พิมพ์หน้านี้ - TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-09-2017 13:30:00

หัวข้อ: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-09-2017 13:30:00
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************


บทนำ


ในความเหมือนนั้น ย่อมมีความแตกต่าง

 

 

ความรัก ลุ่มหลง ชิงชัง แววตาไม่สามารถหลอกหัวใจ

 

 

เพื่อน้องชาย ตามคำสัญญา ผมจะทำ...ทุกอย่าง



*****************************************************************************************



          PS. นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรท์เท่านั้น โปรดใช้จักรยานในการอ่าน หุหุ
 
          PS. เป็นแนวฟีลลิ่ง ที่ค่อนข้างซับซ้อน หนักไปทางดราม่า ความรุนแรง NC 20+
 
          PS. กดถูกใจหรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

     
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทนำ+บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก ](21/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-09-2017 13:34:15
          TWINS บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก


          ว่ากันว่าคนบางคนนั้น ก็เกิดมาพร้อมพรสวรรค์หลายด้าน บางคนเกิดมาหน้าตาดีพร้อม แต่ฐานะกลับยากจนข้นแค้นซะอย่างนั้น บางคนฐานะรวยล้นฟ้า แต่หน้าตากลับไม่เอาอ่าวก็มีถมไป แล้วตัวผมนั้นเป็นยังไงน่ะเหรอ

          ผมชื่อธิชา ธีระดิษฐ์สกุล เพิ่งขึ้นมหา'ลัยชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ และตอนนี้รอบๆ ตัวผมนั้นมีแต่เสียงเอะอะดังสนั่น เพราะอยู่ในช่วงการรับน้องของมหา'ลัย ผมเบื่อออ ผมอยากออกไปจากตรงนี้ ไปในที่ที่เงียบสงบ ผมเกลียดการพบเจอ พูดคุย ผมไม่อยากรู้จักใคร หรืออาจจะไม่อยากทำอะไรเลยก็ได้

          ผิดกับน้องชายฝาแฝดของผม ธัชชา คณะเดียวกัน เอกเดียวกัน แต่หมอนั่นแค่เพียงวันเดียวก็มีเพื่อนมากมาย เป็นที่รักของทุกคนที่พบเจอ หมอนั่นมักยิ้มแย้ม สดใสดั่งพระอาทิตย์ ผมมองหมอนั่นที่กำลังคุยกับเพื่อนใหม่อย่างสดใสร่าเริง

          " น้องธิชา เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายบอกพี่ได้เลยนะ " รุ่นพี่ปีสองเดินเข้ามาหาผมที่นั่งหงอยอยู่คนเดียวด้วยความเป็นห่วง

          " ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมดูแลพี่ธิชเอง " อยู่ดีๆ ธัชน้องชายผม ก็วิ่งเข้ามาและนั่งลงกอดคอผมเอาไว้ 

          " น่ารักจังเลย ดูแลพี่ชายซะด้วย นี่ถ้าไม่มีป้ายชื่อ พี่บอกตรงๆ เลยนะ พี่แยกเราสองคนไม่ออกหรอก " รุ่นพี่ปีสองยังคงคุยกับธัชอย่างเอ็นดู

          " ฮ่ะๆๆ ขนาดคุณพ่อคุณแม่ยังแยกเราไม่ออกเลยฮะ " ธัชพูดและส่งยิ้มสดใสโปรยไปทั่ว

          ใช่แล้วครับ ขนาดผู้มีพระคุณยังแยกไม่ออก แล้วใครจะแยกออกล่ะ แต่ก็โทษพวกเขาไม่ได้หรอกครับ พวกเขาไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำงานอยู่ต่างประเทศกันหมด แล้วพวกเราก็เหมือนกันจริงๆ เนื้อตัวพวกเราไม่มีตำหนิใดๆ ไม่มีรอยอะไรทั้งนั้น ส่วนสูง น้ำหนักยังเท่ากันอีก เหลือเชื่อจริงไหมล่ะ

          ' คู่แฝดนั่นหน้าตาดีสุดๆ เลยเนอะ '

          ' เหมือนกันอย่างกับโคลนนิ่งแน่ะ ' 

          ' เป็นดาราหรือเปล่า '

          ' คนชื่อธัชชานั่น น่าจะคุยง่ายกว่านะ '

          ' เข้าไปคุยสิ '

          เป็นบทสนทนาที่ผมฟังจนเบื่อ น้อยคนที่จะอยากรู้จักผม เพราะหน้าตาอมทุกข์ ไร้ไมตรีของผมนั่นแหละ ใครเห็นก็ไม่กล้าทักหรอก แต่ก็ดี ไม่อยากยุ่งด้วยอยู่แล้ว

          ผมรอจังหวะและแยกตัวออกห่างจากกลุ่มคนเหล่านั้น นั่งลงที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ใส่หูฟังอันใหญ่ของผม และนอนหลับตาปล่อยให้เสียงเพลงเป็นตัวขับกล่อมให้จิตใจสงบลง

          " แค่กๆ " แต่ผมที่นอนหลับตาผ่อนคลายอยู่ดีๆ นั้น กลับต้องลุกขึ้นอย่างกระทันหัน เพราะควันบุหรี่ที่ตลบอบอวนไปหมด ผมไอและสำลักควัน ผมไม่ชอบมันเอาซะเลย

          ผมขมวดคิ้วมุ่น อยากจะต่อยไอ้คนไม่รู้จักมารยาทซะจริงๆ ตรงนี้น่ะไม่ใช่ที่สูบบุหรี่สักหน่อย

          " ไม่มีมารยาทเลยนะนาย " ผมพูดออกไปพร้อมใช้มือโบกไปมาในอากาศ เพื่อไล่ควันออกไปจากตัว ถึงขนาดนี้ ผมยังมองไม่เห็นตัวคนสูบเลย คิดว่าเยอะไหมล่ะ

          " คนที่ไม่มีมารยาท คงเป็นเธอมากกว่า " หมอกควันเริ่มจางลงแล้ว จนทำให้ผมลุกขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ถนัด

          ชายหนุ่มที่น่าจะเป็นรุ่นพี่ของผม ตัวสูง ขายาวสุดๆ แต่งตัวเรียบร้อย เสื้อเชิ๊ตขาว ผูกเนคไทสีดำแบบหลวมๆ  หน้าตาแบบว่าอย่างกับหลุดมาจากปกนิตยสารนายแบบ แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่สนอยู่แล้ว ต่อให้หล่อปานเทพบุตรก็ตาม 

          " พ่นควันใส่คนอื่นยังจะมีหน้ามาพูดอีก " ผมยังคงพูดแบบหัวเสียต่อไป 

          " คนอื่นที่กำลังนอนอู้ โดดกิจกรรมมหา'ลัยน่ะเหรอ " เหอะ ยุ่งจริงๆ

          " นายก็อู้เหมือนกันนั่นแหละ " น่าจะเป็นรุ่นพี่ที่มาทำกิจกรรมกับน้องๆ สักคณะหนึ่งละมั้ง

          " ไปซะ " ผมไม่รอให้ไอ้บ้านี่ไล่อีกครั้ง ผมลุกขึ้น และเดินหนีออกมาแบบบึ้งตึงสุดๆ คนอะไรนิสัยแย่ชะมัด ผมตัดสินใจหนีกลับคอนโดเลยดีกว่า ไม่อยู่แล้วที่แบบนี้

          ผมกลับมา นอนฟังเพลงและปลูกสวนดอกไม้เล็กๆ ที่ระเบียงคอนโดของผม อยู่กับน้องชายแค่สองคน แบ่งกันคนละห้อง ไม่ก้าวก่ายกันและกัน เพราะถึงพวกเราจะหน้าตาเหมือนกันสักแค่ไหน แต่รสนิยม นิสัย ไลฟ์สไตล์กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าไม่รู้จักพวกเราจริงๆ ยังไงก็แยกไม่ออกแน่นอน

          " พี่ธิช " อยู่ดีๆ ธัชก็วิ่งมากอดผมอย่างแรงจนผมตกใจเผลอทำฝักบัวรดน้ำตกกระจาย

          " พี่ไปไหนมา ทำไมถึงทิ้งผม " ผมมองหน้าน้องชายที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผมแบบจริงจัง

          " รู้สึกไม่ค่อยดีเลยกลับมาก่อน " ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากมายเลยพูดส่งๆ ไปงั้น

          " เป็นอะไร ไปหาหมอไหม " ธัชเขย่าผมจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด

          " ไม่เป็นไร หายแล้ว " ผมพูดบอกน้อง

          " งั้นก็ดีแล้ว ผมมีข่าวดีมาบอก " ธัชทำหน้ายิ้มแป้นใส่ผมแบบเห็นฟันครบทุกซี่

          " ผมเป็นตัวแทนคณะประกวดเดือนมหา'ลัยด้วยล่ะ " ผมมองหน้าน้องชายที่ดูตื่นเต้นซะเหลือเกิน 

          " ก็ดีแล้วนิ " ผมพูดพลางหันไปรดน้ำต้นไม้ต่อ แต่ธัชยังคงจับแขนผมเอาไว้แน่นเหมือนยังมีอะไรคาใจ

          " แต่ว่าพรุ่งนี้จะมีสัมภาษณ์อ่ะ ผมไม่มั่นใจเลย ผมกลัวตอบไม่ถูก " ผมชะงักนิ่งค้าง แบบนี้เองสินะ เหมือนที่ผ่านๆมา

          ผมได้ทำสิ่งที่ผิดมาเสมอ แต่ก็เพื่อตัวของน้องชาย ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน 

          " พี่ธิชต้องช่วยธัชนะ นะครับ "  ธัชพูดและเริ่มเขย่าตัวผมอีกแล้ว

          " อืม " ผมตอบเสียงแผ่วเบา 

          " จริงๆ นะ " ผมมองมือน้องชายที่กำลังบีบแขนผมอยู่

          " พี่จะไม่ทิ้งธัชอีกแล้วใช่ไหม " อยู่ดีๆ น้ำเสียงของธัชก็เริ่มเปลี่ยนไป

          " ห้ามทิ้งธัชอีกนะ สัญญากันไว้แล้วนี่! " ผมมองหน้าน้องชายที่สีีหน้าเปลี่ยนไปและเสียงดังขึ้น

          " พูดสิว่าจะไม่ทิ้งธัชอีก!! " ธัชเปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธเกรี้ยว เขย่าตัวผมและบีบแขนผมเต็มแรง

          " ขอโทษ พี่ขอโทษนะธัช " ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บที่แขน แต่ก็ส่งยิ้มกลับไปให้น้องชายเหมือนเช่นเคย ดังเช่นที่เป็นมา


ทุกอย่างพี่จะทำเพื่อนายเอง ตามคำสัญญาของเราสองคน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทนำ+บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก ](21/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-09-2017 20:03:00
ฝาแฝด
คนพี่ ธิชา นิ่งๆ ชอบสันโดษ ไม่ร่าเริง เป็นมิตร
คนน้อง ธัชชา ร่าเริง เป็นมิตร ชอบพูดคุย

แต่ไปๆมาๆ คนน้องกลับไม่กล้าพูดคุยตอนถูกเลือกให้เป็นเดือน
มาให้พี่พูดคุยแทน งี้ธิชาก็ต้องเป็นธัชชาสินะ
ไม่น่าจะมีคนรู้ แต่คนที่รู้ก็น่าจะเป็นรุ่นพี่ที่เจอธิชา หนีไปนอนใต้ต้นไม้ใช่มั้ย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทนำ+บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก ](21/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 21-09-2017 22:32:44
ฝาแฝดดดดดด เราชอบความฝาแฝดดด
ฮือออ จับธิชกับธัชมาน้วย---
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทนำ+บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก ](21/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 22-09-2017 09:33:57
          TWINS บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม


          พวกเราแม้จะเหมือนกันมากสักแค่ไหน แต่สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดก็คงจะเป็น ธัชที่มีอัธยาศัยดี มีการวางตัวที่เหมาะสม สดใสร่าเริง แต่กลับสมาธิสั้นจนน่าใจหาย ธัชไม่สนเรื่องเรียน รักสนุกไปวันๆ กลัวการผิดพลาด ความคิดความอ่านติดลบไปหมด ทำตัวเหมือนกับทำได้ทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วทำอะไรไม่ได้เลย ตรงกันข้ามกับผมที่ไม่ชอบทำอะไรสักอย่าง แต่ถ้าทำ กลับทำได้ดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่ดีธรรมดา แต่ในระดับอัจฉริยะ

          แต่ผมเกลียดการอยู่ในหมู่ฝูงชน ชอบเก็บตัวและรักสันโดษ ไม่เคยมีแฟน ไม่อยากรักใคร ตีตัวออกห่างทุกคนที่เข้ามาใกล้ ไม่ว่าจะประสงค์ดีหรือร้ายก็ตาม ธัชนั้นมีรสนิยมทางเพศที่ไม่ปกติ ธัชชอบและหลงไหลในเพศเดียวกัน แต่นั่นผมไม่ห้ามหรอก เพราะที่ธัชเป็นแบบนั้น ลึกๆ แล้วอาจเป็นเพราะผม แต่ผมนั้นไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมรังเกียจและขยะแขยงตัวผู้ทุกตัวที่เข้ามาใกล้ บางทีผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน ผมอาจจะแค่รักตัวเอง และรักน้องชายเท่านั้นก็เป็นได้

          ผมยืนอยู่หน้ากระจก ซ้อมยิ้มแย้มอย่างเบื่อหน่าย เฮ้อ มันเป็นสิ่งที่ยากจริงๆ แต่ผมทำได้ ผมทำได้ทุกอย่าง ผมยิ้มให้กับตัวเอง การเป็นธัชนั้นยาก แต่ผมน่ะไร้ที่ติ และมันต้องสำเร็จ 

          " ธัช " ผมมองน้องชาย ส่งสายตาให้รู้ว่าผมต้องการอะไร พวกเราแทบไม่ต้องพูดกัน ก็สามารถเข้าใจกันได้ 

          " คร๊าบบบ เป็นพี่น่ะง่ายจะตาย " ธัชยิ้มแป้น และหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็ว ทำสีหน้าบึ้งตึงแลดูไม่เป็นมิตรเลียนแบบผม บางทีเราสองคนก็น่ากลัวเกินไปจริงๆ

          ไม่นานพวกเราก็มาถึงมหา'ลัย โดยมีผมที่เป็นคนขับรถให้ ผมมองน้องอีกครั้งก่อนลงจากรถ พวกเราเตรียมพร้อมกับทุกๆ สิ่งที่จะเผชิญ การสลับตัวกันไม่ใช่เรื่องยาก แต่บางทีก็วุ่นวายชะมัด

          " ธัชชช ไงเพื่อน " ผมที่เพิ่งลงจากรถนั้น ก้ดดนเล่นเข้าให้แล้ว แม่งมันคือใครวะ เอาล่ะยิ้มไว้ก่อน 

          " ไง " ผมก็เนียนๆ ไป จะใครก็ช่างแม่งเถอะ ผมหันไปมองน้องชายที่แอบอมยิ้มขำ และกลับไปทำหน้าตายด้านเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

          " โว๊ะ ทักถูกด้วยเหรอ ลัคกี้ " อ่าวมันมั่วเหรอเนี่ย เหอะ นึกว่าจะแน่ ผมมองไอ้หน้าตี๋เพื่อนของน้องชายด้วยรอยยิ้มละมุน อยากอ้วกจริงๆ

          " ผมยืมตัวน้องชายพี่แปบนะครับ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องเชียร์นะ " ไอ้ตี๋นี่อยู่ดีๆ ก็เข้ามากอดคอผม และหันไปคุยกับน้องชายผม ซึ่งมันคิดว่าเป็นตัวผม งงไหมล่ะ

          ผมมองหน้าน้องชายอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ธัชกลับนิ่งเงียบและไม่พูดอะไร ทำหน้าตาเรียบๆ แหม ทีแบบนี้ละเนียนจริงๆ

          ผมเดินมากับไอ้ห่านี่อย่างไร้ทางขัดขืน แต่เดี๋ยวนะ มันลากผมมาที่นี่ทำไม มันแปลกๆ ที่นี่คือห้องน้ำที่ห่างไกลจากผู้คน ผมใจเต้นระทึก นี่ธัช นายทำอะไรกับไอ้หมอนี่กันแน่

          " ไหนเงิน เอามาอย่างที่บอกใช่ไหม " หะ นี่มึงว่าอะไรนะ ผมมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่หุบยิ้มลง

          " ไม่มี " ผมพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ไร้รอยยิ้มและมองหน้าหาเรื่องอย่างชัดเจน นี่มันเรื่องอะไรกัน 

          " นี่มึงไม่ใช่ธัชเหรอ " มันมองผมพลางขมวดคิ้วสงสัย แปลว่ามึงเคยไถเงินธัชสินะ

          " กูนี่แหละธัช แต่กูไม่ให้ " ผมพูดออกไปอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด มึงคิดผิดแล้วที่มายุ่งกับกูหรือน้องของกู ผมทำสีหน้าท้าทายมัน และมันก็เดินเข้ามาประชิดตัวผมทันทีอย่างหาเรื่อง

          " ทำไม มึงคิดว่ามึงแน่นักเหรอ มึงจะร้องไห้ไปฟ้องพี่มึงใช่ไหม ไอ้ตุ๊ดนั่นก็เหมือนๆ มึงนั่นแหละ เดี๋ยวกูไปไถจากพี่มึงก็ได้ " ได้เสียสิแบบนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นกูขอกระทืบมึงก่อนเลยละกัน

          " มีสิ่งเดียวที่มึงจะได้ ก็คือตีนกู " ผมพูดพลางผลักอกมันจนมันเซถอยออกไป แต่มันที่ถูกผมผลักนั้นก็ง้างหมัดขึ้นและพุ่งตัวเข้าหาผมทันที

          ผมหลบหมัดที่มันง้างและส่งออกมาพลางสวนกลับใส่หน้ามันเต็มๆ จนมันลงไปนอนกับพื้น กุมจมูกที่มีแต่เลือดนั่นเอาไว้ นี่แค่ไม่กี่วันที่มาเรียน ธัชก็ถูกรังแกแล้วเหรอเนี่ย เป็นแบบนี้อีกแล้ว และเป็นมาเสมอ บางทีการทำตัวเข้าหาง่ายก็เป็นเรื่องที่อันตรายเหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่า ใครบ้างที่ดีกับเราจริงๆ หรือหวังอะไรอย่างอื่น

          " ฝากไว้ก่อนเถอะมึง " ไอ้ตี๋วิ่งกุมหน้าและหนีไปอีกทาง เหอะ น่าเบื่อการเป็นตัวเองนี่แหละ ดีที่สุดแล้ว แต่ผมทำไม่ได้หรอก ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข แต่แค่นี้ก็พอที่จะปกป้องธัชไม่ให้ถูกรังแกได้สักพักนั่นแหละ

          ผมดึงเสื้อดูความเรียบร้อยให้แน่ใจ ก่อนจะเดินออกไปยังคณะ ที่ตอนนี้กำลังซ้อมเชียร์กันอยู่ 

          " น้องธัชชามาแล้ว เพื่อนๆ ปรบมือให้ตัวแทนเดือนคณะวิศวกรรมของเราหน่อยเร้วว " ผมที่โผล่เข้ามานั้น ก็ต้องยืนอึ้งอยู่ที่หน้าประตู เพราะว่าพวกวิศวะทั้งหมดนั้น กำลังจ้องมองผมเป็นตาเดียว พร้อมเป่าปาก ปรบมือกันอย่างครื้นเครง เดี๋ยวนะ ยังไม่ทันสัมภาษณ์อะไรเลยนี่ นึกว่าเป็นแค่ตัวแทนเอกก่อนนะเนี่ย

          เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ผมสูดหายใจ เดินยิ้มแย้มเข้าไปยืนข้างหน้าสแตนด์เชียร์กับพวกพี่ๆ ที่กำลังเรียกผมอยู่

          " แค่เห็นหน้าก็ไม่ต้องคัดแล้วเนอะ ไม่มีใครค้านใช่ไหมคะ "  ไม่ใช่ทุกคนจะดูยินดีที่ผมได้เป็นตัวแทน ผมเห็นสายตาของหลายๆ คนที่จ้องมองผมหลากหลายรูปแบบ แต่คณะวิศวะที่ 90% เป็นผู้ชายก็แบบนี้แหละ ผมคงดูข้ามหน้าข้ามตา ไม่ก็น่าหมั่นไส้เกินไป แต่บางคนก็จ้องมองผมแบบน่าขนลุกพิกล ความหื่นกระหายชัดเจนบนใบหน้า พวกแบบนี้ก็เยอะเหมือนกัน ผมเคยโดนตามจีบโดยผู้ชายแท้ๆ ด้วย มันบอกเห็นหน้าผมแล้วอยากลองทำกับผู้ชายดู เหอะ ผมเลยอัดมันให้มันรู้ว่าเขาทำกันยังไง มึงจีบผิดคนแล้วล่ะ

          รุ่นพี่ที่คณะผมก็ใช่ย่อย พวกที่นำเชียร์ส่วนมากจะเป็นพวกสาวสองซะส่วนใหญ่ ขณะที่ผมยืนอยู่ หลายๆ คนก็พยายามลูบคลำผมมากพอดู กรี๊ดกร๊าดวี้ดว๊ายกันใหญ่ ผมนี่ยืนเท้ากระตุกอยากเตะคนเหลือเกิน เย็นไว้ไอ้เสือ

          " คนนี้ฉันจองย่ะหล่อน เดือนมหา'ลัยจะไปไหนเสีย " 

          " เก็บน้ำลายด้วยอิดอก มึงเห็นพี่ชายเขาไหม นั่งส่งสายตาอาฆาตใส่มึงอยู่บนนั้นไง หวงน้องชายน่าดูเลยนะเนี่ย " ผมมองตามมือที่รุ่นพี่ชี้ขึ้นไป และก็เห็นว่าธัชกำลังนั่งอยู่บนนั้น ด้วยใบหน้าเรียบเฉย เนียนดีน้องชายยกนิ้วให้เลย ผมยิ้มและยกมือขึ้นโบกไปมาให้น้อง ซึ่งธัชก็ยิ้มตอบและโบกมือกลับมาให้ผมเช่นกัน

          " ว๊ายยย เขายิ้มให้กันด้วย อยากควบสองเลยได้ไหม 3P อ่ะ เดี้ยนช๊อบชอบ " เหอะๆ แต่ผมไม่ชอบครับ แค่คิดก็สยอง เป็นเอามากนะพวกนี้  ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ และเดินขึ้นไปนั่งข้างๆ ธัช

          " ไม่มีสัมภาษณ์อะไรนี่ ผ่านฉลุย " ผมกระซิบกับน้องชายเบาๆ 

          " ครับ งั้นเปลี่ยนป้ายชื่อกัน " เป็นอะไรที่ง่ายมาก ผมก็เบื่อที่จะต้องฉีกยิ้มเหมือนกัน ผมสองคนเลยขอตัวพวกพี่ๆไปเข้าห้องน้ำ และเปลี่ยนป้ายชื่อกันในนั้น

          " ธัช ไอ้หน้าตี๋นั่นมันเรื่องอะไร " ผมถามน้องชายเรื่องไอ้ตี๋ที่มาไถตังนั่น

          " อ๋อ พี่ทำอะไรมันเหรอ " 

          " ซัดมัน " ผมตอบด้วยใบหน้าเรียบๆ

          " ขอบคุณครับ มันเข้ามาพูดดีด้วย แล้วอยู่ดีๆ ก็ขู่เอาเงินซะงั้น คงเห็นผมดูหน่อมแน้มมั้ง " 

          " มีอะไรก็บอกสิ ไม่เอาแบบนี้นะทีหลัง " ผมดุน้องที่ทำหน้ายิ้มทะเล้น

          " ถึงไม่บอกพี่ก็จัดการพวกมันได้อยู่แล้ว " ผมขยี้หัวน้องชายที่กำลังยิ้มตาหยีใส่ 

          " ระวังตัวด้วย " ผมจับไหล่น้องและเดินออกมาจากห้องน้ำ เพื่อกลับไปห้องเชียร์ต่อ

          ควันบุหรี่มันติดเสื้อมาตอนไหนนะ ผมดมกลิ่นเสื้อตัวเอง แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยวกลับไปค่อยจัดการละกัน


สิ่งนี้ อาจเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ผมเลือกจะมองข้าม เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม ](22/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 22-09-2017 12:30:51
ถ้าจะผ่านง่ายขนาดนั้นไม่ต้องสลับตัวก็ได้
แต่ถือซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศ(?) 55555
บุหรี่มายังไงงง
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม ](22/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 22-09-2017 14:15:11
เหอ ๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม ](22/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: mearai ที่ 22-09-2017 15:01:53
อิพี่บุหรี่มาหาธัชตอนเป็ธิชแน่เลยอ่ะ  ฮืออออออ  อย่ามาชอบธัชนะ ธัชธิชเท่านั้นนนนน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม ](22/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-09-2017 01:01:43
ปริศนาควันบุหรี่ มันมาจากที่ไหนหว่า  :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 2 ฝาแฝดที่ตรงกันข้าม ](22/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 23-09-2017 10:33:35
          TWINS บทที่ 3 ฝาแฝดที่ตกหลุมรัก


          นี่มันอะไรกัน ประชุมเชียร์ ประกวดเดือน แล้วยังต้องเป็นหลีดอีกเนี่ยนะ ผมกำลังยืนส่ายหัวไปมากับรุ่นพี่ที่มาเกาะแข้งเกาะขาขอร้องอ้อนวอนผม ที่มันน่าเซ็งสุดๆ ก็คือ พวกพี่ต้องการผมกับน้องทั้งสองคน บอกว่าจะทำให้การประกวดเชียร์ชนะแน่นอน ถ้ามีแฝดทั้งสองร่วมด้วย ผมที่ทั้งหนีทั้งซ่อนตัว แต่ยังไงรุ่นพี่บิ๊กไซส์ทั้งโขลงก็ยกโขยงมา ผมเกลียดเรื่องแบบนี้สุดๆ แต่ให้ทำไงได้

          " น่า พี่ธิช น่าสนุกออก " ผมมองน้องชายที่ยิ้มแป้นพร้อมเขย่าแขนผมไปมา

          " แต่ตอนประกวดเดือน ก็ต้องเป็นพี่ ที่เป็นคนแสดงความสามารถพิเศษใช่ไหมล่ะ " ผมพูดออกมาเบาๆ กับน้องชายเพราะรู้ทัน

          " ก็ผมทำอะไรไม่เป็นนี่ " ธัชหน้าบู้อย่างขุ่นเคืองใจ

          " พี่สอนก็ได้นะ " ธัชส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ยอม

          " ผมต้องทำเสียเรื่องแน่ๆ ไม่ไหวหรอก " เฮ้อ แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองกำลังโดนน้องชายเอาเปรียบอยู่หรอกนะ ผมอยากช่วยน้อง ผมอยากทำเพื่อธัช ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ผิดก็เถอะ แต่ใครสนกันล่ะ

          เพราะอย่างนั้นผมเลยตอบตกลงกับพวกรุ่นพี่ไป ซึ่งทุกคนต่างดีใจกันเวอร์สุดๆ ทำอย่างกับชนะไปแล้วซะอีก เฮ้อ ผมจะอยู่อย่างสงบสุขบ้างไม่ได้หรือไงนะ

          แล้วที่เซ็งสุดๆ ก็คือวันนี้มีเรียนครับ เป็นวันแรกที่มีคลาส ซึ่งจริงๆ ต้องทำเวิร์คช็อป แต่ตารางบอกว่าให้ไปที่ห้องสโลป ซึ่งเป็นห้องที่มีเก้าอี้เป็นชั้นๆ แบบโรงหนัง ด้านหน้าสุดเป็นโปรเจคเตอร์ฉายทุกสิ่งที่อาจารย์ต้องการให้ดู แต่ห้องใหญ่ๆ แบบนี้ก็ดีแฮะ จะได้แอบหลับได้สะดวกหน่อย

          ผมเดินมากับน้องชายและเลือกนั่งเก้าอี้แถวหลังๆ หน่อย เพื่อหลบสายตาอาจารย์ที่เป้นผู้สอน และที่ผมคิดนั้น ก็คงไม่พ้นลุงแก่ๆ นั่นแหละ สงสัยน่าเบื่อตายชัก แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็ต้องเอ๋อแดกทันทีที่เห็นคนที่กำลังเดินเข้ามา มันไม่ใช่แบบที่ผมคิดเลย

          ตอนนี้ ผู้หญิงที่มีอยู่น้อยนิด เก้ง กวาง กระทิง ต่างส่งเสียงกรีดร้องปานโดนน้ำกรดสาด เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า ชิบหายแล้ว ผมรีบหาอะไรบังหน้าไว้ด้วยความไวแสง ดีนะที่ห้องไม่ได้สว่างมาก ไอ้หมอนั่น มันจะจำผมได้ไหมนะ เป็นอาจารย์จริงๆ งั้นเหรอเนี่ย

          " เคียวเซนเซย์ โครตหล่ออ่ะ "

          " เท่สัดๆ ทำไมกูไม่เกิดมาแบบนั้นบ้าง "

          " กรี๊ดเซนเซย์หรือนายแบบวะ หุ่นดีเชี่ย " นั่นเป็นสิ่งที่ผมได้ยินจากเก้งกวางแถวหน้าผม ไอ้หมอนั่น หน้าตาไม่น่าจะแก่พอเป็นอาจารย์ได้เลยแท้ๆ 

          " เงียบ!! " นั่นเป็นประโยคแรกจากเซนเซย์สุดหล่อของพวกมึง ฮ่าๆ แม่งโหดนี่หว่า แต่ก็นะ ดูจากการพูดและการวางตัวแล้ว ไม่ธรรมดาแน่นอน

          " ฉันชื่อมิคามิ เคียวเฮ เป็นอาจารย์สอนประจำคลาสนี้ และขอเตือนไว้อย่าง ไม่ต้องมาสะเอาะพูดภาษาญี่ปุ่นใส่ ฉัน ชัดเจนนะ " เป็นเสียงที่เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งขั้วโลก ดูหน้าแล้วเหมือนไม่อยากสอนไม่อยากคุยด้วยอะไรแบบนั้น แถมพูดไทยชัดสุดๆ อีกด้วย แต่ไอ้ความดุดันของเซนเซย์ไม่ทำให้ไอ้พวกนักศึกษาที่อยากมีผัวจนตัวสั่นหน้าหงอยลงได้ พวกนั้นยังทำหน้าเคลิ้มฝัน นี่พวกมึงมาเรียนหรือมาอ่อยอาจารย์วะ

          " พี่ครับ " ธัชเรียกผมเบาๆ อยู่ข้างๆ 

          " ผมว่าผมกำลังมีความรักล่ะ " ไม่นะ ไม่เอาแบบนี้ ผมที่รู้สึกว่าความซวยอาจมาเยือนก็หน้าเจื่อนลงทันที

          เคียวเซนเซย์ยังคงพูดบรรยายเนื้อหาไปเรื่อยๆ ซึ่งน่าตกใจมากที่ไม่มีคนหลับในชั้นเรียนนี้เลย ทุกคนต่างกำลังตั้งใจมองไปข้างหน้า เหอะๆ นี่สนใจเนื้อหาหรือสนใจเซนเซย์กันแน่วะ

          " ถ้าไม่อยากเรียนก็ออกไป " ผมสะดุ้งและหันห้าไปมาแบบงงๆ  เมื่อกี้มันบอกใครวะ ห๊ะ ไม่จริงน่า ผมเหรอ

          ผมมองสายตาของเซนเซย์ที่มองมายังผมอย่างโกรธเกรี้ยว หนอย หรือว่าหมอนั่นอาจจะจำผมได้หรือเปล่านะ อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ เลยนะเซนเซย์ 

          " เอ่อ ขอโทษครับ พอดีพี่ชายผมรู้สึกไม่ค่อยสบายก็เลย... " ธัชที่เห็นแบบนั้นเลยรีบลุกขึ้นยกมือและโกหกว่าผมไม่สบายให้เซนเซย์ใจเย็นลง 

          " ไม่เป็นไรธัช " ผมดึงน้องให้นั่งลงตามเดิมและลุกขึ้นแทน

          " ขอโทษครับ " ผมก้มหัวลงอย่างนอบน้อม เหอะ จะยอมไปก่อนละกัน ไม่อยากมีปัญหาตั้งแต่แรกๆ


          เวลาเรียนจบลง แต่น้องชายตัวดีของผมมันไม่จบ มันลากผมลงจากชั้นบน ลากลงไปยังเวทีที่เซนเซย์กำลังยืนเก็บของอยู่

          " เอ่อ เซนเซย์ครับ เมื่อกี้ขอโทษแทนพี่ชายด้วยนะครับ พี่ก็แบบนี้แหละครับชอบเหม่ออยู่เรื่อย ฮ่ะๆ " เซนเซย์แทบจะไม่สนใจในสิ่งที่ธัชพูด แต่ก็ยืดตัวขึ้นและจ้องมองมาทางผม พลางทำสีหน้าไม่พอใจเช่นเคย 

          " พูดเองไม่เป็นหรือไง หรือเป็นใบ้ " ไอ้เซนเซย์นี่ หันมาจ้องหน้าผมด้วยสายตาเย็นชา เหอะ ไอ้คนแบบนี้ไม่น่าเสวนาด้วยเลย 

          " ธัชไปเถอะ " ผมดึงแขนน้องให้เดินต่อ แต่ธัชก็ยังคงส่งยิ้มแป้นให้เซนเซย์อย่างเป็นมิตร

          " ผมชื่อธัชชาครับ พี่ชายผมชื่อธิชา เรียกผมธัชเฉยๆ ก็ได้ครับ " ผมละเหลือเชื่อกับการพยายามคุยกับคนแบบนี้ของน้องชายจริงๆ เซนเซย์ไม่พูดอะไรแต่แค่เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ พอมองดูระยะใกล้แบบนี้ก็สุดยอดจริงๆ แฮะ หล่อแบบหล่อมาดเท่จริงๆ นั่นแหละ ผมกับน้องหน้าตาออกไปทางหล่อแบบน่ารักๆ มากกว่าคนละแนวกันเลย

          " ไปได้แล้ว คาบต่อไปไม่มีเรียนหรือไง " คนพูดด้วยดีๆ ทำเข้มใส่ ไอ้ขี้เก๊กเอ้ย

          เซนเซย์เก็บของและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่หันมามองเลยทีเดียว คนแบบนี้มาสอนคนได้ยังไงนะ 

          " พี่ธิชเห็นไหม โครตหล่ออ่ะ " นี่ธัชเอ็งไม่ได้ดูเลยเหรอ ว่ามันไม่น่าคบค้าสมาคมด้วยแค่ไหน เฮ้อ

          ผมกับน้องเดินต่อมาที่หน้าคณะ เพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนที่เรียน แต่เมื่อผมกับน้องเดินออกมานั้น ก็เห็นว่าพวกผู้หญิงหลายๆ คน กำลังยืนมองอะไรกันอยู่ ไม่ยอมเดินกันไปไหนสักที ผมที่เห็นแบบนั้น ก็เลยเกิดความสงสัย และพยายามแหวกฝูงชนเข้าไป

          ' เท่ห์มากก '

          ' โสดด้วยนะแก '

          ผมฟังเสียงซุบซิบ และเบะปากทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า ก็คิดว่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นซะอีก ก็แค่อีตาเคียวเซนเซย์นั่นกำลังสวมเสื้อหนัง และคร่อมดูคาติสีดำสุดเท่ห์ พร้อมสวมหมวกกันน็อคแบบปิดทั้งใบ เหอะๆ แล้วนี่แกเป็นอาจารย์จริงๆ งั้นเหรอ ผมมองคนคนนั้นแบบไม่อยากเชื่อสายตา หมั่นไส้สุดๆ ไปเลย คนคนนั้นเริ่มออกตัวและบิดซิ่งหายไปแบบรวดเร็ว พร้อมเสียงกรีดร้องต้อนรับเป็นแถบๆ ไป เหอะ ไอ้สุดยอดขี้เก๊กเอ้ย
         
          " ผมต้องจีบให้ได้เลย คอยดูสิ " ธัชเขย่าแขนผมแบบตาโต ตื่นเต้นซะเหลือเกิน 

          " แล้วแต่เถอะ แต่พี่ไม่เกี่ยวนะ อย่ามางอแงละกัน " ถ้าต้องสลับตัวและไปยืนยิ้มแป้นชื่นชมคนแบบนั้น ผมตายซะดีกว่า พี่ขอโทษนะธัช แต่เรื่องนี้พี่จะไม่ช่วย


แต่ใครจะรู้ละว่า วันคืนที่แสนโหดร้ายกำลังรอผมอยู่
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 3 ฝาแฝดที่ตกหลุมรัก ](23/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 23-09-2017 16:37:49
          TWINS บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย


          ผมนอนหลับตาในความมืดด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่แล่นอยู่ทั่วร่าง นี่ผมกำลังฝันร้ายอยู่งั้นเหรอ

          ผมรู้สึก...อึก อย่า มันเจ็บนะ!

          ผมลืมตาและลุกพรวดขึ้นทันที ภายในห้องยังคงมืดและเงียบสงัด แต่ก็มีบางสิ่ง ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างๆ ตัวผม

          " ธัช พี่บอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้ " ผมดุน้องที่แอบคลานขึ้นเตียงของผม 

          " ธัชนอนไม่หลับ รู้สึกอยาก... " ผมมองน้องชายด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่าย เด็กนี่น่ะ ชินกับการสัมผัสจากคนอื่น ซึ่งพอไม่มีใคร ธัชก็จะมาหาผมเหมือนทุกที

          และผมนั้นรู้ดีว่า แบบนี้มันผิด แต่ผมก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความต้องการนั้นได้ ผมช่วยน้องปลดปล่อยอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะล่วงเกินกันไปมากกว่านี้ ผมแค่ช่วยน้อง ผมพูดบอกตัวเอง พวกเราจะไม่ทำอะไรกันไปมากกว่านี้แน่นอน

          " ผมขอจูบพี่หน่อยได้ไหม " ผมไม่ได้พูดอะไร แต่ธัชก็ขยับเข้ามาและดึงคอผมเข้าไปประกบริมฝีปากอย่างเนิบนาบ พวกเราจูบกันในความมืด เรียวลิ้นกระหวัดขบเม้มดึงดูดกันไปมา แรงกดของธัชทำให้ผมนอนลงช้าๆ และยังคงแลกลิ้นดูดกลืนริมฝีปากกันไม่ห่าง

          " อ..อ่ะ..อื้ม..อืม " ขณะที่ริมฝีปากของเรายังไม่หลุดออกจากกัน ธัชล้วงมือเข้าไปในกางเกงของตัวเอง และเริ่มขยับมือเพื่อปลดเปลื้องอารมณ์ที่ครุกรุ่น ผมรักน้องชายมาก ผมไม่รู้สึกว่าที่พวกเรากำลังทำอยู่นั้นมันน่ารังเกียจ ผมแค่อยากช่วยน้อง แค่ช่วยน้องเท่านั้น 

          " จับของผมทีสิ แล้วผมจะทำให้พี่เหมือนกัน "

          " ไม่ พี่ไม่อยากทำ " ผมส่ายหน้าปฏิเสธในความมืด 

          " งั้นทำให้ผมนะ " ธัชกระซิบข้างหูของผม และจับมือผมให้สัมผัสกับส่วนแข็งขืนของตัวเอง ธัชเริ่มจูบผมอีกครั้งและจับมือผมให้ขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ ที่แก่นกายร้อนนั้น และเร่งจังหวะมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

          " อึก..อืมม .ฮ่ะ ดีจัง. " ธัชจับมือผมให้เร่งจังหวะขึ้นอีก ขบเม้นใบหูและลำคอของผมอย่างกระสัน ไม่นานธัชก็กระตุกเบาๆ และปล่อยหยาดน้ำสีขาวออกมา พลางหอบหายใจที่ซอกคอของผม 

          " ขอบคุณครับพี่ ผมรักพี่ " ธัชพูดพลางหอมแก้มผมและพยายามจูบซอกคอผมต่อ แต่ผมก็ผลักน้องออกเหมือนเช่นเคย ผมคงปล่อยให้ทำมากกว่านี้ไม่ได้ 

          " ขอโทษครับ แล้วคราบนั่น... "

          " ไม่เป็นไรพี่จะล้างเอง ไปนอนได้แล้ว " 

          " ครับ ฝันดีครับ " ธัชจุฟผมเบาๆ อีกครั้ง และวิ่งกลับห้องไป

          ผมถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกและนอนขดตัวใต้ผืนผ้าห่ม ถึงผมจะมั่นใจและทำได้ทุกอย่าง แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่มีความมั่นใจและรู้สึกอยากต่อต้าน ธัชเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง ผมไม่ได้รังเกียจน้อง แต่ผมรู้สึกกลัว เวลาที่เป็นแบบนี้ธัชดูเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมไม่อยากทำร้ายน้อง ผมรู้ว่าน้องทรมาน และผมต้องช่วยน้อง เพราะทุกอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ มันคงเป็นเพราะ ตัวผมเองนั่นแหละ


          ตอนนี้ผมกับน้องไม่ต้องเข้าซ้อมเชียร์อีกแล้ว พวกเราแยกตัวมาฝึกซ้อมหลีดมหา'ลัย และธัชซ้อมประกวดเดือน ซึ่งธัชจะบอกความเคลื่อนไหวทุกๆ อย่างทุกๆ การฝึกซ้อมแก่ผม เพราะสิ่งไหนที่ธัชบอกว่าทำไม่ได้ ผมก็จะสลับตัว และทำหน้าที่นั้นแทน

          เสียงเอะอะซุบซิบดังขึ้นอีกแล้ว และแทบไม่ต้องเดาว่าใครมา เหอะ เก๊กเข้าไปเถอะ ผมกำลังมองเซนเซย์หนุ่มที่เดินผ่านมาข้างคณะกับนักศึกษาสาวสวยคนหนึ่ง แฟนหรือเปล่าไม่รู้ แต่ดูหน้าตาของเคียวเซนเซย์นี่ดูอ่อนลง ไม่ได้ขมวดคิ้วมุ่นเหมือนที่เห็นเป็นประจำ 

          " แฟนหรือเปล่าน้า " ธัชชะเง้อคอมองด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

          " ไม่ใช่หรอกจ้า " รุ่นพี่ที่ได้ยินธัชพูดเลยนั่งลงข้างๆ และมาเม้าท์ให้ฟังนั่นแหละ

          " เคียวเซนเซย์เป็นลูกอธิการบดีที่นี่ จบจากมหา'ลัยโตเกียวเลยนะ ญี่ปุ่นแท้ 100% เลย แต่โตที่ไทย เลยพูดชัดแบบนั้นแหละ และโสดสนิทจ้า ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ เพราะทุกคนเขาก็สืบกันหมดแหละ ใครๆ ก็จ้องจะสอยแก แต่แกไม่เล่นด้วยกับใครสักคน โดนด่าหน้าแหกออกมาหมด ฮ่าๆ " ยังไม่ทันถามแต่พี่แกเล่นแฉซะหมดเปลือก เหอะๆ

          " เซนเซย์เค้าอายุเท่าไหร่เหรอครับ " ธัชถามรุ่นพี่ ซึ่งผมก็สงสัยเหมือนกัน หน้าตาไม่น่าจะเกิน 25 แน่ๆ

          " อายุ 27 แล้ว หน้าเด็กใช่ไหมล่ะ นึกว่ารุ่นพี่กันทั้งนั้นแหละ มีแต่พวกปีหนึ่งที่ไม่รู้ เพราะเซนเซย์แกดังจะตายที่นี่ ใครๆ ก็รู้จักทั้งนั้น " พอได้ยินอย่างนั้นไอ้น้องชายตัวดีของผม มันก็เอาอีกแล้ว เฮ้อ

          " หวัดดีครับ เซนเซย์ " อยู่ดีๆ ธัชก็พุ่งหลาวออกไปดักทางเซนเซย์ซะงั้น ทำเอาสาวสวยข้างๆ เซนเซย์​ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ

          " จำผมได้หรือเปล่า ผมธัชครับ " ธัชยังคงยิ้มสดใส ไม่สนใจผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ นั่นเลย พอได้ยินแบบนั้นอีตาเคียวกลับหันหน้ามาทางผมแบบอัตโนมัติ พร้อมๆ กับทำคิ้วขมวดเหมือนที่ชอบทำมาตลอด นี่นายมีปัญหากับผมหรือไงนะ

          " ฝาแฝดเหรอ ไม่เห็นจะเหมือน " เหอะ นายมันจะรู้อะไร ผมที่ได้ยินแบบนั้นเลยลุกขึ้นมาช้าๆ และเดินเข้าไปหาไอ้บ้านั่นอย่างท้าทาย

          " ลองดูกันไหมล่ะครับ ถ้าเซนเซย์ทายพวกเราผิด เซนเซย์ต้องทำทุกอย่างตามที่เราขอ กล้าไหมล่ะ " ผมพูดออกไปอย่างท้าทาย ท่ามกลางผู้คนที่เริ่มมุงพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ

          " น่าสนุก " หมอนั่นแค่ทำสีหน้ายิ้มเยาะเหมือนกับสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องไร้สาระ

          " 3 ครั้ง ถ้าผิดแม้แต่ครั้งเดียว ก็ถือว่าแพ้ " ผมยังคงพูดต่อไปด้วยแววตาที่บอกว่านายได้แพ้แน่นอน 

          " แล้วถ้าเธอแพ้ล่ะ " เซนเซย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

          " ผมกับน้องจะทำตามที่เซนเซย์สั่ง ทุกอย่าง " ผมเน้นคำว่า ทุกอย่าง ให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเราจะไม่แพ้แน่นอน

          " จะทายตอนไหนก็ได้ ให้ครบ 3 ครั้ง ก่อนการประกวดดาวเดือนจะสิ้นสุดลง " 

          " หึ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ละกัน " พอพูดจบเซนเซย์ก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

          " ได้เสมอที่ต้องการเลย " ผมกับน้องพูดพร้อมกันพลางอมยิ้ม พวกเราเคยเล่นแบบนี้กันมาแล้ว และไม่เคยแพ้ และครั้งนี้ก็จะไม่มีทางแพ้ แน่นอน

          แต่ชั่วพริบตาหนึ่งเหมือนกับว่าผมได้เห็นรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่น่าหวาดหวั่น จากเซนเซย์จอมโหดนั่น


ก่อนที่หมอนั่นจะเดินหันหลังไปโดยไม่หันกลับมามอง
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย ](23/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-09-2017 18:00:01
เอาละสิ มีคนแยกฝาแฝดออกจากกันได้  :hao3:
ถ้าแยกไม่ได้คงไม่พูดออกมานะว่า ไม่เห็นจะเหมือนกัน

ดูท่า ธัชชา ชอบเซนเซย์
แต่เซนเซย์ จะชอบใคร คงไม่ใช่ธิชานะ  :z3: :z3: :z3:
เพราะปกติ มีแต่คนกรี๊ดชอบตามเซนเซย์ตลอด
ธิชา เฉยเมย ไม่สนใจ แยแสเซนเซย์เลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย ](23/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-09-2017 22:09:08
พึ่งได้อ่านฝาแฝดที่หน้าเหมือน แต่นิสัยไม่เหมือนก็เรื่องนี้แหละ ชอบ ๆ  :o9:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย ](23/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 23-09-2017 22:43:06
ระวังแพ้นะแฝด เซนเซย์ไม่น่าไว้ใจ ดูรอยยิ้มนั้นสิ 555555
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย ](23/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: mearai ที่ 24-09-2017 02:30:18
ใช้คำว่า ฉันจะดีกว่าชั้นนะคะ  อ่านละแปลกๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 4 ฝาแฝดและการปลดปล่อย ](23/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 24-09-2017 19:01:11
          TWINS บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด


          ช่วงเวลาแห่งกิจกรรมของมหา'ลัยยังคงดำเนินต่อไป ผมซึ่งได้ท้าทายกับเคียวเซนเซย์นั่นไว้ ก็ต้องคอยระแวดระวังตัวมากขึ้น ผมกับธัชคุยกันไว้แล้ว ว่าต่อไปนี้พวกเราจะวางตัวกันแบบไหนเพื่อรับมือกับเซนเซย์ ซึ่งตอนนี้พวกเราตกลงกันว่า ธัชนั้นจะทำตัวปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส และผมนั้นก็จะทำแบบเดียวกันกับน้องนั่นเอง

          ผมทำได้ และคิดว่าทำได้ดี ตอนนี้ไม่มีใครแยกออกว่าพวกเราคือคนไหน ทุกคนต่างคิดว่ามีธัชที่สดใสสองคน ทำเอาทุกคนเรียกพวกผมด้วยทั้งสองชื่อติดกันไปเลยเพื่อความสบายใจ

          " ธิชธัช ยืดแขนขึ้นสูงอีกนิด นั่นล่ะ น่ารักมากก "

          " ธิชเอ่อ ธัชหรือเปล่าน้า ขาก้าวออกมาอีกนิดจ้ะ " รุ่นพี่ชี้จุดให้ธัชด้วยความมึนงงในตัวตนของเราสองคน ผมหันไปยิ้มให้น้องด้วยความพึงพอใจ และน้องก็ยิ้มให้ผมแบบขบขันกลับมาเช่นกัน

          " ธิชา "

          ผมหัวใจสั่นไหว หันมองตามเสียงที่เรียกชื่อผมด้วยเสียงที่ดังก้องเต็มไปด้วยความมั่นใจ สายตาของคนที่เรียกชื่อผมนั้น มองมาทางผมแบบที่ไม่มีความลังเลในแววตาเลยแม้แต่น้อย

          สายตานับสิบมองมาทางผมด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจและตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกนับจากการท้าทายในวันนั้น เป็นครั้งแรกที่เซนเซย์เริ่มต้นทาย และเป็นครั้งแรกซึ่งทายได้ถูกต้องและแม่นยำ

          " ถูกใช่ไหมล่ะ " เซนเซย์พูดเสียงเย็นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมสบตาเซนเซย์พลางขมวดคิ้วมุ่น แต่ผมก็เปลี่ยนสีหน้ากลับเป็นยิ้มแย้มอย่างรวดเร็วพลางปรบมือให้

          " เก่งมากเลยนะครับ แต่ก็นะ โอกาสก็ตั้งห้าสิบห้าสิบ การจะทายถูกก็ไม่แปลกอะไร "

          " งั้นเหรอ ก็คอยดูไปละกัน " พอพูดเสร็จเคียวเซนเซย์ก็เดินจากไปด้วยความรวดเร็วตามเคย

          นี่มันอะไรกันนะ เป็นไปได้งั้นเหรอที่จะแยกออกแบบนั้น ความมั่นใจนั่นมาจากอะไรกัน แต่ผมไม่ยอมหรอก ต้องทำอะไรสักอย่าง

          " พี่ธิช " ธัชเดินเข้ามาเกาะไหล่ผมข้างๆ

          " ไม่เป็นไร ก็แค่ดวงดีเท่านั้นแหละ " ผมจับมือน้องที่วางอยู่บนบ่าของผมและบีบเบาๆ

          " แบบนี้ผมอดสั่งเซนเซย์แน่เลยง่ะ " ธัชกอดผมจากข้างหลังแล้ววางคางไว้บนไหล่ผมอย่างงอแง

          " พวกเราต้องชนะแน่นอน พี่สัญญา " ผมลูบแก้มน้องเบาๆ และเอาหัวพิงกันอย่างรักใคร่ โดยไม่รู้เลยว่าสายตาของคนรอบข้างนั้นกรี๊ดกร๊าด ฟินจนคลั่งกันแค่ไหน


          เวลาใกล้เข้ามาแล้ว แต่ว่าครั้งที่สองก็ยังไม่เริ่มสักที ตอนนี้ผมกับน้องจึงเปลี่ยนเป็นทำสีหน้าเรียบเฉย และไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทุกคนก็สับสนงงงวยอยู่เช่นเดิม และพวกเราก็ดูน่ากลัวขึ้นด้วยเมื่อไม่ยิ้มแย้ม

          เวลาที่ผ่านมาหลายวัน ทำให้ผมรู้สึกว่าธัชนั้นมีเพื่อนมากมายเหลือเกิน แต่ละคนก็ทักผิดทักถูก และช่วงนี้ธัชหายไปบ่อยๆ ไม่รู้ว่าหายไปไหน แต่ก็ช่างเถอะ เพราะว่าธัชน่ะมีเพื่อนเยอะ ก็เป็นเรื่องปกติ และผมก็ชอบที่ได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง

          ผมเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย แดดที่นี่ค่อนข้างแรงทำเอาผมตัวแดงไปหมด ผมกับน้องนั้นมีผิวที่ขาวมากๆ พอโดนแดดก็จะกลายเป็นสีแดงระเรื่อแบบนี้เป็นเรื่องปกติ

          " คิดถึงจังเลย วันนี้ไม่มาหาพี่เหรอ " ผมตัวแข็งทื่อ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามากอดผมเอาไว้จากด้านหลัง และพยายามหอมแก้มผมด้วยความหื่นกระหาย ผมรีบผลักมันออกอย่างรวดเร็ว ไอ้บ้าเอ้ย อะไรของมันวะ

          " อ้าว ขอโทษที พี่นึกว่าธัช พี่ขอโทษจริงๆ นะ ก็พวกเราน่ะ เหมือนกันจนพี่แยกไม่ออกเลยจริงๆ " ไอ้บ้านี่ยกมือขึ้นพนมพร้อมส่งยิ้มละมุนมาให้ไม่ขาด คำพูดกับหน้าตามึงนี่สวนทางกันชัดๆ

          " ประธานครับ ได้เวลาแล้วนะ "

          " อืม เดี๋ยวรีบตามไป "

          ผมมองผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ดีๆ ก็โผล่หน้าเข้ามา และมาเรียกไอ้แว่นนี่ สงสัยจะเป็นเพื่อนกันมั้ง เกลียดขี้หน้าชะมัด ประธานงั้นเหรอ ประธานอะไรกันนะ

          " น้องธิช ยกโทษให้พี่ด้วยนะ " ไอ้บ้านี่ยังคงส่งยิ้มและเดินเข้ามาหาผมเรื่อยๆ

          " เออ ไปซะ " ผมยังคงทำหน้าฉุนอยู่ นึกแล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้บ้าง เพราะน้องชายตัวดีของผมคงไปอ่อยเหยื่อมาแน่นอน แต่นายคนนี้ก็จัดว่าหน้าตาดีมากทีเดียว แต่แววตาดูมีเลศนัย ใส่แว่น รอยยิ้มดูจอมปลอม แถมยังตัวสูงอีก น่าจะพอๆ กับเซนเซย์นั่น

          ผมกับน้องก็จัดว่าเป็นผู้ชายตัวสูงนะครับ 180 ทั้งคู่ รูปร่างก็ไม่ได้ผอมเพรียว มีกล้ามเนื้อสมส่วน แต่แค่ไม่ได้มีซิกแพคชัดเจน แต่ไอ้เซนเซย์กับไอ้แว่นนั่น น่าจะเกือบ 190 ได้มั้ง กินยีราฟเป็นของว่างหรือไงนะ

          ผมเดินกลับไปที่คณะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ต้องถามธัชสักหน่อยแล้วว่าตกลงจะเอาคนไหนแน่ ปวดหัวนะเนี่ย ผมเจอธัชที่นั่งอยู่หน้าคณะกับพวกรุ่นพี่ปีสองที่กำลังแจกน้ำให้น้องๆ อยู่

          " ธัช นายมีแฟนแล้วเหรอ " ผมมองน้องพลางขมวดคิ้วมุ่น

          " เปล่านะพี่ พูดเรื่องอะไรน่ะ " ผมปฏิเสธผมด้วยใบหน้างงๆ

          " ก็มีไอ้แว่นคนนึงมากอดพี่อ่ะ " ผมพูดอย่างหัวเสีย

          " ว่าไงนะ " ธัชชักสีหน้าอย่างน่ากลัว

          " ใส่แว่น สูงๆ ขาวๆ ประธานอะไรสักอย่าง " ผมอธิบายให้นึกออกง่ายๆ

          " อ๋ออ พี่โชน พี่เขาเป็นประธานสภานิสิตน่ะ " ห๊ะ ประธานสภาเลยเหรอ เหอะๆ

          " พี่เขากอดพี่เหรอ แล้วไงอีก " ธัชขมวดคิ้วมุ่นแบบไม่พอใจ

          " แค่นั้นแหละ มันบอกว่า นึกว่าพี่เป็นธัช " ผมพูดพลางดึงแก้มน้องไปด้วย

          " ผมไม่ได้เป็นแฟนพี่เขานะ พี่โชนมาจีบธัชเอง "

          " แล้วธัชไม่ชอบเหรอ ก็หล่อดีนี่ แต่น่ากลัวแปลกๆ "

          " ไม่รู้สิครับ พี่โชนก็หล่อ เคียวเซนเซย์ก็หล่อ แต่พี่ธิชหล่อที่สุด " ธัชดึงแก้มผมบ้างพลางยิ้มกว้าง

          " หลายใจนะเราน่ะ " ผมขยี้หัวน้องไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว

          " เจอแล้วอยู่นี่กันนี่เอง " ผมสะดุ้งทันที เพราะอยู่ดีๆ ไอ้บ้าแว่นที่กำลังพูดถึงนั่น ก็นั่งลงจ้องมองพวกเราและยิ้มกว้างจนตาหยี

          " น่ารักจัง เล่นกันอีกสิ " ผมหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็วพลางจ้องมองหมอนี่อย่างไม่ไว้ใจ

          ' พี่หมอโชนนี่นา '

          ' หล่อเนอะ '

          ' ประธานมาทำอะไรที่นี่เนอะแก '

          เสียงซุบซิบนินทาไม่ขาดสาย หมอนี่ก็ดังน่าดูเลยแฮะ ผมยังคงเลิกคิ้วน้อยๆ ทำหน้าแบบไม่ไว้ใจสุดๆ

          " ฮ่ะๆ เพิ่งเคยเจอฝาแฝดเหมือนกันขนาดนี้เป็นครั้งแรก ปกติถ้าชินแล้วก็จะแยกออกเอง แต่นี่คือแบบว่าเหมือนกันเกินไปไหม แปลกดี พี่ชอบจัง "

          " พี่โชนวันนี้ว่างเหรอครับ เห็นปกติยุ่งจะตายไป " ธัชคุยกับไอ้หมอนี่พลางยิ้มแป้น

          " คิดถึงเด็กน้อยบางคนเลยแวะมา " ไอ้บ้านี่พูดจาชวนอ้วกแท้ๆ

          " แหม ปากหวานอีกละ "

          " เมื่อวานช่วยได้มากเลย ขอบคุณนะธัช " ผมมองสองคนนี้ด้วยความสงสัย

          " อ่อ พอดีเมื่อวานผมไปช่วยพี่โชนที่คณะแพทย์มาครับ ที่หายไปนั่นแหละ " ธัชเกาหัวพลางยิ้มให้ผม เรียนแพทย์งั้นเหรอ ก็ดูเหมาะดีแหละมั้ง

          " คงช่วยกันถึงพริกถึงขิงน่าดูเลยสินะ " ผมพูดออกไปพลางมองหน้าไอ้หมอแว่นอย่างกวนๆ

          " เห็นพี่โชนเค้ายกกองเอกสารท่วมหัวเลยนะ ธัชเลยช่วยเฉยๆ อ่ะ " ธัชพูดพลางเขย่าแขนผมไปมา

          " น้องชายเป็นเด็กดีจังเลยนะ พี่ชายคงภูมิใจแย่ " ผมทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจไอ้หมอนี่ที่ชวนคุยอยู่

          " แล้วเซนเซย์ล่ะ ตกลงว่าไง " ผมกระซิบข้างหูธัช

          " เหมาสองสิครับ " ธัชกระซิบกลับมาพลางหัวเราะ ผมเลยดีดจมูกน้องชายจอมโปรยเสน่ห์หนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ ซึ่งไอ้หมอบ้านี่ก็ยังคงนั่งเท้าคาง จ้องมองพวกเราไม่วางตา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          " เย็นนี้พี่ขอเลี้ยงข้าวได้ไหม ทั้งสองคนเลย "

          " ไปครับ "

          " หากินเองได้ "

          ผมกับน้องพูดพร้อมกันแต่เนื้อหาต่างกันซะงั้น เดี๋ยวเถอะนะ ไอ้แสบนี่

          " เอาเป็นว่าตกลงนะ " ไอ้หมอแว่นนี่ยิ้มจนตาหยีอีกครั้งพร้อมพูดเองเออเอง เอาเถอะ ดูๆ แล้วก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกมั้ง ผมคิดและตอบตกลงไป


โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วหมอนี่ เป็นคนยังไงกันแน่​
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด ](24/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 24-09-2017 19:26:20
พี่โชนจะต้องมีอะไรแน่ๆเลย...ป่ะ?!
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด ](24/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-09-2017 22:34:38
งงงวยกับพฤติกรรมของแฝดน้องจังเลย  :o10: :o10:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด ](24/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-09-2017 23:29:29
เซนเซย์ ทายแฝดถูกครั้งนึงและ

หมอโชน กะควบสองป่ะเนี่ย  o18 o18 o18

ธัช ทำตัวอ่อยนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด ](24/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 25-09-2017 08:24:51
ชอบธิชา >.<
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 5 ฝาแฝดที่ถูกกอด ](24/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-09-2017 10:23:01
          TWINS บทที่ 6 ฝาแฝดและพี่หมอจอมหื่น


          ตอนนี้ผมกับน้องชายกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังมหา'ลัย เพราะคำชวนของไอ้หมอแว่น ที่ไม่ทำห่าอะไรเลยนอกจากนั่งจ้องหน้าพวกเราสองคน พลางส่งยิ้มชวนอ้วกอยู่นั่นแหละ 

          " เอ่อ พี่โชนสั่งกับข้าวสิครับ " ธัชทักขึ้นอย่างเป็นมิตร เพราะดูท่าไอ้หมอนี่มันคงจะไม่ทำอะไรนอกจากจ้องพวกผมจริงๆ

          " อ้าว ฮ่าๆ ขอโทษที เพลินไปหน่อย " ไอ้หมอโรคจิตนี่เรียกบริกรและสั่งกับข้าวอย่างกับเลี้ยงช้างทั้งโขลง

          " ขอเบียร์ด้วย 3 ขวด "

          " เอ่อ ผมไม่ดื่มครับ " ผมรีบเบรกไอ้บ้านี่ก่อนมันจะพยายามมอมผมกับน้อง

          " พี่ธิช นิดเดียวเองน่า ไม่เมาหรอก นี่เบียร์นะไม่ใช่เหล้าสักหน่อย " ธัชพูดพลางเกาะแขนผม

          " ไม่ได้ ธัชน่ะตัวดี คออ่อนอย่างกับอะไร พี่บอกห้ามคือห้าม " ผมดุน้องเสียงแข็ง ไอ้ตัวดีถึงกับแก้มป่องไปเลย งอนจริงจังไปแล้ว

          " ถ้าอยากดื่มก็ดื่มไป แต่พี่จะล็อคห้อง " แต่ยังไงผมก็ใจอ่อนอยู่ดี เลยมีข้อแม้นิดหน่อย

          " ถ้าผมไม่ดื่ม ผมนอนด้วยได้ไหม " ธัชถามด้วยสีหน้ามีความหวัง

          " อืม " 

          " เย้ งั้นผมเอาน้ำเปล่าครับพี่โชน " ธัชยิ้มแป้นพลางเอาหัวไถแขนผมไปมาแบบลูกหมาน้อย

          จริงๆ สมัยก่อนเรานอนด้วยกันครับ แต่ผมว่าตอนนี้เราตัวโตกันมากแล้วเลยแยกห้องกัน น้องจะได้นอนสะดวก แต่ธัชก็ยังชอบแอบมานอนกับผม และก็เรื่องอารมณ์อย่างว่าของธัชด้วยนิดหน่อย เพราะหลังๆ เริ่มจะมากขึ้นทุกที แต่ถ้าธัชมีแฟนก็คงจะห่างๆ ผมไปเอง ผมคิดแบบนั้น

          " อะไรกันเนี่ย มีให้นอนไม่ให้นอนด้วยกันด้วย " ไอ้หมอแว่นทำหน้าตาสนใจแบบเต็มแก่เลยทีเดียว

          " ทำไมเหรอครับ พี่โชนอยากนอนกับพวกเราเหรอ " ธัชพูดพลางยิ้มขำ

          " อยากสิ " ไอ้แว่นนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนผมกับน้องหันไปมองหน้าไอ้บ้านี้แบบตื่นตะลึง

          " ฮ่าๆๆ ล้อเล้นน่า ไม่ใช่เรื่องทำนองนั้น พี่ก็แค่สนใจอยากรู้ว่าหนุ่มน้อยฝาแฝดสองคนอยู่ด้วยกันทำอะไรกันบ้างน้า พี่ชอบอะไรแบบนี้น่ะ อยากเห็นตลอดเวลาเลย " 

          " ยังหื่นกามเหมือนเดิมเลยนะ " เสียงแบบนี้ทำเอาผมนั่งตัวเกร็งแบบอัตโนมัติ ตัวแข็งทื่ออย่างตื่นตกใจ และที่น่าตกใจไปอีกก็คือ ตอนนี้พี่โชนกำลังทำหน้าตาน่ากลัวสุดๆ

          " พี่ว่าพวกเราย้ายร้านดีกว่านะ " พี่โชนทำทีจะลุกขึ้น

          " เอ่อคือ ใจเย็นๆ ก่อนครับ " ธัชจับแขนพี่โชนไว้และดึงให้นั่งลงตามเดิม 

          " ไม่ต้องห่วงวันนี้ฉันไม่ทายหรอก เพราะมันง่ายเกินไป แล้วก็ ระวังตัวให้ดีล่ะ " ผมกำหมัดแน่นอยู่ใต้โต๊ะ ผมไม่ชอบไอ้บ้านี่เอาซะเลย ทำเป็นรู้ดีไปหมด น่าหมั่นไส้ชะมัด และข้างๆ เซนเซย์นี่ก็มีผู้หญิงอยู่ข้างๆ อีกแล้ว ไม่ซ้ำคนเลยแฮะ แต่ทุกคนก็บอกว่าไม่ใช่แฟนอยู่ดี

          เซนเซย์เดินไปแล้ว พร้อมกับสาวสวยนั่น โลกมันกลมซะเหลือเกิน นึกว่าจะทายซะอีก ถ้าจะทายตอนนี้จริงๆ ก็ง่ายๆ มั้งเพราะผมที่ทำหน้าบูดกับธัชที่กำลังยิ้มแป้น ถ้าเป็นหมอนั่นต้องรู้แน่

          " พี่โชนไม่ชอบเซนเซย์เหรอครับ " ธัชถามหมอแว่นที่ตอนนี้กลับมายิ้มน้อยๆ อีกแล้ว

          " หมอนั่นน่าโมโหจะตาย ทำพี่เกือบโดนไล่ออกหลายรอบแล้ว " พี่โชนพูดจริงจังหน้านิ่วคิ้วขมวด

          " แปลว่าพี่ทำเรื่องไม่ดีหลายรอบเหรอครับ " ผมถามออกไปแบบกวนบาทาสุดๆ

          " ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรขนาดนั้นหรอก แต่สำหรับหมอนั่น นิดนึงก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว " 

          " แล้วพี่อยู่ปีอะไรล่ะ " ผมถามด้วยความสงสัย

          " ปี 4 แค่เรียนก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ต้องทำหน้าที่ประธานอีก พี่คิดว่าคงจะปีสุดท้ายแล้ว ได้เวลาสละตำแหน่งสักที " พี่หมอโชนพูดพลางทำท่าปวดหัว

          " แล้วธิชกับธัชยังไม่มีแฟนใช่ไหม พี่จีบจะได้ไหมน้า ฮ่ะๆ " ไอ้หมอนี่พูดต่อไป แถมพูดเรื่องจีบผู้ชายได้หน้าตาเฉยเลยแฮะ

          " จีบธัชอ่ะไม่เป็นไรหรอกครับ แต่พี่ธิชเขาไม่ชอบผู้ชายฮะ พี่ชายผมโหดมากเลยนะ อย่าเสี่ยงดีกว่า " ธัชพูดพลางยิ้มกวน

          " ก็ถึงว่าในห้องน้ำนั่น พี่เกือบโดนต่อยซะแล้ว " หมอแว่นพูดพลางหัวเราะขำ เหอะ ไม่ขำนะเฟ้ย

          " แล้วธิชชอบคนแบบไหนล่ะ ผู้หญิงเหรอ " เจ๋อไม่เข้าเรื่องจริงๆ

          " ผมรักแค่น้องชายเท่านั้นล่ะ " ผมพูดเรื่องจริงเลยล่ะ แต่ธัชก้มหน้าก้มตาเงียบไปเลยแฮะ ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ

          " อิจฉาจังเลยน้า จะมีใครทำให้ทั้งสองคนแตกกันได้หรือเปล่านะ " ไอ้หมอแว่นพูดพลางทำสีหน้าแปลกๆ

          " ไม่มีวัน " พวกเราพูดพร้อมกัน และยิ้มให้กันเหมือนเช่นเคย

          หลังจากนั้น ไอ้รุ่นพี่จอมหื่นนั่นอาสามาส่งพวกเราและทำท่าจะขอค้างด้วย แต่อย่าหวังเลย อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วไอ้บ้าเอ้ย ผมปฏิเสธเสียงแข็ง ไล่ไอ้แว่นหื่นกลับบ้าน และพาน้องขึ้นมาบนคอนโดของเรา

          ผมอาบน้ำแต่งตัว นอนมองเพดานห้องพลางคิดถึงสิ่งที่ควรทำต่อไป การแสดงอารมณ์แบบหลอกๆ ดูเหมือนจะไม่ได้ผลหรือเปล่านะ เซนเซย์ถึงมองพวกเราออก หรือพวกเรามีจุดสังเกตอื่นอีกที่ผมไม่รู้ คนแบบนี้ไม่เคยเจอเลยจริงๆ นายเป็นใครกันแน่นะ

          ' ก็อกๆ ' 

          เสียงเคาะประตูที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

          " เข้ามาสิ " ผมเรียกน้องให้เข้ามา ธัชใส่ชุดนอนลายทางสีฟ้าอ่อน กอดหมอนข้างเข้ามาด้วยสีหน้าอมยิ้ม เด็กคนนี้นี่ไม่ยอมโตจริงๆ แฮะ ผมตบเตียงแปะๆ ให้น้องขึ้นมา ธัชก็คลานขึ้นมาแต่โดยดี

          " บอกมาเลยนะ ว่ากับพี่โชนนั่นไปถึงไหนกันแล้ว " ผมนอนคว่ำหน้าจ้องมองหน้าน้องที่นอนทำตาปริบๆ แบบใสซื่อ

          " แค่หอมแก้มฮะ " ธัชทำตาเลิ่กลั่กแบบคนหนีความผิด

          " แน่ใจเหรอ " ผมหรี่ตามองแบบจับผิด

          " กอดอีกนิดนึง " ธัชทำนิ้วนิดนึงจริงจังจนทำผมยิ้มขำ

          " ถ้ายังไม่ได้เป็นแฟนก็อย่าไปยอมนะ ไอ้หมอนั่นพี่ว่าร้าย "

          " พี่หมอไม่ได้ชอบผมจริงๆ สักหน่อย " ธัชบ่นพลางก้มหน้ากับหมอน หืม ผมขมวดคิ้วสงสัย แบบนี้นี่แปลว่าไงนะ

          ผมปิดไฟและนอนลง สักพักธัชก็เลื้อยมากอดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

          " อยากนอนกอดพี่ธิชทุกวันเลยน้า " ธัชทำเสียงออดอ้อน

          " อายุก็ 18 แล้วนะ ไม่ใช่ 8 ขวบ ไปนอนกอดแฟนไป๊ " ผมพยายามดันหน้าน้องแบบแกล้งๆ แต่ธัชกลับยิ่งกอดผมแน่นขึ้นไปอีก

          " กลิ่นเหมือนนมเลย ผมชอบจัง " ธัชหอมแก้มผมเบาๆ ในความมืด

          " ทำเป็นพูดไป ก็กลิ่นเหมือนกันนั่นแหละ " ผมหอมแก้มน้องกลับบ้าง แม้แต่กลิ่นพวกเราก็ยังเหมือนกัน ซึ่งมันแปลกมาก และผมก็ชอบมันจัง

          กลางดึกนั้น ผมที่เผลอตื่นขึ้นมาก็ต้องขมวดคิ้วสงสัย เพราะอยู่ดีๆ ธัชหันไปนอนกอดหมอนข้างแทนผมซะงั้น เชอะ อะไรของเขานะเด็กคนนี้ ปกติจะนอนกอดผมไม่ปล่อยแท้ๆ ผมขยับตัวเข้าไปนอนกอดน้องจากข้างหลัง ธัชสะดุ้งตัวน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ไม่สบายหรือเปล่านะ


ผมหอมแก้มน้องอีกครั้งและลูบเบาๆ จนเผลอหลับไปอีกรอบด้วยความง่วง
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 6 ฝาแฝดและพี่หมอจอมหื่น ](25/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 25-09-2017 10:44:01
คนเขียนอัพเร็วมาก สุดยอดดดด
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 6 ฝาแฝดและพี่หมอจอมหื่น ](25/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-09-2017 11:09:28
ไม่รู้เป็นไร คนแก่ติดใจในพฤติกรรมของแฝดน้องอีกแล้ว 2 ตอนติดเลยอ่ะ :try2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 6 ฝาแฝดและพี่หมอจอมหื่น ](25/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-09-2017 11:22:36
ไม่รู้เป็นไร คนแก่ติดใจในพฤติกรรมของแฝดน้องอีกแล้ว 2 ตอนติดเลยอ่ะ :try2:

หึหึหึหึ หัวเราะแบบชั่วร้าย มันมีอะไรซ่อนอยู่กันน้า
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 6 ฝาแฝดและพี่หมอจอมหื่น ](25/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 26-09-2017 10:59:19
          TWINS บทที่ 7 ฝาแฝดและอุบัติเหตุ


          วันงานใกล้เข้ามาแล้ว ผมและน้องซึ่งฝึกซ้อมกันมาอย่างหนัก ก็ทำได้เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ธีมการแสดงของพวกเราจะเป็นแนวคาร์นิวัล สวมหน้ากากคาดตา ชุดประดับตกแต่งด้วยกากเพชรและขนนกมากมาย แต่ที่ผมเกลียดที่สุดคือชุดพวกเรา ทำไมมันช่าง เอ่อ เปิดนั่นเปิดนี่ แทบจะโชว์หัวนมเลยทีเดียว ถ้าใส่เสื้อแบบนี้ถอดออกแล้วเปลือยท่อนบนเลยดีกว่าไหม

          " เริ่ดมากกก ธิชธัชใส่แล้วสาวกรี๊ดแน่นอน " รุ่นพี่ที่ขนตาเหมือนกันสาดคนนึงได้กล่าวไว้ แต่ผมว่าจะไม่ใช่สาวๆ นะที่กรี๊ดน่ะ เฮ้อ ใครออกแบบชุดฟะ อยากเผาบ้านมัน

          " ชุดนี้รุ่นพี่ออกแบบสนองตัณหาตัวเองหรือเปล่าเนี่ย " ไอ้หมอแว่นเดินมาพอดี ผมว่าวันนี้มันพูดเข้าท่ามาก ผมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง

          " แหม พูดอะไรอย่างนั้นคะประธาน สองหนุ่มนี่ดาวเด่นของคณะเลยนะคะ จะธรรมดาได้ไง ต้องจัดเต็มค่าา " รุ่นพี่ยังคงพูดจีบปากจีบคอสู้สุดฤทธิ์

          นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่เจอเซนเซย์เลยแฮะ ผมกับน้องตกลงกันว่าจะระวังตัวและจะคอยทำตัวนิ่งๆ กันเสมอ ไม่ออกอาการแบบเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป เผื่อหมอนั่นมาจ๊ะเอ๋อีก จะได้ตั้งหลักทัน

          งานแข่งเชียร์จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ และการประกวดดาวเดือนจะเริ่มในอีก 3 วันหลังจากนั้น ผมและธัชสลับกันไปซ้อมประกวดดาวเดือนด้วย และแน่นอนว่าในวันประกวด ก็จะเป็นผมที่แสดงความสามารถพิเศษแทนน้อง แต่ผมนั้นก็ยังคิดไม่ออกว่า ผมจะแสดงอะไร แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมทำได้อยู่แล้ว ผมมั่นใจ

          ในวันนี้ผมกับพวกรุ่นพี่และหลีดคนอื่นๆ มาซ้อมกันในสถานที่จริงตรงหน้าสแตนด์เชียร์ ซึ่งคณะผมได้จัดซะยิ่งใหญ่เหลือเกิน มีการตั้งเสาประดับตกแต่งเป็นธีมคาร์นิวัลอย่างสวยงามอลังการ เริ่มตื่นเต้นซะแล้วสิ ปกติผมไม่ชอบอะไรแบบนี้ แต่นานๆ ทีได้ทำก็ดีเหมือนกัน

          " เหนื่อยหรือเปล่า " ผมจับไหล่น้องที่ยืนอยู่ข้างเสาที่ตกแต่งพลางซับเหงื่อให้

          " นิดหน่อยครับ ผมไม่ค่อยมั่นใจเลย อาจผิดพลาดก็ได้ " ธัชทำหน้าบูดแบบประหม่าอีกแล้ว 

          " เราสองคนทำได้อยู่แล้ว เชื่อพี่สิ " ผมพูดให้กำลังใจน้อง และธัชก็ยิ้มแป้นทันที

          " ธิชธัชระวัง!! " เสียงตะโกนดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวผม ผมตกใจเงยหน้าขึ้นมองเสาต้นใหญ่ที่ใช้ประดับสถานที่ มันกำลังจะล้มภายในไม่กี่วินาที ธัชดึงตัวผมเข้ามาหาและกอดเอาไว้แน่น แต่ก็ถูกแรงใครบางคนผลักผมกับน้องออกไปเพียงเสี้ยววินาที เสียงกรี๊ดดังสนั่นอยู่รอบๆ ผมล้มลงตัวสั่นเทามองหน้าธัชที่กำลังหลับตาแน่น 

          " ธัชเป็นอะไรไหม! " ผมคลำไปตามตัวน้องแบบลนลานด้วยความกลัว

          " ผมไม่เป็นไรครับ ผมโอเค " ธัชลืมตาขึ้นและจับมือผมไว้

          เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่อง ผมจึงหันหลังไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ใต้นั้น ใต้เสาหักพังนั่น มีบุคคลคนหนึ่งนอนอยู่  แว่นตาหลุดออกจากใบหน้า ที่หัวมีเลือดไหลออกมา ผมลุกขึ้นและรีบวิ่งไปตรงนั้น พยายามยกเสานั่นขึ้นอย่างทุลักทุเล

          " พี่โชน พี่ครับ " ผมพยายามเรียกชื่อคนคนนั้นและเขย่าตัวเบาๆ พี่โชนลืมตาขึ้นน้อยๆ พลางขมวดคิ้ว แต่ก็ยิ้มออกมาอีกซะได้

          " อูยย หนักเลยแฮะ อย่าเพิ่งขยับตัวพี่ เหมือนแขนจะหัก " 

          " ยังจะมายิ้มอีกนะครับ " ผมเหลือเชื่อจริงๆ กับคนคนนี้ เจ็บขนาดนี้ยังยิ้มอยู่ได้ 

          " ไม่เป็นไรกันใช่ไหม " 

          " ครับผมกับน้องไม่เป็นไร ขอบคุณนะครับ " ผมทำหน้าเครียด ถ้าไม่ได้พี่ป่านนี้ผมกับน้องคนเป็นคนที่นอนอยู่ตรงนี้ ผมยืนมองพี่โชนที่ถูกรถพยาบาลพาขึ้นรถไป และเดินมาหาน้องที่กำลังนั่งทำหน้าหงอยอยู่ 

          " เพราะผมพี่เขาถึง... "

          " มันเป็นอุบัติเหตุธัชอย่าคิดแบบนั้น " ผมมองหน้าน้องที่ยังคงทำหน้าเศร้าอยู่

          " มองหน้าพี่ พี่ไม่เป็นไรหรอก " ผมจับหน้าน้องเอาไว้ให้จ้องเข้าไปในตาของผม

          " ครับ พวกเราไปหาพี่เขากันเถอะ " ผมพยักหน้าตอบรับความคิดนั้น

          ผมกับน้องขับรถไปที่โรงพยาบาล เป็นโรงพยาบาลในมหา'ลัยนั่นแหละ ผมมองคนคนนี้ผิดไป ถึงจะดูเป็นคนไม่น่าไว้ใจ แต่จริงๆ พี่เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แค่เป็นคนแสดงออกมากเกินไปเท่านั้น

          " เอ่อ พี่โชน " ผมยืนเอ๋ออยู่ที่ประชาสัมพันธ์ เพราะผมแทบไม่รู้อะไรมากกว่านี้เลย

          " อ่อ ตรงไปทางนั้นเลยค่ะ " หมอนี่เรียนหมอนี่นะ คนที่นี่ต้องรู้จักอยู่แล้วล่ะ

          ผมกับน้องเดินมาที่ห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง เคาะประตูและเปิดเข้าไป ก็เห็นพี่โชนนอนอยู่ และมีเพื่อนๆ ของพี่โชนล้อมรอบอยู่หลายคน สีหน้าพี่โชนดีขึ้น คงไม่เป็นอะไรมากจริงๆ แต่แขนข้างหนึ่งก็เข้าเฝือกไว้ และไม่มีแว่นอยู่บนใบหน้า 

          " เด็กมึงมาแล้วว่ะ "

          " คนไหนของมึงวะ "

          " คนไหนก็เหมือนกันอ่ะ ถ้าให้ดีต้องทั้งสอง " เหอะๆ รู้สึกตีนกระตุกอีกละ เพื่อนพี่นี่กวนซะจริงๆ แต่พี่โชนไม่พูดอะไร เอาแต่ยิ้มหน้าบาน ไอ้หมอนี่โรคจิตจริงๆ สินะ แต่ไม่มีแว่นก็แปลกตาดีเหมือนกัน

          " พี่เป็นยังไงบ้างครับ " ธัชเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ พี่โชนด้วยใบหน้าหมาหงอย

          " พี่ไม่เป็นไร หัวแตกนิดนึงเลยมึนๆ แต่แขนนี่สิ พรุ่งนี้พี่ต้องพูดเปิดงานด้วยนะเนี่ย " ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าตานี่ทำท่าทางอ้อนแปลกๆ แต่ก็นะ ยอมก็ได้ ก็พี่ช่วยพวกเรานี่นะ

          " เดี๋ยวคืนนี้ผมช่วยนะ ผมจะเฝ้าพี่เอง " ธัชพูดขึ้นแบบรู้สึกผิด

          " ไม่ต้องหรอกธัช เดี๋ยวพี่อยู่เอง เรากลับไปก่อนเถอะ เหนื่อยไม่ใช่เหรอ " ผมเดินเข้าไปลูบหัวน้องเบาๆ

