พิมพ์หน้านี้ - DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MimicClub ที่ 24-11-2014 18:59:38

หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 24-11-2014 18:59:38
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ


10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 24-11-2014 19:00:15
DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป


นิยายเรื่องนี้แต่ตามจินตนาการของนักเขียนล้วนๆ ไม่ได้เกิดจากเรื่องจริงแต่อย่างใด... ถ้ามันจริงก็แปลกนะ ฮ่าๆๆๆ

เป็นพล็อตที่ได้มาจากการอ่าน การดู อนิเมะทั้งหลายแหล่ที่เกี่ยวกับตุ๊กตาจนเกิดความอยากขึ้นในใจ

ส่วนใหญ่แต่งนิยายพีเรียดแนวจีนกำลังภายในบนเว็บเด็กดี แต่ตอนนี้เป็นแนวแฟนตาซีไทยๆภาษาง่ายๆไม่ซับซ้อนมาก

เป็นนิยายแนวใสๆ สนุกหรือไม่ๆรู้ต้องอ่านไปเรื่อยๆค่ะ ถ้าสนุกก็บอกๆกันบ้างนะคะ เม้นสักนิดเพื่อความกระชุ่มกระชวยในหัวใจ

ภาษาของนักเขียนไม่แข็งแรงผิดพลาดตรงไหนทักได้ค่ะจะเป็นการดีอย่างยิ่งที่มีคนสนใจ

อ่านแล้วได้โปรดอย่ามองผ่านไปเลยพลีสสสสสส...

ใครเล่นทวิตสามารถแท็กคอมเม้นพูดคุยได้ที่แท็ก #DOLLFIEตุ๊กตาต้องสาป

ไม่มีการทวงนิยายนะคะ แต่งเรื่อยๆ มากน้อยแล้วแต่อารมณ์ขยัน ตามแรงผลักดันของคนอ่านจากการคอมเม้นด้วย

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายชายๆ บ้าๆบอตามประสาหยาบคายบ้างเป็นเรื่องปกติ อาจจะมีฉาก... มาจิ๊จ๊ะมาครั้งคราวตามเนื้อเรื่อง
เพราะฉะนั้นไม่ได้ต้องการให้คาดหวังมากแต่ก็อยากได้กำลังใจดีๆ ขอบคุณค่ะ!



DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
[/size]


 

เคยไหมครับ... เวลาที่เราชอบอะไรสักอย่างมันมีความรู้สึกเหมือนหลงใหลไปกับสิ่งนั้น มันเคลิบเคลิ้มในเวลาที่เห็น กระดี๊กระด๊าไม่ต่างจากพวกผู้หญิงเวลาเจอคอลเลคชั่นสุดโปรด เเต่บังเอิญคุณเป็นผู้ชายที่จะต้องรักษาภาพพจน์หนุ่มมาดแมนแฮนด์ซั่มเอาไว้  ทำได้เเค่มองส่งสายตาเชื่อมวิ๊งๆเป็นประกายพร้อมด้วยความอยากที่กำลังจะทะลักออกมา เเค่ผมเห็นเขาผมก็รู้สึกถึงโลกส่วนตัวของเราสองคนเเล้วอะไรเทือกนั้น ชนิดที่ว่าหลงใหล เเละคลั่งไคล้พวกเขาเเทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเลยล่ะ!

ตู้กระจกบานใสที่เห็นข้างในได้อย่างชัดเจนเป็นตัวแบ่งกั้นความรักของเรา ถ้าพูดง่ายๆมันก็เหมือนอุปสรรค์เล็กๆที่ขวางกั้น เเต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น สิ่งที่เป็นอุปสรรค์ที่เเท้จริงมันควรจะเป็นป้ายราคาที่เเพงลิบลิ่วข้างๆเขาเสียมากกว่า

"สามแสน" บ้าไปแล้ว!

ผมย่นคิ้วสายตาละห้อยมองเขาที่จับจ้องมาทางผมไม่กระพริบ ดวงตาสีครามทะเลนั่นออกไปทางเขียวมรกตเเต่ผมไม่รู้ว่าเขาเรียกสีตานั่นว่าอะไร แต่ดวงตาของเขามันดูมีเเสงประกายราวกับมีชีวิต ผิวขาวออกสีไข่ไก่จางๆใบหน้าคมคายจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ดวงตาเรียวที่รับกับคิ้วหนาซึ่งปกปิดด้วยเรือนผมสีบรอนราวกับเจ้าชาย ชุดที่สวมใส่เป็นชุดขุนนางในช่วงสมัยก่อนๆของชาวอังกฤษ คุณลองนึกสภาพเสื้อขุนนางสีน้ำเงินเข้มในเรื่องไพรเรท ออฟ เดอะ แคริบเบียนอะไรเทือกนั้นเเล้วคุณจะถึงกับบางอ้อ เขานั่งชันคางมองผมอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีเเดงขลิบดำ มันทำให้เขามีเสน่ห์มนต์ขลังทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็นต้องเคลิบเคลิ้มรวมไปถึงผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย!

