
พระราชาฟารัคก้าวพระบาทมาหยุดยืนข้างหน้า แล้วก้าวไปประทับนั่งที่เก้าอี้ตัวยาวในสวน
"คุยกันหน่อยไหม"
ต้นห้องเก้า ก้าวเท้ามาหยุดยืนรอ
"ข้าบอกคุยกัน ไม่ใช่รับคำสั่ง มานั่งลงที่นี่" มือใหญ่ตบที่ ที่นั่งข้างๆ
ต้นห้องเก้าเงยหน้าขึ้นมอง อดไม่ได้ที่จะเหลียวไปรอบตัว
"ข้าหมายถึงเจ้า อาเก้า มานั่งข้างๆ ข้า อย่าให้ข้าต้องโกรธ"

ในเวลาที่ไม่มีบรรดาราชองครักษ์ผู้มีเวทย์กล้าแข็งอยู่ใกล้ๆ คือเวลาที่พระราชาฟารัคจะแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมามากที่สุด
ความผ่อนคลาย และกล่าวคำอย่างตรงไปตรงมา เหมือนทุกครั้งที่อยู่กับแม่ทัพเชมัล
แต่การที่ออกมาจากห้องหอ และรับสั่งเช่นนี้ ทำให้รู้สึกถึงความไม่สบายพระทัย
ที่ผ่านมาหากมีเรื่องไม่สบายพระทัย คนผู้เดียวที่จะทรงหารือด้วยก็คือแม่ทัพเชมัล
แต่หลังจากที่แม่ทัพเชมัลย้ายออกจากค่ายทหารไปอยู่ที่เรือนพักนอกเมือง ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีครอบครัวแล้วนั้น พระราชาก็หารือเรื่องส่วนตัวพระอนุชาน้อยลง

เมื่อต้นห้องเก้านั่งลงข้างๆ พระราชาจึงหันมาทอดพระเนตร "ดื่มเหล้าด้วยหรือ"
คนรูปงามรีบยกมือขึ้นปิดปาก "ขออภัยฝ่าบาท"
พระโอษฐ์ยิ้มบาง "ไม่เป็นไร เอามือลงเถอะ" จากนั้นก็รับสั่งถาม "ในงานวันนี้ พบใครที่ถูกใจเจ้าหรือยัง"
ต้นห้องเก้าส่ายหน้า ทำให้พระราชายิ้มเหนื่อยๆ 
"ข้าควรถามใหม่ ว่าเจ้าเงยหน้ามองใครในงานหรือเปล่ามากกว่าสินะ"
"ข้าพระองค์เพียงคิดถึงเรื่องงานเท่านั้น"
พระราชาได้แต่ส่ายพระพักตร์ "อาเก้าเอย อาเก้า จะปิดหัวใจตนเองไปถึงเมื่อใด"
ต้นห้องเก้ากลับหันมาหาพระราชาแล้วกล่าวเบาๆ "ข้าพระองค์ไม่ได้คิดปิดใจตนเอง เพียงแต่....ยังไม่มีผู้ใดที่ทำให้รู้สึกอยากผูกพันใกล้ชิด"
"เจ้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะข้าแท้ๆ เชียว"
"มิได้ขอรับ ฝ่าบาทอย่าได้มีรับสั่งเช่นนั้น" ต้นห้องเก้ารีบกล่าว "ข้าพระองค์มิได้ปิดกั้น หรือตั้งข้อแม้ เพียงแต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับพริมก็คิดได้ว่า ข้าไม่พร้อมสำหรับการมีครอบครัวจริงๆ"
พระราชาสงสัย "ยังคุยกับพริมอยู่หรือ"
"ขอรับ" ต้นห้องเก้ายอมรับ "เมื่อ 2 วันก่อนก็เพิ่งไปที่ร้านมา จึงได้พูดคุยกัน"
"อ้อ...." น้ำเสียงของพระราชาฟังดูผิดหวัง
"เอ่อ...ฝ่าบาท ไม่เห็นด้วยหรือขอรับ"
"ไม่สิ เอ้อ..มิใช่ ข้าหมายถึงเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้า ยังติดต่อพูดคุยกันอยู่ก็ดีแล้ว ข้าเพียงกังวลว่าเจ้าจะเงียบเหงา"
ต้นห้องเก้าหันกลับมามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตัก
"พริมเป็นเพื่อนที่ดีกระหม่อม ตอนที่...คบหากัน ข้าพระองค์มิรู้ว่าจะคุยกับนางอย่างไร ได้แต่ตามใจนางไป เป็นการคบหาที่เรียบง่าย แต่พอกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งกลับกลายเป็นพวกเรามีเรื่องให้คุยกันมากขึ้น หัวเราะกันมากขึ้น ซึ่งพริมเองก็เป็นห่วงเรื่องที่ข้าพระองค์อยู่ตามลำพังเช่นกัน"
"อ้อ...."

...แต่แรกนั้นก็คิดไปล่วงหน้า ว่าหากพบกันอีกครั้งอาจมีความลำบากใจ ครั้นเมื่อพบกันจริงๆ พูดกันอีกครั้ง กลับพบว่า สามารถพูดคุยกันได้โดยเปิดใจมากกว่าตอนที่คบหากัน...

ต้นห้องเก้าเพียงเหลือบตามองหัตถ์ของผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ "พริมถึงกับกล่าวกับข้าพระองค์อย่างตรงไปตรงมา ว่าผู้หญิงชอบผู้ชายตามใจ แต่จะสมรสกับคนที่ทำให้นางรู้สึกปลอดภัย" คนที่กำลังกล่าวคำได้แต่ยิ้มมุมปากเย้ยตนเอง "ซึ่งนั่นไม่ใช่ข้าพระองค์อย่างแน่นอน"
"คนไม่เหมือนกัน อาจมีหญิงสักคนที่ชื่นชอบผู้ชายอ่อนโยนเช่นเจ้า"
ต้นห้องเก้าหันกลับไปมองพระราชา ตอนที่สบตากันกลับรู้สึกแปลกๆ จนต้องหลบตา เตือนตัวเองว่า จะไม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"อาจเพราะข้าพระองค์คิดเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ความรักเป็นความผิด"
"หือ..." สุรเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย "ไหนเจ้าเคยพูดกับข้าว่า เจ้าอาจผิดหวังมากไปหน่อย แต่ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากคนอื่น แล้วจะเตือนตัวเองเช่นนั้นไปทำไม"
"ข้าพระองค์ไม่ได้กลัวความรัก เพียงแต่..."
"แบบเจ้าน่ะ เขาเรียกปากแข็ง เจ้ากลัวที่จะรัก กลัวที่จะผิดหวัง จะอยู่คนเดียวก็ยังกลัว สุดท้ายก็เลยไม่มีความสุข"
ต้นห้องเก้าใช้ปลายนิ้วลูบหน้าผากตนเอง "ข้าพระองค์ยังไม่เจอใคร"
"ปากแข็งไม่เลิก"
"ข้าพระองค์ยังไม่เจอใครจริงๆ หากเจอก็คงจะ...ไม่กลัวที่จะรักอีกสักครั้ง"
"งั้นรักครั้งก่อนของเจ้าคือใคร เชมัล หรือ พริม"
ต้นห้องเก้างงไปชั่ววูบ "ฝ่าบาท ข้าพระองค์ไม่ถนัดเรื่องโต้เถียง"
"ไม่ได้โต้เถียง ข้ากำลังบังคับให้เจ้าพูด ก็แค่พูดให้ตรงกับใจของเจ้า มันยากตรงไหน"
"แต่ข้าพระองค์ไม่อยากพูดเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร"
"ก็พูดมาอย่างที่ใจเจ้าคิดไง"
"เช่นนั้นฝ่าบาทตอบข้าพระองค์ได้หรือไม่ ว่าคืนนี้เป็นคืนเข้าหอแล้วพระองค์ออกมาทำไม" ต้นห้องเก้าย้อนถาม
"ก็...ก็....."
พระราชาฟารัค หงายหัตถ์ ถอนพระทัย แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้ากลางคืน
"ก็....ไม่รู้สิ"
"ห้ามตอบว่าไม่รู้สิฝ่าบาท"
"ก็...." พระราชาฟารัคยอมรับ "ข้า...ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ เจ้าก็รู้" ถอนพระทัยแรงๆ อีกครั้งเพื่อคลายความอึดอัดคับข้องใจ "ที่ข้าสนับสนุนเชมัลให้ได้อยู่กับอาเม่ย ก็คงเพราะต้องการให้เชมัล ทำในสิ่งที่ข้าทำไม่ได้กระมัง"

เพราะนับตั้งแต่แรกจนถึงเวลานี้ มีแต่พระราชาฟารัคที่ต้องสมรสด้วยหน้าที่

"ฝ่าบาทรักพระชายาไหม"
"รักสิ" แม้จะรับสั่งเช่นนี้แต่ก็กลับนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง "ที่ไม่กล้าลงโทษเขา ทั้งที่รู้ว่าเขาคิดไม่ซื่อก็เพราะรักมิใช่หรือไง"
"ก่อนนี้ฝ่าบาทตอบว่า เพราะไม่อยากทำให้พระโอรสเสียพระทัย"
"ก็นั่นแหละ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วพอต้องมารับสนมเพิ่มข้าถึงได้ไม่สบายใจเลย"
"ฝ่าบาท"
"ข้าเป็นพระราชานะอาเก้า แต่ครอบครัวของข้าเองกลับ......"
พระราชานิ่งไปชั่วครู่แล้วมีรับสั่งขึ้น "นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ข้าออกมานอกห้องหรอก"  ดวงตาสีเข้มหันมาหาคนข้างๆ "ถ้าข้าอธิบายความคิดของข้า เจ้าก็ต้องอธิบายความคิดของเจ้า ตกลงไหม"
ต้นห้องเก้าหัวเราะเบาๆ "ตกลงฝ่าบาท"
"แม้คนทั่วไป รวมถึงพระชายาเอง จะเชื่อว่าข้าสมรสเพราะการเมือง แต่ถามเจ้า เจ้าคิดว่า ข้าจะยอมให้ใครมาบังคับข้าไหม หากข้าไม่เต็มใจ"
"อาจเต็มใจ เพื่อรักษาอำนาจก็ได้ มิใช่เพราะรัก"
พระราชากลับอมยิ้ม เมื่อต้นห้องเก้า กล่าวคำโต้แย้ง
"พวกเรารู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ คิดมาตลอดว่า นางฉลาดและเรียบร้อย จนถึงวันราชาภิเษกนางสวยมาก" ดวงตาสีเข้มมองตรงไปข้างหน้าเมื่อนึกถึงภาพในอดีต "ข้าคงรักนางตั้งแต่วันนั้น แล้วนางก็เป็นเมียที่ดี เป็นกำลังใจที่ดี แต่ในวันหนึ่งข้าก็กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป ในใจของนางมีความต้องการยิ่งใหญ่กว่าการเป็นพระชายา"
"แต่ไม่ได้ทำให้หมดรัก"
"จนถึงตอนนี้ ข้าก็ยังรักเขานะ ยังคงเป็นคนที่ไม่อยากให้เสียใจ อยากให้มีความสุข" พระราชายอมรับ "แต่ข้าก็ไม่ไว้ใจ รู้สึกว่า เวลาที่นางดีกับข้า ในใจของนางกำลังคิดวางแผนอันใดอยู่ เป็นความรู้สึกที่ย่ำแย่มาก"

"คนที่หมดรักน่ะคือเขา มิใช่ข้า"
แต่รักของข้าก็ต่างไปจากเดิมเช่นกัน...

"แล้ว....พระสนม 2 พระองค์ที่รับมา พระองค์ก็ไม่อยากให้นางเสียพระทัยเช่นกันใช่หรือไม่"
พระราชากลับส่ายหน้าช้าๆ
"ข้ากล่าวกับเจ้าอย่างตรงไปตรงมาได้ว่า มิใช่" ดวงตาสีเข้มมองฝ่าความมืดข้างหน้า "คนหนึ่งเป็นพระราชาเมืองบาสก์จัดหามาให้ นับไปนับมานางยังเป็นพระญาติด้วยซ้ำ ส่วนอีกคนก็เป็นลูกสาวของเสนาบดี" นี่ยิ่งเป็นเรื่องการเมืองที่ชัดเจน "ข้าเป็นผู้ชายที่แย่มาก ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งชัดเจนว่าข้าแย่มาก"
"ฝ่าบาท"
"ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นก็ได้ ชีวิตครอบครัวข้ามิได้รันทดขนาดนั้น"
สีหน้าของต้นห้องเก้ากลับดูคล้ายจะร่ำไห้
"ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง"

กล่าวกันว่า ความสุขของผู้ชายอยู่ในครอบครัว แต่นับจากวันที่พระโอรสเสด็จไปกับพระปัยกาผู้เฒ่าดิน พระราชาฟารัค กลับรู้สึกถึงความล้มเหลว 

"สรุปแล้ว ข้าอาจอิจฉาเชมัลอยู่ก็เป็นได้"

"ตอนที่ข้ายังอยู่ที่หมู่บ้าน ใครๆก็บอกว่าเป็นพระราชาช่างสุขสบาย" ผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ หลุบตาลงเมื่อกล่าวคำ  "ตอนที่อยู่ในค่ายทหารก็คิดว่าเป็นพระองค์ช่างสนุกสนานยิ่งนัก มีคนนั้นคนนี้ออกหน้าทำงานแทน แต่พอมารับใช้เป็นต้นห้องให้พระองค์ กลับคิดว่า....." ยังไม่ทันกล่าวจบ พระราชามีรับสั่งต่อเอง
"กลับคิดว่า นั่นเป็นเรื่องที่เจ้าคิดไปเองทั้งนั้น"
"ชีวิตของพระองค์ กลับไม่ใช่ของพระองค์"
"ว่าที่จริงนะเก้า ข้าไม่ค่อยรู้สึกว่าชีวิตของข้ารันทดสักเท่าไหร่จนกระทั่งมาคุยกับเจ้านี่แหละ" พระราชาฟารัค ตรัสทีเล่นทีจริง แล้วก็ค่อยคลี่ยิ้มกว้าง จนต้นห้องเก้าต้องพลอยหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า

"พอเถอะ กลับมาที่เรื่องของเจ้า ข้าจำได้ว่า ยังมิได้ลงโทษที่เจ้าดื้อรั้นจะไปหาเชมัลให้ได้" เรื่องนั้นผ่านไปหลายเดือนแล้ว "พูดจาโต้เถียงยอกย้อนจนผิดวิสัย"
"มิได้พระองค์" ต้นห้องเก้าแก้ไข "ตอนนั้นข้าร้อนใจ คิดแต่จะไปให้ได้ จึงกล่าวคำพูดแบบนั้น แต่แท้ที่จริง แท้ที่จริง...."
"ก็แค่พูดให้มันตรงกับใจ มันยากตรงไหนกันนะเก้า" พระราชาเหนื่อยพระทัย
"ข้าพระองค์....เห็นว่าราชองครักษ์ทุกคนไปเมืองเหนือกันหมด ก็คิดว่าจะมีประโยชน์มากกว่าที่นี่"
พระราชาหัวเราะเสียงแปลกๆ "โดนฮูดาจับเป็นเป้าล่อลูกไฟของอาเม่ยเนี่ยนะ"
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าสนุกสนานในกลุ่มขององครักษ์และราชองครักษ์อยู่นานหลายเดือนเลยทีเดียว
คิดว่าจะเดินทางไปเพื่อพิสูจน์ตนเอง แต่สุดท้ายก็ยังคงซ้ำรอยเดิม...

"ถึงสภาพตอนนั้นไม่น่าดูสักเท่าไหร่ แต่เมื่อย้อนกลับไปนึกถึงภาพของความเสียหายที่เกิดขึ้น การที่ได้ช่วยงานพี่ใหญ่รอม ข้าพระองค์ก็คิดว่าไม่เลวนะ"
"แล้วข้าควรลงโทษเจ้าอย่างไร"
ต้นห้องเก้าขยับตัวลงคุกเข่าลงกับพื้น
พระราชาฟารัค กลับมองคนที่ก้มหน้า แล้วถอนพระทัยยาว ต้นห้องเก้าจึงกล่าวขึ้นโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น

"ดั่งที่เคยกล่าวไป ข้าพระองค์คิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์นั้น มิได้มีอันใดผิดแผกจากผู้อื่น แต่พระองค์มิอาจนิ่งเฉย พระองค์คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระองค์ก็มิได้แย่นัก แต่ข้าพระองค์คิดว่าไม่น่าสบายเลยสักนิด บางทีอาจเกิดจากการที่เรา....ปฏิเสธที่จะยอมรับความจริงบางอย่าง"
"ถ้ากล่าวออกมาแล้วยิ่งแย่ลงก็เก็บมันไว้ในใจดีกว่าเก้า" สุรเสียงห้วนไปเล็กน้อย แต่คล้ายต้องการเตือนตัวเอง มากกว่าการเตือนต้นห้อง
ต้นห้องเก้าเงยหน้าขึ้น
"อาจเพราะสุราหวานในงานเลี้ยงคืนนี้ที่ทำให้ข้าพระองค์รู้สึกมึนเมา และอยากกล่าวบางคำ ที่หากผ่านวันนี้ไปแล้ว อาจไม่กล่าวมันออกมาได้อีก"
"เก้า"
"ข้าพระองค์มักนึกถึงความสุขในเวลาที่ได้รับใช้แม่ทัพเชมัลอยู่เสมอ แต่มิได้อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้น ทั้งมิได้ต้องการไปอยู่เมืองหน้าด่านทางเหนือ และรู้ดีว่าพระองค์ มีความหวังดีกับข้าอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่..ข้าพระองค์ก็ไม่กล้าพอที่จะตอบรับ"
พระราชาฟารัคได้แต่มองคนที่กำลังกล่าวคำอย่างตรงไปตรงมา สมกับที่พระองค์ต้องการ
"ข้ารับใช้ท่านแม่ทัพเชมัล ถูกแม่ทัพนาซิมทำร้าย แล้วมาถึงพริม หากต้อง...เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดฝ่าบาทอีก ต่อให้ฝ่าบาทไม่รังเกียจ แต่ข้าพระองค์ก็รังเกียจตัวเองยิ่งนัก ในเมื่อฝ่าบาทแตะต้องข้าพระองค์ไม่ได้ ก็ขอให้โปรด...ส่งข้าพระองค์ไปประตูหน้าด่านที่อยู่ใกล้เมืองบาสก์เถิด"

พระราชากลับประทับยืน
"ข้าจะกลับไปพระตำหนัก"
ต้นห้องเก้าได้แต่ลุกขึ้นแล้วก้าวเท้าตามเสด็จมาเงียบๆ
ทุกก้าวพระบาทที่มั่นคงเดินนำไปข้างหน้า โคมไฟ 2 ข้างทางที่จุดห่างกันเป็นระยะ สายลมเย็นพัดพากลิ่นหอมของไอฝน ผสานกลิ่นหอมของดอกไม้กลางคืน เสียงเพลงเงียบลงไปแล้ว
ผู้ที่ก้าวนำไปข้างหน้า หันกลับมาจับมือที่แนบอยู่ข้างลำตัว แล้วเดินจับมือไปพร้อมกัน

"เรื่องบางอย่างควรเก็บไว้ในใจตลอดกาล"

ต้นห้องเก้าเพียงพยักหน้า ไม่ได้พยายามสลัดมือออก เพียงเดินเคียงข้างกันไปเงียบ ๆ

ต่างคนต่างก็รู้ดี

พระราชาฟารัคพอใจอาเก้ามาตั้งแต่แรกที่ราชองครักษ์บาดา และองครักษ์รอมพามารายงานตัว แต่พระองค์ปฏิเสธทั้งพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะยอมรับเรื่องนี้มาตลอด
ถึงได้ไม่พอใจ ไม่เคยพอใจ ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอาเก้า
และโทษตนเองมาตลอดเช่นกัน

อาเก้า องครักษ์เก้า มาจนถึงต้นห้องเก้าในวันนี้ มิเคยมีความรู้สึกพิเศษให้กับพระราชาฟารัค และแม้จะเคยมีใจให้กับแม่ทัพเชมัล แต่ในวันนี้ก็เหลือเพียงความภักดี
เมื่อผนวกกับนิสัยที่มักปฏิบัติตามคำสั่ง มิเคยคิดหรือตัดสินใจด้วยตนเอง จึงกลายเป็นผู้ที่หัวใจว่างเปล่า....ไม่รัก แต่ก็ไม่ได้เกลียดผู้ใด
คล้ายพร้อมที่จะมีรัก
แต่ก็ไม่มีรัก....

หรือมิใช่....
หรือที่คิดมาตลอด บอกกับตนเองมาตลอดมามันมิใช่เลย....

ในห้องที่ประทับ ต้นห้องเก้าเตรียมน้ำอุ่นให้ทรงสรงน้ำ แล้วมาจัดพระที่ เมื่อเสด็จกลับออกมาโดยสวมเพียงเสื้อคลุม ต้นห้องเก้าจึงจะล่าถอยออกมา แต่ฝ่ามือใหญ่แตะที่ปลายคางให้หันมาหา
ไม่มีคำกล่าวใด เพราะทุกคำที่จะกล่าวออกมาล้วนแต่นำมาซึ่งความลำบากใจ

เหตุใดจึงมิเคยพอใจในทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย
เหตุใดต้องอยากรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย
เหตุใดต้องยกเหตุผลมากมายมาอ้างเพื่อที่จะอยู่ให้ห่างกัน แล้วก็กลับรู้สึกอ้างว้างยิ่งนัก

เพียงแค่อยู่ใกล้กัน เหตุใดจึงยากยิ่งนัก

"เจ้าสัญญาไว้ว่า เมื่อกลับมาจะยอมรับการลงโทษโดยไม่เกี่ยงงอน"
ต้นห้องเก้าพยักหน้า
"ข้าเพียง....ต้องการให้เจ้ายอมรับว่า....ข้า...มิใช่คนดีนัก ข้า..ยกหัวใจให้กับคนที่ไม่สมควรให้ใจ และไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่อาจเอามันกลับมาได้ ข้าพยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้"

(ต่อ)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 02-02-2016 14:14:44
(ต่อ)

เมื่อก้าวพระบาทเข้ามาใกล้ ต้นห้องเก้าก็ก้าวถอย มือใหญ่รั้งเอวบางเข้ามาแนบชิด จูบเน้นหนักที่ริมฝีปาก ต้นห้องเก้าพยายามผลักเอว ดันไหล่ของอีกฝ่าย แต่ไม่มีผลใด ในทางตรงข้ามมือใหญ่ที่โอบกอดอยู่กลับถอดสายรัดเอวออก
รสจูบเร่าร้อนรุนแรง ความต้องการที่บดเบียดอยู่ที่หน้าท้อง พาให้อีกคนหายใจติดขัด ความต้องการก่อตัวขึ้นภายใน

"ขอโทษ ที่ข้าเป็นคนไม่ดี"
ขอบตาสวยร้อนผ่าว เมื่อถูกจูบอย่างร้อนแรงอีกครั้ง หยาดน้ำตาก็ไหลริน
เครื่องแบบหนาหนักร่วงหล่นลงอยู่แทบเท้า ร่างกายผอมบางที่แข็งแกร่งถูกยกอุ้มจนเท้าไม่แตะพื้น แผ่นหลังสัมผัสพระที่ ริมฝีปาก และฝ่ามือที่สัมผัสไปทั่วตัว
เสียงครางผสานเสียงสะอื้นแผ่วเบาเจืออยู่ในห้องนอน ดวงตาคู่สวยเจือน้ำตามองอกหนาแล้วต้องหันไปมองทางอื่นเพื่อซ่อนความในใจ ไม่ว่าสมองจะคิดสรรหาคำมากมายมาปฏิเสธ แต่ใจนี้กลับเต้นแรง ร่างกายนี้กลับยินดีเมื่อถูกกอดรัด สัมผัสจากฝ่ามือช่างร้อนผ่าว ริมฝีปากที่กดจูบยอดอกช่างหวามไหว
ภายในร่างกายปั่นป่วน ทั้งรุ่มร้อน และต้องการมากขึ้นจนละอายตนเอง
ร่างกายผอมบางแอ่นโค้งเมื่อปลายนิ้วที่สอดเข้าสู่ช่องทาง แตะสัมผัสจุดอ่อนไหว แก่นกายแข็งตึงปล่อยหยดน้ำใส
ผ่อนลมหายใจออกตามนิ้วมือใหญ่ที่ถอนออก แต่กลับผวาจิกเล็บลงกับแผ่นหลังกว้าง เมื่อความแข็งแกร่งเบียดแทรกเข้าหา ความเจ็บแปลบเสียดแทง ยิ่งสะกดเสียงกรีดร้อง น้ำตายิ่งพาลไหลเอื่อย

ริมฝีปากหนาก้มลงจูบซับน้ำตา ร่างกายที่มีเม็ดเหงื่อผุดพราว ท่ามกลางแสงเทียนช่างงดงาม เปิดขาแข็งแรงออกกว้าง ขณะที่กดความต้องการเข้าหาช้าๆ ความรู้สึกคับแน่น ยิ่งทำให้ความต้องการเพิ่มสูงขึ้นจนไม่อยากรั้งรอ เสียงอ่อนหวานผ่านริมฝีปากบางดั่งเชิญชวนให้จูบย้ำ
คนในอ้อมแขนตอบรับจูบด้วยต้องการให้จูบนี้บดบังความเจ็บจากการสอดใส่ เมื่ออีกคนหยุดนิ่ง มือที่จับแขนอยู่ก็กลับเพิ่มแรงบีบ ดวงตาที่วาววับด้วยหยาดน้ำมองสบตาเปี่ยมไปด้วยคำร้องขอ
ขยับสะโพกช้าๆ แล้วค่อยเร่งเร้า ยิ่งเร่งเร้าร่างกายที่ถูกกอดก็ยิ่งร้อนขึ้น

....มิเคยเป็นเช่นนี้ มิเคยต้องการมากขนาดนี้ ที่เคยรับใช้แม่ทัพเชมัล มิเคยทำให้เกิดความรู้สึกต้องการมากมายถึงเพียงนี้...
....ความรู้สึกนี้ย่อมมิใช่เกิดจากการทำตามหน้าที่ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้....
....เหตุใด สมองกับหัวใจจึงทำงานตรงข้ามกัน....
....ทั้งที่เสียงในสมองร้องเตือนอยู่เสมอ ว่านี่คือบุคคลต้องห้าม แต่หัวใจกลับยิ่งร่ำร้องต้องการ ร่างกายยิ่งเร่าร้อน....

มือผอมประคองใบหน้าคมเข้มของพระราชาฟารัค ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาคลอ
...ข้านี่ช่างโง่งมยิ่งนัก...

"จูบข้า"
.....จูบข้า และรักข้า มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่ข้าจะเป็นของท่านได้โดยไม่รู้สึกผิดต่อผู้ใด ไม่ว่าเรื่องราวร้ายแรงใดที่เคยเกิดขึ้นกับข้า ล้วนคือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว และข้าไม่เคยคิดโทษท่านเลยสักครั้ง นับจากนี้ ข้าคือคนของท่าน.....ทั้งกาย ใจ และวิญญาณของข้า เป็นของท่านแล้ว....
......คนที่มองหา ที่แท้อยู่เบื้องหน้าของข้านี่เอง...


"อาเก้า"
ยามเห็นหน้าก็คิดว่าใช่
ยามพูดคุยก็เชื่อว่าใช่
ยามที่เป็นหนึ่งเดียวกัน....ทุกสิ่งทุกอย่างบอกว่า คือคนนี้เอง....
......ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไป เพียงแค่อยากให้เจ้ามีความสุข ทั้งที่ใจของข้าทรมานยิ่งนัก แต่นับจากนี้ เจ้าคือคนของข้า ไม่ว่าใครก็อย่าได้หมายว่าจะแตะต้องเจ้าได้อีก...

กล้ามเนื้อแข็งแรงที่กอดรัด จนถึงหยาดเหงื่อที่ไรผมระหน้าผาก ล้วนทำให้ลุ่มหลงต้องการ กล้ามเนื้อที่ตอดรัดแก่นกายสร้างความสุขสมอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ยิ่งความต้องการที่ยังไม่เพียงพอ ยิ่งย้ำถึงความจริงที่อยู่ในใจ
เรือนร่างงดงามยามเคลื่อนไหวตอบรับ บอกชัดเจนว่า ต่างมีใจตรงกัน...
เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงหอบหายใจ และเสียงครางที่เต็มเปี่ยมด้วยความต้องการกันและกัน จากเนิบช้ากลายเป็นเร่งเร้า ร่างกายสะท้านเฮือกเมื่อก้าวไปถึงจุดสูงสุด
หลังการปลดปล่อยความต้องการในร่างกายผอมบาง พระราชาฟารัคก้มลงจูบที่ข้างหู ต้นห้องเก้าขยับตัวจะลุกขึ้นแต่ทรงกอดไว้
"ต้องกลับไปแล้ว..."
"นอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวข้าปลุกเจ้าเอง"
ต้นห้องเก้าพยักหน้ายอมรับอย่างว่าง่าย ริมฝีปากหนาก็บดจูบซ้ำที่ริมฝีปาก นิ้วมือเกลี่ยที่ยอดอกสีแดงจัด แล้วเลื่อนลงหาสะโพกกลม
ดวงตาที่กำลังปรอยปรือคล้ายจะหลับ กลับต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อร่างกายถูกพลิกคว่ำ ความอุ่นร้อนกดเข้าหาจากเบื้องหลัง....

ยามเช้าหัวหน้าต้นห้องอามีนจะมาถวายการรับใช้เช่นเคย แต่ทหารยามหน้าพระตำหนักรีบเข้ามาขัดขวาง กระซิบถ้อยคำรายงานข้างหู หัวหน้าต้นห้องผู้ชรายิ้มกว้าง หันมาไล่มหาดเล็กที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่กลับไปเตรียมพระกระยาหาร รอจนหัวหน้าราชองครักษ์บาดามาถึง จึงกระซิบถ้อยคำรายงาน
รอยยิ้มของหัวหน้าราชองครักษ์ กับ หัวหน้าต้นห้องสดใสและเปี่ยมไปด้วยความสุขไม่ต่างกัน
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
เรื่องราวที่ไม่ควรกล่าวออกไปให้มากความ
ทั้งสองคนชวนกันไปรับอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ตั้งใจว่าอีกสัก 2 ชั่วยามค่อยยกพระกระยาหารมาที่พระตำหนัก....บางทีวันนี้ หรืออาจถึงพรุ่งนี้อาจมิมีกิจการงานใดให้ต้องรับใช้
ก็เมื่อคืนนี้ พระราชาฟารัคทรงรับพระสนมพระองค์ใหม่มิใช่หรือ.

..จบตอนพิเศษ..

แท้จริงแล้วตอนนี้อยู้ในเรื่อง เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในปีถัดมา หลังชนะเมืองเหนือ แต่ช่วงเวลาที่ทิ้งห่างนานเกินไป จะยกออกไปก็เสียดาย ตอนนี้จึงกลายมาเป็นตอนพิเศษ
พี่ไจฟ์มีหลักการอย่างหนักแน่นว่า การบังคับข่มขืน ไม่ใช่ความรัก ดังนั้นไม่ว่านาซิมจะลงมือต่อเก้าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาสอบตกไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่เพราะผมเป็นคนชอบแอบอ่านก่อน ผมก็เชียร์นาซิมมาตลอด เพราะคิดอยู่ตลอดว่า ไม่มีทางเป็นพระราชาฟารัค แต่เพราะพี่ไจฟ์มีหลักการอีกข้อหนึ่งว่า การมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ก็ตามถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ผมจึงเชื่อว่า สุดท้ายแล้วเก้าจะโสด หรือไม่ก็ต้องไปอยู่เมืองบาศก์ เพราะลักษณะเกียร์ว่างของพระราชาเมืองบาศก์นี่แหละ ที่พี่ไจฟ์มักเทส้มลงไปทั้งเข่ง
แต่สุดท้ายที่่คิดมาผิดหมดทุกข้อ เมื่อเขาบอกว่า "ถ้าไม่รักก็ไม่เข้าไปวุ่นวายหรอก บอกมาทั้งเรื่องทำไมมองไม่เห็น" แล้วเขาก็เขียนตอนนี้มา แล้วก็นั่งมองหน้าจอคอมพ์ แล้วก็หันมาบอกว่า ยกไปตอนพิเศษดีกว่า <<< ดังนั้นตอนนี้ จึงเป็นเขาล้วนๆ ที่เขียน ไม่มีผมเขียนแม้แต่คำเดียว
ขอบคุณที่กรุณาติดตาม แสดงความเห็น ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ และแวะมาอ่านเรื่องที่เขียน จะมาช้ามาเร็ว ขอขอบคุณจากใจเราทั้ง 2 คน

ขอบคุณมากครับ

JiveTea
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-02-2016 14:33:39
ใครๆก็เอาใจช่วยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 02-02-2016 15:20:48
สมใจอิฉัน ถูกใจอิช้อย จริงๆ ในที่สุดสิ่งที่ปรารถนามาตลอดก็เป็นจริงสักที ฮ่าๆๆๆๆ
พระราชาฟารัคและต้นห้องเก้า เหมาะสมกันเป็นที่สุด อยากอ่านคู่นี้ต่อ ทำไงดีหนอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 02-02-2016 15:48:17
 :-[ กรี๊ดกร๊าดดดดด...ดีใจที่ในที่สุดเก้าก็มีคู่เป็นของตัวเอง ถึงจะต้องอยู่ในฐานะที่ไม่เปิดเผย แต่ก็ไม่ได้แห้งเหี่ยวหัวใจอีกแล้ว อ่านแล้วฟิน อิอิ คืนรับพระสนมคนที่สอง แต่พระราชากลับขลุกอยู่กับอาเก้าตลอดคืน แถมยังมีกองเชียร์แอบๆ คอยเอาใจช่วยด้วย  นี่คือความล้มเหลวของเพศหญิงหรือไรเนี่ย...555+

กว่าจะได้แง้มประตูหัวใจออกมาจ๊ะเอ๋กัน ก็เป็นตอนสุดท้ายซะแล้ว แต่ดีใจจริงๆค่ะ ที่คุณไจฟ์ยินยอมให้อาเก้ามีคนที่ตัวเองรัก และได้ถูกรักอย่างแท้จริง  o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-02-2016 15:53:37
รอเวลานี้มานานเหลือเกิน

เวลาที่เก้าได้เป็นที่รัก ได้รัก อย่างที่ตรงใจจริง ๆ 

ขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-02-2016 16:12:34
ถึงจะเปิดเผยไม่ได้ แต่ก็น่าจะสมหวังในรักแล้วนะสำหรับพระราชากับอาเก้า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 02-02-2016 16:17:48
 :mew1:
ตบเข่าดังฉาดดด...มันต้องอย่างงี้ซิคะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-02-2016 16:32:35
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :m3:  :m3:
ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เม้นไรต่อดี
ไม่ใช่แค่เราที่รอคอย เห็นได้ชัดฝั่งราชองครักษ์ทั้งหลายก็ลุ้นและรอไปเหมือนเราซะนี่ 55555555555555

ตอนพิเศษนี้มันไม่หวานเหมือนคู่พี่เชกับน้องเม่ย แต่มันปริ่มมากกกกกกกกกกกก  o7
ขอบคุณที่ไม่ทิ้งอาเก้าไว้กลางทางค่ะ ไม่ว่าจะมาในตอนพิเศษหรือในตอนปกติแค่นี้ก็ >>>:heaven  :heaven

 :pig4:   :pig4:  JiveTea ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 02-02-2016 18:20:01
ยิ้มไม่หุบ หุบปากไม่ลงจริงๆ ในที่สุดความรักที่คอยแต่ผลักไสเพราะคิดว่ารักไม่ได้กลับได้สมหวังสักที มีความสุขมากๆนะพระราชา เก้าก็ด้วยเจอแล้วนะ ความรักที่ตามหา

อ่านตอนนี้แล้วปริ่มมากกก น้ำตาจิไหล ขอบคุณน้ำชากับไจฟ์มากกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-02-2016 21:46:14
ได้พบเจอความสุขกันทั้งคู่แล้วใช่หม  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 02-02-2016 21:57:43
อยากกรี๊ดให้จอแตก ว่าแล้ว~~~ มันต้องมีอะไร อ๊ากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-02-2016 22:15:41
ดีใจมากๆๆๆๆๆที่เก้าได้มีความสุข สมหวัง

 ขอบคุณ คุณไจฟ์น้องที  :กอด1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 02-02-2016 22:26:03
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ยินดีกับอาเก้าที่ได้เจอคนที่ใช่สักทีนะ  :mew1:

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับหลักการของคุณไจฟ์นะคะ
"การบังคับข่มขืน ไม่ใช่ความรัก" และ "การมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
ที่ไม่ใช่คู่ของตน ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ก็ตามถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง" 
ปัญหาสังคมที่ยุ่งเหยิงในชีวิตจริง จะลดลงมากเลยนะ
 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-02-2016 00:21:20
ไจฟ์เจ้าทำข้าสอบตกตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง  เห็นด้วยกับเรื่อง การข่มขืนมันไม่ได้เกิดจากความรัก อาเก้าจะรู้ตัวไหมเนี่ยว่า เป็นสนมองค์ใหม่น่ะ 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-02-2016 03:45:46
ดีใจกับอาเก้า ในที่สุดก็เปิดใจ(จริงๆน่าจะรู้ใจมากกว่า)ตัวเองเสียที
ต่อจากนี้ขอให้มีความสุขมากๆนะ ทั้งอาเก้าทั้งพระราชาฟารัคเลย เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-02-2016 09:44:53
อาเก้าผู้อาภัพกับพระราชาสุดซึนในที่สุดก็ลงเอยกัน ปรบมือรัวๆ:) :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 03-02-2016 12:14:45
ต่อไปนี้เก้าก็คงมีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: Lovetree ที่ 03-02-2016 20:33:09
เราเป็นแฟนคลับของอาเก้าด้วยคน  :กอด1:
รู้สึกดีใจมากๆที่เห็นอาเก้ามีความสุข   :-[
มีคนที่จะดูแลและปกป้องอาเก้าของเราเป็นถึงพระราชาเลย  ดีใจและมีความสุขไปด้วยจริงๆ :o8:
ขอบคุณ คุณไจฟ์และคุณที มากๆนะคะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-02-2016 22:45:52
ขอบคุณ:)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 03-02-2016 23:33:51
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษของเก้านะคะ

เราแอบเชียร์พระราชาฟารัคอยู่ในใจอยู่แล้ว แล้วมาแน่ใจตอนที่เก้าขอขัดคำสั่งไปเมืองเหนือ แม้จะไม่สามรถเปิดเผยได้ แต่เราเชื่อว่าฟารัคจะดูแลเก้าอย่างดีแน่ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 04-02-2016 13:21:08
ว๊ายยยยยย....อยากจะบ้าตาย
สมใจแล้วอาเก้ามีความสุขแล้วฮิ้วววว...
แอบเชียรมานานมากกก..คิดว่าน่าจะใช่แต่ไม่กล้าแสดงออก
เพราะนิยายของบ้านนี้คาดเดาแล้วพลิกคว่ำพลิกหงาย
แต่ความนี้โดนนนน... :z2: :really2:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: Wendy ที่ 05-02-2016 23:28:01
ชอบอาเม่ย น้องน่ารักมาก ตอนพูดเปิดใจกับท่านแม่ทัพทำเราน้ำตาซึมไปด้วยเลยค่ะ สงสารน้อง ท่านแม่ทัพเชมัลดูแลน้องดีมาก ขี้อิจฉามาก อิอิ
คนที่น่าสงสารกว่าเก้าคือพระราชาฟารัค แต่สุดท้ายในตอนพิเศษก็ดีใจกับทั้งคู่ที่สมหวัง
ขอบคุณคุณไจฟ์กับคุณน้ำชาที่แต่งเรื่องสนุกๆ ให้อ่านเสมอนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 06-02-2016 16:15:07
ก็จริงที่ว่าถ้าไม่รักไม่ชอบจะมาวอแวทำไม
แต่จากนิสัยที่แสดงออกมา นึกว่าเป็นธรรมชาติ
ของพระราชาเสียงั้น ที่สำคัญ ... ชอบที่องครักษ์ทั้งสอง
พากันอมยิ้มเมื่อรู้เรื่องนี้ นี่ก็รู้กันมานานแล้วสิ คงมีแต่เก้า
ที่ไม่รู้ตัวเลย

ขอบคุณตอนพิเศษของเก้าค่ะ และหวังว่าคงได้อ่านตอนพิเศษ
ของเม่ยอีกครั้งนะคะ ^^

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 06-02-2016 17:54:40
โอ๊ยยยย ในที่สุดก็ใจตรงกันซะที คนอ่านนี่อย่างลุ้น   :heaven
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: Dajong ที่ 07-02-2016 12:08:02
เป็นเรื่องที่มีครบทุกอารมณ์ สนุกมากค่ะ ปลื้มสุดๆเลย
 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: smallmonkey ที่ 07-02-2016 18:04:28
ขอบคุณนะคะ สนุกมาก แม่ทัพเชมัสเท่ห์มาก แต่แอบหมั่นไส้ตอนลืมสัญญาที่ให้กับอาเม่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Cherish <3 หน้า45 (020259)
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 07-02-2016 20:21:35
ขอบคุณที่นำนิยายดีๆมาลงให้อ่านนะคะ ^^
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 09-02-2016 20:39:06
ตอนพิเศษ Just You

บ้านหลังใหญ่นอกเมืองยามเย็นเวลานี้ มีรถม้าจอดเรียงรายตั้งแต่ทางแยกจากถนนใหญ่ไปจนถึงรั้วบ้าน กลุ่มคนขับรถม้าร่วมกับกลุ่มทหาร สนทนาพลางดื่มกินผสานเสียงหัวเราะรื่นเริง
เมื่อสำรวจตราประทับที่รถม้า จะพบว่ามีทั้งตราของพระราชาฟารัคและแม่ทัพนาซิม
มาถึงเขตลานบ้านยังมีราชองค์รักษ์ และองครักษ์ เดินตรวจการณ์รอบบ้านพัก แต่ที่บริเวณลานบ้านมีมหาดเล็กและพนักงานจากวังหลวงเร่งมือจัดเตรียมสถานที่
การทำงานของผู้คนจำนวนมากเหล่านี้ กลับเป็นไปอย่างเงียบเชียบ

เมื่อประมาณครึ่งชั่วยามก่อนหน้านี้
พระราชาฟารัค แม่ทัพนาซิมและองค์ชายน้อยดาริมเดินทางมาถึงพร้อมกัน แต่มีเพียงผู้เดียวที่กล่าวถ้อยคำมากมาย นั้นคือพระราชาฟารัค ที่ไม่พอพระทัยอย่างยิ่งเมื่อเพิ่งได้รับทราบเรื่องโดยบังเอิญจากราชองค์รักษ์ลาทีฟว่า แม่ทัพเชมัลไปขอให้พระปัยกามูซัคอวยพรในการสมรสกับอาเม่ยตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน แล้วกลับมิได้บอกกล่าวกับผู้ใดว่าทั้งคู่สมรสกันแล้ว
และยิ่งไม่พอพระทัยมากกว่าเดิม เมื่อแม่ทัพเชมัลชี้แจงว่า เพียงขอให้พระปัยกาอวยพร มิได้มีการจัดงานอันใด เพราะในเวลานั้นเพิ่งทราบว่า ผู้เฒ่าดินแท้จริงคือพระปัยกา และเป็นผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย

"ข้าคือพระราชาที่มีพลังเวทย์ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี แต่ในสายตาเจ้า ข้ากลับยังยิ่งใหญ่ไม่เพียงพอ มันน่าโมโหนัก!"
ขณะที่แม่ทัพเชมัลมีสีหน้าสำนึกผิด อาเม่ยที่เป็นคนโปรดของพระราชาฟารัคมาตลอดรีบไปยกน้ำชามาถวาย
ทั้ง 2 คนคุกเข่าลงข้างหน้าพระราชา รอคอยคำอวยพร
"นี่เพราะเม่ยหรอกนะ"  พระราชาฟารัคยังมีสีพระพักตร์ไม่พอพระทัยใส่พระอนุชา

"ตอนนั้นเรื่องราวยังไม่เรียบร้อย ทุกสิ่งทุกอย่างดูค้างคา แต่เมื่อได้พบน้อง ได้...เปิดเผยความจริงใจต่อกัน ได้พบพระปัยกาโดยไม่คาดฝัน ข้าจึงอยากผูกพันกับน้องไว้"
"พูดเสียสวยงาม" พระราชาค่อนขอด จากนั้นก็เงื้อมือดั่งจะเขกหน้าผากน้องชายสักที แต่กลับเปลี่ยนพระทัยลูบศีรษะของอาเม่ยด้วยความเอ็นดู

"คำอวยพรของข้าก็คือ อาเม่ย เจ้าต้องไม่ใจดีกับน้องชายคนเล็กของข้าคนนี้ เพราะถึงแม้เขาจะมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ก็ยังเป็นน้องชายคนเล็กที่ถูกผู้คนตามใจมาตลอด นึกอยากทำอะไรก็ทำ ที่ผ่านมาไม่สนใจอันใด ไม่ว่าจะธรรมเนียม ประเพณี กฎระเบียบ และไม่ให้ความสำคัญกับใคร การที่เขาวางทุกอย่างแล้วทำเพื่อเจ้า แสดงให้เห็นว่า เจ้าคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ดังนั้น จงใช้ความได้เปรียบนี้ให้เกิดประโยชน์"

ทุกคนในเรือนหลังใหญ่ต่างคิดเหมือนกัน ว่านี่เรียกว่าคำอวยพรได้อย่างไร แต่ถึงกระนั้นก็กลับเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ 9 ใน 10 ส่วน

"เรื่องราวความผิดในอดีต เรากลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ได้ กล่าวกันว่า หากคิดดี พูดดี ทำดี เรื่องดีๆ จะมาเยือน"
พระเนตรสีเข้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตา มองพระอนุชาและอาเม่ย
"ข้าดีใจมากที่มีน้องชายที่เปรียบเสมือนลูกไฟเช่นเจ้า หลังจากที่มีน้องชาย 2 คนที่คนหนึ่งก็ทึ่มทื่อ อีกคนก็ชอบแหกกฎ"

แม่ทัพนาซิมที่มีเจ้าชายน้อยดาริมนั่งอยู่บนตักถึงกับสะอึก แต่พระราชาหาได้สนพระทัยไม่

"เจ้าอยากได้อะไร"
อาเม่ยส่ายหน้า "ที่ฝ่าบาทเมตตาสนับสนุนให้ข้าพระองค์ได้รับใช้แม่ทัพเชมัล นับเป็นพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้"

ครานี้เป็นต้าซันที่ถูกใจถึงกับลุกขึ้นยืนชูกำปั้น ทั้งแจกยิ้มกว้างไปรอบห้อง

พระราชาโบกมือให้พี่ชายขี้อวดนั่งลง แล้วชี้มาที่กำไลโลหะที่ข้อมือ "ไม่อยากให้เอาออกหรือ" พระเนตรสีเข้มเพ่งมอง "เดี๋ยวนะ นั่นมิใช่อันที่พระราชาเมืองบาสก์ให้มานี่"
"มิได้ฝ่าบาท อันนี้ท่านพี่ไปให้ช่างจากเมืองกริลล์ที่อยู่ถัดไปจากเมืองเหนือทำให้"
"เชมัล" พระราชาหันมารับสั่งถาม "เจ้าขี้อิจฉามากไปไหม"
"ไม่เลยสักนิด" แม่ทัพเชมัลกอดอกตอบอย่างมั่นใจ "เม่ยคือน้องข้า ข้าย่อมมีสิทธิ์จัดการทุกเรื่องของน้อง"
"ข้าไม่ควรแปลกใจที่ได้ยินคำตอบแบบนี้สินะ" แต่พระราชาก็ยังต้องกุมขมับ "แล้ว....เออ ไว้ก่อน...ตัดสินใจเช่นนี้ก็ดี แต่ถ้าถึงคราวจำเป็นก็ให้เชมัลเอาออกได้นะ ถือว่านี่คือคำตัดสินของข้า"
แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยกล่าวคำขอบพระทัย จากนั้นหัวหน้าราชองครักษ์บาดาจึงนำหีบไม้ 2 ใบเข้ามาในห้อง
เป็นหีบขนาดใหญ่ที่อาเม่ยเกือบจะยกมือทักท้วงไม่รับไว้ในทันที แต่แม่ทัพเชมัลรีบคว้าข้อมือไว้
หลังจากหัวหน้าราชองครักษ์บาดา ยังมีหัวหน้าองครักษ์รอมที่หอบม้วนผ้าพับ ตามมาด้วยองครักษ์ซันและแซนที่ช่วยกันยกถาดขนมหวานและผลไม้จำนวนมาก
"ครบหรือไม่" พระราชาหันมารับสั่งถาม "ของมงคลจะให้ครบถ้วนนี่ก็ต้องตรวจกันหลายรอบอยู่เหมือนกันนะ"

ด้วยที่ผ่านมาไม่เคยต้องจัดการเรื่องราวเหล่านี้ด้วยพระองค์เองเลยสักครั้ง แต่เมื่อมาถึงพระอนุชา ต้องเรียกได้ว่า พระราชาฟารัคย้ำแล้วย้ำอีกว่าต้องครบถ้วนตามประเพณีงานมงคล
"ธรรมเนียมของหมู่บ้านทางเหนือก็ดี ธรรมเนียมของวังก็ดี ข้าเลยให้จัดมาให้หมด"
เวลานี้ในห้องโถงของบ้านหลังใหญ่ เต็มไปด้วยสิ่งของมงคล และอาหารมากมาย

"ของขวัญสำหรับเชมัลและเม่ย" วางพระหัตถ์ลงที่ศีรษะของทั้ง 2 คนอีกครั้ง "เจ้าทั้งคู่คือคำพูด การกระทำ และหัวใจของความรัก คือความงดงาม ดีงามทั้งหมดทั้งมวล"
เมื่อรับสั่งถึงตอนท้ายพระสุรเสียงก็สั่นเครือ จากนั้นจึงรับสั่งต่อ "ข้า ยินดีเหลือเกินที่ได้เห็นเชมัลมีความสุข และได้รู้ว่า ความสุขของเขาก็คือเม่ย ไม่ว่าจะคิดหรือทำอันใด ก็ขอให้คิดไว้ว่า เจ้าไม่ได้อยู่ลำพัง"
อาเม่ยโผเข้ากอดเอวของพระราชาไว้แล้วซุกหน้าลงกับพระอุระ กล่าวถ้อยคำด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก
"ขอบพระทัยฝ่าบาท"
"ขอบใจที่รักน้องชายของข้าด้วยใจจริง"

หลังจากงานพิธีในบ้านพักเสร็จสิ้นลง แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยจึงออกมาที่ด้านนอก แล้วก็ต้องหันมามองหน้ากันอีกครั้ง
ด้วยในเวลานี้ บริเวณลานโล่ง มีโต๊ะจัดวางอาหารคาวหวานอยู่เรียงราย ผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียง รอมอบดอกไม้และคำอวยพรให้กับทั้ง 2 คน และเมื่อมองออกไปถึงด้านนอกแนวรั้ว ยังเห็นรถม้าจอดเรียงราย

ต้าซันหยิบเครื่องดนตรีของแม่บรรเลงเป็นเพลงหวานเพื่องานสำคัญในครั้งนี้
"ผีผาของแม่" อาเม่ยหันไปบอกกับแม่ทัพเชมัล และพระราชาฟารัค

เมื่อมองไปยังพบว่า ทั้งราชองครักษ์และองครักษ์ต่างอยู่กันพร้อมหน้า แม้แต่ราชองครักษ์ฮูดาก็ยังอยู่ในที่นี้ ทั้งยังพาแม่หญิงผู้เป็นภริยามาด้วย แต่อาเม่ยกลับไม่รู้สึกถึงแรงกดดันจากพระราชาฟารัค ตลอดจนบรรดาราชองครักษ์ทั้งหมด
อาเม่ยกระตุกมือแม่ทัพเชมัล แล้วกระซิบถามถึงความผิดปกติ
แม่ทัพเชมัลเองก็เพิ่งจะรู้สึกถึงความผิดปกตินี้เช่นกัน

"ถ้าท่านปู่ทวดเล็กอยู่ด้วย ก็จะคิดว่า ท่านช่วยสร้างสมดุลให้ หรือเพราะที่นี่มีผู้มีเวทย์หลายคน ทำให้คานอำนาจกัน"
"เช่นนั้นหรือ"
"ไม่รู้สิ" แม่ทัพเชมัลยอมรับ ทำให้อาเม่ยทำหน้างอ แก้มพอง
"ท่านพี่ไม่รู้แล้ว ผู้ใดจะรู้"
มือใหญ่หยิกแก้มใส "ถามพระราชาสิ พลังของเขา เขาต้องรู้อยู่แล้ว"
อาเม่ยหันไปมองหน้าพระราชาที่ยังคงมีรอยยิ้มที่เปี่ยมเมตตา แต่กลับยังไม่ตอบคำถามนี้ หากชี้ให้แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยไปนั่งที่เวทีสูงเพียงเข่าที่ประดับด้วยผ้าปูสีขาว และแจกันดอกไม้งดงาม จากนั้นพระราชาฟารัคจึงประทับนั่งเยื้องมาทางด้านหลังของแม่ทัพเชมัล บ่งบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ในงานนี้ ทั้งยังเป็นผู้เรียกหาหัวหน้าผู้ใหญ่บ้าน นำขนมมงคลมาให้กับคู่บ่าวสาว

