พิมพ์หน้านี้ - #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Oiimaps ที่ 05-05-2020 21:15:03

หัวข้อ: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 05-05-2020 21:15:03
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




░░░░░

░░░░░░░░ WARNING  ํ░░░░░░░░

- นิยายเรื่องนี้เป็นแนว omegaverse

- มีคาร์นายเอกค่อนข้างน้อง หากไม่ชอบแนวนี้กดปิดก่อนได้เลยค่ะ

- เคะท้องได้





░░░░░░░░░░░░░░░░


░░░░░



░░░░░  #ก็จะดื้อ ░░░░░


ll สารบัญ ll





Introduction





โลกที่หมุนรอบตัวเองไม่มีวันหยุด กาลเวลาที่ก้าวขยับไม่เคยถอยหลัง

เราพบการเปลี่ยนแปลงเสมอในทุกวันและนี่คงเป็นอีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวิวัฒนาการมนุษย์



ระบบชนชั้น



หลายคนตั้งคำถามว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้



เป็นการเดินหน้า

...หรือถอยหลัง



แน่นอนว่ามันก็ยังคงเป็นคำถามที่เหล่านักวิชาการและประชาชนถกเถียงกันมาอย่างยาวนานแต่ก็ไร้ข้อสรุป

เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีข้อดีข้อเสีย มีได้เปรียบและมีเสียเปรียบ



ใช้เวลาหลายสิบปีในการศึกษาเรียนรู้ ต้องผ่านความโหดร้ายและไร้ความยุติธรรมมามากมาย กว่าที่มนุษย์จะปรับตัวเข้ากับระบบนี้และใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงกับปกติได้มากที่สุด







OMEGAVERSE





อัลฟ่า(α ): ยอดสูงสุดของปีรามิด ชนชั้นนี้มีจำนวนประชากรน้อยและยังแบ่งเป็นเลือดแท้และผสม

โดยปกติอัลฟ่าจะมีรูปร่างสูงใหญ่และมีพละกำลังเยอะ อัลฟ่าเลือดแท้เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างชนชั้นอัลฟ่าด้วยกันจึงจะมีความแข็งแกร่งทางร่างกายและ สามารถใช้ฟีโรโมนได้หลายรูปแบบมากกว่าอัลฟ่าเลือดผสม อัลฟ่าจะเกิดอาการรัทหรือต้องการจะสืบพันธุ์ก็ต่อเมื่อได้กลิ่นฮีทของโอเมก้าเท่านั้น





เบต้า(β ) : เป็นชนชั้นที่มีจำนวนประชากรเยอะที่สุด มีพละกำลังอยู่ในระดับปกติทั่วไป ไม่สามารถฮีทหรือรัทและจะไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าหรือโอเมก้ายกเว้นคู่แห่งโชคชะตา สามารถตั้งครรภ์ได้ทั้งเพศชายและหญิง





โอเมก้า(Ω):เป็นชนชั้นที่มีจำนวนประชากรปานกลาง รูปร่างของโอเมก้าส่วนใหญ่จะค่อนข้างตัวเล็ก พละกำลังน้อย ร่างกายอ่อนแอเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างพอเพียง สามารถตั้งครรภ์ได้ทั้งเพศชายและหญิงแต่ไม่สามารถเป็นฝ่ายขยายพันธุ์ได้

โอเมก้าจะมีอาการฮีทหรือการปล่อยฟีโรโมนเพื่อการสืบพันธุ์เป็นประจำทุกเดือน โดยจะเริ่มฮีทตั้งแต่อายุประมาณสิบห้าปีเป็นต้นไป



การทำพันธะ: การแสดงความเป็นเจ้าของให้กับคู่ สามารถเกิดได้ด้วยการกัดหลังคอ หลังจากทำพันธะแล้ว โอเมก้าจะไม่สามารถปล่อยฟีโรโมนและมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นนอกจากคู่พันธะของตัวเองได้อีก



คู่แห่งโชคชะตา: อัตราการเกิดอยู่ที่15% สามารถเกิดขึ้นได้กับคู่ต่างชาติ ต่างวัย ต่างชนชั้น ปัจจุบันไม่ค่อยพบเจอเท่าไหร่นัก เป็นคู่ที่เกิดมาเพื่อกันและกัน เมื่อพบเจอคู่ จะเกิดปฏิกิริยาทางด้านร่างกายและฮอร์โมนมากกว่าปกติ หากทำพันธะกับผู้ที่ไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตาเมื่อไหร่ก็จะไม่สามารถได้กลิ่นคู่แห่งโชคชะตาได้อีก



ฟีโรโมน:โดยปกติแล้วโอเมก้าและอัลฟ่าจะมีกลิ่นฟีโรโมนที่เหมือนกันทั้งชนชั้น สามารถบอกได้ซึ่งกันและกันว่าใครเป็นอัลฟ่าหรือโอเมก้าแต่จะได้กลิ่นเฉพาะตัวก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายเป็นคู่แห่งโชคชะตาเท่านั้น







** หมายเหตุ: อันนี้เป็นข้ออธิบายของเวิร์สเรานะคะomegaverse จะมีรายละเอียดของแต่ละชนชั้นแตกต่างกันไปในแต่ละเวิร์สของคนเขียนค่ะ



หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ep 1 : พี่ชาย
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 05-05-2020 21:16:36
ก็จะดื้อ1

พี่ชาย





สิบเอ็ดโมงเช้าวันเสาร์เป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่แสนจะใส เสียงนกร้องจิ๊บๆ ร้องคลอกันเหมือนฉากเปิดในนิทานดิสนี่ย์ ต่างกันตรงที่ในความจริงที่นี่กรุงเทพไม่ใช่แถวราชวังในนิทานและหากฉากเปิดของดิสนี่ย์จะอยู่ในห้องน้ำก็คงจะเป็นนิทานฝันร้ายของเด็ก



และสิ่งที่แย่ที่สุดคือนอกจากสถานที่จะอยู่ในห้องน้ำแล้วนั้นก็คงหนีไม่พ้น



...เสียงอาเจียนที่ดังลั่น





“อ้อกกกกกกกกกกกกกกก” เจ้าของเสียงอาเจียนกระชับกอดโถส้วมสีขาวเพื่อนรักแนบแน่นประหนึ่งเพื่อนสนิทกันมาหลายชาติ กลุ่มผมฟูสีน้ำตาลจุ่มไปจนเกือบชิดโถ ภาพที่ตัวเองขยับตัวเต้นและชนแก้วกับเพื่อนเมื่อคืนฉายทับเข้ามา



...ไม่น่าเลย

รู้งี้พอตั้งแต่แก้วที่ห้านั่นดีกว่า แสบคอไปหมดแล้ว!!!



เขาได้แต่กล่าวคาดโทษเพื่อนโอเมก้าตัวแสบในใจเพราะปากไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะขยับบ่น เช้าวันเสาร์ที่ควรจะเริ่มต้นด้วยความสดใสดันเป็นกระโถน ตะนิดถอนหายใจด้วยเหนื่อยอ่อน เขาหมดแรงจะใช้ชีวิตแล้วสำหรับวันนี้ ขอหลับแล้วตื่นมาหายแฮงค์เลยเถอะได้โปรด

แต่ก็ทำได้แต่งอแงในความคิดเพราะสุดท้ายเขาก็ต้องลากร่างไร้เรี่ยวแรงนี่ไปอาบน้ำแปรงฟันเพื่อที่จะลงไปรับโทษที่รออยู่ที่ห้องนั่งเล่น

หลังจากอาบน้ำจนตัวหอมกลิ่นสบู่ตรานกแก้วส่วนถูกหัวกลิ่นเฮดแอนด์โชว์เดอร์ ตะนิดก็พาร่างตัวเองมาหยุดอยู่หน้ากระจกซิงค์ล้างหน้า ดวงตาสีอ่อนจ้องนิ่งไปที่กระจก



... โทรมสุดๆ ชัดเจนว่าเมาค้าง

ว่าแต่ไอ้รอยช้ำตรงแถวข้อศอกนี่มายังไงนะ จำไม่ได้แล้ว เวรเอ๊ยไม่น่าปล่อยให้เมาขนาดนีั้เลย



ตะนิดก่นด่าตัวเองในใจ แต่ถามว่าด่าไปแล้วสำนึกไหมก็ไม่หรอก เขามีคติที่ว่าปัญหาวันนี้ก็ปล่อยให้มันอยู่แค่วันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่ สรุปจบด่าตัวเองและปลอบตัวเองเสร็จก็ออกมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวแต่งตัวให้เรียบร้อย หายใจเข้าสองฟึดเรียกขวัญและกำลังใจก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องนอนไป



“ไอ้ตัวแสบ”



เอาจริงๆ แล้วเสียงที่ดังขึ้นนั้นไม่ได้ตวาดดุเสียงดังอะไรแท้ๆ แต่ด้วยความที่ต้นเสียงคือคุณบุษบาในท่ากอดอกมันถึงน่ากลัวขึ้นเป็นสิบเท่า เขาได้แต่ยกยิ้มเจื่อน ยิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวร้ายก็กลายเป็นดี



“แม่ นิดอธิบายได้” รู้สึกชื่อตัวเองดูน่ารักขึ้นมาทันทีเมื่อถูกย่อ แต่ตอนนี้ก็ต้องน่ารักอ้อนไว้ก่อนแล้วแหละ ...เผื่อรอด

“ไม่ฟัง”

“แง้” ยังไม่ทันได้กรอกตานึกคำอธิบายก็ถูกปัดตกไปก่อนเลยล่วงหน้า ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ...แม่นะแม่ ขอให้ได้แก้ตัวหน่อยก็ไม่ได้เลย

“กลับบ้านมาตอนตีสามสภาพเพื่อนแบกขึ้นหลัง แม่ควรดุลูกยังไงดี”

“เอาเป็น ไอ้เด็กดื้อคนนี้นี่มันจริงๆ เลย!... ไหมแม่”

“นายตนิษฐ์!” ชื่อจริงมาน้ำตาก็ตก

“แม่อ่ะ นิดก็ไม่เด็กแล้ว ยี่สิบสองแล้ว มันก็มีบ้างป่ะ ตามภาษาวัยรุ่น”

“เดือนนี้สามรอบแล้ว มันจะเกินไปแล้วนะนิด”

“แต่แม่...”

“นี่มันก็ใกล้ช่วงฮีทของเราแล้ว ขอแค่เรื่องนี้ให้กันไม่ได้เลยหรอลูก” คุณบุษบาขยับโทนเสียงขึ้นมานิดหน่อยตามแรงอารมณ์

สิ้นเสียงนั่นตะนิดก็กำมือแน่น ดวงตาใสฉายแววสั่นระริกด้วยความเสียใจ ไม่ใช่เพราะโกรธกับคำพูดของคนเป็นแม่



... แต่เพราะเถียงอะไรไม่ออก



ฮีท



ฝันร้ายสำหรับโอเมก้า สิ่งเกลียดให้ตายแค่ไหนก็ไม่สามารถหนีพ้น ไอ้อาการที่ทำให้เรารู้สึกร่างไม่ใช่ของเราอีกต่อไป ไม่สามารถบังคับตัวเองได้

ตะนิดเริ่มมีอาการฮีทตั้งแต่อายุสิบแปด ถือว่าช้าสำหรับโอเมก้าที่ควรจะเริ่มมีฮีทแรกกันตั้งแต่อายุสิบห้า ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมตัวรับสถานการณ์นี้ไว้ เขาจำได้แม่นว่าวันนั้นที่บ้านวุ่นวายไปหมด พ่อต้องพาคณิตพี่ชายฝาแฝดของเขาขึ้นรถออกนอกบ้านเพราะทั้งคู่เป็นอัลฟ่า



...แต่ถึงอย่างนั้น



ภาพที่คณิตจ้องเขาด้วยสายตาล่าเหยื่อนั่นยังติดได้ดีอยู่ในความทรงจำ ถึงแม้หลังจากฮีทนั้นผ่านไปบ้านเราจะกลับมาเหมือนเดิม

แต่ลึกๆ เขาก็รู้ดีว่ามันไม่เหมือนเดิมเลยสักนิดเดียว มันเหมือนมีรอยแยกบางอย่างเกิดขึ้น



“นิดขอโทษ...” เขาเอ่ยขอโทษเสียงแผ่ว

“นั่งลง”

“แม่ นิด-“

“นายตนิษฐ์ นั่งลง” ชื่อจริงมาก็เป็นอันรู้กันว่าเป็นประโยคสำสั่ง

ตะนิดเดินคอตกไหล่ห่อเหลือตัวเท่ามดตะนอยไปนั่งลงบนโซฟาข้างคุณบุษบา ดวงตากลมก็กวาดมองซองเอกสารใสบนโต๊ะพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ จะไม่ให้กระพริบตาได้ยังในเมื่อที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า



เรซูเม่?

อะไร จะให้ไปสมัครงานหรือมีใครมาสมัครงานที่บ้านงั้นหรอ? นี่แม่โกรธที่เขาเมาเลยรับแม่บ้านเพิ่มอะไรอย่างนั้นหรอ มันจะแก้ปัญหาไม่ตรงจุดเหมือนลุงแถวนี้แก้ปัญหาเกินไปแล้ว



“เรซูเม่หรอ นี่แม่จะสมัครแม่บ้านอีกแล้วหรอ พี่นาคนเดียวไม่พอหรอแม่” พี่นาคือแม่บ้านคนปัจจุบันครับ ทำส้มตำเก่งมากแต่ที่เก่งกว่าคือแอบไปอู้หลับกับทาหน้าขาวมาจ๊ะเอ๋กันบ่อยๆ ก่อนเข้านอน

“เรซูเม่อะไรล่ะ นี่ประวัติคู่ดูตัว”

“ดูตัว?” เขาขมวดคิ้วงงไปหนึ่งที “แล้วหรอ...”

“อ่านซะ ประวัติพอสังเขปของพี่ชาย”

“พี่ชายก็ไอ้คณิตไง”

“ไม่ๆ แม่หมายถึงพี่ชาย”

“เอ๊า ก็ไอ้คณิตไง หรือมันเป็นลูกเก็บมาเลี้ยง!!! ว่าแล้ว!!! หน้าเหมือนเล็บตีนจิงโจ้มีหน้ามาขอเป็นแฝดกัน”

“สัด กูไม่ได้ขอ”



ป้าป!!!

แรงฟาดจนหัวโยกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สมชื่อแฝดนรก ด่ามันหน้าเหมือนตีนจิ้งโจ้เมื่อกี้ก็ลืมคิดไปเลยว่าเข้าตัวเองไปด้วย ชิ

แรงตบจนหัวปลายผมสิบห้าเซ็นกระจุยขนาดนี้ก็อดไม่ได้ที่ต้องหันไปคาดโทษไอ้แฝดเวร ถ้ารู้ว่าเกิดออกมามันจะแย่งสารอาหารจากเขาไปหมดขนาดนี้ รู้งี้แอบเอาสายสะดื้อฟาดมันให้ม่องไปตั้งแต่อยู่ในห้องแม่แล้ว เซ็ง คิดได้เมื่อสาย(สะดือหลุด)ไปแล้ว



“อย่าตีน้อง”

“เออ อย่าตีน้อง” เห็นแม่ดุก็เขาต้องรีบผสมโรงดุด้วย เอาอีกแม่ ด่ามันอีก ไอ้มารหัวขนแย่งเกาะไข่แม่มาเกิด ชิ่วๆ

“ไหนเอามาหน้าผัวมึงดูดิ๊”

“หยาบว่ะคณิต ผัวไรวะ” เขาขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ

คณิตเอื้อมมือไปหยิบเรซูเม่(?) จากมือแม่มาอ่าน ส่วนผมก็ได้แต่นั่งถอนหายใจด้วยความเซ็ง หากเป็นสมัยก่อนที่จะมีการแบ่งไอ้ชนชั้นบ้าบอ อัลฟ่า เบต้า โอเมก้าอะไรนี่ การไปดูตัวคงฟังดูแปลก แต่ปัจจุบันการไปดูตัวเพื่อเลือกคู่ระหว่างอัลฟ่ากับโอเมก้านั้นเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการดูตัวก็จะแบ่งเป็นหลายประเภท ดูตัวเพื่อสืบพันธุ์ ดูตัวเพื่อพัฒนาความสัมพันหรือดูตัวเพื่อช่วยตอนฮีตระยะสั้นๆ

แต่สำหรับเขาแล้วทุกการดูตัวที่แม่เป็นคนเลือกมันมักจะเพื่อไปนั่งกินข้าวด้วยแล้วชิ่งหนี ไปให้แม่สบายใจไปงั้น



“เออ คนนี้ก็พอได้นะ หล่อดี หล่อเกือบเท่ากู”

“ขอร้องคณิต กูไม่เดทกับคนหน้าเหมือนตีน”

“ไอ้ต๋ามึง!!!”

“อะไรไอ้ราคะ!!!” เสียงมวยดังขึ้นเตรียมพร้อมเปิดศึกเลือดข้นคนบ้า

“หยุดตีกันก่อนที่แม่จะตีทั้งคู่นะ คณิต!! ตนิษฐ์!!” จำใจต้องหยุด หยุดโดยที่ไม่มีอะไรกั้นไม่งั้นตูดเราจะกลายเป็นรอยไม้แขวนเสื้อได้

“ว่าแต่มันชื่อว่าไรนะแม่”

“มัน?”

“หมายถึงเขา แหะๆ”

“ชาย พี่เขาชื่อชาย” พอได้ยินชื่อแล้วเขาก็ได้แต่อุทานในใจ โคตรเท่ แค่เรียกก็ดูรวยขึ้นมาทันที คุณชาย พี่ชาย ยศเหนือกว่าเห็นๆ

“พี่ชาย...”

“เออ พรุ่งนี้แม่นัดพี่ชายไว้ตอนเที่ยงที่สยาม นิดห้ามไปสายนะลูก”

“คร้าบบบบบ”

“สายชัวร์ รับไวงี้”

“ยุ่งว่ะคณิต”

“อยากให้ไปด้วยป่ะเนี่ย เพื่อแม่งเป็นพวกหื่นกามเดี๋ยวกูสอยแม่ง” คณิตเอื้อมมือมาขยี้หัวแฝดตัวเล็กไปมา



ถึงจะตีกันบ่อยเหมือนเกลียดขี้หน้ากันมาตั้งแต่สมัยเป็นสเปิร์ม แต่ถ้าพูดตรงๆ แล้ว คณิตเองก็ห่วงและหวงแฝดน้องที่เกิดมาตัวเล็กไม่น้อยไปกว่าพ่อและแม่ หลายต่อหลายครั้งที่เจ้าตัวแอบสะกดรอยตามน้องชายตัวเองเพื่อไปดูให้มั่นใจว่าคู่เดทน้องจะไม่แอบแตะอั๋งหรือใช้กำลังพาน้องเขาไปไหน

...คงไม่ต้องบอกว่าคู่เดทตะนิดน่ะเขาตามไปกระทืบมาหลายรายแล้ว แต่ให้มันรู้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันเหลิง



“ไปเป็นไร นัดสยามหนีง่าย กินข้าวเสร็จเดี๋ยวชิ่งเลย” ประโยคหลังตะนิดจงใจกระซิบให้รู้กันอยู่สองคน

“เค”

“กระซิบอะไรกันน่ะ”

“แม่ นิดหิวมากก แฮ้งค์ด้วย มีอะไรหวานๆ เปรี้ยวๆ กินไหม”

“แม่ทำต้มยำไก่ไว้ คณิตไปอุ่นให้น้องไปลูก”

“อยากแดกก็อุ่นเองไอ้ต๋า”

“คณิตพี่รักก กูไม่มีแรงแล้วววว ทำให้น้องหน่อยยยย” ตะนิดรีบกอดแขนคนเป็นพี่พร้อมกับไถหัวออดอ้อนทันที ปกติเขาก็อ้อนมันอยู่บ่อยๆ คนอย่างคณิตน่ะแพ้ลูกอ้อนจะตาย

“วุ่นวายว่ะ เออ เดี๋ยวไปทำให้” ว่าแล้วแฝดพี่ก็ยอมลุกเข้าครัวไปให้แต่โดยดี ตะนิดยิ้มร่าเมื่อแผนการอ้อนสำเร็จก่อนจะหันกลับมาสนใจประเด็นหลักของตัวเอง รู้ดีว่าต่อให้ถอนหายใจครบสิบครั้งยังไงปัญหาก้อนใหญ่นี่ก็ไม่มีทางหลุดแต่ตะนิดก็เลือกจะถอนหายใจอีกรอบออกไปอยู่ดี



เอาเถอะ

พรุ่งนี้ก็แค่ตื่นๆ ไปให้มันจบ



แค่ตื่นๆ ให้มันจบ

ใช่ เขาคิดแบบนั้น



จนกระทั่งวันต่อมาตอนที่นาฬิกาปลุกเวลาในมือถือโชว์เลขสิบเอ็ดโมงครึ่ง เขาถึงได้รู้ว่า



มันไม่จบ เพราะกูไม่ตื่นนนนนน

สายแล้วโว้ยยยยยย!!!



ฉิบหายๆๆๆๆๆๆ แม่รู้โดนด่าขี้หูเหลวแน่นอน นึกขอบคุณพระเจ้าร้อยครั้งที่วันนี้แม่เขาออกไปชิทแชทกับสมาคมแม่บ้านแถวตลาด อัพเดทข้อมูลข่าวสารความเป็นมาของเพื่อนร่วมซอยแบบวันต่อวัน ขนาดแม่ไม่อยู่ขาเขายังขวิดกันแทบตาย เกือบจะใส่เสื้อกลับตะเข็บออกจากบ้าน แค่เปิดตัวเจอกันวันแรกก็วุ่นวายเลยโว้ยไอ้คุณชายนี่



แน่นอนว่าในเวลาเร่งด่วน ตัวเลือกคงหนีไม่พ้นพี่วิน เขายกมือขึ้นโบกเรียกพี่วินให้ไปส่งที่บีทีเอส ระหว่างได้ยินพี่วินพยายามพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ได้ยินเหมือนภาษาทิพย์ พยักหน้าไว้ก่อน เข้าใจๆ ไอซีๆ ไม่ลืมตบบ่าบอกพี่เขาสู้ๆ ก่อนจะออกตัววิ่งตื๊ดบัตรแรบบิทเข้าสู่ชานชะลา



โชคดีที่ตอนที่ขึ้นบันไดเลื่อนนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่รถไฟฟ้าเข้าชานชะลาพอดี เลยปฏิบัติการแปลงร่างเป็นมนุดป้าลักไก่วิ่งแซงเข้าทางสายกลางเข้าขบวนมาอย่างหน้าด้านหน้าทน หลังจากนั้นก็ทำเนียนต่อด้วยการหยิบมือถือมาพิมพ์ด่าไอ้คณิต ไม่มีไรทำก็ด่าพี่ตัวเอง ตอนนั้นเองที่เขารู้สึกเหมือนมีสายตาหนึ่งกำลังจ้อง ไม่ใช่จ้องธรรมดา แต่เป็นจ้องนิ่งอยู่นานจนต้องเงยหน้าขึ้นมอง



คนตรงหน้าเป็นผู้ชายอายุประมาณสามสิบกว่าๆ ดูจากส่วนสูงที่น่าจะถึงร้อยเก้าสิบ ไหล่กว้างแบบที่นกเอี้ยงมาเกาะได้เกินข้างละห้าตัว แขนที่กอดอกอยู่นั่นกล้ามเนื้อแน่นกว่าแขนกุ้งแห้งของเขาไปเยอะ กลิ่นอายชัดเจนแบบไม่ต้องสงสัยว่าเป็นอัลฟ่า เผลอๆ อาจจะเป็นอัลฟ่าเลือดแท้ที่มีจำนวนน้อยในปัจจุบัน ใบหน้าดุใต้กรอบแว่นนั่นจ้องมานิ่งๆ



...อะไร จ้องทำไม

แล้วคนอะไรหน้าดุเป็นบ้า



รีบหลบสายตาเล่นมือถือเป็นคำตอบแรกที่ตะนิดเลือกทำ ไถไปมาไม่นานแต่ฟิล์มก็สึกไปหลายมิล รถไฟฟ้าก็เข้าจอดที่สถานีสยาม พอประตูเปิดเขาก็รีบชิงออกตัววิ่งแทรกทุกคนออกไป เผลอแอบกระแทกใครไปไม่รู้แรงไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้กลัวพี่เขาคิดว่าเทแล้วกลับไปบอกแม่มากกว่า ชาร์ตพลังที่เท้าเตรียมพร้อมจะโกยสิโยมเต็มที่



... ถ้าไม่ติดว่า



แอ้ก!!!



คะ คะ คอเสื้อถูกดึง!!!



“เห้ย อะไรวะ” ตะนิดรีบหันไปปัดแรงดึงปริศนาออกทันที ซึ่งเจ้าของแรงดึงก็ไม่ใช่ใครไหน



เฮียแว่นหน้าดุ...



“มารยาทของการอยู่ร่วมกับคนอื่น คนเขาเข้าแถวอยู่ก็ต้องเข้าแถว ไม่ใช่แซงแถวเข้ามา” เสียงทุ้มนั่นเอ่ยออกมาพร้อมกับการกดสายตาดุ

“เอ่อ... โทษทีพี่ ผมรีบ”

“ไม่ใช่ข้ออ้าง”

“เห้ย แล้วจะเอาไงอีก ก็ขอโทษแล้วไง” ตะนิดขมวดคิ้วมุ่น

“โอ้ ต้องสอนมารยาทเรื่องเคารพผู้ใหญ่ด้วยหรอ”

“เห้ยลุง ปล่อยผมดิวะ ผมรีบ”

“ตัวกระเปี๊ยกเป็นลูกหมาทำเก่งจริง” ตะนิดมองอัลฟ่าหมาบ้าตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์

“ลุง จะปล่อยดีๆ ป่ะ”

“ไม่ แล้วเธอจะทำไมหืมตัวเปี๊ยก?”



...ตัวกระเปี๊ยกแล้วไง

อยากท้าอำนาจมืดชมรมถึงจะเตี้ยก็เหี้ยกว่านักใช่ไหม



ได้!!



“เสี่ยครับ!!! ปล่อยผมไปเถอะ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่รับงานบนเตียง” ตะนิดเอ่ยเสียงดังพร้อมกับเบะปากทำหน้ายู่ยี่ประหนึ่งองค์ดาราส่องสามเข้าประทับ

“ห๊ะ?”

“เสี่ยมีเมียอยู่แล้ว ผมทำไม่ได้ อย่าทำแบบนี้เลยครับเสี่ยยยยยย” พอเห็นคนโดนเรียกเสี่ยเลิ่กลั่ก เขาก็ยิ่งเบะปากส่งเสียงดัง “เสี่ยปล่อยผมเถอะครับ รอยกุญแจมือที่เสี่ยบังคับใส่เมื่อวานมันยังเจ็บอยู่”

“เดี๋ยว ใครเสี่ย...”

“ฮึกกกกกกก เจ็บเหลือเกินนนน โอ๊ยยยยย เจ็บไปทั้งหัวใจทำไมยังทนนนน เริ่มใหม่อีกกี่หนนะคนใจร้ายยยยยยยย”



เริ่มเวอร์ไปนิดหนึ่ง ตกลงเจ็บรอยกุญแจมือหรือแฟนทิ้ง

แต่เอาเถอะ ดาราต้องเล่นใหญ่ไว้ก่อน เผื่อแมวมองเห็นแล้วอินเนอร์เราได้



ด้วยความที่จุดที่เรายืนอยู่เป็นสถานีรถไฟฟ้าที่คนเยอะตลอดทุกช่วงเวลาทำให้เริ่มมีคนมองมาเยอะขึ้น ลุงอัลฟ่าหมาบ้าถึงได้ตกใจรีบปล่อยข้อมือเขาออกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าดุนั่นเหรอหราจนอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ



“หนูขอตัวก่อนครับ... เสี่ยโรคจิต” ทันทีที่ข้อมือหลุด ตะนิดก็รีบหันไปแล่บลิ้นใส่เสี่ยโรคจิตก่อนจะออกตัววิ่งโกยเถอะโยมตื๊ดบัตรออกนอกสถานีมาทันที เขาวิ่งหอบแฮ่กมายังร้านกาแฟชื่อดัง ดังที่ว่าก็ไม่ใช่แค่เพราะสูตรแต่เป็นเสียงติวเตอร์โต๊ะข้างๆ ด้วย แหม่ จองกันเต็มร้านกันเช่นเคย

ตะนิดสอดส่องสายตาไปทั่วร้านพรางหอบหายใจระบายความเหนื่อยจากการวิ่ง ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ก็มีบางอย่างเย็นๆ แนบหน้าลงมาข้างแก้ม



“เห้ยยยย”

“มาสายนะครับน้องนิด” เขาได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองฝ่ายตรงข้าม

อัลฟ่าร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิตสีขาวกางเกงสแลคสีน้ำตาลอ่อนมาพร้อมกับดวงตาสีเทาอมน้ำตาลที่ถึงแม้จะหุบหายไปเล็กน้อยจากการยิ้มจนตาหยีก็ยังดูดีอยู่ตาม



นะ นะ ในเรซูเม่ไม่ได้งานดีขนาดนี้นี่นา



“พะ พี่ชายหรอครับ”

“ติดบราเธอร์โซนพี่ไว้ตั้งแต่วันแรกเลยหรอ”

“เอ้ย ไม่ๆ หมายถึง คุณชายหรอครับ”

“ไม่ได้รวยขนาดนั้นหรอกครับ”

“...”

“ล้อเล่นน่ะ ใช่ครับ พี่เอง หมายถึงพี่ชายที่... ไม่ใช่พี่ชาย” สิ้นคำแนะนำตัวแสนงงของอัลฟ่าตรงหน้า ตะนิดก็อมลมใส่แก้มเล็กน้อย เจอกันครั้งแรกก็ปล่อยมุกกวนประสาทเลย

“ขอโทษที่มาสายนะพี่ พอดีนิดเจอคนโรคจิตบนบีทีเอส ซวยมาก”

“หืม? เขาทำอะไรไม่ดีนิดหรือเปล่าครับ” หน้าของอัลฟ่าหนุ่มขมวดมุ่นทันทีด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ ช่างมันเถอะ ว่าแต่นี่พี่กินข้าวมารึยังอะ?”

“ยังเลย รอเราเลือกร้าน”

“โห นิดกินไรก็ได้เลย”

“งั้นเป็นสเต๊กไหมครับ”

“ไม่เอาอ่ะ”

“ราเม็ง?”

“ไม่อยากกินเส้นอะพี่”

“ชาบูไหมครับ”

“หัวเหม็น”

“ยำไหมครับ?”

”ไม่นะพี่ นี่รปภ.”

“อีกนิดพี่จะคิดว่านิดกวนตีนพี่แล้วนะ” อัลฟ่าหนุ่มกล่าวหน้าตายพร้อมกับยื่นน้ำชาเขียวปั่นที่สั่งไว้เผื่อให้ตะนิด

“ฮ่าๆ พี่ตลกอ่ะ นี่สารภาพว่าตอนแรกนิดกะจะมาเจอพี่แล้วชิ่งนะ” ตะนิดรับแก้วมาดูดก่อนจะสารภาพความจริงออกไป

“คิดเหมือนกันเลย”

“เห้ยยย จริงป่ะเนี่ย”

“พ่อพี่บอกว่าพ่อนิดเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อพี่สมัยมัธยม พอฝั่งนิดขอมาเลยปฏิเสธไม่ได้” พูดมาขนาดนี้ตะนิดก็ถึงกับก้มหน้างุด



แม่นะแม่!!!



“อายเลยอ่ะพี่”

“แต่พอมาเจอตัวจริงแล้ว...” คนตัวสูงกว่าทิ้งจังหวะไปนิดพร้อมกับชายตามองคนตัวเล็กกว่าที่ก้มหน้าทำหน้าแดงเป็นโมจิแยมสตอเบอร์รี่ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “... น่ารักกว่าที่คิด”

“ฮัดชิ่ว!!! โทษพี่ เมื่อกี้พูดไรนะ”

“เปล่าๆ พี่บอกว่าจอมโจรคิด”

“ห๊ะ?”

“ป่ะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ หิวจะแย่แล้ว”

“อือ ไปจากที่นี่เถอะ กลิ่นน้ำหอมอะไรสักอย่างฟุ้งมาก ลาเวนเดอร์หรอ?” ตะนิดยกมือขึ้นปัดจมูกไปมาก่อนจะขอเดินนำออกจากร้านไปก่อน อัลฟ่าหนุ่มมองไล่หลังเล็กของเจ้าโอเมก้าก้อนโมจิแก้มแดงด้วยความเอ็นดูพร้อมกับเดินตามออกไป แม้ในใจจะสงสัยนิดหน่อย



กลิ่นน้ำหอม? ลาเวนเดอร์?

ไม่เห็นจะได้กลิ่นเลย...





สงสัยโอเมก้าจะจมูกไวกว่าอัลฟ่าอย่างเราล่ะมั้ง...









--- TALK



อ้อ ชื่อน้องนิด คือ ตนิษฐ์ (ตะนิด = เล็ก) ค่า


หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ep 2 : ลาเวนเดอร์กับแป้งผสมพีช
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 05-05-2020 21:17:37
ก็จะดื้อ2

ลาเวนเดอร์กับแป้งผสมพีช


เช้าที่ควรจะสดใสหลังจากเช้าในวันที่แฮ้งค์กลับกลายเป็นเช้าแห่งนรก ตะนิดขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกับตีมือลงกับเตียงปุปุระบายอารมณ์



กลิ่นลาเวนเดอร์แปลกๆ นั่นมันวนเวียนอยู่ในหัวเขาจนน่าหงุดหงิด

แต่พอมันเริ่มจางไปก็รู้สึกใจหายโหวงเหวง มันบ้าอะไรนะ!!! หงุดหงิดจนจะตายแล้ว!!!



ตะนิดตีเตียงไปมาก่อนจะหยิบมือถือคู่ใจขึ้นมากดเบอร์โทรหาเพื่อนตัวแสบที่ไม่ได้ติดต่อกันเลยหลังจากที่ไปกินเหล้าเมาด้วยกันมาเมื่อวานซืน รอแล้วรอเล่า รอจนเสียงรอสายตัดเพื่อนก็ไม่รับสาย คนตัวเล็กขู่แง่งมือถือในมือด้วยความหงุดหงิด ให้มันได้แบบนี้ ทีเวลาชวนกินเหล้าโทรตื๊ดเดียวรับตลอด ปากเล็กเบะออกมาเมื่อรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ





เขานอนไม่ได้!! นอนไม่หลับเลยทั้งคืน!!!

หงุดหงิด อยากได้กลิ่นนั่นอีก อยากเอาจมูกไปซุกสูดแรงๆ



ร่างเล็กกระโดดทุบเตียงตีขาไปมา ดวงตากลมมองมือถือตัวเองพร้อมกับยู่ปาก คณิตก็ไปซ้อมมวยไม่อยู่บ้านไปอีก ชีวิตที่แสนเหงา ถึงจะไม่อยากออกไปเที่ยวคนเดียวยังไงแต่ด้วยความหงุดหงิดในใจ สุดท้ายตะนิดก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปสยามคนเดียวอย่างเสียไม่ได้



ห้างดังในวันอาทิตย์พลุกพล่านตามที่คาด ตะนิดยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าเล็กน้อย เขาเป็นคนขี้ร้อนขี้หนาว อยู่ในที่ร้อนมากๆ ก็เหงื่อออก อยู่ในที่เย็นหน่อยก็หนาวกว่าคนอื่นเขา ร่างกายของโอเมก้านี่มันไม่มีอะไรดีจริงๆ เลย คนตัวบางบุ่นงุบงิบในใจก่อนจะก้าวขาเดินเข้าห้างไปทางโซนน้ำหอม



“นิด?” เสียงเรียกดังขึ้นจากทางด้านหลัง ตะนิดจึงหันหน้ากลับไปตามเสียงเรียก

“เอ้ย พี่ชาย?” ผมยิ้มร่าเมื่อพบว่าคนที่เรียกไม่ใช่ใครไหนไกล เพิ่งเจอกันมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน พี่ชายนั่นเอง วันนี้แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว ทับด้วยสูทสีเทา ดูเป็ตนมาดนักธุรกิจเลย

“มากับใครเนี่ย อย่าบอกนะเดทกับพี่เมื่อวาน วันนี้ก็มาเดทกับคนอื่นเลย” พี่ชายกอดอกหรี่ตามองเขา

“เห้ยพี่ ผมมาคนเดียว”

“เชื่อได้ไหมนะ”

“ต้องเชื่อดิ ว่าแต่ แล้วพี่มาทำอะไรเนี่ย”

“คุยงานนิดหน่อยน่ะ แต่เสร็จแล้ว แล้วเรากำลังจะไปไหน”

“ผมจะไปดูน้ำหอมไม่ก็พวกเครื่องปรับอากาศนิดหน่อยอ่ะพี่ นอนไม่หลับเลยเมื่อวาน สุดเศร้า” ชายมองหน้าโอเมก้าตัวเล็กตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ตาโหลขนาดนี้เห็นจะจริง

“พี่มีนัดกับเพื่อนต่อแต่มันหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ว่างอยู่พอดี รอให้คนแถวนี้ชวนไปเที่ยวหน่อย” ตะนิดเอียงคองงเล็กน้อยก่อนจะร้องอ๋อออกมา

“ไปดิพี่ ไปด้วยกัน เหงาอยู่เหมือนกันเดินคนเดียว ปกติผมไม่ค่อยเดินห้างคนเดียวเลย”

“ติดเพื่อนหรอเราน่ะ”

“เปล่าา ติดแฝด”

“อ้าว เรามีแฝดด้วยหรอ”

“ช่ายยย ชื่อคณิต” ตะนิดอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกภาพออกว่าถ้าไอ้แฝดนรกที่ค่ายมวยรู้ว่าตนออกมาเดินเที่ยวห้างคนเดียวคงได้มีโวยวายไม่พอใจแหง

“คณิตกับตะนิดหรอ มีนิดเหมือนกันเลย”

“อื้อ ก็พ่อผมชื่อมานิตส่วนแม่ผมชื่อนิตยา ครอบครัวนิดๆ”

“แล้วหน้าเหมือนกันเลยไหม”

“ผมหล่อกว่านิดหน่อย”

“เชื่อดีไหมนะ” ชายหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับคำพูดของโอเมก้าตัวเล็ก ไม่รู้ว่าตรงไหนเอามาหล่อ ตาโตแก้มยุ้ยขนาดนี้

“ชิ คณิตเป็นอัลฟ่า โครงมันหล่อกว่าผมนิดหน่อย แต่พูดเรื่องน่ารักผมชนะขาดลอย”

“อันนี้ค่อยน่าเชื่อหน่อย” ชายอมยิ้มเล็กน้อย เลือกที่จะเมินประเด็นเรื่องเพศของแฝดพี่ไปเพราะดูท่าทางจะไม่ใช่เรื่องที่คนตัวเล็กรู้สึกยินดีใบหน้าน่ารักนั่นถึงดูเศร้าลงเล็กน้อย “ว่าแต่ทำไมกลิ่นถึงทำเรานอนไม่หลับได้ล่ะ”

“นั่นดิพี่ รำคาญมาก”

“อ้าว”

“ได้กลิ่นก็หงุดหงิดไม่ได้กลิ่น... ก็รำคาญ” ตะนิดบ่นงุบงิบในลำคอก่อนจะพองแก้มป่องกระแทกเท้านำไป เพราะเมื่อพูดถึงกลิ่นปริศนานั่นหัวใจก็รู้สึกโหวงขึ้นมาอีกรอบ ชายกระดกคิ้วงงกับการกระทำนั่นเล็กน้อยแต่ก็เดินตามหลังเล็กไป

“แล้วอยากได้กลิ่นประมาณไหนล่ะ”

“อืม ประมาณลาเวนเดอร์แต่ก็ไม่ลาเวนเดอร์อ่ะพี่ บอกไม่ถูก มันมีกลิ่นอื่นด้วย”

“กลิ่นอื่น?”

“อื้อ ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน”

“แปลกจัง”

เมื่อเดินมาถึงโซนน้ำหอมตะนิดก็จัดการเปิดขวดน้ำหอมดมไปเรื่อยๆ สลับกับดมกาแฟแก้เลี่ยนกลิ่น ขวดแล้วขวดเล่าผ่านไปก็ยังไม่เจอกลิ่นที่ใช่ คนตัวเล็กขมวดคิ้วกระทืบเท้าเล็กๆ ด้วยความไม่พอใจ ชายมองภาพนั้นพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย

... เหมือนลูกแมวเลย

“ไม่ถูกใจหรอ”

“อื้อ บอกไม่ถูกอ่ะพี่ แต่มันเป็นลาเวนเดอร์ที่ไม่ใช่ลาเวนเดอร์”

“แล้วมั-“



ครืดดดดดด

เสียงสั่นจากโทรศัพท์ในมือของชายดึงสายตาจากทั้งคู่ในทันที ชายยกมือขึ้นขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์แถวหน้าร้าน ตะนิดเองก็พยักหน้าเบาเป็นคำตอบว่าเชิญตามสบายก่อนจะหันตัวมาเปิดขวดน้ำหอมขวดในดม แต่ลองฉีดใส่กระดาษเทสต์แล้วก็ยังไม่ใช่



ชาแนลก็ไม่ใช่ ดิออร์ก็ไม่ใช่ ทเวลฟ์พลัสก็ไม่ใช่

มันกลิ่นบ้าอะไรกันเนี่ย ลาเวนเดอร์นอกโลกหรอ เบจิต้านำเข้ามาจากดาวนาแม็กรึไง



ในตอนนั้นเอง

จู่ๆ กลิ่นวาเลนเดอร์ประหลาดก็ลอยมากระทบกับปลายจมูกเล็ก ตะนิดผงะเล็กน้อยก่อนจะฟุดฟิดจมูกหันหน้าหันหลังหน้าต้นทางของกลิ่น พอขยับเดินไปทางซ้ายเล็กน้อยกลิ่นหอมนั่นก็ฟุ้งขึ้น โดยไม่รู้ตัวตะนิดก็กลายเป็นลูกหมาฟุดฟิดจมูกเดินไปตามทาง



ปั้ก!!!



โอ๊ะ...

ตะนิดลูบหัวป้อยๆ เมื่อรู้สึกว่าหัวตัวเองชนอะไรบางอย่าง พอเงยหน้ามองก็ขึ้นมอง ตากลมโตก็ถึงกับเบิกกว้าง



“เสี่ยโรคจิต!!!!”

“เสี่ยบ้าอะไรอีก ไอ้เด็กเวร” คนโดนเรียกเป็นเสี่ยโรคจิตรอบที่สองในชีวิตดีดเหม่งใสเข้าเต็มแรงจนร่างตะนิดเซ ตะนิดยกมือขึ้นลูบเหม่งตัวป้อยๆ ด้วยความเจ็บปวด คลำดูให้แน่ใจว่ากะโหลกไม่แตก ดีดแรงจนหูอื้อ สมชื่อเสี่ยโรคจิตจริงๆ

“จะเอาคืนหรือไง!! ผมสู้นะ!!”

“เอาคืนยังไง เห่าหรอ”

“ห๊ะ?”

“เห็นเดินดมเหมือนหมามาสักพักแล้ว ตกลงคนโรคจิตเนี่ยมันเธอหรือเปล่า” อัลฟ่าหนุ่มใช้นิ้วยกแว่นก่อนจะเปลี่ยนมากอดอกแมวตัวน้อยที่กำลังยู่หน้าขู่

“เดินดมอะไรเถอะ ผมเปล่า อย่ามามั่ว คนที่เดินดมได้ก็มีแค่โน้ตอุดมแล้วป่ะ”

“นั่นเล่นมุกหรอ”

“อ่ะ ฮึ่ย”

“ชอบเหรอไง”

“ชอบอะไร”

“ลาเวนเดอร์”

“ไม่ได้ชอบ”

“หรอ”

“ไม่ชอบ”

“งั้นหยุดเอาหน้ามาซุกก่อนไหม นี่มันกลางห้างนะ”



ห๊ะ...

ซุก? ใครซุก?



ตะนิดถึงกับเบิกตากว้างเมื่อค้นพบว่าตัวเองกำลังเอาจมูกมาซุกอกคนตรงหน้าอย่างเผลอไผล แมวน้อยสะดุ้งผละตัวออกด้วยความตกใจ



บ้าไปแล้ว!!! นี่เขาเอาจมูกเข้าไปซุกอกไอ้เสี่ยโรคจิตนี่ทำไม!!!



“หะ หะ หกล้ม ไม่ได้ตั้งใจซุก!!!!”

“ก็เห็นอยู่ว่าซุก” เถียงไม่ออก ตะนิดได้แต่อ้าปากพะงาบๆ



... ก็ซุกไปจริงๆ แต่ไปซุกทำไม แล้วไปซุกตอนไหน เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย

พอความตกใจเข้าครอบงำจนคิดอะไรไม่ออกเป็นแบบนั้นตะนิดก็เตรียมหันหลังเผ่นทันที แต่ก็ช้ากว่าอัลฟ่าหนุ่มที่ดูทางออก มือใหญ่ตามขนาดของอัลฟ่าคว้าหมับเข้าที่ข้อแขนบางก่อนจะดึงให้มาชิดตัว

ตะนิดตกใจเตรียมจะอ้าปากด่า แต่พอได้กลิ่นหอมอ่อนของลาเวนเดอร์ตีเข้าจมูกจากที่จะขืนตัวออกก็กลายเป็นจับเสื้อเชิ้ตของอีกคนแน่น



ไม่ได้รู้จักกันแถมเกลียดขี้หน้าตั้งแต่เจอกันครั้งแรก

แต่กลับอยากกอดอยู่แบบนี้ให้แน่นๆ



“ไอ้ภาส? น้องนิด?” เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ตะนิดตื่นจากภวังค์ มือเล็กดันอกใหญ่ให้ห่างพร้อมกับพยามสะบัดมืออกจากการโดนจับกุมแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเจ้าของมือใหญ่นั่นกำไว้เสียแน่น

“ไอ้ชาย”

“ไหนมึงบอกไปดูของโซนเด็ก มาทำอะไรที่นี่วะ” ชายขมวดคิ้วงง จริงๆ ก็งงตั้งใจตอนเพื่อนที่ขึ้นชื่อเรื่องความนิ่งโทรมาบอกว่าจะมาตามนัดเลทเพราะจะไปหาซื้อของที่โซนเด็กแล้ว พอมาโผล่อยู่โซนน้ำหอมยิ่งงงเข้าไปใหญ่

“...”

“แล้วนี่น้องนิดรู้จักไอ้ภาสมันด้วยหรอ” ถึงภาพตรงหน้าจะเป็นคำตอบอยู่แล้วแต่ชายก็อดถามออกไปเพื่อความแน่ใจเสียไม่ได้

“ภาส? เสี่ยโรคจิตนี่ชื่อภาสหรอ”

“ห๊ะ เสี่ย?”

“ภาสหรือพลาดเอาดีๆ แล้วนี่ปล่อยได้หรือยังลุง” ตะนิดหันไปสะบัดมืออีกรอบแต่ภาสก็ยังคงไม่แม้แต่จะสนใจ แถมยังเมินเงยขึ้นคุยกับเพื่อนอีกต่างหาก

“ไหนมึงบอกจะไปหาเด็ก”

“ก็นี่ไงน้องนิด ที่กูเล่าให้ฟัง”

“น้องนิด...” อัลฟ่าหนุ่มหน้าดุทวนชื่อเพื่อเป็นการย้ำถามว่าสนิทขนาดเรียกน้องได้เลยหรือไง “เด็กคนนี้ก็คือเด็กที่กูเล่าให้มึงฟังเมื่อวานเหมือนกัน.... เด็กเปรตน่ะ”



ตะนิดขู่แง่งเมื่อได้ยินคำว่าเด็กเปรต แต่พอพี่ชายทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้เสี่ยโรคจิตก็ทำตัวแปลกด้วยการใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กุมมือเขาขึ้นโอบหลังไว้เบาๆ พออยู่ในท่านี้กลิ่นลาเวนเดอร์น่ารำคาญนั่นก็ฟุ้งจนอดใช้จมูกจิ้มๆ กดๆ ลงไปอีกรอบเสียไม่ได้



กลิ่นที่น่าหงุดหงิด

แต่ก็อยากดมอีกเรื่อยๆ



“นะ น้องนิดครับ...”

“หยุดซุกก่อนได้ไหม” ภาสเอ่ยดุคนในอ้อมกอดเบาๆ เขาตั้งใจจะคุยกับเพื่อนอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดไม่พยายามทำลายความตั้งใจนั้นด้วยการเอาจมูกมาถูแถวอก

...มันจั๊กจี้



“ไม่ได้ซุก”

“เลิกดมได้แล้ว โรคจิตหรือไง”

“ยุ่ง”

“ต้องยุ่ง”

“แล้วจะมายุ่งทำไม”

“ก็ใช่ไม่ใช่หรอ”

“ใช่อะไร”

“ไอ้กลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ เนี่ย...” ภาสยกนิ้วชี้ขึ้นเขี่ยปลอกคอหนังที่คอคนในอ้อมกอดก่อนจะกดจมูกเขาไปใกล้ “กลิ่นเธอไม่ใช่หรือไง”

“ไม่ใช่ ไม่ทาแป้ง ไม่ใช่เด็ก”

“ฉีดน้ำหอมทับมันก็ไม่ช่วยหรอกนะ”

“เดี๋ยวนะ ที่มึงบอกว่ากลิ่นแป้งนี่...” ชายที่มองทั้งคู่อยู่นานเอ่ยขึ้นขัด ในใจก็ได้แต่โอดครวญขอร้องพระเจ้าให้ไม่เป็นอย่างที่คิด

...เขาอุตส่าห์ถูกใจน้องนิดมากแท้ๆ มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ

“อืม...”

“แล้วที่น้องนิดบอกว่ากลิ่นลาเวนเดอร์ สรุปนั่นกลิ่นมึงเรอะ!!!”

“อืม”

“บ้าไปแล้ว หน้ามึงดุเหมือนหมาขนาดนี้กูอุตส่าห์เดาว่ามึงน่าจะกลิ่นประมาณเลือดไม่ก็สนิม มึงเนี่ยนะกลิ่นลาเวนเดอร์!!!”

“ไอ้ชาย...” ภาสตวัดสายตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมปรามเพื่อนว่าถ้ายังไม่หยุดพูดอะไรไร้สาระ ชายถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขืนเขายังไม่หยุดพูด ดูท่ากลิ่นเลือดที่ว่าอาจจะมาจากหัวเขาเอง

ภาสถอนหายใจเล็กน้อยให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ปัจจุบันอัตราการเจอคู่แห่งโชคชะตานั่นต่ำมากจนคนแทบจะลืมการมีอยู่ไปแล้ว การที่เขาได้พบคู่แห่งโชคชะตาในวันนี้เหมือนเป็นการเล่นตลกของพระเจ้าก็ว่าได้ มีที่ไหนล่ะที่ส่งคู่มาเป็นเด็กดื้อเป็นแมวขนาดนี้ แล้วดูท่าอีกฝ่ายก็ไม่แม้แต่จะรู้จักคำว่าคู่แห่งโชคชะตาถึงได้ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำพฤติกรรมแปลกๆ แตกต่างครั้งแรกที่เจอเป็นหน้ามือหลังมือ

แมวตัวน้อยซุกอกเขาอีกรอบ ใบหน้าน่ารักตามฉบับโอเมก้านั่นอมยิ้มเล็กๆ เหมือนแมวเจอของที่ถูกใจ เขาพอจะรู้พฤติกรรมอ้อนของโอเมก้ามาอยู่บ้างจากคู่เดทหลายคนก่อนหน้า เขาเจอมาสารพัดแบบแต่ไอ้ที่อ้อนไม่รู้ตัวแบบนี้ก็เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก

ใจหนึ่งก็อยากจะดีดไอ้ก้อนจั๊กจี้ตรงอกให้กระเด็น แต่พอได้กลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ นั่นก็ดันผลักไม่ลง



... แค่เจอคู่แห่งโชคชะตาก็ว่าวุ่นวายพอแล้ว

หวยดันออกเป็นไอ้เด็กคนนี้อีก ให้ตายเถอะ



จะว่าคนในอ้อมกอดมีพฤติกรรมแปลกอยู่คนเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะตัวเขาเองก็รู้สึกได้เช่นกัน อยู่ๆ แค่เพื่อนสนิทอย่างไอ้ชายกระเถิบเข้ามาใกล้ สัญชาตญาณก็สั่งให้ปกป้องคนในอ้อมกอดทันที แถมเมื่อกี้เขาเกือบจะแยกเขี้ยวขู่เพื่อนตัวเองไปด้วยซ้ำ ให้ตาย แค่ไม่กี่นาทีที่เจอกันก็พบเจอความยุ่งยากไปหลายอย่างแล้ว



“เวรเอ๊ย แล้วนั่นก็ดมเป็นลูกแมวเลย โถ่ น้องนิดของพี่”

“หืม? “ ภาสตวัดตาดุเพื่อนอีกรอบตามสัญชาตญาณความเป็นเจ้าของ

“นี่ก็หวงจริง เมื่อวานยังบ่นให้กูฟังจนหูชา”

“ไม่ได้ตั้งใจหวง มันเป็นไปเอง” ภาสพูดไปตามตรง เขาไม่คิดจะหวงอะไรตะนิดเลยสักนิด แต่เหมือนร่างกายมันเป็นไปเอง

“ไม่หวงก็ปล่อยออกมานี่ กูกะจะจีบจริงจังสักหน่อย หมาคาบไปแด… เอ้ย หมายถึงมึงตัดหน้าไปเฉย” ชายยกมือขึ้นเกา แอบเซ็งไปนิดหนึ่งเลยเหมือนกัน ถึงจะยังไม่ทันได้เริ่มรุกจริงจังแต่ก็ตัดสินใจจะจีบแล้วแท้ๆ บุญมีได้ดูตัวแต่กรรมดันใหญ่กว่าบุญ บังเสียมิดเชียว

“...” ภาสทำเป็นเมินประโยคแรกของเพื่อนไป ไอ้ที่บอกไม่ได้หวงไม่ได้โกหกหรอกแต่ถ้าจะปล่อยให้เพื่อนเอาไปกอดเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน

“แล้วนี่ต้องทำไงต่อวะ เรื่องคู่แห่งโชคชะตาอะไรนี่กูก็ไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่”

“นั่นสิ”

“ว่าแต่น้องนิดจะฮีทไหมเนี่ย ดูแปลกๆ นะ” ชายพูดขึ้นเมื่อสังเกตได้ว่าเด็กคนปากเก่งเมื่อวานเงียบผิดปกติ เจ้าตัวเกาะเพื่อนเขาเป็นลูกลิงไม่หือไม่อือ เหมือนขาดสติไปโดยสิ้นเชิง

“พากลับบ้านดีกว่า มึงรู้จักบ้านเขาไหม”

“ถามพ่อให้ได้”

“นี่” ภาสตบหลังคนในอ้อมกอดปุๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกรนออกมาเบาๆ



... เดี๋ยวนะ

เสียงกรน? หลับไปแล้ว?

ถึงกับต้องใช้มือจับคางเล็กขึ้นดูให้แน่ใจ พอเสยขึ้นมาได้ ร่างของตะนิดก็ทิ้งตัวใส่เหมือนหมดสติไปกลางคัน อัลฟ่าหนุ่มทั้งสองคนร้องเห้ยออกมาดังลั่น เป็นภาสที่หิ้วไหล่ร่างเล็กไว้ได้ทัน ส่วนชายก็เอื้อมมือไปดันท้ายทอยที่หงายห้อยแบบน่ากลัวไว้



“น้องเป็นอะไรวะ”

“คร่อกกกกก ฟรี้...”

“กรนด้วย...” ภาสกระพริบตาปริบๆ จะบอกว่าสลบก็ไม่เชิง ไอ้เสียงกรนครืดคราดนั่นไม่น่าใช่อาการที่ถูกต้องของเป็นลมเสียเท่าไหร่

“เออ เห็นบอกอยู่ว่าเมื่อวานนอนไม่หลับ”

“แล้วมาหลับกลางห้างเนี่ยนะ”

“จี้ว่ะ กูถึงชอบไง... เอ่อ โทษที ปากกูไวไปนิด” ชายหัวเราะแห้งเมื่อโดนสายตาพิฆาตเป็นรอบที่สิบของวัน

“เด็กเปรตจริงๆ”

“เอาน่า น้องบอกนอนไม่ได้เพราะกลิ่นลาเวนเดอร์มันหลอกหลอนน้อง มึงก็ควรจะดีใจไหม” ชายแบบตวัดนิ้วในใจ นอกไข่ใส่สีไปหน่อยแหละว่าน้องมันบอกว่าหลอกหลอน จริงๆ น้องบอกเขาไว้แค่รำคาญ แต่มาตามหาซื้อกลับบ้านไปดมขนาดนี้ไม่น่าใช่รำคาญเดียวกับในพจนานุกรมเขาแล้วแหละ



... พูดถึงซื้อกลับไปดมแล้ว

ชายตวัดตามองเพื่อนอัลฟ่าปริบๆ



“มองอะไร”

“อย่าบอกนะว่ามึงที่มึงไปดูของโซนเด็กที่ว่านี่...”

“...”

“มึงไปดูแป้งทาตูดเด็กหากลิ่นน้องหรอ? จริงป่ะเนี่ย? คนอย่างมึงเนี่ยนะ? ฮ่าๆ โคตรจี้”

“...”

ภาสเงียบเถียงอะไรไม่ออกเพราะเขาตั้งใจจะไปหาซื้อกลิ่นแป้งเด็กที่มีกลิ่นพีชผสมจริง เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ นี่ตั้งแต่เมื่อวาน แล้วมันก็ตามไปทุกที่ มันน่าแปลกตรงที่แป้งเป็นกลิ่นที่เขาไม่ค่อยจะได้สัมผัสในชีวิตประจำวันเท่าไหร่

เขาเป็นผู้ชายวัยสามสิบสามที่อาศัยอยู่คนเดียว ที่ทำงานก็เต็มไปด้วยพนักงานวัยไล่กับเขา ถ้าจะมีกลิ่นก็คงจะเป็นกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจำพวกแบรนด์ฝรั่งเสียมากกว่า เพราะงั้นมันจึงน่าแปลกที่กลิ่นแป้งแบบนี้ตามติดเขาไม่หยุดจนแทบเสียการเสียงาน

อัลฟ่าหนุ่มแอบกระแอมเบาๆ หากไอ้ชายสังเกตนิดหน่อยคงจะเห็นว่ากระเป๋ากางเกงเขามันนูนปิดปกติเนื่องจากใส่กระป๋องแป้งขวดเล็กที่เพิ่งซื้อมาไว้ ถึงกลิ่นจะไม่ได้เหมือนร้อยเปอร์เซนแต่ก็ใกล้เคียงที่สุด วันนี้เขาตั้งใจจะมาซื้อแป้งแล้วก็ไปหาอะไรกินกับชายตามที่นัดไว้ แต่พอเดินมาเจอเจ้าแมวดื้อนี่เดินดมลมเหมือนหมาอยู่ไม่ไกล ตอนแรกก็กะจะเดินเข้าไปด่าเรื่องเมื่อวานเสียหน่อย แต่พอร่างเล็กนั่นเดินดมมาซุกอกเขาแล้วกลิ่นแป้งนั่นตีขึ้นจมูกเขาก็รู้ได้ทันที





... นี่สินะตัวการ



“ได้ที่อยู่มาแล้ว แล้วนี่จะพาไปรถใคร รถมึงหรือกู”

“รถกู”

“งั้นมึงขับตามกูมาแล้วกัน” ภาสตอบรับก่อนจะพิจารณามองร่างที่ตนหิ้วปีกอยู่ ไอ้จะให้อุ้มท่าเจ้าสาวก็ดูพิลึกไปหน่อย เขาถอนหายใจก่อนจะจับร่างเล็กขึ้นพาดบ่า



... เบากว่าที่คิดเยอะเลย

ว่าแต่โดนหิ้วขึ้นบ่าขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีก หลับสนิทจริงแหะ



ภาสส่ายหัวเอือมเบาๆ ก่อนจะฟาดมือลงบนสะโพกนิ่มเป็นการลงโทษที่ทำให้เขาต้องมาลำบากอุ้มเดินกลางห้างตอนกลางวันแบบนี้ เจอกันครั้งแรกก็ไม่ถูกกัน เจอครั้งที่สองก็โดนสลบกรนคร่อกใส่





คู่แห่งโชคชะตาเนี่ย



... ไม่เห็นโรแมนติกอย่างที่ใครเขาพูดกันเลย





--- TALK

แงงงง ตัวจริงเขามาแล้วค่ะ

ตั้งใจไว้ว่าไม่อยากให้เรื่องนี้ดราม่านะคะ อยากให้เป็นนิยายน่ารัก เบาๆ ฟีลกู๊ด

ฝากเอ็นดูยัยตะนิดด้วยนะคะ ดื้อนิดหน่อยแต่เวลาอ้อนเป็นยัยเหมียวเลยค่ะ แอแง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 05-05-2020 21:18:57
ก็จะดื้อ3





ในทุกเช้าของตะนิดส่วนใหญ่มักจะถูกปลุกด้วยเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือราคาแพง เสียงดนตรีของมันน่ารำคาญแบบที่ถ้าไม่กดหยุดภายในสามวิจะหงุดหงิดต่อไปอีกหลายชั่วโมง แต่ไอ้จะตั้งให้เป็นแค่ระบบสั่นหรือเสียงที่นุ่มนวลกว่านี้มันก็ดันปลุกเขาไม่ตื่น



แต่ทว่า



วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกอึดอัดกระสั่บกระส่าย เหมือนมีวิญญาณร้ายจ้องอาฆาต จนต้องตื่น ดวงตากลมสีน้ำตาลอ่อนกระพริบปริบๆ ปรับภาพโฟกัส ก่อนที่จะเห็นว่ามีคนกำลังนั่งจ้องอยู่



ตะนิดกรี๊ดลั่นในใจเตรียมรื้อบทสวดในหัวขึ้นมา

แต่พอมองดูดีๆ ก็พบว่าใบหน้าผีร้ายคล้ายตนจนเหมือนส่องกระจก



“คณิต?” ตะนิดขมวดคิ้วก่อนจะผุกลุกขึ้นนั่ง “ตกใจหมด อะไรเนี่ย”

“...”

“เห้ย เป็นไร มานั่งจ้องทำไม”

“เสื้อ”

“ห๊ะ”

“เสื้อใคร”



เสื้อใคร?

อะไรของมัน...



ตะนิดกระพริบตาปริบๆ เขากับคณิตแต่งตัวกันละคนสไตล์แถมขนาดเสื้อก็ไม่สามารถใส่ร่วมกันได้ ไม่สิ ต้องบอกว่าคณิตไม่สามารถใส่ของเขาได้แต่เพียงคนเดียวมากกว่า ด้วยความที่คณิตเป็นอัลฟ่า หุ่นจึงขยายในตามลักษณะเด่น ความสูงที่ทะลุร้อยแปดสิบตั้งแต่มัธยม ไหล่กว้างอกผายและมีเสียงที่ทุ้ม

ตัดภาพมาที่เขา ส่วนสูงแตะร้อยหกสิบห้าตั้งแต่มัธยมต้นจนปัจจุบันไม่เคยขยับ ไหล่แคบแบบที่เอาเสื้อคณิตมาใส่ก็ไหล่ตกแขนเสื้อยาวไปยันศอก เสียงที่ไม่ยอมแตกหนุ่มเสียที่ เขาเฝ้ารอให้ไอ้เสียงง้องแง้งนี่หายไปอยู่ทุกวัน

เพราะงั้นเขาน่ะใส่เสื้อคณิตได้สบาย แต่คณิตน่ะไม่มีทางเอาเสื้อเขาไปใส่ได้เลย

แล้วจะมาทวงเสื้ออะไร?



“พูดไรวะคณิต เมาหรอ”

“ถามก็ตอบดิ”

“เสื้อกูดิวะ”

“ไม่ได้หมายถึงเสื้อตัวที่ใส่”

“...”

“ที่มึงกอดอยู่น่ะ”

“...”

“เสื้อใคร”





กอด?

ตะนิดขมวดคิ้วรีบก้มดูของในมือก็พบว่าตัวเองกำสูทสีดำตัวใหญ่ไว้แน่น



“เห้ย เสื้อใครวะเนี่ย” ตะนิดรีบปาของไม่รู้ที่มาลงพื้นอย่างรวดเร็ว อย่าว่าแต่ไอ้คณิตจะสงสัยเลย เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันมาอยู่บนเตียงได้ยังไง

“อย่ามาเล่นละครนะไอ้ต๋า”

“เปล่าเล่น”

“ไม่ใช่แค่เสื้อเวรนี่ ตัวมึงก็ใส่เสื้อเมื่อวาน แล้วไอ้กลิ่นอัลฟ่าเหม็นหึ่งขนาดนี้มันอะไร” คณิตกอดอกลุกขึ้นยืนจ้องเขาด้วยสายดุ

“กะ กลิ่นอัลฟ่า?”

“เออ เหม็น เหม็นตายห่าแล้ว ไม่รู้เหรอไงว่าอัลฟ่าหวงถิ่น เวลามีกลิ่นอัลฟ่าอื่นติดเข้ามามันโคตรเหม็น” คณิตพูดพร้อมกับปัดจมูกไปมา โดยปกติแล้วอัลฟ่าจะมีพฤติกรรมเหมือนจ่าฝูงของสัตว์ สัญชาตญาณหลักคือปกป้องครอบครัวและเพื่อนพ้อง ยิ่งโดยเฉพาะแฝดที่อยู่ใช้สายอาหารเดียวกันตั้งแต่ในท้องยิ่งหวง

คณิตมองแฝดน้องด้วยความหงุดหงิด เหม็นมาตั้งแต่หน้าห้องนอน พอเข้ามาเจอนอนกอดหลักฐานหลับสนิทน้ำลายยืดนี่มันน่าเตะให้กระเด็น

“เดี๋ยวๆ ฟังกูอธิบายก่อนคณิต”

“ฟังอยู่”

“กูนึกแปป”

“ไอ้ต๋า” คณิตกัดฟันกรอด

“ฮือออ มึงอย่าคั้นดิ งงอยู่อ่ะ เสื้อใครวะ แล้วเดี๋ยว...” ตะนิดกระพริบปริบๆ “...แล้วนี่กูกลับบ้านมายังไงนะ”

“ห๊ะ? กลับบ้าน? เมื่อวานมึงออกไปไหน?”



เวร...

ตะนิดถึงกับสบถในใจ หลุดแล้ว หูชาแน่นอน



“เอ่อ แหะ...”

“ไอ้ต๋า กูบอกแล้วใช่ไหม ถ้าไม่ใช่ช่วงต้นเดือนจะออกไปไหนก็เรื่องของมึง แต่ช่วงต้นเดือนจะไปไหนให้กูไปด้วย ถ้ามึงไปฮีทข้างนอกจะทำยังไง นี่ยังไม่เคลียร์ที่แม่บอกเมากลับบ้านเมื่อวันก่อนด้วยนะ เหล้าหรอ ห๊ะ เหล้า? บ้าไปแล้วหรอที่ออกไปกินเหล้าช่วงใกล้ฮีท คิดบ้างไหมวะ” มาแล้ววว มาแล้วววววว ตะนิดได้แต่เม้มปาก รับชะตากรรม จะเถียงก็เถียงไม่ได้เพราะเขาก็รู้ดีว่าทำผิดจริง

“แงคณิต แต่กูใส่ปลอกคอน้า”

“คิดว่ากูห่วงแค่เรื่องนั้นหรอ”



ไม่ใช่หรอก ตะนิดรู้ดี

คณิตน่ะห่วงเรื่องที่เขาอาจจะโดนอัลฟ่าลากไปรุมทำอะไรไม่ดีต่างหาก เขาเกลียดการเป็นโอเมก้าพอๆ กับที่คณิตเกลียดอัลฟ่า พวกเขาเกิดมาเป็นแฝดที่โตมาด้วยกัน แต่กลับถูกแยกออกจากกันด้วยเรื่องบ้านี่ๆ



“คณิตไม่โกรธนะ ตะนิดขอโทษ” เถียงกันมาทั้งชีวิต ตะนิดรู้ดีว่าต้องพูดอะไร

“ไม่ต้องมาทำแทนตัวเองว่าตะนิด คิดว่ากูจะหายโกรธหรอ”

“อย่าโมโหดิ อัลฟ่าเวลาโมโหอ่ะ... ไม่ชอบนะ” ตะนิดกำมือแน่น



โดยปกติแล้วอัลฟ่าจะสามารถปล่อยฟีโรโมนเวลาโกรธไว้ข่มศัตรู โดยฟีโรโมนนั้นจะส่งผลให้อัลฟ่าด้วยกันรู้ถึงความแกร่งของอีกฝ่าย

อัลฟ่าแบ่งออกเป็นสองประเภทคืออัลฟ่าแท้และอัลฟ่าผสม คณิตเป็นอัลฟ่าผสมที่เกิดจากแม่ที่เป็นเบต้ากับพ่อที่เป็นอัลฟ่า ทำให้ปล่อยฟีโรโมนอะไรได้ไม่รุนแรงเท่าอัลฟ่าแท้ที่ได้รับสายเลือดตรงมาจากพ่อและแม่อัลฟ่า

แต่สำหรับโอเมก้าแล้วนั้น ไม่ว่าฟีโรโมนการขู่จะถูกปล่อยมาจากอัลฟ่าแท้หรือผสมก็จะทำให้หวาดกลัวและอึดอัดอยู่ดี



ตะนิดไม่ชอบเอาเสียเลย



ทุกครั้งที่คณิตหรือพ่อโมโหร่างกายเขาจะสั่นกลัวจนอยากหนี ทั้งๆ ที่รู้ว่าทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจ นึกอยากเกิดมาเป็นเบต้าแบบแม่ ที่ฟีโรโมนอะไรก็ไม่ส่งผล หยิกหูได้ทั้งพ่อและคณิต



“ขอโทษ กลัวหรอ” คณิตเสียงแผ่วลงเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาขมวดคิ้วอีกรอบเมื่อแฝดน้องตัวเล็กเอื้อมมือลงมาคว้าเสื้อสูทปริศนานั่นขึ้นไปห่มแล้วมุดหน้าออกมา ใบหน้าดื้อนั่นเบะปากไม่พอใจ

“อย่าโกรธกันนะคณิต แต่จำไม่ได้อ่ะ ไม่รู้ว่ากลับบ้านมายังไงด้วยซ้ำ”

“ห๊ะ หมายความว่าไง”

“อือ เมื่อวานออกไปเที่ยว ไปเจอพี่ชาย”

“ก็กูไหมล่ะพี่ชายมึง”

“ไม่ๆ พี่เขาชื่อชาย”

“อ้อ”

“แล้วก็ไปซื้อน้ำหอม... แล้วก็เจอเสี่ยโรคจิตนั่น”

“เสี่ยโรคจิต?” คณิตทวนชื่อที่หลุดมาจากแฝดน้อง

“อือ เสี่ยโรคจิต ชื่อพลาด ผิดพลาดอ่ะ”

“ไม่น่าใช่ชื่อคน แต่แล้วไงต่อ”

“เขาตัวหอม”

“ห๊ะ” คณิตขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม

“หอมเหมือน...”

“...”

“ลาเวนเดอร์”



ก๊อกๆ

บทสนทนาหยุดชะงักเมื่อเสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น



“ตะนิด คณิต ลงมากินข้าวเช้าได้แล้วลูก” เป็นแม่นี่เอง คณิตถอนหายใจก่อนจะหันหลังเดินไปที่ประตู

“เดี๋ยวมาฟังต่อ ลุกไปแปรงฟันไป ปากเหม็น”

“แย่ว่ะคณิต”

“หึ” คณิตส่ายหัวเอือมแล้วก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไป ส่วนตะนิดก็ได้แต่ยู่หน้ายู่ตาเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน ตอนเห็นว่าตัวเองใส่เสื้อซ้ำกับเมื่อวานก็รู้สึกตัวเหม็นอยากจะอาบน้ำขึ้นมาทันที เขายกมือขึ้นปลดปลอกคอหนังวางไว้บนเคาท์เตอร์เตรียมจะถอดเสื้อผ้า



กร่อกกกกก~~

ทะ ท้องร้อง



แน่อนอยู่แล้วเพราะเมื่อวานเขาได้กินไปแค่ข้าวเที่ยง ท้องจะร้องก็ไม่แปลก สุดท้ายความหิวก็ชนะ ไว้กินข้าวเช้าเสร็จค่อยอาบแล้วกัน เขากำลังจะเดินออกจากห้องแต่ก็อดหยิบสูทขึ้นมากอดอีกรอบ





ได้กลิ่นนี่แล้วรู้สึกปลอดภัย

แต่เจ้าของกลิ่นดูเป็นภัยสังคม ย้อนแย้งจริงๆ





พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็เดินออกจากห้องนอนไปที่ห้องครัว ตะนิดเขย่งหยิบซีเรียลจากชั้นบนหัวมาเทใส่ถ้วยก่อนจะเดินไปหยิบนมในตู้เย็นมาเปิด

ตอนนั้นเองที่หูก็ได้ยินเสียงคนเดินมาจากด้านหลัง เสียงเท้าหนักขนาดนี้ก็คงเป็นคณิตจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ตะนิดยกมือขึ้นเกาจมูกเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงกลิ่นลาเวนเดอร์ เดาว่าคงติดมาจากการกอดสูทเมื่อครู่



... กลิ่นแรงจัง



“เด็กไม่อาบน้ำ”



เห้ย!!!!

ตะนิดสะดุ้งเฮือกรีบหันตัวกลับมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงคนแปลกหน้า แล้วก็พบว่าเจ้าของเสียงก็เป็นใบหน้าดุที่คุ้นเคย



เสี่ยโรคจิต!!!

ไอ้ลุงผิดพลาด!!!



“โรคจิต!!!”

“คำทักทายบ้านนี้แปลกดีนะ”

“ออกไปเลยนะ!!!” ภาสกระตุกยิ้มเบาๆ กับท่าทีของแมวตรงหน้า ตัวก็นิดเดียว ทำขู่เสียงดัง คิดว่าน่ากลัวมากหรือไง

“เจอก็ไล่กันเลย”

“ชิ่วๆ”

“ระวังปากหน่อย ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น” ภาสตวัดตาดุเมื่อโดนไล่เหมือนหมา ทั้งๆ ที่อายุเขากับตะนิดน่าจะห่างกันเกือบสิบปี

“ไม่ใช่อยู่แล้ว ผมไม่คบคนโรคจิตเป็นเพื่อนหรอก ออกไปเลยนะ ไม่งั้นแจ้งตำรวจแน่”

“มีมือถือหรอ” ภาสถามย้อนเพราะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว มือถือเด็กตรงหน้าตกอยู่ในรถเขาเมื่อวานและตอนนี้มันก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงเขา

“มะ มี!!!”

“อ้อ งั้นโทรสิ”

“ยะ ยะ อยู่บนห้อง!!!”

“งั้นก็เรียกว่าไม่มี”

“ละ แล้วไง ทำไม แล้วนี่พี่ชายไปไหน” ตะนิดยกช้อนพลาสติกสีชมพูรูปกระต่ายขึ้นชี้หน้าอีกฝ่าย

“ถามถึงมันทำไม”

“กะ ก็ถามไง ตอบสิ อย่าย้อน”

“อยู่ที่สวนหน้าบ้านกับแม่เธอ อ้อ กับแฝดเธอด้วยด้วย หน้าเหมือนกันเลยนี่” ภาสพิจารณารูปหน้าของแมวน้อยตรงหน้าก่อนจะกลับไปเทียบกับใบหน้าเหม็นเบื่อของอัลฟ่าที่เพิ่งเจอเมื่อครู่ เรียกได้ว่าเทียบกันได้เป๊ะเกือบแปดสิบเปอร์เซน เหมือนจนเขาตกใจ





แต่ก็เหมือนแค่ใบหน้าแหละนะ

เพราะนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย



“แม่ปล่อยให้เข้าบ้านมาได้ไง”

“เขาปล่อยฉันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” ตะนิดขมวดคิ้วมุ่น

“เมื่อวาน?”

“อะไร อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้ว่าเมื่อวานเธอทำอะไรไว้” คณิตกรอกตาไปมา



... จะ จำไม่ได้

ทำอะไรไว้ ไปทำอะไรไว้วะไอ้ตนิษฐ์!!



“กะ ก็”

“จำไม่ได้สินะ”

“...” ตะนิดเม้มปากแน่น

“เด็กอะไร ขนาดหลับยังดื้อ” ภาสส่ายหัวเมื่อนึกย้อนกลับไปเมื่อวาน



คนเป็นแม่ดูตกใจมากที่เห็นเขาหิ้วลูกชายเข้ามาในบ้าน แต่พอเห็นว่าลูกชายตัวเองแค่หลับก็รีบเปิดประตูบ้านให้เขาอุ้มร่างเล็กไปส่งถึงห้อง พอวางลงบนเตียงได้เขาถึงเห็นว่าในมือเล็กนั่นกำสูทที่เขาพาดไว้บนเบาะรถติดมือมาด้วย จะดึงคืนก็ไม่ยอม กำสูทสู้ไว้แน่นแถมยังขมวดคิ้วบ่นงึมงำเขาเลยจำเป็นต้องปล่อยให้ยืมเสื้อไปคืนหนึ่ง จริงๆ ก็ไม่ได้กะกลับมาอีกรอบเร็วขนาดนี้ แต่มือถือของเด็กดื้อนี่ดันตกอยู่ใต้เบาะรถ



... แล้วแฝดพี่ชายมันดันโทรมา



‘คณิตอิ๊ดอิ๊ด3’



ตอนแรกน่ะ เขาคิดว่าแฟนเด็กตรงหน้าด้วยซ้ำถึงไม่ได้รับสาย กลัวจะเข้าใจผิด ที่ไหนได้พอบอกไอ้ชายถึงได้รู้ความจริงว่าคณิตที่อิ๊ดอิ๊ดนั่นเป็นชื่อแฝดผู้พี่ อายุยี่สิบกว่าแล้วยังเมมเบอร์พี่ชายน่ารักขนาดนั้นได้ยังไง



แถมพอมาเจอแฝดพี่เด็กนี่เข้าจริงๆ

... ไม่ได้ใกล้เคียงคำน่ารักเลยด้วยซ้ำ



“พูดอะไรอ่ะ”

“เปล่า ช่างมัน ฉันมาเอาสูทคืน”

“สูท? อ๋อ เดี๋ยวไปเอาให้” ตะนิดวางช้อนลงกลับใส่ถ้วย เข้าทางแล้ว เดี๋ยวเขาจะหนีเข้าห้องแล้วล็อคหนีไอ้เสี่ยโรคจิตนี่

“ฉันไปด้วย”

“ห๊ะ ไปทำไม”​ ตะนิดขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เด็กอย่างเธอมันไว้ใจไม่ได้ ดีไม่ดีก็หนีเข้าห้องปล่อยฉันรออยู่ในครัว” ภาสรู้ทันหรอก ถ้าปล่อยให้เด็กดื้อนี่กลับเข้าป้อมปราการของตัวเองแล้วก็อย่าหวังว่าจะออกมาง่ายๆ ตะนิดจิ๊ปากที่โดนจับได้



ตะนิดเดินนำพาร่างสูงใหญ่เดินไปที่ห้องนอน ตอนนั้นเองที่ภาสรู้สึกได้ว่าห้องของโอมก้าตรงหน้าแทบจะถูกแยกมาอีกโซนของบ้าน เมื่อวานไม่ได้สังเกตมากนักเพราะมัวแต่ตอบคำถามของแม่เด็กบนบ่า วันนี้ได้มองทางชัดๆ ถึงเพิ่งจะเข้าใจ



... คงเพราะมีอัลฟ่าในบ้าน

ต้องแยกกันอยู่สินะ



“รออยู่หน้าห้องนะ!!” แมวน้อยพองขนขู่ตอนเปิดประตูห้อง

“ไม่”

“ไม่ได้นะ ก้าวเข้ามาอีกก้าวเจ็บตัวแน่”



หรอ...



ภาสกระตุกยิ้มพร้อมกับใช้มือผลักประตูไม้บานเล็กให้เปิดกว้างก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปยืนเต็มทั้งสองขา ใบหน้าหล่อหันไปส่งยิ้มให้คนข้างๆ



“อ้าว ไม่ยักเจ็บนะ”

“อะ อะ ออกไปนะ!!!” ลูกแมวยืนกางแขนขู่สุดตัว

“จะอายอะไร เมื่อวานฉันก็เข้ามาแล้ว”

“ฮึ่ยยยยย รอนิ่งๆ นะ ห้ามเดิน”



ห้ามปุ๊ปคนตัวสูงก็เดินปั๊ปเหมือนตั้งใจกวนประสาท ตะนิดอ้าปากพะงาบๆ รีบเดินตามหลังใหญ่ไป ถึงห้องเขาจะไม่ได้มีอะไรเป็นความลับเพราะแม่เข้ามาทำความสะอาดอยู่ทุกอาทิตย์ แต่ให้คนโรคจิตเข้ามามันก็ไม่ได้ไหมนะ!!!



ภาสอมยิ้มเล็กน้อยให้กับท่าทีเหมือนเด็กของโอเมก้าแมวน้อย ถึงจะขู่ฟ่อหนักกว่านี้เขาก็จะเข้าไปอยู่ดี มันมีบางอย่างที่ทำให้เขาหงุดหงิดลอยอยู่ในห้องนี้ ตั้งแต่เมื่อวานที่อุ้มมาส่งเขาก็พานหงุดหงิดไปทั้งคืนจนแทบนอนไม่หลับ



ห้องโอเมก้าของผม

เต็มไปด้วยกลิ่นอัลฟ่าอื่น





... มันน่าหงุดหงิด


--

ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ เป็นโอเมก้าเวิร์สเรื่องแรกที่ลงเลย ;---;



หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 06-05-2020 02:12:02
คุณภาสน่ารักจังเลยค่ะ กลิ่นลาเวนเดอร์ต้องหอมมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 06-05-2020 03:01:52
สนุกค่ะ
ตะนิดดื้อมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 06-05-2020 03:29:17
ดื้อมากกก อยากตีก้น
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 06-05-2020 11:15:46
รอด้วยคนค่าาา
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-05-2020 14:23:58
ชอบ..บบบบบบ  :katai2-1: พี่ชาย(ที่ไม่ใช่พี่ชาย(คณิต)) ก้อน่ารักนะ แอบเสียดาย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 4 : คุณนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 06-05-2020 19:37:10
ก็จะดื้อ 4

คุณนุ่ม





เพียงแค่ก้าวแรกของอัลฟ่าหนุ่มเหยียบเข้ามาในพื้นที่หวงแหนของโอเมก้าน้อย กลิ่นหอมฟุ้งก็ตีอัดหน้าจนผงะ



“กลิ่น...”

“รอนิ่งๆ นะ เดี๋ยวไปหยิบสูทให้ อยู่ในห้องน้ำ”

“เธอเอาสูทฉันไปทำอะไรในห้องน้ำ”

“กระทืบ”​สวนตอบทันควัน



... แต่หน้าแดง

ภาสอมยิ้มแต่ก็กลืนคำล้อลามกลงคอ ขืนพูดไปแมวตัวหน้าคงพองขนข่วน ตะนิดยู่หน้าตอบก่อนจะหันตัวเดินไปทางห้องน้ำ



พอร่างเล็กหันไป ภาสก็กวาดสายตามองรอบห้องให้เต็มตา ถึงเมื่อวานจะเข้ามาแล้วแต่ก็ไม่ได้ใช้เวลามากพอที่จะเก็บรายละเอียด

ห้องนอนของแมวดื้อตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์จะเป็นไม้ สิ่งที่เด่นที่สุดของห้องก็คงหนีไม่พ้นเตียงนุ่มขนาดใหญ่ที่มีตุ๊กตากองอยู่เป็นจำนวนมาก



สมกับเป็นโอเมก้า

ทุกอย่างดูนุ่มนิ่มไปหมด



เขาพอจะรู้มาบ้างว่านิสัยของโอเมก้าชอบสร้างรังเป็นของตัวเองเป็นปกติ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาในรูปแบบการกองตุ๊กตาเป็นสิบๆ ตัวบนเตียง ผ้าห่มผืนหนาสองผืน หมอนข้างสองอัน ไม่นับหมอนขนาดเล็กที่ตกอยู่ตามข้างเตียงอีกประปราย

 

พื้นที่นอนได้จริงๆ น่ะเหลืออยู่นิดเดียวเอง



เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อนึกภาพคนลงไปนอนจริงบนเตียงนี้ไม่ออก ภาสเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาฉลามที่อยู่ใกล้มือที่สุดขึ้นมาดม



กลิ่นอัลฟ่าที่เขาหงุดหงิด



คงเป็นกลิ่นของพี่ชาย รู้สึกได้ตั้งแต่เข้าห้องมาคราวก่อนแล้วว่าห้องนี้มีกลิ่นแป้งผสมพีชปนอยู่กับกลิ่นอัลฟ่าบางๆ ถึงจะบางแค่ไหน แต่ก็ทำให้เขาหงุดหงิดอยู่ดี สัญชาตญาณความเป็นเจ้าของวิ่งแล่นจนอัลฟ่าตัวโตกัดฟันกรอด



ไม่ได้หวงเลยสักนิด

แต่ถ้าให้ต่อยสักหมัดตอนนี้คงจะรู้สึกดีมาก



ว่าแล้วก็ต้องพ่นลมหายใจระบายอารมณ์ไปพร้อมกับบีบตุ๊กตาหน้าโง่ในมือไปเต็มแรง จนฉลามแทบกลายเป็นปลากัด



“ทำอะไรคุณนุ่ม!!!” เสียงขู่ฟ่อดังขึ้นดังความสนใจของอัลฟ่าตัวใหญ่ไปทันที ตะนิดท้าวเอวชี้หน้าเขา

“คุณนุ่ม... ฉลามเนี่ยนะ? “

“โรคจิตจริงๆ ด้วย แกล้งลงแม้แต่ตุ๊กตา”

“นั่นสิ ฉันเหม็นมันมากด้วย” ไม่พูดเปล่า ภาสยังบีบคอน้องนุ่มโชว์อีกรอบ ปลากัด(?) ดิ้นแด่กๆ อยู่ในมือใหญ่ ตะนิดกำมือแน่น

“นี่ลุง โกรธที่ผมแกล้งที่บีทีเอสหรือไงถึงต้องมาจองล้างของผลาญกันขนาดนี้”

“ตอนนี้ฉันโกรธที่เธอเรียกลุงมากกว่าอีกนะ” ภาสยกนิ้วชี้ขึ้นขยับแว่น

“ลุง”

“พี่”

“...”

“พี่ผิดพลาด”

“พี่ภาสไม่ใช่พลาด”

“ลุงภาส”

“อยากให้ปลากัดนี่ตายหรือไง”

“คุณนุ่มเบอร์ห้าไม่ใช่ปลากัด ปลาฉลามต่างหาก!!!” ตะนิดโวยวายลั่น “อย่าบีบได้ไหม เดี๋ยวน้องไส้ปริ!!”



ภาสมองตะนิดด้วยสายตาเอ็นดู ถึงจะแปลกไปหน่อยสำหรับอัลฟ่าอย่างเขาที่ผู้ชายอายุยี่สิบกว่าแต่ติดตุ๊กตาเหมือนเด็ก ไม่ได้ติดธรรมดา ดูท่าทางจะหวงมากด้วย



ในความเป็นอัลฟ่า ถ้าจะให้พูดตรงๆ เขาผ่านเตียงของโอเมก้ามาเยอะ

นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เห็นเตียงโอเมก้าในรูปแบบนุ่มนิ่มขนาดนี้



“พี่ภาส”

“...”

“เรียกฉันดีๆ”

“ไม่...”

“ตะนิด”



ตะนิดนิ่งไปทันทีที่เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อตนเองออกมา



... แค่โดนเรียกชื่อ

แต่หัวใจกลับเต้นแรงจนแทบระเบิด



“พี่ภาส”

“เด็กดี”



 ภาสยกยิ้มเบาๆ ก่อนจะวางตุ๊กตาปลาฉลามนั่นคืนลงบนทะเลนุ่มนิ่มตามเดิม ตะนิดกัดปากตัวเองไปมา



เด็กดี? เด็กดีหรอ!!

ชมเขาแบบนี้มันหาเรื่องด่าเขาเป็นหมาชัดๆ



“นี่สูท หมดธุระแล้วก็ออกไปนะ” ตะนิดยื่นสูทคืนเจ้าของ

“ใครว่าหมด”

“อ้าว”

“ตะนิด ปลอกคอเธอไปไหน” ภาสถามขึ้นเมื่อเพิ่งสังเกตว่าลำคอขาวของโอเมก้าตรงหน้าไม่มีของที่ควรจะมีอยู่ ตะนิดเบิกตากว้างพร้อมกับรีบยกมือขึ้นจับลำคอตัวเอง ความกลัววิ่งแล่นขึ้นไปทั้งตัว

“ลืม ลืม”

“ไปใส่” ว่าแล้วเจ้าแมวก็หันหลังวิ่งไปทันที

ภาสส่ายหัวเบาๆ ให้กับความเลินเล่อของตะนิด พอเห็นว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ให้คุยเขาหันกลับมาสนใจเตียงนุ่มต่อ สายตาคมใต้แว่นกรอบสี่เหลี่ยมมองรังนุ่มนิ่มอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจล้มตัวนอนลงไป

ร่างสูงใหญ่ขนาดเหมือนหมีในร่างคนขยับตัวเสียดสีไปทั่วพื้นทีจนตุ๊กตาตัวน้อยบางตัวกระเด็นตกเตียง แม้ในใจจะรู้ว่าไร้สาระแถมเหมือนการกระทำของเด็กแต่เขาก็ห้ามตัวเองไม่ได้อีกต่อไป



อยากให้กลิ่นตัวเองอยู่ติดบนรังนี้เยอะๆ



“ทำไรอ่ะ!!!” เสียงแหวดลั่นดังขึ้น ภาสกระพริบตาปริบๆ



เออ...

ทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย...



“ฉันง่วง”

“เลยนอนบนเตียงชาวบ้านหรอ ลุกนะ ลุกเลย ทับตุ๊กตาแบนไปหมดแล้ว” แมวน้อยเดินเข้ามาดึงแขนเขา แรงก็มีอยู่แค่นี้ อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจ เอาจริงๆ เขานอนบนเตียงนี่ไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะขาเขาเลยระยะขอบเตียง

“เตียงเล็ก”

“เป็นยักษ์เองรึเปล่า เห้ยย ลุกดิ ทับน้องนุ่มแบนแล้ว”

“รักตัวไหนมากที่สุด”

“น้องนุ่มเบอร์หนึ่ง”

“ไหน”

“นี่” โอเมก้าตัวน้อยหยิบตุ๊กตาหนูบ้านตัวสีดำขึ้นมาโชว์ ภาสมองตุ๊กตาที่ไร้ความน่ารักนั่นก่อนจะคว้ามากอดแน่นให้กลิ่นติด เห็นแบบนั้นตะนิดเลยเบิกตากว้าง

“เห้ยยยยยยยยยยย เป็นบ้าเหรอลุง!!!”



นั่นสิ...

อย่าว่าแต่อีกฝ่ายจะสงสัยเลย เขาเองก็สงสัยว่าตนเป็นบ้าหรือเปล่าที่มาทำตัวไร้สาระอยู่แบบนี้ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ



ปั้ง!!!!



“ตะนิด!!!!!!” เสียงแขกผู้มาใหม่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหอบแฮ่ก คณิตก้าวเท้าย่ำเข้ามาพร้อมกับรีบดึงแขนแฝดผู้น้องเข้าไปกอด ดวงตาคมตวัดดุร่างอัลฟ่าบนเตียงด้วยความหงุดหงิด

“คะ คณิต”

“คุณมาทำอะไรในห้องตะนิดวะ” คณิตใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มพลางจ้องอัลฟ่าฝ่ายศัตรูไม่วางตา ส่วนภาสที่โดนถามด้วยเสียงข่มขู่ก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร เขาขยับชันมือขึ้นวางคอสบายๆ แล้วส่งยิ้มนิ่งๆ

“มานอน”

“ไอ้สัตว์!!!!“ คณิตกัดฟันกรอดพร้อมกับปล่อยฟีโรโมนข่มออกมา ส่งผลตะนิดที่อยู่ในอ้อมกอดดิ้นขัดขืน โอเมก้าตัวเล็กยกมือขึ้นตีแขนแฝดน้องที่รัดตนอยู่ป้าปๆ ให้ปล่อย แต่แขนนั่นกลับรัดหนักขึ้น

“คณิต ไม่หงุดหงิด ไม่ชอบนะไม่ชอบ ฟีโนโมนมันออกมาแล้ว”

“ปล่อยมันเข้ามาในห้องทำไมวะ แล้ว แล้วนี่มันอยู่บนเตียงนะ ถ้ามันทำอะไรจะทำไง ถ้าคณิตไม่อยู่จะทำยังไง บอกไม่เคยฟังเลยหรอวะว่าอัลฟ่ามันเหี้ย มันเหี้ยทั้งหมด คณิตก็เหี้ย...”

“คณิตๆ ใจเย็นๆ”

“ต้องให้บอกอีกกี่ครั้งกันวะตะนิด!!!”คณิตตวาดลั่นพร้อมกับหอบสั่น ตะนิดทำอะไรไม่ถูกเมื่อทั้งพูดตะคอกและถูกฟีโรโมนขู่ของอัลฟ่าเล่นงานจึงทำได้แต่ตวัดแขนขาดิ้นไปมา

“เข้าใจแล้วว่าทำไมแม่เธอถึงห่วงนักถึงขนาดให้ไปดูตัวในช่วงที่ใกล้ฮีท” ภาสผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขายกนิ้วชี้ขึ้นดันแว่นก่อนจะก้าวเข้าไปจับแขนคณิตที่กอดรัดตะนิดไว้แน่น ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมตวัดจ้องใบหน้าของอัลฟ่าวัยรุ่นเลือดร้อน “ปล่อย”

“ห๊ะ? ”

“ฉันบอกให้ปล่อย”

“นี่มึง-“

“ปล่อย”

“...”

“ปล่อยเถอะ แฝดเธอร้องไห้แล้ว” คณิตเหมือนถูกตีด้วยไม้เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากคนตรงหน้า ดวงตาที่เบิกกว้างตกใจรีบก้มมองร่างแฝดน้องในอ้อมแขน ตะนิดก้มหน้าเบะปาก น้ำตาไหลลงแก้มเนียนเป็นหยด แขนเล็กตะกายเอื้อมหาคนตัวโต เห็นอย่างนั้นคณิตก็รีบปล่อยแขนออก

พอร่างเป็นอิสระ ตะนิดก็พุ่งตัวออกไปกอดภาสไว้เต็มแรง แขนเล็กขยำเสื้อเชิ้ตตรงหน้าจนขึ้นข้อขาว แผ่นหลังเล็กสั่นระริกเหมือนลูกแมวที่เปียกฝน ภาสเองที่อ้าแขนรอไว้อยู่แล้วกระชับเอวบางไว้แน่นก่อนจะก้มจูบกลุ่มผมนุ่มนั่นเบาๆ เป็นการปลอบโยน



“ตะนิด...” คณิตมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ

“ฉันรู้มาว่าเธอหวงแฝดน้องเธอน่าดู ซึ่งก็ไม่แปลก พี่หวงน้อง”

“...”

“แต่เธอเป็นอัลฟ่า”

“...”

“ถ้าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ คนที่จะเสียใจที่สุดจะเป็นเธอเอง” คนโตกว่าเอ่ยสอนเสียงนิ่ง ภาสกระชับกอดลูกแมวไว้ก่อนจะช้อนมือขึ้นอุ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าแมวร้องไห้หนักจนสะอึก แขนเล็กกวาดรอบคอใหญ่ไว้แน่นด้วยความกลัว   



คณิตมองแฝดน้องตัวเองด้วยความสับสน เขาผิดจริงทุกอย่าง เข้าเสียใจที่ทำตะนิดร้องไห้ แต่ที่ตะนิดวิ่งหนีจากเขาไปหาอัลฟ่าคนอื่นที่แทบไม่รู้จักนั่นเป็นสิ่งที่เกินความคาดคิดไปมาก 



“ตะ..นิด”

“สงบสติอารมณ์ซะ แล้วลงไปเจอกันด้านล่าง”



ภาสทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะก้าวขาเดินออกมาจากห้องปล่อยให้อัลฟ่าหนุ่มเลือดร้อนตวัดสายตาสับสนมองตามด้วยความไม่เข้าใจ พอพ้นตัวห้องนอนมาเข้าก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ ขนาดเพิ่งรู้จักได้ไม่กี่วัน คู่แห่งโชคชะตาเขาก็นำความวุ่นวายมาให้แบบไม่ให้ได้พักหายใจ



“ชู่ ไม่ร้อง”

“ฮึก...” เขาปลอบคนไม่เก่ง ด้วยความที่เกิดมาในบ้านที่มีแต่อัลฟ่าผู้ชาย ส่วนใหญ่จะใช้วิธีล้มก็ลุกเอง หรือถ้าไม่ไหวจะร้องไห้ ก็ร้องไห้ให้พอแล้วก็ลุกขึ้นไปแก้ปัญหา และถึงเขาจะเป็นพี่ชายคนโตของบ้านแต่น้องชายเขาอีกสามคนก็แทบจะไม่เคยมาร้องไห้ให้เห็น



“ฉันปลอบคนไม่เก่ง ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะหยุดร้อง”

“ฮึก กลัว กลัวคณิต”

“อืม...”

“แต่...”

“ไม่ต้องกลัว”

“ฮึก”

“ฉันอยู่ตรงนี้ ใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้”



ภาสยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมที่คลอเคลียอยู่บนบ่า ด้วยความรู้สึกว้าวุ่นในใจ จริงๆ เขากะจะกวนตีนแฝดพี่นั่นเล่นๆ ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจะระเบิดอารมณ์ออกมาแรงขนาดนั้น สงสัยไอ้ที่ชายบอกว่าตะนิดมีแฝดเป็นบราค่อนก็ดูท่าทางจะจริง



“จะไปหา ฮึก ไปหาคณิต” พอได้ยินประโยคหลังสะอื้นนั่น ภาสก็ขมวดคิ้ว ดูท่าทางโอเมก้าในอ้อมกอดก็น่าจะติดพี่ชายตัวเองอยู่ประมาณหนึ่งเช่นกันแหละนะ

“รอน้องเธอเย็นลงก่อน”

“แต่...”

“เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมตะนิด” เขาเอ่ยเสียงดุ อยู่ในอ้อมกอดเขาแท้ๆ แต่กลับร้องจะไปหาคนอื่น มันน่าหงุดหงิดจริงๆ

“ฮึก อย่าดุ” พูดจบตะนิดก็บี้จมูกตัวเองกับลำคออีกฝ่าย



เห้อ ให้ตาย

ภาสถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ทั้งชีวิตเขาเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาตลอดด้วยความไม่ชอบการพันแข้งพันขา



สุดท้ายดันได้คู่แห่งโชคชะตาขี้อ้อนเป็นแมว

พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเขา



“ปละ ปล่อย โอเคแล้ว” ตะนิดทุบไหล่ที่ซบอยู่เบาๆ เป็นสัญญาณให้วางตัวเองลง ซึ่งคนตัวสูงก็ค่อยๆ อดอ้อมกอดลงจนเท้าเขาสัมผัสกับพื้นบ้าน ตะนิดยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า “ขะ ขะ”

“...”

“ขอบคุณ”

“อืม”

“...”

“ไปที่ห้องนั่งเล่นเถอะ แม่เธอน่าจะรออยู่” ภาสยกมือขึ้นโยกหัวเล็กเบาๆ ก่อนจะออกตัวเดินนำไปทางห้องนั่งเล่น ตะนิดยกมือขึ้นจับจุดที่เพิ่งโดนลูบก่อนจะรู้สึกอุ่นวาบในใจ



เมื่อกี้...

ตอนที่คณิตโกรธจนปล่อยฟีโรโมนออกมา เขากลัวมาก กลัวจนนึกอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าที่ที่ปลอดภัยไม่ใช่ตรงนี้ พอเงยหน้าเห็นอัลฟ่าที่เขาเรียกว่าเสี่ยโรคจิต เขาก็รู้แต่ว่าตรงนั้นปลอดภัย ตอนที่คณิตปล่อยแขนเขาถึงออกตัววิ่งไปหาคนตรงหน้าทันทีแบบไม่คิดชีวิต



บ้า บ้ามากๆ

ทั้งๆ ที่ปกติ เซฟโซนของเขาคือคณิตมาตลอดแท้ๆ


มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ...





-----
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 3 : บุกรัง
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 06-05-2020 19:44:28
เดี๋ยวๆๆเค้าไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่!!!!
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 4 : คุณนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-05-2020 20:38:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 4 : คุณนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 06-05-2020 22:20:26
คุณจะได้น้องแมวไปกอดที่บ้านหรือไม่? มาลุ้นกัน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 4 : คุณนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-05-2020 23:30:11
พี่ภาส...งอแงอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 4 : คุณนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 07-05-2020 01:05:41
หอมจนเป็นเซฟโซน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 07-05-2020 21:01:56
ก็จะดื้อ 5




พอเดินมาถึงห้องนั่งเล่น ตะนิดก็เห็นว่าแม่นั่งหัวเราะอยู่พี่ชายอย่างสนิทสนม ส่วนอัลฟ่าโรคจิตนั่นก็เดินไปนั่งโซฟาฝั่งเดียวพี่ชาย เขาเลยเดินเข้าไปนั่งเบียดด้วย พอเงยหน้ามาอีกทีก็เจอสายตาของแม่กระพริบมองงงๆ



“ตะนิดไปเบียดพี่เขาทำไมลูก มานั่งตรงแม่ก็ได้”

“...”



ไม่อยากไปนี่นา...

ตะนิดเม้มปากแน่น อาจจะเพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ให้รู้สึกใจหวิวๆ มา ตอนนี้เขาไม่อยากอยู่ห่างกับกลิ่นลาเวนเดอร์นี่เลย



“ให้นั่งตรงนี้ก็ได้ครับ ไม่ได้เบียดอะไร”

“แต่...”

“เอ้ยยย ผมไปนั่งตรงนั้นก็ได้ จะได้ไม่เบียด” เป็นชายที่ลุกขึ้นย้ายที่นั่งไปนั่งที่อื่นให้แทน ดูเหมือนเสียสละ แต่แท้จริงคือมือของไอ้เพื่อนเวรหยิกเนื้อสะโพกเขาแทบขาด พอเจอคู่หน่อยล่ะเพื่อนเป็นหมาเชียว น้องนิดนั่นเขาก็เจอก่อนแท้ๆ

“แล้วนี่คณิตไปไหนล่ะเนี่ย แม่ให้ไปตามตะนิดกับคุณภาสมาแท้ๆ”

“เดี๋ยวก็คงตามมาครับ” ภาสเอ่ยตอบแทน



คุณนิตยาปรายตามองลูกชายคนเล็กที่นั่งเบียดแขกจนตัวลีบอยู่ด้วยสายตาเอ็นดู เมื่อวานเธอน่ะตกใจแทบตายที่เห็นลูกชายโดนหิ้วพาดบ่าเข้าบ้านมาด้วยอัลฟ่าแปลกหน้าสองคน แต่พอสอบถามเล่าเรื่องแล้วเธอก็รู้สึกโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก



... คู่แห่งโชคชะตา



เหมือนเจอสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในเวลาที่ต้องการที่สุด แถมพิจารณาอัลฟ่าคู่ของลูกชายเธอแล้วก็ดูท่าทางไว้ใจได้ วันนี้เธอตื่นเช้ามาเสิร์ชประวัติจากนามบัตรที่ได้มาเมื่อวานก็ค้นพบว่าเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์ชื่อดัง นามสกุลที่ห้อยท้ายเป็นชื่ออังกฤษนั่นทำให้เธอเข้าใจทันทีว่าทำไมอัลฟ่าคนนี้ถึงตัวใหญ่กว่าอัลฟ่าปกติที่เธอเคยเจอ



“ตะนิด...” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นคณิตในใบหน้าเศร้า

“อ้าว คณิตลูก... เกิดอะไรขึ้น”

“ต๋า กูขอโทษ”

“...”

“คณิตขอโทษ”

“...”

“ตะนิดอย่าโกรธคณิตเลย ขอโทษ ผิดไปแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว”



คุณนิตยามองหน้าแฝดคนพี่ด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะสลับหันกลับมามองหน้าแฝดคนน้อง ตะนิดเบะปากน้ำตาคลอก่อนที่จะลุกขึ้นวิ่งเข้าไปกระโดดกอดพี่ชายเต็มแรง เสียงร้องไห้จ้าดังลั่นบ้านทำเอาคนเป็นแม่ทำตัวไม่ถูก

ปกติแล้วลูกแฝดเธอมักจะทะเลาะกันจนคนน้องร้องไห้อยู่บ่อยๆ

... แต่ไอ้ที่คนแฝดพี่ร้องไห้ด้วยเนี่ย แทบจะไม่เคยเลย



“อะแฮ่ม...” ท่ามกลางความงง เสียงกระแอมของภาสก็ดังขึ้นขัด ดวงตาดุใต้แว่นตวัดมองพี่น้องด้วยความไม่พอใจ

...เมื่อกี้ยังนั่งเบียดเขาด้วยความกลัว พอพี่ชายมาขอโทษหน่อยก็วิ่งแจ้นกลับไปกระโดดกอดเหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน



ตะนิดที่สะอื้นถูกพี่ชายฝาแฝดจับวางลงบนพื้น พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าคณิตเองก็ร้องไห้ออกมาด้วย คนตัวเล็กเลยยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็น้ำตาไหลออกมาเช่นกัน



พวกเขาเป็นแฝดกัน

เมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายรู้สึกแย่ก็จะรู้สึกแย่ตามไปด้วย



“หายโกรธแล้ว ไม่ร้อง”

“อืม”

“คณิตอึ๊บดิ อย่าร้อง เดี๋ยวร้องด้วย”

“จะร้องทำไม ยุ่งว่ะ”

“คณิตอย่าดุกูนะ เดี๋ยวโกรธต่อแม่ง”

“ขู่หรอ มึงเป็นแค่ตะนิดมาขู่กูหรอ”

“อะแฮ่ม”

“ส้นตีนติดคอหรอวะภาส กระแอมเก่ง” ชายแอบหัวเราะเยาะเพื่อนหน้าดุเบาๆ พี่เขามาก็หมากันหมดแหละ คู่ทงคู่แท้สุดท้ายก็กลายเป็นแค่ลาบาดอร์เนาะ

ภาสเดาะลิ้นหงุดหงิดกับภาพที่สองพี่น้องกระหนุงกระหนิงหัวเราะกันคิกคัก โดยเฉพาะแมวน้อยกลิ่นแป้งเด็กนั่นที่กลับมายิ้มแฉ่งแก้มยกจนตาปิด เออ ให้มันได้แบบนี้ ต่อให้อยากเดินเข้าไปจับแยกแค่เขาก็รู้ตัวเองดีว่าไม่สิทธิ



“เอ้า โอ๋กันเสร็จแล้วก็มานั่ง ทั้งคู่เลย”

“ครับ” สองฝาแฝดเดินมานั่งข้างแม่ คณิตมองหน้าแขกอัลฟ่าตรงหน้าทั้งสองคนก่อนจะหยุดสายตาที่ภาสที่ แผ่ออร่าอัลฟ่าแท้ออกมาผ่านรูปร่าง จริงๆ เมื่อกี้ในห้องเขาก็พอรู้แล้วว่าคนตรงหน้า



น่ากลัว

ให้สู้กันก็แพ้เห็นๆ แพ้ตั้งแต่สรีสระไปยันกลิ่นฟีโรโมนอ่อนๆ นั่น

พอเห็นว่าภาสย้ายสายตาไปมองตะนิด คณิตจึงเอื้อมมือไปโอบร่างแฝดน้องให้เบียดเข้ามา ซึ่งเจ้าแมวเองก็อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีด้วยการซุกแฝดกลับตามปกติที่ทำ



กวนตีน...

ภาสข่มเขี้ยวอยู่ในใจ



“ว่าแต่ที่นิดไปเดทกับคุณชายเป็นไงบ้าง เจ้าตัวแสบไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย”

“อ๋อ ก็โอเคครับ สนุกดี เนาะ” ชายส่งยิ้มไปให้ตะนิด

“ใช่ๆ ไปเล่นหนีบตุ๊กตากันด้วย พี่ชายห่วยมาก หมดไปห้าร้อยไม่ได้สักตัว”

“แฉกันแบบนี้เลยหรอครับ” ชายหัวเราะออกมา ตะนิดเองก็หัวเราะกลับเมื่อนึกย้อนกลับไปวันนั้น ไม่รู้เรียกเดทได้ไหม เขารู้สึกเหมือนไปเที่ยวกับเพื่อนมากกว่าเสียอีก

“ที่แม่อยากให้นิดรีบหาคู่เพราะเขาเริ่มฮีท”

“แม่!!!!” ตะนิดโวยวายลั่น “แม่พูดเรื่องฮีททำไมเนี่ย!!!” แก้มของตะนิดขึ้นสีแดงเป็นมะเขือเทศ ถึงจะรู้เป็นสากลอยู่แล้วว่าโอเมก้าฮีทได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เอาออกมาคุยเป็นทอปปิคกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันได้สองสามครั้งเสียหน่อย

“คุณพ่อกับคณิตเองก็เป็นอัลฟ่า เวลาตะนิดฮีทก็ต้องขังทั้งสองฝ่าย”

“แม่ พูดอะไรเนี่ย ไปใหญ่แล้ว”

“แม่แค่กลัวว่าเกิดนิดฮีทในวันที่แม่ไม่อยู่แยก มันอาจจะเลวร้ายไปกว่านี้เลยอยากให้นิดรีบ อ่า.. ภาษาแม่ก็คงเรียกว่า... ออกเรือน”

“ห๊ะ!!!!” เสียงโวยวายของสองแฝดดังขึ้นพร้อมกัน คณิตขมวดคิ้วมุ่นส่วนตะนิดก็ได้แต่เลิ่กลั่กมองหน้าแม่กับคณิตสลับกัน

คนเป็นแม่ไม่แม้แต่จะหันไปมองสองลูกชายที่โวยวาย ดวงตาสวยของเธอจ้องนิ่งไปที่อัลฟ่าตัวใหญ่ที่จ้องเธอกลับไม่วางตา



“คุณภาสว่ายังไงคะ?”



ตะนิดอุทานห๊ะออกมาลั่นห้องอีกรอบ ชวนพี่ชายคุยใครแต่ไหงวกไปถามเสี่ยโรคจิต เขางงไปหมดแล้ว งงตั้งแต่พูดเรื่องฮีทออกมา งงที่พูดเรื่องจะให้เขาออกไปอยู่ที่อื่น



“แม่...”

“ผมยังไม่สะดวกเรื่องแต่งงาน” ภาสไขว้มือเข้าหากัน ดวงตาดุใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมจ้องตอบเจ้าของบ้านนิ่ง อัลฟ่าหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ถึงรังสีแปลกๆ จากเบต้าตรงหน้า

เป็นเบต้า แต่กลิ่นอายกลับดูน่าเกรงขาม

คงเพราะความเป็นแม่คนสินะ



“เดี๋ยวแม่ แม่ถามผิดคนป่ะ นิดไปเดทกับพี่ชายนะ”

“แต่นิดเป็นคู่แห่งโชคชะตากับคุณภาสนี่ลูก”

“คู่แห่งโชคชะตา? ไม่ใช่ว่ามันเป็นนิทานหรอ” ตะนิดขมวดคิ้วหันไปหาแฝดพี่

“...” คณิตไม่ได้ตอบอะไรไปเพียงแต่มองหน้าแม่อย่างต้องการคำตอบ

“คู่แห่งโชคชะตาน่ะสร้างมาเพื่อกันและกัน...”

“...”

“เหมือนที่มีแค่นิดที่ได้กลิ่นลาเวนเดอร์จากคุณภาสไงลูก”

“ห๊ะ...”

“ปัจจุบันคู่แห่งโชคชะตาน่ะเกิดขึ้นได้ยากมาก และเมื่อโอเมก้าเจอคู่ของตัวเอง ต่อมฮอร์โมนจะเริ่มทำงานผิดปกติ ผลเสียคือเซอร์เคิลฮีทของลูกก็จะรวน ไม่ได้สามารถเดาได้ว่าจะฮีทอีกเมื่อไหร่หรือถี่แค่ไหน เพราะงั้น...” คนเป็นแม่เม้มปากชั่วครู่ “คุณภาสคิดอย่างไรกับเรื่องนี้คะ” 

“...” ภาสกระชับมือที่ประสานกันอยู่บริเวณเข่าแน่น เขาไม่คิดว่าจะถูกถามคำถามนี้มาก่อนทำให้ตั้งตัวไม่ถูก

“แต่ถ้าคุณภาสไม่สะดวก แม่ก็ไม่ตื๊อหรอกค่ะ สบายใจได้”

“...”

“เพราะแม่เองก็เพิ่งได้คอนแทคลูกชายของเพื่อนแม่มาพอดี อัลฟ่าลูกครึ่งสเปน ถ้านัดคุยช่วงบ่ายพรุ่งนี้ตะนิดจะว่าไงล่ะลูก”



ว่าไงอะไร งงไปหมดแล้ว

ตะนิดจับแขนเสื้อคณิตกระตุกยิกๆ ให้อีกคนอธิบายเหตุการณ์ คณิตเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วพยายามตามสถานการณ์ตรงหน้าให้ทัน แม้จะรู้สึกตกใจจนแทบคิดอะไรไม่ออกตั้งแต่รู้ว่าอัลฟ่าหน้าดุคนนั้นเป็นคู่แห่งโชคชะตาของน้องตัวเองแล้ว



“ตะนิดอยู่ในช่วงตารางฮีทรวน ผมว่าไม่เหมาะที่จะให้น้องไปเดทกับใครในตอนนี้” ภาสพูดขึ้นนิ่งๆ

“แม่ให้นิดพกยาอยู่เสมอ”

“ยาระงับไม่ได้แก้ปัญหาได้เสมอนะครับ”

“งั้นคุณภาสคิดว่ายังไงดีล่ะคะ” ภาสรู้สึกเหมือนกำลังโดนไล่ต้อน เขาคิดว่าเรื่องแต่งงานยังเร็วเกินไป ทุกอย่างกระชั้นชิดมากจะให้ตอบตกลงไปเลยก็กระไรอยู่

แต่ทว่า

พออีกฝ่ายยกเรื่องที่จะให้ตะนิดไปดูตัวกับอัลฟ่าอื่นในช่วงที่ใกล้จะฮีทนั่นทำให้เขาร้อนรน ถึงจะไม่ได้แสดงออกไปชัดเจน แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองกำลังสับสนอย่างหนัก



“แม่ แต่นิด...”

“ผมขอเวลา” ภาสตอบสวนออกมา

“แม่ไม่ให้ค่ะ”

“...”

“เพราะการเจอกันของทั้งคู่ทำให้สถานการณ์ในบ้านมันแย่ขึ้น การที่แม่เดาช่วงเวลาเกิดฮีทของตะนิดไม่ออก อาจเป็นวันนี้ตอนที่กินข้าวเย็น หรือเป็นวันพรุ่งนี้ตอนแม่ออกไปตลาด เลวร้ายที่สุดก็อาจจะเป็นตอนตะนิดออกไปเรียนหรือไปเที่ยวที่ไหนคนเดียว เพราะงั้นรบกวนตัดสินใจตอนนี้ด้วยค่ะ” ตะนิดกอดแขนคณิตแน่น ถึงจะรู้ดีว่าแม่เป็นคนเด็ดขาด แต่ก็ไม่ได้อยากให้แม่มาเด็ดขาดในเรื่องที่ให้เขาออกไปอยู่กับคนอื่นเสียหน่อย!!!

“ถ้าผมตกลง...”

“ตะนิดจะต้องไปอยู่กับคุณตั้งแต่วันนี้”

“แม่!!!!” เป็นคณิตที่โวยวายออกมาลั่น

“ถ้าผมปฏิเสธ”

“ก็ไม่มีข้อเสนอนี้อีกค่ะ”



ชายกลืนน้ำลายเอื๊อกกับสงครามตรงหน้า ถึงเขาพอจะรู้ว่าคุณอามานิตที่ทำงานกับพ่อเขาเป็นคนเด็ดขาดมากแต่ก็ไม่คิดว่าภรรยาอย่างคุณนิตยาเองก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แม้ภาสจะหน้านิ่งไม่ได้แสดงอะไรออกไปแต่เขารับรู้ได้จากการเป็นเพื่อนมันมาจะสิบปีว่าตอนนี้ภายในมันกำลังว้าวุ่นอย่างมากแน่ๆ



“นิดตกลง”

“ตะนิด!!!” คณิตตะโกนลั่นเมื่อจู่ๆ แฝดตัวเล็กก็พูดขึ้นกลางป้อง ภาสหันขวับไปหาต้นเสียงก็พบว่าเจ้าแมวน้อยยืนกำมือแน่น ดวงตากลมโตนั่นเอ่อคลอด้วยน้ำตา

“แค่แต่งๆ ไปก็จบใช่ไหม แค่นิดออกไปจากบ้านนี้ คู่แห่งโชคชะตาอะไรมันไม่เห็นสำคัญอะไรเลย แม่แค่หาใครก็ได้มาดูแลนิด ไม่ต้องเป็นเสี่ยโรคจิตนี่ก็ได้ ใครก็ได้ใช่ไหม” ตะนิดพูดถึงทั้งน้ำตา

“ตะนิด”

“ถ้าเสี่ยไม่อยากก็ไม่เห็นต้องยัดเยียดเลยแม่ เดี๋ยวนิดออกไปหาคู่เองก็ได้ ให้ใครมากัดก็ได้ใช่ไหม” แขนเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ สิ้นประโยคนั้นภาสก็กำหมัดแน่น ใจเขาที่สับสนร้อนรนกลับร้อนรนหนักกว่าเก่าจนแทบระเบิดเพียงเพราะเจ้าแมวน้อยพูดประโยคว่าจะออกไปให้ใครก็ได้กัดคอ อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา

“ได้ครับ ผมตกลงรับข้อเสนอ”

“เสี่ยโรคจิต”

“ฉันว่าบอกว่าให้เธอเรียกว่ายังไง” ภาสปรายตามองแมวน้อยที่ยืนปาดน้ำตาป้อยๆ

“ไม่แต่ง ไม่แต่งด้วยหรอก!!!”

“เออ ไม่ให้แต่งเหมือนกัน!!!” คณิตตะโกนพร้อมกับตวัดแขนขึ้นโอบร่างของตะนิดเข้ามากอด

“คณิต ปล่อยน้อง”

“แต่แม่...”

“เชื่อแม่”

“ผม”

“ถ้ามันเกิดอะไรขึ้น คนเสียใจสุดคือคณิตเอง ลูกรู้ดีกว่าใคร”



คณิตชะงักตัว อีกแล้วกับคำนี้



... คนเสียใจที่สุดคือเขา



มือของเขาที่โอบกอดตะนิดไว้แน่นๆ ค่อยคลายออกจนในที่สุดก็หมดแรงร่วงลง หากไม่ใช่ว่าเพราะครั้งหนึ่งสัญชาตญาณสัตว์ป่าเฮงซวยเคยครอบงำเขาจนเกือบขาดสติจะพุ่งเข้าหาตะนิดตอนฮีทเขาก็คงจะยืนกรานค้านหัวชนฝาให้ได้อยู่หรอก



ใช่...

ถ้าอะไรเกิดกับตะนิดโดยเขาเป็นต้นเหตุ

เขาเองนั่นแหละที่เสียใจที่สุด



“คณิตอย่าปล่อยมือ” ตะนิดหยิบมือคณิตขึ้นมาวางที่ไหล่ตัวเองเหมือนเดิม คนตัวเล็กซุกหน้าเข้ากับอกพี่ชายตัวเองอย่างต้องการหาที่พึ่ง

“ตะนิดลูก ที่ลูกพูดว่าแค่ใครก็ได้นั่นมันไม่จริงเลย”

“ฮึก...”

“เพราะเขาเป็นคู่แห่งโชคชะตาของลูก แม่ถึงรู้ว่าเขาจะดูแลลูกได้”

“แต่แม่...”

“ถ้าวันไหนเขาดูแลลูกไม่ได้แค่โทรมาหาแม่ แม่จะไปรับกลับมา”

“แต่นิดไม่ได้รักเสี่ยโรคจิต ฮึก ไม่ได้รักเลย แต่งงานได้ยังไง ไม่ได้รักนะ” คุณนิตยายิ้มบาง



ตอนนี้ยังไม่รัก

แต่ต่อไปคงหนีไม่พ้น

ภาพสายตาอัลฟ่าหนุ่มที่มองลูกชายโอเมก้าของเธอเมื่อวานก่อนขอตัวกลับออกไปยังติดอยู่ในความทรงจำ ส่วนลูกของเธออย่างตะนิดก็หลับปุ๋ยกอดเสื้อพี่เขาไว้แน่นขนาดนั้น

สำหรับโอเมก้าแล้วนั้น การสืบพันธุ์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันคงดีกว่าหากเกิดจากความรักไม่ใช่การบังคับทำร้ายร่างกายแบบที่ปรากฏในข่าวอยู่บ่อยๆ



“งั้นก็ทดลองไปอยู่ด้วยกันก่อนไหมล่ะครับ ถ้าเกิดไม่ใช่จริงๆ ก็ค่อยว่ากัน” ท่ามกลางความอึดอัด ชายก็พูดขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม ส่วนภาสก็ตวัดสายตามองเพื่อนอย่างรวดเร็ว

“พี่ชาย...”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณแม่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวผมช่วยดูแลตะนิดให้อีกที” ภาสหักข้อกระดูกอย่างใจเย็น ในใจเขาอยากยกมือขึ้นตบหัวเพื่อนข้างๆ ให้เต็มแรงข้อหาเสนอหน้ามาทำคะแนนในตอนที่เขากำลังเผชิญปัญหา เป็นแค่พี่ชายก็อยู่นิ่งๆ ในโซนพี่ชายไปสิวะ

“ได้ยินแบบนั้นแม่ก็สบายใจนะคะเนี่ย”

“แม่...”

“แต่เก็บของไปวันนี้ก็คงไม่ทันหรอก ไว้ค่อยไปวันอื่นแล้วกัน” คณิตพูดขึ้นพร้อมกับลูกหัวแฝดน้องตัวเองไปมา

“วันนี้ก็เอาแค่ของจำเป็นก่อนก็ได้ วันพรุ่งนี้คณิตค่อยทยอยเอาของไปให้ตะนิดก็ได้นี่”

“แต่แม่...”

“คณิตจะได้ไปดูสถานที่เลยทีเดียววันพรุ่งนี้ไงลูก ถ้าไม่โอเคก็เอาน้องกลับมา ดีไหม” คนเป็นแม่ยื่นข้อเสนอ คณิตพอได้ยินข้อเสนอก็ชะงัก ถึงจะไม่เข้าใจว่ามันดีกว่ายังไง แต่พอได้ยินคำว่าเอาน้องกลับมาท้ายประโยคก็รู้สึกมันเป็นข้อตกลงที่ดีไว้ก่อน ภาสมองภาพตรงหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับ

ดูเหมือนคู่แห่งโชคชะตาเขา

จะมีแม่ที่ค่อนข้างรับมือด้วยยากอีกต่างหาก มองเกมขาดจนน่าตกใจ



“ต้องไปเลยหรอ วันนี้เลยหรอ” ตะนิดเลิ่กลั่กกระตุกชายเสื้อคณิตยิกๆ

“วันนี้ก็ไปก่อน เดี๋ยววันพรุ่งนี้กูหาเรื่องเอามึงกลับมาเอง ถ้าถึงที่ห้องแล้วรีบหาห้องนอนตัวเอง ล็อคห้องแล้วไม่ต้องโผล่ออกมาเลยนะเข้าใจไหมตะนิด” ตะนิดพยักหน้าหงึกๆ ฟังแฝดพี่อธิบายแผนการเอาตัวรอดจากเสี่ย ภาสที่นั่งฟังอยู่ไม่ไกลก็ได้แต่ลอบถอนหายใจกับบทสนทนาของเด็กทั้งสอง 



อย่างแมวดื้อน่ะหรอจะขังตัวเองไว้ข้ามวัน

เผลอๆ หิวก็ยอมแพ้แล้ว



ว่าแต่ยังไม่ทันจะได้ย้ายเข้าก็วางแผนจะย้ายออกก่อนแล้ว

... เขาจะรับมือกับแฝดคู่นี้ไหวไหมเนี่ย


หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-05-2020 22:48:55
พี่ภาสโอ๋ๆน้องด้วย อย่าดุนัก ขอร้อง  :hao5:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 08-05-2020 00:14:34
ย้ายแล้ว ถึงเวลาแล้วสึนะที่ต้องโยกย้าย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-05-2020 01:41:20
จะรับมือไหวมั้ยคุณภาส  :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 08-05-2020 08:25:03
สนุกมากๆเลยค่า ยัยน้องดื้อมากคุณแม่ก็คือสุดยอดมากๆต้อนเสี่ยภาสแบบหนักมากๆชอบๆ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-05-2020 09:20:51
ติดตามจ้า~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 08-05-2020 23:32:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 09-05-2020 02:00:51
ทดลองอยู่ก่อนเฉยๆหรอกน่า
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 09-05-2020 22:56:44
โง้ยยย ยัยตะนิดตัวน้อยยย ตะมัยน่ารักน่าบีบจิงรู้กก  ยื่นยาพาราให้พี่ภาส :hao7:

ขำพี่ชายแย่งตะนิดไม่ได้ แย่งซีนเพื่อนมันซะเลย :laugh:
ว่าแต่พี่ชายสนใจ แฝดอัลฟ่าคนพี่มั้ยย จะต่อเรือรอเลยจ้า

ปล. ชอบมากกกกกก เป็นน่ารักที่สุดดดดด จะรอตอนต่อไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaWikit ที่ 10-05-2020 00:43:35
งานนี้บอกได้คำเดียว
กราบสวัสดีค่ะ คุณแม่นิตยา สมควรแล้วที่เป็นคุณแม่ที่จะดูแลแฝดแสบแสบคู่นี้ได้
และความคุณแม่ ก็จัดซะ คุณภาส (เสี่ยโรคจิต) เกือบหาทางกลับบ้านไม่เป็นเลยค่ะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-05-2020 09:45:24
กำลังสนุกเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 5 : ไม่แต่งด้วยหรอก!
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 10-05-2020 12:09:02
 :pig4:
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 10-05-2020 19:58:59
ก็จะดื้อ 6

พี่พลาด! พี่พลาด!




สมัยก่อนตะนิดเคยชอบดูหนังเรื่องโฮมอะโลน ที่เด็กอยู่บ้านคนเดียวแล้วมีโจรบุก เลยวางแผนอย่างชาญฉลาด และส่วนนี้เขาก็กำลังสวมวิญญาณเด็กนั่น โดยนำแสดงในเรื่อง



โฮม (คนอื่น) อะโลน

เอาตัวรอดในบ้านคนอื่นด้วยตัวคนเดียว!!!!



“แล้ว แล้ว คู่แห่งโชคชะตามันยังไง ทำไง”

“เออ อันนี้ไม่แน่ใจว่ะ แต่ไม่น่าใช่เรื่องสำคัญอะไรมากหรอก” คณิตยกมือขึ้นเกาหัว เขาเองก็ไม่เคยตั้งใจครูอธิบายเรื่องคู่แห่งโชคชะตา คุ้นๆ เหมือนเคยเรียนสมัยมัธยมต้นคาบเพศศึกษา แต่ตอนนั้นเขาน่าจะกำลังนอนในคาบเป็นเพื่อนตะนิดอยู่เลยแทบจะจำอะไรไม่ได้

“ถ้าเขาจะปล้ำกูล่ะคณิต”

“ก็ถึงบอกว่าอย่าออกจากห้องไง”

“แล้วถ้าต้องนอนห้องเดียวกันล่ะ”

“ก็ขังตัวเอง ให้ลุงมันนอนโซฟา”

“อือ ยากอ่ะ ไปด้วยกันไม่ได้หรอ” ตะนิดเบะปากเอียงคออ้อน คณิตเลยรีบหันไปหาแม่

“แม่คณิตไป-“

“ไม่ได้”



ยังถามไม่ทันจบดี ภาสที่นั่งฟังสองพี่น้องวางแผนก็ตอบให้แทน เขาผุดลุกขึ้นเต็มความสูงใช้สายตามองลงสบตากับคณิต

“อะไร คณิตถามแม่นะ คนโรคจิตมายุ่งทำไม”

“เป็นอัลฟ่าคงรู้ดีนะว่าทำไม”

“...”

“ทำไมอ่ะ” แมวดื้อท้าวเอวจ้องหน้าอัลฟ่าหน้าดุตรงหน้าพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ เขาโกรธแล้ว มามองหน้าคณิตแบบนี้หมายความว่าไง หาเรื่องพี่ชายเขาหรอ!!!

“อัลฟ่าอย่างพวกเราน่ะหวงถิ่น”

“หวงถิ่น?”

“พื้นที่ที่เป็นของเรา เวลามีอัลฟ่าคนอื่นบุกรุกเข้ามาน่ะ... มันค่อนข้างที่จะน่าหงุดหงิด” สัญชาตญาณจ่าฝูงของอัลฟ่าเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นอัลฟ่าแท้หรืออัลฟ่าผสม คณิตจึงเถียงไม่ออก ถ้าให้พูดตรงๆ ตอนที่อัลฟ่าแปลกหน้าสองคนนี้เดินเข้ามาในบริเวณรั้วบ้านเขาก็รู้สึกหงุดหงิด โมโหอยู่ตลอดเวลาเหมือนโดนศัตรูบุกรุกเขต   

“...”

“ตะนิดไปเก็บของใส่กระเป๋าเป้สักใบไปลูก เอาแต่ของจำเป็นไปนะ”

“แม่...”

“ไปเร็ว อย่าให้แม่ต้องพูดซ้ำ แล้วไม่ต้องคิดจะขังตัวเองไว้ในห้อง แม่มีกุญแจ” ตะนิดเบะปากให้ความรู้ทันนั่นก่อนจะเดินคอตกกระแทกเท้าปึ้กปั้งกลับไปทางห้องนอนตัวเอง พอหลังเล็กเดินไปลิบตา คณิตก็หันมาสบตากับภาส

“ถ้าแตะต้องตะนิดแม้แต่ปลายเล็บ เราได้รู้กันแน่ ต่อให้เป็นอัลฟ่าเลือดแท้ก็ตามเถอะวะ” คณิตข่มเขี้ยวกรอดพร้อมกับปล่อยฟีโรโมนข่มศัตรูออกมา แน่นอนว่ามันไม่แม้แต่จะระคายเคืองฝ่ายตรงข้าม

“ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นฉันคิดว่าฉันน่าจะเป็นเหยื่อน้องเธอนะ”

“มึง!”

“ฉันบอบบางจะตาย ไม่เห็นด้วยหรอ” ภาสล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก้มหน้ามองอัลฟ่าวัยรุ่นก่อนจะกระตุกยิ้มกวนประสาทยั่วยุอารมณ์

ส่วนสูงก็แค่ร้อยเก้าสิบสองและไหล่กว้างพอที่จะยกอัลฟ่าเลือดร้อนตรงหน้าพาดได้สบายพอๆ กับที่เคยทำกับโอเมก้าแฝดน้อง หุ่นของเขาได้มาจากเลือดผสมของฝั่งพ่อที่เป็นลูกครึ่งรัสเซียเยอรมันจึงทำให้ดูสูงใหญ่กว่าอัลฟ่าทั่วไปในประเทศไทย 



เนี่ย บอบบางจะตาย

ไม่คิดงั้นหรอ?



