พิมพ์หน้านี้ - Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Bboyseries ที่ 13-12-2010 16:43:09

หัวข้อ: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-12-2010 16:43:09
ก่อนอ่านนิยาย ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับ

ขณะนี้นิยายเรื่องนี้ได้ทำการรวมเล่มเปิดจำหน่ายแล้ว

พร้อมผลงานอื่นๆ ของผมก็มีขายด้วยเช่นกันครับ

สนใจก็สอบถามรายละเอียดเข้ามาได้ครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18638.gif)



ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-12-2010 16:46:32
ตอนที่ 1

“เฮ้ยหลบดิ๊” เสียงนั่นดังมาพร้อมแรงกระชาก
ร่างของเต็นกระเด็นออกจากตู้โทรศัพท์สาธารณะตามแรงเหวี่ยง เด็กหนุ่มยั้งตัวเองไม่ให้ล้มลงบนพื้นซีเมนต์หยาบๆ สายตาวาวตวัดมองใครอีกคนที่ก้าวเข้าไปยืนแทนที่ตำแหน่งเดิมของตน ร่างนั้นกำลังจดจ่อกับการกดหมายเลขบนแป้นโทรศัพท์
“มิว มิว ฟังแชมป์ก่อน มิว มิว” ตู้โทรศัพท์เป็นแบบไม่มีประตู เต็นจึงได้ยินเอ่ยประโยคแรกออกมาจากปากคนนั้น ไม่มีเสียงพูดต่อ เด็กหนุ่มมองดูจนคนพูดวางโทรศัพท์ลงที่แป้นดังเดิม สักพักจึงเห็นเจ้าตัวหันมาเผชิญหน้าตนพร้อมกับตวาดขึ้นเสียงดัง
“มองเหี้ยอะไร”
“มองไม่มีคนมารยาทไง” เต็นตอบกลับไปน้ำเสียงเรียบนิ่ง เริ่มมองสำรวจคนตวาดนิ่งคิด หน้าตาก็ดี รูปร่างก็ดี ผิวพรรณก็ดี รวมถึงชุดนักศึกษาที่สวมใส่ก็สื่อถึงว่าน่าจะเป็นคนมีการศึกษาอยู่พอสมควร แต่ทำไมสิ่งที่ทำกับเขาเมื่อครู่ถึงได้ดูอันธพาลนักนะ
“มึงว่าใครไม่มีมารยาท” เสียงถามดังขึ้นระหว่างคิด
“ก็ว่ามึงน่ะแหละ” เต็นตอบ
“เป็นพ่อเหรอถึงมาด่ากู” อีกฝ่ายถามกลับหน้าตาหาเรื่อง
“ก็มันจริงป่ะล่ะ กระชากคนที่ไม่รู้จักจนเกือบล้ม ใครที่ไหนเขาทำกัน” เต็นสู้สายตาไม่ถอย สงครามน้ำลายจึงเริ่มขึ้น
“ก็มึงเสือกมายืนอยู่ในตู้โทรศัพท์ทำไม”
“แล้วมึงสัมปทานเอาไว้หรือไงกูถึงจะยืนไม่ได้”
“กูไม่ได้สัมปทานไว้ แต่มันเป็นของสาธารณะ”
“สาธารณะแล้วไง ถ้ามึงเสนอหน้ามาให้เห็นว่าจะใช้ กูก็คงหลบให้ ไม่เห็นต้องมากระชากกันเลยนิ”
“แล้วไง กระชากแค่นี้มึงถึงตายมั้ย”
“ไม่ตายแต่มันก็ไม่ควรโว้ย”
“ทำไมจะไม่ควร มึงเป็นพ่อกูหรือไงกูถึงจะทำอะไรมึงไม่ได้”
“แม่งเอ้ย แถได้เรื่อยๆ”
“เฮ้ย ด่าถึงแม่เลยเหรอวะ ต่อยกะกูเลยมั้ยไอ้เชี่ย”
“ใครไปด่าแม่มึง”
“ก็มึงไง กำลังเครียดๆ กูขอระบายทีเถอะ”
สิ้นประโยค เต็นถึงกับหน้าหงายไปด้วยแรงเหวี่ยงจากกำปั้นคนพูดที่ถลันออกมาจากตู้โทรศัพท์แล้วพุ่งเข้าชก เด็กหนุ่มหันมาเผชิญหน้า แต่ยังไม่ทันตอบโต้ใดๆ ร่างกายก็ต้องผงะถอยหลังเมื่อโดนผลักอกซ้ำ
“จำไว้กูอย่ามาปากดีกะกู” คนผลักชี้หน้าเอ่ยกำชับ
เสียงฟ้าร้องครืนๆ  ตามด้วยสายลมแรงที่พัดเอาฝุ่นละอองมากระทบเต็มหน้า เต็นจึงไม่มีโอกาสตอบโต้คนที่ทำร้ายตน เพราะมัวแต่ยกมือปิดหน้าปิดตาตามสัญชาตญาณ
ฝนเม็ดเล็ก ค่อยๆ หล่นลงมาตอนแรงลมหายไป เด็กหนุ่มเอามือออกจากใบหน้าแล้วมองไปยังร่างอีกคน ตอนฝนเม็ดใหญ่เริ่มเทกระหน่ำตามมา คนตรงหน้าเอาแต่ร้องโอดโอยยกมือสองข้างปิดแนบนัยน์ตาข้างขวา
“เฮ้ยเป็นไรวะ” เต็นถามออกไป
“อะไรไม่รู้เข้าตา” คนนั้นตอบกลับมา ฝนห่าใหญ่เทไล่ตามมาอีก เต็นละล้าละลังว่าจะเอายังไงเมื่อร่างกายเริ่มเปียก คิดจะวิ่งหนีหาที่กำบังก็พลันนึกห่วงคนที่ไม่สนใจสภาพลมฟ้าอากาศนอกจากก้มหน้าร้องโอดโอย สายตาเด็กหนุ่มมองเห็นตู้โทรศัพท์ว่างอยู่จึงตัดสินใจฉุดเอาข้อมือคนคนนั้นเข้าไปยืนหลบห่าฝนพร้อมตน
“เชี่ยเอ้ย ตกไม่มีปี่มีขลุ่ย” เด็กหนุ่มบ่นขึ้นในตอนที่ยืนอยู่แนบชิดกับคนที่ตัวเองฉุดมือเข้าด้วยในสภาพหันหน้าเข้ากัน
“บ่นทำเชี่ยไร ช่วยกูก่อนสิวะ” ฝ่ายนั้นร้องบอกแข่งเสียงฝน เต็นหน่ายในน้ำเสียงเบ่งอำนาจ แต่ก็จำใจร้องถาม
“มึงจะให้ช่วยไงล่ะ”
“ดูให้หน่อยว่าอะไรมันเข้าตากู แม่งเจ็บโครต” ฝ่ายนั้นบอกเสียงอ่อนลง เด็กหนุ่มจึงพอทำใจที่จะช่วยได้
“ปิดตาอยู่แบบนั้นกูจะมองเห็นมั้ยล่ะ”
“ก็กูปล่อยไม่ได้มันเจ็บ”
“ค่อยๆ ปล่อยดิ ช้าๆ เดี๋ยวกูดูให้” เต็นพูดพลางยกมือตัวเองไปจับมือคนเจ็บปวดให้ค่อยเปิดตาออก แต่เจ้าตัวกลับร้องลั่น
“โอ้ย เจ็บ”
“ทนหน่อยสิวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยว่า ฝ่ายนั้นจึงยอมเงียบเสียง
“เห็นแล้วๆ แมลงว่ะ ตัวเป้งเชียว” เต็นเอ่ยเมื่อเปิดนัยน์ตาอีกฝ่ายสำเร็จ
“ตาบอดแน่มึง” เด็กหนุ่มเอ่ยขู่เล่นๆ จึงโดนด่ากลับมาเป็นการตอบแทน
“เชี่ยมึงแช่งกูเหรอ”
“ก็เออดิ มึงอยากต่อยกูทำไม” คนด่าเงียบ ก่อนเอ่ยกระแทกเสียงเหมือนไม่เต็มใจ
“เออ กูขอโทษ”
“เออช่างมันเถอะ นิ่งๆ นะกูจะเขี่ยไอ้แมลงนี่ออกแล้ว” เต็นพูดพลางส่ายหน้าระอา ก่อนหยับผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อนักศึกษาที่สวมอยู่
“ผ้ามึงสะอาดป่ะวะ” คนกำลังเจ็บไม่วายถาม
“มันไม่ใช่ของกูหรอก” เต็นตอบเสียงเศร้า
“อ้าวแล้วของใครวะ” อีกฝ่ายร้องตกใจ
“ของใครก็ช่างเถอะ มันช่วยให้มึงหายเจ็บได้ละกัน” เต็นตัดบทพร้อมพับผ้าให้มุมเป็นเหลี่ยมเล็กที่สุด เพื่อจัดการเขี่ยแมลงที่นอนนิ่งอยู่ใต้เปลือกตาล่างของคนตรงหน้า พอทำสำเร็จจึงตัดสินใจเหวี่ยงผ้าผืนนั้นทิ้งไป
“ไหนดูดิ” คนตรงหน้าเอ่ยถามหา
“ทิ้งไปแล้ว” เต็นตอบพร้อมมองไปยังผ้าเช็ดหน้าที่เหวี่ยงทิ้งออกไปนอกตู้โทรศัพท์ที่โดนสายฝนจนเปียกแฉะ
“ทิ้งผ้าไปด้วยเหรอ” คนอยู่ใกล้ถามขึ้น
“อืม ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่ของกู” เด็กหนุ่มหันมาตอบ ช่วงเวลานี้เองที่ได้ประสานสายตากับคนตรงหน้าอย่างใกล้ชิด ก่อนจะตกใจหน่อยๆ เมื่ออยู่ดีๆ ฝ่ายนั้นยกมือขึ้นมาจับที่มุมปากตนพลางเอ่ย
“ปากมึงเริ่มช้ำแล้วว่ะ”
“ช่างมันเถอะ” เด็กหนุ่มเอ่ยพลางปัดมือนั่นออก
“เชี่ย ทำเป็นหวงตัว” เจ้าของมือเอ่ยว่า คนโดนว่ามองตาขวางนิดๆ ก่อนทำไม่สนใจหันหน้าออกไปมองเม็ดฝนข้างนอกแทน พร้อมกับยกมือกอดกระชับอก
“หนาวเหรอ” หนึ่งคำถามลอยมาให้ได้ยิน
“เปล่า” ตอบแต่ยังคงเหม่อมองข้างนอกอยู่
“เห็นกอดอกกูก็นึกว่าหนาว” อีกคนยังพูดไม่หยุด
“เบื่อว่ะ ตกทำไมนักหนาก็ไม่รู้” เต็นเปลี่ยนประเด็นคุยโดยการเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ถึงความรู้สึกของตนต่อสภาพอากาศที่เห็น คนที่ยืนอยู่ด้วยจึงเปลี่ยนไปสนทนาเรื่องอื่นด้วยเช่นกัน แต่กลับกลายเป็นจุดฉนวนสงครามน้ำลายอีกรอบ
“เรียนที่ไหนวะ”
“จะรู้ไปทำไม”
“อ้าวไอ้นี่ ถามดีๆ นะมึง”
“แล้วกูตอบกวนตรงไหน”
“ไม่กวนป๊ามึงดิ ถามอีกอย่างตอบอีกอย่าง”
 “เกษตรฯ”
“ก็แค่เนี้ย แล้วเรียนคณะไร”
 “มนุษย์ฯ”
“ปี ?”
“สุดท้าย”
“จะจบแล้วสิ”
“เออ”
“แล้วจะไม่ถามหน่อยเหรอว่ากูเรียนที่ไหน”
“อยากบอกก็บอกดิ”
“เป็นเด็กสยาม ปีสุดท้ายเหมือนกัน เรียนการท่องเที่ยว”
“เรียนสยาม ถ่อมาทำไมแถวเกษตรวะ”
“แฟนกูเรียนศรีปทุม”
“มีแฟนแล้วเหรอ”
“อืม แต่เขาขอเลิกว่ะ”
“เมื่อกี้อ่ะดิ”
“เปล่าหรอกตะกี้กูโทรง้อต่างหากล่ะ แต่แม่งไม่ฟังอะไรเลย”
“ก็ไม่เห็นแปลก”
“หมายความว่าไงวะ”
“นิสัยมึงมันน่าคบตายเลย เป็นกูกูเลิก”
“โธ่ไอ้เวร เป็นกูกูก็เลิก กูไม่ใช่เกย์นะครับคงไม่คบกับมึงให้มึงเลิกหรอก”
“แล้วมึงคิดว่ากูเป็นป่ะล่ะ”
“อืม ก็ทะแม่งๆ ว่ะ ตอนเขี่ยไอ้แมลงห่านั่นออกจากตากูมือมึงเบาแปลกๆ ตกลงมึงเป็นป่ะวะ”
“ถ้าตอบว่าเป็นมึงจะกระโดดออกจากตู้นี้เลยมั้ย”
“เรื่องอะไรกูจะออกไปให้ตัวเปียก เป็นก็เป็นสิ เกย์ก็คนคุยด้วยได้ แต่ให้คบกูคงไม่เอา”
“พูดยังกะกูขอมึงคบแล้วงั้นล่ะ”
“เฮ้ย สรุปมึงเป็นเหรอ”
“เออ”
“กรรม แม่งกูต่อยปากตุ๊ดเหรอเนี่ย”
“อยากโดนต่อยคืนมั้ยล่ะ”
“ต่อยเป็นเหรอตัวเอง ไม่ตบเค้าแน่นะ”
“ไอ้เชี่ย กูไม่ได้แต๋วขนาดนั้นโว้ย”
“กูล้อเล่น ไม่บอกกูก็ไม่รู้หรอกว่ามึงเป็น เออแล้วถามจริงนะ คิดไงถึงเป็น”
“กรรม กูจะตอบมึงได้มั้ยล่ะ กูยังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมถึงเป็น”
“เหรอ เออแล้วถามอีกข้อนะ มึงเคยมีอะไรกะผู้ชายด้วยกันยัง”
“ถามทำไม”
“ก็กูอยากรู้ว่าพวกมึงเอากันลงเหรอ”
“จะลองดูมั้ยล่ะ”
“เชี่ย แตะกูแม้แต่ปลายก้อยกูต่อยหน้าแหกแน่”
“ทำอย่างกะกูอยากจะแตะนักล่ะ”
“จริงเหรอตัวเอง”
“ไอ้เชี่ย จับตูดกูทำไมวะ”
“ตูดนิ่มดีนี่หว่า ท่าทางจะโดนบ่อย”
“ปากหมานะมึง”
“เกย์ห่าอะไรวะพูดจาแม่งน่าแตะโครต”
“ลองดิ คราวนี้กูเอาคืนแน่”
“เก่งทำเก่ง ยังไงมันก็ดูไม่แมนขึ้นหรอกครับคุณเกย์”
“กูชื่อเต็น ไม่ได้ชื่อเกย์”
“กูไม่ได้ถาม อ่ะแน่ะ กะจะหลอกถามชื่อกูอ่ะดิ ไม่น่าเกิดมาหล่อเลยให้ตายสิ เบื่อมากพวกเกย์ตามจีบเนี่ย”
“ได้อีกนะมึง”
“อะไรได้อีก”
“ขี้โม้ไง”
“โม้ไง หน้าตี๋อินเทรนสูงยาวขาวใสขนาดนี้ มึงว่ากูไม่หล่อเหรอ”
“หล่อแล้วไง สุดท้ายถูกทิ้ง”
“อ้าว ตอกย้ำซ้ำเติม เดี๋ยวพ่อจับเอาตูดคาตู้โทรศัพท์ซะนี่”
“ทะลึ่งไอ้เชี่ย”
“ไม่ชอบเหรอ เปิดซิงKกูเลยนะมึง”
“มึงนี่มันสุดตีนเลยว่ะ พูดแต่ละคำคิดก่อนก็ดีนะ”
“เชี่ยยังกะมึงพูดเพราะกว่ากูนักหนาล่ะ”
“โอ้ย กูขี้เกียจพูดกะมึงแล้ว ฝนซาแล้วกูไปล่ะ”
“อ้าวเฮ้ยเดี๋ยวดิ”
“มีไร”
“กูจะได้เจอมึงอีกป่ะวะ”
“มึงเมาละอองฝนเหรอ กูเป็นเกย์นะ ไหนบอกไม่อยากคบไง”
“แล้วกูขอคบมึงตรงไหนไอ้สัตว์ ก็แค่แบบว่ารู้จักกันไว้ก็แค่นั้น”
“กูก็มาเรียนของกูทุกวัน ถ้ามึงมาเตร่แถวนี้ก็เจอกูเองแหละ”
“กูคงไม่ค่อยได้มาแล้วเพราะไม่รู้จะมาหาใคร แฟนแม่งก็เลิกไปแล้ว เอางี้ขอเบอร์ได้ป่ะ เผื่อคุยกัน”
“ย้ำอีกครั้งนะว่ากูเป็นเกย์”
“เออน่ะกูรู้แล้ว ไม่แน่นะเกย์อย่างมึงอาจได้ชายแท้เป็นแฟนก็ได้”
“ชายแท้นั่นคงไม่ใช่มึงนะ”
“มีปัญญาหาหล่อได้กว่ากูก็ลองดู”
“ถุย กูจะอ้วก”
“เออจะไปอ้วกไปขี้ที่ไหนก็ไป แต่เอาเบอร์มาก่อน”
“มึงแหละบอกเบอร์มาเดี๋ยวกูยิงไป”
“แม่งเรื่องมากวะ เป็นแฟนเมื่อไหร่จะซัดให้น่วมเลย”
“พูดมาก บอกเบอร์มา”
“081........”
“ชื่อ ?”
“แชมป์”
“ว่าว หรือเปล่าวะ”
“ว่าวใส่ปากมึงอ่ะดิ ทำเป็นรู้ดี”
“เออแล้วกูจะรอกิน”
“เชี่ย แล้วบอกไม่ชอบกู ไปได้แล้ว อย่าลืมยิงเบอร์มานะ เออแล้วหายาทาที่ปากด้วยล่ะ เดี๋ยวมันช้ำหนัก”
“อืมกูไปล่ะ มึงก็กลับบ้านดีๆล่ะ”
“ครับที่รัก”


“ครับที่รัก”ประโยคนี้จะออกจากปากของชายแท้สักกี่ครั้ง หากคนที่ต้องการฟังไม่ใช่ “ผู้หญิง”
ค้นพบคำตอบได้ที่นี่
By Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-12-2010 16:48:04
คุณพูห์อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใหม่ก็เอาซะหน่อย ใครที่ค้างคาอยู่กับเรื่องราวนี้ อ่านต่อกันได้ที่นี่ครับ

ขอบคุณครับ

Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 13-12-2010 17:13:39
รอนะคะ รอ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-12-2010 17:53:07
เรื่องนี้เค้าไม่เคยอ่านอ่ะแต่ก็คุ้นๆชื่อน๊า

ว่าแต่จะไม่รันทดซดมาม่ามากมายนะคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: •ไนท์คลุง• ที่ 13-12-2010 18:22:38
รอๆๆๆๆ
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-12-2010 19:01:54
อืมๆน่าสนใจเรื่องนี้  ต่อปากต่อคำกันดีทั้งคู่ๆกัดกันหรือเปล่า :L1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 1 : 13.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-12-2010 16:32:47
2
ฝนหยุดตกแล้ว เต็นยืนรอรถประจำทางด้วยจิตใจเหม่อลอย เด็กหนุ่มเก็บเบอร์ของคนที่เพิ่งรู้จักลงในโทรศัพท์ตนไปแล้ว แต่ความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้คิดถึงคนๆ นั้นเลยสักนิด
“ลงทุนใช้เบอร์ตู้โทรมาเลยเหรอเต็น อยู่ต่างจังหวัดกลับไปแล้วจะโทรหาเอง ไม่ต้องโทรตามหรอก” เจ้าของประโยคนี้ต่างหากล่ะที่ทำให้จิตใจคิดถึงอยู่ตอนนี้ เด็กหนุ่มได้ยินคำพูดนี้ตอนที่เข้าไปใช้โทรศัพท์สาธารณะในตู้นั้นเพื่อโทรหาคนพูด เพราะสองวันแล้วที่ฝ่ายนั้นขาดการติดต่อกลับมาไม่ว่าเขาจะโทรไปหาสักกี่ครั้ง สัญญาณการติดต่อนั้นมี แต่ทุกครั้งสัญญาณนั่นก็จะถูกระบบตัดหายไปเสมอ เด็กหนุ่มเลยลองใช้เบอร์แปลกๆ เพื่อติดต่อไป สุดท้ายก็ได้ยินประโยคที่ว่านั่นเองก่อนที่การติดต่อจะขาดหายไป
ขณะนั้นความรู้สึกหลายอย่างหมุนวนอยู่ในห้วงความคิด ก่อนร่างทั้งร่างจะโดนกระชากจากใครอีกคนจนตัวปลิวออกมาด้านนอก ความรู้สึกสับสนหายไปเป็นปลิดทิ้งเพราะนึกโมโหถึงการกระทำของใครคนกระชากตัวที่สุดท้ายได้รู้ว่ามันชื่อ แชมป์
โทรศัพท์เครื่องเล็กถูกจับมาพลิกดูในนาทีที่ภาพและคำพูดทะเล้นของคนชื่อแชมป์วิ่งเข้าสู่ห้วงความคิด แหวนเงินวงเล็กที่นิ้วนางข้างซ้ายถูกจับหมุนรอบนิ้วไปมา คิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับมันดี จะเอาคืนให้เจ้าของมันอีกครั้งหรือตัดใจทิ้งมันไปซะ แล้วพาตัวเองก้าวเดินหนีจากอดีตเก่าๆไปเงียบๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าของแหวนวงนี้ทำตัวห่างเหินกับตน

**********************************************************************

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องโทรตาม นพกลับไปก็จะโทรหาเต็นเองน่ะแหละ” ประโยคแรกทักมาจากฝ่ายนั้น เต็นนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง ตอนแรกดีใจที่คนพูดยอมรับโทรศัพท์ตนในตอนที่ลองโทรหาอีกทีตอนกลับถึงหอพัก แต่พอได้ยินประโยคทักทายประโยคแรก จึงตัดสินเอ่ยถามในสิ่งที่คงจะหาคำตอบเองคนเดียวไม่ได้
“ตกลงเรายังเป็นแฟนกันอยู่หรือเปล่านพ”
“เต็นถามทำไม” อีกฝ่ายย้อนถามกลับแทนคำตอบ
“ก็เต็นอยากรู้ไงว่าระยะเวลาสี่ปีที่เรารู้จักและคบกันมามันจบลงแล้วหรือยัง”
“ทำไมถึงคิดว่ามันจะจบล่ะ”
“ไม่รู้ดิ เต็นรู้สึกว่านพเปลี่ยนไป”
“ชีวิตทำงานกับชีวิตนักศึกษามันไม่เหมือนกันนะเต็น นพโตแล้ว มีงานต้องทำต้องรับผิดชอบ จะให้นพไปกุ๊กกิ๊กใสๆ ใส่เต็นเหมือนตอนที่เรียนอยู่ด้วยกันคงไม่ได้แล้วหรอกนะ”
“เต็นก็ไม่ได้ต้องการขนาดนั้นนี่ เพียงแต่นพน่าจะใส่ใจความสัมพันธ์ระหว่างเรามากว่านี้ ตั้งแต่นพเรียนจบ มีงานทำ นพก็เหมือนเป็นใครอีกคนที่เต็นไม่รู้จักเลยอ่ะ เต็นเข้าใจว่าเราอยู่ห่างกันแล้ว แต่ห่างกันแค่ระยะทางไม่ได้หรือไง มีอะไรก็พูด ก็คุย ก็บอกกันเหมือนเดิมสิ ถ้าหากคิดว่ายังเป็นแฟนกันอยู่น่ะ”
“เอาเวลามาใส่ใจเรื่องไร้สาระพวกนี้กลับไปตั้งใจเรียนต่อให้จบเร็วๆ ดีกว่านะเต็น พอได้เข้าสังคมชีวิตการทำงานแล้วเต็นจะรู้ว่าทำไมนพถึงเปลี่ยนไป”
สัญญาณถูกตัดหายไปอีกครั้งด้วยประโยคสุดท้ายที่คนฟังถึงกับยืนอึ้งอยู่นาน นพคือเพื่อนชายที่เด็กหนุ่มสนิทสนมถึงขั้นคบหาแบบคนรู้ใจขนาดแลกแหวนเงินให้ซึ่งกันและกันตอนที่นพยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่จากที่นพเป็นรุ่นพี่ จึงเรียนจบและออกจากสถาบันไปก่อน แรกๆ ความสัมพันธ์ก็ยังดำเนินไปด้วยดี นพก็ยังคงเป็นนพคนเดิมที่เคยรู้จัก  แต่พอผ่านไปครบขวบปี คนๆ นี้กลับกำลังจะกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่อยู่ๆ คล้ายจะบอกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงกันได้ตามกาลเวลา

********************************************************************

เวลาผ่านไปค่อนคืนเด็กหนุ่มนอนไม่หลับด้วยเพราะกำลังสับสนในหนทางที่กำลังจะเดินต่อไป คิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ที่เริ่มกระท่อนกระแท่นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างตนกับคนรัก
แหวนวงเดิมถูกจับหมุนวนรอบนิ้วรอบแล้วรอบเล่า เขาไม่อยากถอดมันออกเป็นครั้งที่สองหลังจากเคยถอดคืนเจ้าของไปแล้วด้วยความน้อยใจในเรื่องนี้ แต่ครั้งนั้นฝ่ายนั้นไม่รับคืน จึงยอมนำกลับมาสวมอีกรอบ แต่ครั้งนี้ล่ะ จะเอาไปคืนเจ้าของมันอีกดีหรือเปล่า หรือจะตัดใจทิ้งมันไปเสีย เพราะดูเจ้าของคงจะลืมเรื่องคำสัญญาต่างๆ ที่ให้ไว้ตอนสวมแหวนไปแล้ว
โทรศัพท์เครื่องเล็กวางนิ่งไม่ไหวติงอยู่ไม่ไกลสายตา ใบหน้าคนชื่อแชมป์วิ่งวนเข้ามาในห้วงความคิดอีกครั้ง ท่าทีทะเล้นและคำพูดกวนๆ ลอยมาในมโนภาพทำให้เด็กหนุ่มเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

********************************************************************

เช้าวันใหม่บรรยากาศยังคงวุ่นวายเร่งรีบเหมือนเช่นทุกวัน จนถึงตอนสายทุกอย่างจึงดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะปกติ เต็นถึงมหาวิทยาลัยตอนเกือบเที่ยง มีเวลาเหลือก่อนเข้าเรียนช่วงบ่าย เด็กหนุ่มจึงพาตัวเองไปหาอะไรทานที่โรงอาหาร บรรยากาศภายในนั้นจอแจวุ่นวายแต่ภายในใจคนที่ต้องนั่งคนเดียวเกิดเหงาขึ้นมาอย่างประหลาด ที่นี่เมื่อตอนที่นพยังอยู่ เด็กหนุ่มไม่เคยที่จะได้นั่งคนเดียวเลยสักครั้ง แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแล้วจริงๆ
ข้าวในจานยังพูนอยู่เช่นเดิมเมื่อคนเหงาเกิดทานไม่ลงขึ้นมาเสียดื้อๆ จะจัดการกับจิตใจตัวเองยังไงดีนะ เพื่อที่จะได้เลิกฟุ้งซ่านถึงวันเก่าๆ ที่คงมีโกาสน้อยมากสู่การหวนกลับ
โทรศัพท์เครื่องเล็กถูกหยิบออกมาจากระเป๋าเมื่อในใจนึกถึงคนชื่อแชมป์ขึ้นมา คงไม่เป็นไรหรอกนะถ้าคิดจะโทรหามันตอนนี้
“ฮัลโหล” เด็กหนุ่มเอ่ยทักทายออกไปในตอนที่ตัดสินใจโทรออกแล้วมีการตอบรับจากปลายสาย
“ครับ ใครครับ” เสียงที่ตอบกลับมาฟังก็รู้แล้วว่าโทรไม่ผิดเบอร์
“กูเต็นเอง”
“เต็นไหนวะ”
“ก็เมื่อวานที่ตู้โทรศัพท์”
“อ๋อมึงเองเหรอไอ้เชี่ย หายหัวไปเลยนะ”
“หายไปไงวะ ก็โทรหาอยู่นี่ไง”
“กูบอกให้มึงยิงมาตอนเอาเบอร์กูไป ไม่ใช่ให้โทรมาตอนข้ามวันแล้วแบบนี้ไอ้เบื๊อก”
“แล้วไง ไม่คุยก็ได้นะกูจะได้วาง”
“โหยว่าแค่นี้ทำเป็นน้อยใจ ว่าไงครับ โทรมามีไร”
“เปล่า แค่เบื่อๆ”
“เบื่อไรวะ”
“ไม่รู้จะบอกไง เอาเป็นว่ากำลังเบื่อละกัน”
“อ้าวไอ้นี่ ไม่รู้จะบอกไง แล้วโทรหากูทำแป๊ะอะไรไม่ทราบ”
“ก็กูไม่รู้จะโทรหาใครนี่หว่า”
“อย่าบอกนะว่ามึงไม่มีใครคบ”
“เชี่ย ไม่คิดว่ากูจะไม่คบใครเองบ้างเหรอ”
“อ่ะนะ ไอ้หล่อเลือกได้ แล้วนี่อยู่ไหนเนี่ย”
“มหา’ลัย”
“ไปเรียนเหรอ”
“กูมาเดินจงกลมมั้ง”
“สัตว์ ถามแค่นี้ทำกวน”
“อ้าวเสือกถามโง่ๆ ทำไมล่ะ”
“ปากมึงนี่มันวอนจริงๆ อยู่ใกล้หน่อยไม่ได้จะ”
“จะจูบเหรอ”
“จูบส้นตีนน่ะสิไอ้เชี่ย”
“หา จูบส้นตีนกูเลยเหรอ มาเลยกูรอ”
“มึงอย่ามามากขอร้องกูเองก็กำลังเครียดอยู่”
“เครียดเรื่องไรวะ”
“มึงบอกมาก่อนดิว่ามึงเบื่อเรื่องอะไร”
“เรื่องส่วนตัว อย่ารู้เลย”
“งั้นกูก็เครียดเรื่องส่วนตัวเหมือนกัน”
“เออ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แล้วนี่อยู่ไหน”
“อยู่บ้าน”
“ไม่ไปเรียนเหรอ”
“หึ วันนี้ไม่มีเรียน”
“กินข้าวยัง”
“นั่งกินโจ๊กอยู่เนี่ย”
“แดกโจ๊กตอนใกล้เที่ยงเนี่ยนะ”
“เรื่องของกู”
“ไอ้เชี่ย”
“อ้าวด่ากูทำไมเนี่ย”
“เรื่องของกู”
“เออมึงอย่าให้กูได้เจอนะ ปากดีๆ แบบนี้”
“เจอแล้วทำไมครับ”
“ให้กูเจอก่อนแล้วมึงจะรู้”
“มาดิ กูรออยู่ อยากรู้”
“เชี่ย กูอยู่วงเวียนใหญ่จะถ่อไปทำไมตั้งโน่น”
“อ้าวเมื่อก่อนมึงยังมาได้นี่”
“ก็นั่นกูไปหาแฟนกู ส่วนมึงเป็นอะไรกะกูไม่ทราบกูถึงจะตะกายไปหา”
“ว้า พูดงี้ก็เสียใจเลยนะเนี่ย”
“มึงอย่ามาทะลึ่ง”
“กูล้อเล่น”
“เออ แล้วนี่แดกข้าวยัง”
“ก็เนี่ยกำลังกินอยู่”
“กินกับอะไร”
“คะน้าหมูกรอบ”
“หยึยผัก”
“มึงไม่กินผักเหรอ”
“หึ”
“ไม่น่าเชื่อ”
“ไม่กินเผ็ดด้วย”
“กูไม่ได้ถาม”
“ก็บอกไว้เผื่อเป็นคนรู้ใจ”
“ทะลึ่งล่ะมึง”
“อ้าวทะลึ่งตรงไหน ใช่ว่าจะมีคนโทรมาชวนกูคุยได้นานขนาดนี้นะมึง”
“โหยนี่กูต้องรู้สึกว่าตัวเป็นเป็นวีไอพีหรือเปล่าวะ”
“นั่นสุดแล้วแต่มึงจะคิด”
“เออขอบใจ”
“พรุ่งนี้ว่างป่ะวะ”
“ทำไม
“ดูหนังกัน”
“ห๊า”
“กูบอกว่าดูหนังกัน ชัดมั้ย”
“ชัดแต่กูงง”
“งงเชี่ยอะไร กูเบื่อกูเครียด ก็อยากผ่อนคลายบ้าง”
“แล้วเพื่อนมึงล่ะ”
“ก็กูจะดูกับมึง”
“ไม่กลัวกูปล้ำคาโรงหนังเหรอ”
“มึงอยากโดนต่อยก็เอา”
“จะดูเรื่องไร”
“ไม่รู้ไปถึงก็หาๆ เอาที่มีรอบฉายน่ะแหละ”
“ที่ไหน”
“มึงสะดวกที่ไหนล่ะ”
“ก็แถวบ้านกูดิ”
“เมเจอร์รัชฯ น่ะนะ”
“เออ”
“เสียใจกูขี้เกียจไป”
“แล้วถามกูหาป๊ามึงเรอะ”
“ถามไปงั้นแหละ มาแถวบ้านกูดิ”
“แถวนั้นมีที่ไหนให้ดูกันดานขนาดนั้น”
“ไอ้ห่ามึงว่าบ้านกูนอกเมืองขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อ้าวแล้วมึงบอกได้มั้ยล่ะว่าตรงนั้นที่ไหนมันน่าดู”
“เออๆ เอางี้ไปแถวสยามล่ะกันง่ายดี”
“ง่ายไงวะ มึงจะไปไง”
“ออกจากกะลาบ้างนะมึง รถไฟฟ้าถึงบ้านกูแล้วเชี่ย”
“เออ กูลืมไป เออๆ สยามก็สยาม”
“สรุปคือมึงว่าง”
“อืม”
“ใจง่ายชิปเป๋ง”
“อ้าวไอ้นี่กูไม่ไปก็ได้นะเออ”
“กูล้อเล่น ทำเป็นงอนไปได้”
“งอนทำไมมึงไม่ใช่แฟน”
“อยากให้กูเป็นป่ะล่ะ”
“รอดูพฤติกรรมก่อน”
“เชิญตามสบาย ตกลงพรุ่งนี้เที่ยงนะ ไหวป่าว”
“คงไหว”
“เอองั้นแค่นี้นะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“อืม หวัดดี”
“หวัดดีว่ะ”
การสนทนาจบไปแค่นั้น เต็นไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรับปากรับนัดจากคนที่ตนโทรหา เพราะปกติไม่เคยคิดเที่ยว หรือผ่อนคลายในลักษณะนี้กับใครอื่นนอกจากคนรัก แต่ช่างเถอะ คิดอะไรมากไปก็เท่านั้น ถือซะว่าฝ่ายนั้นเป็นเพื่อนใหม่อีกคนก็แล้วกัน

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-12-2010 18:27:03
เฮ่อ ยิ่งไกลยิ่งห่าง ยากนักจะรักตลอดกาล อยากอ่านต่อไปแล้วอะดิ๊
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: devaz ที่ 15-12-2010 19:01:25
แชมป์ กวนได้โล่ห์จริงๆๆๆๆ
ง่ะ ทำไม่หนุ่มมนุษย์ฯ ต้องเป็นเกย์ด้วยน้อ >>> แต่ที่คณะก็เยอะจริงๆ นั่นแหละ =='
เอาใจช่วยหนุ่มมนุษย์กับ... จำไม่ได้แล้วอ่ะว่าเรียนอะไร ที่ม. สยาม แหะๆๆๆ

สู้ๆๆๆ มาเป็นกำลังใจให้ :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-12-2010 19:53:47
กาลเวลามันเปลื่ยนไปอะไรๆมันก็เปลื่ยนแปลงตาม แม้แต่ใจคน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 15-12-2010 20:02:07
คุยกันมึน :เฮ้อ:
สู้
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 15-12-2010 20:04:36
คุณพูห์อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใหม่ก็เอาซะหน่อย ใครที่ค้างคาอยู่กับเรื่องราวนี้ อ่านต่อกันได้ที่นี่ครับ

ขอบคุณครับ

Boy

ว่าวว๊าววววววววววว~ ค้างคาค่ะๆๆ แบบนี้ก็เจ๋งไปเลย (http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/wan-wan-emoticon-006.gif)

ตอนแรกแอบงงนิสหน่อยที่เห็นคุณบอยมาตั้งกระทู้เรื่องนี้เองที่ห้องนี้ ก็ตอนแรกมันอยู่อีกห้องนี่นะ :laugh:

เป็นกำลังใจให้นะค๊าาาาาาาาา (http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/mushroom-emo-1-026.gif)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-12-2010 21:17:23
ดีใจ..จะได้อ่านต่อแล้ว

รอมานานนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ขอบคุณครับ คุณบอย
ขอแบบจบน่ะครับ อิอิ

 +1 ต้อนรับฉลองตอนใหม่
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 16-12-2010 13:41:31
ตอนที่ 3
12.00@MBK เต็นได้รับข้อความนี้จากเพื่อนใหม่ในตอนใกล้สายของวันรุ่งขึ้น ข้อความมีมาเพียงสั้นๆ แค่นั้น แต่มันกลับสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับคนกำลังเบื่อได้อย่างดี เมื่อคืนเด็กหนุ่มติดต่อไปหาคนรักอีกครั้ง แต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมรับสาย ตื่นเช้าขึ้นมาแทนที่จะได้รับการติดต่อกับแต่ก็ว่างเปล่าเช่นเดิม ข้อความสั้นๆ ที่ถูกส่งมาจากอีกคนหนึ่งจึงพอทำให้หัวใจชุ่มชื่นขึ้นมาบ้าง
เด็กหนุ่มไปถึงที่นัดหมายในตอนใกล้เที่ยง อีกคนติดต่อมาว่ายังมาไม่ถึงจึงเดินเล่นรอไปเรื่อยๆ ระหว่างที่รอก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างประหลาดนึกถึงภาพที่ตัวเองต้องเข้าไปนั่งในโรงหนังกับคนที่กำลังมา เพราะนานมากแล้วที่ไม่เคยได้นั่งชิดใกล้กับใครในสถานที่แห่งนั้นนอกจากนพ
คนนัดมาถึงในตอนเลยเที่ยงไปหน่อย เต็นมองดูการแต่งกายของฝ่ายนั้นที่แปลกตาออกไปจากวันแรกที่ได้เจอ เจ้าตัวสวมเพียงเสื้อยืดง่ายๆ ตัวหนึ่งกับกางเกงขาสั้นสามส่วน ก่อนจะจบด้วยรองเท้าแตะ มองกลับมาที่ส่วนบน ผมเผ้าปราศจากการจัดทรงใดๆ แต่ในความเป็นธรรมชาตินั่นกลับส่งเจ้าตัวดูดีอย่างประหลาด อาจจะเป็นเพราะใบหน้าใสๆ นั่นด้วยมั้งที่ทำให้องค์ประกอบง่ายๆ ของร่างกายถูกบดบังไปซะสนิท
“รอนานป่ะวะ” หนึ่งคำถามดังขึ้นมาเด็กหนุ่มจึงได้สติ
“คิดว่าสายป่ะล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยออกไปกวนๆ ก่อนจะโดนสวนกลับ
“ปากดีนะมึง”
“อ้าว ก็มันจริงป่ะล่ะ”
“เออ กูขอโทษ”
“ไอ้ห่ากูล้อเล่น ทำจริงจังไปได้”
“จะไปรู้เหรอ แคร์นะโว้ย”
เต็นสะดุดกับคำพูด แต่ก็ทำให้เป็นเรื่องตลกไป
“เมาอะไรมาอีกล่ะคราวนี้”
“เมารักมั้ง ไปเหอะดูรอบหนังกัน” ฝ่ายนั้นตอบให้อึ้งอีก ก่อนจะเดินนำไปดูรอบฉายที่ติดไว้ตรงหน้าช่องจำหน่ายตั๋ว
“ดูเรื่องอะไรดีอ่ะ” เจ้าตัวหันมาถามความเห็น
“มึงชวนมึงก็เลือกเองละกันกูไงก็ได้” เต็นตอบออกไป
“ได้ไงล่ะ เอาที่มึงอยากดูดิ” เป็นอีกครั้งที่เต็นรู้สึกดีกับคำพูดของคนที่เพิ่งจะรู้จัก
“ทรานฟอร์เมอร์” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกออกไป และฝ่ายนั้นก็ไม่แย้ง นอกจากถามความเห็น
“เร็วสุดรอบบ่ายโมง มึงรีบไปไหนหรือเปล่า”
“ทำไม”
“ถ้ามึงรีบจะดูรอบนี้เลย ถ้าไม่รีบก็เลื่อนไปบ่ายโมงครึ่ง”
“ก็ได้ ว่าแต่เลื่อนทำไมวะ”
“กูจะเล่นเกมส์” เจ้าตัวตอบมายิ้มๆ ก่อนจะเดินนำไปที่ช่องจำหน่ายตั๋วจัดการธุระเรื่องจองที่นั่งให้เสร็จสรรพก่อนจะเดินมาชวนเด็กหนุ่มไปที่ตู้เกมส์หยอดเล่น
“อ่ะค่าตั๋ว” เต็นยื่นเงินที่เตรียมไว้ให้
“50 บาทพอ เดี๋ยวกูจะเอาไปแลกเหรียญเล่นเกมส์” ฝ่ายนั้นหยิบเงินไปแค่ส่วนที่บอกก่อนจะวิ่งหายไปในทางบริการแลกเหรียญ เต็นมองตามร่างนั้นยิ้มนิดๆ ก่อนจะส่ายหัวในความเป็นเด็กที่ดูยังจะแฝงอยู่ในนิสัยของเจ้าตัว
“เฮ้ย ช่วยกูเล่นบ้างดิวะ นั่งดูอยู่ได้” เต็นโดนต่อว่าขณะที่นั่งชิดอยู่กับคนติดเกมส์ที่กำลังจ้องหน้าจอบนตู้เพื่อจับผิดภาพ
“ก็บอกแล้วไงว่ากูเล่นไม่เก่ง” เด็กหนุ่มออกตัว
“นี่มันเกมส์ง่ายสุดแล้วนะมึง”
“แต่กูไม่ค่อยได้เล่น”
“แล้วปกติเล่นเกมส์ไร”
“ไม่เล่นเลย”
“กรรม”
“เออน่ะ มึงก็เล่นๆ ไปเถอะหนังจะฉายแล้ว”
“อืมอีกเกมส์ละกัน”
“เอาเหอะเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำรอ” เต็นแยกตัวไปยังเคาน์เตอร์ขายขนมและเครื่องดื่ม สักพักอีกคนจึงเดินตามมาสมทบ
“กินไรปะ” เด็กหนุ่มหันมาถามคนมายืนข้างกาย
“เอาชุดนั้นดิถูกดี” เจ้าตัวแนะนำพลางชี้ไปยังชุดคอมโบเซ็ตชุดหนึ่ง ซึ่งเต็นก็เห็นด้วย
“ไม่ใส่ซอสเหรอวะ” เต็นเอ่ยถามคนแนะนำชุดอาหารในตอนที่เห็นเจ้าตัวกินไส้กรอกเปล่าๆโดยไม่ราดซอส
“บอกแล้วไงไม่กินเผ็ด” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาเต็นพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเดินนำเข้าไปในโรงหนัง
“เดินนำหน้ากูดุ่มๆ รู้เหรอว่านั่งไหน” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำเด็กหนุ่มชงักเท้าหยุดยืนรอคนพูดพลางเอ่ยถาม
“แถวไหนวะ”
“D1, 2” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาก่อนจะเป็นเดินนำไปยังที่นั่ง คนนั้นนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว เต็นยืนมองภาพนั้นคิดอะไรเงียบๆ นี่มันเป็นเรื่องใช่หรือเปล่า เขากำลังจะนั่งดูหนังกับใครก็ไม่รู้จริงๆใช่มั้ย นพนายอยู่ไหน..?
“อ้าวจะยืนรออะไรครับพี่นั่งได้แล้ว” มีเสียงทักมาจากคนนั่งก่อน เด็กหนุ่มได้สติจึงเดินไปนั่งคู่กับคนพูด

*************************************************************************
 
 “หนาวว่ะ” มีเสียงพูดเบาๆ ให้ได้ยินตอนหนังเริ่มฉายไปได้สักพัก เต็นหันไปมองคนพูด ในแสงสลัวเด็กหนุ่มเห็นรอยยิ้มของฝ่ายนั้นส่งผ่านมาให้ตอนมองสบตากัน แต่แล้วจะสะดุ้งนิดๆเมื่อจู่ๆ เจ้าของรอยยิ้มเลื่อนมือมากุมมือตนเอาไว้
“เฮ้ย ทำไรวะ” เด็กหนุ่มรีบเอ่ยถาม
“ก็บอกว่าหนาวไง ขอจับหน่อย” คนนั้นตอบหน้าเฉยพลางมองจ้องตาไม่ถอย ไอ้นี่มันเป็นอะไรของมันวะ คนถูกจับแอบคิด ก่อนจะรีบดึงเสื้อแจ็คเก็ตที่ถือติดมือมาด้วยปกปิดมือที่กำลังถูกกุมไว้อยู่
“อายเหรอวะ” คนจับเอ่ยถามหน้าทะเล้น เต็นไม่ตอบอะไรนอกจากหันไปสนใจเรื่องราวบนจอภาพยนต์ รู้สึกได้ถึงแรงกระชับมือจากคนนั่งข้างกายซึ่งก็ทำให้จิตใจที่นิ่งๆคิดเตลิดไปไกลได้อย่างไม่อาจควบคุมได้

*************************************************************************

แสงสว่างภายนอกทำให้ต้องหลับตาปรับสภาพการมองเห็นพักหนึ่ง
“ไงหนุกป่ะ” คนข้างกายเอ่ยถามจึงลืมตาหันมามองแล้วตอบ
“ก็ดี”
“แต่อาการมึงเหมือนไม่หนุกเลยว่ะ” ฝ่ายนั้นเดา
“ก็มึงเล่นจับมือกูไม่ปล่อย ใครมันจะหนังดูรู้เรื่อง” เต็นอยากจะตอบออกไปแบบนี้นัก แต่แล้วกลับไม่กล้าเอ่ยออกไปซะอย่างนั้นทั้งๆ ที่ผ่านมาการที่จะพูดจะจาอะไรกับคนนี้เขาแทบไม่ต้องคิดอะไรเลยนี่นา
“แล้วนี่จะกลับเลยป่ะ” คนข้างกายยังถามต่อ
“คงต้องกลับเลย” เต็นตอบ
“กลับไงอ่ะ”
“รถไฟฟ้าไปลงหมอชิต”
“อืมงั้นไปด้วยกันดิ กูก็กลับรถไฟฟ้าเหมือนกัน”
“ปกติดูหนังบ่อยป่ะวะ” เต็นได้ยินคำถามอีกครั้งขณะที่กำลังเดินคู่มากับคนที่ทำให้จิตใจหวั่นไหวอยู่ลึกๆ อย่างประหลาด
“ก็บ่อย” เด็กหนุ่มตอบ กลายเป็นคนพูดสั้นๆ ขึ้นมาซะดื้อๆ
“เหรอ แล้วดูกะใครอ่ะ” ฝ่ายนั้นยังถามอยู่
“กับแฟน” เด็กหนุ่มตอบออกไปตรงๆ แอบเห็นปฏิกิริยาชงักของคนถามแวบหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถามอีก
“เฮ้ย มึงมีแฟนแล้วเหรอ”
“อืม”
“มิน่าล่ะเห็นใส่แหวนที่นิ้วแฟนให้อ่ะดิ”
“อืม”
“อิจฉาจริงว่ะ คบกันนานยังวะ”
“4 ปี”
“อืมก็นนานพอดู”
“แต่ไม่รู้จะนานไปกว่านี้หรอเปล่า”
“ทำไมวะ ทะเลาะกันเหรอ”
“ก็ไม่เชิง”
“กรรม”
“ทำไมวะ”
“เปล่า ก็กูเข้าใจอารมณ์ที่ต้องทะเลาะกับแฟน”
“แล้วตกลงมึงเลิกกับแฟนเลยเหรอ”
“อืม ก็ง้อแล้วไม่สำเร็จนี่หว่า”
“คบกันนานป่ะ”
“3 เดือน”
“3 เดือน !”
“เออ ทำไมวะ”
“เปล่า”
“มึงอย่ามาเปล่า กูรู้ว่ามันน้อยแต่คนเราจะรักกันเวลามันไม่เกี่ยวหรอก”
“แล้วนี่ผ่านมากี่คนแล้วล่ะ”
“2 คน”
“โชกโชนเลยสิ”
“โชกโชนไงวะ ผ่านมา 2 แต่ก็ยังซิงนะโว้ย ไม่เหมือนมึงหรอก ท่าทางจะเยินหมดแล้ว”
“ปากหมาอีกแล้วนะมึง”
“กูพูดจริงอ่ะดิ”
“จริงกะผีอ่ะดิ เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ”
“อายอ่ะดิ”
“มึงอย่ามาล้อกูเชี่ย”
“เออรีบด่ากูเข้าไป เดี๋ยวจะไม่มีโอกาส”
“หมายความว่าไง”
“เออน่ะเดี๋ยวมึงได้รู้ ถึงสถานีแล้ว มึงต้องไปหมอชิตใช่ป่ะ”
“อืม ต้องขึ้นข้างบน”
“เอองั้นแยกกันตรงนี้ละกัน มีไรโทรมา”
“อืม กลับบ้านดีๆ ล่ะ”
 “ครับที่รัก” ประโยคคุ้นหูดังออกมาอีกครั้งเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่เต็นจะแยกตัวออกมาจากคนพูด ไม่อยากให้ฝ่ายนั้นพูดแบบนี้ให้ได้ยินอีกเลยให้ตายสิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 2 : 15.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 16-12-2010 13:42:50
ตอนที่ 4
บนรถไฟฟ้า เต็นเลือกที่จะยืนชิดริมประตูเข้า ออก สายตาเด็กหนุ่มเหม่อมองไปด้านนอก ในใจนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ ไม่น่าเชื่อว่าหัวใจตัวเองจะหวั่นไหวง่ายดายกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงไม่กี่วัน หรือเพราะสภาพจิตใจตอนนี้กำลังแย่กับการหายหน้าไปของคนคุ้นเคยอย่างนพ  พอมาเจอใครอีกคนที่ทำตัวคล้ายคลึงกับฝ่ายนั้นในตอนคบกันใหม่ๆ ภายในใจเลยเตลิดคิดเรื่องราวต่างๆ ไปไกลแสนไกล
รถไฟฟ้าส่งถึงที่หมาย ในจังหวะที่กำลังจะลงจากสถานี โทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋าก็ส่งสัญญาณการมีสายเรียกเข้า แวบแรกเด็กหนุ่มคิดว่าคงเป็นคนที่หายหน้าไปติดต่อกลับมา แต่พอหยิบเครื่องขึ้นมาดู ชื่อที่โชว์หน้าจอกลับเป็นชื่อของคนที่เพิ่งห่างกันเมื่อไม่นานนี่เอง
“ว่าไงวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยทักออกไปตอนกดรับสัญญาณ
“ถึงไหนแล้ววะ” เสียงอีกฝ่ายถามกลับมา จึงตอบกลับไป
“จตุจักร”
“เร็วดีเหมือนกันเนาะ”
“อืม แล้วมึงอ่ะ”
“อยู่แถวบ้านแล้ว ก็เลยโทรหามึงเนี่ย”
“โทรมามีไร”
“ไม่มีไร แค่อยากโทรหาไม่ได้หรือไง”
“นี่ถ้ามึงเป็นเกย์ กูว่ามึงกำลังจีบกูอยู่นะไอ้แชมป์”
“อ้าว เพิ่งรู้เหรอครับคุณเต็น ว่าผมกำลังจีบคุณอยู่”
“เชี่ย มึงอย่าล้อเล่นกะกูตอนนี้นะ ยิ่งกำลังเบื่อๆอยู่”
“รีบเบื่อขึ้นมาเชียวนะมึง อยากได้กูเป็นแฟนล่ะซี้”
“Kเหอะ”
“ปากมึงนี่แม่งไวสุดยอดเลยไอ้เชี่ย พูดจาเพราะๆ กะกูหน่อยไม่ได้หรือไงวะ”
“กูก็เป็นของกูแบบนี้ มึงจะคบก็คบ หรือไม่คบกูก็ไม่ว่า”
“จริงดิ กับแฟนมึง มึงก็พูดงี้เหรอ”
เต็นนิ่งไปชั่วอึดใจ นึกถึงคนรักขึ้นมาจึงคิดอยากจะวางสายไปดื้อๆ เพราะรู้สึกกลัวใจตัวเองอยู่ลึกๆ ว่าจะหวั่นไหวไปกับคำพูดของอีกฝ่าย
“เฮ้ย กูต้องต่อรถเมล์กลับหอว่ะ แค่นี้นะโว้ย” เด็กหนุ่มตัดสัญญาณทิ้งไปหลังพูดจบโดยไม่รอฟังว่าอีกคนจะตอบว่าอะไรกลับมา แต่ชั่วเวลาไม่ถึงนาทีก็ได้รับการติดต่อกลับมาใหม่ ภายในใจคิดต่อต้านว่าจะไม่รับ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกจนได้
“เฮ้ย ทำไมรีบวางขนาดนั้นวะ” เสียงคนโทรเข้ามาเอ่ยต่อว่าในตอนที่กดรับสัญญาณแล้ว
“บอกแล้วไงว่ากูต้องขึ้นรถเมล์” เด็กหนุ่มตอบออกไป แต่ก็โดนท้วงติงกลับมา
“แล้วบนรถเมล์เขาห้ามคุยโทรศัพท์เหรอ”
“เขาไม่ได้ห้าม แต่กูไม่สะดวกจะคุย”
“ทำไมไม่สะดวกวะ ไม่อยากคุยกะกูก็บอกได้ว่ะ ไม่ต้องหาเรื่องมาอ้าง”
“เอ้ย มึงเป็นไรมากไปป่ะเนี่ย พูดเหมือนน้อยใจกูเลยนะมึง”
“อ้าว ก็เท้าแตะพื้นกูก็โทรหามึงเลยนะโว้ย แล้วมึงเสือกวางสายไปดื้อๆกูก็งงดิว่ากูพูดอะไรผิดไป”
“เออๆๆ กูขอโทษ มันไม่มีอะไรหรอก กูแค่สับสนนิดหน่อย”
“สับสนอะไร”
“อย่ารู้เลย”
“เพราะกูหรือเปล่า”
“เรื่องไร”
“ก็เรื่องที่มึงกำลังสับสนอยู่น่ะสิ”
“หึ ไม่เกี่ยวกะมึงหรอก”
“แน่นะ”
“อืม”
“ก็ดีแล้ว พูดตรงๆ นะโว้ย กูรู้สึกดีกับมึงว่ะไม่รู้ทำไม”
“นี่มึงเพ้ออะไรเนี่ย”
“เปล่าเพ้อนะโว้ย กูพูดเรื่องจริง ไม่งั้นกูจะชวนมึงมาดูหนังกะกูทำบ้าอะไรล่ะทั้งๆ ที่เพื่อนกูมีเป็นโขยง”
“เลิกพูดแบบนี้เหอะว่ะ ถ้ายังอยากจะให้กูคุยต่ออยู่”
“เออๆๆ ไม่พูดก็ได้ แต่อย่าวางสายนะโว้ย คุยกันไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละจนกว่ามึงจะถึงหอได้ป่ะ”
“อ้าว แล้วมึงไม่เข้าบ้านเหรอ”
“อ๋อ เดี๋ยวกูไปหาแม่ที่ร้าน”
“ร้านอะไรวะ”
“ร้านขายข้าวตรงแถวริมทางรถไฟอ่ะ”
“จริงดิ แม่มึงขายข้าวเหรอ”
“อืม”
“อร่อยป่ะวะ”
“วันหลังมากินดิ”
“อย่าท้านะโว้ย”
“ไม่ได้ท้าขอให้มาเถอะ เดี๋ยวกูเจียวไข่ให้กิน”
“เชี่ย เมนูดีกว่านี้ไม่มีหรือไง”
“อ้าวก็กูทำเป็นอยู่อย่างเดียว”
“ไม่ต้องบอกกูก็รู้”
“แต่ขอโทษเหอะ น้อยคนนะที่จะได้ชิมฝีมือกู ถ้าไม่ใช่คนพิเศษกูไม่มีทางที่จับกะทะหรอก”
“จริงดิ”
“เออสิวะ”
“อ้าวแล้วงี้กูจะได้กินได้ไง”
“รอมึงมาก่อนดิ แล้วจะรู้ว่าจะได้กินหรือไม่ได้กิน”
“เออว่างๆ กูจะไป”
“สัญญาแล้วนะโว้ย”
“อืม”
“เออ แล้วนี่ถึงไหนแล้ว”
“ยังไม่ได้ขึ้นรถเลย ยืนอยู่หน้าสวนเนี่ย”
“อ้าว แล้วเมื่อกี้ตอนวางสายกูทิ้งบอกจะขึ้นรถ”
“กูโกหก”
“นิสัย ต่อไปห้ามมีอะไรโกหกกูนะโว้ย กูไม่ชอบคนหลอกลวง”
“ยังเข็ดกับแฟนล่ะสิ”
“ปากดีนะมึง รอให้มึงเลิกกับแฟนมึงบ้างแล้วจะรู้สึก”
“อ้าวแช่งกูซะงั้น”
“กูจะได้เสียบมึง เอ้ย แทนที่ไง”
“ทะลึ่งนะมึง”
“ซื้อได้มั้ยคำว่าทะลึ่งเนี่ย พูดบ่อยเหลือเกิน”
“ขายแพงนะโว้ย”
“เท่าไหร่จ๊ะ เดี๋ยวป๋าทุ่มไม่อั้น”
“เชี่ยขนลุก”
“อ้าวหนูไม่ชอบหรอกเหรอ”
“เลิกพูดเล่นได้แล้ว รถมาแล้วน่ะ จะให้คุยหรือให้วาง”
“ก็บอกแล้วไงว่าถ้ามึงไม่ถึงหอห้ามวาง”
“กูไม่ได้เสียค่าโทรกูไม่สนหรอกจะคุยข้ามวันข้ามคืนก็เอา”
“อ่ะแน่ จริงๆ ก็อยากคุยกับกูนานๆ อยู่ล่ะสิ”
“งั้นกูวางตอนนี้เลยละกัน”
“เชี่ย แซวไม่ได้เลยนะมึงเนี่ย”
“เออ กูไม่ชอบ”
“คร้าบ ที่รัก คราวหลังผมจะไม่แซวแล้วครับ”
“ดีมาก เดี๋ยวขึ้นรถแป๊บนะ”
“เออ”
“โอเค ได้นั่งแล้ว”
“นั่งกะใครวะ”
“คนเดียวดิ”
“เบาะเดี่ยวหรือเบาะคู่”
“ถามทำไม”
“ก็ถ้าเบาะคู่ย้ายมานั่งเบาะเดี่ยวเลย เดี๋ยวมีคนมานั่งด้วย”
“เชี่ยแล้วมึง นั่งก็เรื่องของเขาดิ”
“ไม่ได้หรอก ตอนนี้กูไม่อยากให้มึงใกล้ใคร”
“กรรม ให้กูลงเดินเลยมั้ยล่ะ”
“ที่พูดน่ะกล้าๆหน่อยที่รัก”
“เรียกกูที่รักบ่อยระวังกูจะรักจริงๆ นะมึง”
“รักก็ดีสิ ลองมีแฟนเป็นผู้ชายก็น่าจะสนุกดี”
“เออเป็นแฟนกูแล้วจะรู้สึก”
“รู้สึกไงวะ”
“เอาไว้รอดูเอง”
“พูดยังกะมึงโสดอยู่งั้นแหละ”
“เฮ้อ ไม่โสดก็เหมือนโสดแหละวะ”
“ทำไมวะ”
“จนป่านนี้มันยังไม่ติดต่อกลับมาเลย”
“ใคร แฟนมึงเหรอ”
“อืม”
“เลิกกับเขาแล้วมาคบกับป๋าดีกว่ามั้ง”
“แล้วป๋าจะเลี้ยงหนูไหวเหรอ หนูกินเก่งนะ”
“ก็ถ้าน่ารักแบบนี้ป๋าสู้ตายขายบ้านก็ยอม”
“งั้นหนูจะเลิกกับแฟนพรุ่งนี้เลยนะ”
“เชี่ย มึงไม่อายคนข้างๆเหรอ”
“กูย้ายมานั่งเบาะเดี่ยวตามที่มึงสั่งแล้วไง”
“จริงดิ”
“เออ”
“น่ารักจังแฟนใครวะแย่งดีมั้ยเนี่ย”
“ถ้ามีปัญญาก็ลองดู”
“โหย ชักอยากเห็นหน้าแฟนมึงแล้วสิว่าจะมีดีขนาดไหนมึงถึงได้มาท้ากูเนี่ย”
“แล้วมึงมีดีอะไรล่ะกูถึงจะท้าไม่ได้”
“อยากรู้เหรอ นั่งรถกลับมาหากูอีกรอบดิ”
“เออ กูคงจะไปหรอก”
“ไม่แน่นี่หว่า”
“อ้าวถ้ามึงแน่ มึงก็มาหากูเองดิ”
“จริงดิ”
“จริง”
“งั้นกูไปตอนนี้เลยนะ”
“กล้าๆหน่อยนะที่พูดน่ะ”
“ขอโทษ ผมคนจริงครับ พูดคำไหนคำนั้น”
“งั้นมาสิมา”
“มึงอย่ามาท้า”
“กูไม่ได้ท้า กูแค่อยากดูว่ามึงซื่อสัตย์กับคำพูดมึงแค่ไหน”
“งั้นบอกมา มึงอยู่ซอยไหน หอไหน”
“เชี่ย มึงเอาจริงเหรอ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ผมคนคนจริงใจครับหลอกใครไม่เป็น”
“เชื่อก็ควายแล้ว”
“อ้าวไอ้นี่ หน้าตากูนี่มันกะล่อนมากนักหรือไง”
“มาก”
“งั้นรีบบอกมาเลยว่าหอมึงอยู่ไหน กูจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“มึงจะบ้าเหรอ จะถ่อมาทำไม”
“อ้าวก็พิสูจน์ไงว่ากูไม่ใช่คนดีแต่พูด”
“เออๆ กูเชื่อแล้วก็ได้ว่ามึงอ่ะจริงใจ”
“ไม่อ่ะ กูไม่เคลียร์ บอกมาว่าหอมึงอยู่ไหน”
“เฮ้ย ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะมึง”
“ไม่รู้ล่ะ กูไม่อยากให้มึงมองกูผิดๆ”
“โอ้ยไปกันใหญ่แล้ว มึงจะมาแคร์อะไรกะคำพูดกูทำไมนักหนาเนี่ย”
“ก็บอกแล้วไงว่ากูรู้สึกดีกับมึง”
“แล้วไง มึงจะขอกูเป็นแฟนเลยมั้ยล่ะ”
“ก็น่าคิด”
“เชี่ย กลับไปหน้าหม้ออย่างเดิมเหอะมึง ไม่ต้องมายุ่งกะกูหรอก”
“แหงสิ ก็มึงมีคนรักแล้วนี่”
“อย่าพูดถึงเขา”
“ทำไม แตะไม่ได้หรือไง”
“กวนนะมึงเนี่ย”
“บอกแล้วไงกูมันคนตรงๆ”
“กูรู้แล้วไม่ต่องพรีเซ้นต์มากนักหรอกไอ้ความแมนเนี่ย”
“แล้วมึงจะบอกได้หรือยังว่าหอมึงอยู่ไหน”
“บอกแล้วมึงจะมาจริงๆ เหรอ”
“ไม่ไปแล้วกูจะถามทำซากอะไรล่ะ”
“ทำไมต้องดุด้วยวะ”
“ก็มึงอ้อมแอ้มทำไม บอกมาเร็ว”
“เออๆก็ได้วะ”
เต็นบอกที่อยู่ตัวเองออกไปอย่างเสียไม่ได้ ไม่ได้คิดหรอกว่าคนขอจะมาหาจริงๆ ก็ระยะทางจากฝั่งธนฯ มาถึงกรุงเทพฯ ชั้นในมันใกล้กันซะเมื่อไหร่

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 16-12-2010 14:22:42
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบสุดๆ ผู้ชายแท้ๆ จะจีบเกย์ กี๊ดดดๆๆๆๆๆ ต่อไวๆนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 16-12-2010 14:37:16
ว้าว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-12-2010 17:22:28
ขนาด 2ตอน ยังค้างเล้ยเจ้าค่ะ


ไปหาแล้ว อิตาพี่นพกลับมาพอดีป๊ะแตกหรือป่าวหละเนี้ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-12-2010 18:27:09
เจอคนพูดจริงเข้าแล้วเต็น :L1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 16-12-2010 19:07:49
รอๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: mickeynut ที่ 16-12-2010 20:09:51
ต่อด่วนๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 16-12-2010 21:54:15
แวะมาอ่านขอรับ :man1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.5
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 17-12-2010 00:06:59
ชอบว่ะเรื่องนี่
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-12-2010 11:58:27

 :m11:ถูกใจที่ซู๊ดดดดดดด

หนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านบทสนทนาเพลินเลย อิอิ



รุกเลย..แชมป์
จัดไป ด่วนนนนนน

เต็นเลือกเลย เหอะ
แชมป์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนไอ่นพ
ลอยแพมันไปไกลๆ
หึหึ


 :pig4: +1 เล๊ยยยยยย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-12-2010 12:19:07
แชมป์สมชื่อเลย
เต็นแชมป์น่าสนนะ เลิกหวังกับนพเหอะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 18-12-2010 14:25:25
ตอนที่ 5
เสียงเคาะประตูห้องดังอยู่ภายนอกปลุกคนที่กำลังนอนหลับตาพักบนเตียงให้ดีดตัวลุกขึ้น
“มีกุญแจทำไมไม่ไขเข้ามา” เต็นเอ่ยกับตัวเองเพราะคิดว่าคนเคาะห้องคือนพ
เสียงเคาะดังรัวขึ้นอีกครั้งเด็กหนุ่มจึงลุกไปเปิดประตู ภาพของคนที่ยืนอยู่หน้าประตูทำเอาเจ้าของห้องอึ้งไปพักใหญ่ ภาพที่สายตามองเห็นไม่ใช่นพ แต่เป็นอีกคนที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน
“เปิดช้านะมึง ชักว่าวอยู่หรือไง” เสียงฝ่ายนั้นต่อว่าทำให้คนยืนอึ้งได้สติ
“นี่มึงมาจริงๆ เหรอ” เด็กหนุ่มทักออกไป
“เออดิ แล้วนี่จะให้กูเข้าห้องป่ะเนี่ย ร้อนนะโว้ย” ฝ่ายนั้นตอบกลับมา จึงเลี่ยงเปิดทางให้เจ้าตัวเดินเข้ามาในห้อง
“ห้องน่าอยู่ดีนี่ อยู่คนเดียวเหรอ” คนเพิ่งมาเอ่ยถามอีก
“อืม แต่เขาก็แวะมาบ้าง” เต็นตอบ
“เขาไหน แฟนมึงน่ะเหรอ”
“อืม”
“แล้วเขาไม่มากี่วันแล้วเนี่ย”
“ไม่รู้ไม่อยากจำแล้ว คงไม่มาอีกแล้วมั้ง”
“เฮ้อ อย่าคิดมาก เขาไม่มากูมาเองก็ได้”
“เอาเหอะ อยากมาก็มา แต่แสนรู้เหมือนกันนะโว้ยที่มาถูกเนี่ย”
“เชี่ย กูไม่ใช่หมา แล้วนี่แดกข้าวยัง”
“ยัง”
“อ่ะ ราดหน้า เอามาฝาก”
“ซื้อมาเหรอ”
“กินไปเหอะน่า”
“แล้วมึงอ่ะ”
“มีสองชุด แกะเผื่อกูด้วยละกัน”
“หยึย หมี่กรอบกะเส้นใหญ่”
“ไม่ชอบเหรอ”
“ก็เหมือนกะที่มึงไม่กินผักน่ะแหละ”
“เออทีหลังจะเอาอย่างอื่นมาให้”
“ทำยังกะมึงจะมาบ่อยๆ งั้นล่ะ”
“ให้กูมาป่ะล่ะ”
“เรื่องของมึง อยากมาก็มา”
“แล้วถ้าแฟนมึงอยู่ล่ะ”
“อยู่แล้วไง มึงกะกูเป็นชู้กันเหรอถึงต้องกลัว”
“ก็อยากเป็นอยู่นะ น่าตื่นเต้นดี”
“ไอ้บ้า”
“กูล้อเล่น ไปแกะราดหน้ามาไป กูหิวแล้ว”
“อืม น้ำในตู้เย็นหยิบกินเองนะถ้าหิว”
“ครับ”
เต็นแยกตัวไปทำในสิ่งที่โดนสั่ง ระหว่างที่ยืนแกะถุงในมืออยู่นั้น สายตาก็อดหันกลับมามองอีกคนที่อยู่ในห้องไม่ได้ ในใจรู้สึกดีในหลายคำพูดและการกระทำของคนนั้นอย่างประหลาด ความเหงา และความคิดฟุ้งซ่านต่อการกระทำของคนรักอย่างนพถูกลดทอนลงไปมากกว่าครึ่ง
“มองอะไรวะ” เด็กหนุ่มสะดุ้งในตอนที่คนที่ตนลอบมองหันมาสบตาเข้าพอดีและเอ่ยทักขึ้นเสียงดัง
“เปล่า” ปากตอบปฏิเสธออกไป แล้วหันไปจัดการกับสิ่งที่ทำค้างอยู่จนเสร็จสิ้นจึงถือกลับมาวางบนพื้นห้องแล้วบอก
“ห้องกูไม่มีโต๊ะกินข้าว กินมันที่พื้นนี่แหละ”
“กูไม่เรื่องมากหรอกกินที่ไหนก็อิ่มเหมือนกัน” อีกคนตอบกลับมาก่อนเจ้าตัวจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม จัดการกับจานหมี่กรอบราดหน้าอย่างไม่ปรุงอะไร
“มึงนี่ชอบกินอะไรเปล่าๆ นะ เครื่องปรุงเขามีให้ก็ไม่ยอมปรุง” เต็นเอ่ยว่า
“เจ้านี้เขาอร่อยอยู่แล้ว ไม่ต้องปรุงหรอก ไม่เชื่อลองดูดิ” คนนั้นตอบ เด็กหนุ่มจึงลองชิมเส้นใหญ่ราดหน้าของตัวเองบ้าง
“เป็นไง อร่อยป่ะ” คนเอามาฝากเอ่ยถาม
“อืมอร่อยดี เจ้าไหนวะ”
“แม่กูทำเองแหละ”
 “หา ! นี่มึงหอบถุงราดหน้านี่มาจากวงเวียนใหญ่เลยเหรอ”
“ก็เออดิ”
“มาไงวะ”
“รถไฟฟ้า แล้วก็รถเมล์”
“โห ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่หว่า”
“ลำบากตรงไหน กูอยากให้มึงชิมฝีมือแม่กู”
“เออๆๆ ขอบใจ แต่คราวหลังไม่ต้องนะโว้ย เกรงใจ”
“กูมีปัญญาเอามาได้ มึงมีหน้าที่กินก็กินไปเหอะไม่ต้องพูดมาก”
“ผิดอีกกู”
อีกฝ่ายไม่ตอบโต้อะไรหลังเอ่ยจบ นอกจากก้มลงจัดการกับจานราดหน้าเงียบๆ ระหว่างนั้นเต็นเลยถือโอกาสมองสำรวจใบหน้าเจ้าตัวใหม่ เด็กหนุ่มเผลอยิ้มออกมานิดๆ อย่างไม่รู้สาเหตุ ก่อนจะก้มลงจัดการกับจานราดหน้าของตัวเองบ้าง
******************************************************************
บนดาดฟ้าของตึกในตอนมืดแล้ว เต็นนั่งกอดเข่ามองทัศนียภาพแสงสีของเมืองหลวงในมุมกว้าง โดยที่ข้างกายมีอีกคนนั่งอยู่ด้วย
“มองแบบนี้กรุงเทพฯ แม่งสวยว่ะ”คนข้างๆ เอ่ยให้ได้ยิน
“อืม”เต็นตอบสั้นๆ
“ระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด มึงชอบที่ไหนมากว่ากันวะ”อีกคนถามต่อ
“มันก็ดีคนละแบบ แต่กูคงชินอยู่ในกรุงเทพฯ มากกว่าว่ะ”
“แต่ทำไมกูชอบต่างจังหวัดวะ”
“ไม่แปลกหรอก มึงเกิดที่นี่ โตที่นี่มึงย่อมเบื่อที่นี่เป็นธรรมดา ส่วนกูเกิดที่ต่างจังหวัด โตที่ต่างจังหวัด ก็เลยเบื่อๆ ต่างจังหวัด”
“พูดถึงต่างจังหวัด ตอนไหนว่างๆ ให้กูไปเที่ยวบ้านมึงหน่อยดิ”
“ขอนแก่นเลยนะมึง”
“แต่มันก็เจริญมากแล้วใช่ป่ะ”
“มากว่าบ้านมึงอีกมั้ง”
“เชี่ย เดี๋ยวถีบตกตึกเลย ชอบว่าบ้านกูกันดาร”
“ว่าตอนไหนวะ”
“เออ ช่างมันเถอะ ว่าแต่แฟนมึงเคยไปบ้านมึงป่ะ”
“เคยดิ”
“เหรอ กูอยากไปบ้างอ่ะ”
“มาเป็นแฟนกูก่อน”
“มึงก็ทำตัวให้โสดสิ”
“ก็นี่ไง โสดอยู่นี่ไงไม่เห็นเหรอ”
“ประชดตัวเองป่ะวะ”
“เปล๊า”
“เชี่ย ขึ้นเสียงแค่นี้กูก็รู้แล้ว”
“เฮ้อ ไม่รู้เขาจะเอายังไงกะกูว่ะ แม่งหายไปไม่ติดต่อเลย”
“คิดถึงเขามากเหรอ”
“แฟนทั้งคนนะมึง”
“ก็รู้ แต่เขาทำแบบนี้เขาคงมีคนใหม่แล้วมั้ง”
“มีก็บอกกูได้นี่หว่า ไม่เห็นต้องเงียบแบบนี้เลย”
“บอกแล้วมึงรับได้เหรอ”
“ถึงนาทีนั้นก็คงต้องดูกันอีกที”
“เอาเหอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คิดว่ายังมีกูอีกคนละกัน”
“เชื่อมั้ยกูแอบคิดนะโว้ยว่านี่มันเรื่องจริงหรือกูกำลังฝันอยู่”
“เรื่องไร”
“เรื่องที่มาเจอมึงในตอนที่กำลังเบื่อๆ เซ็งๆ”
“แล้วมันเป็นฝันดีหรือฝันร้ายล่ะ”
“อืม ดีมั้ง”
“พูดดังๆ ก็ได้กูไม่ได้ยิน”
“ก็นั่นแหละพูดไปแล้ว”
“เวลามึงอายนี่แม่งน่ารักว่ะ ยังกะผู้หญิง”
“เชี่ย”
“อ้าวด่ากูทำไมเนี่ย”
“ไม่รู้ อยากด่าก็ด่า”
“อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ เขินที่กูชมล่ะสิ”
“กูจะเขินทำไมกูไม่ได้คิดอะไรกะมึง”
“จริงอ่ะ”
“จริง”
“งั้นกูกลับล่ะนะ”
“เชิญ”
“K ง้อกูหน่อยก็ไม่ได้”
“เฮ้ย แต่นี่มันก็จะสามทุ่มแล้วนะ กูว่ามึงกลับก็ดีนะบ้านมึงไม่ใช่ใกล้ๆ”
“อืม แล้วกูจะได้มาอีกมั้ย”
“ก็แล้วแต่มึงสิ”
“กูกลัวจะมาเจอมึงอยู่กับแฟนน่ะสิ”
“เขาคงไม่มาแล้วล่ะ”
“อืมไว้ถ้าจะมากูโทรบอกละกัน”
“ก็ได้ ว่าแต่ลงข้างล่างเหอะ ลมชักแรงแล้ว”
“ฉุดกูหน่อยดิ แม่งเหน็บกิน”
“กรรม” เต็นบ่น แต่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือเพื่อไปฉุดคนลุกไม่ไหว แต่พอมือสัมผัสมือก็ถึงกับตกใจเมื่อแทนที่จะเป็นฝ่ายฉุดคนนั่งอยู่ แต่กลับกลายเป็นว่าคนนั่งอยู่ดันฉุดตนให้ร่างทั้งร่างเซล้มลงไปห่าซะอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 3-4 : 16.12.53 จัดให้สองตอนคร
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 18-12-2010 14:26:45
ตอนที่ 6
 
“เฮ้ย อะไรวะ” เด็กหนุ่มร้องลั่นขึ้นเมื่อร่างทั้งร่างโดนสวมกอดเอาไว้ตอนกำลังจะล้มลง
“ไอ้เชี่ยแชมป์ มึงทำอะไรกูเนี่ย” เด็กหนุ่มโวยลั่นพลางรีบดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดอีกฝ่ายที่เอาแต่หัวเร
“มึงขำอะไรนักหนา” คนดิ้นถามต่อเมื่อร่างกายเป็นอิสระ
“ก็ขำมึงอ่ะดิ เชี่ยมึงคิดว่ามึงเป็นผู้หญิงหรือไง โดนกอดแค่นี้ดิ้นซะเว่อร์” คนนั้นตอบ
“แล้วมึงคิดว่าตึกนี้มันสูงขนาดไหนกันเชียว เกิดมีคนมองมาเห็นกูคิดว่ากูจะอายมั้ย มึงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ทุกวันอย่างกูนี่” เต็นให้เหตุผล
“เออๆๆ กูขอโทษ คราวหลังกูไปกอดมึงในห้องก็ได้” คู่สนทนาตอบยิ้มๆ ตอนลุกขึ้นยืน เต็นที่มองอยู่รีบเอ่ยถาม
“ไหนบอกเหน็บกินไงวะ”
“กูแกล้งบอกไปงั้นแหละ ไม่คิดว่ามึงจะเชื่อ”
“เชี่ย ปลิ้นปล้อนนะมึง”
“โธ่ รักดอกจึงหยอกเล่น”
“แน่ใจนะที่พูด”
“ว่า?”
“รัก”
“ถ้าบอกว่าแน่ใจมึงจะเชื่อมั้ยล่ะ”
“กูมันเชื่อคนง่ายมึงก็รู้นี่”
“เชี่ย ย้อนกูอีก”
“ช่วยไม่ได้เปิดทางให้กูเอง”
“เออ ปากดีให้ตลอดเถอะ เดี๊ยะสักวันกูจะปล้ำทำเมีย”
“กลัวตายล่ะ กลับบ้านได้แล้ว”
“รีบไล่เชียวนะกลัวเสียสาวหรือไง”
“เชี่ย กูไม่ใช่ผู้หญิง”
“เหรอ นึกว่าใช่”
“ยิ่งพูดยิ่งยาวว่ะ กูลงไปล่ะ ส่วนมึงอยากนั่งต่อก็ตามสบายกูไม่เอาแล้ว”
เต็นเดินหนีลงไปจนถึงหน้าห้อง สักพักจึงมองเห็นร่างแชมป์เดินตามมา เด็กหนุ่มยืนรอจนฝ่ายนั้นเดินมาถึงจึงเปิดประตูเดินนำเข้าไปในห้องก่อน
“ให้กูค้างด้วยไม่ได้เหรอวะ” เสียงคนเดินตามหลังเอ่ยให้ได้ยิน
“ไว้วันหลังเถอะ เผื่อวันนี้เขาจะมา” เต็นปฏิเสธ ยังแอบหวังอยู่ว่าคืนนี้คนรักจะมาหาตน
“แฟนมึงน่ะเหรอ”
“อืม”
“ก็ได้ สัญญาแล้วนะว่าวันหลังจะให้กูค้างด้วย”
“ก็ดูอีกทีละกัน”
“อืม งั้นกูกลับก่อนนะ ไว้ถึงบ้านจะโทรหา”
“เฮ้ย ถึงบ้านก็พักผ่อนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะมึงน่ะ”
“ก็กูจะโทรมีไรป่ะล่ะ หรือมึงไม่อยากคุยกะกูแล้ว”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น มึงนี่พาลเป็นเด็กๆ ไปได้ อยากโทรก็โทรอ่ะ พอใจหรือยัง”
“ก็แค่นี้แหละ ไปล่ะนะ”
“อืม”
ร่างของแชมป์เดินหายออกจากห้องไปแล้ว เต็นปิดประตูห้องช้าๆ ยืนคิดอะไรต่อเงียบๆ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหลับตาลงได้สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“ลืมอะไรวะ” เด็กหนุ่มลืมตาเอ่ยขึ้นเพราะคิดว่าเป็นคนเพิ่งออกไป แต่พอลุกเดินไปเปิดประตูก็ถึงกลับชะงักหน่อยๆ เมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าห้องเป็นอีกคนหนึ่ง
“นพ” เต็นเอ่ยเรียกชื่อคนๆ นั้นเบาๆ
“เป็นอะไรทำหน้ายังกะเห็นผี” ฝ่ายนั้นทักกลับ ก่อนแทรกตัวเข้ามาในห้องพร้อมสัมภาระ โอกาสนั้นเต็นจึงผ่อนลมหายใจแล้วปรับจิตใจให้เป็นปกติ เขากับคนที่เพิ่งจากไปยังไม่มีอะไรเลยถิดเกินคำว่าเพื่อนทำไมจะต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าคนรักนะ
“จะมาไม่เห็นโทรบอกเลย” เด็กหนุ่มเดินเข้ามานั่งลงบนที่นอนข้างๆ คนเพิ่งมา
“ก็ตอนแรกว่าจะไม่มา” ฝ่ายนั้นตอบ เต็นไม่ตอบโต้ นอกจากลุกเดินไปเพื่อหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้คนรัก แต่แล้วต้องชะงักไปอีกครั้งเมื่อได้ยินหนึ่งประโยคคำถาม
“พาใครมาที่ห้องเหรอ”
“เพื่อนน่ะ” เด็กหนุ่มตอบตอนที่สายตาเหลือบไปเห็นจานที่เคยใส่ราดหน้าสองจานขณะยังไม่ล้างวางอยู่ในมุมหลังห้อง ซึ่งคิดว่าอีกคนคงจะมองเห็นก่อนตนแล้วถึงได้เอ่ยถาม
“เพื่อนที่ไหนไม่เห็นรู้จัก” เหมือนโดนไล่บี้ แต่เต็น ก็เข้าใจว่านพต้องการสื่อถึงว่าปกติตนไม่ค่อยจะคบใครที่สนิทสนมถึงขั้นพามาที่ห้องจึงตอบไปตามตรงตอนถือแก้วน้ำมายื่นให้
“เพิ่งรู้จักกันน่ะ”
“ผู้ชายหรือผู้หญิง”
“ผู้ชาย”
“กิ๊กใหม่หรือเปล่า”
“เปล่า”
“แน่ใจนะ”
“อืม”
“แล้วไปรู้จักกันตอนไหน”
“ไม่กี่วันนี่เอง”
“ทำไมให้เขามาที่ห้องเร็วจัง”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ ท่าทางเสน่ห์นายนี่จะไม่เบา”
“นพหมายความว่าไง”
“นพคบเต็นมากี่ปี เรื่องแค่นี้ทำไมนพจะเดาไม่ออก นายนั่นไม่ใช่แค่เพื่อนใช่มั้ย”
“เขาเป็นเพื่อนจริงๆ”
“โอเค เพื่อนก็เพื่อน แต่เดี๋ยวนพคงต้องกลับบ้านล่ะ”
“นึกว่านพจะค้าง”
“นพต้องไปเตรียมงานเข้าประชุมพรุ่งนี้ ข้อมูลมันอยู่ที่บ้าน”
“แล้วที่แวะมานี่?”
“ก็เอาเสื้อผ้ามาให้ซักให้หน่อย ไม่เยอะหรอก”
“ในกระเป๋านั่นเหรอ”
“อืม ทั้งหมดน่ะแหละ”
“รีบใช้หรือเปล่า”
“ทำไม”
“ก็ถ้ารีบจะได้ซักให้เลย”
“เรื่อยๆ ถ้าจะใช้จะแวะมาเอา” เต็นเงียบไปอีก เด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออกเมื่อเข้าใจความหมายนัยๆ จากประโยคเมื่อครู่ที่ได้ยิน
“เป็นอะไร เงียบไป” อีกคนเอ่ยถาม
“เปล่า” เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะก้มหน้ารับฟังเหตุผลอีกฝ่ายนิ่งๆ
“ช่วงนี้นพยุ่งจริงๆ เราอาจจะห่างกันบ้าง”
“อืม เต็นจะพยายามเข้าใจละกัน”
“ถ้างั้นนพไปก่อนนะ อย่าคิดมาก”
“ครับ”
ร่างของคนรักผ่านพ้นประตูห้องไปแล้ว คนในห้องค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนที่นอนอย่างหมดแรง หลับตาข่มอารมณ์น้อยใจสักพักจึงลืมตาขึ้นผ่อนลมหายใจแล้วค่อยคว้าเอากระเป๋าเดินทางที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้ไปทำหน้าที่ที่ฝ่ายนั้นฝากไว้อย่างเงียบๆ
****************************************************************
เหลืออีก 5 นาที เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติจะหมดเวลาทำงาน เจ้าของเสื้อผ้าในถังซักยืนมองตัวเลขนั่นอย่างเลื่อนลอย ในมือเด็กหนุ่มยืนถือซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซองหนึ่งเอาไว้อยู่ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดูอีกรอบด้วยจิตใจที่สับสนปนเจ็บปวด
ถุงยางอนามัยซองนี้ เต็นเจอโดยบังเอิญในกางเกงยีนส์ของนพตอนแยกเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะนำมาซัก แวบแรกเด็กหนุ่มอยากจะโทรศัพท์ไปถามเจ้าตัวว่าของชิ้นนี้เตรียมไว้ใช้กับใครแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องซะ แต่แม้จะเลือกอย่างหลังหัวใจก็ยังอดที่จะรู้สึกเสียใจและน้อยใจไม่ได้เมื่อคิดถึงภาพกิจกรรมของคนรักกับใครก็ตามที่ต้องใช้ของในมือชิ้นนี้เป็นตัวช่วยจนกว่าจะเสร็จกิจ
เสียงโทรศัพท์ดังกังวานขึ้นในขณะที่ในใจกำลังเงียบงัน เจ้าของเครื่องหยิบขึ้นมาดู ชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้รู้สึกรื้นในใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด
“เพิ่งถึงบ้านเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยทักออกไปเสียงเนือยๆ ตอนกดรับสัญญาณ
“ถึงสักพักแล้ว ทำโน่นทำนี่เพิ่งเสร็จก็รีบโทรหามึงเนี่ย ทำ'ไรอยู่วะ” อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมตั้งคำถาม เต็นจึงตอบออกไปน้ำเสียงเดิม
“กำลังซักผ้าอยู่”
“หา! มึงคึกอะไรของมึงเนี่ยมาซักผ้าเอาตอนจะเที่ยงคืนเนี่ย” ฝ่ายนั้นตะโกนถามมา
“มันไม่ใช่เสื้อผ้ากู” เด็กหนุ่มตอบ
“อ้าว แล้วของใคร”
“ของเขา”
“อย่าบอกนะว่าของแฟนมึง”
“อืม”
“โธ่เอ้ยอีเย็นของกู โดนท่านเจ้าคุณใช้งานซะแล้ว”
“เชี่ย กูไม่ตลกกะมึงนะ”
“โอ๋ ครับๆๆ ที่รัก แชมป์ขอโทษคร้าบ”
“มึงอย่ามาตบหัวแล้วลูบหลัง”
“เป็นงั้นไป เอาใจยากนะมึงเนี่ย”
“ถ้าลำบากนักก็เลิกคบกูไปเลยสิ”
"เชี่ย พาลกูนะมึง เป็น'ไรห๊ะ"
“เปล่า”
“มึงอย่ามาปากแข็ง ทะเลาะกับแฟนมาล่ะสิท่า”
 “มึงอย่ามาแสนรู้”
“ว่ากูเป็นหมาเดี๋ยวปั๊ด”
“เอาเหอะจะทำอะไรกูก็ทำเหอะ ตอนนี้กูแม่งเบื่อโครต”
“ถ้ามาแนวนี้ที่กูเดาเมื่อกี้มันเรื่องจริงใช่มั้ย”
“ก็ไม่เชิง”
“ทะเลาะกันเรื่องไรวะ”
“ก็เมื่อตอนมึงกลับเขาก็มาหากูพอดี”
“แล้ว?”
“เอาผ้ามาให้กูซักมาแล้วก็ไปไง”
“โธ่เอ้ย อารมณ์ค้างเลยสิมึง นึกว่าจะได้เสียตัวดันได้เสียเหงื่อแทน”
“เชี่ย มันไม่ใช่อย่างนั้น”
“อ้าวเหรอ”
“เออ”
“กูล้อเล่น ทำเป็นขึ้นเสียงนะมึง”
“ก็แม่งเครียดอยู่มึงจะมาพูดเล่นอะไรนักหนา”
“กูก็อยากให้มึงยิ้มได้บ้าง”
“ขอบใจ แต่ตอนนี้คงยาก”
“ทำไม”
“กูเจอ อืม ช่างมันเถอะ”
“เจอไรวะ”
“ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวกูโทรกลับนะ เอาผ้าไปตากก่อน”
“เออๆ เดี๋ยวกูรอ”
“ถ้ามันนานก็นอนไปก่อนเลยนะโว้ย”
“ได้ไง มึงบอกจะโทรมึงก็ต้องโทรดิ”
“เสื้อผ้าเยอะนะมึง”
“ถึงเช้ากูก็จะรอ”
“แน่ใจนะ”
“ลองดูก็ได้”
“เออ กูรู้ว่ามึงคนจริง ขอเวลา 15 นาทีละกัน”
“ตามสบาย เสร็จแล้วโทรมา ถ้าไม่โทรเจอเมื่อไหร่มึงตาย”
“กล้าทำอะไรกูเร้อ แค่นี้นะ ยิ่งพูดยิ่งยาว” เต็นรีบวางสายเมื่อเอ่ยจบ เด็กหนุ่มลืมเรื่องเครียดๆ ไปชั่วขณะในตอนท้ายของการพูดคุย ซองถุงยางอนามัยถูกทิ้งลงถังขยะใกล้มืออย่างง่ายดาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มใช้เวลาสนใจกับมันนานหลายนาที
*********************************************************************
เวลาเคลื่อนผ่านมาสู่เช้าวันใหม่ เต็นนั่งห่อตัวต้านสายลมเย็นอยู่บนดาดฟ้าของห้องพักขณะกำลังพุดคุยโทรศัพท์กับอีกคน
“จะตีสองแล้วนะโว้ย ไม่ง่วงเหรอวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามคนปลายสายตอนที่เห็นเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ตอนยกมาดูเมื่อครู่ก่อนเอาไปแนบหูเพื่อสนทนาต่อ
“มึงง่วงแล้วเหรอ” คนนั้นถามกลับ
“ก็เรื่อยๆ” เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะอึ้งไปกับคำพูดขอคู่สนทนา
“งั้นคุยถึงเช้าได้ป่ะ”
“มึงจะบ้าเหรอ แค่นี้ค่าโทรกูก็ปาไปตั้งเท่าไหร่แล้วเนี่ย”
“เชี่ยกูลืม เอางี้วางก่อนเดี๋ยวกูโทรหา” ฝ่ายนั้นบอกเหมือนร้อนรน
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูก็จะไปนอนแล้ว”
“เฮ้ย กูยังอยากคุยต่ออยู่ มึงจะรีบนอนไปไหน”
“พรุ่งนี้ก็มีเรียนนะมึง”
“กูก็มีเหมือนกันแหละ”
“งั้นก็ต่างคนต่างนอน”
“ไม่เอากูจะคุย มึงวางสายพรุ่งนี้กูจะตามไปมหา' ลัยมึงจริงๆ ด้วย”
“เรื่องของมึงดิ ลำบากก็ตัวมึง ไม่ใช่กู”
“อ๋อ มึงกล้าพูดงี้กะกูเหรอ”
“มึงเป็นอะไรกะกูล่ะ ทำไมกูถึงจะไม่กล้าพูด”
“เออจำไว้ พูดอะไรไว้ขอให้จำไว้นะมึง”
“เสียงเหมือนซีเรียสเลยว่ะ”
“ก็เออดิ ก็ดูมึงพูดกะกูดิ ตกลงที่ผ่านมา มึงไม่รู้สึกอะไรกูเลยใช่มั้ยถึงได้พูดไม่ถนอมน้ำใจกูแบบนี้”
“อะไรของมึงเนี่ย มึงจะให้กูรู้สึกอะไร”
“ก็รู้สึกอย่างที่กูรู้สึกกับมึงไง”
“มึงรู้สึกกับกูแบบไหนล่ะ”
“ไม่รู้ กูยังหานิยามมาเรียกมันไม่ถูก”
“นั่นไง ขนาดมึงยังไม่รู้ตัวเลยว่ารู้สึกกะกูแบบไหน แล้ว เสือกจะให้กูรู้สึกแบบนั้นได้ไง”
“งั้นเดี๋ยวก็จะอธิบายให้ฟังแล้วมึงช่วยคิดนิยามให้กูทีว่าความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกกันว่าอะไร”
“ว่ามา”

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.53 จัดเพิ่มสองตอน
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 18-12-2010 15:10:52


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.53 จัดเพิ่มสองตอน
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-12-2010 15:41:25
 :L1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.5
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 18-12-2010 18:30:14
เลิกกับเขาเหอะ เต็น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.53 จัดเพิ่มสองตอน
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-12-2010 22:33:08
ถ้ารักแล้วทรมาน
จะรักไอ่นพมันไปทำไม หื๊อออ

กับแชมป์ ถึงเต็นจะยังไม่แน่ใจอะไรมากมาย
แต่น่าจะลองค้นหากันดู ไม่ดีกว่าหรือ??

เลิกจมปลักเหอะ เต็น


ขอบคุณครับ คุณบอย

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.53 จัดเพิ่มสองตอน
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-12-2010 01:07:38
อ่านแล้วคุ้นๆว่าอีเรื่องซักผ้าแบบนี้เคยเจอกับใครสักคน ออกทีวีด้วยนะเออคู่แกนี้หละ


ว่าแต่มันค้างมากค่ะแล้วมาต่ออีกนะคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.53 จัดเพิ่มสองตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-12-2010 09:24:28
เข้ามารายงานตัวคร้าบบบบ

เห็นชื่อ ต้องดราม่าสุดๆ แต่อ่านแล้วมีแอบเถื่อนๆ นะครับ

ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 5-6 : 18.12.53 จัดเพิ่มสองตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-12-2010 12:13:19
ตอนที่ 7

บรรยากาศในโรงอาหารยังคงจอแจอยู่เช่นทุกวัน เต็นนั่งนิ่งมองจานข้าวตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย เด็กหนุ่มไม่ได้ใส่ใจบรรยากาศรอบตัวเท่าใดนักเมื่อในจิตใจตอนนี้เฝ้านึกถึงแต่คำพูดเมื่อคืนของคนที่เอ่ยสารภาพว่ารู้สึกดีกับตนแต่หานิยามเรียกไม่ได้ จะว่ารักก็ไม่ใช่จะว่าเป็นเพื่อนหรือก็ไม่ถูก เพราะความรู้สึกทั้งหมดที่ฝ่ายนั้นถ่ายทอดออกมามันสื่อถึงอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างสองคำนั้น
“มึงจะบ้าเหรอไอ้แชมป์ รู้จักกับกูไม่เท่าไหร่ มึงจะรู้สึกอะไรได้มากมายขนาดนั้น” เด็กหนุ่มแย้งออกไปในตอนที่ฟังทุกถ้อยคำจบ แต่ก็โดนแย้งกลับมาเช่นกัน
“ก็นี่ไงกูถึงบอกกูสับสนว่ากูกำลังเป็นอะไร”
“เป็นบ้าน่ะสิ”
“เออ บ้าก็เพราะมึงน่ะแหละ แม่งมึงน่าจะเกิดเป็นผู้หญิงซะให้รู้แล้วรู้รอด”
“ทำไม อย่าบอกนะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นมึงจะขอกูเป็นแฟนเลย”
“กูจะปล้ำเป็นเมียเลยแหละ”
“เชี่ย เลวนะมึง”
“อ้าว ช่วยไม่ได้มายั่วกูเอง”
“กูไปยั่วมึงตอนไหน”
“ก็ทุกตอนที่อยู่ใกล้กันน่ะแหละ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“ก็เออดิ พูดตรงๆ นะโว้ย เวลาคุยกับมึง กูลืมไปเลยนะโว้ยว่าตัวเองอกหักอยู่”
“จะบอกว่ากูเข้าไปเติมเต็มชีวิตให้ดีเหมือนเดิมว่างั้น”
“นี่แหละที่กูอยากบอกมึง แต่กูไม่กล้าพูด”
“อย่างมึงไม่กล้าด้วยเหรอวะ”
“ก็ถ้ามึงเป็นผู้หญิงกูก็พูดไปนานแล้ว”
“แล้วไง เป็นผู้ชายแล้วมึงจะรักไม่ได้หรือไง”
“เนี่ย กูชอบที่มึงเป็นแบบเนี่ย แม่งกวนตีนดีชะมัด มาเป็นแฟนกูเหอะว่ะ”   
“เชี่ย โรคจิตนะมึง”
“อ้าว ตะกี้ท้ากูอยู่เหยงๆ พอกูเอาจริงมาด่ากูซะงั้น”
“ก็มึงไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ใช่เหรอ”
“ข้อนั้นกูไม่รู้โว้ย กูอาจจะกลายพันธุ์แล้วก็ได้”
“กลายพันธุ์ หรือเพิ่งคิดจะเปิดตัวเหรอตัวเอง”
“ไอ้ห่าเต็น มึงอย่ามาล้อกูนะ”
“ด่ากูเสียงเขียวเลยนะมึง”
“กูไม่ใช่เกย์โว้ย ยังไงกูก็ยังยืนยันว่ากูแมนทั้งแท่ง”
“แล้วที่มึงขอกูเป็นแฟนมันหมายความว่าไง มึงคิดว่ากูมีหม้อให้มึงตีหรือไง”
“ปากดีนักนะเดี๋ยวเหอะ เจอคราวหน้าจะล่อให้ตูดบานเลย”
“โหยพูดเหมือนช่ำชองงั้นล่ะ”
“มึงจะลองดูมั้ยล่ะ”
“แฟนกูก็มี เรื่องอะไรกูจะลองกะมึง”
“โธ่เอ้ยทำเป็นคุย ที่มานั่งคุยกะกูตอนนี้ไม่ใช่เพราะจะโดนทิ้งแล้วหรอกเหรอท่าน”
“ปากหมานะมึง”
“อ้าว หรือไม่จริงล่ะครับ”
“เรื่องของกูกับเขา คนอื่นไม่เกี่ยว”
“เกี่ยวดิ เพราะกูกำลังจะเป็นแฟนใหม่มึง”
“เชี่ย กูยังไม่ยอมรับ”
“มึงจะเล่นตัวไปทำเบื๊อกอะไรล่ะ”
“กูไมได้เล่นตัว แต่มึงกะกูยังไงๆ ก็คบกันไม่ได้เกินกว่าเพื่อนหรอก”
“ทำไมจะไม่ได้”
“หนึ่งกูมีแฟนแล้ว สองมึงไม่ใช่เกย์”
“แล้วถ้ามึงเลิกกับแฟน และกูไม่แคร์ที่จะคบกับมึง มึงจะว่าไง”
“มึงอย่ามาพูดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้เลยว่ะ”
“มึงตอบไม่ตรงคำถาม”
“กูไม่รู้ กูสับสน”
“สับสนอะไร”
“ไม่รู้บอกไม่ถูก”
“งั้นกูบอกให้ก็ได้ จริงๆ มึงก็ชอบกูอยู่ใช่มั้ย แต่ติดที่มึงมีแฟนแล้ว”
“เปล่า”
“มึงอย่าปฏิเสธ”
“เฮ้ย เลิกพูดเรื่องนี้เหอะว่ะ”
“ไม่ กูจะพูด กูเป็นคนตรงๆ มึงก็รู้”
“มึงต้องการอะไรวะไอ้แชมป์”
“ต้องการคบกับมึงไง”
“เราก็คบกันอยู่นี่ไง”
“ไม่ใช่แบบนี้”
“แล้วแบบไหน”
“มึงก็น่าจะรู้”
“กูไม่รู้”
“ปากแข็ง”
“กูเปล่า”
“อย่ามาเปล่า ชอบกูก็บอกว่าชอบสิวะ มึงจะอะไรนักหนา”
“ก็แล้วมึงอยากฟังไปทำไมรู้แล้วก็คือรู้สิ ทำไมจะต้องให้กูพูดด้วยวะ”
“แสดงว่าที่ผ่านมามึงรู้สึกกับกูจริงๆ”
“คิดเองละกัน กูไม่ขอพูด”
“กูเข้าใจว่ามึงคงจะรู้สึกผิดกับแฟนมึง เอาเหอะ กูมันคนมาทีหลังนี่”
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
“อย่าปฏิเสธ เอาเป็นว่ากูเข้าใจละกันว่ากูมันคนมาทีหลัง”
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้แชมป์ ถามตรงๆ นะที่มึงพูดมาทั้งหมด มึงพูดจริงหรืออำกูเล่น”
“กูพูดขนาดนี้มึงยังคิดว่ากูหลอกมึงอีกเหรอ”
“เฮ้ย อย่าเพิ่งโกรธสิวะ”
“กูไม่ได้โกรธ เพียงแต่กูไม่น่าพูดเรื่องนี้กับมึงเลย”
“ทำไมวะ”
“ก็ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกะกู แล้วกูจะมองหน้ามึงติดได้ไง กูอายก็เป็นนะโว้ย แม่งโดนเกย์ปฏิเสธ”
“แล้วกูปฏิเสธมึงไปหรือยัง”
“หมายความว่าไง”
“เอาจริงๆ กูก็รู้สึกกับมึงบ้างแหละ ฟังดูไม่ค่อยดีนะ แต่มึงแม่งดันเข้ามาถูกที่ถูกเวลาเอง”
“เฮ้ย เรื่องนั้นอย่าไปคิดดิ แค่เราเข้าใจกันก็น่าจะพอแล้ว”
“แต่ยังไงมันก็ดูแปลกๆ ว่ะ กูกับนพยังคบกันอยู่นะโว้ย”
“คบก็ส่วนคบดิ มึงก็ทำตัวอย่างเดิมน่ะแหละ ไม่ต้องมากังวลเรื่องกู ว่างเมื่อไหร่ค่อยเจอกันกูก็ไม่มีปัญหา แค่มึงรู้สึกกะกูอย่างที่กูรู้สึกกะมึงกูก็เบาใจแล้ว แม่งนึกว่ากูมันจะซวยถึงขนาดเกย์ยังไม่อยากจะมอง”
“พูดไปนั่นมันใกล้จะเช้าแล้วว่ะ กูว่าเราไปนอนเหอะ”
“อยากนอนกะมึงอ่ะ ไปนอนด้วยได้ป่ะ อยู่คนเดียวนี่”
“เชี่ย จากบ้านมึงถ่อมาห้องกูคงจะได้นอนหรอกนะ”
“ไม่นอนแล้วเราจะทำอะไรกันเหรอที่รัก”
“ทำห่าอะไรล่ะ มันจะเช้าก่อนอ่ะดิ”
“ทำตอนเช้าก็ไม่แปลกนี่ คนเราแสดงความรักต่อกันต้องจำกัดเวลาด้วยเหรอ”
“เพ้อเจ้อกันไปใหญ่แล้ว ไปนอนไป”
“ครับผม ไปก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ตื่นเดี๋ยวแชมป์โทรหานะ”
“เฮ้ย มึงเรียกแทนตัวเองว่าไงนะ”
“ก็แชมป์ไง”
“อย่าบอกนะว่ามึงจะใช้คำนี้กะกู”
“ไม่เห็นแปลกกับแฟนเก่าแชมป์ก็เรียกแทนตัวเองแบบนี้ ว่าแต่นายเหอะ ต่อไปห้ามขึ้นกูมึงนะโว้ย”
“เอางั้นเลยเหรอวะ”
“ก็เออดิ ไหนลองเรียกแทนตัวเองว่าเต็นซิ”
“ไม่เอา”
“อย่าดื้อเต็น”
“ไม่ได้ดื้อแต่มันไม่คุ้น”
“ไม่คุ้นก็ต้องหัดขนาดแชมป์ยังพูดได้เลย”
“จะให้พูดว่าไงดีล่ะ”
“ก็บอกเต็นไปนอนแล้วนะครับ แค่เนี่ย”
“ขะครับ เต็นไปนอนก่อนละกัน”
“ต้องมีครับด้วย”
“เฮ้ย บังคับกันนี่หว่า”
“เปล่าบังคับแค่อยากให้แฟนตัวเองพูดเพราะๆ ผิดตรงไหน”
“ก็ขอเวลาบ้างดิ”
“ไม่ให้ ต้องฝึกเดี๋ยวนี้ เร็ว”
“ครับพี่แชมป์ครับ เต็นขอไปนอนก่อนนะครับ”
“ดีมาก งั้นก็หลับฝันดี เดี๋ยวพรุ่งนี้แชมป์โทรหา”
“ครับ”
“ชื่นใจจัง ฝันดีครับ พรุ่งนี้คุยกัน รักนะครับ”
ใครจะเชื่อว่าประโยคหวานๆ เหล่านี้จะออกมาจากปากผู้ชายห้าวๆ คนหนึ่ง เต็นสลัดมโนภาพทั้งหมดทิ้งไป เมื่อเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะต้องเข้าเรียนคาบแรก เด็กหนุ่มกำลังก้มจะจัดการกับจานข้าวตรงหน้า แต่เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะนั้นซะก่อน
ชื่อของคนที่นึกถีงเมื่อครู่โชว์ที่หน้าเครื่องตอนหยิบขึ้นมาดู เด็กหนุ่มอมยิ้มนิดๆ ที่คนๆ นี้ไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้ตอนวางสายเมื่อคืน
“ฮัลโหล” เสียงฝ่ายนั้นเอ่ยทักมาตอนกดรับสัญญาณ
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับไปเป็นการเริ่มสนทนา
“ทำอะไรอยู่อ่ะ”
“กินข้าวอยู่”
“ที่ไหน”
“มหา’ลัย”
“เหรอ แล้วคุยได้ป่าว”
“ได้ มีไรล่ะ”
“ก็ตื่นมาแล้วคิดถึง”
“จริงอ่ะ”
“อ้าวแชมป์จะโกหกทำไมล่ะคร้าบที่รัก”
“ขี้อ้อนขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าแฟนแชมป์จะทิ้งแชมป์ไป”
“คนเรามันชอบอะไรไม่เหมือนกันหรอก ว่าแต่เต็นชอบป่ะล่ะแฟนขี้อ้อนแบบนี้”
“ก็ดี”
“ชอบก็บอกว่าชอบสิครับ จะปากแข็งทำไมแชมป์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแล้วนะ”
“ครับชอบก็ได้ครับ”
“ก็แค่เนี่ย วันนี้เลิกเรียนกี่โมง”
“ก็บ่ายๆ อ่ะ”
“เจอกันป่าว”
“แล้วแชมป์ไม่มีเรียนเหรอ”
“หึ”
“มิน่าตื่นซะสายเชียว”
“ก็เมื่อคืนนอนไม่หลับมัวแต่คิดถึงคนบางคน”
“คิดถึงใคร”
“ก็พูดกับใครอยู่ล่ะ”
“ว่าคนอื่นปากแข็งตัวเองก็เหมือนกันแหละ”
“คิดถึงเต็นคร้าบ พอใจหรือยัง”
“ก็แค่เนี่ย แล้วเจอไงอ่ะ จะมาหาเต็นเหรอ”
“แล้วว่างป่ะล่ะ ต้องไปไหนกับแฟนป่าว”
“ไม่มั้ง เขายังไม่โทรมาเลยนี่”
“แล้วไม่โทรถามเขาล่ะ”
“ไม่แล้วล่ะ อยากโทรเขาคงโทรมาเอง”
“เฮ้ย เอาให้เคลียร์นะ แชมป์อยากให้เราคบกันด้วยความรู้สึกดีๆ”
“สรุปจะให้เต็นโทรถามเขาก่อนเหรอ”
“ถ้าได้มันก็ดี อย่างน้อยก็ให้เกียรติเขาหน่อย แชมป์มาทีหลัง ไงก็ได้”
“แต่เต็นไม่อยากโทรไปแล้ว”
“เพราะแชมป์หรือเปล่า”
“ก็มีส่วน เต็นมาคิดดูอีกที เต็นกับนพคงถึงจุดอิ่มตัวแล้วมั้ง”
“แชมป์ไม่ใช่มือที่สามแน่นะ”
“ขนาดนี้ยังคิดว่าไม่ใช่อีกเหรอ”
“เฮ้ย พูดงี้แชมป์คิดนะ”
“อ้าว ไหงพูดงี้ล่ะ ก็เมื่อคืนคะยั้นคะยอให้เต็นเผยความรู้สึกไม่ใช่เหรอ”
“รู้นะคิดอะไรอยู่ ไม่เอาแล้ว คุยกันเดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันป่าวๆ ตกลงบ่ายนี้เจอกันละกัน”
“อืม ไปไหนดีล่ะ”
“กินข้าว ดูหนัง”
“ก็ดี”
“งั้นแชมป์ไม่กวนแล้ว กินข้าวต่อเหอะ ไว้บ่ายๆ จะโทรหา”
“ครับ”
“ครับ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ รักนะครับ”
สัญญาณถูกตัดหายไปอีกกครั้ง ข้าวในจานคนเป็นเจ้าของแทบไม่อยากจะแตะเพราะคำสนทนาเมื่อครู่มันทำให้รู้สึกอิ่มขึ้นมาได้อย่างมหัศจรรย์
ที่โรงหนัง ณ ห้างๆ เดิมที่นัดเจอกันครั้งแรก เต็นยืนมองร่างเด็กหนุ่มที่กำลังจัดการซื้อตั๋วหนังอยู่จนฝ่ายนั้นแล้วเสร็จจึงเดินเข้าไปหาตอนเจ้าตัวเดินออกมาจากช่องจำหน่ายตั๋ว
“อ่ะ คราวนี้เต็นจ่ายบ้าง” เด็กหนุ่มยื่นเงินที่เตรียมไว้ในมือให้คนนั้นทันทีที่ไปถึง
“ไม่ขัดศรัทธานะ” เป็นคำตอบที่ได้ยินจากฝ่ายนั้น พร้อมกับเจ้าตัวหยิบเอาสิ่งที่ยื่นให้ไป
“ก็แฟร์ๆ ไง คราวที่แล้วแชมป์ก็เลี้ยงไปแล้วนี่” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก
“แฟนใครวะน่ารักชะมัด” คนตรงหน้าเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม เพียงเท่านี้หัวใจก็คล้ายจะลืมความน้อยใจที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์กับคนรักก่อนหน้า จึงได้ก้าวขาเดินเคียงเข้าห้องฉายหนังกับคนเอ่ยอย่างเต็มใจ
***************************************************************************
“ขอบใจนะแชมป์ที่ทำให้เต็นรู้สึกดีขึ้น” เต็นเอ่ยกับคนตรงหน้าในขณะที่กำลังนั่งกันอยู่ในร้านอาหารภายในห้างๆ เดิมหลังจากที่ดูหนังกันเสร็จ
“เหมือนกันแหละ ถ้าแชมป์ไม่เจอเต็นวันนั้น แชมป์ก็อาจจะกำลังบ้าตามง้อคนที่เขาไม่รักอยู่ก็ได้” ฝ่ายนั้นตอบกลับมา
“แต่เต็นก็ไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนแฟนเก่าแชมป์นะ”
“เรื่องนั้นมันไม่ใช่ประเด็นหรอก เอาเป็นว่าตอนนี้แชมป์รู้สึกดีกับเต็นเป็นพอ”
“แล้วแชมป์จะเป็นอย่างนี้อีกนานมั้ย”
“ทำไม”
“ไม่รู้สิ เต็นก็ยอมรับนะว่าเวลาอยู่กับแชมป์เต็นก็มีความสุขดี”
“แล้วตอนอยู่กับแฟนล่ะ”
“เมื่อก่อนเคยสุข แต่ตอนนี้ทุกข์มากกว่า”
“เขายังไม่ติดต่อมาเลยเหรอ”
“หึ ยังไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันนั้น”
“วันไหน”
“วันที่เจอถุงยางน่ะแหละ”
“เหรอ อืม ช่างมันเถอะ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า หนังเมื่อกี้หนุกป่าว”
“ก็สนุกดี แล้วแชมป์ล่ะคิดว่าไง”
“ก็เรื่อยๆ มัวแต่กุมมือคนข้างๆ เลยไม่ค่อยได้สนใจเนื้อหา”
“กุมมือใครอ่ะ”
“ก็คนตรงหน้านี่แหละ”
“เหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เออ ไอ้เรามันแค่ตัวสำรองไม่ใช่ตัวจริงนี่ ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ใช่มะ”
“โห ฟังลูกทุ่งด้วย”
“อะ จะมีแฟนเป็นคนขอนแก่นต้องหัดฟังบ้างดิ”
“ไม่หัดแล้วมั้ง ชอบฟังก็บอกมาเหอะ”
“ชอบก็ได้คร้าบ ว่าแต่คืนนี้ให้แชมป์ไปค้างด้วยได้ป่ะ”
“อืม กลัวว่านพจะมาวันนี้อ่ะดิ”
“อ้าวเหรอ”
“ก็เขาหายไปนานแล้วไง เลยคิดว่าวันนี้คงมามั้ง”
“ว้า แย่จัง นี่แหละน่าการไปรักแฟนคนอื่น”
“ถามจริงเหอะ คิดจริงจังกะเต็นจริงเหรอ”
“ขนาดนี้ยังจะถามอีกเหหรอครับ โทรหาทุกเช้าเย็น ว่างก็เจอตลอด”
“ก็รู้ไง แต่ถามเพื่อความชัวร์”
“ชัวร์ว่า”
“ก็เกิดวันใดที่เต็นกับนพไปกันไม่รอดจริงๆ”
“แล้ว”
“แชมป์จะคบกับเต็นมั้ย”
“ก็คบอยู่นี่ไง”
“หมายถึงวันนั้น”
“วันไหนก็เหมือนเดิมแหละครับ รักไปแล้วนี่”
“เฮ้อ นี่เต็นกำลังมีชู้ป่ะเนี่ย”
“เฮ้ย ไม่ถึงขนาดนั้น แชมป์ยังไม่อยากปีนต้นงิ้ว”
“อ้าว ตกลงไงแน่เนี่ย”
“ก็ค่อยเป็นค่อยไปกันก่อนไง ถ้าวันใดที่เต็นต้องเลิกกับแฟนจริงๆ ค่อยว่ากันอีกที แต่ขอให้เชื่อเถอะ ว่าสิ่งที่แชมป์พูดแชมป์ทำ มันมาจากใจแชมป์จริงๆ”
“พูดงี้ โทรไปขอเลิกเลยดีมั้งเนี่ย”
“ปากดี กล้าๆ หน่อยเหอะ”
“อย่าท้านะ เพราะทุกวันนี้อยู่ไปก็เหมือนไม่ได้คบ”
“ท้าที่ไหนล่ะ พูดจริง”
“พูดจริงแล้วทำจริงด้วยป่ะล่ะ”
“จริงสิคร้าบ ผมคนจริงนะครับบอกแล้วไง”
“เออ จะรอดูว่ามันจะจริงสักแค่ไหนเชียว”
“ตามสบาย ทองแท้ไม่กลัวไฟอยู่แล้ว”
“เฮ้อ คุยกะนายนี่ก็สบายใจดีเนอะ”
“นายคือไคร”
“ก็แชมป์ไง”
“แชมป์ก็แชมป์สิ มาเรียกนายทำไม เดี๋ยวจับจูบปากกลางร้านซะนี่”
“ปากดี กล้าๆ หน่อยเหอะ”
“อ๋อนี่ย้อนเหรอ”
“แล้วจะทำไมผมครับคุณแชมป์”
“โธ่เอ้ย ทำเป็นปากเก่งเฉพาะอยู่ในที่สาธารณะละมั้ง แน่จริงในที่ลับตาคนท้าแชมป์สิ”
“คนจริง กลัวอะไรกะสายตาคนอื่น
“ปากดีนะ เลิกพูดเลย กินเข้าไปข้าว เดี๋ยวไปเดินเล่นกันต่อ”
“เดินไหน”
“ก็แถวนี้แหละ หือว่าเต็นรีบกลับ”
“เปล่า ไม่รีบหรอก”
“อืม งั้นไปบ้านแชมป์มั้ย”
“ไปทำไม”
“ไปเล่นเกมส์เป็นเพื่อนหน่อย เล่นคนเดียวเหงา”
“ท่าทางแชมป์ติดเกมส์นะ”
“ว่างๆ ก็จะเล่น”
“แล้วไม่มีใครอยู่บ้านเหรอ”
“อยู่ที่ร้านกันหมด”
“ร้านกับบ้านอยู่คนละที่เหรอ”
“อืม”
“มีพี่น้องกี่คนเนี่ย”
“สาม แชมป์เป็นคนกลาง มีพี่สาวและก็น้องชาย”
“ดีเนอะ ไม่เหงาดี”
“ทำไม เต็นขี้เหงาเหรอ”
“นิดหน่อย เวลาคิดถึงบ้าน”
“ก็กลับไปดิ”
“ไว้เรียนจบก่อน”
“อืม เดี๋ยวแชมป์ไปด้วย”
“ถึงวันนั้นเราจะยังคบกันอยู่มั้ย”
“ปากเสีย คบดิ”
“อ้าวก็แค่ถาม”
“มันขึ้นอยู่กะเต็นน่ะแหละจะคบกับแชมป์ต่อหรือเปล่า”
“ขนาดนี้ยังคิดว่าจะไม่คบอีกเหรอ”
“อ่ะแน๊ หลงเสน่ห์แชมป์แล้วอ่ะดิ๊”
“ทะลึ่ง”
“พูดอีกแล้วคำนี้”
“ก็มันติดปากนี่นา”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ตกลงไปบ้านแชมป์นะ”
“ก็ถ้าที่บ้านไม่ว่าก็ไม่มีปัญหา”
“จะว่าอะไรล่ะ โตจะเป็นควายอยู่แล้ว แม่เขาไม่ได้หวงแชมป์ขนาดนั้น”
“แล้วพ่อล่ะ”
“พ่อไม่อยู่”
“ไปไหน”
“แยกทางกับแม่ตั้งแต่แชมป์ยังเด็กแล้ว”
“เหรอ โทษทีที่ถาม”
“ช่างมันเถอะ ชีวิตคนเรามีสิทธิ์เลือกเดิน ไปกันไม่ได้สุดท้ายก็ต้องจบ ไม่ช้าก็เร็ว”
“แล้วเราล่ะ จะจบกันช้าหรือเร็ว”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันขึ้นอยู่กับเต็น”
“ถ้างั้นคงไม่มีทางจบแล้วมั้ง”
“ไม่มีปัญหา เร็วรีบกินข้าวจะได้ไปกัน”
เต็นนั่งมองคนที่ตรงหน้าที่หลังจากเอ่ยจบก็ก้มลงจัดการกับจานข้าวตัวเอง เด็กหนุ่มรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อคิดว่านาทีต่อจากนี้ไปความเหงาในใจจะถูกเติมเต็มเพราะคนๆ นี้
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

อ่านจบเรื่องนี้ แวะกระทู้ แรงแค้นใต้เงารัก / DREAM II ก็ดีนะ แหะๆ

ขอบคุณครับ

Boy

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 20-12-2010 12:27:53
ยังน่ารักกันเบาๆ

ว่าแต่อีพี่พนไม่ต้องกลับมาแล้วก้ดีนะคะเสื้อผ้าอิชั้นจะเผาไปให้ค่ะ

ปล.เรื่องนี้จะมีเครียดมากถึงมากที่สุดเศร้ามากถึงมากที่สุดไหมคะเนี้ยคุณบอย เค้าหละกลัวจริงๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-12-2010 13:17:23
ยังน่ารักกันเบาๆ

ว่าแต่อีพี่พนไม่ต้องกลับมาแล้วก้ดีนะคะเสื้อผ้าอิชั้นจะเผาไปให้ค่ะ

ปล.เรื่องนี้จะมีเครียดมากถึงมากที่สุดเศร้ามากถึงมากที่สุดไหมคะเนี้ยคุณบอย เค้าหละกลัวจริงๆ :เฮ้อ:

เหวย เล่นดักทางกันแบบนี้จะกล้าให้เศร้ามั้ยนะ แต่น่าจะทักเร็วกว่านี้สักนิดนะ เอ๊ะ! ติดตามกันต่อไปครับ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-12-2010 13:40:01
คนอกหัก กับคนที่กำลังจะอกหัก(รึเปล่า)
กำลังเติมเต็มให้กันเหรอ
หวาย...นายเอกเป็นคนขอนแก่นอีกแระ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-12-2010 15:07:05
เหอๆๆ อ่านไปแล้วลุ่นคอดๆ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 20-12-2010 15:43:13
เลิกกะนพ


เอาเต็นดีกว่า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 20-12-2010 22:23:23


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-12-2010 22:43:51
 :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-12-2010 22:54:23

รักแล้วอย่ากลัว
ลุยโลดหนุ่มน้อยขอนแก่น


ไอ่หนุ่มฝั่งธน
จริงใจทุกคนนะคร้าบบบบ


 :3123:คู่นี้..หวานกันนิดๆ ขอให้ติดใจกันไปนานๆๆๆๆๆ


 :กอด1: +1 ขอบคุณครับ คุณบอย

 o13 หนุกมั่กๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [นิยามที่ 1...Ten] ตอนที่ 7: 20.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-12-2010 15:07:24
ตอนที่ 8
ตึกแถวสามชั้นที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้ทำเต็นประหม่าที่จะเดินเข้าไปข้างในอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ผู้ที่เป็นเจ้าของได้เอ่ยชวนและเดินนำเข้าไปข้างในแล้ว
“แล้วนั่นจะยืนมองบ้านแชมป์อีกนานมั้ย เข้ามาข้างสิคร้าบคุณเต็น” เสียงเอ่ยจากเจ้าของบ้านเอ่ยมาให้ได้ยินอีก คนประหม่าจึงได้ก้าวขาเดินเข้าไปตามคำเชิญ
บริเวณชั้นล่างที่ยืนอยู่เต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่ได้มีการจัดเก็บให้เป็นระเบียบเท่าไหร่นัก ซึ่งดูเหมือนเจ้าของบ้านจะรู้ตัวเต็นจึงได้ยินคำออกตัวว่า
“บ้านรกหน่อยนะ ไม่ค่อยมีใครได้เก็บ”
“ไม่เป็นไรหรอก” เต็นบอกเพราะไม่ได้ติดใจกับภาพที่เห็น เด็กหนุ่มมองสำรวจบริเวณชั้นล่างได้สักพักก็ได้ยินเจ้าของบ้านชวนขึ้นไปข้างบน
“ไปไหน” เด็กหนุ่มถาม
“อ้าวก็ห้องแชมป์ไง ไปเล่นเกมส์กัน”
“อ้าวอยู่ในห้องเหรอ”
“ก็ต้องอยู่ในห้องดิ ทั้งบ้านมีแชมป์เล่นอยู่คนเดียว”
“แล้วน้องชายล่ะ”
“มันไม่ค่อยสนใจหรอก”
“แปลกแฮะ ปกติเด็กผู้ชายมักชอบเล่นเกมส์กันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่รู้มัน สงสัยมันเป็นตุ๊ดมั้ง”
“ไปว่าน้อง เกิดเขาเป็นขึ้นมาล่ะจะยุ่ง”
“เป็นก็เรื่องของมัน”
“รับได้เหรอ”
“รับไม่ได้คงไม่คบกับเต็นหรอก”
เต็นเงียบ ได้สตินึกคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าตรงนี้ไม่ได้เป็นอย่างตนนี่นา นี่มันเรื่องจริงหรือฝันไปที่เจ้าตัวยอมที่จะมาสนิทชิดเชื้อกับตนขนาดพามาที่บ้านอย่างนี้ทั้งๆ ที่รู้จักกันได้ไม่กี่วัน
“ถามอะไรหน่อยสิแชมป์” เด็กหนุ่มเอ่ยปากออกไปตอนนึกไม่สบายใจบางเรื่องขึ้นมา
“ว่า” อีกคนมองจ้องตาจึงเอ่ยออกไปตรงๆ
“ไม่คิดตะขิดตะขวางใจบ้างเหรอที่มาคบกับเต็น”
“คิดมากน่า ไปเหอะขึ้นข้างบนกัน”
“แชมป์ตอบไม่ตรงคำถาม”
“การกระทำของแชมป์มันก็น่าจะตอบสิ่งที่เต็นถามได้ชัดเจนแล้วนี่นา”
“แต่เต็นก็อดแปลกใจไม่ได้ว่านี่มันเป็นเรื่องจริงเหรอ ไม่รู้สินะ เต็นไม่คิดว่าผู้ชายจริงๆ จะเปิดใจคบกับคนที่เป็นแบบเต็นได้ขนาดนี้”
“พูดยังกะเต็นแสดงออกตั้งแต่ร้อยเมตรงั้นแหละว่าเป็นเกย์ เชื่อเหอะว่าไม่มีใครเขาดูออกหรอกว่าเป็นคู่ขากัน”
“ทะลึ่งอีกแล้วนะ”
“พูดอีกแล้วคำนี้ มันติดปากจริงๆ ใช่มั้ย”
“มั้ง ทำไมรำคาญเหรอ”
“เปล่า ชอบฟังต่างหากล่ะ น่ารักดี”
“ทะลึ่ง”
“แน๊ ชมหน่อยพูดใหญ่เชียว”
“เฮ้ย อย่ามาล้อดิ อายนะโว้ย”
“โอ๋ๆ ไม่ล้อแล้ว ป่ะขึ้นข้างบนกันเหอะ”
“แต่เต็นเล่นไม่เป็นนะเกมส์น่ะ”
“นั่งเชียร์แชมป์เฉยๆ ก็ได้ที่รัก”
เต็นไม่มีโอกาสโต้ตอบคนที่เรียกตนว่าที่รักอีกเมื่อฝ่ายนั้นเอื้อมมือมาฉุดมือให้เดินเคียงขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน กระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง
“เนี่ยห้องแชมป์ ห้ามล้อนะถ้ามันรกมากกว่าข้างล่าง”
“ห้องผู้ชายมันก็รกเป็นธรรมดาล่ะน่า”
“พูดยังกะไปห้องใครๆ บ่อยเลยนะ”
“ก็หลายคนอยู่”
“ยั่วๆ พูดยั่วเดี๋ยวโดน”
“กล้าทำอะไรเต็นเร้อ”
“เฮอะ กำลังยืนอยู่ถิ่นใครดูให้ชัดๆ ซะก่อนนะครับคุณเต็น ไปเข้าไปในห้อง”
ร่างเต็นถูกผลักเข้าไปในห้องก่อนทันทีที่ประตูห้องเปิดออก เด็กหนุ่มมองสำรวจภายในก่อนเป็นสิ่งแรก จะว่าไปสิ่งของทั้งหมดถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบมากกว่าข้างล่างซะอีก ตั้งแต่หนังสือเรียนที่วางเรียงรายไว้บนชั้นข้างๆ โต๊ะคอมพิวเตอร์และอ่านหนังสือริมหน้าต่าง ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดพอดีกับห้อง ส่วนกลางห้องเป็นที่นอนสีครีมที่วางอยู่บนเตียงไม้ ปลายเตียงคือส่วนของโต๊ะที่ใช้วางทีวี เครื่องเล่นหนัง เล่นเพลง และเกมส์ต่างๆ บนโต๊ะมีรูปภาพในอิริยาบถต่างๆ ของเจ้าของห้องวางอยู่ในกรอบรูปสีสันต่างๆ รวมไปถึงรูปนักฟุตบอลหลากหลายคน
“เก๊กท่ายังกะนายแบบเลยนะ” เต็นเอ่ยแซวเมื่อสายตาแลเห็นภาพหนึ่งที่ดูดีที่สุดในบรรดาภาพทั้งหมดที่วางอยู่บนโต๊ะนั่น แม้จะแซวแต่ในใจก็ยอมรับว่าคนในภาพนั้นดูดีขนาดเป็นนายแบบได้อย่างที่ว่าได้อย่างง่ายดาย
“คนมันหล่ออ่ะนะ ท่าไหนมันก็เหมือนนายแบบทั้งนั่นแหละ” เสียงคนโดนแซวตอบกลับมา คนแซวได้แค่ส่ายหน้ายิ้มๆ เพราะไม่รู้จะคัดค้านคำไหน ในเมื่อสิ่งที่เจ้าตัวพูดมันไม่ได้เกินความเป็นจริงไปเท่าไหร่นัก
“เปิดเครื่องล่ะนะ มานั่งใกล้แชมป์มาจะเล่นเกมส์แล้ว” เสียงเอ่ยชวนดังตามมาอีก เต็นหันไปหาคนชวน แปลกใจว่าเจ้าตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งแต่ตอนไหน จากชุดที่ใส่มาจากข้างนอกเมื่อครู่กลายเป็นเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นที่ไม่ต่างจากบ๊อกเซอร์เลยสักนิด
“เปลี่ยนเสื้อผ้าตอนไหน” เด็กหนุ่มถามอย่างข้องใจ
“ก็ตอนที่เต็นมองสำรวจห้องแชมป์น่ะแหละ” คนนั้นตอบกลับมาแล้วบอกต่อ
“จริงๆ เต็นก็น่าจะเปลี่ยนบ้างนะ อึดอัดตายเลยใส่กางเกงยีนส์ในบ้าน”
“ก็มันไม่ใช่บ้านเต็นนี่นาจะอึดอัดทำไม”
“บอกให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนเหอะน่าอย่าขัดใจสามีหน่อยเลย”
ใบหน้าเต็นร้อนผ่าวจนรู้สึกได้เมื่อได้ยินคนตรงหน้าพูดประโยคเมื่อครู่จบ
“โหย หน้าแดงใหญ่เลยอ่ะ อายเหรอที่แชมป์พูดเมื่อกี้” เสียงฝ่ายนั้นยังลอยมาล้อให้ยิ่งทำตัวไม่ถูก เด็กหนุ่มจึงถามหาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเพื่อเป็นการตัดบท
“เอาเสื้อผ้ามาเลยอย่าพูดมาก”
“อายอ่ะดิ๊ รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าเวลาอายแล้วเต็นโครตน่ารักเลย” เจ้าของห้องยังเอ่ยล้อไม่หยุด
“บอกให้เอาเสื้อผ้ามาไงไอ้แชมป์” คนโดนล้อหลุดปากออกไปเพราะความเขินอาย
“เฮ้ย แค่นี้เรียกกันไอ้เลยเหรอ แบบนี้ต้องลงโทษซะหน่อยแล้ว”
เต็นไม่มีโอกาสตั้งตัวเมื่อเห็นคนที่พูดพุ่งเข้ามาที่ตนอย่างรวดเร็วเมื่อสิ้นประโยค เด็กหนุ่มร้องลั่นเมื่อโดนคนนั้นใช้วงแขนกอดรัดที่เอวพร้อมกับก้มลงใช้ไรหนวดซุกไซ้ตามซอกคอดั่งต้องการยั่วล้อให้เกิดอาการจั๊กจี้มากกว่าอารมณ์อื่นใด
“ปล่อยนะโว้ย มันจั๊กจี้” เด็กหนุ่มออกแรงดิ้นต่อสู้เมื่อรู้สึกว่าเส้นขนลุกชันเพราะโดนรุกซุกไซ้โดยไรหนวด
“จั๊กจี้เหรอ ดีจะทำให้ขำจนไม่มีแรงสู้เลย” คนแกล้งเงยหน้าขึ้นพูดแล้วก้มลงปฏิบัติการเช่นเดิมต่อ เต็นจึงออกแรงดิ้นเฮือกสุดท้ายเพื่อผลักให้เจ้าตัวหลุดออกจากตัว ซึ่งมันก็เป็นผลสำเร็จ
“เล่นบ้าอะไร เดี๋ยวก็ขำจนตายหรอก” เด็กหนุ่มบอกปนหอบเหนื่อยเมื่อร่างกายเป็นอิสระ
“เมื่อกี้ขำใช่มั้ย คราวนี้ไม่ขำล่ะ มานี่”
เต็นใจหายวูบเมื่อร่างกายโดนฉุดและผลักให้ล้มลงบนที่นอนจากคนพูดประโยคเมื่อครู่ เด็กหนุ่มคิดจะดีดตัวลุกนั่งแต่ช้าไป เมื่อคนผลักโถมกายลงมาทับร่างเอาไว้
“เฮ้ยนายคิดจะทำอะไรแชมป์” เด็กหนุ่มร้องถามอย่างตกใจเมื่อร่างกายโดนกดทับไว้กับที่นอน
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-12-2010 15:14:03

รักแล้วอย่ากลัว
ลุยโลดหนุ่มน้อยขอนแก่น


ไอ่หนุ่มฝั่งธน
จริงใจทุกคนนะคร้าบบบบ


 :3123:คู่นี้..หวานกันนิดๆ ขอให้ติดใจกันไปนานๆๆๆๆๆ


 :กอด1: +1 ขอบคุณครับ คุณบอย

 o13 หนุกมั่กๆๆๆๆๆ


จริงดิ หนุ่มฝั่งธนฯ เป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอครับ...

