ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*****************************************************************************************
The Boy Next Home
#เกิดเป็นรักข้ามรั้ว
'ความบังเอิญ' มักจะมีอีกชื่อเรียกว่า 'พรหมลิขิต'
ชอบไม่ชอบ ดีไม่ดี ขอคอมเม้นท์เป็นกำลังใจ เพื่อเอาไปพัฒนาและปรับปรุงด้วยนะคะ
และฝากติดแฮชแท็ก #เกิดเป็นรักข้ามรั้ว ในทวิตเตอร์ด้วย... แวะมาพูดคุยได้ที่แอคทวิต @gade_ka ได้น้า
นิยายเรื่องนี้เป็นฟีลกู๊ดนะคะ อ่านสบายไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอแค่ยิ้มตอนอ่านมันก็พอ
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าเลยค่ะ
@gade_ka
2019.06.15
:: Epilogue - บ้านของเรา ::
เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พลัฎฐ์กับตะวันก็เปิดเผยความสัมพันธ์ของกันและกันมากขึ้น หลังจากนิตยสารที่มีบทสัมภาษณ์ของทั้งสองวางแผงไป กระแสทั้งทางบวกและลบมีเข้ามาตลอด แต่ในเมื่อไม่ได้กระทบอะไรกับงานของทั้งคู่จึงไม่มีอะไรที่ตะวันและพลัฎฐ์รู้สึกกังวล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ปรากฎตัวอีกเลยของนลินี ทำให้ทั้งคู่ต่างเบาใจและอยู่อย่างสงบมากขึ้น จะมีก็แต่พลัฎฐ์ที่ยังคงขี้หึงไม่เลิก โดยเฉพาะกับคุณครูประจำชั้นของอาทิตย์กับน้องพี เรียกได้ว่าถ้าไม่ติดงานหรือธุระอะไรจริงๆ พลัฎฐ์ก็แทบไม่เคยปล่อยให้ตะวันไปรับเด็กๆ คนเดียวเลย
ดังนั้น สิ่งที่เห็นกันจนชินตาของพนักงานในออฟฟิศของพลัฎฐ์ ก็คงจะเป็นการที่ตะวันไปส่งข้าวส่งน้ำให้พลัฎฐ์บ่อยๆ ในตอนกลางวัน ส่วนในตอนเย็น ก็จะเป็นภาพตะวันที่จูงมือน้องพีกับอาทิตย์เดินข้ามาพร้อมกับแวะทักทายบรรดาพนักงานที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีตามรายทางในวันที่พลัฎฐ์ไม่สามารถไปรับเด็กๆ ด้วยได้ เพราะใครๆ ก็ล้วนแล้วแต่เอ็นดูเจ้าหนูน้อยทั้งสองทั้งนั้น แต่ก็มักจะน้อยครั้งมาก เพราะอย่างที่ว่าพลัฎฐ์ขี้หึงเกินกว่าจะปล่อยให้ตะวันไปเจอกับครูกวินทร์ของเด็กๆ ได้ตามลำพัง
และเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ทุกอย่างทางนี้เรียบร้อยดี และการตกลงกันร่วมงานของบรรดาพ่อๆ แม่ๆ ของทั้งสองฝ่ายเป็นอันเรียบร้อย เซ็นสัญญากันเสร็จสิ้น ทั้งพ่อและแม่ของพลัฎฐ์ รวมไปถึงพ่อและแม่ของตะวันและอาทิตย์ ก็ตัดสินใจกลับไปที่สหรัฐอเมริกาต่อ เพื่อสานงานต่างๆ ที่ค้างไว้ให้เสร็จสิ้น และจะได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ทั้งลูกและหลานที่ไทยเป็นการถาวรเสียที
“น้องพีไม่หยักให้คุณปู่กับคุณย่า คุณตากับคุณยายไปประเทศเมืองนอกเยย น้องพีคิดถึง”
เจ้าหนูน้อยคนขี้อ้อนที่ตอนนี้กำลังกอดปู่กับย่าของตัวเองอยู่พูดจาออดอ้อน ฟังแล้วชวนให้ใจอ่อน จนคนเป็นปู่กับย่าเกือบจะเผลอเลื่อนเดินทางเพื่อจะได้ยืดเวลาอยู่กับหลานต่อ ซึ่งฝั่งของครอบครัวตะวันก็ไม่ต่าง เพราะตอนนี้เจ้าอาทิตย์ดวงน้อยกำลังกอดพ่อกับแม่ของตัวเองแน่น แม้จะไม่ได้พูดอ้อนอะไรเหมือนน้องพี แต่คนเป็นพี่อย่างตะวันรู้ดีว่าการทำแบบนี้ของอาทิตย์เป็นสิ่งที่ซื่อตรงที่สุดในความรู้สึกของน้องชายแล้ว
“อาทิตย์อยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่นานๆ ทำงานเสร็จแล้วรีบกลับมาหาอาทิตย์นะคับ” แม้จะเศร้าแต่เจ้าอาทิตย์ดวงน้อยของตะวันก็เข้มแข็งกว่าใคร
และไม่ใช่แค่จะดูแลความรู้สึกตัวเองได้เท่านั้น เพราะพออาทิตย์หันไปเห็นน้องพีที่กำลังยืนเศร้าอยู่ตรงหน้าคุณปู่กับคุณย่าของตัวเองแล้ว เจ้าตัวก็ผละออกจากพ่อกับแม่ แล้วหันเดินไปจับมือน้องพีมากุมไว้หลวมๆ ให้ตะวันและครอบครัวต้องอมยิ้มออกมาบางๆ เมื่อเห็นว่าอาทิตย์ทำหน้าที่ดูแลน้องพีได้ดีเพียงใด
“คุณปู่กับคุณย่าไปไม่นานหรอกน้องพี แปปเดียวก็กลับ กลับมาพร้อมคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณอาทิตย์ไง น้องพีรอเจอคุณปู่กับคุณย่าพร้อมคุณอาทิตย์นะ”
คำพูดซื่อๆ หนักแน่น แต่ก็ฟังดูปลอบประโลมทำให้เด็กชายพีรยสถ์ยิ้มออก ก่อนที่จะหันไปขอสัญญาจากกคุณปู่กับคุณย่าของตัวเองแทน
“คุณปู่กับคุณย่ายีบกลับมาหาน้องพีนะคับ น้องพีจะเชื่อตามที่คุณอาทิตย์บอก ... สัญญาๆ”
เด็กชายพีรยสถ์ยื่นนิ้วก้อยของมือข้างที่ว่างออกมาตรงหน้าของปู่กับย่า ให้คนเป็นย่าดึงเจ้าหนูน้อยเข้ากอด ก่อนจะเอานิ้วก้อยของตัวเองเกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของหลานชายเบาๆ
“ครับลูก ย่าสัญญา ย่าทำงานเสร็จแล้วจะรีบกลับมาหาน้องพีนะครับ”
“เป็นเด็กดีนะครับน้องพี ตั้งใจเรียน ไม่ดื้อไม่ซนกับปะป๊า แล้วปู่กับย่าจะรีบกลับมานะ”
ส่วนคนเป็นปู่ก็ยื่นมือใหญ่มาลูบศีรษะกลมของลายชายเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มนุ่มๆ ของเจ้าหนูอย่างแสนรัก ซึ่งพอปู่กับย่าผละออก น้องพีก็กดจมูกเล็กของตัวเองลงไปบนแก้มของปู่กับย่าเช่นกัน
“น้องจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน แย้วก็ยักปะป๊าด้วย”
พอว่าจบพลัฎฐ์ก็ขยับมายืนซ้อนหลังลูกชาย พร้อมกับวางมือไว้บนไหล่เด็กชายหลวมๆ พลางบอกพ่อกับแม่ว่าไม่ต้องเป็นกังวล
“พ่อกับแม่ไปทำงานเถอะครับ เดี๋ยวน้องพีผมดูแลเอง ไม่ต้องห่วงนะครับ”
“ใช่ครับ มีตะวันทั้งคน รับรองน้องพีได้อ้วนจนพุงกางเหมือนเจ้าอาทิตย์แน่ๆ” ตะวันเลยจัดการพูดเสริม ให้พ่อกับแม่ของตะวันได้ส่ายหัวให้กับคำพูดลูกชายตัวแสบเบาๆ
“หายปวดหัวหรือจะปวดหนักกว่าเดิมให้พี่เขาต้องดูแลเราเพิ่มก็ไม่รู้นะคะพี่ตะวัน”
พอจบคำของคุณรวิวรรณทุกคนก็หัวเราะร่า ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสองรวมถึงพลัฎฐ์เองด้วย
“หัวเราะอะไรกันครับ?”
ตะวันระดมตีพลัฎฐ์คนเดียวโดยไม่ได้แตะตัวเด็กๆ ทั้งสองเพราะกลัวจะเจ็บ ซึ่งทุกคนก็ยืนคุยกันอีกนิดหน่อยจนทางสายการบินประกาศเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่อง คุณภาสกรบิดาของตะวันจึงหันมาฝากฝังตะวันไว้กับพลัฎฐ์
“ฝากเจ้าพี่น้องสองคนด้วยไว้ด้วยนะคุณพลัฎฐ์ ให้อยู่กันเองยอมรับว่าลึกๆ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่พอมาตอนนี้ได้เห็นว่าพี่ตะวันมีคุณพลัฎฐ์มาดูแล เราสองคนก็เบาใจ”
พลัฎฐ์หันไปมองคนรักที่ตอนนี้กำลังเจื้อยแจ้วเจรจากับพ่อแม่เขาอยู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักความเอ็นดู ก่อนจะหันมารับปากให้พ่อและแม่ของคนรักได้สบายใจ
“คุณอา..”
“เรียกพ่อว่าพ่อ แล้วเรียกแม่ของตะวันว่าแม่เถอะคุณพลัฎฐ์ ไหนๆ ก็มาถึงขนาดนี้แล้ว”
และคำพูดของพ่อตะวันก็ทำให้พลัฎฐ์ยิ้มกว้างได้เต็มแก้ม เขายอมรับว่าแอบกังวลไม่น้อยเพราะกลัวว่าพ่อและแม่ของตะวันอาจจะยังไม่ยอมรับ แต่เมื่อผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาได้จนถึงขนาดที่พ่อของตะวันฝากฝังตะวันไว้กับเขา ก็ไม่มีอะไรให้พลัฎฐ์ต้องหนักใจอีก
“ครับคุณพ่อ ... คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลตะวันและอาทิตย์ให้ดีที่สุด คุณพ่อกับคุณแม่ทำงานให้สบายใจได้เลยครับ”
คุณภาสกรยกมือขึ้นตบบ่าของพลัฎฐ์เบาๆ เป็นเชิงขอบคุณ ก่อนที่พ่อและแม่ของพลัฎฐ์จะเดินมาสมทบ กลุ่มชายหนุ่มและเด็กน้อยทั้งสี่ จึงได้มีโอกาสร่ำลาบุพการีก่อนเดินทางอีกครั้ง
“เดินทางปลอดภัยนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ผมจะดูแลทั้งตะวันและเด็กๆ เอง” พลัฎฐ์ว่า ก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดคนเป็นพ่อและแม่ โดยมีน้องพีที่พลัฎฐ์อุ้มอยู่แทรกระหว่างกลาง โอบแขนรอบคอทั้งพ่อและปู่กับย่าไว้
“บ๊ายบายคับคุณปู่คุณย่า คิดถึงน้องพีเยอะๆ นะคับ”
“เดินทางปลอดภัยนะครับ” ตะวันบอกรวมๆ ก่อนที่จะหันไปหาพ่อกับแม่ของตัวเอง “อากาศที่นู่นหนาว คุณพ่อกับคุณแม่ต้องรักษาสุขภาพนะ แล้วตะวันจะโทรไปอ้อนบ่อยๆ”
เจ้าลูกชายคนโตของครอบครัวโผเข้ากอดพ่อกับแม่แน่น โดยมีเจ้าอาทิตย์กอดเอวทุกคนอยู่ตรงกลาง ก่อนที่คุณภาสกรจะอุ้มลูกชายคนเล็กที่ไม่ค่อยอ้อนเท่าพี่ชายมาหอมแก้มทั้งสองข้าง
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ กลับมาไวๆ นะคับ”
เด็กชายตัวน้อยว่าพร้อมกับยกมือไหว้คนเป็นพ่อและแม่อย่างสวยงาม ทำเอาหัวอกของบุพการีรู้สึกทั้งตื้นตันและภูมิใจ
เมื่อร่ำลากันเรียบร้อย พลัฎฐ์และตะวันก็อุ้มอาทิตย์และน้องพีแยกออกมา ทั้งสี่ยกมือไหว้บรรดาพ่อกับแม่และโบกมือบ๊ายบายกลับ เมื่อพวกท่านโบกมือมาให้ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในเกท
โดยที่พวกเขาก็ได้แต่รอเวลาเพื่อที่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
.
.
.
น้องพีหงอยลงไปถนัดตาเมื่อคุณปู่กับคุณย่าบินไปทำงานต่อที่ต่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งพลัฎฐ์เองก็อธิบายให้ตะวันว่าเป็นอาการปกติของน้องพีที่มักจะเป็นอย่างนี้เสมอเมื่อต้องห่างกับคนในครอบครัว หรือมีใครเดินทางไปไหนไกลๆ ซึ่งพลัฎฐ์เดาว่าน่าจะเป็นเพราะน้องพีฝังใจเกี่ยวกับการที่แม่จากไปไม่ลา ทำให้เด็กน้อยกลัวว่าทุกคนจะทิ้งแกไปและทำให้แกอยู่คนเดียว
ตะวันได้ฟังแล้วก็นึกสงสาร ซึ่งพลัฎฐ์บอกว่าการกลับไปครั้งนี้ของพ่อกับแม่ยังถือว่าอาการของน้องพีดีกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา น่าจะเป็นเพราะโชคดีที่มีอาทิตย์และตะวันอยู่ใกล้ๆ ทำให้เด็กน้อยยังอุ่นใจว่าจะยังมีตะวันและอาทิตย์ที่ไม่ทอดทิ้งตัวเองไปไหน
“พี่เองก็จนใจ บอกลูกไปก็หลายครั้งแล้ว แต่ตัวเล็กก็รู้ว่าปมในใจมันแก้ยาก คงจะต้องค่อยๆ ปรับๆ ค่อยๆ ฝังความรู้สึกใหม่ๆ ให้น้องพีไปเรื่อยๆ”
เวลานี้พวกเขากลับมาถึงบ้านแล้ว และเด็กๆ เองก็นั่งเล่นวาดรูปกันอยู่ที่ห้องรับแขก ในขณะที่พลัฎฐ์กำลังวอแวตะวันอยู่ในครัว เพราะนี่ขนาดว่าเล่าเรื่องน้องพี พลัฎฐ์ยังโอบแขนไว้รอบเอวตะวันแน่นไม่ปล่อยไปไหนเลย
ซึ่งตะวันเองก็รู้ดีว่าภายใต้ท่าทีเจ้าชู้ที่พลัฎฐ์แสดงออกกำลังแฝงไว้ด้วยความไม่สบายใจลึกๆ ของเจ้าตัวในเรื่องของลูกชาย คนตัวเล็กกว่าจึงปล่อยให้พลัฎฐ์กอดแล้วไล้จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่แก้มนิ่มของตัวเองให้สมใจ ก่อนที่เขาจะนึกอะไรดีๆ ออก แล้วลากแขนของพลัฎฐ์ออกไปนั่งเล่นกับเด็กๆ แทน
พลัฎฐ์แม้จะงงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงลากของตะวันออกมา ก่อนที่จะทรุดลงนั่งที่พื้นพรมข้างลูกชายของตัวเอง
“มาครับ วันนี้เราจะมาช่วยกันวาดรูปกับระบายสีดีไหม” ตะวันเอ่ยปากเริ่มพูด พร้อมกับวางกระดาษแผ่นใหญ่ไว้ตรงกลาง “พี่ตะวันวาดพี่ตะวันลงไปในกระดาษ อาทิตย์ก็วาดตัวอาทิตย์ลงไป น้องพีก็วาดน้องพี ส่วนปะป๊าพลัฎฐ์ก็จะวาดตัวเองด้วยเหมือนกัน”
ตะวันว่าพลางทำสีหน้าภูมิใจในไอเดียของตัวเอง ก่อนที่น้องพีจะเอ่ยถาม
“วาดเยาสี่คนยงไปในกระดาษใบนี้หยอคับพี่ตะวัน”
“ใช่ครับ วาดเราสี่คนลงไปด้วยกัน แทนคำสัญญาว่าเราสี่คนจะไม่ทิ้งกันไปไหน” ตะวันชี้แทนตัวเอง แล้วพูดเสียงหนักแน่น สบตากับพลัฎฐ์และน้องพีด้วยแววตาใสแจ๋วจริงใจ
“พี่ตะวันจะไม่ทิ้งปะป๊าพลัฎฐ์กับน้องพีไปไหน ยกเว้นแต่ว่าปะป๊าพลัฎฐ์กับน้องพีจะไม่อยากเจอพี่ตะวันอีก วันนั้นพี่ตะวันถึงจะไป”
พลัฎฐ์ยิ้มตอนที่ได้ยินตะวันพูดแบบนั้น เขารู้ดีว่านี่เป็นคำสัญญาที่ตะวันพยายามจะมอบให้เขากับลูกชายของเขา เพราะพลัฎฐ์รู้ว่าจะไม่มีวันที่เขาไม่ต้องการตะวัน เขารักตะวันมาก และก็ยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน
“ฮื่อออ ไม่ทิ้ง น้องพีไม่ทิ้ง น้องพียักพี่ตะวัน” เด็กชายว่าพลางโผเข้าไปกอดพี่ชายข้างบ้านไว้แน่น ซึ่งเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพลัฎฐ์ได้ไม่ยาก
ส่วนตะวันเองพอเห็นท่าทางออดอ้อนของน้องพีก็ยิ้มกว้าง โอบรอบแขนกระชับอ้อมกอดไว้แน่น พร้อมทั้งใช้อีกมือลูบศีรษะกลมของเจ้าหนูน้อยเบาๆ
“ครับ พี่ตะวันก็รักน้องพี จะอยู่กับน้องพีไปเรื่อยๆ จนน้องพีตัวโตๆ เลยดีไหมครับ”
“อื้อ! ดีคับ” เด็กชายพยักหน้าหงึกหงักซุกอยู่กับอกอุ่นๆ ของตะวัน ท่าทางน่ารักนั้น ทำเอาตะวันต้องก้มลงไปจูบหนักๆ ที่ศีรษะเล็กอย่างมันเขี้ยวอยู่หลายที
แล้วจู่ๆ เจ้าอาทิตย์น้อยก็เดินมานั่งคุกเข่าตรงหน้า แล้วยกแขนเล็กๆ ของตัวเองขึ้นโอบน้องพีไว้อีกที
“คุณอาทิตย์ก็ไม่ทิ้ง จะอยู่กับน้องพีตลอดไปเลย”
“คุณอาทิตย์ห้ามหนีน้องพีไปนะ”
“อื้อ ไม่ไปไหน สัญญา”
เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของตะวันได้ยินเพื่อนสนิทบอกแบบนั้น ก็หันมายิ้มกว้างให้อย่างน่ารัก ก่อนที่อาทิตย์ยิ้มตอบให้น้องพี และพอตะวันกดริมฝีปากลงไปบนแก้มนุ่มๆ ของเด็กชายพีรยสถ์ เจ้าหนูก็หันกลับไปให้ความสนใจกับพี่ชายคนโปรดแทน
ซึ่งในขณะที่ตะวันเผลอๆ งุ้งงิ้งอยู่กับน้องพี ก็เลยไม่ได้รู้ว่าน้องชายตัวเองโผไปกระโดดเกาะหลังพลัฎฐ์ตอนไหน หนำซ้ำยังหัวเราะคิกคัก ก่อนที่พลัฎฐ์จะยื่นหน้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูนิ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“หนูสัญญาแล้ว ห้ามผิดสัญญานะครับ”
ตะวันหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้พลัฎฐ์ ก่อนจะเอ่ยเสียงใสอย่างน่ามันเขี้ยว “ตะวันสัญญากับน้องพี ไม่ได้สัญญากับพี่พลัฎฐ์สักหน่อย”
“อ่าว ทำไมใจร้ายกับพี่อย่างนี้ล่ะครับ” พลัฎฐ์โอดครวญ ซึ่งเจ้าหนูอาทิตย์ก็ได้ยินประโยคดังกล่าวพอดี เลยโอบแขนเล็กๆ ไปที่รอบคอของพลัฎฐ์แล้วพูดเสียงเจื้อยแจ้วแต่หนักแน่นตามประสาเด็กน้อยแทน
“งั้นเดี๋ยวอาทิตย์อยู่กับปะป๊าพะลัดก็ได้ อยู่ด้วยกันๆ”
และพอสิ้นเสียงคำตอบของน้องพี ทั้งพลัฎฐ์และตะวันก็หัวเราะขึ้น ราวกับว่าความไร้เดียงสาของเด็กๆ ช่างบริสุทธิ์และงดงามเกินกว่าที่พวกเขาจะเมินเฉยไม่สนใจได้ ก่อนที่ตะวันจะหันไปพูดจริงจังกับพลัฎฐ์อีกครั้ง
“ตะวันพูดจริงๆ นะครับ เพราะต่อถึงให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนจบลงหรือไปไม่รอด ยังไงตะวันก็จะไม่ทิ้งน้องพี แกเป็น...”
พลัฎฐ์ก้มลงมาจูบเร็วๆ ที่ปากตะวันทันที ตอนที่เด็กๆ เผลอ โดยที่คนถูกจูบยังพูดไม่จบประโยคด้วยซ้ำ
“เหมือนที่ตะวันสัญญากับลูกชายพี่ พี่ก็ขอสัญญากับตะวันเหมือนกันว่าพี่จะไม่มีวันไปไหน จนกว่าตะวันจะไม่ต้องการ”
ตะวันยิ้มบางๆ ทันทีที่พลัฎฐ์พูดจบ ทั้งสองต่างมองสบตากันและกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก เขาทั้งสองไม่รู้หรอกว่าเรื่องความรักและความสัมพันธ์ในอนาคตของเขาทั้งสองคนจะเป็นอย่างไร
แต่สิ่งหนึ่งที่พลัฎฐ์และตะวันมั่นใจคือเขาทั้งคู่จะประคับประคองความรักและครอบครัวที่มีอยู่ตอนนี้ให้ดีที่สุด เพราะอย่างน้อยการมีกันและกันในตอนนี้ก็ได้ทำให้เขาทั้งสองรู้ว่าพวกเขาจะผ่านมันไปได้ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม
และที่สำคัญ เขาทั้งสองจะทำให้บ้านทั้งสองหลังของทั้งพลัฎฐ์และตะวัน เป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดของเด็กชายภานวีย์และพีรยสถ์ เขาทั้งคู่จะทำให้เด็กๆ ได้มั่นใจว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายที่เด็กๆ จะต้องพบเจอเมื่อโตขึ้นในอีกสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้า แต่ทันทีที่กลับมาที่นี่ เด็กน้อยทั้งคู่จะได้รับความรักและความอบอุ่นที่เต็มเปี่ยม ความรักและความอบอุ่นของการเป็นครอบครัวเสมอและตลอดไป
THE END
----------------------------------
Talk: *จุดพลุ* เย่ๆ ก็ลงตอนสุดท้ายให้แล้วนะคะ #เกิดเป็นรักข้ามรั้ว ปิดฉากลงแล้ว เราอยากจะขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อยู่ตรงนี้ อยู่ด้วยกันมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกกำลังใจ ทุกคลิก ทุกวิวที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากๆ นะคะ นิยายเราอาจจะไม่สนุกอะไรมาก แต่ถ้าทุกครั้งที่คุณเข้ามาอ่านแล้วมีความสุข หรือได้รับรอยยิ้มกลับไป แค่นี้เราก็รู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จมากๆ แล้ว
และถึงแม้นิยายของเราจะไม่ได้รับความนิยมอะไรมากมาย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกดาวน์อะไรขนาดนั้นนะ ฮ่าๆๆ หรือเรามันเป็นพวกหวังน้อยด้วยล่ะมั้ง เพราะสำหรับเรา แม้มีคนรออ่านแค่เพียงคนเดียว แค่นั้นก็อยากทำให้เราเขียนต่อจนจบแล้ว~
ดังนั้น ขอบคุณพวกคุณทุกคนมากนะคะ ทั้งจากในเด็กดี คุณ HongTea_ และคุณ tounoi_JJ
คุณ AkuaPink, คุณ Billie, คุณ fc_fic, คุณ route rover, คุณ B25, คุณ DrSlump, คุณ Tiffany, คุณ GBlk, คุณ Kaamnutt และคุณ noy จากเล้าเป็ด
และจากในธัญวลัย คุณ Natha, คุณโสม, คุณ Nin19901 รวมทั้ง Guest ทุกคนจากทุกๆ คอมเม้นท์ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ แล้วก็ขอบคุณนักอ่านเงา ที่อาจจะตามอ่านอยู่เงียบๆ ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามนิยายเรื่องแรกของเรามาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด อยากให้ปรับปรุง เรื่องหน้าขอแก้ตัวนะคะ เราเขียนแต่ฟิคมาตลอด เพิ่งจะจับนิยายเป็นเรื่องแรก เลยอาจจะมีอ๊องๆ งงๆ ออกทะเลไปบ้าง เรื่องหน้าสัญญาจะทำให้ดีกว่านี้ค่ะ อาจจะเป็น mpreg เพราะเริ่มเขียนไปบ้างแล้ว และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะมีเรื่องของน้องพีกับอาทิตย์ต่อด้วย เพราะวางพล็อตไว้ในหัวคร่าวๆ แล้ว ยังไง ก็จะลองพยายามเขียนเนาะ เป็นกำลังใจให้เราด้วยย 555555555
ไปละค่ะ รู้สึกว่าจะทอล์คนานไปแล้ว 55555555555 ไว้เจอกันใหม่เรื่องหน้าเนาะ ... รักพวกคุณมากๆ
- ต่อจากด้านบน -
คนตัวโตกว่าจับร่างเล็กในอ้อมกอดนอนราบลงกับที่นอนบนเตียง ก่อนจะพยายามปลดชุมคลุมอาบน้ำที่ตอนนี้หลุดลุ่ยจนแทบจะไม่เกาะอยู่บนร่างขาวๆ ของคนอายุน้อยกว่าออก ซึ่งตะวันเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี
“หนู... พี่ว่า.. พี่กำลังจะไม่ไหว”
พลัฎฐ์ไม่พูดอะไรให้มากความ เขาตัดสินใจจับมือเล็กของตะวันที่วางอยู่บนอกออก แต่เอาไปวางสัมผัสตรงกลางร่างกายที่ตอนนี้กำลังแข็งขืนเต็มกำลัง
ตะวันหน้าแดงก่ำ เพราะนึกรู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังสัมผัสอยู่นั้นตอนนี้เต็มไปด้วยความต้องการมากแค่ไหน คนตัวเล็กกว่าตัดสินใจสอดมือเข้าไปตามรอยแยกของเสื้อคลุม ซึ่งเขาเดาได้ไม่ยากว่าไม่น่าจะมีปราการอะไรป้องกัน เพราะพลัฎฐ์น่าจะเตรียมพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม แล้วก็ไม่ผิดจากที่ตะวันคิดสักเท่าไหร่นัก เมื่อมือเล็กสัมผัสเข้ากับเจ้ามังกรยักษ์ที่ตอนนี้กำลังแข็งขืนชูชันสู้มือเขาเต็มที่
คนตัวเล็กที่กำลังนอนระทดระทวยจ้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของคนรัก ตัดสินใจขยับข้อมือช้าๆ รูดรั้ง ให้พลัฎฐ์ได้ครางคำรามในคออย่างคนที่กำลังจะหมดความอดทนในทุกขณะ
พลัฎฐ์ตัดสินใจจับตะวันพลิกร่างนอนคว่ำลงกับเตียง ก่อนที่จะยกสะโพกเล็กให้ลอยขึ้นมา ในขณะที่ตะวันก็โอนอ่อนไปกับทุกการกระทำ เพราะดูเหมือนสติจะยังไม่ถูกฟื้นฟูเต็มที่กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าตัวเองกำลังอยู่ในท่าทางที่ล่อแหลม ก็ตอนที่มือใหญ่ของพลัฎฐ์เอื้อมมารูดรั้งที่แก่นกาย ราวกับกำลังจะเอาใจ เพื่อให้คนที่อยู่ใต้ร่างคล้อยตาม
ซึ่งก็ไม่ผิดจากความตั้งใจของพลัฎฐ์เท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้ตะวันแทบจะไม่หลงเหลือแรงให้ยั้งคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่คนตัวเล็กรู้สึกมีเพียงแค่สัมผัสจากมือใหญ่ที่ปรนเปรอเอาอกเอาใจอยู่ไม่ห่าง ให้เขาได้ครางเสียงหวานอย่างพึงพอใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะได้สติง่ายๆ
“อ๊ะ.. อา”
และพอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ลึกล้ำ พลัฎฐ์ก็จัดการพาตัวเองเข้าไปซ้อนอยู่ด้านหลังสะโพกกลมกลึงของคนรักทันที ก่อนจะค่อยๆ แทรกก้านนิ้วที่เพิ่งชะโลมเจลหล่อลื่นเรียบร้อยแล้ว เข้าไปในช่องทางสีหวานช้าๆ ซึ่งตะวันก็เผลอเกร็งตัวในคราวแรกเพราะยังไม่ทันได้ตั้งรับ แต่เมื่อพลัฎฐ์ยังคงเอาอกเอาใจโดยการสาวรั้งแก่นกายน่ารักไม่หยุด ก็ทำให้ตะวันผ่อนคลายขึ้น จนพลัฎฐ์ดันนิ้วเรียวเข้าไปได้ในที่สุด
คนตัวโตกว่าสวนนิ้วเข้าออกสลับกับที่มืออีกข้างก็ยังคงรูดรั้งไม่หยุด ในขณะที่ตะวันยังคงครางเสียงหวานอย่างสุขสม พลัฎฐ์จึงค่อยๆ แทรกนิ้วเข้าไปเพิ่มจากหนึ่งเป็นสองและเป็นสามในที่สุด จนกระทั่งเห็นว่าช่องทางของตะวันพร้อมมากพอแล้วจึงถอนนิ้วออก ทำเอาคนที่กำลังเตลิดไปกับความพอใจหันมามองค้อนทั้งที่กำลังโก่งสะโพกใส่ ให้พลัฎฐ์ต้องลอบยิ้มด้วยความเอ็นดู
“อื้อ.. พี่พลัฎฐ์...”
“ชู่วว ใจเย็นๆ นะครับเด็กดี”
พลัฎฐ์จับเจ้ามังกรยักษ์ที่ตอนนี้ชะโลมเจลหล่อลื่นไว้จนชุ่มถูไถไปตามรอยจีบของช่องทาง ให้ตะวันตัวกระตุกด้วยความเสียวซ่านอย่างทรมาน เพราะไม่ได้รับการเติมเต็ม
“พี่.. พี่อย่า... อย่าแกล้ง”
“หึ...”
และเมื่อเห็นว่าร่างขาวบนเตียงที่กำลังบิดเร่าเพราะความต้องการที่ไม่ได้รับการสานต่อ พลัฎฐ์ก็จัดการดันท่อนเนื้อของตัวเองเข้าไปในช่องทางสีหวานของตะวันช้าๆ เพราะดูเหมือนว่าความยั่วยวนของสะโพกที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า และท่าทางของตะวันที่ตอนนี้ทั้งเซ็กซี่และกระตุ้นอารมณ์ดิบของคนที่กำลังจ้องมองอย่างเขาให้พุ่งทะยานจนยากจะควบคุม
ตะวันครางเสียงหลงตอนที่มังกรของพลัฎฐ์ผลุบเข้าไปในช่องทางแม้จะแค่ส่วนหัว แต่มันก็ใหญ่โตและไม่คุ้นชิน จนพลัฎฐ์ต้องเบนความสนใจด้วยการเอื้อมมือไปด้านหน้าแล้วรูดรั้งแก่นกายน่ารักขึ้นลงตามความยาว พร้อมๆ กับก้มลงพรมจูบบนหลังเนียของคนรักเพื่อให้ตะวันได้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เพราะพอตะวันเลิกเกร็งอาวุธใหญ่โตของพลัฎฐ์ก็ค่อยๆ แทรกดันเข้าไปในช่องทางของตะวันได้จนสุดความยาว ตะวันสะท้านร่างเมื่อมันดันเข้าไปได้จนสุด เพราะการที่อยู่ในท่านี้ ทำให้เจ้าท่อนเอ็นที่ว่าเข้ามาได้ลึกกว่าทุกคราวกว่าที่ตะวันเคยรู้สึก
“อึก!... ลึก... ตะวัน อะ ... จุก”
คนตัวเล็กกว่าละล่ำละลักบอก พร้อมทั้งส่งมือมายันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อ ให้พลัฎฐ์ต้องยั้งตัว ไม่ผลีผลามโถมกายใส่เพราะดูเหมือนว่าตะวันยังไม่พร้อมเท่าไหร่นัก
พลัฎฐ์ตัดสินใจจับขาของตะวันให้แยกกว้างมากกว่าเดิมพร้อมทั้งขยับข้อมือและใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนหัวซ้ำ จนตะวันคล้อยตามมากขึ้น และพอเห็นว่าคนตัวเล็กกว่าไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเท่าตอนแรกแล้ว จึงตัดสินใจเอ่ยขอคนใต้ร่างเสียงพร่า
“อ่า.. หนูรัดพี่แน่นมากเลยครับ ถ้าหนูยังตอดพี่ แล้วไม่ยอม.. อึก! ให้พี่ขยับ ... อีกสักพักพี่ต้องเสร็จทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มแน่ๆ”
ตะวันหันมามองค้อนทันทีที่ได้ยินประโยคกึ่งๆ ลามกจากคนรัก ให้พลัฎฐ์ต้องหลุดขำออกมาเบาๆ เพราะดูท่าแล้วตะวันน่าจะต้องทั้งงอนทั้งอายแน่ๆ ไม่งั้นแก้มไม่แดงก่ำขนาดนั้นหรอก
แล้วก็เป็นพลัฎฐ์ที่อดใจไม่ไหวต้องช้อนใบหน้าน่ารักนั่นให้เอี้ยวขึ้นมา ก่อนจะก้มลงไปจูบแรงๆ บนริมฝีปากสีสดที่กำลังบวมเจ่อ จากนั้นก็กระซิบชิดริมฝีปากบาง เอ่ยขอตามความต้องการของตัวเองทันที
“ขอพี่ขยับนะครับ..เด็กดี”
ตะวันเลือกที่จะไม่ตอบอะไร แต่จูบกลับลงไปบนริมฝีปากหยักลึกของคนถามแทน
และเท่านั้น.. ก็ดูเหมือนความอดทนของพลัฎฐ์จะหมดลงทันที
คนตัวโตกว่าโยกขยับ โถมเอวใส่ร่างเล็กกว่าเต็มแรง ตะวันครางแทบจะไม่ได้ศัพท์เคล้ากับเสียงคำรามของพลัฎฐ์ดังระงมไปทั่วห้อง
“อ๊ะ.. อ๊ะ อ๊า..”
“อึก.. อาห์ ดี.. รัดพี่อีกเด็กดี”
และยิ่งได้ยินคำขอลามกของเสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างหูยิ่งทำให้ตะวันตอดรัดท่อนเนื้อของอีกฝ่ายไม่หยุด ตะวันยอมรับว่าคำพูดแบบนี้จากพลัฎฐ์เร้าอารมณ์ดิบของเขาให้พุ่งทะยาน ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เสียงหอบหายใจ เสียงหยาบโลนของเนื้อที่กระทบกัน แทนที่จะทำให้ร่างทั้งสองที่กำลังเชื่อมโยงและมัวเมาซึ่งกันและกันเขินอาย แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะคนทั้งคู่กำลังหลงใหลในรสสัมผัสของอีกฝ่าย เกินกว่าจะให้ความสนใจกับเรื่องใดๆ
พลัฎฐ์โอบรัดร่างของตะวันให้แหงนเงยขึ้นใขณะที่เอวสอบยังคงโถมรั้งใส่ช่องทางของอีกฝ่ายไม่หยุด ริมฝีปากหยักพรมจูบไปทั่วต้นคอและหลังใบหูของร่างเล็กจนได้ยินเสียงครางหวานดังระงมไปทั้งห้อง
และในช่วงที่ทั้งคู่กำลังจะเดินทางไปแตะฝั่งฝัน พลัฎฐ์ก็รั้งใบหน้าน่ารัก ให้หันกลับมาพร้อมกับประกบริมฝีปากลงไปบนอวัยวะเดียวกัน เขาแทรกลิ้นดูดดึง เกี่ยวพัน จนเสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังไม่หยุดหย่อน ในขณะเดียวกันเอวหนาก็ยังคงโถมรั้งใส่ช่องทางของตะวันไม่หยุด และมีแต่จะเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนแก่นกายของตะวันที่ตอนนี้ไม่แม้แต่จะได้รับการปลอบประโลมหรือเอาอกเอาใจจากมือใหญ่ กลับตั้งชันและแข็งขืนขึ้นมา และยังไม่ทันที่พลัฎฐ์จะได้เอื้อมมือมาช่วยรูดรั้ง ตะวันก็กระตุก หน้าท้องหดเกร็ง พร้อมกับปลดปล่อยออกมาในที่สุด
“อื้อ....”
เสียงครางของตะวันดังอึกอักอยู่ในลำคอ เพราะพลัฎฐ์ไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากรสหวานเป็นอิสระ คนตัวโตกว่ายังคงตะโบมจูบ และเร่งจังหวะขยับเอวเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนตัวกระตุก และปลดปล่อยเข้าไปในช่องทางคล้อยหลังจากที่ตะวันปลดปล่อยไม่นาน
พลัฎฐ์ค่อยๆ ละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของคนตัวเล็กกว่าช้าๆ ในขณะที่ตะวันก็แทบทรุดลงไปกองกับเตียง ถ้าไม่ได้ท่อนแขนใหญ่โตของพลัฎฐ์ประคองร่างเอาไว้
เสียงหอบหายใจของคนที่เพิ่งผ่านศึกรักมาทั้งคู่ดังคละเคล้ากันจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ก่อนที่พลัฎฐ์จะค่อยๆ จับตะวันนอนตะแคงราบไปกับเตียง ทั้งที่ยังไม่ถอนแกนกายออก
ริมฝีปากหยักพรมจูบไปทั่วแก้มและใบหูของคนรักที่ตอนนี้แดงไปทั้งตัว และนอนระทดระทวยอยู่บนเตียงอย่างน่ามอง ก่อนจะอ้อนขอในสิ่งที่ทำให้ตะวันต้องตาโต
“หนู.. เมื่อกี้มันดีมากเลยครับ..” สะโพกสอบขยับเบาๆ พร้อมกับการตื่นตัวของอวัยวะบางอย่างที่ยังคงค้างอยู่ในช่องทางของตะวัน “พี่.. ขออีกรอบนะ คือว่า.. มันแข็งอีกแล้วอ่ะครับ”
ตะวันหันมองตาเหลือก และในที่จะเอ่ยห้ามก็ถูกพลัฎฐ์จูบปิดปากไปเสียก่อน “พี่... อื้อๆๆๆ”
และจากเสียงห้ามก็กลายเป็นเสียงหอบหายใจและเสียงครางหวานน่าฟังแทน
.
.
.
“เจ้าปีศาจไปให้พ้นนะ อย่ามารังแกคนอื่นแบบนี้”
ตะวันกับพลัฎฐ์ที่นั่งอยู่หน้าเวทีกำลังยิ้มภูมิอกภูมิใจกับเจ้าหนูน้อยทั้งคู่ ที่ตอนนี้กำลังวาดลวดลายแสดงละคร ต่อหน้าผู้ปกครองหลายร้อยชีวิตที่มาดูการแสดงที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ ทำเอาทั้งตะวันและพลัฎฐ์อดไม่ได้ที่จะหน้าบาน เมื่อได้เห็นว่าพ่อแม่ของเด็กคนอื่นๆ ชื่นชมลูกและน้องชายของตัวเองมากแค่ไหน
“ข้าไม่ไป ข้าจะจับเทวดาตนนี้ไปต้มกินให้อิ่มเลย ฮ่าๆๆๆ”
“เจ้าชายย ช่วยแองเจิ้นด้วยยย”
แล้วทั้งเจ้าปีศาจ เจ้าชาย และแองเจิ้ลตัวน้อยๆ ก็วิ่งไล่กันไปมาบนเวที ก่อนที่เจ้าอาทิตย์ดวงน้อยที่รับบทเป็นเจ้าชายจะแกล้งฟันดาบปลอมลงไปเบาๆ บนตัวเจ้าปีศาจที่แสดงโดยเด็กชายจากห้องอนุบาลหนึ่งบี แล้วเจ้าปีศาจตัวน้อยที่ช่างแสดงได้สมบทบาทตามที่ได้ซ้อมมา ก็ล้มลงนอนแผ่หลา แกล้งตายได้เหมือนจริง ก่อนที่แองเจิ้ลตัวน้อยๆ ที่รับบทโดยน้องพีจะวิ่งออกมาจากหลังก้อนหินปลอมที่เป็นที่ซ่อน
“แองเจิ้นขอบคุณเจ้าชายมากๆ”
“ไม่เป็นไรแองเจิ้น หน้าที่ช่วยเหลือทุกคนเป็นของเจ้าชายอยู่แล้ว”
“ดีๆ เจ้าชายใจดี งั้นแองเจิ้นจะเสกคาถาให้พรนะ”
ตะวันกับพลัฎฐ์มองเด็กทั้งสองที่สวมบทบาทที่ตัวเองแสดงเจื้อยแจ้วอยู่บนเวทีก็อดยิ้มกว้างไม่ได้ ท่าทางที่ได้เห็น คำพูดที่ซุ่มซ้อมมานาน ทั้งอาทิตย์และน้องพีทำได้ดีโดยไม่มีผิดเพี้ยน ซึ่งเจ้าหนูทั้งคู่ ทำให้ผู้ปกครองอย่างพวกเขาปลื้มใจไม่หยุด
“โอมมมมม ขอให้เจ้าชายมีแต่ความสุข เพี้ยงๆๆๆ”
น้องพีทำท่าเสกคาถาได้น่ารักน่าหยิก จนบรรดาผู้ปกครองที่นั่งชมอยู่พากันหัวเราะและชื่นชมเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู
ตัวตะวันและพลัฎฐ์เองก็ไม่ได้ต่างกัน...
จวบจนถึงฉากสุดท้ายของการแสดงจบลง เจ้าหนูนักแสดงทุกคนก็วิ่งออกมาหน้าเวที พลางโค้งศีรษะและกล่าวขอบคุณบรรดาคนดูและผู้ปกครองทุกคนด้วยท่าทางน่าเอ็นดู และจากนั้นก็เป็นช่วงวลาที่ทางโรงเรียนอนุญาตให้บรรดาพ่อแม่และผู้ปกครองทั้งหลายเอาของขวัญดอกไม้ และสิ่งต่างๆ ไปมอบให้เด็กๆ ซึ่งพลัฎฐ์กับตะวันเองก็เดินไปหน้าเวทีแต่เขาทั้งคู่ไม่ได้มีของขวัญอะไรให้เจ้าหนู เพียงแต่เดินไปถึงแล้วก็อุ้มเด็กทั้งสองมากอดไว้แนบอก พร้อมกับทั้งระดมจูบแก้มทั้งอาทิตย์และน้องพีด้วยความภาคภูมิใจ
“เก่งมากเลยลูก น้องพีของปะป๊าเก่งมาก”
พลัฎฐ์กอดลูกชายไว้แน่น พร้อมกับระดมหอมแก้มเด็กน้อยด้วยความรัก ทำเอาเจ้าหนูที่ถูกหอมถึงกับหัวเราะคิกอย่างชอบใจ ในขณะที่ตะวันเองก็ไม่ได้ต่างกับพลัฎฐ์เลยแม้แต่น้อย
“อาทิตย์ของพี่ตะวันเจ๋งที่สุด!! พี่ตะวันภูมิใจในตัวอาทิตย์มาก มากๆ ที่สุดในโลกเลย”
พอว่าจบตะวันก็จูบไปที่ริมฝีปากน้องชายอย่างแสนรัก ทำเอาเจ้าอาทิตย์ดวงน้อยยิ้มกว้าง เมื่อได้รับคำชมและความรักจากคนเป็นพี่อย่างเต็มเปี่ยม
แล้วตะวันก็ต้องหันมาตามเสียงเรียกของเด็กชายข้างบ้าน ที่คนเป็นพ่อยืนอุ้มอยู่ข้างกัน
“แล้วน้องพีเก่งมั้ยคับพี่ตะวัน”
ตะวันยิ้มก่อนที่เขยิบเข้าไปยืนใกล้ๆ พลัฎฐ์แล้วยื่นใบหน้าไปหอมแก้มนิ่มๆ ของเจ้าหนูข้างบ้าน พลางเอ่ยตอบ
“เก่งครับ เก่งมากๆ เลย แองเจิ้ลตัวน้อยของพี่”
เด็กชายพีรยสถ์ยิ้มกว้าง ก่อนจะขยับกลับไปซุกอกพ่ออย่างเขินๆ ให้ตะวันต้องอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
“ป่ะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับบ้านเรากันดีกว่า ปะป๊ากับพี่ตะวันมีของขวัญวันคริสต์มาสจะให้น้องพีกับคุณอาทิตย์ด้วยน้า”
เจ้าหนูทั้งสองตาโตทันทีที่ได้ยินว่าจะได้ของขวัญ จึงพากันร้องอู้หูอ้าหา อยากจะรีบกลับกันยกใหญ่
“เย่ๆ กลับบ้านกันคุณอาทิตย์ น้องพีหยักได้ของขวัญแย้ว”
“กลับบ้านๆ ใช่ๆ น้องพี คุณอาทิตย์ก็อยากได้”
ซึ่งท่าทางตื่นเต้นของเจ้าหนูทั้งคู่ก็ทำเอาพลัฎฐ์และตะวันอดขำออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้ และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณครูที่ดูแลเรื่องการแสดงมาขออนุญาพาเด็กๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพอดี พวกเขาเลยปล่อยคืนน้องพีและอาทิตย์ให้ครูดูแล จะได้รีบพากลับบ้าน พาไปดูของขวัญให้สมใจเด็กๆ ทั้งคู่
.
.
.
พอกลับมาถึงบ้านตะวันกับพลัฎฐ์ก็มอบของขวัญให้เจ้าหนูทั้งคู่เป็นเซ็ทสีไม้ สีน้ำ และสีเทียน รวมไปถึงอุปกรณ์วาดรูปครบชุดเซ็ทใหญ่ให้น้องพีกับอาทิตย์คนละชุด เอาไว้ทั้งวาดเล่น และเอาไว้ทั้งใช้เวลาเรียน ซึ่งของขวัญชิ้นนี้ดูจะถูกใจเจ้าหนูทั้งคู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอาทิตย์ที่ชอบวาดรูปเป็นทุนอยู่แล้ว ส่วนน้องพีเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยหน้า เอาแต่พูดว่าดีใจ เพราะจะได้ให้คุณอาทิตย์สอนวาดรูปให้เยอะๆ
และหลังจากถูกอกถูกใจกับของขวัญกันแล้ว ตะวันกับพลัฎฐ์ก็จับเด็กๆ อาบน้ำแต่งตัวใหม่ เพราะต้องไปขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่ตามแพลนที่ได้วางไว้ คาดว่าน่าจะถึงสนามบินเชียงใหม่ในช่วงเย็น และคงพาเด็กๆ เข้าโรงแรมที่พัก ทานอาหารเย็นและพักผ่อนเลย เพราะผู้ใหญ่ทั้งคู่ตั้งใจกันไว้ว่าจะพาเด็กๆ ไปเที่ยวม่อนแจ่มกันตั้งแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น
ทั้งอาทิตย์และน้องพีดูตื่นเต้นกันยกใหญ่กับการได้นั่งเครื่องบิน ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้นั่ง แต่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหนูทั้งคู่ได้ไปด้วยกัน อะไรๆ ก็เลยจะดูตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ และถึงแม้เครื่องจะเทกออฟแล้ว น้องพีกับอาทิตย์ก็ยังคงชี้ชวนพากันดูนั่นนี่ไม่เลิก โชคดีที่พลัฎฐ์เลือกที่นั่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและนั่งสบายมากพอให้เด็กๆ ได้พูดคุยกันได้โดยไม่รบกวนคนอื่น ซึ่งเจ้าหนูทั้งคู่ก็พากันกระซิบกระซาบคิกคักไปจนถึงปลายทางที่เชียงใหม่นั่นล่ะ ถึงจะพอสงบลงบ้างได้
“ปะป๊าๆ เยาถึงประเทศเชียงใหม่แย้วหยอคับ”
น้องพีเอ่ยถามคนเป็นพ่อที่อุ้มตัวเองอยู่ขณะเดินออกจากเครื่องมายังสายพานรับกระเป๋า โดยมีตะวันที่จูงอาทิตย์เดินตามมาติดๆ
“ถึงแล้วครับลูก” พลัฎฐ์จูบแก้มลูกชายเบาๆ ด้วยความเอ็นดูที่เด็กชายยังคงฝังใจว่าเชียงใหม่เป็นประเทศอยู่ ก่อนจะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ลูกชายเสียใหม่ “แต่เชียงใหม่ไม่ใช่ประเทศนะครับน้องพี เชียงใหม่เป็นจังหวัด น้องพีต้องพูดว่าจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ใช่ประเทศเชียงใหม่.. ไหนน้องพีลองพูดใหม่สิครับ”
“งืมๆ จังหวัดเชียงใหม่... ถูกไหมคับปะป๊า”
เด็กชายยิ้มร่าตอนคนเป็นพ่อพยักหน้ารับ “ถูกครับ น้องพีของปะป๊าเก่งมาก”
ทั้งสี่เดินมาตามทางเดินจนถึงจุดรับกระเป๋าตรงสายพานด้านล่างของอาคาร และพอหยิบฉวยสัมภาระมาครบ สองผู้ใหญ่กับสองเด็กน้อยก็เดินออกมานอกอาคารและได้เจอกับรถที่พลัฎฐ์จองไว้กับทางโรงแรมมาจอดรอรับพอดี
เนื่องจากทั้งสี่มาถึงที่เชียงใหม่เป็นเวลาเย็นมากแล้ว และเด็กๆ เองก็ดูจะเพลียกับการเดินทางไม่น้อย พลัฎฐ์และตะวันจึงให้รถของโรงแรมตรงกลับที่พักเลยตามแพลนที่เขาได้วางไว้แต่แรก เพราะตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะเริ่มออกเดินทางไปม่อนแจ่มแต่เช้า เพราะอยากให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับอากาศดีๆ
.
.
.
เช้าวันต่อมาทั้งสี่คนเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมตั้งแต่หกโมงเช้า เพราะตั้งใจว่าคืนนี้จะไปพักค้างที่บ้านม่อนม่วนใกล้ๆ กับม่อนแจ่ม ด้วยรถที่พลัฎฐ์จองไว้กับทางโรงแรม และเพราะต้องขับรถขึ้นเขา และมีความซับซ้อนสูงชันของเส้นทาง พลัฎฐ์จึงขอให้ทางโรงแรมหาคาร์ซีทสำหรับเด็กมาเสริมไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของทั้งอาทิตย์และน้องพี
ทั้งสี่มาถึงบ้านม่อนม่วนก็แวะเช็คอินเอาสัมภาระเก็บ และกินอาหารเช้ากันที่นั่น โชคดีที่ตอนนี้เป็นหน้าหนาว อากาศช่วงเช้าเลยยิ่งเย็นสบายแทบไม่มีแดดให้เห็นแม้จะล่วงเลยเข้าเก้าโมงแล้วก็ตาม
เด็กๆ และตะวันดูมีความสุขมากจนพลัฎฐ์แทบจะหุบยิ้มไม่ได้ เสียงเจื้อยแจ้วของเจ้าหนูยามถามถึงสิ่งๆ ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาให้เห็น ไม่ได้ทำให้คนเป็นพ่อและเป็นพี่นึกคร้านที่จะตอบ ตรงกันข้ามมันกลับยิ่งทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความสดใสมากขึ้นทวีคูณ จนกระทั่งเมื่อพลัฎฐ์จอดรถและจับน้องพีขี่คอ จูงมือตะวันที่อุ้มอาทิตย์ไว้ในอ้อมกอด พากันเดินขึ้นทางสูงชันก่อนที่จะถึงม่อนแจ่ม ทำเอาหอบฮักจนหายใจแทบจะไม่ทัน และความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ก็ทำให้ตะวันและพลัฎฐ์แทบจะลืมเหนื่อยจนเป็นปลิดทิ้ง
“พี่ตะวันๆ อันนี้ต้นอะไรคับ ทำไมดอกใหญ๊ใหญ่”
“ดอกทานตะวันครับ สวยมั้ย อาทิตย์อยากดูใกล้ๆ รึป่าว”
พอจบคำถามของพี่ชาย อาทิตย์ก็พยักหน้ารับ ให้ตะวันได้อุ้มเข้าไปดูใกล้ๆ ก่อนจะพากันได้ถ่ายรูป รัวชัตเตอร์กันสมใจ ก่อนที่ผู้ใหญ่จะเริ่มเหนื่อย เลยมาหาที่นั่งพักใกล้ๆ กับจุดชมวิว โดยมีอาทิตย์กับน้องพีนั่งกินน้ำส้มที่สั่งมาจากร้านค้าในม่อนอยู่ข้างๆ
พลัฎฐ์หันไปรอบๆ ม่อนที่วันนี้คนไม่เยอะมาก อาจจะเนื่องจากยังเช้าอยู่ด้วยความอิ่มเอมใจ ก่อนจะขยับเข้าใกล้ตะวันอีกนิด แล้วเอื้อมมือไปกระชับผ้าพันคอที่เขาเป็นคนพันให้ตะวันเองเมื่อเช้าให้เข้าที่มากขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่าคนข้างตัวมือเย็นขึ้นน่าจะเนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างหนาวเมื่อมาอยู่ข้างบน
“ตัวเล็กชอบที่นี่ไหมครับ”
พลัฎฐ์ถามก่อนที่วาดแขนรั้งคนรักเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ซึ่งตะวันเองก็ไม่ได้อิดออดเนื่องจากเห็นว่าคนไม่เยอะและไม่ได้มีใครสนใจพวกเขาสักเท่าไหร่
“ชอบครับ อากาศดี คนไม่เยอะและที่สำคัญ มีพี่กับเด็กๆ อยู่ด้วย.. ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนตะวันก็ชอบทั้งนั้น”
พลัฎฐ์ยิ้มให้กับคำตอบออดอ้อนของคนรัก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ทำตามความตั้งใจที่เขาคิดมาตั้งแต่เริ่มวางแพลนทริปนี้
... อยากจะอาศัยบรรยากาศดีๆ ช่วงเวลาดีๆ และสถานที่ดีๆ มาเป็นตัวช่วยในสิ่งที่เขาคิดไว้ว่าจะพูดกับตะวัน
“ตะวันครับ.. พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย ตะวันพอจะคุยกับพี่ได้ไหมครับ”
คนตัวเล็กกว่าผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่นทันทีเมื่อได้ยินว่าพลัฎฐ์มีเรื่องอยากจะคุย ตะวันหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย เมื่อมองเห็นว่าพลัฎฐ์ดูจริงจังกับหัวข้อสนทนาไม่น้อย เขานึกรู้ได้ตั้งแต่พลัฎฐ์เรียกเขาด้วยชื่อที่นานๆ จะเรียกสักครั้งถ้ามีเหตุให้ต้องจริงจัง หรือซีเรียสพอสมควร
“ครับ? พี่พลัฎฐ์มีอะไรเหรอ?”
คนตัวเล็กกว่าใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีอะไรจะพูดด้วย เขาเองก็เดาไม่ออกเพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทั้งเขาและพลัฎฐ์ต่างก็ดูมีความสุขดีตั้งแต่เริ่มคบกัน แต่พอพลัฎฐ์มาเกริ่นๆ แบบนี้ตะวันก็อดแปลกใจปนกังวลนิดๆ ไม่ได้
“คือพี่คิดมาสักระยะแล้วเรื่องที่เราผลัดกันไปมาค้างบ้านอีกฝ่าย พี่ว่าเราเลิกทำแบบนี้กันดีไหมครับ”
ตะวันอึ้งพอได้ยินพลัฎฐ์พูดออกมาแบบนั้น ตัวเขาชาวาบไปหมด เพราะการพูดแบบนี้ของพลัฎฐ์แทบไม่ได้ต่างอะไรกับการขอเว้นระยะห่างเลยสักนิด
“พี่.. พี่พลัฎฐ์หมายความว่าไงครับ?”
และพลัฎฐ์เองก็คงเห็นความผิดปกติของตะวันเลยนึกขึ้นได้เมื่อมาทบทวนคำพูดของตัวเอง จึงต้องรีบแก้จนลิ้นแทบจะพันกันให้จ้าละหวั่น
“เฮ้ย!! พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะตะวัน พี่แค่หมายความว่า เรามาทุบกำแพงบ้านเรากันดีไหม ทำให้บ้านเราเป็นรั้วเดียวกัน จะได้ไม่ต้องผลัดค้างบ้านพี่ทีบ้านตะวันที หรืออีกทีก็คือพี่หมายถึงว่า...”
พลัฎฐ์จ้องมองสบไปที่ตากลมของคนข้างหน้าที่ตอนนี้กำลังมีสีหน้าแปลกๆ เพราะอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาและดูสับสนของตัวเอง ก่อนที่ตากลมจะเบิกกว้างเพราะประโยคต่อมาของพลัฏฐ์
“แต่งงานกับพี่นะตะวัน เรามาอยู่ด้วยกัน มาสร้างครอบครัวเล็กๆ ด้วยกันนะครับ”
มือใหญ่ตรงเข้ากอบกุมมือเล็กที่เย็นเฉียบยิ่งกว่าเมื่อกี้ ตะวันอ้าปากค้างเพราะตกใจไม่คิดว่าสถานการณ์จะกลับตาลปัตรจากที่คิดว่าตัวเองจะถูกบอกเลิกกลับกลายเป็นถูกขอแต่งงานแทน และในขณะที่สมองยังคงไม่ประมวลผลนั้น จู่ๆ น้องพีที่เมื่อกี้ยังนั่งกินน้ำส้มคั้นอยู่จะคลานมานั่งจุ้มปุ้กอยู่ข้างๆ พร้อมกับพูดเสียงใสราวกับเตี๊ยมมากับคนเป็นพ่อแล้วอย่างดี
“มาอยู่กับน้องพีนะคับพี่ตะวัน น้องพีสัญญาว่าจะไม่ดื้อ จะเป็นเด็กดีที่สุดในโยกให้พี่ตะวันเยย”
ส่วนอีกข้างก็ขนาบด้วยเจ้าน้องชายตัวแสบ ที่ดูท่าจะรับสินบนมาจากปะป๊าพลัฎฐ์ไม่ต่าง
“เราสองคนไปอยู่กับปะป๊าพะลัดกับน้องพีเถอะนะพี่ตะวัน อาทิตย์สัญญาเหมือนกันว่าจะเป็นเด็กดี”
ตะวันหันมองเด็กทั้งสอง แล้วสลับกับมามองใบหน้าหล่อเหลา และสายตาที่เต็มไปด้วยความรักของพลัฎฐ์อีกครั้ง ก่อนที่น้ำตาแห่งความดีใจจะไหลมาคลอหน่วยที่หางตาอย่างห้ามไม่ได้
ตะวันรู้แค่ว่าตอนนี้เขามีความสุขมากเหลือเกิน มากจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดแทบไม่ไหว
“ตะวันครับ...”
และแน่นอนตะวันไม่ยอมให้พลัฎฐ์พูดจบประโยค คนตัวเล็กกว่าโถมตัวเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นที่คุ้นเคย จนพลัฎฐ์ที่ยังไม่ทันตั้งตัวแทบจะอ้าแขนรับอีกฝ่ายไว้ไม่ทัน ก่อนที่เสียงอู้อี้ของคนที่กำลังพึมพำอยู่ที่อกกว้างของเขาจะทำให้คนตัวโตยิ้มกว้าง
“แต่งครับแต่ง พี่รับตะวันกับอาทิตย์ไปอยู่กับพี่กับน้องพีด้วยนะครับ”
คนตัวเล็กกว่าสะอื้นเบาๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความดีใจ ให้พลัฎฐ์ต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ราวกับจะแทนคำสัญญาทั้งหมดที่มี
“ครับ เราสี่คนมาอยู่ด้วยกันนะ”
พลัฎฐ์จูบย้ำๆ ลงบนขมับของคนในอ้อมกอด ก่อนที่ตะวันจะหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นน้องพีกับอาทิตย์ก็โถมตัวเข้ามากอดบ้างพอเห็นว่าพี่ตะวันกับปะป๊าพลัฎฐ์ไม่ยอมผละออกจากกันเสียที
“กอดด้วยๆ อาทิตย์กอดด้วยยย”
“ใช่ๆ ยักกันๆ น้องพีก็ย๊ากก”
พลัฎฐ์กับตะวันจึงผละออกมามองหน้ากันแล้วก็อุ้มเด็กทั้งสองมานั่งตรงกลาง พลางขยับเข้ามากอดกันเป็นก้อนกลมๆ โดยมีเจ้าหนูทั้งสองอยู่ในอ้อมแขนอันอุ่นทั้งของพลัฎฐ์และตะวัน
“พี่รักตะวันนะครับ”
พลัฎฐ์จูบลงหน้าผากมนเบาๆ ก่อนที่กระซิบถ้อยคำบอกรักให้ตะวันได้รับรู้
“ตะวันก็รักพี่พลัฎฐ์ครับ”
ซึ่งตะวันเองก็ตอบรับความรู้สึกของพลัฏฐ์ด้วยประโยคเดียวกัน
ด้วยความรักจนหมดหัวใจของคนทั้งสอง โดยมีท้องฟ้า ภูเขา และเด็กชายทั้งสองคนเป็นพยาน
.
.
.
THE END
อุทิศให้กับความรักที่บริสุทธิ์ของทุกคู่รักบนโลกใบนี้
-------------------------------
LAST TALK: ขอบคุณทุกการติดตามและการสนับสนุน ขอบคุณหลายๆ คน หลายๆ คอมเม้นท์ ที่อยู่กับ #เกิดเป็นรักข้ามรั้ว มาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณมากๆ นะคะที่แวะเข้ามาอ่าน เข้ามาให้กำลังใจ หวังว่านิยายเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนที่คลิกเข้ามามีความสุขบ้างไม่มากก็น้อยเนาะ ^^
ไว้เจอกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ ... รักพวกคุณมากๆ ♡♡