"จะบ้า!" ผมบ่นอุบพร้อมด้วยความรู้สึกของขึ้นเหมือนลงเเดงเสี้ยนยา แต่เปล่า ผมไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น เเค่หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเรื่องราคาที่วางอยู่ข้างๆเขาเฉยๆ! อะไรจะเเพงโคตร! ดอลฟี่ที่เคยซื้อราคายังไม่ถึงขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ!
ถอนลมหายใจพรั่งพรูเเล้วสัมผัสไปตามกระจกบานใส

ฮือ... อยากได้... ทำได้เเค่ลูบคลำอยู่ข้างนอกแบบนี้เองหรอวะ! เเต่จะให้ควักเงินก้อนขนาดนั้นผมก็ไม่ไหว ลำพังนักศึกษามหาลัยรัฐจะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อ ขนาดดอลฟี่เด็กๆที่อยู่ที่บ้านผมยังต้องใช้เวลาทำงานเก็บเงินตั้งหลายเดือนกว่าจะได้สักตัวหนึ่ง นี่ถ้ามีใครใจดีมีคนซื้อให้ผมเป็นของขวัญวันเกิด พ่อจะกระโดดฟัดเเก้มหอมซ้ายหอมขวาเป็นคำขอบคุณเลยครับ!

เฮ้อ....! ถอนลมหายใจมันซ้ำเเล้วซ้ำเล่า นี่ถ้าลมหายใจมันหมดตัวได้ผมนี่คงเเห้งเหี่ยวตายมันอยู่ตรงนี้...

"ตุ๊กตารุ่นไรว๊าอยากได้" ก็ทำได้เเค่บ่นนั่นล่ะครับ ไม่มีปัญญาซื้อ ไม่มีปัญญาที่จะครอบครอง โลมเลียด้วยสายตาที่อยากจะจับมาฟัด พอเถอะ! ผมควรออกไปจากตรงนี้ได้เเล้วไม่อย่างนั้นความเจ็บช้ำจะฝังรากลึกเสียยิ่งกว่าโดนสาวๆหักอก! แต่พอจะก้าวขาออกไปเเววตาของเขาที่นั่งอยู่เหมือนฉุดรั้งไม่ให้ผมไปไหน ผมนี่อยากจะร้องไห้เลยครับ...!

"พ่อไม่มีปัญญาจะซื้อเรานะ... มันเป็นพรมลิขิตที่โคตรเศร้าเลยว่ะ"

สายตาของคนที่เดินผ่านผมไปมาอย่าได้เเคร์ ประหนึ่งคนบ้าที่ยืนคุยอยู่คนเดียวก็ไม่ปาน เอาวะ! ได้มองอยู่อย่างนี้ก็ยังดีอย่างน้อยก็เป็นความสุขเล็กๆที่เรียกว่ารักทำให้หัวใจมีเเรงที่จะขยันทำงานเก็บเงินเพื่อกลับมาซื้อ เเต่... กี่เดือนกี่ปีละครับกว่าจะได้ ถ้าไม่ชวดเพราะโดนซื้อตัดหน้าไปก็บ้าเเล้ว!

ในใจรำลึกเเค่อยากได้...  อยากได้... แค่นั้น เเต่จิตใต้สำนึกผมกำลังย้ำเตือน
ไม่มีปัญญาซื้อเฟร้ย! มึงเข้าใจไหม มึงควรก้าวขาออกไปจากตรงนี้ซะก่อนที่มึงจะตัดใจจากเขายาก!

แต่อีกใจ...
มึงต้องทำยังไงก็ได้ที่จะเอาเขากลับไปด้วย...

สามแสน... พร่องงงงง ทำเหมือนเกมเศรษฐ์หาเงินง่ายๆด้วยการทอยเต๋าหรอวะสาดดดดด!

"คุณลูกค้าสนใจตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ?"

อ่ะเฮือกกกกกก!!!!
ผมนี่สะดุ้งโหยงยิ่งเสียกว่าดูหนังสยองขวัญอีกครับ! หันสายตาไปทางพนังงานร้านที่ย่นคิ้วมองผม ประดุจผู้ต้องสงสัยทำตัวมีพิรุธซึ่งอาจจะเป็นขโมยมาดูลาดเลาไรงี้ แหงล่ะใครเห็นใครก็คิดอย่างนั้นในเมื่อผมยืนเเช่อยู่ตรงนี้มาเกือบชม.!

ทำได้เเค่ยิ้ม "แหะๆ" พลางยกมือลูบท้ายทอยเเก้เขิน สงสัยผมจะบังหน้าร้านเขาแน่ๆ

"มะ ไม่ครับ พอดีตุ๊กตาตัวนั้นมันน่าสนใจก็เลยเผลอมองอยู่นาน"

เธอเลิกคิ้วเเล้วพยักหน้า "ออ... ค่ะ ตุ๊กตาตัวนี้เพิ่งนำเข้ามาจากอังกฤษค่ะ เป็นตุ๊กตาไม้เนื้ออ่อนที่ต้องใช้ความประณีตในการแกะสลักเเต่เเข็งเเรงมากสามารถขยับตัวได้เหมือนดอลฟี่ทัวไป เเละเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ตามฤดูกาล มีเสื้อชุดเซทตามฤดูเป็นของเเถมถ้าคุณลูกค้าสนใจ"

สนครับ!

