พิมพ์หน้านี้ - - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: tuktik_narak ที่ 25-10-2013 14:46:34

หัวข้อ: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 25-10-2013 14:46:34
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 25-10-2013 14:51:24

V
V
V
V
V



Intro



เพื่อนสนิทผมบอกว่าผมน่ะมันโง่! โง่ที่รักไอ้ผู้ชายคนนั้นอยู่ได้ตั้งนมนาน

   คบกันมา5ปี แต่ผมกะเขากลับบอกใครไม่ได้สักคน นอกจากเพื่อนผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้

   เพราะชื่อเสียงและหน้าตาทางสังคมของเขาที่ทำให้ผมต้องทน ทน ทน

   ทนยิ่งกว่าควาย

   สุดท้ายที่เจ็บกว่าคือรู้ข่าวว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้ เหมาะสมยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก

   แต่ผมน่ะหรือที่จะมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากเขา

   “เรื่องนี้เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงอยู่เฉยๆไว้”

   เจอมันพูดแบบนี้ถ้าคุณเป็นผมจะทำยังไง แม้กระทั่งคำว่า”รัก”เขายังไม่เคยพูดให้ผมได้ยินเลยสักครั้ง

   ผมไม่ใช่นางเอกที่เรียบร้อยแบบพจมาน ผมไม่ใช่คุณหญิงแย้มที่ใจกว้างให้ผัวมีได้หลายเมียเมื่อรู้ว่าเรามีลูกไม่ได้แบบในนางทาส(?)

   แต่ที่ผมยอม มีแค่เหตุผลเดียว คือ

   “ผมรักพี่ รักมากและคงขาดพี่ไปไม่ได้”


   ผมจึงได้แต่ทน ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อผมผิดเองที่เกิดมาเป็นผู้ชาย แล้วผมจะโทษใคร?



นักเขียนขอเม้าาาาา

หลังจากได้ฤกษ์ก็เลยมาเปิด OMG! เรื่องที่2

อย่างที่บอกชุดนี้เป็นไตรภาค ต่อจากหมดกัน

ก็เป็น OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน

ใช่แล้วค่ะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของพี่เวอร์มุธกับเพทาย

แต่มันคงไม่ฮาหรือเกรียนเหมือนพี่เขียนกับเหนือแน่ๆ

อาจจะไม่ดราม่ามากแต่ขอฝากไว้ด้วยนะคะ

อ้อๆๆ ขอแนะนำตัวอีกทีเผื่อคนที่ไม่รู้จัก

นักเขียนชื่อแนนนะคะ เข้าไปพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/nanznnyaoi

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 25-10-2013 15:40:37
มาเจิมเรื่องใหม่ค่ะ  o13 o13
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 25-10-2013 20:29:01
 :katai5: :katai5: ช่วงนี้ปวดเอว  คนแก่ตามมาอ่านแล้วจ้า

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 26-10-2013 11:06:46
รู้ฉันรู้ว่ามันเป็นความผิดฉัน
รู้ทั้งรู้ว่ามันรุนแรงมากมาย
ที่ทำให้ใครหลายคน
เผชิญกับวันเลวร้าย
ไม่มีอะไร
จะพอชดใช้ได้เลย

เวลามันไม่ย้อนคืน
ให้ฉันได้แก้ตัวใหม่
และไม่มีทางใดให้เธอได้ย้อนคืนมา

อยากบอกกับเธอเหลือเกิน ว่าฉันเสียใจ
อยู่ตรงนี้ ก็ทุกข์ใจทุกๆ คืนวัน
อยากฝากถ้อยคำนี้ไป ให้เธอรับฟัง
โปรดเถอะนะอย่าโกรธฉันนาน
อยากให้เธอยกโทษให้กัน
อยากให้รู้ไม่เคยตั้งใจทำร้ายเธอเลย

ฉันไม่คิดให้มันลงเอยแบบนี้
ฉันไม่คิดอยากทำให้ใครร้าวราน
ที่ใครต่อใครหลายคน
ไม่ยอมยกโทษให้ฉัน
ก็พอเข้าใจ
ไม่เคยจะโทษใครเลย

เวลามันไม่ย้อนคืน
ให้ฉันได้แก้ตัวใหม่
และไม่มีทางใดให้เธอได้ย้อนคืนมา

อยากบอกกับเธอเหลือเกิน ว่าฉันเสียใจ
อยู่ตรงนี้ ก็ทุกข์ใจทุกๆ คืนวัน
อยากฝากถ้อยคำนี้ไป ให้เธอรับฟัง
โปรดเถอะนะอย่าโกรธฉันนาน
อยากให้เธอยกโทษให้กัน
อยากให้รู้ไม่เคยตั้งใจทำร้ายเธอเลย

เวลามันไม่ย้อนคืน
ให้ฉันได้แก้ตัวใหม่
และไม่มีทางใดให้เธอได้ย้อนคืนมา

อยากบอกกับเธอเหลือเกิน ว่าฉันเสียใจ
อยู่ตรงนี้ ก็ทุกข์ใจทุกๆ คืนวัน
อยากฝากถ้อยคำนี้ไป ให้เธอรับฟัง
โปรดเถอะนะอย่าโกรธฉันนาน
อยากให้เธอยกโทษให้กัน
อยากให้รู้ไม่เคยตั้งใจทำร้ายเธอเลย

อยากให้รู้ไม่เคยตั้งใจทำร้ายเธอเลย
...อ้างอิง http://sz4m.com/t6617
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 26-10-2013 11:13:07
 :mew1: :mew1:

กะแล้ว  พี่เวอร์มุธต้องมีคู่  แต่สงสารนายเอกจุง

 :mew2:

ปูเล 1  ไตรภาค  อีกภาคนึงขอเป็นอิพี่ว็อดก้านะ  ขอให้เป็นเคะแบบ SM ไปเรย

ปูเล 2   # เก็บกดมาจากน้องเหนืออ่าา

 :mew5: :mew5:

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 28-10-2013 00:12:40



ตอนที่1

เพทาย

ชีวิตคนเราไม่ง่ายเลยที่เราจะอาศัยอยู่ได้โดยปราศจากความเครียด และมันไม่ง่ายเลยที่จะไม่ปราถนาหาสิ่งมาดับความเครียด ผมเป็นคนหนึ่งที่ชีวิตด้วยการมีความสุขครึ่งนึงและความทุกข์อีกครึ่งนึง แต่ผมพยายามที่จะไม่แสดงออกให้คนอื่นรู้มากนักว่าผมมีเรื่องอะไรในใจ


   หมับ

   แรงกอดรัดจากคนที่นอนอยู่ด้านข้างทำให้ผมยิ้ม ในหัวสมองหลงลืมเรื่องที่คิดไปหมดอย่างสิ้นเชิง นี่ก็เป็นความสุขของผม สัมผัสที่นุ่มนวล กลิ่นกายที่คุ้นเคย ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้เป็นของผมตลอดไปก็เถอะ

   “ทำไมตื่นเช้า”เสียงเข้มถามขึ้น ผมเกร็งตัวนิดๆเมื่อปลายจมูกกดลงบนลาดไหล่ ยังไงๆก็ไม่ชินกับสัมผัสที่วาบหวามนี้

   “ยังไม่ได้นอนต่างหาก”ผมตอบก่อนจะหมุนตัวหันไปเผชิญหน้ากับคนที่เป็นเจ้าของหัวใจของผม

   “ไปเที่ยวกันไหม”ผมขมวดคิ้ว ปกติตั้งแต่คบกันมาไม่เคยเลยที่อีกฝ่ายจะชวนผมไปเที่ยวก่อน จะมีแต่ผมที่งอแงอยากจะไป แต่ด้วยเวลาและหน้าที่การงานของอีกฝ่ายก็เลยทำให้ผมต้องชวดอยู่บ่อยๆ

   “ดูทำหน้า ไม่อยากไปกับพี่หรือ”ถามจบพร้อมกับริมฝีปากอุ่นประทับเข้าที่หน้าผากของผม ชอบจัง สัมผัสที่ไม่ได้เหมือนตอนมีเซ็ก แต่เป็นสัมผัสที่บ่งบอกว่ารัก

   “ว่างหรอ ผมไม่ไปก็ได้นะ”

   “ว่าง อยากพาเมียไปเที่ยว”ขอหน้าแดงก่อนห้านาที ผมมุดอกอีกฝ่ายปกปิดความเขิน ทำไมชอบพูดจาแบบนี้วะ

   “เพทาย”เขาเรียกชื่อผมเสียงนุ่ม จนผมต้องยอมเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาคมกริบสบเข้ากับตากลมโตของผม ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ ผมก็รู้สึกว่าแพ้ให้กับสายตาคู่นี้อยู่ตลอด

   “อื้ม”ผมครางรับ

   “รักพี่ไหม”เขาถามเสียงอ้อน ไม่บ่อยนักหรอกนะที่ผู้ชายคนนี้จะทำตัวแบบนี้ต่อหน้าผม ยิ่งต่อหน้าคนอื่นยิ่งไม่เคยหลุดมาดอาจารย์ผู้แสนเย็นชาเลย ทุกอย่างต้องเนี๊ยบ ทุกอย่างต้องเป๊ะ แต่นี้ก็ทำให้ผมยิ้ม รู้สึกดีที่ผมได้เป็นคนที่เห็นด้านอื่นๆของคนที่ผมรัก

   ด้านที่คนอื่นไม่มีวันได้เห็น

   “ผมรักพี่มากนะ พี่มุธ”ผมบอกเสียงดังฟังชัด เขามักจะถามผมเสมอว่าผมรักเขาไหม จริงๆแล้วเขาไม่น่าถามด้วยซ้ำว่าผมรักเขาไหมเขาน่าจะถามผมว่าผมรักเขามากเท่าไหนน่าจะดีกว่า

   “แล้วพี่รักผมไหม”ผมถามเขาบ้าง ในใจนี่เต้นตึกตักๆเหมือนกลองตี

   “นอนกันดีกว่า”

   ผมหน้าเศร้าลงไปนิดหนึ่งแต่ก็พยายามฝืนยิ้มเอาไว้ เขาเลี่ยง เลี่ยงที่จะไม่บอกว่ารักผมหรือเปล่า และมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งตั้งแต่เราคบกันมา

พี่มุธไม่เคยบอกว่ารักผมสักครั้ง บางครั้งการกระทำกับคำพูดก็ควรมีความสำคัญเท่ากันๆ ต่อให้พี่มันแสดงออกว่ารักผมมากเท่าไหร่ แต่พี่มันไม่เคยพูดให้ผมได้ยินเลย ความมั่นใจมันก็สั่นคลอนลงทุกทีๆ

“อื้อ”ผมครางเสียงสั่นเครือ

ผมมุดหน้าลงไปกับอกพี่มันเพื่อปิดบังร่องรอยน้ำตา ทำไม? ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแค่คำว่ารักพี่มันถึงบอกผมไม่ได้ ห้าปีเชียวนะ ตลอดห้าปีผมไม่เคยได้ยินเลย แล้วผมก็ไม่กล้าพอที่จะโวยวายและเรียกร้องอะไรจากพี่มันให้เยอะแยะด้วย

ผมกลัว

กลัวว่าถ้าผมทำตัวน่ารำคาญแล้วพี่มันจะทิ้งผมไป ผมทนไม่ได้ ผมอยู่ไม่ได้แน่ๆถ้าถึงวันที่พี่มันต้องไปมีคนอื่น

ขนาดว่าผมกับพี่มันคบกัน ไม่มีใครเลยที่รู้เรื่องนี้ ขนาดว่าผมสนิทกับวิสกี้น้องชายของเขาวิสกี้มันก็ยังไม่รู้เรื่อง จะมีก็แต่ไอ้ซันเพื่อนสนิทของผมที่รู้เรื่องนี้ เวลาที่ผมเสียใจ น้อยใจก็มีมันนี่แหละที่คอยรับฟังผม

“ถึงพี่ไม่พูด ทายก็น่าจะรู้นะ”พี่มันบอกผม ในขณะที่ผมกำลังซ่อนรอยน้ำตา

จะว่าไปแค่นี้ก็พอแล้วนี่ ถึงแม้ว่าห้าปีพี่มันจะไม่เคยบอกรัก แต่พี่มันก็ไม่เคยมีคนอื่นเลยนะ ผมคิดว่าผมเชื่อใจพี่มุธได้ แล้วผมจะต้องกังวลทำไม

“ครับ”ผมรับคำก่อนที่ผมกับพี่มันจะหลับไปด้วยความเพลียอีกครั้ง

.

.

.



ผมตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เมื่อคืนหลังจากที่พี่มุธชวนผมไปเที่ยวพักผ่อน ผมก็ยังคิดอยู่เลยนะว่าพี่มันจะแกล้งๆเล่นหรือเปล่า แต่พอตื่นเช้ามาพี่มันก็ปลุกบอกให้ผมรีบไปอาบน้ำ จะได้รีบไป

ผมก็งงๆนะแต่พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำทันที ไม่ใช่อะไรนะเดี๋ยวพี่มุธเปลี่ยนใจผมก็แห้วแดกอีก

ผมเก็บของใส่กระเป๋าเรียบร้อย กระเป๋าเสื้อผ้าสองใบพร้อมทั้งของใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อย สำรวจอีกครั้งจนแน่ใจว่าไม่ขาดอะไรจึงเดินไปปลุกคนที่ยังนอนอยู่ให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ

“พี่มุธ ตื่นได้แล้ว”ผมก้มลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหู พี่มันยุกยิกไปมาก่อนจะค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

จุ๊บ

พี่มันยื่นปากมาประกบกับริมฝีปากผมเบาๆก่อนจะผละออกไป ผมยิ้มมีความสุข รู้สึกอยากให้เวลามันหยุดอยู่ตรงนี้นานๆ

เวลาที่มีแค่เราสองคน

“สิบนาที รับรองเสร็จ”พี่มันว่ายิ้มๆแล้วกูเดินหยิบผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำทันที

ผมหิ้วของออกมาวางไว้ข้างนอก เข้าครัวไปชงกาแฟแล้วก็ปิ๊งขนมปังสองแผ่น เพื่อให้คนในห้องได้ทานรองท้องก่อนจะต้องขับรถไปไกล

ทริปวันนี้เห็นพี่มุธบอกว่าจะพาไปพัทยา เพราะมันไม่ไกลมากไปกันสองวันหนึ่งคืน เพราะว่าวันหยุดพี่มันมีน้อย แค่นี้ก็พอแล้ว จริงๆต่อให้พี่มันบอกว่ามีเวลาแค่วันเดียว หรือแค่ไม่กี่ชั่วโมง ผมก็พอใจมากๆแล้ว

“หอมจัง”พี่มันเดินออกมาจากห้องก่อนจะตรงมาที่โต๊ะกินข้าว

“แน่นอน ก็ผมทำนิ”ผมบอกกลับยิ้มๆ พี่มันส่ายหน้าไปมาขำๆ

ผมมองพี่มันกินของที่ผมทำด้วยความสุข ผมยิ้มจนเหมือนคนบ้าแต่พี่มันไม่เห็นหรอก ทำไมกันนะผมรู้สึกว่าเวลาที่เรียบง่ายแบบนี้ก็เป็นเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดแล้ว จริงๆไม่ต้องไปถึงพัทยาก็ได้นะ อยู่ด้วยกันสองคนที่ไหนก็ได้ผมก็โอเค

“เราล่ะกินรึยัง”พี่มุธถามผม

“ไม่หิวนี่นา”จริงๆผมดื่มนมรองท้องไปแล้วแก้วนึง มันติดเป็นนิสัยไม่ค่อยชอบกินอะไรตอนเช้า

“จริงๆเลยนะ ผอมจนจะไม่มีแรงเดินอยู่แล้ว”พี่มันว่าไม่จริงจัง ผมทำหน้าบู้ใส่ พี่มันหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืน เป็นอันว่าการกินเสร็จแล้วและก็พร้อมที่จะเดินทางกัน

ผมนั่งเลือกเพลงอยู่บนรถอย่างอารมณ์ดี บางทีหันไปมองคนขับเราก็จะส่งยิ้มให้กันบ้าง ผมมีความสุขมากๆ แค่ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้อยู่ด้วยกัน ผมก็พอใจแล้วนะ

“ฟังแผ่นนี้นะ”ผมบอก พี่มุธพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงอนุญาต

เพลงสากลฟังสบายๆสไตล์ที่ผมชอบขับกล่อมเบาๆ ผมยิ้มกว้างอย่างบอกไม่ถูก

“หิวไหม”พี่มุธถามขึ้นระหว่างทางไปพัทยา

ผมหันมองหน้าพี่มันนิดๆ แล้วก็พยักหน้าจนคอเกือบหลุด เกือบลืมไปเลยว่าเมื่อเช้ากินแค่นมแก้วเดียว จะว่าไปตอนนี้ท้องก็เริ่มส่งเสียงประท้วงซะแล้ว

“ทนอีกนิดได้ไหม เดี๋ยวพาไปกินอาหารทะเล”พี่มันหันมาถาม ผมยิ้มตอบ ได้อยู่แล้วเพราะผมชอบกินปูที่สุด ><

ถึงจะบอกว่าให้รอก่อนก็เถอะ ตอนนี้ผมก็มาเข้าเซเว่นซื้อของกินรองท้องก่อนอยู่ดี เพราะพี่มุธนั่นแหละที่เป็นคนแวะเข้าปั๊มเพื่อให้ผมมาเลือกซื้อขนม

ผมเลือกขนมปังไปสองสามอย่าง แล้วก็น้ำเปล่าหนึ่งขวดไม่อยากกินเยอะครับ เดี๋ยวผมจะกินปูไม่คุ้ม

“ทำไมซื้อน้อยจัง”พี่มันถามตอนเห็นถุงขนมในมือ ผมยิ้มแหยๆ

เมื่อกี้พี่มุธไม่ได้เข้าไปกับผมหรอกครับ เขานั่งรออยู่บนรถ แต่ก็ดีแล้วเพราะพนักงานที่นี่หน้าตาสวยทั้งนั้นเลย ผมหวงผมไม่อยากให้ใครเห็นสุดหล่อของผม คึคึ

“จะถึงรึยัง”ผมชะเง้อชะแง้มองถนนข้างหน้า ปากก็ถามตลอดว่าถึงหรือยังๆ ถามตั้งแต่เข้าเขตชลบุรี จนตอนนี้ผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้วก็ยังถามอยู่ ก็แหมคนมันตื่นเต้นนี่นา

“อีกแปปเดียว หึหึ”พี่มันขำๆ ผมก็หัวเราะตาม

เย้ๆๆๆๆๆๆๆ

ตอนนี้ถึงแล้ว พัทยาผมนี่ตื่นเต้นโคตรๆ อยากวิ่งบนชายหาดจะแย่ ผมกระดี๊กระด๊าจนพี่มุธต้องบอกว่าถ้ายังไม่รีบเอาของขึ้นไปเก็บ จะเอาผมไปปล่อยไว้กับปูลมในทะเล บวู อะไรอ่ะ เชอะๆ

“สวยเนอะ”ผมบอกตอนเดินเข้ามาในห้องพัก รีสอร์ทที่นี่รู้สึกว่าจะเป็นคนรู้จักกันกับี่มุธด้วย เลยมีห้องว่างพร้อมเสมอ ห้องสวยมาก ราคาเป็นกันเอง มองออกไปด้านนอกเห็นวิวโคตรแจ่ม

“อื้ม สวย”

“ไปกินปูกันได้รึยัง”ผมหันมาถาม

พีมุธยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ตอนแรกพี่แกมาแบบจัดเต็มมากครับ เสื้อเชิ้ตใส่ในกางเกงสแล็คสีดำ รองเท้าหนังหัวแหลม แต่จะพูดว่าก็ไม่ได้พี่แกบอกว่าถ้าไม่แต่งแบบนี้ออกจากบ้าน พี่แกจะไม่มั่นใจ โคตรเว่อร์เลยอ่ะ

“ไปครับ”พี่มันเปลี่ยนเสร็จพอดีก็เดินมาจูงมือผมให้ออกไปกินปูกัน

พี่มันพาผมเดินลัดเลาะๆ จนไปเจอร้านอาหารทะเลร้านหนึ่ง ไม่ใหญ่มากแต่คนแน่นเอี๊ยด เข้าไปถึงตอนกแรกก็เกือบจะได้นั่งรอ แต่พอดีว่ามีโต๊ะนึงเขาเช็คบิลพอดี ก็เลยได้นั่งเลย

ผมสั่งปูนึ่งมาสามโล มีประมาณหกตัว เพราะปูตัวใหญ่มากๆ ผมนี่ยิ้มหน้าบาน ของโปรดๆ ผมชอบมันมากกว่ากุ้งอีกนะ เพราะว่ากุ้งหากินได้บ่อยแต่ปูนี่ต้องมาถึงถิ่นทะเล มันถึงจะสะใจ

“ปูตัวโตๆ แกะให้หน่อย”ผมหยิบปูมาตัวหนึ่งยื่นไปใส่ไว้ในจานพี่มุธ

“โตแล้วแกะเอง”แต่เหมือนว่าพี่มันจะแข็งข้อนะวันนี้ เพราะว่าพี่มันตักปูมาคืนใส่จานผม แถมยังทำหน้าตายไม่ยอมแกะให้อีกต่างหาก

“แกะไม่เป็นนี่ นะๆ แกะให้หน่อยนะๆ”ผมเปลี่ยนเสียงอ้อน ยังไงก็ต้องยอมแกะให้แน่ๆ

“ไม่เอา แกะเอง”ทำไมคราวนี้พี่มันใจแข็งจัง ผมนี่เริ่มหน้างอละปกติผมยอมทำให้ทุกอย่างแต่ปู มันก็รู้ว่าผมแกะไม่เป็น ผมไม่เคยแกะเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งจะเป็นพี่มันคอยแกะเอาเนื้อมาวางใส่จานผมตลอด แต่ทำไมคราวนี้มันถึงต่อต้านผม

“ไม่กินแล้ว”ผมวางช้อนเสียงดัง จะร้องไห้แล้ว ทำไมไม่ตามใจผมบ้าง แค่แกะปูทำไมถึงทำให้ผมไม่ได้ หรือว่าไม่รักผมเหมือนแต่ก่อนแล้ว ใช่สิ อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปแล้วสินะ

“อย่างอแงน่า”พี่มันว่าเสียงหน่ายๆ ผมหันหน้าหนีกอดอกหลังตรง ความอยากอาหารหายไปเสียดื้อๆ ลำพังแค่คิดว่าพี่มันไม่รักผมก็พอทนอยู่แล้ว นี่ยังมาเริ่มมีอาการว่าไม่สนใจกันอีกแบบนี้ จะให้ผมคิดยังไง

“ไม่รักผมจริงๆสินะ”ผมพูดเยาะเย้ยตัวเอง ทั้งเรื่องปูเรื่องแสนแปดเรื่องมันทำให้ผมคิดมาก เสียใจ จนบางครั้งก็ชอบเผลองี่เง่า แต่ถ้าไม่ใช่เพราะรักแล้วผมจะเป็นแบบนี้ทำไม ใช่ไหม?

“เฮ้อ ที่อยากให้แกะเอง ก็เผื่อเอาไว้ถ้าวันนึงพี่ไม่อยู่แล้วใครจะแกะให้เรากิน พี่ไม่ได้อยุ่กับเราได้ตลอดเวลาหรอกนะ”พี่มันเอื้อมมือมาจับหน้าผมให้หันไปมองตา ก่อนจะพูดด้วยเสียงจริงจัง

“ละ แล้วพี่จะไปไหนล่ะ”ผมถามเสียงเครือ ทำไมพูดแบบนี้ พี่มันจะไปไหน

“ไม่ได้ไปไหน แค่พูดเผื่อไว้ ถ้าวันนึงเราเกิดไม่ได้อยู่ด้วยกัน”พี่มันตอกย้ำความคิดมากของผมให้เพิ่มพูนขึ้น

ถ้าผมแปลความหมายในประโยคนั้นไม่ผิด พี่มันคงตั้งใจจะบอกว่า ยังไงซะวันนึงเราก็ต้องเลิกกันแบบนั้น ใช่ไหม?

“พี่จะทิ้งผมเหรอ”ผมถามสิ่งที่ใจคิด รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่น้ำอุ่นๆไหลออกจากตา

“ทำไมคิดอย่างนั้น”

“ก็พี่พูดเหมือน ฮึก ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

ผมยังจำได้ดี วันแรกที่เราคบกัน พี่มันเคยบอกว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะผมรักมาก ผมเชื่อ ผมยอม ให้ผมทำยังไงก็ได้เพียงแค่ให้ผมกับพี่มุธรักกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยอมแม้กระทั่งปิดบังคนรอบข้าง ไม่ให้ใครรู้ในความสัมพันธ์

ซันเคยถามว่า คบกันรักกัน แต่บอกใครไม่ได้ มันเหมือนคนรักกันตรงไหน มันไม่ต่างอะไรกับการเป็นชู้คนอื่น ผมไม่ได้ตอบ เพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง แต่คำตอบในใจของผมก็คือ

ผมรักผู้ชายคนนี้

ก็แค่รัก

“คิดไปไกลแล้ว พี่หมายถึงวันนึงเพทายอาจจะได้ไปทำงานในที่ไกลๆ พี่อาจจะต้องไปเรียนต่อ อะไรแบบนี้ ยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะเลิก”พี่มันเดินมานั่งเก้าอี้ตัวข้างๆผมก่อนจะดึงหัวผมให้ไปซบกับอกของพี่มัน

โชคดีที่โต๊ะของเราค่อนข้างอยู่ในมุมอับ แต่จริงๆคนที่มาก็เป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยเป็นเรื่องแปลกที่จะเห็นผู้ชายสองคนกอดกันในร้านอาหาร

“สัญญาสิ ว่าจะไม่ทิ้งผม พี่มุธสัญญาสิ”ผมเงยหน้ามองพี่มันทั้งน้ำตา เขย่าเสื้อพี่มันอย่างขอร้อง

“สัญญาครับ จุ๊บ”พี่มุธยังพูดหนักแน่นเสมอ มันกดจูบหน้าผากของผมหนึ่งทีก่อนจะยิ้มให้

ผมยิ้มกว้างรีบเช็ดน้ำตา ไม่อยากทำตัวให้พี่มันรำคาญไปมากกว่านี้ ผมรู้ว่าพี่มุธก็เหนื่อย ทั้งเรื่องงานที่มหา’ลัย แล้วไหนจะเรื่องงานที่บ้านอีก แต่ผมเป็นแฟนผมก็มีมุมที่อยากเรียกร้องความสนใจบ้างเหมือนกัน

“รีบกินสิ ปูจะกลับคืนร่างอยู่แล้ว”พี่มันพูดติดตลกเพื่ออยากสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นกว่าเดิม

“ครับ”

ผมกลับมานั่งตัวตรง รู้สึกดีขึ้นกว่าตอนแรก อย่างที่บอกผมไม่อยากทำตัวให้มีปัญหา เป็นไปได้ผมอยากเป็นแฟนที่น่ารัก ไม่อยากสร้างความลำบากอะไรให้พี่มันเลยสักอย่าง

“เดี๋ยวพี่ทำให้ เอามานี่มา”พี่มันพูดตอนเห็นผมกำลังพยายามงัดกระดองปูออกด้วยท่าทางน่าตลก

“มะ ไม่เป็นไร ผมจะพยายามทำเอง”ผมหันไปบอกพี่มัน ใบหน้าผมยิ้มแต่ในใจไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย ผมไม่ได้อยากทำหรอก ก็ผมแกะไม่เป็นนี่ แต่ผมกลัวพี่มันจะหงุดหงิดที่ผมเอาแต่เรียกร้องตลอดเวลา

“แล้วทำได้ไหม”

“ต้องทำให้ได้สิ เผื่อไม่มีพี่ ใครจะแกะให้ผมกิน”ผมบอกเสียงแอบสั่นเล็กๆ แต่ผมก็ยังพยายามจะส่งยิ้มไปให้พี่มันเพื่อบอกว่าผมไม่เป็นอะไร

“เอามาพี่แกะให้ เดี๋ยววันหลังจะสอนแกะนะ”พี่มันพูดเสียงนุ่ม เป็นเสียงที่ผมชอบฟังที่สุด เสียงที่ผมได้ฟังทีไรจะรู้สึกสบายตัว

“เอางั้นหรอ”ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ครับ”พี่มันยิ้มนิดๆแต่โคตรหล่อ ผมก็ยิ้มตอบกลับไปอัตโนมัติ เราสองคนยิ้มให้กัน ถึงไม่ต้องพูดแต่ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่มอบให้กันผ่านดวงตา

เพียงแต่ว่าความรู้สึกเหล่านั้นพี่มุธไม่เคยถ่ายทอดผ่านตัวอักษรหรือน้ำเสียงเลยก็เท่านั้น

หลังจากกินปูเสร็จพี่มุธก็พาผมมาเดินเล่นที่ชายหาด พวกเราอยู่กันที่พัทยาเหนือ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอก พี่มุธพามาก็ใจง่ายตามเขามาเท่านั้นแหละ อิอิ


“ชอบไหม”คนข้างตัวหันมาถามผมด้วยรอยยิ้ม หล่อจริงๆ

“มากๆ ผมอยากอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ”ผมบอก มองพี่มันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก

ผมไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะรักใครได้มากขนาดนี้ ไม่เคยคิดเลยจริงๆ จนกระทั่งห้าปีก่อน ตอนนั้นผมอยู่ประมาณม.ห้าจะขึ้นม.หกได้มั้ง ผมถึงได้รู้จักคำว่ารัก

ผมเจอพี่มุธครั้งแรกที่สถาบันสอนพิเศษ ผมเรียนกับเพื่อนอยู่แถวๆพญาไท แต่มันมีอยู่อาทิตย์นึงที่พี่คนที่สอนวิชาคณิตเขาไม่สบายมาสอนไม่ได้ก็เลยให้เพื่อนมาสอนแทน ตอนผมเห็นครั้งแรกผมก็ละสายตาจากพี่มุธไม่ได้เลย ใช่ครับ พี่มุธเป็นคนมาสอนแทนเพื่อน อาทิตย์นั้นผมจำได้ว่าผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย ผมเอาแต่มองหน้าพี่มัน จนเพื่อนต้องสะกิดเรียกสติอยู่หลายครั้ง


ผมไม่ใช่เกย์ แต่ทำไมไม่รู้ถึงสนใจผู้ชาย จริงๆผมสนใจพี่มุธแค่คนเดียวมากกว่า จนเรียนจบคลาส พี่มันก็กลับไป ตอนนั้นผมใจแป้วมากเลยเพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว อย่างที่บอกว่าพี่มุธมาสอนแทนแค่อาทิตย์เดียว แถมตลอดเวลาที่เรียนพี่มันไม่สนใจผมเลยสักนิด

ผมนั่งซึมอยู่หลายวันจนอาทิตย์ถัดมา พี่เบิ้ม พี่ที่สอนคณิตผมก็กลับมาสอนเป็นปกติทั้งๆที่ผมภาวนาให้พี่มันไม่สบาย ฮ่าๆๆ โคตรเลว แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆนะ

“เพทายๆ มีพี่คนนึงฝากไอ้นี่มาให้เราอ่ะ”

ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมงงโคตรๆ ใครฝากวะปกติก็มีคนเอาขนมมาให้อ่ะนะแบบพิศวาสอะไรเงี้ย แต่ไม่มีใครเป็นความลับขนาดนี้มาก่อน ตอนแรกผมกะจะทิ้งซะด้วยซ้ำแต่ชื่อผู้ส่งที่อยู่เขียนหัวกระดาษทำให้ผมต้องเปิดออกอ่าน

From Vermouth

ตึกตัก ตึกตัก

“ไอ้เชี่ย พี่เวอร์มุธ”ผมตื่นเต้นโคตรๆ พี่มันเขียนจดหมายมาหาผมครับ เพราะตอนนั้นแบบไม่รู้เบอร์ไม่มีเฟส ไม่มีอะไรใดๆทั้งสิ้น เนื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก พี่มันนัดผมไปดูหนังวันถัดไปสิบโมงแค่นั้น

ตอนแรกผมก็กะจะเล่นตัวอ่ะนะ แต่ไม่เอาอ่ะเล่นมากๆเดี่ยวหลุดมือ

เดทแรกของผมพี่มันไม่พูดอะไรเลย จนผมใจแป้วคิดในใจว่าที่พี่มันนัดมาเที่ยวคงเป็นเพราะเอ็นดูเหมือนน้องชายหรือเปล่าจนตอนที่พี่มันไปส่งมันถึงได้พูดขึ้น

“เป็นแฟนกันไหม”

ผมนั่งหน้าแดง ตกใจนิดๆที่พี่มันก็ชอบผมเหมือนกัน

“ฮะ อะไรนะครับ”ผมแกล้งตกใจ แต่จริงๆในใจนี่ตกลงเรียบร้อยละ

“จะจีบตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่พอดีมีนักเรียนอยู่เยอะเลยไม่กล้าแสดงตัว”พี่มันพูดนิ่งๆ เหมือนไม่เขินไม่อายอะไรสักนิด ผิดกับผมหูแดงลามยันไส้อ่อน

“จะ จริงเหรอ”

“อื้ม ตกลงจะคบไหม”พี่มันถามได้ห่ามมาก แต่ผมชอบอ่ะ ><

“อะ อื้ม”

ผมจำได้ว่าหลังจากที่ตอบตกลงผมก็โดนพี่มันจูบแบบมาราธอนเกือบสามนาที ผมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่มากๆอ่ะ

สองปีถัดมาผมเสียตัวให้พี่มันครั้งแรก ตอนที่ผมขึ้นปีหนึ่งจะขึ้นปีสอง ไม่อยากจะเล่าเลย ว่าได้กันครั้งแรกในมหา’ลัยนั้นแหละ ในห้องทำงานพี่มันเลย ผมตั้งสอบเข้าที่นี่เพราะพี่มันเป็นอาจารย์อยู่ ตอนแรกก็ตื่นเต้นกลัวมีคนเปิดประตูเข้ามาเห็น แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมาแล้วผมก็เสร็จไปตามระเบียบ

“’ถ้างั้นถ้าว่างพี่จะพามาใหม่ ดีไหม?”พี่มุธถามผม ผมหน้ายู่ลงนิดหน่อย

“เปล่า ผมอยากอยู่แบบนี้ตลอดไปคืออยากอยู่กับพี่ตลอดไปที่ไหนก็ได้ผมไม่ซีเรียสหรอก”ผมบอกยิ้มๆ พี่มันรวบตัวผมเข้าไปกอด

พี่มุธจูบที่หน้าผากผมหนึ่งทีเบาๆ ผมหลับตาพริ้มกอดเอวพี่มันแน่น รู้สึกดีจัง การที่ได้อยู่กับคนที่เรารักมันดีแบบนี้นี่เอง

“ครับ พี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”พี่มันพูด ผมสนอะไรทั้งนั้นแค่พี่มันพูดว่าจะไม่ทิ้งผมไปก็พอแล้ว

“ผมรักพี่นะ รักมาก และผมก็คงอยู่ไม่ได้ถ้าขาดพี่”ผมบอก

ประโยคนี้ผมพูดเกือบจะทุกวัน ผมอยากให้พี่มันรู้ว่าผมรักพี่มุธมากแค่ไหน รักมากกว่าชีวิตของผมซะอีก

“อย่าลืมรักตัวเองนะเพทาย สัญญาสิ”ผมยิ้มพยักหน้าเป็นคำสัญญา

ผมไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมคิดว่าแค่วันนี้เรามีความสุขกับคนที่เรารักก็น่าจะพอแล้ว ส่วนวันข้างหน้าก็คือวันข้างหน้าเอาไว้ให้ปัญหามาแล้วเราค่อยช่วยๆกันแก้ไขอีกทีจะดีกว่า

นอกซะจากว่าปัญหาข้างหน้ามันจะยิ่งใหญ่จนทำให้ผมหมดแรงสู้ก็เถอะ




นักเขียนขอเม้า

ฝากนิยายเรื่องนี้ของแนนด้วยนะคะ

OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน

ภาคต่อจาก

OMG! หมดกัน..มันเอาผมเป็นเมีย

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37996.0

เข้าไปพูดคุยกันในเพจ NanZnn

https://www.facebook.com/nanznnyaoi

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 28-10-2013 00:46:52
นายเอกที่ทน ทน และ ทน ไม่ค่อยชอบอ่ะนะ แต่ก็จะติดตามต่อค่ะ อยากรู้ว่าจะทนได้นานแค่ไหน
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 28-10-2013 01:26:43
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :mc4: :mc4:   เวอร์มุธ x เพทาย ลงเล้าเป็ดแล้ว!ชอบเรื่องนี้มากกกกกกก!ดราม่าหนัก :m15: แต่ให้แง่คิดในความรักแบบชายรักชายดี ชอบ!ปลื้มมม!!!!!! :heaven o13 จะติดตามรออ่านไปเรื่อยๆครับ! :bye2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 28-10-2013 01:55:25
พี่มุธนี่น่าจะเป็นเจ้าชายน้ำแข็งได้เลยนะเนี่ย^^"สงสัยจะต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซะก่อนล่ะมั้งเยือนจะมีดราม่าอยู่ไม่น้อยเหอะๆๆ
ติดตามเรื่องนี้ด้วยคนเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 28-10-2013 08:33:37
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

สงสารเพทายมว๊ากกกกอ่ะ...เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-10-2013 13:40:00
เรื่องนี้ออกแนวมาม่านิด ๆ
แต่เล่นเอาน้ำซึม สงสารเพทายจัง
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-10-2013 14:24:00
 สงสารเพทาย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 28-10-2013 20:35:20
 :impress3:  คนแก่สงสารหลานเพทายจังเลย

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-10-2013 21:09:25
จะทนได้นานแค่ไหน

ไม่เพทายก็คนอ่านจะตายกันไปข้างนึง :hao5:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่1 (100%) P.1 >Up.28/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 28-10-2013 23:16:16
เทอทำฉันหน่วงงงงงงงง

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 01-11-2013 00:02:07

ตอนที่2

   มาหาพวกไอ้เหนือที่คณะวิศวะ ไม่มีอะไรทำก็เลยชวนไอ้ซันมา ใจจริงอยากมาหาอาจารย์ที่อยู่คณะนี้มากกว่า ฮ่าๆๆ

   “หิวข้าวไหมมึง”ไอ้ซันมันถาม ผมส่ายหัว ถึงหิวก็ไม่กิน เพราะวันนี้มีนัดจะไปกินข้าวกับใครบางคน

   “หึ ไม่ใช่ว่ารอใครอยู่หรือไง”นั่น เสือกรู้ดี

   “แน่สิ ฮ่าๆ”ผมตอบอย่างอารมณ์ดี เลยไม่ทันได้สังเกตว่าเมื่อกี้ไอ้ซันมันทำหน้ายังไง

   “ถามจริง อึดอัดบ้างไหมที่คบกันแต่ต้องหลบๆซ่อนๆ”

   ผมมองหน้าคนถาม ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาคำถามนี้หลุดออกจากปากมันนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

   “ก็ตอบไปหลายครั้งแล้วว่าไม่เลยสักนิด”

   “เฮ้อ กูยังอึดอัดแทนเลย”มันบ่น ผมยิ้มยกมือขึ้นไปบีบๆไหล่มันอย่างเอาใจ

   “เอาน่า อย่างน้อยกูกับเขาก็คบกันมาตั้งห้าปี แถมยังไม่เคยมีข่าวชู้สาวด้วยนะเว้ย”ผมบอก ก็จริงอย่างที่ผมพูดนั่นแหละ อย่างน้อยพี่มุธมันก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะก็ตัวเขาออกจะหล่อขนาดนั้นเป็นธรรมดาที่จะต้องมีผู้หญิงมาให้ท่า แต่เราคบกันด้วยความเชื่อใจไง

   “ช่างเหอะ พวกไอ้เหนือมันมาพอดี”ผมกลับมาทำหน้าตาปกติ พอดีกับพวกไอ้เหนือทั้งสี่คนมันเดินมา

   “ว่าไงพี่ ลมอะไรหอบมาคร๊าบบบบ”ไอ้น้องแพะมันทักขึ้นมา ยกมือไหว้กันตามประสา พวกผมก็ยิ้มๆ

   จะว่าไปพวกผมก็สนิทกับพวกมันพอสมควร ผมกับซันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.ต้น แต่เรียนกันคนละโรงเรียน ส่วนพวกไอ้น้องเหนือกับวิสกี้เป็นน้องโรงเรียนไอ้ซัน เออ โลกมันก็กลมจริงๆนะ กลมถึงขนาดที่ว่า พี่มุธเป็นพี่ชายของวิสกี้ และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับไอ้เหนืออีก

   ทุกครั้งที่ผมเห็นวิสกี้ความรู้สึกผิดจะตีใจผมจนจุกไปหมด มันเป็นความรู้สึกของคนที่แอบอยู่ในมุมมืด กลัวไปหมดทุกอย่างว่าถ้าวันนึง วิสกี้กับเหนือรู้ขึ้นมาว่าพี่ชายที่รักของพวกเขามีแฟนแล้ว พวกน้องๆจะว่ายังไง

   อาจจะรับได้

   และก็อาจจะรับไม่ได้

   ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังผมบอกได้เลยว่าผม ก็คงตัดสินใจลำบาก

   “กูหิวข้าวน่ะ แต่ไม่มีเพื่อนไปกิน”พอไอ้ห่าซันพูดจบ ทุกคนก็หันมามองผม จะบอกได้อย่างไรเล่าว่ากูมีนัดแล้วน่ะ><

   “พี่ทายล่ะ ทำไมไม่ไปกินเป็นเพื่อนพี่ซัน”วิสกี้มันว่า ผมสะดุ้งนิดๆอย่างคนมีความผิดติดตัว แต่ก็พยายามที่จะทำหน้าให้เป็นปกตินะ

   “เอ่อ”ไม่รู้จะพูดยังไง เหมือนว่ายังคิดคำตอบไม่ทัน

   ผมมองหน้าวิสกี้ น้องมันทำหน้านิ่งๆ ไม่ได้หยิ่งนะแต่คือหน้ามันจะแบบไม่ค่อยยิ้มอ่ะ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ผมก็ยิ่งกลัวดิ เพราะอ่านความรู้สึกน้องมันไม่ออก

   “มันแดกมาแล้วอ่ะดิ หนีพี่ไปกินกับสาวๆมา”เป็นอีกครั้งที่ไอ้ซันเป็นคนตอบแทนให้ผม

   “พี่ทายแม่งงงง”ผมเห็นวิสกี้มันยิ้มนิดๆ จริงๆน้องมันก็คงไม่รู้เรื่องอะไรหรอก มีแต่ผมที่ประหม่าเอง กลัวไปหมดว่าจะถูกจับได้น่ะ

   “ไปหาข้าวแดกกันดีกว่า”ไอ้ซันพูดขึ้น ทุกคนพยักหน้ารับแล้วพวกผมก็ยกโขยงกันไปร้านข้าวหลังมหา’ลัย

   ผมเดินไปกับพวกมันด้วย ยังไม่ถึงเวลาที่นัดกันไว้กับพี่มุธ ถึงไม่ได้ไปกินก็ได้ไปนั่งคุยกันก็ยังดี

   อย่างน้อยก็ไปเพื่อปกปิดความผิดตัวเอง ผมพยายามแล้วที่จะทำตัวให้เป็นปกติ ผมพยายามจริงๆ


   .

   .

   “พวกพี่กลับยังไงกัน”ไอ้ดินถามขึ้นหลังจากที่พวกผมทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อย

   ซันหันมามองผมเหมือนรู้กัน ผมมองพวกมันตาใส ไม่อยากหลบสายตาเดี๋ยวจะหาว่ามีพิรุธ

   “เดี๋ยวพี่ไปส่งไอ้ทายเอง วันนี้มันมากับพี่น่ะ”

   “อ่อๆ งั้นพวกผมกลับก่อนนะ”

   “อื้ม”
   “ไปส่งกูที่หน้าตึกวิศวะนะ”ผมบอกมันตอนเดินขึ้นมานั่งบนรถแล้วเรียบร้อย วันนี้ไอ้ซันมันเอารถมา ซึ่งปกติแล้วมันจะไม่ค่อยขับมาเรียนหรอก บอกว่าเกะกะหาที่จอดรถยาก

   “ได้ทีแล้วใช้กูใหญ่เลยนะ”มันว่าขำๆ ผมยิ้มอย่างเดียว ฮ่าๆ

   “กลับถึงบ้านแล้วช่วยบอกกูด้วยนะครับคุณเพทาย”มันบอกตอนที่ผมลงจากรถ

   “เออ รู้แล้วน่าแต่คงดึกๆล่ะมั้ง ไม่รู้ว่าพี่มุธเขาจะพาไปไหน”ผมพูดพลางทำหน้านึกตาม อยากรู้จริงๆว่าเขาจะมีเซอร์ไพรส์อะไร คึคึ

   “เออๆ ไปละ”ผมโบกมือให้มัน มองตามรถมันไปจนลับสายตา ผมยิ้มอย่างมีความสุขเดินมานั่งที่ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งเพื่อรอเวลาที่ใครบางคนจะมารับพาไปกินข้าวข้างนอก

   ผมมองแหวนเกลี้ยงๆในมือลูบมันไปมาเบาๆอย่างมีความสุข ชีวิตผมถึงแม้ว่าทุกข์จะเยอะไปสักหน่อยแต่ก็ใช่ว่าเรื่องสุขมันจะไม่มี

   เมื่อปีก่อนพี่มุธให้แหวนวงนี้กับผม เป็นแหวนเงินธรรมดาราคาไม่กี่ร้อย แต่ผมก็ไม่เคยถอดมันออกเลย พี่มุธก็มีนะแต่พี่แกจะใส่เฉพาะเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เพราะไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงต่อการโดนคนรู้จักจับได้แล้วมันก็จะไม่ดีแน่ๆถ้าพวกไอ้เหนือมันเห็นแล้วเกิดนึกได้ว่าเหมือนกับของผม

   18.45น.

   ก้มมองนาฬิกาตัวเอง อีกประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงพี่มุธก็คงจะมา วันนี้แกเลิกสอนค่อนข้างมืด แต่ไม่เป็นไรผมรอได้ มืดๆนี่แหละดีคนอื่นๆจะได้ไม่สังเกตุเห็นด้วยว่าผมกับพี่มันขึ้นรถไปพร้อมกัน

   RRRrrrrr

   ผมคว้าดทรศัพท์มากดรับแทบจะไม่ทัน ยิ้มไปไกลละแค่เห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา

   “ฮัลโหล พี่อยู่ไหน”ผมถาม ไม่ต้องพิธีรีตองให้มากความ

   “เพทายตอนนี้อยู่กับใคร”พี่มันถามผม ผมขมวดคิ้วใจเต้นจังหวะแปลกๆ ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้ผมเริ่มไม่สบายใจ

   “พี่มุธ พี่อยู่ไหน”ผมถาม เสียงเริ่มสั่นคบกันมาห้าปีทำไมจะไม่รู้ว่า ถ้ามุธถามผมแบบนี้ ถามด้วยน้ำเสียงแบบนี้แสดงว่าพี่มันจะมาตามนัดไม่ได้!!

   “พี่ขอโทษนะ แม่พี่เรียกตัวพี่ด่วน”

   ผมร้องไห้ทันที อะไรกันแล้วทำไมถึงไม่บอกผมก่อนหน้านี้ล่ะ ทำไม!

   “แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมล่ะ”ไม่อยากเลย ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ยินว่าผมกำลังร้องไห้ ผมไม่ตะโกนไม่โวยวาย เพราะผมเริ่มชาชินเสียแล้ว

   “เพทายตอนนี้อยู่ไหน อยู่ที่มหา’ลัยหรือเปล่า”ผมยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะถามพี่มันกลับไป

   “ทำไม พี่จะมารับผมไปส่งคอนโดเหรอ”ผมคาดหวังจะให้พี่มันตอบว่าใช่ แต่....