ไข่ต้มห่อด้วยหมูบดกับแป้งมีรสชาติดี ปกติทั่วไปจะใช้ไข่ไก่ฟองใหญ่ต้องตักกินมากกว่า 2 คำจึงหมด แต่ในงานมงคลจะใช้ไข่ไก่ฟองเล็กลง เพราะต้องตักกินให้หมดในคำเดียว
พระราชาฟารัคเคยเสวยไข่ไก่เช่นนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนแม่ทัพนาซิมผ่านงานสมรสมาแล้วครั้งหนึ่ง รู้ดีว่าแม้จะมีรสชาติอร่อย แต่ไข่ต้มก็ช่างติดคอ ทั้ง 2 คนจึงตั้งท่ารอชมอย่างตั้งใจ แต่น้องชายหันไปหาหัวหน้าองครักษ์รอม ขอน้ำชาดื่มกลั้วคอก่อน แล้วค่อยกินไข่ต้ม เสร็จแล้วจึงต่อด้วยขนมบัวลอยลูกใหญ่ครึ่งหนึ่งของไข่ต้ม แต่ครานี้ต้องกินทีเดียว 2 ลูก สีหน้ายามที่ต้องกลืนบัวลอยที่เหนียวเป็นพิเศษ ทำให้อาเม่ยยังต้องหัวเราะตามไปด้วย

มือเล็กๆ ช่วยลูบหลังให้กำลังใจฝ่ายเจ้าบ่าวที่กำลังทำหน้าที่ของคนที่กำลังถูกกลั่นแกล้ง
พอกลืนลงไปจนหมดก็ชี้ที่แก้มตัวเอง เพื่อขอรางวัลจากน้อง
อาเม่ยหน้าแดงจัดขณะที่จรดจมูกที่แก้มแม่ทัพเชมัล ท่ามกลางเสียงหัวเราะ และเสียงปรบมือชอบใจ

ขณะที่งานเลี้ยงดำเนินต่อไป แม่ทัพเชมัลยังต้องรับน้ำใจด้วยการดื่มสุราจากผู้ที่มาอวยพร โดยมีพระราชาฟารัค และแม่ทัพนาซิมเป็นผู้ควบคุมไม่ให้ดื่มมากเกินไป
"เชมัลไม่ค่อยดื่มเหล้า หากดื่มแล้วหลับไปเลย คงไม่เป็นไร แต่หากตื่นขึ้นมาแล้วไม่สบาย เม่ยจะต้องเหน็ดเหนื่อยแย่" พระราชารับสั่งขึ้น
"อ้อ ที่แท้ห่วงน้อง หาได้ห่วงข้าไม่" แม่ทัพเชมัลแกล้งทำตาขวางเย้าแหย่
"เป็นเช่นนั้น" พระราชาตอบอย่างจริงจัง แล้วหัวเราะเสียงดัง

ครู่หนึ่งอาเม่ยขอตัวลุกมาเข้าห้องน้ำ แล้วเดินมาหาต้าซันที่ลงมาพัก เปลี่ยนให้นักดนตรีอีกคนทำหน้าที่แทน
"พี่ใหญ่ดื่มกินอะไรหรือยัง"
"เรียบร้อยแล้ว" ต้าซันชี้ให้ดูขนมสีหวานในถ้วย "ขนมมงคลนี่ดีนะ สวยงามแล้วก็อร่อยมาก"
"พี่ใหญ่รู้เรื่องงานวันนี้ด้วยหรือ"
ต้าซันยิ้มแฉ่ง พยักหน้า "พระราชาทรงวางแผนไว้นานนับสัปดาห์แล้ว ถึงให้แม่ทัพเชมัลไปนั่นมานี่ เพราะถ้าให้อยู่ในวังเดี๋ยวจะรู้จนได้"
"ปิดบังกันได้" อาเม่ยกล่าวทั้งที่ยิ้มกว้างไม่ต่างจากพี่ชาย "เจอกันทุกวันแท้ๆ" ดวงตาสีแปลกมองไปที่แขกในงาน "เมื่อครู่ข้าเห็นแม่หญิงพริมด้วย"
"แม่หญิงเอาขนมมาให้ เจ้าจะกินไหม" ต้าซันทำท่าจะลุกไปเอาขนม แต่อาเม่ยจับข้อมือไว้
"ไม่หรอก เห็นว่านางมาด้วย อยากให้ท่านพูดคุยกับนางจะได้ไม่เหงา"
"โอ้ย...." ต้าซันทำเสียงสูง แล้วชี้ไปที่กลุ่มหญิงสาวด้านหนึ่งของลานบ้าน "อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ เขาน่ะแหละ ไม่มีทางเหงาหรอก" เมื่อมองตามมือไป ก็คิดว่าไม่น่าจะเหงา เพราะพริมมีเพื่อนหลายคน "ทีแรกข้ายังคิดว่า พวกท่านจะคบหากันเสียอีก"
ต้าซันกอดไหล่น้องชาย "พวกเราเป็นเพื่อนที่ดี มีความเป็นห่วงกัน แต่ไม่มีความคิดที่จะอยากใช้ชีวิตร่วมกัน เห็นว่า ตอนนี้นางคบหาอยู่กับหัวหน้านายช่างคนหนึ่ง"
อาเม่ยหันมาทำตาโตกับพี่ชาย พี่ชายจึงกล่าวต่อ "นางเป็นหญิงงาม ที่มีความรู้ และมีความมั่นใจ การคบหากับผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำเช่นนั้น ย่อมเหมาะสมอย่างยิ่ง"
"พี่ใหญ่...ไม่ได้รู้สึกอันใดใช่ไหม"
"รู้สึกดีไง เพื่อนมีคนรักที่ดี" ต้าซันมองหน้าน้องชาย "เจ้ารู้ดีว่า ใจของข้าอยู่ที่ไหน"
"แต่เขา....."
"ข้ารู้ เขาไม่มีวันที่จะเป็นของข้า เขาควบคุมกฎระเบียบเข้มงวดยิ่งกว่าผู้ใด ยิ่งกว่าพระราชาฟารัคเสียอีก" ต้าซันโบกมือ "ไม่พูดเรื่องที่ทำให้หดหู่หัวใจสิ วันนี้คือวันดีของเจ้า"
"อันใดกัน" อาเม่ยยิ้มเขิน "ไม่อยากคุยก็ไม่อยากคุย ข้าเพียงคิดว่า หากท่านจะมองคนอื่นบ้าง...."
"มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกอาเม่ย เพราะเราอาจพอใจใครสักคนหรือหลายคนที่หน้าตา แต่เราจะรักคนที่ดีกับเราเสมอ ต่อให้เขาดีกับเราเพียงเพราะหน้าที่เราก็ย่อมยินดี และหากดีกับเราด้วยใจจริงนั่นก็ยิ่งทำให้เราไปไหนไม่เป็น"
อาเม่ยกอดพี่ชายไว้ ดวงตาสีแปลกมองไปทางด้านหลัง เห็นคนผู้หนึ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะอยู่ในที่นี้
แต่การจะเข้าไปพูดคุยด้วยกลับรู้สึกกังวล จะหันไปชวนแม่ทัพเชมัลก็ไม่เหมาะ ชวนต้าซันไปด้วยก็ไม่ดี อาเม่ยจึงเดินไปหาราชองครักษ์ฮูดา ชวนให้เดินไปด้วยกัน

ระหว่างที่เดินไปด้วยกัน อาเม่ยถามเอ่ยขึ้น "ยินดีมากที่ท่านมาด้วย"
"ข้าย่อมมาอยู่แล้ว เพราะนี่คือวันสำคัญของแม่ทัพเชมัล" ราชองครักษ์ฮูดาตอบด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความมั่นใจเหมือนเคย ทำให้อาเม่ยต้องสอดแขนคล้องไว้ขณะที่เดินไปด้วยกัน
"ขอบคุณนะ"
"เด็กเพี้ยน" คำต่อว่าช่างเต็มไปด้วยความยินดีจากใจ "แม่ทัพเชมัลต้องปวดหัวเพราะเจ้าวันละหลายๆ รอบแน่"
อาเม่ยทำปากยื่นเมื่อพยักหน้า "ใช่เลย"
"ชายชาตรีมีบ้านไว้เป็นที่พักหลังจากที่ต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจไปกับผู้คนรอบตัว หากกลับมาบ้านแล้วยังต้องมาทุ่มแรงกายและใจกับคนในบ้าน ไม่ต่างจากภายนอกบ้าน เขาย่อมแสวงหาบ้านหลังใหม่"
"เป็นคำเปรียบเปรยที่ปวดใจจริง"
"แต่มันคือความจริง เขามีปัญหาอยู่มากแล้ว  ภาระก็หนัก หากกลับมาแล้วมาพบเรื่องทุกข์ใจอีก  ถามเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร"
อาเม่ยพยักหน้ายอมรับ
"ทำให้บ้านเป็นดั่งที่ซึ่งเขาอยากกลับมาเสมอ เท่านั้นเอง"
"ท่านสอนแม่หญิงของท่านเช่นนี้หรือไม่"
"ไม่ต้องสอน แม่หญิงของข้าเป็นหญิงฉลาด" ราชองครักษ์ฮูดา ชี้ไปทางแม่หญิงที่เดินตามมาในระยะที่ยังได้ยินการสนทนา "เขารู้ดีว่า การเสแสร้งทำเป็นผู้ตามน่ะต้องทำอย่างไร"
มีเสียงหัวเราะเบาๆ จากผู้ที่เดินตามมา

ยังมิทันที่ทั้งหมดจะไปถึง แม่ทัพนาซิมที่เดินมาจากอีกด้านหนึ่งของลานหน้าบ้านกลับเดินเข้าไปทักทายผู้ที่ทุกคนกำลังเดินไปหาเสียก่อน ทั้งสามคนจึงหยุดรออยู่ในที่ห่างไกล
สีหน้าท่าทางของคู่สนทนาบ่งบอกว่า แม่ทัพนาซิมมีท่าทียินดีแล้วแปรเปลี่ยนเป็นความผิดหวัง ขณะที่อีกฝ่ายวางตนเป็นผู้น้อย และช่างห่างเหิน

"มีแต่ความรักที่โง่งม จึงถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า"  ราชองครักษ์ฮูดากล่าวขึ้น
"มีทางแก้ไขไหม" อาเม่ยถาม
ราชองครักษ์ฮูดา กล่าวด้วยความมั่นใจ "มีสิ ทุกคนรู้ว่าต้องทำอย่างไร ทั้งแม่ทัพนาซิมยังมีฝีมือเหนือกว่าข้า จะไม่รู้ได้อย่างไร ติดที่มัวแต่สงสารตัวเอง ปล่อยให้ใจตนเองจมอยู่ในความรักที่มืดบอด แรกนั้นถูกเวทย์ดำทำร้ายก็จริง แต่มันคลายลงตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาหลังทำร้ายเก้า และแม่ทัพเชมัลก็รักษาให้เขาอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ะคือทำร้ายตนเอง"
"เหมือนข้า...."
"ใช่" ราชองครักษ์ฮูดากล่าวโดยที่ไม่ได้หันมามอง "แต่ไม่ทั้งหมด แม่ทัพมิได้อธิบายให้เจ้าฟังอีกรึ"
"อธิบายแล้ว แต่บางทีข้าก็ยังอดระแวงมิได้ว่า ยังมีอะไรที่หลงลืมไปอีก"
"ลืมแล้วเป็นอย่างไร" ราชองครักษ์ฮูดาใช้นิ้วหัวแม่มือชี้ไปที่ภริยาที่อยู่ใกล้ๆ "นั่นน่ะจำได้ ว่าข้าเคยให้ดอกไม้นางตอน 6 ขวบ ดูแล้วข้าน่าจะสัก 14 หรือ 15 ปี แต่ข้าก็ไม่เห็นว่าจะจำได้ แล้วไง สำคัญที่วันนี้พวกเราอยู่ด้วยกันต่างหาก"
แต่แรกนั้นแม่หญิงของราชองครักษ์ดูท่าจะขำกับท่าทีมั่นใจสุดโต่งของผู้เป็นสามี แต่ตอนท้ายก็กลับกลายเป็นยิ้มเขิน
"ก็แค่อยู่กับปัจจุบัน แม่ทัพนาซิมก็เช่นกันเขาต้องยอมรับที่จะอยู่กับปัจจุบัน"

ทั้ง 3 คนรอจนแม่ทัพนาซิมกลับเข้าไปในงาน อาเม่ยจึงเข้าไปหาผู้ที่ยืนรออยู่นอกรั้วบ้าน

"ต้นห้องเก้า"

ต้นห้องเก้ามองเห็นมาแต่ไกลว่าทั้ง 3 คนเดินเข้ามาหา แต่รู้สึกวางใจเมื่อเห็นว่าราชองครักษ์ฮูดาตามมาด้วย นอกจากนี้อาเม่ยก็ยังยกข้อมือให้ดูว่า ยังสวมกำไลโลหะไว้

"เจ้าสบายดี" ต้นห้องเก้าทักถาม
"สบายดี" ดวงตาสีแปลกมองต้นห้องเก้าที่มีความเปลี่ยนไปในลักษณะเดียวกับราชองครักษ์ฮูดา นั่นคือมีความมั่นใจมากขึ้น และเข้มแข็งขึ้น อันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับพระราชาฟารัคทุกคน "ข้าติดค้างท่านหลายเรื่อง"
"มิได้" ต้นห้องเก้ารีบยกมือ "ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นโดยมีเหตุผลของมันเอง และเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว"
อาเม่ยพยักหน้า สังเกตได้ว่า ต้นห้องเก้ามิได้เป็นคนที่เอาแต่ก้มหน้าอีกต่อไป
"จะอย่างไรข้าก็ควรกล่าวคำขอโทษ ทั้งที่ท่านมีเมตตาต่อข้ามาโดยตลอด แต่ข้าก็ยังคงหึงหวงถึงขั้นทำร้ายท่าน"
"มิเป็นไร เรื่องมันนานมาแล้ว แล้วเจ้ายังต้องสวมกำไลนี้ต่อไปอีกนานเท่าใด" ต้นห้องเก้าเปลี่ยนเรื่อง
อาเม่ยส่ายหน้า หันมาถามราชองครักษ์ฮูดา ที่เป็นคนทำกำไลโลหะอันแรกให้ใส่
"จนกว่าจะควบคุมไฟได้ดีขึ้นกระมัง" ราชองครักษ์ฮูดาตอบ แต่เมื่อลงท้ายประโยคด้วยความไม่แน่ใจ ก็พาอีก 3 คนที่เป็นผู้ฟังพลอยไม่แน่ใจตามไปด้วย
"เจ้าชอบไปนั่นไปนี่ ต้องอยู่กับบ้านตลอดเวลา คงเบื่อ" ต้นห้องเก้าคาดเดา "ท่านแม่ทัพก็มีงานยุ่งมากจริงๆ"

นั่นเพราะเวลาที่อาเม่ยจะไปข้างนอก มักจะต้องมีแม่ทัพเชมัลตามไปด้วยเสมอ

อาเม่ยมองไปทางอื่นเมื่อถามต่อ "ทราบว่าท่านปฏิเสธแม่ทัพนาซิมไปเด็ดขาดแล้ว"
"หลายครั้งแล้ว" ราชองครักษ์ฮูดาเป็นคนตอบ ขณะที่ต้นห้องเก้าเพียงยิ้มเหนื่อยๆ
"ข้าเข้าใจว่า ตราบใดที่เขายังไม่คิดจะคบหากับใครใหม่ เรื่องนี้มันก็จะยังคงอยู่ต่อไป"
"แล้ว.....เหตุใดไม่บอกเขาว่าท่าน..."
อาเม่ยยังกล่าวไม่จบ ทั้งต้นห้องเก้าและราชองครักษ์ฮูดาก็พูดขึ้นพร้อมกัน "พูดไม่ได้"
"อะ..." อาเม่ยทำหน้าตาเหรอหรา
บรรยากาศการสนทนาคล้ายในวันเก่าก่อนเข้าไปทุกขณะ
"ข้าขอเลยนะเม่ย อย่าได้กล่าวออกไป..." ต้นห้องเก้าร้องขอ
"แล้วท่านมีความสุขดีแล้วหรือ" อาเม่ยสงสัย
รอยยิ้มอ่อนโยนของต้นห้องเก้ายังคงเหมือนเดิม "ข้ามีความสุขดี"
"แต่ถ้าเรื่องแพร่กระจายไป ต้องหมดสุขแน่" ราชองครักษ์ฮูดาหันมาขู่
อาเม่ยได้แต่ทำปากยื่น "ข้าไม่ใช่คนปากมากนะ"
ราชองครักษ์ฮูดายังสงสัยหันมาถามอาเม่ย "เจ้ารู้ได้อย่างไร"
"ที่นี่มีทั้งราชองครักษ์และองครักษ์ ก่อนหน้านี้มาเพียงครึ่งหนึ่งข้าก็แทบจะขาดใจตายไปแล้ว แต่วันนี้ ข้ากลับรู้สึกหายใจโล่งมาก ไม่มีแรงกดดันใดๆ พอมองออกมา เห็นท่านอยู่ด้วย จึงนึกถึงคำของท่านปู่ทวดเล็ก ที่ว่า พระราชาฟารัค จำต้องมีพลังสายอ่อนโยนเสริมเข้ามาอีกคนหนึ่ง"

ทั้งหมดต่างพยักหน้าเมื่อเข้าใจเรื่องราว

"หลายคนก็มีความรักที่กล่าวออกไปมิได้นี่นะ" อาเม่ยกล่าวต่อ
ราชองครักษ์ฮูดา ที่ไวต่อเรื่องนี้เป็นพิเศษถามทันที "แสดงว่ายังมีใครที่มีความรักที่บอกกล่าวมิได้อีกใช่หรือไม่"
"ไม่ๆ ไม่มี" อาเม่ยรีบโบกมือ พลางก้าวถอยหลัง
ขณะที่ราชองครักษ์ฮูดากอดรัดคอคนตัวเล็กไว้ ต้นห้องเก้าก็กล่าวขึ้น "อย่าได้เที่ยวพูดไปนะเม่ย เพราะมันจะทำให้ทุกคนลำบากใจ"
"รู้หรอกน่า" อาเม่ยกล่าวอย่างยากลำบาก
"ข้าถึงบอกไง ว่าอย่าให้เจ้าลูกไฟนี่รู้เรื่องราว ช่างซักช่างถามช่างเจรจาเสียเหลือเกิน"
โต้เถียงกันอีกคำสองคำ อาเม่ยก็ชักชวนให้ต้นห้องเก้าเข้ามาในบ้าน
"ทุกคนล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ข้าเองเวลานี้ก็ไม่ได้คิดหึงหวงไร้เหตุผล เมื่อพบกับท่านอีก ท่านก็...เข้ามาร่วมงานเลี้ยงเถิด"

ดังนั้นเมื่อราชองครักษ์ฮูดา อาเม่ย และต้นห้องเก้า กลับเข้ามาในงานเลี้ยงอีกครั้ง บรรดาผู้ใช้เวทย์ทุกคนล้วนจับตามอง แต่เมื่อไม่เห็นว่ามีความผิดปกติใด ทั้งอาเม่ยยังเดินกลับไปเคียงข้างแม่ทัพเชมัลอีกครั้งด้วยรอยยิ้มกว้าง ทุกคนก็คลายความกังวลลง

ดวงตาสีแปลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมองผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยง
ทุกผู้คนล้วนมีความสุขกับชีวิตในปัจจุบัน
สุขที่เป็นที่รัก
สุขเมื่อได้รับความรัก
และสุขกับการเป็นผู้แอบรัก

แม่ทัพเชมัลมิได้จับมือ หากแต่โอบแขนพาดด้านหลังอ้อมมาจับไหล่ไว้ แรงน้ำหนักมือย้ำถึงความมั่นคง และหนักแน่น
ทุกผู้คนล้วนมองหาผู้ที่สามารถมอบรักอย่างหมดหัวใจ และรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเรา มองข้ามความผิดพลาดทั้งมวล
แต่เราจะหาคนผู้นั้นเจอได้อย่างไร หากเราไม่เป็นฝ่ายเริ่มเรียนรู้ ที่จะรักผู้อื่นจนหมดหัวใจ รักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา และมองข้ามความผิดพลาดทั้งมวลของเขาเช่นกัน
ยิ่งมอบให้ไปมากเท่าใด กลับได้รับกลับมามากกว่าเสมอ

ดวงตาสีเข้มหันมามองคนที่กำลังยิ้มกว้างให้กับทุกผู้คนที่อยู่ในงาน วันเวลาที่ชะล้างความกังวล และความหม่นหมองทั้งมวล
ริมฝีปากหนากดจูบที่หน้าผากสวย

...คำขอเพียงข้อเดียวของพี่ คือขอให้น้องมีรอยยิ้มเช่นนี้ตลอดไป..

อาเม่ยเงยหน้าขึ้นรับจูบหวาน

...ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างท่านพี่ ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว..

ไม่มีความกังวลเรื่องในวันพรุ่งนี้ เพราะขอเพียงแค่วันนี้มีเราก็เพียงพอ

*-*จบ Just You*-*

นี่คือตอนที่ตั้งใจจะให้เป็นตอนจบบริบูรณ์ แต่หลังจากที่อ่านความเห็นของคุณ ก็รู้สึกว่ามีเรื่องที่อยากเล่าให้ฟังอยู่อีก แต่ช่วงนี้คือช่วงเวลาที่วุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนพิเศษตอนต่อไปจะมาเมื่อไหร่ จึงไม่สามารถบอกได้ แต่ที่คุยกัน ก็คิดว่าจะมาเรื่อยๆ จนกว่าเรื่องใหม่จะ "แน่น" กว่านี้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้คุณลืมเราไปเสียก่อน แม่ทัพกับอาเม่ย พระราชากับอาเก้า และบรรดาแม่ทัพ ราชองครักษ์ และองครักษ์ก็คงจะแวะมาหาคุณอยู่เรื่อยๆ

ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณทุกความเห็น ทุกกำลังใจ ทุกคำท้วงติงและข้อเสนอแนะครับ

ไจฟ์กับที

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 09-02-2016 21:01:46
สุดท้ายแล้วทุกคนก็จะมีความสุขกับสื่งที่เลือก ทางที่เลือก ไม่ว่าจะได้รัก ถูกรัก หรือแอบรัก ถ้าทำแล้วมีความสุขก็จงทำ ชอบตอนนี้มาก ความรักถึงจะเคยทำร้ายใคร สุดท้ายความรักก็จะเยียวยา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-02-2016 21:28:40
ยินดีกับงานแต่งของพี่กับน้อง :L1:

รออ่านตอนพิเศษจากคุณไจฟ์กับน้องที ต่อไปเรื่อยๆ :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-02-2016 22:03:51
ว้าวๆ จบสวย ถูกใจมากค่ะ
แต่ยังอยากให้ต้าซันมีคู่นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 09-02-2016 22:53:21
 :L1:

ยิ่งอ่านตอนพิเศษยิ่งอยากรู้เรื่องคู่ของต้าซัน ตอนเจอกันครั้งเเรกของคู่ฮูด้า คู่ของเก้า ...อิอิ...รอนะคะ ขอบคุณค๊าาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 09-02-2016 22:56:30
เย้ จบแบบนี้ก็ปลื้มปริ่มนะ. :) อย่าว่าแต่เชมัลเอาแต่ใจสิ  ท่านฟารัคก็ใช่ย่อยเสียที่ไหนล่ะ 55 
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 09-02-2016 23:24:11
ต้าซัน~~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-02-2016 04:18:07
สันติสุขจงบังเกิด  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-02-2016 07:56:33
อ่านด้วยรอยยิ้ม :) ขอบคุณนะคะ ไว้มาอีกน้า~
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 10-02-2016 08:22:25
ขอบคุณมากค่ะ อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าเนื้อเรื่องสมบูรณ์มากขึ้น อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกดีที่ในที่สุด อาเม่ยและต้นห้องเก้าก็สามารถกลับมาพูดคุยสนิทสนมกันได้เหมือนก่อน รอตอนพิเศษต่อไป เผื่อจะมีเรื่องดีๆของต้าซันและแม่ทัพนาซิมนะคะ อยากให้ทุกคนในเรื่องมีความสุข 5555+
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-02-2016 08:46:28
ปริ่มมมมมมมมมมมมมมมม
ถึงจะจบบริบูรณ์แล้ว แต่ยังรออ่านตอนพิเศษเรื่อยๆ อยู่นะคะ
เรื่องนี้แฟนซี ครบรส มากๆ
ขอบคุณคุณไจฟ์น้องทีสำหรับนิยายสนุกๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-02-2016 09:36:29
ใช้ถ้อยคำที่อ่อนหวานมาก "พี่กับน้อง"  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-02-2016 14:23:23
สงสารต้าซันและแม่ทัพนาซิม แต่ก็นะในชีวิตคงไม่มีใครสมหวังเรื่องรักทุกคนหรอก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 10-02-2016 15:10:42
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

มิตรภาพระหว่างเพื่อน ระหว่างพี่น้อง มันงดงามดีจัง...
ถึงจะขัดแย้ง จะแกล้งกันบ้าง แต่ในที่สุดสามารถกลับมาพูดคุยดีๆ กันได้
เฝ้ารอตอนต่อไป และเรื่องใหม่ที่จะตามมานะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 10-02-2016 22:51:31
อ่านแล้วยิ้มเลยยย ดีใจที่เม่ยกับเก้ากลับมาคุยกันดีๆ ได้
มีตอนพิเศษมาบ่อยๆได้นะ เราชอบบบบ โดยเฉพาะเรื่องต้นห้องเก้า อิอิ :-)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 11-02-2016 00:01:34
เรารู้สึกว่าตอนนี้ พออ่านแล้วทุกอย่างมันจบไม่มีอะไรค้างคา แบบเหมาะที่จะเป็นตอนจบอย่างแท้จริง จริงๆเลยค่ะ (แต่เราก็ยังอยากอ่านตอนพิเศษอยู่เรื่อยๆนะ 555 ออกแนวโลภ)

ดีใจที่อาเม่ยปล่อยวางเรื่องเก้าได้ ตอนที่ฮูดา อาเม่ย เก้าพูดคุยกัน เรารู้สึกได้ถึงมิตรภาพที่ทุกคนมีให้กัน

ตอนที่พระราชาฟารัคอวยพรให้เม่ยกะพี่เช แบบว่าพระราชาต้องเป็นพี่ที่รักน้องมากๆแน่เลยค่ะ คำพูดที่สื่อออกมา ทำให่รู้ว่าฟารัครู้จักพี่เชดีขนาดไหน และยินดีที่ทั้งคู่มีความสุข

แต่ที่คาดไม่ถึงคือฮูดา ตอนที่แซวเมียตัวเองนี่ขำมาก น่ารักดีค่ะ เพราะตั้งแต่อ่านมารู้สึกว่าฮูดาไม่ค่อยแสดงด้านนี้ออกมาสักเท่าไหร่ รวมถึงตอนที่หยอกอาเม่ยกะเก้าก็น่ารักดี

เขียนซะยาว 555 ก็แค่อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้นะคะ แม้ว่าคุณไจฟ์กะน้องทีจะลงเรื่องใหม่ แต่ถ้าจะให้เลิศ ช่วยมาลงตอนพิเศษอีกเยอะๆเลยนะคะ 555 บอกแล้วว่าเราโลภ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-02-2016 08:32:43
อยากไปร่วมงานเลี้ยง
อยากไป ๆ ๆ

อยากไปเห็นเก้า
หลงรักเก้า
#เขี่ยพระราชาไปไกล ๆ

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-02-2016 08:36:09
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 11-02-2016 09:36:01
ชอบฮูดาตอนอยู่กับอาเม่ยนะ เหมือนคู่กัดกันดี  :laugh:
ตอนพิเศษมาเรื่อย ๆ เราก็จะอ่านไปเรื่อย ๆ แล้วก็รอเรื่องใหม่ด้วย :mew1:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-02-2016 23:45:15
ชองความละมุนละไมของเรื่องมาก
แม้แต่รบกัน ยังรู้สึกถึงความนุ่มนวลแบบแปลกๆ
ขอบคุณค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 12-02-2016 11:42:38
หูยยยยย ตอนนี้เป็นอะไรที่ละมุนมากๆๆๆ อบอุ่นอย่างที่สุดด้วย อ่านแล้วยิ้มตามทั้งตอนเลย

จะรอติดตามอ่านตอนพิเศษเรื่อยๆ นะคะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ มาให้ได้อ่านกันค่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 12-02-2016 20:41:56
เห็นด้วยกับน้องทีเลยค่ะ ว่าตอนนี้เป็นตอนจบที่นับว่าสมบูรณ์ของเรื่องแล้ว เพราะปมระหว่างเก้ากับอาเม่ยได้ถูกคลี่คลายลงอย่างกระจ่างแจ้งเสียที ไม่ต้องมีอะไรคาราคาซังเหลือไว้อีก

ส่วนเก้านั้น ก็เป็นอย่างที่หวังไว้ คือได้ลงเอยกับพระราชา แม้ว่าการลงเอยนี้ต้องปกปิดเป็นความลับ แต่ก็นับว่าเก้าได้วางหัวใจไว้กับใครสักคนเสียที 

ขอบคุณมากๆ นะคะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 13-02-2016 13:49:11
ขอบคุณมากค่ะ

ยินดีมากมายที่ทุกตัวละครจะแวะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว

 :L2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 15-02-2016 20:49:13
สนุกมากค่ะ

**แอบหวังให้ต้าซันมีความสุขบ้าง
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-02-2016 23:41:41
มารอตอนพิเศษตอนต่อไป :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-02-2016 08:24:37
....ให้รักนำพา สุขที่สุด  :mew1: และจะรอคอยให้ทุกคู่มาอีกเรื่อยๆ เช่นเดิม  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Just You <3 หน้า46 (090259)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 17-02-2016 21:21:24
มาตามหาตอนพิเศษ อิๆ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 18-02-2016 11:15:57
ตอนพิเศษ Brothers

พระราชาฟารัคแห่งเมืองวัน เป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นผู้ที่มีความจริงจัง และเมื่อตัดสินใจแล้วจะไม่เปลี่ยนพระทัยไม่ว่าจะเกิดเหตุใดขึ้นก็ตาม
นั่นเป็นคำกล่าวสรุปที่ตรงข้ามกับความจริงอย่างสิ้นเชิง!
เพราะแท้ที่จริงแล้ว พระราชาฟารัคมองทุกสิ่งเป็นเกมการวางแผน วางพระองค์ไว้ในฐานะผู้ควบคุม แล้วก็รอชมว่าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไรด้วยความสนุกสนานอย่างยิ่ง
แต่หากเป็นเรื่องของผู้ใกล้ชิด พระองค์จะเห็นเป็นเรื่องสำคัญกว่าสิ่งใด และยิ่งเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ การตัดสินพระทัยกลับห่วงหน้าพะวงหลังลังเลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของแม่ทัพเชมัล พระอนุชาองค์เล็ก
ก็ทั้งที่มีทัพเมืองเหนือคุกคาม แทนที่จะออกคำสั่งบังคับให้แม่ทัพเชมัลเร่งลงมือ ก็กลับรีรอถ่วงเวลา ครั้นพอไปหาแม่ทัพเชมัลจนถึงเกาะห่างไกล ก็ยังไม่ขอให้กลับมาพร้อมกัน เมื่อแม่ทัพกลับมาแล้วก็ยังพระทัยเย็น รอให้แม่ทัพเชมัลคลี่คลายความกังวลใจ ไปตามหา ทำความเข้าใจกับอาเม่ยอีกนานนับเดือน
นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงการจัดการกับพระชายาทั้งที่รู้ดีว่ากระทำความผิดร้ายแรง
และต่อให้สามารถใช้พระราชอำนาจบังคับเจ้าชายฮัมซา แต่ก็ยังเลือกที่จะตามใจ ยอมให้ติดตามพระปัยกาผู้เฒ่าดินเดินทางและฝึกวิชา ทั้งที่ในพระทัยมีแต่ความผิดหวัง

เมื่อพระสนมองค์แรกให้กำเนิดพระโอรส สิ่งแรกที่พระราชาฟารัคทำก็คือ ให้พระชายาและพระสนมองค์รองที่กำลังตั้งครรภ์อยู่เสด็จไปดูพระโอรสก่อน จากนั้นพระองค์จึงเสด็จไปเยี่ยม  และรับสั่งแรกเมื่ออุ้มพระโอรสแรกเกิดในอ้อมแขนก็คือ
"นี่คือบุตรของพวกเรา ขอให้พระชายาสั่งสอนอบรมให้เป็นคนดี เช่นเดียวกับที่เลี้ยงดูฮัมซา ให้เป็นผู้ที่มีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ" จากนั้นจึงเป็นคำอวยพรของผู้ครองเวทย์ขาว ที่ทุกคำกล่าวคือวาจาศักดิ์สิทธิ์

รับสั่งนี้คือการพระราชทานพระโอรสที่กำเนิดจากพระสนมผู้ได้รับพระราชทานจากเมืองบาสก์ให้กับพระชายา ผู้ที่ทุกคนต่างทราบดีว่า เคยมุ่งร้ายต่อพระราชาฟารัคอย่างไร
ความไว้วางพระทัยของพระราชาฟารัค ที่มีต่อพระชายากลับทำให้พระชายารู้สึกคลางแคลงใจ ในแบบของคนที่รู้ตัวดีว่าสิ่งที่ทำลงไปมิใช่เรื่องดี

เมื่อพระราชดำเนินกลับออกมาจากพระตำหนักหลังเล็กด้วยกัน พระชายาจึงขอเวลาส่วนพระองค์ในการพูดคุย พระสนมองค์รองจึงถวายการเคารพแล้วเสด็จแยกไปก่อน
"ฮัมซาติดต่อมาถึงฝ่าบาทบ้างหรือไม่"
นอกจากเรื่องของพระโอรสฮัมซาแล้ว ทั้งสองพระองค์ก็แทบไม่รู้ว่าจะสนทนากันด้วยเรื่องใดอีก

หัตถ์หนาที่จับหัตถ์ผอมบางยังคงสร้างความอบอุ่นให้มิเปลี่ยนแปลง "อย่าใช้เวทย์ขาวกับหม่อมฉัน" สุรเสียงสั่นเครือเมื่อกล่าวคำ
"เจ้าเป็นผู้ที่สมควรได้รับการรักษามากที่สุด"
"ฝ่าบาทเอาชนะความเกลียดชังที่หม่อมฉันมีต่อฝ่าบาทไม่ได้หรอก หม่อมฉันเพียงอยากรู้เรื่องลูก"
พระราชาฟารัคเพียงแย้มสรวลอ่อนโยน "ก็มิเป็นไร" จากนั้นจึงรับสั่งต่อ "ฮัมซาไม่ได้ติดต่อพี่มานานกว่า 1 เดือนแล้ว"
พระชายาพยักหน้า ขณะที่พยายามจะดึงหัตถ์ออก แต่พระราชาฟารัครั้งไว้
"พูดคุยกันเพียงมิกี่คำ ก็จะกลับไปแล้วหรือ"
พระชายาหันไปมองทางอื่น พระราชาจึงชวนสนทนาต่อ
"เป็นห่วงฮัมซาหรือ"
พระชายามิได้หันกลับมามอง "ที่ฮัมซาตัดสินใจเช่นนั้น ก็เพราะหม่อมฉันเอง"
"เขากล่าวโทษที่พี่ไม่เด็ดขาด เราต่างก็เป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้ความ" มือที่จับอยู่กระชับแน่นขึ้น "ที่ฮัมซาเป็นคนดี มีความตั้งใจที่ดีก็เพราะเจ้าเป็นผู้เลี้ยงดู พี่จึงเชื่อว่า เจ้าจะดูแลลูกของพวกเราอีกคนหนึ่งได้ดีเช่นเดียวกัน"
พระชายาหันมามองพระราชาฟารัคเต็มตา คำกล่าวยอมรับตรงกับใจ มิใช่เพราะเวทย์ใดๆ "ที่เขาเป็นคนดีนั่นเพราะฝ่าบาทมิใช่หม่อมฉัน ฝ่าบาทรู้ดีว่า หม่อมฉันสอนให้เขาแข็งแกร่งเหนือกว่าเชมัล เพราะระแวงว่าฝ่าบาทจะมอบบัลลังก์ให้เชมัล สุดท้ายฮัมซาก็เลือกที่จะหันหลังให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นการตัดสินใจเดินออกจากคำสอนของหม่อมฉันอย่างเด็ดขาด" ดวงเนตรที่มองมาเต็มไปด้วยความปวดร้าว "จนถึงตอนนี้ หม่อมฉันก็ยังเชื่อมั่นว่า เมื่อเทียบกับฝ่าบาทแล้ว หม่อมฉันมีความสามารถในการตัดสินใจดีกว่าฝ่าบาท และหม่อมฉันจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ฮัมซากลับมาเป็นรัชทายาท เมื่อถึงตอนนั้น หม่อมฉันจะมิได้อยู่แต่เพียงส่วนในอีกต่อไป"
"เจ้าบังคับฮัมซาไม่ได้หรอก"
"ได้สิเพคะ"
"เราเป็นพ่อแม่ของเขา ให้กำเนิดเขาก็จริง แต่มิใช่เจ้าของชีวิต"

พระสุรเสียงอ่อนโยน เนิบช้า สะกดความร้อนที่แผดเผาใจ จนคล้ายจะร่ำไห้อยู่ทุกขณะ แต่จู่ๆ ความรู้สึกนั้นก็จางลง เมื่อหันไปมองตามพระเนตรของพระราชาฟารัค ที่หันไปยิ้มทักทายแม่ทัพเชมัล แม่ทัพนาซิมและเจ้าชายน้อยดาริม ที่เพิ่งเดินผ่านประตูเขตพระราชฐานส่วนใน
ทั้งสามคนต่างช่วยกันถือกล่องของขวัญมากมายมาด้วย คาดว่าจะนำมารับขวัญพระโอรสที่เพิ่งถือกำเนิด

"เชมัลกับนาซิมมารับขวัญหลาน เจ้าพาพวกเขาไปรับลูกเถิด"
"แล้วฝ่าบาทเล่าเพคะ"
"ที่นี่คือส่วนใน เป็นเขตปกครองของเจ้ามิใช่หรือ"
หยาดน้ำตาเอ่อท่วมดวงเนตร "หม่อมฉันเกลียดฝ่าบาทยิ่งนัก"
มืออบอุ่นเช็ดน้ำตาให้ "มิเป็นไร ข้าเข้าใจ"

เมื่อแม่ทัพเชมัลและนาซิม เดินเข้ามาใกล้พระราชาก็มีรับสั่งให้พระชายานำทั้งสามคนเข้าไปในพระตำหนัก ส่วนพระองค์เองกลับเดินตามรั้งท้าย
การเยี่ยมเยียนใช้เวลาเพียงชั่วครู่  ทั้งหมดก็กลับออกมาเพื่อให้พระสนมและพระโอรสพักผ่อน

เมื่อประทับนั่งที่ศาลาในอุทยาน มหาดเล็กก็ถวายน้ำชาอุ่นๆ
"ยังคิดว่านาซิมจะมาถึงพรุ่งนี้เสียอีก" พระราชารับสั่งพลางวางถ้วยชาลง
"คิดไว้ว่าจะมาอยู่กับลูกสักวันหนึ่งก่อนแล้วถวายของขวัญไว้ แต่พอมาถึงที่ค่ายทหาร เชมัลบอกว่าคลอดแล้ว กำลังจะเข้าวัง ก็เลยแวะไปรับดาริมแล้วมาพร้อมกัน"
"อ้าว ยังมิได้พักเลยสินะ"
"ได้พักที่ค่ายทหารแล้ว"
"คราวนี้พ่อลูกจะพากันไปเที่ยวที่ใด"
ครานี้ผู้ที่ตอบคือเจ้าชายน้อยดาริม "ไปน้ำตกนอกเมืองขอรับ ท่านลาทีฟเคยพาลาทีฟากับกระหม่อมไปพักผ่อนมาครั้งหนึ่งแล้ว"
"ครานี้ก็เลยจะไปกันสองคนพ่อลูกสินะ เจ้านำทางพ่อได้แล้วหรือ"
เจ้าชายน้อยดาริมพยักหน้าอย่างมั่นใจ
"เก่งจริง อีกไม่นานก็คงปล่อยให้ออกไปผจญภัยได้แล้ว"
เมื่อพระราชารับสั่งถึงเรื่องการผจญภัยทั้ง 3 คนพี่น้องต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ทำให้เจ้าชายน้อยดาริมสนใจซักถาม เรื่องเล่าส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่เหล่าราชองครักษ์ที่ทำหน้าที่อยู่โดยรอบ
 
เมื่อพระราชาฟารัคคือผู้วางแผน แม่ทัพนาซิมคือผู้ทำหน้าที่เฝ้าระวังและคอยเสริมแม่ทัพเชมัลที่เป็นผู้ฝ่ากับดักเข้าไปจัดการ

องครักษ์ซันคนอารมณ์ดีหันไปกระซิบกับราชองครักษ์มีอาเบาๆ
"เป็นอุปนิสัยติดตัวยากที่จะแก้ไขจริงๆ"
ราชองครักษ์มีอาที่ปกติเป็นคนยิ้มยากยังอดไม่ได้ที่จะเห็นพ้อง

ถึงยามบ่าย หัวหน้าต้นห้องอามีนเข้ามาทูลถามว่าจะรับเครื่องเสวยที่ใด พระราชาฟารัคจึงชักชวนแม่ทัพทั้ง 2 คนกลับไปที่พระตำหนักหลังใหญ่ด้วยกัน แต่แม่ทัพนาซิมขอตัวเพราะต้องกลับไปเตรียมตัวพาเจ้าชายน้อยดาริมออกเดินทาง ส่วนแม่ทัพเชมัลก็ต้องการกลับไปกินอาหารค่ำกับอาเม่ย
แม่ทัพนาซิมหันไปเรียกนางข้าหลวงพี่เลี้ยงที่ดูแลเจ้าชายดาริม ช่วยพาเจ้าชายออกไปรอด้านนอก เพราะตนเองยังมีเรื่องที่ต้องการทูลถามพระราชาฟารัค และแม่ทัพเชมัลก่อน
เมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว บรรดาราชองครักษ์ฺ และองครักษ์ ถึงเดินห่างออกมาอีกหลายก้าว

"ข้ารู้ว่า ข้าลุ่มหลงงมงายมิเลิกรา เพียงแต่มีเรื่องที่สงสัย" แม่ทัพนาซิมเริ่มเรื่อง "เมื่อครู่ตอนที่ไปหาเชมัลที่ค่ายทหาร ข้าพบอาเก้ายังทำงานหนังสืออยู่ที่นั่น แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไป ที่จริงเขาก็ดูต่างจากก่อนหน้านี้ แต่ครานี้กลับดูคล้าย.....เขากำลังมีความรัก"
แม่ทัพเชมัลเพียงเลิกคิ้วขึ้นสูง สีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าเป็นคนนอกอย่างชัดเจน ขณะที่พระราชาฟารัคขยับพระองค์นั่งตัวตรง

แม่ทัพนาซิมมองพระราชาฟารัคแล้วหันไปมองแม่ทัพเชมัล จากนั้นก็กลับมาที่พระราชาฟารัคอีกครั้ง
ดวงตาที่คล้ายดูหมิ่นผู้อื่นอยู่เสมอแต่เวลานี้กลับแดงก่ำ เมื่อต้องสะกดความรู้สึกผิดหวังที่ท่วมหัวใจ

"เห็นเขายังทำงานให้กับเชมัล คิดว่าเพราะว่ายังมีใจให้เชมัล มิคิดว่าจะเป็นฝ่าบาท"
"นาซิม" พระราชารับสั่งด้วยความรู้สึกผิดเช่นกัน
แม่ทัพนาซิมยกมือที่เริ่มสั่น "มิมีอันใด นี่เป็น เป็นเรื่องของเขากับฝ่าบาท" เมื่อเริ่มกล่าวคำ แม่ทัพเมืองหน้าด่านก็ต้องการกล่าวความในใจ "เขาดูผ่อนคลาย ไม่ได้ระวังท่าทีเวลาที่พูดคุยกันอย่างที่ผ่านมา ก็คิดในใจว่า เขาคงพบคนที่เขารอคอยแล้ว จึงถามไปว่า คนผู้นั้นเป็นผู้ใด เขาก็แค่ยิ้ม มิได้กล่าวคำใด แต่มิเคยคิดว่าจะเป็นฝ่าบาท"

แม่ทัพนาซิมมิได้ถามว่ามีความรักหรือไม่ หรือคบหาอยู่กับใคร เพียงใช้คำเจาะจงลงไปว่า คนผู้นั้นเป็นผู้ใดแล้วได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้ม จึงมิกล้าซักถามต่อ 

"นาซิม"
ท่าทีของแม่ทัพแห่งเมืองหน้าด่าน ทำให้พระราชาฟารัคเป็นกังวลอย่างยิ่ง
 
"ข้าเพียงหวังว่าเขาจะมีความสุข เมื่อได้รับรู้ว่าเขาพบคนที่เขารอคอยแล้ว ยอมรับว่าปวดใจอยู่บ้าง แต่ก็ดีแล้ว ดีแล้วที่เป็นฝ่าบาท ได้รู้เช่นนี้ก็รู้สึกว่าดีแล้ว" แม่ทัพนาซิมกล่าวย้ำ "ในแผ่นดินนี้ จะมีใครที่เหนือไปกว่าฝ่าบาท ขออำนวยพรให้แก่ท่านทั้ง 2 คน" แม่ทัพนาซิมหลับตาแน่น แล้วคุกเข่าลงถวายคำนับ "ขอให้คำมั่นว่า ข้าจะไม่ทำให้ฝ่าบาทและเขาต้องเดือดร้อน"
พระราชาฟารัครีบเข้าประคองไว้
"นาซิม เรื่องนี้มันไม่ได้รุนแรงถึงเพียงนั้น คือ......" แล้วก็เป็นอีกครั้งที่พระราชาฟารัค ไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องของพระองค์เองอย่างไรดี "ขอให้ข้าได้อธิบาย"
"ข้ามิได้มีสิทธิ์อันใดในตัวเขามาตั้งแต่แรก ฝ่าบาทมิต้องอธิบายอันใด นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่พวกท่านเปิดใจต่อกัน"
"นาซิม ข้ารู้ว่าเจ้ารักเขามาก"
"แต่เขามิเคยรักข้า" แม่ทัพนาซิมหันไปหาแม่ทัพเชมัล "ความรักของข้าคือความเห็นแก่ตัว ต้องการครอบครอง หาใช่ความรักที่ทำทุกทางเพื่อให้คนที่รักมีความสุข เชมัลเคยเตือนข้า แต่ข้าไม่เคยรับฟัง คิดแต่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขามาเป็นของข้า คิดว่า เพราะเขาเป็นคนอ่อนโยน เชื่อฟัง หากได้ครอบครองร่างกาย ไม่นานก็จะได้ครอบครองหัวใจ ความคิดเช่นนี้มันช่างโง่งม"
พระราชาฟารัคโอบกอดพระอนุชาองค์กลาง มือใหญ่ลูบแผ่นหลังหนา

แม่ทัพนาซิม กอดตอบพระเชษฐา "มิต้องเป็นกังวลเรื่องใด ฝ่าบาทเสียสละเพื่อพวกเรามามาก ทั้งเขาเองก็มิเคยพอใจข้ามาแต่แรก นี่เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว" เมื่อหันไปเห็นท่าทีเคร่งขรึมของแม่ทัพเชมัล ทำให้แม่ทัพนาซิมยิ่งเข้าใจเรื่องราว "ข้าคือหนึ่งในสาเหตุ ที่ทำให้ฝ่าบาทไม่อาจเปิดเผยเรื่องเก้าด้วยใช่หรือไม่" ไม่รอให้เชษฐาตอบแม่ทัพนาซิมที่มักเก็บคำพูดอยู่เสมอ ก็รีบกล่าวต่อ "หากเป็นเช่นนั้นข้าขอบพระทัย แต่ในเมื่อวันนี้ข้ารู้แล้ว ก็ขอได้โปรดอย่าได้กังวลอีกเลย"
"นาซิม เจ้ามิเป็นไรจริงหรือ" พระราชาท้วงถามขึ้น
"ข้าย่อมเป็นสิ" มาถึงตอนนี้ แม่ทัพนาซิมกลับยิ้มขำที่ไม่ว่าอย่างไรพระราชาฟารัค ก็ยังทรงคิดถึงผู้อื่นก่อนเสมอ "ข้าย่อมเสียใจ ผิดหวัง แต่นั่นมิเกี่ยวกับการที่ท่านจะกับเก้าจะดีต่อกัน"
"ย่อมต้องเกี่ยวข้อง เพราะเจ้าคือน้องชายของข้า"

"ความรักเป็นเรื่องใจของสองคนที่ตรงกัน และเมื่อมาคิดดูอีกที ฝ่าบาทพบเก้าก่อนข้า น่าจะพอใจเขามาก่อน แต่กลับต้องมาเห็นเขาอยู่กับเชมัล และถูกข้าทำร้าย นั่นต้องเป็นช่วงเวลาที่ฝ่าบาทเจ็บปวดพระทัยอย่างยิ่ง"

แม่ทัพนาซิมหันมามองพระอนุชาองค์เล็ก ที่ไม่แสดงความเห็นใดๆ
ด้วยสายตากดดันของแม่ทัพนาซิมนั้นเอง ที่ทำให้ต้องกล่าวแสดงความเห็นออกมา
"ว่าที่จริง ฝ่าบาทคือผู้ที่ตรากฎหมายระบุเรื่องผัวเดียวเมียเดียว แต่ฝ่าบาทก็รับพระสนมอีก 2 พระองค์ เพื่อการสืบทอดตำแหน่งองค์รัชทายาท เป็นการทำตามใจของพวกพระญาติและเสนาบดี ถ้าจะเปิดเผยเรื่องของเก้า จะมีใครกล้าท้วง"

"มิได้" พระราชารับสั่งอย่างเด็ดขาด เมื่อพระอนุชาทั้ง 2 พระองค์มองอย่างรอคอยคำตอบ จึงมีรับสั่งต่อ "ข้อแรก พระชายาระแวงเรื่องเก้ามานาน แล้วข้าก็ปฏิเสธมาตลอด หากรู้เข้า เขาจะเสียใจ ข้อที่สอง เก้าเคยรับใช้เชมัล แล้วก็ยังมีเรื่องของนาซิมอีก ผู้คนจะมีความเห็นกันมากมายเกี่ยวกับพวกเราสามพี่น้อง สุดท้ายเก้าจะไม่สบายใจ"

"แล้วฝ่าบาทเล่า" แม่ทัพเชมัลถามขึ้น
"ข้าทำไม"
"ฝ่าบาทต้องการอย่างไร"
"ข้าขอเพียง ในรอบหนึ่งวันที่ต้องปวดหัวกับการทำข้อตกลงมากมายแล้วได้กลับบ้าน นั่งอ่านหนังสือ หรือกินข้าวโดยที่ไม่ต้องคิดแก้ปัญหาอะไรอีกเท่านั้นเอง"

ทั้งแม่ทัพนาซิมและแม่ทัพเชมัลหันมามองหน้ากัน แล้วต่างก็เห็นพ้องโดยที่มิต้องเอ่ยคำ ซึ่งสำหรับพระราชาฟารัคแล้ว ผู้ที่จะให้บรรยากาศสงบนิ่งเช่นนั้นกลับมิใช่พระชายา หรือพระสนมทั้งสององค์ที่มีนางข้าหลวงรายล้อม
แต่ในส่วนของแม่ทัพเชมัลที่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอันใด แม่ทัพนาซิมถึงกับอดไม่ได้ที่จะกล่าวคำเย้าแหย่  "ที่บ้านเจ้า เจ้าตัวเล็กขี้โวยวาย ต้องสร้างเรื่องให้ปวดหัวมากกว่าสงบนิ่ง"
พระอนุชาองค์เล็กกลับหัวเราะ "ทุกวัน เมื่อวานกลับไป ก็ร้องบอกว่าอยากกลับไปพักผ่อนหมู่บ้านเดิม ข้าก็คิดเรื่องที่จะมากราบทูลขอหยุดงาน แต่พอกินข้าวเสร็จ กลับบอกว่าไม่อยากไปแล้ว เช้านี้ตอนจะออกมาบอกว่าจะหัดดนตรีอีก"
"ก็เขาเป็นทั้งสายลม ทั้งลูกไฟ ก็วุ่นวายแบบนี้แหละ" พระราชาฟารัคอดไม่ได้ที่จะเข้าข้าง
"สนุกดีใช่ไหม" แม่ทัพนาซิมถามด้วยรอยยิ้มกว้าง
แม่ทัพเชมัลรีบพยักหน้ายอมรับ "พระราชาฟารัคกลับตำหนักจะพบความเย็น แต่สำหรับข้า เมื่อกลับบ้านจะมีแต่เรื่องให้ขบคิดและหัวเราะตลอดเวลา"

แม่ทัพนาซิมถอนหายใจหนักๆ "สักวันข้าก็จะต้องพบกับคนที่จะทำให้รู้สึกเป็นสุขยิ่งนักเมื่อได้กลับบ้านเช่นกัน"

"ให้พระราชาฟารัค จัดการให้สิ" แม่ทัพเชมัลพูดขึ้นเฉยๆ
แม่ทัพนาซิมรีบยกมือ "ขอเวลาอีกสักปี หากข้ายังหาเองไม่ได้จะรบกวนพระองค์"
พระราชาฟารัครีบยกนิ้วชี้ขึ้นฟ้า "เจ้ายกหน้าที่นี้ให้ข้าแล้วนะ ห้ามทวนคำอย่างเด็ดขาด"
"ท่านพลาดแล้ว" แม่ทัพเชมัลหันมาแกล้งแหย่แม่ทัพนาซิม เพราะเป็นที่รู้กัน ว่าพระราชาฟารัครักการจัดการเรื่องราวส่วนตัวของผู้ใกล้ชิดยิ่งนัก

"อย่ามาทำให้นาซิมไขว้เขวเชียวนะ" พระราชฟารัคอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อความรู้สึกผิดที่รบกวนในใจอยู่ตลอดเวลาเบาบางลง แขนแข็งแรงโอบไหล่พระอนุชาทั้งสองพระองค์ซ้ายขวาเข้ามาล้อม "ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น สำคัญคือ ทุกคนได้เรียนรู้ผลจากการกระทำของตนเอง"
"การตัดสินใจในเวลานั้น ล้วนคือสิ่งที่เราคิดว่ามันดีที่สุดแล้ว ข้าคิดว่าดีที่สุดคือการส่งเขาให้กับเชมัล เชมัลก็คิดว่าดีที่สุดหากมีเขาอยู่ด้วยกันในเวลานั้น แต่เมื่อมิใช่ อย่างไรก็มิใช่ ส่วนคนที่ใช่จู่ๆ ก็กลับมาปรากฎตัวอยู่ข้างหน้า นาซิมเองก็เพราะคิดเช่นเดียวกันมิใช่หรือ ว่าหากมีเขาเจ้าจะมีความสุข ข้าเชื่อว่าสักวัน จะมีคนที่ใช่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าเช่นกัน"
"ที่ผิดคือ ข้าผลักดันเขาไปเพราะไม่อยากทำผิด เชมัลผิดที่ไม่อาจรักเขาได้มากกว่านี้เพราะมีคนที่รักมากกว่าอยู่ในใจมาตลอด นาซิมก็ผิดที่คิดแต่จะครอบครอง แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว หากพวกเราจะมัวติดอยู่กับแยกแยะผิดถูกกันตลอดเวลา เราก็จะจมอยู่กับความทุกข์จากความรู้สึกผิดนั้นตลอดไป"

แต่สุดท้ายพระราชาฟารัคก็ยังทรงยอมรับอยู่ในพระทัยว่า ความรู้สึกผิดต่อแม่ทัพนาซิมนั้นไม่อาจลบล้างไปได้โดยง่าย
...เช่นเดียวกัน ...
ความรักของแม่ทัพนาซิม ต่ออาเก้าจะยังคงอยู่ ไม่ว่าในวันข้างหน้าจะเคียงคู่กับผู้ใด แต่อาเก้าจะอยู่ที่มุมหนึ่งในหัวใจของแม่ทัพนาซิมไปจวบจนลมหายใจสุดท้าย
เพียงแต่เรื่องราวความรักของพระราชากับต้นห้องเก้าคือความเป็นจริงที่ต้องยอมรับ

เมื่อต้นห้องเก้า มารับหน้าที่ต่อจากท่านหัวหน้าต้นห้องอามีน แล้วเห็นว่าพระราชาฟารัค  แม่ทัพนาซิม และแม่ทัพเชมัลยังสนทนากันอยู่ที่อุทยาน จึงแจ้งกับราชองค์รักษ์มีอาไว้ ว่าจะกลับไปเตรียมเครื่องเสวยที่พระตำหนักที่พัก แต่เดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็พบกับองค์ชายน้อยดาริมกับนางข้าหลวงผู้ทำหน้าที่พี่เลี้ยง 
หญิงสาวอายุประมาณ 20 ปีรูปร่างเล็กแต่มีข้อมือใหญ่ ใบหน้าคุ้นตา ทำให้ต้นห้องเก้าหยุดสนทนาด้วย
"เจ้ามาจากที่ใด"
"ข้าชื่อไอช่ามาจากหมู่บ้านแห่งเดียวกับท่านต้นห้องเจ้าค่ะ"
"ไอช่า" ต้นห้องเก้ายิ้มกว้างเมื่อนึกออก "คนอื่นในหมู่บ้านเป็นนักดาบ นักธนู เหตุใดเจ้าจึงเป็นนางพี่เลี้ยง"
"ท่านลาทีฟไปที่หมู่บ้านน่ะเจ้าค่ะ รับสมัครสตรีที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงให้องค์ชายน้อย ทีแรกข้าก็ยังคิดว่า องค์ชายจะเล็กกว่านี้ มิคิดว่าสิบกว่าขวบแล้ว"
"นั่นสินะ" ต้นห้องเก้าคิดตามแล้วตัองหัวเราะเบาๆ "ท่านราชองครักษ์ลาทีฟหมอยาหรือ"
"เจ้าคะ มีอันใดหรือเจ้าคะ"
ต้นห้องเก้ายิ้มพลางส่ายหน้า "องค์ชายน้อยเกินวัยที่จะมีนางพี่เลี้ยงคอยตามใจ ติดตามทุกฝีก้าว แต่เขายังต้องมี....เอ่อ...มีผู้ที่คอยดูแลในเรื่องอื่น"
"เจ้าค่ะ" ไอช่าคาดเดาว่า เพราะนางมีฝีมือทางการต่อสู้ จึงได้รับหน้าที่พี่เลี้ยงเจ้าชายน้อยของเมืองหน้าด่าน ที่ในอนาคตก็ย่อมพัวพันอยู่กับการต่อสู้เช่นเดียวกับแม่ทัพนาซิม

ต้นห้องเก้ากลับกำลังยิ้มด้วยความชื่นชม
การที่ฝึกอาวุธต่างๆ มาตั้งแต่เล็ก ทำให้ไอช่ามีหลังตรง ท่าทีมั่นใจ แต่ก็ยังคงความอ่อนหวานในแบบหญิงสาว และความรอบรู้
...ต้องนับว่าท่านลาทีฟมีสายตาในการมองคนที่ยอดเยี่ยมผู้หนึ่งเลยทีเดียว
...ทั้งยังเจตนาไปตามหาถึงหมู่บ้านที่ต้นห้องเก้าเติบโตมา 
...แต่ท่านลาทีฟจะถึงกับเดินทางไกลไปถึงหมู่บ้าน โดยไม่มีผู้ใดสั่งการหรือ...