"มะ ไม่เป็นไรครับเอาไว้วันหลังเดี๋ยวผมมาดูใหม่"

"ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคุณลูกค้าสนใจต้องรีบซื้อนะคะเพราะเรามีเเค่ตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่นำเข้ามาในไทย"

อ่ะฮรึกกกกก! ผมรู้ครับผมรู้ ผมรู้ดีว่ามันคงไม่มีตุ๊กตาตัวไหนที่ดูดีได้เท่าตุ๊กตาตัวนี้อีกแล้ว เเต่อย่างว่าล่ะครับ ผม...ไม่มีปัญญาซื้อ...

ผมยิ้มเจื่อนหันไปมองตุ๊กตาตัวนั้นด้วยสายตาละห้อย เหมือนถูกจุดชนวนความอยากเพิ่มเป็นสิบเท่าทวี ดวงตาสีครามทะเลนั่นทำให้ผมรูสึกเจ็บปวด เคยไหมครับเวลาที่โดนผู้หญิงหักอกโดยที่เรายังไม่ได้เริ่มที่จะบอกรักเขาเลยก็โดนบอกไม่ชอบตัดเยื่อใยกันซะเเล้ว... มันเจ็บ... เหมือนคนอกหัก...

ผมว่า... ผมโดนส้นตีนอัดหน้าเเม่งยังไม่เจ็บเท่าชวดตุ๊กตาที่ผมอยากจะได้นี่เลยอ่ะ...

แงงงงงงงงง! ใครก็ได้ซื้อให้ผมที!







 :katai5:


หัวข้อ: Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 24-11-2014 19:08:34
จะรอติดตามค่าาา
หัวข้อ: Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
เริ่มหัวข้อโดย: may5658 ที่ 24-11-2014 19:22:22
 :hao7: น่าสนใจๆ จะรออ่านน๊า
ภาษาที่ใช้เราว่าก็ดีนะ ไม่ติดไร
 :hao4: มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 24-11-2014 21:06:48
ชอบๆครับแนวแปลกดี อ่านง่ายสบายๆ
ติดตามต่อเนื่องครับ
 :mc4: o13 :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 1 - 11/25/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 25-11-2014 12:35:47
 :hao7:






DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป

1







ความอยากได้ตุ๊กตาทำให้ผมเป็นกังวล...

ผมนั่งมองสมุดบัญชีในธนาคารที่บอกยอดคงเหลือในบัญชีแค่หลักหมื่น แต่อย่างว่าล่ะครับหลักหมื่นในนี้คือค่าใช่จ่ายจิปาถะรวมไปถึงค่าอุปกรณ์ในการเรียนของผมในแต่ละเทอมด้วย ถ้าอยากจะเติมให้มันมีจำนวนแบบเหลือใช้นี่ก็คงต้องออกไปหางานพิเศษไม่ก็รับจ๊อบจากลูกค้า แต่ช่วงนี้เหมือนลูกค้าเหล่านั้นจะหายหน้าหายตาไปทำให้ยอดเงินในบัญชีที่คงเหลือร่อยหรอกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา...

"เฮ้อ....!" ถอนลมหายใจแบบปลงๆแล้วโยนสมุดบัญชีกลับเข้าไปในลิ้นชักตามเดิมก่อนจะเอนหลังไปบนที่นอนนุ่มด้วยความรู้สึกปวดใจจี๊ดๆ เวลาที่หันไปเห็นดอลฟี่ลูลู่ ดอลฟี่มินนี่ ดอลฟี่เซย์ แล้วมันสะเทือนใจยังไงชอบกล พวกเขาคือลูกๆของผมเองล่ะครับ ทุกตัวได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของผมทั้งสิ้น

เวลาที่จ้องมองตาของพวกเขามันทำให้ผมมีความสุข ตุ๊กตาทุกตัวก็มีจิตวิญญาณเหมือนกันนั่นล่ะครับทุกตัวต้องการความรักจากเจ้านายของมันทั้งนั้น คนที่รักตุ๊กตาอย่างผมพวกเขาคงจะรู้ดีว่าความรู้สึกของผมเป็นยังไง แต่ลูกที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ผมจัดท่าทางเอาไว้พวกเขาไม่ได้มีแววตาเหมือนกับตุ๊กตาตัวนั้น...

มันดู... มีเสน่ห์ รู้สึกเคลิบเคลิ้ม เศร้า... และ... มันดูมีชีวิตจริงๆ

"..."