   “เปล่า พี่จะให้ซันมันมารับ”

   ฮึก เจ็บ ผมเจ็บ

   “พี่มาไม่ได้แล้วทำไมพี่ถึงไม่บอกผมแต่แรก”ผมบอกเสียงเรียบ ความสุขที่มีมาตั้งแต่ตอนเย็นถูกทำลายด้วยความทุกข์เพียงไม่กี่นาที

   ทุกข์จากความเจ็บ ที่เกิดจากคนที่เรารักมากที่สุด
   
   “มันกะทันหัน สรุปตอนนี้อยู่ไหน”พี่มันพูดเหมือนไม่ใส่ใจ กะทันหันอย่างนั้นเหรอ พี่มันพูดง่ายๆแบบนั้นเลยเหรอ

   “แล้วนัดเราล่ะ”รู้นะว่าถ้าตื้อพี่มันไปแล้วคำตอบที่ได้ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งก่อนๆที่เคยประสบมา แต่ก็ยังอยากจะได้ยิน บางทีผมอาจจะเคยชินกับความเจ็บแบบนี้ไปแล้วก็ได้

   เจ็บเยอะๆ ผมชอบ ฮึกๆ ฮืออ ผมชอบบ

   “อย่าไร้สาระนะเพทาย เอาอย่างนี้เดี๋ยวพี่ให้ซันไปรับ ส่วนนัดวันนี้ขอเลื่อนออกไปก่อน วันนี้พี่รีบมากจริงๆ”

   “ไร้ สะ สาระเหรอ โอเคครับ ตอนนี้ผมอยู่กับซันพอดี มันเพิ่งเลิกเรียนเลยแวะมาหาผมน่ะ เดี๋ยวผมกลับไปรอที่ห้องนะ”สุดท้ายก็เป็นผมที่อ่อนแอ ไม่กล้าโวยวายเรียกร้องสิทธ์ของตนเอง

   ก็รู้แก่ใจว่าถึงร้องยังไง พี่มันก็ต้องไปทำธุระของที่บ้านมากกว่าจะเลือกมาทำธุระกับผมอยู่ดี

   สุดท้ายผมก็ต้องทำตัวเป็นแฟนที่น่ารักเข้าใจพี่มันทุกอย่าง ทำตัวไม่งี่เง่า ทั้งๆที่ในใจผมไม่เคยทำได้อย่างที่แสดงออกมาเลย ไม่เลยสักนิด

   “โอเค แค่นี้นะ”

   ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

   ผมนั่งฟังเสียงสัญญาณนานหลายวินาที ก่อนมันจะตัดแล้วเงียบลงไป อีกแล้ว อีกครั้งแล้วที่พี่มันผิดสัญญา แล้วก็จบด้วยคำว่าผมงี่เง่าไร้สาระ ผมเจ็บกับคำนี้เหลือเกิน แต่เพราะอะไรไม่รู้นะที่ผมกลับชอบฟัง หรือผมจะกลายเป้นคนดรคจิตไปแล้ว

   “พี่ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง ฮือๆ”ผมนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ไม่อยากให้ซันขับรถมารับ เดี๋ยวมันจะพลอยโกรธพี่มุธไปด้วย ผมไม่เคยนั่งรถโดยสารหรือรถแท็กซี่คนเดียว แล้วตอนนี้ผมจะกลับบ้านยังไง

   ผมนั่งอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่คนเดียวในที่มืดๆ รอบๆบริเวณเงียบสนิทผิดกับเมื่อเย็นๆที่ยังมีนักศึกษานั่งจอแจ แต่ตอนนี้กลับเหลือผมเพียงคนเดียว



นักเขียนขอเม้า

ถ้าเป็นไปได้ขอให้คอมเม้นเกิน30แล้วขึ้นหน้าใหม่นะคะ

จะมาลงตอนต่อไปให้ มันเยอะเกินแล้วหน้ามันอืดอ่ะจ้าา


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

แฟนเพจ

https://www.facebook.com/nanznnyaoi

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 01-11-2013 02:48:44
เริ่มไม่ชอบพี่มุธขึ้นมานิดๆ
สงสารทายอ่ะT^TT
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-11-2013 09:32:17
เฮ้ออออ สงสารเพทายจัง แต่เชื่อว่าสักวัน เพทายจะทำใจปล่อยความรู้สึกตัวเองไปได้
หึหึ ถ้าถึงเวลานั้นเมื่อไรจะสมหน้าพี่มุธเลยคอยดู กะอีแค่โทรบอกว่ามาไม่ได้ ตั้งแต่ตัวเองต้องไปธุระ
แค่นี้ยังลืม ยังทำไม่ได้เลย แล้วถ้าระหว่างที่เพทายรอ แล้วมันเกิดเหตุอะไรขึ้นมา พี่มุธจะรู้สึกอะไรบ้างมั้ย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-11-2013 15:19:20
 :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 01-11-2013 20:36:48
คนแก่โคตรเซ็งหลานอาจารย์จริง ๆ

 :3125:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 01-11-2013 20:59:55
 :katai1:   :katai1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 01-11-2013 21:07:23
ช่วยแต่งให้ตอนจบนายเอกไม่คู่กับใครเลยนะคะ สะใจดี หึๆ
มุธไม่สมควรได้รับความรับและภักดีจากทายสักนิดเดียว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 01-11-2013 21:47:56
 :sad4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 02-11-2013 08:58:23
ตามมาอ่านอีกเรื่อง
สงสารเพทายจริงๆ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 02-11-2013 11:59:16
เป็นเมียพี่ต้องอดทน
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 02-11-2013 16:30:59
พี่มุธเป็นคนรักที่แย่มาก! :o11: ไม่รู้หรือไงว่าทายเสียใจ! :dont2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 04-11-2013 06:25:12
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (50%) P.1 >Up.01/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 06-11-2013 22:00:27
พี่มุธเป็นคนรักที่แย่มาก! :o11: ไม่รู้หรือไงว่าทายเสียใจ! :dont2:


ต่อๆไปพระเอกก็น่าสงสารน้าาาา T^T
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 06-11-2013 22:01:30
:mew1: :mew1:

กะแล้ว  พี่เวอร์มุธต้องมีคู่  แต่สงสารนายเอกจุง

 :mew2:

ปูเล 1  ไตรภาค  อีกภาคนึงขอเป็นอิพี่ว็อดก้านะ  ขอให้เป็นเคะแบบ SM ไปเรย

ปูเล 2   # เก็บกดมาจากน้องเหนืออ่าา

 :mew5: :mew5:


ทำไมถึงเชียร์ให้พี่วอดก้าเป็นเคะล่ะ 55555555555555
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (100%) P.2 >Up.06/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 06-11-2013 22:05:19


.

   .

   เวอร์มุธ พาร์ท

   “อะไรนะครับ”ผมถามบุพการีทั้งสองเสียงนิ่ง แต่ในใจผมนี่แทบจะหลุดออกนอกอกอยู่แล้ว

   “จำน้องศศิได้ไหม ที่เคยทาบทามไว้ให้ตอนเด็กๆ ตอนนี้ก็โตแล้วม๊าอยากให้จัดงานหมั้น คุยเรื่องแต่งกันให้เรียบร้อย”

   ผมเหมือนคนหูอื้อ มันชาๆตั้งแต่แม่ผมบอกอยากให้หมั้นแล้ว ผมอยากจะร้องให้มันสุดเสียง แต่ผมทำไม่ได้นิสัยผมไม่ใช่คนเอาแต่ใจเหมือนน้องทั้งสอง ผมอยากปฏิเสธแต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี

   “แกว่าไงล่ะ ป๊าก็ไม่เห็นแกจะมีใคร ตอนนี้น้องก็เรียนอยู่ปีสาม ตอนนี้หมั้นอีกสองปีน้องจบก็แต่งงาน พอดีเลยนะ จะได้ศึกษาดูใจกันไปด้วย”ป๊าผมพูดเสร็จสรรพเรียบร้อยเหมือนเตรียมการในใจมาแล้ว

   “น้องยังเด็กเกินไป ผมว่า...”

   “อย่าอ้อมค้อมเวอร์มุธ บอกมาคำเดียวว่าแกมีแฟนหรือยัง ฉันไม่ได้บังคับนะว่าแกต้องแต่ง แต่ถ้าแกโสดฉันก็หมายปองคนนี้ไว้เท่านั้น”ป๊าผมพูด

   ผมทราบดีว่าในบ้านจะไม่สามารถมีใครบังคับผมได้ แต่เรื่องบางเรื่องมันก็อยู่ที่ความเกรงใจ อย่างน้อยๆถ้าผมจะปฏิเสธก็ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังไงฝั่งนั้นก็เป็นผู้หญิง น้องเขาจะเสียหายได้ อาจจะถูกหาว่าหม้ายขันหมาก

   แต่ถ้าถามว่าผมจะยอมแต่งงานเหรอ คำตอบก็คือ

   ไม่!

   ผมจะแต่งได้ยังไงในเมื่อผมยกหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแลไปแล้ว

   แล้วผมก็มีหัวใจที่ต้องดูแลแล้ว

   แล้วนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องยกเลิกนัดกับเพทายอย่างกะทันหัน ผมรู้ว่ามันต้องน้อยใจ แต่นี่มันเป็นเรื่องด่วนจริงๆ

   ผมตกใจมากตอนที่ม๊าโทรมาบอกว่าให้กลับบ้านเพื่อจะคุยเรื่องแต่งงาน ใบหน้าของเพทายผุดขึ้นหัวผม ผมไม่ซีเรียสอะไรเพราะยังไงผมก็ไม่แต่ง แต่แค่คิดถึงหน้ามันตอนที่รู้เรื่องนี้ ผมก็กระวนกระวายใจจนต้องรีบกลับมา

   ผมโทรไปหามันโชคดีจังที่มันอยู่กับซัน ผมมั่นใจว่าซันจะพาเพทายกลับบ้านอย่างปลอดภัย

   แต่ทำไมใจผมมันยังหวิวๆอยู่นะ

   “ว่าไงล่ะตามุธ ป๊าถามก็ตอบสิ”

   “ครับ”

   “มีใครหรือยัง ถ้ายังลองคบน้องศศิดูไหม”

   “ผม...”

   “ป๊ากับม๊าอยากอุ้มหลานจะแย่ ลูกแกคงน่ารักน่าดู ว่าไหมคุณ”

   ผมตั้งใจจะบอกว่าผมมีแฟนแล้ว แต่ประโยคถัดมาของป๊าผมทำให้ผมตัวสั่น

   “ใช่ค่ะ ลูกชายเราก็หล่อ หนูศศิก็สวย ยังไงหลานเราก็ต้องน่ารักแน่ๆ เนอะตามุธ”

   “ป๊าครับ ม๊าครับ ผม...”ผมเหมือนน้ำท่วมปาก จะบอกยังไงดี ผมยังไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้กับใคร ผมมีแฟนไม่เท่าไหร่ แต่แฟนผมเป็นผู้ชาย ท่านทั้งสองจะต้องผิดหวังในตัวผมมากแน่ๆ

   ลูกชายคนโต

   มีหลานสืบตระกูล

   คำเหล่านี้ผมฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดรอยยิ้มมีความสุขที่ปรากฏบนใบหน้าของป๊าและม๊าผม ทำให้ผมบอกปฏิเสธออกไปไม่ได้

   สุดท้ายผมมันก็ขี้ขลาดเหมือนทุกๆครั้ง

   “ผม..ยังไม่มีใครครับ”

   “งั้นก็ดี คุยๆไว้ก่อนก็ได้ถ้าแกยังไม่อยากหมั้น ผมนึกไปถึงหน้าหลานแล้วนะเนี่ยคุณ”

   ผมควรทำยังไงดี ภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองผม เป็นลูกที่ดี เป็นพี่ที่เก่ง เป็นอาจารย์ที่น่านับถือ

   แต่ผมกลับเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่อง

   ผมทำให้มัน..เสียใจอีกแล้ว

   .

   .

   ผมเดินกลับขึ้นมาบนห้อง ล้มทั้งตัวลงบนที่นอน ผมก่อเรื่องเพื่มทำไมผมถึงไม่มีความกล้าบอกไปนะว่าแฟนผมเป็นเพศอะไร สุดท้ายผมก็หาห่วงมารัดคอตัวเอง แต่ไม่เป็นไรยังไงซะผมก็ต้องหาทางคุยกับน้องศศิให้ได้ ผมคิดว่าน้องต้องเข้าใจ น้องยังเด็กยังเจอคนอีกมาก น้องเขาก็คงไม่ยากโดนบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักหรอก

   “เฮ้อ”

   จู่ๆก็อยากโทรหาเพทาย ดูนาฬิกาคิดว่ามันคงหลับไปแล้ว เอาเป็นว่าโทรไปหาไอ้ซันดีกว่าว่าตอนไปส่ง เพทายมีสีหน้ายังไง รู้สึกผิดนะ รู้สึกมากๆ ผมไม่อยากให้มันต้องร้องไห้เพราะผมอีกแล้ว

   “ครับพี่”ไอ้ซันมันรับ

   “อยู่ไหนน่ะ”

   “บ้านครับ พี่ล่ะคงมีความสุขเลยสิท่า”มันหยอกผมแกมขำเบาๆ

   “ไม่เลยต่างหาก”ผมตอบเซ็งๆ

   “เอ๋ เพื่อนผมมันทำอะไรพี่ หรือว่าพี่ทำอะไรเพื่อนผมให้งอนอีกเนี่ย”มันถามเสียงดังเหมือนตกใจ

   แต่ไม่ใช่มันคนเดียวที่ตกใจ ผมเองก็ไม่ต่างกัน

   “อะไร แกพูดอะไร เพทายอยู่ไหน!”ผมเหมือนคนสติหลุด

   “พี่ไม่ได้อยู่กับเพทายหรอ พี่ไม่ได้ไปรับมันที่หน้าคณะหรอกเหรอ”แค่ประโยคนั้นของซัน ผมก็รู้ได้ทันทีว่าเพทายหลอกผมเรื่องที่อยู่กับซันแล้วจะให้มันพาไปส่งบ้าน

   มันโกหกเพื่อความสบายใจของผมอีกแล้ว

   “แค่นี้นะ”ผมกดวางสายโดยไม่สนใจว่าปลายสายจะอยากพูดอะไรอีก

   ผมคว้างกุญแจรถโทรศัพท์แล้ววิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าเพทายคงยังไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ

   ไม่เคยนั่งรถคนเดียว

   ตอนกลางคืนแบบนี้

   มันจะกลับได้ยังไง ผมทิ้งมันได้ยังไง ผมทำกับมันแบบนี้ได้ยังไง

   ครืนนน ครืนนน

   เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าตามด้วยสายฝนที่เทกระหน่ำ ยิ่งทำให้หัวใจผมบีบรัด มันร้อนรนจนเหงื่อกาฬแตกพลั่ก ผมกำลังจะกลายเป็นบ้า ถ้าเพทายเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไง

   โว๊ยย!!

   “นั่นจะไปไหนลูก”ม๊าผมร้องถามตอนที่เห็นผมรีบร้อนใส่รองเท้า

   “ปิดประตูเลยครับ ผมคงไม่กลับ”ว่าจบผมก็วิ่งไปที่ดรงจอดรถอย่างเร็ว

   ความหนาวของแอร์ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเย็นขึ้น ใจผมยังร้อนและร้อนมากขึ้น ยิ่งผมขับไปใกล้มหา’ลัยมากเท่าไหร่ ผมก็เหมือนกำลังจะตายไปทุกที

   ปัง!

   ผมปิดประตูวิ่งตามหามันที่ตึกวิศวะ มันมืดมากยิ่งสายฝนที่กระหน่ำตกแบบไม่ลืมหูลืมตายิ่งทำให้ผมมองอะไรไม่เห็น แต่ผมจะถอดใจไม่ได้

   ซ่า ซ่า!!!

   แฮ่กๆ

   ใจของผมร้อนรน ไม่พบร่างของคนที่ตามหา มันอยู่ไหน เพทาย เราอยู่ที่ไหน

   “เพทาย! เพทาย!!”ผมตะโกนเรียกมันอย่างบ้าคลั่ง ผมกำลังจะเสียสติถ้าผมยังหามันไม่เจอ อยู่ไหน อยู่ที่ไหน

   “โว๊ยยย!!! เพทายอยู่ที่ไหน”

   ผมวิ่งไปมา ความกลัวคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในใจของผม หรือว่ามันจะกลับไปแล้ว ไม่หรอก ผมมั่นใจว่ามันยังอยู่ที่นี่

   และ

   ผมก็เจอมันแล้ว....

   “เพทาย...”ผมครางเรียกชื่อมันเบาหวิว

   ผมเดินเข้าไปหามันช้าๆ ร่างของคนที่ผมตามหานอนขดตัวเองอยู่บนเก้าอี้โต๊ะหินอ่อน ผมเดาได้ว่ามันคงนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนี้ตั้งแต่ตอนที่มานั่งรอผม

   กระทั่งตอนนี้มันก็ยัง รอผม

   “ทายครับ พี่มาแล้วนะ”ผมอุ้มร่างบางของมันขึ้นมาไว้บนตักหลังจากที่ผมนั่งตรงเก้าอี้ตัวเดียวกันกับมัน ตัวมันสั่นและซีดขาว ฝนยังตกอยู่แต่ยังดีที่เบาลงกว่าตอนแรก ผมเห็นหน้ามันชัดๆแล้ว ผมเห็นมันแล้ว

   “เพทาย พี่มาแล้วนะครับ”

   “พี่มุธหรอ พี่มารับผมกลับบ้านหรอ”มันถามผมทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา มันคงเพ้อมากกว่า

   “ครับ กลับบ้านเรานะ”มันยิ้ม เอื้อมมือมาคล้องคอผมเป็นสัมผัสที่เคยชิน

   หัวเล็กๆของมันเบียดเข้ากับอกของผม ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้น ผมจะไม่ทำร้ายมันอีกแล้ว ผมพูดคำนี้มามากกว่าร้อยครั้ง

   แต่ผมก็ทำไม่ได้ทุกที เพราะครั้งนี้ก็เป็นผมที่ทำให้มันต้องเสียใจ ผมทำร้ายหัวใจของมัน

   “ฮะ กลับบ้านนะ”

   ผมพามันมาขึ้นรถตรงไปยังคอนโดของผม หรือบ้านของเรา ตอนที่กำลังจะอุ้มมันขึ้นไปข้างบน ผมเพิ่งรู้สึกว่าตัวมันร้อนมาก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด

   “พี่ขอโทษนะครับ พี่ขอโทษจริงๆ”ผมได้แต่พูดบอกคำเดิมซ้ำๆ มันคงเบื่อที่จะฟัง แต่มันไม่เคยทิ้งผมไป

   ผมมันเป็นแฟนที่แย่

   เป็นผู้ชายที่แย่มากจริงๆ

   ผมวางมันลงบนที่นอน จับแก้ผ้าเช็ดตัวให้มันเพื่อที่จะบรรเทาอาการไข้ของมัน ตัวมันสั่นมาก ปากซีดตัวซีดน่าสงสาร

   “ไปโรงพยาบาลกันเถอะ”ผมบอกใกล้ๆหู

   มันส่ายหน้าแถมยังถดตัวหนีไปอีกด้าน มันกลัวโรงพยาบาลกลัวหมอกลัวเข็ม ผมรู้

   “ไม่เอา ฮึกๆ ฮือ กอดผม พี่มุธ”มันร้องไห้ ขนาดว่าป่วยยังกลัวจนร้องไห้เหมือนตอนปกติเลยจริงๆ

   “ครับ”ผมล้มตัวลงนอนกอดมัน

   มันหันหน้าเข้ามาซุกตัวผม ผมกอดมันแน่นจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้หายใจ

   ผมถอนหายใจหนักๆ โล่งอกที่เจอมัน เป็นอีกครั้งที่ผมกลายเป็นแฟนนิสัยเลว แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมรีบกลับไปก็เพื่อมัน อยากไปบกับทุกคนที่บ้านว่าผมมีแฟนแล้ว แต่สุดท้ายผมก็ไม่ทำ

   จริงๆแล้วผมอาจจะไม่ได้ทำเพื่อมันด้วยซ้ำ

   แต่ผมทำเพื่อตัวเอง ผมมันเห็นแก่ตัว




TBC_______________________




นักเขียนขอเม้าาาา

ฝากค่าาาา เรื่องนี้แน่นอนดราม่าจ้าจะพยายาม

จัดเต็มให้สุดๆนะคะ <3


หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (100%) P.2 >Up.06/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 06-11-2013 22:17:35
รอค่ะ กำลังต้มน้ำรอมาม่า
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (100%) P.2 >Up.06/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 06-11-2013 22:19:56
เง้อออออ เพทายย
น่าสงสารง่ะ
T___________________T//
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - บทนำ (100%) P.1 >Up.25/10/13<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 07-11-2013 06:11:29

ทำไมถึงเชียร์ให้พี่วอดก้าเป็นเคะล่ะ 55555555555555

ต้องการเอาคืนอิพี่ว็อดก้าอ่ะ  มาขัดขวางฟามสุขของเรา อุตส่าห์เชียร์น้องเหนือ กับน้องวิสกี้อยู่ดีๆ  จัดคู่เป็นเพื่อนที่มาจากเมืองนอกคนนั้นเบย

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่2 (100%) P.2 >Up.06/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 08-11-2013 21:23:19
 :sad2: คนแก่สงสารหลานเพทายจังเลย

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (50%) P.2 >Up.09/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 09-11-2013 19:21:47


ตอนที่3
 
          ผมค่อยๆขยับตัวช้าๆ แสงแดดที่ลอดผ่านม่านเข้ามาภายในเริ่มทำให้ผมแสบตาคิดว่าไม่นานน้ำตาคงต้องไหล
 
          บิดกายไปมาสมองยังปรับอะไรไม่ได้หรอกครับ มึนงงๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆด้วยล่ะ คล้ายว่าจะไม่สบาย พอลองนึกดูดีๆก็คิดได้ว่าเมื่อวานผมตากฝนมา
 
          ใช่!
 
          ผมตากฝนเพราะกลับบ้านไม่ได้ ผมรออยู่เดิมเกือบสามชั่วโมง เพราะคนๆหนึ่งบอกให้ผมรอ คนๆหนึ่งที่ผิดนัดผม
 
          ผมมองเพดานอีกครั้งชัดเจนแล้วว่า เพดานห้องที่คุ้นตาแบบนี้เป็นคอนโดพี่มุธแน่ๆ คิดได้อย่างนั้นผมก็หันขวับมองคนข้างกายทันที
 
          ณ วินาทีที่หันมาเจอผู้ชายร่างใหญ่นอนกอดผมไว้อย่างหมิ่นเหม่ ผมก็อยากจะร้องไห้ ความรู้สึกของผมตอนนี้มันไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย
 
          คิ้วเข้มแบบนี้ ตาคมคู่นี้ ใบหน้าหล่อเหลาของคนๆนี้สินะที่ทำให้ผมร้องไห้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เรื่องเมื่อวานผมไม่โกรธพี่มันเลย ผมโกรธตัวเองที่รักพี่มันมากเกินไป มากกว่าที่รักตัวเอง จะเจ็บขนาดไหนผมก็ยอม
 
          ก็เพราะคำว่ารักคำเดียว
 
          ผมรักพี่มันมากจริงๆ
 
          “ฮึกๆ ฮือ”และอาจจะเพราะเสียงร้องไห้อันแสนจะน่ารำคาญของผม ทำให้คนข้างๆขยับตัวไปมา ผมรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งไป พี่มันไม่ชอบเห็นน้ำตาผมรู้ดีที่สุด
 
          ผมพลิกตัวหันหลังหนีไปอีกทาง ซ่อนรอยความหมองช้ำไว้ให้ลึกที่สุด
 
          “เพทายครับ”พี่มันเรียกผมเสียงแหบแห้ง ผมยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิมทำราวกับว่ายังนอนไม่ตื่น ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น
 
          หมับ!
 
          สัมผัสได้ถึงไออุ่นของคนด้านหลัง แรงกอดรัดที่มากขึ้นราวกับว่าอยากให้ตัวของผมมันจมหายไปกับอกอย่างนั้น แต่ยิ่งทำแบบนี้ผมยิ่งอยากจะร้องไห้
 
          ผมสับสน
 
          ผมเสียใจ
 
          หรือผมทำใจได้
 
          ณ ตอนนี้ผมยังไม่รู้ตัวเองเลย ว่าผมคิดอย่างไรกันแน่ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมเจ็บมามากเกินไป ตอนนี้ผมเลยรู้สึกว่าตัวเอง
 
          ด้านชา
 
          ใช่ ผมคงด้านชา คำๆนี้เหมาะกับผมที่สุดแล้ว
 
          “ทายครับ พี่ขอโทษ”ไม่ไหว ผมไม่สามารซ่อนอาการสั่นเทาของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว
 
          “ฮึกๆ ฮือออ”
 
          “อย่าร้องนะคนดี”คำหวานของพี่มันกลายเป็นยาพิษเคลือบน้ำตาลสำหรับผมไปซะแล้ว ยิ่งพี่มันพูดแบบนี้มากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งอ่อนไหวมากเท่านั้น
 
          “ผะ ผม ฮึกๆ”
 
          “ทาย ทายครับ”พี่มันร้องเรียกผมด้วยน้ำเสียงแตกตื่น
 
          ผมเริ่มได้ยินเสียงพี่มันเบาลง ไออุ่นเริ่มแปลงเปลี่ยนเป็นความหนาว มันหนาวมากจนผมต้องร้องระบายขอความช่วยเหลือ
 
          “ผมหนาว ฮึกๆ ผมเจ็บ อึก”ผมได้ยินเสียงตัวเองสะท้อนก้องไปมาอยู่ในหู สลับกับเสียงเรียกของพี่มุธที่เหมือนกับว่ามันดังอยู่ในที่ไกลแสนไกล
 
          “เพทาย ได้ยินเสียงพี่ไหมครับ ทายได้โปรดตอบพี่”
 
          “หนะ หนาวว”
 
          ผมคงกำลังเพ้อล่ะมั้ง ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองน่าจะตกอยู่ในสภาวะไม่สบาย ไม่น่าแปลกใจหรอก แต่ผมแค่ไม่เคยรู้สึกว่า ผมอยากป่วยแบบครั้งนี้ไปเรื่อยๆ
 
ผมไม่อยากหาย
 
ผมไม่อยากได้ยินเสียงใคร
 
ผมอยากนอนหลับแบบนี้ตลอดไป
 
ถ้าเป็นไปได้ผมคงนอนฝันดี

.

.

เวอร์มุธ พาร์ท

ผมนั่งกระวนกระวายอยู่หน้าห้องผู้ป่วย เพทายมันเป็นไข้สูงมากตอนนี้ผมกำลังรอฟังผลจากหมอ

มันอ่อนแอ

ก็เพราะผม กี่ครั้งแล้วนะที่ทำให้มันต้องเจอกับเรื่องเสียใจ กระทบกระเทือนใจแบบนี้ กี่ครั้งแล้วนะที่ผมไม่เคยทำอะไรให้กับมันสมกับคำว่าเป็นแฟนกันได้เลย ผมเป็นผู้ชายที่แย่ใช่ไหม

แต่ในชีวิตผู้ชายคนหนึ่งอย่างผม คนที่ต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัวไว้เพียงคนเดียว ในอนาคตผมไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นกับชีวิตของผมบ้าง บางครั้งเหตุการณ์หลายๆอย่างก็บังคับให้ผมต้องโหดร้ายใส่มัน

ชีวิตรักของผมกับมันไม่มีความแน่นอนเลยแม้สักนิด ทั้งหมดก็คงอยู่ที่ตัวผมเอง

ลูกชายคนโต

ใช่ไม่ว่าจะฟังมันกี่ครั้งผมก็จะรู้สึกเสียใจที่ว่าทำไมไม่เป็นวิสกี้ที่เกิดก่อน ทำไมไม่เป็นวอดก้าที่เกิดก่อนผม ทำไมต้องเป็นผมที่เป็นความหวังของป๊ากับม๊า

น้องทั้งสองของผมมันมองผมเหมือนฮีโร่ประจำบ้านรองจากป๊า ผมไม่อยากให้มันรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ผมเลือก

เลือกที่จะมีแฟนเป็นผู้ชาย ผมไม่รู้ว่าน้องชายของผมจะรับได้ไหมโดยเฉพาะวอดก้ามันนิสัยไม่เหมือนใคร สุขุมแต่ก็แอบใจเด็ดมันจะว่ายังไงในเมื่อต้นแบบของมันได้กลายมาเป็นคนชอบเพศเดียวกัน

ตอนเรียนจบผมเคยสัญญากับป๊าเอาไว้ว่าขอทำงานตามที่ตัวเองเป็นเวลาสามปี ขอแค่ได้ทำในสิ่งที่รักผมจะกลับไปรับช่วงต่อบริษัทของครอบครัวอย่างเต็มภาคภูมิแลกกับการที่น้องชายของผมทั้งสองคนไม่ต้องมาทนเรียนและทำงานในสิ่งที่พวกมันไม่ชอบ ป๊าตกลง ยอมให้ผมมาเป็นอาจารย์ในช่วงเวลาสามปีที่ได้ตกลงกัน

ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่นานที่ผมจะต้องยอมทิ้งอาชีพตรงนี้เพื่อไปแบกรับอะไรที่มันใหญ่กว่า

นอกเหนือจากนั้น ‘การแต่งงาน’ คือสิ่งที่ป๊ากับม๊าของผมเขาคาดหวังเอาไว้ทันทีที่ผมก้าวขึ้นแท่นผู้บริหาร

น้องศศิ ผู้หญิงที่ป๊าเลือกเขาดูเหมาะสมกับผมไปซะหมด

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผมเคยไปสัญญาเอาไว้ตอนที่ผมเพิ่งเรียนปริญญาตรีใหม่ๆ ผมไฟแรงผมคิดว่าผมทำได้ แต่ความคิดเหล่านั้นก็มอดหายไปในวันที่ผมเจอกับมัน

เพทาย

ผมไม่คิดว่าผมกับมันจะคบกันได้นานขนาดนี้ ผมคิดไว้เสมอว่าสักวันหนึ่งอาจจะต้องเลิกกันเพราะภาระที่ผมแบกไว้บ่นบ่าทั้งสองข้าง ผมไม่สามารถโยนไปไว้ให้คนอื่นแบกแทนได้

สาเหตุนี้ด้วยที่บางครั้งผมก็ใจร้าย เย็นชา

และไม่เคยบอกรักมัน

ผมไม่อยากให้มันยึดติดกับคำว่ารักที่ฟุ้งเฟ้อ อีกอย่างมันจะได้ตัดใจจากผมง่ายๆถ้าวันหนึ่งผมต้องทิ้งทุกอย่างแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เจ็บไปกับมันทุกครั้ง ผมคงเลวมากเลยใช่ไหมที่มีมันเอาไว้ข้างกายแต่ก็ทำให้มันเสียใจเพราะผมทุกครั้ง

ทำไมมันถึงอยากจะฟังนักกับไอ้คำว่ารักจากปากผม ไม่รู้หรือไงยิ่งมันฟังมากเท่าไหร่สุดท้ายมันก็จะยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น

ผมต้องแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หามา

ผมอยากยกเลิกทุกอย่าง

แต่ผมทำไม่ได้ เข้าใจผมหรือเปล่า ผมโยนภาระทุกอย่างทิ้งไม่ได้

แต่ผมก็โยนมันทิ้งออกไปจากหัวใจไม่ได้เหมือนกัน

“ญาติคนไข้ใช่ไหมครับ”เสียงของแพทย์รักษาอาการถามขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ผมสะดุ้งนิดหน่อยครับ กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองเลยไม่ทันได้สนใจรอบข้างสักเท่าไหร่

“ครับ มันเป็นยังไงบ้าง”ผมถามอย่างร้อนรน

“ไม่ถึงกับร้ายแรงมากครับ ปอดติดเชื้อแล้วก็ไข้ขึ้นสูงคงเพราะตากฝนนานไปหน่อย”คุณหมอบอก

ผมขมวดคิ้วจนเป็นปมแน่น เพราะผมสินะ

“ดูอาการอีกสักสองวันถ้าดีขึ้นก็กลับบ้านได้ครับ แต่ถ้ายังไม่หายหมออาจจะต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง”คุณหมอพูดจบก็เดินจากไป

ผมเข้าไปในห้องผู้ป่วยเห็นร่างบอบบางนอนซีดขาวอยู่บนเตียง สายอะไรไม่รู้ระโยงระยางเต็มไปหมด ผมมองใบหน้าไร้สีเลือดของมันอย่างเจ็บปวด ถ้าผมเข้มแข็งกว่านี้ ถ้าผมเห็นแก่ตัวหว่านี้ และถ้าผมกล้าพอที่จะฉีกคำสัญญาทุกอย่างออกไปให้หมด ทั้งผมและมันคงจะมีความสุขเหมือนคนรักคนอื่นๆไปนานแล้ว

“ขอโทษครับ พี่ขอโทษ”ผมไม่รู้จะพูดคำไหนแล้วในตอนนี้

ผมจับมือมันขึ้นมากุม มือมันเย็นชืดมากจนผมต้องกุมไว้ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

“พี่ทำเราเจ็บมากเลยใช่ไหม พี่มันแย่มากๆเลยสินะ”

“ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำไปมันมีเหตุผล เราจะรับฟังเหตุผลของพี่ได้หรือเปล่าครับ”

รู้นะว่าพูดไปยังไงมันคงยังไม่ตื่นตอนนี้ พยาบาลเพิ่งฉีดยาสลบอ่อนๆให้มันจะได้นอนหลับพักผ่อนแบบเต็มที่ แต่ผมก็อยากจะพูด หึหึ ผมมันปอดแหกอีกแล้ว พูดตอนมันหลับเพราะผมรู้ตัวเองดีว่ามันตื่นขึ้นมาผมคงไม่กล้าพอทีจะพูดกับมัน

“เพทายครับ พี่รักเราที่สุดในชีวิตนะ”

ผมรู้สึกว่าร่างกายมันสั่นเทาไปหมด ผมกำลังร้องไห้ ทำไมกันนะผมถึงต้องเป็นคนที่เกิดมาแบกรับทุกสิ่งอย่างแบบนี้

“รู้ไว้นะ ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น พี่ก็รักเราที่สุด”

อยากฟังใช่ไหม ตอนนี้พี่ยังไม่พร้อมจะบอกแต่พี่ก็คิดว่าเพทายจะได้ยินนะ




นักเขียนขอเม้า

มาอัพเพิ่มแล้วค่าาาา ><

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (50%) P.2 >Up.09/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 09-11-2013 19:36:38
เริ่มไม่น่าเชื่อถือ

 :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (50%) P.2 >Up.09/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 10-11-2013 08:07:51
ได้ฤกษ์ตามมาอ่านแล้ว  ที่จริงถ้าไม่อยากให้มันดราม่ามันก็ทำได้เยอะ  แต่พี่แนนยืนยันมาแล้วว่าดราม่า  เราก็เลยคิดไปถึงว่าแม่นางศศิอาจจะไม่ได้ง่ายๆ  แล้วอิวอดก้ายิ่งยากไปใหญ่เลย  ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าให้บ้านนี้มีคนสืบทอดตระกูลบ้างเน้อ  รอพี่แนนมาต่อที่เหลือครัฟ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (50%) P.2 >Up.09/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 10-11-2013 14:49:06
เป็นเรื่องที่ลำบากใจเนาะ แต่เราเชื่อว่าสองอย่างนี้มาด้วยกันได้นะ
ถ้ามีความมั่นคงและไม่ยอมแพ้ล่ะก็นะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 14-11-2013 23:17:37


ต่อจ้าาาาาาาาาา

เพทาย...พาร์ท

   ผมขยับเปิดเปลือกตาได้อย่างยากลำบาก มันรู้สึกหนักอึ้งไปหมดเหมือนคนไม่มีแรงขนาดจะอ้าปากส่งเสียงก็ยังทำไม่ได้ ผมนอนเรียกกำลังและสติของตัวเองอีกครั้งก่อนจะพยายามเปิดตาขึ้นอีกรอบ

   สว่าง

   ผมกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาออกไปรู้สึกแสบมากครับอาจจะเป็นเพราะว่าหลับตามานานมั้งเลยยังไม่สู้แสงดี

   “นะ น้ำ..”คำแรกที่ผมเรียกร้องมันรู้สึกไปอัตโนมัติพร้อมๆกับร่างกายที่โหยหาน้ำอย่างสุดกำลัง

   ผมได้ยินเสียงคนลุกจากโซฟาไม่รู้ว่าใครแรงจะหันไปมองยังไม่มีขยับนิดหน่อยก็เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว

   ไม่ถึงสิบวิได้มั้งแก้วน้ำพร้อมหลอดดูดก็ยื่นมาตรงหน้าผมผมนอนกินเลยครับมีหลอดมาแล้วนิ ไม่มีแรงจะลุก

   อึกอึก

   “ขะ ขอบคุณ....พะ..พี่มุธ”ผมเรียกเสียงแผ่วน้ำตาจวนจะไหล แค่เห็นหน้าผู้ชายคนนี้ความอ่อนแอทั้งหมดของผมก็ล้นทะลักแบบว่าถล่มทลายยิ่งเป็นช่วงที่ผมไม่ค่อยสบายนี่ใช่เลย

   “ครับ พี่เอง”พี่มันเดินเอาแก้วไปเก็บที่โต๊ะก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง

   “ผม..เป็นอะไร”เสียงโคตรจะน่าเกลียดมันแหบซะผมเองยังฟังไม่รู้เรื่อง

   “ไม่ต้องพูดแล้ว ทายไม่สบายพี่เลยพามานอนโรงบาล”ผมพยักหน้าเข้าใจ

   พอบอกว่าโรงพยาบาลเออจริงๆด้วยเพิ่งมาสังเกตเห็นสายน้ำเกลือ กับชุดผู้ป่วยสีเขียวอ่อน ไม่ได้ตกใจอะไรนะเพราะโรงบาลสำหรับผมเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ผมอกับผมจะเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว

   “หลับไปนานมากเลยรู้ไหม”เสียงคนข้างตัวผมทำให้ผมต้องหยุดความคิดทุกอย่างแล้วหันไปมอง พี่มุธจับมือผมข้างหนึ่งขึ้นไปจูบ ผมไม่เห็นว่าตอนนี้พี่มุธทำหน้ายังไงเพราะเขาก้มหน้าเอาไว้แต่ที่ผมรับรู้ได้คือ

   พี่มุธร้องไห้

   “พี่ผิดเอง พี่ผิดเอง”

   ผมร้องไห้ทำไมที่รักของผมต้องมานั่งร้องไห้ด้วย ผมไม่โกรธพี่มันแล้ว ผมเองก็ผิดที่ไม่ยอมกลับไปตั้งแต่เย็นนั่งตากฝนอยู่ได้

   ร่างกายผมอ่อนแอกว่าคนอื่นๆเป็นสารพัดโรคจนแม่ทำใจตั้งแต่ผมยังไม่สิบขวบด้วยซ้ำว่ายังไงซะผมก็ไม่รอด จนดีหน่อยที่เริ่มเล่นกีฬาเบาๆพวกแบต ปิงปอง อะไรแบบนี้ร่างกายก็เลยเริ่มแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าได้เป็นหวัดหรือไม่สบายนะสองอาทิตย์ก็ไม่มีทางหาย

   “ไม่ พี่มุธไม่ผิดสักหน่อย”ผมพยายามเอี้ยวตัวไปหาพี่มันเต็มตัว ทำไมต้องโทษตัวเอง

   “พี่ผิดเองที่ดูแลเราไม่ได้”ผมส่ายหน้าแต่พี่มันคงไม่เห็น ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่ร้องไห้ไปพร้อมๆกับพี่มัน

   ทั้งห้องเงียบกริบไร้เสียงใดๆนอกจากเสียงสะอื้นของเราสองคน ผมไม่เคยเห็นพี่มุธร้องไห้เลยนะครับ ไม่เคยเลย พี่มันเป็นพี่ชายที่ดี เป็นอาจารย์ที่ดี แล้วสำหรับผมพี่มันก็เป็นแฟนที่ดี ไม่ว่ายังไงพี่มันเป็นผู้ชายที่ดีที่สุด

   ผมรู้แค่นั้น

   “ไม่ผิด ฮืออ พี่มุธไม่ผิด!”ผมขึ้นเสียง จนพี่มันตกใจ

   ผมไม่อยากให้ใครโทษตัวเองเพราะผม ไม่มีใครทำอะไรผมนอกจากตัวเอง ถ้าจะผิดก็ผิดที่ผมรักพี่มันมากเกินไป

   “ครับ เพทายครับ”ผมดิ้นไปมาบนเตียง รู้สึกเจ็บที่เห็นพี่มันเจ็บ

   หมับ!

   “อย่าทิ้งผมก็พอ สัญญาสิ ฮืออ ฮึกๆ พี่มุธ ฮืออ”ผมกอดเอวพี่มันแน่น พี่มุธก็ลูบหัวผมกอดผมไว้ในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นเหมือนเดิม

   “………………..”

   “เงียบทำไม พี่มุธ ฮืออออ สัญญาสิ”ผมร้องลั่นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

   ผมยิ่งร้องไห้หนักเมื่อเห็นพี่มันเงียบ

   “พี่.....”

   “พี่มุธ ผมรักพี่มากนะพี่รู้ไหม พี่จะทิ้งผมเหรอ พี่ไม่รักผมเหรอ ฮือออ”ผมเงยหน้ามองพี่มันทั้งน้ำตา

   ผมยังกอดเอวพี่มันไว้แน่นครับ กลัว กลัวว่าถ้าปล่อยไปแล้วพี่มันจะไม่กลับมา อะไรไม่รู้ทำให้ผมคิดแบบนั้น แต่ก่อนผมไม่เคยกลัวว่าพี่มันจะทิ้งผมไปถึงแม้จะมีไม่มั่นใจบ้างแต่ไม่เคยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังใจจะขาดแบบนี้

   “พี่บอกผมสิ ฮึกๆ ว่าพี่จะไม่ไปไหน”ผมถามอีกครั้ง

   “พี่มุธ ฮึกๆ”

   “ฟังพี่นะเพทาย”

   “ไม่! ไม่ฟัง!”

   ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเสียสติ ทำไมล่ะพี่มันจะทิ้งผมใช่ไหม ใช่ไหม!!

   ผมดิ้นไปมาบนเตียงยกมือปิดหูไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งนั้น ผมร้องไห้เหมือนจะขาดใจขนาดว่าพี่มันยังไม่ทิ้งผมผมยังรู้สึกปวดใจได้ขนาดนี้

   แล้วถ้าวันนึงพี่มันต้องทิ้งผมไปจริงๆละ

   “ผมไม่ฟัง ไม่!! ฮืออ”

   “ฟัง เพทายฟังพี่ก่อน”พี่มุธกอดผมไว้ทั้งตัว ผมก้มหน้าซุกเข่ามือยังปิดหูอยู่อย่างนั้น

   ผมรู้ว่าพี่มุธคงตกใจในเมื่อผมไม่เคยมีสภาพเหมือนคนจะกลายร่างแบบนี้มาก่อน แต่เป็นเพราะว่าผมรักพี่มันมากเกินไป ผมเสียพี่มันไปไม่ได้

   ผมอยู่ไม่ได้

   “ไม่ ฮืออ พี่จะทิ้งผม พี่ไม่สัญญากับผม ฮึกๆ”

   “ไม่ทิ้งครับไม่ทิ้ง อย่าร้องนะ”

   ผมค่อยๆนิ่งลง พี่มันสัญญาแล้วใช่ไหม

   “พี่สัญญากับผมแล้วนะ ฮืออ ห้ามทิ้งผมนะ”ผมมองพี่มันน้ำตายังไม่หยุดไหลง่ายๆ พี่มันยิ้มน้อยๆมาให้

   เรากอดกันนานเท่าไหร่ไม่ทราบจนพี่มันพูดขึ้นมาเบาๆเหมือนอยากให้ผมตั้งใจฟัง

   “ให้รู้ไว้นะเพทาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำมันมีเหตุผล ไม่ว่ายังไงพี่ก็ไปรักใครไม่ได้อยู่ดี”

   รัก

   รักเหรอ

   “รักผมเหรอ...อื้ม”

   พี่มันก้มลงจูบผมปิดกั้นประโยคทุกอย่างจากปากผมได้อย่างดี ผมหลับตารับสัมผัสนั้นอย่างหวงแหนและโหยหา

   “บอกผมหน่อย อื้ม”โดนจูบอีกแล้ว

   โอเคผมจะไม่ถาม ไม่ว่ารักของพี่มันจะมีให้ผมจริงหรือเปล่าก็เถอะ ขอแค่พี่มันยังให้ผมอยู่ตรงนี้ ข้างๆกับพี่มันอย่างนี้จะรักไม่รัก จะอยู่ในฐานะอะไรผมก็ยอมหมดนั่นแหละ



TBC_______________


นักเขียนขอเม้าาา

ต่อไปจะอัพให้ทุกวันนะคะ

จะได้ทันเว็บอื่น ขออภัยค่า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai2-1: :hao5: :hao6: :mew1: :mew2:


หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 15-11-2013 01:12:45
เจ็บแทนเลย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-11-2013 09:45:36
น้ำตาร่วงเลยอ่ะ สงสารเพทายจังเลย

แต่ดีใจจังที่บอกว่าจะมาลงให้ทุกวัน :hao3:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 15-11-2013 15:23:24
เป็นพี่คนโตต้องแบกรับความหวังของพ่อแม่ทั้งหมดเลยเหรอ? :sad2: แอบเห็นใจพี่มุธเหมือนกันนะ :o11: เพทายเข้มแข็งไว้นะลูกเดี๋ยวเรื่องร้ายก็ผ่านไป :hao5:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 15-11-2013 20:55:02
 :hao5:  คนแก่เศร้ามาก ๆ เลย สงสารหลานเพทายด้วย

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-11-2013 22:42:17
 :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 16-11-2013 00:15:44
 :m15: :monkeysad: :sad11:
 :sad11: :monkeysad: :m15:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 16-11-2013 08:11:22
อิทายแกน่าสงสารจัง  พี่มุธทำอะไรให้มันเคลียๆหน่อยสิพี่  บอกพ่อแม่เลยเขารับได้อยู่แล้ว  :sad11: :sad11:  รอพี่แนนมาต่อนะคัฟ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 16-11-2013 21:33:48
ตามมาจากเรื่องโน้นคร่าาาาาาา อ่านแล้วน้ำตาแตกทุกตอนอ่ะ ฮืออออสงสารพายและก็เข้าใจพี่มุธด้วย ยิ่งเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวคนจีน เรื่องรักกับเพศเดียวกันนี่เป็นอะไรที่ต้องห้ามสุดๆ อ่ะ ต้องมาดูกันว่าพี่มุธจะกล้าบอกกับคนในครอบครัวหรือเปล่าที่มีแฟนเป็นผู้ชาย และที่สำคัญครอบครัวพี่มุธจะรักและรับในสิ่งที่พี่มุธเป็นได้หรือเปล่า จะรออ่านคร่าาาา (เตรียมผ้าห่มไว้ซับน้ำตาเรียบร้อยแล้ว เอาตอนใหม่มาเลย )
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-11-2013 22:00:59
รอ อยู่นะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่3 (100%) P.2 >Up.14/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 16-11-2013 22:42:35
เป็นคู่ที่น่าสงสารมาก

ต้องต่อสู้กันอีกเยอะ สู้ๆนะ

 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 17-11-2013 00:05:13


ตอนที่4

   ผมกลับจากโรงพยาบาลได้สามวันแล้วครับ ทุกอย่างดูดีจนผมเริ่มได้กลิ่นตุๆ พี่มุธปรนนิบัติกับผมดีซะจนผมไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่ว่าปกติพี่มันจะไม่ใส่ใจผมหรอกนะเพียงแต่ว่าคราวนี้ผมว่าพี่มันทำมากเกินไป

   ผมถูกพี่มันห้ามไม่ให้ไปเรียนหนึ่งอาทิตย์บอกว่าพวกใบลาเดี๋ยวเขาจะจัดการเอง คงให้เพื่อนๆที่เป็นครูด้วยกันช่วยละมั้งผมก็ไม่มั่นใจ ถูกงดอาหารรสจัดทั้งๆที่ผมชอบมาก อะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพพี่มันจะไม่ซื้อหรือพาผมไปกินเลยแม้แต่อย่างเดียว หลังจากสอนหนังสือเสร็จ ไม่เกินสี่สิบนาทีพี่มันกลับถึงคอนโดพร้อมด้วยอาหารบำรุงร่างกาย

   ทำเหมือนผมเป็นแม่ลูกอ่อนเพิ่งคลอดน้องอ่ะครับ

   แรกๆผมก็ชอบนะเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง พี่มันเอาใจผมทุกอย่างเรียกว่าแทบอุ้มผมเข้าห้องน้ำด้วยซ้ำ แต่พอมานอนคิดดูอีกทีผมว่าบางทีพี่มันก็ทำเกินไป

   โอเค! ผมอาจจะเพิ่งออกจากโรงพยาบาลแถมพี่มุธยังพูดนักหนาว่าเป็นความผิดตัวเอง แต่ยังไงล่ะผมไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย แค่เป็นไข้หวัดอ่ะๆอาจจะหนักถึงให้น้ำเกลือแต่ผมไม่ได้เป็นง่อยหรืออัมพาต

   “มากินข้าว”

   นั่งดูนั่งบวกกับคิดอะไรเพลินๆ เสียงสุดหล่อของผมก็ดังมาจากด้านในครัว ผมยิ้มกดปิดทีวีวางรีโมทไว้บนโต๊ะตัวเล็กๆและเดินตามเสียงเรียกพี่มันเข้าไปในครัว

   “เดี๋ยวพี่ช่วย”เดินยังไม่ทันจะสามก้าวพี่มันถลาแล่นลมมารับผมถึงโซฟา

   อย่างนี้มันน่าแปลกใจไหมล่ะ

   “คะ..ครับ”ผมปฏิเสธไม่ทัน

   ถามว่าชอบไหมชอบนะ ฝันมานานว่าวันหนึ่งเราจะอยู่ด้วยความอบอุ่นแบบนี้ไปตลอดจนวันที่เราตาย แต่...