จนเมื่อพระราชาฟารัคเสด็จกลับมาถึงพระตำหนัก ต้นห้องเก้าก็ยังไม่สามารถหุบยิ้มได้
"เจ้าดูมีความสุขอย่างที่นาซิมบอกจริงๆ" พระราชาฟารัคยังต้องทัก
"รู้ไหมว่าข้ามีความสุขเรื่องอะไร"
"บอกมาสิ" พระราชาฟารัคยังคาดหวังว่าจะสิ่งที่ต้นห้องเก้าบอกมา จะเป็นเรื่องเดียวกับที่แม่ทัพนาซิมบอก แต่ต้นห้องเก้ากลับยิ้ม
"ไม่อ่านใจข้าหรือ"
"เวลาที่มีคนบอกให้อ่านใจ สิ่งที่อ่านได้มักเป็นเรื่องปรุงแต่งที่อีกฝ่ายอยากให้รู้ ถ้าอยากรู้ความจริงต้องลอบอ่าน"
"อ้อ......." ต้นห้องเก้าลากเสียงยาว "ลอบอ่านบ่อยไหม"
"ไม่" พระราชาฟารัค ชักเริ่มร้อนพระทัย เพราะต้นห้องเก้ามิเคยมีท่าทีแบบนี้ "มีเรื่องอันใด บอกกันมาเลยดีกว่า"
"แล้ว...." ต้นห้องเก้าหรี่ตา "จะสนุกหรือ"
ครานี้ พระราชาฟารัคร้อนพระทัยอย่างจริงจัง

...คำว่าสนุก มันคือคำที่เป็นดั่งตราสัญลักษณ์ของข้า..
...หรือว่าจะรู้แล้ว...
...รู้แล้วจริงหรือ...
...จะคิดว่าข้าชอบวางแผนการอันใดหรือไม่..
...ไม่เป็นไรกระมัง...
...ว่าแต่ เรื่องไหนกันเล่า ที่เขารู้แล้ว ข้าจะรับมือถูกไหม...
...ฯลฯ...

*-*จบตอนพิเศษ Brothers*-*
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-02-2016 12:01:04
ฝีมือกามเทพฟารัคเตรียมไว้แต่เนิ่นๆแหงเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 18-02-2016 12:21:09
ชอบที่ต้นห้องเก้าแลดูเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างชัดเจน กล้าที่จะแสดงความรู้สึกหลายๆอย่าง ส่วนพระราชาก็รักและอ่อนโยนกับเก้าเสมอๆ นี่คือความสุขที่เกิดจากความรักแน่นอน ^^

ส่วนแม่ทัพนาซิม ถ้าให้พระราชาเป็นผู้จัดการหาคู่ให้แล้ว ไฉนเลยจะไม่สำเร็จ อิอิอิ

ขอบคุณที่เขียนตอนพิเศษมาให้อ่านแก้คิดถึงนะคะ แต่ตอนนี้อาเม่ยไม่ได้ออกหน้าฉากเลย เค้าคิดถึง...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 18-02-2016 12:38:32
พระราชาฟารัคช่างเป็นพระราชาที่ขี้ห่วงเสียจริงๆ ห่วงคนนั้นคนนี้ไปทั่วเลย

ประทับใจและชื่นชมความรักความผูกพันระหว่างพี่น้องทั้งสามคนมากๆ

พระราชาผู้เจ้ากี้เจ้าการและมากด้วยแผนการ กลับต้องมาตกม้าตายพระต้นห้องเก้า ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 18-02-2016 12:52:00
สักวันนาซิมก็จะมีความสุขเช่นเดียวกับที่เก้ากำลังมีความสุข ขอบคุณครับผม น่ารักสมกับการรอคอย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 18-02-2016 12:53:55
 :pig4: :pig4:

ชอบเก้าเวอร์ชั่นเเบบนี้ ดูจะมาถูกทางกับฟารัค
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-02-2016 13:13:56
พระราชาฟารัคยังคงเป็นพี่ชายที่ดูแลทุกข์สุขของน้อง ๆ เสมอ
...แม้จะป่วนไปบ้างก็เถอะ  :laugh

ดีใจที่เห็นเก้าแสดงออกแบบนี้ เป็นตัวของตัวเอง เป็นคนช่างเย้าหยอก
เป็นมุมสงบสบายใจของฟารัค

อาเม่ย มาแค่ชื่อยังรู้สึกได้ว่า เป็นพลังงานที่เคลื่อนไหวซุกซนจริง ๆ น่ารัก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-02-2016 13:15:00
รักท่านฟารัคเจ้าค่ะ เพิ่มอีกคือเจ้าชายน้อยฮัมซา
(คนหนึ่งคอยแก้ปัญหาให้อยู่ใจจุดสมดุลกึ่งกลาง อีกคนแก้ปัญหาโดยเอาปัญหานั้นออกไปกับตัวเอง)

ว่าแต่เหมือนว่า.....มีคนมาปราบท่านฟารัคได้แล้วนะเจ้าคะ .... อาเก้าชนะเลิศจริงๆ ฮุฮุฮุ


จะรอตอนต่อไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-02-2016 13:21:21
สามพี่น้องเคลียร์ใจกันได้ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2016 14:58:48
ตอนนี้บรรยากาศรอบตัวของเก่าดูสบายๆมากขึ้น แบบว่ามันโล่งโปร่งที่ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น  มีความสุขจริงๆซะทีนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 18-02-2016 16:07:48
ทำไมรู้สึกว่าเก้าน่ารัก
คือโดยส่วนตัวก็ชอบเก้าอยู่แล้วมาอ่านตอนนี้ยิ่งน่ารัก
บรรยากาศก็ดูสดใส เก้าของเค้าาาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-02-2016 16:51:59
กลัวเมียป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-02-2016 18:01:42
พระราชาเป็นกามเทพให้แม่ทัพนาซิมอีกแล้วใช่มั้ย?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-02-2016 18:04:46
ทำไมอ่านตอนนี้แล้ว เก้าเหมือนน้ำชาเลย 5555555 ดีแล้วที่มีความสุข นาซิมเศร้าอยู่คนเดียว สักวันคงจะได้เจอรักที่เป็นของตัวเองนะนาซิม  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-02-2016 19:22:12
สักวันนาซิมต้องพบคนที่ใช่

 :กอด1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 18-02-2016 21:10:26
ชอบตอนที่พี่น้องคุยเปิดใจกัน อบอุ่นเข้าใจ
ส่วนตอนท้ายรู้สึกถึงการท้าทายจากเก้าและ
ความกระวนกระวายจากพระราชา ^^
ขอตอนของเก้ากับพระราชาอีกได้ไหมคะ  :mew3:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 18-02-2016 21:31:20
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

มิตรภาพระหว่างพี่น้องนี่ดีจังเลยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-02-2016 08:17:24
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 19-02-2016 10:49:20
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ ทำให้อะไรๆคลี่คลายไปในทางที่สวยงาม เก้าเปิดเผยและยอมเป็นของพระราชา เชมัลกับอาเม่ยจัดพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ และพระราชาพยายามหาคู่ให้แม่ทัพนาซิม เอิ่ม มีสีสันมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 19-02-2016 16:32:07
ท่าทางพระราชาจะทำเรื่องไว้มากมาย
แค่เก้าพูดนิดเดียวถึงขั้นดิ้น  o18  :m20:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 19-02-2016 20:20:49
คนอย่างพระราชาฟารัคนี่เหมาะสมแล้วที่ได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ให้คะแนนเป็นพี่ชายและสามีเกียรตินิยมเหรียญทองเลย
ยกเว้นความเจ้ากี้เจ้าการนี่ล่ะ (หักคะแนน -1)
เจออาเก้ารู้ทัน ถึงกับไปไม่เป็น 55

ขอบคุณสองหนุ่มสำหรับตอนพิเศษที่น่ารักนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 19-02-2016 20:48:28
อิอิ นานๆจะเป็พ่อกามเทพร้อนรนบ้าง 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Lovetree ที่ 20-02-2016 16:21:33
รู้สึกสบายใจและดีใจมากๆที่ความรักของพระราชากับอาเก้าไม่ต้องปิดบังแม่ทัพนาซิมแล้ว o13
อาเก้าดูมีความสุขมากจริงๆ  คงเป็นเพราะพระราชารักอาเก้าจริงๆ  เหมาะสมกันจริงๆคู่นี้ :-[
ขอบคุณมากๆนะคะ :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 20-02-2016 18:51:00
ชืานชมความรักของสามพี่น้อจังเลยค่ะ ทั้งฟารัค นาซิม และพี่เชของเรา. 55555 แม้ว่าฟารัคจะเจ้าแผนการและชอบจัดการแต่ก็เป็นไปเพราะความรักและหวังดี  o13
ตอนที่เก้าอยู่กับฟารัค น่ารักดีนะคะ ดูเก้ามีอีกบุคลิกนึงอย่างที่นาซิมบอกเลย ต้องขอบคุณฟารัคนะคะเนี่ย ที่ทำให้เก้าผ่อนคลายแบบนี้
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 22-02-2016 19:09:45
เพิ่งอ่านไป3-4ตอน อยากจะเชียร์เก้าซะเหลือเกิน ทำไมแสนดี ยอมโดนแกล้งขนาดนี้
รักก็บอกไม่ได้ ยอมรับกับใจตัวเองยังไม่ได้ ฮือๆๆๆ
น่าสงสารที่สุด ก้าววววววว
 :z3: :sad4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 22-02-2016 19:40:09
พระราชาเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ เลยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 24-02-2016 22:01:37
พี่น้องเคลียร์กันได้แบบนี้นี่ดีจัง
ปล. เก้าเวอร์ชั่นนี้น่าประทับใจที่สุดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-02-2016 08:38:21
อาทิตย์นี้ไม่มาเหรอคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 26-02-2016 00:35:55
นี่แหละหนาที่เขาว่า ทำผิดครั้งเดียว กลับรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต ความจริง...แม่ทัพนาซิมก็ควรจะได้เจอใครคนนั้น และได้อยู่อย่างมีความสุข เพราะคนที่รู้ว่าตนทำผิดและสำนึกผิดนั้น น่ายกย่องยิ่งนัก หวังว่าคนที่พระราชาฟารัคจับคู่ให้แม่ทัพนาซิมครั้งนี้ (แฮ่ม) จะได้ลงเอยกับท่านอย่างราบรื่นเสียทีนะคะ

ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-03-2016 14:07:43
แวะมาทักทายอาเม่ยจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Brothers หน้า47 (180259)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 14-03-2016 20:17:50
ดันๆๆๆ พี่เชจะได้มาไวๆ
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 14-03-2016 20:32:22
ตอนพิเศษ Test

เป็นธรรมเนียมที่รู้กันว่า บรรดาเจ้าชายของเมืองวันจะต้องเข้ารับการทดสอบในด้านต่างๆ ทั้งความรู้ และพลังเวทย์ เพื่อสร้างการยอมรับจากผู้อยู่ใต้ปกครอง ทั้งยังเพื่อทำความรู้จักกับ "เมืองวัน" อย่างแท้จริง ซึ่งทั้งพระราชาฟารัค แม่ทัพนาซิม และแม่ทัพเชมัล ต่างกล่าวว่าเป็นการทดสอบสนุกสนานอย่างยิ่ง แต่นี่คือการทดสอบที่องค์ชายน้อยดาริมอยากหนีให้ไกล
ควรต้องนับลำดับเชื้อพระวงศ์เมืองวันกันอีกครั้ง
พระราชาจาวาดผู้ครองเมืองวันองค์ก่อน มีพระราชโอรส 2 พระองค์คือพระราชาฟารัค กับแม่ทัพเชมัล ส่วนแม่ทัพนาซิมเป็นโอรสในองค์ชายอาบัน พระอนุชาของพระราชาจาวาด
ใน 3 พระองค์นี้กลับมีทายาทเพียง 2 คือองค์ชายฮัมซาในพระราชาฟารัค กับองค์ชายน้อยดาริมในแม่ทัพนาซิม
เมื่อองค์ชายฮัมซาถวายคืนตำแหน่งและขอติดตามพระปัยกามูซัคหรือผู้เฒ่าดินออกเดินทาง ก็เหลือเพียงองค์ชายน้อยดาริมเพียงลำพัง
มิใช่แล้ว! อย่าลืมว่ายังมีพระญาติอีกหลายพระองค์ที่พากันกดดันพระราชาฟารัคให้รับพระสนม บุคคลเหล่านี้หลายองค์ต่างก็มีพระโอรสที่มีพลังเวทย์เช่นกัน และคาดหวังว่าจะได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง
เห็นได้จากที่มาของพระสนมทั้ง 2 พระองค์ องค์หนึ่งมาจากเมืองบาสก์ อีกองค์หนึ่งเป็นบุตรีของเสนาบดี

ความพยายามเหล่านี้ มีหรือที่พระราชาฟารัคจะไม่ล่วงรู้ เพราะมันยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อต่างก็ยังคงพยายามเข้ามาวุ่นวายให้พระราชาฟารัคส่งองค์ชายน้อยดาริมไปท่องป่า โดยพยายามจัดกลุ่มพระญาติในวัยใกล้เคียงกันเดินทางไปด้วย
จุดมุ่งหมายนี้ ก็เพื่อลดความสำคัญขององค์ชายน้อยลงนั่นเอง

ว่าที่จริงเรื่องการทดสอบลักษณะนี้สมควรจัดตั้งแต่เมื่อครั้งที่เจ้าชายฮัมซามีพระชนมายุ 14 ชันษา แต่พระราชาฟารัคเห็นว่าบรรดาองค์ชายคนอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มชั้นแรกกลับมีพลังเวทย์อ่อนด้อยเพราะขาดการฝึกฝน จึงทรงรั้งรอไว้เพื่อให้ทุกคนมีความพร้อมมากกว่านี้
ส่วนพระองค์ของพระราชาฟารัค คือความหวังดี แต่ผลลัพธ์กลับออกไปในทางตรงข้าม เช่นเดียวกับการที่เจ้าชายฮัมซาขอพระราชานุญาตเดินทางไปกับพระปัยกา พระราชาฟารัคที่ดีพระทัยที่พระโอรสจะได้เรียนรู้และฝึกฝนมากขึ้น กลับต้องผิดหวังเมื่อต่อมาพระโอรสขอถวายคืนตำแหน่งทั้งหมด 

ด้านหัวหน้าราชองค์รักษ์บาดา ซึ่งยังทำหน้าที่ดั่งหัวหน้าคณะอาจารย์ขององค์ชายน้อยดาริม ก็ตระหนักดีว่า การที่องค์ชายน้อยไม่อยากเข้ารับการทดสอบ มิใช่เพราะกลัวลำบาก แต่เพราะบรรดาพระญาติชั้นแรกผู้อ่อนด้อยเหล่านี้ต่างหาก
...ทุกคนล้วนมีอาวุโสมากกว่า แต่กลับมีพลังเวทย์ที่ด้อยกว่า แล้วเช่นนี้จะปกครองผู้อื่นได้อย่างไร
องค์ชายน้อยไม่ได้รู้ตัวว่า เมื่อสมองคิดว่าผู้อื่นมีพลังที่ด้อยกว่า ทั้งสีหน้าและแววตาของตนเองเหมือนกับแม่ทัพนาซิมมากเพียงใด
...สีหน้าและแววตา เย่อหยิ่ง มองไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา
ท่าทีเช่นนี้ทำให้พระญาติรู้สึกดั่งถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม
เรื่องราวจึงกลายเป็น เมื่อท่านมิชอบข้า ข้าก็มิชอบท่านเช่นกัน
แต่เมื่อเป็นองค์ชายน้อยดาริม ผู้อ่อนเยาว์กว่าผู้อื่น ทั้งไม่มีความคุ้นเคยจึงหลีกเลี่ยงที่จะเป็นผู้ออกคำสั่ง สุดท้ายแล้ว นับตั้งแต่วันแรกที่ถูกส่งเข้าวัง จนถึงวันที่จะต้องเข้ารับการทดสอบเบื้องต้น องค์ชายน้อยดาริมก็ยังคงได้แต่รักษาความแปลกแยก แตกต่างกับผู้อื่นไว้ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะให้ทำอะไร ตั้งแต่ในห้องเรียน จนถึงการต่อสู้ ทรงม้า และการรักษา ก็ทรงสู้อยู่เพียงลำพังโดยตลอด

แต่สำหรับหัวหน้าราชองครักษ์บาดาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร เจ้าชายฮัมซากับองค์ชายน้อยดาริม ก็ยังเหนือกว่าบรรดาเจ้าชายทุกพระองค์
 แต่เมื่อหัวหน้าราชองครักษ์บาดาถวายรายงานการทดสอบเบื้องต้น ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้ทั่วไป และการต่อสู้พื้นฐาน อุปนิสัยแปลกแยกจากผู้อื่นก็ยังเป็นสิ่งที่พระราชาฟารัคถึงกับหนักพระทัย
"ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่"
"ทรงไม่เรียนรู้ที่จะศึกษาผู้อื่น ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เมื่อจะให้เล่นกับคนอื่น ก็กลับไปยืนดู เด็กคนอื่นๆ ก็ขยับหนี"
พระราชาฟารัคเคยเห็นท่าทีเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน แต่เพราะพระองค์เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับผู้อื่นได้ง่าย ก็ทรงคิดไว้ในพระทัยว่า สักวันหนึ่งเด็กๆ ก็จะคุ้นเคยกันเอง แต่นี่ผ่านไปเกือบ 2 ปีแต่ยังไม่มีอันใดดีขึ้น
"ไม่มีใครที่เขาวางใจเลยหรือ"
ต้นห้องเก้าที่รับหน้าที่อยู่ด้านหลังกล่าวขึ้น "คนที่องค์ชายน้อยคุ้นเคยที่สุดก็คือลาทิฟา"
ราชองครักษ์ลาทีฟ ชี้ที่อกตนเอง "ลูกสาวข้าน่ะหรือ"

แม้ว่าหัวหน้าราชองครักษ์จะเป็นดั่งหัวหน้าคณะผู้สอน แต่ในทางปฏิบัติ องค์ชายน้อยกลับเรียนรู้จากราชองครักษ์ลาทีฟมากที่สุด เนื่องจากมีวัยใกล้เคียงกับลาทิฟานั่นเอง ทั้งราชองครักษ์ยังพาองค์ชายน้อยกับลาทิฟาไปท่องเที่ยวใกล้กับเมืองหลวงเป็นระยะ

ราชองครักษ์จาบีผู้มีผิวเข้มกล่าวโต้แย้ง "เด็กหญิงไม่มีเวทย์ ทั้งเราก็ไม่เคยจัดให้สตรีไปรับการฝึกด้วย อันตรายเกินไป"
แต่หัวหน้าต้นห้องอามีน กลับสนับสนุนความเห็นนี้ "นางฉลาด มีความจำที่ดี รู้จักการผูกมิตรกับผู้อื่น แล้วที่ผ่านมาองค์ชายน้อยก็สนิทกับเด็กหญิงมากกว่าใคร"
"อายุน้อยกว่าดาริมใช่ไหม" พระราชาฟารัคหันมาถามราชองครักษ์หมอยา
"น้อยกว่า 3 ปีกระหม่อม"

ปีนี้องค์ชายน้อย 11 ชันษา ลาทิฟาเพียง 7 ขวบ ส่วนเจ้าชายฮัมซาอายุ 16 ชันษา

"งั้นก็ดูแลตัวเองได้แล้ว" พระราชาฟารัคโบกหัตถ์
ราชองครักษ์จาบีขัดขึ้นอีกครั้ง "ลูกผู้ชายที่ออกไปต่อสู้ก็เพื่อปกป้องครอบครัว และผู้เป็นที่รัก หากให้เด็กหญิงออกไปต่อสู้ เราจะเหลือแผ่นดินไว้ให้ใครอยู่"
"ไม่ได้ให้ไปต่อสู้เสียหน่อย" พระเนตรสนุกสนานวาววับ รอยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อทรงเริ่มการวางแผนในใจ "ทดสอบกันเล่นๆ แถวทุ่งกว้างนี่ก่อนก็ได้ วัดเรื่องการแก้ไขสถานการณ์เป็นหลัก  ดูว่ามีความคิดในการแก้ไขอย่างไร คิดแล้วทำได้อย่างที่คิดไหม ถ้ารอความช่วยเหลือ หรือไม่คิดเอาตัวรอดก็ให้ตกไป คัดให้เหลือแค่ 3 คนแล้วค่อยให้ออกไปที่ป่าด้านเมืองบาสก์"
"3 คน" หัวหน้าราชองค์รักษ์ทวนคำด้วยรู้สึกกังวลใจ ว่านี่อาจยิ่งทำให้บรรดาพระญาติไม่พอใจ  จึงตั้งใจว่าจะออกแบบการทดสอบ ที่เป็นไปอย่างรอมชอมอย่างยิ่ง

เช้าวันถัดมา กรมวังจึงออกประกาศ และแจ้งพระราชโองการให้บรรดาเชื้อพระวงศ์ตลอดจนข้าราชบริพาร ส่งบุตรชายหญิงเข้ารับการทดสอบได้
การทดสอบโดยเปิดกว้างเช่นนี้ ทำให้มีบรรดาผู้ปกครองจำนวนมากที่แสดงเจตนาว่าจะส่งบุตรมาเข้ารับการทดสอบด้วย แต่เมื่อบรรดาผู้ที่มีเวทย์ทยอยประกาศตนว่าจะเข้าร่วมการทดสอบเช่นกัน เพียงไม่กี่วันถัดมาลูกหลานของบุคคลทั่วไปก็พากันถอนตัว เหลือเพียงกลุ่มผู้ที่มีความสามารถเชิงการต่อสู้กับผู้ที่มีพลังเวทย์
ส่วนลาทิฟาบุตรสาวของราชองค์รักษ์ลาทีฟนั้น เดินเข้าสนามทดสอบด้วยการที่มีต้าซันเป็นคนพามาส่ง เพราะผู้เป็นพ่อถูกกักตัวไว้ในห้องยาตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน
ต้าซันคนดี ให้คำแนะนำท่านหญิงตัวน้อยว่า ค่อยๆ คิดแก้ไขไปทีละเรื่อง มิต้องกังวลเรื่องแพ้หรือชนะ ด้วยเชื่อว่า ราชองครักษ์บาดาจะไม่ออกแบบการทดสอบที่ทำให้ผู้ใดต้องได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นขอเพียงรับการทดสอบให้จบกระบวนการ ไม่ยอมแพ้กลางทาง ก็เพียงพอแล้ว

หลายวันถัดมา เมื่อเสด็จกลับจากตำหนักของพระสนมองค์แรก มาถึงตำหนักใหญ่ ราชองครักษ์บาดาจึงถวายรายงานผลการทดสอบ
การเลี้ยงดูที่ทะนุถนอมและตามใจเกินไป เพียงแค่การดำรงชีวิตตามลำพังในหมู่บ้านร้างก็มีองค์ชายสอบตกไปแล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจับขโมยไม่ได้ในการทดสอบรอบที่สอง  และอีกหลายพระองค์ออกอาการกริ้วโกรธ เมื่อไม่สามารถออกจากเขาวงกตของราชองครักษ์ราฮิมและฮูดา ในการทดสอบรอบที่สาม

ผลจากการคัดเหลือ 3 คนกลับมีเพียงองค์ชายน้อยดาริม ลาทิฟา กับคุณชายมาจิด อายุ 15 ปีซึ่งนับเป็นพระญาติที่มีลำดับล่างสุด ต้องนับย้อนกลับไปจนถึง พระราชาฟามี ผู้เป็นพระเชษฐาของเจ้าชายมูซัคผู้เฒ่าดิน
ึคุณชายมาจิดมีฝีมือเชิงดาบ และการควบคุมสายน้ำ ไม่มีพลังทางการปกครองใดๆ ที่ผ่านมาครอบครัวเพียงต้องการที่จะให้รับราชการ แต่เมื่อคุณชายมาจิดถูกเรียกตัวให้มาเข้ารับการสอบด้วยก็รู้สึกว่าเป็นเกียรติยิ่งนัก ต่อมาเมื่อสอบผ่านก็ดีใจ แต่บรรดาพระญาติไม่พอใจ และยิ่งไม่พอใจที่ลาทิฟาก็สอบผ่านด้วยเช่นกัน
เด็กหญิงผู้นี้ไม่มีพลัง ไม่มีเวทย์ใดๆ แต่มีความจำที่ดี และความฉลาดในการเอาตัวรอด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตตามลำพังในหมู่บ้านร้าง ให้จับคนร้ายที่เข้าไปขโมยของในหมู่บ้าน และการหาทางออกจากเขาวงกตป่าไผ่ภายในเวลาที่กำหนด
คนเดียวที่ทุกคนยอมรับคือองค์ชายน้อยดาริม ผู้ที่มีสีหน้าเย่อหยิ่งดั่งเห็นว่าการทดสอบนี้ช่างง่ายดายและดูหมิ่นความสามารถของพระองค์อย่างยิ่ง
ส่วนที่เกี่ยวกับองค์ชายน้อย ยังคงทำให้พระราชาฟารัคต้องกลุ้มพระทัยอีกครั้ง
"ไม่มีทางทำให้เขา รู้จักความอ่อนน้อมถ่อมตนเลยหรือ"
หัวหน้าราชองครักษ์ตอบคล้ายกับที่ผ่านมา "ก่อนนี้คนเดียวที่องค์ชายพูดด้วยคือลาทิฟา แต่หลังจากการสอบรอบแรก เห็นว่า หันไปพยักหน้ายอมรับคุณชายมาจิด"
"พยักหน้า" พระราชาทวนคำ "ทั้งที่มาจิด อาวุโสกว่าเนี่ยนะ"
"ก็..." ราชองครักษ์ อยากถวายคำตอบที่สวยงามกว่าคำว่า พยักหน้าให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่เวลานี้ยังนึกไม่ออก จึงกล่าวไปได้คำเดียวแล้วก็เงียบ

เมื่อราชองครักษ์บาดาล่าถอยออกไป พระราชาฟารัคทรงจิบน้ำอุ่น แล้วถามต้นห้องเก้า
"อาจารย์ของลาทิฟา นี่คือต้าซันพี่ชายของเม่ยใช่ไหม"
"มีอาจารย์หญิงที่สอนงานการเรือน ส่วนท่านลาทีฟก็สอนวิชาแพทย์ให้กับบุตรสาวมาตั้งแต่เล็กด้วยกระหม่อม"

มือใหญ่ของพระราชาดึงมือให้ต้นห้องนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ กัน แล้วจับมือของอีกคนมาวางไว้บนโต๊ะ
ข้อนิ้วผิดรูปจากการฝึกธนู มักทำให้ต้นห้องเก้านำไปเปรียบเทียบกับมือของผู้อื่น แล้วพาลไม่ชอบนิ้วมือตนเอง
พระราชาฟารัคทราบเรื่องนี้ เพราะต้นห้องคนอ่อนโยนมักกุมมืออยู่เสมอ หลายคราที่จับมือไว้แล้วต้นห้องจะพยายามดึงมือออก ด้วยเห็นว่ามือของตนเองนั้นไม่ได้สวยงาม และไม่นุ่มอย่างสตรี แม้พระราชาฟารัคจะตรัสหลายครา ว่าไม่เคยคิดว่ามือคู่นี้จะมีอันใดผิดปกติ แต่ต้นห้องเก้าก็ยังคงไม่ชอบมือของตนเองอยู่เช่นเดิม 
เวลานี้ทรงนวดข้อนิ้วของต้นห้องเก้าทีละข้อ ขณะที่กำลังครุ่นคิดบางสิ่ง
"ต้าซันไม่มีพลังเวทย์ก็จริง แต่คนผู้นี้เป็นคนฉลาด เรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเอง เขาฟื้นฟูหมู่บ้านที่ถูกไฟไหม้ด้วยตนเอง ปลูกบ้านสองหลังให้ตนเองกับน้องชายได้พักอาศัย ทำสวน เลี้ยงสัตว์ จนถึงค้าขาย คนที่รักการเรียนรู้ และสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้ นับเป็นคนที่น่าสนใจมากทีเดียว"
"ต้าซันเรียนรู้ทุกอย่างก็เพื่อน้องชาย" ต้นห้องแย้งเบาๆ "ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อเม่ยเท่านั้น"
เมื่อพระราชาฟารัคลูบคาง ดวงตาเป็นประกาย ต้นห้องก็รีบท้วง "หากจะสนับสนุนเรื่องการงาน ข้าพระองค์เห็นด้วย แต่อย่าไปจัดการเรื่องของต้าซันเชียว เม่ยขอไว้"
"เหตุใด"
"จะเหตุใดก็ตาม ก่อนที่จะไปจัดการเรื่องของผู้อื่น ถามเขาก่อนสักนิดเถิดว่า เขาอยากให้ฝ่าบาทจัดการหรือไม่"
รอยยิ้มสนุกสนานของพระราชาฟารัคค่อยๆ จางลงเมื่ออีกคนมีสีหน้าจริงจัง "ข้าก็แค่คิด"
"เช่นนั้นข้าจะบอกเม่ย ว่าฝ่าบาทกำลังคิดเกี่ยวกับต้าซัน ดูสิว่าเม่ยว่าจะอย่างไร"
"อาเก้า" มือที่นวดข้อนิ้วให้เปลี่ยนเป็นหยิกแก้มใส "เจ้ากลายเป็นคนช่างฟ้องไปตั้งแต่เมื่อใดกัน
ต้นห้องเก้ากลับยิ้มขำ "เมื่อฝ่าบาทมีรับสั่งว่ากำลังคิดเรื่องต้าซัน" คนรูปงามทำท่าจะลุกขึ้น พระราชาก็กลับดึงให้นั่งอยู่ก่อน
"จะไปไหน"
"ไปเตรียมน้ำอาบให้ฝ่าบาท ตอนนี้ดึกมากแล้วจะได้พักผ่อน"
"ก็แล้วเจ้าจะไปไหน" พระราชาถามคำถามเดิม ทำให้อีกคนงงไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มกว้าง
"ยามสายพรุ่งนี้มีประชุมหารือกับตัวแทนพ่อค้าทางทะเลมิใช่หรือ"
"ก็ให้กรมการค้าเขาคุยไปก่อนสิ ข้าไปรับฟังตอนสายๆ ก็ได้"  ทั้งสุรเสียง และแววเนตรอ่อนหวานเช่นนี้ คาดว่าหากไปทำต่อหน้าพระสนมทั้งสอง พระองค์คงมีพระโอรส พระธิดาอีกนับสิบองค์
ต้นห้องเก้ายังคงยิ้มขำ พลางส่ายหน้า
"เหตุใดส่ายหน้า ไม่ใจอ่อนเลยสักนิดหรือ"
"หากพรุ่งนี้ ผลการประชุมออกมาเป็นที่น่าพอใจ เราค่อยมาทำความตกลงกัน"
แต่แรกนั้นการเจรจามีทีท่าว่าต้นห้องเก้าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ หากเมื่อพระราชาสรงน้ำเสร็จแล้ว แล้วต้นห้องเก้ามิได้กลับออกมา ก็แสดงให้เห็นว่า การเจรจาในเรื่องนี้ พระราชาฟารัค ยังคงเป็นผู้ชนะอีกเช่นเคย

ส่วนที่เรือนของราชองค์รักษ์ลาทีฟเวลานี้ผู้เป็นบิดากำลังรู้สึกลำบากใจที่บุตรสาวสอบผ่าน เว้นแต่ต้าซันที่เป็นผู้สอนศิลปะให้แก่ลาทิฟาที่ดีใจจนออกนอกหน้า ทั้งรีบกลับไปบอกข่าวกับอาเม่ยที่บ้านพักนอกเมืองเมื่อทราบผล
แม่ทัพเชมัลลูบคางครุ่นคิด แล้วจึงบอกให้ต้าซันสอนเรื่องการใช้ชีวิตกลางป่าแก่ลาทิฟาเพิ่มเติม
"เหตุใดไม่สอนอาวุธให้"
"ผู้ที่ใช้อาวุธคือดาริม ส่วนเวทย์คือมาจิด ดังนั้นสมองต้องเป็นลาทิฟา" แม่ทัพเชมัลบอกสั้นๆ ครั้นเมื่อมองแววตาของอาเม่ยที่บอกว่ามีความเข้าใจ แต่ต้าซันดูยังมีคำถามอยู่จึงอธิบายต่อ "ไม่ต้องไปสนใจเสียงวิจารณ์ของพวกพระญาติและเสนาบดี แต่เจ้าต้องทำให้ลาทิฟาเป็นหญิงที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงาน"
"เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว" ต้าซันบอก "ลาทิฟามีความจำดี แต่ไม่ดีกว่าหรือหากฝึกอาวุธเพิ่ม"
"เรามีเวลาน้อย และที่สำคัญ การทดสอบนี้ แท้จริงมันคือการฝึกทำงานเป็นกลุ่มเดียวกัน เกื้อหนุน และส่งเสริมกันและกัน พวกองค์ชายที่สอบตกไป เพราะคิดแค่ตนเอง ต้องการชนะแต่เพียงผู้เดียว เพราะหลังจากรอบแรกก็รู้แล้วว่าอย่างไรองค์ชายน้อยต้องเป็น 1 ใน 3 พวกเขาจึงพากันแย่งชิงอีก 2 ตำแหน่ง มาจิดได้เปรียบที่เป็นสายน้ำเขาใจเย็นและค่อยๆ แก้ไขไปทีละเรื่อง ลาทิฟาเพราะความจำดีมีไหวพริบ แม้จะไม่มีเวทย์ ต่อสู้ก็ไม่เป็น ก็กลับเอาชนะผู้อื่นได้ เจ้าต้องใช้ความได้เปรียบนี้มาแสดงให้เห็นว่า ลาทิฟาไม่เป็นรองใคร"
"ไม่ใช่เอาชนะ แต่คือการแสดงถึงความสำคัญของตนเองหรือ" ต้าซันพึมพำ "ยากนะ"

แต่ในช่วงสายของวันถัดมา ทั้งลาทิฟา คุณชายมาจิด รวมถึงองค์ชายน้อยดาริม ต่างก็มาที่บ้านพักของแม่ทัพเชมัลที่นอกเมือง
อาเม่ยกอดอกมองทั้ง 3 คนรวมถึงบรรดาอาจารย์ทั้งหลายที่พร้อมใจกันผลักภาระนี้ให้กับคนที่มีประสบการณ์ในการเดินทางในป่านอกเมือง ซึ่งอาเม่ยก็ไม่ได้สอนอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวมากไปกว่า การชวนกันออกไปเล่นอยู่ในทุ่งกว้าง เรื่อยไปจนถึงเขตเขา ค้างคืน แล้วกลับมาที่พักในช่วงหลังเที่ยงของวันถัดมา
และอีก 2 วันทั้ง 3 คนก็ออกเดินทางสู่ด่านชายแดนของแม่ทัพนาซิม

หลังจากที่แม่ทัพเชมัลกับอาเม่ยส่งทั้ง 3 คนออกนอกประตูเมืองไปแล้ว ก็พากันกลับมาเดินเล่นอยู่ในตลาด อาเม่ยรบเร้าให้แม่ทัพเชมัลซื้อขนมแป้งทอดชิ้นบางราดน้ำผึ้ง แต่แม่ทัพปฏิเสธ
"ชิ้นบางขนาดนี้ แล้วก็แค่ราดน้ำผึ้งลงไป น้องทำให้พี่กินอร่อยกว่า"
นี่หากมิใช่แม่ทัพเชมัลเป็นคนกล่าว คงได้ถูกแม่ค้าไล่ไปให้พ้นแผง แต่เมื่อเป็นแม่ทัพเชมัล ซึ่งเป็นที่รู้กันไปทั่วว่าตามใจคนตัวเล็ก ผิวใสตากลมที่อยู่เคียงข้างมากเพียงใด แม่ค้าจึงหันไปเชิญชวนคนตัวเล็กแทน
อาเม่ยกระตุกแขนเสื้อแม่ทัพเชมัล อ้อนด้วยรอยยิ้มกว้างขอให้ซื้อให้
แต่สุดท้ายแม่ทัพกลับต้องเหมามาทั้งหมด เพราะที่ด้านหลังยังมีสมาชิกอีกหลายคนที่รอคอยชิมขนมแป้งทอดราดน้ำผึ้งอยู่เช่นเดียวกัน
 
ผ่านจากแผงขนม อาเม่ยมาหยุดที่แผงขายไม้แกะสลัก
"น้องแกะสวยกว่า" แม่ทัพเชมัลกล่าวขึ้นทันที
ดูท่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ตลาดนี้ แม่ทัพเชมัลจะมองว่าอาเม่ยจะทำได้ดีกว่าผู้อื่นไปเสียสิ้น
อาเม่ยยิ้มจนตาเป็นรูปโค้งให้กับคนขายแล้วหันมาดึงแก้มแม่ทัพเชมัล
"พูดจาให้กำลังใจผู้อื่นเป็นบ้างไหม"
ต่อให้คำกล่าวนี้ คนพูดใช้ระดับเสียงที่ได้ยินกันสองคน แต่ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็อมยิ้มขำด้วยกันทั้งสิ้น
พอน้องปล่อยมือ แม่ทัพยังเถียงต่อ "พูดความจริงต่างหาก"
อาเม่ยอยากหันไปส่งค้อนให้ แต่พอสบตาสีเข้มคู่นั้น ก็กลับต้องอมยิ้มหน้าแดงเรื่อ
สายตาหวานล้ำที่มิเคยทำให้สบตากันได้นานกว่าการนับสาม
"ออกไปเดินเล่นที่นอกประตูเมืองกันไหม"
เมื่ออาเม่ยพยักหน้า แม่ทัพเชมัลก็หันไปสั่งบรรดาผู้ติดตามทั้งหลาย ว่าจะออกไปนอกเมืองกันตามลำพัง มิต้องติดตาม
ป่านอกเมืองที่เป็นดั่งสนามหญ้าหน้าบ้านสำหรับแม่ทัพเชมัล
ที่ต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้ม คนรูปร่างสูงใหญ่กอดคนรักไว้ในอ้อมแขน พูดคุย และหัวเราะให้กับเรื่องราวมากมายที่พบเจอ
"ไว้พี่จะพาน้องไปท่องเที่ยวที่เมืองกริลล์ดีไหม ที่นั่นมีช่างไม้ฝีมือดีอยู่หลายคน ให้เจ้าได้ศึกษาวิธีการ"
"ไม่ได้พาไปศึกษาการทำอาหารหรือ ได้ยินว่าที่นั่นมีอาหารแปลกๆ หลายอย่าง" ดวงตาสีแปลกหันมายิ้มรู้ทัน
แต่แม่ทัพเชมัลยักไหล่ "ไม่ละ การกินอาหาร มันสำคัญที่ว่าอาหารนั้นมันถูกปากหรือไม่ แต่หากเป็นน้องทำให้ ต่อให้เป็นเพียงน้ำเปล่า พี่ก็ว่าเป็นน้ำเปล่าที่มีรสชาติดีที่สุดแล้ว"
อาเม่ยทนไม่ไหว แสร้งทำหน้าเบี้ยวไม่เห็นด้วย แต่แล้วก็ต้องหัวเราะคิก เมื่ออีกคนหอมแก้มเสียงดัง
"ใครทำหน้าตาเหม็นเบื่อ จะต้องถูกลงโทษ"
เสียงหัวเราะสดใส และคำกล่าวหยอกเย้ายังคงดังอยู่อีกครู่หนึ่งก็เงียบลง...

พื้นที่ป่าระหว่างเมือง คือความแปลกใหม่ สำหรับเด็กทั้ง 3 คนแม้ว่าจะผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน และทั้งที่รู้ดีว่า ด้านนอกนี้มีกับดักรออยู่ แต่ก็อาจมีเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามต่างก็รู้ดีว่าจะต้องมีองครักษ์ของแม่ทัพเชมัลติดตามมา
เหตุใดจึงเป็นองครักษ์ มิใช่ราชองครักษ์หรือครูอาจารย์ท่านอื่น
นั่นเพราะราชองครักษ์ทุกคนล้วนมีพลังเวทย์ที่กล้าแข็ง เพียงเข้ามาใกล้ก็จะมีพลังเวทย์กดดันผู้อื่นแล้ว ส่วนครูอาจารย์ท่านอื่น ก็จะไม่เข้ามาที่ป่าแห่งนี้โดยไม่มีผู้คุ้มกันนั่นเอง
ดังนั้น แม้จะอยู่ในเขตพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่ทั้ง 3 คนกลับไม่ได้เคร่งเครียด มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวของตนเอง และต่างปฏิบัติต่อกันดั่งเพื่อนที่มีอายุเท่ากัน ผ่านข้ามคืน จนถึงวันใหม่ คุณชายมาจิดจึงกล่าวขึ้นว่า ภูเขาที่หมายที่ทั้งหมดจะต้องช่วยกันนำพยัคฆ์เงินกลับออกมาให้ได้นั้น อยู่ไม่ไกลแล้ว
แต่เมื่อเดินผ่านทุ่งหญ้า เข้าสู่เขตต้นไม้ใหญ่ ทั้ง 3 คนกลับพบคนผู้หนึ่งรออยู่
คุณชายมาจิด และลาทิฟาคุกเข่าถวายการเคารพ

คนที่ยืนรออยู่แม้จะมีอาวุโสเท่ากับคุณชายมาจิดแต่กลับมีร่างกายที่สูงใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ในช่วงเวลาเพียง 2 ปี
"ลุกขึ้นเถิด ข้าสละตำแหน่งไปแล้ว"
คุณชายมาจิด และลาทิฟาหันมามองหน้ากันแล้วลุกขึ้น
ดวงตาสีเข้มกวาดตามองทั้ง 3 คนแล้วคลี่ยิ้ม "เป็นการรวมตัวกันที่ประหลาดมาก"
"พวกเขาประกาศชื่อของพวกเรามานานนับสัปดาห์ พระองค์จะมาแปลกใจอันใด" องค์ชายน้อยดาริมมีสีหน้ามึนตึง "ที่มารออยู่ก็เพราะเป็นพวกเรามิใช่หรือ"
"ข้ามาก็เพราะผู้เฒ่าดินสั่งให้มา" เจ้าชายฮัมซาหยุดมองลาทิฟา "เพราะเจ้า"
ลาทิฟาหน้าแดงเรื่อ ทำให้คุณชายมาจิดกับองค์ชายน้อยดาริมหันไปยิ้มให้กัน
องค์ชายฮัมซา ส่ายหน้าให้กับทั้งสองคนแล้วถามต่อ "จะพักหรือไปต่อ" แน่นอนว่าคำถามนี้ถามลาทิฟา ซึ่งส่ายหน้า
"ไปพักเชิงเขาดีกว่าเจ้าค่ะ"
เจ้าชายฮัมซาเพียงเลิกคิ้ว แล้วหันหลังกลับเดินนำไปที่เขตเชิงเขา

(ต่อ)
หัวข้อ: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 14-03-2016 20:33:32
ต่อ

ตั้งแต่แรกมาทั้ง 3 คนไม่ได้คิดว่าการทดสอบนี้ยาก หากการเดินทางไกลในป่าต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ผู้ที่มีผลโดยตรงคือลาทิฟาที่เป็นหญิง และไม่มีใครที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำของกลุ่ม ได้แต่ถามกันไปมาว่าทำอย่างไรดี แต่เมื่อมีเจ้าชายฮัมซาเข้ามาช่วยเสริม ก็เป็นที่ชัดเจนว่าใครคือผู้นำ
จะปีนเขา ฝ่าน้ำตก หรือพบเจอกับดักภายในถ้ำ ต่างก็ผ่านพ้นไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งเห็นพยัคฆ์เงิน ความสูง 2 คืบวางอยู่บนแท่นเบื้องหน้า 3 คนต่างหยุดยืน รอให้เจ้าชายฮัมซาเป็นผู้ก้าวเข้าไปหยิบมา
"ดาริม ไปหยิบมาสิ"
"นั่นมิใช่หน้าที่ข้า" องค์ชายน้อยดาริมตอบทันที
ขณะที่คุณชายมาจิดกับลาทิฟา กลับก้าวถอยไปยืนข้างกัน
"ใครสักคนไปหยิบมา พวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่"
ทั้ง 3 กลับไม่มีใครก้าวเข้าไปหยิบ ทั้งองค์ชายน้อยยังไปยืนอยู่ข้างๆ 2 คนแรก
เจ้าชายฮัมซา ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
"ข้าไม่อยากกลับไป"
คุณชายมาจิดกล่าวขึ้น "การทดสอบทั้งหมด มาจนถึงตอนนี้ มันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าใครคือผู้นำของเราถัดจากพระราชาฟารัค"
"ไปหยิบมาก่อนแล้วค่อยออกไปคุยกันด้านนอก" เจ้าชายฮัมซาออกคำสั่งกับองค์ชายน้อยดาริม แต่ผู้ที่อ่อนอาวุโสที่สุดกลับยังไม่ขยับ
"ข้ารู้อยู่แล้วว่าลำพังพวกเจ้า จะสามารถชนะเกมเด็กเล่นนี่อย่างง่ายดาย แต่เพราะพระปัยกาสั่งให้มา ด้วยท่านเป็นห่วงลาทิฟา ที่ไม่เคยลำบาก ข้าไม่ได้มาเพื่อยืนยันว่าข้ามีพลังอำนาจอันใด"
"พลังอำนาจที่ท่านมี สืบทอดมาโดยสายเลือด เหมือนเลือดของพวกเราที่บอกว่า ท่านคือผู้นำ" คุณชายมาจิดกล่าวขึ้น
น้ำเสียงเยือกเย็น เรียบเรื่อย แบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้ทุกสายตาหันไปหา
"มาจิด เจ้าเป็นใคร"
"ข้าเป็นคนที่มีเจ้านายได้เพียงคนเดียวคือท่าน" คุณชายมาจิดหันมาหาลาทิฟา และองค์ชายดาริม "อย่ากลัวข้า"
"ไม่ได้กลัว" องค์ชายน้อยดาริมเถียงทันที แต่กลับจับมือลาทิฟาไว้แน่น "พวกเราเล่นเกมพวกนี้มาด้วยกันตั้งหลายวัน ท่านมีโอกาสมากกว่าพันครั้งที่จะทำร้ายเรา แต่ไม่ชอบที่ท่านปิดบังเรื่องราว"
คุณชายมาจิดเพียงส่ายหน้า "ไม่ได้ปิดบัง เพียงเพิ่งรู้ตัวตอนที่พบกับเจ้าชายฮัมซาที่นี่"
"เหมือนกันเลย" ลาทิฟาพูดขึ้น "พวกท่านรู้ว่าข้าไม่มีเวทย์อันใด เพียงแต่ตอนที่พวกเราอยู่ด้วยกัน 4 คนตั้งแต่เมื่อวาน ในใจข้าก็มีความเชื่อมั่นว่า นี่คือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกต้องเรื่องอันใด ในเมื่อหลังจากวันนี้ พวกเราก็จะแยกย้ายกันไป"
"ไม่หรอก" องค์ชายน้อยดาริมกล่าวขึ้น "พระราชาฟารัค ท่านพ่อ และท่านอาเชมัล ไม่เคยแยกจากกัน พวกราชองครักษ์ และองครักษ์ก็ไม่เคยไปไหนไกล"

องค์ชายน้อยยอมรับว่า แม้ที่ผ่านมาจะเคยขัดแย้งกันในเรื่องที่เกี่ยวกับพระราชาฟารัค แม่ทัพนาซิม และต้นห้องเก้า แต่เมื่อทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการที่เจ้าชายฮัมซาสละตำแหน่ง จนทำให้พระราชาฟารัคต้องรับพระสนม กลับทำให้รู้สึกถึงความไม่มั่นคง

"แม้ข้าไม่คิดที่จะเป็นใหญ่ แต่สิ่งที่พวกผู้ใหญ่ทำ มันบอกว่า พวกเขาระแวงข้า เหมือนกับที่ระแวงท่านอาเชมัล กับท่านพ่อมันเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจมาก"

ลาทิฟาคิดตามแล้วคลายมือจากองค์ชายน้อยดาริม เปลี่ยนไปจับมือของเจ้าชายฮัมซา "ท่านจะถือบวชอย่างพระปัยกาจริงหรือเจ้าคะ จะยกเมืองวันให้เป็นของเชื้อพระวงศ์จากเมืองบาสก์ หรือ เสนาบดีกรมวังจริงๆ หรือเจ้าคะ" เด็กหญิงกล่าวช้าๆ ขณะที่จูงมือเจ้าชายไปที่แท่น "เรื่องของผู้ใหญ่ ก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันไป แต่ลาทิฟาเชื่อว่าเด็กอย่างเราทำอะไรได้มากกว่านั้น ลาทิฟาไม่รู้หรอกว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร การควบคุมกับการละทิ้ง ทางไหนดีกว่ากัน แต่การที่พระปัยกาบอกให้เจ้าชายเสด็จมา ต้องมิใช่เพียงเพราะว่าลาทิฟาเป็นผู้หญิงที่ไม่มีเวทย์แน่ๆ" มือเล็กๆ ดึงมือใหญ่ของเจ้าชายฮัมซาหยิบรูปปั้นโลหะขึ้นมา "แต่แรกมาการเดินทางนี้มันก็ไม่ได้ยากลำบากอันใดนัก ยิ่งเมื่อเจ้าชายเสด็จมา ก็ยิ่งราบรื่นกว่าเดิม ทั้งหมดนี้มีเพียงเป้าหมายเดียวก็คือการที่ พระราชาฟารัคต้องการให้พวกเราทำความรู้จักกันไว้"

เจ้าชายฮัมซามองรูปปั้นในมือ มองลาทิฟา แล้วหันไปมององค์ชายน้อยดาริม จากนั้นก็เป็นคุณชายมาจิด

....พ่อของข้าคือพระราชาฟารัค คนที่ชอบวางแผนและวุ่นวายกับเรื่องของผู้อื่นไม่เลิกรา พระองค์ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ ต่อให้ไม่กลับไปรับตำแหน่งรัชทายาท ข้าก็ยังต้องเป็นหนึ่งในผู้นำของเมืองวัน....