"บ้าเอ๊ย!" สบถกับตัวเองด้วยความหงุดหงิดชิบหาย ตั้งแต่วันนั้นที่ผมกับเขาได้เจอกันผมก็มักจะนั่งคิดมากตลอด ไม่อยากไปเจอเขาอีกเพราะกลัวจะเจ็บปวด อาการของผมนี่ยิ่งกว่าโดนผู้หญิงหักอกอีกว่ะ แต่ถึงอยากจะไปดูอีกก็กลัวว่าจะทำใจได้ยาก แค่ตอนนี้ที่คิดผมก็คิดแล้วล่ะว่าดอลฟี่ตัวนั้นจะเจอเจ้านายที่ดีสำหรับเขาแล้วหรือยัง อย่างน้อยราคาเหยียบแสนนั่นก็คงทำให้หลุดรอดไปจากมือของไอ้พวกเด็กๆที่ยังไม่เลิกกินนมผง ผมหวังว่าเขาจะเจอเจ้านายที่มีฐานะ สามารถแต่งตัวให้เขาได้ คอยดูแลทำความสะอาด และ... คุยกับเขาเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง...

ผมนี่แม่ง... เป็นผู้ชายที่โคตรมุ้งมิ้งเลยว่ะ!

พอๆ สะบัดหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกไป ผมควรลืมได้แล้วว่าอย่าเอาเรื่องนั้นมาทำให้ชีวิตนักศึกษาอย่างผมต้องรวนเร เพราะตุ๊กตาตัวนั้นนั่นล่ะที่ทำให้ผมโดดเรียนมาเกือบทั้งอาทิตย์แล้ว!

(มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจ...)

RRRRRrrrrrrrrrrr

ชะอุ้ย!
สะดุ้งตกใจพอเป็นพิธีเมื่ออาการเหม่อของผมทำให้จิตตกอะไรนิดหน่อยก็ผวาไปซะหมด หันไปมองมือถือที่ส่องไฟสว่างวาบแล้วดูหน้าไอ้คนโทรมา...

"เชี่ยไก่" เบะปากให้ไอ้เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบอาทิตย์

"เอออออ...."

[[ตายยังคับคุณเพื่อน หรือมึงกลายร่างเป็นดอลฟี่ของมึงไปแล้วไม่โผล่หัวมาให้กูเห็นเลยนะแหม่]] น้ำเสียงติดประชด

"เออ ยังไม่ตาย แล้วยังไม่ได้กลายร่างด้วยแค่เบื่อๆนอนอืด"

[[อย่างมึงเนี่ยนะที่จะอยู่ในสภาวะนั้น ถามจริงเหอะที่ไม่มามหาลัยนี่มึงติดหญิงหรือติดดอลฟี่มึง]]

"ถ้ามีหญิงมาจีบกูๆคงไม่มานั่งเล่นตุ๊กตาหรอกเชี่ยไก่ แค่เขาเห็นหน้ากูก็วิ่งหนีกันหมดแล้ว"

[[เออไอ้คนหน้าโหด ว่าไงครับจะเข้าซุ้มหรือเปล่า]]

"ถ้ากูบอกว่าขี้เกียจล่ะ"

[[เชิญมึงนอนตายอยู่ในห้องมึงเถอะไอ้เต๋า! ไม่ได้เว้ยต้องเข้า วันนี้พี่โอเขาจะเซอร์วันเกิด...]]

ผมย่นคิ้วกับประโยคที่มันเงียบเสียง "อะไรวะไม่พูดต่อ"

[[เออๆ มาเหอะถ้ามึงไม่เข้าซุ้มมึงขาดกับพี่เขาแน่]]

"อะไรวะร้ายแรงมากเลย?"

[[มาก็รู้ไม่มามึงก็อย่าได้เข้าซุ้มอีก แค่นี้นะเว้ย!]]

"เอ๊า! ไอ้เหี้ยนี่" ยังไม่ทันรู้เรื่องก็วางสายไปฉิบ

ผมยังคงงงกับไอ้บทสนทนาเมื่อครู่ สรุปนี่คือต้องเข้ามหาลัยจริงๆใช่ไหมวะ แต่ขี้เกียจว่ะ ขี้เกียจโคตรๆ ขี้เกียจจนไม่รู้อะไรจะเอาอะไรมางัดจากที่นอนดี...

ผมยันตัวเองลุกขึ้นนั่งด้วยอาการอึนๆ มองไปทางดอลฟี่ที่นั่งนิ่ง เป็นตุ๊กตานี่ก็ดีเว้ยวันๆไม่ต้องทำอะไรเลย ผิดกับมนุษย์ที่มีหน้าที่มีภารกิจที่จะต้องทำ แล้วทำไมผมถึงอยากเป็นตุ๊กตาล่ะวะเป็นมนุษย์ดีๆอยู่แล้วแท้ๆ พอๆเลิกฟุ้งซ่านทางที่ดีผมควรรีบอาบน้ำแล้วรีบไปมหาลัยก่อนจะดีกว่า ไอ้พวกเพื่อนๆนี่มันทำตัวแปลกๆ ยิ่งใกล้วันเกิด...

"เออวันนี้วันเกิดกูนี่หว่า..."