“ไอ้ภาส มึงนี่ก็นะ แกล้งเด็กมัน”

“หึ...” ใครว่าเขาแกล้ง เขาเอาคืนต่างหาก ดูสิแหกเขี้ยวขู่ตาถลนไปหมดแล้ว



จะว่าไป ไม่ว่าจะพี่หรือน้องก็ดูแหย่เล่นได้ง่ายทั้งคู่เลย

คนพี่ขู่เหมือนหมาส่วนคนน้องขู่เหมือนแมว สมแล้วที่เป็นแฝดกัน เลือดร้อนแต่ไม่ได้มีความน่ากลัว



เขาเลิกแหย่เด็กตรงหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นยกมือถือขึ้นโทรหาเลขาให้ช่วยเรียกแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดห้องพักแขกที่คอนโดให้หน่อย เขามีทั้งบ้านเป็นหลังและคอนโด โดยปกติแล้วเขามักจะกลับบ้านเพราะชอบความเป็นส่วนตัวและการไปเดินเล่นในสนามหญ้าบริเวณหน้าบ้าน แต่เห็นว่าโอเมก้าลูกแมวนั่นยังเรียนอยู่มหาลัย ถ้าไปอยู่คอนโดเขาที่อยู่กลางเมืองติดรถไฟฟ้าคงจะเดินทางสะดวกกว่า

 

“คณิต ช่วยถือของหน่อย” เสียงเล็กดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัว ภาสมองภาพตรงหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว



ก้อนขนหรอนั่นน่ะ?   

ภาสถือมือถือค้างไว้ที่หู สายตาจ้องไปที่ร่างเล็กที่หอบตุ๊กตามาเต็มอ้อมแขนจนบดบังใบหน้าดื้อนั่นมิด ดูท่าทางคุณนุ่มคงจะมาครบตั้งแต่เบอร์หนึ่งถึงร้อย 



“เอาไม้เบสบอลไปด้วยป่ะเนี่ย ขนไปแต่ตุ๊กตาหรอ” ภาสตวัดตาขวับมาที่แฝดพี่ ไม้เบสบอลงั้นหรอ กะเล่นให้ได้เลือดเลยงั้นสิ

“ลุงๆ นำไปรถหน่อย”

“เอาไปแค่ตัวสองตัวพอ”

“ไม่” เถียงกลับเสียงแข็งทันที

“พรุ่งนี้ค่อยให้พี่เธอขนไป วันนี้เอาไปแค่ตัวเดียว” ภาสยกมือขึ้นกอดอก ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาขนของ วันนี้เขาแวะไปออฟฟิสก่อนเลยขับรถสองที่นั่งมา ถ้าจะเอากองทัพคุณนุ่มไปหมดก็คงจะล้นที่เก็บของด้านหลัง

“ไม่ได้นะ ทำไมล่ะ ไม่ไปแล้ว!!!!”

“...” ภาสไม่ได้โต้ตอบอะไร เพียงแต่กอดอกจ้องกลับไปนิ่งๆ จนในที่สุดคนตัวเล็กที่เป็นคนเริ่มขู่กลายเป็นฝ่ายเลิ่กลั่กเสียเอง มองซ้ายแม่ก็ขมวดคิ้วเตรียมดุเขา ส่วนคณิตก็หายไปหยิบไม้เบสบอล



เขาไม่มีพวกอยู่เลย!!!!



“ยะ อย่างน้อยก็สิบตัว”

“ให้มากสุดแค่สอง”

“สองเองหรอ...” ห่อเหี่ยวไปหมด โอเมก้าน้อยรู้สึกโหวงยามที่ต้องตัดสินใจเลือกตุ๊กตาไปเผชิญศึกด้วยได้แค่สองตัว พรรคพวกเขาน้อยกว่าเห็นๆ แล้วจะเอาอะไรไปชนะอัลฟ่าตัวใหญ่ตรงหน้ากัน

บ่นงุบงิบในใจสุดท้ายผู้ผ่านรอบคัดเลือกก็คือคุณนุ่มเบอร์หนึ่งและคุณนุ่มเบอร์ห้า เบอร์หนึ่งชนะเพราะเขารักมาก ส่วนเบอร์ห้าชนะเพราะตัวใหญ่สามารถใช้เป็นอาวุธได้

“เอากระเป๋ามา”

“ถือเองได้”

“ตามใจ” โอเมก้าตัวน้อยหน้าบึ้ง เดินกระแทกเท้าปึ้งปั้งไปที่รถก่อนจะเปิดประตูเขวี้ยงกระเป๋าและคุณนุ่มเบอร์ห้าเข้าไปในที่เบาะหลัง ภาสเห็นภาพนั้นแล้วก็ได้แต่ยกยิ้ม

“ตะนิด”

“ไม่ต้องมาเรียก” ตะโกนกลับพร้อมกับรีบยัดตัวเข้าไปนั่งเบาะหลัง ตะนิดจิกเบาะไว้แน่น เขาจะไม่ไปนั่งข้างคนขับเด็ดขาด รับบทคนขับรถไปเสียเถอะ!!!

“ตะนิด”

“...”

“นั่นรถไอ้ชาย รถฉันจอดอยู่ด้านนอก”



อ้าว...

ตะนิดถลึงตาโตเมื่อค้นพบว่าตัวเองปล่อยโป๊ะ แถมพอมองหน้ากลับไป อีกฝ่ายก็กระตุกยิ้มล้อเขาอีกต่างหาก 



“ก็ ก็จะไปกับพี่ชาย!!!”

“จริงหรอครับ ได้เลยยยย” ชายยิ้มร่าก่อนจะต้องหุบยิ้มเมื่อถูกสายตาพิฆาตตวัดจ้อง “แฮ่ ล้อเล่น ไปกับไอ้ภาสเถอะครับน้องนิด เดี๋ยวพี่ต้องไปทำธุระต่อ”

“ฮึ่ย” ตะนิดยู่จมูก คว้าของลงจากรถด้วยความไม่พอใจ ภาสส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินนำไปที่รถ เขาต้องจอดไว้นอกบ้านเพราะบ้านของตะนิดมีพื้นที่ไม่พอ แค่รถของเจ้าของบ้านสองคันแล้วก็รถของไอ้ชายก็เต็มพื้นที่แล้ว พอเห็นรถเจ้าลูกแมวก็ทำหน้าเสียดาย



คงเสียดายที่อดเล่นบทคุณหนูแล้วให้เขาเป็นคนขับรถตามที่ตั้งใจ

ภาสกดรีโมตเปิดประตูช่องเก็บของเพื่อให้คนตัวเองเอาของเข้าไปเก็บ แต่ตะนิดกับหันหน้ามามองเขางงๆ



“เปิดท้ายทำไม”

“ไม่เก็บของหรอ”

“ให้เอาคุณนุ่มใส่ท้ายรถหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อเหมือนคำถามที่อัลฟ่าหน้าดุถามออกมาเป็นคำถามที่ไม่ควรสงสัยตั้งแต่แรก ภาสถึงเพิ่งนึกออกว่าเด็กตรงหน้าติดตุ๊กตาอย่างกับอะไรดีคงไม่มีทางยอมใส่ลงท้ายรถ

“อืม ฉันลืมคิด เอาไปวางไว้ที่เบาะก่อนไป” ตะนิดหันขวับอุ้มคุณนุ่มทั้งสองตัวไปวางไว้ที่เบาะข้างคนขับ 

“นิดอ่ะ พกนี่ไปด้วย” คณิตเดินตามออกมาพร้อมกับไม้เบสบอลและขวดสเปรย์เล็กๆ

“อะไรอ่ะ”

“สเปรย์ไล่อัลฟ่า” สเปรย์ที่ว่าเป็นสเปรย์ฟีโรโมนที่ส่งกลิ่นเหม็นที่ส่วนใหญ่โอเมก้าจะพกไว้ฉีดอัลฟ่าหากโดนทำร้ายร่างกายหรือรัทใส่ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ตะนิดมีสเปรยด์กันอัลฟ่าตัวเท่าหมาอย่างคณิตแล้วเขาเลยลืมไว้ที่ห้องตลอด ไม่เคยพกออกไปไหนเลย

“อือ คณิตไม่ไปด้วยกันจริงๆ หรอ” ตะนิดดึงแขนเสื้อแฝดพี่ไว้

“ตะนิดอย่าอ้อนดิวะ แค่เอาไม้เบสบอลออกมาให้นี่แม่ก็ด่าฉิบหายแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับแต่เช้า ไม่ต้องกลัว” คนเป็นพี่โยกหัวน้องชายไปมา

“อือ”

“ยาระงับกูใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วห้าหลอด ถ้าฮีทก็ฉีดเลย จำได้ใช่ไหม อย่ากลัวเข็มปักเข้าไปเลยมันจะได้ไม่เจ็บนาน ส่วนยาเลื่อนฮีทใส่ไว้ในช่องเล็กด้านหน้า กินก่อนนอนด้วย” ตะนิดพยักหน้าหงึกๆ รับรู้ ภาสที่กอดอกพิงรั้วเหล็กอยู่ไม่ไกลพยักหน้าตามไปด้วย ไอ้แฝดพี่นี่มันบราค่อนจริงแหะ ห่วงกว่าแม่อีกมั้ง เตรียมยาอะไรให้ครบเป็นเซท  “... ส่วนยาที่เหลือก็ใส่ไว้กับช่องเดียวกับยาเลื่อน อ่านดีๆ ก่อนกิน แล้วไม่ต้องโมโหถ้าเห็น ใส่ไว้เผื่ออุบัติเหตุเฉยๆ”

“ยาไรอ่ะ”

“เออน่า”



ยาคุมสินะ

ภาสยอมรับเลยว่าอัลฟ่าคนพี่นี่รอบคอบทุกด้านทั้งยาเลื่อน ยาระงับ ยาคุม เผลอๆ อาจจะใส่ถุงยางไซ์อัลฟ่ามาเผื่อเขาด้วย พออธิบายอะไรเสร็จแล้วสองแฝดก็กอดกันกลมเป็นการส่งลา

ตะนิดกล่าวลาคนเป็นแม่พร้อมกับหักห้ามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ในใจของโอเมก้าตัวน้อยนั่นมีแต่คำตัดพ้อ น้อยใจไปหมด รู้สึกเหมือนโดนแม่ไล่ออกจากบ้าน



... แต่ก็เข้าใจทุกอย่าง



แม่เป็นคนดูแลเขาในช่วงฮีท แม่เป็นคนลากคณิตกลับเข้าห้องในตอนที่เขาฮีทครั้งแรก

แม่คือผู้หญิงตัวเล็กๆที่จัดการทุกอย่างในบ้านด้วยตัวเองเพราะพ่อบินไปทำงานต่างประเทศบ่อยจนแทบไม่ค่อยอยู่บ้านบ้าน ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เลี้ยงแฝดนรกอย่างเขากับคณิตมาแทบจะตัวคนเดียว



เข้าใจแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ ไม่ชอบเลย

การเป็นโอเมก้านี่ห่วยจริงๆ



“เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่กับคณิตไปหา ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นไอ้แสบ” คนเป็นแม่ยกมือขึ้นโยกหัวลูกชายคนเล็กไปมา

“อื้อ”

“อย่าดื้อกับคุณภาสเขามาก”

“จะดื้อ ดื้อมาก”

“ถ้าเขาทำอะไรที่หนูไม่ยินยอมโทรหาแม่ทันทีนะลูก”

“อื้อ” 

“อย่าลืมกินยาแล้วก็ห้ามกลัวเข็มด้วย” คณิตพูดแทรกขึ้น

“อื้อ คณิตอย่าโอ๋”

“อย่าร้องตะนิด กูตีนะ”

“แม่! คณิตจะตีตะนิด!!”



สองหนุ่มอัลฟ่าคนนอกกอดอกมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูแปลกๆ เหมือนครอบครัวแมวกำลังโอ๋ลูกแมวเล็ก แล้วลูกแมวตัวเล็กนั่นก็กอดตุ๊กตากัดปากตัวเองกลั้นน้ำตาสุดความสามารถ แล้วอะไรคือโอ๋กันเหมือนเขามาขโมยลูกไป เขาน่ะใกล้คำว่าผู้เสียหายมากกว่าเจ้าลูกแมวตัวนั้นอีกนะ


จู่ๆ ก็โดนยกลูกแมวให้ไปเลี้ยงที่บ้าน


ล่ำลาเสร็จลูกแมวก็เดินหูตกเข้าไปนั่งจ๋องในรถ คงได้เวลาไปจริงๆ เสียที เขายกมือขึ้นไหว้ลาเจ้าของบ้านโดยไม่ลืมหันไปกระตุกยิ้มกวนประสาทแฝดคนพี่เล่นอีกรอบ   



คอนโดของภาสไม่ได้ไกลมากจากบ้านอีกตะนิด เพียงแต่ด้วยความที่อยู่ในเมือง รถจึงติดเป็นพิเศษ จากระยะเวลาที่ควรห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมงก็กลายเป็นชั่วโมงครึ่ง แมวน้อยที่กอดคุณนุ่มเบอร์ห้ามาเตรียมเป็นอาวุธก็หลับคอพับคออ่อนไปตั้งแต่สิบนาทีแรก



ภาสแอบลอบมองคนตัวเล็กด้วยสายตากังวลเล็กน้อย เด็กนี่หลับเยอะมากและกลิ่นแป้งก็ดูจะเริ่มแรงขึ้นนิดหน่อย ต่อให้กินยาเลื่อนยังไงก็คงไม่พ้นต้องฮีทภายในสามสี่วันนี้แน่ๆ อีกอย่างยาเลื่อนนั่นกินมากๆ ก็ไม่ดีเพราะตัวยาจะสะสมแล้วส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว 



เขาเองที่ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะรับมือยังไงถ้าแมวตรงหน้านี้ฮีท ถึงจะปล่อยเลยตามเลยแล้วโยนให้เป็นเรื่องของสัญชาตญาณมันก็ทำได้อยู่หรอก



...แต่เขารู้สึกไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเพราะแค่นั้นเลย

ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่ปกติเขาก็ผ่านการรัทกับฮีทของโอเมก้าโดยไม่ได้สนใจอะไรมาตั้งเยอะแล้วแท้ๆ



รถหรูเลี้ยวเข้าคอนโดหรูหลังจากที่ติดอยู่บนถนนอยู่นานกว่าชั่วโมง พอจอดรถปุ๊ปดวงตากลมก็ตื่นปั๊ปเหมือนตั้งเวลา มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูรถลงไปยืนหน้ามุ่ย ตางี้แทบลืมไม่ขึ้น เขาเดินไปเปิดประตูหลังหยิบกระเป๋าใส่ของส่วนตัวของโอเมก้าตัวน้อยที่พี่ชายกับแม่ยัดใส่เข้ามาขึ้นสะพายก่อนจะกดล็อครถ



ระหว่างทางเดินไม่มีประโยคสนทนาอะไรเกิดขึ้น แต่ภาสก็รับรู้ได้ว่าตะนิดเดินแทบจะชิดเขาด้วยความไม่คุ้นที่



ห้องของเขาตั้งอยู่บนชั้นที่ยี่สิบสอง เป็นห้องสามห้องนอนสองชั้น ตอนแรกก็จะซื้อแบบเพนเฮาส์ชั้นบนสุดไว้แต่พอคิดได้ว่าอยู่คนเดียวไม่รู้จะมีห้องใหญ่ขนาดนั้นไว้ทำไมจึงเปลี่ยนใจซื้อไว้แค่ห้องปกติ



“โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห” เจ้าแมวตาโตวิ่งไปเข้าห้องไป ไหนล่ะไอ้ที่นัดกับพี่ชายมาดิบดีว่าถึงแล้วจะรีบเผ่นเข้าห้อง เขาส่ายหัวก่อนจะปิดประตูห้องเดินตามเข้าไป

“ห้องนอนอยู่ชั้นสอง”

“นี่ ระเบียงดูวิวได้ไหม”

“เอาของไปเก็บห้องก่อน”

“ทีวีใหญ่จังงงงงงง”

“ตะนิด”

“เห้ยยยย เครื่องล้างจาน ดีมากเลยอ่ะ นี่โคตรเกลียดเวลาแม่ใช้ให้ล้างจานเลย แล้วอันนี้ปุ่มอะไร เห้ยยยย หรี่ไฟได้ด้วยยย”



...ไม่ฟังกันแล้ว

ภาสถอนหายใจยาวสุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยแมวเดินสำรวจห้องให้เต็มที่

ตะนิดเดินไปเดินมารอบชั้นหนึ่ง คอนโดนี่กว้างมาก กว้างกว่าบ้านเขาอีก สาบานว่าอยู่คนเดียวเหอะ แค่ครัวกับห้องกินข้าวก็ใหญ่เท่าห้องนอนเขากับคณิตรวมกันแล้ว แล้วทีวีจะกว้างอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องไปดูมันแล้วไหมในโรง พอหมุนไปวนมาจนพอใจ ตากลมตวัดมองอัลฟ่าหน้าดุที่กอดอกจ้องอยู่



“เอาของไปเก็บห้องนอนก่อน เรามีเรื่องต้องคุยกัน”



เออจริงด้วย!

ลืมไปเลยว่าต้องขังตัวเองไว้ในห้อง!!

ตะนิดรีบกลับมาระวังตัวแม้ใจจะอยากสำรวจพื้นที่ต่ออีกหน่อยก็เถอะ ขาเล็กเดินตามหลังอัลฟ่าหนุ่มขึ้นชั้นสองไปด้วยความระแวง



“ห้องนอนฉันคือห้องซ้าย ส่วนห้องเธออยู่ด้านขวา” ตะนิดเดินตามเข้าไปในห้องที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นห้องของเขา เตียงกว้างมากแถมมีระเบียงดูวิวสวนสาธารณะอีก



พอเห็นเตียงนุ่มแล้วสัญชาตญาณโอเมก้าก็แล่น อดไม่ได้ที่จะต้องกระโดดตุ้บขึ้นไปกลิ้ง ภาสได้แต่มองแมวน้อยกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงพรางคว้าเก้าอี้มานั่งรออีกฝ่ายคลุกตัวเองเสร็จค่อยเริ่มบทสนทนา



และมันกินเวลาไปเกือบสิบนาที

เตียงขนาดใหญ่ยับยู่ยี่หมอนผ้าห่มกระจัดกระจาย ในที่สุดแมวน้อยก็เหนื่อยลุกขึ้นมาหอบแฮ่กๆ



“แฮ่กๆ เหนื่อยจัง แต่นุ่มดี”

“เอาล่ะ เสร็จแล้วก็มาคุยกัน”

“อือ คุยอะไร”

“นี่เธอเข้าใจแค่ไหนกับการมาอยู่ตรงนี้”

“...” โอเมก้าน้อยไม่แม้แต่ขยับปากตอบ เพราะไม่รู้อะไรเท่าไหร่ รู้แต่แม่บอกให้มา แล้วก็อยากกลับแล้วด้วย

“เอาล่ะ ก่อนอื่นเลย ฉันและเธอเป็นคู่แห่งโชคชะตากัน ฉันได้กลิ่นแป้งของเธอ เธอได้กลิ่นลาเวนเดอร์ของฉันและจะมีอีกหลายอย่างที่วุ่นวายจากการเป็นคู่แห่งโชคชะตา นั่นรวมไปถึงเรื่องฮีทของเธอ”

“ฮะ ฮีท”

“ปกติเธอจะฮีทช่วงต้นเดือนใช่ไหม ต่อจากนี้เธอจะฮีทไม่ตรงเวลาและอาจจะถี่ขึ้น และ... ที่เรามาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน เพราะฉันจะเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอหายฮีทได้ไวที่สุดและเธอก็จะเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันหายรัทได้ไวขึ้น ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้คือผลประโยชน์ของกันและกันในเรื่องนี้”



หากยังไม่เจอคู่แห่งโชคชะตา อาการฮีทของโอเมก้าจะสามารถทุเลาลงได้ด้วยยาหรือการเติมเต็มด้วยวิธีอื่น แต่เมื่อเจอคู่แห่งโชตชะตาแล้วต่อให้เติมเต็มด้วยอะไรก็ตามก็จะไม่ได้ผลเท่าคู่ตัวเอง 



“มะ ไม่เห็นต้องคุยเลย พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว บอกแม่ว่าไม่เวิร์ค” ลืมไปเลยว่าแผนนั่นยังอยู่ ถึงอย่างนั้นภาสก็เลือกที่จะเมินมันทิ้งไป ยังไงคนเป็นแม่ของเจ้าลูกแมวนี่ก็คงไม่ปล่อยให้ลูกที่อยู่ในสภาพใกล้ฮีทกลับบ้านไปหรอก



คนเป็นแม่นั้นก็คงรู้เหมือนกันว่าฮีทกำลังจะมา

เพียงแต่ไม่ได้บอกกับเจ้าตัวตรงๆ



“จากเซนส์ของฉัน เธอน่าจะเริ่มฮีทภายในอาทิตย์นี้” พออัลฟ่าหนุ่มพูดจบ ตะนิดก็เบิกตากว้าง

“รู้ได้ยังไง!!!!”

“กลิ่นเธอมันบอก”

“...”ตะนิดรีบยกจั๊กแร้ขึ้นมาดม จมูกเล็กขยับดมฟุดฟิด ก็ไม่เหม็นนี่นา



มั่ว! ใส่ความกันชัดๆ !



“เธอเป็นโอเมก้า ฉันไม่ได้อยากจะย้ำ แต่เรื่องแบบนั้น... มันก็ค่อนข้างจะเลี่ยงยาก” ภาสเลือกที่จะพูดอ้อมๆ เพราะรู้ดีว่าตะนิดเองก็คงเข้าใจ

“...”

“เพราะงั้นถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นเธอไม่ต้องรู้สึกแย่ มันเป็นเรื่องของร่างกายที่มันปฏิเสธไม่ได้ ฉันเองก็ปฏิเสธไม่ได้...”



ภาสยอมรับเสียงนิ่ง โดยปกติอัลฟ่าเลือดแท้จะสามารถควบคุมฟีโรโมนของตัวเองได้และยังควบคุมอาการรัทของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งยา แต่สำหรับกรณีคู่แท้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกมาเป็นอย่างไร 



“แต่...”

“ฉันไม่ได้ฝืนใจ” ภาสพูดออกมาตามตรง เขาไม่ได้รู้สึกฝืนใจถ้าเกิดอีกฝ่ายฮีทแล้วต้องปล่อยเลยตามเลย กลับกัน ด้วยอะไรบางอย่างเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันน่าจะไปในทางหยุดไม่อยู่ด้วยซ้ำ

“แต่... เอ่อ แต่” ตะนิดแก้มแดง อึกอั่กพูดอะไรไม่ถูก จู่ๆ ต้องมาพูดถึงเรื่องฮีทให้คนอื่นฟัง มันน่าอาย 

“ปกติเธอจัดการเรื่องฮีทยังไง”

“ไม่บอก ไม่บอก!!”

“ตะนิด”

“ไม่บอกได้ไหม ไม่เอาแล้ว ไม่พูดเรื่องนี้ได้ไหม” ตะนิดเบะปากน้ำตาคลอ เขาไม่ชอบพูดถึงเรื่องนี้ ทุกครั้งที่ฮีทมันจะน่าอายเสมอ ดีที่แม่เลือกจะขังเขาไว้ในห้องคนเดียว มันน่าอับอาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันน่าอับอาย!!!

“นี่ ตะนิด...” ภาสพยายามจะตะล่อมให้คนตัวเล็กตอบ

“ไม่ตอบเรื่องนี้ ไปคุยในชั้นศาล!!!”

“หรอ ศาลอะไร”

“ศาลเจ้า!!! ข้าพเจ้านายตนิษฐ์ จะไม่ยอมพูดเรื่องฮีทเด็ดขาด ถ้าข้าพเจ้าพูดขอให้ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด ท้อง... ท้องอะไรก็ได้!!!”



เป็นงั้นไป เล่นของศักดิ์สิทธิ์มันแบบนั้นเลยสิ

แล้วอะไรถึงไปแช่งตัวเองไม่แช่งคนถาม ภาสนึกสงสัยในใจแต่ไม่ได้ถามออกไป พอเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงยืนกรานจะไม่พูดเขาก็ยอมถอยทัพ



“โอเค เดี๋ยวฉันจะสั่งข้าวมาให้ แล้วก็ไม่ต้องขังตัวเองอยู่ในห้องเพราะฉันมีกุญแจ ลงไปนั่งดูทีวีดีๆ เถอะ” พูดจบอัลฟ่าหนุ่มก็เดินออกจากห้องนอนไปปล่อยให้โอเมก้าตัวน้อยกอดคุณนุ่มเบอร์ห้าแน่น



เขาใกล้จะฮีทงั้นหรอ...

ไม่อยากคิดสภาพถ้าต้องมาฮีทให้คนอื่นเห็นเลย จะร้องไห้



คืนแรกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันดำเนินไปอย่างง่ายๆ แค่กินข้าวเย็นด้วยกันแล้วก็แยกย้ายเข้าห้องนอน ตะนิดพอจะเข้าใจความสันพันธ์ของเขากับเสี่ยโรคจิตขึ้นมาหน่อยแล้ว มันคือคำที่เรียกว่า



Friend with benefit



ไม่ดิ เราไม่ใช่เพื่อน งั้นเอาเป็น



Sia lok jit and handsome tanid with benefit

 

ยาวไปนิด แถมดูเหมือนจะเป็นภาษาอังกฤษแหม่งๆ

แต่ช่างมันเถอะ!!!

ใช่แน่ๆ ไหนใครว่าคู่แห่งโชคชะตาอะไรนี่มันโรแมนติกนักโรแมนติกหนาไง แค่เขากับเสี่ยโรคจิตนี่ถูกผูกกันด้วยอะไรโง่ๆ อย่างเรื่องบนเตียงแล้วแม่ก็เลยจับคลุมถุงปุ๋ยชน ละคร ละครหลังข่าวชัดๆ !!!



ไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้ยังไง!!!

คิดแล้วก็หงุดหงิดยุบยิบในใจ เขาเลยดับหัวตัวเองให้หายร้อนแล้วก็ให้หายงงด้วยการเข้าไปอาบน้ำ แช่น้ำร้อนจนพอใจ ผิวเหี่ยวเป็นยู่ยี่ถึงค่อยขึ้นมาแต่งตัว



วันนี้เขาใส่ชุดนอนที่คณิตเตรียมไว้ให้ เป็นชุดสีฟ้าลายก้อนเมฆ จริงๆ คณิตก็มีด้วยอีกชุดแต่ไม่ค่อยใส่ คณิตบอกมันปัญญาอ่อน ไม่เข้าใจเหมือนกัน คนซื้อก็ตัวเองแท้ๆ  แต่งตัวปะแป้งแคร์เสร็จแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงเตรียมหลับ เดี๋ยวพรุ่งนี้คณิตก็มารับกลับบ้านแล้ว มือเล็กกดปิดไฟหัวเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงคอ หลับตาเตรียมพร้อมกับการกล่อมตัวเองให้หลับ



สิบห้านาทีผ่านไป...

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...



นอนไม่หลับ

ตากลมเบิกโพลง เขานอนไม่ได้ อึดอัด รู้สึกโหวงในใจจนขนลุก ร่างเล็กผุดขึ้นนั่งบนเตียงใหญ่ก่อนจะกวาดมองไปรอบๆ ห้องนอน



ห้องกว้างเกินไปจนรู้สึกกลัว

วิวสวนสาธารณะนอกหน้าต่างที่ชอบเมื่อกี้กลับกลายเป็นทำให้รู้สึกไม่สบายใจ



...กลัว

เขากลัว



ขาเล็กรีบก้าวลงจากเตียงก่อนจะเปิดประตูห้องนอนเดินไปห้องตรงข้าม ตะนิดเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเคาะประตู



ไม่มีเสียงตอบรับ

อะไร เพิ่งห้าทุ่มเอง นอนแล้วหรอ คนแก่นอนไวหรอ

ตะนิดกำมือแน่นจนชื้นเหงื่อ เขารู้สึกไม่ปลอดภัยจากการไม่คุ้นที่ไม่คุ้นกลิ่น ด้วยความเป็นโอเมก้า เขาไม่เคยไปนอนค้างนอนบ้านโดยไม่จำเป็นหรือถ้าไปก็จะต้องมีคณิตไปด้วยเสมอ



“ลุง...” ตะนิดเคาะประตูบานใหญ่อีกรอบแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ โอเมก้าตัวน้อยเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เขาจะร้องไห้แล้วนะ กระวนกระวายใจจนในที่สุดก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ฟังคำอนุญาต พอเปิดเข้าไปก็ตรงเวลาพอกับที่อัลฟ่าหนุ่มเปิดประตูระเบียงกลับเข้ามา ดวงตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมเบิกกว้างเล็กน้อย



“อ้าว... มีอะไร”

“เคาะแล้วไม่ตอบ”

“ฉันอยู่ระเบียงน่ะ เลยไม่ได้ยิน” ตะนิดสังเกตว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดนอนแล้ว คงเตรียมจะนอนแล้วเหมือนกันสินะ

“นี่... ลุง”

“ตะนิด ฉันบอกให้เรียกฉันว่าอะไร”

“...”

“ตะนิด”

“...”

“ตะนิด ฉันพูดว่ายังไง”

“พะ พี่ภาส”



พี่(ผิด)พลาด! พี่(ผิด)พลาด!


ตะนิดกู่ร้องในใจ



“อืม ว่าไง มีอะไร”

“นอนไม่ได้” ตะนิดพูดเสียงอ้อมแอ้ม

“อะไรนะ”

“ห้องใหญ่เกินไป นอนไม่ได้”



ภาสกระพริบตาปริบๆ กับคำบอกเล่าจากปากโอเมก้าตรงหน้า แต่พอสังเกตว่าอีกฝ่ายดึงชายเสื้อตัวเองแน่นแถมยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็คิดว่าคงเป็นอะไรที่จริงจังสินะ



“แล้วต้องทำยังไงดีล่ะ”

“มะ ไม่รู้ แต่นอนไม่ได้”

“...”

“นะ นอนด้วยได้ไหม”

“...” อัลฟ่าหนุ่มผงะไปเล็กน้อยกับคำขอ นี่ลืมไปหรือเปล่าว่าแผนแรกที่วางมากับแฝดพี่คือขังตัวเองไว้ในห้องนอนน่ะ

“แต่ห้ามทำอะไรนะ นอนเฉยๆ นะ”

“อืม... เอาสิ” ภาสยกมือขึ้นเกาคอตัวเองแก้เก้อ พอเขาตอบตกลงไป เจ้าลูกแมวก็ปีนเตียงเขา จัดแจงเอาหมอนข้างมาคั่นกลาง ตบผ้าห่มปุๆ ก่อนจะสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ใบหน้าที่ดูตื่นกลัวนั่นกลายเป็นตาปรือภายในเสี้ยววินาที เขายังไม่ทันสติเข้าร่างด้วยซ้ำ โอเมก้าตัวเล็กนั่นก็หลับตาพริ้มส่งเสียงกรนคร่อกออกมาเรียบร้อย



อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาตัวเองเรียกสติ พยายามทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของโอเมก้าให้ได้มากที่สุด เขาเดินไปหยิบหลอดยาระงับการรัทข้างหัวนอนขึ้นมาถอดปลอกก่อนจะค่อยๆ ปักเข้าต้นแขนตัวเอง



... กันไว้หน่อยดีกว่า

เกิดฮีทขึ้นมากลางดึก เขากลัวสัญชาตญาณตัวเองจะเผลอรังแกเจ้าแมวตัวน้อยนี่ 



ภาสปิดไฟหัวเตียง ถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะค่อยๆ กระเถิบตัวขึ้นเตียงให้เบาที่สุด กลัวว่าเจ้าแมวจะตื่น แต่พอมองให้มั่นใจอีกที



หลับน้ำลายย้อย ขาไปทางแขนไปทาง ไม่เห็นมีตรงไหนดูเหมือนคนนอนไม่ได้เลยสักนิด แล้วดูนอนไม่ระวังจนเสื้อเริกขึ้นไปกองกันอยู่ตรงอกหมดแล้ว เขาขยับจัดท่านอนกับดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างเล็กให้เรียบร้อยถึงค่อยล้มตัวลงนอน





ตื่นมาพรุ่งนี้ก็หวังว่าจะไม่โวยวายอะไรแล้วกัน



___________
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-05-2020 20:43:38
น้องน่าฟัดมาก...กกกกกก หอมหัว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-05-2020 21:52:18
น่ารักเต็มไปหมด :hao5:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-05-2020 08:08:47
สนุกดีจ้า
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 11-05-2020 09:35:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-05-2020 15:45:03
 :pig4:
 :katai2-1:
 :3123:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-05-2020 01:50:06
รอตอนเช้าเลย 5555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 14-05-2020 02:10:22
น้องงงงง ลืมไปหมดแล้วว่าต้องอยู่แต่ในห้องตัวเอง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 6 : พี่ผิดพลาด! พี่ผิดพลาด!
เริ่มหัวข้อโดย: casson ที่ 14-05-2020 11:18:23
ตะนิดน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 16-05-2020 19:40:34
Trigger warnning : dub-con

(การมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายไม่มีสติครบถ้วน โดยตามบริบทของโอเมก้าเวิร์สของเรื่องนี้จะเกิดจากการตกอยู่ภายใต้การควบคุมฟีโรโมน)


ก็จะดื้อ 7

ฮีท




แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านผืนบางมาตกกระทบกับเสี้ยวหน้าคม ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ปรือลืมขึ้น



หนัก...

อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับบริเวณอก จะว่าผีอำก็รู้สึกแปลกๆ เขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสักเท่าไหร่



... และผีก็คงไม่มีกลิ่นหอมแป้งขนาดนี้



ภาสยกมือขึ้นขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะมองก้อนแมวดื้อที่มานอนเกยตัวเขาไปครึ่งซีก ใบหน้าดื้อนั้นบี้ลงกับอกเขาพร้อมกับกรนออกมาเบาๆ หมอนข้างที่เจ้าตัวหยิบมาคั่นกลางกระเด็นไปอยู่ปลายเตียง แขนเล็กเกาะที่เอวเขาแน่นส่วนขาก็วางพาดลำตัวเขาอย่างไม่มีการเกรงใจ



อัลฟ่าหนุ่มนอนนิ่งๆ อยู่สักพักถึงค่อยสติเข้าร่าง เขาขยับตัวเล็กน้อยเปลี่ยนท่าเล็กน้อย ทันใดนั้นแมวน้อยก็ส่งเสียงครางในลำคอด้วยความขัดใจ คิ้วบนหน้าขมวดมุ่น มือที่เกาะอยู่ก็เปลี่ยนเป็นจิกให้เขาอยู่นิ่งๆ



เอาแต่ใจจัง

... ขนาดนอนยังดื้อได้





ติ๊ดๆ

เสียงอินเตอร์คอมข้างหัวเตียงเขาดังขึ้น ภาสค่อยๆ ยกมือขึ้นไปแตะปุ่มรับสาย ใครกันที่แวะมาหาในเวลานี้



“สวัสดีค่ะ คุณภาส แม่เองนะคะ”

“...”



จริงสินะ...

ใครล่ะที่จะแวะมาหาในเวลานี้...



“อ่า ครับ เข้ามาได้เลยครับ” เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มปลดล็อคประตูห้องก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเจ้าแมวเริ่มส่งเสียงขัดใจอีกรอบที่เขาเสียงดัง

“สะดวกใช่ไหมคะเนี่ย”

“...”

“เห้ย สะดวกดิ จะไม่สะดวกได้ไงก็นัดกันแล้ว เข้าๆ ไปเถอะแม่” เสียงอัลฟ่าแฝดพี่แทรกเข้ามาในสาย

“เอ่อ ตอนนี้-”



ติ๊ด

ตัดสายไปแล้ว



ภาสยกมือซ้ายขึ้นนวดขมับ รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าได้อย่างทันที เสียงคุยมาจากด้านล่างไม่กี่นาทีเขาก็ได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดมา อัลฟ่าหนุ่มทิ้งหัวลงกับหมอน หลับตารอ เพราะอีกไม่นานเดี๋ยวประตูห้องเขาจะต้องถูกเปิดมาพร้อมกับเสียงโวยวายอย่างแน่นอน



ปั้ง!!!



“คณิต!!”

“ตะนิดอยู่ไหน!!!”



เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายลั่น ภาสขยับหัวไปทางประตูห้องก็พบว่าแขกทั้งสองเบิกตากว้างอึ้งกับภาพที่เห็นไปแล้วเรียบร้อย และแน่นอนว่าเสียงดังขนาดนี้เจ้าแมวขี้เซาบนอกเขาก็ไม่แม้แต่จะตื่น ใบหน้าดื้อนั่นบี้ลงกับอกเขามากกว่าเดิมด้วยความรำคาญเสียงดัง



“บอกไว้ก่อนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ” ภาสเอ่ยดักไว้ก่อนที่สถานการณ์จะวุ่นวายไปมากกว่านี้

“ตะ ตะ ตะนิด”

“เขาปีนมานอนทับผม”

“ตายจริง ลืมบอกไปเลยค่ะ ว่าตะนิดน่ะติดหมอนข้าง ปกติจะนอนกอดปลาฉลาม” ภาสเข้าใจทันทีว่ามันคือคุณนุ่มเบอร์ห้า ปลากัดตัวสีเทาที่ตอนนี้น่าจะนอนตายอยู่บนพื้นห้องเพราะโดนเจ้าของเตะตกเตียง

“ตะนิด ตื่นได้แล้ว”

“อือ คณิต อย่ายุ่งงงง”

“ตื่นได้แล้วไอ้น้องเวร จะบ่ายแล้ว!!!” คณิตตีเหม่งใสไปดังป้าปเน้นๆ ตะนิดร้องโอ๊ยลั่นก่อนจะซุกเข้าหาที่พึ่งกลิ่นลาเวนเดอร์

“อย่ายุ่งได้ไหมคณิต ตะนิดจะนอน”

“ตะนิด ถ้าไม่ตื่นกูจะโกรธแล้วนะ”

“เดี๋ยวง้อ”

“กูร้องไห้ด้วย”

“เออๆ ตื่นก็ได้” เจ้าแมวยันตัวเองขึ้นนั่งพลางยกแขนขึ้นขยี้ตา ตอนนั้นเองอัลฟ่าหนุ่มถึงได้รีบลุกขึ้นนั่งตามพร้อมกับบีบนวดแขนขวาตัวเองที่ชาจนแทบไม่รู้สึกอะไร

“แหม ตะนิดดูมีความสุขกว่าที่แม่คิดนะเนี่ย นอนหลับสบายใจเชียว” คนเป็นแม่เอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เป็นคณิตที่ขมวดคิ้ว

“ตะนิด มึง... ไหนนัดกันว่าให้ขังตัวเองไว้ในห้องไง”

“ไม่ทำแล้ว ยกเลิก ห้องใหญ่เกิน กลัวผี” ตะนิดเอ่ยเสียงงัวเงีย

“เวรเอ๊ยยยย รู้งี้ตอนอยู่ในท้องเวลาแม่กินปลากูบีบสายอาหารตัวเองให้มันไปเลี้ยงมึงเยอะๆ ดีกว่า มึงจะได้ไม่บื้อขนาดนี้ เวร เวร เวรเอ๊ย” คณิตสบถพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองให้กับความบื้อของแฝดน้องตัวเอง จะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มที่เพราะหน้าเหมือนกันจนบางครั้งรู้สึกเหมือนกำลังด่าตัวเองผ่านกระจก

“อย่าบ่นเยอะได้ไหมคณิต”

“มึงตื่นให้เต็มตาเดี๋ยวนี้นะ”

“อยากกินปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก”

“ไอ้เวรตะนิด”

“คณิตไปซื้อให้หน่อยดิ”



ป้าป!!!

สุดจะทน ในที่สุดคณิตก็ฟาดป้าปเข้าให้ที่กลุ่มผมฟูสีน้ำตาลจนหัวตะนิดหงายไปนอนราบ ตะนิดกระพริบตาปริบๆ ตากลมเบิกกว้างมองเพดานก่อนที่จะเพิ่งนึกออกว่า





ที่นี่ไม่ใช่ห้องเขา!!!!!



“เห้ยยยยยยยยยยยยย” แมวน้อยรีบผุดตัวขึ้นนั่ง “เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” นึกอะไรไม่ออกเลยร้องเห้ยออกมาอีกรอบให้ทุกคนรู้ว่าตกใจจริงๆ

“ไม่ต้องมาเห้ยเลย ลุก!!” คณิตดึงแขนแฝดน้องก่อนจะดึงตะนิดขึ้นพาดบ่า ดวงตาอัลฟ่าวัยรุ่นตวัดมองคนบนเตียงพร้อมกับข่มเขี้ยวในใจ



จะโกรธก็โกรธได้ไม่เต็มที่ ไอ้แฝดน้องตัวดีดันเป็นฝ่ายไปนอนกอดเขา

มันน่าหงุดหงิดจริงๆ !!!



“เห้ยยยยยยยยยยยยย”

“มึงเลิกเห้ยได้แล้ว เครื่องค้างหรอ ไปล้างหน้าแปรงฟัน”

“เห้ยยยยยยยยยยยยย”

“เห้ย พ่อมึงสิตะนิด”

“พ่อกูก็พ่อมึงนะคณิต”

“กูด่าแค่โซนพ่อมึงไม่รวมพ่อกู”

“เห้ยงง!!! อย่าพูดอะไรงงๆ ตอนเช้าดิ๊ ตามไม่ทัน แต่ปล่อยได้แล้ววว เจ็บพุงงง ไหล่คณิตแข็งงงง” คณิตกระชับแฝดน้องบนบ่าก่อนจะแบกพาออกจากห้องไป อัลฟ่าหนุ่มผู้ถูกทิ้งให้แขนชาอยู่บนเตียงมองความวุ่นวายที่หายไปอย่างรวดเร็วนั้นก่อนจะหันมาสบตากับคนเป็นแม่ที่ยืนยิ้มอยู่

“ดูเหมือนจะไปได้ดีกว่าดีคิดนะคะ”

“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไรไปเพียงแต่ยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ



พอเห็นว่าคนบนเตียงสภาพดูสภาพเหมือนต้องการความเป็นส่วนตัว คุณนิตยาจึงเอ่ยขอตัวออกไปดูลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกมา



ภาสเหม่อมองไปยังประตูที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ด้วยความที่เขาอยู่คนเดียว ปกติแล้วห้องของเขามักจะไม่ค่อยมีเสียงอะไรมากนอกเสียจากเสียงทีวีหรือเสียงเพลงที่เปิดไว้แก้เหงา พอมีเสียงดังโวยวายแบบนี้ก็ดูเหมือนห้องจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย



... ถึงจะเหม็นอัลฟ่าอื่นนิดหน่อยก็เถอะ



ภาสส่ายหัวเรียกสติกลับมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน พอทำธุระส่วนตัวส่วนตัวเสร็จ แค่เปิดประตูออกมาจากห้องนอน เสียงโวยวายจากชั้นล่างก็ดังขึ้นมา



“คณิต อย่างกไซรัปได้ป่ะ ราดมาอีก แพนเค้กต้องราดชุ่มๆ เดะ”

“แค่นั้นเบาหวานก็แดกแล้ว”

“ราด-อีก!!!”

“รำคาญว่ะ เสียงดัง”

“คณิต!!!!”

“หยุดตีกันเดี๋ยวนี้นะทั้งคู่เลยลูก เสียงดัง”

“แม่!! คณิตบีบไซรัปใส่หน้านิด!!!”

“ก็หน้ามึงเหมือนแพนเค้ก”

“เข็มอัปษร?”

“หึ กลม”

“คณิต กูจะโกรธแล้ว”

“มึงตบมุกโง่ดี กูชอบ แพนเค้กเขาชื่อจริงเขมนิจไม่ใช่เข็มอัปษร กูเวทนาว่ะ”

“คณิตว่ากูหน้ากลมหรอ!!!”



อืม ดูมีชีวิตชีวาก็จริง

แต่ก็หนวกหูเหมือนกัน



ภาสค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่าง ก่อนจะพบว่าครอบครัวแมวกำลังกินอาหารเช้าในนเวลาเกือบจะบ่ายสองอยู่ คนเป็นแม่ยืนยิ้มพลางตักแพนเค้กใส่จานให้เขา แฝดพี่จ้องเขาตาเขม็ง ส่วนเจ้าแมวดื้อกำลังจ้วงแพนเค้กเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มพองเป็นก้อน



“คุณภาส ทานแพนเค้กไหมคะ”

“อ่า ก็ดีครับ” เขาพยักหน้าขอบคุณไปเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงตัวไปชงกาแฟ ภาสยกแก้วขึ้นสูดกลิ่นหอมกาแฟก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อมีกลิ่นบางอย่างผสมมา



กลิ่นแป้ง?

เขาตวัดตามองไปที่โอเมก้าคนเดียวในห้อง ซึ่งตอนนี้กำลังเอ็นจอยอีตติ้งแก้มกลมขยับไปขยับมาดูมีความสุขกับการได้กิน ปกติแล้วตะนิดจะปล่อยกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชมาจางๆ อยู่แล้ว แต่วันนี้ดูเหมือนจะกลิ่นจะแรงขึ้น



เขายกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ คนตัวเล็ก มองจากภายนอกแล้วก็ดูไม่มีอาการอะไรชัดเจน



... สงสัยเขาจะคิดมากไปเอง



“มองไรลุง”

“ตะนิด อย่าให้พูดซ้ำ”

“...”

“ตะนิด”

“อื้อ รู้แล้วๆ ...พี่ภาส” พองแก้มไม่พอใจแล้วก็หันไปกินต่อ

“ตะนิด ไม้เบสบอลอยู่ไหนวะ ทำไมหาไม่เจอ” คณิตเดินขมวดคิ้วเข้ามาจับหัวฟูของแฝดน้อง

“น่าจะอยู่ด้านหลัง”

“หลังไหน”

“...หลังรถ” พูดจบตะนิดก็ได้รับสายตาพิฆาตจากแฝดพี่ทันที



ภาสหัวเราะในลำคอ เขาเป็นคนเปิดท้ายรถเอาของเองกับมือ เห็นอยู่แล้วแหละว่ามีไม้เบสบอลวางอยู่หลังรถแต่ใครมันจะไปแบกอาวุธของศัตรูขึ้นห้องกัน ปล่อยให้เจ้าแมวพกแค่อาวุธอย่างคุณนุ่มเบอร์หนึ่งกับเบอร์ห้านั่นก็มากพอแล้ว



“ตะนิด กูจะเริ่มด่ามึงว่ายังไงก่อนดี”

“ไอ้หล่อตะนิดไหม”

“โง่ ไอ้โง่”

“คณิต มึงก็พี่ไอ้โง่แหละวะ”

“กูเจ็บมากมั้ง มึงด่าตัวเองทำไม”

“เออว่ะ เอาใหม่ๆ มึงก็โง่เหมือนกูแหละ”

“โง่เกินต้าน กูไม่ไหวกับมึงแล้วนะ”

“กูไหว กามิกาเซ่ ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ”

“มึงไม่เคยฟังก็ไม่ต้องฝืน มั่วว่ะ ขโมยแพนเค้กแดกแม่ง”

“คณิตใจหมา! แย่งของกิน! สันดานโจร!” ภาสมองแมวกับหมาตีกันตรงหน้าพร้อมกับรู้สึกแปลกตาพิลึก



เขามีน้องชายอีกสามคนแต่แทบไม่เคยทะเลาะกันในทรงนี้เลย อาจจะด้วยความเป็นอัลฟ่าทั้งบ้าน พวกเขาน่ะมักจะทะเลาะกันไปในทางกวนตีนกันไปกันมาจนชกต่อยกันจริงๆ ถึงจะเคลียร์กันเข้าใจ ไอ้มาทะเลาะงุ้งงิ้งๆ แบบนี้นี่แค่คิดก็ขนลุก



“เลิกทะเลาะกันได้แล้วลูก เป็นไงบ้างล่ะเราน่ะตะนิด โอเคไหม”

“โอเคไรอ่ะ”

“คืนแรกที่นี่” ภาสจิบกาแฟพลางเหลือบตามองคุณแม่เบต้าตรงข้ามโต๊ะ

“อือ เหงามั้ง” เสียงเล็กตอบอ้อมแอ้ม “อยู่ไม่ได้หรอกเนี่ยแม่ ตะนิดเหงา ไม่มีคณิตอยู่ไม่ได้”

“เด็กติดพี่” คนเป็นแม่ส่ายหัวระอา

“คณิตก็คิดถึงตะนิดนะแม่” เจ้าแมวรีบพูดขึ้น

“แม่ก็คิดถึงเรา บ้านเงียบเลยนะพอไม่มีเสียงแฝดทะเลาะกัน”

“...”

“ลองอยู่สักเดือนสองเดือนแล้วกันนะลูก ถ้าไม่โอเคจริงๆ แม่ก็เข้าใจ” คนเป็นแม่ลูบแก้มยุ้ยของลูกชายไปมา

“แต่...”

“ตายจริง ได้เวลาต้องพาคณิตไปซ้อมมวยแล้วนี่”

“เอ๊ะ” คณิตขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าวันอาทิตย์เขาไม่มีซ้อมนี่นา

“งั้นเราไปกันดีกว่า คณิตเก็บของให้เรียบร้อย ส่วนตะนิดล้างจานด้วยนะลูก”

“แม่ ผมไม่มีซ้อม- “

“แม่ว่ามีมันน่าจะมีนะ คณิตว่าไหม” คนเป็นแม่ยกยิ้มหวานแต่นั่นทำเอาขนแขนแฝดพี่อย่างคณิตลุกเกรียว เขาคัดค้านในใจแต่สุดท้ายก็ได้แต่ทำตามคำสั่งของคนเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน



ภาสตามอะไรไม่ค่อยทันเท่าไหร่ บ้านของเจ้าแมวมีความเสียงดังในการวอแวอำลากันอยู่สักพักจู่ๆ ก็ขนตัวเองออกกันไปจากห้อง ทิ้งแต่แมวขี้เหงานั่งซึมอมน้ำส้ม แก้มใสนั่นล้นยืดกองอยู่บนโต๊ะ



ภาสยอมรับว่าเขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ว่าอีกคนเหงา แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนที่อยู่กับใครแล้วสนุกและยังไม่ใช่คนชอบคุยหรือเริ่มบทสนทนาก่อนด้วย ยังไม่ทันหาวิธีเจอเจ้าแมวก็ลุกขึ้นเดินเท้าลากพื้นขึ้นชั้นสองไป



อัลฟ่าหนุ่มลอบถอนหายใจ เขายกมือขึ้นนวดขมับก่อนจะหยิบมือถือขึ้นสั่งกดสั่งอาหาร เผื่อว่าเจ้าแมวน้อยจะหิวแล้วลงมาหาอะไรกิน สำหรับวันนี้ก็คงต้องแยกกันอยู่ไปก่อนจนกว่าเขาจะหาวิธีคลายเหงาของอีกฝ่ายให้เจอ



ชีวิตคืนที่สองก็ยังอยู่ในความปกติและเบนไปในทางจืดชืด เขากับตะนิดแยกกันใช้ชีวิต คุยกันแทบจะนับคำได้ ถึงจะมีช่วงที่กินข้าวเย็นด้วยกันแต่พอกินเสร็จเจ้าแมวก็วิ่งหนีเข้าห้องตัวเอง ไปขลุกอยู่กับกองตุ๊กตาที่พี่ชายเพิ่งแบกมาให้จากบ้าน พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากคุยอะไร เขาก็มานั่งทำงานผ่านไอแพดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามปกติ



เวลาผ่านไปโดยที่เขาไม่ได้แม้แต่จะเชคเวลา

จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนและเสียงเท้าที่กำลังเดินลงมา ภาสเหลือบตามองนาฬิกาข้างฝาหนัง



สองทุ่ม

กินมื้อดึกงั้นสินะ



เขาละตาจากจอไอแพดขึ้นมองร่างเล็กที่ค่อยๆ เดินเตาะแตะมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ เขากระตุกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา คิดว่าคงลงมาดูทีวีที่เขาเปิดทิ้งเอาไว้



... จากห่างคนละเบาะก็ค่อยๆ กระเถิบมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มานั่งไหล่ชิดกับตัวเขา ภาสยกคิ้วงงกับพฤติกรรมแปลกๆ นั่น



“ตะนิด”

“...”

“ตะนิด”

“อื้อ”

“เมื่อวานได้กินยาไหม”

“อืมไม่”

“อืมไม่?”



เขากะจะถามต่อว่าตกลงอืมหรือไม่ แต่ทันใดนั้นตะนิดก็พิงหัวมากับแขนเขาพร้อมกับถูหัวไปมาเหมือนลูกแมว ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะวางไอแพดลงแล้วใช้มือจับหน้าดื้อออกมามอง ใบหน้ากลมดูสลึมสลือเล็กน้อย กลิ่นแป้งเริ่มแรงแต่ก็ไม่ถึงกับแรงขนาดที่ว่าเป็นกลิ่นในช่วงฮีททำให้เขารู้สึกได้ว่าเจ้าแมวตรงหน้ามีอะไรบางอย่างแปลกไป



“นี่...”

“...” ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อจะนิดชันเข่าขึ้นก่อนจะย้ายตัวมานั่งทับบนตักเขา

“เหงา”

“...”

“เหงานะเนี่ยน้า”



ป้อแป้...



อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวพร้อมเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างโซฟา เขาคุ้ยหาของก่อนจะหยิบเข็มยาระงับการรัทขึ้นมา ใช้มือเดียวในการถอดฝาออกก่อนจะปักเข็มฉีดยาเข้าบริเวณต้นขา



ดูท่าทางเจ้าแมวตรงหน้ากำลังจะ ‘ดื้อ’ ใส่เสียแล้ว



“รู้ตัวไหมเนี่ยว่ากำลังจะฮีท”

“ไม่ฮีท”

“ตะนิด” ภาสยกมือขึ้นเสยผมหน้าม้าขึ้นก่อนจะก้มลงพิจารณาก้อนแมวบนตัก ตะนิดซุกหน้าเข้ากับอกเขาพร้อมกับถูหน้าไปมา

“เหงา”

“พรุ่งนี้ฉันจะหาเกมอะไรเข้ามาให้เล่น ชอบเกมแบบไหนล่ะ” แมวน้อยเงยหน้าก่อนจะชันตัวขึ้นงับคางที่มีตอหนวด ภาสผงะเล็กน้อยกับการกระทำนั่น

“เล่น”

“ตะนิด ยาอยู่ไหน”

“เล่นด้วยกัน อยากเล่นด้วย”

“เราเก็บยาไว้ไหน”

“เล่นกับนิดหน่อยน้า” ปากเล็กจุ๊บลงบนแก้มสากของคนแก่กว่า ก่อนจะย้ายจุ๊บไปทั่วหน้าตั้งแต่คิ้วยันจมูกก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปาก ตะนิดกดจุ๊บลงไปย้ำๆ แต่ไม่ได้ทำอะไรไม่มากกว่านั้น มือเล็กนุ่มนิ่มยกขึ้นสางผมอัลฟ่าหนุ่มไปมา สะโพกเล็กขยับส่ายไปมาเบาๆ



ภาสถอนหายใจออกมายาวเหยียด โดนจุ๊บจนหน้าเปียกไปหมด แถมสะโพกเล็กที่ขยับอยู่นั่นก็อันตรายมากเสียด้วย



“ตะนิด เราคิดจะทำอะไร”

“เล่นก่อน ไม่ถามได้ไหม! ยุ่ง! เหงา!” เสียงดื้อนั่นขยับความหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนคนโดนขัดใจ ปากเล็กอ้าขึ้นก่อนจะก้มลงงับคอคนตรงหน้าเข้าไปจมเขี้ยว



ภาสสะดุ้งเล็กน้อยกับแรงกัดที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ดีที่อีกฝ่ายเป็นโอเมก้า ต่อให้กัดจมเขี้ยวแค่ไหนก็ไม่สามารถสร้างพันธะได้เหมือนที่อัลฟ่ากัด



“อย่ากัดตะนิด ไม่ดื้อ”

“จะดื้อ” แมวน้อยเหยียดตัวขึ้นแต่ก็โอนเอนจนอัลฟ่าหนุ่มต้องยกมือขึ้นโอบแผ่นหลังบางนั่นไว้ไม่ให้หงายหลังตกโซฟาไป

“แมวดื้อ”

“อื้อ ดื้อครับ แต่นิดเดียว ดื้อนิดเดียว ดื้อเท่านี้” มือเล็กยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เข้าหากันให้รู้ว่าดื้อนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ นะ

“เราน่ะหรอดื้อแค่นี้” ภาสยกมือขึ้นขยายช่องว่างระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของคนตัวเล็กให้ห่างกว่าเดิม “เราน่ะดื้อมากเท่านี้ต่างหาก”

“คนใจร้าย”

“...”

“เหงานะเนี่ยน้า เหมือนแกล้งนิดเลย ใครก็ทิ้งนิด เพราะนิดเป็นโอเมก้าหรอ”

“... ตะนิด” อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นลูบหัวฟูเบาๆ ใบหน้าอ้อนของโอเมก้าน้อยอิงแอบแนบมือใหญ่ส่งสายตาออดอ้อน

“พี่ภาสก็ทิ้งนิด”

“ฉันไม่ได้ทิ้ง”

“ห้องกว้าง น่ากลัว ทำโทษกันหรอ เหงา... นะเนี่ยน้าา” ปากเล็กเบะเหมือนจะร้องไห้นั่นทำให้ใจคนตัวใหญ่อ่อนยวบ



แต่ทั้งๆ ที่เหมือนจะเปิดโหมดซึ้ง แต่สะโพกนุ่มนิ่มนั่นกลับบดเบียดเปลี่ยนมู้ดจากดราม่าเข้าอีโรติก ภาสเรียกสติตัวเองกลับมาทันที



“เก็บยาไว้ไหน ตอบหน่อยเร็วแมวดื้อ” ภาสตะล่อมถามพร้อมกับกดจมูกลงกับแก้มใสอย่างอดไม่ได้ เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถึงจะฉีดยาระงับไปแล้วแต่ก็ต้องยอมรับว่าการโดนน้วยใส่แบบนี้มันก็อดทนยากเกินไป



นุ่มนิ่มไปทั้งตัว

ไอ้เสียงอ้อแอ้แถมอ้อนขนาดนี้นี่มันขี้โกงเกินไปแล้ว



“พี่ภาสสส”

“หืม”

“กอดนิดหน่อยค้าบบบ” เจ้าแมวดื้อทิ้งตัวลงกอดเขา ถึงจะงงแต่ภาสก็ยกมือขึ้นลูบหลังเล็กไปมา



ทันใดนั้น

กลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชก็แตกกระจายรุนแรงจนภาสเองต้องย่นจมูก กลิ่นฉุนรุนแรงขนาดนี้



ฮีทเสียแล้ว

ภาสถอนหายใจ ถึงแม้เขาจะฉีดยาระงับการรัทไว้แล้ว แต่กลิ่นจากคู่แห่งโชคชะตาก็แรงจนเขาเหงื่อซึมกรอบหน้า



ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ร่างบนตักเขาก็เริ่มทำการขย่มตัวเอง ภาสผงะกะพริบตาปริบๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมตวัดมองคนบนตักที่ผละออกไปก่อนจะตั้งหน้าตั้งตา



ขย่มตักเขา...

ขย่มโดยที่เสื้อผ้าครบทั้งตัวเองและตัวเขา



“ตะ ตะนิด”

“อื้อ” ใบหน้าเล็กเงยขึ้นโชว์ลำคอขาวที่มีปลอกคอหนังรัดอยู่ สะโพกเล็กขยับกระแทกบดตัวไปมาเหมือนคนไร้สติ



ภาสทำตัวไม่ถูกไปหมด เขาได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองเจ้าแมวดื้อที่ขยับตัวบดเบียดร่างตัวเองขึ้นลงเป็นจังหวะ ใบหน้าดื้อที่ชอบพองแก้มขัดใจนั่นขึ้นสีแดงกลายเป็นก้อนโมจิแต้มสีชมพู ปากเล็กบีบเม้มเข้ากันจนบวมช้ำไปหมด



ไม่ใช่แล้ว...

มันเป็นการคลายฮีทแบบไหนกัน ทำไมเขาไม่เคยเจอโอเมก้าที่ไหนฮีทแล้วช่วยตัวเองด้วยวิธีนี้เลย





“ตะนิด เวลาฮีทปกติเธอทำยังไง”

“...”

“ตะนิด ตอบฉัน” ภาสใช้มือเกี่ยวแก้มเล็กให้ก้มลงมาสบตาเขา ดวงตากลมที่มักฉายแววดื้อตอนนี้ปรือลงด้วยแรงอารมณ์ เขี้ยวเล็กนั่นงับนิ้วโป้งเขาเบาๆ

“คะ คุณนุ่มเบอร์ห้า”

“...”

“ถูคุณนุ่ม อ๊ะ ฮึก”



ภาสได้แต่กุมขมับตัวเองกับคำตอบของร่างบนตัก เด็กตรงหน้าไร้ประสบการณ์ทุกอย่างโดยสิ้นเชิง ไม่แม้แต่จะเคยแตะต้องตัวเอง ทุกอย่างเป็นไปตามสัณชาตญาณ นั่นยิ่งทำให้เขาต้องห้ามตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



“ตะนิด ไปบนห้องเถอะ ไปเอายากัน”

“พี่ภาส พี่ภาส ฮึก”

“แมวดื้อ ให้ความร่วมมือหน่อย” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อนใจ เขาเองก็ปวดตึงไปหมด ดีที่ใส่กางเกงนอนที่มีความยืดหยุ่นสูงไว้แต่ข้อเสียคือผ้าค่อนข้างบางจนมันสะเทือนไปหมดทุกส่วน



...เจ้าแมวดื้อก็ใส่ไม่ยั้งแรงเลย เจ็บไปหมดแล้ว



“อ๊ะ พี่ภาส”

“ไม่ครางได้ไหม” อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวก่อนจะตัดสินใจระบายอารมณ์กับปลอกคอหนัง เขางับมันเล่นๆ คลายอารมณ์ที่ปวดตึง แม้จะเป็นปลอกคออย่างดี แต่ด้วยแรงอัลฟ่าแค่เพียงไม่นาทีก็ถูกกัดจนสภาพเกือบขาด เขาจึงต้องหยุดเปลี่ยนเป็นไปถูจมูกตัวเองตามผิวเนื้อหอมแป้ง



อยากกัด อยากทำรอย อยากเป็นเจ้าของ

... แต่ต้องอดทนไว้



ภาสมองปากสีแดงอิ่มนั่นอย่างช่างใจ สุดท้ายก็ห้ามตัวเองไม่อยู่ประทับจูบลงไป จูบที่เป็นจูบไม่ใช่แค่จุ๊บแบบที่ลูกแมวคุ้นเคย เกลียวลิ้นที่สอดประสานไปพร้อมกับลมหายใจหอบกระเส่า ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยเจ้าแมวจึงเป็นฝ่ายผละหน้าออก



“หะ หายใจไม่ทัน”

“ต้องฝึกบ่อยๆ”

“อื้อ...”



ถูกแกล้งอีกแล้ว

แมวดื้อครางขัดใจในลำคอแต่สุดท้ายก็ระทวยได้แต่ปล่อยให้คนหน้าดุแกล้งขโมยลมหายใจต่อไปอีกหลายครั้ง



ลูกแมวน้อยขย่มตัวเองอยู่เพียงไม่กี่นาทีก็ตวัดแขนกอดคอรัดอัลฟ่าหนุ่มจนหน้าปักลงกับอกนิ่ม ร่างทั้งร่างเหยียดเกร็งจนไหล่สั่นระริกพร้อมกับส่งเสียงหวีดลั่น



ภาสที่หน้าชิดอยู่กับอกขาวกลิ้นแป้งเด็กได้แต่กะพริบตาปริบๆ งงอีกรอบ



แค่สัมผัสผ่านเนื้อผ้าก็รู้สึกได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ...



สงครามจบลงอย่างรวดเร็วจนเขาตกใจ ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเปียกแฉะของกางเกงร่างบนตัก แมวน้อยหอบแฮ่กๆ อยู่สักพักก็เริ่มขยับตัวขย่มอีกรอบ



“ตะนิด เดี๋ยว”

“อ๊ะ ฮึก คุณนุ่ม”

“ฉันไม่ใช่คุณนุ่ม” ภาสตวัดตาดุร่างเล็ก

“ฮึก...”

“เรียกชื่อฉัน ฉันคือใครตะนิด”

“ฮึก ไม่ดุนะ อย่าดุ พี่ภาสไม่ดุนิด”

“แมวดื้อ ตอบ” อัลฟ่าหนุ่มใช้มือจับสะโพกเล็กในหยุดขยับก่อนจะใช้มือจับแก้มโมจินั่นให้จ้องหน้าเขา



อยู่บนตักเขา

แม้แต่ชื่อตุ๊กตาก็ไม่อนุญาต



“พี่ภาส พี่ภาส ปล่อยนิด พี่ภาส ฮึก”

“อย่าเรียกชื่อคนอื่นอีก”

“พี่ภาส ไม่แกล้งนิดนะ ใจร้าย นิดไม่ดื้อแล้ว ไม่แกล้งนิด”

“เราน่ะดื้อ”

“พี่ภาสไม่แกล้งนิดนะ” เสียงเล็กโวยวายพร้อมกับพยายามเหยียดตัวงับคางอัลฟ่าหนุ่มด้วยความออดอ้อนตามสัณชาตญาณ อัลฟ่าหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ



อ้อนได้อ้อนดี

ทีเวลาไม่ฮีทขู่ฟ่อเป็นลูกแมว



“ไปห้องฉัน โซฟามันปวดหลัง” ภาสกระชับคนบนตักก่อนจะจับอุ้มลุกขึ้น แมวน้อยตวัดขารัดเขาพร้อมกับพยายามถูสะโพกไปมาไร้สติสัมปะชัญญะไปโดยสิ้นเชิง

“ไม่ฉีดยานะ นิดเจ็บ” หน้าดื้อถูไปมากับเนินไหล่อัลฟ่าหนุ่ม



ภาสอุ้มตะนิดบนชั้นสอง พอจะก้าวเข้าห้องของคนในอ้อมกอดเพื่อเอายาระงับฮีท แมวน้อยก็จิกไหล่เข้าให้เต็มแรง เขี้ยวเล็กงับต้นคอพร้อมกับส่งเสียงอืออา



“ตะนิด ไม่กัด” ภาสตีแผ่นหลังบางเบาๆ เป็นการดุ

“ไม่ฉีดยานะ”

“...”

“นะ” ตะนิดยกแก้มนิ่มขึ้นถูกับแก้มเขาไปมา ความนุ่มนิ่มที่ติดอยู่ที่ตอหนวดจางๆ นั่นทำเอาอัลฟ่าหนุ่มขยำก้นนิ่มไปด้วยความมันเขี้ยว



ภาสขบฟันกรอดพร้อมกับคำรามต่ำในลำคอ

สุดท้ายก็แพ้แรงอ้อนหมุนตัวพาแมวดื้อกลับเข้าห้องตัวเอง





ให้ตายเถอะ...

เขาจะบ้าตายจริงๆ แล้วนะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 16-05-2020 20:31:17
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-05-2020 21:37:04
คุณนุ่มเบอร์ห้า...อ่อย   :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: แพรวฐา ที่ 16-05-2020 21:39:41
 :-[ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-05-2020 01:41:18
ตบะแตกแน่
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 17-05-2020 02:30:36
อยากน้วยกับน้องบ้าง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 7 : ฮีท [16/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย ที่ 17-05-2020 10:39:50
 :a5: RIP คุณนุ่มเบอร์ห้าล่วงหน้าเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 19-05-2020 19:37:20
ก็จะดื้อ 8




ท้องฟ้าในตอนเช้านี่มันก็สวยดีเหมือนกัน

อัลฟ่าหนุ่มในสภาพใส่เพียงแต่กางเกงนอนตัวเดียวนั่งพิงหัวเตียงเหม่อมองวิวนอกหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าเริ่มส่องไล่เข้ามาจนถึงขอบเตียง ใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะตวัดตามองร่างเล็กที่เกยอยู่บนตัว

กว่าจะสงบก็เช้าจนได้
 
ตะนิดอยู่ในสภาพชุดนอนลายกระต่ายครบเซท ไม่มีชิ้นไหนที่หลุดไปจากร่างกาย มีแต่เขานั่นแหละที่โดนมือเล็กจับถอดเสื้อแล้วไล่เอาหน้ามาถูไถ นิ้วเรียวจิกลากไปตามผิวหนังเขาจนเป็นรอยถลอก ขมเขี้ยวเล็กๆ นั่นก็กัดระบายอารมณ์ตามเนินไหล่เขาไปทั่ว ถึงแม้จะเสื้อผ้าอยู่ครบแต่ภาสก็สัมผัสได้เลยว่าช่วงล่างของเจ้าแมวน่ะเปียกเลอะเทอะไปหมด


สุดท้ายเขาก็ไม่ได้จับตะนิดฉีดยาและไม่ได้แตะต้องอะไรเกินเลยไปมากกว่าเมื่อวาน
เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ ให้เจ้าแมวนัวเนียยันเช้า


แทบจะเป็นครั้งแรกที่ถูกโอเมก้ามานัวเนียแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรเกินเลยและคงเป็นครั้งแรกที่เขาปล่อยให้ตัวเองถูกลวนลามโดยไม่มีแม้แต่การปกป้องตัวเองหรือสู้กลับ


ภาสกดจมูกลงกับกลุ่มผมนิ่มเพื่อสูดกลิ่นแป้งเด็กเข้าปอด เขาน่ะอยากลุกออกไปสูบบุหรี่มาสักพักแล้ว แต่เพราะเจ้าแมวน้อยบนตักบทจะคึกก็กระหน่ำสะโพกไม่หยุดบทจะหลับก็กรนน้ำลายยืดคาอก ไม่ปล่อยช่องว่างให้เขาได้ลุกไปไหน


ตะนิดน่าจะฮีทหนักอีกประมาณสามสี่วัน ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันไม่ดีแน่
เป็นแค่ลูกแมวบื้อแท้ๆ ไหงพอฮีทถึงกลายเป็นแมวยั่วขนาดนั้นไปได้

สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นไล่หาเบอร์ใครสักคนที่จะสามารถช่วยเขาในสถานการณ์นี้ได้


“วินเซนต์”
[เจ็ดโมงเช้า?] ยังไม่ทันได้พูดอะไรดี ปลายสายก็ถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก [ประสาทหรอภาส]
“มีเรื่องจะขอให้ช่วย”
[ด่วนมากขนาดนั้น?]
“ด่วน แต่ไม่ได้ขอให้มึงช่วย”
[อะไรของมึง]
“มาหาที่คอนโดหน่อย พาลี่มาด้วย”
[ลามปามนะภาส] เสียงทุ้มกดต่ำด้วยความไม่พอใจกว่าเดิมเมื่อชื่อโอเมก้าคู่ชีวิตของตนถูกเอ่ยออกมาจากปากอัลฟ่าคนอื่น
“เออ ไม่ต้องหึง กูมีเรื่องจะรบกวน”
[เรื่องอะไร]
“แมว”
[ห๊ะ?]
“แมวดื้อมาก รับมือไม่ไหว”
[แมวเนี่ยนะ?] ภาสเหลือบตามองเจ้าแมวที่นอนกรนอยู่บนอก
“อืม แมว”
[... เออๆ เดี๋ยวเข้าไปสักทุ่มสองทุ่ม เมื่อวานลี่วิจัยกับเพื่อนจนดึก กูปล่อยให้น้องนอนก่อน]
“ไม่ได้”
[อะไรไม่ได้]
“สายขนาดนั้นไม่ได้ แมวกูดื้อมาก เดี๋ยวตื่นมาดื้อต่อ” กลิ่นแป้งที่ฟุ้งอยู่เป็นสัญญาณว่าเจ้าแมวน้อยยังไม่หายฮีท ซึ่งมีสิทธิ์สูงมากที่จะตื่นมาแล้วดื้อต่อทันที ด้วยวัยสามสิบกว่าของเขา ให้มารับมือกับเจ้าแมวดื้อแบบนี้เรื่อยๆ โดยไม่หลับไม่นอน เขาเองอาจจะฝ่ายสลบไปเสียก่อน



ไม่ได้หรอก เสียเชิงหมด
สมัยมหาลัยเขานี่ยันหว่างอยู่ตลอดนะ!



[เร็วสุดเที่ยง]
“เออ เที่ยงก็เที่ยง มึงซื้ออาหารเข้ามาด้วย พวกอาหารอิตาเลี่ยนก็ได้”
[อะไรของมึงเนี่ยภาส]
“แมวนอนอยู่บนตัว ไม่กล้าขยับ เดี๋ยวตื่นมาดื้อ”
[เออๆ แค่นี้]


เมื่อสายตัดไป ภาสก็วางมือถือลงกับโต๊ะข้างเตียง เขารู้สภาพเลยว่าการกึ่งนั่งกึ่งนอนแบบนี้โดยมีอะไรหนักๆ ทับ เดี๋ยวจะต้องปวดหลังแล้วก็ปวดเมื่อยตามตัวตามมาอย่างแน่นอน


ช่วยไม่ได้...

จะเหนื่อย จะลำบากร่างแค่ไหนแต่สุดท้ายเขาเองที่เป็นฝ่ายเต็มใจให้มันเกิด


มันน่าหงุดหงิดเมื่อแค่คิดว่าเจ้าแมวไปดื้อแบบนี้กับคนอื่น เขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนร้อนหัว ไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครแตะ ไม่อยากให้หน้าไหนมาแย่งที่ตรงนี้ไป อยากให้แมวดื้อกับเขาแค่คนเดียว


ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกลับหวงได้ขนาดนี้
ไม่รู้ว่าเพราะเป็นคู่แห่งโชคชะตาอย่างเดียวหรือมีความรู้สึกอื่นผสม


“อือ คณิต... แพนเค้กกู ไอ้หน้าไข่ควาย” ลูกแมวขมวดคิ้วละเมอออกมา ภาสมองคิ้วที่ขมวดนั่นก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปมให้มันคลาย ขนาดนอนก็ยังจะขมวดคิ้วทำหน้าดื้อ
“เธอนอนอยู่บนตัวฉันแต่ละเมอถึงคนอื่น มันน่าหงุดหงิดนะ”
“อื้อ”
“ดื้อ” ภาสเลื่อนนิ้วชี้ลงมาจิ้มแก้มโมจิแต้มสีชมพูนั่นเบาๆ   
“พี่ภาส”
“...!” นิ้วชี้ชะงักกึ้กเมื่อชื่อตัวเองถูกเอ่ยออกมา


ตื่นแล้ว?


“พี่ภาส... คณิตแกล้งนิด แพนเค้ก แจ๊บๆ” ปากเล็กขยับเคี้ยวน้ำลายพร้อมกับครางอืออาด้วยความหงุดหงิดแฝดพี่ในความฝัน ภาสที่ชะงักนิ่งไปยกยิ้มเบาๆ
“ฉันต่อยให้ไหม อยากทำมาสักพักแล้ว” พูดจบก็หัวเราะในลำคอออกมาเอง เขาไม่คิดว่าตัวเองจะเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรอัลฟ่าแฝดพี่นั่นนักหรอกแต่ให้บอกตรงๆ ก็เหม็นขี้หน้าอยู่พอสมควร


เวลาเห็นหน้าแมวดื้อในร่างหมีแถมทำหน้ากวนตีนตลอดเวลา มันก็พานทำให้หงุดหงิด อย่างน้อยๆ ก็ช่วยกวนตีนด้วยหน้าที่ไม่เหมือนกันหน่อยไม่ได้หรือไง อยากจะใส่หน้านั่นด้วยหมัดแค่ไหนก็ทำไม่ลง


จะว่าไปไอ้ชายนี่ยิ่งชอบหาโอกาสมาทำคะแนนกับแมวเจ้าแมวดื้ออยู่
ลองแกล้งๆ จับคู่กับแฝดพี่เสียดีไหม จะได้กำจัดตัววุ่นวายออกไปพร้อมกันทีเดียว


“พี่ภาส”
“...” อัลฟ่าหนุ่มชะงักตัวอีกรอบเมื่อโดนเรียกชื่อ


พอมองลงก็เห็นว่าเจ้าแมวน้อยปรือตามองอยู่ เขารีบยกมือขึ้นลูบหัวเจ้าแมวไปมากล่อมให้หลับ ตะนิดขมวดคิ้วเหมือนจะตื่นขึ้นมาดื้ออีกครั้ง แต่ด้วยความเหนื่อยสะสมกับการลูบหัวเบาๆ เป็นจังหวะ ตากลมจึงหลับลงอีกครั้ง พอมั่นใจว่าร่างเล็กหลับสนิทไปอีกรอบ ภาสก็ถอนหายใจออกมา



เที่ยงสักทีเถอะ ได้โปรด...


.
.
.




“กลิ่นโอเมก้าแรงอยู่นะภาส” เสียงทุ้มของแขกคนใหม่ของห้องเอ่ยขึ้นแทนคำทักทายทันทีที่อีกฝ่ายเห็นเขาเดินลงมาจากชั้นสอง ตอนเพื่อนเขากดกริ่งเทเลคอมนั่นถึงเสียงติ๊งจะไม่ดังมากแต่ก็ทำเอาเจ้าแมวขมวดคิ้วอยู่ ลำบากเขาต้องรีบกดเปิดเปิดประตูห้องพร้อมกับรีบย้ายตะนิดออกจากตัวไปนอนดีๆ ใช้เวลาอยู่นานในการแงะร่างเจ้าแมวออกโดยที่อีกฝ่ายไม่ตื่นขึ้น
“พี่ภาส สวัสดีครับ” โอเมก้าร่างสมส่วนคู่พันธะของวินเซนต์ยกมือขึ้นไหว้ ภาสหันไปพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเลี่ยงตัวเข้าไปที่ครัวเพื่อหยิบน้ำเปล่ามาดื่ม
“อา ปวดคอชะมัด” ภาสบิดคอไปมาไล่ความเมื่อยขบ
“แมวที่มึงว่านี่ไม่ใช่แมวที่เป็นสัตว์ใช่ไหม”
“เออ”
“อย่างมึงเนี่ยนะหิ้วโอเมก้าขึ้นห้อง” วินเซนต์ขมวดคิ้วงง


เขา ชายและภาสเป็นรูมเมทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่อเมริกา อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปียังไม่เคยเห็นว่าไอ้แว่นหน้าดุนี่จะเคยหิ้วใครเข้าห้องมาก่อน อาจเพราะว่าภาสเป็นพวกหวงอาณาเขตและต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนใหญ่ถ้าไม่กลับห้องคนเดียวก็ไม่กลับเลยเสียมากกว่า


“ไม่ได้หิ้ว”
“...”
“กูอุ้ม”

 ภาสกระแทกตัวลงกับเก้าอี้พร้อมกับเกาหัวตัวเองด้วยความเครียด เขาเริ่มง่วงขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ยังนอนไม่ได้เพราะอีกสักพักเจ้าแมวดื้อก็น่าจะตื่น พอคิดได้ว่าเดี๋ยวเจ้าแมวจะตื่นมาวุ่นวายต่อ เขาก็ลุกไปหยิบยากันรัทอีกหลอดมาฉีดกันไว้

“แล้วนี่มึงให้ลี่มาด้วยทำไม” วินเซนต์เอ่ยถามงงๆ
“อยากให้ช่วยหน่อย”
“ห๊ะ”
“ลี่ทำพันธะแล้ว แถมยังไม่กระทบอะไรกับกลิ่นฟีโรโมนโอเมก้าด้วยกันเอง”
“แล้วเกี่ยวอะไร”
“กูไม่เคยดูแลโอเมก้าตอนฮีท ไม่รู้จะทำยังไง นี่กูนั่งสมาธิมาทั้งคืนแล้ววิน” ภาสยกมือขึ้นนวดขมับ
“นั่งสมาธิ? นี่มึงยัง...”
“เออ”
“ฮีทแรก?”
“ไม่ใช่นะ”
“อ้าว แล้วทำไม...”
“คู่โชคชะตาหรอพี่ภาส” โอเมก้าหนุ่มที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น วินเซนต์ตวัดสายตามองคู่พันธะตัวเองก่อนจะหันกลับมาหาเพื่อนสนิทตนด้วยใบหน้าตกใจ
“มึงเจอคู่แห่งโชคชะตาหรอภาส!!”
“เออ” ภาสตอบอย่างเหนื่อยใจ “แล้วเรารู้ได้ยังไงลี่”
“ดะ เดาครับ ก็พี่ภาสดูไม่น่าใช่คนจะมาดูแลใครเลยอ่ะ จู่ๆ มาดูแลมาทนขนาดนี้ก็คงจะมีอะไรพิเศษ” ลี่เกาแก้มตัวแกร่กๆ


จริงๆ เขาก็อยากพูดอยู่หรอกว่าปกติพี่ภาสน่ะดุสุดๆ เป็นเพื่อนพี่วินที่เขาไม่อยากอยู่ด้วยมากที่สุดแล้ว พูดก็เสียงดุ มองก็สายตาดุ ขนาดหายใจยังดูดุเลย ไอ้ที่จะมาโอ๋หรือดูแลใครนี่คิดภาพไม่ออก แต่กระทืบหรือดุจนร้องไห้น่าจะเห็นภาพชัดกว่า


...ว่าแต่ครั้งแรกเลยเหมือนกัน
ที่เขาเห็นพี่ภาสในมุมโทรมขนาดนี้ ชักอยากจะเห็นหน้าโอเมก้าผู้โชคร้ายคนนั้นขึ้นมาแล้ว

“ก็ตามนั้นแหละ”
“ลี่ไปดูได้ไหมอ่ะ”
“ได้ จริงๆ อยากจะให้ช่วยเชคร่างกายเขาให้หน่อยด้วย” ภาสรู้ว่าไม่มีอะไรเสียหายหรอก แต่ไอ้จะให้เขาถอดหรือเปิดเสื้อผ้าอีกฝ่ายดูก็กลัวตัวเองจะเบรกไม่อยู่ ถามว่าหวงกับลี่ไหมเขาก็หวงนั่นแหละ แต่ก็น้อยกว่าหวงกับอัลฟ่าด้วยกันเยอะ อย่างน้อยมีโอเมก้าไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแมวคงจะใจเย็นลงมากขึ้น
“กูอยากเห็นบ้าง”
“มึงนั่งลงวินเซนต์”
“ว้าว หวงจัง ไม่เหมือนภาสที่เคยล้อกูตอนหวงลี่เลย” วินเซนต์กระตุกยิ้มล้อพร้อมกับทำท่าเดินไปแถวบันไดขึ้นชั้นสอง เขาฟุดฟิดจมูกกวนประสาทเพื่อนหน้าดุ เอาจริงๆ เขาได้กลิ่นโอเมก้าชัดเจนแบบที่ไม่ต้องตั้งใจดมหรอก ทำท่าให้หมามันหวงไปงั้น   
“กูไม่ได้หวง”
“งั้น-”
“แต่ถ้ามึงกล้าเดินขึ้นบันไดนั่นเมื่อไหร่กูมั่นใจว่ากูเอามึงตายแน่วินเซนต์” ภาสตวัดตามองเพื่อนด้วยสายตาเอาจริง วินเซนต์รู้สึกเย็นวาบที่หลังเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นชูเป็นสัญญาณว่าเขายอมแพ้


ถึงจะเป็นอัลฟ่าเลือดแท้เหมือนกัน สรีระก็ใกล้เคียงกัน
แต่ถ้าเทียบเรื่องใช้กำลังแล้วเขาก็ห่างชั้นกับภาสอยู่หลายขุม


เขาเรียนการต่อสู้มาบ้างแต่ก็ไม่ใช่คนมีเรื่องบ่อย เรียกว่าเป็นพวกแน่นทฤษฏีมากกว่าปฏิบัติก็ว่าได้ ต่างจากภาสที่เรียนต่อสู้หลายรูปแบบแถมยังขยันใช้วิชาจนสมัยเรียนด้วยกัน ใบหน้าดุนั่นมักจะมีรอยช้ำรอยแตกอยู่บ่อยๆ


 ถึงพออายุเยอะขึ้นจะห่างหายจากการมีเรื่องลงไปมาก
 แต่เขาก็เชื่อว่าฝีมือมันก็ยังไม่ตกไปจากเดิมสักเท่าไหร่หรอก


“หวงจริงแฮะ แล้วนี่ไอ้ชายรู้หรือยัง”
“แล้ว”
“อ้อ งั้นแสดงว่ามีคนกวนตีนนำไปก่อนแล้ว”
“งั้นลี่ไปนะพี่” โอเมก้าที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่พูดขึ้นขัด วินเซนต์ดึงร่างคู่พันธะของตนมาหอมหัวเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้น้องเดินขึ้นชั้นสองไป

ลี่เดินขึ้นชั้นสองพร้อมกับถอนหายใจ อยู่กับพี่ภาสนี่บรรยากาศน่าอึดอัดอยู่ทุกรอบจริงๆ อัลเมก้าหนุ่มชะงักหน้าประตูห้องนอนเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นฉุนฮีทลอยออกมาจากหลังบานประตู มือบางค่อยๆ เปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะเห็นว่าบนเตียงใหญ่นุ่มนิ่มสีขาวนั่นมีร่างเล็กๆ กำลังขดตัวอยู่

“ขออนุญาตนะครับ...”
“อื้อ” แมวน้อยบนเตียงเด้งหัวขึ้นมาจากกองผ้าห่ม ดวงตากลมปรือด้วยแรงอารมณ์พยายามหรี่มองว่าใครเข้ามา

ลี่ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าหวานจากกองผ้านั่นชัดๆ 

น่ารัก

น่ารักเฉยเลย !!!
นี่่น่ะหรอโอเมก้าของพี่ภาส!!!
เขาคิดว่าโอเมก้าของพี่ภาสจะต้องเป็นโอเมก้ากลิ่นอายเซ็กซี่ไม่ก็โอเมก้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอโอเมก้าเด็ก เขาว่าเขาก็ตัวเล็กแล้วนะ เด็กบนเตียงนี่ตัวเล็กกว่าเขาอีก สูงแตะร้อยหกสิบหรือเปล่าก็ไม่รู้ นี่พ้นสิบแปดหรือยังเนี่ย ตำรวจ! ตำรวจเท่านั้น!!!!

“ใคร...” เสียงแหบแห้งเอ่ยถามพร้อมกับหยัดตัวขึ้นนั่ง เสื้อนอนที่ถูกปลดกระดุมไปเกือบครึ่งนั่นไหล่หลุดออกจากบ่าขาว
“เอ่อ พี่ชื่อลี่นะ เป็นโอเมก้าไม่ต้องกลัว”
“อื้อ” แมวน้อยขยี้ตาก่อนจะยกมือสองข้างขึ้นชู ลี่กะพริบตาปริบๆ มองท่านั่น

ห๊ะ?
ให้อุ้มหรอ?

“เอ่อ...”
“มานี่” เสียงดื้อสั่งอย่างเอาแต่ใจลี่จึงเดินเข้าไปหาแบบงงๆ พอเข้าไปใกล้เตียงมือเล็กของแมวดื้อก็จับมือเขาก่อนจะดึงให้ลงไปนอนบนเตียง ลี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดีเจ้าแมวน้อยก็ขยับตัวขึ้นนั่งทับเขา

“เอ่อ น้อง...”
“คุณนุ่ม”
“ครับ?” งงอีกไปอีกรอบ อะไรคือคุณนุ่ม?
“จุ๊บแบบเมื่อวานได้ไหม”
“ห๊ะ”
“นิดชอบนะพี่ภาส”
“เดี๋ยวๆ พี่ไม่ใช่พี่ภาส เห้ยๆ”

ลี่กำลังจะอ้าปากโวยวายแต่ก็ไม่ทัน เจ้าแมวดื้อก้มลงกัดปากล่างเขาก่อนจะสอดลิ้นเข้ามา ลี่จิกบ่าร่างบนตัวแน่นด้วยความตกใจแต่สักพักพอสติเข้าร่างเขาก็ขมวดคิ้ว

จูบห่วยมาก
จั๊กจี้เพดานปากไปหมดแล้ว

“อื้อ...” แมวดื้อขมวดคิ้วขัดใจเมื่อจูบไม่เห็นรู้สึกดีเหมือนเมื่อวาน

อยากได้จูบแบบเมื่อวาน
อยากได้นี่นา...

ระหว่างที่แมวน้อยกำลังขมวดคิ้วขัดใจ ตัดภาพไปที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามก็มีอัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วขัดใจ ภาสกอดอกมองตุ๊กตาฉลามตัวใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มนิ่ม ส่วนวินเซนต์ที่กอดอกพิงกรอบประตูก็มองภาพนั้นอีกทีด้วยความไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

“วินเซนต์”
“หืม?”
“มึงเคยรำคาญตุ๊กตาไหม”

ห๊ะ?
วินเซนต์อุทานลั่นในใจกับคำถามจากเพื่อน นอกจากคำถามจะแปลกโคตรๆ แล้วยังทวีความแปลกไปอีกเมื่อมันหลุดออกมาจากปากอัลฟ่าที่ขึ้นชื่อเรื่องจริงจัง ดุและน่ากลัวอันดับต้นๆ ของมหาลัย

“เอ่อ... ภาส มึงไหวป่ะ”
“...” ภาสไม่ตอบแต่คว้าตุ๊กตาฉลามโง่ๆ นั่นขึ้นมาฟาดกับเตียง ลากไปฟาดผนัง จับปาลงพื้นแล้วกระทืบไม่ยั้ง

น่าประทับใจที่ผ้าดีกว่าคิด กระทืบแทบตายไส้ยังไม่แตก แถมไอ้หน้าปลาฉลามนี่ยังแหกฟันยิ้มเหมือนกวนตีนเขาอีก ภาสหายใจหอบเหนื่อยก่อนจะหยิบฉลามโง่นั่นขึ้นมาดม

... กลิ่นแป้งเจือกลิ่นพีชชัดเจน
ถึงว่าสิถึงผ่านการคัดเลือกจากผู้ท้าชิงน้องนุ่มอีกร้อยตัวมาได้

วินเซนต์หรี่ตามองเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจถึงขีดสุด เดียวก็กระทืบฉลามเดี๋ยวก็คว้าขึ้นมาดมแล้วก็ยิ้ม อะไรของมันวะเนี่ย นี่เขาควรโทรหาไอ้ชายเพื่อปรึกษาเรื่องนี้หน่อยดีไหม ดูท่าทางจะอาการหนัก 

“ถ้ากูเอามันไปฆ่า แมวจะโกรธไหมวะ”
“...”
“โยนลงตึกแม่งดีไหม ไม่ดิ เดี๋ยวแมวลงไปเอาแล้วกูต้องเอาไปซักอีก”
“...”
“ไส้แตกกูก็ต้องเอาไปเย็บสินะ”
“...”
“กูจะฆ่ามันยังไงดีวะวินเซนต์”
“เอ่อ...”

ฆ่า...
ใช้คำเสียน่ากลัว แต่ดันเสือกใช้กับตุ๊กตาปลาฉลามโง่ๆ เนี่ยนะ วินเซนต์เอียงคอมองเพื่อนพร้อมกับหยิกแขนตัวเองไปด้วยเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป

“พี่วินช่วยด้วย!!!!”

เสียงตะโกนลั่นดังมาจากฝั่งตรงข้าม วินเซนต์ถลึงตาก่อนจะรีบพุ่งตัวไปตามเสียงร้องของคู่พันธะ ภาสเองก็ขมวดคิ้วออกตัวตามไปทันทีด้วยความร้อนใจ เมื่อประตูถูกกระชากภาพตรงหน้าก็ปรากฏ

แมวน้อยตัวบางแสนจะดื้อของภาสกำลังยกตัวขย่มร่างของลี่อยู่ด้วยแรงอารมณ์ไม่ต่างจากเมื่อวาน แต่ด้วยความที่สรีระของลี่ที่เป็นโอเมก้านั่นบอบบางไม่ได้อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อเหมือนอัลฟ่า พอต้องมารับแรงและน้ำหนักจากคนที่ตัวขนาดใกล้เคียงกัน

... ผลถึงออกมาเป็น

 โอเมก้าผู้น่าสงสารหน้าเขียวด้วยความจุกหน้าท้องและจุดซ่อนเร้น

“ตะนิด!!!” ภาสพุ่งตัวเข้าไปดึงเจ้าแมวออกมาทันที ส่วนวินเซนต์เองก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการของคู่พันธะ
“ลี่!!!”
“พี่ภาสสสสสส” ท่ามกลางความตึงเครียด แมวน้อยผู้ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรตวัดแขนขึ้นกอดคอเจ้าของกลิ่นลาเวนเดอร์ที่แสนจะคิดถึง จมูกเล็กจิ้มๆ ถูๆ ที่ลำคออัลฟ่าหนุ่มสูดดมกลิ่นเข้าปอดให้พอใจ
“ซี้ด...”
“ลุกไหวไหมลี่”
“มะ ไม่ไหว จุก จุกมาก น้องตัวหนัก” ลี่กุมหน้าท้องตัวเองพร้อมกับขดตัวงอ ใบหน้าสวยซีดเซียวแสดงอาการเจ็บออกมาชัดเจนจนวินเซนต์ลอบถอนหายใจ ถึงลี่จะไม่ใช่โอเมก้าตัวบางขนาดลูกแมวของภาสแต่ก็ไม่ได้กล้ามเนื้อเยอะพอที่จะรับน้ำหนักทั้งตัวของโอเมก้าได้

... แถมดันกระแทกลงเสียตรงจุดเสียด้วย
ลี่น้อยก็ยิ่งเล็กๆ อยู่

ตอนนั้นเองที่ลี่จู่ๆ ก็ตัวสั่นเมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนข่มขู่บางๆ มาจากฝั่งปลายเตียง โอเมก้าหนุ่มขดตัวเข้าหาอ้อมอกอัลฟ่าคู่ชีวิตทันที

“ลี่ลุกไม่ได้ มึงแก้ปัญหาด้วยการไปห้องนู้นเองเลย ไม่ต้องมายืนแผ่ฟีโรโมนขู่” วินเซนต์ตวัดตามองภาสด้วยความไม่พอใจ
“...” ภาสดุ้นลิ้นกับกระพุ้งแก้มพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดคลายอารมณ์ขุ่นมัวในใจ
“ไม่ขู่นะ นิดตีนะ”

ผัวะ!!!
แก๊ก...
วินเซนต์สะดุ้งเฮือกมองโอเมก้าตัวน้อยในอ้อมกอดของภาสที่เพิ่งกระทำการอุกอาจตวัดมือฟาดหัวเพื่อนเขาโยกจนแว่นตกพื้น ภาสเองก็ได้แต่กะพริบตางง ตั้งตัวไม่ทันว่าจะโดนหมัดแมวฟาดเข้าให้แรงขนาดนี้ แมวน้อยยืดคอขึ้นงับคางกลิ่นลาเวนเดอร์เป็นการลงโทษเพิ่ม

ภาสถอนหายใจยาวก่อนจะกระชับก้นนิ่มในอุ้งมือให้แน่นแล้วพาก้อนดื้อกลับเข้าห้องตัวเอง พอเปิดประตูเข้าห้องมาเขาก็จัดการโยนก้อนดื้อลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยน้องนุ่ม

ตะนิดที่หน้าปักเข้าให้น้องนุ่มครางอืออาขัดใจเล็กน้อย แขนเล็กยันตัวขึ้นนั่งสอดส่องสายตาไปมา สุดท้ายก็คว้าคุณนุ่มเบอร์ห้ามาวางก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งทับ ดวงตาฉ่ำปรือตวัดมองคุณนุ่มพร้อมกับขยับสะโพกเสียดสีตัวเองไปมาแบบที่เคยทำปกติเวลาฮีท

“...” ภาสถอนหายใจยาวเหยียด เขาลุกไปหยิบเก้าอี้มุมห้องมานั่งมองเจ้าแมวเล่นกับตัวเอง

ให้ตายเถอะ...
นี่เขาต้องมานั่งเฝ้าคนช่วยตัวเองเนี่ยนะ

“ภาสกูพาลี่กลับก่อนนะ” เสียงดังมาจากหน้าประตูเรียกภาสให้หันไปมอง
“อือ”
“พี่ภาส ถ้าจะไม่ทำอะไรก็ฉีดยาให้น้องเถอะครับ ไม่งั้นมันทรมานมากนะพี่”
“...”
“แล้วอย่าลืมให้น้องกินข้าวด้วยนะครับ”
“...”
“อ้อ... ซื้อปลอกคอแบบเหนียวกว่านี้ดีกว่านะครับ มันจะขาดแล้ว เดี๋ยวให้พี่วินส่งชื่อแบรนด์ให้ พี่วินก็ชอบกัดปลอกคอ”   
“อืม”

ภาสตอบกลับไปสั้นๆ เขาได้ยินเสียงคนเดินลงบันไดไปก่อนจะตามด้วยเสียงสัญญาณปิดประตูห้อง เขาหันกลับมาดูเจ้าแมวดื้อที่ยังคงเสยสะโพกไม่ยั้งใส่คุณนุ่มเบอร์ห้า

พอลี่พูดถึงกินข้าวเขาก็เพิ่งนึกออกว่าตั้งแต่เช้าเจ้าแมวดื้อก็ยังไม่ได้แตะข้าวเล็กสักเม็ด ทั้งๆ ที่ดูจะเป็นพวกกินจุ แถมเมื่อวานดื้อหนักขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่หิว

อาการฮีทนี่มันดึงความสนใจทุกอย่างไปหมดแม้กระทั่งความหิวงั้นหรอ
ดูท่าทางจะอันตรายอยู่เหมือนกันนะ...

เขาสืบเท้าเข้าไปที่กระเป๋าลายคิตตี้บนโต๊ะข้างหัวเตียงเพื่อหยิบเข็มฉีดยาระงับฮีทออกมาก่อนจะเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม ดวงตาคมที่ไร้แว่นคู่ใจตวัดตามองก่อนแมวดื้อ

“ตะนิด”
“หื้อ”
“มานั่งนี่” ภาสตบตักตัวเองสองที เจ้าแมวน้อยก็ลุกขึ้นจากคุณนุ่มเบอร์ห้าเดินโซเซขึ้นมาปีนตักเขา ใบหน้าอ้อนเอนซบกับอกแกร่งจนแก้มเบียดเป็นก้อน
“พี่ภาส”
“แมวดื้อ”
“ไม่ดื้อ”
“กอดคอฉันไว้”
“อื้อ” แมวน้อยตวัดแขนเล็กๆ ขึ้นโอบคอแกร่ง จมูกเล็กๆ ซุกไปตามบ่าแกร่งสลับกับงับเล่นๆ

ภาสอาศัยโอกาสที่เจ้าแมวดื้อกำลังเคลิ้มๆ ใช้มือซ้ายกดหัวเล็กลงกับบ่าตัวเองพร้อมกับจิ้มเข็มไปเบาๆ ตรงสะโพกกลม แมวดื้อสะดุ้งเฮือกอ้าปากงับเขาเข้าให้อย่างแรงจนรู้สึกได้ว่าเข้าเนื้อและสงสัยจะได้เลือด ภาสมองตัวยาที่ค่อยๆ ลดลงจนหมดเข็ม แรงกัดบนบ่าถึงค่อยคลายลงจนในที่สุดหัวทุยนั่นก็ทิ้งตัวหมดแรง

หลับไปแล้ว...
 
อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวพร้อมกับซุกจมูกลงกลุ่มผมฟู

จะคู่แห่งโชคชะตาหรือจะอะไรก็ตาม
แต่แมวดื้อนี่ ไม่ดีต่อหัวใจเขาเอาเสียเลย...

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-05-2020 20:58:59
พี่ภาสจะแพ้คุณนุ่มของน้องไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-05-2020 00:12:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: แพรวฐา ที่ 20-05-2020 00:15:22
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-05-2020 01:42:49
น้องงงงงงงง หายฮีทเร็วๆคับ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 20-05-2020 13:20:36
เขียนดีมาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-05-2020 19:15:05
คุณนุ่มหนีไป~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย ที่ 20-05-2020 19:27:16
คุณนุ่มเบอร์ห้าผิดอะไร๊ พี่ภาสไม่น่ารักป่าว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-05-2020 19:42:05
น้องลี่โดนแกง...งงงงงงงงง  :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 21-05-2020 11:40:57
สงสารลี่เหมือนโดนหลอกมาแกง สนุกมากๆค่ะยัยหนูตะนิดถ้าหายฮีทจะเป็นยังไงนะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 21-05-2020 15:10:37
พี่ภาสใจร้ายยย คุณนุ่มเบอร์ห้าผิดอารัยยย  :hao7:

ไม่เจอเคยโอเมก้า ที่ฮีทได้น่ารัก น่าแกล้ง อ้อนยั่ว น่าขยี้แบบนี้มาก่อน งื้ดด อยากบีบก้อนแมวดื้อ  :hao5:

 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 8 : คุณนุ่มเบอร์ห้า [19/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 21-05-2020 17:32:20
โถ..อาฆาตกับเบอร์5 :jul3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 23-05-2020 16:34:39
ก็จะดื้อ 9


 
... หิวจัง
... ปวดตัวด้วย

ตะนิดค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงอาการแปลกๆ ต้อนรับในยามเช้า ก้อนแก้มที่แนบอยู่กับหมอนใบใหญ่ถูไถรับสัมผัสนุ่มนิ่ม ใบหน้าดื้อขมวดคิ้วอย่างขัดใจ

หิวมาก แต่ก็ปวดตัวไม่อยากจะลุกไปไหน
คำถามคือทำไมเขาถึงหิวขนาดนี้ แล้วทำไมเขาถึงปวดตัวขนาดนี้ โดยเฉพาะสะโพกรู้สึกหน่วงชะมัด หรือลุงโรคจิตนั่นแอบเตะเขาตอนนอนกัน ใจร้าย นี่คนนะไม่ใช่ลูกตะกร้อ!!!

ดวงตากลมกะพริบถี่มองวัตถุที่นอนแนบอยู่ตรงหน้า เจ้าปลาฉลามตัวบิ๊กเบิ้มโค้ดเนมคุณนุ่มเบอร์ห้ากำลังส่งยิ้มหล่อมาให้เขา มือเล็กคว้าน้องเขามากอด

อือ...
คุณนุ่มเบอร์ห้าตัวนุ่มขึ้นหรือเปล่านะ

หมับ

อ๊ะ!!!!
ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ ก็มีแขนปริศนาโอบมาที่เอว ก่อนจะตามมาด้วยลมหายใจร้อนๆ แถวหลังคอ

อะไร!!!  อะไร!!!!!!
ผีหรอ!!! ผีใช่ไหม!!!!!!!

ดวงตากลมสอดสองเลิ่กลั่ก เนี่ยหรอคือผีอำที่ว่า ตายเพราะมะเร็งแน่นอน ลมหายใจเหม็นบุหรี่ขนาดนี้ หนอย ไม่รักสุขภาพจนตายแล้วยังมาหลอกชาวบ้านกันอีก ผีเวร... เอ้ย คุณผีนิสัยไม่ดี ตะนิดรีบแก้คำด่าในใจทันทีกลัวว่าคุณผีจะแองกรี้แล้วอำหนักกว่าเดิม

“อ๊ะ...” ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ มือของผีมะเร็งก็เลื่อนไปแถวพุงกะทิของเขาก่อนจะสอดเข้าไปลูบสัมผัสเนื้อพุงเขาอย่างถือวิสาสะ มือเล็กตวัดกำคุณนุ่มเบอร์ห้าแน่นด้วยความกลัว

นอกจากเป็นมะเร็งแล้วยังลามกด้วยหรอ!!
มาลูบพุงกันแบบนี้ได้ยัง!!!
คณิตอยู่ไหน!!!!   

มือใหญ่ของผีมะเร็งเลื่อนลูบเบาๆ เป็นวงกลมก่อนจะแปะไว้นิ่งๆ ความอุ่นร้องของมือทำเอาตะนิดต้องกะพริบตาถี่

รู้สึกดีจัง...
รู้สึกปลอดภัย...

ว่าแต่

ผีอะไรมืออุ่น!!!!!
แมวดื้อถลึงตาโตรีบผุดตัวขึ้นนั่งก่อนจะตวัดตากลมมองเจ้าของร่างผีมะเร็ง ซึ่งก็ตรงตามที่คาดไว้ ใบหน้าดุใต้กรอบแว่นนั่นจ้องกลับมาที่เขาแถมยังกระตุกยิ้มกวนประสาทอีกต่างหาก 

เสี่ยโรคจิต!!!!!
โรคจิตจริงๆ ด้วย มาลูบพุงชาวบ้านตอนนอน!!!

“เสี่ยโรคจิต!!!!!!”
“ตะนิด ฉันบอกว่ายังไง”
“อันนี้ห้ามดุนะ ก็โรคจิตจริงๆ มาลูบพุงชาวบ้านได้ยังไง” ตะนิดยกแขนสองข้างขึ้นปกป้องพุงน้อยตัวเองพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่  ภาสชันแขนขึ้นวางหัวมองแมวดื้อ ด้วยความเหนื่อยใจ

พอหายฮีทก็ดื้อตั้งแต่ตื่นเลย
พุงนั่นจะหวงอะไร เมื่อวานอ้อนให้เขาจับมากกว่านี้อีก

“หิวไหม”
“หิวมาก เอ้ย เปลี่ยนเรื่องนี่!!!” เสียงเล็กโวยวายลั่นห้องจนภาสต้องหรี่ตา

ตอนฮีทกับไม่ฮีทนี่คนละเรื่องเลยจริงๆ
คิดผิดคิดถูกที่ฉีดยาให้เนี่ย...

“ฉันสั่งข้าวมา มีกุ้งเผาด้วย แต่ต้องอุ่นหน่อยนะ”
“กะ กุ้งเผาหรอ” ภาสขมวดคิ้วมองแมวน้อยที่เหมือนจะน้ำลายย้อย เสียงท้องร้องครืดดังลั่นออกมาจากพุงกะทินั่น
“...”
“กู้งงงงงงงงงงงงง” แมวน้อยตวัดตัวเตรียมวิ่งลงไปกินกุ้งเผา แต่ทันทีที่เท้าแตะพื้น ร่างทั้งร่างก็แปะลงไปอยู่กับพื้น ตากลมกะพริบถี่ก่อนจะกลายเป็นเบะ “โอ๊ย... เจ็บ!”
“ตะนิด” ภาสรีบตวัดตัวลงจากเตียงมาดูเจ้าแมวดื้อที่จู่ๆ ก็วูบลงไปอยู่ที่พื้น
“ปะ ปวดเอว ต้นขาด้วย”
“ลุกไหวไหม”
“นี่ นี่ลุง... พะ พี่ภาสเตะหรอ เตะนี่หรอ หรือแอบกระทืบตอนนอนหรอ” ตะนิดอ้าปากพะงาบๆ
“นี่เราจำอะไรได้บ้างไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับมือใหญ่ที่สอดเข้าใต้บริเวณรักแร้ หิ้วคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนเตียง ส่วนตัวเองก็ย่อลงนั่งกับพื้น ตะนิดก้มมองหน้าดุนั่นก่อนจะกรอกตาไปมา

จำอะไรได้?
จำอะไรได้หรอ...

‘พี่ภาส’
‘คุณนุ่มเบอร์ห้า ถูคุณนุ่ม’
‘พี่ภาสไม่แกล้งนิด’

ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ เสียงตัวเองในความทรงจำก็แวบเข้ามา ภาพของน่าอายมากมายค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามาในโสนประสาต ไม่ว่าจะเป็นที่เขาปีนตักคนตรงหน้า บดเบียดสะโพกตัวเอง แถมยังบอกความลับเรื่องคุณนุ่มเบอร์ห้าที่ไม่เคยบอกใครออกไปอีกต่างหาก

แล้วก็...

อ๊ะ...


“จะ จูบ”
“...”
“จูบพี่โอเมก้า”
“ห๊ะ?” ภาสอุทานลั่นพร้อมกับขมวดคิ้ว
“อ้ากกกกกกกกกกก จูบพี่โอเมก้าไปแล้ว นี่จูบพี่คนนั้นไปแล้วด้วย” ตะนิดกุมแก้มตัวเองด้วยความอับอาย ส่วนที่นั่งยองๆ ฟังอยู่ได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับรู้สึกเส้นเลือดแถวขมับกระตุก

จูบเลยงั้นสิ?
ไม่ใช่แค่พยายามไปถูเขาแต่ยังไปจูบด้วยงั้นหรอ

ภาสเงยหน้ามองเจ้าแมวดื้อที่ดื้อเกินกว่าที่เขาคิด เวลาฮีทนี่ไม่ได้สนใจอะไรเลยงั้นสินะ

ถ้าปล่อยไปฮีทที่อื่นจะไปอ้อนแบบนี้กับใครก็ได้งั้นหรอ

“หือ... พี่ภาส!!!” ตะนิดตะโกนลั่นพร้อมกับฟาดมือเข้าตบแก้มเขาสุดแรงจนหน้าหัน ดีที่คราวนี้แว่นบนหน้าเพียงแค่ขาขยับหลุดออกมาจากหูข้างหนึ่งไม่ได้กระเด็นตกไปเหมือนคราวที่แล้ว  ภาสตวัดหน้ากลับมาด้วยความงุนงงแต่ก็ต้องชะงักเพราะใบหน้าดื้อนั่นดูตื่นกลัวขึ้นเล็กน้อย
“...”
“พี่ภาสไม่ปล่อยฟีโรโมนนะ”
“โทษที”
“ไม่ชอบ”
“เออ ไม่ชอบเหมือนกัน” ภาสใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มคลายอารมณ์ขุ่นมัว
“ไม่ชอบอะไร นี่ไม่ปล่อยฟีโรโมนไม่ได้นะ จะมาไม่ชอบอะไร” เสียงดื้อเอ่ยเถียงพร้อมกับยู่ยี่หน้า
“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ยกมือขึ้นหนีบแก้มอ้วนนั่นเบาๆ 


ไม่ชอบทั้งหมดนั่นแหละ
ทั้งคุณนุ่มเบอร์ห้า ทั้งแฝดพี่ชายที่หน้าเหมือนไข่ควายนั่น ทั้งไอ้ชายที่ได้เจอแมวดื้อก่อนเขา ทั้งใครก็ตามที่มาใกล้แมวดื้อตรงหน้า
หวงจนจะบ้าไปหมด คู่แห่งโชคชะตานี่มันส่งผลอะไรได้ขนาดนี้เลยงั้นหรอ

“อย่ามาบีบแก้มนะ!!!”
“ไปกินกุ้ง”
“... กินกุ้งๆ ” ปากเล็กที่กำลังจะโวยวายอ้าค้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเมื่อมีชื่ออาหารแสนโปรดของตัวเอง แต่เพียงแค่ตวัดขาลงเหยียบพื้น ความเจ็บจี๊ดก็แล่นแปร๊บขึ้นมาจนหน้าเบ้
“เดินไม่ได้เลยหรอ”
“กะ ก็ได้นะ แต่ลงบันไดไม่ไหวหรอก”
“จะให้อุ้มไหมหรือจะให้พยุง” ภาสเอ่ยถามแม้ความจริงทุกอย่างจะง่ายมากถ้าเขาแค่อุ้มคนตรงหน้าลงไปชั้นล่าง แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าถ้าอุ้มจะไปโดนจุดที่ปวดด้วยหรือเปล่า
“พะ พยุง ไม่อุ้ม”
“อืม” ภาสรับคำก่อนจะเหยียดตัวขึ้นยืน

เขาโอบร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนส่วนมือเล็กก็ตวัดขึ้นจิกหลังเสื้อเขาเพื่อพยุงตัวเอง พอเห็นว่าแมวดื้อพยายามทำเก่งแม้จะเจ็บจนน้ำตาคลอ ภาสก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะออกแรงพยุงจนร่างเล็กแทบลอย มันก็เป็นการอุ้มกลายๆ ที่ดูทุลักทุเลกว่าการอุ้มปกติไปเยอะ

แต่อย่างว่า...
อย่างแมวดื้อน่ะ ไม่ยอมให้เขาอุ้มง่ายๆ หรอก
จนถึงตอนนี้ก็ยังโวยวายนู่นนี่กลบความอายที่ตัวเองฮีทอยู่เลย แต่เขาก็จะทำเป็นไม่รู้ให้ก็ได้หรอก เห็นแก่แก้มที่แดงจนแทบจะระเบิดนั่นแล้วกัน


พอลงมาถึงห้องครัว แมวดื้อก็ได้แต่นั่งเบ่งอกเหมือนเก่งแต่น้ำตาคลอ ขาเล็กสั่นพั่บๆ ด้วยความเจ็บแต่ก็ฮึบไว้
... คงกล้ามเนื้ออักเสบ
ใช้กล้ามเนื้อติดกันเป็นเวลาขนาดนั้นก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกที่จะปวดเอวปวดขา ภาสเดินไปหยิบกุ้งใส่ไมโครเวฟแล้วก็เอากลับมาวางให้ที่โต๊ะ

เขาเดินกลับเข้าห้องครัวไปหยิบถุงมาเผื่อเป็นขยะแล้วก็หยิบน้ำส้มติดมือมาด้วย พอกลับมาที่โต๊ะ แมวดื้อที่หงอยเพราะความปวดกล้ามเนื้อก็กลายร่างเป็นแมวโหย มือเล็กแกะกุ้งด้วยความเร็วสูง ปากเล็กขยับเคี้ยวจนแก้มยุ้ย

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว ไม่แปลกใจหรอกที่เจ้าแมวจะหิวขนาดนี้เพราะไม่ได้กินอะไรเกือบจะทั้งวัน เขาปลุกแมวดื้อขึ้นมาดื่มน้ำเต้าหู้ตอนประมาณบ่ายสาม ซึ่งเจ้าแมวก็ลุกมาแบบสลึมสลือ พอดื่มเสร็จก็น้วยกลับไปนอนต่อ

“ค่อยๆ กิน” ภาสเดินมาวางน้ำส้มไว้ข้างตัวแมวดื้อ แต่หน้าดื้อนั่นก็หันมาอ้าปากใส่
“หยิบแก้วให้หน่อยดิ มือนี่เปื้อน”
“ตะนิด”
“...”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น ใช้คำให้มันดีๆ” ภาสเอ่ยเสียงดุ
“หยะ หยิบแก้วให้หน่อยครับ มือ... มือเปื้อน”
“...”
“มือนิดเปื้อน” งึมงำในลำคอด้วยความกระดากปาก
พอเห็นว่าเจ้าแมวยอมทำตามที่ดุภาสก็ยกแก้วน้ำส้มขึ้นแตะริมฝีปากเล็กให้ตามคำขอ แมวดื้อขยุบขยิบปากจิบน้ำส้มไปสองสามอึกก็ผละปากออกมากินกุ้งต่อ ภาสปล่อยให้แมวกินกุ้งต่อก่่อนจะเดินเข้าครัวไปหยิบข้าวออกมาอุ่นด้วยความกลัวว่าเจ้าแมวจะไม่อิ่ม ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด เจ้าแมวอ้วนรับข้าวไปกินกับกุ้งด้วยความเอ็นจอยอีตติ้งขั้นสูงสุด เคี้ยวหงับๆ จนแก้มอูม

หมดข้าวไปอีกสองถ้วยถึงจะอิ่ม
ตะนิดขยับตัวนั่งผึ่งพุงกลมที่ดันชุดนอนพร้อมกับเรอเอิ้อออกมาดังลั่นห้อง

“อิ่มจังงงง” ตะนิดตบพุงกลมตัวเองแปะๆ ถ้ากินอีกคำเขาว่าเขาน่าจะอ้วกแน่ๆ อิ่มจนเดินไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นเองที่มนุษย์แว่นหน้าดุเดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ตะนิด”
“...”
“เวลาเราฮีทเนี่ย จำได้ทุกอย่างเลยใช่ไหม”
“ห๊ะ!! ถามอะไรอ่ะ ไม่ตอบ บอกแล้วให้ไปคุยในชั้นศาล” ศาลเจ้า!!! ช่วยด้วย!!! เดี๋ยวเขาจะเอาน้ำแดงไปถวายเลย!!!
“ลี่ทำอะไรไว้บ้าง”
“ไม่ตอบ ขอเรียกทนาย”
“ทนาย?”
“เบิกตัวทนายคณิตได้ไหม”
“ตะนิด ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ลี่ทำอะไรไว้บ้าง”
“มะ ไม่ตอบ”
“ถ้าจำได้ก็น่าจะรู้ว่ามันไม่มีอะไรให้อายแล้ว” ภาสขยับแว่นพร้อมกับส่งสายตาดุ ตะนิดเม้มปากอย่างผู้แพ้ เขาไม่อยากจะพูดถึงเลยแท้ๆ

ครืด ครืด
ยังไม่ทันจะได้ตอบคำถามอะไร เสียงมือถือที่วางอยู่ในครัวของภาสก็ดังขึ้น ภาสจึงต้องผละตัวออกจากโต๊ะกินข้าวไปรับสาย ตะนิดมองแผ่นหลังใหญ่ที่เดินออกไปก่อนจะยกมือขึ้นพนม

สาธุ!!! ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เลยคุณเทพในห้อง!!!
พรุ่งนี้เดี๋ยวจะเอาน้ำแดงไปถวายแน่นอน!!!
 
ภาสหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นวินเซนต์ที่โทรเข้ามา ซึ่งดีมาก เขามีหลายอย่างที่จะต้องเคลียร์ด้วยเยอะเลย

“ฮัล-”
[ภาส แมวมึงนี่กูตีได้ไหม] ยังไม่ทันได้รับสายดี วินเซนต์ก็ยิ่งคำถามดักมาก่อนด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ เท่านั้นภาสก็รับรู้ได้ทันทีว่าฝั่งนั้นเองก็คงเพิ่งจะรู้เรื่องเหมือนกัน
“ไม่ได้”
[แม่งเอ๊ย]
“แต่เดี๋ยวกูตีให้”
[...]
“แล้วลี่ล่ะ กูตีได้ไหม” ภาสยิงคำถามกลับ ตาคมใต้กรอบแว่นตวัดขึ้นมองเจ้าแมวดื้อที่นั่งจ้องเขาตาแป๋วด้วยความสงสัยว่าคุยโทรศัพท์กับใคร
[กูตีไปหลายทีแล้วรายนั้น แต่ไม่เกี่ยวกับลี่นะ เท่าที่ฟังมา แมวมึงนั่นแหละเริ่ม ทั้งจูบก่อน ทั้งขย่มก่อน ดูแลแมวมึงให้ดีหน่อยแล้วกัน ปล่อยให้เป็นแบบนี้ระวังจะแย่] เสียงวินเซนต์ติดทั้งเหนื่อยใจและขุ่นมัวเล็กน้อย
“อืม”
[กูหมายถึงมึงนะที่จะแย่ เห็นหวงๆ อยู่ นี่ถ้าน้องไปฮีทใส่ไอ้ชาย คง-]

ตี๊ด
ภาสตัดสายทิ้งด้วยความไม่อยากจะฟังคำพูดกวนอารมณ์ต่อ เขาเดินกลับเข้าไปใกล้ตะนิดก่อนจะยกนิ้วขึ้นดีดเหม่งใสนั่นไปหนึ่งป้าป

“โอ๊ยย อะไรเนี่ย มาดีดหัวทำไมมมมม เจ็บนะ!!!”
“ดื้อ”

อะไรของลุงเขา!!!!
ตะนิดกุมเหม่งตัวเองด้วยความไม่เข้าใจอารมณ์คนแก่(กว่า) มาดีดเหม่งเขาอย่างรุนแรงแล้วก็หยิบโทรศัพท์เดินไปคุยที่ระเบียง ตะนิดกันกลับมาเกาะโต๊ะด้วยความจุ๊ดจิ๊ดในใจ

เขาฮีท...
แต่ยังปลอดภัยดี...

น่าแปลกใจ เป็นคนย้ำเองแท้ๆ ไม่ใช่หรอว่าความสัมพันธ์เราตอนนี้ก็แค่เรื่องอย่างว่า ตามแบบ sia lok jit and handsome tanid with benefit ไม่ใช่ว่าไม่เตรียมใจหรอกก็แอบคิดอยู่เหมือนดันว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ปกติเวลาฮีทเขามักจะควบคุมร่างกายและสติตัวเองไม่ได้เหมือนร่างกายไม่ใช่ของตัวเองไปชั่วขณะ ถ้าอะไรมันจะเลยเถิดก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก

... แต่ก็ไม่คิดว่าลุงโรคจิตนั่นจะไม่ทำอะไรเลย
ก็แอบรู้สึกประทับใจนิดหนึ่งมั้ง นิดเดียว เท่านิ้วชี้กับนิ้วโป้งแตะกัน นิดเดียว!

“ตะนิด” เขาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก เสี่ยโรคจิตที่ตอนนี้เขาแอบบวกดาวประทับใจให้หนึ่งดวงเดินหน้าดุมานั่งฝั่งตรงข้าม
“อื้อ”
“ปกติเธอชอบทำอะไรตอนว่างๆ ” พอได้รับคำถามมาตะนิดก็เอียงคอนึกเล็กน้อย
“อืมมมมม... อยู่บ้านถ้าไม่เล่นเกมกับคณิตก็คงดูหนังอะไรไปเรื่อยมั้ง...ครับ” กระดากปากเล็กน้อยแต่ก็ลงท้ายคำไว้ก่อน กลัวโดนดุ แล้วสายตาคนเราอะไรมันจะดูดุได้ขนาดนั้นอ่ะ ตอนเด็กๆ ลุงเขามีเพื่อนคบไหมนะ ตะนิดได้แต่บ่นงุบงิบในใจ
“เกมอะไร”
“พวกโมบ้า”
“ใครบ้านะ?” ภาสขมวดคิ้วงง
“...”
“หรือเธอหมายถึงโมบายล์โฟน? เกมมือถือ? ”

สิ้นหวังแล้วป่ะ
ตะนิดขำแห้งในใจ แต่ก็แอบใกล้เคียง เขาก็เล่นในมือถือจริงๆ ถ้าอธิบายว่าตีป้อม ลุงตรงหน้าต้องคิดภาพเขาเล่นเกมนุ่งผ้าพันๆ ไปตีป้อมปราบศัตรูพ่ายแปะๆ แหง

“ก็ ประมาณนั้นแหละ...ครับ”
“จอเล็กขนาดนี้เล่นเกมจ้องเยอะๆ มันจะสายตาเสียเอาได้นะ”
“...” คนที่ไม่เล่นแต่ยังใส่แว่นนี่บ่นคนอื่นได้หรอ ตะนิดแอบบ่นคนตรงหน้าในใจ
“มีอย่างอื่นไหม”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เหงาไม่ใช่หรอ”
“...”
“เผื่ออยากหาอะไรทำ”

ตะนิดแอบรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเล็กน้อยกับการเอาใจใส่จากคนตรงหน้า แต่ที่เขาบอกแม่ว่าเหงาน่ะ เพราะเขาเป็นเด็กติดพี่ต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานอดิเรกหรือเกมเลย เขาโตมากับคณิตแบบที่ตัวติดกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง เล่นเกมเดียวกัน ดูหนังเรื่องเดียวกัน ใส่เสื้อผ้าสไตล์ใกล้เคียงกัน

ชีวิตเด็กแฝดอย่างผมมีเพื่อนติดตัวมาตั้งแต่เกิด พอต้องห่างกันมันเลยเหงาเป็นพิเศษ 
เหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตมันเป็นหลุมๆ เนี่ย แค่คิดก็โหวงแล้ว อยากกอดคณิต

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทเดียวกันกับคณิต ไม่เหงาแล้ว” ถึงจะขี้เกียจเริ่มชีวิตทำงานมากแค่ไหน แต่เขาเป็นนิสิตที่เพิ่งจบปีสี่มาหมาดๆ เตรียมรอรับปริญญา การเริ่มต้นชีวิตการทำงานเลยเป็นเหมือนขั้นบันไดที่บังคับให้ขึ้นกลายๆ
“ทำเกี่ยวกับอะไร”
“นิดยื่นทำกราฟฟิคไปนะแต่คณิตยื่นเกี่ยวกับเขียนโค้ดมั้ง ไม่แน่ใจว่ามันจะยื่นกราฟฟิคเหมือนกันไหม คณิตเก่งอ่ะ มันน่าจะได้อยู่แล้ว แต่นิดอ่ะลุ้นๆ อยู่ พอทำได้แต่ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น”
“ของบริษัทอะไร”
“ครับ?” ตะนิดอุทานเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังโดนสัมภาษณ์งาน พอเขาตอบชื่อบริษัทไป คนตรงหน้าก็พนักหน้าเบาๆ
“แล้วงานเข้าทุกวันเลยไหม รายละเอียดยังไง” งงไปอีกรอบ แต่ตะนิดก็ตอบคำถามทุกคำถามที่อีกฝ่ายสงสัยเท่าที่ตัวเองรู้รายละเอียดมา

ภาสทำเพียงนั่งฟังเงียบๆ แล้วก็พยักหน้า เขาคิดว่าเจ้าแมวตรงหน้ายังเรียนมหาลัยอยู่จากการเห็นชุดนิสิตแขวนอยู่บนห้องนอน แต่ก็เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าตัวเรียนจบปีสี่แล้วเพียงแต่ยังไม่ได้รับปริญญา

ใต้หน้ากากนิ่งๆ ของอัลฟ่าหนุ่มแท้จริงแล้วเขาแอบเป็นห่วงคนตรงหน้าอยู่พอสมควร
แต่พอรู้ว่ามีแฝดพี่ห้อยตามไปเป็นวิญญาณอาฆาตก็วางใจได้เปราะหนึ่ง
อีกส่วนที่โล่งใจก็อาจจะเพราะว่าเป็นบริษัทเครือลูกของชาย อาจจะแวะไปสอดส่องหรือฝากคนรู้จักช่วยดูแลอีกแรงได้ แต่เขาคงติดต่อไปหลังรู้ว่าเจ้าแมวดื้อได้งานแล้ว ถ้าติดต่อไปก่อนก็กลัวว่าเขาอาจจะได้หมัดแมวย้อนหลังข้อหาไปยุ่งวุ่นวายใช้เส้นให้

ถามว่าใช้เส้นสายให้ได้ไหม เขาตอบเลยว่าได้และง่ายมาก
แต่เจ้าดื้อตรงหน้าคงจะภูมิใจกว่าถ้าได้ทำอะไรด้วยตัวเอง

“พี่ภาสล่ะ”
“หืม?”
“ก็ ก็ เราไม่รู้จักกันใช่ไหมอ่ะ ก็ อยากจะบอกอะไรไหมงี้ แบบ.. เอ่อ คือ นิดอ่ะ เอ้ย ผมอ่ะ อะไรดีน้า ผมชอบกินหมูกระทะมากกว่าชาบู พี่ภาสอ่ะ”
“ฉันชอบกลิ่นพีช”

ไม่ได้ไหม!!!
ตะนิดโวยวายลั่นในใจ ตากลมเลิ่กลั่กไปไม่ถูก เขาอุตส่าห์พูดเรื่องหมูกระทะไปนะ มันกลับมาพีชได้ยังไง!!

 ส่วนอัลฟ่าหนุ่มที่นั่งมองอยู่กลับหัวเราะในลำคอ เขาไม่ได้ตั้งใจจะหยอกล้อออกไปหรอก แต่พอถูกถามกลับมาก็เลยตอบออกไปแบบไม่ทันคิด

เพราะตอนนี้เขาเริ่มถูกใจกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชขึ้นมาแล้ว
หอมบริสุทธิ์แต่ก็มีความสดใสอมเปรี้ยว

“หะ หะ หาวววว หาวแล้ว หาวเลยเนี่ย หาวจริงๆ ง่วง พี่ภาส ง่วงแล้ว พาไปห้องหน่อย แปรงฟันนอนดีกว่า” เจ้าแมวดื้อเปลี่ยนเรื่องทันที พิรุธเยอะทั้งน้ำเสียงแล้วก็แต้มสีแดงจางๆ บนแก้ม เขาไม่ได้หยอกล้ออะไรออกไปเพียงแต่ขยับตัวไปช่วยพยุงเจ้าแมวดื้อ

“ซี้ด เจ็บ...” ภาสมองหน้าแมวดื้อที่ขมวดคิ้วมุ่ย ขาเล็กสั่นด้วยความปวดกล้ามเนื้อ เจ้าแมวแทบจะทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงมาที่เขา สุดท้ายก็ทนเห็นหน้าเจ็บปวดนั่นไม่ไหว เขาตัดสินใจย่อตัวลงจับแมวน้อยอุ้มขึ้นในท่าเหมือนอุ้มเจ้าสาว

ตามคาดว่าเจ้าแมวตะปบป้าปเข้าให้ที่หน้าเข้าด้วยใบหน้าตื่นๆ
ดีนะที่คาดเอาไว้แล้ว ถึงได้กะแรงกระชับที่ข้อพับขานั่นให้มั่นว่าจะไม่ทำตก

“อุ้มมันไวกว่า”
“พี่ภาส!!!”
“หยุดนะตะนิด” ภาสขมวดคิ้วดุเมื่อเห็นว่าแมวง้างมือขึ้นกลางอากาศ “เธอรู้ใช่ไหมว่าแรงตบเธอมันเยอะ”
“...” ตะนิดเม้มปากแน่น เขารู้อยู่แล้ว เพราะคณิตบ่นบ่อยมากกว่าเขาชอบตีคณิตแรง
ภาสปรายตามองแมวในอ้อมกอดที่หน้าแดงไปยันหูด้วยความเอ็นดูก่อนจะพาเดินขึ้นไปบนห้องนอน เขาตัดสินใจพาตะนิดเข้าไปในห้องของเขาเอง พอวางลงบนเตียงเจ้าแมวก็ทำการพยายามลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ภาสไม่ได้เข้าไปห้ามอะไร เพียงแต่เดินประกบไว้ใกล้ๆ กลัวว่าจะล้มแล้วปวดมากกว่าเดิม
แมวดื้อพอเดินได้แต่จะกะเผลกแล้วก็ช้ากว่าปกติ พอปวดมากๆ ก็จะหยุดเดิน หน้าดื้อนั่นยับยู่ยี่กว่าเดิมด้วยความไม่สบายตัว ภาสแอบดีใจเล็กน้อยที่เจ้าแมวไม่ได้สังเกตว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในชุดนอนชุดเดิมกับเมื่อวาน

ไม่งั้นเขาอาจจะได้เจอหมัดแมวหวดแว่นแตกก็เป็นได้
ไม่ได้ตั้งใจจะฉวยโอกาสหรอกนะ แต่มันเลอะเทอะมากจนเขากลัวอีกคนไม่สบายตัวเลยช่วยเช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ผิวแมวดื้อขาวสมกับกลิ่นแป้งของเจ้าตัว แน่นอนว่าเขาทำทุกอย่างให้เสร็จภายในสิบนาที ด้วยความกลัวว่าเจ้าแมวจะตื่นมาแล้วเข้าใจผิด

ระหว่างที่พิงกรอบประตูห้องน้ำมองแมวดื้อแปรงฟัน เขาก็สังเกตว่าปลอกคอที่คอขาวนั่นยับเยินเกือบขาด รสชาตหนังยามที่เขาขบเขี้ยวเคี้ยวนั่นยังติดอยู่ในความทรงจำ

“ตะนิด”
“อื๋อ?” ปากเล็กที่ถูกแปรงสีฟันสีชมพูและฟองขาวอุดส่งเสียงรับคำ
“ปกติพกปลอกคอสำรองไหม” พอเขาพูดถึง แมวดื้อก็หันกลับไปส่องกระจก ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพปลอกคอตัวเอง
“อื๋อ!!!” แมวดื้อส่งเสียงอุทานก่อนจะรีบแปรงฟันตัวเองด้วยความเร็วสูง ปากเล็กบ้วนน้ำแล้วหันมาหาเขาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “เห้ย นี่นิดฮีทถึงขั้นกัดปลอกคอตัวเองเลยหรอ!!!”

มันจะไปกัดถึงได้อย่างไรกัน...
กายกรรมคออ่อนหรือไง?
ภาสถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนกับความคิดเจ้าแมวดื้อ ถ้าเป็นแฝดพี่ชายปากร้ายนั่นป่านนี้คงด่ากลับยับไปแล้ว

“ฉันกัดเอง”
“เห้ยยยยยยย หมาแล้วมั้งแบบนี้ เกือบขาดเลย” ภาสขมวดคิ้วอีกรอบเมื่อโดนทักเป็นหมา แต่พอคิดว่าเขาก็ทำพฤติกรรมเหมือนหมาจริงๆ เลยไม่ได้ดุอะไรออกไป
“ฉันสั่งปลอกคอมาให้ใหม่แล้ว แต่จะมาถึงพรุ่งนี้เย็นๆ ก่อนหน้านั้นจะออกไปไหนต้องหาอันใหม่มาใส่ก่อนนะ”
“คณิตน่าจะใส่มาให้ด้วย อยู่ในกระเป๋าข้างเตียง ช่องด้านหน้า” ภาสพยักหน้ารับก่อนจะผละตัวออกไปที่ห้องนอนฝั่งตรงข้าม กระเป๋าน้อยใบสีชมพูนั่นถ้าพูดให้ถูกก็คงคล้ายกระเป๋าโดราเอม่อนที่มีทุกอย่างที่ตะนิดต้องใช้หรืออาจจะใชช้ในอนาคต ผ่านการคาดการณ์มาอย่างรอบคอบ

ก็นะ
บราค่อนเต็มสตรีมจริงๆ

ภาสล่วงมือเข้าไปในช่องซิปขนาดเล็กนั่นเพื่อหยิบปลอกคอขึ้นมาก่อนจะพบว่าปลอกคอสำรองอันในมือมีลายที่เขาค่อนข้างจะมั่นใจว่าคนเลือกคงตั้งใจให้เขาเห็นถ้าเกิดจำเป็นต้องใช้อันสำรองนี่

ปลอกคอหนังคุณภาพดีที่มีผ้าสีดำคาดคาดทับตามฉบับปลอกคอแฟชั่นสมัยนี้ ซึ่งบนผ้าก็มีลายสกรีนสีขาวตัวใหญ่เห็นชัดเจนเขียนไว้ว่า...