เจ้าชายฮัมซาวางรูปปั้นลงในผืนผ้าม้วนไว้แล้วผูกไว้กับอกขององค์ชายน้อยดาริม

"ถัดจากนี้ขึ้นไปในเขตเมืองบาสก์ มีทุ่งหญ้าของคนเลี้ยงม้า อีก 3 วันข้างหน้าจะมีงาน พวกเราไปเที่ยวเล่นกันก่อนแล้วข้าจะพาพวกเจ้ากลับมาส่งดีไหม"

อีก 3 คนยิ้มกว้าง รีบพยักหน้าเห็นด้วยในทันที

....สักวันข้าคงต้องกลับไป แต่จะให้กลับไปง่ายๆ คนที่ทำเรื่องไม่ดีไว้ ก็จะไม่รู้จักเรียนรู้ นอกจากนี้ ข้ายังต้องแข็งแกร่งกว่าเดิม แม้ไม่อาจเป็นพระราชาที่ยิ่งใหญ่อย่างพระราชาฟารัค แต่ข้าจะเป็นพระราชาที่ทำให้ทุกคนในการปกครอง ดำรงชีวิตด้วยความสงบสุข...

เด็ก 4 คนลงจากถ้ำแล้วเดินป่าต่อไปทางเมืองบาสก์

หัวหน้าองครักษ์รอมยืนกอดดาบใหญ่มองตามหลังทั้ง 4 คนที่กำลังเดินเท้าไปอย่างไม่รีบเร่ง
องครักษ์ซันหันมาถาม "ท่านรู้ได้อย่างไร ว่าทั้ง 4 คนจะพากันเกเร"
"เพราะพี่ใหญ่ของพวกเขา มีพ่อเป็นพระราชาฟารัค ถ้าไม่พาน้องๆ ออกนอกทาง ก็ต้องถือว่านี่เป็นสิ่งที่ผิดความคาดหมายแล้ว"
"แล้วจะตามไปหรือไม่"
"ไปสิ"
"แต่พวกเรามีหัวหน้าคือแม่ทัพเชมัลนะ"
"นั้นทำให้พวกเรายิ่งต้องไป คนที่ซื่อตรงต่อหน้าที่แบบนั้น ถ้ารู้ว่าเราปล่อยเด็กๆ ไปเที่ยวกันตามลำพัง กลับไปพวกเราต้องโดนลงโทษแน่"

องครักษ์ซันเงยหน้าหัวเราะกับท้องฟ้า ก้าวเดินตามหัวหน้าองครักษ์ไปโดยดี

..จบตอนพิเศษ..
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 14-03-2016 21:24:01
ชอบตอนนี้จังเลยค่ะ ดูแสดงเล่ห์เหลี่ยมความเจ้าวางแผนของพระราชาฟารัคไดีมากเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 14-03-2016 21:35:54
มีนาซิมย่อส่วนด้วยเนอะองค์ชายน้อยดาริม ส่วนองค์ชายฮัมซานี่ถ้าแม่ไม่เรียนรู้ยังไม่กลับสินะ

เข้ามาอีดิทเป็นแม่ละ ลืมแม่ไปเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 14-03-2016 22:09:38
เจ้าเล่ห์เหมือนพ่อ 555. แต่ที่นับถือคือ คนเขียน คิดวางโครงเรื่อง ตัวละคร บท ออกมาได้เฉียบขาดมากๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-03-2016 22:23:13
เลือดพ่อมันแรง ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 14-03-2016 22:40:01
พอมาเป็นรุ่นลูกแล้วสนุกไม่เปลี่ยนเลย
องค์ชายใหญ่ของพวกเรา เท่มากๆ

พระราชานี่ก็อ้อนต้นห้องเก้าเสียจริง ทำเอาอยากแอบดูที่ริมหน้าต่างเลยทีเดียว55555
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-03-2016 23:08:07
วางแผนแม่แต่กับเด็กเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-03-2016 23:15:06
ลูกชายอยากจะดัดหลังเสด็จพ่อจอมวางแผนสินะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-03-2016 02:05:04
พระราชาฟารัคก็ยังชอบวางแผนเหมือนเดิม อ่านตอนนี้ก็มโนไปไกลว่าลาทิฟาจะได้เป็นพระชายาของเจ้าชายฮัมซารึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-03-2016 10:18:23
หลงรักองค์ชายน้อยยยยยยย  :-[ ท่านฟารัคอย่าได้เคืองเลยนะเจ้าคะ ไม่ไหวแล้วจริงๆ องค์ชายทำไมน่ารักเยี่ยงนี้  :mew1:

ขอบคุณค่ะ คุณJiveและน้ำชา กับตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-03-2016 11:22:52
เจ้าชายฮัมซาสมกับเป็นพี่ใหญ่มากๆๆ

ขอบคุณคุณJiveและน้องน้ำชาสำหรับตอนพิเศษ :กอด1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 15-03-2016 12:12:27
 :L1: :mew1: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 15-03-2016 13:22:01
 :L2: :L2:

ยิ่งอ่านตอนพิเศษก็ยิ่งอยากให้มีภาคต่อหรือตอนพิเศษไปอีกเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 15-03-2016 15:43:31
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

คิดถึงเหลือเกิน  คิดถึงอาเม่ย คิดถึงพี่เช คิดถึงอาเก้า
อยากอ่านเรื่องราวของเด็กๆ รุ่นต่อไปจัง  ท่าทางจะสนุกมากเหมือนกันเนอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-03-2016 15:52:04
พระราชาฟารัคยังเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม...
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 16-03-2016 11:28:16
น่าติดตามเรื่องราวของเจ้าชายรุ่นใหม่ๆมาก ทั้งเจ้าชายฮัมซาและดาริมน้อย รวมถึงคุณชายมาจิดและลาทิฟา

ขอบคุณพี่ไจฟ์ น้องน้ำชา สำหรับตอนพิเศษน่ารักๆนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 17-03-2016 11:10:49
เด็กๆน่ารักจังเลยยยยยยยยยว เจ้าชายฮัมซานี่ได้พ่อมาเต็มๆ จอมวางแผนแต่เด็กเลยนะเนี่ย
เจ้าชายดาริมก็น่ารัก ดูเหมือนจะค่อยๆเปิดใจรับเพื่อนใหม่มากขึ้นแล้ว
ต่อไปลาทิฟากับมาจิดจะต้องมีบทบาทกับเจ้าชายทั้งสองมากขึ้นแน่ๆ
ขอบคุณคุณไจฟ์น้องทีสำหรับตอนพิเศษน่ารักๆนะคะ จะรออ่านตอนพิเศษตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-03-2016 12:12:13
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 18-03-2016 12:37:06
รุ่นลูกก็ยังเจ้าเล่ห์ได้อีก
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 19-03-2016 23:34:59
อ่านรวดเดียวจบจ้า
ชอบรุ่นลูกมากๆๆๆ
แต่ละคนเชื้อไม่ทิ้งแถวเลย
อยากอ่านตอนพิเศษเพิ่มอีกจัง
จะรออ่านนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 01-04-2016 14:36:58
รู้ว่ายังไม่มีประกาศเป็นทางการของตอนต่อไป ..............  แค่มานั่งรอนะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 01-04-2016 20:36:10
วันนี้เป็นครบรอบพี่เชกับเม่ย ฉลองกันเถอะ 1st anniversary
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 01-04-2016 21:19:19
มาปัดกวาดเช็ดถู ปูเสื่อนั่งรอด้วยคนค่า :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 01-04-2016 21:25:18
ชอบกลุ่มเด็กทั้งสี่ค่ะ นี่ถ้าเอาไปเขียนเป็นเรื่องราวของพวกเขาโดยเฉพาะก็ยังได้นะคะดิฉันว่า

เมืองวัน เมืองบาสก์ เมืองเหนือ ทั้งสามนครนี้จะต้องอยู่ในทวีปที่มีเมืองอื่นๆ อยู่ด้วยอีกแน่ อาจให้เด็กน้อยออกเดินทางไปเผชิญภัยในโลกกว้าง พบเจอกับสัตว์ประหลาดหรือคนร้ายๆ ก็จะดีมากๆ เลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับตอนนี้นะคะ หากมองโดยเนื้อเรื่องแล้ว ตอนพิเศษนี้ยังไม่จบแค่นี้ใช่ไหมคะ?
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 02-04-2016 20:08:01
แวะมาอ่านตอนพิเศษพระราชาฟารัคกับอาเก้าอีกรอบ
ชอบคู่นี้อ่ะ รู้สึกถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้กันแบบลับๆ ต่างคนต่างเก็บซ่อนไว้ในใจ รักที่ไม่หวังครอบครอง รักที่ไม่หวังว่าจะได้เคียงคู่ รักที่เสียสละ ปรารถนาเพียงให้บุคคลอันเป็นที่รักมีความสุข
ถึงแม้การแสดงออกจะเป็นแบบผิดๆ แต่พื้นฐานก็คือรักและหวังดีจากใจจริง
กระทั่งได้มาลงเอยกันแล้ว ก็พอใจและยินดีเพียงแค่ได้อยู่เคียงข้างกัน ไม่ว่าจะในฐานะใด ไม่ต้องป่าวประกาศ ไม่ต้องโอ้อวด ไม่ต้องมียศฐาบรรดาศักดิ์ใดๆ แค่ใจตรงกันก็เพียงพอ
เป็นรักที่บริสุทธิ์จริงๆ
ดีใจที่ทั้งสองคนยอมรับและรู้ใจตัวเองซักที ต่อไปนี้ขอให้มีแต่ความสุข รักกันจนแก่เฒ่าเลยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 02-04-2016 21:23:40
องค์ชายน้อยคนเล็กนี่น่าจับตาดูต่อไปจัง
คืออยากเห็นมุมหลุดๆของเด็กเก่งเลือดพ่อแรงคนนี้อ่ะ
ว่าแต่ว่าพี่คนโตนี่ ก็เลือดพ่อแรงเหมือนกันนะ
เจ้าเล่ห์ มีแผนการมีความตั้งใจของตัวเอง โตมากกกกก
นี่จะมีตอนพิเศษไปจนทุกคนโตเลยมั้ย :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 03-04-2016 10:01:21
โอ้ยยย สนุกมาก เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ
ชอบแนวแฟนตาซีมากๆ  :impress2:

อยากให้มีตอนพิเศษอีกเยอะๆ 5555+  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 05-04-2016 19:51:38
คิดถึงอาเม่ย แม่ทัพเช องครักษ์เก้า พระราชาฟารัค แม่ทัพนาซิม และรุ่นลูกๆนะคะ ยังคงติดตามอ่านตอนพิเศษเสมอน๊า จุ๊บๆ..
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนพิเศษ Test หน้า48 (140359)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-04-2016 15:52:16
สมแล้วที่เป็นลูกของพระราชาฟารัค
ทั้งฉลาดทั้งเจ้าเล่ห์ คงได้ไปเที่ยวเล่นสนุกทั้งสี่คน
ชอบลาทิฟามากด้วยค่ะ ฉลาดและอดทน

ไว้มาอีกนะคะ (แม้คนอ่านจะนานๆมาที ^^)

หัวข้อ: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 17-04-2016 10:00:25
Dinner

ตั้งแต่สามวันก่อน แม่ทัพเชมัลบอกกับอาเม่ยไว้ว่า รองแม่ทัพดาวิชสหายเก่าจากเมืองบาสก์จะเดินทางเยือนเมืองวันด้วยงานราชการเป็นเวลา 3 วัน แต่ในวันที่ 3 หลังเสร็จสิ้นงานราชการแล้ว จะแวะมาร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน จากนั้นก็จะเดินทางกลับ
รองแม่ทัพดาวิช ยังเป็นเชื้อพระวงศ์เมืองบาสก์ ซึ่งมีอายุเท่ากับพระราชาฟารัคแห่งเมืองวัน แต่กลับมีความสนิทและคบหากับแม่ทัพเชมัลดั่งสหาย เนื่องด้วยพระราชาฟารัคที่แม้จะมีอายุเท่ากัน แต่เพราะการที่ทรงเป็นพระราชาจึงมีความห่างเหินกับรองแม่ทัพต่างเมืองอยู่หลายระดับ ส่วนแม่ทัพนาซิมก็เป็นผู้ที่ไม่มีท่าทีเป็นมิตรกับใคร
อย่างไรก็ตาม เมื่อสหายต่างเมืองจะเดินทางมาเยือน แม่ทัพเชมัลย่อมอยากโอ้อวดเสี่ยวเม่ยของเขาให้สหายได้รู้จัก

ในเรื่องของการเลี้ยงอาหารค่ำ อาเม่ยไม่ได้กังวลเรื่องการเตรียมอาหารมากนัก แต่กลับเป็นกังวลเรื่องที่เรือนพักของแม่ทัพเชมัล ออกแบบมาเพื่อให้เป็นที่พัก มิใช่ที่รับแขก
อย่างที่ทราบกัน เรือนพักของแม่ทัพเชมัล ประกอบไปด้วยบ้านหลังใหญ่ของแม่ท้พเชมัลกับอาเม่ย กับหลังเล็กของต้าซัน แล้วก็เป็นบ้านพักของคนรับใช้ หาได้เป็นกลุ่มเรือนพักขนาดใหญ่ แบบตำหนักของเสนาบดีทั้งหลาย ก็อย่างที่มีเสียงนินทาลับหลังว่าตำหนักของราชองครักษ์ฮูดาซึ่งยังมีศักดิ์เป็นเขยของเจ้ากรมเมืองในเวลานี้ ยังมีขนาดใหญ่กว่าเรือนพักของแม่ทัพเชมัลเสียอีก
แต่แม่ทัพเชมัลหาได้สนใจไม่ อ้างว่าอาเม่ยชอบบ้านที่มีคนไม่มากนัก
ตัวของแม่ทัพเอง ที่เคยอยู่ในค่ายทหารมาตลอด ตอนแรกที่ย้ายมาอยู่เช่นนี้ก็รู้สึกว่าเงียบเกินไป แต่ไม่นานนักก็กลับชื่นชอบ ในเวลานี้เมื่อต้องไปงานราชการต่างเมือง พำนักอยู่ในพระราชวัง หรือ ตำหนักที่ทางการจัดเตรียมไว้ให้ กลับรู้สึกว่าวุ่นวาย

เมื่อถึงวันที่รองแม่ทัพดาวิชจะมากินเลี้ยงที่เรือนพัก ต้าซันมีกำหนดต้องไปสอนหนังสือให้ท่านหญิงน้อยลาทิฟาตั้งแต่เช้า แต่ก็ช่วยเตรียมงานจัดสถานที่ให้ก่อนแล้วค่อยออกไป โดยไม่ลืมแวะทักทายเจ้าแพะแก่ที่โรงม้า

ส่วนแม่ทัพเชมัลที่พักค้างคืนในพระราชวังตั้งแต่เมื่อคืน เดินทางกลับมาในตอนค่ำพร้อมกับรองแม่ทัพดาวิช ร่วมด้วยกลุ่มผู้ติดตามอีกนับสิบคน
แม้จะมีตำแหน่งรองแม่ทัพ แต่หากเทียบกันแล้วกลับดู 'ยิ่งใหญ่' กว่าบรรดาแม่ทัพของเมืองวันหลายเท่าตัว
ลูกไฟกองเล็กในอกของอาเม่ยเริ่มขยับตัว ทันทีที่เห็นแขกกลุ่มนี้เดินเข้าในบ้าน แต่ในฐานะที่เป็นคนรักของแม่ทัพเชมัลแล้ว อาเม่ยจำต้องยิ้มแย้มแจ่มใสให้การต้อนรับ

คนผู้นี้มีผิวสีทองแดง ตัวหนา เสียงดัง ดื่มเหล้าแทนน้ำซึ่งข้อนี้ทิ้งห่างแม่ทัพเชมัลไปไกล

หลังการแนะนำตน ก็คือการดื่มกิน
อาหารที่ทยอยขึ้นโต๊ะในค่ำวันนี้ เน้นไปที่เนื้อสัตว์ และน้ำซุปเข้มข้น ต่างจากอาหารที่เมืองบาสก์ รวมถึงอาหารในวัง รองแม่ทัพดาวิช ตลอดจนคณะผู้ติดตามออกปากชมไม่หยุด

"ถึงพระราชาฟารัคจะเป็นเวทย์ขาว แต่ใครจะไปล่วงรู้ได้ว่าในพระทัยคิดอันใดอยู่ เกิดดื่มกินจนเมามาย แล้วพูดจาอันใดที่ไปขัดพระกรรณเข้า จะยิ่งแย่"
แม่ทัพเชมัลเพียงหัวเราะ ซึ่งทำให้รองแม่ทัพดาวิชเชื่อในความคิดของตน
จากนั้นรองแม่ทัพดาวิช ก็หันมานินทาแม่ทัพเชมัลซึ่งหน้า ว่าเป็นบุคคลที่โหดร้ายไร้ความปรานี
"ที่ยิ้มๆ นี่ไม่เชื่อใช่ไหม" รองแม่ทัพดาวิช ขยายเรื่องราวยืนยันคำกล่าวของตนเอง แล้วสรุปว่า "เวทย์ของเชมัลน่ากลัวเกินไป จนไม่มีใครคิดอยากท้าทาย หรือขัดใจ ถ้าดีมาเชมัลก็ดีกลับไป แต่หากคิดจะลงมือแล้วละก็ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตได้"

อาเม่ยหันไปมองคนที่จิบเหล้าเงียบ ๆ นึกถึงเหตุการณ์ที่เมืองเหนือในช่วงก่อนหน้านี้ ก็คิดว่าเป็นจริงตามนั้น ถึงจะบรรดาพระญาติ และเสนาบดี ที่ไม่ค่อยชอบแม่ทัพเชมัล แต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งอะไรมากนัก 

แต่หัวข้อที่รองแม่ทัพดาวิชทำให้แม่ทัพเชมัลต้องหัวเราะฝืนๆ ก็คือการที่อีกฝ่ายให้ความสนใจไต่ถามว่า แม่ทัพเชมัลมีเพียงอาเม่ยคนเดียวจริงหรือ
"จริง" แม่ทัพเชมัลกล่าว
"เฮ้ย.." รองแม่ทัพดาวิช เริ่มหาเรื่องเดือดร้อนให้กับตนเอง "ลูกผู้ชาย จะมีภรรยาเพียงคนเดียวได้อย่างไร พระราชาฟารัคเองยังมีตั้ง 3"
"นั่นเพราะฐานะของพระองค์"
"แล้วฐานะของแม่ทัพเล่า มิต้องสมรสเพื่อรักษาฐานะหรือไร"
"ไม่ต้อง"
รองแม่ทัพดาวิชโบกมือ "ข้ารู้เรื่องคำสาบานของเจ้า รู้ว่าเมืองวันมีกฎหมายแปลกประหลาดมากมาย แต่ทุกข้อย่อมมีทางหลีกเลี่ยง อาเม่ยเป็นชายงามที่เปี่ยมด้วยพลังเวทย์ก็จริง แต่หากจะหาอนุอีกสัก 2-3 คนที่เกี่ยวข้องกับพวกเสนาบดี หรือ ผู้คุมกำลังทางทหารจะดีกับการรักษาฐานะ โดยเฉพาะหากรัชทายาทเป็นผู้ที่มาจากสายเสนาบดี หรือหากสนใจผู้กุมอำนาจจากฝ่ายเมืองบาสก์ ข้าก็พร้อมสนับสนุนจัดหามาให้"
คำกล่าวของรองแม่ทัพดาวิช เป็นเรื่องที่มีเหตุผล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระราชาฟารัค แต่พระราชาฟารัค กลับมิเคยบังคับจิตใจอนุชาทั้ง 2 ในเรื่องนี้
จริงอยู่ที่ทรง 'พยายามจัดหา' ให้กับแม่ทัพนาซิม แต่ก็มิได้บังคับให้ต้องทำตามพระประสงค์ เนื่องด้วยทรงตระหนักดีว่า เป็นเรื่องที่ยุ่งยากลำบากใจเพียงใด
ส่วนอนุชาทั้ง 2 พระองค์ก็หาได้เจ้าชู้ไม่
แม่ทัพเชมัลคล้ายจะเจ้าชู้ แต่ที่แท้ในใจก็มีเพียงอาเม่ยมาตลอด
ส่วนแม่ทัพนาซิม ภรรยาก็เสียชีวิตไปหลายปี ก็ยังไม่มีผู้ใด

แม่ทัพเชมัลหันไปมองอาเม่ยที่กำลังส่งสายตาแหลมคมมาให้แล้วหันมายกเหล้าขึ้นดื่ม รองแม่ทัพดาวิชกลับหัวเราะเสียงดังประสานกับบรรดาผู้ติดตาม "กลัวเมียขนาดนี้..."
"เนื้อย่างรสดีหรือไม่" แม่ทัพเชมัลถาม
"ดีสิ อร่อยมาก ไปมาทั่วเพิ่งเคยกินของอร่อยเช่นนี้"
"เช่นนั้นก็ดีแล้ว กินของอร่อยไป อย่าได้หาเรื่องให้เขาไม่ทำของอร่อยให้กินเลย"
แม่ทัพดาวิช ชะงักมองแม่ทัพเชมัล หันไปมองอาเม่ย แล้วหัวเราะจนเหล้าในจอกสั่นไหว "นั่นสำคัญมาก สำคัญที่สุดแล้ว นอกจากเรื่องหลับนอน จะมีเรื่องอันใดสำคัญไปกว่าการกินของถูกปาก"

กล่าวตามตรงทุกคำพูดที่ออกมาจากรองแม่ทัพเมืองบาสก์ทำให้อาเม่ยไม่พอใจไปเสียทั้งนั้น จนกระทั่งองครักษ์ซันที่เป็นผู้ใช้ไฟเช่นเดียวกันต้องสะกิดชวนให้เดินออกไปด้านนอกด้วยกัน
หากรองแม่ทัพดาวิชเป็นผู้ที่กล่าวคำรุ่มร่ามโดยไม่ระวังตนแล้ว บรรดาผู้ติดตามก็มีสายตากรุ้มกริ่มใส่หญิงรับใช้ที่ออกมาช่วยงาน จนหัวหน้าองครักษ์รอมต้องบอกให้ไปอยู่แต่ในครัว ส่วนงานด้านนอกให้คนรับใช้ชายกับองครักษ์ของแม่ทัพเชมัลเป็นผู้ดูแลเอง

จากหน้าห้องครัว อาเม่ยมองแม่ทัพเชมัล แล้วมองสหายเจ้าสำราญของแม่ทัพ แล้วคิดว่าต้องทำบางสิ่งบางอย่าง
เรื่องวางใจแม่ทัพเชมัลนั้น ไว้ใจอย่างแน่นอน แต่สหายเช่นนี้ไม่น่าวางใจเลยสักนิด

จนกระทั่งต้าซันกลับมา แม่ทัพเชมัลก็แนะนำให้รู้จัก
รองแม่ทัพดาวิช มองคู่พี่น้องแล้วส่ายหน้า "น้องชายเป็นชายงามทั้งมีพลังเวทย์ พี่ชายกลับ..."
แม่ทัพเชมัลเห็นอาเม่ยกำมือแน่นก็รีบพูดตัดบท
"พวกเขาเป็นพี่น้องที่รักกันมาก หากเล่าเรื่องออกมา ท่านต้องอิจฉาแน่นอน"
นั่นเองรองแม่ทัพดาวิชจึงหันมาเล่าเรื่องพี่น้องของตนเอง ผ่านไปพักใหญ่จนสุราที่เตรียมไว้หมดลง เหล่าคณะจากเมืองบาสก์จึงอำลา

เมื่อส่งแขกกลับไป แม่ทัพเชมัลก็โอบเอวอาเม่ยเดินเข้าบ้าน ปล่อยให้คนรับใช้และองครักษ์ช่วยกันเก็บกวาด
แม่ทัพเชมัลจับอาเม่ยขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก
"อะไรที่ไม่ชอบใจ ก็ให้มันกลับไปกับคนพูดเถิด"
"ท่านพี่คบหากับคนเช่นนี้ได้อย่างไร" อาเม่ยหน้างอ
ริมฝีปากหนาจูบปากแล้วก้มลงจูบไซ้คอ มือใหญ่ปลดเข็มขัดออกจากเอวบาง
"นานๆ เจอกันน่ะ เขาเป็นรุ่นพี่ เมืองบาสก์เป็นราชวงศ์ใหญ่ การเมืองซับซ้อนก็ย่อมมีการสมรสเพื่อคานอำนาจกัน"
"น่าสงสารสตรีของพวกเขา"
"ฮื่อ"
ริมฝีปากหนาดูดต้นคอขาวบาง แล้วกลับมาจูบแก้ม มือใหญ่สะกิดยอดอกบาง
นอกเรือนพัก ยังมีคนทำงานกันอยู่ เสียงวิ่งโครมครามขึ้นมาอาเม่ยสะดุ้งรีบผลักแม่ทัพเชมัลออก แต่ยังช้ากว่าคนที่เปิดประตูบ้านเข้ามา
"โอ๊ะ!" ต้าซันรีบหันหลังให้ ทั้งปิดประตูในทันที
"พี่ใหญ่ มีอันใด"
"ไม่ ไม่มี" ต้าซันรีบบอก แต่เพราะยืนอยู่หน้าบ้าน ที่ยังมีคนทำงานอยู่ ทำให้หัวหน้าองครักษ์รอมรีบวิ่งขึ้นเรือนมาดึงต้าซันให้กลับออกมา
แม่ทัพเชมัล กลับเป็นผู้ที่เปิดประตูออกมาก่อน สีหน้าบึ้งตึง
"มีเรื่องร้อนอันใด"
"เอ่อ คือ" ต้าซันกระดากใจ จนแม่ทัพเชมัลต้องถามซ้ำ "แพะแก่หายไป"
แม่ทัพเชมัลเกือบหลุดปากถามว่า นี่คือเรื่องร้อนของต้าซันงั้นหรือ แต่อาเม่ยกลับโผล่พรวดออกมาจากทางด้านหลัง
"อะไรนะ มันหายไปหรือ" พูดยังไม่ทันจบประโยคอาเม่ยก็วิ่งนำพี่ชายออกไปที่โรงม้า
จากนั้นพี่ชายกับน้องชายก็พากันออกไปตามหาแพะแก่ด้วยกัน

หายไปนับชั่วยาม ต้าซันจึงอุ้มแพะแก่กลับมาด้วย ใบหน้ายิ้มแย้มเจื่อนลงทันทีที่เห็นแม่ทัพเชมัลยืนกอดอกมองอยู่ตั้งแต่หน้าบ้าน
อาเม่ยที่รู้ใจทั้งคนรักและทั้งพี่ชายรีบเข้าไปกอดแขนแม่ทัพเชมัลดึงให้เข้าไปในบ้าน ขณะที่ได้ยินเสียงองครักษ์แซนที่อยู่เวรในคืนนี้ ไต่ถามต้าซันว่าไปพบแพะแก่ที่ใด
"ข้ากำลังยกถ้วยชามไปให้คนครัวเก็บล้าง กำลังว่าจะตามไปช่วยหา หันมาอีกทีเจ้าหายไปแล้ว"
"โอ้ย ไม่เป็นไร" ต้าซันอารมณ์ดี "เจ้านี่มันแก่แล้ว มันไปไหนไม่ไกลหรอก แต่ที่กลับมาช้า เพราะมันมืดแล้ว มองหายากหน่อย"

อาเม่ยรู้ว่าแม่ทัพเชมัลอารมณ์ไม่ดีที่ถูกขัดใจ ทั้งตนเองก็รีบออกไปในทันทีโดยไม่ได้บอกกันสักคำ เพราะมิเช่นนั้นแล้วแม่ทัพเชมัลคงต้องออกไปช่วยตามหาอย่างแน่นอน
"เหนื่อยจัง อยากอาบน้ำแล้ว" อาเม่ยกอดแขนช้อนตามองอีกฝ่าย
ดวงตาแบบนี้ ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของอีกคนสลายไปในทันที ต้องหันไปมองทางอื่น พลางเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ
อาเม่ยหันมาหา จะอ้าปากถาม อีกคนก็ถอดเสื้อผ้าออกให้ นิ้วมือใหญ่แตะสัมผัสไปเรื่อย ขณะที่อาเม่ยถอดเสื้อผ้าให้อีกคน
"ท่านพี่อาบน้ำแล้วหรือ"
"อาบแล้ว"
"เช่นนั้น ท่านพี่อาบให้น้อง"
แม่ทัพเชมัลยิ้มให้คนที่ทำตาหวานเชื่อม
"รู้ตัวว่าทำให้ไม่พอใจละสิ"
"รู้" อาเม่ยลากเสียง พลางหันหลังให้อีกคนราดน้ำเย็นให้ "ออกไปได้หลายก้าวแล้ว ถึงนึกขึ้นมาได้ว่า วิ่งออกไปโดยไม่ได้ขอท่านก่อน กลับมาท่านพี่ต้องไม่พอใจแน่ๆ"
"เหอะ" แม่ทัพเชมัลแสร้งกระแทกเสียงในลำคอ ทั้งที่ในใจไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่า เรือนร่างและน้ำเสียงของคนที่อยู่ด้านหน้า
ฝ่ามือลูบไล้อ้อยอิ่งอยู่ที่ยอดอกบาง ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายที่แตะอยู่ที่เอวบางดั่งไม่ได้ตั้งใจ
"ขอโทษ ที่ใจร้อนไปหน่อย"
"อืม"
"ไม่โกรธใช่ไหม"
"ไม่หรอก"
"ขอโทษแทนดาวิช ที่พูดจาไม่น่าฟัง"
"ไม่เห็นต้องไปขอโทษแทนเขาเลย เว้นแต่ท่านจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน"
แม่ทัพเชมัลถึงกับหยุดมือที่กำลังลวนลาม "ไม่มีวัน"
"แน่นะ" อาเม่ยหันมาหา พลางหรี่ตาลง
แม่ทัพเชมัลกลับมาไม่เข้าใจตนเอง เพราะเมื่อครู่ตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบให้อีกคนง้ออยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นถูกซัก
"แน่นอนที่สุด พี่จะไปมองหาคนอื่นได้อย่างไร"
"ว่ากันว่าสหายกัน ก็ย่อมมีนิสัยคล้ายกัน"
"นั่นไม่จริงสักหน่อย"
อาเม่ยแกล้งต่อ "ตอนที่กำลังหนุ่ม เลือดร้อน น่าจะมีอยู่สักหน่อยละนะ"
"นั่นมันเรื่องในอดีต" แม่ทัพเชมัลสารภาพ
คนซักถามไม่แปลกใจเลยสักนิด "ก่อนฮูดาอีกหรือ"
"เสี่ยวเม่ย"
"ไม่ต้องมาเสี่ยวเม่ยเลย ก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่าท่านก็ต้องมีประสบการณ์มามากพอตัวทีเดียว" ชั้นเชิงในห้องนอนขนาดนี้  "แล้วตอนที่มีฮูดา ท่านยังมีอะไรกับคนอื่นอีกหรือไม่"
แม่ทัพเชมัลทำหลับตาพลางพยักหน้า
"ท่านฮูดาไม่อาละวาดหรือไร"
"ก็.."
"แล้วพอมีเก้าล่ะ"
"ก็..."
"เข้าใจละ"
"เข้าใจอันใด ตั้งแต่วันที่เจ้าเดินเข้ามาที่นี่ พี่ก็ไม่มีใครอีกเลยนะ นี่คือเรื่องจริงแท้ที่สุด"

อาเม่ยรู้ว่านี่คือเรื่องจริง ทุกคำของแม่ทัพเชมัลคือความจริง แต่การทำให้คนกล้ามีท่าทีกังวลเช่นนี้มันกลับสนุกมาก...

"ไปต่างเมืองเจอหนุ่มน้อย ก็ทำดีกับเขาหรือไม่"
"ไม่" แม่ทัพเชมัลตอบทันที
"ดี คำถามสุดท้าย" คนตัวโตพร้อมตอบคำถาม "ท่านพี่เคยมีอะไรกับสตรีหรือไม่"
แม่ทัพเชมัลอึ้งไปครู่ แล้วพยักหน้า
อาเม่ยจับไหล่หนากดให้คุกเข่าลง ดวงตาสีแปลกก้มมองคนที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
"เรื่องในอดีตก็คืออดีต ผ่านไปแล้วล้วนไม่ติดใจอันใด"
ถึงยามนี้แม้แต่เรื่องของต้นห้องเก้าก็มิได้ทำให้เกิดความรู้สึกใดๆ แต่เพราะแม่ทัพเชมัล มีเพื่อนเจ้าสำราญอย่างรองแม่ทัพดาวิช การเดินทางไปต่างเมืองเป็นเวลานานอาจเกิดเรื่องราวขึ้นได้ จึงต้องมีการเตือนกันไว้สักหน่อย

"ต้องการหรือไม่" อาเม่ยถามเสียงต่ำ
เพียงแค่ลมหายใจที่เข้ามาใกล้ ก็ทำให้คนที่กำลังแสร้งทำท่าทีว่าเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า กลับรู้สึกคล้ายกำลังทรมานตนเอง มากกว่าการกำลังข่มขู่อีกฝ่าย
ดวงตาสีเข้มที่มองตอบ ยังคงเต็มไปด้วยความเข้าใจและอ่อนโยน
"คนเดียวที่พี่ต้องการคือเจ้า"
ฝ่ามือใหญ่ช้อนกระชับสะโพกบาง จูบแก่นกายสีอ่อนที่กำลังตื่นตัว ความรุ่มร้อนต้องการที่ค้างคามาตั้งแต่ชั่วยามก่อนยิ่งเรียกร้องมากกว่าเดิม
ทั้ง 2 ต่างมีความต้องการอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อแก่นกายอุ่นร้อน อยู่ห่างจากปลายทางไม่ไกลนัก คนตัวใหญ่ก็ลุกขึ้น ใช้ผ้าผืนใหญ่หุ้มตัวน้อง แล้วอุ้มออกมาที่ห้องนอน
มือใหญ่ใช้เวลานานกว่าที่จะแกะผ้าออกหมด ด้วยทั้งจูบทั้งลูบไล้
น้ำมันหอมขวดใหม่ ที่เพิ่งได้รับมาส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
"น้ำมันหอมสกัดจากแก่นจันทน์"
"หืม" อาเม่ยกะพริบตามอง เก้อเขิน
"รู้ละสิว่ามันมีผลอย่างไร"
อาเม่ยกลับไม่ตอบ แก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด ลามจนมาถึงอก
"ที่จริงอาหารวันนี้มันก็อร่อยดี" แม่ทัพเชมัลจู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่อง แต่กลับหยดน้ำมันสกัดลงที่ช่องทางอ่อนไหว
คนตัวเล็กผวาเฮือกกระตุกสะโพกบาง
"ทะ ท่าน พี่.."
มือเล็กๆ จับข้อมือใหญ่ที่แทรกเข้าหาช่องทางหวามไหว
"มะ มัน มัน น้ำมัน นี้..."
ปลายลิ้นตวัดผ่านยอดอกบาง แล้วก้มลงขบแก่นกายอุ่น
อาเม่ยน้ำตาไหลพราก ความต้องการมากมายใกล้ท่วมท้น ริมฝีปากหนาดูดแรง พาสะโพกบางยกตัวตามมาด้วยแล้วทิ้งตัวลงหอบ
แยกเรียวขาออก แล้วแทรกตัวเข้าหาช้าๆ อาเม่ยแอ่นตัวโค้งรับ น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความพอใจ
"เสี่ยวเม่ย" มือใหญ่สัมผัสริมฝีปากสวยที่ถูกจูบจนช้ำ "ให้ชายงามนับร้อย หญิงงามนับพัน ไม่อาจเทียบเจ้าได้แม้แต่เงา"

หยาดน้ำตาเอ่อล้นจากดวงตาสีแปลก ริมฝีปากเผยอเชิญชวนให้ดื่มกินไม้รู้จักอิ่ม
เนิ่นนานจนรุ่งเช้า ความรุ่มร้อนในห้องนอนจึงเบาบางลง

...

แม่ทัพเชมัลใช้น้ำมันนวดเอวให้คนที่นอนร้องโอดโอยจากการปวดเอวเจ็บหลัง ทั้งบ่นกระปอดกระแปดเรื่องรอยจูบชัดเจนที่ลำคอ
"บอกตั้งหลายครา ว่าอย่าจูบที่นี่ เวลาพี่ใหญ่มองแล้วยิ้มๆ น่ะ มันเขินนะ"
"ก็เห็นเจ้าชอบ" แม่ทัพชี้แจง
กล่าวตามตรงเวลาที่กำลังทายาให้เช่นนี้ ยังรู้สึกต้องการกอดรัดอีกคนไว้ แต่รู้สึกสงสารจับใจที่อีกคน มีรอยจูบช้ำไปทั้งตัว
"ก็แค่พอควรน่ะ พอควรเข้าใจไหม นี่ทิ้งรอยไว้ชัดขนาดนี้ อีก 3 วันมันจะจางลงไหม"
อาเม่ยชี้ที่ลำคอที่มีรอยจูบชัดเจนเป็นแนว
คนตัวโตอดไม่ไหว ก้มลงขบฟันที่ไหล่แล้วดูดย้ำ
"อะ บอกว่าอย่าดูด" อาเม่ยโวยวาย แต่เพราะนอนคว่ำอยู่ แถมยังปวดเอวปวดหลังขนาดนี้ จะดิ้นรนก็ยิ่งเจ็บปวดหนักกว่าเดิม "ไอ้แม่ทัพบ้านี่"
"เนื้อของน้องอร่อยดี" แม่ทัพเชมัลเฉไฉ
อาเม่ยหันมาทำตาปริบๆ "เหมือนเมื่อคืนจะพูดอะไรคล้ายๆ แบบนี้"
"อ้อ ใช่" แม่ทัพเชมัลก้มลงขบใบหูอีกคนก่อนตอบ "พี่บอกว่า อาหารเมื่อคืนนี้อร่อยดี"
"แล้ว...."
"เนื้อของน้องอร่อยกว่า"
อาเม่ยคว้าหมอนหันมาทุบอีกคน "ดูพูดเข้าสิ"
มือใหญ่รวบจับข้อมือเล็กๆ ไว้เหนือศีรษะ ดวงตาสีเข้มห่างไม่ถึงคืบ
"ขอพักสัก 3 วัน ไม่สิ สัก 7 วันได้ไหม" อาเม่ยวิงวอนอย่างน่าสงสาร
คนตัวโตส่ายหน้าช้าๆ "ไม่ได้ เพราะพี่เป็นคนใจร้ายมาก เจ้าไม่เคยได้ยินที่เขาลือกันหรอกหรือ ที่เขาบอกว่า แม่ทัพเชมัลเป็นคนโหดเหี้ยม ใจร้ายมากน่ะ"
"ก็ไปใจร้ายกับคนอื่นในเรื่องอื่นสิ"
"เรื่องอื่นกับคนอื่น งั้นเรื่องนี้ใจร้ายกับเจ้าได้คนเดียว"
อาเม่ยอ้าปากจะเถียงแล้วต้องถอนหายใจ "ท่านมันคนเอาแต่ใจ ร้ายกาจ ขี้อิจฉา"

จากการโต้เถียง กลายเป็นเสียงหัวเราะ และเสียงหอบหายใจ.....


...จบตอนพิเศษ Dinner...
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: MOOROok ที่ 17-04-2016 10:54:10
น่ารักกกกกกกกกก~~~~~
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 17-04-2016 11:14:29
 :hao6: :hao6:

เนื้ออาเม่ยต้องอร่อยที่สุดซินะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 17-04-2016 11:15:01
เสี่ยวเม่ยแพ้ทางท่านพี่ตลอด

ขอบคุณ คุณไจฟ์น้องน้ำชาสำหรับตอนพิเศษ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 17-04-2016 11:22:49
แม่ทัพเชมัลกับอาเม่ย หวานใส่กันขนาดนี้ คนอ่านแทบจะละลายตามไปด้วย  :-[ ต้าซันคนโสด คงเจอซีนหวานๆของคู่นี้บ่อยๆ น่าสงสารจัง...เมื่อไหร่จะมีคู่กับเค้าบ้างนะ  :man1:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษยาวจุใจให้หายคิดถึงค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 17-04-2016 13:56:13
หืมมมมมม ตอนพิเศษตอนนี้ร้อนแรงตามสภาพอากาศเมืองไทยเลยทีเดียว

แม่ทัพเชมัลกับอาเม่ยมาแล้ว ต้าซันกับแพะแก่ก็มาด้วย แล้วพระราชาฟารัคกับอาเก้าจะมาเมื่อไหร่หนอ

ขอบคุณคุณไจฟ์และน้องน้ำชาสำหรับตอนพิเศษที่น่ารักๆ ตอนนี้ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 17-04-2016 17:00:37
บทรักร้อนไม่ต่างกับอากาศ น่าสงสารอาเม่ยต้องทนให้คนใจร้ายตักตวงทั้งคืน

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ เรื่องเพื่อนของแฟนนี่ก็เป็นประเด็นน่าสนใจนะคะ บางทีแฟนเราก็มั่นคงเพียงพอ แต่เมื่อเจอแรงยุของเพื่อนเข้าก็มีเขวเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วย แต่แม่ทัพเชมัลก็ดีตรงที่ว่า...เมื่อได้รักกับอาเม่ยแล้ว ก็คงมั่นกับความรู้สึกของตนเอง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 17-04-2016 19:45:29
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ สนุกน่าลุ้นทั้งเรื่องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-04-2016 19:53:07
จัดว่าเด็ดอาหารมือนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 17-04-2016 20:02:43
อ๋อยยยย น่ารัก~
 :o8:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-04-2016 20:43:34
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-04-2016 23:18:34
ร้อน(แรง)ยิ่งกว่าอากาศก็คู่นึ้นี่แหละ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 17-04-2016 23:29:01
เนื้อน้องอร่อยกว่า เสี่ยวเม่ยเขินจนตัวสุกได้เลยนะคะเนี่ย ท่านแม่ทัพหื่นไม่เบา แต่รองแม่ทัพที่เป็นแขกดูท่าจะเป็นพวกเจ้าสำราญ ชิมายุให้ครอบครัวแตกแยก

สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-04-2016 03:43:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-04-2016 08:52:07
 :m25:  :m25:  เอาเป็นว่าท่านเชมัลชนะน๊อคด้วยน้ำมัน  ยกนี้แพ้ให้ท่านพี่เลยอาเม่ยเรา

แต่.........แอบเขิน 5555555

ขอบคุณค่ะที่มีตอนพิเศษมาเรื่อยๆแบบนี้  :L2:

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 18-04-2016 12:23:44
 :hao6: :hao6: :hao6:
น่ารักอ่ะ รอตอนพิเศษอีกเรื่อยๆ อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 18-04-2016 14:19:41
ท่านรองแม่ทัพน่าจะโดนเม่ยจับทุ่มสักทีเนอะ ชวนเพื่อนนอกใจเมียอยู่นั่น



หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 18-04-2016 16:32:30
โอ้ยยย...แม่ยกเม้ยจะเป็นลม  น่ารักเกินไปแล้วนะ :-[ :z1:
แต่ฮาตอนแพะแก่เนี่ยแหละ  :laugh:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 19-04-2016 08:04:47
โอ๊ยยย ตื่นเต้นแล้วลุ้นมาก หักมุมทุกตอน คืองานดี แฟนตาซีมาก ชอบๆๆๆๆ แต่งดีมากเลย :hao7: ทุกอย่างมีเหตุและผลของมัน ชอบจริงจัง  o13 o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 19-04-2016 09:16:08
มีความยากกินเนื้อบ้าง 5555. แม่ทัพดาวิชนี่ช่างสำราญ อยากรู้เรื่องของแม่ทัพอีกสักหน่อย อยากรู้ว่าคนเจ้าสำราญ เวลามีความรักนี่จะเป็นแบบไหนนะ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 19-04-2016 14:43:40
 :mew1:ครั้งแรก น้ำมันกุหลาบ คราวนี้น้ำมันแก่นจันทร์ อืม ร้อนกันเลยทีเดียว :hao6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 20-04-2016 06:25:22
อรั๊ยๆๆๆๆๆๆ เป็นการ dinner ที่ร้อนแรงมากกกกกกกกกก
อาเม่ยขี้อ้นปนช่างยั่วเล็กๆแบบนี้น่ารักมากๆๆๆๆ พี่เชเลยจัดหนักกันเลยทีเดียว อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 21-04-2016 16:22:01
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ตอนนี้เราอิ่มอกอิ่มใจ 555
ว่างๆ  แวะมาเพิ่มตอนพิเศษอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 21-04-2016 16:56:18
น่ารักกันจริงๆ คู่นี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 21-04-2016 20:31:32
นึกภาพพี่เชมีอนุไม่ออกเลย 555

ขอบคุณ คุณไจฟ์ทีค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-04-2016 00:24:12
อาหารจานนี้กินได้ไม่รู้เบื่อ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-04-2016 15:12:00
เข้ามาสำลักอาหารมื้อนี้อีกรอบ  :o8:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 23-04-2016 22:39:06
พี่เชช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก มีการหาน้ำมงน้ำมันมาเป็นตัวช่วยเสียด้วย.  :impress2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 24-04-2016 08:05:51
ฟินได้อีก...สนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 27-04-2016 12:47:41
เสี่ยวเม่ยน่ารักมากก  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: Flowerrice13 ที่ 27-04-2016 23:55:06
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 01-05-2016 14:10:58
พึ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ  o13

ปล.ขอตอนพิเศษคู่พระราชาฟารัคกับอาเก้าเยอะๆนะคะ คู่นี้ทำเราลุ้นหืดขึ้นคอเลยทีเดียว กว่าจะได้รักกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Dinner หน้า 49 (170459)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 06-05-2016 16:21:55
กินเนื้อกันตั้งนานแล้ว ป่านนี้จะไปกินของหวานกันต่อไหมน๊อ  o18
หัวข้อ: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 10-06-2016 06:18:52
ตอนพิเศษ Simply

อาเม่ยนอนหนุนตักของแม่ทัพเชมัล ที่เตียงไม้ตัวใหญ่กลางลานบ้าน พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างบดบังดาวดวงน้อย สายลมเย็นกระทบผิวกาย บ่งบอกว่าในที่ไม่ห่างไกลมากนัก กำลังมีฝนตก เสียงดนตรีเครื่องสายพลิ้วไหวไปตามสายลม

.....ยังจดจำได้เสมอยามที่พบกันคราแรก  หลังตรง ดวงตากร้าวที่มองไปข้างหน้า
แต่กลับยื่นมือมาช่วยเหลือผู้ต่ำต้อย
ความเมตตาที่มอบมา มิได้ต่างจากที่ท่านมีให้ผู้ใด
แต่ดั่งสายน้ำเย็นในวันแห้งแล้ง
ดั่งสายลมอ่อนโยนในวันเหนื่อยล้า
มีค่ายิ่งกว่าเพชรนิลจินดาใด ๆ
 
หากเปรียบท่านเป็นดั่งจันทรา ข้ากลับมิอาจเปรียบตนเป็นดั่งดวงดาว
มิอาจเป็นสิ่งใดในนภากว้าง
ต่อให้เป็นเพียงสายลมก็ยังมิอาจเอื้อมถึง
ยังคงเป็นเพียงดอกหญ้าดารดาษที่พบเจออยู่ทั่วไป
เพียงขอมองดูท่านเคียงข้างกับดวงดาว
คืนแล้วคืนเล่า .....

แม่ทัพเชมัลลูบผมสีเงินของคนที่นอนหนุนตัก "พี่ใหญ่ชอบพอผู้ใด"
อาเม่ยส่ายหน้าไม่ยอมบอก ทำให้คนถามสรุปเอง "คนผู้นั้นมีคู่อยู่แล้วหรือ"
อาเม่ยยังไม่ยอมตอบคำถามอยู่เช่นเดิม

....ผู้อื่นอาจหวังให้จันทราหันมามอง แต่นั่นมิใช่คำขอของข้า
ข้าเพียง...
อย่าได้หันมาทางนี้
อย่าได้รับรู้ว่าดอกหญ้าเล็ก ๆ นี้มองท่านอยู่
อย่าได้สนใจไต่ถามว่าสายตาที่เฝ้ามองแต่ท่านมาจากไหน
เพราะหากท่านรู้ ความสุขของข้าก็คงหมดลงในทันใด
เพราะความสุขของข้าคือเพียงการเป็นผู้เฝ้ามอง.....

"คนผู้นั้นต้องเป็นผู้มีชื่อเสียง" แม่ทัพเชมัลคาดเดา
อาเม่ยส่งเสียงขัดใจ บอกให้อีกคนฟังเพลง มิใช่มัวแต่จับเงื่อนปมต่าง ๆ ในบทเพลง
"หากอีกฝ่ายมิได้ผูกพันกับใคร ต่อให้เป็นผู้มีชื่อเสียง ก็ไม่น่าจะมีอันใด หากจะไปทำความรู้จักผูกพันกันไว้"
คนที่นอนหนุนตักหยิกต้นขาคนที่กำลังคาดเดาเรื่องราว
"ห้ามพูด!"