          " ไม่เอาพี่ธิชอยู่นี่ธัชก็จะอยู่ " ธัชกอดเอวผมไว้แน่น ไอ้ดื้อเอ้ย

          " ดีจังเลยน้า อยู่ทั้งสองคนเลยนั่นแหละ " ผมกับน้องหันควับมองพี่โชนแบบหรี่ตาลง

          " ฮ่าๆๆ ไอ้โชนแม่งโครตคุ้ม เป็นกูก็โดดเข้าไป " ไอ้เพื่อนผมสีทองของพี่โชนทำท่ากระซิบกับพี่โชนแต่เสียงโครตดัง หนอย กวนชะมัด

          ไม่นาน เพื่อนพี่โชนก็ทยอยออกไปจากห้องทีละคน จนตอนนี้เหลือแค่ผมกับน้อง 

          " จริงๆ พวกเรากลับกันก็ได้น้า พรุ่งนี้ต้องแต่งหน้าแต่งตัวแต่เช้านี่ "

          " ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยไปตอนเช้าๆ นั่นแหละ "

          " แต่ผมกับน้องขอไปอาบน้ำแล้วเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก่อนนะครับ เดี๋ยวพวกผมมาใหม่ " ผมจูงน้องออกมาจากห้องและกลับไปที่รถ

          " พี่เขาเป็นคนดีเนอะ " ธัชพูดพลางยิ้มแป้น

          " หลงรักพี่เขาแล้วหรือไง " ผมพูดพลางอมยิ้ม แต่ธัชกลับส่ายหน้าไปมา

          " ผมว่าพี่โชนชอบพี่ธิชมากกว่า " เอ๊ะ ว่าไงนะ

          " และผมก็คิดว่าผมชอบเซนเซย์มากกว่า " ผมมองหน้าน้องแบบเหวอนิดๆ

          " ไอ้บ้านั่นมีอะไรดีนะธัช ก็แค่หล่ออย่างเดียวมั้ง " นายเป็นพวกซาดิสม์หรือไง

          " ไม่เคยมีใครแยกพวกเราออก ผมสนใจน่ะ " จะว่าไปก็ถูก ผมก็สนใจ แต่อาจเป็นความสงสัยมากกว่า หมอนั่นมันน่ากลัวจริงๆ 

          " แล้วไอ้หมอแว่นนั่นชอบพี่เนี่ยนะ จะบ้าหรือไง มันจีบธัชนี่ แล้วพี่แกก็แยกเราไม่ออกนะพี่ว่า " 

          " พี่เค้าแยกเราไม่ออกน่ะจริงครับ แต่พอพี่พูดพี่เค้าจะยิ้มตาหยีทุกที เค้าชอบพี่แหละจริงๆ นะ ผมมองออก "

          " แต่พี่ไม่ชอบผู้ชายนะธัช " ผมยังยืนยันหนักแน่น ไม่ไหวหรอก กับผู้ชายเนี่ย

          " งั้นพี่เกลียดผมเหรอ " ไอ้เด็กน้อยนี่หันมาทำตาละห้อยซะงั้น

          " พี่รักธัช รักแค่ธัชคนเดียว " ผมพูดหนักแน่นและยังคงมองตรงไปที่ถนนด้านหน้า แต่ผมก็ต้องหันไปมองน้องเพราะว่าธัชเงียบไปอีกแล้ว

          " ผมก็รักพี่ครับ ... " ธัชก้มหน้าและพูดเสียงเบา จนผมไม่ได้ยินประโยคหลัง ผมยื่นมือไปขยี้ผมน้องเบาๆ


ในโลกนี้ผมขอแค่มีธัชคนเดียวก็พอ ที่จะอยู่เคียงข้างผมตลอดไป
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 7 ฝาแฝดและอุบัติเหตุ ](26/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 26-09-2017 20:35:52
          TWINS บทที่ 8 ฝาแฝดในชุดหลีดแฟนตาซี


          ผมกับน้องกลับมาอาบน้ำและกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้พี่โชนหลับไปแล้ว ผมกับน้องเลยนอนกันที่โซฟา โดยผมนั่งและให้น้องนอนตัก ตอนแรกธัชจะไม่ยอมท่าเดียว ผมเลยบอกว่าสลับกันก็ได้ น้องถึงจะยอม

          ผมมองหน้าน้องที่หลับอยู่ มันตลกดีนะ เหมือนได้ส่องกระจกมองตัวเองยังไงยังงั้น ผมว่าผมก็หล่อสุดๆ เลยนะเนี่ย คิ้ว จมูก ปาก เห็นละหมั่นเขี้ยวจัง ผมบีบจมูกธัชเบาๆ แต่ธัชก็หลับปุ๋ยเลยไม่ตื่นขึ้นมา

          " ขอโทษนะที่ทำให้ลำบาก " ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่โชนที่ลืมตาขึ้นมา ยังไม่หลับงั้นเหรอ

          " ไม่เป็นไรหรอกครับ มีอะไรที่ผมกับน้องทำได้ผมก็อยากจะทำครับ " ผมพูดพลางลูบหัวน้องเบาๆ

          " พี่จะทำอะไรเหรอครับ " ผมถามขึ้นทันทีที่เห็นพี่โชนขยับตัวเหมือนจะลงจากเตียง

          " พี่จะเข้าห้องน้ำหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรเรานอนเถอะ " พี่โชนยกมือห้ามผมที่จะลุกขึ้น ผมตัดสินใจค่อยๆ ขยับวางน้องให้นอนลงและลุกขึ้นไปช่วยพยุงพี่โชนที่ข้างเตียง

          " อย่าทำเป็นเก่งหน่อยเลย " ผมพูดพลางให้พี่โชนเกาะผมไว้เพราะพี่เค้าหัวแตกเย็บหลายเข็มฮะ คงยังมึนๆ เดินไม่ตรงหรอก

          " จะเข้าไปด้วยเหรอ " พี่โชนพูดพลางยิ้มแบบกวนๆ ให้ผม

          " ส่งแค่นี้แหละ " ผมพูดพลางผลักพี่โชนเบาๆ ให้เข้าไป หนอย รู้นะว่าคิดอะไร ไอ้บ้านี่

          ผมคิดและเดินกลับมาที่โซฟา แต่ทันทีที่เดินมานั้น ผมก็ต้องสะดุ้งโหยงอย่างตื่นตกใจ เพราะตรงหน้าผมนั้น ธัชกำลังนั่งอยู่นิ่งๆ ในความมืด

          " ให้ตาย ถ้าพี่หัวใจวายไปทำไงเนี่ย " ผมมองน้องชายที่กำลังนั่งอยู่ที่โซฟา และเมื่อเพ่งมองดูดีๆ นั้น ก็พบว่าธัชกำลังสีหน้าน่ากลัวอยู่

          " ฝันร้ายเหรอ " ผมนั่งลงข้างๆ น้องที่ยังคงนิ่งเงียบ ตอนนี้ในห้องนั้นแสงสลัวมาก มองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

          " ทำอะไรเหรอครับ " ธัชค่อยๆ หันมามองผมด้วยใบหน้าเรียบเฉย

          " พี่โชนเขาอยากเข้าห้องน้ำ พี่ก็เลยช่วยน่ะ ธัชเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า " ผมเอามือทาบหน้าผากน้องแต่ก็ตัวอุ่นปกติไม่มีปัญหา

          " ผมแค่ฝันร้ายฮะ ไม่เป็นไร " ธัชพูดและเริ่มยิ้มให้ผม เฮ้อ โล่งอก เพราะเมื่อกี้ธัชน่ากลัวจริงๆ ผมยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย บรึ๋ยย


          จนถึงรุ่งสาง ผมกับน้องรีบออกจากโรงพยาบาล และตรงไปที่คณะเพื่อเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม ทั้งๆ ที่การแสดงนั้นเริ่มตอนมืดแท้ๆ แต่ก็ต้องมาสแตนด์บายไว้ ผมรู้สึกเหมือนกับแทบไม่ได้นอนเลย ผมที่แต่งหน้าไปก็คอพับคออ่อนไป ทรมานเหลือเกิน เฮ้อ

          " พี่ธิช " ผมที่กำลังงัวเงียนั้น ก็ลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าคนเรียก 

          " หือ ใครวะ " ผมยกมือขึ้นจะขยี้ตา แต่ก็ถูกตะครุบมือเอาไว้

          " ฮ่าๆ ไม่ได้นะครับ เดี๋ยวหน้าเละหมด อุตส่าห์แต่งซะหล่อเชียว " ผมมองหน้าคนตรงหน้า หือ หน้าคล้ายผมแฮะ อ้าว ก็นี่มันน้องกู ท่าจะบ้า

          " อื้อหือ แต่งขึ้นนะเรา น้องใครเนี่ย หล่อเฟี้ยวจนจำไม่ได้เลย " ผมล็อคแก้มน้องไว้ด้วยมือสองข้างและสำรวจใบหน้าอย่างถี่ถ้วน

          " ฮ่าๆๆ พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย ส่องกระจกดูสิ ก็เหมือนกันนั่นล่ะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้น ก็หันไปมองกระจกที่ตั้งอยู่ตรงหน้า อื้อหือ คนบ้าอะไรหล่อขนาดนี้ ผมพยักหน้าให้ตัวเองอย่างพึงพอใจ

          " เพิ่งรู้นะว่าพี่หลงตัวเอง " ธัชเกาะไหล่ผมพลางหัวเราะขำ

          " ก็นานๆ ทีจะเห็นอะไรแบบนี้เนอะ แปลกดี " ผมยิ้มและมองเงาสะท้อนของเราสองคนในกระจก พวกเราช่างเหมือนกัน และผมชอบจัง

          ผมกับน้องยังคงใส่เสื้อนักศึกษาแต่ก็แต่งหน้าทำผมแล้ว พวกเราเดินหาข้าวเช้ากินแถวๆ คณะ ทุกย่างก้าวนั้น ทุกคนต่างจับจ้องมองพวกเราสองคนอย่างตกตะลึง เป็นไงล่ะ หล่อละสิ

          " เอ่อ ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ " เอาแล้วไง สาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาแบบกล้าๆ กลัวๆ และยื่นโทรศัพท์มาให้

          " เอ่อ คนไหนล่ะครับ " ธัชพูดพลางส่งยิ้มแป้น

          " คนไหนก็ได้ค่ะ " คนไหนก็ได้งั้นเหรอ เหอะ

          " ขอโทษนะแต่พวกเราไม่ชอบผู้หญิงหรอก " ผมพูดพลางยิ้มน้อยๆ และสาวคนนั้นก็ถึงกับถลึงตาโตมองพวกผมแบบช็อคไปเลย ก็นะ ผมเคืองนี่นา มีด้วยเหรอคนไหนก็ได้ เพราะเห็นว่าเหมือนๆ กันงั้นสิ นิสัยไม่ดี

          " ทำไมพูดแบบนั้นละพี่ เดี๋ยวเขาก็เอาไปลือกันพอดี " ธัชพูดพลางทำหน้าตื่นตกใจ

          " ช่างมันสิ พี่ไม่สนหรอก " 

          " แต่พี่ไม่ชอบผู้ชายนี่นา แล้วทำไมไม่ลองจีบผู้หญิงดูมั่งล่ะครับ " 

          " อยากให้พี่มีแฟนจริงๆ เหรอ " ผมถามพลางมองหน้าน้อง

          " ผมจะไปห้ามพี่ได้ยังไงกันละครับ พี่ก็มีชีวิตของพี่ " ธัชพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่หมองเศร้าเหลือเกิน

          " พี่มีแค่ธัชก็พอแล้ว " ผมพูดเหมือนที่ชอบพูดประจำ และเดินต่อไปข้างหน้า

          " พี่......นะ "

          " เมื่อกี้ว่าไงนะ " ผมหันกลับไปทันทีที่ได้ยินเสียงพูดเบาๆ จากด้านหลัง ตอนนี้นั้น รอบๆ ตัวผมมีเสียงเอะอะจอแจมากเกินไป ผมก็เลยได้ยินที่น้องพูดไม่ถนัดเท่าไหร่

          " ไม่มีอะไรครับ " ผมมองหน้าธัชที่ยิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย


          ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาจนใกล้จะเริ่มแล้ว ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ซึ่งมันก็ดูสวยดีนะ ถ้าไม่ติดที่มันเป็นผ้าแบบใสๆ และถูกประดับด้วยอะไรต่างๆ มากมาย แต่มันก็โชว์เนื้อหนังมากอยู่ดี อึ๋ยย ไม่อยากออกไปเลยอ่ะ รู้งี้เล่นเวทให้มากกว่านี้ดีกว่า อายสุดๆ

          " พี่ธิช ยังไม่เสร็จเหรอครับ " ธัชเรียกผมอยู่ข้างนอก เพราะผมอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านานมาก ก็คนมันอายง่า

          ผมค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ และพยายามเดินตัวลีบสุดๆ แต่พอเห็นมีแต่ธัชที่ยืนอยู่ก็ค่อยโล่งอกหน่อย

          " อะไรครับ พี่อายเป็นด้วยเหรอ " หนอย ไอ้เด็กปากเสียนี่ ผมต่อยน้องที่ไหล่เบาๆ ด้วยความหมั่นไส้

          " โอ้ยย ต่อยธัชทำไมเนี่ย " ธัช ไอ้สำออยร้องซะลั่น แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ

          " ธัช นี่มันอะไรอ่ะ " ผมชี้ไปที่หน้าท้องของน้องที่เอ่อ เดี๋ยวนะ ไม่จริง เป็นไปไม่ด๊าย

          " อ่อ ก็ตั้งแต่นอนแยกกันผมก็เวทเทรนนิ่งทุกวันเลยนะ อยากหุ่นดีๆ มั่งอ่ะ " ธัชพูดพลางเบ่งกล้ามโชว์ แล้วที่พี่ปกป้องนายมาตลอดนี่มันอะไรกัน เชอะ ไอ้คนทรยศ 

          " ไม่เอาดีกว่า พี่ไม่เต้นแล้ว " ผมทำท่าจะกลับเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ธัชก็ดึงผมไว้

          " ฮ่าๆ อะไรของพี่เนี่ย มาเลิกตอนนี้ได้ยังไงละครับ แล้วอีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ดูแย่สักหน่อย หุ่นก็ดีออก แค่ไม่เห็นกล้ามชัดเท่านั้นเองอ่ะ ผมชอบจะตาย " ใช่ซิ๊ เอ็งมันมีซิกแพคนี่จะพูดอะไรก็ได้

          " ว๊ายย สองหนุ่ม พี่จะเป็นลม หล่อเด็ดอะไรปานนี้ " รุ่นพี่บิ๊กไซส์พากันยกโขยงเข้ามาและส่งสายตาโลมเลียผมกับน้องอย่างเปิดเผย เหอะๆ อยากเตะคนอีกแล้ว

          เสื้อผ้าของเราออกแนวโทนสีดำที่มีขนนกสีดำประดับมากมาย ท่อนบนใสๆ กึ่งเปลือยลำตัว ที่หน้ามีเหมือนหน้ากากคาดตาแต่ก็ไม่ได้ปิดหน้าอะไรมาก ทรงผมก็ตั้งๆ แบบเท่ห์สุดๆ กางเกงนี่ผมชอบที่สุด เพราะมันเป็นสามส่วนที่มีสายระโยงระยางแหวกแนวสุดๆ ไปเลย อย่างกับหลุดมาจากเทพนิยายแฟนตาซี และตลอดทางที่พวกผมเดินออกมานั้น สาวๆ ต่างพากันกรี๊ดจนแทบสลบ อันนี้ปกติครับ แต่ไอ้พวกตัวผู้ที่ผิวปากนี่มันอะไร อยากตายหรือไงฟะ

          " อื้อหือขาวสัด "

          " แว๊บๆ แม่งชมพูว่ะ ทั้งสองคนเลย "

          " อยากมีเมียแฝดโว้ย "  เมียโพ่ง อย่าให้งานจบ กูจะเล่นแม่ง ไอ้พวกปากดีทั้งหลาย ฝากไว้ก่อนเถอะมึง

          ผมยิ้มและมองน้องชายที่หันมายิ้มให้ผมเช่นกัน พวกเราจะผ่านมันไปได้ เหมือนดังที่ผ่านๆ มา


ขอแค่เพียงเรามีกันและกันเท่านั้นก็พอ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 8 ฝาแฝดในชุดหลีดแฟนตาซี ](26/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-09-2017 20:59:00
เซนเซย์หายไปไหนอ่ะ คิดถึงจังเลย  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 8 ฝาแฝดในชุดหลีดแฟนตาซี ](26/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 27-09-2017 10:30:39
          TWINS บทที่ 9 ฝาแฝดและการทายครั้งที่สอง


          พวกเรามายืนเตรียมพร้อมกันในที่จัดงาน หันหน้าเข้าสแตนด์เชียร์และฟังท่านประธานสภานิสิตกล่าวเปิดงาน ซึ่งสภาพประธานตอนนี้นั้น มีทั้งมีผ้าพันแผลที่หัว และใส่เฝือกที่แขน แต่การพูด การวางตัว ทุกๆ อย่างก็ยังดูดีแฮะ เชื่อเขาเลย

          ผมกวาดสายตาไปทั่วๆ อัฒจันทร์ วันนี้คนเยอะมาก และทุกคนดูตื่นเต้นไปหมด และอัฒจันทร์ด้านบนนั้น ก็มีโซฟาหลายๆ ตัวเพื่อรองรับเหล่าอาจารย์ที่เข้าร่วมชมการแสดง แต่ผมที่ไล่สายตาไปบนอัฒจันทร์นั้น ก็หยุดสายตาทันทีที่มองเห็นคนคนหนึ่ง เป็นคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย ซึ่งวันนี้เซนเซย์ก็ยังคงแต่งตัวเรียบง่าย แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือสูทสีดำที่คลุมไหล่ไว้ด้านนอก ด้านในก็ยังเป็นเสื้อสีขาวไทสีดำ นั่งไขว้ห้างด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผมรีบหลบสายตาทันทีที่หมอนั่นมองมา เหมือนจะรู้ว่าผมมองอยู่เลยแฮะ ไอ้บ้านี่มีพลังจิตหรือไง

          หลังการเกล้าเปิดงาน การแสดงแต่ละคณะก็เริ่มต้นขึ้น โดยมีการจับสลากตั้งแต่แรกๆ แล้วว่าคณะไหนจะได้แสดงเป็นลำดับที่เท่าไหร่ ซึ่งคณะวิศวะของผมนั้นโชคดีที่อยู่อันดับท้ายๆ ยิ่งใกล้เวลาก็ยิ่งตื่นเต้นเหลือเกิน เพราะคนนั้นเยอะมากๆ เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มไปหมด ทำเอาธัชหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วยความประหม่า

          " ธัชทำได้อยู่แล้ว มองหน้าพี่สิ " ผมจับหน้าน้องที่ก้มหน้ามองพื้นขึ้นมา ธัชมักกลัวสิ่งที่ไม่น่ากลัว และชอบวิตกกังวลทุกๆ อย่างเสมอ

          " ถ้าผม... " 

          " ถึงจะผิดพลาด ก็จะไม่มีใครว่าธัช เราพยายามที่สุดแล้วธัช คิดว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วก็พอ ผลจะเป็นยังไงก็ช่าง "  ผมเอาหน้าผากชนกับน้องไว้และจับมือกันแน่น

          " ครับ " ธัชยิ้มให้ผม เรายิ้มให้กันและกัน

          ในที่สุดก็ถึงการแสดงของคณะวิศวะ ผมจับมือน้องบีบเบาๆ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสวมหน้ากากและเดินออกไปเตรียมพร้อมแสดง การแสดงของเราเป็นแบบพร้อมเพียงและแข็งแรง ซึ่งเป็นปกติของการโชว์หลีด และจะประยุกต์อะไรก็ได้ลงไปในการแสดง พวกเราเป็นผู้ชายเพียงสองคนที่อยู่ในทีม และพวกเราทำได้ดี ผมเหลือบมองน้องที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีผิดพลาด

          ไม่นานการแสดงของคณะเราก็จบลง ด้วยเสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้อง ผมหอบหายใจมองสแตนด์เชียร์ที่กำลังแปลอักษรต่างๆ และเล่นแสงสีเสียงปิดท้าย ผมว่าพวกเราอาจจะชนะก็ได้ เพราะทั้งชุด ทั้งโชว์ ล้วนเวอร์วังอลังการมากกว่าคณะไหนๆ และพวกเรามั่นใจว่าทำได้ดี และผิดพลาดน้อยที่สุด

          " บอกแล้วว่าถ้าจะทำจริงๆ ธัชทำได้อยู่แล้ว " ผมบอกน้อง ตอนนี้พวกเราเดินออกมาพักที่ห้องพักหลังการแสดงจบลง

          " ขอบคุณครับ " ผมกอดคอน้องอย่างร่าเริง วันนี้ต้องฉลอง หึหึ

          " เขาจะประกาศผลกันแล้ว ไปกันเถอะ " รุ่นพี่มาเรียกพวกผมให้ออกไปเข้าแถวรวมกันอีกครั้งหน้าสแตนด์เชียร์

          พวกเราออกมายืนเข้าแถวหน้าสแตนด์ของตัวเองเพื่อฟังผลการประกวด และแน่นอนคณะเราได้รางวัลชนะเลิศไปอย่างไม่ต้องสงสัย เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั้งคณะด้วยความยินดี มีหลายๆ คนเข้ามากอดพวกเราสองคนและกล่าวขอบคุณไม่ขาดสาย เป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมกอดน้องและยิ้มอย่างมีความสุข

          ในช่วงเวลาสุดท้าย พวกเราก็ยังเข้าแถวกันเช่นเดิมเพื่อฟังประธานกล่าว แต่เมื่อประธานพูดจบ กลับมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะว่าเซนเซย์นั้น อยู่ดีๆ ก็เดินมาดึงไมโครโฟนออกจากมือของพี่โชนซะงั้น ประธานชักสีหน้าไม่พอใจสุดๆ ใส่เซนเซย์ แต่ก็ต้องยอมเพราะนั่นคืออาจารย์

          เมื่อเซนเซย์ถือไมโครโฟนเอาไว้ และกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่อาจารย์กลับต้องหยุดชะงัก เพราะตอนนี้สาวๆ ทั้งมหา'ลัยกำลังแข่งกันกรี๊ดจนคอแทบแหก เหอะๆ เอาเข้าไป เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่อง จนเซนเซย์ถึงกับหน้าบึ้งไปเลย เหอะๆ สมน้ำหน้า

          " จะพอกันได้หรือยัง " เสียงกรี๊ดเงียบลงทันที เพราะพี่แกเริ่มจะด่าเป็นนัยๆ อีกแล้ว

          " ขอบคุณสำหรับความพยายามทั้งหลายที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน จนทำให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้นมา " หมอนี่พูดอะไรแบบนี้ก็เป็นแฮะ

          " ตอนนี้ก็เหลือแค่กิจกรรมสุดท้ายก็คือการประกวดดาวเดือน ซึ่งจะมีขึ้นในอีก 3 วัน หลังจากนั้นขอให้นักศึกษาทุกคนตั้งใจกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง ก็คือการเรียน หวังว่าจะไม่สนุกกันจนลืมหน้าที่ไปซะล่ะ " ทุกคนปรบมือหลังจากเซนเซย์พูดจบ ทุกคนดูปลาบปลื้มกับเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรนั่นซะเหลือเกิน น่าหมั่นไส้

          " อ่อ ยังมีอีกอย่างสินะ " อยู่ดีๆ เซนเซย์ก็พูดขึ้นมาอีก ทุกคนที่เหมือนกำลังจะเดินออกไป หรือกำลังจะเก็บของ ตอนนี้ทุกคนหยุดชะงักตั้งใจฟัง

          เซนเซย์กำลังยิ้มน้อยๆ และมองมายังคณะวิศวะ มองมาทางผมกับน้อง นี่อย่าบอกนะว่า

          " คนซ้ายน่ะ ธิชา คนขวาธัชชา ใช่ไหมล่ะ "

          ทุกคนต่างมองมายังผมสองคนแบบตื่นตะลึง เสียงซุบซิบดังเซ็งแซ่ไปทั่ว การท้าทายของผมมันปานปลายไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย และที่สำคัญ ไอ้หมอนั่น ทำไมถึงได้...

          พวกผมที่ยืนฟังนั้น ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ และยังใส่แว่นที่ใช้ทำการแสดงอยู่ แล้วทำไมกัน ทำไมมันถึง...ทายถูก

          ผมจ้องมองไปยังด้านบนนั้น มองไปยังเซนเซย์นั่นด้วยแววตาที่แสดงถึงความไม่พอใจ ครางแครงใจที่สุด ผมจับมือน้องไว้แน่น เราสองคนขมวดคิ้วจ้องมองกันแบบไม่เข้าใจ ผมดึงมือน้องเดินออกไปจากสนามโดยไม่ได้พูดอะไร เดินผ่านสายตานับพันที่จ้องมองพวกผมด้วยความสงสัย และเหลือบมองเห็นรอยยิ้มเยาะออกมาจากไอ้บ้าเซนเซย์นั่นก่อนออกไป

          " พี่ธิช " ธัชรั้งตัวเอาไว้ไม่ให้ผมดึงลากไปต่อ

          " กลับกันเถอะ พี่เหนื่อย " ผมก้มหน้ามองพื้น 

          " ไม่เป็นไรหรอกครับ " ธัชพูดพลางจับหน้าผมเงยขึ้น

          " เรายังไม่แพ้สักหน่อย " ผมพูดพลางจ้องตาน้อง

          " ก็นั่นไง แล้วพี่จะเศร้าทำไมละครับ " ผมมองหน้าน้องที่ยิ้มแป้นให้ผม

          " พี่แค่ไม่เข้าใจ พวกเราไม่เหมือนกันงั้นเหรอ "

          " พี่ชอบที่พวกเราเหมือนกันเหรอ " 

          " มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พี่ดีใจที่ได้เกิดมา " ผมยิ้มให้น้องอย่างจริงใจ ธัชก็ยิ้มให้ผมเช่นกัน

          ผมกับน้องกลับมาที่คอนโด เฮ้อ ช่างน่าเบื่อ จริงๆ วันนี้เราควรได้ฉลองกันแท้ๆ แต่พอเซนเซย์เล่นมาทายกลางงานแบบนั้น ผมเลยคิดว่าวันนี้น่าจะเลี่ยงผู้คนไปก่อน ผมควรจะทำยังไงดีนะ ไม่ใช่ว่าผมยึดติดกับการเอาชนะอะไรหรอก แต่หมอนั่นมันน่าหมั่นไส้ ผมไม่อยากจะแพ้คนคนนั้นเลย


ผมจะต้องไม่แพ้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไง หรือใช้วิธีไหนก็ตาม
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 9 ฝาแฝดและการทายครั้งที่สอง ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-09-2017 12:05:04
แววตาหรือเปล่าคะธิช ธิชไม่ชอบอาจารย์แกนี่นา

เรามีญาติเป็นแฝดอยู่ แฝดไม่แท้หรอกแต่หน้าก็เหมือนกันมาก พ่อแม่เขาก็แยกไม่ออก แต่เราอยู่ด้วยมาแต่เด็กเราก็แยกออกนะ แฝดนี่ถ้าจับจุดได้มันก็แยกได้แหละเนอะ..
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 9 ฝาแฝดและการทายครั้งที่สอง ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 27-09-2017 14:39:38
          TWINS บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า


          พรุ่งนี้เป็นวันที่ผมจะต้องประกวดเดือนแล้ว แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะแสดงอะไรดี พรุ่งนี้เซนเซย์จะต้องทายพวกเราเป็นครั้งสุดท้ายแน่นอน ยิ่งคิดยิ่งกลัว ยิ่งกลัวยิ่งเครียด ผมที่มักมีความมั่นใจอยู่เสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมวิตกจริงๆ

          " พี่อย่าคิดมากน่า ถ้าเซนเซย์ทายถูก ก็แปลว่าเขาเจ๋งจริง แล้วเขาก็คงไม่สั่งให้เราทำอะไรยากๆ หรอกมั้ง " ธัชบอกผมที่นั่งขมวดคิ้วอยู่หน้าจอทีวีพลางกดจอยเกมส์ไปมา

          " พี่ไม่ชอบหมอนั่น ไม่อยากให้มาสั่ง " 

          " พี่ธิชนี่ก็เด็กน้อยเหมือนกันนะ " เชอะ ผมหน้าบู้และวางจอยเกมส์ลง เลิกเล่นดีกว่า

          " ถ้าพวกเราชนะ พี่จะสั่งให้เซนเซย์ทำอะไรเหรอ " นั่นสินะ ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก แต่ต้องเป็นอะไรที่ทำให้หมอนั่นหน้าเสียไปเลย หึหึ
         
          " แล้วธัชล่ะ อยากสั่งอะไร " ธัชทำหน้าครุ่นคิด ขมวดคิ้วมุ่นเชียว

          " ผมอยากเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เซนเซย์ ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ผมว่าเขาน่าสนใจดี "

          " ไม่ใช่ว่าเพราะหมอนั่นหล่อหรอกใช่ไหม " ผมเลิกคิ้วขึ้นแบบรู้ทันนะไอ้ดื้อเอ้ย

          " ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย แค่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ แต่ผมนึกยังไงก็นึกไม่ออก " ผมรีบจับหน้าน้องไว้ให้หันมามองผมตรงๆ

          " ไปอาบน้ำกันเถอะ " ผมไม่อยากให้น้องคิดถึงอดีต ผมไม่ต้องการพูดถึงมัน

          " อาบด้วยกันนะ " ธัชพูดพลางยิ้มแป้น

          " เรื่องสิ " ผมพูดพลางรีบแจ้นเข้าห้องน้ำก่อนที่ไอ้ตัวดีจะไล่มาทัน ผมไม่กล้าอาบกับน้องหรอก อายหุ่นจะตายไป หึ่ย ต้องฟิตบ้างละเรา

          ผมที่อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ และธัชก็เข้าไปอาบต่อจากผม ผมเข้ามาในห้อง นั่งอยู่หน้ากระจก พลางจ้องมองใบหน้าของตัวเอง ผมไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ ผมแค่ชอบใบหน้านี้ ใบหน้าพวกเราที่เหมือนกัน

          แต่ผมที่จ้องมองไปในกระจกนั้น อยู่ดีๆ ก็ต้องสะดุ้งตกใจทันทีที่เห็นเงาคนอื่นอยู่ในนั้นด้วย

          " โธ่ธัช ชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อย " ผมพูดพลางจับอกตัวเองไว้ ธัชทำให้ผมรู้สึกแบบนี้บ่อยครั้ง ผมรู้สึกแปลกๆ มากขึ้นทุกที

          " ขอโทษครับ พี่ทำอะไรอยู่เหรอ " ธัชเดินเข้ามา และเริ่มขยี้ผมให้แห้ง

          " ค..คือ พี่หาลิปมันอยู่ ไม่รู้เอาไว้ไหน " ผมพูดพลางแกล้งรื้อโต๊ะเครื่องแป้งไปมา เพราะจริงๆ ผมก็ตั้งใจว่าจะทาปากที่แตกๆ ของผมซะหน่อย

          " เดี๋ยวผมเอาของผมมาให้ " ธัชพูดพลางเดินไปที่ห้องตัวเอง และกลับมาอย่างรวดเร็ว

          " ไหน ธัชทาให้นะ " ธัชนั่งลงยองๆ และจรดลิปลงบนริมฝีปากผมเบาๆ 

          " หลับตาสิ " ผมจ้องมองธัชแบบงงๆ ทำไมทาลิปต้องหลับตาด้วยล่ะ แต่ผมก็ว่าง่ายหลับตาลงช้าๆ ตามที่น้องบอก

          แต่ผมที่หลับตานั้น ก็รู้สึกถึงความนุ่มนิ่มของริมฝีปากที่ผสานกันอย่างรวดเร็ว ผมรีบลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ธัชทำแบบนี้อีกแล้ว น้องดึงคอผมเอาไว้และเริ่มจูบผมหนักหน่วงขึ้น ผมพยายามดันอกน้องเอาไว้แต่ธัชก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากของผมเป็นอิสระอยู่ดี ผมใช้แรงทั้งหมดผลักน้องออกไปเต็มแรง

          ' เพี๊ยะ! ' 

          ไม่นะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น ผมที่ปัดป้องตัวผมทำให้เผลอตบธัชเข้าอย่างจัง ธัชนั่งลงกับพื้นจับแก้มตัวเองที่โดนตบเอาไว้ จ้องมองผมด้วยสีหน้าที่ผมไม่อยากเห็นที่สุด

          " ผมขอโทษครับ " ธัชพูดด้วยแววตาและน้ำเสียงอันแสนเศร้า และลุกขึ้นเดินหนีไป

          " ธัช พี่ไม่ได้... " ผมเดินตามน้องไป แต่ธัชก็ปิดประตูล็อคห้องอย่างรวดเร็ว

          ผมทำอะไรกันนะ มากกว่านี้พวกเราก็ทำกันมาแล้ว แต่วันนี้ผมกลับทำร้ายธัช ผมเป็นอะไรกันแน่ ผมนั่งลงเงียบๆหน้าห้องธัช มองมือที่สั่นเทาของตัวเอง พวกเราเป็นอะไรกันแน่ เพราะอะไรพวกเราถึงกอดจูบกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ พวกเราไม่ควรทำแบบนั้น เพราะพวกเราเป็นพี่น้องกัน

          ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ผมก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น ผมหลับตาลงพลางคิดทบทวนสิ่งต่างๆ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ธัชหรอกที่ผิดปกติ แต่พวกเราต่างหากที่ผิดปกติ พวกเราควรหยุดเรื่องบ้าๆ นี้สักที ผมจะต้องทำให้พวกเราเป็นพี่น้องกันปกติ เหมือนคนอื่นเขา ผมอยากให้น้องรักคนที่สมควรรัก ได้มีความรักอย่างที่ควรจะเป็น การที่ผมอยู่กับน้องมากเกินไป มันอาจเป็นการทำร้ายน้องก็ได้ ธัชชอบเซนเซย์สินะ งั้นเหรอ งั้นผมก็จะทำให้เซนเซย์รักธัชให้ได้ นั่นคงเป็นทางออกของเราสองคน

          แต่ทำไมกันนะ ผมที่คิดแบบนั้น กลับเจ็บปวดใจเหลือเกิน แท้จริงแล้วผมต้องการอะไรกันแน่ ผมไม่รู้เลย


          ในเช้ารุ่งขึ้น ผมลากขามาที่คณะด้วยหัวใจที่อ่อนล้า ธัชยังไม่ยอมออกจากห้อง ผมไม่เคยตีน้องมาก่อน ธัชคงจะเสียใจและช็อคมาก ผมก็เช่นกัน 

          " หนุ่มน้อย หน้าแบบนั้นจะประกวดได้ไหมลูก อกหักรักคุดปรึกษาแม่ได้นะ " รุ่นพี่บิ๊กไซส์เข้ามามองผมกันใหญ่ เหอๆ อยากทำไรทำเถอะ วันนี้ผมไม่ไหวจริงๆ

          ผมแต่งเนื้อแต่งตัวในตอนบ่าย จัดคิว และซ้อมอะไรกันอีกเล็กน้อย เพราะคืนนี้นั้น คือคืนแห่งการประกวดดาวเดือน และสภาพจิตใจของผมนั้น ไม่พร้อมเลยสักนิด ผมอยากเจอธัช ผมอยากขอโทษน้อง ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยจริงๆ

          ผมมองผู้คนที่เริ่มเข้ามาในโถงขนาดใหญ่ที่ใช้จัดงาน ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่งหน้าแต่งตาอ่อนๆ และยืนอยู่ในห้องรอที่จะต้องขึ้นเวทีเพื่อแสดงความสามารถพิเศษ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแค่ไหน แต่จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่เห็นน้องเลย

          " น้องคณะวิศวะได้เวลาแล้วนะ " ผมมองรุ่นพี่ที่กำกับควบคุมน้องๆ เดินเข้ามาเรียกผมให้ออกไปได้แล้ว ผมและคู่หญิงสาวที่ต้องเดินคู่กับผม ต่างเตรียมพร้อม และเดินขึ้นเวทีไป

          ผมที่ขึ้นมาบนเวทีนั้น ก็พบว่าตอนนี้โถงห้องประชุมคราคร่ำไปด้วยฝูงชนมากมายที่กำลังส่งเสียงให้กำลังใจคณะของตัวเอง ผมยังคงมึนๆ อึนๆ และจิตใจย่ำแย่ เดินผิดเดินถูกชนคู่ของตัวเองบ้าง อาการหนักแฮะเรา 

          " ตัวแทนจากคณะวิศกรรมศาตร์ นายธัชชา ธีรดิษฐ์สกุล และนางสาวเกวลิน โสภาโชติรัตน์ ปรบมือเป็นกำลังใจให้หน่อยคร๊าบบ " ผมแทบไม่ได้ยินเสียงพูดหรือเสียงปรบมือใดๆ สายตาเฝ้าแต่มองหาคนที่ผมรักและแคร์ที่สุด อยู่ไหนกันนะ จะไม่มาดูพี่จริงๆ เหรอ

          " เอาละครับต่อไปจะเป็นการแสดงความสามารถพิเศษของน้องๆ ตัวแทนแต่ละคน มาดูซิว่าแต่ละคนจะฝีไม้ลายมือเด็ดขนาดไหน เชิญรับชมได้เลยครับ "

          ผมนั่งอยู่ที่ด้านหลังเวที ฟังเสียงการบรรยายของพิธีกรที่กำลังดังอยู่ การแสดงของผมนั้นเป็นคณะสุดท้าย และคนสุดท้าย ผมแทบไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย แต่ผมนั้นรู้ว่าผมจะทำอะไร ถ้าธัชได้ยิน ธัชจะรู้ว่าผมรักธัชมากแค่ไหน ผมนั่งรอเวลาไปเรื่อยๆ จนในที่สุด

          " เอาละครับตัวแทนคนสุดท้ายของเรา เป็นหนุ่มหล่อที่แสนจะตราตรึงใจซะเหลือเกิน แค่เห็นก็ตกหลุมรักซะแล้ว " เสียงพิธีกรไหลผ่านหูของผมไป ผมไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้ เพื่อธัช น้องชายเพียงคนเดียวของผม

          ผมนั่งลงช้าๆ ที่เก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ ล้วงสิ่งที่ผมยังคงพกติดตัวไว้เสมอ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน มันเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยขับกล่อม ให้น้องชายนอนหลับฝันดี แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นช่วงเวลาที่เราสองคนนั้นต้องเผชิญและยากที่จะลืม


          10 ปีก่อน โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


          " พี่ครับผมหิว " เด็กชายเล็กๆ สองคนนั่งพิงกันอยู่ใต้ซากกองขยะกองใหญ่ มันเป็นที่ที่พอหลบหยาดฝนที่ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสายได้ เด็กน้อยที่เนื้อตัวสกปรกมอมแมมสองคนนั่งกอดกันกลม หนาวสั่นและหิวโหย ไม่มีใครอยากยุ่งกับพวกเรา ไม่มีใครอยากช่วยพวกเรา พวกเรามีกันแค่สองคน ผมมองหน้าที่ซูบตอบของน้อง พลางลูบเบาๆ ที่แก้มเล็กๆ นั่่น

          " นอนซะนะ ตื่นมาพี่จะหาอะไรมาให้กิน " ผมกอดเด็กตัวเล็กๆ นั่นที่กำลังหนาวสั่น พลางคิดว่าผมจะต้องทำยังไงน้องถึงจะอิ่มท้องได้ ผมควานหาร่มพังๆ ที่วางอยู่ข้างๆ และกางออกให้น้องได้อยู่ใต้นั้น ในส่วนที่ยังพอกันฝนได้อยู่  นั่นอะไรกันนะ ผมเห็นกล่องวัตถุเล็กๆ สีเงิน กำลังส่องแสงอยู่ที่ใต้ซากนั้น ผมเอื้อมมือไปหยิบมันและมองดู เหมือนผมจะเคยเห็นมันมาก่อน มีผู้ชายขี้เมาคนหนึ่งในตรอก ที่ชอบเล่นมันตอนที่กำลังดื่ม มันน่าจะใช้แบบนี้

          ผมจรดริมฝีปากลงที่เครื่องดนตรีนี้และเป่าเบาๆ มีเสียงออกมาเป็นเสียงที่ไพเราะจัง ผมเริ่มเป่าอีกครั้งเบาๆ  พลางก้มลงมองน้องชายที่กำลังขดตัวกลม คิ้วของเด็กน้อยขนับน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียง และยิ้มออกมาทั้งๆ ที่นอนหลับไหลอยู่ในห้วงนิทรา 

          " หลับฝันดีนะธัช "

          การบรรเลงจบลง พร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องห้องประชุม


และผู้ชายคนนึงกำลังร้องไห้เงียบๆ อยู่ในมุมที่ไม่มีใครมองเห็น
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-09-2017 15:45:04
แฝดน้องรักแฝดพี่เกินพี่น้อง
เลยเศร้าเพราะรักข้างเดียว
รอตอนใหม่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-09-2017 15:56:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-09-2017 23:23:45
ใครนะที่แอบร้องไห้อยู่ เป็นแฝดน้องหรือป่าวนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 28-09-2017 07:25:04
 สนุกดี
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทที่ 10 ฝาแฝดและจูบอันแสนเศร้า ](27/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 28-09-2017 10:46:17
          TWINS บทที่ 11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง


          หลังจากการบรรเลงจบลง ผมมองไปรอบๆ มองหาคนที่ผมแคร์ยิ่งกว่าใครๆ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนคนนั้น

          " ช่างเป็นการบรรเลงเม้าท์ออแกนที่ไพเราะจริงๆ ค่ะ เหมือนกับกลั่นออกมาจากหัวใจยังไงยังงั้น "

          " ผมนี่ถึงกับน้ำตาเล็ดเลยครับ ไม่รู้ว่าน้องเขาจะสื่อถึงใคร แต่คนคนนั้นต้องเป็นคนสำคัญจริงๆ แน่นอน "

          พิธีกรยังคงพูดต่อไป แต่ผมไม่สนหรอก ฟังอยู่ไหมน้องชาย ไปอยู่ไหนกันนะ

          " ต่อไปจะเป็นการมอบดอกกุหลาบให้แก่ผู้เข้าประกวดนะคะ ซึ่งผู้ที่ได้รับดอกกุหลาบมากที่สุดก็จะได้รางวัลป๊อบปูล่าโหวตด้วยค่ะ ยังไงรักใครเชียร์ใครก็ต้องป๋าหน่อยน้า ทุ่มสุดตัวกันไปเลยจ้า "

          ผู้คนมากมายตอนนี้ต่างพากันมาออที่หน้าเวทีและเรียกผมให้มารับดอกกุหลาบ ผมมองคนที่ต่อแถวเพื่อรอมอบดอกไม้ให้ผมด้วยความตกใจ เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ผมไม่รู้ว่าก่อนว่ามีคนชอบผมมากมายขนาดนี้ ทั้งสาวๆ และ เอ่อตัวผู้ ที่มากเป็นพิเศษ ไม่รับจะเป็นไรไหม

          " น่ารักมากเลยค่ะ ชอบนะคะ " 

          " ปลื้มทั้งสองฝาแฝดเลยค่ะ หล่อมากเลย "

          " นี่เบอร์เดี้ยนนะฮะ เบอร์ห้องก็เขียนไว้ให้นะตัวเอง " ผมขนลุกซู่เลยทีเดียวตอนรับดอกนี้

          " นายชอบผู้ชายหรือเปล่า เราชอบนายนะ ว่างๆ คุยกัน " คันทีนจริงๆ แฮะ

          " น่ารักมากเลยครับ เป็นรับใช่เปล่า " รับพ่อง ผมรับช่อนี้แบบหักก้านเลยทีเดียว

          " เยี่ยมมากเลย รักนะจุฟๆ " เหอะๆ ไอ้พี่โชนนี่ เดี๋ยวเถอะ

          ผมก้มหน้าก้มตารับดอกไม้แบบไม่หวัดไม่ไหว จนช่อสุดท้ายที่ยื่นมา เป็นช่อที่ใหญ่มาก ใหญ่จนมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนยื่นให้ ผมยื่นมือไปรับและพยายามมองคนที่ยื่นมันมาให้

          ผมถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่นี้ไว้ในมือและยิ้มกว้างออกมาทันทีที่เห็นว่าใครอยู่ตรงหน้า ดอกไม้ช่อนี้ผมจะเก็บมันเอาไว้อย่างดี เพราะมันเป็นดอกไม้ของคนที่ผมรักและแคร์มากที่สุด เป็นคนที่ผมอยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

          " ขอบคุณนะครับ " ผมส่งยิ้มให้คนที่ยื่นดอกไม้ช่อนี้มา ซึ่งคนที่ยื่นมากลับก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาผมซะงั้น น่ารักจริงๆ แฮะ หายงอนพี่แล้วใช่หรือเปล่านะ ผมลุกขึ้นและกอดช่อนี้ไว้แน่น จริงๆ อยากกอดคนให้มากกว่า แต่รอก่อนเถอะ

          แต่ผมที่กอดช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไว้นั้น กลับเหลือบมองเห็นช่อดอกไม้อีกช่อหนึ่งที่แปลกพิลึก มันเป็นดอกกุหลาบสีดำที่มีการ์ดเล็กๆ ห้อยอยู่ มันมีแบบนี้ขายด้วยเหรอเนี่ย ผมเปิดการ์ดนั่นออก และอ่านข้อความในนั้นช้าๆ 

          ' ทำได้ดีนี่ธัชชา ' 

          ผมอ่านอีกรอบด้วยหัวใจที่สั่นไหว พลางมองออกไปยังคนที่ยืนกอดอกอยู่ไกลๆ นั่น เป็นที่ที่เกือบจะมองไม่เห็น  เซนเซย์งั้นเหรอ นี่คือการทายครั้งสุดท้ายสินะ ผมยิ้มออกมาอย่างเปรมปรี ต้องเรียกว่าหน้าบานเลยทีเดียว ทำเอาพิธีกรตกใจ เพราะผลการประกวดยังไม่ออก แต่ผมกลับยิ้มสดใสและชูมือขึ้นเหมือนกับชนะทุกรางวัลซะงั้น

          ผมโบกมือไปมาให้น้อง และพูดแบบไม่มีเสียงให้น้องอ่านปากของผม

          ' เราชนะ '  ธัชที่ตอนแรกทำหน้ามึนและหงอยๆ ตอนนี้กลับเริ่มยิ้มกว้างและโบกมือให้ผมอย่างมีความสุขเช่นกัน

          แต่การชนะครั้งนี้จะบอกใครไม่ได้ ถึงพวกเราจะชนะ แต่ตอนนี้ผมนั้นกำลังสวมบทเป็นธัชชาจริงๆ และเซนเซย์ก็หลงเชื่อ พวกเราชนะและรับรู้แค่เพียงในใจเราสองคนก็พอ การจะบอกว่าผมคือธิชากับเซนเซย์นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะพวกเรากำลังโกงการประกวดอยู่ยังไงล่ะ แต่แบบนี้พวกเราก็ต้องโดนเซนเซย์สั่งสินะ แต่ก็ช่างเถอะ จะสั่งให้ผมไปลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ก็ตามแต่ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว พวกเรายังคงเหมือนกัน โดยที่ไม่มีใครแยกออกจริงๆ นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ

          และผลการประกวดก็ออกมา ซึ่งผมก็ได้รับตำแหน่งเดือนมหา'ลัยกับมิสเตอร์ป๊อบปูล่าโหวตไปแบบงงๆ ก็คนมันหล่ออ่านะ ช่วยไม่ได้ ฮ่าๆ ผมยิ้มหน้าบานและรับสายสะพาย เดี๋ยวเอาไปคล้องให้ธัชทีหลัง หึหึ ผมนี่บราค่อนของแท้เลยแหละ

          หลังจากงานประกวดจบลงผมมองหาน้องชายอย่างรีบร้อน หายไปไหนของเขาอีกแล้วน้า เด็กคนนี้ ผมหลบฝูงชนที่พยายามถ่ายรูปกับผมอย่างยากลำบาก ต่อไปนี้คงใช้ชีวิตแบบส่วนตัวไม่ได้แล้วสินะ นี่ดีแล้วจริงๆ เหรอที่เป็นเดือนมหา'ลัย

          อึ๋ย แย่แล้ว เคียวเซนเซย์เดินตรงมาหาผมอย่างแน่วแน่ เอาวะ กลัวอะไรเล่า

          " ยินดีด้วยนะครับ ผมแพ้ซะแล้ว " ผมพยายามทำหน้าเจื่อนที่สุดที่เท่าจะทำได้ ตายละหว่า เคียวเซนเซย์ทำคิ้วขมวดมุ่น หรือว่าจะรู้ว่าเราเนียนเป็นธัชแล้ว

          " ถ้างั้นก็ดี คำสั่งก็คือ ต่อไปนี้นายกับพี่ชายต้องไปช่วยงานฉันที่ตึกคณะทุกวัน เข้าใจแล้วนะ " อะไรจะลัคกี้ปานนี้ สำเร็จ แบบนี้แพ้ก็เหมือนชนะละวะ ได้สิ่งที่ธัชต้องการเฉย แจ่มเลย 

          พอพูดเสร็จเซนเซย์ก็หันหลังเดินกลับไปอย่างรวดเร็วตามเคย เพราะอะไรกันนะ วันนี้เซนเซย์ถึงมองพวกเราไม่ออก หรือว่าเพราะพวกเราไม่ได้เสแสร้งสร้างอารมณ์ปลอมๆ ตบตาเซนเซย์เหมือนที่ผ่านๆ มา ผมคิด ว่าคงเป็นแบบนั้น

          " ยินดีด้วยนะครับ พี่เก่งจริงๆ " ผมหันหลังกลับไปมองน้องชายที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีแปลกๆ ยังคงรู้สึกไม่ดีอยู่สินะ ผมถอดสายสะพายออกและพยายามสวมให้น้อง แต่ธัชกลับยกมือห้ามผมเอาไว้

          " มันเป็นของพี่ " ธัชส่งยิ้มเศร้าๆ มาให้ผม

          " ถ้ามันเป็นของพี่ ก็ต้องเป็นของธัชด้วย มันเป็นของเรา พี่ทำ ก็เพื่อธัชเท่านั้น " ผมจับมือธัชไว้ มองธัชด้วยสีหน้าจริงจัง

          " พี่ขอโทษ... "

          " ขอโทษเรื่องอะไรกันครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย " ผมที่ยังไม่ทันพูดจบ ธัชก็แทรกขึ้นมา

          " กลับกันเถอะ " ผมพูดและจูงมือน้องเดินกลับไปยังที่ของเรา

          ไม่นานนัก พวกเราก็กลับมาถึงห้อง พร้อมของขวัญมากมายที่ได้จากงานประกวด ผมกองของทุกอย่างไว้กับพื้นแต่ช่อกุหลาบที่ได้จากธัชนั้น ผมกำลังยืนจัดมันลงในแจกันอยากรักใคร่

          " ทิ้งไปก็ได้นะครับ เดี๋ยวมันก็เหี่ยวแล้ว " ธัชมองผมที่กำลังจัดแจกันด้วยสีหน้าที่ยังคงหมองเศร้า

          " ไม่ ธัชอุตส่าห์ให้พี่ พี่ไม่ยอมทิ้งหรอก "

          " มันไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น " ผมหันไปมองน้องที่ยังคงยิ้มแบบเศร้าๆ ผมมันแย่จริงๆ ผมเกลียดที่พวกเราต้องเป็นแบบนี้ ผมควรจะทำยังไงดี

          ผมอาบน้ำเสร็จ ปิดไฟ หลับตาลงนอนบนเตียง ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ผมมองไปที่ประตูเหมือนเฝ้ารออะไรบางอย่าง นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่นะ ผมกำลังหวังอะไรกัน ผมจะทำให้น้องกลับมาร่าเริงได้ยังไง

          ผมตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอน ค่อยๆ เดินช้าๆ ไปที่ห้องของธัช และบิดลูกบิดประตูเบาๆ ผมเดินเข้าไปข้างใน จ้องมองธัชที่นอนอยู่บนเตียง หลับตา คงจะหลับไปแล้ว ผมค่อยๆ นั่งลงที่หัวเตียง จ้องมองใบหน้าของธัช ลูบเบาๆ ที่ผมและไล่ลงมายังแก้มที่ยังเห็นรอยช้ำน้อยๆ ด้วยหัวใจที่สั่นไหว ผมก้มลงจูบช้าๆ ที่รอยช้ำนั่น ไล่ไปเรื่อยๆ ยังริมฝีปากบาง ขบเม้มช้าๆอย่างอ่อนโยน

          " พี่ทำอะไรน่ะครับ " ธัชลืมตาขึ้นและจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเอาไว้ แต่ผมไม่ฟังหรอก ผมดันแขนธัชออก และดึงคอธัชเข้ามาประกบจูบอย่างร้อนแรง ผมไม่รู้ว่าทำอะไร รู้อย่างเดียวว่าผมต้องการธัช

          พวกเรายังคงบดเบียดริมฝีปากเข้าหากัน ธัชดูลังเลเล็กน้อยในตอนแรก แต่ตอนนี้ก็ตอบรับริมฝีปากของผมด้วยความเต็มใจ และดึงผมขึ้นมาบนเตียงลูบไล้ไปมาบนเสื้อนอนตัวบางของผม ผมละริมฝีปากออกและค่อยๆ เคลื่อนตัวลงต่ำมาเรื่อยๆ ไปยังส่วนที่ต้องการปลดปล่อยของน้องชาย พอเห็นแบบนั้น ธัชก็รีบรั้งตัวผมไว้และส่ายหน้าช้าๆ ในความมืด

          " คือว่าใช้มือก็ได้ครับ " ผมดึงแขนน้องออกจากไหล่และค่อยๆ ถอดกางเกงธัชลงช้าๆ ก้มลงใช้ปลายลิ้นโรมเลียส่วนแข็งขืนนั้นทันทีที่มันปรากฎในสายตา ผมสังเกตุเห็นขาของน้องที่เกร็งขึ้น และมือที่กำผ้าปูที่นอนแน่น

          ผมยกหัวขึ้นค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากครอบครองส่วนแข็งขืนนั้นไว้ ค่อยๆ ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนสุดโคนอย่างทุลักทุเล เพราะขนาดของธัชนั้นจัดว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ขาของธัชสั่นน้อยๆ และกระตุกเกร็งด้วยความเสียวซ่าน ผมค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากขึ้นลงช้าๆ ดูดเม้มแท่งอุ่นนั่น

          ผมใช้มือข้างที่ว่าง ล้วงเข้าใปในกางเกงนอนของตัวเองและขยับเบาๆ ที่ส่วนแข็งขืนที่ร้อนเป็นไฟของตัวเอง ผมตัวสั่นน้อยๆ เพราะว่าผมนั้นไม่ได้ช่วยตัวเองมานานแล้ว ทำให้การสัมผัสแม้เพียงนิดเดียว ก็ทำให้รู้สึกเสียวจนหูอื้อตาลายไปหมด ปากของผมยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีพร้อมๆ กับที่ฝ่ามือกำลังขยับขึ้นลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

          " อ..อึก พี่ครับ ผม.จะถึง.. " เสียงครางในลำคอ และเสียงหอบหายใจยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เครื่องปรับอากาศไม่สามารถทำให้พวกเราเย็นลงได้แม้เพียงเสี้ยววินาที ธัชเอื้อมมือเข้ามาในเรือนผมของผม และเกร็งตัวมากขึ้นไปอีกเมื่อผมเร่งจังหวะขึ้น ผมเร่งจังหวะที่ข้อมือตัวเองด้วยเช่นกัน

          " อ..อึก.. " ผมเกร็งตัวเป็นครั้งสุดท้ายกระตุกเบาๆ พลางปล่อยน้ำสีขาวออกมาเต็มกำมือ พร้อมๆ กับที่ธัชปลดปล่อยออกมาเช่นกัน 

          " ขอโทษครับ คายออกมาเถอะ " ธัชรีบลนลานหาทิชชู่มาเช็ดปากผมใหญ่ 

          " รสชาติโครตห่วย " ผมมองหน้าน้องพลางอมยิ้มขำ ธัชที่ตอนแรกคิ้วขมวดมุ่น ตอนนี้กลับค่อยๆ คลี่ยิ้มออก

          " สมน้ำหน้า ฮ่าๆ " ธัชหัวเราะเยาะผม หนอยไอ้เด็กนี่ ผมแบมือที่เปื้อนน้ำขาวขุ่นของผมแปะลงที่หน้าของธัชแบบเต็มรัก

          " เฮ้ย พี่ธิชเล่นอะไรเนี่ย " ผมหัวเราะลั่น พวกเราเริ่มสู้กัน โดยเอาหมอนตีกัน เล่นกัน กอดกัน หัวเราะด้วยกันเหมือนที่แล้วๆ มา ผมไม่สนว่าพวกเราจะทำผิด


ผมแค่อยากให้น้องยิ้ม ขอแค่น้องมีความสุขก็พอแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 28-09-2017 11:27:54
เรางงๆกับเซนเซย์ สรุปแยกออกจริงหรือไม่จริง
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 28-09-2017 11:32:57
เรางงๆกับเซนเซย์ สรุปแยกออกจริงหรือไม่จริง

ทุกอย่างมันมีเหตุผลค่ะ บอกไว้ก่อนว่าเซนเซย์น่ะร้ายกาจ เดี๋ยวรู้เลย 555+
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 28-09-2017 13:14:59
ลับลมคมในเว่อร์ :call:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-09-2017 15:14:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-09-2017 16:47:50
เซนเซย์ คนน่ากลัว  :ling3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 28-09-2017 23:52:47
น้องธัชให้ึความรู้สึกแปลกๆ ... จริงๆนะ ตั้งแต่ที่สลับกับธีชแล้วมีมีกลิ่นบุหรี่ติดเสื้อแล้วอะ หรือเราแค่คิดมากไปเอง.... ติดตามนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 29-09-2017 10:31:29
          TWINS บทที่ 12 ฝาแฝดและการเป็นเบ๊วันแรก


          หลังจากกิจกรรมต่างๆ นาๆ ได้จบไป คราวนี้ก็มาถึงมหกรรมการเรียน ที่ทั้งหนัก ทั้งเยอะ จนแทบจะอ้วกออกมาเป็นแคลเลยทีเดียว ผมพยายามจด อ่านและสอนน้องอยู่ตลอด แต่ธัชก็ไม่ไหวเอาซะเลย งอแงและไม่ยอมตั้งใจอยู่เรื่อยไป เฮ้อ เหมือนจับลิงเรียนหนังสือจริงๆ

          ในช่วงพักกลางวันนั้น ผมกับน้องก็มาหาข้าวกินกันใต้คณะเหมือนเช่นเคย แต่ผมรู้สึกไปเองหรือป่าวนะ เหมือนกับมีแต่คนจ้องพวกเราพลางซุบซิบนินทาไม่ขาด ก็นะ พวกเราชอบอยู่ด้วยกันแค่สองคน ไม่ค่อยยุ่งหรือสุงสิงกับใครมากนัก แต่ธัชก็มีเพื่อนมากพอดูเหมือนกัน แต่แค่ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเท่านั้นเอง

          และถึงผมจะรักความสงบ ชอบสันโดษแค่ไหน ผมก็เคยมีคนมาขอเป็นเพื่อนเหมือนกันนะ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คนเหล่านั้นมักหายไปในเวลาไม่นาน เรียกได้ว่าหายสาปสูญไปเลยแหละ เป็นเรื่องที่ผมพิศวงงงงวยมาช้านาน แต่ก็ช่างเถอะ ผมอาจจะเหมาะกับการอยู่แบบนี้มากกว่าละมั้ง

          " ว่าไงสองหนุ่มเดือนมหา'ลัย " ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ไอ้หน้าตายิ้มแป้นจนหน้าหมั่นไส้แบบนี้ 

          " พี่โชนกินข้าวหรือยังครับ มากินด้วยกันสิ " ธัชเอ่ยชวนอย่างเป็นมิตร

          " แค่เห็นหน้าตาน่ารักๆ ของทั้งสองคนพี่ก็อิ่มยันชาติหน้าแล้ว " ผมทำท่าทางจะสำรอก แต่พี่โชนกลับหัวเราะขำกลิ้งซะงั้น เป็นคนที่อารมณ์ดีจังเลยนะ

          " คณะแพทย์อยู่ตั้งไกล แถมเวลาพักก็น้อย ยังจะมีเวลามาเกี้ยวเดือนอีกแน่ะ " ธัชพูดพลางยิ้มขำ

          " ก็คุ้มละนะ " พี่โชนยังคงเท้าคางพลางยิ้มแป้น

          " มีใครอยากมีแฟนเป็นหมอไหม "

          " ไม่!!! " ผมกับน้องพูดพร้อมกันพลางเชิดใส่

          " คนน่ารักมักใจร้าย ฮืออ " ไอ้หมอบ้านี่ มันบ้าจริงๆ ผมอมยิ้มพลางคิดในใจ

          ช่วงบ่ายเป็นวิชาที่ผมไม่อยากเรียนที่สุด หึ่ยย เกลียดขี้หน้าคนสอนชะมัด และวันนี้พวกเราก็มาที่ห้องสโลปที่เก่า เลือกที่นั่งไกลๆ แบบเก่า ผมไม่อยากสบตาไอ้หมอนี่เลยจริงๆ ผมตั้งหนังสือเล่มใหญ่ขึ้นบังหน้าตัวเองเอาไว้ล่วงหน้า ฟังแต่เสียงก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ

          เสียงเอะอะจอแจเงียบลงทันทีที่เซนเซย์เดินเข้ามา ผมที่สงสัยก็แอบเหลือบมองดูหน่อยๆ แหม วันนี้ก็สุดยอดเลยนะ จะมีวันไหนที่พี่แกไม่เท่ห์บ้าง ผมควรเลียนแบบการวางตัว การเดิน หรือสไตล์การแต่งตัวของเซนเซย์หรือเปล่านะ แต่ผมไม่อยากขี้เก๊กสักหน่อย เอาเป็นว่าเป็นตัวของตัวเองนี่แหละดีที่สุด ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับตัวเอง

          " เซนเซย์วันนี้ก็หล่ออีกแล้ว ธัชอยากหล่อแบบนั้นบ้างจัง " ผมดึงจมูกน้องทันทีด้วยความหมั่นไส้

          " ห้ามไปเลียนแบบไอ้บ้านั่นนะ เดี๋ยวตีตายเลย " ธัชยู่หน้าแก้มป่องเพราะผมไปว่าไอดอลตัวเองเข้า ชิ ไอ้เด็กเห็นผู้ชายดีกว่าพี่

          " ไหนใครตอบได้บ้างว่าเมื่อกี้ ฉันพูดว่าอะไร " ผมรีบหดคอลงทันทีเพราะว่าเมื่อกี้ไม่ได้ฟังแฮะ เวรละ

          " ธิชา ว่าไง " หนอยย เอาอีกแล้วนะ เล็งแต่ผมนี่หว่า เอาไงดีวะ แม่งตอบไม่ได้

          แต่ผมที่กำลังเครียดอยู่นั้น ก็ต้องตกใจทันทีที่ธัชลุกขึ้นยืนแทนผม นี่เอาจริงเหรอเนี่ย

          " พรุ่งนี้จะมีสอบย่อยท้ายชั่วโมงครับ " ตายละ ไม่เนียนแน่ๆ เซนเซย์ต้องดูออกแน่นอนว่าคนที่ตอบไม่ใช่ธิชา ผมเตรียมอุดหูรอคำด่าด้วยใจระทึก

          " ดี นั่งลง "

          หืมมม เดี๋ยวนะ สำเร็จงั้นเหรอ ผมหมอบต่ำและยกมือสองข้างแปะกับน้องเบาๆ แบบ เยส พวกเราน่ะเจ๋งสุดๆ

          ในที่สุดเวลาของคาบเรียนก็หมดลง นักศึกษาคนอื่นๆ ต่างทยอยกันเดินออกจากห้อง ผมกับน้องก็ค่อยๆ เก็บของและเดินลงไปยังประตูทางออกตามคนอื่นๆ เช่นกัน

          " ธิชา วันนี้หลังเลิกไปช่วยฉันที่คณะด้วย มีงานให้ทำ " เริ่มแล้วสินะ ระบบเบ๊ของผู้แพ้ ชิ เซนเซย์พูดพร้อมกับเดินผ่านหน้าเราไปเลย เหอะ ไอ้คนไร้มารยาทนี่ เชื่อเขาเลย

          " ฮืออ แล้วธัชอ่ะ พี่ธิชขี้โกงอ่ะ " นั่นไง ไอ้ตัวดีงอแงซะแล้ว

          " สลับกันไง พรุ่งนี้ธัชก็ไป หรืออยากไปวันนี้แทนพี่ " ผมเลิกคิ้วถามน้อง

          " ผมบอกตรงๆ นะ กลัวๆ กล้าๆ ยังไงไม่รู้ ถ้าเซนเซย์จับได้นี่ชะตาขาดแน่นอน " ธัชทำท่าปาดคอช้าๆ จนผมเสียวสันหลังวาบ 

          " งั้นก็เอาแบบนี้แหละ ไม่ต้องสลับตัวหรอกเนอะ " 

          " ครับ งั้นผมกลับไปรอที่คอนโดนะ พี่จะกลับก็โทรหาผม เดี๋ยวผมมารับ " ธัชยิ้มกว้าง 

          " เดี๋ยวจะสืบมาให้ว่าเซนเซย์เป็นยังไง " ผมกระซิบข้างๆ หูธัช 

          " ฮ่ะๆ คร๊าบ ฝากด้วยนะ " ธัชยิ้มกว้างและเดินจากไป แน่ะ ยังจะหันกลับมาโบกมือให้อีกนะ น่ารักจังเลยน้า

          ผมหันหลังเดินไปที่คณะด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ผมจะโดนกัดหรือเปล่านะ ไอ้หมอนั่นดุยังกับร็อตไวเลอร์ แต่ก็นะ ผมต้องการรู้เรื่องของหมอนี่อยู่เหมือนกัน ถ้ารู้ว่าชอบอะไร ชอบคนแบบไหนจะได้บอกธัชได้

          ผมหยุดยืนอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งบนชั้นสูงสุดของตึกคณะ หมอนี่เป็นอาจารย์หัวหน้าภาควิศวกรรมเลยแฮะ ไม่ธรรมดาอีกแล้ว ผมยืนมองรูปบนผังและอ่านหัวข้อยิบย่อยบนบอร์ดเพื่อเก็บความรู้ แหม่ ในรูปยังเก๊กซะ ทำยังกับถ่ายปกนิตสาร เชอะ ผมใช้นิ้วจิ้มๆ บนรูปของเซนเซย์ขี้เก๊กนี่อย่างหมั่นไส้ อยากเผาทิ้งจริงโว้ย

          " จะจิ้มอีกนานไหม " อึ๋ย ยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่ส่งเสียง อ้ากก เห็นหมดแล้วใช่ไหม ผมรีบหดมือเข้าหาลำตัวและทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินเข้าห้องที่เซนเซย์เปิดประตูอยู่แบบวิ่งฉิว และนั่งแหมะลงที่เก้าอี้ในห้องนั้นอย่างเรียบร้อย

          ผมกวาดตามองดูรอบๆ ห้องอย่างสนใจ ในห้องตกแต่งแบบโมเดิิร์นโทนขาวดำ ผนังทุกด้านเต็มไปด้วยหนังสือ มีโซฟาตัวยาวสีดำตัวหนึ่งตั้งชิดริมหน้าต่างบานใหญ่ที่มีกระจกกั้นจนทึบแสง บนโต๊ะทำงานมีเพียงแมคบุ๊คหนึ่งตัวตั้งอยู่ มุมหนึ่งของห้องมีตู้โชว์และรูปถ่ายอยู่บนนั้น แต่ผมมองเห็นไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะมันค่อนข้างสูงทีเดียว ดูๆ แล้วไม่บอกก็รู้ว่าห้องใครเลยแหละ หมอนี่รสนิยมดีทีเดียว ดีทุกอย่างจนน่าหมั่นไส้ หึ่ยย

          " ใครใช้ให้นั่ง " เซนเซย์เดินตามเข้ามาและนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน ไขว่ห้างวางมือประสานกันบนตักและจ้องมองผมด้วยสายตาเบื่อหน่าย ผมรีบเด้งตัวเร็วจี๋พลางขมวดคิ้วมุ่น เหอะ เริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้วนะเฟ้ย

          " เห็นไม้กวาดนั่นไหม " ผมมองไปที่ไม้กวาดที่อยู่ตรงมุมห้อง อะไรนะ นี่อย่าบอกนะว่า

          " คือ เรื่องทำความสะอาดแม่บ้านเขาก็ทำให้ไม่ใช่เหรอครับ " ผมไม่ใช่แม่บ้านนะเฟ้ย นี่เอ็งเรียกข้ามาทำอะไรกันแน่

          " หน้าที่ของเธอก็คือ ฟังคำสั่ง และทำตาม ทุกอย่าง " เซนเซย์พูดคำว่าทุกอย่างแบบเน้นๆ ใช่ซิ๊ ผมพูดไว้เองแหละว่าจะทำตามทุกอย่าง แต่ไม่ใช่แบบนี้เฟ้ย แบบสั่งครั้งเดียวแล้วเลิกแล้วต่อกันอ่ะ มันต้องแบบนั้นเซ่

          หลังจากนั้นสองชั่วโมงผมก็ทำหน้าที่เป็นเบ๊ หรือทาสแบบครบวงจร หมอนี่มันแค้นผมแน่ๆ นี่อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆเลยสินะ หนอย ใช้เอาๆ จนผมหลังขดหลังแข็งไปหมด

          ผมเดินกลับคอนโดอย่างทุลักทุเล ผมไม่อยากรบกวนน้อง เลยเดินเองดีกว่า เพราะจริงๆ คอนโดก็อยู่ไม่ไกลจากมหา'ลัยเท่าไหร่

          " ธัช พี่กลับมาแล้วนะ " ผมเปิดห้องเข้าไปและส่งเสียงให้น้องรู้ว่าผมกลับมาแล้ว

          " ครับ ไหงสภาพเป็นแบบนั้นละครับ " ธัชมองผมแบบเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ผมเลยเล่าความชั่วร้ายของเซนเซย์ให้ฟังอย่างเดือดดาล แม่งแค้นโว้ยย จริงๆ เราชนะแท้ๆ ไม่น่าเล้ย

          " แค่กๆ " ผมหันไปมองน้องที่หน้าซีดและไอแปลกๆ

          " ไม่สบายหรอ ไหนขอพี่ดูหน่อย " ผมรีบเดินเข้าไปวางหลังมือลงบนหน้าผากและคอของน้องด้วยความเป็นห่วง 

          " เหมือนจะเริ่มเป็นไข้นะ รีบกินข้าวกินยาแล้วนอนเลย เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้ " ธัชจับมือผมไว้และยิ้มน้อยๆ

          " ผมยังปกติครับ ไม่เป็นไร พี่กินอะไรมาหรือยัง ผมจะทำให้ "

          " อย่าดื้อ " ผมจับหน้าน้องและเอาหน้าผากชนกับหน้าผากน้องไว้ 

          " พี่ชอบทำเหมือนผมเป็นเด็กเรื่อยเลย " ธัชอมยิ้มขำ 

          " ธัชเป็นเด็กน้อยเสมอในสายตาพี่ " แต่ผมที่พูดแบบนั้น ธัชกลับหุบยิ้มลงทันที

          " ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ผมจับพี่กดยังได้เลย " ห๊ะ อะไรนะ ทำไมต้องทำสีหน้าจริงจังแบบนั้นด้วย ไอ้เด็กนี่ เดี๋ยวเถอะ

          " กลัวตายล่ะ " ผมเอาหัวโขกซะเลย หนอย จะกดพี่หรอ เร็วไปล้านปีเฟ้ย ผมคิดพลางเดินเข้าห้องเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำและเช็ดตัวให้น้อง


ธัชลูบหน้าผากที่โดนชนพลางมองมาที่ผมและค่อยๆ ฉีกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่ได้มองเห็นมัน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #12 ฝาแฝดและการเป็นเบ๊วันแรก ](29/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-09-2017 10:47:30
ทั้งธัชทั้งเซนเซย์น่ากลัวพอกัน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #12 ฝาแฝดและการเป็นเบ๊วันแรก ](29/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 29-09-2017 11:57:46
โอย ตอนสุดท้ายแอบหลอนธัช ไม่ใช่เด็กน้อยในสายตาธิชแน่ๆ กลัว
เซนเซย์ก็น่ากลัว ต้องมีแผนอะไรแน่นอน
พี่โชนที่ดูน่ากลัวทีแรกกลายเป็นคนใสๆไปเลย
ดูทุกคนเข้าหาธิชแปลกๆ ทั้งๆที่(ในความคิดตัวธิชเอง)ธิชแมนมาก โหดมาก
สนุกมากค่ะ อ่านรวดเดียวเลย สารภาพว่าไม่ค่อยได้อ่าน twincest incest อ่านแล้วเขิน ไม่ค่อยกล้าอ่าน หัวใจอ่อนแอ  :o8:
มาต่อเร็วๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #12 ฝาแฝดและการเป็นเบ๊วันแรก ](29/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-09-2017 16:36:00
คนแก่ติดใจรอยยิ้มหลานธัช ดูสยองๆ  :sad3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #12 ฝาแฝดและการเป็นเบ๊วันแรก ](29/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 30-09-2017 11:17:48
          TWINS บทที่ 13 ฝาแฝดกับการเสี่ยงตาย


          ในวันนี้ผมกับน้องเดินทางมายังมหา'ลัย เพื่อสอบวิชาของเคียวเซนเซย์มหาโหด มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นซะจริง

          " ไหวแน่นะธัช " ผมใช้หลังมือวางที่คอของน้อง เพื่อเช็คดูว่าตัวร้อนมากไหม

          " ผมไหวครับ ยังไงก็ต้องไปสอบ ไม่งั้นผมแย่แน่ " ใช่แย่แน่ และที่แย่สุดๆ ก็คือ เป็นวิชาของเซนเซย์ขี้เก๊กนั่น 

          " ทำอย่างที่เราเคยทำนะ พี่จะเป็นคนทำข้อสอบทั้งสองชุดเอง " ผมบอกน้องถึงการสลับตัวสอบแบบที่พวกผมทำกันมาทุกครั้ง มันเป็นการโกงที่ไม่มีใครเคยจับได้ เพราะไม่เคยมีใครแยกพวกเราออก 

          " แต่ว่าพี่ครับ เซนเซย์น่ะ ผมกลัว ผมทำเองดีกว่า " 

          " แต่หลังๆ เซนเซย์จับพวกเราไม่ได้นะ พี่คิดว่าเราทำได้ " ถึงจะเสี่ยงและน่ากลัวจริงๆ ก็เถอะ แต่ผมต้องทำ เพราะธัชนั้นอาการล่อแล่มาก และคะแนนต้องเละเทะด้วยแน่ๆ ผมไม่อยากให้น้องสอบตก ถึงจะผิด แต่ผมก็ต้องทำ เพื่อธัช

          ผมกับน้องมาถึงคณะ และเดินไปที่ห้องสอบด้วยหัวใจที่เต้นรัว วันนี้ไม่ใช่ห้องสโลปแต่เป็นห้องธรรมดา แต่ก็กว้างมากๆ มีนักศึกษาเป็นร้อยที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เพื่อรอสอบ ผมกับน้องเลขที่ติดกัน นั่งใกล้กันเสมอ ไม่มีปัญหา ผมนั่งลงที่เก้าอี้เลคเชอร์ของผม พลางเหลือบมองธัชที่นั่งข้างๆ ผม แต่ก็ห่างออกไปเหมือนกัน

          การโกงของผมก็คือ ผมจะทำข้อสอบของผมด้วยความเร็วสุดๆ อย่างเช่นถ้ามีเวลา 2 ชั่วโมงในการสอบละก็ ผมก็จะใช้แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นในการทำข้อสอบของผม และอีก 1 ชั่วโมงที่เหลือ คือการทำข้อสอบของน้อง ผมไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ แต่ข้อสอบพวกนี้น่ะ หมูๆ สำหรับผม ให้ยากแค่ไหน ผมก็ทำได้ไม่มีผิดพลาด แต่ก็ต้องตั้งใจทำให้คำตอบของเราต่างกันบ้าง ถ้าเหมือนกันเกินไป ก็จะดูไม่เนียน พวกเราทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงการสอบเข้ามหา'ลัยด้วยเช่นเดียวกัน เด็กดีไม่ควรลอกเลียนแบบ หึหึ

          เคียวเซนเซย์เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเรียบเฉยดังเดิมพลางกวาดสายตาไปทั่วห้องสอบ เหมือนกับกำลังมองหาอะไรสักอย่าง  ผมหัวใจเต้นโครมคราม จนต้องขยำอกเสื้อด้านซ้ายเอาไว้ ให้ตัวเองใจเย็นลง ผมต้องทำได้ พวกเราต้องทำได้

          " เริ่มได้ " เซนเซย์พูดขึ้นและนั่งลงที่เก้าอี้หน้าห้อง นั่งกอดอกพลางมองไปรอบๆ ด้วยสายตาแหลมคม  ผมเหลือบมองธัชที่ตอนนี้เหงื่อซึมและหน้าซีดลงอีกอย่างน่าสงสาร เข้มแข็งไว้นะธัช พี่จะช่วยนายเอง ผมก้มลงทำข้อสอบด้วยความมั่นใจและไหลลื่น แทบไม่ต้องใช้กระบวนการคิดใดๆ ในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มเกาหัว กุมขมับ และโยนดินสอเสี่ยงทายกันอย่างสิ้นหวัง

          เวลาผ่านไป 45 นาที ผมมองนาฬิกา และลุกขึ้นถือกระดาษคำตอบไปที่หน้าห้อง สายตาทุกคนต่างจับจ้องมาที่ผม แบบไม่อยากจะเชื่อเลยทีเดียว เซนเซย์มองหน้าผม พลางดึงกระดาษคำตอบไปช้าๆ ผมกลืนน้ำลาย มือสั่นน้อยๆ ด้วยความกลัว แต่ผมจะหลบตาไม่ได้ มันเสี่ยงเกินที่จะทำพิรุธใดๆ ไปมากกว่านี้ ยิ่งกับคนคนนี้

          ผมเดินออกจากห้องสอบ พลางถอนหายใจ ผมรีบเดินไปที่ห้องน้ำอย่างเร็วจี๋ และเฝ้ารอน้องชายด้วยใจจดจ่อ 

          ' ก็อกๆ ' 

          เวลาผ่านไปสักพัก ผมรีบเปิดประตูทันทีที่ได้ยินเสียง มองซ้ายมองขวาดึงน้องเข้ามา และปิดประตูอย่างรวดเร็ว 

          " เป็นยังไงบ้าง " ผมเอามือประกบแก้มทั้งสองข้างของน้องเอาไว้ ธัชหายใจหอบและเหงื่อซึมจนเสื้อนักศึกษาเปียกโชก

          " ผมกลัวจัง " ธัชพูดเสียงสั่น บวกกับเป็นไข้ด้วย เลยน่าสงสารไปใหญ่ 

          " รีบกลับไปที่คอนโด กินยาแล้วพักผ่อนซะ " ผมพูดเบาๆ และลูบไรผมที่ชื้นเหงื่อของน้อง

          " แต่ตอนเย็นผมต้อง... " 

          " พี่จะไปแทนเอง " ผมจับไหล่น้องและจ้องตาให้น้องเชื่อมั่น

          " แต่ว่า.. " 

          " พี่ทำได้ เชื่อพี่สิ กลับไปพักซะ ธัชไม่ไหวหรอก " ธัชจับมือผมและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ผม

          " ขอบคุณครับพี่ ขอโทษนะครับ " ธัชหอมแก้มผมเบาๆ และออกจากห้องไป

          ผมเดินกลับมาที่ห้องสอบด้วยหัวใจที่สั่นระรัวอีกแล้ว ใจเย็นๆ สิ อย่าทำพิรุธ ผมยืนสูดหายใจเข้าออกลึกๆ และเปิดประตูเข้าไป เดินดิ่งไปยังเก้าอี้เลคเชอร์ที่ธัชนั่งเมื่อกี้ ผมจงใจทำท่าทางอ่อนแรงลงให้เหมือนธัช ทำทุกอย่างให้เซนเซย์เชื่อว่าผมคือธัช คือคนที่ขอไปเข้าห้องน้ำเมื่อกี้ และกลับเข้ามาใหม่ 

          ธัชทำข้อสอบไปบ้างแล้วเล็กน้อย แต่ก็ผิดเยอะทีเดียว ผมแก้ และทำต่ออย่างรวดเร็ว ข้อสอบของผมกับธัชนั้นเป็นคนละชุดกัน คำตอบจะไม่เหมือนกัน แบบนี้ก็ดีแฮะ คิดใหม่ก็ไม่เป็นไร กระจอกมาก

          ' ตุบ! ' 

          มือที่อยู่ดีๆ ก็วางลงบนโต๊ะของผม ทำให้ผมหลุบตาต่ำ เสียงหัวใจของผมในตอนนี้มันเต้นเหมือนกับย้ายขึ้นมาอยู่ที่หูยังไงยังงั้น เหงื่อไหลซึมออกมาจนผมแสบตาไปหมด ทั้งๆ ที่ห้องนี้ก็เปิดแอร์เย็นสุดๆ แท้ๆ ผมพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่นอย่างยากลำบาก เพราะว่าตอนนี้ เคียวเซนเซย์กำลังยืนอยู่ข้างๆ ผม วางมือลงบนกระดาษคำตอบของผม พลางก้มลงจ้องมองผมอย่างพินิจพิจารณา ผมตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความกลัว ไม่นะ ได้โปรดเถอะพระเจ้า ผมสวดภาวนาในใจ พยายามหายใจให้เบาที่สุดด้วยความหวาดหวั่น

          " จบนี่ไปหาฉันที่ตึกคณะ เข้าใจนะ ธัชชา " ผมเงยหน้ามองเซนเซย์ ที่ตอนนี้เดินกลับไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว นี่ผม  รอดงั้นเหรอ ผมใช้มือข้างหนึ่งบังหน้าตัวเองเอาไว้ และหัวเราะในลำคออย่างโล่งใจ ผมคิดว่าจะต้องเผชิญกับวันสิ้นโลกซะแล้ว ขวัญเอ้ยขวัญมา อยากลุกขึ้นเต้นเบรคแดนซ์เลยทีเดียว ผมทำได้ นี่มันสุดยอดจริงๆ

          หลังจากชั่วโมงสอบสุดระทึกขวัญจบลง ผมเดินยิ้มหน้าบานไปที่ตึกคณะตามที่เซนเซย์บอก แต่พอคิดว่าจะเจอกับอะไรบ้างก็ได้แต่ทอดถอนใจ คงไม่แคล้วเป็นเบ๊เช่นเดิม เฮ้อ พวกเราจะต้องทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันนะ ผมสงสารน้องที่ต้องมาคอยรองรับอารมณ์ไอ้เซนเซย์จอมโหดนี่จริงๆ