FUCK YOU STUPID ALPHA FUCK YOU!!! FUCK YOU!!!

และคนเลือกลายคงไม่ใช่เจ้าแมวดื้อหรอก
ให้ตายเถอะ แค่คิดภาพว่าเจ้าแฝดพี่นั่นรู้เรื่องเมื่อวานก็รู้สึกปวดหูนำไว้ก่อนแล้ว เหมือนลายสกรีนบนปลอกคอมีเสียงดังออกมา เขาใส่หัวไล่เสียงในจินตนาการก่อนจะถือปลอกคอเดินกลับห้องตัวเอง พอเปิดประตูห้องกลับเข้ามา เจ้าก้อนดื้อก็กรนคร่อกน้ำลายยืดเต็มหมอนไปแล้วเรียบร้อย

หลับได้หลับดี

เขาส่ายหัวให้กับท่านอนที่แข้งขาเตะไปคนละทาง มือเล็กกอดคุณนุ่มเบอร์ห้าที่ตัวนิ่มเพราะถูกเท้าเขานวดให้ไปหลายยกแน่น ข้างๆ เตียงมีปลอดคอหนังสภาพเยินตกอยู่ เจ้าแมวดื้อคงรำคาญที่โดนหนังบาดคอเลยดึงออกทิ้ง

ภาสค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง มือใหญ่ค่อยๆ สวมปลอกคอชิ้นเล็กให้กับลำคอขาวด้วยความเบามือ โดยปกติของปลอกคอสมัยนี้จะต้องใช้รหัสตั้งในการใส่และถอดออก เขาตัดสินใจใส่เลขหนึ่งถึงสี่ไปเผื่อให้เจ้าตัวมาตั้งใหม่ก่อนจะผละออกมามองหน้าดื้อที่ดูดื้อน้อยลงเยอะเมื่อเจ้าตัวไม่ขยับปากพูด

ไม่อยากยอมรับแต่ก็คงต้องยอมรับ

ใจเขาเต้นแรงกับเจ้าแมวตรงหน้าเข้าแล้ว
 

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 23-05-2020 19:50:50
:เรื่องนี้มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 23-05-2020 20:09:18
ยัยน้องตะนิดทำไมน่ารักขนาดนี้ อยากจับยัยหนูมาจุ๊บแก้ม ขำที่บอกว่าฮีทจนกัดปอกคอ5555 คนอะไรน่ารักขนาดนี้ อยากอ่านตอนคณิตมีแฟนจังจะหวงแฟนเท่าหวงน้องไหม สนุกมากๆเลยค่ะ ตอนอ่านในหัวมีแต่คำว่าน่ารัก น่ารักมากๆ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 23-05-2020 20:19:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-05-2020 21:50:32
ดื้อก็เก่ง...เขินก็เก่ง เอ็นดูตะนิด    :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-05-2020 22:27:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 23-05-2020 23:22:44
ดื้อเก่ง แต่ก็น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 24-05-2020 15:00:35
โอ้ยย ยัยน้องง ทำไมหนูน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้รู้กกก ใจน้วยแล้วน้วยอีก อยากจับยัยน้องมาบีบแก้ม ดื้อเก่ง เถียงเก่ง น่ารักกกเก่ง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 9 : ชอบพีช [23/05/20] p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Spoypopoy ที่ 24-05-2020 15:37:26
น่ารักอะไรขนาดนี้ หมู่มวลแห่งความน่ารัก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 29-05-2020 21:23:29

ก็จะดื้อ10

เช้าอันแสนสดใสมาถึง ตะนิดที่ออกมานั่งรับลมตรงระเบียงห้องได้แต่ปล่อยให้ผมพัดปอยผมปลิว ดวงตากลมทอดมองวิวเมืองด้วยความสบายใจ เขามาอยู่ห้องของเสี่ยโรคจิตได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว และทุกวันก็ห่างไกลจากคำว่าลำบากไปมาก ถึงจะดุไปนิดหน่อยแต่ก็ต้องยอมรับว่าเสี่ยนี่ตามใจเขามาก เผลอๆ อาจจะมากกว่าคณิตเสียอีก


มันควรจะอึดอัดไม่อยากอยู่ไม่ใช่หรือไง
แต่นี่แค่หนึ่งอาทิตย์ก็รู้สึกติดห้องติดกลิ่นลาเวนเดอร์นี่จนไม่อยากออกไปไหนเลย


“ตะนิด” เสียงทุ้มเรียกมาจากในห้อง เจ้าแมวตัวกลมที่กำลังนั่งตากลมเลยตวัดหน้ากลับไปมอง
“หืม”
“วันนี้มีสัมภาษณ์งานนี่”
“รู้ได้ไงอ่ะ”
“มีคนมาเสียงดังอยู่หน้าประตู”


ห๊ะ?
ตะนิดขมวดคิ้วก่อนจะกระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งเข้าห้องนอนไป เพียงแค่นั่นเสียงจากมอนิเตอร์ข้างเตียงก็ดังเข้าหู


“ตะนิด!!! กดเปิดประตูดิ๊!!!”
“คณิตตตตตตตต”


อ๋อ คณิตนี่เอง!!!

พอเห็นว่าเป็นแฝดพี่ตัวเอง แมวน้อยก็รีบวิ่งตึ้กตั้กลงไปชั้นล่างเพื่อเปิดประตูให้ทันที ภาสมองภาพนั้นพร้อมกับส่ายหัวรัวๆ

...เหมือนเวลาสัตว์เลี้ยงรอเจ้าของกลับบ้านเลย

เขาเดินไปปลดล็อคประตูผ่านมอนิเตอร์ก่อนจะเดินตามแมวดื้อลงไป ดูจากแขกวันแรกของวันี้แล้ว ดูท่าทางเช้าวันนี้คงเริ่มต้นด้วยความเสียงดังของหมาแมวกัดกันอย่างแน่นอน



“เร็วอ้วน ไปเปลี่ยนชุด”
“คณิตอุ่นแพนเค้กให้หน่อย”
“อย่ากังวลแต่เรื่องแดกได้ไหม ไปเปลี่ยนชุด” คณิตขึ้นเสียงข่มเจ้าแฝดน้องที่สนแต่เรื่องกิน เขาอุตส่าห์ขนสูทที่จะใส่ไปสัมภาษณ์งานวันนี้มาให้จากบ้านแท้ๆ
“คณิต ถ้าแย่งแพนเค้ก กูแช่งนะ”
“เออ ไปเปลี่ยนชุด”
“ทำไมต้องใส่สูทอ่ะ ใส่แต่เชิ้ตไม่ได้เหรอ กูสัมกราฟฟิคนะคณิต”
“เวลามึงใส่แต่เชิ้ตตัวมึงหดเหลือแค่ป้องนิ้วก้อย ใส่สูทนั่นแหละดีแล้ว”
“แต่...”
“ไป – เปลี่ยน - ชุด”
“ดุ – เหมือน - หมา” ตะนิดพองแก้มก่อนจะหันหลังวิ่งเข้าห้องน้ำชั้นล่างเพื่อเปลี่ยนชุด

ภาสเองที่อาบน้ำแต่งตัวพร้อมไปทำงานอยู่แล้วเดินเข้าไปชงกาแฟให้ครับก่อนจะเดินออกมายืนมองเจ้าอัลฟ่าแฝดพี่ที่วันนี้ดูแปลกตาไปจากวันอื่น อาจจะเพราะใส่ชุดดูเป็นทางการยิ่งขับออร่าความเป็นอัลฟ่าออกมาเด่นชัดกว่าเดิม


และนั่นทำให้เหม็นกว่าเดิมอีก
เหม็นอัลฟ่าเป็นบ้า


“มองไร”
“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไร แต่แค่คิดเฉยๆ


หน้าก็เหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก แต่มันมีกลิ่นกวนประสาทเหม็นออกมาจากไอ้ร่างตรงหน้าอย่างชัดเจน เหมือนเป็นตะนิดในเวอร์ชั่นที่เขาคงอยากเตะทุกวันมากกว่าอยากหยิกแก้มนิ่มๆ นั่น


“คณิต นี่โอเคไหม” เสียงตะนิดที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ภาสต้องหันตัวกลับไปมอง

ตะนิดอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยสูทสีน้ำเงินค่อนข้างพอดีตัว พอกลัดกระดุมตรงเอวทั้งสองเม็ดเลยยิ่งเน้นเอวคอดเล็กๆ นั่นให้ชัดเจนมากขึ้น


น่ารักดี...


ปกติจะเห็นแค่ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ ไม่ก็เสื้อนอนสีอ่อนๆ พอมาอยู่ในชุดสูททางการกลับออกมาดูน่ารักไปอีกแบบ แต่พอมองเห็นเอวคอดเล็กๆ นั่นก็อด รู้สึกหวงขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ตัวเล็กจริงๆ ยิ่งใส่สูทรัดรูปยิ่งเห็นชัด


“มึงแดกไรบ้างป่ะเนี่ย ตัวเล็กกว่าเดิมป่ะ” แฝดพี่ขมวดคิ้วเดินเข้าไปลูบเอวเล็กๆ ของแฝดน้องตัวเอง
“อ้วนขึ้นนะ เอวคับ นี่ไม่ได้ติดกระดุม” ตะนิดเริกสูทตัวเองขึ้น เปิดโชว์ว่าพุงล้นจนติดกระดุมกางเกงไม่ได้ คณิตเห็นแล้วก็เอื้อมมือไปหยิกพุงยุ้ยนั่นเข้าเต็มแรง แน่นอนว่าเจ้าแมวดื้อร้องจ๊ากลั่นห้อง
“ไอ้อ้วน”
“เจ็บ!! อย่ามาหยิกพุงดิวะ”
“ก็มึงอ้วน ไอ้อ้วน”
“คณิต บูลลี่เหรอ นิสัยไม่ดีนะ ไอ้หน้าไข่ควาย”
“หน้ากูกับหน้ามึงมันต่างกันมากมั้ง ไข่ควายมีสองใบป่ะ ก็แบ่งกันเหมือน”
“อี๋ กูไม่ไข่ควายนะ!! ขอเป็นไข่แมวได้ไหม มีขนนุ่มๆ”


ประเด็นคือทำไมต้องวนอยู่ไข่สัตว์...
ภาสได้แต่สงสัยอยู่ในใจ

“รีบแดกรีบไป วันนี้กูเอารถมา” อัลฟ่าหนุ่มเลื่อนจานแพนเค้กมาให้แฝดน้องที่กำลังตีกับเนคไทด์บนคอตัวเอง คณิตจิ๊ปากขัดใจ เตรียมจะเข้าไปช่วยผูกให้เหมือนปกติแต่ก็ไม่ทันอีกคนที่แอบมองมานานกว่า


ภาสวางกาแฟลงบนโต๊ะก่อนจะก้าวไปช่วยเจ้าแมวดื้อผูกเนคไทด์ ซึ่งพอเขาเดินเข้าไปจับเนคไทด์นั่นเจ้าตัวก็ยื่นคอให้ผูกแต่โดยดี ดวงตากลมโตเงยขึ้นสบตาเขาเหมือนต้องการจะออกคำสั่งให้รีบผูกจะได้รีบไปกินแพนเค้ก ปกติภาสใช้เวลาในการผูกเนคไทด์ไม่ถึงนาทีแต่พอได้มองหน้าดื้อๆ นี่ไปด้วยมันเลยนานกว่าปกติ  พอเขาผูกเสร็จเจ้าแมวก็ดีดตัวเองไปกินแพนเค้กทันที 


“ตะนิด ทำไมใส่ปลอกคอนี้” เสียงคำถามดังขึ้นพร้อมกับมือที่กระตุกปลอกคอแฝดน้องยิกๆ
“ทำไมอ่ะ”
“ปลอกคอสำรองนี่มันไม่ควรใส่ออกนอกบ้านนะ มันหลุดง่าย” คณิตขมวดคิ้วมุ่น
“อ้าว”
“แล้วอันที่ปกติใส่อยู่ไหน”
“เอ่อ...”
“...”
“...”


ความเงียบกินทันทีเมื่อคณิตเอ่ยคำถามออกมา เจ้าแมวดื้อทำเป็นเมินคำถามเคี้ยวแพนเค้กตุ้ยๆ พอเงยหน้าขึ้นมองอัลฟ่ารุ่นลุงนั่นอีกฝ่ายก็จิบกาแฟเสตามองไปทางอื่นแบบมีพิรุธ แต่นั่นก็เหมือนเป็นการตอบคำถามกลายๆ


คณิตขบเขี้ยวในใจพร้อมกับสูดลมหายใจเรียกสติไม่ให้ตัวเองเผลอปล่อยฟีโรโมนข่มขู่ออกไป แม้ในใจตอนนี้เขาอยากจะกระโดดไปตั๊นหน้าไอ้อัลฟ่าลุงนี้มากแค่ไหนก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นแฝดน้องที่ตัวติดกันมาทั้งชีวิตก็ดูออกว่าพี่ชายตัวเองกำลังไม่พอใจอย่างมากจึงตัดสินใจหั่นแพนเค้กเป็นชิ้นเล็กๆ ชุบไซรัปหวานเต็มชิ้น ยื่นขึ้นไป


“คณิต อ้าม”
“...”
“กินอะไรหวานๆ นะ จะได้อารมณ์ดี อ้ามมมม” คณิตลอบถอนหายใจ เขาไม่ได้ชอบกินของหวาน ตะนิดเองก็รู้ดีกว่าใคร แต่ที่ทำคงเพราะอยากจะอ้อนไม่ให้เขาโกรธไปมากกว่านี้มากกว่า เขาอ้าปากงับแพนเค้กนั่นเข้าปากด้วยความหงุดหงิด
“...หวาน”
“คณิต อีกชิ้นๆ”
“ไม่เอาแล้ว”
“นะๆ คณิตตต อ้ามมมม”
“ตะนิด มันหวานปาก”
“อ้อ ไม่รักกูแล้วดิคณิต”
“อะไรวะ เออๆ อ้ำๆ” มามุกนี้ก็แน่นอนว่าเขาก็ต้องจบที่งับแพนเค้กเข้าปากไปอีกชิ้นแบบไร้ข้อโต้เถียง ตะนิดอมยิ้มที่ทำให้แฝดพี่กลับมาอารมณ์ดีขึ้น แต่พอหันไปอีกด้านเจออัลฟ่าสูงวัย(?)มองพร้อมกับขมวดคิ้วเลยเพิ่งนึกออก


อะไรกัน ลุงโรคจิตก็เป็นเด็กขี้อิจฉาเหรอ
เห็นคณิตได้อ้ำหน่อยเป็นอิจฉาขึ้นมาเลยงั้นสิ


“พี่ภาส”
“หืม?”
“อ้ามมมม”

ภาสแทบจะสำลักกาแฟ จริงอยู่ที่เขามองทั้งคู่ด้วยสายตางงๆ ด้วยความที่บ้านเขาไม่เคยมีภาพน้องมาป้อนขนมอะไรแบบนี้เลยตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตีความผิดว่าเขาอยากถูกป้อน


“เอ่อ...” 
“พี่ภาส อ้ามมมมมมมม”
“...”
“อ้ำดิ!!!”


ภาสอ้าปากงับแพนเค้กเข้าปากเมื่อแมวดื้อเริ่มส่งเสียงไม่พอใจ ซึ่งเหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติที่เขาไม่ได้ตั้งตัวจะทำ

... แต่ก็ทำไปแล้ว

ความหวานของไซรัปและกลิ่นหอมแป้งของแพนเค้กคลุ้งอยู่ในปากกลบความขมของกาแฟที่ปลายลิ้นออกไปจนหมด แมวดื้อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ส่งยิ้มพอใจที่เขาทำตามคำสั่ง

“แฮ่มๆ ตะนิดป้อนกูดิ๊ เร็วๆ หิว” แฝดพี่กระแอมลั่นก่อนจะรีบทิ้งตัวลงเก้าอี้ตรงข้ามแฝดน้องพร้อมกับอ้าปากขอแพนเค้ก ตะนิดงงนิดหน่อยแต่ก็รีบหั่นแพนเค้กป้อนพี่
“แย่งทำไมอ่ะ ทีหลังก็ให้แม่ทำมาเยอะๆ สิ”
“เอาอีก ป้อนกูอีก”
“คณิต เดี๋ยวกูไม่อิ่ม”
“ป้อนกูเร็วอ้วน”

ตะนิดพองแก้มไม่พอใจ มือบางหั่นแพนเค้กขนาดเล็กจนส้อมแทบจิ้มไม่ขึ้นป้อนแฝดพี่ด้วยความไม่พอใจ ถ้าเขาไม่อิ่มแล้วไปท้องร้องตอนสัมภาษณ์เขาจะออกมาฟาดแฝดพี่ให้ตัวช้ำเลย   

ในที่สุดแมวดื้อกับแฝดพี่ก็กินข้าวเช้าจนเสร็จก่อนที่จะไปวุ่นวายต่ออีกเล็กน้อยกับการเชคเอกสารกับช่วยเตรียมคำตอบเวลาสัมภาษณ์ให้กันและกัน ภาสไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไร เขาทำเพียงแค่นั่งมองอยู่ห่างๆ มองหน้าแมวดื้อที่ขยับยู่ยี่ มือเล็กๆ นั่นยกขึ้นตีกับแฝดพี่เหมือนแมวตัวเล็กๆ เล่นกับหมาขนาดกลาง


วอแวกันอยู่ครึ่งชั่วโมงถึงจะพร้อมเตรียมตัวออกจากบ้านได้
แมวดื้อเชคการแต่งตัวตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ติดประตูห้องอีกที ภาสเหลือบตามองแมวดื้อที่กัดปากแน่นด้วยความตื่นเต้นก่อนจะเอื้อมมือออกไปโยกหัวฟูนั่นเบาๆ


“อย่าตื่นเต้น เธอทำได้อยู่แล้ว”
“...” ภาสจ้องดวงตากลมที่จ้องขึ้นมา เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ตัว แต่สายตาที่แสดงออกมาตอนนี้ดูอ้อนขอกำลังใจมาก ภาสเลื่อนมือลงมากดเบาๆ ตรงริมฝีปากที่เม้มแน่นให้คลายออกด้วยความกลัวว่าเดี๋ยวจะกัดจนปากแตก
แมวดื้อจ้องตอบคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกอุ่นวาบในใจ ก่อนที่สติจะเข้าร่างรีบอ้าปากงับนิ้วโป้งจนแก่กว่าเข้าไปเต็มเขี้ยว
“อ๊ะ...”
“อย่ามาจิ้มปากชาวบ้านนะ!!!”
“...” กลับมาดื้อแล้วแหะ ภาสถอนหายใจเบาๆ
“ทำได้อยู่แล้วเพราะนี่คือตะนิด ตะนิดแปลว่าเก่งกาจ! ตะนิดไม่ยอมตกเป็น-”
“ทานโทษนะ ชื่อตนิษฐ์แปลว่าเล็ก มึงเอามาจากไหนว่าเก่งกาจ”
“คณิต!!!”
“หนวกหูว่ะ ไปได้แล้ว เลิกอ้อนคนอื่นไปทั่วไอ้อ้วน” คณิตวาดแขนขึ้นล็อคคอแฝดน้องแล้วรีบลากออกจากห้อง ไม่ลืมหันไปแยกเขี้ยวขู่อัลฟ่าลุงไปหนึ่งที ข้อหามายืนนิ่งๆ ให้น้องชายเขาอ้อน
ตะนิดที่ถูกคณิตลากออกมาจากห้องนอนได้แต่มองประตูห้องตาละห้อย พอต้องห่างจากกลิ่นลาเวนเดอร์นั่นแล้วก็รู้สึกใจโหวงๆ แต่สุดท้ายก็สูดหายใจเข้าฮึบ


ตะนิดแปลว่าเก่งกาจ!!!
ต้องทำได้อยู่แล้ว!!!


วันนี้คณิตทำหน้าที่เป็นคนขับรถ แน่นอนว่าตลอดทางก็จะมีแต่เสียงบ่นรัวๆ ปนกับทวนคำถามคำตอบ ซึ่งเขาเองก็ได้แต่นอนพิงกระจกรถจนแก้มเบียดกระจกเป็นก้อนด้วยความเบื่อหน่าย อยู่ห้องก็เบื่อแต่พอออกจากห้องก็ไม่สบายใจ อึดอัดตัวชะมัด ตะนิดคิดพร้อมกับยู่หน้าไปมา

ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีจากคอนโดของเสี่ยโรคจิตมาถึงตึกที่นัดสัมภาษณ์ คณิตบอกผมว่าออฟฟิศตั้งอยู่ชั้นที่สิบห้า พอขึ้นมาถึงชั้นพนักงานต้อนรับก็นำทางผมกับคณิตไปตรงห้องสัมภาษณ์
“อ้อ เดี๋ยวน้องคณิตไปทางแผนกนี้ ส่วนน้องตะนิดรอสัมอยู่ห้องนี้นะคะ ถ้าพี่เขาทานข้าวเสร็จเดี๋ยวคงออกมาเรียก” พี่ที่พาเดินมาส่มยิ้มให้ทั้งสองแฝด เป็นอันเข้าใจว่าจะต้องแยกห้องกันไปสัมภาษณ์


พอต้องแยกกันปุ๊ปก็เริ่มรู้ตัว ตะนิดก็ใจโหวง

ตะนิดจะยังแปลว่าเก่งกาจไหวอยู่ไหมนะ...


มือสั่นไปหมดแล้ว

“ตะนิด ถ้าสัมเสร็จก่อนก็นั่งรอกูนะ”
“คณิต... กู” คณิตสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของแฝดน้องได้อย่างชัดเจนจากใบหน้าไร้ความมั่นใจนั่นบวกกับมือเล็กที่เอื้อมมาจับปลายเสื้อสูทของเขาแน่น คณิตถอนหายใจก่อนจะคว้าร่างของแฝดน้องเข้ามากอดจนจมอก
“ไม่เป็นไร ถ้าไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร กูจะพามึงไปสัมที่อื่นต่อ หรือถ้าอยากทำด้วยกันต่อให้กูได้งานนี้ กูก็ไม่ทำ”
“อื้อ...”
“ไม่ต้องกลัว กูอยู่กับมึงมาทั้งชีวิตไอ้อ้วน”
“คณิตว่ากูอ้วน”
“สู้ๆ แล้วไม่ต้องยิ้มเยอะ กรรมการลวนลามวิ่งออกมาเลย จำได้ใช่ไหม” คณิตจิ้มหน้าผากแฝดน้องจึ้กๆ ตะนิดหายใจเข้าจนสุดปอดก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ คณิตส่งยิ้มเรียกกำลังใจให้น้องตัวเองอีกรอบก่อนจะหันหลังเดินไปตามทางที่พี่พนักงานรออยู่ ตะนิดมองแฝดตัวเองที่เดินไปจนสุดทางเดินตาละห้อยก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่าที่อยู่คอ โอเมก้าตัวน้อยรีบหันขวับพร้อมกับยกมือขึ้นตะปบคอตัวเองตามสัณชาตญาณทันที
“โอ้ เพิ่งสังเกตแฝดเหรอ?” ตะนิดกะพริบตาถี่มองหน้าคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ


ใบหน้าหล่อลูกครึ่งดูเจ้าเล่ห์ ส่วนสูงกะจากสายตาแล้วก็สูงเกือบเท่าเจ้าลุงโรคจิตที่ห้อง กลิ่นอายที่ดูแข็งแกร่งนั่นทำให้โอเมก้าตัวน้อยรู้ได้ทันที

อัลฟ่าเลือดแท้...

“คะ ใครครับ”
“แฝดอัลฟ่ากับโอเมก้า? แปลกดีนะ ไม่เคยเห็น” นอกจากเมินคำถามแล้วอีกฝ่ายยังอมยิ้มกวนประสาทอีก
“ขอตัวนะครับ”
“ขอไปไหนเหรอคะ?”
“...” คะอะไรวะ เป็นผู้ชายแล้วจะลงท้ายคะทำไม ตะนิดขมวดคิ้วงง
“มาสัมภาษณ์กราฟฟิคไม่ใช่เหรอ” อัลฟ่าหนุ่มยกยิ้มแต่ตะนิดกลับรู้สึกไม่ไว้วางใจจนแทบจะวิ่งหนี
“ใช่ครับ”
“ฉันเองหัวหน้าแผนก”
“...”
“จริงๆ ไม่ได้กะมาสัมเหรอกกะให้ไอ้แว่นนั่นสัมคนเดียวก็พอ แต่ตอนนี้คิดว่าอยู่ด้วยก็ดี” อัลฟ่าหนุ่มฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเอื้อมมือหวังจะลูบหัวแมวตรงหน้าแต่ทว่าแมวดื้อก็ถอยหลังหนีเสียก่อน
“อย่านะ” ตะนิดยกแขนขึ้นตั้งการ์ดเล็กๆ ที่อกพร้อมกับส่งสายตาเอาจริงกลับ หารู้ไม่ว่านั่นยิ่งทำให้อัลฟ่าตรงหน้ายิ่งอยากจะแกล้ง


พองหางขู่เสียน่ากลัวเชียว...
เหมือนแมวเป็นบ้า


“เต้อ มึงหยุดแกล้งเด็ก” เสียงเรียกห้ามดังขึ้นพร้อมกับสันแฟ้มที่ฟาดเข้าให้กลางหัวของอัลฟ่าหนุ่ม ตะนิดเบนหน้ามองคนมาใหม่ด้วยสายตาหวาดระแวง
“สันแฟ้มมันเจ็บนะชินจัง” ตะนิดขมวดคิ้วมองคนที่ได้ชื่อว่าชินจัง คนตรงหน้าเป็นผู้ชายร่างสูงบางใส่แว่นภาพรวมดูเป็นคนจริงจังแถมยังดูดุแต่ดันชื่อชินจังเนี่ยนะ ชื่อแบ๊วสุดๆ
“คุณตะนิดใช่ไหม เชิญในห้องได้เลย”
“ตะนิด? ชื่อตะนิดเหรอ? ” ตะนิดเลือกที่จะเมินอัลฟ่ากวนประสาทหันมาไหว้อีกคนที่ดูจะเป็นการเป็นงานมากกว่า
“สวัสดีครับพี่ชินจัง” พอเขาหันไปไหว้ พี่ชินจังก็ชะงักก่อนจะหันมาด้วยหน้าเหนื่อยใจ
“...”
“ก๊ากกกกกกกก เด็กเรียกมึงว่าชินจังว่ะ จี้จัดๆ เลยน้องแมว”


อ้าว...
ไม่ได้ชื่อชินจังเหรอ


“เต้อ...” พี่ชินจังตวัดตาดุคนชื่อเต้อ “เข้าห้องเถอะ จริงๆ พี่ดูพอร์ตที่ส่งมาแล้ว น่าสนใจดีนะ แต่งานไปโทนเดียวกันไปหน่อยแล้วก็มีสองงานที่สะกดภาษาอังกฤษผิด ยังไงวันนี้ลองเทสต์หน่อยแล้วกัน” ผมพยักหน้าหงึกๆ เดินตามพี่ชินจังเข้าห้องกระจกไป ส่วนคนชื่อเต้อก็เดินตามเข้ามาติดๆ
“น้องแมวสู้ๆ น้องแมวสู้ตาย”
“พี่ชินจังจะให้ผมทำอะไรครับ”
“ก่อนอื่นพี่ชื่อชินเฉยๆ ไม่ต้องไปบ้าจี้เรียกตามมัน” พี่ชิน(เฉยๆ) ส่ายหัวเอือมก่อนจะพาผมไปนั่งที่โต๊ะคอม “โฟลเดอร์นี้มีพวกเท็กซ์กับรูปที่ไดคัทไว้แล้ว เดี๋ยวลองจัดองค์ประกอบให้ดูหน่อย พี่ให้เวลาครึ่งชั่วโมง”
“ครับ”

 ตะนิดเปิดโปรแกรมโฟโต้ชอปขึ้นมาพร้อมกับเปิดโฟลเตอร์ไว้ข้างๆ ถึงจะรู้สึกกะทันหันไปหน่อยแต่ดีที่คณิตเตือนมาระหว่างทางว่าอาจจะต้องโดนเทสต์การใช้โปรแกรม ดีที่ปกติตอนเรียนมหาลัยเขามักเป็นทีมทำโปสเตอร์งานหรือตัดต่ออยู่แล้วเลยพอจะรู้การใช้คีย์ลัดและเทคนิคต่างๆ บ้าง ถึงจะไม่ทั้งหมดแต่ก็พอจะรู้มากกว่าแค่พื้นฐาน เขาสลับเลเยอร์และปรับโหมดต่างๆ อย่างไม่เร่งรีบ


“อิลลัสนี่พอใช้ได้ไหม”
“ได้บ้างครับ แต่ยังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เพิ่งลองใช้เมื่อตอนต้นปีสี่เองครับ” ตะนิดตอบไปตามตรงแต่ตากลมยังคงโฟกัสอยู่หน้าจอคอม
“เวิร์ด พาวเวอร์พ้อยท์ เอ็กซ์เซล”
“ได้ครับ แต่เอ็กซ์เซลอาจจะต้องขอทวนความจำนิดหน่อย”
“อืม” พี่ชินเฉยๆ รับคำ ก่อนจะปล่อยให้ตะนิดใช้เวลาจัดการกับงานที่ได้รับมอบหมาย เวลาผ่านไปเกือบจะสามสิบนาทีตะนิดก็ผละตัวออกมา
“พอได้ไหมครับ”
“เห้ย น่ารักเลยนะ” ตะนิดขมวดคิ้วกับคำชมของอัลฟ่าเลือดแท้ที่มาเกาะเก้าอี้เขา น่ารักอะไรวะ เขาทำโปสเตอร์โฆษณายาริดสีดวง
“ไอ้เต้อ”
“ล้อเล่น ใช้ได้น่ะ เก่งแล้วที่ทำโปสออกมาไม่แก่ ปกติคนเห็นยาริดสีดวงชอบทำออกมาให้ดูแก่ คิดว่ามีแต่คนแก่ที่เป็นหรือไง ขนาดชินจังยังเป็นเลย”


ป้าป!!!!
สันแฟ้มจังๆ เข้ากลางหัวอีกรอบ คราวนี้คนชื่อเต้อร้องจ๊ากกุมหัววิ่งไปรอบห้องแทน เล่นใหญ่ไปไหมล่ะนั่น 


“อย่าไปสนมันเลย พี่ชื่อชินเป็นรองหัวหน้าแผนก ยังไงก็ฝากตัวด้วย เห็นระบุมาว่าเริ่มงานได้ทันที แต่ว่าเพิ่งจบปีสี่ใช่ไหม งั้นพักสักหนึ่งอาทิตย์ค่อยเริ่มงานแล้วกัน รายละเอียดที่เหลือเดี๋ยวพี่ส่งไปให้อีกทีในอีเมลล์ อ้อ... พี่เป็นเบต้านะ”
“เห้ยยยยย อันนี้คือผมได้งานแล้วเหรอออออ”
“อืม ดูเข้ากับคนง่ายดีไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องฝีมือก็มาเรียนเพิ่มจากทีมคนอื่น มาแรกๆ ก็เหนื่อยหน่อยนะ”
“เห้ยยยยย คือ เห้ยยยยยยย” ตะนิดกำหมัดดีใจอยากจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคณิตแต่ก็จำได้ว่าคณิตสัมภาษณ์อยู่เลยยังทำไม่ได้ แต่เห้ยยยยยยยยยยยยยย มีงานทำแล้ววววววววววววว
“ดีใจด้วยนะน้องแมว มาเดี๋ยวหัวหน้าแผนกจะพาไปเลี้ยงชานมใต้ตึกเอง” ผมหันขวับไปหาคนชื่อเต้อ อะไรนะ! ชานม!
“ไอ้เต้อ...”
“อ้อลืมแนะนำตัว พี่ชื่ออาเธอร์ แต่เรียกเต้อก็ได้ ไทยดี”
“พี่เต้อออ”
“เก่งมากน้องแมว ป่ะๆ ไปกินชานมไข่มุกกัน” ว่าแล้วพี่เต้อก็โอบไหล่เขาพาเดินออกมาจากห้องสัมพร้อมกับพี่ชิน ได้งานใหม่อย่างรวดเร็วแสนจะงง แต่ตะนิดก็ดีใจจนอดยิ้มจนแก้มยกไม่ได้ มือเล็กหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความหาแฝดพี่ว่าสัมภาษณ์เสร็จแล้วจะลงไปซื้อชานมไข่มุกกินใต้ตึกกับพี่พนักงาน


อัลฟ่าหนุ่มที่ลอบมองอยู่ถึงกับใจเต้นผิดจังหวะกับรอยยิ้มสดใสจากคนตัวเล็ก

เวร น้องแมว...
ทำไมยิ้มน่ารักงี้วะ

อาเธอร์กะพริบตาปริบๆ มองพนักงานใหม่ที่ฉีกยิ้มกว้างแต่พอเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาพิฆาตจากไอ้แว่นแสนดุก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน พอลงมาถึงล็อบบี้ตึกเขาก็เป็นฝ่ายนำพนักงานใหม่สดๆ ร้อนๆ ไปซื้อชานมไข่มุกร้านดัง ซึ่งแมวดื้อก็จัดการสั่งนมสดไข่มุกบราวน์ชูการ์เมนูดังของร้านมากิน


“เออ ไปเดี๋ยวพาดูตึกด้วยเลยดีกว่า มาน้องแมว เดี๋ยวพี่พาไปดูเซเว่น” พี่เต้อวาดแขนขึ้นโอบคอเขาพร้อมกับลากพาไปทางประตู ตะนิดงงนิดหน่อยว่าทำไมต้องพาไปดูเซเว่น แต่เห็นพี่เขาจะพาไปงั้นไปก็ได้

ทางไปเซเว่นจะออกต้องออกมานอกตึกก่อน ตะนิดก้มงับปากดูดนมสดในมือด้วยความใจนุ่มฟูกับรสชาตินุ่มละมุนลิ้นแต่พอลืมตาขึ้นก็เหมือนเห็นรถคันที่คุ้นเคยจอดติดเครื่องอยู่หน้าตึก ตากลมกะพริบปริบๆ ก่อนจะกลายเป็นเบิกกว้างเมื่อคนขับเปิดประตูลงมา

“พะ..พี่ภาส” ปากเล็กขยับเรียกชื่อคนตรงหน้าท่ามกลางความงงของสองพนักงานเก่า เต้อและชินก้มมองตะนิดด้วยสายตางุนงงที่จู่ๆ ก็หยุดเดินแต่พอเงยหน้าขึ้นมองตามสายตาแล้วก็ปรากฏภาพอัลฟ่าเลือดแท้ที่กำลังลงมาจากรถสปอตคันหรู ฟีโรโมนข่มขู่ที่ถูกปล่อยออกมาทำเอาตะนิดตัวสั่นเล็กน้อยส่วนอาเธอร์ก็คิ้วกระตุกด้วยความหงุดหงิด การที่โดนอัลฟ่าเลือดแท้ด้วยกันมาปล่อยฟีโรโมนขู่นี่มันน่าหงุดหงิดจนอยากจะกระโจนเข้าไปจัดการเสียจริง

ระหว่างที่กำลังจะเกิดศึกอัลฟ่าเลือดแท้นั้นเอง
จู่ๆ ก็มีแรงถีบมหาศาลเตะเข้ากลางหลังอาเธอร์จนอีกฝ่ายกระเด็นไถไปกับลานจอดรถชั่วคราวหน้าตึก ใบหน้าอัลฟ่าลูกครึ่งเงยขึ้นด้วยความงุนงงด้วยความตกใจ พอดวงตาจับโฟกัสได้ก็พบน้องแมวเวอร์ชั่นตัวสูงกว่าและดูโหดกว่ายืนหอบอยู่ข้างๆ น้องแมวตัวจริงที่กำลังยืนเอ๋อกัดหลอดชานมไข่มุก


“มึงใครมายุ่งกับน้องกู!!!” 

 




[/size]
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-05-2020 21:37:32
เอ่อ..ออออ แบบนี้จะตกงานไหม???    :mew5:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 30-05-2020 01:06:29
กระโดดถีบเลยหรอออ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 30-05-2020 02:10:15
คณิตตตตตตตตตตตตตตต
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 30-05-2020 09:01:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: casson ที่ 30-05-2020 11:19:00
อิรุงตุงนัง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 30-05-2020 12:53:15
 o13
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 31-05-2020 00:53:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 10 : พี่หวงน้อง [29/05/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 31-05-2020 15:21:46
คณิตตตตต จะหวงน้องจนตกงานไหมลู้กก

พี่พลาดกำลังจะได้ซีน โดนแย่งซีนอีกแล้วว :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 01-06-2020 17:02:36
ก็จะดื้อ 11


ถึงแม้จะตามอะไรไม่ค่อยทันนัก แต่พอตากลมของตะนิดพบว่าตรงหน้าเกิดเหตุการณ์ที่ใช้ความรุนแรงขึ้นก็เหมือนไปจุดสัณชาตญาณหาที่ปลอดภัย มือเล็กก็ปล่อยแก้วชานมตกพื้นก่อนจะออกตัววิ่งไปหาอัลฟ่าหน้าดุที่ยืนอยู่ไม่ไกล ขาเล็กออกตัววิ่งก่อนจะกระโดดเข้าไปซุกตัวเข้ากับอกกลิ่นลาเวนเดอร์ที่เจ้าของกลิ่นก็อ้าแขนรอไว้ตั้งแต่เห็นว่าเขาออกตัววิ่ง

“พี่ภาส”
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับลูบเอวบางไปมา
“ไม่เจ็บๆ” แมวดื้อซุกจมูกเข้ากับอกอุ่นไปมา สูดดมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยเข้าปอด
“เงยหน้าขึ้นหน่อย”
“พี่ภาส นิดกลัวกลิ่นฟีโรโมน” ตะนิดเอ่ยเสียงแผ่ว เนื่องจากเมื่อครู่มีอัลฟ่าที่ปล่อยฟีโรโมนข่มขู่ออกมาหลายคน ทั้งตัวเขาเอง คณิตและอัลฟ่าแปลกหน้าอีกคนทำให้โอเมก้าร่างเล็กได้รับผลกระทบมากที่สุด ถึงแม้ตอนนี้เขาจะลดฟีโรโมนลงแล้วแต่ตะนิดก็ยังคงรู้สึกตื่นกลัวอยู่ ภาสกระชับกอดตะนิดให้มั่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสถานการณ์

สายตาดุใต้กรอบแว่นเงยขึ้นสบกับอัลฟ่าแฝดพี่ที่ยืนหอบอยู่หน้าประตู ซึ่งเมื่อสบตากันฝ่ายคณิตเองก็ลดฟีโรโมนตัวเองลงทันที เหลือทิ้งไว้แต่อัลฟ่าแปลกหน้าที่ปล่อยฟีโรโมนบางๆ ออกมาพร้อมกับเด้งตัวขึ้นมองแมวดื้อที่กำลังกอดเขา

และนั่นทำให้หงุดหงิดจนอยากเดินเข้าไปเตะซ้ำอีกสักหนึ่งแผล

เขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มากนัก แต่ที่แน่ๆ แค่เพียงเห็นแมวดื้อตกอยู่ในอ้อมแขนคนอื่นเขาก็หงุดหงิดจนแทบบ้า

...แต่ก็คงช้ากว่าบราค่อนอันดับหนึ่ง


 “แล้วเมื่อกี้มันทำอะไร”
“มัน.. อ๋า นั่นพี่เต้อ หัวหน้าแผนก เห้ยยยยยยย ลืมเลย เห้ยยยยยยย คณิตอย่านะ! นั่นหัวหน้าแผนกกู!” ตะนิดรีบหันขวับไปตะโกนทันทีเมื่อเห็นว่าแฝดพี่ตนกำลังก้าวขาเข้าไปเตรียมกระทืบซ้ำ
“หัวหน้าแต่ลวนลามมึงกูก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน” คณิตก้มลงกระชากคอเสื้ออัลฟ่าที่นอนงงอยู่ที่พื้นขึ้นมายืนเตรียมจะเสยหมัดเข้าไปอีกรอบ อาเธอร์ที่กำลังตกใจคว้าหมับเข้าให้ที่มือของคณิตก่อนจะฉีกยิ้มออกมา
“ใจเย็นๆ หน่อยสิน้องพี่แมว”
“น้องพี่แมว?”
“มีเรื่องหน้าบริษัทแบบนี้เดี๋ยวจะซวยเอา น้องแมวคนพี่ไม่ว่ากันนะ” อาเธอร์ขยิบตากวนประสาท
“เห้ย!!!”

ภายในชั่ววินาทีเดียวอาเธอร์ก็จับแขนคณิตที่จับคอเสื้อตนอยู่ออกก่อนจะดัดแขนนั่นตวัดไปไว้ที่หลัง ส่งผลให้คณิตถูกจับไขว้แขวนไว้ที่หลังไม่สามารถทำอะไรได้แถมองศาแขนยังทำให้เจ็บจนต้องร้องออกมาอีกต่างหาก


“คณิต!!!!!” แมวดื้อตะโกนลั่นก่อนจะออกตัววิ่งไปกระโดดขี่หลังหัวหน้าแผนกอย่างไร้การเกรงกลัว
“เห้ยยย น้องแมวๆ เดี๋ยวหล่น ฉิบหายน้องพี่แมวก็อย่าเลือดร้อนนักสิ โอ๊ยๆๆ ชินจังอย่ายืนนิ่ง มาช่วยอุ้มแมวหน่อยโว้ยย” อาเธอร์โวยวายลั่นเมื่อโดนแมวตัวน้อยกระโดดใส่จากด้านหลังแถมยังรัวหมัดแมวทุบหัวเขารัวอีกต่างหาก ชิ

นที่มองภาพตรงหน้าได้แต่กะพริบตาถี่ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นภาพที่วุ่นวายขนาดนี้หน้าบริษัท แปลกตาแถมยังตลกดีด้วย
ภาสที่เห็นแมวดื้อกระโดดขี่คอคนอื่นเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ก่อนจนต้องเดินเข้าไปจับอุ้มออก ซึ่งแน่นอนว่าแมวดื้อก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ มือเล็กแอบจิกผมเจ้าของแผนกที่ว่ามาด้วยจนเจ้าของหัวนั่นร้องจ๊ากลั่นตึก


“ตะนิดปล่อยมือก่อน”
“พี่ภาส!!! พี่เต้อทำร้ายคณิต!!!”
“โอ๊ยๆๆ น้องแมวคะอย่าจิกหัวสิ พี่น้องแมวเตะพี่กระเด็นก่อนนะ”
“เรียกใครน้องแมววะ!!!”
“พี่เต้อห้ามทำร้ายคณิต!!!”
“ตะนิดพอแล้ว”
“ชินจังช่วยกูด้วยยยยยยย”

วุ่นวายสุดๆ ชินเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินมาดึงคอเสื้อคณิตให้ออกมาห่างจากอาเธอร์ ส่วนตะนิดก็ถูกภาสอุ้มลงมาโอบไว้แม้เจ้าตัวจะพยายามตะกายเตรียมสู้ต่อแค่ไหนก็ตาม พอสมาคมแมวโหดหลุดออกจากร่างอาเธอร์ก็รีบคลำร่างกายตัวเองว่าครบสามสิบสองดีหรือเปล่าทันที

“Mon dieu! นี่มันอะไรกันเนี่ย” อัลฟ่าหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อของแมวดุมองหน้าแฝดแมวสลับกัน
“มึงมายุ่งอะไรกับน้องชายชาวบ้านวะ!!!”
“แค่โอบเอง”
“แค่เหรอวะ!!!!”
“น้องพี่แมวห้าวจัง กลัวนะเนี่ย งื้อ”
“ไอ้เวรนี่!!!”

 คณิตเตรียมจะพุ่งใส่อัลฟ่าตรงหน้าอีกรอบแต่ติดที่ว่าโดนชินกระชากคอเสื้อรั้งไว้ ดวงตาใต้กรอบแว่นของเบต้าเหลือบมองอัลฟ่าที่มีออร่าแปลกๆ ข้างเด็กใหม่ด้วยความรู้สึกคุ้นตา


“ว่าแต่คุณ... คุณภาสเพื่อนคุณชายหรือเปล่าครับ? ” ภาสเงยหน้าขึ้นสบตากับคนถาม
“ใช่ครับ”
“ผมชินครับ รองหัวหน้าแผน-”
“พี่ชินจัง!!! พี่เต้อแกล้งคณิต!!!”
“... ผมชื่อชินเฉยๆ ครับ” ชินรีบแก้ชื่อตัวเองพร้อมกับใช้นิ้วชี้ดันแว่น
“พี่ภาสปล่อยนิดนะ!!!”
“ว่าแต่สัมภาษณ์งานเป็นไง” ท่ามกลางความวุ่นวายแต่เบต้าตรงหน้ากลับดูใจเย็นและมีสติจนภาสแอบแปลกใจ
“ผ่านแล้วครับ เริ่มงานอาทิตย์หน้า” ชินเป็นคนตอบคำถามแทน เนื่องจากเจ้าแมวดื้อในอ้อมกอดคนตรงหน้าดูไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากจะตะกายตัวออกมาช่วยแฝดพี่ตัวเอง ภาสฟังคำตอบก่อนจะตัดสินใจยกตัวเจ้าแมวดื้อขึ้นพาดบ่า

“ฉันเอาตะนิดกลับก่อนนะคณิต”
“แอ้ก! เจ็บพุงๆๆ กระดุมสูทกดพุงนิดนะพี่ภาส พี่ภาสปล่อยนิดลง!!! คณิตตตต!!!”  สุดท้ายแมวดื้อก็ถูกจับโยนขึ้นรถ ภาสกดล็อครถไว้ทันทีเพื่อป้องกันแมวหนี สุดท้ายแมวดื้อเลย ได้แต่ฮึดฮัดมองคณิตที่ถลึงตาตามรถเขา ตะนิดมองคณิตและแก้วนมสดไข่มุกบราวน์ชูการ์ที่กลิ้งหกอยู่ที่พื้นตาละห้อย
“ตะนิดใส่เบลท์ดีๆ”
“พี่ภาส คือคณิต...”
“ตะนิด” พอเสียงเริ่มดุขึ้นตะนิดเลยต้องยอมสงบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดตามคำสั่ง ใบหน้าดื้องอหงิกด้วยความไม่พอใจที่ไม่ได้อยู่ช่วยแฝดพี่ แต่ตัวแค่นี้ไปช่วยอะไรได้นอกจากว่าช่วยให้วุ่นวายมากขึ้น

ตะนิดตั้งใจจะทำสงครามประสาทแต่พอรถเริ่มเงียบก็อึดอัดเอง ตากลมตวัดมองหน้าดุของคนขับรถที่ตอนนี้จ้องนิ่งไปที่ถนน
“พี่ภาส”
“...” แหน ไม่ตอบ คนตัวเล็กบึนปากใส่ในความขี้เก๊กของอัลฟ่าหน้าดุ
“พี่ภาส มาที่ตึกได้ยังไง”
“ปลอกคอเราไปไหน”
“ก็ใส่อยู่”
“เหรอ”

ใช่สิ มาหรงมาเหรออะไร
ตะนิดตอบในใจแต่พอตะปบมือลงที่คอตัวเองถึงได้รู้ว่าตอนนี้คอตัวเองนั่นโล่งไร้ซึ่งปลอกคอที่มั่นใจว่าใส่มาตลอดทั้งวัน


“เห้ยยยยยย เอ๊ะ อ้าว เห้ยยยย ไปไหน”
“ตกอยู่ที่ลานจอดรถ” ภาสตอบพร้อมกับหยิบปลอกคอผ้าในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตตัวเองขึ้นมาแกว่งแต่ตาก็ยังคงโฟกัสอยู่ที่ถนน ตะนิดหน้าซีดเผือกเมื่อจำได้ว่าก่อนขึ้นรถคณิตรู้สึกคันตรงหลังคอ คิดว่าเป็นแบรนด์ตรงคอเสื้อบาดก็เลยปัดๆ เกาๆ ดึงๆ


ไอ้ที่คันๆ นั่นปลอกคอเองหรอกเหรอ...


“อ่า...”
“ไม่ระวังตัวเลย” คราวนี้สายตาคมละออกจากถนนมาจ้องดุแมวดื้อที่นั่งหน้าเจื่อนอยู่บนเบาะ “แล้วไปปล่อยให้เขากอดคอทำไม”
“กะ ก็นั่นหัวหน้านะ พี่เต้อก็ ก็ แบบ พี่เขาก็ดูเป็นคนดี”
“คนดีไม่ดีนี่ดูได้ด้วยตาเปล่าเลยสินะ”

โดนดุแล้ว โดนดุแล้ว
ตะนิดแทบจะเบียดตัวเองให้จมไปกับเบาะ รับรู้ได้อย่างทันทีว่าโดนหน้าดุไม่ได้ดุแค่หน้าแล้ว ตากลมมองซ้ายมองขวาหาตัวรอด

“พะ พี่ภาส กินข้าวยัง”
“ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง”

ไอ้หยาาาาาาาา รู้ทันไปหมดเลยยยยยย
แมวดื้อสะอื้นฮึกในใจ หนีไปไหนไม่พ้นสักทาง มือเล็กแกะกระดุมสูทเล่นแก้เก้อ ตากลุมหลุบมองต่ำ ไม่กล้าเงยขึ้นสบสายตาดุ

“ระวังตัวให้มากกว่านี้ ไม่งั้นฉันจะพิจารณาเรื่องที่ไปทำงานใหม่”
“เห้ย ไม่ได้รึเปล่า เกี่ยวอะไรกับงานนิด”
“นี่เรารู้ตัวใช่ไหมว่าเราสามารถฮีทได้เรื่อยๆ ถ้าไม่ระวังตัวอยู่แบบนี้จะให้วางใจให้ไปทำงานได้ยังไง”
“พี่ภาสไม่มีสิทธิห้ามนิด!!!” 
“ฉันไม่ได้อยากห้าม แต่ต้องระวังตัวให้มากกว่านี้”
“พี่ภาส!!!”
“อย่าขึ้นเสียงตะนิด”
“พี่ภาสห้ามทำแบบนี้!!!”
“ตะนิด อย่าตะโกน”
“ตะ แต่”
“เราเอาแต่ใจกับคณิตได้ผลไม่ได้แปลว่าจะมันจะได้ผลกับทุกคนนะ”
“ฮึก...” แมวดื้อหายใจหอบจนน้ำตาคลอ ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด เขาไม่ชอบให้ใครมาสั่งหรือมาเป็นเจ้าของชีวิต


ก็รู้ตัวว่าผิดทุกอย่าง
อยากเถียง แต่เถียงไม่ได้สักอย่าง

หงุดหงิด!


น้ำตาที่กลั้นแทบตายสุดท้ายก็ทลายหล่นลงมา ตะนิดหันตัวหลบเข้ากระจก พยายามหายใจผ่านปากไม่ให้อีกคนได้ยินเสียงสูดขี้มูก ภาสลอบมองเจ้าแมวที่ขดตัวเข้าหาเบาะซ่อนความอ่อนแอแต่ตัวทั้งตัวกลับสั่นระริก จากที่หงุดหงิดเขาเลยเป็นฝ่ายใจเย็นลงทันที ภาสตัดสินใจเปิดไฟเลี้ยวเลี้ยวเข้าห้างที่ใกล้ที่สุด พอวนหาที่จอดรถได้เขาก็ดับเครื่องอยู่นิ่งๆ


“ตะนิด”
“ฮึก...” เสียงสะอื้นดังรอดออกมา ภาสถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเอื้อมมือไปจับกลุ่มผมฟู
“ฉันขอโทษ ฉันใจร้อนไปหน่อย”
“พี่ภาส ฮึก พี่ภาสดุเกินเรื่อง พี่ภาสดุเกินความผิดนิดไปแล้ว ว่าแต่นิดขึ้นเสียง พี่ภาส ฮึก พี่ภาสก็พูดไม่ดี ฮึก” แมวดื้อหันกลับมาด้วยหน้าเปียกไปด้วยน้ำตาและขี้มูกเละเทะปนกันไปหมด
“เราหยุดร้องแล้วมาคุยกันดีๆ หน่อย”
“ไม่อยากคุยแล้ว”
“ตะนิด”
“ก็รู้แล้วว่าผิด ก็มันหล่น ไม่ได้ตั้งใจไม่ใส่เสียหน่อย แล้ว แล้ว พี่เขาก็เป็นหัวหน้า ก็ ก็ผิดด้วยที่ไม่ระวังตัว แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ พี่ภาสจะมาดุขนาดนี้ไม่ได้ ไม่มีเหตุผล” แมวดื้อโวยวายน้ำตานอง ภาสได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะยกมือขึ้นหยิกแก้มนิ่ม


“ฉันเป็นห่วง นั่นคือเหตุผลทั้งหมด”

“...”
“มันบ้าใช่ไหม เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงเดือนแต่ดันมาห่วงขนาดนี้ แต่มันเป็นไปแล้ว ฉันห่วงเธอ ห่วงแบบที่เธอห่วงคณิตหรือแบบที่คณิตห่วงเธอ”
“...ฮึก”
“อย่าปล่อยให้ใครมาโดนตัวง่ายๆ ระวังตัวหน่อย โอเมก้าไม่ใส่ปลอกคอ โดนกัดแค่ครั้งเดียวรู้ใช่ไหมว่ามันเปลี่ยนชีวิตเธอได้ขนาดไหน รู้ใช่ไหมว่ามันอาจทำให้เธอเสียใจไปตลอดชีวิตได้”
“อื้อ...” ตะนิดเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
“เราอายุยี่สิบกว่าแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ไม่มีใครมาคอยดูแลตลอดเวลา ต่อให้เป็นคณิตก็ทำไม่ได้ เพราะงั้นต้องรู้จักดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ เข้าใจที่พูดไหม”
“อื้อ”
“ตะนิด เงยหน้าขึ้นมองฉันแล้วตอบดีๆ” ตะนิดเม้มปากน้ำตาล่วงตกโดนลงกางเกงเป็นรอยชื้น ไหล่เล็กสะท้านตามแรงสะอื้นก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับคนขี้ดุ
“อื้อ ขะ เข้าใจ... ครับ”
“อย่าไว้ใจใครง่ายๆ อีก ต่อให้เป็นเพื่อนสนิท รุ่นพี่หรือหัวหน้าก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไว้ใจได้ร้อยเปอร์เซ็น”
“ฮึก ครับ” แมวดื้อจ๋อยไปแล้วเรียบร้อย ถ้ามีหูเล็กๆ บนหัวฟูนี่ป่านนี้มันคงลู่แล้วลู่อีก
“ฉันได้ปลอกคอใหม่มาแล้ว...”

ภาสเอื้อมมือไปหยิบกล่องเล็กๆ ที่วางอยู่ช่องเก็บของขึ้นมาแกะก่อนจะหยิบปลอกคอหนังบุกำมะหยี่สีดำขึ้นมา เขาสั่งซื้อตามคำแนะนำของวินเซนต์
น่าอายนิดหน่อยตอนที่รู้ว่าที่รุ่นนี้ถูกผลิตมาด้วยความยืดหยุ่นพิเศษโดยเฉพาะสำหรับโอเมก้าที่มีคู่ชอบกัดหรือเคี้ยวปลอกคอ ปกติแล้วปลอกคอรุ่นนี้สามารถหาซื้อได้ตามหน้าร้านตามห้าง แต่ด้วยความเขาจะต้องแอบวัดรอบคอแมวดื้อตอนนอนแถมดันสั่งแบบสลักชื่อจึงทำให้ได้ของช้ากว่าปกติ


“ถอดสูทก่อนไหม”
“อื้อ” ตะนิดปลดกระดุมเพื่อถอดสูทตัวนอกออกก่อนจะยืดคอไปหาอัลฟ่าหนุ่มอย่างรู้งาน ภาสชะงักตัวเล็กน้อยเพราะตอนแรกตั้งใจจะให้ใส่เองแต่พอเห็นแมวดื้อยื่นหน้ามาให้ก็เลยต้องเลยตามเลยใส่ให้


ตะนิดเองพอถอดสูทเหลือแต่เพียงเสื้อเชิ้ตแล้วก็ดูตัวเล็กลงไปถนัดตา เสื้อเชิ้ตขาวพอดีตัวนั้นเน้นให้เห็นเอวคอด มือบางยกขึ้นกระตุกเนคไทด์ออกคลายความอึดอัด ลำคอบางนั้นเดิมทีก็ขาวผ่องอยู่แล้ว ยิ่งพอมีปลอกคอสีดำเลยยิ่งขับเน้นให้ดูขาวกว่าเดิมจนภาสเริ่มรู้สึกคิดผิดในใจ


ใส่ปลอกคอแล้วดันน่ากัดกว่าเดิมอีก...


“พี่ภาสๆ ”
“หืม”
“พี่ภาสว่าพี่เต้อจะไล่นิดออกไหม” ชื่ออัลฟ่าอื่นที่หลุดออกมาจากปากเล็กทำเอาภาสรู้สึกเส้นเลือดข้างขมับกระตุกเล็กน้อย
“ไม่หรอก” แต่จริงๆ ก็อยากให้ไล่อยู่เหมือนกัน เขาจะได้ปล่อยให้แมวนอนอยู่บ้านแทนปล่อยออกมาให้หัวหน้าแผนกโอบคอ พอภาพฉายขึ้นมาในความคิดก็พานหงุดหงิดอีกรอบ
“เป็นห่วงคณิตจัง ขับกลับไปดูได้ไหม”
“ไม่ต้องห่วงหรอก” ไม่เห็นแรงถีบนั่นหรือไง ขนาดอัลฟ่าร่างยักษ์ยังหน้าไถลพื้นไปไกล เลือดห่วงน้องชายนี่น่ากลัวจริงๆ
“พี่ภาสๆ ”
“หืม” เหมือนถูกรีรัน เขามองแมวดื้อที่เรียกชื่อเขาซ้ำๆ
“ไหนๆ ก็จอดห้างแล้ว ลงไปหาอะไรกินกันไหม”
“เอาสิ”


นับเป็นเดทแรกได้หรือเปล่านะ?


ภาสคิดในใจพลางปลดเบลท์ออกไปยืนรอแมวดื้อลงจากรถ ตะนิดใช้สูทถูหน้าไปมาเอาคราบน้ำตาน้ำมูกออกถึงค่อยเปิดประตูรถลงตามมา ด้วยความที่เป็นห้างที่อยู่ใจกลางเมือง แม้จะเป็นวันธรรมดาก็ยังมีคนเยอะเป็นพิเศษ ภาสปล่อยให้คนตัวเล็กเป็นคนเลือกร้านตามใจชอบเพราะเขาไม่ได้มีร้านที่อยากกินเป็นพิเศษต่างจากคนตัวเล็กที่เริ่มเสิร์ชหารีวิวในเนทตั้งแต่เหยียบเข้าประตูห้าง

“พี่ภาสกินเผ็ดได้ไหม”
“พอได้”
“บอนชอนได้ไหมๆ”
“ได้สิ”
“บอนชอนหรือคโยชอนดี”
“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะดูท่าเจ้าไม่ได้ต้องการคำตอบจากเขาแต่แค่ลังเลกับตัวเองเสียมากกว่า
“บอนชอน คโยชอนเป็นไก่ แต่ถ้าเป็นหนูต้องยูชอนเพราะมิกกี้ยูชอนนน”
“หึ” ภาสยิ้มมุมปากเมื่อเจ้าแมวดื้ออารมณ์ดีเดินแกว่งแขนแกว่งขาเหมือนเด็ก แต่พอเห็นว่าคนโดยรอบมองมาที่ร่างเล็กภาสก็คว้ามือเล็กมากุมไว้
“อ๊ะ... พี่ภาสจับมือไม”
“เดี๋ยวเดินไปชนคนอื่น”


ช่างเป็นข้ออ้างขอจับมือที่ห่วยแตกสิ้นดี
แต่ก็ดันพูดออกไปแล้ว ภาสใช้อีกมือขึ้นดันแว่นแก้เก้อ ส่วนตะนิดมองมือที่ถูกคว้าไปจับปริบๆ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรต่อ ปกติเวลาไปไหนกับคณิตก็มักจะจับมือเดินแบบนี้อยู่แล้วเลยไม่ได้แปลกใจอะไรมาก


ตะนิดนำทางเขาไปที่ลิฟต์เพราะขี้เกียจขึ้นบันไดเลื่อน เขาฝืนมือไว้เล็กน้อยเพราะไม่อยากเข้าไปเบียดแต่สุดท้ายเจ้าแมวดื้อก็ลากเขาเขาลิฟต์ไป ด้วยจำนวนคนทำให้เขาและตะนิดถูกเบียดมายืนหลังติดผนังลิฟต์ แขนแกร่งยกขึ้นโอบเอวบางของแมวน้อยโดยอัตโนมัติเมื่อในพื้นที่แคบมีบุคคลอื่น ตะนิดเองก็เบียดตัวกลับเข้าหากลิ่นลาเวนเดอร์ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยเปิดโอกาสให้ภาสเหลือบมองปลอดคอสีดำบนลำคอขาวของคนในอ้อมแขน


กลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ ลอยขึ้นมาแตะจมูกหอมหวานยั่วใจนจนเขาเผลอก้มตัวลงไปกัดปลอกคอสีดำตรงหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจเสียเต็มแรงจนจมเขี้ยว แรงกัดและเสียงลมหายใจแถวต้นคอทำเอาแมวน้อยสะดุ้งเฮือกก่อนจะกระทุ้งศอกเข้าให้เต็มแรงจนภาสต้องรีบปล่อยฟัน
อัลฟ่าหน้าดุเหยียดตัวขึ้นยืนนิ่งๆ เรียกสติคืนร่าง เหลือบมองผ่านกรอบแว่นก็เห็นว่าแมวดื้อก้มหน้างุดแต่หูขึ้นสีแดงระเรื่อ


ปิ๊ง!
เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นที่ต้องลง แมวดื้อเด้งตัวออกจากอกเขาทันทีเพื่อเดินออก ซึ่งเขาก็เดินตามไปติดๆ พอเดินไปในโซนที่ปลอดคนแล้วเจ้าแมวก็หันมาตาขวาง


... แต่แก้มแดง


“พี่ภาส!!!”
“โทษที ไม่ได้ตั้งใจ” ก็ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ รู้ตัวอีกทีก็ก้มลงไปกัดแล้ว 

สมแล้วที่เป็นรุ่นเหนียวพิเศษราคาเกือบแตะหกหลัก
ขนาดกัดไปเต็มแรงยังคืนรูปได้ปกติไม่ได้ขาดง่ายเหมือนอันเก่าจริงด้วยแหะ ดีจนหงุดหงิด เขาล่ะอยากกัดให้ขาดจะตาย

“ปลอกคอมันต้องตั้งรหัสด้วย ฉันใส่หนึ่งสองสามสี่ไป เดี๋ยวกลับบ้านแล้วไปตั้งใหม่เอาเองนะ”
“อื้อ” แมวดื้อเดินงุดๆ กลับมาอยู่ข้างๆ อัลฟ่าหนุ่มตามเดิมเมื่อคนเริ่มพลุกพล่าน

คิวที่ร้านไก่ค่อนข้างยาวแต่พอเห็นว่าแมวดื้ออยากกินเขาก็รอได้ไม่ได้ติดปัญหาอะไร จะมีไม่พอใจเล็กน้อยก็ตรงที่มีอัลฟ่าหลายคนที่ยืนรอคิวอยู่เหลือบมองแมวเขาด้วยสายตาสนใจ พอจะนึกภาพออกอยู่เหมือนกันว่าถ้าเจ้าแฝดพี่หน้าไม่รับแขกนั่นมาด้วย ป่านนี้คงยืนกอดอกสอดส่องสายตาอาฆาตเป็นยักษ์ที่คอยอารักขาก้อนลูกแมวตัวเล็กๆ

“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“เดี๋ยวดูหนังป่ะ นี่อยากดูหอแต๋วแตก ตลกดีนะ”
“ได้สิ” ไม่ใช่หนังแนวที่เขาดูสักเท่าไหร่ แต่เห็นอยากดูเขาก็พยักหน้ารับคำไป ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องไลน์ไปบอกเลขาให้ช่วยเลื่อนประชุมตอนช่วงบ่ายออกไปเป็นบ่ายวันพรุ่งนี้แทน
“จริงคณิตก็อยากดู ชวนคณิตมาดีไหม”
“ไม่ต้องหรอก”
“แต่...”
“ไปซื้อชานมมากินรอคิวไหม ร้านเขากวางนั่นดังนี่” ภาสเลือกเปลี่ยนเรื่องไปที่ร้านชานมชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ซึ่งแน่นอนว่าแมวดื้อก็ตาโตพยักหน้ารัวทันที ลืมไปเลยว่ากำลังจะงอแงคิดถึงแฝดพี่

ภาสถอนหายใจเล็กน้อยกับความติดแฝดพี่ของเจ้าแมวตรงหน้า แต่พอลองคิดภาพว่าถ้าเจ้าแมวมาติดเขาแทนแฝดพี่บราค่อนนั่นก็เผลอกระตุมยิ้มออกมา


สงสัยคงจะต้องลองหาคู่มือเลี้ยงแมวเบื้องต้นมาศึกษาบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 01-06-2020 17:40:22
ปลอกคอเพื่อน้องงง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-06-2020 21:37:23
ลุ้นพี่เต้อกับคณิตได้ไหม???     :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 01-06-2020 21:41:35
หาคู่ให้คณิตด้วยนะ เดี๋ยวเหงา เพราะน้องกำลังจะติดพี่ภาสแล้ว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 01-06-2020 21:44:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 01-06-2020 22:45:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: tangmo07999 ที่ 02-06-2020 07:24:27
ตะนิดน่ารักกก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 02-06-2020 17:15:54
โง้ยย มีคนอยากน้องติด
ตะนิดรู้กก หนูจะถูกตกด้วยกินอีกแล้วว  :laugh:

พี่เต้อ คณิต อยากต่อเรือคู่นี้ แง้งง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 11 : ปลอกคอ [01/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-06-2020 23:02:12
รอๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 10-06-2020 22:17:43
ก็จะดื้อ 12

... หนึ่งอาทิตย์ก่อนเริ่มงาน
สำหรับตะนิดนิสิตเพิ่งเรียนจบก็รู้สึกโหวงในใจเล็กน้อยที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานอย่างรวดเร็ว เหมือนวันที่แหกขี้ตาตื่นวิ่งไปเรียนกับคณิตเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเอง อดใจหายไม่ได้เลย แมวดื้อนอนเหยียดเท้าขึ้นฟ้าด้วยความรู้สึกเหงาๆ


จะอดไปเมาบ่อยๆ แล้วหรอเนี่ย
ควรไปเมาทิ้งท้ายหน่อยดีไหมนะ


แมวน้อยขี้เมาได้แต่คิดถึงรสชาติของโซจูรสสตอเบอร์รี่แล้วก็ได้แต่เปรี้ยวปาก ปกติเขานี่ขาประจำผับเฉพาะโอเมก้าร้านดังสาขาทองหล่อ ส่วนร้านปกติจะไปถ้าคณิตไปด้วยเท่านั้น เขาไม่อยากพัวพันกับความยุ่งยากถ้าเกิดมีอัลฟ่ามาอยู่ใกล้ๆ

“ตะนิด” เสียงเข้มดังขึ้นเรียกชื่อซึ่งตะนิดก็ผุดลุกขึ้นนั่งทันที เจ้าของห้องนอนหน้าดุเดินเข้ามาพร้อมกับกระดกน้ำขึ้นดื่ม
“ครับ”
“วันพุธนี้ฉันมีไปทำงานที่ภูเก็ต”
“...”


เยี่ยม! เข้าทาง!
ทองหล่อเลยดีกว่าแบบนี้!!! ไม่อ้วกไม่กลับ!!!

“ไปด้วยกันไหม”

แผนที่จะไปเมาทองหล่อเบรกเอี๊ยดในความคิดทันทีที่คนแก่กว่าถามออกมา ตะนิดกะพริบตาปริบๆ ใจหนึ่งก็อยากจะไปร้านเหล้าใจจะขาด แต่การไปเที่ยวทะเลพักผ่อนหย่อนใจก่อนมาลุยทำงานก็ถือเป็นความคิดที่ไม่เลว


“เอาคณิตไปด้วยได้ไหมอ่ะ”
“ได้” ภาสตอบอนุมัติไปแม้ในใจจะรู้สึกเหม็นอัลฟ่าขึ้นมาติดจมูก
“ไปก็ได้”
“ลี่ก็จะไปด้วย ไม่ต้องกลัวเหงาหรอก”
“พะ พี่ลี่เหรอ...” แค่ได้ยินชื่อตะนิดก็รู้สึกแก้มแดงขึ้นมาทันที ภาพที่ตัวไปเองบดๆ อยู่บนตัวพี่เขาคนนั้นฉายแว่บขึ้นมาในความ


หนะ หนะ ไหนจะ
จูบ!!!
จูบนั่น จูบ!!!


“ตะนิด”
“คะ ครับ” ตะนิดเงยหน้าขึ้นเมื่อถูกเรียก ซึ่งภาพตรงหน้าก็ปรากฏเป็นหน้าอัลฟ่าดุที่ดูจะหงุดหงิด แขนแกร่งยกขึ้นบีบแก้มเขาจนปากยู่ แมวดื้อได้แต่กะพริบตางง ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าจะสื่ออะไร แต่มาคีบแก้มกันแบบนี้มันเจ็บอยู่นะ!
“คิดอะไร”
“ฮะ! มะ ไม่ได้คิด!!!”
“ลี่มีคู่พันธะแล้วเผื่อไม่รู้”
“มีแล้วไง!!!” มันเกี่ยวอะไรกับเขากันล่ะ!!!
“คราวที่แล้วดีแค่ไหนวินเซนต์มันไม่ตีเธอเอา” พูดไปงั้น เขาไม่ปล่อยให้วินเซนต์ตีหรอก แต่คงต้องขู่ไว้หน่อย ดูหน้าเจ้าแมวดื้อเขินแก้มแดงแบบนี้แล้วรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นบ้า ภาสได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงในความคิด
“คราวที่แล้วไม่นับสิ!! นิดไม่รู้ตัวหรอก!!!”
“มันจะไม่มีคราวหน้า”
“พี่ภาสรู้ได้ไง”
“เพราะฉันจะไม่ให้มันมี”


ภาสตวัดตาใต้กรอบแว่นดุแค่นั้นแมวดื้อก็รู้สึกขนหางพองไปหมด ตะนิดไม่ได้เถียงอะไรต่อแต่เลือกยกธงขาวตวัดผ้าห่มขึ้นพันตัวเป็นซูชิคนเท่ที่แอบกลัวโดนดุ ภาสถอนหายใจเบาๆ กับภาพตรงหน้า ดื้อเป็นที่หนึ่งจริงๆ เขาเดินอ้อมไปที่อีกด้านของเตียง ถอดแว่นลงก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง

ตั้งแต่แมวดื้อขนทัพคุณนุ่มทั้งหลายมาขอนอนด้วย เจ้าตัวก็ไม่เคยกลับไปนอนห้องตัวเองอีกเลย เขาเองก็ไม่ได้ออกปากถามอะไรออกไป จนในที่สุดการเข้านอนพร้อมกับแล้วก็การตื่นมาเจอแมวดื้อนอนน้ำลายเปียกหมอนย้อนไปยันขมับ แขนขาไปคนละทางก็กลายเป็นภาพชินตา


ถึงจะรู้สึกถูกบุกรุกโลกไปหน่อย
... แต่กลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชอ่อนๆ นี่ก็หอมดี

จะยอมให้บุกรุกก็ได้แหละนะ

.
.
.

และแล้ว ในที่สุดวันไปทะเลก็มาถึง

วันนี้คอนโดหรูใจกลางเมืองดูจะเต็มไปด้วยความวุ่นวายตามปกติตั้งแต่โดนบุกรุกด้วยแมวดื้อ เช้าวันนี้เริ่มจากการมาถึงของแฝดพี่ ซึ่บหอบหิ้วเสื้อผ้ากับข้าวของที่แฝดน้องลิสต์ไปว่าให้ขนมาให้ตั้งแต่วันก่อน ส่วนตัวแฝดน้อยเองก็ตื่นมางอแงแต่เช้าเพราะแป้งแพนเค้กหมด ดีที่พอได้กินซีเรียลเข้าไปถึงค่อยดูอารมณ์ดีขึ้น


วันนี้เขาจะเดินทางด้วยเครื่องบิน และเมื่อเจ้าแมวรู้ว่าจะได้ขึ้นเครื่องบินก็ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อน แต่พอเสิร์ชกระทู้ไปมาก็ดันไปเจอข่าวเครื่องบินตก จากที่ตื่นเต้นหางปัดไปมาก็กลายเป็นกลัวเครื่องบินตกไปนั่งขดอยู่บนโซฟา

“ตะนิด เตรียมตัวออกไปแล้ว”
“...” แมวดื้อเบะปากเล็กน้อยก่อนจะเดินไหล่ตกไปหยิบกระเป๋าพร้อมกับหยิบคุณนุ่มเบอร์ห้ามากอดไว้ที่อก
“เป็นไรวะ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว”
“ไม่กลัวได้ไงคณิต ถ้าเครื่องบินตกกูตายนะ”
“กูก็ตายไหม”
“คณิต!!!” ตะนิดตวาดลั่นพร้อมกับยกคุณนุ่มเบอร์ห้าขึ้นฟาดแฝดพี่ “ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!!!!”
“โอ๊ยๆ มึงเอาฉลามโง่ตีกูเหรอไอ้อ้วน!!!”
“อย่าเรียกคุณนุ่มเบอร์ห้าว่าฉลามโง่นะ!!!”
“เออ กูถอนคำพูด ไอ้ฉลามเฉยๆ แต่เจ้าของโง่”
“คณิต!!!”
“มึงจะกลัวอะไรเนี่ย มึงตายกูก็ตายไม่เข้าใจรึไง มันแปลว่าต่อให้ตายกูก็จะไม่ทิ้งมึง วันไหนมึงจะตายไม่ต้องกลัวเหงา นั่งรอกูแป๊ปเดี๋ยวเจอกูแน่ เข้าใจที่พูดไหม ถ้าไม่ก็เรื่องของมึง” แฝดพี่ขมวดคิ้วหน้ายุ่งก่อนจะแย่งสัมภาระแฝดน้องมาสะพายเอง ตะนิดที่พอจะเข้าใจที่แฝดพี่สื่ออมยิ้มออกมาน้อยๆ พร้อมกับวิ่งไปกอดแขนคณิต
“คณิตน่ารักว่ะ รักกูมากเลยดิ”
“มีน้องอยู่คนเดียว สู้กันมาตั้งแต่เป็นอสุจิ ไม่รักมึงจะให้กูไปรักหมามั้ง”   
“คณิตแก้มแดงอ่อ”
“ยุ่งว่ะ”
“คณิตแก้มแดง!!! คณิตเขิน!!!”
“ยุ่งว่ะอ้วน ไปไกลๆ ตีนดิ๊”


... พี่น้องแสนจะรักกัน
ส่วนหมาหัวเน่าน่ะ เขาเองแหละ


ภาสได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกอยากจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แทนที่จะได้ไปใช้เวลาด้วยกันที่ทะเล กลับกลายเป็นทริปพาแฝดหมาแมวไปเที่ยว
จากกรุงเทพไปภูเก็ตใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า แต่ด้วยความผวาของแมวดื้อเลยดูนานกว่านั้น แน่นอนว่าจะติดพนมมือสวดมนต์ตั้งแต่เครื่องขึ้นยันเครื่องลงโดยที่มีแฝดพี่นั่งใส่หูฟังไม่ได้สนใจอะไรนั่งประกบอยู่
เมื่อเดินทางถึงที่พัก ภาสรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีปัญหาถึงได้ชิงจองที่พักแบบเตียงคู่ให้สองแฝด ส่วนตัวเองแยกมานอนอีกห้องป้องกันการเกิดศึกชิงแมว


... แต่ปรากฏว่าคนที่มีปัญหากลับกลายเป็นแมวดื้อ



“แยก...ห้องเหรอ” ใบหน้าดื้อหันมามองเขาด้วยสายตากึ่งอ้อนกึ่งตัดพ้อ
“แยกก็แยก มึงก็มานอนกับกูนี่” คณิตยกแขนขึ้นโอบคอแฝดน้องแต่ตะนิดกลับฝืนตัวไว้ แตกต่างจากปกติทำเอาคณิตขมวดคิ้วงง
“แต่...”
“อะไรวะตะนิด”
“พี่ภาส...” แมวดื้ออ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่มือเล็กข้างที่ไม่ได้อุ้มตุ๊กตาฉลามกลับยกขึ้นดึงชายเสื้ออัลฟ่าหน้าดุไว้แน่นแค่นั้นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนให้กับคณิต


แฝดพี่พ่นลมหายใจแห่งความน้อยใจออกมาจนหมดปอด จริงๆ ตะนิดน่ะแอบมองลุงโรคจิตนั่นตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว แม้กระทั่งตอนที่กลัวเครื่องเทคออฟสายตาของน้องเขาก็จับจ้องอยู่แต่กับลุงอัลฟ่าไม่วางตาทั้งที่ปกติตะนิดน่ะติดเขาเสียยิ่งกว่าอะไร เวลากลัวอะไรก็จะวิ่งหาเขาก่อนเสมอ


เผลอแป๊ปเดียว
... เขาก็โดนดีดออกจากเซฟโซนของน้องชายตัวเองไปเรียบร้อย น่าน้อยใจเป็นบ้า



“ตะนิด มึงไปนอนกับลุงเขาแล้วกัน กูอยากนอนคนเดียว”
“...” ภาสยกคิ้วฉงนเล็กน้อยจากคำพูดแฝดพี่
“อือ” แมวดื้อขยับตัวดุ๊กดิ๊กออกจากอ้อมแขนแฝดพี่มายืนอยู่ข้างเขา หน้าดื้อมุดจมไปกับคุณนุ่มเบอร์ห้าเหลือไว้แต่ตากลมที่จ้องมาที่เขาเหมือนรอคำตอบ แน่นอนว่าภาสก็ทำเพียงส่งยิ้มเบาๆ ไปให้ก่อนจะหันกลับไปหยิบกุญแจห้อง 


ห้องที่เขาจองไว้เป็นห้องสวีทวิวทะเล ด้วยความไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีคนมาขอนอนด้วยเลยบุ๊คไปแบบเตียงใหญ่เตียงเดียว ซึ่งตอนนี้เจ้าแมวดื้อก็ได้ทำการเอาของไปวางไว้เต็มเตียง เขาเดินเอาสูทไปแขวนในตู้พร้อมกับปล่อยให้แมวเดินสำรวจห้อง


แมวดื้อมัวแต่ตื่นเต้นกับความใหญ่ของห้อง
 ส่วนเขาน่ะได้แต่เครียดกับห้องอาบน้ำที่ไม่มีประตูกั้นตรงหน้า


ห้องอาบน้ำที่ไม่มีประตูกั้นระหว่างห้องนอนแทบจะเป็นปกติของห้องสวีทที่เขาพบเจออยู่บ่อยๆ เวลาต้องไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ดีที่ส่วนใหญ่เขามักจะเข้าพักคนเดียวจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่วันนี้มีแมวขี้โวยวายมาด้วยดูท่าแล้วนี่คงจะเป็นปัญหาใหญ่ สงสัยเจ้าตัวคงคิดว่าประตูลากมาปิดได้ถึงยังไม่ได้โวยวายอะไรสินะ....
 


“ตะนิด”
“ครับ”
“เดี๋ยวลี่จะมา เธออยู่กับลี่ไปก่อนนะ ฉันจะไปคุยงาน” พอรู้ว่าอีกคนจะไม่อยู่ตะนิดก็รู้สึกโหวงขึ้นมาเล็กๆ
“พี่ภาส”
“หืม?”
“พี่ภาสกลิ้งๆ ไหม เตียงนิ่มนะ”


กลิ้งๆ?
ดวงตาดุใต้กรอบแว่นฉายความไม่เข้าใจออกมาชัดเจน แต่พอแมวดื้อจ้องไปที่เตียงเขาก็พอจะเข้าใจ ภาสพาดสูทกับเก้าอี้ก่อนจะทิ้งตัวนอนกับเตียง เขาขยับตัวไปมาเล็กน้อยไม่ถึงกับกลิ้ง แต่พอทำให้กลิ่นติดเตียงไปได้บ้าง แปลกที่แถมจะให้คนแปลกหน้ามาหา ตามสัญชาตญาณคงรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยสินะ


กิ๊ง!
เสียงออดดังขึ้นเรียกได้ตะนิดหันไปทางประตู พอเจ้าแมวออกตัววิ่งไปภาสก็ผุดตัวขึ้นนั่ง แขนแกร่งยกขึ้นขยับขาแว่นเบาๆ พร้อมกับรู้สึกร้อนเห่อที่หน้า


วัยขนาดนี้มานอนกลิ้งๆ ให้กลิ่นติดเตียงนี่มันน่าอายเป็นบ้า...
ถ้าเพื่อนคนอื่นมาเห็นเขาคงโดนล้อไปยาวๆ


กลิ่นอัลฟ่าโชยมาติดจมูกเรียกสติให้ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเดินตามร่างเล็กไปหน้าประตู

“อ้าว นอนอยู่เหรอวะ?” วินเซนต์เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าภาสเดินออกมาด้วยสภาพหัวยุ่งๆ
“อืม”
“พี่ภาส สวัสดีครับ” ภาสพยักหน้ารับไหว้ลี่ ก่อนจะเอนตัวให้อีกฝ่ายเดินเข้าห้องมา ภาสสบตากับแมวดื้อที่แก้มแต้มสีแดงจางๆ จากการเจอหน้าลี่แล้วก็ได้แต่เอื้อมมือไปดีดเหม่งนั่น
“พี่ภาส เดี๋ยวคณิตจะมาหา”
“คณิตไม่ว่างมาหรอก”
“อ้าว ได้ไงอ่ะ” ภาสเลี่ยงที่จะไม่ตอบ

แต่เพราะวินเซนต์จะให้ลี่มาอยู่กับตะนิดเลยไม่อยากให้มีอัลฟ่ามาอยู่ร่วมห้อง เขาเลยต้องเรียกผู้ช่วยอย่างไอ้ชายให้เข้าไปวุ่นวายกับอัลฟ่าแฝดพี่แทนให้หน่อย


“อยู่กับลี่ไปก่อน ถ้าหิวก็สั่งอาหารมากินได้ แล้วถ้าจะออกจากห้องไปไหนก็ส่งข้อความมาบอกด้วยเพราะวันนี้คนมาประชุมเยอะ” ภาสเลี่ยงที่จะพูดว่าวันนี้อัลฟ่ามารวมตัวกันอยู่เยอะ แต่ถึงอย่างนั้นตะนิดก็พอจะเข้าใจ
“แล้วพี่ภาสจะกลับมาเมื่อไหร่”
“คงอีกสักสองสามชั่วโมง”
“...” แมวดื้อหน้าจ๋อยลงไปนิดหน่อย สองสามชั่วโมงมันก็นานอยู่นะ
“อย่าดื้อกับลี่นะ”
“จะดื้อ”
“หึ” ภาสกระตุกยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นโยกหัวฟูไปมา
“โห ยิ้มแล้วมึงหล่อเหมือนกันนะเนี่ยภาส” วินเซนต์กอดอกหัวเราะกับภาพตรงหน้า หมดกันภาพนักเลงเก่า เหลือไว้แต่ทาสแมวเกินเยียวยา ซึ่งแน่นอนว่าภาสก็รีบหุบยิ้มหันมาส่งสายตาดุกลับ
“อย่าเพิ่งออกไปเล่นน้ำนะ แดดยังแรงอยู่”
“เพราะแดดจริงเหรอครับคุณภาส ใช่เหรออ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้-” วินเซนต์รีบถือโอกาสแซวแต่ภาสก็เอ่ยขัดไว้อย่างรู้ทัน
“อ้อ หรือถ้าจะเล่นก็พาลี่ออกไปด้วย”
“มึงไม่ต้องเสี้ยมเลยภาส ลี่ ไม่ออกไปเล่นน้ำนะถ้าพี่ไม่อยู่ด้วย” วินเซนต์ขมวดคิ้วเดินเข้าไปโอบเอวคู่พันธะของตัวเอง
“รู้แล้วน่า”
“แล้วแมวก็อย่าเล่นแบบคราวที่แล้วนะครับ คราวนี้พี่ตีนะ” คนโดนเรียกแมวสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบวิ่งไปมุดหลังภาส
“ก็ลองดู” ภาสสบตากับเพื่อนรักตัวเอง
“หมายถึงลองให้กูตี?”
“หมายถึงลองไปเล่นแบบคราวที่แล้วดู ไม่ต้องถึงมือคนอื่นหรอก...” ตะนิดขนลุกซู่พร้อมกับเถียงในใจดังลั่น



ไม่ได้เล่นสักหน่อย!!!
จะมาตีกันได้ยังไง!!!


ได้ขู่แมวจนหางพองสมใจ สองอัลฟ่าก็พากันออกไปจากห้องปล่อยไว้ให้สองแมวอยู่ด้วยกัน เป็นตะนิดเองที่รู้สึกขัดๆ เขินๆ ดวงตากลมจ้องลี่ด้วยความทำตัวไม่ถูก



“น้องตะนิด”
“คะ ครับ”
“ในเมนูมีกุ้งเผาด้วยนะ สั่งมากินไหม” พอมีชื่ออาหารตะนิดก็เดินเข้าไปใกล้ๆ ลี่เพื่อดูเมนู
“โห แต่โลเป็นพันเลยอ่ะ”
“พี่เลี้ยงเอง”


...หมายถึงพี่ภาสน่ะนะ
ลี่แอบเหลือบตามองปลอกคอบนลำคอขาวนั่นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ขนาดปลอกคอเกือบแสนยังซื้อมาง่ายๆ กุ้งเผาโลไม่กี่พันขนหน้าแข็งพี่ภาสก็คงไม่ร่วงหรอก


“พี่ลี่ๆ มีปูด้วย”
“สั่งแบบเขาแกะมาเลยได้ด้วย เอาไหม”
“เอาๆ ผมเอาแตงโมปั่นด้วย”
“ต้มยำกุ้งก็ดีนะ แต่ตะนิดกินเผ็ดได้รึเปล่า?”
“กินได้ครับ”


ลี่แบบลอบยิ้มเบาๆ เมื่อตอนนี้ตะนิดกระเถิบมานั่งติดเขาแล้ว หลังจากที่เว้นระยะห่างมาตั้งแต่เขาเดินเข้าห้อง เอาอาหารมาล่อสำเร็จจริงๆ เหมือนที่พี่ภาสบอกไว้ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าลี่เองก็ไม่ได้หยิบเรื่องในอดีตขึ้นมาพูด เขาปล่อยให้ตะนิดชวนคุยนู่นนี่ไปเรื่อยจนอาหารมาก็กินอาหารไปดูหนังไปเพลินๆ


“พี่ลี่ๆ แล้วพี่ลี่กับพี่วินมาเจอกันได้ไงอ่ะ” ตะนิดที่เคี้ยวกุ้งแก้มตุ่ยเอ่ยถาม
“เจอกันครั้งแรกสมัยเด็กน่ะ แล้วก็มาเจอกันอีกทีตอนเรียนมหาลัยแล้ว”
“แล้วพี่ลี่รู้ตอนไหนอ่ะว่าพี่วินเป็นคู่แห่งโชคชะตา”
“ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วแหละ แต่มันมีเรื่องที่ทำให้ต้องห่างกันตอนนั้น” ลี่อมยิ้มเล็กๆ เมื่อนึกกลับไปถึงเรื่องสมัยก่อน
“เรื่องอะ-“ ตะนิดกำลังจะถามต่อแต่เสียงแตะคีย์การ์ดที่ประตูห้องก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน


ติ๊ดๆ

“โอ้โห กลิ่นอาหารนำมาเลย” เป็นเสียงชายดังขึ้นเป็นเสียงแรก ตะนิดผุกลุกขึ้นยืนก่อนจะออกตัววิ่งไปที่ประตูเตรียมจะเอ่ยทักทายพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่ทว่าคนที่เดินตามพี่ชายมากลับทำให้ตากลมเบิกกว้างทันที
“พี่เต้อ!”
“ว่าไงน้องแมวววว”
“พี่มาทำไรที่นี่เนี่ย”
“ทำงานสิ เห็นแบบนี้พี่ก็ทำงานทำการอยู่นะคะ”
“ตะนิด เป็นไงบ้างครับ ไม่เจอกันนานเลย คิดถึงนะเนี่ย”
“พี่ชาย!”
“เห้ย ถอยออกมาเลยนะโว้ย!!” เสียงคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับแรงกระชากพี่ชายและพี่เต้อออกห่างจากประตู
“อ้าว คณิตตตตต”
“พวกมึงน่ะรนหาที่ตายกันจริงๆ นะ” วินเซนต์พูดขึ้นขัดเมื่อเจ้าของแมวน่ะยืนหน้ายักษ์อยู่หลังสุด
“หลบไป” ภาสเอ่ยเสียงดุซึ่งตัวป่วนทั้งหลายก็หลบให้แต่โดยดี

 ภาสเดินเข้าห้องมาพร้อมกับใช้มือดันหลังให้แมวดื้อเดินมาพร้อมกัน พอเข้ามาในห้องเขาก็เห็นจำนวนอาหารล้นโต๊ะพร้อมกับลี่ที่นั่งแกะกุ้งอยู่


“พี่ภาส งานเสร็จแล้วเหรอ”
“สำหรับวันนี้เสร็จแล้ว...”
“แต่เดี๋ยวมีพูลปาร์ตี้ด้วยนะ สนใจไปไหมตะนิด” ชายเดินมาขยี้หัวฟูก่อนจะโดนเพื่อนหน้าดุตวัดตามองดุ
“พูลปาร์ตี้?”
“ใช่ ปาร์ตี้ริมสระแถมยังริมทะเลด้วย”
“มึงไม่ต้องไปเลยไอ้อ้วน” คณิตรีบดักทางด้วยความรู้ดีว่าแฝดน้องขี้เมาขนาดไหน แต่เห็นจากประกายในดวงตานั่นแล้วก็คิดว่าคงจะดักไม่ทันแล้ว
“หูววววว เหล้าฟรีเลยป่ะพี่ชาย”
“...” ถึงตอนนี้ภาสก็คิ้วข้างขวากระตุกยิกๆ เหมือนมีรางบอกเหตุอะไรสักอย่าง
“ฟรีสิ”
“เห้ยยยย ไปเลยป่ะพี่!!!”
“เพิ่งบ่ายสามเอง รีบเหรอน้องแมว” เต้อพูดพลางหัวเราะในลำคอ
“ว่าแต่พี่เต้อมาไงเนี่ย”
“อาเธอร์เป็นเพื่อนพี่เอง”
“เพื่อนพี่ชาย?”
“ใช่ครับ เพราะงั้นต่อให้แฝดพี่ตะนิดเตะมันกระเด็นก็ไม่ต้องกลัวตกงานหรอกนะครับ” พอพูดเหตุการณ์หน้าตึกตะนิดก็ยิ้มเจื่อน


ส่วนเจ้าของรอยเท้าที่ยืนอยู่ไม่ไกลไม่แม้แต่จะรู้สึกผิด นอกเหนือจะไม่รู้สึกผิดแล้วยังรำคาญอีก ตอนถึงที่พักกะจะออกมาชวนตะนิดไปเดินหาดก็ดันโดนทั้งชายและเต้อดักกวนประสาทตั้งแต่หน้าห้อง กว่าจะได้มาหาตะนิดก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง

“แต่เตะอีกรอบพี่สู้แล้วนะน้องพี่แมว” เต้อหันไปส่งยิ้มกวนประสาทใส่แฝดพี่ ซึ่งคณิตก็ได้แต่กอดอกเส้นเลือดกระตุก จริงๆ ก็อยากจะตีนกระตุกใส่อีกสักรอบเหมือนกัน
“พี่ภาสๆ” ภาสที่มองทุกอย่างอยู่ถูกกระตุกชายเสื้อเบาๆ เขาเลยหันไปหาเจ้าของเสียงอ้อน
“หืม?”
“ไปปาร์ตี้ได้ป่าววว”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันไปด้วย”
ปกติแล้วภาสแทบไปค่อยโผล่ตัวไปปาร์ตี้สักเท่าไหร่ ด้วยความไม่ใช่คนชอบคุยกับไม่ชอบสถานที่เสียงดัง แต่หากแมวดื้อจะไปแล้ว เขาก็คงจะต้องตามไปดูเสียหน่อย พอตอบอนุญาตไปเจ้าแมวก็ส่งยิ้มมาให้ใจกระตุกเล่นก่อนจะกลับไปเล่นกับแฝดพี่ต่อ ปล่อยให้เขายืนกุมใจเสียอาการให้เพื่อนแซวทางสายตาอยู่คนเดียว   


เขาแยกย้ายกันไปแต่งตัวก่อนจะนัดกันออกมาเจอที่ริมสระน้ำพร้อมกันในช่วงสองทุ่ม สระน้ำที่ดูน่ากระโดดเล่นเมื่อตอนกลางวัน ตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยห่วงยางนกฟลามิงโก้และหงส์ขนาดใหญ่ ภายรอบที่ปกติจะมีเพียงเก้าอี้นั่งก็เสริมเติมด้วยโต๊ะคอกเทลขนาดกลางประดับด้วยไฟหลากสีสัน


“ไปดูเมนูค๊อกเทลกันพี่ลี่” ตะนิดชายเสื้อลี่ยิกๆ ซึ่งลี่ก็ส่งยิ้มพร้อมกับพาแมวดื้อไปที่เคาท์เตอร์บาร์ ส่วนทางเหล่าอัลฟ่าที่ยืนกันอยู่ที่โต๊ะก็ได้แต่มองตามไม่วางตา
“นี่ คุณ” คณิตเดินมายืนข้างอัลฟ่าหน้าดุคู่แห่งโชคชะตาของน้องตัวเองพร้อมกับจ้องไปที่แฝดน้องนิ่ง
“...”
“ตะนิดขี้เมามาก เวลาเมาโคตรแสบ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อยแล้วกัน”

ยังจะแสบไปกว่านี้อีกเหรอ...
ภาสที่เพิ่งได้รับข้อมูลใหม่กะพริบตาปริบๆ สงสารตัวเองในอนาคตเผื่อไว้ตั้งแต่วินาทีนี้

“ปกติก็ชอบกินเหล้าอยู่แล้วเหรอ?”
“ออกกลางคืนบ่อยจนแม่บ่น กลับมาสภาพเหมือนหมาตลอด”
“คอแข็งงั้นสิ”
“หึ ให้มากสุดสองแก้ว”
“...”

ภาสมองแมวดื้อที่วิ่งดุ๊กๆ กลับมาพร้อมกับแก้วลองไอแลนด์ในมือ ดวงตากลมเบิกกว้างเป็นประกายเหมือนเวลาแมวเห็นปลาทู

“พี่ภาสสส ชนนนนน”

ชนอะไรล่ะ ยังไม่ทันได้สั่งอะไรเลย...
เขาขมวดคิ้วแล้วยกกำปั้นแทนแก้วน้ำขึ้นชนกับแก้วอีกฝ่าย

แมวดื้อก็ยิ้มพอใจก่อนจะหันกลับไปคุยเล่นกับลี่ต่อ พอแอลกอฮอลล์เข้าปากแล้วดูจะยิ้มเก่งกว่าปกติ แก้มขาวนั่นยกยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนเขารู้สึกหงุดหงิด

ภาสตัดสินใจสั่งเบียร์สดมากินระหว่างรอดูแมวดื้อเมา เอาจริงๆ เขาไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายเมานักหรอก แต่ไหนๆ ก็อาจจะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน สังเกตพฤติกรรมไว้รับมือในอนาคตหน่อยก็คงจะดี
แม้ที่โต๊ะจะมีบทสนทนาเกิดขึ้นมากมายแต่เขาก็ไม่แม้แต่จะสนใจฟัง ดวงตาใต้กรอบแว่นของเขานั้นสนใจอยู่แค่โอเมก้าตัวน้อยที่นั่งห้อยขาอยู่ริมสระ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มยิ้มจนตาปิดกับส่งเสียงดังโวยวายมากขึ้นหลังจากกินคอกเทลแก้วที่สามเข้าไป

ว่าแต่ทำไมแก้วคราวนี้จุดไฟด้วย สั่งเมนูอะไรไปน่ะ?
แล้วดูดทีเดียวหมดด้วยเลยงั้นเหรอ...

“พี่ลี่ๆๆ”
“หืม?”
“รู้ป่าววว ม้าอะไรบินด้ายยยยย”

นั่นเมาแล้วนี่...

“อืม ไม่รู้เลย เฉลยหน่อย”
“ไม่เหลยๆๆ อ๊ะ! พี่เต้อๆๆ ม้าอะไรบินได้ๆๆๆ” เต้อที่กลับมาจากการไปเข้าห้องน้ำจำต้องแวะคุยเมื่อถูกแมวดื้อดึงขากางเกงไว้
“ม้าแลงปอป่ะน้องแมวว” 
“ผิดดดด”
“แล้วม้าอะไรคะ”
“ม้ารู้เหมิงกันนนน ม้าบ้านพี่บินได้อ่อพี่เต้อออออ” 
“แหนนน เห็นว่าน่ารักนะเนี่ย ไม่น่ารักพี่ตีเหม่งแตกแล้ว” เต้อยกมือขึ้นตีลมหลอกๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ เขาหันไปสะกิดบอกอัลฟ่าหน้าดุที่จ้องแมวดื้อเขม็งมาพักใหญ่ “คุณภาส น้องเมาแล้วนะ”
“อืม เห็นแล้ว”  ภาสถอนหายใจมองแมวดื้อที่ตาเยิ้มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากสักพักก็เอาหัวถูหัวไหล่ลี่ไปมาเหมือนแมวกำลังอ้อน ตะนิดลุกขึ้นยืนแบบโอนเอนจนลี่ต้องลุกขึ้นยืนเป็นเพื่อน
“คณิตโว้ยยยยยยยย”
“อะไร” คณิตที่นั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะตะโกนตอบ
“มึงว่ากูเท่ป่ะ”
“ที่สุดในโลกเลยมึง”
“ใช่ป่าวววว กูเท่ใช่ป่าววววว”
“เออ อย่าตะโกนสัด กูอาย”
“กูเท่กว่าไอรอนแมนป่ะ”
“เท่กว่า”
“เพราะกูคือ!!!”
“...”
“ไอร่อนแมววววววววว”


พูดจบไอร่อนแมวก็ชูแขนทำท่าบิน แต่ด้วยความที่ประสิทธิภาพในการทรงตัวต่ำ ไอร่อนแมวจึงขาสั่นเอนตัวไปมา เหมือนภาพสโลว์โมชั่นที่น่าหวาดเสียว ลี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนภาสและคณิตออกตัววิ่งไปพร้อมกันแต่ก็ไม่ทัน

ซ่า!!!!

“ตะนิด!!!!!!” ภาสและคณิตกระโดดน้ำตามลงไปทันทีแต่เป็นภาสที่จับแมวดื้อพยุงขึ้นได้ก่อน ตะนิดตวัดมือรัดรอบคอแกร่งไว้ทันที ใบหน้าดื้อดูตกใจเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเผล่ที่เห็นว่าอัลฟ่าหน้าดุตอนนี้ไม่มีแว่นประดับอยู่แล้ว หน้ายังดุเหมือนเดิมเลยยยย
“ไอร่อนแมววววววว”
“เธอ... ไอ้ดื้อนี่”
“ไอ้ห่าตะนิดมึง!!!” เป็นแฝดพี่ที่ด่าจัดเต็มกว่า คณิตในสภาพหมาตกน้ำฟาดหัวน้องดังปั้กจนหัวโยก แมวดื้อที่ถูกอุ้มอยู่ใต้น้ำเอนหัวซบบ่าแกร่ง
“พี่ภาส...”
“ว่าไง”
“ตะนิดน่ะ”
“...”
“พี่ภาสๆ”
“ว่าไง”
“ตะนิดน่ะน้า...”
“...”
“อยากอ้วกจังครับ อึ่ก...”
“เชี่ยๆ ฉิบหายๆ เอามันขึ้นน้ำก่อนพี่” ภาสรีบว่ายไปตรงบันไดทันทีที่แมวดื้อบอกว่าจะขย้อนของเสียออกมา คณิตเป็นฝ่ายกระโดดขึ้นไปช่วยอุ้มตะนิดขึ้นก่อนที่ภาสจะปีนขึ้นจากน้ำตามไปอุ้มต่อ แมวดื้อที่เนื้อตัวเปียกมะล่อกมะแล่กถูกหิ้วไปแถวพุ่มไม้
“พี่ภาส พี่ภาสส”
“นั่งดีๆ ก่อนตะนิด” ภาสเอ่ยดุแมวดื้อที่ตวัดรัดคอเขาไม่ยอมผละออก
“ค่อก...”
“เห้ย ไอ้ภาสมึงระวังน้อง-“
“ค่อก แหวะะะะะะะะ”


ภาสสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่ไหลลงหลังได้อย่างชัดเจน ดวงตาดุใต้แว่นหลับลงพร้อมกับถอนหายใจ แขนแกร่งยกขึ้นลูบแผ่นหลังคนในอ้อมกอดต่อเบาๆ ไหล่เล็กของสะนิดสั่นสะท้านพร้อมกับส่งเสียงขย้อนอยู่อีกสักพักถึงสงบลง


“โอ้โห คุณภาสครับ หลังเละเทะเลยแหละ” เต้อเอ่ยเสียงแผ่วกับภาพตรงหน้า น้องแมวเล่นเสียเขาแทบจะขย้อนตาม
“อืม”  ไม่ต้องเห็นภาสก็พอจะนึกภาพออก
“แหม นึกถึงอดีตเลยเนาะลี่” วินเซนต์หันไปยักคิ้วใส่คนรัก ซึ่งลี่ก็ส่งสายตาดุกลับ     
“พี่วิน ไม่ใช่เวลา”
“ล้อเล่นน่ะ เอ้า ภาสมึงถอดเสื้อมา กูขอผ้าเช็ดตัวมาแล้ว” ภาสกะจะผละตัวออกมาถอดเสื้อแต่แมวดื้อก็รัดคอไว้แน่นจนต้องถอดเสื้อเชิ้ตเปลี่ยนอย่างทุลักทุเล เขาไม่ได้รับผ้าเช็ดตัวจากวินเซน์มาคลุมตัวเองแต่ใช้ตวัดคลุมเจ้าแมวไว้
“ขอตัวก่อนแล้วกัน”
“เออ ตามสบายเลยมึง” เขากระชับสะโพกนิ่มในอุ้งมือให้มั่นก่อนจะอุ้มพาแมวขี้เมากลับห้อง ระหว่างทางเดินตะนิดก็พยายามดันหัวออกจากไหล่แต่เขาก็ใช้มือกดให้หน้าแนบไปกับไหล่ตามเดิมจนกระทั่งถึงห้อง เขาตัดสินใจเอาแมวดื้อไปวางไว้ในอ่างอาบน้ำ
“อย่าดื้อนะตะนิด นั่งนิ่งๆ ฉันจะไปปิดผ้าม่าน” ภาสใช้นิ้วชี้สั่งแมวดื้อที่นั่งตาปรืออยู่ในอ่างก่อนจะรีบผละตัวไปปิดผ้าม่านห้องนอนพร้อมกับคว้าเสื้อยืดตัวเองติดมือมาหนึ่งตัวให้แมวดื้อใส่แทนชุดนอน พอกลับมาก็เห็นว่าเจ้าแมวดื้อพยายามจะยกขาออกมาจากอ่างแต่ก็เมามากจนหน้าไถลปักพื้น
“อึ๊... เจ็บน้า”
“ตะนิดลุกขึ้นดีๆ”
“พี่ภาสๆ นิดอ่ะ”
“...”
“มีไฝที่ก้นด้วย”

พระเจ้า...
เขารีบพุ่งตัวไปจับแขนเล็กนั่นไว้ทันทีก่อนที่จะมีการถอดกางเกงกันเกิดขึ้น ภาสหายใจหอบเรียกสติตัวเองสองสามวิก็จับตะนิดกลับไปวางในอ่างเหมือนเดิมพร้อมกับเปิดน้ำอุ่นรองไว้ ตะนิดยู่หน้าเล็กน้อยเมื่อโชว์ไฝไม่สำเร็จ

“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“คณิตก็มีไฝที่ก้นนะ ของนิดก้นซ้าย คณิตก้นขวา”
“...”
“พี่ภาสๆ”
“เรียกชื่ออยู่ได้ ติดใจชื่อฉันหรือไง”
“ทำไมพี่ภาสถอดเสื้อ ให้นิดถอดเป็นเพื่อนไหมมม” แขนเล็กเตรียมจะรั้งเสื้อยืดขึ้นถอดแต่ภาสก็ดึงลงไว้ก่อน
“ไม่ต้องถอด อยู่นิ่งๆ เลย”
“อื้อ นิดเชื่อฟังน้า” ตะนิดส่งยิ้มเผล่ตาปิดเป็นสระอิพร้อมกับชูสามนิ้วลูกเสือขึ้นตะเบ๊ะ
“อาบน้ำไปทั้งเสื้ออยู่ครบนั่นแหละ” ภาสลากสบู่มาเทใส่มือเล็กพร้อมกับปีนขึ้นไปนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำขังแมวดื้อไว้ตรงหว่างขา ตะนิดหยักหน้ารับทราบก่อนจะใช้มือลูบสบู่ไปทั่วตัวส่วนภาสก็เทแชมพูขึ้นขยำบนหัวทุยนั่นเบาๆ
“พี่ภาสๆ”
“หืม”
“พี่ภาสๆ”
“ว่าไง”
“พี่ภาสๆ”
“อะไรแมวดื้อ”
“นิดชอบกลิ่นพี่ภาสนะ”
“...”
“พี่ภาสเป็นคุณนุ่มเบอร์ศูนย์ของนิดเลย”

ภาสก้มมองลำคอขาวตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจไถลตัวเองลงไปในอ่างทั้งกางเกงโดยนั่งซ้อนหลังคนเล็กไว้ ตะนิดเองพอเห็นอีกคนลงมาอาบน้ำด้วยก็เอนหัวซบอกเปลือยของอีกฝ่าย มือเปื้อนฟองสบู่ยกขึ้นเขี่ยคางคนแก่กว่าไปมา

“กินอะไรไปบ้างถึงได้เมาขนาดนี้”
“นิดรู้ๆๆ ลองไอแลนด์เป็นชามะนาวว มาร์ตินี่ขมอ่ะอันนี้ไม่ชอบ มะ มวยไทยอร่อยดี แต่อร่อยสุดแก้วสุดท้ายบีฟิฟตี้ทู อร่อยมากกกกกกก จุดไฟเท่ๆ ด้วย”
“...” ไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมเมาอ้วกขนาดนี้ แต่ค็อกเทลน่ะน่าจะชื่อไหมไทยไม่น่าใช่มวยไทยหรอก ภาสถอนหายใจก่อนจะมือขึ้นบีบแก้มนุ่มเบาๆ เป็นการลงโทษ
“อื้ออออ แต่นิดยังอยากกินอีกนะ”
“ยังจะกินอีกเหรอ อ้วกเละเทะขนาดนี้”
“อื้อ นิดอยากลอง sex on the beach
“...”
“อื้อ อะไรแข็งๆ ดันก้น...” คนตัวเล็กขมวดคิ้วพร้อมกับบิดสะโพกหนี ภาสยกมือขึ้นเสยหน้าม้าก่อนจะลุกขึ้นยืน
“รีบอาบน้ำได้แล้ว แมวดื้อ” 
“ค้าบพ้มมมมม”

ภาสลุกขึ้นไปนั่งนิ่งๆ อยู่บนเคาท์เตอร์อ่างล้างมือพลางมองออกไปที่เตียง สุดท้ายแล้วคนที่มีปัญหากับการที่ห้องน้ำและห้องนอนไม่มีประตูกั้นดันเป็นเขาเสียเอง


เขาจะจดจำไว้ให้ดีๆ เลยว่าแมวดื้อเวลาเมา
จะกลายร่างเป็นแมวยั่ว

ให้ตายเถอะ
... ต้องนั่งสมาธิอีกแล้ว


หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-06-2020 23:21:19
ตะนิดเอ๊ย...ยยยย เห็นใจพี่ภาสหน่อย   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 11-06-2020 01:17:55
พี่ภาสต้องรับมือแมวดื้อไปอีกนานเล้ยยย อยากให้พี่แฝดคณิตมีคู่จัง 3P ก็ได้เลือกไม่ถูกระหว่างพี่ชายกับพี่เต้อ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-06-2020 09:37:26
สงสารพี่ภาส
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 11-06-2020 17:03:22
ตะนิดรู้กก เจ้าไอร่อนแมวววว ขี้เมา :hao7:
ยื่นพาราให้พี่ภาส วงวาร  :hao5:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 11-06-2020 18:51:32
ตะนิดลูกกกกยัยหนูแกงพี่ภาสหม้อใหญ่มาก วงวานพี่ภาสเลยอะ แล้วพอสร่างเมาจะจำได้ไหมว่าพูดอะไรไป ชอบตรงที่บอกว่าเป็นเบอร์0อะก็คือมาก่อนที่1อีกอ่านแล้วเขินมากๆๆน่ารักมากๆเลย :m25: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 12-06-2020 00:06:03
น่าร๊ากก เอ็นดูทั้งน้องทั้งพี่พลาด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 12 : แมวเมา [10/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย ที่ 13-06-2020 00:39:35
น่าสงสารจังค่ะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 15-06-2020 20:24:30
ก็จะดื้อ 13
รัท



เช้าแสนสดใสของตะนิดมักจะเริ่มต้นด้วยแสงแดดส่องกับกลิ่นลาเวนเดอร์จางๆ  แต่วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบเดือนที่เขาตื่นขึ้นด้วยอาการจี๊ดหัวอย่างรุนแรง

อะไร...
ใครบังอาจมาเจาะถนนบนหัวเขา ทำไมถึงปวดขนาดนี้

ตะนิดขยี้ตาไปมาก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อที่จะเห็นใบหน้าคล้ายตัวเองนั่งกอดอกจ้องอยู่ในระยะประชิดเตียง

“เชี่ยยยยยยย!!! อะไรของมึงเนี่ยคณิต ตกใจหมด!!!” ตะนิดโวยวายลั่นพร้อมกับเหวี่ยงคุณนุ่มเบอร์ห้าใส่แฝดพี่ที่บังอาจมาโผล่ให้ตกใจตั้งแต่เช้า
“กูไหมตะนิด กูไหม”
“กูอะไร”
“กูไหมที่ต้องอยากปาคุณอ้วนเบอร์ห้านี่ใส่มึง”
“คุณนุ่มไม่ใช่คุณอ้วน!!!”
“มึงดูสภาพตัวเองก่อนไอ้เวร!!”

สภาพ?
ตะนิดตวัดสายตากลับมาพิจารณาตัวเอง ก็ไม่มีอะไรนี่นา แค่ใส่เสื้อยืดตัวเดียวนอนเองมันแปลกตรงไหนก-

เอ๊ะ...
เสื้อยืดตัวเดียว? 

“เสื้อมึงเหรอคณิต?”
“...”
“เห้ย กูไม่ได้ใส่เกงในด้วย” เปิดโปงผ้าห่มแล้วตะนิดก็เกือบตกใจ เจอมังกรยักษ์เข้าให้
“...”
“เอ๊ะ มึงกัดต้นขากูด้วยเหรอ ฟ้องแม่นะ!”
“โอ๊ย กูอยากจะเป็นลม” คณิตซบหน้าลงกับเตียงด้วยความไม่ไหวในความเอ๋อของแฝดตัวเอง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาสัญญาว่าจะไม่แย่งสารอาหารจากแม่เลย เผื่อแฝดน้องมันจะเด๋อน้อยกว่านี้ลงบ้าง สักสิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังดี

“เสื้อฉันเอง” ภาสที่ยืนพิงกรอบประตูจิบกาแฟมองความวุ่นวายพูดขึ้น แน่นอนว่าแมวดื้อก็หันขวับไปทันที 
“เสื้อพี่ภาส? แล้วทำไมนิดใส่เสื้อพี่ภาส?”
“เพราะเราเมาอ้วกเละเทะที่ปาร์ตี้เมื่อวาน” ภาสจ้องตะนิดผ่านกรอบแว่นด้วยสายตาติดดุอยู่เล็กน้อย แต่นั่นก็ทำเอาเจ้าแมวขี้กลัวหางพองขึ้นมาทันที
“ขะ ขอโทษครับ”
“มึงเมาแล้วอ้วกใส่พี่เขา”

ห๊ะ!!!!!
ถึงตอนนี้แมวดื้อก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว ตากลมจ้องอัลฟ่าหน้าดุอย่างไม่อยากจะเชื่อ โอมายก็อด อย่างน้อยก็อ้วกใส่คณิตไม่ได้เหรอ ทำไมหวยต้องไปลงกับคนที่ดุขนาดนั้นด้วยล่ะ

“ขอ ขอโทษครับ”
“อืม”
“ละ แล้วกางเกงใน”
“ฉันใส่ให้แล้วแต่เธอพยายามจะถอดโชว์ไฝอยู่หลายรอบ ฉันเลยเก็บคืนกระเป๋า”

โชว์ไฝ!!!!
บ้าไปแล้วเรอะ นั่นไฝนะไม่ใช่กายกรรมจะโชว์ทำไม!!!
หรือนี่คือผลพวงของการที่เราไม่มีสกิลอะไรให้อวดมาก จิตใต้สำนึกเลยพยายามจะอวดอะไรบางอย่างที่มีตอนเมา แต่โชว์ไฝเนี่ยนะ!! อย่างน้อยโชว์พับลิ้นก็ยังดี!!! ว่าไฝจุดไหนนะ เขามีไฝสองที่คือที่ฝ่าเท้ากับที่ก้น แต่คงที่ฝ่าเท้าแหละ ใครจะบ้าไปเปิดก้นโชว์คนอื่น

แต่เอ๊ะ...
ถอดโชว์ไฝ?

“ตะนิด” เสียงขรึมดังเรียกมาจากฝั่งเตียง ตะนิดค่อยๆ หันหัวช้าๆ ไปทางแฝดพี่พร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ไอ้หยาาาาาาา เสียงคณิตต่ำมาเลย
“คณิต กูรักมึงน้า” บอกรักไว้ก่อนแล้วความผิดเราจะลดลงมาครึ่งหนึ่ง แม่สอนไว้ ซึ่งก็เหมือนจะได้ผลเพราะคณิตถอนหายใจแบบเหนื่อยใจแบบนี้แสดงว่าหายโกรธแล้ว ตะนิดอมยิ้มดีใจ แต่ยังไม่ทันจะดีใจได้สุด คนที่ยืนมองเงียบๆ ก็ปาระเบิดลูกใหญ่ลงมา

“ว่าแต่แฝดกันแถมมีไฝอยู่ที่เดียวกันถึงจะคนละข้างนี่ก็แปลกดีนะ”

เจี๊ยก...
ไฝแฝดอยู่ที่ก้น!
ตะนิดตาแทบกลิ้งไปด้านหลังเมื่อภาสบอกบางอย่างที่มันควรจะเป็นความลับระหว่างครอบครัวเขาออกมา ซึ่งแน่นอนว่าคณิตถลึงตาจนถลน ส่วนเขาก็พยายามกลั้นใจอยู่ เผื่อสลบจะได้รอดพ้นจากการโดนคณิตบ่น

“เอ่อ... คณิต กูรักมึงน้าาา ตะนิดรักคณิตสุดๆ รักมากๆ  รักมากเท่าโลกชุบแป้งสามชั้นชุบเกร็ดขนมปังสามชั้นไข่อีกห้าชั้นแล้วเอาไปทอดเลย”
“มึง ไอ้อ้วน...”
“กูเมาน้าคณิต ลดโทษครึ่งหนึ่งได้ไหม นะๆ คนไทยด้วยกัน” คณิตทำหน้าโมโหสุดๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจยาว แฝดพี่ยกมือขึ้นดีดเหม่งแฝดน้องไปหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ช่างเถอะ แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วกัน กูไปรอด้านนอก”
“คณิต เดี๋ยว...” พอแฝดพี่ไม่โกรธเท่าที่คิดก็พานให้แมวดื้อไม่สบายใจ ดวงตากลมมองแผ่นหลังของแฝดพี่ที่ค่อยๆ เดินห่างไปน้ำตารื้น แมวดื้อรีบดึงขาออกจากผ้าห่มวิ่งไปกอดหมับเข้าที่เอวคนเป็นพี่ “คณิต ขอโทษแล้ว ขอโทษนะ ให้ตีก็ได้ ไม่โกรธกันแบบนี้”
“เออ”
“มึงเออใส่กูได้ไง โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ ขอโทษแล้วไง แม่สอนว่าถ้าขอโทษแล้วต้องหายโกรธดิวะคณิต”
“ก็เออหายโกรธแล้วไง”
“ทำไมมึงหายง่าย มึงโกรธมากเลยเหรอ”
“เออ โกรธฉิบหาย ไอ้อาการไม่ระวังตัวของมึงเนี่ยสอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ โกรธโคตรๆ แต่ก็...” คณิตถอนหายใจพร้อมกับเงยหน้าสบตากับอัลฟ่าเลือดแท้ที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า เขาเพิ่งจะรู้จากปากอีกฝ่ายว่าตะนิดฮีทแล้วและอีกฝ่ายก็อดทนไม่ได้ทำอะไร แถมยังคอยดูแลน้องเขาตอนฮีทมาอย่างดี 

ก็พอที่จะวางไว้ได้นิดหน่อย
แต่ก็แค่นิดหน่อยแหละนะ ไม่มีใครบนโลกที่จะรักตะนิดได้เท่าเขาหรอก

“แต่ก็?”
“มีคนคอยดุเพิ่มก็วางใจหน่อย กูไม่บ่นก็มีคนอื่นช่วยบ่น” 
“...”
“ฝากด้วยแล้วกัน... ครับ” คณิตใช้ลิ้นดุนแก้มเล็กน้อยก่อนจะผละเดินออกมาจากตัวห้องนอน ตะนิดมองตามหลังแฝดพร้อมกับขมวดคิ้ว

ฝากอะไร? จะพูดว่าฝากไว้ก่อนรึเปล่า?
กำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ก็โดนแขนแกร่งที่รอจังหวะอยู่ดึงไว้เสียก่อน ภาสเหลือบมองขาขาวที่โผล่พ้นชายเสื้อนอนเขาพร้อมกับเงยขึ้นมองใบหน้าดื้อที่มองกลับมาอย่างสงสัยว่าเขารั้งไว้ทำไม

“มีคนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเยอะ” ภาสเอ่ยตอบพร้อมกับดึงแขนแมวดื้อกลับเข้าไปในห้อง เขาวางแก้วกาแฟไว้ที่โต๊ะหัวเตียงก่อนจะหันกลับมามองแมวดื้อ
“พะ พี่ภาส”
“ติดไว้ก่อนนะ ไว้ถ้าคิดออกว่าทำโทษเธอยังไงแล้วฉันจะกลับมาคิดบัญชี”

เจี๊ยกกกกกกกกกกกกกก
แมวดื้อถึงกับหน้าซีดหางจุกตูด ภาสผละออกจากร่างเล็กเดินไปปิดผ้าม่านกันคนมองเข้ามาเห็นแมวดื้ออาบน้ำก่อนจะเดินกลับมาหยิบแก้วกาแฟ

“พี่ภาส คือนิด...”
“แต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวจะออกไปกินร้านอาหารริมหาดกัน ฉันเตรียมน้ำส้มไว้ให้ที่โต๊ะดื่มแก้แฮงค์ก็ได้” 
“...”
“อ้อ แล้วไม่ต้องพยายามโชว์ไฝแล้วนะ”
“อ๊ะ”
“เมื่อวานฉันเห็นชัดพอแล้ว”

พูดจบภาสก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้แมวดื้อแก้มแดงจนแทบระเบิดอยู่คนเดียว

กว่าตะนิดจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบบ่ายโมง แน่นอนว่าพอออกมาเจอหน้าเดอะแก็งทุกคนตะนิดก็ทำหน้าไม่ถูกได้แต่วิ่งไปหลบหลังภาสหลบหนีสายตาแซวจากทุกสารทิศ

 ... และเป็นพิเศษมาจากทางอาเธอร์

“น้องแมวคะ ม้าอะไรบินได้”
“...”
“อ้าว ไม่เล่นเลย”
“...” แมวดื้อที่พอจะจำความได้เล็กน้อยก่อนภาพจะตัดที่ตกน้ำกระตุกชายเสื้ออัลฟ่าคู่แห่งโชคชะตายิกๆ ให้รีบพาออกจากห้อง ส่วนแก้มขาวแต้มสีแดงไปยันหูด้วยความอาย
“ม้าอะไรวะเต้อ” ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเต้อถามขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ที่โดนตะนิดมองค้อนมา
“ม้ารู้ววว หนูเป็นไอร่อนแมวววววว ตู้มมมม บุ๋งๆๆๆ”
“พี่เต้อ!!! พี่ชาย!!! ผมโกรธพี่แล้ว!!!”
“อ้าว ไม่โกรธกันสิคะ”
“เห้ย โกรธแบบนี้ จาวิสจะแนะนำให้ปล่อยแสงใส่พวกพี่เปล่า” วินเซนต์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลทำท่าตกใจกลัวพร้อมกับซุกหนีที่ไหล่ลี่
“ปล่อยพลังอุลตร้าแมววว” ลี่ทำท่าแขนบวกกันปล่อยพลัง
“เกาะหลังเก่งนี่ หรือจะสไปเดอร์แมว” คณิตเอ่ยพร้อมกับกระตุกยิ้ม
“พี่ภาสๆ นิดหิวแล้ว” ตะนิดมุดหน้าเข้ากับแผ่นหลังใหญ่ซ่อนใบหน้าเขินอายของตัวเองไว้ ภาสหัวเราะในลำคอกับภาพตรงหน้าก่อนจะเบี่ยงตัวเดินนำขบวนออกจากห้องพัก

วันนี้เขาเดินทางด้วยรถตู้อัลพาร์ดสีขาวที่เช่ามาจากทางโรงแรมโดยมีคนขับรถขับมาให้พร้อม แมวดื้อไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่ออกมาจากโรงแรม เจ้าตัวนั่งแก้มตุ่ยงอนเดอะแก็งทุกคนที่เอ่ยแซว พอทุกคนเห็นว่าแมวดื้อเขินก็ยิ่งแซว สุดท้ายเจ้าแมวดื้อก็กระตุกชายเสื้อเขายิกๆ ให้ช่วยปราม แน่นอนว่าเขาทำเพียงส่งเสียงกระแอมเบาๆ แค่นั้นรถก็ตกอยู่ในความสงบให้เสียที

ร้านอาหารที่เขายกขบวนมากันวันนี้เป็นร้านที่ได้รับการแนะนำมาจากบาร์เทนเดอร์เมื่อวานก่อนที่ไอร่อนแมวจะก่อเรื่องจนต้องแยกย้ายกันกับห้อง โดยเป็นร้านอาหารริมชายหาดที่มีการตกแต่งและบรรยากาศเข้ากับทะเลได้อย่างดี ทำให้แมวดื้อที่งอนแก้มเป็นก้อนเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มกว้างลากแฝดพี่ไปถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว

ด้วยความที่หิวกันมาทั้งหมดทำให้เผลอสั่งอาหารกันเพลินมาเต็มโต๊ะ ตะนิดวันนี้เจริญอาหารน้อยกว่าวันอื่นอาจจะเพราะยังแอบแฮงค์อยู่เล็กน้อย กินไปได้นิดหน่อยเจ้าตัวก็อิ่มขอไปเดินเล่นที่หาดทราย คณิตที่ยังกินข้าวไม่เสร็จทำให้ภาสต้องเป็นฝ่ายลุกตามแมวดื้อออกมาแทน 

แผ่นหลังเล็กใต้เสื้อยืดสีขาวพอถูกลมพัดก็แนบเนื้อจนเห็นเอวคอด ภาสมองภาพตรงก่อนจะแอบลอบยิ้มเบาๆ

แมวกับทะเล
ก็เข้ากันได้ดีเหมือนกัน

“ทากันแดดมาหรือเปล่า?” ตะนิดสะดุ้งเล็กน้อยที่มีเสียงถามขึ้น
“ไม่ได้ทามาครับ”
“แดดแรง ใส่เสื้อคลุมไว้หน่อย” ภาสถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่ทับเสื้อกล้ามตัวเองออกมายื่นให้ตะนิด ซึ่งแมวดื้อก็รับไปใส่ตามคำสั่ง
“พี่ภาส...”
“หืม?”
“พี่วินกับพี่ลี่เป็นคู่แห่งโชคชะตากันด้วยแหละ”
“ใช่”
“แล้วพี่วินกับพี่ลี่รู้จักกันได้ยังไงอ่ะ”
“เห็นว่าเคยเจอกันตอนเด็กๆ นะ แล้วก็เกิดเรื่องอะไรกันนิดหน่อยแล้วก็วนมาเจอกันอีกทีตอนลี่อยู่มหาลัย”
“แล้วพี่วินรักพี่ลี่ตอนไหนอ่ะ” 
“มันรักของมันมาตั้งแต่เด็กแล้วนะวินเซนต์น่ะ”

ภาสมองไปที่ทะเลพลางคิดถึงเรื่องที่เพื่อนสนิทเคยเล่าให้ฟังไว้เกี่ยวกับคู่แห่งโชคชะตาอย่างลี่ พอจะจำได้รางๆ ว่าก่อนที่จะมาคบกันนั้นไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด แถมลี่สมัยมหาลัยเองก็แสบใช่เล่น กว่าจะมาคบกันอย่างปัจจุบันก็ผ่านจะไรกันมาไม่ใช่น้อย
            
“นิดไม่เข้าใจเท่าไหร่นะพี่ แต่คู่แห่งโชคชะตามันไม่เกินไปหน่อยเหรอ มันเหมือนเป็นอะไรที่บังคับให้คนสองคนต้องมารักกันกันเลย” แมวดื้อใช้เท้าเขี่ยทรายไปมา ภาสหยุดมองภาพนั้นก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ
“รักมันบังคับกันได้ที่ไหน คู่แห่งโชคชะตาที่ไปด้วยกันไม่ได้ก็มี โชคชะตาน่ะเป็นสิ่งที่เรากำหนดต่างหาก ไม่ใช่คนอื่นหรอก อะไรที่มันไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่”
“แล้วตกลงมันเป็นความรักที่เกิดขึ้นเพราะความรู้สึกหรือเพราะความเป็นคู่โชคชะตาเหรอพี่ภาส มันแยกยังไง นิดไม่เข้าใจ”
“นั่นสินะ ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
“...”
“แต่มันคงประมาณถ้าไม่ใช่เพราะคู่แห่งโชคชะตายังจะอยากอยู่กับคนนี้ไหมล่ะมั้ง”
“เหรอ...” ตะนิดนั่งยองๆ กับพื้นทรายพร้อมกับใช้นิ้วเขี่ยวาดรูปปลาฉลาม
“...”
“แล้วพี่ภาสล่ะ”
“...”
“พี่ภาสว่ายังไง”
“ว่ายังไงคืออะไร?” ภาสย้อนถามกลับ
“พี่ภาสคิดแบบไหนล่ะ ฝืนไหมตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจะ... สองอาทิตย์” แมวดื้อก้มหน้าเขี่ยพื้นไปเรื่อย ส่วนภาสก็ได้แต่นิ่งกับคำถามที่ถูกถามมา
“ฝืนน้อยกว่าที่คิด”
“...”
“ตอนแรกคิดว่าจะฝืนมากกว่านี้”
“เหมือนกันเลย”
“...” ภาสมองกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกลมทะเลพัดจนฟูเผยให้เห็นปลอกคอสีเข้มบนลำคอขาวนั่นด้วยสายตาแห่งความสงสัย

แมวดื้อกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?
 
“พี่ภาส”
“หืม?”
“เพิ่งผ่านมาแค่จะสองอาทิตย์เอง”
“อืม”
“ทำไมมันถึงรู้สึกขนาดนี้นะ”

ภาสมองไปที่น้ำทะเลใสสีฟ้าตรงหน้าพร้อมกับปล่อยให้ลมทะเลพัดปอยผมตัวเอง

นั่นสินะ...
แค่สองอาทิตย์แท้ๆ ทำไมถึงรู้สึกผูกพันขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน...

“แล้วมันควรจะใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะดีล่ะ” ภาสเอ่ยถามกลับ แต่ตะนิดก็ไม่มีคำตอบให้หรอกเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แมวดื้อเริ่มวาดคุณนุ่มเบอร์หนึ่งนั่งลงบนคุณนุ่มเบอร์ห้าก่อนจะนึกภาพอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างจะน่าอายแว่บขึ้นมาในหัว
“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“...”
“...”
“ทำไมตอนนิดฮีทพี่ภาสถึง... ไม่ทำอะไรเหรอ” 

ดวงตากลมละออกจากการวาดภาพบนทรายหันมาเงยถามคนตัวสูง ภาสจ้องใบหน้าดื้อนั่นกลับก่อนจะกระตุกยิ้มบาง

“ถ้ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความรัก”
“...”
“มันก็ควรเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย”
“...”
“ฉันก็จัดการกับสัญชาตญาณตัวเองอยู่เหมือนกัน เธอควรให้ความร่วมมือกับฉันด้วย”

 คราวนี้ภาสเอ่ยเสียงดุขึ้นมานิดหน่อย ภาพก้นขาวๆ แต้มไฝสีดำเม็ดเล็กยังติดอยู่ในความทรงจำแม้จะเห็นแค่เพียงเสี้ยววิ หลังจากที่จู่ๆ แมวดื้อที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินห่อผ้าเช็ดตัวมาเปิดก้นให้ดู เขาที่นั่งสมาธิอยู่ศีลแทบแตก ดีแค่ไหนที่เขาเบนหน้าหนีทัน แมวดื้อขี้ยั่ว

“พี่ภาสๆ”
“หืม” ภาสเริ่มแอบคิดแล้วเหมือนกันว่าเจ้าแมวดูจะชอบชื่อเขาเป็นพิเศษ พอเริ่มเรียกได้ก็เรียกไม่หยุด ทั้งๆ ที่ตอนเพิ่งรู้จักกันยังคิดเรียกเสี่ยโรคจิตอยู่เลย
“อยากว่ายน้ำ”
“เอาสิ”
“คณิตเตรียมชุดว่ายน้ำมาให้ อย่างกับชุดนักดำน้ำ ตลกมาก”

สมแล้วกับตำแหน่งบราค่อนดีเด่น เซฟดีทุกทาง ภาสแอบหัวเราะในใจเล็กน้อย ป่านนี้แฝดพี่คงจ้องมาทางนี้ตาถลนแล้วแหละมั้ง

“ไว้กลับที่พักก็ไปว่าย ฉันไปด้วย”
“อื้อ” แมวดื้อลุกขึ้นยืน มือเล็กเอื้อมปัดตูดตัวเองให้ทรายออกสองสามทีก็เดินนำกลับไปทางร้านอาหาร ส่วนภาสก็เดินตามไปติดๆ

พวกเขาใช้เวลารับประทานอาหารกับถ่ายรูปต่ออีกพักใหญ่ๆ จะตัดสินใจพากันกลับที่พัก โดยตะนิดเป็นฝ่ายเริ่มนัดทุกคนให้มาเจอที่สระตอนห้าโมงเย็น ช่วงเวลาที่แดดกำลังจะหาย ไม่ร้อนมากไม่เย็นมากเหมาะสำหรับการว่ายน้ำเล่นที่สระขนาดมหึมาของโรงแรม

เมื่อถึงเวลานัดตะนิดก็มาในชุดว่ายน้ำปิดตั้งแต่คอยันเข่าที่แฝดพี่เป็นคนเตรียมมาให้จากบ้าน ส่วนทุกคนที่เหลือก็ใส่เพียงกางเกงขาสั้นสำหรับว่ายน้ำ แน่นอนว่าแมวดื้อแอบพองแก้มไม่พอใจที่ไม่ได้อวดวันแพคนุ่มนิ่มแต่สุดท้ายความอยากเล่นน้ำก็มาก่อน

“น้องแมวคะ”
“ว่าไงพี่เต้อ”
“รู้ไหมว่าน้องแมวเกือบไม่ได้มาเล่นสระนี้แล้วนะ” ตะนิดงอคิ้วงง
“ทำไมอ่ะ”
“เมื่อวานมีแมวเกือบอ้วกใส่สระ ดูจากสภาพอ้วกแล้ว สระน่าจะได้ปิดยาวเลย”

ป้าป!!!