บางครั้งเรื่องสำคัญในชีวิตก็เหมือนไม่สำคัญนั่นล่ะครับ เพิ่งระลึกได้ว่าวันนี้วันเกิดตัวเอง อันที่จริงผมควรที่จะโทรไปหาแม่ผมตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เป็นเพราะว่าลืม ผมเลยต้องรีบโทรไปหาท่านตอนที่นึกขึ้นได้

[[ว่าไงลูก]]

"แม่ วันนี้วันเกิดเต๋าแต่เต๋าไม่มีโอกาสไปไหว้แม่ สบายดีใช่ไหมครับขอบคุณที่เลี้ยงดูเต๋ามาจนโตขนาดนี้ ขอบคุณนะครับเต๋าจะเป็นเด็กดี"

[[ฮ่าๆ อะไรของเราเนี่ยมาซะเสียงเศร้าเลย]]

"ก็คิดถึงไง"

[[จ้าๆ ว่าแต่เรียนอยู่หรือเปล่าโทรมาป่านนี้]]

"เปล่าครับวันนี้ไม่มีเรียน แม่เองก็อย่างหักโหมร่างกายนะ ทางโน้นหนาวไหมล่ะแม่"

[[ไม่หรอกลูกที่นี่อากาศหนาวแค่ช่วงเช้า เหมือนเมืองไทยนั่นล่ะ ว่าแต่เราเถอะอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า]]

"ไม่เอา ไม่อยากได้"

ถึงอยากได้แต่มันก็แพงเกินไปผมคงไม่กล้าที่จะขอ ถึงจะรู้ว่าแม่สามารถให้ได้ แต่... ผมรู้อีกนั่นล่ะว่าแม่ต้องโทรไปขอผู้ชายคนนั้น ซึ่งผมไม่คิดอยากได้ของๆจากเขาเลยสักนิด แม่เงียบเสียงไปสักพักพร้อมๆกับผมที่คิดว่าน่าจะเลิกคุยได้แล้ว

[[เต๋า]]

"ครับแม่"

[[ไปไหว้พ่อเขาบ้างนะลูกอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง]]  หน้าผมจากอารมณ์ดีนี่เปลี่ยนเป็นเบื่อหน่ายในทันทีที่แม่พูดถึงเขา

"ครับแล้วเต๋าจะโทรไปหา แต่ไม่ใช่วันนี้ แค่นี้นะแม่"

ผมตัดสายทันทีไม่รีรอให้แม่ต้องพูดถึงคนๆนั้นกรอกหูผมอีก แต่ถ้าอยากให้ผมโทรไปหาหรอ ฝันไปเถอะ ผมไม่มีวันโทรไปหาคนที่ทิ้งแม่กับผมแล้วไปมีคนอื่นหรอกนะ ถึงเขาพยายามจะรับผิดชอบผมยังไงผมก็ไม่มีวันที่จะยอมรับอะไรจากเขา ...

หยุดคิดเรื่องไร้สาระแล้วไปอาบน้ำซะ!

ผมวางโทรศัพท์ลงข้างๆอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วแค่สิบนาทีเท่านั้น และออกมาแต่งตัวพร้อมกับหยิบอุปกรณ์ที่จะไปนั่งวาดรูปเล่นที่ซุ้มใส่เป้ แต่ก่อนจะออกจากบ้านผมต้องบอกลูกๆของผมซะก่อน

"วันนี้อาจจะกลับเย็นนะ แล้วอย่าตีกันล่ะพ่อจะรีบกลับมา" ยิ้มให้พวกเขาแล้วลูบผมตัวละทีก่อนจะวิ่งไปที่ประตูเมื่อรู้ว่ามันสายมากแล้ว

มันอาจจะแปลกที่ผมทำแบบนี้ แต่มันเป็นความสุขเล็กๆของผมที่ไม่เคยมีใครเข้าใจแม้แต่เพื่อนสนิทของผมอย่างไอ้ไก่  มันชอบด่าผมว่าปัญญาอ่อนเล่นกับตุ๊กตาเหมือนเด็กสามขวบ ผมไม่เถียงครับไม่ได้ว่ามันกลับไปด้วยในเมื่อผมชอบแบบนั้นจริงๆ  แค่มันไม่ล้อว่าผมเป็นตุ๊ดนี่ก็บุญของมันที่ไม่โดนบาทาผมก็พอแล้ว ไอ้เพื่อนผมมันรู้ดีวาผมชอบ แต่คนอย่างไอ้เต๋านี่แมนร้อยเปอร์เซ็นต์

เพียงแค่ว่าผู้ชายหล่อๆแมนๆอย่างผมใครเขาจะคิดว่าจะเป็นเหมือนพวกสาวน้อยที่บ้าดอลฟี่เป็นบ้าเป็นหลัง แน่นอนครับมันเป็นเพียงแค่รสนิยมอย่างหนึ่งซึ่งไม่ได้เหมารวมว่าจะต้องชอบตุ๊กตาไปทั้งหมด มันก็แค่... ความชอบของคนเราที่ไม่เหมือนกัน...