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 21-12-2010 15:35:38


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-12-2010 16:09:05
กดเลยๆๆๆๆๆๆๆๆ :L1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 21-12-2010 17:54:39
ไรเตอร์น่ารัก  + ให้เลย  55+
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-12-2010 18:28:23
+1 เลยสำหรับตอนนี้

แต่มันค้างนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 21-12-2010 19:29:49
 :sad4:
ชอบหลาววววววววววววว


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-12-2010 21:45:49
กีซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

ค้างอย่างแรง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 21-12-2010 23:33:13
อ้างถึง
จริงดิ หนุ่มฝั่งธนฯ เป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอครับ...

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

Boy

จริงครับ หนุ่มฝั่งธนคอนเฟิร์ม ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 22-12-2010 21:52:44

แชมป์
อย่างนี้..ต้องลอง
หึหึ
 o13





พิสูจน์ด้วยตัวเอง
ซิครับ
 :z1:
คุณบอย..อิอิ



+1 ให้คุณบอยกลับมาหยอดให้อ่านอีกซักตอน สองตอน
 :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-12-2010 23:37:11
อยากอ่านอีกค่ะคุณบอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 24-12-2010 22:24:58

 :serius2:

จะอ่านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




 :sad4:

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 24-12-2010 23:02:46
โห พี่บอยมาโพสเองเรย ต้องขอโทษด้วยนะครับพี่

ที่ไม่ได้มาโพสต่อให้จบ  เอิ๊กกกก

ยังไงก็ยังตามติดต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 24-12-2010 23:05:31
ตอนที่ 9
“อย่าแชมป์ มันยังไม่ถึงเวลานะ” เต็นรีบเอ่ยปากห้ามเมื่อรับรู้แล้วว่าคนนอนกดทับกำลังจะก้มลงประกบปากกับตน
“ทำไมล่ะเต็น เต็นไม่ต้องการแชมป์เหรอ” คนถูกเอ่ยห้ามถามกลับมา เด็กหนุ่มจึงมองลึกในแววตาเจ้าตัวเอ่ยบอก
“เต็นยังไม่ได้เลิกกับนพนะ”
“อืม จริงด้วย แชมป์ขอโทษละกัน” คนพูดลุกออกจากตัวยืนถอนหายใจที่ปลายเตียง เต็นลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยถาม
“โกรธเต็นเหรอ”
“เปล่านี่ โกรธทำไมอ่ะ ก็เต็นพูดเรื่องจริง”
“ก็เห็นถอนหายใจ”
“ไม่มีอะไร เต็นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะไป แล้วมานั่งเล่นเกมส์กัน”
“เสื้อผ้าอยู่ไหน”
“เฮ้ย โทษทีมัวแต่แกล้ง ลืมหยิบให้”
เต็นมองตามร่างคนที่เดินไปหยิบเสื้อผ้าให้ตน เห็นแววตาและสีหน้าฝ่ายนั้นไม่ร่าเริงดังเดิมก็อดไม่ได้ที่จะบอก
“ให้เต็นกลับก็ได้นะแชมป์ ท่าทางแชมป์ดูไม่ดีเลย”
“คิดมากกน่า ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเล่นเกมส์แชมป์ก็หายแล้ว”
“แสดงว่าเมื่อกี้แชมป์โกรธจริงๆ”
“เฟลนิดหน่อยน่ะ ช่างมันเถอะ เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว จะได้เล่นเกมส์กัน”
เต็นหยิบเสื้อผ้าที่ถูกยื่นให้ มองจ้องหน้าเจ้าของชุดเอ่ยขึ้นอีก
“รออีกนิดแล้วกันนะ เต็นว่าอีกไม่นานหรอกที่นพจะบอกเลิกเต็น”
“แล้วทำไมต้องรอให้เขาบอกเลิกล่ะ บอกเลิกเขาก่อนไม่ได้เหรอ” คนตรงหน้าเอ่ยสวนกลับมาทำเอาเด็กหนุ่มอึ้ง
“แชมป์ไม่ได้ยุให้เลิกนะ แต่การกระทำของเขาที่เต็นเล่าให้แชมป์ฟัง แชมป์ว่าเขาคงไม่ยินดียินร้ายกับการที่เป็นฝ่ายถูกบอกเลิกก่อนหรอก” คนนั้นเอ่ยต่อ เต็นพยักหน้าเข้าใจ
“มันก็คงจะจริงอย่างที่แชมป์ว่า”
“แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ เต็นคบกับเขามาตั้งสี่ปีความผูกพันมันย่อมมีมากเกินกว่าที่จะตัดใจได้ง่ายๆ”
“แล้วถ้าเต็นตัดใจได้ เรื่องของเรามันจะเป็นยังไงต่อไปเหรอแชมป์”
“ก็เลิกคบกันไง”
“เฮ้ย ทำไมพูดงี้วะ”
“โห ร้องเสียงหลงเชียว ที่บอกเลิกคือเลิกเป็นเพื่อนแล้วเปลี่ยนมาเป็นแฟนไง”
“จริงอ่ะ”
“จริงสิครับ ว่าแต่ตอนนี้ที่รักจะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้หรือยัง แชมป์อยากเล่นเกมส์จะแย่แล้ว”
“เฮ้ย โทษทีมัวแต่พูดมาก รอแป็บนะ”
“ครับ รออยู่แล้วล่ะ นานแค่ไหนก็จะรอ”
“ปากหวานจังนะ”
“อย่างอื่นก็หวานนะ อยากชิมป่าว”
“ทะลึ่ง”
“แน่ะ มาอีกแล้วไอ้คำนี้”
“ก็ชอบมาล้อให้พูด”
“ขอโทษคร้าบ ทีหลังไม่ล้อแล้ว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป แชมป์จะเปิดเครื่อง”
เต็นยอมทำตามคำบอกอย่างว่าง่าย ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งคู่กับคนออกคำสั่ง เด็กหนุ่มรู้สึกสุขใจอย่างสุดล้นในระหว่างที่ได้นั่งแนบชิดกับอีกคน กระทั่งเวลาผ่านไปจนใกล้มืดถึงเริ่มรู้ตัวว่าควรกลับเสียที
“จะมืดแล้วอ่ะ เต็นว่าเต็นกลับก่อนดีกว่า” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก มองเจ้าของห้องที่เหลือบดูนาฬิกา
“อืมจริงด้วย เล่นซะเพลินเชียว” เจ้าตัวหันกลับมาบอก
“แชมป์เล่นต่อก็ได้นะ เดี๋ยวเต็นเดินออกไปขึ้นรถเอง” เต็นบอกเพราะไม่อยากขัดอารมณ์สนุกต่อเนื่อง
“แชมป์จะเห็นเกมส์ดีกว่าเต็นได้ไง ป่ะ เดี๋ยวขับมอไซค์ไปส่งรถไฟฟ้า” สิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยกลับมาทำให้เอาหัวใจพองโต แต่ก็อดสงสัยบางสิ่งไม่ได้จึงถาม
“รถมอเตอร์ไซค์ รถใครเหรอ”
“ก็ของที่บ้านน่ะแหละ แต่น้องแชมป์มันจะใช้ซะส่วนใหญ่ ป่านนี้มันคงกลับมาแล้วมั้ง”
“เหรอ แล้วเขาอยู่ไหน”
“ไม่อยู่ข้างล่างคงไปที่ร้านแหละ เต็นเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะ จะได้ไปกัน เดี๋ยวแชมป์ลงไปรอข้างล่าง”
“อืม”
เต็นจบการสนทนาลงแค่นั้นแล้วหันไปหยิบเสื้อชุดเดิมมาเปลี่ยน เสร็จแล้วจึงตามเจ้าของห้องลงไปข้างล่าง ในใจเด็กหนุ่มสั่นอย่างประหลาดเมื่อคิดว่าอาจจะได้เจอคนในครอบครัวของเพื่อนใหม่ แล้วก็จริงอย่างที่คิดเมื่อพอโผล่หน้าลงไปก็เห็นคนที่ตนรู้จักกำลังยืนอยู่ต่อหน้าเด็กชายคนหนึ่งและผู้หญิงสูงวัย
“เต็น นี่พี่สาวและน้องชายเรา” คนรู้จักหันมาเอ่ยแนะนำเด็กหนุ่มจึงยกมือไหว้ฝ่ายหญิง ส่วนเด็กชายเพียงแค่ส่งยิ้มให้นิดๆ
“เดี๋ยวมานะ ไปส่งเพื่อนเดี๋ยว ป่ะเต็น” คนเอ่ยแนะนำหันไปบอกพี่และน้องก่อนหันมาชวน เต็นจึงส่งยิ้มให้สองคนที่กำลังมองหน้าตนนิ่งอีกครั้งก่อนจะเดินตามหลังคนเอ่ยชวนไป
ที่ทางขึ้นไปยังสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ เต็นสะดุ้งหน่อยๆ เมื่อคนที่ขับรถมาส่งเอื้อมมือมาจับมือตนเบาๆ ตอนที่ได้บอกและเตรียมจะขึ้นไปยังสถานี
“วันหลังมาเที่ยวบ้านแชมป์อีกนะ เดี๋ยวจะพาไปหาแม่ที่ร้าน” คนจับมือเอ่ยบอก เต็นทำสีหน้าไม่ถูกเพราะทั้งรู้สึกอึ้งในสิ่งที่ได้ยินและกลัวว่าจะมีหลายสายตาจ้องมองอยู่
“อืมๆ ว่างจะแวะมา แต่ปล่อยเต็นก่อนเถอะ เต็นจะกลับแล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก นั่นแหละอีกฝ่ายจึงยอมปล่อยมือ แต่ก็ไม่วายที่จะส่งคำพูดหวานๆ ให้ได้ยิน
“ถึงบ้านแล้วโทรหาแชมป์นะที่รัก”
“อืม เต็นไปล่ะนะ” เต็นเอ่ยตัดบทแล้วรีบเดินขึ้นสถานีรถไฟฟ้าไปด้วยหัวใจที่อิ่มเอมกับความสุขที่ได้รับในวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ได้อยู่กับคนเช่นแชมป์จะทำให้หัวใจลืมเรื่องราวเศร้าๆ จากนพได้เสียสนิท แล้วความรู้สึกตอนนี้ที่เกิดขึ้นกับคนทำให้สุขใจมันคืออะไรกันนะ มันจะเรียกว่ารักได้แล้วหรือยัง ไม่สิ ยังรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ ทำไมจะเรียกว่ารักได้ง่ายดายขนาดนั้น แต่ทำไมเวลาที่อยู่กับเขาแล้วหัวใจเราถึงมีความสุขเหลือเกิน หรือว่าจริงๆ แล้ว รัก...มันไม่ต้องการเวลา

ฉันคิดว่ารักมันคือความผูกพัน
คิดว่ารักแท้ต้องเดินผ่านวันและเวลา
ยิ่งเนิ่นนานนานไปเท่าไร ความรักยิ่งมีค่า
ที่ฉันรู้ที่เคยฝัน รักที่ฉันเคยเข้าใจ

ไม่คิดไม่ฝันเมื่อเธอผ่านเข้ามา
เหมือนว่าสายตาฉันเองมองไม่เห็นใครๆ
หยุดที่เธอแค่เพียงสบตา และวินาทีนั้น
โลกทั้งโลกหยุดเคลื่อนไหว ท้องฟ้ากลับสดใส

ลมหายใจ เหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจ ลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลา แค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ

ฉันเพิ่งเข้าใจว่ารักเป็นอย่างนี้
ฉันเพิ่งเข้าใจเมื่อได้มาเจอด้วยตัวเอง
เสี้ยวนาทีก็มีความหมาย เปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ
ฉันเพิ่งรู้ในวันนี้ รักไม่ต้องการเวลา

ลมหายใจ เหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจ ลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลา แค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ ก็รักเธอ ฉันรักเธอ


[wma=300,50]http://music.gmember.com/flash/jedakrAkraM.swf?songid=0901743901&autostart=1[/wma]

เต็นถึงห้องพักก็ต้องแปลกใจปนตกใจเมื่อเห็นว่านพได้รออยู่ก่อนแล้วทีนั่น เด็กหนุ่มรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ เมื่อต้องโกหกว่าเพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเมื่อโดนถามจากคนนั้นว่าไปไหนมาทำไมกลับซะมืด ที่ต้องเลี่ยงตอบไปแบบนั้นเพราะรู้ว่าในใจเริ่มคิดเกินเลยคำว่าเพื่อนกับคนที่ตนเพิ่งจากมาเข้าแล้วนั่นเอง มันก็น่าแปลกที่ก่อนหน้าตอนยังไม่คิดอะไรเด็กหนุ่มกล้าที่จะบอกความจริงว่าคนๆ นั้นเป็นเพื่อนที่มาเที่ยวที่ห้องตอนโดนถาม แต่คราวนี้พอเริ่มคิดกับไม่กล้าบอกตรงๆ ว่าตนเองไปไหนทำอะไรมาบ้าง ทั้งๆ ที่สิ่งที่ทำมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยนี่นา
“คืนนี้นพจะค้างที่นี่นะ” คนมาหาบอก หัวใจแทนที่จะดีใจกลับเฉยชาปนกังวลขึ้นมาซะอย่างนั้นว่าจะโทรศัพท์กลับไปหาคนที่บอกให้โทรหาตอนถึงห้องได้ยังไง
“อืม ก็แล้วแต่” เด็กหนุ่มตอบออกไปด้วยความเฉยชา
“ดูเหมือนไม่อยากให้ค้างเลยนะ” อีกคนเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิ นพห่างหายจากเต็นนานเกินกว่าที่เต็นจะดีใจแล้วมั้ง” เต็นตอบออกไปจากความรู้สึกจริงๆ และก็ได้คำตอบเดิมๆ กลับมา
“ก็บอกแล้วไงว่างานมันยุ่ง”
“ยุ่งก็ยุ่งสิ เต็นก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วไง” เด็กหนุ่มตอบก่อนจะสะอึกกับคำทักกลับ
“ดูเหมือนเต็นเปลี่ยนไปเลยนะ เจอใครใหม่มาหรือเปล่า”
“เปล่า” ตอบสั้นๆ แต่กลับไม่กล้ามองตาคนถาม จึงโดนไล่ต้อน
“แน่ใจเหรอ”
“อืม”
“แล้วทำไมต้องหลบตานพด้วย”
“อย่ามาจับผิดอะไรกันเลยนพ อันที่จริงถ้าเต็นจะลองเปิดใจคบใครใหม่มันก็ไม่น่าจะแปลกนะเพราะนพก็ไม่เคยทำหน้าที่คนรักที่ดีกับเต็นมานานแล้ว”
“จะให้บอกกี่ครั้งล่ะว่างานยุ่ง”
“แล้วทำไมวันนี้ถึงมาได้ล่ะ”
“อะไรวะมาก็ว่า ไม่มาก็ว่า จะให้ทำไง”
“ก็ไม่ต้องทำอะไร ทำอะไรที่คิดว่าตัวเองสบายใจที่สุดน่ะดีแล้ว”
“ประชดหรือเปล่า”
“เปล่า ขอตัวอาบน้ำก่อนนะเต็นง่วง”
“จะนอนเลยเหรอ”
“ทำไม”
“เราไม่ได้มีอะไรกันนานเท่าไหร่แล้ว”
“ไม่รู้ จำไม่ได้”
“งั้นคืนนี้นพขอนะ”
“อย่าเลย เต็นเหนื่อย”
“ทำไมต้องปฏิเสธด้วยเต็น นี่นพอุตส่าห์มาหานะ”
“ไม่มีที่ลงหรือเปล่าถึงได้มา”
“ทำไมพูดแมวๆ อ่ะเต็น”
“ก็หรือไม่จริงล่ะ จะให้เต็นต้องพูดมั้ยว่าเต็นเจออะไรในกระเป๋ากางเกงนพ”
“เจออะไร”
“ช่างมันเถอะ เต็นไม่ติดใจถึงมันแล้วล่ะ ต่อไปนพจะทำอะไรก็ตามสะดวกเลยละกัน”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความอย่างที่พูดน่ะแหละ เราสองคนมันห่างกันเกินจะต่อกันติดใหม่ได้แล้วล่ะ”
“พูดเหมือนจะขอเลิกเลยนะ”
“ที่เป็นอยู่มันก็เหมือนเลิกแล้วไม่ใช่เหรอ นพหมดเวลาให้เต็นไปตั้งนานแล้วจำไม่ได้หรือไง”
“ก็บอกแล้วไงว่างานยุ่ง ก็เนี่ยปลีกตัวได้ก็มาหา แต่ก็นะ แทนที่จะได้คุยกันดีๆ ก็ดันมาทะเลาะกันซะงั้น”
“งั้นเราก็อย่าเพิ่งพูดกันตอนนี้เลยนะ เต็นขอตัวล่ะ” เต็นแยกตัวไปเมื่อเอ่ยจบ ไม่สนใจว่าอีกคนกำลังรู้สึกเช่นไร
เวลาผ่านไปค่อนคืน เต็นพยายามบ่ายเบี่ยงทุกครั้งเมื่อตอนที่นอนข้างกายพยายามจะสวมกอด เด็กหนุ่มผุดลุกนั่งเมื่อรู้สึกว่าโดนตื้อไม่เลิก
“ทำไมล่ะเต็น เต็นไม่ต้องการนพแล้วเหรอ” คนที่ยังนอนอยู่บนที่นอนเอ่ยถามให้ได้ยิน
“ก็บอกแล้วไงว่าเต็นง่วง” เต็นบอกเหตุผลซึ่งไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงเท่าไหร่นัก จะว่าไปตอนนี้ความรู้สึกง่วงไม่ได้เกิดขึ้นกับร่างกายอย่างที่พูดเลยสักนิด ที่เป็นอย่างนั้นเพราะยังรู้สึกค้างคาว่าตนยังไม่ได้โทรศัพท์กลับไปหาคนที่บอกให้โทรนั่นเอง
“ง่วงเหรอ ก็เห็นนอนมาตั้งนานไม่หลับสักทีนี่ เห็นแต่นอนกระสับกระส่ายอยู่ ถามจริงเป็นอะไร” เด็กหนุ่มรู้สึกตกใจในสิ่งที่ได้ยิน เริ่มรู้ตัวว่าเก็บอาการร้อนรนใจที่อยากจะโทรศัพท์กลับไปหาอีกคนไม่ได้
“เต็นคงรำคาญตัวเองมั้งที่ง่วงแต่นอนไม่หลับเลยกระสับกระส่าย” ข้ออ้างที่เอ่ยออกไปไม่ได้รู้หรอกว่าคนฟังจะเชื่อสักแค่ไหน แต่เมื่อไม่มีคำโต้ตอบกลับมาจึงแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
เต็นใช้เวลานั่งอยู่บนปลายเตียงนานหลายนาที ได้ยินเสียงหายใจคนนอนอยู่ข้างหลังดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอหันไปดูพบว่าเจ้าตัวได้หลับไปแล้วจึงลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ในมือคิดชั่งใจ สายตามองสลับโทรศัพท์กับคนที่นอนอยู่สลับกัน ก่อนตัดสินเดินไปเปิดประตูแล้วพาตัวเองหามุมเงียบๆ เพื่อโทรศัพท์หาใครบางคนในที่สุด
“ฮัลโหลแชมป์” เด็กหนุ่มส่งเสียงทักทายไปตามสายเมื่อมีเสียงกดรับสัญญาณ
“ว่าไง ทำไมโทรมาซะดึก” เสียงฝ่ายนั้นตอบกลับมาคล้ายตัดพ้อ ทำให้รู้สึกผิดอยู่ลึกๆ จึงบอกออกไปตามตรง
“อืม พอดีเขามาค้างด้วยน่ะ”
“ใครเหรอ” มีเสียงถามกลับคล้ายสงสัย
“นพ”
“อ๋อ ก็ดีแล้วนี่ แต่ทำไมเสียงเต็นดูไม่ดีเลย”
“ดีเหรอ นี่แชมป์ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ”
“ทำไมเหรอ แชมป์ต้องรู้สึกไงอ่ะ”
“ก็ เออ ช่างมันเถอะ งั้นแค่นี้นะ เต็นจะนอนแล้ว” เต็นตัดสินใจวางสายทันทีเมื่อเอ่ยจบ รู้สึกน้อยใจอยู่นิดหน่อยที่คนที่ตนอุตส่าห์แอบมาโทรหาพูดจาคล้ายไม่ยินดียินร้ายอะไรเลยกับสิ่งที่ได้บอกออกไป เด็กหนุ่มกำลังจะเดินกลับไปที่ห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มองดูจึงเห็นว่าเป็นชื่อคนที่ตนเพิ่งน้อยใจโทรกลับเข้ามา
“เฮ้ย ทำไมวางสายกันดื้อๆ ล่ะ” เสียงเจ้าตัวเอ่ยทักตอนกดรับสัญญาณ
“ก็จะนอนแล้ว” บอกออกไปอย่างไม่ตรงความจริงนัก และดูเหมือนอีกฝั่งจะจับน้ำเสียงได้จึงได้ยินคำพูดตีกลับว่า
“ไม่จริง กำลังงอนแชมป์อยู่ใช่มั้ย”
“เปล่านี่ ทำไมต้องงอนด้วย”
“ไม่งอนแล้วทำไมตัดสายทิ้งดื้อๆ”
“ก็บอกแล้วไงว่าจะนอน”
“อย่ามาโกหกซะให้ยาก งอนอะไรแชมป์บอกมา”
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
“ปากแข็ง”
“ไม่มีอะไรจริงๆ แชมป์ไปนอนต่อเหอะไป พรุ่งนี้เต็นจะโทรหาใหม่”
“ไม่อ่ะ บอกมาเมื่อกี้เป็นอะไร”
“จะให้บอกอะไรล่ะ เต็นไม่เป็นไรจริงๆ”
“ถ้าให้เดากำลังน้อยใจแชมป์อยู่ใช่มั้ย” เต็นนิ่งคิด ถึงตอนนี้จึงยอมเผยความรู้สึกจริงๆ ออกไป
“อืม”
“น้อยใจแชมป์เรื่องอะไรอ่ะ”
“ก็แชมป์พูดเหมือนไม่แคร์เต็นเลย”
“ไม่แคร์ยังไง”
“ไม่รู้สิ เต็นอุตส่าห์หลบมาโทรหาแชมป์ แต่แชมป์คล้ายๆ ไม่ยินดียินร้ายเลย”
“อะไรกัน งอนเป็นเด็กๆ ไปได้”
“ก็มันจริงนี่ แชมป์เป็นึนให้เต็นโทรหาเองนะ แต่แชมป์ก็พูดคล้ายๆ ไม่ได้รอสายเต็นอยู่เลย”
“ก็รออยู่ เนี่ยเล่นเกมส์รออยู่”
“อ้าว ยังไม่ได้นอนเหรอ”
“จะนอนได้ไงในเมื่อเต็นยังไม่โทรมาส่งเข้านอนเลย”
“ก็ว่าจะโทรตั้งแต่มาถึงห้องแล้วล่ะ แต่เขาอยู่พอดี”
“ไม่เป็นไรหรอก แชมป์เข้าใจ ว่าแต่นี่โทรอยู่ไหน”
“หลังตึกน่ะ”
“ระวังยุงกัดเอานะ”
“ห่วงเหรอ”
“ห่วงสิครับ แต่หายมานานระวังเขาสงสัยเอานะ”
“ไม่หรอกเขาหลับไปแล้ว”
“แอบร้ายนะเนี่ยแฟนหลับแอบมาโทรหากิ๊ก”
“เฮ้ย นี่ว่ากันเหรอ”
“โหยแค่ล้อเล่นเองทำเป็นเสียงเขียวไปได้”
“ก็คนยิ่งรู้สึกไม่ดีอยู่”
“ทำไมอ่ะ”
“คือนพเขาคล้ายๆ จะกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว”
“แล้วไม่ดีเหรอ”
“มันจะดีถ้าเต็นยังไม่เจอกับแชมป์”
“หมายความว่าไง”
“ไม่รู้สิ เต็นว่าเต็นเริ่มมีความสุขเวลาอยู่ใกล้แชมป์แล้วอ่ะ”
“นั่นแน่ หลงรักแชมป์แล้วล่ะสิ”
“อย่ามาล้อนะ คนยิ่งเครียดๆ อยู่”
“เครียดไร”
“ตอบให้เต็นสบายใจหน่อยสิว่าเต็นไม่ได้เป็นคนเลว”
“เลวยังไงอ่ะ”
“ก็ที่แอบมาโทรศัพท์หาคนอื่นตอนที่แฟนหลับ”
“คิดมากน่า ก็เขาทำตัวเขาเองนี่นา ถ้าเขายังเป็นแฟนที่ดีกับเต็นแล้วเต็นคิดนอกใจก็ว่าไปอย่าง”
“แต่ยังไงเต็นก็อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่าที่ทำอยู่มันดีแล้วเหรอ”
“งั้นก็เลิกกับเขาสิ จะได้สบายใจ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็เพื่อความสบายใจไง แต่เต็นต้องถามใจตัวเองก่อนนะว่ายังรักเขาอยู่หรือเปล่า”
“ก็ไม่เท่าเดิม”
“ส่วนที่มันหายไปมันมาอยู่ที่แชมป์ใช่มั้ย”
“ไม่รู้”
“โห อุตส่าห์โยนให้ไม่ส่งกลับมาให้ชื่นใจบ้างเลย”
“ก็น่าจะรู้ตัวดีนี่นา”
“ก็อยากได้ยินจากปาก”
“ถึงเวลาแล้วจะบอก”
“จะรอคร้าบ ว่าแต่กลับไปที่ห้องก่อนเถอะ เผื่อเขาตื่นขึ้นมาไม่เจอเต็นแล้วจะยุ่ง”
“อืม แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน จะให้เต็นโทรหา หรือจะโทรมา”
“เต็นโทรมาดีกว่า เพราะแชมป์กลัวว่าจะโทรเข้าไปตอนที่เขายังอยู่”
“ก็ได้ ฝันดีนะไปล่ะ”
“ฝันดีเหมือนกันครับ”
การสนทนาจบลงไปแค่นั้น เต็นเดินย้อนกลับไปยังห้องพักด้วยจิตใจอิ่มเอม แต่พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อในนั้นดวงไฟได้ถูกเปิดไว้สว่างโร่ รวมไปถึงคนในห้องได้นั่งหน้าตึงอยู่บนเตียง

โปรดติดตามตอนต่อไป
   
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-12-2010 23:12:15
เฮ่อออออออออออออออออออออออกลับมาทำไมเนี้ย

ชั้นลืมเทอไปหมดแล้ว


เซ็งผู้ชายแบบนี้จัง

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 8: 21.12.53 >แอบหยอดสั้นๆ ครับ<
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 24-12-2010 23:13:38
โห พี่บอยมาโพสเองเรย ต้องขอโทษด้วยนะครับพี่

ที่ไม่ได้มาโพสต่อให้จบ  เอิ๊กกกก



ยังไงก็ยังตามติดต่อไปครับ


ปีหน้ายังมีโปรเจคนิยายรออยู่ อาร์ทสนใจจะนำมาโพสต่อมั้ยล่ะครับ พี่จัดให้ได้นะ หุหุ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 24-12-2010 23:35:44
งานงอกแล้วลูกเอยย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-12-2010 23:38:20
"กลับมาทำไม ฉัน(กำลังจะ)ลืมเธอไปหมดแล้ว
ความหวังที่เคยเพริดแพรว
ฉันลืมหมดแล้วไม่อยู่ในใจ
มันเป็นอดีต ไม่คิดจะฟื้นคืนใหม่
ดีแล้วต่างคนต่างไป
กลับมาทำไม ทำไมต้องมา...."
เต็นคงคิดแบบนี้มั้ง ตอนนี้อะ
เชียร์นายเอก เด็กขอนแก่น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-12-2010 00:33:03
รักสามเศร้าเริ่มขึ้นแล้ว รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 25-12-2010 00:53:16

• แต่พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อในนั้นดวงไฟได้ถูกเปิดไว้สว่างโร่
รวมไปถึงคนในห้องได้นั่งหน้าตึงอยู่บนเตียง
ต๊าย ลุกขึ้นมาโบก night cream กลางดึก อิอิ
๓๘ + ๑ = ๓๙
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 25-12-2010 02:00:17
งานงอกละสิ

เต็นเลิกกับนพไปเลย นอกใจแน่ๆๆ :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 25-12-2010 02:14:07
นึกว่าไม่มาต่อแล้ว
ถ้ามาต่ออีก จะตามอ่านจริงๆนะ ชอบมากกกกกกกก


นพ ก็ไม่ตายห่าซะที!!!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 25-12-2010 11:11:39
นพ
เลิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปซะทีเดะ

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 25-12-2010 16:32:24
เลิกไปเลย กับคนแบบนี้

นอกใจชัวร์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: kong_cup ที่ 26-12-2010 02:02:59
ทำไมเรารู้สึกระแวงแชมป์ ยังไงไม่รู้เหมือนอะไรมันง่ายเกินไป กลัวว่าเมื่อเต็นตัดสินใจเลิกกับนพแล้ว แชมป์ก็จะห่างเหินเหมือนไม่รู้จักอะไรประมาณนี้

หรือว่าเราคิดมากไปเองล่ะนี่555+
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-01-2011 00:21:14
เข้ามาบอกว่าวันนี้ประมาณเที่ยงๆ จะมาอัพตอนใหม่นะครับ พอดีเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด รออ่านกันนะครับ
ขอบคุณครับ
Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 04-01-2011 03:07:48

ว้าย ค่ะ  :z7:
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 9 : 24.12.53
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-01-2011 11:14:56
ตอนที่ 10
“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม
“ไปไหนมา” คนนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ จึงหาเรื่องโกหก
“ไปสูดอากาศข้างนอกมา”
“อากาศในนี้มันเป็นพิษนักเหรอ” คำพูดประชดลอยมาให้ได้ยิน พร้อมเห็นร่างคนพูดลุกเดินมาประชิดตัว
“ก็แค่อึดอัดนิดหน่อย” เด็กหนุ่มตอบ
“อึดอัดเพราะนพมาค้างด้วยหรือเปล่า”
“มั้ง”
“กล้าพูดแบบนี้กับนพเหรอเต็น”
“นพบังคับให้เต็นกล้าเอง”
“นพหรือใครกันแน่”
“ใครกันแน่ของนพคือใครล่ะ”
“ไอ้คนที่มันมาหาเต็นวันนั้นใช่หรือเปล่า”
“วันไหน”
“เต็นก็รู้ว่าวันไหน อย่ามาทำเฉไฉหน่อยเลย”
“เต็นไม่ได้เฉไฉ เพียงแต่จำไม่ได้จริงๆ”
“อย่ามาโกหกนพให้ยากเต็น มันไม่เนียนหรอก”
“ก็แล้วยังไงล่ะ นพจะมาคาดคั้นหรือหึงหวงอะไรเต็นตอนนี้”
“ยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าไอ้นั่นมันคือกิ๊กใหม่ที่ทำให้เต็นเป็นแบบนี้”
“ก่อนจะโทษคนอื่นช่วยมองให้กว้างก่อนนะนพว่าคนที่เปลี่ยนไปคือใครกันแน่”
“ยอมรับก็ได้ว่านพเปลี่ยนไป แต่เพราะเรื่องานนพถึงต้องเป็นแบบนั้น”
“จะให้เต็นเชื่อเหรอ”
“นั่นก็สุดแล้วแต่เต็น”
“ถ้างั้นเราก็เลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ ขอตัวนะเต็นง่วงนอน”
เต็นเบี่ยงตัวหลบเอาโทรศัพท์ไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงแล้วทิ้งตัวลงบนที่นอน เด็กหนุ่มเลือกที่จะหลับตาทันทีเมื่อเห็นอีกคนหันมามอง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งลืมตาเมื่อเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้าที่โทรศัพท์ดังขึ้น ลางสังหรณ์ใจบางอย่างฉุดให้ต้องดีดตัวลุกขึ้นคิดจะคว้าโทรศัพท์มาดู แต่แล้วก็คว้าได้แค่เพียงอากาศเมื่อมีมือหนึ่งฉวยหยิบเอาไปก่อน
“จะทำอะไรน่ะนพ นั่นมันโทรศัพท์เต็นนะ” เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนเอ่ยถามคนที่ฉวยหยิบโทรศัพท์ตน
“ทำไมเหรอ กลัวว่านพจะรู้จะเห็นอะไรหรือไง” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาพร้อมกับก้มลงจัดการกดที่เครื่องโทรศัพท์
เต็นใจเต้นผิดจังหวะเมื่อตอนเห็นคนเพิ่งจัดการกดปุ่มที่เครื่องโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมามองตน เด็กหนุ่มคิดว่าเจ้าตัวคงกดอ่านข้อความที่ใครก็ไม่รู้ส่งมาแล้วแน่ๆ
“ฝันดีนะครับที่รัก อย่าคิดมาก มีอะไรอะไรโทรมา…แชมป์” ประโยคนั่นลอยมากระทบหูในตอนที่ได้มองสบตา เต็นตกใจตัวชาเมื่อได้ยินชื่อคุ้นหูพ่วงท้ายตามประโยคมา
“เต็นขอโทรศัพท์คืนเถอะนพ” เด็กหนุ่มทำใจดีเอ่ยขอของของตนคืน
“ใครคือแชมป์” คำถามที่ได้ยินทำเอายืนแทบไม่ติด กระอึกกระอักอยู่ชั่วครู่จึงตอบ
“เพื่อน”
“คนนั้นใช่มั้ย”
“คนนั้นคนไหนล่ะ”
“มีหลายคนหรือไง”
“นพ !”
“ทำไม พูดแทงใจดำหรือไงถึงมาขึ้นเสียง”
“แทงใจดำอะไร บอกเพื่อนก็เพื่อนสิ เต็นขอโทรศัพท์คืนเถอะ”
“คืนแน่ ไม่ต้องทวงหรอก เอาไป”
เต็นสะดุ้งหน่อยๆ เมื่อเห็นคนตรงหน้าโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการรื้อตู้เสื้อผ้า หยิบชุดง่ายๆ ขึ้นมาสวม เก็บของใช้ส่วนตัวก้าวฉับๆ ไปเปิดประตูแล้วก็พาร่างหายไปพร้อมเสียงปิดประตูดังปัง
“นพ” เด็กหนุ่มได้สติเอ่ยเรียกชื่อคนที่เพิ่งหายออกไปจากห้อง สองขาว่าจะก้าวตามไปแต่เกิดไร้แรงขยับขึ้นมาเสียดื้อๆ จึงทรุดนั่งลงบนเตียงนอนแทน พร้อมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ
เต็นใช้เวลาอ่านทวนข้อความนั้นหลายรอบพลางเกิดสับสนในความคิดตัวเอง อาการเมื่อครู่ของคนที่จากไปดูยังไงก็รู้ว่าเจ้าตัวคงรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เจอวันนี้ ใจหนึ่งก็อยากตามไปไปปรับความเข้าใจ แต่อีกใจหนึ่งก็กลับคิดแคร์เจ้าของข้อความซะมากมาย สุดท้ายพอคิดหาคำตอบให้กับหัวใจไม่ได้จึงปล่อยให้น้ำตาไหลอาบสองแก้ม
 
เช้าวันใหม่ที่บรรยากาศไม่สดชื่นเอาซะเลยสำหรับคนที่นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวแต่คิดว่าจะเอายังไงกับเส้นทางที่จะต้องเลือกเดินต่อไป ความคิดสับสนภายในใจถูกระบายออกมาเป็นหยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า กับคนรักอย่างนพหัวใจก็ผูกพันเหลือเกิน เมื่อนึกถึงวันเวลาดีๆ ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่พอนึกถึงช่วงเวลาหลังๆ ที่เจ้าตัวแปรเปลี่ยนไป หัวใจก็กลับถวิลหาอีกคนที่เข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตไม่ต้องจมอยู่กับความทุกข์  แวบหนึ่งนึกอยากจะให้ความคิดสุดท้ายจบลงที่คนรักที่คบกันมา 4 ปี แม้จะต้องแลกกับการยอมรับสภาพว่าความรักมันได้จืดลงแล้วตามวันเวลา แต่อีกแวบหนึ่งก็อยากลองเริ่มต้นใหม่กับคนที่ทำให้หัวใจยิ้มได้ยามอยู่ใกล้ๆ แต่ก็กลัวว่าจะเสี่ยงไปกับการเอาชีวิตทั้งชีวิต หัวใจทั้งหัวใจไปฝากไว้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน

ไอร้อนจากแดดตอนเที่ยงระอุเข้ามาถึงตัวแม้จะนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ภายในมหาวิทยาลัย เต็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองพินิจ เหตุการณ์ที่ทำให้ภายในใจเกิดสับสนทำให้ต้องทำตัวเหลวใหลไม่เข้าเรียนคาบเช้าในทุกรายวิชา เด็กหนุ่มนั่งหลบมุมอยู่เพียงลำพังภายใต้ต้นไม้ใหญ่นี้ตั้งแต่พาตัวเองก้าวเข้ามาในรั้วสถานศึกษาแล้ว ในสมองยังคิดไม่ตกว่าจะติดต่อกลับไปหาใครดีระหว่างคนรักที่ความสัมพันธ์เริ่มจืดจางกับคนเพิ่งรู้จักที่ความผูกพันเริ่มก่อตัว

โทรศัพท์ในมือเกิดอาการสั่นพร้อมเสียงเรียกเข้าดังขึ้นให้ได้ยิน เป็นเหตุให้ความคิดทั้งหมดสะดุดลงในวินาทีนั้น ชื่อของคนที่โทรเข้ามาคือคนที่เพิ่งรู้จักกันนั่นเอง สายตาจ้องมองชื่อนั้นครู่หนึ่งก่อนจะกดปุ่มรับสาย แล้วกรอกเสียงทักทายตอนถือโทรศัพท์มาแนบหู
“ฮัลโหล”
“ฮัลโหล อยู่ไหนน่ะ คุยได้มั้ย” เสียงคนโทรเข้ามาทักกลับ
“อยู่มหา’ ลัยน่ะ” เด็กหนุ่มตอบออกไปสั้นด้วยน้ำเสียงซึมๆ
“เสียงไม่ค่อยดีเลย มีไรหรือเปล่า” อีกฝ่ายคงจะจับน้ำเสียงได้จึงย้อนถาม คนโดนถามจึงเอ่ยปากบอก
“มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย”
“ไม่หน่อยแล้วมั้งเสียงเป็นแบบนี้ มีอะไรบอกแชมป์ได้มั้ย”
“เต็นก็อยากบอกนะ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง”
“ทำไมล่ะ แชมป์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ”
“ก็รู้ เพียงแต่เต็นไม่รู้จะเริ่มยังไงจริงๆ”
“ถ้าไม่สะดวกจะเล่าก็ไม่เป็นไรแล้วนี่ทำอะไรอยู่ กินข้าวเที่ยงไปยัง”
“ยัง”
“อ้าวทำไมยังอ่ะ ไปหาอะไรกินซะนะ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”
“เป็นห่วงเหรอ”
“ก็น่าจะรู้อยู่”
“อืมไว้เดี๋ยวจะไปกิน ว่าแต่โทรมามีไร ไหนบอกจะรอให้เต็นโทรไปหาเองไง”
“รอมาครึ่งวันแล้วไม่เห็นโทรมานี่ เลยโทรเองซะเลย คิดถึง”
“ทำปากหวาน ไม่กลัวว่าเต็นจะอยู่กับนพเหรอ”
“คิดว่าตอนนี้เขาน่าจะไปทำงานมั้ง ใช่ป่ะล่ะ”
“ใช่มั้ง”
“อ้าวทำไมตอบอย่างนั้นล่ะ เมื่อเช้าไม่ได้ออกจากห้องพร้อมกันเหรอ”
“เปล่า ก็เรื่องนี้แหละที่เต็นกำลังไม่สบายใจตอนนี้”
“อ่ะแน่ะ ไหนบอกไม่รู้เริ่มต้นเล่ายังไงไง”
“อย่าเพิ่งมาล้อกันได้มั้ย เครียดอยู่นะ”
“ขอโทษคร้าบ อ่ะ ไหนๆ ก็เริ่มต้นเล่าแล้ว เล่าต่อมาเถอะว่าเครียดอะไรอยู่เผื่อแชมป์พอจะช่วยได้”
“แชมป์”
“ครับ”
“ถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่ามา”
“แชมป์จริงจังกับความสัมพันธ์ของเราขนาดไหน”
“ทำไมเหรอ”
“เมื่อคืนนพเขาได้อ่านข้อความที่แชมป์ส่งให้เต็น”
“เชี่ยแล้วมั้ยล่ะ”
“อืม”
“แล้วเขาเป็นไงบ้าง”
“ก็ค่อนข้างไม่พอใจ”
“เหรอ งั้นแสดงว่าเขายังแคร์เต็นอยู่น่ะสิ”
“เหมือนจะนะ”
“แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น เต็นจะเอายังไงต่อไป”
“ก็นี่ไงที่เต็นหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกเต็น แชมป์มาทีหลังแชมป์เข้าใจ”
“ยิ่งแชมป์พูดแบบนี้เต็นยิ่งไม่สบายใจ”
“ทำไมล่ะ”
“แชมป์ทำให้เต็นรู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้”
“แล้วไง”
“เต็นยังไม่อยากเลิกคบกับแชมป์ตอนนี้”
“แชมป์ไม่เข้าใจ”
“ก็ถ้านพเขายังแคร์เต็นจริงๆ แล้วเราสองคนกลับมาคบกันอย่างเดิม เต็นก็คงต้องห่างจากแชมป์”
“ทำไมล่ะ เราสองคนไม่สามารถคบกันเป็นเพื่อนต่อไปได้เหรอ”
“แชมป์ทำให้เต็นคิดกับแชมป์มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้วน่ะสิ”
“ตะเต็นว่าไงนะ”
“เต็นคิดว่าเต็นระรักแชมป์แล้ว”
“..............”
“แชมป์อย่าเงียบสิ เต็นใจไม่ดีนะ”
“เปล่าแชมป์กำลังคิดอยู่”
“คิดว่า”
“เราสองคนใจตรงกัน”
“เต็นถือว่านี่คือคำตอบจากแชมป์นะ”
“อืม”
“มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนบอกแชมป์ไม่ใช่เกย์ไง”
“ข้อนั่นมันก็ตอบลำบาก เอาเป็นว่าแชมป์รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เต็นละกัน”
“แล้วเราสองคนจะคบกันได้ยังไง”
“ข้อจำกัดข้อไหนล่ะที่เต็นกลัว ครอบครัว สังคม เพศ หรือแฟนของเต็น”
“จริงๆ มันก็ทุกข้อ แต่ตอนนี้เต็นหนักใจข้อหลัง”
“เคลียร์กับเขาให้เข้าใจละกัน ถ้าเขาจะกลับมารักเต็นอย่างเดิมแชมป์ก็พร้อมจะถอย”
“แล้วถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ”
“เราสองคนก็คบกันอย่างเปิดเผยไง”
“สรุปคือทุกอย่างขึ้นอยู่กับนพงั้นเหรอ”
“เต็นหมายถึงอะไร”
“ที่ผ่านมาเต็นให้นพเป็นฝ่ายตัดสินใจมาตลอด มาครั้งนี้เต็นอยากเป็นฝ่ายตัดสินเองบ้าง”
“เต็นจะบอกเลิกเขาเหรอ”
“แชมป์คิดว่าไง เต็นจะดูเลวไปมั้ย”
“อย่าถามความเห็นคนอื่นเลยเต็น ถามใจตัวเองดีกว่า”
“ก็เต็นอยากรู้ใจแชมป์”
“ทำไมเหรอ จะหาเพื่อนร่วมเลวหรือไง”
“ทำไมพูดงี้ล่ะ”
“แชมป์ล้อเล่น เอาเหอะน่า เต็นจะตัดสินใจแบบไหนแชมป์รับได้ทั้งนั้นแหละ ทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองสบายใจและมีความสุขที่สุดแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะพอดีมีสายซ้อน”
“อืมๆ “
“แล้วจะโทรหาใหม่นะ ไปหาข้าวกินด้วย แค่นี้ก่อนนะ”
เสียงสัญญาณขาดหายไปในตอนที่ยังไม่ได้เอ่ยลา เต็นลดโทรศัพท์ลงจากหูจ้องมอง สักพักจึงตัดสินใจกดเบอร์โทรหาใครบางคน
“ฮัลโหลนพ เย็นนี้ว่างมั้ยเต็นมีเรื่องอยากคุยด้วย” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกไปยังปลายสาย ก่อนจะหยุดฟังฝ่ายนั้นเอ่ย
“ว่าง มีเรื่องอะไรเหรอ”
“เรื่องของเรา”
“เลิกเรียนกี่โมงล่ะ เดี๋ยวนพแวะไปรับที่มหา’ ลัย”
“ไม่ต้องลำบากหรอก นพสะดวกเจอเต็นได้ที่ไหนก็นัดมาแล้วกันเดี๋ยวเต็นไปเอง”
“งั้นสัก 5 โมงมารอที่หน้าออฟฟิศแล้วกัน แล้วจะไปไหนค่อยว่ากันอีกที แค่นี้นะ จะบ่ายแล้วนพขึ้นตึกก่อน เออแล้วนี่กินข้าวหรือยัง”
“ยังอ่ะ”
“ยังก็ไปหาอะไรกินซะ เดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาหรอก”
“ก็ว่าเดี๋ยวจะไป”
“อืม กินอะไรง่ายๆ ไปก่อนก็ได้เดี๋ยวตอนเย็นค่อยไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน แค่นี้นะ เจอกันตอนเย็น”
“ครับ”
เสียงสัญญาณขาดหายไปตอนเอ่ยจบ จู่ๆ อาการรื้นก็เกิดขึ้นในอกเมื่อถ้อยคำที่เคยห่างจากปากคนรักช่วงหนึ่งได้หวนกลับมาให้ได้ยิน
“นพ ทำไมนพไม่เฉยชากับเต็นดังเดิม นพกลับมาพูดดีกับเต็นอีกทำไม” เด็กหนุ่มเอ่ยรำพันกับตัวเอง เมื่อการกระทำของคนที่เพิ่งวางสายไปทำให้หัวใจเกิดสับสนขึ้นมาอีกครั้ง

อาหารจานโปรดถูกนำมาวางเต็มโต๊ะจากพนักงานบริการ เต็นไล่มองแต่ละอย่างเสร็จจึงเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“มองอะไรกินข้าวสิ เนี่ยของชอบเต็นทั้งนั้น” คนนั้นบอกตอนได้สบตากัน พ่วงท้ายด้วยรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นมานาน
“นพเอาใจเต็นเพื่ออะไรเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังได้รับการเอาใจ
“ชดเชยเวลาที่นพเคยละเลยกับเต็นไง” คำตอบที่ได้ยินทำเอาอึ้ง ก่อนตัดสินใจถามขึ้น
“ทำไมต้องเป็นตอนนี้”
“ก็งานนพเริ่มซาๆ แล้ว”
“นพห่างหายจากเต็นไปเพราะเรื่องงานจริงๆ เหรอ”
“ก็จริงสิ ทำไมเหรอ”
“เต็นเคยคิดว่านพเปลี่ยนไปเพราะเรื่องอื่น”
“คิดว่านพแอบไปมีใครใหม่ใช่มั้ย”
“เหตุการณ์มันพาไป”
“ช่วงนั้นนพงานเยอะจริงๆ นพขอโทษ” เต็นก้มหน้านิ่งเมื่อได้ยินคำขอโทษจากปากคนรัก เด็กหนุ่มรู้สึกรื้นในใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมสถานการณ์มันต้องเป็นเช่นนี้ นาทีนี้เด็กหนุ่มต้องการให้คนอีกฝั่งด้านชาและใจร้ายกับตนให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้กล้าๆ เอ่ยในสิ่งที่เตรียมมา
“เต็นเป็นอะไรไปน่ะ” น้ำเสียงอ่อนโยนดังมาให้ได้ยิน อาการรื้นในใจเมื่อครู่ถูกขับออกมาให้นัยน์ตาร้อนผ่าว จำใจเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกคล้ายมีหยดน้ำกำลังซึมอยู่ด้วย
“เต็นร้องไห้ทำไมอ่ะ” คนที่ถามมีสีหน้าตกใจ เด็กหนุ่มรีบหยิบทิชชู่บนโต๊ะขึ้นมาซับนัยน์ตา บอกออกไปด้วยน้ำเสียงเครือๆ
“ไม่มีอะไร เรากินข้าวกันเถอะนะ” บอกเสร็จก็รีบจัดการตักอาหารคำแรกเข้าปาก แต่การกระทำของคนตรงข้ามที่ตักอาหารจานอื่นให้เพิ่มก็สะกิดใจให้เกิดอาการรื้นขึ้นมาอีก จึงมองหน้าเจ้าตัวเอ่ยถาม
“เรื่องเมื่อคืนไม่โกรธเต็นแล้วเหรอ”
“เต็นบอกเขาเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ” ในใจอึ้งได้อีกกับคำพูดนี้ แต่พยามแข็งใจเอ่ย
“แล้วถ้าเขาไม่ใช่เพื่อนล่ะ”
“แล้วเขาเป็นอะไร” ในใจเกิดสะท้านจนกายเย็นเยียบเมื่อคนถามจ้องมองหน้าคล้ายรอคำตอบ
“นพเข้าใจว่าเขาเป็นอะไรล่ะ”
“เต็นจะบอกอะไรนพ”
“คนนั้นเขาไม่ใช่แค่เพื่อนเต็นหรอก” บอกออกไปก็ได้แค่ลุ้นว่าอีกฝ่ายจะว่ายังไงกลับมา แต่เปล่า ไม่มีคำพูดๆ ตอบกลับมา มีแค่เสียงสายตาของเจ้าตัวเท่านั้นที่จ้องหน้านิ่ง
“อย่ามองเต็นแบบนั้นสินพ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตอนที่นพหายไป” เด็กหนุ่มรีบเอ่ยอธิบาย ใจหายเมื่อเห็นคนที่ตรงหน้าหยิบเงินในกระเป๋าวางลงบนโต๊ะอาหารแล้วลุกเดินลิ่วๆ ออกจากร้านไป
“นพรอเต็นด้วย” เด็กหนุ่มลุกเดินตาม ไปทันในตอนที่ฝ่ายนั้นออกจากร้านอาหารไปไม่ไกลนัก จึงรีบคว้ามือเจ้าตัวเอาไว้แล้วเอ่ยบอก
“ฟังเต็นก่อนนพ”
“จะให้ฟังอะไร ทุกอย่างมันชัดแล้วว่าเต็นเป็นอย่างที่นพคิดจริงๆ” ฝ่ายนั้นหยุดหันมาบอก จึงรีบเอ่ยถาม
“นพคิดอะไร”
“คิดว่าเต็นนอกใจไง”
“เต็นบอกแล้วไงว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นตอนนพหายไป”
“แล้วไง นพก็บอกแล้วไงว่านพหายไปเพราะเรื่องงาน”
“พอได้แล้ว เลิกเอาเรื่องงานมาอ้างซะทีเถอะ” เต็นเผลอขึ้นเสียงเมื่อรู้สึกไม่ชอบใจนักกับคำกล่าวอ้างของคนรัก ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ทุกการพบเห็นที่ได้เจอมาตอนที่เจ้าตัวทำตัวห่างเหินมันก็แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าตัวต้องการจะตีห่างออกจากตนชัดๆ
“ไอ้นั่นมันสอนให้นพมาขึ้นเสียงกับนพเหรอเต็น” คนตรงหน้าบอกเสียงเย็น แสดงออกถึงอาการข่มอารมณ์บางอย่าง
“ถ้าจะมีคนสอนก็คงจะเป็นนพน่ะแหละที่บีบบังคับให้เต็นแบบนี้ ทำไมนพจะต้องเอาเรื่องงานขึ้นมาอ้างด้วย ทั้งๆ ที่นพก็น่าจะรู้ตัวเองดีว่านพห่างเหินจากเต็นไปเพราะสาเหตุใด เต็นติดต่อไปหลายครั้งน้อยมากที่นพจะรับสาย หรือพอฝากเบอร์ไว้นพก็ไม่ติดต่อกลับ ถ้าคนมันยังมีใจให้กันจะทำกันได้ขนาดนี้เหรอ”
“นพก็เคยบอกเต็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าเต็นเข้าไปในสังคมการทำงานเมื่อไหร่ เต็นจะเข้าใจว่าทำไมนพต้องเป็นแบบนั้น”
“ข้ออ้างอีกน่ะสิ คนมันจะเปลี่ยนก็อย่าเหตุผลใดๆ ยกมาเอ่ยให้ตัวเองดูดีหน่อยเลย”
“สรุปคือเต็นไม่เชื่อนพ”
“จะให้เชื่อได้ยังไงในเมื่อเต็นเคยเจอถุงยางอนามัยในกางเกงนพ” พูดถึงตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมา ยิ่งเห็นคนตรงหน้าเงียบอึ้งเถียงไม่ออกก็ยิ่งรู้สึกเจ็บเป็นเท่าทวี ไม่ได้เจ็บเพราะเรื่องที่เจ้าตัวจะไปเริงรักกับใคร แต่เจ็บที่เจ้าตัวไม่ยอมรับความจริงถึงสาเหตุที่เปลี่ยนไป คล้ายๆ ว่าจะโยนความผิดฐานนอกใจให้กับตนในเหตุการณ์ที่เกิดตอนนี้
“ถ้านพจะอธิบายเต็นจะฟังมั้ย” คนตรงหน้ายอมเอ่ยปากบอก แต่ในใจมันเริ่มไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วจึงตัดสินใจบอกออกไป
“ไม่ต้องหรอก เต็นไม่อยากรู้สึกไม่ดีกับคำโกหกนพอีกต่อไป เพราะต่อแต่นี้เราคงต่างคนเดินแล้ว ให้เราสองคนจากกันด้วยความรู้สึกดีๆ เถอะนะ”
“เต็นจะเลิกกับนพจริงๆ เหรอ”
 “ถึงขั้นนี้แล้วเต็นคิดว่าเราสองคนคงต่อกันไม่ติดแล้วล่ะ ขอบคุณนะสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้เต็นตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา แม้มันจะมาสะดุดเอาตอนท้ายก็ตาม” คนตรงหน้านิ่งเงียบอีกเช่นเดิม พลางก้มหน้านิ่งไม่ยอมสบตา เต็นถอนหายใจเฮือกใหญ่ยกมือขึ้นมาจัดการถอดแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้ายเดินไปยื่นให้กับคนยืนก้มหน้า
“เต็นขอคืนอิสระให้กับนพ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก ใจหายวาบตอนคนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมอง ภาพที่เห็นเต็มสายตาคือนัยน์ตาคนนั้นแดงก่ำและเอ่อซึมด้วยหยดน้ำใสๆ
“นพ” เต็นเอ่ยครางออกมาอย่างรู้สึกไม่ดี ใจสะท้านตอนเห็นน้ำตาหยดแรกของคนตรงหน้าไหลลงอาบแก้มในจังหวะที่เจ้าตัวหยิบแหวนจากมือของตน
“โอเค ต่อแต่นี้ขอให้เต็นโชคดีละกัน” เจ้าตัวบอกด้วยเสียงสั่นเครือพลางฝืนยิ้มให้ ก่อนหันหลังเดินจากไป
เต็นยืนนิ่งไม่มีแรงขยับกับสิ่งที่เจอ เกิดสับสนขึ้นมาว่าสิ่งที่ตนเอ่ยออกไปมันจะทำร้ายจิตใจคนรักที่กำลังจะหมดใจจากตนได้ถึงขนาดทำเจ้าตัวร้องไห้ได้เลยเหรอ สองขากำลังจะก้าวตามคนนั้นไป จะตามไปพูดอะไรในใจก็ยังนึกไม่ออก รู้แค่เพียงว่าเหตุการณ์มันจะจบลงแบบนี้ไม่ได้
ขายังไม่ทันออกก้าว เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เด็กหนุ่มหยิบขึ้นมาดู กดรับสัญญาณเมื่อเห็นว่าเป็นใครติดต่อมา
“ที่รักอยู่ไหนแล้ว” น้ำเสียงร่าเริงทักทายมา จิตใจที่ห่อเหี่ยวเมื่อครู่จึงเริ่มชื้นขึ้นมาบ้าง จึงตอบกลับไป
“มากินข้าวที่ห้างน่ะ”
“ห้างไหน กินกับใคร” น้ำเสียงฝ่ายนั้นคล้ายดุ
“ห้างที่เราเคยมาดูหนังน่ะแหละ มากับนพ”
“อ๋อ เข้าใจกันแล้วเหรอ”
“คงไม่มีวันนั้นแล้วมั้ง”
“ทำไมอ่ะ”
“คือเต็นบอกเลิกเขาไปแล้ว”
“เฮ้ย จริงดิ”
“อืม”
“แล้วเขาว่าไง”
“ก็ไม่ว่าไงนี่”
“จริงเหรอ ไม่ใช่ร้องห่มร้องไห้ไม่ยอมเลิกนะ” เต็นอึ้ง คำพูดเมื่อครู่มันผิดไปแค่ประโยคหลังเท่านั้น
“แล้วถ้าเป็นแบบนั้นล่ะ” เด็กหนุ่มถามหยั่งเชิง
“ถ้าเป็นแบบนั้นแชมป์ก็รู้สึกแย่น่ะสิ ไม่อยากเป็นมือที่สามใครนะ”
“ไม่หรอก คิดมาก นพเขาเข้าใจ จริงๆ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเต็นจะเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน เพราะเขาเองก็อยากจะเอ่ยมานานแล้ว” เด็กหนุ่มจำใจโกหกออกไป รู้สึกไหวหวั่นเหลือเกินกับคำพูดเมื่อครู่
“อืม อย่างนั้นค่อยสบายใจหน่อย อย่างนี้คืนนี้แชมป์ก็ไปหาเต็นได้แล้วสิ”
“เต็นโสดแล้วนี่ จะมากลัวอะไรล่ะ” เอ่ยออกไปอย่างทีเล่นทีจริง พอได้ยินเสียงหัวเราะและคำพูดหยอกเย้าเช่นเคยของคนอีกฝั่งจึงเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นมา การพูดคุยจึงยาวนานออกไปก่อนจะจบลงด้วยประโยคที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
“คืนนี้เตรียมตัวไว้นะ ไม่มีข้ออ้างที่จะเล่นตัวกับแชมป์แล้วนะที่รัก”
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 04-01-2011 13:01:47


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-01-2011 14:44:07
อดรู้ข้ออา้งของนพเลยอ่ะ จะว่าไปมันก้ไม่ถุกหรอกเรื่องแบบนี้อ่ะเนอะถ้าจะคิดอะ
เต็นยังไม่มีใครเลยช่วงที่นพไม่อยู่แต่ตัวเองไปนอนกับคนอื่น ถึงจะไมไ่ด้รักหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันก็ไม่ควรที่จะนอกใจถึงอีกคนจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทำที่ทำไม่มีการสำเหนียกหรือละอายใจตัวเองบ้างหรือไงว่ากำลังนอกใจใครอีกคน
เลิกกันไปก้ดีแล้วเป็นเราเลิกต้องแต่เจอถุงยางและ ขอโทษทีเป็นคนใจค่อนข้างจะแคบมาก ไม่มีแม้แต่คำว่า ให้อภัย

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-01-2011 16:47:52
ชักหวั่นๆว่าแชมป์จะแค่เล่นๆ

จริงๆอยากให้ฟังเหตุผลของนพดูก่อน

เชื่อ ไม่เชื่อยังไงค่อยว่ากัน

ถ้าเรื่องไม่ได้เป็นแบบที่คิดจะมาเสียใจทีหลัง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-01-2011 17:06:52
บอกตรงๆอยากรู้เหตุผลของนพที่ห่างเหินไปว่าเพราะอะไร ทำไม่ว่าเป็นห่วงหวงและเสียดายเอาตอนสุดท้าย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 04-01-2011 18:43:02
หวังว่าแชมป์จะไม่แค่เล่นๆกับเต๊นท์นะ สงสารเต๊นท์

อยากรู้ว่าทำไมช่วงนี้นพถึงหายไป เฮ้อ!!! ถ้าเราเป็นเต๊นท์คงคิดหนัก

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 04-01-2011 19:31:16
ใจหนึ่งก็กลัวว่านพจะทำงานจริงๆเพื่อมาสร้างครอบครัวกับเต็น แต่ก็กลัวว่านพจะโกหกเต็นเหมือนกัน
อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าแชมป์จะมาเล่นๆกับเต็น สรุปก็คือสงสารเต็นนะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก :sad12:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-01-2011 23:08:47
ผู้ชายเห้ๆ เซ็งเป็ด
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-01-2011 23:31:10
ในเมื่อตัดสินใจแล้ว

ก็ต้องเดินหน้าอย่างเดียว

ลุยโลด..เต็น


ขอบคุณครับ คุณบอย

ป้อล่อ..อ่านไป อึดอัดไป หุหุ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2011 00:02:49
ตอนที่ 11

เต็นกลับเข้าห้องในตอนเกือบสี่ทุ่ม เด็กหนุ่มตกใจเมื่อเห็นข้าวของบางส่วนหายไปจนห้องดูโล่งพิกล พอตั้งสติได้รีบสำรวจว่าอะไรที่สูญหายจึงได้พบว่าของส่วนนั้นเป็นของคนที่ตนเพิ่งบอกเลิกความสัมพันธ์เมื่อช่วงเย็น เพื่อความแน่ใจ สองขาจึงเดินไปยังตู้เสื้อผ้าจัดการใช้สองมือเปิดดู ภายในนั้นเสื้อผ้าของคนนั้นก็หายไปด้วย อาการตกใจเมื่อครู่จึงพอทะเลาลงบ้างเมื่อรู้ว่าคงไม่มีใครเข้ามาหยิบฉวยของในห้อง
“มาเก็บเอาไปตอนไหนนะนพ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเลื่อนลอย รู้สึกวังเวงภายในใจลึกๆ เมื่อนึกถึงว่าจากนี้จะไม่มีคนรักที่คบกันมากว่า 4 ปี ก้าวเข้ามาในวัฏจักรของชีวิตอีก
นัยน์ตาไหวระริกด้วยหยดน้ำเมื่อนึกถึงตอนสุดท้ายที่เห็นคนเดินจากไปเสียน้ำตาให้กับคำบอกเลิกของตน ตอนน้ำตาจะไหลจึงได้พาตัวเองไปทรุดนั่งลงบนที่นอน นึกสับสนกับสิ่งที่ตนตัดสินใจบอกเลิกคบกับคนที่รู้จักกันมานานเพื่อเริ่มสานสัมพันธ์กับคนที่รู้จักกันได้ไม่กี่วัน
น้ำตาหยดสุดท้ายได้ถูกปัดออกจากแก้มเมื่อภายในใจคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งสับสนกับสิ่งมันได้ผ่านไปแล้ว อนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อแต่นี้นี่สิเป็นสิ่งที่น่าใส่ใจยิ่งกว่า คืนนี้คนรักใหม่กำลังจะมาหาจึงไม่ควรที่เสียน้ำตาเป็นการทักทายความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่ฝ่ายนั้นเอ่ยขอตอนคุยโทรศัพท์กันเมื่อช่วงเย็น
ผ้าปูที่นอนผืนเก่า ปลอกหมอนผืนคุ้นเคย และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่รกรุงรังในห้องถูกปรับเปลี่ยนและวางตำแหน่งใหม่ทั้งหมด เพื่อเป็นการลบภาพเก่าๆ ทิ้งออกจากความทรงจำ สเปรย์กลิ่นหอมถูกหยิบขึ้นมาฉีด จนส่งกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วเมื่อห้องสี่เหลี่ยมห้องเดิมได้เปลี่ยนการตกตกใหม่จนเสร็จสิ้น การกระทำทั้งหมดหวังเหลือเกินว่าจะสร้างบรรยากาศที่น่าจะประทับให้กับคนที่กำลังจะมาหาเพื่อสานความสัมพันธ์การเป็นคนรักซึ่งกันและกันอย่างเปิดเผย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะยืนปัดไม้ปัดมือชื่นชมผลงานตัวเอง ชื่อคนที่โทรเข้ามาทำให้ผุดยิ้มได้ที่มุมปาก พร้อมอาการเหนื่อยทั้งหมดได้หายเป็นปลิดทิ้ง
“ถึงไหนแล้วครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามออกไปเมื่อคิดว่าคนที่โทรเข้ามาคงกำลังเดินทางมาหาตนตามสัญญา แต่คำตอบที่ได้กลับไม่เป็นเช่นนั้น
“โทษทีนะเต็น แชมป์ยังไม่ได้ออกจากบ้านเลย”
“อ้าวเหรอ” เต็นออกไปอย่างผิดหวัง สายตาเหลือบมองดูนาฬิกาเห็นเวลาใกล้เที่ยงคืนจึงอดที่จะเอ่ยอีกไม่ได้
“ไหนแชมป์บอกจะมาตอนเที่ยงคืนไง”
“พอดีมีปัญหานิดหน่อยน่ะ น้องแชมป์มันรถล้ม เลยต้องพามันไปโรงพยาบาล เนี่ยแชมป์เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมา ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปหาเต็นหรือเปล่า เพราะน้องมันต้องนอนโรงพยาบาล แชมป์อาจต้องไปเฝ้ามัน”
ฟังประโยคนั้นจบ เต็นได้แต่นิ่งเพราะไม่รู้จะตอบกลับว่ายังไง ตามหลักความเป็นจริงก็รู้ว่าควรเข้าใจในสถานการณ์ แต่ลึกๆ ก็กลับรู้สึกน้อยใจอย่างอดไม่ได้ เพราะได้เปลี่ยนแปลงห้องพักสำหรับต้อนรับคนนั้นอย่างตั้งใจ พอได้ยินเช่นนี้จึงได้อึ้งเกิดอาการน้ำท่วมปาก จะแสดงออกถึงความไม่พอใจก็ใช่ที่ จะรู้สึกดีทั้งที่ใจห่อเหี่ยวก็ฝืนไม่ไหว
“ทำไมเงียบไปล่ะเต็น” อีกฝ่ายทักมาให้ได้ยิน จึงปรับความรู้สึกให้เป็นกลางที่สุดเอ่ยตอบกลับไป
“ฟังอยู่ แชมป์ไปจัดการเรื่องน้องให้เรียบร้อยเถอะ ไว้วันหลังค่อยมาก็ได้”
“เสียงดูไม่ดีเลย น้อยใจเหรอ” คนนั้นเดาใจได้ถูกแต่ก็ปฏิเสธกลับไป
“เปล่า”
“ไม่เชื่อหรอก เอางี้ละกันเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเที่ยวกัน ชดเชยเวลาคืนนี้ให้ทั้งวันเลยดีมั้ย”
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก เต็นไม่เป็นอะไรจริงๆ”
“เหอะน่า ก็แชมป์รู้สึกไม่ดีเอง นะ วันนี้นอนคนเดียวไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”
“งั้นก็แล้วแต่ละกัน”
“น่ารักจัง รีบอาบน้ำนอนเลยนะดึกแล้ว เดี๋ยวแชมป์ขอเก็บของก่อนจะรีบไปโรงพยาบาล”
“อืม ไปเถอะ แค่นี้นะ” พูดจบก็วางสายลงทันทีเพราะกลัวจะฝืนเก็บอารมณ์น้อยใจต่อไปไม่ไหว
 ***********************************************************
เต็นเกเรอีกครั้งในเช้าวันใหม่โดยการขาดเรียนเพราะตั้งใจรอการติดต่อกลับจากคนที่ให้สัญญาว่าจะให้เวลาตนทั้งวัน เด็กหนุ่มมองโทรศัพท์ตนเองเป็นระยะๆ ในช่วงเวลาที่ทำกิจวัตรต่างๆ ภายในห้อง จากเช้าไปสาย ยังไม่มีวี่แววว่าคนให้สัญญาจะติดต่อกลับมากระทั่งตอนใกล้เที่ยงขณะนั่งกึ่งนั่งกึ่งนอนดูโทรทัศน์อยู่บนเตียง จึงได้ยินเสียงเตือนมีข้อความเข้าที่โทรศัพท์
มือเอื้อมไปหยิบมาดู ชื่อแชมป์ที่โชว์หน้าเครื่องทำให้ต้องดีดตัวลุกนั่งเปิดอ่านสารที่ส่งมา
“แชมป์รู้สึกสับสนมากตอนนี้ คิดว่าเราสองคนถลำลึกกันมากเกินไปแล้ว ไม่รู้สิบางทีแชมป์ก็รู้สึกดีกับเต็นนะ แต่บางทีแชมป์ก็เฉยๆ จนถึงรับไม่ได้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ตอนนี้แชมป์อยู่ชลบุรี มาเที่ยวกับญาติตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แชมป์ขออยู่เงียบๆ ก่อนนะ มีอะไรเดี๋ยวแชมป์ติดต่อกลับไปเอง”
เหมือนโลกหยุดหมุนชั่วขณะ หัวใจเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้อ่านข้อความนั้นจบลง เด็กหนุ่มตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปเพื่อขอเคลียร์กับเจ้าของข้อความว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ถึงได้ส่งข้อความคล้ายเป็นสัญญาณตัดรอนความสัมพันธ์มาหาตนแบบนี้ทั้งๆ ที่เมื่อวานและเมื่อคืนก็ให้คำสัญญาไว้ดิบดีว่าจะมาหาและร่วมสานความสัมพันธ์กับตนในฐานะคนรัก
เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายเมื่อได้โทรศัพท์กลับไปหาคนที่ทำให้เกิดความสับสนแต่ไร้ซึ่งการตอบรับ ทั้งๆ ที่สัญญาณการติดต่อมีอย่างปกติ เมื่อการโทรครั้งที่หนึ่งไม่สำเร็จ ครั้งที่สอง และสามจึงตามมา จนสุดท้ายในใจจึงเริ่มเจ็บร้าวเมื่อการติดต่อนั้นไม่เป็นผลสำเร็จเช่นเดิม
“นี่มันหมายความว่าไงแชมป์ นี่มันหมายความว่ายังไง” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอยในตอนที่หยดน้ำตาแห่งความสับสนปนเจ็บปวดเกิดขึ้นในใจ
สับสนว่าคนหนึ่งคนกำลังจะเล่นตลกอะไรกับตัวเอง ก็ไหนบอกต้องนอนเฝ้าน้องชายที่โรงพยาบาล แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้ไปอยู่ถึงชลบุรี
เจ็บปวดที่การติดต่อไปจากตนไร้ซึ่งการต้อนรับดั่งคนนั้นต้องการอยู่เงียบๆ คนเดียวตามข้อความที่ส่งมา ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ก็เมื่อคืนเพิ่งแสดงอาการว่าแคร์ความรู้สึกตนมากมายตอนที่ผิดคำสัญญากระทั่งว่าวันนี้จะมีเวลาให้เต็มที่เพื่อชดเชยเวลาที่หายไป จะรู้มั้ยว่าเขาเชื่อคำพูดนั้นจนต้องขาดเรียนรอการติดต่อกลับ ใช่สิ ถ้าหากโทรศัพท์ไม่ติดเขาก็สามารถส่งข้อความไปขอคำอธิบายได้นี่นา สองมือรีบกดพิมพ์ถ้อยคำเมื่อคิดได้
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอแชมป์ ทำไมแชมป์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้” ข้อความถูกส่งออกไปเมื่อพิมพ์เสร็จ สักพักจึงมีการตอบกลับมา เด็กหนุ่มรีบเปิดอ่าน ในใจคิดว่าจะได้รับคำเฉลยว่านี่เป็นเพียงการล้อเล่น แต่แล้วทุกตัวหนังสือที่ตีกลับมาเปรียบได้เป็นหอกที่พุ่งเสียบกลางอกจนรู้สึกเจ็บจนแทบกระอัก
“บอกแล้วไงว่าขออยู่เงียบๆ ก่อน จะอะไรกันนักหนา เดี๋ยวพร้อมจะโทรกลับเอง” ปากบางสั่นระริกเมื่อต้องการข่มใจไว้หลังอ่านข้อความจบ ตนผิดเหรอที่ต้องการคำอธิบายในเหตุกาณ์ที่ทำให้เกิดความสับสน
“พูดแบบนี้ไม่แคร์กันแล้วใช่มั้ย จะเลิกคบกันก็บอกกันตรงๆ อย่าทำแบบนี้มันไม่แฟร์” เด็กหนุ่มพิมพ์ข้อความนี้กดส่งไปเพียงแค่ต้องการประชดเพราะความน้อยใจตีรื้นขึ้นมาจนล้นอก
“อย่ามาประชด มันงี่เง่า” ข้อความสั้นๆ ส่งกลับมาให้ใจได้เจ็บอีก
“ทำไมนายถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้แชมป์ ลืมไปแล้วเหรอว่านายสัญญาอะไรไว้ ถ้าใครสักคนจะงี่เง่ามันก็คงเป็นนายน่ะแหละ แน่จริงรับสายสิ พูดกันตรงๆ เลยดีกว่า จะได้รู้กันไปว่าข้อความพวกนี้มาจากนายจริงๆ” คนปวดใจส่งข้อความท้าทายกลับไปเมื่อไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่พิมพ์ข้อความตอบกลับมาจะเป็นคนเดียวกับคนที่ทำหัวใจยิ้มได้ตลอดเวลา
นานหลายนาทีที่ไม่มีข้อความตอบกลับ เต็นจึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาคนที่ตนส่งข้อความท้าทายไป ดีใจที่คราวนี้ฝ่ายนั้นยอมรับสาย แต่ใจหายในน้ำเสียงแต่ถ้อยคำทักกลับที่ได้ยิน
“นายมีอะไรว่ามา”
“แชมป์ นี่แชมป์จริงๆ เหรอ” เด็กหนุ่มถามออกไปทั้งๆ ที่จำเสียงได้
“อืม” มีเสียงตอบรับสั้นๆ เพียงแค่นั้นจิตใจก็สลายได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อแน่ใจแล้วว่าข้อความต่างๆ ที่พิมพ์ตอบกลับมาล้วนเกิดจากสองมือคนๆ นี้จริงๆ
“มันเกิดอะไรขึ้นน่ะแชมป์ อธิบายได้มั้ย” เต็นพยายามถามหาเหตุผลที่คนๆ นี้เปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน
“ก็พิมพ์บอกไปหมดแล้วในข้อความ” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาเสียงเย็นชา
“แชมป์กำลังล้อเต็นเล่นใช่มั้ย” คนรับฟังทำใจดีถามไป แต่ก็ไม่วายต้องสะอึกกับคำพูดที่ตอบกลับมาในสำนวนและสรรพนามที่ห่างเหิน
“ผมไม่ได้ล้อเล่น จะโทรมาถามแค่นี้ใช่หรือเปล่า ผมวางสายล่ะนะญาติมา”
“อย่าเพิ่งแชมป์ แชมป์จะทำกับเต็นแบบนี้ไม่ได้นะ” เต็นรีบท้วงออกไปในทันทีเมื่อรู้สึกใจหายกับสิ่งที่ได้ยิน คนนั้นส่งสัญญาณความห่างเหินมามากเกินจะตั้งรับได้ทัน
“ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้หรอกเต็น ที่ผ่านมาผมขอโทษ แค่นี้นะ”
“อย่าวางนะแชมป์ เต็นต้องการคำอธิบายมากกว่านี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ แชมป์ถึงคิดมาเปลี่ยนใจตอนนี้” เต็นท้วงอีกเมื่ออีกคนบอกจะวางสายอีกรอบ หัวใจเต้นถี่ลุ้นว่าฝ่ายนั้นจะแคร์คำพูดตนเหมือนเช่นเดิมหรือเปล่า และแล้วก็โล่งอกเมื่อคนนั้นยอมสนทนาต่อ แต่ถ้อยคำที่ตอบกลับนี่สิทำเอาเจ็บร้าวจนน้ำตารื้นอีกรอบ
“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาถามหาเหตุผลตอนนี้หรอกเต็น เราสองคนถลำลึกกันเกินไปแล้ว เต็นกลับไปหาคนของเต็นเถอะ รักเขาให้มากๆ ดูแลเขาให้ดีๆ อะไรทนได้ก็ทน แล้วคนๆ นั้นเขาก็คงไม่ไปไหนจากเต็นหรอก ลืมผมซะเถอะ เราเดินกันมาสุดทางแล้ว”
“แชมป์ แชมป์พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า เต็นบอกเลิกนพเขาไปแล้วแชมป์ก็รู้ เต็นจะให้แชมป์กลืนน้ำลายตัวเองไปขอคืนดีเขาเหรอ”
“เลิกกันแค่วันเดียวกลับไปง้อเขาสักนิดมันจะเสียหายอะไรล่ะ”
“แต่นพเขารู้นะว่าที่เต็นบอกเลิกเขาเพราะเต็นอยากมาคบกับแชมป์ แชมป์จะให้เต็นบอกเขาว่ายังไงเรื่องแชมป์”
“ก็บอกเขาไปสิว่าเราสองคนไม่มีอะไรกันแล้ว”
“ทำไมแชมป์พูดอะไรง่ายๆ แบบนี้”
“ก็แล้วจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไมล่ะ กลับไปหาเขาเถอะ เลิกสนใจแชมป์ได้แล้ว ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ที่จะคบกันในฐานะคนรัก”
“แสดงว่าที่ผ่านมาแชมป์หลอกเต็น”
“ไม่ได้หลอก ตอนนั้นผมรู้สึกดีจริงๆ แต่ตอนนี้พอคิดให้ถี่ถ้วน ผมมันก็แค่คนอกหักต้องการเพื่อนปลอบใจให้ลืมความเศร้า”
“แล้วทำไมต้องเป็นเต็น”
“ไม่รู้สิ มันแปลกดีมั้ง เพื่อนคนอื่นๆ เขาปลอบผมมากี่คนๆ ผมก็ไม่เคยหาย”
“งั้นแสดงว่าตอนนี้แชมป์ดีขึ้นแล้ว”
“ก็บ้าง ถึงได้คิดได้ไงว่าควรจะปล่อยเต็นไปหาคนที่เขาสามารถคบกับเต็นได้อย่างเปิดเผย ที่ผ่านมาผมขอโทษละกันที่ดึงชีวิตคุณไว้หลายวัน”
“แชมป์กำลังสร้างตราบาปให้กับเต็นนะรู้ตัวหรือเปล่า”
“ยังไง”
“ก็นพเขาเสียใจตอนที่เต็นบอกเลิก”
“แล้วไง”
“ก็แชมป์เป็นสาเหตุให้เต็นบอกเลิกเขาน่ะสิ”
“ทำไมถึงโทษคนอื่นล่ะ คุณทำตัวคุณเองนะ”
“แชมป์ !”
“ผมว่าเราเลิกคุยกันดีกว่า ให้เราจากกันด้วยดีเถอะ ผมไม่อยากทะเลาะและเสียความรู้สึกกับคนที่ผมเคยรู้สึกดีด้วย โชคดีนะครับ บาย”
เสียงสัญญาณขาดหายไปทันทีที่ฝ่ายนั้นเอ่ยประโยคกรีดใจจบลง เต็นถือโทรศัพท์ช๊อคค้างอย่างคนเสียสติ ริมฝีปากสั่นระริกเมื่อตอนย้อนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยผ่านมา น้ำนัยน์ตาไหลลงอาบแก้มเป็นทางยาว เหตุการณ์นี้มันเรื่องจริงเหรอ มันเป็นความจริงใช่มั้ย หรือนี่เขาฝันไป ใช่สิ นี่มันต้องฝันร้าย มันต้องเป็นฝันร้าย
“เปรี้ยง !” เสียงโทรศัพท์แตกกระจายเมื่อลอยละลิ่วไปฟาดกับผนังห้องจากฝีมือคนต้องการปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันร้าย ชิ้นส่วนต่างๆ กระเด็นไปคนละทิศทาง มีบางชิ้นส่วนเล็กๆ ลอยมากระทบที่นัยน์ตาของคนกระทำการ
“โอ้ย !” เต็นร้องขึ้นสุดเสียงยกมือขึ้นปิดนัยน์ตาข้างซ้ายลมตัวลงบนที่นอนอย่างรู้สึกเจ็บจี๊ดนัยน์ตา เนิ่นนานทีเดียวกว่าที่อาการเจ็บจะทะลุเลาลง ซึ่งพอฝืนลุกได้จึงรีบพาตัวเองไปสำรวจนัยน์ตาที่กระจกเงาพบว่าตาข้างนั้นเกิดอาการบวมแดงอย่างเห็นได้ชัดระคนกับอาการเจ็บแบบระคายๆ พร้อมน้ำตาที่เอ่อซึมออกมาอย่างต่อเนื่อง
ร่างทั้งร่างค่อยๆ ก้าวออกมาจากกระจกเงาแล้วทรุดตัวนั่งพิงผนังห้องข้างชิ้นส่วนโทรศัพท์ที่แตกกระจายอย่างคนเลื่อนลอยเมื่อแน่ชัดแล้วว่านี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่แค่ความฝัน อาการเจ็บปวดที่ดวงตาและความรู้สึกเจ็บปวดภายในใจปนสมเพชตัวเองเป็นแรงขับอย่างดีให้น้ำตาที่เอ่อล้นภายในใจระบายออกมาทางสองตาอาบสองแก้ม ถึงที่สุดเมื่อไม่สามารถเก็บกลั้นความรู้สึกเหล่านั้นได้จึงก้มหน้าซบกับเข่าตัวเองร้องไห้เสียงดังอย่างไม่ทนฝืนอีกต่อไป
ภายในโรงพยาบาลที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน เด็กหนุ่มหนึ่งคนนั่งจมอยู่กับความเสียใจจนเกินกลั้นเก็บ น้ำตาหยดแล้วหยดแล้วไหลออกจากตาจนกระทั่งโดนเรียกตัวเข้าห้องตรวจจึงได้ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
สองขาก้าวออกจากห้องตรวจพร้อมผ้าขาวที่ปิดนัยน์ตาข้างซ้าย ซิมโทรศัพท์ถูกยกขึ้นมาถือไว้ในมืออย่างพินิจ หัวใจยังไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เจอมาเป็นเรื่องจริง จึงคิดที่จะพิสูจน์ความรู้สึกของคนที่สร้างรอยแผลในใจไว้อย่างเจ็บปวด เด็กหนุ่มคิดว่าหากขาดการติดต่อกับคนนั้นนานเกินไป คงไม่ใช่เรื่องดีแน่จึงตัดสินใจพาตัวเองออกจากโรงพยาบาลไปยังศูนย์การค้า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 10 : 4.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2011 00:04:12
ภายใน Shop โทรศัพท์ ขณะกำลังสนทนากับเจ้าของร้านในตอนสนใจที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้งเมื่อมีมือๆ หนึ่งมาแตะที่หัวไหล่
“นพ” ชื่อของเจ้าของมือถูกเอ่ยออกมาเมื่อตอนหันมามอง คนนั้นไม่ตอบอะไรนอกจากหันไปจัดการจ่ายค่าโทรศัพท์เครื่องนั้น
“ไม่ต้องหรอกนพเดี๋ยวเต็นจ่ายเอง” เต็นรีบแย้งเมื่อรู้สึกไม่ดีกับภาพที่เห็น
“ยังเรียนอยู่จะเอาตังค์มาจ่ายสุรุ่ยสุร่ายทำไม” ฝ่ายนั้นตอบมาคล้ายดุจึงยอมนิ่งเงียบมองดูเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างรู้สึกสะเทือนภายในใจ เมื่อภาพคนรักที่แสนดีของคนตรงหน้าหวนกลับมาให้เห็นอีกครั้งในตอนที่เจ้าตัวได้กลายเป็นคนรักเก่า
“ตาไปโดนอะไรมา” คนรักเก่า เอ่ยถามในตอนที่รับถุงโทรศัพท์มาถือไว้ในมือแล้วหันมาสบตาเข้า
“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ” ตอบออกไปพลางหลบสายตาเพราะรู้สึกไม่กล้าสู้หน้า
“อืม งั้นเอานี่ไป นพไปล่ะนะ” อีกฝ่ายเอ่ยพลางยื่นถุงโทรศัพท์ให้จึงจำใจเงยหน้าขึ้นมองเจ้าตัวเอื้อมมือรับสิ่งนั้นมา
“ยังใช้เบอร์เดิมอยู่หรือเปล่า” คนยื่นให้ถามน้ำเสียงอ่อนโยนนั่นเป็นเหตุให้น้ำตาที่เอ่อซึมเพราะความรู้สึกละอายไหลออกมาอย่างไม่แคร์สายตาใคร
“ร้องไห้ทำไมเต็น” อีกคนมีสีหน้าตกใจ เด็กหนุ่มเห็นเจ้าตัวมองรอบบริเวณที่ยืนอยู่ คงจะแคร์สายตาผู้คนที่กำลังมองอยู่ถึงได้ฉุดมือของตนเดินไปที่อื่น
เต็นยอมเดินตามหลังคนรักเก่ามาอย่างง่ายดาย กระทั่งถึงลานจอดรถ
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมจู่ๆ ร้องไห้” คนรักเก่าหันมาเอ่ยถาม
“มะ ไม่มีอะไร” เด็กหนุ่มปฏิเสธพลางเช็ดน้ำตาลวกๆ ฝืนยิ้ม
“ถึงเราจะจบกันแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนกันนะเต็น เกิดอะไรขึ้นบอกนพมาเถอะ” ฝ่ายนั้นยังคงถามต่อ จึงถามออกไปตรงๆ
“นพไม่โกรธเต็นเหรอ”
“อย่าเพิ่งสนใจความรู้สึกนพตอนนี้เลย” น้ำเสียงที่ตอบกลับมาสเบาบางจนพอจะเดาได้ว่าคนพูดรู้สึกเช่นไรจึงได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรอีก
“ถ้าไม่พร้อมจะเล่าก็ไม่เป็นไร หากพร้อมเมื่อไหร่ก็โทรหานพ พอดีนพรีบขอตัวก่อนนะ” คนตรงหน้าเอ่ยถ้อยคำสุดท้ายให้ได้ยินแล้วเดินหนีไปจริงๆ ความรู้สึกอ้างว้างสับสนถาโถมเข้าสู่จิตใจในนาทีนั้น เริ่มไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่ต้องพบเจอ คนรักเก่าที่เคยทำตัวให้เสียใจคล้ายๆ จะกลับมาเป็นคนที่แสนดี ส่วนคนรักใหม่ที่เพิ่งจะคบกันเพราะเชื่อว่าต้นรักจะงอกงามได้ไม่ยากเย็นกลับกลายเป็นคนใจร้ายที่ทำให้จิตใจสับสนหดหู่
โทรศัพท์ที่เพิ่งจะได้มาถูกใส่ซิมเรียบร้อยพร้อมที่จะใช้ติดต่อสื่อสารได้ดังเดิม หมายเลขแรกที่เด็กหนุ่มติดต่อหาคือคนที่ทำให้จิตใจพะวงอยู่ไม่สุขนั่นเอง
สี่ครั้งที่การติดต่อไปไร้ซึ่งการตอบรับ เป็นเหตุผลให้เกิดความว้าวุ่นปนเสียใจอย่างเกินจะทน
“รับสายเต็นเถอะแชมป์ เต็นขอร้อง เต็นอยากคุยกับแชมป์” ถ้อยคำอ้อนวอนถูกส่งผ่านไปเป็นข้อความ ในนาทีที่จิตใจต่อต้านความเสียใจไว้ไม่ไหว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในนาทีต่อมาเหมือนเป็นยาที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกให้ดีขึ้นเมื่อรายชื่อคนที่โทรเข้าคือคนที่ตนเพิ่งส่งข้อความอ้อนวอนไปถึง
“ขอบคุณมากแชมป์ ขอบคุณมากที่ยอมคุยกับเต็น” เด็กหนุ่มรีบละล่ำละลักบอกออกไปเสียงสั่นเครือในตอนนี้น้ำตาแห่งความความดีใจไหลลงอาบแก้มอย่างอดไม่ได้ เด็กหนุ่มกัดฟันข่มความเจ็บแสบนัยน์ตาข้างที่เป็นแผล เมื่อหยดน้ำมากมายได้ไหลเอ่อล้นซึมอยู่ข้างใน
“มีอะไร” น้ำเสียงห้วนๆ ดังผ่านมาตามสายด้วยถ้อยคำถามสั้นๆ
“แชมป์จะกลับมาตอนไหน เราเจอกันได้มั้ย” เด็กหนุ่มถามออกไปด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ติดใจในเหตุการณ์เมื่อช่วงเที่ยงวัน คิดว่าเวลาผ่านมาหลายชั่วโมงคงทำให้คนที่ตนกำลังสนทนาอยู่จะคิดถึงคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่เคยให้ไว้ได้
“ยังไม่รู้” น้ำเสียงฝ่ายนั้นยังคงไว้ซึ่งความเฉยชา
“เราสัญญาว่าจะดูหนังกันยังจำได้หรือเปล่า” เต็นทำใจดีเอ่ยต่อ แม้จะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึกๆ
“เลิกเถอะเต็น อย่าพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมเลย มันไม่มีประโยชน์หรอก” สิ่งที่สะท้อนกลับมาทำให้ฝืนใจดีต่อไปไม่ไหวจึงเอ่ยบอกออกไป
“ทำไมจะไม่มีประโยชน์ล่ะแชมป์ ถ้าแชมป์จะยังเป็นคนเดิม”
“คนเดิมของผมก็คือเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงไงครับ ไม่ใช่เกย์รักเกย์ หรือผู้ชายรักเกย์” ความรู้สึกข่มใจทั้งหมดขาดสะบั้นลงทันทีหลังจากได้ยินถ้อยคำนั้น หัวใจพลันแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ จนยากแก่การคงรูปเดิม
“ทำไมแชมป์พูดแบบนี้” เด็กหนุ่มได้แต่ถามออกไปด้วยน้ำเสียงเบาบาง
“ผมพูดความจริงครับ เข้าใจและทำใจซะเถอะ ลืมผมไปซะ ที่ผ่านมาคิดซะว่าเรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้น” ประโยคกรีดใจผ่านตามสายมาให้ได้ยินอีกจึงเอ่ยทวงถามวันเวลาเก่าๆ
“แล้วที่ผ่านมาล่ะแชมป์ แชมป์จะรับผิดชอบความรู้สึกเต็นยังไง”
“ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะคิดกับผมมากมายขนาดนี้”
“สรุปเต็นคิดกับแชมป์ฝ่ายเดียวเหรอ ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยคิดอะไรกับเต็นเลยใช่มั้ย”
“ก็บอกแล้วไงผมไม่ใช่เกย์ คุณจะให้ผมคิดอะไรกับคุณล่ะ”
“แล้วการกระทำที่แชมป์ทำมาทั้งหมดล่ะ คำพูดทุกคำพูด เต็นยังไม่ลืมมันง่ายๆ หรอกนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะจริงจัง”
“ทำไมแชมป์ถึงคิดว่าเต็นจะไม่จริงจัง”
“ก็คุณมีคนรักอยู่แล้ว”
“แชมป์เคยแนะให้เต็นเลิกกับเขาจำไม่ได้หรือไง”
“ผมไม่คิดว่าคุณจะเชื่อ”
“แต่เต็นก็เชื่อไปแล้ว”
“แล้วคุณไปขอคืนดีกับเขาหรือยัง”
“เป็นแชมป์ แชมป์จะกล้ามั้ย”
“ผมก็เคยขอคืนดีแฟนผม คุณก็เคยเห็นในวันแรกที่เราเจอกัน”
“มันไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนยังไง”
“เต็นละอายเกินที่จะทำแบบนั้นได้”
“แล้วที่โทรมาจู้จี้กับผมนี่ไม่ละอายบ้างเหรอ”
“แชมป์ !”
“ขอโทษนะที่ผมต้องพูดตรงๆ คุณกับผมเรารู้จักกันแค่ผิวเผิน การที่คุณโทรมาวุ่นวายกับผมแบบนี้ มันยิ่งทำให้ผมมองคุณไนทางไม่ดีมากกว่าเดิมนะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็คุณรู้จักผมเพียงไม่กี่วันคุณก็ตัดสินใจที่จะเลิกคบกับแฟนที่คุณรู้จักเขามา 4 ปี เพื่อมาคบกับผม คุณคิดว่าผมรับได้เหรอกับการที่จะรู้สึกดีกับคนจิตใจโลเลเช่นคุณ”
“แต่แชมป์ทำให้เต็นแบบนี้นะ”
“เลิกโทษคนอื่น แล้วก็เลิกใช้สรรพนามแบบนี้กับผมเถอะ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันตลกที่ผู้ชายสองคนจะเรียกแทนกันด้วยชื่อ”
“คำพูดพวกนี้แชมป์สอนเต็นเองนะ”
“บอกแล้วไงว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”
“แชมป์ทำไมแชมป์ถึงเป็นไปได้ขนาดนี้”
“ผมก็เป็นของผมแบบนี้”
“ไม่จริง แชมป์ที่เต็นเคยรู้จักไม่ใช่คนๆ นี้”
“เลิกเพ้อเจ้อแล้วก็ทำใจให้ลืมผมเถอะนะ ถือว่าผมขอร้องล่ะ เป็นไปได้เราอย่าติดต่อกันอีกเลย กลับไปหาคนของคุณเถอะ ไปอธิบายให้เขาเข้าใจในทุกๆ เรื่อง แล้วขอคืนดีกับเขาซะ หรือถ้าไม่สำเร็จคุณก็เปิดใจมองเกย์คนใหม่ที่พร้อมจะคบกับคุณได้เถอะ สำหรับผม ผมเป็นผู้ชาย ไม่ได้เป็นเกย์ เลิกคิด เลิกหวัง แล้วก็เลิกตามผมซะเถอะ ผมอยากลืมภาพวันเวลาที่ผมทำสิ่งทุเรศๆ ในชีวิตลงไป ผมอยากมีชีวิตที่ปกติ เป็นผู้ชายที่รักผู้หญิง เป็นคนที่เดินอยู่ในกรอบของสังคม แค่นี้นะครับอย่าโทรมาอีกหากไม่จำเป็น ลืมๆ ผมไปเถอะ ยังไงเราก็คบกันไม่ได้”
เสียงสัญญาณขาดหายไปอีกครั้งเต็นทรุดนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง นัยน์ตาข้างที่เป็นแผลเริ่มเจ็บแสบมากขึ้นจนรู้สึกได้จากหยาดน้ำตาที่เอ่อไหลอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเมื่อไหร่
“มันเกิดอะไรขึ้นแชมป์ มันเกิดอะไรขึ้น” เด็กหนุ่มปล่อยให้ร่างกายสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างไม่อายสายคนที่กำลังเดินผ่านไปหา สิ่งที่ทำให้ใจสะท้านได้ตอนนี้คือถ้อยคำตัดสัมพันธ์จากคนที่หัวใจให้ความหวังและไว้ใจอย่างที่สุดเมื่อครู่นี้เอง
กว่าจะผ่านวันเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ
พาตัวเธอเดินเข้ามาให้ฉันรักหมดหัวใจ
เธอทำให้ฉันได้รู้ ว่าเธอนั้นคือคนไว้ใจ
จนคิดว่าความรักนี้ปลอดภัย
 
ไม่เคยระแวงระวัง ว่าเธอจะเปลี่ยนไป
ด้วยความที่เชื่อใจจึงทุ่มเทไปทั้งใจ
แต่เธอก็หลอกหลวง โดยการทิ้งฉันและหนีไป
คนหัวใจสลาย คนที่เสียใจสุดท้ายก็คือฉันเอง
 
เมื่อฉันบอกว่ารักนั้นคือหมดหัวใจ
และหวังฝากชีวิตกับเธอนั้นไปจนตาย
แต่ฉันถูกทำร้ายด้วยมือคนที่ฉันเชื่อใจ
คนที่ไว้ใจ สุดท้าย ร้ายที่สุด
 
ไม่ว่าเหตุผลอะไร ไม่ว่าเธอจะมีใคร
คนที่เจ็บปวดจนตายคือฉันคนที่รักเธอ
อยากกลับสู่วันเวลาที่ฉันไม่เคยได้พบเธอ
ไม่ต้องมีชีวิตที่ทรมาน เจ็บช้ำ ไม่ต้องทุกข์ใจ
 
เมื่อฉันบอกว่ารักนั้นคือหมดหัวใจ
และหวังฝากชีวิตกับเธอนั้นไปจนตาย
แต่ฉันถูกทำร้ายด้วยมือคนที่ฉันเชื่อใจ
คนที่ไว้ใจ สุดท้าย ร้ายที่สุด
คนที่ไว้ใจ สุดท้าย ร้ายที่สุด
เธอคือคนที่ใจร้ายสุดท้าย
คนที่ไว้ใจ…..ร้ายที่สุด
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-01-2011 00:17:18
อะไร ยังไง เนี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 11-01-2011 00:36:13

ต๊าย
๑. นพไม่ได้นอกใจ แต่ถุงก๊อบแก๊บนั่น เป็นสินค้าตัวอย่าง ที่เขากำลังโผร่โมท(promote)
๒. นพเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุมกำเนิด
๓. มันเป็นชนิดใหม่ล่าสุด แสนจะอูมามิ นพจึงอยากจะเอามาให้เต็นทดลอง
๔. นพจำเบอร์แชมพ์ได้ ติดต่อไปหา แล้วขอร้องให้แชมพ์เลิก แชมพ์เลยแอ๊บชิ่ง(ไม่เนียน)
๕. นพไปฟ้องที่บ้านแชมพ์ ที่บ้านเลยคุมเข้มแชมพ์ และพรากไปชลบุรี
๖. แชมพ์ได้เจอกับนพ แล้วถูกใจนพมากกว่าเต็น เลยแฮ้บซะ
๗. และ/หรือ อื่นๆ

๔๗ + ๑ = ๔๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 11-01-2011 13:35:19
แชมป์มีเหตุผลอะไร???  นพเป็นต้นเหตุหรือป่าว

หรือเลวเองโดนสันดาน ถ้าเป็นแบบนี้  ซื้อหวยทำไมไม่ถูกฟ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 11-01-2011 13:57:17
จริงๆแล้ว กิ๊กของนพคือแชมป์

ตรึ่ง!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-01-2011 18:10:53
จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง รับกรรมไปเถอะเต็นเพราะไปเจอคนเลวๆคนนึงที่ไม่จริงใจ
สำหรับไอ้แชมป์มันก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้หรอกคนแบบนั้นนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 11-01-2011 18:21:14
จริงๆแล้ว กิ๊กของนพคือแชมป์

ตรึ่ง!

เห็นด้วยค่ะ  มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-01-2011 22:44:24
เต็น - แชมป์
เกินความคาดหมาย


เหมือนป๊อกเด้ง
ถูกเจ้ามือกินเรียบ

หุหุ


+1 ขอบคุณครับ คุณบอย
อึดอัดกันต่อไป แล้วกันเน๊าะ..คนอ่าน

กาซิก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-01-2011 00:57:00
ดราม่าซะงั้น ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 12-01-2011 04:11:52

ต๊าย
๑. นพไม่ได้นอกใจ แต่ถุงก๊อบแก๊บนั่น เป็นสินค้าตัวอย่าง ที่เขากำลังโผร่โมท(promote)
๒. นพเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุมกำเนิด
๓. มันเป็นชนิดใหม่ล่าสุด แสนจะอูมามิ นพจึงอยากจะเอามาให้เต็นทดลอง
๔. นพจำเบอร์แชมพ์ได้ ติดต่อไปหา แล้วขอร้องให้แชมพ์เลิก แชมพ์เลยแอ๊บชิ่ง(ไม่เนียน)
๕. นพไปฟ้องที่บ้านแชมพ์ ที่บ้านเลยคุมเข้มแชมพ์ และพรากไปชลบุรี
๖. แชมพ์ได้เจอกับนพ แล้วถูกใจนพมากกว่าเต็น เลยแฮ้บซะ
๗. และ/หรือ อื่นๆ

๔๗ + ๑ = ๔๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

ข้อ1-5อ่านเเล้วไม่เท่าไหร่
เเต่ข้อ 6 นี่สิครับถ้าเป็นเเบบนี้เต็นอย่ายอมนะ
ตามล่าเอาเลือดหัวมันออกมาล้างทีนซะ :fire: :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 12-01-2011 06:06:59
ก็ชื่อเรื่องมัน เต็น-แชมป์ อะคะ

นพต้องโทรไปคุยกับแชมป์แน่ๆๆๆๆๆๆๆเลย

ฟันธง
 :m15:



หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2011 08:55:49
ตอนที่ 12

จากวันนั้นเต็นต้องทนอยู่กับความไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่โดนบอกเลิกกะทันหัน เด็กหนุ่มทนอยู่กับความร้อนใจเป็นสัปดาห์กับการตามหาเหตุผลที่แท้จริงจากการถูกทอดทิ้ง แต่แล้วเหมือนตนเองตามหาอะไรสักอย่างที่ใม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ เมื่อฝ่ายนั้นได้ตัดขาดการติดต่อจากตนในทุกทาง ทั้งทางโทรศัพท์ที่ได้ติดต่อไปวันละหลายๆ รอบแต่ไม่มีการตอบรับกลับมาใดๆ หรือข้อความที่ส่งไปก็ไร้ซึ่งการส่งกลับมา วันนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเป็นวันที่มีนัดกับทางโรงพยาบาลเพื่อเอาผ้าที่ปิดนัยน์ตาออก เด็กหนุ่มตัดสินใจติดต่อไปหาคนที่พยายามตามหาตัวมาเป็นสัปดาห์อีกครั้ง คราวนี้ลองใช้วิธีเดิมที่เคยใช้กับคนรักเก่าอย่างนพคือใช้เบอร์ตู้สาธารณะโทรไป
เสียงเพลงรอสายดังขึ้นให้ได้ยิน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัยว่าตนเองติดต่อไปผิดเบอร์หรือไม่ เพราะปรกติฝ่ายนั้นไม่ตั้งการรอสายเป็นเสียงเพลง สายตาเหลือบมองตัวเองที่แสดงบนแป้นเพื่อความแน่ใจ เห็นไม่ผิดเบอร์จึงตั้งใจฟังเสียงเพลงที่ได้ยิน
“ที่รัก เราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตาถึงแม้ว่ามันโหดร้าย ให้เราจบกันไปด้วยดี ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งดูมืดมน ยิ่งเราอดและทนแค่ไหน ไม่อยากให้คิดว่าผิดที่ใคร ไม่มีประโยชน์ตอนนี้ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อกัน เธอและฉันก็รู้ตัวดี...”
เสียงเพลงจบลงแค่นั้นแล้วมีเสียงพูดทักดังมาแทนที่
“สวัสดีครับ”
เต็นรู้สึกรื้นในใจขึ้นมาแทบน้ำตาใหลเมื่อได้ยินเสียงแรกของคนที่ห่างหายจากตนไปเป็นสัปดาห์ หัวใจเด็กหนุ่มเต้นผิดจังหวะ เมื่อนึกประหม่าขึ้นมาดื้อๆ จนไม่รู้จะพูดคำไหนทักออกไปดี
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงฝ่ายนั้นดังมาให้ได้ยินอีกครั้งเด็กหนุ่มจึงพยามรวบรวมกำลังใจว่าต้องกล้า แล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ
“หวัดดีแชมป์”
“ใครอ่ะ” ฝั่งนั้นถามมาเสียงดุ คงจะยังไม่ชินเสียงสั่นๆ ของตน
“เต็น” เด็กหนุ่มบอกชื่อออกไป ก่อนจะใจหายวาบอย่างตั้งรับไม่ทันเมื่อสัญญาณการติดต่อถูกตัดลงแค่ตรงนั้น
เต็นถือโทรศัพท์อ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนที่เคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กันจะกระทำใส่กันแบบนี้ หรือเมื่อกี้สายมันหลุดเอง มันคงเป็นความขัดข้องของระบบ ไม่มีทางหรอก คนๆ นั้นคงไม่ใจร้ายกับตนได้ขนาดนี้ เด็กหนุ่มหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองแล้วจัดการติดต่อไปใหม่
เพลงรอสายเพลงเดิมดังขึ้นมาตอนต่อติดสัญญาณ แต่คราวนี้เด็กหนุ่มได้ฟังสั้นกว่าเดิมเพราะมีการตัดสัญญาณทิ้งอีกครั้ง เมื่อแน่ชัดแล้วว่าไม่ได้เป็นที่ระบบการสื่อสารขัดข้อง แต่เป็นการตั้งใจตัดขาดการติดต่อจากเจ้าของหมายเลขเอง หัวใจเจ้ากรรมเหมือนกับโดนเข็มนับพันทิ่มแทงจนไม่มีเหลือที่ว่างเลยสักแห่ง
เด็กหนุ่มวางโทรศัพท์ลงที่แป้นดังเดิมก่อนจะปล่อยให้ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงยืนไหวทรุดนั่งลงไปที่พื้น ไม่สนใจว่าจะมีสายตาใครคนไหนมองมาบ้าง น้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลออกจากตาหนึ่งข้างที่ไม่ได้ปิดผ้าเอาไว้ ส่วนข้างที่ปิดผ้าน้ำหยดนั้นแค่ซึมอยู่ที่ขอบตา ซึ่งมันสร้างความแสบร้าวให้กับทั้งดวงตาจนต้องยกมือขึ้นปิดไว้แข็งใจลุกขึ้นพาตัวเองไปยังโรงพยาบาลตามที่หมอรักษาได้นัดไว้
เต็นใช้เวลาไม่นานในการให้หมอดูอาการ เด็กหนุ่มโดนตำหนินิดๆ ที่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้มากมายจนแผลที่ตาเกือบไม่หายตามกำหนด
สองขาก้าวออกมาจากห้องตรวจ รู้สึกอ้างว้างอย่างประหลาดเมื่อสถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยมีคนมารอรับทุกครั้งหากตนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือไปสถานที่ใดที่เป็นกิจธุระจำเป็นไม่เป็นกิจวัตร แน่ล่ะ คนๆ นั้นคือคนรักเก่าอย่างนพนั่นเอง ความรู้สึกเหงาถาโถมเข้ามายังจิตใจจนยากจะทานไหวเมื่อได้มองเห็นคนหลายคู่ หลายกลุ่มต่างก็เดินมาด้วยกัน พูดคุยกัน และหยอกล้อกันให้ได้เห็น เด็กหนุ่มเดินไปหามุมเงียบๆ เพื่อนั่งพัก เมื่อรู้สึกห่อเหี่ยวในใจจนไม่อยากที่จะกลับไปอยู่ในห้องที่เคยคิดว่าจะเต็มไปด้วยความสุขของตน
น้ำในตากำลังจะไหลออกมาอีกครั้งเมื่อเกิดรู้สึกสะทือนหัวใจไม่หายตอนคิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่เคยผ่านมาทั้งกับคนรักเก่าอย่างนพ และคนที่กำลังจะคบกันอย่างแชมป์ เด็กหนุ่มกำมือแน่นพร้อมเม้มริมฝีปากเอาไว้จนสั่นระริกเพื่อต้องการควบคุมน้ำในตาไม่ไหลออกมา เมื่อรู้สึกจะต้านไม่ไหวจึงตัดสินใจแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าหลับตานิ่งแล้วย้อนคิดถึงแต่ความทรงจำดีๆ
อาการปวดร้าวในใจทะเลาลงบ้างในตอนที่ได้นึกถึงแต่เรื่องราวดีๆ เมื่อคิดว่าน้ำในตาจะไม่ไหลแล้วจึงกลับมานั่งท่าเดิม นั่งอยู่อย่างนั้นจนฟ้ามืดถึงได้กลับไปยังหอพัก ระหว่างทางที่กลับก็ไม่วายที่จะคิดถึงคนที่ทำให้ใจเจ็บปวด นึกถึงภาพวันที่เริ่มต้นรู้จักกัน นึกถึงภาพการออกเดตในวันแรก นึกถึงบรรยากาศโรแมนติกบนดาดฟ้า นึกถึงคำสนทนาหวานๆ ผ่านทางโทรศัพท์ ความทรงจำทั้งหมดมันทำให้หัวใจสุขล้นจนต้องยอมบอกเลิกคนรักที่คบกันมากว่า 4 ปีอย่างนพที่ทำตัวห่างเหินไปในตอนแรกและกำลังจะกลับมาเป็นคนรักที่ดีในตอนหลัง แต่แล้วโอกาสนั้นกลับไม่มีเพราะเขาได้เลือกที่จะเปิดหัวใจให้กับคนที่ทำให้หัวใจสุขได้ในทุกนาทีที่อยู่ใกล้กัน แล้วทำไมทุกอย่างมันต้องกลับตาลปัตรแบบนี้ ความสุขที่เขาถวิลหาทำไมถึงต้องหลุดลอยไปตั้งแต่ยังไม่ได้เอื้อมมือคว้ามาครอบครองด้วย
“ทำไมเหรอแชมป์ ทำไมนายถึงเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหวนนึกถึงเสียงเพลงรอสายที่ตนได้ยินตอนติดต่อไปหาคนนั้น
หลังจากถึงหอพักสิ่งแรกที่เต็นทำตอนขึ้นไปถึงห้องคือการเปิดคอมพิวเตอร์เข้าอินเตอร์เน็ตสืบค้นหาบทเพลงที่ตนได้ฟังแค่บางส่วนมา เสียงนั้นเด็กหนุ่มรับรู้ว่าเป็นเสียงนักร้องคนไหนจึงได้ตัดสินใจค้นหาเพลงนั้นในชื่อนักร้องคนนี้ สุดท้ายก็เจอ
 
   เราเลิกกันนะ
ปาน ธนพร แวกประยูร
แม้ยังอยากจะเดินร่วมกัน แม้ยังอยากให้นานกว่านี้
แต่ใจลึก ๆ รู้สึกทุกที ว่าไปด้วยกันไม่ไหว
ก็ที่ฝืนยิ่งทำให้กลัว อุ่นแค่ตัว แต่หนาวหัวใจ
ยิ่งเราอยากประคองมันสักเท่าไร ยิ่งทำให้ใจเหนื่อยล้า

หยุดเอาไว้ตรงนี้ เมื่อวันนี้ เหลือแค่ความเฉยชา ถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจ

ที่รัก เราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตา ถึงแม้ว่ามันโหดร้าย
ให้เราจบกันไปด้วยดี ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ

เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งดูมืดมน ยิ่งเราอดเราทนแค่ไหน
ไม่อยากให้คิดว่าผิดที่ใคร ไม่มีประโยชน์ตอนนี้
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อกัน เธอและฉันก็รู้ตัวดี
ช้าหรือเร็วต้องถึง วันหนึ่งต้องมี อย่างไรก็คงจากลา
 
หยุดเอาไว้ตรงนี้ เมื่อวันนี้ เหลือแค่ความเฉยชา ถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจ

ที่รัก เราเลิกกันนะ ต้องบอกเธอด้วยน้ำตา ถึงแม้ว่ามันโหดร้าย
ให้เราจบกันไปด้วยดี ก่อนถึงนาทีที่สาย จนเราไม่เหลืออะไรให้จำ

บทเพลงนี้ดังวนอยู่เป็นรอบที่เท่าไหร่คนเปิดฟังก็ไม่อาจนับได้ เด็กหนุ่มพยายามจับความหมายในเนื้อเพลงจนพอจะคิดไปเองได้ว่าที่แท้แล้วเป็นเหตุผลใดที่ตนถูกบอกเลิก คนนั้นคงจะรู้สึกผิดจริงๆ สินะที่เป็นคนเข้ามาแทรกความสัมพันธ์ระหว่างตนกับคนรักจนต้องเลิกรากัน แต่ทำไมถึงเลือกที่จะห่างเหินกับเขาด้วยวิธีนี้ล่ะ ไม่ดูไม่เป็นผลดีกับความรู้สึกใครสักเท่าไหร่เลยสักนิด เด็กหนุ่มเชื่อเหลือเกินว่าการกระทำเช่นนี้เจ้าตัวคงจะปวดใจอยู่ไม่น้อยนักหรอก
โทรศัพท์ถูกหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง เด็กหนุ่มปิดเสียงเพลงคอมพิวเตอร์ตัดสินใจติดต่อไปหาคนที่ตนคิดว่าคงจะจมอยู่กับความเจ็บปวดเหมือนอย่างตนอีกครั้ง ขอให้ฝ่ายนั้นรับสายทีเถอะ คราวนี้เขาจะพูดจาดีๆ อย่างคนเข้าใจเหตุผล จะไม่มีการต่อว่า การประชด และการร้องขอให้เจ้าตัวรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นอีกแล้ว
เสียงเพลงรอสายเพลงเดิมดังมาให้ได้ยิน ก่อนจะดับไปเพราะการถูกตัดสัญญาณ ไม่เป็นไรหรอก เต็นพยายามปลอบใจตัวเองแล้วลองใหม่ ก็ยังเป็นเช่นเดิม คราวนี้เด็กหนุ่มเลยเขียนข้อความแสดงความเข้าใจส่งไปแทน
“แชมป์ เต็นพอจะเข้าใจเหตุผลของแชมป์แล้วล่ะ รับสายเต็นสักครั้งได้มั้ย เต็นอยากคุยกับแชมป์ แม้เราจะคบกันอย่างคนรักไม่ได้ เราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา เถอะนะ รับสายเต็นเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย มันเป็นผลดีต่อใครเลยนะ”
ข้อความถูกส่งไปนานแล้วจนคิดว่าฝ่ายนั้นคงเปิดอ่านจนครบทุกตัวอักษรเจ้าของข้อความจึงตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อไปใหม่ ในใจหวังไว้ว่าคราวนี้คงจะได้รับการตอบรับเป็นแน่
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” ประโยคนี้ดังขึ้นให้ได้ยิน หัวใจเด็กหนุ่มวาบไหวอีกครั้ง นี่มันหมายความว่ายังไง ข้อความที่ตนส่งไปเมื่อครู่เพื่อหวังให้ฝ่ายนั้นยอมคุยกับตนทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ เป็นไปได้เหรอที่คนๆ นั้นจะปิดเครื่องหนีตนแบบนี้ ที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยทำขนาดนี้เลยนี่นา มีแต่ตัวเขาเองที่ท้อจนไม่มีแรงติดต่อไปหลังจากที่เจ้าตัวไม่เคยรับสายสักครั้ง
“ทำไมนายถึงเป็นไปได้ขนาดนี้แชมป์”เด็กหนุ่มเอ่ยออกมารู้สึกเสียใจปนน้อยใจ เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นไปอย่างใจนึก ตกลงนี่เขาคิดเข้าข้างตัวเองใช่มั้ยว่าคนๆ รู้สึกผิดจนต้องเลิกรากับตนไป แท้จริงแล้วเหตุผลจริงๆ มันจะเป็นที่ฝ่ายนั้นเป็นผู้ชายที่ไม่ต้องการคบเกย์อย่างเขาจริงๆ น่ะเหรอ แล้วทำไมที่ผ่านมาถึงแสดงออกว่ามีใจให้เขานักหนาล่ะ
หยดน้ำตาทำท่าจะไหลอีกครั้ง คนคิดสับสนจึงรีบแหงนหน้าขึ้นมองเพดานห้องหลับตานิ่งข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ไม่ได้แน่ การที่ต้องทนอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มันคงทำให้เขาฟุ้งซ่านไม่จบ และอาจจะเสียสติไปได้จากความคิดที่สับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
เมื่อน้ำในตาไม่ไหลออกมาแล้ว การหาทางออกเพื่อระบายความสับสนภายในใจที่เด็กหนุ่มเลือกทำคือเข้าโปรแกรมแชททางอินเตอร์เน็ต ค้นหาเพื่อนที่ต้องการพูดคุยด้วยสักพักจึงพบตามต้องการ คนๆ นั้นใช้ชื่อเรียกในโลกออนไลน์ว่า Mac ในขณะที่เด็กหนุ่มใช้ชื่อของตัวเอง
Mac: หวัดดี
Ten: หวัดดี
Mac: ชื่อไร
Ten: เต็น
Mac: เราแม็คนะ นายอายุเท่าไหร่
Ten: 22
Mac: เท่ากันเลย เล่นที่ไหนเหรอ มีรูปมั้ย
Ten: หอ รูปที่ดิสย์
Mac: แถวไหนล่ะ
Ten: รัชโยฯ
Mac: เราลาดพร้าวนะ
Ten: อืม
Mac: ท่าทางนายไม่อยากคุยเลย
Ten: เปล่า
Mac: แล้วทำไมถามคำตอบคำ
Ten: มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย
Mac: เรื่องอะไรเหรอ
Ten: ทะเลาะกับเพื่อน
Mac: เพื่อนหรือแฟน
Ten: ไม่รู้เหมือนกัน
Mac: อ้าว
Ten: คือเราเพิ่งรู้จักกัน
Mac: เหรอ เล่าให้ฟังหน่อยดิ
Ten: นายอยากฟังเหรอ
Mac: อืม เผื่อช่วยอะไรได้
Ten: เรากับเขาเหมือนจะคบกันเป็นแฟนแต่แล้วเขาก็ขาดการติดต่อ
Mac: ย่อความส่งอาจารย์หรือไง เล่าให้มันยาวๆ หน่อยดิ
Ten: เรากับเขาเจอกันโดยบังเอิญในวันที่เรารู้สึกไม่ดีกับแฟน
Mac: ตกลงแฟนนายมีแฟนอยู่ก่อนแล้ว
Ten: อืม
Mac: เล่าต่อ
Ten: เราสองคนคบกันหลังจากนั้น
Mac: แล้วแฟนนายล่ะ
Ten: เราก็ยังคบอยู่
Mac: ทำไปได้
Ten: เรากับคนนั้นยังไม่ได้มีอะไรกันนะเราคบกันเป็นเพื่อน แต่อาจจะสนิทกันเร็วไปหน่อย
Mac: แล้วไงต่อ
Ten: เราก็คบกันมาเรื่อยๆ เขาดีกับเราจนเรามีใจให้ในที่สุด
Mac: แล้วแฟนล่ะ
Ten: ตอนนั้นแฟนเราก็ห่างเหินกับเราอยู่พอดี
Mac: แล้วนายจึงตัดสินใจเลิกกับแฟนเพื่อมาคบกับคนนี้ แต่แล้วคนนี้กับทิ้งนายไปในตอนที่นายเลือกแล้ว ประเด็นหลักที่นายกำลังไม่สบายใจคือเรื่องนี้ใช่มั้ย
Ten: เดาเก่งนิ
Mac: ไม่เห็นต้องเดาเลย ถ้านายลงเอยกับแฟนใหม่นายคงไม่มาอมทุกข์แบบนี้หรอก
Ten: ก็จริง ตอนนี้เราสับสนมากไม่รู้จะทำยังไง โทรไปเขาก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปเขาก็ไม่ส่งกลับ เป็นมาอาทิตย์แล้ว
Mac: เข้าใจ คนมันจะเลิกทำยังไงมันก็ไม่ฟังเราหรอก
Ten: นายพูดเหมือนมีประสบการณ์
Mac: เจอจนเป็นบ้ามาเกือบปีเลยล่ะ
Ten: เหรอ แล้วตอนนี้นายเป็นไงบ้าง
Mac: ปรกติดีแล้ว เลิกคิด เลิกแคร์ แค่นี้ก็จบ
Ten: มันทำง่ายขนาดนี้เลยเหรอ
Mac: แรกๆ มันก็ต้องมีตัวช่วยบ้าง
Ten: อะไรเหรอ
Mac: อยากรู้ก็มาหาที่ห้องสิ
Ten: ห้องนายน่ะเหรอ
Mac: อืม
Ten: ตอนนี้เหรอ
Mac: ใช่แล้ว อยากลืมเร็วก็ต้องมาเร็วๆ
Ten: ไม่ได้หรอกมันมืดแล้ว
Mac: ของแบบนี้ยิ่งมืดมันก็ยิ่งดี
Ten: นายหมายถึงอะไรล่ะ
Mac: บอกไม่ได้นายต้องมาดูเอง เล่นเอง
Ten: พูดแปลกๆ แค่นี้นะ
Mac: เฮ้ย เดี๋ยวดิ
Ten: ทำไม
Mac: นายไม่อยากลืมความเจ็บปวดแล้วเหรอ
Ten: ก็นายไม่ยอมบอกว่าต้องทำยังไง
Mac: มาหาเราก่อน มันไม่มีอะไรหรอก เราไม่หลอกนายมาเชือดทิ้งหรอก น่ารักๆ แบบนี้ เรามีของเย็นๆ เพื่อดับให้ใจนายหายร้อนได้น่า มาเล่นกันสนุกนะ
Ten: บอกก่อนไม่ได้เหรอว่ามันคืออะไร
Mac: พูดขนาดนี้แล้วนายยังไม่รู้อีกเหรอ
Ten: ไม่อ่ะ
Mac: ไม่อยากจะเชื่อ
Ten: ทำไม
Mac: เปล่าไม่มีอะไร ตกลงมาหาเรานะ เชื่อเถอะว่าของสิ่งนี้มันจะทำให้นายลืมความสับสนปนเจ็บปวดทั้งหมด เราการันตีได้เพราะลองมาแล้ว
Ten: บอกหน่อยสิว่ามันคืออะไร ยาเสพติดหรือเปล่า
Mac: บอกไม่ได้ สนใจก็มาเลย เดี๋ยวมันจะดึกมาก มันไม่มีอะไรเสียหายหรอกน่า เราเข้าใจอารมณ์นายเลยอยากช่วยให้หายดี มานะ นี่เอาเบอร์โทรไป ถ้าจะไปโทรหาเราไปเลย 08.............. แค่นี้นะ ชีวิตเรามีค่าอย่าไปจมอยู่กับความทุกข์ที่คนอื่นหยิบยื่นให้ มาสนุกกันแล้วนายจะตลกกับสิ่งที่นายเป็นในวันนี้”
ฝ่ายนั้นออกจากโปรแกรมแชทนี้ไปแล้ว เต็นถือกระดาษที่จดหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าตัวขึ้นมาดู คิดอยู่ว่าจะติดต่อไปเพื่อหาใครสักคนช่วยปลอบให้หายเศร้า หรือจะเข้านอนเพื่อจะได้ลืมความรู้สึกนี้ซะ แต่วิธีหลังมันก็แค่ลืมได้แค่ช่วงเวลาหลับ แล้วถ้าหากวิธีแรกมันทำให้ลืมได้ตลอดไป ลองดูสักหน่อยไม่น่าจะเป็นอะไรเลยนี่นา
เด็กหนุ่มตัดสินใจติดต่อไปหาเจ้าของหมายเลขที่ถืออยู่ทันที ตัดสินใจบอกออกไปเมื่อฝ่ายนั้นรับสาย
“ตกลงเราจะไปหานายแม็ค”
ที่ๆ เต็นมาหาเพื่อนใหม่ทางอินเตอร์เน็ตเป็นคอนโดต้นๆ ถนนลาดพร้าว ที่ตัดสินใจมาเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรง ดูจากหน้าตาเพื่อนใหม่คนนี้ทางดิสเพลย์ของโปรแกรมแชทก็ไม่ได้ดุดันหรือน่ากลัวอะไร ยิ่งพอได้มายืนอยู่หน้าสถานที่พักเจ้าตัวก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองคงไม่ได้โดนแก็งค์ตุ้มตุ๋นหลอกมาทำอะไรแน่ๆ
เด็กหนุ่มมาถึงที่นี่ตอนห้าทุ่มเศษ หลังจากโทรศัพท์แจ้งเจ้าของห้องว่ามาถึงแล้ว จึงยืนรอคนนั้นสักพัก เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีคนที่รอก็เดินออกมารับในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามสีขาวเท่านั้น
“นึกว่านายจะไม่มาซะอีก” เจ้าตัวเอ่ยทักพลางเดินนำเข้าไปในตึก เต็นใช้ช่วงเวลานั้นพินิจมองเพื่อนใหม่ซึ่งก็ดูดีในแบบวัยรุ่นธรรมดา ไม่ได้สะดุดตาเท่าแชมป์เท่าไหร่นัก
“ชั้น 9 นะ ต้องขึ้นลิฟต์” เจ้าตัวหันมาบอกตอนอยู่หน้าลิฟต์ เต็นเพียงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะทำหน้าที่เป็นผู้ตามอย่างเงียบๆ จนมาถึงหน้าห้องๆ หนึ่ง
“ถึงแล้วสวรรค์ของเรา” เพื่อนใหม่พูดจาแปลกๆ ให้ได้ยินตอนเปิดประตู เต็นไม่ตอบว่าอะไรนอกจากมองเข้าไปในห้องนั้นที่เปิดไฟเพียงสลัวๆ เท่านั้น
“ทำไมมืดจัง” เด็กหนุ่มทักเพราะไม่ชินกับแสงสว่างที่ริบหรี่
“แบบนี้แหละดี ได้บรรยากาศ เข้าไปข้างในกันเถอะ” เจ้าของห้องบอกแล้วเดินนำเข้าไปด้านใน เต็นก้าวขาเดินตาม มองสังเกตรอบห้อง
“สำรวจอะไรเหรอ อาบน้ำมาหรือยัง อาบน้ำก่อนมั้ย” เจ้าของห้องเอ่ยขึ้นอีก
“เปล่าสำรวจ นี่นายอยู่คนเดียวเหรอ” เด็กหนุ่มถาม
“อืม เมื่อก่อนอยู่กับแฟน”
“คนที่ทำนายเป็นบ้ามาเกือบปีน่ะเหรอ”
“ถูกต้องแล้วครับ”
“แล้วไหนล่ะสิ่งที่ทำให้นายหายจากอาการนั่น”
“อยู่ตรงกลางห้องนั่นไง มองไม่เห็นเหรอ”
“ไม่อ่ะ บอกแล้วไงห้องมันมืด”
ไม่มีคำพูดตอบกลับนอกจากคู่สนทนาเดินไปเปิดไฟให้สว่างขึ้นกว่าเดิม เต็นมองไปตรงกลางห้องทันที ที่ตรงนั้นรองด้วยฟูกบางๆ สำหรับนั่งล้อมวงเท่านั้น สิ่งที่สะดุดตาอยู่ที่ขวดแก้วใสขนาดกลางที่วางอยู่กับหลอดแก้วพร้อมไฟแช็ก ขวดน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายอย่างที่ไม่รู้จักและไม่คุ้นตา
“ของพวกนั้นคืออะไร” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเจ้าของห้อง
“นายไม่รู้จริงๆ เหรอ” ฝ่ายนั้นถามกลับจึงส่ายหน้าแทนคำตอบเพราะไม่รู้จักจริงๆ
“ไม่รู้ก็ไม่รู้ แต่ของพวกนี้แหละที่จะทำให้นายลืมความเจ็บปวดเสียใจในทุกๆ เรื่อง”
“มันคือยาเสพติดใช่มั้ย”
“ก็กึ่งๆ อ่ะนะ แต่ไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่รุนแรง ไม่มีพิษสงอะไรเลย มีแต่ผลดีเท่านั้นแหละ”
“แน่ใจนะ”
“อ้าว นายก็ดูเราสิ มีลักษณะเหมือนคนติดยาหรือเปล่าล่ะ ทั้งๆ ที่เราใช้มันเป็นประจำ เหอะน่า อย่าเซ้าซี้ถามเลย ไปอาบน้ำให้สบายตัวเถอะไป แล้วมาลองเล่นกัน มันไม่มีอะไรจริงๆ เราเคยอกหักมาก่อน เราเข้าใจนาย เราไม่ทำร้ายนายหรอก เราอยากให้นายหายจากอาการพวกนั้นต่างหากล่ะ”
เต็นไม่ถามอะไรต่ออีกเมื่อคนพูดเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ เด็กหนุ่มรับผ้าผืนนั้นมาช้าๆ คิดทบทวนว่าจะเอายังไงดี เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เพื่อนใหม่คนนี้จะทำให้ตนลืมทุกอย่างได้คือสารเสพติดที่ตนไม่รู้จักชนิดของมัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2011 08:56:49
“มันไม่ร้ายแรงจริงๆ นะ” เด็กหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจเมื่อจิตใจเกิดอยากลองขึ้นมาเพื่อประชดกับความผิดพลาดในเรื่องความรักที่คนบางคนฝากรอยแผลเอาไว้ให้จนลึกฉกรรจ์
“บอกแล้วไงว่าเราไม่ทำร้ายนาย ยานี้มันไม่มีผลอะไรถ้าเราอยู่เหนือมัน” คนนั้นเอ่ยตอบก่อนจะผลักร่างให้เดินไปทางห้องน้ำ เด็กหนุ่มเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย อะไรจะเป็นไปต่อจากนี้ก็ช่าง เขาไม่เหลือใครให้ต้องแคร์อีกแล้วนี่
อารมณ์เคลิบเคลิ้ม สนุกสนาน สดชื่น และกระปรี้กระเปร่าค่อยๆ เกิดขึ้นกับร่างกายหลังจากที่เด็กหนุ่มได้รับสารเสพติดชนิดที่ตนไม่รู้จักเข้าร่างกายตามวิธีการที่เพื่อนใหม่ในโลกอินเตอร์เน็ตสอนให้ ความทรงจำต่างๆ ระหว่างวันที่เคยเสียใจเจ็บปวดค่อยๆ จางหายไปจากความรู้สึกทีละนิดๆ จนไม่หลงเหลือให้ได้คิดถึง สิ่งที่จิตใจกำลังจดจ่ออยู่ตอนนี้คือการเรียนรู้วิธีการเสพสารเสพติดที่ทำให้จิตใจรู้สึกสนุกสนานเบิกบาน
“ใจเย็นๆ พวก พอชินแล้วเอาใหญ่เลยนะ ชักติดใจแล้วสิ” เสียงคนสอนเสพเอ่ยขึ้นในตอนที่เด็กหนุ่มกำลังสูบเอาไอระเหยจากสารเสพติดชนิดนี้ผ่านไอร้อนจากน้ำ
“สนุกดีว่ะ มิน่านายถึงบอกว่ามันทำให้ลืมความเสียใจได้” เต็นอ้าปากเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างคนลืมความเจ็บปวดหมดสิ้น ไม่สนใจกับการที่ร่างกายโดยมือคนที่นั่งข้างๆ เอื้อมมาลูบไล้ส่วนต่างๆ
“อยากลองสนุกให้มันสุขสุดเหวี่ยงมากกว่านี้มั้ยล่ะ” ฝ่ายนั้นขยับตัวเข้ามาชิดพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าส่งสายตาหยาดเยิ้มให้
“เอาสิ มีอะไรที่ทำให้มันสุขได้กว่านี้นายก็ทำเลย” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พลางตอบสอนการถูกซุกไซ้ซอกคอจากคนที่ตรงเข้าประชิดร่างกายด้วยการส่งเสียงครางอย่างสยิว
คนซุกไซ้ไม่ได้หยุดการกระทำอยู่ที่ซอกคอเท่านั้นแต่ยังลามไล้ขั้นมาถึงริมฝีปากแล้วประกบจูบอย่างดูดดื่ม ซึ่งคนที่ควบคุมสติไม่ได้แล้วก็ตอบสนองอย่างเร่าร้อนเช่นกัน โดยยอมให้ทุกอย่างเลยเถิดไปถึงการเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวจนเปลือยเปล่าแล้วจึงเข้าสู่กิจกรรมสัมพันธ์สวาทกันอย่างถึงรสถึงชาติด้วยความรู้สึกซาบซ่านและสนุกอย่างที่ไม่อยากให้กิจกรรมนั้นจบลง
เต็นลืมตาขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า รู้ลำคอแห้งผากไม่ต่างจากริมฝีปากที่รู้สึกว่ามันเหือดแห้งไร้ซึ่งน้ำมาหล่อเลี้ยง เด็กหนุ่มรู้สึกตัวหวิวๆ ในตอนที่ลุกนั่ง ในหัวหนักอึ้งจนอยากที่จะล้มตัวลงไปนอนใหม่ แต่เอ๊ะ นี่มันที่ไหน แล้วมันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว คิดคำถามให้ตัวเองได้แบบนั้นจึงรีบกระโจนลุกออกจากเตียงนอนหนานุ่ม ตกใจสุดขีดตอนเห็นสภาพตัวเองในกระจกเงาตรงหน้าบานตู้เสื้อผ้า ภาพที่เห็นคือร่างกายตัวเองเปล่าเปลือย ผมเผ้าอยู่ในสภาพรุงรัง ขอบตาสองข้างคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาซีดเซียวไร้ซึ่งสีเลือด ร้ายไปกว่านั้นคือริมฝีปากตอนนี้แห้งผากจนกลายเป็นสีขาวอย่างน่าตกใจ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งจำได้แค่เพียงว่าตนได้มาหาเพื่อนใหม่ทางอินเตอร์เน็ตที่คอนโดเจ้าตัว พูดคุยกันสักพัก ตนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ออกมานั่งร่วมวงเสพสารเสพติดชนิดหนึ่งที่คนพาเสพบอกมันไม่มีฤทธิ์ร้ายแรงอะไร ลักษณะของเม็ดยาเป็นผลึกคล้ายน้ำแข็ง นำเข้าร่างกายโดยการสูดดมไอระเหยโดยการเผาผ่านหลอดแก้ว แม้ในตอนแรกจะยังไม่ชินจนสำลักออกมาหลายหน แต่ตอนท้ายๆ ก็จำได้ดีว่ารู้สึกสนุกไปกับมันจนภาพต่างๆ รางเลือนออกจากความทรงจำไปในที่สุด ใช่สินาทีสุดท้ายก่อนจะผลอยหลับจิตใจจำได้ว่าได้ว่าร่างกายโดนลามเลียนี่ ไม่จริง นี่เขายังอยู่คอนโดของเพื่อนใหม่ทางอินเตอร์เน็ตอย่างงั้นเหรอ แล้วเจ้าตัวหายไปไหน แล้วตอนนี้มันเช้าแล้วหรือ
“ตื่นแล้วเหรอที่รัก” หนึ่งเสียงร้องทักมาให้ได้ยิน เด็กหนุ่มมือไวคว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่มองเห็นใกล้ๆ มาพันร่างกายท่อนล่างเอาไว้
“สภาพนายดูไม่ดีเลย ไปอาบน้ำก่อนมั้ย” คนนั้นเอ่ยบอกพลางเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้ม
“นี่มันกี่โมงแล้ว” เต็นเอ่ยถามเพราะยังรู้สึกมึนๆ
“จะห้าทุ่มของอีกวันแล้ว”
“นายว่าไงนะ!” เต็นอุทานถามอย่างตกใจ ถ้าหากว่านี่มันห้าทุ่มก็เท่ากับว่าเขามาอยู่ที่นี่ครบรอบหนึ่งวันแล้วสิ แล้วนี่ทำไมเขาไม่รู้ตัวเรื่องวันเวลาเลย
“ไม่ต้องตกใจหรอก เราไม่ได้อำ นายจำไม่ได้จริงๆ เหรอว่าเราเล่นน้ำแข็งจนถึงเช้า แล้วก็มีอะไรกันต่อจนถึงเที่ยง นายเพิ่งจะผลอยหลับไปเมื่อช่วงบ่ายนี่เอง”
เต็นยืนไม่ติดเมื่อได้ฟังคำบอกกล่าวของคนตรงหน้า เด็กหนุ่มรีบเดินไปทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเลื่อนลอย ก็ไหนคนๆ นี้บอกฤทธิ์ยาที่เล่นไปมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรไง แล้วทำไมมันถึงแผลงฤทธิ์ร้ายให้เขาจำอะไรแทบไม่ได้
“ยานั่นมันคือยาอะไรแม็ค นายโกหกเราใช่มั้ยว่ามันไม่มีฤทธิ์ร้ายแรง” เด็กหนุ่มหันไปถามเจ้าของห้อง
“ยาไอซ์” คนนั้นเฉลยออกมา คนได้ยินยังไม่รู้สึกอะไรเพราะยังไม่คุ้นกับชื่อมันอยู่ดี
“นายไม่รู้จักไอซ์เหรอ” เจ้าของห้องถามต่อ เต็นส่ายหน้าช้าๆ ก่อนบอก
“เราไม่ได้สนใจเรื่องสารเสพติด”
“กรรม ทีแรกก็นึกว่าแกล้งทำเนียนไร้เดียงสา” อีกคนยกมือกุมขมับ เต็นเห็นภาพนั้นรู้สึกประหลาดใจจึงถาม
“หมายความว่าไง”
“นายลองไปเสริชหาทางอินเตอร์เน็ตแล้วกันว่ายานี้มันออกฤทธิ์ยังไง”
“นายพูดยังกับว่ายานี้มันร้ายแรงอย่างนั้นล่ะ” เต็นถามขึ้นใจสั่น
“นายดูสภาพตัวเองแล้วยังไม่รู้ถึงฤทธิ์ของมันอีกเหรอ” คำตอบที่ได้ทำให้ต้องลุกขึ้นมาส่องกระจกอีกครั้ง
“ยานี้ถ้าคุมตัวเองอยู่เราก็จะสนุกกับมันไปได้เรื่อยๆ แต่หากยอมให้มันควบคุมเราเมื่อไหร่ พูดง่ายๆ ว่าติดมันอย่างที่นายเป็นเมื่อคืน สภาพก็จะเป็นอย่างที่นายเป็นตอนนี้แหละ” คนในห้องเอ่ยบอกอีกทำเอาเด็กหนุ่มตัวชาวูบ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ตนสูดดมเอาสารพิษนี้เข้าร่างกายแบบหยุดไม่อยู่จนสติกระเจิดกระเจิงกระทั่งควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วรู้สึกตกใจอย่างสุดขีด ไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนไหวจึงปล่อยให้ร่างกายทรุดนั่งลงกับพื้น
“เฮ้ย เป็นไรวะ” อีกคนในห้องวิ่งเข้าประคอง
“ทำไมล่ะแม็ค ทำไมนายไม่บอกเราถึงพิษของมันตรงๆ นายโกหกเราทำไม” เต็นฮึดเรี่ยวแรงสุดท้ายที่มีโวยวายออกมา
“ก็เห็นว่านายอยากลืมความเสียใจก็เลยจัดให้ ก็ไม่คิดว่าจะนายจะเล่นมันเยอะขนาดนี้” คนประคองตัวให้คำตอบ
“แล้วทำไมนายไม่ห้ามเรา”
“จะห้ามยังไงล่ะ เราก็สะลึมสะลือเหมือนกัน แต่ดีหน่อยที่เราใช้มันมานานเลยไม่ถึงขนาดที่นายเป็น”
“แล้วที่เรามีอะไรกันนายป้องกันหรือเปล่า”
“ร้อยทั้งร้อยคนที่เล่นยานี้สดแทบทั้งนั้น เราก็เป็นหนึ่งในนั้น”
เต็นแทบปล่อยโฮออกมา นึกหวาดกลัวถึงผลร้ายต่างๆ นาๆ เมื่อตาสว่างขึ้นแล้วว่าตนเองได้ทำสิ่งเลวร้ายและผิดพลาดที่สุดในชีวิตลงไป
“ไม่ต้องกลัวหรอก เราคลีนอยู่แล้ว” อีกคนเอ่ยบอกให้เบาใจบ้างเกี่ยวกับเรื่องโรค แต่แล้วคำพูดที่ทำให้หนักใจกลับดังตามหลังมา
“แต่ต่อจากนี้ไปนายต้องระวังเรื่องการโดนจับตรวจฉี่ไว้หน่อยละกัน”
“หมายความว่าไง” เด็กหนุ่มถามกลับทันควัน
“อ้าว ก็นี่มันยาเสพติดนะ ตรวจเจอก็โดนซิวสิครับ” อีกคนตอบให้หนักใจ
“แล้วโทษมันคืออะไร”
“ก็ร้ายแรงพอที่จะทำให้นายเสียอนาคตได้ เตือนด้วยความหวังดีว่าต่อจากนี้เป็นไปได้เลี่ยงจากการตรวจฉี่ซะ อย่างน้อยก็เดือน สองเดือน หรือสามเดือนแล้วแต่ว่าสารในกายนายจะเจือจางเร็วหรือช้า นี่ไม่นับรวมถึงที่นายจะเล่นมันอีกนะ”
เล่นอีกเหรอ เต็นทวนประโยคหลังในใจ ไม่มีทาง เขาไม่มีทางกลับมาวังวนนี้อีกแน่ แต่จากวันนี้ล่ะ เขาจะทำยังไงเพื่อลบมลทินนี้ออกจากกายให้หมดไปเร็วๆ
“มีวิธีขับมันออกมั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยถามอย่างร้อนรน
“ก็ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วกัน จะได้ฉี่ออกมามากๆ ตอนนี้ฉี่นายอาจจะมีสีเข้มหน่อย อย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ เฮ้อ ขอโทษด้วยว่ะ ไม่คิดว่านายจะมือใหม่จริงๆ”
“มีเหตุผลอะไรที่เราจะโกหกนายว่าเราไม่รู้จักมัน ทำไมนายไม่บอกเราตั้งแต่ต้น ทำไมล่ะแม็ค ทำไมนายถึงไม่บอกเรา” เต็นโวยวายเสียงดังลั่นอย่างนึกโกรธเคืองคนเอ่ยขอโทษเมื่อครู่ เด็กหนุ่มร้องไห้เสียน้ำตาอีกครั้งเมื่อนึกหวาดกลัวถึงผลร้ายต่างๆ ที่จะตามติดชีวิตตนหลังจากนี้
“ใจเย็นๆ ก็เราบอกแล้วไงว่านึกว่านายแกล้งไม่รู้จักไอ้ยานี่เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น” คนถูกโวยใส่เอ่ยบอกก่อนจะคว้าร่างเด็กหนุ่มเข้ามากอดปลอบ เต็นจึงปล่อยให้ร่างของตนสะอื้นอยู่ภายใต้อกนั่น ก่อนจะสะดุ้งกับเสียงร้องทักที่แผดกล้าเข้ามาในโสตประสาท
“กล้าดียังไงถึงได้พากิ๊กมามั่วถึงในห้องของเราแม็ค!”
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 11 : 11.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2011 08:57:46
ไม่แน่ใจว่าจะมีคนรับตอนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่เหตุการณ์มันเป็นไปแล้ว เหอๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 12-01-2011 10:47:46
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:



อ่านแรกๆก็ยิ้มได้อยู่ ไปๆชักจะยิ้มไม่ออกแล้ว ว่าแต่ใครนะที่เข้ามา

นพ?
แชมป์?
อื่นๆ?