   มันต้องไม่ใช่การกระทำหลังจากที่พี่มุธทำความผิดกับผมสิ แต่ผมว่านะถ้าให้ผมเดาเล่นๆแบบคิดให้ตัวเองเจ็บ พี่มุธต้องมีอะไรปิดบังผมอยู่อีกแน่ๆไม่ใช่แค่รู้สึกผิดที่ปล่อยให้ผมตากฝนจนไม่สบาย

   ผมอยากถามนะ แต่ผมกลัว

   ผมกลัวพี่มุธจะรำคาญที่ผมดันสงสัยอะไรไร้สาระ แต่ผมมักมีสังหรณ์แปลกๆ ห้าปีที่คบกันมาสังหรณ์ของผมมักถูกต้องเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ซะด้วยนะแต่ยังดีที่เราไม่เคยทะเลาะกันเพราะเรื่องในนั้นไม่มีเรื่องมือที่สามเข้ามาให้ผมกังวลใจ

   แต่ถ้ามาแบบตอดเล็กตอดน้อยอ่ะมีตรึม แน่ล่ะแฟนผมรูปหล่อนิ

   “พี่มุธพี่ไม่ต้องเอาอกเอาใจผมขนาดนั้นก็ได้ครับ”ผมบอกจากใจจริง ผมอยากได้แบบพอดีๆ ผมว่าพี่มันทำให้ผมขนาดนี้พี่มันดูไม่เหมือนเวอร์มุธคนดีของผมยังไงก็ไม่รู้

   “ไม่ชอบเหรอ”ผมส่ายหน้า ก็บอกแล้วว่าชอบแต่...คือมันเยอะแบบแปลกๆ

   “ชอบสิ..แต่ผมว่ามันมากไป”ผมพูดเสียงเบากลัวพี่มันโกรธ ทั้งๆที่ผมไม่ควรกลัวเลยนะ คบกันมาไม่เคยเห็นพี่มันโกรธเลยสักครั้ง อย่างมากก็แค่โมโหหึง

   พูดถึงโมโหหึงแล้วผมขอเล่าให้ฟังสักนิดนึงนะครับ คือเมื่อประมาณตอนที่ผมขึ้นมหา’ลัยใหม่ๆ น่าจะประมาณเกือบๆสี่ปีที่แล้วได้ วันนั้นเป็นวันรับน้องรวมทั้งคณะศิลปกรรมเลยครับ ไอ้เราก็ใหม่ๆรู้จักแต่ไอ้ซันคนเดียวก็ไม่สุงสิงกับใคร กลายเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนไปเลยตอนนั้น แต่หารู้ไม่ว่าไอ้ความนิ่ง ความเงียบของผมดันไปเข้าตารุ่นพี่ปีสามซะได้

   ไม่ต้องตกใจนะครับพี่ๆกลุ่มนั้นเป็นผู้หญิงครับ หน้าตาดีจัดว่าดีมากด้วยเขาบอกว่าชอบคนเงียบๆ ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าผมไม่ได้เงียบหรอกแค่เป็นคนไม่แสดงออกต่อหน้าคนไม่รู้จักแค่นั้น ไอ้ผมก็ยิ้มรับไมตรีก็พี่เขาน่ารักดีนี่ครับจะปฏิเสธก็ใช่เรื่อง อีกอย่างผมเป็นรุ่นน้องถ้าทำกร่าง เก๊กท่าเยอะเดี๋ยวเจอเขม่นอีกผมก็ซวยเลย

   ประเด็นคือหลังจากนั้นพี่เขาไปเอาเบอร์ผมมาจากพี่รหัสของผม เป๊ะมากดันเป็นเพื่อนในสาขาเดียวกันซะได้ ผมพูดตรงๆนะตอนนั้นจนกระทั่งตอนนี้ผมก็ไม่คิดอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ ไม่ได้อยากมีกิ๊กด้วยแต่แบบผมไม่รู้จะปฏิเสธยังไงนี่ครับ เขาโทรมาก็คุยตามมารยาทแต่ก็ต้องแอบๆอ่ะกลัวพี่มุธจับได้

   แต่ว่าต่อมาหายนะก็บังเกิด เมื่อในขณะที่ผมกำลังคุยกับพี่ผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตึกพี่มุธก็ดันมาเห็นเข้า ไม่เห็นธรรมดาดันเป็นตอนที่พี่ผู้หญิงกระโดดหอมแก้มผม รู้ไหมครับตอนนั้นผมรู้สึกยังไง

   กู..ตาย..แน่!!!

   ผมกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ พี่มันก็นิ่งๆอยู่มหา’ลัยต้องทำเป็นไม่รู้จักกันครับ แต่ผมรู้ชะตาตัวเองเลยกลับห้องไปกูโดนแน่

   แล้วก็ไม่ผิด พี่มันอาละวาดห้องแทบแตกแถมเกือบจะโทรไปด่าพี่คนนั้นด้วยซ้ำดีที่ปลุกสำนึกได้ทันว่าตัวเองเป็นผู้ชายแล้วคนๆนั้นเป็นผู้หญิง แถมอีกอย่างผมไม่ได้เป็นคนไปหอมเขาด้วย อย่าว่าแต่พี่มันตกใจเลยผมเองก็ยังตกใจ

   หลังจากนั้นมาผมก็ต้องไปบอกขอโทษและปฏิเสธอย่างจริงจัง เจอด่ากลับมาชุดใหญ่บอกว่าถ้าผมไม่ชอบแล้วไปคุยให้ความหวังเขาทำไม

   กูเหวอสิครับ เพิ่งรู้นะว่าไอ้การที่คุยด้วย แค่ ครับ อืมๆ นี่คือเรียกว่าให้ความหวัง

   นั่นก็เป็นครั้งแรกและผมหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นพี่มุธโมโหแบบนั้น เฮ้อ

   “พี่แค่อยากไถ่โทษ”พี่มันมองเข้ามาที่ตาผม ผมหยุดความคิดทุกอย่างเอาไว้แค่นั้น ความโกรธ ความโมโหที่ผมพูดมามันก็นานมาแล้ว

   ตอนนี้ เวลานี้มีแต่เพียงเวอร์มุธแฟนที่น่ารักของผมเท่านั้น ถึงพี่มันจะชอบผิดสัญญาและทำให้ผมเสียใจแต่อย่างน้อยๆพี่มันก็ไม่เคยคิดจะทิ้งผมไป

   “แต่ก่อนพี่ก็ทำผิดเยอะแยะไม่เห็นจะทำดีกับผมแบบนี้เลย”ผมพูดติดตลก แต่ดูเหมือนพี่มันจะไม่ตลกด้วยแฮะ

   “เพทาย....พี่”

   “ผมล้อเล่นน่า ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กินๆ”ผมกลัวพี่มันคิดมากอ่ะครับ เมื่อกี้ผมล้อเล่นจริงๆนะ

   แต่ว่าทำไมพี่มันถึงต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นด้วย

   “พี่.....อืมกินเถอะ”

   “พี่มุธพี่มีอะไรปิดบังผมอยู่หรือเปล่า”ผมวางช้อนทำหน้าตาจริงจังแกล้งถาม

   จู่ๆก็เกิดความกล้าอยากจะลองใจพี่มันดู แกล้งทำเป็นโหดมั่งดูสิว่าพี่มันจะทำยังไง ถ้าเป็นปกติพี่มันก็คงจะบอกว่า

   ‘ไร้สาระน่าเพทาย’

   ‘คิดอะไรเพ้อเจ้อ’

   แต่ตอนนี้ผมว่ามันไม่ใช่

   “………………………..”พี่มันเงียบ

   กลายเป็นผมที่ใจเสีย อ้าว!หรือว่าพี่มันมีเรื่องปิดบังจริงๆวะ จากตอนแรกที่อารมณ์ดีๆ กลับกลายเป็นม่านหมอกสลัวๆมาปิดกั้นหัวใจผมอีกครั้ง

   ผมไม่ได้อยากจะให้สิ่งที่ผมกลัวมันเป็นจริง พี่มันก็รู้ว่าผมกลัวการทอดทิ้งมากที่สุดแล้วถ้ามันดันเป็นเรื่องนั้นล่ะ เรื่องที่ทำให้พี่มันต้องผิดบังผมไว้ ตอนนี้ผมคงภาวนาให้พี่มันตอบผมว่าไม่มีอะไร

   ถึงจะจริงหรือหลอกผมรับได้ทั้งนั้น

   “พี่มุธ...จริงๆเหรอ”ผมถาม ความไม่แน่ใจเริ่มครอบคลุมสมองและจิตใจของผม

   “เปล่าหรอก”พี่มันฝืนยิ้มมาให้ ยังคงตักอาหารใส่จานข้าวให้ผมเรื่อยๆ

   กับข้าวสามอย่าง ของโปรดที่ผมชอบ แต่ผมกำลังน้ำตาตกใน ลางสังหรณ์ผมเริ่มทำงานอีกครั้ง สายตาที่เศร้าลงกะทันหันของพี่มันทำให้ผมไม่เชื่อคำว่าเปล่าของพี่มุธสักเท่าไหร่ แต่ผมจะตอบอะไรได้นอกซะจาก

   “ผมเชื่อใจพี่นะ พี่มุธ”




NEXT 65%



นักเขียนขอเม้าาาา

ขอโทษฮับมาลงช้า ฟิ้ววววว


 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-11-2013 11:27:35
เพทายน่าสงสารอีกแล้ว
แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของพี่มุธ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 17-11-2013 14:35:40
แอร๊กกกก OMG เดอะซีรีย์สินะ.....   จำได้ว่าพี่มุธขัดขวางความสุขคนอื่นนะ...  แล้วนี่ยังไง  อธิบายมาซะคนเขียนนนน  แฮ่มมๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 17-11-2013 14:43:09
จากรีบนตอบแทนคนเขียนนะ  คนขัดขวางความสุขคือพี่วอดก้า  แต่ตอนนี้พี่วอดมันก็รับผลกรรมไปแล้ว(เสียดายพี่มันนิดๆ  บ้านนี้ไม่มีคนสืบตระกูล  ฮา)  ส่วนพี่มุธมันเงียบนนะตาย.....  พี่มุธอ่าอมพะนำอยู่นั่น  ห่วงใยความรู้สึกคนอื่นแต่ห่วงใยผิดเวลาหน่อย  สงสารอิทายสงสารพี่มุธ  พี่แนนๆๆมันจะม่าทั้งเรื่งมั๊ยนี่  รอพี่มาต่อที่เหลือนะคัฟ^^
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 17-11-2013 16:10:44
เพทายคงรู้แหละว่าพี่มุธมีอะไรปิดบัง ก็แหม มีพิรุธขนาดนี้นี่เนาะ

ยังพอรู้ความจริงแล้วเพทายก็ต้องมีสติฟังเหตุผลก่อนนะ

รักกันต้องสู้ไปด้วยกัน
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 17-11-2013 16:57:04
หนูต้องทั้งสติให้ดีนะหนูเพทาย   
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (35%) P.2 >Up.17/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 18-11-2013 18:33:12
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (100%) P.2 >Up.19/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 19-11-2013 22:19:04
ต่อจ้าาา


   หลังจากวันนั้นทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ปกติจนผมคิดมากอีกครั้งหรือว่าบางทีผมจะเพ้อเจ้อไปเอง พี่มันลดอาการดูแลเหมือนผมพิการลงไปเยอะทีเดียวครับแต่ก็ยังมีบ้างโทรมาหาตอนเที่ยง ตอนเย็นๆก็จะพยายามรีบกลับมาหาผมวันไหนจะกลับไปนอนบ้านพี่มันก็จะบอกผมล่วงหน้าสักสองวัน เพื่อให้ผมเตรียมตัวกลับไปนอนหอตัวเองถึงเวลาก็ไปรับผมกลับมา

   ชีวิตประจำวันผมเริ่มกลับมาเป็นปกติเหมือนเมื่อสมัยคบกับได้สักสองปีที่แล้ว ผมชอบนะถึงต้องคบกันแบบหลบๆซ่อนๆก็เถอะแต่ผมกลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ผมก็ไม่ได้ว่าชอบนักหรอกให้คนอื่นมารู้ความสัมพันธ์แบบนี้ ผมไม่ได้อยากให้ใครมามองเวลาผมกับพี่มันเดินจับมือกันไปไหนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแค่การกอดคอก็โรแมนติกสุดๆสำหรับพวกเราสองคน

   ตุ๊บ!

   “เหม่อๆ เหม่อไรวะ”

   “เชี่ย! กูตกใจหมด”ผมสะดุ้ง หันไปด่าไอ้ห่าซันซะหนึ่งยก มันฟาดหนังสือลงมากลางโต๊ะจนผมตกใจคนกำลังคิดอะไรเพลินๆเลย

   “ฮ่าๆ เห็นนั่งทำหน้าเหมือนหมาได้รับความรักจากเจ้าของ โคตรขำ”มันนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวที่ว่างอยู่ ขำผมเสียงดังจนอื่นหันมามอง

   “หมาพ่องง แล้วมาที่คณะกูมีไรมิทราบ”ไอ้สัสด่ากูเป็นหมา หมาห่าไรหน้าตาน่ารักขนาดนี้

   “มาหาน้องน้ำหวานดาวคณะมึงอ่ะ”มันตอบยักคิ้วกวนส้นตีนมาด้วย แหมะๆไอ้หล่อ หล่อเหี้ยๆ หล่อไม่ดูตาม้าตาเรือ

   “อย่าบอกนะว่า......”

   “ตามนั้นว่ะครับ” รู้เรื่อง น้องน้ำหวานหญิงในฝันของชายทั่วปฐพีเสร็จไอ้ห่าซันแล้วครับ

   “เร็วๆ คณะตัวเองไม่มีให้กินหรือไง”

   “ก็นะ..เด็กมันมายั่วจะปล่อยไปก็เสียดาย”ผมเบะปากหมั่นไส้ คนอะไรวะมั่นใจหนังหน้าเหลือเกิน

   “หึๆ ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะเจอรักแท้วะ”ประโยคนี้ผมพูดกับมันแทบจะทุกครั้งที่เห็นมันเปลี่ยนแฟน

   มันเพียงยักไหล่เหมือนไม่สนใจแถมหลบสายตา ผมล่ะเบื่อที่จะพูดคนห่าอะไรโคตรดื้อ ที่พูดเพราะไม่อยากให้มันใช้ชีวิตไม่มีหลักแหล่งแบบนี้ อายุยี่สิบสองแล้วนะครับไม่เด็กแล้วควรเริ่มหาใครสักคนที่เรารู้สึกรักจริงๆสักทีคบกันสักหกเจ็ดปีแล้วแต่งงาน ตอนนั้นก็สามสิบเพอเฟ็กต์สุดๆละถ้ารอไปหาตอนสามสิบคบกันอีกกี่ปีล่ะครับกว่าจะได้ใช้คำว่าครอบครัว

   “รักแท้ถึงเจอไปก็ใช่ว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันนี่หว่า ดูอย่างมึงกับพี่มุธสิ....เอ่อ กูขอโทษที”ผมยิ้มส่ายหัวบอกมันกลายๆว่าไม่เป็นไร

   ผมไม่โกรธหรอกนะครับเพราะที่มันพูดก็ถูก รักแท้เราเจอกันได้แต่คู่แท้นี่สิคนที่จะอยู่กับเราไปจนแก่เฒ่าล่ะจะมีใครคนนั้นไหม ดูอย่างผม

   ผมมั่นใจว่าชีวิตผมรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากพี่มุธ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรักมาก แต่แล้วยังไงล่ะ รักก็ใช่ว่าจะได้อยู่ด้วยกัน เปิดเผยให้คนในครอบครัวได้รับรู้ ผมยังไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้น แล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่มีวันนั้นด้วย

   ไอ้ซันพูดถูกแล้วครับ แต่รักของผมมันผิดธรรมชาติข้อนั้นผมรู้ ที่ผมพูดผมไม่ได้หวังให้มันมาเจอความรักแบบผมสักหน่อย มันชอบผู้หญิงโอกาสสมหวัง แต่งงานมีลูกเรียกว่ามากกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ซะอีก

   “ช่างมันเหอะ แต่กูอยากอุ้มลานนะเว้ย ลูกมึงอ่ะๆ”ผมแกล้งเย้า ไม่อยากให้มันรู้สึกไม่ดีที่พูดพาดพิงถึงเรื่องของผม

   “กูคงไม่มีว่ะ”มันทำหน้าเศร้าๆ ผมก็สงสัยสิครับ

   “ทำไมวะ เป็นหมันหรือไง”

   “กู....ชอบผู้ชาย”

   O___O!!!

   “จริง!!!!!”โคตรตกใจ ผมไม่เคยจะรู้สึกเลยว่ามันชอบไม้ป่าเดียวกัน หรือว่ามันคลุกคลีอยู่กับผมวะ เลยรู้สึกว่ารักแบบนี้ก็โอเคดี

   ฉิบหายละ!

   “อุ..ฮึ..ฮ่าๆๆๆๆ นี่มึงเชื่อเหรอไอ้ทาย กร๊ากกก”

   เพี๊ยะ!

   “แม่งห่านี่!” ผมตกใจจริงๆ แต่อย่างน้อยก็ดีใจว่ามันไม่ต้องมามีความเสี่ยงเจ็บกับรักที่บอกใครไม่ได้เหมือนผม

   “กูหยอกๆ เด็กกูมาละ กูไปก่อนนะเว้ย”มันมาเท่านั้นก่อนจะขอตัวไปกับน้องน้ำหวาน หวานสมชื่อ นี่ถ้าผมยังคงกระพันเหมือนห้าปีที่แล้วละก็นะ เด็กสวยๆในคณะและนอกคณะต้องเสร็จผมทุกรายไป

   “เออ โชคดีอย่ามีเอดส์ล่ะ”

   “แรว๊งงง”

   “ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะไปกับมันก่อนจะกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง

   ตอนนี้เกือบๆสี่โมง ผมเลิกเรียนตั้งกะสามโมงแล้วล่ะครับแต่ยังไม่ได้กลับห้อง พี่มุธบอกว่าให้รอถึงประมาณห้าโมงแล้วกลับพร้อมกัน

   เวลาอยู่มหา’ลัย ถ้าผมจะกลับพร้อมพี่มันผมนี่ต้องทำตัวยิ่งกว่านินจา เดินหลบ มุด แอบ ไม่ให้คนอื่นเห็นแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครเห็นหรอกพี่มันจอดรถลับตาคนอยู่แล้วแถมกว่าจะเลิกงานก็เย็นมืดสลัวๆพอดีไม่มีคนสังเกต

   “อีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยไปนั่งรอหน้าตึกแล้วกัน” ผมกะว่าอีกสักพักค่อยไปนั่งรอที่ตึกวิศวะคณะที่พี่มันสอนอยู่

   ผมนั่งเล่นเกมส์รอเวลาไปพลางๆ แต่เล่นไปนานๆก็เบื่อนะครับ เกมส์เดิมๆเลยออกแล้วเข้าอินสตราแกรม เช็คไอจีสักนิดนึง

   ผมฟอลโล่คนไม่ค่อยเยอะหรอกครับส่วนใหญ่ก็มีแต่เพื่อนหรือคนรู้จักแต่คนฟอลโล่ผมสิ บานตะไทรู้จักกันตั้งแต่ชาติปางไหนผมอยากถามแต่ก็กลัวเสียมารยาท ฮ่าๆ ช่างเขาเถอะครับคงอยากรู้เรื่องราวส่วนตัวของผมอยากฟอลก็ฟอลผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว

   เข้าไปเช็คคนฟอลโล่ใหม่อันดับแรก มีเพิ่มมาสิบคนที่สำคัญผู้หญิงล้วนๆ โหน้าตาน่ารักทุกคนผมขอบอก ผมเข้าเช็คประวัติทุกคนนะครับเผื่อเป็นรุ่นน้อง เพื่อน คนรู้จักอะไรงี้ผมจะได้ฟอลกลับ

เช็คไปเรื่อยๆพบว่าไม่รู้จักใครสักคน อะไรวะบางครั้งก็สงสัยว่าเขาไปเอาไอจีผมมาจากไหน เฮอะสาวๆสมัยนี้น่ากลัวนะครับผมว่า

เช็คถึงคนสุดท้ายผมก็กะว่าจะเดินไปหาพี่มุธละ หน้าตึกคณะผมมันมืดยุงมันเยอะ แต่อะไรบางอย่างของไอจีน้องผู้หญิงคนนี้ทำให้ผมอดที่จะไล่ดูย้อนหลังไม่ได้

ศศิ
@SasiSVM

ชื่อไอจีธรรมดาๆ แต่รูปภาพและคลิปที่เธอลงนั้นไม่ธรรมดา ผมย้อนดูภาพที่น่าสนใจทีละอัน ทีละอัน สะดุดเข้ากับภาพๆหนึ่งเมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อน

@SasiSVM พี่ชายคนดีพาศศิไปซื้อของ ขอบคุณมากค่ะ

มันจะไม่อะไรเลยถ้าภาพนั้นมันไม่ปรากฏแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือน...

“พี่มุธ”ผมครางเสียงเบา ก้อนสะอื้นมันจุกอยู่ตรงคอได้แต่บอกตัวเองว่ามันไม่ใช่ ก็แค่แผ่นหลัง หรือคนคล้ายกันเท่านั้น โลกนี้คนเราจะเหมือนกันไม่ได้เลยหรือไง

ทั้งๆที่ผมควรปล่อยผ่านไป กดปิดไอจีน้องผู้หญิงคนนี้แล้วลืมมันไปซะแต่มือของผมกลับทรยศไม่ยอมทำตาม

นิ้วผมเลื่อนดูภาพที่คิดว่าผู้ชายคนนั้นคล้ายกับพี่มุธจนเจออีกภาพหนึ่งเมื่อประมาณสองเดือนก่อน รูปนี้เห็นดานหน้าชัดเจนแต่ค่อนข้างไกลคล้ายๆว่าแอบถ่ายมากกว่า

   @SasiSVM เขินนะคะ แต่แม่บอกว่าพี่ชายเป็นคนที่ใช่ของศศิ

   ผมพยายามจะไม่มองลึกลงไปถึงใบหน้าของคนที่อยู่ในภาพ ไม่เลยผมไม่ได้อยากมองแต่ความคุ้นเคยของผมกับผู้ชายคนนั้นที่ต่อให้แม้จะเป็นข้างหลัง ให้ไกลจากผมสักหนึ่งกิโลเมตรผมก็ยังจำได้แม่น

   แต่ผมก็จะบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่...เขาก็แค่คนหน้าคล้าย

   “ผมจะไม่ถามพี่เรื่องนี้ ผมเชื่อใจพี่นะ..ฮึก” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่น้ำตามันก็ไหลออกมาจนได้ ผมยอมรับเลยว่าคิดมาก

   ผมจะพูดเสมอว่าห้าปีที่เราคบกันไม่เคยมีเรื่องมือที่สามให้ต้องคลางแคลงใจ และผมก็หวังอย่างยิ่งว่าครั้งนี้ก็จะไม่ใช่

   พี่ชาย.....

   ผมรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่แค่พี่ชายอย่างที่น้องศศิอะไรนั่นเรียก สมมติว่าถ้าเป็นพี่มุธจริงๆผมว่าพี่มันคงไม่รู้เรื่องหรอกดูจากภาพเหมือนน้องผู้หญิงจะแอบถ่ายมากกว่า อีกอย่างพี่มุธก็ไม่เล่นไอจีจะจับผิดในนี้ก็คงไม่ได้

   แต่ผมค่อนข้างคาใจเรื่องที่น้องคนนั้นบอกว่า ‘คนที่ใช่’ อะไรกันลางสังหรณ์ของผมเริ่มตื่นตัวอีกแล้ว ตอนนี้ผมขอให้เรื่องที่ผมคิดมันผิด ขอให้ลางสังหรณ์ของผมมันล้มเหลวลงไม่เป็นท่า ขอให้ผมบ้าไปเอง ขอให้เรื่องทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด

   ผมหวังอย่างนั้น

   ติ๊ด ติ๊ด

   “อ๊ะ” ผมสะดุ้งเมื่อข้อความเข้า

   จากพี่มุธผมรีบกดอ่าน

   ‘ขอโทษทีนะเพทายวันนี้พี่ต้องรีบกลับบ้านด่วน’

   ผมเม้มปากเมื่ออ่านจบ น้ำตาที่ไหลกลับเข้าดวงตาเมื่อครู่ตอนนี้มันต้องไหลออกมาทางเดิมเพื่อยืนยันถึงความเสียใจของผม

   “ฮือออ ฮึกๆ...ฮือออ”ครั้งนี้ผมร้องระบายอย่างไม่อายใคร จะมีคนหรือไม่มีคนผมก็ไม่สนใจแล้ว ผมอยากร้องเอาความอึดอัดให้มันไหลออกมาพร้อมน้ำตาให้หมด

   กี่ครั้งแล้วนะที่ผมได้รับข้อความหรือสายโทรเข้าที่ปฏิเสธว่าไม่สามารถมารับผมได้ตามที่สัญญากันไว้ได้ กี่ครั้งแล้วที่ปล่อยให้ผมเป็นฝ่ายรอ กี่ครั้งแล้วที่ผมก็ยอม

   ติ๊ด ติ๊ด
   
   “พี่ขอโทษ แต่คราวนี้ห้ามนั่งตากฝนอีกนะ เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดตอนค่ำๆ”

   ผมไม่รู้จะตอบยังไงในเมื่อเขากลับไปแล้วนิ ผมจะโวยวายให้เขาเลือกผมมันก็ไม่ใช่ ผมคิดอย่างคนโง่ผมชอบนะที่เขาเห็นครอบครัวสำคัญกว่า แต่บางครั้งผมก็น้อยใจเพราะเขาไม่ได้ทำเหมือนครอบครัวสำคัญกว่าผม แต่เขาทำเหมือนไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าครอบครัวเขาต่างหาก

   แม้กระทั่งผมเอง.....

   ‘ขับรถดีๆนะครับ’

   ผมส่งกลับไปแค่นั้น ไม่รู้ว่าเขารีบร้อนอะไรนักหนาถึงกับทิ้งผมไว้เป็นครั้งที่สองทั้งๆอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเพิ่งโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุทำให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผมไม่ได้อยากเป็นคนงี่เง่า แต่อดคิดไม่ได้ว่าบางทีอาจจะเกี่ยวกับน้องที่อยู่ในไอจีผมก็ได้

   หึหึ น่าขำไหมละ

   ทั้งๆที่ผมยังไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าคนในรูปกับพี่มุธจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่าเลย แต่ทำไมผมถึงชอบคิดอะไรแบบนี้

   ลางสังหรณ์ไง ผมเคยบอกว่าความคิดของผมถึงจะแปลกแต่ก็แม่น

   แต่อีกเช่นกันผมขอให้คราวนี้ลางสังหรณ์ของผมมันผิดเพี้ยน อย่าให้ลางสังหรณ์กลายมาเป็นลางสังหารเลย

   “ฮึกๆ...ฮือ” ผมพยายามจะไม่ร้องแล้วนะไม่ใช่ไม่อาย แต่มันชาชินจนเรียกว่าต่อให้อายก็ไม่แคร์

   ผมเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ บอกใจว่าอย่าไปคิดมาก

   หมับ!

   “เฮ้ย!” ผมร้องเมื่อมีมือมาแตะที่ไหล หันกลับไปมองก็พบว่าเป็นเพื่อนตัวเอง

   “ไอ้เช ยังไม่กลับอีกอ่อ”

   “กำลังแต่แวะมารับมึงก่อนไง” ผมขมวดคิ้วแล้วมันตรัสรู้ได้ไงว่าผมยังไม่กลับ

   “ไม่ต้องถามว่ารู้ได้ไง กูรู้ละกันว่าแต่มึงร้องไห้ทำไม ตุ๊ดแตกเหรอ” มันถามเอาผมยิ้มออกมาได้บ้างถึงจะฝืนแต่ก็ต้องทนๆไป ไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจ

   “เออ ตุ๊ดแตก ริดสีดวงกูก็แตก” ผมตอบ มันนั่งขำ

   ไอ้เชเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของพวกผม ถึงไม่สนิทกับมันมากแต่ก็เรียกว่ารักมันไม่น้อยไปกว่าเพื่อนคนอื่นๆ มันเป็นคนนิ่งๆติดจะติสแตกบ่อยๆ มันชอบอะไรที่แปลกใหม่ ธรรมชาติ อะไรที่จับต้องไม่ได้มันจะลึกซึ้งเป็นพิเศษ แต่ก็ดีนะครับเพราะอย่างน้อยตอนนี้มันทำให้ผมไม่ต้องสติแตกจมอยู่กับความคิดตัวเองคนเดียว

   “กลับกัน” มันชวน ผมพยักหน้า

   ก้มลองมองโทรศัพท์ตัวเองอีกครั้ง เปิดดูไอจีอีกรอบภาพผู้ชายคนนั้นที่ถูกถ่ายจากไกลๆกระแทกหัวใจผมอีกรอบ ภาวนาให้มันไม่ใช่ๆๆ ขอให้ผมกับน้องคนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยยิ่งดี

   ถ้าผมยังพอมีกรรมดีอยู่บ้าง ช่วยขอให้ผมสมหวังในคำขอของผมสักเรื่องด้วยเถอะ




TBC_______________________ :katai4: :katai4: :katai4:


เจอกันจ้าาาาาา

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (100%) P.2 >Up.19/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 19-11-2013 22:32:12
เอาอีกแล้วอ่ะพี่มุธ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (100%) P.2 >Up.19/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 19-11-2013 22:35:07
ฮือๆๆ สงสารพาย :hao5:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (100%) P.2 >Up.19/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: senty ที่ 19-11-2013 22:48:06
สงสารเพทาย. ความจริงสงสารทั้งคู่
เนื้อเรื่องสมกับชื่อเรื่องจริงๆ แหละ  อ่านไปแล้วรู้สึกหน่วงๆ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (100%) P.2 >Up.19/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 20-11-2013 15:03:04
 :sad4: :sad4:

หน่วงตลอดๆ อ่ะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่4 (100%) P.2 >Up.19/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 21-11-2013 03:58:50
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 23-11-2013 16:22:11


ตอนที่5

   เวอร์มุธ พาร์ท

   ผมเก็บของกำลังจะกลับบ้าน วันนี้เลิกคลาสเร็วกว่าปกติถึงสิบนาทีเพราะมีคนที่รอผมอยู่ให้ผมต้องรีบไปรับ

   มือสาละวนกับการเก็บของตั้งใจว่าวันนี้จะพาเพทายไปกินของที่มันชอบ ‘ปูนึ่ง’ เล็งไว้แล้วร้านอาหารทะเลในกรุงเทพที่อร่อยๆถึงไม่ได้ไปในจังหวัดที่ติดทะเลอย่างชลบุรีหรือระยอง แต่ร้านนี้ก็พอไหว

   หลังจากเหตุการณ์คราวนั้นผมก็บอกตัวเองไว้เสมอว่าอย่าทำให้มันต้องป่วยอีก ยิ่งเห็นมันเจ็บผมก็ยิ่งเจ็บกว่า โดยเฉพาะสาเหตุนั้นมาจากผม ผมก็ยิ่งรู้สึกผิด

   ประมาณเกือบๆสองอาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่มันออกจากโรงพยาบาล ผมดูแลมันอย่างดีเรียกว่าแทบจะอุ้มมันเดินพาไปส่งยังที่ต่างๆที่มันต้องการจะไป จนมันต้องออกปากห้ามว่าให้ผมกลับมาเป็นปกติ แต่นั้นผมเต็มใจที่จะทำให้มันนะครับ

   จนมันพูดว่าผมกำลังปิดบังอะไรมันหรือเปล่า ผมสะดุ้งเหมือนคนมีคดีติดตัว แน่นอนว่าผมปฏิเสธ

   ผมไม่อยากให้มันรู้

   ผมเห็นว่าสายตามันหม่นลงแต่ก็ฝืนยิ้มกว้างแล้วพูดคำเดิมที่มันพูดเป็นประจำคือ ‘ผมเชื่อใจพี่นะ’ ผมได้ฟังประโยคนั้นยิ่งรู้สึกผิดเหมือนผมเป็นคนที่กำลังทำลายความรักของมันให้แหลกคามือไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่ผมก็ยังรู้สึกกับมันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เคยมีใครแทนมันได้ บนโลกใบนี้ไม่มีอีกแล้ว

   แต่...จะให้บอกมันได้ยังไงว่าสองวันหลังจากมันออกจากโรงพยาบาล ผมได้รับคำสั่งจากบุพการีให้ไปเป็นเพื่อนน้องศศิคนที่ผู้ใหญ่เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ผมแต่งงานด้วยไปซื้อของเพื่อนำไปใช้ในการเรียน ทีแรกผมปฏิเสธเพราะไม่ได้สนิทถึงขนาดจะไปรับไปส่ง พาไปซื้อของกันสองคน แต่ม๊าผมเขาบอกเหตุผลมาว่าถ้าผมไม่เปิดใจลองคุยดูแล้วถึงวันที่ต้องหมั้นและแต่งงานผมกับน้องจะสนิทกันได้อย่างไร

   ผมอยากเถียง ว่าผมไม่อยากแต่ง

   แต่ทว่า...มันไม่ได้อย่างที่ใจผมนึกนี่ครับ ผมรู้ว่าสุดท้ายยังไงผมก็ต้องทำตามคำที่ป๊ากับม๊าผมเขาต้องการ ผมยอมสละเวลาของตัวเองหนึ่งวันแล้วพาน้องศศิไป โดยแลกกับความรู้สึกผิดในใจเมื่อกลับไปที่คอนโดแล้วเห็นมันนั่งรอผมเพื่อกินข้าวด้วยกัน ถึงแม้ว่าผมจะอิ่มแต่ผมก็กินจนหมดเกลี้ยง

   ผมคิดว่านั่นคือการโทษให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้ แต่เปล่าเลยยิ่งเห็นมันยิ้มผมยิ่งเสียใจ ผมทดแทนความเชื่อใจของมันด้วยการดูแลมันให้ดีที่สุด ผมไม่รู้ว่าในอนาคตผมกับมันจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปหรือเปล่า หรือจะอยู่ด้วยกันไปอีกนานแค่ไหน แต่ผมบอกกับตัวเองไว้แล้วว่าก่อนที่จะถึงวันที่ผมกับมันต้องแยกทางผมจะดูแลมันให้เป็นอย่างดี

   ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยทำได้อย่างที่ใจคิดเลยสักครั้งก็ตาม

   RRRrrrr

   คิดไปพลางเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนแรกคิดว่าเป็นเพทายโทรตามแต่ผิดคลาด

   ‘ม๊า’

   ทุกครั้งที่ชื่อม๊าหรือป๊าโทรมา ผมจะสูญเสียความมั่นใจของตัวเองไปทุกครั้ง ยิ่งในเวลาที่ผมมีนัดกับเพทายแบบนี้ใจผมยิ่งหวิวรู้สึกได้ในใจเลยว่าวันนี้ผมคงทำให้มันเสียใจอีกแล้ว

   ม๊าโทรหาผมไม่บ่อยหรอกยิ่งผมออกมาอยู่ข้างนอก มีงานทำเป็นของตัวเองด้วยยิ่งแล้วใหญ่จะโทรมาเพราะธุระสำคัญหรือไม่ก็โทรมาตามให้กลับบ้านเพราะมีเรื่องด่วน

   “ครับม๊า” ผมรับสาย ในใจกลับร้อนรุ่มบอกไม่ถูก

   “วันนี้กลับบ้านนะ” นั่นไงเขาโทรมาตามผมจริงๆ

   “มีอะไรหรือเปล่าครับ พอดีผมไม่ค่อยวะ.....” กำลังจะปฏิเสธว่าไม่ค่อยว่างแต่อีกฝ่ายกลับพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “วันนี้ครอบครัวหนูศศิเขามาทานข้าวบ้านเรา มุธกลับบ้านนะลูก” เสียใจดีของคนเป็นมารดาอ้อนซะขนาดนี้ แล้วผมจะปฏิเสธยังไง แต่ใช่ว่าผมอยากไปนะครับ ไม่เลยในเมื่อผมอยากทานข้าวกับอีกคนที่นั่งรอผมอยู่ด้านนอกมากกว่า

   “ม๊า พอดีวันนี้ผมคงไปไม่ได้” ผมกลั้นใจพูดออกไป

   “เหรอ เดี๋ยวนะ คุณคะลูกบอกว่าวันนี้มาไม่ได้น่ะค่ะ” ปลายประโยคผมคิดว่าม๊าน่าจะหันไปพูดกับใครบางคนถ้าให้ผมเดาก็เป็นป๊าผมนั่นแหละ

   “ไหนมาคุยสิ” ไม่นานป๊าผมก็ส่งเสียงทักมา

   “ไม่ว่างเหรอ”

   “ครับป๊า” ผมยืนกำโทรศัพท์แน่น ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวแล้วตอนนี้ ทำไมทุกครั้งที่ผมให้มันรอคนที่บ้านผมถึงต้องมีธุระเรียกให้กลับบ้านทุกทีไป

   “งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวป๊าคุยเรื่องแกไปพลางๆก่อนก็ได้ รอแกว่างค่อยมาคุยเรื่องวันกันอีกที”

   วัน? คำพูดของป๊าทำให้ผมสงสัย วันอะไร เรื่องของผมที่ว่าน่ะมันคือเรื่องอะไร

   ไม่ต้องรอให้ความสงสัยผมมันอยู่ในใจนานผมถามออกไปทันทีครับ “เรื่องอะไรครับป๊า”

   “ฮ่าๆๆ”

   ป๊าผมไม่ตอบแต่หัวเราะเหมือนคนมีความสุข

   “มุธ” เสียงม๊าผม ผมกัดฟันลางร้ายเริ่มลอยเข้ามาเกาะกุมหัวใจ

   “บอกผมเดี๋ยวนี้นะครับ” ผมทำเสียงเย็น ความหงุดหงิดเล็กๆเริ่มเกิดขึ้น

   “ก็วันหมั้นไง วันนี้ป๊าเขาเชิญครอบครัวหนูศศิมาทานข้าวที่บ้านเพื่อคุยกันเรื่องนี้”

   !!!!!

   ทันทีที่ผมได้ยินผมก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงมากลางหัวดังเปรี๊ยงสามทีติดๆ คิดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีสักวันที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคงมาเจรจากัน แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นวันที่ผมกับเพทายเพิ่งจะเข้าใจกันได้ไม่นาน

   และผมคิดว่าเรื่องนี้เพทายคงไม่เข้าใจผมเหมือนเรื่องอื่นๆที่ผ่านมาแน่นอน

   “เร็วไปหรือเปล่า น้องเพิ่งอยู่ปีหนึ่.....”

   “อย่าพูดมากน่าก็ถ้าแกไม่กลับมา ป๊าก็จะกำหนดวันตามใจชอบเลย…..ติ๊ด!”

   ป๊าผมแย่งโทรศัพท์ไปพูดก่อนจะกดตัดสายผมอย่างเร็ว เป็นการมัดมือชกว่ายังไงซะผมต้องกลับไปแน่ เพราะถ้าผมไม่ไปก็เหมือนเป็นการตกลงการกระทำของป๊าอย่างดี

   “โธ่เว๊ย!!”

   ผมทรุดนั่งที่เก้าอี้ทำงาน เครียดจนหัวจะแตก นวดขมับยังไงก็ไม่หายผมคิดว่าถ้าผมไม่กลับไปบ้าน ป๊าเอาจริงแน่ป๊าต้องนึกวันขึ้นมาเลือกวันเวลาที่เร็วที่สุดและนั่นก็จะยิ่งทำให้เวลาของผมเหลือน้อยลงไปทุกที

   แต่ถ้าผมไปสัญญาของผมกับเพทายในวันนี้ก็คงต้องยุติลง เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ผมต้องยกเลิกนัดเพียงเพราะต้องกลับไปจัดการปัญหาของตัวเองที่ถูกคนในครอบครัวยัดเยียดมาให้

   ถ้าผมมีสำนึกของลูกอกตัญญู ผมจะพาเพทายหนีไปที่ไกลแสนไกล

   แต่ผมทำไม่ได้

   นั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองก่อนจะเลือกส่งข้อความไปหาเพทาย

   ‘ขอโทษทีนะเพทายวันนี้พี่ต้องรีบกลับบ้านด่วน’

   ผมอ่านมันแล้วอ่านอีก กดลบทิ้งไปหลายครั้งแต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะส่ง ผมคิดว่าบางทีผมต้องตัดสินใจทำอะไรให้เด็ดขาด ผมคิดว่าการกลับไปบ้านครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะกลับไปเพราะเรื่องการจับคลุมถุงชนของผมกับเด็กหญิงที่ม๊าผมหามาให้

   ผมคิดว่าผมจะไปบอกเรื่องที่ผมคบกับเพทายให้ครอบครัวได้รู้

   ก็ถ้าผมจะต้องกลายเป็นลูกที่เลว เป็นพี่ที่ทำให้น้องๆต้องผิดหวังผมก็จะแบกรับไว้คนเดียว

   “พี่ขอโทษ แต่คราวนี้ห้ามนั่งตากฝนอีกนะ เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดตอนค่ำๆ”


   ผมส่งไปอีกครั้ง ย้ำเพื่อไม่ให้มันนั่งรอจนตัวเองต้องป่วยอีกรอบ คราวนี้ผมคิดแล้วว่าผมจะทำเพื่อมันบ้าง ขอแค่มันรอผมถึงวันพรุ่งนี้

   ติ๊ดๆ

   ‘ขับรถดีๆนะครับ’

   มันส่งกลับมา ผมฝืนยิ้มไม่รู้ว่าเจ้าของประโยคมันอยู่ในอารมณ์ไหน แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องด่วนกว่าให้ต้องไปจัดการ

   RRrrrr

   “ว่าไงลูก”

   “ม๊าครับ ผมจะกลับบ้านและผมมีเรื่องจะบอกนะครับ”

   “เหรอ กลับมาๆ ป๊าเราเขาก็อยากจะคุยเหมือนกัน”

   “ม๊าครับ” ผมเรียกอยากจะพูดอะไรสักหน่อยก่อนวางสาย

   “หืม”

   “ป๊ากับม๊าคาดหวังตัวผมมากใช่หรือเปล่า”

   อีกฝ่ายเงียบเสียง ผมกำโทรศัพท์แน่นรอฟังอยากได้ยินคำตอบว่า ‘เปล่า’ ‘ไม่ใช่’ แต่ไม่รู้เหมือนกันครับว่าผมหวังมากไปไหม

   “ลูกน่าจะรู้นะว่าป๊าคาดหวังให้มุธเดินตามทางที่ป๊าขีดไว้ตั้งแต่มุธลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ป๊ากับม๊ารักลูกนะและหวังว่าเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก” ผมขบกรามก้มหน้าให้กับประโยคของม๊าผม

   “แต่ลูกรู้ไหมนอกเหนือจากเส้นทางที่ป๊าเขาวาดไว้ให้ลูกเดินตามแล้วนั้น ป๊าเขาต้องการอะไรอีก” ม๊าถามต่อเมื่อเห็นผมเงียบ ผมส่ายหน้าก่อนจะส่งเสียงตอบกลับไป

   “ไม่ทราบครับ”

   “เห็นลูกทุกคนมีความสุขยังไงล่ะ” ผมนิ่งอึ้งหรือบางทีผมอาจจะพอมีความหวังในการเจรจาเรื่องเพทายครั้งนี้

   “ม๊าครับผมจะรีบกลับบ้านนะครับ”

   ผมกดวางสายตัดสินใจแล้วว่าถ้าผมไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง สุดท้ายคนที่เสียใจก็คือผมเอง ผมควรกล้าที่จะพูดมากกว่านี้ถึงแม้ว่าสุดท้ายป๊ากับม๊าผมเขาเกิดรับไม่ได้ก็เถอะ แต่อย่างน้อยผมก็ยังได้บอกท่านว่าผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว

   ผมรักเขามาก....และขาดเขาไม่ได้

   ในเมื่อคำพูดสุดท้ายของม๊าผมเมื่อสักครู่มันก็ดูพอจะมีความหวังอยู่บ้างแล้วผมจะยังต้องกลัวอะไรอีก ผมควรฉีกกรอบทุกอย่างแล้วลองวาดเส้นทางเล็กๆของตัวเองสักที

   คิดได้ดังนั้นผมคว้าของแล้วรีบตรงดิ่งไปที่รถ ใจผมตอนนี้ถึงบ้านแล้วปลอบใจตัวเองว่าต่อให้วันนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามผมจะไม่หนีอีกแล้ว



NEXT 55%



นักเขียนขอเม้าาา

มาแล้วฮับ เรื่อยๆเนอะ


แฟนเพจจ้า

https://www.facebook.com/nanznnyaoi

 :katai4: :katai4: :katai2-1: :katai2-1: :hao5: :hao6: :hao7: :mew1: :mew2:


หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-11-2013 17:17:08
ต้องอดทนกับความรักมากมายเลยนะเพทาย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 23-11-2013 20:27:25
ให้มันได้จริงๆนะพี่มุธไม่ใช่แค่คิด  ทำด้วยนะพี่มุธ  อิทายจะได้มีความสุขซะที  โอกาสมาแล้วก็อย่าปล่อยให้มันพลาดไป  แต่อิครอบครัวนี้ก็ไม่มีคนสืบสกุล  ฮาาาาาา  ไม่เป็นไรถ้าลูกมีความสุขพ่อแม่ก็มีความสุขนะพี่มุธ  เป็นกำลังใจให้พี่แนนคนสวย^^
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 24-11-2013 06:05:17
 :m16: :m16:

พี่มุธกล้าๆหน่อย ป๊ากับม๊าอาจเห็นความสุขของลูกสำคัญกว่าก็ได้นะ คนเราถ้าไม่เอ่ยปากร้องขอก็คงไม่มีใครหยิบยื่นความสุขมาส่งให้หรอกนะ เราต้องดิ้นรนด้วยตัวเราเองก่อนนะฮับ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 24-11-2013 07:21:18
สงสารเพทายจังที่ได้ ผู้ชายอย่าพี่มูธเปนแฟน :hao4:
อยากจะเชียร์ให้มีแฟนใหม่ แต่ทายคงไม่ยอม

เอ่อคือ คำว่า "มัน" กับ "พี่มัน"เยอะมากอะ
เวลาอ่านแล้วแปลกๆ อะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 24-11-2013 13:03:46
จะได้หร๊อออออ
 :mew5: :mew5: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (45%) P.3 >Up.23/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 24-11-2013 16:35:37
สงสารเพทายเวอมุธเห็นแก่ตัวอ่ะทำอะไรเพื่อน้องไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (100%) P.3 >Up.24/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 24-11-2013 21:27:08

ต่อจ้าาา


RRRrrrr

   “ฮัลโหลครับ” เจ้าเก่าเจ้าเดิมเพื่อนสนิทของเพทายคนที่ผมไว้ใจให้มันดูแลเพทายนอกจากผม

   “อยู่ไหน” ผมถามสั้นๆ ขาก็ก้าวยาวๆไปที่รถด้วยความเร่งรีบกลัวว่าถ้าช้าแม้แต่วินาทีจะทำให้เรื่องมันไปกันใหญ่

   ป๊าผมชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ด้วย

   “ในโรงหนังครับ” เสียงมันกระซิบเบาลงกว่าเดิมได้ยินเสียงระเบิดดังตู้มต้ามเล็ดลอดมาตามสาย นี่อย่าบอกนะว่ามันไปดูหนังบู๊กับสาว

   “อ้อ เหรอ คือ...” ผมพูดไม่ออกครั้งนี้ไอ้ซันมันไม่ว่างแล้วผมก็ไม่กล้าพอที่จะให้คนที่กำลังเดทกับสาวไปรับแฟนตัวเอง

   “เฮ้อ...นี่พี่ทิ้งไอ้ทายไว้อีกแล้วใช่ไหม” มันถามกลับฟังรู้เลยว่าน้ำเสียงติดไม่พอใจ ผมก็ไม่โทษมันหรอกที่บางครั้งชอบทำตัวก้าวร้าว เพราะรู้ดีว่ามันโมโหทุกเรื่องที่เป็นเรื่องของเพทาย

   “ไม่ได้ทิ้ง แต่ฉันมีเรื่องต้องรีบกลับไปสะสาง” พอดีกับที่ผมถึงรถตัวเอง

   ผมจัดที่ทางให้เหมาะเปลี่ยนมาสวมเฮดโฟนแทนการจับโทรศัพท์แล้วขับด้วยมือเดียว ผมเหยียบคันเร่งเท่าที่จะเร็วได้ ใจมันร้อนรุ่มเหมือนร่างกำลังจะระเบิด

   “ครับๆ ผมรู้ว่าพี่มันคนธุระเยอะเดี๋ยวผมไปรับมันเอง” มันว่าอย่างหน่ายๆ ผมถอนหายใจรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและสมอง เหมือนว่าผมทำอะไรก็ดูไม่ถูกไม่สมควรไปซะทุกอย่าง บางทีผมอาจจะไม่ใช่คนดีอะไรมากมายเหมือนที่คนส่วนใหญ่เขาเข้าใจกัน

   ผมคงแย่มากเหมือนที่ไอ้ซันเคยพูดไว้จริงๆ

   “อย่าเลย นายกำลังเดทอยู่ไม่ใช่หรือไง”

   “แต่ยังไงผมก็เลือกเพื่อนมากกว่าอยู่แล้ว” ตอนที่มันพูดผมถึงกับสะอึก นั่นสินะลำดับความสำคัญของไอ้ซันคงมีเพทายเป็นอันดับหนึ่งไม่ว่ามันจะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ตามแค่โทรบอกว่าช่วยไปรับเพทายหน่อยมันจะทิ้งธุระนั้นๆแล้วไปทันที แต่กับผมพอมาคิดๆดูแล้วไม่เคยเลย ผมไม่เคยปฏิเสธธุระที่สำคัญของบ้านผมได้เลยสักครั้ง ผมมักจะถือคติที่ว่าลูกชายคนโตที่พ่อแม่ตั้งความหวัง จนบางครั้งผมมองข้ามความสำคัญของเพทายไป บ่อยครั้งที่ผมทิ้งให้มันต้องอยู่คนเดียว

   จะว่าไปซันมันยังเป็นแฟนได้ดีกว่าผมซะอีก

   “ก็จริงพี่ผิดเอง” ผมตอบ เสียงจากฝั่งนั้นเงียบลงเหมือนมันอยู่เพียงคนเดียว เดาว่ามันคงเดินออกมาจากโรงหนังเพื่อคุยกับผมเป็นการส่วนตัว

   “ไม่หรอก ไอ้ทายต่างหากที่โง่เอง”

   จึ่ก!