"กว่าจะมาได้นะมึง" ผมยิ้มให้ไอ้พวกเพื่อนๆที่มารวมตัวอยู่ที่ซุ้มหลายสิบคนพูดง่ายๆเหมือนรวมเครือญาติยังไงอย่างงั้น มีพวกพี่พลรุ่นปู่ก็มาด้วย ค่อนข้างที่จะประหลาดใจกับพวกเขานิสนึง

"รถติดว่ะ" ผมบอกไอ้ไก่ที่ทักผม พวกมันกำลังนั่งเล่นเกมเศรษฐีกันเลยครับ

"เต๋ามานี่ๆ" เป็นพี่โอเองนั่นล่ะครับที่เรียกผมๆเลยต้องลากขาไปหาพี่เขาแล้วยกมือไหว้พอเป็นมารยาทของน้องที่ดี

"เย็นนี้อยู่กินเลี้ยงก่อนนะ กำลังให้ไอ้แบคไปซื้อเหล้าห้ามชิ่งหนีนะเฮ้ย!"

"เลี้ยงในโอกาสอะไรอ่ะพี่ข้ออ้างป่าวผมเห็นพวกพี่เลี้ยงทุกอาทิตย์นะเหล้าน่ะ แดกจนบวมหมดแล้วเนี่ย"

"อ้าวไอ้ห่าปากหมาเดี๋ยวพ่อตบคว่ำ"

"แหะๆผมล้อเล่น" ผมยกมือไว้ขอโทษพี่โอแบบกวนๆ สีหน้าพี่แกนี่อยากจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้พี่เขาดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษว่ะ ถ้าปกตินี่ผมคงโดนเตะก้นไปแล้ว ผมกวาดสายตามองหาที่ว่างที่พอจะแทรกตัวนั่งได้บ้าง วันนี้สมาชิกชาวศิลป์เยอะจริงๆ โต๊ะหินอ่อนที่อยู่หน้าซุ้มพวกไอ้ไก่ก็ครองไปหมดแล้วคงเหลือแต่วงไพ่เนี่ยละวะที่พอจะมีที่ว่าง แต่เมื่อหย่อนก้นนั่งลงไปอย่างหวังว่าจะได้อยู่เฉยๆ

"สัดเต๋า นั่งทำบื้อไรล่ะมึงวางตังดิ่"

"โหยไรวะมาถึงก็จะให้กูเล่นแล้วห่านี่" ผมด่าไอ้ดีโด้ที่เป็นเจ้ามือประจำวงมันกำลังเคาะไพ่คะยั้นคะยอให้ผมวางเงินให้ได้

"อย่าพูดมากในเมื่อหย่อนก้นลงมาแล้วก็อย่าเสือกทำตัวแตกต่าง"

"เออรีบเหอะมึง กูจะลุ้นไพ่" ไอ้ชินโวยสงสัยจะขาดตอนผมเลยต้องควักหาเศษเหรียญอย่างจำใจ แล้วไอ้ดีโด้ก็เริ่มสับไพ่ สักพักไอ้พี่โอที่เลิกจากงานศิลป์แน่นอนว่ากลิ่นสีนี่ติดตัวตามมาด้วย หย่อนก้นนั่งข้างๆผมแล้วควักเงินลงมาสมทบพร้อมๆกับขยิบตาให้ผมเหมือนรู้กัน เดี๋ยวพ่อจะแดกเจ้าให้หมดตูดเลยเหอะ ไม่รู้ซะแล้วว่าชวนใครไม่ชวน มาชวนเจ้าพ่อแห่งโชคลาภถ้ายิ่งนั่งข้างๆกับไอ้พี่โอนี่แล้วใหญ่ เทคนิคการโกงอย่างฉับไวนี่ใครก็ไม่สามารถมองเห็น ห้ามลอกเลียนแบบนะครับแบบนี้มันไม่ดี แต่ถ้าทำกับเพื่อนนี่มันจะสะใจไปอีกอย่าง

นี่แหละครับชีวิตมหาลัยเป็นไปอย่างชิลๆไม่มีอะไรพิเศษหวือหวา ก็แค่เรียนๆเล่นๆไปวันๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ว่าจะต้องไปแข่งขันกับใคร เพียงแค่สำนึกไว้ว่ารับผิดชอบงานตัวเองให้ดีก็พอ มหาลัยผมเป็นมหาลัยเปิด และทางมหาลัยไม่ได้เคร่งเครียดอะไรกับเรื่องเล็กๆเหล่านี้

 แน่นอนครับว่ามันผิดกฎแต่ถ้าอยู่ในซุ้มข้างหลังที่ลับตาคนพวกผมเลยไม่ค่อยจะเกรงใจเท่าไร แต่พวกรุ่นน้องคณะอื่นเดินผ่านนี่ก็ไม่อยากจะเดินเฉียดเข้ามาในอาณาจักรของพวกผมนักหรอกครับ อาจจะเป็นเพราะกลัวโดนไอ้พวกรุ่นพี่หน้าเถื่อนๆติสต์แตกพวกนี้ฉุดกระทำชำเลาก็เป็นได้ สายตาของพวกคนเหล่านั้นชินแล้วล่ะครับไม่ต้องไปสนใจ