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 12-01-2011 12:19:56
เต็นเอ้ย....

ถ้าเค้าไม่รักก็ปล่อยเค้าไป ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 12-01-2011 13:04:45

/กิต. เกร็ง
๕๓ + ๑ = ๕๔
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-01-2011 13:14:04
เนี่ยป้าไม่อยากสงสารเต็นเลยนะ เรียนตั้งมหาวิทยาลัยแล้ว
ยังไม่ฉลาด ไม่รู้อะไรกับเรื่องแบบนี้ เค้าให้ความรู้กัน สอนกันตั้งกะมัธยมต้นแล้ว
เอ๊ะ รึตั้งกะประถมเลยหว่า ไอ้เรื่องยาเนี่ย
มีเพศสัมพันธ์กัน แล้วเล่นสดกันแบบนี้ ไว้ใจได้ไงว่าคลีนจริงไรจริง
เพื่อนรู้จักกันทางเน็ตแป๊บๆเองแท้ๆ เฮ้อ เป็นบทเรียนอันหาค่ามิได้สำหรับเต็นจริงๆ
แต่ก็ดี เรื่องของเต็นตอนนี้คงป็นอุทาหรณ์ให้คนหลายคนได้
คนเราเสียใจได้แต่อย่าขาดสติ เต็นนี่ขาดสติจนประมาทพลาดพลั้งอย่างใหญ่หลวงเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-01-2011 19:00:58
 :laugh5: :laugh5:สรุปแล้วใจง่ายเองใช่มั้ยเต็น ทุกเรื่องใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 12-01-2011 19:38:05
คนที่เข้ามาจะเป็นแชมป์ หรือ นพ ป่าว
แต่แชมป์ไม่ชอบผู้ชาย อาจเป็นนพ แต่ถ้าเป็นนพก็ดีอย่างน้อยเต็นจะได้รู้สึกผิดน้อยลง555

อ่านแล้วรู้สึกเต็นทำตัวเองทั้งนั้น แถมยังชอบคิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ
บ้างทีก็รู้สึกสมเพชนะ
แต่คนโดนความรักบังตาก็คงโง่ประมาณนี้มั่ง
ไม่รู้ว่าจริงๆแชมป์มีเหตุผลอื่นป่าว
แต่เราเข้าใจอารมณ์แชมป์นะ แบบบ้างคนเราเข้าไปเล่นๆด้วย แต่พอเห็นเขาจริงจังกลับมาขนาดนั้น
บางทีก็อึดอัดถึงขั้นกลัวเหมือนกัน 555 แถมเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเอง เป็นเรา เราก็ชิ่งหนีอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 12-01-2011 20:45:50
คงไม่ใช่แชมป์น่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-01-2011 21:25:57

 :m16: เต็น เหอะๆ

หลงมัวเมา เขลาโง่ โมโหบ้า
รักบังตา มืดมิด สนิทแน่น
ไร้สติ ไร้ปัญญา ครอบงำแทน
ก็ไอ่แค่ ไม่มีแฟน แสนเดียวดาย

รักตัวเอง ให้ดีก่อน รักคนอื่น
ห่วงหวานชื่น เลยลืมขม จะจมหาย
รักคนอื่น แทบจะเป็น แทบจะตาย
แต่ตัวเอง ทุกข์ไม่วาย ตายทั้งเป็น

 :a5: เครียด แต้..แต้

 :กอด1: ขอบคุณครับ คุณบอย


ป้อล่อ  :sad4: มานั่งจิตตก..ต่อ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 12-01-2011 22:44:30
เอ่อม...

เต็นมันเรียนมหาลัยแล้วไม่ใช่เหรอ..
บทนี้ เหมือนเด็ก ม.ต้นหรือไม่ก็เด็กประถมเลย

ยังมีหน้าไปตีโพยตีพายใส่คนอื่นเค้าอีกแน่ะ =[]=!

ก๊าซซซ สภาพจิตทำให้คนเราสมองลดอายุได้เหรอเนี่ย...
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 13-01-2011 19:05:25
อ่านไปไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชเต็นดี

ทำตัวเองแท้ๆหละน้า แล้วใครมาหว่า ขอเดาว่าแชมป์หละกัน

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 13-01-2011 19:57:28
 :laugh:
อะไรกันว่ะเนี่ย


กรูจะบ้าตายอยู่แล้ว

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 13-01-2011 20:28:44
ห๊ะ ทะเลแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-01-2011 21:22:23
เต็น นี่ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองเลยเหรอ
เป็นบุคคลที่น่าสงสารจริงๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-01-2011 22:27:01
เอิ่มมมม

Go so big แล้วละคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 13-01-2011 22:45:37
อืม........จะว่าไงดีละ  ทำมัยเรืองมันเหมือนจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆๆๆ  :m15:

 :เฮ้อ:  เต็นเอ้ย  สุ้ต่อไป  



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:พี่บอย


 :L2: :L2: :L2: :L2:

+1
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 13-01-2011 23:42:48
อ่านเรื่องนี้แล้วเครียดอ่ะ
ทำไมเต็นถึงได้อ่อนไหวขนาดนี้
ถูกล่อลวงได้ง่ายๆ ทั้งคำพูดของแชมป์ ไหนจะเชื่อคนง่ายๆอีก
ดูแล้วคงจบไม่สวย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 12 : 12.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-01-2011 23:32:55
ตอนที่ 13
เต็นหันไปมองยังที่มาของเสียง พบเด็กหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวจัดยืนจ้องเขม็งมาที่ตนกับคนที่โอบกอดร่าง เด็กหนุ่มรีบผละร่างออกจากคนนั้นทันที แล้วยืนขึ้นยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ
   “สภาพดูไม่ได้เลยนะนาย ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้องนี้ซะ” เสียงคนมาใหม่ออกคำสั่ง เต็นหันไปมองหน้าคนที่ชวนตนมาที่นี่ซึ่งกำลังจ้องไปที่ร่างคนมาใหม่
   “จะมาทำไมไม่บอกล่ะกาย” เจ้าตัวเอ่ยถามคนนั้น
   “ถ้าบอกก็ไม่เห็นภาพดีๆ น่ะสิ” ฝ่ายนั้นตอบกลับ เต็นจึงยืนมองสองคนพูดคุยกัน
   “ไม่ต้องประชดหรอก ที่มานี่เพราะเขาไม่ว่างใช่มั้ย”
   “แม็คหมายถึงใคร”
   “คบกิ๊กใหม่กี่คนล่ะ ถึงได้ถามว่าหมายถึงใคร”
   “อย่ามาว่ากายนะ ทีตัวเองล่ะ พาคู่ขามาล่อถึงห้องแบบนี้มันก็ไม่ดีไปกว่ากายเท่าไหร่หรอก”
   “ห้องนี้มันห้องแม็ค กายเก็บข้าวของย้ายออกไปตั้งนานแล้ว จะมาถือสิทธิ์หวงห้ามไม่ให้แม็คพาใครมาเพื่ออะไร”
   “นี่แม็คกล้าพูดแบบนี้กับกายเหรอ”
   “ทำไมแม็คจะพูดไม่ได้ ก็ในเมื่อแม็คพูดเรื่องจริง การที่แม็คยอมให้กายเทียวมาเทียวไปแบบนี้มันก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
   “ไอ้แม็ค มึงเห็นคู่คู่ขานั่นดีกว่ากูที่เคยเป็นคบมึงเป็นปีๆ หรือไง”
   “อย่ามาหยาบคายใส่แม็คนะกาย แม็คคบกับกายเป็นปีๆ ก็ใช่ แต่กายก็ทิ้งแม็คไปเป็นปีๆ แล้วไม่ใช่เหรอ”
   “พูดแบบนี้ใช่มั้ย ได้รู้จักคนอย่างไอ้กายน้อยไป หลงคู่ขาใหม่นักใช่มั้ย หลงมันนักใช่มั้ย”
   เต็นถอยฉากหน่อยๆ เมื่อเห็นร่างของคนที่ตนเพิ่งรับรู้ว่าชื่อกายเดินย่างกายเข้ามาหา เด็กหนุ่มพอจะรู้เจตนาฝ่ายนั้นว่าคงตรงมาทำร้ายตน
   “อย่ามาทำกร่างที่ห้องนี้นะแม็ค กลับไปหาคู่ขาอันธพาลนายเลยไป อย่ายุ่งกับเต็นเด็ดขาด”
   เต็นตกใจเมื่อเห็นร่างของคนที่เดินเข้ามาหาตนกระเด็นถอยกลับทางเดิมจากแรงผลักของคนที่เข้าปกป้องตน
   “เห็นเสื้อผ้าเรามั้ยแม็ค เราจะกลับล่ะ” เด็กหนุ่มเห็นท่าไม่ดีเลยเอ่ยถามคนนั้น
   “ไปค้นในตู้แล้วหยิบเสื้อผ้าเราไปใส่ก่อน ของเต็นเราเอาไปซักแล้ว” เจ้าตัวหันกลับมาบอก แต่ยังระแวดระวังถึงพฤติกรรมของอีกคนในห้องอยู่ด้วยการหันกลับไปมองฝ่ายนั้นเป็นระยะ
   “ถึงขนาดค้นตู้เสื้อผ้ากันได้ มันไม่มากไปหน่อยเหรอแม็ค” เสียงคนนั้นดังมาให้ได้ยิน
   “น้อยไปด้วยซ้ำ นี่มันเพียงแค่เริ่ม ถ้าเต็นยอมรับว่าแม็คเป็นแฟนเมื่อไหร่ เขาทำได้มากกว่าค้นตู้เสื้อผ้าอีก”
   เต็นอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน จังหวะนั้นคนพูดหันมาสบตาเข้าพอดี เด็กหนุ่มรีบหลบตาเลี่ยงไปหาเสื้อผ้าที่ตู้ด้านหลัง โดยไม่ทันระแวงระวังเพราะมัวแต่อึ้งในสิ่งที่ได้ยิน เด็กหนุ่มต้องตกใจในตอนที่หยิบชุดหนึ่งชุดขึ้นมาแล้วโดนมือหนึ่งยื่นเข้ามากระชากจนหลุดจากมือ
   “มาชุดไหนก็กลับไปชุดนั้น อย่ามายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าผัวกู”
   เต็นตอบโต้ไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดหยาบคายจากปากคนที่แลดูแล้วไม่น่าจะพูดออกมาได้ สักพักจึงเห็นอีกคนเข้ามาปกป้องตนเช่นเดิม
   “ถ้าชุดนั้นเขาหวงนักก็ไปหยิบเอาชุดใหม่ก็ได้เต็น”
   “ชุดไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าขืนไม่ฟังกูต่อยหน้าแหกแน่” คนขี้หวงขึงขังเข้าใส่ ถึงตอนนี้เต็นจึงต้องเอ่ยบ้าง
   “อย่ามาอันธพาลใส่ผม เราไม่รู้จักกัน”
“งั้นมึงอยากรู้จักกูมั้ย” ฝ่ายนั้นถลึงตาใส่พลางยกมือขึ้นผลักอก เมื่อโดนร้ายใส่ซึ่งๆ หน้าแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เต็นจะอดทน เด็กหนุ่มจึงกำหมัดขึ้นชกเปรี้ยงเข้าที่ใบหน้าคนอันธพาล จนเจ้าตัวเซล้มไปกองที่พื้น
   “กูก็คนนะโว้ย ความอดทนมันมี ถ้าขืนมึงยังกร่างไม่หายตัวต่อตัวกะกูเลยมั้ย”
   เงียบ ไม่มีเสียงโต้กลับจากฝ่ายนั้นเต็นจึงหันไปคว้าเอาเสื้อผ้าในตู้เดินหายเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้สองคนในห้องเคลียร์กันเอาเอง
   เต็นออกมาจากห้องน้ำในเสื้อผ้าชุดใหม่และสภาพร่างกายที่สดชื่นขึ้น เด็กหนุ่มหันมองรอบห้องเมื่อไม่เห็นร่างคนกร่างยืนรวมอยู่กับเจ้าของห้อง
   “เราบอกให้เขากลับไปแล้ว” เสียงเจ้าของห้องเอ่ยบอก
   “แล้วเขายอมง่ายๆ เลยเหรอ” เต็นถาม
   “โดนต่อยปากเลยหายซ่ามั้ง” คนนั้นตอบ เต็นจึงถามต่อ
   “เขาเป็นใคร แฟนนายเหรอ”
   “ก็คนที่เราบอกว่าทำเราบ้ามาเกือบปีน่ะแหละ”
   “แต่ท่าทางเขายังรักยังแคร์นายอยู่นี่”
   “กิ๊กใหม่ไม่ว่างอ่ะดิ เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วจนเราเฉยๆ”
   “โกรธหรือเปล่าที่เราต่อยเขาเมื่อครู่”
   “ก็เขาวอนเองนี่ ช่างเขาเถอะ อย่าพูดถึงเขาเลย สนุกกันต่อมั้ย ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว”
 เต็นจึงรีบถอยร่างออกห่างเมื่อคนพูดเดินเข้าหาทำท่าจะโอบกอด ฝ่ายนั้นจึงร้องทัก
   “เฮ้ย เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนะเต็น”
   “แค่อารมณ์ชั่ววูบ อย่ามานับเป็นความผูกผัน” เต็นตอบอย่างเฉยชา
   “แรงแฮะ โอเค อารมณ์ชั่ววูบก็ชั่ววูบ งั้นยังไงดีล่ะ จากนี้จะเอาไงบอกมา”
   “เราจะกลับห้อง”
   “ไปดิ เดี๋ยวขับรถไปส่ง”
   “ไม่ต้องอ่ะ เรากลับเองดีกว่า”
   “อย่าทำเป็นเก่งน่าเต็นกลับไม่ไหวหรอก ที่ยืนไหวนี่แค่อาบน้ำมาใหม่หรอกนะ ลองไปยืนรอรถข้างนอกนานๆ สิ ล้มแน่รับรองได้”
เต็นตวัดสายตามองคนพูด บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไรตอนนี้ โกรธก็โกรธที่เจ้าตัวไม่ยอมบอกถึงพิษร้ายของไอ้ยานรกนี่ แต่จะโทษเจ้าตัวฝ่ายเดียวก็คงจะไม่ถูกนักเพราะตัวเองก็ดันโง่ อยากประชดชีวิตจนไม่คิดหหน้าคิดหลังให้ถี่ถ้วน
“เฮ้ย อย่ามองแม็คแบบนั้นดิ กลัวนะโว้ย” คนโดนมองร้องทักขำๆ สรรพนามแทนตัวและท่าทีที่เห็นทำเอาเต็นแอบคิดถึงคนอีกคนไม่ได้ ทำไมคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้ไม่ใช่คนชื่อแชมป์นะ ถ้าเป็นแบบนั้นนาทีนี้เขาคงจะมีความสุขที่สุด
“อ้าว เมื่อกี้ตาดุๆ แล้วไหงตอนนี้คล้ายคนจะร้องไห้ซะงั้น” เสียงทักดังมาให้ได้ยิน จึงรีบปรับอารมณ์บอก
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“คิดถึงเขาเหรอ” คนนั้นถาม
“ใคร”
“ก็คนที่ทิ้งนายไป”
“เปล่า”
“อย่าปฏิเสธเลย แม็คดูออกน่า”
“ช่างเถอะ อย่ามาสนใจเราเลย ขอตัวนะ”
“ขอตัวไปไหนล่ะ ก็บอกว่าจะไปส่ง”
“นายพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องลำบากหรอก”
“ลำบากอะไร บอกแล้วไงว่าเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล”
“บอกไม่ต้องก็ไม่ต้องสิ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง” เต็นขึ้นเสียงเมื่ออีกคนไม่ฟังเสียงค้าน
“โอเค ไม่ก็ไม่ งั้นกลับดีๆ ล่ะ” ที่สุดเจ้าตัวก็ยอมฟัง เต็นมองดูแค่แวบจึงเลี่ยงไปเก็บของที่ติดตัวมาเดินออกจากห้องไป
**********************************************************
บรรยากาศรอบตัวไม่ได้มืดมิดเท่าใดนัก เพราะที่ยืนอยู่เป็นป้ายรถประจำทางติดถนนใหญ่ ดึกๆ  แบบนี้ถนนโล่งจนดูเงียบเหงาอย่างรู้สึกได้ เต็นทรุดกายนั่งลงที่ตรงม้านั่ง เมื่อรู้สึกหนักอึ้งที่หัวขึ้นมา เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ บีบเค้นไล่อาการนั่นออกไป แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ มองรอบตัวที่ตรงนี้ไม่มีใครที่นั่งรวมอยู่ด้วย ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว่างจึงแล่นเข้าสู่กลางใจอีกครั้ง อาการปวดหนึบยังไม่ทันจางหายอาการวูบไหวก็แล่นเข้ามาผสมโรงจนร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ใช่สินะ ข้าวสักเม็ดยังไม่ทันได้ตกถึงท้องเลยนี่ตั้งแต่มาที่นี่ ในร่างกายตอนนี้คงเต็มไปด้วยสารพิษจากยานรกนั่นเป็นแน่ นี่มันคงเริ่มแผลงฤทธิ์ร้ายแล้วสินะ นึกถึงตอนนี้เด็กหนุ่มแทบอยากจะลุกวิ่งไปกลางถนนให้รถสักคันเฉี่ยวชนให้หมดลมหายใจไปซะให้ได้ เพราะไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวเลวร้ายที่ตัวเองพลาดพลั้งทำลงไป แต่แล้วความคิดนั้นก็พลันสะดุดลงเพราะเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น
“นพ” เด็กหนุ่มครางชื่อคนโทรเข้ามาเบาๆ เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้ว นึกชั่งใจสักพักจึงกดรับสัญญาณ
“เต็นเหรอ อยู่ไหนน่ะ” เสียงฝ่ายนั้นทักมาตามสาย
“อยู่ อยู่ อยู่แถวลาดพร้าวน่ะ” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง แต่สุดท้ายบอกออกไปตรงๆ
“ไปทำอะไรแถวนั้นเหรอ” คนรักเก่าถามกลับ
“มาหาเพื่อนน่ะ”
“คนนั้นหรือเปล่า”
   เต็นนิ่งเงียบ เข้าใจว่าคนนั้นที่อีกฝ่ายเอ่ยถึงเจ้าตัวหมายถึงใคร
   “เปล่าหรอก” เด็กหนุ่มตอบ
   “อืม ช่างมันเถอะ จริงๆ นพก็ไม่ควรจะถามหรอก นพแค่โทรมาถามว่าตาเป็นไงบ้าง พอดียุ่งๆ อยู่เลยไม่มีเวลาโทรถาม”
   ได้ยินคำพูดนี้คนวูบไหวถึงกลับกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่ไหว ทำไมคนรักเก่าจะต้องมาดีกับเขาเอาตอนนี้ด้วย
   “ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ ขอบใจนะ” ด้วยการเก็บกลั้นจึงได้เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
   “เสียงไม่ดีเลยอ่ะเต็น มีอะไรหรือเปล่า” ฝ่ายนั้นเอ่ยถามมา
   “เปล่า ไม่มีอะไร แค่นี้นะ เต็นไม่สะดวกคุย” เด็กหนุ่มรีบตัดสัญญานทิ้งไปเมื่อข่มอารมณ์รื้นในใจต่อไปไม่ไหว น้ำตาจึงไหลอาบสองแก้มอีกครั้งปนด้วยอาการสะอื้นที่ฝืนเอาไว้ไม่ได้เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์และวันเวลาเก่าๆ ที่ผ่านมา อาการนั้นเป็นอยู่ไม่กี่นาที ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีก เป็นคนๆ เดิมที่โทรกลับเข้ามาใหม่ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดน้ำตา ระงับอารมณ์อ่อนแออ่อนไหวแล้วกดรับสัญญาณ
   “ท่าทางเต็นไม่ค่อยดีเลย มีอะไรหรือเปล่า ตอนนี้นพอยู่ข้างนอก ให้นพแวะไปหามั้ย” คนโทรเข้ามาเอ่ยทักทันที
   “เต็นไม่เป็นอะไร ดึกมากแล้ว นพเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ” เด็กหนุ่มปฏิเสธออกไปเพราะละอายใจที่จะเจอคนนั้น ไม่รู้จะตอบคำถามเจ้าตัวว่าอย่างไรหากว่าเจ้าตัวเอ่ยถามถึงคนต้นเหตุที่ทำให้ตนตกอยู่ในสภาพนี้
   “อืม ไม่สะดวกเจอก็ไม่เป็นไร งั้นก็ตามสบายนะ นพไม่กวนแล้ว มีอะไรก็โทรมาละกัน”
   คนนั้นวางสายไปแล้ว เต็นจึงนั่งอยู่ต่ออย่างเลื่อนลอยสักพักจึงตัดสินใจลุกขึ้นเรียกแท็กซี่นั่งกลับห้อง ระหว่างทางจิตใจก็หวนนึกไปถึงคนที่เย็นชากับตนอีกจนได้ จึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาเจ้าตัวอีกรอบ หวังเพียงจะได้คำพูดดีๆ เพื่อช่วยลดทอนความรู้สึกเลวร้ายที่ฝังอยู่ในใจตอนนี้ให้ทุเลาลง
   เสียงเพลงรอสายดังให้ได้อยู่เป็นนานจนเกือบจะท้อใจ แต่แล้วกลับมีเสียงทักทายดังมาให้ใจชื้นตอนกำลังจะวางสายทิ้ง
   “ฮัลโหล”
   “แชมป์เหรอนี่เต็นนะ” เด็กหนุ่มทักทายออกไปอย่างรู้สึกดีใจ
   “อืม มีอะไร” เสียงห้วนสั้นดังมาตามสาย แต่นั่นก็ไม่ได้บั่นทอนความรู้สึกดีใจให้น้อยลงได้
   “ขอบคุณนะแชมป์ที่ยอมคุยกับเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยออกไปตามความรู้สึก แต่แล้วกลับตัวชาวูบกับสิ่งที่ฝ่ายนั้นตอบกกลับมา
   “ไม่หลับไม่นอนหรือครับ คุณดูจะล้ำเส้นกับผมมากเกินไปแล้วนะ”
   “เต็นขอโทษ เต็นแค่อยากคุยกับแชมป์”
   “แต่นี่มันเป็นเวลานอนนะครับ”
   “ก็ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยรับสายเต็นเลย”
   “ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าติดต่อมาหาผม ทำไมไม่ฟังกันบ้าง”
   “แล้วถ้าตอนนี้เต็นบอกว่าเต็นจำเป็นล่ะ”
   “จำเป็นยังไง”
   “เต็นเหงา เต็นโดดเดี่ยว แชมป์รู้มั้ยว่าเต็นไปเจออะไรมาบ้างระหว่างที่แชมป์หายไป”
   “เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันไม่จำเป็นเลยที่ผมจะรับรู้เรื่องของคุณ”
   “ทำไมแชมป์ถึงร้ายกับเต็นได้ขนาดนี้”
   “ผมจะร้ายกว่านี้อีกถ้าคุณยังดึงดันที่จะติดต่อผมอยู่”
   “สรุปว่าไม่ว่าจะยังไงเราก็กลับมาคุยกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย”
   “ก็น่าจะเป็นยังงั้น”
   “แชมป์ไม่เสียดายวันเวลาดีๆ ที่เราทำด้วยกันบ้างเหรอ”
   “คุณครับ เรารู้จักกันกี่วันกันครับ วันดีๆ ที่คุณพูดถึงน่ะ มันจะน่าจดจำและน่านึกถึงขนาดไหนกัน”
   “แชมป์”
   “โทษผมไม่ได้นะ คุณบังคับให้ผมพูดเอง แค่นี้นะครับ ผมจะนอน”
   เสียงสัญญาณขาดหายไปในนาทีนั้น เต็นเอนกายพิงเบาะรถอย่างหมดเรี่ยวแรง เด็กหนุ่มปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง
   จากคนหนึ่งถึงอีกคน
คนหนึ่งอยากจะรู้ อีกคนไม่อยากให้ถาม
คนหนึ่งคอยวิ่งไล่ตาม อีกคนก็เดินหนีไป
คนหนึ่งคอยตรงนี้ อีกคนไปอยู่ที่ไหน
คนหนึ่งบอกว่าเหงาใจ อีกคนว่าน่าระอา

คนหนึ่งอยากไปหา อีกคนก็กลับห่างเหิน
คนหนึ่งอยากนั่งใกล้ๆ อีกคนไม่ยอมสบตา
คนหนึ่งโทรทุกครั้ง อีกคนไม่เคยโทรหา
คนหนึ่งแบกรักเต็มบ่า อีกคนไม่แคร์อะไร

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง

คนหนึ่งบอกว่ารัก อีกคนไม่อยากจะรู้
คนหนึ่งยังเหมือนเดิมอยู่ อีกคนทำไมเปลี่ยนไป
คนหนึ่งห่วงเสมอ อีกคนหนึ่งห่วงอยู่ไหม
คนหนึ่งยังนั่งร้องไห้ อยากรู้หัวใจอีกคน

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง

ขณะที่ฉันรักมากมาย แต่ว่าเธอทำไมน้อยลง
   วันใหม่เต็นตื่นขึ้นมาจนเกือบจะเที่ยง เด็กหนุ่มจำเป็นต้องเกเรหยุดเรียนอีกวันเพราะสภาพร่างกายตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกไปทำอะไรได้ ขนาดต้องค่อยๆ คลานลุกจากที่นอนตะเกียกตะกายหาน้ำดื่มเพื่อประทังร่างกายที่อิดโรย เพราะหลังจากที่กลับถึงห้องเมื่อคืนเด็กหนุ่มมัวแต่นั่งจมกับความรู้สึกเจ็บปวดในทุกๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจนลืมไปว่าตัวเองยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกายเลยสักนิด
   ร่างอิดโรยนอนราบอยู่บนพื้นห้องอย่างคนทรมาน เมื่อรู้สึกลมหายใจขาดหายเป็นช่วงๆ เพราะเกิดจากอาการหวิวไหวของหัวใจ สุดท้ายเมื่อคิดว่าร่างกายอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้จึงฮึดกำลังใจเฮือกสุดท้ายพาตัวเองไปคว้าโทรศัพท์เพื่อติดต่อไปหาคนรักเก่า
   “นพช่วยเต็นด้วย” เสียงแหบพร่าดังไปตามสายเมื่อมีเสียงกดรับสัญญาณ สักพักจึงมีเสียงทักกลับมา
   “เต็น เต็นเป็นอะไร แล้วตอนนี้อยู่ไหน”
   “เต็นอยู่ที่ห้อง ไม่ไหวแล้ว เต็นเหนื่อยใจจะขาด” เด็กหนุ่มบอกออกไปในเฮือกสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้ร่างกายสลบไปในที่สุด มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีคนมาเขย่าร่าง จึงปรือสายตาขึ้นมอง
   “นพ” น้ำเสียงแสนเบาเอ่ยเรียกคนนั้น
   “เต็น เต็นเป็นอะไรไป ไปโรงพยาบาลนะ” เจ้าตัวพยามยามจะประคองลุก แต่สถานที่ที่ถูกเอ่ยถึงเมื่อครู่ทำให้ต้องยั้งตัวเองเอาไว้
   “ไม่นพ เต็นไม่ไปโรงพยาบาล”
   “ทำไมล่ะเต็น เต็นเป็นขนาดนี้เต็นต้องไปหาหมอนะ”
   “ไม่นพ เต็นไปหาหมอไม่ได้ เต็นไปไม่ได้” ถึงตอนนี้น้ำตาเด็กหนุ่มไหลพราก โผเข้ากอดคนประคองตัวดั่งต้องการหาที่ยึด
   “มันเกิดอะไรขึ้นน่ะเต็น” คนนั้นกอดปลอบพลางเอ่ยถาม จึงตัดสินใจเอ่ยบอกอย่างกระท่อนกระแท่น
   “เต็น เต็น เต็นเสพยามานพ เต็นเสพยามา ที่เต็นเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะฤทธิ์ของมัน”
   “หา! เต็นว่าไงนะ” ฝ่ายนั้นร้องถามอย่างตกใจ เต็นไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงได้แต่ร้องไห้สะอื้น
   “หยุดร้องก่อนเต็นแล้วบอกนพซิ เต็นไปเสพยาอะไรมา” อีกคนคาดคั้นเอาคำตอบถึงชนิดยา
   “ยาไอซ์” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบสั้นๆ แต่ทำเอาคนฟังตกใจต่อว่า
   “บ้าไปแล้ว เต็นไปยุ่งกับมันได้ไง”
   “เต็นไม่รู้ เต็นไม่รู้” เด็กหนุ่มร้องไห้หนัก
   “ไม่รู้แล้วมันเกิดขึ้นได้ไง”
   “เต็นแชทเอ็ม แล้วมีคนชวนไปเต็นกำลังสับสนอยู่เต็นเลยไปหาเขาสุดท้ายเขาชวนเล่นมัน”
   “แล้วเต็นเล่นมันทำไม”
   “บอกแล้วไงว่าเต็นไม่รู้”
   “แล้วต่อจากนั้นล่ะ”
   “เต็นไม่อยากพูดถึงแล้ว เต็นอยากลืมมันเต็นไม่อยากพูดถึง”
   “แค่นี้นพก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น โธ่เอ้ยเต็นทำไมถึงได้เหลวไหลแบบนี้นะ”
   “เต็นไม่รู้จะทำยังไงแล้วนพ เต็นกลัว เต็นกลัว”
   “ใจเย็นๆ นะ ตอนนี้ดูเต็นแย่มาก ขึ้นไปนอนพักบนเตียงก่อนไปเดี๋ยวนพเช็ดตัวให้ยังไม่ได้ทานอะไรเลยใช่มั้ยร่างกายถึงได้เป็นแบบนี้”
   เต็นพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะปล่อยให้คนรักเก่าจัดการกับร่างกายตนทุกอย่างจนรู้สึกดีขึ้น มีเรี่ยวแรงพอที่จะถามถึงเรื่องอื่นๆ
   “นพลางานมาเหรอ”
   “อืม”
   “เต็นขอโทษ เต็นไม่รู้จะโทรหาใครแล้วจริงๆ”
   “ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่เขารู้มั้ยว่าเต็นเป็นแบบนี้”
   “ใคร”
   “ก็คนนั้นไง”
   “อย่าถามถึงเขาเลย”
   “ทำไมล่ะ”
   “เพราะเต็นไม่รู้จะตอบนพว่ายังไง”
   “ก็ตอบตามความจริงสิ ไม่เห็นยาก”
   “เราสองคนไปกันไม่รอด”
   “เฮ้ย เพิ่งจะคบกันเองไม่ใช่เหรอ”
   “ยังไม่ทันได้คบหรอก เขาบอกเลิกเต็นถัดจากวันที่เต็นบอกเลิกนพ”
   “กรรม อย่างนี้ก็แย่นะ”
   “ช่างมันเถอะ”
   “นี่ใช่มั้ยเป็นสาเหตุให้เต็นต้องทำตัวเหลวไหลแบบนี้”
   “อืม”
   “โธ่เอ้ย แล้วเรื่องเรียนเป็นไงบ้างเนี่ย”
   “หยุดไปหลายวันแล้ว”
   “ไม่ได้นะเต็น ใกล้จะจบแล้วก็ต้องเอาให้จบให้ได้นะ นพเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าใช้เวลากับเรื่องไร้สาระให้มันมากนัก”
   “ต่อไปเต็นคงเริ่มทำใจแล้วล่ะ บาปกรรมมันตามสนองเต็นแล้วที่บอกเลิกนพ”
   “เรื่องนั้นนพทำใจไว้แล้วล่ะว่ามันต้องมีสักวันตั้งแต่ที่นพกลับมาเห็นว่าเต็นพาเขามาที่ห้อง”
   “แต่ก่อนหน้านั่นนพก็ห่างไปจากเต็นจริงๆ ไม่ใช่เหรอนพจะมารู้สึกได้ไง”
   “นพยังยืนยันนะว่านพหายไปเพราะเรื่องงาน”
   “นพคงยังไม่รู้สินะว่าเต็นเจอถุงยางอนามัยในกระเป๋ากางเกงที่นพฝากเต็นซักให้”
   “เจอแล้วไง มันก็แค่ของเขาแจก นพไม่ได้ตั้งใจเอาไปใช้กับใคร”
   “นพพูดจริงเหรอ”
   “นพจะโกหกเต็นไปทำไม ถุงยางนั่นมีหน่วยงานเขามาแจกจริงๆ ระหว่างทางที่นพมาหาเต็นที่ห้อง”
   “นพพูดแบบนี้ยิ่งทำให้เต็นรู้สึกผิดนะ”
   “ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก นพรู้ว่าการกระทำของนพมันก็ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ แต่อย่างที่บอกว่าถ้าเต็นก้าวเข้ามาในสังคมคนทำงานเต็นก็จะรู้เองว่าทำไมนพถึงเปลี่ยนไปบ้างในบางเวลา”
   “เต็นขอโทษที่มองนพผิดไป”
   “ช่างมันเถอะ ตอนนี้ก็ลุกขึ้นมาจัดการกับชีวิตตัวเองใหม่ได้แล้วนะ เป็นไปได้ติดต่อกับไอ้คนที่มันพาไปเล่นยาให้มันไปตรวจเลือดซะ เพื่อความสบายใจ”
   “เต็นไม่อยากไปเจอหน้าหรือพูดคุยกับเขาอีก”
   “ถ้างั้นระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งมีพฤติกรรมเสี่ยงอีกก็แล้วกัน ครบสามเดือนก็ไปตรวจเลือดซะ”
   “เต็นกลัวจังนพ”
   “อดีตมันกลับไปแก้ไขไม่ได้อยู่แล้ว ต่อไปในอนาคตนี่สิเป็นเรื่องที่ต้องระวัง”
   “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด นพกลับไปทำงานต่อเถอะ เต็นไม่เป็นไรแล้ว”
   “แน่นะ”
   “อืม”
   “ถ้างั้นมีอะไรก็โทรหานพแล้วกัน อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใคร”
   “ขอบใจนะนพ”
   “ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยเราก็เคย เฮ้อ ช่างมันเถอะ นพไปนะ”
   ร่างสูงเดินออกจากห้องไปแล้ว คนในห้องมองตามจนลับตา เด็กหนุ่มเอนกายหลับตานึกคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่มีเหตุการณ์วุ่นวายและเลวร้ายเกิดขึ้นในชีวิตจนเผลอพลาดพลั้งทำอะไรผิดๆ ลงไป ถึงเวลาแล้วสินะกับการยืนขึ้นใหม่แล้วก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างคนที่เจ็บแล้วจำ
   จากวันนั้นเต็นพยามยามทำใจให้ลืมเรื่องเก่าๆ แม้มันจะยากในระยะแรกแต่ที่สุดก็ทนมาได้จนถึงครบกำหนดการไปตรวจเลือด
หน้าคลินิกนิรนามเต็นเดินยิ้มออกมาทั้งน้ำตาหลังจากรับทราบว่าผลการตรวจเลือดของตัวเองยังปกติดีทุกอย่าง น้ำตาที่ไหลออกมาในตอนนี้มันเต็มตื้นออกมาด้วยความปีติยินดีที่ว่าหลังจากนี้ตนจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงดังเช่นสามเดือนที่ผ่านมาอีกแล้ว ระยะเวลากว่าเก้าสิบวันมันนานเหลือเกินกับการที่ต้องทนอยู่กับภาพความทรงจำอันเลวร้าย ช่วงเวลานั้นเด็กหนุ่มจัดการกับตัวเองเสียใหม่โดยการพักฟื้นร่างกายให้หายขาดจากเชื้อของยานรกตามคำแนะนำจากข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตรวมทั้งมีคนรักเก่าอย่างนพคอยให้กำลังใจและช่วยเป็นพี่เลี้ยงคอยควบคุมพฤติกรรมให้มีระเบียบในเรื่องเรียนจนกำลังจะกลายเป็นบัณฑิตเต็มตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้ความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มกับคนนั้นจะเป็นได้แค่เพื่อนกันแล้วก็ตามแต่นั่นมันกลับสวยงามและผูกพันกันมากกว่าการเป็นคนรักกันเสียอีก เพราะสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะมีฝ่ายใดแง่งอน
   คนที่พาชีวิตไปเสพติดยานรกอย่างแม็คติดต่อมาหาบ้างเป็นระยะๆ แต่ด้วยความที่ไม่อยากพูดคุยด้วยแล้วจึงตัดปัญหาโดยการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เสียใหม่ การเปลี่ยนหมายเลขติดต่อครั้งนั้นเด็กหนุ่มได้ลบคนชื่อแชมป์ให้หายไปจากชีวิตตนเช่นกัน ด้วยการไม่ติดต่อไปรบกวนเจ้าตัวอีกไม่ว่าจะมีบางเวลาที่ยังคิดถึงอยู่ก็ตาม
   สายลมต้นฤดูหนาวพัดมากระทบร่าง เด็กหนุ่มปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองดูใบไม้แห้งบนต้นไม้ริมถนนที่ปลิวหล่อนตามแรงลม นึกคิดในใจว่าจากนี้จะปลดปล่อยควมทุกข์ทั้งหมดที่จมอยู่กับชีวิตมากว่า 3 เดือนให้ปลิวหายไปดังเช่นใบไม้แห้งนั่น สองขาออกก้าวเดินพร้อมรอยยิ้มอิ่มเอมที่ผุดแต้มเต็มใบหน้า แต่พลันต้องตกใจเมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวร่างทั้งร่างกลับได้ชนเข้ากับใครบางคน
   “แชมป์” เด็กหนุ่มเรียกชื่อฝ่ายนั้นเมื่อมองเห็นว่าเป็นใคร

โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณครับ

Boy

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 14-01-2011 23:42:53
มาๆๆๆ  จิ้มไรเตอร์  :z13:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 14-01-2011 23:53:40
ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แชมป์พูดมา เป็นเหตุผลจริงๆรึเปล่า
แต่ทำให้เต็นช้ำหนักขนาดนี้ ก็ตัดใจไปเหอะ
ยืนได้ด้วยตัวเองซะทีนะเต็น  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-01-2011 00:19:00
อยากรู้สาเหตุทำไมแชมป์ถึงเป็นงี้ หรือจริงๆแล้วไม่มีสาเหตุ เป้นเพราะความเลวในสันดาร
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 15-01-2011 18:53:39
แชมป์  ตกลงแกเลวโดยสันดานใช่ไหม

จบไปแล้ว ก็ให้จบไปเลยได้ไหม อย่ามาทำให้เต็นไหวหวั่นนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-01-2011 23:07:18
เม้นท์ไม่ออก
บอกไม่ถูก
พูดได้คำเดียว "เศร้า"

+1 ขอบคุณครับ คุณบอย .... กาซิกๆ


ป้อล่อ คุณบอยเขียนกลอน กินใจมากกกกก อ่านแล้วเศร้า แต้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-01-2011 07:21:20
น้ำตาจะไหล สงสารเต็น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 16-01-2011 09:37:03

/กิต. ยื่นแก้วน้ำส้มให้เต็น
“นี่จ้ะ ดื่มซะ แม่นางเอก”
 :fcuk:
(บ้องหูซะ)

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 16-01-2011 12:05:58

เม้นท์ไม่ออก
บอกไม่ถูก
พูดได้คำเดียว "เศร้า"

+1 ขอบคุณครับ คุณบอย .... กาซิกๆ


ป้อล่อ คุณบอยเขียนกลอน กินใจมากกกกก อ่านแล้วเศร้า แต้ๆๆๆๆ


จึ๋ย! กลอนไหนเหรอครับ ถ้าเป็น "จากคนหนึ่งถึงอีกคน" เป็นเพลงของปาน ธนพร ครับ สารภาพว่าขี้เกี่ยจแปะโค๊ตเพลงก็เลยลงแค่เนื้อ แหะๆ

ท้ายๆ เรื่องจะมีเครดิตบอกทุกการอ้างอิง พร้อมการตอบเม้นต์ครับ


ขอบคุณครับ

Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-01-2011 12:45:35
ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แชมป์พูดมา เป็นเหตุผลจริงๆรึเปล่า
แต่ทำให้เต็นช้ำหนักขนาดนี้ ก็ตัดใจไปเหอะ
ยืนได้ด้วยตัวเองซะทีนะเต็น  :เฮ้อ:

เห็นด้วยกับรีของคุณ ♥10♥KK♥23♥ค่ะ
เต็นอย่าลืมนะว่าบทเรียนครั้งที่ผ่านมานี่ของเต็น เกือบใช้ทั้งชีวิตแลกมา
เต็นอย่าเป็นไม้เลื้อย ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่มีรากแก้วแข็งแรง และหยั่งลึก
ใช้บทเรียนที่ผ่านมานั่นแหละ หล่อเลี้ยง และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้มแข็งและแข็งแกร่ง
เป็นกำลังใจให้เต็น 
 
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิ
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 16-01-2011 16:32:20
อ่านเรื่องนี้แล้วอารมณ์พลิกคนละด้านเลย
ตอนแรกก็หวานซ้าาา
แล้วก็เล่นเอาซะเศร้าจนหดหู่เลย
นับถือๆคนแต่ง

รอตอนต่อไปนะคะ
^^
ขอบคุณค่ะ

ปล. มีคำผิดตอนแรกนะคะ

“มองเหี้ยอะไร”
“มองไม่มีคนมารยาทไง” เต็นตอบกลับไปน้ำเสียงเรียบนิ่ง เริ่มมองสำรวจคนตวาดนิ่งคิด หน้าตาก็ดี รูปร่างก็ดี ผิวพรรณก็ดี รวมถึงชุดนักศึกษาที่สวมใส่ก็สื่อถึงว่าน่าจะเป็นคนมีการศึกษาอยู่พอสมควร แต่ทำไมสิ่งที่ทำกับเขาเมื่อครู่ถึงได้ดูอันธพาลนักนะ

เป็น มองคนไม่มีมารยาท
 ^_____________^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 16-01-2011 17:45:22
เต็นเลิกสนใจแชมป์ไปเถอะ

เริ่มต้นใหม่ดีกว่า

ปล.สงสารเต็น  :o12:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 16-01-2011 22:21:29
เม้นท์ไม่ออก
บอกไม่ถูก
พูดได้คำเดียว "เศร้า"
+1 ขอบคุณครับ คุณบอย .... กาซิกๆ
ป้อล่อ คุณบอยเขียนกลอน กินใจมากกกกก อ่านแล้วเศร้า แต้ๆๆๆๆ
จึ๋ย! กลอนไหนเหรอครับ ถ้าเป็น "จากคนหนึ่งถึงอีกคน" เป็นเพลงของปาน ธนพร ครับ สารภาพว่าขี้เกี่ยจแปะโค๊ตเพลงก็เลยลงแค่เนื้อ แหะๆ
ท้ายๆ เรื่องจะมีเครดิตบอกทุกการอ้างอิง พร้อมการตอบเม้นต์ครับ
ขอบคุณครับ
Boy

 o14 อายอ่ะ ไม่เคยฟังครับ ฮี่ฮี่

เลยไปเสิร์ชหาในยูทูปมา แปะให้ฟังกันครับ
http://www.youtube.com/v/ooObhkKZr14?fs=1&amp;hl=en_US

 :o8: คุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 16-01-2011 23:31:59
คบกันมานานกลับบอกเลิกอย่างง่ายดาย
คบไม่กี่เดือนกลับถวิลหาอาลัยอาวร ใจเหนอใจ
ฟ้าช่างกลั่นเเกล้ง จะฆ่ากันอีหนหรือยังไง
แล้วนี่เป็นฟ้าเหรอนรก อีกล่ะที่ทำให้เต็นเจอกับเเชมป์อีก
กรุงเทพเมืองฟ้าอมรใช่แคบใยทำให้เรากลับมาเจอกันอีก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Ten] ตอนที่ 13 : 14.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 17-01-2011 00:13:42
Love Story Ten & Champ
รักในสองนิยาม
ตอนที่ 14 นิยามที่ 2 Part Champ


“เฮ้ยหลบดิ๊” เสียงนั่นดังขึ้นพร้อมแรงกระชาก
ร่างของใครบางคนกระเด็นออกจากตู้โทรศัพท์สาธารณะตามแรงเหวี่ยง เด็กหนุ่มไม่สนใจว่าใครคนนั้นจะล้มไปทิศทางใดเพราะรีบพาตัวเองก้าวเข้าไปยืนแทนที่ตำแหน่งเดิมที่เจ้าตัวยืนอยู่ จัดการกดหมายเลขบนแป้นโทรศัพท์
“มิว มิว ฟังแชมป์ก่อน มิว มิว” แชมป์เอ่ยทักออกไปเป็นประโยคแรกเมื่อเจ้าของหมายเลขที่ตนติดต่อไปเอ่ยทักทายตามสายมาให้ได้ยิน ไม่มีเสียงทักทายตอบกลับหลังจบประโยคนอกจากเสียงสัญญาณถูกตัดขาด เด็กหนุ่มวางโทรศัพท์ลงที่แป้นดังเดิม หันหลังจะเดินออกจากตู้โทรศัพท์ซึ่งเป็นแบบไม่มีประตู แต่แล้วกลับได้เผชิญหน้ากับคนที่ยืนมองตนอยู่จึงตวาดขึ้นเสียงดัง
“มองเหี้ยอะไร”
“มองคนไม่มีมารยาทไง” ฝ่ายนั้นตอบกลับน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางใช้สายตามองตนตั้งแต่หัวจรดเท้า อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่ามองทำไมแต่คำต่อว่าก่อนหน้าที่ได้ยินทำให้นึกเคืองกว่า จึงถามออกไปว่า
“มึงว่าใครไม่มีมารยาท”
“ก็ว่ามึงน่ะแหละ” อีกฝ่ายตอบกลับ
“เป็นพ่อเหรอถึงมาด่ากู” เด็กหนุ่มโต้กลับเสียงดุจ้องหน้าคนพูดเขม็ง
“ก็มันจริงป่ะล่ะ กระชากคนที่ไม่รู้จักจนเกือบล้ม ใครที่ไหนเขาทำกัน” ฝ่ายนั้นสู้สายตาไม่ถอยก่อนเอ่ยเถียง
“ก็มึงเสือกมายืนอยู่ในตู้โทรศัพท์ทำไม”
“แล้วมึงสัมปทานเอาไว้หรือไงกูถึงจะยืนไม่ได้”
“กูไม่ได้สัมปทานไว้ แต่มันเป็นของสาธารณะ”
“สาธารณะแล้วไง ถ้ามึงเสนอหน้ามาให้เห็นว่าจะใช้ กูก็คงหลบให้ ไม่เห็นต้องมากระชากกันเลยนิ”
“แล้วไง กระชากแค่นี้มึงถึงตายมั้ย”
“ไม่ตายแต่มันก็ไม่ควรโว้ย”
“ทำไมจะไม่ควร มึงเป็นพ่อกูหรือไงกูถึงจะทำอะไรมึงไม่ได้”
“แม่งเอ้ย แถได้เรื่อยๆ”
“เฮ้ย ด่าถึงแม่เลยเหรอวะ ต่อยกะกูเลยมั้ยไอ้เชี่ย”
“ใครไปด่าแม่มึง”
“ก็มึงไง กำลังเครียดๆ กูขอระบายทีเถอะ”
สิ้นประโยค แชมป์ถลันออกมาจากตู้โทรศัพท์แล้วพุ่งเข้าชกคู่กรณีที่ยืนโต้เถียงตนเต็มๆ อารมณ์โกรธที่ยังครุกรุ่นอยู่จึงออกแรงผลักอกฝ่ายนั้นจนร่างกระเด็นตอนเจ้าตัวหันมาเผชิญหน้าตนก่อนยกมือชี้เอ่ยกำชับว่า
“จำไว้กูอย่ามาปากดีกะกู”
เสียงฟ้าร้องครืนๆ  ตามด้วยสายลมแรงที่พัดเอาฝุ่นละอองมากระทบเต็มหน้า แชมป์มัวแต่ยกมือชี้กำชับคนตรงหน้าจึงไม่ทันได้ระวังว่าจะมีสิ่งใดปลิวมากับสายลมบ้างกระทั่งโดนสิ่งแปลกปลอมบางอย่างปลิวเข้านัยน์ตาข้างขวาถึงได้ชักมือกลับมาปิดตาร้องขึ้นด้วยความเจ็บตอน ฝนเม็ดเล็ก ค่อยๆ หล่นลงมาพร้อมแรงลมหายไป
“เฮ้ยเป็นไรวะ” หนึ่งเสียงร้องถามให้ได้ยิน
“อะไรไม่รู้เข้าตา” แชมป์ตอบพอดีกับที่ฝนห่าใหญ่เทลงมา ด้วยอาการเจ็บที่ตาจึงไม่ได้สนใจมองหาที่หลบแต่แล้วร่างทั้งร่างก็ต้องปลิวไปตามแรงฉุดของคนที่ตนชกหน้าเมื่อครู่ ฝ่ายนั้นฉุดพาร่างเข้าไปหลบที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะตู้เดิม
“เชี่ยเอ้ย ตกไม่มีปี่มีขลุ่ย” คนนั้นบ่นขึ้นในตอนที่ยืนอยู่แนบชิดกับตนในสภาพหันหน้าเข้ากัน
“บ่นทำเชี่ยไร ช่วยกูก่อนสิวะ” แชมป์ร้องบอกแข่งเสียงฝน เพราะเริ่มเจ็บจนจะทนไม่ไหว
“มึงจะให้ช่วยไงล่ะ”
“ดูให้หน่อยว่าอะไรมันเข้าตากู แม่งเจ็บโครต”
“ปิดตาอยู่แบบนั้นกูจะมองเห็นมั้ยล่ะ”
“ก็กูปล่อยไม่ได้มันเจ็บ”
“ค่อยๆ ปล่อยดิ ช้าๆ เดี๋ยวกูดูให้”
“โอ้ย เจ็บ” แชมป์ร้องลั่นเมื่อคนพูดพยามยามจะแกะมือตนออกจากตาข้างที่เจ็บ
“ทนหน่อยสิวะ” ฝ่ายนั้นเอยดุจึงยอมเงียบเสียง
“เห็นแล้วๆ แมลงว่ะ ตัวเป้งเชียวตาบอดแน่มึง” เสียงขู่ทีเล่นทีจริงดังขึ้นตอนนัยน์ถูกดปิดออกสำเร็จ
“เชี่ยมึงแช่งกูเหรอ” แชมป์ว่ากลับเมื่อนึกไม่ชอบที่โดนแช่ง
“ก็เออดิ มึงอยากต่อยกูทำไม” คนนั้นโต้กลับจึงเงียบเสียงสักพัก
 “เออ กูขอโทษ” คำขอโทษหลุดออกมาแก้เก้อ น้ำเสียงจึงดูกระด้างคล้ายไม่เต็มใจ
“เออช่างมันเถอะ นิ่งๆ นะกูจะเขี่ยไอ้แมลงนี่ออกแล้ว” ฝ่ายนั้นพูดคล้ายไม่สนใจ เด็กหนุ่มมองเจ้าตัวหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อนักศึกษาที่สวมอยู่
“ผ้ามึงสะอาดป่ะวะ” เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่ไว้ใจ
“มันไม่ใช่ของกูหรอก” คนถือผ้าตอบเสียงเบาจึงร้องถามอย่างตกใจ
“อ้าวแล้วของใครวะ”
“ของใครก็ช่างเถอะ มันช่วยให้มึงหายเจ็บได้ละกัน” คนนั้นตัดบทพร้อมพับผ้าให้มุมเป็นเหลี่ยมเล็กๆ จัดการเขี่ยแมลงในตาตนออกจนสำเร็จ
“ไหนดูดิ” แชมป์เอ่ยขอดูแมลงตัวนั้น
“ทิ้งไปแล้ว” คนนั้นตอบพร้อมไปนอกตู้โทรศัพท์ แชมป์มองตามเห็นผ้าผืนนั้นเปียกแฉะอยู่ที่พื้น
“ทิ้งผ้าไปด้วยเหรอ” เด็กหนุ่มถามขึ้น
“อืม ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่ของกู” อีกคนตอบ ช่วงเวลานี้เองที่ได้ประสานสายตากับเจ้าตัว รู้สึกผิดนิดๆ ที่เห็นมุมปากนั่นเริ่มมีรอยช้ำจึงยกมือขึ้นจับเอ่ยขึ้น
“ปากมึงเริ่มช้ำแล้วว่ะ”
“ช่างมันเถอะ” เจ้าของรอยช้ำพูดพลางปัดมือตนออก อารมณ์หมั่นไส้จึงแล่นเข้ามาแทนความรู้สึกผิดจึงเอ่ยออกไป
“เชี่ย ทำเป็นหวงตัว”
อีกคนมองตาขวางนิดๆ ก่อนจะหันหน้าออกไปมองเม็ดฝนข้างนอก แชมป์เห็นเจ้าตัวยกมือกอดกระชับอกจึงถามขึ้น
“หนาวเหรอ”
“เปล่า” คนนั้นปฏิเสธแบบไม่มองหน้า แชมป์จึงทักใหม่
“เห็นกอดอกกูก็นึกว่าหนาว”
“เบื่อว่ะ ตกทำไมนักหนาก็ไม่รู้” คนนั้นเปลี่ยนประเด็นคุยแสดงอาการเบื่อหน่ายต่อสภาพอากาศข้างนอกแชมป์จึงเปลี่ยนไปสนทนาเรื่องอื่นด้วยเช่นกัน จนได้รู้ว่าคู่สนทนาตนชื่ออะไร เรียนที่ไหนและที่สำคัญคือรู้ว่าเจ้าตัวเป็นเพศที่สามที่ใครๆ เรียกว่าเกย์
การพูดคุยดำเนินไปเรื่อยๆ ซึ่งแม้ตอนนั้นสายฝนจะตกกระหน่ำลงอย่างไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเบื่อหน่ายเลยสักนิด รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมถูกได้พูดคุยกับคนๆ นี้ได้อย่างถูกคอจนกล้าที่จะเอ่ยล้อเล่นไปหลายประโยค ทั้งล้อเรื่องเสนอตัวเป็นแฟน ล้อถึงเรื่องเปิดบริสุทธิ์ตัวเอง ซึ่งคำพูดพวกนี้ไม่เคยแม้สักครั้งที่ตนจะกล้าเอ่ยกับใครๆ กระทั่งฝนหยุดตกที่ฝ่ายนั้นเอ่ยลา ด้วยความที่คุยติดพันจึงเอ่ยขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ เผื่อไว้พูดคุยเวลานึกเบื่อแล้วไม่มีอะไรทำ นึกตลกหน่อยๆ ที่คนนั้นเล่นตัวด้วยการให้ตนบอกเบอร์โทรศัพท์ไปก่อนแล้วเจ้าตัวจะโทรหาเอง อยากจะบอกอยู่ว่าตนไม่ได้คิดจริงจังอะไรมากนัก ให้ก็เอาไม่ให้ก็ไม่คิดจะง้อ แต่เพราะกลัวว่าหากพูดไปจะเป็นการหักหน้าเจ้าตัวจึงยอมทำตามไปงั้นๆ ปั่นหัวเกย์เล่นซะหน่อยก็น่าจะสนุกดี เผื่อมันจะทำให้หายจากอาการเซ็งๆ ที่โดนหญิงบอกเลิก
 “อย่าลืมยิงเบอร์มานะ เออแล้วหายาทาที่ปากด้วยล่ะ เดี๋ยวมันช้ำหนัก” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกตอนคนนั้นจะลาไป นึกแล้วก็ตลกที่พูดจาทำนองห่วงใยผู้ชายด้วยกันออกไป
“อืมกูไปล่ะ มึงก็กลับบ้านดีๆ ล่ะ” ฝ่ายนั้นรับคำหนำซ้ำยังเอ่ยกำชับให้กลับบ้านดีๆ ด้วยความปากไวจึงตอบกลับไปว่า
“ครับที่รัก”
อีกคนได้พาร่างหายไปจนลับตา
“ครับที่รัก...กูพูดไปได้ไงเนี่ยเกิดมันคิดจริงจังขึ้นมากูไม่ซวยเหรอวะนั่น” แชมป์เอ่ยออกมาผ่อนลมหายใจหน่อยๆ ก่อนเดินหายไปจากที่ตรงนั้นบ้าง
เช้าวันใหม่แชมป์โทรศัพท์กลับไปง้อหญิงคนรักเช่นเคยแต่แล้วก็ไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อฝ่ายนั้นไม่ยอมคืนดี เด็กหนุ่มนั่งเซ็งอยู่ในห้องใกล้เที่ยงจึงลงจัดการหาอะไรกินรองท้อง พลางคิดว่าวันสองวันนี้จะเตร็ดเตร่ที่ไหนเพราะว่าไม่มีเรียน สักพักโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเห็นเบอร์แปลกๆ จึงกดรับ
“ฮัลโหล” มีเสียงดังทักทายมาก่อนจึงตอบรับแล้วถามกลับไป
“ครับ ใครครับ”
“กูเต็นเอง” ฝ่ายนั้นแนะนำตัว
“เต็นไหนวะ” ถามกลับเพราะนึกไม่ออก
“ก็เมื่อวานที่ตู้โทรศัพท์” คนนั้นรื้อฟื้นความจำให้จึงถึงบางอ้อ ด้วยอารมณ์เบื่อๆ จึงได้สนทนากับเจ้าตัวเป็นนานสองนานจนได้รู้ว่าเจ้าตัวก็เบื่อเหมือนกันจึงเอ่ยปากถาม
 “พรุ่งนี้ว่างป่ะวะ”
“ทำไม”
“ดูหนังกัน”
“ห๊า”
“กูบอกว่าดูหนังกัน ชัดมั้ย”
“ชัดแต่กูงง”
“งงเชี่ยอะไร กูเบื่อกูเครียด ก็อยากผ่อนคลายบ้าง”
“แล้วเพื่อนมึงล่ะ”
“ก็กูจะดูกับมึง”
“ไม่กลัวกูปล้ำคาโรงหนังเหรอ”
“มึงอยากโดนต่อยก็เอา”
“จะดูเรื่องไร”
“ไม่รู้ไปถึงก็หาๆ เอาที่มีรอบฉายน่ะแหละ”
“ที่ไหน”
“มึงสะดวกที่ไหนล่ะ”
“ก็แถวบ้านกูดิ”
“เมเจอร์รัชฯ น่ะนะ”
“เออ”
“เสียใจกูขี้เกียจไป”
“แล้วถามกูหาป๊ามึงเรอะ”
“ถามไปงั้นแหละ มาแถวบ้านกูดิ”
“แถวนั้นมีที่ไหนให้ดูกันดานขนาดนั้น”
“ไอ้ห่ามึงว่าบ้านกูนอกเมืองขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อ้าวแล้วมึงบอกได้มั้ยล่ะว่าตรงนั้นที่ไหนมันน่าดู”
“เออๆ เอางี้ไปแถวสยามล่ะกันง่ายดี”
“ง่ายไงวะ มึงจะไปไง”
“ออกจากกะลาบ้างนะมึง รถไฟฟ้าถึงบ้านกูแล้วเชี่ย”
“เออ กูลืมไป เออๆ สยามก็สยาม”
“สรุปคือมึงว่าง”
“อืม”
“ใจง่ายชิปเป๋ง”
“อ้าวไอ้นี่กูไม่ไปก็ได้นะเออ”
“กูล้อเล่น ทำเป็นงอนไปได้”
“งอนทำไมมึงไม่ใช่แฟน”
“อยากให้กูเป็นป่ะล่ะ”
“รอดูพฤติกรรมก่อน”
“เชิญตามสบาย ตกลงพรุ่งนี้เที่ยงนะ ไหวป่าว”
“คงไหว”
“เอองั้นแค่นี้นะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“อืม หวัดดี”
“หวัดดีว่ะ”
การสนทนาจบไปแค่นั้น แชมป์ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงเอ่ยปากชวนคนที่ตนเพิ่งรู้จัก เพราะปกติไม่เคยคิดเที่ยว หรือผ่อนคลายในลักษณะนี้กับใครอื่นนอกจากคนรัก หรือเพื่อนสนิท แต่ช่างเถอะ คิดอะไรมากไปก็เท่านั้น ถือซะว่าฝ่ายนั้นเป็นเพื่อนใหม่อีกคนก็แล้วกัน แม้มันจะเป็นเกย์ก็เถอะ

*************************

แชมป์ส่งข้อความให้เพื่อนใหม่ในตอนใกล้สายของวันรุ่งขึ้นเพียงสั้นๆ ว่า 12.00@MBK  เด็กหนุ่มโยนโทรศัพท์ไว้ยังที่นอนตามเดิม หันไปสนใจเกมส์ในเครื่องเคอมพิวเตอร์ที่เล่นค้างไว้ ไม่ได้คิดใส่ใจการนัดครั้งนี้มากนักกระทั่งเผลอลืม มารู้ตัวอีกทีตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่ตนนัดซึ่งโทรมาตามตัวในตอนใกล้เที่ยง
“ตื่นเต้นขนาดต้องโทรมาตามกูก่อนเที่ยงเลยหรือไงวะ” เด็กหนุ่มบ่นนิดๆ แล้วหันไปสนใจเกมส์ที่เล่นค้างอยู่ สักพักจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าง่ายๆ เพราะไม่ได้กะสร้างความประทับใจอะไรให้คนที่ตนนัด ก็นั่นมันเกย์นี่นาจะแต่งหล่อไปล่อมันทำไม ใส่แค่ไปก็เชื่อว่ามันคงหลงแล้วล่ะ
เด็กหนุ่มไปถึงที่นัดหมายในตอนเลยเที่ยงไปหน่อย มองดูการแต่งกายของคนที่ตนนัดซึ่งดูพิถีพิถันกว่าตนมากนัก ด้วยใบหน้าเกลี้ยงเกลากับผมเผ้าที่เข้าทรงมาอย่างพอดี บนร่างกายสวมเสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีน้ำตาลพับแขน กับกางยีนส์ทรงเท่สีเข้มก่อนจะจบลงด้วยรองเท้าผ้าใบคู่สวย โดยที่มือได้ถือแจ็คเก็ตตัวหนึ่งมาด้วย องค์ประกอบโดยรวมมันส่งให้เจ้าตัวดูดีได้อย่างไม่คิดปฏิเสธ แต่ก็นะยังไงก็ผู้ชายเหมือนกันต่อให้ร่างนั้นดูดีแค่ไหนเขาก็คงไม่สามารถคิดอะไรด้วยได้
“รอนานป่ะวะ” เด็กหนุ่มถามขึ้นตอนที่เห็นฝ่ายนั้นมองสำรวจตัวเองเช่นกัน
“คิดว่าสายป่ะล่ะ” ฝ่ายนั้นตอบออกมากวนๆ จึงเอ่ยสวนกลับ
“ปากดีนะมึง”
“อ้าว ก็มันจริงป่ะล่ะ”
“เออ กูขอโทษ”
“ไอ้ห่ากูล้อเล่น ทำจริงจังไปได้”
“จะไปรู้เหรอ แคร์นะโว้ย”
แชมป์กะพูดออกไปอย่างขำๆ แต่อีกคนคล้ายจะอึ้งขึ้นมาซะอย่างนั้น ดีที่เจ้าตัวทำเป็นเรื่องตลกไปจึงได้เบาใจว่าไม่ได้เอ่ยสร้างความหวังให้คิดถลำกับตนไปไกล
“เมาอะไรมาอีกล่ะคราวนี้”
“เมารักมั้ง ไปเหอะดูรอบหนังกัน” เมื่อเห็นคนนั้นเอ่ยติดตลกจึงเอ่ยแบบตลกๆ ตามก่อนจะเดินไปดูรอบฉายที่ติดไว้ตรงหน้าช่องจำหน่ายตั๋ว
“ดูเรื่องอะไรดีอ่ะ” เด็กหนุ่มหันมาถามความเห็นเมื่ออีกคนเดินตามมาถึงตัว
“มึงชวนมึงก็เลือกเองละกันกูไงก็ได้” เจ้าตัวตอบออกมา
“ได้ไงล่ะ เอาที่มึงอยากดูดิ” แชมป์ตอบออกไปเพราะไม่อยากเลือกหนังให้ ไม่ใช่คนพิเศษจะให้มาเลือกหนังให้ดูมันใช่เรื่องซะที่ไหน
“ทรานฟอร์เมอร์” ฝ่ายนั้นเอ่ยบอกออกมา แชมป์ไม่แย้งเพราะไม่อยากยืนอยู่เป็นเป้าสายตาใครนานๆ ก็ยังรู้สึกอายๆ บ้างที่มายืนเลือกหนังกับผู้ชายด้วยกันแบบนี้ จริงอยู่ที่คนอื่นอาจจะคิดว่าแค่เพื่อนกันแต่ใจเขามันรู้นี่นาว่าไอ้คนที่ยืนข้างกายนี่เป็นเกย์เลยแอบอายอยู่ลึกๆ
“เร็วสุดรอบบ่ายโมง มึงรีบไปไหนหรือเปล่า” เด็กหนุ่มรีบดูรอบหนังแล้วบอก
“ทำไม” คนนั้นถาม
“ถ้ามึงรีบจะดูรอบนี้เลย ถ้าไม่รีบก็เลื่อนไปบ่ายโมงครึ่ง” ตอบเหมือนเอาใจแต่จริงๆ แล้วมีจุดประสงค์
“ก็ได้ ว่าแต่เลื่อนทำไมวะ”
“กูจะเล่นเกมส์” เด็กหนุ่มยิ้มหน่อยๆ เมื่อคิดถึงความสนุกในการเล่นเกมส์โปรดขึ้นมาก่อนจะเดินไปที่ช่องจำหน่ายตั๋วจัดการธุระเรื่องจองที่นั่งเสร็จสรรพ เดินมาชวนคนที่ยืนรออยู่ไปที่ตู้เกมส์หยอดเล่น ซึ่งอยู่ในมุมลึกพอที่จะบังสายตาใครๆ ได้
“อ่ะค่าตั๋ว” ฝ่ายนั้นยื่นเงินให้
“50 บาทพอ เดี๋ยวกูจะเอาไปแลกเหรียญเล่นเกมส์” เต็นหยิบเงินไปแค่ส่วนที่บอกก่อนจะวิ่งหายไปในทางบริการแลกเหรียญ

*******************************

“เฮ้ย ช่วยกูเล่นบ้างดิวะ นั่งดูอยู่ได้” แชมป์ต่อว่าคนที่นั่งชิดอยู่กับตนขณะเล่นเกมส์จับผิดภาพ
“ก็บอกแล้วไงว่ากูเล่นไม่เก่ง” ฝ่ายนั้นออกตัว
“นี่มันเกมส์ง่ายสุดแล้วนะมึง”
“แต่กูไม่ค่อยได้เล่น”
“แล้วปกติเล่นเกมส์ไร”
“ไม่เล่นเลย”
“กรรม”
“เออน่ะ มึงก็เล่นๆ ไปเถอะหนังจะฉายแล้ว”
“อืมอีกเกมส์ละกัน”
“เอาเหอะเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำรอ”
เต็นแยกตัวไปยังเคาน์เตอร์ขายขนมและเครื่องดื่ม แชมป์มองตามส่ายหน้าอย่างนึกเบื่อหน่าย ตอนแรกๆ ก็รู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นเด็กผู้ชายคล้ายๆ กับตน เพราะพูดจาได้ถูกคอหลายเรื่อง แต่ทำไมพออยู่ใกล้ๆ แล้วนิสัยคล้ายๆ ผู้หญิงจึงแผ่ออกมาให้รู้สึกได้นะ ดูเอาเถอะเกมส์ก็เล่นไม่เป็น
“เฮ้ย มัวแต่มองห่าเอ้ย เกมส์โอเว่อร์ซะงั้น” เด็กหนุ่มตบตู้เกมส์อย่างไม่สบอารมณ์ตอนหันกลับมาจะเล่นต่อ แต่กลายเป็นว่าหมดเวลาเล่น นั่งแช่อยู่สักพักจึงเดินตามไปหาคนที่กำลังยืนซื้อน้ำอยู่
“กินไรปะ” คนนั้นหันมาถาม
“เอาชุดนั้นดิถูกดี” แชมป์แนะนำชุดที่ตัวเองซื้อประจำเวลาไปดูหนังกับแฟนที่เพิ่งเลิกรากัน จำได้ว่าชุดนั้นมีไส้กรอกที่ตนชอบกินแบบไม่ใส่ซอส
“ไม่ใส่ซอสเหรอวะ” คนข้างกายเอ่ยถามในตอนที่เด็กหนุ่มกินไส้กรอกเปล่าๆ จึงตอบกลับไปว่าไม่กินเผ็ด ฝ่ายนั้นพยักหน้าคล้ายเข้าใจแล้วเดินนำไปยังโรงหนังจึงทักขึ้น
 “เดินนำหน้ากูดุ่มๆ รู้เหรอว่านั่งไหน”
 “แถวไหนวะ” คนนั้นหันมาถาม จึงตอบไปแล้วเดินไปยังที่นั่ง เห็นคนที่มาด้วยยืนคิดอะไรอยู่จึงทักขึ้นอย่างนึกรำคาญ
“อ้าวจะยืนรออะไรครับพี่นั่งได้แล้ว”
************************************
“หนาวว่ะ” แชมป์เอ่ยขึ้นเบาๆ ตอนหนังเริ่มฉายไปได้สักพักเพราะเป็นคนแพ้อากาศเย็น นึกถึงตอนที่ได้นั่งดูหนังกับคนรักที่ได้กุมมือกับคนนั้นทุกทีที่เอ่ยแบบนี้ขึ้นมา ด้วยอารมณ์เหงาและความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านให้ได้สัมผัส จึงหันไปมองคนข้างกายที่หันมามองตนก่อนแล้ว เด็กหนุ่มยิ้มขึ้นนิดๆ อย่างที่เคยยิ้มให้กับคนรักยามต้องการไออุ่น ข้างในนี้ค่อนข้างสลัวประกอบกับที่นั่งอยู่ไม่ได้ชิดกับใครคนอื่นจึงเลื่อนมือไปกุมมือฝ่ายนั้นเอาไว้
“เฮ้ย ทำไรวะ” เจ้าตัวร้องถาม
“ก็บอกว่าหนาวไง ขอจับหน่อย” แชมป์ตอบหน้าเฉยสักพักฝ่ายนั้นได้ดึงเสื้อแจ็คเก็ตที่ถือติดมือมาด้วยปกปิดมือที่กำลังถูกกุมไว้อยู่ ไอ้นี่มันแคร์สายตาคนอื่นเหมือนกันแฮะ ใช้ได้นี่หว่า เด็กหหนุ่มแอบคิด เอ่ยแซวเมื่ออคติก่อนหน้านั้นเริ่มจางๆ ลง
“อายเหรอวะ”
คนนั้นไม่ตอบอะไรนอกจากหันไปสนใจเรื่องราวบนจอภาพยนต์ จึงแกล้งออกแรงบีบกระชับมือหวังยั่วเล่นๆ ทำขนาดนี้ดูหนังรู้เรื่องก็ให้รู้กันไปสิ เออนะ ได้แกล้งเกย์เล่นนี่มันก็สนุกดีเหมือนกัน

************************************
 “ไงหนุกป่ะ” แชมป์เอ่ยถามคนข้างกายหลังเดินออกมาจากโรงหนังแล้ว
“ก็ดี”
“แต่อาการมึงเหมือนไม่หนุกเลยว่ะ” เด็กหนุ่มแกล้งว่า รู้อยู่แล้วล่ะน่าว่าคงมัวแต่คิดดีใจที่ตนได้กุมมือดูหนังตลอดทั้งเรื่อง นึกแล้วก็ตลกนี่ถ้าอากาศไม่หนาวและบรรยากาศไม่มืดเขาก็กล้าที่จะทำอย่างนั้นหรอก แล้วที่ตลกยิ่งกว่าคือคนที่ตนจับมีท่าทีตกใจในทีแรกแต่กลับปล่อยให้ตนจับซะหนังฉายจบ เฮ้อ นายนี่คงหลงเสน่ห์เขาแล้วมั้ง
 “แล้วนี่จะกลับเลยป่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้น เมื่อเดินมาได้สักพัก
“คงต้องกลับเลย” คนนั้นตอบ
“กลับไงอ่ะ”
“รถไฟฟ้าไปลงหมอชิต”
“อืมงั้นไปด้วยกันดิ กูก็กลับรถไฟฟ้าเหมือนกัน”
**********************************
“ปกติดูหนังบ่อยป่ะวะ” แชมป์เอ่ยถามขณะที่กำลังเดินคู่ไปกับคนที่ตนนึกตลกท่าทีในโรงหนัง รวมถึงตอนนี้ทีกลายเป็นคนพูดน้อยขึ้นมาซะงั้น
“ก็บ่อย”
“เหรอ แล้วดูกะใครอ่ะ”
“กับแฟน”
แชมป์ชะงักหน่อยๆ เมื่อได้ยินคำตอบนั่น นายนี่มีแฟนแล้วงั้นเหรอ แล้วไหงถึงได้แสดงท่าทีคิดอะไรกับตนแบบนี้ล่ะ นี่ที่เขาเคยได้ยินว่ารักแท้ไม่มีในหมู่เกย์มันจะเป็นเรื่องจริงเหรอนี่ อย่างนี้ต้องพิสูจน์
“เฮ้ย มึงมีแฟนแล้วเหรอ”
“อืม”
“มิน่าล่ะเห็นใส่แหวนที่นิ้วแฟนให้อ่ะดิ”
“อืม”
“อิจฉาจริงว่ะ คบกันนานยังวะ”
“4 ปี”
“อืมก็นนานพอดู”
“แต่ไม่รู้จะนานไปกว่านี้หรอเปล่า”
“ทำไมวะ ทะเลาะกันเหรอ”
“ก็ไม่เชิง”
“กรรม”
“ทำไมวะ”
“เปล่า ก็กูเข้าใจอารมณ์ที่ต้องทะเลาะกับแฟน”
“แล้วตกลงมึงเลิกกับแฟนเลยเหรอ”
“อืม ก็ง้อแล้วไม่สำเร็จนี่หว่า”
“คบกันนานป่ะ”
“3 เดือน”
“3 เดือน!”
“เออ ทำไมวะ”
“เปล่า”
“มึงอย่ามาเปล่า กูรู้ว่ามันน้อยแต่คนเราจะรักกันเวลามันไม่เกี่ยวหรอก”
“แล้วนี่ผ่านมากี่คนแล้วล่ะ”
“2 คน”
“โชกโชนเลยสิ”
“โชกโชนไงวะ ผ่านมา 2 แต่ก็ยังซิงนะโว้ย ไม่เหมือนมึงหรอก ท่าทางจะเยินหมดแล้ว”
“ปากหมาอีกแล้วนะมึง”
“55 กูพูดจริงอ่ะดิ”
“จริงกะผีอ่ะดิ เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ”
“อายอ่ะดี๊ 555”
“มึงอย่ามาล้อกูเชี่ย”
“เออรีบด่ากูเข้าไป เดี๋ยวจะไม่มีโอกาส”
“หมายความว่าไง”
“เออน่ะเดี๋ยวมึงได้รู้ ถึงสถานีแล้ว มึงต้องไปหมอชิตใช่ป่ะ”
“อืม ต้องขึ้นข้างบน”
“เอองั้นแยกกันตรงนี้ละกัน มีไรโทรมา”
“อืม กลับบ้านดีๆ ล่ะ”
“ครับที่รัก” ประโยคที่เคยพูดดังออกไปอีกครั้งตอนที่คนนั้นจะแยกตัวไป แชมป์มองตามร่างนั้นจนเจ้าตัวลับสายตาไป เด็กหนุ่มนึกคิดถึงทฤษฏีที่เคยได้ยินว่ารักแท้ไม่มีในหมู่เกย์อีกครั้งจึงนึกอยากจะทดสอบว่ามันจะจริงแค่ไหนกัน ระหว่างนี้กำลังนึกเซ็งเรื่องความรักที่พังลง ลดตัวลงมาเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีนี้มันก็น่าจะฆ่าเวลาเบื่อๆ ไปได้ล่ะน่า แน่นอนที่สุดว่าการพิสูจน์ทฤษฎีครั้งนี้ เกย์ที่ชื่อเต็นคือหนูทดลอง!

โปรดติดตามตอนต่อไป

อย่าเพิ่งงงกันนะครับ ว่าทำไมตอนนี้คล้ายๆ ตอนแรกๆ เข้าใจถูกแล้วครับ เนื้อเรื่องเดียวกัน แต่คราวนี้เป็นความรักในนิยามที่ 2 นั่นก็คือความรู้สึกของแชมป์ทั้งหมดที่คิดกับเต็น ที่ผ่านมาทั้งหมด 13 ตอน ผมพาทุกคนสัมผัสกับมุมมองความรักของเต็นไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ลองมาสัมผัสมุมมองความรักของแชมป์ในนิยามที่ 2 ของเรื่องราวความรักเรื่องนี้กันครับ

ขอบคุณครับ
Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-01-2011 00:18:08
อ่านในส่วนของแชมป์แล้วบอกได้คำเดียวว่า แชมป์เหี้ยมาก  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:



เท่าที่อ่านดูเห็นอยู่ประโยคสองประโยคที่พูดกลายๆว่าไมไ่ด้จริงจังอะไรด้วยอยู่นะ ถ้าอ่านในส่วนของเต็นตอนแรกจะไมไ่ด้คิดอะไรเลยเหมือนคำพุดโต้ตอบทั่วไป แต่พอมารู้ความคิดหลังคำพูดของแชมป์แล้วแบบว่าเจ็บแทนอ่ะ ถ้าเต็นรู้ทั้งหมดคงเสียใจแย่


ว่าแต่จะมีต่ออีกไหมคะหมายถึง ถ้าจบส่วนของแชมป์หนะค่ะ เพราะดูว่าในนิยายของเต็นเอ็งเท่าที่ตามอ่านมาก็ยังไม่กระจ่างเท่าไหร่ หรือว่าสมองเราคิดและประมวลผลได้เท่านี้ อิอิ



+1 สำหรับส่วนของแชมป์และทำให้ได้คิดตามและนำมาประยุคย์ใช้กับชีวิตประจำวัน เชื่อว่าเรื่องนี้จะสามารถสอนให้หลายๆคนไม่หลงระเริงไปกับคำพูดที่สวยหรู ได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยๆก็ตัวเองนี่หละพอมาอ่านแล้วต่อไปคงต้องใสใจรายละเอียดของคนอื่นๆมากกว่า คำพูด นิสัยภายนอกหรือรูปร่างหน้าตาเสียแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 17-01-2011 00:42:35
แชมป์ เหี้ย มากค่ะลูก!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 17-01-2011 02:11:11
จริงๆคำพูดของแชมป์ก็พอดูออกแหละว่าแค่หยอก
แถมการกระทำหลายอย่างก็ดูไม่จริงใจสุดๆ
เต็นก็น๊าาาาา มาหลงอะไรกับแค่คำพูดของคนที่เพิ่งเจอไม่กี่วัน
คิดมาตั้งแต่อ่านพาทเต็นแล้ว เอาเหอะ สักวันแชมป์คงได้รับผลกรรมหล่ะ
แต่จริงๆเราว่าเต็นก็คงไม่ได้รักแชมป์จริงหรอกมั่ง เหมือนแชมป์แค่มาถูกจังหวะถูกเวลามากกว่า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 17-01-2011 05:33:59
 :serius2:

แชมป์

แกไปตายซะไป

ถ้าแกเป็นอย่างนี้จริงๆ
แล้วแกมาให้ความหวังเต็นทำไม
แกมันเลว แกมันชั่ว
แกมันไม่ใช่มนุษย์
ไอ้เหนือมนุษย์ (แต่ไม่ใช่พี่เหมันต์ของหนูนะ)
ไอ้...โว๊ย ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามันแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 17-01-2011 06:27:38

วั้ย นายช้ำ เธอไม่ต้องมาแอ๊บเลยนะ.......
ก่อนจะทำอะไร แหงนมองชื่อเรื่องซะก่อน
‘Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม’ นะยะ ไม่ใช่
Ten & Nop หรือ Ten & Ice
อย่าซ่ามาก เดี๋ยวโดนคุณหนูบอยสั่งดอง ฮึ

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-01-2011 07:15:58
 :เฮ้อ:
ในมุมของแชมป์นี่มัน  :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-01-2011 07:39:57
ไอ้เชรี่ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-01-2011 13:35:41
ตูว่าแล้ว ตะหงิดๆตั้งแต่แรกๆ  ซื้อหวยทำไมไม่ถูกยังงี้บ้างว่ะเนี่ย

แชมป์เลวที่สุด
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 17-01-2011 13:50:42
ไอ้แชมป์ ไอ้เลว ไอ้หน้าปลาหมอสี ไอ้หน้ากระสือ ไอ้หน้าปลาจวก  :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-01-2011 13:56:01
 :angry2:

เห้แชมป์

 :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-01-2011 14:41:59
เอ่อ!!!!
ใช่ love story แน่เหรอ :serius2:
"ชีวิตบัดซบ" ดีกว่ามั้ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 17-01-2011 19:12:12
ไอ้แชมป์ เลวโคตรๆ

อย่าอยู่เลย รกโลก  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-01-2011 21:01:33

 :m15:

พรานล่าเนื้อ มองเห็นเหยื่อ เชื่อจับมั่น
เก้ง-สมัน ล่อติดกับ ลับมีดใส
รอให้เหยื่อ เมื่อหมดแรง แผ่วลงไป
เชือดให้ตรง ลงที่ใจ ในมีดเดียว     ----: แชมป์

สมันน้อย อ่อนด้อย ค่อยปล่อยลม
ชีวิตจม ซมลงดิ่ง ละทิ้งเสียว
รอหน่อยนะ อีกประเดี๋ยว อึดใจเดียว
รักลดเลี้ยว รักเดี๋ยวเดียว ก็จบลง   ----: เต็น


 :o12:

มัน..เศร้า..มากกกกกกกก


 :sad11:คุณบอย ขอบคุณครับ

ป้อล่อ....นิยามนี้ โดนกลางใจ กาซิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 17-01-2011 21:17:29
หืมม เหี้ยน่ะนั่นนิสัย -*-
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-01-2011 21:56:48
พอเริ่มตอนของแชมป์เนี่ย ทุกรีพลาย หุ หุ หุ
แกแหลกละเอียดเป็นผุยผงแล้วใช่ปะแชมป์
สงสัยไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่เลยแก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: member ที่ 17-01-2011 22:21:03
แชมป์เห้มากกกก

ชอบเรื่องนี้อ่ะ ชอบมากกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณคุณบอยมากกกกกกกกก แต่งได้เริ่ดจริง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 17-01-2011 22:54:30
เลวมาก!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 18-01-2011 00:12:02
แชมป์ เหี้ยย อ่ะ

 :beat: :beat: :beat: ------>แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 18-01-2011 13:30:10
Love Story Ten & Champ
รักในสองนิยาม
ตอนที่ 15 นิยามที่ 2 Part Champ
บนรถไฟฟ้า แชมป์เลือกที่จะยืนชิดริมประตูเข้า ออก สายตาเด็กหนุ่มสังเกตมองลักษณะชายที่คิดว่าน่าจะเป็นเกย์ เด็กหนุ่มเลือกที่จะมองคนที่มาเป็นคู่ๆ จับพฤติกรรมการแสดงออกต่อกันและกันเพื่อหวังศึกษาสำหรับนำไปปั่นหัวคนที่เดินจากตนไปเมื่อครู่
รถไฟฟ้าส่งถึงที่หมาย หลายต่อหลายพฤติกรรมของหมู่ชายรักชายที่สังเกตเห็นทำให้เด็กหนุ่มเกิดอยากแกล้งคนบางคนเล่นขึ้นมาเลยจัดการโทรศัพท์ไปหาเจ้าตัว
 “ว่าไงวะ” ประโยคแรกทักมาให้ได้ยิน แอบเบ้ปากหน่อยๆ เพราะคิดว่าเจ้าของเสียงแกล้งแอ็บเสียงเข้ม
“ถึงไหนแล้ววะ” เด็กหนุ่มถามออกไป
“จตุจักร”
“เร็วดีเหมือนกันเนาะ”
“อืม แล้วมึงอ่ะ”
“อยู่แถวบ้านแล้ว ก็เลยโทรหามึงเนี่ย”
“โทรมามีไร”
“ไม่มีไร แค่อยากโทรหาไม่ได้หรือไง”
“นี่ถ้ามึงเป็นเกย์ กูว่ามึงกำลังจีบกูอยู่นะไอ้แชมป์”
“อ้าว เพิ่งรู้เหรอครับคุณเต็น ว่าผมกำลังจีบคุณอยู่”
“เชี่ย มึงอย่าล้อเล่นกะกูตอนนี้นะ ยิ่งกำลังเบื่อๆ อยู่”
“รีบเบื่อขึ้นมาเชียวนะมึง อยากได้กูเป็นแฟนล่ะซี้”
“Kเหอะ”
“ปากมึงนี่แม่งไวสุดยอดเลยไอ้เชี่ย พูดจาเพราะๆ กะกูหน่อยไม่ได้หรือไงวะ”
“กูก็เป็นของกูแบบนี้ มึงจะคบก็คบ หรือไม่คบกูก็ไม่ว่า”
“จริงดิ กับแฟนมึง มึงก็พูดงี้เหรอ”
ฝ่ายนั้นนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะบอกออกมา
“เฮ้ย กูต้องต่อรถเมล์กลับหอว่ะ แค่นี้นะโว้ย
 “เฮ้ย ทำไมรีบวางขนาดนั้นวะ” แชมป์รีบเอ่ยท้วงเพราะรู้สึกเสียหน้า คนที่ควรจะวางสายต้องเป็นผู้ชายอย่างเขา ไม่ใช่เกย์อย่างนายนั่น
“บอกแล้วไงว่ากูต้องขึ้นรถเมล์” คนนั้นตอบกลับมาจึงว่ากลับไปในเชิงตัดพ้อคล้ายคนน้อยใจ จนสามารถยื้อคนจะวางสายไว้ได้ เด็กหนุ่มกระหยิ่มยิ้มที่ชายแท้ๆ อย่างตนกลับมาคุมเกมเหนือเกย์ใจง่ายได้อีกครั้ง การสนทนาต่อจากนั้นจึงพูดจาออดอ้อนหยอดคำหวานไปตามประสาคนนึกสนุก นึกฉุนหน่อยๆ ที่คนที่ตนหยอดคำหวานด้วยได้ยกคนรักขึ้นมาข่มว่ามีดีกว่าตน ยอมได้ที่ไหนกับการโดนเกย์ดูถูก อีโก้นั่นเป็นเหตุให้ต้องลงทุนตามไปเล่นละครตบตาแสดงความจริงใจเพื่อปั่นหัวคนอวดแฟนให้วุ่นวายใจเล่นๆ ราดหน้าข้างทาง 2 ถุงจึงกลายเป็นเครื่องมือในการเล่นเกมส์ ทำขนาดนี้ถ้าไอ้เกย์นั่นไม่หวั่นไหวกับตนกว่าเดิมก็ให้มันรู้ไป
 
*********************************************************************************************

ประตูห้องถูกเปิดออกหลังเคาะไปได้สักพัก แชมป์มองหน้าเจ้าของห้องที่คล้ายจะยืนอึ้ง จึงเอ่ยทักเรียกสติเจ้าตัว
“เปิดช้านะมึง ชักว่าวอยู่หรือไง”
“นี่มึงมาจริงๆ เหรอ” คนนั้นเอ่ยถามกลับจึงเอ่ยตอบรับก่อนจะเดินเข้าห้องไปเมื่อเจ้าของห้องหลีกทางให้
 “ห้องน่าอยู่ดีนี่ อยู่คนเดียวเหรอ” เอ่ยทักออกไปตามความรู้สึก พูดคุยต่อนิดหน่อยจึงเริ่มแผนการมัดใจ โดยการยื่นราดหน้าที่แตรียมมาให้ โกหกออกไปว่าแม่ตัวเองเป็นคนทำตอนที่นั่งทานด้วยกัน นึกตลกที่คนฟังเชื่อ ให้ตายเหอะ เกย์นี่มันโง่กันทุกคนหรือเปล่าวะ เด็กหนุ่มแอบคิด

*********************************************************************************************

บนดาดฟ้าของตึกในตอนมืดแล้ว แชมป์นั่งกอดเข่ามองทัศนียภาพแสงสีของเมืองหลวงในมุมกว้าง โดยที่ข้างกายมีอีกคนนั่งอยู่ด้วย
“มองแบบนี้กรุงเทพฯ แม่งสวยวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น
“อืม” คนข้างตัวตอบสั้นๆ จึงชวนคุยต่อจนได้รู้ว่าเจ้าตัวเป็นคนที่ไหน นึกอยากเอาชนะขึ้นมาอีกเมื่อรับรู้ว่าคนรักของฝ่ายนั้นเคยไปเหยียบพื้นดินที่บ้านเกิดมาแล้ว จึงเผลอหลุดปากว่าอยากจะไปบ้าง
“มาเป็นแฟนกูก่อน” คนนั้นเอ่ยต่อรองจึงท้ากลับ
“มึงก็ทำตัวให้โสดสิ”
“ก็นี่ไง โสดอยู่นี่ไงไม่เห็นเหรอ”
“ประชดตัวเองป่ะวะ”
“เปล๊า”
“เชี่ย ขึ้นเสียงแค่นี้กูก็รู้แล้ว”
“เฮ้อ ไม่รู้เขาจะเอายังไงกะกูว่ะ แม่งหายไปไม่ติดต่อเลย”
“คิดถึงเขามากเหรอ”
“แฟนทั้งคนนะมึง”
“ก็รู้ แต่เขาทำแบบนี้เขาคงมีคนใหม่แล้วมั้ง”
“มีก็บอกกูได้นี่หว่า ไม่เห็นต้องเงียบแบบนี้เลย”
“บอกแล้วมึงรับได้เหรอ”
“ถึงนาทีนั้นก็คงต้องดูกันอีกที”
“เอาเหอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คิดว่ายังมีกูอีกคนละกัน”
“เชื่อมั้ยกูแอบคิดนะโว้ยว่านี่มันเรื่องจริงหรือกุกำลังฝันอยู่”
“เรื่องไร”
“เรื่องที่มาเจอมึงในตอนที่กำลังเบื่อๆ เซ็งๆ”
“แล้วมันเป็นฝันดีหรือฝันร้ายล่ะ”
“อืม ดีมั้ง”
“พูดดังๆ ก็ได้กูไม่ได้ยิน”
“ก็นั่นแหละพูดไปแล้ว”
“เวลามึงอายนี่แม่งน่ารักว่ะ ยังกะผู้หญิง”
“เชี่ย”
“อ้าวด่ากูทำไมเนี่ย”
“ไม่รู้ อยากด่าก็ด่า”
“อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ เขินที่กูชมล่ะสิ”
“กูจะเขินทำไมกูไม่ได้คิดอะไรกะมึง”
“จริงอ่ะ”
“จริง”
“งั้นกูกลับล่ะนะ”
“เชิญ”
“K ง้อกูหน่อยก็ไม่ได้”
“เฮ้ย แต่นี่มันก็จะสามทุ่มแล้วนะ กูว่ามึงกลับก็ดีนะบ้านมึงไม่ใช่ใกล้ๆ”
“อืม แล้วกูจะได้มาอีกมั้ย”
“ก็แล้วแต่มึงสิ”
“กูกลัวจะมาเจอมึงอยู่กับแฟนน่ะสิ”
“เขาคงไม่มาแล้วล่ะ”
“อืมไว้ถ้าจะมากูโทรบอกละกัน”
“ก็ได้ ว่าแต่ลงข้างล่างเหอะ ลมชักแรงแล้ว”
“ฉุดกูหน่อยดิ แม่งเหน็บกิน”
“กรรม” คนนั้นบ่น แต่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือเพื่อไปฉุดตน พอมือสัมผัสมือ แชมป์นึกสนุกขึ้นมาอีกจึงแกล้งฉุดคนฉุดตนให้เจ้าตัวเซล้มลงหาตัว เมื่อเจ้าตัวจะล้มจึงแกล้งสวมกอดเอาไว้
“เฮ้ย อะไรวะ” คนนั้นร้องคล้ายตกใจแล้วว่าต่อ
“ไอ้เชี่ยแชมป์ มึงทำอะไรกูเนี่ย”
แชมป์แกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกสมเพช ห่าเอ้ย คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงหรือไงวะ ดีดดิ้นซะ เด็กหนุ่มแอบคิดประโยคนี้ในใจแต่แต่แกล้งเอ่ยออกมาอย่างขำๆ เมื่อโดนถามว่าขำอะไร
 “ก็ขำมึงอ่ะดิ เชี่ยมึงคิดว่ามึงเป็นผู้หญิงหรือไง โดนกอดแค่นี้ดิ้นซะเว่อร์”
“แล้วมึงคิดว่าตึกนี้มันสูงขนาดไหนกันเชียว เกิดมีคนมองมาเห็นกูคิดว่ากูจะอายมั้ย มึงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ทุกวันอย่างกูนี่” คนถามให้เหตุผลจึงยอมเอ่ยขอโทษ แต่ก็แอบสมเพชอยู่ลึกๆ ถึงอาการหวงตัวเกินเหตุของคนพูด
“ไหนบอกเหน็บกินไงวะ” คนนั้นเอ่ยถามตอนลุกยืนเองได้
 “กูแกล้งบอกไปงั้นแหละ ไม่คิดว่ามึงจะเชื่อ” เด็กหนุ่มตอบแบบแขวะนิดๆ แต่พอคิดได้ว่าเหยื่อจะรู้ตัวจึงเอ่ยเป็นเชิงหยอกเล่นเช่นเดิม ปิดท้ายด้วยการลองใจขอนอนค้างด้วยตอนจะลากลับ ในใจวาบไหวกลัวว่าเจ้าของห้องจะตกลงจริงๆ แต่แล้วก็โล่งอกเมื่อโดนปฏิเสธ
“ไว้วันหลังเถอะ เผื่อวันนี้เขาจะมา”
“แฟนมึงน่ะเหรอ”
“อืม”
“ก็ได้ สัญญาแล้วนะว่าวันหลังจะให้กูค้างด้วย”
“ก็ดูอีกทีละกัน”
“อืม งั้นกูกลับก่อนนะ ไว้ถึงบ้านจะโทรหา”
“เฮ้ย ถึงบ้านก็พักผ่อนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะมึงน่ะ”
“ก็กูจะโทรมีไรป่ะล่ะ หรือมึงไม่อยากคุยกะกูแล้ว”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น มึงนี่พาลเป็นเด็กๆ ไปได้ อยากโทรก็โทรอ่ะ พอใจหรือยัง”
“ก็แค่นี้แหละ ไปล่ะนะ”
“อืม” แชมป์เดินจากมาเมื่อเอ่ยจบ ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เจ้าของห้องไม่บ้าจี้ให้ตนนอนค้างด้วยอย่างที่ขอ คิดแล้วก็ขนลุกหากว่าต้องได้นอนค้างคืนกับผู้ชายเบี่ยงเบนจริงๆ นึกโกรธตัวเองอยู่เหมือนกันที่ปากไวว่าครั้งหน้าจะต้องได้ค้าง จะลงทุนพูดทำไมขนาดนั้นก็ไม่รู้ แค่นี้ไอ้เกย์นั่นก็มีท่าทีอ่อนไหวให้แล้วอย่างเห็นได้ชัด นึกแล้วก็อยากรู้จังว่าถ้าคนรักมันมาหาวันนี้จริงๆ แล้วมันจะกล้าบอกมั้ยว่าได้พาผู้ชายเข้าห้อง คืนนี้ต้องติดตามผลซะหน่อยแล้ว

 ******************************************************************************

กลับถึงบ้านทำโน่นทำนี่เสร็จ ร อเวลาเหมาะๆ แชมป์จึงโทรศัพท์หวังติดตามผลวันนี้ว่าเหตุการณ์สั่นคลอนจะเกิดขึ้นกับคู่รักเกย์ที่ตนจับมาเป็นทฤษฎีทดลองคำกล่าวที่ว่ารักแท้ไม่มีในหมู่เกย์หรือไม่
“เพิ่งถึงบ้านเหรอ” เสียงเอ่ยทักเนือยๆ ตอนฝ่ายนั้นกดรับสายทำให้เด็กหนุ่มเดาเรื่องได้ว่าแผนการณ์สร้างความร้าวฉานคงสมใจแล้วแน่ๆ
“ถึงสักพักแล้ว ทำโน่นทำนี่เพิ่งเสร็จก็รีบโทรหามึงเนี่ย ทำ'ไรอยู่วะ” เด็กหนุ่มตอบกกลับพร้อมตั้งคำถาม ตกใจหน่อยๆ ที่ฝ่ายนั้นบอกกำลังซักผ้าเพราะเวลาตอนนี้ปาไปค่อนคืนแล้ว เอ่ยแซวไปจนได้รู้ว่าแท้ที่จริงผ้าที่ซักคือของแฟนเจ้าตัว อย่างนี้แสดงว่าสองคนเจอกันแล้วจริงๆ จึงเอ่ยแซวไปว่าเจ้าตัวเป็นนางทาสให้ท่านเจ้าคุณโขกสับ เห็นฝ่ายนั้นแสดงอารมณ์เครียดออกมาจึงแกล้งแสดงความเห็นใจชวนพูดคุยต่อจนได้รู้เรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งพอได้รู้เท่านั้น ความรู้สึกสมเพชเพศเบี่ยงเบนถึงกลับเพิ่มเป็นเท่าทวี ก็ฝ่ายนั้นบอกเจอถุงยางอนามัยในกระเป๋าแฟนหนุ่ม ของสิ่งนี้มีพกไว้เพื่อทำกิจกรรมเดียวเท่านั้นแหละ แฟนไอ้เกย์นี่คงพกไว้ทำกิจกรรมอย่างว่ากับใครล่ะสิท่า ผีเน่ากับโลงผุจริงๆ ให้ตายสิ คนหนึ่งก็มั่วซะ อีกกคนก็หวั่นไหวง่ายๆ กับผู้ชายแปลกหน้า เออนะ เพิ่งรู้จริงๆ ว่าคนเป็นเกย์จิตใจในโลเลยิ่งกว่าไม้หลักปักเลนอีก เฮ้อ นึกแล้วเอือมระอา เอาวะ แกล้งพูดเอาใจให้มันรู้สึกว่าตัวเองมีค่าหน่อยดีกว่า เดี๋ยวเครียดหนักกระโดดตึกตายจะยุ่งซะเปล่าๆ คำนิยามของคนเพศนี้ที่เคยได้ยินก็มักจะรักแรง เกลียดแรง โกรธแรง ซะด้วยสิ ถือซะว่าช่วยเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งให้อยากมีลมหายใจอยู่ต่อบนโลกใบนี้ก็แล้วกัน
“จะตีสองแล้วนะโว้ย ไม่ง่วงเหรอวะ” คนนั้นเอ่ยเตือนเวลาตอนคุยกันต่อได่สักระยะ จริงๆ ก็ง่วงแล้วเต็มทน แต่ก็แกล้งถามออกไป
“มึงง่วงแล้วเหรอ”
“ก็เรื่อยๆ”
“งั้นคุยถึงเช้าได้ป่ะ” แชมป์เอ่ยหยอดต่อ คำว่าเรื่อยๆ ที่ได้ยินมันแสดงออกชัดเจนว่าคนพูดคงยังไม่อยากจะวางสายแน่ๆ โธ่เอ้ย อยากคุยต่อแต่ทำเป็นเล่นตัว เพื่อ..?
“มึงจะบ้าเหรอ แค่นี้ค่าโทรกูก็ปาไปตั้งเท่าไหร่แล้วเนี่ย” ฝ่ายนั้นโวยกลับ อยากคุยต่อแต่เสือกงก สงเคราะห์ให้ก็ได้วะ
“เชี่ยกูลืม เอางี้วางก่อนเดี๋ยวกูโทรหา” เด็กหนุ่มแกล้งเอ่ยบอกอย่างร้อนรน
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูก็จะไปนอนแล้ว” โดนปฏิเสธกลับมาจึงนึกอยากเอาชนะอีกเช่นเคย คนที่ปฏิเสธการคุยต่อต้องเป็นผู้ชายอย่างเขาเท่านั้นไม่ใช่ผู้ชายเบี่ยงเบน
“เฮ้ย กูยังอยากคุยต่ออยู่ มึงจะรีบนอนไปไหน”
“พรุ่งนี้ก็มีเรียนนะมึง”
“กูก็มีเหมือนกันแหละ”
“งั้นก็ต่างคนต่างนอน”
 “ไม่เอากูจะคุย มึงวางสายพรุ่งนี้กูจะตามไปมหา' ลัยมึงจริงๆ ด้วย”
“เรื่องของมึงดิ ลำบากก็ตัวมึง ไม่ใช่กู”
“อ๋อ มึงกล้าพูดงี้กะกูเหรอ”
“มึงเป็นอะไรกะกูล่ะ ทำไมกูถึงจะไม่กล้าพูด”
“เออจำไว้ พูดอะไรไว้ขอให้จำไว้นะมึง”
“เสียงเหมือนซีเรียสเลยว่ะ”
“ก็เออดิ ก็ดูมึงพูดกะกูดิ ตกลงที่ผ่านมา มึงไม่รู้สึกอะไรกูเลยใช่มั้ยถึงได้พูดไม่ถนอมน้ำใจกูแบบนี้”
“อะไรของมึงเนี่ย มึงจะให้กูรู้สึกอะไร”
 “ก็รู้สึกอย่างที่กูรู้สึกกับมึงไง”
“มึงรู้สึกกับกูแบบไหนล่ะ”
“ไม่รู้ กูยังหานิยามมาเรียกมันไม่ถูก”
“นั่นไง ขนาดมึงยังไม่รู้ตัวเลยว่ารู้สึกกะกูแบบไหน แล้วเสือกจะให้กูรู้สึกแบบนั้นได้ไง”
“งั้นเดี๋ยวก็จะอธิบายให้ฟังแล้วมึงช่วยคิดนิยามให้กูทีว่าความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกกันว่าอะไร”
“ว่ามา”
บทละครน้ำเน่าถูกเขียนขึ้นสดๆ ในตอนนั้น คำพูดหว่านเสน่ห์ และแกล้งแสดงความรู้สึกส่วนลึกว่ามีใจให้ถูกถ่ายทอดออกมาหวังเพียงต้องการยั่วเล่นให้คนฟังนึกเคลิ้มตาม แต่ก็ใช่จะง่ายนัก เพราะฝ่ายนั้นยังเอ่ยออกมาอย่างระวังตัวแจโดยไม่ยอมเผยความรู้สึกง่ายๆ แต่การเอาชนะยากๆ แบบนั้นมันก็ยิ่งเปรียบเป็นแรงขับให้เด็กหนุ่มเดินหน้าลุยหยอดคำหวานสารพัด สลับกับการตัดพ้อเชิงน้อยใจ จนที่สุดคนฟังก็ตกหลุมพรางเผยความรู้สึกออกมาว่าแท้จริงแล้วมีใจให้ตนอยู่เช่นกัน แต่ติดที่ว่ายังคบกับคนรักอยู่ เด็กหนุ่มได้ฟังแล้วแอบกระหยิ่มยิ้มที่แผนการการทดลองทฤษฎีคล้ายจะสำเร็จ ก่อนวางสายจึงใช้คำพูดในลักษณะที่ตนใช้พูดกับแฟนหญิงหวังมัดใจคนตกหลุมรักให้ดิ้นไม่หลุด
“พรุ่งนี้ตื่นเดี๋ยวแชมป์โทรหานะ”
“เฮ้ย มึงเรียกแทนตัวเองว่าไงนะ”
“ก็แชมป์ไง”
“อย่าบอกนะว่ามึงจะใช้คำนี้กะกู”
“ไม่เห็นแปลกกับแฟนเก่าแชมป์ก็เรียกแทนตัวเองแบบนี้ ว่าแต่นายเหอะ ต่อไปห้ามขึ้นกูมึงนะโว้ย”
“เอางั้นเลยเหรอวะ”
“ก็เออดิ ไหนลองเรียกแทนตัวเองว่าเต็นซิ”
“ไม่เอา”
“อย่าดื้อเต็น”
“ไม่ได้ดื้อแต่มันไม่คุ้น”
“ไม่คุ้นก็ต้องหัดขนาดแชมป์ยังพูดได้เลย”
“จะให้พูดว่าไงดีล่ะ”
“ก็บอกเต็นไปนอนแล้วนะครับ แค่เนี่ย”
“ขะครับ เต็นไปนอนก่อนละกัน”
“ต้องมีครับด้วย”
“เฮ้ย บังคับกันนี่หว่า”
“เปล่าบังคับแค่อยากให้แฟนตัวเองพูดเพราะๆ ผิดตรงไหน”
“ก็ขอเวลาบ้างดิ”
“ไม่ให้ ต้องฝึกเดี๋ยวนี้ เร็ว”
“ครับพี่แชมป์ครับ เต็นขอไปนอนก่อนนะครับ”
“ดีมาก งั้นก็หลับฝันดี เดี๋ยวพรุ่งนี้แชมป์โทรหา”
“ครับ”
“ชื่นใจจัง ฝันดีครับ พรุ่งนี้คุยกัน รักนะครับ”
เอ่ยออกไปแล้วขนลุก ทนๆ เอาเหอะไอ้แชมป์ พอไอ้เกย์นั่นแตกหักกับแฟนเมื่อไหร่เอ็งค่อยชิ่งหนี อีกไม่นานหรอก ดูท่ามันจะหลงเสน่ห์เอ็งขนาดนี้ เฮ้อ เกย์หนอเกย์ ต่อให้เล่นตัวแค่ไหนยังไงพวกนายก็แพ้ทางผู้ชายอยู่วันยังค่ำว่ะ

*************************************************************

แชมป์โทรศัพท์หาคนที่ตนหว่านเสน่ห์ไว้ให้จริงๆ ในสายวันต่อมา ที่ต้องรักษาสัญญาเพราะต้องการวาดแผนการณ์ให้เนียนสนิท
“ฮัลโหล” เอ่ยทักออกไปตอนฝ่ายนั้นกดรับสัญญาณ
“ครับ” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาเป็นการเริ่มสนทนา
“ทำอะไรอยู่อ่ะ”
“กินข้าวอยู่”
“ที่ไหน”
“มหา’ลัย”
“เหรอ แล้วคุยได้ป่าว”
“ได้ มีไรล่ะ”
“ก็ตื่นมาแล้วคิดถึง”
“จริงอ่ะ”
“อ้าวแชมป์จะโกหกทำไมล่ะคร้าบที่รัก”
“ขี้อ้อนขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าแฟนแชมป์จะทิ้งแชมป์ไป”
“คนเรามันชอบอะไรไม่เหมือนกันหรอก ว่าแต่เต็นชอบป่ะล่ะแฟนขี้อ้อนแบบนี้”
“ก็ดี”
“ชอบก็บอกว่าชอบสิครับ จะปากแข็งทำไมแชมป์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแล้วนะ”
“ครับชอบก็ได้ครับ”
“ก็แค่เนี่ย วันนี้เลิกเรียนกี่โมง”
“ก็บ่ายๆ อ่ะ”
“เจอกันป่าว”
“แล้วแชมป์ไม่มีเรียนเหรอ”
“หึ”
“มิน่าตื่นซะสายเชียว”
“ก็เมื่อคืนนอนไม่หลับมัวแต่คิดถึงคนบางคน”
“คิดถึงใคร”
“ก็พูดกับใครอยู่ล่ะ”
“ว่าคนอื่นปากแข็งตัวเองก็เหมือนกันแหละ”
“คิดถึงเต็นคร้าบ พอใจหรือยัง”
“ก็แค่เนี่ย แล้วเจอไงอ่ะ จะมาหาเต็นเหรอ”
“แล้วว่างป่ะล่ะ ต้องไปไหนกับแฟนป่าว”
“ไม่มั้ง เขายังไม่โทรมาเลยนี่”
“แล้วไม่โทรถามเขาล่ะ”
“ไม่แล้วล่ะ อยากโทรเขาคงโทรมาเอง”
“เฮ้ย เอาให้เคลียร์นะ แชมป์อยากให้เราคบกันด้วยความรู้สึกดีๆ”
“สรุปจะให้เต็นโทรถามเขาก่อนเหรอ”
“ถ้าได้มันก็ดี อย่างน้อยก็ให้เกียรติเขาหน่อย แชมป์มาทีหลัง ไงก็ได้”
“แต่เต็นไม่อยากโทรไปแล้ว”
“เพราะแชมป์หรือเปล่า”
“ก็มีส่วน เต็นมาคิดดูอีกที เต็นกับนพคงถึงจุดอิ่มตัวแล้วมั้ง”
“แชมป์ไม่ใช่มือที่สามแน่นะ”
“ขนาดนี้ยังคิดว่าไม่ใช่อีกเหรอ”
“เฮ้ย พูดงี้แชมป์คิดนะ”
“อ้าว ไหงพูดงี้ล่ะ ก็เมื่อคืนคะยั้นคะยอให้เต็นเผยความรู้สึกไม่ใช่เหรอ”
“รู้นะคิดอะไรอยู่ ไม่เอาแล้ว คุยกันเดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันป่าวๆ ตกลงบ่ายนี้เจอกันละกัน”
“อืม ไปไหนดีล่ะ”
“กินข้าว ดูหนัง”
“ก็ดี”
“งั้นแชมป์ไม่กวนแล้ว กินข้าวต่อเหอะ ไว้บ่ายๆ จะโทรหา”
“ครับ”
“ครับ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ รักนะครับ”
แชมป์ยุติการสนทนาลงแค่นั้น ตัดสัญญาณทิ้งเสร็จก็ยิ้มเยาะที่มุมปากหน่อยๆ ที่ปั่นหัวเกย์หนึ่งคนให้หลงเสน่ห์ตนจนได้ อาการเซ็งๆ เบื่อๆ จากการคิดถึงแฟนหญิงทำให้นึกอยากออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง จึงได้เอ่ยชวนเหยื่อทดลองทฤษฎี ไอ้นั่นก็นะ ไม่เคยคิดจะปฏิเสธอะไรเล้ย ชวนปุ๊บตกลงปั๊บ สงสัยอยากได้แฟนใหม่เป็นชายแท้อย่างเขาจนตัวสั่น ฝันไปเถอะ ไอ้ตุ๊ดเอ้ย!