          ผมยืนตั้งหลักอยู่หน้าห้อง ยืนยิ้มกับเงาสะท้อนในกระจกอีกนิด เพื่อความเนียนเป็นธัช ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป เอาวะ ต้องรอด

          เซนเซย์นั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานตัวเดิม นั่งกอดอกและพิงพนักแบบสบายๆ พลางจ้องมองผมไม่วางตา ผมส่งยิ้มให้และนั่งลงแบบเดิม แต่ก็ต้องเด้งขึ้นมา เพราะว่าถ้านั่งแบบที่เซนเซย์ยังไม่ได้สั่ง คงจะโดนด่าอีกตามเคย

          " ทำอะไร นั่งลงสิ " ห๊ะ เมื่อกี้ว่าไงนะ ผมตาโตยืนมึนพร้อมจ้องมองเซนเซย์ด้วยความงงงวย วันนี้มาไม้ไหนฟะ

          " ในห้องสอบเหมือนจะไม่สบายนะ ตอนนี้หายแล้วเหรอ " นี่นาย ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย 

          " เอ่อ พอสอบเสร็จก็รู้สึกดีขึ้นครับ " ผมอึกๆ อักๆ ไม่รู้จะพูดยังไง พี่แกวันนี้อารมณ์ดีแปลกๆ

          " เหรอ งั้นก็ดี " เซนเซย์ยังคงทำหน้าเรียบเฉย แต่ก็ดูใจดีกว่าเมื่อวานที่ใช้ผมงกๆ แปลกมาก

          " กินขนมนี่สิ อร่อยนะ " ห๊ะ ผมตาโตรอบสอง เดี๋ยวๆๆ มันยังไงกันแน่ นี่แกเป็นคร๊าย

          " คือผมไม่ค่อยหิวครับ " ใครจะไปกล้าฟะ ใส่ยาพิษอ๊ะป่าว

          " เพราะไม่สบายเลยไม่ร่าเริงหรือไงธัชชา " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบหยิบขนมเข้าปาก พลางยิ้มแป้นอย่างจงใจ อย่าให้สงสัยน่าจะดีกว่า

          " แหม อร่อยนะครับ ฮ่ะๆ " ผมพยายามทำตัวสดใสทั้งๆ ที่หัวใจหม่นหมองซะเหลือเกิน

          " แล้วพี่ชายจอมโอหังของเธอ เป็นยังไงบ้าง " ผมหุบยิ้มลงฉับพลัน เย็นไว้ไอ้ธิช 

          " พี่ธิชเป็นคนดีมากครับ เก่ง หล่อ ใจดี เพอร์เฟคครับ ผมรักพี่ม๊ากมาก " ผมแหลชมตัวเองด้วยความมั่นใจ ถ้าถามธัช ธัชก็คงจะพูดแบบนี้แหละ ไม่ได้เข้าข้างตัวเองจริงจริ๊ง

          " งั้นเหรอ ฝากบอกพี่ชายเธอด้วยนะว่าอย่าคิด ว่าอะไรๆ มันจะง่ายไปหมด ระวังตัวไว้ให้ดี " ผมจ้องมองเซนเซย์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย และพลันฉีกยิ้มอย่างรวดเร็ว 

          "  ฮ่ะๆ เซนเซย์พูดอะไรกัน ผมไม่เห็นเข้าใจเลย " ผมแกล้งยิ้มหน้าบาน ทั้งๆ ที่สองมือที่อยู่บนตักนั้นกำแน่น

          " หึ งั้นเหรอ " เซนเซย์มองผมและหัวเราะ หึ อย่างกวนบาทาแท้ๆ

          " เห็นชั้นหนังสือนั่นไหม ช่วยจัดเรียงให้หน่อยละกัน " เอาล่ะงานเริ่มมา ชิ 

          ผมหันไปมองชั้นหนังสือที่สูงซะเหลือเกิน   พลางลุกขึ้นและดิ่งไปที่ตรงนั้น ผมไล่มองหนังสือแต่ละเล่มด้วยความสนใจ เพราะผมนั้นก็ชอบอ่านหนังสือเช่นกัน ผมสังเกตเห็นว่าหนังสือส่วนมากเป็นภาษาญี่ปุ่น ดูแล้วน่าจะมีแต่เรื่องยากๆ แต่ก็มีที่น่าสนใจเยอะเหมือนกัน ผมไล่สายตาไปเรื่อยๆ ไปยังชั้นบนๆ และก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

          ' จิตวิทยาขั้นสูง '

          ' พฤติกรรมมนุษย์ '

          ' จิตเวชศาสตร์ '

          ผมหรี่ตามองพลางเอื้อมมือไปยังชั้นบนสุด เพื่อพยายามเอาหนังสือพวกนั้นลงมา หนังสือพวกนี้ดูไม่เข้ากับเซนเซย์เลยสักนิด หมอนี่เป็นใครกันแน่นะ ผมเขย่งเท้าและเอื้อมมือขึ้นให้สูงสุดๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

          ' หมับ! ' 

          ผมมองมือของผมที่ตอนนี้ถูกมือของเซนเซนย์จับไว้ด้วยความตกใจ พลางทำตัวลีบติดชั้นหนังสือไปเรียบร้อย

          ก..ใกล้เหลือเกิน หลังของผมตอนนี้นาบไปกับด้านหน้าของเซนเซย์จนเรียกว่าแนบสนิทเลยทีเดียว กลิ่นน้ำหอมของเซนเซย์ก็แบบว่า กลิ่นหอมหวนซะเหลือเกิน 

          " ทำอะไรน่ะ มันอันตรายนะ ถ้าตกลงมาใส่หัวจะว่ายังไง "  ผมดึงมือตัวเองออกจากมือของเซนเซย์และมุดออกมาจากจุดนั้น มายืนทำหน้ามึนด้วยความงงๆ

          " ขอโทษครับ แต่มันสูงมากๆ ก็เลย.. " ผมอ้ำอึ้งๆ ไม่รู้จะแถยังไง 

          " ข้างบนนั่นไม่ต้องยุ่งหรอก จัดเท่าที่เอื้อมถึงก็พอ " เซนเซย์พูดพลางกลับไปนั่งไขว่ห้างตามเดิม หัวใจของผมเต้นรัวเร็วอย่างบอกไม่ถูก 

          เวลาผ่านไปนั้น ผมก็ยังคงจับนั่นหยิบนี่ การอยู่กับหนังสือก็ไม่เลวทีเดียว ผมชอบห้องนี้แฮะ แต่ไม่ชอบเจ้าของห้องเอาซะเลย เชอะ

          " วันนี้พอแค่นี้ก่อน เธอพักอยู่แถวไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่ง " ห๊ะ นี่ผมหูฝาดหรือกำลังฝันฟะ ผมแอบหยิกก้นตัวเองและก็ต้องน้ำตาเล็ด เพราะเจ็บชิบหาย

          " เอ่อ ใกล้ๆ แถวนี้เองครับ เดี๋ยวผมเดินไปเองดีกว่าแปบเดียว ฮ่ะๆ ขอบคุณนะครับ ผมลาล่ะ " ผมที่กลัวจะถูกรั้งไว้ ก็รีบยกมือไหว้และพุ่งตัวเร็วจี๋ออกจากห้องเซนเซย์อย่างไวว่อง

          วันนี้มันอะไรกันฟะ ไอ้หมอนี่อาจมีฝาแฝดก็ได้ เพราะมันแปลกสุดๆ จริงๆ ดูใจดีพิลึก เหมือนจะดี แต่ก็น่ากลัว  ผมเดินไปเรื่อยๆ พลางคิดทบทวนสิ่งต่างๆ หรือว่าเพราะคิดว่าเป็นธัช ก็เลยใจดีกันนะ

          ผมที่คิดแบบนั้นก็หยุดเดินทันที ผมไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองตอนนี้เลย แบบนี้ผมควรดีใจสินะ ที่เซนเซย์เอ็นดูธัช แต่ว่าทำไมกันนะ ผมถึงยิ้มไม่ออกทั้งๆ ที่ควรจะดีใจแท้ๆ


ผมเฝ้าแต่ถามตัวเองแบบนั้น และก็ไม่ได้คำตอบเช่นเดิม
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-09-2017 12:31:09
เซนเซย์ ศึกษาจิตวิทยา พฤติกรรมมนุษย์
คงรู้และแยกแยะแฝดออก เลยตั้งใจทายให้ผิด
เพราะถ้าทายถูก แฝดทั้งคู่ก็ถูกเปิดโปงว่าทำผิดกฎมหาลัย
จะทายถูกทายผิด แฝดก็ยังต้องไปชดใช้เซนเซย์อยู่ดี เซนเซย์ร้ายกาจ  :z6: :z6: :z6:

ธัช มีเล่ห์เหลี่ยม แต่ใช้ท่าทีเงื่องหงอยหลอกลวงพี่  o18
ที่ธัชบอกว่าผมสามารถกดพี่ได้เลยนะ  นั่นนะจริง
เพราะธัชเล่นเวท ออกกำลัง จนฟิตแอนด์เฟิร์ม
แต่ธิช ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ก็แข็งแรงสู้ธัชไม่ได้แน่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 30-09-2017 14:32:52
เซนเซย์หลอกให้ธิชตายใจแน่ๆ น่าจะแยกแฝดออกทุกครั้ง ร้ายนัก
แต่คนที่ร้ายแต่ธิชไม่รู้นี่น่ากลัวกว่า ธัชน่ากลัวมากจ้องจะงาบตัวเองอยู่ยังไม่รู้ตัว คนอื่นๆที่เข้ามาแล้วหายไปก็น่าจะเป็นเพราะธัชนั่นแหละ ต้องไปทำอะไรไว้แน่
เดาว่าเคียวเซนเซย์ กับธัชต้องหวังเคลมธิช
ตอนนี้เซนเซย์อาจจะสนใจพฤติกรรมเฉยๆ แต่ธัชนี่ต้องระวัง
เอาจริงเดาทางไม่ถูกเลย แต่อยากให้เป็นงี้ ฮ่าๆ อ่อ อยากให้เป็น 4P  ด้วยซ้ำ สงสารพี่โชน  :hao5:
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 30-09-2017 16:11:45
เซนเซย์แยกแฝดออก อย่ามาแกล้งตีเนียนนน
แฝดต้องระวังตัวกว่านี้นะะะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-09-2017 20:18:44
หลอกซ้อนหลอก

หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 30-09-2017 21:13:22
ธิชตอนนี้ไม่เนียนเลย เราว่าถ้าธัชโดนถามเรื่องพี่ ยังไงปฏิกิริยาน่าจะไม่ใช่แบบนี้แน่ๆอะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 30-09-2017 21:20:59
ธิชตอนนี้ไม่เนียนเลย เราว่าถ้าธัชโดนถามเรื่องพี่ ยังไงปฏิกิริยาน่าจะไม่ใช่แบบนี้แน่ๆอะ

อันนี้ตั้งใจแบบขำๆค่ะ ซึ่งจริงๆถึงจะเนียนเหมือนสุดๆ ก็หลอกเซนเซย์ยากจ้า 555+
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-09-2017 21:41:18
ตกลงมีแต่หลานธิคนเดียวที่ตามใครไม่ทันใช่ปะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 01-10-2017 13:04:12
          TWINS บทที่ 14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์


          ผมกลับมาถึงห้องด้วยความมึนงงและคิดไม่ตก เฮ้อ ช่างมันก่อนละกัน พรุ่งนี้อาจได้รู้อะไรมากขึ้นก็ได้ ผมคิดพลางเปิดประตู มองหาบุคคลที่ผมเป็นห่วงซะเหลือเกิน ผมหิ้วโจ๊กของโปรดมาฝากธัชด้วย ยิ่งไม่สบายถ้าได้กินต้องหายไวแน่ๆ  ผมแกะโจ๊กใส่ถ้วยและเดินเข้าไปหาน้องในห้อง ผมจับตัวน้องอีกครั้ง ตัวยังร้อนนิดๆ แฮะ เดี๋ยวต้องเช็ดตัวอีกที

          " พี่มาแล้วเหรอครับ " ธัชลืมตาขึ้นและยิ้มให้ผมอย่างอ่อนแรง

          " เป็นยังไงบ้างธัช ยังปวดหัวหรือเปล่า " 

          " แค่ตัวร้อนนิดหน่อยเองครับ แต่พรุ่งนี้ก็คงหายแล้ว " 

          " หิวไหม พี่ซื้อของโปรดเรามาให้แน่ะ อยากกินไหมพี่จะป้อน " ธัชดันตัวขึ้นทันทีที่ได้ยิน ฮ่ะๆ เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ  ผมช่วยให้น้องนั่งได้ถนัดๆ พลางเป่าโจ๊กและ

          " อ้ามมม " ผมที่บอกแบบนั้น แต่ช้อนดันเลี้ยวเข้าปากตัวเองซะได้ ฮ่าๆ นิสัยไม่ดีเลยไอ้มือไม่รักดีนี่

          " พี่ธิชเล่นมุกนี้ตลอด ฮ่ะๆ " 

          " อย่ากังวลพี่ตีมันให้แล้ว ฮ่าๆ " ผมยิ้มพูดเล่นกับน้อง ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อก่อน คนที่เล่นแบบนี้ก็คือธัชต่างหากล่ะ

ผมจ้องมองธัช ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ธัช ลูบหัวน้องเบาๆ พลางนึกถึงอดีตที่พวกเราเคยผ่านพ้นมา


          ผมที่หาเศษขนมปังมาได้ ก็รีบกลับมาหาน้องชาย ที่นอนรอกินข้าวด้วยสายตาเหม่อลอย ธัชตัวมอมแมมไปหมด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะหาเสื้อผ้าดีๆ ให้ธัชเอง ผมนั่งลงและลูบแก้มที่เปื้อนโคลนของน้องด้วยความรัก ผมมองขนมปังในมือที่มีแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่คงพอให้น้องอิ่มได้

          " ธัช กินนี่ซะนะ " ผมฉีกขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ และป้อนให้น้อง

          " แล้วพี่ละครับ " ธัชมองผมด้วยใบหน้าระโหยโรยแรง

          " พี่กินแล้ว พี่อิ่มแล้ว " ผมโกหก และยิ้มให้น้องอย่างอ่อนโยน   

          " อ้ามม " ธัชหยิบขนมปังขึ้นมาและ​ยื่นมันมาให้ผม

          " ผมอยากป้อนพี่ " ผมส่ายหน้าไปมาและดันมือน้องออก 

          " พี่อิ่มแล้วจริงๆ ธัช " ผมยิ้มให้น้อง ธัชน่ะเป็นเด็กดี และมองผมออกเสมอ

          ธัชยังคงยื่นขนมปังมาจ่อปากผมอยู่อย่างนั้น แต่พอผมอ้าปาก ธัชก็เอาขนมปังนั้นเข้าปากตัวเองซะงั้น หนอย เด็กคนนี้นี่ 

          " นี่แนะ เด็กคนนี้ " ผมหยิกแก้มน้องแบบหมั่นเขี้ยว เห็นธัชยิ้มได้ผมก็มีแรงแล้ว ไม่มีอะไรมีค่าสำหรับผม นอกจากธัชอีกแล้ว

          " พี่ครับ ถ้าพี่ไม่มีผม พี่จะสบายกว่านี้ไหม " ผมหุบยิ้มลงและกอดน้องไว้แน่นราวกลับกลัวว่าน้องจะหายไป

          " อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ " ผมเสียงสั่น นั่นเป็นสิ่งที่ผมกลัวเหลือเกิน

          " ถ้าหากพี่ไม่มีธัชแล้วละก็ พี่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ " พวกเรากอดกันทุกๆ วัน เหมือนกับว่าทุกๆ วัน จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ด้วยกัน ขอแค่มีธัชอยู่ ผมก็ยังคงมีวันพรุ่งนี้เสมอ และโลกที่แสนมืดมนนี้ก็ยังคงงดงามเสมอในใจของผม


          รุ่งขึ้นผมและน้องมามหา'ลัยตามปกติ ตอนนี้พวกเรากำลังเดินจากลานจอดรถเพื่อไปยังสถานที่ที่จะเรียน ผมมองธัชที่อาการป่วยดีขึ้นแล้ว จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

          " แล้วเป็นไงบ้างครับกับเซนเซย์น่ะ " ธัชถามผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

          " ก็ดีนะ พี่ชอบหนังสือของเซนเซย์ เยอะดี " ผมชอบแต่หนังสือนั่นแหละจริงๆ นะ

          " แปลว่าเขาดีกับพี่เหรอครับ เห็นวันแรกบ่นแทบตาย " 

          " ก็เมื่อวานน่ะ เขาคิดว่าพี่เป็นธัชใช่ไหมล่ะ "

          " หมายความว่ายังไงอ่าครับ " ธัชถามผมตาแป๋ว 

          " เซนเซย์อาจจะชอบธัชก็ได้มั้ง " ผมตอบแบบไม่ค่อยมั่นใจ และจ้องมองน้องที่ทำหน้าตกใจทันที

          " พูดเป็นเล่นไปพี่ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะสนใจผมเลย "

          " ไม่รู้สิ วันนี้พี่ก็ต้องไปหลังเลิกเรียนอีก ถ้าวันนี้หมอนั่นกวนพี่ แกล้งพี่เหมือนวันแรกก็ชัดเจน " 

          " แล้วพี่ รู้สึกยังไงเหรอครับ " ผมมองหน้าธัช ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่ธัชถามผม 

          " เอ่อคือ นายสองคนกำลังจะไปเรียนเวิร์คช็อปเหมือนกันใช่ป่ะ คือเราไม่มีเพื่อนเลยน่ะ เราขออยู่กลุ่มด้วยได้ไหม " ผมกับน้องมองหน้าบุคคลที่กำลังยืนขวางทางพวกผมอย่างงงๆ หนุ่มหล่อเข้ม กำลังยืนยิ้มแฉ่งให้ผมกับน้องอย่างเป็นมิตร

          " ได้สิ นายชื่ออะไรล่ะ " ธัชเอ่ยถามและส่งยิ้มให้

          " เราชื่อท็อปนะ ไม่มีใครอยากให้อยู่กลุ่มด้วยเลยอ่ะ ฮ่ะๆ ฝากตัวด้วยนะ " ผมแค่ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนที่เคย ในขณะที่ธัช ชวนเพื่อนใหม่คุยอย่างเป็นมิตร

          คาบเรียนวันนี้เป็นการทำเวิร์คช็อปของแท้ เซนเซย์ต้องการให้เราทำซีแคลมป์คนละชิ้น สนุกดีนะ แต่ร้อนชะมัด ผมตั้งใจทำงานของผม ในขณะที่ธัชก็ทำแบบผิดๆ ถูกๆ จนผมต้องช่วยอยู่ตลอด ผมเหลือบมองเซนเซย์ที่เดินเฉียดไปมาแถวๆ ผมบ่อยเหลือเกิน พลางจ้องมองผมแบบกวนประสาท 

          " นาย เอ่อ ธัช "

          " ธิช " ผมพูดชื่อตัวเอง พลางจ้องมองหนุ่มผิวเข้มคิ้วดก ที่เรียกผมกับน้องแบบผิดๆ ถูกๆ อย่างเงอะๆ งะๆ ผมไม่ค่อยมีไมตรีจิตรเท่าไหร่ เลยไม่รู้จะทำตัวยังไง

          " นายเก่งจังเลยนะ สอนเราบ้างสิ " ไอ้ท็อปนี่พูดพลางมายืนข้างๆ ผม ชะโงกหน้ามาใกล้ซะผมต้องถอยหลังออก

          " ใช่ไหมล่า พี่ธิชน่ะ เก่งสุดๆ ไปเลย " ธัชก็ชะโงกหน้ามาเหมือนกันพลางยิ้มแป้นจนตาหยี

          " นั่นสินะ เริ่มจะชอบแล้วสิ " ผมมองหน้าไอ้คนพูดพลางขมวดคิ้วมุ่น 

          ในที่สุดคาบเรียนก็จบลง หลังจากที่นายท็อปอะไรนี่บอกว่าชอบผม หมอนี่ก็ตามติดผมแจจนน่ารำคาญ และผมสังเกตว่าธัชพูดคุยน้อยลง และอยู่ดีๆ ก็ไม่แจ่มใสเอาซะเลย แปลกแฮะ ไม่สบายอีกหรือเปล่านะ

          ผมกับธัชแยกกันที่หน้าคณะ เพราะว่าผมต้องไปช่วยงานเซนเซย์เช่นเคย

          " พี่ครับ เดี๋ยวผมกับท็อปจะไปหาอะไรกินกันนิดหน่อยนะครับ " ผมมองน้องชายด้วยความเป็นห่วง

          " อย่ากลับดึกนะธัช ถ้าพี่กลับไปแล้วไม่เห็นธัชละน่าดู พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ " ผมจับแก้มน้องและจ้องเขม็งด้วยสายตาดุดัน

          " คร๊าบบ ดุอีกแล้ว " ธัชทำหน้าหงอยแต่ก็อมยิ้มเจ้าเล่ห์

          " พี่น้องรักกันดีจัง " ผมมองไอ้หนุ่มท็อปพลางหน้าบึ้งใส่

          ธัชกับท็อปเดินไปด้วยกัน ผมมองทั้งสองคนนั่นที่เดินไปจนสุดสายตา รู้สึกแปลกๆ แฮะ แต่คงไม่มีอะไรหรอก ผมหันหลังและเดินต่อไปยังตึกคณะ ไปยังห้องทำงานของเซนเซย์

          " ช้าจริง คิดว่าที่ทำอยู่นี่เป็นเรื่องเล่นๆ หรือไง " ทันทีที่ผมก้าวเข้ามา ผมก็ต้องหูชาทันที เป็นอันชัดเจน หมอนี่เกลียดผม และเอ็นดูธัชแน่นอน ผมมองใบหน้าที่โหดเหี้ยมของเซนเซย์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย 

          " ขอโทษครับ พอดีแวะเข้าห้องน้ำเลยช้า " ผมก้มหัวลงและหลุบตาต่ำไม่อยากมองหน้าไอ้บ้านี่

          " นั่งลง " ผมเดินเข้าไปนั่งลงตรงหน้าเซนเซย์และไม่สบตาเช่นเคย

          ' ก็อกๆ ' 

          " เซนเซย์คะ คือว่า... " หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะเหลือบมองเห็นผม หล่อนเลิกคิ้วขึ้นด้วยใบหน้าสงสัย

          " มีอะไร วันนี้ไม่ว่างหรอกนะ " เหอะ ไอ้บ้านี่มั่วผู้หญิงอีกแล้ว หน้าไม่ซ้ำกันเลยแต่ละคน หมั่นไส้ชะมัด

          " เอ่อ เด็กนี่ใครเหรอคะ ใช่เดือนมหา'ลัยปีนี้หรือเปล่านะ " ไม่รู้ทำไมผมเห็นเซนเซย์กระตุกยิ้มนิดนึงพลางจ้องหน้าผม

          " คนนี้น่ะไม่ใช่หรอก คนน้องต่างหาก ที่เป็นเดือนมหา'ลัย " ผมมองหน้าเซนเซย์แบบไม่สบอารมณ์ 

          " แต่ก็หล่อทั้งคู่อยู่ดีแหละ ก็แฝดนี่นะ " รุ่นพี่สาวพูดพลางมองหน้าผมและยิ้มให้

          " งั้นวันนี้หนูไม่กวนแล้วค่ะ แต่หนูจะโทรหานะคะ " ผู้หญิงนั่นส่งยิ้มให้ผมอีกครั้งและเดินออกไป

          " หึ ทำตัวแบบนี้เหรอ เป็นอาจารย์แท้ๆ " ผมพูดเบาๆ ก้มหน้าลงต่ำ

          " ทำไม เป็นอาจารย์แล้วยังไง " เซนเซย์เท้าแขนข้างหนึ่งลงกับที่พักแขน พลางจ้องมองผมแบบกวนสุดๆ

          " อิจฉาหรือไง แต่ฉันไม่สนเธอหรอกนะ " ผมเงยหน้ามองไอ้บ้านี่ด้วยความเดือดดาล

          " เป็นบุญของผมมากกว่าครับ ที่เซนเซย์ไม่สนน่ะ " เซนเซย์เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งสนิทเย็นยะเยือกตัดขั้วหัวใจ

          ' หมับ! ' 

          เซนเซย์ยื่นมือมาบีบแก้มผมเอาไว้และดึงเข้ามาใกล้จนผมต้องจับข้อมือของเซนเซย์ไว้ด้วยความเจ็บ

          " เธอจะได้รับบทเรียนเองเมื่อถึงเวลา " ผมขมวดคิ้วสงสัย นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน

          เซนเซย์ปล่อยผมและกลับไปนั่งพิงพนักเหมือนเดิม ผมลูบแก้มตัวเองช้าๆ หมอนี่แรงเยอะชะมัด

          " วันนี้กลับไปได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอนักหรอก " ผมลุกขึ้นทันที และเดินออกไปแบบที่ไม่พูด และไม่บอกลาสักคำ

          ไอ้บ้าเอ้ย ไม่อยากเห็นหน้างั้นเหรอ หน้าผมก็เหมือนน้องนั่นแหละ ทำมาพูด โมโหโว้ย ผมโมโหจนเดินเหยียบเชือกรองเท้าหลุด ผมก้มลงผูกเชือกรองเท้าพลางบ่นปากขมุบขมิบอย่างอารมณ์เสีย

          " เป็นอะไรถึงอารมณ์เสียขนาดนี้น้า " ผมเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมพลางขมวดคิ้วมุ่น 

          " พี่โชนมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ " ไอ้หมอแว่นนี่ร่อนไปทุกที่เลยแฮะ ก็เป็นพวกนักกิจกรรมนี่นะ คงไม่แปลก พี่โชนนั่งลงยองๆ จ้องหน้าผมด้วยรอยยิ้มตาหยีแบบที่ธัชว่า

          " ไม่อยากมาที่นี่นักหรอก กลัวเจอหมาบ้า " ผมรู้เลยว่าพี่โชนหมายถึงใคร ผมยิ้มกลับให้พี่โชน ดูเหมือนเราจะมีอะไรคล้ายๆ กันนะ

          " พี่รู้ไหม ว่าผมคือใคร " ผมจ้องพี่โชนและยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่อยู่ดีๆ พี่โชนก็ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาหาผมใกล้ๆ จนผมต้องหดคอถอยหนี 

          " ฮ่าๆๆ ถ้าปฏิกิริยาแบบนี้ก็ธิชแน่ๆ " เป็นงั้นเองหรอกเหรอ เป็นการแยกผมออกจากน้องที่ร้ายกาจจริงๆ หึ

          " อยากไปหาไรกินกันไหมครับ " ผมพูดพลางมองหน้าพี่โชนที่่ตอนนี้ ทำท่าเหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งซะงั้น บางทีคนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ผมยิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้า


แต่จริงๆ แล้วผมวางแผนจะตามแอบดูธัชต่างหากล่ะ พี่โชนรู้คงร้องไห้แน่ หึหึ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ](01/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-10-2017 17:22:15
พาไปดูด้วยคนซิ  :m22:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ](01/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 01-10-2017 20:42:43
ในอดีตสองแฝดทำไมถึงน่าสงสารอย่างนี้อะ มีเรื่องอะไรกันนะ
เซนเซย์เริ่มทวีความร้าย ธิชต้องสู้นะ
ธัชหึงพี่ใช่ไหมตอนที่ท็อปเข้ามาวอแว
ธิชผู้มีสเน่ห์ต่อเพศผู้ แบบนี้ก็ไม่ต้องเดาแล้วแหละ
อยากจะอ่านสัก 10 ตอน  :hao5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ](01/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-10-2017 21:15:12
ธัชหงอยเพราะธิมีคนสนใจเหรอ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ](01/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 01-10-2017 22:28:46
แค่ได้อยู่กับธิช พี่โชนเขาคงแฮปปี้แหละ 5555
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ](01/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-10-2017 22:43:56
ธัช พอรู้ว่าท็อปสนใจธิช ก็หงอยๆ ซึมแปลกๆ
ตอนออกไปกับท็อป คิดว่าธัช ต้องทำอะไรแน่ๆ
เพราะธัช หวงธิช

เซนเซย์ ก็แปลกๆ น่าจะสนใจธิช
แต่แสดงออกตรงกันข้าม

ธิช กับพี่โชน จะไปแอบดูธ้ช
จะได้เห็นอะไรนะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #14 ฝาแฝดและคำเตือนของเซนเซย์ ](01/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 02-10-2017 10:35:36
          TWINS บทที่ 15 ฝาแฝดที่โกหก


          ผมนั่งรถมากับพี่โชนที่ยิ้มหน้าบานเป็นจานกระด้ง หมอนี่คงจะรวยน่าดูเหมือนกัน เพราะรถเบนซ์คันนี้ช่างหรูและกว้างมากๆ พี่โชนบริการผมสุดๆ ทั้งเปิดประตูให้ และพยายามเอื้อมมือมาปรับเบาะ ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น ผมเลยดันหน้าพี่แกออกไปด้วยความรู้ทัน แต่ถ้ารู้จักวางตัว หมอนี่ก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไรเลย ถึงจะเป็นคนแปลกๆ ก็เถอะ

          " จริงๆ ให้ผมขับก็ได้นะครับ พี่แขนเป็นแบบนั้นอันตรายจะตาย " ผมมองแขนที่เข้าเฝือกของพี่โชนด้วยความไม่ไว้ใจ

          " แค่แถวๆ นี้เอง สบายมาก ฮ่าๆ " เหอะ เชื่อเขาเลย

          ว่าแต่ แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าธัชอยู่ที่ไหน ธัชไม่ได้บอกชื่อร้านซะด้วย สงสัยจะเสียเที่ยวซะมั้งเรา

          " ธิชอยากกินอะไรเอ่ย บอกพี่ได้เลยนะ " พี่โชนพูดพร้อมส่งยิ้มมาให้

          " ขอผมคิดก่อน " ผมนั่งเท้าแขนพิงกระจกด้วยคิ้วขมวดมุ่น พลางมองออกไปยังร้านค้าต่างๆ ข้างทาง

          " พี่โชนๆ กินร้านนี้แหละ " ผมรีบชี้มือบอกพี่โชนทันที เพราะว่าผมเห็นไอ้ท็อปอะไรนั่น กำลังเดินเข้าไปข้างในร้าน ร้านหนึ่งพอดี แต่เอ๊ะ ธัชไปไหนกันนะ พี่โชนตบไฟเลี้ยว และหาที่จอดแถวๆ นั้นตามที่ผมบอก

          " เอ่อ ธิช จะกินร้านนี้จริงๆ เหรอ " ผมมองพี่โชนอย่างไม่เข้าใจ 

          " นั่นมันไม่ใช่ร้านอาหารนะ นั่นมันไนท์คลับน่ะ " ผมมองหน้าพี่โชนและมองร้านนั้นอีกครั้งด้วยความแปลกใจ

          ธัชไม่ใช่พวกกินเหล้าน่ะครับ ถึงจะมีบ้างแต่นานๆ ที และผมย้ำกับน้องเสมอว่าต้องมีผมไปด้วยเท่านั้น ไม่งั้นผมไม่อนุญาต ผมใจเต้นรัว ทำไมกันนะ ทำไมถึงไม่บอกพี่

          " มีอะไรอยากบอกพี่ไหม " พี่โชนยื่นหน้ามาพลางจ้องมองผมแบบอยากรู้อยากเห็น

          " ถ้าให้พี่เดา ต้องเกี่ยวกับธัชแน่ๆ " ผมมองหน้าพี่โชนที่กำลังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

          " พี่มีเส้นสายเยอะนะ ในคลับนั่นก็เพื่อนพี่ทั้งนั้น เจ้าของพี่ก็รู้จัก ว่าไงล่ะ ให้พี่ช่วยไหม " ผมลืมไปเลยว่าพี่โชนเป็นใคร แบบนี้แหละดี 

          " เราทำหน้าเหมือนกำลังจับได้ว่าแฟนนอกใจอะไรแบบนั้นเลยนะ " ผมมองหน้าพี่โชน งี่เง่าน่า ผมแค่เป็นห่วงน้องเท่านั้นแหละ ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ผมก็มือสั่นเบาๆ อย่างควบคุมไม่ได้

          " ช่วยผมหาธัชทีครับ แต่อย่าให้ธัชรู้ตัว " ผมก้มหน้าไม่สบตาพี่โชน แต่ก็พูดขอร้องออกไป

          " ด้วยความยินดีครับ " พี่โชนพูดเบาๆ และส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน

          หลังจากนั้นไม่นาน ผมมองพี่โชน ที่ออกไปยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด 

          " ป่ะ พี่เจอตัวแล้ว " พี่โชนเปิดประตูรถและชะโงกหน้าเข้ามา ผมเลยรีบลงจากรถ เดินตามพี่โชนเข้าไปในซอกตึก 

          " เอ่อคือ ไม่ได้เข้าหน้าร้านเหรอครับ " ผมถามพี่โชนด้วยความสงสัย เพราะพี่โชนพาผมอ้อมมาข้างๆ ร้านแทน

          " ประตูลับ หึหึ " ผมมองพี่โชนพลางเลิกคิ้ว

          ผมเดินตามพี่โชนไปยังประตูบานหนึ่ง ที่มีอะไรปิดบังไว้มากมาย และซอกแซกนิดนึง มีผู้ชายหน้าตาน่ากลัวคนหนึ่งยืนเฝ้าอยู่ เมื่อผู้ชายคนนั้นเห็นพี่โชน ก็รีบเปิดประตูให้อย่างรวดเร็ว ผมมองพี่โชนอย่างอึ้งๆ หมอนี่น่ากลัวแฮะ 

          ภายในนั้นช่างมืดจริงๆ มีเพียงแสงสลัวสีแดงที่ทอดผ่านไปสู่บันไดวน ผมเดินตามพี่โชนด้วยความหวาดระแวง เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ไปยังชั้นที่สูงขึ้นไป และเมื่อขึ้นมาถึงด้านบนชั้นลอยที่สูงที่สุดแล้ว ผมเดินผ่านโซฟาที่ตั้งอยู่เป็นชุด เกาะราวเหล็ก และมองลงไปยังด้านล่างที่มีคนกำลังเต้นกันอยู่เหมือนกิ้งกือโดนน้ำร้อนสาด และเหนือขึ้นมาจากชั้นที่มีคนเยอะที่สุดนั่นแล้ว ก็เป็นชั้นลอยชั้นที่สอง ที่มีโซฟาและกลุ่มคนนั่งอยู่เป็นจุดๆ และถัดมาก็คือชั้นที่ผมยืนอยู่ ก็คือชั้นสาม ซึ่งมีโซฟาแค่ชุดเดียว ป้ายเขียนเอาไว้ว่า VVIP นี่ต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนนะ ถึงจะขึ้นมาบนนี้ได้ ผมไม่รู้เลยจนมาถึงวันนี้

          " อยู่ชั้นลอยชั้นสอง มองลงไปสิ ขวามือ " พี่โชนพูดพลางนั่งลงเบาๆ ที่โซฟาสีดำ ซึ่งตอนนี้มีบริกรรีบยกอาหารและเครื่องดื่มมาให้แบบที่ยังไม่ทันสั่งเลยทีเดียว

          ผมหัวใจสั่นไหวกับภาพตรงหน้า ผมมองธัชที่นั่งอยู่กับเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่ง มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ประมาณ 4-5 คน ผมมองน้องที่หัวเราะอย่างร่าเริงพลางจุดบุหรี่ขึ้นสูบ แต่แก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าคงไม่ใช่เหล้า เพราะผมไม่เคยได้กลิ่นเหล้าจากตัวน้อง เพราะถ้าดื่มจริงๆ ผมจะต้องรู้แน่นอน 

          " ธัชโตแล้วน่า ธิชจะบังคับน้องตลอดไปไม่ได้หรอกนะ " 

          " ผมจะตัดสินใจเองว่าอะไรควรไม่ควรสำหรับธัช " ผมพูดเสียงแข็งและสายตายังคงจ้องธัชไม่วางตา มันก็จริงอย่างที่พี่โชนพูด แต่ผมก็ไม่อยากยอมรับอยู่ดี ว่าผมไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของน้อง แต่สิ่งไหนที่มันไม่ดี ผมก็ไม่อยากให้น้องทำนี่นา

          แต่พอคิดแบบนั้น ภาพที่พวกเรากอดจูบกันก็แล่นเข้ามาในหัว และยังมีการโกงข้อสอบอีก จริงๆ แล้ว พวกเราก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นี่นะ ผมที่คิดแบบนั้น ก็แค่นหัวเราะออกมา

          ผมยังคงจ้องมองธัชตลอดเวลา ผมเห็นท็อปลุกขึ้นและเดินไปไหนก็ไม่รู้ และสักพักธัชก็ลุกขึ้นสองมือล้วงกระเป๋า และเดินตามไปในเวลาไม่นาน สงสัยคงไปห้องน้ำละมั้ง ผมเดินกลับมานั่งลงบนโซฟา พลางถอนหายใจ

          " อย่าเครียดมากเลย ถ้ามีอะไรพี่จะรีบช่วยเอง " ผมมองพี่โชนพลางหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา

          " ธิช นั่นมันแก้วพี่นะ " พี่โชนจับข้อมือของผมไว้ แต่ผมดึงมือพี่โชนออกแล้วดื่มมันเข้าไปรวดเดียว

          " เมามาพี่ปล้ำจริงๆ นะเอ้า " พี่โชนพูดพลางหัวเราะขำ 

          " ก็ลองสิ ผมจะเอาส้อมนี่แทงให้มิดเลย " ผมยกส้อมขึ้นมาพลางชูไปมาข้างหน้าพี่โชน จนพี่โชนหัวเราะขำจนตัวงอ ไอ้บ้านี่เส้นตื้นจริงๆ

          เวลาผ่านไปสักพัก ผมลุกขึ้นอีกครั้งเพื่อมองลงไปยังชั้นสองที่ธัชนั่งอยู่ ซึ่งตอนนี้ธัชกลับมาจากห้องน้ำแล้ว แต่ท็อปไม่อยู่แฮะ กลับไปแล้วงั้นเหรอ ผมสังเกตเห็นสีหน้าธัชดูเฉยชาและดูน่ากลัว สีหน้าแบบที่ผมเคยเห็นมันมาก่อน และผมไม่ชอบเอาซะเลย ธัชยังคงพ่นควันบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ หนอย ที่บอกว่ากลิ่นควันติดมาจากคนอื่นนี่ก็โกหกพี่ตลอดเลยใช่ไหม ผมอารมณ์เสีย พลางคิดถึงอีกคนที่ชอบพ่นควันพิษนี่ด้วยเช่นกัน ไอ้บ้าเซนเซย์นั่นไง

          ผมยังคงก้มมองธัชแบบที่ไม่ละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว นี่นายอยู่กับพี่แล้วอึดอัดใช่ไหมนะ ไอ้รอยยิ้มสดใสนั่น ทำเพราะว่าแค่อยากให้พี่สบายใจหรือเปล่า ผมมองธัชด้วยแววตาอันแสนเศร้า นี่ผมกำลังทำร้ายน้องอยู่จริงๆ สินะ 

          ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ ยกขวดเหล้าขึ้นดื่มแบบคนขาดสติ 

          " ธิช พอได้แล้วน่า ดื่มมากไปแล้วนะ " พี่โชนแย่งขวดเหล้าออกจากมือของผม เอาไปซ่อนจากสายตาพลางถอนหายใจ

          " ธัชโกหกผม ธัชไม่ยอมบอกผม ธัชบอกผมทุกเรื่องแท้ๆ " ผมเริ่มมึนและพูดไม่รู้เรื่อง พูดอะไรออกไปเริ่มไม่รู้ตัว

          " ปล่อยๆ น้องไปบ้างเถอะ " ผมหรี่ตามองพี่โชนที่่กำลังทำสีหน้าเคร่งขรึม ปกติจะชอบยิ้มแท้ๆ เหอะ

          " พี่ชอบผมจริงๆ เหรอ " พี่โชนหันมาเลิกคิ้วทำตาโตมองผม

          " ผมให้จูบเอาป่ะ " ผมที่เมาละเริ่มเรื้อน เริ่มขยับตัวเข้าไปใกล้พี่โชนมากขึ้นเรื่อยๆ พี่โชนทำหน้าอึ้งๆ นั่งนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งไปเลย  ผมถอดแว่นพี่โชนออกช้าๆ และยื่นหน้าเข้าไป เรื่อยๆ อย่างช้าๆ ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน 

          แต่เสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากของเราสองคนจะสัมผัสกัน ผมกลับใช้มือปิดปากของพี่โชนเอาไว้ กลายเป็นว่าผมจูบลงที่หลังมือของผมเอง

          " ล้อเล่น ฮ่าๆๆ " ผมพึ่งรู้ตัวว่า ผมนี่มันเมาแล้วกวนทีนจริงๆ 

          " ใจร้ายจังเลยนะ " ผมหัวเราะและยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่า


ตอนนี้สีหน้าของหนุ่มแว่นผู้แสนใจดีเป็นเช่นไร
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #15 ฝาแฝดที่โกหก ](02/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-10-2017 10:42:57
อูย...........ธิช เสน่ห์แรงกับพวกผู้ชายซะด้วย
ฟีโรโมนเคะ ฟุ้งกระจาย
เมาแล้วเรื้อน
เมาแล้วอ่อย
แต่พี่โชนคงชอบ
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #15 ฝาแฝดที่โกหก ](02/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-10-2017 17:26:28
เมาแล้วอ่อยแรง สงสารพี่โชนคนดวงซวย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #15 ฝาแฝดที่โกหก ](02/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 02-10-2017 18:28:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #15 ฝาแฝดที่โกหก ](02/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-10-2017 21:43:27
สงสารหลานธิ ที่น้องมีความลักที่ปิดบังไว้ คงเสียใจมาก ๆ เลยแน่ๆ  :sad5: :sad5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #15 ฝาแฝดที่โกหก ](02/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 03-10-2017 01:30:48
กะแล้วเชียวว่าน้องธัชอะโกหก ... โอ๋ๆนะธิช อย่าเมาเลย เดี๋ยวจะโดนปล้ำไม่รู้ตัว 55555555 //เก็บไว้ให้เซนเซย์สิ อย่าพึ่งเอาให้ใคร ไม่ได้ ห้ามมมม >-<'''
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #15 ฝาแฝดที่โกหก ](02/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 03-10-2017 10:42:34
          TWINS บทที่ 16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย


          เอาล่ะ การเล่นสนุกจบลงแล้ว การเฝ้ามองโดยที่ไม่ทำอะไรเลยมันไม่ใช่นิสัยของผม ผมลุกขึ้นอีกครั้งและเดินตรงไปยังบันไดที่ทอดตัวลงไปยังชั้นล่าง เดินตรงไปช้าๆ อย่างแน่วแน่ ไปยังบุคคลที่ยังนั่งสบายใจอยู่บนโซฟาสีแดงนั่น พลางยิ้มหัวเราะกับเพื่อนข้างๆ อย่างสนุกสนาน

          " อ้าว ไอ้ธัชยืนทำห่าอะไรวะ นั่งลงสิ " เพื่อนคนหนึ่งของธัชเดินมากอดคอผมและคิดว่าผมเป็นธัช ไอ้หมอนี่คงจะเมาหนักน่าดู

          " อ่าว ไอ้ธัชมีสองคนว่ะ " มันหรี่ตาจ้องมองผมและมองน้องผมไปมา

          ธัชที่กำลังก้มลงดับบุหรี่ เงยหน้าขึ้นทันทีที่เพื่อนคนนั้นส่งเสียงดัง ธัชลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยสีหน้าบ่งบอกว่าตกใจเหลือเกินที่เห็นผม

          " พี่ธิช " ธัชรีบเดินมาหาผมช้าๆ ด้วยสีหน้าช็อคสุดๆ

          " อ้าวแฝดพี่มึงนี่เอง น่ารักว่ะ ดื่มสักแก้วไหมครับพี่ " ไอ้เพื่อนขี้เมาของธัชยื่นแก้วเหล้าให้ผม

          ผมจับแก้วเหล้านั้นช้าๆ และปาไปที่กำแพงใกล้ๆ จนเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มธัชกรี๊ดขึ้นด้วยความตกใจ ผู้คนเริ่มมองมาที่ผม เพราะคิดว่ามีคนกำลังจะมวยกันแน่นอน

          " พี่ธิช ธัชขอโทษนะ ธัชกำลังจะโทรบอกพอดีเลย " ธัชจับแขนผมเอาไว้แน่น แต่ผมกลับเซนิดๆ พลางจับไหล่ธัชไว้

          " นี่พี่ดื่มมาเหรอ " เสียงธัชเย็นขึ้นและขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ

          " ไม่ต้องพูด กลับบ้าน " ผมพูดพลางดึงมือธัช และลากออกจากที่นี่

          " ก็นึกอยู่ว่าหายไปไหน ไวจริงๆ " พี่โชนเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ธัชมองผมสลับกับพี่โชนด้วยสีหน้าน่ากลัว

          " พี่มาด้วยกันเหรอ " ธัชมองหน้าผมด้วยแววตาไม่พอใจ

          " คือพี่ไม่ได้มอมพี่เรานะ สาบานได้ " พี่โชนพูดพลางยกสองมือขึ้นแบบยอมจำนนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นี่พี่แกเคยเครียดกับเขาไหมเนี่ย

          " ขอบคุณนะครับพี่โชน แต่ผมขอตัวก่อน " ผมหันไปพูดกับพี่โชน และจับมือลากน้องออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว

          แต่ผมที่ไม่รู้ว่ารถจอดอยู่ที่ไหน ธัชเลยเป็นฝ่ายพาผมไปที่รถ ซึ่งจอดอยู่ในลานที่มืดและกว้างใหญ่ ผมขึ้นรถและมองธัช ที่หันหน้าหนีผมออกไปนอกหน้าต่าง ผมไม่รู้เลยว่าน้องอยู่ในอารมณ์ไหนแน่

          " ขอโทษครับ " ธัชเป็นคนทำลายความเงียบนั้น

          " อยู่กับพี่แล้วอึดอัดเหรอ " ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

          " มันไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ได้ดื่มเลยนะ แล้วก็แค่สูบนิดหน่อย เพราะผมเครียดๆ " ธัชหันหน้ามาและมองผมด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

          " เครียดเพราะพี่เหรอ "

          " คือ แค่มีเรื่องกวนใจผมนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วครับ ผมจัดการแล้ว " ธัชหลบตาผมตอนที่พูดออกมา

          " แล้วพี่ดื่มทำไมกัน พี่ไม่ชอบดื่มนี่นา " ธัชถามผมพลางขมวดคิ้วมุ่น

          " พี่ก็มีเรื่องเครียดเหมือนกันนั่นแหละ " ผมพูดพลางพิงเบาะและปรับเอนลง

          " พรุ่งนี้ไปขอโทษพี่โชนด้วยนะ ไปมองเขาแบบนั้นได้ไง " ผมพูดพลางนอนลงเพราะตอนนี้ผมเมาสุดๆ

          " พี่ชอบพี่โชนงั้นเหรอ " ธัชถามผมเบาๆ

          " มานี่หน่อย " ผมไม่สนใจคำถาม แต่กวักมือเรียกธัชให้เข้ามาใกล้ๆ ธัชก้มลงจ้องมองใบหน้าของผมที่นอนอยู่

          " หน้าตาเด็กดื้อมันเป็นแบบนี้นี่เอง " ผมพูดพลางดึงแก้มทั้งสองข้างของธัช

          " พี่เมาแน่ๆ อยู่ดีๆ พูดอะไรน่ะ " ธัชทำหน้างงๆ ก็น่ารักอีกนั่นแหละ

          " ห้ามทำแบบนี้อีกรู้ไหม ถ้าจะมาที่แบบนี้ต้องมีพี่มาด้วยเท่านั้น ธัชก็รู้นี่ พี่เป็นห่วงจะแย่ " ผมพูดพลางดึงจมูกน้องเบาๆ

          ธัชลูบแก้มผมเบาๆ พลางจ้องมองใบหน้าของผม พวกเราจ้องตากันหลายนาทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

          " ผมขอจูบพี่ได้ไหม "

          ไม่รอให้ผมตอบ ธัชก้มลงครอบครองริมฝีปากผมเอาไว้ ผมอ้าปากน้อยๆ ให้เรียวลิ้นแทรกเข้าไปดูดเม้มกันไปมา รสแอลกอฮอล์ผสมกับรสบุหรี่ ถึงจะดูไม่น่าพิศมัย แต่ทำไมมันช่างหอมหวานซะเหลือเกิน ผมเคลื่อนแขนทั้งสองข้างโอบกอดคอน้องไว้ เป็นจูบที่แสนยาวนาน ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว เหมือนกับความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด

          ธัชค่อยๆ ปลดประดุมเสื้อนักศึกษาผมออกช้าๆ ถ้าเป็นปกติผมคงจะห้ามน้องเอาไว้ แต่ตอนนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์มันทำให้ผมเตลิดไป แต่ผมก็พยายามรวบรวมสติ ดันหน้าท้องของธัชเอาไว้ เพราะตอนนี้ธัชข้ามมาจากที่นั่งฝั่งคนขับ และกำลังทับผมลงมาทั้งตัว

          " อ.อื้อ.อย่าธัช " ผมหันหน้าหนี และพยายามดันตัวธัชแต่ก็ไม่เป็นผล โลกมันช่างหมุนแบบสโลวโมชั่น ธัชตามมาประกบริมฝีปากของผมอีกครั้ง และตอนนี้กระดุมเสื้อของผมก็หลุดออกจากกันหมดแล้ว เผยให้เห็นยอดอกสีชมพูที่ตั้งชันและแข็งเป็นไต ธัชละจากริมฝีปากออกจากผม จูบเม้มไปตามซอกคอขาว ด้านล่างของเราที่กำลังถูไถกันไปมา ทำให้รู้สึกถึงสิ่งที่คับตึงอยู่ภายใน

          " อย่าธัช พอได้แล้ว " ผมยังคงพยายามดันน้องออกไปอย่างอ่อนแรง แต่ผมก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะตอนนี้ธัชย้ายริมฝีปากจากซอกคอขาว เลื่อนลงมา ลากลิ้นวนบนยอดไตสีชมพูนั่นอย่างช้าๆ ผมที่คิดว่าพวกเรานั้นเริ่มมาไกลมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนองต่อสมอง แต่กลับตอบรับสัมผัสที่หวาบหวาม จนแทบหลอมละลาย

          " อย่าธัช ม.มันรู้สึกป.แปลกๆ " ผมเกร็งตัวด้วยความรู้สึกที่เสียวซ่าน ธัชปลดเข็มขัดของผมออกและลูบไปมาเบาๆที่ส่วนแข็งขืนนั้นด้านนอกกางเกงของผม

          " ให้ผมช่วยนะ พี่เป็นขนาดนี้แล้ว " ธัชพูดพลางเลื่อนตัวขึ้นมาดูดกลืนริมฝีปากของผมอีกครั้ง ไม่ปล่อยให้ผมได้ปฏิเสธใดๆ ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะตอนนี้ธัชกำลังปลดเข็มขัดของตัวเองเช่นกัน

          " ทำพร้อมกันนะ " ธัชกระซิบข้างหูผมด้วยเสียงแหบพร่า พร้อมล้วงมือเข้าไปในกางเกงของผม และของตัวเองเช่นกัน ส่วนแข็งขืนของเราสองคนเคล้าคลึงกันไปมาอยู่ในอุ้งมือรัอน ธัชเริ่มรูดขึ้นลงช้าๆ พร้อมก้มลงครอบครางยอดอกสีหวานอีกครั้ง

          " อ..อื่อ " ผมเกร็งตัวไปมา พลางหายใจหอบด้วยอารมณ์ครุกรุ่น สมองมึนตื้อไปด้วยแรงอารมณ์ที่ทวีพัดโหมเหมือนดั่งพายุ ผมกำเสื้อของธัชไว้จนยับยู่ยี่ เม้มปากกลั้นเสียงอย่างสุดกำลัง ใบหน้าของผมชื้นเหงื่อและสีแดงระเรื่อ ธัชเลื่อนตัวขึ้นมาจูบเม้มที่ซอกคอของผมพลางหอบหายใจ พร้อมกับมือที่กระชับรอบแก่นกายร้อนและเร่งจังหวะจนเสียวซ่านแทบขาดใจมากขึ้นไปอีก

          " อ่ะ..อ..อึก..ไม่ไหว..แล้ว แฮ่ก .. " ผมหลุดเสียงครางออกมาด้วยความทนไม่ไหว ธัชเลื่อนตัวมาประกบจูบริมฝีปากผมด้วยความร้อนแรงอีกครั้ง

          " อือ.อื้อ " ผมเกร็งตัวจิกหลังน้องและปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้อง ในขณะที่ธัชก็ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน ผมหันหน้าหนีจากริมฝีปากของธัชพลางหอบหายใจอย่างหมดแรง

          ธัชจูบพรมลงบนไรผมของผมพลาง เกลี่ยแก้มผมเบาๆ อย่างถนุถนอม ผมมองหน้าน้องที่กำลังยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ผมนั้นรักธัชมาก มากจนไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่แบบนี้มันจะดีแล้วจริงๆ เหรอ ผมที่คิดแบบนั้นก็รู้คำตอบในทันที พี่ขอโทษนะธัช ทุกสิ่ง ก็เพื่อธัชเท่านั้น ผมอาจทำให้ธัชต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ถ้าผมเลือกทางผิดให้น้อง

          " ให้ครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของเราเถอะนะ " ธัชชะงักนิ้ว หุบยิ้มลง และจ้องมองผมด้วยแววตาที่สั่นระริก

          " พี่ไม่อยากให้ธัชจมอยู่กับพี่แบบนี้ สักวันธัชจะได้เจอคนที่ธัชรัก คนที่ธัชอยากจะกอดจริงๆ "

          นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พูดออกไป ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราสองคนจะหยุดเรื่องแบบนี้เสียที ถึงมันอาจจะทำให้ธัชเสียใจ แต่พวกเรากำลังหลงทาง ผมจำเป็นต้องเลือกทางที่ดีที่สุดและตัดใจจริงๆ สักที ผมเคยคิดที่หยุดทำเรื่องพวกนี้หลายครั้งแล้ว แต่ผมก็อ่อนแอเกินกว่าจะบังคับตัวเองได้ พอเห็นธัชเศร้าหมองผมก็จะยอมใจอ่อนทุกครั้ง แต่ต่อไปนี้ผมจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้


ซึ่งทุกอย่าง ก็เพื่อธัช เพื่อน้องชายที่ผมรักยิ่งกว่าสิ่งใด
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย ](03/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 03-10-2017 14:12:24
กลัวตัวละครทุกตัวเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกหวาดระแวง

ว่าจะเจอแจ็คพอตเมื่อไหร
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย ](03/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 03-10-2017 14:54:05
ความรักต้องห้ามนี่มันเศร้าจริงๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย ](03/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 03-10-2017 14:54:39
เอาใจช่วยแฝดนะ ; w ; /
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย ](03/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-10-2017 00:40:17
ทำไมอ่านแล้ว เหมือนพายเรือไปกลางแม่น้ำ แล้วหาฝั่งไม่เจอ หรือว่าสมองคนแก่มันไม่ทำงานแล้วหว่า  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย ](03/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 04-10-2017 07:39:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #16 ฝาแฝดและคำขอครั้งสุดท้าย ](03/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 04-10-2017 10:29:49
          TWINS บทที่ 17 ฝาแฝดที่น่ากลัว


          หลังจากในรถวันนั้น ผมที่คิดว่าธัชอาจจะหงอยลง หรือเปลี่ยนไป แต่ธัชกลับทำตัวปกติและยิ้มแย้มเช่นเดิม  นี่เป็น เรื่องดีใช่ไหมนะ น้องเข้าใจ ในสิ่งที่ผมพยายามทำใช่หรือเปล่า แต่ไม่รู้ทำไม ถึงธัชจะยังคงยิ้ม แต่รอยยิ้มของธัชนั้นกลับดูเหมือนจะแตกต่างออกไปจากเดิม ตกลงแล้วผมกำลังทำสิ่งที่ไม่ควรทำหรือเปล่านะ ผมควรจะทำยังไงดี

          สองสามวันก่อนนี้เซนเซย์ไม่ได้ให้พวกเราเข้าไปพบหลังเลิกเรียน เพราะติดธุระ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีสุดๆ เลยทีเดียว ผมไม่อยากปวดหัว ไม่อยากต้องทะเลาะกับไอ้คนขี้เก๊กนั่น แต่วันนี้นั้น พวกเราคงได้ไปเป็นเบ๊อีกครั้ง แถมยังมีคาบเรียนของไอ้เซนเซย์บ้านั่นอีกแล้ว หงุดหงิดจริงๆ

          ผมเดินจับมือน้องเพื่อไปเรียนที่คณะ ทุกคนเห็นพวกเราสองคนแบบนี้จนเป็นเรื่องปกติ เพราะพวกเรานั้นเป็นฝาแฝดที่แปลกกว่าใคร เป็นความสนิทที่เหนือคำบรรยาย และทุกคนก็ดูจะชอบในส่วนนี้ของพวกเรา

          " พี่ครับ เดี๋ยวผมมานะ ไปห้องน้ำแปบนึง "

          " ไปด้วยกัน เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน " 

          " ไม่เป็นไรครับแปบเดียวจริงๆ รอผมตรงนี้นะ " ธัชพูดพลางรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

          ผมยืนรอน้องพลางมองไปรอบๆ อย่างใจลอย เฮ้อ อยากนอนอยู่ห้องจังแฮะ อากาศก็ร้อนน่าเบื่อ ผู้คนมากมายเดินผ่านไปผ่านมาเพื่อไปเรียน ผมยืนพิงผนังใช้สมุดเล็กๆ พัดไล่ความร้อนที่ทำให้เสื้อของผมชื้นไปด้วยเหงื่ิอ แต่แล้วผมก็เห็นคนคนหนึ่งที่ผมคุ้นตา กำลังเดินรีบเร่งไปที่ไหนสักแห่งอย่างรวดเร็ว 

          " ท็อป " ผมเดินเข้าไปและจับที่ไหล่ของท็อปเพื่อทักทาย 

          " อ.อย่า! " ท็อปหันหน้ามา แต่พอเห็นหน้าผมก็กลับล้มลงไป ด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความกลัวและลนลานสุดๆ  จนผมตกใจ

          " เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ " ท็อปมองหน้าผมแบบคนเห็นผี ทำเอาผมขวัญผวาไปด้วย

          " ธ.ธิชเหรอ " ท็อปมองผมและถามด้วยเสียงที่สั่นเทา มองซ้ายขวาเหมือนกับหวาดระแวงอะไรสักอย่าง ผมสังเกตที่คอของท็อปมีผ้าก๊อตที่ใช้ปิดแผลแปะอยู่ ค่อนข้างยาวทีเดียว

          " น.น้องนาย มันโรคจิต .ร.ระวัง " พอได้ยินแบบนั้น ผมก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นขมวดคิ้ว และมองท็อปแบบไม่พอใจทันที พอเห็นแบบนั้นท็อปก็หน้าซีดลง และลุกขึ้นวิ่งหนีไปแบบไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว

          " พี่ธิช " ผมหันหลังไปมองคนที่ผมรออยู่ด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ธัชกลับมองผมด้วยความสงสัย

          " มาทำอะไรตรงนี้เหรอครับ " ผมมองใบหน้าน้องที่ไม่มีรอยยิ้มใดๆ อยู่บนนั้น

          " เจอเพื่อนนิดหน่อยน่ะ เป็นอะไร ท้องเสียหรือไง " ผมพูดและยิ้มให้ธัชเหมือนปกติ 

          " ครับ กินอะไรผิดสำแดงกันน้า " ธัชเริ่มส่งยิ้มให้ผมกลับ 

          " ป่ะ เดี๋ยวเข้าสายเซนเซย์กัดตายแน่ๆ " ผมสอดมือประสานกับน้องและเดินต่อไป โรคจิตงั้นเหรอ ปากดีนักนะ

          ในคาบนั้นก็เป็นปกติ พวกเราทำเวิร์คช็อป และทำงานตามที่เซนเซย์สั่ง ผมกับน้องได้ช็อปมาแล้ว มันเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งแต่ละคนก็เสนอให้ผมกับน้องใส่เสื้อข้างในคนละสี เพื่อที่จะได้แยกพวกเราออกง่ายๆ แต่ก็อย่าหวังเลย ผมกับน้องซื้อทุกอย่างเป็นคู่เหมือนๆ กัน ไม่มีอะไรที่ผมมีแล้วน้องไม่มี พวกเรามีทุกอย่าง และใส่ทุกอย่างคู่กัน สีเดียว ชนิดเดียวกันเสมอด้วยความเคยชิน

          ผมแอบถามคนอื่นเรื่องท็อป และก็พบกว่า ท็อปนั้นขอดรอบวิชานี้ไปแล้ว และวิชาอื่นๆ ที่ต้องเรียนกับผม ผมมองน้องที่กำลังทำงานด้วยความตั้งใจ และเมื่อธัชเห็นผมมองอยู่ ธัชก็หันมาส่งยิ้มให้ผมด้วยความร่าเริง

          วันนี้เป็นวันที่ธัชต้องไปช่วยงานเซนเซย์ของจริงสักที เพราะผมไปแทนธัชรอบหนึ่งด้วยความจำเป็น วันนี้ก่อนคาบเรียนจะจบ เซนเซย์ก็เดินมาหาธัช และบอกให้ไปพบหลังเลิกเรียน ผมรู้สึกมึนน้อยๆ เพราะว่าหมอนั่นเดินไปหาธัชแบบจงใจ นี่นายแยกออกหรือไม่ออกกันแน่นะ ไอ้บ้าเอ้ย

          " ดูแลตัวเองนะธัช เซนเซย์ทำอะไรรีบโทรบอกพี่เลยนะ แล้วก็ห้ามนั่งก่อนที่เซนเซย์จะสั่ง ห้ามกินขนมของหมอนั่น ถ้าเหนื่อยเกินไปก็บอกไปตรงๆ พี่คิดว่ากับธัชน่ะ เซนเซย์คงไม่โหดเท่ากับพี่ แล้วก็... "

          " พี่ครับ ผมไม่เป็นไรหรอก " ธัชพูดแทรกก่อนที่ผมจะสวดยาวต่อไป พลางหัวเราะขำ หนอย เด็กนี่ พี่เป็นห่วงอ่ะ ถ้าไปด้วยได้นี่ไปแน่นอน ชิ

          ผมแยกกับธัชและเดินกลับมาที่คอนโด ผมทิ้งรถไว้ให้น้องขับกลับ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนลงที่โซฟาอย่างหมดแรง แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมารดน้ำต้นไม้ พร้อมใส่หูฟัง ฟังเพลงไปด้วย ผมฮัมเพลงไปมาอย่างอารมณ์ดี วันนี้อากาศดีแฮะ ซักผ้าดีกว่า ปกติแล้วหน้าที่นี้จะเป็นของธัช แต่ไหนๆ ก็ว่างเหลือเกิน ช่วยน้องทำดีกว่า

          ผมวางบัวรดน้ำ และเดินเข้ามาเก็บผ้าในห้องธัชเพื่อเตรียมเอาไปซัก ผมล้วงดูทุกกระเป๋ากางเกงและเสื้อ เผื่อเผลอลืมอะไรไว้ จะได้ไม่เผลอเอาไปปั่นรวม 

          ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของธัช เพื่อเช็คดูทุกๆ อย่างให้แน่ใจก่อนแยกใส่ตระกร้า แต่ผมที่ล้วงมือเข้าไปนั้น ก็ต้องหยุดชะงัก และค่อยๆ ลูบเบาๆ ที่สิ่งของนั้นที่อยู่ข้างใน ผมรู้สึกเย็นๆ ที่นิ้ว มันเหมือนกับ...

          ผมกำของสิ่งนั้น และล้วงมันออกมาเพื่อมองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

          " คัตเตอร์งั้นเหรอ " ผมมองดูมีดคัตเตอร์ในมือด้วยความฉงน ของแบบนี้มันควรจะมาอยู่ในที่แบบนี้งั้นเหรอ ผมเลื่อนใบมีดคัตเตอร์ขึ้นช้าๆ

          ' แกร่กๆๆ '

          " พี่ธิช ผมกลับมาแล้วนะ " ผมสะดุ้งสุดตัวรีบยัดมีดนั้นกลับเข้าไปในกางเกงของธัชและใส่ผ้าทุกอย่างกลับลงไปอย่างรวดเร็ว

          " พี่เข้ามาทำอะไรเหรอครับ " ธัชโผล่หน้าเข้ามา และทำหน้าประหลาดใจสุดๆ ที่เห็นผมอยู่ในห้อง

          " พี่ได้ยินเสียงลม เลยคิดว่าธัชอาจลืมปิดหน้าต่าง ก็เลยเข้ามาดู " ผมพูดพลางส่งยิ้มให้แบบปกติที่สุด ธัชมองไปที่หน้าต่างที่ปิดสนิทและหันมามองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย

          " ขอโทษนะครับ ผมน่าจะลืมจริงๆ " 

          " ช่างมันเถอะ ไปกินข้าวกันนะ พี่หิวแล้ว " ผมดึงมือน้องและพาเดินไปที่ห้องครัว

          ผมทำกับข้าวไว้ให้น้องแล้ว พวกเรามักจะสลับกันทำ และที่น่าแปลกก็คือรสชาติที่พวกเราทำยังเหมือนกันเสมอ สุดยอดไหมล่ะ

          " เป็นไงบ้าง เซนเซย์แกล้งธัชหรือเปล่า " ผมตักข้าวให้น้องและถามถึงเรื่องเย็นวันนี้

          " ดีมากเลยครับ ผมชอบมากเลย " ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ

          " เขาใช้งานธัชหนักไหม " 

          " ไม่เลยครับ เซนเซย์ให้ธัชนอนเฉยๆ แล้วก็.. " ผมลุกขึ้นยืนตาโตและเดินไปจับไหล่น้อง 
         
          " มันทำอะไรธัช "

          " เดี๋ยวครับพี่ ไม่ใช่อะไรแบบนั้น " ธัชมองผมและอมยิ้มอย่างขำขันในท่าทางที่ตกใจของผม หนอย มันลวนลามธัชเหรอเนี่ย

          " เขาคุยกับผมเยอะแยะเลย แล้วก็ให้นอนพัก เซนเซย์ใจดีจัง " ธัชยิ้มจนตาหยีพลางตักข้าวกินอย่างเปี่ยมสุข ผมมองน้องที่ยิ้มสดใสพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก 

          " ห้ามรักเซนเซย์มากกว่าพี่นะ " ผมมองน้องแบบทำหน้าหมาหงอย

          " ผมบอกเซนเซย์ไปแล้วนะ ว่าผมสนใจเขา " ธัชเขี่ยข้าวในจานพลางพูดขึ้น

          ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักทันที งั้นเหรอ นี่เป็นเรื่องที่ดีสินะ ธัชอาจจะเข้ากันได้ดีกับเซนเซย์ก็ได้ 

          " พี่ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ " ธัชมองผมด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น ผมมองมือตัวเองที่กำลังรินน้ำจนล้นแก้วหกเลอะไปหมด

          " อ่อ ไม่เป็นไร พี่คิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อย " ผมรีบเช็ดโต๊ะที่เปียกและส่งยิ้มให้น้อง

          " แล้วเซนเซย์ตอบว่าไงเหรอ " ผมถามคำถามนั้นออกไปด้วยความรู้สึกสับสน

          " เขาไม่พูดอะไรครับ แต่ก็ไม่ได้ว่าผมด้วย " ธัชพูดและส่งยิ้มต่อไป 

          " แต่เซนเซย์ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลยนะ พี่ละหมั่นไส้ " 

          " แต่จริงๆ ผมอาจจะไม่ได้ชอบเซนเซย์ในแง่นั้นก็ได้นะ ผมแค่รู้สึกว่าเซนเซย์คล้ายๆ กับใครสักคนที่ผมเคยรู้จัก แต่ว่าใครกันนะ " ธัชหยุดมือ และทำท่าเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง แบบนี้ไม่ได้ ผมต้องหยุดน้องไว้

          " ยังไงก็อย่าไปเชื่อใจหมอนั่นมากนักนะ พี่ยังไม่ไว้ใจหรอก " ธัชมองผมและทำหน้าหงอย นี่นายชอบเซนเซย์ขนาดไหนกันนะ

          " ครับ " ธัชตอบรับคำพูดของผม ธัชไม่เคยดื้อกับผมเลยสักครั้งเหมือนที่ผ่านๆ มา


          ผมนอนมองนาฬิกาที่บอกเวลาตีสองแล้วด้วยความรู้สึกแปลกๆ ผมรู้สึกแย่ไปหมด ผมเป็นอะไรกันนะ เซนเซย์นั่นทำอะไรธัชกันแน่ นายต้องการอะไรจากผมและน้องกัน

          ผมที่นอนไม่หลับนั้น ก็ลุกขึ้น เดินช้าๆ ไปที่ห้องของธัช ผมเปิดประตูออกด้วยเสียงที่เบาที่สุด และค่อยๆ นั่งลงช้าๆ ที่หัวเตียง ธัชนอนตะแคงข้างหันหลัง คงจะหลับไปแล้ว ผมยื่นมือลูบที่ผมของธัชเบาๆ อย่างรักใคร่ 

          " พี่รักธัชนะ " ผมพูดเบาๆ พลาง จูบลงที่แก้มของธัชช้าๆ และเดินออกไปจากห้อง โดยไม่รู้เลยว่าใครบางคนนั้นยังไม่ได้หลับตาลง และน้ำตาเอ่อล้นออกมา


" ผมก็รักพี่ครับ "

หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-10-2017 11:42:56
ยังไง ๆ

ธิชดุ แต่ก็ใส ๆ
ธัชใส ๆ แต่ดุจริง

เซนเซย์ชอบแบบไหนคร้าาาาาา
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-10-2017 15:04:27
แฝดพี่ธิช  ดูดุ นิ่ง แต่ใจจริงไม่มีอะไรเลย
แฝดน้องธัชนี่สิ ร่าเริง เฟรนด์ลี่ แต่หลงรักธิช หวงหึงมาก แต่ไม่แสดงออก
จิตชัดๆ คงไปขู่ท็อปให้ถอยห่างจากธิช
ใช้คัทเตอร์กรีดคอท็อปด้วย และก็ได้ผล ท็อปกลัวลนลานเลย
ถึงขั้นย้ายวิชาเรียนที่เรียนตรงกับธิชเลย

เซนเซย์ แยกแฝดออกได้แน่ๆ
ธัช ไม่โดนแกล้ง แต่ธิชโดน มันยังไงกันนะ  o18  o18  o18

จริงๆแฝดพี่ก็คิดตรงกับแฝดน้อง
แต่สับสน และคิดแต่เรื่องความถูกต้อง
มันเลยออกมาในแนวห้ามธัช ในเรื่องการช่วยกันปลดปล่อยความใคร่
แต่ธัช น่ะจะยอมหรือ ยอมก็ไม่ใช่ธัชแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 04-10-2017 18:37:58
 :hao5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 04-10-2017 23:53:18
กลิ่นยันเดเระออกมาจากตัวน้องธัชแรงมาก o22
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 05-10-2017 00:03:20
นับวันธัชเริ่มร้ายกาจ อ่อ ร้ายอยู่แล้วแต่ธิชเริ่มสงสัยหรอ  o22
ธัชสับขาหลอกธิชเรื่องเซนเซย์ปะ ไม่น่าจะชอบแบบนั้น
เซนเซย์ชอบแกล้งธิชงั้นสิ สนใจล่ะสิ
ท็อปเจอดีแล้วไงล่ะ ทำไมพี่โชนไม่โดนบ้าง #อ้าว
คนเขียนอัพทุกวันเลย มีวินัยมากๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-10-2017 00:04:59
มันต้องมีอะไรในอดีตที่ทำให้ธัชไม่ปกติ  แต่ธิชไม่รู้แน่ ๆ หลอนดีแฮะแฝดน้อง  o21 o21
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #17 ฝาแฝดที่น่ากลัว ](04/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 05-10-2017 11:51:56
          TWINS บทที่ 18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์


          วันนี้การเรียนทุกอย่างจบลงแล้ว วันนี้เป็นคิวของผม ที่จะต้องไปช่วยงานเซนเซย์ ผมมายืนอยู่ที่หน้าห้องของเซนเซย์ พลางสูดหายใจเข้าออกช้าๆ เหมือนทุกทีเพื่อสงบสติอารมณ์ วันนี้ผมต้องถามเรื่องของธัชให้ได้ ว่าเซนเซย์กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ผมอยากช่วยน้อง ผมไม่อยากให้น้องเสียใจ

          ' ก็อกๆ ' 

          ผมเคาะประตูตามมารยาท และเปิดประตูเข้าไปช้าๆ 

          " อ้าว มีแขกก็ไม่บอกนะเคียว งั้นไม่อยู่กวนดีกว่า " ผมมองผู้ชายคนหนึ่ง สูง ผิวขาว สวมแว่น และดูท่าทางเป็นมิตร กำลังยืนขึ้นและทำท่าเหมือนกำลังจะกลับ

          " ไม่เป็นไร ไม่ใช่แขกหรอก " เซนเซย์พูดเสียงเย็นพลางปรายตามองผมแบบกวนประสาท

          " เด็กคนนี้เหรอ ที่นายบอกว่าป่วย " ผมยืนงงเพราะผมไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรกัน

          " ไม่ใช่ " 

          " ฮ่ะๆ นั่นสินะ " หนุ่มแว่นนั่นหันมายิ้มให้ผม เป็นคนที่หน้าตาคุ้นมากๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่งเร็วๆ นี้

          " พี่ชื่อเชน เป็นเพื่อนของเคียวนี่ล่ะ น้องชายพี่ก็เรียนที่นี่ด้วยนะ ฮ่ะๆ " พอได้ยินแบบนั้นก็แทบไม่ต้องเดาเลยทีเดียว ทั้งหน้าตาและการพูดคือถอดแบบกันมาเป๊ะ

          " พี่ชายของพี่โชนเหรอครับ " ผมถามออกไปด้วยความมั่นใจ

          " ฮ่าๆ ใช่แล้ว เรานี่หน้าตาน่ารักจริงๆ ด้วย น้องพี่เห็นคงหลงตายชัก แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แค่น้องพี่แล้วมั้ง " พี่แว่นนั่นหันไปหาเซนเซย์แบบมีเลศนัย แต่เซนเซย์กลับส่งสายตาเย็นชากลับมาเช่นเดิม

          " หยุดล้อเล่นได้แล้วน่า " เซนเซย์พูดกับพี่แว่นนั่นด้วยสีหน้าเอือมระอา

          " แหม ก็ไม่เคยเห็นเคียวเซนเซย์สนใจใครขนาดนี้นี่นา ฮ่าๆ เราธิชใช่ไหม อย่าไปกลัวเคียวนักเลย หมอนี่ปากหนักไปงั้นเอง " พี่เชนเดินมาหาผมและกระซิบกระซาบใส่หูผม แต่พูดเสียงดังซะงั้น ทำเอาเซนเซย์หน้าบูดไปเลย

          ' ก็อกๆ '

          วันนี้มันอะไรกันนะวุ่นวายเหลือเกิน

          " เอ่อ ธิชหรือธัช อยู่ด้วยเหรอเนี่ย " พี่โชนโผล่เข้ามาหลังจากที่เคาะประตู มากับใครไม่รู้แต่ที่รู้ๆ คือหล่อโครตๆ  ผมมองเพื่อนพี่โชนแบบเผลอใจเต้นเลยทีเดียว หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นในทีวีเลยล่ะ

          " พริ้น รอข้างนอกก็ได้ ข้างในคนเยอะ " เพื่อนพี่โชนแค่ทำหน้าเซ็งๆ และเดินถอยหลังออกไปจากประตู

          " อ่ะ เอาไป แล้วทีหลังไม่ต้องเรียกผมมานี่อีกนะ " ผมมองพี่โชนที่ยื่นกุญแจอะไรสักอย่างให้พี่เชนด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

          " ทำนิสัยแบบนี้ได้ไงโชน เคียวเป็นเพื่อนพี่นะ " ผมเห็นพี่โชนเหลือบมองเซนเซย์ด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ก่อนจะเดินมาหาผมและเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม 

          " ผมธิชครับ " ผมยิ้มให้พี่โชน

          " คิดถึงจัง ว่างๆ โทรหาพี่บ้างสิ " ไอ้บ้านี่พูดอะไรต่อหน้าคนเยอะแยะฟะ ผมเหลือบมองเซนเซย์ที่หันหน้าไปอีกทาง และหัวเราะ เหอะ แบบอยากสำรอก ผมยิ้มแหยๆ ให้พี่โชน คือเอ็งนี่มันชอบเปิดเผยเกินไปแล้ว หึ่ยย

          " พี่ไปก่อนนะ อยู่นี่แล้วหายใจไม่สะดวก " พี่โชนอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าอีกแล้ว พูดเสียงเย็นพลางเหลือบไปมองเซนเซย์ และเดินออกไปจากห้อง แถมปิดประตูเสียงดังเชียว เขามีความแค้นอะไรกันนะ

          " ขอโทษแทนน้องด้วยนะเคียว สันดานแก้ไม่หายจริงๆ " พี่เชนพูดพลางถอนหายใจ

          " ธิชก็ระวังไว้นะ น้องพี่มันไว้ใจไม่ได้หรอก " น้องพี่หรือเพื่อนพี่กันแน่ที่ไว้ใจไม่ได้ เชอะ

          " เรากับโชนเป็นอะไรกันเหรอ ขอโทษนะแต่ธิชชอบผู้ชายด้วยหรือเปล่า " เป็นคำถามที่ผมรู้สึกแปลกๆ ที่จะพูดออกไป ผมนั้นไม่ชอบผู้ชายแน่นอน แต่ผมก็มีอารมณ์กับร่างกายของผู้ชาย มันเริ่มทำให้ผมสับสนเหมือนกัน หรือจะเป็นแค่กับธัชนะ ผมไม่รู้เลย เพราะผมไม่เคยทำกับคนอื่น

          " ผมกับพี่โชนเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันครับ พี่โชนช่วยผมหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่ชอบผู้ชายด้วย " คำว่าไม่ชอบ ผมสาดใส่หน้าเซนเซย์แบบไม่ปิดบัง 

          " ฮ่ะๆ โอเค งั้นพี่ไปดีกว่า นัดคนไข้ไว้ด้วย " คนไข้งั้นเหรอ 

          " ไปก่อนนะเคียว ธิชแล้วค่อยเจอกันนะ " พี่เชนขยิบตาให้ผมและออกจากห้องไป ผมค่อยๆ เดินเข้ามาหาเซนเซย์ช้าๆ รอคอยให้เซนเซย์บอกให้นั่งลง

          " ยืนทำอะไร " หนอย มันเอาอีกแล้ว ผมที่ได้ยินแบบนั้น เลยนั่งลงแบบทิ้งตัวที่เก้าอี้

          " เซนเซย์เมื่อวานคุยอะไรกับธัชเหรอ " ผมไม่กลัวหรอก ผมอยากรู้

          " ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตอบ " เหอะ พูดดีๆ จะตายไหมนะ

          " ถ้าจะหลอกน้องผม ขอบอกไว้เลยนะว่าอย่า ทำตัวให้สมกับที่เป็นอาจารย์ ทำตัวให้น่าเคารพหน่อยครับ " ผมว่าผมพูดแรงเหมือนกันนะ แต่กับหมอนี่ถ้าไม่พูดตรงๆ คงไม่ได้เรื่อง

          " เธอนี่มัน เธอคิดว่าเธอทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีอยู่เหรอ เธอกำลังทำอะไร ไม่รู้ตัวเลยสินะ เธอนี่มันโง่สิ้นดี " เซนเซย์มองผมด้วยสายตาเย็นชา นายมันจะรู้อะไร ว่าพวกเราเป็นยังไง ผมชักสีหน้าเดือดสุดๆ โง่งั้นเหรอ ผมกำมือแน่นอยากต่อยไอ้บ้านี่ชะมัด

          " เรื่องน้องเธอ ฉันจะจัดการเอง " จัดการงั้นเหรอ เรื่องอะไรล่ะ

          " ชอบธัชหรือเปล่า แล้วพวกผู้หญิงพวกนั้นล่ะ " ผมยังคงตั้งคำถามแบบหาเรื่องสุดๆ 

          " ออกไปซะ วันนี้ไม่มีอะไรหรอกกลับไปได้ "

          ผมเดินออกมาจากห้องเซนเซย์ด้วยความเกรี้ยวกราดเสมอ เหมือนทุกๆ ครั้ง ผมทำอะไรผิดนักหรือไง ทำไมหมอนี่ถึงเกลียดผมนัก แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่ผมจะทำ ก็คือต่อไปนี้ผมจะไม่ให้ธัชมาที่นี่อีก ผมไม่ไว้ใจ เหมือนกับหมอนั่นกำลังวางแผนทำอะไรสักอย่างกับธัช ผมจะไม่ยอมให้หมอนั่นได้ดั่งใจไปหมดทุกอย่างหรอก 

          " พี่กลับมาแล้วนะ ธัช " ผมที่กลับมาที่คอนโดนั้น ก็เดินมองหาน้องซึ่งปกติจะขานรับผมแท้ๆ แปลกแฮะ หรือจะหลับ ผมเดินช้าๆ ไปที่ห้องของธัช แต่เตียงนอนกลับว่างเปล่า

          " พี่หาผมอยู่เหรอ " อยู่ดีๆ ธัชก็จับไหล่ผมเอาไว้ ผมตกใจสะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว

          " ธัช ทำแบบนี้อีกแล้วนะ ตกใจหมด " ผมถอนใจด้วยความโล่งอก

          " พี่กลัวผมเหรอ " ผมมองหน้าน้องที่ตอนนี้ทำหน้าเศร้าเหลือเกิน

          " พูดอะไรน่ะ พี่ไม่ได้กลัว พี่แค่ตกใจ " ผมพูดพลางจับแก้มธัชไว้ 

          " มีอะไรหรือเปล่า เป็นอะไรบอกพี่นะ " ธัชส่ายหน้าช้าๆ

          " พี่นั่นแหละ มีอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย " ธัชจับแก้มผมไว้เช่นกัน  กลายเป็นว่าตอนนี้พวกเรามองหน้ากันไปมาซะงั้น แล้วทำไมผมจะต้องหลบตาด้วยฟะ 

          หลังจากนั้นพวกเราก็กินข้าวกัน ผมและธัชช่วยกันเก็บกวาดห้อง และนั่งเล่นกันในห้องนั่งเล่นเหมือนเช่นเคย 

          " วันนี้อยากนอนกับพี่หรือเปล่า " ธัชหันมามองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ 