เดิมนั้นต้าซันทำงานในสังกัดกองงานดนตรีวังหลวง จึงมักจะได้พบกับราชองครักษ์มีอาเป็นระยะ เป็นความพอใจแบบคนที่อยู่ห่างไกล ที่รู้ตัวดีว่าทำได้แค่แอบมอง ต่อมาเมื่อทำหน้าที่สอนหนังสือให้กับท่านหญิงลาทีฟา ธิดาของราชองครักษ์ลาทิฟ แม้จะได้พบเห็นน้อยลงกว่าเดิม แต่กลับมีความใกล้ชิดกว่าเดิม และได้พูดคุยกันมากกว่าเดิม
"พรุ่งนี้ ที่บ้านจะมีงานเลี้ยงให้กับบุตรชายของข้า อยากชวนเจ้าไปด้วย" ราชองครักษ์ผู้เคร่งครัดเอ่ยชวน "เมื่อเช้าพบท่านแม่ทัพ ข้าจึงชวนท่านแม่ทัพและอาเม่ยแล้ว"
ต้าซันเกาที่ขมับ แล้วหันไปมองท่านหญิง
"ท่านอาไปนะเจ้าคะ ข้าจะได้ขอท่านพ่อไปกับท่านอา" ท่านหญิงน้อยกระตุกมือ "ข้าอยากไปเล่นกับน้อง"
เพราะเป็นหญิง จะอย่างไรการออกไปนอกบ้าน ก็ยังไม่อาจไปโดยลำพัง
"ท่านลาทิฟไม่ไปหรือ" ต้าซันสงสัย
"ข้าอยากไปก่อนงานเลี้ยง ถ้าไปตอนที่งานเริ่มแล้วจะเล่นไม่ได้"
"อ้อ จริงสินะ" ต้าซันหันมารับปากกับราชองครักษ์แล้วก็ตกลงเรื่องที่จะมารับท่านหญิงไปบ้านของราชองครักษ์ตั้งแต่ก่อนยามเที่ยง

เด็กหญิงและเด็กชายเมืองวันเมื่ออายุครบ 5 ขวบจะมีพิธีฉลองอายุ และการอำนวยพรให้สุขภาพแข็งแรง แต่ในกรณีของทายาทผู้ครองเวทย์แล้ว วันนี้ยังเป็นวันที่ครอบครัวจะเปิดเผยเรื่องเวทย์ของเด็ก แต่อาเม่ยไม่เคยเข้าพิธีนี้ สิ่งที่มีอยู่ในความทรงจำคือความโดดเดี่ยว
แต่เมื่อเป็นงานเลี้ยงของราชองครักษ์คนสำคัญ งานเลี้ยงในครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยผู้ครองเวทย์มากมายจากหลายเมือง ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งมิได้รับราชการ
รถม้าของแม่ทัพเชมัล ไปรับอาเม่ยที่บ้านเพื่อพาเข้าเมืองตามระเบียบปฏิบัติ จากนั้นจึงไปรับต้าซันกับท่านหญิงลาทีฟาที่บ้านพักแล้วไปที่บ้านพักของราชองครักษ์มีอา
อาเม่ยหันไปมองพี่ชายในเชิงถาม ว่าแน่ใจแล้วหรือ ที่จะไปงานเลี้ยงที่บ้านของราชองครักษ์ แต่ต้าซันก็ยิ้มกว้างดั่งที่ผ่านมา

ภายในรั้วสูง ประกอบไปด้วยบ้านพักหลังใหญ่ และเรือนเล็กอีก 3 หลังในบริเวณเดียวกัน ช่างกว้างขวางร่มครึ้มจนนึกเปรียบเทียบกับบ้านพักของแม่ทัพเชมัลที่นอกเมือง
แม่ทัพเชมัลก็ช่างรู้ใจโดยที่มิต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยปาก
"บ้านพักของแม่ทัพเชมัล หลังเล็กที่สุดในบรรดาผู้รับราชการในพระราชาฟารัคก็จริง" ดวงตาคมเข้มหันมามอง "แต่ต่อให้บ้านพักของแม่ทัพเชมัลเป็นเพียงโรงม้า แต่นั่นก็ยังสวยงามและกว้างขวาง ขอเพียงมีน้องอยู่ด้วยกัน"
อาเม่ยยิ้มเก้อเขิน ขณะที่ต้าซันที่กำลังอมยิ้มรีบกระตุกมือท่านหญิงน้อยเข้าไปในบ้าน เช่นเดียวกับส่วนบรรดาคนรับใช้ที่ถือของฝากตามมา

ในงานเลี้ยงซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ยามเย็น คุณชายน้อยมิกาสวมชุดทางการ เคียงข้างราชองครักษ์มีอารับคำอวยพรและของขวัญจากผูัมาร่วมงาน ส่วนแม่หญิงผู้เป็นภริยาของราชองครักษ์ นั่งเยื้องไปทางด้านหลัง เมื่อการรับคำอวยพรผ่านไป แม่หญิงผู้เป็นภริยาจึงถอยออกมา

ที่ลานกว้างหน้าบ้าน คุณชายน้อยถือกระบี่ยาวร่ายรำ จากนั้นจึงท่องตำรากฎหมายอย่างแม่นยำ

...บิดาเป็นเช่นไร บุตรก็เป็นเช่นนั้น...

ทุกผู้คนต่างปรบมือด้วยความยินดี
ท่านหญิงลาทีฟา หันไปถามองค์ชายน้อยดาริม "เขาจะสนับสนุนองค์ชายฮัมซาไหม"
ก่อนนี้ตั้งใจว่าจะมาพบน้อง แต่เมื่อคุณชายน้อยมิกาแสดงความสามารถออกมา ท่านหญิงลาทีฟาก็รู้ว่า มิอาจปฏิบัติกับคุณชายดั่งน้องชายได้อีกต่อไป
"ไว้รอถามเขาสิ" องค์ชายน้อยดาริมเชิดคางขึ้นสูง
คุณชายมาจิดหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ลูบหลังองค์ชายน้อย "หงุดหงิดอันใด"
"ทำไมใคร ๆ ก็ชอบกล่าวถึงเจ้านั่นกับข้านะ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร"
"อ้อ..." คุณชายมาจิดยิ้มกว้าง
"อย่ายิ้มเช่นนั้นนะ" องค์ชายน้อยหันมาพาล "นี่ก็อีกคน อารมณ์ดีได้ทั้งวัน" ดวงตาที่เหมือนแม่ทัพนาซิมไม่มีผิดเพี้ยนหันไปหาท่านหญิงแล้วหันกลับมามองคุณชายมาจิด "คนหนึ่งก็ถามทั้งวัน อีกคนก็อารมณ์ดีทั้งวัน หงุดหงิด"
"ก็เห็นท่านเคยคุยกับคุณชายมิกานี่นา" ท่านหญิงลาทีฟาหน้าม่อยลง
"เจ้านั่น 5 ขวบเองนะ" องค์ชายน้อยชี้ไปที่ผู้ซึ่งกำลังน้อมรับคำชื่นชมจากบรรดาผู้ใช้เวทย์ "อีกอย่าง องค์ชายฮัมซาที่พวกเจ้ารออยู่ เขาจะกลับมาหรือไม่ก็ไม่รู้"
"นั่นสินะ แล้ว...."
องค์ชายน้อยไม่รอให้อีกฝ่ายถามคำถาม ก็ขัดขึ้น "ไปถามท่านอาต้าซันเถอะ"
"อ้าว" ต้าซันที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฟังกลุ่มเด็กสนทนากันร้องขึ้นอย่างคาดไม่ถึง "โยนกันง่าย ๆ เช่นนี้เลยหรือกระหม่อม"
"นั่นแหละ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่ ตอบคำถามไปเถอะ" องค์ชายน้อยหันไปชวนคุณชายมาจิด "ไปหาขนมกินกันเถอะ เดี๋ยวไอชากลับมารับ ก็จะไม่ได้กินอะไรกันพอดี"

ไอชาคือนางข้าหลวงผู้ดูแลองค์ชายน้อย
ส่วนคุณชายมาจิดมีกำหนดเข้าเป็นองครักษ์ในแม่ทัพเชมัลในอีก 3 เดือนข้างหน้า

เหลือเพียงต้าซันที่ยืนยิ้มกว้างอยู่กับท่านหญิงน้อยลาทีฟา ราชองครักษ์มีอากับคุณชายน้อยมิกาก็มายืนอยู่ข้างหน้า
"บิดาของเจ้าท่าทางจะลืมงานวันนี้เสียแล้ว ลาทีฟา" ราชองครักษ์กล่าวกับท่านหญิงน้อย
"อาจมางานนี้ เมื่อผู้ป่วยคนสุดท้ายหลับไปแล้วกระมังเจ้าคะ" ท่านหญิงกล่าวตอบ
"เช่นนั้น ข้าก็คงเข้านอนไปแล้วเช่นกัน" คุณชายมิกากล่าวขึ้นบ้าง "ท่านพ่อเคยกล่าวไว้ ไม่มีการหลงลืม หากมีความใส่ใจ"
"บิดาเราไม่ได้ลืม แต่เพราะเขามีผู้ป่วยให้ต้องดูแลต่างหาก แต่ท่านพ่อไม่ได้มาอวยพรท่าน ก็คงไม่ได้ทำให้ท่านสูญเสียความมั่นใจไปกระมัง"

เมื่อท่านหญิงกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ต้าซันก็ทำตาโตด้วยความตกใจ
"ท่านหญิง"
"ท่านไม่รู้จักบิดาข้า ก็ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์เขา" ท่านหญิงน้อยหันไปหาราชองครักษ์มีอา "ท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ แต่บุตรชายของท่านรู้จักแต่พูดจาข่มผู้อื่น"
พูดจบท่านหญิงน้อยก็กระตุกมือต้าซัน "กลับบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ เสียเวลาเล่นหมากรุกแท้ ๆ เชียว"
ท่านหญิงน้อยทำความเคารพราชองครักษ์ จากนั้นก็เดินนำกลับไปที่รถม้า
ต้าซันเหลียวมองซ้ายขวา แล้วกล่าวขออภัยราชองครักษ์ "ขออภัย อบรมน้อยไปนิด"
แต่ราชองครักษ์เพียงยิ้มขำพลางโบกมือไม่ถือสา

อาเม่ย องค์ชายน้อยดาริม และ คุณชายมาจิด ที่อยู่อีกด้านของลานบ้านรีบเดินกลับมาหา เมื่อเห็นเพียงหลังของต้าซันที่ตามท่านหญิงน้อยไป
"เหตุใดท่านอาจึงกลับก่อน" องค์ชายน้อยถาม
"มิกา วิจารณ์ท่านลาทิฟ ท่านหญิงน้อยจึงไม่พอใจ"
"เช่นนั้น" องค์ชายน้อยกล่าวขึ้น "พวกเราก็กลับเช่นกัน"
องค์ชายน้อยทำความเคารพราชองครักษ์แล้วกลับไปพร้อมกับคุณชายมาจิดในทันที
ความคิดขององค์ชายน้อยมิได้ซับซ้อน หรือเพราะไม่พอใจอันใด หากคิดว่า ในงานนี้มีแต่ผู้ใหญ่ ทั้งพิธีการก็เสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงการดื่มกิน จึงขอตัวกลับ

คุณชายน้อยที่เมื่อครู่วางท่าและกล่าวคำดั่งผู้ใหญ่ กำลังมีสีหน้าดั่งกลืนยาขม เมื่อเห็นว่า กลุ่มคนทั้ง 3 ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ซึ่งจะเป็นผู้ติดตามองค์รัชทายาทแห่งเมืองวันในลำดับถัดไป พากันกลับไปหมด
การเป็น 1 ในกลุ่มขององค์ชายน้อยดาริมคือเป้าหมายสูงสุดของผู้ใช้เวทย์รุ่นเล็กเหล่านี้...

อาเม่ยหันไปถามราชองครักษ์มีอา "ขอข้าคุยกับเขาได้ไหม"
"ได้สิ"
อาเม่ยพาคุณชายไปนั่งคุยกันที่ด้านหนึ่ง ชวนกินขนมไปพลาง เล่าเรื่องที่หมู่บ้านห่างไกลไปพลาง แล้วสรุปว่า "ในยามที่เจ้าเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ก็พร้อมที่จะอภัยให้เจ้า เพราะเจ้าอายุน้อย ประสบการณ์น้อย แต่สำหรับผู้ที่อายุเท่า ๆ กันมันคือความคิดว่า หากข้ารู้ เจ้าก็ควรรู้ และเมื่อเจ้าเป็นผู้ใหญ่หากเจ้าพูดผิด หรือทำผิดจะไม่มีใครอภัยให้เจ้า"
"ข้าเพียงกล่าวคำเช่นเดียวกับที่ท่านอาจารย์สอนมา" คุณชายน้อยเถียง
"การพูดจาแบบผู้ใหญ่ ไม่ได้ทำให้เจ้าเป็นผู้ใหญ่" อาเม่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา "แล้วอาจารย์สอนหรือไม่ ว่าไม่จำเป็นต้องกล่าวทุกอย่างที่เจ้ารู้" นิ้วมือสวยชี้ไปรอบ ๆ งาน "ในงานนี้ ทั้งราชองครักษ์ และองครักษ์ ตลอดจนผู้ครองเวทย์ มากันมากมาย แต่ราชองครักษ์ลาทิฟยังไม่มา แสดงว่าผู้ป่วยที่ท่านดูแลอยู่ต้องมีความสำคัญมาก ท่านหญิงน้อยย่อมเป็นห่วงบิดา การที่ท่านกล่าวตำหนิท่านลาทิฟเช่นนั้น ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งยังยกตนว่าสำคัญกว่างานที่ท่านราชองครักษ์รับผิดชอบอยู่" อาเม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม "เจ้ามีทั้งเวทย์และความรู้ มีผู้ใหญ่ที่พร้อมสนับสนุน แต่อายุ 5 ขวบไม่อาจอยู่กับเจ้าตลอดไป จะดีกว่าไหมหากเจ้าจะเป็นน้องเล็กเมื่ออยู่กับพี่ ๆ เป็นศิษย์เมื่ออยู่กับอาจารย์ เป็นผู้น้อยเมื่ออยู่กับผู้ใหญ่ ไม่รีบเร่งเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่วันหนึ่งจะกลับมาเสียดาย ว่าเหตุใดจึงไม่ได้ใช้วันเวลาแห่งความเป็นเด็กอย่างเต็มที่"
"แต่ท่านหญิงไม่พอใจ...."
"ก็ต้องไปขอโทษ แบบน้องชายและแบบลูกผู้ชาย"
คุณชายน้อยพยักหน้า "เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปขอโทษท่านหญิง"
"ดีมาก"

"เคยได้ยินที่ต้าซัน สั่งสอนลาทีฟา เพิ่งได้ยินที่อาเม่ยสั่งสอนมิกา รู้สึกได้ว่า พี่น้องคู่นี้ได้รับการอบรมมาอย่างดียิ่ง" ราชองครักษ์มีอากล่าวกับแม่ทัพเชมัล
"แต่เวลาเขาอยู่กัน 2 คนไม่มีใครสอนใคร คนพี่เลี้ยงแพะ ต้มเหล้า อ่านหนังสือ มีคนน้องนั่งแกะสลักไม้อยู่ข้าง ๆ เขาอยู่กันอย่างนั้นได้ทั้งวัน" แม่ทัพเชมัลกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม และดวงตาชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง
ราชองครักษ์มีอาคิดภาพตามที่แม่ทัพบอก "ก็ดีนะ เป็นพี่น้องที่รู้ใจกัน และชื่นชมกันและกันอย่างจริงใจ"
"ทั้งที่ท่านชื่นชมต้าซันกับเม่ย แต่ข้ากลับคิดถึงพระราชา"
แม่ทัพเชมัลกล่าวแล้วหันมาหัวเราะกับราชองครักษ์ ขณะที่องครักษ์รอมที่อยู่ใกล้ ๆ ยังหัวเราะตาม
จากนั้นเรื่องสนทนาก็เปลี่ยนไป เมื่ออาเม่ยพาคุณชายมิกากลับมา "ข้าจะให้คนจัดขนมไปฝากต้าซันด้วย คิดว่ายังไม่ได้ทานอะไรก็ต้องตามท่านหญิงกลับไปแล้ว"
อาเม่ยพยักหน้า "ส่วนขนมที่จะไปฝากท่านหญิง ก็ให้คุณชายมิกานำไปพรุ่งนี้เถิด"
ราชองครักษ์หันมามองบุตรชาย
คุณชายมิกา ยืดอกตอบบิดา "ข้าพูดจาไม่ดี ทำให้ท่านหญิงไม่พอใจ พรุ่งนี้ข้าจะไปขออภัยด้วยตนเอง"
ราชองครักษ์ขยี้ผมบุตรชาย แล้วพาเดินไปพูดคุยกับผู้มาร่วมงานคนอื่น ๆ  ต่อไป

เมื่ออาเม่ยผ่อนลมหายใจ แม่ทัพเชมัลก็หันมายิ้ม "คุณชายมิกาคงไม่ได้ทำให้น้องหนักใจหรอกใช่ไหม"
อาเม่ยเพียงส่ายหน้า มิได้กล่าวคำใด แม่ทัพก็มิได้ถามต่อ หลังจากนั้นพักใหญ่ แม่ทัพเชมัลและอาเม่ยจึงขอตัวกลับ โดยแวะรับต้าซันที่บ้านของราชองครักษ์ลาทิฟ
เมื่อกลับมาถึงบ้าน อาเม่ยก็ขอตัวไปพูดคุยกับพี่ชาย
และเหตุที่แม่ทัพเชมัลมิได้กล่าวท้วงอันใด ซึ่งผิดปกติวิสัย ทำให้อาเม่ยคาดเดาได้ว่า แม่ทัพอาจล่วงรู้แล้ว
"ถ้าเป็นคนอื่น พี่ก็อยากแนะนำว่า ปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพังสักพัก แต่พวกเจ้าเป็นพี่น้องที่รู้จักกันและกันเป็นอย่างดี เมื่อเจ้าอยากไปพูดคุย พี่ก็ไม่ท้วงอันใด"
"คือ....พี่ใหญ่เขา"
"ทำตามแต่เขาจะตัดสินใจเถิด แต่ละคนไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้ว ทำอะไรผิดพลาดไป มันไม่ได้จบลงเพียงเพราะการเอาขนมไปง้อในวันพรุ่งนี้หรอก"

ขณะที่อาเม่ยกำลังรู้สึกกังวล แต่เวลานั้นต้าซันกำลังเช็ดเครื่องดนตรีอยู่ในบ้าน
"พี่ใหญ่"
"ว่าไง" ต้าซันหันมายิ้มกว้าง
พี่น้องกันมิต้องมากมารยาทแต่เมื่อจะเอ่ยคำ ก็ยังคิดหาคำที่เหมาะสมได้ยาก
"เรื่องที่ไปงานวันนี้น่ะ" 
คนซื่อพยักหน้ารอฟัง "มีอันใดหรือ"
"ก็ ที่ท่านมีอาอยู่กับ...เอ่อ..."
"แม่หญิงภริยา" ต้าซันต่อให้ "แล้วอย่างไร"
"พี่ใหญ่เสียใจไหม"
"จะเสียใจอันใด มีครอบครัวที่ดีเช่นนั้น"
"ก็..."
ต้าซันขยับมานั่งข้างน้องชาย "เจ้าคิดมากไปแล้ว"
"ก็ข้าเป็นห่วง บอกตั้งแต่แรกว่าอย่าไป พี่ใหญ่ก็จะไปให้ได้"
"หากข้าไม่ไปจะให้ลาทีฟาไปกับผู้ใด อีกอย่าง ข้าก็รู้มาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเขามีครอบครัว" ต้าซันโอบไหล่น้องชาย "จริงอยู่ที่ข้าอาจชอบเขามาก บางเวลาก็เพ้อไปว่า หากได้ดื่มชาด้วยกันสักถ้วยข้าคงมีความสุข แต่เมื่อถามตัวเองต่อไปว่าที่คิดอยู่นั้นเหมาะสมแล้วหรือ เมื่อพิจารณาความคิด ความรู้สึกของตนเองให้ถ้วนถี่ ข้ากลับพบว่า ข้าต้องการเป็นเพียงเท่านี้"
"เท่านี้..."
"ก็เป็นคนรู้จักคนหนึ่ง" ดูท่าว่าอาเม่ยจะไม่เข้าใจ "ก็เคยคิดเหมือนกัน ว่าหากวันหนึ่งภริยาของเขาจากไปแล้ว ข้าจะเสนอหน้าเข้าไปหาเขาไหม คำตอบคือไม่ หรือหวังสูงอีกหน่อย หากวันหนึ่งเขาเลิกรากับภริยาแล้วมาหาข้า ข้าจะตอบรับไหม ก็คงไม่ และข้าคงประณามเขาแน่นอน" น้ำเสียงของต้าซันยามนี้กลับไปในทางตลกขบขัน มิใช่ความเหงาหรือผิดหวังแม้แต่น้อย "ความรักมีหลายรูปแบบ รักของข้ามันก็แค่ความเพ้อฝัน เมื่อได้รู้จักกับคนดี แต่ในเมื่อตลอดชีวิตของข้า ข้ารู้จักแต่พ่อกับแม่ ที่แม้จะมีความเห็นต่างกันในเรื่องเจ้า ห่างกันไปหลายปี แต่ทั้งคู่ก็มิได้คิดจะมองหาผู้ใด หรืออย่างแม่ทัพเชมัลกับเจ้า ที่ผ่านเรื่องราวมากมาย สุดท้ายก็ยังรักมั่นต่อกัน แล้วจะให้ข้าชื่นชมคนจิตใจโลเลเช่นนั้นหรือ"
"พี่ใหญ่รักเขาที่เขาเป็นคนเก่ง รักครอบครัว และดีต่อพี่ใหญ่ แต่มิได้อยากอยู่คู่กับเขา" อาเม่ยสรุปแบบไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก แต่ต้าซันกลับบอกว่า เป็นดังนั้น
"ข้ารักที่เขาเป็นผู้ซื่อตรงต่อหน้าที่การงานของเขา และรักครอบครัวของเขา หากเขาไม่รักหน้าที่การงาน และไม่รักครอบครัว เขาก็ไม่มีค่าให้รักแล้ว"
"พี่ใหญ่รู้จักคนมากมาย แต่ข้าก็เห็นพอใจแต่เขา"
"นั่นสินะ" ต้าซันยอมรับ "คงเพราะว่าต้นแบบในใจข้าสูงส่งแบบนั้น ต่อให้รู้จักคนมากมายก็ไม่ได้คิดที่จะอยากทำความรู้จักกันมากไปกว่านี้"
"อ้อ" อาเม่ยหันมาหา "ที่บอกว่าเขาดีกับพี่ใหญ่น่ะ ข้าก็เห็นว่า บรรดาองครักษ์ของท่านพี่ หรือราชองครักษ์ของพระราชาก็ดีต่อพี่ใหญ่เช่นกัน อย่างท่านลาทีฟน่ะ ต้องเรียกว่า ดีต่อท่านมากกว่าท่านมีอาเสียอีก"
"เช่นนั้นหรือ" ต้าซันเกาขมับ ท่าทางคงมิได้สนใจแม้แต่น้อย
"หรือหากจะว่าเรื่องรูปร่างหน้าตา ก็มีนายกอง หรือพ่อค้าตั้งหลายคนที่หน้าตาดีกว่า"
"เม่ย นี่เจ้าจะให้ข้าชอบพอกับคนทั้งเมืองวันเลยหรือไร" ต้าซันทำตาโต
"มิใช่เช่นนั้น" อาเม่ยขำสีหน้าท่าทางของพี่ชาย "เพียงอยากให้พี่ใหญ่เปิดใจบ้าง"
"ข้าก็มิได้ปิดตนเองนะ เจ้าก็เห็น แล้วที่ยกตัวอย่างท่านลาทิฟนั่นก็มิใช่หรอก เขาก็มีเมตตากับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน อย่างเจ้าที่พบเจอคนมากมายก็ยังตามหาท่านเชมัลจนเจอ ท่านเชมัลนั่นยิ่งเหนือกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้วก็กลับมาหาเจ้า รักเพียงเจ้าและให้อภัยไม่ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้าก็ตาม"
"พี่ใหญ่..."
 
"อย่ากังวลเรื่องความรู้สึกของข้า ในเวลาเงียบเหงาก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย แต่สุดท้ายแล้วข้าก็พอใจกับความเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว"

สายลมพัดพาความเย็นจากไอฝนผ่านหน้าต่างโปร่งเข้ามาในห้องนอน จากนั้นสายฝนก็ตกพรำ
อ้อมแขนใหญ่กระชับกอดคนตัวเล็ก ดวงตาสีแปลกมองผ่านหน้าต่างออกไป
เสียงเพลงเลื่อนผ่านเม็ดฝน

"...........ความรักนั้นมีหลายแบบ
ความรักแบบดอกหญ้าเช่นข้านั้นช่างเรียบง่าย
เพียงแค่ในคืนวันพรุ่งนี้จะได้ชื่นชมพระจันทร์ที่งดงามเคียงคู่ดวงดาวบนท้องฟ้ากว้าง
ชื่นชมกับเม็ดฝนและสายลมเย็น
หยอกล้อกับก้อนดิน และเม็ดกรวด
ได้ชื่นชมความงามรอบตัว
ความสุขของข้านั้นเรียบง่าย
ช่างเรียบง่ายเหมือนกับตัวข้าเอง ....."

..จบตอนพิเศษต้าซัน..
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 10-06-2016 07:44:40
ตาซันเป้นคนดีมากก...นี่เเหละน๊าาา..ผู้ชายดีๆมีเเต่ในนิยาย...ขอบคุณค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 10-06-2016 08:10:37
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ ประทับใจคู่พี่น้อง "อาเม่ยและต้าซันคนซื่อ" มากค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 10-06-2016 08:18:55
....ผู้อื่นอาจหวังให้จันทราหันมามอง แต่นั่นมิใช่คำขอของข้า
 :o12:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 10-06-2016 08:41:47
นี่แอบสงสัยว่าท่านมีอาจะรู้ไหมน๊อว่าต้าซันมีใจให้
มันเป็นความรักที่ไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย นับถือน้ำใจต้าซัน
มีเพียงความรู้สึกที่ได้รักก็เพียงพอ ให้มันสวยงามในใจตัวเองคนเดียว อยากเศร้า แต่ดูแล้วต้าซันไม่ทุกข์เลยงั้นเปลี่ยนเป็นขออยู่เป็นกำลังใจข้างๆต้าซันล่ะกัน  :mew1:

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-06-2016 09:04:29
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-06-2016 09:14:22
ลักษณะแบบนี้เหมือนเป็นขั้นกว่าของคำว่า ปลื้ม เลยอ่ะต้าซัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 10-06-2016 09:55:05
อืมมมมม์ ปลื้มปริ่ม

เชมัลก็เดาเก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 10-06-2016 10:54:48
ต้าซันกับอาเม่ยเป็นคู่พี่น้องที่เข้าใจกันมากๆๆ :กอด1:

 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 10-06-2016 11:49:13
 :กอด1: :กอด1:

รักนิยายเรื่องนี้

ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-06-2016 13:11:36
  :pig4::pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-06-2016 13:55:57
ตอนพิเศษมาอีกแล้ว~ ขอบคุณนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 10-06-2016 14:52:46
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา


หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-06-2016 22:10:00
เรียบง่ายและงดงาม

ชอบต้าซันมาตลอด
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 10-06-2016 22:11:43
ร้องไห้เพราะ คำว่า ดอกหญ้านี่แหละ มีความเจียมตัวอะไรเช่นนี้
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 11-06-2016 00:59:06
ความรักมีหลากหลายรูปแบบ รักของต้าซันไม่ได้ต้องการครอบครอง เป็นเจ้าของ แค่รักในความดี รักในสิ่งที่ท่านมีอาเป็นเท่านั้น
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 11-06-2016 19:31:40
ต้าซันเป็นผู้ที่น่าเลื่อมใสมาก ความรักของเขาก็น่าชื่นชม นี่เป็นความรักที่ไม่ต้องการครอบครองอย่างแท้จริง เพียงได้เป็นคนรู้จักและได้มองคนที่ตนรักว่าเขายังอยู่ดีก็เพียงพอแล้ว ไม่เข้าไปวุ่นวายกับเขา นี่เพราะดีอย่างนี้นี่เอง จึงอยากจะให้ต้าซันได้พบใครสักคนในอนาคตที่จะรักหัวใจอันใหญ่หลวงของเขาได้

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 12-06-2016 00:59:35
วายแฟนตาซี ที่หาอ่านยากมาก กรี๊ดดดด

ทนสงสัยเรื่องเก้าอยู่นาน เดาไม่ออกว่าจะตัดสินใจกันยังไง ถ้าไม่มีตอนพิเศษ คงแอบเซ็งเหมือนกันค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-06-2016 00:32:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 16-06-2016 00:32:45
อรั๊ยๆๆๆๆๆๆ ตั้งหลายวันแล้วเพิ่งจะเห็น
ตอนพิเศษของต้าซันน่ารักมากๆ ก็สมกับเป็นต้าซันล่ะนะ คนมักน้อยและมีความสุขกับสิ่งที่มีเสมอ
ขอบคุณที่ยังมีตอนพิเศษมาเรื่อยๆให้หายคิดถึงนะคะ ^__________^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-07-2016 17:06:00
มารอ..
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 20-07-2016 17:07:06
 :กอด1: อยากให้ตาซันมีความสุขบ้าง
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 20-07-2016 17:20:30
ต้าซัน อาเก้า อาเม่ย ใครก็ได้ ส่งมาหน่อยน๊าาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-07-2016 19:22:56
มีแววว่าจะได้อ่านตอนพิเศษๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 20-07-2016 20:47:21
มาช่วยดันให้อีกคน...รอตอนพิเศษ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 20-07-2016 23:29:12
ต้าซันมีความคิดที่สวยงามมากค่ะ
รักเรื่องนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Simply หน้า 50 (100659)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-07-2016 15:20:35
เพราะอยากมาหา มาเพื่อจะถามไถ่ ว่าเป็นอย่างไงรู้สึกดีไหม บอกกันบ้างซิเธอ
(อยากร้องให้จบเพลงแต่กลัวเจอรองเท้าข้างเดียว~~~~ อิอิ)

แวะมาบอกว่าคิดถึง  :กอด1:  :กอด1:



หัวข้อ: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 22-07-2016 19:17:15
ตอนพิเศษ Vega-1

เมืองเวกา เขตปกครองแบบชนเผ่าภายใต้พระราชาไอโอตา เป็นแผ่นดินกว้างใหญ่ไร้ทางออกทะเล และอยู่ถัดจากเมืองเหนือขึ้นไปทางทิศเหนือ
เมืองแห่งนี้อากาศหนาวเย็น แห้งแล้ง แม้จะมีแร่ธาตุอัญมณีที่มีค่า แต่สิ่งที่ชาวเมืองเวกาปกป้องไว้กลับเป็น "อิสระ"

สามารถอธิบายได้ว่า หากเมืองวันคือกฎระเบียบ เมืองบาสก์คือการทหาร เมืองเหนือคือเวทย์ดำ เมืองกริลล์คือทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ เมืองเวกาก็คือความเป็นอิสระ 

เมืองเวกาประกอบไปด้วยชนเผ่านับร้อยชนเผ่า มิใช่หมู่บ้าน หรือกลุ่มบ้าน แต่เป็นชนเผ่าที่ต่อสู้แย่งชิงกันตั้งแต่ผลผลิต ทรัพย์สิน ไปจนถึงอำนาจ แม้พวกเขาจะต่อสู้กันมายาวนาน บ้างสูญหายไปแล้ว บ้างก็เพิ่งจะแยกตัวออกมาจากกลุ่มใหญ่ บ้างเพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่จากการรวมกลุ่มของชนต่างเผ่า แต่ก็มิได้หมายความว่าความขัดแย้งระหว่างกลุ่มจะเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าเมืองเวกาคือความแตกแยก เพราะยังมีคำกล่าวว่า "ที่เมืองเวกา อย่าว่าแต่ผู้คนเลยแม้แต่ต้นไม้ที่ท่านเดินผ่านก็มิอาจวางใจได้"

เมื่อหลายปีก่อน พระราชาพระองค์หนึ่งของเมืองเหนือไปมีปัญหากับชนเผ่าชายแดนของเวกา ด้วยความที่เห็นว่าเป็นแต่เพียงชนเผ่าเล็ก ๆ ที่ยังมีปัญหาอยู่กับชนเผ่าเพื่อนบ้าน เมืองเหนือจึงส่งกองทหารไปปราบปราม แต่ผลที่ออกมากลับทำให้เมืองเหนือเสียหายอย่างหนัก เมื่อบรรดาชนเผ่าใกล้เคียงที่เห็นว่าเป็นศัตรูกันอยู่นั้น กลับมาจับมือร่วมกันกลายเป็นกองโจรแล้วแยกย้ายกันบุกจู่โจมเมืองเหนือ

ยังมีอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายเมือง ไม่ต้องการเข้าไปต่อกรกับบรรดาชนเผ่าเมืองเวกา ก็เพราะชนเผ่าเหล่านี้เลี้ยงภูติ
ภูติตัวเล็กมีปีก มีสีหลากหลาย รูปแบบหลากหลาย และย่อมมีฤทธิ์เดชหลากหลายเหมือนกับชนเผ่าที่เลี้ยงพวกมัน
 
ความที่มิอยากต่อกรด้วย มิได้แปลว่ากลัว หากแต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยมากนัก เว้นก็แต่ชาวเมืองกริลล์ที่มีพรมแดนติดต่อกับชนเผ่าเมืองเวกา พวกเขามีการค้าขายกันตามปกติ และไม่เคยปรากฏข่าวที่ว่ามีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น
ความลับหนึ่งที่ชาวเมืองกริลล์รู้กันเป็นการภายในก็คือ ภูติที่ชนเผ่าเวกาเลี้ยงไว้ไม่ฆ่ามนุษย์ แต่มันจะหลอกหลอนจิตใจของมนุษย์จนคลุ้มคลั่ง
แน่นอนว่าชนต่างเผ่าของเวกาต่างเรียนรู้ที่จะกำจัดภูติของอีกฝ่าย แต่บรรดาผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านชายแดนเมืองกริลล์ก็รู้วิธีสกัดภูติเหล่านี้เช่นกัน แต่พวกเขามิได้เลี้ยงภูติ เนื่องด้วยมีผลต่อสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงของชนเผ่ากริลล์กลัวพวกภูติเหล่านี้
แต่สัตว์เลี้ยงบางชนิดเมื่อกลัวแล้วก็จะวิ่งหนี แต่บางชนิดกลับตรงเข้าไปฉีกทึ้งเจ้าตัวร้ายมีปีกขนาดเล็กนี้ในทันที
นี่คือความลับที่ชาวเมืองกริลล์มิได้บอกใคร
มิได้บอก จะหมายความว่ามิมีผู้ใดล่วงรู้เช่นนั้นหรือ มิใช่แน่!

เมืองเวกาไม่ได้มีพรมแดนติดต่อกับเมืองวัน ดังนั้น การเดินทางจากเมืองวัน มาถึงเมืองหลวงของเวกาจึงต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน ต่อให้เป็นผู้ครองเวทย์ก็ยังต้องใช้เวลาถึง 2 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น
เหตุที่การเดินทางใช้เวลานาน เพราะอุปสรรคจากเส้นทาง ในพื้นที่ทางเหนือของเมืองเหนือเอง ทั้งเมื่อเข้าสู่เขตรอยต่อก็ยังต้องเผชิญกับพายุหิมะ
พายุนี้บ้างจริง บ้างเกิดจากเวทย์
สังเกตได้โดยง่าย หากเป็นพายุจริง ย่อมมีผลมาถึงเมืองเหนือหรือเมืองกริลล์ด้วย แต่หากเกิดจากเวทย์ย่อมไม่มีผลต่อเมืองเหนือและเมืองกริลล์นั่นเอง

ส่วนแม่ทัพเชมัลและเหล่าองครักษ์ติดอยู่ในเรือนพักหลังหนึ่งของชนเผ่าดานีมานานข้ามวันแล้ว
ชนเผ่าชายแดนแห่งนี้อยู่ใกล้กับเมืองเหนือ
และพายุหิมะนี้ เกิดจากเวทย์
ส่วนสาเหตุที่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่แห่งนี้ ก็เพราะปัญหาร้ายแรงที่ลุกลามไปยังเมืองเพื่อนบ้าน และจนถึงเมืองวัน ชนเผ่าดานีที่ต้องได้รับความเดือดร้อนเพราะการอยู่ในพื้นที่ชายแดน จึงให้การต้อนรับแม่ทัพเชมัล และองครักษ์เป็นอย่างดี เพื่อหวังให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
หากก็เป็นดั่งที่กล่าวไว้แต่แรก ว่าอย่าเพิ่งวางใจ
หลังจากการต้อนรับ และผู้เฒ่าของชนเผ่าดานี บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในส่วนที่ชนเผ่าดานีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จากนั้นก็กลับไปพัก แต่อีกไม่นานพายุหิมะที่เกิดจากเวทย์ก็พัดเข้ามาปกคลุม
เจ้าของเรือนพักเตือนว่า อย่าเพิ่งออกไปจนกว่าพายุจะเบาบางลง เพราะมิรู้ว่า สิ่งที่แฝงอยู่ในหิมะคือสิ่งใด

การเดินทางไกลในครั้งนี้ เกิดจาก "ผงฝุ่นลืมตน" จากชนเผ่าทาคา หนึ่งในชนเผ่านับร้อยของเมืองเวกา ที่พ่อค้า และกลุ่มโจรนำเข้าสู่เมืองเหนือ แล้วกระจายไปยังอีกหลายเมือง
ผงฝุ่นลืมตนมิใช่ภูติเพราะมันไม่มีชีวิตและบินไม่ได้ หากแต่คือผงจากการสกัดดอกไม้หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือดอกไม้ลืมตน-ดอกไม้สีฟ้าเรืองแสงส่องสว่างในยามกลางคืน แต่ในเวลากลางวันมันคือดอกไม้สีขาวไร้พิษ
นานมาแล้วดอกไม้ลืมตนเป็นเพียงดอกไม้ป่า พบเจอเฉพาะที่หุบเขาระหว่างชนเผ่า 3 ชนเผ่าคือ ไอ รา และกี ผู้เจ็บป่วยไม่สบายนำดอกไม้นี้ไปต้มน้ำชาดื่ม เพื่อให้นอนหลับสบาย แต่เมื่อสัก 1 ปีที่ผ่านมากลับมีการเพาะปลูกดอกไม้ชนิดนี้เป็นพืชหลักในพื้นที่เดิม โดยมีชนเผ่าทาคานำไปแปรรูป ผสมกับดอกไม้ และพืชอีกหลายชนิด กลายเป็นผงฝุ่นลืมตน ในคำแนะนำการค้าบอกว่า ให้นำไปผสมในเครื่องดื่ม หรือผสมในยาสูบ ความสุขและความสงบก็จะมาเยือนในจิตใจ
แต่แท้จริงแล้ว ผงฝุ่นนี้คือสารเสพติดที่ทำให้ผู้เสพเซื่องซึม และหลับไหล
การค้าผงฝุ่นลืมตนยิ่งดำเนินไปด้วยดีมากเท่าใด บรรดาเมืองต่าง ๆ ก็ยิ่งเสียหายมากขึ้นเท่านั้น

ผู้คนทั่วไปมองเห็นปัญหาในการเข้าไปปราบปรามการค้านี้ แต่พระราชาฟารัคแห่งเมืองวัน มองเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกสนานอย่างยิ่ง
ดังนั้น เมื่อคำร้องทุกข์เกี่ยวกับผงฝุ่นลืมตนเพิ่มสูงขึ้นมามากกว่า 1 คืบ พระองค์ก็ทรงหารือเป็นการส่วนพระองค์กับพระราชาอีกหลายเมือง ด้วยความสนุกสนานอย่างยิ่ง

แต่แม่ทัพเชมัลผู้ถนัดการสู้รบแบบ "ไม่มากคนเท่ากับไม่มากความ" กำลังคิดว่าการที่ต้องติดอยู่ที่นี่คือเรื่องน่าเบื่อหน่าย....
...ช่างน่าเบื่อหน่าย...นี่คือความเห็นพ้องต้องกันตั้งแต่แม่ทัพไปจนถึงองครักษ์

เรื่องที่จะต้องไปที่ใด จัดการใคร และทำอันใดบ้าง ล้วนกำหนดไว้หมดแล้ว แต่จนถึงยามนี้กลับได้แต่รอคอยอย่างอดทน

ด้านนอกเรือนพักยังคงมีพายุรุนแรง หิมะทับถมขึ้นมาสูงครึ่งบานประตูแล้ว 
ผู้คนที่นั่งอยู่ภายในบ้างจิบน้ำอุ่น บ้างเช็ดทำความสะอาดอาวุธ บ้างนอนหลับอย่างสบายใจ
แม่หญิงผู้เป็นภรรยาของเจ้าของเรือนพักกำลังหนักใจที่เมื่อเวลาผ่านไป ใกล้ถึงเวลาอาหาร แล้วจะหาสิ่งใดมารับรองผู้คนทั้ง 11 คน นี้ได้
ใช่! ในเวลานี้มีคนต่างถิ่นอยู่ที่นี่ 11 คน
หนึ่งคือแม่ทัพเชมัลแห่งเมืองวัน ต่อมาคือองครักษ์รอมที่กำลังเล่นหมากรุกอยู่
ต่อมาคือ องครักษ์ซัน องครักษ์แซน ในลำดับ  2 และ 3 ที่กำลังทำความสะอาดอาวุธ
จากนั้นจึงเป็นกลุ่มองครักษ์ใหม่ที่ทยอยรับเข้ามาเสริมในกลุ่มนี้ ได้แก่ องค์รักษ์ซาดาน ผู้ใช้ดาบและครองเวทย์ไฟ
องครักษ์ทูบา ผู้เป็นดิน และมีความสามารถพิเศษในการเพาะปลุกพืชได้แม้ในพื้นที่ซึ่งปราศจากน้ำ นามนี้องครักษ์ลำดับ 4 และ 5 อยู่ในกลุ่มเดียวกับองครักษ์ซันและแซน  ทั้ง 4 คนไม่ได้สนทนากัน เพียงแต่กำลังใช้พลังเวทย์เพื่อคุ้มครองกันและกัน
องครักษ์ซันกับซาดาน เป็นผู้ใช้ไฟ ดังนั้นการที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางหิมะจึงเปรียบเสมือนการตกอยู่ท่ามกลางบ่อพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนตนเอง
ที่แม่ทัพเชมัลยังไม่ยอมออกไปในเวลานี้ ก็เพราะองครักษ์ 2 คนนี้
ลำดับถัดมาคือองครักษ์ในลำดับที่ 6 องครักษ์ราดี ผู้สามารถเรียกอาวุธจากอากาศที่ว่างเปล่า ขณะที่คนผู้นี้ใช้ทวนยาว แต่ในความเป็นจริงองครักษ์ราดีไม่อาจเรียกอาวุธได้ตามใจชอบ นั่นคืออาวุธต้องมีอยู่จริงและถูกจัดวางในรัศมีที่สามารถเรียกมาได้ หากอยู่ห่างไกลออกไป หรือไม่มีอยู่จริง สิ่งที่เรียกได้ก็คือความว่างเปล่าเช่นกัน
มาถึงลำดับที่ 7 องครักษ์นัสเซอร์ คนผู้นี้มีพลังเวทย์พื้นฐานทั้ง 4 ในระดับเล็กน้อย แต่กลับเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธ ต่อให้ในมือเป็นเพียงกิ่งไม้เล็กบาง ก็กลับแข็งแกร่งดั่งดาบเหล็ก เป็นพลังที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
องครักษ์มาซิน คนผู้นี้ชำนาญการใช้อาวุธขนาดเล็ก และยาพิษ
และสุดท้ายคือองครักษ์มาจิด หรือคุณชายมาจิดที่เข้าสู่ตำแหน่งองครักษ์ด้วยอายุเพียง 15 ปี
อ้อ ที่นี้ยังมีอีกผู้หนึ่งคือเจ้าชายฮัมซา อดีตองค์รัชทายาท ที่กำลังให้ความสนใจการต่อสู้เชิงหมากรุกระหว่างแม่ทัพเชมัลอย่างเต็มที่

เมื่อมองดูกลุ่ม 11 คนที่อยู่ในที่นี้ยังมองเห็นถึงความไม่สมดุล
ใช่ ที่นี้ขาดสายลม
เป็นความเข้มแข็งที่ไม่สมดุล ที่ทำให้แม่ทัพเชมัลรู้สึกขัดใจ และทำให้หัวหน้าองครักษ์รอมต้องทำหน้าที่สร้างสมดุลด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
บางที...บางที นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เฒ่าดินต้องส่งอดีตรัชทายาทมาที่นี่

แต่แม่ทัพเชมัลคิดมาตั้งแต่ในทันทีที่ก้าวเท้าออกจากเมืองชายแดน เข้าสู่เขตเมืองเหนือ ว่าอยากให้สายลมเดินทางมาด้วย
สายลมที่ว่านี้ จะเป็นใครได้อีกนอกจากอาเม่ย ผู้ครองเวทย์พื้นฐานทั้ง 4 โดยปราศจากความสมดุล  และมีเพียงแม่ทัพเชมัลควบคุมได้

สายลมแรงพัดกระแทกประตูเรือนพักอีกครั้ง แม่ทัพเชมัลหันไปมองแล้วยิ้มมุมปาก
อีก 2 ชั่วยามจากนั้น ทั้งหมดจึงออกเดินทางกันอีกครั้ง
เดินทางท่ามกลางหิมะที่สูงในระดับอก!

...

ที่เมืองวัน องค์ชายน้อยดาริมเดินทางกลับมาเยี่ยมบิดาที่เมืองหน้าด่าน ด้วยไอชานางข้าหลวงผู้ดูแลองค์ชายน้อยเริ่มตั้งครรภ์
จะตั้งครรภ์กับผู้ใดได้อีก นอกจากแม่ทัพนาซิม
เมื่อหลายเดือนก่อน แม่ทัพนาซิมมาเยี่ยมองค์ชายน้อยที่เมืองหลวง ซึ่งในคืนนั้นไอชาก็กล่าวกับองค์ชายน้อย ว่าจะยอมรับได้หรือไม่ หากนางจะเป็นผู้รับใช้แม่ทัพนาซิม องค์ชายน้อยที่ยังเป็นหนึ่งในผู้ครองเวทย์ ถามไปถึงเรื่องที่จะมีทายาท แต่ไอชายืนยันหนักแน่น ว่านางขอเป็นเพียงผู้รับใช้แม่ทัพนาซิม ด้วยแม่ทัพผู้นี้มีผู้อื่นอยู่แล้วในหัวใจ ครอบครองเต็มพื้นที่จนมิมีผู้ใดแทรกเข้าไปได้ ดังนั้นหากมีบุตร บุตรนั้นก็จะมีศักดิ์เป็นผู้ติดตาม หาได้เทียบเท่าองค์ชายไม่
องค์ชายน้อยยังคงถามไถ่อีกหลายคำ แต่ไอชาย้ำว่า นี่เป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น และนางยังคงให้ความสำคัญกับองค์ชายน้อยเป็นลำดับแรกมิเปลี่ยนแปร
องค์ชายน้อยดาริมยิ้มรับ ทั้งฝากให้ไอชาดูแลแม่ทัพนาซิมให้ดีเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจมาตลอดก็คือ ใครคือผู้ที่แม่ทัพนาซิมให้ใจ จนมิอาจมีผู้ใดได้อีก

ไม่กี่เดือนถัดมาไอชาก็มีอาการอ่อนเพลีย และแพทย์หลวงแจ้งว่านางตั้งครรภ์ ไอชาก็ยังเป็นกังวลความรู้สึกขององค์ชายน้อยเป็นลำดับแรก และยืนยันความภักดีต่อองค์ชายน้อยไม่เปลี่ยนแปร แต่นางต้องเดินทางกลับมาที่เมืองหน้าด่าน องค์ชายน้อยจึงทูลขอพระราชานุญาตจากพระราชาฟารัค เดินทางกลับมาเมืองหน้าด่านเช่นกัน

แม่ทัพนาซิมที่ออกมารอรับองค์ชายน้อย เพียงหันไปพยักหน้าให้กับไอชา และเอาใจองค์ชายน้อยเหมือนเดิม
นั่นยิ่งทำให้ผู้เยาว์วัยไม่เข้าใจความสัมพันธ์ในลักษณะนี้มากกว่าเดิม

พระราชามีพระชายา และพระสนม ก็หาได้มีผู้รับใช้ ไม่เคยได้ยินว่า พระองค์จะมีพระโอรสหรือธิดาจากที่อื่นอีก
แม่ทัพเชมัลมีเพียงอาเม่ย ก็มิเคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด
แล้วเหตุใด แม่ทัพนาซิมที่รักคนผู้หนึ่งจนเต็มหัวใจ จึงมีสตรีผู้รับใช้ และนางกำลังจะให้กำเนิดทายาท แต่สตรีนั้นยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ทั้งทายาทนั้นยังปราศจากตำแหน่งใด

หลังรับอาหารเช้าในวันถัดมา องค์ชายน้อยชักชวนนางข้าหลวงคนใหม่ ออกไปที่นอกประตูเมือง
พื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปตามลำพังโดยไม่มีทหารคุ้มกันออกไปด้วย
ในครานี้ก็เช่นกัน แต่เพียงออกไปได้ไม่ไกลนัก ยังไม่ถึงเขตป่าด้วยซ้ำ นกสีขาวตัวใหญ่บินตรงเข้ามาหา
นางข้าหลวงกรีดร้องเสียงดัง
ทหารคุ้มกันขยับกายเข้ามาให้ความคุ้มครอง
พลธนูที่กำแพงเมืองน้าวสายธนู
แต่ทุกอย่างล้วนช้าไป
เพียงเงาที่เข้าปกคลุม องค์ชายน้อยก็หายไป ทิ้งไว้เพียงเกล็ดหิมะตรงที่องค์ชายน้อยยืนอยู่เมื่อครู่!

...จบตอนพิเศษ Vega-1...
ตอนพิเศษนี้ มี 5 ตอนจบ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
jivetea
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-07-2016 19:26:44
เดี๋ยวมา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 22-07-2016 19:30:12
 :กอด1: :กอด1:
องค์ชายน้อยหายไปไหน รอต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-07-2016 20:02:07
ไปไหนหนอ โดนเจ้าชายหิมะจับตัวไปหรือ อยากอ่านตอนต่อไปเลย ทิ้งท้ายไว้ได้น่าติดตามจริงๆ ส่วนนางข้าหลวงทำไมเราถึงรู้สึกสงสารนางมากขนาดนี้ ผญ มีลูกกับ ผช ด้วยหน้าที่มันมีอยู่เหรอ นางช่างเจียมตัวจริงๆ แล้วทำไมนาซิมถึงได้ยอมมีลูกกับนางทั้งที่มีใจให้กับใครคนนั้นล่ะ  หรือใครคนนั้นก็คือ ไอชาหาใช่อาเม่ย อิอิ (ความเดาเราก็มี)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 22-07-2016 20:02:21
ดีใจ มาต่อแล้ว และก็ลุ้นกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้  องค์ชายน้อยของพี่หายไปไหน
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 22-07-2016 20:20:12
แม่ทัพนาซิมใจร้าย ถ้าลืมอาเก้าไม่ได้แล้วรับเค้ามารับใช้ทำไม แล้วเค้าท้องก็ยังดูไม่สนใจไยดีอีก ใจร้ายที่สุด!!!

จบตอนให้น่าห่วงองค์ชายน้อยมาก หายไปไหนคะ ใครพาตัวไป แล้วใครจะไปช่วยเนี่ย ฮรืออออ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 22-07-2016 20:34:37
เรื่องของเมืองเวกา จะมีปมอะไรตามมาอีกหนอ แต่ตอนนี้ กำลังสนใจเรื่องขององค์ชายน้อย ใครนะที่กล้ามาแหยมแม่ทัพนาซิม รออ่านตอนต่อไปค่ะ... :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-07-2016 21:26:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-07-2016 22:16:16
องค์ชายน้อยหายไปไหนน้อ

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 23-07-2016 12:39:06
 :a5: :a5:

การต่อสู้ครั้งใหม่มาเเล้ววววววววว
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-07-2016 14:45:02
จะเป็นแค่ตอนพิเศษจริง ๆ หรือ

มันน่าสนุกจนอยากอ่านยาว ๆ เชียวล่ะ

ความรักของนาซิมยังคงยุ่งเป็นยุงตีกันเสมอ ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-07-2016 15:48:03
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-07-2016 16:41:05
หูย~ นกจับตัวเจ้าชายน้อยไป!
*ตื่นเต้น*
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-07-2016 16:46:44
ดีใจที่มีมาให้อ่านเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 23-07-2016 18:14:05
จริงๆ ไม่อยากให้มีเพียงแค่ 5 ตอนจบเลยค่ะ อยากให้แต่งเป็นภาคพิเศษเลยด้วยซ้ำ เพราะแค่เริ่มตอนแรกก็สนุกและน่าติดตามมากๆ มีเรื่องให้ขบคิดตามมากมายเลยทีเดียวสำหรับตอนนี้

องค์ชายน้อยดาริมถูกใครลักพาตัวไป? เพื่อจุดประสงค์อะไร? จะเกี่ยวกับการที่กองกำลังของแม่ทัพเชมัลไปเวกาหรือไม่? และที่สำคัญตัวการที่ทำให้เกิดเรื่อง...ผงฝุ่นลืมตน อ่านมาถึงเจ้าผงฝุ่นเจ้าปัญหานี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า มันเป็นสารประเภทใด จะเป็นเหมือนยาบ้าที่เป็นปัญหาอยู่ในสังคมไทยหรือเปล่า? เพราะในเรื่องยังไม่ได้กล่าวอธิบายถึงคุณสมบัติของมันว่าเป็นอย่างไรและส่งผลเช่นไรบ้าง เลยอยากรู้เข้าไปใหญ่ว่ามันถูกทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์อะไร มีแผนทำลายล้างอาณาจักรเลยหรือไม่? ทำไมจึงถูกปลูกมาในปริมาณมาก หรือมีจุดประสงค์เพียงแค่การค้า?

โอ๊ย อยากอ่านต่อมากๆ ค่ะบอกเลย

ป.ล. จุดนี้อยากให้ไจฟ์กับน้องทีส่งเรื่องนี้ไปตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์จังเลยค่ะ ถ้าได้อ่านเป็นรูปเล่มนี่จะดีมากๆ เลยนะคะ นิยายแฟนตาซีประเภทนี้ที่เป็นแนววายไม่ค่อยได้เจอเท่าไหร่ คืออยากอ่านอะไรที่เป็นไฮแฟนตาซีกึ่ง YA น่ะค่ะ ยังไงฝากไจฟ์กับน้องทีพิจารณาด้วยนะคะ ^______^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-07-2016 02:22:46
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-07-2016 06:41:27
น่าสนุกๆๆ องค์ชายน้อยถูกใครจับไปหนอ จะเกี่ยวข้องกับภารกิจที่แม่ทัพเชมัลทำอยู่หรือเปล่า
รอติดตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 27-07-2016 12:29:23
เข้ามาอ่านอีกรอบ... รอตอนต่อไปค่า :)   :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 27-07-2016 12:31:30
มาช่วยดันพี่เช ฮึบๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 27-07-2016 12:38:50
 :mc4: :mc4:
จุดประทัดเรียกพี่เชชชช
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 27-07-2016 13:37:12
 :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 27-07-2016 14:20:40
มาช่วยดันตามคำขอจ้า  :mew4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 27-07-2016 16:43:03
โว้ววววววววววววววววว  :ling3:  :ling3:   :ling3:



ได้แต่คาดหวังว่าจะไม่ใช่เวทย์ดำเพราะนกตัวนี้สีขาว (เกี่ยว????????)