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 14 : 17.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 18-01-2011 13:31:10
ที่โรงหนัง ณ ห้างๆ เดิมที่นัดเจอกันครั้งแรก แชมป์จัดการซื้อตั๋วหนังอยู่ ในใจนึกคิดว่าทำไมตนจะต้องเทคแคร์คนเป็นเกย์ขนาดนี้ด้วยนะ จะเป็นสุภาพบุรุษเพื่อมันทำไมไม่ได้คิดจะเอามาเป็นแฟนจริงๆ จังๆ สักหน่อย เด็กหนุ่มสลัดความคิดนี้ทิ้งตอนจัดการซื้อตั๋วเสร็จแล้วเดินออกมาจากช่องจำหน่ายตั๋ว
“อ่ะ คราวนี้เต็นจ่ายบ้าง” อีกคนที่เดินเข้าหายื่นเงินให้
“ไม่ขัดศรัทธานะ” แชมป์ตอบพร้อมหยิบเอาสิ่งที่ถูกยื่นให้ ดีนะที่นายนี่ยังมีจิตสำนึก ใช้ได้ๆ
“ก็แฟร์ๆ ไง คราวที่แล้วแชมป์ก็เลี้ยงไปแล้วนี่” เสียงเจ้าของเงินเอ่ยบอก จึงเอ่ยหยอดกลับไป
“แฟนใครวะน่ารักชะมัด”

*********************************************************************************************

 “ขอบใจนะแชมป์ที่ทำให้เต็นรู้สึกดีขึ้น” คนตรงหน้าเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังนั่งกันอยู่ในร้านอาหารภายในห้างๆ เดิมหลังจากที่ดูหนังกันเสร็จ แชมป์มองสบตาเจ้าตัวเยาะหยันอยู่ในใจว่าที่พูดออกมาคงต้องการเอาใจเพื่อหวังให้ตนรู้สึกดีน่ะสิ เอาวะ สนองความต้องการให้สักหน่อยก็ดี ถือซะว่าสงสารคนกำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง
คิดได้แบบนั้นแชมป์จึงสนทนาในเชิงให้ความหวังกับคนตรงหน้า แต่ระหว่างพูดคุยฝ่ายนั้นก็ดูจะยังระแวงถึงการกระทำตนอยู่ โดยการถามโน่นถามนี่ถึงอนาคตและความเป็นไป ให้มันได้อย่างนี้สิ นึกว่าจะโง่หลงกลลวงง่ายๆ เด็กหนุ่มแอบคิดในตอนที่โดนถามบ่อยๆ ท่าทางหลอกยากอยู่ไม่น้อยแฮะไอ้เกย์นี้ แต่ได้ลองเดินหน้าลุยมาขนาดนี้จะยอมตกม้าตายตอนท้ายคงไม่ได้หรอก ระวังตัวแจแบบนี้ตอนตัดรอนความสัมพันธ์จะเอาให้ร้องไห้เสียผู้เสียคนเลยเชียว
เด็กหนุ่มงัดไม้ตายในการมัดใจเหยื่อด้วยการชวนไปบ้านของตนในที่สุด ไม่มีอะไรน่าเสียหายนักหรอก ลักษณะท่าทางนายนี่อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็เป็นเพียงผู้ชายทั่วไปคนหนึ่ง หากคนที่บ้านเห็นก็คงจะไม่ใส่ใจมันเท่าไหร่ อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคนเดียวมีคนไว้คอยแกล้งเล่นก็น่าสนุกอยู่เหมือนกัน..!
โปรดติดตามตอนต่อไป
ลงไป 2 ตอนแล้วกับนิยามความรักของนายแชมป์ เฮ้อ โดนขุดหลุมฝังกันเลยทีเดียวพระเอกของเรา เอาน่ะ ติดตามกันต่อไป ถึงบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวนี้
สำหรับแฟนๆ อิทธิ รอกันหน่อยนะ จะพยายามปั่นต้นฉบับให้เสร็จภายในพรุ่งนี้ แล้วจะรีบลงให้อ่านกัน ตอนนี้กำลังยุ่งสุดชีวิต
ขออนุญาตกระซิบบอกแฟนๆ พี่ตฤณกับนายไต๋ (ติวรักฯ) หน่อยนะว่าตอนนี้ปกนิยายเรื่องนี้เสร็จเตรียมเผยโฉมให้เห็นพร้อมการสั่งจองแล้วในอีกไม่นาน
สำหรับใครที่รอตอนจบฉบับสมบูรณ์แบบอีกอึดใจเดียวครับ
ขอบคุณครับ
Boy

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 18-01-2011 14:54:43
ยิ่งอ่านยิ่งเกลียด

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-01-2011 15:11:49
ตอนนี้แชมป์เป็นตัวน่ารังเกียจไปแล้วสำหรับคนอ่าน
แล้วจะมีตอนหักมุมเหรอคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-01-2011 15:39:45
สุดท้ายเห้แชมป์ ก้ได้เมียเป็นเกย์

ไอ่สาดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 18-01-2011 16:40:53
ไม่มีอะไรจะพูด  ขอให้แชมป์ตกหลุมพลางที่ตัวเองขุดไว้ลวงเต็นเองเหอะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kuankao ที่ 18-01-2011 17:30:06
เกลียดไอ้แชมป์
มันน่า :fcuk: :pigangry2: :z4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 18-01-2011 18:34:46
เกลียดแชมป์

เลวเกินไปละ  :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-01-2011 18:43:46
แง่ง  ไอ้แชมป์  :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 18-01-2011 19:31:45
อีกครั้งกับคำว่า  แชมป์ มึง

เหี้ย มากค่ะ   ปลดเลยๆๆๆ  ไม่เอาแชมป์  เอาพี่นพ มานะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 18-01-2011 19:49:20
แชมป์
โคตรทุเรศเลยว่ะ
แม่งเสียแรงที่รัก


ไปตายซะ
ไอ้บ้า
 :serius2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 18-01-2011 21:24:33
โหแชมป์ อยู่เฉยๆไม่ได้รึไงทำไมต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วยเนี่ย
แตกหักก็ชิ่ง คิดได้ไง
ยิ่งอ่านยิ่งเกลียดแชมป์ขึ้นมาทุกที เห้อ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 18-01-2011 22:36:33
ทำกันได้นะคนเรา
หลงเชียร์อยู่ตั้งนาน
T^T

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 18-01-2011 23:12:13
ขอให้ไอ้แชมป์โดนแก้เผ็ดหนักๆซักทีเถอะ ฮึ่ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 18-01-2011 23:15:02
ขยะแขยงความคิดไอ้เชี่ยแชมป์สุดๆ
(ขอโทษที่ไม่สุภาพนะครับแต่ไม่ไหวจะเพลียกับคนแบบนี้จริงๆ)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 19-01-2011 02:49:04

วุ้ย นายช้ำ อนาคตเธอก็แบบนายไต๋นั่นแหละ ชื่อเรื่องถูกกำหนดมาแล้วนี่
ป.ล. ระวังจะซมซาน 555

๖๔ + ๑ = ๖๕
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: member ที่ 19-01-2011 18:30:55
เกลียดแชมป์ คำเดียวจบ


รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-01-2011 23:09:39

เอาความรู้สึกของคนอื่นมาล้อเล่น

สนุกมากนักเหรอไง

เลือดเย็นน่ะมรึง


เลวว่ะ

ไอ่ here แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54*อัพเดตปกติวรักฯ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 20-01-2011 05:38:07
โหหห
น่ากลัวอ่า แบบนี้
ชีวิติย่าได้เจอเลย
แบบแชมป์เนี่ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54*อัพเดตปกติวรักฯ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 23-01-2011 05:51:47
เลวชาติ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54*อัพเดตปกติวรักฯ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 27-01-2011 22:05:54
มาต่อเถอะค่าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54*อัพเดตปกติวรักฯ P.1
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 31-01-2011 21:03:52
มาต่อเรื่องนี้มั่งดิคร้าบบบบบ
คุณบอย

อยากเจอ ไอ่แชมป์ แล้วอ่ะ
คิดถึงแชมป์จังเลย หึหึ

pls
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: member ที่ 02-02-2011 15:06:01
เอ่อ





เกลียดมาน



รอตอนต่อไปอยู่น้า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 15 : 18.01.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-02-2011 16:14:01
แชมป์โทรศัพท์หาคนที่ตนหว่านเสน่ห์ไว้ให้จริงๆ ในสายวันต่อมา ที่ต้องรักษาสัญญาเพราะต้องการวาดแผนการให้เนียนสนิท
“ฮัลโหล” เอ่ยทักออกไปตอนฝ่ายนั้นกดรับสัญญาณ
“ครับ” ฝ่ายนั้นตอบกลับมาเป็นการเริ่มสนทนา
“ทำอะไรอยู่อ่ะ”
“กินข้าวอยู่”
“ที่ไหน”
“มหา’ลัย”
“เหรอ แล้วคุยได้ป่าว”
“ได้ มีไรล่ะ”
“ก็ตื่นมาแล้วคิดถึง”
“จริงอ่ะ”
“อ้าวแชมป์จะโกหกทำไมล่ะคร้าบที่รัก”
“ขี้อ้อนขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าแฟนแชมป์จะทิ้งแชมป์ไป”
“คนเรามันชอบอะไรไม่เหมือนกันหรอก ว่าแต่เต็นชอบป่ะล่ะแฟนขี้อ้อนแบบนี้”
“ก็ดี”
“ชอบก็บอกว่าชอบสิครับ จะปากแข็งทำไมแชมป์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแล้วนะ”
“ครับชอบก็ได้ครับ”
“ก็แค่เนี่ย วันนี้เลิกเรียนกี่โมง”
“ก็บ่ายๆ อ่ะ”
“เจอกันป่าว”
“แล้วแชมป์ไม่มีเรียนเหรอ”
“หึ”
“มิน่าตื่นซะสายเชียว”
“ก็เมื่อคืนนอนไม่หลับมัวแต่คิดถึงคนบางคน”
“คิดถึงใคร”
“ก็พูดกับใครอยู่ล่ะ”
“ว่าคนอื่นปากแข็งตัวเองก็เหมือนกันแหละ”
“คิดถึงเต็นคร้าบ พอใจหรือยัง”
“ก็แค่เนี่ย แล้วเจอไงอ่ะ จะมาหาเต็นเหรอ”
“แล้วว่างป่ะล่ะ ต้องไปไหนกับแฟนป่าว”
“ไม่มั้ง เขายังไม่โทรมาเลยนี่”
“แล้วไม่โทรถามเขาล่ะ”
“ไม่แล้วล่ะ อยากโทรเขาคงโทรมาเอง”
“เฮ้ย เอาให้เคลียร์นะ แชมป์อยากให้เราคบกันด้วยความรู้สึกดีๆ”
“สรุปจะให้เต็นโทรถามเขาก่อนเหรอ”
“ถ้าได้มันก็ดี อย่างน้อยก็ให้เกียรติเขาหน่อย แชมป์มาทีหลัง ไงก็ได้”
“แต่เต็นไม่อยากโทรไปแล้ว”
“เพราะแชมป์หรือเปล่า”
“ก็มีส่วน เต็นมาคิดดูอีกที เต็นกับนพคงถึงจุดอิ่มตัวแล้วมั้ง”
“แชมป์ไม่ใช่มือที่สามแน่นะ”
“ขนาดนี้ยังคิดว่าไม่ใช่อีกเหรอ”
“เฮ้ย พูดงี้แชมป์คิดนะ”
“อ้าว ไหงพูดงี้ล่ะ ก็เมื่อคืนคะยั้นคะยอให้เต็นเผยความรู้สึกไม่ใช่เหรอ”
“รู้นะคิดอะไรอยู่ ไม่เอาแล้ว คุยกันเดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันป่าวๆ ตกลงบ่ายนี้เจอกันละกัน”
“อืม ไปไหนดีล่ะ”
“กินข้าว ดูหนัง”
“ก็ดี”
“งั้นแชมป์ไม่กวนแล้ว กินข้าวต่อเหอะ ไว้บ่ายๆ จะโทรหา”
“ครับ”
“ครับ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ รักนะครับ”
แชมป์ยุติการสนทนาลงแค่นั้น ตัดสัญญาณทิ้งเสร็จก็ยิ้มเยาะที่มุมปากหน่อยๆ ที่ปั่นหัวเกย์หนึ่งคนให้หลงเสน่ห์ตนจนได้ อาการเซ็งๆ เบื่อๆ จากการคิดถึงแฟนหญิงทำให้นึกอยากออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง จึงได้เอ่ยชวนเหยื่อทดลองทฤษฎี ไอ้นั่นก็นะ ไม่เคยคิดจะปฏิเสธอะไรเล้ย ชวนปุ๊บตกลงปั๊บ สงสัยอยากได้แฟนใหม่เป็นชายแท้อย่างเขาจนตัวสั่น ฝันไปเถอะ ไอ้ตุ๊ดเอ้ย!

ที่โรงหนัง ณ ห้างๆ เดิมที่นัดเจอกันครั้งแรก แชมป์จัดการซื้อตั๋วหนังอยู่ ในใจนึกคิดว่าทำไมตนจะต้องเทคแคร์คนเป็นเกย์ขนาดนี้ด้วยนะ จะเป็นสุภาพบุรุษเพื่อมันทำไมไม่ได้คิดจะเอามาเป็นแฟนจริงๆ จังๆ สักหน่อย เด็กหนุ่มสลัดความคิดนี้ทิ้งตอนซื้อตั๋วเสร็จแล้วเดินออกมาจากช่องจำหน่ายตั๋ว
“อ่ะ คราวนี้เต็นจ่ายบ้าง” อีกคนที่เดินเข้าหายื่นเงินให้
“ไม่ขัดศรัทธานะ” แชมป์ตอบพร้อมหยิบเอาสิ่งที่ถูกยื่นให้ ดีนะที่นายนี่ยังมีจิตสำนึก ใช้ได้ๆ
“ก็แฟร์ๆ ไง คราวที่แล้วแชมป์ก็เลี้ยงไปแล้วนี่” เสียงเจ้าของเงินเอ่ยบอก จึงเอ่ยหยอดกลับไป
“แฟนใครวะน่ารักชะมัด”
 
***********************************************************
 
 “ขอบใจนะแชมป์ที่ทำให้เต็นรู้สึกดีขึ้น” คนตรงหน้าเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังนั่งกันอยู่ในร้านอาหารภายในห้างๆ เดิมหลังจากที่ดูหนังกันเสร็จ แชมป์มองสบตาเจ้าตัวเยาะหยันอยู่ในใจว่าที่พูดออกมาคงต้องการเอาใจเพื่อหวังให้ตนรู้สึกดีน่ะสิ เอาวะ สนองความต้องการให้สักหน่อยก็ดี ถือซะว่าสงสารคนกำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง
คิดได้แบบนั้นแชมป์จึงสนทนาในเชิงให้ความหวังกับคนตรงหน้า แต่ระหว่างพูดคุยฝ่ายนั้นก็ดูจะยังระแวงถึงการกระทำตนอยู่ โดยการถามโน่นถามนี่ถึงอนาคตและความเป็นไป ให้มันได้อย่างนี้สิ นึกว่าจะโง่หลงกลลวงง่ายๆ เด็กหนุ่มแอบคิดในตอนที่โดนถามบ่อยๆ ท่าทางหลอกยากอยู่ไม่น้อยแฮะไอ้เกย์นี้ แต่ได้ลองเดินหน้าลุยมาขนาดนี้จะยอมตกม้าตายตอนท้ายคงไม่ได้หรอก ระวังตัวแจแบบนี้ตอนตัดรอนความสัมพันธ์จะเอาให้ร้องไห้เสียผู้เสียคนเลยเชียว
เด็กหนุ่มงัดไม้ตายในการมัดใจเหยื่อด้วยการชวนไปบ้านของตนในที่สุด ไม่มีอะไรน่าเสียหายนักหรอก ลักษณะท่าทางนายนี่อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็เป็นเพียงผู้ชายทั่วไปคนหนึ่ง หากคนที่บ้านเห็นก็คงจะไม่ใส่ใจมันเท่าไหร่ อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคนเดียวมีคนไว้คอยแกล้งเล่นก็น่าสนุกอยู่เหมือนกัน
 
***********************************************************
แชมป์พาเหยื่อทฤษฎีมาถึงบ้านซึ่งเป็นตึกแถวสามชั้น เด็กหนุ่มเดินนำเข้าไปข้างใน เห็นคนที่มาด้วยยืนอยู่หน้าประตูบ้านจึงหันมาทัก
“แล้วนั่นจะยืนมองบ้านแชมป์อีกนานมั้ย เข้ามาข้างสิคร้าบคุณเต็น”
ฝ่ายนั้นยอมเดินเข้ามาในบ้าน สายตามองสำรวจรอบๆ ชั้นล่าง จึงเอ่ยบอก
“บ้านรกหน่อยนะ ไม่ค่อยมีใครได้เก็บ”
“ไม่เป็นไรหรอก” คนนั้นบอกจึงเอ่ยชวนขึ้นไปข้างบน ฝ่ายนั้นเอ่ยถามถึงคนอื่นๆ ภายในบ้านก่อนลงท้ายด้วยถ้อยคำเชิงไม่แน่ใจ
 “ถามอะไรหน่อยสิแชมป์ไม่คิดตะขิดตะขวางใจบ้างเหรอที่มาคบกับเต็น”
แชมป์ชะงักหน่อยๆ ไอ้นี่มันขี้ระแวงจริงแฮะ เด็กหนุ่มคิด แต่ก็ตอบปิดประเด็นออกไปได้สำเร็จจนคนถามยอมตามขึ้นห้องของตน
 “เนี่ยห้องแชมป์ ห้ามล้อนะถ้ามันรกมากกว่าข้างล่าง” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกในตอนพาเหยื่อคารมขึ้นไปถึงประตูห้องตนเอง
“ห้องผู้ชายมันก็รกเป็นธรรมดาล่ะน่า” ฝ่ายนั้นตอบจึงว่า
“พูดยังกะไปห้องใครๆ บ่อยเลยนะ”
“ก็หลายคนอยู่”
“ยั่วๆ พูดยั่วเดี๋ยวโดน”
“กล้าทำอะไรเต็นเร้อ”
“เฮอะ กำลังยืนอยู่ถิ่นใครดูให้ชัดๆ ซะก่อนนะครับคุณเต็น ไปเข้าไปในห้อง”
แชมป์ผลักคนปากดีเข้าไปในห้อง รู้สึกเลือดสูบฉีดอยู่บ้างกับคำพูดยั่วล้อเมื่อครู่ เสียดายว่านายนี่ไม่ใช่ผู้หญิง หากเป็นแบบนั้นลองมาพูดจายั่วล้อแบบนี้เป็นได้เสีย
“เก๊กท่ายังกะนายแบบเลยนะ” เสียงเอ่ยแซวดังมาให้ได้ยินตอนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดง่ายๆ
“คนมันหล่ออ่ะนะ ท่าไหนมันก็เหมือนนายแบบทั้งนั่นแหละ เปิดเครื่องล่ะนะ มานั่งใกล้แชมป์มาจะเล่นเกมส์แล้ว” เด็กหนุ่มตอบกลับจัดการไปนั่งลงหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
“เปลี่ยนเสื้อผ้าตอนไหน” อีกคนเอ่ยถาม จิตใจวาบหวิวเลยล่ะสิที่เห็นผู้ชายหน้าตาดีนุ่งน้อยห่มน้อยอยู่ตรงหน้า อย่างว่าล่ะนะ เสื้อกล้ามสีขาวกับเกงกางขาสั้นจู๋อยู่บนรูปร่างที่สมสัดส่วนพร้อมผิวขาวๆ ของผู้ชายแมนๆ เกย์ที่ไหนมันจะไม่มอง
“ก็ตอนที่เต็นมองสำรวจห้องแชมป์น่ะแหละ จริงๆ เต็นก็น่าจะเปลี่ยนบ้างนะ อึดอัดตายเลยใส่กางเกงยีนส์ในบ้าน” คิดดูถูกคนอีกเพศเสร็จจึงบอกออกไปตามนั้น
“ก็มันไม่ใช่บ้านเต็นนี่นาจะอึดอัดทำไม” ฝ่ายนั้นปฏิเสธจึงว่า
“บอกให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนเหอะน่าอย่าขัดใจสามีหน่อยเลย”
 “โหย หน้าแดงใหญ่เลยอ่ะ อายเหรอที่แชมป์พูดเมื่อกี้” เด็กหนุ่มเอ่ยล้อต่อเมื่อเห็นคนที่มองตนอยู่ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้น อายหรือดีใจจนเนื้อเต้นกันนะพ่อคู๊ณ!
 “เอาเสื้อผ้ามาเลยอย่าพูดมาก” ที่สุดฝ่ายนั้นจึงเอ่ยออกมา จึงล้อต่อพลางหยอดคำหวาน
“อายอ่ะดิ๊ รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าเวลาอายแล้วเต็นโครตน่ารักเลย”
“บอกให้เอาเสื้อผ้ามาไงไอ้แชมป์” คนนั้นหลุดเรียกหยาบคาย นึกฉุนและอยากแกล้งต่อจึงเอ่ย
“เฮ้ย แค่นี้เรียกกันไอ้เลยเหรอ แบบนี้ต้องลงโทษซะหน่อยแล้ว”
พูดจบก็พุ่งตัวเข้าใส่ร่างตรงหน้าจัดการกอดรัดแล้วใช้ไรหนวดซุกไซ้ตามซอกคอ ต้องการยั่วล้อให้เกิดอาการจั๊กจี้มากกว่าอารมณ์อื่นใด เห็นฝ่ายนั้นขัดขืน ใจหนึ่งก็นึกสมเพชที่คิดว่าเจ้าตัวพอใจแต่แกล้งเล่นตัว อีกใจหนึ่งก็นึกสนุกแกล้งต่อไปเรื่อยๆ
“เล่นบ้าอะไร เดี๋ยวก็ขำจนตายหรอก” คนนั้นบอกปนหอบเหนื่อยเมื่อตนปล่อยร่างกายให้เป็นอิสระแชมป์นึกสนุกอยากยั่วอารมณ์เกย์เล่นๆ จึงเอ่ย
“เมื่อกี้ขำใช่มั้ย คราวนี้ไม่ขำล่ะ มานี่”
พูดจบก็ผลักคนนั้นให้ล้มลงบนที่นอนโถมกายลงมาทับร่างเจ้าตัวเอาไว้
“เฮ้ยนายคิดจะทำอะไรแชมป์” คนนั้นร้องถาม แชมป์นึกตลกในใบหน้าตื่นกลัวของเจ้าตัว เว่อร์ได้อีก เป็นผู้หญิงจะไม่ว่าเลย นี่เป็นเกย์เสือกกลัวผู้ชายไอ้ห่าเอ้ย ข้าทำอะไรเอ็งไม่ลงหรอก
นั่นแค่ความคิด แต่การกระทำที่แสดงออกคือก้มหน้าลงชิดใกล้คนหวาดกลัวหวังยั่วล้ออารมณ์ดิบในกายให้กระเจิดกระเจิง
“อย่าแชมป์ มันยังไม่ถึงเวลานะ” คนที่ต้องการยั่วเอ่ยปากห้าม แอบโล่งอกที่นายนี่ไม่บ้าจี้ตอบสนองจริงๆ แต่ก็แกล้งตัดพ้อ
“ทำไมล่ะเต็น เต็นไม่ต้องการแชมป์เหรอ”
“เต็นยังไม่ได้เลิกกับนพนะ”
“อืม จริงด้วย แชมป์ขอโทษละกัน” แชมป์ลุกออกจากตัวยืนถอนหายใจที่ปลายเตียง นึกคิดว่าถึงเอ็งโสดข้าก็ไม่ทำอะไรเอ็งมากกว่านี้หรอกไอ้ตุ๊ด!
“โกรธเต็นเหรอ” คนนั้นเอ่ยถาม
“เปล่านี่ โกรธทำไมอ่ะ ก็เต็นพูดเรื่องจริง” เอ่ยตอบ นึกตลกในคำถาม โกรธที่ไม่ได้มีอะไรกับเกย์เนี่ยนะ เอาสมองส่วนไหนคิดนะไอ้เต็น
“ก็เห็นถอนหายใจ” ฝ่ายนั้นถามอีก จึงเอ่ยตัดบทให้เจ้าตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ จะได้ลงมือเล่นเกมส์ จริงๆ ไม่อยากให้เจ้าตัวแสดงคำถามและอาการให้ตนรู้สึกสมเพชมากกว่านี้นั่นเอง
 “รออีกนิดแล้วกันนะ เต็นว่าอีกไม่นานหรอกที่นพจะบอกเลิกเต็น” อุตส่าห์ตัดบทแล้วยังไม่วายแสดงคำพูดตลกๆ ออกมาอีก เฮ้อ สงสัยต้องจัดการขั้นเด็ดขาดซะแล้ว จะได้จบเกมส์ทดสอบทฤษฎีบ้าๆ นี้เสียที
“แล้วทำไมต้องรอให้เขาบอกเลิกล่ะ บอกเลิกเขาก่อนไม่ได้เหรอ แชมป์ไม่ได้ยุให้เลิกนะ แต่การกระทำของเขาที่เต็นเล่าให้แชมป์ฟัง แชมป์ว่าเขาคงไม่ยินดียินร้ายกับการที่เป็นฝ่ายถูกบอกเลิกก่อนหรอก”
คำพูดนี้ทำให้เจ้าตัวคล้อยตาม เฮ้อ อีกนิดไอ้แชมป์ ทฤษฎีเอ็งใกล้เป็นจริงแล้ว ทนเอาใจมันอีกหน่อยเดียวเท่านั้นแหละน่า พอมันเลิกกับแฟนปุ๊บเอ็งก็ชิ่งปั๊บ แล้วทุกอย่างก็จะจบ หุหุ
 “จะมืดแล้วอ่ะ เต็นว่าเต็นกลับก่อนดีกว่า” เสียงคนข้างกายเอ่ยบอกตอนกำลังสนุกกับการเล่นเกมส์ไปได้ระยะหนึ่ง จึงหันมาตอบ
“อืมจริงด้วย เล่นซะเพลินเชียว”
“แชมป์เล่นต่อก็ได้นะ เดี๋ยวเต็นเดินออกไปขึ้นรถเอง”
แชมป์มองคนพูด เฮ้อ ถ้าเป็นผู้หญิงมาพูดแบบนี้ล่ะรักตายเลย เสียดายจริงๆ ที่นายนี่ไม่ใช่ แม้จะเสียดายแต่ก็แกล้งเอาใจอยู่ดีโดยการออกตัวว่าจะไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า คนนั้นยินยอมจึงเดินนำลงมาข้างล่างเจอหน้าน้องชายกับพี่สาวเข้าพอดี เลยแนะนำ แล้วเอ่ยชวนเจ้าตัวเพื่อไปส่ง

ที่ทางขึ้นไปยังสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ แชมป์เอื้อมมือไปจับมือคนที่ตนมาส่งเบาๆ ตอนที่เจ้าตัวเตรียมจะขึ้นไปยังสถานี เอ่ยบอกอย่างเอาใจ เพราะเชื่อว่าหลังจากนี้ตนคงไม่ได้ข้องแวะกับคนนี้เท่าไหร่นัก เพราะสังหรณ์ใจว่าเกมส์ทดสอบทฤษฎีใกล้จะจบลงแล้ว
“วันหลังมาเที่ยวบ้านแชมป์อีกนะ เดี๋ยวจะพาไปหาแม่ที่ร้าน”
“อืมๆ ว่างจะแวะมา แต่ปล่อยเต็นก่อนเถอะ เต็นจะกลับแล้ว” ฝ่ายนั้นเอ่ยบอกจึงยอมปล่อยมือ แต่ก็ไม่วายที่จะส่งคำพูดหวานๆ ให้ได้ยิน
“ถึงบ้านแล้วโทรหาแชมป์นะที่รัก”
“อืม เต็นไปล่ะนะ” คนนั้นเอ่ยตัดบทแล้วรีบเดินขึ้นสถานีรถไฟฟ้าไป ลับหลังไปแล้ว แชมป์ลอบยิ้มร้ายตามหลังเมื่อการเอาชีวิตเข้าไปพัวพันกับเกย์ใกล้จะจบลงเต็มทน เชื่อสิว่าเกย์อย่างนายเต็นจะต้องบอกเลิกคนรักเพื่อมาขอคบกับตนแน่ ลองหว่านเสน่ห์ให้ขนาดนี้ หนีไปไหนรอดก็ให้มันรู้ไป คำว่ารักแท้ไม่มีในหมู่เกย์มันท่าจะจริงแฮะ เฮ้อ นึกแล้วก็สมเพช
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-02-2011 16:16:42
ช่วงนี้ชีวิตกำลังยุ่งเหยิง วันนี้มาต่อให้หนึ่งตอนครับ ใครที่ตามอยู่ติดตามอ่านกันต่อเลยครับ

Boy
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-02-2011 16:19:44
 :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:ไอ้เหี้ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-02-2011 16:44:02
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:ไอ้เหี้ย

เหวย มาต่อช้าแค่นี้ถึงกับด่ากันเลยเหรอ อิอิ

แซวเล่นนะครับ แหะๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-02-2011 17:43:28
อ่า ด่าแชมป์มันอ่ะ เลวมาก ยิ่งอ่านยิ่งเกลียด หึ้ยๆๆ 
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-02-2011 18:00:40
 :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 04-02-2011 19:44:29
 :z6:
เลว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-02-2011 23:03:58
เป็นนิยามรัก

ที่แตกต่าง

ในมุมมองและความคิด

จริง..จริง


ขอบคุณครับ +1 คุณบอย จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-02-2011 07:48:52
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 05-02-2011 08:48:52
นี่แหละน๊าที่เค้าบอกอย่ามองคนแค่ภายนอก

ภาคนอกเหมือนจะดี ตอนแรกยอมรับครับเชียร์ไอ้เชี่ยนี่มาก

แต่พอมองความคิดมันอยากถีบหน้ามากเลย :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 05-02-2011 13:38:34
เลวมากไอ้แชมป์ :z6: :beat: :m31: :fire: :angry2:


ขอให้มันหลงรักเกย์แล้ว โดนเกย์ทิ้งเหอะ :call:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 05-02-2011 19:27:55
มาแล้ว ในที่สุด
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-02-2011 19:55:13
โกรธ และเกลียดแชมป์มากเลยตอนนี้น่ะ
ขอกรรมชั่วนี้คืนสนองให้แชมป์เจ็บสุดๆเลยนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 05-02-2011 22:33:15
เกลียดม้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :angry2:
นิสัยไม่ดีอ่ะ แชมป์ มันน่า  :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 06-02-2011 02:20:24

เรื่องย่อ ตอนต่อไป:
เต็นเดินดุ่มอย่างไร้จุดหมายไปตามถนน....
โดนเรียกตรวจบัตรประชาชน..
และตรวจยาเสพย์ติด....
โดย รตอ. กิตติยาวดี....
ซึ่งได้ทำการสอบสวนเต็นอย่างละเอียด....
ก่อนจะส่งเต็นไปทำจิตบำบัด....
แล้วชักนำให้เต็นได้รู้จักกับ บอย นักประพันธ์ชื่อเสียงโด่งดัง....
คนๆนี้เอง ที่ทำให้เต็นได้พบกับรักแท้....
โปรดติดตามตอนต่อไป....
(ขอขอบคุณ เล้าเป็ด ผู้อุปถัมภ์รายการ)
อิอิ

๗๐ + ๑ = ๗๑
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 06-02-2011 09:14:24
แชมป์ นาย "เหี้ย" มาก!!!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 16 : 04.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-02-2011 01:10:52


แชมป์กลับเข้าบ้านนั่งเล่นเกมส์ต่อสักพักก็ต้องแปลกใจปนดีใจ เมื่อได้นับการติดต่อกลับมาจากคนรักที่เพิ่งร้างลากันไปอย่างมิว
“เสียงมิวดูไม่ดีเลย มีอะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มถามออกไปเมื่อได้ยินเสียงคนรักเก่าคล้ายคนเพิ่งร้องไห้มา
“มิวทะเลาะกับพี่เอกมาน่ะ แชมป์ว่างอยู่มั้ย ออกมาเจอกันหน่อยสิ” ที่สุดฝ่ายนั้นก็บอกสาเหตุมา
“เอก ใครหรือ” แชมอดถามถึงคนชื่อเอกไม่ได้ เด็กหนุ่มได้คำตอบกลับมาว่าคนๆ นั้นคือคนรักใหม่ขออง
หญิงที่ตนกำลังคุยด้วยอยู่
“เพราะเขาใช่มั้ยที่มิวไม่ยอมรับการติดต่อจากแชมป์เลย” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยพอคนรักมีปัญหาก็ยังนึกถึงตนอยู่จึงตัดสินใจออกไปพบกับเจ้าตัวที่ห้องพัก พูดคุยปลอบใจกันจนค่อนคืนจึงแยกตัวกลับบ้าน กลับเข้าห้องล้มตัวลงพักเหนื่อยได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา และคนที่โทรเข้าก็คือเหยื่อทฤษฎีของตน
“ฮัลโหลแชมป์” เสียงฝ่ายนั้นทักมาตอนกดรับสัญญาณ จึงตอบออกไปเสียงห้วนๆ
“ว่าไง ทำไมโทรมาซะดึก”
“อืม พอดีเขามาค้างด้วยน่ะ” ฝ่ายนั้นตอบกลับ นึกสงสัยว่าเขาน่ะใครจึงถาม
“ใครเหรอ”
“นพ”
“อ๋อ ก็ดีแล้วนี่ แต่ทำไมเสียงเต็นดูไม่ดีเลย” เด็กหนุ่มบอกออกไปเมื่อได้คำตอบ ระอากับคำพูดอีกฝ่ายที่ตอบกลับมาที่ถามว่าตนไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ โธ่ ไอ้ตุ๊ด เอ็งจะให้ข้ารู้สึกอะไรกะเอ็ง เชี่ย!
“ทำไมเหรอ แชมป์ต้องรู้สึกไงอ่ะ” เด็กหนุ่มหลุดปากถามออกไปตามความคิด
“ก็ เออ ช่างมันเถอะ งั้นแค่นี้นะ เต็นจะนอนแล้ว” ฝ่ายนั้นตัดสายทิ้งไปคล้ายคนน้อยใจ จึงเริ่มคิดได้ว่าตนเผลอหลุดแสดงความรู้สึกไม่แยแสจริงๆ ออกไป ทฤษฎียังสรุปไม่ได้ชัดเจน ทนๆ ง้อหน่อยก็ได้วะ เด็กหนุ่มคิดแล้วจึงตัดสินใจติดต่อกลับไปหาคนน้อยใจใหม่
“เฮ้ย ทำไมวางสายกันดื้อๆ ล่ะ” ส่งเสียงทักตอนฝ่ายนั้นกดรับสัญญาณ
“ก็จะนอนแล้ว” เสียงที่ตอบกลับมากระด้างและฟังดูห้วนๆ ไอ้ห่าเอ้ย น้อยอกน้อยใจยังกะเป็นผู้หญิงจริงๆ แชมป์แอบคิด แต่ก็ทำทีตอบกลับไปอย่างเอาใจ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการสนทนาเชิงง้องอน
“ไม่จริง กำลังงอนแชมป์อยู่ใช่มั้ย”
“เปล่านี่ ทำไมต้องงอนด้วย”
“ไม่งอนแล้วทำไมตัดสายทิ้งดื้อๆ”
“ก็บอกแล้วไงว่าจะนอน”
“อย่ามาโกหกซะให้ยาก งอนอะไรแชมป์บอกมา”
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
“ปากแข็ง”
“ไม่มีอะไรจริงๆ แชมป์ไปนอนต่อเหอะไป พรุ่งนี้เต็นจะโทรหาใหม่”
“ไม่อ่ะ บอกมาเมื่อกี้เป็นอะไร”
“จะให้บอกอะไรล่ะ เต็นไม่เป็นไรจริงๆ”
“ถ้าให้เดากำลังน้อยใจแชมป์อยู่ใช่มั้ย”
“อืม”
“น้อยใจแชมป์เรื่องอะไรอ่ะ”
“ก็แชมป์พูดเหมือนไม่แคร์เต็นเลย”
“ไม่แคร์ยังไง”
“ไม่รู้สิ เต็นอุตส่าห์หลบมาโทรหาแชมป์ แต่แชมป์คล้ายๆ ไม่ยินดียินร้ายเลย”
“อะไรกัน งอนเป็นเด็กๆ ไปได้”
“ก็มันจริงนี่ แชมป์เป็นคนให้เต็นโทรหาเองนะ แต่แชมป์ก็พูดคล้ายๆ ไม่ได้รอสายเต็นอยู่เลย”
“ก็รออยู่ เนี่ยเล่นเกมส์รออยู่”
“อ้าว ยังไม่ได้นอนเหรอ”
“จะนอนได้ไงในเมื่อเต็นยังไม่โทรมาส่งเข้านอนเลย”
“ก็ว่าจะโทรตั้งแต่มาถึงห้องแล้วล่ะ แต่เขาอยู่พอดี”
“ไม่เป็นไรหรอก แชมป์เข้าใจ ว่าแต่นี่โทรอยู่ไหน”
“หลังตึกน่ะ”
“ระวังยุงกัดเอานะ”
“ห่วงเหรอ”
“ห่วงสิครับ แต่หายมานานระวังเขาสงสัยเอานะ”
“ไม่หรอกเขาหลับไปแล้ว”
“แอบร้ายนะเนี่ยแฟนหลับแอบมาโทรหากิ๊ก”
“เฮ้ย นี่ว่ากันเหรอ”
“โหยแค่ล้อเล่นเองทำเป็นเสียงเขียวไปได้”
“ก็คนยิ่งรู้สึกไม่ดีอยู่”
“ทำไมอ่ะ”
“คือนพเขาคล้ายๆ จะกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว”
“แล้วไม่ดีเหรอ”
“มันจะดีถ้าเต็นยังไม่เจอกับแชมป์”
“หมายความว่าไง”
“ไม่รู้สิ เต็นว่าเต็นเริ่มมีความสุขเวลาอยู่ใกล้แชมป์แล้วอ่ะ”
“นั่นแน่ หลงรักแชมป์แล้วล่ะสิ”
“อย่ามาล้อนะ คนยิ่งเครียดๆ อยู่”
“เครียดไร”
“ตอบให้เต็นสบายใจหน่อยสิว่าเต็นไม่ได้เป็นคนเลว”
“เลวยังไงอ่ะ”
“ก็ที่แอบมาโทรศัพท์หาคนอื่นตอนที่แฟนหลับ”
“คิดมากน่า ก็เขาทำตัวเขาเองนี่นา ถ้าเขายังเป็นแฟนที่ดีกับเต็นแล้วเต็นคิดนอกใจก็ว่าไปอย่าง”
“แต่ยังไงเต็นก็อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่าที่ทำอยู่มันดีแล้วเหรอ”
“งั้นก็เลิกกับเขาสิ จะได้สบายใจ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็เพื่อความสบายใจไง แต่เต็นต้องถามใจตัวเองก่อนนะว่ายังรักเขาอยู่หรือเปล่า”
“ก็ไม่เท่าเดิม”
“ส่วนที่มันหายไปมันมาอยู่ที่แชมป์ใช่มั้ย”
“ไม่รู้”
“โห อุตส่าห์โยนให้ไม่ส่งกลับมาให้ชื่นใจบ้างเลย”
“ก็น่าจะรู้ตัวดีนี่นา”
“ก็อยากได้ยินจากปาก”
“ถึงเวลาแล้วจะบอก”
“จะรอคร้าบ ว่าแต่กลับไปที่ห้องก่อนเถอะ เผื่อเขาตื่นขึ้นมาไม่เจอเต็นแล้วจะยุ่ง”
“อืม แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน จะให้เต็นโทรหา หรือจะโทรมา”
“เต็นโทรมาดีกว่า เพราะแชมป์กลัวว่าจะโทรเข้าไปตอนที่เขายังอยู่”
“ก็ได้ ฝันดีนะไปล่ะ”
“ฝันดีเหมือนกันครับ”
การสนทนาจบลงไปแค่นั้น เด็กหนุ่มโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอนเบ้ปากยักไหล่อย่างไม่นึกแยแส ก่อนเอ่ยออกมา
“โง่ๆ เชื่อลมปากคนอื่นง่ายๆ แบบนี้ ยกให้ฟรีก็ไม่เอาว่ะ เกิดมาผิดเพศใม่พอ เสือกหูเบาอีก พูดอะไรไปก็เชื่อ แม่งใครได้เป็นแฟนโครตซวยเลย ไม่แปลกเลยที่นายนพนึกเบื่อมัน” พูดจบก็จัดการเปลื้องผ้าเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำนอน เพราะเหนื่อยจากการเดินทางกลับมาจากห้องคนรักเก่าเต็มทน แต่ก่อนจะไปทำกิจธุระที่ว่าสายตาก็เหลือบมองโทรศัพท์ที่ตนโยนทิ้งลงบนที่นอนอีกรอบ นายเต็นนั่นบอกว่าคนรักมาค้างด้วย ส่งข้อความไปยั่วให้พวกมันสองคนทะเลาะกันเล่นดีกว่า เผื่อจะได้ข้อสรุปเรื่องทฤษฎีเร็วๆ นึกได้เด็กหนุ่มก็จัดการเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดการพิมพ์ข้อความ “ฝันดีนะครับที่รัก อย่าคิดมาก มีอะไรอะไรโทรมา…แชมป์” แล้วกดส่งไปทันที
“ขอให้นายนพนั่นได้อ่านข้อความนี้ทีเถอะ มันสองคนจะได้แตกหักกันซะที” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมา ยิ้มเยาะที่มุมปากหน่อยๆ ก่อนพาตัวเองไปชำระล้างร่างกาย
วันใหม่ตอนเที่ยงวัน แชมป์โทรศัพท์กลับหาเหยื่อทฤษฎีเพื่อติดตามผลอีกเช่นเคย
 “ฮัลโหล” เสียงฝ่ายนั้นเอ่ยทัก จึงทักกลับ
“ฮัลโหล อยู่ไหนน่ะ คุยได้มั้ย”
“อยู่มหา’ ลัยน่ะ” เด็กหนุ่มตอบออกไปสั้นด้วยน้ำเสียงซึมๆ
“เสียงไม่ค่อยดีเลย มีไรหรือเปล่า” อีกฝ่ายคงจะจับน้ำเสียงได้จึงย้อนถาม คนโดนถามจึงเอ่ยปากบอก
“มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย”
“ไม่หน่อยแล้วมั้งเสียงเป็นแบบนี้ มีอะไรบอกแชมป์ได้มั้ย”
“เต็นก็อยากบอกนะ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง”
“ทำไมล่ะ แชมป์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ”
“ก็รู้ เพียงแต่เต็นไม่รู้จะเริ่มยังไงจริงๆ”
“ถ้าไม่สะดวกจะเล่าก็ไม่เป็นไรแล้วนี่ทำอะไรอยู่ กินข้าวเที่ยงไปยัง”
“ยัง”
“อ้าวทำไมยังอ่ะ ไปหาอะไรกินซะนะ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”
“เป็นห่วงเหรอ”
“ก็น่าจะรู้อยู่”
“อืมไว้เดี๋ยวจะไปกิน ว่าแต่โทรมามีไร ไหนบอกจะรอให้เต็นโทรไปหาเองไง”
“รอมาครึ่งวันแล้วไม่เห็นโทรมานี่ เลยโทรเองซะเลย คิดถึง”
“ทำปากหวาน ไม่กลัวว่าเต็นจะอยู่กับนพเหรอ”
“คิดว่าตอนนี้เขาน่าจะไปทำงานมั้ง ใช่ป่ะล่ะ”
“ใช่มั้ง”
“อ้าวทำไมตอบอย่างนั้นล่ะ เมื่อเช้าไม่ได้ออกจากห้องพร้อมกันเหรอ”
“เปล่า ก็เรื่องนี้แหละที่เต็นกำลังไม่สบายใจตอนนี้”
“อ่ะแน่ะ ไหนบอกไม่รู้เริ่มต้นเล่ายังไงไง”
“อย่าเพิ่งมาล้อกันได้มั้ย เครียดอยู่นะ”
“ขอโทษคร้าบ อ่ะ ไหนๆ ก็เริ่มต้นเล่าแล้ว เล่าต่อมาเถอะว่าเครียดอะไรอยู่เผื่อแชมป์พอจะช่วยได้”
“แชมป์”
“ครับ”
“ถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่ามา”
“แชมป์จริงจังกับความสัมพันธ์ของเราขนาดไหน”
“ทำไมเหรอ”
“เมื่อคืนนพเขาได้อ่านข้อความที่แชมป์ส่งให้เต็น”
“เชี่ยแล้วมั้ยล่ะ”
“อืม”
“แล้วเขาเป็นไงบ้าง”
“ก็ค่อนข้างไม่พอใจ”
“เหรอ งั้นแสดงว่าเขายังแคร์เต็นอยู่น่ะสิ”
“เหมือนจะนะ”
“แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น เต็นจะเอายังไงต่อไป”
“ก็นี่ไงที่เต็นหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกเต็น แชมป์มาทีหลังแชมป์เข้าใจ”
“ยิ่งแชมป์พูดแบบนี้เต็นยิ่งไม่สบายใจ”
“ทำไมล่ะ”
“แชมป์ทำให้เต็นรู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้”
“แล้วไง”
“เต็นยังไม่อยากเลิกคบกับแชมป์ตอนนี้”
“แชมป์ไม่เข้าใจ”
“ก็ถ้านพเขายังแคร์เต็นจริงๆ แล้วเราสองคนกลับมาคบกันอย่างเดิม เต็นก็คงต้องห่างจากแชมป์”
“ทำไมล่ะ เราสองคนไม่สามารถคบกันเป็นเพื่อนต่อไปได้เหรอ”
“แชมป์ทำให้เต็นคิดกับแชมป์มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้วน่ะสิ”
“ตะเต็นว่าไงนะ”
“เต็นคิดว่าเต็นระรักแชมป์แล้ว”
“..............”
“แชมป์อย่าเงียบสิ เต็นใจไม่ดีนะ”
“เปล่าแชมป์กำลังคิดอยู่”
“คิดว่า”
“เราสองคนใจตรงกัน”
“เต็นถือว่านี่คือคำตอบจากแชมป์นะ”
“อืม”
“มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนบอกแชมป์ไม่ใช่เกย์ไง”
“ข้อนั่นมันก็ตอบลำบาก เอาเป็นว่าแชมป์รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เต็นละกัน”
“แล้วเราสองคนจะคบกันได้ยังไง”
“ข้อจำกัดข้อไหนล่ะที่เต็นกลัว ครอบครัว สังคม เพศ หรือแฟนของเต็น”
“จริงๆ มันก็ทุกข้อ แต่ตอนนี้เต็นหนักใจข้อหลัง”
“เคลียร์กับเขาให้เข้าใจละกัน ถ้าเขาจะกลับมารักเต็นอย่างเดิมแชมป์ก็พร้อมจะถอย”
“แล้วถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ”
“เราสองคนก็คบกันอย่างเปิดเผยไง”
“สรุปคือทุกอย่างขึ้นอยู่กับนพงั้นเหรอ”
“เต็นหมายถึงอะไร”
“ที่ผ่านมาเต็นให้นพเป็นฝ่ายตัดสินใจมาตลอด มาครั้งนี้เต็นอยากเป็นฝ่ายตัดสินเองบ้าง”
“เต็นจะบอกเลิกเขาเหรอ”
“แชมป์คิดว่าไง เต็นจะดูเลวไปมั้ย”
“อย่าถามความเห็นคนอื่นเลยเต็น ถามใจตัวเองดีกว่า”
“ก็เต็นอยากรู้ใจแชมป์”
“ทำไมเหรอ จะหาเพื่อนร่วมเลวหรือไง”
“ทำไมพูดงี้ล่ะ”
“แชมป์ล้อเล่น เอาเหอะน่า เต็นจะตัดสินใจแบบไหนแชมป์รับได้ทั้งนั้นแหละ ทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองสบายใจและมีความสุขที่สุดแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะพอดีมีสายซ้อน”
“อืมๆ “
“แล้วจะโทรหาใหม่นะ ไปหาข้าวกินด้วย แค่นี้ก่อนนะ”
แชมป์รีบตัดสัญาณทิ้งเมื่อเห็นว่าคนรักเก่าของตนติดต่อเข้ามาเป็นสายเรียกซ้อน
“ทำไมรับสายช้าจังเลยแชมป์” เสียงฝ่ายนั้นต่อว่า
“พอดีแชมป์คุยกับเพื่อนอยู่น่ะ” แชมป์รีบบอก เพราะยังมีความหวังอยู่ว่าจะได้หวนคืนดีกับคนรัก
“มิวมีออะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มเอ่ยถามออกไป เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ
“พี่เอกยังไม่ยอมโทรมาง้อมิวเลย” สาวคนรักเอ่ยให้ได้ยิน
“อืม มิวรักเขามากเหรอ” แชมป์ถาม
“แชมป์อย่าเพิ่งถามอะไรกดดันมิวเลยนะ มิวกำลังเครียด”
“ก็ได้ๆ แชมป์ขอโทษละกัน อย่าเครียดเลยนะ แชมป์ไม่อยากให้มิวเครียด”
“มิวก็ไม่อยากเครียด แต่มันอดไม่ได้”
“อย่าคิดมาก ยังไงมิวยังมีแชมป์นะ”
“แชมป์ไม่โกรธมิวเหรอที่มิวเปลี่ยนไปชอบพี่เอก”
“เรื่องของหัวใจห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ”
“แล้วตอนนี้แชมป์ยังรักมิวอยู่มั้ย”
“รักสิ แชมป์รอมิวเสมอนะ”
“งั้นสองสามวันนี้แชมป์ว่างมั้ย”
“ว่างอยู่ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรียนเท่าไหร่แล้ว ทำไมเหรอ”
“มิวอยากไปต่างจังหวัดน่ะ”
“ที่ไหนอ่ะ”
“ที่ไหนก็ได้ แชมป์ขับรถเป็นใช่มั้ย เดี๋ยวมิวยืมรถญาติให้ แชมป์ขับพามิวไปหน่อยนะ”
“ได้สิ มิวอยากไปไหนบอกแชมป์เลยนะ”
“แชมป์ใจดีจัง ไม่แน่หรอก หากพี่เอกเป็นแบบนี้นานๆ มิวอาจจะกลับมาคบแชมป์อีกก็ได้”
“ถ้าเป็นแบบนั้นแชมป์จะดีใจที่สุดเลย”
ตกเย็นแชมป์ติดต่อกลับไปหาเต็นอีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าที่เจ้าตัวบอกจะขอเลิกรากับคนรัก หากเรื่องราวเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็เป็นอันว่าถึงเวลาที่ตนจะปิดทฤษฎีเสียที
 “ที่รักอยู่ไหนแล้ว” เด็กหนุ่มทักออกไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง เพราะรู้สึกสุขใจจากการที่คนรักเก่าให้ความหวังว่าจะกลับมาคืนดีอีกครั้ง
“มากินข้าวที่ห้างน่ะ” ฝ่ายนั้นตอบ จึงแกล้งดุออกไป
“ห้างไหน กินกับใคร”
“ห้างที่เราเคยมาดูหนังน่ะแหละ มากับนพ”
“อ๋อ เข้าใจกันแล้วเหรอ” ถามออกไปใหม่เพื่อหยั่งเชิง ก็ไหนว่าจะขอเลิกไงไอ้ปอดแหกเอ้ย นึกด่าออกไปไม่เท่าไหร่ก็ต้องแปลกใจกับคำพูดที่ตอบกลับมา
“คงไม่มีวันนั้นแล้วมั้ง”
“ทำไมอ่ะ”
“คือเต็นบอกเลิกเขาไปแล้ว”
“เฮ้ย จริงดิ”
“อืม”
“แล้วเขาว่าไง”
“ก็ไม่ว่าไงนี่”
“จริงเหรอ ไม่ใช่ร้องห่มร้องไห้ไม่ยอมเลิกนะ”
“แล้วถ้าเป็นแบบนั้นล่ะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นแชมป์ก็รู้สึกแย่น่ะสิ ไม่อยากเป็นมือที่สามใครนะ”
“ไม่หรอก คิดมาก นพเขาเข้าใจ จริงๆ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเต็นจะเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน เพราะเขาเองก็อยากจะเอ่ยมานานแล้ว”
“อืม อย่างนั้นค่อยสบายใจหน่อย อย่างนี้คืนนี้แชมป์ก็ไปหาเต็นได้แล้วสิ”
“เต็นโสดแล้วนี่ จะมากลัวอะไรล่ะ”
“คืนนี้เตรียมตัวไว้นะ ไม่มีข้ออ้างที่จะเล่นตัวกับแชมป์แล้วนะที่รัก”
เตรียมตัวช๊อคโลกไว้เถอะไอ้เกย์หน้าโง่ คืนนี้เอ็งได้เซอร์ไพรส์แน่ ผู้ชายที่ไหนมันจะมีอะไรกับเกย์ได้ลง คำว่าที่รักข้าจะใช้เรียกเอ็งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้นแหละว่ะ หลังจากนี้ เอ็งกับข้าก็คงเป็นเพียงแค่คนเคยรู้จักกันเท่านั้น เฮ้อ โทษข้าไม่ได้นะ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นหากเอ็งมั่นคง ไม่ใจง่าย ไม่โง่เง่า ใครเขาจะมาหลอกเอ็งได้ บ๊าย บายว่ะ ไอ้เกย์หูเบา
แชมป์นอนแผ่หราลงบนที่นอนอย่างสบายใจเมื่อรู้ว่าหนทางการทนพูดจาหวานๆ และง้องอนให้กับกเกย์กำลังจะจบลงในอีกไม่กี่ชั่วโมง คืนนี้แหละน่าจะส่งสัญญาณการตีตัวออกห่างไปให้มัน ถึงเวลานั้นอยากรู้จังว่ามันจะมีท่าทียังไง หึหึ
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 13-02-2011 01:12:53
 :mc4:   จองที่ก่อนค่อยอ่าน  :laugh:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 13-02-2011 02:54:09

วุ้ย กิต.จะรอดูลวดลายของมิวค่ะ หึหึ
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 13-02-2011 03:37:57
เลวระยำจริงๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-02-2011 03:47:48
จะมีการตลับหลังมั้ยคะ อยากให้เป็นเ่ซ่นนั้นจังเลย


ส่วนมึงไอ้champ เหี้ยจริงไรจริง พลานกลัวคนซื่อนี้ไปเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 13-02-2011 03:52:44
แชมป์เลวชาติจริงๆ เล่นกับความรู้สึกคนได้มากขนาดนี้
แต่จริงๆคนเลวแบบนี้ก็คงมีเยอะแยะหล่ะมั่ง
คงต้องโทษที่เต็นโง่และใจง่ายเอง
ขนาดอ่านผ่านมุมมองที่เต็นบรรยายยังรู้สึกได้ถึงความไม่จริงใจเลย
เฮ้อออ หวังว่านพคงเป็นคนดีจริงๆนะ เต็นคงได้เจอคนดีๆบ้าง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 13-02-2011 05:50:04
คงมีคนไม่น้อยที่มองเกย์เป็นแบบนี้ในสังคมจริง :เฮ้อ:

แปลกนะ ทั้งๆ ที่เป็นคนเหมือนกันแค่ชอบอะไรไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ก็กลับกลายเป็นคนประหลาด

เป็นที่ตลกขบขันกับคนทั่วไป เป็นของเล่น เป็นตัวน่ารังเกียจ หรือเป็นอะไรก็ตามที่ไม่ใช่คนเหมือนกันในสายตาคนอื่น

ยิ่งกับผู้ชายยิ่งไปกันใหญ่ หลายๆ คนถูกเพื่อนรุมซ้อมเพราะเป็นเกย์ อย่างแชมป์นี่ก็กรณีเดียวกัน

เพราะอยากรู้ว่าเกย์ง่ายจริงๆ รึเปล่าแค่นี้ก็หาข้อพิสูจน์โดยไร้พื้นฐานของคำว่ามนุษยธรรมที่หายไปจากใจ

ขอให้นายมีความสุขกับการพิสูจน์ครั้งนี้ที่ทำให้คนๆ หนึ่งต้องเสียผู้เสียคน และอย่าลืมนะครับว่าคำว่าเวรกรรมตามทันมันมีอยู่จริง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 13-02-2011 06:49:12
เลวว่ะ
 :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: นาวา ที่ 13-02-2011 07:39:56
จะว่าแชมป์เลวก็เลวนะครับ  แต่บทสรุปของเรื่องนี้ยังอีกนาน
ดังสุภาษิตที่ว่า สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-02-2011 08:18:55
เลวแค่ตัวไม่พอเลวแม้กระทั่งความคิดที่อยู่ในหัว แค่แฟนไม่รักอกหักถึงกับมาทำร้ายคนอื่นเชียวหรือ
มาพาให้คนอื่นเลวไปกับมึงด้วย  ลองเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นมึงคิดว่าสนุกมากสิไอ้แชมป์
เต็นก็ไม่น่าใจง่ายหลงไปกับคำพูดมักง่ายของคนแบบนี้
น่าเสียดายเวลาที่ไปพูดกับมันนะเต็น แต่ตอนนี้ถอนตัวกลับมาก็ไม่ทันแล้วละ
หลวมตัวทำอะไรๆที่ไม่ดีไปหลายอย่าง หลงไปกับคำพูด ลืมตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ หูเบาเชื่อคนอื่นง่ายๆ เขาถึงได้ว่าใจง่าย หลอกง่าย เหมือนควายเลยมั้ง
มันรวมอยู่ในคนๆเดียวหมด :เฮ้อ:เต็นเอ๊ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 13-02-2011 08:44:57
แชมป์แก"เลว"มาก เอาความรู้คนอื่นมาล้อเล่น
ขอให้มารักใครคนนึงจริงๆแล้ว คนนั้นเอาทฤษฎีบ้าๆแบบนี้มาใช้กับเอ็งมั้งเหอะ
ดีแต่ว่าคนอื่น ตัวเองเป็นยุแยงเค้า คนดีมากเลยสิ ให้ฟรีๆ ก็ไม่มีใครเอาหรอก
นายสงสารและสมเพชนายเต็นไปด้วยเหมือนกัน เพราะหูเบาเกินไป ก็หลวมตัวหลงเชื่อไปหมดแล้ว
เม่อไหร่จะถึงเวลาที่นายเต็นจะฉลาดแล้วเอาคืนไอ้แชมป์ซะทีอ่ะ..
สงสัยคงต้องถึงเวลาที่เต็นเจ็บปวดใกล้ตาย แล้วให้ไอ้แชมป์เห็น พี่บอยถึงเริ่มเขียนฉากเอาคืนมั้ง..
รู้สึกจะเป็นอย่างนี้ทุกเรื่องนา จะรอคับ :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: kuankao ที่ 13-02-2011 11:25:07
 :pigangry2: :fcuk: :z4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 13-02-2011 11:50:54
อ่านแล้วขัดใจ
ผู้ชายแบบนี้
เลวได้อีก

^^
รอตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 13-02-2011 13:24:42
ไอ้สารเลวแชมป์ :z6:

มาทำกับเต็นแบบนี้ มึงก็โดนเหมือนกันล่ะวะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 17 : 13.02.54>หายไปนาน มาต่อแล้วครับ&
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-02-2011 15:15:06
เวลาจวนเที่ยงคืน ถือเป็นฤกษ์ดีในการส่งสัญญาณการตัดความสัมพันธ์กับเหยื่อทฤษฎี แชมป์จึงติดต่อไปหาเต็น
“ถึงไหนแล้วครับ” เสียงฝ่ายนั้นทักทายประโยคแรก นี่คงคิดสินะว่าเขาจะไปตามสัญญาจริงๆ น่าสมเพชว่ะ คิดพร้อมกับยิ้มเยาะที่มุมปากก่อนแกล้งตอบออกไปด้วยน้ำเสียงอย่างคนรู้สึกผิด
“โทษทีนะเต็น แชมป์ยังไม่ได้ออกจากบ้านเลย”
“อ้าวเหรอ” เสียงเหยื่อตอบออกมาคล้ายคนผิดหวัง นี่มันแค่เริ่มต้นโว้ยไอ้เบื๊อก
“ไหนแชมป์บอกจะมาตอนเที่ยงคืนไง” นั่นไง มันเริ่มทวงสัญญา
“พอดีมีปัญหานิดหน่อยน่ะ น้องแชมป์มันรถล้ม เลยต้องพามันไปโรงพยาบาล เนี่ยแชมป์เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมา ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปหาเต็นหรือเปล่า เพราะน้องมันต้องนอนโรงพยาบาล แชมป์อาจต้องไปเฝ้ามัน” จะบาปมั้ยวะกู ที่ยกเรื่องน้องชายมาโกหกไอ้เกย์นี่ แชมป์แอบคิด แล้วไอ้นั่นทำไมเงียบไป ช็อคตายหรือเปล่าวะ
 “ทำไมเงียบไปล่ะเต็น” เด็กหนุ่มถามออกไป
“ฟังอยู่ แชมป์ไปจัดการเรื่องน้องให้เรียบร้อยเถอะ ไว้วันหลังค่อยมาก็ได้” มาแนวนางเอกแฮะ ดูดีตายล่ะมึง จริงๆ น้อยใจอยู่ล่ะไม่ว่า
“เสียงดูไม่ดีเลย น้อยใจเหรอ” แชมป์ถามออกไปในสิ่งที่คาดว่าเหยื่อกำลังรู้สึก
“เปล่า” ฝ่ายนั้นปฏิเสธ เด็กหนุ่มเกิดความรู้สึกหมั่นไส้ในความปากแข็ง จึงแกล้งบอกเอาใจ
“ไม่เชื่อหรอก เอางี้ละกันเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเที่ยวกัน ชดเชยเวลาคืนนี้ให้ทั้งวันเลยดีมั้ย”
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก เต็นไม่เป็นอะไรจริงๆ”
“เหอะน่า ก็แชมป์รู้สึกไม่ดีเอง นะ วันนี้นอนคนเดียวไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”
“งั้นก็แล้วแต่ละกัน”
“น่ารักจัง รีบอาบน้ำนอนเลยนะดึกแล้ว เดี๋ยวแชมป์ขอเก็บของก่อนจะรีบไปโรงพยาบาล”
“อืม ไปเถอะ แค่นี้นะ” ฝ่ายนั้นวางสายไปหลังเอ่ยจบ แชมป์กลับมายิ้มเยาะที่มุมปากอีกครั้ง คืนนี้เอ็งรอเก้อยังไง พรุ่งนี้เอ็งก็จะเก้ออย่างนี้แหละไอ้เต็น บอกแล้วไง ผู้ชายที่ไหนมันจะรักเกย์ได้ลง
วันใหม่ แชมป์ขับรถพามิวมาเที่ยวชลบุรีตั้งแต่เช้า เด็กหนุ่มมีความสุขที่ได้อยู่กับคนรักเก่าสองต่อสองอีกครั้ง ซึ่งฝ่ายนั้นก็คอยเอาอกเอาใจตลอดทาง ทั้งป้อนน้ำป้อนขนม เอนตัวซบหลับในบางครั้ง ตื่นขึ้นมาก็ออดอ้อนว่าอยากไปโน่นไปนี่ เพื่อให้ลืมความเจ็บปวด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เด็กหนุ่มจะทำ
เวลาใกล้เที่ยงขณะจอดรถเทียบหาดพัทยาเพื่อพักหาอะไรทาน มิวขอตัวทำธุระในห้องน้ำ เด็กหนุ่มจึงนึกถึงบางคนขึ้นมา ถึงเวลาแล้วสินะที่เขาจะบอกเลิกความสัมพันธ์กับคนๆ นั้นอย่างเป็นทางการเสียที เพราะดูท่ามิวจะกลับมาคืนดีกับเขาแล้วจริงๆ ขืนปล่อยให้ชีวิตคาราคาซังอยู่กับพวกวิปริตผิดเพศ อาจพาลทำให้เส้นทางรักสายใหม่กับคนรักเก่าจะขาดสะบั้นไปซะเปล่าๆ เด็กหนุ่มเลือกส่งข้อความไปหาคนที่ตนต้องการบอกเลิกแทนการโทรศัพท์ไปหา โดยเลือกถ้อยคำที่ดูเบาต่อความรู้สึกของฝ่ายนั้นให้มากที่สุด เพราะเอาเข้าจริงๆ ก็รู้สึกสงสารอยู่เหมือนกัน เมื่อคิดว่าต่อแต่นี้ตนจะไม่เข้าไปข้องแวะ ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับเจ้าตัวอีก
 “แชมป์รู้สึกสับสนมากตอนนี้ คิดว่าเราสองคนถลำลึกกันมากเกินไปแล้ว ไม่รู้สิบางทีแชมป์ก็รู้สึกดีกับเต็นนะ แต่บางทีแชมป์ก็เฉยๆ จนถึงรับไม่ได้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ตอนนี้แชมป์อยู่ชลบุรี มาเที่ยวกับญาติตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แชมป์ขออยู่เงียบๆ ก่อนนะ มีอะไรเดี๋ยวแชมป์ติดต่อกลับไปเอง”
หลังพิมพ์เสร็จ เด็กหนุ่มยืนอ่านทวนอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจกดส่ง ยืนนิ่งไว้อาลัยกับความสัมพันธ์หลอกๆ ครั้งนี้ของตน สายตาเหม่อมองท้องทะเลเบื้องหน้า พึมพำออกมาเบาๆ
“ลาก่อนเต็น ขอโทษนะถ้าสิ่งที่ฉันทำจะทำให้นายเจ็บปวด”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาระหว่างยืนอยู่ เด็กหนุ่มถอนหายใจเมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้ามา ตัดสินใจไม่รับสายเพราะ ไม่อยากจะให้เรื่องราวมันยาวไปกว่านี้ ตัดสินใจบอกเลิกไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสนทนากับฝ่ายนั้นที่กลายเป็นแค่คนอื่นสำหรับตนไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ดับไป สักครู่ก็ดังขึ้นมาใหม่ คราวนี้จึงตัดสินใจเซ็ตระบบเข้าโหมดปิดเสียงแก้รำคาญซะให้หมดเรื่อง รู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องทนฟังเสียงเรียกเข้าได้สักพัก ก็ต้องหหงุดหงิดขึ้นมาใหม่เมื่อฝ่ายนั้นส่งข้อความมาแทนการโทรเข้า
“ฉลาดนะมึง” เด็กหนุ่มหลุดปากว่า ก่อนจะเปิดอ่านข้อความ
 “มันเกิดอะไรขึ้นเหรอแชมป์ ทำไมแชมป์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้” นั่นคือถ้อยคำที่ได้อ่าน เห็นว่าฝ่ายนั้นไม่ยอมจบจึงส่งตอบกลับไป
“บอกแล้วไงว่าขออยู่เงียบๆ ก่อน จะอะไรกันนักหนา เดี๋ยวพร้อมจะโทรกลับเอง”
“พูดแบบนี้ไม่แคร์กันแล้วใช่มั้ย จะเลิกคบกันก็บอกกันตรงๆ อย่าทำแบบนี้มันไม่แฟร์” มีข้อความตอบกลับมาอีก คราวนี้นึกฉุนที่โดนว่าจึงพิมพ์ตอบกลับไปอย่างคนโมโหว่า
“อย่ามาประชด มันงี่เง่า”
“ทำไมนายถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้แชมป์ ลืมไปแล้วเหรอว่านายสัญญาอะไรไว้ ถ้าใครสักคนจะงี่เง่ามันก็คงเป็นนายน่ะแหละ แน่จริงรับสายสิ พูดกันตรงๆ เลยดีกว่า จะได้รู้กันไปว่าข้อความพวกนี้มาจากนายจริงๆ” อีกฝ่ายโต้ตอบมายาวเหยียด ในเชิงต่อว่า จึงเลือกที่จะนิ่งไม่ตอบโต้ กลัวเรื่องไม่จบก่อนคนรักตนจะมา แต่พอนิ่งสักพักฝ่ายนั้นก็เปลี่ยนการติดต่อเป็นการโทรเข้ามา
“มันจะอะไรนักหนาวะ บอกเลิกแค่นี้จะตายใช่มั้ย” เด็กหนุ่มบ่นอย่างหงุดหงิดแล้วตัดสินใจรับสาย วอนอยากเจ็บปวดกับคำพูดของเขามากนักพ่อก็จะจัดให้
 “นายมีอะไรว่ามา” เด็กหนุ่มทักออกไปสั้นและห้วน
“แชมป์ นี่แชมป์จริงๆ เหรอ” ฝ่ายนั้นถามกลับมา จึงตอบรับกลับไปน้ำเสียงเดิม
“อืม”
“มันเกิดอะไรขึ้นน่ะแชมป์ อธิบายได้มั้ย” อีกฝ่ายถาม จึงบอกออกไปอย่างนึกรำคาญ เป็นการเริ่มต้นการโต้แย้ง
“ก็พิมพ์บอกไปหมดแล้วในข้อความ”
“แชมป์กำลังล้อเต็นเล่นใช่มั้ย”
“ผมไม่ได้ล้อเล่น จะโทรมาถามแค่นี้ใช่หรือเปล่า ผมวางสายล่ะนะญาติมา”
“อย่าเพิ่งแชมป์ แชมป์จะทำกับเต็นแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้หรอกเต็น ที่ผ่านมาผมขอโทษ แค่นี้นะ”
“อย่าวางนะแชมป์ เต็นต้องการคำอธิบายมากกว่านี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ แชมป์ถึงคิดมาเปลี่ยนใจตอนนี้”
“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาถามหาเหตุผลตอนนี้หรอกเต็น เราสองคนถลำลึกกันเกินไปแล้ว เต็นกลับไปหาคนของเต็นเถอะ รักเขาให้มากๆ ดูแลเขาให้ดีๆ อะไรทนได้ก็ทน แล้วคนๆ นั้นเขาก็คงไม่ไปไหนจากเต็นหรอก ลืมผมซะเถอะ เราเดินกันมาสุดทางแล้ว”
“แชมป์ แชมป์พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า เต็นบอกเลิกนพเขาไปแล้วแชมป์ก็รู้ เต็นจะให้แชมป์กลืนน้ำลายตัวเองไปขอคืนดีเขาเหรอ”
“เลิกกันแค่วันเดียวกลับไปง้อเขาสักนิดมันจะเสียหายอะไรล่ะ”
“แต่นพเขารู้นะว่าที่เต็นบอกเลิกเขาเพราะเต็นอยากมาคบกับแชมป์ แชมป์จะให้เต็นบอกเขาว่ายังไงเรื่องแชมป์”
“ก็บอกเขาไปสิว่าเราสองคนไม่มีอะไรกันแล้ว”
“ทำไมแชมป์พูดอะไรง่ายๆ แบบนี้”
“ก็แล้วจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไมล่ะ กลับไปหาเขาเถอะ เลิกสนใจแชมป์ได้แล้ว ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ที่จะคบกันในฐานะคนรัก”
“แสดงว่าที่ผ่านมาแชมป์หลอกเต็น”
“ไม่ได้หลอก ตอนนั้นผมรู้สึกดีจริงๆ แต่ตอนนี้พอคิดให้ถี่ถ้วน ผมมันก็แค่คนอกหักต้องการเพื่อนปลอบใจให้ลืมความเศร้า”
“แล้วทำไมต้องเป็นเต็น”
“ไม่รู้สิ มันแปลกดีมั้ง เพื่อนคนอื่นๆ เขาปลอบผมมากี่คนๆ ผมก็ไม่เคยหาย”
“งั้นแสดงว่าตอนนี้แชมป์ดีขึ้นแล้ว”
“ก็บ้าง ถึงได้คิดได้ไงว่าควรจะปล่อยเต็นไปหาคนที่เขาสามารถคบกับเต็นได้อย่างเปิดเผย ที่ผ่านมาผมขอโทษละกันที่ดึงชีวิตคุณไว้หลายวัน”
“แชมป์กำลังสร้างตราบาปให้กับเต็นนะรู้ตัวหรือเปล่า”
“ยังไง”
“ก็นพเขาเสียใจตอนที่เต็นบอกเลิก”
“แล้วไง”
“ก็แชมป์เป็นสาเหตุให้เต็นบอกเลิกเขาน่ะสิ”
“ทำไมถึงโทษคนอื่นล่ะ คุณทำตัวคุณเองนะ”
“แชมป์ !”
“ผมว่าเราเลิกคุยกันดีกว่า ให้เราจากกันด้วยดีเถอะ ผมไม่อยากทะเลาะและเสียความรู้สึกกับคนที่ผมเคยรู้สึกดีด้วย โชคดีนะครับ บาย”
แชมป์ตัดสินใจวางสายเมื่อเอ่ยจบ เพราะกลัวว่าหากคุยนานกว่านี้ตนจะหลุดถ้อยคำที่รุนแรงออกไป นั่นถือว่าเบาที่สุดแล้วนะกับการยกเรื่องต่างๆ มาโกหกให้เจ้าตัวทำใจได้ง่ายขึ้น อุตส่าห์แกล้งบอกว่าเคยรู้สึกดีด้วย อาจจะพอทำให้มันมองเห็นคุณค่าของตัวเองบ้างล่ะน่า จะให้บอกไปตามตรงว่าที่ผ่านมาเขาแกล้งคบด้วยเพราะอยากทดลองทฤษฎีรักแท้ไม่มีในหมู่เกย์ ก็กลัวว่าเจ้าตัวจะเจ็บปวดไปมากกว่านี้ที่เสียคนรักไปด้วยความโง่เง่า และหูเบาของตน เฮ้อ ป่านนี้นั่งร้องไห้เป็นเผ่าเต่าแล้วมั้ง ทนๆ เอาเหอะว่ะ เดี๋ยวมึงก็ชิน
 
มืดแล้วแต่โทรศัพท์ยังถูกตั้งไว้ในโหมดปิดเสียงอยู่ และวางไว้ไกลตัวขณะยืนโอบกอดอยู่กับคนรักที่ริมระเบียงห้องพัก เด็กหนุ่มจึงไม่ได้รับรู้ว่ามีใครติดต่อเข้ามาบ้าง กระทั่งแยกตัวออกมาจากคนรักเพื่อมาหยิบเครื่องดื่มภายในห้อง จึงได้เห็นว่าที่โทรศัพท์ของตัวเองมีสายที่ไม่ได้รับและข้อความค้างอยู่ ตัดสินใจเปิดอ่าน ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ร้องบอกคนรักว่าขอลงไปซื้อเครื่องดื่มเพิ่มข้างล่าง แต่ใจจริงต้องการลงไปเคลียร์กับคนที่ส่งขอความอ้อนวอนขอให้ตนรับสายโทรศัพท์ หวังให้เจ้าตัวเข้าใจสถานการณ์และเลิกตามตอแยตนซะที เด็กหนุ่มติดต่อกลับไปหาฝ่ายนั้นตอนเดินอยู่ริมหาด
“ขอบคุณมากแชมป์ ขอบคุณมากที่ยอมคุยกับเต็น” ฝ่ายนั้นทักทายมาให้ได้ยิน น้ำเสียงคล้ายคนผ่านการร้องไห้มาไม่มีผิด แต่ตอนนี้รู้สึกสมเพชมากว่าสงสาร จึงตอบกลับไปห้วนๆ
“มีอะไร”
“แชมป์จะกลับมาตอนไหน เราเจอกันได้มั้ย” น้ำเสียงฝ่ายนั้นดีขึ้นคล้ายคนไม่ติดใจในสถานการณ์ที่ผ่านมา
“ยังไม่รู้” แชมป์ตอบออกไปด้วยความเฉยชา แอบถอนหายใจเมื่อโดนทวงสัญญาเรื่องการออกเดต จึงบอกออกไป
 “เลิกเถอะเต็น อย่าพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมเลย มันไม่มีประโยชน์หรอก”
“ทำไมจะไม่มีประโยชน์ล่ะแชมป์ ถ้าแชมป์จะยังเป็นคนเดิม” ฝ่ายนั้นตามยื้อ จึงบอกออกไปตรงๆ
“คนเดิมของผมก็คือเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงไงครับ ไม่ใช่เกย์รักเกย์ หรือผู้ชายรักเกย์”
“ทำไมแชมป์พูดแบบนี้” ยังมีคำถามกลับมาให้ได้ยินอีก แม้มันจะเบาบางในน้ำเสียงก็เถอะ
“ผมพูดความจริงครับ เข้าใจและทำใจซะเถอะ ลืมผมไปซะ ที่ผ่านมาคิดซะว่าเรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้น” เด็กหนุ่มอธิบายใหม่
“แล้วที่ผ่านมาล่ะแชมป์ แชมป์จะรับผิดชอบความรู้สึกเต็นยังไง”
“ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะคิดกับผมมากมายขนาดนี้”
“สรุปเต็นคิดกับแชมป์ฝ่ายเดียวเหรอ ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยคิดอะไรกับเต็นเลยใช่มั้ย”
“ก็บอกแล้วไงผมไม่ใช่เกย์ คุณจะให้ผมคิดอะไรกับคุณล่ะ”
“แล้วการกระทำที่แชมป์ทำมาทั้งหมดล่ะ คำพูดทุกคำพูด เต็นยังไม่ลืมมันง่ายๆ หรอกนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะจริงจัง”
“ทำไมแชมป์ถึงคิดว่าเต็นจะไม่จริงจัง”
“ก็คุณมีคนรักอยู่แล้ว”
“แชมป์เคยแนะให้เต็นเลิกกับเขาจำไม่ได้หรือไง”
“ผมไม่คิดว่าคุณจะเชื่อ”
“แต่เต็นก็เชื่อไปแล้ว”
“แล้วคุณไปขอคืนดีกับเขาหรือยัง”
“เป็นแชมป์ แชมป์จะกล้ามั้ย”
“ผมก็เคยขอคืนดีแฟนผม คุณก็เคยเห็นในวันแรกที่เราเจอกัน”
“มันไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนยังไง”
“เต็นละอายเกินที่จะทำแบบนั้นได้”
“แล้วที่โทรมาจู้จี้กับผมนี่ไม่ละอายบ้างเหรอ”
“แชมป์!”
“ขอโทษนะที่ผมต้องพูดตรงๆ คุณกับผมเรารู้จักกันแค่ผิวเผิน การที่คุณโทรมาวุ่นวายกับผมแบบนี้ มันยิ่งทำให้ผมมองคุณในทางไม่ดีมากกว่าเดิมนะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็คุณรู้จักผมเพียงไม่กี่วันคุณก็ตัดสินใจที่จะเลิกคบกับแฟนที่คุณรู้จักเขามา 4 ปี เพื่อมาคบกับผม คุณคิดว่าผมรับได้เหรอกับการที่จะรู้สึกดีกับคนจิตใจโลเลเช่นคุณ”
“แต่แชมป์ทำให้เต็นแบบนี้นะ”
“เลิกโทษคนอื่น แล้วก็เลิกใช้สรรพนามแบบนี้กับผมเถอะ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันตลกที่ผู้ชายสองคนจะเรียกแทนกันด้วยชื่อ”
“คำพูดพวกนี้แชมป์สอนเต็นเองนะ”
“บอกแล้วไงว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”
“แชมป์ทำไมแชมป์ถึงเป็นไปได้ขนาดนี้”
“ผมก็เป็นของผมแบบนี้”
“ไม่จริง แชมป์ที่เต็นเคยรู้จักไม่ใช่คนๆ นี้”
“เลิกเพ้อเจ้อแล้วก็ทำใจให้ลืมผมเถอะนะ ถือว่าผมขอร้องล่ะ เป็นไปได้เราอย่าติดต่อกันอีกเลย กลับไปหาคนของคุณเถอะ ไปอธิบายให้เขาเข้าใจในทุกๆ เรื่อง แล้วขอคืนดีกับเขาซะ หรือถ้าไม่สำเร็จคุณก็เปิดใจมองเกย์คนใหม่ที่พร้อมจะคบกับคุณได้เถอะ สำหรับผม ผมเป็นผู้ชาย ไม่ได้เป็นเกย์ เลิกคิด เลิกหวัง แล้วก็เลิกตามผมซะเถอะ ผมอยากลืมภาพวันเวลาที่ผมทำสิ่งทุเรศๆ ในชีวิตลงไป ผมอยากมีชีวิตที่ปกติ เป็นผู้ชายที่รักผู้หญิง เป็นคนที่เดินอยู่ในกรอบของสังคม แค่นี้นะครับอย่าโทรมาอีกหากไม่จำเป็น ลืมๆ ผมไปเถอะ ยังไงเราก็คบกันไม่ได้”
แชมป์วางสายทิ้งอีกครั้ง สุดจะทนแล้วกับการโดนยื้อ จึงได้เอ่ยระบายถ้อยคำที่รุนแรงออกไป อีกฝ่ายจะเป็นจะตายตอนนี้ไม่นึกสนเพราะคนรักของตนจะต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น ฝันไปเถอะว่าชาตินี้จะมีเกย์คนไหนเข้ามาทำให้หัวใจหวั่นไหว ร้องไห้ซะให้พอไอ้เต็น ให้สมกับที่นายเคยโง่เง่าให้กับลมปากของผู้ชาย นายจะได้จำให้ขึ้นใจว่าอย่าโง่ให้ผู้ชายที่ไหนได้หลอกอีก ขอให้นายโชคดี ลาก่อนอย่างถาวร
จากวันนั้นแชมป์เลิกสนใจการติดต่อจากเต็นจริง ในทุกทาง ไม่ว่าจะโทรศัพท์ หรือข้อความ เด็กหนุ่มหันไปสนใจและใส่ใจคนรักอย่างมิวที่หันมาคบกับตนอีกครั้ง ซึ่งหลายครั้งที่อยู่ด้วยกันเต็นก็ติดต่อเข้ามาอย่างไม่รู้เวร่ำเวลา เด็กหนุ่มมักโดนถามว่าทำไมไม่รับสายโทรศัพท์นั่น จึงต้องยอมโกหกไปว่าตอนที่ตนอยู่คนเดียวได้มีผู้หญิงมาติดพันบ้าง ซึ่งตนก็คบๆ ไปเพราะความเหงา ไม่ได้คิดจริงจัง หัวใจไม่มีไว้ให้ใครแล้ว
“แชมป์รักและรอมิวคนเดียวเท่านั้น ทำไงให้เขาเลิกตามแชมป์ มิวช่วยคิดหน่อยสิ” เด็กหนุ่มอ้อนคนรักในตอนนั้น จู่ๆ ก็นึกแปลกใจที่คนรักหยิบโทรศัพท์ตนไปจัดการทำอะไรสักอย่างก่อนส่งคืนแล้วบอก
“ตั้งเพลงรอสายบอกเลิกไว้ให้แล้ว เดี๋ยวเขาโทรมาเพลงมันก็จะบอกแทนแชมป์เองแหละว่าแชมป์รู้สึกยังไงกับเขา”
“เพลงใครอ่ะ”
“เราเลิกกันนะของปานไง ไม่เคยฟังเหรอ”
“ทำไมตั้งเพลงผู้หญิงล่ะ”
“เหอะน่า เนื้อหามันเข้าท่าดี บอกเลิกแบบยังอาลัย อาจทำให้เขารู้สึกดีขึ้น”
“มิวห่วงความรู้สึกเขาเหรอ”
“มิวเองก็เคยโดนพี่เอกทำแบบนี้ใส่ มิวเข้าใจเขา”
“แฟนแชมป์ใจกว้างจัง”
“ผู้หญิงย่อมเข้าใจผู้หญิง ว่าแต่แชมป์ไม่ได้คาราคาซังกับเขาแน่นะ”
“แน่สิครับ ตอนนี้แชมป์รักมิวคนเดียวเท่านั้นแหละ”
การสนทนาจบลงตรงนั้น ก่อนจะมีการหยอกเย้าตามประสาคนรักกัน ความสัมพันธ์ที่เริ่มใหม่ดำเนินไปอย่างราบรื่น กระทั่งวันหนึ่งก็ได้รับการติดต่อมาจากคนน่ารำคาญอย่างเต็นอีกครั้ง คราวนี้ที่พลาดที่รับสายเพราะเจ้าตัวเล่นใช้เบอร์โทรศัพท์สาธารณะติดต่อมา แต่พอรู้ตัวก็รีบตัดสายทิ้ง นึกเวทนาคนโทรเข้ามาเหลือทน ที่ทำทุกวิถีทางจริงๆ เพื่อให้ได้คุยกับเขา สงสัยอยากได้เขาเป็นคนรักจนตัวสั่น เฮ้อ เข้าขั้นโคม่าแล้วมั้งไอ้เกย์นี่
“แชมป์ เต็นพอจะเข้าใจเหตุผลของแชมป์แล้วล่ะ รับสายเต็นสักครั้งได้มั้ย เต็นอยากคุยกับแชมป์ แม้เราจะคบกันอย่างคนรักไม่ได้ เราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา เถอะนะ รับสายเต็นเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย มันเป็นผลดีต่อใครเลยนะ” แชมป์ได้รับข้อความนี้ออีกครั้งจากคนที่ตนตัดขาดออกจากชีวิต นึกเบื่อ นึกระอา นึกสมเพช จนพาลจะนึกเกลียดเจ้าของข้อความจริงๆ ไม่รู้หรอกว่าทำไมเจ้าตัวถึงส่งข้อความนี้มา
“จะมางอนง้อขอเป็นเพื่อนกับทำซากอะไรวะ เป็นเกย์ก็อยู่ส่วนเกย์ไปดิ ผู้ชายที่ไหนอยากจะคบกับมึงไอ้ห่า” เด็กหนุ่มหลุดปากด่าใส่หน้าจอโทรศัพท์ แล้วตัดสินใจปิดเครื่องซะเพราะสังหรณ์ใจว่าจะมีการโทรศัพท์ตามเข้ามา
ดึกวันหนึ่งขณะนอนหลับสบาย เด็กหนุ่มได้รับการติดต่อจากคนที่ตนนึกเบื่ออีกครั้ง รู้สึกรำคาญจนสุดจะทนจึงได้บอกออกไป
“ไม่หลับไม่นอนหรือครับ คุณดูจะล้ำเส้นกับผมมากเกินไปแล้วนะ”
“เต็นขอโทษ เต็นแค่อยากคุยกับแชมป์” คนนั้นพูดจาให้รู้สึกเวทนา แต่จิตใจไม่ได้สนใจยังคงเดินหน้าต่อว่าอีก ซึ่งเป็นการจุดชนวนการโต้แย้งอีกครั้ง
“แต่นี่มันเป็นเวลานอนนะครับ”
“ก็ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยรับสายเต็นเลย”
“ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าติดต่อมาหาผม ทำไมไม่ฟังกันบ้าง”
“แล้วถ้าตอนนี้เต็นบอกว่าเต็นจำเป็นล่ะ”
“จำเป็นยังไง”
“เต็นเหงา เต็นโดดเดี่ยว แชมป์รู้มั้ยว่าเต็นไปเจออะไรมาบ้างระหว่างที่แชมป์หายไป”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันไม่จำเป็นเลยที่ผมจะรับรู้เรื่องของคุณ”
“ทำไมแชมป์ถึงร้ายกับเต็นได้ขนาดนี้”
“ผมจะร้ายกว่านี้อีกถ้าคุณยังดึงดันที่จะติดต่อผมอยู่”
“สรุปว่าไม่ว่าจะยังไงเราก็กลับมาคุยกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย”
“ก็น่าจะเป็นยังงั้น”
“แชมป์ไม่เสียดายวันเวลาดีๆ ที่เราทำด้วยกันบ้างเหรอ”
“คุณครับ เรารู้จักกันกี่วันกันครับ วันดีๆ ที่คุณพูดถึงน่ะ มันจะน่าจดจำและน่านึกถึงขนาดไหนกัน”
“แชมป์”
“โทษผมไม่ได้นะ คุณบังคับให้ผมพูดเอง แค่นี้นะครับ ผมจะนอน”
เด็กหนุ่มตัดสัญญาณขาดหายทิ้งทันทีเมื่อเอ่ยจบ พูดออกไปขนาดนี้ หากฝ่ายนั้นจะหน้าด้านหน้าทนตามตื้อเขาอยู่ก็ให้มันรู้ไป หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ จะจัดการต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้าให้ได้เจ็บปวดสมใจอยาก อย่าวอนก็แล้วกัน
จากวันนั้นเต็นหายไปจากชีวิตจริงๆ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของตนกับคนรักอย่างมิวเริ่มกระท่อนกระแท่นอีกครั้ง เมื่อคนชื่อเอกได้กลับเข้ามาวนเวียนตามง้องอนฝ่ายหญิง ซึ่งดูท่าเจ้าตัวจะมีใจเอนเอียงให้อีกต่างหาก แล้วที่สุด เส้นทางรักที่ขรุขระมาตลอดสามเดือนก็ขาดสะบั้นลงในวันนี้ ซึ่งคนรักได้นัดตนมาเคลียร์ใจแล้วเดินจากไปพร้อมผู้ชายชื่อเอก
หน้าคลินิกนิรนามขณะเดินผ่านเพื่อไปต่อรถโดยสารประจำทางกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินก้มหน้าข่มความเจ็บปวดภายในใจ พยายามทำใจยอมรับความจริงว่าตัวเองได้เสียคนรักไปแล้วอีกกครั้ง
สายลมต้นฤดูหนาวพัดมากระทบร่าง เด็กหนุ่มหยุดยืนมองดูใบไม้แห้งบนต้นไม้ริมถนนที่ปลิวหล่นตามแรงลม นึกคิดในใจว่าใบไม้นั้นช่างแห้งกรอบคล้ายจิตใจตนตอนี้ซะเหลือเกิน สองขาออกก้าวเดินพร้อมใบหน้าที่เศร้าหมอง แต่พลันต้องตกใจเมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวร่างทั้งร่างกลับได้ชนเข้ากับใครบางคน
“เต็น” เด็กหนุ่มเรียกชื่อฝ่ายนั้นเมื่อมองเห็นว่าเป็นใคร
 
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณครับ
 
Boy

**แต่ละเม้นท์ น่ากลัวแชมป์จะไม่ตายดี เอ๊ะ ! ยังไง
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-02-2011 15:30:05
มัวแต่ก้มหน้าก้มตาโพสจนลืมไปว่านิยามรัก 2 คน ได้บรรจบกันแล้วในตอนนี้ หลังจากนี้ถึงคราวติดตามนิยามใหม่ของคำว่ารักของ Ten & Champ แล้วล่ะนะ เอาตัวอย่างมาจิ้มๆ ไว้ก่อนครับ

**************************************************

หนึ่งนิยามความรักของคนหวั่นไหว
“แชมป์ทำให้เต็นคิดกับแชมป์มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้วน่ะสิ เต็นคิดว่าเต็นรักแชมป์แล้ว”

กับหนึ่งนิยามรักของคนหลอกลวง
“เลิกเพ้อเจ้อแล้วก็ทำใจให้ลืมผมเถอะนะ เป็นไปได้เราอย่าติดต่อกันอีกเลย ผมเป็นผู้ชาย ไม่ได้เป็นเกย์ เลิกคิด เลิกหวัง แล้วก็เลิกตามผมซะเถอะ ผมอยากลืมภาพวันเวลาที่ผมทำสิ่งทุเรศๆ ในชีวิตลงไป”

เกิดเป็นสองนิยามรักที่ต่างกัน
“เลิกเถอะเต็น อย่าพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมเลย มันไม่มีประโยชน์หรอก”
“ทำไมจะไม่มีประโยชน์ล่ะแชมป์ ถ้าแชมป์จะยังเป็นคนเดิม”
“คนเดิมของผมก็คือเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงไงครับ ไม่ใช่เกย์รักเกย์ หรือผู้ชายรักเกย์”
“ทำไมแชมป์พูดแบบนี้”
“ผมพูดความจริง เข้าใจและทำใจซะเถอะ ลืมผมไปซะ ที่ผ่านมาคิดซะว่าเรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้น”
“แล้วที่ผ่านมาล่ะแชมป์ แชมป์จะรับผิดชอบความรู้สึกเต็นยังไง”
“ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะคิดกับผมมากมายขนาดนี้”
“สรุปเต็นคิดกับแชมป์ฝ่ายเดียวเหรอ ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยคิดอะไรกับเต็นเลยใช่มั้ย”
“ก็บอกแล้วไงผมไม่ใช่เกย์ คุณจะให้ผมคิดอะไรกับคุณล่ะ”
“แล้วการกระทำที่แชมป์ทำมาทั้งหมดล่ะ คำพูดทุกคำพูด เต็นยังไม่ลืมมันง่ายๆ หรอกนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าคุณจะจริงจัง”

สุดท้าย ใคร? คือฝ่ายที่เจ็บปวดที่สุด !

Bboyseries Present

การพบกันของความรักสองนิยาม
เพื่อค้นหาบทสรุปสุดท้ายของความรักที่ขัดแย้ง

Love Story Ten & Champ : A Time for us...เวลาของสองเรา

ที่นี่ เร็วๆ นี้


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-02-2011 15:37:00
จิ้มๆๆ


อยากจะกดสัก 10 + แต่ได้แค่ + เดียว อยากอ่านเร็วๆอ่ะคณบอย ไม่เอาจบเศร้านะคะ  :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 21-02-2011 16:17:11
มารอลุ้นต่อไป
เฮ้อออออ คนเรานะคนเรา

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-02-2011 19:36:16
ไม่อยากให้เต็นที่กำลังดีขึ้นไป เจอกับผู้ชายหน้าตัวเมียอย่างแชมป์อีก

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-02-2011 20:02:58
ขอให้ไอ้เชรี่ยแชมป์มันตายไม่ดีกับการที่มึงได้ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นเพราะมึงเลิกกับแฟนมึงที่ หลายใจเอง โลเลหลายใจมักมากคนโน้นทีคนนี้ทีของแฟนดอก...
แล้วมึงมาลงทีคนอื่น  มาหลอกให้หลงเชื่อคำกับคำพูดมักง่ายของมึง ไอ้คนสิ้นคิด ไอ้คนไร้ความรู้ผิดชอบชั่วดี
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 21-02-2011 22:34:25
ไอ้แชมป์มันน่าจะไม่ตายดี
ขอให้โดนเอาคืนมั้งเหอะ :call:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 22-02-2011 23:33:02
อ๊ายยยยยยยย
มาให้อยาก แล้วก็จากไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 23-02-2011 00:13:00
ค้างมาก!!!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 23-02-2011 04:55:59

วุ้ย ยัยนกกระเต็น....ถึงเวลาของเธอแล้ว แก้แค้นได้เลยจ้ะ 55
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 23-02-2011 07:19:20
ความรู้สึกดีๆที่ถูกทำลายคงเรียกกลับคืนมาไม่ได้ง่ายแน่
รอตอนต่อไปมาด่วนเลยค้างคา
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 23-02-2011 08:23:29
อยากอ่านต่อ คนแต่งผูกปมไว้รอแก้ซะคนอ่านค้างงงงงง
มาต่อนะ รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 23-02-2011 20:34:27
มารอจ้า แต่ว่ามันจะรันทดไหมอ่ะ สงสารเต็น

อยากให้จบแบบมีความสุขมั่งอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-02-2011 22:06:57

เจ็บแล้วไม่จำ

กรูจะบอก แอนด์ ตอกย้ำ

มรึงน่ะโง่ ซ้ำ..ซ้ำ

ยิ่งกว่า...ควายยยยยย

หุหุ ไอ่แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 24-02-2011 23:07:40
กำลังค้างเลย
มาต่อเถอะนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม [Champ] ตอนที่ 18 : 21.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 28-02-2011 12:18:42
A Time for Us

ช่วงเวลาที่มองสบตากันเป็นช่วงเวลาที่คนทั้งสองต่างพินิจสีหน้ากันและกันหลังจากห่างเหินการพบเจอกันนานหลายเดือน
“แชมป์สบายดีนะ” ที่สุดเต็นจึงเป็นฝ่ายถามก่อน เด็กหนุ่มยิ้มจางๆ ส่งให้หลังถามเสร็จ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกรธแค้นคนๆ นี้ในการกระทำของเจ้าตัวที่มีต่อตน เรื่องของหัวใจมันไม่ใช่เรื่องที่จะมาบังคับกัน ที่ผ่านมาค่อยๆ ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น จนมีแรงต้านพอที่จะไม่ทำตัวอ่อนแออ่อนไหวได้อีก ที่ได้เอ่ยทักทายคนตรงหน้าเมื่อครู่ก็เพียงแค่ฐานะคนเคยรู้จักกัน หากฝ่ายนั้นจะคุยด้วยหรือจะเดินหนีก็ไม่มีผลกระทบต่อจิตใจเท่าแต่ก่อนได้
“ก็ดี” แชมป์ตอบออกมาอย่างไว้เชิงนิดๆ การเจอกับคนที่ตนทำร้ายจิตใจอย่างกะทันหันแบบนี้ทำให้วางตัวยังไม่ค่อยจะถูกนัก
“มาทำธุระแถวนี้เหรอ” เต็นยังคงคุยต่อ จริงๆ ก็อยากจะเดินหนี แต่ทำไปจะเกิดประโยชน์อะไรล่ะ เด็กหนุ่มไม่ต้องการทำตัวคล้ายการประชด เพราะทำให้ตายยังไงผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีทางสะท้านใจได้ หัวใจยังไม่ลืมหรอกว่าเจ้าตัวไม่มีใจให้ตนแล้ว
“อยู่ถึงวงเวียนใหญ่ ถ้าไม่มีธุระผมจะถ่อมาที่ที่ทำไม” แชมป์ตอบอย่างยียวนเพราะคิดว่าการถามไถ่ของคนตรงหน้าเกิดจากการที่เจ้าตัวน่าจะยังตัดใจไม่ลง พอเจอหน้าตนอีกครั้งก็คงจะมีความหวังขึ้นมาใหม่สินะ คิดอีกทีกลับมาปั่นหัวไอ้เกย์นี่อีกครั้งแก้เซ็งแก้เบื่อจากการถูกบอกเลิก มันก็น่าจะพอทำให้เวลาของแต่ละวันผ่านไปได้อย่างไม่รู้สึกห่อเหี่ยวเท่าไหร่
“จริงสินะ ผมไม่น่าถามโง่ๆ เลย” เต็นเรียกแทนตัวเองในสรรพนามใหม่ แม้มันจะไม่ชินนัก แต่จากสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่มันก็แน่ชัดอยู่แล้วว่าคนตรงหน้ายังคงไม่ต้องการให้ตนทำตัวสนิทอยู่อีก
แชมป์มองพินิจคนเรียกแทนตัวเองในสรรพนามห่างเหิน นิ่งคิดว่าคนๆ นี้กำลังประชดตนอยู่ คิดว่าเขาจะสะท้านใจอย่างงั้นเหรอ ฝันไปเถอะว่ะ
“ประชดเหรอ แทนตัวซะห่างเหิน” เด็กหนุ่มถามออกไปตรงๆ
“ประชดอะไร เปล่านี่” เต็นรีบปฏิเสธ
“อย่าปากแข็งหน่อยเลยว่ะ แค่มองตาฉันก็รู้แล้วว่านายลืมฉันไม่ได้ง่ายๆ หรอก” แชมป์บอกออกไปอย่างหมั่นไส้ แกมมั่นใจว่าตนยังมีอิทธิพลอยู่เหนือจิตใจคนอย่างเต็นอยู่
“อืม นั่นก็แล้วแต่แชมป์จะคิด เต็นขอตัวนะ” เต็นเอ่ยบอกตามสรรพนามเดิม รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อโดนอีกฝ่ายพูดแทงใจ จิตใจกำลังจะดีขึ้นอยู่แล้วแท้ๆ ทำไมคนๆ นี้จะต้องมาย้ำให้ต้องคิดอีก ไม่เข้าใจ
“รีบไปไหนล่ะ ไม่เจอกันตั้งนาน หาอะไรทานด้วยกันหน่อยไม่ดีเหรอ” แชมป์รีบรั้งคนกำลังจะเดินหนีเอาไว้ ในเมื่อต้องการกลับมาปั่นหัวคนๆ นี้เป็นการคั่นเวลาให้หายเจ็บปวดอีกครั้ง เวลานี้ก็ไม่น่าปล่อยให้เจ้าตัวรอดมือไปได้
“ตอนนี้เต็นยังไม่อยากไปไหน อยากกลับหออ่านหนังสือ จะสอบแล้ว” เต็นบอกออกไปตามตรง แชมป์รู้สึกเสียหน้าที่โดนปฏิเสธ ทำเป็นเล่นตัวให้ดูมีราคาหรือไงไอ้เกย์หูเบา เด็กหนุ่มแอบว่าฝ่ายนั้นในใจ แต่คำพูดที่เอ่ยออกมาช่างต่างกับความคิดนัก
“เต็นไม่คิดถึงแชมป์ อย่างที่แชมป์คิดถึงเต็นบ้างเหรอ”
เต็นชะงักในคำพูดและสรรพนามเดิมที่เคยได้ยิน นี่มันอะไรกัน แชมป์ต้องการเล่นตลกอะไรกับเขาอีก
“มันไม่ตลกนะแชมป์ เลิกล้อเล่นกับความรู้สึกเต็นเถอะ” เต็นบอกออกไปอย่างสะเทือนใจ ยอมรับว่ารู้สึกหวั่นไหวในถ้อยประโยคออดอ้อนของแชมป์อยู่ไม่น้อย ติดแต่เพียงมีความระแวงมาเป็นกำแพงกั้น จึงไม่อาจเชื่อคำนั้นได้ง่ายๆ อีก
“แชมป์ไม่ได้ล้อเล่น แชมป์เพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าแชมป์เหงาเวลาที่ห่างกับเต็น” แชมป์รีบเล่นละครตบตาต่อ เห็นได้ชัดว่าคนตรงหน้ากำลังหวั่นไหว ผู้ชายมายืนออดอ้อนขนาดนี้ไอ้เกย็นี่จะไม่อ่อนระทวยก็ให้มันรู้ไป
“ลืมแล้วเหรอว่าแชมป์เคยพูดอะไรกับเต็นไว้” เต็นตั้งสติย้อนถามถึงคำพูดที่ผ่านมาของคนออดอ้อน
“แชมป์ไม่ลืมหรอก เพราะสิ่งที่แชมป์ทำไปใช่ว่าแชมป์จะไม่เจ็บปวด” แชมป์เตรียมสร้างเรื่องตบตาหลังเอ่ยจบ เต็นนิ่งมองสบตาเอ่ยถาม
“หมายความว่ายังไง”
“เรื่องมันยาว เราไปหาที่คุยกันดีกว่านะ” แชมป์บ่ายเบี่ยงเพราะยังคิดคำโกหกไม่ออก เด็กหนุ่มออดอ้อนคนลังเลให้ตามตนไปยังร้านๆ หนึ่งซึ่งเป็นร้านบริการเครื่องดื่มมึนเมาที่ตนและเพื่อนเคยไปตั้งโต๊ะเฮฮาเป็นประจำ เหตุที่เลือกร้านนี้เพราะใจหนึ่งก็อยากดื่มน้ำเมาให้จิตใจได้ลืมความเศร้า ความเสียใจที่ต้องกลายเป็นคนอกหักรอบสอง
*****************************************************************************
“ไม่เป็นไร เราไม่ดื่มขอน้ำอัดลมแล้วกัน” เต็นปฏิเสธที่จะสั่งเครื่องดื่มมึนเมาเมื่อแชมป์ถามว่าจะดื่มอะไรตอนมีพนักงานบริการมายืนรอรับเมนู อยู่ในคนหมู่มากเช่นนี้ เต็นไม่กล้าที่จะรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ ไม่ต่างกับแชมป์ ที่แสดงออกชัดเจนถึงท่าทีห่ามๆ ประหนึ่งว่าตัวเองมากับเพื่อนในกลุ่ม เด็กหนุ่มใช่สรรพนามกู-มึงกับคนตรงหน้าได้อย่างสนิทปาก แถมเอ่ยแซวอย่างคะนองปากเมื่อเห็นเจ้าตัวไม่ยอมสั่งเครื่องดื่มมึนเมา
“เชี่ย กูชวนมาแดกเหล้า ดันสั่งน้ำอัดลม แต๋วแตกนะมึงไอ้เต็น”
เต็นไม่ค่อยพอใจคำล้อนั้นเท่าไร แต่ก็เข้าใจว่าคนล้อต้องการให้ใครต่อใครเห็นว่าตนเป็นเพื่อนเจ้าตัวจริงๆ เลยไม่โต้แย้งอะไรออกมา
“มึงก็รีบสั่งเถอะ เชี่ยพูดมาก” เด็กหนุ่มเอ่ยตามน้ำออกไป อยากให้เขาหยาบคายนักก็จะจัดให้
แชมป์ลอบมองคนใช้สรรพนามหยาบคาย นึกถึงภาพตอนที่รู้จักกันวันแรกขึ้นมา เวลาไอ้นี่มันห่าม ดูมันเท่พิกลแฮะ เด็กหนุ่มแอบคิดในใจ รู้สึกโล่งอกที่เจ้าตัวไม่พูดจาภาษาเกย์ให้ได้อายโต๊ะรอบข้าง
“ไม่แดกเหล้าจริงๆ เหรอวะ” แชมป์เอ่ยถามขึ้นใหม่ในตอนที่พนักงานรับเมนูเดินหายเข้าไปในร้านแล้ว เต็นเพียงแต่ส่ายหน้า ไม่เข้าใจตัวเองว่ายอมตามคนๆ นี้มายังร้านที่อึกกระทึกนี่ทำไม เพียงเพราะเจ้าตัวจะอธิบายเรื่องราวในอดีตให้ฟังอย่างนั้นเหรอ จะอยากรู้ไปทำไมนะหัวใจ อุตส่าห์ยืนขึ้นได้จนเกือบจะเป็นปกติแล้ว อย่าวอนหาเรื่องให้จิตใจต้องเจ็บปวดอีกเลยน่า เพราะคนตรงหน้าตอนนี้ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายไม้ใช่เกย์
“ดื่มไปนะ ขอตัวก่อน” เมื่อคิดได้เต็นจึงเตรียมจะลุกเดินออกจากร้าน แต่ช้ากว่าอีกคนที่คว้าแขนไว้ก่อน
“ได้ไงวะ มาด้วยกันจะชิ่งก่อนได้ไง นั่งลงเลย วันนี้ไม่เมากูไม่ให้มึงกลับ” แชมป์ออกคำสั่ง เรื่องอะไรจะให้คนๆ นี้ไหวตัวทัน ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ใกล้นายนี่ทีไรความปวดใจ ความเศร้าใจมันคลายลงได้ทุกที หรือในสมองมันมีแต่คิดเรื่องที่จะปั่นหัวเจ้าตัวเล่นนะ ใช่แล้วล่ะ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
“ใครเมา ก็บอกแล้วไงว่าไม่ดื่ม” เต็นปฏิเสธ แชมป์นึกคะนองจึงตะโกนลั่นร้าน
“เฮ้ย! ทุกคน ดูเพื่อนผมให้หน่อยสิ มันเป็นตุ๊ดหรือเปล่า ชวนกินเหล้าแม่งจะกลับบ้านท่าเดียว” เสียงหัวเราะเฮฮาจากคอสุราดังลั่นร้าน เต็นหน้าชาทั้งแถบ ไม่เข้าใจว่าคนแกล้งต้องการอะไร
“ว่าไง จะนั่งลงหรืออยากจะอายหนักกว่านี้ไอ้ตุ๊ด” แชมป์เอ่ยขู่ ไม่สนหรอกว่าคนฟังจะรู้สึกน้อยใจ เสียใจ ในการกระทำและคำพูดตนเท่าใด แต่ก่อนพูดหนักกว่านี้มันยังทนเป็นผู้เป็นคนอยู่ได้จนถึงวันนี้ คำพูดแค่นี้คงไม่ทำให้มันนึกอยากวิ่งออกจากร้านไปให้รถชนตายข้างถนนหรอกมั้ง
เต็นยอมนั่งลงแต่โดยดี นึกอยากลองดูสักตั้งว่าแชมป์จะเผยธาตุแท้ใดๆ ออกมาอีก เผื่อจะได้ตั้วรับได้ทัน เพราะดูแล้วคนๆ นี้ทำคล้ายจะกลับเข้ามาข้องแวะในชีวตตนอีกครั้ง จะด้วยการอันใด หัวใจก็ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด
“เออว่าง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” แชมป์เอ่ยว่ายิ้มๆ แต่แลดูคล้ายเยาะซะอย่างนั้น ขณะนั้นเป็นเวลาที่น้ำเมาที่สั่งไปได้ยกมาเสิร์ฟพอดี พร้อมๆ กับน้ำอัดลมซึ่งเป็นของเต็น
ทันทีที่ได้เครื่องดื่ม อารมณ์อยากเมาก็แล่นเข้าสู่ตัวแชมป์ทันที เด็กหนุ่มยกแก้วเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ยกดื่มแก้วต่อแก้วจนเริ่มออกอาการมึน
“ชงเหล้าเป็นมั้ยที่รัก ชงให้สามีหน่อยดิ” เมื่อเมาได้ที่จึงเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ใส่คนที่มาด้วย เต็นถอนหายใจ ไหนล่ะคำอธิบายที่เจ้าตัวบอกจะเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่ทำไปในสามสี่เดือนที่ผ่านมามันหมายความว่ายังไง
“พอเถอะแชมป์ กลับกันดีกว่ามั้ย” แม้จะระอาใจแต่ข้างในก็ยังอดห่วงไม่ได้ บางทีก็นึกสงสัยว่าเจ้าตัวไปเจออะไรกระทบใจมาหรือเปล่า คนปกติทั่วไปไม่น่าจะหลับหูหลับตาดื่มของมึนเมาได้ขนาดนี้ สังเกตดูจากคนรอบข้างก็ไม่เห็นมีใครเมามายจนไม่ได้สติอย่างคนๆ นี้เลยนี่นา
“กลับไปหนาย ไม่โว้ย กูไม่กลับ กูจะเมา เมาให้มันลืมทุกอย่างไปเลย” คนตรงหน้าออกอาการโวยวายให้เห็น เรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้บางส่วน เต็นไม่รู้จะทำยังไงจึงเรียกพนักงานมาเคลียร์ค่าเครื่องดื่ม เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจเมื่อเห็นราคาที่ตนจะต้องชำระให้กับทางร้าน ซึ่งมันสามารถเบียดเบียนค่าหอพักที่เตรียมไว้จ่ายตอนสิ้นเดือนได้อย่างไม่ต้องคิด เอาเหอะ เรื่องของอนาคตค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ขอพาคนที่เมาไม่รู้เรื่องออกจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ก่อนดีกว่า
เต็นจัดการค่าเครื่องดื่มเสร็จก็หิ้วปีกแชมป์ออกจากร้านเพื่อไปขึ้นแท็กซี่ที่จอดรอเป็นแถวยาว เลือกได้หนึ่งคันจึงจัดการพาตัวเองและคนที่ตนหิ้วมาไปนั่งที่เบาะหลัง พร้อมกับการเคลื่อนตัวของรถ
ภายในรถแท็กซี่ที่วนรถเพื่อออกสู่ถนนใหญ่ คนที่เมามายอย่างแชมป์เริ่มละเมอพร่ำเพ้อถึงคนรักที่ทิ้งตนไปออกมา แสดงถึงความอาลัยอาวรณ์ เต็นที่นั่งดูอาการอยู่ได้ยินในทุกถ้อยคำ เด็กหนุ่มรู้สึกใจกระตุกขึ้นมาหน่อยๆ ครั้งหนึ่งเคยรักคนๆ นี้จนหมดหัวใจ มาได้ยินคำพูดที่เจ้าตัวพร่ำเพ้อถึงคนอื่นแบบนี้ อาการสะเทือนใจก็ย่อมเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา เด็กหนุ่มคิดว่าคนชื่อมิวที่แชมป์เอ่ยชื่ออกมาคงเป็นคนเดียวกันกับที่ตนเคยได้ยินชื่อในวันแรกที่ได้รู้จักกับแชมป์ หากนับจากวันนั้น สองคนนี้ได้เลิกรากันไปนานแล้วนี่นา แล้วทำไมแชมป์ถึงได้ละเมอและเพ้อคล้ายคนเพิ่งอกหักมาแบบนี้ หรือมันมีเรื่องราวหลายอย่างที่ตนไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองคนนี้ แต่ก็ช่างเถอะ จะมีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนก็ช่างมัน เลิกสนอกสนใจผู้ชายคนนี้ได้แล้ว ตัดใจจากเจ้าตัวซะเถอะ เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะเอาปลายมีดมากรีดแผลเก่าที่กำลังจะตกสะเก็ดให้เลือดโชกขึ้นมาอีก
“ยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่าจะไปไหน” เสียงโซเฟอร์แท็กซี่เอ่ยถาม ทำเต็นตื่นจากภวังค์ความคิด ใช่สินะเขายังไม่ได้บอกจุดหมายที่จะไปเลยนี่นา เอาไงดีล่ะ คนข้างกายก็เมายมายไม่ได้สติแบบนี้ จะจัดการกับเจ้าตัวยังไงดีนะ จะพาไปส่งบ้านงั้นเหรอ เกิดคนที่บ้านเห็นสภาพเละเทะของเจ้าตัวแบบนี้ เจ้าตัวจะไม่โดนต่อว่าหรอกเหรอ แต่ก็ช่างสิ คนๆ นี้จะเป็นจะตายยังไงก็ไม่เห็นจะต้องใส่ใจเลยสักนิด
“วงเวียนใหญ่ครับ” เมื่อคิดได้ เต็นจึงบอกโซเฟอร์แท็กซี่ไปแบบนั้น แต่จู่ๆ ฝ่ายนั้นกลับเปรยขึ้นมาให้ต้องคิดอีก
“น้องนี่ดีเนอะ ไม่เมาจนหมดสภาพอย่างเพื่อน สภาพแบบนี้พ่อแม่เห็นจะว่ายังไงล่ะเนี่ย”
เต็นนึกตามคำพูด ขนาดคนทั่วไปเจอสภาพคนข้างตัวตนตอนนี้เข้าไปยังรู้สึกระอา แล้วหากที่บ้านเจ้าตัวได้เห็นล่ะ มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“เปลี่ยนไปส่งผมที่รัชโยธินดีกว่าครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยเปลี่ยนเส้นทางเมื่อใจแข็งได้ไม่จริง โซเฟอร์แท็กซี่ทำตามคำสั่ง พอรถส่งถึงหน้าหอ ร.ป.ภ. ที่รู้จักวิ่งเข้ามาช่วยพยุงร่างของแชมป์อีกแรงตอนเด็กหนุ่มพาร่างลงจากรถแท็กซี่
“ฉลองอะไรกันมาครับ ถึงเมาขนาดนี้” ร.ป.ภ. เอ่ยทักตอนแท็กซี่เคลื่อนตัวออกไป เต็นเพียงยิ้มไม่ทันได้ตอบคำถาม คนเมามายก็มีอาการให้ต้องตกใจปนหนักใจคือเจ้าตัวได้อาเจียนออกมาจนเลอะตัว
“รีบพาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เช็ดตัวเถอะครับ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่” ร.ป.ภ. เอ่ยแนะนำ พลางอาสาพาคนเลอะคราบอาเจียนขึ้นไปบนห้องพัก
“ขอบคุณมากครับลุง เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง” เต็นเอ่ยบอกคนช่วยเหลือเมื่อพาแชมป์เข้ามายังห้องพักได้สำเร็จ เด็กหนุ่มพาร่างนั้นไปนอนคอพับตรงโซฟามุมห้อง คิดต่อว่าจะเริ่มจัดการกับเจ้าตัวยังไง อันดับแรกคงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และทำความสะอาดตัวให้ก่อนล่ะ เลอะเทอะแบบนี้คงปล่อยให้นอนเลยไม่ได้ เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเรียกกำลังใจ เมื่อคิดว่าตนจะต้องถึงเนื้อถึงตัวคนที่หมดใจให้ตนแล้ว
 ****************************************************************************
 อากาศที่เย็นฉ่ำภายในห้องจากเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดเอาไว้ ทำให้ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างตอนรู้สึกตัวขึ้นมา สองสามนาทีผ่านไป ร่างทั้งร่างก็ต้องดีดตัวลุกนั่ง สะบัดศีรษะสองสามครั้งไล่อาการมึนงง ก่อนยกมือเสยผมมองรอบห้อง
“นี่มันห้องไอ้เกย์เต็นนี่” แชมป์เอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อเริ่มชินตากับสิ่งรอบตัว ห้องนี้แม้จะเปลี่ยนมุมวางเฟอร์นิเจอร์บ้าง แต่เขาก็ยังจำได้ว่ามันเป็นห้องของใคร
“แล้วตอนนี้มันไปไหนวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นตัวเองนั่งอยู่บนที่นอนเพียงลำพัง สายตาก้มมองสำรวจร่างกายตัวเอง เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงนอนขาสั้นที่สวมอยู่ มันมาอยู่บนตัวเขาได้ยังไง จำได้ว่าสำนึกสุดท้ายตอนเมื่อคืนที่ยังรู้สึกตัวอยู่ ร่างเขาไม่ได้อยู่ในชุดๆ นี้นี่นา ใช่สินะ เขาน่าจนหมดสติไปตอนหนึ่ง
“ไอ้เชี่ยเต็น ถือโอกาสนะมึง” เด็กหนุ่มนั่งทบทวนเหตุการณ์ได้สักพักเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าของห้องนี้คงพาตนมาที่นี่ และคงเป็นคนจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตนแน่ๆ เลวมาก ถือโอกาสตอนเขาไม่ได้สติมาถึงเนื้อต้องตัวเขาได้ขนาดนี้เลยเชียวหรือ สันดานเกย์จริงๆ เด็กหนุ่มสบถต่อในใจ จับเนื้อจับตัวของตนเองสำรวจร่องรอยว่าโดนแทะโลมส่วนไหนหรือไม่ แม้ทุกส่วนจะยังปกติดี แต่พอคิดถึงนาทีที่มีผู้ชายนิสัยเกย์มาเปลื้องผ้าให้ก็นึกฉุนขึ้นมา
“ไมน่าพลาดเลยกู หวังว่ามันคงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้านะ” แชมป์เอ่ยออกมาอีก นาทีนั้นประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพอดีจากคนข้างนอก ร่างของเจ้าของห้องเดินเข้ามาพร้อมถุงอะไรบางอย่าง
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ” เต็นเอ่ยทักคนที่นั่งมองตนอยู่บนที่นอน เด็กหนุ่มส่งรอยยิ้มให้จางๆ เป็นการทักทายแก้เก้อ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้า
“หิวมั้ย ไปซื้อโจ๊กมาให้แน่ะ” เต็นเอ่ยต่อพลางเดินจะเอาสิ่งที่ตนถือมาไปเก็บที่ชั้นวางมุมห้อง ตอนแรกที่รู้สึกตัวขึ้นมาก็คิดจะไม่ใส่ใจคนๆ นี้แล้ว แต่ก็อีกตามเคย ยืนมองหน้าเจ้าตัวที่หลับอยู่ได้สักพัก หัวใจก็กลับคิดว่าตื่นมาอาจจะหิว เลยต้องลงไปซื้อโจ๊กมาเตรียมไว้ให้แบบนี้
“เดี่ยว” แชมป์เอ่ยเรียกเจ้าของห้องเสียงแข็ง ก้าวลุกลงจากเตียงเมื่อเห็นเจ้าตัวหยุดหันมาสนใจตน
“เมื่อคืนนายเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามตอนเดินไปหยุดตรงหน้า เต็นพยักหน้ารับ กำลังจะอ้าปากบอกว่ามันจำเป็น เพราะสังเกตเห็นแววตาที่ไม่พอใจของคนถาม แต่ก็ช้าไป เมื่อฝ่ายนั้นถามขึ้น
“คิดอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนั้น ฉวยโอกาสใช่มั้ย แย่มากเลยนะ สันดานเกย์มันเป็นแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่า” แชมป์เอ่ยออกไปเพราะรู้สึกรับไม่ได้ที่สัดส่วนของตนมีคนเป็นเกย์ได้เห็นหรือสัมผัส
“เฮ้ย เต็นเปล่าฉวยโอกาสนะ” เต็นพยามจะอธิบาย แต่แล้วต้องตกใจเมื่อถุงโจ๊กที่ซื้อมาโดนกระชากไปจากมือ คนกระชากจัดการเหวี่ยงมันลงบนพื้นห้องจนแตกกระจาย
“ทำไมทำแบบนี้ล่ะแชมป์” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทั้งๆ ที่ใจยังสั่นอยู่
“มึงจะได้รู้ไงว่ากูไม่ชอบการกระทำของมึง” แชมป์ตอบออกไปตามความรู้สึกจริง เพราะไม่อาจฝืนเล่นละครต่อไปอีกได้ รู้สึกเสียศักดิ์ศรีจนอยากจะชกหน้าคนตรงหน้าเสียด้วยซ้ำ ดีที่ยั้งสติไว้ได้ ถุงโจ๊กนั่นจึงรับเคราะห์แทน
“เสื้อผ้ากูอยู่ไหน” แชมป์เอ่ยถามขึ้นใหม่ ในขณะที่เต็นตกใจและช็อคในสิ่งที่ได้ยินจนหน้าซีด
“ตากอยู่ระบียง” แม้จะตกใจแต่ก็ตั้งสติตอบออกไปถึงที่อยู่ของเสื้อผ้าชุดนั้นที่ตนจัดการซักและรอปั่นจนแห้งนานนับชั่วโมง ก่อนรีดให้เรียบร้อย นำไปแขวนรับลมที่ระเบียง
แชมป์เดินชนร่างคนที่ตนนึกชิงชังการกระทำ จัดการคว้าเอาเสื้อผ้าของตนมาผลัดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดสนใจว่ามันมีสภาพเรียบร้อยแบบนี้ได้ยังไง เปลี่ยนเสร็จจึงเดินหายเข้าไปห้องน้ำ สักพักกลับออกมาพร้อมสภาพใบหน้าที่ดูดีขึ้น เอ่ยบอกคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“เป็นผู้ชายคนอื่นเขาต่อยหน้ามึงไปแล้ว จำเอาไว้” เอ่ยเสร็จก็เก็บของส่วนตัวของตนที่วางบนโต๊ะหัวเตียง แล้วพาร่างสูงเดินหายออกไปจากห้อง ถึงตอนนี้เต็นถึงพอมีแรงขยับร่างกาย ก้มมองเศษโจ๊กที่เลอะเต็มห้อง เด็กหนุ่มหลับตาข่มความเสียใจ ต้องไม่รู้สึกอะไร ต้องไม่เป็นอะไร ต้องไม่เจ็บ ต้องไม่น้อยใจ มันแค่ฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง มันไม่ใช่เรื่องจริง เด็กหนุ่มพยามบอกตัวเองแบบนั้น ข่มใจไม่ให้ร้องไห้ แต่มันยากเหลือเกิน ที่สุดจึงนั่งลงปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบสองแก้มเพราะการกระทำของคนที่เพิ่งจากไปอีกครั้ง
ข้างล่างตึก ขณะที่แชมป์กำลังจะก้าวออกจากประตูหอ เด็กหนุ่มชะงักเท้าเมื่อมีเสียงทักไว้
“สร่างเมาแล้วเหรอหนุ่ม” คนทักเป็น ร.ป.ภ. ซึ่งเดินเข้ามาสำรวจร่างกาย
“นี่มันชุดเมื่อคืนนี่นา ใครซักให้เนี่ย ดูคนละเรื่องกับเมื่อคืนเลย” สำรวจเสร็จก็เอ่ยต่อ เด็กหนุ่มเลยต้องถาม
“หมายความว่าไงลุง”
สิ้นคำถามลุง ร.ป.ภ ก็ให้ความกระจ่างทั้งหมดถึงภาพที่ตนเห็นเมื่อคืน แชมป์ตัวชาหน่อยๆ เมื่อฟังเสร็จ  ค่อยๆ มองสำรวจชุดตัวเองถึงได้รู้ว่ามันผ่านการซักแห้งและก็รีดจนเรียบอย่างเสร็จสรรพ
“เต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยครางชื่อนี้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว นึกถึงภาพใบหน้าซีดๆ ของเจ้าตัวขึ้นมา ละล้าละลังว่าจะเอายังไง สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเกมวิ่งกลับไปทางเดิม ยังไม่รู้ว่ากลับไปทำไม แต่ตอนนี้หัวใจมันเรียกร้องว่าอยากเจอหน้าเจ้าของห้องอีกครั้งแค่นั้นเอง
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-02-2011 12:32:08
เหี้ย  แชมป์

เมียมีชู้แต่มาลงที่คนอื่น  สัด


เลวโคตรตระกูล
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 28-02-2011 13:37:07
เหี้ย  แชมป์

เมียมีชู้แต่มาลงที่คนอื่น  สัด


เลวโคตรตระกูล

น่ากลัวจัง หยึยย!
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-02-2011 13:48:41
แชมป์นี่แย่เนอะ ทำไปได้ไงกัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 28-02-2011 13:56:26
เลวว่ะไอ้แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Qweemz ที่ 28-02-2011 14:18:42
เพิ่งเข้ามาอ่าน+ตามอ่านจนทันแล้วค่ะ 5555

ตอนแรก โครตรักแชมป์ นิสัยดี น่ารักสุดๆ

หลังๆนี่ คนอะไร โครตเชรี่ยเลย
เห็นคนเป็นของเล่นหรือยังไง

ยิ่งตอนล่าสุด ทำดีไม่ได้ดี เต็นเค้าดูแลเอ็งขนาดนี้
ยังไปว่าเค้าอีก เลว! สงสารเต็นที่สุด

เกลียดแชมป์หว่ะ เป็นเกย์แล้วมันผิดตรงไหน หา!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-02-2011 14:19:21
ท่าเราเป็นเ็ต็นคงตัดใจแล้วก็ตอนที่เจอคงไม่ทักอะนะ ตัดแล้วก็ตัดเลยแม้แต่เพื่อนก็ไม่คิดจะกลับไปเป็น ทำแบบนี้มันจะดีต่อตัวเองที่สดแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-02-2011 14:21:51
ตั้งแต่เข้ามาอ่านนิยาย และเข้ามาเป็นสมาชิกเล้านี้ ดิฉันไม่เคยพูดหรือแสดงกิริยาวาจาแรงๆเลยซักที
 แต่วันนี้ขอทีเถอะค่ะ ขอแสดงกะไอ้แชมป์เป็นคนแรก
 :beat:    :z6: อืม...ว่าจะขอที กลายเป็นสองทีได้เนอะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 28-02-2011 15:01:02
เต็นรักอะไรแชมป์ขนาดนี้หว่า
มีสะเทือนอกสะเทือนใจด้วย 5555
เป็นเราเจอหน้าจะไม่ทักแม่งเลย ถ้าตื้อนักก็ด่าเช็ด
อ่านแล้วงงว่าเต็นรักแชมป์ขนาดนี้ได้เชียวเรอะ กับคนที่เจอกันไม่กี่วัน ไม่เคยเจอกับตัวเลยงงๆ
ปล.ไม่อยากให้แชมป์กลับไปเห็นเต็นนั่งร้องไห้เลยอ่ะ เดียวเต็นจะน่าสมเพชไปกว่านี้ อยากให้เต็นแกร่งๆซะที
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 28-02-2011 15:15:02
ขอให้เต็นตัดใจได้เร็วๆ นะครับ

ถึงยังไง(ขอร้อง)อย่าให้คู่กันเลย ต่อให้มาสำนึกผิดฟูมฟายฆ่าตัวตายตรงหน้า

ถ้าเป็นเบลล์อ่ะไม่ให้อภัยนะ (อันนี้เรื่องจริง) แกร่งขึ้นมาให้ได้นะเต็น ยืนขึ้นมาให้ได้

ถึงจะเซซ้าย เซขวา แต่ต้องยืนขึ้นมาให้ไ้ด้อย่าไปจมอยู่กับแชมป์เลย ไม่อย่างนั้นก็จะเจ็บไม่จบไม่สิ้น

สุดท้ายก็จบลงด้วยชีวิตตัวเอง(มีแนวโน้มสูงนะ) หรือไม่ก็ชีวิตแชมป์แหละ

จะพูดให้ถูกก็คือผิดตั้งแต่ไปทักละ ถ้ายังตัดใจไม่ได้ก็ไม่ต้องทักมััน เชิ่ดใส่ 55+(ขอยืมนายมาหน่อยเหอะ)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 28-02-2011 15:24:04
 :serius2:  แชมป์จะกลับมาทำไมเนี้ย 
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 28-02-2011 15:55:39
เกลียดแม่ง ไอ้แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 28-02-2011 16:31:23
เกลียดแชมป์อ่ะ เอามันกลับมาทำร้ายเต็นอีกทำไม
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 28-02-2011 17:17:21
เต็น :z6: :angry2: :beat: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 28-02-2011 20:45:47
ไอ้เชี่ยแชมป์ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 28-02-2011 21:40:04
เลวว่ะคำเดียวเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.5
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 28-02-2011 22:39:55
ถึงเวลาเอาคืนได้ยังนิ????