          " อย่าดีกว่าครับ " ผมไม่ได้จะผิดคำพูดหรืออะไรแบบนั้นนะ ผมแค่รู้สึกอยากนอนกอดน้องเท่านั้นเอง ผมรู้สึกเหมือนพวกเราห่างเหินกันมากขึ้น ซึ่งผมไม่ชอบแบบนี้เลย

          " งั้นเหรอ ถ้างั้นก็ " พอผมพูดจบ ผมก็คว้าตัวน้องเข้ามาและกอดไว้แน่น แถมหอมแก้มน้องอีกฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว

          " ไม่ได้นอนกอดก็กอดตรงนี้เลยก็ได้ " 

          " อะไรของพี่เนี่ย " ธัชดิ้นไปมา แต่ยิ่งขัดขืนผมยิ่งชอบแฮะ ฮ่ะๆ

          " พรุ่งนี้พี่จะไปหาเซนเซย์แทนธัชนะ " ผมกอดน้องและพูดเบาๆ ซึ่งเมื่อธัชได้ยินดังนั้น ก็ผละออกจากอ้อมแขนของผมและมองหน้าผมด้วยสีหน้างงงวย

          " ทำไมละครับ มีอะไรหรือเปล่า " ดูธัชอยากไปที่นั่นมากเลยแฮะ แบบนี้ยิ่งไม่ควรให้ไป เหอะ

          " อยากไปหาเซนเซย์ขนาดนั้นเลยเหรอ " ผมมองหน้าน้องพลางหรี่ตาลง

          " ไม่ถึงขนาดนั้นครับหรอกครับ แต่แค่สงสัยว่าทำไมพี่ถึงอยากไป "

          " อยากไปเหรอ ห่างไกลกับคำนั้นสุดๆ พี่แค่สงสัยว่าเซนเซย์กำลังทำอะไรธัชกันแน่ " 

          " เซนเซย์ไม่ได้ทำอะไรธัชจริงๆ นะ เค้าดูแลธัชดีจะตาย " ดูแลเหรอ เรื่องอะไรกัน

          " พี่ไม่สบายใจ ให้พี่ลองไปดูเองเถอะนะ "  ผมทำสีหน้าอ้อนวอนธัช ซึ่งธัชก็นิ่งไปสักพัก และพยักหน้าให้ผม

          " งั้นก็ได้ครับ แล้วแต่พี่เถอะ " ธัชส่งยิ้มและเขยิบเข้ามากอดผมไว้ และสักพักก็เผลอหลับไป

          ผมมองหน้าน้องและคิดเรื่องที่ท็อปพูด และเรื่องมีดนั่น ธัชกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ ผมทำอะไร ผิดพลาดไปหรือเปล่า


แล้วผมจะช่วยธัชได้ยังไงกันนะ











*********************************************************************

**พริ้นเป็นหนึ่งในตัวละครจากเรื่อง "คนของความทรงจำ" นะคะ ทั้งสองเรื่องคือจักรวาลเดียวกันค่ะ**
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์ ](05/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 05-10-2017 13:31:32
รู้สึกกลัวธัชขึ้นเรื่อยๆเลยแฮะ รังสีความจิตมันออกมา สยอง
เซนเซย์รู้ว่าธัชผิดปกติแน่ๆ แล้วจะทำอะไรน่ะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์ ](05/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-10-2017 13:57:01
เซนเชย์ รับรู้ความจิตของธัช และพยายามแก้ไข
และรู้ว่าธิช ดูแลน้องให้ท้ายน้องแบบผิดๆส่งเสริม

พี่เชน มองธิชปร๊าดเดียว
ก็รู้ว่าธิชน่ารัก แบบที่เซนเซย์ และพี่โชนชอบ

เอ.....ธิชไม่เคยเผลอไผลกับคนหล่อๆมาก่อน
แต่พอเห็นพริ้น เพื่อนพี่โชน ก็รับรู้ความหล่อโคตรๆ ยังไงๆ แล้วธิช
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์ ](05/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 05-10-2017 14:32:00
เซนเชย์ รับรู้ความจิตของธัช และพยายามแก้ไข
และรู้ว่าธิช ดูแลน้องให้ท้ายน้องแบบผิดๆส่งเสริม

พี่เชน มองธิชปร๊าดเดียว
ก็รู้ว่าธิชน่ารัก แบบที่เซนเซย์ และพี่โชนชอบ

เอ.....ธิชไม่เคยเผลอไผลกับคนหล่อๆมาก่อน
แต่พอเห็นพริ้น เพื่อนพี่โชน ก็รับรู้ความหล่อโคตรๆ ยังไงๆ แล้วธิช
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

พี่พริ้นสุดหล่อที่โผล่มาแว๊บเดียว คือตัวละครพิเศษจากนิยาย FC นิยายอีกเรื่องของไรท์เองค่ะ เป็นพี่ชายสุดหล่อของพระเอกอีกเรื่อง 555+
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์ ](05/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-10-2017 21:20:06
ดูจะดาร์กขึ้นเรื่อย ๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์ ](05/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-10-2017 22:02:02
หรือว่าเซนเซย์กับเชน เคยเจอกับหลานแฝดตอนเล็ก ๆ แล้วใครคือผู้มีพระคุณของหลานแฝด  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #18 ฝาแฝดและเพื่อนของเซนเซย์ ](05/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 06-10-2017 09:35:01
          TWINS บทที่ 19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์


          ผมที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องเซนเซย์อีกครั้งด้วยหัวใจที่เต้นรัว ความมั่นใจของผมที่จะหลอกเซนเซย์ว่าเป็นธัชเริ่มน้อยลงไปทุกที แต่ยังไงผมก็ต้องทำ อย่ากลัว ทุกอย่างก็เพื่อธัช

          ' ก็อกๆ '

          ผมเปิดประตูเข้าไปด้วยรอยยิ้ม ผมพยายามคิดว่า ไอ้บ้านี่คือธัช แล้วผมจะยิ้มได้เองอัตโนมัติ เป็นเทคนิคเล็กๆ อย่างหนึ่งที่ได้ผลดีเลยทีเดียว

          แต่ผมก็ต้องตกใจสุดๆ เพราะทันทีที่เซนเซย์เห็นหน้าผม เซนเซนย์ก็ลุกขึ้นและเดินมาหยุดยืนข้างหน้าผม แต่ก็ไม่พูดอะไรอยู่เป็นนาทีเลยทีเดียว

          " เข้ามาสิ " ผมมองมือของผมที่ถูกเซนเซย์จับไว้และพาเดินไปยังที่นั่งด้วยความมึนงง มันอะไรกันนะ ทำเอาผมตกใจหมด

          " วันนี้จะให้ผมนอนอีกหรือเปล่าครับ " ผมแกล้งถามออกไปตามที่ธัชเล่าให้ฟัง

          เซนเซย์วันนี้ไม่ดุก็จริง แต่ผมไม่ชอบรอยยิ้มน้อยๆ แบบนี้ของเซนเซย์เลย มันดูน่ากลัวกว่าตอนดุซะอีก

          " วันนั้นเธอบอกว่าชอบฉันใช่หรือเปล่า " ผมมองหน้าเซนเซย์และควบคุมสีหน้าเอาไว้

          " ครับ " ผมต้องกล้ำกลืนฝืนทนพูดอะไรแบบนี้ออกไปด้วยความยากลำบาก

          " มานี่สิ " ผมตาโตขึ้นด้วยความตกใจ เดี๋ยวนะ อะไรวะเนี่ย

          เซนเซย์ทำมือเหมือนให้ผมเดินเข้าไปหา ทำให้ผมอึ้งและทำอะไรไม่ถูก แต่ผมก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ เดินเข้าไปหาเซนเซย์ที่ใบหน้ากำลังยิ้มอยู่ ยิ้มอยู่จริงๆ ด้วย เหมือนพวกป๋ากำลังจะหลอกงาบเด็กยังไงยังงั้น

          วันนี้เซนเซย์ใส่เชิ๊ตสีดำ ดูเรียบหรู นาฬิกา กลิ่นน้ำหอม ความดูดียังคงเป็นเอกลักษณ์ แต่ถ้าจะให้ผมเข้าใกล้คนคนนี้ละก็ ต่อให้หล่อแค่ไหนก็ไม่คำเดียว

          " ช้าจริง " ผมถูกเซนเซย์ดึงเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมกลายเป็นถูกจับให้นั่งลงที่ช่องว่างตรงกลางของเซนเซย์และกอดผมไว้ ผมทำตัวลีบ และพยายามไม่ต่อยไอ้บ้านี่จนมือสั่น

          " เอ่อ คือทำอะไรครับเนี่ย ถ้ามีคนเข้ามาจะไม่ดีนะครับ " ผมพยายามขืนตัวออกจากไอ้บ้านี่ การปลอมเป็นธัชวันนี้ช่างเหนือความคาดหมาย ผมขนลุกไปหมด ผมไม่เคยถูกกอดแบบนี้ ยิ่งกับคนคนนี้ยิ่งแล้ว

          " กลัวหรือไง ไหนบอกว่าชอบไง " ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ ดูไอ้หมอนี่ทำหน้าเหมือนกำลังสนุกอยู่ยังไงยังงั้น  และพอได้ลองมาอยู่ใกล้กันขนาดนี้ ผมก็พบว่าหมอนี่ตัวใหญ่กว่าผมแค่ไหนถ้าต้องสู้กันจริงๆผมคงปางตายแน่ๆ

          ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ผมต้องยอมสินะ ถ้าเผลอต่อยมันไปแม้แต่นิดเดียวผมกับน้องต้องลำบากแน่ๆ เรื่องทุกอย่างของเราจะถูกเปิดโปง ผมต้องอดทน ต้องทำให้ได้ ผมหลับตาลง ตัวสั่นน้อยๆ ผมกลัวการสัมผัสแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่เว้นแม้แต่กับธัช แต่ช่วงหลังๆ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะธัชไม่ใช่คนอื่น แต่กับตอนนี้มันไม่ใช่

          " ไหนบอกหน่อยสิ ธัชชาวันนี้เธออยากทำอะไร " เซนเซย์ไม่พูดเปล่าแต่เริ่มใช้มือลูบไล้ไปตามตัวผมช้าๆ ผมเผลอเกร็งตัวอัตโนมัติ และกำมือแน่นอย่างอดทน

          " เซนเซย์ชอบผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ ผมเห็นมีผู้หญิงหลายคนอยู่กับเซนเซย์ " ผมลองถามออกไป ข้อมูลนี้ผมก็อยากรู้เช่นกัน

          " ไม่ต้องรู้เรื่องนั้นจะดีกว่านะ " หนอย ไม่ยอมบอกอีก

          " ไม่รู้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากเป็นของเล่นหรอกนะ "

          " ไม่ใช่ของเล่นหรอก " พอพูดแบบนั้น เซนเซย์ก็เริ่มกอดผมแน่นขึ้น ใบหน้าของเซนเซย์เลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนผมได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ ผมเอียงหน้าหนี นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่กันนะ

          " เธอดูไม่เหมือนธัชชาเลยนะ ฉันได้ยินมาว่าเธอชอบอะไรแบบนี้ ไม่ใช่หรือไง " ผมขมวดคิ้วมุ่น หัวใจสั่นด้วยความกลัว การเป็นธัชในแง่นี้มันไม่เหมาะกับผมเอาซะเลย น้องชายของผมไม่เคยถือตัวเวลาถูกสัมผัสจากคนอื่น ธัชมักหัวเราะและคิดเป็นเรื่องเล่นๆ เสมอจนเป็นนิสัย เป็นนิสัยเดียวที่ผมไม่คิดอยากจะทำ

          " ผมแค่ตกใจ เพราะไม่คิดว่าเซนเซย์จะทำอะไรแบบนี้ด้วย " ผมแถไปอย่างนั้น แต่ก็คิดจริงๆ นั่นแหละว่านี่มันแปลก

          " ผมขอถามได้ไหม เซนเซย์ไม่ชอบพี่ธิชเหรอครับ " ผมอยากรู้ว่าจะตอบยังไง เพราะเวลาผมมาที่นี่ ก็ไม่แคล้วโดนด่าทุกที

          " ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ " ขอทีเถอะเวลาพูดไม่ต้องมากระซิบข้างหูก็ได้ โอ้ย

          " ไม่ใช่ไม่ชอบหรอก แต่พี่เธอน่ะ งี่เง่าเกินเยียวยา " ผมกำหมัดแน่น อ่อหรอ เหอะๆ ผมหายใจเข้าออกช้าๆ ให้ใจเย็นลง การต่อยหมอนี่ตอนนี้มีแต่จะทำให้ทุกอย่างพังลง

          ผมรู้สึกแบบไหนกันนะ ผมเสียใจที่ต้องมาโดนทำอะไรแบบนี้ แต่ผมก็คิดอีกที ว่าผมก็ไม่อยากให้ธัชโดนไอ้บ้านี่กอดเหมือนกัน นี่มันแย่สุดๆ ไปเลย

          " คือพอก่อนดีไหมครับ ผมกลัวคนอื่นเข้ามาเห็น " ผมหาทางให้ตัวเองหลุดรอดออกจากอ้อมแขนแกร่งนี้ แต่แล้วก็กลายเป็นว่าคำพูดผมกลับเป็นการฆ่าตัวตายซะงั้น เซนเซย์ลุกขึ้นและจูงมือผมไปที่ประตูเพื่อล็อค ผมเหงื่อซึม คิดสิ คิดว่าจะรอดจากสถานการณ์แบบนี้ไปได้ยังไง ถ้าสะบัดมือไอ้บ้านี่ตอนนี้เหตุการณ์มันจะร้ายแรงแค่ไหนกันนะ

          ในมุมที่ลึกเข้าไปทางขวาติดหน้าต่าง ซึ่งถูกชั้นหนังสือสูงบังอยู่นั้น มีโซฟาตัวยาวสีดำตั้งอยู่ ผมโดนจูง ไม่สิต้องเรียกว่าลากมาที่นี่ด้วยหัวใจที่สั่นกลัว

          " วันนี้ก็นอนตรงนี้ละกัน " นอนงั้นเหรอ ผมยืนนิ่ง ไม่ยอมนั่งหรือนอนลงตามที่เซนเซย์สั่ง

          " เป็นอะไรไป ตอนแรกเห็นถามไม่ใช่หรือไง " ผมขาสั่นน้อยๆ ก่อนจะนั่งลงไปช้าๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ

          " วันนี้รู้สึกไม่ค่อยดียังไงไม่รู้ครับ ก็เลย... "

          " ยิ่งรู้สึกแย่นั่นแหละควรต้องทำ " เซนเซย์ผลักผมนอนลง และลุกขึ้นไปปิดม่านให้ทึบแสงขึ้นไปอีก ตอนนี้ในห้องช่างมืดสลัว ผมนอนตัวสั่นน้อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ ความคิดของผมกำลังต่อสู่กันอยู่ภายใน ผมหลับตาปี๋ และเกร็งไปทั้งตัว แต่สักพักผมก็ลืมตาขึ้น เพราะว่าเซนเซย์นั้นกำลังสวมหูฟังให้ผม ดันตัวผมขึ้น นั่งลง และจับให้ผมนอนลงที่ตักของเซนเซย์อีกที

          " ชอบหรือเปล่า " ผมฟังเสียงที่เซนเซย์ใส่ให้ฟัง มันเป็นเสียงเหมือนกับเสียงสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ ผมรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่หรอกมั้ง ถ้าไม่ต้องมานอนตักไอ้คนแบบนี้น่ะ

          " ฟังเพื่ออะไรเหรอครับ " ผมลืมตาจ้องมองเซนเซย์ที่กำลังมองไปที่อื่น

          " มันเป็นการบำบัด เป็นการรักษา " ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ตอนที่พูดว่ารักษาเซนเซย์กัดฟันจนสันกรามขึ้นอย่างน่ากลัว นี่ผมกำลังทำอะไรผิดงั้นเหรอ

          " เธอเคยมีเซ็กส์หรือเปล่า เซ็กส์ก็เป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง " ผมลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็วพลางถอดหูฟังออก

          " ผมไม่ได้ป่วยถึงขั้นต้องใช้เซ็กส์บำบัดหรอกครับ " ผมเหลือบมองเซนเซย์ที่กำลังหัวเราะขำในลำคออย่างกวนประสาท

          " เธอไม่รู้หรอกจนกว่าจะได้ลอง " ไอ้สายตาหื่นกามนั่นขอทีเถอะ ไอ้บ้าเอ้ย ผมหลบตาเซนเซย์และนั่งตัวแข็งอีกรอบด้วยความหวาดหวั่น

          " อ๋อ งั้นก็แปลว่ากับพวกผู้หญิงพวกนั้น " ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมมองเซนเซย์พลางหรี่ตาลง

          " ทำไมหึงหรือไง " หนอย ไอ้บ้า หึงอะไรฟะ ขนลุก

          " แต่บอกไว้ก่อนนะ กับพวกนั้นน่ะ มันไม่ใช่แบบนั้น " เหอะ เชื่อก็ซื่อบื้อเกินคน

          " ธัชชา " เซนเซย์เรียกผมให้ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก ผมปั้นยิ้มและขยับตัวเข้าไปด้วยความไม่เต็มใจ

          เซนเซย์จ้องมองใบหน้าของผม และเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ไม่ได้พูด ผมมองเซนเซย์ที่ทำคิ้วขมวดด้วยความสงสัง นายอยากบอกอะไรกันแน่นะ แต่เซนเซย์ก็แค่ยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ และเดินกลับไปนั่งทำงานเหมือนเก่า

          ผมนอนลงอีกครั้ง หลับตา และฟังเสียงสายฝนที่เซนเซย์บอกให้ฟัง ผมรู้สึกดี รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จนผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว

          " ธัชชา " หืมม ใครมาเรียกฟะ คนจะนอน

          " ธิชานะ ไม่ใช่... " ผมสะดุ้งสุดตัว ตาโตมองเซนเซย์ที่จ้องหน้าผมอยู่อย่างตกใจ

          " ฮ่าๆ หลับเพลินเลยละเมอเรียกพี่ซะได้ " ผมรีบลุกขึ้นพลางหัวเราะกลบเกลื่อน

          " กลับไปพักซะ ธัชชา " เซนเซย์แค่มองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย

          " ขอบคุณครับ " ผมลุกขึ้นเก็บของ ก้มหัวก่อนจะออกจากห้องอีกครั้ง

          " แล้วพรุ่งนี้เจอกัน " ผมพยักหน้าและเปิดประตูออกไป แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ พรุ่งนี้เจอกัน หมายความว่าไงนะ ผมที่ออกมาแล้วนั้น ก็หันกลับไปมองประตูห้องที่น่าสยองนี่ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น


ก็พรุ่งนี้น่ะ มันเป็นวันที่ผม ธิชาต้องมาที่นี่ต่างหาก
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 06-10-2017 11:36:52
เงื่อนงำเต็มไปหมด  :z3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 06-10-2017 16:36:47
เซนเซย์มองออกสินะะะะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-10-2017 01:15:18
ทำไมหลานธิชถึงได้เกินเยียวยาหว่า  :ruready
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-10-2017 03:23:42
อยากอ่านพาร์ทของเซนเซย์แล้ว
คิดยังไงกับแฝดกันแน่

ที่ว่าแฝดพี่เกินเยียวยว
เพราะห่วงใย ปกป้องน้องเกินไปหรือเปล่า
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 07-10-2017 06:02:42
ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: หิมะขาว ที่ 07-10-2017 13:13:47
ตอนนี้ งง ไปหมดแล้ว  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #19 ฝาแฝดและอ้อมกอดของเซนเซย์ ](06/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 07-10-2017 13:54:50
          TWINS บทที่ 20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย


          ผมกลับมาที่คอนโดด้วยความรู้สึกแปลกๆ เรื่องที่ผมเจอในวันนี้ทำให้ผมคิดหนัก ว่าต่อไปจะปล่อยให้ธัชไปหาเซนเซย์ดีหรือไม่ ถ้าวันนี้เป็นธัชที่ไปล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้นบ้าง ยิ่งเป็นธัชที่ชอบปล่อยให้คนอื่นจับตัวด้วยแล้ว ไม่ได้ ผมไม่ยอมหรอก ผมส่ายหน้าช้าๆ แต่ว่าแล้วผมล่ะจะเป็นยังไงต่อไป ผมก็ไม่อยากที่จะต้องโดนทำอะไรแบบนั้นเหมือนกัน โอ้ยย ปวดหัว

          " ธัช พี่มาแล้วนะ " เงียบอีกแล้ว จะหลอกให้ตกใจอีกแล้วใช่ไหม เดี๋ยวเถอะนะ 

          ผมเดินเข้าไปมองหาธัชรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่เห็นวี่แววเลยสักนิด ผมหมุนลูกบิดประตูห้องธัชช้าๆ และเปิดเข้าไป แต่ในห้องก็กลับว่างเปล่าอีกเช่นกัน แต่ผมที่เดินอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนกับเสียงสายฝน เสียงน้ำที่ตกกระทบลงพื้น ไม่สิ นี่มันฝักบัวในห้องน้ำต่างหาก แบบนี้นี่เอง ธัชกำลังอาบน้ำอยู่ 

          ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก และเดินไปที่ห้องน้ำ เตรียมตัวจะเคาะประตู เพื่อบอกน้องว่าผมมาแล้ว 

          ' แกร่กๆๆ แกร่กๆๆ ' 

          แต่ผมที่กำลังจะเคาะประตูนั้น กลับต้องชะงักมือค้างไว้ เพราะถึงจะเบามาก แต่ผมก็ได้ยินเสียงแปลกๆ มันเป็นเสียงเหมือนกับ เสียงเลื่อนใบมีดคัตเตอร์ เหมือนวันนั้น ที่ผมเจอในกระเป๋าของธัช ผมแนบหูลงกับประตูห้องน้ำ เพื่อฟังเสียงในนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว 

          ' พี่อาจจะหนีไปอีก ' 

          ' ไม่ ต้องทำให้ไปไหนไม่ได้ ' 

          ผมถอยหลังออกจากประตูห้องน้ำช้าๆ ความรู้สึกแบบนี้กลับมาอีกแล้ว มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ ผมจับมือที่สั่นน้อยๆ ของตัวเอง 

          " พี่กลับมาเมื่อไหร่ครับ " ธัชนุ่งผ้าขนหนูเหน็บเอวไว้และเดินออกมา ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นผมยืนอยู่ 

          " พี่เพิ่งมาเมื่อกี้เอง ดูสิยังสะพายกระเป๋าอยู่เลย " ผมชี้กระเป๋าสะพายของผมพลางยิ้มให้แบบปกติที่สุด

          " พี่กินอะไรมาหรือยังครับ ถ้ายังก็นั่งรอเลย เดี๋ยวผมทำให้แปบเดียว " ผมมองน้องที่ขยี้หัวที่เปียกน้ำพลางเดินไปมาด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว

          " รีบใส่เสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวไม่สบายนะ " ผมลุกขึ้นและหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนมาช่วยขยี้ผมให้น้องด้วยอีกแรง

          ธัชค่อยๆ นั่งลง ลืมตาจ้องมองผมและส่งยิ้มหวานมาให้ ไอ้เด็กคนนี้นี่น่าหมั่นไส้ ผมหลบสายตาและมองแต่ผมของธัชเท่านั้น ไอ้พวกกล้ามเนื้อของธัชนั้นทำผมรู้สึกอับอายจริงๆ ตอนนี้มีสิ่งที่พวกเราไม่เหมือนกันแล้ว แต่ต้องแก้ผ้าเท่านั้นนะถึงจะเห็น

          " วันนี้พี่ทำกับข้าวให้ดีกว่า ธัชอยากกินอะไรล่ะ "

          " อะไรก็ได้ครับ ขอแค่พี่ทำให้ " ผมมองธัชที่หัวชี้ฟู หนอย อ้อนเก่งนะเรา

          " อยู่ดีๆ ทำอะไรเนี่ย " ผมหัวเราะ และตีแขนน้องเบาๆ เพราะอยู่ดีๆ ธัชที่นั่งอยู่ ก็รวบตัวผมเข้าไปกอดซะงั้น  แต่แล้วผมรู้สึกว่าอยู่ดีๆ แรงกอดของธัชก็เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกอึดอัด 

          " ธัช พี่เจ็บนะ " ธัชยังคงนิ่ง ก้มหน้า และออกแรงกอดผมจนผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

          " ธัช ปล่อยพี่นะ! " ผมเสียงดังขึ้น และผลักธัชออก

          " ค..คือ ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ " ธัชลุกขึ้นและเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย ผมสังเกตเห็นธัชตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความตกใจ

          " พี่เจ็บหรือเปล่า ผมขอโทษนะ " 

          " พี่ไม่เป็นไร ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ " ผมยิ้มออกมาทำท่าเหมือนผมไม่เป็นไรจริงๆ และดันน้องให้เข้าไปในห้อง

          และเมื่อธัชเข้าไปแล้ว ผมทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ในครัวอย่างอ่อนแรง ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะที่ธัชเป็นแบบนี้ ก็เพราะตัวผมเอง มันเป็นเพราะผมทั้งหมด


          10 ปีก่อน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


          พวกเราสองพี่น้องเป็นเด็กกำพร้า ผมไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใคร รู้แต่ว่าพวกเราชื่ออะไร ในตอนแรกนั้นพวกเราอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง แต่พวกเด็กๆ ที่นั่น เมื่อเห็นพวกเราแปลกกว่าใคร ก็พากันกลั่นแกล้งเรา ผมจึงพาน้องหนีออกมา เพราะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนที่จะสามารถรับฟัง และพวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเราพูด

          ถึงข้างนอกนี้พวกเราจะไม่มีที่ซุกหัวนอน แต่ผมก็รู้สึกดีกว่าที่จะยอมให้คนพวกนั้นรังแกธัช แม้ว่าจะโดนตบตีแค่ไหน แต่ธัชก็จะยังยิ้มแย้มและเป็นมิตรกับทุกคนเสมอ ผมเกลียด ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายธัช ผมจึงพาน้องออกร่อนเร่ ขออาหารเพื่อประทังชีวิต และหลบฝนในที่ที่พอจะอยู่ได้ 

          ผมทาตัวพวกเราด้วยโคลนที่สกปรก เพื่อปิดบังผิวพรรณจริงๆ ของพวกเราไว้ ถึงจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่เด็กแบบพวกเราก็น่าอันตรายเหลือเกิน ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้น ก็มีคนจ้องมองพวกเราด้วยสายตาแปลกๆ เสมอ ผมไม่เคยกลัวอะไร มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมกลัว ก็คือธัชอาจจะเป็นอะไรไป

          ธัชเป็นเด็กที่จิตใจดี แต่อ่อนแอนัก มักหวั่นไหวไปกับสิ่งรอบตัว พอจิตใจอ่อนแอ ร่างกายก็พลอยอ่อนแอไปด้วย ถ้าผมทำให้น้องเข้มแข็งได้ละก็ ธัชก็จะแข็งแรงแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น

          จนในที่สุด เมื่อพวกเราอายุได้ 10 ปี ผมก็ได้เจอที่ที่พวกเราพออยู่ได้ ที่นี่เป็นโบสถ์ที่มีซิสเตอร์คอยดูแลพวกเด็กกำพร้า และเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเด็กเล็กๆ ผมกับน้องได้รับความเมตตาจากที่นี่ ผมคอยช่วยงานซิสเตอร์ เป็นเหมือนกับพี่ใหญ่ดูแลพวกเด็กๆ พวกนี้ อยู่ที่นี่ธัชดูยิ้มแย้มและมีความสุขเสมอ เมื่อธัชมีความสุข ผมก็จะมีความสุขไปด้วย

          แต่แล้วเมื่อผมกับธัชอายุได้ 12 ปี มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งต้องการรับเด็กไปเลี้ยงเพื่อเป็นลูกบุญธรรม ผมมองรถคันใหญ่และการแต่งกายที่ดูดีของทั้งสองคน จะดีแค่ไหนกันนะถ้าพวกเราได้ไปอยู่กับคนพวกนั้น

          และไม่นานหลังจากนั้นผมก็ถูกซิสเตอร์เรียกพบ เพื่อบอกถึงเรื่องการรับอุปการะในครั้งนี้ 

          " ธัชมาหาพี่เร็ว " หลังจากคุยกับซิสเตอร์ ผมเรียกน้องที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในลานกับเด็กคนอื่น

          " จะมีคนพาพวกเราไปเลี้ยงนะ ธัชดีใจไหม " ผมมองน้องที่ทำหน้าตื่นเต้นดีใจ 

          " จริงเหรอครับ พวกเราจะมีพ่อกับแม่แล้วใช่ไหม " ธัชกอดผมเอาไว้ด้วยความดีใจ 

          " พี่ธิชร้องไห้ทำไมเหรอครับ " ธัชหุบยิ้มลงทันทีที่เห็นผมน้ำตาไหลออกมาและจับแก้มผมเอาไว้

          " พี่แค่ดีใจ " ผมไม่อาจกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากหัวใจไว้ได้ ผมคว้าธัชเข้ามากอดไว้แน่นและร้องไห้ออกมาอย่างสุดหัวใจ

          " พี่รักธัช ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้ธัชจำไว้ว่าพี่รักธัชที่สุด " ธัชมองหน้าผมแบบไม่เข้าใจ ธัชเช็ดน้ำตาให้ผม พวกเรากอดกันเหมือนกับเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน

          ในเย็นวันนั้น ผมเก็บเสื้อผ้าทุกอย่างใส่กระเป๋าเก่าๆ ใบเล็กๆ ของเรา ผมมองน้องชายที่ยิ้มแย้มแจ่มใส กำลังกอดลาพวกเพื่อนๆ

          " พี่ธิชทำอะไรน่ะครับ บอกลาพวกเพื่อนๆ สิ " ธัชกวักมือเรียกผมที่นั่งอยู่ไกลๆ 

          " ได้เวลาแล้วนะเด็กๆ " ซิสเตอร์เดินมาหาผมด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

          " ดีแล้วจริงๆ หรือธิช " ผมเงยหน้ามองซิสเตอร์ด้วยรอยยิ้ม 

          " ครับ ทุกอย่างก็เพื่อธัช " ซิสเตอร์แอบเช็ดน้ำตาและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ขอบคุณครับซิสเตอร์ แต่ผมไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมจูงมือน้องที่กำลังมองไปมองมาอย่างตื่นเต้น ผมส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ธัช 

          " ธัช เชือกรองเท้าหลุดแล้วนะ " ผมก้มผูกเชือกรองเท้าที่หลุดให้ธัชอย่างช้าๆ

          " พี่ครับ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ " ไม่ใช่ว่ายังผูกไม่เสร็จแต่ตอนนี้ผมไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้ เพราะว่าตอนนี้น้ำตาของผมมันไม่หยุดไหลสักที ผมก้มลงร้องไห้กับรองเท้าของน้องด้วยความเจ็บปวด 

          " รถมาแล้วนะธัช เดี๋ยวธัชไปรอพี่บนรถก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามขึ้นไป " ผมรีบเช็ดน้ำตาและผลักน้องให้ขึ้นไปบนรถที่จอดไว้ และบอกว่าผมจะขึ้นตามไป ธัชมองผมด้วยความสับสน แต่ธัชไม่เคยดื้อกับผม ธัชเชื่อผมทุกเรื่อง

          ธัชจึงเดินขึ้นไปบนรถคันนั้นอย่างว่าง่าย และเมื่อประตูปิดลง รถก็เริ่มเคลื่อนตัวช้าๆ ออกไป

          " เดี๋ยว พี่ครับ " ธัชโผล่หัวออกมาจากตัวรถด้วยใบหน้าตื่นตกใจ 

          " ไม่ พี่ครับ พี่ธิช " ธัชเริ่มร้องไห้และพยายามจะออกมาจากรถที่กำลังแล่นออกไปช้าๆ

          " พี่ธิช พี่ครับ "

          " พี่ครับ อย่าทำแบบนี้ ฮือ " 

          " พี่ธิช ฮืออ..ไหนพี่บอกว่าจะ..ฮึก ไม่ทิ้งผม "

          " ฮือๆ ไหนว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ฮึก..อย่า อย่าทิ้งผม "

          ผมคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ธัชร้องไห้และตะโกนสุดเสียง เสียงกรีดร้องของน้องมันทำให้ผมเจ็บปวดเจียนตาย 

          " ฮืออ..พี่ขอโทษธัช ฮึก..พี่รักธัช "  ใบหน้าของธัชที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหยาดน้ำตา คือภาพสุดท้ายที่ผมได้เห็นก่อนที่พวกเราจะจากกัน ทั้งหมดที่ผมทำก็เพื่อให้ธัชได้มีชีวิตที่ดี สองสามีภรรยานั่นไม่สามารถเลี้ยงพวกเราทั้งสองคนพร้อมๆ กันได้ นี่เป็นทางเดียวที่ผมจะทำเพื่อน้อง


เพื่อธัช น้องชายที่ผมรักหมดหัวใจ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย ](07/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-10-2017 14:30:55
ธัชฝังใจที่ถูกทิ้งสินะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย ](07/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-10-2017 19:36:02
งั้นผู้มีพระคุณก็ไม่ใช่คู่นี้ซินะ :hao3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย ](07/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-10-2017 21:28:33
พี่ธิช อยากให้น้องมีคนเลี้ยงที่ดี
ทำให้ต้องแยกจากกัน
แต่ธัช ไม่ต้องการแยกจากกัน
นี่เป็นสาเหตุที่ธัชคิดว่าพี่ทิ้งตัวเอง
กลัวการถูกทิ้งสินะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย ](07/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 07-10-2017 22:01:52
ครอบครัวที่ธัชไปอยู่ด้วยจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม หรืออาจจะเป็นครอบครัวเซนเซย์ ลุ้นๆ
เสียง 'แกรกๆ' คือเสียงคัตเตอร์ ขนลุกอะ ธัชจะน่ากลัวเกินไปแล้ว
เซนเซย์ต้องรักษาด่วนแล้วล่ะ ไม่งั้นธิชแย่แน่
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย ](07/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: พันธุ์ไทย ที่ 08-10-2017 12:49:18
ทำเพื่อน้องก็เข้าใจ  :mew2: แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายมีปมในใจไปด้วย  :ling3:  :katai1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #20 ฝาแฝดและสาเหตุของอาการป่วย ](07/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 08-10-2017 14:56:55
          TWINS บทที่ 21 ฝาแฝดและการท้าทายของเซนเซย์


          " ธัช ตื่นได้แล้วนะ " ผมเข้ามาปลุกน้องในตอนเช้า เพราะวันนี้พวกเรามีเรียนหลายวิชา แต่ตามปกติแล้วผมไม่เคยที่จะต้องมาปลุกน้องหรอกครับ แต่วันนี้มันจำเป็นจริงๆ เพราะอาหารที่ผมทำให้น้องเมื่อคืน มันมีส่วนผสมของยา และผลข้างเคียงก็ทำให้ธัชเป็นแบบนี้ ผมเสียใจ แต่ผมไม่มีทางเลือก 

          " พี่ครับ ผมปวดหัวจัง " ผมนั่งลงข้างๆ น้องลูบเบาๆ ที่แก้ม

          " ถ้างั้นวันนี้นอนพักซะนะ เดี๋ยวพี่จะไปคนเดียวเอง " 

          " แต่วันนี้มีสอบย่อยหลายวิชานะครับ " ธัชพูดพลางทำหน้าหงอย

          " วันนี้พี่จะไปแทนธัชเอง ของตัวพี่เดี๋ยวพี่ไปสอบแก้ทีหลัง " วันนี้ผมจะเป็นธัชชา เพื่อเข้าเรียน และบอกพวกอาจารย์ว่าธิชานั้นป่วย มาไม่ได้ แบบนี้แหละดีแล้ว แต่สิ่งที่ผมหนักใจอยู่เสมอก็คือ เคียวเซนเซย์ 

          " ผมไม่อยากทำแบบนั้นเลย " ผมมองหน้าน้องที่กำลังทำหน้าเศร้า 

          " ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่จะกลับมา พี่ทำกับข้าวไว้ ถ้าหิวก็อุ่นกินเอานะ " 

          " พี่ต้องกลับมานะครับ " ผมชะงักมองหน้าธัช

          " สัญญาไว้แล้วนี่ พี่ไม่ไปไหนหรอก " ผมก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากของน้องและหันหลังออกจากห้องมา

          ผมจะทำยังไงดีนะ ธัชเริ่มอาการหนักขึ้นอีกแล้ว เมื่อก่อนนั้นผมให้น้องกินยาอยู่เสมอ และน้องก็ดูเหมือนจะทำตามที่ผมสั่ง และผมคิดว่าผมสามารถดูแลน้องได้โดยไม่ต้องไปหาหมอ และธัชก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าธัชนั้นหายแล้ว แต่ความจริงนั้นธัชแค่ปิดบังผมเท่านั้นเอง ถ้ามหา'ลัยรู้อาจจะแย่ก็ได้ ผมต้องซ่อนน้องเอาไว้ก่อน ผมจะไม่ให้ใครมาแตะต้องธัช ต้องไม่ให้เซนเซย์รู้ เซนเซย์อาจวางแผนอะไรก็ได้ 

          ผมลงจากรถ พยายามปั้นหน้ายิ้มแย้มอย่างยากลำบากเพราะหัวใจของผมตอนนี้มันอ่อนแอนัก ผมไม่มีที่พึ่ง ผมไม่เคยบอกใครเรื่องของน้องกับใคร แม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของผมกับธัชตอนนี้ ผมไม่สามารถไว้ใจใครได้ ผมต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

          ผมเข้าเรียนทุกวิชาในชื่อของธัชชา ทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี จนคาบเรียนสุดท้ายของเซนเซย์ หมอนั่นจ้องมองผมตลอดเวลาด้วยสีหน้าแปลกๆ จนถึงท้ายคาบ

          " เซนเซย์ครับ พอดีพี่ธิชไม่สบาย วันนี้เลยไปช่วยงานไม่ได้นะครับ " ผมบอกเซนเซย์และยิ้มแย้มอย่างฝืนทน

          " งั้นเหรอ ถ้างั้นเธอก็ไปแทนละกัน ธัชชา " ผมคิดไปเองหรือเปล่านะว่าเซนเซย์พูดชื่อธัชชาแบบเน้นคำแปลกๆ 

          " วันนี้ไปกับฉันละกัน " ผมตาโตมองเซนเซย์ด้วยความไม่เข้าใจ

          " เอ่อ ผมขัับรถมาครับ ผมไปเองดีกว่า " จะให้ซ้อนดูคาติสีดำคันนั้นอ่านะ อย่าหวังเลย มีหวังทั้งมหา'ลัยล่าหัวผมแน่ๆ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมได้ยินมาว่าไม่มีใครเคยได้ซ้อนท้ายเซนเซย์เลย 

          " คำสั่ง " เซนเซย์พูดเสียงแข็งพลางมองหน้าผมแบบไม่เป็นมิตร

          ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไอ้บ้าเอ้ย คิดจะทำอะไรฟะ ผมสังเกตุว่าถึงแม้ในห้องเซนเซย์จะดูเหมือนใจดีกับธัช แต่ข้างนอกนี่เซนเซย์ก็ดุธัชเหมือนกันแฮะ เป็นคนที่แปลกจริงๆ

          หลังเลิกเรียน ผมเดินช้าๆ ตามหลังเซนเซย์ที่เดินเร็วอย่างกับจรวดไปที่รถสุดเท่ห์คันนั้น ผมปวดใจจริงๆ เพราะมันจอดอยู่หน้าตึกที่มีนักศึกษาเดินผ่านไปมาเป็นร้อย  ผมขาแข็ง ยืนเป็นตอไม้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถที่เซนเซย์จอดอยู่ ตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง ผมไม่ชอบเป็นจุดสนใจมากนัก ยิ่งต้องอยู่ใกล้ๆ เซนเซย์ด้วยแล้ว ผมมองเซนเซย์ที่กำลังใส่เสื้อหนังสีดำแขนยาว และสวมหมวกกันน็อค เซนเซย์เปิดหน้ากากขึ้น ทำให้มองเห็นแค่ตาเท่านั้น

          " จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม " เซนเซย์พูดเสียงดังใส่ผม สาวๆ ที่ยืนดูเซนเซย์ต่างจ้องมองมาที่ผม พลางพูดคุยซุบซิบกันเสียงดัง ผมอยากจะสลายหายไปตอนนี้จริงๆ ผมเดินเข้าไปช้าๆ แบบไม่ค่อยเต็มใจนัก 

          " แต่ผมไม่มีหมวก " 

          " ไม่ต้อง ไม่ไกลหรอก " ผมถอนหายใจ ก้าวขาขึ้นคร่อมซ้อนท้ายเซนเซย์ พลางหลบสายตาฝูงเหยี่ยวสาวที่บางคนก็ทำหน้าช็อค และบางคนก็ทำหน้าฟินสุดๆ เหอะๆ

          ไอ้รถบ้านี่ ทำไมที่นั่งมันถึงทำให้ไหลไปชนคนขับฟะ ไม่ว่าผมจะพยายามออกห่างจากคนขับเท่าไหร่ ผมก็จะไหลไปหาเซนเซย์ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแนบชิด แบบต้องกอดเอวลูกเดียว

          " จับแน่นๆ " ไม่ทันพูดจบ เซนเซย์ก็ออกตัวอย่างเร็ว จนผมแทบจะร่วงจากรถ ผมรีบคว้าเอวเซนเซย์ไว้ด้วยความกลัว โอ้ยย วันนี้มันอะไรกันวะเนี่ย ผมมองเห็นหน้าตึกคณะที่ห้องทำงานของเซนเซย์อยู่บนนั้น แต่เซนเซย์กลับขับผ่านมันไป ผมหัวใจเต้นรัว นี่พวกเราจะไปไหนกันนะ

          " คือว่า เลยแล้วนี่ครับ! " ผมตะโกนแทรกผ่านลมที่พัดแรง ไอ้บ้านี่มันซิ่งจริงๆ จะบ้าตาย ไม่มีเสียงตอบกลับมา  ความกลัวเริ่มแทรกซึมตัวผม นี่ผมกำลังถูกพาไปไหนกันละเนี่ย

          แต่ไม่นานรถของเซนเซย์ก็มาจอดอยู่ที่หน้าคอนโดสุดหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นคอนโดของเซนเซย์

          " พาผมมาที่นี่ทำไม " ผมลงจากรถและรีบถามเซนเซย์ด้วยความหวาดระแวง 

          " ผมไม่ขึ้นไปได้ไหม " เซนเซย์ไม่ตอบ แต่จับมือผมและเดินเข้าไปข้างใน

          " เดี๋ยวครับ นี่มันอะไรกัน ปล่อย " เซนเซย์หันมามองผมด้วยสายตาดุดัน

          " เธอไม่ใช่ธัชชางั้นเหรอ " ผมชะงักและรู้สึกว่าผมกำลังไม่เป็นตัวของธัชเลย สิ่งที่ผมแสดงทั้งหมดมันคือตัวผมเองทั้งนั้น

          " ผมคือธัชชา " ผมบอกเซนเซย์เสียงเรียบ

          " งั้นก็ดี ตามมาซะ " ผมใจสั่น นี่มันอะไรกัน ผมจะทำยังไงดี 

          เซนเซย์กดลิฟท์มาที่ชั้นบนสุด ซึ่งมีอยู่เพียงแค่สองห้องเท่านั้น  ผมเดินตามเซนเซย์ด้วยความหวาดหวั่น มาให้เขาเชือดถึงที่เลยกู ผมจะรอดไหมเนี่ย เซนเซย์กดรหัสและเปิดประตูเข้าไป ข้างในตกแต่งแนวเดียวกับห้องทำงานของเซนเซย์ มันเป็นโทนสีขาวดำ และมีหนังสือมากมาย ผมมองขึ้นไปยังชั้นลอยที่สอง ซึ่งสามารถมองดูจากโถงด้านล่างได้ ผมยืนอยู่ที่ประตู ไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไป 

          " ทำอะไร จะเดินเข้ามาหรือจะให้อุ้มเข้ามา " ผมรีบเดินทันทีที่ได้ยินคำขู่นั้น แค่ในห้องทำงานผมก็โดนกอดขนาดนั้น นี่มาถึงห้อง ผมจะไม่โดนทำมากกว่านี้เหรอเนี่ย แค่คิดผมก็ตัวสั่นน้อยๆ ผมมองดูร่างกายเซนเซย์ ผมจะเสี่ยงสู้ดีไหมนะ แต่คงโดนไล่ออกนี่สิ จะให้ทำยังไง

          " อ้าว มาแล้วเหรอ " ผมชะงักหยุดเดินทันทีที่เห็นพี่เชนนั่งอยู่ที่โถงรับแขก ผมรอดแล้วสินะ ผมแสดงท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าเลยทีเดียว

          " หวัดดีครับพี่เชน " ผมยกมือไหว้ส่งยิ้มทักทาย ถ้ามีพี่เชนอยู่ก็น่าจะหายห่วง

          " ว่าไงธัช เป็นไงบ้าง " พี่เชนทักผมอย่างเป็นมิตร

          " ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นเคียวไม่กัดหรอกน่า ใช่ไหม " พี่เชนหันไปหาเซนเซย์ที่ตอนนี้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

          " ไม่ใช่แค่กัดหรอก " ผมเดินตัวลีบเข้าไปหาพี่เชนทันทีที่ไอ้บ้านั่นพูดแบบนั้น

          " ฮ่าๆ เคียวเป็นแบบนั้นเองแหละ แต่จริงๆ ใจดีนะ " ใจดีกับผีน่ะสิ

          " เอ่อ ไม่ต้องตกใจนะ วันนี้พี่มาคุยด้วยน่ะ " พี่เชนทำท่าทางให้ผมนั่งลง  ผมเดินเข้าไปและนั่งลงที่โซฟาข้างๆ พี่เชน พลางเหลือบมองดูเซนเซย์ที่ยืนกอดอกพิงเสาอยู่

          " มีอะไรบอกพี่ตรงๆ ได้เลยนะ พี่พยายามจะช่วยเราอยู่ อย่ากลัว " ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ หมายความว่ายังไงกัน 

          " เฮ้อ เปล่าประโยชน์ชะมัด " ผมหันไปมองเซนเซย์ที่พูดและทำหน้าเบื่อหน่ายสุดๆ

          " พี่เชนพูดเรื่องอะไรเหรอครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย " 

          " คือ พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการก่อนละกัน พี่กับเอ่อ... " พี่เชนมองเซนเซย์ที่ตอนนี้ทำหน้ายักษ์สุดๆ ก่อนจะพูดต่อไป

          " คือ พี่เป็นจิตแพทย์น่ะ อย่าเพิ่งตกใจนะ " ผมลุกขึ้นทันทีที่พี่เชนพูดจบ หมายความว่ายังไง นี่เป็นแผนของเซนเซย์งั้นเหรอ จะหาหลักฐานเรื่องธัชใช่ไหม คนพวกนี้น่าจะแค่สงสัย ต้องเงียบไว้ 

          " ผมปกติดีครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร พวกเราทั้งสองคนพี่น้องปกติดี " 

          " ใจเย็นๆ ก่อนธัช นี่พี่พยายามจะช่วยอยู่นะ " คนพวกนี้รู้ได้ยังไง ธัชก็ทำตัวปกติเวลาอยู่ข้างนอก จะแสดงอาการก็น้อยสุดๆ หรือไอ้ท็อปไปฟ้องเซนเซย์ จะหาเรื่องไล่พวกเราออกน่ะสิ ผมไม่ยอมเชื่อคนพวกนี้หรอก 

          " พี่เสียเวลาเปล่าครับ ผมปกติจริงๆ " พี่เชนมองผมและมองเซนเซย์แบบขอความช่วยเหลือ

          " ก็บอกแล้วไงว่าเปล่าประโยชน์ " เซนเซย์พูดกับพี่เชนพลางจ้องมองผมด้วยสายตาดุดัน 

          " งั้นค่อยคุยกันวันหลังละกันนะ นี่นามบัตรพี่ ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่ได้เลย " พี่เชนยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินไปหาเซนเซย์ ทั้งสองคนซุบซิบอะไรกันสักอย่าง ก่อนที่พี่เชนจะขมวดคิ้วจ้องมองผมอย่างสงสัย และเดินออกไปจากห้อง ผมทำท่าจะเดินตามพี่เชนออกไป แต่เซนเซย์ก็รีบมาดึงผมเอาไว้ 

          " จะไปไหน " 

          " ผมจะกลับครับ คงไม่มีอะไรแล้ว " ตอนนี้ผมไม่สามารถยิ้มได้แม้แต่วินาทีเดียว 

          " เธอคือธัชชาแน่เหรอ " ผมเงยหน้ามองเซนเซย์ที่จ้องมองผม

          " ครับ " 

          " วันนี้ไม่ร่าเริงเลยนะ ทำไมต้องกลัวจิตแพทย์ขนาดนั้น " 

          " ผมไม่ได้กลัว แต่ผมไม่ได้เป็นอะไร " 

          " เธอรู้อะไรไหม ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอคือธัชชา " เซนเซย์พูดพลางจ้องมองผมจนใบหน้าของเราห่างกันแค่นิดเดียว ผมกลืนน้ำลาย หัวใจสั่นไหวด้วยความกลัว 

          " แล้วเธอรู้ไหมว่า ถ้าเธอไม่ใช่ธัชชา นั่นหมายถึงอะไร " ผมเริ่มเดินก้าวถอยหลัง เพราะว่าเซนเซย์ยังคงเดินเข้ามาเรื่อยๆ อย่างกดดัน

          " เธอสองคนพี่น้อง ทำผิดร้ายแรง คิดว่าจะรอดงั้นเหรอ " พอได้ยินแบบนั้น ผมจึงหยุดเดินและจับแขนของเซนเซย์ไว้

          " ผมขอโทษครับ แต่วันนี้เซนเซย์ทำผมกลัวจริงๆ ผมเลยดูแปลกๆ แต่ผมคือธัชชาจริงๆ นะครับ " ผมต้องผ่านช่วงเวลาบ้าๆ นี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

          เซนเซย์เหมือนกำลังพิจารณาผม เซนเซย์เพ่งมองผมหลายนาทีเลยทีเดียว ผมมองหน้าเซนเซย์ที่ตอนนี้อมยิ้มน้อยๆ แบบนี้ผมรอดแล้วใช่ไหม เซนเซย์เชื่อผมแล้วสินะ

          " งั้นก็ได้ ถ้าอย่างนั้นธัชชา จูบฉันสิ แล้วฉันจะเชื่อ " ผมเบิกตามองเซนเซย์ด้วยความตกใจ


แล้วแบบนี้ผมจะต้องทำยังไงกัน ผมไม่รู้เลย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #21 ฝาแฝดและการท้าทายของเซนเซย์ ](08/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-10-2017 21:19:30
ความจะแตกก็อีคราวนี้แหละ คนแก่สงสัย  o6
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #21 ฝาแฝดและการท้าทายของเซนเซย์ ](08/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-10-2017 21:51:12
นี่คือพยายามช่วยแล้วเหรอ

กดดันน้องขนาดนี้ทำไมเนี่ย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #21 ฝาแฝดและการท้าทายของเซนเซย์ ](08/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 08-10-2017 22:04:19
นี่คือวิธีพิสูจน์หรือหาเรื่องแต๊ะอั๋งเค้าคะ แหม  :hao3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #21 ฝาแฝดและการท้าทายของเซนเซย์ ](08/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 09-10-2017 11:25:30
          TWINS บทที่ 22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง


​          ​" งั้นก็ได้ ถ้าอย่างนั้นธัชชา จูบฉันสิ แล้วฉันจะเชื่อ " ผมเบิกตามองเซนเซย์ด้วยความตกใจ แล้วแบบนี้ผมจะต้องทำยังไงกัน ผมไม่รู้เลย

​          " คือเรื่องแบบนั้น คือ... " ถ้าเป็นธัช ผมไม่แน่ใจเลยว่าธัชจะกล้าทำไหม

​          " เราเคยจูบกันแล้วนี่ ไม่ใช่หรือไง " ผมมองเซนเซย์ด้วยความตกใจ จูบงั้นเหรอ ธัชเคยจูบเซนเซย์ตอนไหนกัน ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนั้น ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่ ธัชปิดบังผมงั้นเหรอ

​          ผมถอยหลังจนมาถึงโซฟาตัวยาวที่เหมือนกับในห้องทำงานของเซนเซย์ ผมทิ้งตัว นั่งลงช้าๆ ด้วยความสับสน เซนเซย์เดินมานั่งลงข้างๆ ผม พิงพนักอย่างสบายอารมณ์

​          " ยอมแพ้ซะเถอะ ธิชา แล้วยอมรับซะว่าเธอไม่มีอะไรที่เหมือนกับน้องชายเลย นอกจากหน้าตา " เซนเซย์ยิ้มเยาะดูถูกผม

​          นายพูดผิดแล้ว ผมกับธัชน่ะ พวกเราเหมือนเป็นคนคนเดียวกัน ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อธัช

​          ผมหลับตาลง กำมือแน่นเพื่อตั้งสมาธิ ผมค่อยๆ เลื่อนตัวเข้าหาเซนเซย์ พลางดึงคอเสื้อคนตรงหน้าเข้ามา ให้ริมฝีปากของเราประสานกัน เหมือนเซนเซย์จะอึ้งไปเพราะไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ แต่เมื่อผมจะถอนริมฝีปากออก ผมกลับรู้สึกว่าทำไม่ได้ เซนเซย์ใช้มือทั้งสองข้างล็อคหน้าของผมไว้และเริ่มจูบกลับอย่างร้อนแรงจนผมตกใจ

​          ผมพยายามดันตัวออกแต่ก็เปล่าประโยชน์ คนตรงหน้านั้นแข็งแรงเกินไป ผมไม่สามารถขัดขืนใดๆ ได้เลย เซนเซย์เอียงคอให้ริมฝีปากพวกเราประสานกันแนบแน่นขึ้น ผมรู้สึกปากเริ่มชาและเจ็บไปหมด แต่ผมก็ไม่ยอมให้ลิ้นนั่นเข้ามาบุกรุกในปากของผมได้ แต่แล้วเซนเซย์ก็ใช้มือข้างหนึ่งบีบแก้มของผม จนผมต้องอ้าปากออกด้วยความเจ็บ เมื่อช่องทางที่ปรารถนาเปิดออกแล้ว คนตรงหน้าไม่รอช้า เข้ามากระหวัดเก็บเกี่ยวความต้องการไม่รู้จบ เรียวลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาจนผมแทบสำลัก 

​          ผมรู้สึกว่าตัวผมนั้นกำลังค่อยๆ นอนลงด้วยแรงกดของคนตรงหน้า แต่ว่าแล้วถ้าผมขัดขืนล่ะ การเป็นธัชชาของผมก็ต้องจบลง ผมต้องเลือก ระหว่างช่วยน้องหรือช่วยตัวผมให้รอด ผมควรจะทำยังไงดี

​          ผมโดนกดให้นอนราบลงกับโซฟา คนตรงหน้ายังไม่ยอมละริมฝีปากออกแม้เพียงเสี้ยววินาที ผมดันอกแกร่งนั้นไว้อย่างอ่อนแรง เซนเซย์ทับผมและมือทั้งสองข้างยังคงล็อคผมไม่ให้ขยับหน้าหนีได้เลย ผมเริ่มเกร็งตัว ผมว่านี่คงไม่ใช่แค่เพียงจูบอีกแล้ว คนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่ยอมหยุด 

​          " อย่า " ผมหันหน้าหนี และใช้มือผลักและปัดป้องตัวเองไว้ แต่ก็ไม่เป็นผลเช่นเดิม เซนเซย์ตามมาดูดกลืนริมฝีปากผมอีกครั้ง และเริ่มใช้มือข้างที่เหลือยกหลังผมขึ้นเล็กน้อยและเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง และต่ำลงเรื่อยๆ ไปทุกที ผมว่าผมไม่ไหวแล้วล่ะ พี่ขอโทษนะธัช

​          ผมกำมือและใช้แรงทั้งหมดผลักคนข้างบน แต่แรงผลักนั้นก็แค่ทำให้ริมฝีปากของเราสองคนผละออกจากกันเท่านั้น เซนเซย์หยุดการกระทำทั้งหมด และจ้องหน้าผมด้วยรอยยิ้ม 

​          " ว่าไงธิชา ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ นึกว่าจะแน่แค่ไหน หึ " ผมมองเซนเซย์ด้วยแววตาแห่งความเกลียดชัง 

​          " เลว " ผมพูดออกมาด้วยความแค้น

​          " คงคิดว่าตัวเองเป็นพี่ชายที่แสนดีงั้นสิ เธอมันก็แค่คนเห็นแก่ตัว " ผมมองเซนเซย์อย่างไม่เข้าใจ ผมนี่หรอเห็นแก่ตัว ผมเสียสละทุกอย่างก็เพื่อธัช ผมอุทิศชีวิตของผมเพื่อน้อง 

​          " คงคิดว่าตัวเองทำเพื่อน้องใช่ไหม แล้วเธอเคยถามธัชบ้างหรือเปล่า ว่าต้องการสิ่งที่เธอทำไหม " 

​          " ไม่จำเป็น ทำผมทุกอย่างก็เพื่อธัช " 

​          " เธอกำลังยัดเยียดความต้องการของตัวเองให้น้อง สร้างความกดดัน ถ้าเธอว่าดี ธัชก็ต้องว่าดีงั้นเหรอ เด็กนั่นไม่มีสิทธิ์คิด ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นหรือไง บางทีคนที่ป่วย อาจจะไม่ใช่ธัช แต่เป็นเธอก็ได้ " ผมผลักไอ้บ้านี่ออกอีกครั้ง และลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่

​          " ผมจะทำสิ่งที่ผมคิดว่าดีกับน้อง และจะไม่มีใครมาขวาง แม้แต่คุณ "

​          " งั้นเหรอ แล้วเรื่องการโกงข้อสอบนั่น จะไม่เป็นปัญหากับเธอสองคนพี่น้องงั้นเหรอ "

​          " คุณไม่มีหลักฐาน แม้แต่กล้องวงจรปิดก็แยกเราสองพี่น้องไม่ออกหรอก " 

​          " งั้นเหรอ แล้วถ้าหาก ให้ลองทำใหม่ดูล่ะ " ผมมองเซนเซย์ด้วยความกลัวแบบปิดไม่มิด

​          " ห้ามออกจากห้องก่อนหมดเวลา ห้ามขอเปลี่ยนตัว เอ๊ะ ขอเข้าห้องน้ำสินะ นี่คิดว่าทั้งหมดฉันโง่งั้นเหรอ เธอต่างหากที่โง่ เย่อหยิ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักหรือไง! " เซนเซย์พูดเสียงดัง ผมก้มมองพื้น ผมกับน้องคงไม่รอดแน่ถ้าต้องทำข้อสอบใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างจะประจักษ์ทันทีที่ได้เห็นผลสอบของเรา ธัชไม่มีทางทำได้ 

​          " ว่าไงล่ะ ธิชา พ่อคนเก่ง " เซนเซย์มองผมพลางยิ้มเยาะอย่างสุขใจที่เห็นผมกำลังตกที่นั่งลำบาก 

​          " สายตาใช้ได้นี่ อยากฆ่าฉันงั้นเหรอ " ผมกำมือแน่น มองไอ้บ้านี่ด้วยสายตาอาฆาตแบบสุดๆ อย่างปิดไม่มิด

​          ผมพุ่งตัวเข้าไป ง้างหมัดใส่มันด้วยความเหลืออด ถ้าไหนๆ จะต้องโดนไล่ออกแล้ว ผมก็จะขออัดมันก่อนให้สาสมกับที่มันทำกับผม แต่การตัดสินใจของผมนั้นถือว่าผิดพลาดมหันต์ เซนเซย์รับหมัดของผมด้วยมือข้างเดียว และล็อคแขนอีกข้างของผม และยกผมขึ้นทั้งตัวพาดบนบ่าอย่างง่ายดาย ผมดิ้นและพยายามเตะไอ้บ้านี่ด้วยความคลั่ง

​          " ปล่อยกู ปล่อยกูนะ ไอ้เลว ไอ้ยุ่นโรคจิต!! " 

​          " ด่าได้แสบมาก " เซนเซย์เดินไปที่ห้องนอนห้องหนึ่งและโยนผมลงอย่างแรง ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นและพยายามหนีลงจากเตียง เซนเซย์หยิบเชือกใต้เตียงและโดดขึ้นมาคล่อมผมเอาไว้ พลางรวบแขนทั้งสองข้างของผมและมัดอย่างรวดเร็วติดกับหัวเตียง

​          " จะทำอะไร ปล่อยกูนะโว้ย!! " ผมแหกปากโวยวาย เสียงดังหวังให้คนอื่นได้ยิน

​          " แหกปากไปเถอะ ชั้นบนนี้ทั้งหมดเป็นของฉัน อ่อ ไม่สิทั้งคอนโดนี่ต่างหาก เป็นของฉัน " เซนเซย์พูดและยังคงมัดผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย 

​          " จำเรื่องการบำบัดที่เคยบอกได้หรือเปล่า " ผมมองมือของผมที่กำลังถูกมัดด้วยความหวาดหวั่น การบำบัด บำบัดบ้าอะไรวะ 

​          " กูไม่ได้ป่วย ปล่อยกู!! " ผมยังคงตะโกนต่อไปแม้ไม่มีหวัง เซนเซย์มัดผมด้วยเชือก ตรึงผมไว้กับเตียง ความแน่นของเชือก ทำเอาผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ผมมองเซนเซย์ที่ยืนอยู่ปลายเตียงด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว 

​          " จะทำอะไรวะ ไอ้บ้าเอ้ย ปล่อยกูนะ ถ้ากูหลุดไปได้นะมึง!! " ผมแหกปากโวยวายทันที เพราะเซนเซย์กำลังแกะกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีดำออกช้าๆ พลางมองผมด้วยสายตายิ้มเยาะ 

​          " เป็นเด็กที่ปากเก่งสุดๆ แต่ก็ดีแต่ปากนั่นแหละ " ผมเถิบตัวเองถอยหนีจากปลายเตียง หดขาด้วยความหวาดหวั่น ถึงจะไม่มีประโยชน์ก็เถอะ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว

​          " อยากออกไปจากที่นี่งั้นเหรอ อ้อนวอนฉันสิ ฉันอาจใจอ่อนก็ได้ " เซนเซย์พูดพร้อมยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ 

​          " ขอร้องเหรอ ไปตายซะ!! " ผมตะโกนก้อง คนอย่างผมหรอจะยอม คนอื่นอ่ะไม่แน่ แต่ไอ้บ้านี่ต่อให้ตายก็ไม่ยอม

​          " ตกลงจำเรื่องการบำบัดที่เคยบอกไม่ได้จริงๆ เหรอ " ผมมองมันด้วยความขุ่นเคือง ผมไม่ได้ใส่ใจคำพูดมันหรอก เพราะงั้นเลยจำไม่ได้ ผมมองเซนเซย์ที่ตอนนี้ทำหน้าเปรมปรีเหลือเกิน 

​          " มันคือเซ็กส์บำบัดยังไงล่ะ "


ผมกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าผมเปลี่ยนใจอ้อนวอนมันตอนนี้ มันจะปล่อยผมจริงๆ หรือเปล่า ผมไม่มีทางรู้ได้เลย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 09-10-2017 11:42:11
เรื่องอื่นช่างมันก่อน แต่ตอนนี้เซนเซย์ร้อนแรงสุดๆไปเลยค่า  :hao5:
เซนเซย์หาเรื่องแต่กับธิชเท่านั้นแหละ เรื่องเซ็กส์บำบัดก็คงพูดให้ธิชขึ้น กับธัชคงไม่เป็นแบบนี้(มั้ง)
ตอนหน้าจะเป็นไงอะ เซนเซย์อย่าแกล้งธิชให้รู้สึกเกลียดไปมากกว่านี้เลย เดี๋ยวจะลำบากตอนหลังเอานา
แค่คิดถึงตอนหน้าก็...  :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-10-2017 15:53:47
ชิดจอรอดู เซ็กบำบัด  :hao6:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: หิมะขาว ที่ 09-10-2017 16:16:43
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-10-2017 22:46:53
ี่ร้อนแรง
จูบเดียวของธิช ทำเอาเซนเซย์ยั้งอารมณ์ไม่อยู่
หรืือต้องการสั่งสอนธิชกันแน่
แต่ดูจากที่ใช้กำลังบังคับจูบ ไม่ใช่แล้วล่ะ
ที่ว่าใช้เซ็กส์บำบัด ตกลงบำบัดใคร ธัช หรือธิช หรือเซนเซย์  o22 o22 o22

ธิช เองทำไม่ถูกเรื่องน้องหลายอย่าง
ปกป้องเกินไป คิดแทนทุกอย่าง
ทำแทนแม้เป็นเรื่องผิดกฎ ประกวดเดือนแทน เข้าสอบแทน

ที่เซนเซย์ว่าไว้ก็น่าจะจริงนะ
ธัช ก็ผิดปกติ จิตๆแล้ว
ธิช ก็ไม่ปกติ
รอซ็กสบำบัดนะ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-10-2017 22:56:34
บำบัดเคียวสินะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 10-10-2017 04:05:33
คนเรามันก็ป่วยด้วยกันทั้งนั้นแหละค่ะ แค่ตะรู้ตัวหรือเปล่า

ธิชเอ๊ยยอมรับเถอะว่าที่ทำอยู่เนี่ย ทำอาการน้องแย่ลงนะ ทำให้เขายึดติดกว่าเดิม ทำให้เขาคิดว่าถ้าไม่มีพี่จะไม่มีค่า อย่า over protective 
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 10-10-2017 11:23:55
ธัชคือคนที่น่าสงสารสุด ต้องทำทุกอย่างให้ธิชพอใจ เพราะกลัวจะถูกธิชทิ้ง ถ้าระเบิดเมื่อไหร่คงแรงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: hellfire ที่ 10-10-2017 14:21:04
สวัสดีค่า เพิ่งเริ่มอ่านเดี๋ยวจะตามอ่านให้ครบนะคะ นิยายคนเขียนสนุกมากค่ะชอบบบๆๆๆๆๆๆๆ
รอนะคะนิยายคนเขียนสนุกมากค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 10-10-2017 17:06:01
รอเซ็กส์บำบัดอยู่นะคะเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 11-10-2017 02:16:59
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #22 ฝาแฝดที่ถูกตรึงกับเตียง ](09/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 11-10-2017 10:25:22
          TWINS บทที่ 23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ


          เคียวเซนเซย์         


          ผมยืนมองแฝดพี่ที่ร้ายกาจและดื้อรั้นแบบสุดๆ ผมเข้าใจว่าเด็กนี่รักน้องชายมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ความรักอย่างเดียว มันไม่สามารถช่วยให้น้องหายป่วยได้ ซึ่งเด็กนี่ไม่รู้เรื่องนั้นเอาซะเลย ถ้าถามผมว่า ทำไมผมถึงรู้เรื่องนี้งั้นเหรอ นั่นก็เพราะว่าผมอยู่ที่นั่น ในวันที่ธัชกลายเป็นแบบนั้นยังไงล่ะ


          6 ปีก่อน กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น


          " นายน้อยครับ มีสายมาจากนายท่านครับ " ผมเดินไปรับโทรศัพท์จากคุณพ่อที่อยู่ที่ประเทศไทยด้วยความไม่เต็มใจ 

          คุณพ่อนั้นมีธุรกิจหลายอย่างและอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ตอนนี้ก็เป็นอธิการบดีอยู่ที่มหา'ลัยแห่งหนึ่ง ส่วนผมนั้นอาศัยอยู่กับคุณลุงที่นี่ เพราะว่าผมกำลังเรียนอยู่ที่มหา'ลัยหนึ่งในโตเกียว  ผมกำลังศึกษาเกี่ยวกับจิตเวช ในระดับปริญญาเอก แต่คุณพ่อนั้นต่อต้านผมเสมอ คุณพ่อไม่ต้องการให้ผมเป็นจิตแพทย์ คุณพ่อมีอัคติกับอาชีพพวกนี้ เพราะท่านบอกว่าคนพวกนี้ดูเหมือนอ่านใจเราได้ยังไงล่ะ ผมจึงจำเป็นต้องเรียนสาขาอื่นเพิ่มด้วย และถูกบังคับให้ไปช่วยงานที่มหา'ลัยของคุณพ่อ แต่ผมซึ่งยังเรียนไม่จบ ก็ได้แต่รอเวลา ที่ตัวเองจะต้องทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อครอบครัว

          คุณลุงของผมนั้นเป็นผู้มีอิทธิพลในย่านนี้ ธุรกิจที่แสนดำมืด ทำให้ผมอยากที่จะเรียนจบไวๆ และไปจากที่นี่ ผมเกลียดที่จะต้องมายุ่งเกี่ยวกับสิ่งโสมม มันจะฉุดดึงผม ให้ต่ำลงในสักวัน

          ' เด็กใหม่นั่น น่าสงสาร '

          ' เหมือนจะเสียสติไปแล้วนะ '

          ' เห็นร้องไห้ใหญ่เลย '

          เสียงซุบซิบนินทาของเหล่าหญิงขายบริการ ในย่านธุรกิจของคุณลุง ทำให้ผมเกิดความสนใจ ผมเกลียดที่จะต้องเหยียบย่างมาที่นี่ แต่วันนี้คุณลุงใช้ให้ผมมาทำธุระ ผมจึงต้องมาอย่างช่วยไม่ได้

          ตลอดทางเดิน ทุกคนต่างก้มหัวให้ผม หญิงขายบริการ ต่างส่งสายตามาให้ไม่ขาด แต่ขอโทษเถอะ แค่เห็นก็สะอิดสะเอียนแล้ว 

          " เงียบซะ ไอ้เด็กเวร แกทำร้ายลูกค้าได้ยังไง ตัวแค่นี้แต่ฤทธิ์เยอะจริงๆ "

          ผมเดินผ่านห้องที่เหมือนลูกกรงห้องหนึ่ง ผมยืนมองเด็กผู้ชายที่กำลังถูกทุบตี ถูกล่ามโซ่ที่คอเหมือนกับสัตว์ เด็กนั่น ไม่สนใจคนที่กำลังทุบตีตัวเองอยู่ แต่กำลังเพ้อถึงใครสักคน ด้วยรอยยิ้มและหยาดน้ำตา ผมมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว เด็กนั่นน่าสงสารและเวทนาอย่างที่สุด อายุน่าจะไม่เกิน 15 ปี ยังเด็กอยู่มาก ที่จะมาอยู่ในที่แบบนี้

          " ทำอะไร " ผมส่งเสียงดังให้คนที่กำลังทารุณเด็กนี่อยู่ เห็นว่าผมอยู่ข้างนอก

          " นายน้อยครับ มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าครับ " ไอ้หมอนั่นก้มหน้าลงอย่างนอบน้อมทันทีที่เห็นผม

          " ไปซะ " ผมออกปากไล่ และเดินเข้าไปหาเด็กนั่นเพื่อมองดูใกล้ๆ เป็นเด็กที่ผิวพรรณดี หน้าตาดีมาก แต่สติกลับเลอะเลือน นายต้องเจอกับอะไรมาบ้างนะ ความจริงแล้วผมไม่ควรยื่นมือเข้าไป ผมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน เพราะผมไม่อยากยุ่งกับคุณลุง แต่ผมที่เป็นแพทย์จะปล่อยเด็กนี่ไว้ได้ยังไง เด็กนี่ยังมีทางรักษา 

          " พี่ครับ พี่อยู่ไหน " ผมเดินช้าๆ เข้าไปใกล้ๆ เด็กนี่ที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง พลางพูดกับตัวเองด้วยแววตาเลื่อนลอย แต่พอเด็กนี่เห็นผม ก็รีบเข้ามาเกาะแขนผมและยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

          " พี่ พี่มาหาผมแล้วใช่ไหม " ผมมองเด็กนี่ด้วยความเวทนา ถ้าพี่นายมาเห็นจะเจ็บปวดใจแค่ไหนนะ

          " ไม่ ไม่ใช่ พี่เกลียดแก พี่เลยทิ้งแกไงล่ะ " ผมมองเด็กนี่ที่เริ่มเปลี่ยนสีหน้าและเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกครั้ง พลางกรีดร้อง ทำร้ายข้าวของ ทำร้ายตัวเอง ผมเดินออกจากห้อง ตรงไปยังห้องของผู้ดูแลที่นี่ 

          " นายน้อยมีอะไรให้รับใช้ครับ "

          " เด็กที่มาใหม่นั่น มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง " ผมถามเสียงแข็งออกไปอย่างดุดัน

          " เด็ก อ๋อ เด็กผู้ชายคนนั้น มีคนนำมาขายให้เราครับ " ขายงั้นเหรอ 

          " สภาพแบบนั้นทำงานไม่ได้หรอก ปล่อยไปซะ " 

          " แต่ว่านายน้อย เรื่องนี้ต้องได้รับคำสั่งจากนายท่านใหญ่เท่านั้น " ผมกัดกรามแน่น คุณลุงงั้นเหรอ 

          " ห้ามเด็กนั่นรับแขก จนกว่าฉันจะสั่ง ฉันจะคุยกับคุณลุงเอง  เข้าใจไหม "

          " ครับนายน้อย "

          ผมรีบกลับมาที่บ้านเพื่อขอเข้าพบคุณลุง ซึ่งคุณลุงยินดีมากที่ผมอยากคุยด้วย 

          " มีเรื่องอะไรทถึงมาหาลุงด้วยตัวเองได้ " คุณลุงยิ้มพลางยกเหล้าขึ้นจิบ

          " เด็กที่มาใหม่ ที่เป็นเด็กผู้ชาย " คุณลุงเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ได้ยิน

          " หลานไม่ควรยุ่งกับเรื่องนี้นะ " ผมกำมือแน่น

          " แต่เด็กนั่นกำลังป่วย "

          " แล้วยังไงล่ะ ร่างกายมันยังดีใช่ไหมล่ะ " ผมเงยหน้าขึ้นจ้องมองคุณลุงด้วยความไม่พอใจ

          " อย่าลดตัวไปแปดเปื้อนกับสิ่งสกปรกเลยเคียวเฮ " 

          " งั้นก็ขออภัยที่มารบกวนครับ " ผมก้มหัวให้คุณลุง และจากมาด้วยความโกรธ เหอะ สกปรกงั้นเหรอ จิตใจของแกนั่นแหละที่สกปรก 

          ผมกดโทรศัพท์โทรหาคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ที่นั่น ที่ที่เด็กนั่นอยู่ ซึ่งคนรับใช้คนนี้ เป็นคนที่ผมนั้นสนิทที่สุด

          " คืนนี้ฉันซื้อเด็กนั่น มาเอาเงินไป และอย่าบอกให้ใครรู้ว่าเป็นฉัน ฉันจะเข้าไปหลังร้าน " ผมกดวางสายและเตรียมตัวเข้าไปพบเด็กนั่น

          ในเวลาเที่ยงคืน ผมเดินทางลับๆ มาที่ร้าน ต้องเรียกได้ว่าเป็นย่านเลยทีเดียว ผมแต่งกายปกปิด ไม่มีใครจำผมได้ และเข้าไปหาเด็กนั่นที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่ภายใน เวลาที่ต้องรับแขก เด็กจะถูกย้ายมายังห้องที่ปิดมิดชิด แต่ในเวลาปกติ ก็จะถูกขังในกรง เพราะเด็กนี่เป็นตัวโชว์ที่ดึงดูดลูกค้ามากมายให้เข้ามา ด้วยใบหน้าที่ดูน่ารักและดูสวยงามในเวลาเดียวกัน เด็กนี่ถ้าโตขึ้นก็คงจะหล่อมากทีเดียว

          " เธอ " ผมนั่งลงช้าๆ ถอดหมวกออก และยื่นมือเข้าไปหาเด็กที่ตัวสั่นเทานี้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

          " ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรหรอก " ผมยังคงกล่อมเด็กนี่ด้วยรอยยิ้ม

          " เธอ ชื่ออะไรงั้นเหรอ ฉันชื่อ... " ผมชะงักไป เพราะไม่ได้คิดว่าจะบอกชื่อตัวเองยังไง

          " ฉันชื่อเคย์ เป็นหมอ เรียกเคย์ซังก็ได้ " ผมยังคงยิ้ม เด็กนี่เริ่มมองหน้าผมแต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัว

          " ฉันจะนั่งตรงนี้นะ เธออยู่ตรงนั้นก็ได้ " ผมนั่งลงที่ฝูกนอน 

          " ได้ยินว่าเธอมีพี่ชาย ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหม " ผมส่งยิ้มให้ และชวนพูดคุยอย่างเป็นมิตร

          " ผ..ผมชื่อ.ธัช " เด็กนั่นค่อยๆ ขยับตัวมาทางผมช้าๆ อย่างหวาดระแวง

          หลังจากนั้นทุกคืน ผมก็ได้ซื้อตัวธัช และทำการบำบัดรักษาจิตใจ จนธัชก็เริ่มที่จะไว้ใจผม และเข้าใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากเพราะว่าผมนั้นได้ให้หมอมาตรวจร่างกายของธัชแล้ว พบว่าธัชนั้นยังไม่ได้ถูกแตะต้อง ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศใดๆ ผมได้ช่วยเด็กคนนี้ได้ทันเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ผมดีใจที่สุด

          " พี่ธิชเป็นคนยังไงงั้นเหรอ " ผมถามธัชด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน 

          " พี่ธิชใจดี เข้มแข็ง ถึงไม่ค่อยยิ้มแต่พี่ธิชก็หล่อมากๆ แต่ก็นะแบบว่า พวกเราเป็นแฝดกัน หน้าตาเหมือนกัน แต่เวลาผมส่องกระจก ผมกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมองหน้าพี่ธิช ผมก็ชอบ ผมอยากอยู่กับพี่ตลอดไป " ธัชพูดถึงพี่ชายด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข และเขินน้อยๆ

          " พี่ธิชบอกว่ารักผม รักผมที่สุด พี่ธิช.. " ผมมองธัชที่ชะงักไป ทั้งๆ ที่ยิ้มอยู่แต่น้ำตากลับไหลออกมา

          " เอ๊ะ ขอโทษครับผ.ผม " ธัชเริ่มร้องไห้อีกครั้งจนตัวสั่น ผมค่อยๆ ดึงธัชเข้ามากอดช้าๆ ลูบผมของธัชแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลมให้หายเศร้า ในช่วงเวลาเกือบปีที่ผ่านมาผมได้รู้จัก ได้พูดคุย ได้รู้จักธัช ธัชนั้นเปรียบเสมือนน้องชายของผม เป็นเด็กดีที่อ่อนโยน แต่จิตใจนั้นแสนบอบบางราวกับแก้ว ที่พร้อมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ทุกเมื่อ

          " ธัชอยากเจอพี่ธิชหรือเปล่า " ธัชมองผมด้วยแววตาแสนเศร้า 

          " พี่ธิชอาจจะลืมผมไปแล้ว " ผมจับแก้มของธัชไว้ให้เงยหน้ามองผมชัดๆ 

          " ธัช ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอเสมอ " ธัชส่งยิ้มพลางกอดผมไว้แน่นและร้องไห้อีกครั้งอย่างปวดร้าว

          " ขอบคุณครับเคย์ซัง " ธัชพูดพลางยืดคอมาจุฟที่ปากผมเบาๆ จนผมตกใจ 

          " ผมเคยทำกับพี่ธิชบ่อยๆ " ธัชพูดพลางฉีกยิ้มกว้าง สองพี่น้องนี่รักกันแบบไหนนะ ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย แต่ช่างเถอะ ธัชยิ้มได้ก็น่าจะพอแล้วล่ะ

          หลังจากนั้นไม่นาน ในคืนหนึ่ง คนสนิทของผมที่คอยเฝ้าธัชก็โทรหาผม และบอกว่ามีคนแอบมาพบธัช เด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนกับธัช ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบไปที่นั่นทันที  เพราะว่าที่นั่นมีบอดี้การ์ดล้อมอยู่ทั่วทุกที่ การจะพาธัชหนีไปนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นอกจาก

          ผมแต่งกายมิดชิด เหน็บปืนไว้ที่เอว และเดินฝ่าฝนออกไปท่ามกลางความหนาวเหน็บ เมื่อใกล้ถึงที่นั่น ผมยิงปืนขึ้นฟ้า และวิ่งล่อพวกบอดี้การ์ดทั้งหมดให้ออกมา และเป็นไปตามที่คิด พอได้ยินเสียงปืน ทุกคนก็วิ่งออกมาทางผม พร้อมถือปืนวิ่งไล่ 

          " โชคดีนะธัช ขอให้มีชีวิตที่ดี " ผมบอกลาธัชในสายลม พร้อมวิ่งหนีตายอย่างดุเดือด แต่ในที่สุด เมื่อผมมีแค่เพียงคนเดียว ก็ไม่สามารถหนีพ้นได้ ผมถูกล้อมด้วยบอดี้การ์ดหลายสิบคน ที่เล็งปืนมาทางผม หมายที่จะฆ่า ผมเปิดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นว่าผมเป็นใคร พวกนั้นทั้งหมด ก็ต่างทำหน้าตื่นตกใจและคุกเข่าลงต่อหน้าผมด้วยความลนลาน

          " นายน้อยทำไมถึงทำแบบนี้ละครับ "

          " ขอโทษ แล้วก็ขอบใจมาก "  หน้าที่ของผมจบลงแล้ว ผมทั้งดีใจและเศร้าใจ แต่ว่าการที่จะทำให้ธัชมีความสุขได้นั้น ก็คงเป็นการได้กลับไปอยู่กับพี่ชายนั่นแหละ


ถ้าโชคดี สักวันเราจะได้พบกันอีกแน่นอน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-10-2017 10:43:49
 :pig4:

โอ้โห
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 11-10-2017 11:07:43
อดีตเป็นงี้นี่เอง เซนเซย์เป็นคนดีผิดคาดแฮะ อืม เอ็นดูธัชแบบน้องชายด้วย
ธัชต้องจำเซนเซย์ได้แน่นอน ไม่น่ามีอะไรเชิงชู้สาว(ชาย)แบบที่ธิชระแวง
ตัดมาปัจจุบัน ยังรอเซ็กส์บำบัดอยู่นะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-10-2017 12:00:38
คิดเหมือนกันว่าเซนเซย์เคยรู้จักแฝด เพราะแฝดเคยอยู่ญี่ปุ่น
     
ธัช น่าสงสารมาก พี่ก็คิดว่าธัชได้คนเลี้ยงดีๆ
ที่ธัชถูกเลือกเพราะธัชหน้าตายิ้มแย้ม น่ารัก
ส่วนธิช หน้าตาบึ้งตึง ดูไม่น่ารัก เลยไม่ถูกเลือก
ที่ไหนได้เอาธัช ไปขายต่อนี่เอง
ธิช ก็รักน้องมากจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 11-10-2017 15:33:58
 สนุกมาก มาต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-10-2017 19:42:52
เบื้องหลังอันซับซ้อน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 11-10-2017 20:08:45
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-10-2017 20:35:33
อดิตมันขั่งขมขื่นมากนัก หลานธัช  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 11-10-2017 21:08:53
ธัชรักธิชมากๆเลย อย่าบอกนะว่ารักเกินพี่น้องมาตั้งแต่ยังไม่ป่วย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #23 ฝาแฝดและคุณหมอผู้มีพระคุณ ](11/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 12-10-2017 11:19:36
          TWINS บทที่ 24 ฝาแฝดและเซ็กส์บำบัด