   เหมือนแทงเข้าถึงหัวใจมันด่ากระทบแต่ทำไมนะผมกลับไม่โกรธ แถมยังรู้สึกเหมือนที่มันพูดมาอีกต่างหาก

   ผมเงียบครับไม่ได้ตอบอะไรก็เพราะไม่รู้ว่าสมควรจะพูดอะไรดี ยิ่งใกล้ถึงบ้านผมก็ยิ่งคิดมากผมทำถูกหรือเปล่านะ แต่ครั้งนี้ธุระของผมก็คือการทำเพื่ออนาคตของผมกับเพทายนะ ผมคิดแบบนี้แต่เหมือนจะไม่ค่อยพอใจไอ้ซันมันสักเท่าไหร่

   “เอาเถอะ เดี๋ยวผมให้ไอ้เชมันไปรับเอง มันยังไม่กลับบ้านน่ะพี่ไม่ต้องกังวลหรอก” สุดท้ายมันก็หาทางออกได้

   “ขอบคุณมากและก็ขอโทษด้วยที่พี่ดูแลเพื่อนเราไม่ดี” ผมพูดด้วยความรู้สึกจากใจจริงๆ

   ผมเคยคิดเล่นๆนะครับว่าถ้าตอนนี้ผมไม่ได้เป็นแฟนกับเพทายต่างคนต่างไม่รู้จักกัน ไอ้ซันมันต้องจีบเพทายแน่นอน ผมคิดว่าผมรู้นะผมมองออกเพียงแต่ผมไม่หึงหวงเพราะผมรู้ดีว่าไอ้ซันมันวางตัวไว้ในฐานะอะไร แล้วก็มั่นใจด้วยว่าซันมันสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำอะไรแฟนผม ไม่รู้สินอกจากตัวเองแล้วก็มีมันนี่แหละที่ผมคิดจะฝากเพทายไว้ให้ดูแลถ้าเกิดวันหนึ่งผมไม่สามารถทำหน้าที่นั้นได้

   แต่มันก็ยังไม่ใช่ตอนนี้

   แต่ดูเหมือนตัวของซันเองก็ไม่อยากพูดว่ารู้สึกกับเพทายมากกว่าเพื่อน ผมก็ไม่เคยถามว่าจริงไหมบางทีเรื่องบางเรื่องก็ควรปล่อยให้เป็นความลับจะดีกว่า ผมไม่ใช่คนดีอะไรถามว่ามันดูแลเพทายได้ดีไหมตอบเลยว่ามากเผลอๆดูแลได้ดีกว่าผมเสียอีก ยิ่งมันดีมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเลวไปมากเท่านั้น

   “ช่างมันเถอะ คนเรามีเหตุผลที่ต่างกันอยู่แล้ว”

   “..............” ผมเงียบไร้คำตอบใดๆ จนมันถามผมอีกคำถามหนึ่งทำเอาผมเครียดหนักกว่าเก่าคำตอบมันจุกอยู่ปาก

   “พี่จะไม่ทิ้งเพื่อนผมใช่ไหม”

   “พี่.................” ผมไม่เคยคิดจะทิ้งมันอยู่แล้วนี่คือคำตอบที่ผมคิดในใจเสมอมาตั้งแต่คบกับเพทาย ตั้งแต่ต้นที่ผมรู้ว่าตัวเองจะต้องแต่งงานผมบอกกับตัวเองเสมอว่าอย่าไปรักใครเพราะสุดท้ายผมต้องทิ้งเขาอยู่ดี ผมคบเล่นๆกับคนนับสิบผมไม่ยึดติดเพราะผมถือว่ายังไงซะอนาคตผมต้องแต่งงาน

จนได้มาเจอมันตอนแรกผมคิดว่านั่นก็เหมือนกับทุกคนความรู้สึกอยากสนุกกับของเล่นชิ้นใหม่แต่ไม่ใช่ มันทำให้ผมรักมันจนผมถอนตัวไม่ขึ้นสุดท้ายผมก็บอกกับตัวเองว่าผมไม่สามารถปล่อยมือจากมันได้ แต่....ผมจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรในเมื่อผมสัญญากับป๊าไปแล้วว่าผมจะยอมแต่งงานในฐานะลูกคนโต และภาระนี้จะได้ไม่ต้องไปตกอยู่ที่น้องของผมอีกทั้งสองคน

และเพราะเหตุผลนี้ผมจึงไม่เคยพูดคำว่า ‘รัก’ ให้มันฟัง ผมมักจะกระซิบที่ข้างหูในเวลาที่มันหลับไปแล้ว มันคงรับรู้ได้จากการกระทำของผม ผมไม่อยากให้มันจมอยู่กับคำว่ารักที่ผมพูด ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้อยู่ด้วยกันมันจะได้ไม่รู้สึกขาดคำว่ารักของผมไป ถึงจะดูไร้หัวใจแต่ผมก็อยากจะบอกว่าเปล่าเลย เห็นมันเจ็บผมเองก็เจ็บกว่า

   “ว่าไงล่ะ คำถามง่ายๆพี่ตอบผมสิ”

   “พี่.....” ผมนึกสมเพชตัวเอง นั่นสินะคำถามง่ายๆ แค่เรื่องความรักผมยังตัดสินใจเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผมว่าบางทีผมก็ไม่ควรไปดูแลใคร

   “ถ้าคำตอบแค่นี้พี่ยังคิดนานผมว่า.....” มันหยุดแค่นั้น ผมขมวดคิ้วสงสัยจนต้องเอ่ยปาก

   “อะไร” ผมถามเร่งเมื่อเห็นมันเงียบไม่พูดต่อ

   “พี่ยกมันให้ผมได้ไหม...ผมคิดว่าผมดูแลมันได้ดีกว่าพี่นะพี่มุธ”

   ผมอึ้งเหมือนโดนหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ใบหน้า ผมบอกเลยว่าถ้าเป็นใครหน้าไหนไม่รู้มาพูดกับผมด้วยประโยคเมื่อกี้ผมจะต่อยหน้ามันไปหนักๆสักทีสองที แต่เผอิญว่าคนที่พูดมันเป็นไอ้ซันคนที่ผมยอมรับมาเสมอว่ามันดูแลเพทายได้ดีกว่าผม เป็นคนที่ผมนึกกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าวันหนึ่งมันจะรักไอ้ซันไม่ใช่ผม ความดีของไอ้ซันผมเชื่อว่าต่อให้ถูเขาก็ยังต้องแพ้มัน

   “ถ้าพี่คิดว่ายังไงก็ดูแลมันไม่ได้ พี่ยกมันให้ผมเถอะ” มันย้ำอีกครั้ง

   “เพทายมันไม่ใช่สิ่งของที่จะโยนให้ใครก็ได้” ผมก็พูดไปแบบนั้นเองแต่ที่จริงผมกลัวไอ้ซันมันมากต่างหาก ยิ่งมันเป็นคนดีผมก็ยิ่งกลัว

   “งั้นพี่หมายความว่าถ้าผมทำให้มันรักผมได้พี่ก็จะยอมถอยให้ใช่ไหม”

   “ซัน!!” ผมตะคอก รับไม่ได้ครับผมกลัวสิ่งที่มันพูด ยิ่งมันตอกย้ำผมก็ยิ่งรู้สึกว่าจะเสียเพทายไปไม่ได้จะเรียกเห็นแก่ตัวหรืออะไรก็ช่างผมจะไม่ปล่อยมันไปให้ใคร

   มันดูเลวใช่ไหมครับ ผมยอมรับแต่ตอนนี้ผมยังทำใจปล่อยเพทายไปจากมือผมไม่ได้ อย่างที่บอกผมเคยคิดว่าถ้าวันหนึ่งไม่มีผมอยู่ข้างๆก็มีไอ้ซันนี่แหละที่เหมาะที่สุดจะทำหน้าที่นี้ แต่พอมาถึงตอนนี้ตอนที่ไอ้ซันมันตอกย้ำความคิดของผมผมกลับยอมรับไม่ได้

   “พี่รับไม่ได้เหรอ แล้วพี่เคยนึกถึงเพทายมันบ้างไหมว่ามันต้องอยู่กับความเสียใจกับคำพูดของพี่มานานกี่ปีแล้ว พี่โดนแค่ประโยคเดียวจากผมยังไม่เท่ามันโดนจากพี่เลย”

   ผมคิดตามสิ่งที่มันพูด นั่นสินะผมไม่เคยนึกถึงจิตใจของเพทายมันเลยสักนิดอย่างที่ไอ้ซันมันว่าจริงๆนั่นแหละ การคุยกับซันครั้งนี้ผมยิ่งค้นพบว่าตัวเองมันเลวสิ้นดี

   “แต่พี่.....รักมันนะซัน รัก...” ผมนิ่งอยู่นานก่อนจะพูดประโยคที่อยากพูดมากที่สุด ใครจะไปรู้ว่าจริงๆแล้วผมอยากพูดคำนี้ให้เพทายมันฟังมากแค่ไหน แต่ผมเองที่ไม่กล้าพอ ไม่กล้าที่จะพูดเพราะกลัวว่าวันหนึ่งถ้าไม่มีผมอยู่ข้างๆมันแล้วใครจะเป็นคนบอกรักให้มันฟัง

   ซันเหรอ?

   ผมคงทรมานมากจริงๆ

   “พี่บอกผมมันคงไม่ได้ยินหรอกครับ” มันพูด

   “ขอแค่ครั้งนี้ พี่จะจัดการเรื่องทุกอย่างให้มันจบ”

   “จบของพี่คืออะไรจบเรื่องครอบครัวหรือจบกับเพทาย”

   “เลิกค่อนขอดซะที” ผมกำพวงมาลัยรถแน่นระบายความอึดอัดใจ ผมกำลังโดนเด็กย้อนศรและถอนหงอก แต่ทุกเรื่องที่มันพูดกลับเป็นเรื่องจริงทั้งหมดแล้วตัวผมจะเถียงอะไรมันได้ ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ได้เท่านี้มาก่อน

   “ขอให้พี่ตอบคำถามผมอีกครั้ง พี่..จะไม่ทิ้งมันใช่ไหม” ผมนิ่งสักครู่ก่อนจะตอบคำที่ผมอยากตอบออกไปมากที่สุด ผมจะตอบตามความรู้สึกตัวเองโดยไม่มีคำว่าหน้าที่ ภาระ ครอบครัวเข้ามาเกี่ยว

   “พี่จะไม่ทิ้งมัน” ถึงอยากทิ้งยังไงผมก็คงทำไม่ได้อีกแล้ว

   การได้คุยกับไอ้ซันวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมฉุกคิดไปได้ว่า มือของล้ำค่าในมืออย่าได้ปล่อยไปเพราะสุดท้ายคนที่จะเสียใจก็คือตัวเรา

   
   “ผมถือว่าพี่พูดแล้วนะ สำหรับผมนี่คือคำสัญญา”

   “พี่สัญญา” ผมไม่เคยมั่นใจอะไรเท่านี้มาก่อน

   “ผมจะเข้าข้างพี่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพี่ยังทำมันเสียใจและผิดหวังอีก ผมเอาตัวมันมาแน่”

   “นายจะไม่มีวันได้ตัวเพทาย” ผมย้ำทั้งตัวมันและย้ำสติตัวเอง

   “ก็ถ้าพี่ดูแลมันไม่ดีผมก็จะ......”

   “ซัน” ผมเรียกก่อนที่มันจะพูดจบ

   “ครับ”

   “พี่รู้ว่านายเจ็บ การรักใครข้างเดียวมันไม่ง่ายเลยที่จะทำเฉยเหมือนไม่ได้คิดอะไร”

   “ผมไม่ได้เจ็บอย่างที่พี่คิดหรอก พี่ไม่ต้องห่วง” มันตอบเสียงหนักแน่น ก่อนจะพูดต่ออีกประโยค

   “อีกอย่างผมไม่ใช่คนแย่งของคนอื่น นอกเสียจากเจ้าของเดิมเขาจะไม่ต้องการผมก็พร้อมจะเข้าแทนที่ทันที”

   “นายก็รู้ว่าไม่ว่ายังไงนายก็แทรกเข้าหัวใจเพทายไม่ได้” ผมบอกเพื่อเตือนสติมัน ผมสงสารที่มันต้องมาแอบรักเพื่อนตัวเอง เพราะว่ามันดีมากผมถึงอยากให้มันตัดใจและหาคนที่ใช่จริงๆซักที

   “เรื่องนั้นผมรู้ดี แต่แค่เห็นมันมีความสุข ผมก็มีความสุขแล้ว พี่ก็ระวังตัวไว้เหอะ อย่าได้คิดว่าไอ้ทายมันเป็นของตายเด็ดขาด”

   “หึหึ” ผมขำประโยคที่มันต่อว่าผม

   “นายรู้ไหมว่าพี่เคยคิดเล่นๆนะว่าวันหนึ่งพี่ไม่ได้อยู่กับเพทายอีกแล้วคนที่ไว้ใจจะฝากมันไว้ก็คือนาย” ผมพูดบอกมัน มันนิ่งเงียบเหมือนกำลังรอฟังสิ่งที่ผมจะพูดต่อ

   “นายเป็นคนดีและรักเพทายได้มากพอๆกับที่พี่รัก แต่บางความคิดก็คิดอย่างเห็นแก่ตัวว่าไม่ควรปล่อยเพทายไว้ให้นายดูแล เพราะยิ่งนายดีมากเท่าไหร่พี่ก็ยิ่งอิจฉา อิจฉาที่ทั้งร่างกาย หัวใจนายพร้อมยกให้เพทายคนเดียวโดยไม่ต้องสนรอบข้างใดๆ” เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่ผมพูดยาวขนาดนี้ถ้าไม่รวมการสอน ถือว่าครั้งนี้ผมทำสถิติใหม่ได้

   “พี่เวอร์มุธ....”

   “ขอสักครั้งให้พี่ได้ทำหน้าที่แฟนที่ดี พี่จะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ตอนนี้พี่ตัดสินใจแล้ว”

   “ครับ..พี่จะตัดสินใจว่ายังไง” มันถาม

   “ไม่ว่าจะยังไงพี่ก็จะทำเพื่อเพทาย”

   “อืม ผมจะยอมยืนข้างพี่อีกสักครั้งก็ได้”



TBC______________



นักเขียนขอเม้าาา

มาอีกละจ้าาาา

แฟนเพจ

https://www.facebook.com/nanznnyaoi


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (100%) P.3 >Up.24/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 24-11-2013 21:50:04
ซันก็น่าสงสารอ่ะ แอบรักเพื่อนมาตั้งหลายปี รักเค้า แต่เค้ารักคนอื่น แถมพอมีปัญหาทีไรก็ต้องมารับรู้เรื่องราวตลอด

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (100%) P.3 >Up.24/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 24-11-2013 23:16:56
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่5 (100%) P.3 >Up.24/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 26-11-2013 20:44:18
สงสารเพทาย  สงสารอิซัน  เบื่อพี่มุธมันไม่เด็ดขาดสักที  รอพี่แนนมาต่อตอนต่อปายยยย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (60%) P.3 >Up.29/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 29-11-2013 18:13:33


ต่อจ้าาา

ตอนที่6

   เวอร์มุธ พาร์ท

   “สวัสดีครับป๊า ม๊า” ผมเดินเข้าบ้านด้วยหัวใจตุ้มๆต่อมๆ พร้อมแล้วครับกับการบอกความจริงของผมกับเพทายให้ท่าทั้งสองคนได้รับรู้

   “เข้าบ้านก่อนลูก” ทั้งสองคนเดินมารับผมถึงที่รถเลยนะครับ ผมยิ้มบางๆให้ท่าน ผมบอกเลยนะครับว่าได้เห็นรอยยิ้มท่านแบบนี้แล้วผมทำร้ายความรู้สึกท่านไม่ลงจริงๆ รอยยิ้มที่ภูมิใจในตัวของผม คำพูดที่มักจะชมให้ใครต่อใครฟังเสมอว่าผมเป็นลูกที่ดีพร้อมที่จะดูแลครอบครัวได้ แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้ดีอย่างที่ท่านพูดไว้ แล้วก็เป็นผมเองที่หักหลังความรักที่ท่านมีให้ ด้วยการโกหกมาถึงห้าปี

   แต่ยังไงซะวันนี้ผมคงต้องบอกเป็นตายร้ายดีก็ต้องบอก จะช้าหรือเร็วสักวันท่านต้องรู้ สู้ผมบอกความจริงไปซะวันนี้เลยยังจะดีซะกว่า

   “ผมมีเรื่องอยากบอกป๊ากับม๊าครับ” ตอนที่กำลังจะเดินเข้าห้องรับแขกผมก็เรียกทั้งสองคนไว้ก่อน ผมอึดอัดในใจอยากพูดอยากบอก มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่ผมจะทำใจให้กล้าพูดความจริงได้

   “เดี๋ยวค่อยคุยตอนนี้ครอบครัวหนูศศิเขามารอได้สักพักแล้ว” ป๊าผมขัดทำให้ผมทำได้แต่เดินตามเข้าไปข้างใน พอมาถึงก็เห็นว่าตอนนี้มีคนอื่นนอกจากครอบครัวผมอยู่สี่คนซึ่งผมก็รู้จักดี

   “สวัสดีครับคุณอา” ผมไหว้ผู้ใหญ่ตามมารยาท

   “สวสัดีค่ะพี่มุธ/สวสัดีครับพี่เวอร์มุธ” ผมยกมือรับไหว้ตามมารยาทคนอายุมากกว่าและส่งยิ้มให้น้อยๆ

   ผมนั่งลงตรงที่ยังว่างซึ่งก็ดูทุกคนจะเป็นใจเหลือที่ข้างน้องผู้หญิงไว้ให้ผม ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจหรือต้องบอกว่าผมไม่สนใจเลยมากกว่าในใจตอนนี้นึกถึงอีกคนที่คงงอนผมไปแล้วเรียบร้อย

   มันชอบงอน น้อยใจ และคิดว่าตัวเองไม่สำคัญผมรู้ดี แววตาคู่นั้นปิดบังอะไรไม่ได้ แต่มันไม่เคยปริปากพูด ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่โวยวายเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองควรจะได้ทั้งๆที่มันมีสิทธิ์จะทำ

   “เหนื่อยไหมคะ” คนนั่งข้างผมถามขึ้นทำให้ผมต้องหยุดความคิดของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้

   “นิดหน่อยครับ” ผมตอบสั้นๆ อารมณ์ตอนนี้ไม่พร้อมจะคุยกับใครเลยด้วยซ้ำแต่ถ้าไม่โต้ตอบเลยก็ดูจะน่าเกลียดไปนิด อีกอย่างผมก็ยังไม่อยากให้ป๊าม๊าผมต้องขายขี้หน้า

   “แล้วสอนสนุกไหมครับ” อีกฝ่ายยังถามต่อ

   “ก็ดีครับ” จะให้ตอบว่ายังไงล่ะครับ ปกติก็ไม่ใช่คนพูดเยอะมากมายอยู่แล้วพอมาเจอคำถามปัญญาอ่อนผมยิ่งอยากลุกหนีไปไกลๆ

   นี่อีกสาเหตุที่ผมแทบจะไม่อยากเจอน้องศศิเลย น้องเป็นเด็กสดใสผมว่าดีนะครับมารยาทก็ดูเรียบร้อยดีเพียงแต่ช่างเจรจาไปนิด ชอบชวนคุยในเรื่องที่ผมเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง ผมเบื่อครับ

   แต่ก่อนเคยคิดเล่นๆนะครับว่าถ้าผมกับน้องต้องแต่งงานกันจริงๆผมจะทำงานเต็มอาทิตย์เจ็ดวัน จะออกให้เช้าจะกลับให้ดึกผมคงอยู่ร่วมกับน้องเขาไม่ได้จริงๆ สักวันผมคงประสาทกินตาย

   “แล้ว....” เหมือนคำถามที่สามจะตามมาแต่ก็มีคนช่วยชีวิตไว้ก่อน

   “ศศิ!”

   คนๆนี้ชื่อ กลินท์ เป็นพี่ชายแท้ๆของศศิอายุก็คงเท่าๆกับเพทาย แต่นิสัยกลับไม่เหมือนน้องสาวเลยสักนิดพูดน้อยกว่า เรียบร้อยกว่าแต่ก็ดูเป็นพี่ชายที่ดีนะครับ เวลามาบ้านผมถ้าเห็นว่าน้องสาวตัวเองเริ่มไม่สำรวมก็จะมีกลินท์เนี่ยแหละที่คอยติอยู่ใกล้ๆ เรียกว่าเป็นฮีโร่ของผมเลย

   “อะไรเล่า!” ดูท่าฝ่ายนี้ก็จะไม่ยอมง่ายๆ เอาแต่ใจน่าดู

ถ้าตัดเรื่องหน้าตากับฐานะผมว่าน้องคนนี้แทบไม่มีอะไรดีเลย ไม่ใช่ว่าเลวนะครับเพียงแต่นิสัยแบบนี้ผมยังทำใจรับไม่ค่อยได้ ลำพังแค่วิสกี้มันดื้อเงียบ วอดก้ามันขี้โวยวายผมก็ยังพอทนได้ นี่ถ้าเอาอีกคนหนึ่งเข้ามาแล้วเอาแต่ใจแบบนี้ผมว่านะ ผมคงเป็นบ้าก่อนจะครบสามสิบแน่ๆ

“ให้มันน้อยๆหน่อย” กลินท์พูดขึ้น

“ชิ!” น้องศศิกอดอกหันหน้าหนีไปทางอื่น งอนแล้วครับแต่ผมไม่สนใจ อย่างที่บอกผมเอาความสนใจไปไว้กับคนอื่นหมดแล้ว

“เด็กๆเขาดูสนิทกันดีนะครับ” ผมเงยหน้ามองเมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสี่คน ป๊ากับม๊าผมเพียงแต่ยิ้มรับตามประสาคนอารมณ์ดี แต่ผมเริ่มอารมณ์เสีย

“ศศิดูสดใสมากเลยนะคะเวลาได้อยู่กับตามุธ” แม่น้องศศิพูดเสริมขึ้นมาอีก เหมือนจะพยายามตอกย้ำว่าผมกับน้องเหมาะสมกัน ผมรู้ว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร

ทุกครั้งที่เขามาที่บ้าน เขาทั้งสองก็มักจะพูดถึงแต่ว่าเหมาะสมอย่างนั้น เข้ากันอย่างนี้ซึ่งไม่ได้ดูดีๆเลยว่า ผมกับน้องสนิทกันอย่างที่พวกเขาพูดหรือเปล่า

“ผมว่าน้องก็สดใสแบบนี้ตั้งนานแล้วนะครับแม่” กลินท์พูดแทรกขึ้นด้วยท่าทีสำรวม ผมว่าเด็กคนนี้ก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ที่จะให้น้องสาวตัวเองมาแต่งงานกับผม ซึ่งนั่นทำให้ผมดีใจสุดๆที่มีพวกอยู่ข้างเดียวกัน

“กลินท์ เงียบไปเลย!” คุณอาผู้หญิงหันมาตวาดเล็กๆ

“เอ่อ...คือบ้านเราสองคนก็รู้จักกันมานาน ผมว่าเรื่องปรองดองเป็นทองแผ่นเดียวกันมันก็ดูจะสมควร ผมว่ามันก็น่าจะได้เวลาแล้วนา” คราวนี้คุณอาผู้ชายพูดขึ้นบ้าง

ผมขมวดคิ้วเป็นครั้งแรกที่ดูคุณอาทั้งสองจะออกตัวก่อนม๊าและป๊าของผม เหมือนต้องการเร่งรัดงานแต่งงานให้เกิดขึ้นเร็วๆนี้

“เราล่ะว่าไง” ป๊าไม่ตอบแต่หันมาถามผม

“.........” ผมอึ้ง ทุกคนในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียว

“หนูศิล่ะลูกว่าไง” ม๊าผมถามบ้าง

“หนูก็แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่ค่ะ” น้องพูดด้วยท่าทีเหนียมอาย ผมไม่ได้อะไรเพราะน้องอาจจะรู้สึกแบบนี้จริงๆ

ผมบอกตรงๆนะว่าผมไม่เคยไว้ใจใครทั้งนั้นผู้หญิงแค่สองคนที่ผมรักและมั่นใจว่าท่านเป็นคนดีคือแม่ของผมและแม่ของเหนือ นอกเหนือจากสองคนนี้แล้วผมระแวงตัวเองอยู่เสมอ ผู้หญิงเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวผมรู้ แต่ผมก็ไม่ได้มองว่าทุกคนจะมีแต่ลบผมเองก็เชื่อเช่นกันว่าผู้หญิงก็มีด้านบวกไม่น้อยเหมือนกัน

“ว่าไงล่ะตามุธ” แม่น้องถามผม

“ผมยังไม่พร้อมครับ” ผมกลั้นใจพูดออกไป ผมไม่ได้กลัวว่าฝ่ายนั้นจะโกรธที่ถูกหักหน้าหรือโกรธที่ผมพูดคล้ายๆว่าปฏิเสธ แต่ผมกลัวบิดามารดาผมมากกว่าว่าท่านจะไม่พอใจที่ผมตอบแบบนี้

ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ผมจะเงียบแล้วได้แต่ตอบว่า ‘ตามใจป๊ากับม๊าครับ’ แต่คราวนี้ผมแค่อยากลองเดินตามทางตัวเองบ้าง

ผมไม่กล้าหันไปมองเลยครับว่าตอนนี้ม๊าป๊าผมเขาทำหน้ายังไงอยู่ ผมมองนิ่งลงที่พื้นเหมือนว่ามันมีอะไรน่าสนใจอยู่ตรงนั้น

“หมายความว่าไง” พ่อของน้องศศิถามผมเสียงห้วน

ผมเงยหน้ามองสบตากับท่านก่อนจะหันไปมองบุพการีของตัวเองแล้วก็ต้องยิ้มในใจ เพราะท่านนอกจากจะไม่ดูโมโหแล้วยังยิ้มมุมปากอีกด้วย

“หมายความว่าผมยังไม่อยากแต่งงานครับคุณอา”

ผมกลั้นใจพูดสิ่งที่ติดอยู่ในใจผมตลอดเวลาคือเรื่องนี้แล้ววันนี้ผมก็ได้พูดมันออกไปซะทีว่ารู้สึกยังไงแล้วก็ทำให้ผมได้รู้ว่า

มันไม่ยาก..อย่างที่คิด

“พูดอะไรออกมา” ผมนั่งหลังตรงมือทั้งสองข้างยังวางไว้บนหน้าขาอย่างสำรวมที่สุด ผมปรายตามองผู้ใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า

“ผมพูดสิ่งที่ผมคิดครับ” ผมตอบตามตรง

“เวอร์มุธ!” สิ้นเสียงตอบของผมคุณอาพัดคุณพ่อน้องศศิก็ตวาดกร้าวเรียกชื่อผม

“ผมว่าเราใจเย็นๆกันก่อนดีกว่าครับ” เมื่อเห็นว่าเรื่องราวเริ่มไปกันใหญ่ป๊าผมเขาก็เอ่ยแทรกขึ้น ผมมองเห็นท่านไม่ได้มีท่าโกรธอะไรแถมยังดูสบายอกสบายใจเสียด้วย

“คุณพี่คะ ลูกชายคุณพี่ช่างไม่มีความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้เลยนะคะ จู่ๆก็มาบอกว่ายังไม่พร้อมจะแต่งงานแล้วลูกสาวของน้องจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”

“ครับแต่ลูกชายผมเขาแค่บอกว่ายังไม่พร้อม เราก็แค่เลื่อนออกไปให้ทั้งสองคนได้มีเวลาศึกษากันมากกว่านี้หน่อยก็ได้นี่ครับ ผมไม่เห็นว่ามันจะเสียหาย” ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ป๊าพูด

ถึงแม้ว่าความต้องการของผมจริงๆจะคือยกเลิกการแต่งงาน แต่ผมรู้ดีว่าผมยังไม่สามารถหักหน้าทุกคนได้ เพียงแค่เลื่อนงานแต่งออกไปก่อนทุกอย่างคงง่ายขึ้นสำหรับผม ให้ผมได้หายใจและมีเวลาเตรียมตัวหาทางออกค่อยๆยกเลิกงานอย่างละมุนละม่อมน่าจะดีกว่า โดยสิ่งแรกที่ผมต้องจัดการคือน้องศศิ

ผมรู้ดีว่าเธอมีใจให้กับผม แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะมีใจให้กับเธอ ต่อให้วันข้างหน้าเราแต่งงานกันผมก็รักเธอไม่ได้อยู่ดี และเพราะเหตุนี้ผมถึงไม่อยากให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาจมปลักอยู่กับผมทั้งๆที่รู้ว่าผมไม่สามารถให้รักตอบได้

“ไม่ได้!/ไม่ได้!” คุณอาทั้งสองพูดพร้อมกัน ครอบครัวผมจ้องไปทางทั้งคู่เป็นตาเดียวด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าเขาอยากจะให้ลูกสาวเขาแต่งงานกับผม

“แม่ครับพอเถอะ” กลินท์เดินมาพูดกับคนเป็นแม่ ผมเห็นสีหน้าของน้องแล้วสงสารนะครับตัวเองคงจะไม่เห็นด้วยกับความคิดครั้งนี้แต่ไม่รู้จะห้ามยังไงเพราะดูน้องเองจะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนในครอบครัวเลย

“แกน่ะหยุดไปเลย ยุ่ง!” กลินท์กัดฟันจำใจต้องเดินไปนั่งที่เดิม ผมเห็นใจจริงๆ

“คุณพี่อย่าลืมนะคะ ว่าอาเตี่ยของคุณพี่หญิงเคยมาสัญญิงสัญญาอะไรไว้กับคุณพ่อน้อง คนจีนเขาไม่ตระบัดสัตย์กันหรอกนะคะ” ผมหันมองหน้าม๊าเห็นท่านมีอาการไม่ค่อยดี ผมไม่เคยรู้ว่าการแต่งงานของผมมันไม่ใช่การตกลงกันของคนรุ่นนี้เท่านั้นมันมีตั้งแต่รุ่นก่อนหรือ ถึงว่าท่านถึงต้องการให้ผมแต่งงานกับครอบครัวน้องศศิ ไม่สิต้องบอกว่าเป็นใครก็ได้ในสามคนพี่น้องผมที่ต้องแต่งกับลูกสาวบ้านนู้น

ผมนั่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ผมว่าผมยังไม่รู้ลายละเอียดเรื่องนี้ดีนัก คิดไปคิดมาการตัดสินใจของผมมันจะถูกต้องหรือเปล่าคิดถึงตรงนี้ หน้าเพทายก็ลอยขึ้นมาในหัวทั้งๆทีผมต้องการจะทำเพื่อมันบ้าง แต่ทำไมดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่ผมตั้งใจ

“แม่ครับ ผมว่าแม่พูดแรงไปหรือเปล่า” กลินท์พูด

“แม่บอกให้แกเงียบ!”

บรรยากาศตอนนี้ดูลุกเป็นไฟ บ้านผมที่เคยเงียบสงบกลับมีเสียงโวยวายของคนจำนวนหนึ่งเรื่องการแต่งงาน

“อย่างที่ภรรยาผมพูด อาเตี่ยของคุณพี่หญิงเคยบอกไว้ว่าอย่างไรคุณพี่ทั้งสองน่าจะจำมันได้ดีนะครับ แต่เหมือนว่าลูกชายคุณพี่กำลังทำให้เรื่องนี้มันยุ่งยาก ต้องโดนตราหน้าว่าเป็นพวกไม่รักษาสัจจะ”

“พ่อคะ....”

“ผมจำได้ว่าคุณเตี่ยของผมท่านเคยพูดอะไรไว้บ้าง แต่ถ้างานมันจะต้องเลื่อนออกไปอีกสักห้าเดือน ห้าปี หรือมากกว่านั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นหรือครับ ในเมื่อรอกันมาได้ตั้งนมนานจะรอให้ลูกสาวคุณเรียนจบก่อนก็คงจะไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้หรอกมั้งครับ”

“หมายความว่ายังไง” ฝ่ายนั้นถามเสียงเครียด

“หมายความว่าที่คุณรีบร้อนจะให้แต่งภายในปีนี้เพราะครอบครัวคุณมีเหตุผลบางอย่าง สิ่งที่คุณต้องการไม่ใช่งานแต่ง แต่คุณต้องการผลพลอยได้ที่มาจากงานแต่งงานต่างหาก”

“คุณ/คุณพี่!”

“พี่จำได้นะคะน้องอนงค์ ว่าเตี่ยพี่พูดอะไรบ้างแต่ถ้าสุดท้ายคำสัญญาของคนรุ่นก่อนมันทำให้ลูกชายของพี่อึดอัด พี่ยอมเป็นคนผิดสัจจะดีกว่าเห็นลูกตัวเองไม่มีความสุขค่ะ แล้วพี่ก็เชื่อว่าเตี่ยพี่เขาต้องเห็นด้วย”

“คุณป้า” น้องศศิเรียกม๊าผมเสียงตื่น ผมหันไปมองโดยพยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มไว้ในใจ ผมไม่ใช่ว่าจะยินดีซะทีเดียวหรอก ผมเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่เป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวต้องมาโดนคนอื่นชี้หน้าด่าว่าเป็นพวกไม่รักษาคำพูด

แต่ผมปลื้มที่ป๊ากับม๊าผมเข้าใจ

ต่างจากที่คิดไว้ในใจลิบลับ ความกลัวที่เกาะกินมานานด้วยกลัวว่าป๊ากับม๊าจะรับเรื่องที่ผมไม่อยากแต่งงานไม่ได้ ทำให้ต้องผิดเป็นความลับแต่วันนี้ผมรู้แล้วว่าไม่ใช่อย่างที่ผมกลัว จากวันนี้ผมคิดไว้เลยว่ายังไงซะเรื่องของเพทายผมต้องบอก ผมจะไม่กลัวอีกแล้ว

กำหนดแต่งงานของผมคือปลายปีนี้ช่วงเดือนธันวาเหลือเวลาอีกประมาณสามสี่เดือนก็จะถึงฤกษ์ที่ผู้ใหญ่เขาเคยคุยๆกันไว้คร่าวๆ มันยังไม่ใช่ฤกษ์จริงหรอกครับเพียงแต่เป็นเวลาสะดวกที่ทั้งสองฝ่ายเขาพร้อมที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นครอบครัวผมยังไม่เคยคุยกับฝ่ายหญิงเป็นจริงเป็นจังเลยเรื่องของสินสอดและยังไม่ได้สู่ขออย่างเป็นทางการด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่รู้ว่าฝ่ายผมทำให้ฝ่ายนั้นคิดไปไกล หรือฝ่ายนั้นคิดไปมากกว่าที่ตัวเองจะได้ผมก็ไม่แน่ใจ

“ว่าไงลูก” ม๊าผมยังเป็นคนที่ใจเย็นและใจดีที่สุดในโลก

“คือ....เปล่าค่ะ” ตอนแรกเหมือนน้องอยากจะพูดแต่ก็เปลี่ยนเป็นไม่พูด

   “ผมว่าเรากลับกันเถอะ” กลินท์พูด

   “ได้ วันนี้พวกเราขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”

   “ผมขอโทษจริงๆครับคุณอา” ยังไม่ทันยกมือไหว้ทั้งสองก็เดินผ่านผมไปอย่างใยดี ผมไม่สนใจหรอกครับ

   “ผมกลับก่อนนะครับพี่มุธ คุณลุงคุณป้าด้วย”

   “พี่เข้าใจ ไม่โกรธหรอก” ผมตอบตามจริง

   “ขอโทษแทนคุณพ่อคุณแม่ด้วย” ผมยกมือลูบหัวเห็นแล้วนึกถึงไอ้เหนือ เหมือนน้องชายของผม

   “อย่าคิดมาก กลับเถอะท่านรออยู่” น้องก็วิ่งออกไป

   “เฮ้อ!” ผมทรุดนั่งอย่างหมดแรง

   “เราล่ะมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม” ม๊าเดินมานั่งข้างผมแล้วพูดขึ้น ผมหันหน้าไปมองจ้องเข้าไปในดวงตา ปกติม๊าไม่ถามแบบนี้หรอกครับแต่วันนี้มาแปลกเหมือนรู้อะไรอยู่ในใจ

   “คือ..... ก็”

   “พรุ่งนี้แล้วกัน ป๊ารอฟังอยู่นะ” ผมนั่งงง

   “ม๊าไปนอนก่อนนะ มีอะไรก็รีบบอกอย่าเก็บไว้คนเดียว”




NEXT 40%


นักเขียนขอเม้าาา

มาแล้วฮับบบ >///<

 :hao5: :hao6: :hao7: :mew1: :mew2: :mew3:

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (60%) P.3 >Up.29/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-11-2013 21:16:27
หึหึ พี่มุธกลัวความรักและความดีของซัน
แต่คราวนี้พี่มุธกล้าที่จแย้งด้วยนะนั่น
แต่กลินนี่ดีเกินทุกคนในครอบครัว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (60%) P.3 >Up.29/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 01-12-2013 16:03:39
อยากให้พี่มุธบอกพ่อแม่เร็วๆ สงสารทาย
ศศินี่อยากจะแต่งจังเลย = =
มาต่อเร็วๆนะคะ :))
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (60%) P.3 >Up.29/11/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 01-12-2013 20:00:34
ครอบครัวฝั่งนู้นเขามีอะไรกันว่ะ  กลินท์นี่ก็คู่ซันสินะ(ชื่อเรื่องไรว่ะ?)  อิตามุธใจเด็ดไว้แล้วบอกป๊ากะม๊าเขา  ณ เวลานี้รักคุณป๊าคุณม๊าและก็คุณพ่อคุณแม่(ของเหนือ)  จังเลยอ่ะ  รอพี่แนนมาต่อที่เหลือนะคัฟ^^
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 01-12-2013 22:11:58


ต่อจ้าาา

.

   .

   เช้าวันรุ่งขึ้น

   ผมตั้งใจจะตื่นมาคุยกับป๊าตั้งแต่เช้า แต่พอดีวันนี้ผมมีสอนตั้งแต่แปดโมงทำให้ผมต้องรีบไปมหา’ลัยเพื่อเตรียมตัว

   ผมรู้สึกใจไม่ค่อยดี คิ้วผมขมวดทั้งวันจนเพื่อนอาจารย์ด้วยกันยังทักว่าผมดูเหมือนคนไม่ค่อยสบาย ผมปฏิเสธพวกเขาแต่ผมปฏิเสธตัวเองไม่ได้ ใช่! ผมไม่สบายแต่ผมไม่สบายใจ ข้างในมันเต้นตุบๆเหมือนประท้วงอะไรอยู่จลอดเวลา

   “จบคลาสเท่านี้ครับ”

พอพูดประโยคนี้จบเป็นอันรู้ดีว่าหน้าที่ในวันนี้สิ้นสุดลง ผมมองนาฬิกาเป็นเวลาเลิกงานของป๊าผมทันที ผมตั้งใจจะกลับบ้านแล้วขอให้ท่านยกเลิกงานแต่งงานของผมซะ ผมจะชดใช้ความผิดเองโทษฐานที่ทำให้อากงต้องกลายเป็นคนผิดสัจจะ โดนคนอื่นดูถูกแต่ผมจะดูแลครอบครัวของผมให้ดีที่สุด นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำให้ได้

และอีกหนึ่งข้อคือเรื่องเพทาย ผมจะบอกกับพวกท่านว่าผมมีคนรักอยู่แล้วความกลัวตลอดห้าปีที่ผมเก็บไว้ ผมพร้อมแล้วที่จะบอก มันไม่มีความกลัวอะไรอีกแล้ว หน้าที่ พี่คนโต ความรับผิดชอบ ผมจะลองถอดมันทิ้งแล้วลองทำตามความต้องการของตัวเองดูสักครั้ง

   ถ้าถามว่าตอนนี้ผมกลัวอะไรมากที่สุดคงจะเป็น

   กลัวเสียเพทายไป

   ผมรู้แล้วว่าพอใกล้ถึงเวลาที่ผมต้องเลิกกับมัน เป็นผมเองที่ทำใจไม่ได้ แค่คิดว่าผมต้องนอนกอดคนอื่นที่ไม่ใช่มันผมกลับทำไม่ได้

   ผมเก็บของทุกอย่างแล้วตั้งใจจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ผมอยากให้เรื่องทุกอย่างจบลงในวันนี้ ผมไม่อยากให้เพทายรุ้เรื่องว่าผมมีพันธะที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น มันยังไม่รู้เรื่องนี้และผมจะไม่ให้มันรู้ไปตลอดชีวิต ผมตั้งใจแล้วว่าจะลองสู้ดูสักครั้ง ผมต้องทำให้ได้

   “หืมม”

   เดินมาที่รถก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นคนคุ้นเคยยินรออยู่ มันเดินวนไปวนมาบางครั้งก็ชอบเหม่อมองฟ้า ถ้ามองจากด้านข้างมันดูเหงามากๆเลยครับ และคนที่ทำให้มันต้องเป็นแบบนั้นก็คงไม่พ้นผมเอง

   ผมยังไม่ได้เดินไปหามัน ภาพจากตรงนี้เพทายดูเป็นคนที่มีหลายอารมณ์ ทั้งเหงา ทั้งเศร้า แต่บางครั้งมันก็จะยิ้มออกมาน้อยๆราวกับว่ามันกำลังคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้มันมีความสุข

   และผมหวังว่าในนั้นอาจจะเป็นเรื่องของผม

   “พี่มุธ” มันเรียก

   มันหันมาเห็นผมพอดี มันหยุดยืนนิ่งๆโดยไม่ได้ก้าวเท้าเข้ามาหาผมเหมือนทุกครั้ง ระยะตรงนี้ผมไม่เห็นว่าสีหน้าและแววตามันเป็นยังไง ผมรู้แต่ว่าไหล่ของมันตั้งตรงขึ้นกว่าทุกครั้งบอกเป็นนัยๆว่าเจ้าตัวคงมีความมั่นใจอะไรสักอย่าง

   ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปหา ผมอยากลองเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหามันบ้าง ไม่เคยเลยที่มันจะหยุดกับที่แล้วผมเป็นคนเดิน ผมรู้แต่ผมก็ยังทำ

   “หยุด!”

   แต่พอผมจะเดินเข้าไปใกล้ เหลืออีกแค่หนึ่งช่วงแขนของผมเท่านั้น มันกลับพูดขึ้นด้วยเสียงที่ดังฟังชัด กระทั่งได้ยินเสียงสะท้อนเบาๆ

   “เพทาย” ผมเรียกชื่อมัน ยอมหยุดอย่างที่มันบอก ผมคิดว่ามันคงมีอะไรจะพูด

   “พี่มุธ...ฮึก” มันตัวสั่น ผมรับรู้ได้ มันสะอื้นจนตัวคลอนจนผมอยากจะเข้าไปดึงมันมากอดแต่มันก็เอ่ยห้ามไม่ให้ผมเข้าใกล้อยู่ดี

   “อย่าเพิ่งเข้ามานะ” มันพูดพร้อมถอยหลังออกไปอีกหนึ่งก้าว

   “เพทาย” ผมครางเรียกชื่อมัน อะไรบางอย่างบอกว่ามันกำลังเสียใจที่สุดในตอนนี้

   “ได้โปรด...ฮึกๆ..ฟังผมพูดได้ไหม” มันยังคงก้มหน้าเหมือนเดิม ตั้งแต่ที่ผมเดินเข้ามาจนบัดนี้ มันยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองผมเลยสักวินาทีเดียว

   “ได้” ผมตอบ ถึงแม้ว่าในใจผมจะอยากทำตรงกันข้ามอย่างที่มันขอก็เถอะ

   “พี่มุธ...ผมรักพี่นะ” มันเริ่มต้นด้วยการบอกรักผม ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อ

   “ผมรักพี่มาก..ฮึกๆ..”

   “แต่เหมือนว่า..ฮึก..ผมไม่เคยอยู่ในสายตาของพี่เลย..ตลอดเวลาที่เราคบกัน..ฮึกๆ..ผมยอมพี่ได้ทุกอย่าง..พี่จะให้ผมเป็นอะไร..ผมก็ยอมพี่ได้..ฮึกๆ”

   “เพทายยย” ผมเรียกมันหวังจะดึงมันเข้ามากอด ตัวมันสั่นมากขึ้น

   มันกำลังร้องไห้....เพราะผมอีกแล้ว

   “ฟังผม..ได้โปรด..ฮือออ”

   ฟุบ!