หลังจากที่แดกเจ้ามือไพ่ไปหลายตา ไอ้ดีโด้ก็เริ่มหน้าเผือดสีเหมือนคนปวดขี้ แน่นอนว่าข้ออ้างแม่งคงไม่พ้นปวดขี้นั่นแหละสุดท้ายวงไพ่เลยล้มเลิกเพราะไม่มีใครอยากจะเป็น แหงล่ะในเมื่อไอ้เพื่อนเลวสองตัวที่กำลังนั่งหัวเราะคิกคักเพราะโกงเหรียญจากไอ้โด้ได้มาเต็มกระเป๋า ซึ่งรวมไปถึงเงินของไอ้เพื่อนๆที่โดนเจ้าแดกด้วย ใครมันจะกล้าลงต่อล่ะ ส่วนผมนี่พอเถอะจะให้เป็นเจ้า ฝัน? ฮ่าๆๆๆ

"เอ้าไอ้ห่ามัวแต่เล่นกันให้กูไปซื้อของ โคตรแดกแรงกูเลย" เสียงไอ้แบคด่าพวกไอ้ไก่ที่เล่นเกมเศรษฐีมาราทอนกันจนเย็นพร้อมๆกับวางของอะไรไม่รู้เยอะแยะ น้องเป็ดที่คาดว่าน่าจะโดนเรียกไปช่วยใช้ตังถือของพะลุงพะลังไม่ต่างกัน ผมเห็นขวดเหล้าขวดเบียร์ที่อัดแน่นอยู่ในถุงแล้วรู้สึกอยากขึ้นมาตงิดๆ เลยพากันลุกไปช่วยมันเคลียร์โต๊ะแล้วเก็บที่เคลียร์ทาง เพื่อนั่งก๊งเป็นกิจวัตร

"เค้ก? เค้กใครวะ" ถามไอ้แบคที่ดึงเบียร์ออกมาจากถุง มันมองไปทางพี่โอที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลัง ผมเลยหันไปทางพี่โอแทน

"ไม่รู้สิ วันนี้วันเกิดใครก็ไม่รู้" ลอยหน้าลอยตาพูดมากเลยพี่

"วันเกิดหมาครับพี่ วันเกิดหมางงแต่ผมว่าแม่งแกล้งทำเป็นไม่รู้มากกว่า"

"ไอ้ไก่เหี้ยแดกเดี๋ยวกูอัดปากด้วยก้นขวด"

"ฮ่าๆๆๆ" มันยังมีหน้ามาหัวเราะผมที่ถือขวดเบียร์จะทำจริงๆ

"วันเกิดอยากจะแดกไงไอ้ห่า ไอ้นี่ก็ถามแปลก"

"พอๆเลยพวกมึงสองตัวนี่ทะเลาะกันทุกวัน แม่งตีกันแล้วก็แดกกันเอง เชิญมึงไปตีกันตรงนู้นค่ะไอ้คู่จิ้น"

"อ้าวอีแคทเดี๋ยวกูจับมึงทำเมียเลยสัด!" ไอ้ไก่ค่อนข้างจะของขึ้น แต่มันน่าจะแกล้งแหย่มากกว่า

"หรา ดีเหมือนกันว่ะกูกำลังหาผัว"

แล้วมันก็หัวเราะกันเองรวมไปถึงผมที่ยืนขำกับการทะเลาะกันของพวกมัน เนี่ยล่ะครับเอกศิลป์อยู่กันอย่างพี่น้องไปวันๆไม่ได้หวือหวาแต่สนุกจนลืมเรื่องบางเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่ไป เสมือนครอบครัวของผมเลยก็ว่าได้ สุดท้ายแล้วไอ้สองคนนั้นก็ถูกจับแยกโดยพี่พลที่ดึงพวกมันออกมาเพื่อห้ามศึกมวยไก่ กับมวยลูกแมวที่กำลังจะเกิด

"นี่แกล้งไม่รู้ใช่ไหมเนี่ยว่าวันเกิดใคร" ผมหันไปมองพี่โออีกครั้งแล้วส่ายหน้าไม่รู้จริงจริ๊ง!

"ดีแล้วล่ะ" พี่เขาว่ายิ้มๆ แล้วหันไปส่งซิกทำท่าเหมือนไปสั่งให้เพื่อนเขาทำอะไรบางอย่างแล้วไฟก็ดับพรึบ! เค้กที่เคยวางอยู่หายไปครับแล้วมันก็โผล่มาอยู่ข้างหน้าผมพร้อมๆกับเทียน21ที่จุดไฟจ่ออยู่ที่ปาก ไอ้เพื่อนๆมันก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิดร์เดย์โดยมีผมยืนงงอยู่...

เอ้า! นี่เลี้ยงวันเกิดให้ผมหรอ? ผมนี่ซึ้งน้ำตาจะไหล แล้วยืนเขินแม่งอยู่ตรงนั้นที่พี่โอซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่สุดถือเค้กแล้วยื่นให้ผมเป่า

"เอ้าสุขสันต์วันเกิด" ผมยิ้มเขินๆครับ ไม่ต้องรอให้เขาสั่งอธิฐานอะไรผมหลับตาไปครู่หนึ่ง

กูอยากได้ดอลฟี่สามแสน...