          " ปล่อยกูนะโว้ย!! " 

          ผมยังคงยืนมองเด็กก้าวร้าวนี่อยู่ที่ปลายเตียง มัดก็แล้ว ขู่ก็แล้ว ก็ยังไม่มีความสลดลงเลยแม้แต่น้อย เป็นคนที่จิตใจเด็ดเดี่ยวซะเหลือเกิน  ผมอยากดัดนิสัยเด็กนี่ แต่ดูจากลักษณะนิสัยแล้ว คงจะคุยกันดีๆ ไม่รู้เรื่อง และก็อาจเป็นเพราะผมนั้นรู้สึกสนใจเด็กนี่ด้วย แววตา น้ำเสียง สีหน้า มันช่างกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวผมได้ดีทีเดียว อยากทำให้เชื่อง ให้เชื่อฟัง จริงๆ ผมก็อาจจะนิสัยเสียเหมือนกันก็ได้

          แต่พอมองเด็กนี่นานๆ มันก็ทำให้ผมนึกถึงธัชขึ้นมา และเกิดความลังเลที่จะทำอะไรกับเด็กนี่ ผมนั้นเป็นห่วงธัชเสมอ แต่ธัชจะเป็นยังไงนะ ถ้ารู้ว่าผมกำลังจะทำอะไรกับพี่ชายสุดที่รักของตัวเอง แต่ผมก็จำเป็นต้องสั่งสอนเด็กนี่ ต่อไปนายจะต้องร้องเรียกหาแต่สิ่งนี้ 

          ตอนนี้ผมแค่ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตัวเองออกเท่านั้น ยังไม่ได้ถอดออก ผมทำและสังเกตุพฤติกรรม แววตา สีหน้าของเด็กนี่ไปด้วย เพื่อดูจุดอ่อน ความสนใจ ความชอบ บางทีการศึกษาเรื่องแบบนี้นานๆ ก็ทำให้ผมนิสัยเสียได้เหมือนกัน ผมสังเกตุว่าหมอนี่ไม่ยอมมองร่างกายของผมตรงๆ ถึงจะตะโกนด่าทอ แต่ก็หันหน้าหนีตลอดเวลา หมอนี่น่าจะชอบผู้ชายเหมือนกัน แต่แค่ไม่รู้ใจตัวเอง น่ารักดีนะ

          " จะทำอะไร อย่าเข้ามานะโว้ย!! "

          ผมค่อยๆ เดินมาที่ข้างเตียง และเขยิบเข้าไปหาร่างที่ตอนนี้ดิ้นไปมาอย่างก้าวร้าว ตอนนี้เด็กนี่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์สีอ่อน เสื้อคอวีสีดำและเสื้อช็อปสีน้ำเงิน เสื้อผ้าสีเข้มตัดกับผิวขาวราวหิมะ ช่างเป็นสิ่งที่น่าดูซะจริง ขอบเสื้อที่ตอนนี้เลิกขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นถึงผิวกายที่ขาวผุดผ่องเพราะแรงดิ้นของตัวเอง

          " อย่า!! " ผมยื่นมือออกไปพลางมองหน้าที่จ้องผมเขม็งอย่างกราดเกรี้ยวของเด็กนี่ ลูบเบาๆ ที่หน้าท้องเนียน และค่อยๆ ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างแผ่วเบา  เด็กนี้จ้องผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ และเริ่มหายใจหอบถี่ขึ้น เกร็งตัว กำมือแน่น

          เอาล่ะ แบบนี้ดีกว่า ผมลุกขึ้นและเดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนยาว พับให้พอดีๆ และเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง

          " อย่า ปล่อยเถอะ " ความกลัวเริ่มแผ่ออกมาในน้ำเสียง ผมยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ หมอนี่คงอยากเห็นว่าผมทำอะไรมากกว่าสินะ

          ผมไม่สนใจเสียงด่าทอ และใช้ผ้าเช็ดหน้าผูกปิดตาเด็กนี่ไว้ เด็กนี่ทั้งร้องตะโกนทั้งดิ้นจนหอบหมดแรง ช่างน่าสงสารซะจริง
                   
          " จะอ้อนวอนได้หรือยัง ว่าไง " ผมบีบคางเด็กนี่ไว้และถามอย่างกวนประสาท ความไม่ชอบยอมแพ้ของเด็กนี่ จะเป็นตัวทำลายตัวเด็กนี่เอง  เจ้าตัวแสบนี่ไม่ตอบ ยังคงหยิ่งทะนง และไม่ยอมแพ้ เอาล่ะ ต่อไปก็กุมสติตัวเองให้ดีนะ คนเก่ง

          ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด ลูบเบาๆ ภายนอกเสื้อยืดสีดำ ลากมือแผ่วเบาไปมาจนถึงจุดติ่งไตทั้งสอง ผมสังเกตุเห็นการเกร็งตัวและหันหน้าหนีของเด็กนี่ แบบนี้ตรงนี้คงเป็นจุดอ่อนสินะ  พอรู้ดังนั้นแล้วผมจึงลูบเน้นไปยังส่วนยอดอกที่อ่อนไหวนั้น การลูบผ่านผิวผ้ามันคงยังไม่รู้สึกมากพอ ถ้างั้นล่ะก็ ผมเลื่อนมือลงไปที่เอว และลูบผิวเนื้อเข้าไปใต้เสื้อผ้า และเลื่อนมือไปหาจุดอ่อนของเด็กนี่ช้าๆ และลูบเบาๆ

          ธิชเริ่มตัวสั่นเล็กน้อย หันหน้าเข้ากับแขนของตัวเอง และเม้มปากแน่น คิ้วขมวดมุ่นอย่างน่าสงสาร ผมยื่นหน้าเข้าไปจูบแผ่วเบาที่ซอกคอนั้นและลากจมูกสูดกลิ่นหอมไปมา พอรู้สึกถึงลมหายใจของผมที่เป่ารดต้นคอ เด็กนี่ก็รีบหดคอหนีทันที 

          " ไอ้โรคจิต ไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม กูจะฆ่ามึง! " ธิชพ่นคำด่าพร้อมดิ้นหนีไปมาอย่างไร้ทางสู้ จากการจูบและไซร้เบาๆตอนนี้ผมเริ่มเลื่อนตัวขึ้นขบเม้มที่ใบหูสีแดง และโลมเลียสร้างแรงกระตุ้นให้คนเบื้องล่าง เด็กนี่หันหนีหลบริมฝีปากผมตลอดเวลา ด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้น และมีเหงื่อผุดซึม มือผมนั้นยังคงทำหน้าที่ของมัน โดยการเขี่ยเบาๆ และลูบเค้น จนร่างกายของคนเบื้องล่างสั่นไปหมด

          " พอได้แล้ว พอสักที " ธิชพูดเสียงสั่นพลางหายใจแรงขึ้น ผมละจากใบหูนั้น เลื่อนลงมาเรื่อยๆ ยังริมฝีปากสีแดงที่พ่นคำด่าไม่หยุดหย่อน เด็กนี่พยายามจะหันหน้าหนี แต่ก็ถูกมือของผมล็อคเอาไว้ ผมก้มลงริ้มรสริมฝีปากที่แสนยั่วยวนนั่น แต่เด็กดื้อนี่ก็พยายามปิดปากแน่นไม่ยอมให้ผมแทรกลิ้นเข้าไปได้ 

          " อึก " ผมหยุดจูบทันที และเช็ดเลือดที่ริมฝีปากที่ถูกเด็กนี่กัด 

          " หึ สมน้ำหน้า " เด็กนี่ยิ้มเยาะที่ผมถูกกัด โดยไม่รู้เลยว่าสีหน้าของผมตอนนี้เป็นแบบไหน นายชอบแบบนี้งั้นเหรอ เหมือนกันเลยนะ 

          " เฮ้ย ทำอะไรวะ อย่านะโว้ย แบบนี้ไม่เอานะ ไม่เล่นนะ!! " สีหน้าตื่นตกใจ และเสียงตะโกนที่ดังลั่นเป็นตัวบอกอย่างดีว่าเด็กนี่กลัวแค่ไหน  ผมดึงเข็มขัดออกจากกางเกงยีนส์ของธิชอย่างรวดเร็ว พลางรูดซิบลงช้าๆ 

          " อย่า!! ยอมแล้ว ผมขอโทษ เซนเซย์ อย่าทำผมเลย " คำวิงวอนมากมายเริ่มพลั่งพลูออกมา ทีเมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลย ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าอีกผืนและนำมามัดปิดปากเด็กแสบนี่เอาไว้ เวลาของการอ้อนวอนจบลงแล้วเด็กน้อย

          ผมดึงกางเกงยีนส์สีซีดของธิชออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้ เหลือแต่เพียง กางเกงชั้นในแบบบ็อกเซอร์ตัวบางเท่านั้น ธิชพยายามขยับตัวหนีถอยห่างจากผมอย่างลนลาน พลางส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ 

          ผมเลื่อนตัวเข้าไปอยู่ข้างๆ ร่างที่กำลังสั่นน้อยๆ ด้วยความกลัว หึ พอเป็นแบบนี้ก็น่าสงสารนะ ผมสังเกตเด็กนี่หุบขาตลอดเวลาด้วยความหวาดระแวง  ผมจ้องมองเรียวขาขาวของเด็กนี่ เป็นร่างกายที่ขัดกับนิสัยเหลือเกิน เจ้าตัวคงเป็นคนที่รักสะอาดมาก ผิวพรรณนั้นเหมือนได้รับการดูแลเป็นอย่างดี 

          ผมยื่นมือไปลูบที่เรียวขานั้นเบาๆ และก็เป็นอย่างที่คิด ธิชขยับตัวหนีและพยายามทำร้ายผมอย่างสุดความสามารถ ผมก้มลงเลิกเสื้อยืดสีดำของธิชขึ้นทีละนิด จนเห็นยอดอกสีสวยอยู่ในสายตา ผมลากจมูกแผ่วเบาไปตามหน้าท้องสวยนั่น สูงขึ้นเรื่อยๆ ไปยังอกด้านบน ธิชเกร็งตัวและพยายามส่งเสียงออกมา

          ผมเลื่อนมือช้าๆ ไปยังจุดที่สำคัญที่สุดของร่างกายของคนเบื้องล่าง และลูบเบาๆ ไปตามผิวผ้านั้น ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมาในลำคออย่างพอใจ เพราะว่าเด็กนี่น่ะ คงจะเซ้นซิทีฟมาก ร่างกายกับหัวใจของเด็กนี่ไม่เป็นไปในทางเดียวกัน  หัวใจต่อต้าน แต่ร่างกายกลับมีความต้องการ นี่เธอเคยทำอะไรแบบนี้มาแล้วงั้นเหรอ ผิดคาดแฮะ คงต้องเช็คดูสักหน่อย

          ผมยักยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ พลางลูบไล้ไปตามส่วนอ่อนไหวของคนเบื้องล่าง ที่ตอนนี้แข็งและคับตึงอย่างน่าสงสาร ผมขยับตัวเลื่อนมือไปแก้ผ้าที่ผูกตาของธิชออก ธิชถลึงตามองผมแบบเครียดแค้นเช่นเดิม ผมถอดเสื้้อเชิ๊ตสีดำบนตัวของผมออก ผมค่อนข้างมั่นใจในรูปร่างตัวเองมาก เพราะผมใส่ใจดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ผมนั้นมีรูปร่างกล้ามเนื้อที่สมส่วน ธิชที่ถลึงตามองผมในตอนแรกนั้น ตอนนี้กลับหันหน้าหนีไปแล้ว นี่เป็นสิ่งที่บันเทิงสุดๆ สำหรับผมที่ได้แกล้งเด็กนี่ 

          " เป็นอะไร มองฉันสิ " ผมพูดพลางหัวเราะเยาะเย้ยยั่วโมโห

          " อื้ออึ๊เอ๊ด " ธิชหันหน้ามาพลางพูดอู้อี้ผ่านผ้าเช็ดหน้าที่ปิดปากเอาไว้ แต่ผมก็เดาได้ว่าพูดอะไร

          " หึ ดูให้ดีนะว่าต่อไปฉันจะทำอะไร " ผมหยิบโลชั่นที่หัวเตียง และเลื่อนตัวลงไปปลายเตียงอีกครั้ง  ธิชตาโตมองผมพลางขมวดคิ้วมุ่น และเริ่มพยายามถีบผมอีกแล้ว ผมล็อคขาทั้งสองข้างนั้นอย่างง่ายดาย รวบเข้ามาหากันและค่อยๆ ถอดกางเกงชั้นในชิ้นสุดท้ายนั้นออกช้าๆ คนเบื้องล่างพยายามดิ้นรนสุดขีด พร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ แต่แรงของเด็กนี่ไม่มีทางสู้ผมได้ ผมถอดกางเกงตัวน้อยนั้นออก เผยให้เห็นส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนและเปียกจนแฉะ 

          " สีสวยดีนี่ แล้วที่เปียกขนาดนี้เพราะมองฉันงั้นเหรอ ลามกจังเลยนะ " ผมพยายามพูดเย้าแหย่อย่างสนุกสนาน ผมมองภาพตรงหน้าและแข็งใจสุดๆ ที่จะไม่ขย้ำเด็กนี้ พูดจริงๆ คนที่ถูกทรมานอยู่อาจจะผมก็ได้ ผมหายใจเข้าออกช้าๆควบคุมสติให้มั่นคง  เด็กนี่หน้าแดงก่ำไม่ยอมมองผมแม้แต่น้อย ความอายและความโกรธคงผสมปนเปจนแทบระเบิดเลยสินะ 

          " โทษทีนะ อาจจะเจ็บนิดหน่อย " ผมพูดกับเด็กนี่พลางส่งยิ้มกวนประสาท  ขาของคนเบื้องล่างยังคงอยู่ไม่สุข ยังคงพยายามหนีและไม่ยอมให้ผมทำอะไรได้โดยง่าย

          " ถ้ายังไม่หยุดดิ้น ฉันจะขังเธอไว้ที่นี่ซะ " น่าจะได้ผล เด็กนี่ตาโตและนิ่งชะงักไป คงเป็นห่วงธัชสินะ 

          ผมเปิดโลชั่นและบีบลงที่ส่วนแข็งขืนนั้นและรูดเบาๆ แค่เพียงสัมผัส เด็กนั้นก็เกร็งตัวมากขึ้น หายใจถี่ หลับตาแน่นเหมือนกำลังภาวนาอะไรสักอย่าง ผมมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ เอาล่ะ มาลองขั้นสุดท้ายกัน 

          มือของผมยังคงขยับอย่างสม่ำเสมอ พลางยกขาข้างหนึ่งของคนเบื้องล่างพาดลงที่บ่าของผม ผมนั่งชันเข่า มือข้างหนึ่งรูดคลึง สัมผัสท่อนกายร้อนของคนเบื้องล่าง มืออีกข้างลูบเบาๆ ไปตามเรียวขาที่อยู่บนบ่า และจูบลงที่เรียวขานั้นอย่างแผ่วเบา 

          " อ.อือ อื่อ..อื้อ " คนเบื้องล่างบิดตัวไปมา หายใจแรงและสั่นน้อยๆ ผมผละมือออกจากส่วนอ่อนไหวนั้น เลื่อนลงต่ำลูบไล้ไปตามช่องทางสีหวาน พอเห็นแบบนั้นคนเบื้องล่างก็เริ่มดิ้นอีกครั้ง และส่ายหัวไปมาหน้าตาตื่นตกใจ ผมไม่สนใจการปฏิเสธนั้น ค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปอย่างช้าๆ ผมมองคนเบื้องล่างที่ตอนนี้หลับตาแน่น เกร็งตัวสุดๆ และเริ่มน้ำตาไหลออกมา

          " อยากเจ็บก็เกร็งต่อไป " ผมโน้มตัวไปข้างหน้า จูบลงที่ยอดอกสีชมพูนั้น และดูดเลียขบเม้มเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งได้ผล ผมสอดนิ้วเข้าไปจนสุด นวดคลึงเบาๆ ภายใน  ผมใช้มือข้างที่ว่างเอื้อมไปดึงผ้าที่ผูกปิดปากเด็กนี่ออก 

          " ไอ้สารเลว! " แทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงโดนด่าเป็นชุด

          " มันเจ็บ เอาออกไป " ธิชสีหน้าทรมานและเจ็บปวด พลางหอบหายใจถี่

          " ถ้ากัดฉันอีกที ฉันจะยัดสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเข้าไป " ผมพูดจบและยื่นใบหน้าเข้าไปประกบริมฝีปากกับคนเบื้องล่างอีกครั้ง คนเบื้องล่างเหมือนจะต่อต้าน แต่ก็ยอมให้จูบแต่โดยดี ผมใช้โอกาสนี้แทรกนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกนิ้วอย่างช้าๆ 

          " อื้อ.อย่า " ธิชหันหน้าหนี แต่ผมก็ตามไปประกบจูบอีกครั้ง ผมสังเกตว่าผมไม่ได้แทรกลิ้นเข้าไปขณะที่เราจูบกัน แต่เป็นธิชต่างหากที่จูบผมและแทรกลิ้นเข้ามาจูบผมอย่างร้อนแรง คงเป็นเพราะว่าตอนนี้เด็กนี่กำลังรู้ดีสุดๆ จนควบคุมตัวเองไม่ได้ต่างหาก

          ผมผละริมฝีปากออก และเลื่อนตัวลงมาจูบไซร้ที่เรียวขาและขยับมือที่สอดใส่ในช่องทางที่รัดแน่นนี่ให้ถี่และแรงมากขึ้น จนคนเบื้องล่างบิดเร้าและอ้าปากหอบหายใจด้วยใบหน้าชื้นเหงื่อ

          " อ.อื้อ อ่ะ ฮ่ะ อึก "  คนเบื้องล่างเกร็งตัว พร้อมกับช่องทางภายในที่รัดแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม ธิชบิดตัวเร้า ร่างกายกระตุก พร้อมปล่อยหยาดน้ำออกมาจนเปรอะหน้าท้องขาว 

          ผมถอนนิ้วออกและมองหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อและหยาดน้ำตาของคนตรงหน้า และกำลังหอบหายใจอย่างหมดแรง ตอนนี้คงโกรธผมจนแทบบ้าเลยล่ะ

          " ลามกจังเลยนะ เพราะคนที่จะเสร็จเพราะโดนทำจากข้างหลังน่ะ หายากสุดๆ " ผมมองคนตรงหน้า ที่หน้าแดงขึ้น  ไม่รู้ว่าเพราะความอายหรือโกรธกันแน่

          " พอใจแล้วใช่ไหม ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อยสักที " ธิชพูดพลางทำหน้าเครียดแค้นผมแบบสุดๆ ผมเดินไปแกะเชือกที่ผูกแขนเด็กนี่ออกทั้งสองข้าง เมื่อธิชหลุดออกจากพันธนาการ ผมคิดว่าธิชจะพยายามสู้กับผมต่อซะอีก แต่ก็นะ คงจะหมดแรงนั่นแหละ 

          ธิชลูบแขนตัวเองเบาๆ ผมโยนกล่องทิชชู่ให้เด็กนั่นจัดการตัวเอง และโยนกางเกงที่กองอยู่ที่พื้นให้ ธิชยังคงมองผมแบบอยากจะฆ่าผม แต่ก็นั่งนิ่งๆ เช็ดคราบของตัวเองและพยายามใส่กางเกงด้วยขาที่สั่นเทา ผมเดินไปที่ตู้ หยิบยาที่ธัชควรจะได้กินมาให้ 

          " อะไร "

          " เอาไปให้ธัช " ผมยื่นซองด้วยใบหน้าเรียบเฉย

          ' พลั่ก '

          ธิชปัดซองในมือผมจนยาหกกระจายไปทั่วพื้น ผมกำมือแน่นอดทนที่จะไม่กดเด็กนี่อีกรอบ

          " เธอเคยเห็นน้องกินยาจริงๆ หรือเปล่า แบบที่กินให้ดูน่ะ " ผมพูดเสียงเย็น พยายามระงับอารมณ์ที่ครุกรุ่นของตัวเอง

          " ทำไม เป็นหมอหรือไง " เด็กนั่นพูดด้วยสีหน้าท้าทาย ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ผมใจดีเกินไปสินะ 

          " ไปซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจข่มขืนเธอจริงๆ " เด็กนั่นมองผมตาโตก่อนจะรีบลุกขึ้นและเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นแบบนี้ไงล่ะ ธัชถึงอาการหนักแบบนั้น


เด็กโง่นั่น กำลังทำเรื่องโง่ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #24 ฝาแฝดและเซ็กส์บำบัด ](12/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 12-10-2017 13:32:03
เซ็กส์บำบัดมาสักที อีโรติกมากจ้า ยังไม่ได้ทำไรเท่าไหร่(?) แต่อ่านแล้วเขินมาก อ๊าก :hao7:
เซนเซย์เรียนจิตแพทย์มาน่าจะรู้ว่าทำ(อนาจาร)แบบนี้ มันไม่ดีนะ แต่ก็ยังทำ  :m16:
สนองนี๊ดตัวเองชัดๆ สนองนี๊ดคนอ่านด้วย  :o8:
แต่เราจะมองว่ามันเป็นนิยาย ฮ่า
เดาถูกด้วยว่าเซนเซย์เอ็นดูธัชแบบน้องชาย เลยไม่กล้าทำธิช และสนใจธิชจริงๆด้วย
ชอบพาร์ทเซนเซย์นะ ได้รู้สักทีว่าคิดยังไงกับแฝด แถมได้รู้ว่าเซนเซย์โรคจิต ภายใต้ท่าทางนิ่งๆ
ฮือ หนูธิชต้องอยู่ท่ามกลางผู้ชายโรคจิตรึนี่
เซนเซย์จะเรียกธิชว่าเด็กนี่ตลอดไม่ได้นะค้า  :laugh:
อยากอ่านพาร์ทธิชแล้ว คงเกลียดเซนเซย์แบบอยากฆ่า
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #24 ฝาแฝดและเซ็กส์บำบัด ](12/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 12-10-2017 17:55:11
          TWINS บทที่ 25 ฝาแฝดที่เกิดความสับสน


​          ​ผมพาร่างกายที่อ่อนระโหยโรยแรงกลับมาด้วยความยากลำบาก แขนขาอ่อนล้าจากการดิ้นรนจนปวดไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น ช่องทางด้านหลังยังคงหลงเหลือความรู้สึกแปลกๆ ของการถูกรุกราน ผมอยากจะฆ่ามัน ฆ่าให้ตาย แต่มันก็ยังคงมีหัวใจอยู่สินะ ตอนแรกผมนึกว่าจะโดนข่มขืนซะแล้ว แต่เอาจริงๆ แบบนี้ก็เหมือนข่มขืนนั่นแหละ ผมคงไม่กล้าอยู่กับไอ้บ้านั่นสองต่อสองอีกแล้ว พอกันที

​          ​" ธัช พี่กลับมาแล้วนะ " ผมเปิดประตู และพยายามเอาแขนไว้ด้านหลัง เพราะรอยเชือกนั้นชัดเจนเหลือเกิน ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเปิดประตูห้องธัชเบาๆ ธัชยังคงนอนอยู่บนนั้นด้วยสีหน้านิ่งสนิท ผมนั่งลงข้างๆ ธัช พลางลูบที่แก้มเบาๆ 

​          ​" พี่มาแล้วเหรอครับ " ธัชลืมตาขึ้นและส่งยิ้มให้ผม

​          ​" เป็นยังไงบ้าง กินข้าวหรือยัง " ผมถามน้องด้วยความเป็นห่วง พลางปัดผมที่ปรกหน้าผากธัชเบาๆ

​          ​" เรียบร้อยแล้วครับ แต่ไม่รู้ทำไม ยิ่งกินยิ่งง่วงฮะ " ผมหลบตาธัช ผมไม่อาจปล่อยน้องให้กินยาด้วยตัวเองอีกแล้ว เพราะดูเหมือนว่าธัชนั้นจะไม่ได้กินยาจริงๆ ตามที่ผมสั่ง

​          ​" ถ้าอย่างนั้นก็นอนเถอะ พรุ่งนี้ก็คงจะหายแล้ว " ผมส่งยิ้มและก้มลงจูบที่หน้าผากของธัช

​          ​" พี่อยู่กับผมจนผมหลับได้ไหม " ธัชจับมือผมและส่งยิ้มอ่อนๆ ให้

​          ​" ได้สิ "  ผมค่อยๆ แทรกตัวลงไปนอนข้างๆ ธัช และลูบหลังธัชเบาๆ เหมือนกำลังกล่อม

​          ​ผมมองหน้าน้องในความมืด แต่ก็ยังพอที่จะเห็นใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั้นได้ คิ้วเข้มเรียงสวย ขนตาที่หนาเป็นแพร จมูกโด่ง ริมฝีปากแดง และแก้มใสๆ ทำไมเวลาผมส่องกระจกถึงไม่รู้สึกแบบนี้กันนะ นี่พวกเรา เหมือนกันจริงๆ ง้้นเหรอ 

​          ​ผมขยับตัวน้องให้นอนหงาย จัดท่าทางให้นอนได้สะดวก ธัชวันนี้ไม่ใส่ชุดนอน แต่กลับใส่เพียงเสื้อกล้ามสีดำและบ็อกเซอร์ชั้นในเท่านั้น น่าตีจริงๆ เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี แต่ผมที่ทำท่าจะห่มผ้าห่มให้น้องนั้น ก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ผมรู้สึกเหมือนร่างกายร้อนขึ้น และความรู้สึกคับตึงที่กางเกง ไอ้บ้านั่น มันทำอะไรกับร่างกายผมกันนะ ผมรู้สึกว่าผมต้องการ แค่ครั้งเดียวมันยังไม่พอ ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าที่เซนเซย์ทำนั้นมันรู้สึกดีเหลือเกิน ความรู้สึกของผมภายในกำลังต่อต้านความคิดนั้น ผมต้องห้ามตัวเอง อย่าหลงไปกับวิธีการของมัน

​          ​ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ไม่อาจห้ามใจได้ ผมเรียกธัชเบาๆ พลางเขย่าตัวธัชน้อยๆ แต่ธัชก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น  ผมค่อยๆ ถอดกางเกงยีนส์ของตัวเองออกช้าๆ เลื่อนกางเกงชั้นในลงค้างไว้ที่ต้นขา ก้มตัวลงให้แขนของผมสามารถเอื้อมไปถึงช่องทางด้านหลังของตัวเองได้ ช่องทางด้านหลังของผมนั้นยังคงลื่นไปด้วยโลชั่นของเซนเซย์ และยังคงอ่อนนุ่มอยู่ ผมขยับร่างกาย คร่อมร่างกายของน้องไว้ ยันพื้นเตียงไว้ด้วยแขนข้างเดียว ในขณะที่แขนอีกข้าง เอื้อมไปด้านหลัง และค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปช้าๆ

​          ​ผมเม้มปากแน่นกลั้นเสียงไว้ คิ้วขมวดมุ่น แต่ก็รู้สึกดี ผมมองหน้าธัช และเริ่มสอดนิ้วเพิ่มเข้าไป และขยับแรงขึ้นด้วยอารมณ์แห่งความต้องการ แขนที่ค้ำยันไว้เริ่มสั่นน้อยๆ ด้วยความวูบวาบและเสียวซ่าน 

​          ​" อ.อ่ะ ธัช ธ.ธัช " ผมอ้าปากหอบหายใจ ส่งเสียงครางเบาๆ สายตาจ้องมองน้องและเร่งจังหวะเข้าออกมากขึ้นอีก ช่องทางอุ่นตอดรัดบีบนิ้วเรียวยาวของผม เพิ่มความรู้สึกวาบหวามจนแทบคลั่ง

​          ​" อ.อื่อ อ๊ะ " ร่างกายของผมกระตุกเกร็ง และไม่อาจต้านทานหยาดน้ำสีขาว ที่โพยพุ่งไหลออกมาจนเปรอะตัวน้องไปหมด

​          ​ผมตกใจลนลานรีบคว้าทิชชู่ข้างเตียง มาซับหยาดน้ำนั้นออกจากตัวน้องเบาๆ ผมสังเกตว่าบนแก้มของธัชนั้นก็เปื้อนด้วย ผมค่อยๆ ซับน้ำที่แก้มของธัชเบาๆ พลางหอบหายใจ ผมหัวใจเต้นระทึกด้วยความกลัว เพราะธัชอาจตื่นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

​          ​ผมจัดการเช็ดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และใส่กางเกงของตัวเองพลางรีบออกจากห้องของธัช ตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระคราบสกปรกต่างๆ ผมล้างหน้าและจ้องมองตัวเองในกระจก นี่ผมเป็นบ้าอะไรกัน ผมใช้น้องเพื่อช่วยตัวเองงั้นเหรอ ผมกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ผมอยากให้ธัชกอดผมงั้นเหรอ ผมมันบ้าไปแล้วจริงๆ และคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ก็คือไอ้บ้าเซนเซย์นั่น 


​          ​ในตอนเช้า ผมตื่นนอนและเจอธัชที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ด้วยรอยยิ้มสดใส ผมรู้สึกแปลกๆ เก้ๆ กังๆ จะทักก็ทักสิฟะ ก็เหมือนปกตินั่นแหละ 

​          ​" อ้าว พี่ครับยืนทำอะไรน่ะ ไปอาบน้ำสิ " ธัชหันมาเห็นผม และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

​          ​" เป็นไงบ้าง หายปวดหัวแล้วใช่ไหม " ผมเดินเข้าไป ยื่นมือไปแตะที่คอธัช

​          ​" ผมรู้สึกดีขึ้นแล้วครับ พี่นั่นแหละหน้าแดง เป็นไข้หรือเปล่า " ธัชยื่นมือมาจะแตะที่แก้มผม 

​          ​" พี่ไปอาบน้ำดีกว่า " ผมพูดพลางหลบมือธัช เพราะผมเอาแต่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน ซึ่งมันทำให้ผมไม่กล้าสู้หน้าธัช ผมมันบ้าจริงๆ

​          ​ผมเดินเข้าห้องน้ำ โดยไม่รู้เลยว่าธัชกำลังกำมือแน่น และจ้องมองมือตัวเองที่ยื่นออกไปด้วยแววตาน่ากลัว ด้วยความไม่เข้าใจ 


​          ​ผมกับน้องเดินทางไปมหา'ลัยกันเหมือนปกติ ผมรู้สึกเหมือนธัชจะเงียบๆ ไปอีกแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้นหรือไงนะ ผมเหลือบมองน้องที่กำลังนั่งนิ่งๆ แสงที่ส่องเข้ามาทำให้ผมเห็นแก้มใสของคนที่กำลังมองออกไปด้านนอก แล้วทำไมผมจะต้องแอบมองน้องละเนี่ย

​          ​" วันนี้ผมเข้าไปหาเซนเซย์หลังเลิกเรียนนะครับ " ผมสะดุ้งน้อยๆ และหันกลับไปขับรถดีๆ เมื่อธัชพูดจบ

​          ​" พี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ " ธัชหันมามองผมด้วยแววตาสงสัย

​          ​" คือ ก็เมื่อวานพี่ไปหาเซนเซย์แทนธัชแล้วไง ถ้าธัชไปอีก... " ผมหยุดพูดทันที เพราะว่าเมื่อวานผมถูกจับได้แล้วนี่ จะมีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งจัดลำดับต่ออีก เผลอๆ พวกเราอาจถูกไล่ออกแล้วก็ได้

​          ​" งั้นธัชไปเถอะ " ธัชยังคงมองผมพลางขมวดคิ้ว

​          ​" พี่ทำตัวแปลกๆ เมื่อวานเซนเซย์ทำอะไรพี่เหรอ "  ธัชถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

​          ​" คือ...เซนเซย์ รู้ว่าเราสลับตัวกันสอบ ดูเหมือนจะแยกเราออกทุกครั้งจริงๆ เลยล่ะ " ธัชทำสีหน้าตกใจทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

​          ​" พี่ครับแล้วแบบนี้พวกเราจะไม่เป็นไรเหรอ " ธัชถามผมด้วยความตื่นตระหนก

​          ​" เดี๋ยวเข้าเรียนวันนี้ก็รู้แหละ แต่ไม่เป็นไรหรอกธัช ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พี่ก็จะหาทางอื่น " ผมพูดเพื่อให้น้องสบายใจเหมือนทุกครั้ง และผมก็เชื่อว่าพวกเราทำได้จริงๆ

​          ​วันนี้พวกเราก็มาทำเวิร์คช็อปเช่นเดิม และวันนี้เซนเซย์มาสาย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก 

​          ​' เห็นที่ปากเซนเซย์หรือเปล่า '

​          ​' เป็นแผลเหมือนมีคนกัดล่ะ '

​          ​' ใครช่างกล้า กูอิจฉา '

​          ​' จะใช่แฝดหรือเปล่านะ ก็เมื่อวานเห็นไปด้วยกัน '

​          ​" เอ่อ ธัช หยิบเครื่องมือตรงนั้นให้พี่หน่อย " ผมรีบส่งเสียงดังกลบเสียงนินทารอบตัว ทำให้เก้งกวางชะนีพวกนี้เสียงเบาลง

​          ​ผมเหลือบมองเซนเซย์ที่มองมาทางผมเช่นกัน ผมเลยทำหน้าบูดใส่ เหอะ เหม็นขี้หน้าชะมัด แต่พอผมทำแบบนั้น เซนเซย์ก็เดินตรงมาทางผมทันที ชิบหายละ จะซวยอะไรอีกฟะ

​          ​" ธัชชา หายป่วยแล้วเหรอ " ผมมองเซนเซย์ที่พูดเบาๆ กับธัช พลางขมวดคิ้วมุ่น

​          ​ธัชทำท่าตกใจ แต่ผมก็บอกน้องแล้วว่าเซนเซย์จับได้ ไม่จำเป็นต้องโกหกหรอก ธัชมองผมด้วยสีหน้าเหมือนจะถามว่าทำยังไงดี

​          ​" ก็ต้องหายแล้วสิ ไม่งั้นจะมาเรียนได้ยังไง " ผมพูดแทนน้องด้วยหน้าที่บูดบึ้งเช่นเดิม เซนเซย์หันมามองผมด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ 

​          ​" ฉัน ถาม ธัชชา " เซนเซย์พูดเน้นทีละคำแบบกวนประสาท

​          ​" ผมดีขึ้นแล้วครับ " ธัชพูดบอกเซนเซย์ด้วยรอยยิ้ม

​          ​" เลิกเรียนแล้วไปหาฉันที่ห้องนะ " เซนเซย์พูดบอกธัช หันมามองผมด้วยแววตาดุดัน และเดินไปตรวจงานคนอื่นๆ ในคลาสต่อไป

​          ​" ธัช ถ้ามีอะไรโทรหาพี่เลยนะ พี่จะรออยู่แถวๆ ห้องเซนเซย์นั่นแหละ " ธัชมองผมพลางขมวดคิ้ว

​          ​" พี่พูดเหมือนเซนเซย์จะทำอะไรผมงั้นแหละ หรือว่าเมื่อวานเขาทำอะไรพี่เหรอ " 

​          ​" ไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่แบบว่า ไม่ใว้ใจหมอนั่น " ผมพูดและทำสีหน้าปกติที่สุด

​          ​" ครับ แต่ผมว่าพี่กลับไปก่อนเถอะครับ ผมไม่อยากให้พี่รอนาน " 

​          ​" ไม่เป็นไร พี่จะรอ " 

​          ​หลังเลิกจบคลาส ผมขับรถไปส่งน้องและนั่งรออยู่ในสวน ใกล้ๆ กับตึกคณะ ผมหยิบกระเป๋าตัง และมองดูนามบัตรของพี่เชน พลางคิด ว่าผมจะปรึกษาพี่เชนดีไหมนะ พี่เชนคงบอกอะไรหลายๆ อย่างกับเซนเซย์แน่ๆ แล้วเรื่องยาที่เซนเซย์ยื่นให้เมื่อคืน ก็น่าจะเป็นของพี่เชนอีกนั่นแหละ ถ้าต้องรับยาจากหมอนั่น สู้รับจากคุณหมอจริงๆ เลยดีกว่า 

​          ​" จ๊ะเอ๋! " ผมสะดุ้งสุดตัว เพราะอยู่ดีๆ ก็มีมือมาปิดตาผมเอาไว้ 

​          ​" พี่โชนครับ ขอทีเถอะ " ผมพูดกับคนที่ปิดตาผมอย่างเอือมระอา

​          ​" หืม เก่งจัง " พี่โชนยังคงเหมือนเดิม ยิ้มสดใสจนตาหยี เอ๊ะ ผมคิดขึ้นมาได้ พี่โชนเป็นน้องพี่เชนนี่นา แบบนี้น่าจะเข้าท่ากว่า

​          ​" คือ พี่โชนครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย "  ผมหันไปพูดบอกพี่โชนที่นั่งลงข้างๆ

​          ​" ว่ามาเลย พี่อยากช่วย " พี่โชนพูดพลางส่งยิ้มให้

​          ​" ช่วยพาผมกับน้องไปหาพี่เชนได้ไหมครับ " 

​          ​" ทั้งสองคนเลยเหรอ ดีจัง " ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่โชนพูดเท่าไหร่

​          ​" แปลว่าได้ใช่ไหมครับ " ผมถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

​          ​" ได้แน่นอน ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง " พี่โชนพูดพลางยิ้มน้อยๆ

​          ​" ขอบคุณครับ "

​          ​ผมมองพี่โชนที่ส่งยิ้มแปลกๆ มาให้ แต่พี่เค้าเป็นคนแปลกๆ อยู่แล้วนี่นะ ผมคิดพลางมองขึ้นไปยังห้องของเซนเซย์ที่ยังคงปิดอยู่


แต่ผมจะบอกธัชยังไงนี่สิ เอาไว้ค่อยคิดละกัน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #25 ฝาแฝดที่เกิดความสับสน ](12/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 12-10-2017 19:59:26
นึกว่าตาฝาด มาอัพอีกตอนจริงด้วย  :pig4:
เซนเซย์ทำอะไรธิช!!! ทำแบบนั้นตอนน้องนอน โอยย เซ็กส์บำบัดสัมฤทธิ์ผลด้วยแฮะ ไม่คิดว่าธิชจะทำ   :hao7:
ธิชเสพติด ธิชอยากให้น้องกอด ไม่อยากจะนึกถึงอนาคต :o8:
เซนเซย์ทำเป็นเข้ม ในใจอาจจะต้องการสัมผัสจากธิชก็ได้ใครจะรู้ อ๊ากกกก
อีตาพี่โชนทำตัวแปลก คงไม่คิดจะทำอะไรใช่ไหม ระแวง
ขอทำสติเผื่ออนาคตก่อนค่ะ  :z3:
มาแก้ชื่อ พิมพ์ผิด ธิชธัชสลับกัน สมองไปหมดละ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #25 ฝาแฝดที่เกิดความสับสน ](12/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-10-2017 20:18:23
 :katai5: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #25 ฝาแฝดที่เกิดความสับสน ](12/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-10-2017 21:35:34
เซ็กบำบัดดดดดด  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #25 ฝาแฝดที่เกิดความสับสน ](12/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 13-10-2017 13:32:30
          TWINS บทที่ 26 ฝาแฝดที่ตัดสินใจผิดพลาด


          " พี่ธิช "

          ผมที่นั่งรอน้องอยู่ในสวนกับพี่โชน ก็รีบหันไปทันทีตามเสียงเรียก แต่ผมก็ต้องชะงัก เพราะว่าคนที่เดินมานั้น ไม่ได้มีแค่ธัช แต่ยังมีเซนเซย์ตามมาด้วย  ผมมองหน้าเซนเซย์ที่มองผมสลับกับพี่โชนด้วยสีหน้าไม่พอใจ และเหลือบเห็นว่าที่แขนของเซนเซย์มีแขนของธัชคล้องอยู่ 

          " พี่ครับ เราไปกินข้าวกันนะ เซนเซย์ก็จะไปด้วย " ผมเลิกคิ้วมองธัช

          " แต่พี่นัดพี่โชนไว้แล้วนะ " ผมเงยมองพี่โชนที่ตอนนี้กำลังจ้องหน้าเซนเซย์อย่างเอาเป็นเอาตาย 

          " ที่คิดจะทำน่ะ หยุดซะ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน " ผมมองเซนเซย์ที่พูดเสียงเย็น จ้องมองพี่โชนด้วยแววตาดุดัน นี่เขากำลังพูดเรื่องอะไรกันนะ

          " ธิชธัช ไปกับพี่เถอะ อย่าไปฟังคนแบบนี้เลย " พี่โชนพูดพลางยื่นมือไปหาธัช ที่เกาะเซนเซย์หนึบจนผมหมั่นไส้

          " คือ ไปด้วยกันทั้ง 4 คนก็ได้นี่ครับ " ธัชพูดพลางทำหน้าหงอย 

          " พี่โชนครับ เรื่องนั้นเอาไว้หลังจากเซนเซย์กลับไปแล้วก็ได้ครับ " ผมดึงพี่โชนมากระซิบที่ข้างหู ซึ่งพอได้ยินแบบนั้น พี่โชนก็เริ่มยิ้มแย้มอีกครั้งทันที

          " งั้นก็ไปกันเถอะ ว่าแต่อยากไปที่ไหนกันล่ะ " 

          " ไปที่ไนท์คลับนั้นได้ไหมครับ ผมชอบนะ บรรยากาศดีมากเลย " จริงๆ แล้วผมเกลียดที่นั่น แต่ผมอยากแกล้งไอ้บ้าเซนเซย์ต่างหาก อาจารย์ที่ไปในที่แบบนั้นคงจะหมดความน่าเชื่อถือ
         
          " พี่ธิช ทำไมละครับ " ธัชพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ  ผมเดินเข้าไปดึงน้องออกมาจากเซนเซย์และกระซิบบอกน้องเบาๆ

          " ธัชดื่มได้นะ เพราะพี่ไปด้วย " ผมมองน้องพลางยิ้มให้

          " ผมไม่ได้ห่วงดื่มสักหน่อย " ธัชยังคงทำหน้าเคืองผมเช่นเดิม ไอ้เด็กดื้อนี่ ผมคิดว่าธัชจะชอบซะอีก

          จากนั้นพวกเราจึงเดินทางไปที่นั่น ซึ่งพี่โชนเสนอให้ผมกับน้องนั่งรถไปกับพี่โชน ส่วนเซนเซย์นั้นตอนแรกผมคิดว่าจะซิ่งดูคาติไปซะอีก แต่วันนี้เซนเซย์กลับขับรถสปอร์ตสีดำมาแทน ผมเบ้ปากหมั่นไส้พวกคนรวย ไอ้บ้านี่มันรสนิยมโครตดี อิจฉาโว้ย ผมเห็นธัชมองตามรถเซนเซย์ตาเป็นมัน ถ้าผมบอกให้ไปนั่งกับเซนเซย์ไอ้น้องชายผมมันต้องไปแน่นอน 

          รถคันของผมที่นั่งมากับพี่โชนมาถึงก่อน พวกเราลงจากรถและยืนรอเซนเซย์อยู่ข้างหน้าคลับ ซึ่งไม่นานเซนเซย์ก็ขับตามมาและจอดที่ด้านหน้าของคลับ ผมสังเกตว่าผู้คนต่างมองเซนเซย์ตาเป็นมัน เหอะ น่าหมั่นไส้

          ' กูนึกว่าดารา '

          ' เชี่ยแม่งเซนเซย์มาเที่ยวว่ะ ' 

          ' กูอยากเป็นเมียเขา '

          ' กูขอเขานั่งด้วยจะได้ไหมนะ '

          ตลอดทางที่พวกเราเดินเข้ามา ผู้คนที่มาเที่ยวส่วนมากก็คือนักศึกษาของที่นี่ทั้งนั้น จึงทำให้ทุกคนหันมาสนใจเซนเซย์เป็นตาเดียว ผมมองหมอนั่น ที่เดินตัวตรงไม่เหลียวมองใคร ทำหน้านิ่งๆ ไม่สะทกสะท้านต่อคำนินทาที่ไม่ขาดสาย ถึงจะอายุ 27 แล้ว แต่ไอ้บ้านั่นกลับดูโครตกลมกลืนกับพวกนักศึกษาอายุ 20 ต้นๆ หมอนี่มันแก่เป็นไหมเนี่ย

          วันนี้เซนเซย์ใส่เสื้อเชิ๊ตสีดำเช่นเดิม ผมเดินตามหลังหมอนั่น ไอ้บ้านี่สูงกว่าผมเป็นคืบ ขายาวสุดๆ แต่ผมที่มองเซนเซย์นั้น อยู่ดีๆ ภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เสื้ิอสีดำที่เซนเซย์ใส่อยู่อันตธานหายไปในสายตาผม หมอนี่ตัวใหญ่แค่ไหนและหุ่นเป็นยังไงผมรู้ดี แถมหมอนี่ยังมีรอยสักอยู่ที่ด้านหลังด้วย ถึงจะเห็นแค่แปบเดียวก็เถอะ แต่ผมก็จำได้ ถ้าไม่บอกว่าเป็นอาจารย์ ผมคงพูดได้เต็มปากว่าหมอนี่มันยากูซ่าชัดๆ ผมตบหน้าตัวเองเบาๆ ให้เลิกคิดถึงรูปร่างไอ้บ้านี่ 

          " พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ " ธัชมองผมด้วยสีหน้างงงวย

          " เปล่าๆ " ผมพูดพลางยิ้มให้ธัช

          ตอนแรกผมคิดว่าเซนเซย์จะไม่ยอมมาที่นี่ซะอีก ผิดคาดจริงๆ แถมดูเหมือนจะทำตัวชิลๆ ซะด้วย นี่ผมล้มเหลวสินะ  พวกเราวันนี้ก็มานั่งที่เดิมที่ชั้นลอยบนสุด ผมต้องหาทางรีบไล่เซนเซย์กลับไปโดยเร็ว เพราะว่าผมนั้นจริงๆ แล้วต้องการพาธัชไปพบพี่เชนต่างหากล่ะ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ผมนั้นไม่ใช่ว่าไม่เคยอยากพาธัชไปพบแพทย์ แต่ธัชนั้นจะดูน่ากลัวทุกทีที่พูดถึงเรื่องนี้ ธัชบอกผมเสมอว่าตัวเองปกติดี และกินยาเป็นประจำ 

          " เดี๋ยวพี่มานะไปเข้าห้องน้ำ " ผมบอกน้องและเดินไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านล่าง

          ' หล่อจัง ' 

          ' นั่งด้วยกันไหมคะ '

          ผมรีบเดินตัวลีบผ่านฝูงสัตว์ป่าผู้หิวกระหาย ผมไม่ชอบเลยจริงๆ เวลาโดนแซวเนี่ย มันน่ารำคาญ และในที่สุดผมก็มาถึงห้องน้ำสักที โซนวีไอพีแต่ไม่มีห้องน้ำแยกนี่มันงี่เง่าชะมัด

          " ทำอะไรน่ะ! " ผมร้องโวยวายทันที เพราะว่าผมที่กำลังก้มตัวล้างหน้าที่อ่างนั้น อยู่ดีๆ ก็ถูกคนบางคนลากเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

          " พาน้องกลับไปซะ เดี๋ยวนี้ " ผมมองหน้าเซนเซย์ด้วยความไม่พอใจสุดๆ

          " ทำไมต้องฟัง " ผมรู้สึกว่าผมไม่กลัวหมอนี่หรอก เพราะว่าที่นี่คนเยอะไง ถ้าเป็นที่อื่นผมคงพยายามหนีสุดชีวิต

          " ฟังนะธิชา หมอนั่นน่ะ ความผิดแต่ละคดีถ้าพูดไปเธอคงไม่เชื่อ เพราะงั้นฟังฉัน และกลับไปกับฉัน " เซนเซย์พูดพลางประคองหน้าผมไว้ ผมหลบตา รู้สึกไม่กล้าจ้องหน้าหมอนี่เท่าไหร่

          " ถ้างั้นผมควรเชื่อคนที่ทำกับผมแบบเมื่อคืนเหรอ หรือผมควรเชื่อพี่โชนที่คอยช่วยผมมาตลอด " ผมปัดมือเซนเซย์ออก แต่ผมก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กๆ เพราะเซนเซย์ทำสีหน้าเหมือนเป็นกังวลมาก เหมือนเป็นห่วงผมกับน้องจริงๆ

          ผมผลักประตูเปิดออกและเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมหันกลับไปมอง ก็เห็นเซนเซย์เดินตามมา 

          ' เข้าห้องเดียวกันด้วยนะเว้ย '

          ' ที่เขาว่าเป็นแฟนกันคงเรื่องจริงว่ะ ' 

          ' เป็นแฟนคนพี่หรือคนน้องวะ '

          ผมเบือนหน้าหนีคำนินทาบ้าๆ นั่น แต่เซนเซย์ดูจะไม่สะดุ้งสะเทือนใดๆ เช่นเคย ผมกลับมาถึงที่โต๊ะ และก็พบว่าธัชนั้นกำลังกรอกเหล้าเป็นน้ำเลยทีเดียว

          " ธัชชา ดื่มมากไปแล้วนะ " ผมที่กำลังจะเอ่ยปากดุน้อง กลับถูกเซนเซย์แย่งพูดก่อนซะงั้น  เหอะ พอเห็นแบบนั้นผมเลยไม่ห้ามซะเลย และกรอกตามน้องไปอีกต่างหาก หมั่นไส้

          " เพิ่งรู้นะเนี่ยสองแฝดดื่มเก่งสุดๆ " พี่โชนทำท่าปรบมือชอบใจใหญ่ หมอนี่ยังกับเด็กน้อยจริงๆ เซนเซย์คิดมากไปแล้วเรื่องพี่โชน

          " กลับไปได้แล้วมั้ง ปล่อยเด็กๆ เขาสนุกกันดีกว่านะ " พี่โชนพูดพลางยกยิ้มมุมปากและมองเซนเซย์ด้วยสายตาเชือดเฉือน

          " ไม่เอาธัชไม่ให้เซนเซย์กลับ " ธัชพูดพลางกอดแขนเซนเซย์แน่น หนอยไอ้เด็กนี่ ธัชน่าจะเริ่มเมาแล้วเพราะเอาแต่หัวเราะแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้

          " ธัชชากลับกันไหม " ผมตาโตมองเซนเซย์ที่ก้มถามธัชด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

          " ธัชต้องอยู่กับผม ห้ามกลับ คุณอยากกลับก็กลับไปคนเดียวสิ " ผมลุกขึ้นพูดเสียงดัง เซนเซย์ถอนหายใจ พลางมองผมด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย

          " ขอให้สนุกละกัน " เซนเซย์พูดและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกผิดนิดๆ ผมอาจจะพูดแรงไป แต่ก็เพราะว่าผมมีเรื่องต้องไปทำนี่นา หึ่ย แล้วทำไมผมจะต้องไปแคร์ไอ้บ้านั่นด้วยล่ะ ผมตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติอีกรอบ

          " พี่นัดพี่เชนไว้แล้วล่ะ เอ้า ดื่มแก้วนี้เป็นแก้วสุดท้าย แล้วเราก็ไปกัน โอเคไหม " พี่โชนพูดพลางยิ้มกว้าง

          ผมยิ้มและยกแก้วขึ้นดื่ม จริงๆ ผมเริ่มคิดแล้วว่าธัชเมาขนาดนั้นไปแล้วจะได้เรื่องอะไรกันล่ะ แต่ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยบอกพี่โชนว่าไปวันอื่นละกัน แต่เมื่อผมกำลังจะพูดออกไป ผมกลับรู้สึกว่า


ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้อีกแม้แต่คำเดียว
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #26 ฝาแฝดที่ตัดสินใจผิดพลาด ](13/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 13-10-2017 14:12:09
โดนยาแน่ๆ เซนเซย์กลับมาก่อนนนนน อิตาพี่โชนจะหลอกแฝดพาไปทำอะไร
เซนเเซย์ต้องช่วยแน่ แต่แกล้งกลับไปก่อน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #26 ฝาแฝดที่ตัดสินใจผิดพลาด ](13/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-10-2017 00:18:58
แปลกดีพี่น้องคู่นี้ เชน-โชน คนพี่เป็นเพื่อนกับเซนเซย์ คิดว่าเป็นคนดี แต่ทำไมคนน้องไม่ถูกกับเซนเซยน์นะ สรุปเรื่องนี้คนพี่ (เชน,ธิช) ไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของน้อง (โชน-ธัช) เลยใช่มะ  :o10:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #26 ฝาแฝดที่ตัดสินใจผิดพลาด ](13/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 14-10-2017 01:03:40
แปลกดีพี่น้องคู่นี้ เชน-โชน คนพี่เป็นเพื่อนกับเซนเซย์ คิดว่าเป็นคนดี แต่ทำไมคนน้องไม่ถูกกับเซนเซยน์นะ สรุปเรื่องนี้คนพี่ (เชน,ธิช) ไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของน้อง (โชน-ธัช) เลยใช่มะ  :o10:

พี่เชนรู้นิสัยน้องดีค่ะ และเคยเตือนธิชแล้วด้วย ว่าน้องตัวเองไว้ใจไม่ได้ และธิชก็รู้นิสัยธัชค่ะ จริงๆธัชเป็นเด็กดีนะคะ ถ้าไม่อาการกำเริบจ้า ธิชคิดว่าน้องดีขึ้นแล้วเลยไม่ระวังตัวค่ะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #26 ฝาแฝดที่ตัดสินใจผิดพลาด ](13/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 14-10-2017 13:20:01
          TWINS บทที่ 27 ฝาแฝดและการรุมโทรม


          " ฮ่าๆๆ ไอ้เชี่ยแม่งน่ารักว่ะ "

          " มาเป็นคู่สมใจสักที "

          " กูคนแรกได้ไหม กูจ่ายให้ก็ได้ "

          " แต่เขาว่ากันว่าเป็นเด็กไอ้อาจารย์ยุ่นนั่นไม่ใช่เหรอ "

          " แค่ข่าวลือว่ะ แถมไอ้ยุ่นนั่นควงผู้หญิงเป็นโขยง "

          " มึงกลัวก็กลับไป แต่กูจะเอา " 

          " ถ่ายไว้ด้วย มันจะได้ไม่กล้าฟ้อง " 

          " คนไหนคนพี่คนน้องวะ "

          " เหมือนๆ กันนั่นแหละ "

          ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ กระพริบตาปรับแสงที่สะท้อนเข้ามาจนแสบตาไปหมด ความรู้สึกของผมมันเหมือนโลกมันหมุนไวแบบสุดๆ จนผมอยากจะอ้วกออกมา ผมอยู่ที่ไหน แล้วคนพวกนี้ใครกัน 

          แต่ผมที่เพิ่งรู้ตัวว่าอยู่ที่ไหน ก็ต้องตกใจแบบสุดๆ ผมอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบด้วยผู้ชายเกือบสิบคน และหนึ่งในนั่นคือคนที่ผมคุ้นเคยดี 

          พี่โชน... 

          นี่เป็นสิ่งที่พี่วางแผนมาตลอดงั้นเหรอ พี่เข้าหาพวกเราแค่เพราะต้องการแบบนี้เหรอ ผมคิดถึงคำพูดเซนเซย์ ผมมันโง่จริงๆ นั่นแหละ 

          ผมลนลานรีบมองหาธัช ผมคลานช้าๆ ไปหาน้องที่นอนหลับสนิท ธัชที่เคยผ่านเรื่องเลวร้ายทำนองนี้มาแล้ว ต้องมาเผชิญกับเรื่องนี้ซ้ำอีก ธัชจะเสียขวัญแค่ไหนกันนะถ้าตื่นขึ้นมา ผมเป็นคนทำลายธัชเอง ไม่ว่าจะตอนนี้หรือเมื่อก่อน การตัดสินใจทุกอย่างของผมมีแต่ความล้มเหลวและผิดพลาด แต่ผมจะปกป้องธัชให้ได้ ด้วยชีวิต

          " ตื่นแล้วว่ะ " 

          " น่าสงสาร ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้ว " 

          " กูไปโอ๋น้องเขาก่อน ฮ่าๆ "

          ผมกอดบังตัวน้องไว้แน่น เหมือนว่ามันจะพอมีประโยชน์เพียงสักนิด 

          " เปล่าประโยชน์จ๊ะที่รัก มาเล่นกันเถอะ " ผมถูกกอดและดึงตัวให้ออกห่างจากธัช ผมยังคงจับน้องไว้และร้องไห้ออกมาแบบไม่สนใคร ผมไม่เคยกลัวที่จะต้องโดนทำร้าย แต่ธัชนั้นไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ 

          " ปล่อยกู!!! " ผมสะบัดตัวและศอกใส่คนที่กอดผมเต็มแรง จนมันเสียหลักผละออกจากตัวผม

          ' เพี๊ยะ! '

          ผมถูกดึงกลับและโดนตบทันทีที่หันไปเผชิญหน้ากับมัน

          " พยศชิบหาย เอาซะกูเลือดออกเลย " 

          " ห้ามซ้อมมันสองคน "

          แรงตบทำให้ผมนอนลงไปกับพื้นเตียง ผมมองพี่โชนที่เดินมาดึงแขนเพื่อนมันไว้ พลางหลบตาผม ผมมองคนที่ตบผมอีกครั้ง และก็ต้องหัวเราะออกมา ผมจำมันได้ มันคือคนที่ผมต่อยมันวันแรกๆ ที่เข้าเรียน ไอ้หน้าตี๋ มันเป็นเพื่อนของพี่โชนนี่เอง ผมอยากจะสู้ แต่ตอนนี้สภาพร่างกายผมนั้นแย่เหลือเกิน ผมมึนไปหมด ไม่สามารถประคองตัวให้ตรงได้เลย คงจะโดนยาอะไรสักอย่าง

          ผมถูกดึงตัวไปกอดอีกครั้ง โดยคนประมาณสามคนล็อคแขนผมเอาไว้ 

          " ไหนขอดูหน่อย เดือนมหา'ลัย จริงๆ พี่ไม่ใช่เกย์นะน้อง แต่น้องงานดีจนพี่อยากลองเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ " ไอ้คนพูดมันจับคางผมไว้และพลิกหน้าผมไปมาเพื่อมองดูใกล้ๆ 

          ' ถุ๊ย! ' 

          ผมถ่มน้ำลายใส่มัน พลางหัวเราะในลำคอ 

          " มึง!! กูจะเอามึงจนสลบเลยคอยดู!! " มันเช็ดหน้าพลางกระชากคอเสื้อผมอย่างแรงจนเสื้อแทบขาด และง้างมือจะตบผม 

          " กูเตือนมึงแล้วนะ ว่าอย่าซ้อมมัน " พี่โชนเดินมากระชากคอเสื้อเพื่อนมันให้ออกห่างจากผม

          " อะไรของมึงวะโชน ที่ตกลงกันไว้ก็ไม่มีบอกนี่ มึงเป็นอะไรของมึงวะ " 

          " กูแค่เสียดายของ หน้าสวยๆ มันจะเละหมดเพราะพวกมึง กูอยากเอามันแบบสภาพดีๆ แค่นั้น " พี่โชนพูดและเดินมาทางผม ผมนิ่งและมองหน้าพี่โชนด้วยแววตาแข็งกร้าว พี่โชนขยับเข้ามาใกล้ผม ยื่นหน้ามาใกล้ๆ

          " พี่ชอบธิช ชอบจริงๆ " 

          " พี่ทำกับคนที่ชอบแบบนี้งั้นเหรอ " ผมถามเบาๆ ด้วยความผิดหวัง 

          " พี่ขอโทษ " พี่โชนพูดพลางยื่นมือมาลูบแก้มผม แต่ผมก็หันหน้าหลบมือนั่นทันที

          " พวกมึงเล่นคนพี่ไป เดี๋ยวกูจะไปเล่นน้องมัน " ผมมองไอ้คนตัวสูงที่สุด ที่กำลังเดินเข้าไปหาธัช

          " อย่า!! ทำผมเถอะ ผมยอมทุกอย่าง แต่ปล่อยธัชไปเถอะ ธัชกำลังป่วย ให้ทำอะไรก็ได้ ผมทำเป็นนะ เรื่องแบบนี้ผมเคย ขอร้องล่ะ " ผมดิ้นรนพยายามเอื้อมมือไปหาธัช ด้วยหัวใจที่สั่นกลัว ผมยอมตายซะดีกว่าที่จะเห็นน้องถูกย่ำยีต่อหน้า

          " ได้ยินเปล่าวะ มันบอกมันเคยว่ะ ฮ่าๆๆ " ไอ้พวกที่ล็อคผมตอนนี้ก้มลงหอมแก้มผม และลูบไล้ไปมาบนตัวผม หลายคนและหลายมือ กอดก่ายผมนัวเนีย บางคนพยายามจูบปากผม แต่ผมก็หันหน้าหนี ขัดขืนทุกอย่าง แต่ก็สู้แรงคนหลายคนไม่ได้ ผมได้แต่ร้องไห้ กัดฟันแน่นด้วยความอดทน

          " อย่า!! " ผมดิ้นอย่างแรงเพราะตอนนี้พวกมันพยายามถอดเสื้อผมออก 

          " เชี่ยเอ้ย " 

          " แม่งท่าจะจริงว่ะ " 

          " มันเป็นเมียไอ้ยุ่นนั่น "

          " กูไม่เอาดีกว่า คราวนี้มันเล่นกูตายแน่ "

          ผมร้องไห้กอดตัวเองไว้ด้วยความสั่นเทา พวกมันคุยกันอยู่เหนือหัวผมด้วยเสียงเคร่งเครียด

          " โชนมึงไม่รู้เหรอวะ มึงดูรอยจูบนี่ ชัดเจนไอ้สัด กูนึกว่าข่าวลือ " พี่โชนมองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ 

          " ธิชกับเซนเซย์ เรื่องจริงเหรอ " ผมไม่พูดอะไร นั่งก้มหน้ากอดตัวเองแน่น ผมอยากลุกขึ้นไปฆ่าพวกมัน อยากตะโกนด่าพวกมัน แต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้ เพราะแค่ครองสติไว้ก็ยากเย็นแล้ว

          " ช่างแม่ง ใครไม่เอากูเอา "

          ผมตกใจคลานหนีมือของไอ้ตี๋แต่ก็ไม่พ้น มันกดผมลงกับเตียง พลางก้มลงจูบไซร้ไปทั่่วซอกคอผมจนเจ็บ ผมใช้มือกันพยายามดันมันออกไปด้วยความอ่อนแรง แต่ก็ไม่เป็นผล มันกระชากเสื้อผมออกและก้มลงมาเลียตัวผมด้วยความหื่นกระหาย โดยมีเพื่อนๆ ของมันยืนดูอยู่รอบๆ 

          ' แกร่กๆๆ แกร่กๆๆ ' 

          เสียงแปลกๆ ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ผมเคยได้ยิน พวกมันที่มัวแต่สนใจตัวผม ไม่ได้สังเกตเลยว่าแฝดอีกคนกำลังค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่ปกติ เป็นธัชในแบบที่ผมนั้นกลัวที่สุด 

          " ธัช ไม่นะอย่า!! " ผมตะโกนก้อง เพราะว่าตอนนี้ธัชนั้นถือคัตเตอร์ในมือข้างหนึ่ง และในมืออีกข้างก็ถือมีดเล่มเล็กๆ ไว้ด้วย ไม่ทันขาดคำ ของเหลวสีแดงฉานก็สาดกระจายออกมาจากคอของรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ใกล้ธัชมากที่สุด ด้วยความไม่ระวังตัวและกำลังตกใจ ในความโกลาหล ธัชพุ่งตัวเข้าหาคนที่คร่อมตัวผมอยู่ และง้างมือหมายแทงมันให้ตายคามือ 

          ผมตกใจนอนมองภาพตรงหน้า ธัชง้างมือขึ้นสูงด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม แต่ก็ถูกมือมือหนึ่งกำรอบแขนของธัชไว้ได้ทัน ทำให้ธัชชะงักไป คนคนนั้นปักเข็มลงที่คอธัช และฉีดยาเข้าไปอย่างรวดเร็ว ธัชค่อยๆ ล้มลงช้าๆ แต่คนคนนั้นก็รับเอาไว้และอุ้มธัชขึ้น 
                   
          " ธัช ธัช ช่วยธัชด้วย " ผมคลานไปเกาะที่ขาของเซนเซย์ด้วยความอ่อนแรง

          ผมมองดูเซนเซย์อุ้มส่งธัชให้กับพี่เชน และเซนเซย์ก็คุกเข่าก้มลงมากอดผมเอาไว้แน่น

          " ขอโทษที่มาช้า " เซนเซย์พูดกับผมด้วยเสียงที่แผ่วเบาและอ่อนโยน

          " ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยจนถึงที่สุด " นี่นายกำลังพูดบ้าอะไรกัน คนที่ผิดก็คือผมต่างหาก ผมที่อยากจะพูดขอโทษออกไปนั้น ก็ไม่อาจครองสติไว้ได้อีกต่อไป เพราะพวกเรานั้นปลอดภัยแล้ว


ถ้ามีคนคนนี้อยู่ พวกเราจะไม่เป็นอะไรสินะ ตอนนี้ผมเชื่อแบบนั้น
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการลุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 14-10-2017 13:47:16
พระเอกตัวจริงมาแล้ว :hao5:

ปล. รุมโทรม นะจ้ะไม่ใช่ลุมโทรม รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการลุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 14-10-2017 17:22:29
ตกลงพี่โชนนี่ยังไงแน่ หืมมม
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการรุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 14-10-2017 17:54:27
ก็คิดอยู่ว่าโชนคงไม่ใช่คนดี แต่ถึงขั้นพาพวกมารุมโทรม คือแย่มาก
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการรุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 14-10-2017 19:34:29
ยังดีที่มาทันนะเนี่ย เซนเซย์ต้องจัดการพวกอิพี่โชนให้หมดเลยนะ โดยเฉพาะอิพี่โชน หนอย มาหลอกธิช ทีแรกนึกว่าเป็นคนดี แล้วมีหน้ามาบอกว่าชอบธิชอีก :m16: :angry2: :fire: :m31:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการรุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-10-2017 21:11:22
หะ....โหดร้ายมาก
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการรุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 14-10-2017 21:51:11
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการรุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-10-2017 22:05:00
สำหรับหลานโชนโดยเฉพาะ  :beat: :z6: :fcuk: :13223: :โป้ก1: :pigangry2: :ซูโม่: :laugh5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #27 ฝาแฝดและการรุมโทรม ](14/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 15-10-2017 19:00:28
          TWINS บทที่ 28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา


          ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องสีขาว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยังคงเป็นฝันร้ายของผม ผมรีบมองหาธัชอย่างลนลาน และก็พบว่าธัชนั้นกำลังนอนหลับอยู่ที่เตียงข้างๆ ผมขยับตัว พยายามจะลงจากเตียง แต่ผมก็ยังมึนๆ อยู่เล็กน้อย ทำให้เหมือนกับจะล้มลงไปกับพื้น

          ' หมับ! '

          ผมมองมือที่กำลังจับต้นแขนของผมไว้ และก็ต้องตกใจก้าวถอยหลังพลางนั่งลงไปกับพื้นที่เย็นเฉียบ

          " อย่านะ ไปให้พ้น " ผมตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ พร้อมปัดป้องตัวเองด้วยความกลัว

          " ธิช พี่ขอโทษ " ผมยังคงถอยหลังหนีจากคนที่กำลังนั่งลงข้างๆ ผม

          " ธิชา " ผมมองคนอีกคนที่เดินเข้ามา และยื่นมือมาให้ผม ผมจึงจับมือนั้นไว้และกอดแขนเอาไว้แน่น พลางจ้องมองหน้าพี่โชนที่ตอนนี้ฟกช้ำ ปากแตกและคิ้วเหมือนจะเย็บหลายเข็ม

          " ไปก่อนเถอะ ธิชายังไม่พร้อมจะคุยกับนายหรอก " ผมมองพี่โชนที่มองผมด้วยดวงตาแสนเศร้าและเดินออกจากห้องไป สวนกับพี่เชนที่เดินเข้ามา

          " ทำใจให้สบาย ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว " ผมมองหน้าเซนเซย์ที่จ้องมองผม

          " เซนเซย์เจอผมกับน้องได้ยังไง " ผมถามเซนเซย์ด้วยความสงสัย

          " โชนเป็นคนโทรบอกพี่เอง พี่เลยรีบไปที่นั่นกับเคียว " พี่เชนพูดขึ้นพลางทำหน้าเศร้าเช่นกัน

          " ถึงหมอนั่นจะไม่โทรมาบอก ฉันก็กำลังจะไปที่นั่นอยู่ดีนั่นแหละ ธัชอยู่ที่ไหน ฉันก็รู้ได้ " เซนเซย์พูดพลางชูมือถือขึ้นให้ดู 

          " พี่ขอโทษแทนโชนด้วย โชนจะได้รับโทษตามสมควร "

          รอยแผลที่หน้าของพี่โชน ผมแทบไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่าเป็นฝีมืิอใคร ผมมองมือของเซนเซย์ที่มีผ้าพันแผลพันอยู่

          หลังจากนั้นพี่เชนก็เล่าให้ฟังว่า พี่โชนนั้นมาสารภาพกับพี่เชน เป็นเรื่องจริงที่พี่โชนวางแผนรุมโทรมผมกับน้องมาตั้งแต่แรกแล้ว พี่โชนนั้นก่อเรื่องทำนองนี้หลายคดี แต่ที่รอดตัวก็เพราะว่าไม่มีใครเอาเรื่อง และเซนเซย์ก็เห็นแก่พี่เชน จึงไม่ได้ไล่พี่โชนออก เมื่อคืนพี่โชนตั้งใจวางยาผมกับน้องและคิดจะทำโดยลำพัง แต่ผิดพลาดที่มาเจอพวกเพื่อนของพี่โชนที่เคยตกลงเรื่องนี้กันไว้ และรวมตัวกันเพื่อมาร่วมด้วย พี่โชนที่ไม่ต้องการให้ใครแตะต้องผมกับน้องนอกจากตัวเอง จึงโทรหาพี่ชายเพื่อให้มาช่วยพวกเราออกไป และถ่วงเวลาสุดๆ เพื่อไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับผมและน้องก่อนพี่เชนจะมา 

          ผมที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด ก็ยังคงโกรธเคืองพี่โชนอยู่ดี เพราะว่าถึงแม้จะไม่ให้พวกผมถูกรุมโทรม แต่ตัวพี่โชนเองก็หวังจะทำเรื่องไม่ดีกับพวกเราเช่นกัน

          เรื่องพวกนี้ทำให้ผมเสียขวัญอย่างที่สุด มันทำให้ผมนึกถึงครั้งแรกที่ผมเจอธัช หลังจากที่ธัชถูกรับไปเลี้ยง มันทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน เป็นตราบาปที่ติดตัวผมเสมอมา และไม่เคยจางหายไปจากหัวใจ

          หลังจากธัชถูกพาไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ผมที่ยังอยู่ที่โบสถ์ใช้ชีวิตเหมือนร่างไร้วิญญาณไปวันๆ ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมคิดถึงน้องเหลือเกิน แต่ผมก็พยายามอดทนไว้ เพราะคิดว่าธัชนั้นคงไปได้ดีแล้ว คงได้เรียนหนังสือ ได้มีเพื่อน มีสิ่งที่ดีรอบตัว

          แต่ผมก็อยากพบน้องอีกครั้ง ผมจึงอ่านหนังสือและพยายามหาทุน เพื่อสอบและเรียน เพื่อที่วันหนึ่งผมอาจจะได้มีโอกาสเจอธัชอีก ผมเพิ่งรู้ว่าตัวผมนั้นมีระดับ IQ ที่สูงกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป ผมสอบและชิงทุนได้ในเวลาไม่นาน 

          และผมก็พยายามสืบหาครอบครัวที่นำธัชไป แต่ก็พบว่าครอบครัวนี้ไม่มีอยู่จริง ผมหัวใจสั่นไหว แบบนี้มันหมายความว่ายังไง แล้วตอนนี้ธัชไปอยู่ที่ไหนกัน ผมร้อนลนออกตามหาธัชไปทั่วทุกที่ รอนแรมเป็นเวลาหลายเดือน และในที่สุดก็ได้พบข่าว มีคนคนหนึ่งที่เห็นหน้าผม และบอกผมว่า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกับผม และโด่งดังมากในย่านธุรกิจดำมืด

          ผมที่ทั้งดีใจ และก็ตกใจที่ได้ยิน เพราะย่านธุรกิจนั้น มันคือแหล่งโลกี ที่ผู้คนเอาไว้เสพย์สุขกันทางเพศ ผมตัวสั่นด้วยความกลัวทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พบน้อง ผมอยากหายไปซะ ผมมันสมควรตาย ผมภาวนาขอให้เด็กหนุ่มคนนั้นแค่บังเอิญหน้าคล้ายกับผม และไม่ใช่ธัช

          ผมเดินทางไปที่ย่านนั้นในเวลาดึก ปิดบังปกคลุมร่างกายไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็น ผมเดินผ่านที่ที่หนึ่ง ที่มีเหมือนลูกกรงเอาไว้ขังและโชว์สิ่งที่อยู่ด้านใน ผู้คนมากมายต่างมุงดูและจ้องมองสิ่งนั้น  ผมแหวกฝูงชนเข้าไปช้าๆ เพื่อมองดูว่าในนั้นมันมีอะไรกันแน่ที่ทำให้ผู้คนสนใจขนาดนี้ ผมมาถึงหน้าสุดของผู้คน และเปิดผ้าคลุม เพื่อมองดูสิ่งนั้นให้ชัดๆ

          ราวกับว่าโลกทั้งโลกแตกสลาย แต่หัวใจของผมนั้นคงยิ่งกว่า ผมปิดปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงไม่ให้หลุดลอดออกมา น้ำตาไหลจนดวงตาพล่ามัว ตัวสั่นเทา และรู้สึกเหมือนไร้เรี่ยวแรงที่จะเดิน หรือแม้กระทั่งหายใจ ผมคลุมตัวเองไว้อีกครั้ง และเดินเข้าไปช้าๆ ไปยังลูกกรงเหล็กนั่น คุกเข่าลง และเอื้อมมือเข้าไปพยายามจะจับตัวน้องไว้ ผมมองธัชที่แววตาเลื่อนลอย จ้องมองไปบนเพดานที่ว่างเปล่า ผมร้องไห้จนตัวสั่น ยังคงพยายามยื่นมือออกไปไขว่คว้าคนที่รักสุดหัวใจ 

          " ธ.ธัช พี่มารับธัชแล้วนะ " ผมร้องไห้พลางร้องเรียกธัชเบาๆ ธัชสะดุ้งน้อยๆ และละสายตาจากเพดาน ลงมาสบตากับผม ธัชน้ำตาไหลออกมา และคลานมาหาผมช้าๆ พลางยื่นมือมาหาผม แต่เมื่อมือของเรากำลังจะสัมผัสกัน โซ่ที่ดึงรั้งคอธัชไว้นั้นก็ทำให้ธัชไม่อาจขยับมาหาผมได้ อีกแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ก็เหมือนว่าพวกเรานั้นช่างห่างไกลกันเหลือเกิน

          " ไม่ต้องกลัวนะ มองหน้าพี่ไว้ พี่อยู่นี่แล้ว " ผมร้องไห้สะอึกสะอื้น 

          ด้านหลัง ผมรู้สึกว่ามีคนกำลังเดินมาหาพวกเรา เป็นพวกคนที่น่ากลัวและพกปืนไว้ที่เอว 

          ' ปัง! ' 

          เสียงปืนดังขึ้น ทำให้ผู้คนที่มุงอยู่นั้นแตกฮือออกไป เหล่าชายชุดดำที่น่ากลัวที่กำลังจะเดินมาหาผม ก็เปลี่ยนเป้าหมายวิ่งกรูกันออกไปคนละทาง ผมหันกลับมามองน้อง และก็พบกว่าลูกกรงถูกเปิดออก และที่คอของธัชก็ไม่มีโซ่คล้องไว้อีกแล้ว 

          ผมพุ่งเข้าหาน้องและจับมือน้องพาวิ่งไปอีกทางด้วยความเร็วสุดชีวิต ผมไม่รู้ว่าคุณคือใคร แต่ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ช่วยพวกเรา ขอบคุณที่ทำให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง 

          ผมจึงได้ให้สัญญากับธัช สัญญาที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง 

          " พี่จะอยู่กับธัชตลอดไป พวกเราจะไม่มีวันพรากจากกันอีก " ผมจะทำทุกอย่างเพื่อธัช ไม่ว่าสิ่งไหน ไม่ว่าเมื่อไหร่


แม้ต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็ยินดี
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-10-2017 19:09:11
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 15-10-2017 19:16:12
สงสารแฝด
 :sad4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 15-10-2017 19:18:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: VarainDark ที่ 15-10-2017 19:27:33
 :m15:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 15-10-2017 21:00:42
เซนเซย์ช่วยไว้ 2 ครั้งแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-10-2017 21:04:22
กลัวจังว่าต่อไป ธัชจะทำร้ายธิชที่ปล่อยให้ตัวเองโดนกระทำอย่างนั้น แบบทำร้ายทั้ง ๆ ที่ยังรักนะ กลัวจริง ๆ เลย เพราะเดาอารมณ์ธัชไม่ออกว่าจะร้ายในรูปแบบไหน  :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-10-2017 22:25:27
เพราะอดีตที่ธิช กับธัชเจอ
ทำให้ธิชปกป้องธัช จนเกินเลย
ซึ่งส่งผลเสียต่อธัชมากๆ

พี่โชน เลวมาก แม้จะโทรบอกพี่เชนเรื่องจะรุมโทรมแฝด
รับโทษไปก็สาสม

ธิช ก็ทำเหมือนเก่ง ปกป้องน้องได้
แต่ไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมของคนร้ายในสถานบันเทิง
ธัช ยังดูรู้เรื่องมากกว่าธิชเสียอีก
ตลอดทางก็โดนแทะโลม ยังไม่รู้ตัว
สุดท้ายก็โดนยาๆ ให้เก่งแค่ไหนก็จอด
ฉลาดแต่เรื่องเรียนจริงๆ  เซนเซย์เตือนก็ไม่เชื่อ รำคาญธิชมาก  :fire: :fire: :fire:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-10-2017 00:41:01
ทั้งธัชทั้งธิช ต่างก็หัวใจสลาย

พี่โชนสมตวรรับโทษนะ ตั้งใจข่มขืนเลยนะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #28 ฝาแฝดและคำมั่นสัญญา ](15/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 16-10-2017 11:11:42
          TWINS บทที่ 29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว


          ในความเป็นจริงแล้วผมนั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่มึนๆ และอ่อนเพลียเท่านั้น แต่ธัชตอนนี้ยังหลับเป็นตายอยู่ ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ลุกขึ้นเลย

          " พี่เชนครับ ยาที่เซนเซย์ฉีดให้ธัช คือยาอะไรเหรอ " ผมถามพี่เชนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ เตียงผมเบาๆ และเซนเซย์นั้น นั่งอยู่ข้างๆ เตียงของธัช

          " เป็นยาระงับผสมยานอนหลับอย่างแรงเลยล่ะ ผลที่ได้ก็เรียบร้อยเลยอย่างที่เห็น แต่ไม่ต้องห่วง ไม่อันตรายหรอก " พี่เชนพูดพลางยิ้มให้ผมอย่างใจดี

          " แล้วทำไมเซนเซย์ถึงฉีดยาเป็นละครับ " ผมงงมาก เพราะว่าคนที่เป็นหมอคือพี่เชนต่างหาก

          " นี่เรายังไม่รู้จริงๆ เหรอ คือเคียวน่ะเป็นหมอนะ ต้องบอกว่า เป็นทั้งแพทย์และจิตแพทย์ เรียนจบเอกตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ เป็นอัจฉริยะวงการแพทย์เลยล่ะ " ผมตาโตมองพี่เชนอย่างไม่อยากจะเชื่อ 

          " แล้วมาสอนวิศวะเนี่ยนะ " 

          " พ่อเขาสั่งมา ขัดไม่ได้ ไม่รู้ว่าอคติอะไรกับพวกหมอ พี่ละเสียดายคนเก่งๆ แบบเคียว ร้อยปีจะมีสักคน " ผมยิ้มอย่างรู้สึกผิดพลางนึกถึงคืนที่ผมปัดยาจากมือของเซนเซย์ เป็นหมอก็ไม่บอก ไอ้บ้าเอ้ย แต่ก่อนจะรักษาจิตคนอื่น ผมว่าหมอนี่ก็ควรรักษาตัวเองบ้างนะ เพราะตอนอยู่กับผมหมอนั่นน่ากลัวกว่าคนไข้โรคจิตซะอีก หรือว่าเรียนมากจนจิตไปแล้ว ผมหรี่ตามองคนที่นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์

          และผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าตอนที่ธัชอาละวาดนั้น มีคนที่ดูเหมือนจะบาดเจ็บหนักด้วย

          " พี่เชนครับ แล้วคนที่โดนธัช เอ่อ แทงด้วยมีด "

          " อ๋อ ยังไม่ตายหรอก แต่สาหัสเชียวล่ะ เลือดเกือบหมดตัวก่อนจะมาถึงนี่ " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมไม่อยากให้ธัชมีตราบาปเป็นฆาตกร 

          " ก็เท่ากับว่าบาดเจ็บคนนึงใช่ไหมครับ " ถึงผมจะโกรธจนอยากฆ่าพวกมันก็เถอะ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่อยากให้มีใครถึงตาย ผมยิ้มอ่อนๆ ให้พี่เชน ที่ทำหน้าเครียดๆ นิดหน่อย 

          " จริงๆ แล้วก็บาดเจ็บทุกคนเลยนะ " ผมขมวดคิ้วมองพี่เชนอย่างไม่เข้าใจ

          " เคียวน่ะ เล่นซะยับทุกคนเลยล่ะ มีแต่โชน ที่พี่ขอไว้ เลยแค่น่วมนิดๆ อย่างที่เห็น " ผมเหลือบมองเซนเซย์ด้วยความหวาดระแวง คนเป็นหมอเขาทำกันยังงี้เหรอ น่ากลัวนะเนี่ย แต่ก็ขอบคุณนะ

          " อัดให้หายแค้น แล้วรักษาให้ คติเคียวเขาล่ะ เชื้อสายตระกูลมาเฟียญี่ปุ่นนี่น่ากลัวนะ สงสัยหัวรุนแรงเข้าสายเลือด ฮ่าๆ " ผมมองพี่เชนที่หัวเราะร่าเริง หัวเราะกับเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน 

          มีอีกเรื่องที่ผมค้างคาใจสุดๆ จะว่าได้ผลไหมมันก็เหมือนจะได้ แต่มันแปลกๆ ไอ้เรื่องแบบนั้นมันเป็นการบำบัดจริงๆ งั้นเหรอ 