   ผมตกใจ เมื่อเห็นมันทรุดลงกับพื้น ผมอยากเข้าไปดึงมันขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดแต่มันกลับร้องห้าม

   “อย่า” ผมหยุดเท้าไว้ที่เดิม

   “พี่ไม่เคย..ฮึกๆ...บอกรักผม..ผมไม่ว่า”

   “ผมเคยขอ..ฮึกๆ..ให้พี่ไม่ทิ้งผม..ผมอยู่ไม่ได้ถ้าขาดพี่”

   ผมปวดที่ใจ มันยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมที่ยืนเหนือมันขึ้นมา มันยกมือกุมที่ตำแหน่งหัวใจ มันคงรู้สึกเจ็บเหมือนที่ผมกำลังรู้สึกตอนนี้

   “แต่ตอนนี้ ผมขอให้พี่ทิ้งผมได้ไหม..ฮืออ..พี่มุธพี่ช่วยทิ้งผมไปได้ไหม...ฮืออออ” มันพูดแต่น้ำตากับไหลมาไม่หยุด ผมไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากมัน

   “พูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า!” ผมขึ้นเสียง ไม่ได้โกรธมันแต่ผมกำลังโกรธตัวเองที่ทำให้มันต้องอดทนจนถึงที่สุดแบบนี้

   ผมโมโหตัวเองที่ปล่อยให้มันแบกรับความทุกข์ไว้เพียงคนเดียว

   “หึ..ฮ่าๆ...ผมมันบ้า..บ้าที่รักพี่..ฮึกๆ...โง่...โง่ที่รักผู้ชายที่ไม่มีวันจับต้องได้อย่างพี่...ฮึกๆ..ฮืออ...รู้ตัวสิทำไมจะไม่รู้..ผมจะบอกเลิกพี่ไงล่ะ..ฮ่าๆๆ...ฮือออ...ผมอยากเลิกกับพี่”

   “เพทาย!” ผมตกใจกับคำพูดของมัน

   “พี่มุธ..พี่ช่วยเลิกกับผมที..ผมเจ็บ..ผมทนไม่ไหวแล้ว..ฮืออ...ผมจะตายอยู่แล้ว” มันยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง

   หมับ!

   “ไม่!” ผมคว้าตัวมันขึ้นมากอดไว้ ถึงมันจะขัดขืนแค่ไหนก็ไม่มีวันที่ผมจะปล่อย ทั้งๆที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้เรื่องของผมกับมันดำเนินไปต่อตลอดชีวิตของผม แล้วจู่ๆทำไมมันถึงพูดแบบนี้ออกมา

   “ปล่อยนะๆ..ปึกๆๆ..ปั่ก!...ปล่อยเซ่” มันโวยวาย แต่ผมไม่ปล่อยจนสุดท้ายมันก็หมดแรงยอมยืนซบอกผมแต่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด

   “พี่จะไม่ปล่อยเราไป” ผมประคองแก้มมันทั้งสองข้างให้เงยหน้าขึ้นเพื่อจ้องตามาที่ผม ให้มันมองมาที่ผมคนเดียว

   “ทั้งๆที่พี่กำลังจะแต่งงานน่ะหรือ” มันพูดขึ้นทำเอาผมพูดอะไรไม่ออก

   “!!!!!!!!!!!!!!!”

   “ทั้งๆที่พี่กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ แล้วพี่ยังจะเก็บผมไว้ทำไม..ฮึก..พี่รู้ไหม ผมเหมือนคนโง่ที่รักพี่อยู่ได้ทั้งๆที่รู้ว่าพี่ไม่ใช่ของผม.....คนเดียว” มันพูดต่อ

   ผมตกใจที่มันรู้เรื่องนี้มันรู้ได้ยังไง เรื่องนี้ผมคิดว่ายังไม่น่าจะมีใครรู้นะ แต่ทำไมมันถึงรู้ได้..... แต่ผมคงปฏิเสธอะไรไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง

   “พี่ไม่ปฏิเสธ..แต่พี่กำลังจะจัดการเรื่องนี้ รอพี่หน่อยได้ไหม ขอแค่ครั้งเดียว” ผมพูดก่อนจะดึงมันเข้ามากอดแน่นอีกครั้ง มันไม่ขัดขืนแต่ไม่ได้กอดตอบ มันเหมือนคนไร้ชีวิต จนประโยคต่อมาของมันทำเอาผมเจ็บจนจุก

   “ได้ พี่จะให้ผมรออีกกี่ครั้งก็ได้ เพราะยังไงผมก็เป็นของตายสำหรับพี่”

   “ทำไมถึงพูดแบบนั้น”

   “งั้นก็เลิกกับผมสิ เลิกกับผมเถอะปล่อยผมไป ผมทนเห็นพี่แต่งงานกับคนอื่นไม่ได้” มันร้องไห้แต่ไร้อาการสะอื้นแล้ว มันคงเจ็บจนชา

   มันดิ้นออกจากอ้อมแขนผม ออกไปยืนแล้วเงยหน้ามองมาที่ผม น้ำตาของมันยังไหลลงมาเหมือนว่าไม่หมดง่ายๆ

   “ถ้าพี่ไม่อยากเห็นผมเจ็บ เราก็เลิกกันเถอะนะ”

   “ถ้าพี่ไม่ยอมล่ะ”

   “ผมยอมพี่อยู่แล้ว งั้นผมจะยอมเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่เอง พี่จะให้ผมเป็นอะไรผมก็จะยอม”
   “แต่ถ้าพี่ยังมีความรู้สึกดีๆให้ผมบ้างสักนิด ได้โปรดสงสารผมแค่พี่พูดมาว่ายอมเลิก ผมจะรีบไปให้ไกลจากชีวิตของพี่เลย..ฮึกๆๆ” น้องร้องไห้สะอื้นอีกครั้ง มันคงสุดทนจริงๆ

   ยิ่งมองมันร้องไห้ ทำให้ผมลองนึกย้อนกลับไปมองตัวเองที่ผ่านๆมา ใช่ ผมแย่มาก งั้นหมายความว่าผมควรจะปล่อยมันไปงั้นหรือ

   ถึงแม้สุดท้ายผมจะไม่ต้องแต่งงาน แต่ผมคงทำลายความเชื่อใจของมันไปหมดแล้ว ผมทำลายทุกอย่างหมดแล้ว

   “เพทาย” ผมทรุดลงคุกเข่า น้ำตามันไหลออกมาเองโดยที่ผมไม่ต้องแกล้งบีบ ผมไม่รู้ว่ามันมีสีหน้ายังไง แต่ผมได้ยินว่ามันร้องไห้หนักขึ้น นี่ผมทำมันเสียใจอีกแล้ว

   “พี่อย่าทำแบบนี้เลย” มันร้องห้ามแต่ผมก็ยังนั่งที่เดิม คุกเข่าตรงหน้ามัน

   “พี่ขอโทษ”

   “พี่อยู่ไม่ได้...พี่...พี่ขาดเราไม่ได้”

   “พี่มุธ!” มันเรียกชื่อผมแต่ยังคงร้องไห้หนักเหมือนเดิม

   “พี่จะไม่รั้งเราไว้” ผมเงยหน้ามองมัน เห็นมันปิดปากกลั้นเสียงตัวเอง

   “ถ้าอยู่กับพี่แล้วทำให้เราเจ็บ งั้นแล้วแต่เราจะตัดสินใจเถอะ” ผมควรให้มันตัดสินใจเอง ทุกครั้งเป็นผมที่คอยออกความคิดเห็น แต่ครั้งนี้ผมจะไม่รั้งมันไว้ มันเจ็บเพราะผมมามาก

   แต่ผมจะไม่มีวันปล่อยมันไป มันหนีผมจะตามหาถึงจะได้ดูแลห่างๆผมก็จะทำ

   เราจ้องตากันทั้งๆที่เราสองคนยังร้องไห้ไม่หยุด ทำไมผู้หญิงถึงชอบร้องไห้กันนะ ผมไม่ชอบเลยเพราะมันทำให้ผมเห็นหน้าเพทายไม่ชัด แต่ผมกลับห้ามไม่ให้มันไหลไม่ได้

   รอบข้างเงียบสงัด มีแค่เสียงสะอื้นของมัน และเสียงหัวใจที่เต้นดังของเราทั้งสองคน ผมรอฟังคำตอบ ผมคาดหวังว่ามันจะไม่ทิ้งผมไป

   “ผมรักพี่นะพี่มุธ.........ถ้าไม่มีผมพี่ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยล่ะ”

   ผมเงยหน้ามอง เห็นมันค่อยๆเดินจากผมไปเรื่อยๆ ยิ่งเห็นแผ่นหลังมันเล็กลงไปเท่าไหร่น้ำตาผมยิ่งไหลมากเท่านั้น

   ผมเพิ่งรู้วันนี้เองว่าน้ำตาลูกผู้ชายมันก็ไหลลงมาง่ายๆเหมือนกัน



TBC_____________________
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 01-12-2013 22:16:16
กรรรม มุธ กำลังจะไปบอกพ่อแท้ๆ เศร้าเลยยย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: FoN LiGhT~ ที่ 01-12-2013 22:44:51
อย่ามาม่า สิ ร้องไห้จนน้ำตาจะไม่มีให้ไหลแล้ว T^T
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 02-12-2013 10:55:50
สงสารทั้งทายและพี่มุธ กำลังจะไปบอกพ่แม่อยู่แล้ว
ลุ้นๆ อยากอ่านต่อแล้วววววววว  :katai4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-12-2013 11:29:33
แง ๆ น้ำตาท่วมจอ :sad4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-12-2013 19:11:39
มุธไปบอกพ่อก่อนแล้วค่อยมาง้อทาย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 02-12-2013 19:33:12
อ่านตอนนี้แล้วทำไมเรากลับรู้สึกสะใจปนสมน้ำหน้ามุธก็ไม่รู้อ่ะ อิๆๆ

ก็ตัวเองไม่เด็ดขาดเองนี่นาจะโทษใครได้ คนรอมันก็เจ็บนะ

คงคิดว่าเค้าจะเป็นของตาย ไม่ค่อยใส่ใจ จนสุดท้ายเค้ามาบอกเลิก

บางครั้งก็ควรโดนซะบ้างนะ เผื่อจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้น จะได้ดูแลเอาใจใส่มากขึ้นด้วย  :mew1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 02-12-2013 22:30:58
สมพี่มุธมัวคิดมากก็งี้แหละ  สงสารเพทายอ่ะไม่น่าเลยนะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่6 (100%) P.3 >Up.01/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 03-12-2013 01:49:35
น้ำตาไหลพรากกกกกกก
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 03-12-2013 17:40:46


ตอนที่7

   เพทายพาร์ท

   ก็อกๆ

   “พี่ทายนอนหรือยังคะ ขอลินเข้าไปหน่อย” ผมโผล่หน้าขึ้นจากกองผ้าห่ม ดวงตาที่บวมช้ำของผมทำให้เกิดอาการเจ็บจนเกือบจะทนไม่ไหว

   “แปปนะ” ผมตอบน้องเสียงแหบ แน่ละเสียงผมมันหายไปกับการร้องไห้สะอึกสะอื้นหมดแล้ว

   ผมลุกจากที่นอนเพื่อที่จะไปเปิดประตูให้ไพลิน น้องสาวคนเดียวของผม น้องเป็นเด็กที่น่ารักนะครับเรียนม.ปลายที่โรงเรียนรัฐบาลชื่อดัง ผมค่อนข้างห่วงและหวงมันมากเรียกว่าถ้าอยู่ในสายตาผมผู้ชายคนไหนก็ห้ามมาจีบเด็ดขาด

   แกร๊ก...แอ๊ด

   “มีธุระอะไร” ผมถามก่อนจะเบี่ยงตัวนิดหน่อยเพื่อให้น้องเดินเข้ามาในห้อง

   “ลินเอานมกับซีเรียลมาให้ทานรองท้อง พี่ทายต้องหิวแน่ๆเพราะเมื่อเย็นก็ไม่ยอมลงไปกินข้าว” น้องย่นจมูกใส่แล้วหันไปวางถาดลงบนโต๊ะก่อนจะจัดการเททุกอย่างลงในถ้วยโดยไม่ถามผมสักคำว่าผมหิวไหม

   “แต่พี่...” กำลังจะอ้าปากห้ามแต่ก็ไม่ทันเมื่อนมหยดสุดท้ายถูกเทเข้าถ้วยเรียบร้อย

   “ต้องทานนะคะ นิดเดียวเองเนี่ยถ้าลินกินนะเท่านี้ไม่อิ่มหรอก” น้องยิ้มกว้างส่วนผมก็อดจะยิ้มตามไม่ได้แต่ลึกๆผมยิ้มเพื่อให้น้องสบายใจมากกว่า

   “ขอบใจนะ เราก็ไปนอนได้แล้ว” ผมรับถ้วยซีเรียลมาจากน้องก่อนจะเดินไปนั่งที่ปลายเตียง ยกขาทั้งสองข้างขึ้นขัดสมาธิก่อนจะลงมือทาน

   “พรุ่งนี้ลินหยุดค่ะ นอนดึกได้” ผมพยักหน้าเข้าใจ

   “พี่ทาย...ลินขอถามอะไรหน่อยสิ” ผมมองน้องด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าอนุญาต

   “พี่...เลิกกับพี่มุธจริงๆเหรอคะ”

   จึก!

   ช้อนในมือค้างอยู่กลางอากาศ ผมก้มหน้าไม่สบตาด้วยเพราะกลัวว่าไพลินมันจะเห็นว่าผมอ่อนแอมากแค่ไหน ทั้งๆที่ผมเป็นพี่ชายแต่กลับทำตัวเหมือนคนใกล้ตายให้คนอื่นมาดูแล

   ครอบครัวของผมทุกคนรับรู้ว่าผมเป็นอะไร ตอนแรกพ่อกับแม่เขาก็รับไม่ค่อยได้หรอกแต่ท่านเขาคงเห็นว่าพี่มุธเอาใจใส่ผมดีเวลามาส่งผมที่บ้านท่านก็เลยรับได้ แถมยังรักซะเหมือนลูกชายอีกคนซะอีก

   พอผมมาบอกกับท่านว่าผมกับพี่มุธเลิกกัน พ่อผมยังหาว่าผมงอนไร้สาระอยู่เลยแต่ผมไม่ได้บอกไปหรอกว่าเพราะอะไรผมถึงขอเป็นฝ่ายเดินจากมา ผมกลัวพ่อกับแม่จะเกลียดพี่มุธถ้าเกิดรู้ว่าพี่มันมีภาระหน้าที่ต้องไปแต่งงานกับคนอื่น

   นี่ก็เข้าวันที่สามแล้วที่ผมกับพี่มันไร้การติดต่อใดๆ โชคดีที่คณะผมกับคณะวิศวะที่พี่มันสอนอยู่ห่างกันทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอ

   ผมจำได้ดีเลยล่ะสาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจขอร้องให้พี่มันยอมปล่อยมือผม

   แต่งงาน...

   ตอนแรกที่ผมรู้เหมือนหัวใจมันจะหยุดเต้น พี่มันไม่เคยบอกอะไรผมเลยสักอย่างถ้าพี่มันพูดสักนิดว่าไม่เต็มใจจะแต่ง ขอแค่บอกผมยังไงผมก็คงจะยอมทนอยู่กับพี่มันอยู่แล้ว แต่นี่มันใหญ่จนเกินที่ผมจะรับไหว ผมรับความเจ็บนั้นไม่ไหวหรอก

   ส่วนคนที่บอกผมก็ไม่ใช่ใคร ว่าที่เจ้าสาวของพี่มันนั่นแหละ....

   แต่เข้าไม่ได้บอกผมตรงๆหรอกครับ ที่ผมรู้เพราะไอจีของน้องเขาผมเหมือนคนบ้าทั้งๆที่อุตส่าห์บอกกับตัวเองแล้วว่าอย่าไปยุ่ง แต่ผมก็ยังกดฟอลโล่จนได้เห็นประโยคเด็ดของน้องผู้หญิงที่ชื่อว่าศศิ

   น้องบอกว่าน้องกำลังจะแต่งงานพร้อมโพสต์ภาพพี่มุธออกสื่อ อธิบายชัดเจนว่าวันนี้จะไปคุยเรื่องงานแต่งที่บ้านฝ่ายชาย พี่มุธมันไม่เล่นอะไรพวกนี้อยู่แล้วแน่นอนว่าพี่มันไม่รู้ว่าผมรู้มาจากไหน หลังจากนั้นผมจัดการบล็อกน้องคนนี้ไม่อยากรับรู้อะไรต่อไป ตอนแรกผมไม่เชื่อหรอกครับสิ่งที่น้องโพสต์มา แต่ผมก็อดกลัวไม่ได้

   หลายๆครั้งที่พี่มันมีพิรุธบ่อยๆ จนผมตัดสินใจว่าจะไปหาพี่มันในวันรุ่งขึ้นพร้อมคำถามมากมายที่อยู่ในใจ ผมขอร้องพี่มันคำแรกว่าถ้ายังสงสารผมให้ปล่อยผมไป ผมบอกพี่มันว่าผมรู้เรื่องที่พี่มันกำลังจะแต่งงานแล้ว ในใจตอนนั้นผมภาวนาให้พี่มันด่าผมว่าไร้สาระ หรือฟุ้งซ่านอะไรก็ได้ที่พี่มันเคยว่าผมในอดีต ให้มันยืนยันว่าผมคิดไปเองและน้องคนนั้นก็คงโรคจิตที่แอบชอบพี่เวอร์มุธ

   แต่คำตอบคือใช่...พี่มันกำลังจะแต่งงานหัวใจผมเหมือนหยุดเต้น ผมคิดเพียงแต่ว่าผมไม่สามารถยืนอยู่ตรงนั้นข้างๆพี่มันได้อีกแล้ว...สุดท้ายพี่มันยอมปล่อยผมมา..ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการแต่ทำไมผมกลับเจ็บมากกว่าเดิม...เจ็บมากกว่าตอนที่ได้อยู่ข้างๆถึงแม้ไม่มีตัวตน

   “ใช่....เขาไม่ได้รักพี่แล้ว” ผมเลือกตอบแบบนี้เพราะผมรู้ดีว่าผมรักพี่มันสุดหัวใจและจะรักตลอดไปด้วย แต่ผมไม่มั่นใจว่าพี่มันยังรักผมเหมือนเดิม

   รัก...หึหึ..ไม่สิพี่มันไม่เคยบอกรักผมเลยนี่นา ตั้งห้าปีมีแต่ผมฝ่ายเดียวที่คิดเอาเองว่าพี่มันรัก จริงแล้วเขาอาจจะแค่คบผมเพราะสงสาร

   ผมมักจะขอร้องเสมอว่าให้พี่มันไม่ทิ้งผม ตำแหน่งไหน ฐานะไหนผมยอมได้ขอแค่พี่มันอย่าทิ้งผมไปก็พอ ผมเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าจริงๆแล้ว ผมรู้ตัวเองมาตลอดว่าวันหนึ่งพี่มันต้องไปเจอใคร

   “ทำไมล่ะ ลินเห็นนะเวลาพี่มุธเขามองพี่ทายเขาเหมือนรักพี่คนเดียว” น้องผมพูด ผมแค่นยิ้มรักคนเดียวเหรอไม่หรอก

   “เขาอาจจะรักคนเดียวจริง แต่คนนั้นคงไม่ใช่พี่”

   “พวกพี่มีปัญหาอะไรกันแน่คะ” ไพลินย้ายมานั่งข้างผมบนเตียง ผมวางช้อนลงในถ้วยมันทานไม่ลงเสียดื้อๆ จนน้องยังถอนหายใจ

   “กินน้อยแบบนี้ไง ร่างกายพี่มันถึงเหมือนศพขึ้นไปทุกที” น้องบ่นแต่ก็เอาไปเก็บในถาดที่ยกมาก่อนจะกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิม

   “เป็นศพก็ดี พี่เจ็บจนไม่อยากหายใจแล้วรู้ไหม” ผมพูดเจ็บจริงๆครับแต่ผมไม่ร้องไห้แล้วนะเพราะมันไม่มีเหลือให้ไหลแล้วต่างหาก ผมร้องทุกวันจนตอนนี้น้ำตาผมมันแห้งไปหมดแล้ว

   “ถ้าพี่ทายเป็นน้องลินนะ ลินจะตีพี่ให้ก้นลายจริงๆด้วย ทำไมพูดอะไรไม่คิดแบบนั้น”

   “พี่ก็แค่คิดเพราะถ้าพี่จะทำพี่คงทำตั้งแต่วันแรกที่พี่เดินจากมา” ผมตอบตามจริงๆถึงผมจะเจ็บมากแค่ไหน อยากตายมากแค่ไหนแต่ผมยังมีสำนึกว่ายังมีอีกสามคนที่รักผมและคงเสียใจไม่น้อยถ้าผมเกิดทำอะไรโง่ๆแบบนั้น

   “อย่าพูดแบบนั้นอีกนะคะ” น้องกอดเอวผมแล้วซบอ้อนๆ

   “เออน่า” ผมลูบหัวเล็กๆนั้นด้วยความเอ็นดู

อย่างน้อยๆผมมีอีกสามกำลังใจที่คอยให้ผมเสมอ แล้วผมจะทำร้ายตัวเองแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ

“พี่ทายเชื่อลินนะ พี่มุธเขาต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่หายหน้าไปสามวันไม่มาง้อพี่” น้องเงยหน้าพูดกับผม

ผมยิ้มแบบสมเพชตัวเอง ผมไม่เคยหวังจะให้พี่มันมาง้อหรือกลับมาขอคืนดีหรอก ผมไม่อยากหวังอะไรมากเกินไปอีกแล้ว เพราะเวลาหวังสูงเกินแล้วมันเกิดตกลงมาคนที่เจ็บที่สุดก็คือผมคนเดียว

“พี่ไม่หวังอะไรทั้งนั้นล่ะ” ผมตอบตามจริงเลยครับไม่ได้เล่นตัว

“แล้วถ้าสมมติว่าพี่เขามาง้อพี่จะคืนดีไหม”

“…………..” ผมเงียบ

นั่นสินะ ผมจะคืนดีไหม? ตอนนี้ไม่มีพี่มันผมเข้มแข็งได้แต่พอถึงเวลานั้นถ้าเกิดพี่มันมาง้อผมจะใจอ่อนหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้ครับ ยอมรับเลยว่าผมไม่รู้จริงๆว่าจะใจแข็งได้นานขนาดไหน

แต่ขอให้พี่มันมาเถอะ....อย่างที่บอกตอนนี้ผมไม่หวังบางทีจบกันไปแบบนี้อาจจะดีที่สุดก็ได้ พี่มันก็แต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่างแถมป๊ากับม๊าพี่มันจะได้ไม่ต้องรู้ด้วยว่าลูกชายตัวเองเคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย

“พี่ง่วงแล้ว” ผมลุกขึ้นดันมันให้ออกนอกประตู

“แหนะ ตลอดๆงั้นฝันดีนะคะ จุ๊บ!” น้องยื่นปากมาจูบแก้มเบาๆทีผมก็จูบหน้าผากน้องกลับไปก่อนจะไปส่งถึงหน้าห้องนอน

.

.

ตึงๆๆๆ

“ไปแล้วครับแม่” ผมวิ่งลงจากบันไดบ้านตะโกนบอกทุกคนซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนแล้วจะได้ยินกันหรือเปล่า ผมไม่สนใจครับเพราะตอนนี้มันสายมากแล้ว ผมมีสอบเก็บคะแนนตอนเก้าโมงครึ่ง แต่ตอนนี้เก้าโมงสิบนาที บ้านผมไม่ใช่ว่าใกล้ๆกับมหา’ลัยซะด้วย แถมช่วงเช้าๆแบบนี้รถติดที่สุด

ผมเลือกนั่งมอไซค์รับจ้างหน้าปากทางให้ไปส่งครับ มันไกลผมรู้ มันร้อนผมก็รู้อีกแต่ถ้ารอรถเมล์หรือขับรถไปเองสิบโมงผมก็ยังไม่ถึงมหา’ลัยหรอก

ผมเคยชินกับการนอนตื่นสาย เพราะคอนโดพี่มุธอยู่ห่างจากมหา’ลัยแค่สิบนาทีเท่านั้นเอง พอกลับมาอยู่บ้านก็ดันติดนิสัยขี้เกียจตื่นนอนมาซะได้ อ๊ะ! ผมจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตอีกผมลืมไป

“เอาไปเลยพี่ไม่ต้องทอน” ผมยัดแบงค์ร้อยใส่มือ เห็นพี่วินทำหน้าเลิ่กลั่กไม่รู้ว่าดีใจที่ได้เยอะหรือเสียใจที่ผมจ่ายไม่ครบก็ไม่รู้ แต่ช่างครับพี่มันไม่วิ่งตามถือว่าเลิกแล้วกันไปนะพี่นะ

ตอนนี้เวลาเก้านาฬิกาสี่สิบนาที สายมาสิบนาทีแล้วครับแต่เวลาสอบมันสามารถมาสายได้ไม่เกินสิบห้านาทีเพราะฉะนั้นผมยังสิทธิ์สอบอยู่

แฮ่กๆๆ

“มาแล้ว...ครับ..แฮ่ก” เห็นเพื่อนๆกำลังนั่งทำข้อสอบกันอย่างขะมักเขม้น พวกแม่งหันมาทำทางหัวเราะเยาะผม อยากจะเอาเท้ายัดปากมันมากนี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าอาจารย์นะ พวกมันโดนเรียงตัวเลย

“คุณญาติวัตถุ์ สุทธิสวัสดิ์ คุณมาสายในวันสอบ ฉันควรจะทำยังไงกับคุณดี” อาจารย์ป้าขาโหดประจำภาคเอ่ยกับผมเสียงเย็นจัดเหมือนก้อนน้ำแข็ง แกเป็นอาจารย์หนึ่งเดียวในโลกใบนี้ผมมั่นใจว่าไม่มีลูกศิษย์คนไหนสามารถประจบประแจงหรือเลียแข้งเลียขาแกได้

อาจารย์ป้าแกเถรตรงอย่างกับไม้บรรทัด เท่าเทียมกันทุกคนจะว่าดีก็ดีนะครับจะว่าไม่ดีมันก็ไม่ดี นี่ถ้าผมรู้มาก่อนว่าป้าแกคุมสอบด้วยตัวเอง ผมจะไม่ยอมให้ตัวเองตื่นสายแน่นอน

นึกแล้วก็น่าเศร้านะครับแต่ก่อนถ้าผมตื่นสายจะมีมือของผู้ชายคนหนึ่งมาเขย่าตัวผมให้ตื่น เวลาผมหิวก็จะมีคนคอยทำกับข้าวให้ทาน แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วครับ ผมต้องกลับไปเป็นเพทายคนเดิมเหมือนเมื่อห้าปีก่อน อาจจะทำได้ยากแต่ผมเชื่อว่าผมต้องทำได้

“เอ่ออออ....ขอโทษครับอาจารย์ แต่ผมพยายามมาให้ทันแล้วนะครับแต่รถมันติดมากแล้วก็...”

“ไม่ต้องอธิบายกับฉันค่ะ เชิญเข้าไปนั่งสอบแต่เวลาของคุณจะมีเท่าเพื่อนเท่านั้นคุณมาสายไปสิบห้านาที เพราะฉะนั้นคุณจะมีเวลาสอบแค่สองชั่วโมงกับอีกสี่สิบห้านาทีเท่านั้น”

ผมพยักหน้ารัวรีบเดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่มันยังว่าง ข้างๆผมเป็นไอ้ห่าเขียนตามด้วยไอ้ริวและไอ้พวกห่าที่เหลือ เห็นเลยไอ้ริวมันหัวเราะเยาะผมจนอาจารย์อีกท่านต้องเดินมาเขกหัวมันจึงหันกลับไปทำข้อสอบตามเดิม

ผมนั่งทำไปก็หาวไปใช้เวลาแค่ชั่วโมงเศษๆก็ส่งข้อสอบและออกมานั่งข้างนอกรอแก๊งค์เพื่อน คล้อยผมแปปเดียวไอ้เชกับไอ้ปานก็มานั่งจุมปุกที่ข้างผม

“มึงแน่มากเข้าทีหลังแต่ออกก่อนพวกกูเนี่ย” ไอ้ปานมันบ่น

“หึหึ เพื่อนมึงเก่งไง” ผมยอ

“เก่งมากไอ้สัส เมื่อวันก่อนหมาตัวไหนร้องไห้ให้กูไปส่งบ้านวะ” ไอ้ห่าเชพูดขึ้นทำเอาผมสำลักน้ำเปล่าแทบเข้าจมูก อื้มหืมมพูดทำไมมมมมม กูอุตส่าห์ลืม

“แหมมมมมมึงก้ออออออ” ผมลากยาวคือไม่รู้จะตอบอะไรอ่ะครับ

“ถามจริง วันนั้นที่มึงร้องไห้อ่ะโดนแฟนบอกเลิกมาเหรอวะ”

ฉึก!

แผลที่สองสำหรับวันนี้ ผมว่าไอ้ห่าเชนี่ต้องตายด้วยตีนคนสักวัน ไม่ได้แก่ตายหรอกมันอ่ะ

“มึงกลับคณะมึงไปเลยไปไอ้เหี้ย!” ผมไล่ จริงๆไอ้เชมันเรียนถาปัตนะครับคณะเดียวกับไอ้ซันแต่ไอ้ห่านั่นยังไม่มาไม่รู้ไปไหน เพื่อนเขามากันครบเกือบมดละเนี่ย

“แทงใจดำแล้วมาทำเป็นไล่กู ตุ๊ดเอ๊ยย” มันด่า ผมนี่ยกเท้าขึ้นมาวางบนโต๊ะละดีว่าเกรงใจมหา’ลัยและคนรอบข้างเลยยอมเอาลง


NEXT 50%


 :hao5: :hao6: :hao7: :mew1: :mew2: :mew3: :mew4:


หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 03-12-2013 18:05:55
รอครึ่งหลังงง  :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 03-12-2013 18:57:44
รอครึ่งหลังง

เมื่อไหรพี่มุธจะมาง้ออ สงสารทาย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 03-12-2013 19:23:22
รอครึ่งหลังจ้าพี่มุธมาเร็วนะพี่มุธรีบมาง้อเพทาย  สงสารน้องมันนะพี่
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 03-12-2013 23:19:35
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 04-12-2013 09:19:59
มุธคงยังไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับทายหรอก
เพราะมุธเป็นคนบอกให้ทายเป็นคนเลือกเอง
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (50%) P.3 >Up.03/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 05-12-2013 20:02:31
 :katai1: :katai1: :katai1:
พี่มุธแกทำเพทายฉัน
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 12-12-2013 22:57:13

ต่อจ้า

“เลิกๆๆพอๆ แล้วนี่ไอ้เขียนกะไอ้ริวมันจะทำให้ได้เต็มเลยว่างั้นเถอะ” ไอ้ห่าปานพูด

“สงสัย ตัวเกร็งนิ” ไอ้เชพูด

“แล้วนี่มึงไม่มีเรียนไง แล้วไอ้ซันไปไหน” ผมถามมันพร้อมกับแกะถั่วต้มเข้าปาก

“เลิกเรียนก่อนมึงสอบเสร็จอีก ส่วนไอ้ซันมันบอกว่าเดี๋ยวมาไปทำธุระแปป”

“อ้อออ”

นั่งคุยสัพเพเหระกันอีกเกือบๆครึ่งชั่วโมงคุณชายเขียนและคุณชายริวก็เสด็จจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์สักที

“ไง ทำได้?” ผมถาม

“สบายมาก” ไอ้ริวตอบแต่เห็นมันลงมาพร้อมกับชวดกระทิงแดง ริวมึงแน่ใจนะว่าไหว

“ห่า ตอแหลชิบ”

“ว่าไงวะพวกมึง” มาแล้วครับเสียงไอ้ซัน พวกเรากำลังหัวเราะกันตึกแทบแตก แต่พอมันเดินมาเสียงทั้งกลุ่มก็เงียบลง

“หน้ามึงไปทำอะไรมาวะซัน” ผมถามขึ้นคนแรก

“ฟัดกับ....หมานิดหน่อยอย่าสนใจเลย” ผมตอบปัดๆ ซึ่งผมรู้ดีว่ามันกำลังโกหก ทำไมวะไหนบอกว่าเพื่อนกันต้องคุยกันทุกเรื่องไง

“หมาชื่ออะไร เดินสองขาหรือว่าสี่ขา” ผมถามต่อ

“เฮ้ยย มึงไปเซ้าซี้มันมากไปหรือเปล่า” ไอ้ริวพูดขึ้นคงเห็นว่าผมไม่ค่อยพอใจที่ไอ้ซันมันไปมีเรื่อง

“คงงั้น ขอโทษทีกูอารมณ์ไม่ค่อยดี” ผมบอกก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง

ผมกลัวไปหมด ความรู้สึกมันสับสนพัวพันกันยุ่งเหยิง มันห่วงอ่ะครับเพื่อนผมทั้งคนนิ กลัวไปสารพัดผมเสียพี่มุธไปคนนึงแล้วผมก็ไม่อยากจะเสียมันไปอีก ผมไม่ชอบเห็นใครทะเลาะกับใคร แล้วถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับผมด้วยล่ะก็ ผมจะโกรธทั้งคนหาเรื่องและคนโดนหาเรื่องเลย

“อย่าเครียดดิ กูทำเพื่อมึงนะ” ผมหันขวับ มันยิ้มมุมปากเหมือนว่ากำลังพอใจบางสิ่งบางอย่าง

“ทำเพื่อกู? ทำอะไร”

“เหอะน่า....” มันหันหน้าหนีแล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยเรื่องอื่นกับไอ้ปานและไอ้เช ทำเหมือนว่าเรื่องเมื่อกี้ไม่ได้สำคัญทั้งๆที่มันสำคัญกับผมมากจริงๆ

“ทาย ไปหาไอ้เหนือเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” จู่ๆไอ้ซันมันก็ชวนผมไปหาไอ้เหนือ ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงไม่อะไรนะครับ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากไปเหยียบตึกวิศวะเท่าไหร่เลย ไม่อยากแม้ขับรถผ่านด้วยซ้ำ

“ปะ..ไปทำไมวะ” ผมถาม

เรื่องผมกับพี่มุธผมยังไม่ได้บอกไอ้ซันเลยครับ จะหาเวลาดีๆค่อยบอกมัน กลัวมันด่าเอาหาว่าผมทำอะไรไม่คิด แต่ไม่ใช่หรอกครับครั้งนี้ผมคิดดีมากๆแล้วต่างหาก แต่ทำไมไม่รู้นะครับการแสดงออกของไอ้ซันวันนี้เหมือนว่ามันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่จะรู้จากใครล่ะหรือว่าพี่มุธ

แล้วที่หน้าแหกก็เพราะพี่มุธด้วยใช่ไหม?

แต่คิดอักทีคงไม่หรอกครับ

“เอาของไปให้ไอ้เหนือน่ะ วิสกี้มันฝากกูเอาไปให้เมื่อกี้” ผมสะดุ้งเลยครับพอได้ยินชื่อนี้

ความรู้สึกผิดตีกันไปมาเหมือนเสียงระฆัง ผมมองหน้ามันสองตัวไม่ค่อยติดหรอกครับ ยิ่งตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่เป็นไปได้ถ้าไม่ใช่ธุระหรือนัดเลี้ยงกันผมจะไม่พยายามโผล่หน้าไปหามันเด็ดขาด

“กูขี้เกียจนี่” ผมบอก

“อืม งั้นกูไปคนเดียวก็ได้” แวบนึงผมเห็นมันทำหน้าเหมือนผิดหวังที่ผมไม่ตามใจมัน ผมรู้สึกผิดอีกแล้วครับ

“เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนมะ” ไอ้ริวเสนอหน้ามันคงอยากไปหาสาวสวยๆนุ่งสั้นๆที่คณะอื่นบ้าง ที่ศิลปกรรมคงมีแต่สาวเซอร์

“ไม่เป็นไร” ไอ้ซันตอบเสียงเบา โหหห่ากูยิ่งรู้สึกผิดเลยเนี่ย

“เออๆๆๆ กูไปก็ได้เว้ยยย” แล้วสุดท้ายผมก็ต้องยอมไป

จะบอกเลยว่าถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่สงสารมัน จะปล่อยให้มันไปคนเดียว ผมพูดเลย!!

“มึงนัดไอ้เหนือไว้ที่ไหน” ผมถามในขณะที่นั่งรอที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกวิศวะ ผมมองซ้ายแลขวากลัวเหลือเกินครับ ว่าจะเจอกับผู้ชายผู้เป็นเจ้าของหัวใจของผม ผมไม่พร้อมจะเจอจริงๆ

“ที่นี่แหละ แล้วมึงเป็นอะไรนั่งยุกยิกๆไปมาอยู่ได้” มันถาม ผมสะดุ้งกลับมานั่งตัวตรง กลัวทำตัวมีพิรุธแล้วเดี๋ยวมันจะซักถามเยอะผมรำคาญ

“ก็...กูคันอ่ะ เออๆเรื่องของกูเหอะน่า” ผมบอกปัด มันอมยิ้มก่อนจะพูดกับผมอีก

“คันตรงไหนมาเดี๋ยวกูเกาให้” มันพูดจบก็คว้าหมับมาที่เอวผมก่อนจะเกาๆถูๆจนผมจักกะจี้

“เฮ้ย ไอ้ห่าซัน ฮ่าๆๆ พอ...ฮ่าๆๆ..พะ..พอแล้ว” ผมหัวเราะไม่หยุดเลยครับ ยิ่งมันเห็นว่าผมจักกะจี้ขำหน้าดำหน้าแดงมันก็ยิ่งแกล้ง ไอ้หี่โรคจิตจังวะ

“เอ้า นี่กูช่วยมึงอยู่นะเนี่ย”

“ไม่..ไม่ต้อง..ฮ่าๆๆ” ผมพยายามปัดมือมันออกแต่ไม่ไหวไอ้ห่านี่แรงเยอะ

พอมันเห็นว่าผมเริ่มขัดขืน คราวนี้มันล็อคคอผมเลยครับแล้วผมจะไปสู้มันไหวได้ไง ผมก็ได้แต่นั่งบิดไปบิดมาให้มันแกล้งนั่นล่ะ

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้เหี้ยปล่อยกู” ผมทั้งขำทั้งด่า มันกลับหัวเราะชอบใจ คอยดูนะมึงแกล้งกู

“อ่ะๆ ปล่อยก็ได้นี่กูสงสารลูกหมาหรอกนะ” มันยอมปล่อยผม

แฮ่กๆ

ส่วนผมนี่หอบแฮ่กเลยครับ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยดูเหมือนกุ๊ยมากกว่านักศึกษา

เพี๊ยะ!

“แม่ง! แกล้งกู” ผมตบกบาลมันไปทีเอาคืนครับเล่นซะผมเกือบขาดใจตาย

“เจ็บนะ” มันกุมหัวทำหน้าตาปานว่าถูกยิง ตอแหล

“สมควร”

“หึหึ” มันหัวเราะในลำคอ

จู่ๆมันก็หยุดขำแล้วมองหน้าผมตรงๆด้วยสายตาสื่อความหมาย ผมไม่เข้าใจก็เลยหันหน้าหนีมันครับ ไม่เคยเห็นมันมองผมด้วยสายตาแบบนี้ผมไม่ชิน นอกจากพี่มุธผมก็ยังไม่เคยได้รับจากใคร แล้วผมก็ไม่อยากได้รับจากมันด้วย

เพราะมันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม

“เพทาย” มันเรียกพร้อมใช้มือมาจับหน้าผมให้หันไปหามัน ผมตัวแข็งค้างไม่รู้ว่ามันคิดจะทำอะไร แต่ผมก็ขออย่าให้มันทำในสิ่งที่ผมกำลังกลัว

“วะ..ว่า” ผมขานรับ

“มึงเลิกกับเขาแล้วใช่ไหม” มันถามผมเสียงจริงจังๆ มันใช้คำว่า ‘เขา’ แทนชื่อเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าหมายถึงใคร

ปลายนิ้วมันลูบไล้ใบหน้าของผมไปมาจนผมเริ่มรู้สึกขนลุก ไม่ได้ว่าพิศวาสอะไรนะครับเพียงแต่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำกับผมแบบนี้ มันสยิวๆแปลกๆ

“มึงรู้ได้ไง” ผมไม่ตกใจเท่าไหร่ที่มันรู้ ไอ้ซันมันจมูกไวจะตาย

“กูรู้แล้วกัน ตอบกูมาก่อน” มันยื่นหน้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนผมต้องหงายตัวไปข้างหลังเพื่อรักษาระยะห่าง จนตอนนี้ผมแทบจะนอนไปกับเก้าอี้อยู่แล้ว

“อะ..อืม” ผมครางรับไม่รู้จะปฏิเสธให้มันได้อะไร แต่ประโยคต่อไปของมันทำเอาผมแทบสำลักน้ำลาย

“งั้นเป็นแฟนกับกูไหม”

“ห๊ะ!!” ผมตกใจตาโต อ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

“มาเป็นแฟนกู กูจะดูแลมึงให้ดีที่สุดเอง” มันยังพูดต่อ แต่สติผมมันหลุดไปแล้วครับ

พรึ่บ!

“เดี๋ยวๆ มึงพูดบ้าอะไรวะ” ผมปัดมือมันที่อยู่บนหน้าผมออกห่างก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วมองมันอย่างตกใจ

“กูพูดจริง” มันลุกขึ้นจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก

คราวนี้ผมจุก มันหน่วงพูดไม่ออกเลยครับ ผมลองคิดตามที่มันพูด ไอ้ซันมันชอบผมเหรอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเข้าใจว่ามันรักผมในฐานะเพื่อนสนิทมาตลอดแต่ทำไมตอนนี้มันถึงมาพูดขอผมเป็นแฟนอย่างหน้าตาเฉย ผมไม่ขำกับมันด้วยนะ

หรือมันจะทำไปเพราะสงสารที่เห็นผมไม่มีใคร ก็เลยอยากมาดามหัวใจถ้าเป็นแบบนี้จริง ผมขอไม่รับความหวังดีจากมันหรอก

“แต่เราเป็นเพื่อนกัน” ผมไม่รู้หรอกว่ามันพูดแบบนั้นเพื่ออะไร แต่ผมว่าคำพูดของผมเป็นคำปฏิเสธที่ละมุนละม่อมที่สุดแล้ว

ผมไม่สามารถคิดอะไรกับใครได้นอกจากผู้ชายที่ชื่อ ‘เวอร์มุธ’ เพียงคนเดียวเท่านั้น

หมับ!

“ให้โอกาสกูเป็นมากกว่านั้นสิ” จู่ๆมันก็เข้ามากอดผม ผมตกใจกว่าเดิมจะผลักออกก็ไม่ทันแล้ว

“กู...มึง.....” ผมพูดไม่เป็นภาษาแล้วครับตอนนี้ คืองงถึง งงมาก

แล้วยิ่งประโยคที่มันกระซิบข้างหูผมยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจเป็นสองเท่า

“กูทำทุกอย่างเพื่อมึงนะเพทาย”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้เรียบเรียงประโยคของมัน ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดตามคำพูดของมัน เสียงของใครบางคนก็แทรกกลางอากาศขึ้นมาก่อนจะตามด้วยแรงกระชากที่ทำเอาผมและไอ้ซันหลุดออกจากกันอย่างง่ายดาย

“นี่มันอะไรกัน!!!!”

“พี่มุธ!!” ผมเรียกชื่อคนที่กระชากแขนผมอย่างตกใจ

ผมไม่คิดว่าเขาจะเห็น

ผมไม่คิดว่าเขาจะมาตรงนี้

ผมไม่คิดว่าเขายังจะสนใจผม....

ทันทีที่ได้สติผมก็พูดประชดเขาออกไปเรียบร้อย

“ผมกำลังพลอดรักกับแฟนไงล่ะ” ผมพยายามบิดแขนตัวเองออกจากข้อมือใหญ่แต่ดูเหมือนผมไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย แรงเขาเยอะเกินไป

พอพูดจบได้ยินเสียงพี่มุธคำรามในลำคอเหมือนกำลังสะกดกลั้นโทสะ แล้วทำไมเขาจะต้องมาโกรธผมด้วยทั้งๆที่เขาปล่อยมือจากผมแล้ว

“กูไม่คิดว่ามึงจะทำแบบนี้นะซัน” พี่มุธพูดเลยไปถึงคนด้านหลังผม ทำให้ผมโกรธที่เขาพาล

“พี่ไม่มีสิทธิ์มาว่าซันนะ!”

“ทำไมจะไม่มี!” เขาตอบกลับมาแถมด้วยใบหน้าที่บูดเบี้ยวเต็มที่

“ซันเป็นแฟนผม!!”

“แต่กูเป็นผัวมึง มานี่เลย!” ผมตกใจที่เขาขึ้นคำหยาบ เขาไม่เคยพูดกับผมแบบนี้กว่าผมจะตั้งสติได้ก็ถูกเขาลากมาถึงไหนต่อไหนแล้ว

แต่ก่อนที่ผมจะถูกลากมาได้ยินเสียงไอ้ซันตะโกนตามหลังผมมาว่า

“กูทำเพื่อมึงนะ” ทำให้ผมไม่แน่ใจว่ามันตั้งใจขอผมเป็นแฟนหรือตั้งใจพาผมมาสังเวยพี่มุธกันแน่

คำว่าทำเพื่อผม มันคืออะไรกัน

“ผมเจ็บ!!!!!” ผมแหกปากลั่นเมื่อเขาจับผมยัดเข้ารถ

สรุปการทำเพื่อผมคงหมายถึงให้ผมโดนกระทำให้เจ็บตัวแบบนี้กระมัง

“เงียบ!!!!!!!”


TBC____

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 13-12-2013 00:51:31
 :hao6:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tweetpuen ที่ 13-12-2013 01:06:48
กรี๊ดด

ต่อด่วน...ค่าา

ค้างคา
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tweetpuen ที่ 13-12-2013 01:10:14
กรี๊ดด

ต่อด่วน...ค่าา

ค้างคา
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 13-12-2013 05:41:53
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 13-12-2013 06:17:13
ค้างงงงงงง  :ling2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 13-12-2013 09:51:02
พี่แนนนนนนนนน  ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 13-12-2013 10:45:09
รอๆๆๆๆๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 13-12-2013 11:41:46
ซันทำเพื่อนซะแล้ว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-12-2013 17:15:44
อืมม ซันคงตั้งใจทำให้พี่มุธเห็น
เพื่อเปิดโอกาสให้ทายกับพี่มุธเคลีร์ยกัน

แต่แอบอยากรู้เรื่องซัน
กับบุคคลปริศนาที่มีจากเรื่องโน้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่7 (100%) P.4 >Up.12/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 13-12-2013 20:01:30
ซันเล่นแรงนะเนี่ย 555555 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 21-12-2013 22:54:07


ตอนที่8

   กลินท์พาร์ท

   ปุบ!

   !!