แต่ว่าก็ว่าเถ่อะ มีเหตุอันใดให้องค์ชายน้อยเราต้องออกไปที่นอกประตูโดนบังคับจิตอีกหรือเปล่า

อ่านนิยายของคุณ jivetea นี่มีแต่คำถามไว้ถามตัวเองให้เดาเรื่องเองนี่ไม่เคยจะถูกเลย แต่ว่าชอบนะคะ


รอคอยตอนต่อไปค่ะ  :pig4:
 


หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 27-07-2016 19:26:27
การผจญภัยครั้งใหม่ของแม่ทัพเชและเหล่าบรรดาองครักษ์ทั้งเก่าและใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
จริง ๆ คือรอคอยและรอลุ้นตอนพิเศษตอนใหม่อยู่ตลอด แล้วก็สมหวังแล้วด้วย มี 5 ตอนทีเดียว
สมาชิกใหม่เพียบเลย สารภาพว่ายังจำชื่อไม่ได้ แถมมีย้อนกลับไปอ่านเพื่อระลึกถึงสมาชิกเก่า ๆ ด้วย

ตอนใหม่นี้คือคงต้องมาไล่อ่าน ไล่เก็บเก็บรายละเอียดหลายรอบแน่ๆ ถึงจะเก็บได้หมด
ยอมรับเลยว่าถ้าให้อ่านรอบเดียวแล้วเก็บรายละเอียดได้หมดนี่ คือความสามารถข้าพเจ้าไม่ถึงจริง ๆ

ขอบคุณ คุณไจฟ์และน้องน้ำชานะคะ ที่แบ่งปันและนำพาความตื่นเต้นมาสู่พวกเราอีกครั้ง

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 28-07-2016 07:48:41
แม่ทัพเชมัลคะ ลุยหิมะออกมาได้รึยางงงงง

จริงๆแล้วก็แอบอยากอ่านเรื่องแม่ทัพนาซิมนะ คิดว่าเค้าคงมีอะไรอยู่ในใจ เก็บไว้คนเดียว

แล้วก็อยากรู้เรื่องอาเก้าด้วย ว่าตอนนี้อยู่ดีมีสุขแค่ไหน

เฮ้ออออออ เหมือนมันจะเกิน 5 ตอนแล้วอ่ะ ไอ้ที่อยากรู้เนี่ย


ขอบคุณน้ำชาและป๋าไจฟ์นะครับ ที่ยังแวะมาต่อเรื่องให้ได้อ่านกัน

ปล.เรื่องใหม่ล่ะ เรื่องใหม่ อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 28-07-2016 07:55:25
 :z2: :z2: มาดันอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-1 หน้า 51 (220759)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 28-07-2016 08:41:18
เมืองเวกานี่ไว้ใจใครไม่ได้เลยอ่ะ ต้องระวังตัวกันให้มากๆนะพี่เช
หัวข้อ: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 28-07-2016 08:54:02
ตอนพิเศษ Vega-2

ตั้งแต่สมัยของพระราชาจาวาด ผู้เป็นพระราชบิดาของพระราชาฟารัค ไม่เคยปรากฏเหตุลักพาตัวเชื้อพระวงศ์ของเมืองวัน
แต่หากเป็นการต่อสู้กันเองระหว่างเชื้อพระวงศ์ด้วยกันจะพบว่าเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

และเมื่อเกิดเหตุขึ้นที่เมืองหน้าด่าน คำสั่งแรกของแม่ทัพนาซิมคือการส่งสายข่าวออกเดินทางไปเมืองเหนือเพื่อหาเบาะแสของนกยักษ์ตัวนั้น ขณะที่ตนเองสอบสวนนางข้าหลวง และทหารที่อยู่กับองค์ชายน้อยขณะเกิดเหตุ
เรื่องที่เป็นห่วงบุตรชายนั้นย่อมมีแน่นอน แต่มิวู่วามติดตามไปในทันที ด้วยเพราะพอจะคาดเดาผู้ลงมือได้
ควรเรียงลำดับเรื่องราวในส่วนนี้ ได้ว่าองค์ชายน้อยคือเป้าหมายของผู้ก่อเหตุ
ก่อนนี้เป้าหมายอาจมีทั้งองค์ชายน้อยดาริม หรืออาจเป็นเจ้าชายฮัมซา แต่เจ้าชายฮัมซาติดตามอยู่กับผู้เฒ่าดินพระปัยกาย่อมเป็นเป้าหมายที่ลงมือได้ยาก
และชัดเจนว่า เรื่องนี้ต้องมีไส้ศึกที่แจ้งว่าองค์ชายน้อยจะติดตามไอชากลับมาที่เมืองหน้าด่าน
แต่ไส้ศึกผู้นี้คือใคร ต้องการสิ่งใด
เรื่องที่สร้างความประหลาดใจ คือในวันถัดมา อาเม่ยและต้าซัน เดินทางมากับหัวหน้าราชองครักษ์บาดา เพื่อแจ้งให้ไอชาเพิ่มความระมัดระวัง โดยมีการแจ้งไปยังหมู่บ้านของไอชา ในการจัดหาสตรีมาให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม
พระราชาฟารัคพระราชทานคำตอบเรื่องนี้ไว้ว่า
เดิมเชื้อพระวงศ์ของเมืองวันมีเพียงเจ้าชายฮัมซา เป็นองค์รัชทายาท ต่อมาเจ้าชายฮัมซาสละตำแหน่ง แต่ทรงออกเดินทางไปกับผู้เฒ่าดิน จึงมีเพียงองค์ชายน้อยดาริมที่อยู่ในข่ายจะเป็นองค์รัชทายาท
หากแต่พระราชาฟารัคทรงรับพระสนมเพิ่มและทรงมีโอรสอีก 2 พระองค์ ส่วนแม่ทัพนาซิมก็รับไอชาเป็นอนุและตั้งครรภ์
ขณะเดียวกันอำนาจของเมืองวันกำลังปกคลุมเมืองเหนือมากขึ้น โดยแม่ทัพนาซิมที่ต้องเดินทางไปตรวจตราเป็นระยะ
หากแม่ทัพนาซิมครองเมืองเหนือ จะมีผลต่อไปถึงดินแดนที่อยู่ห่างไกลมากขึ้นไปอีก
เมืองที่มีหิมะปกคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของพื้นที่
เมืองที่เป็นแหล่งที่มาของเวทย์ดำในเมืองเหนือ และการค้าขายสิ่งที่เป็นอันตราย
แม่ทัพนาซิมได้แต่ส่ายหน้า ด้วยไม่เคยคิดไปไกลถึงเรื่องการครองบัลลังก์เมืองเหนือมาก่อน

แม่ทัพนาซิมก็เหมือนแม่ทัพเชมัล ที่มีความสุขอยู่กับชีวิตปัจจุบัน ที่มิใช่การเป็นหนึ่งในแผ่นดิน

หัวใจของแม่ทัพนาซิมคนโง่งมอยู่ที่ใด อาเม่ยรู้ดี...
เมื่อพบกับแม่ทัพนาซิมอีกครั้งที่เมืองหน้าด่าน ความเป็นกังวลเรื่ององค์ชายน้อยฉายชัด แต่การมองผ่านไปข้างหลังดั่งมองหาว่ายังมีใครอีกคนตามมาด้วยหรือไม่ทำให้อาเม่ยขัดใจ
ก็ไอชาสตรีที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั่นมิใช่เมียหรือไร
และเพราะความเกรงใจหัวหน้าราชองครักษ์บาดาที่เดินทางมาด้วยกันแน่แท้ ที่ทำให้อาเม่ยไม่เอ่ยคำพูดใด ๆ ออกไป
หัวใจของแม่ทัพนาซิมยังอยู่กับคนที่ไม่ควรให้ใจไป ส่วนความรู้สึกที่มีต่อไอชา ก็ไม่ต่างอันใดกับความรู้สึกที่พระราชามีต่อพระชายา และพระสนม
จู่ ๆ ก็รู้สึกเห็นใจสตรีทั้ง 4 คนที่ต้องสมรสเพื่อหน้าที่....
แต่นั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง ในเวลานี้ทั้งอาเม่ย และ ต้าซันก็มีเรื่องที่จะต้องไปทำเช่นกันที่เมืองหลวงของเวกา
แม่ทัพนาซิมถึงกับเลิกคิ้วสูงเมื่อ 2 พี่น้องเตรียมตัวออกเดินทางต่อในทันที
ก่อนที่พี่น้องจะออกเดินทาง แม่ทัพนาซิมแจ้งสถานการณ์ของแม่ทัพเชมัล กับเหล่าองครักษ์ในเมืองเวกา งานที่ต้องไปทำ หมู่บ้านเป้าหมาย และอุปสรรคที่เกิดขึ้น

ก่อนนี้มีความมั่นใจว่าผู้ที่ลักพาตัวองค์ชายที่จะอยู่ที่เวกา โดยมีความเป็นไปได้ถึง 8 ส่วนที่ชนเผ่าทาคาจะเป็นผู้ลงมือ เผื่อไว้ 2 ส่วนที่อาจเป็นเมืองอื่นฉวยโอกาสสร้างความสับสนขึ้น แต่เมื่อหัวหน้าราชองครักษ์บาดา แจ้งว่า อาเม่ยกับต้าซันจะไปเมืองหลวง แม่ทัพนาซิมก็ยิ่งหนักใจ
เมืองหลวงย่อมเป็นศูนย์รวมของผู้ใช้เวทย์ และถ้าเป็นเวกา ย่อมหมายถึงศูนย์รวมของภูติ และหากองค์ชายน้อยอยู่ที่เมืองหลวง ทางฝ่ายนั้นก็ย่อมวางคนป้องกันองค์ชายน้อยมากขึ้นไปอีก
ข้อนี้แม่ทัพนาซิมไม่เข้าใจแผนการของพระราชาฟารัคแม้แต่น้อย
 
อาเม่ยเม้มปากสนิท กำมือแน่นตลอดเวลาที่แม่ทัพนาซิมแจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้รับทราบ แม้ยืนยันว่าจะไม่ใจร้อนทำเสียเรื่อง แต่หลังการหารือกันอีกชั่ว 2 ก้านธูปแม่ทัพนาซิม และ หัวหน้าราชองครักษ์ก็ตัดสินใจขอไปส่งจนถึงชายแดนเมืองเหนือที่ติดต่อกับเมืองเวกา เพื่อที่จะช่วยเตรียมเครื่องกันหนาว และอาหาร
อาเม่ยท้วงว่าพระราชาวางแผนเรื่องนี้ให้ทั้งหมดแล้ว แต่ต้าซันเข้าใจความเป็นกังวลของทั้ง 2 คนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความกังวลของแม่ทัพนาซิม เรื่องที่บุตรชายถูกลักพาตัวไป จึงสนับสนุนให้ไปส่งถึงเมืองเหนือ
...องค์ชายน้อยเป็นลูกชายคนเดียว  ที่ผ่านมาก็ปลอดภัยดี แต่เมื่อกลับมาบ้าน กลับถูกคนลักพาตัวไปจากปลายนิ้วมือของผู้เป็นพ่อ ถ้าเป็นคนอื่น คงได้บุกไปจนถึงเมืองเวกา เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อเอาบุตรคืนมา ... ต้าซันอธิบายกับอาเม่ยเช่นนั้นในระหว่างการเดินทางต่อ

ขณะที่แม่ทัพนาซิม แม้จะวางใจเรื่องที่พระราชาฟารัคทรงจัดคนให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แต่การส่งต้าซันไปในเมืองที่ผู้คนอันตราย ออกจะเป็นการเสี่ยงมากเกินไป ถึงโดยทั่วไปผู้ครองเวทย์จะไม่ทำร้ายคนธรรมดา แต่จะไว้ใจได้อย่างไรเมื่อที่นั่นคือเวกา
อาเม่ยสัมผัสความสงสัยนี้ของแม่ทัพนาซิมได้เช่นกัน
แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่แม่ทัพนาซิมไม่ได้พยายามเปลี่ยนแปลงการตัดสินพระทัยของพระราชาฟารัค ยังคงทำตาม แม้จะมีแต่ความสงสัยก็ตาม
ก็เหมือนกับเรื่องของไอชานางข้าหลวง ที่ต่อให้แม่ทัพนาซิมมีคำถาม หรือเป็นเรื่องที่มิต้องการทำตาม หากพระราชามีพระประสงค์ แม่ทัพนาซิมก็จะทำ

2 เดือนครึ่งถัดมา แม่ทัพนาซิมก็ส่งคู่พี่น้องที่ชายแดนเมืองเหนือ โดยมีคนนำทางจากชนเผ่าชายแดนรอรับ และทำหน้าที่ไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นก็จะพาไปหาคนนำทางจากอีกเผ่าเพื่อเดินทางในช่วงต่อ ๆ ไป แต่เมื่อเข้าไปใกล้กับเมืองหลวง ทั้ง 2 คนจะต้องเดินทางต่อไปด้วยตนเอง
การเดินทางที่ควรต้องใช้เวลาเดินทาง 3 เดือนแต่ลดลงมาอยู่ที่ 2 เดือนครึ่งไม่ได้ทำให้ต้าซันอ่อนเพลียมากนัก ด้วยพระราชาฟารัคพระราชทานยาบำรุงมาให้ แต่ก็ย้ำไว้ว่า หากเมื่อถึงเวลาที่ต้องพักก็ต้องพัก อย่าได้ฝืนต่อไปอย่างเด็ดขาด ความเคร่งครัดนี้ ทำให้ต้าซันสามารถติดตามน้องชายไปตลอดทาง

เมื่อเดินทางมาถึงชนเผ่าบีม คนนำทางพาไปพักในเรือนพัก จากนั้นทั้งหมดจึงออกมากินอาหารที่เจ้าของเรือนจัดไว้ให้ ทั้งต้าซันและอาเม่ยยังคงความสนุกสนาน และไต่ถามเรื่องราวมากมายจากเจ้าของเรือน ทำตัวเป็นดั่งนักท่องเที่ยว 2 คนพี่น้องที่เดินทางไปทั่ว ต่อให้คนหนึ่งเป็นผู้ครองเวทย์ คนหนึ่งเป็นคนธรรมดา ก็กลับไม่ได้ทำให้ผู้ใดระแวดระวัง แต่ที่นี่เอง ที่อาเม่ยพบกับภูติจิ๋วปีกบางสีเขียวฟ้า
สีที่เกือบเหมือนกับดวงตาของอาเม่ย
ภูติตัวน้อยนั่งลงที่ไหล่ของต้าซันขณะที่จ้องมองดวงตาสีแปลกของอาเม่ย จากนั้นก็บินไปหาบุตรชายคนโตของเจ้าของเรือน ผู้ที่เลี้ยงภูติตนนี้
ภูติตัวน้อยกระซิบบอกข้อความบางอย่างกับผู้เลี้ยง
ผู้มาเยือนทั้ง 3 คนหันมามองหน้ากันอย่างระแวดระวัง แต่บุตรชายคนโตของเจ้าของเรือนพัก มิได้กล่าวทักเรื่องใด มีเพียงในเช้าวันถัดมา เมื่อจะออกเดินทาง กลับฝากให้ภูติน้อยเกาะไหล่ติดตามมาด้วย บอกว่า ทางที่จะเดินทางไป จะมีอากาศหนาวเย็นลงเรื่อย ๆ ขณะที่อาเม่ยเป็นไฟ ภูตินี้จะช่วยให้อาเม่ยควบคุมพลังได้ดีขึ้น และไม่ต้องกังวล เมื่อไปส่งถึงระยะหนึ่ง ภูติปีกสีเขียวฟ้าก็จะเดินทางกลับมาเอง
ภูติปีกสีเขียวฟ้าที่มีชื่อว่า ทรอยด์ ตามมาด้วยเหตุใดอาเม่ยไม่รู้ รู้แต่ว่าภูตินี้พูดคุยกับต้าซันเท่านั้น บางครั้งจะหายไปเป็นวันแล้วก็กลับมาพูดคุยกับต้าซันอีก
เพราะเป็นต้าซัน อาเม่ยจึงแกล้งงอนเป็นบางคราที่ถูกกันไว้เป็นคนนอก แต่เมื่อต้าซันมาง้อ อาเม่ยก็หัวเราะอย่างสดใสไปเสียทุกครั้ง
จนกระทั่งเบื้องหน้าคือเขาสูงชัน ด้านบนปกคลุมด้วยหิมะหนา ภูติน้อยก็พูดจากระซิบกับต้าซันอีกครั้ง แล้วโบกมือร่ำลา ส่วนคนนำทางพาไปส่งที่ชนเผ่าทองค์ ผู้นำทางในช่วงต่อไปที่มีภูติน้อยสีน้ำตาลอยู่ในครอบครอง
บราวน์เป็นภูติน้อยสีน้ำตาลไหม้ทั้งตัวและปีก ไม่ให้ความรู้สึกน่าเข้าใกล้อย่างทรอยด์ แต่เข้าใจได้ว่าทรอยด์เองก็หลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกับบราวน์ เพราะทันทีที่พบกัน บราวน์ก็บินวนต้าซัน แล้วไปพูดบางอย่างกับคนทำทาง จากนั้นก็นั่งกอดอกหน้างออยู่ที่ไหล่ของผู้นำทางจากเผ่าทองค์ไปตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้บราวน์ยังคงมีท่าทีข่มขู่ต้าซันอีกหลายครั้ง ทั้งในยามกลางวันและกลางคืน แต่ไม่ได้ลงมือจริงจัง มีแต่ข่มขู่ ไม่ได้แสดงพลังในการหลอกหลอนจิตใจ สร้างภาพลวงใด ๆ
ส่วนต้าซันกลับหัวเราะขำท่าทีของอีกฝ่าย แม้อาเม่ยจะเตือนว่า ภูติเหล่านี้ไม่ได้น่ารักอย่างรูปร่างหน้าตา แต่ต้าซันก็ยังคงไม่ใส่ใจ
แต่ในระหว่างการเดินทาง จู่ ๆ บราวน์ก็แจ้งว่า นกตัวใหญ่ที่ลักพาองค์ชายน้อยเป็นสัตว์เลี้ยงของชนเผ่ากี 1 ใน 3 ของชนเผ่าทางเข้าหุบเขาแหล่งเพาะปลูกพืชตั้งต้นของผงฝุ่นลืมตน 
สองพี่น้องไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย แต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมาก่อน จึงไต่ถามต่อ 
การจับองค์ชายน้อยมาที่เวกา ก็เพื่อต่อรองกับแม่ทัพเชมัลที่กำลังเข้าไปปราบปรามการค้าผงฝุ่นลืมตนนั่นเอง

เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน คนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน กลับเกี่ยวข้องกันโดยมีการค้าผงฝุ่นลืมตนเป็นศูนย์กลาง
เป็นไปตามที่พระราชาฟารัคคาดการณ์ไว้ทุกประการ!

จนเข้าใกล้หน้าผาสูงชัน เส้นทางที่จะมีน้ำแข็งเกาะเป็นระยะอยู่เบื้องหน้า คนนำทางจากชนเผ่าทองค์และภูติบราวน์ก็ลากลับ

เส้นทางจากนี้จึงเป็นการผจญภัยของสองพี่น้อง
อาเม่ยหันไปมองพี่ชายที่ยิ้มกว้างให้กำลังใจ แล้วออกเดินทางต่อไป
หน้าผาสูงชัน เส้นทางที่มีน้ำแข็งเกาะเป็นระยะทำให้พี่น้องต้องใช้เชือกผูกเอวกันไว้
พบถ้ำที่ไม่ลึกนัก แต่พอให้หยุดพักได้ ยังมีร่องรอยของผู้ที่เคยมาพักก่อนหน้าทิ้งไว้ สองพี่น้องช่วยกันก่อไฟ อุ่นอาหาร
น้ำแกงร้อน ๆ แตะริมฝีปาก อาการเจ็บแปลบที่หัวใจก็เกิดขึ้นจนมือที่ถือถ้วยอยู่ยังสั่น พี่ชายที่เฝ้ามองน้องชายอยู่รีบเข้ามาคว้าถ้วยไปวาง แล้วจับมือขาวบีบนวด

"ท่านพี่เกิดเรื่องร้าย" อาเม่ยกล่าวกับต้าซัน
ดวงตาสีฟ้าตื่นตระหนกยิ่งกว่าเกิดเรื่องร้ายกับตนเอง
"แม่ทัพมีองครักษ์ตามไปด้วยทั้งหมด เขาต้องแก้ไขสถานการณ์ได้สิ" พี่ชายให้กำลังใจ ไม่มีคำถามว่า อาเม่ยรู้ได้อย่างไร มีแต่ความเชื่อในทุกสิ่งที่น้องชายคิด พูด และลงมือทำ
อาเม่ยกำมือแนบที่หัวใจ
......"น้องอยู่ที่นี่ รอท่านพี่อยู่ อยากพบท่านเหลือเกิน"......

แม่ทัพเชมัล และองครักษ์ติดอยู่ในถ้ำซึ่งภายในมีหินงอก หินย้อยเป็นน้ำแข็ง
แรกนั้น เป็นเพียงการหลบเข้ามาในถ้ำเพื่อพักกินอาหารค่ำและพักผ่อน แต่เมื่อที่ด้านนอกมีพายุหิมะที่เกิดจากเวทย์เข้ามาปกคลุม ภูติตัวน้อยปรากฏขึ้นภายในถ้ำชักจูงองครักษ์มาจิดผู้มีอายุน้อยที่สุดเข้าไปด้านใน ภูติตัวน้อยพากันส่งเสียงเลียนแบบคุณชายมาจิดเรียกคนอื่น ให้เข้ามาชื่นชมความงามภายในถ้ำ และเมื่อผู้อื่นเดินตามเข้ามา รวมถึงแม่ทัพเชมัล ภูติหลายตัวก็ปรากฏขึ้นตามจุดต่าง ๆ ส่งเสียงกรีดร้อง และสร้างภาพลวงที่ชวนให้คลุ้มคลั่ง
ขณะที่หินงอก หินย้อย ภายในถ้ำกลับพร้อมหักหล่นลงมาได้ทุกเมื่อ นั่นเพราะที่นี่มีองครักษ์ซัน และซาดาน ผู้ใช้ไฟ 2 คนที่พลังของพวกเขากำลังละลายน้ำแข็งในถ้ำ ซึ่งที่ผ่านมายังเป็นผู้ที่ทรมานที่สุดกับการเดินทาง ยิ่งมาถูกฤทธิ์ของภูติซ้ำเติม ทั้ง 2 คนยิ่งย่ำแย่ สุดท้ายแม่ทัพเชมัลต้องถ่ายพลังให้กับทั้ง 2 คน
ส่วนองครักษ์อื่น ๆ เมื่อจะกำจัดภูติเหล่านี้ ก็ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ ด้วยภูตินี้จะหายตัวไปทันที แล้วก็จะกลับมาใหม่ในเวลาอันสั้น กลายเป็นการส่งพลังไปทำลายน้ำแข็งในถ้ำ แล้วก็วนกลับมาทำร้าย 2 คนนั้นเสียอีก
แต่จู่ ๆ แม่ทัพเชมัลก็กลับหยุดยืนนิ่งกำมือแนบหัวใจ แล้วให้สัญญาณทุกคนหยุดความพยายามที่จะต้านทาน หันไปกดจุดให้องครักษ์ซันและซาดานนอนหลับ ส่วนคนอื่น ๆ ให้เริ่มการฟื้นฟูพลัง
บรรดาภูติจิ๋วหลายสิบตนเอียงคอมองด้วยความสงสัย

เวลาผ่านไปหลายชั่วยาม ผู้ควบคุมภูติที่อยู่ภายนอกเริ่มอ่อนเพลีย ผู้ใช้เวทย์สร้างพายุหิมะก็เริ่มอ่อนเพลีย แม่ทัพเชมัลลุกขึ้นยืน หันไปปลุกองครักษ์ที่พักผ่อนอยู่ 
คนรูปร่างสูงใหญ่ ก้าวออกมาด้านหน้า ดึงพลังขององครักษ์ซันระเบิดผนังถ้ำ พาทุกคนหลบหนีออกมา แล้วระเบิดซ้ำให้ผนังถ้ำกลบฝังภูติที่ยังอยู่ภายใน
พายุหิมะที่เกิดจากเวทย์ด้านนอกสงบลงแล้ว เสียงรบกวนของภูติหมดไปเช่นกัน
เมื่อออกมาที่ด้านนอก ไม่มีวี่แววของพายุหิมะ ดวงตาสีเข้มมองดวงจันทร์ที่อยู่บนฟ้า

...

อาเม่ยมองดวงจันทร์แล้วหันมาหาต้าซัน "ท่านพี่ปลอดภัยแล้ว"
พี่ชายไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าใด แต่ก็ยักไหล่ "มิเป็นไรก็ดีแล้ว เจ้าก็นอนสักทีเถิด"
ดวงตาสีแปลกหันไปมองดวงจันทร์อีกครั้ง รอยยิ้มสดใส
"คิดถึงท่านยิ่งนัก"

....จบตอนที่2...
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 28-07-2016 09:25:10
ขอแปะก่อน ^_^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 28-07-2016 09:31:39
 :-[ :-[

อาเม่ยกับพี่เชมีจิตสื่อถึงกันด้วย

 :ling1:..ทำไมชั้นอิจฉา

 :pig4: :pig4: รอลุ้นให้ช่วยเจ้าชายน้อยในตอนต่อไปป
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 28-07-2016 09:43:56
หัวใจสองดวงที่สื่อถึงกัน... :กอด1: ถึงตอนนี้อาเม่ยกับท่านแม่ทัพจะยังไม่เจอกัน แต่ความหวานก็ยังคงอยู่นะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 28-07-2016 10:17:22
ความหวานยังคงอยู่แม้พี่เชกับอาเม่ยห่างกัน

 :กอด1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-07-2016 10:46:30
ต้าซันเป็นกำลังเสริมที่ประเมินไม่ถูก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 28-07-2016 11:21:39
หูยยยยยยยยยยยยยยยยยย มองดวงจันทร์แล้วเห็นหน้าเธอ  หว๊านนนนหวาน

พวกเฟสไทม์หรือวีดีโอคอลสมัยนี้ชิดซ้าย (เออ บ่นไรเนาะ มันคนละยุค  :z6: )

ว่าแต่ต้าซันคนดีนี่มีดีกว่าที่คิดแน่ๆ  o13  o13





หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-07-2016 13:16:29
สองคนเขาสื่อจิตกันด้วยหัวใจและพลังแสงจันทร์ ว้าว โรแมนติกจริงๆ ค่ะ

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง คำกล่าวนี้เป็นจริงมากๆ เพราะกลุ่มแม่ทัพเชมัลไม่มีความรู้เกี่ยวกับเวกามากนัก อาจทำให้หลงกลพวกศัตรูนิดหน่อย แต่เมื่อใช้สติก็ย่อมจะเอาชนะและหลุดพ้นมาได้ อยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนบงการอยู่ด้านหลัง วางแผนทีเดียวทำเอาหลายคนป่วนไปเลย เพียงเพราะผงฝุ่นลืมตนเท่านั้นหรือ? หรือเพราะอย่างอื่นอีก?

ติดตามตอนต่อไปนะคะ หวังให้องค์ชายน้อยดาริมอยู่รอดปลอยภัยนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 28-07-2016 13:37:12
บนความตื่นเต้น มีความหวานปนอยู่ :impress2:

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-07-2016 15:14:26
อือหือ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-07-2016 15:26:42
ความรักของแม่ทัพเชมัลกับอาเม่ยช่างลึกซึ้งจริงๆ ขนาดตกอยู่ในอันตรายยังสามารถสื่อถึงกันได้
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 28-07-2016 16:28:08
 ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา  :L2:

เพิ่งอ่านตอน vega 1  ท่าทางจะสนุก
ขอไปพักตาแป๊บ เดี๋ยวเข้ามาอ่านตอนสองต่อ
จ้องคอมฯ นานๆ ไม่ไหวอ่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-07-2016 16:57:24
สื่อถึงกันได้ด้วย~
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 28-07-2016 17:26:53
จิตสื่อถึงกันด้วยยย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-07-2016 19:54:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 28-07-2016 23:19:51
อรั๊ยๆๆๆๆ ตอนนี้มีแอบหวานกันเล็กน้อย
อาเม่ยกับพี่เชจิตสื่อถึงกันด้วย น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-07-2016 13:56:03
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 29-07-2016 14:24:20
มาอ่านต่อล่ะ...

เขาสื่อสารกันด้วยใจ  เราอิจมากเลย
เริ่มสนุกแล้วมีภูตน้อยด้วย  รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 30-07-2016 04:48:01
ขอให้องค์ชายน้อยปลอดภัยนะ เจ้าภูติจิ๋ว บราวน์ ทำให้นึกถึง จิงเกอเบลเลย555 ไอ้นิสัยเชิดๆเนี่ย ในตอนนี้ต่างคนก็ต่างต้องรักษาตัวให้รอดไว้ก่อนล่ะเนอะ  มาต่างเมืองโดยเฉพาะเวกา ไว้ใจใครไม่ได้จริงๆ รอตอนต่อไปนะ ตอนพิเศษเวกานี่สนุกจริงๆ เหมือนได้อ่านแฮรี่ผสมปีเตอร์แพนเลย ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 30-07-2016 16:54:00
เมืองนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้ตื่นเต้น ต้องระแวดระวังอยู่ตลอดเลย อยากอ่านตอนต่อไปทันทีที่อ่านจบเลย

ปล.พี่เชกับร้องเม่ยนี่ใจเขาสื่อถึงกันตลอดเลยอ่ะ มันต่อใจ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 31-07-2016 19:28:23
สื่อสารกันด้วยใจ เหมือนเป็นครึ่งชีวิตของกันและกันเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 02-08-2016 19:33:30
เม่ยน่ารัก :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 03-08-2016 09:04:21
ก๊อกๆๆ เข้ามาจองเก้าอี้หน้าเวทีรอตอนต่อไปค่ะ  :z7:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 03-08-2016 14:10:08
มาอีกรอบ

ดันๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-08-2016 14:11:12
มารอตอนต่อไปนะคะ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 03-08-2016 14:17:09
เพียงแค่ผงฝุ่นเท่านั้นหรือ ที่เป็นปัจจัยให้ทุกคนเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้

ชอบภูติน้อยจังเลยค่ะ จินตนาการตามแล้วรู้สึกน่ารักมาก แถมยังไปเกาะ ไปคุยกับต้าซันคนเดียวอีก
อาเม่ยของเราถูกทิ้ง 5555

เขามองพระจันทร์แล้วคิดถึงกัน หวานมากกกกก
แถมยังจิตใจสื่อถึงกันอีกด้วย ทำไมรู้สึกอิจฉา :ling1:

รอติดตามเหตุการณ์ต่อไปนะคะ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 03-08-2016 14:59:35
ชอบที่สุด..โดยเฉพาะตอนท้าย.. :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 03-08-2016 15:36:27
 :katai5: :katai5:
เข้ามารออาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 03-08-2016 15:44:25
มาช่วยผลักดันเพื่อตอนต่อไป  :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-2 หน้า 52 (280759)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-08-2016 17:12:12
มารออย่างเงียบๆ :)
หัวข้อ: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 03-08-2016 22:08:36
ตอนพิเศษ Vega-3

ภารกิจของแม่ทัพเชมัลและเหล่าองครักษ์คือการกำจัดและปราบปรามการค้าผงฝุ่นลืมตน ซึ่งมีชนเผ่าทาคาเป็นผู้ค้าหลัก และย่อมแน่นอนว่ายังชนเผ่าอีกหลายชนเผ่าที่ให้การสนับสนุน ซึ่งต่างก็รู้ดีเป็นการภายในว่าชนเผ่าใดทำหน้าที่ใดในกระบวนการต่าง ๆ
แต่เป้าหมายหลักของแม่ทัพเชมัล และเหล่าองครักษ์ คือชนเผ่าทาคา

ตอนที่วางแผนการทำงาน พระราชาฟารัคมั่นพระทัย ว่าพระราชาไอโอตาทราบเรื่องผงฝุ่นลืมตนเป็นอย่างดี และเมื่อวิเคราะห์ในแบบผู้ปกครอง ด้วยระบบการปกครองแบบชนเผ่าของเมืองเวกา จะทำให้ทรงเลี่ยงการเผชิญหน้าและจะไม่ปราบปรามผู้ที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้อื่น ต่อให้เป็นผู้ที่มิได้ลงแรงแต่ได้รับผลประโยชน์แบบกินเปล่า ด้วยหากเกิดปัญหาขึ้น บรรดาชนเผ่ากินเปล่าเหล่านี้จะกลายมาเป็นโล่ปกป้องผู้ที่ลงแรง

ต้องจัดสรรปันส่วนผลประโยชน์อย่างไร ให้ทุกคนรู้สึกว่า นั่นคือรางวัลที่เหมาะสมแล้ว

แม่ทัพเชมัลเตรียมพร้อมสำหรับกับดักที่จะรุมล้อม แต่หลังจากที่เผชิญกับการต้านทานจากพายุหิมะ และบรรดาภูติมากมายที่ถูกส่งเข้ามารบกวนอย่างต่อเนื่อง แม่ทัพเชมัลก็ใช้การปราบปรามกลับไปอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่การตอบโต้อย่างรุนแรง กลับทำให้แม่ทัพเชมัลยิ่งเคร่งเครียดมากกว่าเดิม

เช้าวันถัดมา หลังจากที่พ้นออกมาจากถ้ำน้ำแข็ง แม่ทัพเชมัลประกาศแผนการใหม่
"เกิดอันใดขึ้น" องครักษ์แซนถาม
"อาเม่ยข้ามมาเวกาแล้ว" แม่ทัพตอบ "ดูท่าจะไปที่เมืองหลวง"
"มีอันใดที่เมืองหลวง" องครักษ์ซันถามขึ้น
"ดาริมอยู่ที่นั่น" แม่ทัพเชมัลสั่งการ แล้วหันไปสั่งองครักษ์มาจิดเตรียมพร้อม
จากนั้นผู้ใช้เวทย์ของเวกา ก็ไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวของแม่ทัพเชมัลได้อีก

หิมะตกเบาบางลงเรื่อย ๆ อากาศยังหนาวเย็น 2 พี่น้องเดินทางเข้าสู่เขตป่าทึบ ต้นไม้สูงใหญ่ สัตว์หลายชนิดใช้เป็นที่หลบซ่อนจากสภาพอากาศที่ผิดปกติ
นี่คือเส้นทางที่จะนำไปสู่เมืองหลวง
ด้วยพลังเวทย์ที่มีอยู่ ประกอบกับเจตนาจากอีกฝ่าย ทำให้อาเม่ยรับรู้ได้จากระยะไกล ว่าในที่ข้างหน้ามีผู้ที่มีพลังเวทย์สายน้ำ ซึ่งจากการคาดเดา ก็คิดว่าผู้ที่รออยู่อาจเป็นองครักษ์แซนที่รออยู่ตามคำสั่งของแม่ทัพเชมัล
แต่เมื่อมาถึง จึงพบว่าคนที่รออยู่เบื้องหน้ามิได้มีเพียงคนเดียว และมิใช่องครักษ์แซน
แต่คือองครักษ์มาจิดและอีกคนหนึ่งที่ทำให้อาเม่ยพุ่งตัวเข้าหาแล้วกระโดดกอดไว้แน่น!

"คิดถึงท่านพี่ยิ่งนัก"
"พี่ก็คิดถึงน้อง"
อ้อมแขนใหญ่กอดรัดมอบไออุ่นตั้งแต่ผิวกายจนถึงหัวใจ ปลายจมูกที่กดลงแก้มใส ริมฝีปากที่กดลงที่ต้นคอกำลังกล่าวคำนับพันที่บอกถึงความรัก ความคิดถึงและความเป็นห่วง

ด้วยลมหายใจที่ยังคงอยู่ ก็เพียงเพื่อรักคนผู้นี้ มีชีวิตเพื่อคนนี้เท่านั้น

"พระราชามีองครักษ์และนักเวทย์อยู่ในมือหลายสิบคน กลับให้น้องลำบากเดินทางไกล"
"ไม่เลย" อาเม่ยตอบทั้งกอดอีกคนไว้แน่น "น้องยินดี อยากพบท่านเหลือเกิน"

ต้าซันที่เดินยิ้มตามหลังมา กวักมือชักชวนองครักษ์มาจิดไปหาที่นั่งพัก ก่อกองไฟ ต้มน้ำชาเสร็จแล้วจึงค่อยหันมาเรียกอีก 2 คนให้มาดื่มน้ำชาแล้วค่อยพูดคุยกันต่อไป

"ท่านพี่ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ"
"แบบใด"
"แบบที่แฝงตนเองไว้ที่มาจิดน่ะ"
"ทำได้สิ"
"แล้วแฝงไว้กับคนอื่นได้หรือไม่"
"ได้สิ"
"เหตุใดน้องเพิ่งรู้"
"ก็ค่อย ๆ รู้ไป เราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน หากรู้หมดในคราวเดียวกันจะก็ปราศจากคำถาม ปราศจากคำถามก็ไม่สนุกแล้ว"
"ท่านคิดว่าน้องจะหมดคำถามได้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ"
"อ่า.....นั่นสินะ"
แม่ทัพเชมัลตอบแล้วหัวเราะเสียงดัง มีความสุขเสียจนองครักษ์มาจิดหันไปกล่าวกับต้าซันว่าตั้งแต่ออกเดินทางมาจากเมืองวัน เพิ่งได้ยินแม่ทัพหัวเราะเสียงดังและมีท่าทีผ่อนคลายถึงเพียงนี้
กว่าที่จะถามไถ่ธุระการงานว่าเดินทางมาด้วยเหตุใด เวลาก็ล่วงเลยไปนานนับชั่วยาม

เรื่องราวจริงจังตึงเครียดเกี่ยวพันถึงชีวิตขององค์ชายน้อย และความสงบสุขของประชาชนตั้งแต่เมืองเหนือไปจนถึงเมืองวัน แต่เพราะอาเม่ยคือลูกไฟ และมีองครักษ์มาจิดเป็นสายน้ำ แม่ทัพเชมัลจึงต้องเล่าเรื่องราวด้วยท่าทีผ่อนคลายสลับกล่าวคำหยอกล้อกับอาเม่ยไปเรื่อย

ต้าซันยังสงสัย....หากเรื่องราวมิได้ตึงเครียด อย่างที่แม่ทัพบอก ทั้งหมดคงมิต้องเดินทางมาถึงเมืองเวกา
แต่เมื่อแม่ทัพเชมัลมิได้กังวล ทั้งอาเม่ยก็มีความสุขอย่างยิ่ง
หรือที่เราเคร่งเครียดจริงจังจะเป็นการคิดเกินเลยไปเอง...

แม้ชนเผ่าทาคา จะตกเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยว่าจะลักพาตัวองค์ชายน้อย เพื่อหวังข่มขู่ หากแต่เมื่อพิจารณาในมุมของฝ่ายปกครอง จะพบว่า องค์ชายน้อยคือรัชทายาทลำดับที่ 4 ของเมืองวันในทางนิตินัย
ข้อนี้มีแต่เพียงผู้ที่รู้จักพระทัยของพระราชาฟารัคเป็นอย่างดีจึงจะเข้าใจ
หากบัลลังก์เมืองวันไม่ตกอยู่กับเจ้าชายฮัมซา ก็ย่อมตกอยู่กับองค์ชายน้อยผู้นี้
ไม่มีทางผิดไปจากนี้!
ไม่มีทางตกไปถึงองค์ชายผู้ถือกำหนดจากสนมใหม่ 2 พระองค์อย่างเด็ดขาด
ดังนั้น ผู้ที่กล้าลักพาตัวองค์ชายน้อยจึงย่อมยิ่งใหญ่กว่าชนเผ่าทาคา ทั้งมีจิตใจที่กล้าหาญอย่างยิ่ง เพราะหากสามารถต่อรองได้คืออำนาจที่เพิ่มพูน แต่หากพ่ายแพ้คงไม่แคล้วต้องเหมือนกับเมืองเหนือ!
ใจของแม่ทัพเชมัลที่จดจ่ออยู่กับการจัดการเรื่องผงฝุ่นลืมตนที่หมู่บ้านทั้ง 4 ก็เป็นอีกแรงกดดันหนึ่งที่ทำให้ศัตรูพาองค์ชายน้อยไปไว้ที่เมืองหลวง เพื่อหวังให้แม่ทัพเปลี่ยนเส้นทาง
มิคาดพระราชาฟารัคกลับส่งอาเม่ยไปเมืองหลวง

แม่ทัพเชมัลสั่งการทั้งที่ยังไม่คลายกอดอาเม่ย "ทั้ง 3 คนเดินทางไปด้วยกัน อีก 7 วันข้างหน้าพี่จะตามไปสมทบ"
อาเม่ยมองหน้าแม่ทัพเชมัล แล้วหันไปมองรอบตัว จากนั้นก็มองท้องฟ้า
ด้วยสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศเช่นนี้ แม่ทัพเชมัลจะใช้เวลาเพียง 7 วันในการเดินทางไปจัดการกับหมู่บ้านที่เป็นที่มาของผงฝุ่นลืมตน จากนั้นก็จะเดินทางต่อไปเมืองหลวง
อย่าลืมว่าที่นี่มิใช่เมืองวัน หรือเมืองเหนือ นอกจากจะเป็นเส้นทางที่ไม่มีความคุ้นเคย ยังเป็นการเดินทางอยู่ท่ามกลางศัตรูที่ต้องการปกป้องการค้าที่ผิดกฎหมาย ทั้งพายุหิมะที่เกิดขึ้นอย่างมิรู้หยุดพักนี่อีก!
แม่ทัพเชมัลทราบว่าอาเม่ยมีคำถาม ทั้งต้าซันและองครักษ์มาจิดก็มีคำถาม แต่ทั้ง 3 คนกลับไม่มีผู้ใดถามออกมา

"หากไม่มีคำถาม พวกเจ้าพักผ่อนที่นี่ รอพรุ่งนี้เช้าก็เดินทางต่อ"
"ท่านพี่จะออกเดินทางเลยหรือ" อาเม่ยมีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดเจน
"พวกรอมรออยู่" มือใหญ่ลูบผมสวยที่ถูกมัดเปียไว้ "อีก 7 วันก็ได้พบกันแล้ว"
อาเม่ยพยักหน้า แล้วลุกขึ้นยืน ยื่นมือให้อีกคนจับไว้แล้วลุกขึ้นตาม
"น้องเดินไปส่ง"

เดินเคียงข้างกันจนกระทั่งพ้นจากสายตาของต้าซันและองครักษ์มาจิด แม่ทัพเชมัลก็ดึงมือน้องให้ตามไปที่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ แล้วกอดรัดด้วยความคิดถึง..
เวลาผ่านไปนับชั่วยามอาเม่ยจึงเดินกลับมา แม้ดวงตาแดงดั่งเพิ่งร้องไห้มา แต่แก้มสีแดงจัด ริมฝีปากเจ่อ โดยเฉพาะการที่พยายามปรับสีหน้าดั่งว่าเดินไปส่งแม่ทัพเชมัลในช่วงเวลาเพียงอึดใจ ทำให้ต้าซันยิ้มกว้างเมื่อส่งชามไม้ที่มีน้ำแกงข้นให้ดื่ม

"ทางที่พวกเราจะไปมีหิมะหนักอยู่เพียงช่วงเดียว ผ่านจากนั้นไปถึงเมืองหลวงก็เหลือเพียงระวังพวกภูติเพียงอย่างเดียวแล้ว" องครักษ์มาจิด กล่าวขึ้นขณะที่อยู่กับอาเม่ยตามลำพัง และให้ต้าซันนอนไปก่อน
"พี่ใหญ่เข้ากันได้ดีกับพวกภูติ ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว" คนตาสีแปลกกล่าวด้วยรอยยิ้ม แล้วย้อนถาม "ห่วงดาริมไหม"
องครักษ์มาจิดยอมรับ "แต่เพราะเขาเป็นบุคคลที่จะถูกนำมาใช้ต่อรองก็คิดว่า ไม่น่าจะเป็นอันตรายใด ๆ"
อาเม่ยเดาะลิ้น "เจ้ามันเย็นจัดเช่นนี้นี่เอง ท่านพี่ถึงได้ส่งให้มาอยู่กับข้า"
องครักษ์มาจิดเลิกคิ้วสูงจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังจนต้าซันพลิกตัวหันมามอง องครักษ์คนใหม่ ที่ยังพ่วงด้วยตำแหน่งพระญาติ ก็พริ้วพอตัว รีบเปลี่ยนเรื่องมาถามต้าซันเรื่องที่ต้าซันมีความเป็นมิตรกับภูติเมืองเวกา
"คงเพราะเราเจอแต่ภูติฝ่ายดีกระมัง" ต้าซันนอนกระดิกเท้าพูดคุย "ไม่เคยเจอที่แบบจะเข้ามาถล่มถ้ำอย่างที่เจ้าเล่าให้ฟังเลยสักครั้ง"
คุณชายมาจิดทำหน้าพิกล "พวกเราเจอตลอดทาง ผ่านไปหลายเดือนถึงได้ไม่ไปถึงไหน" องครักษ์น้ำเย็นส่ายหน้าเหนื่อยใจ "บางครายังอดสงสัยมิได้ว่า พวกเราจะเสียท่าฆ่ากันเองเพราะภูติพวกนี้ หรือเพราะแม่ทัพโมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่"

...จบตอบที่ 3...
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 03-08-2016 22:47:39
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: Ornon ที่ 03-08-2016 22:49:51
 :pig4:  ดีใจทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 03-08-2016 22:56:57
ตื่นเต้นๆ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 03-08-2016 23:02:17
หลังต้นไม้ใหญ่ต้องมีอะไรเเน่ๆ... :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 04-08-2016 00:03:18
เจ้าภูติพวกนี้แสบจริง อดทนไว้เม่ยเดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว หวังให้องค์ชายน้อย อยู่รอดปลอดภัยนะ ตอนพิเศษนี้สนุก...เปิดภาคสองเลยดีไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 04-08-2016 00:16:52
แบบนี้ต้องขอตอนพิเศษของพิเศษว่าด้วยเหตุการณ์หลังต้นไม้  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 04-08-2016 07:56:47
 :pig4: ขอบคุณที่มาอัพค่ะ สนุกมากๆ รอติดตามแบบหายใจรดต้นคอ(อาเม่ยกับพี่เช) ไม่อยากให้สองคนนี้แยกกันไปไหนเลยค่ะ กลัวจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอีก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-08-2016 09:29:18
ไปส่งกันถึงไหนน้า~
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 04-08-2016 10:04:14
ลุ้นให้องค์ชายน้อยปลอดภัย

 สงสัยว่าหลังต้นไม้นั้นมีอะไร

 :pig4: :กอด1: :L1:


หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 04-08-2016 19:08:48
ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้ค่ะว่าใครคือคนๆ นั้นที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง นี่ถึงขนาดยกพลมากันขนาดนี้นับว่าเรื่องใหญ่เอาการ ห่วงก็แต่องค์ชายน้อยดาริมจะไม่เป็นอันตรายอะไรนะ

ไม่ชอบเลยพวกที่เอาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของผู้อื่น ไอ้ผงฝุ่นลืมตนนี่มันทำเงินทำประโยชน์ให้มากมายสินะ จึงได้ช่วยกันสนับสนุนอย่างลับๆ ขนาดนั้น

ขอบคุณไจฟ์กับทีมากๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-08-2016 20:37:04
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 04-08-2016 23:05:53
ชอบมากเลย :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-08-2016 17:16:36
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-08-2016 18:41:11
พระราชาฟารัคจอมวางแผน

เมื่อไรเม่ยกับเชมัลจะไดักลับมาอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 06-08-2016 18:58:05
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
อยากรู้ว่า หลังต้นไม้มีอะไรเหมือนกัน
ทำไมอาเม่ย ถึงปากเจ่อออกมา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 07-08-2016 10:07:52
ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้ ใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันนะ
แถมยังน่าจะเป็นคนที่รู้จักพระราชาฟารัคเป็นอย่างดีด้วย

#ปูเสื่อนอนรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-08-2016 11:17:36
รอลุ้นหลังต้นไม้ o18

 :pig4: ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 09-08-2016 12:24:14
 o13 o13. สนุกลุ้นทุกตอน รอรอตอนใหม่
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 09-08-2016 15:52:41
ลุ้นต่อไป  ชอบมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 09-08-2016 21:32:29
คิดถึงต้าชัน  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 11-08-2016 17:24:38
เข้ามารอตอนใหม่จ้า  :mew4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 11-08-2016 18:35:14
คิดถึงอาเม่ยกับแม่ทัพเชมัล มาปูเสื่อรอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2016 18:37:36
 :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 11-08-2016 19:11:50
ดันๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 11-08-2016 19:26:42
 :katai5: :katai5:

มารอต้าซัน
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 11-08-2016 19:29:08
 :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-08-2016 20:48:24
มาแล้วน้าาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-08-2016 02:03:43
มารอตอนต่อไปนะคะ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-08-2016 09:33:54
ฮึบๆๆๆ เข้ามาดันกระทู้นิดๆ
คิดถึงอาเม่ยจะแย่ละ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-3 หน้า 53 (030859)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 12-08-2016 10:13:09
ความสามารถพี่เชนี่เก่งกล้าจริงๆ รอลุ้นตอนปะทะ ศัตรูจะวอดวายกันสักขนาดไหน หุหุ
หัวข้อ: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 12-08-2016 10:17:12
ตอนพิเศษ Vega-4

แม้จะเป็นผู้ครองเวทย์เหมือนกัน แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่สามารถปิดบังร่องรอยของตนเองได้ และคนบางคนเหล่านั้นจะเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่ทำไม่ได้ เมื่อต้องออกไปทำงานสำคัญ

ผู้ที่ทำไม่ได้อย่างแน่นอนย่อมเป็นกลุ่มผู้ที่ใช้เวทย์ไฟ ส่วนผู้ที่ใช้เวทย์อาวุธอย่างต้นห้องเก้าทำไม่ได้เลย ส่วนราชองครักษ์ฮูดาผู้ใช้เวทย์ดินกลับทำได้ดียิ่ง
แน่นอนว่า กลุ่มผู้ที่ทำได้ดียังมีคือกลุ่มของพระราชาฟารัค แม่ทัพนาซิม และแม่ทัพเชมัล แห่งเมืองวัน รวมถึงพระราชาของบาสก์ ซึ่งได้รับความพิเศษที่ถ่ายทอดผ่านมาทางสายเลือด
ดังนั้น ผู้ทำได้จึงย่อมมีเจ้าชายฮัมซา และองครักษ์มาจิดด้วยเช่นกัน

เจ้าชายฮัมซาติดตามผู้เฒ่าดินออกเดินทาง จึงได้รับการสั่งสอนและฝึกฝนอย่างเข้มงวดจนมีพลังที่กล้าแข็งขึ้น
ส่วนองครักษ์มาจิดทั้งอายุน้อยกว่าและการฝึกก็ยังไม่ได้เข้มข้นเท่า ด้วยแม่ทัพเชมัลมักจะปล่อยให้ไปลองผิดลองถูกด้วยตนเองมากกว่า

....ครานี้ก็เช่นกัน ที่แม่ทัพเชมัลหาได้ให้คำแนะนำใด ๆ....