หมัดแมวฟาดให้เต็มแรงใส่บ่ากว้างของอัลฟ่าหัวหน้างาน แน่นอนว่าอาเธอร์ขำออกมาลั่นส่วนตะนิดได้แต่เจ็บมือกระโดดหนีลงสระ ภาสส่ายหัวกับภาพตรงหน้าก่อนจะกระโดดน้ำตามลงไป

ชุดว่ายน้ำรัดรูปปิดตั้งแต่คอยันเข่านั่นมันก็ดูปิดบังผิวขาวๆ ได้ดีแต่ทว่าก็ไปเน้นทรวดทรงแทน เขาไม่ได้อยากหวงอะไรไร้สาระ แต่ถ้าให้เอาความคิดตามตรงก็หวงอยู่เหมือนกัน

ตะนิดกระโดดขึ้นไปนั่งบนห่วงยางนกฟลามิงโก้ก่อนจะสั่งให้คณิตช่วยผลักไปมา ซึ่งคณิตก็ตัดสินใจพลิกนกจนแฝดน้องกลิ้งตกน้ำ พอโผล่หัวมาได้ตะนิดก็ไล่ฟาดแฝดพี่กลับทันที ทุกอย่างตกอยู่ในความสงบอยู่พักใหญ่จนกระทั่งภาสรู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมบางอย่างลอยแตะจมูก

กลิ่นโอเมก้า?

“ตะนิด มานี่” ภาสเอ่ยเสียงดุก่อนจะจับแขนตะนิดดึงเข้ามากอด
“เห้ย! พี่ภาส” 
“ไม่ใช่กลิ่นเธอ...” ภาสเงยหน้าขึ้นสบตากับวินเซนต์ที่เพิ่งกระโดดขึ้นจากสระไปหาลี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างสระ แต่อีกฝ่ายก็หันมาสบตาเขาแล้วส่ายหัว

ทันใดนั้นกลิ่นฮีทของโอเมก้าก็ฟุ้งกระจายรุนแรงมาจากอีกฟากของสระ

“มีโอเมก้าฮีท!!!”

ความวุ่นวายเกิดขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายของผู้คนโดยรอบ ไลฟ์การ์ดที่เป็นเบต้ารีบกระโดดลงมาในน้ำส่วนภาสก็รีบโอบเอวตะนิดขึ้นจากน้ำทันที

ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว ตะนิดมองภาพอาเธอร์ที่คว้าคอชายกับคณิตไว้พร้อมกับลากเข้าตัวอาคาร พี่วินที่จับพี่ลี่พาดบ่าเดินไปอีกทาง ส่วนตัวเขาเองก็โดนพี่ภาสโอบเอวไว้แน่น ลมหายใจของอัลฟ่าข้างกายหอบถี่กระชั้นกว่าที่เคยเป็น

“พะ พี่ภาส คณิต...”
“เงียบก่อน” ภาสรั้งคนตัวเล็กเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับตวัดตาข่มทุกสายตาที่จ้องมาที่โอเมก้าของเขา พอเงยหน้าเห็นสายตาหื่นกระหายที่มองมาตะนิดก็ตกใจจนตัวสั่น กลิ่นอายอัลฟ่าที่เริ่มรัทและกำลังรัทโชยมาจากหลายทิศทางจนโอเมก้าน้อยตื่นกลัว แขนเล็กยกขึ้นกอดแขนของภาสไว้แน่นทันที
“พี่ภาส”
“ไม่ต้องกลัว”

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ภาสเองก็ข่มสัญชาตญาณตัวเองไว้ด้วยความยากลำบาก เขาเป็นอัลฟ่าเลือดแท้ที่มีความอดทนต่อฟีโรโมนโอเมก้าได้ดีกว่าอัลฟ่าปกติ ไม่แปลกที่อาเธอร์ที่เป็นอัลฟ่าเลือดแท้จะเป็นคนรั้งคอคณิตกับชายที่เป็นอัลฟ่าปกติที่มีความอดทนน้อยกว่าเพื่อเป็นการเตือนสติ พอถึงชั้นที่พักภาสก็ดึงแขนตะนิดเข้าห้องอย่างรวดเร็ว   

“ฉันจะขังตัวเองไว้ในห้อง เธอโทรให้เขาเอายาระงับรัทอัลฟ่ามาให้” ภาสชี้ไปที่โทรศัพท์สำหรับโทรภายในของโรงแรม
“พี่ พี่ภาส”
“จนกว่ายาจะมาไม่ต้องเข้ามา เข้าใจนะ”
“แต่...”
“อย่าดื้อ”
“พี่ภาส...”


ภาสทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะหันตัวเองเข้าห้องนอนพร้อมกับกดล็อคประตู ตะนิดที่ยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่นได้แต่สับสนทำตัวไม่ถูก มือเล็กสั่นไปหมดจนต้องบีบมือตัวเองแก้ตกใจ เขาหายใจเข้าเรียกสติก่อนจะหยิบโทรศัพท์ภายในขึ้นกดเบอร์ตามที่ระบุไว้บนเครื่อง

‘ยาระงับหมดชั่วคราวค่ะ แต่ทางโรงแรมกำลังเร่งหามาเติมอยู่ เดี๋ยวทางโรงแรมจะรีบนำไปให้ภายในครึ่งชั่วโมงนะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ’

หมดชั่วคราว...
ตากลมตวัดมองไปที่ประตูห้องพร้อมกับเม้มปาก

ช่วงเวลาที่เขาฮีทมันมักจะเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุด เหมือนร่างกายไม่ใช่ของตัวเอง ควบคุมอะไรแทบไม่ได้ เขาทำหลายสิ่งที่น่าอายโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาคิดว่าอัลฟ่าเองก็คงไม่ต่างกัน ขาเล็กเดินไปมาเป็นวงกลม ดวงตาใสมองไปรอบห้องด้วยความรู้สึกโหวงเหวงในใจ ตะนิดค่อยๆ เดินไปที่ประตูห้องนอนก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู

“พี่ภาส.. ยาระงับ”

แกร๊ก
เสียงปลดล็อคประตูห้องนอนดังขึ้นพร้อมกับการแง้มประตูเพียงเล็กน้อย ตะนิดได้ยินเสียงหอบหายใจดังขึ้นหลังบานประตู

“ยา...”
“ยาหมดชั่วคราวอีกครึ่งชั่วโมง... พี่ภาสอย่าปิดนะ!” พอตะนิดพูดจบประตูก็ถูกดันจนเกือบปิดแต่ตะนิดก็ออกแรงดันต้านไว้
“ตะนิด ไม่ดื้อกับฉัน” เสียงเข้มดังขึ้นด้วยการกัดฟันพูด
“นิดไม่ดื้อ”
“ตะนิด” เสียงทุ้มเอ่ยดุอีกรอบพร้อมกับแรกผลักประตูแต่ตะนิดก็เอื้อมแขนเข้าไปตรงช่องว่าง ฟากภาสดันประตูก็เท่ากับจะหนีบแขนเล็กไปด้วย
“พี่ภาส...”
“ตะนิด... ฉันรัทอยู่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะดื้อได้ รอจนกว่ายาจะมาแล้วเราค่อยคุยกัน” ภาสเอ่ยเสียงแหบ เขาพยายามควบคุมลมหายใจตัวเอง เบื้องล่างที่เกิดอาการตามสัญชาตญาณก็รู้สึกคับแน่นจนปวด
“ถ้าไม่ใช่เพราะรัก”
“...”
“ก็ต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย!!!”
“...”
“เค ยินยอม!!!”

 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 15-06-2020 20:24:47


 เสียงเล็กตะโกนลั่นพร้อมกับผลักประตูจนสุดแรง ภาสกะพริบตาปริบๆ มองแมวดื้อที่ยืนตัวเปียกจ้องหน้าเขา แขนเล็กกำเสื้อตัวเองแน่นจนขึ้นข้อขาว

“ตะนิด ออกไป”
“ไม่ออก นิดยินยอมแล้ว”
“ฉันไม่ยินยอม”


ภาสทิ้งตัวนั่งลงกับเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผม ปกติแล้วเขามักจะพกยาระงับติดตัวไว้เสมอ แต่ครั้งนี้เขาดันลืมหยิบใส่กระเป๋ามาด้วย รื้อกระเป๋าจนของเกลื่อนเต็มห้องแล้วก็ยังหาไม่เจอ

คงต้องรออีกสักพักกว่าที่อาการจะสงบ

แมวดื้อ
ดื้อผิดเวลา

แมวดื้อที่มายืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าคงไม่รู้ อัลฟ่าเวลารัทจะรุนแรงมากเกินกว่าที่โอเมก้าไม่ได้ฮีทจะรับได้ โดยเฉพาะกับโอเมก้าตัวเล็กและอ่อนแออย่างตะนิดไม่มีทางที่จะรับแรงอัลฟ่าเลือดแท้อย่างเขาไหว นอกเหนือจากการยินยอมแล้ว เขาไม่อยากเป็นฝ่ายทำให้อีกคนบาดเจ็บและมีภาพจำที่ไม่ดีกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“พี่ภาส...”
“ตะนิด ครั้งนี้ไม่ได้จริงๆ อัลฟ่าเลือดแท้เวลารัทจะรัทรุนแรง คราวนี้ดื้อไม่ได้ ฟังฉันหน่อย” ภาสกำหมัดแน่นจนรู้สึกปวดกล้ามเนื้อ
“ฮึก แล้ว แล้ว นิดทำอะไรได้มั่งไหม พี่ภาสทำไงดี นิดไม่ชอบเลย”
“...”
“นิดไม่อยากถูกทิ้งไว้ด้านนอก อยู่ไม่ได้ นิดกลัว แต่อยู่กับพี่ภาสตอนนี้ก็กลัว แต่ แต่ ด้านนอกกลัวกว่า” แมวดื้อเบะปากน้ำตากลิ้งลงแนบแก้มนิ่ม คนตัวเล็กสารภาพความจริงทั้งหมดออกมาพร้อมกับเม้มปากแน่น ด้วยความที่เพิ่งผ่านดงอัลฟ่ารัทมา โอเมก้าน้อยได้แต่ใจหวั่นไม่อยากอยู่คนเดียว ภาสหลับตาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้า
“ตะนิด หยิบเนคไทด์ตรงพื้นนั่นมา”
“คะ ครับ” ตะนิดเดินไปหยิบเทคไทด์สีแดงบนพื้นขึ้นมาตามคำสั่ง
“มัดข้อมือฉันไว้” ภาสไขว้มือตัวเองไว้ที่หลังพร้อมกับลุกขึ้นหันหลังให้ตะนิด แมวดื้อถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ทำตามที่คนตัวสูงสั่ง “แน่นกว่านี้ตะนิด ไม่ต้องกลัวฉันเจ็บ”
“ครับ” ตะนิดมัดเนคไทด์กับข้อมือหนาให้แน่นพอตามคำสั่งพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปมา ภาสลองขยับข้อมือตัวเองก็ค้นพบว่าตะนิดมัดไว้ค่อนข้างแน่นถึงค่อยไถลตัวนั่งลงกับเตียง
“มานั่งนี่” ภาสใช้สายตาสบไปที่หว่างขาตัวเอง ตะนิดกะพริบตาชั่งใจอยู่เล็กน้อยก็ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งพิงอกอุ่น
“อ๊ะ!” แมวดื้อจะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกัดที่ขบลงมาบนปลอกคอพร้อมกับเสียงขู่คำรามในลำคอของอีกฝ่าย ความแข็งขืนที่ดันก้นอยู่ทำให้ตะนิดรู้สึกทำตัวไม่ถูก แมวดื้อได้แต่นั่งนิ่งๆ ให้อีกฝ่ายกัดปลอกคออยู่สักพักเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“ตะนิด”
“คะ ครับ”
“จูบได้ไหม?”
“...” ตะนิดเม้มปากแน่นก่อนจะหันหน้าไปข้างๆ พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

แค่นั้นริมฝีปากเล็กก็ถูกบดขยี้อย่างรวดเร็ว เกลียวลิ้นที่สอดประสานฉกจ้วงลมหายใจของแมวดื้อจนต้องร้องประท้วง ภาสผละออกมาเพียงชั่วครู่ก็ประกบกลับเข้าไปใหม่

แม้ใจจะอยากให้เลยเถิดไปมากกว่านี้แค่ไหน แต่แรงรั้งที่ไหล่จากการรัดข้อมือก็จะทำให้รู้ว่าต้องเบรกตัวเองไว้ 
 
“กลัวไหม” ภาสเอ่ยถามซึ่งแมวดื้อก็ขยับหัวขึ้นลงก่อนจะส่ายหัวไปมา
“กลัว... แต่ก็ไม่กลัว”
“เธอตอบแบบนี้เวลาสอบหรือเปล่า เป็นฉันจะปรับเธอตก”
“นิดกลัวนิดหน่อย”
“อืม...”
“พี่ภาส พี่ภาสจะกัดปลอกคอขาดไหม...” ตะนิดเอ่ยเสียงแผ่ว
“นั่นสิ...” พูดจบภาสก็ฝังคมเขี้ยวลงบนปลอกคอนุ่มอีกรอบ

สมกับราคาเกือบแสนมันถึงมีความยืดหยุ่นสูงกลับมาคงสภาพทุกครั้งหลังกัดแต่นั่นก็เหมือนเป็นการกระตุ้นสัญชาตญาณเขาให้กดเขี้ยวลงไปใหม่ซ้ำๆ บางทีก็เผลอออกแรงสะบัดเล็กน้อยจนเสียงขู่แง่งเล็ดรอดออกมา

ตะนิดจากที่นั่งกลัวรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการไล่กัดปลอกคอแล้วก็ไล้จมูกดมไปมาตามผิวหนังเหมือนลูกหมา แถมยังไม่ได้แสดงท่าทีพยายามแกะเนคไทด์ที่รัดอยู่ตรงข้อมือออกอีกด้วย

มีอย่างเดียวที่ทำให้ตะนิดรู้สึกทำตัวไม่ถูกคือความอุ่นร้อนและแข็งขืนบริเวณที่เขานั่งทับ เหมือนอีกฝ่ายเองก็รู้ตัวถึงได้พยายามถอยส่วนนั้นหนีแต่พอสะโพกเขาเผลอไปเสียดสีโดนอีกฝ่ายก็คำรามเสียงสั่นพร้อมกับออกแรงกัดปลอกคอมากขึ้น   

“อึก...” ตะนิดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายแล่บลิ้นเลียบริเวณไหล่พร้อมกับงับเขี้ยวลงมาเบาๆ

กิ๊งก่อง

“ยาระงับได้แล้วนะคะ”  เสียงกริ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งคู่ ภาสหอบหายใจถี่พลางเหลือบตามองไปทางประตู ตะนิดผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะออกตัววิ่งไปทันที

พอหลังเล็กพ้นประตูห้องนอนไปภาสก็ขู่คำรามออกมาเสียงดัง เส้นเลือดตรงขมับชื้นเหงื่อดันตัวออกมาเป็นรูปตามแรงกัดของฟันคม แขนแกร่งที่ถูกมัดไว้ฝืนออกแรงจนเจ็บ ดวงตาคมฉายแววกระหายอย่างชัดเจนจากสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่พยายามกดไว้

อยากตีตราเป็นเจ้าของให้จมเขี้ยว
อยากสัมผัส อยากทำให้กลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ นั่นฟุ้งกระจายจนแทบบ้า
 
“พี่ภาสๆ ฉีดยาๆ” ตะนิดวิ่งกลับเข้ามาพร้อมกับหลอดยา ภาสไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้มหน้าลงกับพื้นปิดบังไม่ให้อีกฝ่ายเห็นแววตากระหายของเขา แมวดื้อที่ไม่ได้สังเกตเห็นเดินมาจิ้มเข็มเข้ากับแขนเปลือยพร้อมกับแสดงสีหน้าเจ็บแทนไปด้วย จนกระทั่งยาหมดหลอดตะนิดก็ดึงหลอดยาออกไปทิ้งขยะ

แมวดื้อเดินกลับมาประคองใบหน้าดุขึ้นพร้อมกับยีแก้มคนแก่กว่าไปมา ดวงตาดุใต้กรอบแว่นจ้องนิ่งไปที่ใบหน้าน่ารักตรงหน้าพร้อมกับพยายามควบคุมลมหายใจให้กลับมาปกติ ภาสอ้าปากงับนิ้วโป้งริมฝีปากตัวเองเบาๆ ทำเอาแมวดื้อสะดุ้งเล็กน้อย ตะนิดใช้นิ้วโป้งเขี่ยแยกเขี้ยวอัลฟ่าดุในอุ้งมือก่อนจะอมยิ้มออกมา

“พี่ภาสเหมือนหมาเลย”
“...” ภาสงับนิ้วโป้งเล็กอีกรอบเป็นการดุ แต่ที่เปรียบเทียบมานั่น เขาก็ไม่เถียงหรอก
“พอไม่ใส่แว่นแล้วพี่ภาสหน้าเด็กลงสิบปีเลย” มือเล็กดึงแว่นกรอบเหลี่ยมบนหน้าคนแก่กว่าออก ซึ่งทำให้ภาพตรงหน้าของภาสเบลอไปทันที
“...”
“เนี่ย ลดสิบปีเหลืออายุหกสิบแล้ว”
“ตะนิด” เสียงเข้มเอ่ยดุ มุกอายุนี่เขาจริงจังเสมอ ตะนิดขำคิกคักก่อนจะใส่แว่นกลับคืนให้ มือเล็กนวดขมับคนตรง
“พี่ภาสท่องตามนิด”
“...”
“อะระหังสัมมา”
“ฉันนับถือคริสต์”
“อ้าว งั้นไม่รู้แล้ว หายใจเข้าหายใจออกดั่งดอกไม้บานไปแล้วกัน” ตะนิดนวดหน้าคนแก่กว่าตรงหน้าไปมา นวดไปนวดมาชักเพลินมือดีเหมือนกัน เวลาแบบนี้คนตรงหน้าเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ นั่งให้นวดหน้าเลย ทั้งๆ ที่ปกติจะดูดุเหมือนหมาดมระเบิดแท้ๆ ตะนิดได้แต่คิดพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ

ภาสเงยหน้ามองใบหน้าดื้อพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้น แรงรั้งที่ไหล่เสียดขึ้นเบาๆ เมื่อเขาขยับแขน  ตะนิดเอียงคอมองคนตรงหน้าที่มองจ้องมาด้วยสายตาแปลกๆ

“ตะนิด”
“ครับ”
“จูบได้ไหม”
“พี่ภาสยังไม่หายรัทอีกเหรอ?”


เดิมทีอัลฟ่าเลือดแท้มีความสามารถในการอดทนต่อฟีโรโมนสูงอยู่แล้ว พอได้รับยาอาการก็จะทุเลาไว อาการรัทที่ว่านะหายไปเกือบหมดแล้ว ถึงจะยังมีปวดตึงอยู่บ้างเล็กน้อย

“หายไปบ้างแล้ว”
“อ้าว”
“แค่อยากจูบ”
“...”
“จูบได้ไหม”

ตะนิดเม้มปากแน่น แก้มโมจิแต้มสีแดงจางๆ ดวงตาเล็กถลึงมองเขาด้วยความตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นเลิ่กลั่กมองผ้าม่าน มองหัวเตียงอะไรไปเรื่อยเปื่อย สักพักก็กลับมาจ้องตาเขาตอบ

“เอาไปแค่นี้พอ” แมวดื้อกดจุ๊บเบาๆ ที่ปลายจมูกเขาก่อนจะผละออกไปช่วยคลายเนคไทด์ที่รัดข้อมือเขาอยู่ด้านหลังออกให้ พอมือเขาเป็นอิสระ แมวดื้อก็ทำการแผ่นแนบหนีออกไปห้องนั่งเล่นทันที

ภาสส่ายหัวให้กับความดื้อของเจ้าแมวแสบแต่ก็ยิ้มตามหลังออกมาเบาๆ ให้กับความรู้สึกอุ่นวาบในใจ

สงสัยเขาคงจะเป็นทาสแมวอย่างที่วินเซนต์แซวจริงๆ แล้วหละนะ...
 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 15-06-2020 21:13:02
ทาสแมวเริ่มยอมรับแล้วววว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 15-06-2020 22:56:46
น่าร้าก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 15-06-2020 23:15:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 16-06-2020 06:54:42
เจ้าแมวดื้อ
จะน่ารักเกินไปแล้ว
เห็นใจพี่ภาสด้วย
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: casson ที่ 16-06-2020 11:52:47
งุ้ย น่ารัก ค่อยๆรักกันนะพี่ภาสตะนิด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 16-06-2020 17:34:24
โอ้ยยยย  น่ารักกกกจนใจพัง  :hao5:
พี่ภาสรัท แต่ยอมอดทน ห่วงและใส่ใจความรู้สึกเจ้าตัวน้อย รักแมวดื้อเเล้วอ่ะ ดูออก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-06-2020 10:48:33
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 13 : รัท [15/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 18-06-2020 15:37:08
น้องตะนิดน่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านไปตะโกนคำว่าน้องงงงไปด้วยตลอด
กับพี่ชายฝาแฝดก็เป็นห่วงเป็นใยกันดี ครอบครัวน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 21-06-2020 21:09:57
ก็จะดื้อ 14


เช้าวันที่สองของภูเก็ตเริ่มต้นด้วยแสงแดดอุ่นที่ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางปลุกร่างสองร่างที่นอนเกยกันอยู่บนเตียงใหญ่ให้ตื่นขึ้น

ภาสหยีตาเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงแดดที่ส่องแรง สัมผัสหนักบนอกนั่นไม่จำเป็นต้องสวมแว่นก็รู้ได้อยู่แล้วว่ากลิ่นแป้งเด็กแบบนี้จะเป็นใคร มือแกร่งกวาดคว้าแว่นที่วางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาสวมก่อนจะกะพริบตาถี่

เมื่อวานหลับไปตอนไหนกันนะ?

พอขยับตัวเล็กน้อยภาสก็ต้องขมวดคิ้วแน่นเมื่อรู้สึกปวดแปล็บบริเวณไหล่และต้นแขน แต่พอลองนึกย้อนกลับไป สงสัยจะเป็นเพราะเนคไทด์ทำพิษ แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเนคไทด์นั่นไม่แน่นพอ เขาอาจจะเผลอทำเจ้าแมวดื้อบนอกนี่ร้องไห้จ้าไปแล้วก็ได้

ยินยอมงั้นเหรอ?
หึ... ดื้อจริงๆ

ภาสชั้นตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะแอบมองคนบนอกชัดๆ ตะนิดยังคงติดนิสัยกอดคุณนุ่มเบอร์ห้าแน่นแต่มืออีกข้างกลับตวัดกอดเอวเขาไว้ ใบหน้าดื้อบี้ลงกับหน้าท้องเปลือยเขาจนแก้มโมจินุ่มกองเป็นก้อน ปากเล็กเคลือบไปด้วยน้ำลายพร้อมกับมีน้ำลายจำนวนหนึ่งไหลออกมาเปื้อนแผ่นหน้าท้องเขา ส่วนปลอกคอที่ควรจะขาดหลังจากที่เขาใส่แรงกัดไปเต็มที่ยังคงสภาพอยู่ดีแม้จะมีรอยเหมือนโดนแทะขาดไปบ้างก็ตาม

คุ้มราคาจนน่าหงุดหงิด
เขาล่ะอยากกัดมันให้ขาดจริงๆ

“แมวดื้อ”
“อื้อ”
“เวลานอนนี่ก็รู้ไม่พิษมีภัยแท้ๆ” ภาสหัวเราะในลำคอพร้อมกับยกนิ้วขึ้นเขี่ยแก้มนิ่มนั่นเบาๆ ตะนิดขมวดคิ้วครางอืออาขัดใจ
“อื้อ...”
“ตะนิด”
“หงึ คณิตขออีกห้านาที”
“ตะนิด”
“คณิต ชู่ๆ” 

ปลุกทีไรเป็นต้องพูดประโยคนี้เสมอ แต่คราวนี้พอคนตัวเล็กพูดถึงแฝดพี่ ภาสก็แอบชะงักเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากลุ่มเพื่อนที่เหลือเมื่อวานเป็นยังไงกันบ้าง วินเซนต์ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะทำพันธะแล้วจึงไม่มีปฏิกิริยากับกลิ่นฟีโรโมนคนอื่นนอกเหนือจากคู่ตัวเอง

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือสามคนนั่นต่างหาก
หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ...

“อื้อ...” เสียงครางดึงสติภาสให้กลับมา แมวดื้อหยีตาเล็กน้อยก่อนจะเบียดจมูกกับพุงเขา
“ตื่นได้แล้ว”
“อือ พี่ภาส อือ อะไรโดนมือ”
“...” แมวดื้อกะพริบตาถี่ตอนก้มลงมองไปใต้ผ้าห่มก่อนจะเงยหน้าขึ้นย่นจมูกใส่เขา
“ลามก”
“เขาเรียกว่าปฏิกิริยาทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนเช้าสำหรับผู้ชาย” ภาสเกาหลังคอเก้อๆ ช่วยไม่ได้นี่นะ ผู้ชายสุขภาพดีอย่างเขามันก็ไม่แปลกหรอกที่อะไรๆ จะตื่นรับอรุณไปด้วย

ตะนิดบ่นงุบงิบก่อนจะลุกขึ้นกระโดดลงจากเตียง แมวดื้อที่สวมเสื้อนอนของเขาตัวเดียวแอบเห็นขาบอกเซอร์โผล่แล่บออกมาเล็กน้อยเดินไปโซนห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน เห็นแบบนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินตามไปแปรงข้างๆ

พอมองผ่านกระจกแล้วก็จะเห็นความต่างของส่วนสูงได้อย่างชัดเจน ตะนิดที่แปรงฟันฟองเต็มปากได้แต่ขมวดคิ้วขัดใจ เท้าเล็กพยายามเขย่งขึ้นเล็กน้อย อย่างน้อยก็หัวพ้นไหล่หน่อยก็ยังดี

แน่นอนว่าความพยายามน่ารักนั่นตกอยู่ในสายตาของภาสอย่างชัดเจน เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะย่อตัวลง ให้ระดับหัวของเขาพอดีกับเจ้าแมวดื้อ

พอย่อตัวให้ตะนิดก็หันหน้าดื้อมาเตรียมจะโวยวาย ส่วนภาสก็เองก็หันไปเตรียมจะหยอกล้อ ตอนนั้นเองที่สายตาของทั้งคู่สบกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ตะนิดกะพริบตาปริบๆ ส่วนภาสก็ชะงักเล็กน้อย เกิดเป็นวินาทีประหลาดที่ทำให้จังหวะหัวใจของทั้งคู่เต้นเร็วขึ้น

พรวด!!!

ภาสสะดุ้งเฮือกแว่นแทบล่วงหลังจากเจ้าแมวดื้อพ่นฟองออกมาเต็มหน้าเขา ส่วนตะนิดก็ได้แต่เหวอรีบบ้วนปากก่อนจะรีบดึงแว่นคนตัวสูงออกมาล้างให้ ภาสที่ภาพเบลอรีบก้มลงล้างหน้ากับบ้วนปากตาม พอได้แว่นกลับมาใส่เขาก็สบตากับแมวดื้อที่ยืนล่กอยู่ตรงหน้า

พอได้สบตากันอีกรอบ
คราวนี้เขาและตะนิดต่างก็อมยิ้มพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“พี่ภาสที่หูมีฟองยาสีฟันติดอยู่อ่ะ”
“เราน่ะพ่นฟองใส่หน้าพี่”
“ก็ตกใจป่ะ อยู่ดีๆ พี่ภาสจะหันหน้ามาทำไม” ตะนิดโวยวายหน้าแดง
“แล้วทำไมพี่จะหันหน้าไม่ได้”
“ก็ ก็ วู้ว ไม่คุยกับพี่ภาสแล้ว” แมวดื้อพองแก้มก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกไปห้องนั่งเล่น ภาสยกคิ้วงงแต่ก็เดินออกจากโซนห้องน้ำไปแต่งตัว วันนี้เขาจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพแล้วเพราะพรุ่งนี้มีนัดคุยงานกับลูกค้าต่ออีก ส่วนเจ้าแมวก็ได้เวลาที่จะต้องกลับไปเตรียมตัวทำงานด้วยเหมือนกัน

ภาสเก็บของเข้าใส่กระเป๋า ตอนนั้นเองที่เขาเหลือบไปเห็นปลาฉลามหน้าโง่ตอนกลิ้งอยู่บนเตียง ปากของมันฉีกยิ้มเหมือนจะเยาะเย้ยเลยอดที่จะหยิบมันขึ้นก่อนจะเขวี้ยงใส่ประตูระเบียงไปเต็มแรง

คิดว่ากลับถิ่นทะเลแล้วจะรอดงั้นสิ?

ได้รังแกตุ๊กตาสมใจเขาก็กลับมาเก็บของตัวเองใส่กระเป๋าต่อ กว่าเขาและตะนิดจะเก็บของกินอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลาเชคเอาท์พอดี เขาลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองและของตะนิดออกมาเจอกับกลุ่มเพื่อนที่ล็อบบี้ แน่นอนว่าแมวดื้อพอเห็นแฝดพี่ตัวเองก็กระโดดเข้าไปกอดทันที

“เชี่ย ตะนิดไอ้สัด เจ็บ” คณิตชะงักตัวพร้อมกับส่งสีหน้าเจ็บออกมาชัดเจน ตะนิดขมวดคิ้วงง แค่กระโดดใส่ทำไมถึงเจ็บ?
“ตะนิดครับ วันนี้เสื้อน่ารักจัง” ยังไม่ทันจะได้ถามออกไปตะนิดก็ถูกชายจับรักแร้หิ้วออกมาจากตัวแฝดพี่ก่อนจะถูกจับไปวางไว้ข้างภาสที่ขมวดคิ้วมองอยู่
“เสื้อยืดสีดำล้วนเนี่ยนะ”
“อ้อ มันน่ารักเพราะติดน่ารักแน่เลย”
“อะไรของพี่ชายอ่ะ ขนลุก เอ้ย ว่าแต่ปากพี่ชายเป็นอะไรอ่ะ” ตะนิดกะพริบตาปริบๆ มองหน้าพี่ชายที่มีรอยช้ำปากเหมือนเป็นเลือดแห้งๆ แถมยังมีรอยช่วนแถวข้างขมับอีกต่างหาก
“ฮ่ะๆ โดนหมากัดมานิดหน่อยน่ะครับ”
“เอ้ย หมาอะไรมันโหดจัง” ตะนิดยู่หน้าก่อนจะกลับไปหาแฝดพี่ “คณิตตตต”
“ตะนิดมึงห้ามโดดใส่ กูเจ็บ... ขา”
“มึงเจ็บขาได้ไง”
“กูตกบันได”
“บันไดที่ไหน”
“ที่บ้านมั้ง อย่าถามเยอะ”
... มี
... พิ
...รุธ
แมวดื้อรู้สึกได้ถึงวิญญาณฮัตโตริ เฮ๊ย์จิ และขุโด้ ชินอิจิ(สำเนียงเหน่อ) ที่เข้าสิงร่าง เขารู้สึกได้ถึงความแปลกๆ มันมีอะไรแปลกๆ ดวงตากลมหรี่ลงแบบคนจับผิด ซึ่งดูยังไงภาสว่าแมวดื้อตรงหน้าก็ดูเหมือนแมวที่กำลังสงสัยว่าอาหารเม็ดเป็นรสปลาทูหรือแซมอน

“แล้วนี่มึงใส่เสื้อใคร”
ภาสที่ลอบมองแฝดหมาแมวตรงอยู่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวเองทันที ซึ่งชายก็ทำแค่ยิ้มเบาๆ เป็นคำตอบ
“ถามเยอะ ชาติที่แล้วตายระหว่างทำแบบสอบถามเหรอ” 
“มึงมีพิรุธ โกหกขอให้หัวนมบอด”
“แช่งอะไรของมึง” คณิตจิ้มหน้าผากแฝดน้องตัวเองไปหนึ่งที
“พอดีเมื่อวานคณิตตกบันไดแถวหน้าห้องพักเสื้อขาดน่ะครับ พี่เลยให้ยืมเสื้อพี่” ชายที่ยืนเงียบมานานเอ่ยปากบอก จริงๆ ก็ยังดูน่าสงสัยแต่พอเป็นพี่ชายพูดก็เลยคิดว่าน่าจะจริง แมวดื้อเลยเลิกสนใจแต่ยังคงวอแวดมแฝดพี่ตัวเองฟุดฟิดด้วยความไม่ชินกลิ่น
“ว่าแต่มึง...” คณิตขมวดคิ้วพร้อมกับจับแฝดน้องตัวเองพลิกไปพลิกมา ซึ่งแมวดื้อก็ยอมให้จับพลิกแบบงงๆ
“อะไรอ่ะ”
“ลุงนั่นมัน... ทำอะไรมึงหรือเปล่า”
“ทำ? อ๋อ ไม่ได้ทำ” พอได้ยินคำตอบคณิตก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สิ่งเดียวที่เขากังวลมากกว่าสภาพตัวเองคือเขาเป็นห่วงน้องชายตัวเองสุดหัวใจ ตัวแฝดน้องเขาก็เล็กแค่นี้ ถ้าโดนอัลฟ่าเลือดแท้รัทใส่นอกฮีทก็คงจะได้เลือดเยอะอยู่ แต่พอเห็นไอ้หน้าดื้อวิ่งปร๋อขนาดนี้ก็เหมือนคลายความกังวลตลอดทั้งคืนที่เขากังวลมา

และถ้ามันเกิดขึ้นโดยการไม่ยินยอมของน้องเขา
... เขาไม่เอาไอ้ลุงนี่ไว้แน่

“อ้าว แมวน้อยยย~” เสียงเรียกชื่อสดใสดังขึ้นเรียกสติตะนิดให้หันไปหาต้นเสียง อาเธอร์โบกมือพร้อมกับส่งยิ้มตาปิดมาให้ แต่สิ่งที่ดึงสายตาตะนิดกลับเป็นคนข้างๆ มากกว่า
“อ้าว พี่ชินจัง!!!”
“พี่ชื่อชินเฉยๆ”
“พี่ชินเฉยๆ!!!”
“...”
“ชินจังโดนแมวน้อยกวนตีนซะแล้วว” อาเธอร์ขำเอิ๊กอ๊ากพร้อมกับวางคางลงบนไหล่เพื่อนสนิทเบต้าอย่างออดอ้อน
“พี่ชินจังมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“บินด่วนมาเมื่อคืนครับ สวัสดีครับคุณชาย คุณภาส” ชินตอบเสียงนิ่ง ดวงตาจริงจังใต้กรอบแว่นจ้องไปที่อัลฟ่าข้างตัวตะนิดอย่างภาสและชายก่อนจะโค้งหัวให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย
“บินด่วนมาทำไมอ่ะ”
“หมาโทรมาร้องไห้ว่ากำลังจะตายครับ”
“ฮะ?” หมาไหน? ทำไมหมาตาย? หมาที่กัดพี่ชายหรือเปล่า?
“ใจร้ายจัง แต่จะตายจริงๆ นะ ถามน้องแมวก็ได้ เมื่อวานพี่เกือบตายจริงๆ ใช่มะ” หมายักษ์อย่างอาเธอร์เบะปากพร้อมกับถูคางตัวเองกับไหล่บางตรงหน้า ซึ่งชินยกมือขึ้นผลักหัวออกด้วยความรำคาญ

ตะนิดมองภาพตรงหน้าด้วยความงงเล็กน้อย เป็นเพื่อนที่สนิทที่มีความแตกต่างกันดีแฮะ พี่ชายก็ดูเป็นหมาตัวใหญ่ขี้เล่นส่วนพี่ชินก็ดูจริงจังไปทุกอย่างแต่ก็ดูเข้ากันได้ดีแบบงงๆ

ว่าแต่จะตายยังไง งง

“ไม่นี่ พี่เต้อจะตายยังไง ไม่เห็นเหมือนคนจะตายเลย”
“น้องแมวพูดแบบนี้พี่อาจจะตายตอนนี้ก็ได้ค่ะ” อาเธอร์หัวเราะพร้อมกับยกมือขึ้นจับมือชินที่กำลังจะตวัดตบหัวเขาอย่างรู้ทัน ชินถอนหายใจยาวเหยียดด้วยความเหนื่อยใจ

เอ๊ะ...
ดูมีพิรุธอีกคู่แล้ว

“ตะนิด เอาคุณนุ่มเบอร์ห้าไปถือเอง” ภาสเอ่ยสั่งให้เจ้าแมวดื้อเลิกสนใจคนอื่นเมื่อเห็นว่าเจ้าแมวดูเริ่มสวมบทบาทนักสืบ ตะนิดเอียงคอสงสัยแต่ก็ยอมวิ่งกลับมาถือสัมภาระตัวเอง
“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“นิดคิดไปเองไหมว่าวันนี้ทุกคนแปลกๆ” ตะนิดมองพี่ชายที่เอาแต่มองคณิตไม่วางตาส่วนพี่เต้อก็อ้อนพี่ชินจังไม่ยอมเลิก คืนที่ผ่านมาไม่เห็นเป็นงี้เลย
“นั่นสิ” ภาสตอบพลางโอบเอวเล็กให้มายืนข้างๆ

แมวดื้อน่ะมัวแต่สงสัยคู่อื่นจนไม่ได้สังเกตเลยว่าไม่ใช่แค่คู่อื่นที่แปลกไปหรอก วันนี้เขาเองก็เปลี่ยนคำแทนตัวเองด้วยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเจ้าแมวจะไม่แม้แต่จะผิดสังเกต

อุตส่าห์แทนตัวว่าพี่มาตั้งแต่เช้า
ไม่รู้สึกแปลกหูหน่อยเลยหรือไงกันนะ...


“อือ เอ้อ พี่ภาสแล้วพี่ลี่อ่ะ”
“วินเซนต์บอกว่าให้กลับไปก่อนเลย มันอยู่ต่ออีกคืนหนึ่ง” คนตอบคำถามตะนิดเป็นชายที่ถือมือถือคุยกับวินเซนต์ ตะนิดขมวดคิ้วอีกรอบ
“อ้าวววววว ทำไมอ่ะ มีพิรุธป่าววววว” นักสืบน้อยทำจมูกฟุดฟิดด้วยความสงสัยแต่ก็โดนอัลฟ่าหน้าดุบีบจมูกด้วยความมันเขี้ยว
“ไปดูตรงโซนของฝากกับคณิตก่อนไหม?”
“เอ้ย ดีเลย คณิตไปดูของฝากให้แม่กัน” ตะนิดดึงแขนแฝดพี่เตรียมจะลากให้วิ่งไปด้วยกัน แต่คณิตก็ชะงักพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปล็บอย่างรุนแรงจนต้องร้องออกมา
“โอ๊ย มึงอย่าดึงแขนไอ้อ้วน กูบอกอยู่ว่าเจ็บขา”
“แต่มึงจับก้นตัวเอง”
“กูเจ็บขากับก้น”
“ทำไมเจ็บก้นด้วยอ่ะ”
“ตะนิด ถามอีกข้อกูจะอารมณ์เสียแล้วนะ”
“โอ๋ๆ เดินช้าๆ โอบกูไว้คณิต”

สองแฝดพี่น้องเดินทุลักทุเลไปทางร้านของฝากท่ามกลางสายตาจากทุกคนที่มองก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา อาเธอร์ส่งยิ้มแซวเล็กน้อยไปทางชายซึ่งชายเองก็ทำแค่ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเก้อๆ ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา

ถ้าแมวดื้อเข้าใจ
สงสัยได้โวยวายบ้านแตกแน่นอน

.
.
.


หลังจากทริปพักผ่อนแสนวุ่นวายที่ทะเล ตะนิดก็ต้องกลับมาพบกับโลกแห่งความจริงกับการตื่นเช้าไปทำงาน ช่วงชีวิตการทำงานในช่วงแรกของตะนิดผ่านไปไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก เขาเพิ่งจะมารู้ว่างานที่อาจารย์สั่งสมัยเรียนความวุ่นวายเยอะไม่ได้เท่าครึ่งของงานที่ลูกค้าบรีฟ

ช่วงแรกๆ เขาปรับตัวไม่ได้ มีออกนอกบรีฟเล็กน้อยเพื่อใส่ความคิดเห็นเขาไปในงาน สรุปลูกค้าสั่งแก้ยับจนเขาสะอื้นในใจ แต่พี่ๆ ร่วมแผนกก็เดินมาตบบ่าแล้วบอกให้ทำใจ แบบนี้แหละ เดี๋ยวก็ชิน

ไม่เห็นจะชินเลย!!!!

อ้ออีกอย่างที่เขาไม่ชินก็คือ

พี่ชาย...

พี่ชายที่ทั้งไม่ใช่พี่ชายและที่เป็นพี่ชายจริงๆ ของเขา ถึงจะพอรู้มาจากพี่ภาสว่าพี่ชายเป็นอะไรสักอย่างกับริษัทที่ทำงานอยู่ แต่จู่ๆ พี่แกก็โผล่มาอย่างบ่อยเพื่อเดินมาทักทายเขาพร้อมกับเดินหายไปทางแผนกคณิต พี่เต้อก็บ่นอยู่บ่อยๆ ว่าพี่ชายใช้อำนาจในทางที่ผิด แต่ผิดยังไงเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ตัดภาพมาเวลาเลิกงานที่ผมรอคอย ตะนิดได้แต่ตัวแห้งเหี่ยวเป็นถั่วงอกไร้เรี่ยวแรงหลังจากเผชิญการทำงานมาทั้งวัน ทั้งนั่งโม่ทำงานหน้าคอม ทั้งถูกพี่ที่ทำงานหนีบไปเรียนรู้การคุยงานกับลูกค้านอกสถานที่ พอกลับออฟฟิสมาก็มีตีกับการแก้บรีฟงานลูกค้าที่เหมือนต้องแก้กลับไปบรีฟแรกหลังจากที่บรีฟมาห้ารอบ

... เหี่ยวแห้ง

นั่งจ๋องดูดนมสดไข่มุกบราวน์ชูการ์อยู่หน้าบริษัทไม่นาน รถคันหรูก็ขับเทียบเข้ามาจอดตรงเวลาที่นัดไว้ ตะนิดลุกขึ้นยืนตบตูดตัวปั้ปๆ ก่อนจะเปิดประตูน้วยเข้าไปนั่งในรถ

“เหนื่อยจังพี่ภาส” แมวน้อยส่งเสียงอ้อแอ้ ใบหน้าดื้อถูไปมากับเบาะรถ
“ใส่เบลท์ดีๆ”
“อื้อออ” ถึงจะส่งเสียงขัดใจแต่ก็ยอมดึงสายคาดนิรภัยตามคำสั่ง

ภาสลอบมองแมวดื้อของเขาที่ตอนนี้หมดสภาพนอนเบะปาก ตั้งแต่ตะนิดเริ่มทำงานเขาก็ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรนอกเหนือจากการไปรับไปส่ง ช่วงอาทิตย์แรกๆ เจ้าแมวก็ดูคึกคักดีแต่พอผ่านไปได้สักพักก็เริ่มจะเฉาลงเรื่อยๆ จนในที่สุดพอใกล้จะครบเดือนแห่งการทำงานแมวดื้อก็เข้าสู่สภาพเหี่ยวแห้ง

“อยากไปแวะกินอะไรก่อนไหม”
“ไม่เอาแล้ววว อยากกลับบ้านนน” แมวดื้อย่นจมูก เหนื่อยจนแม้แต่นมสดบราวน์ชูการ์ก็บูทอารมณ์กลับมาไม่ได้ แต่ถ้าได้จิบเบียร์เย็นๆ คงดีขึ้น คิดอย่างนั้นแล้วเจ้าแมวดื้อก็เริ่มวางแผนในใจ

เดี๋ยวพอกลับบ้านตบตูดกล่อมพี่ภาสนอนแล้วค่อยลงมาซื้อเบียร์ที่เซเว่นขึ้นไปกินบนห้องดีกว่าาา

แมวดื้อส่งยิ้มเล็กๆ กับแผนการสุดแยบยล ส่วนภาสที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่ขยับจมูกฟุดฟิดเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าวันนี้กลิ่นแป้งผสมพีชของแมวดื้อดูเหมือนจะฉุนกว่าปกติตามที่อาเธอร์ส่งข้อความมาบอก

... ใกล้ฮีทอีกรอบแล้วสินะ

แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่แม้แต่จะรู้เรื่อง ในหัวเล็กตอนนี้มีแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์สีเหลืองฟองนุ่ม เปรี้ยวปากจนอยากจะดื่มมันตอนนี้แต่ก็ต้องอดใจไว้

พอถึงห้องสิ่งแรกที่ตะนิดทำคือการกินอาหารเย็นที่อัลฟ่าหน้าดุเป็นคนสั่งมาไว้เหมือนปกติทุกวัน วันนี้เป็นข้าวผัดปู ยำหอยนางรมแล้วก็กุ้งอบวุ้นเส้น พอกินเสร็จตะนิดก็อาบน้ำแต่งตัวออกมามองเจ้าของห้องที่นั่งไถไอแพดทำงานอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

“พี่ภาสๆ”
“หืม?”
“นอนไหมมม”
“...”

อะไร?
ภาสขมวดคิ้วงงกับประโยคเชิญชวนตรงหน้า ปกติถ้าแมวดื้อง่วงก็จะกระโดดขึ้นเตียงนอนน้ำลายยืดนำไปก่อนเองไม่เห็นจะมาชวนนอนแบบนี้

“พี่ภาสๆ แก่แล้วต้องนอนไวๆ นะ ดีต่อสุขภาพ” นอกเหนือจากคะแนนนักสืบจะน้อยแล้ว คะแนนการแสดงก็คงติดลบ พิรุธออกเยอะจนภาสต้องวางไอแพดลง
“คิดจะทำอะไรอีก”
“เห้ย เปล่าเลย ไม่ได้จะทำอะไรรร” ดวงตาดุใต้กรอบแว่นหรี่ลงเหมือนรู้ทัน แค่นั้นแมวดื้อก็ขนลุก ต่อมกลัวความผิดเต้นดังตุ้บๆ
“ตะนิด”
“...”
“วางแผนจะทำอะไรก็บอกมาเถอะ”
“เปล่านะ ใครแผน ขุนแผนหรือเปล่า แต่นิดไม่มีแผนนะ”
“ตะนิด” ถ้าเป็นปกติเขาคงปล่อยเลยตามเลยให้เจ้าแมวดื้อทำแผนให้สำเร็จ แต่ในเมื่ออยู่ในช่วงใกล้ฮีทเขาเลยไม่กล้าเสี่ยง ยิ่งเวลาดื้อชอบทำอะไรเหนือความคาดคิดด้วยเลยยิ่งน่าเป็นห่วง

“อยากกินเบียร์อ่า”
“...”
“พี่ภาสก็รู้ใช่ม้าา เวลาเหนื่อยๆ มันก็อยากกินอะไรแบบนี้” แมวดื้อยู่หน้ายู่ตายกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มกัน
“ก็แค่นี้ ทำไมต้องวางแผนให้พี่หลับก่อน”
“ก็ ก็” แมวดื้อถึมพำในลำคอ ภาสส่ายหัวกับความดื้อนั่นก่อนจะลุกหยิบกระเป๋าตังค์เดินนำไปทางประตู ตะนิดพอเห็นว่าอีกฝ่ายอนุญาตแล้วก็กระโดดดึ๋งเดินตามไปด้วยความร่าเริง

และในที่สุดแมวดื้อก็ได้จิบเบียร์เย็นๆ สมใจในวันแสนเหนื่อย ดวงตากลมมองวิวยามค่ำคืนของกรุงเทพพร้อมกับอมยิ้มออกมาเบาๆ ส่วนภาสที่จิบวิสกี้อยู่เก้าอี้ข้างๆ ก็ลอบมองใบหน้าดื้อนั่นด้วยความรู้สึกหลากหลาย กลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชนั่นลอยมาแตะจมูกเพิ่มความรู้สึกกังวลให้เพิ่มมากขึ้น

“ตะนิด”
“ครับ”
“เราน่ะ ใกล้จะฮีทแล้วนะ” พูดเสร็จภาสก็ยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบ ส่วนตะนิดก็ชะงักแก้วเบียร์ในมือ ปากบางเม้มเข้าหากันก่อนจะขดขาขึ้นชั้นวางแก้มตัวเองไว้บนเข่า
“พี่ภาส...”
“หืม”
“นิดไม่ชอบเป็นโอเมก้าเลย”
“...”
“ทำไมต้องมีการแบ่งแบบนี้ด้วย ไม่แฟร์เลยเนาะ”
“นั่นสินะ”
“พี่ภาสเคยไม่ชอบเป็นอัลฟ่าไหม” พอได้รับคำถามภาสก็เงยหน้ามองวิวตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“เคยสิ”
“ยังไงอ่ะ”
“อืม ก็คงเป็นเหมือนกันมั้งที่เวลารัทจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ นั่นมันน่าหงุดหงิดนะ” ภาสพูดพลางจิบวิสกี้เข้าปาก ตะนิดพยักหน้าหงึกๆ เข้าใจ “แล้วก็น่าหงุดหงิดเหมือนกันเวลาที่เราทำอะไรบางอย่างสำเร็จแต่ทุกคนก็ตัดสินว่าเพราะเราเป็นอัลฟ่าถึงได้ทำมันสำเร็จได้”
“...”
“ทั้งที่จริงๆ เราพยายามทำให้มันสำเร็จแทบตาย ทุ่มเทไปแทบทั้งหมดที่ตัวเองมี แต่บางคนก็ตัดสินมันง่ายๆ แบบนั้น” เสียงดุไม่ได้ใช้น้ำเสียงหงุดหงิดอะไรออกมา แต่ตะนิดก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจมาจากประโยคนั้น
“ถ้าโลกเรายังกดขี่โอเมก้าเหมือนสมัยก่อนนิดว่านิดคงโคตรซวยเลย” ถึงปัจจุบันการกดขี่โอเมก้า จะกลายเป็นเรื่องล้าหลังไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มอัลฟ่าหรือเบต้าที่ยังคงเหยียดโอเมก้าเป็นชนชั้นที่ต่ำกว่าตัวเองอยู่บ้าง

หลังจากบทสนทนานั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ตะนิดปล่อยให้ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านจนผมปลิว ส่วนภาสเองก็หลับตาวางความเครียดเรื่องงานทั้งหมดลง

“พี่ภาส...”
“หืม”
“ถ้านิดไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตาของพี่ภาส”
“...”
“ตอนนี้พี่ภาสจะยังอยากอยู่กับนิดไหม”

พอได้ยินคำถามจากปากเล็ก ภาสก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับเอียงคอกลับไปสบตากับดวงตากลม แม้ไฟระเบียงจะสว่างไม่เท่ากับไฟในห้องแต่เขาก็เห็นใบหน้าดื้อนั่นได้อย่างชัดเจน

“พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเราไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตามันจะเป็นยังไง”
“...”
“แต่ถ้าพูดถึงตอนนี้ เวลานี้”
“อื้อ”
“พี่สบายใจ ...ที่ที่นั่งข้างๆ เป็นเรา”
“...”
“...แล้วพี่ก็ไม่ได้นึกถึงคู่แช่งโชคชะตาด้วยซ้ำจนกระทั่งเราพูดขึ้นมา”

รสชาติวิสกี้วันนี้ดูเหมือนจะหวานแล้วก็นุ่มกว่าปกติ ทั้งๆ ที่ก็เป็นวิสกี้แบรนด์เดิม เทเพียวๆ ลงบนน้ำแข็งเหมือนที่ดื่มมาตลอด ตะนิดงับปากลงกับแก้วเบียร์ก่อนจะพ่นลมในปากออกมาจนเบียร์ขึ้นเสียงบุ๋งๆ แก้มขาวแต้มสีแดงจางๆ พร้อมกับรู้สึกเห่อร้อนไปทั่วใบหน้า

“พะ พี่ภาส”
“หืม?”
“ฮีทที่จะถึงนิดว่านิดยังไม่พร้อม” แมวดื้อก้มหน้าชิดเข่าโผล่ไว้แต่หูแดงๆ
“...อืม”
“แต่ก่อนจะถึงฮีทต่อไป”
“...”
“เรามาจีบกันก่อนไหม”

ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นงงๆ การโดนจับคู่ด้วยโชคชะตา การมาอยู่ด้วยกันด้วยความไม่สมัครใจในทีแรก ตะนิดแค่รู้สึกว่าบางอย่างมันยังไม่เข้าที่ แม้ระยะเวลาที่เพิ่งอยู่ด้วยกันจะไม้ได้เยอะ แต่แค่นั้นเขาก็พอจะรู้คำตอบลึกๆ ในใจของตัวเอง

จะคู่แห่งโชคชะตาหรือไม่ก็ตาม
แต่เป็นคนนี้ มันก็ดีแล้ว

ภาสที่ได้ยินประโยคนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ แมวดื้อมักจะพูดประโยคอะไรที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอตั้งแต่โชว์ไฝที่ก้นจนกระทั่งประโยคเมื่อครู่

แต่ไม่ว่าจะประโยคไหน
ก็พานทำเอาใจเขาเต้นผิดจังหวะอยู่เสมอ

“เอาสิ”
“...แต่นิดไม่เคยจีบใครเลยนะ เคยแต่โดนจีบ” สิ้นประโยค ภาสที่เพิ่งหลุดหัวเราะก็เปลี่ยนอารมณ์เป็นขมวดคิ้วแน่นทันที ความรู้สึกหงุดหงิดตีขึ้นจนต้องเคี้ยวน้ำแข็งกร้วมๆ ระบายอารมณ์
“...”
“พี่ภาสๆ”
“หืม”
“โอ๊ยๆๆ เจ็บแขน รู้ไหมแขนนิดเป็นอะไรรรร” แมวดื้อยกแขนขึ้นชูกลางอากาศ ซึ่งภาสก็ขมวดคิ้วมองแขนเล็กอย่างไม่เข้าใจ
“ตะคริว?”
“...”
“...”
“ขะ แขนเป็นฟอออออออ”
“ฟอ?”
“แขนเป็นฟออออ”
“What for?”
“ฮือ พี่ภาสแก่จริงๆ” แมวดื้อหันกลับไปกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอึ้กๆ หนีความน่าอายที่เกิดขึ้น ภาสที่โดนเล่นเรื่องอายุก็ได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ จู่ๆ ก็เล่นใหญ่เจ็บแขน เขาตกใจหมดคิดว่าเป็นตะคริว

ตะนิดยู่ยี่หน้าแต่สุดท้ายก็อมยิ้มออกมาเบาๆ เสียงหัวใจเต้นดังก้องจนต้องยกมือขึ้นตบๆ ที่อกให้มันเต้นช้าลงหน่อย ดวงตากลมตวัดมองอัลฟ่าหน้าดุที่นั่งหลับตาปล่อยให้ลมพัดผมกระจายอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันกลับมามุดหน้าหนีลงเข่าตัวเอง

เขาเองก็สบายใจเหมือนกัน

ที่ที่ข้างๆ เขาตอนนี้
... เป็นคุณนุ่มเบอร์ศูนย์



 


หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-06-2020 21:57:03
รอวันพี่ภาสตบะแตก..พี่ชายแซงหน้าไปแล้ว..วววววว     :hao6:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 21-06-2020 21:57:45
ชาย x คณิต เหรอ 5555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 21-06-2020 21:58:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 22-06-2020 00:08:24
คู่พี่มาแรงมากกก ตะนิดชิงจีบก่อนเลยหรอลูก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 22-06-2020 11:43:51
กลายเป็นว่าคู่พี่ก้าวหน้าไปไกลแล้ว ฮ่าๆ

น้องนิดจีบพี่ภาสเองเลย ร้ายๆๆ
รอลุ้นฮีทควาวหน้าของน้องนิดนะ หุหุ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 22-06-2020 13:29:39
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 22-06-2020 16:06:24
กรี๊ดดดด ชายคณิต เรือแฝดพี่แล่นแล้ววว

โอ้ยย แขนเป็นฟออออ พี่ภาสไม่ทันมุก ตะริดรู้ก หอมมมหัว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-06-2020 18:57:29
ต้องแซ่บแน่ๆ  :o8:  :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย ที่ 22-06-2020 20:12:39
ไม่เบาเรยนะคะพี่ชาย :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 22-06-2020 23:06:02
คุณนุ่มเบอร์ศูนย์โอ้ยยัยหนูน่ารักมากๆน่ารักที่สุด :-[  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 14 : ที่ข้างๆ [21/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-06-2020 01:43:33
อุตส่าห์เล่นใหญ่ขอเป็นแฟน แต่ลุงไม่เข้าใจ ตะนิดเอ้ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 28-06-2020 20:31:57
ก็จะดื้อ 15


 

 

 

ถึงแม้ว่าจะมีประโยคชวนจีบหลุดออกมา

แต่นี่ก็ครบหนึ่งอาทิตย์ที่ภาสโดนแมวดื้อหลบหน้าแล้ว

 

หรือวัยรุ่นสมัยนี้จีบกันแบบนี้ก็ไม่รู้

 

อัลฟ่าเลือดแท้ได้แต่นั่งจ้องแก้วกาแฟบนโต๊ะทำงานนิ่งๆ หลังจากที่เขาและเจ้าแมวปรับความเข้าใจกันตรงระเบียงก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม

 

และมันเป็นหนึ่งอาทิตย์เขาหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่เจ้าแมวดื้อหอบผ้าหอบผ่อนหอบฉลามหน้าโง่กลับไปนอนห้องตัวเองพร้อมกับพยายามหลบหน้าหลบตาทุกครั้งที่มีโอกาสโดยอ้างว่าตัวเองอยู่ในช่วงใกล้ฮีทเลยไม่อยากเจอหน้าเขา

 

ปกติกินอาหารเช้าพร้อมกันเจ้าแมวก็ชิงตื่นมากินก่อน พอเขาเปลี่ยนมาตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมเจ้าตัวก็แอบเอาซีเรียลไปซ่อนในห้องนอนไม่ยอมออกมากินพร้อมกัน ปกติเขามักจะพาไปส่งที่ที่ทำงานแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าแมวก็ ก็ชิงหนีไปกับแฝดพี่กลับมาที่ห้องอีกทีก็สภาพเหนื่อยกับงานไม่มีแรงจะคุย

 

ขนาดล่อด้วยกุ้งเผาก็ยังไม่ติดกับ

 

เขาไม่เข้าใจระบบความคิดของแมวดื้อนักหรอกแต่การที่ห้องนอนไม่มีกลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชนั่นติดกันหลายวันก็ทำเอาเขาหงุดหงิดงุ่นงานมาตลอด

 

... อยากได้กลิ่น

... อยากเห็นหน้าดื้อๆ

... อยากอยู่ใกล้ๆ

 

“คุณภาสครับ” เสียงเลขาหน้าห้องทำงานดังขึ้นดึงความสนใจ ภาสตวัดตาคมใต้กรอบแว่นขึ้นมองแทนคำถามว่ามีอะไร ซึ่งนั่นทำเอาเลขาหนุ่มขนลุกขนพองไปหมด ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเจ้านายเขาที่ปกติก็ดุอยู่แล้วดันดุขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าจนพนักงานทุกฝ่ายเกร็งกันไปหมด

“...”

“เอ่อ คุณชายติดต่อมาครับ”

“ว่าอะไร”

“คุณชายบอกให้ไปรับแมวครับ”

“...” ภาสขมวดคิ้วมุ่น

 

ตะนิด?

 

“คุณชายบอกว่าให้ฉีดยากันรัทมาก่อนด้วยครับ”

 

ได้ยินแค่นั้นภาสก็ผุดตัวขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกุญแจรถออกตัววิ่งทันที ปกติจากออฟฟิศของเขาไปออฟฟิศของแมวดื้อใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที แต่วันนี้เขากับทำเวลามาถึงได้ภายในสิบนาที

 

พอจอดเทียบเขาก็เห็นเบต้าที่ชื่อชินยืนนิ่งให้แมวดื้อเกาะอยู่ส่วนข้างๆ มีอัลฟ่าเลือดแท้หน้ากวนตีนยืนโบกมือส่งยิ้มแฉ่ง เขาเอื้อมมือไปเปิดเก๊ะหน้ารถหยิบหลอดยาที่พกไว้ออกมาปักที่ต้นขาก่อนจะรีบเปิดประตูลงจากรถ

 

“ตะนิด...”

“พะ พี่ภาส” ตะนิดที่เงยหน้าขึ้นจากแขนชิน พอได้กลิ่นที่คุ้นเคยก็ถลาตัววิ่งเข้าไปซุกอกกว้างทันที กลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชอ่อนๆ ที่ลอยมาแตะจมูกทำให้ภาสต้องขมวดคิ้วหนักอีกรอบ

 

ถึงจะยังไม่ถึงขั้นฟุ้งระดับฮีท

แต่ก็ถือว่าเป็นการฟุ้งที่มากกว่าปกติ

 

“สวัสดีครับคุณภาส” อาเธอร์ส่งยิ้มไมตรีก่อนจะถูกตัดไมตรีอย่างแรงด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ของภาส

“พอดีเต้อบอกว่ากลิ่นน้องค่อนข้างฟุ้งกว่าปกติ ผมเลยคิดว่าน้องควรพักก่อนดีกว่า อ้อ สามารถใช้โควตาหยุดช่วงฮีทได้มากสุดหนึ่งอาทิตย์ตามกฏหมายนะครับ ถ้าเกินกว่านั้นยังไงรบกวนแจ้งทางบริษัทด้วย” ชินยื่นกระเป๋าตะนิดให้ซึ่งภาสก็กำลังจะยกมือรับมาถือ แต่จู่ๆ แมวดื้อที่ซุกอกเขาเริ่มทิ้งน้ำหนักมามากขึ้นจนเหมือนภาพในอดีตย้อนกลับเข้ามา

 

ซุกอกแบบนี้ ทิ้งตัวแบบนี้

หลับ?

 

“รบกวนเอากระเป๋าไปไว้ในรถให้ที...”

“เห้ยๆ น้องแมว” เต้อรีบยกมือขึ้นดันหัวที่หงายลงมาของตะนิดไว้ทันที ส่วนภาสก็รีบกระชับเอวบางไว้แน่นไม่ให้ร่างบางไหลลงไปกองกับพื้น ภาสตวัดตาเป็นเชิงบอกให้อาเธอร์ปล่อยมือออกก่อนจะตวัดร่างแมวดื้อขึ้นอุ้ม

“อาทิตย์นี้ตะนิดดูเพลียๆ นะครับคุณภาส”

“...”

“เห็นน้องแมวบ่นว่านอนไม่หลับมาตลอดทั้งวีค ไอ้จะมานอนที่ที่ทำงานก็ทำไม่ได้เลยซัดกาแฟสลับกระทิงแดง แต่ไม่ต้องห่วงครับพ้ม เพราะ ผมได้ทำการเทชาน้ำผึ้งผสมมะนาวแทนแทนกระทิงแดงแล้ว” เต้อตบอกตัวเองป้าปๆ ด้วยความภูมิใจ ถึงเขาจะไม่สามารถตามใจขนาดให้น้องแมวหลับในที่ทำงานแต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้น้องแมวทำร้ายร่างกายตัวเองทางอ้อมด้วยการกินคาเฟอีนเยอะเกินแน่นอน

 

แหง...

ดูจากทริปทะเลแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้องแมว คนหัวหลุดคนแรกมันก็เขาชัดๆ นี่หว่า

 

“...” ภาสขมวดคิ้วพร้อมกับยัดร่างแมวดื้อเข้าไปในรถ ตอนนั้นเองที่ตะนิดรีบตวัดเล็บจิกไหล่หนาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยจนชินต้องมาช่วยแกะนิ้วน้องออกไป พอผละตัวออกมาได้ ภาสก็เดินกลับไปหลังรถหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองมาโยนคลุมร่างเล็กไว้ ซึ่งแมวดื้อก็ทำจมูกฟุดฟิดก่อนจะซุกหน้าเข้าหาเสื้อเหมือนหาของรักของตัวเองเจอ

“อ้อ”

“...”

“คุณชายฝากบอกว่า...” ชินหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะออกเสียงอ่านข้อความ “ถ้าเป็นไปได้เลิกให้คณิตต้องไปรับส่งน้องสักที ขอเวลาเป็นส่วนตัวให้ชาวบ้านบ้าง... ครับ” ชินเอ่ยหน้าตาย เขาไม่อยากจะบอกหรอกว่าจริงๆ เจ้าของข้อความแอบยัดคำหยาบมาสองสามคำ แต่ด้วยความเหมาะสมเขาจะไม่อ่านออกเสียงมันออกมาให้แล้วกัน

 

ภาสพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินอ้อมรถมาตรงคนขับพร้อมกับขับออกจากบริเวรออฟฟิศของตะนิด แมวดื้อในตอนนี้ขดตัวดมเสื้อเขาหลับปุ๋ยกรนคร่อก

 

นอนไม่หลับงั้นเหรอ...

ไม่ต่างกันเลยสินะ

 

พอได้กลิ่นหอมแป้งผสมกลิ่นพีชลอยฟุ้งอยู่ในรถ ความหงุดหงิดที่สะสมมาตลอดหลายวันก็จางหายไปทันที

 

พอขับรถมาถึงคอนโดเขาก็จัดการห่อเจ้าแมวดื้อขึ้นห้อง แน่นอนว่าเขาจัดการอุ้มแมวดื้อกลับมานอนไว้ห้องตัวเอง พอหย่อนลงบนเตียงใบหน้าดื้อก็จัดการเบียดตัวเองลงกับฟูกจนแก้มยกเป็นก้อนๆ จมูกเล็กทิ่มบี้ไปกับเตียง

 

ภาสเองที่ก็ประสบปัญหานอนไม่เต็มอิ่มมาหลายวันเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็รู้สึกง่วงขึ้นมาตาม เขาคลายกระดุมออกสองเม็ด ถอดแว่นวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะค่อยๆ สอดตัวเองเข้าไปใต้ผ้านวมผืนเดียวกับแมวขี้เซา

 

พอได้ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ดวงตาดุที่ไร้กรอบแว่นก็ปราดมองแผ่นหลังบางตรงหน้าก่อนจะค่อยๆ กระเถิบไปใกล้จนจมูกของตัวเองปะทะเข้ากับเสื้อเชิ้ตขาวบางของร่างบาง กลิ่นแป้งหอมลอยแตะจมูกจนภาสอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แทบจะเกือบสุดปอดเสียไม่ได้

 

เตียงที่ไม่มีกลิ่นแป้งมันเหงาเกินไป

 

คิดถึง...

แค่อาทิตย์เดียวก็คิดถึงแล้ว...

 

พอได้ดมเสื้อเชิ้ตบางภาสก็ไล้จมูกขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงลำคอขาวที่มีปลอกคอพาดทับอยู่ เขาอ้าปากฝังคมเขี้ยวลงไปบนปลอกคอเบาๆ ก่อนจะเพิ่มแรงกัดมากขึ้นเมื่อความทนทานของปลอกคอนั้นดีเกินจนหงุดหงิด แต่พอร่างเล็กเริ่มส่งเสียงขัดใจเขาก็ผละออกเปลี่ยนไร้จมูกไปตามผิวขาวนุ่ม 

 

ป้าป!!!!

 

เสียงฟาดเน้นๆ ดังขึ้นพร้อมกับแรงตบจากมือเล็ก ภาสได้แต่กะพริบตาถี่กับแรงตบที่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว นี่ถ้าเขาใส่แว่นอยู่แว่นได้มีขาหลุดไปแล้ว

 

“อื้อ รำคาญ...” แมวดื้อบ่นพึมพำพร้อมกับตวัดมือตีแปะๆ ไปทั่วอะไรก็ตามที่มาวุ่นวายแถวคอ ขาเล็ดตวัดถีบไปมาอย่างขัดใจ ภาสเห็นอย่างนั้นเลยผละตัวมาลูบหน้าลูบตาตัวเองเรียกสติ กลิ่นของอีกฝ่ายนั้นดึงดูดจนเขาเกือบจะสติหลุดไปไกล

 

ถึงจะไม่ได้ซุกตัวเข้าไปแต่ภาสก็ยังคงตวัดมือโอบเอวบางไว้เบาๆ

หวังว่าตื่นมาจะไม่โวยวายหรอกนะ...

 

.

.

.

 

 

ตะนิดที่หลับเต็มอิ่มปรือตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมจ้องประตูคุ้นตาตรงหน้า ใช้เวลาโหลดเกือบสิบวิถึงจะเข้าใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แม้จะห่างจากห้องนี้ไปหนึ่งอาทิตย์แต่เขาก็อยู่ในนี้นานจนจำได้ดี

ตะนิดเตรียมจะลุกหนีกลับห้องตัวเองแต่สัมผัสอุ่นน้องที่บริเวณท้องก็รั้งไว้จนต้องก้มลงมอง ปลายเสื้อเชิ้ตทำงานของเขาหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงและมันก็พองขึ้นตามรูปมือที่ใหญ่ที่สอดเข้าไปจับหน้าท้องเขาไว้

ดวงตากลมเบิกตากว้างที่มือใหญ่นั่นถือวิสาสะล้วงเข้าไปใต้ร่มผ้า แต่พอจ้องนานๆ เข้าก็ดันรู้สึกดีขึ้นมาแทน

 

ชอบที่ได้อยู่ในอ้อมกอด

ชอบที่แขนแกร่งสัมผัส

 

กลิ่นลาเวนเดอร์โชยเข้าจมูกมาจนตะนิดรู้สึกปลอดภัย แมวดื้อถลกเสื้อตัวเองขึ้นก่อนจะทาบมือตัวเองลงบนมือใหญ่หยาบกร้าน ปกติแล้วเขาเป็นคนหวงท้อง ไม่ชอบให้ใครมาแตะหรือยุ่มย่าม แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอุ่นวาบแปลกๆ

 

ภาสที่สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะรู้สึกได้ถึงการขยับตัวของคนในอ้อมแขนลืมตามองลำคอขาวนิ่งๆ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก แต่เหมือนแมวดื้อกำลังขยับมือลูบมือเขาที่หน้าท้องตัวเองเล่นไม่โวยวายลั่นบ้านตามที่คาดไว้ ถึงจะตกใจแต่ก็เพลินดี ภาสปล่อยให้แมวดื้อลูบมือตัวเองเล่นอยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทักออกไป

 

“ตื่นแล้วเหรอ โอ๊ะ...” มือเล็กที่ทาบอยู่เปลี่ยนเป็นตวัดตีป้าปทันทีแก้เขิน ตะนิดผุดลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าดื้อเบ้มองอัลฟ่าเลือดแท้ด้วยความไม่พอใจ

“ลวนลามเหรอ”

“ตอนแรกก็ใช่ แต่ตอนหลังพี่เหมือนโดนลวนลามกลับ”

“นิดแค่ลูบมือ แต่พี่ภาสลูบท้อง”

“...”

“...”

“...”

“ทะ ทำไมไม่เถียงล่ะ” แมวดื้อแก้มแต้มสีแดงโวยวายลั่นกว่าเดิมแก้เขิน

“ไม่รู้จะเถียงอะไร พี่ลูบท้องเราจริงๆ เหมือนสมองสั่งให้ลูบน่ะ”

 

ภาสลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหยิบแว่นมาสวม เขามองใบหน้าดื้อที่เลิ่กลั่กไปมาตามฉบับคนเขินแล้วทำตัวไม่ถูก ปากเล็กขยับอ้าเหมือนจะโวยวายแต่สุดท้ายก็ถอยทัพฮึดฮัดเตรียมหนีกลับห้องภาสจึงรีบเอ่ยขัด

 

“ตะนิด”

“...”

“มีอะไรอยากจะคุยกันไหม” ตะนิดชะงักตัวกึ้ก ตากลมจ้องตาดุของอีกฝ่ายด้วยความตกใจเหมือนคนถูกจับได้ว่าทำอะไรผิดก่อนจะรีบหลุบตามองเท้าตัวเอง

“อะ เอ่อ ไม่ ไม่มีนี่”

“หลบหน้าพี่ทำไม”

“นิดไม่ได้หลบรึเปล่า พี่ภาสคิดมากไปเอง”

“ตะนิดเงยหน้า”

 

ไม่อยากนี่!!!

ตะนิดได้แต่ตะโกนก้องในใจ

 

“พี่ พี่ภาส”

“นี่คือจีบของเราเหรอ หลบหน้าเนี่ย”

“....”

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องจีบ”

“...!!!”

“ยกเลิกมันไปเลยแล้วกัน”

 

ภาสยกมือเกาหัวเบาๆ เขาไม่ได้อยากเร่งรัดอะไร ตะนิดเป็นคนทำอะไรเดาใจยาก เพียงแต่เขาอยากให้หยุดการหลบหน้านี้ลงสักที นอกเหนือจากมันทำให้เขาหงุดหงิดแล้วมันก็ยังส่งผลกระทบกับการทำงานด้วย

 

แต่อีกฝ่ายกลับเข้าใจไปอีกแบบ...

 

ตะนิดเงยหน้าขึ้นทันทีที่อัลฟ่าหนุ่มพูดประโยคนั้นจบ ดวงตากลมจ้องมองด้วยความตกใจ ใบหน้าของแมวดื้อดูตกใจมากเสียจนภาสชะงักตัว

 

“พี่ภาสหมายความว่าไง”

“เอ่อ...”​ เป็นภาสเองที่ไม่รู้จะตอบอะไร เขาไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรผิดออกไปหรือเปล่า แมวดื้อตรงหน้าถึงได้ทำสีหน้าตกใจแบบนั้นออกมา

“ยกเลิกคืออะไร”

“ตะนิด”

“พี่ภาสไม่อยากอยู่กับนิดแล้วเหรอ พี่ภาสรู้ตัวแล้วเหรอว่าไม่อยากอยู่ แค่หนึ่งอาทิตย์เองนะ ก็นิดทำตัวไม่ถูก นิดไม่เคยจีบใคร นิดแค่สับสนนี่ นิดไม่ได้หลบหน้าเขาเรียกว่าหนีไปสร้างทัพ แต่แค่นี้พี่ภาสก็พอแล้วเหรอ” แมวดื้อโวยวายลั่นห้อง ดวงตากลมเริ่มคลอด้วยน้ำตา ขณะที่ภาสกะพริบตางง

 

อะไรคือหนีไปสร้างทัพ? ทัพลูกแมวแบบนั้นเหรอ?

แล้วทำไมจู่ๆ ทำไมแมวดื้อถึงโกรธขนาดนี้กัน ไม่รู้ว่าเพราะเขาสื่อสารผิดหรือเพราะอาการฮอร์โมนสวิงในช่วงใกล้ฮีทของอีกฝ่าย

 

“ไปกันใหญ่แล้ว”

“พี่ภาสอะไรอ่ะ ไม่ได้เลยนะ”

“...”

“ไม่ได้เลยนะ ไม่ชอบเลยนะ แบบนี้อ่ะ” แมวดื้อกัดปากตัวเองแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้

“ตะนิดใจเย็นๆ ก่อน พี่ไม่รู้ว่าเราเข้าใจไปในความหมายไหน แต่ยกเลิกที่ว่าพี่หมายถึงว่าจีบของเราหมายถึงการหลบหน้าก็ให้ยกเลิ- ไม่ หมายถึงให้พักไว้ก่อน” ภาสรีบเปลี่ยนคำเมื่อเหมือนว่าคำว่ายกเลิกจะทำให้แมวดื้อเบะปากหนักกว่าเดิม

“...” 

“หลบหน้า หนีไปนอนอีกห้อง ไม่กินข้าวพร้อมกัน ทั้งหมดนั่นน่ะ พักไว้ก่อนได้ไหม”

“อื้อ... พักไว้ก่อน”แมวดื้อนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เขาเองก็อยากกลับมานอนห้องนี้แล้ว พอกลับไปนอนห้องตัวเองแล้วมันเหงาจนนอนไม่ได้ ข้าวก็ไม่อร่อยเหมือนเดิม

ภาสไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เขาลุกขึ้นเดินไปจับหัวฟูนั่นโยกไปมา ดวงตาดุใต้กรอบแว่นจ้องมองไปที่ใบหน้าดื้อที่เงยขึ้นมองหน้าเขากลับ

 

อยากจะบอกว่าคิดถึงออกไป

แต่ก็ไม่รู้ว่าถึงเวลาที่พูดได้หรือยัง

 

กึ้ก

 

“อื้อ” ตะนิดสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟวิ่งจี๊ดแถวหลังคอ แขนเล็กยกขึ้นจับปลอกคอตัวเองทันทีตามสัญชาตญาณ

ภาสมองร่างตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทันใดนั่นกลิ่นแป้งผสมพีชอ่อนๆ ก็เริ่มฟุ้งแรงจนเขาผงะตัว

 

 

ตะนิดฮีท!!!

 

“ฮึ่ก... พี่ พี่ภาส”

“เวรเอ๊ย” ดีแค่ไหนที่เขาฉีดยามาก่อนแล้วหนึ่งเข็มตามคำแนะนำของชาย แมวดื้อตัวสั่นระริกขาเล็กถอยหนีเตรียมจะวิ่งกลับเข้าห้องตัวเองแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าไว้ก่อน

 

“พี่ภาสนิดฮีท นิดฮีท ปล่อย”

“ตะนิด เราบอกพี่ว่าฮีทนี้ยังไม่พร้อม”

“ฮึก”

“แต่ถ้าเราจะเป็นคู่กันในอนาคต”

“อึก”

“เวลาฮีท เราก็ต้องฮีทกับแค่พี่”

 

ไม่ใช่ตุ๊กตาฉลามนั่น

เขาจะไม่ยอมแพ้ให้ตุ๊กตาปลาฉลามอีกต่อไป

 

ตะนิดขยับตัวไปมาเหมือนไม่เข้าใจที่เขาสื่อ เขาเลยจัดการอุ้มแมวดื้อขึ้นโยนลงบนเตียง พอใบหน้าดื้อได้กลิ่นลาเวนเดอร์ก็เสียดสีตัวเองกับเตียงทันที

ภาสอาศัยช่วงที่แมวดื้อเผลอเดินออกไปหยิบตุ๊กตาฉลามที่ห้องฝั่งตรงข้ามก่อนจะหิ้วมันกลับมาที่ห้องตัวเอง เขาเดินไปที่วอล์คอินคลอเซทเพื่อหยิบสูทตัวเก่งตัวเองออกมาห่อตัวปลาฉลามไว้พร้อมกับเดินออกมายื่นปลาฉลามห่อสูทให้แมวดื้อ ซึ่งตะนิดก็รับไปกอดทันที

 

ใช่ เขาไม่ยอมแพ้

แต่ก็ยังชนะเต็มรูปแบบไม่ได้ เดี๋ยวจะเลยเถิดไปกันใหญ่

 

เท่าที่เขารู้มาจากลี่ โอเมก้าช่วงฮีทจะต้องการถูกเติมเต็มเป็นเวลาประมาณสองถึงสามวันและมากสุดคือหนึ่งอาทิตย์ โดยระยะสั้นยาวขึ้นอยู่กับว่าทานยาหากไม่ได้รับการเติมเต็มอย่างถูกวิธีก็จะต้องใช้ฮีทยาระงับฮีทเหมือนที่เขาใช้ในครั้งแรกที่ตะนิดฮีทในห้อง

... แต่ทว่า

การใช้ยาระงับบ่อยๆ นั้นจะส่งผลเสียระยะยาวอย่างมากกับสุขภาพของโอเมก้าเนื่องจากเป็นการใช้ยาเข้าไประงับฮอร์โมนแบบฉับพลัน

 

ฮีทรอบนี้ดูท่าจะลำบากและยาวนานกว่ารอบที่แล้ว

เพราะเขาตั้งใจจะไม่ใช่ยากับตะนิด

 

ภาสลอบถอนหายใจยาวก่อนจะตวัดตามองร่างของแมวดื้อบนเตียง ดวงตากลมปรือขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาดึงชายเสื้อเขาไว้

 

“พี่ภาส...”

“...”

“กอดนิดน้า”

 

ภาสกุมมือเล็กไว้ก่อนจะอุ้มร่างผอมขึ้นนั่งบนตักตัวเอง แมวดื้อพอได้ท่าที่ถนัดก็เริ่มขยับสะโพกขย่มตามสัญชาตญาณ

 

“ตะนิด รู้ไหมว่ามันมีวิธีอื่นนอกจากขย่ม”

“หื้อ พี่ภาส”​ แมวดื้อส่งเสียงขัดใจเมื่อโดนจับให้นั่งพิงอกแกร่ง ตากลมมองแขนใหญ่ที่สอดเข้าไปใต้กางเกงสแลคของตัวเอง

“ถอดกางเกงเราก่อน”

“อื้อ” ขาเล็กยกขึ้นชูกางอากาศเปิดทางให้อัลฟ่าหนุ่มรูดกางเกงออกให้ ภาสมองภาพตรงหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

 

เรื่องยั่วไม่รู้ตัวนี่เขาให้ตะนิดเป็นอันดับหนึ่งเลย

 

พอเหลือแต่เสื้อเชิ้ตสีขาวบางกับกางเกงใน แมวดื้อก็เริ่มขยับตัวเสียดสีตัวเองหน้าตักเขา ซึ่งภาสก็รีบหยุดไว้

 

“พิงอกพี่ไว้นะ”

“อื้อ”

“ชันขาขึ้นหน่อย”

“อื้อ”

 

... ว่าง่ายไปหมด

ภาสสอดมือเข้าไปใต้กางเกงชั้นในตัวบาง เท่านั้นแมวดื้อก็ครางฮือ เบียดหลังลงกับอกเขาเต็มแรง ความเปียกชื้นของกลไกร่างกายโอเมก้าสร้างความแปลกใจให้กับอัลฟ่าหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่ภาสจะพยายามดึงสติตัวเองให้กลับมาไม่ให้ไปสนใจส่วนอื่นที่ยังไม่ถึงเวลา 

 

“เราเคยแตะตรงนี้ไหม”

“ฮึก คะ เคยลอง อ๊ะ”

“แล้วทำไมยังปล่อยกับปลาฉลามอยู่” ภาสขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“แตะ แตะแล้ว มันน่าอาย ไม่ดี คุณนุ่มดีกว่า” เสียงเล็กตอบในลำคอ หน้าดื้อเบนหัวไปจูบสันคางคมที่พาดไว้แถวไหล่เพื่อออดอ้อน พอภาสเริ่มขยับมือแมวดื้อก็จิกปลายเท้าเชิดหน้าครางลั่น ภาพตรงหน้าส่งผลให้ภาสกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ซึ่งเขาก็จำเป็นต้องเปลี่ยนจุดรวมสายตาไปที่ผนังห้องแทน 

 

“พี่ภาส ฮึก มองนิด”

 

... แต่คนบนตัวก็ไม่เคยให้ความร่วมมือเหมือนเดิม

แมวดื้อจับหน้าเขาให้หันกลับมาพร้อมกับแล่บลิ้นเลียกรอบหน้า

 

“ดื้อ...”

“ฮึก มะ ไม่ดื้อ อ๊ะ” ตะนิดย่นคอเมื่อมือหยาบอีกข้างที่วางไว้บนหน้าท้องขยับขึ้นมาแถวหน้าอก ความรู้สึกแปลกใหม่ถาโถมจนเสียงเล็กครางไม่เป็นภาษา

“เราน่ะดื้อ”

“พี่ภาส พี่ภาส”

“แมวดื้อของพี่”

 

ภาสกดจมูกหอมขมับชื้นเหงื่อไปเต็มแรงด้วยความรู้สึกอุ่นวาบในอก เขาจะอดทนจนกว่าจะถึงฮีทต่อไปตามที่แมวดื้อขอไว้และเมื่อถึงตอนนั้น

 

 

เขาจะไม่ปล่อยให้แมวดื้อไปดื้อกับใครอีก

แม้แต่ตุ๊กตาฉลามก็ตาม

 

“ฮึก พี่ภาส เอาอีก”

“...”

“พี่ภาสจูบหน่อย”

“...”

“พี่ภาส นิดอยากขย่มแล้ว ไม่ถูแล้ว”

 

 

ส่วนตอนนี้...

 

จะว่าไปแล้วกำแพงที่ห้องก็สวยดีเหมือนกันนะเนี่ย

 

---

 

TALK

ผีในห้องงงมาก


หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-06-2020 22:27:12
นับถือใจพี่ภาส..เข้มแข็งเหมือนกำแพง...งงงงงงงง    :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 29-06-2020 00:37:56
พี่ภาสอีกหน่อยจะตบะแตกแล้วมั้ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-06-2020 01:17:37
พึ่งเห็นว่าลงในนี้ด้วย  ต่อไปตะมาอ่านในนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 29-06-2020 01:47:42
แงงง ตลกตอนท้าย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 29-06-2020 15:31:07
พี่ภาสหรือพระอิฐพระปูน 555 ใจแข็งดังหินผาของจริง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 30-06-2020 04:05:24
งือ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-06-2020 08:09:03
โธ่ ได้แต่มองกำแพง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 30-06-2020 17:31:51
พี่ภาสสสสส โธ่ววว พ่ออัลฟ่หน้าดุ จ้องจนกำแพงทะลุแล้วมั้ยย 5555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 15 : กำแพงก็สวยดีนะ [28/06/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: love-boy ที่ 03-07-2020 12:26:24
 :laugh: :laugh: :laugh:
โถถถถถถ พี่ภาส
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 03-07-2020 19:36:28
ก็จะดื้อ 16



บรรยากาศตอนบ่ายวันธรรมดาเงียบสงบกว่าที่คิด...

ภาสนั่งจิบกาแฟมองวิวห้องนั่งเล่นด้วยความผ่อนคลาย
หากเป็นปกติช่วงเวลานี้เขาจะต้องถึงออฟฟิสแล้วแต่เนื่องจากตะนิดฮีททำให้เขาต้องลาหยุดงาน ซึ่งวันนี้ก็เข้าสู่วันที่สี่เข้าไปแล้ว เขาลุ้นอยู่เหมือนกันว่าฮีทตะนิดจะหยุดหรือยัง เพราะตลอดสามวันที่ผ่านมาเหมือนเขาทำบาปชาติที่แล้วไว้เยอะ ชาตินี้เลยต้องมาทรมานมองของที่น่ากินแต่ยังกินไม่ได้

พอคิดถึงภาพที่ย้อนกลับเข้ามาในหัวภาสก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง อาจจะเพราะตะนิดรู้สึกผ่อนคลายกับการอยู่กับเขามากขึ้นกว่าตอนแรกทำให้ช่วงฮีทเอาแต่ใจมากกว่าปกติ ฮีทแรกตอนที่อยู่ด้วยกันยังทำแค่ขย่มตัก

แต่ฮีทรอบนี้คอมโบทุกอย่างที่ทำลายความอดทนเขา ไม่ว่าจะถูร่างกายตัวเองไปทั่วร่างเขาไม่เว้นแม้แต่หน้า ทำเอาขาแว่นหักกลางจนเขาต้องใช้แว่นสำรองในวันนี้ เอานิ้วเขาไปอมพอจะดึงออกก็กัดเสียแรงจนได้เลือด ไหนจะการใช้คำพูดคำจาอีกหลายอย่างที่พานเอาเขาต้องหลับตาดึงสมาธิทุกห้านาที

ดูแลแมวดื้อฮีทครั้งนี้เหนื่อยกว่าครั้งแรกเยอะมาก ซึ่งนั่นทำให้ภาสเห็นความแตกต่างระหว่างใช้ยากับไม่ใช้ยา หากใช้ยาใช้เวลาแค่วันเดียวฮีทก็จางแต่พอไม่ใช้ก็ฮีทรุนแรงทียาวติดกันสามสี่วัน

นอกเหนือจากเรื่องอ้อนบนเตียงแล้ว เขายังต้องคอยดูแลเรื่องความสะอาดและอาหารการกิน เนื่องจากตามกลไกร่างกายธรรมชาติของโอเมก้าจะมีน้ำหล่อลื่นจำนวนมากเพื่อช่วยลดการเสียดสีจากการมีเพศสัมพันธ์ และนั่นทำให้เตียงเขาเลอะเทอะไปหมดจึงต้องคอยเปลี่ยนทุกวัน ซึ่งแน่นอนว่าแมวดื้อก็ไม่เคยช่วยทำให้อะไรง่ายขึ้นอยู่แล้ว

จะเปลี่ยนผ้าปูเตียงทีก็กระโดดเอาจมูกมาซุกหวงผ้าไม่ยอมให้เอาไปไหน ทั้งกัดทั้งข่วนและตบท้ายด้วยการเริ่มขย่ม ครางอ้อแอ้ จับหน้าเขาแล้วกดจุ๊บไปทั่วจนหน้าเปียก

ส่วนเรื่องอาหาร ถึงจะยากไปหน่อยแต่ก็ต้องคอยบังคับให้กินอะไรลงท้องบ้าง ทั้งๆ ที่กินอาหารได้น้อยแต่ก็ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนมาดื้อต่อบนเตียงได้ขนาดนั้น


เหนื่อย...
เหนื่อยสุดๆ...

อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นนวดขมับไปมา พูดตามตรงว่าเขาผ่านเรื่องบนเตียงกับโอเมก้ามาหลายคน ทั้งชายและหญิง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอโอเมก้ารับมือยากขนาดนี้

ตะนิดทั้งบริสุทธิ์และยั่วยวนไปพร้อมกัน
บางอย่างก็ทำไปแบบไม่รู้ตัวว่ามันคือการยั่วยวน

ถึงเขาจะปวดหัวมากแค่ไหน แต่แค่คิดว่าหากตะนิดไปยั่วยวนแบบนี้กับคนอื่นก็รู้สึกหงุดหงิดและบีบในใจจนแทบทนไม่ได้ เขาหวงเรือนร่างในอ้อมกอดแทบบ้า ไม่อยากให้ใครได้เห็น ไม่อยากให้ใครได้สัมผัส ไม่อยากให้ปากเล็กเรียกชื่อคนอื่นด้วยน้ำเสียงอ้อนแบบที่ทำกับเขา

“พี่ภาส...” เสียงเล็กดังขึ้นเรียกสติภาสที่ขมวดคิ้วมุ่นกับการหงุดหงิดในใจ อัลฟ่าหนุ่มหันไปทางบันไดก็พบกับแมวดื้อในชุดเสื้อยืดตัวเดียวยืนหน้าง่วงอยู่ ภาสวางแก้วกาแฟลงก่อนจะเดินเข้าไปโอบเอวบางพร้อมกับกดจมูกลงกับกลุ่มผมฟู ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรออกมา
“ทานอะไรหน่อยไหม”
“ไม่กิน...”
“มีแพนเค้กนะ”
“...” แมวดื้อไม่ตอบแต่ซุกหน้าเข้ากับอกเขา ภาสแอบขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อกลิ่นแป้งผสมพีชที่ควรจะฟุ้งจัดกลับบางลงเยอะ

หายฮีทแล้ว?

“ตะนิด...”
“พี่ภาส จูบหน่อย” แมวดื้อเงยหน้าขึ้นสบตาเขา แน่นอนว่าเขาก้มตัวลงจูบทันทีที่อีกฝ่ายอ้อน ตอนนั้นเองก็แอบขยับมือจับก้อนพีชกลมใต้เสื้อยืดเพื่อเชคอะไรบางอย่าง

กลับมาใส่กางเกงใน...
กลิ่นแป้งจาง...

ฮีทหายแล้วนี่นา

ภาสผละหน้าออกมาเตรียมจะถาม แต่พอผละออกแมวดื้อก็เอามือเกาะบ่ากระโดดขึ้นเอาเท้าเกี่ยวเอวเขาไว้ ใบหน้าดื้อเอียงซบไหล่เขาอย่างออดอ้อน

ภาสลอบอมยิ้มเบาๆ เมื่อจับโป๊ะแมวดื้อได้แล้วว่าที่ทำอยู่นี่มีสติร้อยเปอร์เซ็น แต่เมื่ออีกฝ่ายเลือกจะอ้อนต่อเขาก็จะทำเป็นไม่รู้ให้ก็ได้ อัลฟ่าหนุ่มกระชับมือที่จับก้อนพีชนุ่มไว้ก่อนจะพาแมวดื้อโป๊ะแตกขึ้นห้อง

“อยากได้อะไร หืม?” ภาสพูดพลางวางตะนิดลงบนเตียง ตะนิดเม้มปากแน่น แก้มโมจิขาวแต้มสีแดงระเรื่อ
ทั้งหมดทั้งมวลยิ่งตอกย้ำว่าหายจากอาการฮีทแล้ว เพราะตอนที่ตะนิดฮีทไม่มีแม้แต่จังหวะที่เขินอายทั้งๆ ที่ทำอยู่เป็นอะไรที่เจ้าตัวคงโวยวายบ้านแตกถ้าทำตอนไม่ฮีท

“พะ พี่ภาส”
“...” ภาสมองร่างตรงหน้าผ่านเลนส์แว่น ในหัวได้แต่คิดว่าจะเฉลยตอนไหนดีกว่าเขารู้แล้ว ส่วนตะนิดที่คิดว่าตัวเองเล่นบทฮีทเนียนที่สุดก็ได้แต่มองเท้าตัวเองด้วยความสับสน

เขามีสติดีแล้ว
...แต่ยังอยากอ้อนอยู่นิดหน่อย แบบแค่นิดหน่อย นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ
ใบหน้าดื้อเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาดุที่จ้องมองลงมาด้วยความลังเล ก่อนจะขยับพูดด้วยเสียงที่เบาจนแทบไม่ได้ยิน

“จะ จูบอีก”
“...”
“อยากกอดอีก”

ภาสลอบถอนหายใจ เขานั่งลงบนเตียงก่อนจะจับแมวดื้อขึ้นมานั่งบนตัก ใบหน้าหวานแต้มสีแดงชัดเจนแต่ก็ยังคงทำหน้าเหมือนตัวเองไม่ได้เขิน
อัลฟ่าหนุ่มโน้มหน้าเข้าไปประทับจูบแผ่วเบาพร้อมกับยกมือขึ้นกระชับท้ายทอยแมวดื้อไม่ให้ดึงหน้าหนี เขางับปากเล็กเบาๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายส่งเสียงอืออาออกมา เกลียวลิ้นสอดและลมหายใจหอบประสานไปพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น

ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายมีสติครบถ้วนยิ่งกระตุ้นให้ภาสรู้สึกดี เขาอยากให้แมวดื้อรับรู้ว่าตรงหน้าคือใคร อยากให้ยินยอมแบบมีสติ แต่ถึงอย่างไรหากจะมีครั้งแรกก็ควรเกิดขึ้นระหว่างฮีทเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ข้อนี้เขารู้ดี เนื่องจากขนาดของอัลฟ่านั้นไม่เหมาะอย่างมากที่จะทำครั้งแรกกับโอเมก้านอกฮีท ต่อให้ใช้สารหล่อลื่นมากมายแค่ไหนก็ไม่เท่ากลไลร่างกายที่ปรับมาเตรียมสำหรับสืบพันธุ์โดยเฉพาะ

... แต่ในอนาคตหลังจากครั้งแรกผ่านไปก็ไว้ค่อยว่ากันอีกที
   
“ถูไหม?” ภาสเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มมุมปากเป็นการหยอกล้อ
“...” แมวดื้อแก้มแดงจัดไปยันหูเมื่อได้ยินคำถาม ภาสรู้อยู่แล้วว่าคำตอบต้องเป็นปฏิเสธ ขี้อายขนาดนี้คงไม่มีทางปล่อยให้เขาทำนอกฮีทหรอก เขาถอนหายใจเตรียมจะเฉลยว่าจับโป๊ะได้แล้ว
“หึ ตะนิดพี่รู้-“

แต่ทว่า...


“อื้อ”
“อื้อ?”
“ถะ ถู กะ กะ ก็ได้”

ห๊ะ...
ภาสอุทานในใจพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ ดีที่ตะนิดก้มหน้าคางชิดอกอยู่ทำให้ไม่เห็นว่าเขาแสดงสีหน้าตกใจออกมาขนาดไหน ตะนิดเป็นฝ่ายลุกขึ้นจากตักก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งใหม่ในท่าที่หันหลังแนบกับแผ่นอกอุ่น ขาเล็กยกขึ้นชันอย่างรู้งานเพราะพอจะจำได้ลางๆ จากตอนตกอยู่ในห้วงฮีทว่ายกขาท่านี้บ่อย แมวดื้อที่กำลังเขินไม่ได้รู้เลยว่าการกระทำทุกอย่างทำเอาอัลฟ่าหนุ่มที่นั่งตัวแข็งตกใจแค่ไหน

นอกฮีทแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังอยากให้เขาสัมผัสงั้นเหรอ?
ให้ตายเถอะ....
กำแพงก็ไม่ช่วยแล้วแบบนี้

“อ๊ะ.. พี่ภาส” แมวดื้อสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ถึงการตื่นตัวของอะไรบางอย่างบริเวณก้น
“ตกใจอะไร...” ภาสรู้สึกเสียงที่ตัวเองพูดออกไปช่างแหบพร่า มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อยืดเพื่อลูบพุงนิ่มไปมา
“พี่ภาส รีบๆ ทำได้ไหม” เสียงเล็กตะหวาดลั่นด้วยความเขิน 
“เราเปลี่ยนท่าดีกว่า”

ภาสรวบร่างเล็กขึ้นโยนลงบนเตียง แมวดื้องงเล็กน้อยที่ถูกจับโยนนอน ขาเล็กตั้งชันเตรียมจะลุกขึ้นแต่ก็อัลฟ่าหนุ่มก็สอดตัวเข้ามาระหว่างขา ใบหน้าดุนั่นจ้องนิ่งมาทำเอาโอเมก้าน้อยใจเต้นรัว

ปกติไม่ถูท่านี้นี่...
ปกตินั่งตักหันหลังไม่ใช่เหรอ! แบบนี้มันน่าอายนี่นา!

 แมวดื้อหันหน้าหนีมุดหมอนเมื่อขาถูกอีกคนจับขึ้นพาดบ่า เสื้อยืดตัวโคร่งที่ใส่ไว้เลิกขึ้นเปิดให้เห็นหน้าท้องขาวกับกางเกงในลายปลาฉลามสีฟ้าตัวจิ๋ว ภาสหอบหายใจถี่กับภาพตรงหน้า

“ตะนิด...”
“...” ไม่ตอบ ไม่ตอบ ไม่ตอบ!!!
“พี่ทำได้ใช่ไหม เราอนุญาตใช่ไหม”
“ฮึก”
“แมวดื้อ ตอบพี่ก่อน” ภาสเอ่ยเสียงแหบพร้อมกับหันหน้าไปกดจูบที่ข้อเท้าในอุ้งมือ แมวดื้อสะดุ้งเฮือกจะชักขากลับแต่มือใหญ่ก็ออกแรงรั้งไว้

ตะนิดปล่อยน้ำตาแห่งความเขินอายออกมาทันที ไม่คิดเลยว่าพอไม่ฮีทแล้วจะน่าอายขนาดนี้ แต่ถ้าหลุดบอกไปว่าไม่ได้ฮีทอยู่ต้องน่าอายกว่าเดิมแน่ๆ ปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าเบาๆ

“อื้อ นิดอนุญาต”

ภาสเชิดหน้าขึ้นมองเพดานก่อนจะคำรามลอดไรฟันออกมาเบาๆ เขาหลับตาควบคุมจังหวะการหายใจตัวเองอยู่สองสามวิถึงค่อยตวัดหน้ากลับลงมามองแมวดื้อ ใบหน้าหล่อหันไปขบฟับกับข้อเท้าขาวหนึ่งทีเป็นการดุ

ทำตัวน่ารักแบบนี้มันเกินไปแล้ว...
เกินไปแล้วจริงๆ

“ตะนิด เรานี่มัน...”
“...อะ อะไร”
“หาเรื่อง” ภาสพูดไว้สั้นๆ ก่อนจะใช้มือรวบขาขาวทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะจับรั้งขึ้นจนแผ่นหลังเล็กถูไปกับเตียง สะโพกนิ่มยกลอยขึ้นเล็กน้อย ทั้งหมดนั่นทำเอาแมวดื้อร้องเหวอออกมาลั่น ดวงตากลมมองภาพตรงหน้าด้วยความสับสน

เดี๋ยวๆ ไม่เคยมีท่านี้นี่นา!!!

“พี่ พี่ภาส ทำไรอ่ะ”
“ถูไง”

ไม่เคยถูท่านี้นี่!!!

“ถะ ถูเฉยๆ นะ เดี๋ยว พี่ภาส นิดว่ามันแปลกๆ”
“เอาขาหนีบคอพี่ไว้แมวดื้อ” พอโดนสั่งตะนิดก็รีบหนีบขาเข้ากับหัวของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แมวดื้อมองใบหน้าดุด้วยความแปลกใจ เขาไม่เคยเห็นพี่ภาสทำหน้าแบบนี้มาก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายสีหน้าแบบนี้ออกมายังไง แต่มันดูเซ็กซี่จนใจเต้นแรง

ตอนนั้นเองที่ตะนิดมองต่ำลงเมื่อรู้สึกอะไรยุกยิกแถวก้นก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสอุ่นร้อนแนบลงมา พอมองลงไปเห็นท่อนเนื้อขนาดใหญ่พาดอยู่ตรงกางเกงในก็ตาโตทันที

บ้าไปแล้วเหรอ!!!!!
มัน มัน มัน มันใหญ่กว่าของเขาไปเยอะเลย!!!!!

“พี่ภาส!!!!!” เสียงเล็กแหวลั่นห้องทันทีที่เขารูดกางเกงในตัวจิ๋วเหวี่ยงทิ้งไปบนพื้น ความอุ่นร้อนของผิวหนังปะทะโดยตรงเล่นเอาตะนิดเขินวูบวาบหน้าแดง

ไหนว่าถูเฉยๆ ไง!!! ตอนเขาฮีทยังไม่เคยเห็นขนาดนี้เลยแท้ๆ !!!
แล้ว แล้ว ไอ้บ้องนั่นมันอะไรกัน
ตอนเห็นมันเบียดกางเกงเวลาอีกคนตื่นตอนก็รู้แหละว่ามันดูยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะบิ๊กเบิ้มขนาดนี้นี่นา!!! ทาบถึงสะดือหรือเปล่าเนี่ย!!!!
ขาเล็กผละออกจากหัวอัลฟ่าหนุ่มเปลี่ยนมายันไหล่แกร่งไว้ทันทีด้วยความตกใจ ภาสเงยหน้าจากการปลดปล่อยสิ่งที่คับแน่นจากกางเกงขึ้นสบตากับแมวดื้อที่ตอนนี้ทั้งหน้าแดง ทั้งอ้าปากเหวอ

“ตะนิด”
“พะ พี่ภาส ไหนว่าถูเฉยๆ ฮือออออ มันเห้ย มันไม่ได้แล้วนะเนี่ย มัน บ้าเอ๊ย เกิน เกินไปมากๆ” ปากเล็กพึมพำไม่ได้ความ แค่เห็นขนาดก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“ถูเฉยๆ ไม่มากกว่านี้” มือใหญ่จับขาเล็กทั้งสองข้างประกบกันฟาดไว้ที่บ่าข้างขวา มือใหญ่รั้งกางเกงในลายปลาฉลามสีฟ้าตัวจิ๋วลง หนอนจิ๋วของแมวดื้อก็โผล่ออกมา ตามปกติของโอเมก้ามักจะมีเครื่องเพศขนาดเล็กอยู่แล้ว เขารู้ตั้งใจตอนเห็นครั้งแรก แต่พอได้ออกมาเทียบกันก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง

เล็กจริงๆ แฮะ

“พี่ภาสยิ้มอะไร!!!!”
“โทษที มันน่ารักดีน่ะ” เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ แต่ดูเหมือนเจ้าของหนอนจิ๋วจะขมวดคิ้วไม่พอใจ
“มาตรฐานชายไทย!!!!”
“เหรอ”
“พี่ภาส!!!”
“ทำไมวันนี้โวยวายเยอะจัง ผิดปกตินะ” ลืมไปเลยว่าเล่นละครอยู่ ตะนิดหุบปากฉับก่อนจะทิ้งหัวลงกับหมอนน้ำตาคลอ

บ้าที่สุดเลย!!!
เขินจนจะตายแล้ว!!!!

“พี่ภาสรีบทำ”
“หึ”
มือใหญ่รวบความแข็งขืนของตัวเองและของอีกฝ่ายให้แนบกัน ความร้อนที่แนบมาทำเอาตะนิดครางในลำคอ ใบหน้าดื้อบี้ลงกับหมอนพร้อมกับหลับตาปี๋ แรงเสียดสีที่แปลกใหม่ทำเอาตะนิดที่พยายามจะรู้สึกให้น้อยที่สุดเพราะไม่อยากส่งเสียงครางกลับยิ่งตื่นเต้นจนรู้สึกไปหมดทุกอย่าง ปากเล็กเม้มเข้าหากันเมื่อกั้นเสียง

“แมวดื้อ”
“ฮึก...”
“ไม่กัดปาก” ภาสใช้นิ้วโป้งบี้ไปที่ปากเล็ก
“ฮึก มะ ไม่”
“ครางได้ ฮีทอยู่ไม่ใช่เหรอ”

เออจริงด้วย...
พอรู้อย่างนั้นคนตัวเล็กเลยผ่อนคลายมากขึ้น สัมผัสด้านล่างเริ่มเร่งจังหวะมากขึ้นทำเอาโอเมก้าหน่อยส่งเสียงครางแสนน่าอายลั่น นิ้วเล็กจิกผ้าห่ม แผ่นหลังบางยกขึ้นลอยเหนือฟูกพร้อมกับหอบถี่

ทุกการกระทำของตะนิดตกอยู่ในสายตาของอัลฟ่าเลือดแท้ ภาสสบถในลำคอให้กับภาพตรงหน้า ตลอดเวลาที่ตะนิดฮีทเขามักจะจัดท่าให้อยู่ในลักษณะนั่งมากกว่านอน เพราะแมวดื้อติดนิสัยชอบขย่มเวลาฮีท ต่อให้นอนราบได้ไม่เท่าไหร่ก็จะเริ่มขอเปลี่ยนเป็นนั่งตักอยู่ดี เขาเองก็รู้สึกว่าท่านั่งจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้มากกว่านอน

... ซึ่งเขาคิดถูก
พอแมวดื้อมานอนครางหงิงให้เห็นหน้าแบบนี้ ยอมรับเลยว่าห้ามใจยากกว่ามาก ภาสดึงเสื้อยืดที่ถกขึ้นไปกองบนเนินอกขาวลงมาปิดตามเดิมแบบที่เสื้อยืดควรจะปิด เขาเร่งจังหวะการขยับสะโพกเสียดสีความอุ่นร้อนกับต้นขานุ่มนิ่มเมื่อรู้สึกได้ว่าตะนิดใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด เสียงครางเล็กๆ ที่ดังมาจากใต้ร่างทำเอาเสียวท้องวูบวาบจนต้องระบายอารมณ์ด้วยการขบเม้มที่ขาเรียวข้างบ่า 

“อ๊ะ พี่ภาส พี่ภาส นิด นิดจะ” แมวดื้อส่ายหัวไปมาก่อนจะเด้งตัวขึ้นกระชากหัวเขาลงไปแนบอก
“โอ๊ะ…   ”
“จะ จะ ฮึก อ๊ะ” เสียงหวีดแหลมดังขึ้นข้างหูพร้อมกับอาการสั่นระริกไปทั้งตัว จากนั้นแมวดื้อก็ทิ้งตัวหมดแรงลงกับเตียง ภาสผุดตัวขึ้นนั่ง อาการแสบหนังศรีษะจากการโดนกระชากเล่นเอางงไปชั่วขณะ แต่พอเห็นคราบขาวเป็นทางบนเสื้อยืดนั่นถึงเข้าใจ

เวลาถึงชอบจิกอะไรบางอย่างสินะ...
สมแล้วที่เป็นแมวดื้อ

พอมองใบหน้าดื้อเสร็จภาสก็ก้มมองความแข็งขืนของตัวเองที่ยังไม่สงบแม้แต่น้อย เขาจับขาเล็กที่ไร้ซึ่งพละกำลังขึ้นพาดบ่าก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอีกรอบ คราวนี้เขาเพิ่มมือเข้าไปช่วยด้วยอีกแรง แมวดื้อที่นอนหอบเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบะปาก ดวงตากลมเจือด้วยน้ำตาตวัดมองเขาอย่างตัดพ้อ

“ฮึก พี่ภาส พอ พอแล้ว”
“อีกนิดนะ”
“ฮือออ อ๊ะ พี่ภาส พี่ภาส” แมวดื้อมุดหน้าหนีความเขินและแรงอารมณ์ที่กลับมาอีกรอบ ความหยาบของมืออัลฟ่าหนุ่มเล่นเอาโอเมก้าตัวน้อยอารมณ์กระเจิดกระเจิง       


ตึ่งตึงตึ๊งตือดือดึ๊ง

หือ?
ท่ามกลางแรงอารมณ์ที่กำลังจะปะทุ เสียงโทรเข้าคอลไลน์ดังขึ้นพร้อมกับการหยุดชะงักตัวของทั้งคู่และเมื่อย้ายสายตาไปที่โทรศัพท์ข้างหัวเตียง ภาสก็เห็นชื่อที่ปรากฏขึ้น

“คณิตคอลมา...”
“...!!!” ตะนิดตกใจตาโตเหมือนคนโดนจับได้ว่าทำความผิด มือเล็กเตรียมเอื้อมไปหยิบมือถือแต่ก็โดนมือใหญ่จับไว้
“ช่างหัวมันไปก่อนแล้วกัน”
“หะ ห๊ะ”

ตะนิดอุทานด้วยความไม่เข้าใจและร่างสูงก็ตอบด้วยการจับขาทั้งสองข้างแยกวางไว้บนบ่าก่อนจะขยับมือสาวอย่างรวดเร็วทำเอาแมวดื้อครางลั่นจนสะโพกลอย อัลฟ่าหนุ่มครางต่ำในลำคอด้วยความพึงพอใจพร้อมกับโน้มตัวลงฝังเขี้ยวกับปลอกคอหนังระบายอารมณ์

แมวดื้อกางเล็บครูดกับแผ่นหลังคนด้านบน ปากเล็กส่งเสียงครางไม่เป็นภาษาก่อนจะตวัดขารัดร่างสูงไว้เมื่อใกล้ถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ ภาสเองก็ซุกจมูกเข้ากับเนินไหล่เล็กพร้อมกับคำรามลั่นสอดประสานไปกับเสียงเล็ก

สงครามย่อมๆ จบลงพร้อมกับเสียงคอลไลน์ดังเป็นซาวด์ประกอบ ตะนิดได้แต่หมดเรี่ยวหมดแรงทิ้งขาลงชันกับเตียง ส่วนภาสก็ไล้จมูกคลอเคลียอยู่กับซอกคอขาวสลับกับแก้มนุ่มไปมา มือใหญ่ขยับขึ้นนวดเฟ้นไปทั่วสะโพกนิ่ม
จนในที่สุดเสียงคอลไลน์ก็เงียบไปจึงทำให้เสียงลมหายใจหอบของทั้งคู่ดังขึ้น เป็นภาสที่หยัดตัวขึ้นนั่ง พร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น พอเหลือบตามองร่างเล็กที่นอนหอบอยู่ก็ต้องสบถในลำคออีกรอบ

… สภาพแมวดื้อที่มีคราบขาวเปื้อนทั้งเสื้อทั้งคางนั่นมัน

“คะ คอลหาคณิตก่อน”
“สภาพนี้เนี่ยนะ... พอเลย เดี๋ยวค่อยโทรกลับ” ภาสถอนหายใจก่อนจะยกมือขึ้นห้ามแมวดื้อไว้ ขืนคอลไปตอนนี้พี่แมวได้โผล่ตัวมากดกริ่งห้องแน่นอน
“พี่ภาส...”
“หืม”
“จะ จูบหน่อย”

ภาสขำในลำคอให้กับความขี้อ้อน พลางลุกขึ้นไปนอนทาบกับคนตัวเล็กพร้อมกับประทับจูบลงไป แมวดื้อยกมือขึ้นโอบรอบคอแกร่ง นิ้วเรียวนวดไปทั่วกลุ่มผมของอัลฟ่าตรงหน้า 


ภาสได้แต่คิดว่าเขาคงต้องทำเนียนไม่รู้ไปอีกสักพัก
ความแตกเมื่อไหร่คงได้มีคนเขินพองแก้มงอนแน่นอน...

 





 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-07-2020 21:11:44
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 03-07-2020 21:48:41
ตั่ยแล้ววววๆ เจ้าแงว
ถือไม้เรียวรอฟาดเด็ก
เด็กมันเล่นกับไฟใช่มั้ยพี่ภาส เด็กมันร้ายย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-07-2020 21:58:58
รอวันพี่ภาสตบะแตก.... :impress2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 03-07-2020 23:42:03
ดื้อมากกก ถ้าน้องรู้ว่าโป๊ะแตก มีเขินหนักแน่นอน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 04-07-2020 10:47:32
โอ๊ยยย เอ็นดูตะนิดมาก เป็นคนซื่ออะเนาะ
ตัวเล็กตัวน้อย เจ้าขี้อ้อน เจ้าก้อนกลม
แล้วเป็นไง ตอนนี้ทั้งหลงพี่ ติดพี่
พี่ภาสก็หลงไม่ต่างกัน ตอนนี้รักแล้วไม่รู้มั้ง

แต่คืออะไรคะ ทำเนียนหรอ แต่รู้ไว้เลยว่า เนียนไม่เก่งจ้า
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 04-07-2020 17:03:18
ตะนิดรู้กก แม่จะตีหนูๆ แอ๊บฮีทจนาทีสุดท้าย พี่เขาจับได้ตั้งนานแล้ว วว เจ้าแมวดื้อขี้อ้อน
โอ้ยยย เอ็นดู นิดก็คิดว่านิดเนียนแล้วใช่มั้ยย :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 04-07-2020 22:52:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 16 : ถู [03/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-07-2020 10:01:23
ตะนิดโป๊ะแตก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 12-07-2020 20:29:25
ก็จะดื้อ 17

ปกติยามเช้าในอาทิตย์ที่ผ่านมาของตะนิด คือความยากลำบาก เขาต้องคอยตั้งนาฬิกาปลุกให้ไวกว่าเดิมเพื่อเลี่ยงการเจอหน้าอัลฟ่าร่วมห้อง พอเปลี่ยนเวลามาตื่นเช้า อีกคนก็ดันมาตื่นเช้าตาม หลบหัวซุกหัวซุนจนแทบจะบ้าตาย

ถึงที่จะบ้าหลักๆ เพราะคิดถึงกลิ่นลาเวนเดอร์ก็ตามเถอะ
แต่ทว่า...
ความจะบ้านั่นยังเทียบไม่ได้กับการตื่นของเช้าวันนี้

ดวงตากลมของตะนิดจ้องนิ่งไปที่กำแพงสีครีมๆ ขาวๆ เมื่อวานหลังจากที่อ้อนจนเลยเถิดโดนจับถูเป็นตะเกียงจีนี่แล้ว เขาก็ทำเนียนยังฮีทอยู่ให้พี่ภาสสั่งกุ้งเผามาให้กิน กินเสร็จจนพุงป่องก็นอนดูเนทฟลิกซ์ซุกอกอีกฝ่ายด้วยข้ออ้างที่ว่ายังฮีทอยู่เลยติดกลิ่น พอถึงเวลานอนก็ยังสามารถอ้างเข้าไปซุกต่อได้อีก

ลืมไปอย่างเดียว
คือเช้าวันต่อมาจะยังไงต่อดีวะเนี่ยยยยยยยย

แมวดื้อโวยวายลั่นระบบความคิดพร้อมกับเบะปากอย่างไม่รู้จะเอาอย่างไรดี แกล้งเนียนฮีทต่อก็กลัวโป๊ะแตกแต่พอจะบอกว่าฮีทหายแล้วก็แอบเขินๆ

“อื้อ...”
“...!!” โอเมก้าตัวน้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อแขนล่ำพาดเอวมาพร้อมกับลำแขนใหญ่ที่สอดเข้ามาใต้เสื้อนอนตัวเดียวที่เขาใส่ประดับร่างกายอย่างถือวิสาสะ ความอุ่นร้อนของอุ้งมือสากแนบลงกับหน้าท้องกลมก่อนจะลูบวนไปมา

เจ้าของพุงยุ้ยมองมือโจรปล้นพุงด้วยความงุนงง หลายครั้งแล้วที่มือใหญ่นี่ชอบแอบซุกเข้ามาลูบพุงเขา ไม่รู้ติดใจอะไรนักหนา ถ้าชอบนักก็เลิกฟิตซิกซ์แพคนั่นแล้วเดินทางสายกินไปกับเขาเสียก็สิ้นเรื่อง ง่ายกว่าการออกกำลังกายตั้งเยอะ

พอนึกถึงซิกส์แพคภาพเมื่อวานก็ย้อนกลับเข้ามาให้ต้องกัดปากแน่นกลั้นความเขินอาย เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นไอ้นั่นของคนอื่นนอกเหนือจากคณิต แต่ของคณิตเห็นล่าสุดก็ตอนประถมนู่น หลังจากที่ไซซ์เริ่มต่างกันมากขึ้นจนเห็นได้ชัดเขาก็เลิกการอาบน้ำพร้อมแฝดพี่ทันที

สายตาแซวมังกรยักษ์เขาจากคณิตนั่นเลวร้ายมาก
แต่ก็เลวร้ายไม่เท่าโดนแซวว่ามังกรยักษ์น่ารักจากอัลฟ่านิสัยไม่ดีร่วมเตียง!!!!

น่ารัก!!!!
คำชมที่ใช้กับสิ่งเล็กๆ จุ๊มุๆ อย่างคุณนุ่มเบอร์หนึ่งไม่ก็คุณนุ่มเบอร์สามจุดสองที่คณิตกดตู้กาชาปองมาให้ ซึ่งก็มีขนาดเล็กมากๆ จนพอดีกับลูกบอล

และใช่...
พี่ภาสใช้คำนั้นกับมังกรยักษ์ของเขา

แย่ที่สุด...
แต่ว่า...
พอเทียบขนาดของเขากับของอีกฝ่ายแล้วมันก็ต่างกันจนน่าโมโหจริงๆ นั่นแหละ แค่นึกภาพตะนิดก็ขนลุกซู่ เขาเองก็ไม่ได้ใสขนาดจะไม่รู้หรอกว่าปกติเพศสัมพันธ์มันเป็นยังไง แค่นึกภาพว่าไอ้บ้องนั่นเข้ามาในตัวก็อยากจะร้องไห้ ปกติแล้วโอเมก้าจะฮีทเป็นเดือนๆ ไป แต่พอเจอคู่แห่งโชคชะตา ตารางฮีทก็จะรวน อาจเกิดบ่อยแค่ไหนก็ได้ มาช้ากว่าปกติไม่ก็มาไวกว่าปกติ

ละ ละ แล้วเขาก็ดันไปพูดแล้วด้วยว่าฮีทครั้งต่อไปจะพร้อมแล้ว
พร้อมแล้ว...
พร้อม...

พร้อมก็แย่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
คุณนุ่มเบอร์ศูนย์ตัวนี้ไม่น่ารักเลย เป็นยักษ์หรือไงถึงพกกระบอง!!!
ฮือออออออออออ

แค่คิดตะนิดก็เบะปากฮือ แขนเล็กเลื่อนไปจับก้นตัวเองเบาๆ เป็นการปลอบโยนตัวเอง ดูสิ ก้นเรามันก็แค่นี้ จะบ้าเหรอ ไม่ไหวหรอก 

ภาพทุกอย่างตกอยู่ในสายตาอัลฟ่าหนุ่มอีกครั้ง ภาสตื่นตั้งแต่ตะนิดขยับตัวแปลกๆ และเจ้าตัวก็ยังเพิ่มความแปลกด้วยการเอื้อมมือมานวดก้นตัวเองไปมาอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาขยับมือลูบหน้าท้องนิ่มของอีกฝ่ายเบาๆ เป็นวงกลม

เขาชอบจับพุงนิ่มของแมวดื้ออย่างไม่ทราบสาเหตุ รู้แต่พอได้จับครั้งแรกแล้วก็อยากจับอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับหน้าท้องของแมวดื้อ จะรู้สึกอุ่นวาบในอกอย่างน่าปะหลาด

ตอนนั้นเองที่ภาสสะดุ้งเฮือกเมื่อมือเล็กเลื่อนออกจากสะโพกตัวเองมาเขี่ยๆ แถวกางเกงเขา ตอนแรกก็คิดว่ามือไปโดน แต่พอยังขยับแปะๆ ต้นขาเลยค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายตั้งใจจับ

ว่าแต่...
จับอะไร?
ตะนิดทำท่าจะพลิกตัวภาสเลยต้องรีบหลับตาลงควบคุมลมหายใจให้เหมือนกำลังหลับอยู่ เนียนไหมไม่รู้ แต่น่าจะเนียนกว่าแมวดื้อที่แกล้งฮีทแต่ซัดกุ้งเผาหมดไปสองโลกว่าคนเดียว

“เวลานอนก็ดูไม่ดุเท่าไหร่” เสียงงุ้งงิ้งดังขึ้นข้างหูพร้อมกับแรงเขี่ยเบาๆ ที่ปลายจมูก ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะย้ายไปจิ้มๆ ที่แถวบริเวณข้างตาอัลฟ่าหนุ่ม
“...”
“พอนอนแล้วไม่เห็นตีนกาเลย”
“...”
“ตอหนวดขึ้นแล้ว ดีจัง มีหนวดด้วย อยากมีบ้าง” แมวดื้อส่งเสียงบ่น ด้วยความที่โอเมก้าปกติมักจะไม่ค่อยมีหนวดรวมไปถึงขนส่วนอื่นบนร่างกายเขาเลยรู้สึกเท่น้อยกว่าคณิตไปห้าเปอร์เซ็น แต่ก็ยังเท่อยู่ดี
ส่วนฝั่งคนแกล้งนอนก็ได้แต่หัวเราะในใจ นึกสภาพแมวดื้อมีหนวดแล้วก็ดันอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ คงจะแปลกน่าดู

“ปากนี่ใช่ไหมที่ชอบดุ ตีให้แตกเลยดีไหม ขี้ดุว่ะ ลุงขี้ดุ” ภาสกระตุกคิ้วขมวดเล็กน้อยเมื่อถูกบีบปาก และอีกอย่างคือ

ลุงอะไร
เรียกลุงได้ยังไง พอหลับหน่อยก็กวนเลยนะ

“...”
“ไอ้หยา อย่าเพิ่งตื่น โอ๋ๆๆๆ นอนนะ หลับตาแมวจะกล่อม น้ำท่วมเมฆกระต่ายลอยโคมหมาหางงอส่ายหัวกระดุ๊กกระดิ๊๊ก” แมวดื้อย้ายมือมาลูบหัวเขาไปมาเหมือนพยายามกล่อม เห็นอย่างนั้นเขาเลยจำเป็นต้องแกล้งหลับต่อให้
“...”
“พี่ภาส...”
“...”
“ฮื้อ ชอบจัง”

ชอบอะไร?
ภาสนึกขึ้นทันทีที่ได้ยินประโยคบอกชอบจากแมวดื้อ ก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงแรงกดเบาๆ บริเวณริมฝีปาก แม้จะเป็นสัมผัสที่กดลงมาเพียงไม่กี่วิแต่ก็ทำเอาใจเขาเต้นแรงเสียจนกลัวแมวดื้อจับได้

... โดนขโมยจูบเสียอย่างนั้น
น่ารักเป็นบ้า...

“เอ้ย เคารพธงชาติตอนเช้าอีกแล้วนะ” เสียงแมวดื้อดันขึ้นพร้อมกับเสียงขยับตัว สักพักภาสก็รู้สึกได้ถึงการโดนนั่งทับลงมาที่หน้าท้อง เขาลืมตาขึ้นกะจะบอกแมวดื้อว่าเขาตื่นแล้ว แต่พอลืมตามาภาพตรงหน้ากลับเป็นแผ่นหลังเล็ก มองต่ำลงมานิดหน่อยก็ปรากฏเป็นก้อนพีชนุ่มนิ่มที่ใส่เพียงแต่กางเกงสีฟ้ากับต้นขาขาวๆ 

เจ้าแมวดื้อมานั่งหันหลังอะไรบนตัวเขากันเนี่ย?

“แอบดูได้ป่ะ ได้ดิ”

พูดกับใคร? ผีในห้องหรือไง?
 
ภาสยกมือขึ้นกอดอกมองดูว่าแมวดื้อกำลังจะซนอะไรต่อ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงจับในบริเวณที่ไม่ควรโดนจับ มือเล็กเปิดกางเกงนอนเขาขึ้นก่อนจะปิดลงอย่างรวดเร็ว

“เกินไปมาก บ้าไปแล้วป่ะเนี่ย”
“...”
“ไม่ไหวหรอก”
“....”
“ฮีทหน้าแกล้งตายดีกว่า”

พูดจบแมวดื้อก็ลุกขึ้นยืน ภาสเลยต้องรีบแกล้งหลับอีกรอบ ตะนิดพอซนเสร็จก็ปีนเตียงลงวิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำไป ตอนนั้นคนที่แกล้งนอนมาตลอดถึงค่อยได้ลืมตาตื่นเต็มที่ 

ฮีทหน้าแกล้งตาย?
ไม่ได้รู้ตัวเลยสินะว่าเวลาตัวเองฮีท คนที่อยากแกล้งตายน่ะ มันเขาต่างหาก 

ภาสลุกขึ้นนั่งพลางหยิบแว่นมาสวม เขานั่งรอแมวดื้อออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งก็กินเวลาอยู่ไม่กี่นาที ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กที่เดินคาบแปรงสีฟันออกมาจากห้องน้ำ

“เอ้า อี้อ้าดอื่นแอ๊วอ๋อ”
“อืม”
“อาบอ๊ามๆ”
“เราอาบก่อน ว่าแต่หายฮีทแล้วเหรอ” ภาสยิงคำถามกลับซึ่งตะนิดก็ผงะไปเล็กน้อย
“อิ๊ดอึง”
“อะไรคือนิดหนึ่ง”
“อ๋ายแอ้วอิ๊ดอึง”
“มันมีหายแบบทีละนิดด้วยเหรอ”
“โอ๊ย อวดอี้ๆๆๆๆ” ว่าแล้วแมวดื้อก็หันตัวหนีกลับเข้าห้องน้ำด้วยข้ออ้างปวดอึ ภาสส่ายหัวให้กับความดื้อของแมวดื้อก่อนจะตัดสินใจเดินลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่างแทน

 ผ่านไประมาณสิบห้านาทีแมวดื้อก็ลงมาพร้อมกับชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีน้ำตาล หัวฟูสีน้ำตาลนั่นยังคงดูชื้นน้ำอยู่เล็กน้อยจากการสระผมแล้วไม่ได้เป่าไดร์ให้แห้ง

“พี่ภาส กินแพนเค้กไหม เดี๋ยวนิดทำเผื่อ”
“ไม่ล่ะ”
“งืม”

ถึงจะปฏิเสธไป แต่เขาก็ต้องเดินตามมาคุมแมวดื้อทำแพนเค้กอยู่ดี กับตะนิดน่ะวางใจอะไรไม่ค่อยได้หรอก เขาหลับตาไปสักสามวิลืมตามาอีกทีครัวอาจจะไฟไหม้ก็ได้
และก็ตามคาด
แค่ผสมแป้งกับนมครัวก็เลอะเทอะไปแล้วเกือบหมดทั้งโต๊ะ จะตอกไข่ใส่ก็ทำเปลือกไข่หล่นลงไปอีก พอถึงขั้นตอนลงกระทะแมวดื้อก็โวยวายลั่นเมื่อบิเนยใส่กระทะแล้วมันดีดไปมา

“แอ้กกกกกกก เนยกระเด็นนนน เนยใจเย็นหน่อยไหมมมม”
“ไฟแรงไปแล้ว”
“พี่ภาส มันลดไฟยังไง เตาไฟฟ้าไม่เคยใช้นี่ เคยใช้แต่เตาแก๊ซ”

ภาสวางแก้วกาแฟลงบนเคาท์เตอร์ก่อนจะเดินเข้าไปโอบเอวบางให้หลบก่อนจะใช้แขนขวากดลดไฟลงให้ พอเห็นว่าเนยดีดตัวน้อยลง ตะนิดก็จัดการหยอดแป้งลงกระทะทั้งๆ ที่ยังโดนโอบเอวอยู่ โอเมก้าน้อยตั้งใจจะหยอดแป้งเป็นวงกลมแต่พอหยอดปุ๊ปก็กลายเป็นอะมีบามีหลายแขนขาไปเฉย แต่ไม่เป็นไร จะทรงไหนก็กินได้หมด รอจี่อยู่สักพักก็เตรียมกลับด้านตามแบบที่คณิตเคยสอน
ทุลักทุเลไปนิดเพราะแป้งเจ้ากรรมดันแซะให้กลับด้านค่อนข้างยาก คงเพราะลื่นเนยที่ใส่ลงไปทั้งก้อนไม่ได้แบ่ง แซะไปแซะมากลับด้านมาอีกที


ไหม้....         
เกรียมเลย...

“...”

ทำไมงั้นอ่ะ ก็ทำตามที่คณิตสอนทุกอย่างแล้วนี่
แล้วมันทำไม แพนเค้กอย่าเยอะได้ไหม เป็นแค่แป้งไม่ใช่เหรอ

“เราไปนั่งรอที่โต๊ะไป” ภาสตีสะโพกกลมเบาๆ เป็นเชิงสั่ง ซึ่งตะนิดก็ยอมถอยทัพออกมาทันที ปล่อยให้เจ้าของห้องสวมวิญญาณมาสเตอร์เชฟอยู่แค่ห้านาที แพนเค้กในทรงวงกลมสุกกำลังพอดีส่งกลิ่นหอมกรุ่นก็มาวางเสิร์พ
“พี่ภาสสุดยอด!!!”
“วันนี้คณิตจะมารับหรือเปล่า”
“...”
“...”
“พะ พี่ภาสไม่ว่างไปส่งแล้วเหรอ ไม่อยากไปส่งแล้วเหรอ”

ถ้าตะนิดมีหูเหมือนลูกแมว ตอนนี้มันคงลู่ลงด้วยความผิดหวัง แมวดื้อเคี้ยวแพนเค้กหยับๆ เหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร แต่กลับเบะปากน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด

“ก็เห็นปกติพี่จะไปส่งเราก็โทรเรียกคณิตให้มารับ พี่ก็คิดว่าคงไม่อยากให้ไปส่งแล้ว”
“ก็ตอนนั้น... นิด... ทำตัวไม่ถูกนี่นา”
“...”
“ก็ ก็ พอบอกว่าจะจีบพี่ภาส แล้วมันล่กนี่นา มันไม่รู้จะทำไง จีบก็ไม่เป็น แต่พูดไปแล้ว ถ้าเกิดพี่ภาสพูดขึ้นมาระหว่างขับไปส่ง นิดก็ไม่รู้จะทำตัวไง นิด... ก็หนีไปตั้งตัวเฉยๆ ไม่ได้ไม่อยากไม่ให้ไปส่ง” 
“ทีหลังก็บอกกันตรงๆ หลบหน้าแบบนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร”
“พี่ภาส อย่าทำเสียงดุได้ไหม”
“พี่ไม่ได้ดุ”
“แต่โทนเสียงมันดุ นิดโดนคณิตดุมาทั้งชีวิตทำไมจะไม่รู้ อย่าสู้นิด”
“...” ตะนิดเคี้ยวแพนเค้กด้วยความรู้สึกอร่อยน้อยลงห้าเปอร์เซ็น พอกลับมาพูดเรื่องนี้ก็ดูเหมือนคนแก่กว่าก็ดูจะหงุดหงิดขึ้นมาทันที น้ำเสียงที่ใช้เป็นน้ำเสียงเดียวกับเวลาคณิตดุ แถมตาดุนั่นยังตวัดมองนิ่งๆ ยิ่งทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิด
“พี่ภาสโกรธเหรอ”
“เปล่า”
“แต่พี่ภาสดูหงุดหงิด”
“เปล่า”

แมวดื้อเบะปากก่อนจะจิ้มแพนเค้กขึ้นส่งให้อัลฟ่าหนุ่มที่กำลังจิบกาแฟอยู่ ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมมองกลับด้วยความสงสัยว่ายื่นมาทำไม

“นิดง้อ”

ง้อด้วยแพนเค้กเลยนะ...
ตะนิดกะพริบตาปริบๆ มองอีกฝ่ายด้วยสายตาออดอ้อน เขาไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายโกรธอะไรขนาดไหน แต่เขาไม่ชอบให้พี่ภาสใช้น้ำเสียงแบบนี้ด้วยเลย มันดูเหินห่าง ดูหงุดหงิด ไม่ชอบเลย

ฝ่ายโดนง้อด้วยแพนเค้ก ถึงจะไม่ได้อยากกินแต่ก็ยอมรับเข้าปากไปอย่างเสียไม่ได้ 

แหง...
มองอ้อนขนาดนั้น ใครมันจะไปใจแข็งทนได้กันล่ะ

“นิดไม่ได้ตั้งใจหลบหน้านะ”
“...”
“แต่เนี่ย ไม่ได้กลิ่นพี่ภาส นิดนอนไม่ได้เลย”
“...”
“อย่าโกรธเลยนะ คนไทยด้วยกัน”
“เกี่ยวอะไรกับคนไทยด้วยกัน”
“ไม่รู้ พูดไว้ก่อน พองงแล้วเดี๋ยวพี่ภาสก็หายโกรธ เนี่ย หายโกรธแล้ว”
“ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ”
“โกหกกกก”
“ไม่ได้โกรธจริงๆ แต่พี่แค่หงุดหงิด”
“...”
“พอไม่ได้กลิ่นเราแล้วมันรู้สึกหงุดหงิดแบบไร้เหตุผล แค่นั้นแหละ”

หงุดหงิดนิดหน่อยจริงๆ
ไอ้ที่จับตุ๊กตาฉลามมากระทืบจนนุ่นเกือบไหลนั่นก็แค่ระบายอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ 

ภาสตอบพร้อมกับยกกาแฟขึ้นจิบ ตะนิดเคี้ยวแพนเค้กชิ้นสุดท้ายก่อนจะวางส้อมลงกับจาน พอเห็นว่าอีกฝ่ายกินข้าวเช้าหมด ภาสก็เตรียมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมขับรถพาแมวดื้อไปทำงาน แต่จู่ๆ ก็มีแรงโถมเข้ามาใส่ พอมองลงไปก็เห็นแขนเล็กตวัดกอดไว้แน่น

“อะไร...”
“นิดก็คิดถึงกลิ่นพี่ภาสนะ”
“...”
“ง้อๆ” หน้าดื้อบี้ไปมากับหลังแกร่งอย่างออดอ้อนพร้อมกับสูดดมกลิ่นลาเวนเดอร์เข้าปอด ความออดอ้อนของแมวดื้อก็ทำให้คนหน้าดุอดกลั้นยิ้มไว้ไม่ไหว

เวลาดื้อก็ดื้อจนปวดหัว
เวลาอ้อนก็อ้อนจนใจอ่อน
สมชื่อแมวดื้อจริงๆ

“ตะนิด”
“หืม”
“ที่บอกว่ายังฮีทอยู่นิดหน่อยน่ะ”
“อื้อ”
“แปลว่าจูบได้ไหม”

ตะนิดจิกเสื้อนอนอีกฝ่ายในมือแน่นเมื่อโดนคำถามที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ตากลมล่อกแล่กไปมาก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าเบาๆ กับแผ่นหลังกว้าง

“จะ จูบได้”
“แล้วถ้าไม่ฮีท แปลว่าจะยังจูบได้ไหม”
“...”
“ตะนิด...”
“พี่ภาสอย่าถามเยอะได้ไหม ถามอีกรอบจะไล่ให้ไปจูบคุณนุ่มเบอร์-”

อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นถอดแว่นก่อนจะหันตัวมากะทันหัน ตะนิดสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ อีกคนก็โน้มตัวลงมาประทับจูบแผ่วเบาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ลมหายใจอุ่นร้อนที่แตะเบาๆ ที่แก้มทำเอาแมวดื้อเขินจนต้องจิกมือกับบ่าแกร่งเต็มแรง

“อื้อ”

ภาสผละออกมางับริมฝีปากล่างแมวดื้อเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเกร็งตัวเขินก่อนจะประทับจูบย้ำกลับเข้าไปอีกรอบ ปลายลิ้นที่ตวัดเกี่ยวหยอกล้อสร้างเสียงน่าอายขึ้นที่ข้างหู 

ตะนิดเองที่ถึงแม้จะไม่ค่อยชำนาญแต่ก็พยายามต้อนลิ้นสู้สุดพลังเท่าที่ทำได้ แต่สุดท้ายก็ยกธงขาวต้องทุบบ่ากว้างให้หยุดเพราะหายใจไม่ทัน

ตอนนั้นเองที่ถึงเพิ่งจะสังเกตว่าโดนดันร่างให้นอนราบไปกับโต๊ะกินข้าวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แขนเล็กปล่อยจากบ่าแกร่งปล่อยวางลงอย่างหมดแรงลงกับโต๊ะ ส่วนขาทั้งสองข้างพอทิ้งน้ำหนักลงไปแล้วไม่แตะพื้นตะนิดเลยยกขึ้นมาหนีบไว้ที่สะโพกของอีกคนซึ่งภาสก็ขยับมือทั้งสองข้างไปกระชับต้นขาแมวดื้อให้

เพราะปล่อยแว่นตกพื้นไปเมื่อกี้ทำให้ภาพตรงหน้าไม่ได้ชัดเจนเหมือนตอนมีเลนส์สายตาคอยช่วยปรับ แต่เขาก็พอจะรู้สึกได้ว่าว่าแมวดื้อเปิดโหมดยั่วไม่รู้ตัวอีกแล้ว ทั้งเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมเปิดโชว์ช่วงอก ปอยผมชื้นน้ำ ขาที่ยกขึ้นเกี่ยวสะโพกเขาเพื่อหาที่พักขาจนเขาต้องใช้มือประคองไว้ให้

“ตะนิด...”
“พี่ภาส”

เสียงเล็กเอ่ยเรียกพร้อมกับยกมือขึ้นหวังจะให้อีกคนดึงขึ้นนั่ง

แต่ทว่า...

ภาสกลับเห็นแค่เพียงแมวดื้อที่ยกมือออดอ้อนให้กอด ภาพตรงหน้าดูยั่วยวนจนอดทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาลึกๆ ในใจอย่างเสียไม่ได้ ถ้าหากใครได้มาเห็นแมวดื้อในรูปแบบนี้ เขาคงแทบจะเป็นบ้า เพราะขนาดเกิดขึ้นแค่เพียงในจินตนาการ เขายังรู้สึกโมโหขนาดนี้
อัลฟ่าหนุ่มหายใจหอบถี่ก่อนจะโน้มตัวซูกจมูกเข้ากับลำคอขาว ฝังเขี้ยวคมลงไปกับปลอกคอหนังก่อนจะออกแรงดึงกระชากเบาๆ

ไม่อยากให้ใครเห็น
ไม่อยากให้ใครได้กลิ่น
ไม่อยากให้ใครมายืนตรงนี้แทนที่เขาทั้งนั้น

“อ๊ะ เจ็บ” ภาสสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงร้องของตะนิดเรียกดึงสติ เขารีบผละตัวเองออกมาทันที ก่อนจะค้นพบว่าเขี้ยวของตัวเองเผลอไปครูดช่วงไหปลาร้าของแมวดื้อเข้าจนเกิดเป็นรอยถลอกแดง
“โทษที เจ็บมากไหม”
“นิดหน่อย อื้อ” ตะนิดดึงขาตัวเองกลับมาชันวางไว้บนโตีธก่อนจะชันตัวขึ้นนั่ง ตากลมที่ปรือด้วยแรงอารมณ์ปรับโฟกัสก่อนจะกะพริบตาปริบๆ เมื่อจุดรวมสายตาตอนนี้คือเป้ากางเกงของอีกฝ่าย

“พะ พะ พี่ภาส”
“เห้อ เราไปเป่าไป เดี๋ยวพี่ขึ้นไปแต่งตัวก่อน” ภาสขยับตัวออกก้มลงเก็บแว่นขึ้นมาใส่ก่อนจะเดินตัวงอขึ้นชั้นบนไป ปล่อยให้แมวดื้อนั่งหน้าแดงจับคอตัวเองอยู่บนโต๊ะกินข้าว
 

ใครรวบรวมดราก้อนบอลครบเจ็ดลูกรึเปล่า
ทำไมถึงมีมังกรมาผงาดแถวนี้!!!!!!






หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-07-2020 21:37:29
ตะนิดน่าเอ็นดูที่สุด...ดดดดดดดด    :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 12-07-2020 22:18:21
ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วล่ะนิดเอ้ยย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 13-07-2020 03:44:23
 :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-07-2020 15:20:50
ตอนฮีทจะแกล้งตายยังไงฮึ 55⁵555  :-[
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-07-2020 22:23:30
ตามมมม
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-07-2020 23:53:34
ง้อได้น่ารักมากตะนิด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 14-07-2020 11:46:50
แพนเค้กอย่าเยอะได้ไหม.. ยัยหนูรูักก 55555555555555

ไม่มีใครรวบรวมดราก้อนบอล มีแต่หนู ง้อ น่ารักน่ามันเข้ว จนมังกรมันผงาดฟ้านี่เเหล่ะ!! :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 16-07-2020 19:52:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 17-07-2020 12:43:42
โอ๊ยยย ครบเจ็ดลูกเลยหรอตะนิด
แล้วอะไรคือคึกหนัก ขึ้นนั่งทับพี่ขนาดนั้นน
แล้วอะไรคืออ้อนพี่ อยากให้พี่ไปส่งทำงาน

จับฟัด หอมหัวให้หนักเลยภาส
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 17 : ดราก้อนบอล [12/07/20] p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 18-07-2020 00:50:08
ตะนิดดื้อยังไงพี่ภาสก็รัก แงน่ารักมากความหลงพี่ภาสนี้ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 18 : โด้ไม่โด้ [19/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 19-07-2020 19:32:08
ก็จะดื้อ 18
โด้ไม่โด้


เคยมีใครเสียชีวิตเพราะตูดฉีกไหม


ไอโฟนในมือเล็กของตะนิดได้แต่สั่นระริกให้กับประโยคการเสิร์ชกูเกิ้ลล่าสุดของตัวเอง คิดเองหลอนเอง แค่นึกภาพตอนมังกรผงาดแทรกเข้าถ้ำมาได้สำเร็จก็รู้สึกแสบก้นขึ้นมาทันที

“ฮืออออออออออออ” ใบหน้าดื้อซุกลงกับหมอนพร้อมกับส่งเสียงงอแงออกลั่น ทำเอาแฝดพี่ที่นั่งตัดเล็บอยู่ข้างๆ ต้องยกเท้าขึ้นเขี่ยแฝดน้อง
“เป็นบ้าอะไรอ้วน”
“ฮืออออออออ ไม่อ้วน”
“อ้วนกว่ากู” คณิตถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะจับขาแฝดน้องขึ้นมาวางบนตักตัวเอง ส่งผลให้ตะนิดนอนราบไปกับโซฟา แต่ถึงอย่างนั้นตะนิดที่เคยชินกับการนอนให้แฝดพี่ตัดเล็บก็ขยับตัวเข้าที่ให้แต่โดยดี
“คณิตมึง...”
“อย่าขยับ เดี๋ยวเข้าเนื้อ” คณิตเอ่ยดุพร้อมกับค่อยๆ ประคองเท้าเล็กขึ้นตัดปลายเล็บที่เริ่มยาวออกมา ปกติเขากับตะนิดมักจะสลับกันตัดเล็บให้แบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แม้ส่วนใหญ่เขามักจะเป็นฝ่ายตัดให้แฝดน้องก็ตามเถอะ
“คณิตตตตต”
“อะไร เลิกทำเสียงอ้อนได้ป่ะ มึงคิดว่าตัวเองน่ารักมากมั้ง”
“คณิต กูก็มีแต่มึงในชีวิตให้ถามป่ะ”
“อะไร”
“มะ มะ มึง มึงว่าตอนเราท้องผูก ก้อนอึเราใหญ่ไหม”
“อะไรของมึง” คณิตขมวดคิ้วมุ่น ชวนคุยเรื่องอะไรไม่ชวน มาชวนเรื่องท้องผูกเนี่ยนะ 
“คณิตๆ เคยลองเอานิ้วโป้งยัดจมูกเข้าไปหมดนิ้วป่ะ มันเจ็บไหม” พูดเสร็จตะนิดก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมาเสียบรูจมูกตัวเอง ก่อนจะพบว่าไม่เจ็บแต่ก็เข้าไปได้ไปหมด ส่วนคณิตก็ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก
“มึงสงสัยอะไรให้มันดูเหมือนคนปกติสงสัยได้ไหมตะนิด”
“คณิต..”
“ไร”
“ดิลโด้นี่มันเจ็บป่ะ”

กริ๊บ...
ปลายเล็บที่ถูกคมของกรรไกรตัดเล็บตัดกระเด็นลิ่วตกไปที่พื้นห้องนั่งเล่นพร้อมกับคณิตที่เงยหน้าตาถลนขึ้นมองแฝดน้องประหนึ่งเห็นผี ใช่ ผีทะเล ผีลามก ผีเวรที่ไหนมาเข้าสิงน้องชายกูกันวะเนี่ยยยยย

“มะ มะมึงจะถามว่าปีโป้เจ็บไหม”
“ดิลโด้ๆ”

จับหน่อยจะล้ม...
คณิตถึงกับหน้ามืดแทบจะหน้าปักลงบนโซฟา ถึงจะบอกให้สงสัยอะไรให้มันดูเป็นคนปกติก็เถอะ แต่ใครแม่งจะคิดว่ามันจะออกมาเป็นเวย์นี้ได้วะ!!!

“มะ มึงหมายถึงนีโม่ ปลานีโม่!!!”
“ดิลโด้ดิ”

จับหน่อยจะตาย...
คราวนี้หน้ามืดปักพนักพิงโซฟาไปดังปั้กเต็มๆ ก่อนจะงัดหน้าตัวเองขึ้นมามองไอ้แฝดน้องตัวดีที่ทำหน้าเด๋อด๋าไม่เข้าใจสถานการณ์

“มะ มึงคิดยังไงมาถามกูคำถามนี้ ไอ้นกเงือก”
“มันเป็นประเด็นใหญ่ของชีวิตนะ ไม่ถามมึงให้กูไปถามใคร”
“...” คณิตได้แต่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ถ้าไอ้แฝดเวรนี่ไปถามคนอื่นก็ดูจะอันตรายกว่าเดิมจริงๆ ยิ่งถ้าไปถามหัวหน้าแผนกอย่างไอ้พี่เต้อนี่ไม่ต้องถามเลยว่าจะไปจบที่ไหน เผลอๆ มันกดสั่งให้ด้วยซ้ำไอ้หัวหน้าเวร
“คืองี้คณิต”
“อืม”
“มึงก็รู้ว่ากูเป็นโอเมก้า”
“อืม”
“แต่กูก็ไม่คิดว่าของอัลฟ่ามันจะใหญ่ขนาดนั้น เท่านี่!!!”

ไม่ต้องจับแล้ว ให้ตายกันไปเลยดีกว่าแบบนี้...
คณิตนึกอยากยกกรรไกรตัดเล็บขึ้นมาตัดวิญญาณตัวเองเสียมันตอนนี้ ยิ่งไอ้แฝดตัวดียกแขนตัวเองขึ้นมาเน้นให้ดูขนาดแบบสมมตินั่นทำให้เขายิ่งอยากจะหายไปจากตรงนี้ ไม่อยากจะฟังคำถามต่อๆ ไปที่จะหลุดออกมาจากไอ้น้องเวรนี่เลย

“กูไม่คุยแล้ว เปลี่ยนเรื่อง เอานิ้วมา” เขารีบปัดประเด็นสุ่มเสี่ยงออกจากบทสนทนาพร้อมกับคว้ามือเล็กขึ้นมาเตรียมตัดเล็บให้ต่อ แต่แฝดน้องเวรก็ยู่หน้าไปมา
“กูอุตส่าห์ขอพี่ภาสมานอนบ้านเพราะกูเครียดนะคณิต” แมวดื้อบ่นหงุงหงิง ใช่แล้ว วันนี้เขาขอพี่ภาสกลับมานอนบ้านตัวเอง โดยที่มีข้อแม้ว่าต้องกินยาเลื่อนฮีทแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเซอร์เคิลฮีทก็ตาม ถึงจะแอบเศร้าใจเล็กน้อยเมื่อตอนมาถึงบ้านถึงเพิ่งรู้ว่าแม่ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนแต่ก็ยังดีที่ยังทิ้งแฝดพี่หน้าเบื่อโลกไว้เล่นเป็นเพื่อนอยู่
“ตะนิด”
“หืม?”
“กูคุยกับมึงได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องที่มึงพูดมา”
“ทำไมอ่ะ”
“มึงจะบ้าเหรอตะนิด มึงคิดว่ากูจะอยากรู้เรื่องบนเตียงของมึงรึไง” คณิตพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์แต่มือก็ยังคงตัดเล็บต่อให้ ตะนิดมองภาพแฝดตรงหน้าก่อนจะค่อยๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“แล้วมึงคิดว่ากูมีคนให้ปรึกษานอกเหนือจากมึงหรือไง”
“...”
“กูกลัวนะคณิต กูไม่ได้ตลกด้วย”
“...”
“มันน่ากลัวจริงๆ นะ”

แมวดื้อพูดเสียงอ่อยพร้อมกับดึงมือตัวเองกลับมากอดขา ตะนิดแปลรูปตัวเองเป็นก้อนเล็กๆ มุดเข้าริมโซฟา

สำหรับหลายคนครั้งแรกอาจจะเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นน่าลองแต่สำหรับเขามันเป็นเรื่องที่น่ากลัว แถมยังทวีความน่ากลัวมากขึ้นเป็นเท่าตัวหลังจากที่เขาได้เห็นขนาดมังกรนั่นเต็มตัว ไม่มีทางเลย ไม่มีทางจริงๆ

ไม่มีทางให้เข้าจริงๆ!!!
มันเคยเป็นแต่ทางออก มันเข้าไหวได้ยังไง!!!

“เลิกห่อตัวแล้วยื่นมือมาให้กูตัดต่อ” คณิตเอ่ยเสียงดุพร้อมกับดึงมือเล็กมาจับตัดเล็บต่อ ตะนิดยู่ปากแต่ก็ยอมให้พี่ชายตัดไม่กี่นาทีตัดเล็บให้
“คณิต...”
“มึงจำกูไว้จะตะนิด กูจะพูดครั้งเดียวแล้วจะไม่พูดเรื่องนี้อีก”
“...”
“มึงเป็นโอเมก้าเรื่องแบบนั้นกลไกร่างกายมึงจะช่วยด้วยในระดับนึง แต่สิ่งที่มึงควรจะให้ความสำคัญคือการป้องกัน ถุงยางคือสิ่งที่มึงต้องพกและไม่ใช่ถุงยางไซซ์มึงเข้าใจไหม”
“อ้าว ทำไมไม่ใช่ไซซ์กู”
“มึงจะใส่ทำไม กลัวเตียงเลอะแบบนี้เหรอ”
“อิ้วว มึงพูดจาลามกอ่ะคณิต กูไม่ชิน ฟ้องแม่นะ” 
“...” แล้วคนเปิดประเด็นมันใครกันวะ คณิตได้แต่คิดพร้อมกับส่งสายตาระอาใส่แฝดน้อง
“อื้อ ละไงต่อ”
“เออ ถุงยางมันช่วยเรื่องความสะอาด เรื่องโรค แต่อย่างไอ้ลุงนั่นคงไม่น่าแถวโรคอะไรมากหรอก แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นของถุงยางคือมึงต้องรู้ว่าโอเมก้ามีเปอร์เซนในการตั้งท้องระหว่างฮีทสูง ถ้ายังไม่พร้อมจะมีลูกก็ให้อัลฟ่าใส่ไว้ และใช่ มึงยังไม่พร้อม เอาตัวเองยังไม่รอดคิดจะตัวเล็กมาวิ่งในบ้านให้กูปวดหัวอีกรึไง”

อ้าว พูดยังไม่ทันเสร็จโดนบ่นต่อเฉยเลย
ตะนิดกะพริบตาปริบๆ แต่ถึงงั้นก็สงบคำไว้เพราะรู้ว่าตอนนี้แฝดพี่ไม่สบอารมณ์สุดๆ ที่จะต้องมานั่งพูดเรื่องแบบนี้กับเขา

“อื้อ ไม่มีตัวเล็กๆ”
“แล้วที่มึงต้องระวังที่สุดคือการที่อัลฟ่าน็อตมึง”
“น็อต?”
“อืม เห้อ ตัวยากเลย กูจะอธิบายยังไงเนี่ย”
“...”
“คือเอาเป็นว่ามันเจ็บฉิบหาย เจ็บแบบมึงต้องร้องไห้ เจ็บแบบได้เลือด มึงเตือนคู่อัลฟ่ามึงไว้ก่อนเลยว่าห้ามน็อต แค่นั้นแหละ” คณิตเลี่ยงการอธิบายพร้อมกับเบนสายตามาอยู่ที่การตัดเล็บต่อแม้จะตัดหมดไปแล้วครบทั้งสิบนิ้วก็ตามที
“ทำไมมึงพูดเหมือนมึงเคยโดนน็อต”
“...”
“เอ้ย มึงเป็นอัลฟ่าแปลว่าต้องไปน็อตคนอื่นสิ”
“...”
“คณิตเป็นไรอ่ะ ทำไมเงียบ” ตะนิดเอียงคองง อยู่ดีๆ คณิตก็ทำหน้าแปลกๆ แถมยังจับก้นตัวเองเหมือนเจ็บก้นขึ้นเสียอย่างงั้น ซึ่งหลังจากที่ทักคณิตก็ตอบด้วยการส่ายหัวไปมาเป็นคำตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร
“มึงน่ะแค่เตรียมใจดีๆ ก็พอเพราะกูว่าคู่มึงน่ะเขาเจนสนาม” คณิตพูดลอยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะก่อประเด็นให้ทะเลาะกันหรอกนะ ไม่เลย ไม่เล้ย หึ
“เจนสนาม?”
“อย่างพี่ภาสคู่มึงน่ะกูว่าน่าจะผ่านมาหลายสนามรบแล้ว”
“...”
“ดูคู่นอนน่าจะเยอะ”
“...”
“ผู้ชายใส่แว่นเขาว่าเจ้าชู้นี่”

หึ...
คณิตยิ้มเยาะในใจเมื่อเห็นว่าตะนิดค่อยๆ ขมวดคิ้ว โทษทีนะไอ้ลุงอัลฟ่าแว่น ถือว่าเอาคืนหลายๆ เรื่องแล้วกัน

“ตะ แต่พี่ภาสกลับบ้านตรงเวลาตลอดเลยนะ”
“เพราะมึงอยู่ห้องรึเปล่า เออ ไม่พูดแล้วดีกว่าเดี๋ยวมึงจะคิดมาก ป่ะ ไปกินข้าวเย็นกัน แม่สั่งพิซซ่าไว้ให้ แป้งบางกรอบหน้าต้มยำกุ้งกับไก่บาบีคิว”
“...”
“ตะนิด?”
“อะ อือกินๆ” แมวดื้อเกินไปทางห้องกินข้าวด้วยใบหน้างอแง ในหัวคิดไปร้อยแปดแล้วว่าวันนี้อัลฟ่าที่ห้องจะกลับบ้านดึกรึเปล่า จะออกไปหาใครรึเปล่า แค่คิดใจก็โหวงไปหมดจนแทบไม่มีอารมณ์กินพิซซ่า

 คณิตมองแผ่นหลังของน้องชายก่อนจะถอนหายใจยาว

ประเด็นที่พูดวันนี้
เหมือนส่งน้องออกเรือนเลยให้ตาย...


หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จตะนิดก็รีบวิ่งกลับห้องนอน ใบหน้าดื้อเต็มไปด้วยความกังวล ทั้งคิ้วขมวดและปากยื่น

พี่ภาสเจ้าชู้เหรอ...
ไอ้ลุงแว่นเจ้าชู้งั้นเหรอ!!!!

มือเล็กรีบหยิบมือถือขึ้นมากดคอลหาอัลฟ่าที่อยู่คนละที่ทันที ใจน้อยๆ ว้าวุ่นไปหมดเมื่อคิดภาพตามที่คณิตบอก

[ว่าไง... ทำไมทำหน้าแบบนี้] ภาสที่อยู่อีกฝั่งปลายสายขมวดคิ้วเมื่อจู่ๆ หน้าแมวดื้อก็โผล่มาเต็มจอ แถมยังขมวดคิ้วดุอีกต่างหาก
“พี่ภาส!!!”
[หืม?]
“พี่ภาสเจ้าชู้เหรอ”
[ห๊ะ?]
“พี่ภาสห้ามเจ้าชู้แล้ว” ตะนิดเอาหัวโขกกล้องดังปั้กเป็นการเตือนว่าเอาจริง ส่วนอีกฝั่งก็ได้แต่งง ไม่เข้าใจทั้งคำพูดทั้งการเอาหัวโขกกล้อง
[อธิบายหน่อยได้ไหม]
“ไม่! ถ้าพี่ภาสเจ้าชู้เป็นไอ้แว่นเจ้าชู้ นิดจะโคตรโกรธเลยนะ เห้ย พูดจริง โกรธว่ะ”
[ไม่เรียกพี่ว่าไอ้]
“ขะ ขอโทษครับ ตะ แต่คณิตบอกว่าพี่ภาสเจนสนาม ผู้ชายใส่แว่นเขาว่าเจ้าชู้ คือดูทรงนิดก็รู้แหละไม่ต้องให้คณิตบอกหรอก ถ้าพี่ภาสเจ้าชู้นิดจะเจ้าชู้บ้าง นี่เตือนแล้วนะลุง!!! นิดเสน่ห์แรงนะนี่พูดจริง!!!”
[เราจะเจ้าชู้?] ภาสขมวดคิ้วพร้อมกับย้อนถามกลับ
“อย่าท้านิดนะ!!!!”
[พี่ไม่ได้ท้า]
“...”
[ปล่อยกับบ้านยังไม่พ้นคืนวางแผนจะเจ้าชู้เนี่ยนะ?] ภาสถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับ
“นิดเสน่ห์แรงจริงๆ นะพี่ภาส” แมวดื้อเอ่ยเสียงอ่อยก่อนจะมุดหน้าลงกับเข่า ตากลมจ้องใบหน้าหล่อผ่านจอโทรศัพท์ด้วยความน้อยใจ

เขาพอจะรู้ว่าพี่ภาสคงจะผ่านเรื่องแบบนั้นมาเยอะ ดูทรงก็รู้แล้ว แต่พอมีคนมาย้ำมันก็แอบรู้สึกจี๊ดๆ ในอกเสียไม่ได้ รู้สึกหวงขึ้นมาจนอยากจะร้องไห้

[พี่ไปรับได้ไหม]
“หือ... ไม่ได้ นิดจะนอนนี่”
[งั้นก็อย่าทำหน้าจะร้องไห้แบบนั้น] ภาสเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมมองกลับมาในจอด้วยความคิดถึง

 ทั้งๆ ที่เพิ่งห่างกันไม่ถึงคืน เขาก็คิดถึงแมวดื้อนี่เสียแล้ว
ยิ่งคอลมางอแงแบบนี้ก็ยิ่งคิดถึง บ้านที่ไม่มีเสียงของตะนิดมันเหงากว่าเดิมเยอะเสียจนเขานอนไม่หลับ ถึงประเด็นที่คอลมามันจะดูน่าสงสัยไปหน่อยก็ตามแต่เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีหลังวางสาย

“พี่ภาส... อย่าเจ้าชู้เลย”
[...]
“มีนิดแล้วก็ยังจะเจ้าชู้เหรอ”
[ตะนิด]
“ถ้าพี่ภาสเจ้าชู้ นิดจะเจ้าชู้บ้างจริงๆ นะ ขู่แล้ว นิดจะไปเดทกับพี่ลี่”
[ตะนิด...] ก่อนจะได้เจ้าชู้อาจจะได้เจอเจ้าของเขากระทืบก่อนน่ะสิ ภาสคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป เขากำลังจะเอ่ยพูดอะไรต่อแต่จู่ๆ ประตูห้องแมวดื้อก็เปิดขึ้นพร้อมกับแฝดพี่ที่เดินเข้าห้องนอนมา

“ตะนิด ตกลงเรื่องดิลโด้ที่มึงถามกูนี่ยังไง...”

วางสายแทบไม่ทัน!!!
แมวดื้อตาถลนแทบหลุดออกมาจากเบ้า ดีนะที่กดตัดสายไปทันทีที่คณิตพูด ขืนพี่ภาสได้ยินเขาต้องไม่รู้จะเอาหัวไปมุดหนีที่ไหนแน่ ตะนิดค่อยๆ เอียงหัวกลับไปทางแฝดพี่ตัวโตที่ยืนท้าวเอวอยู่ไม่ไกล

“มะ ไม่มีอะไรแล้ว”
“ไม่มีอะไรได้ไง กูเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าทำไมมึงถึงพูดถึงดิลโด้ อย่าสั่งไปเรื่อยนะมึง” คณิตขมวดคิ้วพูดด้วยความเหนื่อยใจ ตะนิดน่ะชอบสั่งของผ่านเน็ตและส่วนใหญ่มักจะเป็นของที่โดนหลอกให้ซื้อ ตั้งแต่ครีมกวนใช้แล้วหน้าใสที่ใช้แล้วดันสิวเห่อหน้าอยู่เป็นเดือน ไหนจะเสื้อยืดที่สั่งมาแล้วตัวเล็กเหมือนเสื้อหมาจนต้องเอาไปใส่ให้ตุ๊กตาแทนนั่นอีก   
“ไม่สั่ง กะ กูแค่อยากลองแต่คิดดูแล้วไม่เอาดีกว่า”
“ลามก”
“คณิต!!!”
“เออ ไม่สั่งก็ดี แต่ถ้าจะสั่งส่งมาให้กูดูก่อนด้วย เดี๋ยวมึงทะลึ่งสั่งแบบพิสดารมาอีก ถ้าแม่แอบแกะกล่องแล้วมึงจะซวย” คณิตพูดจบก็ปิดประตูเดินออกไปจากห้อง
“จริงๆ สั่งไปแล้วจนได้ของแล้วต่างหาก ไม่พิสดารด้วย อันจุ๊มุน่ารักๆ คิดว่าจะกลับบ้านแบบนี้มาทำไมถ้าไม่รีบกลับมาดักรอพัสดุวะ” ตอนนั้นเองตะนิดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดิลโด้อันเล็กอันน้อยนั่นตอนนี้นอนใยู่ในกล่องพัสดุใต้เตียงเขาเองแหละ อุตส่าห์ไปยืนตากแดดดักรอพี่ไปรตั้งแต่เช้าหลังจากพี่ภาสมาส่ง

โล่งใจไปได้ไม่ถึงสิบวิดี แต่พอหยิบมือถือขึ้นมาดูเท่านั้นความโล่งใจก็ระเบิดตัวเองทิ้งเหมือนโดนทานอสดีดนิ้วใส่

เจี๊ยกกกกกก....
กะ กะ ก็กดวางสายไปแล้วนี่นา!!!
ทำไมถึงยังขึ้นคอลอยู่ล่ะ!!!

“พะ พะ พี่ภาส”
[หืม?]

ฆ่ากันเถอะะะะะะะะะะะะ
ตะนิดได้แต่พะงาบปากงับลมหาคำพูดตัวเองไม่เจอ แต่พอมองดีๆ แล้วคนในจอเหมือนดูอยู่ในสถานที่แปลกๆ ทำไมมืดเหมือนไม่ใช่ห้องเลย

“พะ พี่ภาส นิดง่วงแล้ว”
[เหรอ เมื่อกี้ก็ดูไม่ง่วงนี่ เสียงชัดเลย]

จบแล้วชีวิต...
ตะนิดอยากจะระเบิดตัวเองดังปุ้งหนีความอับอายที่เกิดขึ้นเหลือเกินแต่ก็ทำไม่ได้

“พะ พี่ภาส คือนิดว่าพี่ภาสเข้าใจผิด”
[เหรอ ยังไงล่ะ]
“ไม่ๆ คือนิดอ่ะ พูดว่าอยากซื้อนีโม่ หนังเรื่องฟายเยอร์นีโม่” ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อชื่อหนังมันแปลกๆ จริงๆ มันคือไฟน์ดิ้งนีโม่ต่างหาก ฟายเยอร์นี่คือเผานีโม่แล้วมั้ง แต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีอารมณ์จะแก้ชื่อหนังนั่นหรอก แค่คิดว่าแมวดื้อคิดจะใช้ของเล่นกับตัวเองเขาก็รู้สึกว้าวุ่นไปหมด

ขนาดตุ๊กตาฉลามแค่ถูๆ เขายังหงุดหงิดแทบบ้า
แล้วนี่ของเล่น...

[อืม]
“พะ พี่ภาสอยู่ไหนทำไมมืดๆ สัญญาณไม่ดีแน่เลยแบบนี้ คร่อกๆๆๆ แคร่กๆๆๆๆ พะ..อี้...ภาส...แคร่กๆๆๆ” ตะนิดรีบทำเสียงสัญญาณพัง พูดจาขาดตอนเอาเองประหนึ่งสัญญาณขาดช่วง แต่ปลายสายกลับตวัดตากลับมองกล้องอย่างรู้ทัน
[พี่อยู่บนรถ]
“อ้าว”
[เตรียมเปิดบ้านไว้เลย พี่จะไปรับ]
“...”
[แต่ไม่ต้องเอา ‘พัสดุ’ กลับมาด้วยนะ]

อั้ยหยา....
ได้ยินหมดเปลือกเลยนี่หว่า

“พะ พี่ภาส”
[อ้อ แล้วฝากบอกคณิตด้วย]
“...”
[อย่าดื้อเหมือนน้องตัวเอง]

เห้ย นี่มันเป็นประโยคดุครั้งเดียวกระทบแมวสองตัวรึเปล่า!!!
ตะนิดจะพองขนกลับอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าดวงตาดุนั่นจ้องกลับมาไร้ซึ่งแววตาล้อเล่น อีกฝ่ายไม่ได้ตัดสายทิ้งไปเพียงแต่ตั้งมือถือบนแท่นที่วางมือถือบนรถไว้นิ่งๆ

ตะนิดที่ใจแสนจะว้าวุ่นก็ได้แต่ปาดเหงื่อมองอีกคนที่ขับรถด้วยใบหน้าเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ก็ไม่รู้จะดูอารมณ์ยังไงให้ชัดเจนเพราะพี่ภาสก็ดูหงุดหงิดตลอดเวลาจนเดาอารมณ์ไม่ค่อยถูก พอๆ กับคณิตเลย

ว่าแต่ดูท่าทางน้องจุ๊มุไม่น่าจะได้ออกมาลืมตาเห็นโลกนอกกล่องพัสดุแล้วล่ะ
ตั้งสามพันกว่า...

อืม...
แต่เอาไว้ในห้องเขาเดี๋ยวแม่เข้ามาจัดห้องต้องเจอแน่เลย เอาไปซ่อนไว้ห้องคณิตแทนดีกว่าเพราะแม่ไม่ค่อยเข้าห้องมัน ตอนนี้มันน่าจะเล่นเกมอยู่ห้องนั่งเล่นด้วย ทางสะดวก

[จะเดินไปไหน] เสียงจากนรกดังขึ้นแทรกประหนึ่งรู้ว่าเขากำลังจะทำภารกิจลับ
“ปะ ไปห้องคณิตแป๊ปนึงพี่ภาส”
[อีกสิบนาทีมาเปิดรั้วให้พี่]
“ครับ”

แล้วอีกฝ่ายก็ตัดสายไปจากนั้นเขาจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้องของคณิต เขาเข้ามาเล่นห้องคณิตบ่อยพอๆ กับพี่คณิตเข้าไปนอนเล่นในห้องเขา เพราะงั้นจึงรู้ดีว่าควรซ่อนน้องจุ๊มุไว้ตรงไหนถึงจะปลอดภัย

ใต้เตียงนี่แล้วกัน...
พอสอดกล่องเข้าไปก็พบว่ามันติด เนื่องจากช่องว่างระหว่างเตียงกับพื้นค่อนข้างน้อย แถมตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงเท้าดังขึ้นใกล้ๆ ตะนิดรีบดึงเทปกล่องพัสดุก่อนจะคว้าน้องจุ๊มุที่ถูกห่อด้วยถุงพลาสติกทึบขึ้นมา

ยะ ยะ ใหญ่กว่าที่คิดนะน้องจุ๊มุ
ไม่จุ๊มุเหมือนในรูปเลย โดนร้านขายแกงเอาเสียแล้ว

“ตะนิด เดี๋ยวกูจะไปเซเว่นเอาไรไหม” ตะนิดสะดุ้งเฮือกรีบปาน้องจุ๊มุเข้าใต้เตียงคณิตก่อนจะพับกล่องให้เป็นแผ่นราบๆ ยัดตามเข้าไปอีกที พอมองให้มั่นใจแล้วว่าทั้งของกลางทั้งกล่องไม่ได้โผล่ตัวออกมาให้ผิดสังเกตถึงค่อยเดินเนียนออกไปหาแฝดพี่

ใต้เตียงคณิตน่ะปลอดภัยสุดแล้ว
คงไม่มีใครมาเจอหรอก


...มั้ง



หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 18 : โด้ไม่โด้ [19/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-07-2020 20:56:16
5555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 18 : โด้ไม่โด้ [19/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-07-2020 21:49:20
พี่ภาสมาเช็คบิลแย้ว..วววววววว    :pigha2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 18 : โด้ไม่โด้ [19/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-07-2020 22:43:41
โดนร้านแกงหนักมาก พี่ภาสกำลังมาจัดการแมวดื้อแล้ววว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 18 : โด้ไม่โด้ [19/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-07-2020 02:22:00
ทำไมรู้สึกว่างานจะงอกที่คณิตนะ
คราวก่อนพี่ชายไม่อ่อนโยนเลยสินะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 20-07-2020 19:43:43
ก็จะดื้อ 19



สมัยเด็กตะนิดก็เคยสงสัยว่าถ้าเกิดเป็นหมาจะเป็นพันธุ์อะไร จนสรุปได้ว่าจะเป็นชิสุ เพราะตัวเล็กน่ารัก เห่าบ๊อกๆ ก็มีคนมาเล่นด้วย ส่วนคณิตเป็นฮัสกี้ผสมชิบะดุบ้างใจดีบ้าง ส่วนถ้าเป็นอัลฟ่าเลือดแท้ที่เพิ่งจอดรถเทียบหน้าบ้านเขาตอนนี้ก็ตอบได้เต็มปาก

หมาดมระเบิด
เยอรมันเชพเพิร์ด

“พะ พี่ภาส อ้าว.. พี่ชาย”
“สวัสดีครับตะนิด” ตะนิดงงนิดหน่อยที่จู่ๆ ก็มีแขกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน แต่ถึงอย่างนั้นก็วิ่งดุ๊กๆ เข้าไปหาอัลฟ่าเลือดแท้ที่ยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่ 
“พี่ภาส นิดอธิบายได้”
“ไว้ก่อน” ภาสโอบคนตัวเล็กไว้เบาๆ แค่ได้เจอหน้าความรู้สึกหงุดหงิดที่สะสมมาตลอดทางก็ปลิวหายไปทันที
“คณิตอยู่ในบ้านเหรอครับ”
“อื้อ มันเพิ่งกลับมาจากเซเว่น ถ้าแต่พี่ชายมาไงอ่ะ”
“พอดีพี่ทำงานอยู่แถวนี้น่ะครับ”
“...”
“แล้วไอ้ภาสบอกว่าวันนี้คณิตอยู่บ้านคนเดียว เลยแวะมาดู”

โอ้...
จริงด้วย ตอนแรกเป็นเขาเองที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนคณิตเพราะแม่ไปต่างจังหวัด พอเขาจะกลับพร้อมพี่ภาสแบบนี้คณิตก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว เหงาแย่เลย

“พี่ภาส กลับด้วยไม่ได้นะ ทิ้งคณิตไม่ได้ บอกคณิตแล้วว่าจะนอนกับคณิต”
“อืม” ภาสรู้อยู่แล้วแหละว่าต้องมาอีหรอบนี้ แขนแกร่งเอื้อมไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนกระโปรงรถขึ้นพาดบ่า
“พี่ภาสแบกกระเป๋าอะไรมา”
“กระเป๋าเสื้อผ้า”
“เอ๊อะ...”
“พี่จะค้างที่นี่” พูดจบก็เดินนำเข้าตัวบ้านโดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้าบ้านเชิญ แมวดื้อรีบออกตัววิ่งตามแผ่นหลังกว้าง ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าพอได้เห็นคนตัวสูงแล้วก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ 

และน่าเป็นแค่เขาคนเดียวที่อุ่นใจ
เพราะสำหรับแฝดพี่แล้วน่าจะไปทางอุ่นตีน


“ออกไป”

ดวงตาคมของคณิตตวัดดุไล่สองอัลฟ่าไม่ได้รับเชิญ ไม่ลืมหันไปมองไอ้น้องชายตัวดีที่หลบอยู่หลังคู่ตัวเองนั่นอีก ไม่ต้องมาทำหลบเลยนะไอ้เด็กเวร เอาผู้ชายเข้าบ้านตอนแม่ไม่อยู่นี่มันน่าดีดให้เหม่งแตก

“อั้ยหยาาา คณิตต”
“ตะนิด มึงน่ะมานี่” คณิตเอ่ยสั่งแต่ภาสก็ยกแขนขึ้นกันไม่ให้แมวดื้อเดินกลับไปหาแฝดพี่
“พะ พี่ภาส”
“ฉันโทรแจ้งแม่พวกเธอก่อนเข้ามาแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ” ภาสมองต่ำผ่านกรอบแว่นด้วยสายตาไร้อารมณ์ต่างจากที่ใช้เวลาส่องแมวตัวเองโดยสิ้นเชิง ซึ่งนั่นทำเอาคณิตรู้สึกได้ถึงเส้นเลือดที่กระตุกยิกๆ ตรงหน้าผาก

จะมีคู่แห่งโชคชะตาทั้งทีก็เสือกได้คนที่รับมือยากเข้าบ้าน เขาล่ะอยากฟาดเหม่งใส่นั่นให้ปูดแล้วงดแพนเค้กมันไปสักสามเดือนจริงๆ

“แล้วนี่...” คณิตเหลือบตามองอัลฟ่าอีกตัวที่ส่งยิ้มกว้างมาให้ อุตส่าห์จะทำเป็นไม่สนใจแต่ท่าทางเรียกร้องความสนใจเหมือนหมาตัวใหญ่ที่มีหางกระดิกตีพื้นป้าปๆ นั่นมันอะไรกันวะ
“มาเป็นเพื่อนไอ้ภาสเฉยๆ ครับ”
“กลับไป”
“อย่าเพิ่งรีบไล่สิครับ”

ให้มันได้แบบนี้...
นอกจากคู่แห่งโชคชะตาจะรับมือยากแล้วยังจะมีตัวเสริมน่ารำคาญอีก

“คณิตตตต” ตะนิดที่สอดส่องสถานการณ์อยู่สักพักรีบออกตัวกระโดดออกมากอดหมับเข้าให้ที่เอวแฝดพี่พร้อมกับถูไถหน้า
“อะไรมึง”
“ไม่หงุดหงิดน้าาา” แมวดื้อส่งเสียงอ้อนเต็มกำลัง
“ไม่ต้องมาอ้อน”

แหง จะไม่อ้อนได้ยังไง
 พี่ภาสเล่นยืนทำหน้าดุเหมือนหมาเข้าไปทุกทีแล้ว กลัวยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วโทษตัวเองจะเพิ่มขึ้น จากแค่แอบซื้อน้องจุ๊มุเดี๋ยวอาจจะโดนคดีอื่นบวกไปอีก เช่นคดีแอบเอาเหล้าบนชั้นมากินไม่ก็คดีแอบลงไปกระดกเบียร์หน้าเซเว่นตอนอีกคนยังกลับไม่ถึงห้อง คดีติดตัวเยอะก็จะล่กเป็นพิเศษ

“พี่เอาของไปเก็บห้องนะ” ภาสเมินภาพตรงหน้าพร้อมออกตัวเดินไปทางห้องนอนของแมวดื้อที่เคยบุกไปตั้งแต่ครั้งแรกที่มา ซึ่งแน่นอนว่าตะนิดก็รีบผละออกวิ่งตามไปทันที ทิ้งให้แฝดพี่ได้แต่ยืนหน้าเหม็นเบื่ออยู่กับแขกไม่ได้รับเชิญ
“คณิตครับ”
“ไร”
“วันนี้ค้างด้วยได้ไหม”
“กลับไป”
“อย่างน้อยขอเข้าไปดูห้องนอนก็ไม่ได้เหรอครับ”
“เป็นโรคจิตหรือไง” คณิตกอดอกขมวดคิ้วแน่นให้กับหมาป่าห่มหนังแกะผู้ดีตรงหน้า ยิ่งเห็นอีกฝ่ายยิ้มเหมือนผู้ดีแสนใจเย็นยิ่งน่าหงุดหงิด

ไอ้เวรนี่น่ะ ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าแกะเลยสักนิด
หมาป่าบ้าชัดๆ

“ถ้าเดินขึ้นไปห้องตะนิดคงโดนไอ้ภาสไล่ออกมาอยู่ดี เพราะงั้น...”
“ไปนั่งห้องนั่งเล่น ไม่ต้องมายุ่งห้องคนอื่น” พูดจบคณิตก็หันตัวหนีเดินกลับเข้าห้อง ซึ่งแน่นอนว่าแขกมารยาทดีก็ได้ทำการเดินตามไปติดๆ
“นั่งคนเดียวมันเหงานะครับ”
“ก็กลับบ้านไป”
“คณิตครับ”
“ไร”
“ค้างด้วยได้ไหมครับ”
“เห้ย พูดไม่รู้เรื่องเหรอ”
“คณิตครับ...” ชายอมยิ้มก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของแมวดุและแมวดุก็ไม่แม้แต่จะขยับหน้าหนี ใบหน้าที่เหมือนตะนิดเวอร์ชั่นนิ่งนั่นจ้องกลับมาด้วยแววตาพร้อมที่จะเตะเขาทันทีหากทำอะไรไปมากกว่านี้

และนั่นเหมือนยิ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้เขาอยากทำมากกว่านี้

“คณิตตตตตตตตตตตตตตต” เสียงเล็กตะโกนเรียกทำเอาคณิตรีบปัดหน้าของอีกฝ่ายออกกระเด็น ตะนิดที่วิ่งออกมาจากห้องชะงักตัวเล็กน้อย

เวร...
ทำไมพี่ชายมายืนอยู่แถวห้องคณิตเนี่ย จะเข้าไปหยิบของกลางไปไว้ที่อื่นสักหน่อย

“มีไรอ้วน”
“ยืนทำไรกันอ่ะ”
“ถามทำไม” คณิตกอดอกยิงคำถามกลับ 
“ปะ เปล่า พะ พี่ชายจะค้างเหมือนกันเหรอครับ เห็นพี่ภาสบอก”
“หืม? อ้อ เออ ค้างครับ” ไม่ได้ตั้งใจจะค้างหรอกถ้าแมวดุไม่อนุญาตแต่เห็นเพื่อนช่วยเปิดทางให้ชายก็ไม่ขัด
“งั้นพี่ชายกับพี่ภาสนอนห้องคณิตแล้วคณิตไปนอนห้องกูแทนดีไหม” 
“ทำไมต้องให้มันนอนห้องกู”
“คณิตจะให้อัลฟ่าคนอื่นนอนห้องกูแทนเหรอ...”
“...”

ชิ...
เล่นแบบนี้มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางเห็นด้วยหรอก รังนุ่มนิ่มของตะนิดน่ะจะให้มีกลิ่นหมาอื่นเข้าไปติดคงเหม็นน่าดู ในที่สุดแฝดพี่เจ้าปัญหาก็ต้องพยักหน้ายินยอมอย่างเหนื่อยใจ

“เย้ งั้นเดี๋ยวกูช่วยจัดห้องมึงให้น้าาา” ตะนิดทำท่าจะวิ่งเข้าห้องคณิตไปแต่ก็โดนแฝดพี่ดึงคอเสื้อไว้
“จัดอะไร อย่างมึงน่ะจะทำห้องกูรกมากกว่า ไม่ต้องยุ่งเลย”
“ตะ แต่กูรับรองว่าคราวนี้ไม่รก!!! ด้วยเกียรติของลูกเสือ!!!”
“โรงเรียนเราไม่มีลูกเสือ”
“ลูกแมวก็ได้ เมี๊ยว”
“...”
“ลูกหนูก็ได้ จี๊ดๆ เป็นได้ทุกลูกเลย ลูกมึงก็ได้ ขอเข้าห้องหน่อย อยากจัดห้องให้”
“เห้อ ไม่ต้องยุ่ง เดี๋ยวกูจัดเอง”
“แต่คณิต!!! กูอยากเข้าห้องมึงนี่!!!”
“ไอ้อ้วน มึงนี่พูดไม่รู้เรื่องนะ”
“คณิตตตตตตตตตตตตต” ตะนิดเบะปากหงิงๆ ให้คณิตจัดห้องเองเดี๋ยวเจอกลางขึ้นมาจะทำยังไงเล่า!!!! น้องจุ๊มุที่นอนอยู่ใต้เตียงนั่นน่ะ!!!
“มึงไปเวฟพิซซ่าในครัวไป เดี๋ยวกูจัดห้องเอง” คณิตโยกหัวตะนิดไปมาก่อนจะหันตัวเดินกลับเข้าห้องนอนไป ตะนิดกะพริบตาปริบๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความซวยที่กำลังคืบคลานมา
“ตะนิดไปอุ่นพิซซ่าก่อนเลย เดี๋ยวพี่ไปช่วยคณิตเขาจัดห้องเอง”
“แต่...”
“ไอ้ภาสเพิ่งเลิกงานน่าจะยังไม่ได้ทานอะไรแต่เช้า ฝากเพื่อนพี่ด้วยนะ” ตะนิดเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายที่ส่งยิ้มแสนใจดีมาให้ อ๊อย ออร่าความผู้ดี จริงๆ ก็อยากจะวานขอความช่วยเหลืออยู่หรอก แต่คิดในแง่ดีปกติคนเราก็คงไม่เชคอะไรใต้เตียงอยู่แล้วแหละ เดี๋ยวคอยหาโอกาสมาเก็บหลักฐานอีกทีแล้วกัน
“โอเคครับ”
ถึงจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ทำภารกิจเอาของกลางกลับมาไม่สำเร็จแต่ก็ยอมถอดใจไปอุ่นพิซซ่าให้ก่อน พอนึกภาพว่าอัลฟ่าขี้ดุบนห้องนั่นทำแต่งานไม่ค่อยกินข้าวก็รู้สึกหงุดหงิดยิบๆ ในใจ อยากบ่นบ้างจัง มือเช้าก็กินแต่กาแฟ มันจะไปอิ่มท้องได้ไง เป็นต้นไม้เหรอที่ใช้วิธีซึมซับน้ำเพื่อการอยู่รอดเนี่ย   

“ดื้อ” เสียงทุ่มดั้งขึ้นพร้อมกับแรงรัดเบาๆ ที่เอว ตะนิดชะงักมือที่ถือจานพิซซ่าก่อนจะพยายามเอียงหัวไปหาคนที่แอบมาโอบกัน
“พี่ภาส พี่ชายบอกพี่ภาสไม่ยอมกินข้าว”
“เลิกงานยังไม่ทันได้หาอะไรกินเราก็คอลมาก่อน”
“...”
“คิดจะเจ้าชู้รึไง” จมูกแข็งทิ่มปั้กเข้ามาแถวบริเวณขมับจนตะนิดต้องเอียงหัวหลบ อารมณ์ไหนมาดมหัวกันแบบนี้
“พี่ภาสอย่าดิ จั๊กจี๋”
“ไหนจะไปเดทกับลี่จะทำยังไง”
“อย่ามาท้านะ นิดจูบกับพี่ลี่แล้ว นิดอ่ะเสือร้าย”
“โฮ่...” ภาสขำในลำคอให้กับเสือร้ายตรงหน้า 
“พี่ภาสอาจจะไม่รู้แต่นิดอ่ะเสน่ห์แรงเถอะ”
“อืม ไม่รู้จริงๆ แหละ” ภาสพูดพร้อมกับไล่จมูกไปตามลำคอขาว เขาแวะงับปลอกคอสีเข้มเบาๆ ก่อนจะผละออกมาหอมขมับแมวดื้อที่ตอนนี้กลายร่างเป็นเสือร้าย
“เห้ยพี่ภาส นิดเสือร้ายจริงนะ ถ้านิดเจ้าชู้บอกเลยว่าฮอตกว่าพี่ภาสแน่ คนมาจีบตรึม”
“แบบนี้เราก็จะให้คนอื่นก็จะกอดเหมือนที่พี่ทำเหรอ”
“เอ๊อะ...”
“พี่รู้ว่าเราดื้อ”
“พี่ภาส”
“แต่อย่าดื้อขนาดนั้นเลย”
“...”
“พี่ดุกว่าที่เราคิดนะตะนิด”

อั้ยหยา...
ยังจะดุไปมากกว่าอีกเหรอออออออ
ปลดจากหมาดมระเบิดเป็นกระทิงดีกว่าแล้วไหมแบบนี้ ตะนิดรีบหันตัวกลับไปบีบแก้มคนอายุเยอะกว่าทันทีที่เสียงอีกคนเริ่มดุ

“ดีนะที่นิดไม่ดื้อขนาดนั้น” 
“ใช่ แค่ที่สั่งของเล่นมาก็ดื้อพอแล้ว” ภาสงับแก้มนิ่มไปเบาๆ ก่อนจะผละออกเพื่อหยิบจานพิซซ่าเข้าไมโครเวฟ ปล่อยให้แมวดื้อยืนกุมแก้มเขินหน้ายู่
“ไม่มีหลักฐานรึเปล่า”
“นั่นสิ พี่ดูใต้เตียงเราเมื่อกี้ก็ไม่เจอ เอาไปซ่อนไว้ไหน”

หนอย ที่รีบขึ้นห้องนอนไปเพราะแบบนี้ใช่ไหม!!!!
ตะนิดยกยิ้มเหยียดอย่างผู้ชนะ อยากจะมองต่ำอยู่หรอกแต่เตี้ยกว่าอีกคนมากเลยต้องมองเฉียงแทน เงยหน้าคอแทบหัก

“พี่ภาสหาไม่เจอหรอก”
“ไปหยิบมาดีๆ ก่อนที่พี่จะหงุดหงิดไปมากกว่านี้ดีกว่าตะนิด” ภาสดีดเหม่งใสไปหนึ่งที ถึงจะหงุดหงิดที่แมวดื้อคิดจะเล่นของเล่นแต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะต้องเชคหน่อยว่าแมวดื้อซื้อของเล่นแบบไหนมา กับตะนิดเนี่ย ไว้ใจอะไรไม่ได้เลย
“ไม่หยิบ”
“ตะนิด”
“นิดเอาไปซ่อนไว้ในห้องคณิตอ่ะ กะจะเนียนเข้าไปช่วยจัดห้องแล้วเอาออกมาแต่มันไม่ให้เข้า แต่ดีนะที่พี่ชายเข้าไปช่วยจัดแทน” พอพูดจบภาสก็ชะงักตัวไปเล็กน้อยก่อนจะแสยะยิ้มออกมา
“พาพี่ไปที่ห้องคณิตหน่อยสิ”
“ทำไมอ่ะ”
“เร็วแมวดื้อ” ตะนิดยู่หน้า ดื้ออีกแล้ว ใครก็ว่าเขาดื้อ ไม่ใช่เด็กนะ แต่เห็นแก่หน้าที่แสนดุของอีกฝ่ายเลยยอมพาพี่ภาสที่ใช้มือซ้ายถือพิซซ่าปากก็กัดเคี้ยวหงุบๆ เดินไปห้องคณิต พอมาถึงหน้าห้องนอนคณิตตะนิดก็เตรียมจะเปิดประตูแต่ก็ถูกฝ่ามือใหญ่ดึงไว้

“หืม? ทำไมอ่ะพี่ภาส”
“อย่าเพิ่งเปิด”

ปึ้ง!!!

“เอิ้วววว” ตะนิดสะดุ้งเฮือกพองขนกระโดดไปเกาะคนตัวสูงทันทีที่จู่ๆ ประตูห้องคณิตก็ถูกกระแทกอย่างแรงมาจากข้างใน

อะไร!!!
ทำไมกระแทกประตูดังขนาดนี้!!!!

“พะ พี่ภาส พี่ชายต่อยคณิตเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก”
“แล้วทำไม...”
“ชี่...” ภาสยกนิ้วชี้ขึ้นจุ๊ปากให้แมวดื้อเงียบ ตะนิดเลยต้องหุบปากฉับ ดวงตากลมจ้องไปที่ประตูห้องแฝดพี่ด้วยความตกใจ ในหัวเล็กๆ คิดแต่ว่าถ้าต่อยกันขึ้นมาจะเข้าไปรับหมัดแทนคณิตยังไงให้ฟันไม่หลุดดี

“ก็บอกว่าไม่ใช่ของกูไงวะ!!!” เสียงตะโกนลั่นของคณิตดังขึ้นพร้อมกับแรงกระแทกประตูอีกรอบ
“คณิตไม่จิกแถวคอได้ไหมครับ เดี๋ยวเป็นรอย”
“สัดเอ๊ย...อ๊ะ”
“อย่าเสียงดังสิครับ”
“ไอ้เวรนี่ พอแล้ว พอก่อน... บอกให้พอไงโว้ย!!!!”
“ขออีกนิดนะครับ”
“แม่งเอ๊ย...”

อะ อะไรนั่นน่ะ?
ตะนิดกะพริบตาปริบๆ มองประตูห้องนอนแฝดพี่ด้วยความงง ไม่เข้าใจบทสนทนาที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทำไมแค่จัดห้องถึงมีจิกคอจิกหัว ถึงปกติคณิตจะชอบโวยวายอยู่แล้วแต่ทำไมรอบนี้เสียงแปลกๆ

“พี่ภาส...”
“สงสัยเขาจะจัดของกัน ให้คณิตนอนกับชายไปก็ได้มั้ง ดูสนิทกันแล้วนี่”

สนิทเหรอ? สนิทได้ไง?
ไม่เห็นจำได้ว่าคณิตสนิทกับพี่ชายเลย แต่ฟังจากเสียงแล้วก็ดูสนิทกันแบบแปลกๆ   

“พี่ภาสแน่ใจนะว่าพี่ชายไม่ได้มีเรื่องกับคณิต”
“ไม่หรอก แมวดื้อที่บ้านมีกาแฟไหม”
“ไม่ให้กินแล้ว! ดึกแล้วพี่ภาสจะกินกาแฟทำไม กินไมโลแทนเลยเดี๋ยวนิดชงเอง” แมวดื้อบ่นเสียงเล็กก่อนจะรีบวิ่งนำเข้าครัวไปด้วยความกลัวว่าคนตัวสูงจะแย่งชงกาแฟดื่ม ส่วนภาสได้แต่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันกลับมาจ้องประตูห้องนอนของแฝดพี่

ที่เรียกไอ้ชายมาเพราะกะแค่ให้มันมากวนสายตาแฝดพี่ขี้ปั่นนี่เล่นเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาเป็นในทางนี้เลยสักนิด ถึงจะพอรู้เรื่องราวคร่าวๆ ของคู่นี้มาบ้างแล้วก็เถอะ

จะบ่นว่าสเป๊กเพื่อนตัวเองแปลกก็บ่นได้ไม่เต็มปาก
เพราะใบหน้าที่เหมือนแมวดื้อแบบก็อปวางนั่น

“พี่ภาส!!!”
“หืม”
“หยุดทำไมอ่ะ”
“ไม่มีอะไร”

ภาสหันกลับมาสนใจแมวดื้อของตัวเองต่อ ยังไงเสียเรื่องของแฝดพี่ก็ไม่เคยอยู่ในสารระบบความคิดของเขาอยู่แล้ว แต่เรื่องของแฝดน้องนี่สิที่มักจะมีมาให้ปวดหัวได้ไม่เว้นวัน

... เดี๋ยวขึ้นห้องนอนคงจะต้องทำโทษกันหน่อยแล้ว
 



หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-07-2020 20:17:33
คณิตตตต ฉงฉาน มีเจ้าน้องป่วนคนเดียวว่ายุ่งแล้ว มีปั๋วมาป่วนอีกคน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-07-2020 20:30:02
นำไปไกลมากกคู่นั้นนน่ะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-07-2020 20:30:36
คณิต..ตตตตตตตต    :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 20-07-2020 22:21:49
สงสารคณิตจริงๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 21-07-2020 00:36:44
คู่พี่นำไปไกลลิบ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-07-2020 10:12:06
คู่นั้นอะไรกัน?
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 21-07-2020 13:10:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 19 : พี่ชายกับคณิตต่อยกันเหรอ? [20/07/20] p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 21-07-2020 15:32:29
โอ้ยยย มันเข้วพี่น้องแมวคู่นี้ คณิตตตตซวยเพราะน้องจุ๊มุ จนได้ ทั้งน้องทั้งหลัวป่วนประสาทที่แท้ทู๊! :laugh:

ตะนิดรู้กก  คดีหนูเพียบ แต่ไม่รู้เรื่องไรกับเขาเล้ยย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 26-07-2020 17:52:22
ก็จะดื้อ 20


หลังจากกินข้าว อาบน้ำเสร็จ
ภาสคิดว่าก็น่าจะได้เวลาแห่งการลงโทษเจ้าแมวหน้าดื้อได้สักดี

แต่ทว่า...


เขาลืมไปเลยว่ากับตะนิด
ไม่เคยมีอะไรเป็นไปตามแผน



“ฮัดชิ่ว”

เสียงจามดังถี่ติดกันจากอัลฟ่าเลือดแท้ตัวใหญ่ ภาสยกมือขึ้นกุมจมูกตัวเองพลางตวัดตาผ่านแว่นกรอบเหลี่ยมมองออกไปนอกบ้าน เสียงหยาดฝนโปรยปรายกระทบกับหน้าต่างยิ่งย้ำสาเหตุที่ชัดเจน ถึงเขาจะดูแข็งแรงแต่ด้วยช่วงนี้ที่ทำงานหนักและไม่ค่อยได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

เขาแพ้อากาศ...
จมูกตันหายใจลำบากไปหมดจนแมวดื้อต้องวิ่งไปหายาแก้แพ้มาให้กิน แผนที่จะทำโทษแมวดื้อเลยต้องพับลงไปครึ่งหนึ่ง

แค่ครึ่งหนึ่ง
เขาไม่ยอมพับแผนทิ้งง่ายๆ หรอก

“พี่ภาส... อย่าตายนะ”
“แค่แพ้อากาศ”
“พี่ภาสฟึดฟั่ด”
“จมูกพี่ตัน”
“นิดนั่งใกล้พี่ภาสจะตันด้วยไหม” แมวดื้อเดินไปเดินมาแถวโซฟา พลางเอื้อมมือมาแปะหน้าผากเขาเพื่อวัดไข้ 
“แพ้อากาศไม่ได้ป่วย มันไม่ใช่โรคติดต่อ” ภาสเอ่ยเบาๆ ถึงจะแค่แพ้อากาศแต่อาการคัดจมูกก็สร้างความหงุดหงิดให้อัลฟ่าตัวใหญ่ไม่น้อย เนื่องจากกลิ่นแป้งที่เขาแสนคิดถึงนั่นถูกกั้นจนแทบสัมผัสไม่ได้
“พี่ภาสขึ้นนอนไหม”
“อื้อ” ภาสลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินตามเจ้าของบ้านไปแต่แมวดื้อก็หยุดชะงักตัวแถวหน้าห้องนอนแฝดพี่
“คณิตกับพี่ชายไม่ออกมาเลย สงสัยจัดของจนหลับไปแล้ว” แมวดื้อทำท่าจะเดินไปเปิดประตูห้องภาสจึงต้องรีบดึงแขนเล็กไว้

เกรงว่าเปิดไปนอกจากจะไม่ได้หลับแล้ว
...เผลอๆ อาจจะอยู่ในท่าอันตรายด้วยซ้ำ

“ไปห้องกัน” ภาสกระตุกข้อมือเล็กให้แมวดื้อเดินกลับห้องต่อ ตะนิดไม่เข้าใจเล็กน้อยว่าทำไมอีกคนต้องเร่งให้รีบกลับห้องแต่ก็ผละออกจากประตูห้องแฝดพี่อย่างงงๆ
“พี่ภาส”
“พี่แพ้อากาศไม่ได้หมายความว่าจะลืมเรื่องพัสดุของเรานะ”

เจี๊ยกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่นี่ลืมไปแล้วว่าเคยทำผิด!!!

“พี่ภาส คืองี้น้องจุ๊มุอ่ะ...”
“มีชื่อแล้วด้วย?” ภาสเป็นฝ่ายเปิดประตูเข้าห้องก่อนเจ้าของห้องเนื่องจากแมวดื้อเอาแต่บ่นงึมงำหาข้อแก้ตัวอยู่

เมื่อเปิดเข้ามากลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชก็ตีเข้าหน้าจนต้องสูดเข้าปอดให้ชื่นใจ รังนุ่มฟูของตะนิดยังคงเหมือนเดิม เตียงขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กนั่นยังคงเต็มไปด้วยกองทัพตุ๊กตาเหมือนครั้งแรกที่มา
 
“พี่ภาส ฟังนิดนะ”
“อื้อ” ภาสทิ้งตัวนั่งลงกับเตียงนุ่มพลางดึงให้เจ้าแมวดื้อตัวเล็กนั่งตักลงมา แน่นอนว่าตะนิดขยับตัวหนีแต่เขาก็ใช้แขนรัดเอวบางไว้ให้นั่งนิ่งๆ “อย่าดิ้น ไหนจะบอกอะไรพี่ก็บอกมา”
“พี่ภาสนิดตัวหนัก”
“เราก็รู้ตัวนี่”
“พี่ภาสอย่าเวอร์!!! นิดไม่ได้หนักขนาดนั้น!!!”

อ้าว บอกเองแต่ก็โวยวายเอง
ภาสหัวเราะในลำคอให้กับใบหน้าบึ้งตึงของแมวบนตัก

“เร็วสิ มีอะไรก็พูดไม่ใช่หรือไง”
“พี่ภาสคืองี้ ไม่ได้จะอวยนะ แต่พี่ภาสต้องเข้าใจว่ามันไม่ได้”
“...”

มาแล้ว บทพูดที่เข้าใจยาก
ภาสเลือกที่จะเงียบแทนที่จะถามว่าหมายถึงอะไรให้เด็กล้อว่าไม่เข้าใจภาษาวัยรุ่น

“นิดเข้าใจว่าฮีทหน้าเราจะแบบ จะเออ จะนั่นแหละ แต่พี่ภาสเข้าใจไหมมันไม่ได้”
“...”
“พี่ภาสเข้าใจไหม ถ้าไม่เข้าใจมันก็แบบนี้!!!”
“เห้ย...” แมวดื้อโถมตัวยัดนิ้วโป้งเข้าไปเต็มจมูกอัลฟ่าร่างใหญ่จนภาสหงายตัวลงนอนราบไปกับเตียง ดวงตาใต้กรอบแว่นกะพริบปริบๆ ด้วยความไม่เข้าใจ ปกติแพ้อากาศก็หายใจยากอยู่แล้วยังจะเอานิ้วโป้งมาอุดให้หายไม่ออกอีก

“เนี่ยพี่ภาส พี่ภาสอึดอัดใช่ไหม แต่เนี่ยตูดนิดมันก็แค่นี้แล้วของพี่ภาสใหญ่กว่านิ้วโป้งนิดอีก!!!”

นี่แมวดื้อสมมติจมูกเขาเป็นอะไน
...ให้ตายเถอะ

“ตะนิด เล่นอะไร” ภาสดึงนิ้วโป้งเล็กออกจากจมูกตัวเองก่อนจะจับเสื้อตัวเองขึ้นเช็ดให้สะอาด
“นิดยกตัวอย่าง”
“นี่เรารู้อะไรเกี่ยวกับการมีเซ็กส์บ้าง”
“จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“...” เป็นอะไร...
“พี่ภาสอย่าพูดตรงๆ ได้ไหม!!!”
“มีเซ็กส์มันแปลกยังไง”
“จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”

ตะนิดอุดหูตัวเองพร้อมกับส่งเสียงโวยวายลั่นห้อง ภาสมองภาพแมวดื้อที่นั่งทับอยู่บนอกตัวเองด้วยความไม่เข้าใจนัก แต่ก็ถือโอกาสชั้นขาขึ้นเนื่องจากตอนที่ล้มมาขายังวางอยู่บนพื้น พอแมวดื้อทับพุงเข้านานๆ ก็แอบรู้สึกอึดอัด

“ตะนิดไม่โวยวาย”
“พี่ภาส โอ๊ย ถึงนิดจะเป็นเสือร้ายในสายตาพี่ภาส แต่นิดไม่เคยมี... มีบลุ๊กๆ ปั้ปๆ ถึงพี่ภาสจะผ่านสงครามมาเยอะแต่นิดไม่เคย”

บลุ๊กๆ ปั้ปๆ ?
เดี๋ยวนี้วัยรุ่นใช้ศัพท์แบบนี้แทนแล้วเหรอ?
อีกอย่าง เขาเลือกที่จะเงียบแทนที่แก้ออกไปว่า บนโลกนี้ก็ไม่น่าจะมีใครมองแมวดื้อเป็นเสือร้ายได้หรอก เป็นได้แค่แมวขี้โวยวายเท่านั้นแหละ

“พี่ถึงถามไงว่าเราเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเซ็กส์บ้าง”
“จะ จ๊าก จ๊ากเลย”
“ว่าไง หืม?”
“นิดรู้ว่ามันต้องเข้าไป หนอนน้อยของพี่ภาส”
“...” ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยผ่านไปให้
“แต่พี่ภาส นิดลองแล้ว นิดลองคลำแล้ว ของนิดเล็กแค่นี้” แมวดื้อยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขึ้นมาจีบนิดกันให้ดูว่าเล็กขนาดไหน
“...”
“แต่ของพี่ภาสมันแบบ มัน มันไม่น่าได้ไหม”
“เห้อ” ภาสยกมือขึ้นนวดขมับไปมา คนบนหน้าท้องเขาน่ะ ร้องโวยวายเสียงดังกับคำว่าเซ็กส์ แต่ดันพูดจาลามกกว่านั้นได้เป็นประโยคแบบไม่ขัดเขิน
“พี่ภาส น้องจุ๊มุที่นิดสั่งมาก็เบิ้มมาก คิดว่าไม่น่าเข้าได้เหมือนกัน แต่ในรูปมันเล็กนะ” ตะนิดตีหน้าท้องเขาแปะๆ เรียกให้กลับมาสนใจตัวเอง
ภาสวางมือลงกับเตียง ดวงตาคมจ้องนิ่งบนเพดาน จมูกก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรียกสติก่อนจะค่อยๆ ผุดตัวขึ้นนั่ง แน่นอนว่าแมวดื้อก็กลายเป็นถูกจับนั่งตักหันหน้าเข้าไปโดยปริยาย

“ขอพี่หยิบของก่อน” ตะนิดพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนให้อีกคนเดินไปรื้อกระเป๋า อัลฟ่าหนุ่มเปิดซิปหาของอยู่ไม่ถึงนาทีก็กลับมานั่งบนเตียงพร้อมกับตบตักตัวเองป้าปๆ ให้แมวดื้อนั่งลงกลับมาเหมือนเดิม
“ทำไม”
“หันหลังให้พี่” ตะนิดขยับตัวหันพิงหลังตัวเองเข้ากับอกแกร่ง ภาสจับขาเล็กขึ้นชันจนกางเกงนอนขาสั้นนั่นเปิดกว้างก่อนจะกดจูบกับขมับชื้นเหงื่อ
“ทะ ทำไมอ่ะพี่ภาส”
“ปกติแล้วเวลาที่เราฮีท โอเมก้าจะผลิตน้ำหล่อลื่นออกมาตามกลไกของร่างกาย” อาจเพราะเขาเป็นคนเปลี่ยนกางเกงให้ตะนิดตลอดเจ้าตัวเลยไม่รู้ว่าปกติตอนฮีทช่วงล่างตัวเองนั้นเลอะเทอะขนาดไหน
“...”
“แต่ถ้าเราไม่ฮีทมันก็ยังมีอยู่ เพียงแต่จะน้อย”
“...”
“ขออนุญาต... ได้ไหม?” ภาสเอ่ยถามก่อนเป็นอย่างแรกก่อนจะทำอะไร แมวดื้อที่ใจเต้นแรงแถมร้อนแก้มจนไม่รู้จะทำอะไรได้แต่มองมือใหญ่ที่อยู่วางอยู่แถวต้นขา ในหัวทั้งสับสนทั้งเขินทั้งอยากรู้แต่ก็กลัวไปพร้อมๆ กัน แต่สุดท้ายใบหน้าดื้อก็พยักเบาๆ
“อะ อือ”
“เด็กดี”

ทีแบบนี้มาชมเด็กดี!!!
ตะนิดก้มหน้าคางแทบชิดอก ดวงตากลมจ้องนิ่งไปที่มือใหญ่ว่าจะทำอะไรต่อ ในใจก็แสนจะตื่นเต้น ภาสเห็นอย่างนั้นก็อดก้มไปหอมแก้มนุ่มเสียไม่ได้

“ใจเย็นๆ หน่อย”
“พี่ภาสบอกก่อนได้ไหมล่ะว่าจะทำอะไร แบบนี้เหมือนดูหนังผีเลย มันตุ้งแช่นะ” ตะนิดบ่นหงิงๆ ปากเล็กยื่นออกมาด้วยความไม่พอใจ
“พี่จะเอานิ้วใส่เข้าไป”
“จ๊ากกกกกก ลามกกกกกก พี่ภาสไม่ต้องบอกขนาดนั้นได้ไหม”
“ตกลงจะให้บอกหรือไม่บอก”   
“ไม่รู้ อย่าถามนิดเยอะได้ไหมนิดคิดอะไรไม่ออกแล้ว” ตะนิดยกแขนขึ้นจับคอเสื้อตัวเองพลางก้มจ้องนิ่งที่เรียวนิ้วยาวของอีกฝ่าย ในใจก็ได้แต่ลุ้นรอจังหวะว่านิ้วจะทิ่มเข้ามาตอนไหน
“จูบกันไหม”
“...”
“ไม่สิ จูบได้ไหม”
“กะ กะ ก็ได้” ภาสหัวเราะในลำคอก่อนจะกดจูบลงเบาๆ ที่กลีบปากนุ่ม ตะนิดเอียงคอรับสัมผัสพร้อมกับหลบตาปี๋ด้วยความตื่นเต้นแต่พออีกฝ่ายหยอกเย้าด้วยปลายลิ้นก็ทำเอาสติค่อยๆ หลุดไปทีละนิด

จนกระทั่งรู้ได้ว่าที่ก้นมีอะไรแปลกปลอมมุดเข้ามาผ่านพื้นที่จีบหวงห้าม แมวดื้อก็รีบเบนหน้าหนีสัมผัสจูบกลับมาก้มมองตรงขากางเกงที่มีมือใหญ่มุดวุ่นวายอยู่ทันที

“พี่ภาส!!!”
“ใจเย็นๆ เหมือนนิ้วโป้งยัดจมูกไง”
“เหวอๆๆๆ พี่ภาส มันแปลกๆ ทำไมมันเย็น เย็นตูด!!”
“พี่ใส่เจล” ภาสเบนหัวไปทางหลอดเจลที่กลิ้งอยู่ข้างๆ มันคือสิ่งที่เขาผละออกไปหยิบมาตอนแรก
“มันแปลกๆ”
“เจ็บเหรอ?”
“มะ ไม่เจ็บแต่มันอึดอัดนิดหน่อย เหมือน... ตอนท้องผู---”
“จูบกัน” ภาสรีบเบี่ยงประเด็นก่อนที่แมวดื้อจะคิลมู้ดไปมากกว่านี้
“ไม่จูบแล้ว” ตะนิดเบนหน้าหนีใบหน้าดื้อก้มมองแต่ปลายนิ้วที่ผลุบหายไปที่ขากางเกงนอน

ภาสหัวเราะเบาๆ ก่อนจะย้ายจมูกไปไล้ตามลำคอสวย เขาฟันขบหยอกล้อกับเนินไหล่เล็กแต่ดูเหมือนแมวดื้อจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ดวงตากลมจ้องนิ่งไปที่อุ้งมือเขาที่แช่นิ่งอยู่แถวก้อนพีช เห็นอย่างนั้นเขาเลยขยับมืออีกข้างขึ้นสอดเข้าไปใต้เสื้อนอนตัวบางเพื่อสัมผัสหน้าอกเล็กซึ่งนั่นก็ทำให้แมวดื้อเบิกตากว้าง


“พี่ภาส!!! หัวนม!!!”
“หึ ไม่ต้องบอก พี่รู้แล้วว่ามันคือหัวนม”
“ไม่!!! พี่ภาสจับหัวนมนิด!!!”
“...”
“พี่ภาสบี้ด้วย!!!”

นั่นก็รู้แล้ว พากย์ไทยโดยพันธมิตรหรือไง?
ภาสหัวเราะในลำคอก่อนจะค่อยๆ ขยับปลายนิ้วในช่องทางแคบ แค่นั้นเสียงที่ดังโวยวายก็หุบเงียบไปทันที ตะนิดโฟกัสนิ่งไปที่สัมผัสแปลกใหม่ แขนเล็กจิกเสื้อนอนตัวเองจนยับยู่ยี่

“ผ่อนคลายหน่อยตะนิด”
“...”
“แมวดื้อ”
“ไม่ดื้อ” ตะนิดเถียงเสียงแผ่ว
“พี่จะเพิ่มนิ้วแล้วนะ”
“จะ จ๊าก”
“ถอดกางเกงได้ไหม”
“ไม่เอา”
“มันจะเลอะเทอะนะ”
“ไม่เอาพี่ภาส ไม่ถอด”

โอเค...
ภาสผละมือจากหน้าอกนิ่มเพื่อหยิบเจลมาบีบเพิ่ม แน่นอนว่ามันเลอะเทอะไปทั่วกางเกงนอนขาสั้นสีเหลืองที่เจ้าตัวหวงห้ามไม่ยอมให้ถอดและป่านนี้คงลามเปียกไปถึงกางเกงในลายปลาฉลามหน้าโง่
จำนวนนิ้วที่เพิ่มขึ้นทำเอาอึดอัดด้านหลังจนตะนิดต้องกัดปากตัวเองแน่น ความรู้สึกบางอย่างที่ตีตื้นขึ้นมาเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่บรรยายไม่ได้ เขาสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วเรียวที่ขยับเข้าออกและเคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายได้เป็นอย่างดี

แวบแรกมันอึดอัด
แต่บางครั้งมันก็รู้สึกแปลกๆ

“อื้อ” ตะนิดขยับตัวไปมาเมื่อรู้สึกอึดอัดร่างกาย ตอนนั้นเองที่ดวงตาดุใต้กรอบแว่นเหลือบไปเห็นว่ากางเกงนอนตัวบางมีบางอย่างดันออกมาเป็นทรง ตะนิดเม้มปากแน่นด้วยความอวยก่อนจะเอื้อมมือลงไปปิดไว้ไม่ให้คนตัวสูงเห็น
“ถูๆ ไหม”
“มะ ไม่เอา”
“ทำไมล่ะ”
“ไม่เอาแล้วพี่ภาส นิดเขิน มันแปลกๆ ”
“อีกนิดได้ไหม”
“อึก...” 
“ขอพี่จับตรงนี้นะ” ภาสขยับมือซ้ายสอดเข้าไปใต้กางเกงนอนตัวบาง เพียงแค่ลูบผ่านกางเกงในตะนิดก็ครางฮือปิดขาเข้ามาพยายามหนีบแขนเขาไว้
“อ๊ะ... พี่ภาส” ตะนิดตะครุบมือใหญ่ผ่านกางเกงนอนเมื่อถูกสัมผัสพญามังกรจนตื่นตัว ความรู้สึกแปลกใหม่จากทางด้านหลังผสานกับด้านหน้าตีตื้นจนน้ำตาคลอ
“แมวดื้อ”
“ฮึก อ๊ะ...”
“อ้าขาหน่อยครับ” ตะนิดค่อยๆ ขยับขาอ้าออก หัวนุ่มฟูขยับเสียดสีกับอกกว้างระบายอารมณ์ ปากเล็กสีแดงเคลือบน้ำลายใสขยับหอบหายใจถี่ ทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของอัลฟ่าเลือดแท้จนอดที่จะกดจมูกลงไปหอมแก้มนิ่มกลิ่นแป้งเต็มแรงเสียไม่ได้

น่ารัก...
น่ารักไปหมดทั้งตัว...

“พี่ภาส นิด นิดแปลกๆ”
“เด็กดี”
“พี่ภาส อ๊ะ... อื้อ”
“ครับ...” ตะนิดจิกแขนแกร่งที่พาดร่างตัวเองสอดเข้าไปขยับเสียดสีแถวเป้ากางเกงแน่น ภาสกดจมูกซุกเข้าไปกับไหล่เนียนก่อนจะค่อยๆ เร่งจังหวะมือทั้งสองข้าง ซึ่งนั่นทำเอาแมวดื้อครางลั่นไม่เป็นภาษา ดวงตากลมรื้นน้ำตาตวัดขึ้นมองใบหน้าดุที่จ้องกลับลงมา
“พี่ภาส นิดไม่ไหว อึก อ๊ะ”
“อีกนิดนะ สามนิ้วแล้ว”
“ฮึก อ๊ะ... พี่ภาส พี่ภาส” มือเล็กยกขึ้นจิกหัวร่างสูงเต็มแรงเมื่อถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ ภาสร้องเสียงหลงให้กับความเจ็บแสบที่บริเวณหนังหัวพร้อมกับตะนิดที่ครางลั่นด้วยความรู้สึกดี

สงครามจบลงแล้ว...

ตะนิดทิ้งตัวกับอกแกร่งอย่างหมดแรงข้าวต้ม ภาสค่อยๆ ดึงมือที่เลอะคราบขาวออกมาจากกางเกงนอนตัวเล็กส่วนอีกข้างยังคงแช่คาไว้รอให้ช่องทางที่ขยับรัดคลายตัวเองให้มากกว่านี้

“แมวดื้อของพี่” ภาสกดจมูกลงกับขมับชื้นเหงื่อ เวลานี้กลิ่นแป้งผสมพีชประจำตัวของตะนิดดูจะฟุ้งขึ้นกว่าปกติ มันเป็นกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวที่เขาอยากจะสูดดมซ้ำๆ
“ฮึก พี่ภาส นะ นะ นิ้วยังอยู่ที่ตูดนิดอยู่นะ”
“พี่รู้” ภาสหัวเราะในลำคอให้กับการบรรยายภาพ มาตั้งแต่ต้นยันจบเลย
“ฮึก...”
“ฮีทหน้า พี่ไม่หยุดไว้แค่นี้แน่ๆ” ภาสกระซิบข้างใบหูของตะนิดก่อนจะตวัดอุ้มร่างเล็กขึ้น
“อื๋อ ไปไหน”
“อาบน้ำอีกรอบ เราเปียกเหงื่อไปหมดแล้ว” ตะนิดได้แต่หมดแรงซุกหน้าเข้าไปกับอกแกร่งเพื่อปิดบังความเขิน ส่วนร่างสูงก็ได้แต่กลั้นยิ้มจนเมื่อยแก้ม คนหน้าดุซุกจมูกลงกับกับแก้มหอมแป้งเต็มแรงด้วยความเอ็นดู

สำหรับวันนี้ แค่นี้ก่อนแล้วกัน
นั่นคือสิ่งที่ภาสคิด แต่เหมือนเขาก็ลืมไปเลยว่า

...กับตะนิด

ไม่เคยมีอะไรเป็นไปตามแผน





หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-07-2020 18:50:15
ตอนหน้า..พี่ภาสจะไม่ท๊น..นนนนนนนนนนน    :hao6:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 26-07-2020 19:49:49
พี่ภาสสส กรี๊ด :hao6:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-07-2020 21:37:09
สุดๆไพเรย ผีในห้องต้องคารวะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 27-07-2020 00:16:11
พี่ภาสจะไม่ทน..ตั้งแต่ตอนนี้แล้ววว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 27-07-2020 04:29:33
 :hao5:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-07-2020 08:45:04
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 27-07-2020 10:38:29
ไม่หยุดแค่นี้เหรอ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 27-07-2020 11:15:11
พี่ภาสผู้กำลังจะบรรลุอรหันต์
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 27-07-2020 11:46:17
พี่ภาสได้ลองเชิงแล้ว ไปต่อได้
น้องนิดดดดด คราวหน้าไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 20 : พากย์ไทย [26/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 27-07-2020 15:40:33
โอ้ยยย ขำพากษ์ไทยโดยตะนิด!!
5555555555555555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 27-07-2020 20:32:26
ก็จะดื้อ 21


   ท่ามกลางค่ำคืนที่แสนสงบ แสงสว่างของดวงจันทร์ทะลุผ่านม่านสีขาวพาดลงบนสองร่างที่นอนกอดกันบนเตียงที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา แม้ปลายเท้าของคนตัวใหญ่จะเลยพ้นระยะขอบเตียงไปก็ไม่ได้เป็นปัญหาให้นอนไม่ถนัด เนื่องจากอัลฟ่าหนุ่มพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์ยาแก้แพ้จนหลับสนิท ส่วนร่างเล็กของตะนิดที่เพิ่งผ่านสงครามย่อยๆ มาจนต้องโดนจับอาบน้ำรอบสองก่อนนอนเองก็หลับปุ๋ยกรนคร่อก

จนกระทั่ง

กึ้ก!

ดวงตากลมของตะนิดลืมขึ้นเมื่อรู้สึกเจ็บแถวแปล๊บบริเวณหลังคอ แมวดื้อค่อยๆ ผุดตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียง

...ทำไมรู้สึกแปลกๆ
ลมหายใจค่อยๆ หอบกระชั้นขึ้นพร้อมกับอุณภูมิร่างกายที่ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นตาม ตะนิดจับคอตัวเองก่อนจะเบิกตากว้าง


เขาฮีท!!!!
บ้าน่า! เพิ่งฮีทไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนี่นาทำไมถึงมาฮีทติดกันไวขนาดนี้!

“พะ พี่ภาส” ตะนิดตีแขนแกร่งเบาๆ แต่ด้วยฤทธิ์ยาแก้แพ้ที่กินไปทำให้อัลฟ่าหนุ่มไม่ได้ตื่นขึ้นง่ายดายเหมือนที่ปกติเป็น ตะนิดกำมือแน่นเมื่อรู้สึกได้ถึงอาการตื่นตัวของตัวเอง มังกรยักษ์ผงาดผิดเวลาจนทำอะไรไม่ถูก

แย่แล้ว...
ในบ้านมีอัลฟ่าอีกสองคน

ขาเล็กรีบวิ่งไปกดล็อคประตูห้องนอนก่อนจะวิ่งกลับมาที่เตียง กลิ่นลาเวนเดอร์ที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณร่างเล็กให้โหมหนักมากขึ้น ตะนิดหอบถี่ก่อนจะขึ้นไปนั่งทับบนตัวของอัลฟ่าหน้าดุ

“พี่ภาส นิด... นิดอยากถูน้า”

ไม่มีการตอบรับนอกจากเสียงกรนเบาๆ ตะนิดเม้มปากแน่นจนน้ำตาคลอ ใบหน้าดื้อรีบตวัดหาตุ๊กตาตัวโปรดแต่มองเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าลืมเอามือหรือมีใครเอาคุณนุ่มเบอร์ห้าไปซ่อน ความสับสนวุ่นวายวิ่งวนในหัวเล็กจนตะนิดตัดสินใจล้มตัวทับร่างใหญ่เพื่อสูดกลิ่นลาเวนเดอร์เข้าปอดเรียกสติ

หารู้ไม่ว่านั่นยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ไปกว่าเดิม
ตะนิดสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกแปลกๆ ตีตื้นจนต้องลุกขึ้นนั่ง แขนเล็กจัดการรูดกางเกงนอนและกางเกงชั้นในออกจากเรียวขา ตอนนั้นเองที่ถึงเพิ่งสังเกตว่าบริเวณก้นเขามีเมือกใสแฉะเปียกบนเสื้ออัลฟ่าใต้ร่างเป็นดวงใหญ่ๆ การตื่นตัวของตัวเองทำเอาเขินจนต้องกัดปาก

“พี่ภาส นิดอยากถูแล้ว” แมวดื้อสะอื้นทั้งน้ำตาพลางตีแปะๆ ลงบนหน้าท้องแกร่ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างที่คิดแถมยังยกมือขึ้นเกาหน้าท้องเหมือนละเมออีกต่างหาก ตะนิดขยับสะโพกกลมเสียดสีกับหน้าท้องแข็งก่อนจะนึกถึงกิจกรรมที่ทำก่อนนอน

เอานิ้วสอด...

ตะนิดสะอื้นน้ำตาหยดเป็นเม็ด เขาไม่อยากทำเองเลยแท้ๆ ความเขินอายตีตื้นแต่ก็ต้องลองใช้นิ้วตัวเองสอดเข้าไปในช่องทางที่เพิ่งถูกอีกคนบุกรุกเข้าไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ความเปียกแฉะจากกลไกในร่างกายสร้างความตกใจให้ร่างเล็กไม่น้อย เขารู้สึกว่ามันช่วยให้รู้สึกกว่าเจลที่พี่ภาสใช้เมื่อครู่เสียอีก

“อา... อ๊ะ พี่ภาส”

รู้สึกดี...
ตะนิดชันขาขึ้นเป็นรูปตัวเอ็มให้ง่ายต่อการขยับแขน ตอนนั้นเองที่สะโพกกลมสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนใต้ร่าง ตะนิดชะงักตัวก่อนจะไถสะโพกตัวเองเสียดกับความอุ่นร้อนใต้กางเกงนอนของอีกฝ่าย

“อา...” อัลฟ่าหนุ่มที่หลับอยู่ครางออกมาเบาๆ พร้อมกับขมวดคิ้วนั่นยิ่งทำให้โอเมก้าตัวน้อยได้ใจรีบขยับสะโพกบดเบียดกับตัวตนของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงหวังให้อีกคนตื่นขึ้นมา
“ฮึก... พี่ภาส พี่ภาส”
“อืม”
“มากกว่านี้” แมวดื้อเบะปากงอแง มือเล็กกระชากกางเกงของอีกฝ่ายลงทำเอาพญามังกรของอีกฝ่ายพองตัวดีดผึงขึ้นให้ต้องหน้าแดง

ใหญ่กว่าเดิมรึเปล่า...   
จะเข้าไหวได้ยังไง

...แต่อยากให้เข้าไปจัง 
 
ตะนิดอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ สัญชาตญาณเรียกร้องต้องการสัมผัสที่มากกว่านี้ ตะนิดรู้ดีว่ามันควรจะลงเอยแบบไหน เขาเตรียมใจไว้อยู่แล้ว

...แต่เขาอยากให้พี่ภาสช่วย อยากให้พี่ภาสเป็นคนทำ ไม่อยากทำเองเลยแท้ๆ ทำไมถึงต้องมาหลับสนิทขนาดนี้ด้วย 

“พี่ภาส” ตะนิดเสียดสีร่องก้นพีชนุ่มกับตัวตนแข็งขืนของอัลฟ่าหนุ่ม ใบหน้าดื้อตวัดเงยขึ้นมองเพดานด้วยแรงอารมณ์

ไม่ไหวแล้ว...
ต้องการ...
มากกว่านี้...

ตะนิดสะอื้นจนตัวโยน มือเล็กจับตัวตนของอีกฝ่ายไว้ก่อนจะค่อยๆ กดตัวลงมา ความกลัวเกาะกินหัวใจไปพร้อมๆ กับความต้องการ

ขณะเดียวกันภาสที่นอนหลับสนิทกลับกำลังฝันดี เขาฝันว่ามีลูกแมวตัวน้อยมาเดินถูตัวกับแข้งขาขนเขาต้องนั่งลงไปจับอุ้มขึ้นมาชู แมวสีขาวกับดวงตาสีฟ้า ปลายลิ้นสีชมพูนั่่นขยับตวัดเลียจมูกเขาเบาๆ ความน่ารักนั่นทำให้ภาสอดที่จะซุกจมูกลงไปฟัดพุงนุ่มนิ่มนั่นเสียไม่ได้ แมวน้อยร้องแง้วดังลั่นก่อนจะใช้อุ้งเท้าสีชมพูตบเบาๆ เข้าที่แก้มเขา

“แมวดื้อ...”
“แง้ว!”

แมวตัวน้อยในความฝันส่งเสียงเถียง ดื้อเหมือนตะนิดไม่มีผิด
ภาสยื่นมือไปหวังจะเกาคางเจ้าลูกแมวตัวน้อย แต่จู่ๆ ลูกแมวก็ตวัดตาดุเขาพร้อมกับอ้าปากงับนิ้วเขาเข้าให้เต็มแรงจนสะดุ้งตื่น

แมวกัด!!!

ความรู้สึกแรกที่สะดุ้งตื่นทำให้ภาสรู้สึกตกใจเล็กน้อยก่อนที่ความรู้สึกเจ็บแปล๊บแถวบริเวณกลางตัวจะดึงให้รู้สึกแปลกมากขึ้น กลิ่นฉุนของแป้งเด็กและกลิ่นพีชตีเข้าจมูกจนต้องยกมือขึ้นปิดให้กลิ่นบางลง ภาสรีบควานมือหาแว่นมาสวมและเมื่อสายตาปรับโฟกัสได้เขาก็ตกใจจนสุดตัว


ตะนิด...
กำลัง...
ออนท็อปเขางั้นเหรอ?

“ตะนิด!!!” ภาสตะโกนสุดเสียงในจังหวะเดียวกันกับที่ตะนิดทิ้งตัวลงบนแก่นกายแข็งขืนเต็มแรงก้นแก้มก้นกระทบกับกลางลำตัวของร่างสูง

อัลฟ่าหนุ่มซี้ดปากลั่นให้กับความคับแน่น ส่วนโอเมก้าตัวน้อยก็ปล่อยโฮออกมาลั่นด้วยความโล่งใจที่อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาเสียที ภาสผุดตัวขึ้นนั่งพลางขมวดคิ้วให้กับความตึงบริเวณกลางตัว เขารีบอุ้มตะนิดเพื่อถอนตัวออก ทุกอย่างฉุกละหุกไปหมดจนเขาเองก็เรียงลำดับสิ่งที่ควรทำไม่ถูก

ครั้งแรกของเขากับแมวดื้อ
ไม่ได้ถูกวางแผนให้ออกมาเป็นรูปแบบนี้


“พี่ภาส พี่ภาส”
“Damn it!!! ยา ยา...” ภาสใช้มือโอบร่างเล็กไว้ ส่วนตาก็รีบกวาดหายาระงับอาการรัท ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวหายาภาสก็ถูกมือเล็กรั้งให้กลับมาจ้องหน้า

กลิ่นแป้งเด็กผสมความเปรี้ยวของพีชที่ฉุนคลุ้งเต็มห้องถูกกลบด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์ในทันทีที่อัลฟ่าหนุ่มตวัดตามองใบหน้าดื้อ ความรู้สึกอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วอกเหมือนสะกดให้เขามองแต่ใบหน้าดื้อตรงหน้าอย่างละสายตาไม่ได้

“ไม่ฉีดยา”
“ตะนิด...”
“พี่ภาส รัทกับนิด”
“...”
“รัทกับนิดคนเดียว”

สิ้นประโยคร่างเล็กก็ถูกตวัดลอยก่อนจะโดนกดลงจนจมเตียง ภาสขยับมือดึงเสื้อนอนตัวบางออกจากร่างเล็กพร้อมปามันลงพื้นอย่างไม่ใยดี ดวงตากลมรื้นน้ำตาของตะนิดตวัดจ้องไปที่ร่างสูง แม้ทั้งห้องจะตกอยู่ในความมืด แต่แสงจันทร์เบาบางนั่นก็ทอดผ่านใบหน้าของอัลฟ่าหนุ่มให้เห็นอย่างชัดเจน

ใบหน้าของอัลฟ่าที่กำลังรัท...

ภาสหอบหายใจถี่ก่อนจะรีบกระชากเสื้อนอนของตนออก ตะนิดได้ยินเสียงคำรามรอดไรฟันพร้อมกับอุ้งมืออุ่นที่จับขาเขาขึ้นแนบบ่า อัลฟ่าหนุ่มกดจูบไปทั่วข้อเท้าเนียนด้วยความหลงใหล ตะนิดหอบหายใจถี่ มือเล็กเอื้อมลงไปจับมังกรจิ๋วของตัวเองเพื่อปลดเปลื้องอารมณ์
ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะกดหน้าตัวเองลงแนบกับเจ้ามังกรจิ๋วน่าเอ็นดูนั่น เขาพ่นลมหายใจอุ่นเพื่อทักทายก่อนจะซุกไซร้จมูกไปทั่วจนแมวดื้อครางหงิงให้หยุด
“พี่ภาส หยุด ฮึก มันสกปรก”
“น่ารัก”
“อ๊ะ... พี่ภาส”
“พี่...” ภาสกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาพยายามดึงสติตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะถนอมแมวดื้อในครั้งแรก
“พี่ภาสใส่กลับมา นิดไม่ไหวแล้ว” แมวดื้อขยับขาเอาเท้ามาแนบกับแก้มเขาพร้อมกับส่ายสะโพกเร่ง

เห็นอย่างนั้นอัลฟ่าหนุ่มจึงค่อยๆ สอดตัวตนของตัวเองกลับเขาช่องทางนุ่มที่ตอนแรกดูคับแคบจนไม่น่าจะใส่เข้าไปได้ แต่ด้วยกลไกของร่างกายโอเมก้าที่น่ามหัศจรรย์นั่นทำให้ช่องทางอ่อนนุ่มสามารถรับของเขาเข้าไปได้อย่างง่ายดายแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงรัดตึงจนต้องค่อยๆ ใส่อย่างระมัดระวัง

“ตะนิด” ภาสคว้าฝ่าเท้าเล็กมาแนบกับหน้า เขาหลงใหลก้อนแป้งตรงหน้าอย่างเต็มตัว เขารู้ตัวเองดี
“พี่ภาส อึก คับไปหมดเลย” ตะนิดยกสะโพกลอยขึ้นจากเตียงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกอึดอัดคับช่องทาง ภาสเห็นอย่างนั้นจึงคว้าตุ๊กตาที่ใกล้มือที่สุดมารองสะโพกนิ่มไว้ให้ 
“พี่ขยับได้ไหม”
“อื้อ”
“เด็กดี... เด็กดี” ภาสฮึมฮำในลำคอก่อนจะค่อยๆ สอบสะโพกด้วยจังหวะเชื่องช้าแต่กลับเสียดสีไปทั่วพื้นที่จนตะนิดหลุดครางเสียงอ่อน
“อา...”
“แมวดื้อ แมวดื้อของพี่”
“พี่ภาส อ๊ะ ฮึก”
อัลฟ่าหนุ่มโน้มตัวลงคร่อมทับร่างเล็กพร้อมกับไล้ลิ้นเลียไปทั่วแผ่นอกขาว มือใหญ่เฟ้นนวดเบาๆ ไปทั่วร่างนุ่มนิ่มยิ่งทำให้สติของตะนิดกระเจิดกระเจิง แมวดื้อส่งเสียงครางลั่นห้องอย่างไม่เกรงกลัวว่ามันจะดังรอดออกไปให้แฝดพี่ได้ยิน

ณ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ใบหน้าดุของอัลฟ่าตรงหน้า

“พี่ภาส จูบ.. จูบ” ภาสขยับตัวขึ้นประทับจูบเร่าร้อนให้กับแมวขี้อ้อน เกลียวลิ้นสอดประสานสร้างเสียงเฉอะแฉะลามกขึ้นที่ข้างหู ลมหายใจอุ่นร้อนที่สัมผัสแผ่วที่ข้างแก้มไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นลมหายใจของใคร
ตะนิดรู้สึกได้ถึงจังหวะที่เพิ่มขึ้นจากช่วงล่าง มันทั้งดุดันแต่ก็ระมัดระวังไปพร้อมๆ กัน ตะนิดรู้ว่าว่าอัลฟ่าตรงหน้าพยายามอย่างหนักในการกดสัญชาตญาณของตัวเองไว้ไม่ให้เขาเจ็บ

พี่ภาสน่ะอดทนเก่ง
แม้กระทั่งในเวลาแบบนี้ก็ยังคงอดทนเพื่อเขา

“แมวดื้อ...”
“พี่ภาส แรงอีก ฮึก” อัลฟ่าหนุ่มเหยียดตัวขึ้นนั่ง มือใหญ่ยกขึ้นเสยผมชื้นเหงื่อก่อนจะตวัดตาขึ้นมองเพดานอย่างอดกลั้น ภาสคำรามลั่นทั้งบดเขี้ยวตัวเองจนได้ยินเสียงกรอด

ตะนิดไล่สายตามองตั้งแต่สันกรามคม ลูกกระเดือกใหญ่ บ่ากว้างที่ดูมั่นคงลงมาจนถึงลอนหน้าท้องชื้นเหงื่อ

เซ็กซี่เป็นบ้า
พี่ภาสเซ็กซี่เป็นบ้าเลย

ใจเต้นจนแทบจะระเบิด แมวดื้อเม้มปากแน่นก่อนจะใช้ฝ่าเท้าแนบไปกับจมูกคมเพื่อเรียกร้องความสนใจ และแน่นอนว่าร่างสูงก็ก้มลงมองทันที ภาสคว้าเท้าเล็กไว้ก่อนจะกดจูบลงด้วยความรักใคร่

“แมวดื้อของพี่”
“นิดดื้อกับพี่ภาสแค่คนเดียว”
“...”
“พี่ภาส...”
“...”
“ดื้อกับนิดได้แค่คนเดียวเหมือนกัน”

พี่ภาสที่เซ็กซี่เป็นบ้าคนนี้
ให้แมวดื้อตัวนี้เห็นได้คนเดียวเท่านั้น!!!
 
ภาสสบถหยาบเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะจับตะนิดหันหลังรั้งให้โอเมก้าน้อยต้องชันขาคลาน มือใหญ่พยุงสะโพกเล็กในอุ้งมือก่อนจะกระแทกจังหวะเข้าไปสุดแรงจนแมวดื้อจิกหมอนครางลั่นถึงฝั่งไปก่อน

“Fuck!” อัลฟ่าหนุ่มหอบหนักก่อนจะโน้มตัวลงฟัดปลอกคอหนังแสนน่ารำคาญเต็มแรง คมเขี้ยวกัดกระชากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาดุแข็งกร้าวเหมือนคนขาดสติเพียงเพื่อจะปลดปลอกคอออกจากลำคอขาว

พื้นที่ของเขา...
อยากเป็นเจ้าของ อยากฝังรอยเอาไว้ให้ทุกคนรู้ว่าตะนิดเป็นของเขา

“อ๊ะ พี่ภาส พี่ภาส แรงไปแล้ว ฮึก” ตะนิดจิกหมอนแน่นเมื่อแรงที่โถมกระแทกเริ่มกระชั้นและแรงขึ้นจนแทบไม่มีจังหวะหายใจ
“คึ่ก...”

ณ ตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มเหมือนขาดสติไปอย่างสิ้นเชิง เขาออกแรงกัดปลอกคอเหมือนหมาบ้าแต่มันก็ทนทานสู้จนหงุดหงิด เมื่อเห็นว่ามันไม่ยอมขาดให้สักทีเขาถึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นขบฟันทำรอยไปตามแผ่นหลังขาวเนียน ตีตราให้ทั่วว่าร่างกายที่น่ารักตรงหน้านี้เป็นของเขา

ตะนิดเป็นของเขาคนเดียว

ภาสเหยียดตัวขึ้นนั่งก่อนจะตวัดแขนกวาดตุ๊กตาทุกตัวลงจากเตียงพร้อมกับขู่คำรามลั่นห้อง มือใหญ่จับตุ๊กตาทุกตัวที่อยู่ในระยะเพื่อเขวี้ยงลงจากเตียงจนเหลือแค่เพียงร่างเล็กและเขาที่กอดรัดกันอยู่บนฟูกขาว

ห้ามใครได้สัมผัส
ห้ามใครได้กลิ่น
ห้ามใครได้มอง
เป็นของเขา เป็นแมวดื้อของเขาเพียงคนเดียว

“พะ พี่ภาส คุณนุ่ม... ฮึก อย่าตีน้อง”
“แมวดื้อ มองพี่” ภาสจับใบหน้าเล็กให้เอียงมาประกบจูบก่อนจะขบเม้มริมฝีปากนุ่มไปเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว ก้อนแป้งก้อนนี้มันน่ารักจนอยากจะฟัดให้จมเตียง อยากตรีตราให้ทั่วร่าง อยากทำให้งอแงน้ำตาคลออ้อนเป็นลูกแมวแบบนี้ตลอดไป
“ฮึก”
“มองแต่พี่”
“พี่ภาส”
“มีแต่พี่ มองแต่พี่”
“อ๊ะ...พี่ภาส”
“รักแต่พี่”
“ฮึก อ๊ะ...พี่ภาส นิดจะถึง...อ๊ะ พี่ภาส” แมวดื้อครางถี่ก่อนจะบดหน้าลงกับฟูกนุ่มระบายอารมณ์ ตะนิดสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อปลดปล่อยเป็นครั้งที่สาม

 ทั้งๆ ที่เขาไปถึงฝั่งถึงสามครั้งแต่อัลฟ่าเลือดแท้ที่สอบสะโพกไม่หยุดกลับยังไม่ถึงเลยสักครั้ง ตะนิดเอื้อมมือไปตีกล้ามแขนแกร่งเบาๆ

“พี่ภาส เปลี่ยนท่า ฮึก เปลี่ยนท่า นิดไม่เอาท่านี้” แม้ใจจะไม่อยากเปลี่ยนเพราะชอบท่าที่แมวดื้อหันหลังโชว์ก้อนพีชนุ่มนิ่มกับหลังคอหอมแป้งแต่พออีกฝ่ายอ้อนขอภาสก็ต้องยอมเปลี่ยนให้แต่โดยดี ไม่ต้องรอให้ถามว่าอยากเปลี่ยนเป็นท่าอะไร แมวดื้อก็จัดการดันบ่าเขาให้นอนราบไปกับเตียงก่อนจะเริ่มยกตัวขย่ม

ท่าถนัดเขาแหละ...

“ฮึก คับเป็นบ้า” ตะนิดบ่นหงิงแต่ก็ขยับสะโพกบดเบียดเป็นจังหวะโดยมีอุ้งมือใหญ่คอยช่วยพยุง เสียงกระทบกันของผิวหนังชื้นเหงื่อดูหยาบโลนและลามกแต่ตะนิดก็รู้สึกดีเกินกว่าจะเก็บมาใส่ใจ อัลฟ่าหนุ่มครางอ่อน เขารู้สึกได้ทันทีว่าใกล้จะถึงจุดสุดยอดเต็มที
“แมวดื้อหยุด.. หยุดก่อน”
“พี่ภาส พี่ภาส”
“หยุดก่อน ตะนิด เอาออกก่อน” มือใหญ่คว้าสะโพกเล็กไว้แน่น
“พี่ภาส”
“ตะ-”
“นิดรักพี่ภาสนะ” 

เสียงเล็กเอ่ยพร้อมกับสอดประสานปลายนิ้วเข้ากับมือใหญ่ ดวงตาทั้งคู่สบกันพร้อมกับความรู้สึกอุ่นซ่านที่ตีตื้นไปทั่วร่างกาย ภาสหลับตาแน่นก่อนจะสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อดันถึงจุดสูงสุดในเวลาเดียวกับที่ถูกบอกรัก

ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นช่วงเวลาโรแมนติก

...แต่ตอนนั้นเองที่ตะนิดเบิกตากว้าง แผ่นหลังเล็กเหยียดเกร็ง ช่องทางคับแคบบีบตัวแน่นในจังหวะเดียวกันกับที่แก่นกายแข็งขืนขยายตัวเต็มที่เพื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งอารมณ์ ความเจ็บจี๊ดแล่นจากสะโพกขึ้นยันสมองจนร้องออกมาลั่นห้อง

“เจ็บ!!!!!!!!”
“ซี้ด แมวดื้ออย่าขยับ” ภาสรีบชันขาขึ้นให้ตะนิดพิง ตะนิดจิกมืกเขาแน่นจนปวด ดวงตากลมเบิกกว้างมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่ภาส นิดตูดฉีกรึเปล่า!!!!”
“ใจเย็นๆ”
“พี่ภาสนิดเจ็บ!!!! โอ๊ย... ฮึก เจ็บ เจ็บโคตร”
“แมวดื้อ...”
“ฮึก กะ เกิดอะไรขึ้น พี่ภาส...”
“พี่น็อท”
“คะ คณิตบอกให้บอกพี่ว่าห้ามน็อทนิด” ตะนิดพึมพำเสียงแผ่ว ความเจ็บที่ช่วงล่างจี๊ดจนไม่อยากขยับตัว
“ไม่ทันแล้ว...”
“คณิตบอกให้ใส่ถุงยาง...”
“นั่นก็...”

...ไม่ทันแล้วเหมือนกัน
เหมือนสติเข้าร่างในทันที ภาสมองส่วนที่ถูกเชื่อมให้ติดกันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

‘น็อท’
คือหนึ่งในกลไกในการสืบพันธุ์ของอัลฟ่าและโอเมก้า โดยอวัยวะเพศของอัลฟ่าจะขยายตัวเต็มที่ในขณะเดียวกันช่องทางของโอเมก้าก็จะรัดตึงที่สุดเพื่อกักเก็บน้ำเชื้อ ซึ่งการน็อทนั้นจะสร้างความเจ็บตึงให้กับทั้งสองฝ่าย โดยปกติแล้วอัลฟ่าจะเลี่ยงการน็อทกับโอเมก้าเนื่องจากอัตราที่จะทำให้โอเมก้าตั้งท้องนั้นสูงกว่าเก้าสิบเปอร์เซน

ยิ่งถ้าน็อทระหว่างที่โอเมก้าฮีทแถมอัลฟ่ารัทอย่างตอนนี้
ไม่ต้องประเมิณเปอร์เซนต์เขาก็พอจะรู้ผลล่วงหน้า 

“ใจเย็นๆ” ภาสพูดคำเดิมซ้ำๆ เพื่อเรียกสติของตะนิดรวมไปถึงดึงสติของตัวเองไว้ด้วย
“ฮึก ไม่เย็น ไม่เย็นแล้ว!!! เจ็บ!!! พี่ภาสถอดออก!!!”
“ตะนิด ปกติน็อทจะติดอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง”
“พระเจ้า!!!!”
“โน้มตัวลงมาก่อน”

ภาสพยายามจัดท่านอนอย่างทุลักทุเล เขาเองก็ไม่เคยน็อทใครมาก่อนในชีวิต เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่ามันเจ็บตึงขนาดนี้ ตะนิดเบะปากร้องไห้งอแงแต่ก็ยอมขยับเปลี่ยนท่าโน้มตัวนอนลงมาทับแต่สะโพกยังคงถูกเชื่อมติด


“ขอโทษ พี่ขอโทษ ไม่ร้อง”
“เจ็บ เจ็บตูด ฮืออออออออออ” แมวดื้องอแงพร้อมกับทุบอกเขาป้าปๆ
“ห่มผ้าห่มก่อน” แขนแกร่งเอื้อมไปหยิบผ้าห่มนุ่มนิ่มสีชมพูขึ้นตวัดคลุมร่างเล็ก มือก็คอยลูบหลังปลอบ
“ฮือ พี่ภาสน็อทนิด พี่ภาสน็อทนิด”
“ขอโทษที พี่ไม่คิดว่าพี่จะน็อท”
“พี่ภาสน็อทนิด!!! น็อทได้ไง พี่ภาสน็อทได้ไง ฮือออ”
“ก็เราบอกรัก...”
“ฮึก อย่ามาโทษนิด!! บอกรักไม่ใช่บอกให้น็อทเดี๋ยวตีแว่นหักเลยไอ้อัลฟ่านี่!!!”
“อา มันห้ามไม่ทันจริงๆ พี่ขอโทษ”
“ฮืออออออออออออ” ภาสกดจูบลงกับแก้มเปียก แมวดื้อเปิดโหมดงอแงเต็มสตรีม ถึงจะเอ่ยปลอบร่างเล็กแต่สมองของอัลฟ่าหนุ่มตอนนี้ได้แต่คิดภาพหลังจากนี้

จะบอกแม่อีกฝ่ายยังไงดีล่ะเนี่ย...
ยังไม่ทันได้ครบกำหนดอยู่ร่วมกัน เขาดันมาน็อทแมวดื้อเข้าให้เสียแล้ว น็อทช่วงฮีทไม่พอดันไม่ได้ใส่ถุงยางอีก

ให้ตาย...
อีกไม่กี่เดือนได้มีลูกแมวออกมาวิ่งแน่ๆ
หรือแมวดื้อๆ ในความฝันนั่นจะเป็นฝันบอกเหตุกันนะ?

“ตะนิด”
“ฮือ...”
“พี่... ปล่อยในไปแล้ว”
“จ๊ากกกกกกก พี่ภาสลามก!!!” หน้าดื้อเด้งมาจากอกพร้อมกับฟาดป้าปเข้าให้ที่แก้มเขาเต็มแรง 
“...”
“พี่ภาสแตกใน!!!”

อุตส่าห์เลี่ยงใช้คำว่าปล่อยก็ยังจะกลับมาใช้คำที่ดูลามกกว่าเดิมจนได้
ถึงตอนแรกตะนิดจะเป็นฝ่ายเริ่มตอนที่เขาหลับแต่หลังจากนั้นเขาเองก็ไม่มีสติเกินกว่าที่จะฉุกคิดว่าควรหยิบถุงยางมาสวม

“ยังไงดีล่ะ คณิตน่าจะมียาคุมให้เราอยู่แล้ว” เรื่องอะไรแบบนี้คนพี่ไม่มีทางพลาด เผลอๆ น่าจะมีติดกระเป๋าแมวดื้ออยู่แล้วด้วย
“...”
“แต่...”
“...”
“ถ้าไม่กิน... ได้ไหม”
“...พี่ภาส”
“โทษที พี่แล้วแต่เราอยู่แล้ว ถ้ายังไม่พร้อมก็กินยาคุมฉุกเฉินไว้ก่อน ไว้ถ้าเราพร้อมค่อยมาพูดเรื่องนี้กันใหม่” ภาสลูบหลังแมวดื้อไปมา

...ภาสเข้าใจดี
แม้เขาจะพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะวัยหรือความมั่นคงพอที่จะมีครอบครัว แต่กลับกัน ตะนิดนั้นยังอยู่ในวัยที่กำลังสนุกกับชีวิตแถมยังเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่ถึงเดือนดี ทุกอย่างคงกะทันหันเกินไป

“พี่ภาส นิดจะท้องเหรอ”
“เปอร์เซนสูง” ภาสเลี่ยงที่จะตอบว่าเปอร์เซนที่ว่าแทบจะแตะร้อย
“นิด... ไม่รู้”
“ไม่เป็นไร”
“ตะ แต่เราเพิ่งจีบกันนะ มันไม่ข้ามขั้นไปเหรอพี่ภาส”
“พี่ว่าเราข้ามไปหลายขั้นเลยแหละ” โดยเฉพาะไอ้ที่ต้องมานอนรอเวลาน็อทหลุดแบบนี้ด้วย มันเลยขั้นของจีบไปไกลเลยแหละนะ
“แต่ แต่”
“ใจเย็นๆ”
“พี่ภาส นิดสับสน”
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ” ภาสกดจมูกหอมหัวฟูไปหนึ่งที
“ถ้ามีเด็กในท้อง พี่ภาสจะรักเขาไหม”
“รักสิ”
“...” 
“ขนาดไม่มีเด็กในท้อง พี่ยังรักเลย”
“พี่ภาส...”
“หืม”
“มัน มันนึกไม่ออกว่าควรทำยังไง”
“อืม ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ” ภาสยังคงพูดประโยคเดิมซ้ำๆ เขาเข้าใจจริงๆ ว่าทุกอย่างมันเร็วเกินไป เดี๋ยวพอน็อทหลุดแล้วคงต้องหายาคุมฉุกเฉินในกระเป๋าแมวดื้อให้เจอ

“พี่ภาส”
“หืม”
“ไม่กินได้ไหม”

โอะ...
ภาสผงกตัวขึ้นมองแมวดื้อที่ซุกอยู่บนอกด้วยความตกใจในคำถาม

“ตะนิด...”
“ไม่รู้เหมือนกันว่าพร้อมไหม นิดไม่เคยคิดถึงเรื่องท้องมาก่อน”
“พี่ก็เหมือนกัน”
“...”
“แต่พี่แค่คิดว่าถ้าจะเป็นลูกของเรามันก็คงโอเค”
“...”
“พี่พร้อมสำหรับการมีลูกอยู่แล้ว แต่เราต่างหากตะนิด การอุ้มท้องเด็กสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันจะกระทบทั้งร่างกายและกิจกรรมหลายๆ อย่างของเราเพราะงั้นพี่ถึงอยากให้เราเป็นคนตัดสินใจมากกว่าพี่”
“นิดจะไปคิดออกได้ไง ของพี่ภาสคับตูดอยู่แบบนี้ มันกดดันนะ!!!” แมวดื้อโวยวายลั่นพร้อมกับตีอกเขาป้าปๆ
“ไม่ว่าเราจะตัดสินใจยังไง พี่เคารพการตัดสินใจของเราอยู่แล้ว”
“อือ...”
“ถ้ายังคิดไม่ออกก็ยังไม่ต้องคิด”
“นิดอยากถามคณิตก่อน”
“...”
“คณิตรู้จักนิดมากกว่าตัวนิดเองอีกพี่ภาส” แมวดื้อในเวลาหมดแล้วซึ่งความดื้อแต่กลับเต็มไปด้วยความสับสน ภาสไม่ได้ถามอะไรต่อและทำเพียงแค่ลูบหลังบางเพื่อปลอบโยนแม้ในหัวเขาตอนนี้เองก็สับสนไม่ต่างกัน


...ในที่สุดตะนิดหลับแล้ว


หลังจากที่เขาลูบหลังกล่องอยู่นาน ภาสเอื้อมมือไปหยิบมือถือที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาส่งข้อความหาเพื่อนที่นอนอยู่ในบ้านหลังเดียวกันว่าสะดวกคุยหรือเปล่า และอีกฝ่ายก็ใช้เวลากว่าสิบนาทีในการตอบว่ายัง เขาได้แต่นอนมองเพดานอยู่พักใหญ่กว่าช่วงล่างจะคลายหลุด

คราบเหนียวจำนวนมากทะลักตามออกมาจากช่องทางคับแคบและแน่นอนว่าเขาต้องเป็นคนทำความสะอาดให้เพราะเจ้าของร่างได้หลับสนิทน้ำลายยืดไปแล้วเรียบร้อย

 กว่าจะเช็ดตัวและแต่งตัวให้แมวดื้อเสร็จก็ปาไปเกือบตีห้า ภาสลุกมาเก็บตุ๊กตาที่ตัวเองกวาดลงจากเตียงขึ้นไปสร้างทัพกลับเข้าที่เดิมก่อนจะจับผ้าห่มมาคลุมให้ร่างเล็กได้หลับสบายมากขึ้น อัลฟ่าหนุ่มทิ้งตัวนอนข้างๆ ก้อนแป้งที่หลับปุ๋ยซึ่งแน่นอนว่าด้วยขนาดเตียงที่เล็กทำให้ขาเขาเกินออกนอกพื้นที่ฟูกไปจนต้องหดขาขึ้นมา


พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาปรึกษาแฝดพี่งั้นเหรอ
สงสัยได้โดนแฝดพี่แมวบ่นจนหูชาแน่...


ถ้าพรุ่งนี้เช้าแฝดพี่ยังมีแรงเหลือพอน่ะนะ
 



-----

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-07-2020 20:56:35
พี่ภาสไม่อ่อนโยน..นนนนนนน    :jul1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-07-2020 22:27:17
แฝดไม่น่าจะไหวนะคะพรุ่งนี้ 555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-07-2020 23:39:59
ยังไงต่อ?
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 27-07-2020 23:51:08
พี่ภาสใจเย็นๆนะ ค่อยๆคิดกัน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 28-07-2020 00:57:28
อาวหลวงพี่  สึกแล้วหรอ โดนแมวจับสึกหรอ แมวจะบาปมั้ยนั่น 5555
อยากไปส่องอีกห้องด้วยจังเยยย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 28-07-2020 10:31:58
 :haun4: พี่ภาสโซฮอตตต
ปล ขอดูฝั่งคุณพี่แฝดบ้างค่ะ แง๊ เขิลล
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-07-2020 12:10:31
เรื่องอื่นเห็นเวลาฮีท จะเป็นกันหลายวัน
เรื่องนี้หายฮีทง่ายเชียว
แต่ตะนิดน่ารักขึ้นเรื่อยๆ ดูเป็นเด็กน้อยเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: JanTi ที่ 28-07-2020 16:26:49
โอ้ยทำไมตะนิดน่ารักน่าบีบแบบนี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 28-07-2020 19:02:38
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 28-07-2020 22:05:43
แง้งง พี่ภาสไม่อ่อนโยน พี่ภาสดุ! พี่ภาสโซฮอต!!!!! :pighaun:
ตะนิดรู้กก ครั้งแรก ก็น็อท!!!

/ป้าฉีกเกียมผ้าอ้อม รอหลานแล้วว :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-08-2020 08:53:33
จะมีตัวเล็กแล้ววว 55555 เรารีบไปไหมม

เอ็นดูตะนิด ไม่ตื่นหรอ ทำเองก็ได้ แต่อะไรจะพอดีขนาดนั้น
ได้จังหวะไปหมดเลย เอ็นดูความงอแง อยากเรียกร้อง
แต่พอพี่ตกลง ก็ไม่โอเคเองซะงั้น กอดน้าาาตะนิด

พี่ภาสคือจะทนไหวได้ไง มาถึงขนาดนี้แล้ว ใช่ไหม

เอิ่มมม ชายคะ คณิตก็ต้องพักเนาะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 21 : ครั้งแรก [27/07/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 02-08-2020 18:40:25
โอ้ยยยยยยย ตามๆๆๆๆๆ จ้า


 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 08-08-2020 20:24:29
ก็จะดื้อ 22

การมีพี่น้องไม่ใช่เรื่องง่าย
และมันก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นเมื่อพี่น้องของคุณ


เป็นแฝด

ตะนิดได้แต่นั่งตัวลีบติดเบาะโซฟาพร้อมกับเบียดร่างตัวเองเข้าหาอัลฟ่าเลือดแท้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตากับแฝดที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม

“อะไรนะ?”

 เดิมทีเสียงของคณิตก็ทุ้มดุอยู่แล้ว พอมาอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะโดนดุเลยยิ่งทวีความน่ากลัว ตะนิดเบะปากแงก่อนจะดึงแขนอัลฟ่าข้างตัวไว้แน่นเพิ่มกำแพงป้องกัน

“เมื่อวานตะนิดฮีท แล้วฉันก็น๊อทตะนิด”
“ห๊ะ?”
“และ... ไม่ได้ใส่ถุงยาง”
“ว๊อท?”

คณิตถึงกับอุทานผิดภาษา ดวงตาที่ปกติมักจะจ้องดุกะพริบงง เขาอึ้งอยู่เป็นนาทีก่อนจะตวัดตามองแฝดน้องที่นั่งแอบหนีความผิดอยู่หลังคู่โชคชะตาตัวเอง

“คะ คืองี้น้าคณิต...”
“ตะนิด”
“หยา...”
“กูบอกมึงว่าอะไร ตอบ”
“คณิต คือ”
“กูบอกให้ตอบ” ตะนิดน้ำตาคลอเบ้า
“หะ ให้บอกพี่ภาสว่าห้ามน็อท”
“แล้วอะไรอีก”
“ให้ใส่ถะ ถุงยาง”
“สองอย่างตะนิด สองอย่าง ง่ายๆ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้วะ!!!”

คณิตตวาดลั่นบ้านเล่นเอาแมวดื้อถึงกับสะดุ้งตัวโยน น้ำตาเม็ดใหญ่กลิ้งตัวลงบนแก้มนิ่มด้วยความตกใจ

“คณิต กูขอโทษ”
“มึง มึง สัดเอ๊ย”
“ใจเย็นๆ ก่อนไหมครับคณิต” ชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลขยับตัวมาบีบข้อมือคณิตเบาๆ
“เย็นอะไรอีกวะ มึงเข้าใจไหมว่ามึงเป็นโอเมก้าตะนิด น็อตตอนฮีทมันก็เท่ากับท้องชัดๆ มึง.. คุณด้วยไอ้คุณภาส ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงวะ คุณอายุเท่าไหร่แล้วทำไมมันถึงคิดไม่ได้วะ แล้วมัน... แม่งเอ๊ย ได้ยังไงวะ!!!” คณิตตะคอกจนสุดเสียง ข้อมือแกร่งสั่นเทาด้วยแรงอารมณ์

โกรธจนรู้สึกได้ว่าร้อนหน้าไปหมด
ถึงคณิตจะเข้าใจเรื่องการขาดสติจากฮีทและการรัทแต่ก็อดโมโหในความสัพเพร่าของทั้งคู่เสียไม่ได้

ทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของอัลฟ่าเลือดแท้ เขาไม่มีข้อโต้เถียง ตัวเขาเองก็ขาดสติและการยับยั้งช่างใจเมื่อคืนไปเช่นกัน ต่อให้อัลฟ่าแฝดพี่ตรงหน้าจะโกรธขนาดทำร้ายร่างกายเขาขึ้นมาตอนนี้เขาก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่

“ฉันผิดเอง”
“คณิต กูก็ผิด”
“เออ ผิดทั้งคู่นั่นแหละไม่ต้องแย่งกัน” คณิตยกมือขึ้นกุมขมับ 
“ฉันพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง” ภาสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่คณิตกับหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ เป็นคำตอบ
“เออ คิดว่าไม่รู้เหรอ คุณรับผิดชอบได้หมดทุกอย่างอยู่แล้ว”
“...”
“แต่มึงต่างหากตะนิด” คณิตหันขวับไปหาแฝดน้องตัวเอง
“คณิต...”
“การตั้งท้องไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นั่นคือหนึ่งชีวิต เข้าใจไหมว่ามันคือหนึ่งชีวิต มันต้องอาศัยความรับผิดชอบแค่ไหน อย่าเพิ่งคิดถึงเด็กเลย มึงรู้ไหมว่าการตั้งท้องมันต้องเจออะไรบ้าง มันลำบากแค่ไหน ร่างกายมึงกำลังจะต้องเจอกับอะไร”
“ฮึก”
“มันไม่ใช่แค่ฐานะที่พร้อม มันต้องเป็นตัวมึงที่พร้อมจะรับผิดชอบหนึ่งชีวิตที่จะเกิดมา ในสายตากูตอนนี้แม้แต่ตัวมึงเองมึงยังไม่สามารถรับผิดชอบได้เลย”
“แต่...”
“กูถึงบอกให้ระวัง กูถึงย้ำเรื่องถุงยาง กูเข้าใจว่าการฮีทเป็นเรื่องปกติของโอเมก้าแต่การมีเด็ก... เชี่ยเอ๊ย หมดแรงจะยืน”
“คณิตครับ” คณิตทรุดตัวนั่งลงกับพื้นนั่นทำให้ชายรีบขยับตัวเข้าไปจับบ่าอีกฝ่ายไว้ให้มั่นใจว่าไม่ได้หมดสติไป คณิตถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเงยขึ้นสบตาแฝดน้องที่นั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น
“กินยาคุม”
“ตะ แต่ ฮึก” ตะนิดจับท้องตัวเองพร้อมกับปล่อยน้ำตาให้ร่วงหล่น

ทั้งๆ ที่ในร่างกายตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะทำให้ท้องได้หรือไม่ด้วยซ้ำ
แต่กลับรู้สึกอยากปกป้องจนสุดหัวใจ

“ตะนิด” ภาสโอบเอวบางไว้แน่นพร้อมกับบีบมือเล็กเบาๆ
“ตะนิดครับ ยาคุมฉุกเฉินน่ะ ไม่ได้หมายความว่าจะคุมกำเนิดได้ร้อยเปอร์เซนต์นะครับ และอีกอย่าง ยาคุมไม่ได้หมายความว่าแท้งด้วยเพราะยาแค่จะไปทำปฏิริยาลดประสิทธิภาพการฝังตัวของอสุจิเฉยๆ เผื่อถ้าเรากังวลเรื่องนี้ อ่า..  ถ้านึกภาพไม่ออก ก็คงเหมือนบอลกำลังจะเข้าประตูแต่ยาคุมไปสะกัดออกให้น่ะครับ” ชายพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือก็ยังคงประคองร่างของคณิตในอ้อมกอดไว้ไม่ให้เอนตัวไปมา
“พี่ภาส...”
“อืม ก็อย่างที่ชายพูด ตอนนี้หลายอย่างมันยังไม่พร้อมเราก็กินยาคุมก่อน”
“...”
“ถ้าไม่ท้องก็ไม่เป็นไร”
“...”
“แต่ถ้าท้อง พี่ก็พร้อมจะรับผิดชอบ”
ภาสกดจมูกลงบนกลุ่มผมฟูซึ่งนั่งก็ทำให้แมวดื้อปล่อยโฮออกมาลั่นบ้าน ตะนิดบิแผงยาคุมที่คณิตเป็นคนหามาให้ด้วยมือที่สั่นเทา ดวงตากลมมองเม็ดยาสีขาวด้วยความหลากหลายอารมณ์ สุดท้ายก็ตัดสินใจโยนเข้าปากพร้อมกับกลืนน้ำตามทั้งน้ำตา 
“อึก...”
“เดี๋ยวอีกสิบสองชั่วโมงต้องกินอีกเม็ด ตอนนี้เก้าโมง ต้องกินอีกเม็ดตอนสามทุ่ม” คณิตพูดพร้อมกับหยิบข้อมือของชายขึ้นมาดูเวลาบนนาฬิกาหรูซึ่งแน่นอนว่าหมาป่าห่มหนังแกะก็ได้แต่ยิ้มยินดีที่จะยกมือให้อย่างเต็มใจ
“คณิต”
“หือ?” แฝดพี่หันหน้าขวับไปทางเสียงเรียก ซึ่งแฝดน้องต้นเสียงก็ได้แต่ก้มหน้ามองเข่าตัวเอง
“มึงโกรธกูมากเลยใช่ไหม”
“...”
“อย่าเกลียดกูเลยนะ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ฮึก” ถึงแม้จะก้มหน้ามองขาอยู่แต่คณิตก็เห็นหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงบนขากางเกงนั่นอย่างชัดเจน
“นี่ ไอ้หน้าไข่ควาย”
“...”
“คนสุดท้ายบนโลกนี้ที่จะเกลียดมึงลงคือกู จำใส่หัวมึงไว้ด้วย”
“ฮึก”
“แล้วถ้ามึงท้องก็บอกไอ้ก้อนในท้องมึงซะ”
“...”
“ว่าบนโลกนี้ก็ไม่มีใครที่จะรักมันและแม่มันได้เท่ากูด้วยเหมือนกัน” 

ตะนิดเงยหน้าชุ่มน้ำตาขึ้นมองแฝดพี่ทันทีที่สิ้นประโยค ซึ่งแน่นอนว่าคณิตที่กอดอกมองอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะกางแขนตัวเองออก

“คณิต...”
 “มากอดเร็วๆ ไอ้น้องเวร” ตะนิดปล่อยโฮออกมาลั่นบ้านอีกรอบก่อนจะออกตัววิ่งเข้าไปกอดแฝดพี่ดังหมับ คณิตที่แสนจะเหนื่อยใจแต่ก็รู้สึกได้ถึงความกังวลของน้องตัวเองได้เป็นอย่างดี สมองที่มักจะคิดอะไรช้ากว่าคนอื่นนั่นคงสับสนมาตลอดตั้งแต่ตื่นนอนและคงยิ่งทวีความกังวลไปมากกว่าเดิมที่ตัดสินใจมาถามเขา     
“ฮึก คณิต กู ฮึก กู”
“เออ ไม่ร้อง จะท้องไม่ท้องมึงก็โตกว่านี้ได้แล้ว มึงต้องคิดถึงผลเสียจากการกระทำตัวเองไว้บ้าง เข้าใจที่พูดไหม”
“อื้อ ฮึก ขะ เข้าใจ”
“เชื่อไม่ได้เลย ตอนกูบอกให้ใส่ถุงยางก็บอกเข้าใจ”
“จะ จ๊าก ลามก ฮึก”
“ตั้งนาฬิกาปลุกด้วย ยาคุมฉุกเฉินต้องกินเม็ดสองห่างเม็ดแรกสิบสองชั่วโมงเป๊ะๆ”
“คณิตกูอยากกินแพนเค้ก”
“เดี๋ยวทำให้ แต่งดไซรัปครึ่งหนึ่งเพราะมึงดื้อแล้วกูก็โกรธ”
“ไม่โกรธน้อง”
“อย่ามาแทนตัวว่าน้องเวลาทำผิดนะไอ้อ้วน”
“น้องขอโทษได้ไหมล่ะพี่คณิต”
“หุบปาก!!!”
“คณิตเขินเหรอ”
“ยุ่งว่ะ จะแดกไหมแพนเค้ก”
“กินนนนนนนน”

ชายที่ยืนมองอยู่ค่อยๆ กระเถิบตัวไปหาเพื่อนอัลฟ่าที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หลังก้อนแฝดที่กอดกันกลมก่อนจะยกมือขึ้นตบบ่ากว้างนั่นเบาๆ

“โฮ่งๆ เลยเนาะ”
“อืม...”