   “เฮ้ยย นอนๆ กลางคืนมัวทำอะไรของมึงอยู่มาหลับตอนเช้าทุกที” ผมสะดุ้งตื่น หน้าตายังงัวเงียอยู่ หันไปมองไอ้คนที่โยนหนังสือลงบนโต๊ะก็พาลหงุดหงิด

   “เสือก” ผมว่า

   “หึหึ เอาดีๆกูเห็นหน้าตามึงไม่สดชื่นมาหลายวันแล้ว” ผมส่ายหัวแต่ก็รู้ว่าคงโกหกมันไม่ได้

   ไอ้ทิว หรือทิวากร

   มันเป็นเพื่อนรักของผมสนิทกันตอนเรียนมหา’ลัยแต่รู้ใจกันอย่างกับคบกันมาเป็นสิบๆปี ทุกเรื่องของผมคือทุกเรื่องของมัน เพราะผมปิดอะไรไม่ค่อยได้มันบอกว่าสายตาผมไม่เคยโกหก

   “อ้าว ไอ้กลินท์มันเป็นไร” อีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา คงหมายถึงผมว่าเป็นอะไรถึงมานั่งทำหน้าตาไม่รักโลกแบบนี้

   “ไม่รู้แม่ง ถามแล้วไม่ตอบ แล้วนี่จะไปไหนวะไอ้เบล” ไอ้ทิวตอบแล้วถามต่อ

   เบลเป็นเพื่อนอีกคนของผมคนนี้เรียนกับไอ้ทิวมาตั้งแต่ม.ปลาย มันสนิทกันมากแต่ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเลย อารมณ์ก็คงแบบผู้ชายอ่ะครับไม่ได้คิดอะไรมากเพื่อนก็คือเพื่อนสำคัญเท่ากันหมด

   ส่วนเพื่อนผมเขาไปได้ดิบได้ดีกันหมดแล้วครับ บางคนก็เรียนหมอ บางคนก็ไปเรียนต่างประเทศจะได้เจอกับเพื่อนเก่าตอนม.ปลายทีก็นู่นล่ะตอนเลี้ยงรุ่น ซึ่งผมก็เคยไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

   ตอนนี้พวกผมเรียนปีสุดท้ายแล้วครับ หัวสมองก็ไม่ได้เก่งมากถึงขนาดเรียนมหา’ลัยอันดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แย่มากถึงขนาดติดเอฟหรือใกล้ไทล์หรอกครับ

   ผมกับไอ้ทิวเรียนบริหารครับ เพราะมีธุรกิจที่แสนจะมั่งคั่งรอเราอยู่ด้านหลัง ถ้าถามว่าชอบไหมผมตอบเลยว่าไม่ ผมอยากเรียนสถา’ปัตย์ แต่พ่อกับแม่ผมท่านไม่อนุญาต ส่วนไอ้ทิวมันก็บอกแต่ว่าเรียนอะไรก็ได้ที่ได้ปริญญาก็พอ

   ส่วนไอ้เบลน่าอิจฉาสุดๆมันเรียนการละครสมใจของมัน มันบอกว่ามันหล่อมันควรจะได้เป็นพระเอกแข่งกับณเดชน์ คูกิมิยะ ถุย! หล่อไม่เถียงแต่หลงตัวเองนี่เพลาๆลงมั่งเหอะวะ

   “มาหาพวกมึงนี่แหละ ไม่มีเรียนไง” ไอ้เบลนั่งลงข้างผมแล้วตอบ

   “มีตอนบ่ายสาม” ไอ้ทิวมันตอบ

   ตอนนี้บ่ายโมงกว่าๆ รอเรียนอีกทีก็สามโมง เบื่อมากครับตารางเรียนที่ไม่ติดกันทำให้ผมต้องมานั่งรอมันเซ็งนะครับ ปีนี้ปีสุดท้ายเรียนไม่เยอะแต่งานเยอะมาก!!!! ผมอยากเอาเวลาทั้งหมดทุ่มให้กับการนอนไม่ใช่มานั่งตากแดดตากลมแบบนี้

   “แล้วมึงอ่ะกลินท์เป็นห่าไร หน้ามึงนี่เหมือนตูดกูไม่มีผิด” ผมมองค้อนดูไอ้เบลมันเปรียบ

   “ตีนกูนี่ กูร้อนเฉยๆไม่มีไร” ผมบอกผ่านๆ ไม่อยากให้พวกมันถามมากน่ารำคาญ

   “เหอะ ตอแหลเก่งเหมือนใครวะ” ไอ้ทิวพูด ผมยกนิ้วกลางใส่หน้ามัน

   ผมเงียบไม่อยากบอกว่าเครียดเรื่องที่บ้าน ปัญหารุงรัง พ่อกับแม่ก็โกรธผมทุกครั้งที่ผมเสนอความคิด เรื่องแต่งงานของน้องสาวผมน่ะครับ ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่เราจะยกลูกสาวไปประเคนให้ฝ่ายชายถึงบ้าน ผมเห็นแววตาพี่มุธก็รู้แล้วว่าพี่เขาไม่เต็มใจ เผลอๆพี่มันอาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ผมคิดอย่างนั้น

   ผมสงสารนะครับถ้าพี่มันต้องแต่งงานกับน้องสาวผม ไม่ใช่ว่าน้องผมไม่ดีนะอาจจะมีนิสัยเสียบ้างตามสไตล์ลูกคนเล็กแต่ศศิก็น่ารักเพียงแต่ว่าการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมันเหมือนการตกนรกบนโลกมนุษย์ไปตลอดชีวิต

   ผมสะบัดความคิดให้หลุดออกจากหัว ผมเริ่มคลายกังวลได้บ้างแล้วเมื่อเห็นว่าฝ่ายพี่เวอร์มุธก็มีท่าทีแข็งขืน ดีแล้วครับผมไม่อยากให้ครอบครัวนั้นถูกหลอกใช้....

   จากครอบครัวผม

   “เฮ้ย กูลืมคืนหนังสือห้องสมุดว่ะ ไอ้ทิวพากูกลับห้องไปเอาหนังสือหน่อยเลยมาเจ็ดวันละเนี่ยห่าโดนปรับยับแน่” นั่งๆอยู่ไอ้เบลก็ร้องเป็นตุ๊ดแตกเขย่าแขนไอ้ทิวใหญ่

ผมส่ายหัวให้กับความขี้ลืมของมัน จริงๆเหอะอยากเป็นดาราแต่ประโยคสั้นๆหรือเรื่องในชีวิตประจำวันมึงยังจำไม่ได้มึงจะไหวไหมเนี่ยเบล

   “เดี๋ยวกูมานะ มึงนั่งรอนี่ก่อน” ผมพยักหน้า

   ไอ้เบลมันไม่ได้ขับรถมาครับแล้วแต่อารมณ์มันเพราะหอมันก็ไม่ได้ไกลมาก มันบอกว่าเพื่อความแข็งแรงเดินมาเรียนแล้วตอนเย็นให้พวกผมไปส่งสบายกว่ากันเยอะ น้ำมันก็ไม่เปลือง ฉิบหายความคิดเพื่อน นี่ก็คงไปไม่นานหรอกครับเดี๋ยวก็คงกลับ

   ผมนั่งรอมันอยู่ที่เดิมก็ทำท่าจะหลับอีกรอบ จนมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งมาสะกิดหลังทำให้ผมต้องตั้งสติตัวเองอีกรอบ

   “ครับ” ผมขานรับ

   “มีเพื่อนพี่ฝากมาให้อ่ะค่ะ” ผมขมวดคิ้วเพื่อนผม ไอ้ทิว? ไอ้เบล? เหรอแล้วทำไมมันไม่โทรหาผมล่ะฝากจดหมายมาทำไม

   ผมสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายมันคงลืมไว้บนรถ ลืมเปิดเครื่อง เงินหมด บลาๆ สารพัดเหตุผล

   “ขอบคุณครับน้อง” ผมยื่นมือรับมามองกระดาษแผ่นน้อยที่พับครึ่งอย่างงๆแต่ก็เปิดอ่านนะครับ

   “ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มและเดินจากไป

   ผมเปิดอ่านข้อความในกระดาษ มันเขียนมาสั้นมากเนื้อหาบอกแค่ว่า

   ‘รออยู่หน้าประตูคณะมึง มาหาที’

   ผมเอะใจนะครับไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกสะดุดแต่ผมเองก็อยากรู้ว่าใครที่ส่งกระดาษแผ่นนี้มา

   ผมเดินไปยังประตูใหญ่หน้าคณะตัวเองตามที่มันเขียนบอก เดินเลยออกมาจนถึงฟุตบาทด้านนอกก็ไม่เห็นคนที่ผมจะรู้จักเลยสักคน ยืนรออยู่แปปนึงก็คิดว่าคงเป็นจดหมายกวนตีนมากกว่าตั้งใจว่าจะเดินกลับเข้าข้างในแต่มีคนร้องเรียกซะก่อน

   “สวัสดี กลินท์” ผมหันขวับไปมองตามเสียงที่เรียกชื่อผม ผมมองอย่างสงสัย มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่รู้จักผู้ชายหน้าตาดีคนนี้

   ผมขมวดคิ้วไม่ตอบโต้อะไร กำลังสำรวจคนตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน มุมซ้าย มุมขวา ด้านหน้า ด้านข้างแน่นอนผมไม่รู้จัก แต่แปลกที่มันรู้จักผมผมไม่ได้ดังขนาดว่าเด็กมหา’ลัยอื่นต้องมาตามหาถึงที่นี่หรอกนะ

   “รู้จักชื่อได้ไง” ผมถาม

   มันยกยิ้มน้อยๆ มือสองข้างล้วงกระเป๋ามันเอนหลังไปพิงกำแพงไขว้เท้านิดหน่อยแต่โคตรเท่ห์ สาวๆเดินผ่านไปผ่านมายังอดมองไม่ได้ ดูจากหัวเข็มขัดของมันเรียนมหา’ลัยชั้นนำของประเทศเลยทีเดียว แต่ประเด็นสำคัญกว่าคือ

   มึงรู้จักกูได้ยังไง

   “ก็ไม่ยากนี่” ผมเริ่มไม่ชอบคนตรงหน้า แววตาอวดดี ใบหน้าหล่อบาดใจแต่แฝงความกวนไว้เต็มพลัง เข้าใจคำว่าไม่ชอบขี้หน้าก็วันนี้นี่เอง

   “มีธุระอะไร” ผมถามตรงๆ เรายืนประจันหน้ากันอย่างกับจะมีเรื่องทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้านะครับแปลกไหม

ตอนนี้คนเข้าเรียนกันไปเกือบหมดแล้วครับ มีบ้างประปรายบนฟุตบาทที่พวกเรายืนเลยโล่งเหมาะกับเป็นเวทีมวยซะจริงๆ

   มันขยับตัวมาใกล้ผมห่างแค่ช่วงมือเดียว ผมก็ไม่ได้ถอยหนีสงสัยเหมือนกันว่ามันต้องการจะทำอะไร

   “อยากคุยด้วยแค่นั้น” มันตอบ

   “ก็คุยมา...อุบ!” แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจบมันก็เอามือออกจากกระเป๋าข้างหนึ่งพร้อมด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กโปะเข้ามาเต็มจมูกผม

   ผมตกใจแต่หนีไม่ทันเมื่อกลิ่นหอมอ่อนๆลอยเข้าจมูก เรี่ยวแรงผมก็เริ่มหายไปแต่สติผมยังอยู่เกินครึ่ง ดวงตาของผมเริ่มปรี่ลงเห็นหน้าผู้ชายตรงหน้าไม่ค่อยชัดเจน

   ผมพยายามดันคนตัวใหญ่กว่าออก มันก็ยอมถอยแต่โดยดี ผมมองหน้ามันอีกครั้งก็เห็นมันแยกเป็นสามส่วน ผมมึนๆรู้ตัวอีกทีก็เหมือนว่าตอนนี้ผมไปอยู่ในอ้อมกอดของมันซะแล้ว

   มันอุ้มผมขึ้นแขนขาผมตกตามแรงโน้มถ่วง หลับตาเมื่อหน้าหงายขึ้นสู้แดด ไม่รู้ว่ามันอุ้มผมไปไหนแต่ได้ยินมันพูดเบาๆว่า

   ‘จำชื่อกูไว้ กูชื่อซัน’
   
   ซัน ชื่อมันคือพระอาทิตย์สินะเหมือนกับผม ‘พระอาทิตย์’ แต่ผมกับร้อนจนแทบละลายเมื่อมีมันอยู่ใกล้ๆ ผมพยายามลืมตามองหน้ามันเห็นดวงตามุ่งมั่นของมันเหมือนจะแผดเผาทุกอย่างที่ขวางหน้า สติผมเริ่มไม่รับเสียงรอบข้างรู้สึกอีกทีก็เหมือนมีแอร์เย็นๆมาปะทะเข้ากับหน้าผมแล้ว

   .

   .

   “อืออออ” ผมสะบัดหัวไล่ความมึน เหมือนสติยังมาไม่เต็มเท่าไหร่มันเบลอๆจำเรื่องก่อนหน้านี้ได้ไม่หมดแต่พอนึกออกว่าผมถูกผู้ชายคนหนึ่งโปะยาแล้วพาตัวมา

   มันพาผมเข้ามาจอดที่คอนโดแห่งหนึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคงเป็นคอนโดของมัน ผมถูกอุ้มขึ้นมาที่นี่โดยที่ผมไม่มีแรงแม้แต่จะขืนตัวออก ยาที่มันใช้ไม่ใช่ยาสลบเพราะผมรู้สึกตัวตลอดเวลาเพียงแต่ว่ามันทำให้ผมไม่มีแรงแม่แต่จะอ้าปากเปร่งเสียงยังลำบากเลย

   “ลุกขึ้นมาคุยกันหน่อยสิ” ผมหันหน้าไปตามเสียงเห็นไอ้ผู้ชายคนนั้นมันนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก

   ผมดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างมือยังพอมีแรงยกขึ้นอยู่บ้างนิดหน่อย

   “อะ..ไร” ผมเจ็บคอมันเหนื่อยๆขนาดแค่พูดคำเดียวเอง

   “รู้จักคนในรูปไหม” มันโยนรูปมาปึกนึงน่าจะสักสี่หรือห้าใบ ทันทีที่ผมเห็นก็แทบตกใจในเมื่อคนๆนั้นคือ ‘ศศิ’ น้องสาวของผม

   “จะทำอะไร แค่กๆ” ผมไอเสียงแหบแต่ก็ต้องเค้นเสียงถาม ตอนนี้ผมเป็นห่วงกลัวว่าน้องผมจะอยู่ในอันตราย

   “แล้วมึงรู้จักคนนี้ไหม” มันโยนรูปอีกใบใส่หน้าผม พอดีว่ารูปมันตกและหงายลงตรงหน้าผมพอดี ผมมองก็ตกใจอีกในเมื่อผู้ชายในรูปคือพี่เวอร์มุธ....

   ผมมองหน้ามันไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร มันก็จ้องกลับมาด้วยแววตาที่เหมือนแค้นเคือง ผมเม้มปากเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ธรรมดา สักพักมันก็เดินมาหาผมพร้อมโทรศัพท์ที่ยืนมาจ่อตรงหน้า ผมหันหน้าหนีเพราะแสงจากหน้าจอทำให้ผมมองอะไรไม่ชัดแต่มันก็ยังจับให้หน้าผมหันไปตามทิศทางที่มันต้องการ

   “กูรู้ว่าสองคนแรกมึงคงรู้จัก แล้วคนนี้ล่ะมึงรู้ไหมว่าใคร” ผมมองรูปในไอโฟนของมัน ผมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้จัก คนในรูปเป็นผู้ชายแน่ๆผมมั่นใจแต่หน้าตาน่ารักติดไปทางสวย มีรอยยิ้มกว้างประดับใบหน้าแต่แววตาเศร้าจนผมยังสงสาร

   “ตอบกู!!!” จู่ๆมันก็ตะโกนจนผมสะดุ้ง

   “มะ..ไม่รู้ แค่กๆ”

   “คนนี้ชื่อเพทาย มึงจำให้ดีเพทายแฟนของว่าที่สามีน้องสาวมึง!!!” มันแหกปากใส่หน้าผม

   ผมหลับตาตกใจกับเสียงที่ดังมากๆของมัน แต่สมองก็พยายามคิดตาม แฟนของว่าที่สามีน้องสาวผม งั้นก็หมายความว่า คนในรูปคือแฟนพี่เวอร์มุธสินะ

   “แฟน..พี่วะ..เวอร์มุธเหรอ” เสียงผมแหบและเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ในห้องที่เงียบกริบขนาดนี้มันคงได้ยินที่ผมพูดเพราะจู่ๆมันก็ยิ้มออกมา

   “รู้จักนิ ดีจะได้คุยกันง่ายๆหน่อย” มันปล่อยคางผมจนสะบัดไปข้างหนึ่ง ตัวผมไม่มีแรงจึงทรุดลงไปนอนกับที่นอน

   ผมยันตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก มองมันก็เห็นมันเดินไปเดินมาอยู่ปลายเตียง

   “แล้วกูเกี่ยวอะไร แค่กๆ” ผมถาม

   “หึหึ ถามได้ดี กูจะคุยกับมึงเรื่องนี้อยู่พอดีเลย”

   “คุยอะไร” ผมถามต่อ

   O_O!

   ผมอึ้ง จู่ๆมันก็ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผม มันถอดจนหมด หมดจริงๆ ถึงผมจะเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่เคยเห็นใครมาแก้ผ้าต่อหน้าแบบนี้

ผมพยายามดันตัวหนีแต่ก็ไม่ทันมันเดินมาจับหน้าผมให้เงยมองหน้ามัน มันยิ้มอย่างมีเลศนัย แต่ผมนี่ตัวสั่นด้วยความกลัว อะไรบางอย่างบอกว่าผมคงจะโชคร้ายเข้าให้แล้ว

   “เดี๋ยวขอใช้ร่างกายคุยก่อนแล้วกัน”

   “อื้มมมม” พอมันพูดจบก็ฉกวูบมาที่ปากของผม ผมอยากหนีแต่หนีไม่ได้ ผมไม่มีแม้แต่แรงจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

   ผมกำลังโดนผู้ชายด้วยกันจูบและลวนลามร่างกาย

   “หึหึ นิ่งๆแบบนี้กูชอบ” มันว่าจบก็จูบผมอีกครั้ง ผมหลับตาและกัดปากไม่ให้มันล่วงล้ำเข้ามา และดูเหมือนมันจะโมโห

   “อ้าปาก!” มันพูดอู้อี้เพราะปากมันชิดอยู่ที่ปากผม

   ผมดื้อด้วยการไม่ทำตาม ทำไมผมต้องยอมมันด้วย ที่สำคัญที่ผมอยากจะถามมันคือผมผิดอะไร ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย....

   “อื้อออ” ผมครางประท้วงเมื่อมันจูบจนผมเหมือนจะหมดลมหายใจ ถึงแม้ว่าผมจะพยายามกัดปากเพื่อต่อต้านแต่เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดของผมสุดท้ายก็ต้องแพ้มันอยู่

   มือมันบีบกรามผมแน่น ผมเจ็บจนน้ำตาไหลเป็นทางแต่ไอ้คนตรงหน้าก็ยังไม่ยอมหยุดลุกล้ำผม จนผมรู้สึกได้กลิ่นคาวเลือดในปาก

   “ครั้งนี้มึงไม่แรง เดี๋ยวกูบริการมึงเอง” มันพูดแบบนั้นผมยังคิดตามไม่ทันมันก็คร่อมทับบนตัวผม

   ผมยกแขนจะดันมันออกแต่ก็โดนมันจับแขนผมทั้งสองข้างขึ้นไปไว้เหนือหัว มันล็อคแขนผมด้วยมือข้างเดียวผมมั่นใจว่าถ้าผมไม่โดนมันโปะยามาก่อนหน้านี้ผมต้องดิ้นหลุด

   “อย่าพยายามขัดขืนไม่งั้นมึงต้องเจ็บตัว” มันพูดจบก็ซุกหน้ามาที่ซอกคอของผม

   ผมร้องไห้....โดยที่ไม่สามารถขัดขืนมันได้ ผมไม่ได้ยอมแต่ผม..... ฮึกๆ

   “อ๊ะ” ผมเผลอหลุดเสียงเมื่อมันก้มลงใช้ลิ้นกับหน้าอกของผม

   ผมแอ่นตัวขึ้นอย่างเผลอตัว ผมยอมรับว่ารู้สึกเสียวเมื่อมันเล่นกับจุกเล็กๆตรงนั้น ผมเป็นคนมีความรู้สึกเพียงแต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับปากของผู้ชายด้วยกัน

   มันถอดเสื้อผ้าผมออกจนตอนนี้ทั้งผมและมันล่อนจ้อนทั้งคู่ ผมอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีน้ำตาที่ไหลของผมไม่ได้ทำให้มันสงสารผมเลยสักนิด ผมกลั้นเสียงไม่อยากให้ใครมาเวทนา

   “อืมมม” มันครางแผ่วในลำคอหลังจากเล่นกับด้านบนผมจนพอใจ

   มือมันยังจับแขนผมตรึงไว้บนหัวแน่นโดยไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยให้แขนผมเป็นอิสระ ผมพยายามบิดตัวหนีแต่มันก็จะกระชากตัวผมให้กลับมานอนราบตามเดิม

   “ขาวกว่าที่กูคิด” ไม่รู้ว่ามันคิดอย่างที่พูดหรือตั้งใจพูดให้ผมอาย แต่ดูจากสายตาผมว่ามันตั้งใจเยาะเย้ยผมมากกว่า

   “อื้อออ..อ๊า..มะ..ไม่” ผมบิดตัวร้องครางอย่างอดไม่อยู่ มันใช้มือชักรูดน้องชายผมจนตอนนี้มันตั้งชันสู้มือใหญ่ของมันแล้ว

   ผมเห็นมันหัวเราะท่าทางของผมแต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้ แค่ถูกมือมันสัมผัสปลุกเร้าแค่นิดหน่อย ก็อ่อนไหวจนเหมือนว่าร่างกายของผมมันกำลังจะละลาย

   “ร้องออกมา” มันกัดฟันพูดสีหน้าดูหื่นขึ้นสิบเท่า

   “อื้อๆๆ” ผมกัดปากส่ายหน้าไม่ทำตาม แต่น้ำตาก็ไหลมามากขึ้น

   ผมกำลังถูกผู้ชายตรงหน้าที่ชื่อว่า ซัน ทรมานร่างกาย มันลวนลามเนื้อตัวผมจนขึ้นรอยเต็มไปหมด ผมยกหัวขึ้นเพื่อมองด้านล่างของผมที่ถูกมันกอบกุมเอาไว้ยิ่งเห็นก็ยิ่งสั่นระริก

   “ดี...ดี! งั้นดูสิว่ามึงจะเงียบปากได้อีกนานแค่ไหน” มันว่าจบก็แทงนิ้วพรวดเข้าช่องด้านหลัง

   “อุก....จะ..เจ็บ..ฮึก!!...กูเจ็บบ!!” ผมตะโกนเสียงแหบ จุกจนกือบจะเปร่งเสียงไม่ออก ไม่มีการเบิกทางใดๆทั้งสิ้นมันส่งนิ้วเข้าพร้อมกันทีเดียวสามนิ้ว ทำเอาผมเจ็บจนทนไม่ได้คิดในใจว่าตรงนั้นของผมคงไม่วายเลือดไหลท่วมแน่นอน

   “ดี มึงจะได้รู้สึกถึงความเจ็บเยอะๆ” มันว่าจบก็ขยับนิ้วหมุนควานข้างในจนผมเริ่มรู้สึกถึงอย่างอื่นมาแทนความเจ็บ

   ผมแอ่นสะโพกตามการขยับของมัน ผมกำลังรู้สึกเหมือนเป็นบ้า มันกำลังทำให้ผมเป็นบ้าและเหมือนคนจะตาย ผมอธิบายไม่ถูกรู้แต่ว่าผมกำลังจะขาดใจตาย

   “พะ...พอ” ผมร้องขอ มันส่ายหนีพร้อมแสยะยิ้ม

   “ใจเย็น มึงได้เจอของจริงกว่านี้” ผมประมวลผลตามพอดีกับที่มันชักนิ้วทั้งสามออกและเอาอะไรที่ใหญ่โตกว่ามาจ่อที่ปากทางเข้า

   ผมตาโตเขยิบกายถอยหนีอย่างหวาดกลัว ไม่! ผมนึกในใจมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ไอ้นั่นของมันใหญ่เกินไปถ้ามันแทรกเข้ามาผมต้องตายแน่นอน

   “มะ..ไม่..ม่ายยยย.อ๊า” ผมร้องสุดเสียงเมื่อมันแทงเข้ามาจนมิด

   การเบิกทางของมันก่อนหน้านั้นไม่ช่วยอะไรผมเลย ผมเจ็บจนจุกผมร้องได้แค่ครั้งเดียวหลังจากนั้นก็เงียบมีเพียงหยดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไปสักที

   ผมบิดแขนออกจากมือมันอย่างอึดอัด ร่างกายผมเหมือนมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันร้าวตั้งแต่กระดูกสะโพกถึงกระดูกสันหลัง ปลายประสาทของผมตื่นตัวทำงานทั้งร่างกาย จนผมเริ่มรู้สึกทรมาน

   “มึงต้องจำวันนี้เอาไว้” ไอ้ซันมันก้มหน้ามากระซิบข้างๆหูผม

   ผมรู้สึกว่าน้องชายมันขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ผมจุกหนักเข้าไปอีกขยับตัวก็ไม่ได้อยากหนีไปจากที่ตรงนี้แต่ผมไม่มีแรงพอ

   “กะ..กู..ฮึกๆ..ผิดอะ..ไร..ฮึก” ผมสะอื้นถามมันอย่างหมดแรง

   มันยังแช่ค้างไว้ไม่ยอมขยับ หน้าตามันบิดเบี้ยวเวลาผมขยับตัว ผมอยากได้คำตอบจากปากมันชัดๆว่าสิ่งที่มันกำลังทำกับผมนี่เพราะผมมีความผิดหรือมันต้องการใช้ให้ผมเป็นเครื่องมือ

   “มึงผิด.....”

   “ฮึกก” ผมร้องไห้

   “ผิดที่เป็นพี่ชายของผู้หญิงคนนั้น...จำไว้” จบประโยคมันก็ดึงแก่นกายออกจนเกือบหลุดก่อนจะสวนแทงเข้ามาจนตัวผมโยกคลอนไปตามแรงของมัน

   เอี๊ยดด..เอี๊ยดด

   เสียงเตียงไม้เสียดสีมันบาดหูผมมากเกินไป เสียงครางระงมของมันยิ่งทำให้ผมหูอื้อ จากตอนแรกที่เจ็บจนเหมือนร่างจะแตกออก ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเสียวไปกับการกระทำของมัน

   “อะ..อื้ออ” ผมรีบกัดปากเมื่อหลุดเสียงร้องอันน่าสมเพชออกมา

   มันยิ้มอย่างพอใจ

   “อ๊า!!!” ผมร้องลั่นห้ามไม่อยู่เมื่อมันก้มลงใช้ปากกับหัวนมผมอีกครั้ง

   มันปล่อยแขนผมให้เป็นอิสระ มันส่งมือไปบี้จุกนมผมอีกข้างที่ว่างจากปากมัน ด้านล่างมันขยับเร็วขึ้นๆ จนหลังผมแอ่นไม่ติดกับที่นอน

   ผมยกมือขึ้นพยายามดันไหล่มันให้หยุด แรงผมเริ่มกลับมาเกือบสมบูรณ์แต่ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงไม่มีแรงพอจะผลักให้มันออกจากร่างกาย

   “ฮึ่มมม” มันครางกระหึ่มเร่งเครื่องด้านล่างถี่รัว จนเตียงดังสนั่นอีกรอบ

   มันดันขาผมให้แยกออกกว้างกว่าเดิม สะโพกผมลอยเหนือพื้นที่นอน ทั้งหัวและตัวสั่นคลอนเพราะแรงขยับจากคนด้านบน ผมปรือตามองผู้ชายตรงหน้าเห็นมันกำลังมองผมด้วยสายตาที่บอกว่าหื่นกระหายมากแค่ไหน ผมหันหนีเริ่มรู้สึกเขินกับสายตาที่สำรวจทุกซอกทุกมุมของมัน

   มันมองผมเหมือนต้องการเห็นทะลุผ่านถึงอีกฝั่ง ดวงตามันร้อนแรงเหมือนมีไฟลุกโชติอยู่ในนั้นตลอดเวลา ทั้งๆที่ผมก็คือพระอาทิตย์...แต่ทำไมแสงของผมถึงสู้มันไม่ได้

   พั่บๆๆๆ

   “อ๊ะๆๆๆๆๆ” ผมร้องดังขึ้นๆแข่งกับเสียงน้องชายของมันที่กระทบกับช่องทางรักของผม เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ได้ยินยิ่งทำให้ไฟราคะในตัวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

   ผมเอื้อมมือขึ้นไปจับหัวมันไว้เพื่อระบายความเสียวที่หมุนวนอยู่ข้างใน มันไม่ว่าอะไรแถมยังก้มลงมาจูบปากผมอีกครั้ง

   “มะ..ไม่ไหว” ผมบอก

   “กู..อ๊ะๆ..ก็ไม่” มันตอบเสียงกระเส่า

   มันอ้าขาผมให้กว้างได้องศามันจนตอนนี้แทบจะฉีกไปคนละทิศละทาง มันเดินหน้าเร่งเครื่องถี่ขึ้น มันใส่แรงทั้งหมดมาที่ผมจนสุดท้ายน้ำสีขุ่นก็ถูกล่อยออกมาเต็มหน้าท้องของผม

   มันกระแทกเร็วๆอีกสามสี่ครั้ง และสุดท้ายมันก็ฉีดน้ำรักทั้งหมดเข้าช่องทางของผม

   “อ๊า!!!!!!!”

   “อืมมมมม”

   มันทรุดตัวลงทับตัวผมทั้งๆที่ไอ้นั่นยังคาอยู่ ผมหอบหายใจเฮือกใหญ่จนเริ่มรู้สึกหนักและกลับมาเจ็บจึงได้ผลักตัวมันออก

   “ฮึกๆ..ออกไป” ผมสะอื้นไม่หยุด

   “หึ ไล่กูเหรอ งั้นมาต่ออีกรอบดีกว่า” มันถอนตัวเองออกแล้วอุ้มผมเข้าห้องน้ำด้วยใบหน้าเกรี้ยวโกรธเหมือนไม่พอใจ ผมรู้เลยว่าจะโดนอะไรต่อไป

   แต่สิ่งหนึ่งที่ผมแปลกใจ คือทำไม....

   ผมไม่รังเกียจมัน

   ทำไมนะ
   

   
TBC______________



นักเขียนขอเม้า

มาอีกแล้วสำหรับคู่รองหวังว่าคงจะชอบกันน้าาา

ซันกลินท์ๆๆๆ ><

 :hao6: :mew1: :mew1: :mew3: :katai4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 21-12-2013 23:31:50
แอบซาดิส สินะะะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 22-12-2013 00:13:37
 :hao6: :hao6: :hao6:
ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-12-2013 00:34:59
กรี๊ด ชอบคู่รองมาก ไม่มีเหตุผลดี 5555555
ว่าแต่คู่หลักกำลังอึมครึม
หวังว่าอย่างนี้เวอร์มุธตงไม่คิดอะไรง่ายๆ
อย่างที่จะปล่อยเพทายไปอีกใช่ไหม
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 22-12-2013 06:58:06
กำเนิดคู่ใหม่ รักเพื่อนมันก็ดียู่หรอกซัน แต่วิธีเอ็งมันผิดอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: naneku ที่ 22-12-2013 07:38:47
ซัน T T



สงสารกลินท์



พี่เวอร์มุธไปไหนน มาม่ากำลังอืดได้ที่เลยย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 22-12-2013 09:52:52
กร้าก ซันกลินท์ ชอบคู่นี้ ไม่นึกว่ากลินท์จะเป็นรับนะเนี้ยะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 22-12-2013 14:14:29
สงสารกลินท์เลย ไม่ได้ทำไรผิดเลย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 22-12-2013 14:24:14
คู่ของซันสุดหล่อออกมาแล้ว
แถมเป็นคนดีซะด้วย ได้กลิ่นมาม่า
มาอีกคู่แล้ว แต่คิดว่าชามนี้คงอร่อยน่าดู
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 23-12-2013 15:57:08
ชอบล่ะเซ่ะตัวเองงงง

 :hao7: :hao7: :hao6: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 24-12-2013 01:31:43
สงสารทุกคน  แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง :o12:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 24-12-2013 14:09:03
 :hao6: :hao6: :jul1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 29-12-2013 09:05:26
แต่ละคู่- - นี่นางน้องซันแกไปทำพี่กลินท์แบบนี้ได้งัย  พี่เขาคงเจ็บมากเลยมั๊งนั่น
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: clock_nuchchee ที่ 29-12-2013 12:33:29
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่8 (100%) P.4 >Up.21/12/13<
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 29-12-2013 14:45:10
อยากอ่านต่อออออ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 03-01-2014 00:32:30

ตอนที่9

   เวอร์มุธ พาร์ท

   “ก็บอกว่าเจ็บ!” ผมลากมันมาที่รถของผมไม่สนกับคำว่าเจ็บของมันเพราะตอนนี้ผมกำลังโกรธ...โกรธมาก...มากที่สุด

   ผมโกรธจนตัวผมจะระเบิด

   “เจ็บเหรอ พี่เจ็บกว่าอีก!” ผมหันมาขึ้นเสียงใส่ตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผมทั้งโกรธทั้งเสียใจที่เห็นเพทายกับซันหยอกล้อกันมากกว่าเพื่อนธรรมดา

   ผมเห็นทั้งหมด

   ก่อนหน้านั้นไอ้ซันมันมาหาผมบอกว่ามันรู้เรื่องที่ผมกับเพทายเลิกกันแล้ว มันต่อว่าผมชุดใหญ่ที่ทำให้เพื่อนมันเสียใจ ผมก็บอกไปว่าผมก็เสียใจไม่ต่างกัน แต่ผมจะไม่รั้งให้มันต้องมาทนเจ็บ ผมดูแลมันไม่ได้ข้อนี้ผมรู้ดี

   ตลอดเวลาห้าปีผมไม่เคยทำให้เพทายมันยิ้มออกมาจากใจจริงๆได้เลยสักครั้งเดียว แล้วผมยังจะเห็นแก่ตัวรั้งมันไว้ทำไมกัน ผมควรปล่อยมือมันไป แต่ผมอยากให้รู้ว่าผมก็เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณและหัวใจไม่ต่างกัน

   “พี่แม่งป๊อด! พี่เคยสู้อะไรเพื่อเพทายมันมั่ง อย่ามาอ้างว่าไม่อยากรั้งมันไว้ถ้าพี่จะปล่อยมันไป พี่ก็ไม่ควรเก็บมันไว้ตั้งห้าปี!”

   นี่คือสิ่งที่มันตอบกลับมาตอนนั้น ผมยืนอึ้ง นั่นสิทำไมกันผมไม่เคยรู้ว่าตัวเองเลวได้ขนาดนี้ถ้าซันไม่บอก

   “เขาเป็นคนขอไปจากพี่เอง แล้วจะให้พี่ทำไง” ผมถามกลับ แต่ในใจเริ่มรู้สึกเสียใจมากกว่าเดิม

   “พิสูจน์สิว่าพี่รักมันมากจนปล่อยมันไปไม่ได้” มันบอกแบบนั้น

   “มันเจ็บเพราะพี่มามากแล้วนะซัน พี่อยากให้มันมีความสุข” ผมตอบกลับอย่างที่ใจนึกแต่น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนที่พูดออกไป

   พลั่ก!

   “นี่สำหรับความโลเลของพี่!” มันต่อยหน้าผมตอนที่ผมตั้งตัวไม่ทัน

   ผลัวะ!

   “นี่สำหรับที่พี่ทำให้เพื่อนผมต้องร้องไห้ทุกวัน” หมัดที่สองของมันตามมา

   พลั่ก!

   “และนี่คือคำประกาศว่าผมจะเอามันคืน ผมจะดูแลมันเอง” ผมยืนอึ้ง กำลังงงกับสามหมัดแรงๆของมัน

   ผมได้กลิ่นคาวเลือดปากแตกนิดหน่อย ผมทั้งเจ็บและโกรธที่รู้ว่าไอ้ซันจ้องจะเอาเพทายไว้กับตัวเองตลอดเวลา

   พลั่ก!

   “แกไม่มีวันได้เพทายไป!” ผมต่อยมันกลับไปอีกที

   ผลัวะ!

   “และนี่คือคำตอบ คือไม่ยกให้!!” ผมตะโกนลั่นใส่หน้ามัน โมโหจนตัวสั่นที่มันพูดแบบนี้

   ณ เวลานี้ผมรู้แล้วว่าผมจะไม่ยกเพทายให้ใครทั้งนั้น

   ผมยืนกำหมัดแน่น คิดว่าผมกับซันคงได้วางมวยกันอีกรอบแน่นอน แต่เปล่าเลยมันใช้หลังมือเช็ดเลือดที่มุมปากก่อนจะเงยหน้ามองผมและยิ้มออกมา

   “พี่ควรจะรู้ตัวตั้งนานแล้วว่าไม่ควรปล่อยเพทายไป” ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจทั้งหมด

   “หมายความว่าไง”

   “ผมแค่อยากให้พี่รู้สึกหึงหวงมันบ้าง เข้าใจหัวอกมันบ้าง ว่าการที่เห็นแฟนตัวเองกำลังตกไปเป็นของคนอื่นมันรู้สึกเจ็บขนาดไหน” มันเงียบเว้นช่วงพูด

   “พี่เจ็บใช่ไหม? เพื่อนผมมันเจ็บกว่าพี่ พี่หึงผมกับมันใช่ไหม? มันหึงพี่กับคนอื่นจนนับไม่ถ้วน มันไม่เคยแสดงออกเพราะกลัวพี่จะทิ้งมันไป แต่ตอนนี้พี่กลับบอกว่าจะปล่อยมือเพราะกลัวมันเจ็บ ผมพูดเลยนะพี่แม่งไม่ใช่ลูกผู้ชาย”

   ผมยืนนิ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึกของเพทายนะ แต่การมาได้ฟังจากปากคนใกล้ชิดและสนิทที่สุดอย่างซันมันทำให้ผมเข้าใจได้อีกว่าเพทายมันเจ็บและทรมานมากกว่าที่ผมคิดหลายร้อยเท่านัก

   เรายืนหอบต่างคนต่างมองอีกฝ่ายสุดท้ายเป็นมันที่พูดขึ้นมาอีกประโยค

   “ผมจะพามันมาที่นี่ ตอนเย็น พี่ช่วยมาปรับความเข้าใจกับมันด้วย ผมเกลียดพี่นะ แต่ผมไม่เลวพอที่จะเอามันมาทั้งๆที่รู้ว่าหัวใจมันเป็นของพี่ และจะไม่มีวันเป็นของคนอื่น ผมทำร้ายมันไม่ลง”

   ผมมองเข้าไปในสายตาของซัน เห็นความเจ็บปวดสะท้อนออกมาจนปิดไม่มิด ผมรู้ว่ามันรักเพทายมาก มันดูแลเพทายได้ดี ผมสงสารมันแต่ผมก็ไม่อยากให้เพทายกับมันอยู่ดี นั่นสินะผมเลวมาตลอดถ้าตอนนี้ผมจะเปลี่ยนตัวเองใหม่เพื่อเพทายบ้าง อนาคตมันอาจจะไม่จบลงด้วยการแยกทางก็ได้

   “โอเค” และนี่คือคำสุดท้ายที่ผมพูดกับไอ้ซันก่อนที่ผมจะเห็นภาพมันกับเพทายกำลังหยอกล้อและประกาศตัวเสียงดังว่าเป็นแฟน คำว่าเป็นแฟนกับกูนะ ของไอ้ซันยังดังก้องอยู่ในหัวผม ผมโกรธที่มันทำแบบนี้ มันตั้งใจพาเพทายมาเพื่อตอกย้ำความพ่ายแพ้ชองผมใช่ไหม!

   “พี่มันเลว ปล่อยยยย” เพทายยังร้องโวยวายไม่หยุด แต่ผมก็จับไว้ไม่ปล่อยเหมือนกัน

   “ขึ้นรถ!” ผมตวาด มันผงะอย่างตกใจ ผมรู้สึกผิดที่ขึ้นเสียงแต่อารมณ์ตอนนี้ผมยังขอโทษมันไม่ลง

   “ฮึกๆ..ฮืออ..ปล่อยสิ..ปล่อยนะปล่อยผมสิ..ฮืออออ..ปล่อยมือจากผมไปสิ!” ผมเข้าใจความหมายที่เพทายต้องการจะบอก ใจผมอ่อนยวบเมื่อเห็นมันร้องไห้ไม่บ่อยนักที่มันจะร้องไห้ต่อหน้าผมโดยเฉพาะเป็นเรื่องที่ผมเป็นคนทำให้มันเสียใจ

   “เพทาย...” ผมเรียกชื่อมันแผ่วเบา สงสารมันครับแต่ก็โกรธด้วยเมื่อนึกไปถึงว่ามันกับซันหักหลังผม

   “ผมจะฟ้องซัน! มันเป็นแฟนผมเข้าใจไหม! มันเป็นแฟนผมพี่ไม่มีสิทธิ์!!” มันเงยหน้าตะโกนเต็มเสียง ผมหูอื้อความโกรธที่ทำท่าจะหายไปกลับเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อเพทายพูดย้ำว่าเป็นแฟนกับไอ้ซัน

   ผมเหมือนคนเป็นบ้าอยากจะร้องออกมาสุดเสียง ผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด ผมปล่อยมือเพทายไม่ได้

   “สิทธิ์เหรอ? ถ้าทายอยากได้สิทธิ์พี่ก็จะมอบให้เอง!” ผมพูดกลับก่อนจะดันตัวมันที่ทั้งดีด ทั้งดิ้นให้เขารถ

   ปึกๆๆ

   “ปล่อยยยยย” ผมจับมันยัดเข้าฝั่งคนขับเลยครับ ถ้าให้มันขึ้นฝั่งนั้นรับรองได้ว่ามันเปิดประตูเผ่นแนบไปแน่ ถึงจะดูทุลักทุเลแต่ผมก็คิดน้อยเกินกว่าจะมากลัวมันเจ็บแล้ว

   “ปล่อยแน่” ผมบอกก่อนจะขับรถตรงกลับคอนโด

   “ฮืออออ...ฮึกกๆๆ” ตลอดทางมันร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทั้งสะอึกสะอื้นน้ำหูน้ำตาไหลลงมาไม่หยุดแล้วก็พร่ำบอกแต่ว่าจะไปฟ้องแฟน

   ฮึ่มม!

   ผมโกรธจนแทบจะพ่นไฟ ยิ่งมันพูดก็ยิ่งตอกย้ำความห่างเหินของพวกเรามันต้องการแบบนั้นใช่ไหมถ้าแบบนั้นผมก็จะย้ำมันเองว่าเราเป็นอะไรกัน

   ปัง!

   “บอกว่าเจ็บ” มันร้องบอกเมื่อผมกระแทกปิดบานประตู

   พวกเรายืนกันอยู่กลางห้อง ผมไม่ชอบให้มันร้องไห้ ไม่ชอบเลยจริงๆ

   “พี่ก็เจ็บ! เจ็บที่เห็นซันสวมเขาให้พี่!” ผมตะโกน

   น้องตกใจผงะถอยหลังเหมือนว่ากลัวผมที่เสียงดังแบบนี้ ผมไม่เคยเป็น แต่ตอนนี้ผมเสียงดังใส่มันเพราะกำลังโมโห และหึงหวง

   “พี่นั่นแหละ ที่สวมเขาให้ผม!” มันตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้

   “เห็นจะๆแบบนั้นยังจะมาบอกว่าพี่ผิดเหรอ!” ผมถาม

   “แล้วผมผิดหรือไง ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน! พี่มีคนใหม่ผมก็มีคนใหม่บ้างจะเป็นอะไรไป”

   “พี่ไม่ยอม!” ผมตอบ

   “เรื่องของพี่สิ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!” มันว่ากลับพร้อมทำท่าจะเดินหนีออกจากห้อง แต่ผมคว้าแขนมันไว้ได้ทัน

   “ผัวเมียไง ชัดเจนพอไหม” ผมกดเสียงหนักๆย้ำให้มันเข้าใจ มันกัดปากและพยายามสะบัดแขนออกจากมือผม

   “ถ้างั้นผมจะหาคนมาแต่งงานกับผมสักคนดีไหม จะได้เสมอภาคกัน พี่มีได้ผมก็มีได้ โอเคไหมล่ะ” มันแสยะยิ้มถามผมแต่น้ำตาก็ยังไหลลงมาไม่หยุด

   “พูดอะไรออกมา” ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองผิดมาก ผมทำร้ายความรู้สึกมันมาก

   พอมาคิดๆดูแล้วผมว่าผมเองที่คิดมากไปเลยซันกับเพทาย

   “พี่ต้องแต่งงานกับยัยน้องศศินั่น พี่จะมาแคร์ผมทำไม” มันนั่งลงกอดตัวเองซุกหน้าลงกับหัวเข่าและร้องไห้จนตัวโยน

   “………………………..”

   “ในขณะที่พี่มีเขาข้างกาย สุดท้ายผมก็ต้องอยู่คนเดียว...ฮืออ....ผมแค่อยากมีใครดูแลก็ไม่ได้เหรอ” มันถามเสียงเครือ

   “พี่ไม่เคยอยากแต่งงาน” ผมบอกเสียงเรียบ

   “แต่พี่ก็กำลังจะแต่งแล้ว ฮืออ...ไหนบอกว่าจะปล่อยผมไปไง...” มันทวนคำที่ผมเคยบอกมันว่าจะปล่อยมือ

   “พี่ปล่อยเราไปไม่ได้” ผมบอกก่อนจะทรุดนั่งลงตรงหน้ามัน

   มันเงยหน้าขึ้นมามองผมทั้งน้ำตา ผมสงสารจนอดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเกลี่ยออก ผมน่าจะรู้ดีว่าเพทายกับซันไม่มีวันจะคบกันได้

   เพทายเป็นของผม

   ซันเองก็รู้ ผมไม่รู้ว่านี่คือแผนทำให้หึงหวงหรือเรื่องจริง ถ้าเป็นแผนไอ้ซันก็ทำสำเร็จแล้ว ผมโกรธ โมโห แค้น เจ็บ และหึงอย่างรุนแรง ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ผมไม่เคยแสดงอาการนี้เพราะเพทายไม่เคยปรายตาไปมองใครใช่ไหม นี่หรือเปล่าที่เรียกว่า

รู้ค่าเมื่อวันที่เสียไป

   หมับ!

   “กลับมาหาพี่นะเพทาย” ผมบอกต่อ ดึงมันมากอดไว้ทั้งตัว

   ตัวมันสั่นเหมือนลูกนกที่ตกน้ำ เสียงสะอื้นยังดังแว่วให้ได้ยินเป็นระยะๆ เงียบอยู่นานมันก็ไม่ตอบผมสักทีจนผมต้องเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

   “ที่ผ่านมาพี่เพิ่งคิดได้ว่ามือของพี่จะต้องมีมือใครสักคนคอยจับให้ความอบอุ่น ซึ่งมือคู่นั้นก็เป็นของเรา”

   “ผมเป็นแฟน..ฮึกๆ..ซัน” มันตอบทั้งๆที่สะอื้น ผลักผมออกห่าง

   “อย่าพูดถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง” ผมพูดดัก

   “แต่พี่ก็ทำผมเจ็บ เพราะคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน” มันต่อว่าผมเหมือนตัดพ้อที่ผมไม่เชื่อใจ ผมยิ้มน้อยๆให้มัน

   “พี่หึง พี่ขอโทษ” ผมพูด คำว่าหึงกับรัก ไม่เคยหลุดออกจากปากของผมเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ผมเต็มใจจะพูดให้มันฟัง

   “อะ...อะไรนะ” มันจ้องหน้าผมถามกลับเหมือนไม่อยากเชื่อ ผมแค่นยิ้มกอดมันไว้กับตัวอีกครั้ง บอกตัวเองว่าจะไม่ยอมปล่อยมันไปอีกแล้ว

   “พี่หึง”

   “แต่พี่ปล่อยผมไปแล้ว” มันพูดต่อ

   “ปล่อยไป ก็จับมาใหม่เพทายจะยอมกลับมาอยู่ที่นี่กับพี่อีกครั้งไหมล่ะ” ผมถาม

   หมับ!