          " เอ่อ พี่เชนครับ " ผมกระซิบแบบเบาสุดๆ จนพี่เชนลุกขึ้นมาเงี่ยหูฟัง

          " เซ็กส์บำบัดนี่ มันมีจริงหรือเปล่าครับ " ผมพูดออกไป พลางเกาหัวแก้เขิน แต่พี่เชนกลับมองผมพลางหัวเราะเสียงดังชอบใจใหญ่

          " เคียว อย่าเอาความต้องการส่วนตัวมาใส่ในตำราแพทย์สิ ฮ่าๆๆๆ " ผมถลึงตามองเซนเซย์อย่างสุดแค้น หนอย ไอ้เราก็หลงเชื่อซะได้ แต่มันก็รู้สึกดีนะ เอ๊ะยังไงวะเนี่ย ผมมึนตัวเอง

          " แต่ก็ชอบใช่ไหมล่ะ " เซนเซย์พูดเหมือนอ่านใจผมได้พลางเหลือบตามองผม ผมหันควับหนีสายตาหื่นกามของไอ้หมอโรคจิตนั่น เหอะ ก็งั้นๆ แหละ

          " แหม สองคนนี่พัฒนานะ ฮ่ะๆ " พี่เชนพูดแหย่ผม

          " ผมยังไม่ได้มีอะไรนะครับ อย่าเข้าใจผิด " ผมรีบเบรกพี่เชนที่ทำหน้าตาแช่มชื่นเหลือเกิน

          แต่ก็นะ ที่ผมรอดมาได้ ก็เพราะพวกมันลังเลตอนเห็นรอยจูบบนตัวผม การเกี่ยวพันธ์กับคนที่มีอิทธิพลในแง่ความรุนแรงบางทีก็เป็นประโยชน์เหมือนกัน

          แต่ผมไม่เข้าใจเลย เซนเซย์ไม่ได้เกลียดผมหรอกเหรอ และบางทีก็ดูเหมือนจะชอบธัชด้วย เพราะตอนนี้เซนเซย์ก็อยู่กับธัชไม่เคยห่าง ตกลงแล้วนายคิดยังไงกับพวกเรากันแน่ และผมนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับเซนเซย์ ผมรู้แต่เพียงว่า หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้ได้รู้ว่าเซนเซย์นั้นพูดถูกมาตลอด แต่การแสดงออกอาจจะเป็นไปในทางไม่ค่อยดีนัก 

          ตอนนี้ผมเห็นเซนเซย์ฟุบลงไปกับเตียงข้างๆ ธัช ผมมองดูบุคคลที่นอนหลับไหลอยู่ทั้งสอง เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกปลอดภัย ผมที่ต้องต่อสู้มาโดยลำพัง ต้องคิด ต้องหาทางทำทุกอย่างเพื่ออยู่รอด เพื่อน้อง เพื่อชีวิตของเราสองคน ผมเหนื่อยล้าเหลือเกิน ไม่อาจปรึกษา ไม่อาจมีที่พึ่งพิง ไม่อาจไว้ใจใครได้เลย แต่ต่อไปนี้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า คนคนนั้นอาจจะสามารถช่วยพวกเรา และดูแลพวกเราได้ ผมอาจจะไม่ต้อง ต่อสู้เพียงลำพังอีกแล้ว


          " พี่ครับ "

          ผมลืมตาตื่นขึ้นในตอนมืดก็พบว่าธัชนั้นยืนอยู่ข้างๆ เตียงผมและกุมมือผมไว้

          " ธัช เป็นยังไงบ้าง " ผมรีบลุกขึ้นประคองแก้มทั้งสองข้างของน้องไว้

          " ผมไม่เป็นไรครับ " ธัชพูดและส่งยิ้มอ่อนโยนให้ผม

          " พวกเรากลับกันเถอะ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่เลย " ธัชพูดพลางทำหน้าเศร้า

          " มีอะไรหรือเปล่า แล้วเซนเซย์ไปไหนแล้ว " 

          " ไม่รู้สิครับ ตื่นมาก็ไม่เจอใครเลย " ผมมองไปรอบๆ พวกเซนเซย์คงไปหาอะไรกินละมั้ง

          " ธัชหิวหรือเปล่า " ธัชส่ายหน้าน้อยๆ

          " ตื่นแล้วเหรอ หิวกันหรือเปล่า ฉันซื้อของมาให้ " เซนเซย์เดินเข้ามาพอดีและหิ้วของมาให้เต็มไปหมด

          " พวกผมอยากกลับคอนโดครับ พาพวกเราไปส่งหน่อยสิ " เซนเซย์ไม่พูดอะไร แต่ยังคงทำท่าแกะอาหารให้เรา

          ผมและน้องนั่งกินข้าวเงียบๆ ผมสังเกตว่าธัชดูซึมลงแปลกๆ ยังรู้สึกไม่สบายตัวหรือเปล่านะ ผมเป็นห่วงน้อง

          " ผมเข้าห้องน้ำก่อนนะ " ธัชบอกผมและเดินไปเข้าห้องน้ำที่มุมห้อง เซนเซย์มองตามธัชที่เข้าห้องน้ำไปแล้ว และเดินเข้ามาหาผมทันที

          " ช่วงนี้ไม่ควรอยู่กับธัชโดยไม่มีฉันนะ " ผมมองหน้าเซนเซย์พลางขมวดคิ้ว ผมไม่ชอบใจเลยที่ได้ยินแบบนั้น

          " ธัชไม่มีวันทำร้ายผม " ผมพูดขึ้นด้วยความขุ่นเคือง

          " ธัชจะไม่รู้ตัวว่าทำอะไร เธอไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ถ้าไม่ระวัง " 

          " ผมไม่กลัวหรอกครับ ต่อให้เป็นแบบนั้น " 

          " แต่ฉันกลัว " เซนเซย์ก้มมองหน้าผมและจับแขนทั้งสองข้างของผมเอาไว้

          " เอ่อ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง แต่พวกเราอยากกลับจริงๆ ให้พวกเรากลับเถอะครับ " ผมหลบตาเซนเซย์ ผมไม่ค่อยชินกับน้ำเสียงแบบนี้ของเซนเซย์เท่าไหร่ รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ

          " เธอให้ยาน้องแบบไหน " เซนเซย์ถามผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " เป็นยาที่ผมหาซื้อจากโรงพยาบาลเท่าที่หาได้ เมื่อก่อนผมให้น้องกินเอง แต่หลังๆ ผมผสมลงในอาหาร แต่มันทำให้ธัชปวดหัวเหมือนไม่สบาย ผมไม่ค่อยชอบเลย "

          " เลิกใช้ยานั่นซะ คุณภาพห่วยมาก ฉันจะให้ยาเธอไว้ ทำถูกแล้วที่ไม่ให้ธัชกินยาตรงๆ เด็กนั่นไม่ชอบใจเวลาที่คิดว่าตัวเองไม่ปกติ จะทำให้คิดมากและคลั่งขึ้นมาง่ายๆ " 

          " ทำไมเซนเซย์ถึงรู้เรื่องนั้นละครับ " ผมขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย เพราะมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าธัชเป็นยังไง เวลาพูดถึงเรื่องความไม่ปกติของธัช

          " ธัชเคย.. "

          " คุยอะไรกันเหรอครับ " ผมที่ยังไม่ทันพูดจบ ธัชก็ออกมาจากห้องน้ำพลางยิ้มน้อยๆ

          " พี่กำลังขอให้เซนเซย์ไปส่งเราน่ะ " ผมยิ้มให้น้องและเดินไปจับมือน้องดึงมานั่งที่เตียง

          " ผมอยากนั่งรถสปอร์ตคันนั้นจังฮะ ผมชอบมากเลย " ธัชพูดพลางทำหน้าตื่นเต้น ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังซึมๆ อยู่เลย

          " ถ้าหายดีแล้วฉันจะให้เธอขับเล่นดีไหม " 

          " จริงเหรอครับ สัญญานะครับ " ธัชลุกขึ้นไปกอดแขนเซนเซย์พลางยิ้มกว้าง

          หลังจากนั้น เซนเซย์ก็พาผมกับน้องมาส่งตามคำขอ ธัชดูตื่นเต้นชอบใจกับรถของเซนเซย์จริงๆ ผมยิ้มกับภาพที่เห็น ผมดีใจที่ธัชไม่ได้รู้สึกแย่ ไม่ได้คิดมาก และแทบไม่พูดถึงเหตุการณ์คืนนั้นเลย

          " ถ้ามีอะไร รีบโทรหาฉัน ฉันบันทึกเบอร์ให้แล้ว กดแค่เลข 1 ก็พอ " เซนเซย์พูดบอกผมเบาๆ ตอนที่ธัชกำลังเดินไปดูไฟท้ายรถ 
         
          " แอบเล่นโทรศัพท์ผมงั้นเหรอ " ผมทำหน้ากวนใส่เซนเซย์ หนอย มายุ่งกับของส่วนตัวผมซะได้

          " หรืออยากให้เล่นอย่างอื่น " เซนเซย์พูดด้วยแววตาเจ้าเล่ห์

          ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และเดินไปดึงน้องที่กำลังเกาะหนึบออกมาจากท้ายรถ หนอย ไอ้หมอบ้ากาม

          " ขอบคุณนะครับ แล้วก็ไปได้แล้ว " ผมแลบลิ้นแถมให้ และจูงน้องที่กำลังโบกมือให้เซนเซย์อย่างขยันขันแข็งให้เดินตามมา


          หลังจากที่พวกเรากลับมาที่ห้อง พวกเราก็อาบน้ำ และเตรียมเข้านอนตามปกติ ผมสังเกตว่าธัชดูเงียบลงไปอีกแล้ว ปกติก็จะชอบมาชวนผมเล่นเกมส์ ไม่ก็ดูหนังก่อนนอนแท้ๆ แต่ผมที่คิดแบบนั้น ก็รู้สึกว่าตัวผมกำลังถูกกอดไว้จากด้านหลัง แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย ธัชมาอ้อนผมเหมือนปกติแล้ว

          " พี่ครับ ผมหิวอีกแล้ว " ธัชทำเสียงออดอ้อน

          " กินอะไรดี ข้าวต้มมั้ย เดี๋ยวพี่ทำให้ " ผมพูดพลางลูบแขนน้อง และเดินเข้าครัวเพื่อเตรียมข้าวของ

          " ครับ " 

          ธัชตอบรับผม และเดินกลับไปนั่งลงที่หน้าทีวีตามเดิม ผมมองด้านหลังของน้อง ในมุมนี้นั้นธัชจะไม่สามารถมองเห็นผมได้ ผมตั้งหม้อและหยิบยาที่เซนเซย์ให้มา นำออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมต้องรีบก่อนที่ธัชจะออกมา

          ผมเจอยาที่เซนเซย์ให้ไว้ และค่อยๆ แกะแคปซูลนั้นออกและเทใส่หม้อเอาไว้ เวลาผสมก็จะได้เข้ากันดี เซนเซย์บอกว่าให้กิน 2 เม็ดสินะ และหยิบยาอีกเม็ดออกจากซอง บิดเบาๆ และเทออกมา

          ' หมับ! ' 

          ผมตกใจสะดุ้งจนยาเม็ดอื่นๆ ร่วงกราวลงกับพื้น เพราะแขนข้างที่ผมถือยาอยู่นั้น กำลังถูกจับอยู่โดยธัช ที่กำลังจ้องมองผมด้วยแววตาน่ากลัว มือธัชที่กำรอบๆ แขนของผมนั้น บีบแน่นจนผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด


ดูเหมือน ผมจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่อีกแล้ว ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ เซนเซย์
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ](16/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-10-2017 11:28:22
 :hao3: :hao4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ](16/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 16-10-2017 12:17:39
โอ้ ธัชอย่าเพิ่งคลั่ง
เซนเซย์ก็ชัดเจนอยู่นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ](16/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 17-10-2017 01:36:50
ธัชจะคลั่งจดจับธิชกดไหมเนี่ย ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ](16/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-10-2017 02:40:07
ตอนหน้าก็จะรู้แล้วว่าถ้าหลานธัชจะทำร้ายหลานธิชโดยวิธีไหน ขอย่างเดียวมีดกับคัตเตอร์ไม่เอานะ คนแก่กลัว  :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ](16/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 17-10-2017 06:27:50
ธัชใจเย็นๆนะ ; w ;
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ](16/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 17-10-2017 11:28:30
          TWINS บทที่ 30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง


          " พี่ไม่เชื่อใจผม " ธัชยังคงบีบแขนผมแน่นและถามผมด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

          " ผมไม่ได้เป็นอะไรนะครับ ผมสบายดี " ผมกลัวแววตาของธัชที่มองผมในตอนนี้ มันไม่ใช่ตัวธัชเลย

          " พี่รู้แล้วธัช พี่ขอโทษนะ ปล่อยพี่ก่อนเถอะ พี่เจ็บ " ผมรู้สึกว่าแรงบีบที่แขนธัชเบาลงเรื่อยๆ จนในที่สุด ผมก็ดึงแขนออกจากมือธัชได้สำเร็จ

          " ผมขอโทษนะครับ พี่เจ็บมากไหม " ธัชมองผมด้วยแววตาสั่นไหว

          " ธัช ธัชจะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน " ผมพูดพลางขมวดคิ้วมุ่น ผมว่าผมต้องพูดกับน้องจริงๆ จังๆ สักที

          " ผมจะกินยาฮะ ผมจะกิน พี่อย่าเกลียดผมนะ " ธัชกุมมือผมไว้ และทำสีหน้าเศร้า

          " พี่ไม่ได้เกลียดธัช ทำไมถึงไม่ฟังที่พี่พูดเลย " 

          " แล้วพี่กำลังวางแผนอะไรกับเซนเซย์ " ผมมองหน้าธัชที่กำลังจ้องมองผมอย่างสงสัยและเริ่มมีสีหน้าไม่ดีอีกแล้ว

          " พี่ไม่ได้วางแผนอะไรนะธัช ห้ามคิดแบบนั้นนะ " ผมตกใจที่ธัชคิดแบบนั้น 

          " พี่กำลังจะทิ้งธัชไปใช่ไหม " ผมส่ายหน้าไปมาด้วยสีหน้ากังวลใจ

          " ธัช พี่รักธัช " ผมเขย่าตัวน้องให้ฟังที่ผมพูด

          " พี่ครับ ธัชไม่ได้ป่วยนะ ธัชจะไม่เป็นภาระให้พี่ ธัชสัญญา ธัชจะทำตัวดีๆ พี่อย่าไปนะ " ผมมองหน้าธัชที่เริ่มพูดรัวเร็วและแสดงอาการแปลกๆ ธัชเขย่าตัวผม และบีบแขนผมแน่นอีกครั้ง ผมเดินถอยหลัง พยายามดึงแขนออกจากธัชที่กำลังเหมือนจะคลั่งอีกแล้ว ผมจะทำยังไงดี ธัชนั้นแรงเยอะกว่าผม 

          " ธัช ฟังพี่สิ!! " ผมพูดใส่น้องเสียงดัง เพราะธัชไม่ฟังผมเลยและพูดไม่รู้เรื่อง ผมแกะตัวออกจากธัช และวิ่งไปหลบหลังโซฟา

          " พี่เกลียดธัช พี่จะทิ้งธัชไปใช่ไหม!!! " ผมตกใจมาก เพราะธัชนั้น ตะโกนเสียงดัง และทำหน้าเหมือนตอนที่กำลังจะแทงรุ่นพี่นั่น 

          " พี่ไปไหนไม่ได้หรอก พี่ต้องอยู่กับธัช!!! " ธัชตะโกนและเดินเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว ผมลนลาน รีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ และปิดประตูด้วยความรวดเร็ว ผมตัวสั่น ถอยหลังไปชิดผนังห้องน้ำและนั่งรูดลงช้าๆ ด้วยความกลัว 

          ' ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง! ' 

          " จะหนีไปไหน!!! ออกมานะ!!! "

          " บอกให้ออกมา!!! อย่าให้เข้าไปได้!!! " เสียงธัชกระแทกประตูห้องน้ำอย่างแรง ประตูห้องน้ำสั่นและเหมือนจะเปิดออกมาได้ทุกเมื่อ ผมนั่งขดตัวอยู่ในซอกเล็กๆ กอดตัวเองแน่น ผมนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของเซนเซย์ โทรศัพท์ โทรศัพท์ของผม ผมลนลานรีบหาโทรศัพท์ แต่ไม่มี น่าจะอยู่ในห้องนอนของผม 

          " พี่ครับ ออกมาเถอะครับ " 

          " ผมไม่ทำอะไรพี่หรอกครับ พี่ออกมาเถอะ " เสียงธัชฟังดูอ่อนลงเหมือนเป็นธัชปกติ แต่ผมก็ยังคงกลัวอยู่ จึงไม่ได้ออกไปทันที

          เวลาผ่านไปสักพัก ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านนอก ผมไม่รู้ว่าธัชนั้นสงบลงแล้วหรือยัง ผมเป็นห่วงธัช ต่อให้ธัชน่ากลัวยังไง ผมก็ยังคงรักน้องอยู่ดี ผมค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ คลานไปยังประตู เพื่อฟังเสียง

          " แกร่กๆๆ แกร่กๆๆ " 

          ผมถอยหลังออกจากประตูช้าๆ ผมน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด ผมไม่เคยโกรธธัชเลย เพราะที่ธัชเป็นแบบนี้ก็เพราะผม ผมดูแลน้องได้ไม่ดีพอ ธัชถึงได้แย่ลง ถ้าหากธัชจะโกรธ และทำร้ายผม ผมว่ามันก็สมควร

          ผมยืนอยู่นิ่งๆ สักพักและตัดสินใจว่า ผมควรออกไป ผมที่ประตูที่ยังคงปิดสนิท ผมจับลูกบิดประตู หมุนเบาๆ และค่อยๆ เปิดออกช้าๆ ค่อยๆ โผล่ออกไปทีละน้อย และมองไปรอบๆ อย่างหวาดหวั่นด้วยหัวใจที่เต้นรัว ผมไม่เห็นธัชอยู่หน้าห้องน้ำ แต่กำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ในมือก็ยังคงถือมีดคัตเตอร์อยู่ พลางเลื่อนใบมีดขึ้นลงช้าๆ ทำให้เกิดเสียงแปลกๆ

          ผมได้โอกาส รีบเดินเลาะเพื่อไปยังห้องนอนของผม ผมเดินช้าๆ พยายามให้เกิดเสียงน้อยที่สุด ลูกบิดประตูห้องนอนของผม อยู่ไม่ห่างออกไปมาก อยู่ห่างจากมือผมแค่สองเมตร หนึ่งเมตร และถึงแล้ว ผมจับลูกบิดประตู ด้วยหัวใจที่สั่นกลัว

          ' หมับ! ' 

          ผมสะดุ้งสุดตัว เพราะตอนนี้มือของธัชนั้น กำลังกำรอบข้อมือของผม ด้วยความตกใจ ผมผลักธัชออกไปเต็มแรงจนธัชล้มลง และรีบพุ่งเข้าไปในห้อง วิ่งไปที่หัวเตียงที่วางโทรศัพท์ไว้ ผมเอื้อมมือจะคว้าโทรศัพท์ แต่ก็คว้าได้แต่ลม เพราะตอนนี้ธัชเข้ามากอดผมไว้จากด้านหลัง ล็อคผมไว้แน่นจนทำรู้สึกจุก

          " ปล่อยพี่นะ!! " ผมพยายามดิ้นและผลักธัชออกไป ธัชเหวี่ยงผมออกห่างจากหัวเตียง จนผมล้มลงที่พื้น 

          ' เพล้ง!! ' ธัชวิ่งไปคว้าโทรศัพท์บนหัวเตียงของผม และเขวี้ยงมันไปที่หน้าต่างเต็มแรง ผมเบิกตาโพลงมองโทรศัพท์และหน้าต่างที่แตกละเอียด หมดแล้วสินะ ความหวังที่จะให้เซนเซย์มาช่วยผม

          ผมกำมือแน่นมองธัช ซึ่งธัชก็เดินมาหาผมช้าๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

          " อยากไปจากผมมากเหรอครับ " ผมส่ายหน้าช้าๆ ในความมืด

          " อย่าเข้ามา " ผมพูดเสียงเย็น ทำให้ธัชชะงัก และมองผมด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้

          " พี่เกลียดธัชแล้วจริงๆ พี่ไม่ยอมให้ธัชแตะต้องพี่เลย " ธัชทึ้งผมตัวเองไปมาจนยุ่งไปหมด ธัชนั่งลงช้าๆ และพูดกับตัวเอง พลางร้องไห้ไปมาเหมือนเด็ก

          " ธัชรักพี่ รักพี่ รักพี่ รักพี่ รักพี่... " ธัชพูดบอกรักผมไปมาจนเหมือนเป็นเสียงสวดมนต์ ผมสงสารน้องเหลือเกิน แต่ผมไม่เข้าใจเลย เพราะผมก็บอกว่าผมรักธัชเสมอ ทำไมน้องถึงยังเป็นแบบนี้ ทำไมถึงยังคิดว่าผมไม่รัก หรือจะหนีไป 

          ผมค่อยๆ คุกเข่าลงช้าๆ ตรงหน้าธัช ธัชยังคงพูดกับตัวเอง และไม่สนใจผมเลยสักนิด ผมค่อยๆ หยิบคัตเตอร์ออกจากมือน้อง และดันเบาๆ ให้เลื่อนหายเข้าไปใต้เตียง  ผมค่อยๆ ประคองหน้าน้องไว้ให้หันมาสบตาผม แต่ธัชก็ยังคงมองไปที่อื่น และร้องไห้เบาๆ พร้อมกับพูดว่ารักผม

          " พี่ก็รักธัช " ธัชยังคงไม่สนใจผมเช่นเดิม ผมน้ำตาไหลออกมาด้วยความปวดใจ

          " พี่อยากให้ธัชกอดพี่ "  ถึงน้องอาจจะไม่รู้สึกตัว หรือไม่รู้ความหมายของมัน แต่ผมก็อยากจะบอกออกไป


ความรู้สึก ที่แท้จริงของผม
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 17-10-2017 12:26:53
โอ้ เซ็กส์บำบัดที่แท้จริงกำลังจะมาแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 17-10-2017 12:57:55
 :mew4: อั่ย สั้นไป๊! มาต่อไวไวนะคะ ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 17-10-2017 13:16:44
 :ruready
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 17-10-2017 15:39:15
เซ็กส์บำบัดที่แท้ทรูกำลังจะมา.   :haun4: :laugh:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 17-10-2017 16:01:57
ธัชใจเย็นนะ! ธิชกลัวหมดแล้ววววว
เรียกสติน้องให้ได้นะ!
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 17-10-2017 17:31:04
 :z3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-10-2017 18:53:15
อูยยยย.........ธัชสติแตก ไปแล้ว  :z3: :z3: :z3:
คิดแต่ว่าธิช จะทิ้งตัวเองไป
แล้วนี้ธิช จะรั้งสติธัช กลับมาเป็นปกติได้ไหมนี่
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-10-2017 23:24:51
 :katai1: เครียดสุด ๆ เอาตัวให้รอดนะหลานแฝด
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 18-10-2017 06:07:50
 :mew5: ธัชลูกใจเย็นๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #30 ฝาแฝดที่บ้าคลั่ง ](17/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 18-10-2017 13:37:23
          TWINS บทที่ 31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด


          ธัชหยุดพูดและขมวดคิ้วมองผมด้วยความไม่เข้าใจ ผมเลื่อนหน้าเข้าไปหาธัชช้าๆ เลียสัมผัสที่ริมฝีปากนั้นอย่างแผ่วเบา และดึงเข้าหาประกบจูบริมฝีปากนั้น ธัชเริ่มตอบสนองผม ด้วยการกัดเม้มที่ริมฝีปากผมเบาๆ และแทรกลิ้นร้อนผ่านปากของผมที่อ้าน้อยๆ ให้เรียวลิ้นของเราเกี่ยวพันกันมากขึ้น

          แต่ผมนั้นก็รู้สึกว่าธัชนั้นยังไม่ปกติดี เพราะว่าบางจังหวะธัชก็นั้นก็กัดปากผมแรง และเริ่มกอดรัดตัวผมแรงมากขึ้น แต่ไม่เป็นไร ผมพร้อมที่จะรับทุกสิ่งที่จะเกิดตามมา เพราะผมนั้นรักธัชเหลือเกิน 

          พวกเรายังคงกอดจูบกันอยู่ที่พื้นที่เย็นเฉียบ ธัชกดผมลงกับพื้นห้อง ละริมฝีปากออก และก้มลงจูบที่ซอกคอของผม 

          " อึ๊กก " ผมนิ่วหน้าหลับตาแน่นด้วยความเจ็บแต่ต้องอดทนไว้ เพราะตอนนี้ธัชนั้นกัดผมที่ไหล่จนเลือดไหล  เสื้อผ้าของผมถูกฉีก ถูกทึ้งจนขาด ธัชดูไม่เป็นตัวเอง รุนแรงและควบคุมตัวเองไม่ได้ 

          ร่างกายส่วนบนของผมตอนนี้ไร้เสื้อผ้าปิดบัง ธัชจูบและกัดผมไปทั่วทั้งตัว ผมกำเสื้อน้องไว้แน่น เม้มปากกลั้นเสียงร้องของความเจ็บปวดผสมกับความรู้สึกวาบหวามที่เข้าจู่โจม ธัชจูบและลากลิ้นไปทั่วยอดอกที่อ่อนไหวของผม จนผมจิกเล็บเข้าไปที่หลังของน้องอย่างลืมตัว

          ธัชถอดเสื้อตัวเองออกและเหวี่ยงไปที่มุมห้อง และก้มลงจูบผมอีกครั้ง และยังคงรุนแรงจนเหมือนจะกินผมเข้าไป ผมอ้าปากพยายามหายใจ หาอากาศที่ดูเหมือนจะเลือนลางลงทุกที

          ' ตึ้ง! '  ผมสะดุ้งตกใจ เพราะว่าอยู่ดีๆ ธัชก็เอาหัวชนกับเตียง เหมือนกับกำลังพยายามดึงสติตัวเองอยู่ แต่ผมไม่อยากให้น้องบาดเจ็บ จึงล็อคแก้มธัชไว้และดึงมาประกบจูบอีกครั้ง 

          ความรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป กางเกงของผมถูกดึงลงอย่างรวดเร็ว ผมกอดก่ายร่างกายธัชที่ทาบทับผมจนผมแทบจะขยับตัวไม่ได้ ธัชดึงตัวผมให้ลุกขึ้นคุกเข่าหันหน้าเข้ากับเตียง จับล็อคแขนผมเอาไว้ ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เพราะธัชออกแรงมากเหลือเกิน

          " ธัช พี่เจ็บ " ผมไม่รู้ว่าธัชได้ยินผมไหม และผมรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องเจ็บเจียนตายแน่ๆ ธัชนั้นไม่ปกติ ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไร ธัชคงจะไม่ได้เตรียมตัวให้ผม ถึงผมจะเคยทำกับตัวเองมาแล้ว แต่แบบนี้ผมคงได้แต่ต้องกัดฟันทนเท่านั้น

          " พี่ธิช พี่ธิชของธัช " ผมหันไปมองน้องที่หัวเราะกับตัวเองและมองผมเหมือนกับกำลังฝันไป 

          " ผมรักพี่ฮะ รักมาก " ธัชกอดผมที่กำลังนั่งอยู่จากด้านหลัง กอดและหอมไซร้ซอกคอ มือลูบไล้ไปบนร่างกายของผมแผ่วเบาสลับกับรุนแรง มือของธัชลูบเบาๆ ไปบนกางเกงชั้นในตัวบาง ล้วงมือเข้าไปลูบคลำปลุกเร้าสิ่งที่อยู่ในนั้น 

          ผมกลั้นใจเป็นบางจังหวะ สลับกับหายใจถี่ ผมรู้สึกกลัวว่าธัชจะกลายเป็นอาละวาดและทำรุนแรงอีก ตอนนี้ธัชนั้นเหมือนระเบิดเวลา ที่จะอ่อนโยนหรือรุนแรงผมก็ไม่อาจคาดเดาได้

          และผมก็ต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้ง เพราะอยู่ดีๆ ธัชก็กดหลังผมลง ให้หน้าของผมแนบลงกับเตียง ผมเหลือบมองธัชที่ตอนนี้ทำสีหน้านิ่งๆ และเลื่อนถอดกางเกงของตัวเองลง 

          ผมเกร็งตัว เม้มปากแน่น ผมต้องอดทน ผมต้องทนได้ ผมสัมผัสได้ว่าธัชกำลังขยับตัวเข้ามาชิดผมจนกางเกงของธัชสัมผัสกับด้านหลังของผม ธัชโน้มตัวลงมาขบกัดที่แผ่นหลังของผม และเลื่อนมือมารูดขอบกางเกงชั้นในของผมลงช้าๆ ผมหลับตาแน่น พยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่น

          " อึ้กกกก!!! " ผมกัดฟันแน่น น้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด เหมือนร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ถึงจะทำใจไว้แล้ว แต่การที่ถูกกระแทกท่อนกายเข้ามาจนลึกภายในทีเดียวนั้น ทำให้ผมแทบจะหลุดเสียงกรีดร้องออกมา ผมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ รู้สึกถึงกลิ่นเลือดที่คลุ้งอยู่ในปากเพราะแรงกัด ความรู้สึกอึดอัด อัดแน่นอยู่ภายใน

          ธัชยังคงไม่ขยับตัว แต่เท้าแขนทั้งสองข้างค้ำยันตัวเองไว้ และก้มลงเหนือตัวผม ผมรู้สึกว่าขาตัวเองนั้นกำลังสั่นน้อยๆ และอ่อนแรง ผมได้แต่ก้มหน้าลงกับผืนผ้าปูที่นอนที่ตอนนี้เปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาเพราะความเจ็บปวด ธัชเริ่มขยับตัวน้อยๆ เหมือนกับกำลังจะถอนแก่นกายออก แต่เมื่อถอนออกจนเกือบสุดแล้วกลับกระแทกเข้ามาใหม่อีกครั้ง

          " อื้อออ " ความเจ็บปวดทำให้ผมแทบจะสำลักออกมา ผมเริ่มกลั้นเสียงร้องไม่ไหว ด้วยความรู้สึกเจ็บแสบภายใน

          " ฮึก..ฮือ " ผมร้องไห้จนตัวสั่น ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป แต่ผมจะไม่ว่าธัชหรอก เพราะมันเปล่าประโยชน์

          " พ..พี่ครับ ผ..ผมขอโทษ " เสียงดังแว่วแผ่วเบา ผ่านสติอันเลือนลางของผม ความเจ็บปวดทำให้ผมสลบไปตอนไหนก็ไม่สามารถรู้ได้


          ผมตื่นมาในตอนเช้า แสงแดดที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างทำให้ผมยกมือขึ้นมาบังสายตา ผมปวดหัวมาก และเจ็บปวดตัวไปหมด ผมมองเนื้อตัวของตัวเองที่มีแต่รอยจ้ำแดง รอยช้ำ และรอยกัด บนตัวของผมนั้นสวมไว้แต่เสื้อเชิ๊ตสีขาวเท่านั้น ผมขยับตัวและต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บที่แล่นผ่านสันหลังของผมลงไปยังช่องทางด้านล่าง แต่สิ่งที่ผมตกใจที่สุดก็คือ 

          " ธัช " ผมร้องเรียกน้องที่นั่งขดตัวอยู่มุมห้อง กำลังกอดตัวเองและร้องไห้อย่างหนัก ตัวสั่นจนน่าสงสาร ธัชใส่แค่กางเกงขายาวสีดำตัวเดียวเท่านั้น ท่อนบนนั้นเปลือยเปล่า ตาบวมแดง และไม่หันมามองผม

          " ฮืออ ผมขอโทษครับ อย่าเกลียดธัช ธัชไม่ได้ตั้งใจ " ธัชยังคงร้องไห้พูดกับตัวเองอยู่มุมห้อง 

          " อย่าทิ้งผมไป พี่ครับ ผมทำตัวดีนะ ผมตามใจพี่ทุกอย่างเลย " ผมน้ำตาไหลออกมา ผมจะทำอะไรให้ธัชได้บ้างว ธัชจะรู้ไหมว่าผมไม่เคยโกรธธัชเลยสักครั้ง

          " ธัช พี่อยู่นี่ ธัช.. " แต่เมื่อผมทำท่าจะลุกออกไป ผมกลับพบว่า ผมไม่สามารถทำได้ ผมมองข้อมือของผมที่ถูกใส่กุญแจมือล็อคไว้ด้วยความตกใจ 

          " ธัช ธัช ได้ยินพี่ไหม ปล่อยพี่นะธัช อย่าทำแบบนี้ "

          " ผมจะไม่กอดพี่แล้ว จะไม่จูบพี่อีก เพราะงั้นอย่าเกลียดธัช " ผมมองน้องอย่างไม่เข้าใจ ธัชพูดอะไรน่ะ ที่ผมห้ามไม่ให้ธัชกอดจูบผม เพราะเราเป็นพี่น้องกันต่างหาก 

          " ผมจะเป็นน้องที่ดี เป็นแค่น้องที่ดี ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ก็จะไม่ไปไหนใช่ไหม " ผมร้องไห้ผมไม่เคยรู้เลยว่าธัชกังวลและทุกทรมานกับเรื่องนี้มากแค่ไหน ความไม่เข้าใจของธัช ทำให้ธัชคิดมาก และอาการกำเริบหนัก ความกังวล ความเสียใจ ความหวาดกลัว ทำให้ธัชเปลี่ยนไป 

          ธัชเริ่มเอาหัวโขกผนังห้องและร้องไห้ไปมา ไม่สนใจผมที่กำลังร้องเรียกอยู่เลย

          ' ก็อก ก็อก ก็อก ' 

          ผมสะดุ้งตกใจ เพราะว่าถึงจะเบามาก แต่ตอนนี้ก็มีคนมาเคาะที่ประตูคอนโดของเราจริงๆ และจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอกจาก 

          " เซน..!!! " ผมอ้าปากจะร้องตะโกนออกไป แต่ธัชนั้นก็ไวกว่า ธัชลุกขึ้นและวิ่งมาปิดปากผมไว้ทันที ด้วยสีหน้าที่ยังไม่ปกติเช่นเดิม

          " ชู่ววววว อย่าเสียงดังสิครับ เขาคงเคาะผิดห้องน่ะ " ผมมองหน้าน้องที่ตอนนี้มองหน้าผมด้วยแววตาร้อนลน ธัชตัวสั่นน้อยๆ และกอดผมไว้แน่น  ผมคิดว่าถึงธัชจะไม่ปกติ แต่ก็น่าจะรู้ว่าเป็นเซนเซย์ ซึ่งถ้าต้องสู้กันจริงๆ แล้ว ธัชนั้นไม่มีทางสู้เซนเซย์ได้ คนคนนั้นคงทั้งใจดี ฉลาด และน่าเกรงขามในสายตาธัช

          เสียงที่ประตูเงียบไปแล้ว ธัชยังคงกอดผมและมองไปที่ประตูอย่างตื่นกลัว ผมได้ทีกอดน้องเอาไว้และลูบเบาๆ ที่แขนของน้อง

          " ธัช ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ไปไหนหรอก " ธัชยังคงไม่สนใจในสิ่งที่ผมพูด กอดผมไว้และเริ่มบ่มงึมงัมกับตัวเอง ผมได้แต่ร้องไห้อย่างปวดใจ ถ้าหากได้ย้อนเวลากลับไปละก็ ผมจะไม่มีวันปล่อยน้องไป ผมพอจะทำสิ่งใดให้ธัชได้บ้าง ผมอยากให้น้องกลับมาสดใสเหมือนเดิม เป็นธัชที่อ่อนโยนและยิ้มแย้ม เป็นกำลังใจให้ผมเสมอ 

          และคำตอบของความคิดนั้นก็แล่นเข้ามา ผมรู้ว่าใครจะช่วยพวกเราได้ ถ้าหากไม่เจอเขาคนนั้น ณ ตอนนี้ผมคงทุกข์ทรมานกับการหาทางช่วยธัช ผมคงสิ้นหวัง ทุกอย่างคงมืดสนิท ไร้ที่พึ่งใดๆ แต่ตอนนี้ผมรู้ ว่าคนคนนั้นจะไม่มีวันทิ้งพวกเรา เขาจะต้องมา ช่วยผม และน้องอย่างแน่นอน


ผมยังคงรออยู่นะ เคียวเซนเซย์
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 18-10-2017 14:38:08
ธัชรุนแรงเหลือเกิน เซนเซย์ก็คงมาแนวนี้เหมือนกัน
เซนเซย์มาช่วยแฝดเร็ว  :sad4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-10-2017 15:08:11
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 18-10-2017 15:30:52
เซนเซย์มาช่วยแฝดเร็ววววว ; w ;
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-10-2017 16:08:17
ต้องการความช่วยเหลือทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-10-2017 16:48:15
ธัช เก็บกด มีภาวะหลอนของจิตใต้สำนึก
เรื่องกลัวพี่ทิ้ง กับมีความสำนึกผิดเรื่องรักระหว่างสายเลือดอีก

เซนเซย์ มาช่วยแฝดแน่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 18-10-2017 19:26:30
เรื่องมันหน่วงดีจัง ช๊อบชอบ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Mod40 ที่ 18-10-2017 19:31:00
เซนเซย์มาเร็วๆฮะ :ling3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 18-10-2017 19:36:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Map ที่ 18-10-2017 21:47:33
 :ling3:ไม่ได้เข้าเล้ามานานมากก มาเจอเรื่องนี้อยากจะบอกว่าภาษาสวยเขียนดีไหลลื่น การดำเนินเรื่องไม่สะดุดอ่านไม่ขัดอะไรเลย ชอบมิติของตัวละครแต่ละตัวละครชอบมากเลยค่ะยกให้เป็นเรื่องในดวงใบอีกเรื่องเลยค่ะ ติดตามต่อไปนะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-10-2017 23:38:04
อึดอัดจัง น่าสงสารทั้งคู่เลย  :o7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#31 ฝาแฝดและกอดที่แสนเจ็บปวด [NC20+]](18/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 19-10-2017 12:54:45
          TWINS บทที่ 32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา


          ผมยังคงนั่งอยู่บนเตียง ไม่สามารถลุกออกไปไหนได้ เพราะข้อมือถูกล็อคกุญแจไว้อย่างแน่นหนา หลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูในตอนเช้า ธัชก็อยู่ข้างๆ ผม กอดผมเอาไว้แน่นจนผลอยหลับไป ผมลูบแก้มธัชเบาๆ ก้มลงไปจูบและหอมที่แก้มของธัชที่ยังคงหลับสนิท ผมอยากให้ธัชได้รู้ว่าผมนั้นรักธัชมากแค่ไหน แต่ตอนนี้นั้น ธัชไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย

          " พี่หิวไหมครับ " ธัชลืมตาขึ้นมองผม ยื่นมือมาลูบเบาๆ ที่แก้มผมช้าๆ ผมส่ายหน้าไปมา ผมไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น ผมอยากนั่งอยู่อย่างนี้ จ้องมองธัชที่กำลังส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน

          " พี่รักธัช " ผมพูดพลางจับมือธัชและจูบเบาๆ ที่หลังมือนั้น ธัชมองผมพลางขมวดคิ้วมุ่น

          " จริงเหรอครับ " ธัชมองผมด้วยแววตาสงสัย

          " พี่รักธัชจริงๆ " ผมพูดอีกครั้งด้วยความมั่นใจ

          " แล้วเซนเซย์ล่ะ " ผมสะอึก กลืนน้ำลายลงคอมองธัชอย่างไม่เข้าใจ

          " เซนเซย์เป็นคนดีนะธัช เซนเซย์ก็รักธัชด้วย "

          " ผมก็รักเซนเซย์ฮะ เซนเซย์เป็นผู้มีพระคุณของผม " ธัชพูดออกมาอย่างแผ่วเบา ผมโล่งใจที่ธัชคิดแบบนั้น

          " พี่กับเซนเซย์รักธัชนะ พี่อยากให้ธัชหายดี " ผมยิ้มให้น้องที่นอนนิ่งจ้องมองผม

          " โกหก " ผมชะงัก จ้องมองธัชที่แววตาเริ่มเปลี่ยนไป

          " พี่กับเซนเซย์วางแผนอะไรกัน จะทิ้งผมไปกันใช่ไหม ผมอุตส่าห์ไว้ใจเซนเซย์ แต่ก็รวมหัวกันหลอกผม " ผมส่ายหน้าไปมา

          " ไม่ใช่นะธัช ฟังพี่ พี่กับเซนเซย์พยายามช่วยธัช พี่อยากได้น้องชายของพี่คืน " ธัชลุกพรวดออกจากตักของผม และมองผมด้วยแววตาน่ากลัว

          " แล้วผมไม่ใช่น้องพี่เหรอ ผมเป็นตัวอะไร!!! " ธัชเริ่มตะโกนเสียงดังและมีสีหน้าไม่พอใจอีกแล้ว

          " ผมอยากล็อคเซนเซย์ไว้ที่นี่เหมือนกัน ต้องจับไว้ ขังไว้ แต่จะทำยังไง " ธัชเดินวนไปมาพูดกับตัวเอง เหมือนกำลังวางแผนอะไรสักอย่าง ผมมองน้องด้วยความหวาดหวั่น ผมกลัวว่าธัชจะทำอะไรเซนเซย์ ถ้าต่อหน้าก็หมดหวัง แต่ถ้าลับหลังล่ะ

          " ธัช อย่าทำแบบนั้นนะ ไปหาเซนเซย์และคุยกับเขาดีๆ ธัช เขาจะช่วยธัช " ผมพูดขอร้องธัชให้ธัชฟังผมอย่างอ่อนแรง

          " ช่วยเหรอ ช่วยอะไร ผมไม่ได้เป็นอะไร!!! " ธัชตะคอกใส่ผมด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม  ธัชเดินออกไปจากห้องและสักพักก็กลับเข้ามา พร้อมกับมีดเล่มเล็กๆ ในมือ ผมตกใจลนลานรีบถอยห่างจากธัชด้วยความหวาดกลัว

          " ไม่ได้ เสี่ยงเกินไป สู้ไม่ไหวแน่ ทำยังไงดี " ธัชยังคงบ่นงึมงัมกับตัวเอง พลางถือมีดอย่างน่าหวาดหวั่น

          " ธัช อย่าทำแบบนั้นเลย " ผมพยายามพูดอีกครั้งเผื่อธัชจะรู้สึกตัว

          " ทั้งสองคนจะได้ไม่ไปไหน ผมรักมากเลยครับ ทั้งสองคน อยู่กับธัชนะ อย่าหนีไปเลย " ธัชเดินมาหาผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ผมกลับน้ำตาไหลออกมา 

          ผมอยากเตือนเซนเซย์ ให้รู้ตัวว่าธัชกำลังจะทำอะไร เซนเซย์ถึงแม้จะเก่งและฉลาดแค่ไหน แต่ก็เอ็นดูธัชเสมอ ถ้าหากว่าเผลอล่ะ ผมมือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ 

          ผมมองน้องที่ยังคงเดินไปมารอบๆ ห้อง และสักพักก็เดินออกไป นานสักประมาณชั่วโมงหนึ่งได้ธัชก็กลับเข้ามาอีกครั้ง ด้วยเสื้อช็อปวิศวะสีเข้ม และหวีผมเซ็ตแบบปกติ ดูดีเหมือนทุกๆ วันที่ไปเรียน ธัชใบหน้านิ่งเฉย และเดินเข้ามาหาผม จับมือผมและนั่งลงข้างๆ

          " ธัชไปเรียนก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับมาฮะ ผมจะซื้อของกินมาให้นะ แล้วผมจะพาเซนเซย์มาอยู่เป็นเพื่อน พวกเราสามคน อยู่ด้วยกันตลอดไป " ผมมองใบหน้าเคลิ้มฝันของธัช ด้วยความหมองเศร้า

          " อย่าทำอะไรเซนเซย์นะธัช พี่ขอร้อง " ผมจับมือธัชและพูดกับธัชทั้งน้ำตา

          " เงียบซะ!!! ผมจะเป็นคนตัดสินใจเอง " ผมร้องไห้เพราะธัชนั้นตะโกนใส่ผมอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ ธัชไม่เคยเป็นขนาดนี้เลย ขอร้องล่ะ เซนเซย์ช่วยหยุดธัชที ขอให้รู้ตัวทีเถอะ


          เคียวเซนเซย์


          ในตอนเช้า ผมได้มาที่คอนโดของทั้งสองคน เพื่อเช็คว่าทุกอย่างปกติดีหรือเปล่า เพราะเมื่อคืนในช่วงดึก ผมได้โทรหาธิชา และพบว่ามือถือได้ถูกปิดไป หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่สามารถติดต่อได้ 

          ผมไม่คิดว่าผมนั้นกังวลเกินไป เพราะว่าธัชนั้นมีอาการที่หนักมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องน่าเศร้าและอันตราย ในความเป็นจริงแล้วผมต้องการให้ทั้งสองย้ายมาอยู่กับผม เพื่อที่จะได้ตรวจดูอาการและดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ธิชานั้นเป็นพวกที่ค่อนข้างจะไม่พึ่งใคร หัวดื้อ และคงจะไม่ยอม 

          หลังจากที่เคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ น่าแปลก ถ้าหากผมคาดเดาสถานการณ์ละก็ คิดในแง่ดี ทั้งสองอาจจะยังไม่ตื่น แต่ถ้าคิดในแง่ลบละก็ ซึ่งผมไม่อยากคิดเท่าไหร่ ธิชาน่าจะถูกทำให้ลุกขึ้นมาเปิดประตูไม่ได้ และธัชก็คงไม่กล้าเปิดประตูให้ผม ผมช่างใจว่าจะพังเข้าไปดีไหม แต่ถ้าหากทำแบบนั้น ธัชอาจจะคลั่งยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้ มันเป็นวิธีที่ไม่ควรทำ ผมต้องหาทางอื่น เพื่อเข้าไปแบบปกติ แบบที่ธัชไม่ระวังตัว หรือตอนที่ธัชไม่อยู่ 

          ผมคิดมากไปหรือเปล่า ผมไม่สน ผมก็แค่คิดเผื่อไว้ทุกทางเท่าที่จะทำได้ ผมลงลิฟท์และติดต่อกับนิติบุคคลของคอนโดเพื่อขอให้จับตาดูห้องของฝาแฝดนี้ไว้ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นการละเมิด แต่สำหรับผม ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผมจ่ายอย่างงาม ให้กับคนที่ทำงานให้ผม 

          ช่วงบ่ายนั้นผมมีสอน ซึ่งแน่นอน เป็นวิชาที่สองแฝดนั้นต้องเข้าเรียน แต่ถ้าหากมาแค่คนเดียวละก็ บิงโก 

          " เซนเซย์ครับ พี่ธิชไม่ค่อยสบายฮะ ผมเลยมาคนเดียว " ผมสังเกตการพูด สีหน้า แววตา หืม มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สบายจริงๆ 20% ตอนพูดแววตาดูจะรื่นเริงเกินไป ถ้าพี่ชายป่วยจริงๆ ละก็ คนที่รักพี่สุดๆ แบบธัช จะไม่ร่าเริงเกินเหตุขนาดนี้ เพราะงั้นนี่น่ะ โกหก 80% 

          " เมื่อวานก็ยังดูร่าเริงอยู่เลยนะ แปลกจริงๆ " ผมลองพูดหยั่งเชิงดูปฏิกิริยาของธัชว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

          " นั่นสิครับ พี่น่ะ ชอบฝืนตัวเอง คงจะหลอกให้คิดว่าไม่เป็นไรอยู่นั่นแหละ เป็นแบบนี้เสมอเลยครับ " พริ้วไหวไหลลื่น ร้ายนักนะ 

          ผมมองสำรวจร่างกายของธัช วันนี้ใส่เสื้อแขนยาวข้างในทั้งๆ ที่อากาศร้อนมาก ใบหน้าดูขาวซีดกว่าปกติ ตาบวมเล็กน้อย หน้าผากเหมือนจะแดงๆ กว่าที่อื่น ทำร้ายตัวเองงั้นเหรอ ผมยื่นมือไปลูบหน้าผากธัชเบาๆ

          " เซนเซย์วันนี้ไปกินข้าวกับผมนะ พาผมนั่งรถเล่นหน่อย "  ผมเลิกคิ้วน้อยๆ มองธัชที่กำลังจับมือผมไว้และอ้อนผมแบบแปลกๆ

          " ได้สิ ไปไหนก็ได้ที่เธออยากไป " ผมขยี้หัวธัชพลางผลักเบาๆ ให้กลับไปทำงานที่โต๊ะตามเดิม

          ช่วงที่ผลัก ผมลูบเบาๆ และรวดเร็วผ่านเสื้อและกางเกงในส่วนที่น่าจะซ่อนอาวุธได้ และแน่นอน น่าจะเป็นมีดเล่มเล็กๆ ที่กางเกง แย่แฮะ ผมน่าจะต้องไป เดี๋ยวนี้

          " ทุกคนทำงานให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จ ห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด ถ้าใครไม่ฟังที่ฉันพูด ก็เตรียมใจไว้ได้เลย " 

          ผมมองธัชที่ยังคงทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจ ผมอาศัยช่วงที่นักศึกษาพูดคุยปรึกษากัน และเดินขวักไขว่ไปมาแต่ละโต๊ะ รีบเดินออกไปจากห้อง และวิ่งไปที่ลานหน้าอาคารที่ผมนั้นจอดดูคาติคันโปรดไว้ ผมไม่มีเวลามาก ไม่ได้สวมเสื้อและหมวกเหมือนทุกที คว้ารถได้ก็ขึ้นคร่อมและบิดอย่างเร็วออกจากลานจอด 

          แต่ผมที่คิดว่าตัวเองไวแล้วนั้น ก็ต้องพบว่ามีคนอีกคนที่วิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว ผมมองที่กระจกข้างและว่าพบธัชนั้นยืนอยู่ที่ลานจอดรถ คงตามหลังผมออกมาแทบจะทันที ธัชมองผมด้วยสีหน้าและแววตาที่พร้อมจะทำร้ายทุกคนที่ขวางทาง ถ้างั้นเรามาดูกันว่า ใครจะถึงตัวพี่ชายเธอก่อน


รอก่อนนะธิชา ฉันกำลังไปหาเธอแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-10-2017 15:20:33
ธัช  ตื่นตัวรวดเร็วมาก ตามมาทันทีเลย
ลุ้น ใครจะถึงตัวธิชก่อน
แต่เซนเซย์ไม่มีกุญแจห้องธิชนี่นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 19-10-2017 15:55:17
เซนเซย์ไปทันแน่ ธัชไปรถ 4 ล้อ คงไปถึงทีหลัง การจราจรกรุงเทพก็รู้ๆกันอยู่  :laugh:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 19-10-2017 16:10:19
โอ้ย ลุ้นมาก :katai4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-10-2017 17:26:21
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 19-10-2017 17:42:31
ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Map ที่ 19-10-2017 19:12:30
ใจจะวายยยย เซนเซย์ไปให้ถึงก่อนธัชน้าาาา ต้องช่วยทั้งสองคนไม่งั้นแย่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 19-10-2017 19:53:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 19-10-2017 22:09:40
ธัชน่ากลัวไปแล้วลูกกก
เซนเซย์สู้ๆ!!
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-10-2017 00:54:37
หลานธัช จะทำให้คนแก่หัวใจวายหรือไง ทำไมหนูโหดจังเลยลูก  :ling3:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-10-2017 02:31:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#32 ฝาแฝดและความช่วยเหลือที่กำลังมา](19/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 20-10-2017 12:32:15
          TWINS บทที่ 33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน


          ในความมืดหม่นของแสงภายในห้อง สายลมที่ปะทะผิวหน้าของผม ทำให้ผมยกมือขึ้นบังแรงลมออกจากสายตา พลางหรี่ตามองไปยังหน้าต่างบานใหญ่ที่กระจกแตกละเอียด จากดวงตาที่หรี่อยู่นั้น บัดนี้ได้เบิกกว้างด้วยความหวาดหวั่น

          " ธัช!!! " ผมวิ่งและเอื้อมมือไปหาบุคคลที่รักที่สุด ที่กำลังนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างนั่น แผ่นหลังที่ดูเศร้าสร้อยและปวดร้าว ธัชหันมามองผมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ และเลื่อนตัวลงจากขอบหน้าต่างช้าๆ

          ผมวิ่งอย่างสุดแรง ไขว่คว้าหาน้องที่กำลังร่วงหล่นออกจากขอบหน้าต่าง และเหมือนโชคยังคงเข้าข้างผม มือของพวกเรายังคงประสานกันไว้ได้ทันเวลา ผมเกาะผ้าม่านไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี พลางมองไปยังใบหน้าของคนที่เงยหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มแสนเศร้า

          " จับพี่ไว้ ห้ามปล่อยนะ!!! " ผมตะโกนสุดเสียง ด้วยน้ำตาที่ไหลพลั่งพลูออกมา แต่ดูเหมือนผมจะไม่สามารถรับน้ำหนักของธัชได้อีก มือของผมเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ผมส่ายหน้า กัดฟันแน่น ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้ว ผมก็จะตามลงไป ผมมองหน้าธัชที่ยังคงดูนิ่งเฉยและเศร้าสร้อย เหมือนกับเตรียมใจที่จะจากผมไปชั่วนิรันดร์

          " ธิชา " ผมมองมือของผมที่ถูกจับไว้ โดยบุคคลที่คอยช่วยเหลือพวกเรา ผมยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเซนเซย์ที่ตอนนี้ดึงผมด้วยแขนข้างหนึ่งด้วยแรงทั้งหมด  แต่สวรรค์ก็เหมือนกลับจะแกล้งกัน ผ้าม่านที่เซนเซย์ดึงเพื่อยึดจับพวกเรานั้น กำลังขาดออกทีละนิด ทีละนิด ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้ว ในไม่ช้า พวกเราทั้งสามคนจะตกลงไป สู่ความอ้างว้างข้างล่างนั่น 

          " พี่ครับ " ผมมองตามเสียงเรียกของน้องที่ส่งยิ้มให้ผม มันทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าธัชนั้นคิดอะไร

          " ไม่นะธัช ห้ามปล่อยมือนะ ฮึก พี่รักธัช ได้ยินพี่ไหม พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีธัช ฮือ ให้พี่ทำอะไรก็ได้ ขอร้องเถอะ อย่าาา " ผมขอร้องคนที่ผมรักที่สุดทั้งน้ำตา ส่ายหน้าไปมาอ้อนวอนด้วยความกลัว ผมจะไม่มีวันปล่อยมือธัช ต่อให้ผมจะต้องตาย ผมก็ไม่มีวัน

          " ผมรักพี่ครับ ผมขอโทษ " 

          ช่วงเวลาที่มือของเราผละออกจากกัน มันเหมือนกับความฝัน เหมือนกับเวลาเดินช้าลงจนหยุดไป ผมมองคนที่รักที่สุด ที่กำลังไกลห่างผมออกไปช้าๆ เสี้ยววินาทีกลับยาวนานราวชั่วนิรันดร์ ผมมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มอันแสนเศร้านั้น ค่อยๆหายไปจากสายตา สู่เบื้องล่างที่แสนมืดมิด

          " ม้ายยยยยยยยยย!!! " ผมกรีดร้องตะโกนสุดเสียง ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย


          ผมลืมตาตื่นขึ้นในห้องที่มีแสงสว่าง ผ้าม่านปลิวไสวตามแรงลมน้อยๆ มือของผมยังคงเอื้อมไปข้างหน้า เหมือนกับไขว่คว้าอะไรสักอย่าง ผมร้องไห้จนตัวสั่นด้วยความกลัว ทุกอย่างมันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน นี่เป็นสิ่งที่ผมกลัวที่สุดในชีวิต เป็นฝันร้ายที่ผมภาวนาให้วันเหล่านั้น ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง

          " ธิชา " ผมมองเซนเซย์ที่เปิดประตูเข้ามาด้วยความรีบร้อน และตรงดิ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว

          " เป็นอะไรหรือเปล่า " เซนเซย์จับผมพลิกไปมา 

          " ธัชละครับ ธัชล่ะ " ผมจับมือเซนเซย์ด้วยความร้อนลน ถ้าเซนเซย์อยู่นี่แล้วธัชล่ะ 

          " กำลังตามมา อีกไม่นานก็คงมาถึง " เซนเซย์ดึงลิ้นชักและควานหาสิ่งของ เป็นลวดเส้นเล็กๆ และไขกุญแจมือให้ผมออกอย่างง่ายดาย

          " ระวังตัวนะครับ ตอนนี้ธัชไม่เป็นตัวเองเลย " ผมจับมือเซยเซย์ไว้แน่น 

          " ธัชชาทำอะไรฉันไม่ได้หรอก อยู่ใกล้ๆ ฉันไว้ " 

          " อย่าทำอะไรธัชนะครับ " เซนเซย์มองผมพลางยิ้มน้อยๆ

          " เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ " 

          " แล้วผมก็ไม่ไปจากที่นี่นะครับ ผมจะอยู่กับธัช " เซนเซย์ลูบแก้มผมเบาๆ

          " ฉันไม่แยกเธอออกจากกันหรอก ธัชชาจำเป็นต้องมีเธอ แต่พวกเธอก็จำเป็นต้องมีฉัน " 

          ' ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง '

          เสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงและแลดูรีบร้อนดังเข้ามา ผมรู้ได้ในทันทีว่าเป็นใคร

          " อย่าพาพี่ธิชไปนะ!!! " ธัชพุ่งเข้ามาและยื่นมีดมาข้างหน้าด้วยความสั่นกลัว 

          " ธัช ใจเย็นๆ พี่ไม่ไปไหนหรอก " ผมรีบบอกน้อง แต่เซนเซย์ยกมือขึ้นเหมือนกับจะห้ามไม่ให้ผมพูดอะไร

          " อยากฆ่าฉันหรอธัชชา " เซนเซย์พูดพลางเดินช้าๆ

          " ม..ไม่ครับ " ธัชพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมา

          " แล้วเธอต้องการอะไร บอกฉันหน่อย " เซนเซย์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเป็นมิตร 

          " ผมอยากให้เซนเซย์อยู่กับพวกเรา " ธัชตอบแบบกล้าๆ กลัว สายตามองเซนเซย์ด้วยความหวาดระแวง

          " ถ้างั้นก็ง่าย ฉันจะอยู่นี่กับเธอ โอเคไหม " ธัชดูแววตาอ่อนลงแต่ยังคงถือมีดอยู่

          " พอผมเผลอก็จะหนีไปกันใช่ไหม ผมเห็นนะ คุยกันวางแผนอะไรกันอยู่ พาผมไปด้วยเถอะครับ ธัชเป็นเด็กดีนะ ธัชไม่เป็นภาระใครเลย " เซนเซย์ยังคงเดินไปช้าๆ เข้าไปหาธัช ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

          " ฉันพบเธอแล้ว ฉันไม่มีทางไปจากเธอหรอก ต่อให้เธอจะแทงฉันด้วยมีดเล่มนั้น "

          " โกหก!!! ขนาดพี่สัญญากับผม ยังทิ้งผมไปเลย ฮือ พี่ห้ามไม่ให้ธัชแตะต้องพี่ จริงๆ พี่ก็ไม่ได้อยากอยู่กับธัชเลย ต่อไปเซนเซย์ก็จะทำกับผมแบบนี้เหมือนกัน " 

          " มันไม่ใช่แบบนั้นนะธัช " ผมพูดขึ้นด้วยความเสียใจที่ทำให้ธัชคิดแบบนั้น

          " หุบปาก!!! ทุกคนก็เหมือนกันหมด หลอกลวงผม เซนเซย์เข้าใกล้ผมเพราะอะไร ทำไมผมจะไม่รู้ "

          " เธอคิดว่ารู้เหตุผลนั้นจริงๆ เหรอ " ผมมองเซนเซย์ที่เดินไปหาธัชช้าๆ และเอื้อมมืออกไปกำมีดนั้นไว้

          ผมปิดปากตัวเองแน่น ตัวสั่นด้วยความกลัว เลือดสีแดงค่อยๆ ไหลออกมาจากมือนั้น ธัชมองมือเซนเซย์ ตัวสั่นน้อยๆ แต่ก็ยังคงสีหน้าน่ากลัวแบบเดิม เซนเซย์ยังคงเดินเข้าไปช้าๆ ด้วยรอยยิ้ม

          " ถ้าคุณไม่หยุด ผมก็จะไม่หยุด " ธัชพูดพลางกัดฟันแน่น ยังคงตาขวางมองเซนเซย์ แต่สักพักธัชก็ต้องถอยหลังช้าๆ เพราะเซนเซย์ยังคงเดินเข้ามาและจรดปลายมีดเข้ากับอกของตัวเอง และยังคงเดินเข้าไปอีก 

          " อย่านะ อย่าทำแบบนั้นเลย!!! " ผมร้องลั่นพยายามห้ามเซนเซย์แต่ก็ไม่เป็นผล

          " ธัช หยุดนะ!!! " ผมปิดปากตัวเองแน่น ด้วยความสั่นกลัว ธัชยังคงสีหน้าน่ากลัว และค่อยๆ แทงมีดสวนเข้าไปช้าๆ ที่อกของเซนเซย์ ผมมองดูทั้งสองคนที่ผมแคร์กำลังเหมือนจะวัดใจกันแบบน่าอกสั่นขวัญหายที่สุด 

          " ธัช ธัชกำลังจะฆ่าเซนเซย์นะ พี่บอกให้หยุด!!! " ผมทำท่าจะเดินออกไป แต่เซนเซย์ก็ยื่นมือห้ามไว้ ผมร้องไห้มองเลือดที่กำลังไหลออกจากปากเซนเซย์ช้าๆ แต่เซนเซย์ก็ยังคงยิ้มอยู่

          " เคยบอกไว้แล้วไง ว่าฉันจะอยู่ข้างๆ เธอเสมอ " (**เซนเซย์พูดด้วยภาษาญี่ปุ่น**)

          ธัชหยุดกดมีดลงไปและชะงักมองเซนเซย์ด้วยใบหน้าตื่นตกใจ มือสั่นและน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา 

          " เคย์ซัง งั้นเหรอ " ผมมองธัชอย่างไม่เข้าใจ ธัชปล่อยมีดร่วงลงกับพื้นและเดินเข้าไปมองหน้าเซนเซย์ใกล้ๆ กำเสื้อนั้นเอาไว้แน่นและร้องไห้ออกมา

          เซนเซย์อ้าแขนทั้งสองข้างและกอดธัชไว้แน่นด้วยรอยยิ้ม ผมไม่เข้าใจอะไรมากนัก ผมเห็นธัชทำหน้าดีใจและกอดเซนเซย์ไว้แน่นเหมือนลูกหมาเจอเจ้าของ

          แต่แล้วธัชก็ทรุดลงไป เข่าทั้งสองข้างแตะพื้น เพราะว่าเซนเซย์ที่ตัวใหญ่กว่านั้นหลับตาลง เลือดไหลออกจากปากและหน้าอกช้าๆ จนพื้นตรงนั้นนองไปด้วยสีแดง


มือที่ตกอ่อนแรงลงทำให้รู้ว่าเซนเซย์นั้นหมดสติไปแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-10-2017 14:01:56
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Chatcha ที่ 20-10-2017 15:38:40
เพิ่งรู้ว่าเอามาลงในเล้าเป็ดด้วย  พี่มาจากเด็กดีนะคะ เพิ่งกลับมาสิงเล้าเมื่อเร็วๆๆนี้เอง
ปล. จำพาสไม่ได้เลยอยู่แต่กะเด็กดี
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-10-2017 15:54:31
กรี๊ดเซนเซย์ย์ย์
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 20-10-2017 16:19:54
เซนเซย์!!! ; [ ] ; !!!!
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-10-2017 17:53:22
กดดันเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 20-10-2017 23:15:33
โอเค ธิชรอด แต่เซนเซย์ตายแทน  o18
ตอนเซนเซย์ลูบแก้ม ธิชเขินมาก ทำไมต้องอ่อนโยน  :o8:
ธัชจำเคย์ซังได้แล้วนะ คงเชื่อใจกันมากขึ้น อาการน่าจะดีขึ้น
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-10-2017 23:37:35
สรุปบาดเจ็บกันหมดทั้ง 3 คน เอ้า  หมอเชนอยู่ไหน มาช่วยด่วนจ้าาาาา  :m8:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 21-10-2017 06:10:05
 :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #33 ฝาแฝดและเลือดที่หลั่งริน ](20/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-10-2017 10:56:40
          TWINS บทที่ 34 ฝาแฝดและความลับของเซนเซย์


          " พี่ครับทำยังไงดี " ผมมองธัชที่ลนลานร้องไห้กอดเซนเซย์ไว้แน่น ผมตั้งสติรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที และเข้าไปกอดน้องเอาไว้ ธัชดูเหมือนจะมีสติกลับมามากขึ้น และพยายามจะปลุกเซนเซย์ตลอดเวลา

          ไม่นานหลังจากที่ผมโทร รถพยาบาลและความช่วยเหลือก็มา ที่น่าแปลกใจก็คือพี่เชนกับพี่โชนนั้นมาถึงก่อน และพี่โชนที่เป็นนักศึกษาแพทย์ก็ปฐมพยาบาลให้เซนเซย์ พี่โชนมองสภาพผมด้วยสีหน้าตกใจ แต่ก็ต้องห่วงคนเจ็บตรงหน้าก่อน

          ธัชยังคงเกาะแขนเซนเซย์และร้องไห้อย่างน่าสงสาร ผมไม่ค่อยรู้เรื่องราวของคุณหมอเคย์ของธัชมากนัก ผมไม่กล้าที่จะถาม เพราะผมกลัวว่าจะทำให้ธัชนั้นนึกย้อนกลับไปถึงคืนวันอันเลวร้ายอีก ผมรู้แต่เพียงว่า เขาเป็นผู้มีพระคุณที่พวกเรานั้นตอบแทนยังไงก็ไม่มีวันหมด และคงเป็นคนที่ธัช เชื่อและวางใจที่สุด อาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำ

          ในโรงพยาบาลผมกับน้องนั่งพิงกันอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียง มองดูเซนเซย์ที่มีสายรอบเตียงระโยงระยางเต็มไปหมด ความลึกของมีดนั้น แทงทะลุปอดข้างหนึ่งและกี่ไม่กี่เซน ก็จะตัดขั้วหัวใจ 

          ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคนคนนี้ถึงทำเพื่อธัชขนาดนี้ เพราะอะไรคนคนนึงถึงยอมเสียสละตัวเองได้ เพื่อคนที่เพิ่งรู้จัก หรืออาจรู้จัก แต่ก็ไม่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันนานขนาดนั้น ผมแทบไม่รู้เรื่องส่วนตัวของเซนเซย์เลย ทำไมกันนะ

          " ไม่ต้องห่วงนะ เคียวน่ะ อึดอย่างกับอะไร " ผมมองมือของพี่เชนที่วางบนบ่าของผม

          " ส่วนเรื่องธัช ไม่ต้องกลัว ถึงพี่จะไม่เก่งเท่าเคียวแต่พี่ก็เป็นหมอเหมือนกัน " ผมมองธัชที่แววตาเลื่อนลอยจ้องมองไปยังเซนเซย์ด้วยความหมองเศร้า

          " พี่เชน เป็นเพื่อนกับเซนเซย์ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ " ผมถามพี่เชนที่ยืนมองเซนเซย์ด้วยสีหน้าเป็นห่วง

          " ก็ตั้งแต่เด็กนั่นแหละ พี่เป็นคนไทยนะ แต่ครอบครัวทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น เลยได้เจอกับเคียวและคานะ น้องสาวของเคียว " ผมมองพี่เชนที่มีรอยยิ้มเศร้าๆ อยู่บนใบหน้า

          " น้องสาวเหรอครับ " ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

          " ธิชเคยเข้าไปในห้องทำงานของเคียวใช่ไหมล่ะ รูปที่อยู่บนชั้นวางนั่นน่ะ ถ้าไล่ดูดีๆ ก็จะเห็นนะ " อยู่ดีๆ พี่เชนก็หยุดเล่า ถอดแว่นออกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " พี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเคียวถึงพยายามช่วยธัช เคสของธัชนั้นช่างคล้ายกับคานะ น้องสาวที่เคียว ช่วยเอาไว้ไม่ได้ "

          จากนั้นพี่เชนก็เล่าเรื่องของเซนเซย์ให้พวกเราฟัง คานะ น้องสาวแท้ๆ ของเซนเซย์ ซึ่งถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็คงอายุมากกว่าพวกเราไม่กี่ปี คานะนั้นสดใสร่าเริงและอ่อนโยนคล้ายกับธัช เป็นน้องสาวที่เซนเซย์นั้นรักและเอ็นดูอย่างที่สุด

          แต่แล้วก็เกิดเรื่องน่าเศร้า ในวันหนึ่งหลังจากกลับจากโรงเรียน คานะนั้นก็ได้หายตัวไป เซนเซย์ที่ออกตามหาน้องสาว ร่วมกันกับตระกูลอยู่หลายวัน ก็ได้พบกับคานะ ในสภาพที่ยับเยิน ซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าเธอต้องเผชิญกับสิ่งโหดร้ายแค่ไหน และผมรู้ได้ในทันทีว่าเซนเซย์นั้นรู้สึกอย่างไร

          คานะยังไม่ตาย แต่ก็มีสภาพที่เหมือนตาย ความโหดร้ายทำให้คานะสูญเสียจิตใจไป หวาดกลัวผู้คน กลัวแม้กระทั่งครอบครัว และพี่ชายตนรักที่สุด ความเจ็บปวดของคานะได้จบลง เมื่อเธอตัดสินใจผูกคอตายในห้องของเธอเอง โดยที่เซนเซย์ไม่อาจช่วยอะไรเธอได้เลย แม้สักนิดเดียว

          ผมที่ได้ฟังเรื่องราวนั้นก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความสงสาร คนคนนี้ต้องอยู่กับอดีตที่เลวร้ายเหมือนกันสินะ แต่ต่างกันตรงที่ผมและน้องนั้นโชคดีกว่า เพราะว่าธัชนั้นยังคงมีชีวิตและอยู่กับผม ถึงแม้ว่าสภาพจิตใจจะยังไม่ปกติดีก็เถอะ และเพราะแบบนี้เซนเซย์ที่มักจะดูเย็นชาอยู่เสมอ แต่พอได้อยู่ใกล้ธัช เซนเซย์ก็จะอ่อนโยนและใจดี นั่นก็เพราะว่าเซนเซย์ได้ช่วยธัชไว้สำเร็จ ได้ทำสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถทำได้ในช่วงเวลาแสนเศร้าที่ผ่านมา

          "  ทั้งสองคนไปพักเถอะ นั่งอยู่แบบนั้นไม่ได้ช่วยอะไรหรอก " ผมหลบตาพี่โชนที่เดินเข้ามาพร้อมยื่นนมกล่องมาให้ แต่ผมไม่รับ ผมยังคงโกรธเคืองพี่โชนอยู่

          พี่โชนยิ้มเศร้าๆ และทำท่าจะเดินหนีไป แต่ผมก็เปลี่ยนใจดึงเสื้อพี่โชนไว้

          " ขอบคุณครับ " ผมหยิบนมในมือพี่โชนทั้งสองกล่องและส่งให้ธัช แต่ธัชยังคงเลื่อนลอยและไม่ได้มองที่ผมยื่นนมให้เลย

          " ผมยังไม่หายโกรธหรอกนะครับ แต่ผมยกโทษให้ หายกัน กับที่พี่เคยช่วยพวกเราไว้ " ผมนึกถึงวันนั้น วันที่เสาตกแต่งขนาดใหญ่ล้มลงมาใส่ผมและน้องแต่พี่โชนนั้น คงด้วยสัญชาตญาณ ก็วิ่งเข้ามาผลักผมและน้องออกไป จนตัวเองบาดเจ็บ 

          " พี่จะไม่ขอโทษซ้ำหรอก พี่มันเลวจริงๆ นั่นแหละ แต่ว่าคงเพราะพี่รู้สึกสิ้นหวังละมั้ง ถึงทำให้พี่คิดสั้นแบบนั้น พี่รู้อยู่แล้วว่าทั้งสองคนไม่ได้ชอบพี่เลยสักนิด พี่ไม่เคยสู้เซนเซย์ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ " ผมมองพี่โชน จะว่าใช่ก็ใช่ แต่ก็ไม่ทั้งหมด 

          ผมเจาะกล่องนมและยื่นให้น้องอีกครั้ง 

          " ธัช มองพี่หน่อยนะ " ผมดึงหน้าน้องให้มองผม พลางชูนมไปมา

          " ดื่มหน่อยนะ วันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย " ธัชยื่นหน้ามาช้าๆ ก้มลงดูดนมในกล่อง แต่ไม่ยอมถือด้วยตัวเอง ผมยิ้มน้อยๆ ถือว่าเป็นสัญญาณดีนะ ธัชดูเหมือนจะฟังและสงบมากขึ้น

          " พี่ขอทำแผลให้นะ เราน่ะช้ำไปทั้งตัว " พี่โชนเดินมาพร้อมกล่องพยาบาล

          ผมยื่นแขนที่ม่วงช้ำ และเปิดรอยกัดที่เป็นแผลหนักๆ ให้ดู พี่โชนจ้องมองมันและขมวดคิ้วมุ่น 

          " เอ่อ ธัชทำเหรอ " ผมมองหน้าพี่โชนที่ดูลำบากใจที่จะถาม

          " ครับ " ผมตอบและยิ้มน้อยๆ

          " พี่อยากจะ.. "

          " เซนเซย์จะดูแลพวกเราครับ " ผมพูดก่อนที่พี่โชนจะพูดจบ

          " อิจฉาหมอนั่นจังเลยนะ " พี่โชนเหลือบมองเซนเซย์ และหันมายิ้มให้ผมแบบใจดี

          " อาจจะปวดหัวมากกว่าก็ได้ครับ และขอบอกไว้อีกอย่างนะ มันไม่ใช่แบบที่พี่คิด "  แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่หลังจากเกิดอะไรขึ้นหลายๆ อย่าง ผมก็คิดว่าพวกเราสามคนมีความเกี่ยวโยงกันเรื่องหัวใจ ซึ่งผมก็ยังคงคิดไม่ตกกับเรื่องนี้

          " 3P งั้นหรอ 4P ไม่ได้หรอไง " พี่โชนพูดพลางยิ้มกวน

          " ถ้าพูดอีกทีผมต่อยจริงๆ นะเอ้า " ผมว่าอีพี่ผีทะเลนี่เริ่มกวนผมอีกแล้ว มันจะไม่ใช่ 4P แบบ 2-2 น่ะสิ มันจะเป็น 3-1 ซึ่งใครรับก็ตายสิฟะ ซึ่งผมคิดในใจว่าไม่พ้นผมแน่นอน

          " ขอบคุณนะที่ยกโทษให้พี่ แค่นี้ก็มีความหมายสำหรับพี่แล้ว " พี่โชนยิ้มให้ผมแบบทุกที แต่ผมว่ามันดูจริงใจที่สุด

          " ผมบอกตรงๆ นะ พี่หล่อจะตาย เดี๋ยวพี่ก็ต้องเจอคนที่ศีลเสมอพี่แน่ " 
         
          " เอ่อ นี่ชมหรือแช่งเนี่ย ฮ่าๆ แต่ก็ขอบใจมาก " ผมมองพี่โชนพลางยิ้มน้อยๆ การโกรธใครน่ะง่าย แต่การยกโทษให้น่ะสบายใจกว่า ผมไม่อยากสร้างศัตรู แบบนี้แหละดีแล้ว 

          ผมมองธัชที่ยังคงเหม่อลอยมองเซนเซย์ ผมขยับตัวไปนั่งข้างๆ ธัชและดันหัวน้องเบาๆ ให้ซบลงที่ไหล่ของผม 

          " ผมเกือบจะฆ่าเคย์ซัง " ผมลูบผมน้องเบาๆ อย่างปลอบโยน

          " คุณหมอคนเก่งของธัชต้องฟื้นแน่นอน แล้วก็นะ หลังจากนี้เตรียมใจไว้เลย พี่จะตัวติดธัชแบบเป็นเงาตามตัวเลยเชียว " ผมดึงแก้มทั้งสองข้างของธัชอย่างหมั่นเขี้ยว

          " ธัชเชื่อพี่นะ " ผมเอาหน้าผากชนกับหน้าผากธัชไว้

          " ครับ ผมกินยาแล้วด้วยนะ " ธัชแลบลิ้นให้ผมดูยาที่อยู่บนลิ้น ผมมองไปรอบๆ ห้อง ตอนนี้พี่เชนไม่อยู่แล้ว และพี่โชนก็เพิ่งเดินออกไป

          " ไหนแลบลิ้นให้ดูอีกทีซิ " ธัชมองหน้าผมแบบมึนๆ และแลบลิ้นออกมาอีกรอบ

          ผมใช้จังหวะนั้นประกบริมฝีปากของผมเข้ากับของธัช ธัชดูตกใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบรับแต่โดยดี 

          " ขอน้ำหน่อยสิ " ผมผละออกจากน้อง สะดุ้งตาโตจ้องมองเซนเซย์ที่ลืมตามองผมกับน้องอยู่ 

          " คือเอ่อ.. " ผมอึกอัก ไม่กล้าสบตาเซนเซย์

          " เคย์ซัง " ธัชรีบผละออกจากผมไปเกาะเตียงเซนเซย์

          " เป็นยังไงบ้างธัช " เซนเซย์จับแก้มธัชและถามอย่างอ่อนโยน

          " ผมต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น " ผมมองธัชด้วยความโล่งใจ ธัชดูปกติขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เซนเซย์ แต่ก็ยังดูซึมๆและการตอบสนองช้าลงนิดหน่อย

          " ผมกินยาแล้วนะ ผมขอโทษครับ ผมมึนไปหมด เหมือนกับกำลังฝันร้าย " ธัชพูดบอกเซนเซย์ด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

          " เธอจะดีขึ้น ฉันจะดูแลเธอเหมือนเดิม " เซนเซย์ลูบผมธัชและจ้องมองผม ที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว 

          " สิ่งที่เธอกังวลน่ะเลิกคิดซะ ฉันรู้นานแล้ว " เซนเซย์พูดพลางมองผม รู้งั้นเหรอ ทำไมกัน ผมไม่เข้าใจเลย


แล้วผมควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีนะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #34 ฝาแฝดและความลับของเซนเซย์ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 21-10-2017 14:07:15
3P ใกล้เข้ามาแล้วสินะ อิอิ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #34 ฝาแฝดและความลับของเซนเซย์ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-10-2017 14:08:12
เคียวรู้อะไร

เรื่อง 4P น่ะเหรอ ตึ่งโป๊ะ!
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #34 ฝาแฝดและความลับของเซนเซย์ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 21-10-2017 16:44:28
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #34 ฝาแฝดและความลับของเซนเซย์ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-10-2017 18:00:31
          TWINS บทที่ 35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่


          หลายวันผ่านมา เซนเซย์ก็ยังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งผมและน้องก็นอนเฝ้าอยู่ที่นี่ทุกคืน เพราะธัชนั้นไม่ยอมออกห่างจากเซนเซย์เลย แต่ผมก็ดีใจ เพราะตั้งแต่วันนั้น ธัชก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ดูเหมือนจะเกือบปกติแล้ว ถ้าไม่ไปทำให้ระเบิดอีกก็นะ 

          ผมยังคงคิดถึงคืนนั้น ที่ผมกับธัชเอ่อ เหมือนจะมีอะไรกัน ธัชไม่เคยพูดถึงมันเลย และผมก็ไม่กล้าพูดออกไปเช่นกัน ความทรงจำตอนนั้นสำหรับธัช คงอาจจะเหมือนแค่ฝันไปเท่านั้น แต่จริงๆ ผมก็อยากรู้นะ ว่าธัชคิดยังไง พวกเราในตอนนี้นั้นยังคงสถานะเดิมใช่หรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ

          " ทำไมถึงโกหกเรื่องชื่อละครับ เคย์นี่เอามาจากเคียวใช่หรือเปล่าน้า " ธัชยังคงพูดไม่หยุดมาสองสามวันแล้ว ดูท่าจะคิดถึงคนคนนี้จริงๆ แฮะ แต่ก็นะ วันที่ผมพาธัชหนีมา ก็คงไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้ล่ำลากันเลย

          " ใช่ มาจากเคียวนั่นแหละ บอกชื่อจริงไม่ได้ เพราะแอบเข้าไปหาแบบลับๆ " 

          " งั้นผมขอเรียกว่าเคียวซังนะครับ " ธัชกระดุ๊กกระดิ๊กเหมือนลูกหมาอยู่ข้างเตียงเซนเซย์ตลอดเวลาจนผมชักหมั่นไส้

          " ได้สิ อยากเรียกอะไรก็ได้ " เซนเซย์ส่งยิ้มอย่างใจดีให้ธัช ผมเบะปากและทำปากขมุบขมิบเงียบๆ

          " เหมือนจะมีคนอิจฉา ให้เรียกเคียวเหมือนกันก็ได้นะ " ธัชกับเซนเซย์มองผมพร้อมกัน

          " ไม่สนหรอก " ผมนั่งลงพลางดูดน้ำหวานในมือแบบไม่สนใจ

          " พี่ธิชเป็นพวกปากแข็งฮะ " ผมได้ยินธัชแกล้งซุบซิบกับเซนเซย์เสียงดัง

          " เคียวซังเปลี่ยนไปมากเลยนะครับ เมื่อก่อนผมสั้นแถมใส่แว่นอย่างกับเด็กเรียนแน่ะ ใครจะไปจำได้ " 

          " แล้วหล่อหรือเปล่า " เซนเซย์เลิกคิ้วถามธัช

          " โครตหล่อเลยครับ บอกเคร็ดลับบ้างสิ ผมอยากเท่ห์บ้าง " ธัชเขย่าเซนเซย์อย่างตื่นเต้น ส่วนผมรู้สึกคันคออยากสำรอกชอบกล

          " ก็แค่...ไม่ต้องทำอะไรหรอก คนจะหล่อมันก็หล่อ " เหอะๆ เป็นคำแนะนำที่โครตกาก แต่ธัชกลับทำท่าจดใส่สมุดอย่างไวด้วยตาเป็นประกาย ไอ้ตัวแสบนี่เดี๋ยวเถอะ


          ในตอนเช้าของวันถัดมา เซนเซย์ก็ออกจากโรงพยาบาลโดยมีพี่เชนมารับ ผมเก็บของของผมและน้อง เพื่อเตรียมกลับไปที่คอนโดของเรา

          " งั้นผมกับน้องขอตัวนะครับ " ผมบอกลาเซนเซย์เพื่อจะกลับไปที่คอนโด

          " จะไปไหนล่ะ ขึ้นรถสิ " 

          " เอ่อ จะไปส่งเหรอครับ " ผมทำหน้างง แต่ก็ยอมขึ้นรถตามที่เซนเซย์บอก แต่ว่าเส้นทางที่รถวิ่งไปนั้นกลับไม่ใช่ทางไปคอนโดของผม