นับตั้งแต่ออกเดินทางจากเมืองวัน อาเม่ยไม่เคยปกปิดร่องรอยการเป็นผู้มีพลังเวทย์ เพราะทำไม่ได้!
ดังนั้น อาเม่ยและต้าซันจึงถูกจับตามองโดยตลอด
แต่รายงานเกี่ยวกับพี่น้องคู่นี้บางคราก็คลาดเคลื่อนไปมาก เพราะการที่ต้าซันผูกมิตรกับบรรดาภูติตัวจิ๋วมาตลอดเส้นทางนั่นเอง

ย้อนกลับไปเล่าเรื่องการเดินทางของกลุ่มแม่ทัพเชมัล การปิดบังอำพรางนั้นจำต้องเป็นไปแบบไม่สม่ำเสมอ เพราะเมื่อองครักษ์ซันและซาดานเป็นผู้ใช้ไฟ หากให้แม่ทัพเชมัลปกปิดร่องรอยให้ตลอดการเดินทาง ก็ดูจะเป็นเรื่องสิ้นเปลืองกำลัง ทั้งสุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไรก็จะถูกพบเห็นอยู่ดี ดังนั้น แผนการที่วางไว้ ก็คือ จะเปิดเผยร่องรอยของพลังเวทย์เพียงเบาบาง คล้ายพลั้งเผลอลืมตน ควบคุมพลังไม่มั่นคง
คือหากพบเจอ ก็จะชี้ตัวได้ว่าทั้งหมดไปถึงที่ใดแล้ว แต่หากคิดจะค้นหาด้วยพลังเวทย์จะพบแต่เพียงเวทย์ไฟ กับพลังงานอีกหลากหลายที่เบาบาง และอ่อนแอ
แต่ถึงอย่างนั้น กลุ่มของแม่ทัพเชมัลก็ยังตกอยู่ในวงล้อมของภูติอยู่ตลอดเส้นทาง

ในการเดินทางช่วงหนึ่ง เจ้าชายฮัมซายังออกปากถามว่าเหตุใดต้องทำให้เรื่องราวยุ่งยาก เหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้น ในเมื่อสุดท้ายก็ยังถูกพบเจออยู่ดี
แม่ทัพเชมัลเพียงยักไหล่ แล้วบอกว่าให้กลับไปถามพระราชาฟารัค
เจ้าชายฮัมซา บุตรแห่งพระราชาฟารัคกอดอกไม่พอใจ "คิดแล้วเชียว ว่าเรื่องจริงหรือหลอกแบบนี้ต้องเป็นพระบิดา"
"แล้วจะกลับไปถามไหม"
"ถ้ากลับไปแล้วต้องไปพบปัญหาเดิม ๆ ก็ปล่อยให้มันเป็นคำถามต่อไปเถิด"

ส่วนองครักษ์มาจิดเมื่อพ้นจากการคุ้มครองของแม่ทัพเชมัล ก็ค่อย ๆ เปิดเผยพลังเวทย์ของตนขึ้นทีละน้อยจนขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ
แต่ก็ยังไม่มีใครที่เปิดเผยและชัดเจนได้เท่ากับองครักษ์ซัน ซาดาน และอาเม่ยอีกแล้ว

เช้าวันหนึ่ง เมื่อเดินออกมาจากที่พักแรม อาเม่ย ต้าซันและองครักษ์มาจิดจึงพบกับผู้ที่รออยู่บนคบไม้หน้าที่พัก
ภูติสีเทาหม่น ดวงตาสีน้ำเงิน ตราสัญลักษณ์ที่หน้าผากบ่งบอกว่า เป็นภูติจากวังหลวงของเวกา แต่เมื่อต้าซันยิ้มร่าชี้ชวนองครักษ์มาจิดชื่นชม ภูติสีเทาหม่นตนนั้นก็กลับมีท่าทีหงุดหงิดไม่พอใจแล้วบินหนีไปต่อหน้า
ตลอดเส้นทางพบเจอกับภูติมาแล้วหลายตัว ต้าซันก็ยังตื่นเต้นอยากทำความรู้จักไปเสียทุกตัว
ภูติฝ่ายดี จะเข้าหาต้าซันด้วยดี แต่กับอาเม่ยจะดูกล้า ๆ กลัว ๆ คล้ายอยากทำความรู้จัก แต่ก็ยังกลัวบางอย่าง
ภูติฝ่ายร้าย ไม่เข้าหาต้าซัน ทั้งจะหลบหนีไปทันทีที่ถูกอาเม่ยมองเห็น
ดังนั้น ต้าซันจึงมีหน้าที่บันทึกเกี่ยวกับภูติเหล่านี้ แล้วมาบอกกับอาเม่ย

"ทำไมพวกภูติกลัวเจ้า" ต้าซันถาม
อาเม่ยเอียงหน้าคิด แต่องครักษ์มาจิดช่วยคลายข้อสงสัย "เป็นไอของแม่ทัพเชมัลที่ผนึกอยู่กับท่านเม่ย"
คนหน้าตาดั่งตุ๊กตามีสีหน้าแปลก ขณะที่ต้าซันหัวเราะเย้าแหย่น้องชาย ทำให้คนใจเย็นอย่างองครักษ์มาจิดยังหัวเราะตามไปด้วย
"ลืมเรื่องนี้ไปเลยนะ"
"ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วจะเป็นเรื่องใด" ต้าซันถามต่อ
"ก็คิดว่าอาจเป็นไฟ"
ต้าซันลูบคาง "ลูกไฟท่ามกลางหิมะน่ากลัวหรือ น่ากลัวไหมมาจิด" ตอนท้ายหันมาถามผู้อ่อนอาวุโส ที่ส่ายหน้าช้า ๆ
"ไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่นะ โดยเฉพาะหากเป็นพายุหิมะอย่างที่พวกเราพบก่อนหน้านี้"
"เจ้าพบพายุด้วยหรือ" ต้าซันเสียงดัง ตั้งใจลบคำว่า 'พวก' ที่องครักษ์มาจิดหลุดปากออกมา
ผู้อ่อนอาวุโสค้อมศีรษะขอบคุณ แล้วเล่าเรื่องการเดินทางที่มีเพียงชื่อขององครักษ์ซันกับซาดานอีก 2 ชื่อที่ออกมาจากปาก ว่าทั้งคู่แทบใช้พลังอันใดมิได้เลยเมื่ออยู่ท่ามกลางหิมะ
 
ทั้งสามคนเข้ากันได้ดีทั้งหัวข้อการสนทนา และไม่ขัดใจกัน ทำให้การเดินทางครั้งนี้ช่างน่ารื่นรมย์ สนุกสนานไปจนถึงเขตเมืองหลวง

พระราชาไอโอตา รับฟังรายงานจากเหล่าภูติที่ส่งไปสืบข่าวด้วยความไม่เข้าพระทัย
องครักษ์กลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปยังแหล่งของผงฝุ่นลืมตน ส่วนอาเม่ยแห่งแม่ทัพเชมัล กับองครักษ์อ่อนอาวุโสที่ยังมีศักดิ์เป็นพระญาติกำลังมาที่เมืองหลวง
ยังมีร่องรอยที่เดี๋ยวปรากฏขึ้นเดี๋ยวหายไปของแม่ทัพเชมัล กับองครักษ์อื่น ๆ ซึ่งไม่ติดต่อกันทั้งเส้นทาง และช่วงเวลา

ยังมีเหตุก่อนหน้านี้ ที่กลุ่มของเมืองวันเผชิญกับพายุหิมะแล้วมีการกำจัดภูติไปนับสิบตัวในครั้งเดียว ผู้ที่ทำเช่นนั้นต้องเป็นแม่ทัพเชมัลอย่างมิต้องสงสัย แต่กลับไม่พบร่องรอยของแม่ทัพเชมัลหลังจากนั้น นั่นคือเรื่องที่น่าสงสัย

พระราชาฟารัคย่อมไม่วางหมากเช่นนี้
แต่หากเป็นแม่ทัพเชมัล...
.....คนผู้นี้ไม่มีทางวางมือจากงานใหญ่ แต่ก็ย่อมไม่ปล่อยให้คนรักของตน กับองครักษ์ที่ยังเป็นพระญาติเดินทางโดยลำพังเช่นกัน....
.....แล้วแม่ทัพเชมัลอยู่ที่ใด ภูติที่ส่งไปจำนวนมากสูญหายเมื่อเข้าถึงองครักษ์ที่กำลังเดินทางไปหาผงฝุ่นลืมตน หรืออาจจะอยู่ที่นั่น
.....แต่ทางนี้ก็คือคนสำคัญ.....ความคิดสับสนว่าอันใดจริง อันใดเท็จจนรู้สึกหวั่นพระทัย หันไปรับสั่งให้ทหารย้ายที่คุมขังองค์ชายน้อย

พระราชาไอโอตาผู้ประสานผลประโยชน์ของกลุ่มชนเผ่ามาอย่างยาวนาน ก้าวพระบาทลงไปในกับดักที่พระราชฟารัควางไว้อย่างง่ายดาย

หลายวันถัดมา อาเม่ย ต้าซัน และองครักษ์มาจิดเดินทางมาถึงเมืองหลวง เข้าพักอย่างเปิดเผยที่เรือนพักแห่งหนึ่ง ทั้งสามคนเข้าไปในห้องพักชั่วครู่เดียวก็พากันไปที่ตลาด หาซื้อเครื่องเขียนให้กับต้าซันเพื่อจดบันทึก จากนั้นก็ไปอารามเพื่อสอบถามนักบวชเกี่ยวกับภูติ และไปพูดคุยกับผู้ที่เลี้ยงภูติอีกหลายคน
ไปที่นั่น ที่นี่ พูดคุย จดบันทึก และกินอาหารเลิศรส ไม่ได้ต่างไปจากการเดินทางก่อนหน้านี้

พระราชาไอโอตา มีรับสั่งให้ย้ายที่หลบซ่อนองค์ชายน้อยอีกครั้ง เมื่อทอดพระเนตรที่มองผ่านกรอบหน้าต่างออกไปที่พระตำหนักน้อยใหญ่เบื้องหน้า กลับหวั่นพระทัยว่าอีกไม่นานนัก พระตำหนักเหล่านี้จะตกอยู่ในกองไฟ!

ภูติสีเทาหม่น ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าแจ้งข่าวว่า พื้นที่เพาะปลูกพื้นที่ใช้เป็นสารตั้งต้นเพื่อผลิตผงฝุ่นลืมตนถูกผนึกด้วยพลังเวทย์ ชนเผ่าไอ รา และ กี ผู้รับหน้าที่เพาะปลูกพืช ถูกปิดล้อมและตัดขาดด้วยหิมะหนาทึบ ที่หนักกว่านั้นคือ ชนเผ่าทาคาที่ถูกกลบฝังทั้งชนเผ่าด้วยหิมะ!

พระราชาฟารัค! ควบคุมแล้วบังคับให้ยอมแพ้เช่นนี้มีแต่พระราชาฟารัค!
แต่การปิดล้อม หรือผนึกพื้นที่ยังหมายถึงการเปิดช่องทางสำหรับการเจรจา
นั่นแสดงว่า พระราชาฟารัควางแผน และผู้ปฏิบัติคือแม่ทัพเชมัลผู้ที่มิชอบการเจรจาต่อรอง

หรือผู้ที่เดินทางมาเมืองเวกา อาจมีหัวหน้าราชองค์รักษ์บาดารวมอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นผู้รับหน้าที่การเจรจาในเรื่องสำคัญมาแล้วหลายครา แต่ภูติและสายลับรายงานข่าวกลับมิเคยเอ่ยชื่อของหัวหน้าราชองครักษ์ผู้นี้
หรืออาจเป็นหัวหน้าองครักษ์รอม อย่างที่มีบางรายงานแจ้งมา
พระราชาไอโอตาพยักหน้าด้วยความพอพระทัย หากผู้เจรจาจะเป็นบาดาหรือรอม จึงเรียกประชุมผู้นำชนเผ่า และเสนาบดีคนสนิท

เมื่อดูจากอุปสรรคในการเดินทาง คาดว่า กลุ่มที่ปิดล้อมชนเผ่าผู้ผลิตผงฝุ่นลืมตนจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันจึงจะเดินทางมาถึงเมืองหลวง พระราชาไอโอตาจึงทรงมองเห็นหนทางที่จะเป็นผู้ชนะจากการเจรจา

แต่การประชุมกับผู้นำชนเผ่าที่เริ่มต้นขึ้นด้วยการก่นด่าพระราชาฟารัคโดยลืมเลือนไปว่า สาเหตุทั้งหมดเกิดจากการค้าของพวกตน ซึ่งแม้จะเป็นการประชุมเร่งด่วนอย่างไม่เป็นทางการ แต่มีภูติเจ้าร่วมการหารือด้วยจำนวนที่มากกว่าคนที่เข้าร่วมการประชุมเป็นเท่าตัว
การประชุมยังไม่ทันจะเข้าถึงแผนการเจรจา จู่ๆ ประตูใหญ่ก็เปิดกว้าง เหล่าภูติต่างพากันบินออกไปทางหน้าต่างฝ่ายตรงข้ามกับประตูด้วยความเร่งร้อน
และคนผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้ามา
คนผู้นี้รูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดสีน้ำเงิน ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มิได้ถืออาวุธใด ไม่มีภูติประจำตัว เป็นคนที่พระราชาไอโอตา ตลอดจนทุกคนในห้องนี้ไม่อยากพบเจอที่สุด เมื่อก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่กลางห้องแล้ว เขาจึงคลายเวทย์คุ้มครองตน แต่กลับแผ่พลังเวทย์ที่กล้าแข็งเข้าครอบคลุมทุกคนในห้อง

ขนาดภูติสีเทาซึ่งทำหน้าที่สายสืบหนีหายไปตั้งแต่แม่ทัพเชมัลก้าวเข้ามาในท้องพระโรง ก็มิต้องถามถึงบรรดาทหารยาม และผู้ใช้เวทย์คนอื่นว่าหายไปที่ใด เหตุใดคนกลุ่มหนึ่งจึงเข้ามาประชิดตัวพระราชาได้อย่างง่ายดาย
ง่ายดายจนน่าหวาดกลัวเกินไป
ที่ร่ำลือกันมา ไม่ได้ถึงครึ่งของความรู้สึกของพระราชาไอโอตาในเวลานี้

โดยทั่วไปยามเมื่อคนสำคัญปรากฏตัวขึ้น เหล่าองครักษ์ หรือคนคุ้มกันจะปรากฏตัวขึ้นก่อน เพื่อร้องประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของเจ้านาย จากนั้นผู้เป็นนายจึงจะตามเข้ามา
แต่การปรากฏตัวของแม่ทัพเชมัลตรงกันข้าม เพราะแม่ทัพเชมัลเดินนำเข้ามาเป็นคนแรก จากนั้นจึงเป็นเจ้าชายฮัมซา และบรรดาองครักษ์คนอื่น ๆ
พลังอำนาจที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อนกดดันให้บรรดาผู้นำชนเผ่า และเสนาบดีทั้งหมดรีบเข้าไปรายล้อมพระราชาไอโอตา ด้วยหวังพึ่งพลังอำนาจ

พระราชาไอโอตามองเจ้าชายฮัมซาแล้วถามขึ้น "มิใช่บาดาหรอกหรือ"
พระองค์ทรงประหลาดพระทัยอย่างยิ่ง เพราะตั้งแต่แรกมา มีรายงานของบรรดาภูติและสายสืบหลายครั้งเกี่ยวกับผู้ใช้เวทย์ในกลุ่มแม่ทัพเชมัล ว่าในกลุ่มนี้มีผู้ที่มีเวทย์ในสายใกล้เคียงแม่ทัพเชมัลรวมอยู่ด้วย แต่ก็ยังสรุปไปว่า อาจเป็นองครักษ์มาจิดผู้เป็นพระญาติ
และเมื่อเจ้าชายมาอยู่ที่เบื้องหน้า พระราชาไอโอตายังมีคำถามต่อไปอีกว่าเจ้าชายฮัมซาเดินทางมาถึงเมืองเวกานานเท่าใดแล้ว แล้วผู้เฒ่าดินอยู่ที่ใด

"มิใช่" แม่ทัพเชมัล กล่าวคำขัดขวางความคิดของพระราชาไอโอตา พร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้กับเสนาบดีและบรรดาคนสนิทของพระราชาไอโอตาทุกคนในห้องนี้
หลายคนมิเคยพบเจอกันมาก่อน แต่แม่ทัพเชมัลกลับกล่าวทักทายครบถ้วนทุกคน จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับพระราชาไอโอตาโดยตรง
"เหตุใดต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่"
พระราชาไอโอตาลอบดึงพลังจากหัวหน้าชนเผ่าที่อยู่ใกล้ที่สุด มาต้านทานแม่ทัพเชมัลไว้ ทำให้หัวหน้าชนเผ่าผู้นั้นไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคง เกิดอาการหน้ามืดจนทรุดตัวนั่งลง
"นี่คือเรื่องของพวกเรา พวกเจ้าต่างหากที่เข้ามาสร้างความวุ่นวาย"

"เรื่องใดเล่า เรื่องที่ผงฝุ่นลืมตนทำให้ผู้คนตั้งแต่เมืองเหนือจนถึงเมืองวัน ตั้งแต่เมืองกริลล์ถึงเมืองบาสก์ และเพื่อนบ้านละแวกนี้เชื่องเชื่อ สุขภาพร่างกายถูกทำลายไปทีละน้อย หรือเรื่องที่ท่านลักพาตัวองค์ชายน้อยดาริมมาที่นี่"
"เราคงไม่ทำเช่นนี้ หากเมืองวันไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกเรา"
เมื่อประโยคเดิมวนกลับมาเป็นครั้งที่ 2 แม่ทัพเชมัลมีสีหน้าขัดใจ "พระองค์อาจลืมไป ว่าข้าไม่ถนัดเรื่องเจรจา"

จู่ ๆ อาเม่ย ก็วิ่งจูงมือต้าซัน และองครักษ์มาจิดที่แบกองค์ชายน้อยไว้ที่ด้านหลัง เข้ามาในท้องพระโรง
ประตูท้องพระโรงยังเปิดอยู่ เมื่อได้ยินเสียงโครมครามและเสียงคนร้องตะโกนจากภายนอกว่ามีผู้บุกรุก แล้วทุกคนในห้องนี้หันไปมองที่ประตู ก็พบว่าทั้ง 3 คนก็เข้ามาอยู่ในห้องแล้ว

"เจอแล้ว อยู่ที่นี่กันนั่นเอง"
เมื่อมาถึง อาเม่ยก็ปล่อยมือทั้ง 2 ข้าง ผลคือต้าซันถึงกับกลิ้งไปกับพื้น ทำให้หัวหน้าองครักษ์รอมต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปรับไว้
ขณะที่องครักษ์มาจิดเองก็วิ่งถลาต่อไปด้านหน้าอีกหลายก้าวเพราะหยุดเองมิได้ ดีที่องครักษ์ซันเข้าไปช่วยคว้าตัวไว้ กับมีองครักษ์ซาดานที่ตามมารับองค์ชายน้อยไปนั่งพักที่เก้าอี้

เจ้าชายฮัมซาเข้าไปไต่ถามว่าทั้ง 3 คนมีใครบาดเจ็บหรือไม่
ทั้งต้าซัน องครักษ์มาจิด จนถึงองค์ชายน้อยต่างก็โบกมือว่ามิเป็นไร เพียงแต่คนหนึ่งยังนอนกางแขนกางขาหอบหนัก ๆ อยู่ที่พื้น คนหนึ่งต้องก้มตัวเท้ามือลงกับเข่าด้วยความเหน็ดเหนื่อย ถ้อยคำที่จะพูดตอบยังจุกอยู่แถวใต้ลิ้นปี่ อีกคนหนึ่งที่ถูกพยุงไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยังหน้าซีดทั้งที่เป็นคนที่อยู่บนหลังผู้อื่น
ที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะฟ้องแม่ทัพเชมัลว่าถูกปฏิบัติอย่างไรบ้าง ถึงตอนนี้ก็ยังพูดไม่ออก

ผ่านไปอึดใจหนึ่ง องครักษ์ผู้อ่อนอาวุโสจึงกล่าวขึ้นอย่างยากลำบาก "ได้ยิน มานาน เรื่อง สายลม ของ ของท่านอาเม่ย เพิ่ง ได้ เจอ กับ ตัว" องครักษ์ซันช่วยลูบหลัง ส่งพลังฟื้นฟูร่างกายให้ 
ขณะที่ต้าซันทำได้แค่โบกมือไปมาอีกครั้ง ส่วนองค์ชายน้อยก็ยังคงพยักหน้าเห็นด้วย
อาเม่ยที่มิได้มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว ยืนอยู่ข้างแม่ทัพเชมัล "ต่อไปคืออันใด"
"ขั้นตอนที่น่าเบื่อหน่ายที่สุด" แม่ทัพเชมัลตอบ
อาเม่ยเบ้หน้า แล้วชี้ไปทางประตู "งั้นน้องไปรอทางโน้น ผ่านขั้นตอนนี้เมื่อใดก็เรียกได้"

เมื่ออาเม่ยเดินไปรอที่ประตู ความกังวลของพระราชาไอโอตาก็เพิ่มขึ้นเป็นสามส่วน เพราะยังมีองครักษ์ซันเดินไปยืนอยู่ข้างกัน ขณะที่องครักษ์คนอื่น ๆ ก้าวไปประจำที่ยืนล้อมบรรดาผู้นำชนเผ่า และเสนาบดี
พระราชาไอโอตาแน่พระทัยเป็นอย่างยิ่งว่าแม่ทัพเชมัลมิได้มาเพื่อเจรจา

"ถ้าเจ้ากล้าพังพระราชวังของข้า ดั่งเช่นที่ทำกับเมืองเหนือ ก็อย่าหวังว่าพวกเราจะคุยกัน"

แต่แรกนั้นประโยคนี้จะยกมากล่าวก็ต่อเมื่อองค์ชายดาริมยังถูกคุมขัง แต่เมื่ออาเม่ยกลับไปช่วงชิงองค์ชายดาริมมาได้แล้วเช่นนี้ การเจรจาต่อรองก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป แต่ที่ยังคงกล่าวดั่งมีความได้เปรียบเช่นนี้ ก็เพราะพอจะคาดเดาขั้นตอนวิธีการของแม่ทัพเชมัลได้
บางที อาจยังพอมีช่องทางที่จะลดความเสียหายได้

แม่ทัพเชมัลเพียงยืนกอดอกอยู่กลางท้องพระโรง คิ้วข้างหนึ่งยกขึ้นสูงเช่นเดียวกับมุมปาก
สีหน้าท่าทางดั่งรอดูว่า พระราชาไอโอตา ยังจะมีสิ่งใดที่นำมาต่อรองได้อีก
พระราชาไอโอตา วัย 50 ชันษาหนักพระทัยอย่างจริงจัง
เรื่องที่ลักพาตัวองค์ชายน้อย ไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก แต่เพราะผู้นำชนเผ่าทาคาเสนอขึ้นเพื่อหวังนำมาใช้ต่อรอง เพื่อมิให้แม่ทัพเชมัลกับพรรคพวกทำลายชนเผ่าหรือพระราชวัง
แต่ยามนี้ ดูท่าว่าจะบรรเทาความเสียหายลงได้ยากยิ่งนัก
เมื่อมองไปรอบตัวก็มิเห็นว่าจะมีผู้ใช้เวทย์ หรือภูติที่เลี้ยงไว้สักตนจะออกมาปกป้อง หรือต่อสู้กับกลุ่มคนจากเมืองวัน พระราชาไอโอตาจึงต้องเลือกที่จะกล่าวคำเพื่อแสดงถึงความจำเป็นบังคับ

"ผงฝุ่นลืมตนที่ทำให้พวกเจ้ามิพอใจอยู่นั้น เดิมเป็นยารักษาโรคของผู้ป่วยหนัก ช่วยให้เขาจากไปอย่างไม่เจ็บปวด แต่สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงมันก็เป็นเพียงยาที่ทำให้เคลิ้มฝันไปเท่านั้น คิดไม่ถึงว่า มันกลับเป็นที่นิยมไปในอีกทางหนึ่ง ส่วนเรื่องที่มีการค้าขายอย่างกว้างขวางนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เจ้าก็ทราบว่า เดิมพวกกลุ่มชนเผ่าเลี้ยงสัตว์ก็มักเสพยาจำพวกยาสูบอยู่แล้ว แต่พอมาถึงวันหนึ่งเขาก็กลับเปลี่ยนมาใช้ผงฝุ่นนี้ผสมกับยาสูบ และอื่น ๆ ส่วนพวกเราเอง เมืองเวกา มีชนเผ่านับร้อยอยู่ในปกครอง การรักษาสมดุลอำนาจต้องขึ้นอยู่กับการจัดสรรผลประโยชน์ที่ทุกคนพอใจ"

แม่ทัพเชมัลกอดอกฟัง แล้วถามอย่างตรงไปตรงมา "ตอนที่ไม่มีผงฝุ่นลืมตน พระราชาเวกาพระองค์ก่อนจัดสรรผลประโยชน์อย่างไร"
"นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การแลกเปลี่ยนค้าขายในเวลานั้นเป็นไปอย่างจำกัด แต่เมื่อชนเผ่ากลุ่มหนึ่งเริ่มมั่งคั่งขึ้น ทุกคนให้ความสนใจ เตรียมพร้อมสำหรับการแย่งชิงบ้านเมืองสับสนวุ่นวาย แต่เมื่อเรากระจายผลประโยชน์ไปแล้วก็สามารถลดทอนเรื่องการต่อสู้แย่งชิงได้ จากนั้นก็กลับเกิดอีกหลายปัญหาตามมา เมื่อพวกเขามีแต่จะเรียกร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ"

"ผลประโยชน์ของผงฝุ่นลืมตนมีมากเกินกว่าเจ้าจะคาดคิด! " ผู้เฒ่าจากเผ่าทาคาท้วงขึ้นทันที
ผู้เฒ่าผู้นี้ ยืนอยู่เคียงข้างพระราชาไอโอตา บ่งบอกว่ามีฐานะสูงส่ง
ตั้งแต่แรกที่แม่ทัพเชมัลก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ผู้เฒ่าผู้นี้ก็ส่งรังสีสังหารเป็นความแค้นใจตั้งแต่แรกที่ทราบว่าเกิดเรื่องขึ้นที่ชนเผ่า แต่เมื่อถูกกดดันด้วยพลังเวทย์รุนแรง การที่ฝ่ายแม่ทัพเชมัลอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งองค์ชายดาริมก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว จึงเกิดความแน่ใจ ว่าหากคิดสู้กับแม่ทัพเชมัล วันนี้ในปีหน้าคงเป็นวันระลึกถึงการสูญสลายของชนเผ่าทาคาเป็นแน่
 
ผู้เฒ่าจากเผ่าทาคาจึงหาหนทางใหม่ เมื่อแม่ทัพเชมัลมิได้มาเพื่อที่จะเจรจา แต่ที่ยังไม่ลงมืออาจเพราะมีเจ้าชายฮัมซาประทับอยู่ที่นี่ และต้องการยกฐานะของเจ้าชายพระองค์นี้
ผู้เฒ่าชนเผ่าทาคาจึงหันไปทางเจ้าชายฮัมซา "พระองค์คงเห็นแล้วว่า เวกาเป็นพื้นดินกว้างใหญ่ มากกว่าครึ่งหนึ่งคือหิมะ ที่เหลือคือความแห้งแล้ง ทรัพยากรที่เรามีเพื่อนบ้านก็มีเช่นกัน พ่อค้าจึงไม่นิยมเดินทางผ่าน แม้จะรักเสรีสักเพียงใดแต่การติดต่อค้าขายและสื่อสารก็เป็นสิ่งสำคัญ นานวันไปพวกเราก็พบว่าเรายากจนยิ่งนัก แต่การค้าผงฝุ่นลืมตนนี้ทำให้พ่อค้ากลับมาอีกครั้ง เมื่อพวกเรามีรายได้ที่ดี ก็จัดสรรให้กับชนเผ่านับร้อยมีชีวิตที่ดีขึ้น"

เจ้าชายฮัมซาเลิกคิ้วขึ้นสูงหันไปมองกลุ่มผู้เฒ่าที่มีจำนวนไม่ถึง 10 คนในห้องนี้
ผู้เฒ่าจากชนเผ่ากีที่อยู่ในห้องนี้เช่นกัน รีบอธิบายต่อ "พวกเราเป็นตัวแทน ก็อย่างที่ทราบว่าการเดินทางลำบาก ผู้ที่มาได้ก็เร่งรีบมากัน"
"ท่านคือผู้ที่ทำให้เกิดพายุหิมะนั่น" แม่ทัพเชมัลถามขึ้น
"ย่อมมิใช่" ผู้เฒ่ากีตอบ "การทำให้เกิดหิมะโดยไม่มีหิมะทำไม่ได้"
.....แต่คือการนำหิมะจากที่อื่นมา ...
องครักษ์ราดีก็มีความสามารถเช่นนี้ ชายหนุ่มผิวสีเข้มผิดจากผู้อื่นพยักหน้าช้า ๆ
มีความเข้าใจกันบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างกลุ่มผู้ใช้เวทย์ทั้ง  2 ฝ่ายและทำให้เกิดความเงียบงันตามมา

"เชมัล เรื่องลักพาตัวองค์ชายเรายอมรับผิด เพียงแต่เรื่องที่จะให้เลิกค้าผงฝุ่นโดยเด็ดขาด เราทำไม่ได้"

มีเสียงระเบิดเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นด้านนอก ตามมาด้วยเสียงไฟ และเสียงร้องของทหารว่าไฟไหม้
เมื่อครู่ยังมีอาเม่ยกับองครักษ์ซัน และซาดานยืนอยู่ตรงประตู แต่ตอนนี้ทั้ง 3 คนไม่อยู่แล้ว
แม่ทัพเชมัลเบี่ยงตัวแล้วผายมือให้ทุกคนในห้องนี้ออกไปดูด้วยตาตนเอง ว่าเกิดเหตุใดขึ้นที่ด้านนอก
หลายคนพากันออกไป เว้นแต่แม่ทัพเชมัลกับพระราชาไอโอตา
ขณะที่เจ้าชายองค์รัชทายาท และเจ้าชายหลายพระองค์ของเวกาเดินสวนเข้ามาในห้อง แล้วพากันหยุดเท้าเมื่อเห็นแม่ทัพเชมัล

ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก้มศีรษะให้กันเพียงเล็กน้อย จากนั้นการเจรจาจึงดำเนินต่อไป

พระราชาไอโอตายังคงพยายามเจรจา "เชมัล เรื่องลักพาตัว เจ้าลงโทษเรียกค่าชดใช้ได้เต็มที่ เรายอมจัดทาสไปชดใช้ยังได้ แต่อย่าทำลายที่นี่ ยิ่งไม่อาจทำลายการค้า มิฉะนั้น เราจะถือว่าเจ้าบุกรุกและจะประกาศสงคราม เจ้าควรเข้าใจว่าคนที่เคยเป็นผู้รับ หากวันหนึ่งมิได้รับ หรือได้รับน้อยลงไป พวกเขาสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง ดังนั้นเราสามารถระดมกำลังพลไปโจมตีเจ้าได้อย่างง่ายดาย"

แม่ทัพเชมัลกลับส่ายหน้า "พระองค์ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าข้ามิได้มาเพื่อต่อรอง ข้ามาที่นี่เพื่อคนของเมืองวัน เมืองเหนือ เมืองกริลล์ เมืองบาสก์ และเมืองที่อยู่ห่างไกลออกไป ที่ได้รับความทุกข์เพราะการค้าของท่าน"

เสียงภูติหลายตัวกรีดร้องประสานขึ้นที่ด้านนอกหน้าต่างของท้องพระโรง
พระราชาไอโอตาเข้าพระทัยข้อความที่ภูติส่งมา
เรื่องที่พูดคุยกันเมื่อครู่ ก่อให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ห่างไกลอย่างรวดเร็ว แม้จะแน่ใจว่านี่คือสิ่งที่วางแผนไว้ล่วงหน้า แต่พระราชาไอโอตาก็ยังเชื่อว่า แม่ทัพเชมัลสามารถสั่งการในพื้นที่ห่างไกลได้แม้จะยืนอยู่ในที่นี้ก็ตาม
"เจ้าสั่งการทำลายโรงงาน แหล่งเพาะปลูกทั้งหมดนั่น"
แม่ทัพเชมัลยิ้มพลางส่ายหน้าให้กับความคิดของอีกฝ่าย

...ใครจะทำเช่นนั้นได้....

"ข้าเพิ่งกล่าวกับท่านไป ว่าผู้ที่เดือดร้อนเพราะผงฝุ่นนี้มีมากมายนัก และเมืองต่าง ๆ เหล่านี้ก็ล้วนมีผู้ครองเวทย์ ท่านประสานผลประโยชน์ ด้วยการทำร้ายผู้อื่น ผู้อื่นย่อมไม่เว้นท่านไว้ ข้าหรือพระราชาฟารัค จะไปสั่งการผู้ครองเวทย์ของเมืองต่าง ๆ ได้อย่างไร"
"แต่เจ้า.."
"ข้าก็แค่ออกหน้า เป็นตัวหลอกล่อให้ท่านสารภาพเรื่องผงฝุ่นลืมตนและเรื่องลักพาคน ซึ่งก็จริงอยู่ที่พระราชาฟารัคทรงวางแผนจัดการซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายเมือง ส่งคนมาช่วยจัดการให้ ส่วนเรื่องชดใช้ที่ท่านว่า ท่านได้ชดใช้แน่นอน องค์ชายดาริมมิใช่บุคคลธรรมดา ท่านควรเตรียมทรัพย์ไว้มากสักนิด"

เมื่อแม่ทัพเชมัลกล่าวถึงตอนนี้ ก็ยังได้ยินเสียงระเบิดที่ด้านนอกก็ดังขึ้นมาอีกหลายครั้ง

....จบตอนที่ 4....
จินตนาการภาพอาเม่ยเข้ามาขวางการเจรจาไม่ออก ก็คิดถึงท่าวิ่งของอาราเร่ก็ได้ฮะ มาแบบเดียวกันเลย 555

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-08-2016 11:35:31
พระราชาไอโอตาจะดับไฟทันไหมน้อ


ขอบคุณมากๆๆ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 12-08-2016 12:08:52
ก็นึกๆอยู่ว่า บางจังหวะ..อาเม่ยก็มีบุคลิกคล้ายๆกับใครบางคน แต่นึกไม่ออก พอน้ำชาบอกว่าให้นึกถึงอาราเล่...เท่านั้นแหละ เก็ทเลย 555+

พระราชาไอโอตา เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่คู่ควรมือกับพระราชาฟารัคและแม่ทัพเชมัลเลยซักนิด เล่นกับใครไม่เล่น ผลก็ต้องเป็นเช่นนี้แล
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 12-08-2016 12:52:47
อย่าไหม้ทั้งเมืองนะเม่ย เก็บไว้สักหน่อยนึง
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 12-08-2016 13:32:34
พยายามไม่ขำกับท่าวิ่่งของ อาราเล่ เอ้ยเม่ยนะแต่มันอดไม่ได้ 5555 จินตนาการพุ่งพรวดเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 12-08-2016 13:34:20
อ่านแล้วลุ้นทุกตอนจริงๆ


อาเม่ยจัดหนักเลยนะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-08-2016 16:10:33
ขอไว้อาลัยให้แก่ความวินาศสันตะโรของเมืองเวกา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 12-08-2016 20:59:25
อ่านไปพร้อมกับถอนหายใจไปกับความละโมบของคน เหตุผลที่พูดออกมาก็เพื่อผลประโยชน์ของตนล้วนๆ ไม่ได้แยแสเลยว่าการสร้างความมั่งคั่งของตนจะไปทำลายผู้อื่นหรือไม่ คนอย่างนี้ควรสั่งสอนให้เข็ดหลาบ คิดว่าเวกาก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเมืองเหนือเมื่ออาเม่ยเสร็จสิ้นภารกิจ (ฮา) แต่แหม...อีตาพวกผู้แทนของเผ่าต่างๆ นี่ คำพูดคำจาช่างน่า...นัก

ขอบคุณสำหรับตอนนี้นะคะ รอตอนต่อไปค่า ^________^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 12-08-2016 23:02:14
นึกได้นินจาฮาโตรอ

วิ่งไปหน้านิ่งๆพร้อมเสียง "นิน นิน นิน"
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 13-08-2016 00:01:04
ถ้าให้อาเม่ยวิ่งเหมือนอาราเล่ แล้วอาเม่ยจะต้องร้องว่าอะไรเวลาวิ่งหล่ะ  :m20:
(สงสัยคงจะร้องว่า "พี่" ไปตลอดทาง) :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-08-2016 00:16:39
อาราเม่ยได้เล่นสนุกอีกแล้ว!
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-08-2016 02:07:15
ขอพี่กลับไปหาดูท่าวิ่งอาราเล่ก่อนว่าวิ่งแบบไหน :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 13-08-2016 14:50:22
หยั่งกะพี่เชพาน้องเม่ยมาวิ่งเล่นผ่อนคลาย คงมันมือเลยสินะอาเม่ย อิอิอิ
นึกภาพอาเม่ยวิ่งจูงทั้ง 3 คนเข้ามาแล้วอดยิ้มไม่ได้ น่ารักๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 13-08-2016 16:18:13
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ขำหนักมาก กับคำอธิยายการที่อาเม่ยเข้ามาขวางการเจรจา
สนุกมากไหมค่ะ อาเม่ย 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 13-08-2016 20:38:10
ขำความแถแถ่ดๆของราชาเฒ่า อยากได้อยากมีต้องขยันนะลุงไม่ใช่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเพื่อรวยทางลัด
อาเม่ยวิ่งเหมือนอาราเล่ 55555 น่ารักกก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 15-08-2016 11:26:55
กำลังอ่านลุ้นๆ..เจออาเม่ยว่าเข้ามาขวางเล่นเอาขำไม่หยุด :m20:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-08-2016 15:30:49
อย่าเพลินเกินไปนะเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 15-08-2016 16:20:04
นึกภาพเม่ยออกเลย หน้ามาก่อน มือลากคนตามมา 555
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-08-2016 20:32:56
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 17-08-2016 14:07:09
จองที่ไว้ก่อนน๊าาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 17-08-2016 14:23:25
ดันๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 17-08-2016 14:27:09
 :katai5: :katai5:


มารอดูความซนของอาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-08-2016 14:39:46
เราเข้ามาอาเม่ยรอตอนต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 17-08-2016 16:10:54
เข้ามารอตอนต่อไป  :mew4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 17-08-2016 18:39:41
 :z2: :z2

มารึยางงงงงง
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 17-08-2016 19:38:06
 o13 เอาเลยอาเม่ยเล่นให้สนุก เมืองที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ แถมผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ห่วงแม้กระทั่งพลเมืองตัวเอง  :m16:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 17-08-2016 20:05:23
มาแล้วววว. จะได้อ่านอีกตอนไหนหนอ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: Ornon ที่ 17-08-2016 21:26:27
รออ่านอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ ชอบทุกเรื่องที่เอามาลงให้อ่าน แต่ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้อ่านยากไปหน่อย แต่ก็อ่านตลอดติดตามจนถึงตอนนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-4 หน้า 54 (120859)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 18-08-2016 09:25:05
อาเม่ยวิ่งท่าอาราเล่....

 :m20:
หัวข้อ: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 18-08-2016 09:47:08
ตอนพิเศษ Vega-5/1

แม่ทัพเชมัลมิชอบการเจรจาต่อรองแบบการเมือง ยิ่งกับคนพูดจาวกวนยิ่งทำให้อารมณ์ไม่ดี เมื่อแม่ทัพอารมณ์ไม่ดี เสียงระเบิดที่ด้านนอกกลับยิ่งดังถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้น!
เจ้าชายเอตา ผู้เป็นรัชทายาทของเมืองเวกา หนึ่งในกลุ่มบุคคลที่เพิ่งเข้ามาในห้องโถงนี้ในภายหลัง พยายามเข้ารอมชอมเพื่อให้แม่ทัพเชมัลใจเย็นลง

แม้มิรู้เรื่องราวทั้งหมด แต่การคาดเดาเรื่องราวหาได้ยากจนเกินไป ด้วยเจ้าชายพระองค์นี้มีเวทย์ในเชิงปกครองและอาวุธ เช่นเดียวกับพระราชาไอโอตาผู้เป็นพระบิดา และเคยพบเจอกันมาบ้างในงานสำคัญ แต่ไม่มีความคุ้นเคยกัน เนื่องเพราะความเป็นเวกาที่อยู่ในสายเลือด จึงรักความเป็นอิสระ และมิได้มีพระสหายมากนัก

เรื่องนี้ตรงข้ามกับบรรดาเชื้อพระวงศ์ของเมืองวันอย่างสิ้นเชิง

เมื่อฝ่ายเวกาเปลี่ยนคนเจรจา ฝ่ายเมืองวันก็เปลี่ยนผู้เจรจาเช่นกัน แม่ทัพเชมัลก้าวถอยให้เจ้าชายฮัมซารับหน้าที่นี้อย่างมิได้เต็มใจ แต่เพราะหากปล่อยให้แม่ทัพเชมัลเจรจาต่อไป พระราชวังแห่งนี้อาจถูกเผาทำลายไปเสียทั้งหมด

เจ้าชายฮัมซาชี้นิ้วลงดินส่งสัญญาณบางอย่าง อาเม่ยกับองครักษ์ซัน และซาดานที่ยืนอยู่บนลานหินด้านหน้าพระตำหนักหลังหนึ่งรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวไต้ฝ่าเท้าที่พุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ผลของการเจรจาก็คือ เวกายินยอมจ่ายค่าชดใช้ในเรื่องที่ลักพาตัวองค์ชายดาริม ขณะที่เรื่องที่เกี่ยวกับการผลิต และการค้าผงฝุ่นลืมตน ข้อสรุปมีเพียงข้อเดียวคือ เวกาต้องหยุดการผลิตอย่างสิ้นเชิง
ยังมีการรายงานเพิ่มเติม มาจากกลุ่มภูติสีเทาหม่น ที่ว่ามีผู้ใช้เวทย์จำนวนมาก จากหลายเมืองเข้าล้อมทั้ง 4 ชนเผ่า และทำลายพื้นที่เพาะปลูกดอกไม้ลืมตนและพืชอื่นๆ ที่นำมาประกอบเป็นผงฝุ่นชนิดนี้
การทำลายด้วยพลังเวทย์ย่อมหมายถึงการทำลายลึกลงไปจนถึงเนื้อดิน อีกนานหลายปีข้างหน้าอาจมีต้นหญ้าขึ้นมาปกคลุม แต่มิอาจเพาะปลูกสิ่งใดได้อีก

"นี่มัน มิเกินเลยไปสักหน่อยหรือ" พระราชาไอโอตารับสั่งขึ้น
"มีอันใดเกินเลย" แม่ทัพเชมัลหันมาแสดงท่าทีคุกคาม ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งที่ด้านนอก "การค้าของท่านทำลายผู้คนไปมากมาย ถึงบรรดาชนเผ่าของท่านเอง ที่ยากแค้นด้วยอากาศหนาวเย็นอยู่แล้ว ก็ยิ่งย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมเพราะมัวเมาอยู่ในผงฝุ่นลืมตน ผู้คนเกียจคร้านไม่ทำมาหากิน แล้วก็กลับมาพึ่งพิงการค้าผงฝุ่นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นวงจรที่สร้างความเสียหายหนักขึ้น" สุดท้ายแม่ทัพเชมัลหันไปหาเจ้าชายรัชทายาท "พระโอรสของท่านก็มิใช่ว่าเสพติดผงฝุ่นนี้ กลายเป็นผู้เกียจคร้าน พลังเวทย์ถดถอยหรอกหรือ"
เจ้าชายรัชทายาทนิ่งงัน ด้วยมิคาดคิดว่าแม่ทัพเชมัลจะรู้เรื่องนี้
แม่ทัพเชมัลยืนหลังตรงกอดอกมองพระราชาไอโอตา และเจ้าชายรัชทายาท แล้วถามซ้ำ "ถ้าเจ้าชายอ่อนแอ ปราศจากเวทย์ บัลลังก์นี้ ทุกสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นมาจะกลายเป็นของผู้ใด จะรักษาพืชเหล่านั้นไว้หรือไม่"
เจ้าชายรัชทายาทตัดสินใจ "ท่านทำลายพื้นที่นั้นเถิด"

ในอีกอึดใจต่อมา มีเสียงหวีดร้องของเหล่าภูติจากในที่ห่างไกล ที่รับต่อกันมาเป็นทอด ๆ จนถึงพระราชวัง
พระราชาไอโอตายังคงมองแม่ทัพเชมัลอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
"เจ้าสั่งการที่ห่างไกลได้อย่างไร เชมัล เจ้าน่ากลัวเกินไปแล้ว"

แม่ทัพเชมัลยักไหล่ คร้านที่จะกล่าวซ้ำว่า มิได้สั่งการอันใด แต่ทั้งหมดนี้เกิดจากการวางแผนการทำงานที่เหมือนตาข่ายจากเชือกมังกร เมื่อพระราชาฟารัคคาดเดาไว้ล่วงหน้าว่า พระราชาไอโอตาอาจพยายามต่อรอง แต่องค์รัชทายาทน่าจะเจรจากันรู้เรื่อง และดูทีว่าทุกคนจะพากันลืมไป ว่ามิมีผู้ใดพบผู้เฒ่าดิน ซึ่งให้การสนับสนุนทุกคนอยู่ห่าง ๆ มาโดยตลอด
การที่พระราชาฟารัค วางแผน และคาดเดาได้อย่างถูกต้องเช่นนี้ เป็นพลังเวทย์ใด แม่ทัพเชมัลก็คร้านที่จะตั้งคำถามแล้วเช่นกัน

การส่งสัญญาณลงมือเริ่มขึ้นตั้งแต่เจ้าชายเอตาองค์รัชทายาทเข้ามาเจรจา  เจ้าชายฮัมซาก็ส่งสัญญาณไปถึงผู้เฒ่าดินที่อยู่ห่างไกลออกไป และเชื่อมต่อไปถึงผู้ใช้เวทย์อีกนับสิบคนจนถึงพื้นที่เป้าหมาย
เมื่อพื้นที่ถูกทำลาย พวกภูติในพื้นที่ก็ส่งเสียงร้องบอกข่าวกลับมาหาเมืองหลวง ตั้งแต่ไปจนกลับใช้เวลามิใช่น้อย เพียงแต่สัญญาณจากผู้ใช้เวทย์ในพื้นที่ ที่กลับมาถึงเจ้าชายฮัมซา นั้นเดินทางเร็วกว่าเหล่าภูติเท่านั้นเอง...

....

ทั่วทั้งเมืองเวกาไม่มีพายุหิมะต่อเนื่องนานหลายวัน หิมะละลาย น้ำแข็งที่ปกคลุมผิวน้ำหายไป ชีวิตกลับมาอีกครั้ง
ชาวเมืองต่างเล่าว่า นี่คือสภาพอากาศที่แท้จริงของเวกา
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน มิใช่มีแต่หิมะ กับพายุหิมะปกคลุมอย่างมิรู้วันรู้คืนดั่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้

นับจากวันแรกที่หิมะหยุดตก ผู้ใช้เวทย์ จากหลายเมืองทยอยเดินทางเข้ามาถึงพระราชวังไอโอตา จากนั้นจึงเป็นรถม้าของผู้แทนพระองค์ของพระราชาจากเมืองต่าง ๆ ที่เดินทางมาถึงเพื่อลงนามในข้อตกลงห้ามเวกาผลิตผงฝุ่นลืมตน

หลังพบเจอกันมาหลายวัน สายวันหนึ่ง เจ้าชายรัชทายาทแห่งเมืองเวกา พาองค์ชายอายุ 13 ปีมารอพบกับแม่ทัพเชมัลที่ด้านหน้าห้องประชุม
"องค์ชายลีรอยด์ ลูกชายคนรองของข้า" เจ้าชายเอตาแนะนำด้วยสีหน้าลำบากพระทัย "เขาติดผงฝุ่นลืมตนมานานเกือบปี เวลานี้ แม้แต่จะยกดาบยังไม่มีแรง"
องค์ชายน้อยรูปร่างผอม ยืนเกาผิวหนังมีรอยแผลที่เกิดจากความละเลยความสะอาด ดวงตาขุ่นมัวมองไปทางอื่น
ถึงแม่ทัพเชมัลจะมิเคยมีบุตร แต่กลับเข้าใจความลำบากใจของเจ้าชายรัชทายาท
"ที่กำจัดผงฝุ่นลืมตนมิได้ มิใช่เพียงเพราะผลประโยชน์ของผงฝุ่นลืมตน แต่เพราะผู้ปกครองก็สนับสนุนให้คนของตนเองใช้มันด้วย หากให้อยู่ที่นี่ต่อไป คงมิแคล้วจะหาทางเสพต่อไปอีก ข้า...จึงขอฝากเขาให้เดินทางไปเมืองวันกับเจ้าด้วย"
"แล้วบุตรคนโต"
"กิลแบร์ ข้าส่งไปอยู่กับอาจารย์ที่เมืองบาสก์ตั้งแต่อายุได้ 10 ปี อายุเท่ากับเจ้าชายฮัมซาก็จริง แต่พลังด้อยกว่าอยู่หลายส่วน ก็ยังพอจะพึ่งพาได้อยู่"
แม่ทัพเชมัลยิ้มกว้าง หันไปตบไหล่คนที่ผอมบางด้วยฤทธิ์ของผงฝุ่นลืมตน ดูท่าว่าจะไม่ได้เต็มใจเดินทางไปเมืองวันสักเท่าใด
"เงยหน้าขึ้น ยืนหลังตรง เจ้าเป็นองค์ชายรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งเวกา ที่พ่อให้เจ้าไปกับข้ามิได้หมายความว่าเจ้าเป็นเชลยอันใด แต่เพราะเจ้ารักสบายเสพผงฝุ่นลืมตนแล้วก็เอาแต่นอนหลับอยู่ในตำหนัก ปล่อยพี่น้องของเจ้าวิ่งวุ่นทำงานไปทั่ว พ่อของเจ้าสอนเจ้าไม่ได้ ข้าจะรับหน้าที่สอนเจ้าเอง"

ต้าซันใช้ข้อศอกสะกิดน้องชาย "นั่นแม่ทัพเชมัล กำลังกล่าวถึงเรื่องราวของบ้านนี้ มิได้พาดพิงถึงบ้านอื่นใช่ไหม"

....

หอสุราใกล้พระราชวังไอโอตา มีลูกค้าอยู่เพียงกลุ่มเดียว แต่ก็มีจำนวนมากจนมิเหลือที่นั่งต้อนรับลูกค้าทั่วไป บรรดาเด็กรับใช้วิ่งกันวุ่นวาย ด้วยเพราะลูกค้าทุกคนต่างดื่มกินอย่างหิวโหย
พวกเขาเข้ามาดื่มกินในเวลาเดิมทุกวันมาเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว แต่ก็ยังดูหิวโหยเช่นนี้ทุกวัน หรืออาจเพราะอาหารที่พระราชวังจัดเลี้ยงให้มิถูกปากก็มิทราบได้
แต่เท่าที่ฟังดู พอจะทราบว่า พวกเขาต้องทำหน้าที่คุ้มครองคณะผู้แทนเจรจาที่มาจากเมืองวัน ไปจนกว่าการเจรจาจะเสร็จสิ้น

เมื่อพักอยู่เมืองหลวงแห่งเวกา เมืองแห่งร้อยชนเผ่าสมควรชิมสุราร้อนที่เป็นเอกลักษณ์
สุราของเวกาได้มาจากการต้มกลั่น และเมื่อจะดื่มต้องรินใส่ในหม้อต้มที่มีลักษณะคล้ายชา ยกขึ้นตั้งเหนือไฟอ่อน ให้เหล้านั้นอุ่นอยู่เสมอ เมื่อจะดื่มก็ค่อยรินใส่จอกเล็ก ๆ
สูตรการต้มสุราของแต่ละชนเผ่าที่แตกต่างกัน สามารถหาดื่มกินได้ที่หอสุราในเมืองหลวง รวมถึงสูตรเฉพาะของเมืองหลวง ที่เจ้าของหอโอ้อวดว่ารสชาติดีที่สุด
ต้าซันย่อมให้ความสนใจสูตรลับเหล่านี้
แต่บรรดาเด็กรับใช้ และพ่อครัวของร้านเวลานี้กำลังให้ความสนใจองครักษ์ซันและซาดาน ผู้ใช้ไฟทั้ง 2 คนที่เมื่อดื่มสุราร้อนเข้าไปแล้ว ผิวกายแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดั่งผลไม้สุก แต่ทั้งคู่กลับมีดวงตาสดใส สมองปลอดโปร่งจนสามารถถกเถียงหลักปรัชญากันได้
ยิ่งเป็นสูตรสุราร้อนแรงของชนเผ่าที่ดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่หนาวจัดที่สุดของเวกา ยิ่งส่งผลดีต่อทั้งคู่มากขึ้นไปอีก

"เมืองหนาวคือนรกของเรา แต่สุรานี้กลับทำให้เราอยู่ในสวนสวรรค์" องครักษ์ซันกล่าวแล้วหัวเราะเสียงดัง

ชาวเมืองเวการู้ว่าคนกลุ่มนี้เดินทางมาก็เพราะปัญหาการค้าผงฝุ่นลืมตน และการที่พระราชาลักพาองค์ชายน้อยดาริมมาเพื่อใช้ในการต่อรอง
และรู้ว่าสุดท้าย การต่อรองมิได้เกิดขึ้น
เวกาต้องยุติการผลิตผงฝุ่นลืมตน ทั้งต้องชดใช้จากการที่ลักพาตัวองค์ชาย
แต่แขกกลุ่มนี้มิได้มีท่าทีคุกคาม ไม่มีเจตนาต้องการยึดครอง ไม่ได้เรียกร้องคนไปเป็นเชลย มีความชัดเจนว่า เป้าหมายคือใครแล้วก็จัดการที่เป้าหมายนั้น

ด้านในสุดของร้านเป็นโต๊ะเล็กที่มีคนนั่งอยู่ 2 คน คนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ หันหน้าไปทางหน้าร้าน อีกคนตัวเล็กนั่งหันหลังให้กับทุกคน
คนตัวใหญ่จิบสุราร้อนอย่างช้า ๆ ฟังอีกคนเล่าเรื่องราวมากมาย ดวงตาหวานเชื่อมมิได้เกิดจากสุรา แต่เกิดจากคนที่กำลังเล่าเรื่องราว
เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แม้แต่คนรับใช้จะยกจานเนื้อย่างไปให้ยังรู้สึกเกรงใจ

นอกร้านหิมะโรยตัวลงมาอย่างเบาบาง อาเม่ยหันไปมองนอกหน้าต่าง
"หิมะ" จากนั้นก็หันมาบอกกับอีกคน "ตลอดทางน้องเจอหิมะแบบนี้เพียงครั้งเดียว จากนั้นก็มิเจออีกเลย"
"พี่เจอแต่พายุตลอดทาง" คนที่บอกทำหน้าตาน่าสงสาร
อาเม่ยเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของอีกคนที่ก้มลงมาหา "ช่างน่าสงสารยิ่งนัก" จากนั้นก็หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข

นี่ย่อมหมายความว่า ฝ่ายเมืองเวกาต้องการสกัดการเดินทางของแม่ทัพเชมัล แต่ต้องการสนับสนุนให้อาเม่ยเดินทางมาที่เมืองหลวง

"ออกไปเดินเล่นกัน" อาเม่ยชวน
"มิเป็นไรหรือ" แม่ทัพเชมัลกังวล เนื่องด้วยอากาศเย็นสร้างปัญหาให้องครักษ์ 2 คนตลอดทาง
อาเม่ยส่ายหน้าแรง "ไปเดินเล่นกัน"
แม่ทัพจิบเหล้าจนหมด แล้วหันไปส่งตั๋วแลกเงินไว้กับองครักษ์รอม จากนั้นหันไปรับเสื้อคลุมจากต้าซันมาคลุมให้กับอาเม่ย

ท่ามกลางหิมะเบาบาง แม่ทัพเชมัลเดินกุมมืออาเม่ยเดินไปด้วยกันช้า ๆ 
"เคยได้ยินคำกล่าวว่า อากาศหนาวเย็นทำให้รู้สึกเหงา แต่น้องกลับคิดว่า ที่นี่งามมาก"
แม่ทัพเชมัลไม่เห็นด้วย "เจ้างามกว่า"
แก้มคนงามแดงเรื่อ "น้องมิใช่ผู้หญิง ชมว่างามน่ะมิชอบดอกนะ"
มือใหญ่แตะปลายคางสวยให้หันมามองสบตา "จะหญิงหรือชาย น้องคือคนงามของพี่เสมอ"
ริมฝีปากหนาก้มลงจูบ "มิว่าที่ใด ขอเพียงมีเจ้า ก็คือสวรรค์สำหรับพี่"

คนตัวเล็กประสานมือแนบอก ขณะที่อีกคนสวมกอดดั่งห่อหุ้มไว้ทั้งตัว
"ฟังว่าออกไปทางพื้นที่ชนเผ่าใกล้เมืองกริลล์ มีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ท่านพี่เคยไปท่องเที่ยวหรือไม่"
แม่ทัพเชมัลส่ายหน้า "เรื่องท่องเที่ยวย่อมมิเคย แต่หากให้ไปตามคนที่นั่นยังเคยไปอยู่ครั้งหนึ่ง"
"เช่นนั้น..." อาเม่ยยิ้มหวาน
"รอให้บาดาเดินทางมาถึงก่อน พวกเราค่อยไปเที่ยวกัน" ริมฝีปากสวยจูบที่หน้าผาก "หนาวหรือไม่"
"ไม่หรอก" เมื่ออีกคนดูไม่วางใจ อาเม่ยก็ย้ำ "อยู่ใกล้ท่านพี่เช่นนี้ ต่อให้เป็นพายุหิมะ ก็ยังไม่หนาว" มือขาว ๆ ชี้ไปที่หิมะรอบตัว "ท่านพี่บังหิมะให้ขนาดนี้ ทั้งถ่ายทอดความอบอุ่นให้เช่นนี้ น้องย่อมไม่เป็นอันใดอยู่แล้ว"
แม้อากาศรอบตัวจะมืดลง แต่ในดวงตาสีเข้มยังคงสะท้อนภาพของวงตาสีแปลกอย่างชัดเจน ยังมองเห็นความรักอย่างชัดเจน

ขอเพียงมีท่าน ชีวิตนี้ก็มิต้องการสิ่งใดอีกแล้ว


...จบ Vega 5/1..