แต่อยากให้เต็นเกลียดแชมป์จิงๆซะก่อนหง่ะ

ตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่เกลียดอะไรมาก

อยากให้เต็นรู้ความจริงก่อน

แล้วค่อยเอาคืนให้สาสม
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 28-02-2011 22:55:12
เกลียดแชมป์ วะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: omichlis ที่ 28-02-2011 23:00:59
สันดารเชี่ยมากอ่ะ ไม่ไหวนะกับนแบบนี้ ไม่มีคำว่าสำนึกอยู่เลยในสมอง

แย่!!!!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: teae ที่ 01-03-2011 00:03:21
เปงเรานะ ก็รู้ว่าเรารักเขา  แต่เราคงทนไม่ได้  ขนาดถึงจุดเลวร้ายสูงสุดแล้วละก็ เราเลือกที่จะเจ็บอยู่คนเดียวดีกว่านะ จะดีแค่ไหนคนมันเลวก็เลววันยังค่ำ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 01-03-2011 01:58:09
ควายเพิ่งจะสร่าง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 01-03-2011 06:20:32
เกลียดม๊านนนนนนนนนนนน  :angry2:
เต็นก็นะ อย่าไปสนใจแชมป์มันเลยเถอะ
ไปทำให้ตัวเองเจ็บอีกทำไม
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 01-03-2011 08:16:03
เอาล่ะซิ ไอ้แชมป์ เจอเต็นหน่อยเป็นงายยยย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-03-2011 11:50:00
 :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 02-03-2011 00:32:03
อ้าวๆๆ อีแชมป์แกนี่ สันดานนะยะ
เต็นเค้าเป็นคนดีเหอะ
เพี้ยง ขอให้แกโดนแก้เผ็ดหนักๆเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 02-03-2011 01:28:23

• สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเกมวิ่งกลับไปทางเดิม
ยังไม่รู้ว่ากลับไปทำไม
แต่ตอนนี้หัวใจมันเรียกร้องว่าอยากเจอหน้าเจ้าของห้องอีกครั้งแค่นั้นเอง.......
แต่ อนิจจา วิ่งไปไม่ทันได้ ๕ ก้าว
ก็สะดุดขาตนเอง ล้มลงหน้า ๗-๑๑
เป็นที่ขบขันของคนใน ๗. และบริเวณใกล้เคียง

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries
ป.ล. สมน้ำหน้านายช้ำ วางแผนซับแผนซ้อนดีนัก

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 03-03-2011 22:40:59
มาต่อทีค้าาาาาาาาา
เกลียดอิแชมป์มัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-03-2011 20:02:31
แบบว่าคาใจค่ะคนแต่ง
ชื่อเรื่องยังไง้ยังไงก็บอกว่าเป็น love story ของเท็น กับ แชมป์
นั่นแสดงว่ายังไง้ยังไงไอ้เชี่ยแชมป์ก็เป็นพระเอกใช่ป่าว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-03-2011 21:29:44
อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว..ชักจะไม่แน่ใจ

ทั้งอารมณ์และนิสัยของไอ่แชมป์
แม่งงงง ทำไมมันเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที ฟ่ะ
จริงๆนะ

ฮ่าฮ่า ไอ่(แชมป์)น้องแมนนี่
 :m20:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 06-03-2011 22:03:09
ยิ่งเลวมากขึ้นทุกที :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 19 A Time for Us : 28.02.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-03-2011 03:22:18
ตอนที่ 20
ประตูห้องถูกปิดไว้ แชมป์ยืนมองคิดสับสนว่าจะเคาะเรียกเจ้าของห้องดีหรือไม่ ถามใจตัวเองว่าจะกลับเข้าห้องนั้นไปเพื่ออะไร เพื่อขอโทษเจ้าของห้องในสิ่งที่ตนทำเมื่อครู่อย่างนั้นเหรอ ขอโทษแล้วมันได้อะไรล่ะ เพราะถึงยังไงตนก็ไม่เคยคิดที่จะจริงจังกับคนๆ นั้นอยู่แล้ว ที่พูดที่คุย ที่พบที่เจอก็เพียงแค่อยากหาอะไรทำสนุกๆ แก้เซ็งแก้เบื่อเท่านั้น จะไปแคร์ทำไมหากฝ่ายนั้นจะนึกโกรธนึกเกลียดการกระทำของตนเมื่อครู่ วันนี้มันโกรธ วันหน้าเจอกันแกล้งง้อมันใหม่ มันก็คงจะหลงเชื่ออย่างที่เคยๆ น่ะแหละ 
คิดได้เช่นนั้นแชมป์จึงเลือกเดินหันหลังจากไปจากประตูห้องนั้น เด็กหนุ่มจึงไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าคนในห้องกำลังเก็บกวาดห้องไปทั้งน้ำตาที่เอ่อริน
เต็นปาดน้ำตาที่แก้มทิ้งในตอนที่ทำความสะอาดห้องเสร็จ เด็กหนุ่มเดินไปเก็บผ้าห่มและหมอนหนึ่งชุดที่ตนใช้ห่มและหนุนนอนตรงโซฟาห้อง เพื่อเก็บให้เข้าที่ นึกเสียใจและน้อยใจขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของแชมป์ที่ว่าตนเป็นคนฉวยโอกาส เมื่อคืนนี้ย่อมสละที่นอนนุ่มๆ ของตัวเองให้คนๆ นั้นนอนอย่างสบายเพียงคนเดียว ส่วนตนก็ย้ายลงมานอนที่โซฟานี้แทน อย่างนี้น่ะเหรอที่คนฉวยโอกาสเขาทำกัน
เก็บห้องเสร็จสายตาก็เหลือบมองปฏิทินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เหลืออีกเพียงไม่กี่วันกำหนดจ่ายค่าหอก็จะมาถึง เงินส่วนที่เก็บไว้ก็นำไปจ่ายค่าเครื่องดื่ม และค่าแท็กซี่เมื่อคืนจนเหลือไม่ครบจำนวน เงินส่วนที่เก็บไว้ใช้ประจำวันก็ใช่ว่าจะเหลือมากนัก เด็กหนุ่มนึกลำบากใจในการที่จะติดต่อกลับไปรบกวนทางบ้าน เพราะรู้สึกละอายใจต่อคำที่ตนจะต้องโกหกว่าเงินส่วนที่เก็บไว้หายไปไหน จะให้บอกไปตรงๆ ว่านำไปจ่ายค่าเที่ยวค่ารถ ก็คงจะดูไม่เหมาะ เพราะที่บ่นก็ใช่ว่าฐานะจะดีมากมาย ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องหาทางออกให้กับตัวเองโดยไม่ต้องรบกวนทางบ้านน่าจะดีกว่า แต่จะทำยังไงล่ะ หางานพิเศษทำงั้นเหรอ ไม่ทันหรอก ถึงทันก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เพราะตนมาที่นี่หน้าที่ก็คือมาเรียน จึงไม่ได้คิดถึงเรื่องงานการใดๆ นพ ชื่อนี้วนเข้ามาในห้วงความคิด ถอนหายใจออกมาเมื่อคิดว่าตนจะต้องรบกวนอดีตคนรักในเรื่องแบบนี้ มันดูไม่ดีเลยสักนิด ที่จะเอาเรื่องเงินๆ ทองๆ ไปคุยกับฝ่ายนั้น เพราะตนกับเจ้าตัวก็จบกันไปแล้ว แม้ตอนนี้จะยังพูดคุยกันอยู่ แต่ก็ในฐานะเพื่อนเท่านั้น จึงเกิดความรุ้สึกกล้าๆ กลัวๆ

**********************************************************************************************
วันใหม่ แชมป์ออกไปเรียนตั้งแต่เช้า เด็กหนุ่มทำตัวตามปกติ เรียนๆ เล่นๆ ไปกับกลุ่มเพื่อนเหมือนคนไม่มีออะไรให้คิด เรื่องของคนรักอย่างมิว หลังจากที่ได้เจอและกลั่นแกล้งเต็นเมื่อวาน ความรู้สึกเหงาๆ เบื่อๆ ก็เบาจากใจลงไปเยอะ ส่วนเรื่องของเต็นที่ตนทำกิริยาไม่ดีกับเจ้าตัวไว้ ตื่นขึ้นมาวันใหม่ทุกอย่างก็หายไปจากความทรงจำ คนอย่างเต็น ไม่มีอิทธิพลต่อจิตใจพอที่เขาจะต้องเก็บมาคิดถึง
เวลาผ่านไปจนถึงเย็น เด็กหนุ่มจึงถูกเพื่อนชวนไปเฮฮาในวงเหล้าต่อ ยังร้านที่ตนได้พาเต็นไปมาเมื่อวาน เด็กหนุ่มตอบตกลงตามไป เวลาแห่งความสนุกและเฮฮาตามประสาเพื่อนคอสุราผ่านไปจนถึงเวลาแยกย้าย ขณะที่เด็กในร้านเดินออกมาคิดค่าบริการ เด็กหนุ่มถึงฉุกคิดถึงเมื่อวานที่ตนมาที่นี่ วันนั้นจำได้ว่าสั่งเครื่องดื่มมาไม่น้อย ค่าเสียหายก็น่าจะมากอยู่ แล้วใครกันเป็นคนจ่าย เด็กหนุ่มคิด จังหวะนั้นเด็กที่มาคิดค่าบริการเอ่ยทัก
“วันนี้ยังไม่เมาเหมือนเมื่อวานเลยนะพี่ ทำไมรีบกลับล่ะครับ”
“เฮ้ย เมื่อวานมึงก็มาเหรอไอ้แชมป์” เพื่อนเอ่ยถาม แชมป์ไม่ตอบ เพราะสนใจเหตุการณ์เมื่อวานมากว่า เด็กเสิร์ฟนี่จำตนได้ ก็น่าจะถามเรื่องราวที่เกิดได้ขึ้น
“โทษนะ เมื่อวานนี้น้องมาเช็คบิลโต๊ะพี่หรือเปล่า” เด็กหนุ่มเอ่ยถามฝ่ายนั้น
“ครับ” เจ้าตัวตอบ
“จำได้มั้ยว่ายอดเท่าไหร่ แล้วใครจ่าย”
“เพื่อนที่มาด้วยกับพี่ไงเป็นคนจ่าย ส่วนยอดเหรอ ก็หลายตังค์นะ จำไม่ได้ เดี๋ยวผมดูบิลย้อนหลังให้นะ” เด็กนั่นเดินหายไปพร้อมค่าบริการวันนี้ กลับมาอีกทีแจ้งยอดของเมื่อวานให้กับแชมป์ฟัง นาทีที่ได้ฟังแชมป์ถึงนึกถึงหน้าเต็นขึ้นมาอีกครั้ง ยังพอมีสำนึกคิดว่าตนเอาเปรียบฝ่ายนั้นเกินไป เพราะยอดเงินที่ได้ยินมาพร้อมรายการเครื่องดามที่ตนขอเช็ค ล้วนเป็นรายการสั่งของตัวเองทั้งนั้น
“แยกกันตรงนี้นะโว้ย เดี๋ยวกูไปหาเพื่อต่อ” แชมป์บอกกับเพื่อนขณะเดินออกจากร้าน เพื่อนที่ตนเอ่ยถึงก็คือเต็นนั่นเอง
หลังเพื่อนแยกย้ายกันไป ในใจก็ยังไม่รู้จะพบเต็นได้ที่ไหน ที่ห้องเจ้าตัวเหรอ ก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวจะอยู่หรือเปล่า จึงตัดสินใจโทรศัพท์เช็คเพื่อความแน่ใจ จุดประสงค์ที่ต้องการเจอคือจะนำเงินไปคืนในส่วนที่เจ้าตัวจ่ายค่าเครื่องดื่มให้ตน
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่เรียกไป แม้จะลองติดต่อซ้ำไปหลายๆ รอบ
“ปิดเครื่องทำไมวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยว่าโดยไม่ได้รู้เลยว่าสาเหตุที่ตนติดต่อหมายเลขนั้นไม่ได้เพราะมันได้ถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้ว
“ยังไม่กลับเหรอครับ เห็นเดินออกจากร้านมาตั้งนาน” หนึ่งเสียงเอ่ยทักขึ้นขณะกำลังยืนหงุดหงิด ทำให้ต้องหันไปมอง สายบตาจึงเจอกับเด็กหนุ่มผ้วขาวหน้าตาดีประมาณหนึ่งยืนยิ้มให้อยู่
กายส่งสายตาเยิ้มตัณหาให้กับคนตรงหน้า เห็นตั้งแต่เจ้าตัวเดินเข้ามาในร้านที่ตนนั้งอยู่พร้อมกลุ่มเพื่อนแล้ว รู้สึกโดนตาต้องใจเหลือเกินกับบุคลิกที่ดูหล่อ เท่ โดดเด้งกว่าใครในกลุ่มที่เดินกันมา คิดอยู่ว่าจะหาโอกาสทำความรู้จักยังไง สุดท้ายก็ได้จังหวะในตอนที่เห็นเจ้าตัวอยู่อยู่คนเดียว ณ ขณะนี้
“กำลังจะกลับครับ” แชมป์ตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดูด้วยตาก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนที่เข้ามาทักตนเป็นผู้ชายไม่จริง สังเกตจากการเซ็ตผม การแต่งตัว และการลงแป้งบนใบหน้า พร้อมสายตาฉ่ำเยิ้มที่มองมา มันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
“พักอยู่แถวไหนครับ” คนนั้นชวนคุยต่อในตอนกำลังจะเดินหนี จึงจำใจตอบตามมารยาท
“วงเวียนใหญ่”
“อืม ไกลอยู่เหมือนกัน แล้วกลับไงครับ”
“รถเมล์ แท็กซี่ ไฟฟ้า อันไหนสะดวกก็อันนั้นแหละครับ ขอตัวนะครับ” แชมป์จะเดินหนีอีกเมื่อตอบเสร็จ แต่ก็โดนรั้งไว้ด้วยคำพูด
“ผมเอารถมา กำลังจะไปทางนั้นพอดี ไปด้วยกันมั้ยครับ”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ” แชมป์ตอบอย่างหนักแน่น รู้ทันว่าหากตนไปด้วยคงโดนลวนลามเป็นแน่
“งั้นขอเบอร์ได้มั้ย ผมชอบคุณจัง” กายรุกต่ออย่างไม่ยอมรามือ วันนี้คนตรงหน้าไหวตัวทัน ขอช่องทางติดต่อเจ้าตัวไว้เพื่อเขมือบวันหลังก็น่าจะคุ้ม หล่อๆ เท่ๆ แบบนี้ ได้ชิมสักครั้งคงแซ่บน่าดู
“ผมไม่ใช่เกย์ และก็ไม่ชอบเกย์ ขอตัวนะครับ” แชมป์ตอกกลับใส่หน้าเพื่อตัดรำคาญแล้วเดินหายไปทันที ลับหลังกายมองตามสายตาจิกๆ เอ่ยขึ้น
“ว่ากันว่าอะไรที่ได้มายากๆ คุณภาพมักคับปากคับก้น วันนี้เล่นตัวได้แต่อย่าให้เจออีกนะครับ รับรองคุณเสร็จผมแน่” ลิ้นฉ่ำเลียรอบริมฝีปากบนหลังเอ่ยจบ จินตนาการไปถึงภาพความเร่าร้อนของตนกับคนที่เดินจากไปล่วงหน้า เพราะรู้สึกหลงใหลในรูปร่างหน้าตา และนิสัยชายแท้ๆ ของฝ่ายนั้นเหลือทน

*****************************************************************************************
เต็นติดต่อคนรักเก่าอย่างนพไม่ได้ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังไปดูงานที่ต่างประเทศ เด็กหนุ่มเดินเตร่ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยมายังโรงภาพยนตร์ขึ้นชื่อที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้คิดจะมาดูหนัง แต่เพราะคิดหาทางออกปัญหาไม่ได้เลยยังไม่อยากจะกลับห้องพัก สองเท้าเดินวนไปวนหาภายในที่แห่งนั้น จิตใจและสายตาก็เลื่อนลอยไปด้วยกันว่าจะเอายังไงกับค่าหอพักตน ที่สุดก็ต้องตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเรียก
“เฮ้! เต็น”
“แม็ค” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อคนนั้นเบาๆ เมื่อจำได้ว่าเจ้าตัวเป็นคนที่เคยชวนให้ตนเล่นยานรกนั่นจนขาดสติทำในสิ่งที่เสี่ยงต่อการติดโรคลงไป
“ดีใจจัง หายเงียบไปเลยนะ เอ็มก็ไม่ออน โทรหาก็ไม่ติด เปลี่ยนเบอร์เหรอ แล้วเป็นไงสบายดีอยู่มั้ย แล้วนี่มายังไง มากับใคร มาดูหนังเหรอ เรื่องอะไรอ่ะ” คำถามต่างๆ พุ่งมาให้ยินจนตั้งรับไม่ทัน แสดงถึงความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้ของคนถามอย่างชัดเจน เต็นยิ้มให้จางๆ เมื่อไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน
“เฮ้ย โทษที แม็คดีใจที่เจอเต็นน่ะ เราไปหาที่นั่งคุยกันมั้ย” แม็คเหมือนรู้ตัวจึงเอ่ยขอโทษแล้วเอ่ยชวนคนที่ตนตามหามาหลายเดือนให้ไปกับตน ตลอดช่วงเวลาที่คนๆ นี้ตัดขาดการติดต่อกับตน มันทำให้รู้สึกคิดถึงอย่างประหลาด คืนนั้นที่ได้มีอะไรกับเจ้าตัวตอนแรกก็คิดว่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่แล้วมันก็ไม่ใช่ เมื่อทุกๆ นาทีเริ่มอยากเจออยากพูดคุยกับคนนี้ขึ้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครตั้งแต่เลิกรากับกาย
แม็คเคลียร์ตัวเองหยุดมั่ว หยุดเสเพลย์ เพื่อจะได้ขอคบกับเต็นอย่างสนิทปาก แต่แล้วก็นึกเสียใจที่ช่วงเวลานั้นเต็นได้หายไปจากชีวิตเขาจนติดต่อไม่ได้ ซึ่งตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เด็กหนุ่มก็ไม่เคยได้ข้องแวะมีหรือสัมพันธ์กับใครอีกเลย แม้ว่าคนรักเก่าอย่างกายจะกลับมายั่วยวนอยู่เป็นระยะๆ ที่คอนโด แต่ก็ได้ไล่กลับไปทุกครั้ง เพราะรู้สึกคนๆ นั้นสกปรกมากเกินที่จะกลับไปมั่วรักได้อีก หรืออีกนัยหนึ่งหัวใจเขาได้ปิดตายรอเพื่อมอบให้กับเต็นนั่นเอง
เต็นตามแม็คเข้าไปยังร้านฟาสฟู้ดที่อยู่ติดกับทางเข้าออกโรงภาพยนตร์หลังสั่งอาหารและรับอาหารเสร็จ แม็คจึงชวนไปนั่งรับลมเย็นๆ ของต้นฤดูหนาวที่ริมระเบียงด้านนอก ซึ่งสามารถมองดูบรรยากาศคึกคักของวัยรุ่นแถวนี้ได้ดี มันเป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นทุกๆ ปีของที่นี่ในฤดูกาลแห่งความเหน็บหนาว
“เพิ่งออกกำลังกายมาเหรอ” เต็นเอ่ยถามคนตรงหน้าหลังนั่งกันเรียบร้อยแล้ว
“อืม มาเล่นฟิตเนสข้างบนน่ะ” แม็คตอบ สายตามองซ้ายแลขวาแล้วยื่นมือไปกุมมือคนตรงหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะ เอ่ยบอกตรงๆ
“ไม่เจอกันนาน แม็คคิดถึงเต็นมากเลยรู้ป่าว”
“เฮ้ย เดี๋ยวคนเห็น” เต็นชักมือกลับ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับคำพูดหวานๆ ที่ได้ยินมากนัก เพราะไม่ได้มีใจให้กับคนๆ นี้เลยแม้แต่นิด วันนั้นที่พลาดท่าไปก็เพียงแค่อยากประชดความผิดหวังที่แชมป์สร้างไว้ให้เท่านั้นเอง ที่มันเลยเถิดไปมากก็เพียงแค่ไม่ได้สติยั้งคิดเพราะฤทธิ์ยานรกเท่านั้น
“ยังโกรธแม็คเรื่องยานั่นอยู่เหรอ” แม็คถามหน้าเศร้า รู้สึกน้อยใจอยู่บ้างที่คนตรงหน้าทำเหมือนไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับการเจอหน้าตนเลย
“เรื่องมันนานมาแล้ว ช่างมันเถอะ” เต็นตอบ แล้วก้มลงจัดการกับอาหารตรงหน้า ซึ่งแม็คเป็นจัดการชำระให้ทั้งหมด แม้จะค้านแล้วแต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ฟัง
“กินเยอะๆ นะ ดูเต็นผอมลงน่ะ” แม็คบอกยิ้มๆ คิดเข้าใจว่าจะบีบบังคับให้คนอื่นคิดเหมือนตนคงไม่ได้ ดีเท่าไหร่แล้วที่ได้เจอกับคนที่ตนหมดหนทางติดต่ออีกครั้งอย่างวันนี้
เต็นเงียบไม่โต้ตอบ รู้สาเหตุที่ตนน้ำหนักลงเพราะเคยกินไม่ได้นอนไม่หลับจากการกระทำของแชมป์อยู่พักหนึ่ง
“แล้วคนนั้นเขาติดต่อกลับมามั้ย” แม็คถามถึงเรื่องราวที่คนตรงหน้าเคยระบายให้ตนฟัง
“อย่าพูดถึงเขาเลยนะ” เต็นเงยหน้าขึ้นบอก สีหน้าเศร้าและเหงาขึ้นมาอีก
“แม็คขอโทษ แล้วตอนนี้เต็นคบใครอยู่มั้ย” แม็คถามต่อ เต็นส่ายหน้า หัวใจที่แตกสลายไปจากน้ำมือของแชมป์มันยังก่อเป็นรูปได้ไม่สมบูรณ์ดังเดิม จึงยังไม่จะกล้ารักใครได้อีก
“ดีจัง นึกว่าแม็คจะซดสมหวังซะแล้ว” แม็คตอบออกมาขำๆ เต็นจึงพอยิ้มออกมาได้บ้าง สองหนุ่มจึงพูดคุยกันในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น จนอาหารตรงหน้าหมดลง
“เอาอะไรอีกมั้ย เดี๋ยวแม็คไปสั่งให้” แม็คบอกอย่างเอาใจ
“ไม่แล้วล่ะ กลับกันดีกว่า” เต็นตอบ
“กลับไหนดีล่ะ ห้องเต็นหรือคอนโดแม็ค” แม็คเอ่ยล้อๆ
“ทะลึ่งนะแม็ค ต่างคนต่างกลับ ห้องใครห้องมันดิ” เต็นว่ายิ้มๆ จากที่ได้พูดได้คุยกับแม็คเมื่อครู่ พอจะรับรู้ได้ว่าเจ้าตัวก็เป็นคนดีหนึ่งคนที่น่าทำความรู้จักไว้ไม่น้อย ดูอารมณ์ดี ขี้เล่น ขี้อ้อน และสุภาพ ซึ่งได้พูดคุยด้วยแล้วก็เพลินดีได้อย่างไม่ต้องเกร็ง
“แม็คล้อเล่นน่า กลับก็กลับ เดี๋ยวแม็คไปส่งนะ ปะ” แม็คเอ่ยชวนแล้วลุกขึ้นเดินนำออกจากร้านไปก่อน เต็นลุกขึ้นเดินตามจนไปถึงลานจอดรถ จึงเอ่ยบอก
“จริงๆ ห้องเต็นอยู่แค่นี้เอง ข้ามฝั่งไปก็ถึงแล้ว เต็นว่าเต็นเดินไปดีกว่า” จากการพูดคุยที่ถูกคอเมื่อครู่ เต็นจึงใช้สรรพนามสนิทสนมกับคนนั้น
“จะใกล้จะไกลก็มาเถอะน่า แม็คไม่กดมิเตอร์คิดค่าน้ำมันหรอก” แม็คบอกติดตลกอีก เต็นจึงสนิทใจขึ้นไปนั่งคู่รถ จนรถเคลื่อนออกไป กระทั่งถึงหอพัก
“ขอบใจนะ ขับรถกลับคอนโดดีๆ ล่ะ” เต็นบอกเจ้าของรถ เมื่อรถจอดเทียบหน้าหอ
“อืม ไว้แม็คโทรหานะ หวังว่าคงไม่เปลี่ยนเบอร์อีกนะ” แม็คยังพูดให้ได้ยิ้มอีก ก่อนที่คนข้างๆ จะลงจากรถตนเด็กหนุ่มถือโอกาสโน้มตัวลงไปหอมแก้ม
 “เฮ้ย! เล่นบ้าๆ นะแม็ค” เต็นเอ่ยว่า รู้สึกตกใจจนขนลุกในสิ่งที่แม็คทำ เด็กหนุ่มรีบลงจากรถเมื่อตั้งสติได้
“ฝันดีนะครับ คิดถึงแม็คบ้างนะ” แม็คเอ่ยตามหลังให้ได้ยินเป็นถ้อยคำสุดท้าย เต็นไม่ตอบว่าอะไร จัดการปิดประตูรถ ยืนดูจนพาหนะคันนั้นเคลื่อนตัวออกไปจากหอพักตน จึงเดินเข้าไปข้างใน ผ่านร้านมินิมาร์ทที่อยู่ชั้นล่าง ถึงกับตกใจตัวชา เมื่อเก้าอี้สำหรับนั่งพักที่อยู่หน้าร้านขายของนั่น มีแชมป์กำลังนั่งตาขวางมองอยู่ ซึ่งบนโต๊ะ มีกระป๋องเบียร์วางอยู่สองสามกระป๋อง

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-03-2011 05:31:42
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อารมณ์ เมา เมา หึง หงึ ไม่อยากจะคิดถึงตอนต่อไป

ว่าแต่เรียก รถดูดส้วน มาเก็บอีสวะกายไปทิ้งทีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 14-03-2011 10:41:11
ให้แม็คเป็นพระเอกก็ไม่เลวนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 14-03-2011 10:58:26
เต็นจะแย่ไหมเนี่ยอิแชมป์ท่าทางจะเมาแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 14-03-2011 12:11:07
โอ้วววว ไม่นะ ไอ้แชมป์มันจะทำอะไรเต็นรึเปล่าเนี่ยะ
ยิ่งดูท่าเหมือนจะกรึมๆแล้วด้วยซิ เฮ้ออออ

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกปลื้มๆแม็คเหมือนกันนะนี่ ฮ่าๆ
ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะทำอะไรไม่ดีกับเต็นไว้ก็เหอะ = ='
แต่ถ้าคิดจะกลับตัวก็ดีไป เหอะๆ


ปล.คนแต่งคะ เปลี่ยนพระเอกตอนนี้ทันไหมคะ ?
5555555555.
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-03-2011 13:03:21
ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 14-03-2011 16:18:39
เต็น  สู้มัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-03-2011 18:00:22
มีหมาบ้ามานั่งน้ำลายไหลอยู่หน้าหอพักแล้ว
แล้วเต็นจะถูกหมาบ้าฟัดหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-03-2011 18:18:57
ตกใจทำไม่แค่เห็นเหี้ยตัวนึง


อย่าไปสนใจมันเลยเต็นคนที่เลวได้แม้กระทั่งความคิดไม่ต้องนึกถึงการกระทำของมันหรอกนะว่าจะขนาดไหน



รักตัวเองดีกว่ามั้ยเต็น  มองคนอื่นบ้างดีกว่า :3123:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-03-2011 18:39:04
เต็น ตกใจเหรอ  อ้ะรีบปรับอารมณ์ให้มั่นคง อย่าตื่นเต้น เชิดเข้าไว้หน้าน่ะ เดินขึ้นห้องไปเลย
อย่าเสียเวลาไปมองมันแม้แต่วินาทีเดียว แต่ถ้ามันเอาเงินมาให้(ค่าเหล้ามันนั่นแหละ) รับไว้โลด
มันคือเงินที่เป็นของเราโดยชอบธรรม(เดี๋ยวไม่มีเสียค่าหออ่ะ)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Verxus ที่ 14-03-2011 19:20:42
สวัสดีค่ะ คุณคนเขียน ติดตามเรื่องนี้ได้ซักพักแล้วค่ะ
เคยอ่านในกระทุ้ที่โพสท์ไม่จบ ชอบมาก ขอบอกว่าดีใจมากที่คุณบอยกลับมาแต่งต่อ
ก็เคยไปเม้นท์ที่บอร์ดคุณบอยแล้ว แต่เป็นไรไม่รู้
พอเราเม้นท์แล้วข้อความไม่ขึ้นไรเลย (อาจเพราะใช้กูเกิ้ลโครมรึเปล่าก็ไม่ทราบ) เม้นท์ที่นี่แทนละกัน 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมวากกกกกกกกกก คือชอบนายเอกแบบนี้อ่ะ ชอบที่เต็นดูเรียบร้อย เป็นคนดีอ่ะ ดูจริงใจ น่าสงสาร
นำเสนอมุมมองของเต็นท์ได้ยอดเยี่ยมมาก เต็นอาจจะดูเลวในสายตาคนที่ไม่รู้เบื้องลึกไร
แต่เจ้าตัวก็มีเหตุผลเพียงพอในการกระทำของเขา อ่านแล้วร้องไห้ตาม (ทำเอาอินจัดมากๆ)
ตอนเต็นออกมาหลังจากรักษาอาการติดยา รู้สึกสดชื่นตามไปด้วย แต่เอิ่มม มีทั้งความรู้สึกอยากให้แชมป์เจอและไม่อยากให้เจอกับเต็น

ส่วนแชมป์ อืมมมม เลวมากอ่ะ แต่ไม่ค่อยรู้สึกเกลียดเค้าเท่าไหร่แฮะ ก็หวังว่าแชมป์ได้รับผลจากการะทำของตัวเองนะ
ในเรื่องเราชอบแม็คมากๆเลย รู้สึกตั้งกะมอมยาแล้วว่า ต้องเป็นตัวละครที่เข้ามามีบทบาทชิงนายเอกแน่ๆ
แบบว่าเชียร์ให้เต็นเสร็จแม็กตั้งกะฉากออกโรงแล้ว 555+ แถมตอนนี้ น่ารักมากๆ เอาใจไปเลย
ส่วนพี่นพ รู้สึกว่าเหมาะจะเป็นพี่ชายของเต็นมากกว่า ไม่แน่ใจว่ามีบรรยายรูปลักษณ์ของเค้ารึปล่า เพราะที่อ่าน จิ้นหน้าตาเค้าไม่ออก (หรือเราอ่านลืมเองหว่า)
ช่วงนึงที่คุณคนเขียนหายไปนานมากๆก่อนตอนล่าสุด เปิดเข้ามาดูทุกวันเลยว่าเขียนต่อยัง แหะๆ เสพติดมากมายกว่าน้ำแข็งอีก
ขอบคุณคุณบอยด้วยจ้าที่แต่งนิยายดีๆออกมา มาต่อเร็วๆนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-03-2011 00:40:46
สวัสดีค่ะ คุณคนเขียน ติดตามเรื่องนี้ได้ซักพักแล้วค่ะ
เคยอ่านในกระทุ้ที่โพสท์ไม่จบ ชอบมาก ขอบอกว่าดีใจมากที่คุณบอยกลับมาแต่งต่อ
ก็เคยไปเม้นท์ที่บอร์ดคุณบอยแล้ว แต่เป็นไรไม่รู้
พอเราเม้นท์แล้วข้อความไม่ขึ้นไรเลย (อาจเพราะใช้กูเกิ้ลโครมรึเปล่าก็ไม่ทราบ) เม้นท์ที่นี่แทนละกัน 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมวากกกกกกกกกก คือชอบนายเอกแบบนี้อ่ะ ชอบที่เต็นดูเรียบร้อย เป็นคนดีอ่ะ ดูจริงใจ น่าสงสาร
นำเสนอมุมมองของเต็นท์ได้ยอดเยี่ยมมาก เต็นอาจจะดูเลวในสายตาคนที่ไม่รู้เบื้องลึกไร
แต่เจ้าตัวก็มีเหตุผลเพียงพอในการกระทำของเขา อ่านแล้วร้องไห้ตาม (ทำเอาอินจัดมากๆ)
ตอนเต็นออกมาหลังจากรักษาอาการติดยา รู้สึกสดชื่นตามไปด้วย แต่เอิ่มม มีทั้งความรู้สึกอยากให้แชมป์เจอและไม่อยากให้เจอกับเต็น

ส่วนแชมป์ อืมมมม เลวมากอ่ะ แต่ไม่ค่อยรู้สึกเกลียดเค้าเท่าไหร่แฮะ ก็หวังว่าแชมป์ได้รับผลจากการะทำของตัวเองนะ
ในเรื่องเราชอบแม็คมากๆเลย รู้สึกตั้งกะมอมยาแล้วว่า ต้องเป็นตัวละครที่เข้ามามีบทบาทชิงนายเอกแน่ๆ
แบบว่าเชียร์ให้เต็นเสร็จแม็กตั้งกะฉากออกโรงแล้ว 555+ แถมตอนนี้ น่ารักมากๆ เอาใจไปเลย
ส่วนพี่นพ รู้สึกว่าเหมาะจะเป็นพี่ชายของเต็นมากกว่า ไม่แน่ใจว่ามีบรรยายรูปลักษณ์ของเค้ารึปล่า เพราะที่อ่าน จิ้นหน้าตาเค้าไม่ออก (หรือเราอ่านลืมเองหว่า)
ช่วงนึงที่คุณคนเขียนหายไปนานมากๆก่อนตอนล่าสุด เปิดเข้ามาดูทุกวันเลยว่าเขียนต่อยัง แหะๆ เสพติดมากมายกว่าน้ำแข็งอีก
ขอบคุณคุณบอยด้วยจ้าที่แต่งนิยายดีๆออกมา มาต่อเร็วๆนะคะ  :pig4:


เจอเม้นท์นี้เข้าไปไม่เข้ามาตอบคงไม่ได้ ดีใจมากเช่นกันครับที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ เป็นครั้งแรกที่ผมนำเสนอเรื่องราวด้วยการเล่าความรู้สึกสองคนในเหตุการณ์เดียวกันแต่คนละเวลา ก็ยากนะ เหอๆ กลัวมากๆ ว่ารอยต่อของความรู้สึกของสองคนและเหตุการณ์ต่างๆ มันจะเชื่อมต่อกันมั้ย ตอนนี้มันจะกระโดดไปโน่นไปนี่ยังไง แม้จะผ่านการโพสนิยายมายาวนานแต่ก็ตื่นเต้นและแอบเกร็งทุกครั้งที่กดส่งข้อความขึ้นสู่ที่สาธารณะ ทุกๆ รีพลายที่มีเข้ามาแต่ละทีต้องค่อยๆ เลื่อนอ่านว่าเรื่องราวที่ผมส่งไปผลตอบรับจากความรู้สึกคนที่ได้อ่านจะสะท้อนกลับมายังไง แจ้งมาว่าชื่นชอบจนเสพติดแบบนี้ได้ฟังแล้วก็ชื่นใจ

สำหรับเม้นต์อื่นๆ ก็ชอบนะ อ่านแล้วแบบ เหวย อะไรกัน จะสาปส่งพระเอกของผมไปไหน แต่ชอบนะ แสดงว่ามีอารมณ์ร่วมกันใช่มั้ยนั่น อิอิ
เอาเลยครับ ตามอารมณ์เลย จะรัก จะโกรธ จะเกลียด หรือชื่นชอบตัวละครไหน จัดเต็มมาเลยครับ ขอเพียงว่าอย่าเขม่นคนเขียนก็พอ สยิว เอ้ย สยอง

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-03-2011 00:58:27
ตกใจทำไม่แค่เห็นเหี้ยตัวนึง

มีหมาบ้ามานั่งน้ำลายไหลอยู่หน้าหอพักแล้ว

 :m20: ฮ่าฮ่า อ่านสองเม้นท์นี้แล้วถูกจวย เอ๊ย ถูกใจมาก +1 ให้เลยครับ

ไอ่แชมป์เอ๊ยยยย มึงเป็นทั้งเหี้ย และก็หมาบ้า ในเวลาเดียวกันแล้วโว้ยยยย กร๊ากกกกกกกกก

 :impress2:อ่านตอนนี้แล้ว ปลื้มแม๊ค จุ๊บๆๆๆๆๆ


 :กอด1:ขอบคุณครับ คุณบอย +1 ให้...มาต่อเรื่องนี้บ่อยๆด้วยซิ นะนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 15-03-2011 04:13:37

วุ้ย เต็นคะ ได้เวลา “ทวงถาม ความแค้น” แล้วค่ะ
จับกรอก, จับกด พร้อมถ่าย clips....up ขึ้น YouTube โลด อิอิ
โย่ว!!!!
  :z7:
๙๗ + ๑ = ๙๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 16-03-2011 01:24:51
อย่ามาหึงล่ะอิเงือก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 16-03-2011 02:43:55
ไม่มีสิทธิจะมามองตาขวาง :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 16-03-2011 23:02:13
พึ่งจะได้อ่านเรื่องนี้  ตอนอ่านพาร์ทของเต็น  แอบโมโหเล็กที่เต็นค่อนข้างโลเล  

แล้วก็ไม่ชอบอีตาแชมป์ด้วยทำนิสัยชั่วมากกกกกกกกกกกก  แล้วก็สงสารนพที่สุด

พอมาอ่านพาร์ทชองไอ้เลวแชมป์  ก็คิดได้ว่าเกลียดมันอย่างจริงจัง

ทำไมมึงเลวได้บัดซบอย่างงี้วะแชมป์  เลวเหี้ย  โคตรรรรรเลวววววววววววววววววววว :m31: :m31: :m31:

อีปลวก  อีเพลี๊ยะมะม่วงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

หึงให้ตายไปเลยอีเพลี๊ยะมะม่วง  เต็นอย่าไปยอมมันง่ายๆนะลูก

เอาคืนให้สุดๆเลยนะเต็น  เอาให้มันตายไปเลย

ปล.พี่คนเขียน  เขียนเก่งโคตรๆ o13 o13 o13  อ่านแล้วปวดใจหนึบๆเลย  เล่นเอาอินจับจิต  จะรอนะจ๊ะ :กอด1: :กอด1:

ปล.2ขอติดตามอ่านด้วยคนเน่อ :L2: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 20 A Time for Us : 14.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-03-2011 16:39:39
ตอนที่ 21

“แชมป์” เต็นเอ่ยเรียกชื่อฝ่ายนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกเดินมาหา พร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์โชยหึ่ง
“เออกูเอง นึกว่าจะไม่กลับห้องอีกนะมึง คู่ขาไปไหนซะล่ะ ไม่ตามมาด้วยเหรอ” แชมป์บอกออกไปด้วยอาการมึนหน่อยๆ เมื่อเดินมาหยุดหน้าเต็น จำได้ว่าก่อนเข้ามาที่หอนี่เพื่อรอพบคนนี้ ตอนเดินผ่านร้านฟาสฟู้ดส์หน้าโรงภาพยนตร์ เห็นเจ้าตัวนั่งคุยอยู่กับเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งอย่างสนิทสนม ตอนแรกคิดจะเข้าไปทักเพื่อขัดคอ เพราะเกิดอาการหมั่นไส้อย่างประหลาด แต่คิดอีกทีเข้ามารอที่หอนี่เพื่อรอเจ้าตัวน่าจะดีกว่า เพราะตอนนั้นก็ชักมึนๆ อยู่
เวลาเป็นนานสองนานที่เด็กหนุ่มนั่งรอเจ้าตัวที่หน้าร้านมินิมาร์ทนี่ นึกฉุน แต่ก็ไม่คิดจะกลับไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อยู่ๆ ก็นึกอยากคุย อยากเคลียร์ว่าไอ้คนที่เจ้าตัวไปนั่งพูดคุยหน้าระรื่นในร้านฟาสฟู้ดส์นั่นเป็นใคร คิดว่าเป็นแฟนเก่าของเจ้าตัวที่ชื่อนพก็ไม่น่าจะใช่ เพราะฝ่ายนั้นทำงานแล้วน่าจะมีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนๆ นั้น หากไม่ใช่แฟนเก่าก็น่าจะเป็นคู่ขาใหม่ เร็วใช้ได้นี่ หาคนมาดามอกได้ไวขนาดนี้ เชี่ยเอ้ย!
“ถ้าเมาก็กลับบ้านไปดีกว่าแชมป์” เต็นพยายามทำใจดีๆ เอ่ยบอกกับคนที่ยังคงจ้องตนตาขวาง
“ทำเป็นไล่ จริงๆ อยากให้กูค้างด้วยใจจะขาดล่ะไม่ว่า” แชมป์เอ่ยออกมาเพราะเริ่มมึนหนักจากฤทธิ์ของเบียร์สามกระป๋องที่สั่งมาซดดื่มต่อระหว่างรอคนตรงหน้า ภาพที่ตนมองเห็นก่อนเข้ามามันกระตุ้นให้เด็กหนุ่มอยากดื่มให้หนักไม่รู้ทำไม และเมื่อยืนนานๆ ก็เกิดอาการเซจนได้ ซึ่งทิศทางที่เซไปก็คือร่างของเต็นนั่นเอง
เต็นรีบพยุงร่างของคนที่เซมาหาตนให้ยืนให้นิ่ง แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเจ้าตัวสะบัดตัวพร้อมตวาด
“ไม่ต้องมาโดนตัวกู กูไม่ชอบให้เกย์มาถูกตัวโว้ย”
“ท่าทางจะเมาหนัก พูดจาไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย น้องพาเพื่อนขึ้นห้องไป” เจ้าของมินิมาร์ทเดินออกมาบอก เต็นหน้าเสียเมื่อคิดว่าการกระทำของแชมป์เป็นการรบกวนคนอื่น ไม่คล้อยตามคำพูดของฝ่ายนั้นหรอกที่ว่าแชมป์เริ่มเมาแล้วเริ่มพาล เพราะแม้ตอนปกติ คนๆ นี้ก็ไม่ต้องการให้ตนถูกเนื้อต้องตัวอยู่แล้ว
“กลับบ้านนะแชมป์ เดี๋ยวเราไปเรียกแท็กซี่ให้” เต็นเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าที่พยายามยืนให้นิ่งอยู่
“นี่มึงไล่กูเหรอ พอได้คู่ขาใหม่ปุ๊บ ไล่คนเก่าปั๊บ มันจะเกินไปหน่อยมั้ยเฮอะ!” แชมป์ผลักอกเต็นจนร่างเด็กหนุ่มเซหน่อยๆ เต็นรู้สึกอายต่อสายตาที่เจ้าของมินิมาร์ทจ้องมอง จึงตัดสินใจชกหน้าแชมป์จนล้มลงหมดสติอย่างง่ายๆ อาจจะเพราะเจ้าตัวตกอยู่ในอาการมึนเมาอยู่ด้วยมั้งที่ทำให้หมดสติได้ง่ายดายขนาดนั้น
“ว้าย! ต่อยเพื่อนทำไมอ่ะน้อง” เจ้าของมินิมาร์ทร้องถาม เต็นไม่ตอบ นอกจากนั่งลงพยุงร่างที่อ่อนปวกเปียกของคนที่ตนชกหน้าพาเดินออกไปยังหน้าหอเพื่อเรียกแท็กซี่ พอได้รถสมใจก็จัดการพาร่างนั้นขึ้นไปเพื่อไปส่งบ้านที่วงเวียนใหญ่
ระหว่างทางที่แท็กซี่วิ่งไป เต็นนั่งคิดกลุ้มใจอยู่เงียบๆ ว่าทำไมแชมป์จะต้องกลับมาวนเวียนในชีวิตตนอีก จะตามหลอกหลอนตนไปถึงไหนกันถึงจะพอใจ
“มันเป็นใคร ไอ้นั่นมันเป็นใคร มึงเห็นมันดีกว่ากูเหรอไอ้เต็น” อยู่ๆ คำพร่ำเพ้อก็หลุดออกมาจากปากของคนที่นอนพับอยู่เบาะหลัง เต็นเอี้ยวตัวกลับไปมอง เห็นเจ้าของคำพูดยังคงนิ่งอยู่จึงคิดสงสัยว่าเมื่อครู่คือคำละเมอเหรอ เด็กหนุ่มคิดว่าแชมป์คงจะเห็นตนคุยอยู่กับแม็ค แต่แล้วยังไงล่ะ เหตุการณ์นั่นไม่น่าจะมีอิทธิพลพอที่คนอย่างแชมป์จะเก็บไปละเมอถึงตอนไม่รู้สึกตัวหรอก
รถแท็กซี่เลี้ยวเข้าเขตวงเวียนใหญ่ นาทีนั้นแชมป์รู้สึกตัวขึ้นมาลุกนั่งมองสองถนน จำได้ว่าเป็นแถวบ้านตน จึงเอ่ยขึ้น
“นี่มันแถวบ้านนี่”
เต็นได้ยินเสียงพูดจึงหันกลับมามอง
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม แชมป์ยังไม่ตอบในทันทีเพราะยังมึนๆ กับเหตุกาณ์อยู่ สำนึกสุดท้ายก่อนจะจำอะไรได้เลือนรางและหมดสติ เขานั่งอยู่ที่ร้านมินิมาร์ทหน้าหอของเต็นนี้นา
“เดี๋ยวพี่จอดป้ายหน้าให้ผมลงด้วยนะครับ” เมื่อเห็นแชมป์เงียบอยู่ เต็นจึงหันมาบอกโซเฟอร์แท็กซี่ สายตาเหลือบดูมิเตอร์หยิบเงินในกระเป๋าออกมาเตรียมไว้ตอนแท็กซี่กำลังจะจอดเทียบให้ลง
“นี่ครับ” เด็กหนุ่มยื่นสิ่งนั้นให้คนขับแล้วเปิดประตูลงจากรถไปตอนรถจอดสนิท แชมป์เมื่อเริ่มหายงง และเห็นเหตุการณ์จึงรีบเปิดประตูลงตาม
“ไม่ต้องรอนะพี่ ออกรถไปเลยครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกโซเฟอร์แท็กซี่ตอนกำลังจะปิดประตู บอกเสร็จจึงรีบเดินตามร่างของเต็นที่เดินหนีลิ่วๆ ไม่หันหลัง
“รอก่อนเต็น” เด็กหนุ่มร้องบอกฝ่ายนั้นเมื่อเดินตามไม่ทัน เต็นได้ยินแต่ไม่อยากใส่ใจ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์สะท้านใจอะไรเกิดขึ้นอีกหากได้อยู่ต่อหน้ากับคนใจร้ายอย่างแชมป์ จึงเตรียมเรียกแท็กซี่เพื่อพาร่างหนีไปให้ห่าง
แชมป์เห็นคนที่ตนเดินตามเตรียมโบกรถ จึงตัดสินใจวิ่งไปจนถึงร่างเจ้าตัวฉุดแขนไว้ไม่ให้เจ้าตัวทำอย่างที่หวัง
“จะรีบหนีไปไหน คุยกันก่อนดิ” เด็กหนุ่มเอ่ยตวาดแข่งกับเสียงรถบนท้องถนนเพื่อให้เจ้าตัวได้ยิน
“มันดึกแล้วเราจะรีบกลับหอ” เต็นหันมาตอบ พยายามไม่มองสบตาคนฉุด เพราะกลัวตัวเองจะหวั่นไหวอีก
“หอตัวเองหรือหอใครล่ะ” แชมป์หลุดประชดออกไปอย่างไม่รู้ตัว นาทีนี้เต็นจะไม่มองสบตาก็น่าจะผิดนัก เพราะรู้สึกแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน ไม่อยากจะคิดว่านั่นมันคือการประชด จึงตอบออกไป
“นายรีบเข้าบ้านไปอาบน้ำให้สบายตัวแล้วก็นนอนเถอะแชมป์”
“แชมป์หายเมาแล้ว” แชมป์ตอบในสรรพนามเดิม ในขณะที่มือยังจับแขนอีกฝ่ายไว้อยู่ จู่ๆ ก็นึกอยากเคลียร์ให้ชัดว่าเหตุการณ์ที่ตนเห็น มันมีที่มาที่ไปยังไง
“หายเมาก็ดี คนที่บ้านจะได้ไม่ว่า” เต็นบอก จัดการแกะมือฝ่ายนั้นที่จับตนอยู่ออก แชมป์รับรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินมันเจือด้วยความห่วงใยมากกว่าต่อว่า จึงยอมปล่อยแขนเจ้าตัวโดยง่าย
“ห่วงแชมป์เหรอ” เด็กหนุ่มถามออกไป ไม่ใช่แกล้ง แต่นึกอยากได้คำตอบจริงๆ
“ไม่ต้องถามอะไรมากหรอก กลับเข้าบ้านไปเถอะไป” เต็นออกปากบอกอีก พยายามถอยร่างออกห่างแชมป์ให้มากที่สุด เป็นสัญชาตญาณของการไม่อยากโดนดูถูกอีกว่าอยากใกล้ชิดกับผู้ชายแท้ๆ จนตัวสั่น
แชมป์มองอาการคนตรงหน้า เห็นอาการระวังตัวของเจ้าตัวก็รู้สึกสะท้านใจแปลกๆ ลองเดินเข้าไปหาเจ้าตัวอีกเพื่อพิสูจน์ว่าฝ่ายนั้นกลัวตนได้มากขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ ซึ่งเพียงแค่ก้าวแรกที่ขยับเด็กหนุ่มก็เห็นอาการถอยหนีอย่างอัตโนมัติของคนนั้นทันที จึงหยุดเดินแล้วเอ่ยถาม
“กลัวอะไรแชมป์อ่ะเต็น”
เต็นยังไม่ตอบคำถามในทันที เพราะกำลังนึกคิดในใจว่าเด็กหนุ่มอย่างแชมป์จำอะไรที่เคยทำเคยพูดได้บ้างหรือเปล่านะ ถามออกมาได้ไงว่าเขากลัวอะไร ตัวเองเคยทำอะไรไว้จำมาได้เลยหรือไงกัน
“เปล่ากลัว” ที่สุดคำปฏิเสธก็หลุดออกมาจากปากเพราะไม่อยากสาธยายอะไรในเชิงตัดพ้อหรือน้อยใจ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมานั่งแกะสะเก็ดแผลที่ใจให้ได้เจ็บขึ้นมาอีก อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันจบไป ต่อแต่นี้ก็แค่ระวังตัวเองให้มากอย่าเผลอให้คนตรงหน้าดูถูกได้อีกก็น่าจะพอ
“เปล่าแล้วถอยทำไม” แชมป์ถามเสียงดุ ถึงตอนนี้เต็นไม่เอ่ยอะไรออกมาเขาก็พอจะรู้ว่าเจ้าตัวคงยังจำการกระทำก่อนหน้าของตนได้ แต่ทำไมเขาจะต้องมาใส่ใจความรู้สึกฝ่ายนั้นด้วยล่ะ เขาไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าตัวไม่ใช่เหรอ
“ขอตัวนะ รถมาแล้ว” เต็นตัดบทเพราะไม่ต้องการอยู่สนทนาอะไรให้มากความ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการอยู่ใกล้เด็กหนุ่มตรงหน้ามากๆ อาจทำให้ใจเกิดหวั่นไหวขึ้นมาได้อีก
“เฮ้ย! เดี๋ยวดิ” แชมป์รีบเอ่ยค้านพลางรีบเดินเพื่อไปฉุดคนตรงหน้าไม่ให้เรียกรถแท็กซี่ที่กำลังวิ่งผ่านมา แต่ช้าไป เพราะตอนกำลังจะถึงตัวคนนั้นก็เรียกรถจอดได้สำเร็จพร้อมตัวร่างเข้าไปนั่งตรงเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ในนาทีที่รถเคลื่อนตัวออกไปจู่ๆ แชมป์ก็ใจหล่นวูบ เมื่อเต็นไม่แลสายมามองตนแม้สักนิด ในใจสั่งให้ต้องโทรศัพท์หาเจ้าตัวอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จะพูดอะไรด้วย แต่การจากไปแบบไร้เยื่อใยของเจ้าตัวเมื่อครู่ทำให้ความรู้สึกภายในมันร้อนรนอย่างประหลาด
หมายเลขที่ติดต่อไปไร้ซึ่งสัญญาณตอบรับอีกตามเดิม เด็กหนุ่มเรียกซ้ำอยู่หลายครั้งจนคิดว่าหมดหนทางติดต่อได้จึงถอยร่างมานั่งริมฟุตบาธด้วยความรู้สึกวุ่นวายในใจอย่างที่ไม่เคยเป็น
ทางฝั่งเต็นหลังรถแท็กซี่แล่นผ่านมาจนไกลสายตาแชมป์ เด็กหนุ่มนั่งกอดอกห่อตัวหลับตาข่มใจไม่ให้นึกถึงใบหน้าของคนที่ตนเพิ่งจากมา รวมถึงพยายามต่อต้านไม่ให้สมองคิดถึงเรื่องราวทุกอย่างที่ตนได้เคยเผชิญระหว่างที่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกตัวเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน คนที่โทรเข้ามาคือเพื่อนใหม่อย่างแม็คนั่นเอง
“หวัดดีแม็ค” เด็กหนุ่มเอ่ยทักทาย โดยพยามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด ซึ่งไม่ได้ผลเท่าไหร่นักเพราะอีกคนได้ทักกลับมาว่า
“เสียงไม่ค่อยดีเลยเต็น มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่านี่ รถวิ่งอยู่คลื่นมันขาดๆ หายๆ มั้ง” เด็กหนุ่มหาข้ออ้างมั่วๆ เพื่อให้พ้นจากการสืบถาม แต่คำอ้างนั้นกลับเป็นการชวนสงสัยยิ่งกว่าเดิม
“รถแล่นอยู่ หมายความว่าไงอ่ะ เต็นอยู่ไหนเหรอ”
“อืม นั่งแท็กซี่อยู่”
“อ้าว ไปไหนเหรอครับตะกี้แม็คไปส่งที่หอแล้วนี่”
“อ๋อ เต็นลืมไปว่าต้องซื้อยาน่ะ เลยออกมาใหม่” เต็นโกหกอีก แต่ก็ยังไม่วายโดนถามเพิ่ม
“ยาอะไรเหรอ”
“วิตามินทั่วไปแหละ แม็คอย่าสนใจเลยนะ”
“ไม่รู้ไงนึกว่าไม่สบาย ที่จริงโทรบอกแม็คก็ได้นะ แม็คแวะซื้อให้แล้วขับรถเอาไปให้ที่หอก็ได้ เต็นไม่เห็นต้องลำบากออกมาเองเลย”
เต็นนิ่งอึ้งไปสักพักเมื่อได้ฟังถ้อยคำห่วงใย รู้สึกดีขึ้นนิดๆ จากอาการเก็บกดเมื่อครู่
“ทำไมเงียบไปล่ะเต็น แล้วนี่ใกล้ถึงหอยัง” แม็คถามออกมาอีก เด็กหนุ่มจึงตอบออกมาด้วยน้ำเสียงดีขึ้น จุดประกายการสนทนาที่ราบรื่นขึ้น
“อีกนิดก็ถึงแล้ว แล้วแม็คล่ะถึงคอนโดหรือยัง”
“ถึงนานแล้วครับ ทำโน่นทำนี่เสร็จ อาบน้ำแล้วกำลังจะนอนเลยโทรมากู๊ดไนท์เต็น”
“อืม ฝันดีละกัน”
“ขอบคุณครับ แต่เปลี่ยนใจดีกว่า ไม่นอนแล้ว”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“คุยเป็นเพื่อนเต็นดีกกว่า เต็นถึงหอแล้วค่อยนอน”
“เฮ้ย ไม่เอา ไปนอนเถอะไป อย่ามาเสียเวลากะเต็นเลย”
“โห ไล่กันแบบนี้เลยเหรอครับ”
“ไม่ได้ไล่ แต่แม็คพักผ่อนน่ะดีแล้ว เพิ่งออกกำลังกายมา ท่าจะเหนื่อย”
“ไม่เท่าไหร่หรอก เล่นจนชินแล้ว วันหลังไปเล่นกับแม็คมั้ยจะได้แข็งแรง”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ได้เป็นสมาชิก”
“อยากเล่นมั้ยล่ะ เดี๋ยวสมัครให้”
“ไม่ดีกว่า รายจ่ายยังเยอะอยู่”
“โหย แม็คบอกสมัครให้ก็แสดงว่าแม็คจ่ายให้สิ”
“ตลกล่ะ เราเป็นอะไรกันแม็คถึงจะมาทำอะไรแบบนี้ให้เต็น”
“จำไม่ได้จริงเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน”
“ล้อทำเป็นล้อ”
“โทษที แล้วโกรธหรือเปล่าอ่ะ”
“ไม่หรอก แต่อย่าพูดถึงมันอีกเลยนะ”
“ได้ๆ แม็คไม่พูดแล้ว ว่าแต่สนใจจะออกกำลังกายกับแม็คมั้ย แมคสมัครให้ได้จริงๆ”
“ไม่ต้องหหรอก เกรงใจ”
“เฮ้ย เรื่องเล็ก แม็คจ่ายได้จริงๆ”
“รู้ครับว่าจ่ายได้ แต่เต็นไม่ชอบเล่นด้วยไง”
“อืม ไม่เล่นก็ไม่เล่น แต่ถ้าสนใจเมื่อไหร่ก็บอกนะ สำหรับเต็นแม็คเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องฟิตเนสก็ได้นะ ต่อไปนี้อยากทำอะไร ไปไหน บอกมาเดี๋ยวป๋าแม็คจัดให้”
“เฮ้อ แบบนี้เรียกว่าเอาเงินเข้าล่อได้ป่ะเนี่ย”
“แม็คทำได้ทุกอย่างแหละ เพื่อให้เต็นเก็บแม็คไปพิจารณาการเลื่อนขั้นจากเพื่อนไปเป็นอย่างว่า”
“อย่างว่าคืออะไร”
“ก็แฟนไงครับ”
“บอกตรงๆ นะแม็คว่าตอนนี้เต็นยังเข็ดอยู่”
“แม็คเข้าใจ อย่างน้อยตอนนี้แค่แม็คได้เป็นเพื่อนเต็น แม็คก็พอใจแล้ว ตามสบายเลยนะหากเต็นจะปรึกษา จะพูดคุย หรือจะวานให้แม็คทำอะไร หากแม็คทำได้แม็คพร้อมจะทำ”
“เฮ้อ เมื่อก่อนเขาก็เคยพูดทำนองนี้กับเต็นนะ สุดท้ายก็ นะ...”
“เขา หมายถึงคนนั้นน่ะเหรอ”
“อืม”
“เต็นยังคิดถึงเขาอยู่เหรอ”
“ช่างมันเถอะ เราอย่าพูดถึงเขาเลยนะ เต็นใกล้จะถึงหอแล้ว แม็คไปนอนเถอะ”
“ครับผม เต็นก็เหมือนกันนะ ถึงหอแล้วก็อาบน้ำนอนซะ อย่าไปนั่งคิดนอนคิดถึงอะไรที่มันปวดใจเลย”
“จะพยายามแล้วกัน แค่นี้นะ ฝันดีครับ”
“ครับ ฝันดีเช่นกัน ตื่นแล้วจะโทรหานะ”
การสนทนาจบลงเมื่อต่างฝ่ายต่างตัดสัญญาณทิ้ง รถแท็กซี่คันที่นั่งอยู่ยังขับต่อไปอีกเรื่อยๆ เต็นเอนกายพิงพนักเบาะ ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนั่งจมอยู่กับความรู้สึกตัวเอง ภาพของคนใจร้ายที่ทำให้หัวใจต้องเป็นแผลก็ลอยมาให้เห็นอีกครั้ง
ถ้อยคำดีๆ จากแม็คทำไมไม่ลบเลือนการกระทำร้ายๆ ต่างๆ จากแชมป์ได้เลยนะ...หัวใจนึกไม่เข้าใจเลยจริงๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป 

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 20-03-2011 17:02:22
+1  :กอด1: :กอด1:

อย่ากลับไปนะเต็น ชิชิ เปลี่ยนพระเอกไม่เอาอิบ้าแชมป์ละ

เห็นแก่ตัว ไร้ยางอายอ่ะ จิตสำนึกความเป็นคนต่ำมาก  :m16:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 20-03-2011 17:30:11
อยากให้เต็นมีความสุขเร็วๆจัง
สงสาร

^^
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 20-03-2011 17:43:11
ยังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-03-2011 18:01:12
ช่างเป็นพระเอกที่คนอ่านเกลียดจริงๆ
กว่าจะสร้างความดีชดเชยเนี่ยต้องใช้เวลาหน่อยนะแชมป็
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 20-03-2011 18:02:02
อยากลืมกลับจำ อยากจำกลับลืม
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 20-03-2011 18:22:31
บักแชมป์ :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-03-2011 22:48:50

 :L2:คุณบอย


 :กอด1: แม็ค
เป็นพระเอกได้มั้ยอ่ะ
 :กอด1: เต็น อย่าเข็ดกับความรักดิ


แล้วเอาไอ่แชมป์ ออกไปทิ้งนอกโลก ซะที..ซะที
 :z6:เบื่อมัน..เต็มทน


+1 ครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 20-03-2011 23:33:49
ลืมแชมป์ให้ได้นะเต็น
ถ้าแม็คมันกลับตัวกลับใจได้จริงๆก็เก็บไว้พิจารณา ค่อยๆศึกษากันไปเถอะนะ
จะได้มีความสุขซะทีเนาะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-03-2011 23:49:23
รุกเร็วดีเว้ยเจ้าแม็ค o13น้อง



ลุ้นเจ้าแม็คดีกว่า  เอาแค่ลุ้นนะยังไม่ให้เอาจริงๆเดี๋ยวจะเหมือนไอ้ตัวก่อนหน้านี้



แมร่งเสียเวลาลุ้นไอ้เชรี่ยแชมป์มาสุดท้ายโคตรเลวในความรู้สึก :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: YourSister ที่ 22-03-2011 00:23:46
 :เฮ้อ: แน่นะว่า  love story ของเท็น กับ แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 23-03-2011 14:06:28
ตอนที่ 22

วันใหม่เต็นได้รับการติดต่อจากนพว่าว่างจะเจอกันหรือไม่ เพราะซื้อของจากประเทศที่ไปดูงานมาฝาก
“นพไปต่างประเทศมาเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม ได้คำตอบว่าใช่กลับมาจึงเข้าใจถึงสาเหตุที่ตนติดต่อฝ่ายนั้นไม่ได้
“ขอโทษที่ไปไม่บอกนะ งานด่วนนะ” นพบอกออกมา ช่วงเวลาที่ลดความสัมพันธ์จากคนรักมาเป็นเพื่อนกับเต็นยอมรับว่าบางทีก็รู้สึกเหงาเพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้รับรู้ เพราะที่ผ่านมาก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ปล่อยให้เวลาของหน้าที่การงานมาพรากเอาเวลาส่วนตัวที่ตนเคยมีให้คนๆ นี้จนเกิดการเข้าใจผิด และแตกหักตอนที่มีมือที่สามเข้ามาแทรก เต็นเป็นคนขี้เหงาข้อนี้ชายหนุ่มรู้ดี การเอาชนะใจคนๆ นี้ตอนเรียนด้วยกันก็เพราะการเช้าถึงเย็นถึง เชื่อเหลือเกินว่ามือที่สามที่เข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์ของตนกับเต็นคงจะเอาอกเอาใจเต็นอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคนๆ นี้คงไม่หลงรักง่ายดายขนาดตัดสินใจบอกเลิกตน  ตอนนี้แม้เต็นจะเลิกรากับคนๆ นั้นไปแล้วแต่หัวใจก็ยังไม่พร้อมที่จะทวงคืนความสัมพันธ์ฉันคนรักดังแต่ก่อน เพราะปล่อยเวลาให้เดินของมันไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการคอยดูแลเอาใจใส่คนๆ นี้เพื่อทดแทนการที่ตนเคยหายไปอย่างนี้มันก็ดีอยู่ เรื่องของอนาคตหากว่ากามเทพจะนำพาให้กลับมาคบกันอีกครั้งก็ค่อยว่ากันไป
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนพ แล้วนี่เพิ่งกลับมาเหรอ” เต็นเอ่ยสนทนา รู้สึกดีอยู่บ้างที่เห็นนพเป็นนพคนเดิมที่คอยใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็นั่นล่ะ สายน้ำมันไม่เคยไหลวนกลับ การเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กันและกันกับฝ่ายนั้นก็ไม่เลวร้ายอะไรนัก
“อืม เนี่ยซื้อของมาฝากเต็นด้วย ว่างตอนไหนอ่ะ เจอกันมั้ย กินข้าวดูหนัง หรืออยากไปไหนเต็นบอกเลย” ตอบคำถามเสร็จนพจึงเอ่ยชวนคนรักเก่าไปในที่ซึ่งนานแล้วที่ไม่ได้ไปด้วยกัน
“แล้วนพไม่ทำงานเหรอ” เต็นถามก่อนตัดสินใจตอบรับ เพราะนึกเกรงใจ
“วันนี้ลาน่ะ เหนื่อย”
“อ้าว เหนื่อยแล้วชวนเต็นไปเที่ยวเนี่ยนะ”
“เที่ยวกับทำงานมันไม่เหมือนกันนี่นา ว่าแต่เต็นว่างมั้ยล่ะ ยังไม่ตอบนพเลย”
“เรียนเสร็จเต็นก็ว่างอยู่แล้ว”
“เสร็จกี่โมงอ่ะ เดี๋ยวนพแวะไปรับ แล้วค่อยคิดกันอีกทีว่าจะไปไหน”
“อืม บ่ายๆ น่ะ”
“งั้นเจอกันที่มหา’ ลัยนะ ไปถึงแล้วนพจะโทรหา”
“อืม งั้นตอนนี้ก็พักผ่อนก่อนเถอะ เต็นจะออกไปเรียนแล้ว”
“โอเค เจอกันตอนเย็นนะ ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ครับ”
สองคนจบการสนทนาลงแค่นั้น เต็นยังไม่ทันได้วางโทรศัพท์จากมือเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นใหม่ คราวนี้เป็นแม็คที่ติดต่อมา เด็กหนุ่มนิ่งคิดสักพักจึงกดรับสัญญาณ
“ว่าไงแม็ค”
“เต็นทำอะไรอยู่อ่ะ”
“กำลังจะออกไปเรียน”
“เหรอ แล้ววันนี้ว่างมั้ยเจอไปป่าวอ่ะ”
“อืม ไม่ว่างอ่ะ”
“ว้า แย่จัง แต่ไม่เป็นไร ไว้วันหลังก็ได้ ตอนนี้แม็คก็กำลังจะไปเรียนเหมือนกัน เลยโทรมาหาเต็นก่อน เพราะถึงมหา’ลัยแล้วคงไม่สะดวกโทรหา”
“ไม่เป็นไร เต็นไม่ซีเรียส ว่างๆ ค่อยโทรก็ได้”
“ไม่ได้หรอกเดี๋ยวคะแนนตก”
“พูดไปนั่น เออว่าแต่แม็คเรียนที่ไหนอ่ะ คุยกันมาจนป่านนี้ยังไม่รู้เลย”
“หอการค้าน่ะจะจบแล้วแหละ”
“อืม งั้นเดี๋ยวเต็นขอตัวก่อนนะ”
เต็นวางสายไปเมื่อเอ่ยจบ นิ่งคิดว่าโชคชะตาจะเล่นตลกอะไรกับตนอีก ทำไมสองคนเมื่อครู่ถึงได้คอยเอาใจตนขนาดนี้ แล้วอีกคนล่ะ ป่านนี้จะเป็นยังไง จะรู้สึกอะไร แล้วจะคิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงอยู่ตอนนี้หรือเปล่า

*********************************************************************************

“ฮัดเช้ย!” แชมป์จามออกมาตอนนั่งอยู่บนรถเมล์ปรับอากาศขณะนั่งไปมหา’ลัย เสียงใสของดีเจวิทยุคลื่นที่ถูกเปิดอยู่บนรถเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริงว่าคนเราหากจามโดยไม่รู้สาเหตุ หรืออยู่ดีๆ ก็จามอาจมีคนกำลังคิดถึง เด็กหนุ่มอมยิ้มนึกตลกที่จังหวะการพูดของดีเจนั่นมันช่างสอดคล้องกับอาการตน แต่ใครล่ะจะมาคิดถึงเขา คนรักเก่าอย่างมิวเหรอ ไม่หรอกมั้ง ป่านนี้คงกำลังสวีทหวานอยู่กับนายเอกนั่นแหละ

คนหนึ่งอยากจะรู้ อีกคนไม่อยากให้ถาม
คนหนึ่งคอยวิ่งไล่ตาม อีกคนก็เดินหนีไป
คนหนึ่งคอยตรงนี้ อีกคนไปอยู่ที่ไหน
คนหนึ่งบอกว่าเหงาใจ อีกคนว่าน่าระอา

คนหนึ่งอยากไปหา อีกคนก็กลับห่างเหิน
คนหนึ่งอยากนั่งใกล้ๆ อีกคนไม่ยอมสบตา
คนหนึ่งโทรทุกครั้ง อีกคนไม่เคยโทรหา
คนหนึ่งแบกรักเต็มบ่า อีกคนไม่แคร์อะไร

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง

คนหนึ่งบอกว่ารัก อีกคนไม่อยากจะรู้
คนหนึ่งยังเหมือนเดิมอยู่ อีกคนทำไมเปลี่ยนไป
คนหนึ่งห่วงเสมอ อีกคนหนึ่งห่วงอยู่ไหม
คนหนึ่งยังนั่งร้องไห้ อยากรู้หัวใจอีกคน

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง

คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
คนหนึ่งทำแทบทุกอย่าง อีกคนไม่เคยสนใจ
คนหนึ่งคิดถึงกัน อีกคนหนึ่งคิดถึงใคร
ขณะคนหนึ่งรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง



เสียงเพลงดังออกมาจากคลื่นวิทยุคลื่นเดิม เนื้อหาในเพลงที่ถูกถ่ายทอดออกมาทำเด็กหนุ่มหยุดฟังแล้วคิดตาม ช่วงเวลานั้นใบหน้าของคนๆ หนึ่งที่ตนเคยทำร้ายจิตใจลอยมาในมโนภาพ จู่ๆ ภายในใจก็เกิดสะท้านอย่างประหลาด เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา
“ขณะที่ฉันรักมากมายแต่ทำเธอน้อยลง
เนื้อหาท่อนสุดท้ายของเพลงจบลง แชมป์ยกมือขึ้นลูบหน้าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เต็นแสดงท่าทีหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้ตนอย่างเห็นได้ชัด
โทรศัพท์ถูกหยิบขึ้นมาดูนึกอยากจะติดต่อไปให้ได้ยินเสียงคนๆ นั้น แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจเพราะหมายเลขโทรศัพท์ของฝ่ายนั้นที่ตนมีอยู่คงเป็นหมายเลขเก่า
“นายจะคิดถึงฉันเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าเต็น” ที่สุดเด็กหนุ่มก็หลุดถ้อยคำนี้ออกมา เมื่อนึกถึงตอนที่ตนไปเห็นเต็นนั่งพูดคุยหยอกล้อกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งในร้านอาหารฟ้าสฟูดส์แถวหอพักเจ้าตัว

************************************************************************************

ภายในโรงอาหารตอนเที่ยงเต็นเดินไปหยุดอยู่ที่ร้านขายราดหน้า ไม่ต่างจากแชมป์ที่กำลังยืนอยู่ร้านขายอาหารชนิดนี้เช่นกัน เพียงแต่ต่างคนต่างอยู่คนที่เท่านั้น สิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างคือทั้งสองต่างตัดสินใจสั่งราดหน้ามาเป็นอาหารกลางวัน
แชมป์ยังไม่จัดการกับจานราดหน้าตรงหน้าในทันที เด็กหนุ่มนั่งจ้องมันสักพักเมื่อนึกถึงวันที่ตนได้หิ้วไปฝากคนที่ต้องล้อเล่นกับความรู้สึก นึกแปลกใจที่วันนี้ตัวเองเป็นอะไร ภาพวันเวลาเก่าๆ  ที่ตนเคยล้อเล่นกับหัวใจเต็นตามมาหลอกหลอนจนเรียนไม่รู้เรื่องแล้วตั้งแต่คาบเช้าพอก้าวเข้ามาในโรงอาหารในตอนเที่ยง ก็ยังไม่วายที่จะมานั่งคิดถึงเจ้าตัวอีก
ทางฝั่งเต็นเองก็เช่นกันซึ่งตอนนี้ก็กำลังนั่งโกรธตัวเองที่ไม่ยอมลืมใบหน้าคนใจร้ายอย่างแชมป์ได้ง่ายๆ เด็กหนุ่มเลื่อนจานราดหน้าออกไปไกลตัวเมื่อรู้สึกกินไม่ลงขึ้นมาเสียดื้อๆ พอๆกับแชมป์ที่ตัดสินใจลุกหนีจากโรงอาหารเพราะไม่อาจตัดอาการว้าวุ่นในใจทิ้งไปได้
ใต้ร่มไม้ใหญ่ของสองมหา’ลัยกลายเป็นที่นั่งทอดถอนใจของคนสองคน เวลาผ่านไปสักพักต่างฝ่ายต่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ในมือ แชมป์นึกอยากจะให้เต็นติดต่อหาตนอีกสักครั้ง ในขณะที่เต็นพยายามหักห้ามใจไม่ให้อ่อนไหวและอ่อนแอแม้ว่าเกิดนึกอยากจะรับรู้ความเป็นไปของคนที่กลับมาทำให้ความรู้สึกไหวเอน
คล้อยบ่ายใกล้เวลาเลิกเรียน เต็นได้รับการติดต่อจากนพว่ากำลังเดินทางมารับ เด็กหนุ่มนั่งรอฝ่ายนั้นภายในมหาวิทยาลัยกระทั่งพบกันจึงตัดสินใจเลือกที่จะไปดูหนังภายในห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งที่แห่งนั้นแชมป์เองก็มาเดินเล่นพร้อมกับกลุ่มเพื่อนร่วมก๊วนเช่นกัน
แชมป์เดินเงียบๆ ตามหลังเพื่อนไปตามลำพังเพราะตั้งแต่คล้อยบ่ายจนเย็นย่ำแล้วที่จิตใจยังคงวนๆ เวียนอยู่กับความคิดที่ว่าเมื่อไหร่เต็นจะติดต่อหาตน ระหว่างเดินเด็กหนุ่มพลันชะงักกับเสียงเรียก
“เฮ้คุณ”
สายตาหันไปมองตามเสียงเรียก ถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นเป็นใครคนหนึ่งที่แสดงท่าทีสนใจตนตอนอยู่ร้านเหล้าเมื่อวันก่อน
กายเดินให้เร็วขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่ตนนึกชอบเข้าแล้วกำลังจะเดินหนีไปไปหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่เดินนำหน้าอยู่
“รอเราก่อนสิ จะรีบไหน” เด็กหนุ่มส่งเสียงเรียกทักด้วยสรรพนามที่ดูเป็นกันเองมากขึ้น  พร้อมกับรีบวิ่งไปฉุดแขนคนที่กำลังเดินหนีไว้
“เฮ้ย ปล่อย” แชมป์หันมาสะบัดแขนออก นึกฉุนเพื่อนทั้งกลุ่มที่เดินลิ่วๆ เฮฮากันไปจนไกลตน
“โหยจับแค่นี้ทำสะบัด” กายออกอาการวีนหน่อยๆ นึกไม่พอใจที่โดนกระทำใส่เช่นนี้ มีดรีกรีเป็นถึงเกย์หนุ่มน้อยขายดีในที่เที่ยว โดยสะบัดแขนแบบนี้รับได้ที่ไหน
“ขอโทษนะพวก เราไม่รู้จักกันว่ะ” แชมป์เอ่ยออกไปอย่างไม่สนใจอาการวีนที่เห็น กำลังจะก้าวเดินหนีแต่ก็โดนจับเอาไว้ใหม่
“เราชื่อกาย นายล่ะ” กายเอ่ยแนะนำตัว มองจ้องตาหวังหว่านเสน่ห์ให้อีกฝ่ายสนใจ
“ไม่ได้ถาม ปล่อย” แชมป์เอ่ยขึ้นอีกพร้อมสะบัดแขนรอบใหม่จนหลุด แล้วรีบเดินหนีแต่พลันต้องชะงักเท้าไว้อีกเมื่อสายตามองเห็นร่างคนคุ้นตากำลังยืนอยู่ตามลำพังตรงมุมหนึ่งใกล้ๆ บันไดเลื่อน
“เต็น” เด็กหนุ่มหลุดปากเอ่ยชื่อนั้น รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นที่มุมปากที่บังเอิญได้พบคนที่ทำจิตใจว้าวุ่นตั้งแต่เช้า สองขากำลังจะรีบเดินไปหาเจ้าตัว แต่แล้วต้องหยุดความคิดเอาไว้เมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ตนไม่เคยรู้จักเดินมาโอบคอคนนั้นเดินไปทางอื่น
แชมป์มองภาพเต็นที่โดนใครหนึ่งโอบคอเดินไปจนลับสายตา ผู้ชายคนนั้นเป็นคนละคนกับที่ตนเคยเห็นในร้านอาหารฟาสฟู้ดส์ นี่มันอะไรกัน ตกลงตอนนี้เต็นคบกับใครอยู่กันแน่ นี่น่ะหรือคนที่ครั้งหนึ่งเคยร้องห่มร้องไห้เสียใจจะเป็นจะตายเพราะการกระทำของตน เหตุการณ์ผ่านมาไม่กี่เดือนทำไมถึงได้ควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้าแบบนี้ มิน่าล่ะถึงไม่คิดหวั่นไหวกับตนง่ายๆ อีกตอนเจอกัน ขอตามไปดูหน่อยเถอะ ดูซิจะทำหน้ายังไงหากเห็นตนตามไปเจอพฤติกรรมควงคนนั้นทีคนโน้นทีแบบนี้ เด็กหนุ่มออกเดินไปทางที่ร่างของเต็นเดินหายไป โดยไม่รู้ว่าข้างหลังตนคนชื่อกายก็กำลังเดินตามเช่นกัน
“เต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อเมื่อตามไปทันร่างนั้น
“แชมป์” เต็นครางชื่อของคนที่เรียกตนเมื่อหันมาเห็นเจ้าตัวยืนหน้านิ่งมองอยู่
“ใช่ แชมป์เอง แล้วนี่มากะใคร” แชมป์เอ่ยออกไปไล่สายตาไปมองใครอีกคนที่มองจ้องตนเช่นกัน
นี่เหรอนายแชมป์ นพนึกคิดในใจตอนมองเห็นรูปร่างและใบหน้าอันโดดเด่นของคนตรงหน้า ไม่นึกแปลกใจเลยว่าทำไมเต็นถึงได้เคยเป็นบ้าเป็นหลังเพราะคนๆ นี้ ยอมรับว่าเจ้าตัวดูดีเกินกว่าวัยรุ่นธรรมดาทั่วๆ ไปอยู่หลายช่วงตัว
“ถามเหมือนหึงเลยนะนาย” ชายหนุ่มเอ่ยยั่วเล่นๆ เมื่อนึกถึงการกระทำแย่ๆ ของเจ้าตัวที่เคยทำให้คนรักเก่าของตัวเองเกือบเสียผู้เสียคน
“พูดดีๆ นะโว้ย ใครหึงใคร” แชมป์รู้สึกอายที่โดนยั่วแบบนั้นจึงเอ่ยว่าเสียงดุ เต็นกลัวจะมีใครได้ยินและมาเห็นเหตุการณ์จึงคิดชวนนพไปทางอื่น แต่แล้วต้องชะงักกับคำกระทบจากแชมป์
“เก่งนะเต็นควงคนนั้นทีคนนี้ที”
“จะเข้าใจว่าอย่างนั้นก็ตามใจนะแชมป์” เด็กหนุ่มหันมาบอกคนเอ่ยกระทบนิ่งๆ มองลึกเข้าไปในแววตาเจ้าตัวดั่งต้องการค้นหาคำตอบว่าที่เจ้าตัวเข้ามาทักตนเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่
“ถ้าไม่ให้แชมป์เข้าใจว่าแบบนี้จะให้แชมป์เข้าใจว่าไง เมื่อวานก็ไปนั่งหยอกล้อกับอีกคนหนึ่ง วันนี้ก็มาเดินเล่นกับอีกคนหนึ่ง” แชมป์หลุดปากกว่าดั่งคนกำลังตัดพ้อ เต็นอยากจะคิดเช่นนั้น แต่การกระทำที่ผ่านมาของเจ้าตัวทำให้ไม่สามารถคิดเข้าข้างตัวเองได้อีก
“เต็นมันก็เหลวไหลแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่แชมป์ ขนาดมีแฟนเป็นตัวเป็นตนยังเคยคิดนอกใจไปคบกับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน การที่แชมป์เห็นเต็นควงคนนั้นทีคนนี้ทีมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก” เด็กหนุ่มเอ่ยตัดบทแล้วเดินหนีไปทันที ไม่สนใจว่าคนที่ฟังกำลังยืนจุกอกกับสิ่งที่ได้ยิน
นพมองร่างแชมป์ที่ยืนนิ่งงันแอบพอใจเล็กๆ ที่เห็นเจ้าตัวคล้ายๆ พูดอะไรไม่ออก แต่แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นร่างนั้นออกวิ่งตามร่างคนรักเก่าของตนไป พร้อมๆ กับฉุดมือฝ่ายนั้นเอาไว้เมื่อไปถึงตัว แล้วเอ่ยขึ้นเสียงดุดังจนตนได้ยินด้วย
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อนเต็น”

โปรดติดตามตอนต่อไป

ยอมรับว่าฉันนั้นท้อ
กับการต้องรอเรื่อยไป
โดยไม่เห็นอะไรนอกจากน้ำตา
วันนั้นที่ฉันสับสน
เขาเป็นคนยื่นมือเข้ามาฉันจึงคว้า
คว้าเอาไว้ด้วยความจำเป็น

อยากทำตามสัญญา
อยากรักษามันไว้ รักษาไม่ไหว
ฉันทำไม่ได้จริง ๆ

อยากกล่าวหาว่าฉันหลายใจ
อยากโทษอะไรก็ตาม เกลียดกันเหอะ
ถ้าหากมันทำ ให้เธอสาสมใจ
คนที่เหงาที่ทุกข์ที่ทน
เธอเรียกว่าคนหลายใจ
ถูกแล้วใช่ไหม มันถูกแล้วใช่ไหม
อยากรู้จริง ๆ

เธอทิ้งฉันไว้เฉย ๆ
ไม่เคยมาแคร์สักวัน
เขาเท่านั้นที่คอยปลอบโยนหัวใจ
ให้รอเธอเดินกลับมาพูดคำลาก็คงสายไป
ฉันต้องขอทรยศสัญญาเก่าๆ

อยากทำตามสัญญา
อยากรักษามันไว้ รักษาไม่ไหว
ฉันทำไม่ได้จริง ๆ

คนที่เหงาที่ทุกข์ที่ทน
เธอเรียกว่าคนหลายใจ
ถูกแล้วใช่ไหม มันถูกแล้วใช่ไหม
อยากรู้จริง ๆ

เธอจะทวงอะไร
ก็แค่หัวใจที่เธอทิ้งวันก่อน
ไม่ได้คิดอะไร แค่คิดว่าเธอหมดใจแล้ว

คนที่เหงาที่ทุกข์ที่ทน
เธอเรียกว่าคนหลายใจ
ถูกแล้วใช่ไหม มันถูกแล้วใช่ไหม
อยากรู้จริง ๆ
จะโกรธฉัน จะเกลียดฉัน แต่คนที่ผิดจริงนั้นเธอรู้ว่าใคร

http://youtu.be/zMIYrXr4OAI



หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 21 A Time for Us : 20.03.5
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 23-03-2011 14:14:11
ไม่ชอบไอ้แชมป์เลยอ่ะ
ไปไกลๆเลยไป๊ ชิ้วๆ
มองเต็นในแง่ไม่ดีตลอดอ่ะ :m16:
แล้วม่ะไหร่เต็นจะเลิกอ่อนไหวซะทีนิ :เฮ้อ:
เชียร์นพ กับแม็ค ได้มั้ยนิ
ถึงจะรู้แก่ใจว่าพระเอกคือไอ้แชมป์ก็เหอะ
แต่ตราบใดที่มันไม่เจ็บมากกว่าเต็นก็ไม่ยอมรับหรอกว่าจะเป็นพระเอกอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-03-2011 14:43:17
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆตัดฉับเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-03-2011 15:13:18
จะเอายังไงก็แน่แชมป์
ไหนตอนนั้นบอกตัดความสัมพันธ์
บอกไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ เกลียดกันขนาดนั้น แค่เล่นสนุก'

แล้วตอนนี้มาทำท่าทางแบบนี้
ไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหรอ

โธ่เว้ยย !! แม่งเหอะ หมั่นไส้วะ  :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 23-03-2011 16:27:35
กรี๊ดดดดดดขอบคุณค่า
มาต่อสองเรื่องควบแบบนี้
คืนนี้หนูนัตหลบฝันดีแน่
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 23-03-2011 16:57:06
เกลียดมันนนนนนนนนนนนนนนน :m31: :m31: :m31: :m31:

ไอ้แชมป์นิสัยเสีย

เต็นอย่าไปใจอ่อนกับมันน้า



สู้ๆจ้า :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 23-03-2011 18:13:10
ไอ้ควาย :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-03-2011 19:10:29
ช่วยเอากายไปทิ้งไกลๆ
ทำไมให้ความรู้สึกว่ามันจะมาเป็นตัวสร้างปัญหายังไงไม่รู้
ส่วนระหว่างเต็นกับแชมป็กำลังเขาสู่โหมด love story แล้วใช่ป่าวคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 23-03-2011 19:57:31
เอาล่ะ เรื่องนี้จะ love story
หรือ mama story กันแน่   555

เอาใจช่วยน้องเต็น สู้ต่อไปน่ะจ่ะ
อย่าไปใจอ่อนง่าย ๆ แบบนี้ต้องเอาคืน
จัดเต็มอย่างเดียว

รอตอนต่อไปจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-03-2011 20:06:53
 :L1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Isomer005 ที่ 23-03-2011 22:01:01
อารายยยย :serius2:
 แชมป์อย่าสับสนนานนะ เพราะฉันนั้นลุ้นอยู่
นี่ถ้าไม่มีชื่อเรื่องจั่วหัวไว้ ฉันจะเกลียดเธอตลอดไป นะแชมป์ ชิ๊

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 23-03-2011 22:13:30
ไอ้บ้าแชมป์  นิสัยอ่ะ  :angry2:
แน่ใจนะว่าเนี่ย พระเอก  :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 23-03-2011 22:17:22
:serius2:  เต็นอย่าใจอ่อนนะ 

 :L2:  ขอบคุณจ้า & รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-03-2011 22:19:05

เชียร์ยังไง ก็เชียร์ไม่ขึ้น
เหอะ ทั้งแม๊ค และ นพ

ปล่อยให้เฮียแชมป์ เค้าเป็นพระเอก
คนเดียวต่อไป หุหุ

เต็น...เฮ้ออออออ จำเลยร้ากกกกก


ขอบคุณครับ คุณบอย
ฟึ๊ดดด ฟืดดดดด
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Gunung ที่ 23-03-2011 23:14:27
รักสามเศร้า สี่เศร้าว่ากันไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 24-03-2011 02:45:30
ต่อบ่อยๆ เค้าชอบใจ เกลียดแชมป์ว่ะ รู้ไว้ซะชีอ่ะ ฮ๊อตตตตต!!!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-03-2011 15:41:29
เลวเสมอต้นเสมอปลาย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-03-2011 15:11:08
อ่านตอนแรกรู้สึกสงสารเต็นนะ
อ่านกลางๆ สงสารเต็นมาก
อ่านท้ายๆสงสารเต็นมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้แชมป์แม่งเลวดีจริงๆ
เพิ่งได้ตามอ่าน 55+ จริงๆเจอเรื่องนี้ผ่านๆตา แต่ยังไม่กดเข้ามา เพราะยังรันทดกับชีวิตของอิทธิอยู่
พอมาอ่านเรื่องนี้ปุ๊บ อิทธิเจอน้อยกว่าเยอะ เหอๆ
อยากให้เต็นคู่กับนพอีกครั้งจัง ไอ้แชมป์น่ะ น่าจะเจอกรรมตามสนองเร็วๆ นี่ยังไม่พอหรอก ต้องจัดหนักเลยคนนี้ ไม่ไหวจริงๆ
ติดตามจ้า^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-03-2011 15:44:37
อยากอ่านตอนที่แชมป์โดนหนักๆบ้าง
ช่วงนี้แม้เต็นจะมีทั้งแม็ค ทั้งนพคอยให้ความใส่ใจ แต่เต็นก็ยังเจ็บอยู่เหมือนเดิม
แชมป์มันไม่เห็นจะเจ็บอะไรเลย คนที่ล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นน่ะ
มันน่าจะโดนให้หนักๆ จะได้สำนึกบ้าง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 25-03-2011 15:59:34
แหม แชมป์ นี่เป็นพระเอก ที่ประชาชนพร้อมใจกันเกลียด จังนะ

เอาไปเลย รางวัลพระเอกที่คนกดโหวตเกลียดมาก ที่สุด
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 22 A Time for Us : 23.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 27-03-2011 05:04:32
ตอนที่ 23
“ปล่อยแขนเต็นนายแชมป์” นพเดินไปออกคำสั่ง เมื่อเห็นท่าทีตกใจของเต็น
“เป็นใครถึงมาสั่งผม” แชมป์หันมาถาม นพกำลังจะแนะนำตัวแต่เต็นชิงเอ่ยแย้ง
“เขาเป็นเพื่อนเต็นน่ะ จะคุยกับเต็นไม่ใช่เหรอ คุยดิ แต่ปล่อยแขนก่อนนะ”
“ไม่ใช่ตรงนี้” แชมป์เอ่ยบอก เพราะนึกอยากคุยกับคนตรงหน้าสองต่อสองมากกว่า
“ถ้างั้นก็คงไม่ได้คุยแล้วล่ะ เพราะเต็นคงไม่สะดวกไปคุยที่อื่น” เต็นปฏิเสธเพราะนึกเกรงใจคนที่มาด้วย เด็กหนุ่มเครียดหน่อยๆ กับแววตาคล้ายคนไม่พอใจของแชมป์ ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยบอกเสียงแข็งด้วยสรรพนามใหม่
 “นายกล้าปฏิเสธฉันเหรอเต็น”
“นายก็เห็นนี่ว่าเรามากับเพื่อน” เต็นอธิบาย โดยใช้สรรพนามใหม่เช่นกัน
แชมป์หันมองหน้าอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ตัว เริ่มมองพินิจบุคลิกและการแต่งตัวสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างจึงเปรยขึ้น
“คืนดีกันแล้วเหรอ”
เต็นกับนพมองหน้ากันเมื่อฟังประโยคที่หลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า ทั้งสองแสดงท่าทีไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ แชมป์จึงเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นจริง เด็กหนุ่มปล่อยแขนของคนที่ตนจับอยู่ลงช้าๆ รู้สึกใจกระตุกอย่างประหลาดเมื่อชายหนุ่มที่ตนคิดว่าเป็นคนรักเก่าฝ่ายนั้นเดินไปโอบไหล่คนๆ นั้นไว้แล้วเอ่ย
“แล้วนายยังคิดจะเข้ามาเป็นมือที่สามอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ”
“นพ”
เต็นครางเรียกชื่อคนโอบไหล่ เห็นสายตาเยาะหยันที่เจ้าตัวส่งให้อีกคนแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
“อย่าเพิ่งดีใจไปหน่อยเลยครับ แฟนคุณเคยใจง่ายยังไงต่อไปแม้ผมไม่เข้ามาแทรกกลางก็คิดเหรอว่าเขาจะไม่ไปหลงลมปากผู้ชายที่ไหนอีก คนนิสัยมักมากแบบนี้หลุดจากชีวิตผมไปน่ะถือว่าเป็นบุญผมแล้วล่ะ ขอให้โชคดีละกันดูแลเขาดีๆ ล่ะ เป็นไปได้ใช้โซ่ล่ามไว้เลยก็ดีนะ จะได้ไม่ไปควงคนนั้นทีคนนั้นทีประจานการส่ำส่อนของตัวเอง” แชมป์เอ่ยว่าทันควันเมื่อเห็นท่าทีและสีหน้าเยาะหยันของชายหนุ่มชื่อนพ ที่ต้องใช้คำรุนแรงขนาดนั้นเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกตัวเองทั้งวูบไหวที่เห็นสองคนคืนดีกัน ทั้งโกรธเกลียดที่ตัวเองถูกมองด้วยแววตาเยาะหยัน ร้ายกว่านั้นคือคิดว่าคนอย่างเต็นมารยาน่าจะพอตัวไม่อยากนั้นคงไม่ควงคนนั้นที คนนี้ทีอย่างที่เห็น เด็กหนุ่มนึกพาลไปว่าตอนที่คนๆ นี้ร้องให้จะเป็นจะตายเพราะตนคงเป็นแค่ละครหนึ่งฉากที่เรียกร้องความสนใจจากตน ลับหลังพอปาดน้ำตาเสร็จคงไประเริงรักกับคนมากหน้าหลายตาอยู่เป็นแน่
เต็นกลืนก้อนสำลักลงอกหลังฟังคำต่อว่าจากปากคนเคยรู้จักจบ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงกับการโดนตราหน้าว่าเป็นคนมักมากแบบนี้ ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างมันพาให้คนพูดคิดไปเช่นนั้น คนไม่รักดีอย่างเขาสมควรแล้วล่ะที่จะต้องโดนด่าว่าแรงๆ แบบนี้ คงไม่ใช่เฉพาะเด็กหนุ่มที่ตัวเองหลงไปติดพันทั้งๆ ที่มีคนรักอยู่จะคิดแบบนี้แค่เพียงคนเดียวหรอก หากคนทั้งโลกรับรู้เรื่องราวความเหลวไหลของเขาจะมีใครสักกี่คนกันที่จะไม่ต่อว่าและสงสารในความหลงผิดที่กระทำ สิ่งที่เกิดขึ้นเด็กหนุ่มถือว่ามันเป็นตราบาปในใจที่คงไม่มีคำแก้ตัวใดๆ มาลบล้างให้ใครๆ เข้าใจและมองลึกถึงจิตใจที่เคยดีงามและซื่อสัตย์ต่อคนรักของตัวเองได้ แต่ช่างมันเถอะนะ อดีตมันก็คืออดีตใครที่ไหนจะวกกลับไปแก้ไขได้ อนาคตต่างหากที่ควรจะใส่ใจแม้ว่าภายในใจจะมีปมเกิดขึ้นแล้วว่าเคยเป็นคนมักมาก ไม่รักดี ทำตัวชั่วช้า หรือน่าแขยงจนใครๆ ก็นึกอยากสมน้ำหน้ามากว่าสงสารก็ขอสัญญาว่าจะก้าวเดินต่อไปอย่างคนมีสตินับจากวินาทีนี้
“คุยกันอยู่เหรอครับสีหน้าแต่ละคนเครียดจัง” เสียงดังทักมาทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบของคนสามคน เสียงนั่นเป็นเสียงของกายซึ่งเรียกสติคนทั้งสามได้ดี เต็นรีบกะพริบตาถี่ๆ ไล่หยดน้ำตาที่เอ่อซึมอยู่ให้พ้นไปจากขอบตา อาการนั่นแชมป์สังเกตเห็น นึกเสียใจเมื่อคิดว่าคำพูดตนน่าจะรุนแรงมากไป แต่ยังไม่ทันทำอะไรก็เห็นอีกคนที่ยืนคู่กันเอ่ยปลอบพลางใช้มือเช็ดน้ำตาฝ่ายนั้นให้เห็น
“ไม่เอาเต็น อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านมันไปอย่าขี้แยดิ”
“เต็นขอโทษนพ เต็นขอโทษ” ถึงตอนนี้เต็นถึงกับเก็บกลั้นอาการอ่อนแอเอาไว้ไม่ไหว จากที่นึกน้อยใจในคำพูดที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนมักมาก และการคิดมากว่าคงไม่มีใครเข้าใจและเห็นใจตนพอโดนคำปลอบโยนจากคนข้างตัวน้ำตาเด็กหนุ่มไหลอาบเป็นทางเต็มสองแก้มพร้อมอาการสะอื้นตัวโยนจนคนปลอบใจต้องรีบดึงตัวมากอดซบ
“ไม่เอาเต็นอายเขาอย่าร้องๆ นพอยู่นี่แล้ว ใครจะว่าอะไรก็ช่างเอาเป็นว่านพเข้าใจเต็นนะ อย่าร้อง อย่าร้อง”
แชมป์เบือนหน้าหนีจากภาพที่เห็น นึกไม่ถึงว่าคำพูดตนจะทำให้คนเช่นเต็นจะร้องไห้ได้มากมายขนาดนี้ อยากที่จะเอ่ยขอโทษอยู่เหมือนกันแต่ติดที่ว่าภาพคนรักเก่าฝ่ายนั้นกำลังปลอบโยนเจ้าตัวอยู่จึงไม่รู้จะเอ่ยแทรกได้ตอนไหน
“โอ๊ะ โอ มาดราม่าอะไรกันในห้างล่ะเนี่ย แต่นั่นมัน” กายเอ่ยว่าตอนแรกก่อนจะใช้มือชี้ไปยังร่างของคนที่ตัวเองคุ้นหน้าเหลือเกิน แชมป์เห็นอาการจึงหันมองถามขึ้น
“นั่นมันอะไร”
“เราคุ้นว่ะว่าเคยเห็นหน้านายที่ร้องไห้นั่นที่ไหน”
คำพูดของกายทำแชมป์หันกลับไปมองร่างเต็นอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ได้สงบอาการร้องไห้ได้บ้างขณะผละร่างออกจากคนรัก เด็กหนุ่มสะท้านใจตอนที่เจ้าตัวหันมาประสานสายตาด้วย
เต็นมองสบตาคนตราหน้าว่าตนมักมากชั่วแวบก่อนจะหันไปมองอีกคนที่ยืนอยู่คู่กัน จำได้ว่าเป็นคนรักเก่าของเพื่อนใหม่อย่างแม็ค อารมณ์ตอนนี้กำลังหดหู่เกินจะสงสัยว่าเจ้าตัวมาอยู่นี่ได้ไง จึงละสายตาหนีจากร่างนั้นตอนเจอรอยยิ้มเยาะหยันส่งกลับให้ เด็กหนุ่มหันกลับมาชวนคนข้างตัวเดินจากไปจากตรงที่ยืนอยู่
“เต็น” แชมป์เอ่ยตามหลังเบาๆ เมื่อเห็นสองคนเดินคู่กันไปแล้ว ภาพที่เจ้าตัวร้องไห้เป็นเขื่อนแตกเมื่อครู่ฉายชัดให้รู้สึกจี้ดในใจขึ้นมา แต่ก็จนปัญญาที่จะเดินตามเจ้าตัวไป เมื่อนึกถึงคำพูดของนพ
“แล้วนายยังคิดจะเข้ามาเป็นมือที่สามอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ”

*******************************************************************

หลังจากร่างสองร่างเดินลับสายตาไปแล้ว แชมป์เดินเล่นภายในห้างๆ นั้นอย่างเลื่อนลอย ในสมองมัวคิดถึงแต่ภาพที่ตนเห็นผ่านสายตาเมื่อครู่ อาการอ่อนแออ่อนไหวของเต็นเมื่อครู่คงไม่ใช่การเล่นละครหลอกตาเขาแน่ๆ คนอะไรจะร้องไห้เป็นสั่งได้ขนาดนั้นถ้าเป็นการเสแสร้ง แต่นายนั่นจะร้องไห้ทำไมขนาดนั้นล่ะ เจ็บปวดเพราะคำพูดเขาเหรอ เจ็บปวดแล้วทำไมไม่โต้กลับ จะต้องเป็นฝ่ายร้องไห้ขนาดนั้นทำไม หรือภายใจใจเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ตอนนั้น
“อ่ะ ซื้อน้ำมาฝาก” หนึ่งเสียงเอ่ยให้ได้ยินตอนเดินอยู่จึงต้องหันหยุดมอง เจอร่างของเด็กหนุ่มชื่อกายกำลังส่งแก้วเครื่องดื่มให้ เด็กหนุ่มปฏิเสธที่จะรับพลางเอ่ยบอกว่าตอนนี้อยากอยู่คนเดียวให้เจ้าตัวเลิกตามซะที
กายไม่สนใจกับการโดนเอ่ยไล่อีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ตื้อเท่านั้นที่จะทำให้ตนได้ชิมรสไอติมแท่งหวานจากเด็กหนุ่มหน้าตาดีขั้นเทพแบบนี้ เด็กหนุ่มไม่ท้อใจที่จะเดินตามคนที่เอาแต่นิ่งไม่พูดไม่จา จนเริ่มทนไม่ไหวจึงเปิดประเด็นพูดคุยเอง
“นายรักนายเต็นนั่นเหรอ”
แชมป์ชะงักเมื่อได้ยินคำทัก หันมาตอบคนทักเสียงขรึม
“มันไม่เกี่ยวกับนาย”
“เกี่ยวดิ ก็นายเคยบอกว่านายเป็นผู้ชายไม่ได้ชอบเกย์” กายยังจำวันแรกที่เจอกับเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ดี
“แล้วฉันบอกแล้วเหรอว่าฉันรักเต็น”
“ไม่บอกหรอแต่อาการนายมันฟ้อง”
“ฟ้องยังไง”
“ก็ที่นายเดินเงียบมาตั้งแต่นายนั่นแยกไปกับผู้ชายอีกคน มันหมายความว่าไงล่ะ ปฏิเสธมาสิว่าในหัวสมองนายตอนนี้ไม่มีภาพของนายเต็นอยู่ในห้วงความคิด”
“ยอมรับก็ได้ว่าฉันคิด แต่ไม่ใช่เพราะรักแน่ๆ ฉันกำลังรู้สึกผิดที่ฉันทำเขาร้องไห้ต่างหาก”
“อย่าปากแข็งหน่อยเลย แต่ก็ช่างเถอะ นายไม่รักนายนั่นก็ดีแล้ว เราจะได้ไม่มีคู่แข่ง”
“นายอย่ามาพูดทำนองนี้กับฉันดีกว่าว่ะกาย ฉันยังยืนยันว่าฉันเป็นผู้ชายที่รักผู้หญิง นายไปตามตื้อคนอื่นเถอะไป”
“นายจะรักชะนี เอ้ย ผู้หญิงก็รักไปดิ ส่วนฉันจะรักนายมีอะไรมั้ย”
อาการดื้อด้านของกายที่เห็นทำเอาแชมป์ระอา อยู่ๆ ก็นึกอยากให้คนที่เดินตามตนตื้อตนแบบนี้เป็นคนอย่างเต็นขึ้นมา แต่โอกาสนั้นคงไม่มีแล้วแน่ๆ ป่านนี้นายนั่นคงกำลังโดนเอาใจจากคนรักที่กลับมาคืนดีกันอยู่แล้วมั้ง เด็กหนุ่มเผลอผ่อนลมหายใจเมื่อนึกถึงข้อนี้ ก่อนจะเดินก้มหน้าต่อไปเงียบๆ กายก็ยังเดินตามอยู่เช่นเคย และเอ่ยขึ้นอีกตอนเดินไปได้สักระยะ
“บอกได้มั้ยว่านายรู้สึกผิดต่อนายเต็นเรื่องอะไร”
“ฉันว่าเขาเป็นคนหลายใจมักมาก แล้วจู่ๆ เขาก็รัองไห้อย่างที่นายเดินมาเห็นน่ะแหละ” แชมป์เอ่ยระบาย เพราะไม่อยากเก็บอารมณ์เก็บกดนี้ไปอีก
“ที่นายว่าก็ถูกแล้วนี่ ทำไมเขาต้องร้องไห้ด้วยล่ะ” กายเอ่ยว่า คราวนี้แชมป์หยุดเดินหันมองหน้า
“นายรู้จักเต็นดีขนาดไหนถึงไปว่าเขา”
“ก็ไม่ดีหรอก เจอแค่ครั้งเดียวตอนเขามั่วอยู่กับแฟนเก่าเรา” กายรายงาน เห็นชัดถึงสีหน้าตกใจของคนได้ยิน ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถาม
“นายหมายความว่าไง”
กายมองใบหน้าหนุ่มหล่อตรงหน้าพินิจ เป็นไปได้มากที่คนๆ นี้กำลังมีใจให้กับนายเต็นนั่นแต่พยายามฝืนบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไร ก็ผู้ชายที่ไหนมันจะยอมรับง่ายๆ ว่าแอบคิดอะไรกับเกย์ ไม่ได้การล่ะ นายเต็นนั่นจะมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญเขาไม่ได้เด็ดขาด แม็คมันก็แอบมาตีท้ายครัวไปแล้ว เด็กหนุ่มผู้นี้เขาขอละกันท่าทางจะมันส์พิลึกตอนได้เสียกัน วุ้ย คิดแล้วหิว!
คิดได้เช่นนั้นการใส่สีตีไข่เต็นให้กลายเป็นเกย์ส่ำส่อนก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก กายเอ่ยว่าตัวเองโดนแย่งคนรักนั่นก็คือแม็คซึ่งคนที่แย่งไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากคนที่เพิ่งผ่านการร้องห่มร้องไห้ไปเมื่อครู่ เด็กหนุ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนไปเจอคนๆ นี้กำลังมั่วเซ็กส์เสพยากับคนรักของตนที่คอนโด วันนั้นสองคนรุมทำร้ายและขับไล่ตนออกจากคอนโดอย่างกับหมูกับหมา ก่อนจะละเลงเพลงรักกันต่อจนหนำใจและประกาศคบกันต่อหน้าต่อตาตนในวันหลัง
แชมป์ช็อคอึ้งในสิ่งที่ได้ฟัง ถามไถ่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งพอได้คำตอบก็ตัวเย็น
“มิน่าล่ะ มึงถึงหายจากการติดต่อกูไอ้เต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาตอนท้ายสุดเมื่อคิดว่านี่คือสาเหตุที่เต็นเลิกตามตอแยตน ที่แท้ก็ไปแย่งแฟนคนอื่นมากกกอดได้สำเร็จนี่เอง แถมยังเล่นยากันอีก เลวจริงๆ
“เจริญมั้ยล่ะนายนพ จะรู้มั้ยว่าไอ้เต็นนั่นมันเหลวไหลถึงขนาดเล่นยามา” เด็กหนุ่มเอ่ยเยาะหยันออกมาตอนที่นึกหมั่นไส้ในท่าทีปลอบอกปลอบใจคนรักของฝ่ายนั้น  

************************************************************
   
เต็นยังไม่หายจากอาการซึมเศร้าแม้นพจะพากลับห้องพักแล้วก็ตาม
“ให้นพอยู่เป็นเพื่อนมั้ย” นพเสนอตัวเพราะนึกเป็นห่วงในอาการคนรักเก่าที่เห็น
“ไม่เป็นไรหรอก เต็นอยู่ได้ พรุ่งนี้นพต้องทำงานนี่” เต็นปฏิเสธ ตอนนี้นึกอยากอยู่ตามลำพัง อยู่กับความต่ำช้าและจมอยู่กับความรู้สึกผิดในสิ่งที่เคยทำลงไป ยิ่งนพกลับมาดีด้วยเท่าไหร่ เด็กหนุ่มก็นึกละอายใจเท่านั้น
“ทำยังกะนพไม่เคยไปทำงานที่ห้องนี้งั้นแหละ” นพเอ่ยว่าเพราะนึกเป็นห่วงสภาพจิตใจคนรักเก่าขึ้นมาจริงๆ
“นพเข้าใจ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิมแล้ว นพอย่าพยายามดีกับเต็นเลยนะ มันทำให้เต็นสมเพชตัวเองยังไงไม่รู้ ปล่อยให้เต็นจมอยู่กับความเหลวไหล เหลวแหลกที่เต็นเคยทำไว้เพียงลำพังเถอะ” เต็นเอ่ยระบายเสียงสั่นร้อนถึงนพที่ต้องปลอบอีก
“ไม่เอาน่าเต็น คำพูดอันธพาลของหมาหวงก้างแค่นั้นเต็นจะเก็บเอามาคิดทำไม”
“สิ่งที่แชมป์พูดมันก็ไม่ผิดนี่นพ เต็นมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่เพียงแต่แชมป์จะมองเต็นแบบนั้นคนเดียวหรอก หากว่าใครๆ รับรู้เรื่องราวเต็นก็คงจะโดนตราหน้าว่าไม่รักดี สมน้ำหน้าที่โง่ สมน้ำหน้าที่พลาดเพียงเพราะลมปากคนที่รู้จักกันไม่กี่วันทั้งนั้นแหละ”
“เพราะแบบนี้ใช่มั้ยถึงร้องไห้ไม่ยอมหยุดเนี่ย อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ช่างมันสิ ใครไม่เข้าใจแต่นพเข้าใจเต็น เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นนพก็มีส่วนผิดเหมือนกัน เรากลับมาคบกันใหม่มั้ยล่ะ นายนั่นจะได้รู้ไงว่านิสัยอันธพาลของมันทำอะไรเราไม่ได้”
เต็นอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน น้ำตาค่อยๆ ไหลด้วยความเต็มตื้นที่คนรักเก่าห่วงความรู้สึกตนขนาดนี้ แต่คนเลวๆ อย่างเขาอย่าเอาคนดีมาให้ใครๆ ได้หัวเราะเลยว่าไม่เข็ดเหรอถึงคิดจะกลับมาคบอีก
“เต็นขอบใจนะนพ ขอบใจในความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เต็น แต่สิ่งที่เต็นพลาดไป ทำไปมันเลวเกินกว่าที่เต็นจะกล้ามาใช้ชีวิตคู่กับใครๆ ได้อีก เต็นขออยู่คนเดียวเถอะนะ อยู่รับชะตากรรมที่เต็นคิดว่าเวรกรรมคงลงโทษเต็นแล้ว”
“เพ้อเจ้อน่าเต็น คิดอะไรแบบนั้น แต่เอาเถอะวันนี้เต็นไม่พร้อมนพก็ไม่คาดคั้นอะไร แต่ขอให้เต็นรู้ไว้เท่านั้นว่าเต็นยังมีนพที่คอยเข้าใจเต็นอยู่ ขึ้นไปพักผ่อนเถอะไป แล้วก็เลิกคิดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้นพโทรหา”
เต็นพยักหน้ารับเนือยๆ กับคำบอกของคนเคยคบ ร่างนั้นเดินกลับไปขึ้นรถขับออกไปแล้ว เด็กหนุ่มยืนมองจนลับสายตา….
  
โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนนี้นิยายเรื่องไฟรักมีวางขายที่งานสัปดาห์หนังสือแล้วนะครับ ติดตามรายละเอียดที่กระทู้นี้นะครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23501.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23501.0)

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 27-03-2011 06:47:43
นางเอ้กกกกกกนางเอก นะเต็น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 27-03-2011 07:08:47
 :เฮ้อ:เม้นท์ไม่ถูก

มันเหมือนดาวพระศุกร์เข้าไปเรื่อยๆแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 27-03-2011 07:29:13
ยังได้อีกค่ะคุณคนแต่ง
แค่นี้ยังไม่พอ มาม่าบิ๊กจัมโบ้ ประชดสุดฤทธิ์ :a14:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 27-03-2011 09:15:54
 :beat: :z3: :z6: :z6: :z6: :beat: :z3: :beat:อีแชมป์  อีนังกายทำไมเลวงี้วะ :m31: :m31: :m31: :m31:ไม่อยากให้อีแชมป์เป็นพระเอกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 27-03-2011 10:40:46
แกก็หูเบาเหมือนกันแหละไอ้แชมป์ :beat:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 27-03-2011 10:48:15
อีกาย ด้านมากนะ ตอแหลได้อีก
แต่เอาไอ้แชมป์ไปเหอะ ไม่อยากให้เป็นพระเอกอ่ะแหะๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 27-03-2011 10:55:46
อีกายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย //ตบซ้าย ขวา
เอามันออกไป แกนั่นแหละที่สำส่อน

ขัดใจที่สุด สมน้ำหน้าแชมป์มันจริง ๆ
ดันโง่ไปเชื่อเขาอีก ดีๆ ออกไปจากชีวิตเต็นซะ
นิยายเรื่องนี้มันไม่ใช่ love story แล้ว  :z3:

รอตอนต่อไปจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 27-03-2011 11:50:56
โอ้ยยยย อ่านแล้วเครียด .... :เฮ้อ:

แต่ก็อยากอ่านอ่ะ ทำไงได้ ... o22

น้อยกาย ทำตัวได้ สมบทบาทมากเลยค่ะ "เลว"สมกับเป็นตัว"ร้าย"จริงๆ  :fire:

ไอ้แชมป์ก็ พอจะเข้าใจมันอยู่นะ ^^ แต่ถ้าไม่รีบปรับปรุงตัวเองคะแนนนิยมจะตกเหวลงไปมากกว่านี้นะเออ :z6:

กระเต็นน้อย น่ารักที่สุด นางเอ๊ก....นางเอกจริง ๆ เอาใจช่วยปนสงสารอยู่นะ ^^  :sad4:

พี่นพ เป็นพระรองแสนดีใช่ไหม๊คะ (น่าจะเป็นอย่างงั้น)  :-[

แมค ก็ คงจะเป็นพระรองอีกคน( รึเปล่า ??)   :o8:

แต่น้องเต็นน่ารักอะเนาะ ใครๆก็รักเป็นธรรมดา ขนาดเรายังรักเลย ^^  o18

ส่วนพี่คนเขียนสุดยอดจริง ๆ ค่ะ อ่านแล้วมีอารมย์ร่วมตามไปกับตัวอักษรเลยอ่ะ ยกนิ้วให้ ๆ  o13

รอตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-03-2011 12:07:48
ท่าเต็นจะต้องกินมาม่าอีกนาน ยิ่งมีอีกายแทรกเข้ามาตีไข่ใส่สีอีกด้วยแบบนี้
นายเอกเราก็เนอะ นายเอ๊ก นายเอก นายเอกเจ้าน้ำตาจริงๆ
ไม่มีโต้ตอบคืนแบบแสบๆมั่งเล้ย ให้แชมป์มันกัดอยู่ได้ฝ่ายเดียว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-03-2011 12:58:20
เบื่ออิกาย มาทำไมวะ วุ้ย
ตอแหลสิ้นดี  เต็นเอ๊ยยยย
จะยอมเค้าไปถึงไหนเนี่ยะ

แชมป์แม่งก็เลวพอกัน
สมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 27-03-2011 13:26:36
กาย ร้าย หน้าด้าน ตอแหล สมกับเป็นตัวร้าย
แชมป์ โง่ สมกับที่เป็นพระเอก
เต็น แสนดี อ่อนไหวง่าย ยอมคน สมกับที่เป็นนายเอก

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-03-2011 15:06:22
เต็นนายเอกสุดๆเลย
อยากให้ลองฟังเพลง นิทานหลอกเด็ก ตอนนี้จัง
เราฟังตอนอ่านเรื่องนี้อ่ะ ร้องไห้เลย อินโคตรT^T
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 27-03-2011 16:19:47
เต็นนายเอกสุดๆเลย
อยากให้ลองฟังเพลง นิทานหลอกเด็ก ตอนนี้จัง
เราฟังตอนอ่านเรื่องนี้อ่ะ ร้องไห้เลย อินโคตรT^T

ขออนุญาตแปะเพลงนี้ นะครับ
http://www.youtube.com/v/MpHIV00FN_8

 :sad4:จะเศร้าไปถึงไหน

..หมดคำพูด ไม่มีคำบรรยายประกอบ..