          " เอ่อคือ คอนโดผมไปทางนั้นนะ " ผมชี้บอกพี่เชนซึ่งเป็นคนขับด้วยใบหน้างงงวย

          " เคียว ยังไม่บอกเด็กๆ อีกเหรอ " ผมมองเซนเซย์พลางขมวดคิ้วมุ่น

          " ต่อไปนี้พวกเธอสองคนต้องอยู่กับฉัน " ห๊ะ ผมตาโตมองเซนเซย์ด้วยความไม่เข้าใจ

          " ทำไมละครับ ได้ยังไงกัน คือคอนโดนั้นคุณพ่อคุณแม่ของผมท่านเช่าให้พวกเราอยู่นะ "

          " ต่อไปนี้ผู้ปกครองของทั้งสองคนคือเคียวนะ เคียวคุยกับทางทนายและคุณพ่อคุณแม่ธิชกับธัชเรียบร้อยแล้ว " 

          " แต่ว่า ทำแบบนั้นได้ยังไงกันละครับ พวกท่านก็ส่งเสียพวกผมนะ ผมยังไม่ได้บอกอะไรกับท่านเลยด้วย " ผมรู้สึกว่านี่มันมากเกินไป คนคนนี้คิดจะทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ ผมเริ่มโมโหแล้วนะ

          " สองคนนั่นเคยดูแลพวกเธอจริงหรือเปล่า หรือว่าการดูแลพวกเธอคือการให้เงินใช้ ฉันจ่ายทดแทนทุกอย่างให้แล้ว การเป็นผู้ปกครองที่ไม่ใส่ใจลูกๆ ของตัวเองนั่นไม่ถือว่าเป็นผู้ปกครองที่ดีในสายตาฉัน " ผมจะเถียงก็เถียงไม่ออก เพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่นั้น ผมเคยเจอหน้าแค่ครั้งเดียวตอนรับเลี้ยงเท่านั้น เหมือนกับว่าพวกท่านแค่มีผมกับน้องไว้ประดับบารมี ซึ่งมันก็อาจจะจริงอย่างที่เซนเซย์พูด

          ผมมองหน้าน้องที่นั่งเงียบ ผมนึกว่าธัชจะดีใจกับเรื่องนี้ซะอีก แต่อยู่ดีๆ ธัชก็น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ

          " ธัช เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม " ผมรีบจับแก้มน้องพลางเช็ดน้ำตาให้

          " พวกเราสามคน " ธัชพูดกับผมและส่งยิ้มให้ ผมดึงน้องมากอดไว้แน่น ธัชนั้นกำลังดีใจต่างหาก คงเป็นสิ่งที่ทำให้ธัชดีใจที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ 

          เซนเซย์เอี้ยวตัวมามองพวกเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน 

          " ห้ามดื้อ ห้ามซน ห้าม... เดี๋ยวค่อยคิด " เซนเซย์พูดและก็หันกลับไปนั่งตามเดิม ทำเอาธัชหัวเราะชอบใจใหญ่

          " งั้นๆๆ รถสุดเท่ห์คันนั้น " ธัชรีบโผล่ยื่นหน้าเข้าไปตรงกลางระหว่างเบาะอย่างตื่นเต้น

          " อยากขับคันไหนก็เอาเลย ถ้าไม่ชอบเดี๋ยวซื้อคันใหม่ " 

          " เย้ๆๆๆ " ผมถอนหายใจกับเด็กน้อยตรงหน้า และผู้ใหญ่นิสัยเด็กน้อยนั่นอีกคน

          " น้อยๆ หน่อยธัช พี่ไม่ให้ขับนะถ้าไม่มีพี่ไปด้วย ถ้าขับเร็วแล้วเกิดอุบัติเหตุจะทำยังไง " 

          " ขอโทษครับ " ธัชทำหน้าหงอย แย่ละ ผมติดนิสัยเดิมๆ ผมไม่ควรพูดแบบนั้นเลย อาจจะทำให้ธัชคิดมาก

          " ธัช เดี๋ยวคืนนี้พาซิ่ง อย่าไปฟังพี่เขามากเลย มากับฉัน รับรองปลอดภัย " หนอย อยากจะชกสักหมัด แต่ก็ขอบคุณนะ แบบนี้ก็หายห่วง ผมยิ้มให้น้องที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่ข้างๆ ธัชมีความสุขผมก็มีความสุขจริงๆ

          ไม่นานพวกเราก็มาถึงคอนโดสุดหรูของเซนเซย์ ซึ่งผมเคยมาที่นี่แล้ว และกลับไปด้วยความทรงจำติดลบ ธัชดูตื่นเต้น วิ่งไปมาเข้าออกทุกห้อง วิ่งขึ้นไปยังชั้นลอยข้างบนอีกด้วย คนหรือลิงละเนี่ย

          " เคียว เดี๋ยวต้องกลับก่อนนะ พอดีนัดคนไข้ไว้ " พี่เชนที่มาส่งพวกเราและช่วยขนของ กำลังคุยกับเซนเซย์เพื่อขอตัวกลับ
         
          " อะไร นึกว่าจะอยู่ฉลองด้วย " เซนเซย์ทำหน้าบูดใส่เพื่อน

          " วันหลังๆ แล้วก็ไม่อยากเป็นก้าง " พี่เชนเดินเข้าไปหาเซนเซย์พลางตบไหล่เบาๆ แบบรู้กัน ผมหลบตาสองคนนั้นที่จ้องมองมาที่ผมแบบมีเลศนัย

          " ธิช แล้วพี่จะมาหาใหม่นะ อยู่กับเคียวก็ระวัง เคียวน่ะ...เซ็กส์จัด " ไอ้ประโยคที่บอกว่าเซ็กส์จัด พี่เชนกระซิบที่หูผมครับ เล่นเอาหน้าผมแดงเถือกขึ้นมาทีเดียว แล้วมาบอกผมทำม๊าย เอาจริงๆ ไม่ต้องบอก จากประสบการณ์ที่เจอมาก็พอรู้ได้

          " ธัช พี่ไปแล้วน้า แล้วเจอกัน!! " พี่เชนตะโกนขึ้นไปยังชั้นสองที่ธัชโดดเล่นบนโซฟาอยู่

          " คร๊าบ พี่หมอสุดหล่อ " ธัชตะโกนพลางโบกมือไปมา

          หลังจากพี่เชนกลับไป ผมที่เดินดูรอบๆ ก็พบว่าข้าวของของพวกเราถูกนำมาไว้ที่นี่หมดแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะทุกอย่าง ผมเดินไปที่ระเบียงที่กว้างขวางและวิวสวยมาก และพบว่ากระถางต้นไม้แสนรักของผมก็ถูกนำมาจัดวางไว้อย่างสวยงามด้วย ผมตาโตยิ้มอย่างดีใจพลางหยิบบัวรดน้ำมารดด้วยความเคยชิน

          แต่ผมก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะว่าเซนเซย์เดินมาอยู่ข้างหลังผม ผมเกร็งตัวหลับตาแน่น

          " คิดอะไรลามกอยู่ละสิ " แต่เซนเซย์แค่พิงขอบประตูและยืนมองเท่านั้น 

          " ไม่ได้คิดสักหน่อย " แต่ผมที่พูดแบบนั้น ก็หันกลับไปเห็นสีหน้าของเซนเซนย์ ที่ไม่ได้ร่าเริงเหมือนคำพูดเลยสักนิด สีหน้าของเซนเซย์นั้น เป็นสีหน้าของคนที่มีความเศร้า เป็นรอยยิ้มที่เศร้าสร้อยยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ผมก้มหน้าหลบสายตาเซนเซย์ ผมรู้สึกแย่แบบนี้อีกแล้ว ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าเซนเซย์คิดยังไงกับผม

          " เป็นแบบนี้ ดีแล้วจริงๆ เหรอครับ " ผมถามและมองเซนเซย์ด้วยใบหน้าหมองเศร้าเช่นกัน

          " เพื่อธัช " เซนเซย์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  ผมก้มหน้าลง ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผมคิดและพูดบ่อยๆ ไม่ว่าสิ่งไหน ไม่ว่าอะไร ผมก็ทำเพื่อธัช เพื่อให้ธัชมีความสุข คนคนนี้เองก็เช่นกันสินะ ต้องเสียสละบางสิ่ง เพื่อคนอีกคน บางทีการที่พวกเราสามคนอยู่ด้วยกัน มันอาจเป็นการทำร้ายคนบางคนก็ได้


ตอนนี้ผมก็ได้รู้ซึ้งถึงมันแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 21-10-2017 19:48:50
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 21-10-2017 20:10:51
กรี๊ด เขาอยู่ด้วยกันไวเกินไปแล้ว คืนนี้ใครจะกล่อมนอนน้า
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 21-10-2017 20:25:23
อยู่กินกันแล้ว-- อ้าว ก็ใช่นะ 55555
โอ๋ๆนะ สู้ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น! //ตบบ่าธิช
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 21-10-2017 22:16:07
ยังไงนะ คือเคียวกับธิชแสดงออกกันไม่ได้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-10-2017 22:46:16
อยู่กัน 3 คน แล้วหลานธิชจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาหัวเน่าปะ ถ้าเห็นหลานธัชสิงติดกับเซนเซย์อย่างนั้น  :undecided:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 22-10-2017 04:02:15
โอววววเป็นแนวทวินเซสที่ไม่ค่อยได้มีให้อ่านเลยนะแนวประมาณนี้ น่าติดตามจริงๆ ตอนนี้ก็ต้องมาอยู่ด้วยกันแล้วมันจะดีจริงๆใช่ไหม ลงท้ายไว้ชวนเศร้ามากอย่าให้มีการสูญเสียอะไรเลยนะ
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #35 ฝาแฝดและผู้ปกครองคนใหม่ ](21/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 22-10-2017 14:13:41
          TWINS บทที่ 36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ


          ผมละจากระเบียงเดินเข้ามาในห้องนอนที่ถูกจัดตกแต่งไว้ เป็นห้องที่สวยจริงๆ แต่ผนังรอบด้านกลับเป็นกระจกสีครึ้ม ซึ่งคนด้านนอกสามารถมองเห็นข้างในได้ เตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ผ้าปู ผ้าห่ม หมอน ดูนุ่มนิ่มน่านอนสุดๆ โคมไฟระย้าที่เป็นรูปดวงดาวน่ารักๆ ห้อยลงมาจากเพดานหลายจุด มันส่องสว่างสีนวลๆ ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ผมยิ้มออกมา เพราะดูก็รู้ว่าเจ้าของที่นี่นั้นใส่ใจมากแค่ไหน มันดูอบอุ่น จนความเหน็บหนาวในหัวใจของผมเหมือนจะละลายหายไป 

          " ชอบไหม " ผมมองบุคคลที่ยืนพิงกรอบประตูมองดูผมอีกครั้ง

          " ก็ดีนี่ ใช้ได้ " ผมพูดบ้าอะไรเนี่ย ต้องบอกว่าชอบสุดๆ ต่างหาก 

          " โอ้โห เหมือนฝันเลยฮะ ผมชอบที่สุด " ธัชโผล่หน้ามาใต้แขนเซนเซย์พลางตาโตอย่างตื่นตะลึง

          " ดีใจที่พวกเธอสองคนชอบนะ " ผมมองเซนเซย์ที่ยิ้มอย่างใจดีพลางขยี้หัวธัช แต่ว่า สองคนงั้นเหรอ 

          " พี่ธิชมานี่สิ เตียงนุ่มมากเลย " อยู่ดีๆ ธัชก็ดึงผมเข้าไปกอดและทิ้งตัวลงกับที่นอน ซึ่งทำให้ผมล้มลงไปด้วย ผมทำท่าอึกอักเพราะเซนเซย์มองพวกเราอยู่ ผมไม่อยากเห็นคนคนนั้นเสียใจ

          " ธัช ไม่เอาน่า " ผมทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่ธัชก็ยังคงกอดผมไว้แน่นและฟุบหน้าลงกับตัวผม 

          ผมมองเซนเซย์ที่สีหน้าเหมือนกำลังเป็นกังวล เพราะธัชดูแปลกๆ อีกแล้ว นี่ผมกำลังทำผิดอีกใช่ไหม

          " ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมครับ และพี่กับเคียวซังต้องสัญญาว่าจะพูดความจริง " ธัชเงยหน้าออกจากตัวผม และมองพวกเราด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ผมใจหาย ธัชนั้นเป็นอะไรอีกแล้ว ผมไม่อยากให้น้องเป็นแบบนี้เลย

          " ผมรักพี่ครับ คงไม่ต้องบอกว่ารักแบบไหนใช่ไหม " ผมก้มหน้างุด ถึงจะรู้ว่าเซนเซย์นั้นรู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่กล้าสบตาอยู่ดี

          " ผมรักพี่ และก็รักเคียวซัง ทั้งสองคนเป็นคนสำคัญของผม ผมไม่อยากเห็นทั้งสองคนเป็นแบบนี้เลย ถ้าผมรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่อยากให้เราสามคนอยู่ด้วยกัน " ผมสะเทือนใจมากเพราะธัชนั้นเหมือนทำเป็นไม่รู้แต่จริงๆ ก็รู้ทุกอย่าง แต่ผมทำไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง มันเป็นไปไม่ได้

          " พี่รักผมหรือเปล่าครับ " ผมจ้องมองธัช

          " แน่นอนพี่รักธัช " ผมตอบอย่างหนักแน่น

          " แล้วพี่รักเคียวซังหรือเปล่า " ผมหลบตาธัชจ้องมองที่พื้น

          " ธัช "  ผมตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกถามแบบนั้น

          " สัญญาว่าจะพูดความจริงแล้วนะ " ธัชมองผมด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

          " ธัช ขอเถอะ " ผมไม่ได้พูดออกไป แต่กลับเป็นเซนเซย์ที่พูดออกมา และทำท่าจะเดินหนีไป

          " ถ้าเคียวซังเดินหนีไป ผมก็ไม่ว่า แต่ผมคงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ผมไม่อยากให้คนที่ผมรักต้องเสียใจ ผมตามใจพี่ธิชทุกอย่าง ผมเชื่อฟังเคียวซังทุกครั้ง แล้วทำไมละครับ ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังผมบ้าง ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ " ธัชเริ่มน้ำตาไหลออกมา

          " มันผิดนะธัช มันไม่ถูกต้อง " ผมพูดพลางจับแขนธัชไว้

          " แล้วอะไรคือความถูกต้องเหรอครับ ที่พวกเราเป็นมากกว่าพี่น้อง พี่คิดว่ามันถูกเหรอครับ พี่ต้องการให้เราหยุดอีกใช่ไหม "

          ผมพูดไม่ออก เพราะที่ธัชพูดนั้นก็ถูกต้องแล้ว พวกเราทำผิดมาตั้งแต่ต้นแล้ว และผมไม่ต้องการที่จะหยุด ผมพอแล้วกับความคิดงี่เง่านั่น มันจะทำลายพวกเราอีกครั้ง

          แต่ว่าผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมคิดยังไงกับเซนเซย์ แต่ผมก็คิดว่าพวกเราจำเป็นต้องมีคนคนนี้อยู่ ผมปรารถนาที่จะให้เขาอยู่กับพวกเรา

          " ไม่ต้องถามฉันหรอก เพราะคำตอบก็คือ ใช่ ฉันรักพวกเธอทั้งสองคนนั่นแหละ อาจจะต่างกัน แต่ความรักก็คือความรัก เธอตัดสินใจละกันธัช แต่ขอบอกไว้อย่าง ว่าฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกเธอไปจากฉัน แค่นั้นก็พอ " เซนเซย์พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเคร่งเครียด 

          " เหลือแต่พี่แล้วนะ ผมอยากให้เราสามคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจริงๆ ครับ ได้โปรด อย่าแสร้งทำอีกเลย มันเจ็บปวดนะ ธัชเหนื่อยแล้ว ธัชอยากพัก ธัชไม่อยากทำร้ายใครอีกแล้ว "

          " ธัช ไม่โกรธ ไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอ ถ้าพวกเราเอ่อ แบบว่าสามคน " 

          " ตอนนี้ผมเชื่อจริงๆ ว่าทั้งสองคนรักผม เพราะงั้น ผมอยากให้พี่ ให้เคียวซังมีความสุข ถ้าทั้งสองคนมีความสุข ผมก็มีความสุขเหมือนกัน " อย่างนั้นเหรอ ก็เหมือนกันเลยนะ ความคิดของพวกเราทั้งสามคนนั้นเหมือนกัน ต่างคนก็ต่างอยากทำให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข และแบบนี้ ก็คงได้คำตอบแล้ว

          " ใช่สิ ไม่มาเป็นพี่ไม่รู้หรอก " ผมเปรยเป็นนัยๆ และยิ้มให้น้อง ธัชมองผมและยิ้มกลับมาเช่นกัน 

          ธัชยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ และจูบผมที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ผมไม่ขัดขืน แต่หน้าตอนนี้แดงเถือกสุดๆ 

          " ยืนทำอะไรล่ะครับ เข้ามาสิ " ธัชยักคิ้วให้เซนเซย์ที่เลิกคิ้วมองพวกผมเช่นกัน

          " ธัช ไม่เอาน่ะ ทำบ้าอะไรเนี่ย " ผมพูดกระซิบ และตีน้องเบาๆ ไปเรียกมาทำม๊าย เซนเซย์ที่กอดอกพิงกรอบประตู เริ่มเดินเข้ามาสองมือล้วงกระเป๋า 

          " เอ้า เรามาจูบสาบานกันนะ ฮ่าๆ " ธัชพูดพลางหัวเราะสดใส เซนเซนย์ที่เดินมาแค่หยุดยืนและทำหน้านิ่งๆ ไม่พูดอะไรออกมาสักอย่าง 

          " ไม่!! " ผมหน้าขึ้นสี ปิดหน้าไว้ด้วยสองมือ ผมยังไม่ยอมหรอก จะให้ยื่นหน้าไปจูบ เอ่อ คนที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่นี่ ยากไปแล้วเฟ้ย

          " โถ่ว ถ้างั้นผมขอละนะ " ผมเปิดตาออกก็พบว่าธัชนั้น เขย่งจูบเซนเซย์อยู่ เซนเซย์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้จูบแต่โดยดี 

          " ห้ามนะ " ผมรีบเดินเข้าไปดึงธัชออก และกอดไว้แบบหวงแหน แต่ใบหน้าผมนั้นกลับกำลังยิ้มอยู่

          " นี่หึงผมหรือหึงเคียวซังกันแน่ครับ " ธัชทำหน้าทะเล้นมองผมแบบกวนประสาทสุดๆ 

          " ชิ ไม่ยุ่งด้วยละ หิวข้าว " ผมเดินเชิดออกมา พลางเหยียบทีนเซนเซย์ด้วยความหมั่นไส้ 

          มื้อเย็นวันนี้มันช่างแสนวิเศษ ผมมองคนสองคน ที่ตอนนี้ล้วนเป็นคนสำคัญของผม กำลังคุยกัน หัวเราะด้วยกัน ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดียิ่งกว่าผมซะอีกเชอะ เซนเซย์นั้น ผมไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่แปลกขนาดนี้ ตั้งแต่แรกที่ผมได้เจอ ผมก็รู้สึกว่าผมเกลียดขี้หน้าหมอนี่ชะมัด ทั้งดูหยิ่ง โหดร้าย และปากแมวอย่างที่สุด เจอกันทีไรก็ไม่เคยพูดดีๆ กันสักครั้ง แต่ความจริงแล้วกลับเป็นคนที่ใจดีเกินคาด พึ่งพาได้ ถึงจะยังกวนประสาทอยู่ก็เถอะ แต่ก็ต้องยอมรับนะว่า หมอนี่หล่อสุดๆ เพอร์เฟคจนน่าหมั่นไส้ แต่ธัชก็หล่อเหมือนกัน หรือจะบอกว่าน่ารักสุดๆ ไปเลย พูดไปก็เหมือนชมตัวเองแปลกๆ หึหึ

          " อะแฮ่ม จ้องขนาดนี้ เพราะผมกับเคียวซังหล่อสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ " ธัชพูดแบบกลั้นขำพร้อมทำท่าเก็กหล่อ และกอดคอเซนเซย์ไว้ ซึ่งเซนเซย์แค่มองผมเท่านั้น

          " น้อยๆ หน่อย ธัชหล่อพี่ก็ต้องหล่อสิ ส่วนอีกคนก็งั้นๆ แหละ " ปากกับใจไม่ตรงกันก็งี้แหละ จะให้ชมตรงๆ ผมคงไม่ไหว เสียฟอร์มหมด

          " เซนเ...เอ่อ เคียวซัง " ผมเห็นเซนเซย์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยที่ได้ยินผมเรียกชื่อ แต่ผมว่าผมควรเรียกชื่อของเซนเซย์ เพราะว่าตอนนี้พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน 

          " คือผมอยากรู้ว่า คุณแยกพวกเราออกได้ยังไงเหรอครับ " เป็นสิ่งที่ผมสงสัยมานาน ถ้าไม่ดูจากนิสัยละก็ ยังไงการแยกคนที่เหมือนกันขนาดนี้ออกมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา

          " นั่นสิ ธัชก็อยากรู้ครับ " ธัชเกาะแขนเซนเซย์พลางทำหน้าตาสนใจเต็มที่ 

          " แววตาไม่เคยหลอกสิ่งที่หัวใจกำลังบอก แต่ก็มีครั้งหนึ่งนะ ที่พวกเธอทำให้ฉันสับสน " เซนเซย์พูดพลางยิ้มน้อยๆ

          " แปลว่าแยกพวกเราจากแววตาล้วนๆ เลยเหรอครับ " ผมก็ยังคิดว่ามันยากอยู่ดีนั่นแหละ และเพราะแบบนั้นอารมณ์หลอกๆ เลยไม่ได้ผลสินะ

          " ใช่เป็นส่วนใหญ่ ถ้าพวกเธออยู่คนเดียว ฉันจะสังเกตจากแววตาที่เธอจ้องมองฉัน ซึ่งทั้งสองคนนั้นจ้องมองฉันแตกต่างกันมาก "

          " แล้วถ้าพวกผมมาด้วยกันละครับ " ผมสนใจอยากรู้เรื่องนี้จริงๆ หมอนี่เทพมากเลย ผมละยอม

          " ดูจากแววตาที่พวกเธอมองกันและกัน "

          ผมเลิกคิ้วน้อยๆ อย่างอึ้งๆ เป็นแบบนั้นเองเหรอ ถึงพวกเราจะพยายามแสร้งทำเป็นยิ้มหรือนิ่งเฉย แต่เวลาที่ผมมองธัช และธัชมองผม พวกเราก็จะเผลอเป็นตัวของตัวเอง เป็นความรัก ที่ส่งผ่านทางแววตา มันลึกซึ้งมากจริงๆ เพราะแบบนั้น เซนเซย์ถึงรู้ว่าผมกับน้องรักกันแบบไหน รู้มาตลอดเลยสินะ

          " แล้วที่บอกว่าสับสนละครับ " จะมีตอนไหนนะที่ทำให้เซนเซย์สับสนได้

          " ตอนประกวดเดือน ฉันพลาดจริงๆ นั่นแหละ ไม่ได้แกล้งทายผิดหรอก " งั้นที่ผมดีใจก็ถูกต้องแล้วสินะ ผมภูมิใจนิดๆ แฮะ

          " ปกติสายตาธัชที่มองธิชา จะเป็นแบบที่คนคนนึงรักคนอีกคน ดูออกง่ายที่สุด แต่ธิชาจะไม่ใช่ความรักแบบนั้น แววตาจะเหมือนดูห่วงใย แคร์น้องแบบปกติ แต่วันนั้นแววตาของธิชาก็เปลี่ยนไป แววตาของพวกเธอที่มองกันและกันเริ่มเหมือนกันตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งมันยากมาก ถ้าพวกเธอไม่ได้แสดงนิสัยส่วนตัว หรือจ้องมองฉัน มันก็ยากจริงๆ ที่จะแยกพวกเธอ ออกจากกัน "

          ผมมองธัชที่ส่งยิ้มให้ผม พลางเกาหัวเขินๆ หนอยเด็กนี่ นายคิดแบบนั้นกับพี่มาตลอดเลยงั้นเหรอ และผมก็ซื่อบื้อจริงๆ อย่างที่เซนเซย์เคยบอก ที่เพิ่งมารู้ก็ตอนที่ผมนั้นทำให้ธัชเสียใจอยู่บ่อยๆ ไปแล้ว 

          แต่ต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว เพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าใครที่รักผม และผมนั้นรักใคร พวกเราสามคนในตอนนี้ ต่างมีแววตาที่เหมือนกัน เวลาที่เรามองกันและกัน


เป็นความรักที่ผมเฝ้าถวิลหามาเป็นเวลานานแสนนาน
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 22-10-2017 14:54:17
เมื่อไหร่จะลางคืนสักทีน๊าาาา
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-10-2017 15:26:13
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 22-10-2017 16:11:25
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 22-10-2017 17:43:48
ดูเหมือนจะแฮปปี้ราบรื่น(?)
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-10-2017 17:58:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-10-2017 18:07:19
ฉันรออะไรอยูน๊าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-10-2017 18:39:31
รอ 3P อ่ะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 22-10-2017 19:22:57
สงสัยจะได้กินแซนด์วิช
รอดูฉากอัศจรรย์ก่อน เดาไม่ถูก
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-10-2017 01:08:06
เหมือนใกล้จะแฮปเอนด์แล้วใช่ไหมคะ อย่ามีดราม่าอีกเลยนะอยากเห็นฝาแฝดหวานๆมีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-10-2017 01:28:04
ถ้าหลานธิชมัวแต่เขิน แล้วเมื่อไหร่จะ 3P กันซักที  :m17:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ](22/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 23-10-2017 15:24:38
          TWINS บทที่ 37 ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง


          หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ ซึ่งมื้อนี้เป็นอาหารจากภัตตาคารชื่อดังระดับ 5 ดาว กินแบบนี้ทุกวันผมคงกลิ้งได้แน่ๆ ยิ่งมองพุงตัวเองกับกล้ามท้องของสองคนนั่นผมยิ่งท้อ เอาเวลาไหนไปฟิตกันนะ ผมว่าผมต้องฟิตบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นจะมีแรงไปสู้พวกนี้ได้ยังไงกันละ

          ผมมองสองคนนั้นที่กระซิบกระซาบอะไรกันสักอย่างด้วยรอยยิ้มแปลกๆ และอยู่ดีๆ ทั้งสองคนก็ลุกขึ้นยืน พลางจ้องมองผม

          " อิ่มแล้วทำไรกันดีธัช ออกกำลังหน่อยไหม " เคียวซังยิ้มแบบมีเลศนัยและหันไปพูดกับธัชที่ยิ้มแบบมีเลศนัยเช่นกัน

          " อย่าแม้แต่จะคิด ธัช ธัชต้องอยู่ข้างพี่สิ " ผมรู้สึกถึงรังสีอะไรสักอย่าง จึงลุกขึ้น ถอยหลังช้าๆ และพยายามหาพวกไปด้วย

          " ขอโทษครับพี่ธิช แต่ฝั่งนี้เป็นของสัตว์กินเนื้อ ต้องล่าเหยื่อ " ธัชพูดทำท่ากางกรงเล็บ หนอย นายมันก็แค่ลูกแมวดีๆ นี่เอง แต่ไอ้ข้างๆ นั่น โครตน่ากลัว หมอนั่นแค่เพียงยืนนิ่งๆ สองมือล้วงกระเป๋า แต่กลับทำให้ผมหวั่นใจมากกว่า

          แล้วจะอยู่ทำไมละครับ ผมใส่เกียร์หมา วิ่งรอบโต๊ะ เพราะสองคนนั้นก็ออกตัวไล่ขับผมเช่นกัน คอนโดของเซนเซย์กว้างมาก ผมวิ่งเข้ามุมนั้นมุมนี้ ซอกนั้นหลืบโน้น พลางหัวเราะจนเหนื่อย แต่คนที่ตั้งใจตะครุบผมจริงๆ คงมีแต่ธัช เพราะเคียวซังหายไปไหนแล้วไม่รู้ ผมยืนหอบหายใจอยู่ข้างชั้นหนังสือ หลบอยู่ในซอกและถอยหลังหนีเสียงฝีเท้าธัชที่ดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ได้เล่นซ่อนหามานาน แบบนี้ก็สนุกดีแฮะ 

          " จับได้แล้ว " แต่ผมที่เดินถอยหลังก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะว่าเคียวซังมาจากไหนก็ไม่รู้ มาล็อคผม กอดผมไว้จากด้านหลัง

          " ปล่อยผมลงนะ~! " ผมดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่ไหว เข้าอีหรอบเดิม โดนจับยกขึ้นบ่าก็จบกัน เคียวซังเดินแบบชิลๆ โดยมีผมที่สูง 180 อยู่บนบ่า แกจะถึกไปไหนฟะ

          " โหย เก่งอ่ะ ผมไม่เคยจับพี่ธิชได้เลย ฮ่าๆ " ธัชกระโดดโลดเต้นรอบๆ เคียวซังพลางแลบลิ้นใส่ผม ไอ้เด็กนี่ ช่วยยพี่ก่อนสิโว้ย

          เคียวซังแบกผมมาและวางลงที่โซฟาสีดำตัวยาวตัวเก่าที่เคยมีคดี ผมนอนมองไอ้สองตัวร้ายที่จ้องผมแบบอยากกินเข้าไปทั้งตัว 

          " เหนื่อยแล้วอ่ะเลิกเล่นเถอะ " ผมทำท่าจะลุก แต่ธัชก็กดผมไว้ตามเดิม

          " พี่ยังต้องเหนื่อยอีกเยอะเลยฮะ " 

          " เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนนะ นั่งเล่นกันไปก่อน " เคียวซังพูดพลางทำท่าจะเดินหนี แต่ธัชก็ดึงเอาไว้

          " ตกลงกันไว้แล้วนี่ครับ ว่าจะไม่ทำลับหลังกัน " เดี๋ยวๆๆ ไอ้ทำนี่ทำอะไร แล้วไปตกลงกันตอนไหน ไม่คิดจะถามความเห็นกันเลยเหรอห๊ะ จะมากไปแล้วนะ

          " เอ่อ ถามพี่ด้วยสิธัช พี่ไม่รับได้ไหม " 

          " ไม่ได้!! " หนอย ผมมองไอ้สองคนที่มันประสานเสียงพร้อมกัน สามัคคีกันจังนะ 

          ไม่รู้แหละ หนีสิครับ จะรออะไร ผมค่อยๆ คลานลงจากโซฟาตอนที่สองคนนั้นเถียงกันและวิ่งฉิวเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว 

          " ว้าว~ " ผมอดร้องว้าวไม่ได้ เพราะมันแบบว่า อลังการสุดๆ อ่างอาบน้ำกลมๆ ขนาดใหญ่ที่น่าจะลงได้แบบเป็นกลุ่ม ห้องน้ำกว้างซะจนจะนอนได้ และตกแต่งเรียบหรูมีสไตล์ ผมถอดเสื้อผ้า เปิดน้ำและแช่น้ำแบบสบายสุดๆ ที่ผมกล้าแก้ผ้าอาบน้ำเพราะในห้องน้ำมีชุดคุมอาบน้ำเยอะมากแถมผ้าเช็ดตัวอีกเป็นตั้ง นอนในนี้เลยก็ยังได้ หึหึ

          " พี่ธิชขี้โกงนี่นา หนีมาแช่ก่อนได้ไง " ผมรีบมุดลงในน้ำแบบโผล่หน้าออกมาบนผิวน้ำแค่จมูกกับตาเท่านั้น เข้ามาได้ยังไงละเนี่ย ไอ้แสบเอ้ย

          " เข้ามาได้ไงอ่ะ " ผมขมวดคิ้วมองธัชที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เอว อวดกล้ามเนื้อสมส่วนและผิวขาวใส 

          " มันก็ต้องมีที่เปิดอยู่แล้วสิครับ ฮ่าๆ " ธัชพูดพร้อมชูรีโมทสีดำในมือไปมาแบบกวนๆ

          และผมถึงกลับต้องสำลักน้ำเพราะว่าไม่ได้มีแค่ธัชที่เข้ามา แต่เคียวซังก็เดินตามเข้ามาและมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กผูกอยู่ที่เอวเช่นกัน​ ผมเหลือบมองกล้ามเนื้อแน่นๆ ของเคียวซังพลางถอยหลังชิดขอบอ่างอีกมุม ซึ่งเป็นมุมที่ไกลที่สุดด้วยความหวาดหวั่น เป็นการอาบน้ำที่หวาดเสียวสุดๆ ไปเลย

          " ฮ่าๆ ดูเหมือนจะมีคนกลัว " ผมมองธัชที่ค่อยๆ ลงมาในน้ำและถอดผ้าขนหนูออกวางบนขอบอ่าง ผมไม่ค่อยอายน้องหรอกครับ เพราะถึงไม่ได้อาบน้ำหรือนอนด้วยกัน แต่ก็คุ้นเคยกันดี อาจจะมีเขินบ้างเล็กน้อย เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ชอบกันอยู่แล้วล่ะนะ

          แต่เคียวซังนี่สิ ความที่ไม่คุ้นเคยกัน ถึงหมอนั่นจะเคยเห็นอะไรต่อมิอะไรของผม แต่ก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ผมยังไม่ได้คุ้นเคยกับหมอนี่เท่าไหร่ เลยทำให้ผมเกร็ง และตื่นเต้นมากเกินไป ผมแทบไม่กล้ามองใครเลยตอนนี้ ผมจะรู้สึกแปลกๆ ถ้าเผลอจ้องมอง มันเป็นจุดอ่อนของผมอย่างหนึ่ง

          " เอ่อ พี่ขึ้นก่อนดีกว่า แช่นานแล้วอ่ะ " ผมทำท่าจะขึ้น แต่ก็นึกเสียใจสุดๆ เพราะว่าผ้าขนหนูก็อยู่ไกลเหลือเกิน ผมลืมเอามาไว้ใกล้ๆ ซะได้ ไม่กล้าขึ้นโว้ย

          " อ้าว ไม่ขึ้นแล้วเหรอครับ " ธัชยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผม และยิ้มแบบรู้ทัน

          " หยิบให้หน่อยดิ " ผมเหลือบมองคนที่ยังไม่ได้ลงมาในอ่าง และใช้งานซะเลย แต่หมอนั่นกลับยืนนิ่งและไม่ยอมทำตามที่ผมสั่ง

          " อยากขึ้นก็มาหยิบเองสิ " หนอย โอ้ยย แกล้งกันได้แกล้งกันดี ผมก็ผู้ชายนะ ที่อายไม่ใช่อะไร ก็อายหุ่นไง ถ้ากล้ามแน่นๆ หุ่นดีๆ บ้างพ่อจะเดินแก้ผ้าเลยเอ้า ผมหน้ามุ่ยแบบเซ็งๆ 

          " โอ้โหวว สุดยอดไปเลยฮะ ฮ่าๆๆ "

          อยู่ดีๆ ธัชก็โหวกเหวกขึ้นมา ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้บ้านั่น อยู่ดีๆ ก็แก้ผ้าขนหนู และเดินลงมาในอ่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย ผมที่หันข้างอยู่ก็รีบหันหน้าไปอีกทางทันที คนปกติเค้าไม่แก้ผ้ากันโทงๆ โชว์คนอื่นหรอกครับ แต่ผมลืมไป หมอนี่มันคนญี่ปุ่นแท้ๆ คงจะชินกับอะไรแบบนั้น และถึงผมจะอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ไม่เคยใช้ชีวิตปกติแบบคนอื่นเขา เลยไม่นับครับ

          " พี่ต้องแย่แน่ๆ หึหึ " ธัชเลื่อนตัวมาอยู่ข้างๆ ผมและกระซิบกวนๆ หมายความว่าไงฟะ นี่อย่าบอกนะว่า แค่ของเอ็งพี่ก็จะตายละนะ ฮือ

          ผมสังเกตุได้ว่าสีผิวของเคียวซังนั้นเข้มกว่าของพวกเรา ออกไปทางสีแทนนิดๆ ที่ดูทำให้กล้ามเนื้อยิ่งสวยงามน่ามอง เอ้ย เอาเป็นว่าดูดีแหละ แต่ผมไม่สนเลย จริงจริ๊ง

          " พี่ครับ ผมถูหลังให้นะ " ธัชเริ่มเขยิบเข้ามาชิดตัวผมเรื่อยๆ ผมรู้สึกหน้าร้อนฉ่า ยิ่งธัชมาใกล้ ผมก็ยิ่งเลื่อนถอย แต่พอเลื่อนไปเรื่อยๆ หลังก็มาชนกับคนที่นั่งอยู่อีกคนซะนี่ ก็อ่างมันกลม โอ้ยย แย่แล้ว

          " ฮ่าๆ พี่ธิชหน้าแดงแจ๋เลย " ผมหน้ามุ่ย ผมผู้ชายแท้ๆ อกสามศอก ทำไมถึงโดนคุกคามได้ขนาดนี้ สองคนนี่มันร้ายกว่าผม ต้องยอมรับเลยจริงๆ

          " ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าพี่ไม่พร้อม ผมก็ไม่ทำหรอกครับ ใช่ไหมครับเคียวซัง " ผมเหลือบมองหน้าเคียวซังที่กำลังจ้องมองผมอยู่

          " ไม่อยู่แล้ว " เฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย

          " ไม่เหลือ " ห๊ะ ผมหันควับไปอีกครั้ง หวังว่าเมื่อกี้คงฟังผิดนะ

          " ฮ่าๆๆ เคียวซังเขาล้อเล่นนะครับ " ผมมองหน้าไอ้คนล้อเล่นที่แววตาไม่ล้อเล่นเลยสักนิด 

          " ผมขอโทษนะครับคืนนั้น ผมคิดว่าผมแค่ฝันไป แต่พอผมเห็นพี่อยู่ในสภาพแบบนั้นในวันต่อมา ผมก็รู้เลยว่าเป็นฝีมือผม ผมรักพี่แต่ก็ทำร้ายพี่ ผมในตอนนี้แค่จะจับมือพี่ยังรู้สึกผิดเลยครับ ยกโทษให้ผมด้วยนะ " ผมมองธัชที่ทำสีหน้าหมองเศร้า ผมจะโกรธธัชได้ยังไง เพราะผมน่ะเต็มใจ 

          " พี่ไม่เป็นไร อย่าคิดมาก " ผมลูบแก้มธัชเบาๆ 

          " ขอบคุณครับ " ธัชเลื่อนตัวมาหอมแก้มผมเบาๆ ผมส่งยิ้มให้น้อง แค่นี้ก็หายสงสัยแล้ว สบายใจสักที

          " เคียวซังเล่าให้ผมฟังแล้วนะ เรื่องพี่น่ะ แบบจับมัด " ผมตาโตขึ้นทันทีพร้อมหัวควับไปมองไอ้คนปากพล่อยที่บังอาจเล่าเรื่องแบบนี้ให้ธัชฟัง

          " พวกเราจะไม่มีความลับต่อกัน ฉันคิดว่าแบบนั้นดีที่สุด " เซนเซย์พูดพลางเอาน้ำลูบหน้า

          " ผมก็เห็นด้วยครับ " ถึงแบบนั้นก็เถอะ น่าอายจะตายชัก

          " แล้วพี่ชอบไหมแบบนั้น "

          "  ถามบ้าอะไรเนี่ย " ผมดึงแก้มน้องแทนคำตอบ

          " ฟันธงเลยว่าชอบ " ผมมองหน้าไอ้คนที่ทำหน้านิ่งๆ กวนประสาท

          " มันก็ปกติมั้งแบบว่า โดนกระตุ้นขนาดนั้นใครละจะทนได้ " ผมพูดเบาๆ พลางกวักน้ำเล่น 

          " น่าสนใจแฮะ " ธัชพูดพลางยิ้มหวาน

          " อย่าแม้แต่จะคิด พี่ไม่เอาแล้วนะแบบนั้น ซาดิสม์ชะมัด " ผมจิกตามองไอ้คนที่เอาน้ำเสยผมสบายใจ

          " สงสารเคียวซังจัง อย่าถือสาเลยนะครับ พี่ธิชน่ะถ้าพูดแบบนี้แปลว่าชอบฮะ " หนอยย ไอ้เด็กนี่

          " ฉันไม่ค่อยฟังที่พูดหรอก แต่สังเกตจากการกระทำมากกว่า " อ๋อหรอออ หึ อย่าหวังจะได้ทำอีก

          " เคียวซัง รับให้ผมหน่อยสิ ฮ่าๆ " ผมตาโตมองธัช นี่พูดบ้าอะไรเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้ ผมสังเกตเคียวซังที่แค่ขมวดคิ้วน้อยๆ

          " ไม่มีทาง " เคียวซังตอบแทบจะทันที เหอๆ ก็แน่นอนล่ะ สภาพแบบนั้น แค่คิดก็แปลกๆ ละ ฮ่าๆ

          " งั้นธัชรับให้พี่บ้างสิ " ธัชหันควับมาหาผม

          " ไม่มีทาง " เอ๋~ ไอ้เด็กนี่ ปกติจะไม่ค่อยขัดใจผมเลยนะ

          แต่มันทำให้ค้นพบว่า การที่ธัชชอบไปนัวเนียกับหนุ่มๆ ทั้งหลาย คนอื่นอาจคิดว่าธัชนั้นเป็นรับ แต่ที่ไหนได้ ไอ้เด็กนี่จ้องจะกดทุกคนที่ขวางหน้าต่างหาก ร้ายนักน้องพี่

          หลายนาทีต่อมาทั้งสองคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นจากน้ำ ดูเหมือนตั้งใจจะรอให้ผมขึ้นจากก่อนน่ะสิ เหอะ ฝันไปเถอะ นอนในนี้แม่งละงั้น

          " พี่ธิชตัวเปื่อยหมดแล้วมั้งเนี่ย จะไม่ขึ้นจริงๆ เหรอครับ " ผมบอกได้อย่างเดียวว่าผมขึ้นก่อนไม่ได้เด็ดขาด จริงๆมันไม่ใช่แค่เรื่องหุ่นหรอก แต่แบบว่า ร่างกายมันไม่รักดีจริงๆ  ดีนะที่บนผิวน้ำนั้นมีฟองลอยอยู่ ไม่งั้นละแย่แน่

          " เฮ้ย ธัช ทำบ้าอะไรเนี่ย " ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะว่ามีมือ มือหนึ่งมาจับที่ต้นขาของผม

          " เอ่อ ผมเปล่านะครับ " ธัชยกมือขึ้นจากน้ำทั้งสองข้าง ทำให้ผมต้องหันไปมองไอ้คนที่มันยังหน้านิ่งอยู่ได้ทั้งๆ ที่มือกำลังลวนลามผมอยู่

          " ปล่อยไว้ไม่ดีหรอกนะ เสียสุขภาพ " คนพูดทำท่าเลื่อนตัวเข้ามาหาผมช้าๆ ผมถอยหลังก็ไปชนกับธัชที่ดักทางผมอยู่ 

          " อะไรเนี่ยพี่ธิช แอบคิดลามกอะไรอยู่กันน้าถึงเป็นแบบนี้ได้ " ธัชกอดผมไว้จากดันหลัง และเริ่มหอมที่ซอกคอผมเบาๆ 

          " มันเป็นเองต่างหากเล่า แล้วก็เดี๋ยวทำเองได้ " ผมยกเข่ากันคนที่กำลังเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ด้วยความหวั่นใจ

          " อย่า ไม่เอา ไหนบอกจะไม่บังคับกันไง " ผมเอี้ยวคอถามธัชด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว

          " ก็แค่ช่วยเองครับ ไม่ได้ทำมากกว่านั้นหรอก เนอะ " ธัชยิ้มให้เคียวซังที่แค่ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากเท่านั้น

          " ขึ้นอยู่กับว่าทนได้หรือเปล่านะ " ห๊ะ แล้วจะรู้ไหมอ่ะ ฮือ ผมไม่รอดแล้วล่ะแบบนี้

          ผมถูกธัชเชยคางและงับริมฝีปากผมแผ่วเบา ก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้ามากระหวัดพันเกี่ยวกับลิ้นของผมไว้ 

          " อ..อื้อ " ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าตอนนี้ยอดอกเล็กๆ ของผม ก็ถูกเคียวซังโลมเลียอย่างแผ่วเบาเช่นกัน ผมเกร็งตัว จิกเล็บลงบนไหล่หนาของคนที่พยายามลุกล้ำร่างกายของผมอยู่ ผมกำลังโดนเหมือนตอนนั้น แต่เปลี่ยนจากเชือกที่รัดผมจนเจ็บ เป็นธัชที่กอดรัดผมไว้และดูดกลืนริมฝีปากของผมจนแทบขาดอากาศหายใจ

          " อ่ะ.อื้อ. " ผมหันหน้าหนีริมฝีปากของธัช นิ่วหน้าร้องครางออกมาเมื่อรู้สึกได้ว่านิ้วที่สองกำลังแทรกเข้าไป

          " แบบนี้ก็แย่สิครับ เสียงของพี่จะทำให้ผมทนไม่ไหว " ธัชกระซิบแผ่วเบา พร้อมขบเม้มที่ใบหู ซุกไซร้จนผมขนลุกไปทั้งตัว

          น้ำในอ่างนั้นไม่ได้ลึกมาก สูงแค่ประมาณต้นขาเท่านั้น ตอนนี้พวกเราทุกคนแค่ชันเข่าในน้ำ และกอดรัดฟัดกันนัวเนีย ความลื่นของสบู่ทำให้ไม่ต้องใช้ครีมหรือโลชั่นใดๆ ก็สามารถสอดใส่นิ้วเข้ามาในร่างกายได้อย่างง่ายดาย

          " พี่ครับ ผมขอได้ไหม " ธัชกระซิบที่หูของผมอย่างแผ่วเบาด้วยเสียงกระเส่า ผมที่มีอารมณ์เต็มที่เพราะการกระตุ้นของทั้งสอง ใจก็อายเพราะคนตรงหน้า แต่ก็อยากปลดปล่อย ร่างกายผมมันร้อนและต้องการ ดูเหมือนว่าคนที่อยากที่สุดคงจะไม่ใช่สองคนนี่ซะแล้ว

          เคียวซังถอนนิ้วมือออกจากช่องทางด้านหลัง และเคลื่อนตัวมาแนบตัวผมช้าๆ ดึงพวกเราที่ชันเข่าทั้งหมดให้ลุกยืนขึ้น ผมเอียงหน้าหลบเล็กน้อยด้วยความเขินขณะที่เคียวซังเลื่อนหน้ามาใกล้ จนริมฝีปากของเราประสานกัน ผมยอมอ้าปากน้อยๆ ให้ลิ้นของเราสัมผัสกันอย่างเนิบนาบสลับกับร้อนแรงจนผมแทบละลาย

          ธัชนั้นกำลังจูบเลียไปทั่วลำคอและไหล่ของผม พร้อมเขี่ยติ่งไตสีชมพูด้านหน้าลูบไล้มันไปมา ส่วนแข็งขืนของธัชกำลังขยับถูไถอยู่ที่ก้นน้อยๆ ของผมจนรู้สึกแปลกๆ ขณะที่ริมฝีปากของผมก็ยังไม่ผละออกจากริมฝีปากของเคียวซัง ผมวางมือลงบนหน้าท้องและอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเคียวซังอย่างลืมตัว   

          ผมเริ่มรู้สึกได้ว่าธัชนั้นกำลังกดน้ำหนักลงที่แผ่นหลังของผมลงเรื่อยๆ จนผมผละออกจากริมฝีปากของเคียวซังเลื่อนลงช้าๆ และจูบผ่านต้นคอ หน้าอกแกร่ง และหน้าท้องที่สวยงามนั่น

          " อ๊า! " ผมเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจและเสียวซ่านเพราะ ธัชนั้นดันท่อนกายของตัวเองเข้ามาอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายเพราะว่าช่องทางอ่อนนุ่มนั้นได้ถูกเตรียมมาแล้วด้วยมือของเคียวซัง

          " ช้าๆ หน่อยธัช " เสียงของเคียวซังอ่อนนุ่ม และมือกำลังลูบแผ่วเบาที่แก้มของผม ผมใช้เอวของเคียวซังเกาะยึดตัวเองไว้ ทำให้เบื้องหน้าของผมนั้นก็คือ แก่นกายร้อนของคนที่ทำให้ผมเขินอายสุดๆ ผมตกใจเล็กน้อยกับขนาดของมัน แต่ก็รู้หน้าที่ของตัวเองดี ผมใบหน้าร้อนผ่าว ค่อยๆ เกาะกุมท่อนกายตรงหน้านั้นไว้ และใช้ลิ้นลากอย่างแผ่วเบาตั้งแต่โคนยันสุดปลาย พลางเชยตามองคนตัวสูงเบื้องหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

          แต่ผมก็ต้องนิ่วหน้าลงอีกครั้ง เพราะด้านหลังนั้น ธัชเริ่มขยับตัวช้าๆ อย่างเนิบนาบ ถอนออกสุดและดันเข้ามาสุดแบบช้าๆ ผมรู้สึกสมองตื้อ ขาสั่นน้อยๆ ด้วยความรู้สึกวาบหวาม พลางเม้มปากกลั้นเสียงสุดกำลัง

          " สีหน้าดูดีมาก " ผมมองคนตรงหน้าที่เชยคางผมและมองดูด้วยรอยยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจ ผมเลื่อนหน้าออกจากมือนั้น และค่อยๆ ใช้ริมฝีปากกอบกุมแก่นกายตรงหน้าไว้ และดูดเลียตรงส่วนที่พอจะเป็นไปได้ มือของคนตรงหน้าลูบไล้ไปตามไรผมของผมอย่างแผ่วเบา และใช้นิ้วเกลี่ยผมทัดที่ใบหูสีแดงของผม เพื่อจะได้มองดูใบหน้าของผมให้ชัดขึ้น

          ช่างแตกต่างจังเลยนะ คนที่ดูน่าจะรุนแรงแต่กลับอ่อนโยน และคนที่นิสัยอ่อนโยนแต่กลับชอบทำรุนแรงมากกว่า แต่เอาจริงๆ ผมก็ชอบทั้งสองแบบนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาให้คิดมาก เพราะตอนนี้ธัชเริ่มขยับกายเร่งจังหวะเร็วขึ้น จนทำให้ผมเผลอร้องครางออกมาเป็นระยะ

          " อ่าา ถ้ายังรัดผมแน่นขนาดนี้ก็แย่สิครับ " ธัชกระแทกเข้าออกพลางก้มลงขบเม้มหลังของผม ทำให้เกิดความรู้สึกทั้งเสียวและเจ็บแปร๊บๆ ผมอ้าปากหอบหายใจและยังคงพยายามใช้ปากให้คนตรงหน้าอย่างสุดกำลัง

          ธัชละจากแผ่นหลังของผม โน้มตัวยื่นใบหน้าเข้าไปหาเคียวซังที่โน้มตัวเข้าไปประกบริมฝีปากกับธัชเช่นกัน กลายเป็นผมที่อยู่กึ่งกลางของสองคนนั้น ที่กำลังดูดกลืนริมฝีปากกันอย่างร้อนแรง 

          เอวของเคียวซังเริ่มขยับมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่ธัชนั้นเร่งจังหวะมากขึ้นจนผมแทบจะขาพับลงไป แต่ทั้งเอวและลำตัวของผมก็เหมือนถูกอุ้มไว้โดยคนทั้งสอง ผมทั้งร้องครางสลับกับดูดกลืนแท่งร้อนอย่างกระหาย คนตรงหน้าเริ่มล็อคแก้มผมและกระแทกท่อนกายร้อนเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่มของผมเช่นกัน 

          " อึก.. ทนหน่อยนะ แค่แปบเดียว " เคียวซังพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่คำตอบของผมคงมีแค่เสียงร้องครางอู้อี้ในลำคอเท่านั้น 

          ในโค้งสุดท้ายของการร่วมรักอย่างเร่าร้อน เสียงครางและหอบหายใจของคนสามคนดังสะท้อนไปมาในห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ตัวผมนั้นเหมือนถูกลุมทึ้งจนแทบขาดใจ และรู้สึกว่าผมคงกลั้นไม่ไหวอีกแล้ว ความรู้สึกมันอัดแน่นจนล้นปรี่ ผมเกร็งตัวครั้งสุดท้าย กระตุกรัดแท่งกายที่กระแทกช่องทางเบื้องหลังและปลดปล่อยหยาดน้ำของตัวเองออกมา ในขณะที่ช่องทางด้านหลังก็รู้สึกถึงความร้อนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ และสุดท้ายภายในปากของผมก็ถูกเติมเต็มไปด้วยหยาดน้ำรัก ที่ทำให้ผมแทบสำลักออกมาแต่ผมก็กลืนลงไปโดยไม่เหลือสักหยดเดียว ผมรู้สึกว่าผมกำลังจะหล่นลงไปในน้ำ


แต่ตัวผมก็ถูกช้อนขึ้นด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง และหลับไหลไปเพราะความอ่อนแรง
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-10-2017 16:08:54
อีกนิดเดียวน้ำในอ่างก็เดือดแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 23-10-2017 16:09:14
ตายแล้ว ยังไม่พอ เอามาอีก  :haun4: :pighaun:
ไม่เคยเห็นรุกจูบกันแฮะ  เลยสงสัยว่าธัชไม่ยอมรับให้ธิช แล้วกับเซนเซย์จะยอมรับไหม แต่ธัชรุกไง หรือจะแซนด์วิช เซนเซย์ก็รักธัชแบบน้องอีก
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-10-2017 18:53:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 23-10-2017 20:04:16
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-10-2017 21:37:57
 :jul1:  คนแก่ไม่ไหวแล้ว ขอ.... ขอตอนหน้าด่วน
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 23-10-2017 22:09:08
ไม่ผิดหวังจริงๆ เดินเรื่องกระชับฉับไว ไม่ออกอ่าวออกทะเล
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-10-2017 00:06:12
กับธิชนี่พอเข้าใจเพราะเป็นรับแต่ธัชกับเคียวนี่สิรุกทั้งคู่จูบกันนี่มันเลยดูแปลกๆเพราะถ้าเป็นแนวรุกxรุกมันก็คงไม่เท่าไหร่แต่ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกกันแบบชู้สาวไม่ใช่เหรอ
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#37ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง[NC20+](23/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 24-10-2017 11:57:49
          TWINS บทที่ 38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป


          ผมลืมตาตื่นขึ้นเพราะรู้สึกถึงความอบอุ่น และผมไม่สามารถขยับตัวได้เลย ผมมองเพดานที่เต็มไปด้วยดวงดาวเรืองแสงที่ตอนหัวค่ำยังเป็นแสงสีส้มนวลๆ มันสวยจัง ผมชอบมันมาก ผมก้มมองมือที่กอดก่ายตัวผมไว้ทางด้านขวาก็คือธัชที่นอนหันหน้ามาหาผมหลับตาและยิ้มน้อยๆ ดูเหมือนจะกำลังฝันดีสินะ ผมยื่นหน้าเข้าไปจรดริมฝีปากลงที่กลางหน้าผากมนนั่น ช่างเหมือนเทวดาตัวน้อยๆ จริงๆ ถ้าไม่นับความซาดิสม์เมื่อหัวค่ำนั่นก็นะ หึหึ 

          ผมมองแขนของคนอีกคนที่กอดก่ายผมอยู่อีกด้านเช่นกัน หนอย ไหนบอกว่าเตียงนี้สำหรับผมกับน้องไง แต่ก็นะ ผมชอบแบบนี้มากกว่า ผมยิ้มให้กับภาพตรงหน้า คิ้วคมเข้มที่มักดูดุดันอยู่เสมอ และปากที่คอยจิกกัดผมเรื่อยมา แต่พอได้มองใกล้ๆ ตอนกำลังสงบแบบนี้ ผมว่าคนคนนี้เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดยังไงยังงั้น เหมือนกับความฝัน ที่ได้แตะต้องและอยู่ข้างๆ กัน ผมยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากได้รูปนั้นเบาๆ เอาล่ะ เท่าๆ กันแหละเนอะ หึหึ ทีนี้ผมจะได้นอนต่อสักที ฝันดีนะ ที่รักทั้งสองของผม


          " อรุณสวัสดิ์ครับพี่ " ผมงัวเงียลืมตาตื่นพลางลุกขึ้นบิดไปมาเพราะความเมื่อยตัว และก็พบว่าธัชนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมเขินนิดๆ เพราะไอ้เด็กแสบนี่เล่นผมไว้เยอะเลยเมื่อวาน

          " ขอจุ๊ฟอรุณสวัสดิ์หน่อยสิ น้า~ " ผมมองน้องที่ทำหน้าอ้อนขอจุ๊ฟเต็มที่ เอาเถอะ อยากน่ารักเองทำไม ฮ่าๆ ผมยื่นหน้าไปจุ๊ฟที่ปากน้องหนึ่งทีเป็นรางวัล 

          " อย่าลืมให้เคียวซังด้วยน้า ต้องเท่าเทียมกัน ฮ่ะๆ " ห๊ะ เอาจริงดิ ผมว่าผมขอคืนได้ไหมจูบเมื่อกี้ แต่ก็นะ เมื่อคืนเอ่อ คนที่ขาดทุนที่สุดคงเป็นหมอนั่น แต่ก็ช่วยไม่ได้ ผมรับไม่ได้ทั้งสองคนในครั้งเดียวหรอก ตายกันพอดี พอคิดเรื่องนี้ขึ้นมาผมก็หน้าแดงจัด จะทำหน้ายังไงตอนมองหน้าเคียวซังดีนะเนี่ย

          " เอ่อ เคียวซังไปไหนล่ะธัช " ผมถามขึ้นเพราะตื่นมาก็ไม่เห็นเลย

          " เป็นเชฟอยู่ในครัวฮะ เคียวซังนี่ฝีมือระดับภัตตาคารเลย ผมชิมมาจนจะอิ่มแล้ว ฮ่าๆ " ผมบีบจมูกน้องอีกทีด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟัน และเดินไปยังโถงที่ใช้ทำอาหารและมีโต๊ะกินข้าวสวยๆ ตั้งอยู่

          ผมยังคงอยู่ในชุดนอนสีเข้มผ้าลื่นสบายๆ และสังเกตุว่าเป็นแบบเดียวสีเดียวกันกับธัช เสื้อผ้าชุดเก่าผมแทบไม่ต้องใส่ เพราะว่าเคียวซังนั้นซื้อให้ใหม่จนเต็มตู้ ทุกสิ่งทุกอย่างสองชิ้น สำหรับผมและธัช เหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว ช่างรู้ใจกันจริงๆ 

          " เอ่อ อรุณสวัสดิ์ " ผมอ้ำอึ้งๆ ไม่ค่อยกล้าทักทายมากนัก มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ เพราะว่าตลอดมา ก็มีเพียงแค่ผมกับน้องเท่านั้น ผมหน้าแดงน้อยๆ เกาหัวแก้เขิน แต่ท้องร้องหิวข้าว 

          " อรุณสวัสดิ์ เป็นไงบ้าง ถ้ารู้สึกแปลกๆ ก็บอกเลยนะ เผื่อเป็นแผลหรืออะไร จะได้.. " เคียวซังหยุดพูดและหันมองผมที่กำลังปิดหูตัวเองอยู่ทั้งสองข้าง พลางหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ไอ้บ้าเอ้ย ใครใช้ให้พูดเรื่องนี้ฟะ ไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอกว่าอายแค่ไหน 

          " หิวข้าว แค่นั้นพอ " ผมทำหน้ามุ่ย พลางเอามือลง และเริ่มดึงดอกไม้บนโต๊ะแก้เขิน

          " ฮ่าๆ น่ารักจังคนเขิน " ธัชนั่งแหมะลงข้ามผมและเท้าคางมองผมด้วยใบหน้ากวนๆ ผมเตะขาน้องใต้โต๊ะอย่างหมั่นไส้ และเดินไปหาเคียวซังที่ยังคงทำกับข้าวอยู่

          " ให้ช่วยไหม " ผมพูดเบาๆ พลางแกะเกาขวดเครื่องปรุงไปด้วยแต่ไม่กล้าสบตา

          " พี่ธิช~ อย่าลืมน้า จุ๊ฟตอนเช้าอ่ะ ฮ่าๆ " ผมหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ไอ้ตัวแสบพลางเกาขวดซอสต่อ

          " ไปนั่งเถอะ จะเสร็จแล้วเดี๋ยวยกไปให้ แล้วตอน.. " เคียวซังชะงักทันทีเพราะผมดึงเน็กไทของเคียวซังและจุ๊ฟเบาๆที่ริมฝีปากนั้น ก่อนจะรีบวิ่งมานั่งแหมะที่เก้าอี้ตัวเดิม พร้อมเสียงหัวเราะลั่นของไอ้น้องตัวแสบ

          เคียวซังแค่ทำหน้ามึนๆ และยิ้มน้อยๆ พลางยกออมเล็ตที่โครตน่าทานมาให้ และซุปข้าวโพดหอมๆ ผมที่รู้สึกหิวเหมือนกินช้างได้ทั้งตัวก็ลงมือจัดการไม่เหลือซาก ฝีมือผมกับน้องนี่เทียบไม่ติดเลยทีเดียว นี่นายจะเพอร์เฟคไปถึงไหนกัน หึ่ย เริ่มหมั่นไส้อีกแล้ว 

          " เมื่อกี้จะถามว่าอะไรเหรอครับ " ผมนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เหมือนเคียวซังจะพูดอะไรสักอย่าง 

          " อ๋อ จะบอกว่าตอนไปเรียน ก็ไปพร้อมกันนั่นแหละ วันนี้จะบรรยายที่ห้องสโลปที่เดิม " 

          " จะดีเหรอครับที่ไปพร้อมกัน ที่มหา'ลัยคงลือสนั่นว่าแบบ เอ่อ " ผมไม่ได้อะไรหรอกนะครับ แต่ว่าผู้คนคงลือกันแน่ๆ และอาจเป็นข่าวดังที่ทำให้เคียวซังโดนลดความน่าเชื่อถือลง 

          " ถ้าแคร์ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันขับดูคาติไป พวกเธอก็ขับสปอร์ตคันดำของฉันไปก็ได้ " 

          " พี่ธิชเขาไม่ได้หมายความแบบนั้นหรอกฮะ แค่เป็นห่วงเคียวซังนั่นแหละ " ผมยิ้มให้น้อง นายช่างรู้ใจพี่ดีจริงๆ 

          " เอาเป็นว่าไปด้วยกันแหละครับ ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขาละกันเนอะ " ผมว่าเอาแบบนี้แหละ จะไปแคร์ทำไม และผมว่าคงไม่มีอะไรทำร้ายคนคนนี้ได้หรอก หึหึ

          หลังจากผมกับน้องแต่งตัวเสร็จ ก็ลงมาพร้อมกันทั้งสามคน ที่ชั้นใต้ดินที่เคียวซังจอดรถไว้ 

          " โห มีแต่รถสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ คนที่อยู่นี่ต้องรวยกันทุกคนแน่ๆ เลย " ธัชตาโตพลางเดินไปลูบไล้รถหลายคันที่จอดอยู่ ซึ่งเป็นรถหรูทั้งสิ้น 

          " ของฉันทั้งหมดนั่นแหละ " เคียวซังพูดพลางกดรีโมทเปิดประตูรถด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม ซึ่งตอนนี้ธัชช็อคไปเรียบร้อยแล้ว 

          " ผมขับนะ ให้ผมขับน้า~ " ผมมองไอ้ตัวแสบที่กำลังกอดแขนเคียวซังแน่นและพยายามแย่งหน้าที่คนขับ ซึ่งเคียวซังก็ยื่นกุญแจให้ธัชแต่โดยดี และขึ้นไปนั่งข้างๆ แทน ส่วนผมนั้นแน่นอนว่าข้างหลัง ผมมองเคียวซังที่กำลังสอนธัชว่าปุ่มอะไรเป็นอะไรอย่างตั้งใจ และธัชที่ดูตื่นเต้นซะเหลือเกิน 

          ไม่นานผมก็มาถึงมหา'ลัยโดยฝีมือการขับของธัชที่ห่วยแตกสิ้นดี ความประหม่าทำให้ธัชเหยียบโน้นเหยียบนี่มั่วไปหมด จนสุดท้ายต้องเปลี่ยนให้เคียวซังขับแทนอยู่ดี

          " ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวก็ชิน " ผมมองเคียวซังที่ลูบผมธัชเบาๆ อย่างรักใคร่ ในขณะที่ธัชหน้าบูดสุดๆ ด้วยความผิดหวัง ฮ่าๆ 

          ตั้งแต่ที่พวกเราลงจากรถ เสียงซุบซิบนินทาก็ดังไปทั่วสารทิศ เพราะพวกเราสามคนก็เหมือนคนดังของที่นี่ ซึ่งเคยมีข่าวว่าเคียวซังนั้นควงหนึ่งในแฝดอยู่แล้ว และตอนนี้มาเป็นแพคคู่ กลายเป็นว่าเคียวซังนั้นเหมาแฝดเลยยังไงล่ะ แต่ใครจะไปรู้ว่าคนที่โดนเคี้ยวมีเพียงคนเดียว ก็คือผม ฮือ 

          ผมและธัชเดินขึ้นไปนั่งยังชั้นบนๆ เช่นเดิมเหมือนทุกครั้ง และมองเคียวซังที่เดินเข้ามาเพื่อสอนพวกนักศึกษาแบบเดิมอีกเช่นเคย แต่ที่เปลี่ยนไปนั้นคือความรู้สึกของพวกเรา เคียวซังยังคงดูหล่อเนี๊ยบอยู่เสมอ วันนี้ใส่เสื้อสีขาวและไทสีดำ หน้าตาก็ยังคงดูดุอยู่เสมอเวลาสอน ฮ่าๆ แต่ผมไม่กลัวแล้วล่ะ ผมเท้าคางมองดูอาจารย์หนุ่มรูปหล่อที่กำลังตั้งใจสอนนักศึกษาอย่างขมักเขม้น เป็นความบันเทิงในรูปแบบหนึ่งของผมตอนนี้

          ผมมองหน้าเคียวซังที่ตอนนี้พูดบรรยายและเลิกคิ้วน้อยๆ มองมาทางผมและน้อง ทำให้ผมแปลกใจ แต่นั่นก็เพราะว่าไอ้ตัวแสบข้างๆ ผมกำลังทำมือรูปหัวใจให้เคียวซังพลางหัวเราะขำเบาๆ กับท่าทางของเคียวซังต่างหากล่ะ 

          " ถ้าไม่ตั้งใจเรียนจะโดนลงโทษนะ " เคียวซังพูดเสียงเย็นแต่แววตากลับดูยิ้มๆ ใจดี ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนคงโดนไล่ออกจากห้องไปแล้ว ฮ่าๆ 

          " อย่ากวนตอนเคียวซังกำลังสอนสิ " ผมดึงแก้มน้องเบาๆ และดุใส่

          ' เซนเซย์กำลังยิ้มว่ะ ถ่ายรูปๆ ' 

          ' อร๊ายย หล่อชิบหาย กำลังยิ้มจริงด้วย '

          ' โอ้ย กูอยากโดนลงโทษ '

          นักศึกษาหลายๆ คนต่างมองดูอาจารย์หนุ่มผู้ไม่เคยยิ้มแย้มเลย ซึ่งตอนนี้นั้นกลับยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข และต้นเหตุนั้นก็มาจาก

          ผมป้องปาก และทำท่าตะโกนแบบไม่มีเสียงส่งไปให้เคียวซังที่ด้านล่าง ปากของผมนั้นอ่านได้ว่า

          ' รักนะ สู้ๆ นะครับ ' 

          ผมซึ่งได้ทำแบบนั้นไปก็ต้องรีบเอาหนังสือปิดหน้าแทบจะทันทีด้วยความเขินสุดๆ 

          " พี่พูดอะไรกับเคียวซังเหรอครับ ขี้โกงอ่ะ พูดกับผมบ้างสิ " ไอ้ตัวแสบยื่นหน้าเข้ามาใกล้หลังหนังสือพลางยิ้มตาหยีแบบรู้ทัน
         
          " พี่รักธัช " ผมหอมแก้มน้องเบาๆ อีกหนึ่งที และยืดตัวจากหลังหนังสือกอดคอน้องไว้ และโบกมือไปมาให้เคียวซังที่กำลังมองมาเช่นกัน ผมนั้นรักทั้งสองคนจริงๆ


และตอนนี้ผมก็มีความสุขมากเช่นกัน
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 24-10-2017 15:47:55
หวานชื่นเหลือเกินนะ
จะมีเหตุการณ์อะไรอีกไหม
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-10-2017 18:56:35
สวีตมากกกกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 24-10-2017 20:17:59
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-10-2017 20:57:46
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 24-10-2017 23:24:16
เหมือนจะราบรื่นแล้วนะก็หวังว่าจะไม่มีม่าตามมาทีหลังนะ
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 25-10-2017 07:31:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป](24/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-10-2017 12:40:16
          TWINS บทที่ 39 ฝาแฝดและข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจ


          หลังจากเรียนเสร็จ ผมและน้องยืนอยู่ที่หน้าห้องสโลป เพื่อรอเคียวซังที่กำลังเก็บของอยู่ในห้อง และไม่นานเคียวซังก็ออกมา แต่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ก็ไม่รู้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " ทั้งสองคน เดี๋ยวกลับไปก่อนนะ พอดีติดธุระนิดหน่อย " เคียวซังที่คุยโทรศัพท์เสร็จ ก็เดินเข้ามาบอกพร้อมยื่นกุญแจรถให้ผม 

          " ธิชา ขับได้ใช่ไหม ดูแลน้องด้วยนะ ฉันจะรีบกลับ ธัช เดี๋ยวค่อยเจอกันนะ " ผมหน้ามุ่ยเล็กน้อย เพราะผมคิดว่าวันนี้จะอ้อนให้พาไปเที่ยวซะหน่อย อดเลยแฮะ  เคียวซังลูบหัวผมกับน้องและเดินไปอีกทาง ผมสงสัยจริงๆ ว่ามีเรื่องอะไรกันนะ ที่ทำให้เคียวซังทิ้งพวกเราได้

          " ช่วยไม่ได้น้า ไปไหนกันดีน้องพี่ " ผมกอดคอธัชที่หน้ามุ่ยอยู่เช่นกัน 

          " ไปช้อปปิ้งกันเมียน้อง " ผมหยิกแก้มไอ้เด็กแสบนี่ไปหนึ่งที พูดเสียงดังซะด้วยมันน่านัก

          " โอ้ยย เดี๋ยวเอาคืนสองเท่า " ธัชร้องโวยวายแต่กลับทำหน้าทะเล้น

          " เหรอ กลัวตาย " ผมเดินหนีน้องชายตัวดีและเดินไปที่รถสีดำคันงามที่จอดอยู่ 

          ไม่นานผมก็มาจอดรถที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ผมที่ไม่เคยจับรถแบบนี้มาก่อน แต่ก็ขับได้สบายๆ  ในขณะที่ธัช นั่งจ้องวิธีการขับรถของผมตาเป็นมัน ธัชนั้นหัวช้าและขี้ตื่นเกินไป จึงยังไม่เหมาะที่จะขับรถ ผมยิ้มให้น้องแบบกวนๆ ทำเอาธัชทำหน้างอนไปใหญ่

          "  ธัช ไม่เอาน่า เดี๋ยวขากลับให้ขับนะ เดี๋ยวพี่สอน " ผมดึงจมูกน้องและจุ๊ฟปากเบาๆ ไปอีกที 

          " พี่ธิช " แต่ผมที่กำลังจะลงจากรถนั้น ก็ถูกธัชดึงคอเข้าไปจูบแบบไม่ทันตั้งตัว ผมตอบรับธัชด้วยความเต็มใจ พวกเราจูบกันอยู่เนิ่นนาน และผละออกจากกันในที่สุด

          " แบบนี้เคียวซังจะไม่ว่าเหรอ " ผมถามเขินๆ

          " ถ้าไม่ได้ทำอย่างว่าก็ทำได้ครับ แต่ผมก็จะบอกเคียวซังว่าผมจูบพี่ไป 5 นาทีวันนี้ อิอิ " เชอะ ตกลงบ้าอะไรกันไว้ไม่ปรึกษาผมอีกละ อายนะเฟ้ย

          เมื่อเข้ามาในห้างนั้น ธัชก็วิ่งไปมาชี้นั่นชี้นี้เหมือนเด็กๆ ซึ่งเป็นปกติของธัชที่มักจะสดใสร่าเริงอยู่เสมอ ผมมองตามน้องที่ดูมีความสุขพลางยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกัน

          " แฝดน่ารักมากเลย พี่เลี้ยงไอติมไหม " ผมหุบยิ้มทันทีเพราะมีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้อยู่ดีๆ ก็ดึงมือธัชไปจับ โครตจะไม่มีมารยาท

          " ฮ่ะๆ พี่เป็นใครละเนี่ย ผมกับพี่ชายยังไม่หิวหรอกครับ " ธัชยังคงยิ้มแย้มและยังไม่ดึงมือออกอีกนะ เด็กคนนี้มันเหลือเกินจริงๆ เป็นแบบนี้ตลอด ผมหวงน้องมากกว่าเก่าเป็นล้านเท่า

          " ปล่อยมือนั่นซะ อย่าให้พูดซ้ำ " ผมหน้านิ่งเฉย แต่ปากรนหาเรื่องไปก่อนแล้ว เจอแบบนี้ของขึ้นจริงๆ
         
          " คนพี่โครตดุ ของชอบเลยอ่ะ ฮ่าๆ " ผมไม่อยากจะบอกว่า คนน้องที่ดูน่ารักน่ะ ระวังจะกระซวกไส้พวกแกแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

          " เอ่อ น้องๆ มากับผมครับ ไม่ทราบมีปัญหาอะไร " ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะพี่โชนที่มาจากไหนก็ไม่รู้ เดินมาพอดีกับเพื่อนที่โครตหล่ออีกคน โลกช่างกลมซะจริงๆ ผับผ่า

          ไอ้บ้านั่นที่จับมือธัชอยู่ กำลังมองมาที่พวกผมแบบลังเล และก็ตัดสินใจปล่อยมือธัช คงเพราะว่าฝั่งผมคนเยอะกว่าพวกมันที่มากันสองคน และพวกพี่โชนก็ตัวใหญ่กว่าด้วย  ผมรีบเดินเข้าไปหาน้องที่ยังคงยิ้มแป้นอยู่ มือข้างหนึ่งของธัชล้วงกระเป๋ากางเกง ซึ่งผมมั่นใจเลยว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เฮ้อ ผมช่วยพวกชีวิตมันแท้ๆ เลยนะเนี่ย

          " ขอบคุณครับพี่โชน " ผมหันไปยกมือไหว้พี่โชนและเพื่อนพี่โชนอีกคน

          "  ระวังหน่อยก็ดีนะสองแฝด หน้าตาแบบนี้อันตรายจะตาย ใช่ไหมพริ้น " พี่โชนหันไปพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้ายิ้มกวน

          " ก็ดี " เพื่อนพี่โชนตอบด้วยสีหน้าเบื่อๆ หนอย แค่ก็ดีงั้นเหรอ

          " แล้วมาทำไรกัน เซนเซย์ไปไหนซะล่ะ ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้วนี่นา " พี่โชนถามพลางขมวดคิ้ว

          " เอ่อ ไปทำธุระน่ะครับ พวกเราก็เลยมาเดินเล่นกัน " 

          " อ๋อ เดินเล่นรอเซนเซย์ใช่ป่ะ เห็นนั่งอยู่ข้างบน ก็ว่าอยู่ว่าทำไมนั่งอยู่กับคนอื่น "

          ผมชะงักและขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น นี่มันหมายความว่าไง เคียวซังอยู่ชั้นบนกับใคร

          " ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะ " ผมรีบลาพี่โชนกับพี่พริ้นและดึงมือธัชให้เดินตามมา

          ผมรีบขึ้นไปชั้นบนตามที่พี่โชนว่า พลางมองไปตามร้านอาหารและร้านกาแฟต่างๆ ด้วยความรู้สึกเดือดปุดๆ หนอย ทิ้งผมกับน้อง แล้วมากับคนอื่นเนี่ยนะ ไอ้บ้านั่น

          ผมกับน้องยังคงมองหาเคียวซังไปทั่วทุกที่ ทุกร้าน ทุกซอกทุกมุม และในที่สุดก็เจอจนได้

          " พี่ครับ มันอาจไม่ใช่แบบที่คิดก็ได้ " ธัชพยายามยื้อผม ไม่ให้พุ่งเข้าไปในร้าน

          " ไม่ใช่แล้วไง แล้วทำไมไม่บอกว่าไปไหน " ผมลากธัชและเดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในร้านกาแฟยี่ห้อดัง ผู้คนต่างมองผมเป็นตาเดียว เพราะว่าผมผลักประตูอย่างแรง ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

          แต่ผมก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มน้อยๆ ทันทีและเดินช้าๆ ไปหยุดยืนข้างหลังเคียวซังที่นั่งอยู่ตรงข้ามสาวสวยคนหนึ่ง ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมก็ว่าแล้วว่าผมลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่ผมชอบถามเคียวซังอยู่บ่อยๆ ว่าผู้หญิงพวกนี้เป็นใคร มีเยอะเหลือเกินจนผมจำหน้าไม่ได้

          ผู้หญิงคนนั้นทำท่าอึกอัก หน้าตากำลังบอกว่าตกใจเหลือเกินที่เห็นผม แบบนี้มันจะไม่ให้โมโหได้ยังไง ผมมองธัชที่แค่ทำหน้าตึงๆ และขมวดคิ้วสงสัยอยู่เช่นกัน

          " เอ่อ เซนเซย์คะ เดี๋ยวมิ้วกลับก่อนดีกว่าเนอะ เซนเซย์คงมีธุระ ยังไงจะติดต่อไปนะคะ " ผู้หญิงนั่นทำท่าจะลุกขึ้น 

          " จะไปไหนละครับ ผมแค่จะมาร่วมด้วย ไม่ต้องกลับหรอกครับ " ผมยิ้มและนั่งลงตรงที่ว่างระหว่างทั้งสองคน  ผมหน้าบึ้งมองเคียวซังที่มองผมด้วยใบหน้าแปลกใจ และขมวดคิ้วน้อยๆ 

          " กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวจะนัดเจออีกที " ผมยิ่งหน้ามุ่ยเข้าไปอีก เมื่อเคียวซังหันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้สนใจผมกับน้องที่นั่งตาเขียวอยู่

          สาวสวยนั่น ลุกขึ้นก้มหัวและยิ้มแบบรู้สึกผิดและรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ผมอาจทำเกินไปก็จริง แต่ผมมีสิทธิ์จะรู้นะ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ผมรู้สึกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างใจคิดเวลาโมโห

          " คำถามเดิมเหมือนเมื่อก่อนที่ผมเคยถาม ผู้หญิงพวกนั้นมันหมายความว่ายังไง จะบอกผมได้หรือยังครับ " เคียวซังนั้นทำแค่เพียงแค่ยกกาแฟขึ้นจิบ และ หนอย ยังมีหน้ามายิ้มอีก

          " หึงเหรอเนี่ย หึงแรงซะด้วย ธัชล่ะ หึงฉันด้วยหรือเปล่า " 

" ผมเชื่อใจเคียวซัง แบบไหนผมก็รับฟัง " ผมมองน้องที่ยิ้มน้อยๆ ให้เคียวซัง แบบนี้ก็เหมือนผมเป็นนางร้ายอยู่คนเดียวสินะ

          " ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจ แต่ว่าผมสงสัย ผมอยากรู้ บอกผมหน่อยสิ พูดอะไรก็ได้ ผมไม่สบายใจ " ผมอาจจะนิสัยไม่เหมือนน้อง ผมทนไม่ได้

          " ดีใจจังเลยนะ ที่พวกเธอรักฉันขนาดนี้ " ผมมองเคียวซังที่ยิ้มออกมาเหมือนกับตอนที่ผมบอกว่ารัก ทำไมยังยิ้มอยู่ได้นะ ผมอยากต่อยชะมัด

          " รักได้ก็เกลียดได้ กลับกันธัช ปล่อยคนบ้าไว้นี่แหละ " ผมจูงน้องหนีออกมาแต่ก็โดนเคียวซังจับมือไว้ เรียกได้ว่าจับมือผมกับน้องและเดินตรงกลาง ประสานมือเราสองคนไว้ซะแน่น ผมพยายามแกะออกแต่ก็ไม่เป็นผล คนบ้านี่แรงเยอะดีจริงๆ

          " อ้าว ธิชธัช เอ่อเซนเซย์ " ผมเจอพี่โชนอีกแล้ว แต่ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะยิ้มทักทายได้

          " มีอะไรกันหรือเปล่า ถ้าไม่สบายใจก็... "

          " คนของฉัน ฉันจัดการเองได้ " เคียวซังพูดขัดพี่โชนและแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ ไอ้บ้านี่เป็นเด็กหวงของหรือไง ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เลย หึ่ย ผมเริ่มอายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนตอนนี้ต่างจ้องมองพวกเราสามคนอย่างสนใจ

          ผมบอกลาพี่โชนและถูกลากต่อไป ในขณะที่ธัชนั้น ก็ยังคงยิ้มแย้มโบกมือลาพี่โชน ที่ยังคงยืนอยู่ไกลๆ


ฮึ่ม คอยดูนะ คืนนี้ผมจะไม่ยอมให้ไอ้บ้านี่ขึ้นที่นอนเด็ดขาดคอยดูสิ
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#39 ฝาแฝดและข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 25-10-2017 17:22:35
เหนื่อยหน่อยนะธิช คนรักหน้าตาดี ว่าแต่เซนเซย์จะง้อคนขี้หึงยังไงนะ น้องจะเสียเปรียบอีกรึป่าว
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#39 ฝาแฝดและข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 25-10-2017 18:52:51
ง้อยังไงดีน้า  :hao7:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#39 ฝาแฝดและข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 25-10-2017 19:53:18
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][#39 ฝาแฝดและข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-10-2017 20:00:26
          TWINS บทที่ 40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น


          แล้วเมื่อคืนก็เป็นดังว่า หลังจากกลับมาจากห้างสรรพสินค้านั้น ผมก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน และไม่ยอมให้เคียวซังเข้ามา ผมยื่นข้อเสนอ ว่าถ้าหากยังไม่ยอมบอกผม ก็อย่าได้หวังจะแตะต้องผมหรือนอนห้องผม ซึ่งไอ้น้องตัวดีของผมก็เหมือนจะไม่ค่อยเข้าข้างผมเลย ยังคงคุยและออเซาะเคียวซังเหมือนเก่า

          " ธิชา " เคียวซังดักจับตัวผมอยู่ที่หน้าห้องน้ำในตอนเช้า และกอดผมไว้จากด้านหลัง แต่อย่าหวังเลย ไม่ยอมเฟ้ย ผมดีดตัวออกจากอ้อมแขนนั่นและวิ่งไปหาน้องอย่างรวดเร็ว 