   “ฮืออออ ใจร้ายๆๆๆๆ ใจร้ายที่สุดฮือออ” มันกอดตัวผมก่อนจะระดมทุบตีจนเจ็บไปหมดแต่ผมทนได้ ยอมเจ็บถ้ามันจะระบายเพื่อความสบายใจ

   “ยอมไหม” ผมจูบที่ขมับแทนความคิดถึง

   “ไม่...ฮึกๆ” มันบอกกลับมาแบบนี้แต่มือก็จับเสื้อผมไว้ไม่ปล่อย

   “งั้นพี่ต้องทำยังไง...อึบ!” ผมถามมันพร้อมก็ลุกขึ้นและอุ้มมันขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด

   “ฮึกๆๆ” มันส่ายหัวกอดคอผมไว้และมุดหน้าเข้าที่อกของผม

   “งั้นพี่ง้อนะ”

   “ฮึกๆ” มันพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง
   
   ผมค่อยๆวางมันลงบนเตียงนอน แต่มือมันก็ยังไม่ยอมปล่อยจากต้นคอทำให้ตัวผมต้องลงไปนอนกอดมันไว้อย่างช่วยไม่ได้ เสียงสะอื้นยังหลุดมาให้ผมได้ยินเป็นระยะ ผมก็ทำได้แค่จูบซับน้ำตาให้

   “ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้อีกแล้ว” ผมบอกมันยิ่งสะอื้นใหญ่ไม่รู้เพราะเสียใจหรือซึ้งใจกันแน่

   “ขอโทษที่ทำให้ต้องเจ็บมาตลอด” ผมบอกอีก

   ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่ผมควรพูดในสิ่งที่อยากพูดสักที ความกลัวไม่ใช่ปัญหาในการพูดความจริง

   “ฮึกๆๆ”

   “เพทายครับ” ผมเรียกมัน

   เพทายลืมตาขึ้นมาสบตากับผม มันยังกอดคอผมแน่นเหมือนกลัวว่าผมจะทิ้งมันไป ผมใช้มือข้างหนึ่งรองศรีษะมันไว้อย่างเบามือ ช่วงเวลาแบบนี้ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เราแทบจะไม่เคยได้นอนคุยกันแบบนี้ด้วยซ้ำ

   “ฮะ...ฮึกๆ” มันยังสะอื้นไม่หยุด จนผมเริ่มจะสงสารซะแล้ว

   “ได้โปรดกลับมายืนข้างๆพี่อีกครั้งได้ไหม” ผมมองมันกลับด้วยความจริงใจ

   มันส่ายหัวไปมาเหมือนไม่ยอมรับ ริมฝีปากสีแดงของมันสั่นระริกเหมือนว่าน้ำตาจะไหลลงมาอีกรอบ

   “ผมเจ็บ ผมเจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” มันร้องบอก ผมหลับตาลงนึกภาพในช่วงที่ผ่านมา ผมคงปล่อยให้มันต้องเผชิญชะตากรรมแบบนี้คนเดียวนานเกินไป ผมผิดเอง

   “ขอแค่ครั้งเดียว ได้โปรด” มันมองผมทั้งๆที่ดวงตาก็มีน้ำใสๆเอ่อล้นไม่หยุด

   ผมใช้มือข้างว่างอีกข้างเช็ดหยดน้ำพวกนั้นออกไปให้หมด ปลายนิ้วชี้ลูบผ่านหน้าผากมาถึงข้างๆแก้ม ผมที่ปรกหน้าถูกผมเกลี่ยไปไว้ที่ข้างหู ผมอยากจะมองหน้ามันชัดๆ

   ใบหน้าของเจ้าของหัวใจของผม

   “ผมกลัว...” มันพูดเสียงแหบ

   “พี่ไม่สัญญา แต่พี่จะทำให้ดีที่สุด ให้อภัยพี่สักครั้งได้ไหม” ผมพูดสิ่งที่ค้างคาในใจให้มันได้รับรู้ ขอแค่เพียงมันให้โอกาสครั้งนี้กับผม ผมจะทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้อย่างสุดความสามารถ

   “และ..แล้วถ้าพี่ผิดสะ..สัญญาล่ะ” มันถามต่อ ผมยิ้มน้อยๆให้มัน

   “ถึงตอนนั้น พี่ยอมทำทุกอย่างตามที่เพทายต้องการ” ผมให้คำมั่นกับมัน

   “ถ้าพี่ผิด..ฮึก..สัญญา..ผมจะไปเป็นแฟน..ฮึก...กับซัน” มันขู่ ผมยิ้มขำมันทำหน้ายู่ใส่ผมเหมือนไม่พอใจ

   “ไม่มีทาง เพราะพี่จะไปฆ่าไอ้ซันให้ตาย” ผมแกล้งมันบ้าง

   ปึ่ก!

   “โอ๊ย” ผมร้องเมื่อมันทุบลงมาที่ไหล่ผม

   “ฮึกๆ..ใจร้ายที่สุด ผมพูดจริงๆนะ..ถ้าพี่ดูแลผมไม่ได้..ฮึกๆ..ผมจะยอมเป็นของคนอื่นทันที” ผมหุบยิ้มเมื่อเห็นแววตาที่เด็ดเดี่ยวต่างจากเพทายคนเดิม

   ผมคงทำให้มันต้องกลายเป็นคนเผด็จการซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย

   “ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ยอมตายซะดีกว่า” ผมพูดจริงๆครับถ้าต้องเห็นเพทายไปเป็นของคนอื่นสู้ให้ผมตายไปจากโลกนี้ซะยังดีกว่า ผมไม่เข้มแข็งพอเห็นมันไปอยู่ในอ้อมกอดคนอื่นที่ไม่ใช่ผมได้หรอกครับ ยิ่งเป็นไอ้ซันผู้ชายที่ดีกว่าผมคนนั้นด้วยแล้วล่ะก็นะ

   “ตายไป..ฮึกๆ..เลย” มันร้องไห้

   “อย่าร้อง พี่ขอโทษครับ” ผมเช็ดน้ำตาให้มันอีกครั้ง

   หมับ!

   “ผมรักพี่นะพี่มุธ ฮึกๆ...ขอแค่พี่ไม่ทิ้งผมไปจะให้ผมเป็นอะไรก็ยอมทั้งนั้น..ฮืออ..อย่าพูดว่าจะปล่อยมือผมได้ไหม” มันร้องไห้พลางกอดผมทั้งตัวจนแน่น

   ผมเม้มปากรับรู้ความทรมานในจิตใจมันได้เป็นอย่างดี ผมไม่รู้เลยว่าภายในมันอึดอัดมากแค่ไหน แค่รักกันแต่บอกใครไม่ได้ก็ลำบากพออยู่แล้ว ยังมาเจอความห่างเหินของผมอีก ทั้งๆที่ผมคิดว่าการไม่มอบความหวานให้มันคือการปกป้องมันจากความเจ็บปวด แต่ทำไมกลายเป็นว่าผมนี่แหละที่ทำร้ายมันอย่างเจ็บสาหัสที่สุด

   “พี่จะไม่ทิ้งเราไป...พี่จะไม่มีวันปล่อยเราไป...” ผมดันตัวมันให้ลงนอนกับที่นอนอีกครั้งก่อนจะค่อยๆประทับความหวานลงบนริมฝีปากของมัน

   “อื้ออ..พี่มุธ....อืออ” มันครางเรียกชื่อผมเสียงแผ่วหวาน

   ความหอมหวานที่ผมชอบ สัมผัสที่คุ้นเคยของเราสองคนทำให้ร่างกายถูกปลุกเร้าได้ง่ายเพียงแค่รสจูบบางๆ มันรู้สึกตัวเมื่อน้องชายผมไปดุนดันตรงกลางของมันผ่านเนื้อผ้า

   ผมลอบยิ้มเมื่อเห็นเพทายหน้าแดงเหมือนลูกตำลึง มันหลุบตาลงต่ำมีท่าทางขวยเขินๆทั้งๆที่เราผ่านเรื่องพวกนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมอบสัมผัสที่เบาหวิวให้มันขนาดนี้

   “อ๊าๆ..ฮึก..ตรงนั้น..อีกๆ..ตรงนั้น” มันแอ่นตัว เมื่อผมลงลิ้นที่ยอดอกผ่านเนื้อผ้าบางๆของเสื้อนักศึกษา รอยน้ำลายที่เปื้อนตรงเสื้อทำให้มันเปียกกลายเป็นวงกว้างขึ้นเห็นถึงเนื้อขาวๆข้างใน ยอดอกชูชันดุนเสื้อที่เปียกขึ้นมาจนเห็นว่ามันแข็งขืนขึ้นเป็นตุ่มไตรอรับสัมผัสจากผมอยู่

   ผมใช้นิ้วขยี้ผสมกับบดคลึงไปทั่วแผ่นอกที่เปียกเป็นวงทั้งสองข้าง แค่สัมผัสเบาๆมันก็แอ่นอกขึ้นลงด้วยความเสียวซ่าน

   “อื้มม” ผมร้องบ้างเมื่อมันเลื่อนมือมาจับน้องชายผมผ่านเป้ากางเกง ผมหน้าเวอแต่ก็ครางสุขสมมันรู้ดีว่าผมชอบอะไรและไม่ชอบอะไร

   “อย่า..อึก...เล่น” ผมร้องห้ามเสียงเข้ม เมื่อมันบี้ขยำจนมันส์มือแต่ไม่ยอมชักรูดเพื่อช่วยผมปลดปล่อย

   ผมเปลี่ยนมานอนหงายอยากให้มันเป็นคนทำให้ มันทำหน้าตกใจนิดหน่อยเมื่อต้องมาเปลี่ยนอยู่ด้านบน มันก้มหน้าหลบสายตาร้อนแรงแต่ก็ยอมเลื่อนไถลตัวไปนั่งอยู่ตรงหว่างขาผมก่อนจะปลดซิปกางเกงและรูดมันพร้อมชั้นในลง ทันทีที่เป็นอิสระเจ้าน้องชายน้อยก็ดีดผึงสู้ฟ้าสู้เพดานทันที

   “อื้ออ...เพทายย..อื้อออ”

   “อื้มม...”

   ผมกดหัวมันไว้ขยำเส้นผมนิ่มๆเบาเพื่อลดอาการเสียว มันใช้ปากเก่งพอๆกับผม มันรู้ดีว่าทำยังไงแล้วผมจะชอบที่สุด มันดูดตรงส่วนปลายเหมือนเป็นแท่งไอติมก่อนจะใช้ปากครอบลงไปจนหมดแท่ง รูดขึ้นบ้างรูดลงบ้างสลับเร็วช้าเพื่อเพิ่มความเสียว

ท่านั่งของมันก็เซ็กซี่ไม่หยอก เสื้อนักศึกษาที่ผมปลดกระดุมออกไปแล้วสองเม็ด เปิดกว้างทุกครั้งที่มันขยับตัว เวลามันก้มจะเห็นยอดอกเล็กๆที่ตั้งชันขึ้นในระดับสายตายิ่งพาให้ผมจวนเจียนจะไปถึงฝั่ง

“อ๊า..ไม่ไหวๆ..อ๊า..อื้มมมม” แล้วไม่นานผมก็ปล่อยน้ำแรกใส่ปากมันเต็มๆ

เราเงยหน้ามองกัน ยังเห็นมันหน้าแดงไม่หยุดคราวนี้ตัวมันก็แดงเหมือนกุ้งลวกไปด้วย ผมไม่ให้เสียเวลาจับมันขึ้นมานอนหงายอยู่ใต้ร่าง ผมถอดเสื้อผ้าออกจากตัวให้หมดรวมทั้งเสื้อผ้าบนตัวมันด้วย

“อ๊า…ซี๊ด” มันร้องซี๊ดเมื่อผมใช้ปากกับยอดอกของมันและใช้มือรูดน้องชายมันขึ้นลง ตัวมันบิดเร้าสู้มือกับปากจนพอมันใกล้ถึงจุดหมายผมก็หยุดมือจนทำให้มันเงยหน้ามองผมด้วยสายตาไม่เข้าใจผนค้างคาที่ไม่ได้ปลดปล่อย

“ทะ..ทำไม” มันถามแต่ก็เด้งสะโพกให้มาโดนผม ผมเองก็ทรมานเพราะถึงจะปล่อยไปแล้วรอบหนึ่งก็ยังไม่หมดยิ่งมาเห็นตัวขาวๆของมันนอนบิดเร้าไปมาแบบนี้ยิ่งอยากสวนแก่นกายเข้าข้างในตัวมัน แต่ตอนนี้ผมอยากแกล้งมันมากกว่า

“ขอสิ” ผมบอกสั้นๆ

“พี่มุธ” มันเรียกเสียงหวานตาปรือปรอย ก่อนจะทำในสิ่งที่ผมไม่คาดฝันมาก่อน

มันยกมือขึ้นโอบรอบคอผมก่อนจะบดริมฝีปากเข้าหา เราจูบกันเสียงดังจ๊วบ มันเหมือนโดนของดูร้อนแรงและเซ็กซี่แบบแปลกๆ แต่ผมก็ชอบนะเมียยั่วขนาดนี้ไม่ชอบก็บ้าแล้ว

“ครับ” ผมครางรับเหมือนคนเสียสติ

“เข้ามาเถอะ ผมอยากได้ นะ” มันทำตาปรือมองผมก่อนจะยกสะโพกขึ้นให้น้องของเราสองคนโดนกัน มันถูไถให้ตรงกลางเสียดสี จากที่ผมจะทำให้มันทรมานดูเหมือนว่ามันเองนี่แหละที่ทำให้ผมทรมาน!!

“อ๊า” มันหลับตาเงยหน้าอ้าปากคราง เมื่อผมใส่นิ้วเข้าไปทีเดียวสามนิ้ว

ผมค่อยๆวนควานด้านในเพื่อลดอาการเจ็บ จากหน้าตาที่ดูเหยเกเริ่มบิดเบี้ยวเพราะความต้องการผมจึงถอนนิ้วออก

“พร้อมแล้วนะ” มันพยักหน้า

ผมยืดตัวขึ้น มองร่างขาวๆอีกที เห็นมันทำตาฉ่ำหวานส่งให้ก็ไม่รอช้า จ่อแท่งร้อนเข้าปากทางและค่อยๆกดตัวแทรกเข้าไปจนมิดด้าม

“อึกๆๆ...เจ็บบ....อ๊า” เสียงร้องของมันกลับกระตุ้นให้น้องชายผมขยายตัวมากกว่าจะสงสาร เพราะผมรู้ดีว่าจากเจ็บจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน

พั่บๆ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นแข่งกับเสียงแอร์ เสียงครวญครางดังผ่านลำคอของเราทั้งสองคนมันกระตุ้นอารมณ์ได้ดีเยี่ยม

“ไม่ไหวแล้ว” มันร้องบอก ยกมือขึ้นโอบรอบคอผมไว้จนแน่น ผมเริ่มรู้สึกว่าอยากปลดปล่อยรอบที่สองเหมือนกัน

“พร้อมกัน” ผมพูด เร่งเครื่องให้เร็วกว่าเดิมจนสุดท้ายก็สุดฝั่งฝัน

“อ๊า!!!!!!!!!!!!!!”

“อื้มมมมมมมมมมม” ผมปล่อยตามมันหลังจากกระแทกเร็วๆอีกสองสามครั้ง

ผมทรุดตัวลงนอนทับร่างบางๆของมันอย่างหมดแรง ค่อยๆถอนแก่นกายที่ค้างอยู่ในตัวมันออกทีละนิดเพราะกลัวมันจะแสบ ผมก้มมองเห็นน้ำรักของผมไหลย้อยลงมาเต็มเตียง

ผมเงยหน้ามองเพทายอีกครั้งก็เห็นหางตามีหยดน้ำตาเอ่ออยู่ทั้งสองข้าง

“เสียใจเหรอ ทำไมถึงร้องไห้” ผมถามอย่างสงสัย คิดในใจว่ามันคงจะเสียใจที่ผมทำแบบนี้หรือเปล่า

มันไม่ตอบแต่ยิ้มน้อยๆส่งให้ผมก่อนจะยืดตัวขึ้นมากอดคออีกครั้ง

“พี่มุธ...ผมรักพี่นะ” มันกระซิบข้างหู

ผมยิ้มบ้างแต่มันคงไม่เห็น ผมคิดว่าคำว่ารักก็คงไม่ได้ยากเกินที่จะพูดให้มันฟังหรอกมั้ง

“พี่รักเรานะ เพทาย”

เป็นครั้งแรกที่ผมบอกมันตอนที่มันยังตื่นอยู่

“เพทาย” ผมเรียกเมื่อเห็นมันเงียบไม่ยอมตอบ หรือว่ามันจะดีใจจนพูดไม่ออก

“เพทาย” ผมเรียกอีกรอบ ตบหลังมันเบาๆด้วย มันก็ยังเงียบเหมือนเดิม ผมดันร่างมันให้นอนลงบนเตียงก็พบว่า

มันหลับแล้ว….

“โธ่ พอพี่บอกก็ดันมาหลับซะอีก” ผมขำกับท่าทางของมัน สีหน้ามันดูเหนื่อยมากให้ผมเดามันคงไม่ได้นอนหลับมาหลายวันแล้ว

ไม่เป็นไรวันที่ผมสามารถบอกรักมันยังเหลืออีกเยอะ เพราะมันยังเหลือตลอดทั้งชีวิตของผมไงล่ะ





นักเขียนขอเม้าาา

หายไปนาน ติดงานและติดปีใหม่ยาวเบยยย

ขอโทษฮับบบบ  :hao5: :hao5: :katai4: :hao6: :hao7: :mew1: :mew2:

Happy New Year 2014 ย้อนหลังนะคะ ><

หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 03-01-2014 01:15:06

กิ่งทองใบหยก พี่เวอร์มุธสายเอส น้องเพทายมาสายเอ็ม ....ว่าแต่พี่เวอร์มุธติดโชตะด้วยเว้ยเฮ้ย  :hao6:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 03-01-2014 01:33:05
 :hao6: มาแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 03-01-2014 06:17:55
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 03-01-2014 07:01:55
สงสารเพทายอ่ะ  พี่มุธต้องจัดการตัวเองขั้นเด็ดขาดแล้วน้า
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-01-2014 10:11:11
เวงกรรม อยากได้ยินคำนี้จากพี่มุธมาตั้ง 5 ปี
พอพี่มุธพูดออกมาให้ฟัง ก็ดันหมดแรงหลับไปก่อน  :sad4:


สวัสดีปีใหม่ค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะคะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 03-01-2014 10:44:02
สงสารเพทายอ่ะ  พี่มุธต้องจัดการตัวเองขั้นเด็ดขาดแล้วน้า

ู^
^
พี่มุธไม่จัดการตัวเอง....พี่มุธจัดการน้องเพทาย จัดหนักด้วยยยย   :a1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: clock_nuchchee ที่ 03-01-2014 11:12:31
 :oo1 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 03-01-2014 17:12:37
ยังไงก็เกลียดมุธอยู่ดี  :katai1:

ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่มีค่าพอจะเป็นคนรักของใคร

เปลี่ยนพระเอกเหอะ
หัวข้อ:
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 03-01-2014 17:47:28
ถ้าพี่มุธไม่เคลียร์ตัวเองให้เด็ดขาดในทุกเรื่อง  เค้าก็ขอให้เปลี่ยนพระเอก  สวัสดีปีใหม่คัฟพี่แนน^^
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: เหนือฟ้ายังมีจักรวาล ที่ 03-01-2014 20:42:35
เย้ คืนดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่9 (100%) P.5 >Up.3/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 03-01-2014 21:41:02
ตอนนี้จะเอาหื่น  :haun4: :haun4: :haun4:   
 รึ ดราม่าดีว่ะ   :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

เลือกอารมณ์ไม่ถูก
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่10 (100%) P.5 >Up.13/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 13-01-2014 00:38:08


ตอนที่10

   เพทาย พาร์ท

   หลังจากที่เคลียร์กันวันนั้นผมก็กลับมาอยู่กับพี่มุธเหมือนเดิม ทุกอย่างกลับเข้าสู่โหมดปกติติดแค่เรื่องเดียวคือพี่มุธดูใส่ใจผมกว่าแต่ก่อนถึงจะไม่มากแต่มันก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างที่ผมรู้สึกได้

   ผมนอนกลิ้งอยู่ในห้องอย่างสบายอารมณ์ ไม่มีเรียนครับแต่พี่มุธมีสอนตั้งแต่เข้าจรดค่ำนี่อีกสักพักก็คงใกล้ได้เวลาพี่มุธกลับมาแล้ว กับข้าวกับปลานี่ไม่ต้องห่วงผมเตรียมพร้อมหมดทุกอย่างแล้วถึงจะไม่อร่อยแต่ทุกครั้งพี่มุธก็กินจนหมด

   วันนี้ผมตั้งใจรอพี่มุธกลับมาเพราะมีเรื่องจะมาขออนุญาต เมื่อวานพอดีพวกไอ้เหนือไอ้ดินมันชวนไปเที่ยวจันทบุรี ซึ่งปีที่แล้วก็ชวดไปทีเพราะติดงานและติดว่าพ่อคุณเขาไม่อนุญาตแต่ปีนี้จะลองขอใหม่และคิดว่าถึงจะไม่ให้ไปผมก็จะไปให้ได้ครับเพราะผมอยากไป

   แกร๊ก!

   “หืม มานั่งทำอะไรตรงนี้” พี่มุธเปิดประตูเข้ามาเห็นผมนั่งอยู่ที่โซฟาก็ถามขึ้นทันที ผมมองพี่มุธทุกอากัปกิริยาเลยครับตั้งแต่ปลดกระดุม ปลดเนคไท ถอดรองเท้า วางกระเป๋าจนสุดท้ายเดินเข้ามานั่งข้างๆผม

   “อ๊ะ” ผมร้องเมื่อถูกพี่มุธจุ๊บปาก ผมไม่รู้ว่าหน้าตัวเองตอนนี้เป็นยังไงนะครับแต่เดาได้ว่ามันคงจะแดงมากแน่ๆเพราะตอนนี้ผมรู้สึกร้อนหน้าอย่างบอกไม่ถูก

   “มารอพี่เหรอ” พี่มุธยกแขนข้างหนึ่งวางไว้บนพนักพิงก่อนจะจ้องหน้าผม ผมมองตอบกลับไปรู้สึกเคลิ้มอยู่ในใจเบาๆว่าพี่มุธนี่หล่อดีจัง

   “เพทาย!” พี่มุธตะโกนจนผมต้องหลุดออกจากภวังค์

   “ครับๆ”

   “พี่ถามว่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ” พี่มุธถามย้ำแถมยังยิ้มน้อยๆส่งมาให้ผมอีก

   “พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับพี่น่ะครับ” โดยปกติแล้วผมไม่ชอบมานั่งที่โซฟาหรอกครับ เพราะผมไม่ค่อยชอบดูโทรทัศน์สักเท่าไหร่ถ้าว่างก็จะหาเปิดอะไรในเน็ตดูหรือไม่ก็วาดรูปวิวซะมากกว่าจึงไม่แปลกที่พี่มุธจะสงสัยว่าผมมาทำอะไรตรงนี้

   “เรื่องอะไร” พี่มุธถาม

   “ผมขอไปเที่ยวจันทบุรีนะ” ผมพูดพยายามบีบเสียงเล็กๆจะได้ดูอ้อน

   “จันทบุรี?” พี่มุธทวนชื่อจังหวัดแต่ทำไมต้องทำเสียงขุ่นด้วยวะ

   “ใช่ ให้ผมไปนะแค่สามสี่วันเอง” ผมพยายามพูดยิ้มๆแถมส่งสายตาอ้อนๆให้อีกต่างหากแต่ไม่รู้ว่าพี่มุธจะใจอ่อนไหม

   “ไม่อนุญาตครับ” พี่มุธตอบทันควัน ผมหน้ามุ่ยที่โดนห้าม

   “ทำไมล่ะ” ผมถามหน้าเริ่มเครียด

   “พี่เป็นห่วง” แต่พอเจอเหตุผลนี้ก็โอเคล่ะนะ ให้อภัยได้แต่ก็ยังไม่หมดอยู่ดี

   “แต่ผมอยากไปนี่ฮะ ถือว่าเป็นการไปเที่ยวกับเพื่อนส่งท้ายก่อนจะเรียนจบด้วย”

   “ครั้งต่อไปดีกว่า พี่จะหาวันหยุดแล้วไปด้วย” พี่มุธตอบแบบนั้นก็ทำเอาผมหน้างอกว่าเดิมสิครับ จู่ๆมาพูดว่าจะตามไปด้วยทำยังกะว่าจะไปได้อย่างนี้ผมก็อดไปเที่ยวตลอดชีวิตเลยรึไง

   “ใจร้ายๆๆๆๆๆ” ผมลุกขึ้นโวยวายซึ่งปกติแล้วผมไม่เคยทำกิริยาแบบนี้ แต่ครั้งนี้ผมน้อยใจจากเรื่องก่อนๆที่ผ่านมาจนมันระเบิดออกมาเป็นเสียงตะโกนและน้ำตา

   “เพทายหยุดร้อง” พี่มุธเบียดตัวเข้ามาหาผมก่อนจะดึงผมไปกอด มันดูงี่เง่ามากเลยใช่ไหมครับกับอีแค่ไม่ได้ไปเที่ยว แต่นี่มันเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ไปกับเพื่อนๆและน้องๆที่ผมรักนะครับ พอเรียนจบก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันแบบนี้หรือเปล่า

   “ไม่!”

   “ทำไมพี่พูดแล้วไม่ฟัง แต่ก่อนไม่เป็นแบบนี้นะ” พี่มุธพูดใส่ผม ผมชะงักค้างหยุดเสียงโวยวายไว้แค่นั้น หมายความว่ายังไง....

   พี่มุธเบื่อผมเหรอ

   “พี่รำคาญผมสินะ” ผมถามตามที่ใจคิดพี่มันส่ายหน้าเหมือนว่าผมคดอะไรไร้สาระ

   “คิดมากอีกแล้ว”

   “หรือไม่จริง สีหน้าพี่มันบอกกำลังว่าผมงี่เง่า” ผมกำลังดื้อแต่ให้รู้ไว้เลยว่ามันเป็นเพราะพี่มุธล้วนๆ

   “แล้วมันใช่ไหมล่ะ พี่ห้ามอะไรไม่เคยฟัง ดื้อ ไม่น่ารักเลย” พี่มุธพูดตอบกลับถึงจะไม่เสียงดังแต่ก็ทำให้ผมเสียใจ

   “ฮึกๆ....ผมจะกลับบ้าน!” ผมไม่รอให้พี่มันตอบผมหยิบกระเป๋าสะพายตัวเองในห้องนอนแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที

   “เดี๋ยวเพทาย!....เดี๋ยว” ผมไม่ฟังเสียงเรียกข้างหลัง ผมไม่แคร์

   ผมอาจจะดูงี่เง่าเอาแต่ใจ แต่เพราะใครล่ะที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ พี่มุธอาจจะเบื่อผม รำคาญผม แต่ผมก็แค่อยากให้พี่มุธตามใจผมบ้างสักเรื่องแค่นี้ผมผิดหรือไง ถ้ามันดูน่ารำคาญนักผมก็จะไม่อยู่ให้พี่มันเห็นเสียสายตาอีก

   ผมกดโทรศัพท์หาซัน แต่คิดอีกทีผมไม่อยากให้มันต้องคิดมากและเดือดร้อนเพราะผมอีกผมเลยกดตัดสายและเก็บมันกลับเข้ากระเป๋าไป

   ผมลงลิฟท์มาชั้นล่างก่อนจะวิ่งออกจากคอนโดตรงไปที่ป้ายรถเมล์ ผมไม่กล้าโบกแท็กซี่นั่งไปคนเดียวแต่ก็ขึ้นรถเมล์ไม่เป็นครั้นจะโทรหาซันก็ไม่กล้า แต่จะให้กลับขึ้นไปหาก็ไม่เอาหรอกครับ แต่การที่พี่มุธไม่ยอมตามลงมาก็ทำให้ผมเสียใจอยู่ลึกๆ เพราะในใจมันก็หวังที่จะเห็นพี่มุธมันวิ่งมาง้อผมนี่ครับ หึ

   “เอาไงดีวะ” ผมมองท้องฟ้าที่เริ่มดำสนิทสลับกับจราจรที่เริ่มสัญจรไปมาสะดวกบนถนน คิดไม่ตกว่าควรจะทำยังไง

   RRrrr

   ไพลิน

   “ฮัลโหล” ผมกดรับสายน้องสาวของผม

   “อยู่ไหนเอ่ย”

   “เอ่ออออ คอนโดพี่มุธไง” ผมไม่กล้าบอกว่าตอนนี้ผมหอบร่างตัวเองหนีออกมา ถ้าไพลินรู้มันต้องตกใจแน่เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมหนีพี่มุธมาด้วยเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้

   “ตรงไหนของคอนโด” มันถามอีก จะให้บอกยังไงล่ะว่ายืนอยู่ป้ายรถเมล์หน้าคอนโด

   “มีอะไร” ผมถามกลับ

   ปี๊นๆๆๆ

   ไพลินยังไม่ได้ตอบก็มีรถคันหนึ่งบีบแตรใส่ผมเสียงดัง ผมหันไปมองอย่างรำคาญก่อนจะต้องอ้าปากค้างทำตาโตเมื่อคนนั่งอยู่บนรถคือน้องสาวผมเอง

   “ไหนบอกว่าอยู่คอนโดไงคะ เฮีย” ไพลินถามเยาะเย้ยหน่อยๆก่อนจะเปิดรถลงมาหาผม

   “มาได้ไง” ผมถาม

   “เผอิญมาส่งเพื่อนแถวๆนี้ เพิ่งเลิกติวกันมาน่ะค่ะ” ไพลินตอบ

   “แล้วนี่พ่อยอมให้เอารถออกมาขับได้ไง” ผมถามเพราะปกติไพลินยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถเพราะอายุยังทำใบขับขี่ไม่ได้เลยครับถ้าโดนตำรวจโบกนี่ตายแน่

   “ใครบอกว่าพ่อยอม แม่ยอมต่างหาก อิอิ” แม่เป็นใหญ่เสมอสินะ

   “ถึงว่า...”

   “แล้วนี่จะไปไหน แล้วพี่มุธล่ะอย่าบอกนะว่าทะเลาะกันอีกแล้ว” น้องทำท่าทางจับผิดผม ชิยัยเด็กบ้าเอ๊ยรู้ดีซะจริง

   “ไม่ได้ทะเลาะ” ผมบอกปัด

   “อย่ามาโกหกน้องหน่อยเลย” ไพลินทำหน้าโหดจนผมต้องยอมตอบความจริง

   “แค่งอนๆ”

   “ฮ่าๆ จริงๆด้วยปกติพี่ทายไม่เคยหนีออกมาแบบนี้ไม่ใช่เหรอ อะไรกันพอกลับมาคบกันใหม่เพิ่มเลเวลความเอาแต่ใจเลยเหรอ”

   “เดี๋ยวเหอะๆ เยอะไปๆ” ผมดุ ไพลินขำไม่จริงจัง แต่ก็อดคิดตามที่น้องพูดไม่ได้นะครับ นั่นสิทำไมถึงได้ขี้งอนหนักกว่าแต่ก่อนอีกวะกู

   “งั้นก็กลับบ้านเถอะ ไปนอนรอให้พี่มุธมาง้อพรุ่งนี้ดีกว่าเนอะ” น้องควงแขนผมมาขึ้นรถ ก่อนที่ผมจะบอกให้น้องไปนั่งที่ข้างคนขับแล้วผมไปขับเองขืนให้น้องขับโชคร้ายเจอตำรวจมีหวังได้เป็นข่าวแน่

   ‘เด็กอายุสิบเจ็ดไร้ใบขับขี่ได้รับอนุญาตให้ขับรถหรูบนท้องถนนได้’

   “ว่าแต่ทะเลาะเรื่องอะไรกันเหรอ” ไพลินถามตอนที่ผมขับออกมาได้สักพัก ผมเงียบก่อนจะเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด ผมไม่เคยปิดบังอะไรมันได้สักอย่าง

   “ก็พี่อยากไปเที่ยวจริงๆนิ มันครั้งนึงในชีวิตพี่เลยนะ” ผมพูดย้ำพูดให้พี่มุธดูผิดที่ขัดใจผม

   “อืมๆ ลินเข้าใจแล้วค่ะที่แท้ก็แบบนี้ แต่พี่มุธเขาก็ไม่ได้ผิดถึงขนาดที่พี่ต้องน้อยใจแล้ววิ่งหนีออกมาเลยนี่นา” ไพลินพูดเสนอแนะ ผมหน้างอที่ดูเหมือนน้องจะเข้าข้างพี่มุธมากกว่าผม

   “นี่เธอเป็นน้องใครกันแน่” ผมถาม

   “แหะๆ ก็น้องพี่แต่แอบเข้าข้างพี่เขยไง” น้องทำหน้าทะเล้นจนผมอดจะเขกหัวทุยๆนั้นไม่ได้

   RRRrrrr

   “โอะๆ พี่เขยโทรมาพอดีเลย” สายเรียกเข้าจากพี่มุธดังขึ้น หัวใจผมนี่เต้นแทบระเบิดเลยครับแต่ผมต้องวางมาดไว้จะรับไม่ได้เดี๋ยวเสียฟอร์มหมดทั้งๆที่จริงแล้วผมน่ะหายโกรธตั้งแต่เห็นชื่อโชว์บนหน้าจอแล้วครับ

   “กดตัดไปเลย” ผมบอกเสียงขุ่นแต่ในนี่กระดี๊กระด๊ายิ่งกว่าปลากระดี่

   “จริงๆอ่ะ เล่นตัวไปป่ะเนี่ย” น้องหัวเราะจับผิดผม

   “นิอย่าให้มันมากเกินไป” ผมบอก

   “ตัวเองก็อย่างอนให้มันมากเกินไป เหตุผลน่ะเหตุผลรู้จักไหม” น้องสองผมหันขวับมองตาเขียวไพลินก็ยักไหล่แบบไม่สนใจ

   เสียงโทรศัพท์ยังดังอย่างต่อเนื่อง ผมแอบชำเลืองมองอยู่บ่อยๆแต่ก็ต้องรีบหันหลับเวลาที่ไพลินมองมาอย่างคนจับผิด ยัยเด็กนี่ร้ายใช่เล่น

   “น่ารำคาญจริงๆเนาะ กดตัดตัดดีกว่า ติ๊ด!” มันพูดและทำอย่างรวดเร็วจนผมห้ามไว้ไม่ทัน โถ่อุตส่าใจอ่อนจะยอมคุยแล้วแท้ๆ

   “โดนแน่” ผมเค้นเสียง

   “ฮ่าๆๆ ก็พี่ทายเล่นตัวระวังเถอะเขาจะไม่มาง้อน่ะ” ไพลินพูดจนผมสะอึก ทำไมต้องแทงใจดำด้วยไม่รู้หรือไงว่าพี่กลัวโดนทิ้งมากแค่ไหน

   “ช่างปะไร เขาก็ไม่ได้สนใจพี่อยู่แล้วนิ” ผมพูดอย่างคนน้อยใจน้ำตาก็พาลจะไหลซะดื้อๆ

   “เฮ้ออ ทำไมต้องงอนกันไปมาด้วย” ผมไม่ตอบคำถามนั้นแต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าพรุ่งนี้และวันต่อๆไปพี่มุธยังคิดจะมาง้ออยู่ไหม

   เอี๊ยดด

   “ขึ้นห้องไปอาบน้ำเร็วๆเลยนะ” ผมไล่เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านเรียบร้อย

   “ค่าไปละ” ผมมองตามจนน้องปิดประตูห้องเรียบร้อย

   ผมเดินกลับเข้ามาในห้องซึ่งไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ตั้งแต่คบกับพี่มุธ ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรงคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้และนึกถึงคำพูดของไพลินไปด้วย สรุปว่าผมงี่เง่าเองใช่ไหม ผมมันเอาแต่ใจจริงๆใช่ไหม และอีกไม่นานพี่มุธคงเบื่อผมสินะ

ใช่หรือเปล่า

ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมามองอย่างน้อยใจโดนตัดสายไปแค่ครั้งเดียวก็ถอดใจไม่โทรกลับมาอีก หึ บ้าชะมัด

“ไม่ได้รักกันจริงๆสินะพี่มุธ ทำไมถึงไม่ง้อผมล่ะ” พูดจบก็รู้สึกว่าน้ำตามันมาคลอๆที่หางตา อีกแล้วอ่อนแออีกแล้ว

“ชิ ไหลอยู่ได้ไอ้น้ำบ้าเอ๊ย” ผมสบถ

“เพทาย”

ผมสะดุ้งเหมือนได้ยินเสียงคนเรียกหรือว่าผมหูฝาด แถมเสียงยังคุ้นๆเหมือนคนที่ผมเพิ่งหนีเค้ามาอีกต่างหาก

“กูเพ้อเปล่าวะ” ผมบ่น

“เพทาย” ผมสะดุ้งอีกทีก่อนจะยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาดู

“เชี่ย!” ผมสบถเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างไวในเมื่อเสียงที่เรียกผมคือเสียงที่ดังมาจากในโทรศัพท์

ใช่!

ยัยน้องตัวดีมันไม่ได้กดตัดแต่มันกดรับสินะ! แล้วผมจะทำไง

“หึหึ ร้องไห้อยู่สินะ” พี่มุธพูดลอดออกมาให้ผมได้ยินผมปิดปากเงียบไม่ตอบอะไรแต่ในมือก็ยกมือถือขึ้นแนบหูอย่างห้ามไม่ได้

เกือบยี่สิบนาทีเลยเหรอเนี่ยที่พี่มุธยอมเสียตังค่าโทรฟรีๆเพื่อฟังเสียงผมขับรถ เดินเข้าห้อง และเพ้อเจ้อคนเดียว เขาได้ยินอะไรไปบ้างหรือเปล่าเนี่ย

“ฮึก” ผมเผลอสะอื้นเสียงดังจนต้องรีบปิดปากให้แน่นไว้

“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้อีกแล้ว” พี่มุธตอบกลับมา

“…………….”

“ถ้าการที่พี่เป็นห่วงแล้วทำให้เราเสียใจ งั้นต่อไปพี่จะไม่เป็นห่วงอีกแล้วดีไหม” ผมน้ำตาไหลเมื่อพี่มันพูดแบบนั้น

“ฮึกๆ...พะ..พี่เบื่อผะ..ผมแล้วจริงๆ..ฮึก..ด้วย” ผมยอมพูดเพราะทนไม่ไหวจริงๆ

“พี่ไม่เคยเบื่อมีแต่เราที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย”

“แต่ผมอยากไป” ผมก็ยังไม่ยอมแพ้ผมคิกแล้วว่าครั้งนี้ผมจะดื้อให้ถึงที่สุด และถ้าพี่มันไม่ยอมผมก็จะงอนต่อไปเรื่อยๆ

“งั้นก็แล้วแต่” ผมร้องไห้หนักขึ้นอีก

“ฮึกๆ จะไม่สนใจกันแล้วเหรอ”

“นอกจากเรื่องครอบครัว เพทายเป็นสิ่งเดียวที่พี่สนใจเสมอยังไม่รู้ตัวอีก” ถึงจะไม่ได้เป็นคนเดียวที่พี่มันสนใจแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นอย่างน้อยพี่มุธก็เป็นผู้ชายที่รักครอบครัวนะ

“งั้นทำไมพี่ไม่มาง้อผม” ผมถามเสียงอ่อน

“ก็รู้ไงว่าถึงตามยังไงเพทายก็คงไม่หายโกรธ”

“ละ..แล้วถ้าผมนั่งคนเดียวแล้วโดนคนมาทำอะไรล่ะ พี่ไม่ห่วงเหรอ” ผมน้อยใจอีกแล้วครับ ทุกทีสิน่างอแงอีกแล้วเรา

“พี่ก็จะเข้าไปช่วยไง พี่เห็นแล้วว่าน้องลินมารับพี่เลยไม่เข้าไปหา”

“หมายความว่าไง” ผมถามอยากได้แบบชัดๆ

“เพทายอยู่ในสายตาพี่เสมอจำไม่ได้หรือไง” นี่ผมกำลังยิ้มผมรู้สึกได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่ผมเหมือนเป็นคนที่เหนือกว่าเพราะงั้นขอเล่นตัวอีกหน่อยได้หรือเปล่าเนี่ย

“จำไม่ได้ แค่นี้นะผมจะนอนแล้ว” ผมพูดจบก็กดตัดโดยไม่รอว่าอีกฝ่ายจะพูดว่าอะไร

แต่คืนนั้นพี่มุธก็ไม่ได้โทรกลับมาอีกผิดจากที่คิดไว้นิดหน่อยแต่อย่างน้อยพี่มันก็ส่งข้อความมาบอกราตรีสวัสดิ์แทน

ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกว่าหลังจากที่เรากลับมาคืนดีกันพี่มุธดูจะอ่อนโยนขึ้น แล้วผมก็ดูจะงี่เง่ามากขึ้นด้วยแต่ผมห้ามไม่อยู่จริงๆหรือเป็นเพราะผมมักจะคิดถึงเรื่องที่พี่มุธต้องแต่งงานอยู่ในหัวตลอดเวลาจนผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถอดทนเป็นคนรออยู่ฝ่ายเดียวได้อีกต่อไป

ผมรับได้ถ้าวันหนึ่งพี่มันจะเดินเข้ามาบอกว่าเราเลิกกันเถอะเพราะพี่ต้องแต่งงานแล้วจริงๆ ถ้าถึงเวลานั้นอย่างน้อยให้ผมได้งอแง ได้งี่เง่าให้พี่มันง้อผมสักครั้งเถอะ ให้ผมรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นคนสำคัญที่พี่มันต้องใส่ใจก่อนจะถึงเวลานั้นจริงๆ

.

.

ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่พวกเรามารวมกันที่บ้านไอ้ดินเพื่อจะเดินทางไปจันทบุรี ถึงจะโดนห้ามแต่ผมไม่แคร์บอกตกลงกับพวกไอ้ดินในวันรุ่งขึ้นทันทีว่าตกลงจะไปด้วย พวกน้องๆก็ดูจะดีใจที่พวกผมจะไปด้วย

ผมไปเล่าให้พวกไอ้เขียนเพื่อนอีกกลุ่มของผมที่สนิทกันฟังมันก็บอกว่าจะขอตามไปด้วยแต่ขออยู่ทำงานให้เสร็จก่อนแล้วจะตามไปทีหลังสีหน้ามันดูหื่นกามอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำเอาทุกคนแปลกใจนะเพราะปกติมันไม่ใช่คนที่จะชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดซะด้วยไม่รู้เพราะมีอะไรที่มันสนใจอยู่ในทริปนี้หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ

หรือมันอาจจะตามไปเอาเรื่องไอ้เหนือหรือเปล่า เหตุผลนี้ก็อาจจะเป็นไปได้นะครับเพราะมันเคยทะเลาะกันในผับอย่างรุนแรงจนพวกผมตกใจอยู่ครั้งหนึ่ง เกือบคิดว่าน้องที่พวกผมรักกับเพื่อนที่พวกผมรักต้องมาทะเลาะกันแต่ก็ยังดีที่เรื่องมันจบโดยที่ไม่มีฝ่ายใดเอาเรื่อง

ยืนรอขนกระเป๋าขึ้นบนรถตู้สายตาก็พลันไปเห็นวิสกี้มันส่งยิ้มทักทายมาให้ ในใจผมหน่วงทุกครั้งที่เห็นหน้ามัน รู้สึกผิดครับที่ผมต้องทำตัวเหมือนไม่มีอะไรแต่จริงๆแล้วผมแอบมีความสัมพันธ์กับพี่ชายมันไปถึงไหนต่อไหน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าถ้ามันรู้ความจริงมันจะยังรับผมให้เป็นพี่ที่สนิทได้หรือเปล่า

หลายครั้งนะครับที่ผมเผลอทำหน้าตาเศร้าๆให้มันเห็น เวลามันถามผมว่าเป็นอะไรถึงทำหน้าเหมือนคนป่วยไม่ได้กินยาผมพูดไม่ออกที่ต้องโกหกว่าเครียดเรื่องเรียนทั้งที่เครียดเรื่องพี่ชายมัน ผมไม่อยากให้มันคิดว่าผมหลอกมันเอาความหวังดีของมันมาทำเหมือนเป็นเรื่องสนุก

“ครบละ หกชีวิตที่หล่อและโสด เดินทางได้เลสโก”ไอ้ดินมันพูดเมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมทั้งของทั้งคนทั้งรถที่ตรวจเช็คสภาพมาแล้วอย่างดี

“ตื่นเต้นว่ะ” ผมพูดกับไอ้ซันมันหันหน้ามามองผมงงๆนิดหน่อย

“มึงพูดว่าอะไรนะ” ผมขมวดคิ้วมันเหม่ออะไรถึงไม่ได้ยินที่ผมพูด

“จดๆจ้องๆโทรศัพท์เป็นอะไร หรือรอใครโทรมาอยู่เอ๊ย หรือว่ามึงอยากจะโทรหาใคร” ผมแกล้งถาม มันทำหน้าตกใจรีบปฏิเสธ

“เปล่าๆ บ้าแล้ว” แม่งพิรุธชัดๆกูต้องรู้ให้ได้เลย

“เออ ไม่มีก็ไม่มี” ผมยักคิ้วล้อเลียน มันหันฟน้าหนีไม่กล้าสบสายตานั่นไงนี่มันอาการของคนมีพิรุธชัดๆ

“มาเหี้ยอะไรกูไปเที่ยวกะเพื่อน ไอ้มุธมึงอย่ากวนตีนกูได้มะ มึงจะไปทำไม วันหยุดมึงแล้วเกี่ยวไรกะกู โอยไอ้เหี้ย ไอ้พี่เลวแม่งตัดสายกู”

แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นรถพวกผมก็ต้องหันไปมองตามเสียงร้องของวิสกี้ ผมเห็นมันยืนแกปากคุยกับโทรศัพท์ดูแล้วคงหัวเสียอย่างบ้าคลั่ง แต่ใจผมนี่โครมครามไม่อยากคิดว่าเมื่อกี้นี้มันจะคุยกับพี่มุธแถมพูดเหมือนว่าพี่มันจะตามมาอีก

ตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกันวันนั้นพี่มันไม่โทรมาหาผมอีกเลย ไอ้ผมก็ดันงอนไม่เลิกทิฐิสูงไม่ยอมโทรไปก่อนด้วยผมก็เลยคิดว่าพี่มันคงไม่สนใจแล้วซะอีก

“แสดงว่าพี่มุธเขากำลังจะมาที่นี่สินะ” ผมตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินประโยคที่ไอ้เหนือถามวิสกี้ ก่อนหน้านี้มันคุยอะไรกันไม่ทราบครับผมไม่ทันได้ฟัง

“เออมั้งแม่งกูโทรหาก็ปิดเครื่องหนีอีก มันนึกคึกอะไรของมันวะมึง” วิสกี้มันกำลังโวยวายแต่ผมกำลังจะหัวใจวาย

ไม่ได้เจอหน้ากันมาสองสามวันแถมยังงอนกันซะใหญ่โตอีก พูดตรงๆถ้าพี่มันมาผมไม่รู้จะทำหน้ายังไง แต่คิดๆไปผมจะทำอะไรได้นอกจากทำหน้าเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกัน

“เอาน่าถ้าพี่มึงไปพวกเราอาจจะไม่ต้องจ่ายอะไรเลยนะเว้ย คิดในแง่ดีดิมึง” ไอ้เหนือพูดเหมือนจะดีนะถ้าได้เที่ยวฟรีแต่ถ้ามันทำให้ผมต้องอึดอัดใจผมขอเที่ยวแบบเสียเงินเองยังจะดีซะกว่า

แล้วสุดท้ายกำหนดการเดินทางก็ต้องเลื่อนออกไปเพื่อนั่งรอแขกคนสุดท้ายที่โทรมาปุบปับว่าจะไปด้วย ผมภาวนาว่าให้พี่มุธล้อเล่นและโทรมายกเลิกกับวิสกี้ว่าไม่ไปแล้ว ถ้าก่อนหน้านี้เราไม่ได้โกรธกันผมคงอยากให้พี่มันมา แต่ถึงจะมาเราก็ต้องต่างคนต่างอยู่ หึ ผมนี่อาภัพเกินใครจริงๆ

บรืนนนน

สิบนาทีเห็นจะได้รถบีเอ็มสีดำก็มาจอดสนิทเทียบข้างรถตู้ของบ้านไอ้ดิน ไม่ถึงสิบวินาทีเจ้าของรถเขาก็เดินลงมาพร้อมกระเป๋าใบเล็กๆหนึ่งใบ ใจผมโครมครามเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ผมคิดถึงตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะโกรธให้ตาย

พี่มุธตีเนียนดีเยี่ยมเขาไม่มีท่าทีว่าจะสนใจผมเป็นพิเศษทำเหมือนทุกครั้งที่พวกเรารวมตัวมาเจอกัน ทั้งๆที่ผมควรจะชินแต่ทำไมคราวนี้ผมกลับรู้สึกไม่ชอบใจ ผมเห็นแก่ตัวหรือเปล่าถ้าผมจะบอกว่าผมอยากได้คำพูดที่บอกว่า ‘เพทายแฟนพี่’ หรืออ้อมกอดที่พี่มุธมักจะมอบให้ผมบ่อยๆ

“นี่มุธ มึงไปหัดแต่งตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ขนาดมึงไปเที่ยวทะเลกะครอบครัวมึงยังใส่สูทรองเท้าหนังเลย” ทุกคนขำกับคำถามของวิสกี้แม้แต่ผมยังอดหัวเราะตามไม่ได้

“ชุดนี้เมียกูซื้อให้กูเลยเอามาใส่” ผมสะดุ้งรู้เลยว่าหน้าแดงขึ้นแน่ๆ ผมไม่ทันสังเกตเลยว่าชุดนี้ผมซื้อให้เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ราคาไม่ได้แพงมากหรอกครับเพียงแต่ผมเห็นว่ามันเหมาะกับพี่มุธเลยซื้อมาให้แบบยกชุด เสื้อ กางเกง รองเท้า แม้กระทั่งแว่นกันแดดผมก็เป็นคนเลือกให้

หรือว่าพี่มันตั้งใจใส่มาง้อ แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามผมก็ยังจะคงงอนและน้อยใจต่อไป อย่าถามหาเหตุผลเพราะผมเองก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมผมถึงอยากจะงอน อยากจะให้พี่มันง้ออยู่ตลอดเวลา

พี่มุธ วิสกี้ และเหนือ หยอกล้อกันอย่างปกติจนเกิดเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง มีแต่ผมคนเดียวละมั้งที่ในใจเผลออิจฉาทั้งๆที่เขาเป็นพี่น้อง ผมอยากได้แบบนั้นแต่ผมก็ไม่ได้และไม่มีวันได้ สายตาของผมคงจะแสดงออกเกินไปจนซันต้องมาสะกิดที่ไหล่ให้ผมได้สติ

“เก็บๆไว้บ้างถ้าไม่อยากให้ใครรู้” ผมพยักหน้ารับ ขอบคุณนะที่คอยเตือนให้กูรู้ว่ากูมีสิทธิ์แค่ไหน

ในช่วงขณะนั้นผมกับพี่มุธเผลอสบตากันแวบนึงก่อนที่จะเป็นผมเองที่หันหน้าหนีและลากมือซันก้าวขึ้นไปนั่งรอบนรถ

“ใจเย็นๆ” มันกระซิบบอก

“จะพยายาม” ผมคงทำได้แค่นี้จริงๆ




TBC_________________


หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่10 (100%) P.5 >Up.13/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 13-01-2014 07:36:47
อ่านมาถึงตอนนี้ก็รู้แจ่มชัดแล้วว่ามันเป็นชวงเวลาไล่เลี่ยกันกับเรื่อง หมดกันฯ  แต่เริ่มก่อนนิดหน่อย  #พี่มุธ-เพทายสู้ๆนะ  รอตอนต่อไปคัฟ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่10 (100%) P.5 >Up.13/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-01-2014 08:46:27
อืมมม เรื่องราวมันเป็นแบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่10 (100%) P.5 >Up.13/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 13-01-2014 22:09:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่10 (100%) P.5 >Up.13/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 14-01-2014 17:38:36
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่11 (100%) P.5 >Up.24/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 24-01-2014 01:56:38


ตอนที่ 11

ซัน พาร์ท

   “อื้อออ”

ผมขยับตัว เมื่อได้ยินเสียงครางเบาๆจากคนที่นอนด้านข้าง ผมค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆสมองกำลังประมวลผลไม่นานผมก็ได้สติคืนมาแบบครบถ้วน

“หึ” ผมขยับตัวลุกขึ้นเอาตัวพิงไว้กับหัวเตียงมองคนที่นอนขดกายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันอย่างยิ้มเยาะ

เมื่อคืนมันไม่ได้ต่อต้านผม...

ในความคิดตอนนั้นผมรู้สึกสมเพชมันนิดหน่อย ใช่อยู่ที่ผมไม่ดีใช้ยากับมันในตอนแรกแต่ครั้งต่อมาล่ะ ผมรู้ดีว่านั่นเกิดจากจิตใต้สำนึกของมันลึกๆที่ต้องการเติมเต็ม และผมก็จัดให้มันอย่างถึงใจ

ผมนั่งมองมันอยู่พักใหญ่ มองเห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ผมคิดว่าผมรับมือได้ขอแค่มีมันยอมให้ความร่วมมือกับผมซึ่งก็แน่นอนว่ายังไงมันก็ต้องยอม การที่มันต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายผมว่ามันคงไม่อยากให้ใครรู้หรอกโดยเฉพาะครอบครัวที่รักของมัน

ผมตามสืบประวัติของครอบครัวนี้มาอย่างละเอียด รู้ลึกแม้กระทั่งเหตุผลที่บ้านนี้ต้องการให้ลูกสาวรีบๆแต่งงานโดยหวังต้องการเงินมาโปะหนี้ก้อนโต หึหึ ผมละอายใจแทนแบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่าขายลูกกิน

ผมตามผู้หญิงที่ชื่อศศิอยู่นานหลายวัน ตามไปถึงโรงเรียนบ้างก็มีแต่สุดท้ายผมก็คิดไม่ตกว่าจะจัดการยังไง เพราะยังไงซะผู้หญิงก็คือผู้หญิง แต่แล้ววันหนึ่งผมก็เห็นมัน...

‘พี่กลินท์’

ผู้หญิงคนนั้นตะโกนเรียกพี่ชายตัวเองเสียงดัง ผมหันไปมองอย่างอดไม่ได้ ไม่รู้เพราะรอยยิ้มของมันหรือสายตาที่เผลอมองมาทางผมที่เหมือนจะรู้ตัวว่าโดนแอบมองกันแน่ทำให้ผมตัดสินใจไปหามันที่มหา’ลัยในวันรุ่งขึ้น

ความคิดชั่วผุดขึ้นมาในสมอง ในใจคิดเพียงแต่ว่าแก้แค้นแทนเพทายให้ได้ ไม่ว่าจะต้องลงกับใครผมก็จะทำ กับผู้ชายด้วยกันผมไม่เคยมันเป็นผู้ชายคนแรกของผมและผมก็คงเป็นคนแรกของมัน ผมยกยิ้มอย่างพอใจอย่างน้อยการทำลายความมั่นใจในความเป็นชายของมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง แต่ไม่ว่ายังไงเรื่องนี้ผมจะให้เพทายมันรู้ไม่ได้เด็ดขาด มันคงไม่ชอบแน่ที่ผมต้องทำอะไรเพื่อมันขนาดนี้

ผมไม่สน ผมทำได้ทุกอย่าง...เพื่อให้มันมีความสุข

ผมรักมัน...ใช่ผมรู้ตัวเองมานานแล้วว่าแอบรักเพื่อน แต่ระหว่างแย่งชิงมันมากับรักษาความเป็นเพื่อนไว้ผมยอมเลือกข้อหลังดีกว่า ให้ผมได้เห็นมันทุกวันดีกว่าให้มันรู้ความจริงแล้ววิ่งหนีไปจากผม แบบนั้นผมคงอยู่ไม่ได้

“กูจะทำทุกอย่าง” ผมกำหมัดแน่นพูดกับตัวเองเพื่อตอกย้ำถึงสิ่งที่ผมต้องทำ ภาพของผู้หญิงคนนั้นกับพี่เวอร์มุธติดอยู่ในหัวสมองของผมอย่างไม่มีวันลบได้ ไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้องหรือนามสกุลเดียวผมจะจัดการให้หมด โดยคนๆนั้นที่ต้องมาโดนรับโทษแทนก็คือมัน..ผมเลือกแล้ว

“มึงผิดที่เกิดมาเป็นพี่ชายของผู้หญิงคนนั้น” ผมโน้มหน้าลงไปพูดชิดใบหู มันขยับตัวเหมือนขัดใจที่โดนรบกวนการนอน ผมปล่อยให้มันได้นอนไป ถึงยังไงผมก็ไม่ใจร้ายขนาดที่จะไล่มันกลับทั้งๆที่ยังนอนได้ไม่ถึงสามชั่วโมงหรอก

“ฮึกๆ ทำไม..ฮึกๆ..ต้องทะ..ทำกับกะ..กูแบบนะ..นี้ ฮึกๆ” ผมผงะกำลังจะก้าวลงจากเตียงเพื่อไปชำระล้างร่างกาย หันกลับมามองก็พบว่ามันยังปิดเปลือกตาอยู่ แต่น้ำใสๆกลับไหลผ่านขนตายาวงอนจนเปื้อนไปทั้งหมอน ริมฝีปากมันแห้งผากจนซีดเซียวขยับเอื้อนเอ่ยทีเหมือนคนไม่มีแรง

“.............” ผมเงียบนั่งมองว่ามันจะพูดอะไรต่อ หรือเมื่อกี้มันแค่ละเมอ

ผมรู้ว่าการทำแบบนี้กับมันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ผมก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่เพื่อเพทายแล้วไม่ว่าอะไรบนโลกต่อให้เลวร้ายมากแค่ไหนผมทำได้ทุกอย่าง

ผมไม่ใช่คนเลว..แต่ผมก็ไม่ใช่คนดี

“กู..จะ..เจ็บ..ฮึกๆ” มันขมวดคิ้วพลางขดตัวเข้าหากันแน่นเข้าไปอีก ผมสงสัยเลยยกมือขึ้นแตะที่หน้าผากของมัน

“เชี่ย ทำไมร้อนแบบนี้วะ” ผมเอามืออกแทบไม่ทัน เมื่อครู่ตอนที่เข้าใกล้ก็ไม่ทันได้สังเกตว่าตัวมันร้อนผิดปกติ เพราะมัวแต่โกรธจนไม่ทันได้คิด แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันคงเพ้อเพราะพิษไข้ซึ่งผมก็ไม่ได้ไร้หัวใจถึงขนาดจะปล่อยให้มันนอนตาย หรือโยนมันกลับไปบ้านด้วยสภาพแบบนี้

หึ แต่ผมก็ไม่ใช่คนดีนะเพียงแต่คิดว่าการเก็บเรื่องที่เรามีอะไรกันไว้เป็นความลับมันคงมีประโยชน์กับผมมากกว่าป่าวประกาศให้คนอื่นรู้

“กูจะช่วยมึงแค่ครั้งนี้นะ” ผมบอกมัน ซึ่งก็ไม่รู้จะบอกทำไม

ผมเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กมาวางไว้ข้างหัวเตียง ผมบิดจนผ้าหมาดได้ที่ก็วางลงไปบนหน้าผากของมัน แน่ละพอเจอน้ำอุ่นๆมันก็สะบัดหันตัวหนีผม

“แม่ง เล่นตัวเชียวนะมึง” ผมพูดอย่างหงุดหงิดที่มันดูจะไม่ให้ความร่วมมือในการเช็ดตัวครั้งนี้ ผมมันก็พวกความอดทนต่ำนะครับถ้ามามากมายใส่ผมก็ไม่สนใจเหมือนกัน

“อย่าดิ้นสิวะ” ผมจับไหล่มันกดลงกับที่นอน ความร้อนจากตัวมันแทรกซึมมาตามฝ่ามือของผม

“ร้อนจังวะ เชี่ยจะเป็นไรไหมเนี่ย” ผมบ่นเริ่มกังวลเพราะมันดูตัวร้อนมากผิดปกติ

“ฮึกๆ.... หนาว” มันร้องพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

ผมค่อยๆเช็ดใบหน้ามันเพื่อคลายความร้อนในร่างกาย ใบหน้ามันแดงมากเหมือนคนเพิ่งไปตากแดดมา มันส่ายหน้าหนีเริ่มดิ้นจนผมต้องกดไหล่ไว้ให้แน่นขึ้น ปากก็พูดแต่ว่าหนาวๆทั้งๆที่ตัวมันร้อนจะตายห่าอยู่แล้ว

พรึ่บ!

“!!” ผมตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าชัดๆ

ผมดึงผ้าห่มออกจากร่างกายของมันเพื่อที่จะเช็ดตัวให้ง่ายขึ้นแต่ก็ต้องตกใจเมื่อร่องรอยที่ผมทำไว้มันกระจายอยู่ทั่วทั้งตัว ลำคอ หน้าอก แผ่นท้องขาว โดคนขาอ่อน ยันขาขาวๆของมันต่างก็มีวีรกรรมที่ผมทำไว้ทั้งสิ้น

“ฮึกๆ...หนะ...หนาว” ผมตื่นจากภวังค์ เมื่อมือไม้มันเริ่มควานหาผ้าห่มมาปกคลุมกายที่เปลือยเปล่า ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้าให้มันสักชิ้นเพราะตั้งใจตอกย้ำตอนมันตื่นขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าตอกย้ำความชั่วช้าของผมซะเอง

“กะ..กู” ผมจ้องใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาวซีด ในใจเริ่มตีกันระหว่างความดีกับความชั่ว ผมทำเกินไปหรือ....

“ฮึกๆ...ขอโทษ” ผมได้ยินชัดเจนมันร้องไห้พูดขอโทษแต่ผมไม่รู้ว่ามันขอโทษอะไร หรือขอโทษใคร

ผมบิดน้ำอุ่นให้หมาดอีกครั้งก่อนจะนำมาเช็ดตัวมันให้ไข้ลดลง มันดิ้นพล่านเมื่อมันรู้สึกหนาว ตัวมันบิดไปมาจนผมเช็ดตัวให้ไม่ได้ ก็มันเล่นปัดแขนปัดขาจนทำผมเจ็บไปหมด เลยตัดสินนั่งคร่อมมันไว้ตรึงแขนไว้ที่เหนือหัวมันซะ

“ฤทธิ์เยอะจังนะมึงเนี่ย” ผมหอบกับการเช็ดตัวให้คนป่วย

ผมจัดการเช็ดร่างกายมันอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะอยากให้มันหาย แต่ตอนนี้ผมทำเพื่อตัวเองมากกว่า ก็การที่มันบิดตัวไปมาคิดหรือว่าจะไม่สัมผัสโดนเข้ากับน้องชายของผมที่ซุกซ่อนอยู่ใต้บ็อกเซอร์ตัวบาง

ยิ่งเห็นภาพมันถูกตรึงแขนนอนบิดร่างด้วยความทรมานก็ยิ่งทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ทุกภาพของมันถูกผมฝังเป็นเมมโมรี่ไปแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมถึงจำได้ ปกติกับผู้หญิงทั่วๆไป แค่ผ่านไปชั่วโมงเดียวผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร

“อย่าดิ้นสิวะ..อื้ม” ผมเผลอร้องครางเมื่อมันยกขาขึ้นมาโดนน้องชายผมที่ผมรู้ดีว่ามันคงเกิดอาการสั่นสู้เรียบร้อย

“ฮึกๆ...หนาววว” มันยังร้องไห้ไม่หยุด ตัวมันเริ่มเย็นลงไม่ร้อนเท่าตอนแรกเห็นอย่างนั้นก็รีบลงมาจากตัวมันและเอาผ้าห่มมาทับมันไว้ทันที

“ฮึกๆๆ” มันขดตัวเข้าหากันทันทีที่มีอะไรปกปิดร่างกาย

“แม่งทำกูเดือดร้อนสองเด้งเลยนะ” เด้งแรกเหนื่อยที่ต้องมาเช็ดตัวให้ที่ทำเพราะว่าสงสารหรอกที่ต้องมาไม่สบายเพราะผมเป็นต้นเหตุ ส่วนเด้งสอง....

“เหนื่อยมือกูอีกและ” ผมก้มมองที่น้องชาย อืมม โอเคมันผงาดได้ที่ ถ้าไม่ใช่เพราะมันขยับตัวไปมาคงไม่ต้องทำให้ผมต้องใช้นิ้วทั้งห้าจัดการแบบนี้หรอก

ผมรีบหาเสื้อผ้ามาใส่ให้มัน ชุดผมก็มีแต่ตัวใหญ่ๆและก็บางๆเพราะผมมันคนขี้ร้อนและก็ไม่ได้ป่วยง่ายด้วย ชุดที่หนาที่สุดก็คงเป็นชุดนอนที่แม่ผมซื้อให้นั่นแหละ ปกติผมใส่แต่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์

ผมเลือกชุดที่ผมไม่เคยใส่มาสวมให้มัน ไม่น่าเชื่อว่าตัวมันจะเตี้ยถึงขนาดที่ว่าขากางเกงกับแขนเสื้อเลยยาวตัวมันออกมาเกือบๆฝ่ามือ ผมพับแขนเสื้อขึ้นให้และก็พับขากางเกงขึ้นให้พอดีกับร่างกายมันก่อนจะห่มผ้ากลับให้เหมือนเดิม

“อย่างกับลูกกู” ผมเท้าเอวมองมันนอนหลับตาพริ้ม ขนตามันยังเปียกอยู่แต่ไม่มีน้ำตาไหลลงมาแล้ว เสียงครางเพราะความร้อนจากร่างกายยังดังขึ้นมาเป็นระยะ

“แล้วทำไมกูต้องมาดูแลขนาดนี้ด้วยวะ รอมึงหายก่อนเถอะไอ้กลินท์” ผมชี้หน้ามันคาดโทษเหมือนคนบ้าที่พูดคนเดียวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง

ใช้เวลาแต่งตัวให้มันเกือบๆสิบนาทีเพราะไม่รู้จะดิ้นหาอะไรนักหนา แทนที่จะทำให้ผมโมโหจนน้องผมมันลดขนาดลงแต่เปล่าเลย กลับทำให้น้องผมขยายกว่าเดิมอีกเท่าตัว

เฮ้อออ....นี่คงเป็นวิธีเอาคืนของมันล่ะมั้ง...

.

.

ตึง!

“โอ๊ย” ผมสะดุ้งเด้งตัวขึ้นจากโซฟาทันทีที่ได้ยินเสียงเหมือนของหนักๆตกลงพื้น แถมยังมีเสียงร้องดังขึ้นพร้อมๆกันอีกไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือเสียงอะไร ผมทิ้งหนังสือแต่งบ้านไว้บนโต๊ะตัวเตี้ยๆก่อนจะก้าวเท้าไปตามทางของเสียง

ผมเดินหัวเสียกลับเข้าไปในห้องนอนทันทีที่เปิดประตูออกปุ๊บผมก็เห็นคนกำลังคลานลากสังขารตัวเองขึ้นเตียงนอนอย่างยากลำบาก แล้วเหมือนมันก็จะรู้ตัวว่ามีผมยืนมองอยู่มันหันมามองสีหน้ามันดูตื่นตะลึงนิดหน่อยแล้วก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจยังลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองขึ้นเตียงเหมือนเดิม

ผมขมวดคิ้วหงุดหงิดที่มันทำเหมือนไม่เห็นผมทั้งๆที่ผมก็ยืนหน้าตาดีอยู่ตรงนี้ แถมพอมันขึ้นเตียงได้ปุ๊บก็รีบดึงผ้านวมขึ้นคลุมหัวตัวเองปั๊บ ให้มันได้อย่างนี้สิ

“เมื่อกี้มึงเป็นอะไร” ผมถามทั้งๆที่รู้ว่ามันคงตกเตียง แต่มันเป็นเหมือนคำถามตามมารยาทไงอีกอย่างผมอยากรู้ด้วยว่าทำไมคนโตเป็นควายขนาดนี้แล้วยังกลิ้งให้ตกเตียงได้ ดีที่เตียงผมไม่สูงไม่อย่างนั้นแข้งขาหักขึ้นมาผมซวยอีก

“…………..” แต่ดูเหมือนคำถามของผมจะไม่ได้รับการสนใจจากฝ่ายตรงข้ามเท่าไหร่ มันยังนอนนิ่งอยู่ในผ้าห่มไม่ขยับเขยื้อนจนผมเริ่มโมโหกว่าเดิม

“กูถามว่าเมื่อกี้มึงเป็นอะไร!” ผมเริ่มขึ้นเสียง สังเกตเห็นร่างเล็กๆใต้ผ้าห่มตัวสั่นขึ้นมานิดนึงคงสะดุ้งตกใจ ขวัญอ่อนจริงๆแต่อย่าคิดว่าผมสงสารไม่เคยมีคำนั้นอยู่ในสมองผม

“…………………” พอมันเงียบอีกเป็นครั้งที่สองก็ทำให้ผมปรี๊ดแตก เดินกระแทกเท้าแรงๆเข้าไปหามันบนที่นอนซึ่งผมเป็นเจ้าของอย่างไม่พอใจ

พรึ่บ!

“โอ๊ย!”

“ดื้อด้านนักเหรอมึง!!” ผมตวาดดังลั่นพร้อมกับกระชากแขนมันให้ลุกขึ้นมาจากที่นอน ร่างมันปลิวมาปะทะผมอย่างไม่มีสะดุด มันร้องเสียงหลงคงเจ็บจากแรงมือที่ผมบีบ

ผมรู้ว่ามันเจ็บ..แต่ผมไม่คิดจะปล่อย

“เหี้ยอะไรของมึงอีก!” มันตะคอกกลับมาแต่เหมือนเสียงแหบๆของมันจะไม่ส่งผลให้ผมกลัวเท่าไหร่นัก

“แล้วทำไมมึงถึงไม่ตอบคำถามกู” ผมบังคับเสียงให้เบาลงเมื่อรู้สึกว่าความร้อนจากร่างกายมันเริ่มลวกมือของผมที่จับต้นแขนมันอยู่ ผมเกือบลืมไปว่ามันไม่สบายแต่ก็เพราะมันที่ดื้อเงียบใส่ผมก่อนผมไม่ผิด

“แล้วทำไมกูต้องตอบด้วย” มันส่งเสียงกลับมาเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ผมรู้ว่ามันกำลังกลัว

“ถ้าไม่อยากเจอแบบเดิมอย่าจองหองใส่กูนะไอ้กลินท์ มึงก็รู้ว่ากูพูดจริงทำจริง” ผมขู่ มันแสยะยิ้มกลับมา

“ตามสบาย เพราะหลังจากนี้กูคิดว่าตัวเองคงอยู่เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว ถ้าจะโดนมึงทำแบบเดิมอีกกูก็จะถือว่าทำบุญให้หมามัน”

กึก!

“อึก!” สิ้นประโยคที่มันจงใจด่าผมก็เหมือนกับเติมเชื้อเพลิงใส่กองไฟ ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าปล่อยมือที่แขนมาบีบคอเล็กๆของมันไว้อย่างโกรธจัด

“ปละ...ปล่อย..อึก” มันพยายามแกะนิ้วมือผมออกแต่เหมือนว่าสองมือมันจะมีแรงไม่สู้มือเดียวของผมด้วยซ้ำ ทั้งงัดทั้งแงะผมก็ไม่ปล่อยจนสุดท้ายมันก็นั่งนิ่งๆหลับตาลงปล่อยให้ผมกระทำได้ตามใจ

ผมกัดฟันแน่นมองท่าทีนิ่งสงบของมันก็ยิ่งโมโหจนสุดท้ายผมก็ผลักมันลงกับเตียงนอนอย่างคนหัวเสีย ผมกำมือแน่นขยับตัวเองให้ออกห่างจากมันอีกนิด

“แฮ่ก..เฮือกกก” มันสูดอากาศเข้าปอดเต็มแรง ยกมือที่เกือบจะไม่มีแรงของตัวเองขึ้นคลำที่ต้นคอขาวๆซึ่งตอนนี้มันปรากฎรอยมือทั้งห้าของผมอย่างชัดเจน

“ทะ..ทำไม..แฮ่ก..ไม่ฆ่า...กูละ..เลย” มันหันมาถามผมด้วยเสียงที่ขาดห้วง ตัวมันนอนเกยอยู่บนหมอน ดวงตาที่หรี่ปรือเริ่มมีน้ำใสๆมาคลอจนสุดท้ายก็ไหลลงมาทั้งสองข้างแก้มของมัน

ผมมองมันที่พยายามลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ผมรู้ว่าตัวเองไร้เหตุผลที่ทำกับมันแบบนี้ แต่ผมถอยหลังกลับไปไม่ได้อีกแล้ว ผมบอกตัวเองเสมอว่ายังไงผมก็ต้องแกแค้นเรื่องนี้ให้เพทายให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเลวแค่ไหนผมก็จะทำ

“มึงอยากตายนักใช่ไหม” ผมถามเสียงเย็น ลงจากเตียงมายืนมองมันอยู่ที่ปลายเตียง มันยังคงนั่งๆนอนๆเหมือนแรงจะหมดอยู่ที่เตียงของผมซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

“แค่นี้กูก็ตายไปแล้วครึ่งนึง..ฮึกๆ...กูจะขอบคุณมึงมากถ้าช่วยบีบคอกูให้อีกครึ่งกูตายตามกันไป” มันพูดบอกทั้งน้ำตา

   กึก!

   ผมสะดุ้ง รู้สึกหวิวขึ้นมาในใจเมื่อเห็นมันร้องขอทั้งๆที่ร้องไห้อย่างทรมาน ผมหันหน้าหนีจากมันไม่อยากมองและไม่อยากตั้งคำถามกับตัวเองว่าเพราะอะไรถึงเกิดความรู้สึกเหมือนมีคนมาสะกิดเข้าที่ต่อมความสงสารของผม

   “สำหรับมึงตายคงสบายไป...” ผมตอบอย่างเย็นชา

   “ฮึกๆ” มันเหลือบมามองผมด้วยหางตาก่อนจะพูดต่อ “กูคงโชคดีสินะที่ยังมีชีวิตอยู่”

   “ทำไมไม่คิดบ้างล่ะว่าจริงๆแล้วมึงอาจไม่สมควรเกิดมา ทั้งมึงทั้งน้องสาวมึง ถ้าไม่มีพวกมึงเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้” ผมพูดคำที่คิดว่าเลวที่สุดออกไป ส่วนนึงในใจผมรู้สึกแบบนั้น ถ้าไม่มีครอบครัวมันเพื่อนผมคงมีความสุขที่สุดในโลก แต่อีกส่วนในใจผมแค่อยากให้มันรู้สึกเจ็บที่สุดด้วยคำพูดของผม

   “น้องสาวกูเขาสมควรได้เกิดมาน่ะถูกแล้ว ฮึกๆๆ...ที่รักของคนในบ้าน หึหึ...มึงพูดถูกกูไม่ควรเกิดมาบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ ...ฮึกๆๆ...แต่สงสัยกูคงต้องมาชดใช้กรรมด้วยการตายทั้งเป็นก่อนละมั้ง” มันพูดไปพร้อมทั้งร้องไห้ไปจนตัวโยน ผมฟังคำพูดของมันก็เริ่มรู้สึกผิดกับคำพูดของตัวเอง

   สายตามันที่มองผมมันทั้งตัดพ้อและเกลียดชังแต่แวบนึงผมเห็นแววตาที่ฉายชัดที่ความน้อยเนื้อต่ำใจและสมเพชตัวเอง มันดูเย้ยหยันแต่สายตานั้นไม่ได้มีให้กับผม ถ้าให้ผมเดามันคงมีไว้ให้กับตัวเอง แต่เพราะอะไรที่ทำให้มันเกิดความรู้สึกแบบนั้น

   “กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงพูดอะไรแต่กูมีเรื่องต้องตกลงกันกับมึง” ผมบอกเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

   มันยังร้องไห้หนัก ผมยืนเฉยๆปล่อยให้มันร้องจนพอใจมันถึงหันมาสนใจผมที่ยืนรอที่ปลายเตียง

   “กูขอโทรศัพท์กูก่อน” มันไม่ได้พูดเรื่องเดียวกับผมแต่กลับถามหามือถือตัวเองแทน

   “คุยกันให้เสร็จแล้วกูจะคืนให้”

   “คุยอะไร กูไม่มีอะไรจะคุย” มันพยายามลุกจากเตียงขึ้นยืน แต่ไม่รู้เพราะขามันเล็กหรือเพราะโดนจัดหนักถึงทำให้ขามันรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหวล้มลงไปกองกับพื้นจนเกิดเสียงเหมือนตอนแรกที่ทำให้ผมต้องวิ่งเข้ามาดู

   ตึง!

   “เชี่ย สมควรรู้ว่าไม่ไหวแล้วลุกมาทำบ้าอะไร” ผมถลาเข้าไปหาจะดึงมันขึ้น แต่มันกลับปัดมือออก

   “กูไม่อยากนอน...มีอะไรจะคุยก็คุยมากูอยากกลับบ้าน” มันพยุงตัวเองขึ้นนั่งที่ขอบเตียงสำเร็จ คราบน้ำตามันยังเปรื้อนแก้มอยู่ผมหันหน้าหนีภาพนั้น

   “เรื่องน้องสาวมึง....ศศิ” ผมพูดในสิ่งที่ต้องการ

   “ศศิทำไม....เรื่องพี่มุธกับเพื่อนมึงใช่ไหม” มันถามกลับเหมือนรู้ใจผม

   “ใช่รู้ก็ดี”

   “ยังไง จะให้กูคอยขัดขวางน้องสาวตัวเองกับพี่มุธใช่หรือเปล่า...มึงคงอยากให้กูทำยังไงก็ได้เพื่อไม่ให้พี่มุธกับน้องสาวกูแต่งงานกันสินะ” ผมมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆที่มันพูดออกมาเป็นสิ่งที่ผมคิดทั้งหมด

   “รู้ก็ดี”

   “หึหึ” มันยิ้มมุมปากเงยหน้ามองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะพูดประโยคถัดไปที่ผมคาดไม่ถึง

   “มึงไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องขอร้อง เพราะสิ่งที่มึงต้องการก็คือสิ่งที่ต้องการเหมือนกัน”

   ผมนิ่งฟังมันพูดพร้อมทบทวนในใจคนเดียวเงียบๆ

   “ยังไง”

   “มึงคงไม่รู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่มึงขอ กูพยายามทำมันมาตลอด ทั้งๆที่กูไม่ใช่คนผิดแต่ทำไมกูถึงต้องมาโดนมึงทำแบบนี้ด้วย” ผมสะอึกเหมือนโดนตีที่หน้าอกด้วยไม้หน้าสาม

   มันร้องไห้อีกครั้งฟูมฟายต่อว่าผมว่าทำชีวิตมันพัง ผมไม่รู้ว่ามันไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ เพียงแต่ถ้าผมรู้ก่อน.....

   “กูไม่รู้.....” ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ

   “ไม่ต้องห่วง กูจะไม่ทำให้การแก้แค้นของมึงต้องสูญเปล่าแน่ๆไม่ต้องห่วง มึงลงทุนไปเยอะกูรู้ดี” มันมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ แต่ผมรู้ว่ายิ้มนั้นมันกำลังเยาะเย้ยที่ผมโง่ไม่รู้อะไรเลย

   ผมหลับตาลงเรียกสติตัวเองอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมามองคนตรงหน้าให้ชัดๆแล้วพูดออกไป

   “กูขอโทษแล้วกัน กูจะไม่แก้แค้นมึง....” ผมพูด มันยิ้มกว้าง

   “แต่กูจะไปลงกับน้องสาวมึงแทน ในเมื่อมึงไม่อยากให้น้องมึงแต่งเท่ากับมึงไม่ใช่ศัตรูกู แบบนี้ถึงจะถูกใช่ไหม” ผมยิ้มกว้างอย่างคนเหนือกว่า มันหุบยิ้มถลาร่างเข้ามาหาผม

   “มึงจะทำอะไรศศิ!” มันถามเสียงเครียด ใบหน้าเผยความกลัวที่ซ่อนไม่มิด

   “ง่ายๆ ทำเหมือนที่ทำกับมึง กูไม่ชอบคิดวิธีอะไรใหม่ๆ มึงว่าดีไหม” มันกัดฟันสีหน้าบูดเบี้ยวบ่งบอกถึงความโกรธระดับสิบ

   “ถ้ามึงทำอะไรน้องกู มึงตายแน่ไอ้เหี้ยซัน!” มันเรียกชื่อผมพร้อมสรรพนามนำหน้าอย่างเต็มยศ

   ผมยิ้มไม่ตอบอะไร มองหน้าขาวๆของมันที่มีสีแดงๆจากพิษไข้อย่างเพลินตา จะว่าไปไอ้กลินท์มันก็ดูอ้อนแอ้นผิดผู้ชายเหมือนกันนะ ถึงมันจะดูหน้าไม่สวยเหมือนเพทายแต่ก็เรียกว่าเป็นผู้ชายน่ารักคนนึง ไม่แปลกหรอกถ้ามันจะไปเป็นเมียเขาไม่ใช่ไปเป็นผัวคนอื่น

   “มึงเอาตัวเองให้รอดจากวันนี้ก่อนดีกว่านะ” ผมเอานิ้วจิ้มหน้าอกมันไม่แรงมาก ร่างที่โงนเงนไม่ค่อยมีแรงเจอแรงแค่นิ้วชี้ก็ล้มลงบนที่นอนอย่างง่ายดาย

   “เลวเอ๊ย!” มันสบถด่า เสียงเริ่มแหลมไม่แหบเหมือนเมื่อเช้าตอนตื่นมา เสียงใสแบบนี้แสดงว่ายังปากดีได้อยู่

   ผมขำ ไม่คิดว่าการเถียงกับมันจะทำให้ผมหัวเราะออก เวลาเห็นหน้ามันมีความทุกข์แล้วผมมีความสุขผมบอกเลย

   “ก็มึงบอกเองว่ามึงไม่ใช่คนผิดทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ นี่ไงกูก็เลือกคนผิดให้ถูกคนแล้วนี่ไง” ผมยังแหย่รังแตนไม่หยุด

   “มึงห้ามทำอะไรน้องกู”

   “น้องมึงวิเศษมาจากสวรรค์ชั้นไหน ถึงทำอะไรไม่ได้” ผมถามเสียงเข้มแค่นึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นก็โมโหขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

   “ทำกูแทน ไอ้ซัน! มึงทำกูแทน กูขอร้อง” มันเกาะชายเสื้อผมแล้วเงยหน้าทำสายตาอ้อนวอนใส่ผม ผมก้มลงมองก็ยิ่งโมโห ยิ่งโกรธ แต่ครั้งนี้เป็นเพราะผมโกรธผู้หญิงที่ชื่อศศิ เขาจะรู้บ้างไหมว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องอะไรบ้าง และตัวเองยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่ชายต้องมานั่งขอร้องคนอื่นเพื่อปกป้องตนอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

   “ได้....งั้นหลังจากนี้มึงต้องฟังกูทุกอย่าง ย้ำว่าทุกอย่าง เรียกต้องมา กูสั่งต้องทำ อย่าให้ย้ำมึงเข้าใจไหม!” ผมก้มตัวลงใช้มือบีบคางมันให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมใกล้ๆ น้ำเสียงดุดันแต่มันก็ยังพยักหน้ารับอย่างง่ายๆ

   “ได้ๆ...กูยอม..อย่าทำอะไรน้องกูก็พอ มึงสัญญาสิ” มันพูดลิ้นพันกัน

   “กูสัญญา” ผมพูดจบ มันก็ร้องไห้อีกรอบ

   ผมผลักหน้ามันให้พ้นมือตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนกลับไปที่โซฟาตัวเดิม ปล่อยมันให้ร้องไห้คนเดียวอย่างนั้น

    “แม่ง!” ผมพยายามสงบสติตัวเอง ที่มันเดือดพล่านให้เย็นลง

   นึกถึงแววตา น้ำเสียงของไอ้กลินท์ที่ยอมรับเพื่อช่วยน้องสาวผมยิ่งโมโหจนอยากจะฆ่าใครสักคนนึงเพื่อดับอารมณ์ในอก ผมอยากให้มันแข็งขืน ผมอยากให้มันปฎิเสธ แต่มันโง่

   “ช่วยไม่ได้ มึงรับปากกูเองนะกลินท์”

   ไม่ได้เป็นเพราะผม ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นเพราะผม.....

   ผมคิดแบบนี้ไม่ผิดใช่ไหม....




TBC_______________


หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่11 (100%) P.5 >Up.24/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 24-01-2014 07:31:02
อร้ากกกอิซันอย่าโหดกับพี่กลินท์เขานักสิ  รู้ว่าเขาน่าสงสารอย่างนี้แล้วจะยังร้ายกับขาอีกเหรอ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่11 (100%) P.5 >Up.24/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 27-01-2014 20:02:15
คู่ของซันก็ยังดราม่าไม่เลิก

 :katai5: :katai5: :ling1: :ling1: :ling1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่11 (100%) P.5 >Up.24/1/14<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-01-2014 21:38:34
เจอฉากซันกับกลินไป เล่นเอาน้ำตาร่วงเลย
กลินน่าสงสารอ่ะ ที่บ้านก็คงจะไม่ค่อยสนใจ
คู่นี้มันช่างน่าติดตาม ตามติดซะจริงเชียว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: tuktik_narak ที่ 13-04-2014 15:05:53




ตอนที่ 12

เพทาย พาร์ท
 
                “ซันๆ มึงมีเสื้อแขนยาวเปล่าวะกูลืมหยิบมาจากคอนโดอ่ะ” ผมถามไอ้ซันที่นอนอยู่ข้างๆ ผมเสียงเบาสะกิดมันยิกๆ จนมันต้องตื่นขึ้นมามองหน้าผมแถมทำหน้างงใส่อีก

                ออกมาจากบ้านไอ้ดินได้ชั่วโมงกว่าๆ แล้วครับแต่คงเป็นเพราะอากาศข้างนอกตัวรถมันเย็นมากเลยทำให้อากาศข้างในยิ่งเย็นเข้าไปใหญ่และผมเองก็ดันลืมเอาเสื้อแขนยาวมา แบบว่าตอนนี้หนาวมากหนาวที่สุด ขนาดผมใส่ชุดแขนยาวขายาวมายังไม่ช่วยบรรเทาความหนาวจากแอร์รถตู้บ้านไอ้ดินได้เลย

                “กูไม่มีวะมีตัวเดียว มึงเอาของกูไปก็ได้ป่ะ” มันพยักหน้าเหมือนเข้าใจอาการของผม มันพูดจบก็ทำท่าจะถอดเสื้อจากตัวเองส่งมาให้ทำเอาผมร้องห้ามแทบไม่ทัน

                “ไม่เป็นไร กูยังไหว” มันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อจนผมต้องยอมปล่อยแขนออกจากอกเพื่อให้มันเห็นว่าผมไม่ได้หนาวมากเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ในใจนี่ติดลบหลายองศาแล้งนะครับ

                ผมทำท่าจะกลับไปหลับต่อเพื่อตัดบทสนทนา สงสารไอ้ซันด้วยถ้ามันต้องถอดเสื้อมาให้ ผมรู้ว่าถ้าผมยังจ้องหน้ามันอยู่อย่างนั้นไอ้บ้านี่ต้องถอดเอามาให้ผมแน่ๆ แต่เหมือนว่าจะมีใครบางคนไม่ยอมจบหัวข้อเสื้อกันหนาวง่ายๆ

                “เอานี่ไปใส่ก่อน” ผมแอบสะดุ้ง ไอ้ซันเองก็สะดุ้งผมรู้สึกได้ ผมสองคนเหมือนพวกวัวสันหลังหวะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแต่อาการทุกอย่างมันเป็นไปเองอ่ะครับ

                ผมหันหน้ามามองไอ้ซันนิดหน่อยเห็นมันยิ้มให้ ผมเลยหันหน้าไปพูดกับพี่มุธ พยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติ

                “ขอบคุณฮะ แต่ไม่ดีกว่า” ผมว่าไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจนี่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมากองอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว

                ผมไม่กล้ามองหน้าพี่มุธตรงๆ ด้วยซ้ำไม่รู้ว่ายังโกรธหรือว่าเขินสายตาของพี่มุธกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ผมยังไม่อยากใจอ่อนให้พี่มันเร็วนักขอเล่นตัวบ้างอะไรบ้าง

                ผมหันหน้ากลับมาแล้วล้มตัวลงกับเบาะนุ่มบ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าจะนอนแล้วนะห้ามรบกวน แต่พี่มุธคงไม่สนใจเพราะพี่มันยังส่งเสียงเย็นมาให้แถมยังโยนเสื้อมาใส่หัวผมอยู่เลย

“ใส่ซะ อย่าให้พูดเป็นรอบที่สาม”

ผมรีบดึงเสื้อออกแล้วหันไปมองเจ้าของเสื้อ พี่มันก้มลงสนใจไอแพดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองผมสักนิด ผมเม้มปากแน่น ความรู้สึกมันตีวนอยู่ในอกจนแทบจะระเบิด ทำไมพี่มันทำเหมือนมีอะไรเกิดขึ้นได้เนียนขนาดนี้นะ

ผิดกับผม

ถ้าไม่มีไอ้ซันคอยเตือนสติ ผมก็แทบจะร้องไห้วันละหลายรอบ

ผมหันกลับมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเขาไม่ใยดี หยิบเสื้อขึ้นมาคลุมตัวเองไว้ เอาจริงนะ ไม่อยากจะหยิ่งมากอากาศแบบนี้แล้วจันทบุรีก็ไม่ได้ว่าใกล้มากเหมือนสยามไปมาบุญครอง อีกอย่างผมคิดถึงกลิ่นที่คุ้นเคย

หมับ

ผมกระชับกอดตัวเองที่มีเสื้อพี่มุธคลุมอยู่ให้แน่นขึ้น อยากสัมผัสไออุ่นของพี่มันให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะมีโอกาสได้ทำ กลิ่นประจำตัวของพี่มุธลอยเข้าจมูกของผมจนทำให้ผมรู้สึกเคลิ้มเหมือนได้นอนอยู่ในอ้อมกอดพี่มัน

และแค่นี้

ผมก็หลับได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจเลยว่าจะมีใครลอบมองอยู่

------------------------------------------
 
                ผ่านมาสามชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ก็มาถึงบ้านญาติไอ้ดิน ร่มรื่นมากครับผิดจากกรุงเทพเหมือนท้องฟ้ากับเหว อากาศดีเว่อร์แถมยังมีสวนผลไม้ให้กินได้ตลอดทั้งปีอีกต่างหาก

                ไอ้เหนือจัดการปลุกทุกคนได้แสบแก้วหูมาก เห็นไอ้ดินบอกว่าให้แวะกินข้าวเที่ยงกันที่บ้านป้ามัน เสร็จแล้วค่อยไปที่พักที่จองเอาไว้

                อาหารหลายสิบอย่างถูกวางเรียงไว้เต็มเตียงไม้ไผ่หรือที่คนส่วนใหญ่เขาเรียกว่าแคร่นั่นแหละครับ พวกผมนี่กลืนน้ำลายกันดังเอื้อกๆ จนญาติๆ ไอ้ดินหัวเราะขำอย่างขบขัน


                พอป้าไอ้ดินอนุญาตพวกผมก็จัดการโซ้ยโดยความเร็วแสง แย่งกันกินโคตรสุดยอด แต่กินไปได้ไม่ถึงครึ่งท้องผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีใครบางคนยังไม่ได้มาร่วมวง

                ผมเงยขึ้นจากกับข้าวหลากหลายชนิดเพื่อมองหาเจ้าของเสื้อแขนยาวที่ผมนอนห่มให้ไออุ่นบนรถตู้ เห็นพี่มันยืนมองต้นมะม่วงหน้าบ้านอย่างคนมีอารมสุนทรี ผมขมวดคิ้วในใจอยากเรียกให้มาร่วมวงกินอาหารกันแต่ก็พูดไม่ได้ ในเมื่อในสายตาคนอื่นผมกับพี่มันไม่ได้สนิทอะไรกันมากมาย

                “พี่มุธทำไมไม่มากินข้าว” แต่โชคคงดีที่สวรรค์ดันส่งไอ้เหนือมาช่วยตะโกนถามให้

                “ไม่หิวน่ะ” พี่มันตอบยิ้มๆ และเราก็หันมาสบตากันพอดี

                ผมสะดุ้งตกใจเมื่อถูกจับได้ว่าแอบมอง รีบก้มลงจัดการอาหารตรงหน้าต่ออย่างเร็ว ไม่อยากให้พี่มันได้ใจว่าผมแอบมองเดี๋ยวจะสำคัญตัวผิด เชอะ!

                “อืมๆ” มันว่าสั้นๆ และก็หันมาจัดการอาหารตัวเองต่อเหมือนกัน

                ทุกคนยังทานอาหารกันอย่างสนุกสนานและดูเหมือนจะไม่มีใครยอมแพ้ง่ายๆ คงมีแต่ผมที่เริ่มอิ่มไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่มุธหรอกนะครับ ไม่เกี่ยวจริงๆ เชื่อผมสิ ไม่เกี่ยวเลยถึงพี่มันจะไม่กินก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย
                ให้ตายเถอะ!

                เสร็จจากการทานของคาวก็มาสู่การทานของหวานบ้าง ป้าไอ้ดินอนุญาตให้พวกผมเข้าไปเด็ดผลไม้กินได้ตามใจชอบ กินไม่อั้น เลือกได้ตามสะดวก อันไหนอยู่สูงเกินไปก็ให้บอกคนงานเด็ดให้

โคตรเจ๋ง

ผมตรงดิ่งไปที่ต้นส้มอย่างเร็ว ส่วนคนอื่นๆ นี่แยกย้ายกันไปหาผลไม้โปรดของตัวเองเหมือนกัน ผมไม่สนใจคนพวกนั้นแล้วครับ เดินตัวปลิวละลิ่วมาคนเดียวอย่างอารมณ์ดี ยิ่งเห็นลูกส้มๆ  แขวนอยู่เต็มต้นก็ยิ่งตื่นเต้น

“อ๊า...ส้มหวาน...ขอกินหน่อ....อุ๊บ!...อื้อ!” ผมพูดกับตัวเองอย่างตื่นเต้น แต่พูดยังไม่ทันจบก็มีใครบางคนส่งมือมาปิดปากผมจนแนบสนิท แถมยังลากให้ผมเข้าไปในดงส้มอีกต่างหาก

อื้ออออ

ผมดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ดูเหมือนจะสู้คนที่อยู่ด้านหลังไม่ได้ เขายังคงลากผมเข้าไปลึกเรื่อยๆ จนถึงที่ที่เขาต้องการ ผมก็โดนปล่อยให้เป็นอิสระ

“ใครวะ!.....” ผมหันมาตวาดเต็มเสียง ตั้งท่าจะยกหมัดมอบให้สักหนึ่งทีแต่แค่หันมาเห็นหน้า ผมก็ได้แต่ยืนค้างอยู่อย่างนั้น

พี่เวอร์มุธ

---------------------------40%----------------------------





หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 13-04-2014 23:02:11
 :impress2: พี่เวอร์มุธจะทำอะไรน้องเพทายในสวนส้มน่ะ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-04-2014 23:07:35
พี่มุธดักฉุดเพทาย
รู้ล่ะซิว่าทายต้องมาที่สวนส้ม
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 22-06-2014 01:00:37
โงยยยยย
ชอบทั้งคู่หลักและคู่รองเลยนะ
ฮือออ
พี่เวอร์มุธ ต้องพยายามไฟท์ต่อไปนะ
เพทายต้องเอาแต่ใจตัวเองมากกว่านี้
น้องกลินท์ก็น่าสงสาร
โอยยยย ซันอย่าใจร้ายกับน้อง
เอ็นดูหน่อย ฮือออ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 22-06-2014 09:21:07
ตามมาจากOMG พี่เขียนกะเหนือฮะ ชอบ
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: +zoLoMegWoz+ ที่ 29-06-2014 16:27:16
พี่มุธสู้ๆ พี่มุธสู้ๆ
ตามมาจากพี่เขียนน้องเหนือ เพื่อมาเชียร์พี่มุธเพทายโดยเฉพาะ น่ารักจริงๆ
น้องน้ำแข็งนี่มีเพื่อนน่ารักเชียว น้องกันน้องอ้อม กันท่าสุดใจขาดดิ้น 555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: shikyu3211 ที่ 29-06-2014 18:03:29
สงสารกลินท์แทนละตอนนี้
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 16-07-2014 00:02:34
มาแปะไว้ก่อน..แล้วจะตามมาอ่านนร๊า :กอด1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 17-07-2014 03:25:38
ยังอ่านเหนือเขียนไม่จบบบบบบ แต่มันทนไม่ไหวต้องลองเสิซชื่อดู และก็ดีใจมากที่เลือกสุ่มค้นหาาา เพราะมันทำให้เค้าได้อ่านพี่มุธ ฮือๆ ขอเถอะะะะะ อยากอ่านต่อมากๆเลยคะ ถ้าเรื่องนี้ยังไม่แฮปปี้คงอ่านเขียนเหนือไม่รู้เรื่องๆแน่ๆ ใจมันพะวง ~
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-08-2014 17:34:35
ใครจะรักคนๆหนึ่งได้ขนาดไปข่มขืนคนอื่นเพื่อคนที่รักจะได้สมหวังกับคนอื่น
 :hao7: :hao7: :hao7:
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 28-08-2014 22:56:34
ตามอ่านครับ


ตอนเพทาย ร้องไห้ละขอเลิกข้างรถนี่เศร้ามาก ร้องไห้เลย
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 29-08-2014 14:38:46
ขอบคุณค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-10-2014 07:16:09
ตามมาจากเขียนเหนือค่ะ
เรื่องนี้หน่วงมากเศร้ามาก เสียน้ำตาตั้งแต่ตอนแรกเลย
มี2-3ตอนหลังนี่แหละที่ไม่ร้อง เป็นเอามากเนอะเรา 555
แต่ว่านักเขียนหายไป6เดือนแล้วอ่าาาา เรายังรออยู่นะคะ T_T

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ค่ะ ยืนยันว่ายังรอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 03-11-2014 21:34:53
ยังรออยู่นะ :hao5: :mew2:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 02-12-2014 19:47:57
คนเขียนหายไป T_T
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 12-12-2014 04:23:05
ซันนี่น่าจะแซ่บเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-03-2015 13:35:33
 :ling1:
หัวข้อ: Re: - - OMG! โคตรเศร้า..รักเขาผมต้องทน - - ตอนที่12 (40%) P.5 >Up.13/04/14<
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 04-03-2015 16:07:41
ชอบคู่ซัน มันมาก