 :o12: คุณบอย
 +1 ครับ กาซิก..กกกกกก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 28-03-2011 01:18:02
ถ้า แชมป์ ได้กะอิกาย นี่เลิกอ่านเลยทีเดียว รำคาญ หมันไส้นัก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-03-2011 05:02:06

สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Gunung ที่ 28-03-2011 13:50:11
เรื่องนี้แข่งกับค่าของคนได้เลยนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-03-2011 16:00:14
เรื่องนี้แข่งกับค่าของคนได้เลยนะเนี้ย

+1ให้เลย เมื่อวานนั่งดูก็คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-03-2011 22:41:28
รอๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 29-03-2011 00:02:09
ค้างงงงงง
นพโคตรพระเอก 555

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 23 A Time for Us : 27.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 29-03-2011 23:57:36
ตอนที่ 24

วันใหม่เต็นไปเรียนตามปกติ วันนี้ใกล้กำหนดวันที่จะต้องจ่ายค่าหอพัก ด้วยเพราะยังหาทางออกให้เรื่องนี้ไม่ได้จึงดูเหม่อๆ ตลอดวัน ปัญหานี้เด็กหนุ่มยังไม่ได้บอกหรือขอร้องให้ใครยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งนั้นไม่ว่าจะคนรักเก่าอย่างนพหรือเพื่อนใหม่อย่างแม็ค แม้สองคนนั้นเสนอตัวอยู่ตลอดว่าพร้อมจะช่วยเหลือทุกเรื่องที่เอ่ยปากบอกกล่าวแต่ก็ไม่สนิทใจที่จะรับน้ำใจนั่นเท่าไหร่นัก กับนพรู้สึกละอายใจที่จะรบกวนแม้แรกๆ เคยคิดจะเอ่ยปากบอกแต่ ณ ตอนนี้ รู้สึกปากหนักจนเกินจะเอ่ย ยิ่งกับแม็คก็ยิ่งไม่ควรหนัก เพราะตนเองกับคนๆ นั้นเพิ่งจะรู้จักกันไม่เพียงกี่วัน และตามนิสัยก็ไม่ใช่คนที่จะขอความช่วยเหลือจากใครง่ายๆ นัก
“เฮ้อ คิดมากก็เท่านั้นขอเลื่อนเขาสักเดือนก็น่าจะได้น่า” เด็กหนุ่มหาข้อสรุปให้กับตัวเองตอนกำลังจะกลับหอพัก โดยก่อนหน้าแม็คได้โทรศัพท์ขอนัดเจอ แต่ได้ปฏิเสธไปเพราะยังไม่พร้อมที่จะเจอใครเลยจริงๆ
ระหว่างเดินออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะกลับห้องพัก ตอนเดินผ่านบริเวณริมรั้วด้านนอกติดถนนใหญ่ก็พลันชะงักกับเสียงชายหญิงสองคนที่ยืนทะเลาะกันอยู่
“เรื่องแค่นี้ถึงกับโทรหาแฟนเก่าเลยเหรอมิว”
ชื่อที่ฝ่ายชายเรียกฝ่ายหญิงทำให้อดที่จะยืนมองเหตุการณ์ไม่ได้
“แค่นี้อะไรกันคะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เอกกับมิวทะเลาะกันนะคะ พี่เอกจะทำตัวดีๆ ให้มิวไม่ต้องตามหึงตามหวงได้มั้ยคะ ชอบนักหรือคะกับเด็กปีหนึ่งปีสองเนี่ย ถ้าชอบแบบนั้นจะมาคบกับมิวทำไม”
“มิวก็อย่างี่เง่าสิ พี่เป็นผู้ชายไอ้เรื่องเจ้าชู้มันย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว”
“พูดเห็นแก่ได้ มิวไม่น่าเห็นผิดเป็นชอบเลย ถ้าวันนั้นมิวไม่เลือกพี่เอกมิวคงจะมีความสุขมากกว่านี้”
“เออ เห็นไอ้คนเก่ามันดีกว่านักก็กลับไปคบกับมันเลย ไม่ง้อหรอกโว้ยแค่ผู้หญิงคนเดียว”
“ทุเรศ ทุเรศที่สุด มิวไม่คิดเลยว่าพี่เอกจะเป็นคนแบบนี้”
“พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้แหละ จะกลับไปหาแฟนเก่าก็ไปเลย”
“ไอ้พี่เอก ไอ้ทุเรศ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้ๆๆ”
“โอ้ย แม่งขืนข่วนอีกอย่าหาว่าใจร้ายนะโว้ย”
“ทำไม พี่เอกจะทำอะไรมิว โอ้ย!”
ภาพของหญิงสาวที่ชื่อมิวร้องโอ้ยแล้วล้มลง ทำให้เด็กหนุ่มต้องเดินเข้าไปช่วยฉุดให้ลุกขึ้นในขณะนั้นฝ่ายชายที่ชื่อเอกได้เดินหนีไปแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” มิวเอ่ยขอบคุณตอนลุกขึ้นได้ สายตาเธอจ้องมองไปยังร่างของคนรักที่เพิ่งจะผลักเธอล้มลงแล้วเดินหนีไปอย่างไม่สนใจ น้ำตาหญิงสาวค่อยๆ ไหลอาบสองแก้ม
“ทะเลาะกับเขาเหรอ” เต็นเอ่ยถามตอนมองตามร่างของคนที่หญิงสาวตรงหน้ากำลังมองตาม
“ผู้ชายเฮงซวย” มิวเอ่ยออกมายกมือปาดน้ำตาหันมาเอ่ยกับคนถาม
“ขอบคุณที่ช่วย เราขอตัวนะ”
คนเอ่ยเดินหนีไปแล้ว เต็นได้แต่มองตามหลังคิดตาม ผู้หญิงชื่อมิวมีตั้งมากมาย มิวที่เดินจากไปเมื่อครู่คงไม่ใช่มิวเดียวกับที่ตนเคยได้ยินใครบางคนเรียกให้ได้ยินตอนเจอกันวันแรกหรอกน่า เป็นอะไรนะหัวใจ ทำไมต้องคิดถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับคนๆ นั้นไม่ได้สักที
ด้านแชมป์ที่ตลอดทั้งวันก็ใช่ว่าจะใช้ชีวิตเฮฮากับกลุ่มเพื่อนได้อย่างเดิมนัก เพราะในสมองฉุกคิดแต่เรื่องของเต็นที่กายเป็นคนเล่าให้ฟัง ใจหนึ่งก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะบุคลิกของเจ้าตัวที่ตนเคยลองทำความรู้จักก็ไม่ได้เหลวแหลกเหลวอะไร หนำซ้ำเหล้าเองก็ยังดื่มไม่เป็นแล้วจะไปเล่นยานรกนั่นเป็นเหรอ แต่พอนึกถึงตอนที่เห็นเจ้าตัวควงคนนั้นทีคนนี้ทีทั้งกิ๊กเก่าและคู่ขาใหม่ที่ตนเข้าใจเอาเองว่าน่าจะเป็นนายแม็คตามคำบอกเล่าของกาย ครึ่งใจที่เหลือก็เชื่อเรื่องราวที่ได้ยินเข้าจนได้
“ตกลงนายเป็นคนยังไงกันแน่เต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยถามลมฟ้าอากาศออกมาเบาๆ ขณะนั่งรถเพื่อไปพบคนรักเก่าอย่างมิวที่ก่อนหน้าได้โทรศัพท์ตามตัวด้วยอาการร้องห่มร้องไห้รายงานว่าทะเลาะกับนายเอกนั่นอีกแล้ว
 
**********************************************

“มิว” เสียงเรียกที่ดังทางด้านหลังทำให้เต็นที่กำลังนั่งอยู่ในโซนนั่งพักของศูนย์การค้าใกล้ที่พักต้องชะงัก เพราะน้ำเสียงนั้นคุ้นหูเหลือเกิน หนำซ้ำชื่อเรียกที่ได้ยินก็เป็นชื่อที่เคยแคลงใจก่อนจะมาที่นี่ เพื่อพบกับเพื่อนใหม่อย่างแม็คที่โทรศัพท์ตามตื้อขอเจอไม่เลิก
“แชมป์” เสียงผู้หญิงดังขึ้นให้ได้ยินอีก ถึงตอนนี้แม้ไม่หันไปมองก็พอจะรู้แล้วว่าสองคนที่กำลังทักทายกันเป็นใคร แน่ล่ะฝ่ายชายคือคนหนึ่งคนที่สร้างรอยแผลใจให้เจ็บเจียนตาย และฝ่ายหญิงคงเป็นแฟนสาวที่เจ้าตัวเคยโทรศัพท์ตามง้อในวันแรกที่เจอกัน แต่ทำไมเสียงนี้มันใกล้หูเหลือเกินนะ เด็กหนุ่มไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจให้คนทั้งสองมองเห็น ในใจยังไม่พร้อมเผชิญหน้าสองคน แต่อดทนนิ่งได้ไม่นานก็เกิดสะท้านตัวชาตอนที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตน
“เฮ้! เต็น”
แชมป์ชะงักตอนที่ได้ยินชื่อคุ้นหู เด็กหนุ่มละสายตาจากคนรักเก่าหันมองรอบตัว เห็นเป็นร่างของเด็กหนุ่มที่เต็นเคยนั่งหยอกล้อภายในร้านอาหารฟาสฟู้ดส์กำลังเดินมาทางที่ตนยืนอยู่ จึงหันมองบุคคลใกล้ๆ ตัว ในที่สุดก็พบร่างของคนที่โดนเรียกชื่อขณะกำลังจะลุกเดินหนีจากที่ที่นั่งอยู่
“เดี๋ยวก่อนเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกไว้ทันที การเจอเจ้าตัวโดยบังเอิญแบบนี้เป็นการดีที่จะได้ถามไถ่ถึงเรื่องราวที่ตนได้ฟังจากปากของเด็กหนุ่มชื่อกาย
เต็นชะงักเท้าขณะกำลังจะก้าวหนี จำใจหันมาเผชิญหน้ากับคนเรียก พร้อมๆ กับที่เพื่อนใหม่อย่างแม็คได้มายืนเคียงข้างตอนนี้
“อ้าวนาย” มิวเอ่ยทักในตอนที่เห็นใบหน้าคนที่ฉุดตนลุกขึ้นตอนทะเลาะกับคนรัก เต็นยิ้มให้บางๆ แทนการตอบรับ
“มิวรู้จักเขาเหรอ” แชมป์เอ่ยถามคนรักเก่าอย่างฉงน พอได้รับคำตอบจากฝ่ายนั้นเรียบร้อยจึงหันไปมองสบตาอีกคนบ้าง เอ่ยตีรวนขึ้นมาเมื่อนึกหวงนิดๆ ตอนเห็นเจ้าตัวยืนชิดร่างเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ในใจคิดว่าคงเป็นนายแม็คอดีตคนรักของกาย
“มีน้ำใจกับผู้หญิงเหมือนกันนี่ เห็นเป็นแบบนี้นึกว่าจะชอบเฉพาะผู้ชาย”
เต็นเกิดอาการสะอึกกับคำทัก เมื่อไหร่นะคนตรงหน้าจะเลิกกระทบกระทั่งตน แต่ช่างเถอะ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะมายืนต่อปากต่อคำ คิดได้ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเอ่ยชวนคนข้างกายเดินหนีไปด้วยท่าทีคล้ายคนไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดกระทบ ต่างจากเจ้าของคำพูดที่พอเจออาการเฉยชาไม่ตอบโต้ก็เกิดอารมณ์โมโหขึ้นซะเองจนต้องเอ่ยตามหลังร่างของคนสองคน
“ควงไปได้น่าไม่อาย แย่งเขามาแท้ๆ  แม่งเดี๋ยวฟ้าก็ผ่ากลางห้างซะหรอก”
“แชมป์เป็นอะไรอ่ะ” มิวเอ่ยถามเพื่อนชายอย่างแปลกใจ เพราะตั้งแต่รู้จักมายังไม่เคยเห็นอาการเกรี้ยวกราดแบบนี้จากเจ้าตัว
“อ๋อ เปล่าไม่มีอะไร” แชมป์เอ่ยปฏิเสธ พยายามสนใจคนถามทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้จิตใจปลิวตามร่างของเต็นไปแล้ว อยากจะรู้เหลือทนว่าจะเดินเคียงคู่ขาที่แย่งคนอื่นมาไปทางไหน
ทางด้านเต็นออกอาการเหม่อให้คนข้างๆ ได้เห็นอีก แม้ตอนอยู่ต่อหน้าแชมป์จะทำทีเป็นไม่รู้สึกกับคำว่ากระทบ แต่พอลับหลังก็ทนเก็บกลั้นไว้ไม่ได้จึงแสดงออกมาด้วยอาการเลื่อนลอยอย่างที่เห็น
“ท่าทางดูไม่ดีเลยเต็น” แม็คเอ่ยตอนเดินคู่กันไปได้สักพัก
“เหรอ โทษทีนะ” เต็นเอ่ยขอโทษ รู้สึกไม่ดีที่เก็บอาการคิดมากไว้ไม่อยู่
“ขอโทษทำไม ที่แม็คบอกเพราะห่วงเฉยๆ ไม่ได้อะไร แล้วคนนั้นคือคนที่เต็นเล่าให้ฟังทางเอ็มใช่มั้ย” แม็คชวนสนทนาต่อ เด็กหนุ่มจึงเอ่ยบอกอย่างไม่ปกปิด
“อืม นั่นแชมป์”
“เฮ้อ ทำไมเดาข้อสอบไม่ง่ายแบบนี้นะ”
“แล้วทำไมเดาถูกล่ะ”
“ไม่รู้ดิ บุคลิกเขามันบอกมั้ง ดูดีเชียว คนแบบนี้หากหลอกใครคงไม่ยาก”
“เฮ้อ ใครเขาจะโง่อย่างเต็นล่ะแม็ค”
“โทษตัวเองซะงั้น อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะน่า ว่าแต่ถ้านายแชมป์นั่นกลับมาขอคืนดีเต็นจะกลับไปคบเขามั้ย”
“ตลกล่ะแม็ค ไม่เห็นเหรอว่าแฟนเขายืนอยู่ข้างๆ แชมป์เขาไม่ได้เป็นเหมือนพวกเรานะ”
“โธ่เอ้ย สมัยนี้เสือใบเยอะแยะ ยิ่งแมนๆ แหละยิ่งไม่น่าไว้ใจ”
“ผ่านมาเยอะอ่ะดิ”
“ก็มากอยู่ เอ้ย ไม่ใช่”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ตัวร้ายเลยมั้งเนี่ยแม็คอ่ะ”
“อ้าวเสียเลย เมื่อก่อนยอมรับก็ได้อ่ะ แต่พอรู้จักกับคนบางคนแม็คก็หยุดแล้วกัน”
“ใครอ่ะ นายกายเหรอ”
“โหพูดซะเซ็กส์เสื่อม พูดถึงทำไมคนนั้นอ่ะไม่เอา”
“ปากร้ายใช้ได้นะ คนนั้นน่ะกิ๊กเก่าไม่ใช่เหรอ”
“กิ๊กหรือจะสู้แฟนใหม่ น่ารักกว่าเป็นไหนๆ”
“หมายถึงใครเหรอ”
“ยังไม่รู้ตัวอีก ต้องให้จับจูบปากกลางห้างเลยมั้ยครับที่รัก”
“ทะลึ่ง แล้วนี่ยังไงอ่ะ คะยั้นคะยอเต็นมานี่จะพามาเดินแค่นี้เหรอ ข้าวอ่ะจะเลี้ยงมั้ย หนังอ่ะรอบกี่ทุ่ม เอ หรือว่าจะร้องคาราโอเกะดี ไหนๆ ก็มากะเสี่ยแล้ว” เต็นเอ่ยติดตลกเมื่อลืมอาการเลื่อนลอยไปชั่วขณะ ไม่น่าเชื่ออาการทะเล้นขี้เล่นของแม็คจะพาให้หัวใจยิ้มได้ในตอนนี้
“ที่พูดมาทั้งหมดอ่ะกล้าไปจริงหรือเปล่าเหอะ ถ้ากล้าก็เลือกเลยว่าอยากกินอะไร อยากดูอะไร แล้วอยากไปร้องเพลงที่ไหน สำหรับเสี่ยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ถึงตอนนี้เต็นหยุดเดินมองสบตาคนพูดเอ่ยจริงจัง
“ถามจริงๆ นะแม็ค”
“ว่า”
“แม็คคิดจริงจังกับเต็นขนาดไหน”
“ขนาดไหนมันวัดไม่ได้หรอก บอกได้แค่ว่าอยากดูแล อยากอยู่ใกล้และอยากให้เต็นเปิดใจให้แม็คมากกว่าคำว่าเพื่อน”
“แม็คไม่ได้มองว่าเต็นเลวเหรอที่เคยคิดนอกใจแฟนที่คบกันอยู่เพื่อไปเลือกใครอีกคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน”
“แม็คมองว่านั่นมันเป็นสิ่งเชื่อมให้แม็คได้เจอเต็น เพราะหากเรื่องราวนั้นไม่เกิด เราสองคนคงไม่ได้มายืนคุยกันแบบนี้ และแม็คพร้อมจะเรียนรู้เต็นว่าเต็นเป็นอย่างที่เต็นบอกหรือเปล่า ขอเพียงให้เต็นเปิดใจให้แม็คก็พอ”
“เฮ้อ ทำเอาเครียดเลย”
“ก็เต็นถามตรงแม็คก็ตอบตรงๆ”
“ก็ดีแล้ว แต่บอกตรงๆ นะว่าตอนนี้เต็นยังไม่อยากคบใครมากกว่าคำว่าเพื่อนเลยจริงๆ แม็คจะถอดใจไม่ดีกับเต็นแบบนี้ก็ได้นะ”
“โหยต้นไม้ไม่ได้โตวันเดียว หว่านเมล็ดปุ๊บจะให้ติดผลปั๊บก็คงไม่ใช่ แม็คซื่อสัตย์ในคำพูดตัวเองแปลอีกอย่างคือหน้าด้าน  อะไรทำแล้วสบายใจแม็คก็จะทำ แม็คสบายใจที่ได้ดูแลคนที่แม็ครู้สึกดีด้วย ฉะนั้นไม่ต้องมาไล่กันทางอ้อมเลย ไม่ได้ผลหรอก”
อีกครั้งที่เต็นอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้กับคำพูดของคนตรงหน้า แววตาที่เจ้าตัวส่งให้ก็แฝงไว้ซึ่งความจริงใจจนกำแพงกั้นใจเกือบทะลายลงแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงทักจากใครบางคนซะก่อน
“บังเอิญจังเลยแม็ค หลบหน้ากายซะนาน ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมาเจอที่นี่”
“กาย” แม็คเอ่ยทักคนเคยสนิท ขยับร่างยืนชิดเต็นมากขึ้นเมื่อเห็นฝ่ายนั้นเดินเข้าหาด้วยรอยยิ้มเยาะ
“หวัดดีนายเต็น” กายทักทายเต็นบ้าง หมั่นไส้เหลือทนกับท่าทีนิ่งๆ ของเจ้าตัว
“หวัดดี” เต็นตอบไปมารยาท เห็นแววตาและสีหน้าเยาะๆ ก็รู้ว่านายกายนี่คงมาไม่ดีเท่าไหร่นัก ไม่แปลกหรอก ก็ที่ยืนข้างตัวตอนนี้เป็นคนรักเก่าเจ้าตัวนี่นา
“หนังจะฉายแล้ว ขอตัวนะกาย” แม็คอีกคนที่คิดว่าการมาทักของคนรักเก่าเจ้าตัวคงไม่ได้มาดี จึงคิดหาวีธีเลี่ยงหลบ แต่ยังไม่ทันเดินหนีก็ต้องชะงักกับคำทักของฝ่ายนั้น
“จะไปดูหนังกันเหรอ สวีทกันจัง ขอไปด้วยคนได้มั้ย”
“โรงหนังเขายินดีต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว” แม็คตอบเลี่ยงๆ ไม่อยากใช้ถ้อยคำรุนแรงหรือบ่อนทำลายความรู้สึก เพราะยังไงๆ อีกฝ่ายก็คือคนเคยคบ เต็นนึกแอบชื่นชมเด็กหนุ่มในข้อนี้
“แม็คก็น่าจะรู้ว่ากายหมายความว่านยังไง” แม้จะเจอคำพูดเบาๆ แต่ก็ใช่ว่ากายจะลดละการหาเรื่อง นึกอิจฉาและเสียดายคนรักเก่าอยู่ไม่น้อยที่เห็นเจ้าตัวมีคู่ออกเดตเป็นตัวเป็นตนในขณะที่ตนเองมีแค่คู่ขารายวัน
“โทษที แม็คไม่รู้ว่ากายหมายความว่ายังไง” แม็คตอบยิ้มๆ ตามบุคลิกเดิม นั่นยิ่งสร้างความเกรี้ยวกราดให้กับกายยิ่งขึ้นจนต้องพุ่งร่างผลักอกอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เจ้าตัวจนเซหงายเล็กน้อย
“โอ๊ะ โทษที สะดุดน่ะ” เด็กหนุ่มแสร้งเอ่ยขอโทษ แล้วหันมาสนใจคนที่เคยเป็นของตัวเอง
“นานแล้วนะที่กายไม่ได้ดูหนังกับแม็ค ขอกายไปดูด้วยคนนะ”
“แม็คซื้อตั๋วไว้แล้วแค่สองที่” แม็คเอ่ยบอกเสียงนิ่ง แม้จะไม่พอใจในการกระทำคนรักเก่าแต่ก็แกร่งพอที่จะข่มอารมณ์เอาไว้ได้ เพราะสำนึกว่าสถานที่เช่นนี้ไม่ควรทำตัวให้เป็นที่สนใจคนรอบข้าง นึกถึงผลที่ได้ว่าคงมีแต่อายกับอายเท่านั้น แต่คนรักเก่านี่สิยั่วอารมณ์โมโหได้ไม่เลิกด้วยการพูดขึ้นหน้าตาเฉย
“สองใบแม็คก็ดูกับกายไง ใครที่มาทีหลังเขาก็น่าจะสำนึกถึงการเสียสละได้เองแหละ จริงมั้ยนายเต็น”
“เต็นขอตัวนะแม็ค ไว้วันหลังค่อยคุยกัน” เต็นไม่อยากสนใจคนหาเรื่องจึงหันไปเอ่ยกับอีกคน เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้เพื่อให้ฝ่ายนั้นสบายใจว่าตนไม่ติดใจในเรื่องขี้ปะติ๋วนี้ แม็คพอจะรับรู้จึงยิ้มรับ ไม่อยากยื้อคนนั้นเอาไว้เพราะกลัวว่าคนอย่างกายจะเอ่ยยั่วโทสะให้เรื่องบานปลาย ส่วนกายนั้นสายตาแทบไหม้จากการมองคนสองคนที่ส่งยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจอย่างริษยา นี่การราวีของเขาทำให้สองคนนี้แสดงอาการอะไรออกมาไม่ได้เลยงั้นหรือ เสียหน้าชะมัด
เต็นเดินจากแม็คมาก็คิดที่จะออกจากศูนย์การค้าเพื่อกลับห้องพัก แต่โชคชะตาก็คล้ายเล่นตลกให้เด็กหนุ่มต้องเดินมาเผชิญหน้ากับแชมป์อีกครั้งขณะเจ้าตัวยืนอยู่คนเดียว สงสัยอยู่หรอกว่าหญิงสาวชื่อมิวนั้นหายไปไหน จำใจเอ่ยทักเมื่อเห็นฝ่ายนั้นคล้ายๆ ตั้งใจพาร่างสูงๆ มายืนขวางทาง
“หลีกทางหน่อยแชมป์”
“ไปไหน” แชมป์ถามกลับเสียงเบา ก่อนหน้าที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกห่อเหี่ยวอยู่เป็นทุนจากการที่หญิงคนรักผละไปพบกับนายเอกที่โทรศัพท์มาตามง้อและหายไปด้วยกัน จึงไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินไปทางไหน พอเจอกับคนคุ้นหน้าอย่างเต็นจึงตรงเข้ามายืนขวางไม่ให้เจ้าตัวพาร่างหนีหายจากตัวเองไปอีกคน
เต็นมองสบตาคนตรงหน้าเพราะรู้สึกว่าน้ำเสียงเจ้าตัวที่เอ่ยกับตนแปลกไป เสียงเบาหวิวคล้ายคนไม่มีแรงเช่นนี้เด็กหนุ่มไม่ค่อยจะได้ยินนักจึงเผลอถามออกไป
“เป็นอะไรมาหรือเปล่า”
“เฟลนิดหน่อย หาที่คุยกันมั้ย” แชมป์ไม่มีเรี่ยวแรงจะหาเรื่องเมื่อรู้สึกอย่างที่บอกจริงๆ กี่ครั้งกันเล่าที่คนรักเก่าอย่างมิวเรียกตนมาเพื่อระบายอารมณ์เศร้าและก็จากไปเมื่อคนที่ทำให้ร้องไห้กลับมาง้องอน
เต็นออกอาการลังเลให้เห็นเพราะใจหนึ่งก็นึกห่วงคนตรงหน้า คิดว่าเจ้าตัวคงกำลังรู้สึกอย่างที่บอกจริงๆ เพราะดูใบหน้าเศร้าๆ หมองๆ พิกล หนำซ้ำแววตาก็ดูหม่นเหม่ออย่างไม่เคยเห็น แต่อีกใจนั่นก็กลัวว่าหากยอมให้หัวใจก้าวเข้าไปใกล้ชิดกับคนนี้อีกครั้ง มันจะพาลเจ็บปวดอีกหรือเปล่าหากว่าโดนทำร้ายด้วยคำพูดกระทบกระทั่งและการกระทำที่แสดงออกถึงความรู้สึกรังเกียจอย่างที่เคยผ่านๆ มา
“อ้อ ลืมไป นายไม่ได้มาคนเดียวนี่” แชมป์เห็นอาการลังเลก็เข้าใจว่าคนตรงหน้าคงมีพันธะอยู่กับคนที่มาด้วยจึงรีบเอ่ย ถึงตอนนี้มีอารมณ์น้อยใจเพิ่มขึ้นมาจากความรู้สึกเดิม จึงถอยร่างจากการยืนขวางทางคนลังเลแล้วเดินก้มหน้าจากไปเงียบๆ เต็นมองตามหลังตัดสินใจที่จะก้าวตามไป เพราะสารภาพกับใจว่ารับไม่ได้กับภาพความหงอยเหงาของคนเดินหนี แต่ยังไม่ทันทำตามที่ใจคิด ก็ต้องชะงักหันไปมองคนที่เรียกชื่อตนซะก่อน เจ้าของเสียงนั่นคือแม็ค ซึ่งเสียงที่เรียกก็ดังพอที่อีกคนที่เดินก้มหน้าหนีจะได้ยินไปด้วย
แชมป์หยุดเดินหันกลับมามองคนสองคนที่ยืนพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม รู้สึกเหงาใจพิลึกจึงเดินก้มหน้าเดินจากไปเงียบๆ ไม่รู้หรอกว่าข้างหลังตน ใครบางคนก็ส่งสายตามองตามอย่างนึกห่วงใย

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 30-03-2011 00:10:41


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 30-03-2011 01:29:37
ลีลาเยอะจังอิแชมป์กับเต็น จะได้รักกันซักทีมั้ย? (ขึ้นมาก)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 30-03-2011 01:49:31
อ่านแล้วขัดใจ อยากจะเข้าไปง้างปาก อมไว้้หรือดอกพิกุลทอง

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย นางเอ้กกกกกกกกกกกนางเอก อีกคนก็พระเอ้กกกกกกกกกกกกพระเอก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-03-2011 03:38:25
โดนซะมั้งเชรี่ยแชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 30-03-2011 08:21:56
อลวันพันตู เห็นแล้วเซ็งแทน
ว่าแต่มันก็เริ่มจะเข้าโหมด love story แล้วใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-03-2011 09:58:59
อ่านแล้วขัดใจ อยากจะเข้าไปง้างปาก อมไว้้หรือดอกพิกุลทอง

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย นางเอ้กกกกกกกกกกกนางเอก อีกคนก็พระเอ้กกกกกกกกกกกกพระเอก

ใช่เลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 30-03-2011 10:47:48

ก็นะ 

ก็ไม่กล้าพูดนิ

ก็ชอบคิดเองเออเองนิ

อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-03-2011 11:53:28
มะรุมมะตุ้มรุมรักเต็นกันหมด กีซซซ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 30-03-2011 14:04:09
อ่านแล้วขัดใจ อยากจะเข้าไปง้างปาก อมไว้้หรือดอกพิกุลทอง

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย นางเอ้กกกกกกกกกกกนางเอก อีกคนก็พระเอ้กกกกกกกกกกกกพระเอก


เห็นด้วยอย่างแรง  แต่อินังแชมป์สมควรแล้วโดนซะมั่ง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 30-03-2011 20:21:40
ฮ่วย แต่ละคน!!!!!ได้ดั่งใจจริงๆ  --*
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 30-03-2011 23:08:30
ทียังงี้จะมาร้องขอ ความเห็นใจ
เหอะ ไอ่แชมป์

เต็น ยังจะสับสนกับไอ่แชมป์
อีกนานมั้ย

เฮ้ยยยยย เจ็บไม่จำ

เชียร์แม๊คๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณครับ คุณบอย +1 ให้
ตอน 24 หนุกดี เอาอีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 30-03-2011 23:54:08
อ่านแล้วขัดใจ อยากจะเข้าไปง้างปาก อมไว้้หรือดอกพิกุลทอง

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย นางเอ้กกกกกกกกกกกนางเอก อีกคนก็พระเอ้กกกกกกกกกกกกพระเอก

ไม่มีปุ่มไลค์ กีซซ โดนน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 31-03-2011 22:52:49
และแล้วอีกายก็ถูกทิ้ง
555555555555555555 //หัวเราะบ้านพัง  :laugh:
สะใจจริง ๆ เป็นไงอยากหาเรื่องดีนัก ชิชะ

แชมป์ก็ถูกทิ้ง(ตอนนี้มีแต่คนถูกทิ้ง)
อะไรจะสะใจเท่านี้ ก๊าก

เอาใจฃ่วยน้องเต็น จุ้บุ
เรื่องนี้จะเปลี่ยนพระเอกแล้ว  :impress2:

รอตอนต่อไปจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: gang ที่ 03-04-2011 03:02:24
 :m20:สนุกมากครับ เรื่องราวน่าติดตาม ภาษาก็สวยดี
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 03-04-2011 09:51:40
โหย   เมื่อไหร่จะรักกันมากกว่านี้ซะทีน้า ...

รอตอนต่อไปค่ะ TT^TT
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-04-2011 14:55:55
แวะมารอคร๊าบบบ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 03-04-2011 18:12:57


ตอนที่  25

แม็คมองตามสายตาของเต็น เห็นหลังไวๆ ของแชมป์จึงเอ่ยออกมา
“แล้วแฟนเขาไปไหน”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ท่าทางเขาดูไม่ดีเลย” เต็นตอบ เข้าใจว่าแม็คคงหมายถึงมิว
“เหรอ แล้วไงดีอ่ะ” แม็คถามเพราะไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไป พอจะจับน้ำเสียงและแววตาห่วงใยของคนตรงหน้าที่มีต่อคนที่เดินจากไป
“หมายถึงอะไรเอายังไง” เต็นหันมาถาม
“ก็เต็นยังจะเดินเที่ยวต่อกับแม็คหรือเปล่า หรือว่าจะ เอ่อ ตามนายแชมป์ไป”
“แล้วนายกายนั่นล่ะ”
“ก็ไม่อะไรนี่ พอเต็นแยกหนีเขาก็แยกหนีเหมือนกัน บอกแล้ว เขาไม่อะไรกะแม็คหรอก เห็นแม็คมากะเต็นก็คงจะเข้ามาแกล้งเล่นตามนิสัยเขาน่ะแหละ”
“แปลกดีเนอะ”
“ก็นะ ปล่อยเขาเถอะ แต่อย่าพูดถึงเขาเลย แม็คไม่อยากได้ชื่อว่านินทาคนที่เคยคบ”
“แม็คนี่น่ารักดีเนอะ”
“แล้วรักมั้ยล่ะครับ”
“คิดดูก่อน”
“ไม่ว่ากัน แล้วยังไงอ่ะยังไม่ตอบแม็คเลยว่าจะเอายังไง”
“อืม เต็นขอกลับห้องได้มั้ย เพลียแล้วอ่ะ”
“ได้ดิ เดี๋ยวแม็คไปส่ง”
“เฮ้ย ไม่ต้องหรอก เต็นกลับเองได้”
“เถอะน่า แม็คก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”
“อ้าว ไม่เดินเล่นต่อแล้วเหรอ”
“ก็เต็นไม่อยู่แม็คก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม”
“เฮ้อ พูดซะไม่กล้ากลับเลย”
“จริงดิ มุกนี้ได้ผลแฮะ”
“เออ อย่าใช้บ่อยละกัน”
“โอ้ย ไม่ต้องห่วงมุกแม็คมีอีกเพียบ ว่าแต่ถ้าเต็นไม่กลับเราไปหาอะไรกินก่อนดีมั้ย แม็คชักหิว จากนั้นค่อยไปดูหนังเอาป่ะ”
“ตามใจละกัน”
หลังตกลงกันเสร็จสองคนจึงเดินคู่กันกลับเข้าไปในห้างดังเดิม เดินไปก็พูดคุยหยอกล้อกันไปคล้ายคนที่สนิทกันมาแล้วกว่าสิบปี ภาพนั้นไม่พ้นสายตาคนบางคนที่มองเห็นอย่างบังเอิญแล้วละสายตาจากไปไม่ได้
แชมป์มองภาพของคนสองคนที่เดินมาทางร้านอาหารที่ตนนั่งอยู่ สังเกตเห็นชัดเจนถึงรอยยิ้มสดใสและอาการร่าเริงของคนที่ตนเคยทำร้ายความรู้สึก มันช่างต่างความรู้สึกห่อเหี่ยวที่เกิดในใจของตัวเองตอนนี้ซะเหลือเกิน สองคนนั้นเดินมาหยุดที่หน้าร้าน เด็กหนุ่มขยับร่างกายเข้าหลบมุมเพราะรู้สึกไม่อยากเผชิญหน้ากับคนที่ดูมีความสุขในขณะที่ตัวเองกำลังมีทุกข์อย่างนี้ แต่แม้จะหลบมุมสายตาก็ยังแอบจับจ้องร่างสองร่างนั้นจนเห็นพากันเดินเข้ามาในร้าน
“ร้านอื่นมีเยอะแยะทำไมเลือกร้านนี้วะ” เด็กหนุ่มแอบบ่นเพราะไม่รู้จะตีสีหน้ายังไงหากได้เผชิญหน้า จิตใจตอนนี้ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะกล้าสบตาหรือต่อปากต่อคำกับใคร เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกใส่เมื่อที่สุดสองคนนั้นก็เลือกที่นั่งในมุมเดียวที่ติดกับตัวเอง
“แชมป์” เต็นเอ่ยเรียกอย่างตกใจที่เมื่อเดินมาหยุดยังมุมที่เลือกแล้วเห็นคนคุ้นตากำลังนั่งอยู่ก่อนหน้า
“ตามสบายจะกลับแล้ว” แชมป์เอ่ยบอกแล้วรีบจะลุกเดิน แต่ก็พลันชะงักกับเสียงทักของอีกคนที่มากับคนที่ตนรู้จัก
“อะไรกันอาหารนายยังเหลือบานเลย อิ่มแล้วเหรอ”
“แล้วเกี่ยวอะไรด้วยวะ” แชมป์เอ่ยใส่หน้าเมื่อรู้สึกไม่พอใจกับคำทัก
“เราไปทานกันที่อื่นก็ได้แม็ค” เต็นรีบหันมาชวนคนข้างตัว เพราะเริ่มรู้สึกไม่ดีในท่าทีของคนที่ตนเคยคบ
“นายคือแม็คจริงด้วย” แชมป์เอ่ยออกมาเยาะๆ เมื่อได้ยินชื่อของคนที่ตนเอ่ยว่าจากปากของเต็น
“หมายความความไง” แม็คเอ่ยถามอย่างงงๆ
“ฉันรู้จักนายกายอดีตกิ๊กของนาย ไปเดาเอาเองละกันว่าหมายความว่าไง” เอ่ยจบแชมป์ก็เดินจากไป โดยไม่ลืมที่จะมองสบสายตาอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยทิ้งท้ายก่อนพาร่างหายไปจากร้าน
“สองคนนั้นเคยเจอกันแล้ว ถ้าเดาไม่ผิดนายกายนั่นน่าจะเล่าเรื่องของเราให้แชมป์ฟังมั้ง” เต็นเดาเรื่องราว ถอนหายใจออกมาอย่างเพลียๆ กับสายตาและท่าทีของคนเคยคบ ฝ่ายนั้นมองคล้ายๆ น้อยใจ และไม่พอใจที่เห็นตนมากับคนข้างตัว นี่มันยังไงนะ
“แต่ท่าทางดุเอาเรื่องนะนายแชมป์เนี่ย หึงเต็นหรือเปล่าก็ไม่รู้” แม็คเอ่ยขันๆ ก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะหันไปสนใจเมนูอาหาร ส่วนเต็นได้ยินประโยคนั้นจบก็อดที่จะหันไปมองตามทางที่แชมป์เดินจากไปไม่ได้
แชมป์เดินเตะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ จนค่ำเพราะจิตใจที่ไม่ปกติจึงไม่รู้จะไปไหน กลับบ้านเหรอก็ไม่อยากกลับ ที่สุดในใจก็นึกครึ้มอยากจะเอาน้ำเมาเข้าปากให้ลืมเรื่องราวต่างๆ ที่ทำให้ในใจสับสนในวันนี้ทิ้งไปเสียให้หมด เด็กหนุ่มจัดการโทรศัพท์เรียกเพื่อนในกลุ่มออกมาเจอเพื่อไปหาที่นั่งดื่ม แต่ติดต่อหาใครก็ไม่มีใครว่างสักคน
“โธ่โว้ย แม่งทำไมวันนี้ใครๆ ก็ทิ้งกูวะ” ด้วยอารมณ์น้อยใจที่สะสมมามากมายทำให้ต้องเอ่ยระบายออกไปแบบนั้น แต่สักพักก็ได้ยินเสียงทักที่ทำให้ต้องหันไปมอง
“ใครกันนะทิ้งหนุ่มหล่อได้ลงคอ”
เสียงนั่นเป็นเสียงของกาย ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวก็กำลังยืนยิ้มกรุ้มกริ่มส่งให้
“มาอยู่นี่ได้ไง” เด็กหนุ่มเอ่ยทักทาย เห็นคนนั้นรีบปรี่เข้าใกล้จึงถอยออกห่างสองสามก้าว
“ระวังตัวจังเลยนะ” กายเอ่ยแซว รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาบ้างหลังจากที่ก่อนหน้าได้บูดเน่าไปจากการราวีคนรักเก่ากับเต็นไม่สำเร็จ
“แล้วทำไมจะต้องเข้ามาชิดล่ะ คุยห่างๆ ฉันก็ได้ยิน” แชมป์บอกตามจริง ยังทำใจเข้าใกล้ผู้ชายอ่อนไหวคนไหนไม่ได้เลยจริงๆ ที่ผ่านมาคนเช่นนี้ที่ถูกเนื้อต้องตัวเขามากที่สุดก็คือเต็น
“นะ ก็นายดูดีซะขนาดนี้ใครที่ไหนล่ะไม่อยากเข้าใกล้” กายเอ่ยชมตรงๆ สายตาก็ยังคงส่งให้แบบยั่วยวนเช่นเดิม
“ขอบใจที่ชม แต่ไม่ต้องชิดมากก็ได้หากไม่อยากให้ฉันเดินหนีอีก” แชมป์เสียงเบาลง เริ่มรู้สึกดีขึ้นจากอาการที่คิดว่าใครๆ ก็ทิ้งไปเมื่อครู่ อย่างน้อยที่สุดคนข้างหน้าก็น่าจะเป็นเพื่อนสนทนาได้อยู่ หากตัดทิ้งอาการกรุ้มกริ่มและสายตายั่วยวนที่นึกไม่ชอบมอง
“โอเค ไม่ชิดก็ไม่ชิด แล้วทำไมนายถึงมานั่งบ่นว่าใครทิ้งอยู่ตรงนี้ล่ะ” กายชวนคุย แม้นึกหมั่นไส้ในท่าทีหวงตัวแต่ก็เก็บอาการเพราะอยากลิ้มลองความเป็นชายคนตรงหน้าซะเหลือเกิน
“ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องที่นายควรจะรู้หรอก” แชมป์บอกปัด ไม่อยากนึกถึงทั้งภาพคนรักเก่าเลือกที่จะวิ่งกลับไปหาคนที่ทำให้ร้องไห้เสียใจนับครั้งไม่ถ้วน และภาพคนร่าเริงสุขใจของคนที่ตนเคยกลั่นแกล้ง ลองถามความรู้สึกในใจก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าภาพไหนที่ทำให้ต้องมานั่งน้อยอกน้อยใจอยู่แบบนี้ได้มากกว่ากัน
“ไม่รู้ก็ได้ แต่หากอยากได้คนพูดคุยที่ไม่มีทางทิ้งนายไป เรายินดีเป็นตัวเลือกนะ” กายบอก พอจะอ่านเกมออกว่าคนตรงหน้ากำลังรู้สึกล้าในใจเป็นแน่ ร้อยทั้งร้อยคนที่กำลังตกอยู่ในอาการเช่นนี้หากมีที่ระบายขี้คร้านจะวิ่งเข้าใส่ เด็กหนุ่มปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ได้ไวยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสีตอนที่โดนคนตรงหน้ามองพินิจ จากแววตายั่วยวนเมื่อครู่จึงเปลี่ยนเป็นแววตาที่แสดงออกถึงความจริงใจในคำพูด
แชมป์มองเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้ารู้สึกพอใจขึ้นมาที่เห็นว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยนึกไม่ชอบ วันแรกที่เจอกับคนๆ นี้ก็ตรงหน้าร้านเหล้า ก็คงจะไม่เสี่ยงเกินไปหรอกนะหากจะชวนเจ้าตัวไปนั่งดื่มเป็นเพื่อน
“ไปกินเหล้ากันมั้ย แม่งเบื่อๆ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นในที่สุด กายรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ยินประโยคเอ่ยชวน แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้เพราะหากตื่นตูมไปก็คงจะเสียโอกาสงามนี้แน่
“นายไม่กลัวเราแล้วเหรอ เราอาจจะลวนลามนายก็ได้นะหากนายเมา” เด็กหนุ่มแสร้งทำหน้าจ๋อยๆ เอ่ยถาม
“ฉันคงไม่ดื่มถึงเมาหรอก เพราะพรุ่งนี้มีเรียน แค่อยากดื่มระบายเท่านั้น แต่ตามใจนะ ถือว่าฉันชวนแล้ว ไม่ไปฉันก็คงกลับบ้าน” เต็นบอกแล้วจะเดินหนี กายรีบรั้งไว้
“เฮ้ย แค่ถามดู นายชวนทั้งทีใครล่ะจะปฏิเสธ แล้วจะไปยังไง นายสะดวกใจที่จะไปรถเรามั้ย ส่วนร้านไหนเราให้นายเลือก”
“แถวนี้มีที่ไหนน่านั่งบ้างล่ะ ฉันไม่ค่อยคุ้น”
“ก็มีหลายที่นะ ไปอ.ต.ก.มั้ยล่ะ”
แชมป์พยักหน้ายินยอม จากอารมณ์ห่อเหี่ยวในใจจึงไม่อยากคิดอะไรมาก ไม่รู้หรอกว่าถิ่นที่คนเสนอพาไปนั้นจะมีอะไรหรือคนเที่ยวประเภทไหนรออยู่
ทางด้านเต็นกับแม็ค หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็ไปดูหนังกันต่อตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งกว่าหนังจะจบก็ดึกดื่น และแม็คก็ทำหน้าที่มาส่งเต็นที่หอพักเช่นเคย
หลังรถแม็คเลี้ยวกลับออกไปแล้ว ขณะจะเดินเข้าไปในหอพัก เต็นถึงกับสะดุ้งวาบตกใจเมื่อเห็นเป็นร่างคนคุ้นตามายืนขวางหน้าอยู่
“แชมป์ มาอยู่นี่ได้ไง” เด็กหนุ่มเอ่ยทัก ยังไม่ทันที่คนตรงหน้าจะตอบลุงยามที่เคยช่วยฉุดคนๆ นี้ช่วยตอนเมาครานั้นก็เอ่ยขึ้นก่อน
“โอ้ย พ่อหนุ่มนี่เขามารอเราสักชั่วโมงได้แล้วมั้ง เนี่ยอยู่คุยกับลุงจนไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรกันแล้ว”
“ชั่วโมงเลยเหรอ” เต็นทวนประโยค
“ก็ไม่คิดว่านายจะสวีทกับกิ๊กใหม่ได้ดึกดื่นขนาดนี้” แชมป์เอ่ยตอบเสียงนิ่ง ยังรู้สึกตกใจไม่หายกับการโดนล้อมหน้าล้อมหลังจากเพื่อนของคนที่พาไปร้านเหล้าในสถานที่นักเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ใช่ชายหญิงหญิงแท้ กว่าจะพาตัวเองรอดออกมาได้ก็ทำเอาเหงื่อตก นึกโกรธคนที่พาไปจนเกือบจะกระโดดชกหน้า แต่ก็โดนท้าทายกลับด้วยการที่ฝ่ายนั้นเอาเพื่อนกลุ่มใหญ่มาข่มขู่ พร้อมด่าว่าอย่างรุนแรงถึงอาการหวงเนื้อหวงตัวของตน สุดท้ายเด็กหนุ่มจึงได้เรียกแท็กซี่ถอยฉากออกมา ตอนแรกก็คิดจะกลับบ้าน แต่จากอาการล้าในใจที่เจอหลายๆ เรื่องราวในวันนี้พร้อมกันจึงได้สั่งให้แท็กซี่พามาส่งที่นี่ ก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้นึกอยากจะเจออยากจะคุยกับคนตรงหน้าเสียมากกว่าการไปเผชิญหน้ากับใครๆ
“ดูหนังเพิ่งจบ” เต็นตอบออกไปตามจริง ไม่ได้คิดหรอกว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกยังไง จนเจ้าตัวเอ่ยบอกเสียงเบา
“คนนี้ตั้งใจจะคบจริงๆ แล้วใช่มั้ย”
เต็นมองสบตา ยังไม่กล้าที่จะตอบอะไรเพราะเห็นมีบุคคลที่สามยืนอยู่ด้วย แต่แล้วจู่ๆ บุคคลที่ว่าก็เอ่ยขึ้น
“ตามสบาย เดี๋ยวลุงว่าจะเดินไปตรวจในหอแล้ว” เอ่ยเสร็จลุงยามก็เดินจากไปพร้อมไฟฉายในมือ เต็นจึงเอ่ยถามขึ้น
“หมายความว่ายังไง”
“ก็เห็นควงนายนี่ทีแฟนเก่าที เราก็อยากรู้ว่าตกลงแล้วเต็นจะเลือกใคร”
“ตอนนี้เรายังเข็ดกับการไว้ใจใครอยู่ มันคงอีกนานแหละแชมป์กว่าที่เราจะคบใครอีกสักคนที่มากกว่าเพื่อน” เอ่ยเสร็จเต็นก็เดินผละหนี ไม่ได้อยากเอ่ยเลยกับประโยคเมื่อครู่เพราะเอ่ยเองก็สะเทือนใจเอง แต่เพราะคำกล่าวที่ได้ยินก่อนหน้าต่างหากที่บังคับให้ต้องเอ่ย
แชมป์ยืนนิ่งสักพัก เข้าใจว่าสิ่งที่เต็นเอ่ยเมื่อครู่คงหมายถึงเรื่องราวที่ตนเป็นคนทำไว้ เด็กหนุ่มค่อยๆ หมุนตัวเดินตามหลังฝ่ายนั้นไป จนถึงทางเข้าหอพักที่เจ้าตัวหยุดหันมามองหน้าจึงต้องหยุดตาม
“ดึกป่านนี้ทำไมยังไม่กลับบ้าน” เต็นเอ่ยถามเสียงนิ่ง ถึงตอนนี้เริ่มได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนตรงหน้า
“อยู่ด้วยไม่ได้เหรอ ตอนนี้ยังไม่อยากไปไหน” แชมป์บอกจากใจจริง รู้สึกล้าๆ เหนื่อยๆ จนหมดแรงจะยืนได้ตรง ร่างทั้งร่างจึงเริ่มเซนิดๆ
“ทะเลาะกับมิวเหรอถึงต้องไปดื่มเหล้ามาอีก” เต็นถามเพราะเข้าใจว่าเรื่องราวมันต้องเป็นแบบนั้น ส่วนแชมป์จากอาการล้าในใจที่มีอยู่ก่อนแล้วพอเจอคำถามไม่เลิกจึงคิดไปว่าคนตรงหน้าคงรำคาญไม่อยากให้ตนอยู่ด้วยจึงเอ่ยขึ้นด้วยความน้อยใจ
“ถ้าไม่อยากให้อยู่ด้วยก็บอก ไม่ต้องถามเรื่องโน่นเรื่องนี้หรอก ขอโทษนะที่มารบกวน” เอ่ยเสร็จเด็กหนุ่มก็หมุนตัวจะเดินหนี แต่เพราะเคลื่อนไหวร่างกายเร็วไปหน่อย จึงเซทำท่าจะล้มลงไปจริงๆ ร้อนถึงอีกคนที่ยืนดูอยู่ต้องรีบเข้าพยุงไว้เป็นเหตุให้สองคนถูกเนื้อต้องตัวกันอีกครั้ง แถมคราวนี้ใบหน้าก็ชิดกันอยู่ไม่ถึงคืบ สายตาก็ประสานกันในระยะที่สามารถอ่านเข้าไปทะลุหัวใจกันและกันได้
“ห่วงแชมป์เหมือนกันเหรอ” แชมป์เอ่ยออกมาด้วยสรรพนามเดิม เมื่อมองเห็นแววตาระยะชิดใกล้ของคนที่เข้ากอดร่างตัวเองไว้
“มันเป็นตามสัญชาตญาณ”เต็นออกอาการปากแข็ง ก่อนจะปล่อยร่างที่ยืนเองได้แล้วให้เป็นอิสระก่อนเดินหนีไป แชมป์มองตาม ลอบยิ้มที่มุมปากนิดๆ อาการล้าในใจหายไปเมื่อเห็นอาการคนปากไม่ตรงกับใจ เด็กหนุ่มมีกำลังใจขึ้นมาพอที่จะก้าวเดินตามไปจนมาหยุดอยู่หน้าห้องพักคู่เจ้าตัวได้สำเร็จ
“แน่ใจแล้วเหรอแชมป์ที่ตามขึ้นมาแบบนี้” เต็นหันมาเอ่ยถามคนยืนข้างตัวขณะกำลังจะไขกุญแจ
“ทำไมเหรอ” แชมป์ถามงงๆ
“อืม ช่างเถอะ เราก็ถามเพ้อเจ้อไปงั้นแหละ” เต็นบอกปัดก่อนจะหันไปไขกุญแจ สิ่งที่ถามไปเมื่อครู่เพราะยังจดจำเหตุการณ์ที่ตัวเองโดนกล่าวหาว่าเป็นคนฉวยโอกาส การที่คนกล่าวหาตามขึ้นห้องมาแบบนี้จึงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ แต่ในเมื่อถามไปขนาดนั้นแล้วเจ้าตัวยังไม่เข้าใจก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะขยายความให้เหมือนเป็นคนขี้ประชด
“ห้องรกหน่อยนะ ยังไม่ได้เก็บ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกตอนที่คนที่ตามมาพาร่างเดินเข้ามาในห้อง หันไปมองเมื่อเห็นเจ้าปิดประตูลงพร้อมกดล็อค
“แชมป์ไม่ได้สนใจหรอกแค่ยอมให้แชมป์เข้ามามีที่ซุกหัวนอนแชมป์ก็ขอบคุณแล้ว” แชมป์เอ่ยบอก ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อออกเพราะรู้สึกเหนียวตัวและล้าจนอยากจะอาบน้ำนอนพัก เต็นมองเห็นรู้สึกไม่สบายใจที่จะอยู่มองคนที่กล่าวหาตัวเองว่าฉวยโอกาสเปลื้องผ้าต่อหน้าจึงคิดหาทางเลี่ยง ที่สุดก็มองเห็นตะกร้าผ้าจึงเอ่ย
“ตามสบายนะ เราขอเอาผ้าลงไปซักก่อน” เอ่ยจบเด็กหนุ่มก็รีบเดินไปคว้าเอาตะกร้าผ้าที่ว่าพร้อมอุปกรณ์การซักและกุญแจห้องเปิดประตูเดินลิ่วๆ หนีไป
“คนอะไรชอบซักผ้าดึกๆ ดื่นๆ” แชมป์เอ่ยตามหลังในตอนที่กระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดออกแล้ว ยังจำได้ถึงวันที่คนที่เดินจากไปเคยลงไปซักผ้าตอนเที่ยงคืนในวันที่รู้จักกันใหม่ๆ เด็กหนุ่มยังไม่เฉลียวใจเลยถึงเหตุการณ์ที่ตนเคยต่อว่าเจ้าตัวเป็นคนฉวยโอกาส กระทั่งได้รับสายน้ำเย็นที่ราดลงบนตัวตอนเข้าไปอาบ ในสมองเริ่มปลอดโปร่งพอจะคิดถึงเรื่องต่างๆ นาๆ ได้ ภาพในวันวานต่างๆ ที่ตนเคยกระทำกับเต็นจึงเริ่มวนเวียนมาให้คิดถึงเป็นฉากๆ จนถึงตอนหนึ่งที่ตนเคยเขวี้ยงถุงโจ๊กที่เจ้าตัวลงไปซื้อให้ทิ้งใส่หน้าวันนั้น จึงเริ่มเฉลียวใจว่าการที่เจ้าตัวคว้าตะกร้าผ้าหนีไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยคงไม่ใช่สาเหตุมาจากการชอบซักผ้าดึกๆ ดื่นๆ เป็นแน่
“หรือว่านายกลัวจะฉันจะหาว่าเป็นคนฉวยโอกาสอีกเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ตอนนึกได้ จึงรีบทำการชำระล้างร่างกาย พอเสร็จสรรพออกมาใส่เสื้อผ้าที่ถือวิสาสะเลือกมาใส่เอง ก็รีบเปิดประตูห้องเดินตามไปยังที่ซักผ้าของหอ โดยเบาฝีเท้าลงตอนที่กำลังจะเดินไปถึง
“ไม่เห็นได้ยินเสียงเครื่องทำงานเลย” ปากบ่นออกมาเบาๆ เมื่อที่ตรงนั้นเงียบผิดสังเกต กระทั่งเดินไปจนสามารถมองเห็นได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเครื่องซักผ้าไม่ทำงาน เพราะคนที่หอบตะกร้าผ้ามาเมื่อครู่ตอนนี้เพียงแค่นั่งชันเข่ามองดูเครื่องเฉยๆ ตะกร้าผ้านั่นยังคงมีผ้าอยู่เต็มเช่นเดิมซึ่งวางอยู่ข้างๆ เจ้าตัว
“ทำไมต้องอ้างแบบนี้ด้วยนะเต็น” แชมป์เอ่ยออกมาอย่างสะท้านใจเมื่อคิดว่าสิ่งที่เอ่ยคาดไว้ตอนอาบน้ำคงเป็นจริง เต็นคงไม่ได้ตั้งใจลงมาเพื่อซักผ้าจริงๆ แต่ที่ลงมาคงเพื่อหาวิธีหนีจากตนที่กำลังจะเปลื้องผ้าต่อหน้า เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปหา เพื่อชวนกลับขึ้นห้อง
“ขึ้นห้องเถอะเต็น” ส่งเสียงทักออกไปเมื่อไปถึง เห็นฝ่ายนั้นสะดุ้งพร้อมยกมือขึ้นเช็ดที่แก้ม จึงนั่งลงมองใบหน้าเจ้าตัวชัดๆ ตกใจที่เห็นว่าจริงๆ แล้วเจ้าตัวนั่งร้องไห้อยู่
“เฮ้ย ร้องไห้ทำไมอ่ะเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยทักออกไป พลางเอื้อมมือไปจับไหล่จับร่างให้ฝ่ายนั้นหันมาเผชิญหน้า เพราะดูท่าทีกำลังเลี่ยงหลบ
“ปะ เปล่า ไม่มีอะไร นายอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” เต็นเอ่ยปฏิเสธทั้งๆ ที่เสียงยังสั่นไม่หาย หลังจากที่ลงมาจนถึงที่ซักผ้าเด็กหนุ่มก็นั่งลงอย่างคนหมดเรี่ยวแรง เพราะเหตุการณ์ในวันวานต่างๆ มันย้อนกลับ
มาให้คิดถึงได้อีก ยิ่งภาพวันที่โดยกล่าวหาว่าเป็นคนฉวยโอกาสวันนั้นยิ่งฉายชัดมากที่สุดจนเกิดอาการสะเทือนใจจนต้องร้องไห้เพื่อระบายอาการออกมา
“ไม่มีอะไรได้ไงก็เห็นอยู่ว่าร้องไห้ อย่าปากแข็งหน่อยเลยน่า เป็นอะไร บอกแชมป์สิ” แชมป์ถามต่อ รู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นน้ำตาของคนตรงหน้าในตอนนี้ มันชวนให้เขาสะเทือนใจไปด้วยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่ได้รู้สึกเช่นนี้เลย
“ไม่มีอะไรจริงๆ แชมป์ขึ้นไปนอนพักก่อนไป เดี๋ยวเราขอซักผ้าเดี๋ยว” เต็นออกอาการแข็งขืนลุกขึ้นจับตะกร้าไปเทลงถังปิดฝาหยอดเหรียญให้เครื่องทำงานทั้งๆ ที่ยังไม่ใส่ผงซักฟอก ก่อนจะยกมือเสยผมลวกๆ กระพริบตาถี่ๆ ไล่ม่านน้ำตาออกไป แชมป์มองภาพนั้นรู้ได้เองว่าตอนนี้จิตใจเจ้าตัวคงไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ซักผ้าด้วยวิธีการเช่นนี้ เด็กหนุ่มตัดสินเดินตรงเข้าไปดึงร่างเจ้าตัวมากอดไว้แนบอกกอดเอาไว้แน่น ก่อนเอ่ยปลอบเพราะเข้าใจว่าอาการเลื่อนลอยที่เห็นของเจ้าตัวคงเกิดจากตนที่เป็นคนกระทำ
“แชมป์ขอโทษเต็น แชมป์ขอโทษ”
ถึงตอนนี้เต็นไม่อาจข่มอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิงได้อยู่ จึงปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาเป็นสายพร้อมร่างกายที่สะอื้นไห้จนสั่นสะเทือนให้คนที่กอดอยู่ได้รู้สึก
“ไม่เอา อย่าร้องๆ แชมป์อยู่นี่แล้ว แชมป์ไม่ไปไหนแล้ว” แชมป์เอ่ยปลอบอีกคราวนี้ถึงกับยกมือขึ้นลูบเส้นผมคนในอ้อมกอดเพื่อแสดงออกถึงความจริงใจในคำพูดของตน สักพักแรงสะอื้นจากคนร้องให้จึงค่อยๆ ลดแรงลง ก่อนที่เจ้าตัวจะผละออกจากอก เอ่ยบอกทั้งน้ำตาและรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงอาการฝืนใจทำ
“มันไม่น่าเกิดขึ้นเลยเนาะ โทษทีนะ แชมป์ไม่จำเป็นต้องปลอบหรอก เดี๋ยวเต็นก็ดีขึ้นเองแหละ”
“งั้นเดี๋ยวเต็นขึ้นไปอาบน้ำให้สบายตัวสบายใจเถอะไป เดี๋ยวแชมป์ดูให้เรื่องเสื้อผ้า” แชมป์ยังไม่อยากจะพูดอะไรมากในตอนนี้จึงได้บอกไปแค่นั้น เห็นท่าทีลังเลของเจ้าของเสื้อผ้าจึงบอกอีกยิ้มๆ
“ไปเถอะน่า แชมป์ซักต่อให้ ไปล้างหน้าล้างตาซะ บวมหมดแล้วน่ะ”
เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เต็นได้กลับมาเห็นรอยยิ้มจริงใจที่คนตรงหน้าส่งให้อีกครั้ง อยากจะยิ้มตอบให้แต่ยังไม่ไว้ใจอะไรนักจึงเลือกที่จะเดินจากไปเงียบๆ ส่วนแชมป์มองตามหลังจนร่างนั้นลับสายตาไปจึงค่อยหันมาจัดการเรื่องเสื้อผ้าเจ้าตัวต่อ แล้วค่อยเดินตามไปอีกคน
ภายในห้องขณะที่เต็นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เด็กหนุ่มจึงจัดแจงที่นอนบนโซฟาเตรียมไว้อีกหนึ่งที่ โดยมีอีกคนจ้องมองการกระทำอยู่
“ใจคอจะให้แชมป์นอนบนโซฟาจริงๆ เหรอเต็น” แชมป์เอ่ยถามเพราะคิดว่าเจ้าของห้องคงจัดเตรียมที่นอนให้ตน
“ที่นอนเต็น” เต็นหันมาตอบสั้นๆ ก่อนจะจัดการต่อ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อถูกรื้อออกจากมือของแชมป์
“ที่นอนก็กว้าง นอนด้วยกันข้างบนจะเป็นอะไร” แชมป์เอ่ยบอก แล้วโยนผ้าห่มและหมอนในมือขึ้นไปบนที่นอน เอ่ยบอกอีก
“เดี๋ยวแชมป์จะลงไปเอาผ้ามาตากให้ ง่วงก็นอนไปก่อนเลยนะ”
“ไม่ต้องวุ่นวายหรอก เสื้อผ้าเต็นเดี๋ยวเต็นทำเอง” เต็นเอ่ยบอกแล้วเดินผ่านหน้าเพื่อไปยังประตูแต่แล้วร่างก็โดนฉุดเอาไว้จนถลามาปะทะอกคนฉุด ตกใจเมื่อฝ่ายนั้นโน้มหน้าลงชิดใกล้พร้อมเอ่ยว่าเสียงเข้ม
“หาว่าแชมป์วุ่นวายเหรอเต็น”

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 24 A Time for Us : 29.03.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 03-04-2011 18:14:33

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

ส่งแม็คมาทางนี้เลยน้องเต็น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-04-2011 18:19:30
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 03-04-2011 20:31:00
ใครไม่หวั่นไหวบ้าง :serius2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 03-04-2011 21:13:38
 :m16:

เอ่อม.. คนอะไรไม่เข็ด..

จะว่าไปในชีวิตจริงคนแบบนี้ก็มีอะนะ...แต่ได้ยินที่ไรก็อดหงุดหงิดไม่ได้สักที
ได้แต่ท่องไว้ ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของเรา
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-04-2011 21:20:40
ตกลงนายแชมป์จะเอายังไงกันแน่นะ
กลางวันยังว่าเขาอยู่หยกๆ กลางคืนก็ทำดีกับเขา
พรุ่งนี้จะทำยังไงต่อไปล่ะ เฮ้อ! สงสารเต็นแท้
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-04-2011 21:28:30
 :z6:ส้นตีนไอ้แชมป์


แมร่งหลายหน้าหลายใจฉิบหาย โง่แล้วอวดฉลาดนะมึง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 03-04-2011 21:30:12
แชมป์มาแบบนี้
เต็นก็ระทวยสิจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 03-04-2011 22:46:52
จเอายังไงกันแน่แชมป์
เห้อออ หนักอกหนักใจแทนเต็น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-04-2011 01:33:06
กีซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ จะได้กันแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 04-04-2011 03:36:07
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ใกล้จะได้กันแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
มีความสวกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: sai_dil69 ที่ 04-04-2011 05:19:26
เลือดกำเดา พุ่งเลย มาต่อด่วนเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 04-04-2011 10:18:23
แชมป์..นายจะเอายังไงกันแน่ o18
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-04-2011 14:44:49
รอเซ้งแม๊ค..ต่อจากเจ้ 2
หุหุ

แต่เซ็งเปรตตตต กะไอ่แชมป์ มากมาย


ขอบคุณครับ คุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: gang ที่ 04-04-2011 22:04:28
 :impress3:สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 04-04-2011 23:42:56
หงุดหงิดกับนายแชมป์ที่สุด ผีเข้าผีออกแท้ๆ
เต็นก็นะ จะเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกะเค้าอีกทำไมเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-04-2011 00:16:56
ชิ..ชั้นยังเกลียดแกอยู่นะแชมป์ แกเข้าใกล้เต็นทีไรก็ทำให้เต็นเสียใจ เสียน้ำตาทุกที
ถ้าไม่จริงใจกับเต็นโปรดไปให้ไกลเลยแก เมื่อไรเต็นจะเข้มแข็งกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 06-04-2011 15:50:03
มาได้แล้วน๊าค๊าาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 25 A Time for Us : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 08-04-2011 18:35:56
แชมป์เอ้ยยยยย
รอให้เขาหายดีก่อนไม่ได้รึไงน้า
อย่างนี้เต็นก็สับสนแย่ซิ มาทำให้เต็นหวั่นไหวอย่างนี้  :angry2:

ลักษณะถ้าตอนหน้าๆ คืนดีกัน แม็คมีแววถูกทิ้ง กร๊าก
แต่อีกายนี่ มันน่านัก ยุ่งเรื่องเค้าไปทั่ว //ตบซ้ายขวา

รอตอนต่อไปจ่ะ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 03.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-04-2011 20:47:13
จะรอทั้งตอนใหม่ทั้งหนังสือจ้า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 08-04-2011 22:45:42
ตอนที่ 26
สองคนมองหน้ากันในระยะชิดใกล้อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันมีฝ่ายใดคิดทำอะไรเสียงโทรศัพท์ของใครคนหนึ่งก็ดังหย่าสายตากันซะก่อน
เสียงโทรศัพท์นั่นเป็นของเต็น เด็กหนุ่มผละร่างออกจากแชมป์แล้วเดินไปหยิบตัวเครื่องที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ มาดูรายชื่อคนที่โทรเข้ามา อดไม่ได้ที่จะหันมองคนที่ยืนจ้องอยู่เมื่อเห็นเป็นรายชื่อของคนรักเก่าที่ติดต่อเข้ามา
“ตามสบาย” แชมป์เอ่ยขึ้นเสียงนิ่ง เดาจากสายตาคนมองมาก็พอจะรู้ว่าคนที่โทรเจ้ามาตอนนี้คงไปใครสักคนที่เจ้าตัวคงกำลังสนิทและคุ้นเคย
“หวัดดีนพ” เสียงทักทายนั่นดังมาให้ได้ยิน ตอกย้ำว่าสิ่งที่เดานั้นถูกต้อง เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง เพราะไม่อยากจะฟังถ้อยคำสนทนาใดๆ ดาดฟ้าหอพักที่เคยไปนั่งเล่นรับลมตอนมาที่นี่ครั้งแรกคือที่หมาย
เต็นเพียงแค่มองตามหลังคนที่เดินออกไปจากห้อง รู้สึกว้าวุ่นนิดๆ กับอาการซึมๆ ของคนนั้นที่แสดงออกมา แต่แล้วก็ต้องรีบตัดอาการทิ้งไป เขาควรจะสนใจคนที่โทรมาถามไถ่การใช้ชีวิตวันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่า
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงที่แชมป์นั่งรับลมเย็นบนดาดฟ้า เด็กหนุ่มคิดเอาว่าหากคนในห้องคุยโทรศัพท์เสร็จคงจะมาตามตัวเขาเองน่ะแหละ แต่ทำไมมันนานจังล่ะ คุยอะไรกันนักหนาเหรอกับคนรักเก่า ไหนบอกตอนนี้ยังไม่พร้อมจะกลับไปคืนดีหรือคบกับใครจริงๆ จังๆ ไง ที่สุดร่างสูงก็ลุกเดินลงกลับมายังห้องพัก ยกมือเคาะเรียกเป็นสัญญาณให้คนข้างเพราะคิดว่าห้องคงจะล็อกไว้ เงียบ ภายในห้องไม่มีเสียงฝีเท้าเดินมาหรือทีท่าว่าประตูจะถูกเปิด เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจหมุนลูกบิดดูจึงได้รู้ว่าห้องไม่ได้ล็อกเอาไว้
สองขาก้าวเข้าไปข้างใน ไฟในห้องยังคงเปิดไว้ทำให้มองเห็นร่างของเจ้าของห้องที่บัดนี้นอนตะแคงตัวหลับตาอยู่บนโซฟาไปแล้ว
“ไม่คิดจะตามกันเลยใช่มั้ยเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าคนนั้นหลับลงไปได้อย่างไรในขณะที่ตนยังคงนั่งอยู่นอกห้อง หรือว่าเขาไม่สามารถมีอิทธิพลต่อใจเจ้าตัวได้แล้วจริงๆ มันคงจะเป็นเช่นนั้นสินะ เพราะสิ่งที่เขาเคยทำผ่านๆ มา พฤติกรรมของเขามันน่าระอาอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ คิดได้ดังนั้นจากอารมณ์หงุดหงิดตอนต้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นสงสารคนที่นอนอยู่ ดูเอาเถอะ ขนาดเขาออกปากว่าให้นอนด้วยกัน เจ้าตัวก็ยังยื้อที่จะกลับมานอนบนโซฟานั่นจนได้ เด็กหนุ่มเดินตรงเข้าไปนั่งมองร่างของคนที่นอนอยู่ ซึ่งบัดนี้ลมหายใจได้ส่งออกมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคงกำลังหลับลึกอย่างไม่รู้สึกตัว ตัดสินใจดึงผ้าห่มผืนบางที่ร่นออกจากร่างขึ้นคลุมให้เจ้าตัวดังเดิม แล้วลุกเดินไปนั่งลงบนขอบเตียงมองสำรวจรอบห้อง ห้องที่ครั้งหนึ่งตนเคยไม่คิดจะกลับมาเหยียบ แต่สุดท้ายก็ได้กลับเข้ามาอีกครั้ง แม้การมาครั้งนี้ความสัมพันธ์ของตนกับเจ้าของห้องคล้ายจะมีม่านบางๆ มากั้นให้ส่งความรู้สึกถึงกันไม่ได้เต็มความรู้สึกได้ดังเดิมก็เถอะ แต่จะโทษใครได้ล่ะ ม่านนั้นตัวเขาเองเป็นคนสร้างมันขึ้นเอง
เด็กหนุ่มถอนหายใจเมื่อคิดเรื่องราวต่างๆ จนวุ่นวาย แล้วพลันสายตาก็พลันสะดุดกับบิลค่าใช้จ่ายหนึ่งใบที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง โดยมีนาฬิกาปลุกวางทับเอาไว้ รู้สึกคุ้นสายตาเหลือเกินจึงหยิบขึ้นมาดู
“นี่มันค่าเหล้าวันนั้นนี่” เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นชัดแล้วว่าเป็นบิลค่าเครื่องดื่มที่ตนพาคนนี้ไปกลั่นแกล้งวันนั้น สายตาไล่มองยอดเงินแล้วก็ต้องตกใจ นี่เขามัวแต่ว่าโน่นว่านี่คนๆ นี้จนลืมนึกถึงข้อนี้ไปเลยจริงๆ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ใช่เรื่องเลยที่คนๆ นี้จะต้องจ่าย เพราะเขาเป็นคนสั่งรายการแพงๆ มาเองทั้งนั้น เด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าเมื่อความรู้สึกเชิงบวกต่อคนที่นอนหลับอยู่เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีก ดูเอาเถอะ เจอกันกี่ทีคนๆ นี้ก็ไม่เคยเอ่ยทวงถามหรือต่อว่าตนในเรื่องนี้เลย ตัวเองก็ไม่ได้มีรายได้อะไร แถมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในเมืองแบบนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ น่าจะไปเจียดเงินในกระเป๋าส่วนใดส่วนหนึ่งของเจ้าตัวได้ล่ะน่า
ร่างสูงลุกลงจากที่นอนเดินมายังร่างของคนที่ตนเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ด้วยแล้วจริงๆ อีกครั้ง ย่อตัวนั่งลงมองพินิจใบหน้าใสที่เริ่มรู้สึกว่ามันน่าทะนุถนอมขึ้นมาจนอดที่จะเอื้อมมือไปปัดไรผมบางๆ ที่ตกลงมาเกะกะหลายเส้นให้พ้นไปเบาๆ เด็กหนุ่มนั่งมองร่างนั้นอยู่จนร่างกายเริ่มง่วงและเผลอฟุบหลับลงไปบนพื้นที่ว่างเล็กๆ ของโซฟานั่นกระทั่งเช้า
เต็นรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน ตกใจที่เห็นร่างแชมป์นั่งฟุบหน้านอนข้างๆ ร่างตัวเอง เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปปลุกให้เจ้าตัวลุกขึ้น ตกใจที่เห็นเนื้อกายเจ้าตัวร้อนผิดปกติจึงรีบเขย่าร่างเรียกเจ้าตัว
“แชมป์ แชมป์”
แชมป์เงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกตัว ยกมือกุมขมับเพราะรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา
“ปวดหัวจังเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก เต็นถอนหายใจ อาการนี่คงเกิดจากการไปนั่งรับลมที่ดาดฟ้านั่นแน่ จริงๆ แล้วเมื่อคืนเด็กหนุ่มตามเจ้าตัวไป แต่เห็นกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่เงียบๆ คิดว่าคงกำลังนึกถึงเรื่องที่ทะเลาะกับคนรักอย่างมิวจึงไม่อยากเข้าไปรบกวน จึงเลี่ยงไปเอาเสื้อผ้าขึ้นมาตาก แล้วจัดแจงที่นอนให้ตัวเองที่โซฟาตัวเดิมเอนกายนอนพักจนผล็อยหลับไป แล้วนี่ยังไงกัน ทำไมแชมป์ถึงได้มานอนฟุบหน้าข้างๆ แบบนี้ก็ยังไม่รู้
“แล้วใครใช้ให้ไปนั่งตากอากาศเย็นๆ ข้างบนล่ะ” เต็นต่อว่านิดๆ
“เต็นรู้เหรอ” แชมป์เอ่ยถาม เด็กหนุ่มจึงรีบเฉไปเรื่องอื่น
“เดาเอา แล้วนี่ปวดหัวมากมั้ย ขึ้นไปนอนบนเตียงไป เป็นบ้าอะไรถึงมานั่งหลับอยู่แบบนี้”
แชมป์ลุกไปเอนกายนอนพักบนที่นอนตามคำสั่ง ไม่มีแรงพอที่จะตอบโต้อะไรได้มาก นอนได้สักพักก็ผล็อยหลับไปอีก เต็นยืนมองร่างนั้นคิดไปว่านี่ตัวเองกำลังฝันหรือเรื่องจริง ที่นอนหลับอยู่บนที่นอนตนตอนนี้คือคนที่หัวใจวิ่งตามหาจนเหนื่อยจริงๆ น่ะหรือ เด็กหนุ่มพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำชำระร่างกายเสร็จออกมาก็ยังเห็นอีกคนนอนอยู่ท่าเดิม ในใจก็นึกเป็นห่วงอยากจะเข้าไปดูแลเมื่อคิดว่าเจ้าตัวคงจะจับไข้อย่างแน่นอน แต่อีกใจก็ไม่รู้ว่าคนนั้นจะร้ายใส่ตนได้ตอนไหนอีก จากคำปลอบโยนเมื่อคืนไม่ได้ทำให้หัวใจคิดถลำได้สักเท่าไหร่นัก อย่างที่เคยบอกเจ้าตัวเอาไว้ว่าตอนนี้หัวใจช่างเข็ดเหลือเกินกับการมองอะไรแค่ฉาบฉวย ก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าคนๆ นี้จะไม่เคยปลอบเคยเอ่ยให้สบายใจจนเผลอคิดไปว่าเจ้าตัวดูเป็นคนดี แล้วสุดท้ายเป็นยังไงล่ะ เสียน้ำตาไปไม่รู้ตั้งกี่หยดกว่าจะพาตัวเองมายืนเป็นผู้เป็นคนได้จนถึงทุกวันนี้
“เอาไงดีวะ มีเรียนด้วย” เด็กหนุ่มเอ่ยกับตัวเอง สุดท้ายก็ไม่ทำอะไรสักอย่างกับคนๆ นั้น เด็กหนุ่มหันมาทำตัวปกติเก็บโน่นเก็บนี่ทำเสมือนว่าในห้องมีแค่ตนอยู่คนเดียว เสร็จแล้วจึงแต่งตัวออกไปเรียน คิดว่าคนที่นอนหลับอยู่ตื่นมาร่างกายก็คงจะดีไปเอง จะว่าใจร้ายใจดำยังไงก็ช่าง ตัดไฟเสียแต่ต้นลมดีกว่าการค่อยไล่ดับตอนที่มันลามทุ่งไปแล้ว ซึ่งกว่าจะดับได้ก็ใช่ว่าจะใช้เวลาเพียงนิดอย่างที่เคยเผชิญมาแล้ว
แชมป์ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาในตอนสาย เด็กหนุ่มมองรอบห้องไม่พบเงาของเจ้าของห้องก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ไอออกมาเมื่อรู้สึกระคายที่คอ
“เต็นไปไหน” เด็กหนุ่มเอ่ยถามตัวเอง แอบคิดไปว่าเจ้าตัวคงจะลงไปหาอะไรมาให้ตนทานอย่างคราวที่แล้วล่ะมั้ง ขอให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เถอะ เพราะตอนนี้เขาพร้อมจะเปิดรับน้ำใจที่ฝ่ายนั้นมอบให้ในทุกเรื่อง
คิดได้ดังนั้นจึงเอนกายลงนอนใหม่ด้วยเพราะอาการยังไม่ดีขึ้น เรื่องไปเรียนคงต้องพักเอาไว้เพราะตอนนี้ร่างกายไปไหนไม่ได้จริงๆ แต่แม้ไปได้ก็ยังไม่อยากจะไป เพราะเดี๋ยวคนที่ตัวเองคิดว่าลงไปหาอะไรมาให้ทานจะพาลคิดว่าตนรังเกียจแล้วก็หนีกลับอีก
ตกบ่ายเด็กหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ต้องรีบพาร่างกายเพลียๆ ลุกมาหาน้ำดื่มเพราะรู้สึกแห้งผากไปทั้งปากกระทั่งน้ำลายสักหยดก็ไม่มีจะกลืน พอได้หยดน้ำมาหล่อเลี้ยงให้รู้สึกสดชื่นขึ้นจึงมอบรอบตัวใหม่ ภายในห้องยังว่างเปล่าเช่นเดิม ไม่มีเงาของเจ้าของห้องให้เห็น สายตามองออกไปทางระเบียงห้องเห็นแสงแดดเปลี่ยนทิศทางจึงหันมองนาฬิกาปลุกบนโต๊ะหัวเตียง ตกใจที่เห็นว่าเกือบจะบ่ายสามโมงเข้าไปแล้ว นี่เขาหลับไปขนาดนี้เลยเหรอ แล้วคนที่เขาคิดว่าลงไปหาอะไรมาให้ทานล่ะ นี่สิ่งที่เขาคิดมันผิดไปหรือ น่าอายนักที่คิดเข้าข้างตัวเองว่าจะได้รับความหวังดีจากคนเช่นเต็นอยู่ จริงๆ น่าจะเอะใจตั้งแต่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นยาสักเม็ดหรือน้ำสักแก้วแล้วนี่ เด็กหนุ่มยิ้มเยาะอย่างนึกสมเพชตัวเองที่คงหมดโอกาสรับน้ำใจดีๆ จากคนที่ตนเริ่มรู้สึกดีๆ ให้แน่แล้ว ร่างสูงเดินไปทรุดนั่งลงบนโซฟา ยกมือขึ้นลูบใบหน้า นั่งสมเพชตัวเองสักพักก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปชำระร่างกาย แม้ร่างกายตอนนี้จะไม่สมบูรณ์นัก แต่ก็รู้สึกละอายที่จะอยู่ภายในห้องนี้ต่อไป เพราะหากเจ้าของห้องกลับมาก็ไม่รู้จะมองหน้าติดได้ยังไง เมื่อการกระทำที่เจ้าตัวทำวันนี้มันบ่งบอกชัดเจนแล้วว่าเขาคงจะไม่ใช่คนที่มีอิทธิพลต่อจิตใจเจ้าตัวได้อีก
เต็นกลับเข้ามาพอดีตอนที่แชมป์พาร่างเพลียๆ เดินโซเซออกมาหน้าหอ สองคนมองเห็นกันระยะไกล แชมป์ฝืนร่างกายทำทีไม่เป็นไร ตอนคิดว่าต้องเดินผ่านร่างนั้น เพราะแม้แสดงท่าทีอ่อนแอออกไปก็ใช่ว่าคนที่หมดใจให้ตนแล้วจะสนใจ ด้านเต็นเองรีบเก็บถุงยาไว้ในกระเป๋ากางเกง ยาลดไข้นี้ซื้อติดมือมาเพื่อคนตรงหน้าน่ะแหละ ไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวจะยังอยู่ที่ห้องมั้ย แต่ก็ลองซื้อติดมือเข้ามาเพราะเอาเข้าจริงๆ จิตใจที่ว่าเข้มแข็งในตอนออกไปก็อ่อนยวบยาบลงยามที่อยู่ข้างนอก ตลอดเวลาที่ไปเรียนก็นึกเป็นห่วงอยู่ตลอดว่าคนที่ตนทิ้งให้นอนอยู่อย่างไม่ใยดีจะเป็นยังไงบ้าง ลองกลั้นใจโทรศัพท์มาหาแล้วแต่ติดต่อไม่ได้คิดเอาว่าแบตโทรศัพท์เจ้าตัวคงจะหมด ตอนกลับจากเรียนจึงแวะซื้อยานี่ติดมือมา แต่พอเห็นร่างนั้นเดินมานิ่งๆ ก็คิดว่าเจ้าตัวน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว และก็หวาดกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดิมในวันที่โดนโยนถุงโจ๊กใส่หน้า จึงเลือกที่จะซ่อนความหวังดีของตัวเองเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง
สองคนเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้ากันในที่สุด เพราะต่างคนต่างฝืนเก็บความรู้สึกและอาการจึงไม่มีใครยอมทักใครก่อน มีเพียงแววตาเท่านั้นที่จ้องมองกันอยู่นานอยู่เกือบนาที ที่สุดคนที่เอ่ยทักก่อนก็เป็นเต็น
“หายดีแล้วเหรอ”
“อืม” แชมป์ตอบสั้นๆ ด้วยท่าทีนิ่งๆ เพราะยังรู้สึกน้อยใจและละอายใจต่อคนตรงหน้า แต่อาการที่เห็นนั่นกลับทำให้เต็นตีความหมายว่าเจ้าตัวคงจะเริ่มเมินเฉยใส่ตนเช่นเดิม จึงเริ่มมีทิฐิขึ้นมาบ้างด้วยการเอ่ยสั้นๆ
“ก็ดี”
“ไม่ได้ห่วงกันเลยใช่มั้ย” แชมป์หลุดปากถามออกมาเมื่อเห็นท่าทีที่ไม่เคยเห็นของคนตรงหน้า
“ก็หายแล้วไม่ใช่เหรอ” เต็นตอบเลี่ยงๆ พยามเก็บความรู้สึกห่วงใยไว้ให้มิดที่สุด ไม่แน่หรอกว่าคำถามนั่นอาจเป็นการถามลองใจ
“ไม่หายก็ต้องหายล่ะ เพราะมีคนรอเจออยู่” แชมป์เอ่ยออกมากึ่งประชดเพราะรู้สึกน้อยใจ คิดว่าท่าทีเฉยชาของคนตรงหน้าคงมาจากการที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังโดนรุมล้อมเอาใจจากทั้งคนรักเก่าที่โทรศัพท์มาส่งกันเข้านอนเมื่อคืนและจากคนรักใหม่ที่คงจะเพิ่งแยกจากกันมา
“งั้นก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวเขาจะรอ” เต็นฝืนบอกออกไปยิ้มๆ เมื่อคิดว่าคนที่รอนั่นคงเป็นคนรักเจ้าตัวที่ชื่อมิว แชมป์รู้สึกน้อยใจหนักขึ้นอีก ประชดขนาดนี้แล้วเต็นยังคงเฉยได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันคงเป็นจริงแล้วสินะว่าเจ้าตัวหมดรักให้ตนแล้ว
“งั้นขอตัวนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นแล้วเดินผ่านร่างนั้นไป เต็นเพียงแค่ชำเลืองสายตามองตามไม่ได้หันไปมองจึงไม่ได้เห็นและรู้ว่าคนที่เดินไปลอบไอออกมาเบาๆ เพราะร่างกายเริ่มต้านทานพิษไข้ที่ฝืนเก็บเอาไว้ไม่ไหว หนำซ้ำยังเดินเซผิดทางนิดๆ เพราะเพลียที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนับตั้งแต่เช้าหากไม่นับน้ำที่ดื่มเข้าไปเพื่อแก้อาการระคายคอ
เต็นแข็งใจยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เด็กหนุ่มไม่ยอมหันไปมองคนที่เดินจากไป เข้าใจไปเองว่าเจ้าตัวคงจะแข็งแรงดีแล้ว มือค่อยๆ ล้วงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบถุงยาออกมา รู้สึกเยาะหยันตัวเองที่เกิดบ้าห่วงคนๆ นั้นได้อีก ทั้งๆ ที่เจ้าตัวมีคนรอเจออยู่แล้ว ที่สุดก็ตัดสินใจเดินเข้าหอพักไปเงียบๆ
ท่ามกลางแสงแดดจ้ายามบ่าย หากใครสักคนจะมองลงมาจากบนหอพักคงจะเห็นสองคนที่เดินหันหลังให้กันด้วยท่าทีที่ต่างฝืนใจไม่ให้ตัวเองอ่อนแออย่างผู้ที่แพ้ในเกมเฉยชา
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

ขออนุญาตแจ้งข่าวสักนิดนะครับ สำหรับนิยายเรื่องนี้ซึ่งกำลังจะจบลงแล้วในอีกไม่กี่ตอน
หากใครสนใจอยากจะเก็บสะสมผลงานในรูปแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค เปิดจอง 16 เมษายนนี้ครับ พร้อมอีกสองผลงานที่จะทำการเปิดจองพร้อมกันคือ แรงแค้นใต้เงารัก ซึ่งกำลังจะจบลงแล้วเช่นกัน และอีกหนึ่งผลงานคือ รู้ไหม? หัวใจฉันตามหา หากใครยังคิดถึงการินทร์และรณวีย์ และบรรยากาศบนภูปลายสายอยู่ก็ตามเก็บความประทบใจได้เช่นกัน ย้ำอีกครั้งนะครับว่า 16 เมษายนนี้เปิดจองพร้อมกันทั้งสามเล่ม ส่วนผลงานเก่าๆ ก็ยังสามารถสั่งซื้อได้อยู่ครับ นั่นคือ ติวรักสุดใจนายเกเร / Real Love Story และ ไฟรัก รายละเอียดต่างๆ อ่านเพิ่มเติมที่กระทู้นี้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23710.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23710.0)
หรือจะ pm มาสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ส่วนด้านล่างเป็นปกนิยายทั้งหมดครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201146_28599.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201146_28512.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18638.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201148_72955.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18411.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18525.gif)

ขอบคุณครับ


 

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 08-04-2011 22:55:34
เฮ้อ
เหนื่อยใจกับชีวิตรักของ 2 คนนี้จริงๆเลย
 :m15:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 09-04-2011 00:09:25
เบื่อเต็น แอ๊บอยู่นั่นแหละ

อยากจอง เรื่องเต็ม แชมป์
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-04-2011 00:37:59
ไม่ยอมรับใจตัวเอง
ไม่ยอมรับรู้ใจอีกคน

..จะรักกันได้ไง..

ขอบคุณครับ คุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-04-2011 10:39:10
เรื่องนี้ก็นะ
เหมือนละครช่อง7เลย ค่าของคน 55+
อ่านแล้วอิน สงสารเต็นT^T
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-04-2011 10:56:14
ขอให้เป็นใบ้ทั้งสองคน   ตลอดไป


 :m16:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 09-04-2011 11:18:35
อ่านแล้วมันขัดใจจริงๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 09-04-2011 20:53:18
โอยยย อยากร้องไห้ แต่ละคนคิดกันไปเองทั้งนั้น
เฮ้อ แต่จะโทศเต็นก็ไม่ได้ แชมป์เล่นทำให้เต็นฝังใจซะขนานั้น

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 26 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 08.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 14:31:13
ตอนที่ 27

เต็นกลับขึ้นห้องได้ก็นั่งพักบนโซฟาอย่างคนรู้สึกล้า ไม่ใช่ล้าร่างกายแต่ล้าที่หัวใจจากการเผชิญหน้ากับแชมป์เมื่อครู่ กี่ทีแล้วหนอที่หัวใจต้องเป็นแบบนี้หลังจากที่ได้พบเจอกับคนๆ นั้น มันถึงเวลาหรือยังที่จะพาหัวใจให้หลุดพ้นบ่วงความเจ็บช้ำที่คอยกระตุกมัดที่ใจให้ระบมไม่จบไม่สิ้น ลำบากมากหรือกับการที่จะเป็นคนคลายปมบ่วงนี้ด้วยตัวเอง ทำไมพยายามทำแล้วถึงไม่สำเร็จ
เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะลุกเดินเอาถุงยาไปเก็บที่โต๊ะหัวเตียง รู้สึกตกใจปนแปลกใจเมื่อที่ตรงนั้นมีเงินสดวางอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งโดนทับไว้ด้วยนาฬิกาปลุก นี่มันของใครกัน จำได้ว่าก่อนออกไปตัวเองไม่ได้วางเงินไว้ตรงนี้นี่ งั้นต้องเป็นของแชมป์สิ แล้วเจ้าตัวไม่พกกระเป๋าตังค์หรือไงถึงได้วางเงินสดจำนวนมากไว้แบบนี้ วางไว้เป็นระเบียบอีกต่างหาก แต่เอ๊ะ! กระดาษที่วางอยู่ด้านล่างสุดนั่นมันเป็นบิลค่าเครื่องดื่มวันนั้นนี่นา หรือว่า?
เต็นหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น เด็กหนุ่มรีบวางถุงยาไว้ที่ว่างข้างๆ แล้วหยิบเอาจำนวนเงินสดและใบเสร็จที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาดู นับดูคร่าวๆ พบว่าจำนวนของเงินมากเกินจำนวนตัวเลขในเสร็จอยู่หลายร้อยบาท นึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างจึงลองพลิกด้านหลังของใบเสร็จดู พบลายมือเขียนบอกชัดเจนว่า
เงินค่าเหล้า ขอโทษที่คืนให้ช้านะ….แชมป์
อ่านเสร็จเต็นยืนนึกคิด ไม่ได้รู้สึกดีใจที่ได้เงินคืนแต่กลับคิดมากว่าตัวเองไม่ควรวางใบเสร็จนี้เอาไว้ในที่แจ้งขนาดนี้ กลัวเหลือเกินว่าคนที่คืนเงินให้จะคิดว่านี่เป็นการทวงเงินทางอ้อม เจ้าตัวยิ่งไม่เคยคิดเรื่องดีๆ กับตนเลยสักครั้ง เด็กหนุ่มวางเงินสดในมือไว้ที่เดิมแล้วทรุดกายนั่งลงที่ขอบเตียง เชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้ตนคงกำลังถูกมองในด้านลบอีกจากผู้ชายอย่างแชมป์
ด้านแชมป์ กลับถึงวงเวียนใหญ่ก็แวะไปไปหาอะไรรองท้องที่ร้านของแม่ น่าแปลกที่กินอะไรไม่ลงเลยสักอย่าง รู้สึกตื้อๆ ในลำคอทั้งๆ ที่ก่อนมารู้สึกหิวจนไส้จะขาด
“ข้าวยังเต็มจานอยู่เลยแชมป์ ไหนบอกหิวไงลูก” เมื่อลูกค้าในร้านไม่มีแล้วผู้เป็นแม่จึงนั่งลงทัก เด็กหนุ่มรวบช้อนส้อมวางไว้บนจานข้าวยกน้ำขึ้นดื่มก่อนเอ่ยบอก
“มันกินไม่ลงอ่ะแม่”
   “ทำไม นี่มันไข่เจียวสูตรแชมป์เองนะ ทำไมถึงกินไม่ลง” แม่เอ่ยว่า เด็กหนุ่มก้มมองจานไข่เจียวตรงหน้า ใช่มันเป็นสูตรที่เด็กหนุ่มคิดขึ้นมาเองและครั้งหนึ่งเคยใช้ประเด็นนี้พูดคุยหยอกล้อกับคนๆ หนึ่ง ในสมองเริ่มจำได้ว่าเคยสัญญาว่าถ้ามีโอกาสจะทำให้เจ้าตัวกิน ถึงตอนนี้เด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้มีแต่ใบหน้าและท่าทีต่างๆ ของคนนั้นลอยวนไปวนมาอยู่ในห้วงความคิด นี่เขาเป็นอะไรไปนะ เกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้เป็นแบบนี้
   “เอาอย่างอื่นมั้ยเดี๋ยวแม่ทำให้ใหม่” แม่เอ่ยบอกเมื่อเห็นอาการลูกชายแปลกๆ
   “ไม่อ่ะแม่ ตอนนี้เหมือนแชมป์จะกินอะไรไม่ลงแล้ว” แชมป์ตอบเมื่อรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผู้เป็นแม่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเอ่ยถาม
   “แล้วเมื่อคืนไปค้างไหนมา แล้วปิดโทรศัพท์ทำไมโทรหาไม่ติดเลย”
   “ค้างห้องเพื่อนครับ แล้วแบตโทรศัพท์มันหมด แชมป์ไม่ได้ปิดเครื่องเอง”
   “อืมๆ คราวหน้าคราวหลังจะไปไหนมาไหนโทรบอกแม่มั่ง ไม่ใช่รอให้แบตหมดแล้วติดต่อกันไม่ได้แบบนี้”
   “ขอโทษครับแม่ ว่าแต่แชมป์เข้าบ้านก่อนนะ ปวดหัวน่ะอยากนอนพัก เดี๋ยวค่ำๆ แชมป์ออกมาช่วยเก็บร้าน” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกกับผู้เป็นแม่ก่อนจะลุกเดินหายเข้ามาในบ้าน เจอกับพี่สาวและน้องชายก็ไม่ทักไม่ทาย ได้แต่เดินผ่านหน้าพวกเขาขึ้นห้องพักตัวเองไปเงียบๆ จนทั้งสองอดจะคุยกันไม่ได้
   “เฮียแชมป์เป็นไรอ่ะเจ๊ วันนี้ดูแปลกๆ”
   “อกหักมามั้ง ซึมมาเชียว”
   “น่าจะจริง ปกติไม่เห็นซึมขนาดนี้”
   สองพี่น้องมองหน้ากันสักพักคิดสรุปตรงกันว่าคนที่เดินผ่านหน้าไปน่าจะตกอยู่ในอาการเช่นนั้น ก่อนทั้งคู่จะสนใจกับกิจกรรมที่ตนกำลังทำค้างอยู่
   ในห้องของแชมป์ เด็กหนุ่มจัดการชาร์จแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ รอให้กระแสไฟเข้าเครื่องสักพักจึงเปิดเครื่องขึ้นดู เช็คข้อมูลในเครื่องไปเรื่อยเปื่อยรวมถึงการแจ้งเตือนจากระบบว่ามีใครบ้างที่พยายามติดต่อหาตนตอนที่เครื่องปิดการทำงานจากการที่แบตเตอรี่หมด
   หนึ่งหมายเลขไม่คุ้นตาถูกแจ้งมาถึงสองครั้งติดกันในเวลาสายๆ ของวันนี้ เด็กหนุ่มนึกฉงนว่าเป็นหมายเลขของใครเพราะไม่คุ้นตา แต่เพราะร่างกายเริ่มเพลียจึงไม่คิดสนใจที่จะติดต่อกลับ หากเจ้าของหมายเลขมีเรื่องสำคัญจะติดต่อกับตนจริงๆ คงติดต่อกลับเข้ามามากกว่าสองสายแล้วมั้ง นี่อาจจะเป็นคนโทรผิดเบอร์ก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นจึงจัดการวางโทรศัพท์ลง เปิดโหมดปิดเสียงแล้วเอนกายลงนอนพักเล่นๆ แต่เผลอหลับยาวไปจนค่ำมืด
   ทางด้านเต็นยังไม่วายคิดมากอยู่เช่นเดิม คิดวกไปวนมาว่าควรจะโทรศัพท์กลับไปชี้แจงกับคนที่คืนเงินให้ดีหรือไม่ว่าตนไม่ได้ตั้งใจวางใบเสร็จค่าเครื่องดื่มไว้ให้เห็นเพื่อจงใจทวงเงินทางอ้อม เด็กหนุ่มไม่คิดว่านี่เป็นการคืนเงินอย่างบริสุทธิ์ใจเป็นแน่ คนอย่างแชมป์ไม่น่าจะมาใส่ใจคนที่ไม่เคยมีความสำคัญอย่างเขา โทรศัพท์ถูกถืออยู่ในมือนานสองนานก่อนจะกลั้นใจยอมติดต่อไปหาในที่สุด แต่แล้วก็พบกับความผิดหวังเมื่อไม่มีการตอบรับจากเจ้าของหมายเลข พอสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็อดคิดถึงเมื่อก่อนไม่ได้ที่ไม่ว่าตนจะพยายามติดต่อคนนั้นยังไงก็ไม่สามารถติดต่อไปอย่างเช่นวันนี้ ที่สุดก็เกิดอาการท้อใจวางโทรศัพท์เอาไว้บนที่นอนแล้วพาร่างเข้าไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน
   แชมป์รู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มสะบัดหน้าไล่อาการมึนๆ สักพักก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาเช็คดูด้วยความเคยชิน เห็นหมายเลขเดิมตอนก่อนจะนอนปรากฏตรงหน้าจออีกครั้ง
   “ใครวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆ ตัดสินใจติดต่อกลับเพราะคิดว่าไม่น่าเป็นการโทรมาผิดเบอร์ แต่แล้วก็ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขนั้น
   “ไม่รับสายแฮะ” เด็กหนุ่มวางสายแล้วเอ่ยออกมา ไม่คิดที่จะติดต่อกลับไปอีกจึงวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วลุกขึ้นไปทำธุระในห้องน้ำ
   
   *****************************************************
   
   บนดาดฟ้าที่ลมค่อนข้างแรง เต็นนั่งชันเข่าปล่อยวางความรู้สึกล้าๆ ทั้งหมดทิ้ง ก่อนหน้านี้ตอนออกมาจากห้องน้ำแล้วเช็คโทรศัพท์ดูเห็นแล้วว่าแชมป์ติดต่อกลับมาหาตน แต่ระหว่างที่กำลังชำระร่างกายอยู่นั้นได้ขบคิดเรื่องที่ตนสมควรจะปล่อยวางเรื่องราวเก่าๆ ได้แล้วหรือยัง การเป็นคนอ่อนแออ่อนไหวปล่อยให้คนอื่นเข้ามามีอิทธิพลเหนือจิตใจได้ตลอดเวลาแบบนี้มันดีแล้วหรือ สมควรแก่เวลาหรือยังที่จะพาหัวใจแกร่งขึ้นดั่งการแสดงออกภายนอก สมควรแก่เวลาหรือยังที่จะลืมความรักที่พังทลายลงครั้งก่อน สมควรแก่เวลาหรือยังที่จะหยุดการเลิกลงทัณฑ์หัวใจตัวเองด้วยการจำจองอยู่กับความรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ได้ทำลงไปเพราะความอ่อนไหว สมควรแก่เวลาหรือยังที่จะยอมให้หัวใจเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่ดีแสนดี สุดท้ายความถามทั้งหมดจบลงด้วยคำตอบที่บอกกับตัวเองเบาๆ ว่า
   “ถึงเวลาแล้วแชมป์ที่นายจะกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรา”
   เมื่อบอกกับหัวใจเช่นนั้นนาทีที่เห็นหมายเลขของคนที่ติดต่อกลับมาหัวใจจึงไม่ใยดีที่จะติดต่อกลับไป จากนี้ต่อไปคนๆ นั้นจะมองจะเห็นเขาเป็นตัวอะไรก็สุดแล้วแต่เถิด เพราะหัวใจจะไม่เก็บเอามาเป็นสาระให้ใจต้องเจ็บปวดอีก

****************************************************************
   
เวลาผ่านไปกว่าสัปดาห์ที่ทั้งเต็นและแชมป์ไม่ได้ติดต่อหรือพบเจอกันอีก มันเป็นการง่ายสำหรับเต็นกับการทำใจให้ลืมทุกอย่างได้เร็วขึ้น ประกอบกับคนรักเก่าอย่างนพและเพื่อนใหม่อย่างแม็คก็คอยชวนไปโน่นไปนี่อยู่ไม่เคยเว้นหากมีเวลาว่างตรงกัน เด็กหนุ่มไม่ได้ปิดบังเรื่องใครกับใคร เจอหน้าคนรักเก่าก็เปิดใจพูดออกไปเรื่องเพื่อนใหม่ เจอหน้าเพื่อนใหม่ก็บอกกล่าวเรื่องคนรักเก่าให้ฟัง สองคนไม่ได้แสดงออกถึงท่าทีไม่พอใจอะไร บอกเคารพในการตัดสินใจของคนกลางว่าหากจะให้ใครยืนอยู่ตำแหน่งไหน ตัวเองก็รู้สึกยินดีด้วยทั้งนั้น ในเมื่อสถานการณ์ไม่ได้บีบบังคับให้ต้องเลือกแบบนี้เด็กหนุ่มจึงรู้สึกผ่อนคลายและไม่กดดันกับการที่จะต้องบอกอีกคนว่าไปกับอีกคน ผลที่ได้จากการพบเจอไม่ว่าจะกับใครสุดท้ายก็คือรอยยิ้มเสียงหัวเราะและการพูดคุยอย่างเฮฮาสนุกสนาน ไม่เคยมีสักครั้งที่เกิดเรื่องราวหึงหวงหรือทะเลาะกันเพราะเด็กหนุ่มวางตัวอย่างชัดเจนแล้วว่าวินาทีนี้ตอนนี้คงมีใจให้กับคนทั้งสองแค่เพื่อนที่ดีเท่านั้น หากว่าใครคนใดคนหนึ่งคิดว่าไม่ทนกับสถานภาพแบบนี้ก็ยินดีกับการจากลา แต่คำตอบที่ได้กับคนทั้งสองก็ทำเอาน้ำตาแทบไหลด้วยความซึ้งใจจากคำพูดที่ตรงกันคือยินดีและเต็มใจที่จะดูแลความสัมพันธ์นี้ไปจนวันสุดท้ายของชีวิต เพราะการที่คนเราจะมอบความรู้สึกดีๆ ให้กันไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องหวังผลตอบแทน
   ส่วนแชมป์ ตอนนี้ได้กลายเป็นคนแปลกไปในสายตาเพื่อนร่วมก๊วน จากเด็กหนุ่มร่าเริงเฮฮากวนๆ บัดนี้กลายเป็นใครอีกคนที่พูดน้อย ไม่ค่อยยิ้ม ระดับความเฮฮาลดลงอย่างน่าตกใจ กลุ่มเพื่อนเคยฟันธงว่าเจ้าตัวกำลังอยู่ในภาวะคนอกหักจากน้ำมือแฟนสาวอย่างมิว แต่วันก่อนหลายสายตาเห็นชัดเจนว่ามิวตามมาขอคืนดีถึงหน้ามหาวิทยาลัยแต่เด็กหนุ่มตอบกลับไปเพียงว่าขอเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ตามถามไถ่ว่าหากยินดีที่จะไม่คืนดีเองแล้วทำไมต้องมาแสดงท่าทางเซื่องซึมให้เพื่อนๆ เห็น คำตอบที่ได้กลับมาทำเอางงกันไปทั้งกลุ่มเพราะเจ้าตัวบอกอาการที่เป็นนี่ไม่ใช่เพราะคนรักอย่างมิว พอถามต่อไปว่าแล้วเป็นเพราะใครก็ไม่เคยมีใครได้คำตอบชัดเจน จนที่สุดจึงขี้เกียจเซ้าซี้ ปลอบก็แล้ว ถามก็แล้ว ในเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมเปิดใจพูดคุย ทุกคนจึงลงความเห็นว่าปล่อยมัน!
   
   ***************************************************
   
   ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนฤดูกาลจากหนาวไปสู่ร้อน ไม่ใช่เพียงองศาจากอุณหภูมิเท่านั้นที่แปรเปลี่ยนไปแต่เรื่องราวต่างๆ ของเต็นก็ได้ดำเนินเปลี่ยนทิศไปเช่นกัน มาวันนี้เด็กหนุ่มได้ปิดชีวิตนักศึกษาลงได้สำเร็จ พร้อมๆ กับการลบภาพของแชมป์ออกไปได้จนเลือนรางในความรู้สึก แต่ทั้งนพและแม็คก็ยังไม่มีใครก้าวเข้ามาในหัวใจได้มากกว่าคำว่าเพื่อนได้อยู่ดีแต่วิถีชีวิตของสองคนนั้นก็ใช่ว่าจะไม่เจอเรื่องดีๆ เพราะแม็คเองก็เรียนจบพร้อมๆ กับเขา ส่วนนพเองก็ได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ช่วงเวลาที่ผ่านมาเด็กหนุ่มเคยแนะนำสองคนให้รู้จักกันแล้วตอนเจอกันโดยบังเอิญ แต่วันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะทั้งสามนัดเลี้ยงฉลองกับความสำเร็จอีกก้าวของชีวิต ณ ร้านๆ หนึ่ง แถวชานเมือง ไม่ต่างกับแชมป์ที่มาร้านๆ นี้กับกลุ่มเพื่อนที่เรียนจบพร้อมตนด้วยเช่นกัน
   สองคนยังไม่เจอกันโดยทันทีเพราะร้านที่ว่านั้นกว้างขวางพอสมควร และโต๊ะที่ทั้งสองเลือกนั่งกับคนที่มาด้วยก็อยู่กันคนละมุม
   ที่โต๊ะของแชมป์
   “ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิวะแชมป์ ยังไม่หายโดนของมาอีกหรือไงวะ วันนี้วันเลี้ยงฉลองนะโว้ย ทำหน้ายังกะมาร่วมงานศพใครเลยนะมึง” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยว่าติดตลกในตอนที่เห็นเด็กหนุ่มนั่งนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาตั้งแต่มาถึง จะว่าไปอาการนี้พวกเขาก็น่าจะชินกันแล้ว เพราะแชมป์ได้กลายเป็นคนเป็นคนแบบนี้มาแล้วเนิ่นนานนับตั้งแต่วันนั้นที่คิดว่าเจ้าตัวอกหักจากคนรักอย่างมิวแต่เจ้าตัวบอกไม่ใช่ ซึ่งจนป่านนี้เพื่อนในกลุ่มก็ยังไม่มีใครรู้สาเหตุว่าคนๆ นี้กลายเป็นคนเหม่อซึมจากน้ำมือใคร แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าตัวไม่เล่าก็ไม่อยากที่จะเซ้าซี้ แต่วันนี้ขอสักวันให้เจ้าตัวร่าเริงสมกับการมาร่วมฉลองการปิดชีวิตนักศึกษาลงได้สำเร็จกันหน่อยเหอะ
   “เออน่ะ อย่างน้อยกูก็มากะพวกมึงแล้ว จะอะไรกะกูนักหนา” แชมป์เอ่ยตัดรำคาญ ใช่ว่าเขาอยากจะมาเฮฮาที่นี่สักเท่าไหร่ ถ้าเพื่อนไม่เซ้าซี้เขาก็คงไม่มาที่ร้านแห่งนี้แน่ เด็กหนุ่มปิดตายความรู้สึกเฮฮาร่าเริงนับตั้งวันนั้นที่เดินจากเต็นมาแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกเสียใจและน้อยใจที่คนๆ นั้นไม่ติดต่อกลับมาหาตนเลยนับตั้งแต่วันนั้น จำนวนเงินเขาคืนให้และข้อความที่ได้เขียนไว้ก่อนการจากลาไม่สามารถสะกิดใจคนๆ นั้นให้นึกถึงเขาบ้างเลยหรือ มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นล่ะนะ เพราะหากมันสะกิดใจเจ้าตัวป่านนี้เขาก็คงได้รับการติดต่อกลับมาแล้ว จะว่าฝ่ายนั้นจำหมายเลขโทรศัพท์เขาไม่ได้ก็ดูจะเป็นการปลอบใจตัวเองเกินไป เพราะก่อนหน้านั้นเจ้าตัวก็เฝ้าโทรศัพท์มาตามเขาทั้งเช้าและเย็น จะให้เขาเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปหาเอง ก็ไม่รู้จะติดต่อกลับไปยังไง เพราะไม่ได้เอ่ยขอหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ของเจ้าตัวไว้เลย ป่านนี้คงกำลังมีความสุขกับรักครั้งใหม่อยู่ล่ะมั้ง แต่จะกับใครล่ะ จะเป็นกับนายแม็คหรือนายนพเขาก็สุดจะคาดเดา
   ที่โต๊ะของเต็น เด็กหนุ่มกำลังมีความสุขจริงๆ อย่างที่แชมป์คาดเดา ซึ่งความสุขที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่ากับใครระหว่างคนรักเก่าอย่างนพหรือเพื่อนใหม่อย่างแม็ค เพราะตอนนี้สองคนนั้นต่างก็นั่งเฮฮาอยู่ต่อหน้า
   “เรียนจบแล้วคิดจะทำอะไรต่ออ่ะแม็ค” นพเอ่ยถามแม็คเป็นการเป็นงานหลังคุยเฮฮาหยอกเหย้ากันพอสมควรแล้ว กับเต็นนั้นก่อนหน้าเจ้าตัวบอกชายหนุ่มแล้วว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดสักพัก ใกล้ๆ วันรับปริญญาถึงจะกลับมา
   “ยังไม่รู้เลยพี่นพ อาจจะหาที่เที่ยวพักผ่อนสักพักแหละแต่ที่ไหนยังไม่รู้เลย” แม็คตอบ นพจึงหันมาเอ่ยกับเต็นยิ้มๆ
   “ไม่ชวนแม็คไปเที่ยวบ้านด้วยเหรอเต็น”
   “อ้าว เต็นจะกลับบ้านเหรอ” แม็คชิงถามก่อนที่เต็นจะเอ่ยอะไร พอได้คำตอบว่าใช่ก็แสดงท่าทีอยากตามไปด้วยอย่างชัดเจน
   “อย่าเลยแม็ค บ้านเต็นมันไม่มีที่ให้เที่ยวหรอก” เต็นเอ่ยบอก เพราะใจจริงอยากกลับไปที่บ้านเกิดเพียงลำพัง
   “จริงเหรอพี่นพ” แม็คหันมาถามอีกคนที่เคยบอกว่าเคยไปมาแล้ว
   “ไม่รู้ดิ พี่ชักเลือนๆ แล้วเพราะไม่ได้ไปมานานแล้วเหมือนกัน” นพตอบ ชายหนุ่มฟังคำค้านของคนรักเก่าก็รู้ได้ว่าเจ้าตัวคงกำลังอยากจะอยู่เพียงลำพังจึงเลี่ยงเอ่ยไปเช่นนั้น ไม่ต่างจากแม็คที่พอจะอ่านท่าทีออกจึงไม่เซ้าซี้อะไรมาก อย่างที่เคยเอ่ยไว้ตั้งแต่ต้นว่าสองหนุ่มเคารพในการตัดสินใจของเต็น ประเด็นการพูดคุยนี้จึงจบไป ก่อนที่ทั้งหมดจะหันมาคุยหยอกเหย้ากันใหม่ กระทั่งอิ่มจากมื้ออาหารแห่งการฉลองนี้จึงตกลงว่าจะกลับกัน ซึ่งเวลาขณะนี้ก็เย็นย่ำลงพอดี
   “ขามาเต็นมากับพี่แล้วขากลับผมขอไปส่งเต็นละกันนะพี่นพ” แม็คเอ่ยบอกทีเล่นทีจริง คนฟังเริ่มรู้จักนิสัยติดเล่นจึงเอ่ยยิ้มๆ ยกมือตบไหล่
   “ตามสบายเลยไอ้น้อง”
    เต็นมองภาพนั้นอย่างสุขใจ ไม่รู้สินะเห็นสองคนดีต่อกันแบบนี้หัวใจเด็กหนุ่มก็พลอยยิ้มได้ไปด้วย
   “ไปนะเต็น ถ้าแม็คมันรังแกระหว่างทางโทรฟ้องนพได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวนพจะมาจัดการให้” นพเอ่ยเอาฮาก่อนจากไปที่รถตนเอง แม็คส่ายหน้ามองคามหลังยิ้มๆ
   “ไอ้พี่นพบ้าเอ้ย”
   “ไปว่าเขาเดี๋ยวก็เต็นก็โทรฟ้องซะนี่” เต็นหันมาว่ายิ้มๆ  ก่อนที่ทั้งสองจะเดินคู่กันออกยังลานจอดรถด้านหน้าร้าน เดินไปกันได้สักพักแม็คเป็นฝ่ายชะงักคลำกระเป๋ากางเกงเอ่ยขึ้น
“เต็นรออยู่นี่นะ แม็คว่าแม็คลืมกุญแจรถไว้ที่โต๊ะแหงเลย” เอ่ยจบเด็กหนุ่มก็รีบเดินแกมวิ่งกลับเข้าไปในร้าน เต็นมองตามสักพักจึงเดินไปยังม้านั่งที่อยู่ใกล้ๆ หันมองโน่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็พลันสะดุ้งหน่อยๆ กับเสียงทักข้างๆ ตัว
“ไม่เจอกันนานเลยนะเต็น”


โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-04-2011 14:50:55
อ๊ากกกกกก มาได้จังหวะจริงๆ
ตะกอนที่อยู่ในใจเต็นจะถูกแชมป์กวนขึ้นมาหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 10-04-2011 15:04:37
อ๊าก...ลุ้น
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-04-2011 16:49:34
จะเป็นยังไงต่อเนี่ย
ตอนนี้แชมป์รู้ใจตัวเองแล้ว แต่เต็นจะหนีความรู้สึกตัวเองแล้ว
ตื่นเต้นจริงๆ ตอนหน้าจะเป็นยังไงน้า~
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-04-2011 17:02:00
เจอกันคราวนี้ ขออย่าเป็นโศกนาฏกรรมเลยนะ รู้จักพูดจากันดีๆ อย่ามัวแต่เหน็บแนมประชดประชันกัน
เป็นไงล่ะที่ผ่านมาอ่ะแชมป์ "..บัดนี้เธอเจอเข้าบ้าง รู้หรือยังว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน.." ขอเหน็บนิดงนึนะแชมปง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 10-04-2011 19:06:31
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-04-2011 19:07:30
กลายเป็นหมาหัวเน่าเลยไอ้แชมป์


ไม่มีใครสนใจ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 10-04-2011 19:10:34
โอยยย ตื่นเต้น เต็นจะว่าไงเนี่ยะ
ไม่ใช่เห็นหน้าก็หวั่นไหว เฮ้ออออ

แอบสมน้ำหน้าแชมป์เบาเบา
ทีตอนนั้นละไล่เขาอย่างกับหมูกับหมา ชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น
พอมาเจอกับตัวเองแล้วเป็นไง

พอเขาทำไม่แคร์ก็ทำเป็นหมาหงอยย
สมน้ำหน้าาาาา !!

แต่ก็นะ อยากให้สองคนนี้คู่กันอยู่ดี รออ่านตอนต่อไปจ๊ะ :)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 10-04-2011 21:35:41
ใกล้จะหมดเวลา

วิ่งไล่..วิ่งตาม
หัวใจกัน ยังอ่ะ เดะน้อย

เต็น&แชมป์
หดจิต หู่ใจ กันพอแล้ว(มั้ง)
หุหุ

ขอบคุณครับ คุณบอย

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 10-04-2011 23:08:25
อ่านรวดเดียวมาถึงตอนล่าสุดเลย สนุกมากค่ะ

แต่ช่วงแรกๆมีแต่บทสนทนาแฮะ ไม่ค่อยมีบทบรรยาย โดยเฉพาะช่วงที่โทรศํพท์คุยกันแรกๆ อ่านแล้วไม่รู้ใครเป็นใครพูด^^

แต่หลังๆมันส์มากอ่ะ รู้สึกว่าสองคนนี้ถ้าไมใช่เนื้อคู่ก็คงเป็นคู่กรรมคู่เวรกันอ่ะ ไปไหนมาไหนก็เจอกัน ตล๊อดๆ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 27 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 10.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 23:40:19

ตอนที่ 28
เต็นหันไปมองทางที่มาของเสียง ตกใจเล็กน้อยที่เห็นคนที่ตนเคยคุ้นเคยยืนอยู่ แต่ไม่ได้หวั่นไหวขนาดที่ต้องวางตัวไม่ถูกเมื่อคนๆ นั้นคือแชมป์ ผู้ชายที่หัวใจเริ่มเลือนรางไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยเจ็บกับการกระทำของเจ้าตัวขนาดไหน
“ก็ไม่แปลกนี่ เราสองคนเป็นอะไรกันล่ะถึงจะได้เจอกันบ่อยๆ สบายดีเหรอ” เด็กหนุ่มถามออกไปยิ้มๆ แม้จะไม่ได้รู้สึกรักอย่างแต่ก่อน แต่การเจอกันโดยบังเอิญแบบนี้จะให้เดินหนีเลยในขณะที่อีกฝ่ายเอ่ยทักก็ดูจะเสียมารยาทเกินไป
แชมป์อยากจะยินดีกับรอยยิ้มและคำทักทายที่ได้รับ แต่เห็นได้ชัดถึงแววตาห่างเหินของคนพูดจึงรู้สึกหงอยๆ อย่างประหลาด นาทีแรกที่เห็นร่างคนๆ นี้เดินมานั่งตรงมานั่งตัวนี้ในขณะที่ตนแยกจากกลุ่มเพื่อนออกมายืนคิดถึงเรื่องเจ้าตัวตามลำพัง รู้สึกว่านี่ตัวเองคิดมากไปจนเกิดภาพหลอนไปหรือเปล่า แต่พอกะพริบตาหลายครั้ง ภาพที่เห็นก็คือภาพเดิมจึงตัดสินใจเดินเข้ามาทัก แอบคิดว่าเจ้าตัวอาจจะดีใจบ้างที่เจอตนอีกครั้ง ไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับสายตาห่างเหินและอาการของคนที่คล้ายไม่ยินดียินร้ายอะไร
“ก็สบายดี เต็นล่ะ” เด็กหนุ่มฝืนยิ้มทักทาย ดีเท่าไหร่แล้วที่คนๆ นี้ไม่เดินหนี ทำอะไรกับเขาไว้ก็น่าจะซึ้งดีอยู่นี่นะ ยังจะมาเรียกร้องอะไรอีกไอ้แชมป์เอ้ย เด็กหนุ่มคิดเพื่อให้ตนหลุดพ้นจากอาการหงอยๆ
“ก็ดี แล้วทำไมมาอยู่แถวนี้ได้ไกลบ้านนายออก” เต็นตอบแล้วชวนคุยด้วยน้ำเสียงและสรรพนามอย่างเพื่อน ก็เพราะในใจคิดว่าคนตรงหน้าคงเข้ามาทักตนในฐานะคนเคยรู้จัก เจ้าตัวคงอาจจะแค่เดินผ่านมาเจอเขาล่ะมั้งเลยคงทักตามมารยาท
“เพื่อนพามาน่ะ แล้วเต็นมากะใคร” แชมป์ยังคงฝืนยิ้มตอบ เต็นเริ่มรู้สึกแปลกนิดๆ กับสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียกตน ในเมื่อหัวใจไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยแล้วจึงไม่อยากได้ยินสรรพนามนั้นจากปากเจ้าตัวเลย
“มากับเพื่อนน่ะ กำลังจะกลับแล้วล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกออกไปแล้วหันกลับมาทางที่แยกจากแม็คมาเพราะคิดว่าเจ้าตัวน่าจะออกมาจากร้านหลังจากที่เข้าไปเอากุญแจแล้ว และก็เป็นจริงอย่างที่คิดเมื่อนาทีนั้นแม็คกำลังเดินออกมาพอดี จึงหันมาบอกคนตรงหน้า
“นั่นไง เพื่อนเรามาพอดีขอตัวนะ” เด็กหนุ่มเดินจากไปเมื่อเอ่ยจบ แชมป์มองตามหลังยิ้มเหงาๆ ให้กับตัวเอง ไม่ได้คิดว่าคนที่เดินออกมาจากร้านนั้นเป็นเพื่อนกับคนที่เพิ่งเดินจากไปหรอก เด็กหนุ่มจำได้ดีว่าคนๆ นั้นคือแม็ค
แชมป์กลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง เอ่ยขอเมนูจากพนักงานแล้วสั่งเครื่องดื่มมึนเมามาชุดใหญ่ ทุกทีที่อยากลืมเรื่องราวปวดใจเด็กหนุ่มมักใช้วิธีนี้เสมอ เพื่อนๆ ในกลุ่มเองก็รู้จักนิสัยเจ้าตัวดีจึงไม่มีใครคิดห้าม เพียงแต่พากันนึกสงสัยเท่านั้นว่าเจ้าตัวออกไปเจออะไรข้างนอกมาถึงได้กลับเข้ามาหาน้ำเมากรอกเข้าปากมากมายขนาดนี้
ด้านแม็คระหว่างขับรถไปส่งเต็นที่หอ ตอนเดินออกมาจากร้านเด็กหนุ่มเห็นแล้วล่ะว่าคนๆ นี้ยืนคุยอยู่กับใคร นึกแปลกใจที่นาทีนี้คนๆ นี้ยังคงดูร่าเริงชวนคุยโน้นคุยนี้ไม่หยุด ต่างจากเมื่อก่อนที่เจ้าตัวมักจะเหม่อๆ ซึมๆ ทุกทีหลังจากที่ได้เจอกับแชมป์ หรือว่าการพูดคุยครั้งนี้สองคนกำลังจะกลับมาคบกันอีกครั้ง
“ตอนก่อนจะออกมาจากร้านแม็คเห็นเต็นยืนคุยกับใครอยู่อ่ะ คนนั้นใช่นายแชมป์หรือเปล่า” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ
“อืม”
“แล้วคุยอะไรกันเหรอ เห็นเต็นร่าเริงจัง”
“ก็ทักทายทั่วไป ทำไมเหรอ”
“เปล่า แม็คกำลังคิดว่าเขาขอมาคืนดีกับเต็น”
“ตลกล่ะแม็ค เต็นเคยบอกแล้วไงว่าแชมป์ไม่ได้เป็นอย่างเรา”
“แล้วทำไมทุกทีที่แม็คเห็นเต็นแยกมาจากเขาเต็นจะซึมๆ แต่คราวนี้เต็นทำคล้ายไม่ได้เจอเขาอย่างงั้นแหละ”
“โหแม็ค นี่มันผ่านมากี่เดือนแล้ว จะให้เต็นจมอยู่กับความรู้สึกไร้สาระแบบนั้นนานขนาดนี้เลยเหรอ”
“แสดงว่าเต็นทำใจจากนายแชมป์ได้แล้วสิ”
“ไม่รู้สิ การที่เต็นรู้สึกเฉยๆ กับเขาเรียกว่าทำใจได้หรือเปล่าล่ะ”
“อืม มั้ง แต่ก็ดีแล้วล่ะ ต่อไปแม็คจะได้มีคู่แข่งแค่ไอ้พี่นพคนเดียวพอ”
“ว่าเข้าไปนั่น มองหาคนคบเผื่อๆ ไว้ก็ดีนะแม็ค แม็คอย่ามาอะไรกะเต็นเลย เต็นชักชอบชีวิตแบบอิสระแล้วล่ะ ไม่ต้องคิดถึงใครให้วุ่นวาย”
“ระวังจะกามตายด้านเข้าสักวันนะที่รัก”
“ปากเสีย อยู่คนเดียวใช่ว่าจะเสียวไม่ได้นี่”
“โห ร้ายกาจมาก ทะลึ่งใช้ได้นะเราเนี่ย”
“รู้เหรอว่าเต็นหมายถึงอะไร”
“แม็คไม่ใช่เด็กอมมือนะ เรื่องแค่นี้ไม่รู้ก็เสียเชิงหมด”
“ช่ำชองเรื่องนี้ว่างั้น”
“จะไม่ให้ช่ำชองได้ไง กี่เดือนแล้วล่ะที่ต้องอาศัยตัวเองเนี่ย ตามตื้อคนบางคนอยู่ก็ไม่เห็นจะใจอ่อนมาช่วยซะที”
“บ่นๆๆ ก็บอกให้หาคนคบๆ ก็ใม่ฟัง”
“ไม่เอา จะเอาคนนี้มีปัญหามั้ย”
“ใครจะกล้ามีปัญหากับคนรูปหล่อพ่อรวยล่ะครับ”
“ไม่กล้าก็อย่าไล่ให้ไปคบใครเสียให้ยาก ไม่สำเร็จหรอกที่รัก”
“ก็ตามใจ รอได้ก็รอไป อยากรู้เหมือนกันว่าจะรอได้นานขนาดไหน”
“ก็ไม่ได้เร่งอะไรนี่นา แม็คก็รอไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ รอคนเดียว เสียวคนเดียว ไม่เอี่ยวกะใครให้ปวดหัวอยู่แล้ว”
“ไอ้บ้า วกมาเรื่องนี้อีกแล้ว ขับรถไปไม่ต้องมามองหน้าทำตาเจ้าชู้”
แม็คหันหน้ากลับมาทำหน้าที่เป็นคนขับรถอย่างสบายใจเมื่อได้รับคำยืนยันจากปากคนข้างๆ แล้วว่าหัวใจเจ้าตัวตอนนี้ไร้ซึ่งชื่อผู้ชายชื่อแชมป์แล้ว
ด้านแชมป์ซึ่งขณะนี้กำลังเมามายไม่ได้สติกระทั่งเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกกันมาที่รถเพื่อส่งเจ้าตัวกลับบ้าน ทุกคนมองหน้ากันงงๆ เมื่อได้ยินเด็กหนุ่มละเมอชื่อเต็นให้ได้ยินบ่อยๆ บ้างก็บอกขอโทษ บ้างก็บอกเสียใจ บ้างก็บอกขอเริ่มต้นคบกันใหม่
“เต็นนี่ใครวะ ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าไอ้นี่ไปหลงหรือแอบคบตอนไหน”
เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นตอนที่อาการละเมอของแชมป์เริ่มกลับมาอีกขณะนั่งรถกันไป
“นั่นดิ แม่งเพ้อหนักกว่าคราวที่เลิกกับมิวอีกมั้งเนี่ย” อีกคนเอ่ยสมทบ ก่อนจะยอมเงียบเสียงเก็บความสงสัยกันไปตลอดทาง
เช้าวันใหม่แชมป์งัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตูห้อง เด็กหนุ่มพาร่างกายที่ยังไม่หายมึนดีลุกไปเปิด เจอหน้าพี่สาวยืนอยู่จึงเอ่ยทัก
“มีอะไรเหรอเจ๊”
“หมดกันสารรูปน้องฉัน แม่ให้เอาโจ๊กมาให้แล้วก็ให้มาถามด้วยว่าอาทิตย์หน้าจะไปทำบุญด้วยกันหรือว่าจะอยู่เฝ้าบ้าน”
พี่สาวยื่นชามโจ๊กให้ เด็กหนุ่มยื่นมือรับแล้วถามกลับถึงการไปทำบุญ
“ทำบุญที่ไหนอ่ะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ขอนแก่น ลูกค้าที่ร้านแม่เขาชวนไป พอดีเขาจะไปแก้บนให้ลูกชายเขาที่หายจากป่วยจากโรคอะไรก็ไม่รู้ พอดีช่วงนี้แม่แกบอกอยากทำบุญเหมือนกันเลยว่าจะไปกัน หากแชมป์ไม่ไปเดี๋ยวเจ๊จะไปเป็นเพื่อนแก”
ฟังคำพี่สาวจบเด็กหนุ่มนิ่งคิด จำได้ว่าจังหวัดที่พี่สาวเอ่ยถึงเป็นบ้านเกิดของใคร การได้ไปพักผ่อนสมองที่นั่นก็น่าจะดี
“อืม เดี๋ยวแชมป์ไปก็ได้ ดีเหมือนกันจะได้พักสมองหน่อย”
“ไปเครียดอะไรมานักหนาถึงกับต้องพักสมอง” พี่สาวเอ่ยถาม
 “ก็เรื่องเรียนแหละเจ๊” เด็กหนุ่มตอบไม่ตรงความจริงนัก
“อย่ามาโกหก ขนาดตอนเรียนอยู่เจ๊ก็เห็นเฮฮาบ้าบอไปเรื่อย นี่เรียนจบแล้วจะมาคงมาเครียดอะไร ไปโดนสาวที่ไหนหักอกมาล่ะสิถึงได้เป็นแบบนี้ สิ้นท่าหมด”
พี่สาวเดินส่ายหน้าลงข้างล่างไปเมื่อเอ่ยจบ เด็กหนุ่มยืนถอนหายใจเบาๆ ก่อนปิดประตูห้องตามหลัง เดินเอาชามโจ๊กมาวางบนโต๊ะแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงสายตาเหม่อมองเพดานห้องคิดไปว่านี่มันเรื่องจริงเหรอ เด็กหนุ่มอย่างเขากำลังสิ้นท่าเพราะโดนผู้ชายด้วยกันเฉยชาด้วยอย่างนั้นเหรอ นี่เขาเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมผู้ชายอ่อนไหวอย่างเต็นถึงได้มามีอิทธิพลเหนือจิตใจได้ในตอนนี้
“หรือบาปกรรมมันมีจริงเต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยคิดในตอนสุดท้ายก่อนจะหลับตาไล่ความสับสนให้พ้นจากจิตใจ ภาวนาว่าการไปทำบุญกับผู้เป็นแม่ในสัปดาห์หน้าขอให้จิตใจที่กำลังเหนื่อยล้าจากความสับสนนี้ดีขึ้นด้วยเถอะ

*********************************************************

“ไม่ให้แม็คไปด้วยจริงๆ เหรอเต็น เต็นไปตั้งนานนะ อย่างนี้แม็คจะอยู่ยังไง” แม็คเอ่ยทักคนข้างกายในวันที่เจ้าตัวนัดเจอกันเพื่อบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านเกิดในสัปดาห์หน้า
“โหย โทรคุยกันก็ได้ แม็คอย่าไปลำบากเลยบ้านเต็นมันไม่ได้เจริญนักหรอกนะ อย่างแม็คไม่เหมาะที่จะไปหรอก” เต็นเอ่ยปฏิเสธอีก ส่วนหนึ่งก็นึกห่วงว่าคนที่มีวิถีชีวิตเช่นคนเมืองอย่างแม็คจะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบวิถีชาวบ้านที่บ้านเกิดตัวเองได้ แต่อีกส่วนหนึ่งคือการกลับไปครั้งนี้ตัวเองต้องการใช้ชีวิตกับครอบครัวให้เต็มที่จริงๆ ก็มันนานแล้วน่ะสิที่ไม่ได้กลับไปหาอ้อมอกผู้ให้กำเนิด
“โทรคุยก็ไม่เหมือนเจอหน้านี่นา” แม็คออกอาการซึมๆ นึกแล้วก็ใจหายเพราะกว่าคนตรงหน้าจะกลับมาก็นานหลายเดือน
“เอาน่า เวลาเดี๋ยวนี้เดินเร็วจะตาย อีกเดี๋ยวเต็นก็กลับมา ให้เราสองคนห่างกันสักพักเถอะนะ เต็นจะได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างง่ายขึ้น” ประโยคหลังเต็นเอ่ยเบาๆ เพราะเอาเข้าจริงๆ พอเห็นอาการคนตรงหน้าซึมๆ ก็อดที่จะเห็นใจเจ้าตัวไม่ได้ นานเท่าไหร่แล้วหนอที่คนๆ เสมอต้นเสมอปลายกับตน มันสมควรแก่เวลาหรือยังที่จะลองเปิดใจให้เจ้าตัวเข้ามามีบทบาทในหัวใจตัวเองมากกว่าคำว่าเพื่อน ขอใช้การห่างกันนานหลายเดือนครั้งนี้เป็นตัวชี้วัดการตัดสินใจจะเข้าท่ามั้ยนะ
“ตัดสินใจอะไรเหรอ” คนตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังนึกคิด เด็กหนุ่มมองจ้องตาคนถามนิ่งๆ ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น เป็นการสรุปความคิดเมื่อครู่
“ตัดสินใจคบกับแม็คในแบบที่แม็คต้องการไง”
“จริงเหรอเต็น เต็นไม่ได้หลอกแม็คนะ” แม็คเอ่ยออกมาอย่างดีใจ รอยยิ้มร่าปรากฏบนใบหน้าเด็กหนุ่มราวกับเป็นคนละคนกับคนเซื่องซึมเมื่อครู่ เต็นเห็นแบบนั้นก็พลอยยิ้มไปด้วย จึงเอ่ยบอกอีก
“หากวันที่เต็นกลับมาที่นี่อีกครั้งแล้วแม็คยังเป็นแม็คคนเดิมแบบนี้ เต็นก็ไม่รู้จะวิ่งหนีคนดีๆ ไปอีกทำไม ถือซะว่าช่วงที่เราห่างกันเป็นแบบทดสอบแล้วกันนะแม็คว่าจริงๆ แล้วเราสองคนเหมาะที่จะคบกันแบบไหน”
“โอเคครับที่รัก แม็คพร้อมให้เต็นพิสูจน์ความจริงใจจากแม็คทุกวิถีทาง แม็คสัญญาว่าแม็คจะรอเต็นกลับมานะ ถึงวันนั้นแม็คคงสมหวังกับสิ่งที่แม็ครอนะ” แม็คเอื้อมมือไปจับมือคนที่ทำให้หัวใจตัวเองพองโตว่าในที่สุดสิ่งที่รอคอยมาเนิ่นนานก็เริ่มมีความหวังให้เห็นว่ามันจะเป็นจริง
“อืม แล้วกับพี่นพล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามในสิ่งที่ยังข้องใจ เพราะนพเองก็มีท่าทีหวังดีและมีใจกับคนตรงหน้าไม่น้อยกว่าตนเลย
“เต็นกับนพคุยกันแล้วล่ะว่าเราเหมาะที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราสองคนเคยคบกันแล้ว แล้วมันก็ไม่รอดอย่างที่แม็คเห็น” เต็นตอบยิ้มๆ ก่อนหน้าที่จะมานี่เด็กหนุ่มกับนพได้สรุปเรื่องของความสัมพันธ์กันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองตกลงมอบความรู้สึกในแบบเพื่อนที่ดีที่สุดให้แก่กันเท่านั้น เพราะจากการงานที่ก้าวหน้า นพเองก็เริ่มวิตกว่าเวลาอาจเป็นตัวแปรทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นมาอีกหากว่าจะกลับมาคบกันในฐานะคนรักแบบเดิม ส่วนเต็นจากอาการเฉยชากับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่ตอนนี้คิดไปว่ามีก็ได้ไม่มีก็ดี การอยู่คนเดียวเพียงลำพังบางครั้งมันก็มีความสุขมากกว่าการมีคู่ซะอีก เด็กหนุ่มก็เริ่มไม่มั่นใจว่าจะทำหน้าที่คนรักได้ดีขนาดไหนหากว่าจะหวนกลับมามีชีวิตคู่อีกครั้ง แต่ที่เอ่ยให้สัญญากับคนตรงหน้าไปเมื่อครู่เพราะเริ่มรู้สึกเห็นใจเจ้าตัวขึ้นมาบ้างแล้ว จึงขอใช้ช่วงเวลาที่ห่างกันเป็นตัวชี้วัดการตัดสินใจอีกทีว่าจะเอายังไงกับเจ้าตัวดี

*****************************************************
เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ แชมป์เดินทางออกต่างจังหวัดไปกับคณะลูกค้าของแม่ตนโดยรถตู้ที่เช่ากันมา พอถึงจุดพักรถในตอนเที่ยง คนขับยก็จอดให้ลงไปทำธุระกัน
   แสงแดดตอนเที่ยงของต่างหวัดที่ไม่คุ้นเคยจ้าสายตาเกินจะทนได้ แชมป์ลงจากรถตู้ของคณะผู้ที่มาทำบุญด้วยกันได้ก็รีบหยิบแว่นดำมาสวมทับสายตาทันที
   “ทำไมมันร้อนงี้อ่ะแม่” เด็กหนุ่มเอ่ยว่า เมื่อเห็นร่างของผู้เป็นแม่ลงมายืนข้างๆ
   “ตอนกลางวันต่างจังหวัดมันก็ร้อนแบบนี้แหละแชมป์” แม่เอ่ยตอบ เด็กหนุ่มจึงชวนคุย
   “แล้วนี่มันใกล้จะถึงขอนแก่นยังอ่ะแม่”
   “เกือบแล้วล่ะ แล้วนี่จะเข้าห้องน้ำห้องท่าก็ไปซะนะ ทำธุระให้เรียบร้อยจะได้ไม่กวนลุงคนขับเขาระหว่างทาง” แม่เอ่ยบอกแล้วผละหนีไปกับกลุ่มที่มาด้วยกัน แชมป์จึงกวาดสายตาไปรอบๆ บริเวณที่ยืนอยู่ มันเป็นภาพที่เด็กเมืองกรุงอย่างเขาไม่คุ้นตานัก รถทัวร์เกือบสิบคันจอดเทียบอยู่ตรงมุมหนึ่ง กลุ่มคนมากหน้าหลายตากำลังเดินสวนเสกันไปมาระหว่างขึ้นรถ ลงรถ บ้างเข้าร้านค้า บ้างเข้าห้องน้ำ สมแล้วล่ะที่สถานที่นี้จะเป็นจุดพักรถที่โซเฟอร์รถตู้บอกว่ารถราที่วิ่งเส้นนี้จะต้องแวะ
   “ป๊าด ซะมาลอปานนายแบบแถล่ะ ไปบ้านได๋ล่ะหล่า” สำเนียงทักทายของผู้ชายจริตหญิงที่ทักมาให้ได้ยินทำเด็กหนุ่มหันไปมอง ทำได้แค่เพียงส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปเมื่อเห็นคนกลุ่มนั้นที่มีด้วยกันสามคนส่งยิ้มให้ ก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรเพราะฟังภาษาที่ว่านั่นไม่ออกเลยจริงๆ
   “ถามบ่ปาก กะซางเถาะ คนลอเฮ็ดอีหยังกะบ่ผิด” คนกลุ่มนั้นยังพูดให้ได้งงอีก ก่อนจะเริ่มเข้าใจในประโยคแรกที่หนึ่งในกลุ่มโพล่งขึ้น
   “อีดอกพวกนี้มีตาหามีแววไม่ ที่น้องเขาไม่ตอบไม่พูดเพราะเขาฟังพวกหล่อนไม่ออกย่ะ ตัวขาวหน้าใส น่าล่อ เอ้ย หน้าหล่อมาขนาดนี้คิดว่าเขาจะเป็นคนอีสานเหรอยะ”
   “ขอบคุณนะครับที่พูดให้เข้าใจ ขอตัวนะครับ” ที่สุดเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะผละหนี จากเหตุการณ์นั้นเกิดทำให้ใจเกิดประหม่าขึ้นมาเสียดื้อๆ หากว่าพอไปถึงถิ่นที่ต้องไปแล้วคนที่นั่นมาพูดจาสำเนียงนี้ด้วยตลอดจะทำยังไงกันล่ะ อยู่ๆ ในใจก็นึกถึงคนบางคนขึ้นมา หากว่าตอนนี้มีเจ้าตัวมาอยู่ข้างๆ คงจะอุ่นใจดี
   “ทำไมต้องคิดถึงเต็นตลอดด้วยนะ มึงไม่มีค่าในสายตาเขาอีกแล้วไอ้แชมป์” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินก้มหน้าหลบแสงแดดเพื่อไปยังห้องน้ำ และระหว่างเดินนั้นก็ต้องตกใจเมื่อเกิดชนเข้ากับร่างๆ หนึ่งดังพลั่ก!
   “ขอโทษครับ” เสียงคนนั้นเอ่ยขอโทษจึงต้องเงยหน้าขึ้นมอง แทบไม่เชื่อสายตาว่าที่แท้คนที่ชนกับตนคือคนที่หัวใจกำลังคิดถึงอยู่ตอนนี้


โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-04-2011 23:58:11
อ่ะ!!!!!!!!บังเอิญๆๆๆๆๆๆมาเจอกัน



 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-04-2011 00:51:55

ลืมแล้ว..ลืมเลย
กูไม่เคยรู้จักมึง


--ทำให้ดู กูเคยทำ--
หึหึ

ขอบคุณครับ คุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-04-2011 01:00:33
มันน่านัก ตอนตัด ได้ขัดใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 11-04-2011 01:24:01
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เดินชนแล้วนี่ก็อย่าช้าสิอิแชมป์ เสียอารมณ์มาหลายตตอน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-04-2011 10:16:56
บระเข้าให้
เนื้อคู่เห็นๆ 55+
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 11-04-2011 10:59:26
^
^
:z13: จิ้มรีบน ฮ่าๆ ใช่เลยเนื้อคู่ ฮิ้วววววว
คราวนี้แหละแชมป์ ทำให้เต็นยอมยืนดีอีกที เห้อออ
ก่อนจะเต็นเสร็จนายแม็คนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-04-2011 11:20:20
^
^
จิ้มคืน เห็นด้วย
ถ้าแชมป์ไม่รีบทำอะไรสักอย่าง เต็นจะเสร็จนายแม็คแน่ รับรอง!!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 11-04-2011 15:27:00
บังเอิ๊น บังเอิญ เจอกันอีกแล้ว
โลกของเต็นและแชมป์โคจรมาเจอกันอีกแล้ว
กว่าจะเข้าโหมด love story ตอนนี้แชมป์ต้องเป็นฝ่ายไล่ล่าแล้วล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 11-04-2011 17:29:49
 :z3: :z3:
 :a5: :a5:
 :z6: :z6:
 :beat: :beat:
แกจะอะำไรอีกไอ้แชมป์
บังเอิญ เหลือเกิ้นนนน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 11-04-2011 21:30:03
บังเอิญโลกกลม...สงสารเต็นจัง!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 12-04-2011 23:08:11
เจอกันอีกแล้ว  :a5:

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-04-2011 07:13:25

ตอนที่ 29

“แชมป์” เต็นเอ่ยเรียกชื่อคนที่เดินชนกับตน นึกประหลาดใจที่เห็นคนๆ นั้นยืนอยู่ที่นี่ นี่เจ้าตัวมาทำอะไร
   “มาอยู่นี่ได้ไง” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทันทีในสิ่งที่นึกสงสัย
   “กำลังจะทำบุญกับแม่อ่ะ แล้วนี่เต็นกำลังจะไปไหน” แชมป์เอ่ยขึ้นบ้าง ยกมือถอดแว่นดำที่ปกปิดสายตาออกเพื่อมองคนตรงหน้าชัดๆ
   “กลับบ้านน่ะ ขอตัวก่อนนะรถท่าจะออกแล้วแหละ” เต็นตอบแล้วรีบบอกปัด ไม่ได้นึกใส่ใจเท่าไหร่แล้วกับการจะไปไหนมาไหนของคนตรงหน้า การเจอกันครั้งนี้ก็คงจะเป็นเพราะเหตุบังเอิญอีกน่ะแหละ แต่บังเอิญบ่อยๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เพราะหากเลือกได้เด็กหนุ่มก็ไม่อยากจะพบหน้าหรือพูดคุยกับคนๆ นี้มากนัก ก็ไม่รู้จะต้องพบเจอไปทำไมในเมื่อความรู้สึกต่างๆ ที่มีให้กับเจ้าตัวมันจางหายไปจนหมดแล้ว หากจะเหลือไว้ให้ก็คงแค่คนเคยรู้จัก ซึ่งโดยส่วนใหญ่เด็กหนุ่มก็ไม่ค่อยจะอะไรมากนักกับคนที่อยู่ในสถานะความสัมพันธ์นี้กับตน
   “อ้าว ยังไม่ทันได้คุยกันเลย” แชมป์ออกอาการใจเสีย เพราะไม่คิดว่าอีกคนจะรีบผละหนีจากตนไปเร็วขนาดนี้ ตอนแรกที่เจอหน้าก็มัวแต่อึ้งดีใจจึงไม่ทันได้เอ่ยทักทายอะไร แต่พอตั้งสติได้อีกฝ่ายก็ทำท่าจะผละไปซะอย่างนั้น
   “ไม่ทันได้คุยคือยังไงอ่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันเหรอ” เต็นถามออกไปตรงๆ เพราะนึกไม่ออกจริงๆ ว่าหากจะให้ยืนพูดคุยกับคนๆ นี้สักสิบหรือยี่สิบนาทีแล้วจะหยิบยกประเด็นไหนมาพูดกัน หากเป็นกับแม็คหรือนพก็ว่าไปอย่าง สองคนนั้นมีเรื่องราวร้อยแปดที่สามารถคุยกับเขาได้ข้ามวันข้ามคืนโดยไม่มีคำว่าเบื่อที่จะฟัง
   แชมป์ตัวชากับสิ่งที่ได้ยิน นึกถึงช่วงเวลาที่ตนเองเคยมีอิทธิพลเหนือจิตใจคนตรงหน้า จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยคุยโทรศัพท์กับเจ้าตัวข้ามวันข้ามคืน แล้วทำไมนาทีนี้จะไม่มีสักเรื่องราวบ้างเลยเหรอที่ฝ่ายนั้นจะถามไถ่อะไรตนบ้าง เวลาที่ห่างกันก็ใช่ว่าจะวันสองวัน แต่มันเป็นเดือนๆ แล้วต่างหาก อย่างน้อยที่สุดถามเขาสักคำสิว่าการเรียนเป็นยังไง การใช้ชีวิตเป็นยังไงในช่วงที่ห่างกัน จิตใจมันพร้อมจะบอกอยู่แล้วที่ผ่านมาต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดและความรู้สึกเหงาขนาดไหน ลำพังจะให้บอกเองก็ละอายเกินกว่าจะเอ่ยเป็นคำพูดออกมาได้ เพราะในหัวใจใช่ว่าจะลืมการกระทำแย่ๆ ที่ทำลงไปเพียงเพราะนึกสนุก จะให้หลับหูหลับตาเอ่ยคำขอโทษหรือขอแก้ตัวใหม่เพื่อไถ่ถอนความผิดทั้งหมดก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง ในเมื่อคนถือโอกาสไว้ในกำมือไม่เอ่ยเปิดทางเป็นเชิงอนุญาตเลยแบบนี้ ครั้งที่แล้วที่พบเจอหากจับเวลาสนทนาก็อาจนับได้ไม่ถึงสิบนาทีเสียด้วยซ้ำ แล้วครั้งนี้อีกล่ะสักสามนาทีจะถึงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ในเมื่อดูท่าเจ้าตัวจะผละหนีไปจริงๆ
   “เราสองคนไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันแล้วจริงๆ หรือเต็น”
   แชมป์ตัดสินใจเอ่ยขึ้นในตอนที่เต็นกำลังจะเดินหนี เพราะหากไม่ทำอะไรเลยก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกับคนๆ นี้อีกทีเมื่อไหร่ ได้ผล คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้อีกฝ่ายชะงักเท้าหยุดเดินแล้วหันมามองหน้า
   “สำหรับนายเราไม่รู้นะ แต่สำหรับเราคงไม่มี” เต็นเอ่ยกลับนิ่งๆ ชักไม่แน่ใจกับอาการของคนตรงหน้า เด็กหนุ่มใช้เวลานี้จ้องลึกไปในแววตาของฝ่ายนั้นเพื่ออ่านเกมเบื้องต้นว่าในเวลานี้เจ้าตัวรู้สึกยังไงกับตนอยู่กันแน่ จากคำพูดและน้ำเสียงเชิงตัดพ้อที่ได้ยิน เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกว่าตนเป็นแค่คนที่เคยรู้จักแล้วหรือ
   “แชมป์เป็นคนที่ไม่น่าคุยด้วยแล้วสินะเต็นถึงได้พูดแบบนี้” เพราะน้อยใจจากคำพูดเมื่อครู่แชมป์จึงเอ่ยคล้ายรวนออกไปแบบนั้น เต็นเริ่มเห็นแววตาน้อยใจที่ฉายชัดบนแววตาคู่นั้น เป็นไปได้เหรอที่แชมป์จะมีท่าทีสะท้านกับคำพูดของเขา
   “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก แต่เรารีบจริงๆ รถจะออกแล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยออกไป ไม่ใช่เพราะใจอ่อนกับแววตาที่เห็น แต่นิสัยจริงๆ ไม่ใช่เป็นคนขี้ประชดประชันหรือแค้นฝังหุ่นกับเรื่องไม่เป็นเรื่องจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้คำพูดเชือดเฉือนให้อีกฝ่ายรู้สึกสำนึกในสิ่งที่ทำผ่านๆ มา แม้ว่าฝ่ายนั้นทำเหมือนจะเปิดประเด็นก็ตาม
   “งั้นขอเบอร์ได้มั้ย” แชมป์ทำใจกล้าเอ่ยขอช่องทางการติดต่อ กลัวอยู่ว่าจะโดนปฏิเสธ แต่ทำยังไงได้วินาทีนี้ไม่กล้าก็ต้องกล้า ส่วนผลที่ตามมาจะเป็นยังไงก็ทำใจยอมรับมันก็แล้วกัน
   “นายยังใช้เบอร์เดิมอยู่หรือเปล่าล่ะ” เต็นเอ่ยถามคนตรงหน้า พอเจ้าตัวพยักหน้าตอบจึงหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์ที่ว่าอย่างชำนาญมือ แชมป์มองภาพนั้นคิดไปว่าคนนั้นคงต้องการตัดขาดตนออกจากชีวิตแล้วจริงๆ ถึงไม่ยอมบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของตนไว้ในเครื่อง แต่สักพักเด็กหนุ่มก็คิดต่างเพื่อให้กำลังใจตัวเองว่าอย่างน้อยคนตรงหน้าก็จดจำหมายเลขโทรศัพท์เขาได้ขึ้นใจล่ะน่า ไม่อย่างนั้นคงไม่กดตัวเลขอย่างชำนาญขนาดนั้น มองภาพนั้นได้สักพักเสียงโทรศัพท์ตัวเองก็ดังขึ้นก่อนดับไปพร้อมคำพูดคนตรงหน้า
   “โทรเข้าไปแล้วนะ โทษทีเปลี่ยนเบอร์ใหม่แต่ไม่มีโอกาสได้บอก ขอตัวนะ ไม่อยากเดินกลับบ้านน่ะ” เต็นเอ่ยติดตลกก่อนเดินจากไปด้วยรอยยิ้มจางๆ แชมป์ยืนนิ่งเพราะตามสถานการณ์ไม่ถูก คิดเอาไว้ว่าสิ่งที่ขอไปจะโดนปฏิเสธ แต่ความเป็นจริงกลับสวนทางมาจนน่าตกใจ เป็นแบบนี้เต็นคงจะไม่ติดใจเรื่องในอดีตมากมายสินะ ที่เฉยชากับตนในบางครั้งก็อาจจะแค่งอน เถอะน่าเต็น อย่างน้อยนายก็ให้เบอร์ติดต่อมาแล้ว เรื่องการตามงอนง้อเพื่อขอโทษในเรื่องที่ผ่านๆ มาคงไม่ลำบากเกินที่เราจะทำ

**************************************************************
   
หลังเข้าไปล้างหน้าล้างตาพร้อมทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเรียบร้อยแชมป์ก็เดินกลับมาที่รถด้วยรอยยิ้มร่าเริงต่างจากตอนมาที่ไม่ค่อยพูดจากับใคร ผู้เป็นแม่มองเห็นอาการเลยอดทักไม่ได้
   “เป็นอะไรมายิ้มร่ามาเชียว ตอนนั่งรถมาไม่เห็นล่ะไม่พูดไม่จาหน้านี้งอเชียว”
   “ก็ล้างหน้าล้างตามาจนสดชื่นแล้วไงแม่ ไม่มีอะไรหรอก” เด็กหนุ่มบอกปัดก่อนจะพาร่างหายขึ้นไปบนรถ ขณะนั้นยังไม่มีใครขึ้นมาจึงถือจังหวะการอยู่เพียงลำพังโทรศัพท์ไปหาคนที่เพิ่งให้เบอร์มา
   เต็นหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังขึ้นมาดู ตอนนี้รถที่นั่งอยู่ได้เคลื่อนตัวออกมาจากจุดพักรถหลายกิโลเมตรแล้ว เด็กหนุ่มจำได้ดีว่าหมายเลขที่โทรเข้าเข้ามาเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของใคร นึกเกรงใจผู้ร่วมโดยสารหากจะปล่อยให้มันดังนานเกินไปจึงตัดสินใจกดรับ
   “หวัดดีเต็น ถึงไหนแล้วอ่ะ” แชมป์รีบเอ่ยทักทายออกไปเมื่อเจ้าของหมายเลขที่ตนติดต่อไปกดรับสัญญาณการเรียก
   “บอกแล้วนายจะรู้เหรอ” เต็นตอบกลับไป ได้ยินน้ำเสียงของแชมป์ตอนนี้ทำให้อดนึกถึงตอนที่รู้จักกันแรกๆ ไม่ได้ ช่วงนั้นฝ่ายนั้นก็คอยโทรศัพท์ถามไถ่แบบนี้แหละ แต่แปลกจัง ตอนนี้หัวใจกับไม่รู้สึกยินดีอย่างแต่ก่อนแฮะ
   “อืมก็จริง ที่นี่มันต่างจังหวัดนี่เนอะ” แชมป์เอ่ยต่อก่อนจะเริ่มชวนคุย ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาด้วยดี
   “เต็นอยู่อำเภออะไรอ่ะ”
   “เราขอไม่บอกละกันนะ”
“ทำไมอ่ะ กลัวตามไปเหรอ”
“เปล่า”
“เสียงเครียดจัง แชมป์แค่แซวเล่น”
“เปล่าเครียดนี่”
“แล้วทำไมคุยเบาจัง”
“อืมคนเยอะน่ะ เกรงใจเขา แค่นี้ก่อนนะ”
“เฮ้ย! เดี๋ยวดิ” แชมป์เรียกตามแต่ไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายตัดสัญญาณการติดต่อ คิดจะติดต่อกลับไปใหม่แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อแม่และคนอื่นๆ ต่างทยอยขึ้นมาบนรถกันแล้ว
“อ้าว เป็นอะไรอีกแล้วเนี่ยเมื่อกี้ยังยิ้มร่าอยู่ มาตอนนี้หน้าเครียดอีกแล้ว” แม่เอ่ยทักลูกชายในตอนที่เห็นใบหน้าเจ้าตัวกลับมาเครียดดังเดิม
“ไม่มีอะไรครับแม่” แชมป์เอ่ยปฏิเสธแล้วหันไปนั่งกอดอกเอียงร่างซบกระจกเหม่อมองทิวทัศน์ด้านนอกตอนที่รถเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ในตอนนี้อยากอยู่เพียงลำพังเร็วขึ้นเพื่อจะได้มีเวลาติดต่อไปหาคนที่ตัดบทสนทนากับตนเอาดื้อๆ เมื่อครู่

****************************************************
   
   รถทัวร์โดยสารส่งเต็นถึงตัวอำเภอบ้านเกิดแล้วในตอนบ่ายค่อนเย็น อำเภอที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดพอสมควร ทันทีที่พาร่างลงเตะพื้นดินเด็กหนุ่มสูดเอาบรรยากาศเก่าๆ ให้ชุ่มปอดสักพักก่อนจะโทรศัพท์ไปรายงานทั้งนพและแม็คว่าตัวเองเดินทางมาถึงบ้านเกิดอย่างปลอดภัยแล้ว รายแรกแค่พูดจากันนิดหน่อยแต่รายหลังนั้นคุยติดพันกันนานหลายนาที
   “เจอหนุ่มบ้านนาแล้วอย่าลืมหนุ่มกรุงล่ะเต็น ไม่งั้นแม็คไม่ยอมนะเออ”
   “ไม่ยอมแล้วจะทำอะไรเต็นล่ะ”
   “ทำมาท้า อยู่ไกลแล้วทำเก่ง ทีอยู่ใกล้ๆ ล่ะไม่เห็นท้านะคนเรา”
   “โหย ทำเป็นเครียด เต็นแค่ล้อเล่น แล้วนี่แม็คทำไรอยู่”
   “นั่งเหงาอยู่”
   “อย่ามาลิเก”
   “ลิเกคือไรอ่ะ แม็คไม่เคยดู”
   “เออ ลืมไปว่าเต็นกำลังคุยกะเด็กเมืองกรุง เฮ้อ อายจัง”
   “แม็คล้อเล่น แต่อายจริงดิ อยากเห็นหน้าตอนอายจังคงน่ารักดี”
   “อยากเห็นก็ตามมาดิ”
   “ร้ายใช้ได้นะเต็นเนี่ย ทีตอนขอไปด้วยล่ะห้ามจัง ทีตอนนี้ล่ะมาทำเป็นเล่น เดี๋ยวตามไปจริงๆ จะอึ้ง”
   “โอ๋ๆๆ เต็นล้อเล่น ว่าแต่มาให้ถูกก็แล้วกัน”
   “ยังมาทำพูดดีอีกลืมไปแล้วล่ะสิว่าพี่นพเองก็เคยไปบ้านเต็นมาแล้ว แค่แม็คโทรไปถามทางทุกอย่างก็เรียบร้อยภายในไม่ถึงสามนาทีเชื่อสิ”
   “จริงด้วยแฮะ แหะๆ ถือว่าเต็นไม่เคยพูดอะไรไปละกันนะ”
   “กำลังอายอีกแล้วอ่ะดิ ถ่ายรูปตอนอายมาให้ดูหน่อยดิ อยากเห็นอ่ะ”
   “จะบ้าเรอะ ใครมันจะเก๊กหน้าอายเป็นสั่งได้ ของแบบนี้มันออกมาจากความรู้สึกดิ”
   “แล้วเมื่อไหร่จะมารู้สึกอายใกล้ๆ แม็คล่ะ”
   “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ แค่นี้ก่อนนะเต็นต้องเข้าบ้านแล้วล่ะ เดี๋ยวจะมืดซะก่อน”
   สองหนุ่มเลิกสนทนากันเสร็จ เต็นจึงคิดจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง นาทีนั้นเองถึงได้เห็นรายการของสายที่ไม่ได้รับแสดงอยู่ตรงหน้าจอโทรศัพท์ จำได้ว่าก่อนติดต่อไปหาแม็คไม่มีรายการนี้แสดงอยู่นี่นา นี่เขาสนทนากับแม็คเพลินจนไม่รู้เลยเหรอว่ามีสายเรียกซ้อนติดต่อเข้ามาระหว่างใช้โทรศัพท์อยู่ เออ เป็นไปได้แฮะ แต่นี่มันเบอร์ของแชมป์นี่ ตั้งสองสาย โทรมามาอะไรอีกนะ
   เด็กหนุ่มนึกช่างใจว่าจะติดต่อกลับไปหาคนที่ติดต่อตนไม่ได้ดีหรือไม่ สุดท้ายก็ได้คำตอบว่ารีบกลับบ้านซะน่าจะดี เพราะบ้านตนไม่ได้อยู่ในตัวอำเภอ การจะไปต้องนั่งรถสองแถวไปอีกกว่าเจ็ดกิโลเมตรและรถโดยสารใช่ว่าจะวิ่งกันหลายรอบ
   ด้านแชมป์เริ่มคิดมากอีกเช่นเดิมเมื่อติดต่อไปหาเต็นในตอนที่รถจอดพักระหว่างทางอีกครั้งแต่ไม่มีการตอบรับจากฝ่ายนั้น เด็กหนุ่มนั่งรอการติดต่อกลับนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าตัวจะโทรศัพท์กลับมา หากเหตุการณ์เป็นแบบนี้ในใจก็อดคิดไม่ได้เลยว่าการที่ตัวเองติดต่อเต็นไม่ได้คงเกิดจากที่เจ้าตัวตั้งใจไม่รับสายป็นแน่แท้ เพราะหากว่ามีเหตุให้เจ้าตัวรับสายไม่ได้ป่านนี้แล้วคงจะมีการติดต่อกลับมาบ้าง แต่นี่หนึ่งนาทีก็แล้ว ห้านาทีก็แล้ว สิบนาทีก็แล้ว และจนตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบยี่สิบนาทีที่โทรศัพท์ของตนไม่ไหวติงอยู่เช่นนี้
   “ไม่อยากคุยแล้วให้เบอร์มาทำไมนะเต็น” เด็กหนุ่มอดเอ่ยตัดพ้อออกมาไม่ได้ ก่อนจะเดินหน้าเศร้ากลับไปยังรถเมื่อได้ยินเสียงแม่เอ่ยเรียกว่าจะออกเดินทางกันแล้ว
   “ลูกชายฉันโดนของหรือเปล่าเนี่ย เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวเศร้า ไปๆๆ ขึ้นรถ ถึงวัดแล้วจะให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ให้”
   ผู้เป็นแม่เอ่ยแซวลูกชายขำๆ เมื่อเห็นอาการเจ้าตัวดีๆ ร้ายๆ แชมป์ได้ฟังได้แต่ถอนหายใจ หากว่าน้ำมนต์จะช่วยชำระล้างความผิดที่เป็นเช่นกรรมตามทันในสิ่งที่เคยเอาเรื่องหัวใจของคนอื่นมาล้อเล่นจนเจ็บปวดได้เขาก็พร้อมที่จะให้หลวงพ่อวัดไหนก็ได้ทำกับเขาเช่นนั้น

*************************************************************

เต็นกลับถึงบ้านในตอนโพล้เพล้พอดี เด็กหนุ่มโผเข้ากราบไหว้ผู้ให้กำเนิดและทักทายญาติๆ นานแล้วที่เด็กหนุ่มไม่ได้กลับมาที่บ้านเกิด การพบหน้าหลายๆ คนที่เคยรู้จักและคุ้นเคยจึงพาให้การพูดจาสนทนากินเวลาไปนานนับชั่วโมงก่อนที่ขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อเตรียมทานข้าวเย็นมื้อแรกร่วมกับครอบครัว
ส่วนแชมป์เองก็เข้าสู่ตัวเมืองขอนแก่นได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยทั้งคณะเดินทางได้เข้าพักในบ้านของผู้ที่นำขบวนมา
“พักผ่อนให้สบายนะเจ๊ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยไปไหว้พระกัน”
 เจ้าของบ้านเดินออกมาเอ่ยกับแม่ของแชมป์ นางรับคำแล้วปลีกตัวมาหาลูกชายที่กำลังยืนซึมอยู่เพียงลำพัง
“ท่าทางแม่จะพาเราไปรดน้ำมนต์จริงๆ แล้วมั้งแชมป์ เป็นอะไรน่ะ ทำไมหน้าเศร้าหมองจัง” นางเอ่ยถามลูกชายอย่างจริงๆ จังๆ เมื่อเห็นอาการเจ้าตัวไม่สู้ดีเท่าไหร่
“ไม่มีอะไรหรอกแม่ พอดีแชมป์เพลียน่ะ” แชมป์ปฏิเสธตามเดิม ก็ไม่รู้จะบอกหรือปรึกษากับผู้เป็นแม่ยังไงว่าตอนนี้มีผู้ชายหนึ่งคนกำลังเข้ามามีอิทธิพลเหนือใจ
“งั้นก็ไปอาบน้ำอาบท่านอนพักเถอะไป” แม่เอ่ยบอกอีกเด็กหนุ่มรับคำแล้วจึงเดินไปเอากระเป๋าตัวเองภายในรถเดินหายเข้าไปในบ้านพัก

***********************************************************

ดึกแล้ว อากาศต่างจังหวัดเริ่มเย็นลง แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นแชมป์ก็ยังแยกตัวออกมาเพื่อยืนรับลมกลางคืนนอกบ้าน เด็กหนุ่มแหงนหน้ามองดาวที่พราวแสงสวยงามจับทั่วผืนฟ้า เริ่มคิดถึงตอนที่ตัวเองนั่งคุยกับใครบางคนบนดาดฟ้าตึกในเมืองกรุง
“มองแบบนี้กรุงเทพฯแม่งสวยว่ะ” ประโยคนี้เขาเป็นคนเริ่มต้นชวนคุย ก่อนที่ใครคนนั้นจะเริ่มสนทนาด้วย
“อืม”
“ระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด มึงชอบที่ไหนมากว่ากันวะ”
“มันก็ดีคนละแบบ แต่กูคงชินอยู่ในกรุงเทพฯ มากกว่าว่ะ”
“แต่ทำไมกูชอบต่างจังหวัดวะ”
“ไม่แปลกหรอก มึงเกิดที่นี่ โตที่นี่มึงย่อมเบื่อที่นี่เป็นธรรมดา ส่วนกูเกิดที่ต่างจังหวัด โตที่ต่างจังหวัด ก็เลยเบื่อๆ ต่างจังหวัด”
“พูดถึงต่างจังหวัด ตอนไหนว่างๆ ให้กูไปเที่ยวบ้านมึงหน่อยดิ”
“ขอนแก่นเลยนะมึง”
“แต่มันก็เจริญมากแล้วใช่ป่ะ”
“มากกว่าบ้านมึงอีกมั้ง”
“เชี่ย เดี๋ยวถีบตกตึกเลย ชอบว่าบ้านกูกันดาน”
“ว่าตอนไหนวะ”
“เออ ช่างมันเถอะ ว่าแต่แฟนมึงเคยไปบ้านมึงป่ะ”
“เคยดิ”
“เหรอ กูอยากไปบ้างอ่ะ”
“มาเป็นแฟนกูก่อน”
“มึงก็ทำตัวให้โสดสิ”
“ก็นี่ไง โสดอยู่นี่ไงไม่เห็นเหรอ”
“ประชดตัวเองป่ะวะ”
“เปล๊า”
“เชี่ย ขึ้นเสียงแค่นี้กูก็รู้แล้ว”
“เฮ้อ ไม่รู้เขาจะเอายังไงกะกูว่ะ แม่งหายไปไม่ติดต่อเลย”
“คิดถึงเขามากเหรอ”
“แฟนทั้งคนนะมึง”
“ก็รู้ แต่เขาทำแบบนี้เขาคงมีคนใหม่แล้วมั้ง”
“มีก็บอกกูได้นี่หว่า ไม่เห็นต้องเงียบแบบนี้เลย”
“บอกแล้วมึงรับได้เหรอ”
“ถึงนาทีนั้นก็คงต้องดูกันอีกที”
“เอาเหอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คิดว่ายังมีกูอีกคนละกัน”
“เชื่อมั้ยกูแอบคิดนะโว้ยว่านี่มันเรื่องจริงหรือกูกำลังฝันอยู่”
“เรื่องไร”
“เรื่องที่มาเจอมึงในตอนที่กำลังเบื่อๆ เซ็งๆ”
“แล้วมันเป็นฝันดีหรือฝันร้ายล่ะ”
“อืม ดีมั้ง”
“พูดดังๆ ก็ได้กูไม่ได้ยิน”
“ก็นั่นแหละพูดไปแล้ว”
“เวลามึงอายนี่แม่งน่ารักว่ะ ยังกะผู้หญิง”
“เชี่ย”
“อ้าวด่ากูทำไมเนี่ย”
“ไม่รู้ อยากด่าก็ด่า”
“อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ เขินที่กูชมล่ะสิ”
“กูจะเขินทำไมกูไม่ได้คิดอะไรกะมึง”
“จริงอ่ะ”
“จริง”
“งั้นกูกลับล่ะนะ”
“เชิญ”
“K ง้อกูหน่อยก็ไม่ได้”
“เฮ้ย แต่นี่มันก็จะสามทุ่มแล้วนะ กูว่ามึงกลับก็ดีนะบ้านมึงไม่ใช่ใกล้ๆ”
“อืม แล้วกูจะได้มาอีกมั้ย”
“ก็แล้วแต่มึงสิ”
“กูกลัวจะมาเจอมึงอยู่กับแฟนน่ะสิ”
“เขาคงไม่มาแล้วล่ะ”
“อืมไว้ถ้าจะมากูโทรบอกละกัน”
“ก็ได้ ว่าแต่ลงข้างล่างเหอะ ลมชักแรงแล้ว”
“ฉุดกูหน่อยดิ แม่งเหน็บกิน”
“กรรม เฮ้ย อะไรวะ ไอ้เชี่ยแชมป์ มึงทำอะไรกูเนี่ย”
นึกถึงตอนนี้เด็กหนุ่มมีรอยยิ้มจาง ยังจำได้ถึงสีหน้าและแววตาตกใจของคนเอ่ยในตอนที่เขาแกล้งสวมกอดขณะโดนฉุด
 “มึงขำอะไรนักหนา” จำได้ว่าโดนโวยมาแบบนั้นในตอนที่แกล้งขำเจ้าตัว รอยยิ้มเด็กหนุ่มจางลงในตอนที่นึกถึงตอนเอ่ยว่าคนนั้น มันไม่ใช่การล้อ แต่ที่พูดตอนนั้นเขากำลังคิดสมเพชเจ้าตัวจริงๆ
“ก็ขำมึงอ่ะดิ เชี่ยมึงคิดว่ามึงเป็นผู้หญิงหรือไง โดนกอดแค่นี้ดิ้นซะเว่อร์”
“แล้วมึงคิดว่าตึกนี้มันสูงขนาดไหนกันเชียว เกิดมีคนมองมาเห็นกูคิดว่ากูจะอายมั้ย มึงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ทุกวันอย่างกูนี่”
    “เออๆๆ กูขอโทษ คราวหลังกูไปกอดมึงในห้องก็ได้”
   “ไหนบอกเหน็บกินไงวะ”
    “กูแกล้งบอกไปงั้นแหละ ไม่คิดว่ามึงจะเชื่อ”
   “เชี่ย ปลิ้นปล้อนนะมึง”
    “โธ่ รักดอกจึงหยอกเล่น”
   “แน่ใจนะที่พูด”
   “ว่า?”
“รัก”
“ถ้าบอกว่าแน่ใจมึงจะเชื่อมั้ยล่ะ”
“กูมันเชื่อคนง่ายมึงก็รู้นี่”
 “เชี่ย ย้อนกูอีก”
“ช่วยไม่ได้เปิดทางให้กูเอง”
 “เออ ปากดีให้ตลอดเถอะ เดี๊ยะสักวันกูจะปล้ำทำเมีย”
“กลัวตายล่ะ กลับบ้านได้แล้ว”
“รีบไล่เชียวนะกลัวเสียสาวหรือไง”
 “เชี่ย กูไม่ใช่ผู้หญิง”
 “เหรอ นึกว่าใช่”
 “ยิ่งพูดยิ่งยาวว่ะ กูลงไปล่ะ ส่วนมึงอยากนั่งต่อก็ตามสบายกูไม่เอาแล้ว”
คนพูดเดินหนีลงไปจากดาดฟ้าในตอนนั้น ก่อนที่เขาจะตามลงไปเพื่อเล่นละครล้อความรู้สึก
แชมป์หลับตาไล่ภาพวันวานออกไปจากสมองเมื่อนึกถึงตอนนี้ ตอนที่ตนได้เอ่ยคำพูดล้อเล่นกับความรู้สึกของเต็น เรื่องราวตอนนั้นทำไปเพียงเพราะนึกสนุก ไม่ได้คิดจริงจังอะไร แล้วตอนนี้ล่ะ สิ่งที่แสดงออกมาทั้งหมดมันคือความรู้สึกจริงๆ จากใจแล้ว ที่ติดต่อหาเขาไม่ได้นึกแกล้ง ที่แสดงท่าทีน้อยใจเมื่อโดนมองด้วยแววตาเฉยชาก็ไม่ได้แสร้งทำ เต็น นายจะรับรู้ถึงความจริงใจนี้หรือเปล่านะ

***********************************************************

อีกมุมหนึ่งใต้ผืนฟ้ายามค่ำคืน เต็นกำลังนั่งรับลมเย็นๆ คุยโทรศัพท์อยู่กับแม็คเช่นกัน สองคนก็พูดคุยหยอกล้อกันตามประสาเช่นเดิม กระทั่งเวลาผ่านไปค่อนคืนเต็นจึงขอวางสายเพื่อจะกลับเข้าบ้านพักผ่อน นั่นล่ะแม็คจึงยอมเลิกคุย เด็กหนุ่มลุกขึ้นเพื่อกลับเข้าไปในบ้าน แต่แล้วต้องชะงักเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงหยิบขึ้นมาดู เอ่ยครางชื่อคนที่โทรเข้ามาเบาๆ
“แชมป์”
โทรศัพท์ในมือส่งสียงดังอยู่แบบนั้นจนเกือบจะดับไปเองเต็นจึงตัดสินใจกดรับสัญญาณ ระหว่างที่เครื่องดังอยู่ก็ใช้เวลานึกคิดว่าควรจะรับสายดีหรือไม่ เพราะเวลาค่ำคืนแบบนี้ น้อยนักที่ตนจะสนทนากับคนที่ไม่ค่อยสนิทชิดเชื้อ ซึ่งตอนนี้เด็กหนุ่มวางสถานะของคนโทรเข้ามาไว้ ณ ที่ตรงนั้นแล้ว แต่ที่ต้องกดรับสายในวินาทีสุดท้ายเพราะจำได้ว่าช่วงหัววันคนๆ นี้ทิ้งสายเรียกเข้าที่ตนไม่ได้รับไว้ที่เครื่องถึงสองสาย เจ้าตัวอาจจะมีเรื่องปรึกษาในการมาอยู่ต่างถิ่นล่ะมั้ง พูดคุยสักนิดในฐานะคนเคยรู้จักกันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
“โทรมาซะดึกเลยนะแชมป์ มีอะไรหรือเปล่า” เด็กหนุ่มทักทายออกไปพลางเดินให้สายลมพันรอบกายไปเรื่อยๆ
“เต็นนอนหรือยังล่ะ” แชมป์เอ่ยถามคนที่ตัวเองตัดสินใจโทรศัพท์หาเพราะคนๆ นี้คือสาเหตุให้ต้องนอนไม่หลับจากการที่คิดวนเวียนแต่เรื่องราวในอดีต จนต้องออกมายืนเหงาท่ามกลางแสงดาวในคืนเดือนมืดแบบนี้ สุดท้ายก็ต้านความรู้สึกที่อยากพูดคุยไม่ไหวจึงได้ติดต่อไปหาเจ้าตัวดีใจที่ได้ยินเสียงทักทายกลับมา แต่ก็นึกเกรงใจเมื่อเจ้าตัวเอ่ยคำว่าดึกให้ได้ยินพร้อมถามกลับมาในลักษณะไม่อยากจะคุย
“ยังไม่นอนหรอก ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าล่ะ” เต็นถามย้ำเพราะเข้าใจว่าอีกคนติดต่อมาหาตนก็น่าจะเป็นเรื่องถามไถ่การใช้ชีวิตต่างถิ่นน่ะแหละ แต่แล้วสิ่งที่ได้ยินกลับมาทำเอาต้องชะงักเท้าหยุดเดิน
“ตอนนี้แชมป์ต้องมีอะไรแล้วใช่มั้ยถึงโทรหาเต็นได้” น้ำเสียงนั่นเจือมาด้วยความน้อยใจจนรู้สึกได้ แต่เพราะไม่อยากใส่ใจแล้วจึงเอ่ยออกไปนิ่งๆ ตามเดิม
“ก็นี่มันดึกแล้วไง เราก็กำลังจะนอนแล้วด้วย”
“เมื่อก่อนดึกกว่านี้เราก็เคยคุยกันได้ไม่ใช่เหรอ” อีกครั้งที่ฝ่ายนั้นพูดในเชิงตัดพ้อจึงต้องเอ่ยให้ได้คิดบ้าง
“อดีตกับปัจจุบันสะกดยังไงก็ต่างกันนะแชมป์”
“เต็นจะบอกว่าตอนนี้แชมป์ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเต็นแล้วใช่มั้ย”
“ทำไมต้องให้เราบอกล่ะ ที่ผ่านมานายก็น่าจะเข้าใจได้เองแล้วนะ”
“ในที่สุดคำพูดนี้มันก็หลุดออกมาจากปากเต็นจริงๆ”
“หมายความว่าไง”
“แชมป์พยายามคิดมาตลอดว่าตกลงตอนนี้เต็นรู้สึกกับแชมป์ยังไงอยู่กันแน่ และสิ่งที่เต็นเอ่ยเมื่อครู่มันทำให้แชมป์หายสงสัยแล้วล่ะ”
“หายสงสัยแล้วยังไง แสดงว่าเราวางสายได้แล้วสิ”
“ไม่อยากจะคุยกับแชมป์ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็นี่มันใช่เวลาที่เราจะคุยกันที่ไหนล่ะ”
“แล้วตอนแชมป์ขอเบอร์ให้มาทำไมล่ะ”
“อย่าพยายามตีรวนเลยแชมป์ ขอโทษถ้าสิ่งที่เราทำมันทำให้นายคิดว่านายสามารถติดต่อเราได้ 24 ชั่วโมง จะลบเบอร์เราไปก็ได้นะ ไม่ได้ว่าอะไรถ้ามันจะทำให้นายสบายใจ”
“นั่นสินะแชมป์จะมาตีรวนเอาตอนนี้ก็ไม่ถูกหรอก เพราะมันก็สมควรแล้วล่ะที่เต็นจะทำกับแชมป์แบบนี้”
“อย่าเอาเรื่องในอดีตมาเป็นประเด็นเลยแชมป์ เราลืมมันหมดแล้วกับเรื่องราวไร้สาระพวกนั้น”
“เต็นลืมแล้วจริงๆ เหรอ”
“ถามทำไม”
 “ถ้าเต็นลืมจริงๆ เรากลับมานับหนึ่งด้วยกันใหม่ได้มั้ย”
“อย่าดีกว่าแชมป์ ทุกวันนี้เราก็มีความสุขในแบบของเราดีแล้ว กับชีวิตตอนนี้เราไม่ขอเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว”
“เต็นไม่เหงาบ้างเหรอที่เราต้องห่างเหินกันแบบนี้”
“เฮ้อ เราเหงาจนไม่รู้จะเหงายังไงแล้วจนตอนนี้เราคิดว่าเราเฉยชากับคำๆ นี้แล้วล่ะ”
“แต่แชมป์ยังไม่ชินกับมัน”
“ก็ลองอยู่กับมันสักพักสิ”
“แชมป์ไม่ได้อยากมีมันเป็นเพื่อนเลยสักนิดนะ”
“ใครๆ เขาก็ไม่อยากรับคำว่าเหงาเข้ามาเป็นเพื่อนหรอกแชมป์ เราเองก็ไม่เคยต้องการ พยายามวิ่งหนีมันทุกวิถีทาง สุดท้ายก็ไปไม่รอดเพราะตอนนั้นไม่มีใครสักคนที่จะอ้าแขนรับเราพอให้ความเหงามันหวาดกลัวจนไม่กล้าจู่โจม นายลองนึกดูดีๆ ละกันนะว่าเราเคยเหงาจนทุรนทุรายในตอนไหน แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาจนกลับมายืนหายใจในบ้านเกิดได้ตอนนี้ ยอมรับมันแล้วอยู่กับมันให้ชิน เราเคยรอดจากมันมาได้แล้วเราก็คิดว่านายคงจะรอดจากมันเช่นกัน แค่นี้นะ เราต้องนอนแล้วล่ะ”
เต็นตัดสินใจตัดสายทิ้งเมื่อเอ่ยจบ ไม่ได้ต้องการที่จะเอ่ยประโยคยืดยาวแบบนี้เลย แต่จะให้เก็บไว้ก็พาลจะทำให้อะไรๆ มันคาราซังไม่จบไม่สิ้น สิ่งที่ได้ยินจากปากของแชมป์เมื่อครู่ก็ยินดีที่ฝ่ายนั้นเอ่ยคล้ายเห็นตนมีค่าขึ้นมาบ้างแล้วในวันที่ห่างกัน แต่ก็นั่นล่ะ การเก็บใบไม้ที่มันร่วงหล่นและหวังให้เป็นต้นไม้ ใครจะคอยรดน้ำเท่าไหร่ ยังไงก็ไม่มีวันเหมือนเดิม….

http://youtu.be/a8y3HcMXMr0 (http://youtu.be/a8y3HcMXMr0)

เพลง : ใบไม้
ศิลปิน : Girl Force
ยังคงเห็นภาพรางๆ เมื่อวันที่เธอแยกไป
และยังคงเสียใจเมื่อนึกถึงคำบอกลา
แต่วันนี้เหมือนเธอจะกลับ
กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
อยากให้ฉันนั้นลืมเรื่องทุกอย่าง
ก็อยากให้เธอเข้าใน
อย่าเก็บใบไม้ที่มันร่วงหล่น
และหวังให้เป็นต้นไม้
เธอจะคอยรดน้ำเท่าไหร่ไม่มีวันเหมือนเดิม
อย่ากลับมาหาฉันเลยดีกว่า
อย่าบอกว่ารักเหมือนเดิมได้ไหม
ใจที่เคยให้เธอทำลาย
ยังเจ็บยังไม่หายให้พอรักเธอ
ดีใจที่เธอมาเยือนและคิดถึงกันมากมาย
อยากบอกว่ายังซึ้งใจที่เห็นเธอเดินกลับมา
ที่ยังคิดถึงกันคนแรก
วันที่ใจของเธออ่อนล้า
แต่วันคืนที่มันล่วงเลยมา
ผ่านมานานเหลือเกิน
อย่าเก็บใบไม้ที่มันร่วงหล่น
และหวังให้เป็นต้นไม้
เธอจะคอยรดน้ำเท่าไหร่ไม่มีวันเหมือนเดิม
อย่ากลับมาหาฉันเลยดีกว่า
อย่าบอกว่ารักเหมือนเดิมได้ไหม
ใจที่เคยให้เธอทำลาย
ยังเจ็บยังไม่หายให้พอรักเธอ

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 28 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 11.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 14-04-2011 07:14:47

๑๒๒ + ๑ = ๑๒๓
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-04-2011 07:50:26
 o13น้องเต็น


เจ็บปวดมากๆเลยสำหรับคำตอบที่ไอ้แชมป์ได้รับ  มันสมควรที่จะได้รับความเจ็บปวดมาตั้งนานแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-04-2011 08:00:21
กว่าจะรู้ค่าก็สายเสียแล้ว
แชมป์เอ๋ย จงอยู่กับที่ของตัวเองเถอะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-04-2011 08:39:46
เศร้าหงะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมาคมโคแก่ ที่ 14-04-2011 10:37:31
จะต่อกันติดไหมคู่นี้...  คิดไม่ออกจริงๆว่าเต็นจะใจอ่อนได้ยังไงในเมื่อหมดใจไปแล้วเห้อ!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-04-2011 13:31:27

ไก่ได้พลอย

หุหุ ไอ่หำเหม็นแชมป์


ขอบคุณครับ คุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 14-04-2011 14:24:45
สงสารทั้งคู่ T_T
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: honeymic ที่ 14-04-2011 22:20:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-04-2011 23:11:38
เศร้าT^T
เต็น นายทำดีแล้วล่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 14-04-2011 23:33:04
โฮ มันเหมือนล้อเล่นกับความรู้สึกเต็นเลยเนอะ
พอกำลังจะเริ่มต้นกับคนใหม่ คนเก่าก็พยายามจะเข้ามา
แต่เจ็บแล้วต้องจำ พฤติกรรมไอ้คุณแชมป์มันแย่มากๆ อ่ะ
ปากคอเราะร้าย เชือดเฉือนตลอดเวลา
ถ้าเราเป็นเต็นนะ แค่คุยยังไม่อยากเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 15-04-2011 04:08:48
อ่านรวดเดียวเลย ในที่สุดก็ทันสักที
ร้องไห้เลยอ่า แชมป์ แม่งงงงงง :m15:

แต่พออ่านหลังๆ สงสารแชมป์เหมือนกันแต่ก็เข้าใจความรู้สึกเต็นนะ
ทำดีแล้วละ เป็นกำลังใจให้จ้า  :L2:

แม็คน่ารักแฮะ  :laugh:
ถึงรู้ว่าไงพระเอกเรื่องนี้คงไม่พ้นแชมป์ก็เถอะ
แต่...ขอตบพระเอกทีนึง..... :beat:


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-04-2011 15:53:11
แชมป์..ก็สงสารนะ เพราะใครที่กำลังเศร้าเสียใจ เราก็สงสารทั้งนั้น
แตนายก็ทำกับเต็นไว้มากนี่ ชั้นว่าความเจ็บที่นายได้รับ ไม่เท่ากับที่เต็นได้รับหรอก
เพราะสาเหตุแห่งการเจ็บนี่มันต่างกัน ดังนั้น ก็แล้วแต่เต็นจะตัดสินใจล่ะกัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 16-04-2011 00:09:45
เข้ามาติดตามอ่านผลงานของพี่บอย :z2:
อ่านรวดเดียวเลย
อยากบอกว่า เศร้าเคล้าน้ำตา :sad4:(อีกแล้ว)
ตอนแรกก็สงสารเต็น และเห็นสมควรที่เต็นจะเสียใจ :sad11: เพราะดูเหมือนใจง่ายไปหน่อย แต่พอเข้าใจว่า
เวลาห่างจากคนรักแล้วจะรู้สึกเหงาและคิดมาก  o16มันเป็นเรื่องธรรมดา แล้วยิ่ง แชมป์เข้ามาช่วงนั้นพอดี เลย หลงใหลได้พลอยไป :oni1:
แต่รู้สึกแย่ ตอนที่เต็นมาเจอแม็ค o9 มันดูว่าเต็นใจง่าย และไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน ส่วนนพ ดูเหมือนว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว :o11: สงสารก็สงสาร จะว่า
สมน้ำหน้าก็คิดนะ เพราะทำตัวเองเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็กลับมาดี ก็ดี ส่วนแชมป์ แรกๆก็นึกว่าดี พออ่านไปสักพักก็ เออ เห็นด้วยหน่อยๆ แต่ไม่ชอบเลยที่มาทำร้ายเต็นแบบนั้น ทั้งคำพูดและการกระทำ มันน่า :z6: มากกว่าน่ารัก ถึงแม้ว่าจะมาคิดได้ทีหลัง(เหมือนนพ) แต่ไม่คิดบ้างหรือว่า เต็นเจ็บปวดเพราะแก..(เริ่มเปลี่ยนสรรพนามเพราะความหมั่นไส้) มามากเท่าไหร่ :m16:  ขอสมน้ำหน้าเถอะ(ถึงแกจะเป็นพระเอก :z2:)จะได้รับรู้สึกทีว่าเวลาเต็นเสียใจเพราะ แก!! มันเจ็บปวดแค่ไหน แต่.....แม็คน่ารักเว่อร์อ่ะ ถึงจะเกิดมีอะไรกับเต็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ก็ยังมีสำนึกที่ดี และจริงใจมากกว่าแก!! :angry2: ไอแชมป์
จะรอตอนต่อไปค่ะ อยากรู้แล้วว่าเต็นจะเลือกใคร (ถึงพระเอกของเรื่องตอนนี้ จะทำตัวสำนึกผิด :dont2:แต่ไม่แน่ o16)
ขออย่างเดียว อย่าจบแบบรันทดนะค่ะ นักอ่านปวดตับ
ปล. เป็นกำลังใจให้พี่บอยค่ะ :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
ปอปอลิง. อุดหนุนเรื่องไฟรักของพี่บอยแล้ว(ที่งานหนังสือล่ะ o18) เรื่องนั้นนี้ ขอคารวะความ มาม่า เจ้าค่ะ o1 จะรอเรื่องอื่นๆของพี่บอยต่อไปค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 29 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ p 12 : 14.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 16-04-2011 09:09:19
ตอนที่ 30
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)
แชมป์เดินไปทรุดตัวนั่งช้าๆ บนม้านั่งหน้าบ้าน ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนต่อได้หลังได้ฟังถ้อยคำสุดท้ายของเต็นก่อนเจ้าตัวจะวางสายไป อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้น คืนสุดท้ายก่อนที่เต็นจะหายจากการติดต่อตนไป
“ฮัลโหล”
   “แชมป์เหรอนี่เต็นนะ”
   “อืม มีอะไร”
   “ขอบคุณนะแชมป์ที่ยอมคุยกับเต็น”
   “ไม่หลับไม่นอนหรือครับ คุณดูจะล้ำเส้นกับผมมากเกินไปแล้วนะ”
   “เต็นขอโทษ เต็นแค่อยากคุยกับแชมป์”
   “แต่นี่มันเป็นเวลานอนนะครับ”
   “ก็ที่ผ่านมาแชมป์ไม่เคยรับสายเต็นเลย”
   “ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าติดต่อมาหาผม ทำไมไม่ฟังกันบ้าง”
   “แล้วถ้าตอนนี้เต็นบอกว่าเต็นจำเป็นล่ะ”
   “จำเป็นยังไง”
   “เต็นเหงา เต็นโดดเดี่ยว แชมป์รู้มั้ยว่าเต็นไปเจออะไรมาบ้างระหว่างที่แชมป์หายไป”
   “เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันไม่จำเป็นเลยที่ผมจะรับรู้เรื่องของคุณ”
   “ทำไมแชมป์ถึงร้ายกับเต็นได้ขนาดนี้”
   “ผมจะร้ายกว่านี้อีกถ้าคุณยังดึงดันที่จะติดต่อผมอยู่”
   “สรุปว่าไม่ว่าจะยังไงเราก็กลับมาคุยกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย”
   “ก็น่าจะเป็นยังงั้น”
   “แชมป์ไม่เสียดายวันเวลาดีๆ ที่เราทำด้วยกันบ้างเหรอ”
   “คุณครับ เรารู้จักกันกี่วันกันครับ วันดีๆ ที่คุณพูดถึงน่ะ มันจะน่าจดจำและน่านึกถึงขนาดไหนกัน”
   “แชมป์”
   “โทษผมไม่ได้นะ คุณบังคับให้ผมพูดเอง แค่นี้นะครับ ผมจะนอน”
   จำได้ว่าเขาวางสายไปตอนเอ่ยจบประโยคนั่น หลังจากนั้นเต็นจะเป็นเช่นไร หรือตกอยู่ในอาการไหนเขาไม่รับรู้ เพราะไม่ได้อยากใส่ใจ แต่ในวันนี้ ตอนนี้ สิ่งที่เต็นทำกลับมาให้เขาได้สำนึกว่าบาปกรรมมันมีจริง ฝ่ายนั้นจะรู้มั้ยว่าเขากำลังน้ำตาไหล
   
เพลงรู้ตัวช้า
ศิลปิน โจ-ป๊อป
http://youtu.be/8JPZGDcUJmM (http://youtu.be/8JPZGDcUJmM)
เพราะว่าฉันมันไม่ทันคิด
ทำอะไรผิดไปกับเธอหลายอย่าง
และไม่เคยแคร์อะไร
ที่เธอนั้นคอยถามคอยหวง
ฉันก็มองว่าเธอห่วงจนก้าวก่าย
บอกให้เธอไปไกลๆ

แต่..ตอนนี้ คนที่เอาแต่ผลักไส
ปวด..หัวใจ มองอะไรก็เป็นภาพเธอ

จบไปก็นาน ห่างกันก็ไกล
แต่ใจทำไมยังรัก และคิดทุกวัน
ว่าอยากย้อนไป ทำอะไรดีๆ ให้เธอ
ผิดเองที่รู้ตัวช้า ที่จริงรักเธอเสมอ
ขาดเธอ..เพิ่งรู้ว่าฉันไม่เหลืออะไร

รู้ว่าสายไปถ้าวันนี้
ฉันจะขออภัยให้เธอหายโกรธ
โปรดกลับคืนมาได้ไหม
ถึงจะช้าแต่ขอบอกไว้
ให้เธอรู้หมดใจอยากจะขอโทษ
กับสิ่งเลวๆร้ายๆ

ก็..ตอนนี้ คนที่เอาแต่ผลักไส
ปวด..หัวใจ มองอะไรก็เป็นภาพเธอ

จบไปก็นาน ห่างกันก็ไกล
แต่ใจทำไมยังรัก และคิดทุกวัน
ว่าอยากย้อนไป ทำอะไรดีๆ ให้เธอ
ผิดเองที่รู้ตัวช้า ที่จริงรักเธอเสมอ
ขาดเธอ..เพิ่งรู้ว่าฉันไม่เหลืออะไร

จบไปก็นาน ห่างกันก็ไกล
แต่ใจทำไมยังรัก และคิดทุกวัน
ว่าอยากย้อนไป ทำอะไรดีๆ ให้เธอ
ผิดเองที่รู้ตัวช้า ที่จริงรักเธอเสมอ
ขาดเธอ..เพิ่งรู้ว่าฉันไม่เหลืออะไร

จบไปก็นาน ห่างกันก็ไกล
แต่ใจทำไมยังรัก และคิดทุกวัน
ว่าอยากย้อนไป ทำอะไรดีๆ ให้เธอ
ผิดเองที่รู้ตัวช้า ที่จริงรักเธอเสมอ
ขาดเธอ..เพิ่งรู้ว่าฉันไม่เหลืออะไร
(วันนี้..รู้ตัวว่าต้องเสียเธอไป)
เต็นกับแชมป์ห่างหายไปจากชีวิตของกันและกันอีกครั้งเมื่อต่างฝ่ายต่างคิดอะไรไม่ตรงกัน
แชมป์ยอมอยู่แบบเหงาๆ ตามที่เต็นได้เอ่ยบอกเพื่อให้หัวใจได้ชาชิน ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะตามงอนง้อกับเต็น แต่หัวใจฝ่อทุกครั้งกับการที่จะกดโทรศัพท์ไปหาเจ้าตัว เด็กหนุ่มใช้เวลาที่อยู่กับตัวเองทบทวนเรื่องราวต่างๆ และหาคำตอบให้กับหัวใจว่าตกลงตัวเองเป็นคนที่รักผู้ชายแล้วจริงๆ หรือ ทำไมหัวใจถึงปิดตายไม่ยอมรับสัมพันธ์ที่ดีที่ผู้หญิงหลายๆ คนยื่นให้ ไม่ว่าจะกับมิวที่ยังคงตามง้อขอคืนดี หรือกับคนใหม่ๆ ที่เพื่อนๆ พยายามชักนำมาให้เพื่อหวังให้คลายความเหงา
“กูมีคนที่กูรักแล้ว ขอโทษที พวกมึงเลิกหาคนคลายเหงาให้กูเถอะ เพราะยังไงมันก็ไม่หายหรอก” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกเพื่อนในวันหนึ่งขณะที่นัดเจอกันตามปกติ เมื่อหาคำตอบให้กับใจได้แล้วว่าคนที่จะมาเติมเต็มให้หัวใจคลายความเหงาได้คือเต็นเท่านั้น ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีโอกาสได้รับรู้ความเป็นไปหรือได้พบเจอกับฝ่ายนั้นเลยก็เถอะ
ด้านเต็นเมื่อกลับมากรุงเทพฯ อีกครั้งในวันใกล้รับปริญญา เด็กหนุ่มคิดจะยอมเปิดใจให้กับแม็คมากว่าคำว่าเพื่อนเมื่อเห็นเจ้าตัวเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด แต่แล้วเรื่องนี้กลับไม่ได้สร้างความยินดีให้แม็คเมื่อเด็กหนุ่มกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตามคำบอกของครอบครัว สองคนนัดเจอกันเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ในเย็นวันหนึ่ง
“แม็คดีใจนะที่ในที่สุดเต็นก็เปิดใจให้แม็ค แต่เราสองคนคงไม่ได้เกิดมาคู่กันมั้ง พอตกลงจะคบกันปั๊บ ก็อันมีเรื่องต้องจากกันซะงั้น” แม็คเอ่ยติดตลก แต่ทว่านัยน์ตาฉายแววเศร้าออกมาให้เห็น เด็กหนุ่มไม่ใช่คนไร้สาระพอที่จะเอาเหตุผลข้อนี้มาแย้งครอบครัวเพื่อจะได้ไม่ต้องไปเรียนต่างถิ่น เข้าใจว่าสิ่งที่ครอบครัวหยิบยื่นให้ก็เพื่ออนาคตของเขาเอง การจะที่จะออกอาการต่อต้านเพื่อที่จะได้คบกับเต็นนั่นคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีจึงยอมก้มหน้ารับคำบอกที่ได้รับ แม้ว่าส่วนลึกจะอดเศร้าและเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
“คนคบกันคนรักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันเสมอไปนี่แม็ค” เต็นเอ่ยปลอบ รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกันที่เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ แต่ก็เข้าใจและยอมรับมันได้ดี
“แม็คดีใจนะที่เต็นพูดแบบนี้ แต่โชคชะตามันขีดให้เราสองคนเป็นได้แค่เพื่อนกัน แม็คเข้าใจและยอมรับได้ เต็นไม่ต้องปลอบแม็คก็ได้” แม็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ เลื่อนมือไปกุมมือคนที่ตนกำลังจะได้หัวใจมาครอบครองดังต้องการ ที่เต็นบอกมันก็ถูก คนรักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันเสมอไป แต่เขากับเต็นยังไม่เริ่มถึงจุดนั้น และเขาก็ไม่มีทางจะเริ่มด้วยเมื่อรับรู้ว่าจะต้องห่างไกลเจ้าตัวไปแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับคนๆ นี้มันสวยงามมาแต่ไหนแต่ไร ที่ผ่านมาแม้เต็นไม่ได้ยอมให้เขาเกินเลยมากกว่าคำว่าเพื่อนแต่เขาก็ไม่ได้เหงาจนทุรนทุราย เพราะจิตใจดีๆ และการกระทำพร้อมคำพูดที่จริงใจตรงไปตรงมาของเต็นมันช่วยเติมเต็มให้เขารู้สึกว่าเขาก็เป็นคนมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย จนบางทีเขาก็มองเลยผ่านไปยังความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งที่น่าจะพึงมีต่อกันได้แล้ว เขามีความสุขที่ได้สบตากับคนๆ นี้ เขามีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มคนๆ นี้ เขามีความอบอุ่นทุกครั้งที่โอบไหล่เจ้าตัวเบาๆ แม้จะในฐานะเพื่อนก็ตาม แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับภาพความทรงจำดีๆ ที่เขาจะเก็บเอาไว้ในใจใตอนที่ต้องห่างกัน เขาจะไม่ยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยการใช้คำว่าให้รักและให้รอมาเป็นเชือกผูกมัดคนๆ นี้ไว้ เขาพร้อมจะยินดีและเต็มใจหากว่าจะมีใครสักคนมารับตำแหน่งคนรู้ใจของเจ้าตัวที่เขากำลังจะเป็นเจ้าของแต่โชคไม่ถึง เขายินดีที่จะเป็นผู้ที่คอยมองและคอยพยุงเจ้าตัวหากว่าเจ้าตัวล้มลงอีกครั้งเพียงห่างๆ เพราะทุกครั้งที่เขาทำเช่นนั้นมันทำให้เขารู้สึกสุขใจได้อย่างพิลึก
“งั้นเต็นก็เคารพในการตัดสินใจของแม็ค เพราะตอนนี้เต็นถือว่าเต็นเปิดใจให้แม็คแล้ว ส่วนที่เหลือแม็คจัดการเองละกัน จะรับไปในสถานะใด เต็นก็พร้อมยินดีมอบให้ทั้งนั้น” เต็นเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เขายอมรับเสมอมาว่าแม็คเป็นคนดีหนึ่งคนที่หากใครได้รู้จักคงหลงรักเอาง่ายๆ ซึ่งหากว่าเขาไม่เคยมีแผลใจจนขอเวลาตั้งตัวแล้วล่ะก็ เขาก็อาจจะมอบใจให้คนๆ นี้ไปตั้งแต่แรกเริ่มแล้วก็ได้ แต่ถึงแม้ว่าตอนสุดท้ายทั้งเขาและคนๆ นี้จะเป็นได้แค่เพื่อนกันจริงๆ เขาก็ยิ้มรับด้วยความเข้าใจในโชคชะตาที่คนบนฟ้าขีดเอาไว้ และสัญญาด้วยใจที่หนักแน่นว่าไม่ว่าชีวิตเขาจะเดินไปทางใดหลังจากนี้ คนเช่นแม็คก็จะอยู่ในใจเขาตลอดไป
“เฮ้อ น่ารักขนาดนี้ไม่รู้คนบางคนเขาทิ้งเต็นได้ไงเนอะ” แม็คเอ่ยติดตลกเมื่อบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว เขากับเต็นมักจะเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้อยู่เสมอ ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งอย่างที่เขาประทับใจในตัวคนๆ นี้
“ว่าคนอื่นถูกทิ้ง ยังกะตัวเองไม่โดนงั้นแหละ” เต็นแซวกลับบ้าง ถึงตอนนี้แม็คได้แต่ยิ้มอายๆ ก่อนจะยกมือยีผมคนแซวแก้เขิน เต็นเองจึงยีกลับบ้านสองคนจึงหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ว่ามีอีกหนึ่งสายตาที่บังเอิญเดินผ่านมาเจอพอดี
แชมป์ยืนนิ่งมองภาพคนสองคนที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ตรงหน้า เด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้าสองคนคุยอะไรกัน แต่ภาพที่เห็นตอนนี้มันชวนให้เหงาใจได้ดีพิลึก สองคนนี้คงกำลังคบกันอยู่จริงๆ สินะถึงได้หยอกล้อกันอย่างสนุกสนานแบบนั้น เด็กหนุ่มก้มมองกล่องของขวัญในมือ มันเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจเดินหาซื้อเพื่อเป็นสิ่งแทนใจสำหรับแสดงความยินดีกับคนที่กำลังจะรับปริญญาในวันอันใกล้นี้ เด็กหนุ่มรู้เรื่องนี้ก็จากการบังเอิญเจอกับนพ และได้พูดกันนิดหน่อย ฝ่ายนั้นจึงบอกข่าวคราวเรื่องนี้ของเต็นให้ได้ทราบ วันนั้นคงเป็นวันที่เขาจะหาขออ้างเพื่อพบหน้าและพูดคุยกับคนที่หัวใจกล้าพูดว่ารักได้เต็มปาก เคยคิดปลอบใจตัวเองว่าเต็นคงจะไม่ขับไล่คนที่มาแสดงความยินดีด้วยหรอกมั้ง แต่พอมาเห็นภาพนี้แล้วก็ชักไม่แน่ใจว่าตัวเองจะใจแข็งพอที่จะเดินไปยื่นของขวัญกล่องนี้ให้ไหวหรือไม่
สองคนตรงหน้ายังหยอกล้อกันไม่หยุด จากตอนแรกแค่ยีเส้นผมกันและกันบัดนี้ต่างถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น กระทั่งภาพสุดท้ายที่ทำให้ทนยืนต่อไปไม่ไหวคือสายตามองเห็นแม็คก้มลงจุมพิตหน้าผากของเต็นซึ่งยืนนิ่งไม่ขัดขืน ภาพนั้นทำเด็กหนุ่มอึ้งได้สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินหนีไปอย่างเจ็บปวด
ทางด้านสองคนที่กำลังยืนมองสบตากันอยู่หลังจากที่คนหนึ่งจุมพิตหน้าผากอีกคน
แม็คเอ่ยขอโทษที่ทำแบบนั้น แต่เต็นบอกไม่ได้ซีเรียส มันเป็นสิทธิ์ที่แม็คพึงจะทำได้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าคนตรงหน้าจะรับหัวใจตนไปในสถานะใดตอนนี้ตนก็พร้อมยินดีมอบให้ทั้งนั้น
แชมป์เดินหนีมาจากภาพบาดตาไม่ไกลนักก็ต้องหาที่นั่งพักเพราะไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินต่อไปได้ ภาพที่เห็นเมื่อครู่ก็เป็นดั่งเข็มที่เข้าทิ่มแทงให้ใจต้องเจ็บปวดขึ้นหนักขึ้นอีก นั่งได้สักพักก็ต้องสะดุ้งกับหนึ่งเสียงที่ดังทักมา
“นึกว่าจะไม่มีโอกาได้เจอกันอีกแล้วนะแชมป์”
เสียงนั่นเป็นเสียงกาย แชมป์เตรียมจะลุกหนีเมื่อหันไปเจอ ยังจำได้งการกระทำที่น่ารังเกียจของเจ้าตัวเมื่อคราวก่อนโน้น แต่เพียงแค่ขยับตัวฝ่ายนั้นก็ทักให้ต้องหยุดจนได้
“จะไม่ทักไม่ทายกันหน่อยเหรอ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย” แชมป์ยอมเอ่ยทัก และรอดูว่าวันนี้กายจะมาไม้ไหน ด้านกายเมื่อเห็นอีกคนไม่เดินหนีจึงเริ่มชวนคุย
“มาเดินเล่นเหรอ”
“อืม”
“แล้วเจอภาพบาดตาบาดใจหรือยัง”
“นายหมายความว่ายังไง”
“ก็ภาพเต็นกับแม็คที่กำลังหวานใส่กันไง”
“มันไม่เห็นเกี่ยวกับฉัน”
“อย่าปากแข็งหน่อยเลยแชมป์ ที่นายต้องมานั่งหมดแรงแบบนี้ก็เพราะภาพนั้นไม่ใช่เหรอ”
“ไร้สาระ ถ้านายจะมาทักฉันเพราะเรื่องนี้ ฉันขอตัวนะ” แชมป์กำลังจะเดินหนีแล้วจริงๆ แต่พอทางที่จะไปเห็นคนสองคนเดินคู่กันมาและได้มองเห็นตนแล้วจริงชะงักเท้า กายที่มองสังเกตด้านหลังแอบยิ้มเยาะ ก่อนหน้านั้นเขาเห็นแล้วล่ะว่าแชมป์เดินหงอยเหงาหนีจากภาพหยอกล้อของคนรักเก่าของตนและนายเต็นนั่น ถึงได้เดินตามมาเพื่อหาจังหวะแทรกความสัมพันธ์ เขาไม่ใช่คนที่มัวมานั่งละอายใจในเรื่องที่เคยทำในอดีต เกิดมาไม่ได้คิดจะเป็นนางเอกในนวนิยายหรือละครนี่ บทตัวร้ายเท่านั้นที่เขาสนใจ มีจังหวะตะครุบคนที่นึกอยากกินอยากสัมผัสเมื่อไหร่จะปล่อยให้โอกาสมันหลุดลอยไปทำไม เสียดายตายเลย น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนเอ็นเนื้ออ่อนๆ ของแชมป์เขาต้องมีโอกาสปลุกปั่นให้มันแข็งเป็นท่อนเหล็กสำหรับทิ่มแทงกายเขาได้สักวันสิน่า
แชมป์รู้สึอายและประหม่าต่อการเผชิญหน้าคนสองคนที่ตัวเองคิดว่าคงตกลงคบกันในฐานะคนรักกันแล้วเรียบร้อย แต่จะให้เดินหนีไปทางไหนก็เกรงจะเสียเชิง ในที่สุดก็ยอมยืนนิ่งๆ ให้สองคนนั้นเดินมาถึงร่าง
เต็นกับแม็คเพียงแค่มองคนรู้จักสองคนเมื่อเดินผ่าน ไม่คิดจะแวะเข้ามาทักทายเพราะในสายตาสองคนนี้ก็คือสองคนที่เคยทิ้งให้พวกเขาเคยจมอยู่กับความผิดหวังจนหันไปใช้วิธีลืมเลือนด้วยยานรก
“ไม่คิดจะทักทายกันบ้างเลยนะทั้งสองคน กลัวว่าจะเปลืองเวลาทำกิจกรรมเข้าจังหวะหรือไง” กายอดที่จะเอ่ยกระทบกระทั่งตามนิสัยไม่ได้ ส่งผลให้สองคนที่กำลังจะเดินผ่านต้องอยู่หันมาเอ่ยด้วยอย่างเสียไม่ได้
“เราสองคนเพิ่งทำกิจกรรมอย่างว่ามาจนเหนื่อยต่างหากล่ะกาย จึงไม่มีแรงพอที่จะพูดคุยกับใครได้ ขอโทษนะที่ทำให้นายเข้าใจผิด”
แม็คเป็นคนเอ่ยตอบ กายหน้าง้ำอย่างเสียเชิงที่โดนคนรักเก่าตอกกลับซะร่างแทบจมดิน  ส่วนแชมป์นั่นก็ไหวเอนกับคำพูดที่แม็คเอ่ยว่าไปไม่น้อย เด็กหนุ่มคิดจะเดินหนีเพราะไม่อยากรับฟังอะไรต่อ แต่กายมองเห็นซะก่อนจึงรีบรั้งเอาไว้เป็นพวกด้วยการเอ่ยเชิงเสี้ยมให้เจ้าตัวละอายใจในพฤติกรรมของคนสองคนที่ตอบโต้คำจิกกัดของตนได้เจ็บแสบนัก
“เชื่อหรือยังล่ะแชมป์ในสิ่งที่เราเล่าให้นายฟัง สองคนนี้เขาร้ายใส่เราจริงๆ อย่างที่เราว่าหรือเปล่า อุตส่าห์หลีกทางให้คบกันแทนที่จะขอบคุณดันมาพูดจาเย้ยหยันกันแบบนี้ไม่ละอายใจกันบ้างหรือไงก็ไม่รู้”
จากคำพูดของกายทำให้แชมป์ต้องจำใจหันไปมองสองคนที่ถูกเอ่ยถึง บางทีเขาน่าจะเอ่ยอะไรบ้างเพื่อเตือนสติให้สองคนอย่าทำอะไรที่จุดชนวนให้คนอย่างกายรู้สึกไม่พอใจ เพราะเขาเคยเห็นการกระทำของคนๆ นี้ยามไม่พอใจมาแล้ว ถ้อยคำหยาบคายต่างๆ และพรรคพวกเจ้าตัวที่เกณฑ์กันมาด่าทอเขาวันนั้นเขายังจำได้ดี มันคงไม่ดีนักหรอกที่สองคนที่กำลังหวานชื่นกันอยู่จะต้องมาโดนคนอย่างกายราวี
“ที่กายเอ่ยมันก็ถูกนะ พวกนายสองคนจะคบกันก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ แต่อย่าร้ายใส่คนที่เสียสละให้พวกนายให้มันมากนัก ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ผลดีนักหรอก”
แชมป์เอ่ยออกไปตามที่คิด สามคนตีความหมายกันไปคนละทิศละทาง กายนั้นแอบยิ้มสมใจคิดว่าคนพูดนั่นเข้าข้างตน เต็นนั่นรู้สึกใจหายเล็กๆ เมื่อคิดว่าแชมป์น่าจะเข้าใจอะไรผิดๆ ส่วนแม็คนั่นไม่พอใจเลยกับคำพูดที่ได้ยิน เพราะคิดว่าแชมป์หูเบาเกินไปจึงเอ่ยโต้กลับ
“หากนายยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรนายไม่พูดจะดูดีกว่านะแชมป์”
แชมป์มองสู้สายตากับแม็คในตอนที่โดนโต้กลับ สายตาสองคนมองจ้องกันนิ่ง เต็นนึกไม่สบายใจเลยที่เห็นอย่างนั้น ส่วนกายนั้นพอใจอย่างที่สุดที่เห็นแววขัดแย้งแสดงชัดตรงหน้า เด็กหนุ่มเอ่ยเสี้ยมต่อทันทีหวังให้สองคนทะเลาะกันกลางฝูงชน ตั้งแต่เกิดมาเคยหวังดีกับใครจริงๆ จังๆ ซะที่ไหน เจออะไรพอเสี้ยมได้ก็มักจะทำมันอยู่ร่ำไป สนุกจะตาย ชิส์!
“แชมป์ เราว่านายอย่าเสียเวลาสั่งสอนคนไม่มีจิตสำนึกเลยนะ เสียเวลาเปล่าๆ เพราะหากเขาจะคิดได้ตั้งแต่แรกคงไม่หักหลังเราเพื่อไปคบกันเองหรอก”
“เลิกพูดอะไรที่คอยแต่จะให้ร้ายคนอื่นเถอะกาย สนุกนักหรือไงที่เห็นคนรู้สึกไม่ดีต่อกัน” เต็นเอ่ยบอกอย่างเหลืออด มองด้วยตาเปล่าก็พอจะรู้ว่าคนอย่างกายคงจะเสี้ยมให้มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น ด้านกายพอได้ยินคำพูดแรกของเต็นก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยกระทบกระทั่งอีก
“เอาปากมาด้วยเหรอ ฉันนึกว่านายจะเก็บเอาไว้ทำอะไรอย่างว่ากับน้องชายของแม็คซะอีกนะ”
   “เลิกหยาบคายเถอะกาย ไปเถอะเต็น อย่าสนใจอะไรเลยนะ แม็คหิวแล้วล่ะ” ประโยคแรกแม็คหันมาสั่งกายเสียงดุ แต่ประโยคหลังเด็กหนุ่มหันไปชวนคนข้างกายเดินหนีพลางทำสีหน้าออดอ้อนว่าตนหิวก่อนจะเดินจูงมือเจ้าตัวไป ปล่อยให้คนสองคนที่ยืนมองตามหลังอึ้งไปตามๆ กัน
“น่าไม่อาย” กายว่าค่อนแคะตามหลัง ก่อนจะแลสายตามามองอีกคนที่ยืนนิ่งเป็นหุ่น เด็กหนุ่มมองพินิจดูอาการ เห็นฝ่ายนั้นคล้ายคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว แบบนี้ก็เข้าจู่โจมได้น่ะสิ วุ้ย ได้ไม่ได้ก็จะลองวะ เผื่อโชคมันจะเข้าข้าง คิดได้เช่นนั้นเด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปแตะแขนฝ่ายนั้นเบาๆ เอ่ยนำชวนเบาๆ
“ไปดื่มเหล้ามั้ย คลายเครียด เรารู้ว่านายกำลังเจ็บปวดกับภาพที่เห็น คราวนี้ไม่ไปแล้ว อตก นายไม่ต้องกลัว”
แชมป์หันมองหน้าคนชวน คิดในใจว่าไหนๆ ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเต็นแล้ว ประชดประชันชีวิตมันให้สุดเหวี่ยงสักครั้งให้สาแก่ใจที่กำลังบอบช้ำมันจะเป็นไรไป ที่สุดเด็กหนุ่มจึงเอ่ยออกมาว่า
“เอาเหอะ นายจะพาฉันไปไหนก็ตามสบายเลยกาย”

โปรดติดตามตอนต่อไป

แอบสปอยล์หน่อยว่าตอนหน้ามีได้เสีย แต่ระหว่างใครกับใคร ตามเชียร์ตามลุ้นกันดีกว่า

กด 1 แชมป์ & กาย
กด 2 แม็ค & เต็น
กด 3 เต็น & แชมป์
กดแล้วไม่ต้องส่งไปที่ไหน
 จิ้มรีพลายกันที่กระทู้นี้แหละ หุหุ อยากรู้จังว่าหลายคนเชียร์ใคร อิอิ
และอีกไม่กี่ตอน ก็จะจบลงแล้วสำหรับนิยายเรื่องนี้ คาดว่าวันที่ 25 นี้ ผมจะนำตอนจบมาให้ได้อ่านกัน
ส่วนใครที่ต้องการสะสมผลงานนี้ในแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค
วันนี้เปิดจองแล้วนะครับ ติดตามอ่านรายละเอียดที่กระทู้นี้ครับ
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 16-04-2011 09:40:07
กด  3 รัวๆๆ เค้าจะเอาสองคนนี้  :serius2:
เครียดๆ สงสารและสมน้ำหน้าแชมป์ในเวลาเดียวกัน เหอะๆ
หมั่นไส้กายวะ นิสัยแม่งเหอะ

รออ่านตอนต่อไปจ้า
+1 จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-04-2011 09:53:56
น่าจะเป็นข้อหนึ่งอยู่แล้ว

เลวพอกัน  ไอ้แชมป์มักง่ายอยู่แล้ว ส่วนอีกายไม่ต้องพูดถึงอีเหี้ยนี่ดีกว่า  เสียชื่อคำว่าเกย์ๆทีดีๆยังมีอีกเยอะแต่มาเสียเพราะอีเหี้ยนี่


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: luxilove ที่ 16-04-2011 10:33:40
 :L1: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 16-04-2011 10:36:18
เอาข้อ1แล้วกัน
แล้วแชมป์ก็ติดเอดส์ ก่อนตายเต็นกับแชมป์ก็มาอโหสิกรรมให้กัน
แฮปปี้เอนดิ้ง 55555
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: สมาคมโคแก่ ที่ 16-04-2011 10:37:44
นังกายมันมาชุบมือเปิบอีกแล้ว   :serius2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 16-04-2011 10:57:51
ได้เสียกันทั้งสามคู่ มีความเป็นไปได้ทั้งหมดเลยอ่ะ
แชมป์นี่หูเบาเนอะ ตอนหน้าโดนล่อลวงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 16-04-2011 11:41:54
เอาข้อ1แล้วกัน
แล้วแชมป์ก็ติดเอดส์ ก่อนตายเต็นกับแชมป์ก็มาอโหสิกรรมให้กัน
แฮปปี้เอนดิ้ง 55555

กดไลค์เลยจ้า  สาปส่งมันไปเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-04-2011 11:42:11
เกลียดกาย -*-
กด 3 มันต้องได้สิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 16-04-2011 13:56:21
กด 3 ด้วยคน ถึงแชมป์จะไม่ดียังไงก็ไม่อยากให้ไปพลาดท่าเสียทีนายกายจอมวายร้ายนั่นเลย
สงสารเต็นอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 16-04-2011 14:17:17
 
:z2:
อยากจะกด 2


แต่ไงนิ้วไปกด 1 ได้ฟ่ะ
ฮ่าฮ่า ไอ่หำเหม็น เสร็จ อิหลุมดำ
เจิดจริงอะไรจริง  กร๊ากกกกกกกก
 :laugh:


ขอบคุณครับ คุณบอย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 16-04-2011 19:40:00
เอ่ออ...กด 3 เต็น & แชมป์   :m29:
ถึงแชมป์มันจะเหี้** ยังไง แต่
ตอนนี้ก็รู้ใจตัวเอง แล้วก็กำลังรับรู้ถึงความรู้สึกถูกทิ้งอยู่ :m14:
 เรื่องบางเรื่องที่ทำผิดพลาดไปแล้ว ก็คงจะจำแล้วคงไม่ทำพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง....มั้ง
แต่ที่รู้ๆ หมั้นไส้ กายยยยยย โว้ยยยยย :m31:


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 16-04-2011 23:12:20

ว้าย ให้ทายรึคะ ได้เลยค่ะ อิอิ

กายพาแชมป์ไปมอมเหล้าในผับสห.ย่านข้าวสาร
เพราะไม่กล้าพาไปผับชายรักชายอีกแล้ว(กลัวเจอเพื่อนตนเอง)
ในผับ ชีต้องเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส ในการป้องกันแชมป์จากการ‘ฉก’ของสาวๆในผับ
ที่พยายามจะลากแชมป์ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ยามค่ำคืน(พร้อมๆกับต้องแอ๊บชงไปด้วย)
เฮ้อ กายเหนื่อยจังค่ะ

ในที่สุด เหล้าผสมหมดไปครึ่งเหยือก แชมป์ก็เมา(นายคนนี้คอ‘อ่อน’มาก เมาประจำ)
กายลงทุนพาแชมป์ไปเข้าโรงแรมหรูริมแม่น้ำ จับลอกคราบลงอ่าง‘จะคุฉิ’
แล้วพยายามลวนลามแชมป์อย่างสุดชีวิต

แชมป์เมามาก ใช้การไม่ได้
กายผิดหวัง อุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้
ยอมไม่ด๊าย
ชีจับแชมป์กด



.



.



.



.



ให้จมอ่างน้ำ หวังจะให้รู้สึกตัว(บ้างเล็กน้อย)

แชมป์ได้สติขึ้นมา ดิ้นพล่านๆ สลัดกายลื่นหัวชนก๊อกน้ำ
แล้วรีบแต่งตัว หนีออกมาจากโรงแรม
โบกแท็กซี่ ไปที่พักของเต็น
กะจะไปคอยอาละวาด ถ้าแผนร้องไห้ไม่สำเร็จผล

ระหว่างนั่ง,ยืน,เดินรอ เต็นก็ไม่กลับมาสักที
(เพราะแม๊คชวนดูหนังรอบดึกต่อ)
เลยเมาหลับไปแถวๆ 7-11
ยามเลยลากไปนอนในตู้ เพราะจำแชมป์ได้

แม๊คมาส่งเต็น บังเอิ๊ญ ลุงยามแกเข้าห้องน้ำ เลยไม่เห็น
แชมป์จึงหลับอยู่ในตู้จนสายแดดส่องก้น
เต็นออกไปใส่บาตรแล้ว(แม๊คมารับ)

แชมป์เลยอร่อยกับแห้วกระป๋องใหญ่

กลับบ้าน เก็บข้าวของ ไปบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด
ไปทำซึมเศร้าแบบมิวสิควิดีโอที่นั่น

ข้างบ้านเพื่อน เป็นไร่ส้ม มีเจ้าของเป็นหญิงม่ายใจดี
อยู่กับน้อง(ไม่)สาว(แล้ว)สติไม่ค่อยสมประกอบ
กับหลานชายท่าทางซึมๆ ชื่อ อาทิตย์

เล่ากันว่า ลูกชายบ้านนี้ หนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนตั้งแต่ชั้นมัธยม
เมื่อเรียนจบ ทั้งคู่มีแฟนเป็นหนุ่มต่างชาติ พาไปอยู่(และเรียนต่อ)ที่ต่างประเทศ
บ้านไร่เลยเหลืออยู่กันแค่นี้

แชมป์กับอาทิตย์สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นใจซึ่งกันและกัน ในฐานะโจรกลับใจทั้งคู่
เลยจับคู่ คบกัน เพื่อปลอบใจให้แก่กัน

จบแล้วค่ะ

 :z7:
And they lived happily ever after.......
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 17-04-2011 01:24:55
เลือกแชมป์-กาย
สะใจดี ฮ่าๆๆ
เริ่มออกแนวตัวร้าย

ดูเต็นน่ารักขึ้นนะ
หรือคิดไปเองหว่า

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-04-2011 05:15:08
นางร้ายมักได้กับพระเอกก่อนเสมอ  แต่เชียร์เต็นค่ะ


แต่ถ้อีกายได้กินไป ก็ขอให้เรื่องจบแบบไม่ต้องมีใครสมหวังมันสักคน ต่างคนต่างอยู่   แล้วก็ให้แต่ละฝ่ายจดจำการกระทำของตัวเองในชาิตินี้ไว้ให้ดีๆ เกิดชาิติหน้า ถ้ามีวาศสนาต่อกัน ค่อยกลับมาคู่กันใหม่แล้วกัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 17-04-2011 05:20:56
ถ้าได้ข้อหนึ่ง เลิกอ่าน จริงๆ
ได้ข้อสาม สั่งซื้อเล่มนึง

ไม่ค่อยชอบเลยถ้าจะดราม่าต่อ อิกายแม่งก้เหี้ยไป ขอร้องค่ะไรเตอร์ ขอข้อ สาม เท่านั้นนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 17-04-2011 07:20:43

ว้าย ให้ทายรึคะ ได้เลยค่ะ อิอิ

กายพาแชมป์ไปมอมเหล้าในผับสห.ย่านข้าวสาร
เพราะไม่กล้าพาไปผับชายรักชายอีกแล้ว(กลัวเจอเพื่อนตนเอง)
ในผับ ชีต้องเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส ในการป้องกันแชมป์จากการ‘ฉก’ของสาวๆในผับ
ที่พยายามจะลากแชมป์ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ยามค่ำคืน(พร้อมๆกับต้องแอ๊บชงไปด้วย)
เฮ้อ กายเหนื่อยจังค่ะ

ในที่สุด เหล้าผสมหมดไปครึ่งเหยือก แชมป์ก็เมา(นายคนนี้คอ‘อ่อน’มาก เมาประจำ)
กายลงทุนพาแชมป์ไปเข้าโรงแรมหรูริมแม่น้ำ จับลอกคราบลงอ่าง‘จะคุฉิ’
แล้วพยายามลวนลามแชมป์อย่างสุดชีวิต

แชมป์เมามาก ใช้การไม่ได้
กายผิดหวัง อุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้
ยอมไม่ด๊าย
ชีจับแชมป์กด



.



.



.



.



ให้จมอ่างน้ำ หวังจะให้รู้สึกตัว(บ้างเล็กน้อย)

แชมป์ได้สติขึ้นมา ดิ้นพล่านๆ สลัดกายลื่นหัวชนก๊อกน้ำ
แล้วรีบแต่งตัว หนีออกมาจากโรงแรม
โบกแท็กซี่ ไปที่พักของเต็น
กะจะไปคอยอาละวาด ถ้าแผนร้องไห้ไม่สำเร็จผล

ระหว่างนั่ง,ยืน,เดินรอ เต็นก็ไม่กลับมาสักที
(เพราะแม๊คชวนดูหนังรอบดึกต่อ)
เลยเมาหลับไปแถวๆ 7-11
ยามเลยลากไปนอนในตู้ เพราะจำแชมป์ได้

แม๊คมาส่งเต็น บังเอิ๊ญ ลุงยามแกเข้าห้องน้ำ เลยไม่เห็น
แชมป์จึงหลับอยู่ในตู้จนสายแดดส่องก้น
เต็นออกไปใส่บาตรแล้ว(แม๊คมารับ)

แชมป์เลยอร่อยกับแห้วกระป๋องใหญ่

กลับบ้าน เก็บข้าวของ ไปบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด
ไปทำซึมเศร้าแบบมิวสิควิดีโอที่นั่น

ข้างบ้านเพื่อน เป็นไร่ส้ม มีเจ้าของเป็นหญิงม่ายใจดี
อยู่กับน้อง(ไม่)สาว(แล้ว)สติไม่ค่อยสมประกอบ
กับหลานชายท่าทางซึมๆ ชื่อ อาทิตย์

เล่ากันว่า ลูกชายบ้านนี้ หนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนตั้งแต่ชั้นมัธยม
เมื่อเรียนจบ ทั้งคู่มีแฟนเป็นหนุ่มต่างชาติ พาไปอยู่(และเรียนต่อ)ที่ต่างประเทศ
บ้านไร่เลยเหลืออยู่กันแค่นี้

แชมป์กับอาทิตย์สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นใจซึ่งกันและกัน ในฐานะโจรกลับใจทั้งคู่
เลยจับคู่ คบกัน เพื่อปลอบใจให้แก่กัน

จบแล้วค่ะ

 :z7:
And they lived happily ever after.......
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries



โอวว์ ไม่ต้องลงต่อแล้วมั้งทั้งสองเรื่อง คุณกิตเล่นเอามาคลุกเคล้าเข้ากันซะแบบว่ายำหนังจี้ของฮอลลีวูดยังอาย อิอิ

สุดยอดดดด

ขอบคุณสำหรับทุกคะแนนโหวต ทุกรีพลายนะครับ ขำๆ เนาะ นานๆ ได้พูดคุยที

สำหรับเรื่องราวตอนต่อไปรออีกแป็บคร้าบบบบ



หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-04-2011 09:26:57
^
จิ้มเข้าให้
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: bvan ที่ 17-04-2011 10:30:45
ไม่เอามาม่าได้ไหม ร้อนๆอย่างนี้ขออะไรที่ชุ่มฉ่ำหัวใจเถอะ เชียร์ เต็น กับ แชมป์ (ถึงจะไม่ชอบแชมป์ก็เถอะ) :call:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 17-04-2011 16:31:36
กด 4 แม๊ค & เต็น & แชมป์ 
55555555555

สามพีซะเลย เหนื่อยจะลุ้น สร้างตัวเลือกให้ตัวเอง
//โดนคุณบอยเตะ//

จริง ๆ ก็เชียร์ทั้งคู่ แค่ไม่มีอีกายพอ  :m31:

รอตอนต่อไปจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 17-04-2011 17:59:57

• “ขอบคุณสำหรับทุกคะแนนโหวต ทุกรีพลายนะครับ ขำๆ เนาะ นานๆ ได้พูดคุยที”
คุณบีบอยให้สัญญา....
ต๊าย ได้อ่านข้อความนี้แล้ว กิต.ใจชื้นขึ้นเลยค่ะ
เรื่องโน้น‘คง’จะจบดีเป็นที่คาดหวังได้
กิต.ละกลั๊ว กลัวค่ะ กลัวว่าจะเป็น....
"ทุกฝีเข็ม ทุกเส้นไหม ทุกลมหายใจ
ความทุกข์ ความเจ็บแค้นใด ที่พวก(ไร่ส้ม)มันทำไว้กับข้า
ขอจงฝังอยู่ในผ้าห่มไหมปักทองผืนนี้
พวกมันจะต้องเจ็บ
และทรมานมากกว่าที่ข้าเคยเจ็บ
นับสิบ นับร้อยเท่า"
อิทธิคร่ำครวญอย่างแค้นใจ....
Edited: ต๊าย หน้าแตกเลยค่ะ กิต.หมายถึงอีกเรื่องนะคะ(อิทธิ-อาทีค่ะ)
P.S. คิดถึง Amine, Justin & Phillipe จังค่ะ

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-04-2011 23:04:36
กดไปทั้งสามเลข ทำยังงัยดีอ่ะ

กีซซซ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-04-2011 23:16:02
กดสาม เชียร์ เต็น-แชมป์....
โอ้วไม่นะ  :z3:ถ้าแชมป์จะไปได้กับกาย มันสุดจะทน เดี๋ยวกายจะได้ใจใหญ่
(แต่พี่บอยมาแนว แชมป์-กาย แน่เลย) อ้ากกกกกกกก :serius2:
ปวดตับอีกล่ะ จะรอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 18-04-2011 09:44:39
กด 2 แม็ค & เต็น
กด 3 เต็น & แชมป์
(ชอบ 2 ข้อเลย)
สรุปง่ายๆ ไม่ชอบข้อ 1 เชียร์ข้อ 3  เต็น & แชมป์

ขอข้อ 3  เต็น & แชมป์ ละกันนะ

ป.ล. ชอบความคิดนี้ ขอเป็นตอนพิเศษละกันนะ 555+

กด 4 แม๊ค & เต็น & แชมป์ 
55555555555

สามพีซะเลย เหนื่อยจะลุ้น สร้างตัวเลือกให้ตัวเอง
//โดนคุณบอยเตะ//

จริง ๆ ก็เชียร์ทั้งคู่ แค่ไม่มีอีกายพอ  :m31:

รอตอนต่อไปจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 18-04-2011 13:43:47
กด5 อีกาย+ผู้ชายเป็นเอดส์. อยากร่านดีนัก ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 19-04-2011 08:35:37
กด 3 เต็น & แชมป์  ค่ะ

 :o12:  ไม่อยากเศร้าอ่ะ 
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 20-04-2011 01:47:49
กด หนึ่งค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-04-2011 09:21:47

    ตอนที่ 31
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)

ภายนอกร้านที่นั่งอยู่ บรรยากาศตอนนี้ครึ้มลงจนน่ากลัวว่าฝนจะเทเม็ดลงในอีกไม่กี่อึดใจ บรรยากาศแบบนี้ชวนให้เต็นนึกถึงภาพในอดีตไม่ได้ในตอนที่แม็คขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ภาพวันวานที่เด็กหนุ่มนึกถึงคือวันแรกที่ได้รู้จักกับแชมป์ วันนั้นเพราะสายฝนแท้ๆ ที่ทำให้ชีวิตของผู้ชายอ่อนไหวอย่างเข้าได้เข้าไปเกี่ยวพันกับผู้ชายแท้ๆ อย่างใครคนนั้น
“ไม่แน่นะเกย์อย่างมึงอาจได้ชายแท้เป็นแฟนก็ได้” ประโยคนี้ของแชมป์ที่เคยเอ่ยให้ได้ยินตอนนั้นทำให้เด็กหนุ่มส่ายหน้าให้กับความโง่เขลาของตนที่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง นิยามรักของเขากับนิยามรักของแชมป์ยังไงซะมันก็ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ เขาเป็นผู้ชายอ่อนไหวที่ชีวิตไม่ได้ถูกขีดเส้นจากคนรอบข้างว่าจะต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเฉกเช่นปุถุชนทั่วไป เขาเป็นผู้ชายที่รักผู้ชาย นิยามรักของเขาก็คงเป็นแบบชายรักชาย ส่วนแชมป์ทั้งๆ ที่รับรู้มาตลอดว่าเจ้าตัวไม่ได้มีรสนิยมเช่นเขา แต่ครั้งหนึ่งหัวใจก็เคยเรียกร้องที่จะครอบครองผู้ชายคนนั้น ในวันที่ทำใจได้แล้วเช่นวันนี้ เหตุการณ์ในอดีตจึงเป็นดั่งฉากหนึ่งในหนังตลกซึ่งนึกถึงแล้วมันก็น่าขันน้อยอยู่ซะเมื่อไหร่ แชมป์เป็นผู้ชายซึ่งวันใดวันหนึ่งเจ้าตัวก็คงมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีภรรยา มีลูก และก็คงเป็นหัวหน้าครอบครัว จะว่าไปเขาก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ซะตั้งแต่ตอนแรก มัวบ้าบอเสียสติไปเรียกร้องในสิ่งที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ทำไมก็ไม่รู้
“นั่งเหม่อเชียวเต็น คิดอะไรอยู่เหรอ สั่งอาหารมายังอ่ะ” เสียงแม็คดังทักมาทำเด็กหนุ่มตื่นจากภวังค์ แม็คนั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วเรียบร้อยจึงหันไปสนใจเจ้าตัวแทนการเหม่อมองบรรยากาศครึ้มฝนด้านนอกด้วยการตอบคำถาม
“สั่งไปสองสามอย่าง เต็นยังไม่รู้ว่าแม็คจะทานอะไรเลยยังไม่สั่งให้”
“แล้วเต็นจะเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ยแม็คจะได้สั่งไปทีเดียวเลย” แม็คถามกลับยิ้มๆ เด็กหนุ่มเพียงส่ายหน้า ในจังหวะที่แม็คกำลังดูเมนูเพิ่มจึงหันไปมองดูบรรยากาศด้านนอกอีก ซึ่งคราวนี้ฝนเริ่มทิ้งเม็ดลงบ้างแล้ว
“มีอะไรอยากเล่าให้แม็คฟังมั้ย” แม็คถามขึ้นอีกหลังสั่งอาหารไปเรียร้อยแล้ว และเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาด้วย ซึ่งเอาแต่นั่งจ้องบรรยากาศด้านนอก
“ทำไมเหรอแม็ค เต็นดูเหมือนคนมีอะไรอยากเล่าเหรอ” เต็นหันมาถาม อาการเหม่อๆ ของตนคงทำให้แม็คนึกห่วงขึ้นมาอีกแล้วสินะ
“เราไม่ใช่คนเพิ่งคบกันนะ มีอะไรให้คิดอีกบอกแม็คมาเถอะ” แม็คบอกยิ้มๆ เด็กหนุ่มจึงเล่าเรื่องราวที่ตนกำลังคิดอยู่ให้เจ้าตัวฟัง
“เต็นกำลังคิดถึงเรื่องตลกๆ ระหว่างเต็นกับแชมป์น่ะ”
“เรื่องตลกๆ มีด้วยเหรอ”
“จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องตลกหรอก ออกจะเป็นเรื่องเศร้าเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงตอนนี้เต็นคิดว่ามันตลก”
“อะไรล่ะที่ว่าตลก บอกแม็คบ้างดิ อยากขำด้วย”
เห็นคนตรงหน้าอยากรับฟังเรื่องราวเต็นจึงเอ่ยบอกถึงเรื่องของตนกับและแชมป์ให้เจ้าตัวฟังอีกครั้ง ทั้งเรื่องที่ฝ่ายนั้นเคยรู้แล้ว และยังไม่เคยรู้นั่นก็คือเรื่องที่แชมป์มาขอคืนดีกับตน
“เฮ้อ แม็คว่าแม็คไปเรียนต่อคราวนี้แม็คเรียนด้านทำหนังทำละครด้วยดีกว่า” แม็คเอ่ยติดตลกเมื่อรับฟังเรื่องราวจากเต็นจนจบ
“ทำไมอ่ะ” เต็นถามฉงน
“แม็คจะทำหนังรักน่ะสิ หนังรักแบบเกย์ด้วยนะ เรื่อง Ten & Champ รักในสองนิยาม”
“อย่ามาตลก เล่าให้ฟังก็มาแซวกันแบบนี้คราวหลังไม่เล่าแล้ว”
“อ้าว ทีตัวเองยังบอกว่ามันเป็นเรื่องตลก พอคนอื่นจะตลกกับมาว่า เอาใจยากนะเราเนี่ย”
“ช่างมันเถอะ ทานข้าวกันดีกว่าอาหารมาแล้ว หน้าตาดีเชียว” เต็นหันไปสนใจกับอาหารที่ถูกนำมาเสิร์ฟ แม็คยิ้มเพียงนิดตอนเห็นเจ้าตัวแสดงท่าทีพอใจกับหน้าตาของอาหารตรงหน้า

*********************************************************************

อีกร้านหนึ่งซึ่งเป็นบรรยากาศที่ต่างไปเพราะเป็นผับสำหรับนักท่องราตรีที่ชอบเสพรสชาติของแอลกอฮอล์ ภายในร้านตกแต่งแสงไฟเพียงสลัวๆ ผนังทุกทิศทึบหมด ประกอบกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มร้านทำให้หลายคนภายในไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าภายนอกกำลังเกิดพายุฝนย่อมๆ
แชมป์นั่งพิงพนักโซฟานึกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเมื่อสั่งเครื่องดื่มที่เจือแอลกอฮอล์ไม่มากนักมาดื่มก่อนแล้วสองสามแก้ว ข้างๆ ตัวตอนนี้คือกายที่กำลังดื่มไปโยกไปกับจังหวะเสียงเพลงที่เร้าใจคนรักสนุกอย่างเขา ผับแห่งนี้แม้ไม่ใช่ผับเฉพาะของชายรักชายแต่เด็กหนุ่มก็รู้จักมักจี่กับเจ้าของที่จับธุรกิจแนวนี้ทุกประเภทนักเที่ยว แน่นอนว่าเจ้าของที่นี่ก็เป็นเป็นเจ้าของผับแบบชายรักชายที่เขาเคยเที่ยวอยู่บ่อยๆ เช่นกัน
“ชอบมั้ยที่นี่” เด็กหนุ่มหันไปถามคนที่ตนพามาในตอนที่เสียงเพลงเบาลง
   “ก็ดี” แชมป์ตอบส่งๆ ตอนนี้จิตใจเขาไม่สนใจเรื่องบรรยากาศใดๆ เท่าไหร่ เพราะทั้งหมดทั้งมวลของความคิดตอนนี้คืออยากรู้ว่าเต็นกับแม็คกำลังอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรกันอยู่มากกว่า
   “ท่าทางนายยังคงคิดถึงนายเต็นอยู่นะไม่ต้องคิดถึงนายนั่นหรอก ป่านนี้คงกำลังอัพยาและสนุกสุดเหวี่ยงอยู่กับแม็คอย่างเคยน่ะแหละ” กายเอ่ยยั่วเพื่อปลุกอารมณ์ให้คนข้างๆ อยากเมาหนัก แต่ผิดคาดเมื่อโดนตวาดกลับมาซะหน้าเสีย
   “เลิกให้ร้ายเต็นทีเถอะกาย”
   “ให้ร้ายตรงไหน เราพูดเรื่องจริง เราเห็นกับตา” เด็กหนุ่มโต้กลับทันควันเช่นกัน แล้วก็นึกขัดใจกับคำอธิบายของอีกคน
   “ขนาดเหล้าเต็นยังดื่มไม่เป็นเลย แล้วเขาจะอัพยาอย่างที่นายว่าได้ไง”
   “มันแอ็บน่ะสิ รู้เหรอว่ามันดื่มเหล้าไม่เป็น”
   “ฉันรู้ก็แล้วกัน”
   “เข้าข้างมันจังเลยนะ ความรักมันทำให้คนตาบอดได้จริงๆ เสียดายเราน่าจะอัดคลิปวันนั้นไว้ให้นายได้ดู”
   “ถ้าหากมันเป็นจริงฉันก็เชื่อว่าที่เต็นทำอย่างนั้นคงเกิดจากที่ฉันทำร้ายเขา มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่นายพยายามให้ร้ายเขาหรอก อย่าพยายามอีกเลย”
   “เออๆๆ เราไม่พูดเรื่องนี้ก็ได้ แต่ไอ้ที่นายดื่มๆ ไปน่ะ มันจะช่วยอะไรนายได้ ทำไม ไม่กล้าดื่มของแรงเพราะกลัวเราจะปล้ำเหรอ อย่าปอดไปหน่อยเลย ถึงเราจะเป็นแบบนี้เราก็มีศักดิ์ศรีนะ ใครไม่เล่นด้วยเราก็ไม่ตื้อหรอก ที่พามาเนี่ยเพียงอยากจะให้หายเครียด”
   แชมป์มองหน้ากายพินิจ แรกๆ ก็กลัวเรื่องที่เจ้าตัวเอ่ยว่าจึงสั่งเพียงแค่เครื่องดื่มเบาๆ มานั่งดื่มเท่านั้น แต่พอได้ยินประโยคเมื่อครู่ ประกอบกับกำลังคิดเตลิดว่าป่านนี้คนที่ตนเอ่ยปกป้องเมื่อครู่คงกำลังมีความสุขจนลืมนึกถึงตนแล้วจึงตัดสินใจสั่งเครื่องดื่มมึนเมาที่มากด้วยแอลกอฮอล์มาดื่มบ้าง กายมองดูอย่างสมใจ คำว่าศักดิ์ศรีสะกดยังไงเขาก็ยังคิดหนัก ที่เอ่ยไปเมื่อครู่แอ็บทั้งนั้น ขอบคุณบทตัวร้ายทั้งหลายแหล่ของนักเขียนนิยายทางอินเตอร์เน็ตคนหนึ่งที่เคยอ่านผ่านตาจริงๆ ที่สอนให้เขาปลูกต้นสตอเบอรี่กลางผับแล้วได้ผลงามขนาดนี้ โดยเฉพาะไอ้อธิศร ได้ข่าวว่าฮอตฮิตติดลมบนด้วยสิ แต่ เชอะ! นั่นมันก็แค่นิยาย ร้ายแล้วยังไง สุดท้ายก็เป็นเอดส์ตาย ได้กินไส้กรอกหนุ่มหล่อมั้ยก็ไม่ มันต้องฉันนี่สิ นั่งอยู่ต่อหน้าต่อตาตอนนี้มันหนุ่มหล่อระดับเทพตัวเป็นๆ ชัดๆ  เมาเมื่อไหร่เป็นได้เสีย แม่จะทำให้ครางสนั่นลั่นห้องให้ได้ยินไปสามช่วงตึกเลยเชียวตอนได้วาดลวดลายชิวหาพาเสียว ถึงตอนนั้นอดใจไม่นึกอยากกระแทกกระทั้นบั้นท้ายฉันให้มันรู้ไป
   “ไม่ไหวแล้วว่ะ ฉันชักมึนๆ แล้วขอตัวกลับนะ” แชมป์เอ่ยขึ้นในตอนที่เริ่มมึนๆ เบลอๆ กายลอบยิ้มสมใจอีกครา แสดงความปรารถนาดีจอมปลอมออกมาอีกครั้ง
   “ให้เราไปส่งนะ เมาแบบนี้กลับแท็กซี่ไม่ดีหรอก เผลอหลับแล้วแท็กโกงมิเตอร์ล่ะซวยเลย”
   “ไม่ต้องหรอก สติฉันยังมี แค่มึนๆ เท่านั้น”  แชมปฏิเสธ กายได้ยินคำว่าสติยังมีก็รู้สึกขัดใจ จึงลองๆ หยั่งเชิงดูว่าสติเจ้าตัวมีจริงอย่างที่บอกหรือเปล่าโดยการเลื่อนมือลงไปเพื่อสัมผัสกับเป้ากางเกง แต่มือยังไม่ถึงเป้าหมายก็โดนคนที่บอกว่ายังมีสติจับไว้ซะก่อน พร้อมกับที่เจ้าตัวเอ่ยบอก
   “บอกแล้วไงว่าฉันยังมีสติอยู่ อย่าเล่นไม่ซื่อแบบนี้กาย”
   “แหม ก็แค่แหย่เล่น โอเค มีสติก็ดีแล้ว” กายบอกออกไปอย่างนึกขัดใจเสียมิได้ ยอมชักมือกลับแล้วลุกขึ้นบอกจะไปลาเจ้าของร้านหน่อยเพราะรู้จักกัน
   “รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ยังไงเราก็ไม่ยอมให้นายกลับเองหรอก เมาแบบนี้อันตราย” เด็กหนุ่มบอกตอนจะเดินผละไป คำเตือนเมื่อครู่ใช่ว่าจะเกิดจากความห่วงใย แต่การดึงผู้ชายคนนี้ให้อยู่กับตนได้นานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้เจ้าตัวหลุดมือไปโดยง่าย
   แชมป์รู้สึกมึนอยู่ไม่น้อยจึงยอมนั่งรอตามคำบอก ส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจรอเพราะเชื่อว่าตัวเองยังมีสติรับรู้สถานการณ์รอบตัวอยู่นั่นเอง
   กายเดินไปก็บ่นไปเพราะรู้สึกขัดใจที่แผนพิชิตสวาทหนุ่มหล่อในดวงใจดูจะพลาดไปหน่อย
   “ดอก ทำมาเป็นคอแข็งวันนี้ ทีอยากอื่นอยากให้แข็งล่ะไม่แข็ง โอ้ย เซ็ง!”
   “เซ็งอะไรกันจ๊ะหนูกาย” เจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวใหญ่เอ่ยถามในตอนที่เดินไปถึง
   “ขัดใจน่ะพี่ปัด พี่ปัดเห็นผู้ชายที่กายพามาใช่มั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมถามกลับ
   “เห็น ไปล่ามาจากไหนเหรอหล่อเชียว”
   “อย่าสนใจเลยพี่ว่ากายไปล่ามาจากไหน สนใจแต่ว่าตอนนี้พี่ปัดมีอะไรแรงๆ ให้กายสักแก้วมั้ย เอาแบบกรอกปากแล้วหมอบอ่ะ มีป่ะ”
    “อะไรกัน จะไม่กลับบ้านกลับช่องหรือไง ถึงอยากเมาขนาดนั้น”
   “บ้านไม่กลับ แต่จะไปโรงแรม”
   “หมายความว่าไงคุณน้อง”
   “คุณพี่ไม่น่าโง่เลยนะคะ คุณน้องก็จะเอาไปมอมผู้ชายหน้าหล่อนั่นไง”
   “อ้าวอีนี่ ลามปามนะยะ มันน่าจัดให้มั้ยเนี่ยที่ขอเนี่ย”
   “โหพี่ กายก็ตามนี่ปัดน่ะแหละ จัดมาอย่าให้ต้องขอรอบสอง เดี๋ยวคุณน้องเหวี่ยงร้านแตกไม่รู้ด้วยนะ”
   “แรงมาก อีนี่ ว่าแต่เพิ่งหัดร้ายหรือยะถึงคิดได้แค่มอมเหล้าผู้ชายน่ะ”
   “พี่ปัดหมายความว่ายังไง”
   “พี่มีของดีกว่านั้น รับรองน้องสุดหล่อนั่นไปไหนไม่รอดหรอกหากได้จิบเข้าไป”
   “อะไรอ่ะ”
   “ยาปลุกเซ็กส์ขนานดีสูตรคุณพี่เอง เห็นผลได้ภายในครึ่งชั่วโมง และออกฤทธิ์ยาวนานไปกว่าสองชั่วโมง สนมั้ยล่ะ”
   กายนิ่งคิด ใช่สินะนี่เขาเพิ่งหัดเป็นตัวร้ายหรือยังไง ถึงไม่คิดถึงข้อนี้เลย ต๊าย ถ้าได้ยานี้ไปก็เท่ากับว่าได้ขึ้นสวรรค์แน่ๆ สินะ
   “จัดมา งานนี้น้องทุ่มเต็มที่” เด็กหนุ่มหันไปบอกกับเจ้าของร้านซึ่งยืนยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ ก่อนจะหันไปหยิบซองยาขนาดจิ๋วตรงเคาน์เตอร์ส่งให้พร้อมบอกราคา
   “ตายแล้วแพงจนเซ็กส์แทบเสื่อมเลยนะคุณพี่ ราคาขนาดนี้ไม่เอามีดมาจี้กรรโชกทรัพย์คุณน้องไปเลยล่ะ” กายเอ่ยออกไปอย่างแดกดันเมื่อรู้ราคาที่ถูกเสนอให้
   “ไม่เอาพี่ก็ไม่ว่า ยาแบบนี้คนต้องการเพียบ” เจ้าของร้านทำท่าจะเก็บยาเข้าที่เดิม ด้วยตัณหาราคะอยากจะงาบคนที่ตนหมายปองใจแทบขาดเด็กหนุ่มจึงยอมจ่ายค่ายาที่แพงหูฉี่นั่น พร้อมกับคว้ามาถือไว้ในมือและฟังวิธีการใช้งานจากเจ้าของร้าน
   “ท่าทางคุณน้องน่าจะโง่มากกว่าแรด เอายามานี่เดี๋ยวคุณพี่ผสมให้เอง แล้วเอาแก้วเครื่องดื่มนี้ไปให้น้องสุดหล่อนั่นดื่ม รับรองสมใจอยากคุณน้องทุกประการ” เจ้าของร้านคว้าซองยากลับไป พร้อมหันไปจัดหารผสมเครื่องดื่มหนึ่งแก้วแล้วเทยาผสมลงไป คนช้าๆ อย่างใจเย็น กายจึงเหวี่ยงออกมาเพราะขัดใจ
   “ชักช้าสมกับเป็นคุณป้าวัยทองจริงๆ ได้หรือยังล่ะ คุณน้องอยากเสียตัวจนตูดขมิบผิดจังหวะแล้วเนี่ย”
   “เสร็จแล้ว แหมแค่นี้ทำเป็นเหวี่ยง  เอ้า เอาไป ขอให้โชคดีนะจ๊ะ”
   “โชคไม่ดีหรือไม่ได้ผล ขอให้ร้านคุณพี่เจ๊งนะจ๊ะ” กายหยิบแก้วเครื่องดื่มเดินกลับที่โต๊ะ เจ้าของร้านได้ฟังประโยคทิ้งท้ายจึงได้แต่ด่าตามหลัง
   “อีดอกกกกกกกกกกก!”
   กายถือแก้วเครื่องดื่มกลับมาที่โต๊ะ เห็นแชมป์เอนหลังพิงพนักโซฟาและกำลังหลับตาจึงลอบยิ้มที่มุมปากออกมานิดๆ ก่อนจะนั่งลงวางแก้วเครื่องดื่มที่ถือมาด้วยไว้บนโต๊ะแล้วหันไปจับร่างนั้นเขย่าปลุกเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงจะหลับ
   แชมป์ค่อยปรือตาขึ้นมาตอนโดนสัมผัสตัว เห็นกายนั่งชิดร่างไปหน่อยจึงขยับตัวออกห่าง
   “รังเกียจกันได้ทุกยามเลยนะ” กายเอ่ยว่า แชมป์ไม่โต้ตอบนอกจากถามว่าจะกลับกันได้หรือยัง หากไม่กลับตนจะออกไปเรียกแท็กซี่กลับเอง
   “กลับแล้ว แต่นี่พี่ปัดเจ้าของร้านเขาฝากนี่มาให้นายดื่ม บอกมันจะทำให้นายสดชื่นได้ มันไม่ใช่เหล้าแต่เป็นเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่พี่ปัดแกคิดค้นขึ้นเพื่อเอาไว้ให้คนที่เมามายดื่มเพื่ออาการเมามายจะได้สร่างขึ้น” กายกุเรื่องบอกเป็นตุเป็นตะประมาณว่าคนตรงหน้าเป็นพระเอกละครไทยที่น่าจะโง่เง่าฟังคำบอกของนางร้ายอย่างตัวเอง แต่แล้วก็ต้องผิดหวังนิดๆ เมื่อพระเอกคนนี้ดูจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตนบอกง่ายๆ โดยการตอบกลับมาว่า
   “ฉันยังไม่ได้เมา ฉันบอกแล้วไงว่าฉันมีสติอยู่ ไม่จำเป็นต้องดื่มหรอก”
   “นายนี่มันปากแข็งไปซะทุกเรื่องเลยนะแชมป์ ทั้งเรื่องนายเต็นและก็เรื่องนี้ เห็นก็เห็นอยู่ว่าเมา นี่ฉันหวังดีนะถึงไปขอเครื่องดื่มนี้มาให้นาย” กายเริ่มออกอาการหงุดหงิดเมื่อแผนการนี้ดูจะไม่ง่ายซะแล้ว
   “ตกลงนายไปขอหรือพี่เจ้าของร้านเขาให้มา” แชมป์ถามกลับ พอจะรู้ทันว่าในแก้วเครื่องดื่มนั้นน่าจะมีอะไรเจือปนมาด้วย กายอึกอักเมื่อคิดว่าเหยื่อน่าจะรู้ทัน จึงหยิบแก้วเครื่องดื่มนั้นมาดื่มไปหนึ่งอึกแล้ววางกระแทกลงบนโต๊ะ
   “นี่ไงเรากล้าดื่มให้นายเห็นว่าเราบริสุทธิ์ใจ นายกำลังคิดว่าเรามอมยานอนหลับนายใช่มั้ย เราเสียใจนะที่พยายามพานายมาคลายเครียดและให้เกียรตินายตลอด แต่นายกลับไม่ไว้ใจเราเลย คิดบ้างสิว่าถ้าเราจะทำมิดีมิร้ายกับนายจริงๆ เราถึงไม่ชิงลงมือไปตั้งแต่พาก้าวเข้ามาร้านนี้ หรือตั้งแต่เหล้าแก้วแรกที่นายดื่ม บอกแล้วไงว่าเรามีศั้กดิ์ศรีพอ ใช่สิ ภาพเราในสายตานายคือเกย์ร่าน เกย์แรด เกย์มั่วใช่มั้ยนายถึงไม่ไว้ใจเราเลย เราอาจจะเคยพลาดทำนายไม่ไว้ใจแต่ครั้งนี้เราเห็นใจนายจริงๆ ที่นายเต็นทำกับนายแบบนี้ ไม่มีใครเข้าใจหัวอกคนอกหักได้เท่ากับคนอกหักหรอกนะ เราเองก็โดนแม็คหักหลังมาเหมือนกัน ทำไมเรากับนายไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันล่ะ เนี่ยเมื่อกี้เราก็พิสูจน์ให้นายเห็นแล้วว่าเครื่องดื่มแก้วนี้ไม่มีอะไรเจือปน นายกล้าไว้ใจเรามั้ย อย่าทำให้เราต้องสงสารตัวเองไปกว่านี้เลย ที่เกิดมามีแต่คนไม่ไว้ใจ”
   กายเริ่มบีบน้ำตาตอนเอ่ยจบ ภาวนาให้คนตรงหน้านึกเห็นใจกับถ้อยคำของตนเมื่อครู่ แล้วก็แทบกรี๊ดเมื่อโดนแชมป์ถูกเนื้อต้องตัวเป็นครั้งแรกโดยที่ฝ่ายนั้นยอมเอามือมาตบหัวไหล่เบาๆ เอ่ยบอก
   “ขอโทษทีถ้าฉันทำอะไรให้นายคิดว่าฉันไม่ไว้ใจและรังเกียจนาย ฉันเคยพลาดรังเกียจคนๆ หนึ่งที่เป็นแบบนายมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งคิดเสียดายในสิ่งที่ทำพลาดไป ครั้งนี้ฉันควรเริ่มต้นมีมุมมองที่ดีกับคนที่เป็นอย่างพวกนายซะที” แชมป์เห็นกายแสดงความจริงใจด้วยการยกเครื่องดื่มแก้วที่ตนสงสัยดื่ม ประกอบกับที่เจ้าตัวเอ่ยตัดพ้อออกมาเสียยืดยาวจึงทำให้จิตใจที่เคยมีอคติลดน้อยลง เด็กหนุ่มยอมหยิบแก้วเครื่องดื่มนั้นขึ้นมาดื่มเพื่อแสดงว่าตัวเองพร้อมที่จะเปลี่ยนมุมมองการมองเพศอย่างกายในทางที่ดีขึ้น
   กายใจสั่นเป็นจังหวะกองที่เห็นหนุ่มหล่อตรงหน้ายกแก้วเครื่องดื่มที่ผสมยาปลุกเซ็กส์ที่เจ้าของร้านบอกขึ้นกรอกปาก ลุ้นสุดใจว่าเจ้าตัวจะดื่มหมดแก้วหรือไม่ และก็ไม่ผิดหวังเมื่อฝ่ายนั้นจัดการดื่มเครื่องดื่มนั้นหมดแก้วต่อหน้าต่อตา อาการใจเต้นเพราะลุ้นนั้นทำเด็กหนุ่มอุปทานไปแล้วว่ายาที่ตนก็ดื่มไปด้วยกำลังออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทตนเอง นึกแล้วก็ขอคารวะบทบาทตัวร้ายฮอตฮิตอย่างนายอธิศรแห่งไฟรักตอนหลอกล่อนายธนู เพราะบทบาทนั่นแท้ๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขากล้ามารยาสาไถได้ขนาดยอมยกแก้วเครื่องดื่มผสมยาปลกเซ็กส์ขึ้นซด จะว่าไปดื่มไปมันก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ดีซะอีกจะช่วยปลุกอารมณ์ร่านได้อีกทาง ซึ่งตอนนี้น่าจะออกฤทธิ์แล้ว เพราะใจเริ่มสั่น เหงื่อเริ่มออก และเริ่มเบลอๆ วิงค์ๆ เห็นคนตรงหน้าเป็นดั่งเทพบุตรที่นั่งเปลือยกายรอตนขึ้นไปขย่มมังกรแล้ว กรี๊ดดดด ฉันรักคนสร้างตัวละครอย่างอธิศร ไอดอลของฉัน ฉันรักพี่ปัดที่ให้ยานี้แก่ฉัน และฉันพร้อมจะร่วมรักกับหนุ่มหล่อตรงหน้าแล้ว โ อววว์ ที่รัก ออกจากที่นี่ไปหาที่ฟัดกันเถอะ
   “รสชาติมันไม่ต่างกะเหล้าเลยนะ ไม่ใช่เหล้าแน่เหรอ” เสียงแชมป์เอ่ยให้ได้ยิน กายจึงตื่นจากภวังค์ฝันชั่วคราว เด็กหนุ่มเกิดร้อนรนอยากจะเสียตัวเจียนใจจะขาดจึงรีบเอ่ยชวนคนกำลังสงสัยเครื่องดื่มที่ดื่มไปออกไปจากร้าน
   “เชี่ย!ฝนตกตั้งแต่ตอนไหนวะ” แชมป์หลุดปากสบถในตอนที่ออกมาเจอสภาพอากาศภายนอกร้าน ถ้อยคำหยาบคายที่ได้ยินปลุกเร้าอารมณ์ดิบของกายได้ดีนัก
   “นายนี่มันแมนได้ใจจริงๆ แชมป์ เร้าใจดีชะมัด” เด็กหนุ่มพูดด้วยสีหน้าและแววตายั่วยวน เพราะคิดว่าฤทธิ์ยาคงจะเริ่มทำงานต่อแชมป์บ้างแล้ว
   “เป็นอะไรของนาย ตอนอยู่ข้างในยังดีๆ อยู่ ตอนนี้มาทำยั่วอะไร เห็นฉันดีด้วยหน่อยก็ใช่ว่าฉันจะมีอารมณ์กับนายนะ” แชมป์เอ่ยบอกออกไป เมื่อนึกไม่ชอบใจกับท่าทีของกายที่ตนเห็น แต่ยอมรับว่าหลังจากดื่มเครื่องดื่มนั้นไปรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ
   “นายไม่มีอารมณ์บ้างเหรอแชมป์ ทำไมเราไม่ไหวแล้วอ่ะ โอ้ย ไปเถอะที่รัก ไปโรงแรมกันนะ อย่าฝืนเลย ปล่อยร่างกายให้สุดเหวี่ยงไปเลยนะ” กายเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ มือไม้ป้วนเปี้ยนไปตามใบหน้าลำคอของแชมป์ไล่วนลงมาตามร่างกาย แชมป์เกิดอาการขนลุกเมื่อโดนลวนลามแบบนั้น เด็กหนุ่มปัดมือกายออกอย่างพัลวัน พลางถอยร่างออกห่างจากตัวเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของคนหื่นกามชัดเจน
   “เชี่ยเอ้ย เป็นห่าอะไรวะ อยู่ในร้านก็ดีๆ อยู่” เด็กหนุ่มเอ่ยว่า พยายามถอยร่างหนีจากกายที่ตามลวนลาม
   “ที่รัก อย่าปฏิเสธแบบนั้นสิ ปะ ไปขึ้นสวรรค์กันนะ” กายตามเว้าวอนเมื่ออารมณ์อยากร่วมรักปะทุอยู่ในอกจนอยากระบายออกมา แต่ทำไมเขาถึงเป็นคนเดียวล่ะ อีกคนที่พยามเดินหนีนั่นก็ดื่มเครื่องดื่มไปจนหมดแก้วนี่ ทำไมถึงไม่มีความต้องการเลย
   “แม่งเอ้ย กูนึกว่าที่พูดเมื่อครู่จะน้อยใจจริงๆ นิสัยเชี่ยไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ” แชมป์เห็นอาการเว้าวอนของคนที่เดินตามแล้วเกิดเสียความรู้สึกที่นึกหลงเชื่อคำพูดตอนอยู่ในร้าน ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรกับเจ้าตัวตอนนี้ถึงได้แสดงความต้องการตัวเขาเหลือเกิน แต่ไม่ไหวล่ะ เกิดใครผ่านมาเห็นท่าทีของนายนั่นที่มีให้กับเขาแบบนี้ก็ได้อายกันพอดี เด็กหนุ่มตัดสินใจวิ่งฝ่่าสายฝนออกไปเพื่อรอเรียกแท็กซี่ตรงถนนใหญ่ เพราะเริ่มไม่ไว้ใจในท่าทีของกาย
   กายเห็นเหยื่อสวาทวิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตาก็เกิดอาการอึ้ง นี่มันอะไรกัน ทำไมยาถึงออกฤทธิ์กับเขาคนเดียว ไม่จริง ไม่จริง เขาโดนอีพี่ปัดหลอกเหรอ ยาที่เขาผสมเครื่องดื่มไปมันยาอะไรกัน
   แม้จะใจสั่นนึกอยากเสพสวาทกับใครสักคนเต็มแก่แล้วตอนนี้ แต่กายก็พยายามข่มอารมณ์ดิบเดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อไปขอคำอธิบายจากคนที่ให้ยานี้แก่ตนมาว่าทำไมมันถึงออกฤทธิ์แบบนี้ พอได้ฟังคำอธิบายก็แทบกรี๊ดออกมาด้วยความเสียดายเม็ดเงินที่เสียไป เมื่ออียัยพี่ปัดนั้นบอกว่ายานี้จะออกฤทธิ์กับคนที่ไม่ได้เมามายมากนัก ส่วนคนที่เมามายนั้นตัวยากจะออกฤทธิ์ตรงกันข้ามคือทำให้เจ้าตัวสดชื่นและสร่างจากอาการเมา
   “อีพี่ปัดบ้า ทำไมถึงทำกันแบบนี้ ยาปลุกเซ็กส์ประเภทไหนกันทำไมมันเป็นแบบนี้ แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่ามันจะออกฤทธิ์แบบนี้” เด็กหนุ่มโวยวายใส่เจ้าของร้านทันทีที่รู้คุณสมบัติ
   “อ้าวอีนี่ ก็แถมาขออะไรหนักๆ ที่มันดื่มแล้วสามารถทำให้ผู้ชายคอพับได้ ฉันก็นึกว่าเด็กนั่นยังไม่เมาน่ะสิฉันถึงจัดยานี้ให้ แล้วไม่บอกล่ะว่าเหยื่อหล่อนน่ะเมาแล้ว ฉันจะได้จัดยาอีกประเภทให้” เจ้าของร้านแถไปหน้าด้านๆ นึกสมเพชที่เห็นเหยื่อมาโวยวายแบบนี้ จะว่าหล่อนไม่ได้หรอก ก็อีกคนโวยวายมันอยากกินผู้ชายจนหน้ามืดตัวมัวไม่บอกเล่าที่มาที่ไปเอง เชอะ!
   “โอ้ย! ทำไมกายถึงร้อนรุ่มแบบนี้ล่ะพี่ปัด ทำไงจะหายล่ะ ทำไงจะหายล่ะ มียาแก้มั้ย ขอกายเถอะ กายไม่ไหวแล้ว” กายออกอาการวิงวอนเมื่อร่างกายร้อนรุ่มร่อแร่จนต้องคลายเสื้อผ้าตัวเองออกบ้างบ้างชิ้นเพื่อระบายอารมณ์
   “ยาแก้ไม่มีมีแต่หนุ่มๆ แก้ให้เอามั้ยจ๊ะ” เจ้าของร้านบอกอย่างรู้ทัน กายได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความอยากเท่าทบทวี เอ่ยออกไปอยากคนคุมสติไม่อยู่
   “จัดมาเจ๊ อย่าให้เสีย ไหนอยู่ไหน วันนี้อีกายขอฟาดเรียบ”
   “หลังร้านคุณพี่เลยค่ะคุณน้อง เด็กร้านคุณพี่เอง เตี้ยล่ำดำถึกทั้งนั้นเชิญคุณน้องไปเลือกฟาดได้หนำใจ” เจ้าของร้านผายมือไปยังทางหลังร้าน หัวเราะกระซิกๆ เมื่อเห็นกายถลาไปยังทิศทางนั้น เอ่ยตามหลัง
   “ขอให้สนุกนะจ๊ะอีดอก สมน้ำหน้ามาแช่งให้ร้านกูเจ๊ง”

ฝากผลงานรวมเล่มด้วยนะครับ
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 30 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 16.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-04-2011 09:31:43

    ตอนที่ 32
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)