          " พี่ธิช ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ ผมสงสารเคียวซัง " ธัชทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หนอยแล้วแกไม่สงสารพี่แกบ้างเหรอ หรือสงสารตัวเองบ้างสิไอ้เด็กดื้อ

          ผมมองเคียวซังที่ทำหน้าหงอยๆ จ้องมองผมตลอดเวลา พอผมเผลอมองตาก็จะยิ้มให้ เป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่เมื่อคืน ผมจะบ้าตาย อยากถลกหนังหน้าคนแถวนี้จริงโว้ย

          ผมรีบกินอาหารเช้า ฝีมือไอ้คนหลายใจ และรีบหนีขึ้นแท็กซี่มาเรียนโดยไม่รอธัชด้วยซ้ำ ผมโกรธ โกรธมาก อึดอัด ไม่เข้าใจ ยังกับสาวน้อยอกหัก โอ้ยทรมาน เซ็งโว้ย 

          ผมเตะถังขยะแถวคณะปลิว จนหมาที่วิ่งอยู่แถวนั้นเห่าเสียงดัง เชอะ ใครสนกันล่ะ

          ผมหาที่นั่งแถวนั้นและนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ ผมที่เพิ่งมีเรื่องแบบนี้เข้ามานั้น มันทำให้ผมสับสนและไม่สบายใจ ผมที่ไม่เคยเชื่อใจใคร พึ่งแต่ตัวเองมาตลอด พอได้มาพบเคียวซัง ผมก็เชื่อจนหมดใจ มันผิดเหรอที่ผมจะหวง ผมหวงทุกคนแหละ ถ้าธัชเป็นแบบนี้ผมสาบานเลยว่าจะตีน้อง ตีๆๆ จนกว่าจะไม่กล้านอกใจผมเลย 

          " เอ่อ น้องธิชาหรือเปล่าคะ " ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังเรียกผมอยู่ และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีหลายคนเลยทีเดียว ซึ่งผมจำได้ว่า ทุกคนเป็นผู้หญิงที่เคยอยู่กับเคียวซัง

          " ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ พวกพี่อยากคุยด้วยจริงๆ "  ผมหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมตามไปแต่โดยดี นี่ผมจะโดนหลอกไปรุมโทรมอีกหรือเปล่าเนี่ย

          ไม่นาน ผมก็มานั่งซึมๆ ดูดน้ำหวานอยู่ท่ามกลางสาวๆ ในร้านกาแฟข้างมหา'ลัย ซึ่งเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่ดูร่มรื่น ผมไม่มองหน้าใคร ไม่สบตาใครทั้งนั้น ยัยพวกตัวแสบ ไม่ต้องมาขอโทษ ไม่ยกโทษให้ และไม่ยกเคียวซังให้ด้วย ชิ

          " พี่รวมตัวกันเพราะว่าพี่อยากมาบอกน้องธิชากันเอง เซนเซย์เขาไม่ได้ขอร้องพวกเรามานะ แต่เห็นเซนเซย์สีหน้าไม่ดีเลย โทรไปก็น้ำเสียงเครียดๆ แปลว่าเขาต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ แล้วพี่ก็เลยคิดว่าเป็นเพราะพวกเรา ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่อย่าโกรธเซนเซย์เลยน้า " ผมเงยหน้าขึ้นจากน้ำหวาน หนอย หลอกกันใช่ไหม ไอ้บ้านั่นใช้ให้มาอยู่แล้วแบบนี้

          " คือ พวกเรากำลังรักษา เอ่อ อาการซึมเศร้ากับเซนเซย์ค่ะ " ผมชะงักจ้องมองพวกรุ่นพี่พวกนี้ เดี๋ยวนะ เป็นอย่างนั้นเองเหรอ เคียวซังถึงไม่บอกผม ผมนี่มันบ้าจริงๆ 

          ผมทึ้งผมตัวเอง ผมมันงี่เง่าสิ้นดี โล่งเลยล่ะ โล่งใจสุดๆ แต่ว่าก็เครียดเช่นกัน ผมทำให้เคียวซังไม่สบายใจ กดดันให้เสียใจ และผมยังทำให้พวกพี่ๆ พวกนี่มาเปิดเผยความลับกับผมอีก  คำว่าจรรยาแพทย์ของเคียวซังนั้นเต็มเปี่ยม ปิดปากเงียบแม้กระทั่งต้องทำร้ายจิตใจผมก็ยอม เป็นคนดีจังเลยนะ  ผมอยากตีตัวเองจริงๆ 

          " ผมขอโทษครับ ผมมันโง่จริงๆ " ผมพูดขอโทษจนแทบจะกราบแทบเท้าพวกพี่ๆ เลยครับ 

          " ไม่เป็นไรค่ะ น้องธิชาเป็นแฟนเซนเซย์ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นพวกเราคิดว่าไม่เป็นไร " พวกรุ่นพี่ต่างพากันยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดู
         
          "  ฝาแฝดน่ารักแบบนี้นี่เอง เซนเซย์ถึงได้หวงนัก อิจฉาเนอะ " ผมยิ้มแห้งๆ พลางเกาหัวแบบเขินๆ 

          " ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ ครับ " ผมโบกมือลาพวกพี่ๆ สาวสวย และรีบวิ่งกลับไปที่คณะ ตอนนี้ยังอยู่ในชั่วโมงเรียนอยู่ น่าจะยังไปทัน ผมวิ่งสุดชีวิตจนเหงื่อท่วมตัว และมายืนหอบหายใจอยู่ที่หน้าห้องสโลปที่เก่า

          ผมผลักประตูเข้าไป แน่นอนว่าสายตาทุกคนต่างจับจ้องมาที่ผม ผมก้มหน้าเดินขึ้นไปยังที่นั่งที่ธัชนั้นกำลังนั่งอยู่ด้วยใบหน้าหมองเศร้า 

          " พี่ขอโทษ " ผมยิ้มและจับมือน้องกำไว้แน่นใต้เก้าอี้ พลางเหลือบมองเคียวซังที่มีสีหน้าเคร่งเครียด และดูเหนื่อยอ่อน ตอนนี้เซนเซย์ยังคงสอนอยู่ และคอยเหลือบมองผมด้วยแววตาเศร้าๆ

          ผมขยับตัวไปใกล้ๆ น้องและเล่าเรื่องที่ได้เจอกับพวกรุ่นพี่ที่เป็นคนไข้ของเคียวซังให้ธัชฟัง ธัชที่ตั้งใจฟังผมนั้น ก็เริ่มกลับมายิ้มเหมือนเก่าแล้ว แต่ผมก็บอกน้องว่า ให้ทำตัวซึมๆ เหมือนเดิมไปก่อน เพราะว่าผมมีแผนต้องขอโทษเคียวซัง ต้องตอบแทนให้สาสมที่สุด หึหึ

          ก่อนเลิกเรียน ผมหนีออกจากห้องก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเคียวซังถึงกับหยุดบรรยายกระทันหัน และมองตามผมที่เดินออกประตูไป ผมขอโทษนะครับ ผมแค่อยากทำอะไรบางอย่าง ซึ่งผมอยากเตรียมตัวสักนิดก่อนที่เคียวซังจะมา


          เคียวเซนเซย์


          ผมยังคงรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ผมนั้นทำให้ธิชาน้อยใจถึงขนาดนี้ แต่ผมก็อดดีใจไม่ได้ที่ได้เห็นว่าธิชาและธัชนั้นรักผมมากแค่ไหน ธัชนั้นค่อนข้างจะเชื่อใจผมเสมอมา เพราะพวกเราเคยอยู่ใกล้ชิดกัน และผมไม่เคยโกหกธัชเลยสักครั้ง พวกเราเชื่อใจกันและกันมากกว่าธิชาที่เพิ่งรู้จักผม ซึ่งผมไม่โทษธิชาเลย เพราะความที่เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนที่มั่นใจและเป็นพวกช่างคิด มันเป็นนิสัยส่วนตัวซึ่งทำให้เกิดความครางแครงใจมากเป็นเท่าตัว แต่ผมก็ไม่อาจบอกธิชาถึงเรื่องของเด็กสาวพวกนั้นได้ ผมไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ผมคงทำได้แค่บอกว่า ผมรักเขามากที่สุดจนกว่าเขาจะยอมใจอ่อนและเห็นใจผมบ้าง

          ผมมองตามธิชาที่เดินเข้ามาในชั้นเรียนด้วยสภาพที่เหมือนกับวิ่งมาจนเหนื่อย ธิชายังคงไม่ยอมสบตาผม มันทำให้ผมปวดใจจริงๆ แต่ธัชนั้นก็แอบยิ้มให้ผมเสมอ ทำให้ผมยังคงยิ้มและมีกำลังต่อไปได้ แต่แล้วพอใกล้จบคาบเรียน ธิชาก็หนีผมไปอีกแล้ว ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่าความสิ้นหวังมันเป็นยังไง

          " เคียวซัง " เมื่อจบคาบเรียนผมและธัชก็เดินมาที่รถเพื่อเตรียมตัวกลับไปยังที่ของเรา

          ผมหันมองตามเสียงเรียกของธัชที่ส่งยิ้มให้ผม ภายในรถธัชกอดผมเอาไว้เหมือนกำลังให้กำลังใจผมซะอย่างนั้น เด็กน้อย เพราะแบบนี้ผมถึงรักธัชมากเช่นกัน 

          " ผมรักเคียวซังนะครับ และแน่นอนว่าพี่ธิชก็เหมือนกัน " ผมยิ้มให้กับความอ่อนโยนของธัช 

          " ฉันก็รักเธอมาก " ผมยิ้มให้กับความอ่อนโยนของธัช 

          เมื่อก่อนนั้นผมเอ็นดูธัชเหมือนกับน้องชายของผม ผมปกป้องธัชโดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ และตอนนี้ พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเราหยุดอยู่แค่นั้น ผมไม่อยากทำเหมือนผมกำลังใช้คนรักร่วมกับธััช ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดี สู้ให้พวกเราทั้งสามคนรักกันแบบนี้นี่แหละที่ผมคิดว่าดีที่สุด 

          ตอนนี้ผมกับธัชนั้น พวกเราจึงเป็นเหมือนทั้งพี่น้องและคนรักกัน และพวกเราก็มีคนที่รักเหมือนกันอีกคน มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมคิดว่าผมโชคดีจริงๆ ที่เกิดมา ได้พบได้เจอ และได้รักคนถึงสองคน ที่ล้วนเป็นคนสำคัญ เป็นคนที่ทำให้ผมลืมเรื่องเลวร้ายภายในหัวใจ แค่พวกเราสามคนมองตากัน ผมก็รู้สึกเหมือนจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล

          ผมขับรถกลับมาที่คอนโดด้วยความรู้สึกที่ยังหม่นหมอง ผมจับมือธัชและเดินขึ้นไปยังที่ของเรา 

          " หลับตาได้ไหมครับ " ผมมองธัชที่อยู่ดีๆ ก็ยิ้มให้ผม และเดินมาด้านหลัง ปิดตาผมเอาไว้ และพาเดินตรงไปยังห้องห้องหนึ่ง ซึ่งผมจำตำแหน่งของมันได้ 

          " อย่าเพิ่งลืมตานะครับ " ผมยิ้มน้อยๆ นี่แอบวางแผนอะไรกัน ผมยังคงหลับตา และยื่นมือไปข้างหน้าทั้งสองข้าง เพื่อพยายามจับตัวคนที่วางแผนแบบนี้ขึ้นมา 

          สัมผัสเย็นๆ ที่นิ้ว ทำให้ผมลืมตาขึ้น และก็พบว่าทั้งสองคนกำลังสวมแหวนที่นิ้วนางทั้งสองข้างให้ผมอยู่ ผมมองเด็กน้อยทั้งสองคนที่กำลังหัวเราะยิ้มขำกับสีหน้าประหลาดใจของผม

          " ถึงมันจะเล็กน้อย แต่ก็ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้เราเสมอมา แล้วผมก็ขอโทษครับที่เข้าใจเคียวซังผิดไป " ผมมองธิชาที่ทำท่าเขินน้อยๆ แต่ก็จ้องมองผมด้วยความรู้สึกดีๆ

          ผมดึงธิชามากอดไว้แน่น และดึงธัชเข้ามากอดไว้ด้วยอีกคน ผมดีใจมาก ดีใจเหลือเกิน หัวใจของผมมันเหมือนกับจะระเบิดออกมาด้วยความรัก


เพราะไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการที่พวกเราสามคนเข้าใจกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 25-10-2017 20:18:48
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: AkaneSama ที่ 25-10-2017 23:11:39
เริ่มแรกเนื้อเรื่องมันก็ดีอยู่หรอก แต่หลังๆรู้สึกตะขิดตะควงใจแบบแปลกๆ คือพวกเขายอมรับกันง่ายเกินไปนะหรือว่าจะมีหักมุมรึยังไง ไม่คิดว่าธิชจะยอมง่าย ส่วนธัชก็ดูห่วงพี่จะตาย ก็เลยรู้สึกขัดๆไงไม่รู้ แต่ก็ยังจะติดตามตอนต่อไปนะค่ะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-10-2017 23:35:52
เริ่มแรกเนื้อเรื่องมันก็ดีอยู่หรอก แต่หลังๆรู้สึกตะขิดตะควงใจแบบแปลกๆ คือพวกเขายอมรับกันง่ายเกินไปนะหรือว่าจะมีหักมุมรึยังไง ไม่คิดว่าธิชจะยอมง่าย ส่วนธัชก็ดูห่วงพี่จะตาย ก็เลยรู้สึกขัดๆไงไม่รู้ แต่ก็ยังจะติดตามตอนต่อไปนะค่ะ สู้ๆค่ะ

เซนเซย์นั้นถือว่าเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือ เกื้อหนุนทั้งสองแฝดมานานสุดๆ ถ้าไม่มีเซนเซย์ธัชนี่นรกของแท้เลยค่ะ เรียกว่าตายทั้งเป็น ธัชรักและบูชาเซนเซย์มากจ้า 555+ และธิชนั้นก็ดิ้นรนต่อสู้เพื่อน้องมานาน ตอนแรกที่ไม่ชอบเซยเซย์ก็เพราะว่ายังไม่ไว้ใจ แต่พอได้มารู้ว่าคนคนนี้นั่นคอยช่วยเหลือเสมอมาก็เกิดความรู้สึกดีๆขึ้นมา เปรียบเสมือนผู้ช่วยให้รอดเลยทีเดียวไรท์ว่าไม่ง่ายเลยน้า 555+ ขอบคุณที่ติชมและติดตามจ้า   o18
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-10-2017 00:04:53
ตอนหน้า รถขนอ้อยคว่ำแน ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-10-2017 00:18:50
คลางแคลงใจย่อมนำไปสู่ความแตกแยก

ทำไมคนไข้ต้องมีแต่สาว ๆ ล่ะ! ฮึ่ย!
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 26-10-2017 09:28:29
เคียวรักธัชแบบน้อง แต่มาอยู่ด้วยกันเลยเปลี่ยนมารักแบบคนรัก แปลกๆอะ หรือเพราะหน้าเหมือนกันเลยเปลี่ยนง่ายๆ
แล้วรุก×รุก ยังไงก็ต้องมีคนยอมลงละนะ
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 26-10-2017 10:53:38
 :mc4:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-10-2017 13:21:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest][3P][ #40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น ](25/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 26-10-2017 16:57:47
          TWINS บทที่ 41 ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัว


          เคียวเซนเซย์


          หลังจากกอดกันกลม ผมเพิ่งสังเกตุว่าเอ่อ ธิชานั้น ใส่แค่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวของผมเท่านั้น ท่อนล่างนั้นมีแค่กางเกงชั้นในตัวสั้นๆ หมายความว่าไงกันละเนี่ย

          " นี่กำลังยั่วฉันอยู่หรือเปล่า " ผมที่ถามออกไปนั้นทำให้ธัชหัวเราะลั่นเลยทีเดียว

          " อภินันทนาการแด่หัวหน้าครอบครัวของเรา " ธัชทำท่าสะบัดมือเหมือนกำลังนำเสนอสิ้นค้าชิ้นงาม ไปทางธิชา ที่ยังคงหน้าแดงจัดและพยายามดึงชายเสื้อเชิ๊ตลงให้ปิดท่อนล่างตัวเองมากที่สุด ผมแทบไม่ต้องเดาว่าความคิดใคร เจ้าธัชตัวแสบแน่ๆ ลำพังตัวธิชานั้นคงไม่กล้า เด็กคนนี้ขี้อายยิ่งกว่าอะไรกับเรื่องแบบนี้

          ผมอมยิ้มขำ แต่แบบนี้ก็ดีนะ เพราะตัวผมนั้นยังพูดไม่ได้เต็มปากว่าเป็นสามี หรืออะไรทำนองนั้น เพราะว่าผมกับธิชายังไม่ได้เอ่อ สัมผัสกันจริงๆ สักที 

          " เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันไหม " ธิชาดูเหมือนเริ่มจะตื่นกลัวกับสายตาของผม เพราะตอนนี้ผมเริ่มเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ พลางถอดไทและเสื้อเชิ๊ตของตัวเองออกไปด้วย

          " อ..อาบน้ำก่อนก็ได้นะ " ธิชายังคงเดินถอยหลังและหลบสายตาผมไปด้วย น่ารักจริงๆ ผมอยากจะขย้ำซะทีเดียว แต่ก็ต้องอดทนไว้ เพราะลำพังแค่ธัช ธิชาก็ช้ำในแล้ว ถ้าผมซาดิสม์อีกคนก็คงไม่เป็นผลดีเท่าไหร่

          " ธัช มัวทำอะไรล่ะ มาสิ " ผมพยักหน้าเรียกธัชที่ยืนหัวเราะอยู่มุมห้องให้เข้ามา 

          " แต่ว่า...ได้เหรอฮะ "

          " ตกลงกันไว้ว่าไง " ผมยิ้มให้ธัช ซึ่งธัชก็ยิ้มจนตาหยีกลับมา

          " คือ วันนี้ไม่ต้องลุมได้ไหม อ้ากก " ธิชาคงเริ่มสติแตกทนไม่ไหว ถึงได้วิ่งหนีผมและธัชสุดกำลัง เมื่อกี้เหมือนจะยอมอยู่แล้วเชียว ฮ่าๆ  แต่จะไปไหนได้ล่ะ ไม่มีทางรอดเงื้อมือเสือสองตัวไปได้หรอก เจ้าลูกแมวเอ๋ย

          ผมล็อคธิชาที่กำลังจะวิ่งออกจากห้องไว้ได้ จับอุ้มและวางลงกับเตียง ธิชาปิดหน้าตัวเองไว้ คงจะเขินอายแบบสุดๆ

          ผมถอดเสื้อของตัวเองออกจนหมด แต่ยังคงไม่ละสายตาไปจากคนตรงหน้า ที่ยังคงปิดหน้าตัวเองอยู่ พลางเอาเท้ายันหน้าท้องผมเอาไว้ เหมือนกับไม่อยากให้ผมเข้ามาใกล้มากกว่านี้ แต่ผมก็ได้ที จับข้อเท้านั้นไว้ และจูบเบาๆ จากข้อเท้าไล่ไปยันปลายเท้า

          " ฮ่าๆ มันจั๊กจี๋นะ " ธิชาหัวเราะและพยายามดึงเท้าออก แต่ผมก็ยังคงผมจูบเบาๆ ทั่วเรียวขานั้น ไล่ไปจนถึงนิ้วเท้าและฝ่าเท้า  ธิชาที่แรกๆ หัวเราะ ตอนนี้กลับเริ่มส่งเสียงแปลกๆ และบิดเร้าตัวไปมา

          ผมละจากปลายเท้า เริ่มหอมและจูบเลียไปทั่วเรียวขาพลางก้มต่ำลงมาเรื่อยๆ ลงมายังกางเกงชั้นในตัวน้อยของคนเบื้องล่าง ลากจมูกแผ่วเบาไปตามจุดอ่อนไหวที่เริ่มแข็งตัวนูนขึ้นมา และใช้ปากขบเม้มเบาๆ ที่นอกเนื้อผ้านั้น ซึ่งคนเบื้องล่างก็เริ่มจิกผ้าปูที่นอน และหลับตาแน่น 

          ผมเหลือบมองธัชที่ลูบไล้ไปมาบนเสื้อเชิ๊ตตัวบางของธิชา และเลื่อนตัวเข้าไปซ้อนด้านหลัง จับตัวพี่ชายให้พิงทับบนตัวเองอีกที ธัชจูบเลียซอกคอขาวนั้นเบาๆ อย่างรักใคร่ ในขณะที่ผมเลื่อนตัวช้าๆ คร่อมตัวคนเบื้องล่างไว้ ขยับไปยังใบหน้าของธิชาที่ยังไม่ยอมมองผม ยังคงหลับตาแน่นและเกร็งตัว ผมก้มลงประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากแดงนั้นช้าๆ กอดจูบลูบไล้ไปมาบีบคลึงสะโพกมนของคนเบื้องล่างไปด้วย

          ผมละริมฝีปากจากธิชาและยื่นหน้าเข้าไปหาธัชที่อยู่ด้านหลัง จูบแทรกเรียวลิ้นพลางลูบเบาๆ ไปตามร่างกายของธิชาไปด้วย พวกเรากอดจูบสัมผัสกันด้วยความรัก ราวกับไม่อยากที่จะแยกจากกัน ผมละจากริมฝีปากธัชและจ้องมองหน้าธิชาที่ยังคงไม่ยอมสบตาผม

          " ธิชา มองฉันสิ " ผมกระซิบแผ่วเบา พลางจูบไซร้ไปตามลำคอเรียวลามไปยังใบหูสีแดงน่ารัก จ้องมองใบหน้าของธิชาที่ค่อยๆ หันหน้ามาช้าๆ และลืมตามองผมด้วยแววตาสั่นระริก ผมเกลี่ยแก้มใสที่เริ่มชื้นเหงื่อ และกดริมฝีปากลงไปแนบชิดกับริมฝีปากแดงสวยที่เผยอรอรับสัมผัสจากผมอีกครั้ง อ้าปากงับสอดแทรกเรียวลิ้นนิ่มสีชมพู มันช่างหอมหวานและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน 

          ผมรู้สึกถึงความร้อนที่พัดโหมพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ธัชก็เลื่อนมือลูบไล้ที่ยอดอกผ่านผิวผ้าบาง และเลื่อนมือปลดเปลื้องกระดุมใสที่ปกปิดเรือนร่างที่สวยงามนี้ไว้ ผมจึงก้มลงจูบย้ำๆ และลากลิ้นลงมาโลมเลียไปตามยอดอกที่ชูชันด้วยแรงอารมณ์ของคนเบื้องล่าง  ในขณะที่ธัชก็เชยคางธิชาและงับลงบนริมฝีปากบางนั้นเช่นกัน

          ผมยังคงดูดเลียเม้มจนติ่งไตสีแดงนั้นและขบกันกัดเบาๆ จนทำให้ร่างบางสั่นน้อยๆ ไปทั้งตัว ในขณะเดียวกันสองมือของผมนั้นก็กำลังรูดกางเกงชั้นในตัวน้อยของคนเบื้องล่างลงช้าๆ สลับกับลูบไล้เบาๆ ไปตามต้นขาและบีบเฟ้นสะโพกมนนั่นอย่างมันส์มือ 

          " ด.เดี๋ยวก่อน ไม่เอานะ ตรงนั้นมัน " ธิชาผละออกจากริมฝีปากธัช และเริ่มดิ้นขัดขืนผมที่ยกสะโพกของคนเบื้องล่างขึ้น เล็กน้อยและจรดปลายลิ้นลงบนช่องทางสีชมพูนั้นพลางกระหวัดเลียเบาๆ จนคนเบื้องล่างถึงกับร้องครางออกมาอย่างลืมตัว

          " อ๊ะ อย่า มัน อ.อื้ออ " คนเบื้องล่างบิดตัวไปมา และร้องครางจนตัวสั่น ซึ่งก็ถูกธัชปิดปากอีกครั้งด้วยรสจูบที่ร้อนแรง ผมใช้มือที่ว่างกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่บัดนี้หยาดเยิ้ม และรูดขึ้นรูดลงปรนเปรอคนเบื้องล่างจนแทบขาดใจ

          " อ๊ะ..อื้อ.ออื้อ " พอได้ยินอย่างนั้น ผมยิ่งเร่งจังหวะยิ่งขึ้นทำให้คนเบื้องล่างยิ่งบิดเร้า หอบหายใจและจิกดึงผ้าปูจนยับเยิน และสุดท้ายก็

          " อ๊ะ อ๊าา ~ " คนเบื้องล่างผละริมฝีปากออกจากธัชอีกครั้ง ร้องครางและปลดเปลื่องหยาดน้ำสีขาวออกมาจนเลอะเต็มหน้าท้อง พลางหายใจหอบ

          " นี่แค่เริ่มเองนะ " ผมพูดพลางยิ้มกวน

          " สอนผมมั่งนะ " ธัชพูดพลางยกนิ้วยักคิ้วให้ผม

          " อ.ไอ้พวกบ้า " ธิชาทำท่าจะถีบผมออกอีกแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ผมปลดเข็มขัดตัวเองออก พลางมองหน้าคนที่กำลังเริ่มจะขยับตัวหนีผมอีกแล้ว ผมดึงข้อเท้านั้นไว้ และลากกลับมาหาผม จนก้นน้อยๆ นั่นแนบชิดกับชั้นในสีเข้มของผม

          " ข.ขอพักก่อนไม่ได้เหรอ " ธิชาใช้เข่าดันกล้ามท้องผมไว้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานผมได้ ผมยกขาข้างนึงของธิชาขึ้น และพาดบ่าไว้ และโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ในขณะที่ธัชก็ยังคงแค่ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก และยังคงซ้อนหลังธิชาไว้ พลางลูบไล้ยอดอกสีชมพู จนธิชาเริ่มตัวสั่นอีกครั้ง

          " ด..เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่ง " ธิชายื่นมือมาดันหน้าท้องแกร่งของผมไว้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานผมที่จรดแก่นกายเข้ากับช่องทางอ่อนนุ่ม และค่อยๆ สอดแก่นกายเข้าไปช้าๆ พลางกอดจูบเรียบขาบนบ่าเพื่อสะกดอารมณ์

          " อ้าา~ "  ธิชาร้องครางนิ่วหน้า หลับตาแน่น และดันอกผมเบาๆ เหมือนจะบอกว่าให้ผมทำช้าๆ ผมขบกรามแน่น และยังคงดันเข้าไปต่อเรื่อยๆ จนกระทั่งลึกที่สุด พลางหอบหายใจน้อยๆ 

          " พี่ครับ อย่าเกร็งสิครับ " ธัชถามเสียงเบาพลางจูบซับเหงื่อธิชาและเลื่อนตัวออกมานั่งชันเข่าข้างๆ แก้มนั้น

          " ไหวนะ ไม่ไหวไม่ต้องทำให้ผมก็ได้ " ผมมองธิชาที่สั่นหัวน้อยๆ แก้มแดงระเรื่อชื้นเหงื่อและเริ่มใช้ปากครอบครองส่วนแข็งขืนของน้องชายด้วยอีกทาง 

          ผมมองช่องทางเล็กๆ สีสวยที่กลืนกินท่อนกายของผมไว้ พลางขยับเอวน้อยๆ ให้สัมผัสเสียดสีกันมากขึ้น ผมครางในลำคออย่างพึงพอใจ สมองตื้อไปด้วยความเสียวซ่าน ผมชันเข่าและเริ่มขยับเอวมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนเบื้องล่างเริ่มอ้าปากหอบหายใจ พลางดูดเลียท่อนกายร้อนตรงหน้าไปด้วย

          ยิ่งผมเร่งจังหวะมากขึ้นเท่าไหร่ ช่องทางอ่อนนุ่มก็ยิ่งบีบรัดผมมากขึ้นเท่านั้น ความอบอุ่นภายในทำเอาผมร้อนลุ่มจนแทบคลั่ง จากที่กอดจูบเรียวขา ผมเริ่มกัดเบาๆ พลางกระแทกกายเข้าออกมากขึ้น เสียงร่างกายที่กระทบกันนั้นดังเป็นจังหวะ และเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ 

          " อ.อื้อ.อ๊ะ " ร่างกายท่อนล่างของผมยังคงกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างหนักหน่วงและถี่กระชั้น รับรู้ถึงช่องทางภายในที่ตอดรัดและบีบแน่นจนแทบขาดใจ

          ธิชาร้องครางเสียงอู้อี้ในลำคอ มือข้างหนึ่งจิกลงที่ผ้าปูจนแทบขาด แขนอีกข้างจับเอวธัชไว้ และปากสีแดงนั้นยังคงทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี จนธัชร้องครางเบาๆ ด้วยความพึงพอใจ ตอนนี้ร่างกายของคนเบื้องล่างบิดเร้าตอดรัดแก่นกายของผมอย่างไม่ยอมแพ้ ส่วนธัชนั้นเริ่มขยับเอวเร็วขึ้นและลูบที่แก้มสีแดงของพี่ชายไปมาพลางหายใจหอบ ซึ่งในขณะที่ผมนั้นก็ไม่สามารถกระแทกท่อนกายช้าลงได้แม้เพียงเสี้ยววินาที 

          " อึกก อืม " ในช่วงเวลาสุดท้าย ผมแนบกระชับยึดเรียวขาและกดแท่งกายให้ลึกยิ่งขึ้น และกระหน่ำเอวเข้าออกอย่างแรงหลายครั้ง ก่อนที่จะปลดปล่อยหยาดน้ำรักเข้าไปยังช่องทางด้านในที่แสนอบอุ่น พร้อมๆ กับที่ทั้งสองคนก็ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน

          " ฉันรักพวกเธอ " ผมพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มธิชาและธัชเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม

          " ผมก็รักคุณครับ " ทั้งสองคนพูดช้าๆ และยื่นหน้ากลับมาหอมแก้มผมคนละข้างเช่นกัน 

          พวกเรานอนเงยหน้ามองเพดานที่ส่องสว่างสีนวลๆ พลางหายใจหอบด้วยความอ่อนล้า

          " เอาล่ะ วันนี้อยากไปหาอะไรกินข้างนอกกันไหม " ผมพูดและยิ้มอย่างใจดี พลางหันมองแก้มสีแดงของคนทั้งสองที่ยังคงหลับตาอยู่

          " ไปครับ!! " แต่พอได้ยินดังนั้น ทั้งสองคนก็รีบหันมาตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น

          " เก่งจัง ลุกขึ้นไหมนั่น ฮ่าๆ "

          ผมมองดูธัชที่เริ่มหยอกล้อพี่ชายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งธิชานั้นยังไม่สามารถขยับตัวได้ จึงได้แต่ยื่นแขนไปหาน้องแต่ก็ตีน้องไม่ถึง  ผมยิ้มให้กับภาพตรงหน้า ต่อไปนี้พวกเราก็จะได้ยิ้มแย้ม อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานเท่านาน


เพราะผมจะไม่มีวันปล่อยคนที่ผมรักทั้งสองคนไปจากผมแน่นอน
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest3P][41ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัวNC20+] 26/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-10-2017 17:48:48
 :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest3P][41ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัวNC20+] 26/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 26-10-2017 18:58:19
ได้กันแล้ว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest3P][41ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัวNC20+] 26/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 26-10-2017 20:28:19
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest3P][41ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัวNC20+] 26/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-10-2017 22:15:03
ร้อนแรงระดับละลายหินได้
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest3P][41ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัวNC20+] 26/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-10-2017 23:12:20
ในที่สุดรถขนอ้อยก็คว่ำจนได้  :hao6:
หัวข้อ: Re: TWINS"รัก ลวง หลอก"[Incest3P][41ฝาแฝดและความรักของหัวหน้าครอบครัวNC20+] 26/10/60
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 27-10-2017 12:32:37
          TWINS บทที่ 42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข


          เวลาเคลื่อนผ่านไปไม่นาน แต่ผมรู้สึกราวกับว่า พวกเราสามคนอยู่ด้วยกันและรักกันมานานแล้ว ทุกๆ วันมันช่างสวยงาม สว่างไสว ทุกค่ำคืนนั้นก็แสนอบอุ่นละมุนหัวใจ  ผมนั่งมองแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเข้ามาจากใต้ร่มผ้าใบคันใหญ่ สายลม เสียงคลื่น และเสียงนกนางนวลผสมกับเสียงหัวเราะอันเริงร่าของน้องชายตัวดีของผม ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่กับผู้ใหญ่หัวใจเด็กอีกคน ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้ที่จะแย่งเปลือกหอยสวยๆ เพื่อเอามาให้ผม เพียงเพราะผมบอกว่าผมชอบมัน ฮ่าๆ 

          " ฮือ แพ้แล้ววว " ผมหัวเราะชอบใจเพราะธัชนั้นหลังจากถูกเคียวซังจับโยนลงน้ำ ก็คลานขึ้นมาหาผมด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อเพราะไอร้อนจากแดด

          " กินน้ำหน่อยไหม " ผมยื่นแก้วให้น้องที่ยิ้มตาหยีมองผมพลางดูดน้ำเสียงดัง

          " เคียวซังไปไหนแล้วนะ " ผมถามขึ้นเพราะว่าผมมองหาเคียวซังไม่เจอ

          " ดำน้ำเก็บเปลือกหอยอยู่ฮะ " ธัชบอกผมพลางมองออกไปเช่นกัน แต่ผมก็ยังไม่เห็นเคียวซังอยู่ดี สักพักได้แล้วนะ

          " ธัช " ผมจับหลังคอน้องที่นั่งลงบนผืนทรายข้างๆ ผม พลางสบตาธัชด้วยสีหน้าที่เริ่มเป็นกังวล และธัชก็เหมือนจะรู้สึกได้ว่าผมคิดอะไร ธัชรีบวิ่งออกไป และกระโจนลงน้ำเสียงดัง

          ผมที่วิ่งตามมา แต่ก็ถูกธัชที่โผล่หัวขึ้นมาทำท่าห้ามผมไว้ไม่ให้ผมลงไปในน้ำ แต่ผมไม่ฟัง ผมมือสั่น น้ำตาไหลออกมา และเดินย่ำลงน้ำต่อไป 

          " พี่ธิช " ธัชรีบเปลี่ยนเป้าหมายมาจับผมไว้และกอดผมเอาไว้แน่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็สีหน้าไม่ดีเช่นกัน

          " ธัช ธิชา ทำอะไรกัน " ผมกับน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่ในน้ำหันไปมองตามเสียงเรียกของคนที่เราตามหา ผมกับน้องรีบวิ่งเข้าไปหาเคียวซังที่กำลังถอดแว่นดำน้ำออกและทำหน้างงสุดๆ 

          " เป็นอะไรกันร้องไห้ทำไม " ผมกอดเคียวซังไว้แน่นธัชก็เช่นกัน

          " หายไปไหน " ธัชถามเสียงสั่น ทำให้เคียวซังกอดพวกเราไว้แน่น แต่ใบหน้านั้นกำลังยิ้มกว้าง

          " คือขอโทษนะ แต่ฉันดำน้ำอึดมาก ขอโทษที่ทำให้ตกใจ " เคียวซังลูบแขนพวกเราเบาๆ และหัวเราะขำ 

          ผมโล่งใจและกำมือแน่น แต่นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าผมกับน้องนั้นไม่อาจกลับไปใช้ชีวิต โดยที่ไม่มีคนคนนี้ได้อีกแล้ว เคียวซังนั้นได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเรา แค่คิดว่าสักวัน ถ้าผมจะต้องเสียคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้ไป ผมก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ พวกเราได้ผ่านช่วงเวลาอันแสนเลวร้ายมาหลายรูปแบบ ต้องอยู่แบบอดๆ อยากๆ นอนข้างกองขยะ ถูกขาย ถูกทุบตี ผมไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว ผมไม่อยากให้ธัชเจ็บปวดอีกแล้ว ได้โปรดเถอะครับ อย่าทิ้งพวกเราไป พวกเรามีแค่คุณเท่านั้น 

          " ฉันรักพวกเธอ ฉันไม่มีวันไปไหน ฉันสัญญา " เคียวซังนั่งคุกเข่าลงกับผืนทรายและจับมือเราสองพี่น้องไว้ ดึงเข้าไปและจูบเบาๆ ผมเช็ดน้ำตาและตีไหล่ไอ้คนที่ทำให้ขวัญเสียนี่สักทีด้วยความโล่งอก

          ตกค่ำผมมองดูธัช ที่กำลังหลับไหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อนพวกเราเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 18 ปีเท่านั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นเหมือนดั่งฝันร้ายที่แสนยาวนาน ผมยึดติดกับคำว่าพี่ชายมากเกินไป ทั้งๆ ที่พวกเราอายุห่างกันเพียง 5 นาทีเท่านั้น ที่ผ่านมาคงเป็นเพราะผมปกป้องธัชมากเกินไป มันจึงส่งผลเสียและทำร้ายธัช แต่จากนี้ไปผมจะตามใจน้องบ้าง ผมจะถามว่าธัชนั้นอยากทำอะไร ผมจะสอนธัชให้ธัชทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมจะปล่อยให้น้องเป็นอิสระ อิสระที่จะทำอะไรก็ได้ ขอแค่อยู่ข้างๆ ผมตลอดไป ผมขอแค่โอกาสนั้น โอกาสที่จะให้ผมได้แก้ไข ได้รักน้องในแบบที่ควรจะเป็น ผมจะบอกธัชอีกครั้ง และจะบอกทุกๆวัน ว่าผมรักธัช ในแบบที่ผู้ชายคนนึง จะรักผู้ชายอีกคนนึงได้ ผมจะเป็นทั้งพี่ชายและคนรักของธัช และผมจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

          ผมดีใจที่ธัชนั้นเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และอาการดีขึ้นมาก ธัชที่เมื่อก่อนชอบเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในใจและก้มหน้าก้มตาตามใจผมทุกอย่าง ตอนนี้เริ่มดื้อและทำตามใจตัวเองแล้ว และผมก็รับฟังและตามใจน้องมากขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าดีกับธัชแล้ว และถึงแม้ว่าวันหนึ่งผมอาจจะทำอะไรผิดพลาดไป ผมก็ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว เพราะว่าผมมีคนที่คอยแนะนำผม ถึงสิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ถูกต้อง ดูแลพวกเราด้วยความรัก ความทุ่มเท ด้วยชีวิต ขอบคุณนะครับ  ผมบอกขอบคุณคนที่นอนหนุนตักอีกข้างนึงของผม 

          " อิจฉา สุดๆ ไปเลย " ผมมองคนที่เดินมานั่งข้างๆ แคร่ของผม ซึ่งเป็นที่นั่งกว้างๆ ทำให้ทั้งสองคนนอนหนุนตักผมได้สบายๆ

          " อย่าแซวกันสิครับ พี่เชน " ผมยิ้มให้พี่เชน เพื่อนสนิทและคนขับรถส่วนตัวของครอบครัวผม พี่เชนมักจะมาขับรถให้เสมอด้วยความเป็นห่วง เพราะเคียวซังนั้นมีนิสัยชอบซิ่งครับ น่าตีเนอะ

          " เรียนจบเราอยากทำอะไรเหรอ " พี่เชนถามด้วยเสียงอ่อนโยน 

          " ผมยังไม่รู้เลยครับ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสขนาดนั้น " ผมยิ้มอ่อนๆ กลับไปให้พี่เชน

          " พี่นับถือเคียวสุดๆ เลยนะ ไม่เคยแบมือขอเงินที่บ้านเลยสักบาท ทั้งๆ ที่ตอนเรียนเอกน่ะ เงินเก็บทั้งหมดนี่เกลี้ยงเลยล่ะ " ผมขมวดคิ้วน้อยๆ เคียวซังคนนี้เนี่ยนะ

          " ตอนเรียนเคียวซังคงใช้เงินเก่งมากใช่ไหมครับ " ผมมองพี่เชนที่ส่ายหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ

          " ตอนที่อยู่ญี่ปุ่น เคยได้ยินข้าวลือนี้ไหม ว่าหนุ่มน้อยที่งดงามที่สุดในย่านโสเภณีน่ะ ถูกจองตัวทุกคืนโดยเศรษฐีหนุ่มคนเดียวเป็นเวลาเกือบปีเชียวนะ และหนุ่มน้อยคนนั้นน่ะค่าตัวแพงที่สุดเป็นประวัติการเลย " ผมน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งหลังได้ฟังเช่นนั้น 

          " ผมอยากตอบแทนเคียวซังบ้างจังครับ แต่พวกผมไม่มีอะไรเลย " ผมพูดเบาๆ ด้วยความเสียใจ

          " ธิชกับธัชมีอยู่แล้ว และตอนนี้ก็กำลังมอบให้เคียวอยู่ เคียวไม่เคยยิ้มไม่เคยมีความสุขเลยมานานแล้ว ขอบใจพวกเรามากนะ พี่ขอให้ธิชและธัชอยู่ข้างๆ เคียวตลอดไป ทำเพื่อเคียวได้ไหม " 

          " ครับ " ผมมองหน้าธัชที่ลืมตาและตอบประสานเสียงกับผม ธัชลุกขึ้นมา ผมและน้องจ้องมองใบหน้าเคียวซังที่กำลังหลับไหลด้วยรอยยิ้มน้อยๆ หลับฝันดีนะ ที่รักของพวกเรา


          หลังจากกลับมาจากทะเล พวกเราก็กลับมาตั้งใจเรียนเช่นเคย จากที่ผมและธัชไม่ค่อยอยากเข้าเรียนเท่าไหร่ ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว เพราะอาจารย์หนุ่มสุดหล่อแห่งมหา'ลัย ผู้ซึ่งใครได้เห็นหน้า ก็แทบจะละลายกองลงไปแทบเท้าแล้วนั้น เป็นผู้สอนผมและน้อง และยังเป็นคนรักของพวกเราด้วย พูดแล้วเขิน นี่มันสุดยอดไปเลยครับ 

          " เซนเซย์ครับ ผมมีคำถาม " ผมและธัชยกมือขึ้นทุกๆ สิบนาทีในห้องเรียนเพื่อถามคำถามกวนประสาททุกครั้ง

          " เซนเซย์ มีแฟนหรือยังครับ จีบได้เปล่า " ฮ่าๆ เสียงวี๊ดว๊ายหัวเราะดั่งสนั่นห้อง การได้ส่งสายตา การได้แซวคนหล่อเวลาสอน มันช่างสนุกสนานเสียจริง  แต่สุดท้ายก็จบด้วยการที่ผมนั้นโดนลงโทษอย่างสาสมที่ดันไปแกล้งเสือร้ายตัวนี้ซะได้ แถมไอ้เสือเล็กอีกคนก็ร่วมวงด้วยเสมอ แบบนี้ได้ไง มันไม่ยุติธรรมอ้าา ทำไมผมโดนคนเดี๊ยววว


          " คืนนี้ไม่เอาแล้วนะ " ผมที่พอได้เวลานอนกลับไม่เคยได้นอน กำลังพยายามกอดประตูขัดขืนไว้สุดฤทธิ์

          " ไม่ใส่เข้าไปก็ได้ แต่ว่า.. " ธัชพูดพลางแกะผมออกจากประตู และกดผมให้นั่งลงแหมะที่พื้น ผมเงยหน้ามองไอ้เสือร้ายทั้งสองที่กำลังลูบหัวผมเบาๆ ด้วยแววตาวิบวับและหื่นกระหาย ฮือ แบบนี้ก็ไม่เอาได้ม๊ายย

          ผมที่กว่าจะได้นอน เพราะต้องไปสระผมล้างหน้าใหม่อีกรอบ ปล่อยตรงไหนก็ไม่ปล่อยนะ ไอ้พวกซาดิสม์ หึ่ยย ปากเปื่อยแล้วมั้งเรา นี่มันแกล้งกันชัดๆ 

          Rrrr Rrrr

          ผมที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำนั้น ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านที่ตั้งอยู่กลางโถงรับแขก ผมมองไปที่ห้องนอนที่เป็นกระจกสามารถมองเห็นได้ของผม และก็เห็นว่าเคียวซังกับธัชนั้นกำลังเอาหมอนฟาดกันอย่างเมามันส์ งั้นผมรับเองก็ได้มั้ง คงจะเป็นคนไข้ของเคียวซังนั่นแหละ

          " เอ่อ ฮัลโหลครับ " ผมกรอกเสียงลงไปทันทีที่รับสาย

          " เคียวเฮไม่อยู่เหรอ เธอเป็นใคร " เสียงของผู้ชายวัยกลางคนที่ฟังดูดุดันทำให้ผมหัวใจเต้นระส่ำ ถ้าผมเดาไม่ผิดละก็ คงเป็นคุณพ่อของเคียวซังแน่ๆ


สงสัย ผมกับน้องอาจจะงานงอกซะแล้ว
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-10-2017 13:54:58
เรารู้สึกรูปประโยคบางช่วงช่วงอย่างว่าอ่านแล้วดูขัดๆ คนเขียนไม่ถนัดหรือเปล่าคะ


แล้วก็ร่วมหอกันครบคน
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 27-10-2017 14:08:45
เรารู้สึกรูปประโยคบางช่วงช่วงอย่างว่าอ่านแล้วดูขัดๆ คนเขียนไม่ถนัดหรือเปล่าคะ


แล้วก็ร่วมหอกันครบคน

ไม่ถนัดและตอนแต่งไม่ค่อยมีสมาธินิดนึงค่ะ ยิ่งตอนที่ 41 ยิ่งชัดเจน แต่จะมีการเกลาใหม่ มันต้องเข้าถึงนิดนึงด้วยหรือเราหื่นไม่พอ ขออภัยด้วยนะคะ 555+
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 27-10-2017 15:04:13
งานกำลังจะเข้า
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-10-2017 15:38:53
งานงอกไหมนะ
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 27-10-2017 15:53:17
สงสารธิชาระบมทุกวัน555
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-10-2017 18:28:29
ุ้ลุ้น    :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-10-2017 23:49:28
ผู้เฒ่าที่เผือกโทรมา เป็นไผ่ฟะ  :m16:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 28-10-2017 03:42:25
หื่นกันทุกคนจริงๆ แต่หลังจากมาอยู่กันสามคนเรารู้สึกแปลกๆกับนิสัยฝาแฝด บางบทบรรยายที่กล่าวถึงลักษณะนิสัยและการกระทำของฝาแฝดมันทำให้เราคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กเล็กๆแบบอายุไม่เกินสิบห้า ดูเป็นเด็กน้อยมากจนอ่านๆไปก็นึกว่าแนวโชตะค่อนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #42 ฝาแฝดและช่วงเวลาแห่งความสุข ](27/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 28-10-2017 18:07:54
          TWINS บทที่ 43 เราสามคนตลอดไป


          ผมยังคงยืนอึกอักอยู่ที่เดิม ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ผมไม่น่ารับสายเลยให้ตาย แบบนี้เคียวซังจะเป็นไรไหมนะ

          " เอ่อ.. " แต่ผมที่อ้ำอึ้งๆ อยู่สักพัก ก็ถูกเคียวซังแย่งโทรศัพท์ออกไปจากมืออย่างรวดเร็ว

          " ครับคุณพ่อ " เคียวซังที่กำลังพูดกับคุณพ่อนั้น สายตาก็ยังคงจ้องมองผมตลอดเวลา และก้มลงจุ๊ฟผม และทำมือให้ผมเดินไปหาธัชในห้อง หนอย ฟังด้วยไม่ได้เหรอ ชิ

          ผมทำหน้างอนและเดินสะบัดบ๊อปออกมาจากตรงนั้น เดินไปหาธัช และพุ่งเข้าใส่ธัชที่กำลังเขย่งตัวเอื้อมมือพยายามสอยดาวบนเพดานอยู่

          " ฮ่าๆ อะไรของพี่เนี่ย " ผมจี๋เอวน้องเป็นของแถมจนธัชหัวเราะดิ้นไปดิ้นมา ผมชอบเล่นกับน้องแบบนี้ ถึงจะโตแล้วแต่พวกเราก็ยังเด็กเสมอในสายตากันและกัน และคงเป็นสายตาเคียวซังด้วย

          " งานเข้าแน่เลยอ่ะ " ผมกอดธัชที่ขำจนหอบหายใจเหนื่อย

          " มีอะไรเหรอครับ "

          " คุณพ่อเคียวซังโทรมา แล้วพี่เอ่อ ไปรับสายเข้าน่ะสิ " 

          " ดีสิครับ ผมอยากไปไหว้คุณพ่อเคียวซัง " ธัชพูดอย่างตื่นเต้น

          ผมบีบจมูกน้องชายผู้ซึ่งมองโลกในแง่ดีเกินไป 

          " อาจโดนดุก็ได้ " ผมทำหน้าหงอย 

          " ถ้าเคียวซังอยู่ด้วยผมก็ไม่กลัวครับ "  ธัชพูดพลางยิ้มแป้น

          " นั่นสินะ " ผมยิ้มให้น้อง และจุ๊ฟปากเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว 


          และวันรุ่งขึ้นนั้นก็เป็นไปอย่างที่คาด หลังเลิกเรียนเคียวซังพาผมและน้องกลับไปที่บ้านใหญ่ ที่ซึ่งคุณพ่อของเคียวซังนั้นอาศัยอยู่ แต่จะว่าไป แล้วคุณแม่ล่ะ

          " แล้วคุณแม่ของเคียวซังละครับ " ผมถามออกไปด้วยความสงสัย เคียวซังยิ้มเศร้าๆ ขณะที่กำลังขับรถอยู่

          " ท่านเสียหลังจากคานะจากไป " ผมคิดในใจว่าผมไม่ควรถามออกไปเลย

          " ผมเสียใจด้วยนะครับ " ผมและน้องพูดพร้อมกัน 

          " ถ้าเสียใจจริงๆ ก็ห้ามทิ้งฉันนะ " เคียวซังพูดและส่งยิ้มให้ผมกับน้อง

          " ไม่มีวันหรอกครับ " ผมประสานเสียงกับน้องอีกครั้ง และส่งยิ้มให้กัน

          ไม่นานพวกเราก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ตกแต่งแบบญี่ปุ่นโบราณ และผมชอบมาก มันสวยจริงๆ ผมชอบระเบียงยาวๆ ที่เหมือนทางเดิน และสวนทรายที่จัดไว้อย่างปราณีตสวยงาม

          ชายชราที่เหมือนเป็นผู้ดูแล มองผมและน้องแปลกๆ และทำมือเชิญให้เราเข้าไป ผมมองหน้าน้องและจับมือน้องไหว พลางเดินตามเคียวซังที่เดินนำหน้าเราไป วันนี้เคียวซังใส่สูทสีดำสวมทับ ดูเป็นทางการและหล่อเหลาสุดๆ เลยทีเดียว ส่วนผมและน้องแค่ใส่ชุดนักศึกษาเท่านั้น ไม่ได้ใส่ช็อปมาครับเพราะผมว่ามันดูไม่ค่อยเรียบร้อย

          " สวัสดีครับคุณพ่อ " ผมมองเคียวซังที่ก้มหัวให้ผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ที่สระเลี้ยงปลาคาร์ฟตัวโตๆ สวยๆ กำลังแหวกว่ายแย่งอาหารที่ถูกโยนให้ คุณพ่อของเคียวซังนั้นดูหล่อเหลาและดูเหมือนพวกมาเฟีย คาบไปป์ไว้ที่ปากและพ่นควันจนผมแสบตาไปหมด

          " เป็นไง ได้ข่าวว่าเลี้ยงเด็ก "

          ผมกระชับมือน้องแน่นขึ้นเพราะคุณพ่อเคียวซัง กำลังหันมามองผมกับน้องและพ่นควันใส่ ช่างเหมือนกันไม่มีผิดพ่อกับลูกเนี่ย และทุกคำพูดของคุณพ่อเคียวซังนั้น พูดด้วยภาษาญี่ปุ่นครับ ซึ่งผมกับน้องเข้าใจทั้งหมด

          " เอ่อ สวัสดีครับ ผมธิชา น้องของผมธัชชา ผมเป็น.. "

          " ทั้งสองคนเป็นแฟนของผมครับ " ผมที่ยังคงพูดไม่จบก็ถูกเคียวซังแย่งพูดทันที ผมตาโตมองเคียวซังที่พูดออกไปแบบนั้น ผมคิดว่าเคียวซังจะบอกคุณพ่อว่าพวกเราเป็นลูกบุญธรรมซะอีก

          ผมกลืนน้ำลายพลางก้มมองพื้น ไม่กล้าสู้หน้าคุณพ่อของเคียวซังที่บัดนี้หักไปป์ที่สูบอยู่แตกคามือ ก็แหง๋สิ ลูกชายคนเดียวแต่กลับพาผู้ชายเข้าบ้านและที่เด็ดกว่านั้นคือ ผู้ชายสองคน

          " แกว่าไงนะ ห๊า " ผมกับน้องสะดุ้งสุดตัว และเริ่มกุมมือกันไว้แน่นกว่าเดิมด้วยความหวาดหวั่น แต่เคียวซังนั้นกลับแค่ก้มหัวค้างไว้เหมือนเดิมด้วยสีหน้าเรียบเฉย

          " แก ไปเอานั่นมา " คุณพ่อของเคียวซังพูดเสียงดังกับคนรับใช้ ทำให้ผมกับน้องเริ่มตัวสั่นและเดินไปเกาะแขนทั้งสองข้างของเคียวซัง เพราะกลัวว่าเคียวซังจะถูกตีหรือถูกทำโทษ แต่เคียวซังแค่จับมือพวกเราเอาไว้และยิ้มน้อยๆ อย่างอ่อนโยน

          ไม่นานคนรับใช้ก็เดินมาอย่างรีบร้อนพลางยื่นโทรศัพท์มือถือให้คุณพ่อของเคียวซัง ผมมองเหตุการข้างหน้าแบบงงๆ นี่คุณพ่อจะโทรให้ใครมาจัดการพวกเรางั้นเหรอ

          " เอ้อ ลูกชายพาสะใภ้มาบ้าน ฉลองๆ ฮ่าๆๆๆ " ผมถึงกับแคะหูพลางเงี่ยหูฟังอีกครั้งด้วยความฉงน นี่ผมฟังผิดไปใช่ไหม

          " เอ้อ สองคนเลยนะ เจ๋งใช่ไหม ร้ายกว่าพ่อมันเยอะ " เคียวซังหันมายิ้มขำมองผมกับน้อง หนอยยย นี่รู้อยู่แล้วใช่ไหม ทำไมไม่บอกว่าคุณพ่อเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก นี่กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว ผมกัดปากและฟาดที่หลังเคียวซังอย่างหมั่นไส้ ไอ้คนขี้แกล้ง

          หลังจากนั้นคุณพ่อเคียวซังก็เข้ามากอดผมและน้องพลางถามนั่นถามนี่ชวนคุยอย่างออกรส พอผมเล่าเรื่องอดีตให้ฟัง คุณพ่อของเคียวซังถึงกับร้องไห้ร้องห่มสงสารพวกผมใจจะขาด และยังโทรหาลุงของเคียวซังและต่อว่าเรื่องธัชอีกด้วย ซึ่งผมเลยต้องรีบแย่งโทรศัพท์เพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะทะเลาะกันตายซะก่อน แต่คุณพ่อก็ยังหัวเราะขำและบอกว่าผมนั้นเป็นเด็กเข้มแข็งมาก อยากฝากตัวเข้าแก๊งของคุณลุง ซึ่งผมส่ายหัวจนคอแทบหัก ผมไม่อยากเป็นยากุซ่าคร๊าบ 

          งานฉลองยังคงดำเนินต่อไป ในห้องโถงที่เอาไว้ใช้รับรองแขกของตระกูล มีผู้คนมากมายที่น่าจะเป็นเพื่อนของคุณพ่อมาร่วมยินดีและดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ผมที่กินมากจนรู้สึกปวดฉี่จึงขอตัวออกมา และบอกไม่ให้น้องและเคียวซังออกมาเป็นเพื่อน เพราะอยากให้อยู่กับแขกที่มามากกว่า

          แต่ผมที่เดินออกมาหาห้องน้ำก็ต้องมึนมาก เพราะที่นี่กว้างใหญ่เหลือเกิน กว่าจะหาห้องน้ำเจอเรียกว่าเหงื่อตกเลยทีเดียว และพอผมออกมาจากห้องน้ำ ผมก็ต้องชะงักเกร็งอีกครั้ง เพราะว่าคุณพ่อของเคียวซังก็เดินสวนมาพอดี ผมรีบก้มตัวต่ำและทำท่าจะรีบเดินไปทันที

          " เอ่อ ไอ้หนูเอ้ย " ผมรีบเบรกและหันกลับมามองคุณพ่อเคียวซังและก้มหัวอย่างนอบน้อม

          " สนุกไหมเราน่ะ มีอะไรถามได้เลยนะ ฮ่าๆ "

          ผมมองคุณพ่อเคียวซังที่กำลังหัวเราะเสียงดัง และผมก็นึกขึ้นได้ว่า ผมมีเรื่องที่สงสัยมาตลอด ผมอยากจะลองถามดู

          " ผมขอถามข้อนึงครับ " ผมพูดและก้มหัวลง

          " ว่ามาเลย พ่อบอกได้ทุกเรื่อง " คุณพ่อเคียวซังลูบหัวผมอย่างใจดี

          " ทำไมถึงไม่อยากให้เคียวซังเป็นหมอเหรอครับ " คุณพ่อเคียวซังหุบยิ้มลงและเปลี่ยนเป็นยิ้มเศร้าๆ แทน

          " เรารู้หรือเปล่าว่าเคียวเฮเรียนหมอเพราะอะไร " 

          " ผมไม่ค่อยแน่ใจครับ " ผมพูดเสียงเบาๆ แบบไม่มั่นใจ

          " จริงๆ แล้วพ่อก็แค่ไม่อยากให้เคียวเฮยึดติดกับอดีตเก่าๆ เท่านั้น เด็กคนนั้นโทษตัวเองอย่างหนักที่ไม่สามารถทำอะไรได้ในอดีต และคิดว่ามันคือหน้าที่ความรับผิดชอบ แบกรับอะไรที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเองเลย พ่ออยากให้เขาปล่อยวาง อยากให้เขายิ้มได้จริงๆ สักที ช่วยเคียวเฮด้วยนะ เคียวเฮเป็นคนดี ช่วยดูแลเขาด้วย " 

          แบบนี้เองสินะ เคียวซังก็ต้องทนทุกข์ไม่ต่างจากผมกับน้องเช่นกัน แต่ต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว ผมจะทำให้คนที่ผมรักทั้งสองคน ยิ้มแย้มอยู่ข้างๆ ผม ตลอดไป

          " ขอบคุณครับ พวกเราสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆ เคียวซังครับ "  ผมมองน้องที่พูดและเดินเข้ามาจับมือผมไว้ พวกเรายิ้มกว้างให้คุณพ่อของเคียวซัง

          " ฮ่าๆๆ ดีมาก " ผมและน้องมองดูคุณพ่อของเคียวซังที่หัวเราะอร่อยเหลือเกิน เป็นคนอารมณ์ดีจังเลยนะ

          " งั้นผมกับน้องขอตัวก่อนนะครับ " ถึงจะดูใจดีแค่ไหน แต่ผมกับน้องก็ไม่ค่อยชินกับพวกผู้ใหญ่นัก ผมจับมือน้องและตั้งท่าจะเดินหนีไปอีกครั้ง ฟู่วว คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง

          " เดี๋ยวก่อน " ผมกับบ้องสะดุ้งน้อยๆ และหันกลับไปหาคุณพ่อของเคียวซังที่เอ่อ อะไรฟะนั่น

          " เด็กๆ ลองใส่นี่ดูไหม เคียวเฮน่าจะชอบนะ ฮ่าๆๆๆ " คุณพ่อเคียวซังชูถุงน่องลายตาข่ายขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ความน่าเคารพของตาแก่นี่เริ่มหายไป เคียวซังครับ ผมต่อยพ่อพี่ได้ไหม ฮึ่มมม


          ตกค่ำ พวกเราตัดสินใจที่จะพักค้างคืนที่นี่ เพราะคุณพ่อของเคียวซังนั้นชอบพวกเราเหลือเกิน พอจะบอกลาเพื่อกลับคอนโดก็ทำท่าน้อยใจใหญ่ ตาแก่มารยาเอ้ย

          ผมกับน้องลงแช่ออนเซ็นที่ถูกจัดแต่งแบบธรรมชาติ นี่มันบ้านหรือโรงแรม 5 ดาวฟะเนี่ย ผมมองเคียวซังที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กไว้ที่เอว และเดินตามเข้ามา 

          " อุ่นกำลังดีใช่ไหม " เคียวซังถอดผ้าและเดินลงมานั่งข้างๆ ผมกับน้อง ทั้งๆ ที่เห็นกันจนชิน ผมก็ยังไม่เลิกเขินสักทีสิน่า

          " หน้าแดงอีกแล้ว น่ารักจัง " ธัชรวบตัวผมเข้ามากอดไว้และหอมแก้มผมเสียงดัง 

          " เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวมีใครเห็นจะทำยังไง " 

          " ไม่เป็นไรหรอก จะทำมากกว่านี้ยังได้เลย " เคียวซังพูดพลางทำหน้านิ่งๆ แต่มือกลับกำลังกอดเอวผมในใต้น้ำ โอ้ย หยุดหื่นกันสักวันได้ไหมเนี่ย

          " ไม่เอาหรอกครับ กลางแจ้งแบบนี้ถ้าเสียงหลุดไปก็แย่สิ " ผมงึมงัมเบาๆ พลางขยับตัวหนีทั้งสองคนนี้ไปด้วย ทั้งสองคนหัวเราะเบาๆ และไม่ได้ตามผมมา ค่อยยังชั่วหน่อย

          ผมมองคนสองคนที่กำลังคุยกันและหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุข คืนนี้พระจันทร์​สวยมาก มันสะท้อนกับผืนน้ำและสั่นไหวเบาๆ ตามคลื่น

          " เคียวซังผมอยากสักบ้างจัง " ผมมองธัชที่กำลังลูบแผ่นหลังเคียวซังตรงที่มีรอยสักขนาดใหญ่ และมันเท่มากครับ

          " ไม่ได้หรอก เพราะว่าถ้าธัชสักธิชาก็ต้องสักด้วย ฉันไม่อยากให้ตัวพวกเธอมีรอย " เคียวซังพูดพลางลูบหัวธัชน้อยๆ

          ผมมองแผ่นหลังกว้างที่มีรอยสักนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ บ้าเอ้ย อย่านะเฟ้ย

          แต่สุดท้าย ผมเลื่อนตัวไปช้าๆ เข้าไปหาคนทั้งสองด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

          " คือว่า..ทำกันไหม "  ผมพูดเบาๆ และดึงคอทั้งสองคนเข้ามาจูบแลกลิ้นสลับกันไป

          สุดท้ายแล้ว กว่าพวกเราจะได้นอน ก็ตัวเปื่อยและเกือบเช้าพอดี 


          ในตอนเช้าที่แสนเหนื่อยล้า ผมลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่ามีแค่ธัชที่นอนขดตัวกอดผมอยู่ ผมยกแขนธัชออกเบาๆ และฟัดแก้มน้องอีกสักพักด้วยความหมั่นเขี้ยว พลางลุกขึ้นบิดขี้เกียจ และเดินไปตามระเบียงเพื่อเข้าห้องน้ำ

          ผมเดินไปตามระเบียงที่ทอดยาวพลางมองเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านในชุดแบบญี่ปุ่นที่กำลังจัดสวนและทำงานบ้าน ที่นี่อากาศดีจริงๆ เพราะมีต้นไม้ปลูกตกแต่งอยู่ทั่ว ผมเดินชมธรรมชาติและรู้สึกว่าชุดยูกาตะบนตัวผมนั้นมันหลุดลุ่ยเล็กน้อย ผมหยุดเดินและจัดการชุดของตัวเอง ผมไม่ได้ใส่อะไรแบบนี้มานานแล้วทำเอาเสียเวลาไปมากพอดูเลยทีเดียว

          แต่ผมที่กำลังยุงกับชุดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ออกมาจากห้องๆ หนึ่งใกล้ๆ ซึ่งผมจำได้ดีว่าเป็นเสียงใคร เคียวซังนั้นกำลังคุยกับคุณพ่อ ด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด

          " ผมกลัว แต่ก็คงต้องทำ เพื่อสองคนนั้น " เสียงเคียวซังฟังดูเป็นกังวล และอ่อนแรง

          " มันเป็นสิ่งที่ดีแล้วเคียวเฮ ลูกทำถูกต้องแล้ว "

          " พ่อจะเตรียมเครื่องบินให้ ไปญี่ปุ่นก็ระวังตัวด้วย แวะไปหาคุณลุงด้วยนะ "

          ผมขมวดคิ้วแอบฟัง และมองเห็นเคียวซังที่ทำท่าจะลุกขึ้น ผมรีบวิ่งเบาๆ กลับมาที่ห้องด้วยหัวใจที่สั่นไหว ญี่ปุ่นเหรอ ทำไมกัน ผมไม่อยากไป ผมนั่งลงที่ฟูกนอนและจับมือธัชไว้ ทำให้ธัชลืมตาตื่นขึ้นด้วยใบหน้างัวเงีย

          " พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ " ธัชคงสังเกตได้ว่าผมเงียบไปแปลกๆ จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

          " ธัช ธัชอยากกลับไปที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า " ธัชตาโตและขมวดคิ้วด้วยแววตาสั่นระริก เหมือนกันเลยนะ พวกเราน่ะ 

          " พี่ครับ ทำไมเหรอ ทำไมถึงถามละครับ " ธัชดูไม่สบายใจและจับมือผมไว้

          ผมไม่คิดหรอกว่าเคียวซังจะทิ้งพวกเรา เพราะผมเชื่อมั่นในเคียวซังมากกว่าสิ่งไหน แต่ที่ผมไม่อยากไป ก็เพราะว่าที่นั่น มันเป็นสถานที่แห่งความปวดร้าวของพวกเรา เป็นที่ที่ทำให้ผมกับน้อง รู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น มันเป็นเมืองแห่งฝันร้ายสำหรับพวกเรา


          " ไปญี่ปุ่นกับฉันนะ "  เคียวซังพูดขึ้นตอนมื้ออาหารเช้าของวันนั้น ซึ่งผมและน้องรู้อยู่แล้ว

          " ผมไม่อยากไป " ผมมองธัชที่ปฏิเสธ และผมก็คิดว่านี่น่ะปกติแล้วล่ะ

          " มีเหตุผลอะไรมากกว่านี้หรือเปล่าครับ " ผมถามเคียวซังด้วยสีหน้าหมองเศร้า

          " พวกเธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ " ผมและน้องส่ายหน้าช้าๆ

          " เคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันไม่มีวันทอดทิ้งพวกเธอ หรอกนะ " ผมเข้าใจครับ แต่ว่ามันก็ยากอยู่ดี

          สุดท้ายผมและน้องก็ตัดสินใจที่จะไป จะต้องกลัวอะไรอีก ในเมื่อคนที่พาพวกเราไปก็คือคนที่พวกเรารักที่สุด ผมจับมือธัชไว้แน่นตลอดการเดินทาง เคียวซังมองดูและพูดคุยกับธัชตลอดเวลา เพราะว่าธัชนั้นเริ่มดูแปลกๆ ผมสงสารน้อง ธัชนั่นมีอาการเกร็งและตื่นกลัว ผมเข้าใจน้องดีว่าน้องรู้สึกอย่างไร

          ผมกับน้องถูกจับแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำที่ดูเป็นทางการ และเคียวซังก็ยังคงไม่ยอมบอกผม ว่ากำลังจะพาพวกเราไปที่ไหน เพื่ออะไร จนในที่สุด เครื่องบินส่วนตัวก็ร่อนลงจอดในลานของสนามบินที่กว้างใหญ่ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความหม่นหมอง ตอนนี้อากาศของที่นี่คงหนาวจัด เพราะเป็นช่วงปลายปี

          ผมกระชับมือธัชแน่นขึ้นและมืออีกข้างหนึ่งของธัชก็ถูกเคียวซังจับไว้และโอบไหล่ธัชตลอดเวลา 

          " ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอบอกอีกครั้งว่าฉันรักพวกเธอ ฉันดีใจที่ได้เจอพวกเธอ " เคียวซังพูดและก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากของเราสองคนและยิ้มอย่างมีความสุข พวกเรายิ้มตามน้อยๆ และเดินตามเคียวซังที่เดินนำหน้าเราไป

          ผมและน้องเดินลงตามขั้นบันได และมองดูเคียวซังที่กำลังจับมือกับชายและหญิงคู่หนึ่งที่แต่งตัวภูมิฐานและผู้หญิงคนนั้นกำลังมองมาทางผมกับน้องและร้องไห้อย่างหนัก

          " ธิชา ธัชชา " ผมกับน้องตกใจมาก เพราะว่าผู้ชายและผู้หญิงคู่นั้นอยู่ดีๆ ก็วิ่งเข้ามาหาพวกเราและกอดพวกเราเอาไว้แน่น พลางร้องไห้เหมือนกับได้พบเจอคนที่พวกเขาคิดถึงสุดหัวใจ

          ผมมองดูคนทั้งสองที่เรียกชื่อผมด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ เคียวซังจะยกพวกผมให้เขาเหรอ แต่เคียวซังเป็นผู้อุปการะผมนี่นา ผมน้ำตาไหลมองเคียวซังที่ยืนมองผมกับน้องอยู่ห่างๆ และเดินเข้ามาหาพวกเราช้าๆ

          " ทักทายคุณพ่อคุณแม่สิ พวกท่านมารอตั้งแต่เมื่อคืนเลยนะ " ผมมองคนสองคนนี้อีกครั้งด้วยสีหน้าตกใจ นี่เป็นความจริงงั้นเหรอ พวกท่านคือผู้ให้กำเนิดพวกเรา ผมไม่ได้ฝั้นไปใช่ไหม

          จากนั้น ผมก็ได้รู้ว่าทั้งสองคนคือพ่อแม่ของผมจริงๆ ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนพวกเราเกิด พวกเรานั้นได้ถูกลักพาตัวไปโดยแพทย์คนหนึ่ง ซึ่งพวกท่านก็ออกตามหาพวกผมอย่างไม่ลดละตลอดเวลายาวนาน จนในที่สุดก็ตามจับแพทย์คนนั้นได้ แต่แพทย์คนนั้นก็โกหกว่าพวกเรานั้นได้ถูกฆ่าตายไปแล้ว และมีหลักฐานเป็นโครงกระดูกเด็กแฝดคู่หนึ่งซึ่งทำกันเป็นกระบวนการและมีความชำนาญ

          พวกท่านที่เสียใจมากก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่น เพื่อลืมเรื่องราวของพวกเรา แต่แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผู้สืบหา และตามตัวพวกท่านจนเจอ พวกท่านจึงรีบมาหาพวกเราที่นี่ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครอื่น เคียวซัง และคุณลุงที่มีอิทธิพลของที่นี่นั่นเอง 

          ผมนั้นจะว่าดีใจก็ดีใจ แต่ว่าพวกเราที่ไม่เคยถูกเลี้ยงดูโดยทั้งสองคนนั้น เลยจำเป็นต้องขอเวลาที่พวกเราจะต้องปรับตัว คุณพ่อของผมนั้นคือท่านฑูตชาวไทยที่ประจำอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่มีใบหน้างดงาม พวกเรานั้นทั้งผิวพรรณและหน้าตาออกไปทางคุณแม่กันหมด และคุณพ่อก็ยังดูไม่แก่มากและมีใบหน้าหล่อเหลาเช่นกัน

          ผมมองดูเคียวซังที่ส่งยิ้มเศร้าๆ ให้พวกเรา นี่ใช่ไหมครับที่เคียวซังบอกว่ากลัว คุณกลัวพวกเราจะต้องห่างกันใช่ไหม

          " คุณพ่อคุณแม่ครับ พวกเรารักเคียวซังครับ " ผมพูดออกไปด้วยความหนักแน่น ผมอาจจะทำให้พวกท่านผิดหวัง แต่ว่าพวกเราน่ะ ไม่อาจแยกจากกันได้ ขอบคุณที่ทำให้พวกผมเกิดมา ทำให้พวกเราได้พบกับเคียวซัง

          " ใช้ชีวิตในแบบของลูกเถอะ แค่ได้รู้ว่าพวกลูกยังมีชีวิตอยู่ พวกเราก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว "  ผมกราบลาคุณพ่อและคุณแม่ และบอกท่านว่าพวกผมมีชีวิตตอนนี้เป็นอย่างไร พวกเรามีความสุขมากแค่ไหน และสัญญากับพวกท่านว่าพวกเราจะมาหาพวกท่านบ่อยๆ และพวกท่านเองก็บอกว่าจะไปเยี่ยมพวกเราที่ประเทศไทยบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน


          และในช่วงบ่ายวันนั้น ผมก็ได้มายืนอยู่ที่โบสถ์เล็กๆ เป็นที่ที่ดีที่สุดที่ผมและน้องได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนี้ และเป็นที่ที่ผมและน้องต้องแยกจากกันเป็นครั้งแรก มันจึงเป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่เป็นเหมือนศูนย์รวมความรู้สึกของพวกเรา ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็อยากจะกลับมาที่นี่อีกสักครั้ง 

          แต่ว่าทั้งสองคนหายไปไหนกันนะ เพราะว่าตอนเดินทางมาที่นี่ พวกเรานั้นได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวมาซึ่งเคียวซังนั้นเป็นผู้ขับ และผมก็หลับมาตลอดทางด้วยความเหนื่อยอ่อน และตื่นขึ้นมา ก็พบว่าผมนั้นถูกทิ้งไว้บนรถโดยลำพัง หนอย อย่าให้เจอนะน่าดู

          " ธิช " ผมหันมองตามเสียงเรียกและก็ต้องยิ้มหน้าบาน เพราะว่าซิสเตอร์ที่คอยดูแลผมนั้น กำลังเดินมาอ้าแขนออกกว้างสวมกอดผมเอาไว้แน่น พลางร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ผมกอดซิสเตอร์ไว้และร้องไห้ออกมาเช่นกัน 

          " ขอบคุณที่ดูแลผมกับน้องเสมอมานะครับ " ผมพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มถึงแม้ว่าน้ำตาจะไหลออกมา

          " ดีใจจริงๆ ที่เธอทั้งสองคนได้มีชีวิตที่ดี " ซิสเตอร์พูดพลางซับน้ำตาไปด้วย

          " ไปกันเถอะ พวกเขากำลังรออยู่ " ผมขมวดคิ้วน้อยๆ แต่ก็เดินไปกับซิสเตอร์ที่กำลังควงแขนผมเอาไว้ ผมมองไปตามทางเดิน มองไปตามต้นไม้ต้นใหญ่ ทุ่งหญ้า ทุกๆ อย่างนั้นทำให้ผมรู้สึกสงบชื่นใจ ถึงจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ที่นี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก 

          จนในที่สุดผมและซิสเตอร์ก็มายืนอยู่ที่หน้าโบสถ์เล็กๆ ที่พวกเราเอาไว้ใช้ทำพิธีสำคัญๆ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และทำให้ผมยิ้มทุกครั้งที่ได้เข้ามา ซิสเตอร์ได้เปิดประตูบานใหญ่ออก และผละออกจากแขนของผม ไปยืนอยู่ที่ข้างๆ ประตูนั่น พลางส่งยิ้มให้ผมและปาดน้ำตาที่ไหลออกมา

          ผมมองไปข้างหน้า และก็ต้องฉีกยิ้มกว้างสุดๆ เพราะว่าเบื้องหน้าของผมนั้น คือชายสองคนที่ผมรักที่สุดในชีวิต กำลังยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้างเช่นกัน ผมขยับชุดสูทและเดินเข้าไปช้าๆ เข้าไปหาคนทั้งสองที่กำลังมองผมด้วยแววตาแห่งความรัก บนเสื้อสูทของทั้งสองคนนั้นมีดอกไม้ช่อเล็กๆ ติดไว้ ซึ่งเป็นฝีมือของพวกเด็กๆ ที่นั่งกันอยู่ที่เก้าอี้ เป็นเหมือนพยานรักของพวกเรา

          เด็กตัวน้อยๆ คนหนึ่ง เดินเข้ามาจับมือผม และพยายามจะติดดอกไม้ให้ผมเช่นกัน ผมจึงนั่่งย่อตัวลงและให้หนูน้อยคนนั้นติดดอกไม้ให้ผมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เมื่อติดดอกไม้เรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินเข้าไปหาสองคนนั่นอีกครั้ง ในมือของทั้งสองมีแหวนสองวงวางอยู่ และมีเด็กชายตัวเล็กๆ วิ่งถือกล่องใส่แหวนที่มีแหวนสองวงอยู่บนนั้นมาหาผมเช่นกัน 

          " ขอบคุณนะครับ ทั้งสองคน " ผมพูดด้วยรอยยิ้มที่ผมไม่สามารถหุบมันลงได้เลย มันเป็นวันที่วิเศษที่สุดในชีวิตของผม ชีวิตของพวกเรา

          " ขอบคุณนะครับพี่ เคียวซัง " ธัชพูดขึ้นมาเช่นกันและมองผมกับเคียวซังด้วยรอยยิ้มที่แสนสดใส

          " ขอบคุณพวกเธอเช่นกันนะ " เคียวซังพูดและยิ้มอย่างอ่อนโยน พลางสวมแหวนให้ผมและน้อง ซึ่งธัชนั้นก็ทำตามเช่นกัน สวมให้ผมและเคียวซัง และสุดท้ายก็คือผม ที่สวมให้ธัช และเคียวซัง เท่ากับว่าพวกเรานั้นมีแหวนคนละสองวงนั่นเอง

          " ต่อไปนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ " พวกเราสามคนพูดและก้มลงโค้งคำนับพร้อมกันจนหัวโขกกันเองเสียงดัง อะไรจะใจตรงกันขนาดนี้ ฮ่าๆ

          พวกเราสามคนกอดกันพลางหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางเสียงปรบมือของเด็กๆ ที่วิ่งโปรยดอกไม้กันอย่างร่าเริง 


ต่อจากนี้ มันก็จะมีเพียงแค่เรา รักกัน สามคนตลอดไป



THE END

















**********************************************************************************

*** ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมาจนถึงบทสุดท้ายนะคะ ทุกคอมเม้นนั้นมีความหมายและเป็นกำลังใจให้ไรท์ค่ะ อาจมีจุดบกพร่องหรือไม่ได้ดั่งใจบ้างต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านนะคะ ในตัวรูปเล่มนั้นมีแน่นอนค่ะ คอยติดตามได้ที่หน้าแฟนเพจ Gloomy Sunday Tk. นะคะ ขอบพระคุณมากๆ เลยจ้า ***
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 28-10-2017 19:42:32
แต่งงานในโบสถ์ครอบครัวสุขสันต์แล้วนะ
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-10-2017 19:47:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-10-2017 19:51:43
ได้มีความสุขจริง ๆ ซะทีเนอะ
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: AkaneSama ที่ 28-10-2017 20:27:53
ในที่สุดก็ Happy ending ลุ้นตลอดว่าจะมีอะไรมาขัดไหม  :katai1: สู้ต่อไปนะคนแต่ง :mew1:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: PaePT ที่ 28-10-2017 20:48:30
สะเทือนใจตอนแยกกัน กับตอนเจอกันในกรงมาก ๆ
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-10-2017 22:11:56
 :กอด1: :L2: :3123: ฉลองงานแต่งโลด  :n1: :mc4: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 01-11-2017 12:48:34
 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 03-11-2017 16:36:33
 :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 07-11-2017 15:57:19
ตอนท้ายๆดูรวบๆนะคะ
พอรักกันแล้วก็ไม่มีประเด็นอะไรที่น่าเล่นแล้ว
ชอบตอนก่อนจะรักกันมากๆค่ะ
ขอบคุณที่เขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 10-11-2017 21:52:47
ขอบคุณ ในที่สุดก็มีความสุข
รักนะแฝด รักนะเซนเซ
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ASAMENG ที่ 13-11-2017 14:44:22
เอาไป 3 คำ  :-[ (ดีต่อใจ)  :hao7: ขอบคุณนะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-11-2017 14:10:07
 :pig4: :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: แมว ที่ 14-01-2018 21:00:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 17-09-2018 23:24:04
อ่านรวดเดียว

มีหลายอารมณ์ครบเลย อ่านๆไประแวงไป ใครเป็นยังไง

สนุกมากตัวละครมีมิติดีค่ะ ชอบๆ ปกติไม่อ่าน3p แต่พอเห็นชื่อคนแต่งละเออ ลองอ่านก่อน  ยังงงๆว่าใครจะกดใคร

จะรับสองคนรึคนเดียว แต่ฉาก :jul1: ทั้งละมุนทั้งฟิน

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆสนุกๆนะคะ :pig4:

หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 10-03-2019 00:58:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [YAOI][ บทนำ+บทที่ 1 ฝาแฝดที่ไม่อาจแยกออก ](21/09/2560)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 22-09-2020 22:37:19
       

          " ผมยืมตัวน้องชายพี่แปบนะครับ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องเชียร์นะ " 
ทำไมถึงเรียกพี่ เพื่อนชั้นปีเดียวกันนี่
หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][#11 ฝาแฝดและการปลดปล่อยของทั้งสอง](28/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 22-09-2020 23:51:24
         
           หมอนี่เป็นอาจารย์หัวหน้าภาควิศวกรรมเลยแฮะ 
วิศวกรรมไม่ใช่ภาควิชาต้องระบุสาขาด้วย เช่นภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์
หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์

หัวข้อ: Re: TWINS "รัก ลวง หลอก" [Incest][3P][ #13 ฝาแฝดและการเสี่ยงตาย ](30/09/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 23-09-2020 00:16:06
         
          " พี่ครับ เดี๋ยวผมกับท็อปจะไปหาอะไรกินกันนิดหน่อยนะครับ " ผมมองน้องชายด้วยความเป็นห่วง

          " อย่ากลับดึกนะธัช ถ้าพี่กลับไปแล้วไม่เห็นธัชละน่าดู พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ " ผมจับแก้มน้องและจ้องเขม็งด้วยสายตาดุดัน

          " คร๊าบบ ดุอีกแล้ว " ธัชทำหน้าหงอยแต่ก็อมยิ้มเจ้าเล่ห์

          " พี่น้องรักกันดีจัง " ผมมองไอ้หนุ่มท็อปพลางหน้าบึ้งใส่

          ธัชกับท็อปเดินไปด้วยกัน ผมมองทั้งสองคนนั่นที่เดินไปจนสุดสายตา รู้สึกแปลกๆ แฮะ 
สาเหตุที่เพื่อนของแฝดพี่หายไปหมดต้องเป็นเพราะแฝดน้องโรคจิตกำจัดแน่ๆ และท็อปก็น่าจะเป็นเหยื่อของแฝดน้องอีกราย
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 01-10-2020 11:09:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 03-10-2020 22:21:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: TWINS &quot; รัก ลวง หลอก &quot; [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: chalidaw ที่ 29-12-2020 14:50:49
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47347.0#gsc.tab=0


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 25-06-2022 14:14:55
 :pig4: :pig4: