พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: I rin ที่ 15-08-2021 18:33:55

หัวข้อ: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 15-08-2021 18:33:55
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 15-08-2021 20:10:23
ตอนที่1


ก๊อกๆๆ

"คุณหนูค่ะ คุณท่านให้พี่หวานมาตามค่ะ"

"ครับพี่หวาน"

ผมชื่อปาล์ม เป็นลูกชายคนเล็กของบ้านหลังนี้

พี่ปอนด์พี่ชายคนโต อายุ29ปี มีครอบครัวแล้ว

พี่ปลายฟ้าพี่สาวคนกลาง อายุ 26 ปี มีครอบครัวแล้ว

ส่วนผมอายุ 23 ปีเพิ่งเรียนจบโทที่เมืองนอก และเพิ่งจะกลับไทยเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นไงละ หล่อ รวย เก่งขนาดนี้ ทำไมยังโสดละครับ 5555 พักเรื่องผมไว้ก่อนนะครับค่อยมาโม้กันต่อ


ห้องรับแขก


อยู่กับพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ งานจะเข้าผมใช่มั้ยเนี่ย

"มาแล้วครับ ป๊าเรียกตี๋มีอะไรหรือป่าวครับ"

ผมนั่งลงข้างๆม๊าที่ส่งยิ้มหวานให้ หนาวครับ ยิ้มแบบนี้มีหนาว

"มีแน่นอนเจ้าตัวแสบ"

"เอ่ออคือ...."

ผมมองหน้าทุกคนที่ส่งยิ้มหวานมาให้ ก่อนจะยิ้มตอบแหย่ๆ ตูทำอะไรผิดไว้แน่ๆเลย

"บอกไปเลยป๊า อาตี๋มันจะได้รู้ว่าทำอะไรผิดไว้"

ผมมองหน้าเฮียปอนด์ทันทีที่แกพูดจบ ก่อนจะหันไปมองม๊ากับเจ้ปลาย ขนลุกวาบไปทั่วตัวทันที

"เรื่องอะไรละป๊า บอกๆมาเลย ตี๋พร้อมแล้ว"

ผมเร่งป๊า ใจนึงก็อยากรู้ ใจนึงก็ไม่อยากรู้หรอก บ้านผมนะ ขี้แกล้งจะตาย ผมนี่โดนแกล้งมาตลอด ไม่รู้ว่ารักหรืออะไรเลย โดนตลอดดดด

"ตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนป๊า พอตี๋เรียนจบก็จะให้แต่งงานกับลูกเพื่อนป๊าน่ะสิ"

ก็แค่แต่งงาน...0_0

"ห้ะ!!! แต่งงาน?"

"ใช่!!!!"+4

พร้อมเพียงกันเชียว

"ได้ยังไงละป๊า ตี๋ไม่ชอบเขาสักหน่อย หน้าก็ยังไม่เคยได้เห็น อยู่ๆจะให้แต่งงานด้วยเนี่ยนะ ไม่เอาอะ ตี๋ไม่แต่งหรอก"

ลูกเต้าเหล่าใครยังไม่รู้จัก แล้วเพื่อนป๊าก็มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกขนานนั้น กว้างขวางเกินไป ผมนี่เดาไม่ถูกเลยว่าใคร

"ไม่แต่งไม่ได้ ป๊าสัญญาไว้แล้วไง แกจะให้เขามาถอนหงอกป๊ารึไงละ"

"ถอนไปดิ ไม่ใช่หงอกตี๋นี่"

"เดี๋ยวเถอะๆ จะแต่งไม่แต่ง"

แนะ ลองได้พูดแบบนี้แล้ว ผมจะเหลืออะไรนอกจากตัว

"เลือกได้มั้ยละป๊า"

ผมถามงอนๆ ก่อนจะเอียงหัวไปซบที่ไหล่ม๊าแบบอ้อนๆ ม๊ายกมือลูบหัวผมแล้วยิ้มหวาน หงานจนขนลุกอีกละ ม๊าเป็นใหญ่ในบ้านนะ ไม่ใช่ป๊า-_-

"เลือกได้สิจ๊ะ ลูกรักของม๊าเลือกได้อยู่แล้ว"

ม๊าพูดก่อนจะยิ้มแล้วจับหน้าผมให้หันไปมองหน้า

"ขอตัวเลือกหลายๆข้อเลยนะครับ"


"55555+"

ขำกันเข้าไป นี่ผมต้องแต่งงานนะ น่าขำตรงไหน

"ตี่ตี๋ของเจ้ เจ้จะบอกอะไรให้นะ ม๊ามีตัวเลือกให้น้องรักอยู่แล้วแหละ แต่กับไม่แต่ง แค่นั้นแหละ"

เจ้ปลายว่าก่อนจะยักคิ้วให้ ผมนี่กุมขมับรอเลย

"ว่ามาเลยม๊า"

ผมตอบเหมือนคนหมดแรง

"แต่งกับไม่แต่ง"

กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ

"แต่งไปเหอะอาตี๋เพื่อครอบครัวเราไง เฮียว่าก็ดีนะ แต่งๆไปเดี๋ยวก็รักกันเองแหละ เชื่อเฮียแล้วจะรุ่ง หึหึ"

เฮียปอนด์บ้า

"ใช่ตี่ตี๋ เดี๋ยวก็รักกันเองแหละ หุหุ"

หุหุ บ้าไร มาแต่งเองมั้ยละ แหม่

"เลือกเลยอาตี๋ ป๊าจะไปตีกอล์ฟแล้วนะ นัดเพื่อนไว้ เดี๋ยวเสียเวลา หึหึ"

นี่คือกดดันอะ แต่ละคน

แต่งหรือไม่แต่งดีเนี่ย บ้าบอที่สุดเลย

"งั้นเอายังงี้ดีกว่า อาตี๋ไม่ต้องตอบม๊าตอนนี้ก็ได้นะคะ เก็บไว้ในใจ ม๊าจะให้เวลาอาตี๋ แล้วหลังจากนั้น ลูกรักค่อยมาตอบป๊ากับม๊า ว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง แบบนี้ดีมั้ยค่ะ"

"ดีครับ ตี๋ขอเวลา"

ผมยิ้ม เอาว่ะ อย่างน้อยก็ได้ทำความรู้จัก รักไม่รัก แต่งไม่แต่ง หลังจากนั้นค่อยว่ากัน ให้เวลาเป็นกำหนดเองละกันนะ ว่าชีวิตต่อจากนี้ของผม จะเป็นยังไง

"ภายใน1ปีนับจากนี้ไป ต้องมีคำตอบให้ม๊านะคะ"

"ครับม๊า"


หลังจากนั้น ก็แยกย้ายสิครับ ปวดหัวว้อยยยยยย!!!!

ยังดีที่ให้เวลาเป็นปี เห้อออออ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าที่เจ้าสาวของผมจะเป็นคนยังไง คุณหนูขี้วีน เอาแต่ใจ  หรือจะอ่อนหวาน เรียบร้อย เหอะ ผมเคยมีแฟนที่ไหนละครับ ผมไมชอบดูแลใคร แค่นั้นแหละจบ มีทำไม วุ่นวายจะตาย ผมเป็นรักสันโดษ ชอบอิสระ ไม่ชอบถูกบังคับ ก็ลูกคนเล็กอะนะ โดนสปอยมาตั้งแต่เด็กๆ

เคลียดมากกกกกกก อยู่ๆก็จะมีเมียสะละ ดีจริงๆ ชีวิตไอ้ปาล์ม ดีเกินไปด้วยซ้ำ -_-




ฝากติดตามด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 15-08-2021 21:33:48
หวานๆ น่ารักๆ

ฝากติดตามด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-08-2021 22:22:22
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 15-08-2021 23:43:56
ตอนที่2


เหอะ ดูตัว? นี่เพิ่งจะคุยกันไปได้แค่2อาทิตย์ ก็นัดไปดูตัวสะแล้ว ผมยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยนะ อยากจะบ้าตาย

"คุณหนูค่ะ คุณท่านให้มาตามค่ะ"

"อีก10นาทีผมลงไปครับ"

"ค่ะ"

นัดทานข้าวนอกบ้าน? ที่บ้านไม่มีข้าวให้กินรึไง โถ่เอ้ย ถ้าเป็นพวกคุณหนูช่างจ้อ พูดมากน่ารำคาญนี่ผมทุบหน้าแหกเลยจริงด้วย หึ้ยย ให้มันได้อย่างนี้สิว้อยยยยย


"มาเร็วๆอาตี๋ แล้วดูทำหน้า หน้าบูดแบบนั้นเขาได้หนีกันไปหมดน่ะสิค่ะ"

ม๊าบ่น

"ก็ตี๋ไม่อยากไปนิครับม๊า ทำไมไวแบบนี้ละครับ ยังไม่ทันได้ทำใจเลยนะม๊า"

ผมบ่น

"ไปเถอะน่า จะไวจะช้า ยังไงก็ต้องได้ไปอยู่ดี จะบ่นทำไม"
ป๊าพูดจบก็เดินไปขึ้นรถ ม๊าส่ายหน้าให้ผมยิ้มๆแล้วเดินตามป๊าไป

"เห้ออออ"
ทำได้แค่ถอนหายใจนี่แหละครับ


ร้านอาหารสไตล์ยุโรป

หรูดีนะ ผมว่ากินก๋วยเตี๋ยวข้างถนนยังอร่อยกว่านี้เลย ผมไม่ชอบอาหารฝรั่งหรอก อยู่เมืองนอกก็ไปแต่ร้านอาหารไทย -_-

ผมเดินตามพนักงานต้อนรับไปที่โต๊ะอาหาร เข้าใจเลือกร้านนะ สวย บรรยากาศดี แต่ผมไม่ชอบบบบ

"มาได้สักทีนะวี ปานดาว"
ชายวัยกลางคนรูปร่างหน้าตาดีกับผญ.วัยกลางคนที่หน้าตาสะสวย น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับป๊าม๊าผมแหละครับ แต่ยังดูหล่อสวยเหมือนป๊ากับม๊าผมเลย

"กว่าจะหาเวลาว่างตรงกันได้ก็นัดแล้วนัดอีกนิ ได้เจอกันสักที"
ป๊าผมพูดก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ม๊านั่ง ผมนั่งลงข้างม๊า

"สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้า" ผมยกไหว้ทั้งสองคน ท่านรับไหว้แล้วยิ้มให้ผม ใจดีผมรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้เขาใจดี ถึงผมจะไม่เคยเจอก็เถอะ

"นี่ลูกชายคนเล็กของฉัน ชื่อปาล์ม เพิ่งกลับจากเมืองนอก"

ป๊าผมแนะนำ

"มิน่าละ ไม่เห็นพามาออกงานด้วยเลย"
คุณป้าพูดแล้วยิ้มให้ผม ผมยิ้มตอบ

"โถ่ คุณพี่ค่ะ ยอมไปออกงานที่ไหน รายนี้เขาไม่ชอบงานสังคมหรอกค่ะ"
ม๊าแซวผม -_- ผมไม่ชอบนี่ น่าเบื่อจะตาย ต้องค่อยเดินไปหาคนนั้น ยกมือไหว้คนนี้ ผมไม่ชอบแบบนั้น

"เด็กสมัยนี้ก็แบบนี้แหละจ้ะ ปล่อยเขาเถอะเนาะ"
คุณป้าว่า ส่วนป๊าผมก็คุยกับคุณลุงเรื่องธุระกิจของพวกเขาแหละครับ

ง่วงสุดๆ

"รอหน่อยนะคะ พอดีลูกคุณพี่ติดประชุมด่วนพอดี อีกสักแปปคงจะถึง"

"ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ วันนี้ก็ถือโอกาศพักผ่อนไปด้วยเลย นานๆเราจะได้เจอกันสีกที"

"จ้ะๆ"

ผมนี่เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อมากกก ฟังผู้ใหญ่คุยกันละผมจะหลับ เล่นโทรศัพท์รอจนไม่รู้จะเล่นอะไรละครับ

ติ้งง

ตั้ม:(ปาล์มอยู่บ้านป่าว กูกับไอ้ก้านจะเข้าไปหา)
(ไม่อยู่ ออกมากินข้าวข้างนอก)
ตั้ม:(กลับตอนไหน)
(ไม่รู้ว่ะ น่าจะค่ำๆ มีไรด่วนป่าว)
ตั้ม:(ไม่มี พวกกูแค่คิดถึง555)
(โถ่ พวกมึงนี่ เออๆ เดี๋ยวบอกละกัน)
ตั้ม:ครับคุณชาย
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 15-08-2021 23:59:40
ตอนที่3

"ม๊า ตี๋ไปห้องน้ำนะครับ"

ผมบอกม๊าเสร็จก็รีบเดินออกมา ผ่านไป20นาที ก็ยังไม่เห็นมา ให้คนอื่นเขารอนานแบบนี้ เสียมารยาทจังวะ


"ป๊ะป๋าฮะ วินหิว"
ผมหันไปตามเสียงใสๆที่ได้ยิน ทำไมเสียงน่ารักจังว่ะ
"นี่ไงครับ ป๊ะป๋ากำลังจะพาไปทาน"

โครตพ่อโครตแม่หล่อ เด็กก็โครตน่ารัก แม่ก็ไม่ต้องพูดถึง คงจะสวยมากแน่ๆ กินอะไรเป็นอาหารครับ ผมอยากรู้ ผมมองจนลับสายตา ก่อนจะรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ

ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ผมยืนมองตัวเองหน้ากระจก เห้อ ทำไมผมหล่อไม่ได้ครึ่งนึงของคนเมื่อกี้เลยว่ะ หน้าตาที่ผมออกจะถูมิใจ ตอนนี้ไม่มั่นใจสะละ หล่อเกินหน้าเกินตากูได้ไงว่ะ -_-

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ ตาแทบถลนออกจากเบ้า ผช.คนนั้นกับเด็กแก้มยุ้ย กำลังนั่งอยู่ฝั่งกับที่นั่งผม แล้ว แล้ว แล้ว ไม่เห็นมีผญ.ที่ไหนอีกเลยนอกจากเขาคนนั้น

"ขอโทษครับที่ให้รอ"

ผมบอกก่อนจะนั่งลงที่ตัวเอง

"ไม่เป็นไรจ้ะ มาๆ หิวรึยัง ทานข้าวกันก่อน ค่อยคุยกัน"

คุณป้าบอกก่อนพวกเราจะเริ่มทานอาหาร ผมมองสองพ่อลูกที่ทานข้าวอยู่ตรงหน้า เด็กแก้มยุ้ย เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ตาก็จ้องผมไปด้วย ผมยิ้มให้ น้องเขาก็ก้มหน้าลง อายหรือกลัว เอาดีๆ -_-

"น้องปาล์มจ้ะ นี่ลูกชายคนกลางป้าจ้ะ พี่วิคเตอร์"
คุณป้าแนะนำคนตรงหน้า

"สวัสดีครับพี่วิคเตอร์ ผมปาล์มครับ"
ผมยกมือไหว้พี่เขา เขารับไหว้พร้อมกับยิ้มมุมปากนิดหน่อย หล่อตายแหละ เอออ แม่งหล่อจริง

"ครับ"

หลังจากนั้น ผมก็ตาเหลือกไปทันทีที่คุณป้าบอกกับผมว่า พี่วิคเตอร์ คือคนที่ผมจะต้องแต่งงานด้วย

วอท!!!!

แต่งงานกับผช.?

"ตกใจทำไมอาตี๋ ได้ยินไม่ผิดหรอก"
ป๊าผมก็อารมณ์ดีสะเหลือเกิน นี่ลูกกำลังจะแต่งงานกับผช.นะ ไม่คัดค้านอะไรกันมั่งหรอ งงมากครับ

"นายจะตกใจทำไม ฉันยังไม่ตกใจเลย"
ผมหันไปมองพี่เดลที่พูดหน้านิ่งๆ แล้วหันไปป้อนข้าวลูกชายเขาต่อ

"ตามนั้นละจ้ะ ลองดูๆกันไปก่อนก็ได้นิ ถ้ารักกันไม่ได้จริงๆ ค่อยว่ากัน ป๊ากับม๊าไม่ซีเรียสอยู่แล้ว"

"ลุงกับป้าก็ไม่ซีเรียสหรอก ถ้าภายใน1ปี เราสองคนยังไม่รักกัน เราค่อยยกเลิกก็ได้จ้ะ"

เออดี แต่ละคน พูดกันน่าตาเฉย เหมือนเป็นเรื่องปกติ ส่วนผม ไม่ปกติครับ ผมไม่ได้ชอบผช.นะ

"ยังไงก็หมั้นกันไว้ก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวคุณพี่จะเข้าไปหาที่บ้านนะคะ"
คุณป้ายิ้มให้ผม ดีใจหรอครับที่จะได้ลูกสะใภ้เป็นผช.

"ได้ค่ะคุณพี่"
ม๊าผมก็ดีเกิ้น สมัยนี้คงง่ายครับ ถ้าอากงกับอาม่าอยู่คงโดนฟันหัวแบะไปละมั้ง คนจีนเขาถือนิครับ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อยมาก น้อยมากที่จะยอมรับ แต่สมัยนี้โลกมันเปิดกว้าง คงเปลี่ยนไปตามยุคสมัยละมั้งครับ

"งั้นวันนี้เราแยกย้ายกันเลยละกันนะ เดี๋ยววันไหนว่างจะเข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้านคุณน้องละกัน"

"ค่ะคุณพี่"


หลังจากนั้น แยกย้ายสิครับ รออะไร

ถึงบ้านก็ดึกละครับ ค่อยคุยกันนะเพื่อนๆ กูขออาบน้ำนอนก่อน สมองกูไม่พื้นที่ให้คิดให้จำอะไรอีกแล้ว



หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 16-08-2021 00:32:03
ตอนที่4


"ห้ะ!!!!แต่งงาน!!!!"
ไอ้ก้านครับ

ป้าบ!!! สักป้าบสิครับ

"แหกปากทำห่าไรของมึงไอ้ก้าน"
ผมตบหัวมันไปทีนึง

"ตกใจสิว่ะไอ้ปาล์ม คนอย่างมึงเนี่ยนะจะแต่งงาน"
มันเอามือทาบอกแล้วทำตาเหลือก ไอ้ตั้มที่นั่งมองมันก็หัวเราะกับท่าทางที่เพื่อนทำ

"คนอย่างผมมันทำไมครับ ไหนตอบ"
ผมถามมัน

"คนที่ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบกับใคร คนชิคๆอย่างมึงเนี่ยนะ น้ำท่วมโลกสะละมั้ง5555"
มันพุดจบก็หัวเราะกับตั้มสองคน กูขำมากมั้งไอ้พวกนี้

"พอเลยๆ พวกมึงรู้แค่ว่ากูจะแต่งงาน แล้วมึงยังไม่ทันได้รู้ว่ากูจะแต่งกับใคร"
ผมบอกพวกมันที่ขำกันจนน้ำตาไหล บ้าจี้พอกัน

"สาวสวยที่ไหนละ ไปเจอแล้วนิ ถูกใจมึงมั้ยละ"
ไอ้ตั้มหยุดขำแล้วถามทันที่เช็ดน้ำตาเสร็จ เออดี นี่อายุก็ปาไป23จะ24อยุ่ละ ยังปัญญาอ่อนกันไม่เลิก

"สาวยสวยบ้าอะไร ผู้ชายต่างหาก คนที่กูจะต้องแต่งงานด้วยเป็นผู้ชาย"
ผมบอกมันสองคนที่นั่งตาเหลือก อ้าปากพะงาบๆ นิ้วก็ชี้มาที่ผม เหมือนจะพูดไม่ออก

ป้าบ!!! ป้าบ!!!

จัดให้คนละที

"โอ้ยยย เชี่ยปาล์ม มันเจ็บนะเว้ย"

ไอ้ก้านลูบหัวตัวเองปอยๆไอ้ตั้มได้สติทันทีที่เพื่อนมันแหกปาก

"ไอ้ปาล์ม มีงล้อเล่นรึป่าวว่ะ แต่งงานกับผช.เนี่ยนะ"

"หน้ากูล้อเล่นหรอไอ้ตั้ม"

"กูว่านะ แต่งๆไปเหอะ สมัยนี้ละ เกลื่อนกลาด"
ไอ้ก้านว่า

"มันก็ใช่ แต่คือเขาไม่ได้รักกันไงไอ้ก้าน มันจะแต่งได้ยังไง สมองมีคิดสิว่ะ"
ไอ่ตั้มหันไปว่าไอ้ก้าน

"งั้นก็ไม่ต้องแต่ง"
ก้านว่า

"เขาให้เวลา1ปี ถ้าไม่รักกัน เขาก็จะถอนหมั้นให้"
ผมบอก

"งั้นก็ตามนั้นแหละ เวลาตั้งเป็นปี มึงจะเคลียดทำไมละ ไม่รักก็คือไม่รักสิ รักก็คือรัก แค่นั้นเอง"
ตั้มว่าแบบชิวๆ

"เออจริง อย่างน้อยป๊ากับม๊าก็ให้เวลามึงกับเขานิ อย่าเคลียดๆ"
ก้านว่าก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงกับผม หลังจากที่มันสองคนลงไปนอนขำกับพื้น -_-

"ว่าแต่ผช.คนนั่นหน้าเป็นไงว่ะ"
ไอ้ก้านถาม สีหน้าอยากรู้อยากเห็นของมันทำให้ผมนี่มือแทบลั่น

"เออว่ะ ตัวเล็กน่ารักหรือว่าหล่อบาดใจ"
ไอ้ตั้มเสริม

"หล่อกว่ากู-_-"

ผมพูดแค่นั้น พวกมันก็รู้แล้วครับว่าหล่อของผมน่ะคือหล่อจริงๆ


"จริงดิ ถ้ามึงยอมพูดว่าเขาหล่อกว่ามึง งั้นแม่งโครตหล่อเลยดิ"
ไอ้ก้านว่า

"อือ"

"เชี่ย ยังมีคนที่หล่อกว่ามึงได้อีกหรอว่ะ กูละอยากเห็นจริงๆ"
ไอ้ตั้มว่า

ผมก็เป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย หน้าตาก็ไม่ธรรดาเลยนะครับ ได้รับฉายาว่าลูกรักพระเจ้ามา4ปีเต็ม แล้วเหตุไฉนเขาถึงหล่อกว่าผมได้ละ เอาเถอะ ผมยอมรับว่าเขาหล่อจริงๆ ไม่มีที่ติ ผช.ด้วยกันยังมองว่าหล่อ -_-

"เดี๋ยวมึงสองคนก็ได้เห็นกันเองแหละ"
ผมบอกก่อนจะเดินนำพวกมันออกจากห้อง ลงไปหาไรกินสิครับ หิวจะตายห่า มัวแต่คุยกับมันสองคน ข้าวไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ

เอาเถอะ เวลา1ปีนี้ ผมจะทำให้เห็นเอง ว่าจะไปต่อหรือแค่นี้ -_-
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 16-08-2021 01:09:47
ตอนที่5

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายปรึกษาหารือกันเรื่องวันหมั้นเรียบร้อยแล้ว กำหนดคืออีก1เดือนหลังจากนี้

"อาตี๋ วันนี้ไปช่วยงานป๊าที่บริษัทด้วยนะ ม๊าจะไปทำธุระ"

"ครับม๊า"

ผมเดินออกจากห้องทันทีที่แต่งตัวเสร็จ ผมต้องไปประชุมแทนเฮียปอนด์ เพราะเฮียแกต้องบินไปดูงานที่ฮ่องกก ไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่

"ลุงนพ แวะร้านกาแฟตรงหน้าบริษัทให้ปาล์มด้วยนะครับ"

"ครับนายน้อย"

วุ่นวายดีจริงๆเลยในเมืองแบบนี้ รถติดยาวแบบนี้ เมื่อไหร่จะถึงสีกที ง่วงก็ง่วง

"นายน้อยครับ ถึงแล้วครับ"

เสียงลุงนพเรียก ผมกระพริบตาถี่ ก่อนจะมองข้างทาง

"รอแปปนึงนะครับ ผมลงไปสั่งของก่อน"

"เดี๋ยวลุงไปสั่งให้ก็ได้ครับ นายน้อยนั่งรอบนรถไปก่อน"

"ไม่เป็นไรครับ"

ผมเปิดประตูรถลงไปก่อนจะเดินเข้าไปยังร้านกาแฟ

กริ๊ง กริ๊ง

"ยินดีต้อนรับค่ะ"

พนักงานสาวสวยยิ้มหวานต้อนรับ

"รับอะไรดีค่ะ"

"อเมริกาโน่ 1 แล้วก็เค้กช็อกโกแลต1 ใบเตย1 ใส่กล่องนะครับ"

"รอสักครู่นะคะ"

ผมนั่งมองไปรอบๆร้าน ที่นี่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นครับ เรียบๆ แต่น่ารัก มีมุมให้ถ่ายรูป มุมคาเฟ่ ชั้นสองก็มีครับ น่าจะเป็นมุมของพวกที่รักสงบนะครับ ดูเป็นส่วนตัวดี

"ได้แล้วค่ะ"

"เท่าไหร่ครับ"

"215บาทค่ะ"

ผมหยิบแบงค์500ยื่นให้พนักงานแต่ยังไม่ทันได้ถึงมือพนักงาน ก็มีมือขาวๆมาคว้ามือผมไว้ก่อน

"เดี๋ยวจ่ายให้"

พี่วิคเตอร์ยื่นเงินของเขาให้พนักงาน พร้อมรับกาแฟที่ไม่รู้ว่าสั่งตอนไหนมาถือไว้

"สวัสดีค่ะคุณวิคเตอร์ วันนี้ก็หล่อเหมือนเลยนะคะ"

พนักงานยกมือไหว้ก่อนจะแซวคนหล่อข้างผม รู้จักกันด้วยหรอ พูดแบบนี้คงเป็นลูกค้าประจำละมั้ง

"ครับ"

ยิ้มมุมปากแบบที่ชอบยิ้ม ตายกันเกบื่อนสิครับแบบนี้ คนเหนือคนละแบบนี้ เหอะ ฮอตไปอีก

"ขอบคุณนะครับที่จ่ายให้ นี่ครับค่ากาแฟ"

ผมพูดก่อนจะยัดเงินที่ถือไว้ ใส่ในมือพี่เขา แล้วรีบเดินออกจากร้าน

ผมไม่ได้หันกลับไปมองเขาหรอกครับ รีบเดินมาขึ้นเลย ร้อนจะตาย

บริษัทLLL

"เดี๋ยวตอนเลิกงานปาล์มกลับกับป๊านะลุงนพ"

"ครับนายน้อย"

ไม่ได้มาซะนาน นานมากกกกกก ตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผมก็ไม่เคยมาช่วยงานเลยเพราะขี้เกียจ5555

"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาพบใครค่ะ"
พนักงานเปรี้ยวจี๊ดต้อนรับผมพร้อมรอยยิ้ม

"ผมมาพบท่านประธานน่ะครับ"

"นัดไว้รึป่าวค่ะ"

"นัดไว้ครับ"

"สักครู่นะคะ"

ผมยืนมองไปรอบๆที่ทำงาน คนที่เคยเห็นก็มี ไม่เคยเห็นก็มี ก็หลายปีแล้วนิครับที่ผมไม่ได้มา

"ท่านประธานให้ดิฉันพาขึ้นไปที่ห้องท่านค่ะ"

"ครับ"

ผมเดินตามพี่เขาที่เดินนำหน้าผมอยู่

"นายน้อยครับ!"

ผมหยุดกึกทันทีที่มีคนเรียก พี่บริการก็หยุด ก่แนจะมองมาที่ผมแล้วยิ้มแหย่ให้

"ผมไม่รู้ว่านายน้อยจะมา เลยไม่ได้เดินไปรับ"

"สวัสดีครับอาเกียง ปาล์มก็เพิ่งรู้ว่าจะต้องมาดูงานแทนเฮีย"
ผมบอกอาเกียง ลูกน้องป๊าผมครับ

"คงไปกะทันหันละมั้งครับ ผมก็เพิ่งทราบจากท่านประธานเมื่อสักครู่ว่านายน้อยจะเข้ามา"

"ไม่เป็นไรครับอาเกียง"

"นิตยา ไปทำงานเธอเถอะ เดี๋ยวฉันพานายน้อยขึ้นไปเอง"

อาเกียงหันไปบอกพี่วาวบริการ

"ขอโทษนะคะนายน้อย ดิฉันไม่ทราบว่านายน้อยเป็นลูกชายของท่านประธานค่ะ"

"ไม่เป็นครับ"

"ขอบคุณค่ะ ดิฉันไปทำงานก่อนนะคะ"

ผมพยักหน้าให้เธอแล้วเดินตามอาเกียงไป
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 16-08-2021 01:50:04
ตอนที่6


"เดี๋ยวป๊าจะเข้าประชุมตอนบ่าย อาตี๋ไปหากินข้าวก่อนไป เสร็จแล้วไปรอที่ห้องทำงานเฮียก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะให้เลขาเอางานไปให้ดู"

"ครับป๊า"

ป๊าเดินออกจากห้องไปพร้อมเลขาของเขา ผมนั่งมองไปรอบๆห้อง ห้องที่ผมไม่ได้เข้าเกือบ5ปีได้มั้ง ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง

ก๊อกๆๆ

"ครับ"

ผมมองไปที่ประตู ก็เจอกับคบที่เปิดประตูประตูเข้ามา

"มารับไปกินข้าว"

พี่วิคเตอร์พูดเสียงเรียบ แล้วมองผมนิ่งๆ

"ผมไปเองได้ พี่ไปเลย"

ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นยืด เก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง

"ตามมา"

เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินนำหน้าผมไป อะไรของเขาว่ะ
ผมก็เดินตามเขาไปแหละ ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ จะให้พูดอะไรลัครับ

"จะกินที่บริษัทหรือจะไปกินข้างนอก"

"กินที่นี่แหละ ผมขี้เกียจออกไป มันร้อน"

"อืม"

จบครับ บทสทนาจบแค่นั้นครับ เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด พูดน้อย แต่ก็ไม่ได้ไร้มารยาทอะไรมากมาย

"นั่งรอ เดี๋ยวสั่งให้"

ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ ผมก็ใช่ว่าจะพูดมากนิ นอกจากด่าเพื่อนๆ คุยกับครอบครัว ผมก็ไม่เงียบๆเหมือนกัน

"วันนี้คุณอาให้สอนงานนาย กินข้าวเสร็จไปรอที่ห้องปอนด์ เดี๋ยวจะตามไป"

"พี่รู้จักกับเฮียหรอ"

"รู้สิ เพื่อนสนิท"

ห้ะ!!!! แสดงว่าเฮียกับเจ้รู้อยู่แล้วแน่เลยว่าคู่หมั้นผมคือใคร ถึงว่าสิ ยุกันจัง

"ครับ"

ผมจัดการข้าวตรงหน้าหมด พี่เขาก็ยกจานผมไปเก็บให้พร้อม ในโรงอาหารทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียบกัน ต่อแถวซื้ออาหาร เก็บจานไปให้ป้าแม่บ้านเอง ทำเองทุกอย่าง ครอบครัวเราทานที่นี่ก็ต้องทำเอง ป๊ากับม๊าเป็นคนตั้งกฎ


"พี่ครับ ขอโกโก้ร้อนให้ผมแก้วนึงครับ"

ผมเดินมาหยุดที่โต๊ะเลขาหน้าห้องเฮีย ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปให้ห้อง

เธอไม่ทันได้พูดกับผมหรอกครับ เพราะผมสั่งปุ้บเขาห้องมาเลย5555

ก๊อกๆๆๆ

"ครับ"

เธอเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถือแก้วมาพร้อม

"ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครค่ะ ทำไมถึงเข้ามาห้องทำงานบอส"

เขาถามผม

"ผมเป็นน้องชายบอสคุณครับ"

"เอ่ออ ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่รู้"

"ไม่เป็นไรครับ"

"ถ้าอย่างนั้นดิฉันไปทำงานก่อนนะคะ มีอะไรเรียกได้เลยค่ะ"

แล้วเธอก็เดินออกไป ผมอยากนอนนนนนนน

นอนแม่งเลย



#วิคเตอร์

เด็กผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณดี สมกับเป็นลูกคนใหญ่คนโตจริงๆ ผมนั่งมองเด็กที่นอนหลับอยู่บนโซฟาในห้องปอนด์ ปอนด์เป็นเพื่อนสนิทผมครับ เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล ส่วนมากพวกเราจะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนประจำ และย้ายไปเรียนต่อที่เมืองนอก ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตที่ไทยสักเท่าไหร่ ส่วนเด็กที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ ผมก็เห็นเขาได้จากรูปที่ปอนด์ให้ดูจากมือถือนั่นแหละครับ ไม่เคยได้เจอตัวจริงสักที

เด็กที่ผมคอยมองเขาจากรูป ได้ยินได้ฟังเรื่องเล่าของเจ้าตัวจากปากพี่ชายของเขาเอง จนผมคิดว่า ผมอยากเจอเขาจริงๆสัดที

และผมก็ได้เจอ....



ฝากติดตามด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 18-08-2021 12:10:42
ตอนที่7

ในวันที่ต้องหมั้น ผมนี่อยากหนีไปจากตรงนี้จริงๆ งานเรียบง่ายที่มีแค่ครอบครัวเรา เพราะอะไรนะหรอ ก็ผมนี่แหละที่ไม่ยอมให้จัดงานอะไรใหญ่โต ผช.ด่วยกัน จะจัดอะไร ผมก็อายเป็นนะครับ

"ทำหน้าให้มันดีๆสิอาตี๋"
ม๊ากระซิบข้้างหู ผมยิ่งหน้าบูดไปใหญ่

"ช่างตี๋เถอะน่า"
ผมยู่ปากใส่ ก่อนจะมองไปรอบตัว มองผมทำไมกันละเนี่ย

"เอาละๆ เรามาเริ่มพิธีกันเลยดีกว่านะคะ จะได้ไม่เสียเวลา"
คุณหญิงป้าพูดยิ้มๆ ทุกคนก็รีบจัดการกันทันที

"ตาวิค สวมแหวนให้น้องสิจ้ะ"
คุณหญิงป้าพูดพร้อมกับเปิดกล่องแหวนแล้วส่งให้พี่วิคเตอร์

"ครับคุณแม่"

หมับ

พี่แกจับมือผมก่อนจะสวมแหวนที่นิ้วกลาง แล้วก้มลงจูบที่มือผมอย่างแผ่วเบา

"อ๊ะ"
ผมตกใจชักมือกลับ พี่วิคเงยหน้ามองแล้วยิ้มมุุมปากหล่อจนใจกระตุกวูบ เบ้าหน้าฟ้าประทานนี่คงทำให้ใครต่อใครเจ็บปวดมาไม่น้อยแน่ๆ -_-

"อาตี๋ สวมแหวนให้พี่เขาสิลูก"
ม๊าเรียกสติผมที่แตกกระเจิงให้กลับมาสนใจกับแหวนที่อยู่ตรงหน้า

"ครับม๊า"

ผมหยิบแหวนมาถือไว้ มองหน้าพี่วิคเตอร์ แล้วสวมแหวนที่นิ้วกลาง

"เอ่อม๊าครับ ตี๋ไม่จูบที่มือพี่เขาได้มั้ยครับ"
ผมมองมือขาว นิ้วเรียวยาวสวยที่จับอยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มแหย่ๆให้ม๊า ใครจะไปกล้าจุ๊บกันละ ผมก็อายเป็นนะ

"แหม่ อาตี๋ของม๊า รู้จักอายเป็นด้วยหรอค่ะ"
"ก็อายสิครับ"

"5555+" หัวเราะกันหมดเลย ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยทำแบบนี้กับใครด้วยซ้ำ แล้วนี่ยังเป็นผช.อีก

"เร็วๆสิครับ พี่เมื่อยแขนแล้วนะ"
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น ทำให้เสียงหัวเราะรอบข้างเงียบลง ผมมองหน้าพี่แกที่ยิ้มหวานมาให้

บ้าบอ ผมนี่หน้าร้อนเห่อไปหมด ผมเพิ่งจะเคยเห็นเขายิ้มแบบนี้

"ก็ได้ครับ"

ผมยู่ปากก่อนจะค่อยๆก้มลงไปจูบที่มือพี่เขาเบาๆ แล้วรีบปล่อยมือทันที อาย เขิน หรืออะไรไม่รู้ หน้าเหมือนจะระเบิด หัวใจเต้นแรงเหมือนจะตายได้ในทันที ผมไม่ไหวแล้วกับอาการแบบนี้ มันคืออะไร ตื่นเต้นหรอ ก็ไม่น่าจะขนาดนี้นะ

"เอาละๆ เสร็จพิธีแล้ว เราไปทานอาหารกันดีกว่า"
ป๊าพูดขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างตรงหน้าจะหายไปในพริบตา ทำงานกันเร็วดีแท้

"ไม่หิวหรอ"

ผมมองมือพี่วิคเตอร์ที่ยื่นมาให้ผมตรงหน้า ผมมองนิ่ง

"ผมลุกเองได้"

ผมยู่ปากให้พี่เขาก่อนจะลุกพรึบขึ้นยืน

"เหว่อออออออ"

หมับ

"ค่อยๆลุกสิ"

เป็นฉากที่เห็นในละครบ่อยมาก ผมที่ซุกอยู่ในอ้อมแขนที่พี่เขาโอบไว้รอบตัว หน้าจมอยู่กับหน้าอก ผมสูงนะแต่ทำไมอยู่แต่หน้าอกพี่เขาละ -_-

"ว้าวววววววววว"
"จะรีบไปไหนจ้ะพ่อหนุ่มทั้งสอง"
"นี่ยังไม่ทันไร ยืมกอดกันสะละ"
"แหม่ๆรักกันมากอะเนาะ"
"เข้าหอเลยดีมั้ย"
"555555+"
เสียงแซวจากรอบข้าง ทำให้ผมนี่ผลักพี่เขาออกแทบไม่ทัน

"ไม่ทานข้าวกันหรอครับ"
ผมหันไปพูดกับทุกคนที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงทางเดินไปห้องอาหาร

"ทานสิจ๊ะ ไปๆ พวกเราไปทานข้าวกัน"

แหม ไม่ค่อยจะเนียนกันเลยนะ

"แล้วพี่จะยิ้มทำไม ไปทานข้าวสิครับ"
ผมหันมาเจอพี่วิคเตอร์ที่มองผมยิ้มๆ

"ไปครับๆ"
แล้วพี่แกก็เดินผ่านผมไป

"แล้วต่อไปชีวิตที่สงบสุขของผมจะเป็นยังไงต่อไปละเนี่ย แค่คิดก็สยองแล้วว้อยยยยยย"


หลังจากวันนั้น ชีวิตสงบสุขที่ผมไฝ่ฝันก็มะลายหายไป วุ่นวายยิ่งกว่าเดิม

"ปะป๋าฮะ"
เสียงของเด็กน้อยวัย3ขวบ ที่พูดเป็นต่อยหอย พูดเก่งเกิ้น

"ครับ"

พี่วิคเตอร์ขานรับ ตาก็มองถนนไปด้วย ตอนนี้เขาสองคนพ่อลูกมารับผมไปเที่ยวครับ เที่ยวไหนผมก็ไม่รู้ เพราะเพิ่งจะตื่นนอน

"น้องวินอยากไปสวนสัตว์"

"ก็กำลังจะพาไปนี่ไงเจ้าแสบ"

"แล้วทำไมปะป๋าต้องพาพี่เขามาด้วยละ ไหนบอกจะไปแค่เราไง"

หืม ไอ้เด็กนี่ พูดจาเกินเด็ก อยากจะตีก้นสักป๊าบ

"ไปหลายๆคนสนุกดีนะ วินเนอร์ไม่ชอบรึไง"

พี่วิคมองผมผ่านกระจกมองหลัง ผมเบะปากใส่แม่งเลย หมันใส้ ไปแงะผมออกมาจากที่นอน นี่วันหยุดผมนะ

"ชอบ แต่น้องวินไม่ชอบพี่"
ผมนี่หันไปมองคอแทบหัก

"หึหึ พี่เขาไม่สวยรึไงถึงไม่ชอบน่ะ"

สวยบ้าอะไร ผช.นะเฮ้ยยย

"ไม่เห็นจะสวย"

ไอ้เด็กนี่

"หึหึ จะสวยได้ยังไงละ พี่เขาเป็นผช.เหมือนวินเนอร์นั"