แฝดมาอยู่ด้วยกัน
...ก็หมากันหมด

ภาสถอนหายใจยาวเหยียดให้กับภาพพี่น้องแมวที่โอ๋กันดูน่ารัก ส่วนตัวเขาก็ได้แต่กังวลเนื่องจากปกติแล้วยาคุมฉุกเฉินจะช่วยได้ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลังจากที่กินยาคุมเข้าไปแล้วที่เหลือก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะมีสิทธิ์เป็นอีกสิบเปอร์เซนต์ที่เหลือหรือเปล่า
ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านฮีทแรกมาด้วยกันแท้ๆ แต่กลับไม่มีช่วงเวลาให้ได้พูดคุยกันเลย ตั้งแต่ตื่นมาแมวดื้อก็ได้แต่นั่งเขี่ยเล็บกังวลไม่พูดไม่จา มือเล็กนั่นเอาแต่ลูบท้องตัวเองไปมาเหมือนแม่แมวหวงท้อง พออีกฝ่ายเครียดเขาเองก็พานเครียดไปด้วย
...แต่กลับมางอแงแบบนี้ก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

“ถ้าตะนิดท้องที่บ้านมึงคงตกใจน่าดู”
“อืม”
“ไปทำท่าไหนให้น็อตน้องเขาวะ ปกติมึงไม่น่าหลุดได้ขนาดนั้นนี่”
“นั่นสิ” ภาสถอนหายใจก่อนจะเอ่ยต่อ “คงเพราะหลายอย่างๆ แต่ก็ขาดสติจริงๆ นั่นแหละ” เขามัวแต่โฟกัสไปที่การพยายามกดไม่ให้ตัวเองโถมแรงใส่แมวดื้อจนไม่มีสติพอที่จะคิดถึงอุปกรณ์ป้องกัน ไม่ได้ตั้งใจจะน็อตด้วยซ้ำแต่พอแมวดื้อขยับปากบอกรักออกมาก็เหมือนความรู้สึกมันท่วมท้นจนรู้ตัวอีกที่ก็ดันน็อตไปเสียแล้ว

ฮีทแรกเขากะจะฟัดแมวดื้อให้จมเตียงให้สมกับที่รอคอย
...ที่ไหนได้
จบมันตั้งแต่ยกแรกเพราะดันน็อตเสียนี่

“คุณภาส”
“หืม?” ภาสดึงสติกลับมาเมื่อถูกแฝดพี่เรียก
“เหมือนมันจะยังมีกลิ่นอยู่หน่อยๆ”

มันที่ว่าคือแฝดน้องที่เดินเข้าครัวไปเตรียมแป้งทำแพนเค้ก ตอนกอดเมื่อกี้คณิตรู้สึกได้ถึงกลิ่นฮีทที่ยังคงฟุ้งอยู่ ถึงจะไม่ได้มากแต่ก็พอสัมผัสได้

“อืม คงเพราะน็อตระหว่างฮีทอาการคงหายไปชั่วคราวแต่เดี๋ยวสักพักก็อาจจะฮีทอีกรอบ” พอพูดว่าจะฮีทอีกรอบคณิตก็หันขวับไปทางชายที่ยืนยิ้มหางตีพื้นป้าปๆ อยู่ไม่ไกลทันที
“มึง!!!”
“ครับผม”
“ออกจากบ้านไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!!”
“คณิตครับ ไม่เอาน่า เราตกลงกันแล้วนี่ครับ” ชายค่อยๆ เดินมาหาอัลฟ่าแฝดพี่ ซึ่งคณิตก็เผลอยกมือขึ้นจับแขนเสื้ออัลฟ่าเลือดแท้ข้างๆ ไว้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นทำเอาภาสแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“คุณภาส เอาเพื่อนคุณออกไปจากบ้านผมก่อนที่ผมจะยึดตะนิดคืน”
“ชาย มึงกลับไปก่อน”

... เร็วเชียวนะมึง
ชายได้แต่ด่าเพื่อนผ่านสายตา ส่วนภาสก็ได้แต่ไหวไหล่ ช่วยไม่ได้ เขาเองก็ยังไม่อยากจะแยกกับแมวดื้อ แถมแฝดพี่ยังมีอิทธิผลกับแมวดื้อมากขนาดที่เชื่อฟังไปหมด ไอ้คำว่ายึดคืนเลยดูเป็นไปได้ไม่ยากนัก เผลอๆ แค่เอ่ยชวนแฝดน้องนอนด้วยเจ้าแมวดื้อก็คงหอบตุ๊กตาไปหาทันทีแบบไม่คิดอะไร

“คณิตครับแต่เราคุยกันแล้วนี่นา”
“โมฆะ”
“คณิตครับ” ชายขมวดคิ้วพรางคว้าข้อมือของคณิตไว้เบาๆ ซึ่งคณิตก็สะบัดออกในทันที
“คณิตแป้งได้แล้วน้า เอ้อ คุยไรกัน คุยด้วย” ตะนิดเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาพร้อมกับเบียดตัวเอาหัวมาถูกับแขนอัลฟ่าคู่โชคชะตาด้วยความเผลอไผล พอได้กลิ่นลาเวนเดอร์แล้วก็อดที่จะเอาตัวมาถูให้กลิ่นติดเสียไม่ได้
“ไม่ได้คุย”
“คุยสิครับ”
“เห้ย ไอ้คุณชาย”
“ครับคณิต”
“พี่ชายกับคณิตนี่สนิทกันจังน้า จัดห้องกันสนุกเลยดิเนี่ย” ตะนิดหัวเราะเมื่อเห็นพี่ชายหยอกล้อกับแฝดพี่ตัวเอง
“รู้สึกแปลกๆ รึเปล่า” ภาสกดจมูกลงบนกลุ่มผมฟูพร้อมกับค่อยๆ ดันหลังให้แมวดื้อเดินเลี่ยงไปทางครัว ปล่อยให้อัลฟ่าสองคนนั่นคุยกันไป
“นิดนึง”
“ยังไง”
“หิว”
“อ่า...” แปลกตรงไหน ก็เห็นหิวอยู่ตลอด
“เวียนหัวนิดหน่อยด้วย มันแอบปวดๆ แต่ก็ไม่เท่าไหร่”

ภาสลูบเอวบางไปมา เมื่อเช้าเขาลองหาข้อมูลของยาคุมไว้บ้างแล้ว ผมข้างเคียงของยาอาจทำให้ตะนิดเวียนหัวหรืออาเจียนได้ แต่อาจจะเพราะเพิ่งกินไปไม่กี่นาทีอาการเลยยังไม่ออก   

“พี่ภาส”
“หืม”
“เรา...”
“...”
“เราเป็นอะไรกันแล้วเหรอตอนนี้” แมวดื้อหันมาจ้องอัลฟ่าหนุ่มตาแป๋ว ซึ่งภาสก็ชะงักตัวไปเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้มออกมา
“เราอยากเป็นอะไร”
“หือ?”
“อยากเป็นคนรัก อยากเป็นแฟน อยากเป็นคู่ชีวิต เราอยากเป็นอะไร”
“จ๊ากพี่ภาส อย่าพูดอะไรเขินๆ ได้ไหม” ตะนิดตีป้าบเข้าให้ที่ไหล่กว้าง
“อยากแต่งงานไหม”
“พี่ภาส!! ข้ามขั้นแล้ว!!”
“ถ้าเราพร้อมพี่ก็พร้อมจะขอ” ภาสกระชับเอวเล็กในมือแน่น เขาน่ะพร้อมจะเป็นทุกสถานะนั่นแหละ แต่การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ที่เขาจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ แมวดื้อเองก็ต้องพร้อมที่จะแต่งด้วย
“พี่ภาสใจเย็นก่อนไหม เราต้องค่อยๆ อยู่ด้วยกันก่อน เราต้องคุยๆ กันก่อน” ตะนิดเขย่าแขนแกร่งเบาๆ
“โอเคๆ งั้นตกลงเราอยากเป็นอะไร”
“ปะ เป็น...”
“...”
“เป็นกิ๊ก”
“ขอศัพท์ที่พี่เอาไปอธิบายให้ผู้ใหญ่ฟังแล้วไม่งงหน่อย”
“งั่ก”
“หืม?”
“ปะ เป็น...”
“...”
“เป็นคนรัก”

ตะนิดก้มหัวจนคางชิดอกแต่ถึงอย่างนั้นความแดงก็ยังเล่นงานยาวจากแก้มออกมาถึงหูให้อัลฟ่าหนุ่มเห็นอยู่ดี ภาสอมยิ้มจนแก้มแทบแตก แมวดื้อของเขาน่ะน่ารักจนอยากจะฟัดให้แก้มช้ำ เขาก้มตัวลงงับแก้มนิ่มหอมแป้งผสมกลิ่นพีชอ่อนๆ นั่นเบาๆ

“น่ารัก”
“เห้ย นี่เสือร้าย ไม่เอาน่ารัก” ตะนิดเงยหน้าเถียง
“คนรักแสดงว่าเราจูบกันได้แล้วใช่ไหม”
“กะ ก็ใช่”
“งั้นถ้าอยากจูบก็ไม่ต้องแกล้งฮีทแล้วนะ”
“ห๊ะ?”
“หึ จำไม่ได้เหรอ”
“...”
“...”
“จ๊ากกกกกกกก พี่ภาส!!! เข้าใจผิดรึเปล่า!!!!!” ตะนิโวยวายลั่นบ้าน หน้าดื้อเห่อร้อนจนแทบระเบิด

ภาสหัวเราะตามออกมาก่อนจะก้มลงประทับจูบเบาๆ ลงบนริมฝีปากนิ่มแล้วก็ผละออกไปเตรียมทอดแพนเค้กให้อีกฝ่ายกิน ส่วนตะนิดก็ได้แต่อ้าปากเหวอค้างด้วยความช็อค 


โป๊ะแตกแล้ว
แฮชแทคตะนิดโป๊ะแตกแล้ว!!!!
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-08-2020 20:43:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-08-2020 21:15:16
น้องจะมาไหมน้อ..อออออออ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-08-2020 21:33:39
อ้าว ตะนิดแกล้งฮีทเหรอ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 08-08-2020 22:08:15
แต่งเลยๆๆ แต่งทั้ง 2 คู่เลย
สัญญาอะไรกันอะพี่ชาย เค้าอยากรู้ด้วยคน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 09-08-2020 07:52:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 09-08-2020 08:45:25
 :katai5: :katai5: คูมน้อง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-08-2020 14:00:27
เราว่าคงยังไม่ท้องตอนนี้หรอก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-08-2020 18:42:59
55555 คู่พี่น้อง เค้าก็ต้องรักกัน ฟังกันสิ
แต่ยังไง ตะนิดก็เนียนกับพี่ภาสได้ตลอดนะ
เป็นเอ็นดูตะนิด กลัวคณิตที่โกรธแต่ก็อยากกอด

ชายคะ เล่าให้ฟังบ้างสิ ช่วยจัดห้องเป็นไงบ้าง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-08-2020 21:11:12
น่าร้ากก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 09-08-2020 21:50:33
รอต้าวก้อนตัวเล็กจ้าาาา :impress2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 10-08-2020 12:45:32
แฮชแท็กตะนิดโป๊ะแตก แตกแล้วแตกอีกรู้กก  :laugh:

พี่น้องแมวอยู่ด้วยทีไร ซะมีอัลฟ่า หมาหัวเน่าทุ๊กที เปงเส้า555555555

ตอนแรกคิดว่าหลานต้องมาแน่ๆ แต่จากตอนนี้คิดว่ายังไงก็ได้
สงสารแมวดื้อด้วยไม่ใช่อะไร
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 22 : สะกัดบอล [08/08/20] p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 11-08-2020 00:16:43
โอ๋ๆนะตะนิด ชายนี่หมาป่าชัดๆเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 15-08-2020 20:42:58
ก็จะดื้อ23


ตะนิดได้แต่นั่งจ้องนิ่งไปที่กำแพงห้องนอนแสนคุ้นเคย เขากลับมาอยู่ที่คอนโดที่ภาสเหมือนเดิมแล้วหลังจากเกิดเรื่องที่บ้านไปเมื่อวันก่อน ผลข้างเคียงของยาคุมเล่นงานทำเอาเขาเวียนหัวกับปวดท้องอยู่ทั้งวัน ส่วนคณิตก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าหลังจากนี้ต้องใส่ถุงยางและอีกประมาณสองอาทิตย์จะเอาที่ตรวจครรภ์มาให้ตรวจ

แน่นอนว่าเรื่องทุกอย่างถึงหูคุณนิตยาที่ยังเที่ยวอยู่กับเพื่อน เขาถึงได้รับการคาดโทษด้วยสติ๊กเกอร์ไลน์เป็นหมีโกรธมาหนึ่งตัวพร้อมกับโดนเทศน์ผ่านการการคอลไลน์เกือบครึ่งชั่วโมงโดยที่พี่ภาสเองก็ต้องนั่งฟังไปด้วย

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขาก็สัมผัสได้ถึงความแปลกบางอย่า
ใช่...
มันแปลก..

ไอ้ที่กำลังโดนกอดแน่นอยู่เนี่ย แปลกมากๆ!!!!

“พะ พี่ภาส ทำอะไรอ่ะ” ตะนิดเอ่ยเสียงสั่นเมื่อถูกอัลฟ่าหนุ่มกอดรัดไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก งูเหลือมเหรอ!!! ไม่ใช่แค่ใหญ่เป็นงูเหลือมแต่ยังจะรัดเหยื่อแสนเท่เหมือนกันด้วยอีกเหรอ!!!
“กอด”
“ระ รู้แล้ว แต่กอดทำไม”
“นั่นสิ”

อะไร!!!!
คำตอบอะไร!!!!

ตะนิดโวยวายลั่นระบบความคิด ส่วนตัวจริงได้แต่นั่งหน้าแดง พอโดนอีกฝ่ายมากอดรัดเอาจมูกซุกๆ แบบนี้ก็แอบไม่ชิน ไหนล่ะพี่ภาสที่ดุๆ พอได้เลื่อนขั้นหน่อยก็กลายร่างจากอัลฟ่าเป็นจิ้งจกเลยเหรอ เกาะติดหนึบขนาดนี้

“พี่ภาส นิดปวดฉี่”
“อืม”
“อืมอะไร ปล่อยนิดก่อน ปวดฉี่”
“เห้อ...” ถึงจะไม่อยากปล่อยแต่ก็ต้องตัดใจปล่อยให้แมวดื้อออกจากอ้อมกอดอย่างเสียไม่ได้ ชายหนุ่มวัยสามสิบก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เขาน่ะอยากกอดเจ้าก้อนแป้งนี่ตลอดเวลา ไม่อยากให้ห่างไปไหนเลย

รู้ตัวอีกทีก็ดันเดินตามอีกฝ่ายเข้าห้องน้ำมาแล้วด้วย...
ตะนิดถลึงตามองเขาด้วยความไม่เข้าใจว่าจะเดินตามเข้าห้องน้ำมาทำไม และแน่นอนว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สัญชาตญาณมันบอกให้เดินมาเฉยๆ

“พี่ภาส นิดจะฉี่”
“...”
“พี่ภาส!”
“อ่า... มันจะฟังแปลกๆ ไหมถ้าจะขออยู่ในห้องน้ำด้วย ”
“โรคจิต!!!”
“ฟังแล้วมันก็ดูโรคจิตจริงๆ”
“...”
“แต่... ได้ไหม?”

แน่นอนว่าสุดท้ายเขาก็โดนอุ้งมือน้อยๆ ดันออกมารอหน้าประตูแทน ภาสทรุดตัวนั่งยองๆ ลงหน้าประตูห้องน้ำบานใหญ่ แขนแกร่งยกขึ้นนวดขมับตัวเองไปมา ตะนิดน่ะติดกลิ่นเขาจนชิน ไอ้ที่ชอบเอาตัวมาถู มาหน้ามาซุกแบบไม่รู้ตัวเขาโดนบ่อยจนแทบไม่ได้นับ

แต่ตอนนี้...
เขาดันมาติดกลิ่นแมวดื้อเอาซะเองเสียอย่างนั้น

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านฮีทแรกมาด้วยกันหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขาน่ะอยากอยู่ใกล้ตะนิดตลอดเวลา อยากกอด อยากหอม อยากได้กลิ่น แต่พอได้กอดเข้าจริงๆ แล้ว หัวก็คิดแต่ภาพเจ้าแมวยั่วเมื่อคืนนั้นจนเตลิดไปไกลไม่อยากหยุดอยู่แค่กอด

บ้าเอ๊ย...

แอ๊ด...

“พี่ภาสปล่อยกลิ่นแปลกๆ รึเปล่า” ตะนิดแง้มประตูห้องน้ำโผล่มาแต่ดวงตากลม ตอนแรกก็ตกใจนิดหน่อยที่เปิดมาไม่เจอใครแต่พอก้มเห็นอีกฝ่ายนั่งยองๆ อยู่ถึงค่อยหายตกใจหน่อย
“กลิ่นแปลกๆ?”
“อื้อ กลิ่นลาเวนเดอร์น่ะ”
“...”
“มันฉุนแปลกๆ”
“ฉุน?”
“อะหรือ อะหรือว่า!!!”
“...”
“พี่ภาสฮีทเหรอ!!!”
“ตะนิด พี่เป็นอัลฟ่า พี่ฮีทไม่ได้” ภาสลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เหนื่อยใจกับเจ้าแมวดื้อตรงหน้า เอาอะไรมาสงสัยว่าเขาฮีท
“แล้วทำไมกลิ่นพี่ภาสมันแปลกๆ”
“ทำธุระเสร็จรึยัง”
“ธุระ? อ๋อ ฉี่เสร็จแล้ว”
“ออกมา”   
“พี่ภาสปวดอึเหรอ” ตะนิดเปิดประตูห้องน้ำอย่างไม่เข้าใจ อารมณ์ไหนของลุงเขา อยู่ดีๆ ก็ขมวดคิ้วหงุดหงิด ปวดขี้แล้วพาลรึไง!
“แมวดื้อ...”

พอเปิดประตูห้องน้ำยังไม่ทันจะได้ก้าวขาออกมาดีอัลฟ่าหนุ่มก็คว้าตัวแมวดื้อขึ้นกอดก่อนจะพามานั่งตักบนเตียง แผ่นหลังเล็กแนบสนิทกับแผ่นอกกว้าง แขนแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกอดรัดร่างเล็กไว้แน่นประหนึ่งโซ่ชิ้นใหญ่

“จ๊ากพี่ภาส กะ กะ กอดอีกแล้ว” ดวงตากลมกะพริบด้วยความไม่เข้าใจ พี่ภาสอยู่ดีๆ ก็กลายร่างเป็นเด็กขาดความอบอุ่นกอดเขาแน่นมาตลอดตั้งแต่เช้า จมูกแข็งที่ซูกๆ จิ้มๆ แล้วซอกคอจั๊กจี๊จนต้องแอบหดคอหนี
“แมวดื้อ...”
“พี่ภาสสสสสสสส”
“แมวดื้อ”
“อะไรเล่า!”
“ถูๆ ไหม”
“ห๊ะ?”

ตะนิดหลุดอุทานด้วยความแปลกใจ ก่อนจะต้องอุทานเหวออีกรอบเมื่อจู่ๆ เจ้าของคำถามก็สอดมือเข้ามาใต้เสื้อยืดถือวิสาสะลูบไปทั่วหน้าท้องเขา

“พี่อยากถูเรา”
“ไม่ได้ไหม!! อยู่ดีๆ จะมาอยากถูกันได้ไง นิดไม่มีเลขเด็ดให้พี่ภาสหรอก”
“พี่รู้ว่าเรายังไม่ควรทำอะไรมากไปกว่านี้ เรื่องเก่ายังไม่ทันเคลียร์”
“...”
“แต่พี่อยากฟัดเราแทบบ้าแล้วแมวดื้อ”

จ๊ากกกกกกกกกกกกกก
อะไรครับเนี่ยยยยยยยยยยย

ตะนิดเลิ่กลั่กไปหมดกับพี่ภาสเวอร์ชั่นลามก มือเล็กรีบยกขึ้นดันหน้าอีกฝ่ายออกจากคอก่อนจะพยายามดุ๊กดิ๊กตัวให้หลุดจากอ้อมกอดงูเหลือมซึ่งแน่นอนว่า

ไม่ขยับเลยสักนิด
นี่แขนคนหรือตีนตุ๊กแก

“พี่ภาส เดี๋ยวก่อนเลย พี่ภาสรัทเหรอ?”
“เปล่า” ภาสตอบเสียงนิ่ง เขาไม่ได้รัท เพราะตะนิดเองก็ไม่ได้ฮีท ถึงจะมีกลิ่นฟุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นทำให้เขาเกิดปฏิกิริยาอะไร
“แล้วพี่ภาสจะมาอยากถูๆ นิดทำไม”
“ไม่ได้อยากถูๆ พี่อยากสอ-“
“จ๊ากกกกกกกกกกก นั่นแหละ! นั่นแหละ! หมายถึงนั่นแหละ!”
“ไม่รู้สิ”
“ห๊ะ”
“โทษที คุมตัวเองไม่ค่อยอยู่เลย” ภาสเอ่ยขอโทษแต่ก็ยังคงซุกจมูกอยู่กับลำคอขาว สูดกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชเข้าปอดพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ไปตามเนินไหล่ เสื้อยืดแมวดื้อดูเกะกะขึ้นมาทันที เขาอยากจะถอดเขวี้ยงทิ้งแต่ก็พยายามห้ามใจตัวเองไว้
“พี่ภาสดมๆ ไปก่อน ขอนิดหาข้อมูลแปปนึง” ตะนิดหยิบมือขึ้นมาไลน์หาคณิต แต่ผ่านไปเกือบห้านาทีคณิตก็ยังไม่ตอบ เขาเลยเบนไปที่กูเกิ้ล ว่าแต่พอมากูเกิ้ลเลยควรเสิร์ชว่าอะไรดี

อัลฟ่าฮีท?

ไม่สิ อัลฟ่าฮีทไม่ได้

งั้นอัลฟ่าตามติดเหมือนเงาแค้น เพราะอะไรครับ
จ๊ากกก ขึ้นเรื่องเล่าผีมาเฉยเลย เอาใหม่ๆ

อัลฟ่าติดกลิ่นมาก เพราะอะไร

โอเค น่าจะได้แล้วแหละ

ข้อมูลแรกที่ขึ้นมาคือมีอยู่สองกรณีคือหนึ่งหวงคู่ตอนท้องและกรณีที่สองคือหวงคู่ช่วงฮีท แน่นอนว่าตะนิดปล่อยมือถือล่วงตกพื้นทันที 

หะ หะ หวงโอเมก้าท้อง?

“พะ พี่ พี่ภาส หรือ หรือนิดท้อง”
“เพิ่งผ่านไปวันเดียวตะนิด กว่าอสุจิจะ-“
“จ๊ากกกก โอเคๆ ข้อสอง ข้อสองก็ได้!!!”
“ไหน ขอพี่ดู” ภาสผละออกจากเนินไหล่ขาวขึ้นมาชะโงกดูข้อมูลในมือถือคนบนตัก พออ่านดูก็ไม่ได้ไกลกว่าคิดไว้ตอนแรก
“พี่ภาส...”
“อืม”
“มัน มันทิ่มก้นรึเปล่า” ตะนิดหน้าแดงเถือกเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผงาดดันอยู่บริเวณก้น แมวดื้อลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มาทำเป็นชวนเขาถู ตัวเองอยากถูเองชัดๆ พี่ภาสที่จริงเป็นคนลามกนี่นา!!!
“ปกติอัลฟ่ารัทในช่วงโอเมก้าฮีทมักไม่จบที่รอบเดียวอยู่แล้ว คงเพราะน็อตเลยหยุดกลางคัน ว่าไงดี...”
“...”
“... มันไม่พอน่ะ”
“จะ จ๊าก”
“แต่พี่รู้ว่ามันก็ยังไม่ควร อย่างน้อยก็ให้พ้นช่วงสองอาทิตย์นี้ไปก่อน”
“พี่ภาส...”
“นั่งนิ่งๆ ให้หน่อย เดี๋ยวมันก็สงบเอง” ภาสพูดจบก็ถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะถอดแว่นออกเพื่อบี้หน้าลงกับไหล่เล็ก
ตะนิดได้แต่นั่งหลังตรงปล่อยให้อีกคนรัดแน่นด้วยความทำอะไรไม่ถูก แต่พอเห็นอีกฝ่ายทำแค่กอดไว้ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นก็ค่อยๆ ใจเย็นลง มือเล็กค่อยๆ ยกขึ้นลูบมือใหญ่ที่นาบอยู่บริเวณหน้าท้อง
“พี่ภาส...”
“หืม?”
“ถ้านิดท้อง จะทำไงดี” ประเด็นเดิมกลับมาอีกครั้งพร้อมกับแมวดื้อที่เสียงหงอยลงแต่ก็ดูไม่สับสนเหมือนวันแรก
“ถ้าถามพี่พี่ก็ยังยืนยันว่าถ้าท้องพี่ก็พร้อมจะรับผิดชอบ พี่รู้ว่าเรากังวลเรื่องที่ยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตเด็ก แต่... พี่พร้อมที่จะดูแลทั้งเราและเด็ก”
“...”
“ถ้าเกิดว่าเราท้องขึ้นมาจริงๆ พี่ก็อยากให้เก็บเขาไว้ พี่รู้ว่าเรื่องแบบนี้ควรจะใช้ความเห็นทั้งสองฝ่ายและเราเองก็เป็นคนอุ้มท้องไม่ใช่พี่ แต่ถ้าขอได้-“
“นิด.. ไม่เคยคิดเรื่องทำแท- เรื่องเอาเด็กออกเลยพี่ภาส”
“...”
“ถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ ต่อให้พี่ภาสไม่รับผิดชอบนิดหรือต่อให้ทุกคนบอกให้นิดไปเอาเด็กออกนิดก็ไม่ทำ”
“...”
“เพราะเขาเป็นลูกของนิด นิดมีสิทธิตัดสินใจ” ตะนิดจิกมือใหญ่ที่นาบบนหน้าท้องแน่นโดยไม่รู้ตัว
“แมวดื้อ”
“นิดไปอ่านหลายๆ อย่างมาเมื่อคืนเพราะนิดนอนไม่หลับเลยพี่ภาส มันก็มีหลายๆ ความคิดเห็น ต่างมุมมองกันไป ซึ่งนิดก็เข้าใจทุกมุมเลย แต่นิดชอบคำพูดหนึ่งของซิงเกิ้ลมัมในกระทู้หนึ่ง”
“...”
“เขาบอกว่าเขาไม่ได้เลือกทางเดินที่ดีที่สุดแต่เขาเลือกทางเดินที่จะไม่เสียใจไปกับมัน”
“ตะนิด...”
“วันนั้นคนที่ไม่ได้ป้องกันก็คือเราทั้งคู่ เพราะงั้นถ้าท้องจริงๆ นิดก็คงจะเลี้ยงเขาอยู่ดี นิดอาจจะพร้อมน้อยกว่าพี่ภาส แต่นิดจะพยายามให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่นิดทำได้”

ตะนิดในวันนี้เสียงดูมีสติกว่าวันแรกที่ยังสับสนทำอะไรไม่ถูกเยอะเสียจนภาสตกใจ ภาสถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะตวัดคว้ามือเล็กขึ้นมาบีบนวด

“ไว้สองอาทิตย์ค่อยมาคิดกันใหม่ ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย”
“พี่ภาส...”
“ขอจูบหน่อยแมวดื้อ” ตะนิดเอียงคอไปตามเสียงขออนุญาตก่อนที่ถูกประทับจูบแผ่วเบาลงมาบนริมฝีปาก ภาสค่อยๆ ขบเม้มสลับผละออกจากกลีบปากนิ่มด้วยความรู้สึกอุ่นซ่านในใจ มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบางเพื่อบีบนวดไปตามเอวบางและหน้าท้องนิ่ม ระหว่างที่กำลังเคลิ้มๆ ภาสก็รีบดึงหน้าตัวเองออกมา
“พี่ภาส?”
“อีกสองอาทิตย์...” ภาสถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเอื้อมไปหยิบแว่นมาใส่ เตรียมลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ตะนิดก็ลุกขึ้นรั้งแขนแกร่งไว้
“พี่ภาส”
“...?” อัลฟ่าหนุ่มได้แต่กะพริบตางงที่ถูกรั้งไว้
“นะ นิด”
“...”
“ถูๆ ให้ไหม”


พระเจ้า...
ภาสถึงกับอ้าปากงับลมอยู่เกือบนาที ในหัวตีกันให้วุ่นไปหมด ใจหนึ่งก็อยากให้แมวดื้อถูๆ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวมันจะเลยเถิดไปไกล ยังไม่ทันได้คิดอะไรดีแมวดื้อก็เดินมาผลักเขาแปะๆ ให้นั่งลงบนเตียงก่อนจะนั่งตักทับลงมา
“ตะนิด...”
“ห้ามพูดนะ”
“...” ตะนิดก้มหน้าชิดอก มือเล็กที่สั่นระริกค่อยๆ ดึงกางเกงเอวยางยืดของอัลฟ่าหนุ่มลงซึ่งแน่นอนว่าเจ้ามังกรยักษ์ก็ผงาดผึงเด้งตรงแสดงอิทธิฤทธิ์ทันที ภาสเม้มปากก่อนจะเบือนหน้าหนีไปที่กำแพงห้องนอน

ให้ตาย ให้ตาย ให้ตายเถอะ
แมวดื้อขี้อายมักจะชอบทำหรือพูดอะไรลามกโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันทำให้เขาห้ามใจยากขนาดไหน

ภาสสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสนุ่มนิ่มทาบลงมาพร้อมกับค่อยๆ เคลื่อนไหวเบาๆ มือเล็กแตะมังกรในมือด้วยความกล้าๆ กลัวๆ ทั้งๆ ที่ทำแค่แตะมันเบาๆ แต่มังกรกลับขู่ฟ่อผงาดสู้ทำเอาแมวดื้อเขินแก้มแทบระเบิดจนอยากหยุดมันเสียกลางคัน

“พี่ภาส”
“แมวดื้อ...”
“พี่ภาสรีบถึงได้ไหม นิดเขิน”

... แมวลามกอีกแล้ว
ภาสได้แต่คิดในใจ ส่วนตอนนี้ตาก็ได้แต่จ้องเพดานผ่านแว่นกรอบเหลี่ยมด้วยความอดทน แต่เสียงเฉอะแฉะจากด้านล่างก็ดูจะไม่เป็นใจจนภาสได้แต่ขบฟันกรอดเพื่ออดกลั้นไม่ให้เผลอก้มลงไปมองแมวดื้อที่นั่งปฏิบัติการณ์เค้นมังกรอยู่บนตัก

ขืนก้มลงไปมองก้อนแป้งน่ารักขยับมือเขินๆ
... เขาคงห้ามใจตัวเองไม่ไหว 

“อา... ตะนิด”
“พี่ภาสอย่าครางได้ไหม!!!”
“ซี้ด”
“โอย ลามก”
“อา...”
“ฮือ พี่ภาสอย่าเด้งเอวสู้!!!”

ไม่ไหวแล้ว!!!
ภาสสะบัดแว่นออกจากหน้าก่อนจะก้มลงชันหน้าดื้อขึ้นจูบ ริมฝีปากหนาขบเม้มริมฝีปากนุ่มด้วยความแรงอารมณ์ เกลียวลิ้นพันเกี่ยวและผละออกก่อนจะกดย้ำสัมผัสซ้ำๆ จนคนใต้ร่างครางเสียงอ่อย อัลฟ่าหนุ่มไล้มือลงไปแถวสะโพกนุ่มก่อนจะบีบเคล้นผ่านเนื้อผ้าเบาๆ แค่ถึงภาพถึงก้อนพีชนุ่มมือที่เคยบีบเมื่อคืนสติก็แทบจะเตลิด

“อา ตะนิด แมวดื้อของพี่”
“พี่ภาส... เอ๊อะ!!”

ตะนิดสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ร่างสูงก็กระตุกเกร็ง มังกรผงาดในมือสั่นระริกก่อนจะปลดปล่อยหยาดหยดออกมาเต็มแรงจนกระเด็นเปื้อนไปถึงแก้มนุ่ม แมวดื้อกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะยกมือที่เต็มไปด้วยคราบเหนียวสีขาวขึ้นชู
ภาสหายใจหอบพลางตบเตียงคว้าแว่นขึ้นมาสวมก่อนจะก้มลงมองสงครามที่เพิ่งจบ ซึ่งก็สบตากับแมวดื้อที่เงยขึ้นมาอย่างพอดิบพอดี

“พะ พี่ภาส”
“...” ภาสมองไปที่คราบขาวบนแก้มนุ่มนั่นก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดออกให้ ซึ่งตะนิดก็มองตามนิ้วอัลฟ่าหนุ่มไปก่อนจะหันกลับมาตาโต
“พี่ภาสแตกใส่หน้านิด!!!!”

โอย ดูใช้คำเข้า...
ภาสถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเพดาน พยายามท่องเอถึงแซดกลบประโยคสั้นๆ ของแมวดื้อเมื่อกี้ให้ได้มากที่สุด

“ตะนิด...”
“เอ้ย พี่ภาสแข็งอีกแล้ว!!!!”


สองอาทิตย์อะไรกัน
แค่สองนาทีเขาก็จะเป็นบ้ากับแมวลามกตัวนี้แล้ว!!!!



 

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 15-08-2020 20:53:51
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-08-2020 21:16:28
แมวลามกคิคิ :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-08-2020 21:44:17
ตะนิด..พี่ภาสจะขำพรึดเพราะหนูตลกไม่หยุดนี่แหละ  :m20:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-08-2020 00:50:03
พี่พาสเก็บกด  พอสึกออกมาได้ก็เอาใหญ่เลย
เนี่ย เจ้าแงวไม่ผิดซะหน่อย พี่พาสเก็บกดต่างหาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 16-08-2020 01:08:14
แมวดื้อเอ้ยยย อดทนไว้ก่อนนะพี่ภาส
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 16-08-2020 07:41:51
หรือจะเป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าตัวเล็กกำลังจะมาาาา :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-08-2020 09:36:47
สงสารพี่ภาสจริงๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 16-08-2020 19:53:48
แง หายใจไม่ทั้วท้องเลย หืดหาดมาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 18-08-2020 12:18:00
ตะนิดลู้กก หนูต้องหยุดลามกเด่วนี้ พี่ถาสเพิ่งสึก ม้าศึกกำลังคึก!  :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 23 : แมวลามก [15/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-08-2020 20:06:58
55555 น้องไม่ลามกเท่าพี่ภาสหรอก
ตะนิดออกจะเป็นคนซื่อ มีอะไรต้องบอกต้องพูด

ภาสก็อดทนหน่อยนะ อยากถูๆ ก็ต้องอดทน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 28-08-2020 21:53:49
ก็จะดื้อ 24



ช่วงเวลาหนึ่งวันสำหรับตะนิด ปกติแล้วมันจะผ่านไปค่อนข้างช้า ได้แต่ภาวนาให้หมดเวลาทำงานไวๆ แต่เข็มนาฬิกาก็เดินแต่กๆ ช้าเหมือนเดิม

แต่ทว่า
ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น หนึ่งวันของเขามันช่างมันไปอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน เผลอแปปเดียวพรุ่งนี้ก็จะครบสองอาทิตย์แล้ว

ตะนิดได้ยืนมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ แขนเล็กยกขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ พูดก็พูดเถอะว่าตั้งแต่วันที่กินยาคุมเขาก็เริ่มวิตกว่าตัวเองท้อง สุดท้ายพอเข้าห้องน้ำปุ๋งก้อนอึสุขภาพดีออก ท้องก็ยุบลงมาตามเดิม พอกินอะไรเยอะหน่อยก็เริ่มคิดว่าตัวเองท้องหรือเปล่าเลยกินจุแต่สุดท้ายอัลฟ่าหน้าดุก็ส่ายหัวบอกว่าเขาน่ะกินเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่แปลกหรอกที่จะกินจนท้องยื่น

เห้อ...
จะท้องไหมวะเนี่ย

ดวงตากลมเงยขึ้นมองตัวเองผ่านกระจกอีกครั้ง เขาพิจารณามองตัวเองก่อนจะเม้มปาก กระจกตรงหน้าสะท้อนเงาของผู้ชายคนหนึ่งที่รู้ตัวเองดีว่ามีนิสัยเหมือนเด็กไม่โต คนรอบตัวเขามักบ่นอยู่เสมอ

เขาเป็นเด็กไม่มีความรับผิดชอบ เอาแต่ใจ ทำอะไรไม่คิด โตไม่เท่าอายุ
ทุกอย่างนั่นเขารู้ดี เขารับฟังมาตลอดตั้งแต่เด็กยันโต บางอย่างเขาก็พยายามแก้ไขมันแต่พอติดเป็นนิสัยมันก็แอบทำไปไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนบ่นนั่นแหละ

...คนอย่างเขา
จะรับผิดชอบหนึ่งชีวิตไหวได้อย่างที่ปากพูดบอกอีกคนไปได้จริงเหรอ?

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนมีเด็ก แค่ตอนท้องจะไหวหรือเปล่า จะเจ็บไหม ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง จะแพ้ท้องหนักเหมือนในละครไหม จะอ้วกไม่หยุด จะเหม็นสามีเหมือนในกระทู้ที่อ่านไหมนะ
 

“ทำอะไร” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับแรงสะกิดเบาๆ ที่หลัง แมวดื้อสะดุ้งเฮือกตัวโยนก่อนจะหันตัวกลับไปเผชิญหน้าอีกฝ่าย
“นิดเปล่า!!!”
“ตอนแรกก็คิดว่าไม่ได้มีอะไร แต่พอเราเสียงดังแบบนี้ก็รู้สึกมีพิรุธแปลกๆ”
“เห้ย พี่ภาส ใส่ร้ายเนี่ยใส่ร้าย”
“เดี๋ยวพี่จะออกไปคุยงานที่ห้าง เราจะออกไปด้วยไหม” ภาสวาดแขนจับเอวบางไว้เบาๆ ก่อนจะก้มซุกจมูกลงกับเนินไหล่คนตัวเล็ก ตะนิดหดคอหนีสัมผัสจั๊กจี้พร้อมกับยกมือดันหน้าอีกคนออก
“พี่ภาสไม่วุ่นวาย”
“ทำไม่ได้ พี่บอกเราแล้วนี่” ตอบหน้าตายแถมยังตอแยต่ออีก
“มันจั๊กจี้!!!”
“อืม”
“พี่ภาสไม่ดื้อ”

“หึ”

 ตะนิดขมวดคิ้วให้กับภาพสะท้อนในกระจก อีกฝ่ายน่ะตัวสูงกว่าเขาเยอะมากแต่ก็ยังพยายามในการก้มตัวมาวุ่นวาย เอาจมูกมาถูๆ ดมๆ แต่พอมองขึ้นไปเห็นว่าดวงตาที่มองเขาผ่านแว่นกรอบเหลี่ยมนั่นเต็มไปด้วยความเอ็นดูขนาดไหนก็อดที่จะรีบเมินหน้าเสียไม่ได้

บ้าเอ๊ย...
มามองกันด้วยสายตาลวนลามขนาดนั้นได้ยังไงกันเล่า!!!! 

“ไปด้วยก็ได้ นิดอยากซื้อสตอเบอร์รี่มาลองทำนมสตอเบอเบอร์รี่ที่เขาฮิตกันอยู่พอดี” 
“อืม” ภาสกดจูบลงบนเนินไหล่ขาวก่อนจะผละออกไปเซทผม ถึงแม้จะใช้มือจับเจลเซทผมให้เป็นทรง แต่ดวงตาใต้กรอบแว่นก็ยังคงเหลือบไปมองเจ้าก้อนแป้งที่เดินไปเลือกชุด

เขาติดตะนิดมากแบบที่ตัวเองรู้ว่าผิดปกติ
ช่วงที่ปล่อยตะนิดไปทำงานเขากลับเป็นฝ่ายหงุดหงิดจนแทบทำงานทำการไม่ได้จนวินเซนต์ต้องมาช่วยจัดการงานบางส่วนให้ เขายังไม่อยากจะคอนเฟิร์มอะไรมากนัก เพราะยังไม่มั่นใจว่าเป็นอาการหวงคู่หลังจากการร่วมรักกับคู่แห่งโชคชะตาครั้งแรกหรือเพราะเป็นสัญญาณหวงคู่ที่ตั้งครรภ์

...เดี๋ยววันพรุ่งนี้ก็คงรู้

“เสื้อยืดลายปลาฉลามนิดไปไหนแล้วอ่ะ”
“...”
“จะว่าไปคุณนุ่มเบอร์ห้าตัวนุ่มขึ้นเยอะเลยช่วงนี้ พี่ภาสจับซักเหรอ” แมวดื้อเอียงคอมองไปที่เจ้าตุ๊กตาฉลามลูกรักที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง จะว่าชอบก็ชอบหรอกนะ แต่สงสัยเฉยๆ ว่าน้องไปนิ่มขนาดนั้นได้ยังไง ปกติหงอนคุณนุ่มน่ะจะแข็งนิดหน่อยแต่ช่วงนี้น้องตัวเหลวจนหงอกหัก
...แน่นอนว่าภาสเลือกที่จะไม่ตอบ
 ขืนบอกไปว่าเขาน่ะจับมันฟาดนู่นฟาดนี่ทุกครั้งที่มีโอกาส แมวดื้อคงได้พองแก้มงอนไปอีกหลายวันแน่ อัลฟ่าหนุ่มแกล้งทำเป็นตั้งใจเซทผมแต่ก็ยังมิวายเหลือบตามองโอเมก้าตัวน้อยที่หยิบเสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวมาสวม
มาอีกแล้วแฟชั่นเสื้อพ่อของแมวดื้อ
เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ตะนิดน่ะชอบใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ ทั้งเสื้อยืดตัวใหญ่ กางเกงที่เอวดูเล็กแต่ช่วงขาใหญ่หลวมโพรก เสื้อบางตัวที่มีก็ใหญ่มากขนาดเขาใส่ยังหลวม ข้อดีคือมันไม่รัดรูป ข้อเสียคือเวลาก้มตัวจะเกิดช่องว่างขนาดใหญที่คอเสื้อจนเห็นอะไรต่อมิอะไรไปหมด 

“ไมวันนี้พี่ภาสเซทผมนาน”
“...” พอถูกทักเข้าเลยต้องรีบดึงสติกลับมาปาดผมเซทอีกสองสามที วันนี้อัลฟ่าหนุ่มเลือกสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวผ้าฝ้ายกับกางเกงสแลคสีน้ำตาลเข้มและไม่ลืมหยิบนาฬิกาเรือนเก่งมาสวมในขั้นตอนสุดท้าย
“พี่ภาส”
“หืม?”
“นิดชอบเวลาพี่ภาสใส่เสื้อเชิ้ตนะ” แมวดื้อจ้องนิ่งที่เสื้อผ้าอีกฝ่าย พี่ภาสน่ะไหล่กว้างเวลาใส่เสื้อเชิ้ตเลยดูแสนคูล
“พี่ก็ชอบเวลาเราใส่เสื้อเชิ้ต”
“เรอะ นิดแสนเท่เหรอ”
“...”

เปล่า...
ดูน่ารัก ยิ่งถ้าใส่เสื้อเชิ้ตของเขาก็จะยิ่งน่ารัก
ภาสเลือกที่จะตอบในใจ กลัวคำตอบจะขัดใจเสือร้ายแห่งยุคแล้วอีกฝ่ายจะหันมาตะปบ ดีที่แมวดื้อเองก็ไม่ได้สนใจคำตอบอะไรมาก

พอแต่งตัวเสร็จก็เตรียมเดินออกไปจากห้องไปหาอะไรกินรองท้อง ซึ่งภาสเองก็ผละตัวเดินออกตามไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเองมากนัก ไม่ได้อยากจะตัวติดกับแมวดื้อขนาดนี้หรอก กลัวอีกฝ่ายอึดอัด แต่บางครั้งก็ห้ามตัวเองไม่อยู่เลยจริงๆ
ตะนิดเดินลงมาหยิบซีเรียลฟรุ๊ตลูปและนมสดเทลงถ้วยก่อนจะตักกินกร้วมๆ รออัลฟ่าหน้าดุชงกาแฟ จะว่าไปวิถีชีวิตก็เป็นแบบนี้จนชินตาแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่เลย ตอนนี้ดันกลายเป็นชีวิตประจำวันไปเสียอย่างนั้น
ระหว่างที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนั่นเอง ตะนิดก็สะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ถึงจมูกที่มาคลอเคลียแถวหลังคอ ไหนจะความเย็นจากกรอบแว่นที่มาชนๆ อยู่แถวแก้มอีก
“เอ้ย พี่ภาส!!!”
“หอมนม”
“มันตกใจนะ!!!” แมวดื้อโวยวายลั่นห้องพร้อมกับใช้ช้อนฟาดจมูกคมที่มาซุกไซร้อยู่
“อีกตั้งสองชั่วโมงกว่าจะเวลานัด”
“แล้วไงอ่ะ”
“ถูๆ ไหม?”
“พี่ภาส!!!” จ๊ากเลยจ๊าก เปิดโหมดเสี่ยโรคจิตแล้ว!!! พี่ภาสเปิดโหมดลามกอีกแล้ว!!!!
“แมวดื้อ”
“พี่ภาสต้องหาหมอแล้วนะ มันแปลกแล้วเนี่ย” ตะนิดดิ้นดุ๊กๆ หนีสันจมูกคม ในช่วงสองอาทิตย์นี้อีกฝ่ายเปิดโหมดออโต้ลามกไว้ตอลด โดยเฉพาะก่อนนอนได้มีลูบนั่นลูบนี่ให้ต้องโวยวายดุทุกวัน แต่แน่นอนว่าด้วยชั่วโมงบินที่สูงกว่าสุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่นอนตัวแดงให้อีกฝ่ายถูๆ จนเสร็จอยู่ทุกคืน
“นั่นสิ...”
“นั่นสิอะไรครับเนี่ยยยยย”
“แมวดื้อ จูบหน่อย”
“พี่ภาส นิดกินซีเรียลอยู่”
“เคี้ยวให้เสร็จก่อน”
 
โอ๊ยยยยยย พี่ภาสเหมือนเด็กเลยยยยยยย
ตะนิดได้แต่กรีดร้องในใจแต่สุดท้ายก็เคี้ยวซีเรียลในปากให้หมดพร้อมกับซดนมจนเกลี้ยงถ้วยถึงค่อย ลุกขึ้นนั่งบนโต๊ะเพื่อยื่หน้าไปให้อีกฝ่ายจูบ และก็เหมือนกับทุกครั้งที่จูบกัน ตะนิดมักจะเป็นฝ่ายหายใจไม่ทันอยู่เสมอ อุตส่าห์พยายามงับปากสู้สุดใจในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ระทวยตัวอ่อนจนต้องทุบบ่าให้อีกคนหยุดพัก ตอนนั้นเองที่เพิ่งรู้ว่า

โดนดันหลังจนนอนราบไปกับโต๊ะอีกแล้ว!!!
ท่าสุ่มเสี่ยงที่สุด!!!   

“พะ พอก่อนพี่ภาส”
“อีกนิด”
“ไม่เอาแล้ว”
“...”
“...เดี๋ยวเลยเถิด” ตะนิดดันหน้าดุที่ซุกอยู่ตรงคอออก
“ไม่หรอก”
“หรอพี่ภาสหรอ มือตัวเองอยู่ไหนเอ่ย”

อยู่ไหนล่ะ?
ภาสขยับมือตัวเองถึงได้รู้ว่าข้างซ้ายสอดอยู่ในขากางเกงขาสั้นส่วนข้างขวาสอดอยู่ใต้เสื้อยืดตัวใหญ่ของแมวดื้อ

อ่า...
ไม่รู้ตัวเลยแฮะ ว่ามือไวขนาดนี้

“พอก่อนพี่ภาส มีคุยงาน” ตะนิดดึงหูคนด้านบนไปมาอย่างหยอกล้อ คนแก่ลามกได้ทีก็ลามกไม่หยุดเลย แล้วไอ้หน้าเหมือนจะงอนๆ นิดหน่อยนี่มันอะไรกัน
“...”
“อะไร มองแบบนี้ทำไมเนี่ย”
“อยากแต่งงานไหม”
“ห๊ะ... เดี๋ยวพี่ภาส เดี๋ยว อารมณ์ไหนเนี่ย”
“นั่นสิ...” ภาสหัวเราะในลำคอ ตลกตัวเองเหมือนกันที่จู่ๆ พูดเรื่องแต่งงานออกไปเสียอย่างนั้น เขาก้มลงไปจุ๊บปากเล็กหนึ่งครั้งก่อนจะผละตัวออกมาเกาท้ายทอยแก้เก้อ ตะนิดผุดตัวลุกขึ้นนั่งพลางลูบผมที่ฟูฟ่องให้เข้าที่ ดวงตากลมกะพริบปริบๆ มองคนแก่กว่าที่ยืนตัวงอๆ
“พี่ภาส”
“หืม”
“ทำไมยืนตัวงอ” ภาสถอนหายใจยาวเหยียดให้กับคำถาม
“ปวดน่ะ”
“ปวดหลังเหรอ?”
“อืม ประมาณนั้น” อัลฟ่าหนุ่มขยับมือปลดกระดุมกางเกงคลายความคับแน่นก่อนจะเดินเลี่ยงตัวไปเข้าห้องน้ำ
กว่าจะได้ออกจริงๆ บวกกับรถติดบนถนนจนแทบไม่ขยับกว่าจะถึงจุดหมายได้ก็เกือบจะได้เวลานัด ภาสนัดคุยงานไว้ที่ร้านกาแฟ หากเป็นปกติเขาคงปล่อยให้ตะนิดไปเดินเล่นแล้วค่อยนัดมาเจอหลังคุยงานเสร็จ แต่ด้วยอารมณ์ปัจจุบันที่รู้สึกอยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา เขาเลยตัดสินใจหิ้วแมวดื้อเข้ามานั่งคุยงานด้วย ตอนนั้นเองเขาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรเพราะวินเซนต์เองก็พาลี่มาด้วย ดีที่แมวดื้อจะได้มีเพื่อนนั่งคุย

จนกระทั่งเห็นสายตาของลูกค้าที่เหลือบมองแมวดื้อเขาเป็นจังหวะนั่นแหละ
...ดูท่าทางจะมีคนอยากมีปัญหาเสียแล้ว

“คุณวีครับ” ภาสยกนิ้วชี้ขึ้นเคาะโต๊ะสองครั้งเพื่อเรียกสติคู่สนทนา
“คุณภาส สงสัยตรงไหนหรือเปล่าครับ”
“รบกวนอธิบายเรื่องแผนช่วงปลายปีของฝั่งคุณทีนะครับ”
“อ๋อ ได้ครับ” คู่สนทนารับคำเขาด้วยรอยยิ้มก่อนที่ตาจะเหลือบไปมองแมวดื้อของเขาที่นั่งดูดน้ำส้มเล่นมือถืออยู่ข้างๆ ภาสกำหมัดแน่นพลางพยายามสูดลมหายใจดึงความอดทนของตัวเองไว้
“เอ๊อะ... พี่ภาส” แมวดื้อสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบยกมือกระตุกชายเสื้ออัลฟ่าข้างตัว
“หืม?”
“พี่ภาสขู่เหรอ”
“เปล่านี่”
“...” แต่กลิ่นเหมือนเลยนี่นา ตะนิดขมวดคิ้วมุ่น ขนาดพี่ลี่ที่นั่งอยู่อีกโต๊ะยังชะงักตัวเลย เขามั่นใจว่าพี่ภาสเพิ่งปล่อยฟีโรโมนขู่ออกมาชัดๆ
“ว่าแต่นี่น้องชายคุณภาสเหรอครับ ไม่เคยเห็นเลย”
“...”
“ผมวีนะครับ แล้วนี่ถ้าเป็นน้องชายคุณภาส ใช่คุณภูเขา ลูกคนเล็กรึเปล่าครับ?”
“อ๋อ ไม่ใช่ครับ”
“อ๋า งั้นคุณภีม”
“ไม่ใช่ครับ”
“อ้าว งั้น-“
“ไม่ใช่น้องครับ... เป็นฟะ แฟน” ตะนิดเกาหัวเสียงอ่อยก่อนจะกระเถิบก้นดึ๊บๆ เข้าไปหาอัลฟ่าข้างกายที่ตอนนี้หน้านิ่งออกอาการดุอย่างเต็มที่ จะไม่ให้หงุดหงิดได้ยังไง บ้านเขาเป็นอัลฟ่าทั้งตระกูล รู้ชื่อน้องชายครบขนาดนี้ก็คงจะพอรู้จักประวัติครอบครัวเขาอยู่พอตัว

สมกับที่เป็นลูกค้าที่รู้จักวินเซนต์
... กวนประสาท

“ไปนั่งเล่นกับลี่ตรงนั้นก่อนไป” ภาสตัดสินใจให้ตะนิดออกไปนั่งเล่นกับลี่ที่นั่ง ซึ่งแมวดื้อก็ลุกไปอย่างงงๆ แต่ก็ดีแล้ว นั่งฟังนักธุรกิจคุยงานเข้าไม่ถึง ชวนพี่ลี่เล่นฟรีไฟร์ดีกว่าเยอะ ถึงจะแยกออกมานั่งแต่เขาก็พอจะรู้ว่าพี่ภาสหงุดหงิดเสียแล้ว ปกติหน้าก็ดุอยู่แล้ว พออารมณ์เสียยิ่งดูดุเข้าไปใหญ่
นั่งเล่นอยู่กับลี่ไปสักพัก ตะนิดก็เรอเอิ้กน้ำส้มออเรนจิน่าผสมราสเบอร์รี่ไซรัปที่กินไปสามแก้ว พุ่งน้อยเริ่มตุ่ยน้ำออกมาเล็กน้อย
“พี่ลี่ นิดไปเข้าห้องน้ำนะ”
“หือ? อีกแล้วเหรอ เหมือนเพิ่งพาไปเข้าเอง ให้พี่ไปด้วยไหม”
“ไม่เป็นไรครับ” ตะนิดโบกมือปฏิเสธ ดีที่ห้องน้ำไม่ได้อยู่ไกลจากร้านกาแฟมากนักแถมยังลากพี่ลี่ไปเข้ามาแล้วสองรอบ รู้ทางเดินไปกลับอะไรอย่างดี เขาเลยเดินชิวฮัมเพลงยูเมคมีฟิลสเปเชี่ยลของทไวซ์
“เอ่อ ขอโทษนะครับ”
“ยูเมคมีฟีลโซสเปเชี่ยววว นานาดาดาบุลบลุ๊กๆ บุงทาโก ดะบุมบุ๋มๆๆๆเยชิลาโด ทะชิบุ่งๆนาชิชิโซ้ แดดวอทยูดู้”
“ขอโทษนะครับ”
“โอะ” ตะนิดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกสะกดเบาๆ ที่ไหล่ เมื่อหันกลับไปก็พบว่าเป็นผู้ชายร่างสูงกำลังยิ้มตาปิดอยู่
“ตกใจเหรอครับ พอดีเรียกแล้วสงสัยไม่ได้ยิน”
“อ้อ ครับ”
“น้องทำของหล่นไว้ครับ” อีกฝ่ายยื่นหูฟังแอร์พอตมา ตะนิดเลยรีบคลำหูตัวเองก่อนจะค้นพบว่า

...เราไม่มีแอร์พอตนี่หว่า
คลำทำไมวะ

“เอ๊ะ ไม่ใช่ของผมครับ”
“อ้าว งั้นเหรอครับ แต่เห็นตกมาจากกางเกงน้องเมื่อกี้เลย”
“ห๊ะ เอ๊ะ หรือใช่” หรือนั่งทับหูฟังพี่ลี่มาหว่า ตะนิดขมวดคิ้วมุ่น
“อ้าว ยังไงเนี่ย”
“เอ่อ ผมอาจจะนั่งทับของพี่มามั้งครับ” ตะนิดเอื้อมมือจะไปหยิบแต่อีกฝ่ายก็ดึงมือหนี
“ก่อนเอาไปบอกชื่อก่อนได้ไหมครับ”
“ผม? อ่อ ผมตะนิดครับ”
“ของพี่ที่ว่านี่ของแฟนรึเปล่า”
“เอ้ย ไม่ใช่ครับ” ถึงจะเคยจูบกับพี่ีลี่ไปแล้วก็เถอะ ตะนิดหัวเราะในใจ
“งั้นดีเลย พี่ชื่อ-“
“แมวดื้อ”

 เสียงเข้มดังขึ้นมาจากฝั่งด้านหลังของคนแปลกหน้า ซึ่งตะนิดชะเง้อคอมองตามเสียงเรียก
“พี่ภาส คุยงานเสร็จแล้วเหรอ” ตะนิดยิ้มกว้างพร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปหาคนหน้าดุที่ยืนมองอยู่ ภาสอ้าแขนโอบตะนิดเข้ามากอดไว้ก่อนจะตวัดตามองเบต้าที่ยืนอยู่ไม่ไกล ซึ่งอีกฝ่ายก็สะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบหันหลังเดินหนีไป 
“จะไปไหน”
“ปวดฉี่ ฉี่จะแตกแล้วววว”
“ไป” ภาสปล่อยแมวดื้อออกจากอ้อมกอดแต่ยังคงพาดแขนไว้ที่บ่าเล็ก
“อ้าว พี่คนนั้นไปไหนแล้ว”
“เห็นวิ่งไปแล้ว ป่ะ ไปห้องน้ำ” ตะนิดขมวดคิ้วงงเล็กน้อย
“อ้าว งี้พี่คนนั้นก็เอาแอร์พอตพี่ลี่ไปด้วยดิ ขโมยรึเปล่า!!! ขโมย!!!!”
“ช่างมัน วินเซนต์ซื้อใหม่ให้ลี่สักร้อยอันก็ได้”
“เอามาทำไมร้อยอัน มีแค่สองหู พี่ภาสเพ้อเจ้อ” ภาสไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ดันหลังเล็กให้ออกตัวเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาทิ้งลูกค้าไว้ที่โต๊ะทันทีหลังจากที่เงยหน้ามาไม่เจอแมวดื้อนั่งอยู่ พอถามจากลี่ก็ได้ความว่าออกไปเข้าห้องน้ำ
ทั้งๆ ที่แค่ไปเข้าห้องน้ำ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ใจเขามันก็ว้าวุ่นไปหมดเมื่ออีกฝ่ายไม่อยู่ในสายตา ยิ่งหลังจากตามออกมาเห็นยืนคุยกับคนอื่นเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดเสียจนอยากกระชากเบต้าเหวี่ยงไปให้ไกลจากโอเมก้าของเขาให้ได้มากที่สุด
“ไอ้หยาาาา ปวดฉี่นะเนี่ยน้าา” ตะนิดเดินห่อไหล่เข้าไปยืนประจำโถ เตรียมจะปลดปล่อยน้ำส้มออเรนจิน่าออกจากพุงน้ำ แต่ตากลมก็เหลือบเห็นเงาใหญ่ที่ซ้อนมาจากด้านหลัง

เห้ยๆ...
เดี๋ยวนะเดี๋ยว

“ทำธุระไปสิ”
“พะ พี่ภาส มายืนซ้อนทำไมเนี่ย”
“รีบทำธุระไป”
“จะบ้าเรอะ ให้นิดเยี่ยวให้พี่ภาสดูรึไง”
“ใช่”
“จ๊ากพี่ภาส” ตะนิดอ้าปากพะงาบๆ
“หรือจะเข้าห้องน้ำล่ะ”

ภาสเหลือบตามองไปที่ห้องน้ำห้องที่ว่างอยู่ ซึ่งตะนิดก็มองตามไปก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ถ้าเลือกเข้าห้องน้ำแบบปิดประตูได้นี่ ไอ้ลุงโรคจิตคนนี้ต้องมุดตัวตามเข้าไปแหง ดูทรงแล้วห้องน้ำอันตรายกว่าโถยืนอีก 

“พี่ภาส...”
“ไม่ปวดแล้วเหรอ?”
“ฮือ พี่ภาสลามก พี่ภาสลามก” ตะนิดเบะปาก มือเล็กกำแน่นด้วยความปวดฉี่จนขาต้องกระทืบพื้นดุ๊กดิ๊ก สุดท้ายก็ทนไม่ไหวรีบปลดกางเกงทำธุระทั้งๆ ที่แก้มแดงจนเกือบระเบิด
เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตะนิดได้แต่ภาวนาให้ของเสียของตัวเองรีบๆ หยุดทำการเขื่อนแตก แต่น้ำส้มสามแก้วก็ไม่มีเห็นใจ ทำเอากว่าจะเสร็จธุระ แมวดื้อก็ตัวเองเป็นกุ้งต้ม ตะนิดรีบเก็บมังกรยักษ์เข้าที่ก่อนจะมุดตัวหนีกำแพงอัลฟ่ายักษ์ไปล้างมือ ระหว่างถูสบู่ที่มือไปตะนิดก็เงยหน้าขึ้นมองอัลฟ่าหน้าดุที่ยืนอยู่ข้างหลังผ่านกระจก
“ตะนิด”
“หืม?”
“จูบไหม”

จ๊าก...
โอเมก้าตัวน้อยสะดุ้งโหยง เตรียมมุดหนีคนลากมก แต่ก็ถูกแขนแกร่งรั้งเข้ามากอดไว้เบาๆ ภาสค่อยๆ ดันคนตัวเล็กกว่าเข้าห้องน้ำพร้อมกับลงกลอนล็อคประตู

“พะ พี่ภาส”
“จูบหน่อยเด็กดื้อ”
“พี่ภาสนี่มันห้องน้ำนะ”
“แค่จูบ”
“ตะ แต่...”
“นะ เด็กดี”


แง
ตะนิดเบะปากแต่สุดท้ายก็ยอมยกมือขึ้นคล้องคอคนตัวสูงไว้

ยอมเพราะเรียกว่าเด็กดีหรอกนะ!!!


ว่าแต่
เมื่อไหร่พี่ภาสจะหยุดติดกลิ่นสักทีเนี่ย ปากช้ำไปหมดแล้ว!!!!! 


---
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-08-2020 23:07:09
ถ้านิดท้อง ภาสจะอาการหนักขนาดไหน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-08-2020 23:12:09
พี่ภาส...อาการหนักแล้วจ้าพ่อ...อออออ  o18
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 28-08-2020 23:34:46
พี่ภาสอาการหนักกว่าใครเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-08-2020 00:25:18
ต้องพาพี่ภาสไปถ้ำกระบอกมั้ย
พี่ภาสจะลงแดงมั้ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-08-2020 09:03:18
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 29-08-2020 16:22:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-08-2020 17:09:58
มีน้องเถอะ โอมเพี้ยง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 29-08-2020 23:59:21
โอ้ยยย พี่ภาสสส ติดแมวดื้อขั้นโคม่าแล้ว หนักแล้วววพี่ภาส
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 04-09-2020 18:16:58
แน่ๆเลย เจ้าตัวเล็กมาแล้วแน่ๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย ที่ 04-09-2020 20:34:39
พี่ภาสพอสึกแล้วธาตุไฟเข้าแทรกเลยร้อ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 09-09-2020 07:32:15
น่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 09-09-2020 22:16:15
เป็นน่ารัก น่าน้วยไปหมดเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 10-09-2020 21:33:58
เป็นกำลังใจให้พี่ภาส 55555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 11-09-2020 00:12:25
เหนื่อยหน่อยนะพี่ภาส
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 12-09-2020 08:32:45
คู่แฝดพี่ก็ใช่ย่อย มีเรื้องแยกป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 12-09-2020 08:50:49
รออุ้มหลานเลยมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 12-09-2020 09:12:38
พี่ภาสอาการหนักมาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 24 : หวงแมว [28/08/20] p.7
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 12-09-2020 18:40:41
รอค่าาาา
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 14-09-2020 19:42:34
ก็จะดื้อ 25


ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตมา บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินประโยคแปลกๆ ให้ต้องอุทานว่า ‘จริงเหรอวะ?’ ในความคิด และสำหรับตะนิดประโยคนั้นก็คือ

อย่าคิดมาก เดี๋ยวเยี่ยวเหนียว

และในวันนี้ตะนิดก็ได้พิสูจน์แล้วว่า
เยี่ยวไม่เหนียว แต่ที่เหนียวคือมือชื้นเหงื่อต่างหาก!!!!

ขณะนี่โอเมก้าตัวน้อยก็ได้แต่ถือที่ตรวจครรภ์กับกระบอกปัสสาวะคลอไปด้วยเสียงเต้นของหัวใจที่ดังจนแทบทะลุออกมาจากอก และถัดไปจากบานประตูก็มีร่างของอัลฟ่าหนุ่มที่อยู่ในภาวะเดียวกัน
ภาสล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงประหนึ่งคนที่กำลังอยู่ในสภาวะสบายๆ ไม่ได้คิดมากอะไร แต่แท้จริงแล้วมือใต้กางเกงแสลคนั่นกำแน่นจนรู้สึกปวด ดวงตาดุใต้กรอบแว่นเหลี่ยมจ้องนิ่งไปที่บานประตูก่อนจะใช้หน้าผากอิงลงไปเบาๆ

“ตะนิด อย่าเงียบนาน พี่เป็นห่วง” ภาสเอ่ยเสียงแผ่ว มือใหญ่เคาะบานประตูเบาๆ ให้มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตกใจกับผลจนเป็นลมไปแล้ว
“พะ พี่ภาสนิดยังไม่ได้ดู”
“ทำธุระเสร็จแล้วก็เปิดให้พี่เข้าไป” ภาสเคาะนิ้วชี้เบาๆ เป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาต้องการที่จะเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนตะนิดที่นั่งอยู่บนโถก็ได้แต่เม้มปากแน่น แท่งพลาสติกในมือสั่นระริก ดวงตากลมโตจ้องไปที่กำแพงก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดเตรียมความพร้อมที่จะก้มดูผลหลังจากที่ผ่านไปสามนาทีตามที่ข้างกล่องตรวจครรภ์ได้อธิบายไว้

หนึ่ง!
สอง!
สา-

“ไอ้เวรตะนิด!!!”
“จ๊ากกกก คณิต! ตกใจหมดนะ!” ตะนิดโวยวายลั่นห้องน้ำ
“มึงออกมาได้แล้ว กูจะประสาทแดกแล้วไอ้น้องเวร” คราวนี้เสียงเคาะไม่ได้เบาเหมือนที่อัลฟ่าหน้าดุทำแต่เป็นการทุบเปรี้ยงๆ ตามสไตล์แฝดพี่ ตะนิดเบะปากเล็กน้อย
“คณิตมึงอย่าเพิ่งได้ไหม กูตกใจเนี่ย กูตกใจ น้องตกใจ!!!”
“น้องไหน! น้องที่แปลว่ามึงหรือน้องไหน มึงอย่ามาใช้คำว่าน้องในสถานการณ์แบบนี้สิวะ”
“จะน้องไหนนอกจากกู พี่ภาสไม่ได้เลี้ยงกุมาร มึงบ้าเหรอคณิต”
“กูไม่ได้หมายถึงกุมารไหมสัด!!!”
“คณิตครับ ใจเย็นๆ หน่อย พี่ว่าเราไปรอตะนิดออกมาบอกที่ห้องนั่งเล่นดีกว่า”
“อะไรมึง ไม่ต้องยุ่ง”
“คณิตครับ” เสียงพี่ชายที่ดังรอดเข้ามาทำให้ตะนิดพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วย โอเมก้าน้อยเงี่ยหูฟังเสียงคนตีกันหน้าห้องน้ำสักพักก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้องนนอนดังปึ้ง แล้วบรรยากาศก็กลับมาเงียบเหมือนเดิมจนอดใจปิ๋วเสียไม่ได้
“พะ พี่ภาส”
“หืม?”
“นิดจะดูผลแล้วนะ”
“อยากให้พี่เข้าไปไหม” ตะนิดไม่ได้ส่งเสียบตอบอะไรแต่ดวงตากลมผลุดลงมองแท่งพลาสติกขนาดเล็กในมือ ช่องตรงกลางที่มีแถบสีแดงชัดเจนจ๋าหนึ่งขีดตามปกติตรงช่องตัว C

และหนึ่งขีดสีแดงอ่อนตรงช่องตัว T
สัญญาณที่แปลว่า

เขากำลังตั้งครรภ์

ตะนิดเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกที่ว่าใจหล่นลงไปอยู่ที่เท้าก็ครั้งนี้ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่วูบลงไปทั้งๆ ที่เขาสองข้างยังยืนอยู่ มือเล็กสั่นระริกก่อนจะยกข้างหนึ่งขึ้นป้องปากตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา โอเมก้าน้อยรู้สึกตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก

“ฮึก...”
“ตะนิด? โอเคไหม เปิดประตูให้พี่หน่อย ไม่งั้นพี่จะไขกุญแจเข้าไปแล้วนะ”
“พะ พี่ภาส พี่ภาส...”
อัลฟ่าหนุ่มเริ่มทนกับการรอคอยไม่ไหว เขาอยากจะพังประตูห้องบานหรูเข้าไปหาโอเมก้าของตัวเองใจแทบขาด ในตอนที่ภาสกำลังจะหันไปคว้ากุญแจ ประตูบานใหญ่ก็เปิดออก

ตะนิดยืนก้มหน้าคางชิดอก กลุ่มหัวฟูฟ่องจากการที่เพิ่งตื่นปรากฏชัดเจนในสายตาของภาส ในมือเล็กถือที่ตรวจครรภ์เข้าไว้แต่มันก็ถูกปิดไว้จนเขามองไม่เห็นผล แม้จะอยากรู้ผลแค่ไหนแต่สิ่งแรกที่อัลฟ่าหนุ่มตัดสินใจทำคว้าร่างตรงหน้ามากอดไว้แน่นพร้อมกับกดจมูกลงหอมขมับชื้นเหงื่อ

“แมวดื้อ...”
“พี่ภาส”
“...”
“ท้อง”
“...”
“นิดท้อง”


อา...
ภาสไม่สามารถตอบได้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้ถ้าจะให้บรรยายออกมาควรใช้คำว่าอะไร รู้เพียงแต่มันท่วมท้นเสียจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ภาสกระชับอ้อมกอดในแน่นขึ้นก่อนจะผละตัวออก ซึ่งแมวดื้อที่ยืนตัวแข็งอยู่ก็เงยหน้ามองเขา ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเขาร้องไห้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเบะปากร้องไห้จ้าออกมาดังลั่นห้อง ตะนิดขาสั่นจนหมดแรงยืนเขาจึงพยุงร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดก่อนจะพาไปนั่งลงบนเตียง

“แมวดื้อ อย่าร้องไห้หนักมากไป” ภาสตีหลังเล็กเบาๆ พลางลูบปลอบประโลมให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้
“ฮึก พี่ภาส มันสองขีด” ตะนิดชูแท่งตรวจครรภ์ในมือขึ้นชู ซึ่งภาสก็กวาดตามองหลักฐานก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ
“อา... สองขีดจริงๆ ด้วย”
“แต่มันจาง ไม่รู้ใช่ไหม แต่นิดคือ... นิด นิด นิดอ่านมาว่ามันใช่ แต่นิดไม่มั่นใจ นิดตรวจอีกอันเลยดีกว่า คณิตซื้อมาสามอันใช่ไหม พี่ภาสไปหยิบให้หน่อย แต่ว่ามันเร็วไปไหม ต้องตรวจห่างกันสักกี่ชั่วโมงดี แต่เขาบอกตรวจตอนเช้าดีที่สุด พี่ภา-”
“ตะนิดใจเย็นๆ”
“อึก”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีก็ได้” แม้เขาจะค่อนข้างมั่นใจทีเดียวว่าผลก็คงออกมาตามที่แท่งตรวจนี่บอก
“...” ตะนิดเม้มปากก่อนจะทิ้งหัวลงซบบ่ากว้าง มือเล็กยกขึ้นลูบท้องตัวเองไปมาอย่างไม่เชื่อสายตา

ในท้องที่ปกติมีแต่ขนม
ตอนนี้มีหนึ่งชีวิตอยู่ด้านในแล้ว...

ทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว
ช่างเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เลยจริงๆ

“อา... หึ”
“...” ตะนิดชันหน้าขึ้นมองอัลฟ่าหนุ่มที่ส่งเสียงประหลาด ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายนั้นยิ้มกว้างจนแว่นยก ดวงตาคมที่ปกติจะชอบมองดุกลับกลายเป็นถูกแก้มดันจนปิดเป็นสระอิ กลิ่นลาเวนเดอร์ที่ปกติก็หอมอยู่แล้วกลับส่งกลิ่นนุ่มขึ้นกว่าเดิมฟุ้งเต็มห้อง
“แมวดื้อ”
“...”
“แมวดื้อของพี่” อัลฟ่าหนุ่มไม่ได้พูดคำอื่นนอกจากเรียกแมวดื้อซ้ำๆ จมูกคมกดลงฟัดแก้มนุ่มไปเรื่อยจนตะนิดเริ่มกลับมารู้สึกเขิน
“อื้อ พี่ภาส” ตะนิดดิ้นดุ๊กดิ๊กให้อีกฝ่ายคลายอ้อมกอด ซึ่งภาสก็รีบคลายอ้อมกอดทันที พออีกฝ่ายผละออกก็ถึงเพิ่งจะสังเกตว่าตะนิดกุมหน้าท้องของตัวเองไว้แน่น
“พี่ไม่รู้ว่าเราควรพูดเรื่องอะไรดีตอนนี้ พี่นึกอะไรไม่ออกเลย นึกออกแต่ว่าต้องพาเราไปฝากครรภ์” นานๆ ที่ตะนิดจะได้เห็นอีกภาสในมุมทำอะไรไม่ถูก คิ้วเข้มขมวดแน่นดูล่กจนตะนิดเป็นฝ่ายใจเย็นลงแทน
“นิดต้องบอกคณิตกับแม่ก่อน”
“บอกคณิตแล้วไปฝากครรภ์”
“พี่ภาสต้องบอกครอบครัวด้วย”
“โอเค บอกคณิตกับแม่ บอกที่บ้านพี่แล้วไปฝากครรภ์”
“นิดยังไม่ได้กินข้าวเช้า”
“โอเค งั้นกินข้าวเช้า บอกคณิต บอกที่บ้านพี่แล้วไปฝากครรภ์”
“นิดอยากไปฝรั่งเศส”
“โอเคงั้นไปฝรั่งเศ...” ภาสชะงักทันทีที่เพิ่งรู้ตัวว่าคำขอมันแปลกๆ พอมองลงมาก็เห็นว่าแมวดื้อตัวแสบอมยิ้มล้อทั้งๆ ที่ตาบวมตุ่ยจากการร้องไห้อย่างหนัก
“พี่ภาสอย่าแย่งล่กได้ไหม มันต้องนิดรึเปล่า”
“เห้อ งั้นลงไปก่อนแล้วกัน ป่านนี้คณิตคงใกล้ระเบิดเต็มที่แล้ว”

จริง... นึกภาพออกเลย
ตะนิดกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะเดินนำเตรียมเปิดประตูห้องนอนลงไปชั้นล่าง

 ทั้งๆ ที่เป็นเพียงระยะทางสั้นๆ ที่เขาทั้งคู่ต่างก็เดินจนชินทาง ชินจนบางทีก็ขึ้นลงบันไดโดยไม่มองแต่พอรู้ว่าตะนิดท้อง ภาสก็เริ่มที่จะกังวลเรื่องบันไดขึ้นมาทันที อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วแน่นก่อนจะยกมือขึ้นจับต้นแขนอีกฝ่ายไว้เบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่าถ้าตะนิดสะดุดเขาจะยังคว้าไว้ได้ทัน

พอเดินลงมาถึงชั้นล่าง ตะนิดก็เห็นแฝดพี่ที่กอดอกนั่งพิงโซฟา ใบหน้าที่เหมือนตัวเองเกือบร้อยเปอร์เซนต์นั่นดูหงุดหงิดเลเวลที่หมาก็คงต้องกลัว ทั้งขบฟันไปมาแถมยังกระดิกขาดิ๊กๆ อีกต่างหาก

“คณิต...” เสียงเล็กเอ่ยเรียกซึ่งคณิตที่กำลังรออยู่ก็หันขวับมาทันที แฝดพี่ผุดตัวขึ้นยืนก่อนจะรีบก้าวเข้าไปหาแฝดน้องตัวน้อย
“เป็นไง ผลเป็นไง ร้องไห้ทำไม”
“...”
“...”
“ทะ ท้อง”
“เชี่ยเอ๊ย...”
“คณิต!!”
“คณิตครับ!!”

เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันเมื่อจู่ๆ อัลฟ่าแฝดพี่ก็ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น ตะนิดเม้มปากแน่นน้ำตาคลอ มือเล็กคว้าแขนอัลฟ่าคู่ชีวิตมาจับแน่นด้วยความคิดว่าพี่ชายตัวเองคงรับไม่ได้ แต่ทันใดนั้นคณิตก็เงยหน้าขึ้นมาทันที

“มึงห้ามกินหวานมากเกินไปแล้วนะต่อจากนี้ ต้องเริ่มคุมน้ำตาลแล้ว แล้ว แล้ว แล้วอย่าออกกำลังกายเยอะ อย่าทำอะไรที่เสี่ยง ห้ามยกของหนัก ฝากครรภ์!!! เออ ต้องไปฝากครรภ์ด้วย กูดูไว้แล้วว่าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดมีหมอที่ในกระทู้แนะนำมา แม่ เออ บอกแม่ก่อน เดี๋ยว มึงยังไม่กินข้าวเช้า กินข้าวเช้าก่อน เดี๋ยว ควรกินอะไรดี แพนเค้กไม่เอาแล้วได้ไหม ไม่อยากให้กินไซรัปเยอะๆ แล้ว”
“คณิตใจเย็นๆ ครับ หายใจก่อน” ชายที่นั่งซ้อนพยุงคณิตอยู่หัวเราะออกมาเบาๆ
“คณิต...”
“ห๊ะ? อะไร เรียกทำไม ปวดท้องเหรอ?” คณิตถลึงตากว้างตกใจ อดีตใบหน้าดุเหมือนหมากลายเป็นเด๋อด๋าก่อนที่จะถูกแฝดน้องทิ้งตัวลงมากอดเบาๆ ชายที่เห็นว่าตะนิดโน้มตัวลงมากอดอีกฝ่ายไว้เลยผละตัวออกไปยืนข้างเพื่อนตัวเองอย่างรู้งาน
“ฮึก...”
“...”
“คณิต กูท้อง”
“เออ รู้แล้ว” คณิตลูบหลังน้องชายตัวเองไปมา
“กะ กูท้อง มีอย่างอื่นนอกจากขี้แล้วนะ”
“พูดซ้ำทำไม กูรู้แล้ว”
“มึงเป็นลุงแล้ว”
“เออ กูเป็นลุง”
“...”
“ส่วนมึงก็เป็นแม่คนแล้ว”
“...”
“ไอ้ไข่ควายเอ๊ย กูเป็นห่วงแทบแย่” คณิตกระชับกอดน้องชายตัวเองแน่นก่อนจะเบะปากร้องไห้ออกมาตาม แม้จะไม่ได้ส่งเสียงร้องดังเหมือนตะนิด แต่ก็ไม่ได้เหลือภาพลักษณ์ดุแบบที่เคยแสดงให้ใครเห็น ซึ่งภาสกับชายก็ทำเพียงยืนมองอยู่เงียบๆ ปล่อยให้พี่น้องได้ใช้เวลาด้วยกัน
“บ้านมึงน่าจะแตกนะ ยังไม่ทันได้บอกว่าย้ายมาอยู่ด้วยกันก็เซอไพรส์มีหลานเลยเนี่ย” ชายเขี่ยจมูกตัวเองเบาๆ เป็นเชิงล้อเพื่อนหน้าดุคนข้างๆ
“อือ คงเป็นแบบนั้น”
“ยินดีด้วยแล้วกัน ตลกว่ะ กลายเป็นมึงที่มีลูกคนแรกของกลุ่มได้ไงวะ คิดว่าไอ้วินจะนำไปก่อนเสียอีก ถ้ามันรู้คงหัวเสียน่าดู”
“ถ้าไม่ติดเรื่องสุขภาพลี่ มันก็คงเป็นแบบนั้น”
“ก็จริง” ชายถอนหายใจเบาๆ
“ว่าแต่เรื่องบ้านได้เรื่องยังไงแล้วบ้าง”
“ยังตกแต่งไม่เสร็จ เร่งที่สุดเท่าที่กูจะเร่งได้แล้ว อย่างต่ำก็สองเดือน”
“อืม งั้นกูจะย้ายไปอยู่เพนเฮาส์อีกที่ที่มันชั้นเดียวไปก่อน ไม่อยากให้ตะนิดขึ้นบันไดบ่อย” ภาสหยิบมือถือขึ้นมาไลน์หาเลขาให้ช่วยจัดการเรื่องให้ได้เร็วที่สุด
“คุณพ่อ มึงรีบเห่อลูกไปรึเปล่า” ชายหัวเราะพร้อมกับตบบ่าเพื่อนเบาๆ
“นั่นสิ”
“...”
“พ่อคนมันเป็นแบบนี้เองเหรอวะ” ภาสยกมือตัวเองขึ้นมาให้เพื่อนตัวเองดูว่าตอนนี้มือกำลังสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ไอ้ที่พิมพ์ส่งข้อความไปหาเลขานั่นก็พิมพ์สลับคำไปมาจนต้องหยุดพิมพ์ ชายมองมือที่ถูกยกขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะเบาๆ
“ใจเย็นๆ น่า”
“พี่ภาส”
“หืม?” ภาสเก็บมือที่สั่นระริกของตัวเองเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะหันไปตอบรับแมวดื้อที่ลุกเดินเข้ามาหา
“นิดได้ชื่อลูกแล้ว”
“รีบไปไหม”
“เนี่ย นิดคิดมาดีแล้ว”
“อ่า โอเค ชื่ออะไร”
“ตะนี”
“...”

ห๊ะ...
นั่นคือเสียงที่ดังมาจากชายและคณิตที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาทั้งคู่ไม่แน่ใจว่าหูฝาดหรือตะนิดออกเสียงผิด

“ตะนิดกับตะนี”
“...” ภาสมือหยุดสั่นไปในทันทีเมื่อรู้ว่ามีเรื่องอย่างอื่นให้น่าเครียดมากกว่า เขารีบย้ายมือออกมาลูบกลุ่มผมฟูของแมวดื้อ
“ไว้เราค่อยว่ากันทีหลังนะ ไปกินข้าวเช้าก่อนดีกว่า”
“ตะนิด ตะนี ตะน้า ตะหนู”
“เดี๋ยวพี่โทรเชคหมอก่อน เราไปคุยกับคณิตก่อนนะ”
“คณิตๆ ชื่อตะนีหรือตะหนูดี”
“ตลก”
“ให้ชื่อตลกเหรอ ไม่เอา”
“กูหมายถึงชื่อที่มึงเลือกน่ะตลก ไปกินข้าวไป เอาแพนเค้กนะ กูจะได้ทำให้”
“คณิต ในอนาคตกูจะแพ้ท้องจนกินแพนเค้กไม่ได้ไหมอ่ะ”
“ไม่รู้ แต่ถ้ากินไม่ได้ก็คือกินไม่ได้ เนี่ยแหละการท้องเด็กสักคน มีอีกหลายอย่างเลยที่มึงจะทำไม่ได้ไม่ต้องห่วง” คณิตตบหลังแฝดน้องตัวเองเบาๆ พร้อมกับผลักให้อีกฝ่ายเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวก่อนที่ตัวเองจะเดินเลี่ยงเข้าครัวไปผสมแป้งแพนเค้ก
ตะนิดเม้มปากแน่นพลางก้มหน้ามองหน้าท้องแบนราบของตัวเอง มือเล็กยกขึ้นลูบท้องตัวเองไปมาด้วยความหวงแหนก่อนจะตีลงไปเบาๆ เป็นการเตือนไปให้ถึงเจ้าตัวอ่อน
“มีแม่ครั้งแรกใช่ไหม นี่ก็มีลูกครั้งแรกเหมือนกัน เพราะงั้นอย่าดื้อมากนะ”
แน่นอนว่าไม่มีเสียงตอบรับอะไรหรอกแต่ตะนิดก็เชื่อว่าเจ้าตัวอ่อนตะนีต้องได้ยิน
ต้องได้ยินแล้วก็ต้องอย่าดื้อมากด้วย!
เตือนแล้วนะ!
 
“นัดหมอได้วันเสาร์หน้านะ แต่พี่คุยแล้ว ช่วงนี้หมอแนะนำให้กินอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ แล้วก็งดแอลกอฮอลล์ ชา กาแฟกับการออกกำลังกายไปก่อน”
“...อื้อ” ตะนิดพยักหน้าไม่ได้งอแงอะไรเพราะพอจะอ่านข้อมูลเตรียมใจมาบ้างแล้ว
“ไม่ต้องกังวล” ภาสโน้มตัวหอมแก้มนุ่มแมวดื้อไปหนึ่งฟอด
“พี่ภาส ถ้าตะนี ไม่สิ ถ้าลูกเป็นโอเมก้า...”
“เป็นอะไรก็ได้ ขอแค่แข็งแรงก็พอ”
“...”
“ทั้งลูกแล้วก็เรา” อัลฟ่าหนุ่มกดจูบลงบนขมับโอเมก้าตัวน้อยก่อนจะผละตัวออกไปเข้าครัว เตรียมหยุดไม่ให้แฝดพี่ทำแพนเค้กเพราะจะพาอีกฝ่ายไปกินเซทอาหารเช้าที่โรงแรมของชายทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าคณิตโวยวายในตอนแรกแต่พอฟังเหตุผลว่าอยากให้เจ้าแมวดื้อกินข้าวเช้าที่ครบสารอาหารแฝดพี่เลยยอมแต่โดยดี

“ป่ะ ไปกินข้าวเช้าที่โรงแรมพี่กันครับตะนิด”
“โรงแรมของพี่ชายเลยเหรอ เฮ้ย”
“ไม่เชิงครับ เป็นของฝั่งครอบครัวคุณแม่”
“โหหหหหหหหหหหห อยากเป็นลูกเจ้าของโรงแรมบ้างงงงง”
“ลูกอาจจะยาก แต่เป็นสะใภ้ได้นะครับ” ชายพูดกับตะนิดแต่สายตากลับจดจ้องไปที่แฝดพี่ที่ยืนหน้าหงุดหงิดอยู่ไม่ไกลซึ่งคณิตก็ตอบกลับมาด้วยนิ้วกลางหนึ่งนิ้วชัดเจน
ภาสมองคู่รักน่ารำคาญพร้อมกับถอนหายใจก่อนจะเดินไปดันหลังให้แมวดื้อนำไปรอแถวประตู ปล่อยให้คู่แฝดพี่กับเพื่อนรักเขาตีกันให้เสร็จไปก่อน
“พี่ภาส”
“หืม?”
“จับมือหน่อย”
“...หึ” ภาสอมยิ้มก่อนจะคว้ามือเล็กมาบีบไว้เบาๆ ดวงตาดุใต้กรอบแว่นเหลี่ยมจ้องไปที่หน้าท้องแบนราบใต้เสื้อตัวใหญ่ของตะนิดก่อนจะกระตุกยิ้มบาง


ไม่ต้องห่วงนะครับ

พ่อไม่ยอมให้เราชื่อตะนีหรอก


 
 

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 14-09-2020 21:05:08
จะดีหรอ เปลี่ยนชื่อดีมั้ย ยินดีด้วยน๊าา ทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-09-2020 21:06:00
หลานมาแล้ว..วววววววววว  :mc4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-09-2020 21:13:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 14-09-2020 21:14:22
อ่า ท้องจริงหรอ นึกภาพตะนิดเป็นแม่ไม่ออกเลย
แต่แน่ๆพี่ภาสเหนื่อยนะกับการตั้งชื่อลูกเนี่ย 555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 14-09-2020 23:42:38
มีก้อนแล้ววว อุอิ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 15-09-2020 08:20:54
เด่ววว นี้คือยอมใจกับการคิดชื่อลูกเลยอ่ะ :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-09-2020 08:57:21
ขำชื่อตะนี ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 15-09-2020 21:25:37
ตื่นเต้นกันล้นจอเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-09-2020 21:42:14
ตะมุตะมิก้อดีนะ5555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ตะนี [14/09/20] p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 15-09-2020 22:52:15
หลานป้ามาแล้ววววววว

ตะนิด ตะนี ตะน้า ตะหนู

มีอะไรให้แด๊ดดี้ปวดไตมากกว่านี้มั้ยย 5555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 06-10-2020 20:44:37
ก็จะดื้อ 26

ชีวิตปกติของภาสในวันทำงานนั้นมักจะเจอเรื่องที่ปัญหาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะจากทั้งลูกค้า ทั้งพนักงาน ทั้งหุ้นส่วน ทั้งครอบครัวและที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นแก็งเพื่อนที่มักจะนำพาปัญหามาให้อยู่ทุกครั้งที่ก้าวเข้ามาเหยียบออฟฟิส แต่ในวันนี้คงเป็นครั้งแรกที่ปัญหานั้นเกิดจาก...

คนรัก

“หยาาาาาาา มีคนแพ้ท้องเหม็นสามีด้วยนะพี่ภาส” ภาสเหลือบตาจากเอกสารขึ้นมองแมวดื้อที่นั่งอยู่ไม่ไกล วันนี้แมวดื้อของเขาได้รับอนุญาตให้ลางานเพราะตอนเช้าต้องแวะไปหาหมอส่วนตอนเย็นก็มีนัดไปเจอครอบครัวของเขา หลังจากหาหมอเสร็จเขาจึงตัดสินใจหนีบแมวดื้อมานั่งเล่นที่ออฟฟิสฆ่าเวลาแทนกลับไปส่งบ้าน
“แมวดื้อ เลิกอ่านกระทู้ได้แล้ว”
“พี่ภาส ในกระทู้บอกว่าเขาเหม็นสามีไม่คุยด้วยเป็นเดือนๆ เลย”
“...”
“นี่คนนี้บอกว่าเห็นหน้าสามีแล้วอ้วกด้วย”
“...”
“โห มีบอกว่าได้กลิ่นสามีแล้วเหม็นเหมือนอึด้วย พี่ภาสกลายเป็นอึเฉย”
“...”

ทั้งๆ ที่ควรจะดีใจที่แมวดื้อเรียกเขาว่าสามี แต่ไอ้ประโยคโดยรวมกลับฟังแล้วอยากนวดขมับให้แตก ตั้งแต่วันที่ตรวจครรภ์เจอเจ้าก้อนลูกแมวในท้องยุ้ยเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ตอนนี้แม่แมวมือใหม่กำลังอยู่ในช่วงรีเสิร์ชข้อมูลเต็มที่ อ่านมันตั้งแต่เช้ายันเย็น
ต้องบอกว่าวันนั้นเขาน่ะดีใจคนคิดอะไรแทบไม่ออก รู้แต่อยากจะกอดแมวดื้อไว้แน่นๆ แต่หลังจากที่ได้พาไปฝากครรภ์ตรวจอะไรต่างๆ เรียบร้อย ความเป็นห่วงจะเริ่มครอบงำ ถึงแม้จะรู้ว่าด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ของโอเมก้าคงปลุกให้เจ้าตัวระวังตัวมากขึ้นเพื่อดูแลเด็กในครรภ์แต่พอเป็นเจ้าของครรภ์เป็นแมวดื้ออย่างตะนิด เขาเลยยังรู้สึกไม่ไว้วางใจพอ   
และถึงแม้จะอยากไปตามเฝ้าแมวดื้อตลอดเวลาแต่สุดท้ายเขาก็ต้องปล่อยให้ตะนิดไปทำงาน ไปใช้ชีวิตของตัวเองและทำได้แค่เพียงตามดูห่างๆ กับคอยกระชับให้เจ้าตัวระมัดระวังเวลาเดินเหินไปไหนมากขึ้น

“พี่ภาสๆ”
“หืม” ภาสปิดเอกสารเมื่อรู้ดีว่าเขาคงไม่มีสมาธิทำงานหากเจ้าตัววุ่นวายยังคงส่งเสียงเรียกไม่หยุด
“บ้านพี่ภาสจะชอบนิดไหม”
“ชอบสิ”
“รู้ได้ไง”
“ก็พี่ชอบเรา”
“...” แล้วเกี่ยวไรหว่า
“ครอบครัวพี่ก็ต้องชอบ”
“จ๊ากกกกกกกกก บ้าแล้ว เป็นแค่อึแท้ๆ อย่าพูดจาแบบนี้นะ!!!” แมวดื้อขี้เขินโวยวายลั่นห้องก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านมือถือต่อ
“อ่านกระทู้อะไรของเราน่ะ พี่ไม่ได้ว่า แต่อย่าอ่านเยอะจนเก็บมาเครียด ทำตามที่หมอบอกมาก็พอ” ตอนนี้ตะนิดตั้งครรภ์ได้สามสัปดาห์กว่าๆ อายุครรภ์ยังน้อยมาก หมอจึงแนะนำให้ระวังเรื่องการเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากได้ยินหมอพูดแบบนั้น แมวดื้อใช้ชีวิตด้วยการเดินทีละก้าวและหลีกเลี่ยงการขึ้นบันไดสุดชีวิต 
“ตะนีจะดื้อไหม พี่ภาสว่า”
“...”

ถ้าลูกรู้ว่าจะได้ชื่อตะนีก็คงจะดื้ออยู่แล้วแหละนะ
ภาสได้แต่คิดในใจ

“แต่นิดไม่เห็นแพ้ท้องเหมือนในละครเลย ชิวมาก”
“หมอก็บอกแล้วนี่ว่าอาการแพ้ท้องมันแล้วแต่คน และจริงๆ เราแค่ยังไม่แพ้ไม่ใช่ว่าไม่ได้แพ้”
“อยากกินข้าวผัดปู”

อะไรล่ะนั่น...
ภาสกระดกคิ้วงงเมื่อจู่ๆ แมวดื้อก็เปลี่ยนเรื่องไปที่อาหาร

“หิวแล้วเหรอ”
“เปล่าอ่ะ แค่อยากกินขึ้นมาเฉยๆ เห้ย หรือนิดแพ้ท้อง นิดแพ้ท้องแล้วป่ะเนี่ย”
“อยากกินก็กิน กินเยอะๆ น่ะดีแล้ว หมอบอกว่าเราผอมเกินไป”
“อื้อ ไม่เอา ยังอิ่มๆ ไข่ตุ๋นอยู่เลย นมตราหมีกระป๋องชมพูนี่ก็รสเหมือนนมตราหมีปกติเลยนะ” ตะนิดยกกระป๋องนมที่หมอแนะนำมาขึ้นดูดก่อนจะวางลง
“หิวรึยัง ให้พี่สั่งอะไรมาให้กินไหม”
แน่นอนว่าที่ถามไปไม่ได้เข้าหูคนฟังแต่อย่างใด เนื่องจากแม่แมวกำลังขยับตัวยุกยิกจัดท่าทางให้ตัวเองนอนบนโซฟาตัวยาว ตะนิดขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้สึกขัดใจอะไรบางอย่าง

...บางอย่างที่ตอบไม่ได้ว่าอะไร
แต่รู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย

“โซฟาไม่ดีเลย” ตะนิดบ่นงุบงิบก่อนจะเปลี่ยนใจขยับขาลงมานั่งทั้งๆ ที่ใจอยากเอนตัวนอน
“ปวดหลังเหรอ”
“เปล่า แต่...”
“...”
“พอนอนแล้วมันหงุดหงิด” 
   
ช่างเป็นเหตุผลที่เข้าใจยากสมกับเป็นตะนิด

“ไว้พี่เปลี่ยนโซฟา...”
“พี่ภาส นิดจี๊ดๆ ท้อง”
“จี๊ดแบบเดียวกับที่บอกหมอรึเปล่า”
“อื้อ”
“ทนหน่อยนะ” ภาสยิ้มเบาๆ ให้กับแม่แมวที่ร่างกายกำลังเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาวะตั้งครรภ์
“อยากกินข้าวผัดปู”
“อ่า”
“โอ๊ะ ปวดฉี่”

แมวดื้อในวันนี้ดูจะสับสนในตัวเองกว่าปกติหลายเท่า ด้วยความที่ร่างกายอยู่ในช่วงปรับตัวทำให้แม่แมวทำอะไรไม่ค่อยถูกนัก ทั้งกังวล ทั้งหงุดหงิดในหนึ่งวินาที สำหรับภาสทุกอย่างที่ตะนิดเป็นนั้นดูน่าเอ็นดูไปหมด แต่ในส่วนของตะนิดนั้น

หงุดหงิดโคตรๆ
ทั้งฉี่บ่อย ทั้งจี๊ดท้อง ไอ้เด็กนี่มันเอาเรื่องตั้งแต่ตัวยังไม่เท่าถั่วเขียว!
 
คุณแม่มือใหม่เท้าเอวมองตัวเองในกระจกห้องน้ำพลางคาดโทษเม็ดถั่วเขียวในท้องไว้ผ่านการตีหน้าท้องเบาๆ มันน่าเหลือเชื่อไม่น้อยตอนที่รู้ว่าในร่างกายของตัวเองกำลังจะมีก้อนชีวิตเล็กๆ ค่อยๆ โตขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกังวลไปหมด กลัวว่าจะเผลอทำอะไรตามความเคยชินไปแล้วมันกระทบกับเจ้าก้อนปุ๋งถั่วเขียว

ก้อนปุ๋ง!
อย่าห้าวให้มากนัก!

 ตะนิดลูบท้องตัวเองไปมาก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องน้ำ พออกมาจากห้องน้ำตะนิดก็ต้องผงะเล็กน้อยเมื่อเจออัลฟ่าคู่ชีวิตยืนกอดอกรออยู่

“จ๊ากพี่ภาส ตกใจหมด!”
“หึ”
“จะเข้าห้องน้ำต่อเหรอ”
“เปล่า พอดีที่บ้านโทรมาว่าให้พาเราเข้าไปได้เลย คุณแม่เสร็จธุระเร็วน่ะ” ภาสตวัดมือโอบเอวบางไว้ก่อนจะค่อยๆ ออกแรงดันให้อีกฝ่ายก้าวขาเดิน
“พี่ภาสทวนก่อนว่าพี่ภาสมีน้องชื่ออะไรบ้างนะ”
“ภีม ภาคินแล้วก็ภูเขา”
“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่อ่ะ”
“คุณพ่อชื่อภวัต ส่วนคุณแม่ชื่อภวิตา”
“โห... บ้านภ.สำเภาหมดเลย แล้วตะนีจะชื่อตะนีได้ไหมอ่ะ”
“...”

ก็ต้องไม่ได้อยู่แล้ว...
ต่อให้ที่บ้านเขาไม่ได้ชื่อเริ่มต้นด้วยภ.สำเภา เขาก็ไม่อนุญาตชื่อตะนีนั่นหรอก

“งั้นเป็นชื่อตะพาบไหม มีพอๆ เหมือนกัน”
“อ่า...”
“ตะพาบ ตะพด  ตะ... ตะเภา ตะเภา! หนูตะเภา!”
“ไม่เป็นไร ไว้เราค่อยคิดทีหลัง” ภาสก้มตัวลงหอมหัวทุยเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของคนตัวเล็กมาถือแทน แต่จะว่าไปชื่อตะเภาก็ไม่เลวเท่าไหร่ ถือว่าผ่านที่สุดเท่าที่เคยได้ยินกลุ่มชื่อตะทั้งหลายจากปากแมวดื้อ
“ตะกวด?”
“พี่ว่าเรารีบไปดีกว่า”
“ตะแกรง”
“กินนมหมีอีกสักกระป๋องไหม เดี๋ยวพี่จะได้แวะซื้อ” ภาสรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่ชื่อลูกเขาจะเริ่มสร้างสรรค์ไปมากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าพอพูดเรื่องของกินตะนิดก็เบี่ยงความสนใจไปทันที
ระหว่างทางไปบ้านแห่งศูนย์รวมอัลฟ่าเลือดแท้ทำเอาตะนิดกังวลอยู่ไม่น้อย ถึงแม้อีกคนจะย้ำนักย้ำหนาว่าที่บ้านใจดีแถมยังต้องการจะเจอหน้าเขามากทั้งครอบครัวก็ตามเถอะ

แต่ครอบครัวที่ว่าจะหมายถึงครอบครัวแบบในซินเดอเรลล่ารึเปล่า!
ไอ้อยากเจอหน้านั่นมันอาจจะหมายถึงเตรียมจิกผมแกล้งแบบในละครก็ได้รึเปล่า!
ถ้าแม่พี่ภาสไล่เขาไปล้างจานจะทำไง เขาน่ะเกลียดการล้างจานที่สุดในทุกงานบ้านเลยนะ

“กัดหลอดนมเล่นทำไม” ภาสขมวดคิ้วพลางเอื้อมมือไปดึงหลอดนมออกจากปากโอเมก้าคู่ชีวิต
“พี่ภาส...”
“ไม่ต้องคิดมาก พี่บอกแล้วว่าที่บ้านพี่อยากเจอเราจะตาย”
“...”

ตะนิดลอบถอนหายใจ
เอาเถอะ เขาคงคิดมากไปเอง บ้านพี่ภาสก็คงไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอก

จนกระทั่งรถคันหรูได้เดินทางมาถึงตัวบ้าน แมวตัวน้อยก็ถึงกับตกใจตาโตหูตั้งหางฟู

ออมอกอ... รั้วบ้านที่ว่าอลังการ ยังไม่เท่าบ้านที่ถูกดีไซน์อย่างโมเดิร์นแถมมีสระว่ายน้ำส่วนตัวประหนึ่งโปสเตอร์บ้านที่เห็นเวลาขับผ่านป้ายบนทางด่วน ตะนิดมองบ้านตาปริบๆ ก่อนจะรีบหันหน้ากลับไปทางคนขับรถ

“พี่ภาสเป็นคุณชายเหรอ!!!!”
“อะไรของเรา”
“พี่ภาสอย่าบอกนะว่าที่บ้านมีพ่อบ้านด้วย”
“มีสิ”
“จ๊าก ชื่อเซบัสเตียนรึเปล่า!!!”
“เปล่า ชื่อรุจ”

ว้า... ป้ารุจจากในเนื้อคู่ประตูถัดไปเองเหรอ
ไม่สนุกเลย คิดว่าบ้านใหญ่แบบนี้จะมีบัตเลอร์หล่อๆ แบบในหนังเสียอีก พอรถจอดนิ่ง ตะนิดก็ปลดเบลท์ออกก่อนจะลงจากรถเพื่อที่จะตาโตอีกรอบ

จ๊าก...
คลังรถสปอร์ต ทั้งเบนซ์ แลมโบ เฟอร์รารี่ บีเอ็ม โรลส์รอยซ์ พี่ภาสเป็นคุณชาย! นี่เขาตกถังข้าวเหนียวเหรอ!

“พะ พี่ภาส ทำไมรถเยอะขนาดนี้”
“รถภีมกับภาคินน่ะ สองคนนี้เล่นรถ อ้อ ภาคินเป็นนักแข่งรถด้วย เริ่มแข่งมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เมกาแล้ว”

ละ เล่นรถ
ราคารถพวกนี้ไม่น่าเรียกเล่นได้แล้วรึเปล่า!!!!

“นะ น้องพี่ภาสเล่นรถแพงจัง”
“ยกเว้นภูเขานะ รายนั้นชอบมอเตอร์ไซค์”
“จ๊าก ดูคาติแหง”
“อ้อไม่ เวสป้ากับสกู๊ปปี้ไอคันนั้น” พูดจบภาสก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่เวสป้าคันสีชมพูซีดกับสกู๊ปปี้ไอสีส้มแป๋นแหลนที่จอดอยู่แถบเดียวกับจักรยาน

อ่ะ อ่าว...
ในครอบครัวก็ยังเกิดความเหลื่อมล้ำเหรอ!!!

“ป่ะ เขาบ้านดีกว่า” ภาสใช้มือดันหลังเล็กให้ออกตัวเดิน หลังจากที่แมวดื้อมัวแต่อ้าปากค้างอยู่กับรถคันต่างๆ ของครอบครัว ส่วนตะนิดที่เพิ่งถูกเรียกสติก็รีบหันกลับมาสนใจสถานการณ์ปัจจุบันทันที

เขาว่ากันว่าเฟิร์สอิมเพรสชั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เพราะงั้นถ้าเข้าบ้านไปเขาต้องไหว้ผู้ใหญ่อย่างสวยงามพร้อมกับรอยยิ้มแสนเป็นมิตรที่ฝึกยิ้มหน้ากระจกที่บ้านมาแล้วอย่างต่ำสิบรอบ

เมื่อเปิดเข้าบ้านมาตะนิดก็ได้แต่ตาเหลือกกับการตกแต่ง แม้จะไม่ได้มาในทรงสีทองกับแชนเดอเลียห้อยระย้าแบบในละครหลังข่าวแต่มาในทรงโมเดิร์นมินิมอล ถึงอย่างนั้นเขารู้เลยว่าเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในตัวบ้านต้องแพงมากไม่แพ้ทองจ๋าในละครอย่างแน่อน

ใจเย็นๆ ไว้ก่อนโยมตะนิด
หายใจเข้าพุทธ หายใจออกคริส ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีถ้าเรามีสติ

กลับมาโฟกัสเฟิร์สอิมเพรสชั่นเราไว้
ไหว้สวย!
ยิ้มเป็นมิตร!
แกรนด์โอเพนนิ่ง!

“พ่อแม่ ตะนิดมาแล้วครับ” ตะนิดที่ก้มหน้าเดินตามอัลฟ่าหนุ่มต้อยๆ เงยหน้าขึ้นมองหลังจากที่ถูกแนะนำตัว ดวงตากลมปราดมองด้วยความตกใจ

คุณพ่อที่หน้าเหมือนพี่ภาสเป๊ะๆ คุณแม่พี่ภาสที่ดูเป็นฝรั่งกว่าทุกคนโดยเฉพาะผมสีน้ำตาลอ่อนนั่น ส่วนน้องชายสามคนตัวสูงปรี๊ดที่กำลังนั่งเล่นเกมนินเทนโดอยู่ที่พอหันหน้ากลับมาดูก็ทำให้เขารู้ว่าบ้านนี้ดีเอ็นเออยู่บนหน้าแบบไม่ต้องสืบ

... แต่ถึงอย่างนั้น
ด้วยกลิ่นอัลฟ่าเลือดแท้ที่ฟุ้งตีขึ้นจมูกอย่างรวดเร็วและรุนแรงทำเอาตะนิดชะงักตัวพร้อมกับดึงชายเสื้ออัลฟ่าคู่ชีวิตไว้แน่น

“ตะนิด?”

แมวดื้อมองหน้าสมาชิกครอบครัวทุกคนในบ้านหลังนี้ก่อนจะค่อยๆ กระตุกตัว ภาสเบิกตากว้างรีบหันไปดูเมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ แต่ยังไม่ทันได้ถามคำถามออกไป ตะนิดก็ตอบให้ด้วยการกระทำ

“แหวะะะะะะะะะะ”

ของเหลวจำนวนหนึ่งกระจายตัวลงบนพื้นหินอ่อนอย่างรวดเร็วนั่นสามารถเรียกคำอุทานจากทุกคนในเหตุการณ์ได้อย่างทันที เป็นภาสที่รีบคว้าร่างเล็กไว้ก่อนจะค่อยๆ ลูบหลังปลอบ

“แมวดื้อ เป็นอะไร”
“ไม่เอา”
“อะไรนะ?”
“ไม่เอา ไม่อยู่ตรงนี้ ไม่อยู่ตรงนี้ได้ไหม” ตะนิดน้ำตาคลอเขย่าแขนเสื้ออีกฝ่ายอย่างทำตัวไม่ถูก
“ตายแล้ว น้องโอเคไหมลูก” คนเป็นแม่ของบ้านรีบออกตัวเดินเมื่อเห็นลูกสะใภ้ที่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักดี เปิดตัวด้วยการอ้วกโชว์กองใหญ่ แต่ทันทีที่ตะนิดได้กลิ่นอัลฟ่าอื่นเข้ามาเจ้าตัวก็รีบดึงแขนภาสไว้แน่นก่อนจะอาเจียนออกมาอีกรอบ
“ไม่เอาคนอื่น”
“แม่อย่าเพิ่งเข้ามา” ภาสกระชับกอดคนตัวเล็กไว้แน่นก่อนจะหันไปห้ามไม่ให้คนอื่นเดินเข้ามาใกล้
“อึก แหวะ” ตะนิดกำเสื้ออีกฝ่ายแน่นพลางขย้อนของเหลวออกมาอีกรอบ
“ภาส พาน้องขึ้นไปที่ห้องเราก่อนดีกว่า”
“...”
“อาการแบบนี้น่าจะเหม็นอัลฟ่า” แทนที่จะตึงเครียดแต่คนเป็นพ่อกับขำออกมาเบาๆ ทำเอาภาสที่ขมวดคิ้วต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“เหม็นอัลฟ่า?”

จะเป็นไปได้ยังไง
... เขาก็อัลฟ่า

“เดี๋ยวลองโทรเชคหมอดูอีกทีแล้วกัน แต่พ่อว่าไม่พ้นอาการนี้หรอก” ถึงจะอยากฟังต่อแต่ด้วยความเป็นห่วงแมวดื้อในอ้อมกอดภาสเลยตัดสินใจอุ้มร่างเล็กที่ตัวเปื้อนไปด้วยคราบอาเจียนขึ้นห้องที่อยู่บนชั้นสอง พอเปิดประตูเข้าห้องมาได้ตะนิดก็รู้สึกได้ถึงความโล่ง อาการคลื่นไส้แทบจะหายไปหมด
“โอเคไหม ไปโรงพยาบาลไหม”
“อื้อ นิดโอเคแล้ว”
“ยังอยากอ้วกอยู่ไหม”
“ไม่แล้ว”
“ปวดท้องรึเปล่า อยากกินน้ำไหม ไม่สิ เดี๋ยวพี่ขอโทรคุยกับหมอก่อน มือถือ.. มือถืออยู่ด้านล่าง”
“พะ พี่ภาสนิดโอเค นิดโอเคแล้ว” ตะนิดยกมือขึ้นรั้งแขนอัลฟ่าหนุ่ม พอเห็นอีกฝ่ายกังวลออกสีหน้าชัดเจนตะนิดก็ขยับนิ้วโป้งนวดมือแกร่งที่คว้าไว้
“...”
“มะ เมื่อกี้นิดกลัว”
“...”
“แต่ตอนนี้นิดโอเคแล้ว อย่าไปไหนเลย อยู่กับนิดก่อน” น้ำเสียงออดอ้อนมาพร้อมกับใบหน้าดื้อที่เอียงซุกลงกับมือหนา ทุกอย่างทำเอาภาสทั้งใจฟูทั้งสับสนในวินาทีเดียวกัน

ใช่... ตะนิดน่ารักมาก
 ไอ้ท่าทางอ้อนเหมือนลูกแมวนี่มันอันตรายจนเกือบกระตุกยิ้มกว้าง ถ้าอ้อนให้เขาซื้อบ้านด้วยท่าทางแบบนี้ก็คงจะได้มีโฉนดที่ดินเพิ่มทันทีในวันต่อมา แต่ในขณะเดียวกันเขาก็งงกับท่าทางอ้อนที่จู่ๆ ก็มาแบบไม่รู้ตัวทั้งๆ ที่เพิ่งอาเจียนหนักไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

“อ่า งั้น เปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยแล้วกัน” ภาสทำอะไรไม่ถูกแต่พอเหลือบตาเห็นคราบอาเจียนตามเสื้อผ้าแมวดื้อเลยรีบเดินไปค้นเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าของตัวเองมาให้ ซึ่งก็ได้มาเป็นฮู้ดขนาดใหญ่หนึ่งตัว เนื่องจากตะนิดคงไม่สามารถใส่กางเกงที่เขามีในบ้านนี้ได้สักตัว
ตะนิดเลือกถอดเสื้อออกทันทีกลางห้องนอนซึ่งนั่นทำเอาภาสตกใจพร้อมกับกลืนน้ำลายหนืดลงคอ แมวดื้อของเขาผิวขาวจั๊วะ ส่วนหน้าท้องยังคงยุ้ยนุ่มนิ่มเหมือนปกติ ถึงตะนิดจะเป็นคนผอมแต่ก็มีพุงยุ้ยมาอยู่แล้วตั้งแต่ต้นทำให้เขาไม่สามารถตอบได้ว่าไอ้ที่ยุ้ยอยู่มาจากที่แมวดื้อกินเยอะหรือมาจากการตั้งครรภ์ และส่วนที่ดึงสายตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตุ่มสีชมพูอ่อนน่ารักนั่น...

อา...
อยากจะฟัดให้จมเตียงจริงๆ

“พี่ภาส เสื้อ”
“หืม? อ่อ อื้ม” ภาสกะพริบตาปริบๆ เมื่อถูกตะนิดเร่งให้ส่งเสื้อให้ เมื่อรับเสื้อฮู้ดไปสวมเสร็จตะนิดก็ยกยิ้มกว้าง

กลิ่นพี่ภาสเต็มไปหมดเลย ชอบจัง 
ห้องก็มีแต่กลิ่นพี่ภาส เสื้อก็กลิ่นพี่ภาส

“แมวดื้อยิ้มอะไร”
“อยากนอนบนเตียงจัง” ตะนิดบ่นงึมงำก่อนจะหันตัวไปปีนเตียงขนาดคิงไซส์ที่ตั้งอยู่กลางห้องก่อนจะค่อยๆ สอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มกลิ่นลาเวนเดอร์ ความนุ่มฟูและกลิ่นที่คุ้นเคยบวกกับอาการล้าหลังอาเจียนติดกันหลายทีทำให้แมวดื้อเคลิ้มหลับไปในทันที
ภาสลูบกลุ่มผมฟูไปมาก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นลงไปหยิบมือถือเพื่อโทรเชคอาการกับหมอให้มั่นใจว่าไม่ใช่อาการร้ายแรงถึงขั้นต้องพาไปโรงพยาบาล พอได้รับการคอนเฟิร์มถึงได้ค่อยโล่งใจกลับเข้าห้องนอนมาฟัดแก้มนิ่มอีกรอบ


ตะนีครับ อย่าดื้อกับแม่เขามาก
ไม่งั้นแด๊ดจะไม่ช่วยเรื่องชื่อเราแล้วนะ




---
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-10-2020 21:15:23
รอเจ้าก้อนปุ๋งออกฤทธิ์อีกค่ะ
ตะเภาไหมละ5555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-10-2020 22:02:37
เปิดตัวได้แกรนด์โอเพนนิ่งจริงๆเจ้าแงว 55555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-10-2020 08:42:39
ที่ซ้อมมาหายหมดเลย แงงงงงง 555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 07-10-2020 10:06:01
น้องตะกวดไปอี๊กกกกกกก :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 07-10-2020 20:16:23
ไม่มีอะไรตรงตามแผนสำหรับตะนิด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-10-2020 21:43:27
ลุ้นกะชื่อหลาน   :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-10-2020 22:59:50
ภาสไม่ยอม ก็ใช่ว่าตะนิดจะยอมนะ 55555
เอ็นดูตะนิด เป็นว่าที่คุณแม่ต้วมเตี้ยมมาก

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 25 : ครอบครัวตัวภ. (1) [06/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-10-2020 01:55:19
ทักทายพ่อแม่สามีด้วยการอ้วก สมกับเป็นตะนิดจริงๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ครอบครัวตัวภ. (2) [12/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 12-10-2020 20:51:05
ก็จะดื้อ 27


ปกติยามเช้าต้องตะนิดมักจะเริ่มต้นด้วยเสียงปลุกของคนหน้าดุ แต่วันนี้กลับต่างออกไป ดวงตากลมกะพริบอย่างสลึมสลือก่อนจะเห็นหัวทุยของใครสักคนนั่งพิงเตียงอยู่ เดาไม่ยากเท่าไหร่ คนที่จะอยู่ร่วมห้องกับเขาได้ก็คงมีแค่อัลฟ่าหน้าดุนั่นคนเดียว

“พี่ภาส นิดอยากกินนมหมี” ตะนิดวาดแขนโอบคอแกร่งก่อนจะกดจมูกซุกลงไปที่คออีกฝ่ายอย่างออดอ้อน

ตอนนั้นเองที่กลิ่นแปลกๆ ตีขึ้นจมูกจนคลื่นไส้

เหม็น!!!
พี่ภาสตัวเหม็น!!!!

“...”
“พี่ภาสเหม็นเหมือนอึ!!!!”
“แรงไปรึเปล่าครับ”
“พี่ภาสเป็นอึ!!!”
“ผมฉีดทเวลพลัสนะ จะกลิ่นเหมือนอึได้ยังไง พูดใหม่เลยพี่อ้วก จะบอกว่าหอมเหมือนกุหลาบใช่หรือไม่” ตะนิดกะพริบตาปริบๆ เมื่อคำแทนตัวของอีกฝ่ายแปลกไป มันดูแบ๊วขึ้น แถมพอดมจริงๆ ก็ไม่ได้กลิ่นลาเวนเดอร์ที่คุ้นชินติดตามตัว แต่กลายเป็นฟุ้งอยู่บริเวณรอบห้องเสียมากกว่า และที่ชัดเจนที่สุด

พี่ภาสไม่ฉีดทเวลพลัสแน่ๆ !!!

พอผละออกมาตะนิดก็เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าร่างสูงในชุดนิสิตผิดระเบียบ ใบหน้าที่มีเค้าเหมือนอัลฟ่าคู่ชีวิตอยู่นิดหน่อยทำให้ตะนิดพอจะเดาออกว่าคงเป็นน้องคนเล็กของบ้านนี้ ติดจะตกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายมัดผมเป็นจุกสองจุกผูกด้วยโบว์สีชมพูดูขัดกับลอยสักขนาดใหญ่ที่แขน
 ทันทีที่รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่อัลฟ่าคู่ชีวิตที่คุ้นเคย ตะนิดก็พะอืดพะอมขึ้นมาทันที มือเล็กตั้งใจจะผลักอีกฝ่ายออก แต่พอจะอาเจียนก็ดันกลายเป็นคว้าไหล่ไว้ก่อนที่จะ...

“แหวะะะะะะะะ”
“แว้กกกกกกกกกก พี่ภาสสสส เมียพี่อ้วกใส่ภู!!!”
“แหวะะะะะ”
“อะจ๊ากกกก ใจเย็นกันหน่อยได้ไหม คนไทยด้วยกัน”
“อะไรกัน!” ภาสเปิดประตูเข้าห้องนอนมาทันทีที่ได้ยินเสียงโวยวายมาจากในห้อง ซึ่งพอเปิดมาเจอตะนิดกำลังกอดน้องชายตัวเองที่นั่งพิงเตียงก็ได้แต่ขมวดคิ้ว
“ภาส help me!!!”
“ตะนิดไปกอดภูทำไม”
“ฮัลโหล สนใจที่เมียพี่อ้วกใส่ภูก่อนป่าว” ภูเขาโวยวายลั่น สัมผัสเปียกแถวต้นคอยังคงชัดเจนในความรู้สึก ดีที่ตะนิดแทบไม่มีอะไรอยู่ในห้องคราบอาเจียนที่ออกมาถึงเป็นแค่น้ำย่อยใสๆ

แต่มันก็คืออ้วกอยู่ดีไง!!!

“ภูเขา เข้ามาทำอะไรในห้องคนอื่น” ภาสขมวดคิ้วพลางเดินไปงัดแมวดื้อออกจากร่างน้องชายคนเล็กของตัวเอง ตะนิดเบะปากฮือ คราบอาเจียนหนืดใสที่ติดริมฝีปากแมวดื้อถูกเช็ดออกด้วยปลายแขนเสื้อของเขา
“ภูเข้ามาดูหน้าแมวพี่ ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ จะตื่นมากอดกัน พี่ต้องรับผิดชอบผมนะพี่อ้วก!”
“ไร้สาระ”
“แง้” ภูเขาร้องแงแต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมาก เขาเข้ามากวนตีนพี่เล่นไปงั้น ผิดคาดไปหน่อยที่โดนอ้วกใส่เป็นการทักทาย คิดไว้ว่าอย่างมากก็โวยวายลั่นห้องแท้ๆ
“เป็นอะไรกันรึเปล่า” ภาคินที่ห้องอยู่ไม่ไกลนัก เดินเข้ามาสำรวจความเรียบร้อย แต่ก็ไม่ได้ก้าวเท้าเข้ามาในพื้นที่ห้อง เขาทำแค่เพียงยืนพิงกรอบประตูมองความวุ่นวายตรงหน้า ทั้งพี่ชายคนโตที่หิ้วคนรักไว้และน้องชายคนเล็กของบ้านที่โวยวายลั่นว่าโดนอ้วกใส่หัว
“ภาคิน! แฟนภาสอ้วกใส่ภู!”
“แล้วไปทำอะไรในห้องภาสแต่แรก”
“แวะมาเล่นแมว เห็นภาสบอกว่าน่ารัก”
“โดนอ้วกก็ดีกว่าตีนนะภูเขา” ลูกชายคนสุดท้ายอย่างภีมเดินเข้ามากอดไหล่ภาคินพร้อมกับส่งยิ้มกวนประสาทใส่น้องเล็กของบ้าน
“ภาคิน! ภีมด่าภู ยอมเหรอ”
“เออ ไอ้เวร”
“ด่าภีม?”
“ด่ามึงเนี่ยภูเขา”
“แง้ ไม่อ่อนโยนกับน้องเลย ใจไม้ใส้ระนอง” ภูเขาลุกขึ้นยืนพลางเอามือลูบอ้วกใสๆ บนคอออกมาปาดเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเอง
“เอ้าคุณพ่อ เลิกขมวดคิ้วหน่อยเล็ก ลูกในท้องกลัวหมดแล้ว” พอภาคินเอ่ยทักภาสถึงเรียกสติกลับมาได้ แต่ก็ไม่ลืมยกเท้าเตะน้องเล็กของบ้านไปแรงๆ หนึ่งที
“ออกไปให้หมด เดี๋ยวพาตะนิดออกไปเจอเอง”
“คร้าบๆ” ภูเขาบุ้ยปากไปมาแต่ก็ยอมเดินออกจากห้องไปตามคำสั่ง พอเหล่าอัลฟ่าออกไปจากห้องหมดภาสก็ถอนหายใจออกมา ปล่อยไปคุยธุระแค่ไม่กี่นาทีก็มีเรื่องวุ่นวายจนได้
“พี่ภาส”
“หืม?”
“ไม่ชอบ”
“อะไร? ภูเขาเหรอ? ”

...ไม่ต้องห่วง ปกติก็ไม่ค่อยมีใครชอบภูเขาอยู่แล้ว
ภาสกำลังจะพูดต่อแต่แมวดื้อก็งอแงต่อเสียก่อน

“ไม่อยากบ่น”
“...”
“แต่มันหงุดหงิดนะเนี่ย มันจี๊ดท้องตลอดเวลาเลย แล้วมัน มัน มันเป็นไม่กล้าเดินแรง ไม่กล้าทำไรเลย จะกินอันนั้นก็ไม่กล้า จะกินอันนี้ก็ไม่กล้า ครีมนิดก็เลิกทาทุกตัวเลย นิดไม่ทาอะไรเลยพี่ภาส ฮึก แล้ว แล้วเนี่ย อ้วกอ่ะ ไม่ชอบ มันอึดอัด” แมวดื้องอแงพูดจาไม่รู้เรื่องแต่ภาสก็กระชับกอดไว้แน่นและรับหน้าที่เป็นผู้ฟังไปเงียบๆ
“...”
“หงุดหงิด หงุดหงิดตัวเอง”
“ใจเย็นๆ”
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษอะไรแมวดื้อ” ภาสลูบหลังเล็กไปมา
“ไม่รู้ ฮึก”
“ใจเย็นๆ หน่อย จี๊ดท้องมากไหม ที่กำลังจี๊ดเพราะลูกกำลังค่อยๆ โตอยู่นะ ทนนิดหนึ่ง เรายังเป็นมือใหม่ทั้งคู่จะคิดมากกับทุกเรื่องก็คงไม่แปลกหรอก แมวดื้อ...” ภาสเชยหน้าดื้อขึ้นมอง ใบหน้าตะนิดตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ปากเล็กที่ชอบขยับบ่นเม้มแน่นจนยับยู่
“พี่ภาส...”
“หืม?”
“น้องพี่ภาสตัวเหม็น”
“อ่า... พี่ถามหมอมาแล้ว โอเมก้าช่วงตั้งครรภ์จมูกจะไวต่อกลิ่นมากเป็นพิเศษ อาจจะเหม็นกลิ่นอัลฟ่าหรือกลิ่นน้ำหอมก็เป็นไปได้หมด พี่อยากให้ลองอีกรอบหนึ่ง... หลังจากที่ไล่ภูเขาไปอาบน้ำ”
“ทำไมอ่ะ”
“มันอ่านบทความมาว่ากลิ่นหอมจะทำให้โอเมก้าผ่อนคลาย” ภาสถอนหายใจเหนื่อยให้กับน้องชายตัวเอง ก็รู้สึกว่าบ้านกลิ่นแปลกๆ ตั้งแต่เข้าประตูมาแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะน้องชายตัวเองไล่เอาน้ำหอมฉีดไปทั่วบ้านแถมพรมตัวเองจนเสื้อเปียก
“ห๊ะ”
“แต่ถ้าเป็นเพราะเหม็นอัลฟ่าอื่นจริงๆ พี่จะพาเรากลับบ้าน พ่อกับแม่พี่เข้าใจ เดี๋ยวเราค่อยวิดีโอคอลกันก็ได้”   
“น้องพี่ภาสดูแปลกๆ”
“ทั้งบ้านมีมันแปลกอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไรหรอกนะ”   
“...”
“ภูเขาแค่อยากคุยกับเรา”
“คุย?”
“เอาจริงๆ คือมันไม่ค่อยมีใครคุยด้วยน่ะ คุยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่” ภาสขยายความต่อและนั่นทำให้ตะนิดหลุดขำออกมาทันที
“นิดขอล้างหน้าก่อน”
“ป่ะ” ภาสโอบเอวพาร่างเล็กไปที่ห้องน้ำก่อนจะกอดอกพิงกรอบประตูรอจนคนตัวเล็กทำธุระเสร็จถึงค่อยพาตะนิดออกไปนอกห้อง
ระหว่างที่ตะนิดหลับทั้งบ้านเขาได้ทำความสะอาดครั้งใหญ่เพื่อเคลียร์กลิ่นน้ำหอมที่ภูเขาฉีดไว้ทั่วและแแน่นอนว่าต้องเคลียร์ปัญหาหลักด้วยการไล่ตัวปัญหาไปอาบน้ำ อย่าว่าแต่ตะนิดจะเหม็นจากอาการไวต่อกลิ่นเลย ขนาดพี่น้องด้วยกันยืนข้างๆ ยังรู้สึกฉุนจมูก พอเจ้าตัวสารภาพว่าไล่ฉีดไว้เต็มบ้านก็โดนตบหัวจากพี่ชายไปสามที แล้วแทนที่มันจะรีบไปอาบน้ำดันมาแวะเล่นกับแมวเขาให้ต้องมีปัญหาวุ่นวายอีก
ตะนิดใช้เวลาไม่นานในการล้างหน้าแปรงฟันพอออกมาจากห้องน้ำภาสก็โอบเอวเล็กพาเดินออกจากห้องไปที่ห้องนั่งเล่นที่เดิมกับที่เจ้าตัวได้ทำการแกรนด์โอเพนนิ่งไว้ ตะนิดเกร็งนิดหน่อยแต่พอฟุดฟิดจมูกแล้วรู้สึกไม่คลื่นไส้ก็หันมาชูนิ้วโอเคเป็นสัญญาณให้พาเดินต่อได้
พอถูกพาเข้าสู่ตัวห้องนั่งเล่นที่มีครอบครัวอัลฟ่าเลือดแท้นั่งกันอยู่ตะนิดก็ใจเต้นตุ๊บๆ จมูกเล็กขยับฟุดฟิดถี่กว่าเดิมแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหม็นเหมือนตอนแรก

โอเค!
ยิ้มหวาน!
ไหว้สวย!
แกรนด์โอเพนนิ่ง!

“สะสะสวั- กึ้ก จ๊าก กัดลิ้น! แอ๊ เจ็บ!” แมวดื้อสะดุ้งโหยงหลังจากกัดลิ้นตัวเองไปดังลั่น ภาสได้แต่หัวเราะแห้งๆ พลางลูบหลังเจ้าแมวให้ใจเย็นลง
“ทุกคน นี่ตะนิด ตะนิดนี่พ่อ แม่ ภาคินแล้วก็ภีม”
“อ้าว แล้ว...”
“ภูเขาไปอาบน้ำน่ะ” ภาคินชิงตอบให้เมื่อเห็นตะนิดทำหน้างงที่ไม่เห็นน้องคนเล็กของบ้าน
“ทำความสะอาดไปบ้างแล้ว พอได้ไหมคะ ยังอยากอาเจียนอยู่ไหมเอ่ย” คนเป็นแม่ส่งยิ้มหวานพลางยกมือกวักให้ตะนิดเดินเข้าไปใกล้
“มะ ไม่ค่อยแล้วครับ ขอโทษนะครับที่ เอ่อ วางบอมบ์ไว้กลางบ้าน” ถึงจะได้รับการชวนให้ไปนั่งแต่พอได้กลิ่นอายความเป็นอัลฟ่าตะนิดก็เลือกที่จะเกาะภาสไว้แน่นไม่ยอมเดินเข้าไปหา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่เข้าใจ”
“ภาส พาน้องมานั่งมา”
“ไม่ต้องกลัว” ภาสตบตูดตะนิดเบาๆ เป็นการโอ๋ให้แมวดื้อใจเย็นๆ
ถึงเขาจะชอบเรียกตะนิดว่าแมวดื้อ แต่ก็เพิ่งจะมารู้สึกว่าตะนิดเหมือนแมวมากจริงๆ ก็วันนี้ ทั้งเกาะแขนเขาแน่นแถมพองหางทำจมูกฟุดฟิดใส่คนแปลกหน้า
เห้อ น่ารัก...

“เอ้าๆ พี่ชายคนนั้น คลั่งรักให้มันน้อยหน่อย” ภาคินที่เห็นพี่ชายตัวเองจ้องคนรักออกหน้าออกตาอดที่จะเอ่ยปากแซวเสียไม่ได้
 “อะแฮ่ม” ภาสกระแอมก่อนจะค่อยๆ ดันหลังให้ตะนิดเข้าไปนั่งบนโซฟาตรงข้ามพ่อกับแม่ ส่วนตัวเองก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
ตะนิดค่อนข้างจะเกร็งเป็นพิเศษกับบรรยากาศบ้าน อาจจะด้วยตัวเขาถูกเลี้ยงมาในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อแม่เลยไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมาก กับพี่น้องอย่างคณิตก็พูดคำหยาบได้สบาย แต่ตัดภาพมาครอบครัวคนรวยที่แม้แต่พี่น้องยังเรียกแทนชื่อกันด้วยชื่อเล่น แถมคุณพ่อกับคุณแม่ที่ดูมีออร่าคนรวยพุ่งเป็นแสงมาจากด้านหลัง
...ทำตัวไม่ถูกเลย
แถมเพิ่งจะเปิดตัวด้วยการอ้วกโชว์ไปด้วย
 “ภาสพอจะเกริ่นกับแม่ไว้บ้างแล้ว ยังไงบ้านเราก็ขอฝากตัวไว้กับหนูด้วยนะคะ ไม่ต้องเกร็งนะจ๊ะ ถือเสียว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“คะ คะ ครับ มะ มะ ไม่เกร็ง”

ไม่เกร็งสักนิด!
เรามันคนสบายๆ อยู่แล้ว!
แค่คุณแม่ใส่ชุดเพชรดูรวยมากแน่คนนั้นเอง!

“แล้วนี่หลานในท้องเป็นยังไงบ้างคะเนี่ย”
“อ่ะ เอ่อ อ่อ ตะนีใช่ไหมครับ กะ กะ ก็ตอนนี้ตัวเท่าเม็ดงาครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะเข้าไปอัลตร้าซาวด์แล้วครับ”
“ตะ...นี?” คนเป็นแม่ตวัดตามองลูกชายคนโตของบ้านทันทีทันใด
“ส่วนตอนนี้หมอให้งดออกกำลังกาย เดินขึ้นลงบันได ยกของหนักครับ กลัวตลาดหลุด”
“ตะ...หลาด?”
“แต่ตะกร้อยังอยู่ดีครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง”
“ตะกร้อ..”

ห่วงสุดคือชื่อหลานนี่แหละค่ะ
คุณแม่ลมจะจับ...
คนเป็นแม่หายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ให้กับนิกเนมของหลาน ดีที่ลูกชายตัวดีพอจะบอกไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่พอมาได้ยินกับหูก็ถึงกับใจหล่นไปเหมือนกัน

“ภูเขามาแน้ววววววววววววววว” ยังไม่ทันที่คนเป็นแม่จะได้แนะนำชื่อหลานให้ ลูกชายคนเล็กของบ้านในสภาพหัวชื้นแชมพูกับเสื้อยืดลายวันพีซก็วิ่งตุ้กตั้กมาเกาะโซฟา
“ภูเขา เช็ดหัวให้แห้งก่อน”
“หูย ภาสเป็นห่วงภูด้วยอ่ะแม่”
“มันเปียกชาวบ้าน”
“ไหนชาวบ้าน”
“...”
“เอ้โย่พี่อ้วก ผมอาบน้ำแล้ว หอมฟุ้ง” ภูเขายิ้มแฉ่งพร้อมกับยื่นมือออกไปหาตะนิด
“...” ตะนิดเตรียมเอื้อมจะไปจับมือแต่จู่ๆ อีกฝ่ายก็เปลี่ยนมือเป็นรูปกรรไกร พร้อมกับหัวเราะลั่น
“กรรไกรชนะกระดาษ!”
“เห้ย ได้ไง จะเป่าต้องพูดเป่ายิ้งฉุบก่อนดิ โมฆะๆ”

รู้จักตะนิดผู้ไร้พ่ายกับการเป่ายิงฉุบน้อยไปแล้ว!!!
ชนะคณิตสิบตารวดก็ทำมาแล้วไอ้น้อง!!!

“เล่นอะไรเป็นเด็กว่ะพี่อ้วก ผมโตแล้ว”
“อย่าเรียกพี่อ้วกนะ!”
“ก็พี่อ้วกโชว์เปิดตัวแถมอ้วกใส่ผมด้วย”
“ก็นายตัวเหม็น”
“ตบปากสามครั้งตบให้ดังกว่านี้ อย่าหมิ่นทเวลพลัสสีแดงนะพี่อ้วก ฉีดกลิ่นนี้จนได้เป็นเดือนคณะมาแล้ว”
“เห้ย เพราะแค่ฉีดน้ำหอมเนี่ยนะ”
“เปล่า เอาไปฉีดตากรรมการ อะจ๊าก แสบเลย”
“...”
“...”
“...”
“ล้อเล่นได้เป่า ยิ้มหน่อยเร้วพี่แมว ท้องอยู่ต้องห้ามเครียดนะ” โดยไม่รู้ตัวตะนิดก็เผลอโต้ตอบคนตรงหน้าไปแล้วหลายประโยค
“เอ่อ เออ เค ไม่เครียด”
“แต่เครียดก็พอเข้าใจได้ มีแฟนเป็นภาสก็ต้องเครียดป่ะ ...ดุชิบหายเลยนะคนนี้” ประโยคด้านหลังกระซิบเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นภาสก็ได้ยิน กะจะหันไปดันหน้าน้องชายแต่ทว่าแมวดื้อดันหัวเราะก๊ากออกมาลั่น
“จริงๆ ดุจริง ดุเหมียนหมา!!!”
“บ่นเก่งสัดๆ เลยพี่แมวจะบอกให้ เก่งกว่าแม่อีก”
“จริงๆ โห จริงมาก”
“นี่ภูแค่เล่นเกมดึก ภาสแม่งบ่นตั้งแต่ความผิดที่ทำตั้งแต่อายุสามขวบ”
“จริงสุดๆ!!!”
“แล้วแถมยังสามารถบ่นตอนนี้ได้ด้วยนะ ทั้งเรื่องที่ขี่มอไซต์ล้มกับเรื่องที่แอบตื่นมากินไอติมตอนกลางคืนน่ะ” ภาสที่ฟังอยู่พูดออกมาเสียงนิ่งทำเอาวงแตกแยกทาง ภูเขากระโดดดึ๋งไปเกาะภาคิน ส่วนแมวดื้อกะจะดึ๋งตามภูเขาไปแต่ก็ถูกมือใหญ่จับเอวไว้
“จะ จ๊ากพี่ภาส รู้ได้ไง! แอบติดกล้องเหรอ!!”
“เราทิ้งไอติมไว้ในถังขยะ”
“ตะ ตะนีอยากกินเปล่าพี่ภาส ไม่ใช่นิดหรอก ปุ๋งแบบงอแง ถีบท้อง”
“ตอนนี้ตัวเท่างา เอาอะไรมาถีบ”
“พี่ภาส ตะนีน้อยใจแล้ว”
“ดื้อ” ถึงปากจะขยับบ่นแต่คนตัวสูงก็กดจมูกหอมกลุ่มผมตรงหน้าไปด้วยความเอ็นดู แน่นอนว่าพอเงยหน้าขึ้นมาก็ได้รับสายตาแซวมาจากทั่วสารทิศรวมไปถึงจากคนเป็นพ่อและแม่ที่นั่งยิ้มอยู่ไม่ไกล

ใช่ เขาคลั่งรัก
ไม่ปฏิเสธหรอก ยิ่งพอตะนิดท้องตะนี(?) ฟีโรโมนกลิ่นพีชผสมแป้งเด็กที่เขาชอบยิ่งส่งกลิ่นหอมกลมกล่อมกว่าปกติจนอยากจะเอาจมูกซุกทิ้งไว้ทั้งวัน แถมช่วงนี้ตะนิดกินก็ดูจะกินเยอะเป็นพิเศษตัวก็จับเต็มไม้เต็มมือมากขึ้น

คิดแล้วก็...
ให้ตายเถอะ อยากจับฟัดชะมัด!!!!

“ยังไงวันนี้ก็พักที่นี่สักคืนได้ไหมคะลูก”
“เราว่าไง” ภาสเรียกสติตัวเองกลับมาก่อนจะหันมาถามเจ้าแมวในอ้อมกอด
“อื้อ ก็น่าจะได้ แต่พรุ่งนี้นิดมีประชุมที่ออฟฟิสตอนเที่ยงต้องรีบออกหน่อย”
“พี่มีคุยงานตอนแปดโมง ออกไปพร้อมพี่เลยไหม”
“จ๊าก เช้าไปเปล่า” ตะนิดส่งเสียงแง
“ให้ภูแว้นไปส่งเปล่าภาส”
“พี่ไม่ให้ขึ้นมอไซต์ ท้องยังอ่อน”
“เออจริงด้วย งั้นภาคิน ภูยืมมัสแตงไอ้ขาวดำนั่นไปส่งพี่อ้วกหน่อยดิ”
“เอาสิ”

ง่ายเหมือนยืมมัสตาร์ดไม่ใช่มัสแตง
รถราคาคันเป็นล้าน ยืมกันง่ายๆ แบบนี้เลยเรอะ!
ตะนิดได้แต่กะพริบตาปริบๆ ตัดภาพที่บ้านเขากับคณิต แค่ไอติมปีกผีเสื้อถ้าแบ่งไม่ได้เท่าครึ่งเป๊ะยังตีกันแทบตาย เรื่องแบ่งของให้ยืมง่ายๆ นี่ตัดทิ้งไปได้เลย

“ภาส ภูขอไปส่งแมวพี่ได้ป่ะ ขับนิ่ม ไม่กระแทกบั๊มเหมือนที่เคยทำ ระวังตลอดทางแน่นอน สาบาน”
“ไม่ให้”
“ภาสสสสสสส”
“ไอ้เวรภู เอามัสแตงไปขับกระแทกบั๊มได้ก็แย่แล้วโว้ย นี่รถไม่ใช่มอไซต์”
“นะภาสนะ ให้ภาคินขับก็ได้แล้วเดี๋ยวภูนั่งกอดแมวพี่ไปให้”
“อยากตายเหรอภู”
“แง้ ก็ภูกลัวแมวสะเทือน”
“ก็ได้นะพี่ภาส นิดไม่อยากรีบตื่นด้วย” ตะนิดกระตุกแขนเสื้อคนตัวสูงจึ้กๆ
“ให้กอดด้วยเหรอ”
“อันนั้นห้ามโว้ยไอ้ตัวเหม็นขี้”
“พี่อ้วก!!! บอกว่าอย่าหมิ่นสีแดง!!!”
“เห้อ ก็ได้ แต่ถ้าถึงออฟฟิสแล้วต้องบอกพี่นะ ภาคินก็คุมภูด้วย” 
“เคลียร์กันเสร็จก็ลุกไปทานข้าวได้แล้วนะ แม่บ้านจัดโต๊ะเสร็จแล้วลูก” คนเป็นแม่ใช้มือตีโต๊ะเบาๆ เรียกให้ลูกชายทั้งสามเลิกตอแยลูกแมวที่นั่งเด๋อด๋าอยู่กลางวง ตะนิดพอได้ยินคำว่าข้าวก็ตาโต
“กินครับกิน พี่ภาส ไปกินข้าวกัน”
“ป่ะ”
“พี่อ้วกเดินระวังๆ ดิ เดี๋ยวหลานภูเจ็บ” ภูเขากระโดดตามมาช่วยปัดพื้นหินอ่อนให้ด้วยความกลัวพี่สะใภ้จะสะดุดพื้นเรียบ ภาสเห็นน้องนั่งไปกับพื้นก็อดที่จะเอาเท้ายันให้กลิ้งเสียไม่ได้ หมั่นไส้มาตั้งแต่ที่นั่งนินทาเขากับแมวดื้อแล้ว
“พี่ภาสอย่าเตะภู”
“เออใช่ ภาสอย่าเตะภู”
“ต้องกระทืบ”
“ใช่ เอ๊ะ? อ้าวไอ้พี่อ้วก กวนตีนแล้วเป่า”
“คำก็อ้วกสองคำก็พี่อ้วก เรียกอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็อ้วกใส่หัวเลย”
“อี๋ ทุเรียน”
“ทุเรศ!”
“แฮ่”

ภาสมองน้องชายคนเล็กสลับกับแมวดื้อก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

ดูท่าทาง...
บ้านจะวุ่นวายมากขึ้นอีกเยอะเลย



TALK

ตอนต่อไปเกียมทิชชู่กันไว้ด้วยนะกั๊บ
เกียมซับเลือด แมวดื้อจะขอถูๆ หน่อยอีกแน้ว ถูเก่งมาก อีกนิดนึงจินนี่โผล่ออกให้ขอพรแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ครอบครัวตัวภ. (2) [12/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-10-2020 23:17:55
รอแทบไม้ไหวแล้ว...ถูๆๆๆๆๆๆๆ    :hao6:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ครอบครัวตัวภ. (2) [12/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 13-10-2020 01:58:28
จะถูอีกแล้วหรอตะนิด เจ้าเด็กหื่น 555
ตะนิดเจอแฝดอีกคนที่พลัดพรากกันมานานแน้ว
นิสัยเหมือนกันกว่าแฝดตัวจริงไปอีก อยากให้3หน่อนี้เจอกัน แค่คิดก็ฮาแล้ว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ครอบครัวตัวภ. (2) [12/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-10-2020 02:23:57
ป่วนมาก 55555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ครอบครัวตัวภ. (2) [12/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-10-2020 09:15:28
ภูเขากับตะนิดเข้ากันได้ดีมากๆ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ครอบครัวตัวภ. (2) [12/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 14-10-2020 09:37:19
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 29-10-2020 19:31:42
ก็จะดื้อ 28

สมัยก่อนทุกครั้งที่ดูหนัง ตะนิดมักจะตั้งคำถามในหัวเสมอว่า
...มันจะมีคนรวยขนาดนั้นจริงๆ เหรอวะ?

แต่ก็ไม่คาดคิดว่าคำตอบจะถูกเฉลยในรูปแบบบ้านของคนรัก ตากลมได้แต่มองออร่ารวยของอัลฟ่าหน้าดุคู่ชีวิตและน้องชายคนเล็กของบ้านอย่างภูเขาที่กำลังนั่งเล่นกับหมาไซบีเรียนฮัสกี้ขนฟู

เอาล่ะ ชาเลนจ์มาแล้ว หมาคนรวยจะชื่ออะไรกันนะ
อันโตนีโอ? อันโดรเมด้า? มิคาเอล?

“ตะนิดนี่สมหมา หมาของภูเอง”

แป่ววววววววววววว
ไทยเฉย!!! แล้วสมหมาก็ได้เหรอ!!!   

“น่ารักดี”
“ภู อย่าให้กระโดดใส่ตะนิดนะ” ภาสเอ่ยเตือนพร้อมกับเดินเข้าไปซ้อนหลังแมวดื้อไว้ เผื่อเจ้าหมาเจ้าปัญหาของบ้านหลุดมากระโดดใส่
“ภูเอาน้องไปไว้บ้านหมาก่อน เดี๋ยวน้องโดดใส่แมว”
“อืม”

บ้านหมา?
กรงเรอะ?
ตะนิดชะโงกดูบ้านหมาที่ว่าก่อนจะอุทานออกมาอีกรอบเพราะบ้านหมาที่ว่าไม่ใช่แค่กรงหมาแต่เป็นบ้านหลังเล็กๆ สำหรับหมาโดยเฉพาะเลยต่างหาก โอ้โห รวยไปแล้ว!

“บ้านหมาหรูไปไหมพี่ภาส!!!”
“อืม ก่อนหน้านี้ก็ว่าหรูไปนะ แต่พอบางวันภูเขาก็เข้าไปนอนเลยคิดซะว่าเป็นห้องน้องเพิ่มมาอีกห้องก็เลยปกติ” ตะนิดกะพริบตาปริบๆ ให้กับคำตอบ

ไอ้แบบนี้คือเทียบน้องแท้ๆ กับหมาเลยไม่ใช่เรอะ!!!

“เดี๋ยวพี่ต้องคุยงานออนไลน์กับทีมแปปนึง เราไปเล่นกับภูเขาก่อนแล้วกันนะ”
“ได้ๆ”
“เล่นที่ไม่เจ็บตัวนะตะนิด” ภาสจิ้มเหม่งขาวไปหนึ่งที
“รู้แล้วน่าาาาา”
“เดี๋ยวพี่มา” อัลฟ่าหนุ่มโน้มตัวหอมขมับกลิ่นแป้งเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าตัวบ้าน ในจังหวะเดียวกับที่ภูเขาเดินกลับมาพอดี
“อ้าว ภาสไปคุยงานแล้วอ่อ พี่แมวอยากทำไร เล่นนินเทนโดกันป่ะ”
“อื้อ ได้”
“ค่อยๆ เดินนะพี่แมว ห้องทีวีอยู่ปีกซ้ายของบ้าน” ภูเขาขยับตัวด้วยความงกๆ เงิ่นๆ แขนทั้งสองข้างกางออกไว้ระวังพี่สะใภ้ล้ม ไอ้จะจับก็กลัวเจ้าของตามมากระทืบเลยได้แต่ค้างมือไว้อย่างงงๆ ตะนิดขำออกมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ล้อเลียนอะไร เมื่อมาถึงห้องทีวีตะนิดก็ยกมือขึ้นทาบอก

โฮมเทียเตอร์ขนาดใหญ่ชัดๆ แต่บ้านนี้เรียกห้องทีวี!!!!
จอกว้างเท่าหน้าเขากับคณิตรวมกันสามสิบคนแถมยังลำโพงรอบทิศทาง!!!

“ภูเขา บ้านนี่ทำธุรกิจอะไรกันแน่”
“ถ้าผมบอกไปพี่คงจะตกใจ”

เชี่ยๆๆๆๆๆ
ชายชุดดำรึเปล่า!!!! องค์กรลับที่ผลิตยาลาล่าโพทอกซิน!!!

“อึก อย่าบอกนะ...”
“ใช่พี่”
“...”
“ผมไม่รู้เหมือนกัน”
“แอ๊ะ...”
“แบบที่บ้านไม่ค่อยบอกอะไรผมเท่าไหร่ เวลาได้คำตอบก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ที่รู้ก็ภาคินทำสักอย่างเกี่ยวกับรถ ภีมทำเกี่ยวกับพวกร้านอาหารส่วนพ่อกับแม่ขายกระดาษ” ภูเขายกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ พลางกดรีโมทเชื่อมกับเครื่องนินเทนโดปล่อยให้ตะนิดนั่งกะพริบตาปริบๆ งงกับความเหลื่อมล้ำในครอบครัว 
ว่าแต่ขายกระดาษ?
อะไรคือขายกระดาษ!!!!!
“อ่า...” เอาเป็นว่าแกล้งเข้าไปก่อน ตะนิดพยักหน้าเออออก่อนจะหยิบจอยเกมมากดเล่น เกมที่ภูเขาเลือกเป็นเกมมาริโอ้ที่เล่นง่ายๆ ผ่านด่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้เครียดอะไรด้วยความที่กลัวคนท้องจะเครียด ไอ้จะเลือกเกมต่อสู้ก็กลัวหลานในท้องซึมซับความรุนแรงตั้งแต่ตัวเท่าถั่วงอก เอาเป็นแค่ความรุนแรงจากการกระทืบเห็ดก่อนแล้วกัน
“พี่อ้วก”
“หืม”
“ภาสอยู่กับพี่อ้วกเป็นไงอ่ะ ภูเห็นแล้วไม่ชินตาเลย ปกติภาสโคตรนิ่งเลยนะ”
“ตอนแรกดุมากกกกกก” ตะนิดทำหน้าแหยเมื่อนึกย้อนกลับไปตอนแรกๆ ที่เจอกับอัลฟ่าคู่ชีวิต
“อาฮะ”
“แต่พออยู่ด้วยกันไปสักพักก็ ก็... ก็ไม่รู้เหมือนกัน ใจดีขึ้นแต่ดุเท่าเดิมมั้ง” แมวดื้อเกาแก้มแก้เขินเมื่อนึกไปถึงตอนแรกๆ ที่เจอกันกับภาพปัจจุบัน

ใจดีขึ้นเยอะ
แต่ยังดุเหมือนเดิม ขี้บ่นเหมือนเดิม

“ภาสขี้บ่นมากที่สุดในหมู่พี่น้องเลยรู้เป่าพี่แมว”
“พอจะดูออก”
“แต่ไอ้มาหอมหัว หวงแฟนเงี้ย ไม่คาดคิดเลย”
“ถ้าพี่ภาสหอมหัวภูบ้างจะเป็นไง”
“ภูคงหนีออกจากบ้าน รับไม่ได้” ภูเขาเบะปากอี๋เมื่อนึกภาพถูกพี่ชายหน้าเครียดหอมหัวเอ็นดู ซึ่งภาพนั้นพอจะนึกออกแค่ตอนพี่ชายของตนหอมหัวหมาเท่านั้น
“บ้านนี้แปลกดี”
“แล้วพี่อ้วกมีแฝดใช่ป่ะ เห็นภาสบอกอยู่”
“ใช่ๆ ชื่อคณิต”
“คณิตตะนิด? เออ น่ารักดีนะ มีรูปแฝดป่ะพี่ หน้าเหมือนกันป่ะ”
“เหมือนนิดหนึ่งมั้ง” ตะนิดวางจอยเกมลงก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มไอจีคณิตส่งให้ภูเขาดู และเมื่อภูเขาได้เห็นหน้าคณิตก็ถึงกับตาโต
“เชี่ยยยยยยยย โคตรเหมือนน โห ขนลุก แปลกมาก เหมือนโบโลน่าที่พริกอยู่ตำแหน่งเดียวกันเลยว่ะพี่ เจ๋งโคตร”
“แต่คณิตเป็นอัลฟ่านะ ตัวสูงงี้เลย” ตะนิดลุกขึ้นยืนพลางเขย่งเท้าชูมือให้ดูว่าสูงมาก ซึ่งภูเขาก็รีบเด้งตัวมาจับเอวพี่สะใภ้ไว้ทันที กลัวเขย่งแล้วล้มไป เกิดหัวหลานเขาบุบไปหนึ่งเซนจะทำยังไง!
“เห้ยเท่อยู่นะ”
“ใช่ คณิตเท่มาก ตัวสูง ไหล่กว้าง ทำอาหารเก่ง ทำงานบ้านได้ ถักเปียให้แม่ได้ด้วย”
“ฟังดูพ่อบ้านพ่อเรือนดีเหมือนกันนะ”
“คณิตคือยอดมนุษย์”

ก๊อกๆ

ยังไม่ทันจะได้อวยคณิตต่อก็มีเสียงเคาะประตูขัดบทสนทนาขึ้นเสียก่อน เป็นคุณพ่อหน้าดุที่เพิ่งตกอยู่ในบทสนทนาที่เปิดประตูเข้ามาก่อนจะเดินตามเข้ามาด้วยน้องชายอัลฟ่าอีกสองคน ภาสทิ้งตัวลงนั่งข้างตะนิดพร้อมกับโอวเอวบางไว้ ส่วนภีมและภาคินเลือกเดินไปเตะภูเขาหนึ่งทีก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างน้องชาย

“คุยอะไรกันอยู่”
“นิดเปิดรูปคณิตให้ภูเขาดู นี่ๆ แฝดผมเองครับ” ตะนิดเอนตัวพิงอกแกร่งพร้อมกับชูมือถือตัวเองให้ภีมกับภาคินที่เพิ่งเข้ามาได้เชยชมความหล่อของแฝดตัวเองต่ออีกที
“อ้อ เนี่ยเหรอคณิต โอ้ หน้าเหมือนกันจริงด้วย”
“แต่ดูไม่ค่อยรับแขกเท่าไหร่นะ” ภีมหัวเราะเมื่อเห็นว่าแทบทุกภาพของแฝดพี่ในไอจีหน้าจะติดหงุดหงิดไม่ก็นิ่งอยู่ตลอด ต่างจากคนน้องที่ดูยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“พอหน้าเหมือนตะนิดแต่หุ่นดูตัวใหญ่นี่ก็แอบรู้สึกแปลกตาเลย”
“คณิตตัวไม่ใหญ่น้า”
“ใหญ่กว่าเราน่ะ” ภาคินอมยิ้มให้กับแม่แมวที่งุบงิบปากไม่ยอมให้คนอื่นว่าแฝดพี่ตัวใหญ่

คณิตแค่สูงกว่านิดเดียว!
นิดเดียว!

“ว่าแต่แบบนี้เด็กในท้องมีโอกาสเป็นแฝดไหมอ่ะภาส” ภูเขาถามขึ้น
“หมอบอกก็มีสิทธิ์นะ แต่ตรวจค่าHCGแล้วค่ายังไม่สูงเท่าได้แฝด แต่เดี๋ยวตรวจครั้งต่อไปก็น่าจะรู้แล้ว”
“แต่พี่แมวพุงไม่ใหญ่เลยนะ” ภูเขาจับเสื้อแมวดื้อเปิดขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูพุง ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าพุงนุ่มนั่นไม่ได้เรียบอย่างที่คิด
“ภูเขา!” ทั้งห้องร้องขึ้นพร้อมกันทันทีแม้กระทั่งแมวดื้อที่โดนเปิดพุงโชว์ก็โวยวายด้วย

มาเปิดพุงกันแบบนี้ได้ไง!
คนอื่นรู้หมดว่าอ้วน!
ไม่สิ พุงยุ้ย!

“เห้ยย มีพุงนี่! แค่ไม่กี่อาทิตย์หลานภูตัวโตแล้วเหรอ!”
 “มะ ไม่ นั่นแค่พุงอ้วน” ตะนิดอ้อมแอ้มตอบ ไม่กล้าบอกว่านั่นเป็นแค่ข้าวเย็นที่เพิ่งกินไป ส่วนตะนีจริงๆ ตอนนี้น่าจะยังตัวแค่เม็ดข้าวสองสามเม็ดรวมกัน
“อ้าว”
“มึงเอาเสื้อตะนิดลงก่อนดีกว่า” ภาคินแตะไหล่น้องชายเบาๆ ซึ่งภูเขาก็งงเล็กน้อย แต่พอเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ชายคนโตของบ้านที่จ้องอยู่ก็รีบเอามือออกแต่โดยทันทีด้วยความกลัวโดนกระทืบหยอดน้ำเกลือจนอดดูหน้าหลาน
“แต่ดีนะที่ตะนิดไม่แพ้ท้องเหมือนในหนัง ไม่งั้นคงลำบากแย่”
“หมอบอกอาจจะแค่ยังไม่แพ้น่ะ”
“นิดอาจจะไม่แพ้เลยก็ได้ นิดแข็งแกร่ง” แมวดื้อขยับตัวซุกเข้ากับอกแกร่งพลางจับมือใหญ่มาวางไว้บนหน้าท้อง ภาสงงนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ดึงมือกลับมา
“พี่ว่าลูกน่าจะดื้ออยู่พอตัว ไม่ยอมให้เราได้ท้องสบายๆ หรอก” ภาสพูดตามความจริง เขาน่ะเห็นแววดื้อจากลูกในท้องตะนิดตั้งแต่ตัวเท่าเม็ดถั่วนี่แหละ
“ไม่ดื้อ นิดยังไม่ดื้อเลย”
“หึ” ภาสหัวเราะในลำคอให้กับคำว่าไม่ดื้อของเจ้าแมวดื้อในอ้อมกอดก่อนจะก้มหัวลงหอมหัวฟูกลิ่นพีชไปหนึ่งฟอดใหญ่
“ภาคิน ภีม พูดจริงนะ ภูกลัวภาสเวอร์ชั่นนี้นิดหนึ่ง”
“หึ เดี๋ยวพอมีแฟนบ้างเดี๋ยวก็เปลี่ยนร่างเป็นเวอร์ชั่นนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ” ภีมส่ายหัวเอือมพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งคู่ก่อนจะหยิบจอยเกมขึ้นมากดเล่นหลีกหนีภาพหวานเลี่ยนกับภาพน้องชายขี้โอเวอร์ บทสนทนาถูกหยุดไปเมื่อเกมเริ่ม ตะนิดไม่ได้เล่นด้วยแต่ทำเพียงนั่งพิงอกอัลฟ่าหนุ่มที่วาดแขนโอบถือจอยอยู่เหนือพุงเล็กน้อย
เพียงแค่รู้ว่าอยู่ในอ้อมกอดของอัลฟ่าคู่ชีวิตก็รู้สึกปลอดภัยจากทุกอย่าง ไหนจะกลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆ ที่ลอยอยู่รอบตัวนั่นอีก แม่แมวมือใหม่เริ่มเคลิ้มตาปรือจนในที่สุดก็หลับสนิทลงอย่างง่ายดาย
พอเหล่าอัลฟ่าได้ยินเสียงกรนเบาๆ ดังขึ้น ภูเขาก็รีบจัดการลดเสียงเกมลงทันทีด้วยความกลัวว่าตะนิดจะตื่น ส่วนภีมก็ลุกขึ้นหยิบจอยเกมออกจากมือภาสให้อย่างรู้งาน
“ไม่นอนเยอะไปเหรอ เหมือนเพิ่งนอนไปเอง” ภาคินพูดขึ้นเบาๆ ด้วยความกังวล
“ช่วงนี้นอนเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว”
“ไม่ได้อันตรายอะไรใช่ไหม”
“อืม ถามหมอแล้ว อาจจะเพราะกลิ่นเป็นลาเวนเดอร์ด้วยเลยยิ่งกระตุ้นให้เพลียง่ายขึ้น” ภาสค่อยๆ อุ้มแมวดื้อขึ้นแนบอกโดยมีเหล่าพี่น้องคอยช่วยอำนวยความสะดวก ทั้งเปิดประตูให้แล้วก็คอยประคองหัวเล็กไม่ให้แหงนเกิน
“กู๊ดไนท์นะพี่แมวแล้วก็หลานแมวด้วย” ถึงจะยังไม่ได้ดึกมาก แต่พอเห็นท่าทางหลับปุ๋ยสบายขนาดนั้นภูเขาเลยถือโอกาสบอกกู๊ดไนท์ไปด้วยเลย
ภาสอุ้มแมวดื้อขึ้นมานอนบนห้องนอน เชคว่าห่มผ้าห่มอะไรเรียบร้อยก็หอมเหม่งใสก่อนจะเดินออกไปคุยงานที่ค้างไว้ต่อซึ่งก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นพอเดินกลับมาที่ห้องนอนตะนิดก็ยังคงนอนน้ำลายยืดอยู่บนเตียง เห็นทีคงจะตื่นอีกทีก็คงเช้า เมื่อคิดแบบนั้นภาสจึงตัดสินใจอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อบก่อนจะเตรียมขึ้นเตียงนอนกอดแมวดื้อไว้

...วันนี้ช่างเป็นวันที่ผ่านไปอย่างสงบเสียจริง
ว่าแต่ตะนิดละเมออะไรงึมงำ ดูท่าทางกำลังฝันดี

ภาสอมยิ้มให้กับภาพแมวดื้อที่นอนขมวดคิ้วบ่นงึมงำไม่เป็นคำก่อนจะถอดแว่นแล้วล้มตัวนอนลงข้างๆ ตะนิด และแน่นอนว่าไม่ลืมวาดแขนโอบพุงยุ้ยไว้หลวมเพื่อกอดเจ้าก้อนเล็กๆ ในท้องไปด้วย

ทุกอย่างดูผ่านไปอย่างเงียบสงบ
แต่ทว่า...

ท่ามกลางดึกแมวดื้อที่หลับปุ๋ยก็ลืมตาโพล่งขึ้นก่อนจะผุดตัวขึ้นนั่ง มือเล็กตีป้าปเข้าให้ที่ผ้าห่มก่อนจะเปิดมันขึ้นดูอย่างกล้าๆ กลัวๆ 

เขาฝันเปียก!!!!!
บ้าที่สุด!!!!!!
เป็นดวงเลยเป็นดวง!!!

พอนึกไปถึงภาพในฝันที่โดนอีกฝ่ายจับขาขึ้นชูแล้วสอดตัวตนเข้ามาถูๆ ที่ต้นขา ตะนิดก็ได้แต่แก้มแดงเป็นมะเขือเทศสุก แมวลามกสะบัดภาพสุ่มเสี่ยงนั่นออกจากหัวก่อนจะค่อยๆ ลุกไปเข้าห้องน้ำ ด้วยความที่ไม่รู้จะค้นบอกเซอร์ตัวใหม่มาจากไหนตะนิดเลยต้องสละบอกเซอร์ตัวเองทิ้งเหลือไว้แค่เพียงกางเกงขาสั้นที่เพิ่งไปคุ้ยใหม่มาจากตู้เสื้อผ้าอีกคน ซึ่งเอวก็ใหญ่เสียจนต้องดึงเชือกมัดให้แน่น พอแต่งตัวทำลายหลักฐานเสร็จตะนิดก็ค่อยๆ คลานขึ้นเตียง
มือเล็กหยิบมือถือของตัวเองที่วางไว้แถวหัวเตียงขึ้นมาก่อนจะกดเสิร์ชข้อมูลที่สงสัยหลังจากฝันสยิวกิ้วเมื่อครู่


‘ขนาดของอัลฟ่า’

ไม่ได้ลามกนะ!!!
ใช่ เขาน่ะไม่ได้ลามกสักหน่อย แต่ช่วงตั้งท้องหมอบอกไว้ว่าโอเมก้าจะฮีทน้อยลงจนแทบไม่ฮีทตลอดการตั้งครรภ์ ส่วนเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะยังทำได้แต่ขอให้พ้นช่วงไตรมาสแรกไปก่อน เพราะงั้นเขาก็ต้องเสิร์ชไว้หน่อย ขืนเกินสามเดือนไปแล้วอีกฝ่ายอยากจะอึ๊บๆ ขึ้นมานอกฮีท ไม่ทำการบ้านมาก่อนต้องแหกแน่ๆ เพราะร่างกายเขาน่ะจะปรับสภาพรับความใหญ่โตนั่นได้แค่ตอนฮีทเท่านั้น เวลาไม่ฮีทก็เป็นแค่หลุมน้อยๆ เอง

อวัยวะเพศของอัลฟ่านอกรัทนั้นมักจะมีขนาดมาตรฐานตอนตื่นตัวเต็มที่อยู่ที่หกถึงเจ็ดนิ้ว 

ตะนิดถึงกับยกมือขึ้นปิดปากกับไซส์แครอท(ไม่)น้อยนั่นที่พอเทียบกับขนาดของโอเมก้าอย่างเขาแล้วก็แทบจะเป็นได้แค่เบบี้แครอท จะบ้าเรอะ แต่ทว่าพออ่านข้อความต่อไปก็แทบตาเหลือก

หมายเหตุ ขนาดอวัยวะเพศของอัลฟ่าเลือดแท้บางคนนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าอัลฟ่าปกติ ตามแบบสำรวจบางรายอาจมีขนาดเก้าไปจนถึงสิบนิ้วแต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนน้อยและหาพบได้ยาก

จ๊ากกกกกกกกกกกก
ม้ารึเปล่า!!!!
ตะนิดเลิ่กลั่กไปมา พี่ภาสจะขนาดนั้นไม่ได้นะ มันไม่ได้ ไม่ได้แบบสุดๆ ไม่งั้นต้องหยุดไปเลยเก้าเดือนนะ ต่อให้อยากใส่แค่ไหนก็ไม่ให้!!!

พอคิดไปเรื่อยเปื่อยตากลมก็เลื่อนกลับมามองอัลฟ่าหน้าดุที่ตอนนี้นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว ตะนิดเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มขึ้น ตากลมจ้องนิ่งไปที่เป้ากางเกงอีกฝ่าย

ขอแอบดูหน่อยแล้วกัน
คราวที่แล้วจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่เพราะฮีทแถมเวลาโดนจับถูๆ ก็อายเกินกว่าจะมองให้เต็มตา

มือเล็กค่อยๆ เปิดกางเกงนอนอีกฝ่ายขึ้นพร้อมกับเอนหัวหามุมที่จะมองเข้าไปได้ แต่ก็ด้วยความที่ห้องมืดเกินไปเลยต้องหยิบมือถือมาเปิดแฟลช โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนที่เข้าใจว่านอนอยู่ได้ตื่นขึ้นมาสักพักเนื่องจากเจ้าแมวดื้อส่งเสียงรื้อเสื้อผ้าดังกุกกักจนต้องตื่นขึ้นมาดูว่าไม่ได้ล้มหรือมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นกลางดึก

ตอนนี้น่ะ เขาค่อนข้างจะตื่นเต็มตาเพียงแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นก็เท่านั้น
เหมือนภาพวันที่แมวดื้อฮีทครั้งแรกแว่บเข้ามาในหัว แต่พอจำได้จากหมอว่าช่วงนี้ตะนิดจะทิ้งระยะฮีทออกไปหรืออาจจะแทบไม่ฮีทตามปกติของโอเมก้าตั้งครรภ์เลยพอจะรู้ว่าเจ้าแมวนี่ไม่ได้กำลังฮีทอยู่แน่ๆ

แต่ว่า...
ถ้าไม่ได้ฮีทแล้วมายุกยิกอะไรแถวเป้ากางเกงเขากัน...

ภาสแอบลืมตาขึ้นข้างหนึ่งก็เจอแต่กลุ่มผมฟูส่วนหน้าของเจ้าแมวดูจะวุ่นวายอยู่แถวๆ เป้ากางเกงเขา แถมยังมีแสงแฟลชจ้าจากมือถือที่สว่างขึ้นมาจากที่ที่ไม่ควรสว่างนั่นอีก

เดี๋ยวนะ...
นี่ตะนิดกำลังส่องลูกชายเขาอยู่งั้นเหรอ?

ภาสสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงยุกยิกจากปลายนิ้วเล็กแถวบริเวณจุดสุ่มเสี่ยง ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้ลูกชายเขาเริ่มสนใจและขยายตัวได้ไม่ยาก พอมันเริ่มขยายตัวแมวดื้อก็ชะงักตัว

“จะไปรู้ได้ไงว่ากี่นิ้วอ่ะ” เสียงพึมพำดังขึ้นมาจากช่วงล่างของตัว
“...”
“ไม้บรรทัด เอ๊อะ ใช้แอปวัดเอาได้ไหมนะ”
“...”
“จ๊าก มันก็ใหญ่อยู่นะเนี่ย จะเข้าไปนอกฮีทไหวได้ไง”

ให้ตายเถอะ...
ภาสได้แต่ตบหน้าผากตัวเองในความคิด เมื่อเข้าใจได้ว่าทำไมเจ้าแมวดื้อถึงได้ตื่นมาส่องงูอะไรตอนดึกๆ ถึงจะเหนื่อยใจแค่ไหนแต่ความน่ารักนั่นก็ทำให้เขาฝืนนอนต่อไม่ได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจคว้าแว่นมาสวมเพื่อจะมองแมวดื้อซนอยู่สักพัก จนในที่สุดอีกฝ่ายก็เหมือนหายสงสัยเตรียมล้มตัวนอนต่อ แต่พอหันกลับมาเจอเขาตื่นอยู่ใบหน้าดื้อนั่นก็ถอดสีกลายเป็นแมวต้ม

เหมือนได้ยินคำว่าจ๊ากผ่านใบหน้าดื้อนั่นเลยแฮะ

“ว่าไง”
“จะ จ๊ากพี่ภาส ตะตะตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่” ตะนิดร้องเสียงหลง
“เราเอาไฟฉายมาส่องอะไร”
“มะ ไม่ได้ส่อง”
“มันเปิดอยู่นะตอนนี้” ตะนิดเลิ่กลั่ก ดวงตากลมกลอกไปมาปากเล็กขยับสั่น
“สะส่องผี ล่าท้าผีไง พี่ภาสไม่รู้จักเหรอ รายการดังนะ”
“แล้วผีอยู่ในกางเกงพี่เหรอ”
“มะ ไม่รู้อาจจะใช่ก็ได้ นิดได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากพี่ แต่สงสัยคิดไปเอง อาจจะเป็นเสียงท้องร้องของพี่ภาสก็ได้ นอนกันเนาะ”

แล้วดูคำแก้ตัวเข้า...
ภาสฝืนอมยิ้มจนปวดแก้ม

 
“มันเข้าไปได้ ไม่ต้องกลัวหรอก แต่พี่จะอ่อนโยนกับเราให้ได้มากที่สุดแต่ต้องให้พ้นช่วงนี้ไปก่อน ให้เขามั่นคงในท้องเราก่อน” ภาสยกมือขึ้นลูบหัวแมวดื้อไปมา
“อะไรเข้า”
“มังกรของพี่”
“จ๊ากกกกกกก เบบี้เคแครอท”
“ไม่ต้องจ๊ากเลย แมวลามก”
“ฮือ เถียงไม่ออก นิดฝันเปียกจริง” แมวดื้อเบะปากเล็กน้อยส่วนภาสที่พอได้ยินก็แอบแปลกใจเล็กน้อย
“เราฝันเปียก?”
“อื้อ แต่ปกตินิดไม่ค่อยฝันเปียกเท่าไหร่นะ อาจจะเพราะถูกับคุณนุ่มอยู่บ่อยๆ” ภาสชันตัวขึ้นนั่งก่อนจะเพิ่งสังเกตว่าตะนิดเปลี่ยนกางเกงแถมยังรัดเชือกแน่นจนเขาขมวดคิ้ว
“เรารัดเชือกแน่นไปไหม”
“ก็นิดกลัวกางเกงหลุด กางเกงพี่ภาสเอวเท่านี่ ใครมันจะไปใส่แบบไม่ผูกได้ โป๊นะพี่ภาส มันโป๊”
“พี่รู้ว่ามันไม่กระทบกับลูก แต่มันก็อดไม่ได้ล่ะนะ” อัลฟ่าหนุ่มเอื้อมมือไปดึงปมเชือกออก ซึ่งทันทีที่ปมคลายกางเกงตัวใหญ่ก็ทิ้งตัวหลุดออกจากสะโพกเล็กทันที แต่เพราะตะนิดนั่งอยู่มันจึงแค่ตกไปกองแถวแก้มก้น
“พี่ภาส มันโป๊” มือเล็กรีบจับกางเกงขึ้นพร้อมกับมัดเชือกไว้หลวมๆ เสี่ยโรคจิตนี่มือไวจริงๆ เอะอะก็ถอดตลอด
“ว่าแต่เราฝันเปียกยังไง”
“ก็เปียกไง นิดเล่นฝันว่าเล่นสงกรานต์”
“เหรอ แล้วคนเล่นสงกรานต์กับเราคือพี่รึเปล่า”
“...”
“...”
“กะกะก็ต้องเป็นพี่ภาสไหม จะให้นิดฝันว่าไปเล่นสงกรานต์กับใคร” แมวดื้อตอบอ้อมแอ้มพร้อมกับเกาแก้มไปมาแก้เขิน ทุกอย่างนั่นน่ารักเสียจนภาสต้องอุ้มก้อนน่ารักเข้ามาฟัดแก้ม ตะนิดเอาหน้าหลบเล็กน้อยเมื่อโดนแว่นกดแก้มแต่สุดท้ายก็ยอมขยับตัวปรับนั่งบนตักอัลฟ่าหนุ่มยอมให้หอมแต่โดยดี
“แมวดื้อเอ๊ย”
“ดุนก้นอยู่นะ” ตะนิดแยกเขี้ยวขู่พร้อมกับใช้นิ้วดึงแก้มอีกฝ่าย แต่มันก็ยืดได้ไม่มากเท่าไหร่
“เราเล่นมาเปิดดูแบบนั้นจะไม่ให้มันโชว์ตัวได้ยังไง”       
“...” ถึงแม้ห้องจะมืดแต่ภาสก็พอจะรู้ว่าเจ้าแมวบนตักคงกำลังเขินหน้าแดงที่ถูกจับได้ ตะนิดส่งเสียงงึมงำบ่นนู่นบ่นนี่หนีความผิดพร้อมกับเตรียมหมุนตัวลงนอนต่อแต่มือใหญ่ก็รั้งไว้ ภาสเอื้อมมือซ้ายไปเปิดไฟหัวเตียงก่อนจะจับตะนิดนั่งหันหลังพิงอก
“พี่รู้ว่าเราเครียด”
“เปล่าเครียด”
“เหรอ งั้นก็ดีแล้ว พี่เห็นว่าเราอ่านนู่นอ่านนี่เยอะ ยังไม่อยากให้รีบกังวลอะไรมาก” ภาสอมยิ้มเบาๆ พลางสอดมือเข้าไปลูบพุงยุ้ย ตะนิดดิ้นหนีนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ยอมทิ้งน้ำหนักปล่อยให้อีกฝ่ายลูบพุงเล่น
“นิดแค่เตรียมตัว นิดไม่อยากให้ตะนีเป็นอะไรเพราะนิด”
“เบบี้จะดื้อเหมือนเราไหม” ภาสหัวเราะเบาๆ พร้อมเคาะนิ้วบนหน้าท้องนิ่มเป็นการทักทายเจ้าเม็ดถั่วเขียว
“โน ตะนีจะเป็นเด็กดี”
“เหรอ”
“ใช่ เพราะพี่ภาสดุมาก ไม่กล้าดื้อหรอก”
“ขนาดพี่ดุมาก เรายังดื้อเลย”
“ดื้อนิดเดียว ตอนนี้เชื่อฟังแล้ว” ตะนิดยกนิ้วชี้กับนิ้วโป้งขึ้นมาบีบให้ดูว่านิดเดียว
“เก่งมาก”
“...”
“เก่งแล้ว” ภาสหอมหัวฟูก่อนจะวางคางลงบนเนินไหล่เล็กพร้อมอ้าปากขบเขี้ยวลงบนปลอกคอหนังเบาๆ เขาแทะบ่อยจนมันเริ่มจะเป็นรอยบ้างแล้ว ทำงานสมราคาจนน่าโมโห
“พี่ภาส”
“หืม?”
“นิดกังวลหลายเรื่องแต่นิดเดียว”

หลายเรื่องแต่นิดเดียว
ตกลงยังไงล่ะเนี่ย

“อืม ก็ค่อยๆ คิดไป”
“อยู่ดีๆ ก็เพิ่งจ๊าก นี่เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างเต็มที่แล้วเหรอ”
“...”
“ยังไม่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างเลย”
“อาจจะต้องรอลูกโตหน่อย แต่อะไรที่เราอยากทำหลังจากนั้นพี่จะปล่อยให้เราทำเต็มที่”
“เต็มที่ไม่ได้หรอก เพราะมีก้อนนี่ให้คอยห่วง” ตะนิดจิ้มพุงตัวเองจึ๊กๆ ก่อนจะหงายหัวขึ้นมองเพดาน
“...”
“แต่นิดดีใจที่มีก้อนตะนีนะ นิดอาจจะได้ใช้ชีวิตเต็มที่โดยมีก้อนปุ๋งมาเป็นเพื่อนเต็มที่ด้วยแทน”
“แล้วพี่ล่ะ”
“พี่ภาสเต็มที่เยอะไม่ได้นะ แก่แล้ว”

ชะ...
อัลฟ่าหนุ่มคิ้วกระตุกยิกๆ   

“ว่าพี่แก่ ทำโทษดีไหม”
“นิดฟ้องปุ๋งน้อยแน่”
“งั้นทำโทษเรื่องที่แอบลวนลามพี่ก่อนแล้วกัน”
“นิดเปล่าลวนลาม!!!”
“ขอถูๆ หน่อยนะ” มือใหญ่ที่ลูบพุงอยู่เลื่อนลงสอดเข้าใต้กางเกงอย่างรวดเร็ว แมวดื้อที่ไม่ได้สวมอะไรไว้ใต้กางเกงได้แต่สะดุ้งเฮือกจับมือใหญ่ไว้ผ่านกางเกงนอนตัวบาง
“พะ พี่ภาส อื้อ มันจะเลอะเทอะ”
“แมวดื้อ”
“พี่ภาส ฮึก นิด” แมวดื้อเชิดหน้าขึ้นหอบถี่ มือเล็กข้างขวายกขึ้นจิกหัวคนพี่ไว้แน่นจนภาสแอบรู้สึกเจ็บหนังหัว
“แมวดื้อ ไม่จิกหัวพี่”
“ก็ ก็นิดรู้สึก อ๊ะ พี่ภาส พี่ภาสหยุดทำไม”
“ไหนบอกพี่หน่อยว่าเราฝันว่าเล่นสงกรานต์ยังไง”
“พี่ภาส!”
“เร็วแมวดื้อ” อัลฟ่าหนุ่มงับแก้มใสตรงหน้าไปเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ฮึก นิด นิดฝันว่าโดนพี่ภาสจับถูๆ กับขา”
“งั้นเรามาถูๆ กับขาไหม”
“พะ พี่ภาส ไม่เอา เดี๋ยวนิดเสียงดัง”
“ห้องพี่เก็บเสียง”
“งะ งั้นก็ได้” ตะนิดเอนหัวลงนอนพร้อมกับยกขาขึ้นให้อัลฟ่าหนุ่มสอดตัวเข้ามาตรงกลาง เตรียมถูท่าปกติที่ทำบ่อยที่สุดเวลาอยู่ที่คอนโด แต่ยังไม่ทันที่ภาสจะงัดมังกรยักษ์ออกมาก็ถูกขัดด้วยเสียงเคาะประตูเสียก่อน

ก๊อกๆ

“ภาส เสียงดังโว้ย ภูนอนไม่ได้!!! เล่นสงกรานต์อะไรตอนตีสอง!!!”

ตะนิดเบิกตากว้างพร้อมกับขยับเท้าถีบคนพี่ออกสุดแรงจนร่างสูงหงายตกเตียง มือเล็กรีบตะกุยคว้ากางเกงที่ปลายขาขึ้นกลับมามัดเชือกพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมตัว ส่วนอัลฟ่าหนุ่มที่นอนหงายนับดาวอยู่ที่พื้นก็ผุดตัวขึ้นนั่งพร้อมกับตบพื้นหาแว่นขึ้นมาสวมอย่างงงๆ

แมวดื้อถีบเขา...
ถีบตกเตียงเลยด้วย... 

“แมวดื้อ...”
“นิดนอนแล้ว ไม่รู้ด้วยแล้ว!!!”
“...” ภาสกะพริบตาปริบๆ มองก้อนแมวดื้อที่มุดหนีเข้าโปงผ้าก่อนจะเบนสายตาไปที่ประตูห้อง

ภูเขา...
ห้องมันอยู่ริมปีกขวา จะมาได้ยินอะไรได้ยังไงนอกเสียจากมาแอบฟังอยู่แถวประตู

 ภาสดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มพร้อมกับถอนหายใจยาวเหยียด ตอนนี้เขาจะปล่อยน้องชายตัวเองไปก่อน ขอขึ้นไปมุดโปงไปถูแมวให้จบก่อนอย่างน้อยก็จะได้นอนหลับสบาย ทุกครั้งหลังถูตะนิดก็มักจะหลับสนิทยาวอยู่ตลอด หลังจากนั้นถึงค่อยเป็นคิวไอ้น้องเวรนอกห้อง


ไอ้เด็กเวรภูเขา



หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-10-2020 20:42:42
ภูเขาต้องโดน..นนนนน    :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-10-2020 22:38:44
ภูมานอนเฝ้าประตูห้องพิทักษ์ความปลอดภัยพี่สะใภ้แมวกับหลานแมวต่างหาก อย่าใส่ร้ายภู 5555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-10-2020 23:12:13
พิทักษ์ตะนี5555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 30-10-2020 00:21:16
ดูเป็นแก็งค์เดียวกันกัยภูเขาเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-11-2020 08:33:12
ภูเขาป่วนมาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-11-2020 20:35:48
มาคนเดียวหรือมีพวกน่ะภูเขา 5555555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 26 : ฝันเปียก [29/10/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 02-11-2020 17:19:19
ขำไม่ไหว55555555555

ภูเขาโดนแน่!! เจ้าตัวป่วน  :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 10-11-2020 01:43:09
ก็จะดื้อ 29

เช้าแสนสดใสของตะนิดมักจะมีกลิ่นลาเวนเดอร์อุ่นๆ โอบกอดไว้เสมอ ดวงตากลมค่อยๆ ปรือขึ้นก่อนจะค้บพบว่าเจ้าของกลิ่นไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ แล้ว แต่ทิ้งเป็นเสื้อสูทห่มไว้ให้แทน ความรู้สึกไม่ปลอดภัยค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนตะนิดต้องขมวดคิ้ว แมวดื้อผุดตัวขึ้นนั่งก่อนจะคว้าเสื้อสูทมากอดไว้แน่น

รู้สึกกลัวจัง...
ทำไมนะ...

ตะนิดเม้มปากแน่นก่อนจะค่อยๆ ก้าวขาลงจากเตียง ดวงตากลมสอดมองไปทั่วห้องด้วยความรู้สึกไม่มั่นคง ภายในร่างกายรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรง เหงื่อที่เริ่มซึมตามขมับ ตอนนั้นเองที่ตะนิดเหลือบไปเห็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในวอล์คอินคลอเซท แมวดื้อค่อยๆ เดินย่องไปเปิดตู้ก่อนจะค่อยๆ กระเถิบตัวเองเข้าไปนั่งในซอกมุมตู้ กลิ่นลาเวนเดอร์ที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าฟุ้งจนรู้สึกปลอดภัย

แกร๊ก

“พี่แมววว ตื่นได้แล้- อ้าว ไม่อยู่” ภูเขาที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาตามเวลาที่พี่ชายสั่งไว้ว่าให้มาปลุกเจ้าแมวดื้อไปทำงานโดยเผื่อเวลาไว้ให้แม่แมวได้อิดออดอีกสิบห้านาทีได้แต่ยืนงงให้กับเตียงที่ว่างเปล่า
“ภู ยืนทำอะไรที่ห้องภาส”
“ภาสให้ภูมาปลุกพี่แมว”
“อ้อ”
“แต่พี่แมวไม่อยู่ว่ะภีม” ภีมขมวดคิ้วก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้ามาเชคให้แน่ใจ ซึ่งภาพตรงหน้าก็มีเพียงเตียงขนาดใหญ่แต่ไร้ซึ่งคนที่ควรอยู่บนเตียงจริงๆ
“ห้องน้ำ” ภูเขาออกตัววิ่งไปเคาะประตูห้องน้ำ พอไม่มีเสียงตอบรับก็รีบเปิดประตูเข้าไปทันที แต่ทว่าภายในห้องน้ำก็ว่างเปล่า
“เสียงดังอะไรกัน”
“ภาคิน ตะนิดหายไป”
“ห๊ะ?” ภาคินขมวดคิ้วก่อนจะเดินเข้ามาในบริเวณห้องนอน
“โทรหาภาสก่อนไหม อาจจะคิดรถไปกับภาสตั้งแต่เช้า”
“แต่ภาสสั่งให้ภูมาปลุกพี่แมวนะ”
“โทรไปเชคก่อน”
“ได้ครับ”
“งั้นภีมไปเชค CCTV ก่อนนะ เผื่อไว้”

ความตึงเครียดของเหล่าอัลฟ่าเลือดแท้ทำให้ทั้งสามเผลอปล่อยฟีโรโมนข่มขู่ออกมาโดยไม่รู้ตัว ตะนิดที่กะจะออกจากตู้ไปแสดงตัวได้แต่หลับตาปี๋พร้อมกับขดตัวเข้าไปซุกมุมตู้กว่าเดิมด้วยความกลัว มือเล็กยกขึ้นกุมหน้าท้องพร้อมกับซุกหน้าลงร้องไห้กับหัวเข่า



กลัว...
ทำไมกลัวขนาดนี้...

“ภาคิน ภาสบอกว่าตะนิดไม่ได้ออกมาด้วย แต่ตะนิดก็ไม่ได้ออกมาจากห้องนะ ภูตื่นแต่เช้าไปทำแพนเค้กให้อยู่ไม่เห็นมีใครผ่านโถงเลย” ภูเขากวาดสายตามองไปทั่วห้องก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัว
“ใจเย็นๆ ก่อน”
“ใครแม่งบุกเข้ามาป่ะวะภาคิน แม่งเอ๊ย” ภูเขาทุบหมับกับกำแพงดังปึ้ง ดวงตาที่ติดเล่นอยู่เสมอเปลี่ยนแววเป็นโมโหพร้อมกับปล่อยฟีโรโมนออกมาเต็มที่ ตะนิดครางหงิงให้กับกลิ่นฟีโรโมนที่เข้มขึ้นกระทันหัน
“เป็นไปได้ยาก หน้าต่างก็ปิดอยู่”
“แล้วจะหายไปไหนได้ไง”
“ภาสกำลังกลับมาแล้ว”
“เตรียมค้นบ้าน ไปตามพวกการ์ดมา”

ปู้ด...

ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อรู้ตัวว่าเผลอตดออกไปเนื่องจากเกร็งมือจับเสื้อสูทไว้แน่น ส่วนอัลฟ่าสามคนที่กำลังปรึกษากันหน้าเครียดกลับกะพริบตาปริบๆ มองหน้ากัน

ปุ๋ง...

“ภู นี่มึง...”
“เห้ยยย ไม่ใช่ภูโว้ย ภูไม่ได้ตด เครียดขนาดนี้ใครมันจะมาตดวะ”
“เสียงมาจาก... ตู้เสื้อผ้า?”

จ๊าก
ตะนิดสะดุ้งโหยง ดวงตากลมจ้องไปที่ประตูตู้เสื้อผ้าพร้อมกับสวดมนต์ในใจ ถึงรู้อยู่แก่ใจว่าอัลฟ่าทั้งสามคนไม่ได้มาร้าย แต่ด้วยอะไรบางอย่างก็ทำให้ตะนิดรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก

“ตะนิดครับ อยู่ในตู้รึเปล่า”
“...”
“ภาคินหลบ เดี๋ยวภูเปิดเอง”
“อย่าภู”
“ยะ... อย่าเปิดนะ” ตะนิดร้องเสียงแผ่ว
“...”
“อย่าเปิดตู้นะ”
“เปิดหน่อยได้ไหมครับ ไม่งั้นจะหายใจลำบากเอา ตู้นี้ไม่ใช่ตู้สำหรับทำรัง มันไม่มีที่ระบายอากาศ” ภาคินย่อตัวลงนั่งหน้าบานประตูตู้เสื้อผ้าพลางเคาะเบาๆ 
“มะ ไม่เปิด”
“นิดเดียวได้ไหมครับ”
“ไม่เอา”
“งั้นเดี๋ยวพวกเราออกจากห้องแล้วออกมาได้ไหม”
“...”
“เดี๋ยวตะนีหายใจไม่ออกนะ” พอได้ยินชื่อตะนีหลุดออกมาตะนิดก็ค่อยๆ มุดหน้าออกมาจากสูทที่คลุมตัวอยู่
“...”
“ถ้าพร้อมแล้วออกมานะ ภูเขามันทำแพนเค้กไว้ให้ด้วย”
“...”
“ไปแล้วนะครับ” ภาคินลุกขึ้นยืนพร้อมกับดันหลังน้องชายทั้งสองคนให้ออกจากห้องไปพร้อมกับ เป็นภูเขาที่ขมวดคิ้วงงที่สุด
“อะไรคือทำรัง แล้วทำไมเราเปิดตู้ไม่ได้”
“ปกติโอเมก้าจะทำรังในตู้เสื้อผ้าไม่ก็ที่ลับตาน่ะ เออใช่ โทรบอกภาสให้ค่อยๆ ขับมา เจอตัวแล้ว” ภีมพยักหน้ารับคำสั่งก่อนจะยกมือขึ้นมาโทรหาคุณพ่อแมวที่ดูท่าทางน่าจะรีบเหยียบคันเร่งกลับมาบ้านหลังจากที่ได้รับสายจากภูเขาว่าแมวดื้อหายไปจากเตียง
“เดี๋ยว งง แล้วรังมันยังไงอ่ะ รังนกแบบนี้เหรอ ตะนิดคาบอะไรมากองเหรอ”
“อืม แต่คิดดูอีกทีน่าจะไม่ใช่ทำรัง คงตื่นมาไม่เจอภาสแล้วกลัวเลยไปซ่อนในที่ที่มีกลิ่นภาสเยอะเพื่อป้องกันตัว”
“กลัวอะไร กลัวภูเนี่ยนะ? เมื่อวานยังเล่นกันอยู่เลย ภูไม่มีทางตีพี่แมวหรอก!!!”
“สัญชาตญาณมั้ง”
“...”
“ตื่นมาก็มีแต่กลิ่นอัลฟ่าเยอะๆ คงตกใจ โอเมก้าท้องอ่อนมักจะขี้ระแวงเป็นพิเศษอยู่แล้วเพราะตัวอ่อนในท้องยังไม่สมบูรณ์ วัยภูยังไม่ค่อยเจอโอเมก้าท้องอ่อนคงไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้สินะ” ภาคินหัวเราะในลำคอ

ปึ้ง!!

“ภาส ใจเย็นๆ” เสียงภีมดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของพี่คนโตของบ้านในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเหงื่อเต็มหน้าแถมยังฝ้าขึ้นแว่นหลังจากลงจากรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำนั่นอีก 
“ตะนิดอยู่ไหน”
“ในตู้เสื้อผ้า”
“ทำรังเหรอ เริ่มทำรังเหรอ”
“ไม่น่าใช่ อาจจะแค่ซ่อน แต่คงใกล้จะเริ่มทำรังแล้ว” ภาสยกมือขึ้นเสยผมก่อนจะอมยิ้มจนแว่นยก ซึ่งนั่นทำเอาภูเขาขนลุกจนต้องกระโดดไปเกาะภาคิน
“ภาสยิ้มไมอ่ะภาคิน น่ากลัว ผีเข้าเหรอ”
“โอเมก้าเวลาทำรังคงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่พวกพ่ออัลฟ่าอยากเห็นแหละนะ”
“ห๊ะ? มันเป็นไงอ่ะ”

แน่นอนว่าภาสไม่ตอบแต่เลือกเลี่ยงตัวเดินเข้าห้องนอนไป คุณพ่อมือใหม่เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ส่งกลิ่นแป้งฟุ้งชัดเจน

“ตะนิด...”
“พี่ภาส”
“ออกมาหน่อยเร็ว” ประตูตู้เสื้อผ้าถูกดันออกพร้อมกับร่างเล็กที่กระโจนเข้าหาอ้อมกอดอุ่น
“พี่ภาส งานเสร็จแล้วเหรอ”
“ยังหรอก”
“อ้าว...”
“แต่พี่ออกมารับเราก่อน เดี๋ยวกลับไป” ภาสกดจมูกหอมหัวฟูหนึ่งที
“งั้นนิดรีบแต่งตัวก่อน” แมวดื้อบี้จมูกตัวเองลงกับอกแกร่งเพื่อสูดดมกลิ่นหอมลาเวนเดอร์เข้าปอดก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แมวดื้อจัดการล้างหน้าแปลงฟันให้เรียบร้อยพร้อมกับรีบเดินออกไปตามกลิ่นแพนเค้กที่ลอยหอมอยู่ แน่นอนว่าพ่อครัวยืนกอดอกหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์ขั้นสูงสุด
“ภูเขา...”
“พี่แมว พี่ทำภูตกใจ ภูทำโทษด้วยการตัดแพนเค้กหนึ่งชิ้น”
“เห้ย ภู!!!”
“แล้วอีกกระทงคือทำหลานภูหายใจลำบาก ตัดแพนเค้กอีกหนึ่งชิ้น”
“จ๊าก”
“แต่เพราะภูเป็นห่วงกลัวจะไม่อิ่มเลยคืนให้สองชิ้น แล้วอย่าทำให้ตกใจอีกนะ” ภูเขาเคาะส้อมลงบนหัวพี่แมวหนึ่งทีก่อนจะเดินไปนั่งจิ้มแพนเค้กที่ฝั่งตรงข้ามเข้าปาก ตะนิดที่กำลังยู่หน้าหลุดอมยิ้มออกมาเบาๆ
“ใจดีจัง”
“แหง เพราะภูคืออาที่สุดยอดของตะนี”
“อะแฮ่ม” ภาสกระแอมลั่นเมื่อได้ยินชื่อลูกออกมาจากปากน้องชายตัวเอง ภูเขาก็โดนซื้อไปแล้วงั้นเหรอ
“จริงๆ หลานชื่อตะเข้ก็เท่ดีนะพี่แมว”
“ตะเข้?”
“ช่ายยย แบบนักสู้ป่ะ สัตว์ร้ายๆ ตะเข้!”
“เห้ย เท่อยู่”
“ตะนิดรีบกินข้าวเร็ว คณิตรออยู่ที่บริษัท”
“ค้าบบบบ”

ภาสถอนหายใจยาวเหยียด สลัดตะนี ตะกวด ตะกร้ายังไม่ทันเสร็จ ยังจะมีตะเข้เพิ่มมาอีก ไม่ต้องห่วงนะครับลูก พ่อจะพยายามอย่างสุดความสามารถให้ลูกพ้นจากชื่อทั้งหมดที่แม่เขาตั้ง ภาสได้แต่ส่งกระแสจิตบอกก้อนลูกแมวในท้องอยู่เงียบๆ
ลิสต์ที่ต้องทำของคุณพ่อมือใหม่อย่างภาสนั้นเริ่มจากคุยเรื่องบ้านเนื่องจากคอนโดที่อยู่ปัจจุบันห้องนอนอยู่ชั้นสอน ถึงตอนนี้ย้ายเตียงย้ายอะไรลงมาอยู่ห้องนั่งเล่นแทนเพราะไม่อยากให้แมวดื้อเดินขึ้นลงบันไดเยอะ แต่ถึงอย่างนั้นหลายๆ อย่างก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่บ้าน แต่ทว่าบ้านที่ดูไว้ก็ติดปัญหาเรื่องโครงสร้างเล็กน้อยทำให้ต้องใช้เวลาแก้ปัญหาอีกสักพักใหญ่ถึงจะย้ายเข้าได้

... และล่าสุดปัญหาใหม่
ตะนิดกำลังจะเริ่มสร้างรัง

เป็นปกติของโอเมก้าที่จะสร้างรังในช่วงท้องอ่อนเพื่อหาแหล่งซ่อนตัวเป็นของตัวเอง ในอดีตโอเมก้ามักจะซ่อนตัวอยู่ตามถ้ำหรือที่แคบๆ แต่ยุคสมัยที่ผลัดเปลี่ยนปัจจุบันโอเมก้าจึงเลือกจะทำรังตามตู้เสื้อผ้าหรือห้องเล็กๆ แทน ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตู้เสื้อผ้าไว้สำหรับให้โอเมก้าตั้งครรภ์ใช้โดยเฉพาะ 
รังของโอเมก้าไม่ได้ซับซ้อนอะไร ส่วนใหญ่มักจะเป็นของนุ่มนิ่มและพวกเสื้อผ้าของอัลฟ่าคู่รักเพื่อที่จะทำให้รู้สึกเหมือนได้รับการปกป้องอยู่ตลอดเวลา
...ถ้าพูดตรงๆ การสร้างรังก็คงเป็นช่วงเวลาที่อัลฟ่าส่วนใหญ่อยากเห็น ยามที่โอเมก้าซุกตัวอยู่บนกองผ้าของตัวเอง แต่สำหรับภาสแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เขาอยากเห็นก็คือ

ตะนิดจะขโมยเสื้อผ้าเขายังไง

จริงอยู่ที่ตะนิดเป็นโอเมก้า แต่เจ้าตัวคงไม่รู้เรื่องสร้างรังอะไรนัก ดูจากตอนที่ภาคินพูดเรื่องสร้างรัง เจ้าตัวก็ไม่ได้สงสัยหรือพูดอะไรออกมา แต่เดี๋ยวก็คงจะทำตามสัญชาตญาณ
ขณะนี้เช้าวันเสาร์สิบโมง ภาสยังคงนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือตามปกติที่ทำ เพียงแต่สายตาคมใส่แว่นกรอบเหลี่ยมนั่นไม่ได้มีสมาธิกับตัวหนังสือตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว เขากำลังทำเป็นไม่สนใจ แต่ไอ้ท่าทางรนรานของตะนิดมันชัดมากจนเขาอยากจะยิ้มออกมากว้างๆ

“พี่ภาส... ไม่ไปไหนเหรอ”

ไล่กันเสียอย่างนั้น...

“วันนี้พี่ว่าง”
“หระ เหรอ”
“ทำไมเหรอ?”
“เปล่า”
“...”

ภาสยกกาแฟขึ้นจิบพลางมองแมวดื้อที่กำลังพยายามอย่างยิ่งในการซ่อนเสื้อกล้ามที่เขาใส่นอนเมื่อวานไว้ใต้ผ้าห่ม

“พี่ภาส”
“หืม?”
“นิดอยากกินแพนเค้กจัง ทำให้หน่อยได้ไหม”
“ได้สิ”
“ไปทำๆ ทำนานนะ พี่ภาสต้องตั้งใจทำมากๆ ปุ๋งน้อยแบบอยากกินมาก” แมวดื้อโบกมือไล่ยิกๆ บ่งบอกถึงความมีพิรุธขั้นสุด ภาสวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนจะลุกไปเข้าครัว เขาทำท่าขยับมือทำนู่นทำนี่เล็กน้อยพอให้มีเสียงดังเหมือนกำลังยุ่งวุ่นวายกับการทำแพนเค้ก แต่แท้จริงแล้วเขาแค่เอาตะเกียบเคาะกับจานเล่นๆ เคาะอยู่ไม่เท่าไหร่หันกลับไปแมวดื้อที่นั่งอยู่บนโซฟาก็หายตัวไปตามที่คาดไว้

คาดไว้แล้วว่าคงไปซ่อนตอนเขาเผลอ
แต่ว่าซ่อนที่ไหนนี่สิ

ภาสดันแว่นก่อนจะค่อยๆ ออกตัวเดินไปตามห้อง ห้องนั่งเล่นที่ถูกเปลี่ยนเป็นห้องนอนย่อมๆ ไม่มีตู้อยู่แล้ว ดังนั้นแล้วก็คงหนีไม่พ้นห้องนอนหลักชั้นสอง อัลฟ่าหนุ่มล้วงมือเข้ากระเป๋าอย่างใจเย็น เมื่อขึ้นไปถึงห้องนอนหลักเขาก็ใช้นิ้วชี้ดันบานประตูที่เปิดแง้มอยู่เล็กน้อย
ในห้องนอนหลักแมวดื้อกำลังวุ่นวายอยู่กับการรื้อตู้เสื้อผ้าเขาอย่างจริงจัง มือเล็กหยิบเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาดมๆ แล้วก็โยนทิ้ง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบอีกตัวมาดมแล้วยิ้มกว้าง

“แบบไม่ซักหอมกว่าซักแล้วเยอะเลย”
“...”
“กลิ่นพี่ภาสแบบมีเหงื่อมันก็ดีเหมือนกันแฮะ”
“...”
“เสื้อยืดสีดำตัวนั้นไปไหนนะ”

แมวดื้อกลายเป็นแมวโรคจิตเสียแล้ว
ภาสกลั้นขำในลำคออย่างสุดความสามารถ ส่วนเสื้อยืดตัวที่เจ้าตัวว่าน่ะ เขาเอาไปซ่อนไว้แถวโซฟา เพราะเพิ่งใส่ไปออกกำลังกายเมื่อวาน มันเปื้อนเหงื่อจนไม่อยากให้แมวดื้อเอาไปไว้ในรัง 

ภาสมองแมวที่กำลังโกยเสื้อผ้ากองที่ผ่านการคัดเลือกจากจมูกแมวที่กำลังจะเดินตรงมาทางประตูก่อนจะรีบหันตัวไปนั่งซ่อนหลังเก้าอี้ ซึ่งแน่นอนว่าตะนิดที่กำลังรีบขนของไม่แม้แต่จะสนใจ แมวขี้ขโมยรีบเปิดประตูห้องนอนของตัวเองแล้วรีบขนกองเสื้อผ้าไปโยนไว้ในรัง

รังของตะนิดตั้งอยู่ข้างเตียงใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยฟูกอันใหญ่ที่ฝากคณิตหิ้วมาจากห้องนอนที่บ้าน ทับด้วยผ้าห่มที่ปกติจะอยู่บนรถของพี่ภาส กองทัพคุณนุ่มหลากเบอร์ที่เบียดเสียดจนล้นตกฟูกไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น หมอนจำนวนมากมายที่ถูกกองไว้รอบๆ ให้เหมือนกำแพง มือเล็กรีบจัดแจงเอาเสื้อผ้ากลิ่นลาเวนเดอร์ยัดไว้ตามขอบฟูกก่อนจะลุกขึ้นยืนอมยิ้มให้กับฐานทัพเล็กๆ สร้างโดยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง

“อยากนอนจัง” พอได้กลิ่นลาเวนเดอร์หอมแตะจมูก ตาก็ปรืออัตโนมัติ ตะนิดค่อยๆ เอนตัวลงในท่าคลานก่อนจะถูหน้าตัวเองกับฟูกไปมา

หอมจัง หอมจังงงงง
นุ่มนิ่มแถมหอมไปหมด ฐานทัพคุณนุ่มของเขามันสุดยอดที่สุด!!!

“ตะนิด อยู่ไหนน่ะ แพนเค้กเสร็จแล้ว”
“จ๊ากกกก นิดมาอึพี่ภาส นิดมาอึ” ตะนิดรีบกระเด้งตัวขึ้นยืนก่อนจะค่อยๆ เดินไปหาเสียงที่เรียกซึ่งดังมาจากด้านล่างแถวครัว ตะนิดลงมาพร้อมกับพยายามทำท่าทางให้ดูปกติที่สุด

ด้วยการเกาหัวเก้อๆ แถมเลิ่กลั่กตาไปมา
พิรุธเยอะสุดๆ

“ไปทำอะไรด้านบนน่ะ ห้องน้ำด้านล่างก็มี”
“...”
“หืม?”
“นะ นิดอยากอึแบบเป็นส่วนตัว”
“อ้อ”
“พี่ภาส ทำแพนเค้กแล้วเหรอ กินกัน” ตะนิดรีบเลี่ยงประเด็นเดินมานั่งจิ้มแพนเค้กเข้าปาก
“เรากินเถอะ พี่ไม่ล่ะ”
“เออพี่ภาส”
“หืม?”
“เสื้อยืดสีดำที่พี่ภาสใส่เมื่อวานอยู่ไหนอ่ะ นิดหาไม่เจอ” ตะนิดเคี้ยวแพนเค้กหงับๆ จนแก้มขึ้นเป็นก้อนกลมๆ แข่งกับพุงยุ้ยโมจิ
“ส่งซักสิ มันสกปรก”
“สะ ส่งแล้วเหรอ”
“ยัง น่าจะอยู่ในห้องด้านบนมั้ง ถามทำไม” ภาสจิบกาแฟเหมือนไม่ได้ตั้งใจถาม แต่แท้จริงแล้วในใจเขานั้คาดหวังคำตอบจากแมวดื้อมากๆ ว่าจะฉีกไปทางไหน
“กะ กะ ก็นิดหาเสื้อสีดำใส่อยู่ แบบเสื้อสีมงคลไรงิ อยากยืมเสื้อพี่ภาส”

ไปทางความเชื่อแฮะ ผิดคาด
คิดว่าจะเนียนว่าจะเอาไปซักให้

“ใส่ตัวอื่นดีกว่า ตัวนั้นมันรัดรูป”
“อือ”
“เดี๋ยวคณิตจะเข้ามานี่”
“ช่าย”
“เอาของมาให้อีกแล้วเหรอ เอาอะไรมาอีกล่ะคราวนี้” จริงๆ ก็คงหนีไม่พ้นคุณนุ่มเบอร์ที่ร้อยกว่าๆ ไม่ก็พวกผ้าห่มหมอนข้างเอามาประกอบรังหรอกภาสรู้ดี เพียงแต่แค่อยากถามออกไปให้แมวดื้อเลิ่กลั่กเล่นๆ
“มะ ไม่มีไรหรอก มันคิดถึงนิดมั้ง”
“อ้อ”
“แฝดกันก็งี้แหละพี่ภาส เนาะๆๆๆ”
รักกันขึ้นมาเลยงั้นสิ ปกติตีกันจะตาย
ภาสกลั้นขำจนปวดแก้มไปหมด

ตลอดเวลาที่รอคณิตมาถึงตะนิดก็พยายามทำตัวให้พิรุธน้อยที่สุดด้วยการไปนั่งจ๋องมองต้นแคกตัสที่ระเบียง ด้วยความกลัวหลุดพูดอะไรไปแล้วโป๊ะแตก ภาพแมวดื้อนั่งขดเหลือตัวนิดเดียวทำเอาภาสคิดจะหยุดแกล้ง แต่จังหวะที่เขาจะบอกตะนิดว่ารู้เรื่องทำรังก็ดันเป็นจังหวะเดียวกับที่คณิตกดกริ่งหน้าประตู แน่นอนว่าตะนิดเดินเร็วไปเปิดให้ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“คณิ- อ้าว พี่ชาย”
“สวัสดีครับตะนิด”
“มึงถอยดิ๊” คณิตยกเท้าขึ้นเขี่ยให้ชายหลบจากระยะประตูก่อนจะอุ้มหมอนข้างอันใหญ่เข้ามาในพื้นที่บ้าน
“คณิตต”
“ไอ้อ้วน มึงเหิมเกริมมากนะ ให้กูขนตุ๊กตา ขนหมอนอะไรมาเยอะแยะ บ้านนี้ไม่มีปัญหาซื้อเครื่องนอนใหม่รึไง” แฝดพี่บ่นอุบพร้อมกับฟาดหมอนข้างลงกับพื้นให้แฝดน้องต้องร้องลั่น
“อย่าตีพื้น เดี๋ยวมันเปื้อน!!!”
“แดกแพนเค้กอีกแล้ว ใส่ไซรัปเยอะรึเปล่า”
“ไม่ใส่เลยเถอะ!!! กินเปล่าๆ !!!” แมวดื้อรีบเถียง
“ดี”
“คณิตรอก่อนนะ เดี๋ยวมา เอาหมอนไปเก็บก่อน” ตะนิดรับหมอนข้างใบใหญ่ของตัวเองมากอดก่อนจะค่อยอุ้มพาเดินชั้นบน ท่ามกลางสายตาสงสัยของแฝดพี่
“มันขนไปทำไมห้องด้านบน ไม่ใช่ว่าย้ายมานอนด้านล่างแล้วเหรอ”
“อ่า รัง? ใช่รึเปล่า” ชายหันไปยักคิ้วถามเพื่อนอัลฟ่าที่ตัวเองที่นั่งจิบกาแฟสบายใจ ซึ่งภาสก็วางแก้วกาแฟลงก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“ใช่ แต่ดูท่าจะไม่อยากให้ยุ่งสักเท่าไหร่”
“ทำมาสักพักแล้วเหรอ”
“ประมาณอาทิตย์หนึ่งแล้ว เสื้อผ้าแทบจะไม่มีใส่อยู่แล้ว”
“อ๋า”
“แล้วนั่นแอบทำแล้วนะ” ภาสอมยิ้ม ขนาดแอบแล้วยังชัดเจนจนคนอื่นยังจับได้เอาง่ายๆ
“หมายความว่าไง?”
“ตะนิดดูท่าทางกำลังจะทำรังน่ะครับ”
“รัง? อ๋อ เออ เคยฟังผ่านๆ มาเหมือนกัน แต่ไม่เคยเห็นรังโอเมก้าจริงๆ เลย” เป็นเรื่องปกติที่คณิตจะรู้เรื่องโอเมก้าดี ไอ้เรื่องรังน่ะพอจะผ่านหูมาตั้งแต่วิชาสุขศึกษาสมัยมัธยม แต่ไม่เคยจะได้เห็นภาพจริงๆ สักที
“อย่าไปยุ่งกับรังจะดีกว่านะครับคณิต โอเมก้าน่ะหวงรังมาก”
“มันจะเท่าไหร่กัน”
“คณิตครับ...” ชายเอื้อมมือจะคว้าแขนคณิตไว้แต่ก็ไม่ทัน แฝดพี่ออกตัววิ่งขึ้นชั้นสองไปก่อน เป็นภาสที่ขมวดคิ้วก่อนจะรีบออกตัวเดินตามคณิตไป คณิตนึกสนุกอยู่เล็กน้อยที่จะได้เห็นรังของแฝดตัวเอง พอเปิดประตูห้องนอนน้องชายตัวเองเข้าไปก็พบว่าแมวดื้อกำลังจัดหมอนข้างให้เข้าที่กับเบาะตัวเองอยู่ด้วยท่าทางจริงจัง
“เนี่ยนะรัง”
“คณิต!!!”
“มันต่างจากห้องนอนที่บ้านยังไงวะเนี่ย”
“คณิต ออกไปนะ”
“ตะ-“
“บอกให้ออกไปไง!!!!”

คณิตสะดุ้งตาโตเมื่อถูกน้องชายตะคอกใส่เสียงดัง เกิดมาทั้งชีวิตเขานับครั้งที่โดนแฝดน้องขึ้นเสียงได้ไม่ถึงห้าครั้งด้วยซ้ำ และทุกครั้งมันมักจะเกิดจากของกินอยู่เสมอ 

“คณิตครับ...” ชายคว้าแขนคณิตไว้แน่น แต่คณิตก็สะบัดออก
“ทำไมขึ้นเสียงวะต๋า”
“ออกไป”
“เห้ย แค่อยากเห็นรังเฉยๆ ไม่เห็นต้องขึ้นเสียงเลย” คณิตค่อยๆ เดินเข้าไปในตัวห้องพร้อมกับยื่นมือเข้าไปหวังลูบหัวแฝดน้องให้ใจเย็นลง

แต่ทว่า

หงับ!!!

“เชี่ย!!!” คณิตสะดุ้งตัวโยนเมื่อจู่ๆ แฝดน้องก็อ้าปากงับมือเขาสุดแรงจนต้องสะบัดออก แมวดื้อกางแขนทั้งสองข้างออกพร้อมกับเม้มปากตัวเองแน่น
“อย่าเข้ามานะ!!”
“ไม่เข้าแล้วครับ ป่ะ ไปด้านล่างกันดีกว่าคณิตครับ” ชายรั้งตัวคณิตที่กำลังตกใจเข้ามาโอบพร้อมกับซุกจมูกหอมหัวไปหนึ่งฟอด ลวนลามทีเผลอนี่เขาล่ะถนัดนัก
“ตะนิด มึงกัดกู...”
“ไม่ได้ตั้งใจ” แมวดื้อพูดเสียงอ่อยแต่ยังคงกางแขนปกป้องกองทัพผ้านุ่มนิ่มสุดชีวิต
“มึงตั้งใจกัดเน้นๆ”
“ก็มึงยุ่งกับกองทัพ”
“ห๊ะ?”
“ป่ะๆ แยกๆ” ชายจัดการดันหลังคณิตออกจากพื้นที่รังของตะนิด ไม่ลืมปิดประตูให้เสร็จศัพท์ คณิตได้แต่กะพริบตาปริบๆ มองประตูห้องนอนน้องชายตัวเองสลับกับอัลฟ่าแว่นที่ยืนกอดอกอยู่ริมกำแพง
“...ห๊ะ ห๊ะ ห๊ะ?” งงตาแตกที่แท้จริง รอยฟันยังเปียกอยู่บนมือ
“โอเมก้าปกติหวงรัง ขนาดคู่ยังไม่ปล่อยให้ยุ่งเลยครับ”
“มึงรู้อยู่แล้วใช่ไหม” คณิตย้อนถามชาย
“พี่ห้ามแล้วแต่คณิตไม่ฟังเองนะครับ”
“มันขนาดนั้นเลยเหรอ” คณิตกะพริบตามองรอยฟันบนมือ น้ำลายเยิ้มเชียว ต้องไปฉีดยาพิษสุนัขบ้าไหมเนี่ย
“อย่างน้อยก็เคาะก่อนสิครับ โผล่เข้าไปแบบนั้นตะนิดคงตกใจ”
“มึงเลิกเนียนก่อนเลย” คณิตตีป้าปลงบนมือใหญ่ที่กำลังแอบโอบเอวอยู่เนียนๆ
“ว้า”
“แล้วนี่มันจะอยู่ในรังไปจนถึงเมื่อไหร่”
“น่าจะอีกสักพักเลยแหละ เห็นโอเมก้าบางคนก็ติดรังยันคลอดเลยนี่นะ”
“แต่เดี๋ยวว่าจะซื้อของอะไรมาให้เขาแต่งรัง นอนพื้นแบบนั้นไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่” ถึงฟูกจะหนาแต่ก็ยังไม่ใหญ่เท่าที่ควร กลัวว่าเผื่อตอนนอนแม่แมวจะเผลอละเมอตกฟูกไปกองกับพื้นเย็นๆ
“โอเมก้าตอนท้องทำไมมันดุจังวะ”
“ไม่เห็นแปลก คณิตไม่ท้องยังดุเลยครับ”
“ไอ้สั-“
“คณิตตต” ยังไม่ทันจะได้ด่าเต็มคำก็มีเสียงเรียกดังมาจากอีกฟากของประตู ตะนิดค่อยๆ แง้มประตูก่อนจะเอื้อมมือออกมาดึงชายเสื้อแฝดพี่ไว้
“อะไรมึง จะออกมาฟัดแขนกูต่อเหรอ”
“ขอโทษ”
“เออ”
“ไม่โกรธดิ นี่น้องนะ”
“เออ ไม่โกรธ โผล่หัวออกมาให้ทักหลานหน่อย”
“คณิต”
“ไร”
“ถอดเสื้อได้ไหม”
“ใครถอด”
“คณิต”
“ห๊ะ?”
“ขอเสื้อ”

ตะนิดแบมือขอตาใส ส่วนคนโดนขอได้แต่กะพริบตาปริบๆ แต่ก็ยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตส่งให้โดยไม่ได้ถามอะไรต่อ ตะนิดรับไปดมๆ ก่อนจะผลุบตัวปิดประตูหายเข้าห้องไป ปล่อยให้คณิตยืนท้าวเอวงงที่เหลือใส่เพียงเสื้อกล้ามอวดกล้ามเนื้อแขนแน่นจนอัลฟ่าคุณชายข้างๆ ได้แต่มองตาละห้อย

“โอเมก้าตอนท้องมันแปลกขนาดนี้เลยเหรอ” งงตาแตก จู่ๆ ก็โดนขโมยเสื้อเสียอย่างนั้น
“คณิตครับ”
“ว่า?”
“ถอดกางเกงได้ไหม”
“ใครถอด”
“คณิตไงครับ”
“ทำไมต้องถอด”
“ไม่รู้ครับ ลองขอตามตะนิด เผื่อฟลุ๊ค”

ป้าป!!
หมัดแมวถูกปล่อยไปเต็มแรงจนหัวโยก

คณิตเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มคุมอารมณ์ที่อยากจะกระทืบไอ้เวรคุณชายนี่ให้เต็มตีน แต่ก็หันกลับไปสนใจบานประตูที่ถูกเปิดอีกรอบ

“คณิตต”
“ไร”
“คืน” เสื้อที่เพิ่งถูกสั่งให้ถอดไปถูกยื่นกลับมา
“อ้าว ทำไมอ่ะ”
“มันมีกลิ่นน้ำหอมอื่น ไม่ชอบอ่ะ”
“...”
“กลิ่น... กลิ่นเหมือน อ๋อ น้ำหอมพี่ชาย!!!”
“...”
“เอ้ย แล้วรอยไรเต็มตัวเลยเนี่ย” ตะนิดเอียงคอมองรอยจ้ำเล็กๆ ตามลำคอแล้วก็ช่วงอกของแฝดพี่
“ยุงกัด”
“กัดโหดจัง”
“ก็ว่าตบไปแรงแล้วนะ” คณิตเหลือบตามองอัลฟ่าข้างกายที่ผิวปากไม่รู้ไม่ชี้ 
“แมวดื้อ” ภาสที่ยืนนิ่งมานานเรียกความสนใจคืนจากโอเมก้าน้อย ตะนิดหันกลับมาหาภาสก่อนจะค่อยๆ กระเถิบตัวออกมาจากห้องแล้ววาดแขนกอดอัลฟ่าหนุ่มไว้แน่นท่ามกลางความงงของอัลฟ่าทั้งสาม

อะไร...
อยู่ดีๆ ก็อ้อน...

“พี่ภาส”
“...ครับ”
“กองทัพของนิด”

อยากจะกลั้นยิ้มแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ อัลฟ่าหนุ่มหน้าดุยกยิ้มกว้างจนแว่นยกตามไปด้วย แขนใหญ่วาดโอบเอวบางไว้หลวมๆ ก่อนจะซุกจมูกลงบนกลุ่มผมทุย ดวงตาที่ยิ้มจนปิดค่อยๆ ลืมขึ้น

ในที่สุด


เขาก็ชนะคุณนุ่มเบอร์ห้าแล้ว

หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 10-11-2020 09:03:54
นี่คือความฝันของคุณพี่เหรอคะ 5555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 10-11-2020 22:27:45
น่าเอ็นดูจริงๆ
สงสาร ตะนี ตะเข้ ตะกวด..... ที่สุดไม่รู้จะชื่ออะไรแล้ว ลูกเอ๋ย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: jay..jay ที่ 10-11-2020 23:09:19
ขำตะนิด ทำไมชอบร้องจ๊ากกกกหล่ะลูก น่ารักจริงๆเลย :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: PoyPay ที่ 11-11-2020 04:27:47
แค้นอะไรคุณนุ่มปานนั้น... 555...

ปล. ก็แค่ช่วงทำรัง... <- คุณนุ่มเบอร์5 ไม่ได้(อยากจะ)กล่าว...คุคุ...
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 14-11-2020 23:10:11
ตะนิดรู้กกก แม่แมวตัวน้อย โอ้ยย น่ารักไม่ไหว
พ่อแมวฝังใจอะไรขนาดนั้น ดีใจชนะคุณนุ่มเบอร์5 ได้สักที   :hao7:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-11-2020 08:29:04
พี่ภาสรู้สึกชนะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 19-11-2020 08:08:49
ตะนีหลานป้าาาาาา :m20:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 29 : กองทัพของตะนิด [10/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-11-2020 20:40:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 25-11-2020 02:23:15
ก็จะดื้อ 30

ตะนิดเคยคิดมาตลอดว่าช่วงชีวิตที่ลำบากที่สุดของตัวเองคือเมือตอนฮีทครั้งแรกมาถึง ภาพความทรงจำเมื่อวันนั้นยังคงชัดเจนเหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความทรมานนั้นติดอยู่ในใจจนกระทั่งวันหนึ่งสิ่งที่ทรมานมากกว่าก็เข้ามาทดแทน

อุตส่าห์ดีใจที่รอดพ้น แต่เมื่ออายุครรภ์เข้าสัปดาห์ที่แปดหายนะก็เข้ามา
...อาการแพ้ท้อง

ถ้าดูละครเยอะก็คงจะเข้าใจว่ามันคือการวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำ ตะนิดเองก็เข้าใจแบบนั้นจนกระทั่งได้มาแพ้ท้องด้วยตัวเองจริงๆ ถึงได้รู้ว่ามันทรมานกว่าที่คิดเยอะเลย มันอ้วกแทบทั้งวันจนไม่มีแรง ไอ้ที่อยากกินก็กินไม่ได้ ไอ้ที่เคยชอบก็ไม่ชอบอีกต่อไป หิวแต่ก็กินอะไรไม่ลง แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังดื่มแทบไม่ได้ ต้องคอยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ กินทีละชั่วโมง รู้สึกอยากร้องไห้ตลอดเวลา มันเหนื่อย มันล้าไปทั้งร่าง ปวดฉี่ก็บ่อย ง่วงก็บ่อย เครียดเรื่องปุ๋งในท้องเพราะน้ำหนักลด

สำหรับตะนิดแล้ว
มันคือช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ

“ฮึก” แมวดื้อตัวน้อยได้แต่ขดตัวเข้าหากันในรังนุ่มนิ่มของตัวเองโดยที่มีคุณพ่ออัลฟ่าท้าวกรอบประตูมองด้วยสายตาเป็นห่วง

เรียกได้มาเป็นวีคที่เหมือนรถไฟเหาะสำหรับครอบครัว ตอนแรกก็ดีใจจนแก้มปริ แมวดื้อน้ำตาแตกโฮหลังจากได้อัลตร้าซาวด์เห็นปุ๋งน้อยเป็นก้อนเล็กๆ หัวใจเต้นดังตุ้บๆ เป็นครั้งแรก ปุ๋งน้อยโผล่มาเป็นเม็ดถั่วเขียวเม็ดเดียวไม่ใช่แฝดอย่างที่คาดไว้แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นพ่อแม่มือใหม่ก็ยิ้มให้กับรูปอัลตร้าซาวด์ครั้งแรกอยู่ทั้งวันทั้งคืน

แต่ทว่า...

หลังจากนั้นอาการแพ้ท้องก็แทรกเข้ามาแบบตั้งตัวไม่ทัน อาจจะเพราะแมวดื้อยึดถือคติเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ทำให้กระทบกับจิตใจมากที่สุด
แพนเค้กเมนูโปรดตอนนี้ก็กลายเป็นอาหารต้องห้ามที่เจ้าตัวได้กลิ่นก็จะผะอืดผะอม จมูกเล็กที่ชอบดมฟุดฟิดเริ่มไวต่อกลิ่นมากขึ้น เรียกได้ว่าได้กลิ่นอัลฟ่าอื่นก็จะรู้สึกโหวงมาเกาะทันที อาการแพ้ท้องของตะนิดหนักขึ้นเรื่อยๆ จากอาเจียนเป็นน้ำย่อยลมๆ ก็เริ่มอาเจียนเป็นอาหาร น้ำหนักลงจนต้องแอตมิตโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ ตอนนี้แมวดื้อเลยจำเป็นจะต้องพักงานชั่วคราวให้สุขภาพตัวเองดีขึ้น 

“ตะนิด ขอพี่เข้าไปได้ไหม”
“ฮือ นิดอยากกอดพี่ภาส ไม่อยากให้เข้ามา แต่ แต่เดินไม่ไหวแล้ว” แมวดื้อนอนร้องไห้น้ำตานองฟูก ใบหน้าดื้อซีดเซียวเหลือไว้แต่แต้มแดงๆ บริเวณขอบตาและจมูกให้รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ขออนุญาตนะครับ” ภาสเดินเข้ามาอุ้มแม่แมวขึ้นก่อนจะพากลับมาห้องตัวเอง แม้ในใจคนเป็นพ่อมือใหม่จะกังวลมากแค่ไหนเขาก็แสดงออกไปมากไม่ได้ ด้วยความว่ากลัวจะพาแม่แมวเครียดหนักกว่าเดิม แต่ก็คงต้องยอมรับว่าเขาเครียดกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่พอตัว
แม้หมอจะบอกว่ายังอยู่ในขั้นแพ้ท้องปกติ แต่เวลาเห็นแมวดื้อนอนร้องไห้หรือกอดโถส้วมอาเจียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงอยากให้หายจากอาการไวๆ
“พี่ภาส นิดเหนื่อย”
“เดี๋ยวก็ดีขึ้นนะ” ตะนิดเอนหลังพิงกับอกแกร่งพลางจับมือใหญ่ขึ้นมาซบแก้มไว้
“แม่บอกแม่แพ้ท้องหนักแบบนี้ตอนท้องนิดกับคณิตเหมือนกัน”
“...”
“เพราะนิดทำแม่แพ้ท้อง ปุ๋งเลยเอาคืนเหรอ ตะนีเอาคืนเหรอ” ถึงจะพูดติดตลกแต่ภาสรู้ว่าตะนิดในตอนนี้ไม่ได้มีอารมณ์ขำอยู่เลยสักนิด
“ยังอยากกินอะไรอยู่ไหม” ภาสกดจมูกหอมขมับชื้นน้ำตาไปหนึ่งฟอดพร้อมกับขม้บมือบีบแก้มยุ้ย
“ไม่อยาก พี่ภาสอย่าพูดคำว่ากินนะ”
“...”
“พุงไม่ใหญ่ขึ้นเลย”
“พี่อยากให้เรากินอะไรหน่อย ผอมแบบนี้พี่เป็นห่วง” ถึงจะโดนดุว่าห้ามพูดเรื่องกินแต่ก็อดไม่ได้ ภาสวางคางลงกับเนินไหล่เล็กพร้อมกับขยับมือนวดไปตามมือเล็ก
“นิดอยากหายแพ้ท้องไวๆ แล้ว นิดทรมานจัง”
“...”
“เพิ่งรู้ว่าท้องมันเหนื่อยขนาดนี้”
“แมวดื้อ”
“ดีนะที่นิดไม่เหม็นพี่ภาส ถ้านิดเหม็นพี่ภาสด้วยต้องแย่กว่านี้แน่เลย” แมวดื้อเอียงแก้มถูกับตอหนวดอัลฟ่าหนุ่มไปมา เป็นหนึ่งสิ่งที่ดีมากสำหรับเขาคือตะนิดไม่ได้มีอาการเหม็นสามี แต่หวยดันไปลงกับคนอื่นแทน

อาการเหม็นแฝดพี่

จู่ๆ แมวดื้อก็เหม็นแฝดพี่ขึ้นมาในขั้นที่ได้กลิ่นก็แหวะ เจอหน้าก็หงุดหงิด เล่นเอาแฝดพี่น้ำตาตกกินข้าวไม่ลงไปอีกคน จากที่ตัวติดมาวุ่นวายที่บ้านทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็นก็กลายเป็นทำได้แต่แอบมาเยี่ยมตอนแมวดื้อหลับ นับเป็นข้อเสียสำหรับสองแฝดแต่สำหรับสองอัลฟ่าอย่างภาสและชาย นี่นับเป็นหนึ่งในข้อดีมากๆ ที่จะได้มีเวลาเป็นส่วนตัวเป็นของตัวเองเสียทีหลังจากที่หาทางแยกแฝดออกจากกันมานาน

“เออจริงสิ วินเซนต์บอกมาว่าลี่มีอาการคล้ายว่าจะท้อง”
“เอ้ยยย จริงเหรอ แล้วพี่ลี่เชคยัง”
“มันบอกยังไม่กล้าพูด ได้แต่สงสัยเฉยๆ กลัวตรวจแล้วไม่ท้องลี่จะเสียใจหนัก”
“แล้วพี่วินสงสัยได้ไงอ่ะ”
“เสื้อผ้าเริ่มหายไปเหมือนสมัยที่เราทำรังแรกๆ น่ะ” พอพูดจบตะนิดก็ถลึงตา
“จ๊าก”
“หึ”
“พี่ภาสนิสัยไม่ดี จับได้นานแล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้นิดแอบๆ” ตะนิดยื่นปากไม่พอใจ
“ดูเราขโมยแล้วสนุกดี” ภาสอมยิ้มเมื่อนึกถึงภาพแมวขี้ขโมยที่เลิ่กลั่กไปหมดเวลาเขาถามว่าหาเสื้อผ้าที่หายไป
“แย่อ่ะ”
“ชอบกลิ่นพี่แต่ไม่ยอมให้พี่เข้าไปอยู่รังนี่มันแปลกจริงๆ” 
“ก็เสื้อผ้ามันไม่ขี้บ่นเหมือนพี่ภาสรึป่ะ”
“ตะนิด”
“จ๊ากกก เสียงเข้มแล้วววว” ตะนิดขำคิกคักเมื่อยั่วอีกคนสำเร็จ ส่วนภาสที่เหมือนจะขึ้นเสียงเข้มแต่ในใจกลับรู้สึกชื้นขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายหัวเราะจนตาปิด
เขาน่ะชอบรอยยิ้มของตะนิดมากที่สุด
แมวดื้อของเขาไม่เหมาะกับน้ำตาหรือการซูบผอมไร้เรี่ยวแรงเลยสักนิด
“พี่บ่นเพราะห่วงเราหรอกน่ะ”
“พี่ภาสบ่นทุกเรื่อง บ่นเก่งมากกก ถ้าตะนีออกมาบ่นเก่งเหมือนพี่ภาสนิดจะหนีไปบวช”
“ตะนิด”
“จ๊ากกกกก ไปบวชก็ต้องโดนหลวงพ่อเทศน์อีก ไม่เอาดีกว่า”
“พี่น่ะห่วงว่าปุ๋งจะออกมาดื้อเหมือนเรามากกว่า” ภาสลูบหน้าท้องของตะนิดไปมาพร้อมกับเคาะนิ้วชี้ลงกับผนังท้องเบาๆ เป็นการดุผ่านปลายนิ้ว
“ไม่ดื้อหรอก นิดยังไม่ดื้อเลย”
“หึ”
“ปุ๋งจะเป็นเพศอะไรนะพี่ภาสว่า”
“นั่นสิ”
“ถ้าเป็นผู้หญิงพี่ภาสหวงแย่เลย”
“เป็นผู้ชายพี่ก็หวง”
“...”
“จะเป็นอะไรพี่ก็ทั้งหวงทั้งห่วงหมดนั่นแหละ หวงมาตั้งแต่คนแม่แล้ว” เสียงทุ่มเอ่ยอย่างหนักแน่นจนแม่แมวได้แต่ก้มหน้าอมยิ้ม 
“นิดก็หวงพี่ภาสน้าพูดไป” ตะนิดบีบแขนล่ำบนหน้าท้องตัวเองไปมา ยิ่งเห็นเส้นเลือดชัดๆ นั่นยิ่งรู้สึกเขินแปลกๆ
“หึ”
“พูดจริงนะ ขำไร ถ้าต่อไปนิดตุ้ยๆ พี่ภาสก็ห้ามนอกใจนะ”
“ตุ้ยๆ นี่หมายถึงท้องแก่เหรอ” งงศัพท์เล็กน้อย อะไรคือตุ้ยๆ อีก
“ใช่ แบบตุ้ยๆ ท้องโย้”
“พี่ไม่นอกใจเราหรอก”
“นิดยังไม่ตุ้ยก็พูดได้”
“ปกติเราก็ไม่ได้ผอมนะตะนิด”

ป้าป!!!
หมัดแมวเข้าให้หนึ่งทีเต็มต้นแขน ตะนิดขมวดคิ้วขู่ อย่าให้แมวต้องพิโรธ เดี๋ยวเจอหมัดเทพเจ้าแมวเข้าให้หรอก
ไม่อยากแว่นร้าวอย่าห้าวกับตะนิด!!

“พี่ภาส เดะตีปากเลย”
“หึ ตีมาเลย” ภาสกดปากลงหอมแก้มนิ่มกลิ่นแป้งเด็กผสมพีชเน้นๆ จนเกิดเสียงฟอด ตะนิดส่งเสียงอื้อขัดใจที่ตอหนวดทิ่มนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้โยกแก้มหนีแต่อย่างใด
 ตอนนี้ลำคอขาวไม่มีปลอกคอที่ปกติจะใส่ไว้แล้ว เนื่องจากตะนิดคงจะไม่ฮีทไปอีกพักใหญ่ จะมีหยิบมาใส่แค่ช่วงที่ออกไปนอกบ้านเท่านั้น
ด้วยความที่ช่วงตั้งครรภ์อาการฮีทจะหายไปจนแทบไม่มีทำให้โอกาสการทำพันธะก็หายตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นภาสก็ตั้งมั่นไว้ว่าฮีทแรกหลังคลอดเจ้าปุ๋งน้อยเขาจะงับคอขาวทำพันธะอย่างแน่นอน

พอกันทีกับการไล่กัดปลอกคอ


การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกของตะนิดนับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก กว่าจะผ่านพ้นไปแต่ละวันแมวดื้อเสียน้ำตาเป็นลิตร เข้าโรงบาลให้น้ำเกลือสองครั้ง กินข้าวทั้งน้ำตาและทั้งเกาะโถอ้วกทั้งน้ำตา สุดท้ายก็มักจะจบวันด้วยการขดตัวนอนในรังนุ่มนิ่มซุกตัวอยู่ในกลิ่นลาเวนเดอร์กลายเป็นก้อนแป้งซูบๆ จนในที่สุดเมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินเข้าสู่ไตรมาสที่สอง รถไฟเหาะที่ดิ่งลงมาสักพักก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการแพ้ท้องดีขึ้นโดยไม่คาดคิด

จากที่กินอะไรไม่ได้
กลายเป็น
อยากกินต้องได้กิน!!!! 

แน่นอนว่าความลำบากก็ตกมาอยู่ที่คุณพ่อแว่นที่ต้องคอยสั่งอาหารรับอาหาร ขับออกไปตามล่าร้านเด็ดที่เจ้าแมวเคยกินแล้วติดใจเปรี้ยวปากอยากกิน ไหนจะต้องคอยระวังเรื่องกินหวานมากเกินตามใจมากก็ไม่ได้ แมวดื้อในช่วงนี้คือความหายนะทางด้านอารมณ์ จากที่งอแงเก่งอยู่แล้วก็ยิ่งแปรปรวนเข้าไปใหญ่ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหงุดหงิดพานอาละวาดร้องไห้ สักพักก็กลับมาอารมณ์ดี ในตอนแรกภาสตามอารมณ์ตะนิดไม่ค่อยทันนัก ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ถึงจะพอปรับตัวและเรียนรู้ได้ว่า...

ไม่ต้องตามอารมณ์ให้ทัน
เพียงแค่อยู่ข้างๆ อย่างใจเย็น ไม่ไหลไปตามความหงุดหงิดของแมวดื้อ

ฝ่ายตะนิดเองก็รู้ตัวดีว่าตัวเองแปลกไป หงุดหงิดง่ายขึ้นมาก คิดมากขึ้นมาก พอยิ่งรู้สึกไม่ชอบที่ตัวเองขี้หงุดหงิดก็ยิ่งหงุดหงิด นึกอยากให้เป็นเหมือนในหนังที่วาร์ปไปตอนคลอดแฮปปี้เลยได้ก็คงจะดี
ท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้กจอแจของโรงพยาบาล ตะนิดได้แต่นั่งจับท้องตัวเองเงียบๆ ตอนนี้พุงกลมเริ่มพองนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าเขาหมั่นทาครีมป้องกันท้องแตกลายอยู่อย่างสม่ำเสมอ การตั้งท้องทำให้ตะนิดได้ทำอะไรหลายอย่างมากขึ้น ได้เจอตัวเองในมุมที่อ่อนแอมากๆ แล้วก็ในมุมที่ต้องเข้มแข็งกับตัวเองมากๆ เพราะไม่มีใครสามารถมาเข้าใจความรู้สึกหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้เท่าตัวเขาเอง 

“แมวดื้อ”
“หืม?”
“จับท้องทำไม ปวดท้องเหรอ” อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมฟูอย่างเบามือ
“ปะ เปล่า นิดแค่...”
“...”
“ตื่นเต้นเรื่องเพศตะนี”

ใช่...
ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเพศอะไรก็รักไปหมดใจแล้ว แต่ก็ยังแอบตื่นเต้นอยู่ดีแบบไม่รู้สาเหตุ ส่วนภาสเองก็ตื่นเต้นไปด้วยเหมือนกัน

...เพราะกลัวลูกได้ชื่อตะนีอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ตะนิดพูดบ่อยจนบางทีเขาก็เผลอเรียกลูกว่าตะนีไปด้วย อย่างคณิตที่เคยบ่นเรื่องชื่อตะนีไม่หยุดปาก ล่าสุดก็กลายเป็นอัพสเตตัสเรียกหลานชื่อตะนีตลอดจนเพื่อนในโซเชี่ยลก็เผลอชินชื่อไปด้วย

“ป่ะ หมอเรียกแล้ว” ภาสโอบเอวบางของแม่แมวพาเดินเข้าไปในห้องพลางส่งกระแสจิตถึงลูกในท้องไปด้วย

ไม่ชื่อตะนีแน่ลูก
ไม่ต้องแอบหยิกสายสะดือแม่เขานะ
 
การตรวจครรภ์ครั้งใหญ่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตรวจเพศแต่ตรวจรวมไปถึงทุกอย่าง ทั้งความสมบูรณ์ของร่างกายเด็ก ทั้งโครโมโซม ทั้งอวัยวะต่างๆ ความหนาของคอ นิ้วมือนิ้วเท้า และแน่นอนว่าสิ่งที่ชัดเจนมากๆ ในจอขาวดำแม้จะเป็นแค่จุดเล็กๆ แต่หมอก็ชี้ตำแหน่งให้ดูก่อนจะหันมาอมยิ้มให้กับคุณแม่มือใหม่ที่นอนกำมือคุณพ่อแน่น

“โอ้โห กางขาโชว์ปิ๊กาจูเลย ได้ลูกชายนะคะ”

ตะนิดได้แต่กะพริบตาปริบๆ มองปิ๊กาจูอันเล็กๆ ของลูกผ่านจอด้วยความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่อก เจ้าปุ๋งน้อยในจอขยับตัวไปมาเหมือนจะดิ้นเล็กน้อย ในหัวรับฟังมาว่าสุขภาพลูกแข็งแรงเหมาะกับอายุครรภ์ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ในใจก็ได้แต่คิดอยากจะเจอหน้าลูกไวๆ อยากหอมหัวให้ดังฟอดเหมือนเวลาโดนพี่ภาสหอม
ส่วนคนเป็นพ่อก็ได้แต่ยิ้มจนแว่นยก นึกอยากเคาะนิ้วดุที่พุงเล็กน้อยที่เจ้าปุ๋งเล่นอ้าขาโชว์หมอตั้งแต่อยู่ในท้อง หน้ายังเห็นไม่ชัดแต่ก็พอจะจับออร่าได้จากจอขาวดำเลยว่าจะต้องดื้อเหมือนแม่อย่างแน่นอน

ปุ๋งน้อยอย่าดื้อกับแม่เขามากนะ
ไม่งั้นแด๊ดจะเริ่มดุหนูแล้ว

ภาสได้แต่ส่งกระแสจิตในใจในขณะเดียวกันกับที่ภาพในจอโชว์ว่าก้อนปุ๋งน้อยที่กำลังขยับดิ้นหยุดขยับไปชั่วคราวก่อนจะขยับดิ้นเบาๆ ต่อเหมือนไม่เกรงกลัวคำดุ แม้อาจจะเป็นแค่ความบังเอิญแต่ภาพนั้นก็อดทำให้ภาสหัวเราะออกมาเบาๆ เสียไม่ได้

ดูท่าทาง
... คงจะดื้อเหมือนแม่แน่ๆ


หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-11-2020 09:45:49
คูณสองแน่นอนพี่ภาส 5555555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: jay..jay ที่ 25-11-2020 09:51:01
เย้..ขอบคุณนะคะ
ตะนิดมาแล้ววว❤️❤️
อยากรู้ปุ๋งน้อยออกมาลืมตาดูแล้วจะป่วนเหมือนแม่ป่าว  :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-11-2020 15:48:24
เย้ ปุ๊งน้อยเป็นผู้ชาย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 25-11-2020 20:56:55
ปุ้งน้อยแสดงฤทธิ์ซะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-11-2020 20:58:25
น้อนตะนี...ดื้อแน่นวล..ลลลลลลล    :laugh:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 25-11-2020 22:02:12
 :pig4:  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-11-2020 06:52:54
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 03-12-2020 14:10:17
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 04-12-2020 16:26:41
ตะนีหลานป้า มะดื้อ มะดื้ออ นิดเดียว 55555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 16-12-2020 07:01:52
ลูกชื่อนี่สิ555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-12-2020 21:18:14
เอ็นดูตะนิดมากค่ะ อะไรคือตั้งชื่อลูกเป็นตระกูลหรอ
ยังดีที่ไม่แพ้พี่ภาส ไม่งั้นเป็นงอแง นอยด์หนักกว่านี้แน่
อยากจับบีบมากจ้า

ภาสก็หลงน้องหนักมาก และบ้านภาสก็อาการหนักกันมาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 30 : ปุ๋งน้อย [25/11/20] p.9
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 23-12-2020 00:17:58
รอตะนีออกมาวิ่งเล่น
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 25-12-2020 03:24:57
ก็จะดื้อ 30

ในช่วงชีวิตสามสิบปีที่ผ่านมาของภาส คงต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักมากนัก ติดจะไปสนใจเรื่องธุรกิจกับพวกงานอดิเรกเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เคยวาดฝันถึงภรรยาในอนาคตไว้บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าภรรยาที่เคยวาดฝันไว้เล่นๆ นั้น

...แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับคนตรงหน้า

“มาเร็วม้า มาทาพุง ทาพุงงง”

ตะนิดในช่วงตั้งครรภ์วีคที่สามสิบกว่าๆ ขณะนี้ตัวกำลังกลมปุ๊กได้ที่ หน้าท้องที่ปกติยุ้ยนูนนุ่มนิ่มก็ป่องดันเสื้อออกมาอย่างเห็นได้ชัดแถมช่วงนี้กินเก่งจนหมอเริ่มให้คุมน้ำหนัก แก้มที่ปกติก็กลมเป็นก้อนก็ยุ้ยมากขึ้น พอพุงเริ่มป่องแมวดื้อก็เลิกใส่กางเกงไปโดยปริยายด้วยความที่มันอึดอัดพุง เจ้าตัวเลยมักจะใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ เดินไปเดินมาในห้อง

และด้วยความโอเมก้าตั้งท้องมักจะติดรัง พอย้ายออกจากคอนโดมาอยู่บ้าน เจ้าก้อนกลมนี่แทบไม่ออกนอกบ้านไปไหน มีที่จะเข้าออฟฟิศไปประชุมงานบ้าง แต่โดยปกติก็จะนั่งทำงานอยู่ที่ห้อง ดีที่ส่วนใหญ่พวกงานกราฟฟิคที่แมวดื้อยืนยันยังจะทำแม้เขาจะขอให้พักนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศบ่อยให้หายไปจากสายตา ยิ่งช่วงนี้ปวดหลังบ่อย เข้าห้องน้ำบ่อย เขายิ่งเป็นห่วง

“พี่ทาให้ไหม” ภาสเสนอตัวเมื่อเห็นก้อนแมวดื้อเดินถือกระปุกครีมสำหรับไว้ทาหน้าท้องเดินไปมา
“พี่ภาสไปทำงานได้แล้ว”
“...”
“เดี๋ยวนี้ชอบหาเรื่องไปทำงานสายตลอดเลยนะ” ตะนิดเท้าเอวขมวดคิ้ว
“ช่วงนี้ที่บริษัทไม่ค่อยมีงาน”
“พี่ชายบอกนิดหมดแล้วตาลุง ไม่ต้องโกหกเลย” แม่แมวเดินเข้ามาบีบแก้มลุงตรงหน้าไปหนึ่งทีข้อหาโกหกตาใส ส่วนภาสก็ได้แต่อมยิ้ม

ใช่...
เขาติดแม่แมวคนนี้มาก ติดแบบไม่อยากห่างไปไหน ห่วงตลอดเวลา กลัวว่าละสายตาไปแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งพอเริ่มตัวกลมปุ๊กขึ้นเขายิ่งอยากอยู่ฟัดแมวดื้อที่บ้านทั้งวันไม่ต้องไปทำงานทำการ

“ทาครีมให้ก่อนแล้วเดี๋ยวพี่ไปทำงานแล้ว”
“นิดทาเองได้”
“แมวดื้อ”
“เดี๋ยวนี้นิดไม่ดื้อแล้ว พี่ภาสน่ะดื้อ” แม่แมวใช้ฝ่ามือนวดแก้มพ่อแมวไปมา ดูสิตีนกาเต็มเลย ลาแมร์ก็ไม่ช่วยแล้วเนี่ยยยย ลานอนเท่านั้นนนน
“เดี๋ยววันนี้คณิตมาหาใช่ไหม”
“อื้อ เดี๋ยวคณิตมาตอนบ่าย เออพี่ภาส ช่วงนี้ที่ออฟฟิศแปลกมากเลย”
“ทำไมล่ะ” ภาสเอ่ยถามพลางค่อยๆ ดันคุณแม่ไปนั่งบนเตียง เตรียมเปิดกระปุกครีมทาหน้าท้องให้
“ช่วงสองสามเดือนนี่นิดรู้สึกเหมือนพี่ชินแปลกไป”
“เขาทำไม”
“ดุกว่าเดิม ด่าไม่ไว้หน้าเลย”
“ปกติก็ดูดุอยู่แล้วนี่” นึกถึงภาพเลขาเบต้าคนนั้นขึ้นมา ในหัวก็นึกออกแต่หน้าตายๆ ที่คอยกระชากลากถูอัลฟ่าขี้หยอกไปทั่วอย่างอาเธอร์   
“ใช่ๆ ปกติพี่ชินก็ดุไปทั่วแหละ แต่ที่แปลกกว่าคือพี่เต้ออ่ะ”
“มันทำไม” สรรพนามถูกเปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว
“พี่เต้อเป็นซึมๆ โดนพี่ชินเหม็นหน้า”
“แปลกนะ” อัลฟ่าหนุ่มพูดพลางเปิดเสื้อยืดแม่แมวขึ้น พุงป่องแน่นถูกโชว์ออกมาทันที
“อือ แปลกจริงพี่ภาส แถมพี่เต้อยังเป็นจ๋อยๆ แอบมองพี่ชินตลอดเวลา พอพี่ชินเดินไปไหนก็แอบตามไปดูตลอด”
“อืม ยกขาขึ้นหน่อยมา” ภาสอาศัยช่วงแม่แมวขี้เมาท์จับขาเล็กยกขึ้นชันให้นั่งได้สบาย ซึ่งตะนิดก็เอนตัวพิงอกแกร่งด้วยความเคยชิน
“แล้วแถมพี่ชินยังผอมมากด้วยพี่ภาส พี่ภาสว่าพี่ชินป่วยไหม”
“ไม่หรอก”

... เหม็นสามีคงไม่นับว่าป่วยหรอกมั้ง
ภาสได้แต่คิดในใจ คงต้องบอกว่านับเป็นโชคดีของเขาที่แมวดื้อไม่แพ้ท้องในรูปแบบเหม็นสามี ไม่งั้นคงได้มีหงุดหงิดจนทำงานไม่ได้ สภาพคงไม่ต่างจากอาเธอร์ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ อ้อ แล้วยังน่าสงสารบวกไปอีกที่เจ้าเลขาเบต้านั่นทุนเดิมไม่ได้นิสัยขี้อ้อนเหมือนตะนิดแถมยังเป็นเบต้าที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องติดกลิ่นอัลฟ่า พอเหม็นก็แทบเทสามีทิ้งแบบไม่สนใจ

“แต่ อ๊ะ... เย็นจัง” ตะนิดเลิกเมาท์มอยแล้วกลับมาสนใจมือใหญ่ที่ค่อยๆ ลูบเนื้อครีมกับหน้าท้องอยู่
“สวัสดีครับ” ภาสใช้นิ้วชี้เคาะหน้าท้องเบาๆ เป็นการทักทายเจ้าจิ๋วในท้อง
“วันนี้เตะท้องแต่เช้าเลย” ตะนิดหัวเราะเมื่อนึกถึงเจ้าก้อนปุ๋งในท้องที่เริ่มออกลายสายแดนซ์
“เดี๋ยวแด๊ดดี้จะไปทำงาน”
“...”
“อย่าดื้อกับมัมนะครับ”

ปุ้ง!
แมวดื้อแก้มระเบิดไปเรียบร้อย ไม่ระเบิดก็แย่แล้ว! มาแด๊ดดงแด๊ดดี้อะไรกันเล่า!

และแน่นอนว่าสิ้นคำเตือนของคุณพ่อ หน้าท้องบางก็มีแรงกระทุ้งเบาๆ บริเวณฝ่ามือ ทำเอาคนเป็นพ่อชะงักตัวทันที

“โอ๊ะพี่ภาส ปุ๋งน้อยเตะพี่ภาส”
“...”
“สกายคิกแด๊ดดี้เลยเจ้าปุ๋ง!”
“ตะนีครับ”
“...”
“ไม่ดื้อกับแด๊ดดี้นะครับ”

คราวนี้เงียบสนิท ไร้ซึ่งแรงเตะ
… สงสัยกลัวได้ชื่อตะนี
ภาสได้แต่หัวเราะในลำคอกับการเอาชนะลูกในท้องได้ แม้มันจะเป็นแค่การเข้าใจไปเองก็ตาม เจ้าตัวเล็กในท้องคงไม่สามารถรับรู้ได้ขนาดนั้นหรอก

แต่ก็เห็นภาพเจ้าลูกแมวร้องจ๊ากในท้องขึ้นมาเหมือนกัน

“ว่าแต่ไม่ได้ถูๆ นานแล้วนะ” พูดจบอัลฟ่าหนุ่มก็แอบเลื้อยมือลงต่ำเตรียมตัวขมับมือถูแต่ยังไม่ทันได้เลื้อยผ่านขอบกางเกงชั้นในก็โดนหมัดแมวตีป้าปเข้าให้ที่มือ
“เพิ่งถูไปเมื่อวาน!!!”
“...”
“ไม่ต้องเลยพี่ภาส”
“นิดเดียว”
“พี่ภาสไปทำงาน!!!”

สุดท้ายอัลฟ่าหนุ่มก็จำใจจะต้องละจากก้อนแป้งตัวนุ่มนิ่มไปทำงาน ถึงจะรู้สึกเป็นห่วงบ้างตามภาษาคนติดแมว แต่พอนึกได้ว่าช่วงบ่ายเดี๋ยวพี่แมวคนเห่อหลานจะเข้ามาดูแลต่อก็คลายความกังวลไปได้เยอะ

พอประตูบ้านปิดแมวตัวปุยที่ยืนส่งพ่อแมวไปทำงานก็รู้สึกใจโหวงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ลูบพุงปลอบตัวเองว่าอีกฝ่ายแค่ไปทำงานเดี๋ยวอีกไม่นานก็กลับมา ตะนิดเดินพุงโย้ไปนั่งบนโซฟาก่อนจะเลือกเปิดยูทูปดูช่องที่เกี่ยวกับแม่และเด็กดู อีกหลายวีคกว่าจะถึงนัดผ่าคลอด แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา

ปุ๋งน้อยจะออกมาหน้าตาแบบไหน
จะเหมือนเขาหรือเหมือนพี่ภาส
จะสูงใหญ่เหมือนฝั่งพ่อหรือจะตัวเล็กเหมือน... เหมือนแค่เขา ลืมไป คณิตก็สูง แม่ก็สูง พ่อก็สูง ชิ!

การตั้งท้องเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิด ทุกวันที่ผ่านไปเหมือนเล่นรถไฟเหาะเดี๋ยวก็ดีใจเดี๋ยวก็ดิ่งลงด้วยความทรมาน มันทั้งตื่นเต้นดีใจกับพัฒนาการปุ๋งน้อยในท้อง แต่บางครั้งการเปลี่ยนแปลงของร่างกายก็เจ็บปวดอึดอัดจนต้องร้องไห้ออกมา อาการปวดหลังปวดเอว เท้าบวมจนแทบเดินไม่ได้ อารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เข้าห้องน้ำบ่อยจนหงุดหงิด 

แต่เพราะแบบนั้นถึงได้เข้าใจถึงความสำคัญของเจ้าก้อนในท้อง
...รักจนยอมทุกอย่าง

คิดได้ดังนั้นตะนิดก็หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาคนที่จู่ๆ ก็นึกถึงขึ้นมา

[ว่าไงไอ้แสบ]
“แม่ วันนี้มาหานิดไหมมมมม”
[อารมณ์ไหน เห็นปกติงอแงแต่ให้คณิตไป]
“ก็วันนี้คิดถึงแม่ ไม่คิดถึงคณิต”
[หือ? คณิตได้ยินคงหนีไปร้องไห้ อ้อ ตอนบ่ายคณิตจะเข้าไปหาใช่ไหม แม่จะได้ติดรถเข้าไปด้วย เราอยากกินอะไรไหมเดี๋ยวแม่ทำไปให้ ช่วงนี้คุมน้ำตาลอยู่ไหม รูปอัลตร้าซาวด์ล่าสุดยังไม่ส่งให้แม่เลยนะ]

เสียงเจื้อยแจ้วของผู้หญิงในสายทำให้ตะนิดต้องยกยิ้มขึ้นมาเบาๆ กำลังจะซึ้งในรสพระคุณที่แม่ผ่านความลำบากตั้งท้องมา

“แม่ นิดรั-“
[แต่ที่คณิตบอกว่าเราเติมเกมมือถือไปหมื่นกว่านี่ยังไงนะตะนิด]
“นิดรักแม่นะ จุ๊บๆ บายยยย” นิ้วเล็กกดตัดสายทันทีอย่างรวดเร็วก่อนที่จะได้รับการบ่นหูชา และแน่นอนว่าเรื่องนี้พี่ภาสจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด บอกพี่ภาสไว้ว่าเดิมแค่ร้อยกว่าบาทดันเพลินมือกดกาชาไปรัวๆ ตะนิดวางมือถือลงกับโซฟาก่อนจะกลับมาลูบหน้าท้อง

เฮ้อ
อยากเจอเจ้าปุ๋งเร็วๆ จัง


.
.
.


หลายสัปดาห์ของการอึดอัดตัว
ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง
 
ตะนิดแอตมิตเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่คืนก่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการผ่าคลอด แน่นอนพอได้ยินคำว่าผ่าแม่แมวก็ร้องจ๊ากในใจ สวดมนต์พึมพำมาตลอดทางการนั่งรถ ภาสตัดสินใจโทรเรียกพลขับรถภูเขามารับหน้าที่ขับรถ ส่วนหน้าที่เตรียมของต่างๆ ตกเป็นของแฝดพี่ที่เสนอตัวมานอนค้างที่บ้านเป็นอาทิตย์ก่อนเข้าโรงพยาบาลด้วยกลัวว่าน้องจะคลอดก่อนกำหนดแล้วไม่มีใครคอยดูแล

ในห้องพักถูกตกแต่งด้วยลูกโป่งและกระดาษสีมากมายเป็นของขวัญจากภาคินและภีมเพื่อเป็นการต้อนรับหลานคนแรกของตระกูล ตอนมาถึงตะนิดก็ตื่นเต้นแล้วก็ดีใจไปกับการตกแต่ง ความเฮฮาจากญาติมิตรเพื่อนฝูง แต่พอตกดึกที่ทุกคนทยอยกลับหมดใจดวงน้อยๆ ก็ฝ่อลงอีกรอบ

“พี่ภาส...”
“หืม? ว่าไง ปวดท้องรึเปล่า” ตะนิดชายตามองอัลฟ่าคู่ชีวิตที่กำลังนั่งอ่านไอแพดอยู่ข้างเตียง ซึ่งอีกฝ่ายก็วางไอแพดและลุกขึ้นเดินมาหาทันทีที่ถูกเรียกชื่อ
“นิดตื่นเต้น”
“ปุ๋งในท้องเราก็ตื่นเต้น” ภาสชี้ไปที่จังหวะการเต้นหัวใจของเจ้าแสบในท้องที่โชว์อยู่บนจอ
“ฟู้วววววววววว”
“พักผ่อนก่อนไป” ภาสก้มตัวลงหอมเหม่งใสไปหนึ่งที
“จะได้เจอปุ๋งแล้ว”
“นอนได้แล้ว”
“พี่ภาส”
“หืม”
“จุ๊บๆ หน่อย”

แมวดื้ออ้าแขนขึ้นพร้อมกับทำปากจุ๊บๆ ซึ่งนั่นแอคแทคเข้าจังๆ ที่อัลฟ่าหนุ่ม ภาสยกมือขึ้นกุมหัวใจก่อนจะก้มตัวลงจุ๊บเหม่งใส ปลายจมูกรั้น แวะไปฟัดแก้มหอมแป้งทั้งสองข้างและจบท้ายด้วยการประทับจูบบางเบาลงบนริมฝีปากอิ่ม

“ตะนิด”
“หืม” ตะนิดเอียงแก้มถูกับปลายนิ้วสากพร้อมกับสบตากับอีกฝ่าย
“คลอดปุ๋งเสร็จแล้ว”
“...”
“แต่งงานกับพี่นะ”
“อะ เอ้ยยยยยยยยยยยย พี่ภาส”
“ทำพันธะกัน”
“พะ พี่ภาส มาขอแต่งงานแบบนี้แล้วนิดจะสงบใจนอนได้ไง นิดจะคลอดแล้วนะ พี่ภาส!!!” แมวดื้อยกมือขึ้นบีบแก้มอัลฟ่าหน้าดุ
“เราจะได้หายเครียดเรื่องคลอดไง”
“จ๊ากกกกกก”
“ไม่ต้องจ๊าก”
“พี่ภาส!! ก็คือขอแต่งงานรึป่ะ ไม่ใช่ขอจุ๊บๆ ไม่จ๊ากได้ไง”
“งั้นจุ๊บๆ”
“ไม่จุ๊บ!!” ตะนิดยกมือขึ้นดันคางที่เต็มไปด้วยตอหนวดออกจากแก้ม
“แมวดื้อ”
“พี่ภาสไม่ต้องมาอุ๋งอิ๋งนะ!!!”