ตอน 5/2 ที่จบจริงๆ ของตอนพิเศษ Vega มาแล้ว แต่ก็นะฮะ ขึ้นหน้าใหม่เมื่อไหร่ก็ลงแหละฮะ แบบไม่ไรมาก ก็แค่อยากอ่านมั่งไรมั่ง ว่าคุณคิดยังไง
- อ่านยากหรือฮะ จะนำไปแก้ไขต่อไปอย่างแน่นอน
ขอบคุณทุกคำแนะนำฮะ
นายน้ำชา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-08-2016 10:28:13
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-08-2016 11:26:49
มีความหวานท่ามกลางหิมะตก >///<
แต่เจ้าชายคนนั้นจะเป็นลูกบุญธรรมของเชมัลได้ไหมนะ(ก็คิดนะ)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 18-08-2016 11:58:30
พารัชทายาทลำดับ3 ไปด้วย แอบลุ้นให้มีเรื่องต่อ  อิอิ  อยากอ่านไปเรื่อยๆ สนุกมาก ชอบเรื่องนี้

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 18-08-2016 12:51:04
เรื่องราวคลี่คลายไปหมดแล้ว นับแต่นี้ก็มีแต่ความหวาน.. :hao6: อ่านสบายๆ..ไม่ต้องลุ้นระทึก

และรู้สึกได้ถึงความรักที่อบอวล แล้วต้าซันไม่น้อยใจโชคชะตาบ้างหรือคะ ไม่มีคู่กับเขาซักที 555+
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 18-08-2016 13:03:28
 :o8: :o8:

หวานกว่านี้มีอีกมั้ยยยย

 :ling1: :ling1: อยากได้ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 18-08-2016 13:15:55
เอาทับสองมาเดี๋ยวนี้เลยยย


 :ling1: เอามาาาาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 18-08-2016 14:09:52
คู่นี้มีความมุ้งมิ้งน่ารักกันตลอดเวลาเลยนะ   :m3:
ว่าแต่...ท่านพี่จะเอาเด็กมาให้น้องช่วยเลี้ยงหรือเปล่าจ้ะ  :m12:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-08-2016 16:27:26
พาเด็กไปเลี้ยงจะโตมาอย่างไรหนอ

อาเม่ยกับพี่เชนี่หวานกันได้ทุกที่

 :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: Mylovelysunshine ที่ 18-08-2016 18:41:41
ชอบเรื่องมากกกก อาเม่ยกับแม่ทัพน่าร้ากกก  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 18-08-2016 19:02:35
สุราย่อมเป็นยาแก้อากาศหนาวได้ดี หากคนข้างกายกลับเป็นยาแก้หนาวที่ดีมากกว่า ผ่านเรื่องราวยุ่งยากมาแล้ว อาเม่ยกับเชมัลจะได้หวานกันโดยไม่มีอะไรมารบกวนเสียที ไม่รู้เป็นไง แต่ดิฉันชอบเรื่องที่มีฉากเป็นหิมะมากๆ เพราะมันดูคลาสสิกและมีมนต์ขลัง เหมือนกับได้เดินเข้าไปในท้องเรื่องของนิทานนางฟ้าหรือนิทานกริมม์ ฯลฯ

ความจริงเรื่องนี้สามารถแต่งสปินออฟออกไปได้อีกเรื่องหนึ่งเลยนะคะ เจ้าชายเมืองเวกาที่ต้องถูกบังคับให้ไปอยู่ใต้ความปกครองของแม่ทัพและอาเม่ยนี้อาจทำให้เป็นตัวละครที่สำคัญมากๆ ก็ได้ค่ะ ยังองค์ชายน้อยดาริม อดีตรัชทายาทฮัมซาอีก โฮ้ย เยอะแยะค่ะ มองคุณไจฟ์กับน้องทีด้วยแววตาอ้อนวอนนะคะ

ขอบคุณสำหรับอัพเดตค่า ^______^

ป.ล. แม่ทัพนี่เก่งจริงๆ นะ สามารถสั่งการทางไกลได้ด้วย อย่างนี้สู้รบที่ไหนก็ไม่มีผิดพลาดแน่ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-08-2016 21:04:28
เชมัลช่างน่าเกรงขาม
อาเม่ยก็น่ารักออดอ้อนได้น่าฟัดที่สุด

ใครจะพลัดถิ่น ใครจะหนาว บ้านเมืองใดจะล่มสลายก็ช่างเถิด

แค่มีเจ้าไว้กอดให้อุ่นกายอุ่นใจก็พอ


ปล. อยากอ่านรุ่นเด็ก ๆ ที่กำลังโตนะ นะ นะ นะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 18-08-2016 21:28:11
อ่านตอนนี้จบ เพลงนี้แว้บขึ้นมาในหัวเลย
"ออกศึกข้านึกแต่รบและรบ จบศึกข้านึกแต่รักเจ้าเท่านั้น..."
พี่เชเท่มากอ่าาาาาาาาาาาา ชอบตอนเจรจาสุดละ โหดดีแท้ 5555555

หลังจากเรื่องคราวนี้แล้ว ชื่อเสียงพี่เชคงยิ่งขจรขจายไปไกลกว่าเดิมแน่ๆ ขนาดพระราชาไอโอตายังไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เหอะๆๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-08-2016 22:43:59
ต้าซันมีคุณสมบัติพิเศษเรื่องเป็นมิตรกับทุกสิ่งอย่างในโลกนี้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-08-2016 00:43:05
มาให้กำลังใจคับ

อ่านวนุกมากๆ

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: Ornon ที่ 19-08-2016 06:16:34
 :-[

ตอนนี้น่ารักมากค่ะ

ที่ว่าอ่านยากหมายถึงต้องใช้จินตนาการ แต่ภาษาและการเขียนชวนให้ติดตามนะคะ

ยังไงก็จะติดตามอ่านทุกเรื่องต่อๆไปในอนาคต
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: botan botan ที่ 19-08-2016 06:32:04
เรื่องนี้สนุกต้องคิดตาม ต้องลุ้นตลอดเรื่องเลย พยายามเดาว่าจะเดินเรื่องยังไงมันส์มาก  :laugh:

อ่านไม่ยากนะ แต่อ่านเวลาที่ยังไม่จบ อ่านแล้วมันค้างงงงงง 5555
ชอบทุกเรื่องที่แต่งเลยเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆ   
   :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 19-08-2016 06:57:45
ขอหวานๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 19-08-2016 07:27:48
  :hao7: :mew1:

สวีทกันแล้ว
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: noonnoon03 ที่ 19-08-2016 08:32:51

สนุกมากคะ เนื้อเรื่องดำเนินดีมาก
 o13 o13 o13
เชมัลรักอาเม่ยมาก มากจริงๆ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
บรรยายดีมาก อ่านเเล้วฟีลมาเต็มคะ
 :impress2: :-[ :o8:


รอตอนพิเศษคะ จบเวกา แล้วขอต่ออีก ^_^
 :bye2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 19-08-2016 10:29:09
คนที่แสบที่สุดในเรื่องก็เป็นพระราชาฟารัคแล้ว
แบบว่าแสบหลบใน
ให้เชมัสแสดงความแสบแบบโจ่งแจ้งจนเก่งเกินความจริง สร้างความหวาดกลัวกันไป
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 19-08-2016 11:14:48
โอ๊ยยยยย ตอนนี้มันละมุนละไมแท้ๆ คนโสดตายสนิท  :กอด1:

ว่าแต่นี่อยากให้ท่านเชเรามีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อสักตอน แบบท่าจะมันส์สะใจ 
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-08-2016 16:52:46
ท้ายตอนหวานเหลือเกิน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 19-08-2016 19:40:49
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

พี่เช อาเม่ย หวานมาก...เราอิจฉานะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-08-2016 23:47:58
อ่านแล้วสบายใจมากๆ

คือแบบไม่ข้องใจอะไรแล้ว

จากที่ข้องใจเรื่องเล็กๆน้อยๆจากตอนหลัก

เช่น เชมัลรักเก้าหรือไม่

ถึงเชมัลบอกไม่ได้รักเก้า ก็เถอะ

ตอนนี้ไม่มีเรื่องข้องใจ สบายใจจัง

ขออีกๆ อ่านสนุกมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 20-08-2016 06:07:04
อาเม่ยกับแม่ทัพหวานแล้ว แต่อยากได้หวานกว่านี้อีกกกก  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-08-2016 12:03:22
เพื่อทับสองเราต้องสู้
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-08-2016 13:06:07
ข้ามาช้าแต่ก็มานะ ... อยากอ่านเรื่องราวของเจ้าชายเมืองเวกาเหมือนกัน เหมือนมันยังต่อได้อีกเรื่อยๆ หรือว่าจะมีอีกภาค(มโนไปละ 555) หวังใจว่า จะมาต่ออีกนะมันขาดตอน นั่งอ่านฉากเขาสวีทกันท่ามกลางหิมะในวันที่ร้อนอบอ้าวนี่ อิจฉาจริงๆ(เสียงสูง
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 20-08-2016 19:50:53
 :L2:
อ่านรอบสองเลยต้องมาเม้นอีก..

อยากอ่านพี่เชกับอาเม่ยเลี้ยงเด็ก

-เดาว่าจะไม่ได้ออกเเนวครอบครัว น่าจะออกเเนวอาเม่ยได้ลูกน้องเพิ่มมากกว่าจะมาเป้นลูกน้อย

อยากรู้ว่าหลังจากกลับไปเเล้วองค์ชายตัวประกันจะมีปฏิกิริยากับอาเม่ยยังไงต่อ..555 เพราะวิธีการพาหนีมาออกจะตื่นเต้นเนอะ

อยากให้ตาซันมีโมเม้นหวานๆกับเค้าบาง สักนิดให้ชื่นใจบ้างก็ยังดี

อยากอ่านการกลับมารวมตัวของรุ่นเล็กอีกสักครั้ง

อยากอ่านเเบบตอนอนาคต10ปีต่อมา..

อยากไปหมดเลยยย

 :mew1: :mew1:

*****สรุป.เขียนภาคสองออกมาเถอะ****

ปล. เรายังอยากอ่านตอนพิเศษบาลีอยู่น๊าาา คราวก่อนใจเเป้วเลย..นึกว่าจะมีพิเศษดราม่า

 :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 20-08-2016 21:31:29
 :mew1:
หวานน้ำตาลเรียกพี่กันเลยทีเดียว
 :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 20-08-2016 22:14:12
ดันพี่เชหน่อย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega- 5/1หน้า 55 (190859)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-08-2016 23:45:57
หน้าใหม่แล้วนะคับ

รอๆ
หัวข้อ: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 21-08-2016 06:30:01
ตอนพิเศษ Vega 5/2 (จบ)

หลังการทำงานในต่างเมืองนานหลายเดือน แม่ทัพเชมัล อาเม่ย ต้าซันและกลุ่มองครักษ์ 5 ใน 9 คนจึงเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมเจ้าชายลำดับที่ 2 ของเมืองเวกา ส่วนเจ้าชายฮัมซาแยกจากคณะเมื่อเข้ามาถึงเมืองเหนือ
ขณะที่แม่ทัพนาซิมที่เดินทางไปรับองค์ชายน้อยด้วยตนเอง แสดงเวทย์ข่มขู่พระราชาไอโอตา และบรรดาผู้นำชนเผ่าอีกชุดใหญ่

พระราชวังที่สวยงามของพระราชาไอโอตา ยามนี้เหลือเพียงท้องพระโรง พระตำหนักหลวงของพระราชา เท่านั้น
ดีที่ตำหนักของเจ้าชายรัชทายาท และเชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ อยู่ภายนอก มิเช่นนั้นก็คงต้องออกไปหาเรือนพักแรมอยู่ชั่วคราว

เมื่อเข้ามาถึงเมืองหลวงของเมืองวัน ทั้งหมดเข้ารายงานตัวต่อพระราชาฟารัค และรับผิดชอบการทำงานต่อเนื่องอีกหลายวันก็ถึงเวลาพักผ่อน
หลายคนเลือกกลับไปหาครอบครัว ส่วนแม่ทัพเชมัลพาอาเม่ยล่องเรือไปที่เกาะมรกตที่อยู่ห่างไกล
หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง อาเม่ยก็พอจะรู้ว่าแม่ทัพเชมัลมีความสามารถหลายด้าน แต่เรื่องการนำเรือต้องถือเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ดีนัก
ที่เดินทางมาครั้งก่อน ต้องให้องครักษ์แซนมาส่งและมารับ
ครานี้ก็เช่นกัน
องครักษ์แซนและองครักษ์ทูบา เป็นผู้มาส่งที่เกาะมรกต จากนั้นก็อยู่ช่วยทำความสะอาด แล้วกลับไปในเย็นวันเดียวกัน
โดยมารยาทแม่ทัพสมควรให้พวกเขาพักอยู่ด้วย
แต่ก็โดยมารยาทอีกเช่นกันที่ทั้ง 2 คนรู้ตัวดีว่า แม่ทัพเชมัลต้องการเวลาส่วนตัว
และเพราะทุกคนรู้ว่า แม่ทัพเชมัลมีความไม่พอใจบางสิ่งบางอย่าง ที่มิได้กล่าวออกมา ซึ่งนั่นย่อมเป็นหน้าที่ของอาเม่ยในการทำให้แม่ทัพเชมัลผ่อนคลาย

แม่ทัพผ่าฟืนเสร็จ อาเม่ยก็เข้าไปรวบรวม เพื่อนำไปเก็บไว้ในครัว เตรียมทำอาหารเย็น
"อยู่บ้านเราก็พักได้ ไม่เห็นต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่เลย ทำให้ผู้อื่นต้องวุ่นวายมาส่งแล้วก็มารับ"ดวงตาสีแปลกช้อนมองอีกคน "ใครทำให้ท่านพี่ไม่พอใจ จนถึงกับต้องมาที่นี่หรือ"
แม่ทัพเชมัลนั่งลงที่ขอนไม้ วางขวานไว้ข้างตัว
"อยากอยู่ท่ามกลางแสงแดดสักพัก"
"แสงแดด" อาเม่ยเงยหน้ามองฟ้า
ท้องฟ้ากลางทะเลมีเมฆจาง ๆ ก็จริง แต่ก็อย่างที่รู้กัน ว่าที่นี่เห็นอยู่ว่ามีแดดแรง แต่ก็กลับมีลมแรงแล้วก็จะมีฝนตกหนักตามมาในชั่วเวลาอึดใจ ดั่งที่พบเจออยู่ตลอด เมื่อครั้งมาพักที่นี่คราแรก แม้ว่าเวลานั้น อาเม่ยจะอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ก็ตาม
และเพราะอาเม่ยยังมีสีหน้าที่บ่งบอกว่ายังมิเข้าใจ แม่ทัพเชมัลจึงยกมือยอมแพ้
"หากพี่บอก หนึ่งน้องต้องไม่โกรธ สองก็ต้องไม่โกรธเช่นกัน"
อาเม่ยกอดอกทำแก้มพองทันที
"นั่นไง นึกแล้วเชียว" แม่ทัพเชมัลส่ายหน้าจะลุกขึ้นไปเก็บฝืน แต่อาเม่ยคว้าข้อมือไว้
"เรื่องงานหรือไม่"
"มันค่อนข้างก้ำกึ่ง" แม่ทัพเชมัลมิรู้จะอธิบายเช่นไร
"งั้นเรื่องส่วนตัว"
"ก็เช่นนั้นแหละ ก้ำกึ่งระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว"
"งั้นมันค่อนข้างไปทางไหนมากกว่ากัน"
"ค่อนมาทางส่วนตัว"
"อ่า...." อาเม่ยพอจะเดาได้ "ยังไม่รับปากว่าจะโกรธหรือไม่ แต่ก็ยังอยากฟังว่าท่านพี่คิดอย่างไร เพราะตอนที่ไปเที่ยวด้วยกัน เห็นว่าท่านยังดูอารมณ์ดี"
ช่วงก่อนหน้าที่จะเดินทางกลับ แม่ทัพเชมัลพาอาเม่ยไปท่องเที่ยวที่สถานท่องเที่ยวใกล้กับฝั่งเมืองกริลล์ ตามที่รับปากไว้ หากจะมีเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวก้ำกึ่งกับเรื่องงาน ก็เห็นจะมีแต่เรื่องนั้นเพียงเรื่องเดียว
"ก็อารมณ์ดี แต่ที่จริง...หากกล่าวคำออกไป น้องจะว่าพี่ขี้อิจฉาอีก"
"อ้อ..."
แม่ทัพเชมัลผุดลุกขึ้น "ไม่เล่าแล้วดีกว่า "
"ก็บอกให้เล่ามาไง อยากฟัง" อาเม่ยเร่ง ทั้งพยายามซ่อนยิ้ม

...แม่ทัพเชมัลเป็นน้องเล็กขี้อิจฉา ของพี่ชายชอบแกล้งคนหนึ่ง กับพี่ชายอีกคนหนึ่งที่มักตามใจ เหตุใดจึงหลงลืมเรื่องนี้ไปได้นะ...
 
"ไม่เล่าแล้ว เก็บฟืนไปไว้ในครัวดีกว่า เดี๋ยวจะได้หุงหาอาหาร" คนตัวใหญ่บ่ายเบี่ยง
อาเม่ยส่ายหน้า "ท่านรอม กับซาดาน ที่ตามไปก็เพราะนั่นคือหน้าที่ของเขา ส่วนพี่ใหญ่น่ะ เขาไม่เคยไปไหนไกล เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยว น้องก็เลยอยากให้เขาไปด้วยกัน"
"ก็รู้" แม่ทัพเชมัลลากเสียง "แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า นี่จะไม่มีสักช่วงเวลาเลยหรือที่เราจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง" แม่ทัพเชมัลกล่าว หันมาก็เห็นว่าอาเม่ยทำหน้าตึงยืนกอดอกอยู่
"น้อง"
"พวกเขาทำตามหน้าที่ แล้วอีกคนก็คือพี่ใหญ่"
"เรื่องนั้นพี่เข้าใจ ถึงได้เก็บไว้ในใจ ไม่อยากเอ่ยออกมา แล้วพอมีเวลา พี่จึงได้....."
อาเม่ยไม่รอให้อีกคนพูดจบก็หันหลังให้แล้วเดินผ่านเข้าไปในครัว เตรียมอาหารเย็น โดยมิได้กล่าวคำใดออกมา
"คิดแล้วเชียว...." คนตัวใหญ่เดินตามมาด้วย "พี่รู้ว่าน้องรักและเป็นห่วงพี่ใหญ่ แต่พวกเราห่างกันนานหลายเดือน พอกลับมาพบกันอีกครั้ง ก็ไม่มีเวลาใดเลยที่ได้อยู่ด้วยกัน แม้แต่ในยามพักผ่อน เราต้องนอนในเรือนพัก ผนังบางขนาดนั้น เจ้าก็มิผ่อนคลาย..."
อาเม่ยหันมาเอาผักขว้างใส่ ใบหน้าแดงจัดชี้นิ้วมือ "ห้ามพูดต่อเลยนะ!"
"ขนาดอยู่กัน 2 คนเจ้ายังห้ามพี่พูด" แม่ทัพเชมัลทำเสียงท้อแท้ พลางเหลือบตามองท่าทีของอีกคน เห็นว่าใบหน้ายังแดงจัด ขณะที่หันกลับไปทำปลาเตรียมอาหารเย็น
"ให้พี่ติดเตาไฟเลยไหม"
อาเม่ยพยักหน้า

...คราที่ไปดักรอในป่าที่เมืองเวกา หากเปิดโอกาสให้อีกคนได้โต้แย้ง ก็คงมิได้กอด ...

เมื่อตะวันตกดิน ทั้ง 2 คนก็กินอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้น เป็นการกินอาหารเย็นที่เร็วกว่าปกติ แต่เพราะวันนี้เดินทางไกล หิวเร็ว เมื่อกินเสร็จ แม่ทัพเชมัลจึงดื่มสุราต่อ อาเม่ยกลับเข้าครัวไปเตรียมมะกอกดองมาเป็นกับแกล้ม
มือใหญ่คว้าจับข้อมือไว้
"กำลังคิดว่าพี่ไม่มีเหตุผลใช่ไหม"
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีแต่ร่องรอยของความกังวล
ความกังวลของแม่ทัพเชมัลมิใช่เรื่องล้อเล่น
"พวกเขาทำตามหน้าที่"
"เรื่องหน้าที่ เวลาที่พี่ทำงานก็ทำเต็มที่เช่นกัน แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าเวลาที่สมควรเป็นเวลาของเรา มันอยู่ตรงไหน"
"ตรงที่เราอยู่ด้วยกันเสมอ" ดวงตาสีเข้มสะท้อนภาพของอาเม่ย "น้องก็คิดถึงท่านพี่มากนะ อยากมีเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน และก็...พอจะคาดเดาได้ว่าท่านกำลังกังวลเรื่องใด"

"เกาะนี้อยู่ห่างไกล จากเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ ทำให้น้องเชื่อว่า ท่านพี่คงไม่อยากกลับมาที่เกาะแห่งนี้มากที่สุด เมื่อนานมาแล้วยังเคยบอกกับพี่ใหญ่ว่า หากท่านพี่ติดตามไปที่หมู่บ้านแล้วพวกเรามิรู้ว่าหนีไปที่ใด น้องก็คิดว่ายังมีที่นี่ ที่พวกเราสามารถหลบซ่อนอยู่ได้
แม่ทัพเชมัลเพียงยิ้มที่มุมปาก ให้อาเม่ยกล่าวต่อ
"นั่นก็ข้อหนึ่ง ข้อสองต่อมาก็คือ ท่านพี่ไม่ชำนาญการเดินเรือ ท่านกลับพาน้องมาที่นี่ สองเรื่องนี้มันขัดแย้งกันจนมิเข้าใจว่าท่านกำลังคับข้องใจเรื่องใดอยู่"
 
แม่ทัพเชมัลดึงอีกคนเข้ามาจูบที่หน้าผาก
"ข้อหนึ่ง พี่มิได้มีความทรงจำเลวร้ายที่นี่"
"อ้าว...." คนช่างคาดเดาทำตาโต "น้องถูกเวทย์ดำ จำท่านมิได้ แล้วก็ก่อเรื่องมากมาย"
"น้องถูกคนทำร้ายก็เพราะพี่ พี่ไม่ปฏิเสธที่ทุกข์ใจเมื่อเห็นเจ้าเป็นเช่นนั้น แต่ในเวลาเดียวกัน การได้อยู่กับเจ้าที่นี่ กลับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด"

นิ้วมือใหญ่เกลี่ยแก้มใส มีถ้อยคำมากมายที่มิได้กล่าวออกไป ยามเมื่อต้องอยู่ห่างไกล  ก็จะเฝ้าเป็นกังวล ว่าจะมีผู้ใดลอบเข้ามาทำร้ายหรือไม่ หากถูกทำร้ายแล้วมีอาการหลงลืมทุกสิ่งไปอีก ต้าซันจะดูแลได้หรือไม่ จะมีใครฉวยโอกาสเข้ามาชักจูงให้ไปทำเรื่องร้ายอีกหรือไม่ หรือหากเกิดเรื่องขึ้นแล้วสองคนพี่น้องจะพากันหนี แล้วทั้ง 2 คนจะหนีไปที่ใด
ทั้งหมดคือความผิดซึ่งเกิดขึ้นในอดีต ที่ไม่เคยให้อภัยตัวเอง
หากสามารถย้อนเวลากลับไปได้ จะขอย้อนกลับไปถึงวันแรกที่ได้พบกัน เพื่อที่จะพากลับไปเมืองหลวงมิให้ใครเข้ามาทำร้ายได้แม้แต่ปลายเล็บ
ความทุกข์ใจนี้ หากพูดออกมา อีกคนก็คงเป็นกังวลไปด้วย
เพียงอยากให้จดจำไว้ว่าพี่เป็นคนรักขี้อิจฉา และหวงเจ้ายิ่งนัก

"ก็เวลาที่เราอยู่ดัวยกัน 2 คน ก็มิต้องมีผู้ใดให้เจ้านำพี่ไปเปรียบเทียบ ว่าเขาทำอาหารเก่งกว่าพี่ หน้าตาดีกว่าพี่ มีความสามารถมากกว่าพี่ โอ้ย!"
อาเม่ยหยิกเอวอีกคน จนต้องงอตัวตามมือไปด้วย
"แม่ทัพตัวโตขี้อิจฉา แค่จะไปเที่ยวกันแล้วผู้อื่นตามไปด้วยก็ยังอิจฉาเขาเสียอีก"
"ก็อิจฉา กลัวว่าน้องจะเห็นผู้อื่นดีกว่า เก่งกว่า" น้ำเสียงออดอ้อนเช่นนี้ ไม่เข้ากับรูปร่างหน้าตาจริงจังของแม่ทัพเชมัลสักเท่าใด ทำให้อาเม่ยหัวเราะร่วน
 
เมื่อน้องเล็ก 2 คนมาอยู่ด้วยกันมันช่างหาสาระอันใดมิได้

สายลมเย็นพัดมา เตือนว่าอีกมินานฝนจะตก อาเม่ยรีบลุกไปปิดหน้าต่างห้องพัก จากนั้นเมื่อเดินกลับมาก็เห็นว่า อีกคนก็เก็บสุราและกับแกล้มแล้วเช่นกัน
"ดื่มต่อก็ได้"
"แล้วน้องจะไปอาบน้ำมิใช่หรือ" มือใหญ่ชี้ไปที่ผ้าในมือ
อาเม่ยพยักหน้า "น้องไปอาบคนเดียวก็ได้ ลำธารอยู่ไม่ไกล"
มือใหญ่แตะแก้มใส "คิดหรือว่าจะปล่อยให้ไปคนเดียว"

ลมทะเลกำลังพัดกิ่งไม้เอนลู่ ส่งเสียงเร่งให้คนที่ยังอยู่ในลำธารรีบขึ้นจากน้ำก่อนที่ฝนจะตก แต่ทั้ง 2 คนหาได้รีบร้อน เส้นผมสีสวยเปียกลู่ แนบไหล่หลัง ผิวขาวจัดสะท้อนแสงจันทร์ที่ยังลอดผ่านหมู่เมฆ กลิ่นหอมอ่อนจางจากผิวน้อง พาให้พี่ซุกจมูกสูดดมให้ชื่นใจ
เสียงหัวเราะสดใส ที่พัดพาเรื่องราวขุ่นข้องหมองใจไปไกลได้เสมอ

"เสี่ยวเม่ย"

ดวงตาสีแปลกหันมามองสบตา ยิ้มหวานอีกคราแล้วจับมือพี่ให้ขึ้นจากน้ำ
อีกเพียงไม่กี่ก้าวจะถึงบันไดขึ้นบ้าน ฝนก็เทลงมา
เพียงแต่เมื่อก้าวเข้าบ้านแล้วปิดประตูลง ยังมิทันได้จุดตะเกียง พี่ก็ช้อนใบหน้าแสนหวานเข้ามาจูบพรม อ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากหวาน
คนตัวเล็กพลิกหน้าดูดริมฝีปากล่างของพี่ นิ้วมือแตะที่แก่นกายที่บ่งบอกถึงความต้องการมาตั้งแต่อาบน้ำ
ริมฝีปากสวยจูบที่ลำคอ ยอดอกแล้วลงมาหาที่แก่นกาย
มือใหญ่กระชับที่ต้นคอ ดวงตาสองคู่มองสบกัน
เมื่อหยดน้ำรสปร่าสัมผัสลิ้น พี่ก็ดึงให้น้องลุกขึ้น
ทั้งริมฝีปาก ฝ่ามือ หรือร่างกายที่สัมผัสกัน ล้วนพาความต้องการมากขึ่้นไปเรื่อย ๆ
น้ำมันดอกไม้หอมที่สัมผัสช่องทางอ่อนไหว ตามมาด้วยนิ้วมือที่สอดใส่ รับกับริมฝีปากหนาที่ครอบครองด้านหน้า ทำให้สะโพกผอมบางยกเกร็ง ตอดรัด
อาเม่ยกรีดร้อง แล้วเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจอ่อนหวาน เมื่อร่างกายพร้อมที่จะรับ มือเล็ก ๆ กลับผลักไหล่พี่ออก แล้วพลิกตัวขึ้นนั่ง กดสะโพกลงมาหาช้า ๆ

ร่างกายอ่อนโค้ง เมื่อ 2 มือเท้าลงไปที่ด้านหลัง
"เจ้ากำลังทำให้เลือดในกายพี่เดือดพล่าน เจ้ากำลังทำให้พี่หลงเจ้าจนมิรู้วันรู้คืน"
มือใหญ่สัมผัสริมฝีปาก ลากเรื่อยลงมาบดขยี้ยอดอกสีอ่อน
อาเม่ยขยับสะโพกช้า ๆ
มือใหญ่เลื่อนลงมาหาเอวบาง จับไว้ แล้วยกสะโพกขึ้นหา อาเม่ยกรีดร้องแล้วก้มลงกอดไหล่พี่ไว้แน่น พลิกหน้าจูบไซ้ที่ซอกคอ
 
คนตัวโตพลิกกลับมาอยู่ด้านบน ขยับสะโพกเข้าหาเนิบช้า
คนที่ความต้องการถูกฉุดรั้งให้กลับลงมา กำลังทรมานจนกรีดเล็บลงกับต้นแขนของพี่
"ท่าน พี่...."
ดวงตาคู่หวานหรี่ปรือ มึนเมา
พี่เกลี่ยเส้นผมที่ระแก้ม ก้มลงจูบริมฝีปากบาง สะโพกแกร่งเร่งเร้า เล็บที่จิกต้นแขนแรงขึ้น
หยาดน้ำสีขุ่นหยดจากส่วนปลาย จากนั้นร่างกายสูงใหญ่จึงตามไปถึงจุดสูงสุด
แต่เมื่อพลิกตัวลงมานอนกอดกัน มือใหญ่ก็กลับซุกซน บีบเคล้นที่อกบาง อาเม่ยพลิกหน้าหันไปมอง คนที่กำลังยิ้มหวานแล้วก้มลงหายอดอกที่เปลี่ยนเป็นสีแดงจัด

"คนขี้อิจฉา เอาแต่ใจ"
จูบริมฝีปากช่างตัดพ้อก่อนที่จะโต้แย้ง "เพราะพี่รู้ว่าจะอย่างไร น้องก็ต้องตามใจพี่อยู่แล้ว"
มือเล็ก ๆ ตีที่ไหล่หนาด้วยความเก้อเขิน แล้วส่งเสียงครางในลำคอ เมื่ออีกคนกดเข้าหาอีกครั้ง

"พี่รักเจ้า เสี่ยวเม่ย"

.....จบตอนพิเศษ Vega.....

ตอนพิเศษตอนนี้ เริ่มจากหิมะหวานในตอน 5/1 กับเอ็นซีในตอน 5/2 ที่คนเขียนเขาโน๊ตไว้คร่าว ๆ ผ่านไปนานหลายเดือน เขาถึงได้เอาเรื่องยาเสพติดมาใส่ ลำดับเรื่องใหม่แล้วออกมาเป็นแบบนี้  :hao3:
ป๋ามักบอกว่า เราโชคดีที่ป็นคนเขียนเรื่องในยุคคอมพิวเตอร์ ถ้าเป็นรุ่นก่อนหน้า ที่ต้องพิมพ์ดีดรวดเดียว เราก็คงทำไม่ได้ เพราะวิธีคิด วิธีเขียนของเราคือนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็เขียนไว้ก่อน แล้วหลาย ๆ ครั้งโพสต์ไปแล้ว ก็ยังกลับมาแก้ไขใหม่ เพราะเอาไฟล์เก่ามาอัพ  :hao5: พออ่านรีพลายของคุณ กลับไปอ่านเรื่องที่แชร์ แล้วก็ อ้าว...มิน่าถึงได้งง ๆ
ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ เพราะทุกความเห็นก็คือ ตอนพิเศษที่ไหลไปเรื่อย ๆ นี่แหละ
ขอบคุณที่กรุณาสละเวลาติดตาม
ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์ กับ ที

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 21-08-2016 06:53:55
แม่ทัพเชมัลมาตกม้าตายเพราะหึงหวงเสี่ยวเม่ยตลอดดดด ชอบตรงน้องเล็กมาอยู่ด้วยกันแล้วหาสาระไม่ได้จริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 21-08-2016 08:10:28
โถถถถ พ่อคุ๊ณณณ  อิจฉา หึง หรือ หื่นที่ไม่ได้กอดน้อง 55555
ถูกต้องทั้ง3ข้อเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 21-08-2016 08:20:17
แม่ทัพเชมัลมีความขี้หวง ขี้อิจฉาที่เยอะมากๆๆ  ไม่รู้จะสงสารหรืออิจฉาเสี่ยวเม่ยดี

ขอบคุณมากๆๆสำหรันตอนพิเศษ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: kanatthanit ที่ 21-08-2016 08:42:19
-หากพี่บอก หนึ่งน้องต้องไม่โกรธ สองก็ต้องไม่โกรธเช่นกัน-
 :m20: ฮาพี่เช บ่งบอกมาก ว่ากลัวที่สุด คือกลัวน้องโกรธ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Mylovelysunshine ที่ 21-08-2016 09:25:25
 :z2: :z2: :impress2: :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-08-2016 09:31:00
นิสัยคนเป็นน้องเล็กก็งี้แหละ เข้าใจๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 21-08-2016 11:41:11
พี่เชน่ารัก งอแงเหมือนเด็กๆเลย
อาเม่ยก็ช่างตามใจ แบบนี้มีหวังช้ำไปทั้งตัว ไม่ได้หลับได้นอนกันพอดี อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 21-08-2016 11:49:58
 :jul1: :jul1:

นี่มันสงครามน้องเล็กหรอ...เลือดท่วมจอ  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-08-2016 12:37:00
เกาะมรกตนี่ถือว่าเป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์สำหรับแม่ทัพเชมัลและอาเม่ยโดยแท้ ทั้งสองนับว่าผ่านหลายอย่างมาด้วยกัน จนบัดนี้เป็นหนึ่งเดียวกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เชมัลก็ยังต้องการร่างกายของอาเม่ยไม่น้อยลงไปเลย บทรักส่งท้ายนี้หวานและร้อนแรงมากๆ ค่ะ อุตส่าห์หลบลี้หนีคนมาอยู่บนเกาะกันตามลำพัง แล้วแม่ทัพผู้เอาแต่ใจก็ถูกปรนนิบัติตามใจ

ขอบคุณสำหรับตอนจบนี้นะคะ

ป.ล. อยากถามน้องทีว่า ตอนนี้มีแพลนเขียนเรื่องใหม่ไหมคะ? ^_____^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Nathi ที่ 21-08-2016 14:38:20
โถ... พี่เชถึงขั้นต้องพาเม่ยหนีมามาเกาะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: ปีศาจน้อยสีชมพู ที่ 21-08-2016 14:50:09
กลัวน้องโกรธ.. น่ารักจริงพี่เช

เห็นบางเมนท์แวบๆว่าอ่านยาก  555 แรกๆเราก็เป็น

เพราะไปเทียบกับเรื่องก่อนๆแต่พออ่านไปเรื่อยๆก็ชิน

ข้ามบรรทัดไม่ได้เลยทีเดียว.. เพราะเนื้อหาอัดแน่นทุกบรรทัด... ^_^

ขอบคุณคุณไจฟ์ที..ที่ยังมีตอนพิเศษออกมาเรื่อยนะคะ...  :3123:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-08-2016 15:10:29
อาเม่ยคือที่สุดของแม่ทัพเชมัส จะเศร้าจะหวาน จะกล้าหรือกลัวก็มีแต่อาเม่ย อิจฉาคนมีความรัก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 21-08-2016 20:08:29
จบแบบหวานๆมากๆ

ว่า่แต่ตอนพิเศษจะมีมาเรื่อยๆไหมคับ

แบบว่าอยากอ่านไปเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 21-08-2016 23:33:26
น้องเล็กทั้ง 2 คนนิสัยช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง  :laugh3:
น้องเล็กตัวโตทั้งขี้หึง ทั้งหื่นจริงๆ  :z1: :t2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 22-08-2016 18:41:38
ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

เขาหวานกัน  แต่เราเขินมาก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 22-08-2016 19:00:38
ท่านแม่ทัพ กลัวน้องโกรธ ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 22-08-2016 20:03:37
ตามอ่านอยู่สองวัน เนื้อเรื่องแน่นมากกกกกกก
รายละเอียดเยอะมากก อ่านข้ามนี่มีงงเล็กน้อย
ต้องผ่านอะไรมาเยอะจริงๆกว่าที่ท่านแม่ทัพกับอาเม่ยของเรา
จะลงเอยกันด้วยดี จะได้แฮปปี้กับเค้าสักที เพราะมีแต่เรื่องเข้ามาหา
และหวังว่าเก้าจะมีความสุขในสิ่งที่เลือก นี่แอบสงสารแม่ทัพนาซิม เฮ้อออ
แต่คนมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ละพี่เอ้ยย
ขอบคุณที่แต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ ตอนพิเศษนี่ก็สวีทซะเหลือเกิน
ตาร้อนไปหมดแล้ววว
 :o8: :o8:

หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-08-2016 22:12:43
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: so_saiy ที่ 22-08-2016 23:21:01
สนุกกกกกก  :z1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 25-08-2016 19:43:11

รักเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-08-2016 21:02:26
เออออออ เพิ่งนึกได้ตอนที่อ่านเนี่ยแหละว่า น้องเล็กทั้งคู่ 555555555

ไร้สาระและหื่นจัดเต็มมากพี่เช
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-08-2016 00:34:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 30-08-2016 13:18:36
เข้ามาอ่านตอนล่าสุด แล้วถึงเพิ่งเห็นว่าเราพลาดอ่านตอนนี้ไป...

เป็นตอนล่าสุดที่แม่ทัพฯแสดงอารมณ์แบบน้องเล็กได้หวานปนหวามมากๆค่ะ  555+ อาเม่ยก็ช่วยปลอบใจนานๆหน่อยนะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 31-08-2016 15:32:27
นี่ๆท่านพี่ ใจความคืออยากอยู่กับเสี่ยวเม่ยทั้งวันทั้งคืนนี่เอง  :z1:


กลัวแต่ว่าน้องจะช้ำหมด :heaven


แต่ไม่ต้องห่วงคนอ่านนะคะ สำรองเลือดไว้เป็นคลัง
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษที่มีมาให้อ่านเรื่อยๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 02-09-2016 10:54:01
 :ruready :ruready

มานั่งรออาเม่ย
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-09-2016 16:04:53
ซับซ้อน น่าค้นหา เป็นเรื่องที่น่าลุ้นมากค่ะ น่าติดตามทุกตอน

น้องของท่านพี่เป็นคนน่ารัก มีช่องว่างทางจิตใจเลยทำเป๋
ท่านพี่ก็รักน้องยิ่งนัก แต่ก็วัยหนุ่มอะเนาะ มัวเมาจนลืมน้อง ทำน้องน้อยใจ พาลทำร้ายคนอื่น

พระราชาเยี่ยมมากค่ะ คือจะเก่งไปไหน รู้หมดทุกทาง เดาทางได้หมด แต่กว่าจะยอมรับใจตัวเอง ก็เกือบทำคนเสียใจหนักไปอีก

องครักษ์มีความซื่อสัตย์และภักดีมาก เป็นกองหนุนและต้านได้ดี

ชอบเสี่ยวเม้ย เพราะความซน ชอบต้าซันเพราะมีความเป็นปกติ 5555
ชอบเก้าตรงที่ยอมทุกอย่าง แล้วที่สุดก็ตัดสินใจได้สักที ยังไงพระราชาก็รักกกก

ขอบคุณมากนะคะ เป็นเรื่องที่สนุกมาก
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: zatannn ที่ 13-09-2016 10:36:26
ตามมาจากนิยายแนะนำค่ะ คืออ่านไปได้สองบทก็รู้ละว่าใช่ต้องใช่แน่ๆ มันเป็นอะไรที่ถูกจริตมาก รวมทุกอย่าง ขอตัวไปอ่านรวดเดียวแล้วจะมาเม้นเพิ่มนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 19-09-2016 13:35:28
เข้ามาอ่านให้หายคิดถึงอาเม่ย  :mew2:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 28-09-2016 20:25:33
ช่วงต้น ๆ เรื่อง รู้สึกอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ งุนงง และจินตนาการไม่ค่อยออกในหลาย ๆ อย่าง อาจเพราะคนอ่านยังเข้าไม่ถึงตัวเรื่อง แต่ตอน อาเม่ย ขี่ลูกธนู คนอ่านก็งงว่าขี่่ทำไม หรือว่าเป็นคนนำพาลูกธนู ตรงไปยังฝ่ายตรงข้าม ?

ฉากต่อสู้แรก ๆ รู้สึกขัด ๆ แปลก ๆ แต่ตอนบุกพระราชวังเมืองเหนือ ก็พัฒนาขึ้น

ค่อนข้างชอบ Vega มากกว่าเนื้อเรื่องหลัก รู้สึกว่าอ่านแล้วลื่นไหลกว่ามาก

ขอบคุณสำหรับนิยายครับ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 03-10-2016 04:44:27
มาอ่านช้ามากกกกกกกกก ความทรงจำที่ไม่ดีบนเกาะมรกต ถูกตราตรึงไปด้วยความหวานน้ำตาลเรียกพี่แล้วนะ ขอบคุณไจฟ์และน้องที ที่เขียนนิยายดีๆให้อ่าน หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะพบกับเรื่องใหม่ในเร็วๆนี้
ปล.แอบอยากให้มีตอน พิเศ๊ษ  พิเศษอีก อิอิ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 04-10-2016 10:13:13
ขอบคุณนะคะที่แต่งตอนพิเศษมาให้อ่านอีก  เสี่ยวเม่ยนี่น่ารักจัง ชอบตอบมาแทรกพระราชากับแม่ทัพเชมัล   ตอนแม่ทัพงอนมันน่ารักดีจัง ลูกคนเล็กสองคนมาเจอกัน มีน้อยใจกลัวเสี่ยวเม่ยให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่า
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: piggyfree ที่ 13-11-2016 16:31:25
คิดถึงอาเม่ยกับท่านพี่จัง
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 08-12-2016 11:44:00
แวะมาเยี่ยม เสี่ยวเม่ย  :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 10-12-2016 12:26:49
เป็นเรื่องที่อ่านตอนแรกแล้วก็คิดแค่ว่าอ่านไปเฉยๆ ความจริงแล้ว ยิ่งอ่านยิ่งติด วางมือไม่ได้เลย อยากอ่านไปเรื่อยๆ น่าแปลกใจแต่ก็ชื่นชมนักเขียนว่าดีจริง เก่งจริง ปมเรื่องเยอะมากแต่ก็ค่อยๆคลายให้ทำความเข้าใจได้ง่าย อาจติดขัดก็ดี สงสัยไปบ้างก็ดี แต่ก็กลับเข้าเรื่องได้ตลอด คู่รักที่น่าสงสารแต่ก็น่าอิจฉาที่สุดคงไม่พ้นท่านแม่ทัพเชมัลกับอาเม่ย หวานจนมดขึ้นจริงๆ และที่ติดใจที่สุดคงเป็นพระราชาฟารัค นี่นับว่าเป็นราชาที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจนน่ากลัวมาก 55555 นอกจากนี้ที่น่าเห็นใจคงเป็นต้าซัน แอบอยากให้เขาได้คู่กันตามใจแต่ก็คิดว่า ดีแล้ว เราได้อ่านเรื่องราวความรักในหลายๆมุมมองจริงๆ สุดท้ายแล้วอยากบอกว่าขอบคุณเรื่องราวดีๆที่ให้อ่านนะคะ อยากให้มีต่อไปเรื่อยๆจริงๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Atroce ที่ 10-12-2016 23:23:52
เราเห็นเรื่องนี่ผ่านตาหลายรอบมากกกกก แต่ไม่เคยกดอ่านเลยเพราะคิดว่าเป็นนิยายแนวต่างชาติ  ที่ไกงหนได้แฟนตาซี  เราพลาดมากกก ขอบคุณนะคะ ที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่าน
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 06-01-2017 10:57:58
แวะมาสวัสดีปีใหม่ค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-02-2017 16:42:02

มาย้อนอ่านบรรยากาศหวานๆของท่านพี่ขี้อิจฉาแถมขี้หวงแต่เก๊งเก่งกับน้องอีกรอบ เผื่อว่าจะมีการเดินทางบทต่อไปให้ติดตาม

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 22-02-2017 01:08:38
ชอบตอนจบมาก เป็นเรื่องที่โคตรประทับใจ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2017 10:51:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 04-03-2017 22:31:48
ท่านเชกับนู๋เม่ยกว่าจะมีความสุขกันได้ นู๋เม่ยน่าสงสารมากนะ ตอนตงกับโปมันกระทันหันมากแทบไม่อยากเชื่อ การทำร้ายคนที่เรารักรวมไปถึงคนสนิทคนใกล้ชิดเราโดยที่เราไม่รู้ตัวเพราะถูกผู้อื่นควบคุมนี่มันโหดร้ายมากเลยนะ เกลียดผู้เฒ่าไฟ เฮยอั้น กับรัชทายาทชื่อจีนนั่นสุดๆเลย คราวนาซิมข่มขืนอาเก้า ใจเราก็ไม่อยากให้นาซิมได้เก้าไปแต่ก็นึกสงสาร สุดท้ายมาจบที่พระราชาฟารัคจอมเจ้าแผนการนี่ก็เหนือความคาดหมายนะ แต่ก็ตะหงิดใจกับความเจ้ากี้เจ้าการชีวิตอาเก้ามาสักพักแระล่ะ ไม่คิดว่าพระองค์จะรักอาเก้ามาตลอด ยามที่ผลักไสอาเก้าให้ท่านเช ยามที่เก้าถูกนาซิมทำร้าย พระองค์คงเจ็บไม่แพ้กัน ระเบิดลูกสุดท้ายคงเป็นตอนที่เก้าขอไปอยู่เมืองหน้าด่านคงช็อคน่าฤดู ก็เคยลั่นไว้เองว่าถ้าเก้าอยากไปอยู่ที่ใดก็จะอนุญาตให้ไป สุดท้ายเป็นไงระเบิดลง 555 อยากอ่านตอนพิเศษของพระราชาฟารัคกับต้นห้องเก้าอีกจัง ต้าซันพี่ใหญ่ของเราก็น่านับถือยิ่งกับความรักที่แสนจะยิ่งใหญ่ อยากให้ต้าซันได้มีคนที่รักที่ไม่ใช่ต้องเป็นเพียงผู้เฝ้ามอง ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้ำชาสำหรับนิยายดีๆนะคะ อยากให้มีตอนพิเศษอีกเรื่อยไปไม่มีวันจบเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-03-2017 09:19:37
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
สนุกมากก ชอบคู่หลักนี่มันแน่ๆอยู่แล้ว
ชอบความหลงเมียของแม่ทัพเชมัล
ชอบเม่ยที่น่ารัก
ชอบความที่มีปมเรื่อง มีดีเทล มีtimelineที่น่าสนใจ
เหตุผลรองรับการกระทำของตัวละครดูน่าเชื่อถือทำให้อ่านแล้วอินค่ะ ชอบบบ

แต่ที่ชอบกว่ากลับเปนคู่ของเก้ากับพระราชา
อุปสรรคเยอะมากก แต่สุดท้ายก้ลงเอยด้วยดี
สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด กลับไม่ใช่สิ่งที่เค้าต้องการที่สุดจริงๆ
การที่พระราชาปฏิเสธใจตัวเอง แต่ยังปรารถนาดีกับเก้าเสมอยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้าย
สิ่งที่ดีที่สุดคือการยอมรับใจตัวเอง
ชอบคู่นี้มากกกกกก
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 12-03-2017 11:45:00
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: "All of Me" >> Vega-5/2หน้า 56 (210859)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 11-04-2017 10:04:27

แวะเวียน มาเยี่ยมอาเม่ย เผื่อว่าท่านเชมัล จะพาน้องมาเที่ยววันสงกรานต์ แหะ แหะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 16-06-2017 00:14:49
หูยยยยย ติดมากกกกก
อ่านแรกๆอย่างงงเลยค่ะ ปมเป็นล้าน
แต่รู้สึกว่าต้องอ่านให้จบไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ๆ 55555555
ตอนหลังๆน่ารักมากกกกกก ><
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-06-2017 17:13:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 09-01-2018 21:13:04
สนุกมากกกกกก พระเอกนายเอกยังคงความเป็นไจฟ์ทีเช่นทุกเรื่องที่ผ่านมา

แต่ยอมรับว่าท่านเรื่องนี้แล้วทรมานแทนเก้าที่ต้องตกเป็นของคนนั้นคนนี้แล้วสุดท้ายก็มีฐานะไม่ต่างจากเมียเก็บ

ฮูดาเหมือนคนผิดที่ได้รับการอภัย...ได้ดิบได้ดีกว่าใคร

ฟารัค...ร้ายเกินไป

ถามว่ารักใคร รักตงโปสุดเลย  :hao5:

ขอบคุณครับ  :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่16หน้า16 (14กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-07-2018 23:00:59
 :o12: ตงกับโป ฮือออออ
หัวข้อ: Re: "All of Me" ตอนที่17หน้า17 (22กรกฎ58)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-07-2018 23:13:26
โถ๊ะ  :z6: ที่เรื่องมันวุ่นวายเพราะท่านไหมล่ะฟารัค  :katai1:
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-07-2018 15:12:56
เอ็นดูน้องแพะ  :laugh: แต่ว่านะ ทำไมไม่เห็นมีพูดถึงต้นห้องเก้าเลย
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 02-12-2018 19:50:08
เรื่องนี้สนุกมาก ๆ ค่ะ อยากให้มีรวมเล่ม จะอุดหนุน
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae_yusoo_mi ที่ 22-01-2020 18:54:30
มาอ่านอีกรอบรอตอนของเรื่องใหม่
ต่อไปอ่านเรื่องไหนรอต่อดีนะ
 :hao3:
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 24-07-2021 14:59:34
 :-[
หัวข้อ: Re: "All of Me"
เริ่มหัวข้อโดย: BoJit ที่ 21-08-2021 05:50:16
แง้งงง ไปอยู่ไหนมา นิยายดีมาก ติดงอมแงมไม่ยอมหลับยอมนอน ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