"ผช.หรอ"
น้องหันมามองผมแล้วยู่ปากใส่ มันน่ารักมากครับ แต่ปากนี่ น่าตี

"ครับ พี่เป็นผช."
ผมบอกน้องวิน

แล้วหลังจากนั้น ไอ้เด็กแสบที่นั่งเบาะหน้าข้างคนขับก็เงียบไป เงียบก็ดี รำคาญหูเป็นบ้า ผมไม่ใช่นางงามที่จะมาแอ๊บว่ารักเด็กหรอกนะ

"หิวรึยัง"

"นิดหน่อย"

"แวะหาไรกินก่อนมั้ย กว่าจะถึงก็อีกสักพัก"

"ก็ได้"

ร้านอาหารข้างถนน

"ร้อนหน่อยนะ แถวนี้ไม่มีร้านหรูๆเหมือนกรุงเทพฯหรอก"

"ผมกินได้น่า"

"หึหึ ก็ดีแล้ว"

ผมลงมารอข้างร้าน พี่เขาก็ไปปลุกเจ้าแสบ พูดจนหลับแหละครับ

"รับอะไรดีค่ะ"

ยังไม่ทันจะได้หาโต๊ะนั่ง คนขายก็แหกปากมาแต่ข้างใน

"ยัยพลอย ไปจดออเดอร์โต๊ะ7สิ"
เสียงแม่ครัวแกตะโกนเรียกเด็กผญ.คนนึง

"ได้จ้า"

"รับอะไรดีค่ะ"
น้องผญ.น่าตาน่ารีก ถักเปีย2ข้าง อายุไม่น่าจะเกิน15ปี

"ต้มยำกุ้ง1 ผัดผักรวมมิตร1 ต้มจืดวุ้นเส้น1 ยำรวม1 ข้าวผัดไข่1 ข้าวเปล่า2จาน แล้วก็น้ำเปล่า"

พี่วิคเตอร์สั่งเองเรียบร้อย ผมกับเจ้าแสบรอกินอย่างเดียว

"ป๊ะป๋า วินกินเป๊ปซี่ได้มั้ยครับ"
เด็กแสบเกาะแขนเหมือนอ้อนๆ

"ไม่ได้ เดี๋ยวปวดท้องนะ"

เหมือนพี่เขาจะอนุญาต แต่ผมขัดขึ้นไปก่อน

"วินอยากกิน"

เด็กน้อยจ้องผม

"ไม่ได้"
ผมจ้องกลับ

"จะกิน"เด็กแสบ

"ไม่ได้"ผม

"วินจะกิน"

"ก็บอกว่าไม่ได้ไง"

"พอๆ อย่าเถียงกัน"

พี่วิคสงบศึกครั้งนี้ ผมกันเด็กแสบกอดอกแล้วหันหน้าหนี

"เหมือนกันสะจริงๆ"

สรุปได้กินน้ำเปล่า ผมยักคิ้วใส่เจ้าแสบแบบผู้ชนะ เจ้าเด็กแสบมองผมตาขวาง ก่อนจะทำปากมุบมิบ แอบด่าผมในใจแน่ๆเลยไอ้เด็กนี่ อย่าให้อยู่กันสองคนนะ ผมจะตีก้นให้ลายเลย
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 18-08-2021 13:05:13
ตอนที่8

ถึงสักที รถก็ติด วันนี้วันหยุดด้วยละมั้ง รถเลยเยอะกว่าวันธรรมดา

"ใส่หมวก"

พี่วิคเตอร์ใส่หมวกแก๊ปให้ผมกับเจ้าเด็กแสบ เสื้อแขนยาวไม่ใส่หรอกครับ ร้อนกว่าเดิมอีก

"เย่ๆๆๆๆ"

ดีใจอยู่คนเดียวแหละ ร้อนจะตายไอ้เด็กนี่

"อย่าหน้าบูดสิ พามาเที่ยวนะ ไม่ได้พามาไถนา"
พี่วิคจิ้มลงที่แก้มผม ผมขยับหนี

"ครับคุณพ่อ"

ผมบอกก่อนจะเดินหนีสองพ่อลูกนั่น ผมไม่ได้ถามเรื่องลูกเขาหรอกครับ เขาอยากบอกก็คงบอกเอง สมัยนี้มีเยอะแยะไป พ่อเลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยงเดี่ยว ผมไม่ถือเรื่องพวกนี้หรอก

จึกๆ ใครมาดึงเสื้อ-_-

"พี่ จับมือวินหน่อย"
ผมก้มลงมองข้างๆตัว ก็เห็นเจ้าเด็กแสบยืมกำเสื้อผมแน่น

"ไม่จับ"
ผมแกล้ง

"จับหน่อย"
อ้อนหรอ แล้วพี่วิคไปไหน

"ไปจับกับป๊ะป๋านายสิ"
ผมบอก

"ป๊ะป๋าหายไป"
เด้กน้อยน้ำตาคลอ ผมมองไปรอบๆ ไม่อยู่จริงด้วย อย่าบอกนะว่าจะทิ้งเราไว้แบบนี้ เจอตัวพ่อจะเตะให้เอวหักเลยคอยดู

"เขาทิ้งนายแล้วหละ นายพูดมากเกินไป"
ผมพูดกับเด็กแสบที่ตอนนี้แก้มเริ่มแดง น่าจะร้อน

"ไม่ ฮึก ไม่ทิ้ง"
อ้าวเวร ร้องไห้เฉยเลย

"เฮ้ย อย่าร้อยนะเว่ย"
ผมรีบนั่งยองๆ แล้วเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลลงมาแหมะๆ

"แง่~~~~~~"

"นี่ บอกอย่าร้องไง เงียบเลยนะ"
ยิ่งขู่ก็ยิ่งร้อง ว้อยยยย พ่อมันไปไหน มาเอาลูกไปทีเถอะ

"ฮื่อออออ~~~~~"

ร้องยิ่งกว่าเดิม คนรอบข้างก็มอง มองแล้วซุบซิบ ไอ้เด็กนี่ไม่ใช่ลูกผมนะครับ จะพึมพำกันเพื่ออะไร

หมับ

ผมคว้าเด็กน้อยหน้าเข้ามากอด มือก็ลูบหัว เพราะผมเห็นคนแถวนี้ที่อุ้มลูกเขาทำกันแบบนี้ เลยทำตาม แฮร่ๆ

"ไม่ร้องนะเด็กดี เดี๋ยวป๊ะป๋านายก็มา"
ผมก็พูดไปเรื่อย เสียงสะอึกสะอื้นยังคงได้ยินเป็นระยะ

ฮึบ

ผมอุ้มเจ้าเด็กแสบแล้วลุกขึ้นยืน ไปหาที่นั่งใกล้ๆ

"นายอยากกินน้ำมั้ย พี่จะไปซื้อมาให้"
ผมถามเจ้าเด็กที่เอาแต่ซุกหน้าลงกับอก ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองผม

"ไม่เอา ไม่ให้ไป"
พุดไปสะอื้นไป เออดี เอากูมาทำอะไรบอกที เอามาเป็นพี่เลี้ยงเรอะ

"งั้นก็เงียบ"

ผมบอกก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา จะโทรหาตัวต้นเหตุแห่งการวุ่นวายครั้งนี้ แต่.....

เวรเอ้ย ไม่มีเบอร์พี่เขา....

"โถ่เว่ย ไม่มีเบอร์"
ผมสบถเสียงดัง เด็กน้อยสะดุ้งทันที

"แง่~~~~~~~"
อ้างเวรกรรมของไอ้ปาล์ม ทำเด็กร้องอีกแล้วกู

"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ พี่ขอโทษๆ พี่ไม่ได้จะดุนาย พี่แค่ พี่แค่ เอ่อ พี่แค่ร้อนน่ะ โอ๋ๆนะ"
เอาละกู กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปสะงั้น นี่ถ้าเพื่อนผมมาเห็น คงล้อสนุกปากชัว

"เงียบก่อน ถ้าเงียบ พี่จะพาไปดูเสือ ไปมั้ย"

ได้ผลครับ เด็กเงียบแต่ก็ยังสะอื้นอยู่ ผมเช็ดน้ำตาที่หน้าเขาออกให้ ก่อนจะคลี่ยิ้มให้อีก เจ้าเด็กแสบตาโตก่อนจะมุดหน้าลงที่อกผม เอื่ม กลัวผมหรืออะไร

"จะไปมั้ย"

"ไปครับ"
เสียงที่อู่อี้กับอกดังขึ้นเบาๆ ผมยิ้ม ที่เจ้าเด็กนี่พูดครับ เพราะตั้งแต่เจอกัน เด็กนี่ไม่เคยพูดเพราะกับผมเลยด้วยซ้ำ

"งั้นไปกัน เดี๋ยวพี่พาเที่ยวเอง"

ผมปล่อยเจ้าเด็กนี่ลงไปยืนกับพื้น เช็ดหน้าเช็ดตา จัดเสื้อผ้า ใส่หมวกแก๊ปให้ ผมลุกขึ้น แล้วส่งมือให้เด็กน้อยนี่จับ เขาเงยหน้ามองผม แล้วยิ้มแฉ่งทันที

"ไปกันเลย"

ผมพาเจ้าเด็กแสบเดินไปดูสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในกรง เยอะมากครับ ตั้งแต่โตผมก็ไม่เคยได้มาอีกเลย นี่นับว่าเป็นครั้งแรก ที่ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศแบบเด็กๆ

"นายอย่าเอานิ้วไปแย่มันสิ"
เริ่มวุ่นวายอีกครั้ง

"ไม่เอา วินจะป้อน"
ดึงมือกลับแล้วเอาหญ้าในมือไปป้อนนก

"นกที่ไหนกินหญ้ากันละห้ะ"
ผมดุเบาๆ

"นกที่นี่ไง วินให้"
เถียงอีก เลี้ยงลูกยังไงให้รู้ว่านกกินหญ้า

"พอแล้ว ไปดูตัวอื่นกัน"
ผมคว้ามือเจ้าเด็กนี่ให้ออกเดิน

"งูๆ"
ผมกลัวงู แต่เจ้าเด็กนี่ดันชอบ

"ไม่เอา พี่กลัว"
ผมบอก

"คริๆๆๆ"
หัวเราะเยาะ

"นี่นายกล้าหัวเราะพี่หรอ"
ผมชี้หน้าขู่แบบขำๆ

"พี่กลัว แต่วินไม่กลัว"
ยังๆ

"ไปดูตัวอื่นเลย ถ้าไม่ไป จะพากลับ"
ผมขู่ เจ้าเด็กแสบยู่หน้าก่อนเกินตึงๆ หน้าบูดหนีผมไป
เออดี งอนกูเฉย

"วิน มานี่ จะพาไปกินไอติม"
ผมไม่เดินตาม แต่เรียกเอา เดินไม่ทัน หมดแรง

ตุ้บๆๆๆๆ

"จริงหรอ"
วิ่งหน้าตั้งมาเลยครับ

"จริง"

"เย่ๆๆๆ พี่ใจดีที่สุด"
เหอะ ได้ของกินละชมทันที เด็กหนอเด็ก

ผมพาเด็กแสบเดินมาที่ร้านไอติมแบบตัก กลิ่นหอมของกะทิ น้ำลายไหล

"เอาแบบไหน โคนหรือแก้ว"

ผมถาม

"แบบโคน"

"เอาแบบโคน2อันครับ"
ผมสั่ง

"ได้จ้า"

แล้วเราสองคนก็ยืนดูแม่ค้าตักให้ คนเริ่มเยอะ อากาศร้อนด้วยแหละ ขายดี

"สองหนุ่มหล่อได้แล้วจ้ะ"
ป้าแกยื่นไอติมให้ผม

"เท่าไหร่ครับ"

"20จ้า"

ผมยื่นแบงค์500ให้ป้า ป้าแกไม่มีทอน

"งั้นป้าให้ฟรีเลยจ้ะ"
ป้าแกคืนเงินให้ผม แล้วบอกยิ้มๆ

"ไม่ได้หรอกครับป้า ของซื้อของขาย"
ผมก็ยื่นเงินให้แก แกก็ไม่เอา

"คุณป้าๆ วินอยากได้อีก"

ผมหันไปมองที่มือเด็กแสบ หมดครับ มันกินหมดแล้ว ทั้งๆที่ผมพึ่งจะเลียไปทีเดียวเอง

"อร่อยใช่มั้ยหนุ่มน้อย"

ป้าแกถามยิ้ม พร้อมกับตักให้เด็กนี่ใหม่

"อร่อยมากเลยครับ"

ยิ้มหวานแจกป้าไปดิ

"ต้ายย ปากหวานจังเลยนะเรา เอานี่ได้แล้วครับ"
ป้าแกยิ้ม

"นี่เงินครับป้า ผมเหมาละกัน แจกฟรีได้เลยครับ"

ผมหันไปทางเสียงที่ดังขึ้นข้างหลัง ไอ้พี่วิคเตอร์ตัวดี มาสักทีนะ


"เออ จะดีหรอค่ะ มันเหลือไม่เยอะแล้ว"
ป้าบอกแบบเกรงใจ

"ไม่เป็นไรครับ"
พี่แกยื่นแบงค์พันให้ป้าแกไป

"คุณป้าเอาไปเลย ป๊ะป๋ามีเงินเยอะมากครับ"
เจ้าเด็กแสบพูดขึ้น ผมนี่หันคอแทบหัก เด็กนี่มันรู้เยอะจริงๆ

"ก็ได้จ้า"
คนอื่นก็มาต่อแถวเอาไอติมฟรีกัน

แล้วเราก็ไปจากร้านไอติม

"ไปไหนมา"
ผมหน้าบึ้งใส่คนตัวสูง

"ไม่ได้ไปไหน"
ตอบหน้าตาย

"ตลกหรอ"

"ก็เรื่องจริง อยู่แถวๆนี้แหละ"
ชิวไป

"ช่างเถอะ แล้วจะกลับได้ยัง เด็กนี่หนักจะตายชัก"

จะอะไรละ ร้องไห้ให้ผมอุ้ม แล้วหลับคาไหล่ผมไปแล้ว

"ไปสิ คงเหนื่อยกันแล้ว"

"เหนื่อยสิ อยากพักจะแย่"

"งั้นไปหาที่พักกัน พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวอีก อยากไปรึป่าว"
เขาถามแล้วก็อุ้มเด็กแสบไป เมื่อยแขน

"ไม่กลับบ้านหรอ"
ผมถาม

"ไม่กลับ ลาพีกร้อนไปแล้ว"

"แล้วงานพี่ละ"

"ฝากปอนด์"

"ครับ"

ผมเดินตาสองพ่อลูกไปอย่างเงียบๆ ความคิดเริ่มเปลี่ยนไป จากเฉยๆ ก็เริ่มกลายเป็นความรู้สึกดี จากที่เคยคิดว่าวุ่ยวาย แต่ผมกลับคิดว่าไปอีกอย่าง แบบนี้มันก็ไม่เหงาดี

 o18
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 18-08-2021 19:48:30
ไม่ดราม่านะค่ะ อบอุ่นหัวใจ   
เรื่องเก่ายังไม่ต่อ มาเรื่องใหม่ละ5555
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 19-08-2021 00:46:26
 o18
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 19-08-2021 22:40:40
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 19-08-2021 23:40:38
ตอนที่9

"เป็นไงเพื่อนรัก ฮันนีมูนสนุกมั้ย5555"
ไอ้ก้านครับ โทรมากวนตีนแต่เช้า

"ฮันนีมูนบ้าอะไรของมึง"
คุยเหมือนกระซิบแหละครับ กลัวสองคนข้างๆจะตื่น

"หมั้นเสร็จก็ออกเที่ยว นี่แหละกูเรียกฮันนีมูน5555"
ดูมัน ความคิดไร้สาระก็มีมากกว่าไอ้ตั้มนิดหน่อย เอาจริงๆมันสองคนก็พอกันแหละครับ ผมคบมันสองคนมาได้ยังไงตั้งสิบปียี่สิบปี

"กวนตีน แล้วไม่ทำงานรึไง"

"ทำสิครับแหม ไม่ทำกระผมก็โดนเขี่ยออกจากคฤหาสน์สิครับ"
พี่สาวมันโหดมากครับ ไม่ถูกใจพี่แกทุบหัวแบะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 19-08-2021 23:44:14
ต่อตอนที่9

"หึหึ ไปทำงานไป จะนอน"

"โอเค กลับมาค่อยนัดเจอกัน บาย"

"บาย"

ผมวางสายจากก้าน แล้วมองไปที่ก้อนกลมๆสองก้อนที่นอนกอดกันอยู่

"อื้ออ งั่มๆ แจ๊บๆ"

เจ้าเด็กแสบขยับตัว เสียงงึมงัมๆ

หมับ

มือป้อมกอดเข้าที่แขนผม ก่อนจะเอาหน้ามาซุก ขาสั้นๆก็ก่ายมาที่เอว แล้วขยับตัวยุกยิก ก่อนจะนิ่งไป เออ ท่าทางจะสบายเกินไปแล้วนะไอ้เด็กอ้วนนี่

ผมขยับตัวเล็กน้อยให้เข้าที่ มองหน้าเด็กน้อยนิ่งๆ ผมอยากรู้เรื่องราวของเขาสองคนว่าเป็นมายังไง แต่ผมก็ไม่อยากถาม ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพวกเขามากเกินไป ทุกวันนี้ที่ผมทำอยู่นี่ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันถูกหรือผิด แต่ผมก็เลือกมันไปแล้ว ถ้าเป็นเรื่องของครอบครัว ผมปฎิเสธไม่ได้หรอกครับ ยังไงครอบครัวก็สำคัญอยู่แล้ว

ผมไม่รู้ว่าผู้ชายสองคนจะสามารถรักกันได้มั้ย มันจะมีความรู้สึกรักเหมือนกับชายหญิงทั่วไปรึป่าว ผมไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟนแล้วก็ไม่คิดว่าจะมีด้วย ผมอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อยู่กับครอบครัว ดูแลพวกเขาแบบนี้ไปจนกว่าจะตายจากกันไป

ผมไม่รู้ว่าหรอกว่าอนาคตของพวกเราจะเป็นยังไง ผมจะรักเขามั้ย แล้วเขาจะรักผมรึป่าว เราจะได้อยู่ด้วยกันในแบบที่ครอบครัวเราหวังมั้ย ผมไม่รู้เลย ตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจหมั้นไปแล้ว ผมก็คิดแค่ว่า เมื่อมีโอกาส ผมก็จะรับไว้

มือบางยกมือขึ้นวางลงบนหัวเล็กอย่างอ่อนโยน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าสายตาและท่าทางของเขามันอ่อนโยนมากแค่ไหน ปากบางยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว มันเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุด มันเป็นรอยที่ออกมาจากใจจริงๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่อาจจะรู้ตัวได้

ร่างหนานอนมองร่างบางอย่างสนใจ ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมุมนี้ของอีกคน เรื่องราวของเจ้าตัวที่เขามักจะได้ยินจากพี่ชายของอีกฝ่ายมาตลอด เขาเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบการถูกบังคับ มั่นใจในตัวเองสูง ตั้งใจทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จอยู่เสมอ

"เด็กคนนี้ พี่รับเลี้ยงตั้งแต่แรกเกิด"

ร่างหน่าเอ่ยขึ้น เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นความลับอะไร ยังไงก็ต้องบอกอยู่แล้ว

"พ่อของเด็กเขาไม่ยอมรับว่าเป็นลูกของตัวเอง เลยขอเลิกแล้วก็ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี"

ร่างบางใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

มือบางคว้าตัวเด็กแสบมากอดไว้ด้วยความสงสาร

"พี่ช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย"

ปากบางขยับพูดเสียงแผ่วเบาเพราะกลัวเด็กน้อยในอ้อมแขนจะตื่น

"ได้สิ"
ร่างหนาตอบ ก่อนจะเล่าทั้งหมดให้อีกคนฟัง

ย้อนไปเหตุการณ์ เมื่อ3ปีที่แล้ว

"พี่นุ จอดรถหน่อยครับ ผมเห็นเด็กผญ.นั่งอยู่ข้างถนน"
ชายหนุ่มบอกคนขับรถเสียงดัง

เอี๊ยดดดดดด

จนอีกคนตกใจเบรกรถกระทันหัน ดีที่มันดึกแล้ว ไม่มีรถตามหลังมา ไม่อย่างงั้นคงได้เกิดอุบัติเหตุแน่นอน

"เดี๋ยวผมลงไปดูเองครับ"
พี่นุ เลขาคนสนิทหยิบร่มแล้วรีบลงจากรถทันที

ฝนที่ตกหนักอยู่ก็เหมือนจะยิ่งตกหนักเข้าไปใหญ่ ร่างใหญ่กางร่มไปหาเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างทาง พร้อมกับร่มอีกอันในมือ เขากางร่มให้ เสียงสะอื้นปานจะขาดใจของเธอ ทำให้พี่นุ นั่งยองๆลงข้างเธอ เธอขยับตัวหนีเพราะกลัวจะโดนทำร้าย พี่นุยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

"ไม่ต้องกลัวพี่นะเด็กดี พี่ไม่ทำร้ายเธอหรอก"

พี่นุวางยิ้มให้อย่างใจดี เธอมองหน้าเขาแล้วยิ้มให้บางๆ พยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้

ตึกๆๆๆ

เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอสะดุ้งแล้วขยับตัวเข้าหาภานุ

"ทำไมไม่พาไปที่รถ ฝนตกหนักกว่าเดิมแล้ว"

เสียงทุ้มเอ่ยถามภานุ

"เธอเพิ่งจะหยุดร้องครับ ผมยังไม่ทันได้พูดกับเธอ"

ภานุบอกกับนายตัวเอง แล้วก้มมองเด็กหญิงตรงหน้า ดูแล้วอายุไปน่าจะถึง18ด้วยซ้ำ

"ไปขึ้นรถได้แล้ว ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบาย"
 เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้เด็กหญิงเงยหน้ามองอย่างกล้าๆกลัวๆ

ใบหน้าหล่อเหลาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ เขามองเธอด้วยความเป็นห่วง ทำให้อุ่นใจและเชื่อใจพวกเขาในทันทีว่าเขาสองคนจะไม่ทำร้ายเธอ

เมื่อเจ้านายเดินกลับไปขึ้นรถ ภานุก็บอกให้เธอเดินตามมาที่รถ

"ไปนั่งข้างหน้าไป"

ภานุบอก เธอพยักหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูรถก่อนจะนั่งลงอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะตัวเธอเปียก รถหรูแบบนี้ เบาะรถพังแน่ๆ

"นั่งไปเถอะ ไม่เป็นอะไรหรอก"
เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ก่อนจะยื่นผ้าห่มที่มีอยู่ในรถส่งให้เธอ

"ขอบคุณค่ะ"
เธอรับมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณ

"ไปคอนโดเลยพี่นุ"

"ครับนาย"

รถหรูแล่นไปอย่างเร็ว ไม่นานก็ถึงที่พัก เธอมองอย่างตื่นตะลึงเพราะมันหรูมาก เธอไม่เคยมาในที่แบบนี้กรอกบ้านเธอก็ไม่ได้รวยแค่พอมีพอกิน

"รีบเดินตามมาเร็วๆ"
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นมาดุๆ เธอรีบเดินตามไปทันที กลัวจะโดนดุมากกว่านี้

ติ้ดๆๆๆๆ

แกร๊ก

"ไปอาบน้ำ"

"ค่ะ"

"พี่นุเตรียมเสื้อผ้าให้เธอที"

"ครับนาย"

"ส่วนเธอ อาบน้ำเสร็จมารอฉันตรงนี้"

"ค่ะ"

ทั้งสามคนแยกย้ายกันไปทำภาระกิจส่วนตัว ภานุกับเด็กหญิงมานั่งรอเจ้านายที่ห้องรับแขก

"ทำไมไปนั่งตากฝนอยู่แบบนั้น"
ร่่างหนาเอ่ยขึ้นทีที่เดินออกมา ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเธอ ภานุนั่งลงข้างเธอ เพราะจะทำให้เธอไม่เกร็งเวลาที่คุยกับเจ้านายของเขา

"ฮึก ฮึก "
อยู่ๆเธอก็สะอื้นขึ้นมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเสียใจ ภานุยกมือขึ้นลูบหัวเธออย่างเป็นห่วง

"ไม่ต้องร้องนะเด็กดี ค่อยๆเล่าก็ได้"
ภานุปลอบเธอ ก่อนจะมองหน้าเจ้านายแล้วถอนหายใจ เจ้านายเขาถึงภายนอกจะดูโหดๆน่ากลัวไปบ้างแต่จริงๆแล้วเขาเป็นใจดีมากๆ

"หนูท้อง ฮึก"

เธอพูดเสียงสั่น

"ท้อง!!!"

ชายหนุ่มสองคนพูดพร้อมกันอย่างตกใจ

"ฮึก...ใช่ค่ะ... ฮึก...แต่เขาไม่รับ...ฮึก...ผิดชอบ...ฮึกๆ...เขาบอกเด็กในท้อง...ฮึกๆ ....ไม่ใช่ลูกของเขา...ฮื่อออออออ"

เธอพุดไปสะอื้นไป จนร้องหนักกว่าเดิม สองหนุ่มสตั้นไป3วินาที ก่อนจะเรียกสะติคืนมาได้ ภานุคว้าเด็กหญิงมากอดไว้ ลูบหลังปลอบเธอเพื่อให้เธอหยุดร้อง

"เธออายุเท่าไหร่ แล้วที่บ้านเธอรู้รึยัง"
ร่างหนาเอ่ยถามเด็กตรงหน้าด้วยความงง เพราะดูแล้วเธอน่าจะไม่ถึง18ด้วยซ้ำไป

"17ค่ะ ที่บ้านหนูยังไม่รู้ พอหนูรู้ว่าท้อง หนูก็บอกกับแฟนหนูเป็นคนแรก"

สองหนุ่มตาเหลือกทันทีที่ได้รู้อายุของเธอ

"แล้วเธอจะทำยังไงต่อ จะบอกที่บ้านมั้ย"
ร่างหนาถามต่อ

"ไม่ค่ะ หนูบอกไม่ได้ เขาจะต้องให้หนูเอาออกแน่ๆ หนูยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ พ่อแม่หนูจะเสียใจมากแน่ๆที่หนูทำตัวแบบนี้"

เธอรีบพูด น้ำตาก็ไหลไปด้วย ชายหนุ่มสองคนมองเธอแล้วถอนหายใจ

"เธออยากจะให้เขารับผิดชอบเธอและลูกของเธอมั้ย ฉันจัดการให้เธอได้นะ ถ้าเธอต้องการ"
ร่างหนาถาม

"ไม่หรอกค่ะ เขาเลือกที่จะไม่ยอมรับแล้ว ต่อให้เขามารับผิดชอบ มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกค่ะ"

เธอตอบมีนที ตอบอย่างไม่ลังเล

"แล้วเธอจะทำยังไง"
ร่างหนาถามต่อ

"หนูจะเอาเขาออกค่ะ หนูคงเลี้ยงเขาไม่ได้หรอก หนูเสียใจที่ต้องทำแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำอนาคตหนูจะเป็นยังไง บ้านหนูก็ไม่ร่ำรวย แค่พอมีพอกิน ถ้ามีเขาออกมา คงได้ลำบากมากกส่าเดิมแน่ๆ"
เธอพูดไปน้ำตาไหลไป เสียใจที่ทำตัวแบบนี้ พ่อแม่เตือนเธอก็ไม่ฟัง สุดท้ายก็เป็นอย่างที่พวกท่านบอกไว้จริงๆ

"เธอจะบ้ารึไง มันบาปนะ"
ร่างหนาดุเด็กตรงหน้า

"บาปแล้วยังไงละคะ ยังไงหนูก็ต้องเอาเขาออกอยู่ดี หนูเลือกอะไรได้ด้วยหรอค่ะ"

ภานุมองหน้าเจ้านายตัวเองนิ่งๆ เขาก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะลำพังตัวเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว นอกจากเจ้านายของเขาจะเป็นคนสั่งให้ทำ

"นายครับ"

ภานุเรียกเจ้านายตัวเองที่นั่งนิ่ง เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

"เห้อออ เอาละ เธอไม่ต้องคิดมาก แล้วก็ไม่ต้องคิดที่จะเอาเด็กออกด้วย เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง"

ภานุยิ้มอย่างดีใจที่เจ้านายเขาพูดแบบนั้น แต่เด็กหญิงที่นั่งข้างเขากลับไม่เข้าใจเขาเลยบอกแทน

"เจ้านายฉันจะช่วยเธอแก้ปัญหานี้เอง"
ภานุเอ่ย

"คุณทำได้หรอค่ะ"
เธอถามร่างหนาอย่างไม่ค่อยแน่ใจ เขาจะทำได้ยังไง

"เดี๋ยวฉันจัดการเอง วันนี้เธอไปพักผ่อนก่อนไป"

ทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไปพัก ภานุพาเธอไปห้องสำรองอีกห้องนึง หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปพักผ่อน

วันต่อมา

"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องดูแลตัวเองและลูกในท้องเธอให้ดีๆ เพราะฉันจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้เอง ส่วนเรื่องเรียน ฉันจะจัดการให้เอง"

ร่างหนาบอกเด็กผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามที่ทำหน้าสงสัย ภานุเลยอธิบายให้เธอฟัง

"นับตั้งแต่วันนี้ เธอจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าเธอจะคลอดเด็กออกมา เจ้านายฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง รวมไปถึงเรื่องโรงเรียนของเธอด้วย ส่วนทางครอบครัวของเธอ ฉันจะเป็นคนเข้าไปพบพวกท่านเอง"

ภานุร่ายยาว

"คุณจะบอกกับครอบครัวหนูมั้ยเรื่องที่หนูท้อง"
เธอถามเสียงเศร้า

"ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับครอบครัวของเธอและทางโรงเรียนหรอกนะ เธอสบายใจได้ ถึงมันจะไม่ถูกต้องก็ตาม"

เธอยินยอมที่จะทำตามทุกอย่าง ลำพังตัวเธออายุเพียงเท่านี้ จะทำอะไรได้นอกจากเอาเด็กออก ถ้าวันนั้นฟังพ่อแม่ วันนี้คงไม่เกิดขึ้น เขาจะจำไปจนวันตายเลยว่าผช.มันไว้ใจไม่ได้
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 20-08-2021 00:12:57
ต่อตอนที่9

ภานุจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยภายใน3วันตามที่เจ้านายสั่ง

"เรียบร้อยแล้วครับนาย"

ภานุรายงาน

"เดี๋ยววันนี้ผมจะเข้าไปคุยเรื่องนี่กับที่บ้าน พี่อยู่นี่ก็แลเด็กนั่นไปก่อนละกัน"

"ครับนาย"

รถคันหรูเลี่ยวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ เขารีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างไว

"ว่าไงเจ้าตัวดี เมื่อวานผิดนัดกับแม่นะ"
คุณหญิงของบ้านเอ่ยทักทันทีที่เห็นหน้าลูกชายคนโปรด

"โถ่คุณแม่ครับ ผมขอโทษนะครับ พอดีเกิดเรื่องขึ้นกะทันหันน่ะครับ เลยไม่ได้โทรมาบอก"

ร่างหนาสวมกอดหญิงวัยกลางคนอย่างอ้อนๆ

"เรื่องอะไรกันนะที่ทำให้ลูกชายแม่ยอมผิดนัดได้แบบนี้"

"เรื่องนี้แหละที่ผมจะมาคุยกับคุณแม่"

"มีเรื่องอะไรหรอลูก ไหนเล่าให้คุณแม่ฟังหน่อยสิ"

ร่างหนาก็เริ่มเล่าตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่องให้ผู้เป็นแม่ฟัง

"ตายแล้ว ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงเป็นแบบนี้กันนะ อายุแค่นี้ก็ปล่อยให้ท้องสะแล้วหรอ"

"นั่นแหละครับ ผมเลยมาปรึกษาคุณแม่ว่าจะเอายังไงต่อดี จะให้อยู่กับผมกับพี่ภานุก็จะดูแลกันยังไง เราเป็นผช.กันทั้งคู่ เมียก็ไม่ทันจะได้มีกันเลยด้วยซ้ำ"

ร่างหนาพูดขำๆ

"นั่นสิ อายุก็26เข้าไปแล้ว ยังไม่มีหลานให้แม่อุ้มเลย"

แม่แหย่กลับ เพราะลูกชายไม่เคยพาสาวมาให้แม่ดูตัวเลยด้วยซ้ำ นัดดูตัวก็ไม่ยอมไป อ้างแต่ว่าติดงานตลอด

"ผมก็ไม่อยากสนใจใครนี่ครับ ผมคิดว่าผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วนะ ผมว่าผมไม่เปลี่ยนใจแน่นอน"
 ร่างหนาบอกยิ้มๆ ผู้เป็นแแม่ก็ได้แต่ยิ้มตาม

"เอาที่สบายใจเถอะจ้ะ แม่ไม่บังคับลูกอยู่แล้ว แม่มีเจ้าแฝดคอยวุ่นวายอยู่แล้ว ปวดหัวแค่นี้ก็น่าจะพอ"

สองแม่ลูกหัวเราะพร้อมกันเมื่อนึกถึงหลานชายฝาแฝดลูกของพี่สาว ซนไม่ไหว พูดก็เก่ง ขี้อ้อนอีกต่างหาก

"แล้วเรื่องเด็กคนนั้น ผมจะทำยังไงดีครับ"

"ให้เขามาอยู่นี่ก็ได้ เดี๋ยวแม่ช่วยดูแลให้เอง"

"ได้หรอครับ จะวุ่นวายคุณแม่เอานะครับ"

"เอางั้นแหละ ไปพาเธอมา เดี๋ยวแม่จัดการเอง"

"ก็ได้ครับคุณแม่"

ร่างหนาต่อสายหาภานุทันที ให้จัดการเก็บของทุกอย่าง แล้วพาเธอมาที่นี่

"ฝากคุณแม่ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับคุณพ่อ"

"เดี๋ยวแม่บอกพ่อให้เอง ลูกไปทำงานเถอะจ๊ะ"

หลังจากนั้น เธอคลอดลูกออกมา เด็กผู้ชายผิวขาว จ้ำมั่ม น่าเอ็นดูมาก

วิคเตอร์จัดการเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย รวมถึงชื่อของลูกเขาด้วย เขาให้เงินเธอไปจำนวนหนึ่ง มันมากพอที่จะทำให้ครอบครัวของเธอไม่ลำบากไปตลอดชีวิต และเธอก็จะไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเด็กอีกเลย เธอยอมรับข้อตดลงทุกอย่าง และยินยอมเซ็นใบสัญญาที่ทางทนายประจำกูลทำขึ้นมาเพื่อปกป้องสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมของเขา ต่อให้เธอเอาลูกมาอ้างก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเด็กคนนี้เพราะสัญญานี้ถือว่าตัดขาดกันไปแล้ว

วิคเตอร์เลี้ยงลูกชายของเขาเองกับมือ เป็นทั้งพ่อและแม่ให้ในเวลาเดียวกัน ถึงเขาจะเหนื่อยจากการทำงานมากแค่ไหน เขาก็จะกลับมาอยู่กับลูกของเขาเสมอ คุณพ่อคุณแม่ยังคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าลูกชายของตัวเองจะทำได้ขนาดนี้ มันทำให้พวกเขาภูมิใจในตัวลูกของตัวเองมาก เด็กน้อยไม่เคยเรียกหาแม่เลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่เริ่มจำความได้เขาก็เรียกแค่ป๊ะป๋าของเขาเท่านั้น
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 20-08-2021 00:17:18
พอตเรื่องตามใจไรท์เตอร์นะจ๊ะ55555

เข้ามาอ่านแก้เคลียดกันได้นะคะ☺️
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 23-08-2021 09:55:28
ตอนที่10

กลับมาปัจจุบัน

เมื่อได้ฟังเรื่องที่ร่างหนาเล่าจนจบ ร่างบางก็ยิ่งสารเด็กน้อยมากขึ้นเท่าตัว เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำเกือบจะไม่ได้ลืมตามาดูโลกสะแล้ว ถือว่ายังมีบุญมากพอที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้ ไม่อย่างนั้น เด็กคนนี้คงไม่ได้เกิด

"วินเนอร์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย ขี้อ้อน สดใส ร่าเริง จะอยู่ที่ไหนก็ทำให้มีแต่คนเอ็นดู"

วิคเตอร์ลูบหัวทุยด้วยความเอ็นดู ตั้งแต่เล็กจนโต เขาสองคนพ่อลูกไม่เคยได้ห่างกันได้เลย ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด

"แต่ทำไมดื้อกับผมละ"

ร่างบางพูดขำๆ ก่อนจะก้มลงไปมองหน้าเด็กอ้วนที่หลับตาพริ้ม

"อันนี้พี่ก็สงสัย ว่าทำไมถึงเป็นกับเรา เพราะปกติ วินเนอร์เข้ากับคนอื่นง่ายมาก"

วิคเตอร์มองหน้าปาล์มแล้วยิ้ม ปาล์มเบะปากให้ก่อนหลับตาลง

"จะนอนต่อหรอ ไม่หิวรึไง"

วิคเตอร์เห็นว่าปาล์มกำลังจะหลับ เลยรีบถามขึ้นทันที

"ขอนอนสักงีบนะครับ ฟังพี่เล่าแล้วผมจะหลับ"

"งั้นก็นอน ตื่นค่อยไปหาอะไรกินข้างนอกละกัน"

"ครับ"

ร่างบางก็หลับแทบจะทันที วิคเตอร์มองสองคนที่นอนกอดนอนก่ายกันด้วยความเอ็นดู เขาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ มันเป็นภาพที่น่ารักมากๆ เขาชอบภาพนี้ มันดูอบอุ่น

วิคเตอร์ลุกไปอาบน้ำ จัดการตัวเองเสร็จ ก็ส่งรูปที่ถ่ายไว้ตั้งแต่มาเที่ยวไปในไลน์ของครอบครัวทีีทั้งสองครอบครัวสร้างขึ้นมา ยกเว้นปาล์มที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น เพราะกลุ่มนี้ มีไว้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการล่าหัวใจใครบางคน

@กลุ่มครอบครัว

@หม่าม๊า: ทำไมน่ารักกันจัง
@คุณหญิง:ใช่ๆมีแต่ภาพสวยๆทั้งนั้นเลย
@ป๊ะป๋า:วิคเตอร์ดูแลน้องดีๆละ
@วิคเตอร์:ครับป๊า
@ปังปอนด์:แหม่ๆ อยากจะอ้วกจริงๆเว้ย
@ปลายฟ้า:งุ้ยยยย ทำไมน่ารักกันจัง
@แซนดี้:สองแฝดบอกงอลน้าแล้ววไม่พาไปด้วย5555
@วิคเตอร์:นี่มันทริปครอบครัวนะครับ ฝากบอกหลานด้วย 5555
@แซนดี้:ย่ะ หมันใส่ว้อยยยย
@คุณพ่อ:เลิกคุยกันได้แล้ว พ่อประชุมอยู่นะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 23-08-2021 10:25:17
ต่อตอนที่10

จบบทสนทนาไว้เพียงเท่านี้555555


ช่วงบ่าย

หลังจากที่สองคนนอนกันมาเกือบครึ่งวัน วิคเตอร์ก็ปลุกให้ลุกขึ้นมาอาบน้ำ นอนอะไรมากมายขนาดนี้

"ปะป๊า วินอยากเล่นน้ำครับ"

วินเนอร์ตัวแสบทำท่าดี้ด๊าดีใจจนออกนอกหน้า เพราะทริปตอนนี้บ่ายนี้ คือ น้ำตก

"ใครจะให้นายเล่นมิทราบ"

ปาล์มแกล้ง

"ปะป๊าไง แบร่ๆๆ"

วินเนอร์แลบลิ้นปบิ้นตาใส่ ทำให้ปาล์มหมันเขี้ยวคว้าหมับเข้าที่แก้มยุ้ยๆนั่น

หมับ

"นี่แนะๆๆๆ กล้าแลบลิ้นใส่งั้นหรอ"
ปาล์มแกล้งกลับ

"งื้อออๆๆๆๆๆ เบาๆๆ เจ็บๆๆๆๆ"
วินเนอร์ดิ้นกระแด่วๆอยู่เบาะหน้า ทำให้วิคเตอร์กับปาล์มขำกันไม่หยุด เจ้าเด็กอ้วนนี่มันแสดงเก่ง คงจะจริงอย่างที่อีกคนบอกว่าใครอยู่ด้วยแล้วสนุก

ไม่นานพวกเขา3คนก็ถึงน้ำตก วิคเตอร์หาที่จอดรถ แล้วลงมาช่วยหยิบของส่งให้ทั้ง2คนที่ดีใจจนออกหน้า พอกัน แล้วก็ชอบเถียงกันตลอด

"วินมาเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปสะพาย"
วิคเตอร์ส่งกระเป๋าใบเล็กให้ลูกชาย แล้วยื่นอีกใบให้ปาล์ม

"เอาอันนี้มาด้วย ผมช่วยถือ"
ปาล์มแย่งถุงอาหารที่อยู่ในมือวิคเตอร์มาถือ

"อันนี้วินช่วย"
วินเนอร์ที่เห็นปาล์มทำแบบนั้นเลยทำตาม แย่งเอาถุงขนมในมือป๊ะป๋ามาถือไว้เช่นกัน

วิคเตอร์มองสองคนสลับไปมา ก่อนจะถอนหายใจเบาๆเพราะ สองคนนั้นแข่งกันน่ะสิ จะเอาชนะกันให้ได้ นี่ผมเลี้ยงเด็กสองคนเลยนะ ให้ตายสิ

"ไปๆ เดี๋ยวที่นั่งเต็มนะ"
วิคเตอร์บอกให้สองคนที่ยืนขิงใส่กันอยู่ ให้รีบออกเดิน คนเยอะเดี๋ยวก็หาที่นั่งไม่ได้กันพอดี

หมับ

มือขาวคว้ามือป้อมมาจับ เด็กน้อยมองแล้วยิ้มเขินให้ เขาชอบให้จับมือเพราะป๊ะป๋าของเขาจะจับไว้ตลอดเวลาเขาเดิน แต่ตอนนี้ ป๊ะป๋าของเขาถือของทั้งสองมือเลยจับไม่ได้ มือพี่เขานิ่มแต่แข็งแรง มันอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย อยากให้คอยจับมือเขาไปตลอดเลย เขาชอบ เด็กน้อยคิดในใจ

"ยิ้มอะไร"
ปาล์มว่าให้เด็กแสบแต่ตัวเองก็แอบยิ้ม เด็กน้อยไม่เห็น เพราะมัวแต่ยิ้มเขิน มือเด็กนี่นิ่มชะมัด มันอบอุ่นและรู้สึกว่าอยากปกป้องเขา อยากจับไปตลอด หัวใจมันฟูฟองเต็มอิ่ม แม้ทั้งสองจะเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน รอยยิ้มก็ยังคงแต่งแต้มอยู่ที่ริมฝีปากของพวกเขา

ถาพถ่ายด้านหลัง ที่เขาเดินจับมือกันไป พูดคุย หรือเถียงกัน แต่ก็ยังคงยิ้มให้ มันเป็นภาพที่สวย และมีความหมายมากมาย  คนถ่ายมีความสุขมากที่สุดเมื่อเห็นรอยยิ้มของคนที่เขารัก ใช่ เขาชอบปาล์มมาตั้งนานแล้ว มีแค่ครอบครัวเราที่รู้ แต่ปาล์มไม่รู้ เขาก็ได้แต่คอยดูอยู่ห่างๆ


พอได้ที่นั่ง วิคเตอร์ก็จัดการเทอาหารใส่กล่องพลาสติกที่ซื้อเตรียมไว้ สั่งอาหารเพิ่มาอีก3อย่าง ส่วนสองแสบนั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมที่จะลงเล่นน้ำ

"พี่ๆ วินอยากเล่นน้ำแล้ว"
เสียงใสๆของเด็กตัวกลม มือที่เกาะแขนพี่ชายตัวผอมสูงก็เขย่าแขนพี่ไปมาแบบอ้อนๆคนรอบข้างก็มองด้วยความสนใจ คงจะเป็นคนในเมืองใหญ่แน่ๆแหละ ผิวขาวหน้าตาดีแบบนี้ ตามต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยจะเท่าไหร่

"ก็ไปดิ"

เด็กน้อยยิ้มแฉ่ง รีบดึงมือปาล์มให้เดินไปไวๆ

"เดี๋ยวๆ มากินข้าวก่อนค่อยลงไปเล่น"
วิคเตอร์ที่มองสองแสบมาสักพักก็รีบขัดขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะลงน้ำ

"ไม่อ้าววว วินไม่หิวว"
วินเนอร์งอแง กระโดนเย่วๆ หน้าตาบูดเบี้ยว ปาล์มขำกับท่าทางเอาแต่ใจนั่น

"ไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวจะพาไปเล่น"

"จริงนะ"

"อือ"

วินเนอร์รีบปีนขึ้นไปนั่ง แล้วจัดการกับอาหารตรงหน้า

"เราก็มากินด้วย"
วิคเตอร์บอกปาล์มที่เอาแต่ยืนดูวินเนอร์กิน

"ครับ"

ทั้งสามกินไปคุยกันไป ส่วนมากเจ้าตัวอ้วนจะพูดมากกว่า หาเรื่องอะไรมากมายมาเล่าให้ปาล์มฟัง เหมือนสองคนนี้จะสนิทกันไปโดยปริยาย

จากที่เด็กน้อยเคยพูดเสียงห้วนๆ ตอนนี้กลายเป็นอ้อน จากที่ไม่เคยพูดครับ ก็ลงท้ายด้วยครับทุกประโยค ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ วิคเตอร์ควรอัพเดทลงไลน์กลุ่ม

สองแสบลงไปเล่นน้ำละ วิคเตอร์คอยเก็บภาพ นานๆทีเขาจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ ส่วนมากก็พาลูกเที่ยวได้แค่สนานเด็กเล่นในหมู่บ้าน เดินห้าง ไม่คิดว่าพามาแบบนี้ ลูกของเขาจะสนุกจนลืมเหนื่อย ทริปในครั้งนี้ ต้องขอบคุณพี่สาวคนสวยของเขาแล้ว ที่แนะนำให้มาแบบนี้
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 23-08-2021 11:09:08
ตอนที่11

วีดีโอที่วิคเตอร์อัดไว้ เขาส่งไปให้ทุกคนดูแค่คลิปเดียว และภาพถ่ายอีกบางส่วน

"เหว่ออออออ"

หมับ

"ระวังหน่อยสิ หินมันลื่น"
วิคเตอร์ที่รับอีกคนไว้ทัน ไม่งั้น คงนอนหงายลงไปในน้ำ หัวคงฟาดหินไปแล้วก็ได้

ตามองตา

ตึกตัก ตึกตัก ตึดตัก

หัวใจเต้นรัวปาดตีกลองชุด หน้าแดงลามไปถึงหู

ใช่ มันคือเสียงหัวใจของผมเอง ตกใจหรือตื่นเต้น อันนี้ไม่แน่ใจ แต่มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ผมคิดว่า สายตาที่มองมาเหมือนเป็นห่วงนั่น มันทำให้ผมใจสั่น ใจสั่นกับผช.เนี่ยนะ มันเป็นไปได้หรอ เอออ มันเป็นไปแล้ว

"ขอบคุณครับ"

ปาล์มได้สติ ก็เอ่ยขอบคุณแล้วรีบทรงตัวยืนขึ้น มือหนาปล่อยออก แล้วยิ้มให้ ออร่าทำให้ตาพร่ามั่ว เออ หล่อไปแล้ว คนมองเต็มไปหมดแล้วเนี่ย

"พีี่ เจ็บมั้ยครับ"

เด็กแสบเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง รีบเดินตามมาดูอย่างไว เด็กน้อยก็ตกใจ แต่ก็ดีใจไปด้วยที่ป๊ะป๋ารับไว้ทัน

"พี่ไม่เป็นอะไร ไปเล่นกันต่อมั้ย"

ปาล์มบอกเด็กแสบด้วยเสียงอ่อน เพราะสีหน้าเด็กน้อยนั้น มันทำให้เขาดีใจ เพราะสายตาและท่าทาง น้ำเสียงของเด็ก มันไม่เคยโกหก เด็กนี่ห่วงเขาจริงๆ

"ขึ้นไปพักกันก่อนมั้ย"

วิคเตอร์บอกสองแสบด้วยความเป็น เล่นมาจะ3ชั่วโมงได้แล้ว ดีนะที่มีต้นไม้เยอะ แดดไม่ส่องเท่าไหร่ บรรยากาศดีมากด้วยซ้ำ

"พี่หิวมั้ย"

วินเนอร์ถามพี่ชายของเขาด้วยความเป็นห่วง

"เรานั่นแหละหิวมั้ย"

"วินหิว แฮร่ๆ"

เด็กอ้วนยกมือลูบหัวตัวเองแก้เขิน

"หึหึ ไปกินสิ ป๊ะป๋าเตรียมไว้ให้แล้ว"

"เย่ๆๆๆ"

เด็กอ้วนกระโดดโลดเต้น แล้วคว้ามือพี่ชายของเขาให้ไปพร้อมกัน ปาล์มกับวิคเตอร์มองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้กันแล้วเดินตามแรงจูงของเด็กน้อยไป

หมับ

มือหนาจับมือบาง

"ขอไปด้วยคนนะครับ"

วิคเตอร์พูดแบบอ้อนๆ ปาล์มทำอะไรไม่ถูกนอกจากยิ้มแก้เขินไป แล้วพยักหน้าให้เดินไปพร้อมกัน

หลังจากกินอะไรเรียบร้อย ก็ปล่อยให้ทั้งสองแสบเล่นน้ำกันไปอีกสักพัก

"กลับกันได้แล้ว"

วิคเตอร์ที่เก็บของเสร็จ ก็เรียกสองแสบที่เล่นจนลืมเวลาให้รีบขึ้น

"คร้าบบบบ"
สองแสบขานรับพร้อมกัน ก่อนเจ้าอ้วนจะร้องขึ้นหลังพี่ชายของเขา เป็นลูกลิงรึไงเจ้าหมูอ้วนนิ ปาล์มส่ายหัวให้ลูกลิงตัวกลมที่เกาะอยู่บนหลังเขา

"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"
วิคเตอร์ส่งเสื้อผ้าให้สองแสบ

ไม่นานพวกเขาก็ออกจากน้ำตก ขับรถไปหาที่พักสำหรับคืนนี้

พวกเขาไม่คิดเลยว่า เพียงเวลาแค่สั้นๆ ไม่กี่วัน มันพัฒนาไปมากขนาดนี้เลยหรอ จะทางวิคเตอร์ก็ดีหรือปาล์มก็ดี ไหนจะเจ้าตัวแสบนั่นอีก

ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า พวกเขาก็พร้อมที่เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างรู้อยู่แก่ใจกันอยู่แล้ว ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับใจตัวเอง มันเป็นเรื่องจริง

"พรุ่งนี้ไปไหนกันดี วินเนอร์"
ปาล์มที่นั่งอยู่บนเตียงถามเจ้าหมูอ้วนที่เดินวนไปวนทาอยู่หน้าทีวีพร้อมกับถุงขนมในมือ

"พี่อยากไปไหน"
วินเนอร์พูดพร้อมเดินมาหาพี่ชายของเขา

"ไม่รู้สิ พี่ไม่ค่อยได้มาเที่ยวแบบนี้ วินไปถามป๊ะป๋าสิ"
วินเนอร์พยักหน้า เดินไปหาป๊ะป๋าของเขาก็กำลังเตรียมมือเย็นให้อยู่

"ป๊ะป๋า พรุ่งนี้พาไปเที่ยวไหนครับ"

"เดี๋ยวป๊ะป๋าคิดดูก่อนนะ"

"ครับ"

วินเนอร์พยักหน้าให้พร้อม เดินกลับไปหาพี่ชายของเขาแล้วบอกไปตามที่ป๊ะป๋าบอกเขามา

หลังจากกินข้าวกันเสร็จ วิคเตอร์จัดยาแก้ไข้ให้สองแสบกินหลังกินข้าวเสร็จ

"อี๋....แหยะ"

สีหน้า คำพูด เหมือนกันราวกับแกะ กินยายากเหมือนกันสินะ

"กิน"

เสียงดุจากวิคเตอร์ ทำให้สองแสบเงยหน้ามองทันที วินเนอร์รีบคว้าแก้วยาน้ำของตัวเองมาถือไว้ ปาล์มหันไปมองหน้าเด็กน้อย เด็กน้อยบุ้ยปากไปทางแก้วยาของปาล์มที่มียาอยู่3เม็ด ให้ปาล์มรีบหยิบยามาถือไว้ ไม่งั้นจะโดนป๊ะป๋าทำโทษ

ปาล์มเลิกคิ้วให้เด็กอ้วนด้วยความสงสัย เด็กน้อยไม่ยอมพูด แต่พยักหน้าให้แทน ปาล์มหันหน้าไปมองวิคเตอร์ ก็เจอกับสายตาดุๆที่มองตนก่อนอยู่แล้ว

หมับ

มือบางคว้าแก้วยามาถือไว้ ใครกลัว ไม่มี๊ แค่...แค่..เกรงใจเฉยๆแหละ

"กินเข้าไป"

เสียงพูดนิ่งๆดุๆ ทำให้เด็กแสบทั้งสองที่เอายาเข้าปาก  มือคว้าแก้วน้ำรีบดื่มตามทันที วิคเตอร์กลั้นขำ ทำไมสองคนนี้ถึงเหมือนกันมากขนาดนี้

"อี๋!!!"

หน้าตาเห่ยเกแบบนี้ ยิ่งเหมือนกันเข้าไปใหญ่ เรื่องที่ผมเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ ผมว่าผมคงต้องทำความเข้าใจใหม่แล้วหละ ตั้งแต่ที่ใกล้ชิดกันมาหลายวันนี้ นิสัยปาล์มเหมือนเด็ก แต่ก็เข้าใจอะไรง่าย ไม่ได้ดื้ออะไรมากมายเท่าที่ปอนด์เคยเล่ามาเลยสักนิด หรือนี่จะเป็นนิสัยจริงของเขากันนะ

"เตรียมตัวเข้านอนกันได้แล้ว พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวต่อ"

สองแสบรีบลุกจากเก้าอี้ พากันวิ่งไปที่เตียงทันที

ไม่นานพวกเขาสามคนก็หลับไปเพราะความเหนื่อยล้า
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 23-08-2021 11:39:22
ตอนที่12

"วันนี้เที่ยวได้อีกวัน พรุ่งนี้เตรียมตัวกลับ"
วิคเตอร์บอกสองแสบที่คุยกันงุ้งิ๊ๆอยู่เบาะหน้า ใช่เบาะหน้า เจ้าหมูแสบอ้อนให้พี่ชายของเขามานั่งหน้า แล้วตัวเองก็นั่งตัักพี่เขาตัวเบามากมั้งลูกชาย

"ครับ"

สองแสบขานรับ ก่อนจะสนใจมือถือต่อเพราะ กำลังดูที่เที่ยวต่อน่ะสิครับ ผมไม่รู้จะพาไปไหน เลยขับมาเรื่อยๆ  ให้สองคนนั้นหาที่เที่ยวกันเอง

"ถ้าไม่รู้จะไปไหนก็ไปเรื่อยๆ เจอที่ไหนน่าแวะค่อยแวะ เอาแบบนี้ดีมั้ย"
ผมเสนอ

"ก็ได้ครับ"
สองแสบพยักหน้า แล้วหันมาสนใจทางด้านหน้าแทน

ผมคิดผิดมั้ยที่เสนอออกไปแบบนั้น

แวะตลอดทางงงงงง

"ไปถ่ายรูปกัน"

เป็นเหมือนสถานที่ท้องเที่ยวนะครับ แต่ไม่ค่อยมีคน อาจจะเป็นแค่ที่แวะถ่ายภาพเฉยๆก็ได้

"พี่ครับ รบกวนถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ยครับ"

ผมว่นคนแถวนั้นให้ถ่ายรูปพวกเรา3คน

"ป๊ะป๊า วินหิว"

ลูกชายผมยืนลูบท้องรอแล้ว ส่วนอีกคน เดินดูดชาไข่มุกชิวๆ

"งั้นไปหาไรกินกัน"

ไม่นานทั้งสามคนก็แวะหาไรกินที่ร้านข้าวข้างทาง เปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้เด็กอ้วนไปในตัว เพราะนอดจากที่กินที่บ้าน ห้าง หรือโรงเรียนแล้ว ลูกชายผมก็ไม่เึยได้มานั่งในที่แบบนี้เลย เที่ยวครั้งนี้ ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะพอสมควร

"อร่อย"
วินเนอร์ชม คงจะถูกปากจริงๆ

"กินให้หมด"
ปาล์มบอกวินเนอร์ เขาพยักหน้าแล้วตัวข้าวเข้าปาก

"ปาล์ม"
วิคเตอร์เรียกคนตรงหน้า

"ครับ"
ปาล์มขานรับ

"กลับไปคราวนี้ จะต้องไปดป็นเลขาให้พี่นะ ป๊าบอกรึยัง"

"แล้วเลขาพี่ละครับ"

"ไม่มี"

"ไม่มีหรอครับ แล้วพี่ทำงานคนเดียวหรอ"

"ใช่"

"แล้วผมจะต้องทำยังไง"

"เดี๋ยวกลับไปจะสอนเอง"

"ก็ได้ครับ"

หลังจากกินข้าวกันเสร็จ พวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อ วันนี้กะจะไปให้ถึงกรุงเทพฯ แต่ไม่ทันครับ มืดสะก่อน ก็เล่นแวะกันตลอดนี่ครับ

"ไปอาบน้ำ จะได้เข้านอน"

สองแสบเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมอาบด้วยกัน ไม่รู้ไปคุยกันยังไงถึงได้ลงเอยแบบนี้

"อย่าอาบนาน เดี๋ยวจะได้กินยาอีกนะ"

ขู่สะเลย เล่นกันสะเพลินเชียว

"ม่ายยยยยยยย"

เสียงโหยห่วนของคนนั้นดังอยู่ในห้องน้ำ ก่อนจะเปิดประตูออกมา พันผ้าขนหนูไว้ที่เอวเหมือนกัน แล้วไอ้ผ้าที่ม้วนๆอยู่บนหัวนั่นมันอะไร ผมได้แต่กลั้นขำได้คู่แสบแล้วสินะ

"ทำไมไม่เช็ดตัวให้แห้งก่อนออกมา โดนแอร์จะไม่สบายเอานะ อยากนอนโรงพยาบาลกันหรอ"

ผมถามหลังจากสังเกตหยดน้ำบนตัวของทั้งคู่ อดบ่นไม่ได้สะด้วยสิ ไม่สบายขึ้นมาจริงๆคงเป็นผมนี่แหละจะได้ไปเฝ้าน่ะ

"เย้ยยยยยยย"

แล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ กว่าจะได้นอนในแต่ละวัน ก็แบบนี้ตลอดเลยครับ ผมควรทำใจใช่มั้ย เพราะต่อจากนี้ ผมต้องรับบทเป็นคุณพ่อลูกสองไปตลอดชีวิตแน่ๆ

แค่คิด ชีวิตก็บรรเทิงแล้วครับ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 23-08-2021 16:56:33
ตอนที่13

ตั้งแต่ไปเที่ยวกันคราวก่อน ชีวิตผมก็หาความสงบสุขไม่ได้อีกเลย -_-

"รบกวนด้วยนะปาล์ม"

เสียงพี่วิคเตอร์ดังมาถึงผมที่นั่งอยู่หน้าห้อง จะอะไรสะอีกละ ก็เขาให้ผมไปรับเจ้าอ้วนตัวแสบที่โรงเรียนแทนเขาน่ะสิ

"ครับ"

ผมเก็บเอกสาร ปิดคอมพิวเตอร์เรียบร้อยก็รีบเดินลงไปชั้นล่างด้วยความเร็ว เพราะถ้าไปรับช้า เจ้าอ้วนก็จะงอน เดี๋ยวนี้งอนเก่ง ผมก็ดันยอมตามใจอีก ไม่รู้ไปโดนเด็กอ้วนนั่นตกเอาตอนไหน

"ขับรถดีๆนะ ประชุมเสร็จเดี๋ยวพี่ลงไปรอข้างล่าง"

"ครับ"

ผมตอบไลน์พี่วิคเตอร์กลับไป หลังจากที่ไปเที่ยว ผมเรียนรู้อะไรมากมายหลายอย่างจากสองพ่อลูกนั่นเยอะเหมือนกัน จากการเอาใจใส่ของเขา มันเสมอต้นเสมอปลายดี ไม่ใช่แค่กับลูกชายของเขาแต่รวมไปถึงตัวผมด้วย

จากที่ผมไม่เคยใส่ใจใครนอกจากครอบครัว ผมกลับเริ่มใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น สิ่งไหนที่ไม่เคยทำผมก็เริ่มทำ สิ่งไหนที่ไม่เคยได้รู้ผมก็ได้รู้จากเขา เขาสอนงานผมได้ดี ผมเข้าใจง่าย เขาพยายามไม่ยัดเยียดเนื้อหาหรือความรับผิดชอบงานมากเกินไป ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อันนี้ผมโอเค

"ทำไมมาช้าครับ"
เสียงใสๆดังขึ้นเมื่อผมเปิดประตูยังไม่ทันจะสุดแขนเลยด้วยซ้ำ

"รถติด"
ผมตอบ

"โม้ป่าว"
เจ้าอ้วนยังทำหน้าอ้อนบาทาได้ดี กอดอก หันหน้าหนี งอนครับแบบนี้

"ไม่ได้โม้ ขึ้นรถได้ยัง ร้อนนะ"
ผมแหย่ เพราะชอบให้เด็กนี่งอแง มันน่ารักดี

"วินเนอร์ๆ"
ยังไม่ทันจะได้ขึ้นรถ เสียงเด็กน้อยน่ารักที่เรียกเจ้าอ้วนเจือยแจ้วไปทั่วพื้นที่ เจ้าอ้วนหันไปมอง ก่อนจะรีบวิ่งมาเกาะขาผมไว้แน่น

"มาทำไม ไปไกลเลยนะ"
เด็กอ้วนตะเบงเสียงใส่เด็กคนนั้น

"เรามาจุ๊ปลานายก่อนไง นายชอบหนีเรา"
เด็กผช.ตัวน้อยยิ้มแฉ่งให้เพื่อนตัวดลม ผมก้มลงมองเด็กอ้วนที่เกาะขาอยู่แล้วขำ

"ไม่ต้องเลยนะ นายจะทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ชอบ"
เด็กอ้วนตอบเสียงแข็ง เด็กน้อยน่ารักตรงหน้าไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย เขาเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม เจ้าอ้วนก็กอดรัดขาเขาแน่นกว่าเดิมเช่นกัน

"แต่เราชอบ...จุ๊ฟ กลับบ้านดีๆนะ พรุ่งนี้เจอกัน บ้ายบาย ผมไปก่อนนะครับหม่ามี๊ของวินเนอร์"

เด็กน้อยน่ารักจุ๊ฟเข้าที่แก้มเจ้าอ้วนด้วยความเร็ยว แล้วยิ้มแฉ่งให้ผมอีกที มือน้อยยกขึ้นโบกไปมาตรงหน้า แต่นั่นยังไม่เท่ากับที่เด็กนั่นเรียกผมว่าหม่ามี๊ของเจ้าอ้วนเลย

หม่ามี๊?

วอท?

ส่วนเจ้าอ้วนที่หน้าเหว่อข้างๆก็ยังไม่ได้สติ ผมดึงแขนเขาออก แช้วนั่งยองๆลงตรงหน้าเด็กอ้วนที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศสะแล้ว คงจะโดนเด็กนั่นแกล้งแบบนี้ทุกวันเลยสินะ

"ขึ้นรถได้แล้ว ป๊ะป๋ารออยู่นะ"
ผมจะดุก็ดุไม่ได้ รู้สึกสงสารไปอีก แต่ที่มาเรียกเขาว่าหม่ามี๊นี่มันยังไง เรื่องนี้ต้องได้คำตอบ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 23-08-2021 17:23:58
ตอนที่14

ตอนนี้สองพ่อลูกมาส่งผมที่บ้าน ก่อนจะเสนอหน้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร เด็กอ้วนไม่ยอมกลับ บอกอยากกินกับข้าวฝีมือคุณยาย? เด็กนี่มันอยู่เป็นครับ อ้อนไปทั่ว มีแต่คนเอ็นดู ขนาดลุงพลที่ทำส่วนอยู่หน้าบ้านยังโดนป่วนไปด้วย เสียงเจือนแจ้วที่ดังไม่ขาดสายปนกับเสียงหัวเราะชอบใจของคนที่อยู่ในบ้านและนอกบ้าน ดังไปทั่วบ้านหลังใหญ่

"เป็นยังไงกันมั่งละอาตี๋ วุ่นวายดีมั้ย"
ม๊าผมถาม หลังจากที่เตรียมอาหารให้เจ้าเด็กอ้วนเสร็จ แม่บ้านจัดโต๊ะไว้รอเจ้าเด็กอ้วนแล้ว

"วุ่นวายมากม๊า"
ผมตอบยิ้มๆ

"ถ้าลูกมีความสุข ม๊าก็ดีใจแล้ว"
ม๊ายกมือวางบนหัวผม ผมเห็นม๊ายิ้มแบบนี้ ผมก็คิดว่าผมมีความสุขเหมือนกัน รอยยิ้มที่ผมไม่ค่อยได้เห็นในรอบหลายปีเพราะผมไปอยู่ต่างเมืองสะนาน นานๆจะได้กลับมา กลับมาก็อยู่แค่แปปเดียว

"แค่ครอบครัวตี๋มีความสุข ตี๋ก็โอเคแล้วม๊า"

"ไม่ใช่แค่ครอบครัวสิจ๊ะ ลูกของม๊าก็มีความสุขไปด้วย"

"ครับ"

ผมกอดม๊าแน่น ผมก็สัญญาว่าผมจะทำให้ตัวเองมีความสุขเหมือนที่ครอบครัวเราหวังไว้ สิ่งไหนที่ไม่ใช่ความสุข ผมจะไม่ใส่ใจ

"คุณยายยยยยยย วินเนอร์มาแล้ววววว"
เสียงใสดังมาก่อนจะเห็นตัวสะอีก พี่วิคเตอร์เดินตามหลังลูกชายเขาเข้ามา

"มาแล้วหรอหลานยาย ล้างมือรึยังเอ่ย"
ม๊าผมขานรับหลายนตัวแสบ

"ล้างแล้วครับ"

วินเนอร์ตัวอ้วนยกมือขึ้นสองข้างให้ม๊าผมดู

"งั้นไปนั่งเลย"
ม๊าจูงมือเด็กอ้วนไปที่โต๊ะอาหาร ตามด้วยผมกับพี่วิคเตอร์ ส่วนป๊าน่ะหรอ มีนัดกับเพื่อนเขาน่ะครับ น่าจะไปตีกอล์ฟ ค่ำๆถึงจะกลับ


ทานเสร็จก็นั่งคุยกันต่อครับ วินเนอร์อยากเล่นกับลุงพล อยากช่วยทำสวน -_- วุ่นวายสะมากกว่า ฟ้าเริ่มมืด พี่วิคเตอร์เลยออกไปตามลูกชายเขา กลัวยุงกัด

"ม๊าครับ เดี๋ยวผมต้องของตัวกลับก่อนนะครับ"
พี่วิคเตอร์ที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมวินเนอร์ ก็เฝบอกกับม๊า

"ได้จ๊ะ นี่ก็เริ่มมืดแล้ว ขับรถกันดีๆนะตาวิค"

"ครับม๊า"

ผมลุกเดินตามสองพ่อลูกออกจากบ้าน มาส่งที่รถ

"ขับรถดีๆนะครับ"
ผมบอก

"ครับ ... พรุ่งนี้พี่มารับ ไปพร้อมกันนะ"

"ก็ได้ครับ"

"งั้นไปละนะ ถึงแล้วพี่จะโทรหา"

"ครับ"

ไปกันแล้วหละครับ เงียบหูไปสิ ตัวเสียงไม่อยู่ เหงาเลยสิแบบนี้

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ในชีวิตผมมีเขาสองคนคอยวนอยู่รอบตัวแบบนี้ สัญญาของผมที่ขอม๊าไว้1ปี ทำไมมันฟังกูช้าจัง ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือนเอง พวกเขายังทำให้ผมรู้สึกดีขนาดนี้ ทำไมสองพ่อลูกนั่นถึงร้ายกาจขนาดนี้นะ หึหึ
 
ร้ายกาจถึงขั้นทำให้ผมยอมเปิดใจได้ถึงขนาดนี้ จากที่เคยคิด ว่าจะไม่มีใคร จากที่เคยคิดว่าจะอยู่ดูแลแค่ครอบครัวของตัวเอง จากที่เคยคิดว่า ชาตินี้คนแบบผมจะไม่มีความรัก แต่ทำไมสองพ่อลูกนั่น ถึงทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไปเกมือนเป็นคนละคนแบบนี้ละ ตอนนี้ผมอยากดูแลพวกเขา อยากมีพวกเขาไปในทุกๆวัน อยาดช่วยเขาทำงาน อยากไปรับส่งเด็กอ้วนที่โรงเรียนทุกวัน

ความรู้สึกอยากดูแลนี้ มันเรียกว่าความรักได้รึยังนะ

หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 23-08-2021 21:48:18
ออกแนวหลงเด็กอ้วนกันไปทั้งครอบครัว
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 24-08-2021 09:22:51
ตอนที่15

"เป็นยังไงมั่งว่ะช่วงนี้ ไปถึงไหนแล้ว"
ผมยังไม่ทันได้นั่ง ปอนด์มันก็เอ่ยถามทันที มันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่เพราะมันแยกบ้านไปแล้ว ปลายฟ้าก็แยกเหมือนกัน เหลือแค่ปาล์มคนเดียวที่อยู่กับป๊าม๊า ถ้าจะรู้ก็รู้แค่เรื่องในไลน์กลุ่มนึ่แหละครับ

"มึงคิดว่ายังไงละ"
ผมตอบกวนๆ

"หน้าอย่างมึงเนี่ย นกชัวร์ๆ ไม่เคยจีบสาว ส่วนมากมีแต่คนเข้าหา เพราะงั้นกูว่ามึงน่าจะจีบอาตี๋ของกูไม่สำเร็จหรอก"

ดูมันว่าผม

"ดูถูกกูเกินไปละไอ้ปอนด์ ระดับกูแล้ว หึหึ"

ผมยักคิ้วให้มัน มันตาเหลือกทันที

"จริงอะ นี่มึงกินอาตี๋ของกูไปแล้วหรอ ไอ้เพื่อนชั่ว"

โวยวายเก่ง ตื่นตูมเก่งและคิดไปเองเก่งก็มีแต่มันนี่แหละ ไอ้มาดเท่ห์ๆขรึมๆนี่หายไปหมดละ ท่านประธาน

"ยังโว้ย มึงนี่คิดไปไกล"

"แล้วมันยังไง ก็มึงพูดกำกวมนี่หว่า"

"ก็ไม่ยังไง แค่น้องมึงยอมมาเป็นเลขาให้โดยที่คัดค้าน แค่น้องมึงยอมไปไหนมาไหนด้วยแล้วก็เหมือนจะไปได้ดีกับวินเนอร์ สำหรับตอนนี้มันก็ดีเกินพอแล้วว่ะ"

ผมนึกถึงสองคนนั้นที่อยู่ด้วยกันก็อดยิ้มไม่ได้ แรกๆก็เถียงกัน ไม่มีใครยอมใคร ผ่านไปสักพัก อ้อนกันมั่ง แกล้งกันมั่ง อีกฝ่ายขยันอ้อน อีกฝ่ายขยันตามใจ

"จริงหรอว่ะ กูนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาตี๋ของกูจะรักเด็กได้ ปกตินิสัยไม่เอาใครของมันนี่ออกนอกหน้าเลยนะเว่ย แสดงว่าถูกชะตากับเจ้าแสบจริงๆ"

มันพูดแล้วก็ทำท่าทางครุ่นคิด คงคิดไม่ถึงละสิ ว่าน้องตัวเองจะมีมุมแบบนั้นได้ บางทีเขาแค่อาจจะปิดกลั้นตัวเองจากคนภายนอกก็ได้ อย่างเช่น เข้าหาเพราะหน้าตา เข้าหาเพราะเงินทอง ไม่ได้จริงใจด้วยสักนิดเขาเลยเลือกที่ปฎิบัติกับคนภายนอกแบบนั้น

"จริง ไม่เชื่อถามป๊ากับม๊ามึงดูได้เลย"

"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี กูอยากให้น้องกูเจอคนที่ดี จริงใจกับมัน กูไม่ค่อยได้อยู่พูดคุยกับน้องเท่าไหร่ ส่วนมากก็ทำแต่งาน แล้วมันก็เอาแต่เรียน พอจบก็ไปเมืองนอกเลย เจอกันก็แค่แปปๆ"

มันบ่น สีหน้ารู้สึกผิดของมัน ผมเข้าใจ ตอนพวกเราเรียนก็เอาแต่เรียน บ้านช่องไม่ค่อยได้กลับ พอจบก็ไปต่อเมืองนอกเหมือนกัน จบมามันก็ต้องแต่งงาน เพื่อธุระกิจ แต่สุดท้ายครอบครัวมันก็สมบูรณ์แบบทุกอย่าง มันเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เป็นลูกที่ดี แต่มันมักจะบ่นกับผมตลอด ว่าเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่อง สุดท้ายกลัวน้องไม่รัก อ่อนจริงๆ

"กูก็รักของกูมานานแล้วมั้ยละ ไม่งั้นกูจะรอเขานานขนาดนี้หรอ เพื่อนมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว ส่วนกูนี่จะแก่ตายคาคานแล้วนะเพื่อน ปีนี้ก็29แล้วนะเว่ย กูทนของกูมาได้ยังไงว่ะ งงกับตัวเองเหมือนกัน"

ผมก็บ่นกับแม่งเลย ผ่านผู้หญิงมาก็เยอะ แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะรักใครเลย ผมชอบน้องมันมาหลายปีแล้วนะครับ แต่ที่ไม่จีบ ไม่อะไรเลยนี่ก็เพราะอยากให้น้องเขาเรียนให้จบก่อน เพราะความตั้งใจของเขามันก็สำคัญกับเขาจริงๆนึ่หน่า ผมไม่อยากตัดความฝันของเขา ดีสะอีกเพราะแบบนี้ผมพร้อมสนับสนุนเขาเต็มที่ ไม่ว่าเขาจะอยากทำอะไรก็ตาม
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 24-08-2021 09:30:33
"เหอะ ทำมาเป็นคนดี มัวแต่ลีลา หมาคาบไปแดกละกูจะสมน้ำหน้าให้"

ดูปากมันสิ น่าตบจริงๆ

"กล้าก็ลองดูดิ กูตามเก็บหมดแหละ จะผู้หญิงหรือผู้ชายกูไม่สน"

ผมพูดจริง เพราะยังๆภายใน1ปีนี้ น้องเขาต้องยอมแต่งงานกับผมแน่ๆ ผมเอาหัวไอ้ปอนด์เป็นประกันเลย

"แหม่ๆพ่อคนคลั่งรัก หวงขนาดนี้ ไม่เอาไปขังไว้เลยละครับ"

"ได้หรอว่ะ"

"กวนตีน คนเขามีพ่อมีแม่ หรือมึงอยากให้น้องกูเกลียดมึง จะลองก็ได้นะ รับลอง มึงได้คลั่งสมใจอยากแน่ๆ กูไปละ"

มันว่าจบก็เดินออกจากห้องทำงานผมไป วันนี้ผมมาไว้กว่าปกติ เพราะมีเรื่องต้องสะสางก่อนที่จะวนรถกลับไปรับลูกชายแล้วคู่หมั้นอีกที

"ป๊ะป๋า วินอยากให้หม่ามี๊ไปส่ง"

เดี๋ยวนี้ทำไมลูกชายผมเอาแต่เรียกปาล์มว่าหม่ามี๊ๆ ผมไม่ได้บอกให้เขาเรียกนะครับ เขาเรียกของเขาเอง

"ใครสอนให้วินเรียกพี่ปาล์มว่าหม่ามี๊"
ผมถามขณะเลี้ยวรถเข้าซอยบ้านหลังใหญ่

"ไม่มี วินอยากเรียกเอง วินชอบ"

พูดไปยิ้มไปแบบนี้ คงจะชอบจริงๆนั่นแหละ

"แล้วพี่เขาไม่ดุเรารึไง ไปเรียกแบบนั้น"

ผมนึกถึงหน้าอีกคนที่บึ้งๆ น่ารักดี ผมก็ชอบนะ หม่ามี๊งั้นหรอ น่ารักดี

"ไม่ๆ วินลองเรียกหลายครั้งแล้ว หม่ามี๊ไม่เห็นว่าอะไรเลย"

"จริงหรอ"

"จริงสิครับ เดี๋ยววินเรียกให้ป๊ะป๋าดูเลย"

ผมพยักหน้าให้เจ้าตัวแสบ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในบ้านหลังใหญ่

ปาล์มเดินออกมา พร้อมถุงกับข้าวถุงใหญ่ คงเป็นม๊าที่เตรียมไว้ให้แหละครับ บ้านนี้อบอุ่นตลอด

วินเนอร์เปิดประตูให้ปาล์มเข้ามานั่ง ตัวเองที่ยืนเกาะคอนโทรลรถอยู่ก็ฮึบพุงน้อยไว้ กลัวพี่เขาจะเข้ามานั่งไม่ได้

"ขอบคุณครับ"

ปาล์มแกล้งแหย่หมูอ้วนของเขา พูดเพราะแบบนี้ หมูอ้วนจะชอบเขิน

"งุ้ย หม่ามี๊พูดแบบนี้ทำไมครับ วินเขิน"

"รู้จักเขินเป็นด้วยหรอ ตัวแค่นี้เองนะ"

"พอๆ เลิกแกล้งกันเลย จะกินข้าวบนรถหรือไปสวนสาธารณะ"

ไม่งั้นไม่ได้ไปหรอกครับถ้าเป็นแบบนี้

"ไปกินที่โรงเรียนครับ"

"ได้เลย"

หลังจากออกรถ ผมก็ถามปาล์ม

"วินเนอร์เรียกหม่ามี๊ ไม่โกรธเขาหรอ"

"ไม่โกรธหรอกครับ ตอนแรกที่ได้ยินคือตกใจมากกว่า แล้วแต่เขาเลยว่าอยากจะเรียกอะไร"

เขาตอบแล้วยิ้มให้ผม แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว

"เพื่อนบอกว่าวินไม่มีหม่ามี๊เหมือนพวกเขา ทุกๆครั้งที่มาโรงเรียนเพื่อนจะมีป๊ะป๋ากับหม่ามี๊มาส่ง"

เด็กน้อยพูดให้ฟัง น้ำตาคลอด้วย

หมับ

ฟอดดด

"สนใจพวกเขาทำไม วินเนอร์ก็มีหม่ามี๊แล้วนี่ไงครับ พี่จะเป็นหม่ามี๊ให้เอง โอเคมั้ย"

ปาล์มที่หอมแก้มหมูแสบดังฟอด ก็พูดประโยคที่กระแทกใจผมออกมา ผมไม่เคยรู้เลยว่าวินเนอร์จะคิดแบบนี้ เขาเก็บความรู้สึกได้ตั้งแต่เด็กเลยหรอ แล้วทุกๆครั้งที่ผมมาส่งเขา ผมก็ไม่เคยสังเกตุสีหน้าหรือท่าทางของลูกเลย ลูกเองก็ไม่เคยพูดออกมาสักครั้ง ถามถึงแม่ก็ไม่เคย

หมับ

"หม่ามี๊...จะเป็นหม่ามี๊ของวินตลอดไปมั้ยครับ...ฮึก...หม่ามี๊จะมาส่งวินทุกวันใช่มั้ยครับ...ฮึก ฮึก "

ลูกชายผมหันมากอดปาล์ม หน้ามุดอยู่ที่หน้าอก ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เด็ก3-4ขวบไม่น่าจะคิดได้ขนาดนี้

"ไม่ร้องนะเด็กดี หม่ามี๊สัญญา ว่าจะมาส่งลูกชายของหม่ามี๊ทุกวันเลย"

มือบางลูบหัวเด็กน้อย นิ้วเรียวยาวเช็ดน้ำตาที่ไหล่อาบแก้ม พูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"สัญญา...ฮึก ฮึก...นะครับ"

เด็กน้อยยกนิ้วก้อยป้อมๆขึ้นมาตรงหน้าอีกฝ่าย อีกฝ่ายยิ้มให้แล้วเกี่ยวก้อยกัน

ผมทำหน้าที่พลาดไปหรอ ให้ความอบอุ่นกับเขาไม่พอหรอ ผมคงต้องทำอะไรเพื่อเขามากกว่านี้ใช่มั้ย

"เด็กดีของป๊ะป๋า เลิกร้องได้แล้วนะ ลงไปกินข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวโรงเรียนจะขึ้นแล้ว"

"ครับ"

สองแสบขานรับ ก่อนจะพากันลงไปหาที่นั่งกินข้าว

ผมมองถามสองแสบไป ผมหวังว่าสิ่งที่ผม สิ่งที่ผมได้ตัดสินใจไปแล้ว สิ่งที่ผมรอคอยเพื่อครอบครัวของเรา จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับเรา ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าพวกเราจะเจออะไรที่หนักหนาเกินตัว ผมจะปกป้องพวกเขาให้ดีที่สุด ผมจะไม่ยอมให้พวกเขาต้องเสียใจ

"ผมสัญญา ว่าจะจะดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนนึงจะทำได้ ผมจะทำให้ทุกคนเห็นเอง"

วิคเตอร์ตามสองแสบที่รอกินข้าวอยู่ที่โต๊ะหน้าโรงเรียน วินเนอร์ยิ้มกว้างมากกว่าที่เคยยิ้มมา ผมนั่งมองสองแสบผลัดกันป้อนข้าว เหมือนโลกนี้มีเขาแค่สองคน

สามคนเดินจับมือกันไปที่ประตูหน้าโรงเรียน วันนี้วินเนอร์ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จนคุณครูอดแซวไม่ได้

"วันนี้น้องวินเนอร์อารมณ์ดีจังเลยนะคะ มีข่าวดีรึป่าวเอ่ย"
คุณครูคนสวยเอ่ยแซว

"มีครับครูมีน วันนี้วินเนอร์ดีใจมาก แต่ไม่บอกครูมีนหรอก ความลับครับ คริๆ"
เด็กแสบก็แบบนี้แหละครับ

"555 ตายจริง โตขึ้นแล้วสินะเนี่ย ถึงมีความลับกับครูได้"

คุณครูเอ็นดูวินเนอร์มากเพราะเด็กคนนี้อารมณ์ดี พูดเพราะ เรียนก็เก่ง แต่ก็แก่น ไม่ยอมใครด้วยเช่นกัน

"ฮี่ๆ"

หลังจากส่งเด็กแสบเข้าเรียน เขาสองคนก็ไปบริษัทต่อ

"วันนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันมั้ย"

วิคเตอร์ถาม

"พี่อยากไปไหนก็ไปครับ ผมไปได้อยู่แล้ว"

"งั้นเคลียร์งานรอเลย"

"ครับ"

3เดือนต่อมา

ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มคืบหน้าไปไกล นี่ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว พวกเขาเริ่มสนิทกันมากขึ้น จากที่เคยเรียกพี่ก็เรียกเฮียเหมือนเรียกพี่ชายตัวเอง จากที่เคยเรียกแค่ชื่อ ตอนนี้อีกฝ่ายก็ยอมให้เรียก อาตี๋หรือตี๋ เพราะชื่อนี้จะเรียกได้แค่คนในครอบครัวและก็เพื่อนสนิทนั้น
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-08-2021 18:40:05
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 25-08-2021 21:55:27
อีก1-2วันมาต่อให้อีกนะคะ ตากฝนจนไม่สบาย ไม่มีแรงพิมพ์เลย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 25-08-2021 22:29:03
หายป่วยไวไวนะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-08-2021 14:09:12
ตามมม
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-08-2021 15:38:23
ตามมม
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 27-08-2021 23:36:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 27-08-2021 23:57:14
รอนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ หายป่วยไวๆครับ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 28-08-2021 23:13:02
ตอนที่16

ไม่มีใครทำอะไรถูกใจใครไปซะทุกอย่างหรอกจริงมั้ย  ไม่ว่าเราจะทำดีหรือไม่ดี มันก็ต้องมีคนชอบและไม่ชอบอยู่ดี

มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด

"แกรู้เรื่องนี้ยัง ใหม่ล่าสุดเว่ย"
สาวสวยเบอร์1ที่ทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัทแห่งนี้มาเกือบ2ปี เธอกำลังยืนคุยกับเพื่อนคนใหม่ของเธอที่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่1เดือน

"ข่าวอะไรหรอพี่"
สาวเบอร์2ถามกลับ

"แกนี่ตกข่าวจริงๆ ก็จะเรื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องคุณวิคเตอร์น่ะ"
เธอพูดไปเขินไป

ผู้ชายในฝันของผญ.ทั่วไป คงไม่พ้น หล่อ รวย เก่ง และอบอุ่น

วิคเตอร์ ชายหนุ่มลูกลูกครึ่งไทย-เมกัน (แม่ไทย พ่อ เมกัน-จีน) หล่อ รวย เพอร์เฟคไปสะทุกอย่าง ที่สำคัญ เขาโสด อายุก็ไม่น้อย แต่ครองโสดมานานขนาดนี้ สาวๆก็พอมีหวังกันบ้าง

แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าววงในที่มาจากพวกตำแหน่งสูงๆเล่าต่อๆกันมา

เรื่องการหมั้นหมายของลูกชายคนเล็กเจ้าของบริษัทกับลูกชายคนเล็กของหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท

"แล้วหนูจะรู้มั้ยละพี่ รีบๆพูดมาสิ อยากรู้แล้วเนี่ย"
สาวเบอร์2เร่ง

"ข้างบนเขาพูดต่อๆกันมา ว่าคุณชายเล็กกับคุณวิคเตอร์เป็นคู่หมั้นกัน"
เธอสองคนซุบซิบๆ งานการไม่ทงไม่ทำมันละ นินทาชาวบ้านเป็นงานอดิเรก

"ห้ะ ผู้ชายกับผู้ชายเนี่ยนะ บรึ้ยยยย"
สาวเบอร์เบ้ปาก ทำท่าทำทางขนรุกขนชัน ลูบแขนตัวเองที่เบาๆไปด้วย ทำท่ารังเกลียดจนออกหน้า

"จิ้ เบาๆสิยะ จะฟังต่อมั้ย"
สาวเบอร์1ดุรุ่นน้องที่ทำท่าทางเกินจริง

"ฟังๆ"

"แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน เขาก็จัดพิธีหมั้นกันแล้วด้วย จัดแค่สองครอบครัว รู้เห็นเป็นพยานดันแค่นั้น"

"แล้วจะแต่งกันมั้ยพี่"สาวเบอร์2ถามต่อ

"เขาว่าน่าจะแต่งปีหน้านะ เพราะอะไรก็ไม่รู้ เขาไม่ได้บอก"
สาวเบอร์2เธอเอามือป้องปากแล้วพูดไป สายตาก็สอดส่องมองตามทาเดิน เผื่อมีคนมาได้ยินเข้า ไม่วายได้หางานใหม่แน่ๆ ที่นี่ดีจะตาย งานสบาย เงินเดือนเยอะ กว่าพวกเธอจะเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้ ต้องพยายามกันมากมายแค่ไหนที่จะแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้ดีที่สุด ให้เหมาะกับตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย

แต่เรื่องชาวบ้าน พวกเธอก็ไม่แพ้เหมือนกัน -_- เผลอๆจะทำดีกว่าเรื่องงานด้วยซ้ำ

"เสียดายนะพี่ หล่อรวยทั้งคู่แบบนี้ มาจับคู่กันเอง แล้วสาวๆแบบเราจะเหลือที่ให้ยืนแบบสวยๆเชิดๆมั้ยพี่"
สาวเบอร์2ว่า ก่อนทั้งสองคนจะหันมาหัวเราะคิกคักให้กัน

ขาเรียวยาวชะงักกึก หยุดยืนฟังบทสนทนาของสองสาวนั้นอย่างเงียบๆ ไม่ยอมขยับไปไหน ความรู้สึกมากมายที่ไหนเวียนไปมาอยู่ในหัวตอนนี้ มันทำให้เขาสับสน คิดมากหรือฟุ้งซ่านไปแล้ว

เขาควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องที่ได้ยินเมื่อกี้ เขาควรจะคิดมากหรือเปล่ากับเรื่องพวกนี้ เขาควรจะปกป้องหัวใจตัวเองยังไงดี ความคิดของเขาตอนนี้ คือเขาไม่รู้จะรับมือกับปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี เขาไม่เคยมีแฟน ไม่เคยรู้สึกรัก แต่พอมีโอกาสที่จะได้รัก เขากลับรู้สึกกลัว กลัวความคิดของตัวเอง กลัวความคิดของสังคม กลัวคำพูดของคนอื่น

เขาควรจะทำยังไง จะไปต่อ หรือจะทำให้มันจบลงเพียงแค่นี้พอ

มันดีกับทุกคนรึเปล่า มันดีกับตัวเขาด้วยรึเปล่า มันจะดีกับอีกฝ่ายมั้ย แล้วอีกถ้าอีกฝ่ายมาได้ยินแบบนี้ เขาจะมีท่าทียังไง จะคิดมากและกังวนเหมือนเขาในตอนนี้มั้ย

ไม่รู้ว่าสองสาวพูดต่อไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เขากลับมีเพียงไม่กี่ประโยคที่วนเวียนไปมาอยู่ตอนนี้

เรื่องที่ไม่ควรจะเก็บมาใส่ใจ แต่ตอนนี้เขาพูดคำนั้นอีกไม่ได้แล้วว่าจะไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้

เรื่องความรัก ... ถ้าห้ามไม่ให้รู้สึกได้...ทุกคนจะยอมรับได้มั้ย...จะยอมรับความเสียใจเพื่อแลกกับความสุขหรือป่าว....สำหรับตัวเขาแล้วถ้าลองได้รัก...

ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ เขาก็พร้อมจะที่ตะยอมรับทุกเรื่องที่เข้ามา ขอแค่อีกคนไม่ปล่อยมือ

หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 28-08-2021 23:29:33
มาแล้วจ้า จะหายป่วยไม่ได้เลย ฝนตกทุกวันและทั้งวันด้วย หญิงแกร่งอย่างเรา ทนได้เท่าที่ทน ทนไม่ได้ก็ไปนอนรพ.สักคืนสองคืนก็คงจะดี
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 28-08-2021 23:30:56
ถ้าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาละไข้ลด จะต่อให้หลายๆตอนไปเลยยยยย

หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 29-08-2021 23:06:40
ตอนที่17

ความคิด...มันก็คือความคิด ต่อให้ความคิดดีแค่ไหน ถ้าทำไม่ได้อย่างที่คิด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร

"ตี๋?"
เสียงนุ่มทุ่มเอ่ยเรียกคนข้างๆ

"......."
เงียบ เหม่อลอย

"อาตี๋!!!"
ขึ้นเสียงเล็กน้อย

"ห้ะ...ครับ"
คนถูกเรียก สะดุ้งพร้อมขานรับหน้างงๆ อยู่ใกล้แค่นี้ทำไมต้องตะโกน เขาคิดในใจ

"เฮียเรียกหลายรอบแล้ว เหม่ออะไรอยู่หืม"
ร่างหนาไม่ได้มีท่าทีโกรธหรือพูดน้ำเสียงแข็งๆ แต่กลับมอบรอยยิ้มจางๆมาแทน

"ไม่มีอะไรหรอกครับ ตี๋ก็คิดอะไรไปเรื่อย"
ร่างบางรู้สึกเขินอายนิดหน่อย ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่เดือน รอยยิ้มนี้ น้ำเสียงอบอุ่นที่เริ่มคุ้ยเคย ก็ยังไม่ทำให้เขาชินสักที

"มีอะไรปรึกษาได้ตลอดนะ เฮียเห็นเราเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว"
มือหนาวางลงที่ศรีษะของอีกคน โยกไปมาเบาๆ ไออุ่นที่ส่งผ่านฝ่ามือหนา มันทำให้สมองเขาโล่งอย่างน่าประหลาด เหมือนก่อนหน้านี้เขาไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ

ฟุบ

ร่างบางฟุบหัวลงเบาๆที่ไหล่ของอีกคน คนที่ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นง่ายๆแบบเขา แต่กลับยอมให้อีกคนได้รู้ ว่าจริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้เข้มแข็งไปสะทุกอย่างอย่างที่แสดงออกมา เปลือกตาสีขาวนวลปิดลงอย่างเหนื่อยล้า ร่างหนานั่งนิ่ง ไม่ถามต่อเพราะรู้อยู่แล้ว ว่าอีกคนมีเรื่องไม่สบายใจแน่นอน เขาคงทำได้แค่รอ รอให้อีกคนเปิดปากบอกเขาเอง แต่ถ้าให้รอนานไปมากกว่า เขาคงทำไม่ได้

"ขึ้นไปนอนพักสักหน่อยมั้ย"
วิคเตอร์ไล่ระดับสายตา จากผมหนาสีดำสนิทไล่ลงมาเรื่อยๆ เขามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา น้อยครั้งนักที่เขาจะได้มองอีกคนใกล้ๆแบบนี้ อย่างที่เคยอยากมอง ส่วนมากจะแค่มองเวลาคุยกัน ไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้

"ไม่ครับ แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว"
ปาล์มพูดทั้งที่ยังหลับตา มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ ทำให้อีกคนยิ้มตาม ส่วนมากร่างบางจะไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ นอกจากครอบครัวเขา ครอบครัวผม เพื่อนสนิทของเขาก็เท่านั้น

"ไม่เมื่อยรึไง"
น่าเอ็นดูจริงๆ แบบนี้เขาเรียกว่าอ้อนรึป่าวนะ

"ไม่ครับ ตี๋ขออยู่แบบนี้สักพักนะเฮีย"
ร่างหนาไม่ตอบ แต่กลับนั่งมองหน้าอีกคน มองเพลินดี เขาชอบ มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ

20นาทีผ่านไป

น้องไม่เมื่อย แต่พี่เมื่อยนะ นี่คือความคิดของเขาในตอนนี้

"ตี๋ นอนดีๆมั้ย เมื่อยคอแย่เลยนะแบบนี้"
น้องไม่ตอบ ผมเลยประคองหัวน้องให้ลงมานอนที่ตักแทน จัดท่าทางให้เข้าที่ น้องแค่ขยับตัวเล็กน้อย แล้วก็นิ่งไป

"อดนอนมาหลายวันเลยสินะ"
วิคเตอร์พึมพำกับตัวเอง นิ้วเรียวเกี่ยผมที่บังหน้าอีกคนออก ปัดให้มาอยู่ข้างๆแทนเพราะมันน่าจะทำให้อีกคนรำคาญอยู่เหมือนกัน ดูจากคิ้วที่ขมวดนั่นสิ มือที่ปัดป่ายไปมาเบาๆ เหมือนลูกชายเขาไม่มีผิด

"ตาวิค วันนี้อยากทาน...."
เสียงคุณนายของบ้านดังมาจากหน้าประตูห้องรับแขก เพิ่งกลับมาจากนัดเจอกับเพื่อนๆของท่านนั่นแหละ ประชุมสมาคมอะไรสักอย่างเขาก็จำไม่ได้

"ชู่วว น้องหลับครับ"
นิ้วเรียวแตะที่ปากตัวเองเป็นสัญญานให้คุณแม่ของเขาเข้าใจ

"น้องเป็นอะไรรึป่าวลูก ไม่สบายหรอ"
คุณนายเดินเข้ามาใกล้ แล้วมองร่างบางที่นอนหนุนตักลูกชายตัวเองด้วยความเอ็นดู เขาถูกชะตากับเด็กคนนี้แม้จะไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่แต่ทุกครั้งที่เจอเด็กคนนี้ตะมีมารยาทเสมอ รู้จักพูดคุย รู้จักวางตัว และเขาไม่ยึดติดเลยว่าคนรักของลูกเขาจะเป็นผู้ชาย จะรวยหรือจน ขอแค่รักลูกของเขาเหมือนที่ลูกเขารักอีกฝ่าย แค่ลูกมีความสุข คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เลือกความสุขของลูกมากกว่าหน้าตาทางสังคม

ตอนที่ลูกชายตัวดีมาสารภาพกับพวกเขา ว่าเขามีคนรักแล้ว ไม่อยากนัดไปดูตัวอีก และเขาก็บอกอีกด้วยว่า คนที่เขาชอบเป็นผู้ชาย คนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อสีหน้าและแววตาของลูก ชัดเจน แน่วแน่และมั่นใจขนาดนั้น พวกเราก็ได้แต่ยอมรับ

"พักนี้ไม่รู้เคลียดอะไร เหม่อบ่อยๆ ผมไม่อยากถามมาก ถ้าน้องพร้อมบอก ก็คงจะบอกเอง"
สายตาที่มองอีกฝ่ายมีความเป็นห่วงฉายออกมาอย่างเห็นได้ชัด คุณนายของบ้านมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา ขอให้อีกฝ่ายรักลูกชายเขาไวๆด้วยเถอะ เขาอยากเห็นลูกชายเขามีความสุขแบบนี้ไปตลอด

"ดีแล้วลูก บางทีให้ความเป็นส่วนตัวกับน้องหน่อย เท่าที่ผ่านมา น้องก็ยอมรับได้มากพอแล้ว ลูกของแม่ก็สู้ๆละ พวกเราเป็นกำลังให้"
คุณนายของบ้านพูดจบก็เดินยิ้มออกไป ทิ้งให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั่งยิ้มเป็นคนบ้านอยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 29-08-2021 23:46:41
ตอนที่18

ผมลืมตาอีกที ก็นอนอยู่ในห้องแล้วละครับ ไม่ใช่ห้องผมหรอก ห้องเฮียเขาแหละ ผมเคยมานอนอยู่หลายครั้งเพราะเจ้าตัวแสบขี้อ้อนนั่นเลย

"ค้างที่นี่แหละ เฮียโทรบอกที่บ้านให้แล้ว"
เสียงที่ดังมาจากทางไหน ผมได้แต่ซ้ายหันขวาหาต้นเสียง จนเจอกับเฮีย ที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผ้าขนหนูผืนสั้นที่พันอยู่รอบเอวผืนนั้น เอิ่ม จะหลุดมั้ยละนั่น

"ก็ได้ครับ"
ผมตอบและหันไปมองทางอื่นแทน ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ถ้าคนที่เรารู้สึกดีๆด้วยแบบนี้ มันก็คิดไม่ดีบ้างแหละครับ ผมเขิน หุ่นดีเป็นบ้าเลย ผมต้องฟิตขนาดไหนเนี่ยถึงจะได้กล้ามเป็นมัดๆ หน้าท้องที่เรียงตัวสวย ตัดมาที่ผม ถึงจะมีบ้างก็เถอะ แต่ก็ดูบอบบางไปสะเลย

"หันหน้าหนีทำไมครับ คุยกันอยู่นะ"

"เห้ยยยยย"
ผมร้องเสียงหลง มัวแต่เขิน เลยไม่รู้ว่าเฮียเขามายืนอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ มากระซิบข้างหูให้สยิวอีก

"ตกใจอะไร หึหึ"

"ขยับไปดิเฮีย มาใกล้ทำไม"
ผมขยับตัวให้ห่างจากเขานิดหน่อย ปากจะชนกันอยู่แล้ว จะมาใกล้ขนาดนี้เพื่อ

"จะตกใจทำไม ไม่ใช่ผีนะครับ"

"อยู่ๆมาใกล้ขนาดนี้ ตี๋ก็ตกใจสิ"
ครับเริ่มหายไปแล้ว เวลาเขินผมจะชอบเป็นโมโหกลบเกลื่อน

"กลัวด้วยหรอ"
ยังไม่เลิกกวน

"ไปแต่งตัวสักทีเถอะ"
ผมหันไปมองทางประตู แทนที่จะมองคนข้างๆ

"ทำไม เขินหรอ อยากลองจับมั้ย มัน แข็ง! แรงมากเลยนะ"

หมับ

พึ่บ

"เชี่ยยยย"
ปากว่าไม่พอ มาคว้ามือผมไปวางไว้ที่ซิกแพคของเขาอีกสายตาที่เจ้าเล่ห์ไหนจะรอยยิ้มร้ายกาจนั่น ทำไมผมเพิ่งจะรู้

ว่าเฮียแม่งโครตร้าย!!!

"เป็นไง แข็ง!...แรงมั้ย"
เป็นคำถามที่ชวนคิดลึกมากครับ อะไรแข็ง ช่วยพูดให้เคลียร์หน่อย จะเว้นวรรคทำไม เหอะ ถึงผมจะไม่ประสีประสาในเรื่องการกระทำ แต่ทฤษฎีผมแน่นนะครับเพราะไอ้เพื่อนตัวดีสองคนนั่นมันชอบพูดกรอกหูผมตลอด -_-

"วุ้ อะไรของเฮีย ตี๋หิวแล้ว"

ผมแกล้งโวยวายกลบเกลื่อนความเขินอาย อีกคนคงรู้ทัน ผมรีบลุกจากเตียง แต่ ......

พึ่บ

"เหว่อออออ"

เฮียดึงแขนผมเบาๆ แต่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว เลยลงไปนอนกองอยู่บนที่นอน

"จะรีบไปไหน"
ถามไม่พอ มาคร่อมตัวผมไว้ทำไมวะครับ ท่าทางล่อแหลมแบบนี้ ผ้าขนหนูแวบๆแวมๆนั่นอีก

ใจเต้นแรงยิ่งกว่ากลองยาวมาบรรเลงเป็นสิบวงอีกครับ

"กะ ก็ ก็ หิวไง เออ หิวอะ"
แล้วจะอึกอักเพื่ออะไรของผมเนี่ย รอยยิ้มร้ายๆบนหน้าหล่อๆนั่น

บ้าเอ้ย ทำไมชีวิตจริงผมต้องมาเขินผู้ชายกันด้วยเนี่ย

"หิวงั้นหรอ งั้นกินอย่างอื่นแทนได้มั้ย พอดีกว่าเฮียก็...หิว...เหมือนกัน"

ผมว่าหิวของผมกับเขามันคนละหิวกันแล้วแหละครับ สายตาหื่นๆนั่นมันอะไรกัน

"ก็ไปแต่งตัวสิครับ จะได้ลงไปกินข้าวกัน ลูกรอแล้วครับ"

ผมทำเนียน เหมือนไม่รู้อะไร อีกคนทำหน้าบูดทันที ให้ผมแกล้งโง่สักเรื่องเถอะครับ

"เนียนให้ได้ตลอดละกัน"
รู้ทันอีกแหละ คนอะไร จะมารู้ความคิดผมตลอดเลยรึไง

"เนียนอะไร ก็คนหิวนิ"
ก็ไปแถไปเรื่อยอีกแหละ555

"งั้นก็ลงไปก่อนเลย เดี๋ยวตามลงไป"

"ครับ"

ฟอดดดดดด

"ขนาดน้ำยังไม่อาบน้ำยังหอมเลย"

หน้าด้านเกินไปแล้วนะ มาหอมแก้มคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง ไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะเขินบ้างเลยหรอวะ หน้าผมนี่ร้อนผ่าวๆไปยันหู

"เอ้า มัวแต่เขินอยู่นั่นไม่หิวแล้วหรอครับคุณหนู เอ๊ะ หรือว่าอยากกินอย่างอื่นแทนข้าว"

"ตาลุงหื่นกาม"
ผมพูดจบรับวิ่งออกจากห้องทันที ลามก หื่นกาม ต้องยกให้เขาแล้วหละนาทีนี้

ด่าเฮียไป ปากก็ยิ้มไป ผมคงเป็นบ้าแล้วแหละ

"หม่ามี๊~~~~~~"

หมับ

มัวแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนหมูอ้วนวิ่งมากอดที่ขาแล้ว

"ว่าไง หิวรึยัง"

"หิวแล้วครับ"

"งั้นไปกินข้าวกัน"

"แล้วป๊ะป๋าละครับ"

"แต่งตัวครับ เดี๋ยวตามลงมา"

ลูกชายตัวดีของผม ที่ผมยอมรับเขาแบบจริงใจก็หลายเดือนมาแล้ว ผมดีใจนะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ให้เขาโตมากกว่านี้ ผมว่าผมจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เขาเข้าใจ เรียกหม่ามี๊แบบนี้ หม่ามี๊ที่เป็นผู้ชาย ถ้าเพื่อนล้อ เขาจะรู้สึกยังไง เสียใจมั้ย จะรักเขาเหมือนเดิมมั้ย อยากให้เขาเป็นหม่ามี๊ให้อยู่รึป่าว ผมคิดหมดนั่นแหละครับ เพราะเรื่องแบบนี้ มันละเอียดอ่อนเกินไปกับความรู้สึกของคน
 
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 29-08-2021 23:54:00
หายไวๆงับ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 30-08-2021 19:12:43
ตอนที่19

ตั้งแต่วันที่ผมได้ยินพนักงานที่เป็นประชาสัมพันธ์คุยกัน นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ผมก็ยังคิดมากอยู่เลย เฮียก็ถามตลอด ผมก็เอาแต่ตอบว่าไม่เป็นไรๆ ทุกคนในบ้านก็พลอยถามกันไปด้วย

"ตี๋ ช่วงนี้เป็นอะไรค่ะ บอกเจ้ได้มั้ย"
ปลายสายที่โทรมาเมื่อสักพัก ถามสารทุกข์สุขดิบของผมไปเรื่อย จนในที่สุดก็เข้าประเด็นจริงๆสักที

"เจ้ปลาย ตี๋แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย"
ผมตัดสินใจ ว่าจะลองคุยกับเจ้ดู เพราะเห็นแบบนี้ เจ้เป็นคนที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอด

"อยากคุยในสายหรืออยากคุยแบบส่วนตัว"

"ส่วนตัวก็ได้ครับ เจ้ปลายว่างตอนไหน"

"ว่างเลยก็ได้ เพื่อน้องรักของเจ้ เจ้ว่างให้ได้ตลอดค่ะ"

"งั้นเอาเป็นพรุ่งนี้ช่วงเย็นๆดีกว่า เดี๋ยวตี๋โทรบอกอีกที"

"อะเครจ้า"

ผมกดตัดสาย ค่อยผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย

เจ้ปลายห่างกับผมแค่สองปี แต่พอมีครอบครัว ก็ต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่บ้านกับครอบครัวของเขาเหมือนกับเฮียปอนด์พี่ชายคนโตของบ้าน นานพวกเขาจะกลับมาเยี่ยมป๊ากับม๊าสักที เพราะงานแล้วก็ครอบครัวของพวกเขา ครอบครัวจะสมบูรณ์แบบได้คงเพราะความใส่ใจกัน เชื่อใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ผมคิดแบบนัั้น

ผมกับเฮียวิค ไปๆมาๆที่บริษัทของครอบครัวผม เพราะที่เฮียบอกให้เป็นเลขาให้นั้น เขาหมายถึงธุระกิจส่วนตัวของเขาเองครับ

1อาทิตย์ต้องเขามาดูแลงานส่วนของตัวเองที่บริษัทเฮียปอนด์ 3วันต่ออาทิตย์ อีก3วันก็ดูแลธุรกิจของตัวเอง

"ตี๋ วันนี้กลับก่อนเลยนะ เฮียต้องไปดูหน้างาน ลูกน้องโทรมาบอกว่างานทีปัญหานิดหน่อย เขาไม่กล้าตัดสินใจเอง เลยอยากให้เฮียไปดู"

ตอนนี้ก็บ่าย3แล้ว ไปตอนนี้ถึงตอนไหน

"ไปกับใคร ให้ตี๋ไปเป็นเพื่อนมั้ยครับ"

"ไปกับคิม เดี๋ยวมันมารับ"
คิมคือหุ้นส่วนอีกคนของเฮีย เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของพวกเฮียๆเขา แต่ผมก็ไม่เคยได้พูดคุยกับเขาสักครั้ง

"ครับ"

"เดี๋ยวถึงแล้วเฮียโทรหานะ ดูแลตัวเองดีๆละ"

ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ เฮียรับโทรศัพท์ก่อนจะรีบออกจากห้องทำงานไป ผมหยิบกุญแจรถออกมาควงเล่น คิดอยู่ว่าจะไปไหนดี

20:30น.

ผับY&Y

นี่ก็หลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้ออกมาเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้ นีดกันหลายรอบ แต่ด้วยทุกคนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง ก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่กันไป

"ยังไงครับคุณปาล์ม วันนี้โดนปล่อยตัวได้แล้วหรอครับ"
ไอ้ก้าน ปากหมาประจำกลุ่ม ทักผมทันทีที่ผมนั่งลงฝั่งตรงข้ามมัน

"ไอ้ก้าน มึงก็ถามแปลกๆ เขามีคนรักแล้ว ก็ต้องอยู่ดูแลกันสิวะ"
ไอ้ตั้มเป็นลูกเสริมที่มีดีกรีปากหมาไม่แพ้กัน คนนึงขึ้นอีกครนึงตาม เออดี

"นั่นสิเนาะ แล้วเมื่อไหร่เราจะมีความรักแบบเพื่อนเราบ้างว่ะตั้ม"
ยังๆ

"คงต้องรอ...รอให้แม่กูกับแม่มึงหาให้เองนั่นแหละมั้ง"
ยังอีกๆ

"55555+"
พุดจบ มันสองคนก็หัวเราะร่า ที่ล้อเลียนผมได้ ผมชินแล้วครับ โกรธพวกมันไม่ลงหรอก

"กวนตีน"
จะด่ายังไงให้สำนึกดี

"แล้วเป็นยังไงละ มึงโอเคใช่มั้ย"
ตั้มเข้าสู่โหมดจริงจัง ที่มีความจริงจังเพียงน้อยนิด

"ก็เรื่อยๆ"
ผมตอบแค่นั้น พวกมันก็เดากันไปถึงดาวอังคารแล้วครับ

"เรื่อยๆนี่คืออะไรวะ กูไม่เคลียร์"
ไอ้ก้านทำหน้างงๆ

"ก็ดีไง"
ผมหันหน้าหนีพวกมัน จะให้พวกมันรู้ไม่ได้ว่าผมคิดอะไรอยู่ ผมคิดเรื่องลามก ที่เฮียมันชอบทำชีกอใส่น่ะสิ บ้าจริง

"แหนะๆๆๆๆ หันหน้าหนีแบบนี้ มึงคงไม่คิดอะไรลามกๆอยู่ใช่มั้ย"
ไอ้ก้าน ไอ้ตัวรู้ดี

"เรื่อยๆนี่คือ...ได้เรื่อยใช่ปะ"
ไอ้ตั้ม ไอ้เลว

"ไอ้เชี่ย พวกมึงพอเลย เลิกพูดเรื่องสักทีเถอะ ถือว่ากูขอร้องเถอะนะ"
ไอ้สองคนนี้ ถ้าผมไม่ยอมรับ มันก็ไม่จบหรอกครับ

"ไม่ได้ๆ เรื่องของเพื่อนคือเรื่องของกู"
ไอ้ก้านตัวตื้อ

"ใช่ มึงบอกมา...ได้กันรึยัง แล้วมันเป็นยังไงวะ ดีหรือไม่ดี"
ไอ้ตั้มตัวเสริม

"ได้เชี่ยอะไรของพวกมึง หมกมุ่นว่ะแม่ง"

ผมนี่ร้อนไปทั้งหน้า

"อะไรว้า ทำไมเฮียวิคไม่จัดการมึงสักทีวะ กูละเซ็ง"
มันสองคนทำหน้าเซ็ง ยกแก้วเหล้ากระดกรวดเดียวหมด

"พวกมึงนี่มัน"
ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาสรรเสริญพวกมันสองคนแล้วครับ

"เอาหน่า แค่มึงโอเคกับเฮียเขา พวกกูก็ดีใจแล้ว คิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ว่ามึงจะยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้แบบนี้"
ไอ้ก้านเริ่มมีสาระ

"ดีที่มึงไม่ปฎิเสธความรู้สึกตัวเอง ไม่ทำร้ายหัวใจตัวเอง กูดีใจจริงๆนะ ถ้าเห็นมึงยิ้มได้ มีความสุขแบบนี้"
ไอ้ตั้มคล้อยตามไอ้ก้าน เริ่มมีสาระขึ้นมาอีกคน

"คนแบบกู มันสมควรที่จะความรักด้วยหรอวะ"
ผมไม่ได้ต่อต้านความรู้สึก แต่ผมแค่ไม่อยากรู้สึก ทุกครั้งที่เห็นคนรอบตัวจะรู้จักก็ดี ไม่รู้จักก็ดี ผิดหวังกับความรัก ร้องไห้ ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนที่ไม่ได้รักจริงๆ นอกใจกัน จุดจบก็แตกต่างกันออกไป ผมจึงเริ่มปฎิเสธความรู้สึก ปิดกั้นที่จะยอมรับความรู้สึกจากคนอื่น ผมก็ทำหมดทุกทางเพื่อปกป้องหัวใจตัวเอง

"ไม่ใช่แค่คนแบบมึง แต่ทุกคนล้วนแต่มีความรักได้ทั้งนั้น มันไม่เกี่ยวว่าความรัก จะเหมาะสมกับใคร จะเหมาะสมกับคนแบบไหน มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกของคนคนนั้นมากกว่า ความรู้สึกตรงกัน มันก็ไปด้วยกันได้ ปลายทางจะยังคงเหมือนต้นทางมั้ย ไม่มีใครรู้อนาคตได้เลย เราจะรู้แค่ว่าตลอดทางที่เราจับมือกันเดินไปด้วยกัน มันมีเรื่องราวมากมายที่ต้องเผชิญ จับมือกันแน่นพอมั้ย จะปล่อยมือกันกลางทางรึป่าว มันก็แล้วแต่ความรู้สึกของคนคนนั้น จะฝืนไปต่อหรือจะแยกทางกันตรงนั้น"
ไอ้ตั้มมันร่ายยาวแข่งกับเสียงเพลง เสียงคุย ซึ่งผมที่ตั้งใจฟังมันอยู่ก็ได้ยินและคิดตามที่มันพูด

"ไอ้ตั้มพูดถูก ความรักมันไม่จำกัดหรอก ว่าจะต้องเป็นไปแบบไหน ความรักก็คือความรัก แค่เรายอมรับ ว่าเรารัก มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก นอกสะจากว่า เรายังรักเขาไม่มากพอ เขาพร้อมที่ปล่อยมือเราตลอดเวลา เอาจริงนะเว้ยปาล์ม ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนสองคนเหมือนที่ใครๆเขาพูดกันหรอก ถึงมันจะจริงแต่ก็ไม่จริงทั้งหมด"
ไอ้ก้านร่ายต่อ

"คนรอบข้างก็สำคัญ มึงลองคิดดู ถ้าคนในครอบครัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดไม่ชอบเรา ค่อยแต่พูดจาเหน็บแนมสาระพัด คนที่ทำงานทำท่าทางรังเกียจจนออกนอกหน้า คนที่ไม่เห็นด้วยว่าคนคนนี้ไม่คู่ควรกับอีกคน เนี่ยถ้าเกิดมันเกิดขึ้นกับตัวเรา มึงจะทำไง"
ผมสะอึกทันทีที่ไอ้ตั้มพูดจบ มันคงหมายถึงสังคมส่วนใหญ่สินะ

"ที่กูสองคนพูดเนี่ย ไม่ได้จะทำให้มึงคิดมาก แต่พวกกูแค่อยากให้มึงคิดเยอะๆ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ผลดีมากกว่าผลเสียรึเปล่า ทุกวันนี้แค่ครอบครัวยอมรับได้มันก็ดีมากพออยู่แล้ว แต่มึงต้องเจอกับคนอื่นอีกมากมาย ที่พร้อมทำลายความสัมพันธ์ของมึงได้ตลอดเวลา คำพูดของคนอื่นถึงมันจะไม่มีผลอะไรกับเรามากมายนัก แต่กับแวดวงธุรกิจ มึงต้องทำใจและสู้กับมันให้ได้ มึงเข้าใจที่กูพูดใช่มั้ย"
ไอ้ตัมพูดจบ ผมมองหน้ามันสองคน ก่อนจะพยักหน้าให้เป็นเชิงรับรู้

"มึงเก่งอยู่แล้ว แต่จะอ่อนแอบ้างก็ได้นะปาล์ม ทุกคนที่อยู่รอบตัวมึง เขาพร้อมจะโอบกอดมึงเสมอ ขอแค่มึงเชื่อมั่นในตัวเองและคนรักของมึง ว่ามึงกับเขาจะจับมือกันผ่านอุปสรรคพวกนี้ไปได้ วันนั้นจะไม่มีใครมาทำอะไรครอบครัวมึงได้เลย"
ไอ้ก้านต่อ

"มีครอบครัวที่คอยสนันสนุน มีคนรักทีดี ก็ไม่มีอะไรให้มาเคลียดนี่หว่า มึงคิดมากเพราะเรื่องนี้ใช่มั้ย"
ไอ้ตั้มมองหน้าผม เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"อืม กูแคร์คำพูดคนอื่นมากเกินไปจริงๆนั่นแหละ ต่อให้จะเคลียดแค่ไหน กูก็อยากเก็บไว้เดียว ไม่อยากให้ใครมาคิดมากด้วย"
ผมพูดไปตามความคิดของตัวเอง ผมเคลียดมาเป็นเดือนๆ

"แล้วมึงไม่คิดมั่งหรอวะ ว่าครอบครัวเขาจะคิดมากตามมึง ถึงจะไม่รู้ว่ามึงเคลียดเรื่องอะไร แต่เห็นมึงเป็นแบบนี้ เขาก็เคลียดไปกับมึงนั่นแหละ"
ไอ้ก้านบ่น

"ใช่ จะคิดมากหรือจะเคลียดหรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่มึงก็ต้องคิดถึงคนที่เขารักมึงด้วย เห็นมึงเป็นแบบนี้ คนอื่นเขาก็เคลียดเป็นเหมือนกัน"
ไอ้ตัมบ่นอีก

"มีอะไรก็พูดกับเฮียวิคไปเลย จะได้ยินใครพูดอะไรมา หรือเห็นอะไรมา มึงควรคุยกันก่อน อย่าคิดไปเองคนเดียว"
ไอ้ก้านต่อ

"มีอะไรก็โทรหาพวกกูสิวะ เพื่อนกันมากี่ปี ช่วยได้ก็ช่วยตลอด ถึงจะชอบไร้สาระมากกว่าก็เถอะ"
ไอ้ก้านว่า ก่อนเราสามคนจะมองหน้ากัน

"55555+"

เสียงหัวเราะของผมในรอบ1เดือน เหมือนได้มาปลดปล่อยจริงๆ ถ้าวันนี้ผมไม่ได้ออกมาเจอพวกมัน ผมคงแบกโลกไว้คนเดียวจริงๆ ถึงจะมีเจ้ปลายที่คอยให้คำปรึกษา แต่บางเรื่องมันก็ไม่ได้

หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ผมก็ตรงเข้าบ้านตัวเอง ไม่ได้ไปเฮียอย่างที่คุยกันไว้ ผมอยากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียว คิดไปคิดมา เป็นผมเองมากกว่าที่ทำให้ตัวเองทุกข์ใจแบบนี้ คนอื่นมันก็แค่ตัวประกอบ ไม่ได้มามีบทบาทอะไรในชีวิตสักหน่อย เพื่อนๆผมพูดถูก

ต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเจอคำพูดหรือการกระทำที่ไม่ชอบหรอรังเกียจจากใคร

ผมจะไม่สนใจ

และผม....

จะฟาดมันกลับ...ให้เหมือนกับไอ้ปาล์มคนเดิม คนที่เข้มแข็ง คนที่ไม่ใสใจสิ่งรอบข้าง คนที่เห็นคนอื่นเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมโลก

เป็นคนที่โต้กลับอย่างไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น


........แล้วเจอกัน
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 30-08-2021 19:16:24
อาตี๋ของเราเขาไม่ได้เป็นคนงี่เง่าหรอก น้องแค่คิดมากเท่านั้นเอง

อ่านยาวๆไปเลยยยยยยยยย


หายป่วยแล้ว มาต่อได้  :o8:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 30-08-2021 20:20:24
ตอนที่20

วันนี้ผมเข้าบริษัทของที่บ้านตามปกติ สองสาวที่อยู่ตรงประชาสัมพันธ์กำลังพูดคุยกันอย่างเมามันส์ ทันทีที่ผมเดินกำลังจะเดินผ่าน พวกเธอหยุดคุยทันที นินทาใครอีกละทีนี้ หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องผมหรอกนะ

"สวัสดีดีค่ะคุณปาล์ม"
เธอสองคนยกมือไหว้ ผมเพียงแค่พยักหน้าตอบ พวกเธอหน้าจ๋อยลงทันที

"ผมหวังว่าคุณสองคนจะทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุดนะครับ"
ผมพูดจบก็เดินผ่านพวกเธอไปอย่างไม่สนใจว่าเธอจะมีสีหน้ายังไง

ผมไม่สนใจว่าเขาจะทำงานดีแค่ไหน แต่ถ้าพวกเธอยังทำตัวไร้มารยาทแบบนี้ ผมคงเอาไว้ไม่ได้ ถ้าแขกคนสำคัญของบริษัทมาได้ยินอะไรที่ไม่ดี เขาจะมองเรายังไง อยากจะร่วมทำธุรกิจกับเราอีกอย่างนั้นหรอ

"พี่ ทำไมคุณปาล์มพูดแบบนั้นอะ หรือว่าคุณเขาจะได้ยินตอนที่เราพูดกัน"
สาวเบอร์สองหน้าเสียทันที คนเงียบๆไม่โวยวายแบบนี้ น่ากลัวจะตาย

"แกก็พูดไปเรื่อย คงไม่ได้ยินหรอกมั้ง เรื่องนั่นก็พูดมาเป็นเดือนๆแล้ว แกอย่าพาฉันคิดมากสิยะ"
สาวเบอร์หนึ่งก็มีสีหน้ากังวนไม่แพ้กัน

"ถ้ากลัวว่าจะถูกไล่ออก ทีหลังก็อย่านินทาเจ้านายแบบนี้ ถ้าผมได้ยินแทนเขา ผมคงไม่ใจแบบเขาแน่"
วิคเตอร์ที่เดินตามหลังปาล์มเข้ามา แต่เข้ามาไม่พร้อมกันเพราะเขาต้องคุยโทรศัพท์กับลูกค้าก่อน ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้เข้า

"เอ่อ...คือ ดิฉันขอโทษค่ะคุณวิคเตอร์ ต่อไปจะพูดอะไรแบบนั้นอีก"
สาวเบอร์หนึ่งตกใจหน้าซีดยิ่งกว่าไข่ต้ม พูดเสียงขาดๆหายๆ

วิคเตอร์ให้เธอสองคนเล่าเรื่องตอนนั้นให้เขาฟัง ยิ่งฟังเขายิ่งอยากจะบีบคอเธอทั้งสองคนให้หักคามือ มิน่าละ ทำไมอาตี๋ของเขาถึงได้เคลียดแบบนั้น น่าจะได้ยินแน่ๆ

"คุณวิคเตอร์อย่าไล่เราออกเลยนะคะ ต่อไปจะไม่ทำตัวแบบนี้อีกแล้วค่ะ"
สาวเบอร์สองที่มีสีหน้าไม่ต่างกับรุ่นพี่ของเธอ

"หวังว่ารอบนี้พวกคุณจะจำไว้เป็นบทเรียน ว่าอย่ามาพูดเรื่องคนอื่นแบบนี้อีก ไม่งั้นผมไม่เอาพวกคุณไว้แน่"

"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ไม่ให้เราสองคนออก"
สองสาวยกมือไหว้เจ้านายอย่างสั่นๆ

วิคเตอร์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินแยกออกจากสองสาวไป เขาจะต้องคุยกับอาตี๋ให้รู้เรื่อง เขาไม่รู้เลยว่าน้องจะคิดมากเรื่องนี้ ถ้าผมไม่บังเอิญมาได้ยินพอดี ผมคงไม่รู้จริงๆ

ผมอยากจะทำอะไรให้มันชัดเจนมากกว่าเดิมอยู่แล้ว แต่ติดที่น้อง ผมต้องให้เวลากับเขา

เดิมทีผมตั้งใจไว้แล้ว ถ้าน้องยอมตกลงที่จะแต่งงานกับผม ผมก็พร้อมที่จะเปิดตัวเลย ผมไม่อยากกดดันน้องจนเกินไป ถ้าเขาพร้อม ผมก็พร้อมเสมอ

"วันนี้ไปค้างบ้านเฮียนะ วินบอกว่าคิดถึง"
ผมเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของเลขาส่วนตัว

"วันนี้ตี๋มีนัดกับเจ้ปลาย คงไปไม่ได้ครับ"
ตอบได้ครับ แต่ไม่มองหน้าผม

"รอได้ ไม่รีบ"
ก็จะรออะ มีไรป่ะ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 30-08-2021 20:29:12
ตอนที่20-1

"ไม่รู้จะเสร็จตอนไหน จะดึกรึป่าวไม่รู้เลยครับ"

"ก็จะรอไง"

"เอ๊ะ สรุปนี่ใครคิดถึงกันแน่ครับ เฮียหรือน้องวิน"
หืมมม เดี๋ยวนี้กล้าพูดแบบนี้แล้วหรอ ทุกทีที่ผมพูดใส่จะเขินหูแดงตลอด

"เดาสิ"
ผมก้มลงกระซิบข้างหู กลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆจากตัวเขา กลิ่นเดียวกับลูกชายเลยครับ เพราะตี๋เป็นคนเลือกเอง

"อื้อออออ จะมากระซิบทำไมเนี่ย พูดตรงนั้นก็ได้ยินเหอะ"

หูแดงอีกแล้ว ผมชอบนะ เวลาน้องเขินน่ารักดี

"ก็กลัวอาตี๋ของเฮียไม่ได้ยินนี่ครับ"
ผมแหย่ต่อ

"พอเลย ไปทำงานได้แล้วครับ กวนอยู่ได้"
แก้มก็แดงแล้ว 555

"อย่าลืมนะครับ เฮียกับลูกจะรอ"

ฟอดดด ฟอดดดดด

"เห้ย!!"

ขนาดตกใจยังน่ารักเลย

"ไอ้เฮียบ้า ไอ้คนหน้าไม่อาย"

เสียงด่าตามหลังมาแว่วๆ หลังจากที่อารมณ์เสียเพราะได้ยินเรื่องนั้นมา ตอนนี้กลับยิ่งอารมณ์ดีขึ้นมาทันที ท่าทางเหมือนแมวขู่เสือนั่นมันอะไรกัน น่ารักเป็นบ้าเลยเว่ย

คอยดูนะ ถ้าน้องยอมสารภาพรักกับผมเมื่อไหร่...

ผมจะคิดทบต้นทบดอกเลยคอยดู หึหึ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 30-08-2021 22:47:33
 :hao6: นั่งรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 31-08-2021 19:29:22
ตอนที่21

หลังจากที่คุยกับเจ้ปลาย ผมก็เบาสมองลงไปอีกเพราะเจ้แกบอกให้บวกไปเลย นี่ผมเป็ยผู้ชายหรือเจ้ปลายเป็นกันแน่ เอะอะ บวกตลอด

แต่เรื่องรั้นมันจบไปแล้วครับ ผมเคลียร์กับทุกคนเรียบร้อยหมดแล้ว เป็นผมเองที่คิดมากจนเกินไปจริงๆ

ตอนนี้ผมมากับป๊าครับ ป๊าชวนมาตีกอล์ฟวันหยุด เพื่อนป๊าอยากเจอผม ทำไมต้องอยากเจอ ผมอยากเล่นกับลูกชายผมมากกว่า กะว่าวันนี้กะว่าจะชวนออกไปซื้อของด้วยกัน จะให้พี่แพรวสอนทำเค้ก อดเลย เจ้าหมูแสบหน้าบูดหนักสุด

"ทำหน้าให้มันดีๆสิอาตี๋"
ป๊าแหย่ครับ เพราะเจ้าหมูแสบโทรมาบ่นใหญ่เลย ป๊าผมก็ชอบแกล้งสะด้วย

"ดีแล้วนี่ครับ จะให้ดีกว่านี้ก็ไม่ได้แล้ว"
ผมบุ้ยปากใส่ป๊า ก่อนจะหวดไม้กอล์ฟสุดแรง ลงไม่ลงไม่รู้ รู้แต่ว่า ร้อนโว้ยยยย เมื่อไหร่เพื่อนป๊าจะมาเนี่ย

"มากันนานยัง"
เสียงทุ้มดังมาจากทางด้านหลัง ผมหันไปมอง เจอกับชายวัยกลางคน รุ่นราวคราวเดียวกับป๊า และผู้หญิงน่าตาน่ารักคนนึง

"สักพักแล้ว ปาล์มมานี่สิ นี่ลุงมาติณเพื่อนป๊า"
ป๊าผมตอบ

"สวัสดีครับคุณลุง"
ผมยกมือไหว้เพื่อนป๊า

"นี่ลูกสาวฉัน มาร์กี้น่าจะอายุน้อยกว่าปาล์มนะ"
ลุงแกแนะนำลูกตัวเอง

"สวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีค่ะพี่ปาล์ม"
เธอยกมือไหว้ป๊า แล้วไหว้ผม รับไหว้แทบไม่ทัน

"มาดวนกันสักหน่อยมั้ย ให้เด็กๆไปนั่งคุยกัน"
ลุงแกว่า

"ก็เอาสิ มายืดเส้นยืดสายกันหน่อย"

แล้วเขาสองคนก็เอาแต่คุยเรื่องงาน หวดแต่ไม้กอล์ฟ

"พี่ปาล์มอายุเท่าไหร่ค่ะ"
เธอชวนคุย

"25ปีนี้ครับ เราละ"

"20ค่ะ"

"ครับ"
ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอ เลยตอบแค่นั้น ผมคุยไม่เก่งอยู่แล้วนิ

"พี่ปาล์มมีแฟนยังค่ะ"
ผมหันไปมองเธอ เออดี ถามคนอื่นแล้วตัวเองมาเขิน นี่มันอะไร เด็กนี่

"มีแล้วครับ"
ผมตอบๆไป ดูก็รู้ว่าจะบอกว่าชอบ

"อ๋อค่ะ"
เธอหน้าจ๋อยไปเลย

หลังจากนั้นก็เงียบกันไป ผมรู้ว่าเธอนั่งมองผมอยู่ ผมทำเป็นไม่สนใจ เล่นมือถือต่อ

"จะกลับกันเลยมั้ย หรือจะไปทานข้าวที่บ้านฉันก่อน"
ป๊าผมพูด

"ไปค่ะคุณลุง หนูกำลังหิวพอดีเลย"
เธอรีบตอบทันที อะไรของยัยเด็กนี่

"ไปสิ งั้นไปเจอกันที่บ้านฉันละกันนะ"

แยกย้ายกันครับ บ้านใครบ้านมัน เจอกันอีกที ทุ่มตรง

"ป๊า ตี๋ไม่อยู่ทานด้วยนะ ตี๋จะไปง้อลูกชาย"
ผมได้รับข้อความจากหมูแสบ ว่า.... งอลลลล แค่คำเดียวครับ ผมรู้เลยว่างอลจริง

"จะเสียมารยาทนะตี๋"

"ป๊าก็บอกคุณลุงไปสิ ว่าตี๋มีธุระด่วน นะๆ"

ผมอ้อนป๊า

"แกนี่มันน่าทุบจริงๆ ไปๆ ง้อเผื่อป๊าด้วยละกัน เดี๋ยวจะอดบีบแก้มอีก555"

ผมขำตามป๊า กลัวหลานไม่ให้เล่นแก้มน่ะสิ พูดเป็นขนาดนั้น ใครไม่หลงก็บ้าแล้ว

ถึงบ้านผมอาบน้ำเสร็จ รีบขับรถออกจากบ้านทันที กลัวยัยเด็กนั่นจะมาถึงก่อนที่ผมจะทันได้ออกไป

30นาทีต่อมา

ผมเลี้ยวรถเข้าบ้านหลังใหญ่ตามความเคยชิน จอดรถเสร็จ ผมรีบเข้าไปทันที จะง้อคนขี้งอล มันต้องทำเวลาครับ เดี๋ยวอีกคนตะบอกว่าหมดเวลาสะก่อน แสบจะตาย

"ป๊ะป๋า เมื่อไหร่มี๊จะมาละครับ"
เสียงหมูอ้วน

"เดี๋ยวก็มา จะถามบ่อยไปละนะหมูวิน"
เฮียวิคพูดขำๆ

"ก็วินคิดถึงมี๊ อยากให้มี๊มาง้อเร็วๆ"
หน้าบูดๆนั่น แก้มป่องๆนั่น น่าฟัดจริงๆ

"ป๊าก็คิดถึงเหมือนกัน รอเหมือนกันนั่นแหละ เลิกถามได้แล้วน่า"
เรื่องที่ชอบทำให้ผมเขิน เขาก็ทำได้ตลอดเวลานั่นแหละครับ คนอะไร หน้าด้านเกินไปแล้ว

"ใครนินทามี๊รึป่าวน้าาา"
ผมเอ่ยขึ้นขัดก่อนที่สองพ่อลูกจะเริ่มเถียงกัน ทุกวันนี้จะไม่ใช่พ่อลูกกันแล้วครับ จะเป็นเพื่อนกันสะมากกว่า

"มี๊~~~~~"
มาแล้วครับ สิ่งมาพร้อมลากเสียงยาว

หมับ

"คิดถึงจังเลยครับ"
คนงอลที่ไหนมาบอกคิดถึง งอลไม่จริงนี่แบบนี้ ร้ายกาจทั้งพ่อทั้งลูกเลย

"คิดถึงเหมือนกันครับ"

"ไม่คิดถึงเฮียบ้างหรอ น่าน้อยใจจัง"
ผมละอยากจะบีบคอตัวเองให้ตายตรงนี้เลย

ทำตัวเป็นเด็กแข็งกับลูก

"คิดถึงสิครับ"
ผมพูดเสียงดังๆ อีกคนตาเหลือกไปแล้วครับ ผมไม่เคยพูดนี่หน่า หูแดงแล้วนั่น

"จริงหรอ ไม่หลอกนะ"
เขาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ผมที่อุ้มวินอยู่ก็พยักหน้าให้ พร้อมเดินไปนั่งลงข้างเขา วินเนอร์นั่งบนตัก กอดคอผมแน่น กลัวหายหรอลูก เกาะแน่นเป็นลูกลิงเชียว

"แล้วนี่ทานอะไรกันรึยัง"
ผมถาม เพราะอีกคนเหม่อลอยไปแล้ว อะไรจะขนาดนั้น555

"ยังครับ มี๊ทำให้วินกินหน่อย วินอยากกินหมูหวานครับ"

เด็กอ้วนกับหมูสามชั้นหวานของเขา

"เอาสิ เดี๋ยวมี๊ทำให้"

"เย้ๆ"

ง้อด้วยของกินที่เขาอยากกินละครับ เด็กน้อเด็ก

"เดี๋ยวๆ"

ผมกับหมูอ้วนที่ลุกขึ้น แต่อีกคนเหมือนเพิ่งได้สติ

"คิดถึงจริวก็หอมแก้มก่อนถึงจะเชื่อ เร็วๆ"
เจ้าเล่ห์มากมาย ไม่มีใครเกิน

ฟอด ฟอด

ผมหอมจริงแหละ ทุกวันนี้ได้สิกลหน้าด้านมาจากเฮียวิคเต็มๆ และผมก็ทำตามความรู้สึก ไม่ได้ฝืน

"งุ้ยยย ทำไรกันอะ"
วินเนอร์ร้องงุ้ย แล้วเอามือปิดตา ผมกีบเฮียมองตัวแสบแล้วขำ เด็กนี่มันกวนครับ รู้เยอะสะด้วย

ตอนนี้เราสามคนมาอยู่ในครัวกันแล้วครับ มีแม่บ้านคอยช่วยหาขอมาเตรียมไว้ให้ ผมทำกับข้าวเป็นทุกอย่างแหละครับ เพราะอยู่หอกัน ส่วนมากจะทำกินกันเอง ส่สนคนสอนก็คือไอ้ก้านกับไอ้ตั้มครับ มันสองคนทำอร่อยมาก ผมคอยเป็นลูกมือ จนสุดท้ายมันก็สอน เพราะมันสองคนจะคอยกินเพราะขี้เกียจทำ

สามหนุ่มใส่ผ้ากันเปื้อนลายเดียวกัน มีหมวกเชฟด้วย เพราะพวกเขาเพิ่งซื้อมาเหมือนอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง

มือถือถูกยกขึ้นมาอัดวีดีโอไว้ แพรวเป็นคนจัดการทุกอย่าง เขาชอบเขาเป็นสาววายเลยด้วยซ้ำ ภาพถ่ายทุกมุม วีดีโอสั้นๆทถูกแพรวส่งต่อให้นายหญิงของบ้าน เขาทำงานเป็นทีมนะ รู้ยัง555

ทำไปหยอกกันไป เสียงพูดคุยเสียงหัวเราะดังไปทั่วห้องครัว สร้างความสุขให้คนในบ้านไปด้วย

"มี๊ๆ เอาผักออกๆ"
นายน้อยคนเล็กของบ้านพูดพร้อมชี้ผักชีสีเขียวที่ตกแต่งอยู่ในจาน ให้หม่ามี๊เขาเอาออก

"ผักมีประโยชน์นะครับ จะกินแต่หมูไม่ได้"
เสียงนุ่มทุ่มอบอุ่นบอกกับลูกชายของเขาอย่างอ่อนโยน

"แต่วินไม่ชอบสีเขียวนี่ครับ อี๋จะตาย"
ทำหน้าทำตาประกอบไปด้วย คนมองก็พากันเอ็นดูไม่เลิก เด็กอะไรน้อ ทำอะไรก็น่ารักไปสะทุกอย่าง

"งั้นต่อไปนี้ มี๊จะบังคับให้กินผักเอง ใครไม่กินมี๊จะโกรธมากๆด้วย"
สองพ่อลูกตาเหลือก

ความคิดคนลูก:ถ้ามี๊โกรธ จะต้องไม่ดีแน่ๆเลย

ส่วนคนพ่อ ถ้าน้องโกรธจะต้องอดกอด อดหอมแน่ๆเลย

มองตาละห้อย

"งั้นเมนูต่อไป ผัดผักรวมมิตร พี่สาช่วยเตรียมของให้ปาล์มทีนะครับ"
ปาล์มกลั้นขำสุดฤทธิ์ แต่ต้องตีหน้านิ่งไว้ ไม่งั้นสองพ่อลูกจะอ้อนให้เขาใจอ่อนจนได้

"ค่ะคุณปาล์ม"
สาสาวใช้อีกคนรีบเดินไปจัดแจงของตามสั่ง ที่พวกเธอชอบคุณปาล์มไม่ใช่เพราะเป็นแค่คนรักของของเจ้านาย แต่เป็นเพราะความเอาใจใส่ของเขา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่อใหญ่ ก็มั่งจะใส่ใจองพ่อลูกเสมอ อบอุ่น อ่อนโยน แต่เผด็จการ

"ป๊ะป๋าครับ"
สองพ่อลูกมองกันตาละห้อย เหล่าแม่บ้านที่อยู่ในห้องครัวและนอกห้องครัวเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ แต่ก็ทำได้แค่ให้กำลังใจ

สู้ๆนะคะคุณชาย

สู้ๆนะคะนายน้อย

พวกเธอชู้สองนิ้วให้พ่อลูก สองพ่อลูกคอตก

ตอนนี้บนโต๊ะอาหาร มีกับข้าววางอยู่4อย่าง

หมูหวาน , ปลาราดพริก , ผัดผักรวมมิตร , ต้มจืดวุ้นเส้น

แม่บ้านทำหน้าที่ตักข้าวให้ เตรียมน้ำดื่ม แล้วกลับไปทำงานอื่นต่อ เหลือแค่สาที่คอยให้บริการอยู่แถวนั้น แพรวก็ทำเนียนทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยแต่มือก็อัดวีดีโอไปด้วยอีก

สองพ่อลูกตักแต่อาหารที่ตัวเองชอบ ยกเว้นผัดผัก ปาล์มยิ้มมุมปากก่อนจะตักผัดผักใส่จานให้สองพ่อลูก

"ทานให้หมด ถ้าใครไม่ทาน มี๊จะเสียใจมากและโกรธทั้งสองคนเลย"

คำพูดแกมบังคับพร้อมรอยยิ้มหวานที่อาบยาพิษนั้น สองพ่อลูกกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ

"ครับ"
เสียงหงอยๆสองเสียงตอบพร้อมกัน

วันนี้เป็นวันที่ทานข้าวได้ทรมานที่สุด ถึงจะอร่อยที่สุดก็เถอะ

"เก่งมาก"

สองพ่อลูกเหมือนจะติดใจ หลังจากตักผัดผักเข้าปากและค่อยๆเคี้ยวนั้น ผักไม่มีรสขมเลยสักนิด รสชาติก็อร่อย มันเข้ากันมาก หลังจากนั้น สองพ่อลูกก็ซัดสะเกลี้ยงจาน ไม่มีอาหารจานไหนที่เหลือเลย

"อิ่มจัง"

สองพ่อลูกนั่งลูบท้องปอยๆ ปาล์มยิ้มขำๆ ไหนบอกไม่ชอบไง กินสะไม่เหลือเลย

"เก่งมา เดี๋ยวจะให้รางวัล"
สองพ่อลูกตาลุกวาว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเลี้ยงมา เหมือนกันกระทั่งนิสัย

"ถ้าอาหารย่อยแล้ว รบกวนขึ้นไปอาบน้ำกันด้วยนะครับเพราะคืนนี้ หม่ามี๊จะค้างที่นี่"

"เย้ๆ"
วินเนอร์ตัวแสบกะโดดเด่งๆอย่างดีใจ ส่วนคนพ่อ อืม ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาออกนะ ตาลุงหื่นกามนี่

พอพูดคุยกันเสร็จ ก็ได้เวลาไปอาบน้ำ

หลังจากนั้น ผมก็มานอนอยู่บนเตียงกับลูกชาย  ที่นอนรอผมเล่านิทานให้เขาฟัง ยังเล่าไม่ถึงครึ่งเรื่อง เด็กน้อยก็หลับไปแล้ว

การเล่านิทานให้เด็กฟังก่อนนอนมันไม่ได้ทำให้เด็กนอนหลับได้ไวแต่มันเป็นการผ่อนคลายสมองให้เขา ในแต่ละวันเขาต้องเรียนรู้และจดจำอะไรไปบ้าง เขาก็เหมือนเรานี่แหละครับ ต่อให้เหนื่อยล้าแค่ไหนก็หลับเลยไม่ได้อยู่ดี อย่างน้อยก็เปิดเพลงหรือไม่ก็เปิดหนัง เพื่อให้สมองผ่อนคลายและหลับได้อย่างสนิท

"ตี๋ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มานอน"
เฮียวิคเดินไปแต่งตัวแล้ว ผมก็รีบลุกไปเข้าห้องน้ำทันที ไม่ลืมหยิบเสื้อผ้ามาใส่ด้วย

ถ้าผมมานอนนี่ วินเนอร์จะมานอนด้วยครับ เฮียแกเลยสั่งเตียงเด็กมาต่ออีก เพราะวินเนอร์จะนอนริม ส่วนผมนอนกลาง พี่วิคนอนอีกฝั่ง สรุป จะเนียนกอดผมน่ะสิ สองพ่อลูกนี่ร้ายจะตาย
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 31-08-2021 20:05:08
ตอนที่22

ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่วัน กี่เดือน จนจะครบปีอยู่แล้ว คำตอบที่อีกฝ่ายรอค่อย  เขาก็ยังคงรอได้เสมอ

การใช้ชีวิตในแต่ละวัน มันก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้แล้ว แต่ชีวิตแบบนี้ก็มีความสุขดี พวกเขาไปมาหาสู่กันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว สัญญาที่ปาล์มเคยขอม๊าไว้ ว่าภายใน1ปี ถ้าเขาสามารถรักตอบอีกฝ่ายได้ เขาจะยอมแต่งงานด้วย แต่สัญญานั่นคงไม่มีความหมายแล้วหละ เพราะทุกวันนี้พวกเขาใช้ชีวิตกันเป็นครอบครัวไปแล้วด้วยซ้ำ

"เป็นยังไงบ้างลูกชายม๊า เหนื่อยมั้ยค่ะ"
น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามลูกชายคนเล็กของบ้าน

"มีความสุขดีครับม๊า ตี๋ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้ตี๋จะมีความรักกับเขาได้"
ลูกชายคนเล็กพูดไปยิ้มไป แววตาที่ฉายออกมา มันบ่งบอกว่าเขามีความสุขอย่างที่ปากว่าจริงๆ

"ทำไมจะไม่ได้ละลูก จะเป็นความรักแบบไหน มันก็มีได้ทั้งนั้น เปิดใจแล้วลูกจะพบความสุขที่รอลูกอยู่"

หมับ

"ขอบคุณนะครับที่ทำให้ตี๋มีอย่างทุกวันนี้ได้"
ร่างบางกอดผู้เป็นแม่แน่น ปากก็พร่ำขอบคุณไม่เลิก

"พ่อแม่ก็ล้วนแล้วแต่เลือกสิ่งดีๆให้ลูกเสมอ ถ้าลูกไม่โอเคพ่อแม่จะไม่ยัดเยียด ถ้าลูกโอเคพ่อแม่ก็พร้อมจะสนับสนุน"

"ขอบคุณครับม๊า รักม๊าที่สุดเลย"

สองแม่ลูกนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย นานๆจะได้นั่งคุยกันแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาติดสองพ่อลูกนั่นแต่เป็นเพราะงาน พวกเราเลยไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไหร่

"คุณยายคร้าบบบบ"
เสียงมาก่อนตัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

"ครับผม"
ม๊าขานรับ

หมับ

"น้องวินคิดถึงคุณยายที่สุดเลยครับ"

ปากหวานไม่พอ กอดสะแน่นเลย ตามใจกันเก่งขนาดนี้ ไม่ให้ลูกชายผมอ้อนได้ไงละครับ

"สวัสดีครับม๊า ป๊าไม่อยู่หรอครับ"
เฮียวิคตามหลังลูกมา ยกมือไหว้ม๊ากวาดสายตามองหาป๊าไปด้วย

"อยู่หลังบ้านนะตาวิค คงจะดูต้นไม้นั่นแหละ เห็นว่าจะทำสวนหลังบ้านอีกแล้ว อยู่เฉยไม่เป็นเลยจริงๆ"
ม๊าบ่นเป็นชุดเลยครับ

หลังจากพวกท่านวางมือ งานทุกอย่างก็แบ่งให้ลูกเท่าๆกัน ดูแลช่วยกัน พวกท่านอายุมาแล้ว ควรได้พักผ่อนแล้ว ป๊าก็หาต้นไม้ดอกไม้แปลกๆมาลงแทบทุกวัน ดูแลเองด้วยซ้ำ เรือนกระจกที่เพิ่งจะทำเสร็จ ก็เริ่มมีต้นไม้เล็กไปลงแล้วละครับ วันๆไม่ออกไปไหนก็จะไปคลุกอยู่กลังบ้านทั้งวัน ม๊าก็บ่นๆ แต่บ่นไปงั้นแหละครับ

"พอดีเลยครับ ผมได้ดอกไม้แปลกๆจากเพื่อนมาพอดี งั้นผมไปหาป๊าก่อนนะครับ"
เฮียวิคพูดจบก็เดินออกไปหาป๊าเลย

สองยายหลานก็นั่งคุยกันไปตาปะสา ผมได้แต่นั่งมอง ผมไม่รู้เลยว่าในอนาคตจะเป็นยังไง ถ้าลูกโตกว่านี้ ลูกจะรับแม่ที่เป็นผช.ได้มั้ย

"วันนี้จะค้างที่นี่หรือกลับบ้าน"
ผมถามเฮียวิค ที่เดินเข้าบ้านมาพร้อมป๊า

"ถามลูกสิ เฮียได้หมดแหละ"
ผมพยักหน้า เดินไปหาวินเนอร์ที่นั่งดูการ์ตูนอยู่ห้องรับแขก

"ลูกหมู วันนี้นอนไหนครับ"

"นอนนี่ครับ วินจะนอนกับคุณตาคุณยาย"
 แวดงว่าม๊าต้องเอาอะไรมาล่อเด็กแสบแน่ๆ

"โอเคครับ แล้วลูกหมูอยากออกไปข้างนอกมั้ย มี๊จะพาไปเดินตลาดหน้าหมู่บ้าน"

ตลาดหน้าหมู่บ้านจะมีทุกวันวัน ใหญ่พอสมควร ถึงจะเป็นหมู่บ้านไฮโซ แต่ก็มีหอพักเยอะเหมือนกัน พวกนักศึกษาจะมาเดินกันเป็นประจำ

"ไปครับๆ"

ลูกชายตัวแสบลุกไปปิดทีวี เดินจูงมือผมออกมาอย่างไว

"จะไปไหนกัน"
เสียงม๊าถาม

"มี๊จะพาไปเดินตลาดครับ"

"เฮียไปมั้ย"

"ไม่ไป เฮียจะพาป๊าไปดูต้นไม้หน้าเมือง ตี๋ไปกับลูกเถอะ"

"ครับ"

ผมจับมือลูกชายจะพาเดินออกจากบ้าน แต่....

"คุณตาครับ ขอตัง"

เด็กอ้วนไม่ยอมเดิน แต่ดันแบมือขอตังป๊า ป๊าเลิกคิ้วถาม ประมานว่าเอาเท่าไหร่

"แบงค์ม่วงๆ"

เอากับเขาสิน่ะ  เฮียวินหยิบตังค์ออกจากกระเป๋ายืนให้ลูกชายเขา

"ไม่เอา วินจะเอากับคุณตา คุณตาบอกจะง้อ"

"555+"
พวกเราหัวเราะพร้อมกัน นอกจากจะแสบมากๆแล้วยังความจำดีอีก

"มาหอมแก้มตาก่อน"
ป๊านั่งยองๆลงตรงหน้าหลายชาย

ฟอด ฟอด

หอมเสร็จ แบมือเลยครับ

หลังจากนั้น เราสองคนแม่ลูกก็พากันปั่นจักรยานออกมาจากบ้านกันครับ รถไม่เยอะ หาที่จอดง่ายด้วย

"มี๊ๆ แรงๆ"

ลูกชายนั่งเบาะหลัง กอดเอวผมไว้แน่น สั่งให้ผมปั่นไวๆ
ชอบใจละสิ น้องไม่เคยได้นั่ง นอกจากมาบ้านผม ผมจะเป็นคนพานั่งตลอด




หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 31-08-2021 21:09:15
ตอนที่23

ผมจอดจักรยานไว้ข้างทาง จับมือลูกชายเดินเข้าไปในตลาด คนไม่เยอะมาก พอเดินได้ เพราะตลาดนี้ปิดดึกพอสมควร

"อู้หูวว มี๊อันนี้เรียกว่าอะไรครับ"
ลูกชายผมตาโตร้องอุทานได้น่ารักมาก555

"ขนมลูกชุบครับ อยากกินมั้ย"

"เอามั้ยจ้ะหนุ่มน้อย"
แม่ค้าถามวินเนอร์ที่ยืนจ้องขนมหลากหลายสีตรงหน้า เหมือนตัดสินใจไม่ได้

"คุณยายครับ วินเลือกเยอะๆได้มั้ย วินเลือกไม่ถูก"

เสียงใจเอ่ยถามป้าแม่ค้า แต่ตามองขนม

"ได้สิครับ น้องวินอยากได้อันไหนชี้เลย เดี๋ยวยายจะจัดใส่กล่องให้ อะ เอาชิ้นนี้ชิมก่อน ยายให้"
ป้าถามยิ้มๆ มองลูกชายผมด้วยแววตาเอ็นดู เด็กอ้วนยกมือไหว้ ก่อนจะหยิบขนมมาใส่ปาก

"อร่อยมาๆครับ งั้นวินเอา อันนี้ อันนี้ บลาๆๆๆๆ"

"เท่าไหร่ครับป้า"

"40บาทจ้ะ"

ผมยื่นเงินให้ป้า น้องวินยกมือไหว้ก่อนจะรับของ

"น่ารักจังเลยน้องวิน แวะมาอีกนะลูก อันนี้ยายแถมให้"
ป้าแกจิ้มลูกชุบใส่แก้วใส่ใบเล็ก ส่งให้เด็กอ้วน เด็กอ้วนยกมือไหวอีกรอบ

ผมอุ้มหมูอ้วนเพราะจะให้เดินกินไม่ได้ จะโดนชนเอา

"มี๊ อ้ำ"
มีป้อนๆ

"หือ อร่อย"
อ่อยจริงๆครับ ไม่หวานมาก

เดินไปเดินมา ของกินเต็มมือ ตอนนี้เราเดินออกจากตลาดแล้วครับ เก็บของใส่ตะกร้าหน้าจักรยาน เต็มพอดี

ขากลับ

"พี่ปาล์มค่ะ"

ผมที่กำลังจะออกแรงปั่นก็ชะงักกึก หันไปมองทางต้นเสียง

"สายใหม?"
เธอเป็นรุ่นน้องที่มหาลัย เป็นหลานรหัสของไอ้ก้าน

"ใหมเองค่ะ พี่ปาล์มสบายดีมั้ยค่ะ"

"สบายดีครับ ใหมละเป็นไงบ้าง"

"สบายดีค่ะ แล้วนี่"
เธอมองไปที่ลูกชายผม

"อ่อ นี่วินเนอร์ ลูกชายพี่ วินเนอร์สวัสดีพี่ใหมสิ"

"สวัสดีครับ"

"สวัสดีจ้ะหนุ่มน้อย น่ารักจังเลยนะคะ"

"ใช่มั้ยละ"

ผมยกมือลูกหัวลูกชายที่กำลังกินขนมอยู่อย่างเอ็นดู

"เมื่อวานใหมเจอพี่ก้าน พี่ก้านไม่เห็นบอกเลยว่าพี่มีครอบครัวแล้ว"

เธอพูดน้ำเสียงเศร้าๆ นี่อย่าบอกนะยังไม่ตัดใจจากผม เธอเป็นหนึ่งในคนที่มาสารภาพรักกับผม แล้วก็โดนผมปฎิเสธเพราะผมเห็นเธอเป็นน้อง

"มันคงไม่สำคัญละมั้งถึงไม่ได้บอก"

"คงงั้นมั้งค่ะ ใหมก็คิดมาตลอด ถ้าเจอพี่อีกครั้ง ใหมจะพยายามจีบพี่ให้ติด ใหมรอพี่กลับจากเมืองนอกมาตลอด ไม่คิดว่าเจอกันครั้งนี้ พี่จะมีครอบครัวไปแล้ว"

ผมไม่คิดเลยว่าเธอจะมั่นคงต่อความรักมากขนาดนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีโอกาส ไม่มีหวัง ทำไมถึงยังรอ

"ไปนั่งคุยกันตรงนั้น"
ผมสงสารลูกครับ นั่งเบาะจักรยานคงเมื่อยน่าดู

เธอพยักหน้าแล้วเดินตามผมมาร้านน้ำปั่น มีโต๊ะให้นั่งกิน ผมสั่งน้ำให้คนละแก้ว

"พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้ใหมเสียใจ พี่ก็ไม่คิดว่าคนอย่างพี่จะมีความรักกับเขาได้"

ผมขอโทษเธอจากใจจริง ถ้าวันนั้นผมไม่ปฎิเสธเธอ พวกเราจะคบกันได้นานมั้ย เธอจะไม่เสียใจใช่มั้ยที่เลือกผมและผมจะไม่เสียใจใช่มั้ยที่เลือก

แต่ตอนนี้ผมได้เลือกแล้ว ผมจะไม่ทำให้เขาเสียใจ

"พี่ไม่ผิดหรอก ความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้นิค่ะ ใหมเข้าใจ"

ผมสงสารเธอ ผมถึงบอกไงว่าผมไม่อยากมีความรัก ถ้ามันจะทำให้เสียใจแบบนี้ ผมเลือกที่อยู่คนเดียวดีกว่า

"พี่ขอโทษจริงๆนะที่ทำร้ายความรู้สึกเรา มีอะไรติดต่อพี่ได้ตลอดเลยนะ พี่ต้องพาน้องวินกลับแล้ว"

ผมจดเบอร์ใส่กระดาษยิ่นให้เธอ ผมบอกแล้วว่าผมเห็นเธอเป็นได้แค่น้องสาว ผมสงสารเธอที่ต้องมาเสียใจเพราะคนแบบผม

"ขอบคุณนะคะพี่ชาย"
เธอยิ้มเศร้าๆ

ผมพยักหน้าให้เธอเป็นเชิงบอกลา อุ้มลูกชายออกจากร้าน

"กลับบ้านกันนะครับ"

สองพ่อลูกค่อยๆไกลออกไปจากสายตาเธอ เธอยิ้มเศร้ากำกระดาษในมือแน่น ขนาดเธอมั่งคงกับความรักขนาดนี้ เธอยังผิดหวังเลย

น้ำตาที่ไหลลงมาช้าๆ เธอไม่คิดจะเช็ดมันออกด้วยซ้ำ รอแล้วได้อะไร รอทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีความหวัง แต่ก็ยังรอ

"ทำไมถึงยังรอ"
เสียงเธอฟังแล้วช่างเจ็บปวด คนรอบข้างที่คอยแอบมอง ยังรู้สึกสงสารเธอ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปปลอบ เธออาจจะอยากอยู่เงียบๆคนเดียว เจ้าของร้านก็ทำได้แค่มองเธออยู่ห่างๆ




....ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวัง

เขาไม่รัก....ก็กลับมารักตัวเอง

หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 31-08-2021 21:09:34
น่ารัก ดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 04-09-2021 18:12:42
เดี๋ยวพรุ่งนี้ออกเวรตอนเช้า ไรท์จะมาต่อให้นะคะทุกคน
#พยาบาลเวรดึก :mew2:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 05-09-2021 12:39:18
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 05-09-2021 23:33:57
รองับ
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 10-09-2021 11:07:21
ตอนที่24

หลังจากที่แยกกับใหมวันนั้น เธอติดต่อผมมาอีกวัน ว่านัดเจอกัน มีไอ้ก้านกับไอ้ตั้มไปด้วย บอกว่านัดเลี้ยงสายรุ่นน้อง เธอชวนพวกรุ่นพี่ไปด้วย -_- ฟังแล้วดูแก่ๆเนาะ

"สรุปมึงจะไปมั้ยละ"
ไอ้ก้านถาม ปลายสายมีเสียงไอ้ตั้มแทรกมาเป็นระยะ มึงสองคนนี่จะห่างกันไม่ได้เลยรึไง

"ก็ไปสิ นานๆจะได้เจอพวกรุ่นน้องด้วย"
ผมบอกมัน รุ่นน้องที่จบๆตามกันมาก็ว่างกันพอดี เลยนัดเจอกัน ไปสักหน่อย

"งั้นเจอกันที่ร้านชิลชิล ทุ่มตรง เลทเลี้ยงนะจ้ะ5555"

"ตีนเถอะ ยังไงพวกเราก็ต้องเลี้ยงน้อนอยู่แล้วป่ะ มึงอย่ามาหัวหมอไอ้ก้าน"

"5555เสี่ยปาล์มสะอย่าง เลี้ยงไม่ได้รึไงละคร้าบ"
ดูมัน

"ได้ครับๆ ผมจะเลี้ยงน้องๆเอง พอใจรึยังครับคุณก้าน".

"พอใจที่สุดเลยครับ แล้วเจอกัน"

ผมตัดสายมันทิ้งไป ไม่งั้นก็กวนตีนไม่เลิก

"ให้เฮียไปส่งมั้ย กลับจะไปรับ จะได้เต็มที่กับเพื่อนๆน้องๆได้ เฮียจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงด้วย"

"เฮียก็ไปด้วยกันเลยสิ จะได้ไม่ต้องขับไปขับมา ชวนพี่คิมไปดื่มด้วยสิ"

"จะดีหรอ"

"เฮียก็นั่งแยกโต๊ะสิครับ นั่งกับพี่คิมไง จะได้ไม่เกร็ง เพราะมีแต่เด็กๆ ตี๋กลัวน้องๆกับเฮียจะอึดอัดไปด้วย"

"เอางั้นก็ได้ พรุ่งนี้ทุ่มนึงใช่มั้ย เดี๋ยวเฮียจะนัดไอ้คิม"

"ครับ"

เฮียก็หายไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงห้อง ผมเลยเข้าไปอาบน้ำ วันนี้เราสองคนค้างที่คอนโดของเฮีย ผมเคยมาแค่สองครั้ง เวลาเลิกงานดึกๆ เพราะบางทีต้องออกไปดูงานข้างนอก กว่าจะเสร็จก็ดึกเกินไป ค้างที่นี่จะสะดวกกว่า

"เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ภานุกลับมาละ เฮียจะไปรับเอง ตี๋จะเขาบริษัทก่อนมั้ยหรือจะรอเฮีย"

"เดี๋ยวไปก่อนครับ เฮียจะได้ไม่ต้องรีบ"
ผมตอบทั้งที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จ ก็เฮียแกเล่นมายืนถามอยุ่หน้าห้องน้ำแบบนี้ ผมก็ต้องตอบสิครับ

แกร๊ก

"เฮ้ยย!"

เฮียบ้า มายืนทำไร ยังไม่ไปไหนอีก ตกใจหมด

"ยังไม่ชินอีกรึไง"
ยังจะกวน

"ชินก็บ้าละ"

"หึหึ"

"ขำอะไร แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวรึไง"
ใส่ชุดนอนครับ แต่ใส่แค่กางเกงขายาว  เสื้อไม่ใส่ ผมก็ไม่เคยจะชินสักที หุ่นดีเป็นบ้า ทำไมผมไม่มีแบบนี้บ้าง

"ไม่หนาว"

ผมพยักหน้าให้ เดินเลี่ยงหนีออกมา ทาครีมทาแป้งมั่งสิครับ เห็นแบบนี้ผมก็สำอางพอตัว

"ปิดไฟนะ"
ผมถามเฮียที่นอนอยู่บนเตียง เขาพยักหน้าให้

พักผ่อนเถอะ เมื่อยมาทั้งวันละ

หมับ

"กอดทำไม อึดอัด"
ผมพยายามแกะมือปลาหมึกของเฮียออก รัดสะแน่นเลย

"เฮียว่า คืนนี้เรามาทำน้องให้วินเนอร์กันเถอะเนาะ"
ไม่พูดป่าว ขึ้นมาคร่อมผมเรียบร้อย

"ทำน้องบ้าอะไร หยุดเลยนะ อื้อออ"

ยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนปิดปากทันที ร่างบางเม้มปากเพื่อไม่ให้อีกคนสอดลิ้นเข้ามาได้ แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอมอยู่เฉย ยังไงคืนนี้ร่างบางนี่จะต้องเป็นของเขา

"อื้ออ"
มือหนาสอดมือเข้าไปในเสื้อนอนของอีกฝ่าย ลูบไล้ผิวนุ่นนิ่มอย่างเพลินมือ ร่างบางขนลุกซู่เสียววาบไปทั้งตัว จนต้องเผลอครางออกมา

ลิ้นร้อนๆไม่รอช้ารีบลุกลำเข้าไปกวาดหาความหวานทันที กลิ่นยาสีฟันคละคลุ้งไปทั่วปาก หวานๆฝาดๆ อือ อร่อยดี

ร่างหนาที่ห่างหายเรื่องอย่างว่าไปนานเกือบปีก็เครื่องติดง่ายซะยิ่งกว่าอีกคน แต่ร่างบางที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ กลับถูกอีกคนชักนำจนเคลิ้มตามไปในที่สุด ลืมไปเลยว่าต้องห้าม

"ฮะ ฮะ เฮีย อื้อ ไม่ อ๊าาา"

"ไม่อะไรครับ"

ปากถามแต่มือก็ถอดเสื้อผ้าของอีกคนออกจนหมด มือไวไว้ใจเฮียได้ -_-

"อ๊ะ พอ อื้ออ"
ปากบอกให้พอ แต่เสียงที่ครางออกมามันพอซะที่ไหน ร่างหนามองหน้าอีดฝ่ายที่ตอนนี้แดงก่ำซะยิ่งกว่ามะเขือเทศ เขายิ้มอย่างพอใจก่อนจะการกับเจ้าหนอนน้อยตรงหน้านี่ชักขึ้นลงเบาๆ

"อ๊ะ อย่านะ อื้อออ มันสกปรก"
ทันทีที่ลิ้นสัมผัสส่วนหัวของแก่นกลาง ร่างบางสะดุ้งโหยง สั่นไปทั้งทั้งตัว ความเสียวแล่นมาจุกอยู่ที่ส่วนปลาย หน้าท้องเกร็งจนเห็นกล้าเนื้ออ่อนๆ

ปากก็ทำหน้าที่ให้เป็นอย่างดี เร่งความเร็วให้อีกฝ่าย มือบางขยุ้มเส้นผมอีกฝ่ายแน่น

"เฮีย อื้อออ จะเสร็จ อ๊ะ แล้ววว"
เมื่อได้ยินเสียงของอีกคน เขาก็เร่งจังหวะให่ จนในที่สุด

"อ๊าาาาาา"

น้ำสีขาวขุ่นๆที่ไหลออกจากมุมปากของร่างหนา เขาเช็ดมันออกก่อนจะมองอีกคนที่นอนหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้า

เขาไม่รอช้า หยิบเจลหล่อลื่นกับถุงยางที่แอบเตรียมไว้ในลิ้นชักมาจัดการ

"ตี๋ เฮียขอนะครับ"
น้ำเสียงอ่อนโยนที่ฟังแล้วชวนให้สยิว ขนร่างบางลุกวาบไปทั้งตัวอีกครั้ง เมื่อร่างหนาถอดกางเกงออก แก่นกลางขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าร่างบางตกใจตาโต

"เฮียยยย ไม่เอาาาาาา"

ไม่ทันได้ขัดขืนอะไร ร่างหนาจัดการปิดปากทันที จากแรกที่เคยอ่อนโยน แต่ตอนนี้มันกลับรุนแรงและดิบเถื่อนขึ้นกว่าเดิม ริมฝีปากบางถูกบดขยี้ซ้ำแล้วเล่า ทำยังไงอีกคนก็ไม่ยอมพอใจสักที เท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ทั้งดูด ทั้งเม้มทั้งกัด อยู่แบบนั้น จนอีกคนเจ็บชาไปหมด กะจะเอาให้ตายกันไปข้างเลยรึไง แต่ก็ขัดไม่ได้เพราะตัวเองดันชอบ-_-

ร่างหนายกขาอีกฝ่ายให้ตั้งชันขึ้น ร่างบางรีบหุบขาทันที

"หุบทำไม เห็นหมดแล้วเนี่ย"
ปากแซวน้องไปด้วย มือก็จัดการบีบเจลใส่ที่ปลายนิ้ว

"อาย"
น้องตอบแค่นั้น หันหน้าหนีเพราะอายจริงๆ เขินจนทำอะไรไม่ถูก

ฟอด ฟอด

"เฮียจะทำเบาๆนะครับ"

ร่างบางพยักหน้าให้ อีกฝ่ายไม่รอช้า ทาเจลที่ร่องก้นก่อนจะค่อยๆสอดนิ้มเข้าไปช้าๆ

"อ๊ะ เฮีย มะ ไม่ เอา มัน อื้ออ เจ็บ"
ร่างบางสะดุ้งเตรียมจะถอยหนี แต่มือหนาดึงขาไว้ทัน ปิดปากอีกรอบ เพื่อให้อีกคนได้ผ่อนคลาย นิ้วที่สอดเข้าไปค่อยๆเพิ่มจำนวนไปที่ละนิ้ว จนตอนนี้เข้าไปได้ถึงสามและค้างไว้แบบนั้นเพื่อให้ช่องแคบได้ปรับตัว ลิ้นหนาไล่มาที่คอขบเม้นเบาๆ ก่อนจะลงมาที่หน้าอก หัวนมสีชมพูตรงหน้าแข็งตัวเพราะความเสียว ปากหนาครอบครองอย่างหวงแหน ขบเม้นจนอีกคนต้องแอ่นอกตาม

นิ้วถูกดึกออก แล้วแทนที่ด้วยแก่นกลางขนาดใหญ่ โดยที่ร่างบางรู้สึกเจ็บแค่แปล๊บเดียวแล้วก็หายไป

"เฮีย ขยับหน่อย มันอึดอัด"
ร่างบางเอ่ยปากบอกเสียงเบาหวิว อารมณ์ตอนนี้มันเลยความอายไปไหนต่อไหนแล้ว

"ครับ"

ร่างหนาค่อยๆขยับเขาออกช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆตามความต้องการของตัวเองและเสียงครางที่ร้องขออย่างไม่หยุดหย่อน

พั่บๆๆๆๆๆ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วทั้งห้อง เสียงครางที่ได้ยินมาเป็นระยะๆ ผสมปนเปกันไปหมด

"อ๊า ตี๋ผ่อนคลายหน่อย มันแน่นไป เฮียจะเสร็จแล้ว"
ร่างหนานิ่วหน้าเพราะเริ่มจุกที่ส่วนปลายแก่นกลางจนปวดหนึบไปหมด

"เฮียบ้า อ๊ะ เบาสิ"
ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อเขากระแทกไปโดนจุดกระสั่น เสียวจนเสร็จคามือตัวเองไปอีกรอบ

"เบาไม่ได้แล้วที่รัก"

พั่บๆๆๆๆๆ

เขาเร่งจังหวะไปตามความต้องการของตัวเอง ร่างบางโยกไปตามแรงกระแทกที่อีกฝ่ายมอบให้

พึบ

ร่างหนาชักแก่นกายออกทก่อนจะรีบดึงถุงยางออก เขาบีบเจลใส่ปลายนิ้วป้ายไปที่แก่นกลางของตัวเอง แล้วป้ายไปที่ร่องก้นของอีกคน

พรึบ

"โอ้ย เบาๆ เจ็บนะ"
ร่างบางร้องลั่นเพราะอีกคนเข้ามาแบบไม่ได้เบิกทางก่อน

"เฮียขอโทษๆ"
ปากบอกขอโทษ แต่ไม่เคยเบามือเลยด้วยซ้ำ

ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างหนาก็ไม่เคยพอใจ จนร่างบางแทบสลบ เขาถึงหยุดการกระทำของตัวเองไว้เพียงแค่สามยก

จุ๊ป

"นอนได้นะ เฮียจะล้างจะตัวให้เอง"
ร่างบางฟังยังไม่ทันจบก็หลับตาให้อีกฝ่ายในทันที

ร่างหนาอุ้มร่างบางมาวางในอ่าง เปิดน้ำอุ่นใส่ไว้ เขามองดูผลงานตัวเองแล้วยิ้มอย่างแหย่ๆ พรุ่งนี้จะโดนอะไรก่อนดี -_-

"รอยแดงเต็มตัวเลยไอ้ห่า พรุ่งนี้กูซวยแน่ๆ"

พึมพำกับตัวเองเสร็จ เขาก็จัดการเอาน้ำออกจากทางด้านหลังให้น้อง เมื่อตัดการทุกอย่างเรียบร้อย เช็ดตัว ทางแป้งให้อย่างกับลูกชาย ใส่ชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงยาวให้

"จะมีไข้มั้ยว่ะ"
 ร่างหนาเริ่มบ่นกับตัวเองอีกรอบ เขารีบเดินออกจากห้อง ไปค้นหากล่องยาที่แม่บ้านเอามาทิ้งไว้ให้

"มีแต่ยาลดไข้ ยาแก้อักเสบไม่มีหรอว่ะเนี่ย"

มีแค่นี้ก็กินไปก่อนละกัน ตอนนี้มันดึกมากแล้ว ร้านขายยาคงปิดหมด เขาเดินเข้าห้องนอนไปพร้อมกับแก้วน้ำและยาสองเม็ดในมือ

"ตี๋ๆ ตื่นมากินยาก่อนนะ"
เขาเขย่าแขนร่างบางเบาๆ

"อื้อออ"
น้องแค่ขยับตัวหนีเพราะจะนอน แต่คนพี่ไม่ยอมกลัวน้องจะไข้หนัก

"ลุกมากินยาแปปนึงนะครับ ค่อยนอนนะ"
ร่างบางทนความตื้อไม่ไหว พยายามจะปรือตาขึ้นมามอง แต่มันลืมไม่ขึ้น

ร่างหนาประคองให้อีกฝ่ายลุกขึ้นนั่ง น้องอ้าปากรอยา ยาสองเม็ดเข้าไปแล้วตามด้วยน้ำ
ร่างบางรู้ทุกอย่าง ได้ยินที่อีกคนพูดทุกอย่าง แต่แค่ลืมตาไม่ขึ้นแล้วเท่านั้นเอง

"เรียบร้อย นอนพักนะครับ"

น้องพยักหน้ารับ ร่างหนาค่อยๆปล่อยน้องลงนอน ห่มผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นมานอน

ฟอด

"เฮียรักตี๋นะครับ"

เขารั้งร่างบางมากอดไว้แนบอกอย่างหวงแหน ร่างบางขยับตัวให้เข้าที หน้ามุดอยู่ที่อกของอีกฝ่าย ปากก็ยกยิ้มไปด้วยเพราะคำบอกรักของอีกฝ่าย แต่ตัวเองกลับไม่มีแรงจะพูดด้วยซ้ำ เขาคิดในใจแค่ว่า ช่างเหอะ จะบอกวันไหนมันก็ไม่สายไปหรอก เพราะยังไงเขาก็ไม่ปล่อยอีกคนไปแน่ๆ

มาทำให้รักแล้วคิดว่าจะปล่อยไปง่ายๆหรอ

ไม่มีทาง!


เช้าวันต่อมา

ความซวยมาเยือนไอ้วิคแล้วครับนายท่าน ตัวน้องร้อนจี๋เลย ชิบผายละทีนี้

โทรถามพี่นุก่อนละกัน

ไม่นานปลายสายก็รับ

"ครับนาย"

"พี่นุ อาตี๋ไม่สบายตัวร้อนมาก ผมคงไปรับพี่ไม่ได้ เดี๋ยวให้คนที่บ้านไปรับนะครับ"

ผมรีบบอกอย่างรนๆ

"อ้าว คุณปาล์มไม่สบายหรอครับ"

"ใช่พี่ เมื่อคืน เอ่อ คือว่า คือผม"

"ทำร้ายเขาละสิ5555"

"โห่พี่อย่าแซวสิ"

"ออกไปซื้อยากับโจ๊กมาให้เลยครับนาย ไม่งั้นก็พาไปรพ.ถ้าหนัก!"

"ครับๆ ผมกำลังจะออกไป พี่รอที่สนามบิน เดี๋ยวคนที่บ้านไปรับ"

"ครับนาย"

ผมวางสายจากพี่นุ รีบออกไปซื้อยามาให้น้อง ตอนทำละไม่คิดไอ้วิคเอ้ย ตื่นมาจะโกรธมั้ยว่ะน่ะ

ผมขับรถออกมาจากคอนโด มองหาร้านขายยาใกล้ๆ เออ หายากดีแท้ ขับไปอีก500เมตรเจอพอดี ไม่รอช้าละครับตอนนี้

"สวัสดีค่ะ เป็นอะไรมาค่ะ"

"ผมจะมาซื้อยาให้แฟนน่ะครับ"

"พามาด้วยรึป่าวค่ะ"

"ไม่ได้มาครับ"

"แล้วคนไข้มีอาการยังไงบ้างค่ะ"

"ตัวร้อนมากครับ"

"ได้วัดไข้รึป่าวค่ะ"

"ไม่ได้วัดครับ"

"ค่ะ แล้วมีอาการอะไรอีกมั้ยค่ะ"

พยาบาลก็ถามมากจริง ผมจะบอกเขายังไงดี ตรงๆเลยละกัน

"แฟนผมเป็นผู้ชายครับหมอ"

"ค่ะ"

"เมื่อคืนมีอะไรกัน เช้ามาเขาก็มีไข้ครับ"

ผมบอกไปตามตรง หมอหน้าแดงไปแล้วครับ ผมอายมั้ย ผมก็อายนะ แต่เพื่อเมีย ผมยอมอาย

"นั่งรอสักครู่นะคะ หมอจัดยาให้"

"ครับ"

ผมนั่งรอที่เก้าอี้ที่เขาจัดไว้ให้ ดีนะที่ยังไม่มีคนไข้สักคน ไม่งั้นนะ บรรเทิงๆแน่ๆ

"รับยาได้ค่ะ"

"เท่าไหร่ครับ"

"485บาทค่ะ"
หมอยื่นใบเสร็จให้ผมดู ผมจ่ายเงินแล้วเดินออกจากคลีนิคทันที

รายการต่อไปคือร้านโจ๊ก

หาง่ายอยู่ครับ ผมจอดรถไว้ข้างทาง ป้ารถเข็นที่มีลูกค้าต่อคิวอยู่3คน ร้านดูสะอาดดีครับ ลูกค้านั่งมี่ร้านก็ที

"เอาไรดีจ้ะพ่อหนุ่ม"

"ผมเอาธรรมดา 1 รวม 1 ไม่เอาขิงนะครับป้า"

"ได้จ้า"

ป้าแกจัดการแปปเดียวเสร็จ

"เท่าไหร่ครับ"

"สองถุง 70บาทจ้ะ"
ผมยื่นแบงค์ร้อยให้ป้า ป้าทอนมาให้30  ผมรับเงินทอนแล้วเดินไปหาลุงที่นั่งอยู่ใต้สะพาน เมียป่วยเอ็งก็ยังจะแชร์ได้อีก -_-

"คุณลุงกินข้าวรึยังครับ"
ผมถามลุงที่แต่งตัวมอมแมม

"ยังเลยพ่อหนุ่ม เช้านี้ยังขายของไม่ได้เลยลูก"
ผมมองของที่ลุงบอกว่ายังขายไม่ได้ มันเป็นพวกกุญแจ แกน่าจะทำเอง

"ลุงทำเองหรอครับ"

"หลานลุงทำ มันไปเรียน ลุงก็จะเอาออกมาขายให้ พอได้ค่าไปโรงเรียน"

"ผมขอซื้อหมดนี่เลยได้มั้ยครับ"
ผมสงสาร นานๆผมจะมีโอกาสได้มาเจอแบบนี้ แล้วก็มีโอกาสได้พูดคุย

"ได้สิ ลุงเอาไม่แพงหรอกลูก"
ลุงหยิบพวกกุญแจที่แขวนอยู่ในเหล็กวงกลมที่หมุนได้ใส่ถุงให้อย่างระมัดระวัง

"ลุงเขียนที่อยู่ให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ มีเบอร์โทรมั้ย วันนี้แฟนผมป่วย ผมต้องรีบเอายาไปให้เขาก่อน ผมอยากจะไปหาลุงที่บ้าน ลุงโอเคมั้ยครับ"

ผมอยากไปดูความเป็นอยู่ของลุง ลุงก็ดูไม่แก่มากมายอะไร น่าจะอายุมากกว่าพ่อแม่นิดหน่อย และผมรู้สึกถูกชะตากับลุงเขา  หลานของแกก็น่าเป็นเด็กดีด้วยซ้ำ

"บ้านลุงเก่าแล้ว ไม่น่าไปหรอกลูก"
ลุงแกพูดพร้อมยิ้มให้ผม ผมยิ้มกลับ

"ผมอยากไป ได้มั้ยครับ"
ผมพูดกับแกอย่างจริงจัง แกยิ้ม แล้วส่งของให้ผม

"ถ้าอยากไปก็ไปได้ แต่ลุงไม่มีอะไรมาต้อนรับพ่อหนุ่มหรอกนะ"
ลุงเขียนชื่อ ที่อยู่ แต่ไม่มีเบอร์โทร ยื่นให้ผม ผมรับมาดู ก่อนจะหยิบเงินหนึ่งพันบาทยื่นให้ แล้วรีบเดินหนีเพราะลุงแกเรียกจะเอาคืน ใครจะอยู่ละครับ วิ่งสิครับ

30นาทีผ่านไป

แกร๊ก

ยังไม่ตื่นสินะ ผมเอาของไปส่งไว้บนโต๊ะในครัว ก่อนจะเดินไปที่ห้องนอน

"ตี๋ ตี๋ครับ"
ผมเขย่าแขนน้องเบาๆเพื่อไม่ไห้น้องเจ็บตัวไปมากกว่านี้

"หืออ เฮียหรอ"
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 10-09-2021 11:19:53
ตอนที่25
เสียงงัวเงียวเชียว

"ครับ หิวรึยัง"

"นิดหน่อย"

"งั้นลุกขึ้นนั่งไหวมั้ย"

น้องนิ่วหน้าแล้วส่ายหัว

"เฮียขอโทษนะ มาเฮียพยุงเอง"
น้องพยักหน้าให้

"โอ้ยๆ เฮียเบาๆ"
น้องร้องเสียงหลงทันทีที่ผมขยับตัวเขาเพื่อจะให้นั่งพิงหัวเตียง

"ครับๆ"

น้องค่อยๆขยับตัวเองให้พิงหัวเตียง ผมเดินออกมาเทโจ๊กใส่ชาม น้ำใส่แก้ว และเตรียมยาที่หมอจัดมาให้

"ตักเองได้มั้ย"

"ได้ครับ"

ผมวางถาดโจ๊กลงบนตักน้อง เอาแก้วน้ำกับแก้วยาวางที่โต๊ะหัวเตียง

"พอจะลุกไปล้างหน้าแปรงฟันไหวมั้ย"

พอน้องทางเสร็จผมก็ถามต่อ เพราะน้องเขาเจ้าสำอางค์จะตาย

"พยุงไปหน่อยได้มั้ยเฮีย ตี๋อยากเข้าห้องน้ำ"

ผมพยุงน้องให้เดินไปห้องน้ำ น้องบอกไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น แต่ขาแค่ไม่มีแรง

"เฮียออกไปสิ จะยืนอยู่ทำไมเนี่ย"
ไล่เฉย

"ก็กลัวเราล้มไง"
ก็คนเป็นห่วงนี่

"ไปเหอะ ตี๋ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย"

"มีไรก็เรียกนะ เฮียไปรอข้างนอก"

"ครับ"

ผมเดินออกจากห้องน้ำ ปิดประตูแต่ไม่ได้ล็อค เห็นน้องไม่เป็นอะไรมากผมก็ดีใจขึ้นมาหน่อย ตื่นตูมไปเองแท้ๆเลยผม

"เฮียยยยยยยยย"

วิ่งแทบไม่ทัน

"เป็นอะไร"

ผมที่เปิดประตูเข้าไปหน้าเหรอหราเพราะคิดว่าน้องจะหัวฟาดพื้นไปแล้ว แต่....

น้องถอดเสื้ออยู่ครับ จุดแดงๆเต็มตัวไปหมด แฮ่ๆ

หน้าตาบูดบึ้งนั่นคืออะไรก่อนนน แววกลัวเมียมาแล้วครับไม่ต้องสืบ

"ทำอะไรไว้เนี่ยห้ะ!!!"
เสียงดังที่สุดในรอบปี

"เฮียยยไม่ได้ตั้งจายยยย"
บรรเทิงละทีนี้ชีวิตไอ้วิค

"ไม่ต้องมาพูดเลยนะ!"

สายตาคาดโทษนั่นมันอะไรอีก ทำไมเพิ่งเคยจะเห็น สีหน้าท่าทางเอาเรื่องนั่น ตายกูตาย

"แหม่ ก็อารมณ์มันพาไปไง"
เอาว่ะ จะว่าผมตอแหลยังไงก็ยอม เมียไม่ฟันหัวเแบะถือว่าเป็นบุญกูมากพอละตอนนี้

"อ้อหรออออ รีบออกไปซะเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อยากเห็นหน้าแล้ว!"

นิ้วชี้สั่งตาย ไปสิครับ รอใครละ

วิ่งแนบออกจากห้องน้ำแทบไม่ทัน องค์แม่ประทับร่างแบบนี้ บรึ้ยยย เพิ่งจะเคยเห็นอาตี๋ในเวอร์ชั่นนี้

"ไม่ต้องมากอด มาหอม มาใกล้เลยนะเว้ย!"

เสียงโวยวายอยู่ในห้อง สงสัยจะอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมนั่งกินโจ๊กไปดูข่าวไป คนในห้องคงหลับไปแล้วมั้ง ยาเยอะขนาดนั้น

ครืดดดดด ครืดดดด

"ครับพี่นุ"

"เออนายครับ เมื่อกี้ผมเข้าไปในห้อง แต่ได้ยินเสียงดังโวยวาย เลยรีบวิ่งออกมาก่อน ตอนนี้สงบยังครับ ผมยืนรออยู่หน้าห้อง"

ช้อนในมือหล่นลงในชามโจ๊ก

ชิบผาย หมดกัน มาดประธานบริษัทของกู

"เข้ามาเลยพี่นุ คงนอนไปแล้วมั้งครับ"
นึกแล้วก็ขำ โดนแมวขู่เฉย5555

(ยังไม่สำนึกอีก:ไรท์เตอร์)

"นายครับ หัวแตกมั้ยครับ"
นี่มาถึงก็แซวผมเลย

"ยังอยู่ดีพี่"

"แสดงว่ายังมีบุญ"

ผมกับพี่นุหัวเราะเบาๆ ดังสิ หัวจะได้แบะทั้งคู่น่ะ แมวขนปุยของผมยิ่งร้ายๆอยู่ด้วย ถ้าไม่อยากโดนข่วนก็อย่าเอามือไปแหย่ครับ ไม่ปลอดภัย

"คุยเรื่องงานเลยมั้ยครับ"
พี่นุเข้าเรื่อง

"ว่ามาเลยพี่"

"ที่ดิน300ไร่ ได้มาครบแล้วพร้อมโฉนด เรื่องเงินจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ชาวบ้านแถวนั้นเขาบอก ขอขึ้นราคาไร่ละหนึ่งหมื่นเพราะเป็นที่ติดกับเขตท่องเที่ยว ทำเลดี ปลูกอะไรก็ได้ผลดี แต่ที่ขายเพราะที่ดินที่ติดกัน บางเจ้ามันไม่มีทางเข้า-ออก เลยต้องขายพร้อมกัน เหมือนที่โทรมาแจ้งนายล่วงหน้านั่นแหละครับ นายจะไปดูหน่อยมั้ย จะได้เคลียร์เรื่องเงินด้วยเลย ผมบอกรอนายลงจัดการ ชาวบ้านเลยยอม"

ผมจะทำบ้านสวน ทำสวนผลไม้ ทำเหมือนรีสอร์ทที่นั่นครับ อยากเอาไว้เป็นบ้านพักส่วนตัวด้วย พอดีเพื่อนที่รู้จักกันแนะนำมา ให้ไปดูที่ ผมเคยลงไปดูแล้วรอบหนึ่ง ผมว่ามันโอเคดี เลยให้พี่นุไปจัดการให้

"ว่างวันไหนละครับ จะได้ลงไปดูที่ทั้งหมด และจะได้ดูด้วยว่าจะสร้างบ้านตรงไหน จะเอาอะไรลงตรงไหนบ้าง ผมจะได้ค่อยอยู่จัดการให้เลย"

ผมคิดตามพี่นุบอก แบบผมวาดไว้หมดแล้ว แต่เป็นแบบคร่าวๆเพราะผมยังเห็นที่ดินไม่ทั่วเลยด้วยซ้ำ

"เดี๋ยวผมโทรบอกอีกที อันนี้คือแบบที่ผมร่างไว้ พี่เอาไปดูก่อน จะได้รู้ก่อนด้วยว่ามันจะโอเครึป่าว"

"ครับนาย มีอะไรด่วนโทรไปได้ตลอดนะครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะลุกเดินไปทางห้องนอน ค่อยๆเปิดประตูเข้าไป หลับจริงด้วย

ผมยกผ้าห่มขึ้นห่มให้ถึงหน้าอก ลดแอร์ลงอีก เก็บถาดออกมาล้าง ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ

สรุป วันนี้โดดงานทั้งคู่



=มาต่อให้แล้วเน้อ nc งูๆปลาๆอย่าว่าไรท์นร้าาาา พยายามสุดความสามารถแล้ว

=โรคระบาดในกรุงเทพฯตอนนี้เยอะมาก พยายาลแบบไรท์เลยไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ แต่ก็จะพยายามมาต่อให้ อาจจะเดินเรื่องไวไปบ้าง เพราะจะมีภาควินเนอร์ต่อ

=ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ออกไปไหนมาไหนสวมใส่แมสตลอด แอลกอฮอล์ขนาดพกพาต้องมีติดกระเป๋าไว้เสมอ

เราปลอดภัย คนอื่นก็ปลอดภัย

=รักและห่วงใย


จาก ไรท์เตอร์ I'Rin
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 10-09-2021 12:17:57
ตอนที่26

@ชิลชิล

ถ้าคนจะเต็มทุกโต๊ะขนาดนี้ ผมว่าน่าจะขยายร้านออกไปอีกก็ได้นะครับ และส่วนมากก็จะมีแต่นักศึกษาม.ใกล้ๆนี่แหละครับ ร้านดังในย่ายนี้ มาดูบอลกัน

"คนเยอะจังตี๋"
ผมหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆ เฮียที่หน้าอึดอัดจนออดนอกหน้า คงไม่ชอบสินะ

"เฮียอยากกลับมั้ย"
ผมถามพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ คนเดินเข้าออกกันไปมาไม่เว้นช่วงเวลา

"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไอ้คิมกับพี่นุก็ตามมา"

"ครับ"

ผมเดินนำหน้าเฮียเข้าไปในร้าน ดนตรีสดก็เล่นไป คนเต้นก็มี พนักงานก็เสิร์ฟกันให้วุ่นไปหมด ดูแล้วสนุกดีครับ ครึกครื้นดี แต่คนข้างๆผมนี่สิ จะไหวมั้ยเนี่ย

"ปาล์ม!!! ทางนี้!"

ผมมองไปตามเสียงที่ดังแข็งกับเสียงคนและเสียงเพลง ก็เห็นไอ้ก้านโบกมือให้อยู่โต๊ะตรงกลาง มึงเลือกที่หลบมุมกว่านี้ไม่ได้รึไง ไอ้ห่าก้านนี่มันชอบเป็นจุดสนใจครับ

ผมจับมือเฮียให้เดินไปพร้อมกัน ทุกสายตาจับจ้องมาที่เรา มากกว่าจอใหญ่ไปที่กำลังมีนักฟุตบอลวิ่งแย่งบอลกันซะอีก ผมไม่สนใจ พาเฮียที่เหงื่อเริ่มออกตามขมับให้เดินไปถึงโต๊ะให้ไว้มีสุด

เสียงซุบซิบตลอดทางเดิน จะดีหรือไม่ดี ผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ ผมไม่ได้สนใจ

"เอ้า เด็กๆ ลุกขึ้น"
ไอ้ก้านตัวตั้งตัวตี ทันทีที่ผมกับเฮียเดินไปถึงโต๊ะ

พรึบ

"พี่คนหล่อนี่ชื่อพี่ปาล์ม รุ่นเดียวกับพี่ น้องใหม่อาจจะไม่เคยเห็น"

มันยิ้มโชว์ฟันครบ32ซี่ แล้วผายมือมาทางผม ผมยิ้มให้น้องๆ พวกเขาก็ยิ้มให้

"สวัสดีค่ะ/ครับ พี่ปาล์ม"

น้องๆน่ารัก

"ส่วนพี่คนที่ยืนอยู่ข้างๆและหล่อกว่ารุ่นพี่พวกเอ็ง ชื่อ พี่วิคเตอร์ หรือเฮียวิค"

มันผายมือมาทางเฮียที่ยิ้มตอบน้องๆ

"สวัสดีครับ/ค่ะ เฮียวิค"

คิดว่าจะจบ แต่.....

"เขาสองคนเป็นกัน"
ไอ้เวรก้านหน้าระรื่น

"ฮิ้วววววววว"

ทั้งร้านละตอนนี้ ผมมองหน้าเฮียที่ยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ เหมือนจะถูกใจ ทำไมก่อนหน้านี้เหมือนจะเป็นจะตายให้ได้ละนั่น

"พี่ปาล์ม นั่งก่อนสิค่ะ ใหมชงเหล้าให้"
ใหมพูดแทรกขึ้นทันที ที่ทุกคนกำลังจะแนะนำตัวกับผมและเฮีย เพื่อนๆก็ชกหมัดกันปกติ

"ขอบใจนะ"
ผมมองหน้าเฮีย เฮียมองหน้าผม เหมือนอยากจะถาม แต่ก็เลือกที่จะเงียบ ค่อยบอกละกัน

"เฮียรอพี่คิมกับพี่นุก่อน ค่อยแยกก็ได้"
ไอ้ก้านจองโต๊ะไว้ให้แล้วครับ รอแค่คน

"ครับ"

รุ่นน้องลุกให้เฮียนั่งข้างผม มันเดินไปยกเก้าอี้มาเสริมกันเอง เหมือนเป็นร้านของมันเองเลยวุ้ย

"ขออนุญาตถามค่ะพี่ปาล์ม"
น้องผู้หญิงในกลุ่ม น่าตาน่ารักพูดขึ้น

"ครับ"

"พี่สองคนคบกันนานยังค่ะ"
เด็กพวกนี้ถามพร้อมรอฟังคำตอบ เขินๆกันยังไงไม่รู้ ผมมองหน้าเฮียวิคที่อมยิ้มอยู่ข้างๆ

"อีกไม่กี่วันก็ครบปีแล้วครับ"
เฮียตอบ
พวกน้องกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ รอบๆข้างก็พลอยเป็นไปด้วย

"ค่ะๆ คบกันนานๆนะคะ พวกหนูเป็นกำลังใจให้"
น้องพูดแล้วยิ้ม

"ขอบคุณนะครับ"

ผมตอบรับ ท่าทางแต่ละคน กึ่มๆกันแล้วด้วย นี่กินกันตั้งแต่ตอนไหน

"สองคนนั้นมาถึงแล้ว"
เฮียสะกิดขาผมแล้วกระซิบ

"เดินเข้ามาเลยสิ เดี๋ยวตี๋เดินไปส่งที่โต๊ะ"
ผมกระซิบกลับ เฮียพยักหน้ารับแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป

"ก้าน เดี๋ยวกูมานะ ไปส่งเฮียที่โต๊ะก่อน พี่คิมกับพี่นุมาแล้ว"
ผมบอกเพื่อนตัวดีที่นั่งม่อสาวๆในโต๊ะตัวเอง

รุ่นน้องนะเฮ้ย

"โอเคครับเพื่อน"

มันขานรับแต่ไม่ได้มองมาทางผม ผมลุกขึ้นจับมือเฮียให้เดินตามมา สายตาชื่นชม ยินดีและไม่ชอบที่ถูกส่งมา ผมไม่สนหรอก จะชอบไม่ชอบก็เรื่องของพวกเขา

"สวัสดีครับพี่คิม/ พี่นุ"
ผมยกมือไหว้พร่เขา เขารับไหว ยิ้มตอบ

"ตี๋ไปสนุกกับเพื่อนเถอะ เดี๋ยวเฮียรอนี่แหละ"
ผมพยักหน้าแล้วเดินออกจากโต๊ะเฮีย กลับไปที่โต๊ะตัวเอง

หลังจากนั้น.....

เละครับ แต่ละคน

"ตั้มไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย"
ผมบอกไอ้ตั้มที่นั่งข้างๆ มันไม่เมาหรอกครับเพื่อนผม คอเหล็ก

"ไปสิ....ไอ้ก้านไปห้องน้ำป่าว"
มันตอบผมแล้วหันไปดึงแขนเพื่อนมันอีกที ไอ้นี่ก็ม่อไม่เลิก

"ไปๆ"

เราวามคนลุกไปห้องน้ำ ผมที่ทำธุระเสร็จก่อน ก็ออกมายืนรอเพื่อนที่ไม่รู้ว่ามาเข้าห้องน้ำหรือมานอน นานเกิ้น

พรึบ

ผมเซไปตามแรงดึก

"ไหม?"

เธอดึงผมไม่แรง แต่ไม่ทันได้ตั้งตัว เลยเซไปซนกับขอบเสาของผนังห้องน้ำ

"ใช่ ไหมเอง"
เธอเมา ดูเหมือนว่าจะไม่มีสติเลยด้วยซ้ำ

"มีอะไร ดึงพี่ซะแรง"
ผมลูบหัวไหลตัวเอง เจ็บครับ ไม่รู้จะช้ำรึป่าว

"ไหมพยายามห้ามตัวเองแล้ว แต่มันห้ามไม่อยู่ ไหมพยายามจะทำใจแล้ว แต่มันทำไมไม่ได้ ไหมอยากจะเลิกรัก แต่มันกับเลิกไม่ได้ ทำไมอะพี่ปาล์ม ทำไมเป็นไหมไม่ได้ทำไมต้องเป็นพี่เขาด้วย"
เธอพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาเรื่อยๆ ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ

"ไหมครับ พี่ไม่อยากพูดว่าขอโทษ แต่พี่ก็อยากจะขอโทษจริงๆ พี่รับรักเราไม่ได้เพราะพี่ไม่ได้รู้สึกรักเราแบบนั้น พี่รักเราเพราะเห็นว่าเป็นน้องสาว พี่ไม่อยากทำให้เราเสียใจ"
แต่ผมก็ไม่อยากทำให้เขามีความหวัง

"ไหมเจอพี่ก่อน ทำไมไหมถึงไม่ได้ใจพี่ก่อน ไหมทำทุกอยากให้พี่ได้ ไหมไม่ได้หวังให้พีี่ทำดีกับไหม แต่ไหมหวังมากกว่านั้น ไหมอยากให้พี่มาเป็นขอใหม"

เธอพูดไปเรื่อย น้ำตาก็ไหลไม่หยุด ผมไม่รู้ตะทำยังไง ไม่อยากพูดจาแรงๆเพราะสงสารเธอ

คนดีๆแบบเธอ ทำไมไม่เจอคนทีดีๆ ทำไมเธอต้องมารักคนอย่างผม

ยิ่งพูดเหมือนเธอจะยิ่งไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมรับกันแน่ ผมแกะมือเธอออก เพราะตอนนี้คนเริ่มเยอะ ผมไม่รอเพื่อนสองคนแต่ดึงแขนเธอให้ออกมาคุยกันหลังร้าน

"ความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ พี่ให้ไหมไม่ได้ พี่หวังว่าไหมจะยอมเข้าใจ"

ผมพยายามไม่ใส่อารมณ์กับเธอ เพราะเธอเป็นคนดีจริงๆเท่าที่ผมเคยเจอมา แต่ผมก็ไม่ได้รู้ดีๆแบบนั้นกับเธอ

"เป็นไหมไม่ได้หรอพี่ปาล์ม เป็นไหมได้มั้ย ให้ไหมไดเดูแลพี่เถอะนะ ไหมจะทำให้ดีที่สุด ไหมรักพี่นะ"

"ไหมพอเถอะ พี่ให้ไหมไม่ได้หรอก เพราะมีมีคนรักแล้ว ไหมตัดใจเถอะนะ พี่ต้องไปแล้ว"

ผมตัดบท พูดมากไปก็เหมือนจะมากความ พูดกับคนเมา ก็เหมือนได้เรื่องมากกว่ารู้เรื่อง

พรึบ

จุ๊ฟ

ผมหันไปตามแรงดึกของเธอ ปากเธอประกบปากผมทันที ผมตกใจทำไรไม่ถูก

พรึบ

"เธอทำอะไร!"

เป็นเฮียวิคที่แยกเราออกจากกัน ผมยังมึนงง มองหน้าเธอด้วยความเสียใจ เสียใจที่เธอทำแบบนี้ ก่อนจะหันไปมองหน้าเฮียวิคที่ตอนนี้จ้องไหมอย่างโกรธเคือง สีหน้าท่าทางเอาเรื่องของเขาทำให้ไหมตัวสั่น สีหน้าตกใจและน้ำตาที่นองหน้านั้น มันทำให้เธอดูน่าสงสารและน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 10-09-2021 13:01:23
ตอนที่27

ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น นี่ผ่านมาจะเป็นอาทิตย์แล้ว เฮียโกรธผม โกรธจริงๆ พูดด้วยเฉพาะเรื่องที่ควรพูด ผมไม่ได้อธิบายอะไรให้เขาฟังเพราะผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี และเป็นเขาเองที่ไม่ยอมรับฟัง เขาหายไป3วัน ไปไหนก็ไม่บอก ผมก็ไม่กล้าถาม ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา เขาไม่เคยโกรธผมแบบนี้เลย ผมควรจะทำยังไงดี ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะง้อใคร แต่กับเขา ผมร้อนใจ อยากจะอธิบาย อยากให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม

"อาตี๋ เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนกับถ่ายไม่ออก"
เฮียปอนด์นั่งลงตรงหน้าผม โต๊ะทำงานผมอยู่หน้าห้องเฮียวิค

"เฮียปอนด์ ตี๋แค่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจความรักจริงๆ"
ผมเงยหน้ามองเฮียที่ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ มือหนาวางลงหัวผมแล้วลูบเบาๆ

"ความรักมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ถ้าเราเลือกว่าเราจะรัก จะสุขหรือทุกข์เราต้องเรียนรู้ไปกับมัน"

ผมก็ยังงง ถ้าเสียใจมันจะเรียกว่าความรักหรอ

"เราสุขเพราะเขาทำให้เรามีความสุข เราทุกข์เพราะเขาทำให้เราทุกข์ แต่เราก็เลือกที่ยอมรับความสุขและความทุกข์เพราะเรายังอยากมีเขาอยู่ด้วย"
ผมพยายามคิดตาม มันก็จริง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ผมก็ยังอยากมีเขาอยู่ด้วย

"มีปัญหาอะไรก็ให้รีบพูดรีบเคลียร์กัน อย่าปล่อยให้มันนาน จนสายเกินไป"

เฮียปอนด์พูดแค่นั้น แล้วเดินออกไป ผมคิดตามคำพูดเฮีย ผมไม่ได้โทษเฮียวิคที่ทำให้ผมคิดมากแบบนี้ แต่ผมโทษตัวเองที่พยายามไม่มากพอ ผมจะต้องคุยกับเฮียให้รู้เรื่อง ต้องเคลียร์กับไหมให้รู้เรื่องอีกเช่นกัน

"วันนี้ผมไปนอนบ้านนะ"

ผมส่งข้อความไปบอกเฮียวิค เขาอ่านแต่ไม่ตอบ ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋า นั่งเคลียร์งานที่ค้างไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนจนเสร็จ แล้วรีบออกจากบริษัทเฮียปอนด์ไปด้วยความเร็ว

"ออกมาเจอกันหน่อย"
ผมส่งไลน์ไปให้ไหม

"ค่ะ"

ผมไปหาเธอที่ทำงาน ตามที่เธอส่งที่อยู่มาให้ ผมจอดรับเธอที่หน้าบริษัทที่เธอทำงาน แล้วพาเธอไปหาที่นั่งคุยกัน ยังไงๆวันนี้ต้องจบ

@สวนสาธารณะ

ผมเดินนำเธอมานั่งที่ม้านั่ง ต้นไม้ใบหญ้าทำให้ผมผ่อนคลาย เธอนั่งลงข้างผม แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา

"เรื่องของเรา พี่ขอให้มันจบไว้แค่นี้ เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก"
ผมพูดออกไป ตาก็จ้องมองภาพเบื้องหน้าแทนที่จะมองหน้าเธอ

"ไหมผิด ไหมขอโทษ...ที่ทำตัวแบบนั้น"
เธอพูดเสียงเบา รางกับกลั้นก้อนสะอื้นไว้ ผมไม่ได้อยากใจร้าย แต่ที่ต้องร้ายเพราะผมต้องปกป้องความรู้สึกของคนที่ผมรัก

"ไหมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไหมขอโทษนะคะ ที่ทำให้มันวุ่นวายแบบนี้ ไหมจะไปอธิบายกับพี่เขาให้เอง"

ผมหันไปมองเธอ แล้วถอนหายใจ

"ไม่เป็นไร เรื่องของพี่พี่จัดการเอง และพี่คงดูแลเราไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว เราก็ดูแลตัวเองดีๆ พี่หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคนดีๆมาตอบรับความรู้สึกดีๆของไหมได้ พี่ขอโทษ"

ผมลูบหัวเธอเพื่อปลอบ ไม่ได้ให้ความหวัง แต่มันเป็นการให้กำลังใจ จะให้ผมลุกหนีไปแบบในละครมันก็จะใจร้ายกับน้องเกินไป ยังไงเธอก็เป็นน้องสาว นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้

"ฮึกๆ"

เธอกอดเอวผมแน่น ผมลูบหลังเธอเบาๆ น้ำผมคลอ แต่ผมต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นตัวอย่างให้เธอ จะพาเธออ่อนแอไปกว่านี้ไม่ได้

"ร้องออกมา พี่ทำให้เราเสียใจ พี่ก็จะเป็นคนปลอบเราเอง"

คนอื่นจะคิดยังไงผมไม่สน ผมสนแค่ว่า น้องเขาจะรักผมแบบพี่ชายได้ในสักวัน

"พี่กลับไปเคลียร์กับพี่เขาเถอะ ไหมกลับเองได้ค่ะ"

เธอเช็ดน้ำตาแล้วส่งยิ้มให้ผม ผมยิ้มตอบ

แล้วเดินออกมาจากเธอ ไหล่เล็กสั่นไหวเล็กน้อย ผมต้องตัดใจเดินออกมาให้ไวที่สุด

"คนคนนั้น ไหมก็หวังไว้ตลอดว่ามันจะเป็นแค่พี่ แค่พี่คนเดียวที่ไหมจะรักได้หมดหัวใจ"

เสียงแผ่วเบาของเธอไม่ได้ทำให้อีกคนได้ยิน เพราะเขาได้ขับรถออกไปแล้ว ไปแบบไม่หันมามองเธอเลยสักนิด เธอควรตัดใจจริงๆ ไม่ว่าจะยากแค่ไหน เธอก็ต้องทำให้ได้

"และไหมก็หวังว่า คนดีๆที่พี่บอกนั้น เขาจะรักไหมเหมือนที่ไหมทุ่มเทเพื่อมัน เหมือนที่ไหมตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่"

เธอเงยหน้ามองฟ้า เพื่อนไม่ให้น้ำตาเธอไหลลงมาอีกรอบ รอบนี้คงไม่มีคนคอยปลอบเธออีกแล้ว
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 10-09-2021 22:30:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 12-09-2021 23:22:20
ตอนที่28

ผมกลับมาบ้านด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องมาคิดมากเรื่องไหมอีก จะเหลือก็แต่คนตัวโตนั่นแหละ

ผมทิ้งตัวลงบนที่นอน เสียงถอนหายใจลากยาวอย่างเหนื่อยล้า

"ทำไมความรักมันถึงทำให้เราคิดมากได้ขนาดนี้นะ"

ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง หยิบมือถือมากดเข้าแอฟเขียว ไม่มีข้อความตอบกลับสักกะอันเดียว ผมออกจากแอปแล้ววางมือถือลงข้างตัว วันนี้ผมใช้สมองไปเยอะกว่าปกติมาก

ผมหยิบมือถือขึ้นมาอีกรอบ กดเบอร์เฮียแล้วโทรออกทันที ตอนนี้ผมอยากยกก้อนหนักๆที่อยู่ในใจออกไปสักที

ตืดดดดด ตืดดดดด

"ครับ"

"......."
ผมเงียบ พูดไม่ออก ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจ อยู่ขอบตาก็ร้อนผ่าว

"มีอะไรรึป่าว เฮียกำลังยุ่งอยู่"
เขาพูดรีบๆ เหมือนจะตัดบท

"...."
ผมก็ยังคงเงียบ คุณเข้าใจใช่มั้ย ว่ามันเป็นยังไง อยากพูด แต่พูดไม่ออก และก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปก่อนดี

"ตี๋ ถ้ายังไม่พูดเฮียจะวางแล้วนะ เฮียยุ่ง"

เขาเริ่มขึ้นเสียงใส่จากที่ไม่เคย

"คิดถึง"
ผมพูดได้แค่นั้น ก่อนจะเงียบ

"......"
ปลายสายก็เงียบ มีแต่เสียงเบาๆที่เล็ดลอดเข้ามา

"......"
ความเงียบยังคงเงียบต่อไป

"งั้นแค่นร้นะ เดี๋ยวเฮียโทรกลับไป"

เขาพูดแล้วตัดสายไปในทันที

น้ำตาผมค่อยๆไหลออกจากหางตาช้าๆผมควรจะรู้สึกอะไรก่อนดี ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ พอมาเจอกับตัวเองถึงได้รู้ว่าทำไม คนที่รักต้องเสียใจทั้งๆที่ยังรัก ส่วนคนที่ไม่ได้รักก็ทำร้ายกันได้อย่างเลือดเย็น

ผมคิดถูกใช่มั้ย ที่เดินเข้าหาความรักด้วยตัวเอง ผมผิดใช่มั้ยทั้งๆที่อยากจะปฎิเสธแต่กลับเอาเขาเข้ามาไว้ในหัวใจซะเองและผมผิดรึป่าวที่ตอนนี้ผมรักเขาแล้วจริงๆ

"ถ้ารู้ว่ารักแล้วจะต้องเสียใจ ผมจะทำทุกทางเพื่อห้ามคงาทรู้สึกตัวเอง"

ร่างบางพึมพำกับตัวเองเบาๆ เขาหลับตาลงช้าๆ น้ำตาเม็ดใสๆไหลลงจากหางตา

คนที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้เขาจะมอบความรักให้กับใครได้...แต่ตอนนี้เขาได้มอบมันให้อีกคนไปจนหมดหัวใจ

แล้วตัวเขาละ....ได้อะไรเป็นค่าตอบแทน

ร่างบางเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ วันนี้เขาเหนื่อยล้าจริงๆ สมองคิดอะไรมากมายไม่หยุดหย่อน จนในที่สุด ทุกอยากก็มืดสนิท

เช้าวันต่อมา...

มันเป็นเช้าที่แสนจะสดใสของใครหลายๆคน แต่ไม่ใช่กับเขาแน่ๆ ตื่นมาก็มึนๆงงๆ ทำอะไรไม่ถูกและก็ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี เออดี นี่ขนาดชีวิตประวันของตัวเองยังทำเหมือนไม่ใช่ตัวเอง

ครืดดดดดด ครืดดดดด

"อืม"
ผมกดรับสายทันทีที่รู้ว่าใครเป็นโทรมากวนผมแต่เช้า

"โถ่คุณชาย รับสายได้เชี่ยมากครับ"
เสียงไอ้ก้านโหยหวนมาจากปลายสาย ผมหลุดขำ

"มีอะไร"
ผมถามกลับ มันก็มัวแต่ลีลาท่ามาก ไม่ยอมพูดธุระของตัวเองมาสักที

"แหม่ มึงก็ กูคิดถึงไม่ได้รึไงว่ะ"
มันยังคงกวนบาทาไม่เลิก ผมยังงง ว่าคบกับมันสองคนมาได้ยังไงตั้งเป็นสิบยี่สิบปี

"อย่าลีลาไอ้ก้าน กูจะอาบน้ำ"
ผมแกล้งทำอารมณ์เสียใส่ แต่ก่อนผมก็เป็นคนแบบนั้นแหละครับ ใจร้อน ปากไว แต่พอเจอกับสองพ่อลูกนั่น นิสัยผมก็เปลี่ยนไปอีกทาง

เอาอีกละ เผลอเป็นต้องคิดถึง ให้ตายเถอะไอ้ปาล์ม บ้าบอที่สุด

"ครับๆ วันนี้คุณชายว่างมั้ยครับ กระผมกับคุณตั้มจะเข้าไปรับ มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อย"
มันก็ยังคงกวนอยู่ดี ถึงจะมีสาระปนอยู่บ้างก็เถอะ

"ไม่ว่างได้มั้ยละ"
ผมตอบกลับกวนๆ

"ไม่ได้ขอรับนายของบ่าว รีบอาบน้ำอาบท่า 10:30 กระผมจะไปรับ เตรียมตัวเลยเลยนะขอครับนายท่าน"
พูดจบมันก็หัวเราะ พาผมหัวเราะตามไปด้วย เพื่อนผมเป็นคนตลก ผมก็พลอยได้ยิ้มได้หัวเราะไปกับพวกมันด้วย

"เออๆ งั้นแค่นี้แหละ"

ผมวางสายจากมัน แล้วลุกไปอาบน้ำ จะพาไปไหนเสือกไม่บอก แล้วจะแต่งตัวยังไงไปละทีนี้

ผมเปิดตู้เสื้อผ้า ยืนมองอยู่นาน ว่าจะใส่ชุดไหนไปดี เสื้อยืดกางยีนส์ก็พอแล้วมั้ง หรือจะใส่สูทดี 5555 ผมก็ขำกับความคิดตัวเอง ก่อนมือจะยื่นไปหยิบเสื้อยืดคอกลมสีขาวมาใส่ ตามด้วยกางเกงยีนส์ตัวโปรด

คนหล่อแต่งยังไงก็หล่ออะเนาะ -_-
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 12-09-2021 23:28:11
ตอนที่29

ผมลงมานั่งรอเพื่อนที่ห้องรับแขกของบ้าน พร้อมกับเปิดการ์ตูนชอบโปรดที่ลูกชายตัวอ้วนผมชอบดู

"ไปได้แล้วครับคุณชาย"
เสียงมันดังอยู่บนหัวผม

"เชี่ยยย กูตกใจหมด ไอ้ห่านิ"
มาไม่ให้สุ้มให้เสียง

"ตกใจห่าไร มัวแต่ใจลอยสิมึงอะ กูแหกปากมาตั้งแต่หน้าประตูแล้วครับ"
มันเท้าสะเอวใส่ผม แล้วชี้มือไปทางประตูเพื่อยืนยัน ผมเห็นไอ้ตั้มยืนพิงประตูมองมายิ้มๆ

"เออๆ แล้วนี่สรุปไปไหนกัน ยังไม่บอกกูเลย"

ผมลุกขึ้นพร้อมกับถามมันสองคนที่แต่งตัวไม่ต่างจากผมเลย ไอ้ก้านเสื้อสีดำ ไอ้ตั้มสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขาขาดๆ

แต่ทำไมดูดีอีกละ

"เออกูลืม โทษๆ ไปกันเลยเหอะ ไปหาไรกินก่อนด้วย กูหิวละ"

ไอ้ก้านดึงแขนให้ผมเดินตาม ปากมันก็บ่นไปเรื่อย

บนรถ

"แล้วนี่เฮียกับลูกชายมึงไปไหน ทำไมบ้านดูเงียบๆว่ะ"

ไอ้ก้านเปิดประเด็นร้อนขึ้นมาแทงใจผมพอดี ไอ้ห่านี่มีเซ้นปะวะ

"ก็อยู่บ้านเขาสิ จะมาอยู่อะไรบ้านกู"
ผมตอบแล้วหันหน้าไปมองวิวนอกรถ

"ตอบกึ่งประชดแบบนี้ ทะเลาะกันชัวร์ๆ ใช่มั้ยไอ้ตั้ม"
ไอ้ก้านหันไปถามความเห็นจากเพื่อนที่กำลังขับรถให้ผมสองคนนั่งอยู่ ตั้มหันมามองผมแวบนึง

"อืม"

มันพูดแค่นั้น ไอ้ก้านพยักหน้าให้ตั้มแล้วหันมาสาระแนเรื่องผมต่อ

"เล่าได้มั้ยว่ะ ไม่ได้อยากเสือกนะเว่ย แต่หน้ามึงมันแบบ แบบคนไม่ได้ขี้มาเป็นอาทิตย์แล้วอะ กูรับไม่ได้"
ไอ้ก้านทำหน้าพะอืดพะอม ผมขำเบาๆกับสีหน้าของมัน

"ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องที่ร้านเหล้านั่นแหละ กูกับเฮียยังไม่ได้คุยกันเลย"
ผมบอกตามความจริง

"อ้าว แล้วมึงทำไมไม่บอกเฮียเขาละวะ วันนั้นเฮียแม่งหึงโหดจริงๆ กูนี่ขนลุกไปทั้งตัว ยิ่งมองไปเห็นไอ้ไหมนะ กูนี่แทบจะร้องไห้ตามมัน สั่นจนเป็นลมไปเลย เฮียแม่งน่ากลัวจริงๆ"
ไอ้ก้านลูบแขนตัวเอง

ใช่ครับ หลังจากที่เฮียจ้องไหมอย่างกับจะฆ่าหมกป่าตอนนั้น ไหมที่สั่นจนทำอะไรถูก ก็เป็นลมไปซะดื้อๆ  พวกเราเลยไม่ทันได้เคลียร์กัน ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นมายังไง

"จะให้กูเริ่มจากตรงไหน มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนยังไง เรื่องอธิบายอะไรแบบนั้นกูถนัดที่ไหน ถ้าถามมากูก็ตอบ แต่นี่เฮียเขาเงียบ จนกูไม่กล้าจะพูดอะไรแล้วก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนด้วย"
ผมระบายออกไปเป็นชุด

"เออ มันก็ใช่ แต่กูว่านะ เฮียเขาไม่โกรธมึงนานหรอกมั้ง รักมึงมากขนาดนั้น เดี๋ยวคงหายโกรธไปเองแหละ มึงอย่าคิดมาก"
จะปลอบหรือจะซ้ำเติมกูว่ะครับ

"เมื่อวานกูไปเคลียร์กับไหมมาแล้ว มันจบแล้ว จะพูดถึงมันอีก แล้วกูรอคุยกับเฮีย เมื่อคืนกูโทรไปกะว่าจะคุยให้รู้เรื่อง แต่เขาบอกว่าไม่ว่าง เขายุ่ง"

ผมนี่ตาร้อนผ่าวๆ คิดแล้วก็จะร้องไห้ไปอีก

ตั้งแต่มีความรักนี่ รู้สึกว่าตัวเองจะอ่อนไหวง่ายเกินไปละช่วงนี้

"เฮียคงยุ่งจริงๆแหละเนาะ เดี๋ยวเขากลับมามึงก็รีบคุยเลย จะได้จบๆไป"
มันว่าก่อนจะหันกลับมองทางข้างหน้าเหมือนเดิม ทิ้งให้ผมนั่งคิดอะไรคนเดียวไปเรื่อยเปื่อย

จนไอ้ตั้มเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารที่ไอ้ก้านเป็นคนบัญชาการ

ไอ้ตัวดี!!

เราสามคนเดินเข้าไปในร้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ เป็นร้านที่พวกผมชอบมากินเป็นประจำ

"ว่าไงสามทหารเสือ วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่วะครับ"

พี่เป้ เจ้าของร้านสุดเซอร์ เป็นรุ่นพี่ที่คณะ ก็สนิทกันระดับหนึ่งเพราะชอบดื่มและชอบอะไรคล้ายๆกันเลยมาแชร์กันเป็นประจำ

"ไม่มีครับ แค่อยากมากินฟรี"

ไอ้ก้านตอบแบบลอยหน้าลอยตา พี่เป้ยิ้มขำก่อนจะพาเดินไปนั่งโต๊ะประจำของกลุ่มเรา

"เอ้าๆ อยากกินอะไรก็สั่งมาได้เลยครับ วันนี้รุ่นพี่เลี้ยงเอง"
พี่เป้วางเมนูลงบนโต๊ะ ไอ้ก้านคว้าไปเปิดอย่างไว

เรื่องกินไว้ใจมันเลยครับ

"อันนี้ อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ อันนี้ อั้นนี้ ที่ชี้เนี่ย ไม่เอานะครับรุ่นพี่ นอกนั่นเอามาอย่างละหนึ่งครับผม"

ผมกับไอ้ตั้มกลั้นขำกันแทบไม่ไหว ไอ้เพื่อนตัวดีทำรุ่นพี่คิ้วกระตุก ไอ้บ้า สั่งแต่อันแพงๆ ของขึ้นชื่อระดับหนึ่งของร้านเลยด้วย ราคาแพงใช้ได้

"ไอ้ก้าน ไอ้น้องเวร นี่กะจะมาพังกระเป๋ารุ่นพี่เลยเรอะ หนอยยยย"
พี่เป้คาดโทษมัน ก่อนจะยกเมนูขึ้นเหนือหัวแล้ว ....

"เด็กๆมารับออร์เดอร์โต๊ะ15หน่อย"

ผมละนึกว่าพี่เป้จะเอาเมนูฟาดกระบาลไอ้ก้านซะอีก แต่ดันยกมันกวักเรียกพนักงานซะงั้น ไอ้ก้านที่ยกมือขึ้นมายังหัวไว้อย่างรู้งานก็เอามือลงแล้วแระจบพี่เป้ทันที

"แหมๆ รุ่นพี่สุดหล่อครับ นานๆจะเจอน้องเจอนุ่ง ทำเป็นเค็มไปได้ นี่น้องรักนะครับ อย่าลืมๆ"
มันทำท่าทำทางจนพี่เป้อดไม่ได้ ที่จะยกมือฟาดกระบาลมันทันที

เพี๊ยะ!

"โอ้ยยย"

"ให้มันน้อยๆไอ้ลูกหมา ทำมาพูดดี พวกเอ็งนั่นแหละที่หายหัวกันไปหมด"

พี่เป้กวาดสายตามองพวกผมทีละคน พวกเราได้แต่ยิ้มแหยๆ

คุยกันไปสักพัก อาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ

"ทานกันได้แล้ว พี่จะไปดูหลังร้านสักหน่อย ทานเสร็จแล้ว ถ้าพี่ยังไม่ออกมาพวกเราก็กลับกันได้เลย พี่เคลียร์ให้หมดแล้ว"

พวกเรายกมือไหว้รุ่นพี่ แล้วลงมือกวาดอาหารบนโต๊ะจนเรียบ ใช้เวลาเพียง40นาทีต่ออาหารเกือบ10อย่าง

"แล้วสรุป ธุระที่จะให้ช่วยนี่คืออะไร"
ผมไม่ลืมที่ถาม เพราะตั้งแต่คุยโทรศัพท์ยันตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่ามันจะพาผมไปไหนกันแน่

"อ้าว กูยังไม่ได้บอกมึงรึ"
ไอ้ก้านยกมือเกาหัวแบบงงๆ

"เออสิครับ ถ้าบอกแล้วกูจะถามมึงอีกทำไม"
ผมขมวดคิ้วใส่มัน มันยิ้มแหยๆ

"แฮร่ๆ โทษที กูลืม"
ผมพยัดหน้าให้มัน แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
หัวข้อ: Re: คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 12-09-2021 23:35:07
ตอนที่30

ผมนี่อยากยกมือฟาดหัวมันไปสักที

"อย่าลีลา"
ผมหันไปมองมันที่นั่งอยู่เบาะหน้า ตอนนี้เรากำลังจะไปทำธุระที่มันว่า แต่ผมก็ไม่รู้ว่าธุระของมันคืออะไร

"ไปช่วยดูแหวนให้หน่อย พอดีเพื่อนกูมันอยากได้แหวนเพชรแบบเรียบๆ แต่ดูหรูหรา กูกับไอ้ตั้มก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้เท่าไหร่ เลยคิดว่ามึงน่าจะดีกว่าพวกกูสองคน"
ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามมันว่า กูเนี่ยนะ

ก้านพยักหน้าเป็นอันว่ารู้คำถามของผม

"ช่วยหน่อยนะมึง กูคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะเอาแบบไหนให้มันดี ตัวมันเองก็ยุ่งๆ และไม่อยากไปดูเองด้วย กลัวแฟนมันรู้ มันจะเซอร์ไพรส์"

ผมพยักหน้าไอ้ก้าน

@ร้านเพชร

เราสามคนเดินมายังโซนเครื่องประดับ แค่พนักงานต้อนรับหน้าร้านก็รู้แล้วครับว่าระดับไหน เพื่อนมันคงรวยมากแน่ๆ

"ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่าต้องคุณลูกค้าสนใจรายการไหนค่ะ ให้ดิฉันแนะนำได้นะคะ"

พนักงานสาวสวยพูดจาดี ยิ้มหวานบาดใจเพื่อนผมไปแล้วครับ น้ำลายยืดกันหมด

"ผมขอเดินดูก่อนนะครับ"

"ได้ค่ะ"

ผมเดินเข้าไปในร้าน ตามด้วยไอ้สองคนข้างหลังที่ม่อแม้กระทั่งพนักงานของร้าน

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ตู้โชว์ขนาดกลาง มีเพรชเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ประดับอยู่ตรงกลางของแหวน มันสวยมากครับ ผมชอบดูแต่ก็ไม่เคยซื้อสักที จะมีก็แต่ม๊าที่ชอบลากผมมาด้วยบ่อยๆ

"แฟนมันเป็นผู้ชาย ขนาดนิ้วน่าจะพอๆกับมึงนะ กูเคยเจออยู่สองสามครั้ง"

ไอ่ก้านมันพูดขึ้น ผมมองหน้ามัน มันมองหน้าผมแล้วยิ้ม

"มึงลองเลือกซิ ว่าชอบแบบไหน เดี๋ยวพวกกูช่วยตัดสินใจอีกที"

ผมพยักหน้าให้มัน แล้วไล่ระดับสายตาไปเรื่อยๆ จนไปสะดุดที่แหวนคู่คู่หนึ่ง มันเป็นแหวนเกลี้ยงที่มีเพชรเม็ดเล็กๆสีขาววางอยู่ตรงกลาง

ใช่ครับ มันมีแค่นั้น และมันก็ดูดีมาก ผมชอบแบบนี้เพราะมันไม่หวือหวาจนเกินไปสำหรับผู้ชาย สองวงนี้ขนาดความกว้างเท่ากัน แต่ขนาดนิ้วน่าจะห่างกันนิดหน่อย

"มึงชอบคู่นี้หรอ สวยดีนะ กูก็ชอบ"

ไอ้ตั้มที่เอานิ้วจิ้มไปที่กระจก ตรงกับแหวนคู่ที่ผมมองอยู่

"อืม กูว่ามันสวยดี เรียบร้อย ไม่หวือหวาเกินไป เหมาะสำหรับผู้ชาย"

ผมบอกพวกมันที่ดูจะสนใจเกินหน้าเกินตา ทำอย่างกะมันจะเอาไปใส่กันเอง

แต่ผมก็แอบเชียร์นะ ว่ามันสองคนจะได้กันเอง มันเหมาะกันดี ผมก็ได้แต่ดูพวกมันห่างๆนั่นแหละ เรื่องหัวใจก็แล้วแต่มันสองคนจะเลือกกันเอง

"คุณลูกค้าสนใจคู่นี้ใช่มั้ยค่ะ ลองสวมดูได้นะคะ"

พนักงานเลื่อนตู้กระจกแล้วหยิบแหวนคู่นั่นออกมา

ยิ่งมองยิ่งสวย

"ลองสวมดูได้เลยค่ะ ถ้าไม่พอดี ทางร้านเราทำให้ใหม่ได้ตามที่คุณลูกค้าต้องการเลยค่ะ"

ผมหยิบแหวนวงที่เล็กกว่าอีกวงมาสวม มันพอดี พอดีจนน่าตกใจ นี่ขนาดนิ้วผมก็ไม่ได้เล็กนะ ทำไมพอดีละ

"สวยมากเลยค่ะคุณลูกค้า มันเหมาะกับคุณลูกค้ามากๆเลยนะคะ"
พนักงานยิ้มหวาน ผมยิ้มให้เธอ แล้วถอดแหวนวางลงในกล่องเหมือนเดิม

"ผมไม่ได้ใส่เองหรอกครับ พอดีมาเลือกให้เพื่อนน่ะครับ"
ผมยิ้มแหยๆให้เธอ

"น่าเสียดายจังเลยค่ะ แต่มันเหมาะกับคุณลูกค้ามากเลยนะค่ะ"
เธอทำหน้าเสียดาย ผมก็ได้แต่ยิ้มให้เธอ

"สรุปมึงชอบคู่นี้ใช่มั้ย งั้นผมจองไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวให้เจ้าของมาลองอีกที"

ไอ้ก้านพูดกับพนักงาน แล้วส่งการ์ดทองให้เธอเพื่อเป็นค่ามัดจำ

"เรียบร้อยแล้วค่ะ ยังไงก็ให้เจ้าของเขาเข้ามาได้ตลอดเลยนะคะ"

พวกผมพยักหน้าให้ แล้วเดินออกจากร้านไปทันที

"เสร็จแล้วกลับเลยมั้ย"
ผมถามมันสองคน

"มึงรีบหรอว่ะ ไหนๆก็ออกมาแล้ว ไปเดินดูกันสักหน่อยก็นะ"
ไอ้ก้านว่าแล้วลากแขนผมให้เดินตามไป

"มึงสองคนไปกันเลย เดี๋ยวกูขอไปห้องน้ำแปป"

ไอ้ตั้มบอก ก่อนจะยักคิ้วให้ไอ้ก้าน อะไรของมันกันว่ะ

"โอเค ยังไงก็ทักมา"
ไอ้ก้านบอกแล้วพาผมเดินไปโซนเสื้อผ้า

"มึงว่าตัวนี้เหมาะกับกูมั้ยว่ะ"
ผมมองหน้าเพืื่อนตัวดีที่เลือกเพลินยิ่งกว่าพาสาวๆมาช็อปปิ้งซะอีก

"อือ"

ผมตอบมันแค่นั้น เพราะยังติดใจกับแหวนคู่นั้น ผมอยากได้ -_-

"อะไรว่ะ มึงช่วยมีอารมณ์ร่วมกับกูหน่อยสิ ทำหน้าอย่างกะผัวมีเมียน้อยไปได้"
มันบ่น

"กวนตีน จะเลือกก็เลือกไปดิ"
ผมตัดบท แล้วเดินไปดูเสื้ออีกทาง

ดูไปงั้นแหละครับ ผมไม่ได้มีกระจิตกระใจจะซื้ออะไรทั้งนั้นแหละ

"ได้ไรกันยังว่ะ"
ไอ้ตั้มเดินเข้าไปหาไอ้ก้าน ที่เข้าออกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นว่าเล่น

"เออ มึงมาก็ดีละ ช่วยกูเลือกหน่อย ไอ้ปาล์มแม่งไม่ได้เรื่อง"
คิ้วกระตุกทันที

"กวนตีน"
ผมว่ากลับ

"พอๆ ชอบทะเลาะกันอยู่เรื่อย แล้วนี่เลือกได้รึยัง"
มันห้ามทับ แล้วหันไปมองไอ้ก้านที่ถือเสื้อผ้าอยู่ในมือ

"ยัง กูเลือกไม่ถูก มึงช่วยกูหน่อยนะ"
มันทำอ้อนไอ้ตั้ม ไอ้ตั้มก็ได้แต่ตามใจ

สาธุ ขอให้มันได้กันเอง ผมจะแฮปปี้มากกกก

"หึหึ"
แล้วผมก็หลุดเสียงหัวเราะออก อย่างลืมตัว เพราะคิดแล้วมันขำ ไอ้สองคนนั้นก็หันมามองผมประมานว่า มึงเป็นบ้าหรอ

ผมส่ายหัวให้มันสองคน แล้วหันไปดูเสื้อผ้าต่อ

"ตั้ม เรียบร้อยมั้ยว่ะ"
ไอ้ก้านถาม

"อืม เรียบร้อยดี"

"โอเคๆ"

แล้วเสียงมันก็เงียบกันไป

สรุป

ผมได้เสื้อมา3ตัว กางเกงอีก2 พากูมาเสียตังเฉย

"วันนี้กูหมดไปหลายบาทเลยว่ะ ไม่น่าเลยกู"
ไอ่ก้านบ่น

"สมควรเถอะมึงอะ "
ผมว่า

"กลับกันเลยมั้ย เย็นแล้ว"
ไอ้ตั้มพูดขึ้น ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ จะหกโมงเย็นแล้ว ทำไมไวจังว่ะ

"ไปกันเหอะ กูอยากนอน"
ผมบอกมันสองคนที่พยักหน้ารับ


อยากพักผ่อน วันนี้ออกมาหมดวันแล้ว เหนื่อยกาย เหนื่อยสมอง เหนื่อยใจจังโว้ยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 13-09-2021 23:52:11
เป็นกำลังใจ
ให้นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 14-09-2021 00:05:23
ตอนที่31

ความรักมันควรมีแค่คนสองคน แต่ทำไมผมถึงต้องมาเห็นอะไรแบบนี้

"แต่งงานกับพี่นะครับ"

ชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนยิ้มให้กันอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ที่เดินสวนกันไปมาในห้างสรรพสินค้า

ผมจะไม่หยุดสนใจถ้าคนที่ยืนหันหลังให้ผมมตอนนี้ มันจะไ่ม่ใช่แผ่นหลังที่คุ้นเคย ไหล่กว้างที่มักจะคว้าผมมากอดไว้เสมอ ไหล่กว้างที่ทำให้หน้าผมจมหายไปและได้ความอบอุ่นมาแทนความอึดอัด

ขาผมหยุดเดินอัตโนมัติ จ้องมองแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั้นอย่างไม่ละสายตา

แม้ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้ตอบตกลง เพียงแต่เขาแต่ยิ้มให้อีกคนเพียงเท่านั้น

"ให้ตายเถอะ ทำไมผมต้องรู้สึกเขิินแบบนี้ด้วยนะ "

ใช่ เสียงนี้ เสียงที่ผมคุ้นเคยและคิดถึงเขามากขนาดไหน และที่บอกว่ายุ่ง ไม่ว่าง นี่คืองานของเขาหรอ

"เรื่องแค่นี้นายยังไม่กล้าเลย ทำอายไปได้"
เสียงพี่ผู้หญิงคนนั้นต่อว่าอย่างหยอกล้อ

"ก็มันไม่เคยนิ"
เขาตอบเธอก่อนจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขิน

"ทำไม......."

เสียงผมหลุดออกไป ทำให้เขาสองคนหันมามอง  ผมที่จ้องเขาอยู่แล้ว ก็ทันได้เห็นเฮียวิคที่มีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด

"ตี๋?"

เขาเรียกชื่อผมพร้อมกับสีหน้าที่ยังคงตกใจราวกับเจอผี

"ผมชื่อปาล์มครับ ถ้าคุณจำไม่ผิด"

ผมรู้สึกเสียใจ เสียใจแบบไม่มีเหตุผลไปมากกว่าอะไรตอนนี้

"ตี๋"

เขาเรียกชื่อผมแผ่วเบา

"ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว ขอตัวนะครับ"

ผมว่าผมจะไม่ร้องไห้แล้วนะ แต่มันงุนงงและสับสนไปหมด เรื่องทั้งหมดมันคืออะไรกันแน่ ที่ผ่านมามันคืออะไร

ผมไม่เข้าใจ

เสียงที่เขาตะโกนเรียก มันก็มีแค่เสียง ไม่ใช่เขาที่วิ่งตามมาเพื่อจะอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ ถ้าเขารั้งผมไว้ ผมก็พร้อมจะรับฟัง ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคืออะไร

ผมเดินออกจากห้างไปด้วยความเร็ว ผมแค่ไม่อยากเป็นน่าสมเพชในสายตาของใคร ผมเพิ่งจะเข้าใจวันนี้ ว่าคนที่โดนบอกเลิกหรือคนที่เพิ่งจะรู้ว่ารักเขาฝ่ายเดียวความรู้สึกมันเป็นยังไง

ที่จริงวันนี้ผมนัดกับวินเนอร์ว่าจะมาทำเค้กกัน ผมเลยออกมาซื้อของที่ขาดเอง แล้วรอไปรับวินเนอร์ที่โรงเรียน

แต่ไม่่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ซะก่อน

"กูจะไม่อยู่ที่นี่สักสามสี่วัน ฝากบอกที่บ้านให้กูด้วยว่าไม่ต้องตามหา"

ผมส่งข้อความไปในไลน์กลุ่มเพื่อน แล้วกดปิดมือถือทันที

ดีนะที่วันนี้เอารถตัวเองมา ไปเที่ยวพักผ่อนสมองกันหน่อยดีกว่า เผื่อจะได้ทบทวนอะไรได้มากขึ้น

ผมขับรถออกจากห้างไปในทันที ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ว่าจะไปไหน

"ขับไปเรื่อยๆก็น่าจะดี"

ผมมาจอดรถที่หน้าโรงเรียน รอรับวินเนอร์ เอาลูกไปด้วยละกัน อย่างน้อยก็จะได้ไม่เหงา -_-

"กล้าดียังไงมาเล่นกับความรู้สึกคนอื่นเขาแบบนี้"

ผมพึมพำกับตัวเองเบาก่อนจะมายืนรอรับวินเนอร์ที่หน้าโรงเรียน ไม่นานเจ้าตัวก็เดินออกมา มองซ้ายมองขวา

ทันทีที่เห็นผม...

"หม่ามี๊!!"

เจ้าตัวกลมก็วิ่งมาแบบไม่คิดว่าจะหกล้ม ผมกางแขนรับ

หมับ

"คิดถึงจังเลยครับ"

เราไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้วครับ

"มี๊ก็คิดถึงครับ ไปขึ้นรถกันเถอะ"

ผมอุ้มลูกชายไปที่รถ จัดการกับลูกชายเสร็จ ผมก็บอกเขาทันที

"วันนี้มี๊จะพาไปเที่ยว"

"เย้!~~~~"

เด็กน้อยทำท่าทางดีใจจนออกนอกหน้า จากที่ผมเคลียดๆ กลับรู้สึกดีขึ้นมาทันที่เจอหน้าเด็กคนนี้

ยาใจของผม

ผมขับรถมาเรื่อยๆ จนออกจากกรุงเทพฯ ตอนแรกกะจะเปิดจีพีเอส แต่ไม่ได้ ถ้าเปิด คือจบเห่แน่ๆ

"ซื้อใหม่แม่งเลย"

ผมเปิดไฟเลี้ยวทันทีที่มองเห็นร้านขายมือถือ ผมอุ้มน้องวินลงด้วยเพราะปล่อยไว้คนเดียวไม่ได้ มันอันตรายครับ เด็กกำลังซน

"ลูกค้าสนใจรุ่นไหนครับ"

"เอาแบบที่ถ่ายรูปสวยๆครับ พอดีผมจำเป็นต้องใช้"

ผมบอกพ่อค้า เขาก็แนะนำ ผมเลือกไปหนึ่งรุ่น ราคาก็หมื่นปลายๆ ผมให้เขาเปิดซิมเป็นชื่อของเขา เพราะถ้าเป็นของผม คนที่บ้านจะตามตัวได้ ผมไม่ได้หนีแต่ผมแค่ต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง เพื่อให้ตัวเองได้อยู่กับตัวเอง จะได้รู้ว่ารักเขาจริงๆหรือแค่ความผูกพัน

"ผมไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่นอนครับ นี่คือค่าตอบแทน"

ผมให้เงินสดเขาไปสองหมื่นบาทถ้วน เขาไม่รับไว้หมด เขาเอาแค่ค่ามือถือ ผมไม่สนใจ รีบเดินออกจากร้านทัน ไม่งั้นเขาคงไม่รับไว้แน่ๆ

"น้องวินหิวรึยัง"
ผมถามเด็กน้อยที่เอาแต่มองร้านค้า

"หิวครับ"

ผมลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู ก่อนจะพาไปหาร้านนั่งกินข้าวกันตามประสาพ่อ?ลูก -_-

"หม่ามี๊ครับ ป๊ะป๋าไม่มาเที่ยวด้วยหรอครับ"

น้องวินที่กินข้าวหมดจานก็ถามขึ้น

"ไม่ครับ วันนี้จะมีเราแค่สองคน"

ผมยิ้มหวานให้ลูกชาย  เขายิ้มตามจนตาหยี

เรื่องผมกับพ่อเขาก็เป็นเรื่องส่วนตัวครับ แต่เรื่องของเด็กผมรักเขาแบบไม่มีข้อแม้ ต่อให้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ผมก็ยังมีเขาเป็นลูกชายอยู่ดี

"อิ่มแล้ว ไปกันเลยมั้ย"

"ไปครับ"

ตอนนี้ผมกับวินเนอร์มาเที่ยวทะเลกันครับ พาไปจองที่พัก พาซื้อเสื้อผ้า แล้วก็พาไปเล่นน้ำ

"หม่ามี๊ๆ นี่ปูๆๆๆๆ"
เด็กน้อยกระโดดเหย่งๆ กลัวก็กลัว อยาดดูก็อยากดู เด็กหนอเด็ก

"จับสิ"

"ม่ายยยยย กรี๊ดดดดด หม่ามี๊ อย่าแกล้งน้องงงงงนร้าาา"

ผมจับปูขึ้นมาแล้ววิ่งไล่เด็กตัวอ้วนที่ร้องกรี๊ดๆๆ กรี๊ดไปหัวเราะไป คนรอบข้างก็พากับหัวเราะ เอ็นดูเจ้าหมูอ้วนไปด้วยกัน บ้างก็ถ่ายคลิปไว้ ผมฝากน้องแถวนั้นเขาถ่ายคลิปให้ จ้างเขาน่ะครับ5555

"หม่ามี๊ พอแล้ว น้องวินเหนื่อย"

เจ้าอ้วนหยุดวิ่ง หอบแฮกๆ ผมส่งน้ำให้น้องดื่ม แก้วย้วยๆแดงไปหมด

"สนุกๆ"

เมื่อลูกชายพูดแบบนั้น ผมยิ้มให้เขาแล้วพาเขาไปเช่าห่วงยาง พาเล่นที่ตื้นๆ

"หม่ามี๊ครับ น้ำเค็ม"

เจ้าเด็กอ้วนที่ไม่เคยมา เกิดอยากชิมสะงั้น

"5555ก็มี๊บอกแล้วว่ามันเค็ม"

ผมขำกับท่าทางของเขา เขาแค่เเตะๆเอาน่ะครับ ไม่ได้กินอะไรขนาดนั้น

"อี๋~~~~~"

"ขึ้นได้รึยังครับ เล่นนานแล้ว เดี๋ยวไม่สบายเอานะ"

ผมถามลูกชายที่นอนคว่ำตีน้ำอยู่บนห่วงยางอย่างสนุกสนาน

"อีกนิดนึงได้มั้ยครับ น้องวินยังสนุกอยู่เลย"

เจ้าตัวทำหน้าอ้อนๆ ผมพยักหน้าให้ แล้วสอนเขาว่ายน้ำแทน

ช่วงเย็น

"ฮัดชิ่วววว"
เด็กอ้วน

"ฮัดเช้ยยย"
หม่ามี๊

ทั้งสองหันหน้ามองกันแล้วยิ้มแหย่ๆ ยาไม่ชอบกินทั้งคู่ แล้วป๊ะป๋าก็ไม่อยู่

"ใครจะบังคับเรากินยาละครับหม่ามี๊"
เด็กอ้วนถาม

"เราต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วละงานนี้"

สองแม่ลูกพยักหน้าให้กัน ปาล์มโทรไปสั่งยาจากทางโรงแรม ไม่นาน พนักงานก็มาเคาะประตูห้อง

"ครับ"

พอขานรับ ปาล์มก็เปิดประตูและรับถาดยามาถือไว้

เขาเดินกลับเข้าไปในห้อง จัดการยาเม็ดของตัวเอง และยาน้ำของเด็กอ้วนทั้งสองมีแก้วยาและแก้วน้ำวางอยู่หน้าตัวเอง เขาสองคนแม่ลูกมองหน้ากันแล้วก้มมองดูยาตรงหน้า

"อี๋~~~~~"

สองเสียงประสานกันพร้อมทำหน้าตาน่าเอ็นดูทั้งคู่ แต่ยังไงๆวันนี้ก็ต้องกิน ไม่งั้นแย่แน่ๆ แผนที่หนีมาเที่ยวต้องล้มชัวร์ๆ

"พร้อมกันนะ"

"พร้อมครับ"

แก้วยาอยู่อีกมือ แก้วน้ำอยู่อีกมือ

"เริ่ม"

สองคนเอายากรอกใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำจนหมดแล้ว

"รอดตายแล้วเรา"

สองแม่ลูกมองหน้ากันแล้วขำ ก่อนจะพากันเข้านอน

ปาล์มเอาปรอทวัดไข้มาวางไว้ข้างเตียง ผ้า กับกะละมังก็พร้อม คืนนี้ลูกชายเขาจะป่วยหนักมั้ย เขาไม่น่าพาลูกมาเลย ปาล์มได้แต่คิดและต่อว่าตัวเองในใจ

ไม่นานลองแม่ลูกก็หลับไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 14-09-2021 00:20:46
ตอนที่32

ทางด้านวิคเตอร์

ทุกคน ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้ เรื่องทั้งหมดผมอธิบายได้นะ

ที่จริงผมรู้ความจริงหมดแล้ว จากปากเพื่อนสนิทของน้อง และผมก็ดันมีเรื่องต้องไปทำกระทันหัน

"นายครับ จะปล่อยไว้แบบนี้หรอครับ"
พี่นุถามทันทีที่ผมนั่งลงอย่างหมดอะไรตายอยากอยูีที่คอนโด

"ไม่หรอกพี่ แต่ตอนนี้ผมแค่คิดอะไรไม่ออก"

ผมกะจะขอน้องแต่งงานเพราะวันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีตามสัญญาของน้อง ผมเลยกะจะขอให้เพื่อนๆผมช่วย ผมเป็นผู้ชายที่ไม่เคยขอใครแต่งงานเลยด้วยซ้ำแล้วคนที่ผมรักดันเป็นผู้ชาย แล้วผมก็เขินน่ะสิ ให้ตายเถอะ

"ก็ตามไปสิครับ"
พี่นุพูดขึ้นแบบชิลๆ

"ไปไหนละ ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลยพี่ งานทุกอย่างที่เตรียมไว้จะล่มรึป่าวก็ไม่รู้ น้องจะเข้าใจผิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย ผมละอยากจะบ้า"

ตอนที่ผมพูดว่าขอแต่งงาน คนนั้นอะเพื่อนผม เธอเป็นคนจัดงานให้ทั้งหมด ผมเชื่อใจในฝีมือเธอและทีมงานของเธอ และเธอก็จะช่วยไม่ให้ผมเขิน เลยให้ผมลองพูดกับเธอแทน

ไม่คิดว่าน้องจะมาเจอพอดี เออ แม่งช่างพอดีอะไรขนาดนี่ว่ะเนี่ย

"ทำไมจะรู้ละครับ นี่ไง"

พี่นุยื่นมือถือให้ผมดู เป็นคลิปวีดีโอที่มีเวลา5นาที วีดีโอถูกโพสโดยใครผมก็ไม่รู้จัก แค่20นาที คนแชร์เป็นพัน คอมเม้นอีกเยอะ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่า
วีดีโอถูกเผยแพร่แล้วแน่ๆ เสร็จผมละงานนี้ หึหึ

คลิปที่มีผู้ชายสองคน คนนึงคือลูกชายและคนนึงคือคนรักของผม หน่อยยย แสบนักนะ เอาลูกไปด้วยงั้นหรอ ดีนะที่ทางโรงเรียนเขาจะแจ้งตลอดว่าใครเป็นคนไปรับเด็กๆ ผมเลยไม่ได้คิดอะไร แต่พอไปหาที่บ้านกลับไม่เจอทั้งคู่

"แสบจริงๆ"

ผมพึมพำพร้อมกับยิ้ม รอยยิ้มของพวกเขา เสียงหัวเราะของพวกเขา ทำให้ผมมีความสุขขนาดนี้เลยหรอ ผมจะไม่ปล่อยเขาไปไหนหรอกครับ ผมรักของผมมาตั้งนาน

"พี่นุช่วยบอกเพื่อนอาตี๋ทีว่าผมรู้แล้วว่าสองคนนั้นอยู่ที่ไหน เดี๋ยวไปตามกลับมาเอง ให้เตรียมทุกอย่างไว้เหมือนเดิม"

ผมสั่งพี่นุ ที่ตอนนี้ ทุกอย่างคือพร้อมหมดแล้ว จะเหลือก็แต่เจ้าสาวของผมนี่แหละ หอบลูกหนีไปดื้อๆแบบนี้ได้ยังไง

"ครับนาย พาตัวนายหญิงกลับมาให้ได้นะครับ พวกเราจะรอ สู้ๆนะครับ"

พี่นุชู้สองนิ้วให้ผม ผมขำกับท่าทางของพี่ชายผมคนนี้ พี่ชายที่คอยอยู่ข้างผมมาตลอด

"ผมจะเอานายหญิงของพี่กลับมาให้ได้แน่นอน"

ผมยักคิ้วให้พี่นุ เป็นอันว่ารู้กัน แล้วตอนนี้ผมจะรออะไรละครับ ผมรู้แล้วว่าอยู่ที่ไหน ผมไม่รีบครับ ยังไงก็ต้องทันแน่นอน


เช้าวันต่อมา

สองแม่ลูกที่นอนกอดกันกลม ก็ลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกลียด ท่าทางที่ถอดแบบกันมา มันเหมือนกันเป๊ะ มือเรียววางทาบที่หน้าผากลูกชาย ลูกชายก็เอื้อมมือไปทาบหน้าผากหม่ามี๊

"หาย!!"

สองเสียงประสานกัน ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทั้งสองทำเหมือนกันทุกอย่าง และทริปวันนี้ก็คือ

"เดินกิน"

สองแม่ลูกที่แต่งตัวตัวเหมือนกันด้วย กางเกงขาสามส่วนสีขาวกับเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน รองเท้าผ้าใบสีขาว กระเป๋าผ้าที่เพิ่งซื้อเมื่อกี้อีกคนละใบ

พรึบ

หมวกสีขาวถูกสวมลงบนหัวเด็กน้อย และสวมที่หัวตัวเอง

มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เหมือนมาเดินแบบไม่มีผิด เป็นจุดสนใจของผู้คนที่เดินไปมา บ้างก็มาขอถ่ายรูป สองพ่อลูกก็ไม่ว่าอะไร ออกจะสนุกด้วยซ้ำ

เดินไปกินไป แวะถ่ายรูป โปรโมทร้านให้พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นด้วย

"สนุกๆ"
เด็กน้อยที่ไม่เคยได้มาเดินเล่นแบบนี้ืกลับชอบสะยิ่งกว่่าชอบ ไม่บ่นเหนื่อยสักคำ

"เหนื่อยรึยังครับ"

"นิดหน่อยครับมี๊ น้องวินปวดขาแล้ว"

แน่นอนสิ เดินมาตั้งนาน ไม่ปวดก็บ้าแล้ว

"ขึ้นหลังมี๊มั้ย"

"ขึ้นๆ"

พรึบ

ยังไม่ทันที่ลูกชายจะได้ขึ้นหลัง กลับมีคนมาอุ้มวินเนอร์แทน เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกรอบ ร่างบางค่อยๆหันไปมองก็เจอกับรองเท้าผ้าใบสีขาว ไล่ระดับสายตาขึ้นมาก็เจอกับเกงสามส่วนสีขาว

ใจเขาเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อไล่ระดับสายตาสูงขึ้นไปอีก ก็เจอกับเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน แขนเสื้อถูกพับขึ้นไปที่ข้อศอก มองเลยขึ้นไปก็เห็นหน้าตาอันหล่อเหลาที่คุ้นเคย ปรากฏอยู่ตรงหน้า ใจที่ว่าเต้นแรงไปแล้ว มันกลับแรงมากขึ้นไปอีก ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา ปลายจมูกเขาเริ่มแดง รู้สึกแน่นหน้าอก เจ็บปวดไปหมดราวกับว่ามันจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ

"ป๊ะป๋า"
เสียงใสของลูกชายเอ่ยขึ้นทันทีที่ป๊ะป๋าเอามือที่ปิดปากเขาไว้ออก

"มาทำไม"
ทันทีที่ได้สติ ปาล์มก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็แทบจะไหลอยู่แล้ว

"มาตามกลับบ้าน"
น้ำเสียงอบอุ่นที่คุ้นเคย กับร้อยยิ้มที่อบอุ่นนั่น มันทำให้น้ำตาเขาไหลลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่

"ผมไม่กลับ คุณกลับไปเถอะครับ"

ปาล์มพูดจบก็เดินหนีทันที โดยลืมไปเลย ว่าตัวเองจะต้องเอาลูกไปด้วย

หมับ

มือหนาคว้าแขนอีกคนไว้ทัน

"อาตี๋กลับบ้านกับเฮียนะครับ"
น้ำเสียงราวกับอ้อนวอนของเขา ทำให้ใจอีกคนพองฟูได้อย่างน่าประหลาด

ไม่สิ เขาจะต้องใจแข็ง

"ผมยังไม่กลับ"

ร่างหนากระซิบข้างหูลูกชาย ลูกชายเขาพยักหน้า

"หม่ามี๊ครับ กลับบ้านกลับน้องวินกับป๊ะป๋านะครับ"

ร่างบางหันกลับไปมองหน้าลูกชาย ที่ทำตาละห้อย น้ำตาคลอ เขารีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองก่อน แล้วสะบัดมืออีกคนออก

เพราะเด็กคนนี้ ทำไมถึงทำให้ผมใจอ่อนได้แบบไม่ต้องคิดอะไรเลยละ สายตา น้ำเสียงและท่าทางของเขา มันไม่โกหกอยู่แล้ว เด็กๆจะเสแสร้งไม่เป็น

"กลับบ้านกันนะ เฮียจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง เฮียขอโทษที่ทำให้เราคิดมากแบบนี้ กลับบ้านเรานะครับ"

มือหนาที่เอื่อมมาจับมือบางไว้ บีบมือบางเบาๆ

ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองสองพ่อลูก เขาถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ

"เย่~~~~"
สองพ่อลูกร้องอย่างดีใจ คนรอบข้างที่ลุ้นไปด้วยก็พากันร้องดีใจไปตามๆกัน

"พี่ครับ"
ปาล์มหันกลับไปมองเด็กผู้ชายคนนึงที่เข้าจ้างมาถ่ายรูป บันทึกวีดีโอให้ก็เรียกเขาพร้อมยื่นมือถือคืนให้

วิคเตอร์ที่เห็นแบบนั้นก็เกิดหึงขึ้นมาทันทีแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองยังมีคดีติดตัวอยู่

"ตี๋!!!"
เขาเรียกร่างบางเสียงดัง หน้าตาบึ้งตึงนั่น ทำให้ร่างบางกลั้นขำแทบไม่อยู่ เขาเลยแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แล้วหันไปคุยกับเด็กผู้ชายคนนั้นต่อ

ปาล์มที่กำเงินไว้ในมือ ก็เอื้อมไปรับมือถือแล้วเอาเงินใส่ในมือน้องคนนั้นไว้ แล้วยักคิ้วให้เป็นอันว่ารู้กัน เด็กผช.ยิ้มอย่างรู้งาน

"แล้วเจอกันใหม่นะครับพี่ ผมจะรอ"

เด็กคนนั้นยักคิ้วให้ปาล์มหนึ่งทีแล้วรีบเดินออกไปก่อนที่ตะโดนตีนพี่สุดหล่อคนนั้น หึงน่ากลัวเป็นบ้าเลยพี่ชายคนนั้น เมื่อทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ เขาก็ไม่รอช้า เผ่นสิครับงานนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 14-09-2021 00:31:56
ตอนที่33

"เด็กนั่นเป็นใคร"
วิคเตอร์มองตามเด็กนั่นจนเขาหายลับไปกับผู้คนที่เดินกันไปมาไม่ขาดสาย

"ไม่ต้องรู้หรอก"

ปาล์มตอบแค่นั้นแล้วเดินหนี วิคเตอร์รีบเดินตาม ปาล์มที่ยืนอยู่ร้านน้ำก็สั่งน้ำไว้รอสองพ่อลูกที่เดินเบียดกับผู้คนมากมายที่มาเดินหาของกินกันในช่วงเช้าวันนี้

"กินซิ จะได้ใจเย็นๆ"

ปาล์มส่งน้ำให้ทันทีที่สองพ่อลูกเดินมาถึงตัวเอง

"กลับไปต้องเคลียร์กันยาวๆ หึึหึ"

ร่างหนาก้มลงกระซิบที่ข้างหูอีกคน ร่างบางขนลุกไปทั้งตัว

"เหอะ"

ร่างบางเดินออกจากร้านน้ำ พวกเขาสามคนพากันเดินเที่ยวจนลืมไปเลยว่าโกรธกันอยู่ แต่ช่วงเวลาแบบนี้ จะมามัวโกรธกันไปเพื่ออะไร ความสุขเล็กๆน้อยๆต้องรีบโกยไว้ก่อน

หลังจากเที่ยวกันเสร็จ พวกเขาก็พากันกลับโรงแรม วินเนอร์ที่หลับคาไหล่วิคเตอร์ก็หลับแบบไม่รู้เรื่อง เพราะวันนี้เด็กน้อยใช้พลังงานไปทั้งวัน

"ไปอาบน้ำให้เรียบร้อย แล้วมาคุยกัน"

ปาล์มพยักหน้าแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำ วันนี้เขาเสียพลังงานไปเยอะ ส่วนเด็กน้อยที่นอนหลับ แค่เช็ดตัวให้ก็พอ

วิคเตอร์ไลน์ไปบอกในกลุ่มครอบครัว ว่าตอนนี้โอเคแล้ว ส่วนเรื่องงาน ก็ขอให้เลือนไปอีกสองวัน เขาจะพาสองแม่ลูกอยู่เที่ยวต่ออีกสักหน่อย ค่อยกลับ ทางนั้นตอบว่าโอเค

เป็นอันว่า จบการประชุมกลุ่ม

"เฮียก็ไม่จัดการตัวเองให้เรียบร้อย"

ปาล์มที่แต่งตัวออกมาจากห้องน้ำก็พูดขึ้น เขาเดินไปนั่งรอที่โซฟา เปิดทีวีดูรายการโชว์ วิคเตอร์รีบเข้าไปจัดการตัวเอง เพราะเขาเองก็อยากกอด อยากหอมอีกคนมากมายแค่ไหน ไม่ได้เจอกันหลายวัน คิดถึงใจจะขาด

ตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่โซฟาที่อยู่ตรงปลายเตียงนอน วิคเตอร์ที่เอาแต่จ้องหน้าอีกคนก็ยังไม่ยอมพูดอะไร หน้าหวานๆแบบนี้ ไม่ได้เจอมากี่วันแล้ว คิดถึงจัง

หมับ

"เฮ้ย เฮีย ปล่อยเลย มากอดทำไม"

เขาคว้าอีกคนมากอด แล้วกดจมูกลงไปที่แก้ม ค้างไว้แบบนั้น

"คิดถึงมากนะรู้มั้ย"

ปากเขาหวานแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ปาล์มเขินหน้าแดง ลามไปยันหู ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งๆ

"เรื่องทั้งหมด เฮียขอโทษ เฮียไม่ได้จะให้มันเป็นแบบนี้ เฮียรู้เรื่องตี๋กับไหมแล้ว เฮียมีธุระด่วนพอดี เลยไม่ได้รับฟัง เฮียไม่รู้ว่าตี๋จะคิดมากขนาดนี้ เฮียขอโทษนะครับ ที่ไม่พูดให้ตี๋เข้าใจก่อน"

"แล้วเรื่องเมื่อวันก่อน"

"เฮียบอกกับเพื่อน ว่าจะขอตี๋แต่งงาน แต่เฮียไม่กล้า เฮียเขิน เธอเลยอยากช่วยให้เฮียกล้าพูด แล้ววันมีนัดคุยธุระกัน เธอเลยให้เฮียลองพูดกับเธอดูก่อน เผื่อเฮียจะเลิกเขินแล้วมาพูดกับตี๋ได้"

ร่างบางนิ่ง เพราะอึ้ง ของเขาแต่งงานงั้นหรอ เขาพูดจริงหรอเนี่ย

"จริงหรอ"

"จริงสิ เราเนี่ยดันไปเจอพอดี ทำแผนเฮียพังหมด กะจะเซอร์ไพรส์ซักหน่อย"

"ใครจะไปรู้เล่า"

"ช่างมัน เป็นอันว่าเราเข้าใจแล้วนะ แต่.....ไอ้เด็กนั่นเป็นใคร!"

ปาล์มยิ่มแหยๆ

"ตี๋จ้างน้องเขามาคอยถ่ายรูปกับอัดวีดีโอให้เฉยๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย เฮียถามลูกดูสิ"

ร่างหนาหรี่ตาอย่างจับผิด

"จริง"

"จริงสิครับ"

ร่างบางที่ดิ้นยุกยิกในอ้อมกอดแข็งแกร่งก็ยังคงดิ้นต่อไป เพราะอีกคน ไม่ยอมปล่อยแน่ๆ

"โอเค เฮียเข้าใจแล้ว แล้วนี่ทำไมมีแก้วยาวางอยู่"

วิคเตอร์ที่เห็นตั้งแต่เข้ามา แต่ก็ยังไม่ได้ทักอะไร

"เมื่อวานเราสองคนเล่นน้ำนาน พอตกเย็นก็เป็นหวัด ทางโรงแรมเลยจัดยามาให้"

ร่างบางพูดเสียงเบา เพราะรู้ว่าต้องโดนดุ

"อาตี๋!!!"

นั่นไง ว่าแล้ว

"ก็ไม่รู้นี่ว่าจะเป็นอะ ใครจะอยากินยากันเล่า"
ยังจะเถียง

"เห้อ เฮียไม่ได้อยู่ด้วยแบบนี้ ถ้าเกิดเราสองคนเป็นอะไรขึ้นแล้วใครจะดูแลเรา เฮียไม่ได้ดุ แต่เฮียแค่เป็นห่วง"

ปาล์มเงยหน้ามองคนตัวโตที่กอดเขาไว้แน่น  ความรู้สึกผิดในเรื่องนี้มันทำให้เขาเสียใจจริงๆ

จุฟ

ปากบางแตะลงบนริมฝีปากอีกคนเบาๆแล้วรีบถอยออก

"ตี๋ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว"

ร่างหนาอมยิ้ม

"ขออีกที"

ร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะทำหน้าหงิก

ไอ้คนเจ้าเล่ห์นั่งนิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเหมือนน้ำเสียงสักนิด

"ตาลุงหื่นกาม!"

"เร็วๆซิ คิดถึงจะแย่อยู่แล้วครับ"

ทำมาอ้อน

จุฟ

และมันก็ไม่ได้จบแค่นั้น

ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล สำหรับความคิดถึง และโหยหาซึ่งกันและกัน

เบนกล้องไปเพดานห้องละกัน หุหุ





#ไม่รู้นิยายเรื่องนี้จะถูกใจคนอ่านกันมั้ย แต่ไรท์ก็พยายามได้แค่นี้ จะด้วยเวลาหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้สมองไม่แล่น ก็ไม่ได้โทษอะไร นอกจากโทษตัวเองที่ไม่คอ่ยมีเวลา และพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองก็เลยตื้อๆไแหมด-_-

อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้ว ยังไงก็ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ


ติชมได้จ้า ไอริณไม่น้อยใจแต่จะนำไปปรับปรุงในเรื่องต่อๆไป -_-
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-09-2021 11:07:35
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 15-09-2021 21:58:12
คือลือมากครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 19-09-2021 00:41:14
ตอนที่34

ไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้นแหละครับ เพราะ....

"ยกเลิกทุกอย่าง"
ผมพูดเสียงดังฟังชัด เหมือนออกคำสั่งเพราะอะไรน่ะหรอ

เล่นใหญ่กันเกินไปแล้ว จัดงานอะไรใหญ่โต เว่อร์วังแบบนี้

"ทะ ทะไมละที่รัก ไม่ชอบหรอครับ"
เฮียที่อึกอักพูดติดๆขัดเหมือนคนหายใจไม่ทั่วท้อง สีหน้าแต่ละคนก็ไใ่ต่างจากเฮียเท่าไหร่

"ไม่ชอบ"

ผมตอบออกไปก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องนอน โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น แม้แต่ครอบครัวผมเองก็ตาม

ผมเป็นผช.นะครับ ทำไมต้องทำอะไรขนาดนี้ จะตัดงานกันทำไม ครอบครัวผมกับครอบครัวเฮียเขาไม่อายกันหรอ ผมไม่ได้เห็นแก่ตัวผมเอง แต่ผมเห็นแก่หน้าพวกท่านมากกว่า สังคมทุกวันนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่ แต่พวกที่ปากไม่อยู่สุก มันก็มีมาก ผมไม่อยากให้ใครมาว่าครอบครัวพวกเราลับหลัง

ก๊อกๆๆๆๆ


"อาตี๋ เปิดประตูให้เฮียหน้อยนะครับ เรามาคุยกันก่อนนะ"

ผมนั่งมองประตูนิ่ง ผมไม่ได้โกรธเฮีย ไม่ได้โกรธใคร แต่ผมแค่น้อยใจที่ทำอะไรมากมายเพื่อผมขนาดนี้

"เฮียไปพักเถอะครับ ตี๋อยากอยู่คนเดียว"
ผมบอกออกไปทั้งๆที่ตายังไม่ละจากประตู

"ไม่เอานะตี๋ อย่าโกรธเฮียเลยนะ ที่เฮียทำแบบนี้เพราะอยากทำ อยากเซอร์ไพร์สตี๋ เฮียอยากทำจริงๆ"

เสียงเฮียเบาเหมือนคนกำลังเสียใจ เสียใจที่คิดว่าผมโกรธเขา

"ตี๋ไม่ได้โกรธ"

"แบบนี้แหละที่เรียกว่าโกรธ"

ยังจะมาเถียงอีก

แกร๊ก


พรึบ

"กอดทำไมเนี่ย อึดอัด"

ผมเปิดประตูให้เพราะทนเสียงแง่วๆหน้าไม่ไหว คนอะไรตื้อเก่งจริงๆ

"อย่าโกรธเลยนะ เฮียเข้าใจแล้ว"

"เข้าใจอะไรครับ"

"ตี๋ไม่อยากแต่งงานกับเฮีย"

"ผมบอกหรอ"

"เปล่า แต่อาการแบบนี้ก็คงใช่"

"คิดเองเออเองอีกแล้วนะเฮีย"

"แล้วตี๋จะให้เฮียยกเลิกงานทำไม ทุกๆคนเขาตั้งใจทำเพื่อตี๋เลยนะ"

"แต่มันไม่เกินไปหน่อยหรอ จัดงานทำไม ตี๋อยากได้เหมือนเราหมั้นกันมากกว่า"

"แต่เฮียอยากให้ตี๋มีความสุข ครั้งหนึ่ง เราเคยมีความทรงจำด้วยกันมากมายแค่ไหน จนทำให้เรามีวันนี้ได้"

"ตี๋รู้ แต่ตี๋ไม่อยากให้ใครว่าครอบครัวเราได้ ตี๋ไม่อยากให้ญาติผู้ใหญ่ของเราต้องอายคนอื่น"

"ถ้าอาย พวกท่านจะให้เราหมั้นกันตั้งแต่แรกทำไมละ ถ้าอายพวกท่านจะยอมรับความรู้สึกที่เรามีให้กันได้หรอ ถ้าพวกท่านอาย ทำไมพวกท่านต้องมีความสุขไปกับเราด้วยละ เฮียว่าตี๋คิดมากเกินไปแล้วนะครับ อย่าสนใจคนอื่นมากกว่าความสุขของตัวเองสิ เฮียรักตี๋ ตี๋รักเฮีย ครอบครัวของเรารักกัน มันจะมีอะไรที่ต้องคิดมากอีกละหืม"

ผมคิดตามที่เฮียพูด มันจริงทุกอย่าง


ถ้าอาย พวกท่านจะยอมให้หมั้นกันตั้งแต่แรกทำไม

ถ้าอาย พวกท่านจะยอมรับความรักของเรางั้นหรอ

ถ้าอาย พวกท่านจะมีความสุขไปพร้อมกับเราทำไม

ถ้าอาย พวกท่านคงทำทุกทางเพื่อให้เราไม่ได้รักกัน

นี่ก็เป็นเพราะผมงี่เง่าเกินไปอีกแล้วงั้นหรอ ผมคิดมากเกินไปจริงๆ ผมทำให้คนที่รักผมทุกคนต้องคิดมากตามผมอีกแล้วหรอ

รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ  มันคือความสุข ความสุขที่ได้เห็นลูกๆมีความสุข

ความรักที่ไม่มีข้อแม้

แล้วผมจะมัวกังวลไปทำไม

ถ้าความสุขของผมคือเห็นคนที่ผมรักมีความสุข

"ตี๋ขอโทษนะเฮียที่ทำตัวงี่เง่าแบบนี้ ตี๋ขอโทษนะครับ"

ผมยกมือขึ้นกอดตอบเฮีย

"ไม่เป็นไร ตี๋ไม่ได้ผิด พวกเราทุกคนเข้าใจตี๋นะ อย่าคิดมากไปเลย"

"ครับ"

เฮียปล่อยกอดออกจากผม เขายิ้มให้ผมแบบกว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้-_- มันเป็นรอยยิ้มที่เขามีความสุขที่สุด ยิ้มที่สดใส ยิ้มจนเห็นประกายวิบวับในดวงตาคู่คมคู่นั่น

มันเป็นยิ้มที่หล่อที่สุดสำหรับผม

ผมยิ้มให้เฮีย

เรายิ้มให้กัน

"แต่งงานกับเฮียนะครับ"

ผมจะต้องกังวลอะไรอีกละ ในเมื่อเขาพร้อมที่จะมีผมอยู่ข้างกายเขาเสมอ เขาพร้อมที่จะดูแล เขาพร้อมที่ปกป้องผมขนาดนี้

ตายไปกี่ชาติ จากดันกี่ภพ ถึงได้เจอกันอีก


"แต่งครับ"

ผมตอบแล้วยิ้มหวานให้เฮีย เป็นยิ้มที่ผมคิดว่าหวานที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา

"ป๊ะป๋าครับ"

เสียงลูกชายดังขึ้นข้างหลัง เฮียหันไปมอง ผมก็ชะเง้อไปมอง เห็นลูกชายที่ใส่สูทสีขาวมีหูกระต่ายสีฟ้าตีงคอ ยืนยิ้มแฉ่งให้เราทั้งสองคน

ก่อนจะมองไปที่มือน้อยๆนั่น ผมก็เบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้เห็น

แหวน!!!

"ชอบมั้ย"

เฮียหยิบแหวนที่ลูกชายส่งให้ขึ้นมาถือไว้ ผมมองตามอย่างไม่ละสายตา แหวนคู่นี้ เป็นคู่ที่ผมไปเลือกให้เพื่อนของเพื่อนสนิทผมนิ แล้วมันมาอยู่ที่เฮียได้ไง

หรือว่า....

"ร้ายจังเลยนะครับ"

ผมพูดขำๆ เฮียขำตามก่อนจะสวมแหวนวงใหม่แทนที่แหวนวงเก่า ผมหยิบอีกวงมาสวมให้เฮีย

"รักนะครับ"

เราสองคนพูดขค้นพร้อมกัน


"เฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

เสียงเฮฮาดังขึ้นพร้อมเสียงปรบมือ ก่อนที่ทุกคนจะเดินขึ้นบันไดมาหยุดที่หน้าห้องผม ผมยิ่มแล้วส่ายหัวให้ทุกคน

เจ้าแผนการกันตังเลยนะ

"เอาละๆ ไหนก็จัดงานไปแล้ว งั้นพิธีไม่ต้องถือว่าจบตรงนี้เลย"

ป๊าผมพูด

"ส่วนงานเลี้ยงก็จัดเหมือนเดิม"

คุณพ่อเฮีย

"ถ้างั้น ทุกคนไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนกันเลยนะ"
ม๊าผม

"ทุกอย่างตรงนี้ถือว่าโอเคแล้วนะ ไปๆ ไปจัดการความสวยความงานของค่ำคืนนี้กัน"

คุณแม่พูดขึ้นก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันลงไป เหลือเราแค่3คน

"น้องวิน หม่ามี๊ขอโทษนะครับที่ทำให้หนูหมดสนุกเลย"
ผมย่อตัวลงตรงหน้าลูกชายที่ยืนยิ้มอย่างไม่งอล

"น้องวินไม่โกรธหม่ามี๊หรอกครับ"
เด็กน้อยพูดจบก็ยิ้มแฉ่งให้ผมทันที

หมับ

ผมคว้าเขามากอดไว้แน่น

"ขอบคุณหนูนะที่อยากให้หม่ามี๊เป็นหม่ามี๊ของในวันนั้น หม่ามี๊นักหนูนะครับ รักที่สุดเลย"
ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

"น้องวินก็ขอบคุณหม่ามี๊นะครับ ที่ยอมเป็นหม่ามี๊ให้น้องวิน น้องวินรักหม่ามี๊ที่สุดในโลกเลยยยย"

เรากอดกันแน่น ก่อนที่เฮียพาเดินเข้ามาในห้อง ไม่งั้นคงได้นอนหน้าประตูกันแน่ๆ5555

"ไม่รักป๊ะป๋ามันมั่งหรอครับ"

คนแก่ขี้น้อยใจก็เอ่ยขึ้นขัดจังหวะ จิ้ๆ เขากำลังอินกัน ขัดจริงๆ

"รักสิครับ น้องวินรักป๊ะป๋าที่สุดในโลกเหมือนกัน"

เราสามคนกอดกัน มันอุ่นมา เฮียกอดเราสองคนไว้รอบเลย คิดเอาว่าเขาตังใหญ่แค่ไหน เอ๊ะ หรือว่าผมกับลูกตัวเล็กเกินไปนะ -_-

"ป๊ะป๋าก็.รักทั้ั้งสองคนที่สุดเหมือนกันอยู่กันไปแบบนี้นานๆนะครับ"

"ครับ"

ผมกับลูกชายตอบพร้อมกัน



ก่อนที่อาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของค่ำคืนนี้







......จบบริบูรณ์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น?)❤️คนนี้...หม่ามี้ของผม❤️
เริ่มหัวข้อโดย: I rin ที่ 19-09-2021 01:29:42
ตอนพิเศษ1

ตั้ม&ก้านพลู


"ไอ้ตั้ม!!!!!"

เสียงนี้ที่คุ้นเคย ร่างหนาหันไปมองทางต้นเสียง ก็เจอกับคนเรียก จะว่าผมเหม่อก็ได้นะ-_-

ใบหน้าน่ารักที่มันน่ารักเกินผช.ของคนคนนั้น มันทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"ครับ"

เสียงทุ้มขานรับอย่างเผลอตัว เขามักจะเป็นแบบนี้เสมอเมื่อมองหน้าอีกฝ่าย ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารักอีกฝ่ายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นเพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมาตลอด เลยถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่จะต้องมีอีกคนในสายตา

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมถึงได้รู้ว่า...ผมคิดกับเขามากกว่าเพื่อน

"ครับอะไรของมึง แล้วนี่มึงจะจ้องหน้ากูอีกนานมั้ย"

ผมมองปากบางที่ชอบพูดจากวนประสาทคนอื่นไปทั่ว แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

ริมฝีปากบางสีพีช มันน่าสัมผัส

"ยังจะมองอีก"

ปากบางที่่ขยับไปมานั่น มันจะหวานมั้ยนร้า

"เป็นบ้ารึไงวะเนี่ย"

ร่างกายที่ผมเคยเห็นเวลาที่มันมาค้างด้วย ผมก็ไม่เคยสัมผัสครับ นอกจากจะเล่นแบบไม่คิดอะไร แต่ตอนที่ผมรู้ความรู้สึกของตัวเอง ความคิดผมก็เปลี่ยนไป

"ก้านพลู"

"อะไร มาเรียกกูซะหวานเชียว"

มันทำท่าขนลุก ก่อนจะเบะปากใส่ผม

"กูมีไรจะบอก"

ผมว่ามันได้เวลาแล้วหละ ผมเก็บมันมานานเกินไป ความรู้สึกของผมน่ะ

"ทำหน้าตาชวนสยิวทำไมวะ"

มันทำหน้าระแวงผม ผมแทบจะหลุดขำ ไอ้นี่มันแสบจะตาย ไม่สมกับหน้ามันหรอกครับ

"กูรักมึง"

ผมบอกไปโต้งๆไม่อ้อมค้อม

"เหอะ เรียกกูมาหาที่บ้านเพราะจะบอกแค่นี้อะนะ"

มันพูดเหมือนไม่ใส่ใจแต่.....

"ห้ะ!!!! มึงว่าไงนะ!!!"

แล้วมันก็แหกปากตามสเต็ป ตาโตยิ่งกว่าเดิมเป็นสิบเท่า มือที่เล็กกว่าผมก็ชี้นิ้วชี้ออกมา

"กู!!รัก!!!มึง"
ผมเน้นทีละคำ

"โกหก"

อ้าว ทียังงี้ละแกล้งโง่เฉย กวนตีน

"กูรักมึง"

ผมพูดไปอีกรอบ เพื่อจี้มันอีก

"หลอก"

จะเอาอะไรกับคนอย่างมัน

"ตั้มรักก้าน"

หยอดสักหน่อย เผื่อจะเลิกแกล้งโง่ได้ หูมันแดงไปละ หึหึ ยังไงก็ไม่รอดจากมือผมหรอกครับ

"มึงงงงงง"

มันลงชักดิ้นแด่วๆที่โซฟา ท่าทางงอแงของมันเหมือนเด็กน้อยที่อยากได้ของเล่นอะ ผมชินละครับ มันชอบงอแงผมแบบนี้เป็นประจำ แต่ผมกลับชอบ มันน่ารักดี

"ตั้มรักก้านพลู"

ผมพูดแล้วนั่งลงข้างๆมัน มันมองผมก่อนแวบหนึ่งแล้วหันหน้าหนี แอบยิ้มทำไม หึหึ

ก่อนมันจะหันมาอีกรอบ แล้วยิ้มมุมปาก ผมบอกแล้วว่ามันอะร้าย

ผลั่ว!!!

"โอ้ย! ตบหัวกูทำไมเนี่ยไอ้ก้าน"

มันฟาดมือลงมาบนหัวผมจังๆ มือหนักแท้ไอ้ห่านิ

"กูรอมึงบอกมาตั้งนานละ ลีลา"

รอบนี้เป็นผมเองที่ตาโตแข่งกับมัน

"หมายความว่า...."

ผลั่ว!!!

"เออสิ กูรักมึงมาตั้งนานละ แต่กู..."

ตบกูจัง เดี๋ยวกูทบต้นทบดอกให้หมดเลย ไอ้เตี้ยนิ

"แต่อะไร"

ผมถามพร้อมกับจ้องหน้ามัน มันจ้องกลับ แล้วยิ้มแฉ่ง ลักยิ้มสองข้างบุ๋มลงไป น่าฟัดชิบผาย

"กูไม่กล้าน่ะสิ โถ่ ใครจะบอกว่ารักเพื่อนตัวเองกัน ถ้าเกิดมึงไม่ชอบกู เตะกูคอหักทำไงละ "

เหตุผลแม่งโครตน่าถีบ

"ดูไม่ออกหรอ ว่ากูชอบมึงน่ะ"

"ออก"

"ไอ้ก้าน!!!ไอ้เชี่ยนิ หลอกให้กูบอกก่อนหรอวะ"

ผมยกทีนขึ้นทำท่าจะถีบมัน มันเด้งลุกจากโซฟาอย่างรู้งาน ไว้อย่างกะลิง
 
"ไอ้เชี่ยตั้ม มึงจะถีบกูเลยหรอ"

มันให้นิ้งกลางผม แสบจัด

"เออสิ มึงมันกวนตีน"

"ไหนมึงบอกว่ารักกูไง มึงกล้าทำกูเรอะ"

มันทำหน้าอ้อนๆ อ้อนตีนผมเนี่ย นี่ผมยังงงกับตัวเอง ว่ารักคนอย่างมันไปได้ยังไง กวนตีนชิบผาย

"ไม่!!!"

ผมบอกยิ้มๆ ผมไม่เคยทำมันแรงๆหรอกครับ กลัวมันเจ็บ

"เออดี อย่าแม้แต่จะคิดนะ กูเอาคืนจริงด้วย"

มันทำท่าปาดคอตัวเอง ผมยิ้มขำ ตัวแค่นี้เก่งจริงๆ

"มาใกล้ๆกูนี่ ไปยืนทำไมตรงนั้น"

ผมกวักมือเรียกมัน มันเดินเข้ามากำลังจะนั่งลงที่เดิม

พรึบ!!!

ไม่ทันผมหรอกครับ

"ไอ้ตั้ม!!!"

มันดิ้นอยู่บนตักผม ตัวมันก็ไม่เล็กมากหรอกครับ แค่เล็กกว่าไอ้ปาล์มนิดหน่อย

"อยู่นิ่งๆเป็นมั้ย"

ผมพูดข้างหูมัน มันหดคอลง

"ก็ปล่อยสิ"

ผมยกตัวมันให้หันหน้ามาทางผม แดกข้าวบ้างมั้ยเนี่ย ตัวเบาเชียว

"จ้องหน้ากูอีกแล้วนะ"

มันพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่นแทนที่จะมองหน้าผม

"น่ารัก"

ผมคลั่งรักนะ ทำไมหรอ อิจฉาละซิ

"กูหล่อ"

"ใครบอก"

"เยอะแยะ"

"เดี๋ยวกูตามเก็บให้หมด"

"มึงจะบ้าเรอะ"

"อย่าทำให้กูบ้าละกัน"

"กูไม่..,...อื้ออออ

มันยังพูดไม่จบ ผมโน้มคอมันมาจูบ ริมฝีปากบางที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของลูกอมประจำตัวมัน ลูกอมที่มันชอบ และผมก็ดันชอบเพราะมันชอบด้วยนี่ซิ แย่หน่อยนะ เพราะอะไรที่ชอบ ผมจะไม่มีวันเบื่อ.....





........ไปคิดกันเอาเองนร้า ว่ะฮะฮ่าาาาาาาาา.........