ด้านแชมป์ยืนรอเรียกแท็กซี่อยู่นานก็ไม่มีมาสักคัน เด็กหนุ่มนึกขัดใจที่ฝนตกทีไรมักจะเป็นแบบนี้ไปเสียทุกครั้ง ร่างกายหรือก็เริ่มเปียกปอนจากเม็ดฝนที่สาดเข้ามาเป็นระยะๆ ป้ายรถประจำทางที่ยืนอยู่มันได้ช่วยบดบังอะไรได้เลยจริงๆ
   เด็กหนุ่มกลับไปทรุดนั่งกอดอกเมื่อรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาจากละอองฝน สายฝนที่หล่นอยู่ตรงหน้าทำให้ภายในใจหวนนึกถึงวันแรกที่ได้พบกับเต็นอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะยิ้มเหงาๆ ให้กับตัวเองเมื่อคิดว่าความสัมพันธ์ของตนกับคนๆ นั้นมันมาสุดทางที่กลับมาพูดคุยกันได้ดังเดิมแล้ว
   ระหว่างที่แชมป์นั่งกอดอกคิดอะไรอยู่นั้น บนถนนรถของแม็คที่กำลังจะขับไปส่งเต็นได้ขับผ่านมาเส้นทางนี้พอดี เต็นเป็นฝ่ายมองเห็นร่างของแชมป์ก่อนจึงเอ่ยขึ้น
   “นั่นแชมป์นี่ มาทำอะไรที่นี่”
   “นั่นดิ ท่าทางจะรอเรียกแท็กซี่กลับบ้านมั้งน่ะ” แม็คมองตามแล้วเอ่ยขึ้นก่อนจะขับรถตรงไปจอดเทียบร่างนั้น เลื่อนกระจกฝั่งเต็นร้องบอกไป
   “เฮ้! นาย ขึ้นมาดิ ไปด้วยกันเดี๋ยวฉันไปส่ง”
   แชมป์ตกใจที่เห็นว่ารถคันที่เข้ามาจอดเทียบตนเป็นรถของใคร เด็กหนุ่มไม่คิดที่จะขึ้นไปนั่งในตอนแรกเพราะคิดว่าตัวเองคงเป็นส่วนเกินจึงนั่งเฉย ส่วนเต็นไม่รู้จะพูดอะไรดีจึงนั่งเฉย เพราะไม่ได้รู้สึกรู้สากับท่าทีเฉยๆ ของแชมป์ มีแต่แม็คเท่านั้นที่พยามร้องเรียกต่อ
   “นายจะกลับบ้านใช่มั้ย ฝนตกแบบนี้แท็กซี่ไม่ค่อยมีหรอก ขึ้นมาก่อนเดี๋ยวฉันไปส่ง”
   แชมป์มองหน้าคนบอกแล้วมองไปที่เต็นที่นั่งนิ่งๆ บ้าง เด็กหนุ่มยอมเอ่ยขึ้นเมื่อนึกน้อยใจในท่าทีของเต็น
   “ไปเหอะ คนบางคนคงไม่อยากให้ฉันขึ้นไปบนรถด้วยหรอก”
   เต็นได้ยินประโยคนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้าคนเอ่ย สองคนมองสบตากันสักพัก โดยมีแม็คคอยจับอาการ สักพักเมื่อเห็นไม่มีใครยอมพูดยอมจาเอาแต่จ้องหน้ากันอย่างเดียวเด็กหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นเอง
   “อย่าเพิ่งมาแง่งอนใส่กันตอนนี้เลยนะ เต็นเขาบอกให้ฉันมารับนายเอง ทีนี้นายจะขึ้นมาได้หรือยัง”
   เต็นชะงักกับคำบอกของแม็ค แต่ไม่รู้จะท้วงยังไงจึงได้แต่หันมามองหน้า ส่วนแชมป์ได้ยินแบบนั้นประกอบกับเริ่มหนาวเหน็บด้วยไอฝนจึงยอมพาร่างเปียกปอนขึ้นไปนั่งตรงเบาะหลังของรถ
   “ตกลงว่าให้นายแม็คไปส่งใครก่อนดีล่ะ” แม็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ ขณะออกรถไปตามท้องถนนดังเดิม เต็นเห็นว่าที่นี่อยู่ใกล้เขตหอพักตนแล้วจึงให้แม็คไปส่งตนก่อนแล้วค่อยไปส่งแชมป์ก็ได้ เพราะไม่อยากให้เจ้าตัวขับรถวนไปวนมา แม็คจึงยอมทำตาม
   ภายในรถที่นั่งกันแม็คพยายามชวนสองคนที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาคุยโน่นคุยนี่เพื่อลดทอนบรรยากาศที่ดูตึงเครียด แต่เด็กหนุ่มก็ทำไม่สำเร็จเมื่อสองคนยังคงแสดงท่าทีเมินเฉยและบึ้งตึงใส่กันและกัน กระทั่งไปถึงหอพักเต็น
   “ขอบใจนะแม็ค ขับรถดีๆ ล่ะ” เต็นเอ่ยบอกแม็คยิ้มๆ ตอนจะลงจากรถ เอ่ยเสร็จเด็กหนุ่มก็เปิดประตูรถลงไปพร้อมๆ กับแชมป์ที่ลงมาจากเบาะหลังเพื่อย้ายมานั่งข้างหน้า สองคนจึงยืนเผชิญหน้ากันอีกครั้งภายนอกตัวรถ ที่สุดก็ไม่มีใครยอมพูดอะไร และเต็นก็เป็นคนที่เดินผละเข้าหอพักไปก่อน แชมป์มองตามหลังสักพักจึงเปิดประตูเข้าไปนั่งคู่กับแม็ค
“พร้อมจะกลับบ้านหรือยังล่ะ” เสียงแม็คเอ่ยถามขึ้น เด็กหนุ่มแปลกใจในคำถามจึงหันไปถามกลับ
   “นายหมายความว่ายังไง”
   “ก็หมายความว่านายพร้อมที่จะกลับบ้านหรือว่ายังไม่พร้อมจะกลับ” แม็คตอบ
   “ทำไมฉันจะต้องไม่พร้อมล่ะ”
   “ถามใจตัวเองสิ อย่าให้ฉันต้องตอบเลยแค่มองตานายฉันก็รู้แล้วว่านายคงอยากอยู่เคลียร์กับเต็นมากกว่าการกลับบ้านจริงมั้ย”
   “ฉันกับเต็นไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมฉันจะต้องมีอะไรเคลียร์กับเขา”
    “ปากแข็งแบบนี้มันน่าช่วยให้สมหวังมั้ยเนี่ย สงสารเต็นชิปเป๋ง”
“นายหมายหมายความว่ายังไง” อีกครั้งที่แชมป์ต้องยิงคำถามใส่ เพราะเริ่มไม่เข้าใจว่าแม็คจะบอกอะไรตน
“ก็หมายถึงนิสัยปากแข็งแย่ๆ ของนายน่ะแหละ คุยกันเปิดอกเลยนะโว้ย ฉันขอถามนายจริงๆ ว่าตอนนี้นายรู้สึกยังไงกับเต็น”
“ไม่ได้รู้สึกอะไร” แชมป์ไม่กล้าบอกความรู้สึกส่วนลึกจึงเอ่ยออกไปแบบนั้น หนำซ้ำยังงงๆ อยู่ว่าแม็คกำลังจะเอ่ยจะบอกอะไร ที่สุดเด็กหนุ่มก็เข้าใจเมื่อแม็คยอมเล่าอะไรให้มันกระจ่างขึ้น
 “อย่าโกหกฉันเลยแชมป์ เต็นเล่าเรื่องที่นายตามขอคืนดีเขาให้ฉันฟังแล้วล่ะ และฉันก็กำลังจะช่วยให้นายสมหวังอยู่ตอนนี้ แต่ในเมื่อนายปากแข็งไม่ยอมรับใจตัวเองแบบนี้ฉันคิดว่าฉันไม่ช่วยดีกว่าว่ะ”
“ช่วยฉัน นายหมายความว่ายังไง ตกลงนายกับเต็นไม่ได้เป็น…”
“ใช่ฉันกับเต็นไม่ได้เป็นแฟนกัน เราสองคนเป็นเพื่อนกัน อะไรๆ ที่นายเข้าใจอยู่ก็เข้าใจเสียใหม่ด้วยนะ”
“แต่กายบอกว่า…”
“กายคงบอกนายล่ะสิว่าไปเจอเต็นที่คอนโดฉัน นั่นมันก็ถูก แต่เต็นไปหาฉันก็ตอนที่ฉันกับกายไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ฉะนั้นอะไรที่กายให้ร้ายเต็น ฉันไม่อยากให้นายเชื่อไปเสียหมด ที่ฉันอยากจะเปิดอกคุยกับนายตอนนี้เพราะฉันกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งก็คงจะห่างเหินกับเต็นพอสมควร เราสองคนตกลงเป็นเพื่อนกันก็เพราะเรื่องนี้ และหากถามใจฉันจริงๆ การที่เต็นจะคบกับใครใหม่สักคนในฐานะคนรัก ฉันยอมให้เต็นคบกับคนที่เคยมาก่อนฉันอย่างนายหรือพี่นพดีกว่าให้เต็นไปคบกับใครก็ไม่รู้ที่ฉันไม่รู้จัก แต่ระหว่างนายกับพี่นพ ฉันว่านายน่าจะดูแลเต็นได้มากกว่าพี่นพหากว่านายมีความจริงใจพอ เพราะพี่นพเขางานยุ่งเกินกว่าที่จะมาดูแลเต็นได้ ถามใจตัวเองให้ดี ตอบใจตัวเองให้ชัดๆ ว่าวันนี้นายรักเต็นใช่มั้ย เพราะฉันคงไม่ยอมให้ใครหน้าไหนที่ไม่มีความจริงใจมาทำร้ายเต็นได้อีก แต่หากนายจริงใจ แม้เต็นจะต่อต้านนายตอนนี้แต่ฉันว่าฉันสามารถช่วยให้นายได้หัวใจเต็นกลับคืนมาได้”
“นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้หรอก หากฉันจะเอาชนะใจเต็น ฉันทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องยืมมือนายมาช่วย”
“แน่ใจเหรอว่านายทำได้ เพราะดูจากสถานการณ์ตอนนี้เต็นไม่เหลือใจให้นายแม้แต่เสี้ยวเล็บ และนายเองก็ปอดแหกเสียจนหากมีกองเชียร์เขาพวกเขาคงเลิกเชียร์นายไปนานแล้ว เพราะรำคาญแกมสมเพชกับทิฐิที่นายมี จะบอกอะไรให้นะว่ากว่าที่เต็นจะเข้มแข็งอย่างวันนี้ได้ก่อนหน้านั้นนายได้เหยียบเขาเสียแทบจมดินมาแล้ว มันก็ไม่แปลกหรอกที่วันนี้เต็นจะเย็นชาและหมดใจให้กับคนนิสัยเสียอย่างนาย จะเล่าให้ฟังก็ได้ว่าวันที่เต็นมาหาฉันที่คอนโดแล้วกายมาพบเต็นมาในสภาพแบบไหน คำว่าศพเดินได้มันยังน้อยไปที่จะใช้เรียกเต็น ก่อนหน้าที่เต็นจะมาหาฉันเราแชทกันและเต็นก็เล่าเรื่องราวของนายให้ฉันฟัง ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันจริงเท็จแค่ไหน แต่ฉันก็ปลอบไปในฐานะที่ฉันเคยโดนกายทิ้งไปและฉันก็เริ่มรู้สึกชอบเต็นตั้งแต่เห็นรูปเขารูปแรกจึงชวนเขามาที่คอนโด นายอาจจะคิดว่าเต็นใจง่ายก็ได้ที่บยอมมาหาฉัน แต่คนไม่เคยอกหัก ไม่เคยเจ็บ มันไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าความรู้สึกนี้มันเจ็บปวดเพียงใด เต็นเขาก็แค่อยากหาวิธีลืมนายได้เร็วที่สุด ซึ่งฉันก็ใช้วิธีของฉันเข้าช่วย ซึ่งฉันคิดว่ากายคงจะเล่าให้นายฟังแล้วล่ะ ฉันยอมรับว่าฉันกับเต็นมีอะไรกันคืนนั้นจริง และก็ต่างคนต่างไม่ป้องกันด้วยเพราะฤทธิ์ยาพาไป พอได้สติฉันมันไม่เท่าไหร่เพราะเคยเล่นของพวกนี้มาบ้าง แต่กับเต็นมันเหมือนตราบาปที่ฉันนำไปติดตัวเขาไว้ วันนั้นเต็นร้องไห้ฟูมฟายเสียสติก่อนที่กายจะมาเห็นและเขาก็ขอตัวกลับบ้านเพียงลำพัง และก็เลิกติดต่อฉันไปแบบตามตัวไม่เจอ ฉันไม่รู้หรอกว่าระหว่างนั้นเขาตามกลับไปตื้อนายใหม่หรือเปล่า ฉันรู้แต่ว่าฉันเป็นห่วงเขาแต่ก็ไม่รู้ว่าจะตามตัวเจอได้ยังไง แต่แล้วสามสี่เดือนต่อมาเราก็มาพบเจอกันโดยบังเอิญ ฉันดีใจที่เห็นเต็นสบายดี และฉันก็รู้สึกอยากดูแลคนๆ นี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ตอนนั้นเต็นเขาก็ยังสารภาพกับฉันว่าลืมนายได้ไม่สนิทนัก ฉันก็เคยเข้าถึงตัวเขาในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น ช่วงเวลานั้นต่อหน้านายเต็นอาจจะดูเข้มแข็งนะ แต่ลับหลังนายมันไม่ใช่ เต็นยังเป็นเหม่อๆ ซึมๆ ตลอดในทุกครั้งที่หันหลังเดินจากนาย เขาเคยคิดตัดใจจากนายแต่ก็ทำไม่สำเร็จ นายจำวันที่นายนอนไม่สบายที่ห้องเต็นได้หรือเปล่าล่ะ เรื่องนั้นเต็นก็เล่าให้ฉันฟังว่าเขาซื้อยากลับไปให้นายแต่นายก็ทำท่าทีเฉยชาและไม่ใยดีจนเขากลัวว่าความหวังดีของเขาจะกลายเป็นความน่าขยะแขยงในสายตานาย เขาจำได้ทุกคำพูดทุกการกระทำที่นายแสดงออกมาว่ารังเกียจเขาได้ตลอด ฉันเองก็คอยปลอบเขาเรื่อยมาหวังว่าสักวันเขาจะลืมนายได้ และมันก็เป็นจริงในวันที่เต็นเรียนจบและกลับต่างจังหวัด เต็นบอกกับฉันว่าเมื่อกลับแล้วจะเปิดใจคบกับฉันในฐานะคนรักหากว่าฉันยังเสมอต้นเสมอปลาย และฉันก็พิสูจน์ให้เต็นเห็นว่าฉันเป็นคนแบบนั้นจริงๆ แต่สุดท้ายฉันก็ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศอย่างที่ฉันบอกนายน่ะแหละ เราสองคนจึงตกลงคบกันในฐานะเพื่อนเท่านั้น และเรื่องที่นายตามง้อเต็นฉันก็เพิ่งรู้วันนี้ ซึ่งฉันก็จะยินดีมากหากว่าสิ่งที่นายรู้สึกวันนี้เป็นความรู้สึกที่นายมีต่อเต็นจริงๆ และฉันก็อยากจะช่วยให้นายทำสำเร็จก่อนที่ฉันจะไปเรียนต่อด้วย อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นว่าก่อนที่ฉันจะไปไกลจากที่นี่ ฉันก็อยากเห็นเต็นสมหวังในเรื่องความรักสักที”
แชมป์ได้แต่อึ้งฟังในสิ่งที่แม็คเอ่ยบอก ระหว่างที่ฟังเด็กหนุ่มก็หวนคิดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เคยกระทำต่อเต็น ก่อนที่ภาพสุดท้ายที่ทำให้ต้องสะท้านใจเพราะนึกสงสารคนๆ นั้นคือตอนที่พบกับเจ้าตัวโดยบังเอิญที่หน้าคลินิกนิรนาม วันนั้นเต็นคงจะไปตรวจเลือดเพราะรู้ว่าตัวเองพลาดทำอะไรที่เสี่ยงต่อการติดโรคร้ายลงไป โชคดีแค่ไหนแล้วที่วันนี้เขายังเห็นเต็นแข็งแรงดี นี่สิ่งที่เขาทำเพราะนึกสนุกเกือบทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งได้ถึงเพียงนี้เลยเชียวหรือ อย่างที่แม็คบอกว่าใครจะด่าจะว่าเต็นใจง่ายยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เขาแน่เพราะเขาเข้าใจและซึ้งใจถึงสถานะของการเป็นคนอกหัก ก็เพราะความรู้สึกนี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้เขาลงมือดึงเอาความรู้สึกของเต็นมาล้อเล่นให้เป็นเรื่องสนุกเพื่อที่เขาจะได้ลืมความเจ็บปวดที่คนรักอย่างมิวทิ้งไว้ให้ คนเรามักมีวิธีการทำให้ชีวิตลืมความปวดร้าวต่างกัน เขาเลือกวิธีทำร้ายเต็นแต่เต็นเลือกวิธีที่เสี่ยงต่อการเสียอนาคต ลองนึกดูดีๆ หากว่าคืนนั้นเต็นไม่พบกับแม็ค หรือแม็คไม่ใช่คนดี อะไรจะเกิดขึ้นกับเต็นเขาก็สุดจะคาดเดา
“เต็นเหงา เต็นโดดเดี่ยว แชมป์รู้มั้ยว่าเต็นไปเจออะไรมาบ้างระหว่างที่แชมป์หายไป”
เด็กหนุ่มนึกถึงถ้อยคำนี้อีกครั้ง มันออกมาจากปากของเต็นในคืนที่โดนเขาด่าทออย่างไม่ไว้หน้าหลังเจ้าตัวติดต่อมาหากลางดึก ค่ำคืนนั้นมันคงเป็นค่ำคืนที่ฝ่ายนั้นกำลังหวาดกลัวหลังจากที่พลาดท่าพาชีวิตทำสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงลงไปและคงกำลังมองหากำลังใจและที่ยึดเหนี่ยวพอให้จิตใจคลายความกังวลสินะ แต่แล้วเขากลับเป็นฝ่ายทำร้ายเจ้าตัวซ้ำอีกด้วยถ้อยคำตัดรอนที่ถือว่าร้ายแรงพอสมควรกับจิตใจของคนที่กำลังกระจิดกระเจิง
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันไม่จำเป็นเลยที่ผมจะรับรู้เรื่องของคุณ”
   “ทำไมแชมป์ถึงร้ายกับเต็นได้ขนาดนี้”
   “ผมจะร้ายกว่านี้อีกถ้าคุณยังดึงดันที่จะติดต่อผมอยู่”
   “สรุปว่าไม่ว่าจะยังไงเราก็กลับมาคุยกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย”
   “ก็น่าจะเป็นยังงั้น”
   “แชมป์ไม่เสียดายวันเวลาดีๆ ที่เราทำด้วยกันบ้างเหรอ”
   “คุณครับ เรารู้จักกันกี่วันกันครับ วันดีๆ ที่คุณพูดถึงน่ะ มันจะน่าจดจำและน่านึกถึงขนาดไหนกัน”
   “แชมป์”
   “โทษผมไม่ได้นะ คุณบังคับให้ผมพูดเอง แค่นี้นะครับ ผมจะนอน”
   หลังจากวันนั้นเต็นก็หายไปจากชีวิตเขาจริงๆ คงเพราะคำพูดพวกนี้สินะที่ทำให้เต็นไม่กล้ามาตอแยเขาอีก โดนยอมทนอยู่กับความเหงา ความโดดเดี่ยว และฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเพียงลำพัง
“ใครๆ เขาก็ไม่อยากรับคำว่าเหงาเข้ามาเป็นเพื่อนหรอกแชมป์ เราเองก็ไม่เคยต้องการ พยายามวิ่งหนีมันทุกวิถีทาง สุดท้ายก็ไปไม่รอดเพราะตอนนั้นไม่มีใครสักคนที่จะอ้าแขนรับเราพอให้ความเหงามันหวาดกลัวจนไม่กล้าจู่โจม นายลองนึกดูดีๆ ละกันนะว่าเราเคยเหงาจนทุรนทุรายในตอนไหน แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาจนกลับมายืนหายใจในบ้านเกิดได้ตอนนี้ ยอมรับมันแล้วอยู่กับมันให้ชิน เราเคยรอดจากมันมาได้แล้วเราก็คิดว่านายคงจะรอดจากมันเช่นกัน แค่นี้นะ เราต้องนอนแล้วล่ะ”
ถ้อยคำเหล่านี้ของเจ้าตัวมันช่างสนับสนุนความคิดทั้งหมดได้ดีนัก แล้วอย่างนี้เขาจะมัวมานังใจฝ่อ มานั่งมีทิฐิอย่างที่แม็คว่าทำไมกัน ในเมื่อเขาเป็นคนที่เกือบทำลายอนาคตทำลายชีวิตของเต็นให้ดิ่งลงเหว มันจะแปลกอะไรที่เต็นจะไม่ยอมคืนหัวใจที่เริ่มหายดีจากอาการบอบช้ำมาให้เขาโดยง่าย ใครมันจะกล้าพาตัวเองเข้าใกล้คนที่เคยถือคมมีดไว้กรีดใจจนเป็นเคยเป็นแผลเหวอะหวะกันล่ะ แล้วคืนนี้ล่ะ เขายอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นดั่งสิ่งแหลมคมไว้คอยทิ่มแทงใจเจ้าตัวแล้ว จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่เขาจะขอขึ้นไปตามไปขอโทษเจ้าตัวถึงบนห้องนั้นอีกครั้ง
“ไม่ต้องแหงนมองหรอกจะขึ้นก็ขึ้นไป จะว่าไปปล่อยให้นายเอาชนะใจเต็นด้วยฝีมือนายเองมันน่าจะสมกับเป็นพระเอกของเรื่อง ส่วนฉันขอเป็นพระรองเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ละกัน” แม็คยกมือขึ้นตบบ่าให้กำลังใจคนที่กำลังแหงนมองไปบนตึกหอพักของคนที่ตนอยากให้สมหวังในเรื่องความรักก่อนที่ตนจะจากไป
“ขอบใจว่ะพวก ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวัง” แชมป์หันมาตอบแม็คด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้หัวใจพร้อมแล้วที่จะเข้าไปเผชิญกับคนที่ตนเคยทำร้ายจนบอบช้ำ เป็นไงก็เป็นกัน คืนนี้มีทางไหนที่เขาจะทำให้เต็นเชื่อใจและไว้ใจเขาว่าเขาพร้อมจะเป็นผู้ชายที่รักผู้ชายเขาก็ยินดีที่จะทำ
ท่ามกลางเม็ดฝนที่หล่นลงแค่ปรอยๆ แชมป์ก้าวลงมาจากรถของแม็ค แล้วยืนส่งจนแม็คเคลื่อนรถออกไป เด็กหนุ่มจึงหันไปมองยังทางที่จะพาหัวใจก้าวไปขอโทษใครบางคนด้วยสายตาที่มีความหวังว่าใครคนนั้นจะเต็มใจอ้าแขนโอบกอดรับความจริงใจจากเขาอีกครั้ง


เพลงกอดฉันอีกครั้ง
ศิลปิน ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง

http://youtu.be/4tskJy0bPGc

รู้ฉันรู้ ความผิดครั้งนั้น มันเกินวิงวอนให้เลือนไป
จะพูดกี่ครั้ง ว่าฉันไม่ตั้งใจ เธอคงไม่ต้องการ

รู้ฉันรู้ ฉันมาครั้งนี้ เราคงเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน
ไม่หวังว่าเธอ จะให้อภัยกัน แต่มีสิ่งหนึ่งอยากจะขอ

กอดผู้ชายคนนี้ อีกครั้งนึง อยากจดจำให้ซึ้ง ถึงหัวใจ
ว่าคนที่รักฉัน คนที่ดีกับฉัน แต่ตัวฉันเอง ก็ทำลาย

ณ อีกครั้งนึง (อีกครั้งนึง) อยากจดจำให้ซึ้ง ถึงหัวใจ
ให้ไออุ่นเธอนั้น อยู่ในใจของฉัน จากวันนี้ไปจนวันตาย

ค้นฉันค้น หัวใจของฉัน มาเจอในวันที่สายไป
อยากย้อนกลับมาเพื่อขอให้เริ่มใหม่ เธอคงไม่ต้องการ

รู้ฉันรู้ ฉันมาครั้งนี้ เราคงเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน
ไม่หวังว่าเธอ จะให้อภัยกัน แต่มีสิ่งหนึ่งอยากจะขอ

กอดผู้ชายคนนี้ อีกครั้งนึง อยากจะจำให้ซึ้ง ถึงหัวใจ
ว่าคนที่รักฉัน คนที่ดีกับฉัน แต่ตัวฉันเอง ก็ทำลาย


ณ อีกครั้งนึง (อีกครั้งนึง) อยากจะจำให้ซึ้ง ถึงหัวใจ
ถ้าเธอจะโกรธฉัน ก็อย่าเกลียดฉัน อย่าเกลียดฉันเลย จะได้ไหม
ณ อีกครั้งนึง (อีกครั้งนึง) อยากจะจำให้ซึ้ง ถึงหัวใจ
ให้ไออุ่นเธอนั้น อยู่ในใจของฉัน จากวันนี้ไปจนวันตาย
จากวันนี้ไปจนวันตาย

โปรดติดตามตอนต่อไป (อวสาน)
ตอนหน้าจะอวสานแล้วนะครับ สำหรับเรื่องราวนี้ มาเอาใจช่วยแชมป์กันดีกว่าว่าลมหายใจเฮือกสุดท้าย
ของการสำนึกผิดว่าจะเอาชนะใจเต็นได้หรือเปล่า ส่วนเรื่องผลโหวต ผมบอกแล้วว่ามันขำๆ แต่ก็มีได้เสียจริงนะ
ก็กายกับหนุ่มๆ เจ้ปัดไง 555 คงหายอยากไปอีกนานล่ะกายเอ้ย  อิอิ

ก่อนไปก็ฝากผลงานรวมเล่มกันเช่นเคยครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-04-2011 10:35:51
ตอนหน้าอวสาน
กายก็ไม่ได้กับแชมป์ ลุ้นมากเลย 55+
รอตอนจบจ้า^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 20-04-2011 12:29:29
จะจบแล้วเหรอเนี่ย
 :o12:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 20-04-2011 13:03:31
แอร๊ยยยยยยย  โล่งอก เล่มนึงค่า
ขออีกๆๆ ๆ ๆ รักกันได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-04-2011 14:21:01
เครียดอะ แต่ก็สมน้ำหน้ากาย

5555555
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 20-04-2011 19:12:21
จะอวสายแล้วววววววววววววว
โหย หลงรักแม็ค นายแมนมาก!
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 20-04-2011 22:48:07
ตามอ่านเรื่องนี้จาก เรื่องอิท
ไม่ค่อยชอบที่ใช้คนต่างด้าวในฉากให้ได้กับกาย แถมยังพูดว่า ตัวดำล่ำเตี้ย อะไรประมาณนี้อีก มันเหมือนอคติต่อคนชาตนั้นหรือ ไม่รู้สิ ถ้าคนชาตนั้นๆได้มาอ่านคงไม่ชอบ
ช่างเหอะ

ผมชอบฝีมีการแต่งของพี่บอย
ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 20-04-2011 22:53:50
วันก่อนพึ่งตั้งกระทู้ถามว่า ผู้ชายแมนๆที่จะชอบเกย์ได้ มีมั้ย? แล้วก็ได้มาอ่านเรื่องนี้
มีความสุขและความหวังมากขึ้นเลยล่ะครับ

วันก่อนอ่าน แรงแค้น แล้วแทบบ้าจิตหลอนเลยครับ
ดราม่าโคตรๆ
ขอบคุณพี่บอยมากครับ
อยากเม้นยาวๆแต่คิดไม่ออก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 20-04-2011 22:57:49
ไม่อยากให้จบเลยหนุกมากๆๆอ่า

ชอบเรื่องนี้อ่าแต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ชอบก้อคือ แชมป์

เป็นพระเอกที่สุดๆๆ

ขอบคุนพี่บอยนะครับ

เดี่ยวจะโอนเงินไปให้นะคราบ

เค้าสั่งจองเรื่องนี้เล่มหนึ่งนะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-04-2011 23:12:41

ผิดคาด..กาย  เล่นของอิมพอร์ต หึหึ

ตามคาด..แม๊ค จะไปซะแล้ว เอ็กซ์พอร์ต หุหุ


แต่ที่ไม่ได้คาด..เต็นจะหวนกลับไปกินราดหน้าวงเวียนใหญ่ ยี่ห้อแชมป์ เจ้าเดิมน่ะนี่ ฮ่าฮ่า


อยากให้คาด..มีใครสนใจข้าวต้มกุ๊ย ควันฉุย
คลองสานบ้างมั้ยคร้าบบบบบ
กร๊ากกกกกก

ขอบคุณครับ คุณบอย
...ซดร้อนๆๆๆๆ... อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-04-2011 23:24:21
 :เฮ้อ:


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-04-2011 03:27:03
ตามอ่านเรื่องนี้จาก เรื่องอิท
ไม่ค่อยชอบที่ใช้คนต่างด้าวในฉากให้ได้กับกาย แถมยังพูดว่า ตัวดำล่ำเตี้ย อะไรประมาณนี้อีก มันเหมือนอคติต่อคนชาตนั้นหรือ ไม่รู้สิ ถ้าคนชาตนั้นๆได้มาอ่านคงไม่ชอบ
ช่างเหอะ


 

 

ผมชอบฝีมีการแต่งของพี่บอย
ขอบคุณ


แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณที่ติงมานะครับ พลาดไปแล้วเรา แหะๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 21-04-2011 22:08:20
เฮ้อออ จะจบแล้ว  :sad2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 21-04-2011 22:21:13
จะจบแล้วง่ะ o22
สะใจเป็นบ้า กายอ่ะ ต้องไม่ได้ดีแน่นอน 555 สะใจ
ส่วนแชมป์ สู้ต่อไป หวังว่าเต็นจะเห็นใจและกลับมาคืนดี
จะรอตอนจบนะค่ะ :กอด1: :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-04-2011 22:22:35
ถ้าได้ข้อหนึ่ง เลิกอ่าน จริงๆ
ได้ข้อสาม สั่งซื้อเล่มนึง

ไม่ค่อยชอบเลยถ้าจะดราม่าต่อ อิกายแม่งก้เหี้ยไป ขอร้องค่ะไรเตอร์ ขอข้อ สาม เท่านั้นนะ


ชอบเม้นท์นี้มาก o13
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-04-2011 22:32:48
จะมีหักมุมอะไรหรือเปล่า
ปกติชอบที่จะให้จบแบบแฮปปี้นะ
แต่กลัวใจคนเขียนจัง
อย่าลืมว่าเป็น love story นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 21-04-2011 23:44:22

รออ่านตอนอวสานหน้า

แต่หลังๆ มา มีสะกดพลาดหลายจุดนะ  อย่างตอน  “ช่างมันเถอะ ทานข้าวกันดีกว่าอาหารมาแล้ว น่าตาดีเชียว” <--- มันใช้ น่า นี้หรอ?


เจ้สอง
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-04-2011 00:23:19

รออ่านตอนอวสานหน้า

แต่หลังๆ มา มีสะกดพลาดหลายจุดนะ  อย่างตอน  “ช่างมันเถอะ ทานข้าวกันดีกว่าอาหารมาแล้ว น่าตาดีเชียว” <--- มันใช้ น่า นี้หรอ?


เจ้สอง



แกไขแล้วคร้าบบ :o8:



 
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-04-2011 00:58:52
จะจบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 24-04-2011 03:49:19
หายไปนาน ให้คนอ่านรอตอนจบ ขอให้ได้รักกันน๊าค้า
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 24-04-2011 12:39:00
จะรักกันแล้ววววววววววววว ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-04-2011 18:37:30
ตอนที่ 33
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)

บนท้องถนนในยามค่ำคืน สายฝนที่เทกระหน่ำลงมาตั้งแต่ต้นค่อยๆ เบาบางลงเรื่อยๆ จนหยุดตกในที่สุด แม็คขับรถไปตามถนนที่การจราจรเริ่มโล่งเมื่อเวลาผ่านไปค่อนคืน เด็กหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆ ปล่อยอารมณ์สบายๆ ไปกับเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ตั้งแต่แยกจากแชมป์มา รอยยิ้มบางๆ ผุดให้เห็นตรงมุมปากตอนที่หวนนึกนึกเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ดำเนินมาตั้งแต่ต้นตอนได้รู้จักกับเต็น นับตั้งแต่วันแรกที่ได้ทักทายกันผ่านโปรแกรมแชท วินาทีแรกที่ได้พบหน้ากัน น้ำเสียงแรกที่ส่งให้กันตอนพบหน้า ภาพใบหน้าเศร้าๆ ของฝ่ายนั้นยามนึกถึงเรื่องราวเจ็บปวด ภาพมึนๆ เบลอๆ ของเจ้าตัวตอนที่ได้รับฤทธิ์ยานรก ภาพความสุขที่ตนเคยได้รับจากร่างกายนั้น ช่วงเวลาเหล่านั้นเขาได้แอบเก็บความรู้สึกดีๆ ไว้รอว่าเมื่อเจอกันอีกครั้งเขาจะถือโอกาสบอกว่าตัวเขาเองนึกชอบเจ้าตัวเพียงไร แต่แล้วก็ต้องใจหายเมื่อคนๆ นี้ได้หายไปจากชีวิตโดยไม่ทิ้งช่องทางติดต่อใดๆ ไว้ให้ แต่แล้วเพียงสามสี่เดือนต่อมาหัวใจก็พองโตตอนได้เจอกันโดยบังเอิญในโรงภาพยนตร์ย่านที่เจ้าตัวพักอยู่ หัวใจนึกกลัวเหลือเกินว่าเจ้าตัวจะห่างหายไปอีกจึงได้เริ่มสานสัมพันธ์ตั้งแต่วันนั้น ดีใจที่สุดเมื่อฝ่ายนั้นยอมเปิดใจคบในฐานะเพื่อนใหม่ จนมีช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้กันและกัน หลายเหตุการณ์ หลายเรื่องราว หลายคำพูดที่คนๆ นั้นแสดงออกมาจากใจจริงๆ มันทำให้เขาประทับใจจนตกหลุมรักในที่สุด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเจ้าตัวโดนคนอย่างแชมป์ทำร้ายจิตใจได้ยังไง ใช่สินะ เจ้าตัวเคยบอกว่าแชมป์ไม่ได้เพศที่เรียกว่าชายรักชาย แต่นั่นมันคงเป็นความเข้าใจที่ผิดแล้วล่ะเพราะวันนี้ตอนนี้คนที่โดนบอกว่าไม่ได้เป็นชายรักชายก็กำลังจะตามง้อผู้ชาย เต็นเอ้ย รู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ยว่าตัวเองสามารถทำให้ผู้ชายหนึ่งคนที่เคยรักผู้หญิงมาแปรเปลี่ยนเป็นผู้ชายที่รักผู้ชายได้ ป่านนี้จะงอนง้อกันไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ อยากจะรู้จังว่าสุดท้ายแล้วสองคนที่เคยมีนิยามรักที่ต่างกันจะยอมลดราวาศอกให้กันแค่ไหน งานนี้คนที่รับศึกหนักน่าจะเป็นนายแชมป์นั่นแหละเพราะเป็นฝ่ายตามง้อ
“สู้ๆ แล้วกันนะแชมป์ฉันเชื่อว่านายทำได้” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาในนาทีสุดท้ายก่อนจะเลิกคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ เขายังมีภาระอีกมากมายที่ต้องสะสาง นั่นคือเรื่องราวอนาคตที่ครอบครัวขีดเส้นไว้ให้ แต่เลิกคิดก็ใช่ว่าจะเขาจะลืม หัวใจเขายังพร้อมตลอดเวลาที่จะดูแลเต็นหากว่านิยามรักของคนๆ นี้กับอีกคนจะเชื่อมต่อกันไม่สำเร็จ
 รถคันหรูเพิ่มระดับความเร็วขึ้นพุ่งไปตามถนนเมื่อคนขับได้ปล่อยวางอารมณ์ต่างๆ และเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนปัจจุบันเสร็จลง

*******************************************************************

   ด้านแชมป์ตอนนี้ได้พาร่างมาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องของคนที่ตัวเองฮึดกำลังใจตามงอนง้อ ระหว่างเดินขึ้นมายังห้องๆ นี้ชายหนุ่มได้วางทิฐิและอาการใจฝ่อ พร้อมเขี้ยวเล็บร้ายๆ ที่เคยใช้มันทำร้ายคนในห้องทิ้งไปแล้ว ที่อยู่กับเขาตอนนี้เหลือเพียงจิตวิญญาณของคนสำนึกผิดที่พร้อมจะก้มหน้ารับคำพิพากษาต่างๆ ที่คนในห้องเป็นดั่งตุลาการชี้ขาดว่าเขาสมควรจะรับโทษในเรื่องราวร้ายๆ ที่เคยทำผ่านมามากน้อยเพียงใด  
   เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดอีกหนึ่งเฮือกก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูห้อง ยืนคอยสักพัก ประตูห้องจึงได้เปิดออกมา รอยยิ้มบางๆ จึงส่งให้คนตรงหน้าทันที
   เต็นตกใจนิดๆ ที่เห็นแชมป์มายืนยิ้มให้ต่อหน้าตอนนี้ แต่ยังไม่ทักอะไรคนนั้นก็เอ่ยขึ้นก่อน
   “แชมป์ขอเข้าไปข้างในได้มั้ย”
   “ก็ ก็ได้” เต็นอึกอักตอบ เหตุที่ต้องตกใจตอนที่ได้เจอกับคนตรงหน้าตอนแรก เพราะตัวเองก็กำลังนั่งคิดถึงเจ้าตัวอยู่นั่นเองหลังจากที่เพิ่งเลิกพูดคุยกับนพทางโทรศัพท์ ซึ่งในตอนท้ายก่อนที่ฝ่ายนั้นจะวางสายไปเจ้าตัวได้บอกได้พบกับแชมป์โดยบังเอิญ และได้พูดคุยกันนิดหน่อยจนเผลอหลุดปากบอกถึงเรื่องที่ตนกำลังจะรับรับปริญญาในอีกไม่กี่วัน
   การที่คนรักเก่ามาเอ่ยชื่อคนที่ตนเพิ่งจะนึกถึงเจ้าตัวเมื่อตอนมองสายฝน และได้เย็นชาใส่กันมาตลอดระหว่างที่นั่งอยู่ในรถของแม็คมาด้วยกันจึงทำให้หัวใจเกิดนึกถึงเจ้าตัวขึ้นมาอีกครั้ง จนเผลอไปค้นดูสิ่งของเก่าๆ ที่ตัวเองอาจจะมีเก็บไว้มาดูเล่นๆ ที่สุดก็เจอตั๋วหนังที่ได้ไปดูกับเจ้าตัวตอนออกเดตกันครั้งแรก ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเก็บตั๋วสองใบนี้ไว้ตอนไหนเพราะตอนนั้นก็ยังไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่การมาค้นเจอมันอีกครั้งมันก็ทำให้หัวใจนึกหวนถึงวันนั้นได้ดี แรกๆ เด็กหนุ่มก็ยิ้มบางให้กับภาพความสนุกของแชมป์กับการเล่นเกมส์ในตู้เกมส์ ก่อนตอนท้ายๆ จะแอบเหงาจนน้ำตาซึมเมื่อนึกถึงตอนที่ได้นั่งคู่กันภายในโรงหนังและฝ่ายนั้นกุมมือตนไว้ตลอดเวลาจนหนังจบ ที่ต้องเหงาเพราะภาพนั้นมันยังขัดกับภาพสุดท้ายที่ตัวเองโดนตัดขาดความสัมพันธ์เหลือเกิน
   เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นในตอนนั้น เด็กหนุ่มจึงวางตั๋วหนังไว้บนโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเดินไปเปิดดูว่าใครมาเคาะ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนที่ตนกำลังนึกถึง
   เต็นปิดประตูห้องช้าๆ ตอนที่แชมป์เดินมาหยุดกลางห้องแล้ว เด็กหนุ่มแอบใช้มือปาดดูที่ขอบตาเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำตาตัวเองไม่ได้ซึมอยู่ ก่อนจะสะดุ้งหน่อยๆ ตอนที่แชมป์เอ่ยถาม
   “ฝุ่นเข้าตาเหรอ ให้แชมป์ดูให้มั้ย”
   “ปะ เปล่า” เด็กหนุ่มรีปปฏิเสธ และเมื่อแน่ใจว่านัยน์ตาตัวเองคงไม่มีอะไรผิดปกติแล้วจึงหันมาสบตากับคนที่มาทำให้ตกใจ ถามขึ้น
   “ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ”
   “ไม่รู้ดิ ยังไม่อยากกลับ” แชมป์เอ่ยตอบ เริ่มประหม่าและฝ่อกับคำถามแบบนี้อีกครั้ง
   “แล้วแม็คล่ะ” เต็นอดถามถึงอีกคนไม่ได้ มันเป็นไปตามสัญชาตญานของความเป็นเพื่อนที่สนิท เพราะการที่แชมป์มาโผล่ที่ห้องเขาแบบนี้ มันดูผิดจากความน่าจะเป็น ก็ฝ่ายนั้นบอกจะขับรถไปส่งคนๆ นี้นี่ แล้วทำไมถึงปล่อยให้เจ้าตัวมายืนอยู่ในห้องตนตอนนี้
   “กลับไปแล้ว” แชมป์น้อยใจหน่อยๆ ที่เห็นเต็นใส่ใจที่จะถามถึงอีกคนมากกว่าสนใจสารรูปที่กำลังเปียกปอนของตน แต่เพราะบอกกับตัวเองไว้แล้วว่าจะก้มหน้ายอมรับทุกสภาพที่เต็นโยนให้จึงทำใจดียืนอยู่ต่อโดยไม่คิดเรียกร้องอะไรจนกว่าเต็นจะเป็นคนหยิบยื่นให้เอง
   “ก็ไหนแม็คบอกจะไปส่งนายไง ยังไงกันนะ” เต็นบ่นเมื่อเริ่มมึนงงกับสถานการณ์
   “อืม แชมป์ขอไม่กลับเองแหละ คือแชมป์อยากคุยกับเต็น” แชมป์ยอมเอ่ยออกมาตามตรง มองสบตากับเต็นนิ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบสายตาก่อนแล้วหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้เอ่ยบอก
   “สภาพนายดูไม่ได้เลย ไปอาบน้ำก่อนเถอะไป”
   แชมป์รับผ้าเช็ดตัวมาถือไว้ในมือ หันไปมองตระกร้าผ้าที่ว่างอยู่จึงอดแซวไม่ได้
   “วันนี้เสื้อผ้าไม่มีให้ซักเหรอ”
   “หมายความว่าไง” เต็นถามเพราะยังไม่เข้าใจความหมาย แชมป์จึงเอ่ยบอก
   “ก็วันนั้นที่เต็นลงไปซักผ้า เพราะหลบหน้าแชมป์ไม่ใช่เหรอ”
   “ไม่เกี่ยวหรอก ทำไมเราจะต้องหลบหน้านายด้วยล่ะ” เต็นปฏิเสธ
   “เต็นน่าจะรู้คำตอบดี”
   สองคนมองสบตากันนิ่ง ที่สุดแชมป์ก็เป็นฝ่ายผละเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกาย เต็นถอนหายใจให้กับความรู้สึกที่เริ่มไหวเอน ก่อนจะจัดการหาเสื้อผ้ามาจัดวางไว้บนเตียงเพื่อคนที่ออกมาจากห้องน้ำได้ผลัดเปลี่ยน เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จจึงออกจากห้องไปเช่นเดิม เพราะเชื่อว่าฝ่ายนั้นน่าจะออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยท่อนบน หรือมากกว่านั้น แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ เขาไม่สมควรที่จะอยู่มองเจ้าตัวใจสภาพที่ไม่เรียบร้อย เดี๋ยวจะพาลว่าฉวยโอกาสเอาอีก
   ที่ๆ ที่เต็นหลบมายืนพักคือดาดฟ้าของหอพัก ซึ่งสภาพของมันเปียกแฉะจากฝนที่เพิ่งหยุดตกทำให้ไม่สามารถนั่งได้ เด็กหนุ่มเดินไปไปหยุดยังที่กั้นซึ่งสูงเพียงแค่ระดับเอว สายตามองยังผืนฟ้าที่ยังมืดครึ้มอยู่ แสงดาวก็ไม่เห็น พระจันทร์ก็ไม่มี คงจะโดนเมฆฝนบดบังไปซะหมด บรรยากาศมันจึงดูหดหู่ดีพิลึก แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น เด็กหนุ่มก็ต้องทนยืนอยู่นานหลายนาทีเพื่อที่จะให้ความเป็นส่วนตัวกับอีกคนที่อยู่ในห้องตอนนี้ ซี่งป่านนี้น่าจะกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
   ภายในห้อง แชมป์กำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่จริงๆ ในตอนแรกที่ออกมาจากห้องน้ำในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวก็คิดอยู่ว่าเจ้าของห้องจะอยู่ แต่แล้วฝ่ายนั้นก็หาทางเลี่ยงหลบไปตามเดิม มองดูตระกร้าผ้า ก็ยังวางอยู่ที่ของมัน คราวนี้เจ้าตัวจะหลบไปอยู่ไหนอีกนะ ท่าให้เดาน่าจะเป็นดาดฟ้านะแหละ
    เมื่อคิดได้ดังนั้นหลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแชมป์จึงไม่รอช้าที่จะตามเต็นไป เด็กหนุ่มยืนมองร่างเต็นที่ยืนกอดอกอยู่ริมที่กั้นเมื่อตามมาเจอ รู้สึกผิดเหลือเกินที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างความฝังใจให้เจ้าตัวต้องพยายามเลี่ยงหลบที่จะอยู่กับตัวเองตามลำพังในสถานที่จำกัด เด็กหนุ่มเดินตรงไปหาร่างนั้นอย่างเบาฝีเท้าพอไปถึงก็ตัดสินใจสวมกอดเอาไว้ทางด้านหลัง
   เต็นสะดุ้งตกใจที่เห็นว่าร่างตัวเองโดนสวมกอด เด็กหนุ่มพยายามแกะมือคนสวมกอดออกเมื่อหันมาเห็นแล้วพบว่าเป็นใครพลางบอก
   “ปล่อยแชมป์”
   “วันนี้ฟ้ามืด ไม่มีใครเห็นหรอก” แชมป์บอกยิ้มๆ ไม่ยอมปล่อยมือโดยง่าย
   “ไม่มีใครเห็น แต่มันไม่ควรที่เราจะทำแบบนี้” เต็นบอกเมื่อนึกถึงความเหมาะสม เด็กหนุ่มยังไม่รู้ถึงความคิดของคนกอดหรอกตอนนี้ รู้แต่เพียงว่าตัวเองกับเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมายืนกอดกันแบบนี้
   “ไม่ควรยังไง” แชมป์เอ่ยถาม
   “เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
   “แล้วอยากเป็นมั้ย”
   เต็นชะงักในคำถามที่ได้ยิน เริ่มเข้าใจในเหตุการณ์จึงบอกนิ่งๆ
   “เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอแชมป์ นายจะทำแบบนี้เพื่ออะไร”
   “เพื่อให้เราสองคนกลับมาคืนดีกันไง” แชมป์บอกเสียงนิ่งๆ บ้าง เต็นได้ฟังก็ฮึดเรี่ยวแรงที่มีเพื่อแกะมือที่แชมป์กำลังสวมกอดตัวเองให้หลุด เพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วที่เขาจะกลับไปคืนดีกับคนๆ นี้ ทุกอย่างมันกำลังไปได้ดี เขากำลังอยู่ได้เองลำพัง แม้จะเหงาบ้างในบางครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ทุรนทุรายดังแต่ก่อน การที่ยอมให้คนที่เคยทำร้ายจิตใจย้อนกลับเข้ามามีอิทธิพลเหนือชีวิตแบบนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องดีนัก
   “ปล่อยเราเถอะแชมป์ แล้วหากนายมาที่นี่คืนนี้เพื่อต้องการคุยเรื่องนี้ เราว่านายกลับบ้านไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์หรอก และอย่าถามหาเหตุผลว่าทำไมเพราะเราเคยบอกนายไปหมดแล้วตอนเราคุยกันครั้งล่าสุด”
   เต็นบอกอีกเมื่อเรี่ยวแรงที่มีไม่สามารถทำให้ตัวเองเป็นอิสระจากการโดนสวมกอดได้
   “แชมป์ก็เคยทำตามที่เต็นบอกแล้วไง เต็นบอกให้แชมป์อยู่กับความเหงาให้ชินแชมป์ก็อยู่แล้ว ถึงวันนี้แชมป์ไม่อยากเหงาอีกต่อไปแล้ว มันทรมานนะเต็น เต็นเองก็เคยเป็นเต็นน่าจะเห็นใจแชมป์บ้างนะ” แชมป์เริ่มอ้อนวอน กอดกระชับคนที่พยายามขัดขืนแน่นดั่งไม่ต้องการให้เจ้าตัวหลุดมือไปได้อีก
   “งั้นปล่อยก่อน ไว้เดี๋ยวค่อยคุยกัน ตอนนี้เราหายใจไม่ออก” เต็นออกอุบาย เพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระ ซึ่งหากว่าโดนปล่อยจริงเด็กหนุ่มก็คิดจะเดินหนีจากคนๆ นี้ทันที คิดไว้แล้วว่าจะไม่เปลืองน้ำลายพูดอะไรอีก อะไรที่จบแล้วก็คือจบ
     แชมป์ค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกเมื่อคิดว่าเขาไม่ควรทำอะไรขัดใจคนๆ นี้มากนัก เพราะเดี๋ยวจะพาลให้ตัวเขาเองโดนเกลียดขี้หน้ามากไปกว่านี้ อีกอย่างคำว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันของฝ่ายนั้นทำให้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆ ร่างทั้งร่างก็เสียหลักเซถลาล้มลงไปกับพื้นเมื่อโดนคนที่ตัวเองปล่อยให้เป็นอิสระผลักเต็มแรง
   เต็นรีบเดินลงจากดาดฟ้าเมื่อเห็นคนที่ตนผลักร่างให้พ้นทางนั่งจมอยู่ที่พื้น เด็กหนุ่มก้าวเท้าให้เร็วเพื่อหวังกลับเข้าห้องให้เร็วที่สุด แต่พอไปถึงหน้าห้องก็ใจเสียเมื่อประตูโดนล็อคเอาไว้ เข้าใจทันทีว่ากุญแจน่าจะอยู่กับคนที่ตัวเองผลักให้ล้มเมื่อครู่
   “บ้าชะมัด” เด็กหนุ่มบ่นเมื่อไม่รู้จะเอายังไงดี ที่สุดก็ตัดสินใจเดินกลับไปหาคนที่ตัวเองเพิ่งผลักให้ล้ม ไปถึงก็ต้องแปลกใจที่เห็นเจ้าตัวยังคงนั่งอยู่ที่พื้นแฉะๆ นั่นไม่ลุกไปไหน แต่ก็พยายามไม่สนใจด้วยการเอ่ยถามถึงกุญแจห้อง
   “กุญแจห้องอยู่ที่นายหรือเปล่า”
   แชมป์ยื่นกุญแจห้องคืนให้คนที่เอ่ยถาม โดยไม่ยอมหันมองหน้าเจ้าตัว เต็นยืนมือรับกุญแจมาช้าๆ แล้วยืนมองคนที่ยังคงหลบหน้าตนอยู่สักพักแล้วตัดใจเดินหนีกลับเข้าห้อง คนๆ นี้จะเป็นยังไงจะมีท่าทีแบบไหนก็ไม่ใช่เรื่องแล้วที่ตัวเขาเองจะมาคิดใส่ใจ
   ลับหลังเต็นไปแล้วแชมป์ค่อยหันมองตามหลัง การที่ต้องนั่งจมอยู่ที่พื้นแบบนี้เพราะหัวใจไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะตามยื้อฝ่ายนั้นแล้ว อาการใจฝ่อที่ถูกทิ้งไว้ก่อนหน้าค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาเด็กหนุ่มอีกครั้ง จึงขอนั่งพักทำใจสักพัก
   ด้านเต็นกลับเข้าห้องมาก็พยายามทำใจให้ว่างโดยคิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาต้องไม่ไหวเอนอะไรอีก เด็กหนุ่มไม่ยอมแตะต้องเสื้อผ้าของแชมป์ที่อยู่ในตระกร้าผ้าต่างจากคราวก่อนที่ยอมซักยอมรีดให้เพราะยังมีใจให้กับเจ้าตัวอยู่ แต่ในตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำแบบนั้น
    ไฟในห้องดับลงเมื่อเต็นปล่อยใจให้ว่างได้สำเร็จและเข้านอนจนผล็อยหลับไปในที่สุด มาสะดุ้งรู้สึกตัวอีกครั้งก็เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องกระหน่ำ และได้ยินเสียงเม็ดฝนที่ตกกระหน่ำลงมาจึงต้องรีบเปิดไฟดูรอบห้อง อดใจหายไม่ได้เมื่อเห็นว่าแชมป์ยังไม่กลับเข้ามา ตอนก่อนจะนอนเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดล็อคห้องเอาไว้ ไม่ได้คิดกลัวอันตรายเพราะอยู่หอนี้มานาน อีกอย่างคิดว่าแชมป์น่าจะตามเข้ามาและคงจัดการล็อคห้องให้ตนเองหากตนนั้นนอนหลับไปก่อน แต่แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อภายในห้องตอนนี้ยังมีแค่ตนคนเดียว
   “เป็นบ้าอะไรนะแชมป์ ประชดให้มันได้อะไรขึ้นมา” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างหน่ายใจในพฤติกรรมของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายก่อนจะตัดสินเปิดประตูห้องออกไปดูยังชั้นดาดฟ้า ไปถึงก็ส่ายหน้าเมื่อเห็นร่างนั้นยังคงนั่งตากสายฝนอยู่ที่เดิมก่อนจะวิ่งเข้าไปฉุดลากเจ้าตัวลงมาได้สำเร็จ
   “อายุเท่าไหร่ถามหน่อย ไปนั่งตากฝนแบบนั้นให้เป็นไข้ตายหรือไง” เด็กหนุ่มโวยใส่หน้าทันทีเมื่อพาเจ้าตัวมาหยุดอยู่หน้าห้องได้แล้ว
   “ถ้าไม่ห่วงก็ไม่ต้องมาว่ากัน” แชมป์เอ่ยบอก เต็นไม่อยากโต้ตอบจึงเปิดประตูห้องแล้วเดินหายเข้าไปก่อนสักพักแชมป์จึงตามเข้าไป ตกใจที่เห็นผ้าเช็ดตัวถูกโยนมาให้แทนการยื่นให้ จึงอดว่าอีกไม่ได้
   “ไม่เต็มใจเอาให้แชมป์หยิบเองก็ได้นะ”
   “งั้นก็หยิบเอง” เต็นรำคาญการโดนประชดจึงเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวกลับไปแขวนไว้ที่เดิม แชมป์ยืนมองการกระทำ จากที่คิดว่าจะทนและนิ่งให้มากที่สุดพอถึงตอนนี้ก็เริ่มที่จะทนไม่ไหว การกระทำของเต็นทำคล้ายกับไม่แยแสอะไรเขาเลยจริงๆ
   “ดูเหมือนว่าตอนนี้แชมป์จะทำอะไรก็ดูขัดใจเต็นไปซะหมดเลยนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกเสียงนิ่งแสดงแววตาตัดพ้อให้เห็นอย่างชัดเจน เต็นรับรู้เพียงไม่คิดใส่ใจจึงยืนกอดอกเบือนหน้าหนีประหนึ่งว่าไม่ต้องการมอง
   “โอเค แชมป์ไม่กวนเต็นต่อไปแล้วก็ได้ วันนี้แม้แชมป์จะเสียใจแต่อย่างน้อยแชมป์ก็ดีใจว่าแชมป์ได้พยายามแล้ว ขอให้โชคดีละกัน” แชมป์เอ่ยบอกอีกคราวนี้น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความสะเทือนใจที่ตัวเองต้องเดินจากเต็นไปอย่างคนที่เป็นผู้แพ้ดังเดิม เต็นได้ฟังน้ำเสียงก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองคนพูดอีกครั้ง เห็นเจ้าตัวเดินไปเก็บของมือไม้สั่นก็รู้สึกใจหาย แต่ก็ไม่พูดอะไร ก็อย่างที่เคยบอกไว้ว่าอะไรที่มันจบลงแล้วก็คือจบ
แชมป์เก็บของชิ้นสุดท้ายได้กำลังจะหมุนตัวมาบอกลาเจ้าของห้องก็พลันชะงักเมื่อเจอตั๋วหนังสองใบวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง จำได้ว่ามันเป็นหนังเรื่องแรกที่เคยดูกับคนๆ นี้ เด็กหนุ่มกำลังจะเอื้อมหยิบมาดู แต่ช้ากว่าอีกมือที่คว้าไปก่อนพร้อมกับฉีกตั๋วนั่นออกจากกันแล้วฉีกเพิ่มให้มันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนเจ้าตัวจะเดินเอาไปทิ้งลงถังขยะหันมาบอก
   “สนใจทำไมแค่เศษกระดาษ อย่าลืมเอาเสื้อผ้านายกลับไปด้วยนะ คงไม่ว่างซักให้ ออกไปแล้วปิดประตูล็อคห้องให้ด้วย เราจะนอน”
   เต็นแข็งใจเอ่ยถ้อยคำนี้อีกเพราะคิดว่าตั๋วหนังที่ตัวเองเผลอวางเอาไว้อาจจะเป็นน้ำมันที่ราดบนเชื้อไฟในใจของแชมป์ให้มันลุกลามไม่จบไม่สิ้น เจ้าตัวกำลังจะออกจากชีวิตไปแล้วอย่างถาวรก็ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาสะกิดต่อมอาลัยอาวรณ์ให้เห็น
   ด้านแชมป์น้ำตาที่ฝืนเก็บไว้จนมือไม้สั่นตอนเก็บของแทบไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดกับคำพูดและการกระทำที่ได้เห็น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนใจแข็งเป็นหินหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ให้เขาได้เห็น เขาเองก็เคยปฏิเสธที่จะคืนดีกับมิวแต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรที่เป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจฝ่ายนั้นขนาดนี้ จะว่าไปมิวเองก็หลอกลวงเขาอยู่หลายครั้งหลายครา แต่เขาก็ยังเห็นเจ้าตัวเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เต็นทำกับเขาตอนนี้ เขาเปรียบเป็นใครก็ไม่รู้ที่เข้ามาสร้างความรำคาญให้ นี่ยังไงล่ะคำพิพากษาที่เขาได้รับจากคนๆ นี้ ต่อแต่นี้ไปเขาคงโดนจองจำให้อยู่กับคำว่าเจ็บปวดนี้ไปอีกนาน
   “ตกลงว่าเราสองคนจะจบความสัมพันธ์ลงแบบนี้จริงๆ ใช่มั้ยเต็น” แม้ทุกอย่างจะชัดเจนแล้วแต่แชมป์ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาแบบนี้ เพราะจากนี้ไปเขาคงไม่กล้าพาตัวเองมาเจอกับคนๆ นี้อีก
   “เท่าที่จำได้เราสองคนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันไม่ใช่เหรอแชมป์ แชมป์อย่าพยายามหาเรื่องที่จะมารื้อฟื้นอะไรอีกเลยนะ ออกจากชีวิตเราไปเถอะ ถือซะว่านี่เป็นคำขอครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน อย่ากลับมาสร้างความวุ่นวายอะไรให้เราอีก ต่างคนต่างเดินไปตามเส้นทางที่มันควรจะเป็นเถอะ”
   แชมป์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังพร้อมๆ กับน้ำตาหยดแรกได้ไหลออกมาให้เห็น เด็กหนุ่มพยายามฝืนยิ้มเพื่อบ่งบอกว่าตนไม่เป็นไรทั้งๆ ที่ภายในใจแหลกลาญไปหมดแล้วไม่อย่างนั้นลูกผู้ชายอย่างเขาคงไม่เสียน้ำตาให้ใครเห็นง่ายๆ
   เต็นตกใจเมื่อไม่เคยคาดคิดว่าคำพูดของตัวเองจะสามารถทำให้ลูกผู้ชายหนึ่งคนน้ำตาไหลให้เห็นได้
   “แชมป์” เด็กหนุ่มครางชื่อฝ่ายนั้นออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกสะเทือนใจอยู่บ้าง
   “แชมป์ไม่เป็นไร โทษทีมันไหลเองน่ะ โชคดีนะ ดูแลตัวเองด้วยต่อไปแชมป์คงไม่กล้ามาเจอเต็นอีก” แชมป์พยายามฝืนใจบอกเมื่อไม่อยากให้น้ำตาของตัวเองสร้างความวุ่นวายใจให้กับคนตรงหน้าได้อีก วันนี้เขาแพ้คดีลงแล้วอย่างราบคาบเขาก็สมควรก้มหน้ารับคำพิพากษาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
   เด็กหนุ่มยกมือเช็ดน้ำตาหันไปหยิบเสื้อผ้าตัวเองหันมาส่งยิ้มบางๆ ทั้งคราบน้ำตาให้กับคนที่ยืนมองอยู่ก่อนจะพาร่างเดินหายออกไปจากห้อง ลับหลังไปแล้วเต็นทรุดนั่งลงที่พื้นอย่างคนหมดเรี่ยวแรงทรงตัว ทำไมเขาจะต้องรู้สึกใจหายกับคำว่าไม่กล้ามารบกวนของคนที่พาร่างหายไปด้วยนะ เขาควรจะดีใจสิที่ชีวิตจะได้ไม่ต้องวุ่นวายหรือเกี่ยวพันกับเจ้าตัวอีก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-04-2011 18:39:23
วันเวลาผ่านไปอีกช่วงหนึ่งทั้งเต็นกับแชมป์ห่างเหินกันไปโดยไม่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง สองคนไม่มีโอกาสรับรู้ความเป็นไปของกันและกันเมื่อขาดการติดต่อกันอย่างสิ้นเชิง แชมป์กลับไปขังตัวอยู่ที่บ้านโดยไม่ยอมออกไปพบเจอใครอีก ใช้เวลาว่างระหว่างรอรับปริญญาช่วยแม่ที่ร้านเพื่อให้ลืมเรื่องราวเก่าๆ ซึ่งมันก็ช่วยได้บ้างไม่ได้บ้างเมื่อทุกครั้งที่ว่างจากลูกค้าจิตใจก็มักจะวนๆ เวียนอยู่กับเรื่องราวปวดใจ ส่วนเต็นนั้นใกล้วันเข้ามาแล้วกับการรับปริญญาใบแรกในชีวิต เด็กหนุ่มตั้งใจเอาไว้แล้วว่าหลังจากนี้จะกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดอีกสักพัก และก็คงบอกเลิกสัญญาเช่าหอพักนี้อย่างถาวร เวลาที่ว่างจากการทำธุระที่เกี่ยวพันกับสถานศึกษาจึงค่อยๆ เก็บของในห้องพักเพื่อเตรียมตัวย้ายออก ระหว่างนี้ก็ไม่ค่อยได้คุยกับแม็คหรือนพเท่าไหร่นัก เพราะแม็คเองก็กำลังวุ่นวายเกี่ยวกับการที่จะเดินทางไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ส่วนนพก็เจอภาวะงานรัดตัว แต่ทั้งสองก็สัญญาว่าจะมาร่วมยินดีกับตนแน่นอน ซึ่งหากนับกำหนดการรับปริญญาเด็กหนุ่มจะต้องเข้าพิธีนี้ก่อนแม็ค และหากหัวใจจะใส่ใจใครอีกคนสักนิดก็จะรู้ว่าใครคนนั้นก็เตรียมตัวรับปริญญาหลังจากแม็คเช่นกัน
   ในวันที่ว่างตรงกันทั้งเต็น นพ และแม็คนัดพบกันอีกครั้ง โดยนพเองก็เพิ่งจะรู้ว่าแม็คต้องเดินทางไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะถามความสัมพันธ์ของเจ้าตัวกับคนรักเก่าของตัวเองว่าตกลงเดินหน้าไปถึงไหนกัน ทำไมอยู่ๆ ถึงมีการจากลาแบบนี้
   “เราสองคนตกลงคบกันแบบเพื่อนน่ะนพ” เต็นเป็นคนให้คำตอบ แม็คจึงเสริมต่อขำๆ
   “เต็นเขาบอกว่าในโลกนี้ไม่มีใครดีเท่าพี่นพแล้ว เขาเลยไม่อยากรักใครอีก”
   “เอ็งไม่ต้องมาเว่อร์ไอ้แม็ค ข้ออ้างไปหากิ๊กใหม่หรือเปล่าเนี่ยที่บอกจะไปเรียนต่ออ่ะ” นพว่ากลับเพราะรู้ว่ากำลังโดนแซวเล่น
   “อ้าว ปากเหรอเนี่ย” แม็คว่ากลับ สองคนจึงแย้งกันไปมาเล่นๆ เต็นส่ายหน้ายิ้มๆ กับภาพที่เห็น ก่อนจะเดินแยกออกไปปล่อยให้สองคนเถียงกันไปมาอยู่อย่างนั้น
   “โอ๊ะ! โลกกลมจัง เจอกันอีกแล้วนะเต็น สบายดีเหรอ” เสียงทักทายทำให้เด็กหนุ่มหยุดเดินหันไปมอง เจอกายกำลังยืนอยู่กับใครอีกคน เป็นชายหนุ่มล่ำสันหน้าตาไม่ได้โดดเด่นมากแต่มองโดยรวมกับรูปร่างก็เข้ากันได้ดีในแบบผู้ชายเข้มๆ คนหนึ่ง
   “มองทำไมสนใจกิ๊กใหม่ฉันเหรอ ชื่อพี่เก่งจ๊ะ ลีลาเก่งสมชื่อจนฉันไม่อยากหาเศษหาเลยแล้ว” กายเอ่ยบอกด้วยใบหน้าแช่มชื่น พี่เก่งที่ถูกเอ่ยถึงเมื่อครู่คือผู้ชายหนึ่งเดียวที่เด็กหนุ่มถูกอกถูกใจในคืนนั้นที่โดนฤทธิ์ยาพิศดารของเจ๊ปัดเล่นงาน จนตกลงคบหากันมาจนวันนี้
   “ดีใจด้วยนะ รักกันให้นานๆ ล่ะ” เต็นบอกยิ้มๆ รู้สึกดีที่เห็นกายมีคนรักที่เป็นตัวเป็นตนแบบนี้ ดูฝ่ายนั้นจะอารมณ์ดีกว่าแต่ก่อน นี่หรือเปล่านะที่เขาบอกว่าความรักมันสามารถเปลี่ยนแปลงคนเราได้
   “ขอบใจจ๊ะ แล้วตกลงว่าไงเรื่องนายกับแชมป์นะ แฮปปี้กันหรือยัง แล้วนี่แชมป์ไม่ได้มาด้วยเหรอถึงมาเดินคนเดียว” กายถามหาผู้ชายที่ตัวเองปักใจเชื่อว่าหลงรักคนตรงหน้าแต่ปากแข็งมาโดยตลอด เต็นยิ้มนิดๆ ถามกลับ
   “ทำไมเราสองคนจะต้องแฮปปี้ล่ะ เรากับแชมป์ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
   “เอาอีกล่ะ โอ้ย ฉันนึกว่าแชมป์จะปากแข็งอยู่คนเดียว นี่นายก็เป็นด้วยเหรอเต็น โลกจะแตกอยู่อีกไม่กี่วันมัวมาเก๊กท่าใส่กันอยู่ได้ช่างเป็นคู่ผัวตัวเมียที่น่าละเหี่ยใจในสามโลกจริงๆ นี่แสดงว่าแม็คยังไม่ให้ของที่ฉันฝากไปให้ล่ะสิเนี่ย”
   กายบ่นไปตามนิสัยปิดท้ายด้วยคำถามปริศนาที่ทำเอาเต็นต้องถามกลับว่าของอะไร แต่กายยังไม่ทันได้ตอบเสียงแม็คก็ดังมาขัดจังหวะซะก่อน
   “อ้าวกาย นั่นมากับกิ๊กใหม่เหรอ ล่ำเชียว”
   “อิจฉาล่ะสิ นึกเสียดายกายใช่มั้ยล่ะ” กายบอกอย่าสงอารมณ์ดี เด็กหนุ่มเคลียร์ปัญหาการราวีกับแม็คเรียบร้อยแล้วในวันที่ได้ติดต่อไปหาเจ้าตัวเพื่อฝากของบางอย่างให้กับเต็น พร้อมกับบอกว่าตัวเองตกลงจะคบหาดูใจกับใครคนหนึ่งซึ่งนั่นก็คือผู้ชายชื่อเก่ง จากคำเอ่ยเมื่อครู่แม็คไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไรจึงตามน้ำไปด้วย
   “โคตรอิจฉาเลยอ่ะ ว้ากะตามง้อซะหน่อยมีแฟนใหม่ซะแล้ว”
   “น้อยๆ หน่อย ว่าที่พ่อนักเรียนนอก แล้วยังไงของที่กายฝากให้เต็นมันกระเด็นกระดอนไปอยู่ไหน ทำไมเต็นบอกยังไม่ได้รับ”
   “ของอะไร มั่วนะเนี่ย สงสัยโดนพี่เก่งจัดหนักทุกคืนเลยเบลอ” แม็คทำไม่รู้ไม่ชี้ กายไม่ได้คิดทวงอะไรจริงจังจึงไม่สนใจมากนัก เด็กหนุ่มจึงชวนพูดคุยเรื่องอื่นแล้วขอตัวพาสุดที่รักคนใหม่ที่ยืนข้างๆ ไปสวีทกันตามลำพัง ลับหลังไปแล้วแม็คจึงเอ่ยขึ้นลอยๆ
   “เห็นคนรักกันแล้วมีความสุขเนาะ เมื่อไหร่น๊าคนข้างๆ แม็คจะควงแฟนมาให้แม็คเห็นแบบนี้”
   “เป็นโสดจนตายกฎหมายก็ไม่ได้สั่งประหารชีวิตนี่” เต็นเอ่ยว่าเมื่อรับรู้ว่ากำลังโดนเอ่ยกระทบ แม็คหน้าเจื่อนยิ้มแห้งๆ เอ่ยขอโทษแล้วชวนเจ้าตัวกลับไปบอกนพรออยู่

********************************************************
   ในที่สุดวันรับปริญญาก็มาถึง เต็นทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจกับวินาทีแห่งความสำเร็จของชีวิตที่น่าจดจำ แม้จะเหนื่อยและล้ากับพิธีการมากมายแต่ก็หายเป็นปลิดทิ้งในตอนที่ได้เห็นรอยยิ้มอันปลื้มปิติของครอบครัวที่มาร่วมแสดงความยินดีด้วย
   ในตอนท้ายของวันหลังเสร็จสิ้นพิธีการแม็คขอเวลาเป็นส่วนตัวในการคุยกับเต็น เด็กหนุ่มแสดงความยินดีเสร็จก็ยื่นกล่องของขวัญกล่องหนึ่งให้
   “อะไรอีกอ่ะแม็ค แม็คให้เต็นมาแล้วกล่องนึงไม่ใช่เหรอ” เต็นถามอย่างนึกสงสัยแต่ก็รับของขวัญนั่นไปถือไว้ในมือ
   “มันใช่ของแม็คที่ไหนล่ะ เนี่ยกายเขาฝากมาให้” แม็คบอกยิ้มๆ
   “อ้าว เท่าที่จำได้ของกายก็มาพร้อมกับของแม็คนี่เมื่อเช้าอ่ะ” เต็นถามอย่างนึกสงสัยอีก พร้อมยกกล่องของขวัญปริศนาขึ้นมอง ตัวเย็นหน่อยๆ เมื่อแม็คเอ่ยบอกต่อ
   “จริงๆ มันเป็นของแชมป์น่ะ แชมป์ลืมไว้ที่รถของกายในคืนนั้นที่เราเจอพวกเขาวันที่เกือบมีเรื่องกันน่ะ”
   แม็คเห็นเต็นอึ้งไปกับสิ่งที่ตนบอกจึงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดคืนนั้นที่กายเล่าให้ฟังให้กับคนตรงหน้าได้รับรู้
   “ต่อหน้าเต็นแชมป์อาจจะดูเป็นคนร้ายกาจนะ แต่ลับหลังแชมป์เขาก็พยายามปกป้องเต็นตลอด หากไม่นับเรื่องราวก่อนหน้าที่เขายังไม่รู้จักใจตัวเอง มันจะมีมากแค่ไหนเต็นที่ผู้ชายหนึ่งที่เคยรักและมีแฟนเป็นหญิงจะยอมมีใจให้กับผู้ชายคนหนึ่ง ให้โอกาสแชมป์เขาสักครั้งเถอะนะ แม็คว่าตอนนี้เขาคงจมอยู่กับความเสียใจพอแล้วแหละ หยุดทำร้ายหยุดลงโทษเขาเถอะ ตอนแรกแม็คก็ไม่อยากยื่นมือเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ แต่อย่างที่แม็คเคยบอกว่าเห็นคนรักกันแล้วแม็คมีความสุข” แม็คเอ่ยต่อเมื่อเห็นคนตรงหน้ารับฟังเรื่องราวนิ่งๆ สักพักเจ้าตัวจึงบอกขออยู่ตามลำพังเดี๋ยวนึง เด็กหนุ่มจึงยอมปล่อยให้เจ้าตัวได้เวลาส่วนตัวตามที่ขอ
   หลังแม็คเดินหลบไปแล้ว เต็นเดินหาที่นั่งหลบมุมเพื่อแกะกล่องของขวัญในมือดู เพิ่งสังเกตเห็นหน้ากล่องที่เขียนชื่อตัวเองกำกับเอาไว้
   นาฬิกาเรือนสวยวางอยู่ภายในกล่องกำมะหยี่สีเลือดหมูคือสิ่งของที่อยู่ในกล่องๆ นั้น ข้างล่างกล่องกำมะหยี่มีการ์ดใบหนึ่งแนบอยู่ เต็นค่อยๆ หยิบมาเปิดอ่านพบว่ามันเขียนด้วยลายมือเดียวที่เคยเขียนเอาไว้หลังใบเสร็จเมื่อครั้งโน้น
   ยินดีด้วยกับความสำเร็จ แชมป์ก็ไม่รู้นะว่าเต็นจะชอบใจของชิ้นนี้หรือเปล่า แต่มันเป็นของที่แชมป์ตั้งใจมอบให้กับเต็น คนที่ครั้งหนึ่งเคยเสียใจเพราะการกระทำแย่ๆ ของแชมป์ เวลาใครๆ ก็รู้ว่ามันเดินถอยหลังไม่ได้ ซึ่งหากทำได้แชมป์จะเป็นคนแรกที่จะขอกลับไปแก้ไขอดีตทั้งหมด ยินดีด้วยอีกครั้งกับความสำเร็จนี้….รักนะครับ…แชมป์
   อ่านถึงถ้อยคำสุดท้ายกับคำว่ารักที่ส่งผ่านมาด้วยตัวอักษร เต็นถึงกับน้ำตาร่วงนึกถึงการกระทำของตนและคำพูดที่เคยทำไว้กับคนๆ นี้เอาไว้จนมาถึงถ้อยคำที่แม็คเอ่ยบอกเมื่อครู่
   “ให้โอกาสแชมป์เขาสักครั้งเถอะนะ แม็คว่าตอนนี้เขาคงจมอยู่กับความเสียใจพอแล้วแหละ หยุดทำร้ายหยุดลงโทษเขาเถอะ”
   “แชมป์ นายจะยังรอเราอยู่หรือเปล่า” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อคิดทบทวนเรื่องราวทุกอย่างจบลงแล้วนึกเห็นใจคนที่ตัวเองก็เผลอใช้คำพูดและการกระทำทำร้ายจิตใจเจ้าตัวไม่ด้อยไปกว่าที่ตัวเองเคยโดนกระทำเช่นกัน ความรู้สึกตอนนั้นมันเจ็บปวดแค่ไหนเขารู้ซึ้งถึงมันดี และการที่ผู้ชายหนึ่งคนได้เสียน้ำตาในวันสุดท้ายที่โดนเขาตัดรอนก็เชื่อแน่ว่าเจ้าตัวคงเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าตน เด็กหนุ่มปาดน้ำตาทิ้งลุกเดินกลับไปที่กลุ่ม ฝากนพกับแม็คดูแลญาติๆ แทนตนสักพัก
   “เต็นจะไปไหนเหรอ” นพเอ่ยถาม เต็นหันมองหน้าแม็คแล้วตอบ
   “วงเวียนใหญ่”
   แม็คยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบที่นพเป็นฝ่ายถาม เด็กหนุ่มอาสาที่จะช่วยดูแลญาติๆ เจ้าตัวให้ด้วยความเต็มใจ เต็นส่งยิ้มให้กับเพื่อนที่ดีกับตนเองเสมอแล้วหันไปขอตัวกับญาติๆ กำลังจะผละแต่นพชิงเอ่ยขึ้นก่อนเสมือนรู้ว่าเจ้าตัวจะไปไหน
   “ให้นพขับรถไปส่งนะเต็น ทางนี้นพเชื่อว่าแม็คเขาดูคนเดียวไหว จริงมั้ยแม็ค” ประโยคท้ายชายหนุ่มหันไปถามแม็คซึ่งตอบรับหนักแน่น เต็นมองดูคนที่หวังดีกับตนทั้งสองคนก็รู้สึกตื้นตันจนไม่รู้จะเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา ที่สุดเด็กหนุ่มก็ยอมให้นพขับรถไปส่งยังจุดหมายที่หัวใจเรียกร้องอยากจะไปหาในตอนนี้
   นพขับรถมาส่งเต็นที่ริมทางรถไฟของสถานีวงเวียนใหญ่ เมื่อเต็นบอกจะขอเดินเข้าไปพบกับแชมป์เอง การมาครั้งนี้เปรียบไปก็เหมือนการเสี่ยงดวง เด็กหนุ่มถือเอาว่าหากเจอกับแชมป์จริงๆ หัวใจก็พร้อมจะเปิดให้เจ้าตัวเข้ามามีบทบาทต่อความรู้สึกอีกครั้ง แต่หากไม่เจอเขากับแชมป์ก็คงเป็นได้แค่คนที่เคยรู้จักและมีเรื่องราวที่เกี่ยวพันกันมากมายแค่นั้น
   เด็กหนุ่มถอดชุยครุยฝากไว้กับนพและบอกเจ้าตัวให้กลับไปช่วยแม็คดูแลญาติๆ ตนก่อน
   “ขอให้แชมป์ยังรอเต็นอยู่นะ” นพเอ่ยอวยพรในตอนที่กำลังจะก้าวลงจากรถโดยไม่ลืมหยิบกล่องของขวัญกล่องนั้นลงมาด้วย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-04-2011 18:41:08
ตอนที่ 34 อวสาน
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)
บ้านหลังที่เป็นตึกแถวที่ครั้งหนึ่งเคยมาเยือนทำเต็นใจสั่นอย่างประหลาดในตอนที่เดินไปหยุดอยู่หน้าประตู ในใจไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่ตนมาหาอยู่ข้างในหรือไม่ ได้แต่นึกภาวนาว่าให้เจ้าตัวอยู่ทีเถิด เพราะตอนนี้หัวใจพร้อมที่จะเปิดรับทุกคำขอโทษใหม่อีกครั้งแล้ว
   เสียงประตูเปิดออกในตอนที่ได้กดออดเรียกไปแล้วหนึ่งครั้ง เด็กหนุ่มประหม่าในตอนที่เห็นว่าเป็นพี่สาวของคนที่ตนมาหาเป็นคนเปิดประตูบ้าน
   “มาหาแชมป์เหรอ” ฝ่ายนั้นเอ่ยถาม เด็กหนุ่มคิดว่าเจ้าตัวน่าจะจำตนได้จึงพยักหน้าตอบช้าๆ แล้วก็ต้องใจหายวูบกับคำตอบที่ได้รับ
   “แชมป์ไม่ได้บอกเหรอว่าเขาไปต่างจังหวัดเดือนนึง”
   “ปะ ไปเมื่อไหร่ครับ” จากอาการใจหายทำให้เต็นต้องถามอย่างตะกุกตะกัก
   “เมื่อกี้นี่เอง  เราไม่ได้อยู่กลุ่มเพื่อนที่มารับแชมป์ไปด้วยหรอกเหรอ” ฝ่ายนั้นเอ่ยตอบ เด็กหนุ่มส่ายหน้าแทนคำตอบเพราะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะขยับปากพูดอะไรได้อีก
   “มีธุระอะไรสำคัญกับเขาหรือเปล่าล่ะ ลองโทรศัพท์คุยกันดูนะ เข้ามานั่งคุยในบ้านก็ได้” คนตรงหน้าเอ่ยบอกอีก เต็นจึงเอ่ยขอบคุณพร้อมกับบอกลา ไม่คิดที่จะติดต่อไปหาแชมป์เพราะเหตุการณ์คลาดกันเช่นนี้มันบ่งบอกได้ดีว่านิยามรักของเขากับเจ้าตัวคงไม่มีทางบรรจบกันได้
   เด็กหนุ่มหันหลังเดินออกจากบ้านหลังนั้นช้าๆ รู้สึกหวิวๆ อย่างประหลาดกับการคลาดที่จะเจอกับคนที่หัวใจพร้อมจะให้โอกาสเจ้าตัวแก้ตัวเพียงไม่กี่ชั่วโมง กล่องของขวัญในมือถูกยกขึ้นมาแนบอกในตอนที่หันกลับมามองบ้านหลังที่เดินจากมา ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้ต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองยังห้องที่ครั้งหนึ่งตัวเองเคยเข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นแล้วเอ่ยออกมาเบาๆ
   “เราสองคนคงเดินมาสุดทางได้แค่นี้จริงๆ แหละแชมป์”

*********************************************************
   
ริมทางรถไฟที่จอแจด้วยผู้คนมากมาย เต็นเดินปล่อยอารมณ์เหงาๆ มาเรื่อยๆ จนได้มาหยุดอยู่ยังร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง นึกถึงช่วงเวลาหนึ่งที่เคยพูดคุยกับคนที่หัวใจกำลังคิดถึงอยู่ตอนนี้
“จริงดิ แม่มึงขายข้าวเหรอ”
“อืม”
“อร่อยป่ะวะ”
“วันหลังมากินดิ”
“อย่าท้านะโว้ย”
“ไม่ได้ท้าขอให้มาเถอะ เดี๋ยวกูเจียวไข่ให้กิน”
“เชี่ย เมนูดีกว่านี้ไม่มีหรือไง”
“อ้าวก็กูทำเป็นอยู่อย่างเดียว”
“ไม่ต้องบอกกูก็รู้”
“แต่ขอโทษเหอะ น้อยคนนะที่จะได้ชิมฝีมือกู ถ้าไม่ใช่คนพิเศษกูไม่มีทางที่จับกะทะหรอก”
“จริงดิ”
“เออสิวะ”
“อ้าวแล้วงี้กูจะได้กินได้ไง”
“รอมึงมาก่อนดิ แล้วจะรู้ว่าจะได้กินหรือไม่ได้กิน”
“เออว่างๆ กูจะไป”
“สัญญาแล้วนะโว้ย”
“อืม”
   คำสนทนาเหล่านั้นทำให้เด็กหนุ่มนึกอยากจะเข้าไปนั่งยังร้านๆ นั้น จึงตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งลงจริงๆ
   “รับอะไรดีคะ” เสียงเด็กเสิร์ฟเอ่ยถามเด็กหนุ่มจึงเอ่ยสั่งเมนูอาหารด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
   “ข้าวไข่เจียวครับ”
   เด็กเสิร์ฟเดินจากไปแล้วเต็นจึงวางกล่องของขวัญไว้บนโต๊ะ เหม่อมองอยู่อย่างนั้นเป็นนานพลางคิดว่าป่านนี้เจ้าของของขวัญชิ้นนี้กำลังอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ นั่งเหม่อได้สักพักก็รับรู้ถึงไอร้อนที่ระอุมาจากจานข้าวไข่เจียวที่สั่งไป ซึ่งมีมือหนึ่งยื่นมาเสิร์ฟ จากไอร้อนที่ได้รับทำให้เด็กหนุ่มก้มมองจานข้าวตรงหน้า นึกชมแม่ครัวที่นี่อยู่ในใจว่าฝีมือการเจียวไข่ใช้ได้ทีเดียว เพราะเพียงแค่มองเห็นก็ยั่วน้ำลายคนเหงาๆ ได้ไม่น้อย สองมือจับช้อนส้อมกำลังจะจัดการกับข้าวไข่เจียวตรงหน้าก็พลันชะงักเมื่อมีเสียงทักดังขึ้น
   “กล่องกำมะหยี่นั่นสวยดีนะครับ ของคุณเหรอ”
   “อืม” เด็กหนุ่มตอบโดยไม่ยอมหันไปมองหน้าคนถามเพราะรู้สึกว่าเจ้าตัวเสียมารยาทมากที่มาทักคนกำลังจะทานข้าวแบบนี้
   “ข้างในมีอะไรเหรอครับ” เสียงนั่นยังทักมาให้เกิดความรำคาญได้อีกจึงตอบออกไปเสียงห้วน
   “นาฬิกา”
   “ใครซื้อให้เหรอครับ”
   เต็นวางช้อนส้อมลงบนจานอย่างนึกขัดใจเมื่อโดนซักอีก เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วหันมาเพื่อจะบอกให้คนที่มารบกวนเวลาไปที่อื่นก่อนสักพัก แต่พอหันกลับมาพบกับเจ้าของเสียงก็ต้องตัวเย็นวาบ ลุกขึ้นยืนเอ่ยเรียกชื่อเจ้าตัวออกมา
   “ฉะ แชมป์”
   “อืม แชมป์เอง กวนเวลาทานข้าวหรือเปล่า” แชมป์เอ่ยตอบยิ้มๆ นึกขอบคุณความขี้ลืมของตัวเองที่ทำให้หัวใจได้กลับมาพบกับคนตรงหน้าอีกครั้งทั้งๆ ที่เกือบจะคลาดกันไปแล้ว
   ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มเดินกลับเข้าบ้านมาเพราะลืมโทรศัพท์ไว้บนห้อง พอกลับมาถึงพี่สาวก็บอกว่าเมื่อครู่มีเพื่อนมาหา
   “ใครอ่ะเจ๊ เพื่อนแชมป์ก็ไปกับแชมป์หมด”
   “คนที่เคยมาวันนั้นน่ะ นานแล้วแหละรู้สึกจะมาครั้งเดียวด้วยมั้ง”
คำว่ามาครั้งเดียวที่ได้ยินทำเด็กหนุ่มหัวใจพองเอ่ยถามต่อทันที
“แล้วเขาไปไหนแล้วเจ๊ ไปนานหรือยัง”
“ก็เห็นเดินไปทางร้านแม่นะ ไม่นานหรอก จะไม่ถึงร้านด้วยมั้ง”
คำตอบเพียงแค่นั้นทำเด็กหนุ่มรีบวิ่งออกจากบ้านเพื่อไปยังร้านอาหารของแม่ ใจเต้นผิดจังหวะยืนลุ้นในตอนที่เห็นเต็นกำลังยืนมองร้านอาหารของแม่ตนอยู่ คิดเอาว่าหากคนนั้นก้าวเข้าไปในร้านนั้นมันก็แน่แล้วว่าคนบนฟ้าคงจะเห็นใจให้ทั้งเขาและเจ้าตัวเลิกลดละทิฐิที่มีต่อกัน แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อสายตามองเห็นเจ้าตัวเดินเข้าไปในร้านจริงๆ จึงได้รีบวิ่งตามไปทันได้ยินกับเมนูอาหารที่เจ้าตัวเอ่ยสั่ง จึงเอ่ยขอกับแม่ว่าตัวเองขอทำเมนูนี้แล้วนำไปเสิร์ฟเอง และตอนนี้เมนูที่เขาตั้งใจทำสุดหัวใจก็วางอยู่ต่อหน้าเต็นแล้ว แต่ดูเหมือนตอนนี้เจ้าตัวจะสนใจเขาซะมากกว่า เพราะเอาแต่ยืนจ้องหน้าคล้ายๆ ว่าไม่เชื่อสายตาว่าเป็นเขาที่ยืนอยู่ต่อหน้าจริงๆ
“ไหนพี่สาวบอกแชมป์ไปต่างจังหวัด” ที่สุดฝ่ายนั้นก็เอ่ยถามขึ้น
“หัวใจมันรู้มั้งว่ามีคนมาหามันเลยดลใจให้แชมป์กลับมา” แชมป์เอ่ยตอบ เต็นแทบน้ำตาไหลด้วยความดีใจที่เหตุการณ์นี้ตัวเองไม่ได้ฝันไป เมื่อคนที่ยืนตรงหน้าเดินไปนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเอ่ยชวนให้ตัวเองนั่งลงด้วย
“ทานข้าวก่อนนะ จำได้ใช่มั้ยว่าแชมป์เคยบอกอะไรไว้เรื่องไข่เจียวนี้” คนนั้นเอ่ยถามเด็กหนุ่มจึงตอบออกไปตอนนั่งลงเสร็จ
“แชมป์จะไม่ทำให้ใครทานถ้าไม่ใช่คนพิเศษ”
“แล้วเต็นยอมเป็นคนพิเศษของแชมป์หรือยัง”
“ยัง”
“อ้าว ทำไมล่ะ อย่าบอกนะว่ามานี่จะมาพูดจาทำร้ายแชมป์อีก ไม่ไหวแล้วนะแชมป์ก็มีหัวใจเจ็บเป็นเหมือนกันนะ”
“เต็นว่าอะไรหรือยังล่ะ ที่เต็นบอกว่ายังก็เพราะเต็นจะเป็นคนพิเศษของแชมป์ก็ต่อเมื่อแชมป์สวมนาฬิกาเรือนนี้ให้เต็น” กล่องกำมะหยี่โดนเลื่อนมาตรงหน้า แชมป์มองสบตาคนเลื่อนมาทำสีหน้าเครียดเอ่ยบอก
“คุณคิดว่านาฬิกานั่นผมตั้งใจซื้อให้คุณจริงเหรอ”
เต็นใจหายเมื่อได้ยินคำบอกนั้น เด็กหนุ่มมองสบตาคนเอ่ยเริ่มสับสนว่าเจ้าตัวพูดจริงหรือพูดเล่น แล้วพอได้เห็นสีหน้ายิ้มเยาะพร้อมคำพูดอีกหนึ่งประโยคก็ทำให้ต้องตกใจ
“เชื่อใจใครง่ายเหมือนเดิมนะเต็น”
นาทีนี้หากมองเห็นใบหน้าตัวเองได้เต็นเชื่อว่าใบหน้าตนคงซีดเป็นกระดาษขาวเพราะความรู้สึกทั้งตกใจทั้งสมเพชตัวเองที่กลับมาให้คนตรงหน้าปั่นหัวเล่นได้สำเร็จ เด็กหนุ่มลุกพรวดเดินออกจากร้านไปทันที
“เดี๋ยวก่อนคุณ” เสียงร้องเรียกของคนที่เดินตามมาทำให้ต้องชะงักเท้าหันมามอง ในใจก็ภาวนาอยู่ว่าคำพูดและแววตาร้ายๆ ที่ตนได้รับเมื่อครู่จะเป็นเรื่องล้อเล่น แต่แล้วก็ต้องตัวชากับสิ่งที่ได้ยินตามมา
“ค่าข้าวไข่เจียวคุณยังไม่ได้จ่ายนะครับ”
“เท่าไหร่” เด็กหนุ่มฝืนใจเอ่ยถาม รู้สึกแล้วว่านัยน์ตาไหวระริก
“ผมไม่เอาเงิน” ฝ่ายนั้นเอ่ยบอกพลางเดินมายืนอยู่ตรงหน้า
“แล้วคุณจะเอาอะไร” เต็นสู้สายตาทั้งๆ ที่รู้ว่ามองเห็นคนตรงหน้าได้ไม่ชัดนัก เกิดจากม่านน้ำตาที่เริ่มก่อตัวขึ้น
“หัวใจของเต็นไง ให้แชมป์ทั้งหมดได้มั้ย แชมป์สัญญาว่าแชมป์จะไมทำร้ายมันอีก” แชมป์ปรับน้ำเสียงและแววตากลับเป็นคนเดิมพร้อมๆ กับยกแขนคนตรงหน้าขึ้นมาจัดการสวมนาฬิกาให้ เต็นมองการกระทำอย่างนึกสับสน นี่มันอะไรกัน แชมป์จะปั่นหัวอะไรเขาอีก
“ทำไมนายชอบล้อเล่นกับความรู้สึกเรานักแชมป์ สนุกนักเหรอที่เห็นเราเป็นแบบนี้ สนุกนักเหรอ” เด็กหนุ่มสะบัดแขนออกเมื่อนึกโกรธเจ้าตัวขึ้นมาจริงๆ นาทีนี้น้ำตาที่อัดอั้นไว้ตั้งแต่ต้นไปไหลอาบแก้มอีกครั้ง แชมป์ตกใจกับสถานการณ์ไม่คิดว่าเต็นจะกลับมาโกรธตนอีกครั้งจึงเอ่ยขอโทษ
“เฮ้ย แชมป์ขอโทษ แชมป์แค่ล้อเล่นนะเต็น ไม่เอานะ อย่าโกรธแชมป์นะ เต็นบอกเองนะว่าหากแชมป์สวมนาฬิกาให้แล้วเต็นจะยอมเป็นคนพิเศษแชมป์”
“สวมได้ก็ถอดได้” เต็นทำทีจะถอดนาฬิกาออกเพราะยังมีอารมณ์กรุ่นอยู่
“ลองถอดดิ แชมป์กอดโชว์คนอื่นจริงๆ ด้วย ประกาศให้คนทั้งสถานีรถไฟเขารู้เลยว่าเราเป็นอะไรกัน” แชมป์เอ่ยขู่ เต็นใช่ว่าจะกลัว จึงใช้มืออีกข้างเตรียมถอดนาฬิกาทิ้ง แต่แล้วต้องตกใจเมื่อร่างโดนอีกคนกระชากเข้าหาตัวจริงๆ
“เต็นยอมแล้ว เต็นไม่ถอดแล้ว” เด็กหนุ่มรีบร้องบอกเมื่อนึกถึงข้อที่ว่าคนตรงหน้าทำอะไรบ้าบิ่นได้เสมอ
“ยอมจริงเหรอ” แชมป์ถามมองหน้าอย่างเจ้าเล่ห์
“ยอมไม่ถอดนาฬิกาไม่ได้ยอมเรื่องอื่น อย่ามายิ้มแบบนี้นะ” เต็นตอบออกไปอย่างรู้ทัน แชมป์จึงแกล้งโอดโอย
“โหย หลอกฟันหญิงยังไม่ยากขนาดนี้เลย ขอคารวะความใจแข็งเลยว่ะ”
“ถ้าคิดว่าผู้หญิงหาง่ายก็ไปไปหาดิ ไม่ได้ห้าม” เต็นเอ่ยว่าอย่างนึกหมั่นไส้
“ทำเป็นใจกว้างสมตำแหน่งเมียหลวงเลยนะเรา” แชมป์เอ่ยล้อ เต็นขนลุกที่ได้ฟังจึงยกมือชกที่อกเจ้าตัวเบาๆ เอ่ยบอกดุๆ
“ไอ้ทะลึ่งเอ้ย”
“โหย นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้ยินคำนี้จากเต็นแล้วนะเนี่ย ดีใจจัง” แชมป์ตอบกลับอย่างรู้สึกสุขใจ จำได้ว่าครั้งหนึ่งตัวเองเคยแซวเจ้าตัวเรื่องคำๆ นี้
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-04-2011 18:44:15
“ใครเป็นคนทำให้ทุกอย่างมันพังล่ะ” เต็นอดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่าเมื่อนึกถึงวันเวลาเก่าๆ ด้วยอีกคน
“แชมป์ขอโ ทษ ตอนนั้นแชมป์ยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่วันนี้แชมป์รู้แล้วว่าแชมป์รักใคร” แชมป์บอกอย่างจริงจัง เต็นพยักหน้ารับฟังก่อนจะถามออกมา
“แชมป์จะไม่ทำร้ายเต็นอีกแล้วใช่มั้ย”
“แชมป์คงไม่กล้าแล้วล่ะเพราะเวลาเต็นเอาคืนมันก็ทำให้แชมป์แทบบ้าได้เหมือนกัน”
“สม น่าจะบ้าไปเลยเนาะ ท่าทางคงดูไม่จืด”
“ปากดี เดี๋ยวโดน”
“ไหนบอกจะไม่ทำร้ายเต็นไง แค่นี้ทำไมต้องมาขู่กันด้วย”
“ก็ไม่ได้คิดจะทำร้ายให้เจ็บตัวนี่”
“หมายความว่าไง”
“ไปห้องแชมป์ดิ แล้วจะรู้ว่าที่แชมป์ขู่เมื่อครู่แชมป์หมายถึงอะไร”
“อย่ามาทะลึ่ง เต็นต้องกลับไปดูญาติๆ ที่เขามางานรับปริญญาเต็น”
“อืม จริงด้วย งั้นเดี๋ยวแชมป์ไปด้วยนะ”
“ในฐานะอะไร”
“ชู้มั้ง ที่นั่นก็มีนายแม็คกับพี่นพอยู่แล้วนี่”
“ทำเป็นงอน น่าง้อตายล่ะ”
“เออ จำไว้เลยนะพูดอะไรไว้น่ะ”
“โอ๋ๆๆ เต็นขอโทษก็ได้อ่ะ ว่าแต่ไปเหอะ เดี๋ยวพวกเขาจะเป็นห่วงที่เต็นหายมานาน”
“ตกลงให้แชมป์ไปด้วยแล้วเหรอ”
“อ้าว ก็ไหนบอกจะไปไง”
“ในฐานะอะไร”
“คนพิเศษ”
“อะไรนะไม่ได้ยิน”
“คนพิเศษ”
“ไม่ได้ยินอ่ะ เสียงรถมันดัง เอาใหม่ดิ๊”
“นี่อย่ามาทำเจ้าเล่ห์ จะไปก็ตามมา”
เต็นเดินหนีไปก่อนเมื่อไม่อาจเอ่ยคำพูดเมื่อครู่ให้ดังมากกว่านี้เพราะ ที่ที่ยืนกันอยู่ ดูยังไงมันก็ไม่เหมาะ แชมป์มองตามหลังยิ้มๆ ที่เอ่ยถามย้ำไปเมื่อครู่ก็เพียงแค่แหย่ไปอย่างนั้น จริงๆ เด็กหนุ่มเดินตามคนที่ยอมใช้คำว่าคนพิเศษกับตน รู้สึกสุขใจที่วันนี้ได้ครอบครองหัวใจเจ้าตัวได้สำเร็จ
ความรักนี่มันก็ตลกดีเหมือนกันนะ เด็กหนุ่มแอบคิด ถึงคราวที่ตามไขว่คว้ามันจนต้องเสียน้ำตามากมาย แต่หากไม่ใช่จังหวะและเวลาก็ใช่ว่าจะสมหวังกับคำๆ นี้ แต่พออยู่นิ่งๆ มันก็กลับวิ่งมาทักทายเสียจนตั้งรับไม่ทัน อย่างเช่นวันนี้ที่เต็นกลับมาหาเขาเองในวันที่เขากำลังจะหลบไปเลียแผลใจที่อื่น เมื่อการขังตัวเองอยู่ที่บ้านกับที่ร้านแม่ใช่ว่าจะทำให้จิตใจที่บอบช้ำดีขึ้น
เด็กหนุ่มยืนไปหยุดเคียงร่างของเต็นในขณะที่ยืนรอเรียกแท็กซี่อยู่ ภายใต้คนที่เดินสวนไปมานั้นหากว่าใครจะสังเกตสักนิดคงจะมองเห็นเด็กหนุ่มสองคนกำลังลอบจับมือกันกันอยู่ริมถนนเป็นแน่แท้
“เมื่อไหร่แชมป์จะทำได้มากกว่าจับมือหรือเต็น” แชมป์เอ่ยบอกออกมาเต็นหันมามองหน้าเอ่ยบอก
“เมื่อใดที่แชมป์ทำตัวให้น่าไว้ใจได้น่ะแหละ”
“สัญญากับแชมป์แล้วนะ”
“ครับ”
สองคนมองกันด้วยรอยยิ้ม รู้สึกสุขในหัวใจที่เห็นแววตาที่บ่งบอกถึงความรักความรู้สึกดีที่มอบให้แก่กันโดยไม่มีคำว่าทิฐิมาขั้นกลางดังแต่ก่อนแล้ว
“รถว่างมาแล้วไปกันเถอะ”
เต็นเอ่ยบอกเมื่อหันไปเห็นว่าแท็กซี่ว่างหนึ่งคันกำลังแล่นมา แชมป์ตอบรับด้วยการเป็นฝ่ายโบกเรียกแท็กซี่เอง และเมื่อแท็กซี่จอดเทียบเด็กหนุ่มก็เอ่ยขึ้นขำๆ
“ตื่นเต้นจังจะได้ไปเจอพ่อตากับแม่ยาย”
“ทะลึ่ง” เต็นหันมาว่าอีกครั้ง รู้สึกเขินไปกับประโยคนั่นจึงรีบเปิดประตูพาร่างหายเข้าไปก่อน สักพักแชมป์จึงตามเข้าไป ก่อนที่แท็กซี่คันนั้นจะแล่นไปตามถนน
ในที่สุด จุดหมายของสองหัวใจก็อยู่ ณ ที่เดียวกันได้ซะที

จบบริบูรณ์


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 32 พร้อมเปิดจองหนังสือ : 20.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-04-2011 18:49:39


แทนคำขอบคุณสำหรับการติดตามด้วยตอนพิเศษสั้นๆ ครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)
“แชมป์คิดว่าเราสองคนที่รักกันได้นานแค่ไหน” เต็นเอ่ยถามแชมป์ในตอนที่ร่างกายเปลือยเปล่าซุกอยู่ภายใต้อ้อมอกฝ่ายนั้นหลังจากที่สองคนต่างมอบรสรักให้กันและกันเสร็จสิ้นในค่ำคืนที่กลับจากเลี้ยงฉลองรับปริญญาของแชมป์ และห้องนี้ก็คือห้องของคนๆ นี้
“นานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าทุกๆ วันที่แชมป์ยังมีลมหายใจเต็นก็จะอยู่ในใจแชมป์อยู่ตลอดเวลา แล้วถ้าเต็นกังวลเรื่องครอบครัว สังคม  แชมป์ว่าเรื่องนั้นอย่าเพิ่งไปคิดถึงมันให้ไม่เกิดความสบายใจกันเลยดีกว่า เพราะกว่าจะมีวันนี้ได้เราสองคนก็ต่างทำร้ายกันและกันจนบอบช้ำกันทั้งสองฝ่าย แชมป์ว่าตอนนี้มันถึงเวลาที่เราจะชดเชยช่วงเวลานั้นให้กันและกันซะที” แชมป์เอ่ยตอบพลางกอดกระชับคนตั้งคำถามแน่นขึ้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้มอบและรับรสรักจากผู้ชายด้วยกัน หลังจากที่อดทนรอมาตลอดนับจากวันที่คนในอ้อมกอดยื่นข้อต่อรองว่าเมื่อใดที่เขาทำตัวให้น่าไว้ใจได้เจ้าตัวถึงจะยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ในใจเคยคิดว่ามันคงเนิ่นนาน แต่ก็ไม่คิดท้อใจ ด้วยการทำหน้าที่คนรักที่ดีมาโดยตลอดจนวันนี้ที่ได้รับความเซอร์ไพรส์ในวันรับปริญญาว่า
“เพื่อเป็นของขวัญแห่งความสำเร็จ คืนนี้เต็นพร้อมเป็นของแชมป์แล้ว”
นาทีที่ได้ยินตอนนั้นทั้งรู้สึกดีใจและตื่นเต้นกับการที่จะได้เปิดกล่องของขวัญชิ้นพิเศษนี้ เด็กหนุ่มรู้สึกพอใจอย่างมากมายที่กล่องของขวัญอย่างเต็นทำให้เขามีความสุขขนาดไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งความซ่านสยิวจบลง แต่สุดท้ายร่างกายก็ต้านไม่ไหวยอมให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหลั่งเข้าไปในกายของเต็นจนหมดสิ้นทุกหยาดหยด สุดท้ายจึงมานอนหมดแรงพูดคุยกันอยู่แบบนี้
“แล้วจากนี้แชมป์จะทำไงต่อไป” เต็นเอ่ยถามอีก เพราะในวันนี้ทั้งตนและแชมป์ต่างก็อยู่ในวัยที่เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
“ก็คงต้องทำงาน แล้วเต็นล่ะ”
“เหมือนกัน”
“ไม่กลับไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วเหรอ”
“ให้กลับมั้ยล่ะ”
“เรื่องไร กลับไปแชมป์ก็เหงาดิ”
“แล้วถามทำไม”
“ก็ลองใจเล่นไม่ได้หรือไง”
“แต่ก็ไม่แน่หรอกเพราะเต็นบอกเลิกสัญญาเช่าไปแล้วอาจจะกลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนแล้วค่อยมาใหม่”
“จะกลับไปตั้งหลักแชมป์ก็ไม่ว่านะ แต่แชมป์ต้องไปด้วย และตอนกลับมาเต็นต้องย้ายมาอยู่กับแชมป์นะ ห้ามไปอยู่ไหนด้วย หึง กลัวคนมายุ่ง”
“ตลกล่ะ จะให้เต็นเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
“จะเอาภาษาชาวบ้านหรือสุภาพล่ะ”
“หมายถึงยังไง”
“ภาษาชาวบ้านก็มาเป็นเมียแชมป์ ถ้าสุภาพก็ภรรยาแชมป์ไงที่รัก ว่าแล้วก็ทำหน้าที่อีกรอบซะดีๆ”
เต็นไม่มีโอกาสตอบโต้อะไรเมื่อริมฝีปากโดนประกบจูบจากคนที่กอดร่างตนแน่นอยู่ ปลายลิ้นฝ่ายนั้นยังคงสร้างอารมณ์วาบหวามและปั่นป่วนได้ดีเช่นเคย เชื่อแน่ว่าตอนนี้เจ้าตัวก็คงจะปั่นป่วนไม่ต่างกัน
สองร่างตะกองกอดกันแน่นเมื่ออารมณ์รักเริ่มปะทุเพิ่มขึ้น ต่างฝ่ายต่างปรนเปรอความสุขให้กันอีกครั้ง
“แชมป์รักเต็นจัง” แชมป์เอ่ยบอกปนเสียงครางกระเส่าในตอนที่ได้หลอมร่างกายเข้าไปเป็นร่างเดียวกันกับเต็นอีกหน ส่วนเต็นนั้นยังไม่อาจตอบกลับได้ตอนนี้เพราะรู้สึกทั้งเจ็บและซาบซ่านไปกับท่อนเนื้อกายของแชมป์ที่ส่งผ่านเข้ามาในร่างกายตน  พอเริ่มผ่อนคลายจึงบอกออกมาปนเสียงกระเส่าเช่นกัน
“เต็นก็รักแชมป์”
แชมป์ยิ้มให้กับคำบอกรักที่ได้ฟังจากปากคนที่ตัวเองพร้อมจะมอบรสรักให้อีกหนก่อนจะก้มลงประกบจูบเจ้าตัวอีกอย่างดูดดื่มพร้อมเร่งจังหวะรักพลางกอดกระชับร่างฝ่ายนั้นให้แน่นขึ้นดุจไม่ให้เจ้าตัวหลุดหายไปไหนได้จนกว่าเขาจะมอบน้ำรักแห่งความเป็นชายเข้าไปในกายได้อีกทุกหยาดหยด เวลาผ่านไปสักพักเด็กหนุ่มก็ทำสำเร็จ สองคนครางกระเส่าด้วยความสุขล้นเป็นสุ้มเสียงสุดท้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างเสร็จสมอารมณ์ใคร่ได้อีกครั้ง ก่อนที่ร่างสองร่างจะฟุบกอดก่อนแน่นหายใจหอบเหนื่อยรดต้นคอกันและกัน ก่อนจะบอกรักให้กันและกันได้ฟังริมใบหูและสัญญาว่ากิจกรรมแห่งความสุขนี้จะมอบให้แก่กันเท่านั้นนับจากวันนี้จนตราบชั่วลมหายใจจะสิ้นจากกัน

จบบริบูรณ์ (อีกครั้ง)

ขอบคุณจากหัวใจ Bboyseries

และแล้วผลงานนี้ก็จบลงได้อย่างบริบูรณ์ อยากบอกว่าโล่งอกมากกกกกกกกกกกกก กับการปิดต้นฉบับนี้ เพราะเป็นงานเขียนที่ทรหดมากสำหรับผม ครั้งหนึ่งมันเคยกระเด็นไปอยู่ห้องนิยายไม่จบ ครั้งนี้ผมสามารถดึงมันกลับมาสานต่อจนจบลงได้แบบนี้ ก็ต้องขอขอบคุณเล้าเป็ดแห่งนี้ที่อนุญาตให้ผมใช้พื้นที่ขีดๆ เขียนๆ ผลงานให้เพื่อนๆ ที่นี่ได้อ่านกัน
ขอบคุณคุณพูห์ ที่อนุญาตให้ผมตั้งกระทู้ใหม่ได้ที่นี่
ขอบคุณทีมงานบอร์ดทุกฝ่าย ผมไม่แน่นักว่าทำอะไรผิดกติกาไปบ้าง แต่วันนี้นิยายจบลงแล้วโดนไม่โดนลบทิ้ง ก็คงเอ่ยได้เพียงคำว่าขอบคุณ และก็ขอบคุณอีกครั้งครับ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านทั้งที่เม้นท์บ้างไม่เม้นท์บ้าง ที่คอยให้กำลังใจกันเรื่อยมาตลอดระยะเวลาการโพสผลงานนี้
ขอบคุณผู้ที่สั่งจองหนังสือเล่มนี้เข้ามาตั้งแต่นิยายยังไม่จบ ขอบคุณมากที่ไว้ใจและเชื่อในขี้มือ เอ้ย ฝีมือกัน วันนี้สบายใจได้ว่าผลงานนี้เตรียมห่อพร้อมส่งถึงคุณๆ ในกลางเดือนพฤษภาคมแน่นอน และมีตอนพิเศษแถมให้เพื่อแทนคำขอบคุณเช่นเดิม
ขอบคุณทุกเม้นท์ที่คอยชี้จุดบกพร่องในผลงานนี้ให้ผมนำกลับไปทบทวนและแก้ไข

ขอบคุณทุกเครดิตเนื้อเพลง และมิวสิกวิดิโดที่ผมนำมาใช้เพื่อเพิ่มอรรถรสในในการอ่านเนื้อเรื่องมากขึ้น
สุดท้ายขอบคุณทุกสายตาที่ตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ และก่อนจากกันในกระทู้นี้ก็ขอฝากผลงานรวมเล่มเช่นเคยครับ ทั้งผลงานนี้และผลงานอื่นๆ ซึ่งรอบนี้เหลือระยะเวลาโอนเงินเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น สนใจก็ติดตามอ่านรายละเอียดได้ที่ลิงค์ครับ


(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)


(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://bboyseries.thai-forum.net/t39-topic#718 (http://bboyseries.thai-forum.net/t39-topic#718)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-04-2011 19:18:01
 :กอด1:ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆและแล้วก็จบแบบสมหวัง


รักกันๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 25-04-2011 19:52:26
HappyEnding เย๊ๆ
ขอบคุณไรท์เตอร์ที่ต่อเรื่องนี้จนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-04-2011 21:24:39
มะมีบทอัศจรรย์เหรอครับคุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 25-04-2011 22:00:34
เยี่ยมยอดสมกับคุณบอยจริงๆ อ่านทุกเรื่องสนุกทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: creator ที่ 25-04-2011 22:08:39
ในที่สุดก็จบซะที กับเรื่องราวมาม่า
เอ้ย! เลิฟ สตอรี่ เต็นกับแชมป์

ลุ้นตัวโก่งเลยทีเดียว เพราะทั้งสอง
ผ่านอะไรกันมาสมบุกสมบันเหลือเกิน

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 25-04-2011 23:12:23
คุณ Boy ในเล่มขอพิเศษ บทอัศจจรย์บ้างซิค๊า อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 25-04-2011 23:32:21
จบซะแล้วววว
สุดยอดสมกับเป็นคุณบอย
แม้เรื่องนี้ ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยชอบทั้งพระเอกและนายเอก แต่ก็เลิกอ่านไม่ได้เลย ๕๕๕
แอบโมโหแชมป์ที่อยู่ดีๆก็เล่นบ้าไรขึ้นมาตอนกำลังหวานๆ ถ้าอยู่ต่อหน้าจะฟาดหัวให้ซักที
ตอนจบอ่านแล้วรู้สึกดีกับกายขึ้นมากอ่ะ กายก็แค่ตุ๊ด bitchๆ แต่ไม่ได้เลวร้ายอะไร น่ารักดี
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 25-04-2011 23:41:53
เฮ้อ กว่าจะแฮปปี้ เกือบตายแหนะ
 :haun4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: amphetaminy ที่ 25-04-2011 23:50:02
thx krubbbbbbbbbbbbb
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 26-04-2011 00:10:25
ในที่สุดก้อจบแบบแฮปปี้

นึกว่าจะจบแบบดร่าม่าซะแล้ว

ตั้้งแต่อ่านมา ตอนแรกยันตอนจบ

ก้อไม่ชอบพระเอกอยู่ดี

แต่ถึงยังงั้น เราก้อตามอ่านมาตลอดด

ชอบมากๆๆเลย

สมกับเป็นพี่บอยจริงๆๆเลย


ขอบคุนมากๆๆครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 26-04-2011 00:19:07

๑๔๑ + ๑ = ๑๔๒
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 26-04-2011 01:49:17
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด......
จบแล้วววววว แบบ แฮปปี้แอนดิ้ง ที่สำคัญ..
หวานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ชอบมากกกกกกกกกกกเลยยยยยยยยยย เป็นเรื่องที่มาม่าตอนต้นๆๆ และจบได้สวยยยยยยยยยยย สุดๆๆๆ
ในที่สุด แชมป์กับเต็นก็ครอบคู่กันสักที....เฮ้ยยยยยย มีความสุขที่ได้อ่านค่ะ :o8: :o8:
(ตอนแรกแอบหวั่นๆๆๆพี่บอยชอบมาแนวหักมุม) ยิ่งตอนพิเศษ ยิ่ง :jul1: นิสๆๆๆๆ
ถือเป็นของขวัญสำหรับคนอ่าน ช็อปปปชอบค่ะ..
จะติดตามผลงานของพี่บอยเรื่องต่อๆไปและจะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ แต่งเรื่องสนุกๆๆๆมาให้นักอ่านปวดใจ เรื่อยๆๆนะค่ะ o18
 :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-04-2011 10:21:23
เย้! แฮปปี้เอนด์ดิ้ง ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 26-04-2011 17:38:38
จบแบบซึ้ง
จบแบบจบจริงๆ
ขอบคุณครับที่มาปิดเรื่องให้แบบดีๆอย่างนี้
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-04-2011 17:46:41

 :serius2:
จบซะแล้ว นิยายที่ชอบ

รักในสองนิยาม
เต็น--รักลุ่มหลง
แชมป์--รักงง.งง

แต่ก็นะ ขอบคุณครับที่จบแบบสมหวัง คนลุ่มหลง ลงเอยกับ คนงง.งง กันได้ อิอิ


 :pig4: ขอบคุณครับ นิยายดีดี +1 คุณบอย
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-04-2011 18:24:26
 :3123: :pig4:ขอบคุณมากค่ะคุณบอย สำหรับทุกความรู้สึกที่ได้รับจากเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 26-04-2011 19:59:09
อ่า คนอ่านนี่ลุ้นจนเหนื่อยเลยนะเนี่ย


สนุกดี
ได้แง่คิด มุมมองความรักใหม่ด้วย


ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 26-04-2011 21:29:09
สุดยอดดดดดดดด จบลงอย่างดงามจริงๆค่ะ

เป็นเรื่องที่ให้แง่คิดอะไรเยอะมาก ชอบบบบบบบบบบ

จะติดตามผลงานอื่นต่อไปนะคะ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: J_Dargon ที่ 26-04-2011 23:20:09
จะ จะ จะ จะ จบ แล้ววววววววววว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 27-04-2011 12:24:58

สนุกดีจังเลย

หว๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน หวาน อิอิ

ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: opordo ที่ 27-04-2011 13:02:35
สนุกมากๆเลยอ่  :impress2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: cy55555 ที่ 29-04-2011 01:59:22
จบได้หวานมดต่อมเลยค่ะ
แต่ก็ยังคงหมั่นไส้แชมป์อยู่ดี
เต็นน่าจะจัดให้หนักกว่านี้อีกสักหน่อยนะคะ  อิอิ

ขอบคุณความสุขที่มอบผ่านตัวอักษรค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: locknut ที่ 29-04-2011 23:08:16
-อ่านจบถึงตอนสุดท้าย  :pighaun:
น่ารักทั้งคู่เลย ตอนแรกกายนี่มันน่าเรียกมา....เหลือเกิน  :angry2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 30-04-2011 00:38:46
ลุ้นจนต่อมน้ำตาแห้ง

ดีใจจังที่รักกันในที่สุด^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 30-04-2011 17:15:46
อ่านมาเรื่อย ๆ ไม่เป็นไรจนช่วงที่แชมป์เริ่มตามมาง้อ มาขอคืนดี แอบน้ำตาตก ..

ถ้าเป็นเต็น ลองเอาตัวเองไปเป็นเต็น ลองคิด ลองรู้สึกแบบเต็น ยังไงก็ไม่กลับไปหาแชมป์เด็ดขาด หรืออาจจะกลับแต่ขอดูให้นานกว่านี้ แค่นาฬิกาเรือนเดียว กับการ์ดใบนั้น ไม่สามารถลบล้างอะไรได้หรอก แต่ใจคนไม่เหมือนกันล่ะเนอะ เพราะดูจากอารมณ์ของเต็นแล้ว แชมป์คงจะมีอิทธิพลกับเต็นมากพอสมควร ก่อนหน้านี้ก็รัก ช่วงหลัง ๆ ก็เพราะเต็นเป็นคนจิตใจดี ไม่อยากทำร้ายใคร ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน แชมป์เหมือนจะรู้ ก็เลยประชดเต็นไปแบบนั้น (แต่ก็พลาด อิอิอิ)

ชอบเรื่องนี้มากเลย กด Like รัว ๆ พระเอกก็เลวได้ใจ นายเอกก็ไม่ได้จะใสซื่ออะไรมากมาย ทุกคนมีเรื่องผิดพลาด ทุกคนมีวันที่พลั้งเผลอ ดูเป็นจริง เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ชอบมากกกกกกกกกกกก

ขอบคุณพี่บอยสำหรับนิยายสนุก ๆ แบบนี้นะครับ :-)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 30-04-2011 23:49:23
บีบหัวใจ :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: TEe RuKk ที่ 01-05-2011 19:47:22
เผื่อจ่ะอ่านจบที่นั่งด่าพระเอกจนน้ำลายหมดแล้ว  แต่ก็ดีแล้วน่ะที่รักกันได้ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 02-05-2011 10:37:33
เฮ้อ จบซะแล้ว

จบแบบโล่งอกมากเลย

อ่านทีแรกๆ ก็โกรธแชมป์นะ :m16:

ทำไปได้ นึกอยู่แต่ว่าไหง๋คนนิสัยไม่ดีแบบนี้ได้เป็นพระเอก

ทำใจได้ตอนหลังๆ น่ะ

แถมเต็นก็ลงโทษไปแล้วด้วย

สุขีสุขี :mc4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 02-05-2011 20:52:49
เฮ้อ!! ความรู้สึกตอนนี้คือมันแปล๊บๆในทรวงอก  วันนี้อ่านนิยายสองเรื่องจบ เป็นเรื่องที่ชอบมากและติดตามมาตลอดด้วย เลยใจหาย ใครเคยเป็นมั้ย?
ไม่อยากให้งานเลี้ยงมีเลิกรา ไม่อยากให้นิยายมีตอนจบ

ขอบคุณพี่บอย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 04-05-2011 01:09:01
ดีนะจบแบบแฮปปี้ :กอด1:

ขอบคุณมากค่ะ สนุกมาก ชอบบๆๆ :z2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 04-05-2011 02:11:21
จบแล้ว ซึ้งอ่า T_T ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 26-05-2011 06:07:42
กว่ารักจะลงตัว กับนิยามรักของสองคน สองคั่ว ทำคนอื่นกินมาม่าจนอืดเลย     o13 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 30-05-2011 22:16:48
นึกว่าจะไม่เเฮปปี้เสียเเล้ว เต็นลงโทษไปเยอะๆให้ได้รับรู้ความเจ็บปวดมั้ง

เเต่ดีที่เเฮปปี้

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 31-05-2011 01:44:24
น้ำตาท่วมจอเลย
ดีใจที่สุดท้ายก็จบด้วยดี
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 31-05-2011 21:31:37
ชอบเรื่องนี้มากคะ
โดยตัวเองแล้ว อ่านแล้วขัดใจกับเต็นมาก ว่าคนอะไรจะไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองเลยเหรอ
เต็นอ่อนแอมาก จนไม่คิดว่าจะอยู่ในสังคมได้เลย
แชมป์ คาแรกเตอร์เลว แต่ไม่รู้ทำไม โคตรเอาใจช่วยเลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวนิยายดี ๆ คะ ติดตามงานของคุณบอยเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 06-06-2011 00:34:31
 :sad4: กว่าจะรักกันได้เนาะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 07-06-2011 22:51:57
อ่านจบภายในวันเดียว
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อิอิ
ปลื้มมาก "รักในสองนิยาม" มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
ตอนอ่านนิยามของเต็นก็เศร้าเหลือหลาย สงสารคนอ่อนไหว เธอช่างอ่อนเดียงสาเหลือเกิน
แอบระแวงแชมป็ตั้งแต่ที่มันไม่สนใจตอนที่เต็นอยู่กับนพแล้ว ดูไม่หึงหวงเลยซักนิดก็ไม่มีอ่ะ
ตอนส่งข้อความมาก็เหมือนกันคิดว่าอินี่เหมือนตั้งใจแต่ก็ไม่คิดว่าจะจริง
พออีกวันที่มันตีจากก็เลยช็อคด้วย เอาแล้วไงมึง โดนเข้าให้แล้ว
ตอนมาอ่านนิยามของแชมป็ก็ เฮ้ยยยยยย พี่บอยคิดได้
มันดีมากอ่ะ รักในสองนิยามคือแบบนี้เอง
ขอบคุณมากนะคะ ชอบมากจากใจ^^ (ไม่ได้หลอกทดสอบทฤษฎีอะไรนะเออ)
ปล. ชอบแม็คจัง ขอได้เปล่า โฮะๆ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Loidelohm ที่ 10-06-2011 12:41:09
หึ หึ สะใจที่นิยายเรียกน้ำตาเราได้ ไม่น่าเชื่อ
คุณบอย....คุณอยู่ที่ใหน มาทำเราร้องไห้
ออกมา(รับ)รักผิดชอบเราด้วย

ไม่งั้นละก็........เราจะตามทวงนิยายที่ไม่จบทุกชาติไป   
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 12-06-2011 21:29:38
ไม่เคยผิดหวังกับนิยายคุณบอยซักเรื่องเลยจริงๆ
ติดตามผลงานของคุณบอยมาตลอด
วันนี้อ่านเรื่องนี้ทั้งวัน รวดเดียวจบ
ชอบมาก อ่านไป ปวดใจไป นี่แหละสไตล์คุณบอย 555 แต่ก็ชอบน้าาา
ขอบคุณมากๆ สำหรับความสุข ความบันเทิงที่มอบให้ผ่านตัวหนังสือ
เป็นกำลังใจให้สำหรับผลงานเรื่องต่อๆไป :))
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 12-06-2011 23:24:39
อ่านแล้วร้องไห้หลายตอนมากๆๆๆๆ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 25-06-2011 18:15:17
มาเยี่ยมเยียนเหมือนเดิมครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 30-06-2011 19:35:12
เป็นนิยายที่พระเอกของเราไม่ได้เป็นคนดีตั้งแต่ต้น รู้สึกว่าเป็นการหักมุมดีค่ะ
 เพราะส่วนใหญ่แล้วพระเอกของเราจะแสนดี๋แสนดีเกินไป แต่ทว่าก็รู้สึกชังน้ำหน้าพระเอกเหมือนกัน
ดูแบบว่าเป็นพวกเลวๆ แต่สุดท้ายก็ให้อภัยค่ะ เพราะสามารถกลับตัวได้และได้รับบทลงโทษที่สาสมแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 30-06-2011 21:54:37
อ่านแล้วซึ้งจังกว่าจะลงเอยกันได้เสียน้ำตาไปเยอะเลย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 02-07-2011 00:00:14
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 05-07-2011 21:44:27
ชอบเเละดีใจมากที่มันจบเเบบแฮปปี้ เพราะเสียน้ำตามาทั้งเรื่องเเล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 07-07-2011 01:53:10
จบแล้ววว ขอพี่นพ นะ >"<
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: LiuXin ที่ 17-07-2011 00:12:10
แชมป์ ผู้ชายเลว
เต็น ผู้ชายขี้เหงา

ไม่ชอบเต็นในตอนแรก อ่านแล้วแบบใจโลเลจัง มีกิ๊ก
แต่ชอบเต็นในตอนหลังนะ ที่ไม่กลับไปคบกับนพอีกครั้ง ยอมเป็นเพื่อนกับความเหงา

อ่านจบแล้วก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจ
เต็นโดนแชมป์ทำซะเจ็บขนาดนั้น ยังกล้าเชื่อลงอีกหรอ?
ลองคิดว่าถ้าเป็นตัวเอง แล้วคนที่เคยทำร้ายกันขนาดนี้มาพูดง้อ พูดงั้นพูดงี้
แต่ใจจริงเขาคิดยังไงเราก็ไม่รู้อยู่ดี.. เพราะชีวิตจริงไม่สามารถอ่านความคิดใครได้เหมือนนิยาย

แม็คพูดว่า ตัวเองต้องไปต่างประเทศเลยไม่คบกับเต็นทั้งที่มีโอกาสแล้ว ..ตกลงว่าแม็ครักเต็นแบบไหน..
นพงานยุ่งมาก ไม่เหมาะดูแลเต็นอีก ...หมายความว่านายแชมป์ในอนาคตห้ามงานยุ่งเด็ดขาด ไม่งั้นนะมีภาคสองต่อแน่ๆ...

ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายค่า
 :pig4:


หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 23-07-2011 19:33:38
แบบว่า...เป็นเนื้อเรื่องที่หนักมากกก แต่ก็ชอบครับ มันตรงกับความเป็นจริงในปัจจุบันดี
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: KanomPhing ที่ 16-01-2012 22:59:05
กว่าจะจบ  โคตรบีบคั้น

เสียน้ำ (ตา) ไปเป็นลิตร 555

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีดีมาให้อ่านนะคะ :3123: :3123:

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 18-01-2012 08:24:14
กว่าจะลงเอยกันนะ บีบน้ำตาไปหลายอยู่
สนุกมากมายเลยฮ๊าฟฟฟฟ
ขอบคุณนะฮ๊าฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 03-05-2012 23:41:34
แชมป์แรก ๆ ก็ร้ายมาก ๆ ดีนะที่เข้าใจกับเต็นได้ นพดีกับเต็นมาก ๆ เลยนะนั่น แม็คก็เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 17-05-2012 19:13:02
กว่าจะอ่านจนจบ

นั่งลุ้นจนตัวเกร็ง :เฮ้อ:

ร้องไห้ตั้งเเต่เเรกๆ สงสารเต็นสุดๆ :o12:

ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 05-06-2012 19:11:12
นั่งอ่านรวดเดียวจบ...
อะไรจะเรียกน้ำตาได้ขนาดนี้....
สุดยอดจริงนะท่านทำเอาข้าพเจ้าตาบวมหมดแล้ว...
อึดอัดมากจริง ๆ แต่ก็ไม่อยากลุกจากหน้าจอ...
ถอนหายใจทันที่ที่อ่านจบ..เช็ดน้ำตาแล้วก็ ..555555....มีความสุขจริง ๆ โว๊ย!!!!!
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ๆ ให้อ่านนะเจ้าคะ...
แต่เอ...น่าจะลองจัดให้แม๊คกะนพคู่กันดูดีมั๊ยเจ้าคะ..อิอิ... o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 03-07-2012 20:06:04
กว่าจะจบได้เล่นเอาคนอ่านน้ำตาท่วมจอ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่เขียนขึ้นมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: imissyou ที่ 05-07-2012 16:56:25
คนเลว ๆ ไม่สมควรได้รับการให้อภัยเลยทีเดียว

เกลียดพระเอก  :m16:

หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-10-2013 22:14:00
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสุดเข้มข้นนะคะคุณบอย อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: ^^KENTA^^ ที่ 17-10-2013 08:19:52
สนุกมากเลยครับ แต่งได้ดีมากๆ อ่านตอนแรกยอมรับว่าเกลียดแชมป์มากๆ แต่หลังๆเริ่มสงสาร ส่วนเต็นอ่านแรกๆรู้สึกสงสารมากแต่อ่านไปเรื่อยๆสะใแทน555 แชมป์หึงเด็น**กว่าจะรู้ใจตัวเองกว่าจะสมฟวังได้ แล้วก็ชอบพี่นพกับแม็คมากๆเลยครับ สรุปชอบเรื่องนี้มร๊าากมาก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 19-10-2013 02:10:04
ทำตัวดีให้มันตลอดนะแชมป์  :เฮ้อ:
หึยยยยย อ่านถึงตอนจบแล้วก็ยังสยองกับแชมป์ไม่หาย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 26-10-2013 00:00:59
 :oo1: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: สีเทา ที่ 26-10-2013 05:10:41
อ่าตอนแรกๆ บอกเลยแชมป์เชี้ย

พออ่านต่อๆไปยิ่งเกลียดแชมป์

สงสารเต็น

แต่พออ่านไปเรื่อยๆ

เริ่มสมน้ำหน้าแชมป์

อ่านมาถึงตอนจบลุ้นเหมือนดูบอลเลย สุดท้ายดีใจเหมือนไทยชนะญี่ปุ่น(ได้ข่าวว่านั่นมันวอลเลย์บอล) :katai3:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 06-04-2014 22:21:50
เป็นพระเอกในไม่กี่คนที่อ่านจบแล้วยังโคตรจะเกลียด 555
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 07-04-2014 01:07:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 19-09-2014 07:20:44
 :a5:  ลุ้นแทบแย่ กลัวพี่แชมป์จะหลุดจากตำแหน่งพระเอกของเรื่อง
ขอบคุณ คุณบอย สำหรับนิยายสนุกๆ บีบอัดหัวใจ 555 แต่ได้แง่คิดในการใช้ชีวิตด้วยนะเออ   ไม่ได้เศร้าอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: N-T ที่ 21-09-2014 00:51:11
ขอบคุณค่ะ..... o13 :mew4:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-11-2014 14:32:14
สนุกมากเลยครับลุ้นจนตอนสุดท้าย
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: nattybenozy ที่ 04-02-2015 04:53:46
แชมป์อยู่วงเวียนใหญ่แถวบ้านเราเลย เราอยู่เจริญรัถ ^^
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 13-02-2015 14:45:59
เป็นเรื่องที่เศร้า อึน และเจ็บแทนตัวเอกมากๆ มันเลวร้ายจนน่าสงสาร
แต่ก็เคลียร์ได้ดี จบได้ดี ผ่านอะไรมาเยอะ ก็สมควรต้องมีความสุขแบบนี้ละ
สนุกมากครับ ใครมาอ่านก็ต้องติดใจแน่ๆ เป็นเรื่องที่แนะนำอีกเรื่อง สนุกมากครับ
ไม่เคยผิดหวังกับผลงานของคุณBoyเลย

ขอบคุณผู้แต่งมากครับ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 10-04-2016 08:48:51
อิป้าติดตามอ่านหลายรอบทุแเรื่องที่อยู่ในเล้าและใน....bboy.ฯ...และยังรอให้คุณบอยมาแต่งนิยายในเล้าตัวเองต่อให้จบ สั่งซื้อหนังสือไปส่งเงินไปแล้วเป็นปียังไม่ได้ ไม่ห่วงเงินแต่ห่วงคนว่าหายไปไหน เป็นไรรึเปล่าส่งข่าวกันหน่อยถ้าใครรู้....ห่วงนะนี่..
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 28-12-2016 12:52:30
ชอบเรื่องของคุณบอยทถกเรื่องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: เงาเดือน ที่ 01-08-2018 04:01:29
อ่านนิยายมาก็เยอะนะทุกแนว แต่คนๆนี้แต่งนิยายได้ดีจริงๆจนเหมือนนิยานมันสั้นเกินไปทั้งที่มันก็ไม่ได้สั้น แล้วมาอ่านช้ากว่าชาวบ้านเค้าอีก ถ้าไม่ชอบจริงๆจะไม่คอมเม้น  :L2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: Ka.RoN ที่ 26-05-2021 23:43:18
สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 09-06-2021 01:44:55
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 25-03-2024 19:53:30
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: Love Story Ten & Champ ตอนที่ 33-34 อวสาน พร้อมเปิดจองหนังสือ : 25.04.54
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-03-2024 20:41:00
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)