อะไรคืออุ๋งอิ๋ง...
ภาสขมวดคิ้วงงแต่ก็ปล่อยผ่านไป

“นอนซะ พรุ่งนี้ก็ได้เจอปุ๋งแล้ว”
“อะ อื้อ แต่พี่ภาส”
“หืม”
“ขอแต่งงานทั้งทีไม่มีเล่นใหญ่เลยอ่ะ” ตะนิดบ่นงุบงิบ
“อยากได้เล่นใหญ่แบบไหนล่ะ”
“แบบเบิ้มๆ”
“...”
“แล้วไหนแหวนอ่ะ พี่ภาสไม่คุกเข่าขอเหรอ” ตะนิดยกมือขึ้นกระดิกนิ้วไปมา
“เดี๋ยวแหวนข่วนปุ๋งนะ” ภาสจับมือเล็กเข้ามาไล่จูบไปตามข้อนิ้วก่อนจะค่อยๆ คลายให้อุ้งมือเล็กนั้นแนบเข้ากับหน้า
“ตกลง”
“หืม?”
“ตกลง แต่งก็แต่ง แต่นิดขอแหวนเพชรแบบริงป๊อปเลยนะ” ภาสหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับคำขอนั่น
“หลังคลอด ฮีทแรกมาเมื่อไหร่ เราเตรียมหลังคอไว้เลย”
“ฟังดูโรคจิตเหมือนกันนะพอพี่ภาสเป็นคนพูดเนี่ย” ตะนิดขนลุกซู่ก่อนจะรีบยกมือขึ้นลูบหลังคอตัวเองไปมา เป็นหมารึไงมาขู่ขอกัดหลังคอเนี่ย!
“พักก่อนไป” ภาสก้มตัวจุ๊บเหม่งใสไปหนึ่งทีเป็นการส่งท้ายให้แม่แมวได้นอนพักผ่อนเตรียมรับศึกหนักที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมง

การผ่าคลอดเป็นอะไรที่ใช้เวลาน้อยกว่าที่ภาสคิดไว้ น้อยกว่าผ่าใส้ติ่งที่เคยพาภูเขามาผ่าเมื่อสองปีที่แล้วอีก แต่คิดไว้อยู่แล้วว่าตะนิดคงจะต้องใช้ความกล้ามากแน่ๆ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ก่อนเข้าห้องผ่าตะนิดร้องไห้ออกมาหนึ่งยกด้วยความกลัว แต่พอเข้าไปลูบหัวจุ๊บแก้มปลอบถึงได้ค่อยใจเย็นลง

ห้องผ่าตัดไม่ให้อนุญาตให้คนเป็นพ่อเข้าไปตั้งแต่แรก เขาถูกแยกจากตะนิดที่ถูกเข็นเข้าห้องไปทำการบล็อกหลังส่วนตัวเขาต้องมาเตรียมความพร้อม เปลี่ยนชุด ล้างมือรอในห้องพัก รออยู่ไม่นานก็มีพยาบาลมาเรียกให้เข้าห้องผ่าตัดได้ สิ่งแรกที่ภาสทำคือเดินเข้าไปหอมหน้าผากแมวดื้อที่นอนอยู่บนเตียงผ่าโดยมีผ้าสีเขียวกั้นปิดตั้งแต่ช่วงอกลงไป

“แมวดื้อ”
“พี่ภาส... นิดหนาว” ตะนิดไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยายามเอนหน้าผากมาซบกับหน้าผากเขาเป็นการอ้อนเท่าที่ตัวเองจะทำได้ในขณะนี้
“คนเก่งของพี่” กลิ่นในห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยความคาวของเลือดที่เสียงเครื่องมือมากหมาย ภาสเลือกที่นั่งนิ่งๆ คอยพรมจูบลงบนเหม่งใส รออยู่เพียงไม่กี่นาทีเสียงร้องไห้ก็ดังจ้าลั่นห้องคลอดเป็นวินาทีเดียวกับที่ตะนิดก็ร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นไม่นานพยาบาลก็อุ้มทารกน้อยในห่อผ้ามาให้ด้วยใบหน้ายินดี

สิ่งแรกที่ภาสเห็นคือลูกชายของเขามีผิวที่ซีดเผือก แม้จะยังมีคราบเลือดแต้มตามตัวแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้เขาประทับจูบลงไปอย่างรักใคร่ ริมฝีปากน้อยจับรูปเป็นกระจับสีแดงเชอร์รี่ ถึงแม้จะยังไม่เห็นดวงตาดีเพราะเจ้าตัวกำลังหยีตาแผดเสียงร้องไห้แต่คิดว่าตาคงจะกลมโตไม่ต่างจากแม่

“พี่ภาส... ปุ๋งน้อย”
“หึ หน้าเหมือนเรา”
“เด็กชายตะนี”
“แมวดื้อ เราตกลงชื่อกันแล้วว่าเด็กชายภาณิน” ภาสรีบเอ่ยขัดเมื่อเห็นพยาบาลชะงักตอนได้ยินตะนิดเรียกลูกว่าตะนี
“แต่ชื่อเล่นว่าตะนี”
“ชื่อเล่นก็ภาณิน เรายังบอกว่าเหมือนปลานิลอยู่เลย”
“แต่นามสกุลตะนี”
“...”
“ตะนี...”
“แอ้!!!” เด็กทารกตัวขาวส่งเสียงไม่พอใจลั่น เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งห้องผ่าคลอด จากนั้นพยาบาลก็เข้ามาช่วยจัดแจงพื้นที่ถ่ายรูปใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่นาที ภาสก็ถูกพยาบาลบอกว่าให้ออกจากห้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมไปดูลูกต่อที่ห้องเนิร์ซเซอรี่
ในตอนนี้ภาสไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของตัวเองออกมาเป็นคำพูดได้ ในใจรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาคลอ เขาถอดแว่นก่อนจะปาดน้ำตาออกแล้วเปิดประตูออกเตรียมเดินหาลูกตามทางที่พยาบาลบอกไว้ เมื่อก้าวขาออกมาได้ไม่ไกล ภาสก็พบกับคณิตที่ยืนกัดเล็บอยู่แถวบริเวณหน้าห้องผ่าตัด ซึ่งพอคณิตหันมาเห็นเขาก็ตาโตรีบวิ่งเข้ามา

“ตะ ตะนิดเป็นไง หลานเป็นไง”
“ตะนิดเดี๋ยวรอสังเกตอาการต่ออีกหน่อย”
“ละ แล้วหลาน”
“น่ารัก”
“...”
“เหมือนแม่เป๊ะ” พอได้ยินอย่างนั้นคณิตก็ยิ้มออกมากว้างส่วนภาสเป็นคนที่หุบยิ้มลง

ตอนแรกที่คิดว่าลูกหน้าเหมือนตะนิด
ก็ดันลืมไปคิดไปว่าบนโลกยังมีคนที่หน้าเหมือนตะนิดอยู่หนึ่งอีกคน

“แล้วจะได้เจอหลานเมื่อไหร่”
“เนี่ย พยาบาลบอกให้เดินไปตรงนั้น” ญาติดีโดยไม่รู้ตัว คณิตยกมือขึ้นจับแขนเสื้อภาสพร้อมกับกระตุกให้อีกฝ่ายนำทางโดยมีชายคอยเดินตามหลังไปติดๆ

เด็กชายภาณินออกมาหนักสองโลเจ็ดและยังต้องอยู่ในตู้อบต่อ แต่ถึงอย่างนั้นสีผิวก็อมชมพูดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากเทียบจากผิวขาวซีดตอนเพิ่งเกิด ภาสมองลูกชายตัวเองผ่านกระจกแล้วก็ได้แต่ยกยิ้มไม่หยุด

...ผิวขาวอมชมพู
...ปากกระจับสีแดง
ดวงตาเปียกชื้นเพราะเจ้าตัวยังคงเหยียดแขนขาร้องไห้จ้าเสียงดังแต่พอหยุดร้องแล้วหยีตามองจ้องมาก็ทำเอาหัวใจคนเป็นพ่อกระตุก

ได้แม่มาเต็มๆ เลย


หวงตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาดูโลกมันเป็นแบบนี้นี่เอง



หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-12-2020 21:05:39
  :L2: รับขวัญหลาน 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 25-12-2020 21:09:33
 :pig4: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 25-12-2020 22:08:10
ชอบมาก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-12-2020 09:33:23
คลอดแล้ว~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 30-12-2020 09:30:23
หลานมาแล้ววว รับขวัญหลาน โอ๋ลูกกก หนูไม่ชื่อตะนีเนอะ แต่นามสกุลตะนี เด่ว!?55555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-12-2020 14:32:44
ปุ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 30-12-2020 17:32:19
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-01-2021 23:00:38
น้อนตะนีมาแบ้วว คุณพ่อมีแววได้เลี้ยงเด็กฉองคน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 21-01-2021 00:56:39
นึกว่าจะได้ชื่อตะนีซะแล้ว
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 31 : ตะนีมาแล้ว [25/12/20] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 21-01-2021 19:08:16
ติดตามผลงานมาตลอดทุกเรื่อง สนุกทุกๆเรื่องที่เขียนเลย  :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 24-01-2021 00:59:56
ก็จะดื้อ 31



เด็กชายภาณิน

หลานคนแรกของตระกูล
เป็นธรรมดาที่จะถูกห้อมล้อมไปด้วยความรัก แต่ภาสเองก็ไม่นึกว่าจะขนาดนี้ 

ดวงตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมมองบ้านตัวเองที่เต็มไปด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ ของรับขวัญหลานมากกว่าสิบชิ้น รถเข็นเด็กกว่าห้าคัน เตียงเด็ก หมอนเด็ก ของเล่นเด็ก เสื้อผ้าเด็กตั้งแต่ทารกไปจนถึงตอนโตอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ภูเขาถึงกับถอยกล้องไลก้าออกมาเพื่อถ่ายหลานโดยเฉพาะ 

“ไหนภาณินเรียกคุณย่าเร็วลูก”
“เพิ่งไม่กี่วัน หลานยังพูดไม่ได้นะคุณ”
“ภาณินอยากได้รถบรื้นๆ ไหม เดี๋ยวลุงภาคินซื้อให้”
“ลุงภีมซื้อทองให้แล้วนะครับ ใส่หน่อยเร็ว”
“ภีมอย่าใส่ทองให้ภาณิน!! แขวนๆ พอ เดี๋ยวบาดผิวหลานภู!!! เห้อ ไอ้ก้อนมาชเมลโล่หลานอา.. ตัวเท่านี้น่ารักเท่าโลก อาทำเรื่องซื้อดาวให้หนูอยู่นะครับ ดาวชื่อภูเขามองขึ้นฟ้าจะได้เห็นอาอยู่ด้วยตลอด”
“มึงพูดเหมือนตัวเองตายแล้วนิดนึงเลยภู”
“อย่าพูดคำหยาบต่อหน้าหลานภาคิน!!!”
“โอเค ขอโทษที่พูดคำว่าภูเขาต่อหน้าหลาน”
“ไม่ใช่ว้อย!!!”
“ทำไมบ้านนี้มันเว่อร์จังวะ” คณิตเกาหัวแกรกๆ มองหมาใหญ่ตระกูลภ. แย่งกันอวยหลาน ส่วนตัวเองก็ถือตุ๊กตาคุณนิ่มเบอร์หนึ่งไว้เตรียมยื่นให้หลานกอด
“ไหนภาณินเรียกอาภูเร็วคร้าบบบ เดี๋ยวอาภูซื้อคอนโดไว้ให้นะลูก เผื่อตอนเข้ามหาลัยหนูอยากแยกจากพ่อแม่ไปอยู่คนเดียว พ่อน่ารำคาญเนาะ อาเข้าใจ โอ๋ๆ”

ไอ้น้องเวรนี่...
ยังคลานไม่ทันได้คิดจะพรากลูกพรากแม่แล้วเหรอ ภาสขมวดคิ้วมองความวุ่นวายด้วยความอ่อนใจ แต่ก็เป็นเขาเองที่เบรกครอบครัวที่จะยกกันมาเยี่ยมไว้ให้มาหาที่บ้านทีเดียว เนื่องจากไม่อยากให้รบกวนเวลาพักฟื้นของเจ้าแมวดื้อ

“วุ่นวายจริงๆ”
“เอาน่า สดใสดีออก” แรงกอดขมับเบาๆ เข้าที่เอวเรียกความสนใจจากภาสไปได้หมด
“ลูกเพิ่งจะนอน เดี๋ยวก็ตื่นอีก”
“พี่ภาสอย่าบ่น”
“เราก็อย่าเดินเยอะ” ภาสโอบเอวตะนิดพร้อมกับกดจมูกลงบนกลุ่มผมฟูกลิ่นแป้ง
“บ้านดูวุ่นวายเลยเนาะ”
“อื้อ”
“จุ๊บๆ กันพี่ภาส” ตะนิดดึงชายเสื้ออีกคนยิกๆ ซึ่งภาสก็โน้มตัวเตรียมจะกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มแต่ทว่า...

“แอ๊!!!!” ภาณินหวีดเสียงร้องออกมาลั่นบ้านทำเอาพ่อแม่มือใหม่ชะงักตัว
“อั้ยหยา ลูกเรียกแล้ว...” ตะนิดตีหลังอัลฟ่าหนุ่มป้าปๆ พร้อมกับผละตัวเตรียมเดินออกไปหาลูก แต่ภาสก็รีบคว้าแขนเล็กก่อนจะโน้มตัวลงบดเบียดริมฝีปากลงไปตามที่ตั้งใจไว้
“ภาส!!! ภาณินอึ... อุ๊ย” ภูเขาที่หันมาตะโกนเรียกถึงกับเบรคเอี๊ยดเมื่อหันกลับไปเจอว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังแอบหวานกันอยู่แน่นอนว่าไม่ลืมปิดตาภาณินด้วย แม้หลานจะหยีตาร้องไห้ลั่นบ้านก็ตาม


...ภาณินเป็นเด็กเลี้ยงง่ายในความคิดภาส
จะมีงอแงเวลาหิวกับไม่สบายใจตัวนิดหน่อย ช่วงแรกที่ยังปรับเวลานอนของภาณินไม่ได้ก็จะตาโหลกันทั้งเขาและตะนิด เพราะเจ้าแสบมักจะเลือกเวลาร้องตอนกลางคืน ตะนิดจะหนักกว่าหน่อยที่เจ้าตัวพยายามอย่างมากที่จะโชว์ว่าเลี้ยงลูกได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งเขา จนบางทีก็แอบเห็นไปนั่งร้องไห้ซุกไดเปอร์ลูกอยู่ในรังอันเก่า แต่พอหลังๆ เริ่มจะปรับตัวตามลูกทันได้ก็เหมือนจะเครียดน้อยลง
แม้เพศรองจะยังไม่ชัดเจนแต่ดูจากใบหน้าแล้วเขาและตะนิดก็พอจะเตรียมใจไว้แล้วว่าคงหนีไม่พ้นโอเมก้า ใบหน้าที่ได้แม่มาเกือบทุกส่วน ทั้งดวงตากลมโต แก้มยุ้ย ผิวขาวจัด ปากแดง แก้มอมชมพู ความน่ารักของภาณินนั้นลำบากให้ทั้งอาทั้งลุงหวงกันจนแทบจะเวียนมาแวะบ้านเพื่อทักทายอยู่เกือบทุกวัน

ภาณินเป็นเด็กเลี้ยงง่ายสำหรับเขามาตลอดหลังจากช่วงที่สามารถปรับเวลานอนได้ จนกระทั่งเริ่มเดินและหัดพูด
... ตอนนั้นเองที่ภาสเพิ่งจะรู้ตัวว่า
ในเมื่อลูกมีทรงเหมือนแม่มาตั้งแต่คลอด สิ่งหนึ่งที่ฉายชัดก็คงหนีไม่พ้น

ดื้อ...

“ภาณินไม่เล่นของกิน” ตะนิดที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่ง ใบหน้าเหนื่อยล้ากับผมทรงมัดจุกแอปเปิ้ลเอ่ยเสียงดุกับเด็กหน้าดื้อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก
“อื้อ อึ ยายา” มือป้อมหยิบไข่เจียวชิ้นเล็ดที่ตัวบีบจนเละปาป้าปเข้าให้กลางหน้าคนเป็นแม่ก่อนจะหัวเราะคิกคัก
“ภาณินไม่ทำแบบนั้นนะครับ” ภาสเดินขมวดคิ้วเข้ามาพร้อมกับเอ่ยเสียงดุ ซึ่งเจ้าจิ๋วก็ขมวดคิ้ว
“ม่า..มะ”
“ไม่ครับ that’s not good at all panin. Don’t play with your food ครับ”
“พี่ภาส...”
“หืม”
“ไอ้ก้อนนี่มันดื้อขึ้นทุกวันแล้วนะ!!!”

แมวดื้อประกาศกร้าว!!!
จะไม่ทนอีกต่อไป!!!
ตะนิดกอดอกขู่ลูกแมวดังฟ่อ คราวนี้เอาจริง! ดุจริง!

ตอนนั้นเอง ภาณินก็มองแด๊ดดี้สลับกับมัมก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความไม่เข้าใจสถานการณ์ แน่นอนว่าแม่แมวที่แหกเขี้ยวขู่ก็ใจอ่อนทันที

ไอ้เด็กนี่มันร้ายนัก! มันยิ้มตัดกำลังเรา!

“ฮะฮะ มามา” มือป้อมยกขึ้นแบๆ กำๆ ขอให้อุ้ม
“เห้อ ลูกใครทำไมมันน่ารักจังว้าาาา”ตะนิดบึนปากก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเขี่ยอาหารบนถาดให้ภาณินหยิบกินต่อ นึกดีใจที่วันนี้เลือกทำไข่เจียวผสมผักสับและผงตับไก่นิดหน่อยให้กินง่าย เคยลองทำสปาเกตตี้เส้นเล็กๆ ให้เจ้าปุ๋งกิน ทั้งเก้าอี้ทั้งตัวลูกกลายเป็นซอสไปหมด เห็นสภาพต้องทำความสะอาดแล้วคนเป็นแม่ก็ได้แต่น้ำตาตก ทุกอย่างจะง่ายกว่านี้ถ้าเลือกเชื่อพี่ภาสให้จ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่สุดท้ายก็ยอมไม่ได้

ลูกของแม่แมว
แม่แมวก็จะเลี้ยงเอง!!!

“ด่ะด๊า” ลูกแมวน้อยหันไปขยำมือใส่คนพ่อแทนเมื่อเห็นว่าคนแม่นั่งหน้าตุ่ยไม่ยอมเล่นด้วย
“หม่ำๆ”
“อือ นินิ มำๆ ยัมยัม ชูชู” ภาณินออกเสียงแจ๋วๆ พร้อมกับอ้าปากงับไข่เจียวเข้าปากไปหนึ่งเสี้ยว
“good boy เก่งมาก โน ไม่ปาครับ” ภาสเตรียมจะดุอีกรอบเมื่อเจ้าลูกแมวกำไข่เจียวขึ้นง้างมือ แต่ทันใดนั้นมือป้อมก็กลายเป็นยื่นส่งให้แม่แมว
“มามา มำๆ”
“อะไร ป้อนมัมคืนอ่อ” ตะนิดหัวเราะออกมาเบาๆ
“มำๆ”
“ใจดีจัง อ่ะ หม่ำๆ” ตะนิดงับไข่เจียวที่ถูกป้อนเข้าปากมานิดหน่อย แค่นั้นลูกแมวก็ยิ้มแป้น ดึงไข่เจียวกลับเข้าปากต่อ ก่อนจะยื่นส่งให้คนเป็นพ่อต่ออีกทอด ซึ่งภาสก็รับเข้าปากไปนิดเดียวพอให้ลูกไม่เสียน้ำใจ
พอป้อนพ่อป้อนแม่สำเร็จเจ้าก้อนลูกแมวก็ฉีกยิ้มโชว์เหงือกหัวเราะเอิ๊กอ๊ากตาปิดละลายใจผู้ปกครองไปหนึ่งดอก
“เห้อ น่ารักไปหมดเราน่ะ แด๊ดดี้ไว้หนวดเพราะงี้เลยนะ” ตะนิดจิ้มแก้มลูกพร้อมกับเอ่ยแซวอัลฟ่าหนุ่มที่มีตอหนวดขึ้นครึ้ม
“...พี่แค่ยังไม่ได้โกน” ภาสแอบหลบสายตาเล็กน้อยเมื่อโดนจับได้ว่าตั้งแต่ใจไว้หนวดให้หน้าดุ
“ดาดาด๊ะ”
“ครับ” ภาสหันไปจิ้มแก้มลูกชายที่ส่ายไข่เจียวเรียก
“มำ” พูดจบก็งั่มไข่เจียวโชว์แล้วฉีกยิ้มพร้อมกับตบมือ
“เก่งครับ หม่ำอีกไหม”
“อะฮี่ นินิ ชู้บ มำ ยัม”

ภาษาอะไรของเขาก็ไม่รู้
แต่น่ารักไปหมดเลย..
ภาสได้แต่มองแก้มยุ้ยใสๆ นั่นขยับไปมาเวลาเคี้ยวไข่เจียว น้ำลายเละเทะย้อยไปหมดแต่ก็ดูเอ็นจอยอีตติ้ง ช่วงเวลาที่ภาณินกินข้าวเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับภาส เพราะเขาเป็นคนคิดเมนูใหม่ๆ ให้กับภาณินสลับกับที่ตะนิดเองก็กำลังฝึกทำอาหารเด็กโดยหาเมนูจากอินเตอร์เนทมาลองทำและโชคดีที่ลูกชายเขาเป็นเด็กกินง่าย ป้อนอะไรก็กินหมด หมดปัญหาเรื่องกินไปก็โล่งใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ไปหนึ่งเปราะ
และแม้ว่าภาณินขาจะยังไม่แข็งมาก แต่เจ้าตัวก็คึกในการพยายามลุกขึ้นเดิน ปล่อยให้คลานอยู่นิดเดียวก็จะเกาะขาลุกขึ้นตลอด บางทีก็ล้มร้องไห้จ้าลั่นบ้านให้คนเป็นแม่ต้องคอยเป่าแผลโอ๋ๆ และสิ่งที่น่ารักอีกอย่างถือเด็กชายภาณิน

ขี้อ้อน...
อืม เหมือนแม่อีกแล้ว

แต่ที่น่ารักได้ไม่สุดก็เพราะว่า
ไอ้คนที่ลูกเขาชอบอ้อนไม่ใช่ทั้งพ่อและแม่แต่เป็น....

“เท่อออ” ภาสกอดอกมองลูกชายเขาที่วิ่งขาโยกเยกไปหาแขกไม่ได้รับเชิญอย่างอาเธอร์และชิน เด็กชายภาณินอ้าแขนกอดหมับเข้าที่ขาลุงเต้อพร้อมกับเบียดแก้มกับขาคนเป็นลุงจนขึ้นเป็นก้อนกลม
“ปานินนน เดินเก่งแล้วนะเนี่ย หลานใครน่ารักที่สุดดดด”
“เท่อออ ชู้บชู้บนินิ” ภาณินจิ้มแก้มตัวเองจึ้กๆ เป็นคำขอให้จุ๊บแก้ม ซึ่งอาเธอร์ก็จัดฟัดเน้นๆ ดังฟอด
“แก้มหอมจังเลย แก้มใครน้า แก้มใคร”
“นินิ”
“แก้มปานินเหรอ งั้นหอมลุงเต้อด้วยได้ไหม”
“ด้ะ ชุ้บชุ้บเท่อ” เด็กชายภาณินพยักหน้าเขินๆ ก่อนจะคว้าหน้าลุงมาจุ๊บปากย้ำๆ สองรอบ
“เห้ย แอบจุ๊บลุงเลยเหรอ ร้ายนะครับ”
“เต้อ”
“ว่าไงชินจัง”
“ปล่อยหลาน”
“งู้ยยยยย ชินจังหวงเขาเหยออออออ”
“เปล่า พ่อหลานจะฟาดหน้ามึงแล้ว”

พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นอัลฟ่าหนุ่มแว่นหน้าดุกอดอกมองตาขวาง แต่พอลูกชายหันไปดูก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างพอลูกหันกลับไปซบอาเธอร์ ภาสก็ชูสองนิ้วขึ้นชี้ตาตัวเองแล้วหันกลับไปชี้หน้าอาเธอร์เป็นโค้ดที่ว่า

‘ ลับหลังลูก มึงเจอกูแน่ ‘

อาเธอร์เกือบอุทานจ๊ากในใจตามตะนิดไปติดๆ แต่จะวางหลานลง เจ้าภาณินก็กอดไว้เสียแน่น แถมยังยกมือขยี้แก้มเขา จุ๊บๆ แก้มเขาไปมาเพิ่มโทษให้อัลฟ่าแว่นทดในใจไปอีก

.
.


ดั่งคำที่ผู้ใหญ่มักบอกไว้ว่า

เด็กน่ะ โตเร็วมาก

อาจจะเพราะเพลินดูพัฒนาการของลูกในแต่ละวันไปจนชิน เพียงแค่แป๊ปเดียว เด็กชายภาณินก็เข้าสู่วัยสองขวบครึ่งกำลังซน แขนขาที่เริ่มยืด ปากเล็กสีชมพูที่เริ่มพูดรู้เรื่องถามตอบได้มากขึ้นเยอะ
“แด๊ดดี้จากับบ้านกี่มงคับ” เด็กชายภาณินเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาแด๊ดดี้ที่กำลังแต่งตัวเตรียมไปทำงาน
“ภาณินอยากให้กลับกี่โมงดีครับ”
“แด๊ดดี้ไม่คิดถึงปานินหนอ”
“คิดถึงสิครับ”
“แด๊ดดี้กับบ้านเรว ปานิน ปานินเหลือเท่านี้ เหลือนิดนิด” เด็กชายภาณินยกนิ้วชี้กับนิ้วโป้งขึ้นติดกันโชว์คนเป็นพ่อว่าตัวเองเหลือนิดเดียว เท่านิดเดียวเอง
“เหลือนิดเดียวเหรอครับ แปลว่าอะไรล่ะนั้น” ภาสหัวเราะพลางรีบใส่เนคไทด์ให้เสร็จเพื่อที่จะได้อุ้มเจ้าก้อนขี้อ้อนขึ้น
“ปานิน ปานินเหลือนิดเดียว เท่านี้ เล้ก เล้กจุ๊ดๆ”
“เหลือนิดเดียวเลยเหรอ”
“คับ แต่พอแด๊ดดี้กับบ้าน ปานินเท่านี้เยย” ลูกแมวทำมือเป็นวงกลมใหญ่ๆ โชว์ ตาแป๋วเบิกกว้างชวนแด๊ดดี้เชื่อสุดชีวิต

ใหญ่จินๆ นะอุนพ่อ!!!
เท่าคุณนิ่มเยย!!!

“แล้วปานินจะดื้อกับมัมไหมล่ะครับ” ภาสย่อตัวลงอุ้มเจ้าก้อนอ้อนขึ้นมาหอมแก้มก่อนจะพาลงไปชั้นล่างที่แม่แมวน่าจะกำลังวุ่นกับการทำอาหารเช้าให้ลูกแมวอยู่
“ดื้อนิดนิด”
“แต่ยังดื้อเหรอ”
“คับ”

ก็ยอมรับตรงๆ เลย
ภาสหัวเราะในลำคอให้กับความน่ารักของลูกชาย

“ภาณินไม่ดื้อกับมัมนะ”
“ดื้อนิดนิด”
“ไม่ดื้อเลยไม่ได้เหรอครับ”
“นิดนิดนะคับ” เด็กชายภาณินต่อรองกับคนเป็นพ่อ ลดให้แล้วนะ! ไม่ดื้อบิ๊กบิ๊กแต่ดื้อนิดนิด!
 
ภาสอุ้มเจ้าแสบลงมาวางไว้ในเบาะโซนของเล่นก่อนจะเดินเข้าไปในครัวที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น ดวงตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมตวัดมองแมวดื้อในชุดอยู่บ้านพร้อมกับผ้ากันเปื้อน ปอยผมสีน้ำตาลอ่อนถูกตัดให้สั้นเปิดโชว์รอยกัดหลังคอที่ขึ้นนูนเป็นแผลเป็นให้เห็นชัดเจน
ตราประทับที่ถูกลงไว้ตั้งแต่สมัยตะนิดกลับมาฮีทครั้งแรกหลังคลอด ทั้งๆ ที่ตั้งใจให้ทุกอย่างออกมาโรแมนติกที่สุด อยากให้เป็นช่วงเวลาที่ทั้งตัวเขาและตะนิดสามารถเก็บไว้ในใจแล้วคิดถึงมันในทุกปี แต่ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะจำรายละเอียดไม่ได้เพราะเจ้าแสบที่เอาไปฝากไว้กับคณิตดันร้องไห้ไม่หยุด ร้องหน้าดำหน้าแดง ร้องสุดเสียงกรี๊ด ร้องจนไข้ขึ้น ทำเอาคนเป็นลุงที่เห่อหลานตกใจแทบร้องไห้โทรมาหาเสียงสั่นให้รีบมาดูอาการ
แผนที่ว่าจะจัดงานแต่งหลังคลอดก็ถูกเลื่อนออกไปเพราะตะนิดอยากให้ภาณินโตพอรู้เรื่องกว่านี้ แต่พอผ่านมาได้จนเจ้าแสบสองขวบกว่า ตะนิดก็ดันไม่ได้สนใจงานแต่งแล้ว แมวดื้อเอ่ยปากเองเลยว่าถ้าอยากจัดงานแต่งเพื่อตระกูลก็จัดได้ แต่เจ้าตัวมีความสุขแล้วกับการที่ได้อยู่เป็นครอบครัวแบบนี้แม้ไม่มีงานหมั้นงานแต่งยิ่งใหญ่อลังการแบบที่เคยขอไว้วันคลอดก็ตาม
พอมีลูก ตะนิดก็ดูจะเทความสนใจทั้งหมดไปที่ภาณินหมด เรียกได้ว่าเขาตกกระป๋องไปในทันที ไอ้ที่เคยอ้อนเขาอยู่ทุกวันก็ลดน้อยลงไปอ้อนลูกแทน วันหนึ่งวันก็มีแต่นั่งดูนั่งอ่านอะไรเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็ก คำว่าลูกเป็นโลกทั้งใบของพ่อแม่ก็ไม่ได้เกินจริงนักสำหรับกรณีตะนิด

“มัมมมมมม”
“ว่าไงดื้อ” แม่แมวเอ่ยดุลูกแมวที่วิ่งเข้าครัวมากอดขา
“ไม่ดื้อ ปานินดื้อนิดนิด”
“ไปปลุกแด๊ดดี้ไป”
“พี่ตื่นแล้ว” ภาสเดินเข้าไปกดจูบลงบนหลังคอตะนิดหนึ่งฟอด แต่นอนว่ามือก็ไม่ลืมเอื้อมไปจับกระทะไว้ กันแม่แมวตกใจแล้วเผลอทำกระทะหลุดมือ ซึ่งก็ตรงกับที่คาด แม่แมวสะดุ้งโหยงอุทานลั่น
“จ๊ากกก โอ๊ย โว้ย ตกใจ พี่ภาส!!”
“จ๊ากกกก มัม จ๊ากกกกกกกก”
“ล้อเลียนเหรอดื้อ!!!”
“ไม่ดื้อ!! ปานินดื้อนิดนิด!!!”
“พี่ภาส ตกใจหมด... อื้อ อย่ากัด” ตะนิดย่นคอหนีเมื่อถูกอีกคนงับลงที่หลังคอ
“เตรียมทำอะไรเนี่ย”
“แพนเค้กของโปรดใครไม่รู้”
“แพนเก๊ก ของปานิน!!!”
“ใช่เป่าาาาา เอ๊ะะะ ของลุงคณิตเป่าา เด็กแถวนี้คิดไปเองเป่า”
“ปานิน! ปานินรักแพนเก๊ก!”
“เอ่ หรือทำผัดผักแทนดีนะ”
“มัม ปานินไม่จ้อบผากกก ปานิน promise น้ามัม ดื้อนิดนิด ดื้อนิดนิดมากๆ” ลูกแมวเขย่าขนคนเป็นแม่ยิกๆ เดินหน้าอ้อนสุดพลังเพื่อนแพนเค้กราดน้ำผึ้งของโปรด
“หึ”
“แด๊ดดี้ ปานินอยากกินแพนเก๊ก”
“งั้นปานินต้องเก็บของเล่นเข้ากล่องหลังเล่นเสร็จนะครับ”
“คับ!”
“ปานินต้องร้องเพลงเอบีซีให้ก่อนกินแพนเค้กด้วย”
“คับ! เอบีชีดีเอ๊บอี!”
“ปานินต้องให้แด๊ดเอาคุณนิ่มเบอร์หนึ่งไปซักด้วย”
“คะ— อื้อ แด๊ดดี้ไม่ทำคุณนิ่ม ปานินไม่จ้อบ” ภาสฟังลูกบ่นงึมงำหวงตุ๊กตาควายชื่อคุณนิ่มเบอร์หนึ่ง ถ้าถามว่าใครตั้งให้ก็ไม่ต้องสืบเลย คุณนุ่มปลาฉลามนุ่นแตกนั่นยังนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงแม้เขาจะพยายามหลอกล่อให้เอาไปทิ้งอยู่หลายรอบ
“แด๊ดดี้นิสัยไม่ดีเลย ชอบแอบเอาคุณนุ่มคนอื่นไปซัก” ตะนิดหันมาร่วมวงโวยด้วย คุณนุ่มเขาตัวเหลวไปหมดเพราะพี่ภาสขยันเอาไปซัก เอาไปรองก้นเล่นคอม
“แด๊ดดี้แบดโบย!!”
“ใช่ๆ แด๊ดดี้แบดบอย!!! แบดลุง!!!” แม่แมวรีบตามน้ำดุพ่อแมวตามลูก
“แมวดื้อ”
“แมวจื้อ!!”
“ตะนิดแมวดื้อ”
“ตานิแมวจื้อ!!!”
“เนียนเลยนะดื้อ ไม่ต้องกินแพนเค้กแล้ว”
“อื้อออ มัมมมม ปานินเซอเรนเด้อ มัมแมวจื้อนิดนิดเหมือนปานิน” ลูกแมวกอดขาเอาจมูกเย็นๆ มาซุกไปตามน่องแม่แมวอย่างออดอ้อน แม้ตอนนี้จะยังพูดต่อประโยคได้ไม่ยาวแต่ก็ฟังเข้าใจรู้เรื่อง อาจจะตอบเป็นภาษาไทยบ่อยกว่าภาษาอังกฤษเพราะตะนิดไม่ค่อยถนัด แต่เวลาอยู่กับบ้านฝั่งภาสก็โต้ตอบภาษาอังกฤษได้ไม่ต่างจากภาษาไทย เล่นเอาภูเขาผู้ได้รับชื่อว่าเป็นคุณอายอดเห่อหลานถ้วยรางวัลระดับโลกถ่ายคลิปอวดเพื่อนลงไอจีสตอรี่เป็นจุดไข่ปลา
“ไปนั่งที่โต๊ะก่อนไปเร็วปานิน”
“เอาปานินไปนั่งไป เดี๋ยวพี่ยกไปให้” ภาสโน้มตัวหอมหัวฟูของแม่แมวก่อนจะเลี่ยงตัวไปหยิบจานแพนเค้ก ปล่อยให้ตะนิดเป็นคนอุ้มลูกแมวไปนั่งบนเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก
ภาณินเป็นเด็กเอเนอร์จี้เยอะ ทั้งวิ่งทั้งปีนแล้วก็มักจะหัวเราะดังลั่นบ้านอยู่เสมอ แต่เมื่อถึงเวลาเก้าอี้วิเศษที่เมื่อนั่งแล้วจะได้กินข้าวก็จะเงียบเป็นพิเศษ
...เพราะปากเต็มไปด้วยของกิน

“แด๊ดดี้ ปานินกินคำบิ๊ก”
“too big ครับ” ภาสคว้าส้อมไปตัดให้หลังลูกแมวจิ้มแล้วยกแพนเค้กทั้งแผ่นใหญ่ๆ
“มัม ปานินจิ้ม”
“เค จิ้มๆ”
“ปานินกินเก่ง อาปูชม อาปูจาชื้อรถให้” คนเป็นพ่อชะงักมือให้กับน้องชายตัวเอง

...แค่กินข้าวเก่งก็จะซื้อรถให้
ไอ้เด็กนี่มันป๋าไม่หยุดจริงๆ

“อาภูเขาจะซื้อรถเลยเหรอ แล้วปานินขับได้เหรอ”
“ปานินไม่ไม่”
“ไม่ไม่อะไร”
“ไม่ไม่... คับ ไม่คับ แคนนอทไดร้”
“ไม่ไม่คับ? อ๋อ ไม่ขับ ปานินไม่ขับเหรอ แล้วเอารถมาทำไมอ่ะ”
“ให้ยุงเต้อคับ”
“ลุงเต้อ? ให้รถลุงเต้อเลยเหรอ โหยย ป๋าเอาเรื่องนะ ลูกใครเนี่ย”
“ฮี่ ยุงเต้อ ปานินเลิ้บยุงเต้อ”
“...”
“ปานินจะแม่รี่ยุงเต้อ” ลูกแมวเคี้ยวแพนเค้กตุ้ยๆ พร้อมกับอมยิ้มแก้มตุ่ย ตัดภาพมาที่ตะนิดได้แต่นวดบ่าอัลฟ่าหนุ่มปลอบใจที่ลูกชายวัยสองขวบพูดเรื่องแต่งงานให้ได้ยิน
“panin you can’t marry ลุงเต้อนะ”
“why”
“he’s married to ลุงชินแล้ว ลุงชินคือ asher’s mommy ไงครับ”
“then?”
“ลุงเต้อกับลุงชิน they’re married like daddy and mommy. That’s reason why you can’t marry him. And also, you already have me. Your dad is what the world’s coolest dad look like นะครับ ไม่ต้องไปสนอาเธอร์มันหรอกปานินสนใจแด๊ดก็พอ” ตะนิดแอบขำให้ลำคอให้กับอัลฟ่าหนุ่มที่พยายามอธิบายเรื่องอาเธอร์แต่งงานแล้วกับเด็กสองขวบกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“then... ปานินแมรี่แอชเช่อด้วย”
“ตะนิด” พอสู้ลูกไม่ไหวก็รีบหันมาขอตัวช่วย 
“พี่ภาสก็ไปคิดมากอะไร ปานินก็พูดไปงั้น”
“แต่พี่ไม่ชอบไอ้เต้อ”
“แด๊ดดี้! แบดบอย! โนไอ้!”
“...”
“ปานินเลิ้บลุงเต้อ โนไอ้”
“...”
“แอ๊! มัม! แด๊ดดี้แย่งแพนเก๊กปานิน!!!!”

ตะนิดได้แต่กรอกตาด้วยความเบื่อหน่ายกับการทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ ของคู่พ่อลูก แต่สุดท้ายความเบื่อหน่ายก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก

เป็นอีกวันที่ตื่นมาเจอความวุ่นวาย
แต่ก็เป็นความวุ่นวายที่โชคดี


   TALK

ยังไม่จบนะครับ 555555555555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-01-2021 11:42:47
ป๊ะป๋าควันออกหูล่ะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 24-01-2021 13:34:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 24-01-2021 14:52:36
555555 เหนื่อยแทนตะนิดละนะ
เอ็นดูภาส หวงตะนิดก็หวง หวงลูกก็หวง
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-01-2021 17:21:17
ครอบครัวสุขสันต์ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-01-2021 20:48:17
น้องรักลุงเต้อม๊ากมาก..กกกกกกก เกือบจิ้นหล่ะนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 24-01-2021 22:06:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 24-01-2021 23:22:30
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 25-01-2021 00:28:52
 :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 26-01-2021 12:27:29
ปานินลูกก เลิ้บยุงเต้อ จะแมรี่กับยุงเต้อ เด่วนะลูกนะ รอป้าเก็บตังค์กค่าสินสอดให้ปานินแป๊บ! หลานจะเเต่งต้องได้แต่!!
 /เด่ววว55555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 26-01-2021 20:11:02
น่ารักกกกก :heaven
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 32 world's coolest dad :[24/01/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-01-2021 00:45:12
น่ารักกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 04-02-2021 22:48:55
ก็จะดื้อ 32


เด็กชายภาณินคือยอดนักน่ารักแห่งบ้าน

ด้วยดวงตากลมโตแก้มยุ้ยปากกระจับเล็กที่ได้มากจากแม่ จมูกสันขนตายาวผิวขาวจัดตามฉบับลูกเสี้ยวฝรั่งที่ได้มาจากฝั่งพ่อ มองจากภายนอกก็พอจะมองออกว่าเพศรองของเด็กชายภาณินก็คงเป็นโอเมก้าอย่างแน่นอน
ภาสมองลูกชายตัวเองที่กำลังหัดติดกระดุมชุดอนุบาลสีชมพูด้วยความเอ็นดู พอเกิดมาแว่นสายตาสั้นที่เขาใส่อยู่ทุกวันก็กลายเป็นติดฟิลเตอร์เอ็นดูลูกฝังเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ทุกอย่างที่ลูกเขาทำนั้นมันดูน่ารักไปหมด ลูกชายเขาโตมาเหมือนตะนิดแทบจะทุกอย่าง การพูดการจาการทำตัว

... และนั่นทำให้เขาหนักใจอย่างถึงที่สุด

“แด๊ดดี้” เสียงใสดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ทำให้ภาสลืมตาตื่นขึ้น ความมืดสนิทของเพดานห้องเป็นสัญญาณให้รู้ว่าถูกปลุกขึ้นในตอนกลางคืน
“...”
“แด๊ดดี้คับ Wake up, Please.” เสียงเล็กเรียกพร้อมกับแรงสะกิดยิกๆ อีกรอบทำให้ภาสผุดตัวขึ้นนั่ง
“ปานิน?”
“แด๊ดดี้คับ ปานินปวดพีพี กลัวคุณผี อยากไปพีพีคับ” ลูกแมวเขย่าแขนคนเป็นพ่อยิกๆ พร้อมกับเบะปากอ้อนให้พาไปเข้าห้องน้ำ
“พีพีออกมาแล้วเหรอ”
“โน ยังคับ ปานิน just ปวดพีพี”
“โอเคๆ ป่ะ ไปครับ” ภาสขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟให้พอเห็นทางไปห้องน้ำ เจ้าแสบปีนขึ้นกอดคอคนเป็นพ่อพร้อมกับหลับตาปี๋ กลัวคุณผีที่สุดในโลก
“แด๊ดดี้อยู่กับปานิน stay with me”
“ครับ แด๊ดดี้อยู่” ภาสวางลูกแมวลงกับพื้น เจ้าตัวงอแงนิดหน่อยกลัวว่าคนเป็นพ่อจะแกล้งทิ้งให้อยู่ในห้องน้ำคนเดียว ถึงปกติจะชอบนั่งปุ๋งคนเดียวแบบเด็กแสนเก่ง แต่พอเป็นกลางคืนก็กลายเป็นเด็กเก่งนิดนิดแทนเพราะกลัวคุณผีในห้อง
“แด๊ดดี้ไม่ไป”
“ไม่ไปครับ เร็วรีบพีพี แด๊ดดี้เปิดไฟไว้เดี๋ยวมัมตื่น” พูดไปงั้น ตะนิดไม่ตื่นง่ายๆ หรอก ต่อให้เขาเปิดไฟฉายส่องหน้ายังไม่ตื่นเลยมั้ง
เด็กชายปานินรีบถอดกางเกงปีนบันไดขึ้นไปนั่งโถแบบที่ถูกเคยฝึกให้ใช้ ซึ่งก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ทำธุระเสร็จ ลูกแมวกดชักโครก ล้างทำความสะอาดปานินน้อยก่อนจะวิ่งจุ๊ดๆ ไปปีนบันไดล้างมือตบท้ายด้วยรีบวิ่งไปเกาะขาคนเป็นพ่อด้วยความกลัว
“แด๊ดดี้ ปานินกัว”
“ป่ะ ไปนอนต่อกัน”
“แด๊ดดี้อุ้ม” ภาสโน้มตัวยกก้อนแป้งขึ้นแนบอกก่อนจะพาออกจากห้องน้ำเตรียมพากลับขึ้นเตียงที่ซึ่งอยู่ห่างจากห้องน้ำเพียงไม่กี่เมตร แต่สำหรับลูกแมวกลัวผีคงเป็นระยะทางที่ไกลมาก จากไม่กี่เมตรก็กลายเป็นหลายกิโล พอกลับมาถึงเตียงเด็กชายภาณินก็คลานดุ๊กๆ เข้าไปหาแม่แมวที่นอนหลับสนิทอยู่
ภาสมองภาพตรงหน้าด้วยความอ่อนใจ
ประหนึ่งเห็นแมวสองตัวนอนซุกกัน ใจเหลวจนอยากจะโน้มตัวไปฟัดแรงๆ แต่ก็ได้แค่คิด เพราะหากเขาปลุกตะนิดตื่นตอนนี้มีหวังได้โดนงอนไปอีกหลายอาทิตย์ โทษฐานรบกวนการนอน
ภาสล้มตัวนอนข้างๆ ลูกแมวที่ซุกแม่ตัวสั่นกลัวคุณผีมาหลอก แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีแรงถีบเข้าที่หน้าก็แสดงให้รู้ว่าลูกชายตัวดีของเขาหลับสนิทแล้ว นอนดิ้นแขนไปทางขาไปทางแถมยังหันเท้ามาเสยคางเขาเต็มๆ

เห้อ...
น่ารัก

หลังจากที่ถูกปลุกเพราะลูกชายปวดฉี่ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงภาสก็ถูกปลุกด้วยแรงจิ้มแถวแก้ม พอลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นเป็นใบหน้าน่ารักของลูกชายที่ปีนมานอนกองบนอก แก้มโมจินุ่มนั่นถูกดันขึ้นก้อน ปากกระจับเล็กสีแดงฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด

“ปานิน...”
“แด๊ดดี้ good morning” ปากเล็กจุ๊บเหม่งคนเป็นพ่อพร้อมกับดึงตัวมานอนซบอกอุ่นต่อ ภาสเอนหัวไปมองนาฬิกาข้างเตียงก็เห็นเลขแปดรางๆ

แปดโมงวันเสาร์... 

“ตื่นเช้าจังนะ วันนี้วันหยุดนะครับ” ภาสเอ่ยเสียงต่ำให้กับนาฬิกาปลุกกลิ่นแป้งบนอก ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดควรจะได้นอนยาวๆ แต่ก็โดนปลุกโดยเจ้าก้อนลูกชายเสียอย่างนั้น
“ปานินตื่นแล้ว”
“...”
“ปลุกมัมแล้ว”
“...”
“มัมดุ”
“หึ” ภาสขำพรืดก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งทำให้ลูกชายที่นอนซบอกอยู่กลิ้งตกไปนอนแอ้งแม้งบนเตียง พอมองไปซ้ายมือก็เห็นว่าตะนิดยังคงหลับสนิทกอดตุ๊กตาปลาฉลามนุ่นแตกกรนเบาๆ อยู่
“แด๊ดดี้”
“ครับ”
“ปานินแป๊กๆ แต่มันไม่เข้า” ปานินเดินคลานมาโชว์เสื้อนอนลายโดเรม่อนของตัวเองให้คนเป็นพ่อดู

กระดุมไม่ยอมเข้ารัง
ยัดจนนิ้วเจ็บแล้วด้วย!

“กระดุมมันใหญ่เหรอ ไหน” ภาสอุ้มลูกชายขึ้นนั่งบนตักพรางสำรวจว่าทำไมกระดุมถึงไม่ยอมเข้ารังดุมให้ลูกชายเขา
“แด๊ดดี้”
“หืม”
“วันจันทร์นิปานินจะไปโรงเรียนแนะ”
“เก่งครับ”

...ใช่ เก่ง
แล้วแถมยังทำคนเป็นพ่อเหงาด้วย ภาสได้แต่คิดแล้วก็โหวงในใจ แค่เข้าอนุบาลไม่กี่ชั่วโมงเขาก็เหงาจนซึม ถ้าลูกโตขึ้นแยกไปอยู่มหาลัยคงเหงามากกว่าเดิม คงไม่ต้องพูดถึงแม่แมวที่นอนกรนน้ำลายยืดอยู่บนเตียงคงได้มีน้ำตาแตกกันบ้างแหละ

“แด๊ดดี้”
“ครับ”
“แด๊ดดี้มีย่นๆ” นิ้วป้อมอ้วนจิ้มจึ้กเข้าให้ที่คิ้วคนเป็นพ่อ
“...”
“แด๊ดดี้เหงาไหม ถ้าปานินมะอยู่ โลนลี่ไหมคับ”
“เหงาสิครับ”
“me too! ปานินก็เหงาเวลาแด๊ดดี้ไปทำงาน”

สิ่งแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวภาสนั่นก็คือ
... ลาออกดีไหม ลูกอ้อนขนาดนี้แล้ว

“เห้อ แด๊ดดี้ไม่อยากทำงานแล้วครับ อยากอยู่กับปานินทั้งวัน”
“ไม่เอา แด๊ดดี้ขี้บ่น”

อ้าว...
ภาสถึงกับชะงักกึ้กแทบเกือบกัดลิ้นตัวเอง

“...”
“แด๊ดดี้ๆ”
“...” ไม่ตอบ งอนลูก
“แด๊ดดี้ปานินอยากมีน้อง”
“ห๊ะ” ถึงกับหลุดอุทานออกมา มือใหญ่คลายออกเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวแสบหมุนตัวหนี
“อาภูบอกว่าอยากมีน้องให้มาบอกแด๊ดดี้”
“...”
“แด๊ดดี้ทำยังไงถึงจามีน้องให้ปานิน”
“แด๊ดดี้ทำหลายอย่างเล--”

ปั้ก!!
ภาสถึงกับตัวโยกกับแรงเตะปริศนาแถมบริเวณหลัง ดีที่มือจับเอวลูกไว้ เจ้าตัวแสบเลยไม่ได้ไถตกหน้าตักไป พอมองกลับไปก็พบว่าแม่แมวตื่นแล้วแถมยังแก้มแดงไปยันหูอีกต่างหาก

“พี่ภาส!”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ”
“มัมมมมมมมมม” เด็กชายตัวป้อมขยับตัวดุ๊กดิ๊กออกจากอ้อมกอดพ่อกระโดดไปกอดแม่แมว
“ตื่นเช้าทำไมอ่ะดื้อ วันนี้วันเสาร์”
“ปานินไม่ดื้อ!!!”
“ดื้อ!!!”
“ดื้อนิดนิด!!!”
“ก็แปลว่าดื้อรึป่ะ” ลูกแมวพองแก้มไม่พอใจ

ก็ดื้อ แต่ดื้อนิดนิดนี่!
อยากจะงอนๆ แต่ก็นึกได้ว่ามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องอ้อน

“มัมคับ มัมทำยังไงถึงมีปานิน ปานินอยากมีน้อง อาภูบอกให้บอกมัม” เด็กชายภาณินนอนทับอกแม่แมวพร้อมกับเอนแก้มซบจนขึ้นแก้มนูนขึ้นเป็นก้อน
“...”
“มัม?”
“ทะ ทำหลายอย่าง” ตะนิดตอบอ้อมแอ้มพร้อมกับยกขาขึ้นเตะขาอัลฟ่าหนุ่มที่นั่งยิ้มอยู่แถวขอบเตียง
“หลายอย่างอะไรอ่ะะะะะะ” ลูกแมวงอแงลั่นเมื่อตัวเองไม่เข้าใจที่ผู้ปกครองทั้งคู่อธิบาย
“พี่ภาส!!”
“อะไร ให้พี่ตอบได้เหรอ”
“ไม่ใช่ ให้พี่ไปจัดการภูเขา!!”
“มัมมมมมม ปานินอยากมีน้องงงงงง” ลูกแมวไถแก้มอ้อนเต็มที่
“หยุดเลยดื้อ ตื่นเช้าแล้วงอแงนะเราอ่ะ”
“แด๊ดดี้อ้อนมัม”
“อ้อนไงดีล่ะ แด๊ดดี้อ้อนไม่เก่ง” ภาสหัวเราะเมื่อถูกตะนิดหันมาค้อนใส่ด้วยสายตา
“คิสๆ มัมชอบคิสๆ เดี๋ยวปานินปิดตา!!!” ลูกแมวมุดเข้าโปงผ้าห่มพร้อมกับหลับตาปี๋อย่างรู้งาน
“พี่ภาสว่าลูกเราแก่แดดเพราะน้องชายพี่ไหม” ตะนิดขมวดคิ้วมองก้อนใต้โปงผ้าพร้อมกับส่งสัญญาณตบหัวโทรจิตไปให้ภูเขาที่อยู่อีกที่
“หึ ปานินไปแปรงฟันก่อนไปครับ” ภาสเคาะก้อนใต้โปงผ้าให้มุดออกมา ซึ่งลูกแมวก็มุดออกมาหน้าบู้บี้
“บู่วววววววววว”
“Come on เดี๋ยวไปเที่ยวกันวันนี้”
“ก็ด้ะ” ก้อนแป้งจิ๋วยู่หน้าแต่ก็ยอมปีนเตียงลงไปเข้าห้องน้ำเองแต่โดยดี พอลูกชายเดินเข้าห้องน้ำไป ภาสก็รีบหันมาหาตะนิด
“แมวดื้อ”
“ไร”
“มาอ้อนหน่อยมา”
“อารมณ์ไหนเนี่ย” ตะนิดขมวดคิ้ว
“Morning kiss หน่อย” ภาสโน้มตัวจูบแมวดื้อเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ดันให้ตะนิดลงไปนอน แมวดื้อต่อต้านเล็กน้อยแต่พอถูกดึงสติด้วยสัมผัสที่สอดประสานก็เคลิ้มยกแขนขึ้นคล้องคออัลฟ่าหน้าดุคู่ชีวิต เสียงฟูกเสียดสีสอดคล้องไปกับเสียงหายใจหอบ ตะนิดงับริมฝีปากล่างของอัลฟ่าหนุ่มไว้ก่อนจะแล่บลิ้นเลียปลายคางมน
“ลูกอยู่ พี่ภาส”
“ทีหลังจะห้ามก็อย่ามาเลียคางพี่แบบนี้” ภาสซุกจมูกลงกับลำคอสูดดมกลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชเข้าเต็มปอด
“ก็ไม่ได้ห้ามรึป่ะ แค่บอกว่าลูกอยู่”
“ตะนิด หาเรื่อง” ภาสเอ่ยดุ เมื่อเท้าเล็กยกขึ้นดันเบาๆ บริเวณกลางตัวเขา
“เรื่องอะไรดีก๊าบบบ” ตะนิดหัวเราะพร้อมกับยกมือขึ้นนวดแก้มคนแก่กว่าไปมา   
“เรื่องอะไรดีล่ะ พี่เริ่มเบื่อถุงยางแล้วนะช่วงนี้”
“เห้ยๆ พี่ภาส” ตะนิดรีบยกมือขึ้นปิดปากอัลฟ่าหนุ่มที่คร่อมทับตัวอยู่ ดวงตากลมรีบมองไปที่ประตูห้องน้ำ พอเห็นว่าปิดอยู่ถึงค่อยวางใจ เจ้าลูกแมวมักจะปิดประตูอึเองทุกเช้าเป็นปกติ เพราะถูกฝึกให้นั่งถ่ายเองทุกเช้าจะได้ชินกับการใช้โถ
“หลังปานินเข้าอนุบาล คงมีเวลาว่างเยอะขึ้น”
“...”
“ตอนลูกไปโรงเรียน พี่จะฟัดเราให้จมเตียงเลยแมวดื้อ”
“เห้ยยยย เปิดโหมดเสี่ยโรคจิตทำไมอ่ะ” ตะนิดรีบคว้าคุณนุ่มเบอร์ห้ามากำเป็นอาวุธ
“ไม่ได้ทำมาสักพักแล้วนะ” อุ้งมือใหญ่ไล่นวดไปตามเอวคอดนุ่มนิ่ม
“อื้อ...”

พอมีลูกก็เรียกได้ว่าห่างเรื่องบนเตียงไปเหมือนกัน มีบ้างแต่ก็ไม่ถี่ ส่วนมากก็จะเป็นแค่เพียงช่วยภายนอกด้วยเวลาที่มีจำกัดแค่ตอนลูกหลับ ช่วงฮีทของตะนิดที่หายไปพักใหญ่ พอกลับมาก็จะกินยาเลื่อนไม่ก็ฉีดยาระงับตลอดแทบไม่ได้ปล่อยให้จัดการตามธรรมชาติ เนื่องจากต้องคอยดูแลเจ้าตัวเล็กที่ติดหนึบ ถึงจะสนุกเวลาเล่นกับคุณอาคุณลุงทั้งหลาย แต่พอหันมาไม่เจอแด๊ดดี้หรือมัมอยู่ใกล้ๆ ก็จะร้องไห้จ้าทันที

“อยากถูๆ จัง”
“ลูกอยู่” ถึงจะตอบแบบนั้นแต่ตะนิดก็ยอมให้อีกฝ่ายกัดๆ ดมๆ ลำคอตามใจชอบ ทำเอาภาสอยากจะโทรเรียกแฝดพี่ให้มายืมลูกไปเที่ยวทันที
“รู้แล้ว”
“บิ๊บๆ” ตะนิดส่งเสียงพร้อมกับเลื่อนมือไปบีบก้นแข็งๆ ของอัลฟ่าหนุ่มไปหนึ่งที
“บีบด้านหลังระวังด้านหน้าตื่นจะเดือดร้อนนะแมวดื้อ”
“ใครเดือดร้อน ไม่ใช่นิดอ๊ะเป่า”   
“ปานินบอกอยากมีน้อง”
“ใจเย็นหน่อยได้ไหมพี่ภาส”
“เราน่ะ ใจเย็นหน่อย อย่าเล่นให้มาก” ภาสเอ่ยดุอีกรอบเมื่อแมวดื้อยกขาขึ้นตวัดรัดเอวเขาไม่พอยังจะใช้ส้นเท้ากระทุ้งหลังเป็นจังหวะอีก
“แด๊ดดี้ มัม ปานินไปเล่นด้านล่างนะคับ” เสียงเล็กของลูกแมวดังขึ้นพร้อมกับเสียงปิดประตูห้องนอนให้เสร็จสรรพ ทำเอาภาสและตะนิดหันไปมองประตูที่ถูกปิดอย่างรวดเร็วด้วยความมึนงง
“...”
“ภูเขามันสอนอะไรลูกเราอ่ะพี่ภาส”
“มัม แด๊ดดี้ รีบๆ คิสนะ ปานินหิว” ตะนิดหันไปมองประตูพร้อมกับยกมือขึ้นบีบคางอัลฟ่าหนุ่มด้านบนตัวเป็นการบอกทางอ้อมว่าต้องหยุดลวนลามได้แล้ว
“พอแล้ว ไปทำข้าวให้ดื้อกินก่อน”
“ฮื่อ” อัลฟ่าหนุ่มส่งเสียงขัดใจแถมยังโน้มตัวลงงับแก้มนิ่มไปอีกหนึ่งที
“ฮื่ออะไรพี่ภาส”
“อาทิตย์หน้าเอาภาณินไปฝากภูไว้สักอาทิตย์ไหม น่าจะใกล้ถึงช่วงเราฮีทแล้ว”
“นิดกินยาได้”
“แต่พี่อยากทำตอนเราฮีท”
“พี่ภาส!!!!” แมวดื้อโวยวายลั่นพร้อมกับแก้มแดงจัด ไม่เคยจะชินสักทีกับภาสเวอร์ชั่นเสี่ยลามก ตะนิดยกเท้าขึ้นถีบคนตัวโตจนกลิ้งไปนอนราบในจังหวะเดียวกับที่ภาสเองก็ตวัดแขนโอบเอวบางไว้ เลยกลายเป็นว่าแม่แมวถูกจับขึ้นนั่งทับอยู่บนตัวแทน
“อ้าว ท่าโปรดเลยนี่” ภาสหัวเราะในลำคอ
“พี่ภาส!!!” หมัดแมวฟาดป้าปเข้าให้ที่อกแน่น ภาสได้แต่ยิ้มจนตีนกาขึ้น จะว่าไปก็ได้ภาณินมาก็ท่านี้แหละ ท่าโปรดที่สุดของตะนิด ไม่เคยสักครั้งที่ทำกันแล้วเจ้าแมวไม่ขอปีนขึ้นมาขย่ม
“ไม่เล่นแล้วแมวดื้อ เดี๋ยวยาว” เป็นภาสเองที่เอื้อมมือขึ้นไปลูบหัวแม่แมวเบาๆ แล้วดันตัวให้อีกคนลงจากอก ขืนเล่นไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะหยุดไม่อยู่เอง
“อาทิตย์หน้า...”
“...”
“ฮีทนิดจะมาอาทิตย์หน้า”
“...”
“ถุงยางไม่ต้องก็ได้...” ตะนิดเขี่ยต้นแขนล่ำของอัลฟ่าหนุ่มเบาๆ ก่อนจะรีบหันตัวเดินไปทางประตู แต่ทว่ายังไม่ทันได้หมุนลูกบิดมือใหญ่ก็ตีเข้าให้ที่ประตูดังปึ้ง เงาดำที่ทาบทับทำเอาตะนิดขนลุกซู่
“แมวดื้อ”
“พะ พะ พี่ภาส”
“ดื้อ”
ภาสกดจูบลงบนต้นคอขาวก่อนจะอ้าปากแยกเขี้ยวงับย้ำลงไปที่รอยพันธะด้วยแรงระดับนึง ทำเอาตะนิดตัวสั่นสะท้านรีบยกมือขึ้นจิกต้นแขนร่างสูงไว้แน่น
“พี่ภาส อย่า เดี๋ยวฮีทนิดมาก่อนกำหนด” เป็นที่รู้กันว่ารอบการฮีทของคู่พันธะที่เป็นคู่แห่งโชคชะตามักจะรวนกว่าคู่พันธะปกติ ซึ่งการกัดหลังคอก็เป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นชั้นดี
“อีกหนึ่งอาทิตย์”
“...”
“อีกหนึ่งอาทิตย์ พี่จะไม่ทนแล้ว”

อั้ยหยาาาาาาาาา
ตะนิดตาเหลือกทันที เหมือนเผลอไปกดโดนสวิตช์ปิดเปิดอะไรสักอย่างเข้าให้แล้ว

“มัม! แด๊ดดี้! Are you okay? ปานินมาจ้วยแล้ว” เสียงลูกบิดดังแกร่กๆ เป็นสัญญาณว่าลูกแมวพยายามเปิดประตูห้อง ภาสเลยจำต้องดันตัวออกปล่อยให้ลูกเปิดประตูเข้ามา
“...”
“มัม!! ทำไมหน้าแดง”
“ปะ เปล่า ไม่ได้แดง!!”
“แล้วแด๊ดดี้ทำไมปวดท้อง”
“...” ภาสที่ยืนงอตัวกุมเป้ากางเกงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ปานินไปกินแพนเค้กดีกว่าไป”
“แต่แด๊ดดี้ปวดท้อง....”
“แด๊ดดี้ปวดพูพู” ตะนิดรีบหลอกลูกก่อนจะอุ้มลูกแมวขึ้นพาวิ่งออกมาจากห้องนอน แน่นอนว่าปานินที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ได้แต่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจที่คนเป็นแม่อุ้มวิ่งเล่นแต่เช้า

อาทิตย์หน้า....
ตายแน่ จ๊ากกกกกกกกกกกกก
 
 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 05-02-2021 10:30:02
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 05-02-2021 20:59:42
ชื่อภาณิน หรือ ปานิน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 06-02-2021 07:49:29
 :hao7: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 06-02-2021 10:40:32
เย้ มีน้อนอีกคน
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-02-2021 13:04:34
ต้องแฝดแล้วล่ะงานนี้
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 07-02-2021 23:12:48
แด๊ดดี้จัดให้! ปานิน จะมีน้องแล้วลู้กก
มันเข้ว อยากฟัดเจ้าก้อนแป้งโมจิน้อย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-02-2021 23:52:00
อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าไวๆ.... :hao6:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-02-2021 16:46:38
จ๊ากกกก~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 10-02-2021 22:41:55
น่ารัก  :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 33 งดใช้ถุงลดโลกร้อน :[04/02/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 16-02-2021 17:08:59
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 02-03-2021 21:48:06
ก็จะดื้อ 33


โดยปกติชีวิตของตะนิดมักจะวนเวียนอยู่กับการไปปาร์ตี้กับเพื่อนที่ผับโอเมก้า ไปชอปปิ้งตามห้างแล้วก็จบท้ายด้วยการซื้อการ์ตูนเรื่องสองเรื่องกลับมาอ่าน ส่วนภาสนั้นโดยปกติก็จะวนเวียนอยู่กับการคุยงาน นั่งฟังพอตแคสท์ตามร้านกาแฟในวันพักผ่อน

แต่เมื่อมีลูกแล้วนั้น...

“ฉวนฉัด!!! ปานินอยากไปฉวนฉัด” เสียงเล็กตะโกนลั่นบ้านพร้อมกับหอบตุ๊กตาควายวิ่งมาพาคนเป็นพ่อที่นั่งดูทีวีอยู่
“เราเพิ่งไปซาฟารีเวิลด์มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนะ”
“แด๊ดดี้ ปานินอยากไปดูดอฟิ่นกับจีร๊าบ”
“ไปควาเรี่ยมแทนไหม”
“ฉวนฉัด”
“อืม...”
“พี่ภาส นิดว่าต้องไปซื้อของเข้าบ้านแล้วนะ ทิชชู่หมด” ตะนิดที่เพิ่งออกจากห้องน้ำเอ่ยบอกพลางเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น ว่าแต่ไอ้ก้อนแสบนั่นทำตาแป๋วใส่ทำไมกัน
“มัม!!!”
“ห๊ะ?”
“ปานินอยากไปฉวนฉัด”
“อีกแล้วเหรอ ไปจนลิงคิดว่าเป็นหนึ่งในฝูงแล้วนะ” พูดจริงไม่จ้อจี้ บางทีตะนิดก็เห็นลิงที่สวนสัตว์มักจะจ้องปานินไม่วางตา เดาว่าอยากอุ้มกลับฝูงก็เป็นได้
“ปานินอยากไปฉวนฉัด”
“ตั้งออโต้พูดประโยคนี้เรอะ”
“ปานินอยากไปฉวนฉัด”
“แล้วไง”
“แด๊ดดี้~ ปานินตุ๊บแก้มอ้อนๆ” พออ้อนคนเป็นแม่ไม่สำเร็จก็หันไปง้อคนพ่อแทนด้วยการถูหัวกับแก้มพ่อพร้อมกับปล่อยคอมโบจุ๊บแก้มสิบที

ถามว่าได้ผลไหม...
ภาสก็ขอตอบดังๆ ว่าได้มาก

อัลฟ่าหน้าดุใจเหลวเป๋วคว้าเจ้าก้อนแป้งมาฟัดพุงไปหนึ่งที ลูกชายเขาน่ารักที่สุดในโลกนี้แล้ว ดูแก้มยุ้ยๆ ปากแดงๆ นี่สิ

หรือเขาควรเริ่มโปรเจคสร้างสวนสัตว์ขึ้นมาใหม่แถวบ้านดี

“ไว้พรุ่งนี้ได้ไหมอ้วน วันนี้อยากไปซื้อของเข้าบ้านก่อน”
“...” ก้อนแป้งพองตัวเองทันที มือป้อมกอดไม่พอใจ ไม่โต้ตอบ ไม่คุยด้วย ไม่หายใจด้วย แสดงออกชัดเจนว่างอน งอนมาก งอนที่สุด!!!
“แต่วันนี้แวะซื้อเค๊บซีกับจะเวนเจ้นได้”
“จะเวนเจ้น!!!” ปานินรีบกระโดดขึ้นชูมือ

จะเวนเจ้นนนนน!!!
ไอจิมรสสติ๊กกี้ชูวี่!!!

“เห็นแก่กินจัง ลูกใครอ่ะ”
“...” ภาสแอบกระตุกยิ้มมุมปาก จะลูกใคร เรื่องกินนี่ก็ได้แม่มาล้วนๆ
“แด๊ดดี้ ปานินจ้อบเชอรี่”
“...”
“ปานินก็เลยจาเก็บไว้ให้คนที่ปานินจ้อบด้วย”
“เก็บไว้ให้แด๊ดดี้เหรอ น่ารั--”
“ไว้ให้ยุงเต้อ ปานินรักยุงเต้อ” พูดจบก็วิ่งดุ๊กๆ ไปนั่งเล่นเลโก้ต่อ ปล่อยคนเป็นพ่อกำหมัดอยู่บนโซฟา ตะนิดเห็นแล้วก็ได้แต่เดินมาตบบ่าอัลฟ่าหนุ่มเป็นการปลอบใจ
“ตะนิด... กระทืบคนนี่ผิดไหม”
“ผิดพี่ภาส”
“แต่คนนั้นมันไม่เอาเรื่องพี่หรอกนะ”
“ก็ผิดอยู่ดี”
“งั้นพี่แอบๆ กระทืบ”
“อย่ารังแกบอสนิด” ตะนิดบีบแก้มอัลฟ่าหน้าดุเบาๆ เป็นการดึงสติ
“มันไปทำอะไรนักหนาให้ลูกเราตกหลุมรักตัวปักหัวปำ” ภาสดึงแว่นออกพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับ
“นั่นสิ แต่นิดถามแล้วก็ไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตานะ เพราะพี่เต้อเจอคู่แห่งโชคชะตาแล้วตอนไปฮันนีมูน แต่ก็ไม่ได้อะไรกันต่อเพราะก็มีพี่ชินอยู่”
“พี่แทบไม่ให้มันมาเจอปานินแต่ลูกก็ยังพูดถึงมันตลอด”
“แอชเชอร์เรียนที่เดียวกับปานิน เดี๋ยวก็ได้เจอกันบ่อย”
“งั้นก็ย้ายโรงเรียน”
“วู้ว พี่ภาส ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ป่ะ ไปแต่งตัว นิดอยากไปซื้อของเข้าบ้าน” ตะนิดขำในลำคอพร้อมกับตบแก้มอัลฟ่าหน้าดุเบาๆ

เย็นวันเสาร์แห่งครอบครัวของอาทิตย์นี้ก็เป็นการมาเดินซุปเปอร์มาเก็ต ภาสรับหน้าที่เข็นรถ ปานินรับหน้าที่ยิบขนมและตะนิดรับหน้าที่หยิบขนมของปานินออก เป็นอะไรที่เล็กน้อยแต่ภาสกลับรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ออกมาซื้อของเข้าบ้าน
สิ่งของที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากจำนวนคนในบ้านที่เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน จากน้ำอัดลมของตะนิดและเบียร์ของเขา ปัจจุบันก็มีนมกับน้ำผลไม้เพิ่มเข้ามา จากที่หยิบแปรงสีฟันแค่สองอันก็เริ่มต้องหยิบแปรงสีฟันเด็กเข้ามาเพิ่ม

การมองสิ่งของที่เพิ่มขึ้น
ก็สามารถกลายเป็นความสุขเล็กๆ ได้

“อือ ต่อไปก็น่าจะเป็นผงแป้งแพนเค้ก”
“ตะนิดฝากรถเข็นไว้ก่อนนะ พี่จะไปหยิบของ”
“ปานินไปด้วยแด๊ดดี้!!!”
“อื้อ” ตะนิดพยักหน้าพร้อมกับปล่อยให้ก้อนแป้งปีนแขนขึ้นไปขี่คอพ่อ คู่พ่อลูกเดินหายไป ตะนิดก็หันกลับมาสนใจกับของที่ตัวเองหา ดวงตากลมไล่แบรนด์แป้งสำเร็จรูปสำหรับทำแพนเค้กก่อนจะพบว่าแป้งแบรนด์โปรดเล่นกระโดดไปอยู่เสียแทบจะบนสุด
“โอ้โห...” ตะนิดเขย่งพร้อมกับเอื้อมมือสุดแขนแต่ก็ไม่ถึง จังหวะนั้นเองจู่ๆ ก็มีมือปริศนาเอื้อมมาจากด้านหลัง มันใกล้เสียจนตะนิดสัมผัสได้ถึงแผ่นหลังของตัวเองที่แนบไปกับแผ่นอกอุ่น สัญชาตญาณทำให้โอเมก้าน้อยต้องย่นคอหลบ
“โอ๊ะ ทำให้ตกใจเหรอครับ”
“...” ตะนิดกะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ ปลายจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่คุ้นเคยแม้จะเบาบางมากแต่ก็พอจำได้ว่าคือกลิ่นอะไร

มะ มีกลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆ ด้วย...
... ไม่ใช่กลิ่นพี่ภาสแน่นอน
น้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์งั้นเหรอ?

“พอดีเห็นหยิบไม่ถึง จะหยิบอันนี้นี้รึเปล่าครับ” คนตรงหน้าเอื้อมกระปุกแป้งแพนเค้กขนาดใหญ่มาให้
“ขะ ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เล่นเอาไปไว้ซะสูงเลย”
“...”
“ว่าแต่...”
“...”
“หน้าแดงๆ นะครับ เป็นอะไรรึเปล่า” แม้จะเป็นคนแปลกหน้าแต่ตะนิดก็รู้ได้ทันทีว่าอีกคนเป็นอัลฟ่า สัญชาตญาณสั่งให้รีบหนี แต่เพราะกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ลอยอยู่ทำให้สมองตัดสินใจทุกอย่างช้าลง
“...”
“ไหวรึเปล่าครับคุณ” มือใหญ่เอื้อมมือจับแขนตะนิดไว้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีการตอบสนองแปลกๆ

ในจังหวะที่โดนคว้ามือไว้ ตะนิดก็รู้สึกแปล๊บที่บริเวณหลังคอ ดวงตากลมเบิกกว้างแทบจะทันที

เขาจะฮีท!!!!


“ปานฉัดป่ากาบวนท่าที่หนึ่ง!!!!”

เสียงเล็กตะโกนคำที่โดนอาภุเขาพูดจนจำติดปากดังขึ้นพร้อมกับปานินที่วิ่งเข้ามากัดขาคนแปลกหน้าที่ยืนอยู่กับคนเป็นแม่ ฟันเล็กกัดเข้าสุดแรงจนเจ้าของขากระเถิบถอยหลังแทบล้ม

“โอ๊ะ... มันเจ็บนะครับหนูน้อย” 
“แง่งงงง” ลูกแมวยังคงงับแน่น มือเล็กสะบัดทุบตีศัตรูสุดแรงพร้อมกับน้ำตาไหลพราก

คนนี้แกล้งมัม!! คนนี้แกล้งมัม!!! 

“เด็กที่ไหนวะเนี่ย...”
“ขออภัยแทนลูกชายผมด้วยนะครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับแรงโอบเบาๆ บริเวณเอวของตะนิด อัลฟ่าหนุ่มหน้าดุกดจมูกลงหอมลงบนหัวภรรยาไปหนึ่งที มือใหญ่อีกข้างที่ขยำกล่องซีเรียลของลูกจนบี้แบนปากล่องลงบนรถเข็นพร้อมกับกระดิกนิ้วให้ลูกชายหยุดการใช้ปราณสัตว์ป่าที่จำมาจากในการ์ตูน
“พี่ภาส นิดจะฮีท”
“พี่ได้กลิ่นแล้ว ไหวไหมแมวดื้อ”
“มันจะฮีทก่อน... ก่อนเวลา” ตะนิดหันตัวซุกเข้ากับอกแกร่ง สูดดมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอดเท่านั้นทั้งร่างก็สั่นสะท้าน
“ปานินมาหาแด๊ดดี้ครับ” ภาสกดหัวตะนิดเข้าแนบบ่าพร้อมกับรีบเรียกลูกชายที่แปลงร่างเป็นลูกหมากัดขาคนไม่ปล่อย
“ฮึก แด๊ดดี้!! คนนี้แก้งมัม!!!” ก้อนแป้งจิ๋วผละเขี้ยวออกมาโวยวายลั่น
“come here ปานิน  we need to go แล้ว อ้อ ต้องขอโทษด้วยนะครับ นี่นามบัตรผม ถ้าจะเรียกค่าเสียหายอะไรรบกวนติดต่อมาอีกที” ภาสหยิบนามบัตรจากกระเป๋าเงินออกมายื่นให้อัลฟ่าแปลกหน้าที่ยืนอยู่พร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกลูกหมาจิ๋วให้เดินกลับมาซึ่งปานินก็ยอมปล่อยขาคนนิสัยไม่ดีอย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบวิ่งดุ๊กๆ ไปกอดลูบๆ ขาคนเป็นแม่
“มัม... ไม่เจ็บน้า ปานินโอ๋ๆ ฟู่วววว”
“รีบกลับบ้านกันดีกว่า ปานินวันนี้ไปนอนกับลุงคณิตหรืออาภูดีครับ”
“ปานินจะอยู่กับมัม ปานิน protect มัม”
“วันนี้ไปอยู่กับลุงๆ ให้แด๊ดดี้ได้ไหม”
“แต่...”
“ปานินอยากมีน้องไม่ใช่เหรอ?”
“แต่มัมโดนแก้ง ปานินเปนอัดฉะวิน”
“วันหนึ่งปานินจะมีคนที่ปานินจะเป็นอัศวินให้เขาได้ในอนาคต...”
“...”
“ส่วนมัม”
“...”
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแด๊ดดี้นะครับ”

มือซ้ายที่ประคองตะนิดและมือขวาที่คว้าก้อนแป้งจิ๋วขึ้นมาอุ้ม ความแข็งแรงของพ่อทำให้เจ้าลูกแมวยอมถอนตัวเองออกจากการเป็นอัศวินปกป้องมัมแต่โดยดี

พอเป็นเรื่องปกป้องมัม
... ปานินสู้แด๊ดดี้ไม่ได้เลย

ดวงตากลมของเด็กวัยสี่ขวบกว่าเจือด้วยน้ำตา ปลายนิ้วเล็กขยำคอเสื้อคนเป็นพ่อแน่นพร้อมกับฝังเขี้ยวลงบนบ่าพ่อด้วยความขัดใจ

อยากเข้มแข็งกว่านี้ อยากปกป้องมัม!!!
วันหนึ่งปานินจะเข้มแข็งแล้วปกป้องมัมจากทุกคนให้เหมือนแด๊ดดี้ให้ได้เลย!!!

สุดท้ายเด็กชายปานินก็ถูกนำไปฝากไว้ที่บ้านของฝั่งพ่อโดยมีอาภูยิ้มแป้นต้อนรับตั้งแต่หน้าประตูบ้าน โดยปกติเจ้าตัวคงร้องไห้จ้าไม่ยอมห่างพ่อกับแม่ แต่วันนี้กลับยอมโบกมือบ๊ายบายหยอยๆ แม้น้ำตาจะร่วงเป็นเม็ดแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากรั้งไว้เหมือนเคย
ตะนิดไม่ได้ลงมาส่งลูกเพราะอาการใกล้จะฮีทเต็มทน ส่วนภาสก็ทำเพียงหอมแก้มลูกชายไปหนึ่งฟอดพร้อมกับกำชับว่าเดี๋ยวอีกสองสามวันจะมารับ เด็กชายปานินพยักหน้าและชูนิ้วโอเคเป็นคำตอบ แต่พอรถยนต์คันหรูออกตัวไป เจ้าลูกแมวก็ทรุดลงกับพื้นปล่อยโฮออกมาลั่นทำเอาใจคนเป็นอาเป็นลุงเหลวต้องนั่งยองๆ ลงไปน้ำตาไหลเป็นเพื่อนหลาน
ตัดภาพกลับมาที่ฝั่งผู้ปกครอง ภาสได้แต่ขับรถด้วยความเคร่งเครียด มือแกร่งจับพวงมาลัยรถด้วยความแน่นในระดับที่ปวดตุ้บๆ บริเวณฝ่ามือ กลิ่นแป้งผสมพีชแสนคุ้นเคยเริ่มฉุนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบคุมสติไม่อยู่
“พี่ภาส...”
“หืม”
“อื้อ เพราะฉีดยาระงับบ่อยรึเปล่า”
“ทำไมล่ะ”
“นิดรู้สึก... รู้สึกมากกว่าทุกที” ตะนิดเบียดตัวเองเข้ากับเบาะพร้อมกับขดขาขึ้นเสียดสีตัวเองไปมา
“จะถึงบ้านแล้ว”
“นิดอยากขย่ม”
“...”

แมวดื้อเตรียมเปิดโหมด ‘ดื้อ’ อย่างเต็มตัว

ใจจริงอยากเลี้ยวเข้าโรงแรมที่ใกล้ที่สุดแต่ก็ติดที่ว่าแมวดื้อของเขาเวลาฮีทมักจะชอบทำในห้องที่มีแต่กลิ่นเขามากกว่า พอถึงบริเวณบ้านเขาก็ปักรถเข้าไปแบบไม่ได้ตั้งใจอะไรมาก ยังไม่ทันได้ปลดเข็มขัดนิรภัยดี ตะนิดก็ตะกายขึ้นมานั่งทับเสียก่อน

“ตะนิด ไปทำบนห้องดีๆ “
“อื้อ ไม่เอา เอาตอนนี้” มือเล็กดึงแว่นสายตาออกก่อนจะยื่นหน้าเข้ามางับจมูกอัลฟ่าหนุ่มอย่างออดอ้อน
“บนรถมันแคบ”
“พี่ภาส จูบ”
“แมวดื้อ”
“อื้อ ดื้อนิดนิด”

ภาสหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อแม่แมวล้อเลียนลูกแมวออกมาในเวลาแบบนี้เสียงั้น

“ขอพี่ถอดเบลท์ก่อน เห้ยๆ ตะนิด” ภาสรีบดึงแขนตะนิดไว้เมื่อเจ้าแม่แมวดื้อจู่ๆ ก็ยกมือขึ้นถอดเสื้อตัวเอง
“พี่ภาส นิด นิดอยากลองบนรถ”
“...”
“พี่ภาส...”
“คันอื่นได้ไหม”
“...”
“คันนี้มีคาร์ซีทลูกอยู่ด้านหลัง พี่รู้สึกเขินแปลกๆ”
“อื้อ เบนซ์” สติใกล้หายเต็มที แม่แมวทิ้งตัวลงถูเนื้อตัวเองกับอัลฟ่าหนุ่มไปมา
“เบนซ์ภาคินยืมไป”
“บะ บีเอ็มล่ะ เจ้าแปดอ่ะ” และตะนิดหมายถึงซีรี่ส์แปด ส่วนเจ้าแปดคือชื่อที่ปานินใช้เรียกรถคันนั้นตามภูเขา ภาสเหลือบมองเจ้ารถหรูที่จอดนิ่งในโรงรถแล้วก็ถอนหายใจ
“คันนี้แหละ”
พูดจบภาสก็เลื่อนมือขึ้นนวดแผ่นหลังบางส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปปลดเข็มขัดนิรภัยออก ตะนิดช่วยเอื้อความสะดวกให้ด้วยการถอดเสื้อรอ พอถอดเสื้อตัวเองเสร็จแม่แมวก็จัดการใช้สองมือดันหน้าอัลฟ่าหนุ่มขึ้นมาจูบ
สมัยก่อนตะนิดอาจจะไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการจูบมากนัก แต่หลังจากผ่านสนามมาหลายสนาม แม่แมวก็จัดการโชว์สเตปที่สั่งสมมา ตะนิดแล่บลิ้นเลียริมฝีปากอีกฝ่ายพร้อมกับหยอกล้อกับปลายลิ้นอัลฟ่าหนุ่มไปมา และนั่นทำเอาภาสปวดหนึบที่กลางตัวอย่างรุนแรง

น่ารัก...
น่ารักเป็นบ้าเลย...

“พี่ภาส...”
“หืม”
“นิดว่านิด...”
“...”
“แฉะหมดแล้ว”


ตะนิดก็คือตะนิด
มาอีกแล้วไอ้คำพูดคำจาลามกไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่เป็นคำที่ดูลามกมากแต่เจ้าตัวกลับขมวดคิ้วมุ่ยแตะที่ก้นตัวเองพร้อมกับกระเถิบก้นให้อยู่บนตักอัลฟ่าหนุ่มไม่ไปแปะลงบนเบาะด้วยความกลัวว่าเมือกใสจะเปื้อนเบาะแล้วซักออกยาก

“เราทำอะไรเนี่ย” ภาสเอ่ยถามเมื่อแมวดื้อขยับตัวหยิบเสื้อตัวเองที่ถอดมารองไว้ที่ก้น
“เดี๋ยวมันเปื้อนเบาะ กางเกงนิดบาง”
“...”

อยากจะบอกว่าเดี๋ยวได้เปื้อนกว่านี้อีกเยอะ แต่กลัวสัญชาตญาณแม่บ้านของแม่แมวจะตื่นเลยไม่พูดดีกว่า ภาสรีบเบี่ยงเบียนความสนใจตะนิดด้วยการบีบก้นนุ่มผ่านเนื้อผ้าไปเบาๆ พร้อมกดจูบลงบนเนินอกขาว พอมีลูกแล้วตะนิดดูจะอุดมสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม บีบตรงไหนก็เนื้อแน่นเต็มมือไปหมด

“พี่ภาส พี่ภาส...อื้อ”
“แมวดื้อของพี่” ภาสรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้ตัวเองนั้นหอบหายใจดังเหมือนคนหื่นกระหาย มือที่จากบีบเคล้นบริเวณสะโพกค่อยๆ ลากขึ้นลูบไปตามแผ่นหลังเล็กซึ่งแมวดื้อก็ยกก้นอำนวยความสะดวกให้แต่โดยดี
“อื้อ พี่ภาส ถอด ถอดกางเกง พอแล้ว อยากขย่มแล้ว” ตะนิดเบะก้มตัวเลียหูอัลฟ่าหนุ่มอย่างออดอ้อน
“กางเกงใคร?”
“นิด กางเกงตะนิด” แมวดื้อยกมือชี้ตัวเอง
“หึ” ภาสจับแมวดื้อให้นั่งหันหลังแนบอกแกร่งลงมา มือซ้ายสอดเข้าใต้แขนเล็กไปลูบหน้าท้องโมจิ ส่วนมือขวาก็สอดเข้าไปปลดกระดุมกางเกง ดีที่ตะนิดใส่กางเกงตัวที่ถอดง่ายมาวันนี้ ถ้าใส่กางเกงยีนส์ก็คงได้มีพับแผนทำบนรถทิ้งกันไปบ้าง
 พอรูดกางเกงทิ้งลงไปกองที่ข้อเท้าได้ แม่แมวก็เตะกางเกงทิ้งก่อนจะเตรียมหันตัวขึ้นขย่มเป้าหมาย แต่เป้าหมายก็รู้ทันเลยรีบล็อคแขนกอดเอวไว้
“พี่ภาส!! นิดอยากขย่ม!!”
“ใจดีกับพี่หน่อยแมวดื้อ มาถูๆ ก่อน”
“ถูด้วย ขย่มด้วย”
“จ๊าก”
“นั่นบทนิด!!!”
“หึ ก็เราลามก”
“นิดไม่ลามก”
“ลามกนิดนิด”
“พี่ภาสอย่าแซวลูก”

ภาสหัวเราะในลำคอพร้อมกับกดจูบลงบนขมับชื้นเหงื่อ ข้อดีของการทำพันธะคือเมื่อเข้าช่วงฮีทและรัท เขาและตะนิดจะมีสติมากกว่าตอนไม่ทำพันธะเนื่องจากการชินกลิ่น เขาและตะนิดไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนของคนอื่นอีกตั้งแต่วันนั้น ต่อให้มีโอเมก้ามาฮีทตรงหน้าถ้าไม่ใช่ตะนิดเขาก็ไม่รัท และต่อให้ตะนิดฮีทที่ไหนฟีโรโมนของตะนิดก็จะไม่ทำให้อัลฟ่าคนอื่นรัท

ชีวิตเขาตอบสนองกับฟีโรโมนแค่ของตะนิด
และตะนิดก็ตอบสนองฟีโรโมนกับแค่ของเขา

... เราคือคู่พันธะกันอย่างสมบูรณ์

 มือใหญ่สอดเข้าไปใต้กางเกงสีขาวของตะนิด จริงๆ แค่เทียบขนาดมือของเขาก็แทบจะเท่าต้นขาแมวดื้ออยู่แล้ว พอสอดเข้าไปมือเขาเลยดันผ้าบางนั่นจนเห็นหลังมือนูนขึ้นชัดเจนกว่าแค่มือเดียวก็บังตะนิดน้อยจนมิด

...น่ารักไปทั้งตัว
แต่ขืนชมออกไปแม่แมวได้มีโกรธแน่
รายนี้ล่ะมั่นใจเรียกหนอนน้อยตัวเองว่ามังกรยักษ์มาตลอด แถมยังพาลูกเรียกปานินน้อยว่ามังกรจัมโบ้อีก

“พี่ภาส อื้อ ฮึก พี่ภาส นิดอยากขย่ม พี่ภาส” แมวดื้อเงยหน้าขึ้นเลียปลายคางมนอย่างออดอ้อน
“ใจเย็นๆ” ภาสปล่อยให้แมวดื้อเลียๆ งับๆ คางไป ส่วนมือก็ยังคงขยับเสียดสี ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมทอดมองใบหน้าดื้อที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่ทะยานสูงขึ้น ดวงตากลมโตเจือน้ำตาปรือมองเขา เรียวปากเล็กแล่บลิ้นเลียแก้มเขาจนต้องยอมหันไปประกบปากจูบ
“ไม่เอาแล้ว อ๊ะ ฮึก พี่ภาส นิดจะ... อื้อ” มือเล็กทั้งสองข้างชูขึ้นขยำหัวอัลฟ่าหนุ่มพร้อมกับปลดปล่อยออกมา แม่แมวกระตุกตัวอยู่พักหนึ่งก่อนจะรวบรวมสติรีบหันตัวขึ้นตั้งท่าประจำ ซึ่งภาสก็เตรียมพร้อมรับมือ
“พักก่อนไหม...”
“ไม่!!”

หนักแน่นเชียว...

แม่แมวจัดแจงท่าพร้อมกับจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเอง อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นประคองก้อนพีชเต็มไม้เต็มมือก่อนที่ความนุ่มนิ่มจะโอบรัดเสียจนต้องส่งเสียงคำรามผ่านไรฟัน ภาสเงยหน้าขึ้นมองแม่แมวที่เชิดขึ้นเปิดให้เห็นลำคอขาวเนียน
“พะ พี่ภาสคับ”
“พูดเพราะทำไม”
“ไม่... นิดหมายถึง มัน มันคับ” ตะนิดจิกบ่าคนตัวสูงแน่นพร้อมกับค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักลงจนแนบชิดไปทุกพื้นที่ ตะนิดถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะเดียวก็รู้สึกอึดอัดคับแน่นไปหมด
“ไหวไหม”
“มันใหญ่ขึ้นไหม หนอนจิ๋วพี่ภาสเนี่ย” แม่แมวบ่นอุบแต่ก็แอบยกสะโพกขึ้นลงเองเบาๆ
“ใหญ่นิดนิด”
“พี่ภาสอย่าแซวปานิน”
“หึ”
“พี่ภาส เนี่ย มันอยู่ประมาณนี้เลย” ตะนิดเอนตัวออกพร้อมกับจับบริเวณหน้าท้องตัวเองด้วยมือที่ชื้นแฉะไปด้วยคราบเหนียว วัดให้พอเห็นภาพว่าเจ้าหนอนจิ๋วนั้นขยายคับไปถึงตรงไหน ซึ่งมือเล็กก็ชี้อยู่ตรงแถวสะดือ ความเซ็กซี่ของทุกองค์ประกอบท่าทางนั่นทำเอาภาสแทบหน้ามืด

จะยั่วไปถึงไหนกัน
ก็หลงแทบตายอยู่ทุกวันแล้ว

“อย่ายั่วพี่ แมวดื้อ”
“ไม่ดื้อ”
“ดื้อ” ภาสยกนิ้วตะนิดขึ้นมางับเบาๆ 
“นิดไม่ดื้อ”
“รัก”
“...”
“จะดื้อกว่านี้ก็รัก”
“...”
“พี่รักเรานะ ตะนิด”
 
กลิ่นพีชผสมแป้งเด็กและกลิ่นลาเวนเดอร์ฟุ้งกระจายสอดประสานกันทันทีที่สิ้นประโยค ตะนิดรู้สึกได้ถึงความรู้สึกถูกรักที่ส่งมาจากสายตาอัลฟ่าดุ หลังคอบริเวณรอยกัดรู้สึกเจ็บแปล๊บก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นอุ่นวาบ

“ตะนิดก็รักพี่ภาส”
“...”
“รักนิดนิดนะแด๊ดดี้”
“หึ”

ภาสหลุดหัวเราะออกมาทันทีก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวประทับริมฝีปากลงไปบนแผ่นอกบางบริเวณหัวใจ

การทำพันธะอย่างสมบูรณ์นอกเหนือจากการกัดหลังคอ
...คือความรู้สึกรักที่มัดกันไว้อย่างพอดีทั้งสองฝ่าย

ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่น ดวงตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมที่ท่วมท้นไปด้วยความรัก มองพิจารณาใบหน้าคู่ชีวิตที่ขึ้นสีแดงระเรื่อไปจนถึงใบหู แม่แมวฉีกยิ้มกว้างจนตาปิดดูน่ารักเสียจนภาสอยากฟัดแก้มแรงๆ ให้กลิ่นแป้งติดจมูก

“พี่ภาส...”
“ครับ”
“รอบนี้อย่าเพิ่งรัทนะ”
“...”
“นิดอยากทำเยอะๆ”
“...”
“ทำน้องให้ปานินกันนะ” 

ภาสรอบถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนให้กับความน่ารักปนยั่วยวนของแมวดื้อบนตัว ตั้งแต่รู้จักตะนิดมา เขาถึงเพิ่งเข้าใจคำว่าน่ารักจนใจเจ็บ มือใหญ่ที่ไล้ลูบตามสันหลังเอื้อมไปลูบไปลูบมาบริเวณหน้าท้องโมจินุ่มยุ้ยแทน

“แมวดื้—“
“มีปานินแล้ว คนต่อไปชื่อปาไรดีพี่ภาส ปาดุก? ปาหมอสี?”
“จุ๊บๆ กันแมวดื้อ”
“เอ๊ะ แต่—“

...อา จริงด้วย
ภารกิจต่อไปคือช่วยลูกเรื่องชื่อต่อจากตะนีอีกสินะ


 
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 02-03-2021 22:20:11
 :hao6: :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-03-2021 13:56:52
ใครเนี่ย มีกลิ่นมากระตุ้นตะนิดหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-03-2021 16:20:47
ขอแฝดดด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 03-03-2021 21:06:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-03-2021 08:58:19
รอน้องปานินน้า~
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-03-2021 09:38:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 06-03-2021 16:29:31
หลุดจากตะนี ก็ยังมีปลาดุก ปลาหมอสี
โอ้ยยย ตะนิด!555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 07-03-2021 10:59:35
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-03-2021 03:07:21
55555 เป็นภาสนี่อยู่ยาก ตะนิดก็ป่วนหนึ่ง ภาณินก็ป่วนสอง
แต่จับมัดรวมแล้ว มีเจ้าก้อนดื้อในบ้านให้หนุบหนับ น่ารักไปหมด

โอยยย ใจบางไปหมดแล้วค่ะ ตะนิดฮีท ภาสจะไปไหนรอดได้อีก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 ปาดุก :[02/03/21] p.10
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 16-03-2021 14:03:28
ปาดุก :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Oiimaps ที่ 25-03-2021 21:01:10
ก็จะดื้อ 35



ช่วงเวลาฮีทของตะนิดยาวนานอยู่ประมาณสามวันก็เริ่มดีขึ้น

แต่ก็เป็นสามวันที่เรียกได้ว่า



‘เต็มอิ่ม’



ได้นอนกอดซุกกันเต็มอิ่ม อาจจะมีหยุดพักไปกินข้าวบ้างแต่สุดท้ายก็จบลงที่ฟัดกันไปมาบนเตียง เปลี่ยนสถานที่ร่วมรักไปพื้นที่ต่างๆ ในบ้านแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เป็นสามคืนที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความรักที่ท่วมท้น



แต่ทว่าก็เหงาหูเสียจนโหวงในบางครั้ง



ตะนิดลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับเด้งตัวขึ้นนั่ง ดวงตากลมหยีเล็กน้อยเมื่อรู้สึกปวดแถวๆ สะโพกกับต้นขาจากศึกรักร้อนแรงเมื่อคืนที่เขาและพี่ภาสจัดกันเสียจนตัวเองสลบเหมือดไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว แต่พอตั้งสติได้สิ่งแรกที่ตะนิดมองหาคือก้อนปานิน

เจ้าตัวแก้มยุ้ยขี้ดื้อที่มักจะตื่นก่อนคนแรกเสมอแล้วก็มักจะคอยทำหน้าที่แทนนาฬิกาปลุกที่ดีไล่จิ้มไล่ปุ๋งใส่หน้าคนเป็นพ่อเป็นแม่ให้รีบตื่นไปทำอาหารเช้าให้



อา...

อยู่กับภูเขานี่นา



“แมวดื้อ...” เสียงอู้อี้ของภาสดังขึ้นพร้อมกับแขนล่ำที่พาดโอบรอบเอวบางก่อนที่ร่างสูงจะซุกจมูกตัวเองเข้ากับพุงนุ่มนิ่มสูดดมกลิ่นแป้งผสมพีชเข้าเต็มปอด

“พี่ภาส”

“หืม”

“ไปรับปานินกัน”

“อื้อ ไปสิ”

“ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ดีนะ”

“...”

“แต่มีลูกอยู่ด้วยดีกว่าเนาะ” แมวดื้อโน้มตัวลงจุ๊บแก้มสากที่มีตอหนวดของสามีเบาๆ

“อื้อ”

ภาสเห็นด้วยแบบไม่มีอะไรจะโต้แย้ง

สำหรับเขาแล้ว การได้ใช้ช่วงเวลากับตะนิดมันเป็นอะไรที่ดีมาก การที่ได้ยินเสียงแมวดื้อครางลั่นบ้านแบบที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวชอบทำแต่พอมีลูกก็ต้องคอยเก็บเสียงทุกครั้งที่มีโอกาสได้แอบทำเวลาเจ้าก้อนลูกแมวดูการ์ตูน ได้ฟัดแม่แมวเต็มที่แบบไม่ต้องยั้งติดกันทั้งวันทั้งคืน แต่สุดท้ายภาสเองก็คิดถึงเสียงเรียกแด๊ดดี้เล็กๆ ที่มักจะดังอยู่ทั้งวันด้วยเหมือนกัน

“ป่านนี้คงรอให้ไปรับแย่แล้ว”

“แต่ไม่โทรมาเลยนะ” ภาสหยิบแว่นขึ้นมาสวมก่อนจะคว้ามือถือมาเชคก็พบว่าไม่มีการติดต่อมาจากน้องชายเลย ถึงจะมีส่งรูปมาให้บ้างสองสามรูปแต่ก็ไม่มีเนื้อความที่ว่าเจ้าลูกแมวงอแงอยากให้มารับเหมือนปกติ

“อื้อ ไปรับลูกกัน นิดคิดถึงลูก” กลายเป็นแม่แมวที่เริ่มงอแงแทน

“ปะ อาบน้ำกัน”

“พี่ภาสไม่ลามก”

“แค่อาบน้ำ” ภาสถอดแว่นออกก่อนจะอุ้มแม่แมวขึ้นแนบอกซึ่งแน่นอนว่าตะนิดก็ตวัดขารัดไว้ตามสันชาตญาณ

“แค่อาบน้ำแต่พี่ภาสก็...” แม่แมวดึงหูคนพ่อทันทีเมื่อรู้ถึงอะไรบางอย่างดันอยู่บริเวณก้น

“ป่ะ ถูๆ กัน”

“จ๊ากกกก หมายถึงถูสบู่ใช่ไหม”



และใช่...

ไม่ได้จบแค่ถูสบู่หรอก



กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็เล่นเอาตะนิดแทบหมดแรง ขนาดเขาไม่ฮีท อีกฝ่ายก็ไม่รัท แต่ก็ยังฟัดเขาเสียจนเสียงแหบเสียงแห้ง ตะนิดแอบเหลือบตามองอัลฟ่าหนุ่มที่กำลังคว้าเสื้อยืดมาสวมแล้วก็ได้แต่คิด



พี่ภาสนี่จะอึดเกินวัยไปรึเปล่า!

พอลูกไม่อยู่หน่อยนี่ไม่ปล่อยให้ขาแตะพื้นห้องเลยนะ!!!!

แล้วไอ้ลอนหน้าท้องนั่นมันอะไรเนี่ย วันๆ ก็สลับอยู่แค่บ้านกับออฟฟิส เอาเวลาที่ไหนไปปั้นหน้าท้องมาให้ดูเซ็กซี่ขนาดนั้น ยิ่งแก่ยิ่งฮอตมันเป็นแบบนี้เองเหรอ!!!



“จ้องพี่ทำไมแบบนั้น” ภาสขมวดคิ้วงงเมื่อหันกลับมาเจอแม่แมวกอดอกขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนแมวกำลังดุอาหารเม็ด

“พี่ภาส...”

“หืม?”

“ถ้าพี่ภาสจะเป็นคนฮอตๆ นิดก็จะฮอตๆ บ้างนะ”

“พี่ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่แต่หยุดคิดเถอะ” ภาสรีบยกปางห้ามคิดไปเรื่อยขึ้นมาทันทีที่ตะนิดพูดจบ แมวดื้อมักจะมีความคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในหัวเสมอ และทุกไอเดียนั่นมักจะอันตรายอยู่เสมอด้วยเหมือนกัน

“พี่ภาสแบบกล้ามแน่น หุ่นดี แต่นิดอ้วนเอา”

“เราไม่ได้อ้วน”

“คณิตเรียกนิดว่าแม่หมู”

“คณิตแค่แกล้งเรา” แล้วก็แกล้งมาตลอดด้วยไม่ใช่รึไง ภาสได้แต่คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป

“นิดว่าจะออกกำลังกายแล้ว ไปฟิตเนสกับคณิตดีกว่า”

“...”

“นิดจะได้หุ่นดีมีซิกส์แพคแบบพี่ภาสบ้าง”

“...”

แน่นอนว่าภาสไม่ห้ามหรอก เพราะรู้ดีว่าอย่างตะนิดน่ะออกกำลังได้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์หรอก เดี๋ยวก็บ่นปวดกล้ามเนื้อแล้วก็ไปจบที่นั่งกินสเวนเซ่นกับปานินเหมือนเดิม



“ถ้านิดฮอตๆ แล้ว พี่ภาสต้องหวงนิดชัวร์ นิดขอบอก”

“ไม่ฮอตพี่ก็หวงอยู่ดี” ภาสถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบนาฬิกามาใส่ เชคของอะไรให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน โดยที่มีแม่แมวเดินตามต้อยๆ ตามภาษาคนเพิ่งออกจากฮีทแล้วติดกลิ่น

“ถ้านิดมีซิกส์แพคนิดจะถ่ายอวดลงไอจี”

“...” ภาสเลือกไม่โต้ตอบเพราะคงไม่ได้มีให้อวดหรอก เผลอๆ อีกไม่กี่เดือนนี้น่าจะได้อวดหน้าท้องตามที่เจ้าตัวอยากนั่นแหละ

...แต่คงไม่ใช่ท้องซิกส์แพค

น่าจะเป็นท้องลูกคนที่สองมากกว่าซึ่งแน่นอนว่าภาสก็ไม่พูดออกไปให้แม่แมวนึกขึ้นได้หรอก

ในที่สุดก็แต่งตัวเสร็จได้เวลาขับรถไปรับลูก ตะนิดดูจะกระวนกระวายเป็นพิเศษหลังจากที่ปานินไม่โทรมางอแงเหมือนทุกครั้งที่เอาไปฝากไว้ที่บ้านอื่น พอรถจอดเทียบหน้าบ้านตะนิดก็รีบก้าวขาลงจากรถ เพียงแค่ขาเตะพื้น เสียงเล็กก็หวีดดังลั่น

“มัม!!! แด๊ดดี้!!!” ปานินตะโกนลั่นพร้อมกับเตรียมสับเกียร์มาหาคนเป็นแม่



...แต่ทว่า

จู่ๆ ลูกแมวก็ชะงักตัว แล้วก็ยืนอยู่นิ่งๆ ทำเอาทั้งภาสและตะนิดงงจนต้องรีบเดินเข้าไปหา



“ปานินเป็นอะไร” ตะนิดนั่งยองๆ ลูบหัวลูกแมวที่ยืนก้มหน้าดึงชายเสื้อตัวเองไม่ยอมส่งเสียงอ้อนแบบที่เคยทำ

“ปานินเป็นเข็มแข็ง”

“...”

“อาภูบอกถ้าปานินเป็นพี่คนโตแล้วต้องเข้มแข็ง”

“...”

“ปานินไม่งอแงให้มัมรีบมารับแล้ว ปานินเข้มแข็ง ปานินอยู่ได้ ฮึก”



เป็นเข้มแข็งแต่น้ำตาหยดเป็นเม็ดทำเอาใจคนเป็นแม่เหลวไปหมด



“ปานิน ต่อให้เป็นพี่ก็อ่อนแอได้ ไม่ต้องรีบโตหรอก ไหน ใครคิดถึงมัมยกมือขึ้น” ตะนิดคว้าเจ้าก้อนลูกแมวขึ้นอุ้ม แค่นั้นลูกแมวก็ปล่อยโฮออกมาลั่น มือเล็กกอดคอคนเป็นแม่แน่น

“ฮึก ปานินครับ ฮืออออออออ ปานินคิดถึงมัม ปานินคิดถึงแด๊ดดี้ ฮึก”

“โอ๋ๆ” ตะนิดตบตูดลูกชายไปมา ส่วนภาสก็ได้แต่ถอนหายใจเดินมาหอมหัวลูกไปหนึ่งฟอด ตอนเห็นเจ้าตัวยืนนิ่งๆ ไม่วิ่งเข้ามาหาก็ใจหายหมด คิดว่าลูกเป็นอะไร พอรู้ว่าไปรับบทเรียนการเป็นพี่ชายมาจากอาที่เป็นน้องคนสุดท้ายของบ้านก็ได้แต่ตวัดตามองไปในบ้านที่มีเหล่าอัลฟ่าตระกูลภ.ยืนอยู่

... เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีแล้วกัน

ภูเขาโดนคาดโทษคดีเร่งให้ลูกชายเขารีบโต เพิ่งจะสี่ขวบแถมน้องที่ว่ายังไม่ทันได้เจาะรังไข่เลยด้วยซ้ำ วุ่นวายไม่เข้าเรื่องจริงๆ

“แด๊ดดี้อุ้ม”

“มาครับ” ภาสคว้าลูกแมวมากอดพร้อมกับฟัดแก้มยุ้ยชื้นน้ำตาไปหนึ่งที

“แด๊ดดี้ ถ้ามีปาทองแล้ว แด๊ดดี้จะยังรักปานินไหม”

“รักสิ” แต่ปาทองนี่อะไรนะ? ทดไว้ก่อนในใจว่ามีสิ่งไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในสารระบบของลูกชาย

“แด๊ดดี้ต้องห้ามลืมรักปานินนะ ฮึก” ก้อนแป้งเบะปากฮือพร้อมกับเอียงแก้มถูตอหนวดคนเป็นพ่ออย่างออดอ้อน

“แด๊ดดี้จะลืมรักเราได้ยังไง ไม่มีทาง”

“ฮึก ปานินจะดื้อนิดนิด พอมีปาทอง ปานินจะดื้อนิดนิดนิด เหลือดื้อแค่จิ๋วๆ เองแด๊ดดี้”

“จะดื้อบิ๊กๆ หรือจิ๋วๆ แด๊ดดี้กับมัมก็รักปานินอยู่ดี”

“ฮึก ปานินคิดถึงแด๊ดดี้กับมัมคับ”

“หึ”

“อาภูซื้อของเล่นเต็มเลย แล้วก็ แล้วก็ มีการ์ตูนด้วย”

“เป็นไง สนุกไหม”

“สนุกมากกกกก”

“หึ”

“แต่แด๊ดดี้”

“ครับ?”

“ต่อให้มีของเล่นพันชิ้น มีเลโก้ มีดาบเลเจ้อ มีกัปตันอะเมริก้าฉิบตัว”

“...”

“แต่ปานินก็ไม่เอา ถ้าไม่มีแด๊ดดี้กับมัมให้ปานินกอด” ก้อนแป้งกระชับกอดคอคนเป็นพ่อ พร้อมกับเอื้อมมือป้อมอีกข้างคว้าปอยผมคนเป็นแม่



มาบ้านอาภูกับบ้านลุงคณิตทีไรต้องมีของเล่นใหม่ให้เล่นอยู่ตลอด ได้ดูการ์ตูนเรื่องใหม่ๆ ได้กินขนมเยอะๆ แต่พอหันมาไม่เจอแด๊ดดี้กับมัมให้กอดแล้วปานินไม่ชอบที่สุดเลย เด็กน้อยวัยสี่ขวบกว่าคิดในใจพรางปาดน้ำตาป้อยๆ



“ปานินมานี่มา” ตะนิดอ้าแขนให้ภาสส่งลูกชายให้ ซึ่งภาสก็แงะก้อนแป้งส่งมอบให้แต่โดยดี

“มัม มัมมีปาทองในท้องอ๊ะยัง” พอกลับเข้าสู่อ้อมกอดแม่ ก้อนแป้งจิ๋วก็ทำการบีบแก้มแม่แมวไปมา ไม่ลืมจุ๊บๆ ด้วยสามที

“ยังหรอก”

“โห่ ปานินให้ปาทองยืมมัมกับแด๊ดตั้งหลายวัน ทำไมไม่มา ปาทองดื้อบิ๊กๆ เหรอ”

“ปาทองกำลังตีกับปลาตัวอื่นอยู่”

“ปาทองเป็นไฟ๊เต้อเหรอมัม”

“ใช่แล้ว ปานินต้องบอกให้น้องสู้ๆ”

“ฉู้ๆ! ฉู้กันๆ ปาทองฉู้ๆ”

“ไหนใครอยากกินสเวนเซ่น”

“ปานิน!!!! จะเวนเจ้นนนนนนนนน”

“ไหนใครอยากไปซาฟารีเวิลด์”

“ปานินนนนนนน”

“ไหนใครปุ๋งคนเดียวตอนกลางคืนได้แล้วว”

“ปานิ— เอ๊อะ มัม ปานินยังทำไม่ได้น้า”



ภาสมองสองแม่ลูกที่หัวเราะคิดคักไปขึ้นรถแล้วก็ได้แต่อมยิ้มออกมาเบาๆ เขาเคยคิดไว้ตั้งแต่ช่วงเจอตะนิดแรกๆ แล้วว่าตะนิดเป็นเหมือนความวุ่นวายที่เข้ามาในชีวิต เป็นเสียงที่ดังในวันที่ปกติจะเงียบสงบ เป็นเหมือนพีชเปรี้ยวๆ ที่เมื่อกินแล้วคงตาหนีไปข้างก่อนที่จะทิ้งรสหวานไว้ปลายลิ้น และพอมีปานินเข้ามาก็เหมือนความวุ่นวายนั้นทวีคูณเป็นสองเท่า นี่ยังไม่นับว่าถ้าเกิดเด็กในท้องที่ตามมามีจำนวนมากกว่าหนึ่ีงคนชีวิตเขาคงวุ่นวายกว่านี้ไปอีกเท่าตัว



ถึงจะเป็นความวุ่นวาย

... แต่ก็เป็นความวุ่นวายที่ทำให้โลกสดใส



เวลาที่ค่อยๆ ผลัดเปลี่ยนไป ตะนิดที่เริ่มหันมาลองจิบกาแฟแล้วรู้สึกว่าไม่ขมอย่างที่คิด ภาสเองที่เริ่มทาครีมลดรอยตีนกาที่เพิ่มขึ้นทุกวันพอๆ กับผมหงอกที่เริ่มๆ แอบแซมขึ้นจนแมวดื้อต้องคอยถอนให้ จานแพนเค้กที่จากปกติต้องทำเผื่อก้อนแป้งแค่หนึ่งก้อนก็กลายเป็นสามจานตามจำนวนเด็กที่เพิ่มขึ้น



“มัมมมมมมมม ปูริกับปูรินทะเลาะกันอีกแล้ว ปานินห้ามแล้ว!!!” เสียงปานินโวยวายลั่นบ้านก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาคนเป็นแม่ที่กำลังเป่าผมให้อัลฟ่าร่างใหญ่

“ทะเลาะเรื่องอะไรอีกล่ะคราวนี้”

“ไปดูลูกไป” ภาสตบก้นแม่แมวเบาๆ ก่อนจะรับไดร์เป่าผมมาไดร์เอง

“ว่าแต่เราใส่เสื้อกลับด้านป่ะปานิน”

“จ๊ากกก ปานินใส่เสื้อกลับด้าน!!!”



ภาณินในวัยเจ็ดขวบตัวเริ่มยืดสูงกว่าเด็กในวัยนี้ทั่วไปแต่ความเด็กก็ยังคงเด๋อด๋าตามวัย ผมสีน้ำตาลอ่อนและดวงตาสีเทาอมน้ำตาลอ่อนแสดงความลูกครึ่งชัดเจนว่าได้มาจากฝั่งพ่อ แต่ใบหน้าที่หวานและดูดื้อนั้นยังคงชัดเจนว่าได้มาจากตะนิดล้วนๆ



“ฮึก ฮือออออออ มัม มัม”

“มะน้อง น้อง มะดู้ ปูริงยื่อ”

“มัม ปูริ ปูริแก้ง”



ตะนิดเดินเข้ามาโซนคอกเล่นเด็กก่อนจะชะเง้อดูก้อนสองแฝดในวัยใกล้จะสองขวบ คนพี่อย่างภูริที่ดูหน้าดุเหมือนคนพ่ออย่างกับแกะส่วนคนน้องอย่างภูรินทร์ก็หน้าเหมือนพ่อไม่ต่างกันแต่ทว่าขี้แยมากแทบจะร้องไห้ทุกสามเวลาหลังอาหาร



“ไหนทะเลาะอะไรกัน”

“ฮึก มะ ฮึก ปูริ ปูริ หยำ” หยำคือไร? ตะนิดลูบหัวแฝดคนเล็กที่วิ่งหยองๆ เข้ามาฟ้องทั้งน้ำตา

“ปูริม่ายหยำ ปูริงจื้อปูริปูริ”

“ฮืออออออออ”

“ฮึก ปูริม่ายหยำ ฮือออออ”



อ้าว พูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้วก็ร้องไห้กันหมดเลย

อะไรเนี่ยยยยยย



“ไม่ร้องๆ เดี๋ยวไปกินติมกัน กินติม ใครอยากกินไอติมมม”

“ติมๆ ปูริติมๆ”

“ฮึก ติมๆ” ก้อนแป้งขี้แยเดินมายืดแขนให้แม่อุ้มส่วนก้อนแป้งคนพี่เดินไปพยายามปีนรั้วนวมออก ตะนิดถอนหายใจก่อนจะใช้มือซ้ายอุ้มปูรินและใช้มือขวาดึงเสื้อปูริให้ลอยก่อนที่จะเจ้าแสบจะปีนคอกแล้วหน้าขว้ำ ปานินที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อเสร็จรีบวิ่งมาช่วยแม่แมวอุ้มน้องแฝดพี่ลงพื้นก่อนจะขยี้หัวน้องชายเบาๆ

“ปูริอย่าดุน้องมากซี่”

“ม้าหยุ”

“ถ้าขี้ดุมาก พี่จะเรียกปูริว่าปาทองนะ”

“อื้อ มะอาวปาตอง”

“เพราะงั้นอย่าดุน้องบ่อยเข้าใจไหม”

“อื่อ ฮุก ปานินหยุ”

“ไอไม่ดุ I just don’ t like when you tease your brother and make him cry like that” พี่ชายคนโตกอดอกสอน

“มะหนุ”

“say sorry ก่อน because I saw that you yelled at him มะกี้นะ”

“อื๊อ” น้องคนพี่เอียงคองงใส่ประโยคยาวๆ แต่ก็พอเข้าใจว่ากำลังโดนดุเลยทำหน้าเศร้ากอดขาพี่ชาย

“คัมออนปูริ เซย์ ซอ-รี่”

“อื่อ จอจี้”

“เซย์ให้ใคร?”

“ปูริง”

“อาฮะ then?”

“จอจี้ปูริง”

“Good boy”

“ปูริ ปูริ” พอได้รับคำขอโทษเจ้าแฝดน้องในอ้อมกอดก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กขอลงจากอกแม่ไปหาแฝดพี่ก่อนจะกอดกันกลมให้พี่ชายและแม่ถอนหายใจ



ความแฝดนี่นะ

ทะเลาะกันยังไงสุดท้ายก็กอดกันกลมอยู่ดี



“ตะนิดเดี๋ยววันนี้เอารถไปจอดที่ออฟฟิศพี่ก่อนได้ไหมแล้วค่อยนั่งบีทีเอสไปห้าง รถติดมากเลย” ภาสที่เพิ่งเดินลงมาจากห้องนอนเสยผมลวกๆ ก่อนจะก้มลงก้อนแฝดขึ้นอุ้มแนบอก มือซ้ายแฝดพี่ มือขวาแฝดน้อง และจบท้ายที่โน้มตัวลงจุ๊บเหม่งปานิน

“ได้ๆ เดี๋ยวนิดไปเตรียมน้ำส้มให้แฝดก่อน”

“ปานินช่วยยย”

“ว่าไงแฝด ตีกันยามเช้าเหรอครับ”

“แด๊ดดิ ตุ๊บๆ ปูริน”

“แด๊ดดิ ป่อยปูริ ป่อยยย”



ภาสเอียงคอเมื่อโดนแฝดน้องดึงไปจุ๊บแก้มส่วนแฝดคนพี่ใช้มือดันคางเพราะอยากลงพื้น แน่นอนว่าภาสก็เลือกฟัดแก้มคนน้องคนมีเสียงดังคิกคักก่อนจะหันไปจุ๊บแก้มแฝดพี่ที่โวยวายลั่นไม่ชอบให้คนพ่อหอม แน่นอนว่าพาปล่อยลงพื้นคนพี่ก็ออกตัววิ่งเข้าครัวตามพี่ชายกับแม่ไปทันที ส่วนแฝดน้องก็ล็อคคอกอดไว้แน่นไม่ยอมลง

ภาสถอนหายใจยาวเหยียด จะพูดว่าไงดี ตอนที่หมอบอกว่าได้ถูกแฝดเขาก็แสนจะดีใจ มาทีเป็นคู่ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าพอออกมาแล้วแฝดพี่จะดันดูต่อต้านแถมอารมณ์เสียง่ายคล้ายแฝดพี่ของตะนิดไปด้วย ตอนที่เริ่มโตมาขี้โวยวายไม่ยอมฟังใครภาสก็แสนจะหนักใจ ถึงจะยังดีที่ยอมลงให้ตะนิดกับภาณินแต่คนเป็นพ่ออย่างเขาก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ลูกชายไม่ค่อยอ้อน

อ้อ ถึงภูริจะนิสัยคล้ายคณิตแต่แฝดน้องอย่างภูรินทร์ก็ไม่ได้คล้ายตะนิดไปสักทีเดียว มีขี้แงไปบ้างแต่ไม่ค่อยดื้อ ค่อนไปทางเรียบร้อยนั่งเล่นอะไรเงียบๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ อ้อนบ้างแต่ก็ไม่อ้อนมากเพราะขี้เขิน

สำหรับครอบครัวตอนนี้ภาสพูดได้คำเดียวว่าเขารู้สึกมีความสุขกับทุกอย่าง และแน่นอนว่าถึงก่อนหน้านี้จะมีความคิดที่อยากมีฟาร์มลูกแมวเยอะๆ แต่การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย ตะนิดและเขาแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวแต่พอมีโอกาสได้คลุกวงในกันก็จัดเต็มตลอด

...เต็มจนกลัวว่าจะติดลูกแมวมาอีกโดยที่มีอยู่ก็เลี้ยงกันแทบไม่ไหว

ถึงใส่ถุงยางป้องกันก็ยังมีเปอร์เซ็นต์ที่จะตั้งท้องได้อยู่ดี สุดท้ายเขาเลยพับแผนทำฟาร์มแมวทิ้งด้วยการทำหมันอัลฟ่า ฟังดูน่ากลัวแต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เขายังคงฟัดแมวดื้อได้อย่างเต็มเหนี่ยวปลดปล่อยทุกหยาดหยดไว้เหมือนทุกครั้งทั้งตอนแมวดื้อฮีทและไม่ฮีท ยังคงน็อตได้เหมือนเดิมเพียงแต่ไม่สามารถขยายฟาร์มแมวได้อีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างผ่านการตกลงกันอย่างดีระหว่างเขาและตะนิดแล้ว

“แด๊ดดิ ติมๆ”

“หืม?”

“ปูริน ติมๆ”

“อ่า ใช่แล้ววันนี้ไปกินไอศกรีมกัน”

“แด๊ดดิ ทูทูปูริน”

“อ่า ทูทูเหรอ เราวางไว้ไหนล่ะ” ภาสเอียงคอหาตุ๊กตากระต่ายคุณนุ่มเบอร์ศูนย์ของลูกชายคนเล็ก ส่วนของแฝดพี่จะเป็นตุ๊กตาเสือเน่าๆ ซึ่งก็วางแหมะอยู่ด้วยกันกลางบ้าน จะว่าไปสอดส่องสายตาทั่วบ้านตอนนี้ทั้งบ้านที่เคยโล่งก็กลายเป็นเต็มไปด้วยของเล่นของลูกชายทั้งสาม ห้องนั่งเล่นที่เคยมีแค่โซฟาก็มีคอกเด็กขนาดใหญ่กว่าวางไว้สำหรับให้เจ้าแสบเข้าไปเล่นกับปีนขอบหัดเดิน

“ทูทู~”

“ปะพี่ภาส นิดเตรียมของเสร็จแล้ว” ตะนิดโผล่ออกมาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ ไว้พกของใช้สำหรับเด็กแฝด

“โกโกกกกกก”

“ติมติม!!!”

“จ๊ากกกก มัม ปานินใส่รองเท้าสลับข้าง”

“จ๊ากกกกก มัมก็ด้วย”

“ต๊ากกก ปูริงดั้ว”

“...”

“...”



ภาสและภูริได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้านิ่งๆ ภาสมองลูกชายคนเล็กบนแขนตัวเองที่บ้าจี้จ๊ากไปตามแม่กับพี่ชาย ทั้งๆ ที่ตัวเองใส่รองเท้าลายหมีสองข้างอยู่ครบไม่มีสลับแถมยังหัวเราะคิกคักเหมือนการใส่รองเท้าสลับข้างคือการเล่นอะไรสักอย่าง

หลังจากนั้นภาสก็รับหน้าที่ขับรถพาครอบครัวมาจอดที่ออฟฟิศกลางเมืองเพื่อแวะเข้าไปประชุมงานเล็กน้อยก่อนที่จะเตรียมไปเที่ยวกับครอบครัวต่อ และเพื่อหลีกเลี่ยงการต้องนั่งเบื่อในรถกับความรถติดนรก ครอบครัวจึงเลือกใช้บีทีเอสที่ประหยัดเวลาแทน



“แด๊ด เดี๋ยวไอว่าจะแวะไปซื้อหนังสือด้วย”

“ไปอควาเรี่ยมไหม”

“โน แด๊ดไปกับน้องเถอะ ไอเบื่อแล้ว” ภาสหัวเราะในลำคอ จากปานินที่โวยวายอยากไปสวนสัตว์ตอนนั้นกลายเป็นเบื่อไปเสียแล้ว

“แล้วแฝดอยากไปไหม อควาเรี่ยม”

“ไป!!! ไปเอี้ยมๆ!!!”

“ไป ปูริงไป” สองแฝดที่ยืนจับมือตะนิดอยู่รีบชูมือขึ้นฟ้าเป็นการบอกว่าอยากไปมากๆ

ตอนนั้นเองที่รถไฟก็เข้าชานชะลามา ทันทีที่ประตูเปิดคนก็เริ่มทยอยเดินกันเข้าไป ภาณินที่เห็นว่าตัวเองจะได้เข้าช้ากว่าจึงเลือกเดินแทรกเข้าไปก่อน พอแฝดน้องเห็นพี่นำเข้าไปก็รีบสะบัดมือแม่ออกแล้ววิ่งแซงคิวตามพี่ชายเข้าไปด้วย

“ภูริ!! ปานิน!!!” ตะนิดโน้มตัวลงอุ้มแฝดน้องยื่นให้ภาสก่อนจะรีบเดินตามเข้าขบวนไป ภาสกะพริบตามองภาพตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มออกมา



สถานการณ์คุ้นๆ แฮะ...



“เย้! ปูริชานะ!!”

“ไอถึงก่อน ไอชนะหรอก”

“ภูริ ปานิน อย่าทำแบบนี้อีกนะ มัมจะโกรธแล้วนะ” ตะนิดรีบเดินเข้ามาอุ้มแฝดพี่ขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วดุ ไม่ลืมหันส่งสายตาพิฆาตใส่ลูกชายคนโตด้วย

“มัม แอมซอรี่”

“...มัม อย่าโกด หงึ”

“อย่าสะบัดมือแล้ววิ่งแบบนี้อีกนะ ตกใจหมดเลย ไอ้ปุ๋งนี่!”

“...”

“แล้วก็ต่อให้รีบแค่ไหนเราก็ต้องเข้าคิว มาแซงแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจไหมภาณิน”

“ครับ แอมซอรี่มัม”

“หงึ มัม”

“เด็กไม่ดีเลยครับ ทีหลังต้องเข้าคิวรอนะ คนเขาต่อแถวกันมาตั้งนาน แล้วก็ห้ามสะบัดมือวิ่งแบบนี้อีกด้วย หลงไปจะทำไง ดื้อใหญ่แล้วนะภูริ”

“จอจี้คับ” ลูกแมวเบะปากเตรียมจะร้องไห้แต่ก็ฮึบไว้เต็มที่ ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ทำเอาตะนิดเอียงคองง

... อารมณ์ไหน จู่ๆ ก็หัวเราะตอนดุลูกวุ้ย

ถึงงั้นก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะขบวนรถเริ่มออกตัว พอถึงสถานีที่ต้องการจะลงจนกระทั่งเดินเข้าห้างมาแต่อัลฟ่าข้างกายก็ยังยกยิ้มไม่หยุดจนต้องหันไปถามคลายความสงสัย

“พี่ภาส เมื่อกี้บนขบวนหัวเราะไรอ่ะ”

“ตลกดี”

“ฮะ?”

“โตขึ้นมากเลยนะเราน่ะ แมวดื้อ”

“ฮะ? อะไรของพี่ภาสอ่ะ เนี่ย ประชุมงานเยอะแล้วอ๊องกาแฟแน่เลย”

“ปานิน สมัยก่อนแด๊ดเคยโดนเด็กไม่ดีแซงคิวแบบนี้ด้วย”

“เหรอครับ”

“ใช่ แด๊ดจับได้เขาก็โวยวายเล่นละครใหญ่เลยว่าแด๊ดเป็นเสี่ยโรคจิตมาจับตัวเขา ตอนนั้นแด๊ดต้องเคลียร์กับยามอยู่นานมากจนเกือบไปทำธุระไม่ทัน แด๊ดจำได้เลยว่าโกรธเด็กบ้านั่นมาก”



เอ๊ะ

สตอรี่คุ้นๆ



“ทำไมเขาทำแบบนั้นล่ะแด๊ด”

“นั่นสิ แย่ใช่ไหม”

“โซแบด แย่มาก แล้วแด๊ดทำไงต่อ อย่าบอกนะว่าแด๊ดยอมอ่ะ เป็นปานิน ปานินไม่ยอมนะ”

“อืม แด๊ดก็ไม่ยอม”

“แล้วแด๊ดจัดการไงอ่ะ”

“อืม...”

“...”

“แด๊ดแต่งงานกับเขาแล้วมีลูกด้วยกันสามคน”

“โอ๊ะ...”

“ตอนนี้เขากลายเป็นคนสอนลูกแทนแล้วว่าห้ามแซงคิว เป็นไง แด๊ดจัดการเด็ดขาดไหม” ภาสอมยิ้มจนแว่นยกเมื่อแม่แมวหน้าแดงไปยันหู วีรกรรมวัยเด็กที่เคยทำไว้ฉายชัดเจนขึ้นบนหน้า



อะไรอะ ผ่านไปเกือบสิบปีแล้วยังจะจำได้อีก!!!

วัยรุ่นเลือดมันร้อนนี่นา!!!



“มัมมมม ยูเป็นแบดบอยมาก่อนเหรอ” ปานินหันหน้ามาแซวแม่ทันที

“พี่ภาสกระชากคอเสื้อนิดเลยนะ นิดจำได้”

“วันต่อมาเราก็มานอนคาอกพี่กลางห้างนะจำได้ไหม”

“ก็ ก็พี่ภาส...”

“กลับบ้านไปยังพกไม้เบสบอลมาด้วยอีก”

“อึก พี่ภาสหยุดเลยนะ”

“อ้อ แถมยังขย่—”

“อันนี้ไม่ได้!!!” ตะนิดรีบยกมือขึ้นบีบปากอีกคนทันทีทันใด



ประเด็นนี้มันได้ที่ไหนเล่า!!!!!



ภาสขยับปากจุ๊บฝ่ามือเล็กทำเอาตะนิดสะดุ้งรีบดึงมือกลับ พอพิจารณามองใบหน้าดื้อแล้วก็อดที่จะยกยิ้มต่ออย่างเสียไม่ได้ ตะนิดดูโตขึ้นกว่าวันแรกที่เจอกันมาก ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและนิสัยภายใน จากเด็กที่เขากล้าพูดได้เลยว่าเป็นเด็กนิสัยไม่ดี ดูวางใจให้ทำอะไรแทบไม่ได้ กลับกลายมาเป็นแม่ที่ดูแลลูกทั้งสามคนแถมสามีอย่างเขาได้ดีผิดจากที่ทุกคนคาดไว้อย่างน่าตกใจ



“วู้ ไปหาไรกินกันดีกว่า ปานินอยากกินไร”

“ต้มๆ ไหมมัม”

“ชาบู?”

“ก็ได้นะ”

“ชาบือออ ชาบือออออ ปูริหม่ำ ชาบือออออ”

“ชาบืออออ ปูริงดั้ว”



บทสนทนากลับไปสู่เรื่องการกินอีกรอบ ภาสมองกลุ่มก้อนแก็งแมวที่สุมหัวกันเลือกร้านอาหารก่อนจะเดินเข้าไปหอมแก้มแม่แมวหนึ่งฟอดแล้วตามด้วยหอมหัวลูกแมวที่เหลือ



“มัมชอบว่าปานินดื้อ จริงๆ มัมก็ดื้อเหมือนกันนะ”

“อะไรตะนี มัมดื้อนิดนิด”

“อย่าล้อปานิน!! แล้วปานินไม่ได้ชื่อตะนีด้วย!!!”

“ใช่ ขี้ดื้อ” ภาสกดจมูกหอมขมับแม่แมวไปหนึ่งฟอด สูดกลิ่นพีชผสมแป้งเด็กเข้าปอด



แม้ตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วรู้ตัวว่าตะนิดคือคู่แห่งโชคชะตาเขาจะรู้สึกว่าตัวเองซวยเสียเหลือเกินที่ได้คู่เป็นเด็กกะโปโลที่ดูดื้อจนขี้เกียจดุ แต่ตอนนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตเขากลับเป็นเจ้าเด็กดื้อในวันนั้น อยากให้ดื้ออยู่ในสายตาทุกนาที อยากตื่นมาฟังเสียงดื้อๆ บ่นหงุงหงิงทุกเช้า อยากกอดแล้วดมกลิ่นแป้งเด็กผสมพีชอ่อนๆ ให้สุดปอดก่อนนอนทุกวัน



“แมวดื้อ”

“อะไรพี่ภาส”

“เราน่ะดื้อบิ๊กบิ๊ก”

“ก็จะดื้ออ่ะ ทำไม มีปัญหาเหรอ”

“ไม่ดื้อกับพี่ได้ไหม”

“ไม่ได้ ก็จะดื้อ”





อยากจะดุแมวดื้อตัวนี้ไปอีกนานๆ

....นานที่แปลว่าตลอดชีวิต



-- [END]
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-03-2021 21:38:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :3123: :katai2-1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 26-03-2021 06:10:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-03-2021 19:25:27
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 26-03-2021 23:17:54
ขอบคุณคนแต่งค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 27-03-2021 00:17:21
 o13 :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-03-2021 09:25:04
จบแล้ว น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-03-2021 01:32:17
ครอบครัวแมวดื้อ

 :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Persephone ที่ 30-03-2021 19:05:47
 :pig4:
น่ารักมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 01-04-2021 19:23:11
สนุกมากค่ะ น่ารัก อบอุ่น ชอบๆ :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 03-04-2021 16:44:41
 :z13:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 03-04-2021 20:25:59
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ชอบมากนิดนิด  :mew1:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 04-04-2021 17:17:47
ชอบความตะนิด..ชอบความพี่ภาส คือดี คือน่ารัก  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-04-2021 11:20:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: darkangel ที่ 11-04-2021 00:18:29
แต่ละชื่อ ปวดหัวจริงๆ 55555555555
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 12-04-2021 22:15:49
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Awa_LikeToRead ที่ 16-04-2021 17:44:07
จะมีเรื่องของคู่อื่นๆ ด้วยไหมคะ (ชาย-คณิต, อาเธอร์-ชิน)
อยากอ่านจังค่ะ ถ้ามีจะรอติดตามเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Ggthait ที่ 17-04-2021 02:50:07
เรื่องนี้สนุกมากอ่านแล้วติดมากเลย ฟีลกู้ดสุด ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่านนะค้าบบบบ  o13
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 17-04-2021 23:59:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 29-04-2021 16:45:12
ครอบครัวแก็งก้อนดื้อ น่ารักเป็นที่สุดดดด
มีแต่ความน่ารักเต็มไปหมด น่ารักจนใจเจ่บ ชอบมากๆชอบที่สุดๆ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 04-05-2021 16:06:02
ขอบคุณนักเขียนมากค่ะ  เรื่องน่ารักมาก รอคู่เจ้าแฝดพี่
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-05-2021 21:11:45
น่ารักก ไม่ได้อ่านมาซะนาน มาตามอ่านจนจบละค่ะ

น่ารักมาก ตลอดเวลา จากวัยรุ่น เข้าสู่ยุคครอบครัว
ตอนนี้มีทีมแมวเต็มมากละนะภาส

ทั้งอบอุ่น ทั้งวุ่นวาย และไม่เงียบเหงาแน่นอน
ตลกและเอ็นดูตะนิดมากสุดค่ะ เด็กน้อยดื้อนิดนิดตามมัมเป็นแถว
ภาสก็ได้กำไรและคุ้มมากนะคะ มีแม่แมวและลูกแมวครบทีมป่วน

ขอบคุณมากนะคะ นิยายน่ารักมาก สนุกมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้สำหรับนิยายเรื่องต่อๆ ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: BoJit ที่ 11-09-2021 06:01:43
งื้อออออ อ่านไปก็มีแต่คำว่างงื้อออ อ่านรอบสามแล้วยังสนุก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: BM_CBC ที่ 09-10-2021 14:44:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-01-2022 00:12:48
น่ารักโพดดดดดด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-01-2022 09:21:58
น่ารักมากกกกกก
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 09-01-2022 16:12:44
น่ารักกกกกกด
เรื่องนี้ คือดียยยยย
ชอบมากค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 21-03-2022 09:30:16
น่ารักมากกกกก ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 03-12-2023 00:42:04
น่าร้ากกดด
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 15-12-2023 09:32:48
สนุกสุดใจ.. กลับมาอ่านอีกรอบแล้ว
ประทับใจไม่เคยเปลี่ยน.. เป็นครอบครัวสุขสันต์จริงๆ
รักและคิดถึง.เสมอ...
 o13 o13 o13 :mew1: :mew1: :mew1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ิbatatak ที่ 23-12-2023 05:10:50
 :mew2: อ่านเพลินยาวๆเลย น่ารักมากค่ะ ชอบมาก ดีต่อใจคนแก่ ไม่มีดราม่า อ่านลื่น ขอบคุณค่ะ

 :mew1: :mew1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 03-03-2024 18:53:16
เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)