แล้วผมก็เป่าปู้ดไปพร้อมๆกับวางยาด้วยการแถมน้ำลายพอเป็นพิธี แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าแดกครับ ฮ่าๆๆๆ

"โหยมีเซอร์ไพรส์ผมด้วยนี่ปลื้มวะ" ผมบอกพี่โอแล้วหันไปมองไอ้เพื่อนๆที่เริ่มจะก๊งเหล้ากันแล้ว ถึงในใจจะรู้ว่ามันก็เป็นแค่ผลพลอยได้ละวะ ในเมื่อพวกผมดื่มกันเป็นเรื่องปกติ นี่แหละอนาคตของชาติที่ดี...

"ฮ่าๆๆ ตอบแทนที่ทำให้ชีวิตของพี่ไม่จืดชืด"

"ฮะ?" ผมหันไปมองงงๆ พี่เขาโบยมือไหวๆ

"ไม่มีไร กินข้าวเย็นเหอะหิวแล้วจะได้แยกย้ายกลับบ้านหรืออยากไปนอนกับพี่"

"หึ ไม่เอาอ่ะครับผมเกรงใจ" ผมส่ายหน้าแทบจะทันที

"อย่าไปชวนมันเลยพี่ ไอ้เต๋ามันไม่ชอบค้างที่อื่นมันกลัวลูกๆมันงอน"

"ไอ้ไก่" ผมปรามมันพร้อมสายตาดุๆ ไอ้ห่านี่มันอมยิ้มแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ได้น่าถีบมาก

"ลูก?" หน้าพี่โอเหมือนสงสัยผมเลยแก้ตัว

"ไม่มีไรหรอกพี่ไอ้ไก่มันแค่แหย่เล่น" แล้วเดินไปตบหัวไอ้ไก่ป้าบหนึ่ง ไอ้เพื่อนเลวที่คิดจะแฉความลับของผมคลำหัวป้อยๆแล้วเงยหน้ามองผมเป็นหมางงแดก แล้วยิ้มแหยๆให้ผมที่ทำตาเขียวใส่มัน

ไอ้ห่าเอ๊ย! ถ้าขืนมีใครรู้ว่ากูบ้าตุ๊กตาหมดกันภาพพจน์ผู้ชายแมนๆ แต่มันคงจะรู้ตัวนั่นล่ะครับว่าผมไม่พอใจ มันรีบเอาใจด้วยการรินเบียร์ใส่แก้วให้ผมซะล้น แล้วยิ้มหวานให้ผมพร้อมๆกับนวดไหล่ให้ผมหายงอนมัน แล้วหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโห่แซวของไอ้เพื่อนๆผู้หญิงแก๊งชะนีสาววายที่ชอบเอาผมไปจิ้นกับมันร้องแซว จนผมอยากจะยันไอ้เพื่อนให้ออกห่าง แม่งยังมีหน้ามาหัวเราะ

แต่ผมไม่รู้หรอกว่าพี่โอเขาจะติดใจหรือเปล่า ผมแอบชำเลืองมองพี่เขาแต่พี่แกก็ไม่ได้เห็นจะสนใจไรอีก พี่แกก็นั่งดื่มเหล้ากับพวกเพื่อนๆเขาปกติไม่ได้แสดงความอยากรู้อยากเห็นอะไร มีแต่ผมละมั้งที่รู้สึกกลัวไปเอง ทำไงได้ล่ะผมกลัวว่าจะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ดนี่ ถึงแม้ว่าเอกผมจะมีประเภทนี้เกือบสามสิบเปอร์เซ็น และพวกเราก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แต่อย่างว่าล่ะ... ผมไม่ชอบให้ใครเข้าใจผมผิด...






"มึงยังโกรธกูอีกหรา ไอ้เต๋า เชี่ยเต๋า โอ๋ๆอย่างอนกูนะ"

เสียงอ่อนเสียงหวานใส่อย่าคิดว่ากูจะใจอ่อนเฟร้ย! หยุดฝีเท้าในระหว่างที่ผมกำลังเดินกลับห้องของตัวเอง ซึ่งไอ้เพื่อนตัวดีที่ตามผมต้อยๆคงจะมาอาศัยค้างกับผมด้วย แน่นอนว่าถึงผมจะไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่มันก็ยังคงหน้าด้านที่จะนอน

"งอนพร่องมึงสิ" แล้วก็เดินฉับๆหน้าตูมไปเรื่อยๆ ไอ้ห่านี่ก็พันแข้งพันขาอยู่ได้วุ้ย!

"โหยไอ้นี่เล่นพ่อว่ะ กูก็แค่แซวขำๆ"

"กูขำด้วยปะห่า แค่นี้กูก็หาแฟนไม่ได้เพราะโดนจับจิ้นกับมึงเนี่ย แถมไปบอกว่ากูมีลูกรุ่นน้องได้เข้าใจผิดหมด" ไอ้พวกนั้นยิ่งปากไม่มีหูรูดอีกป่านนี้กระจายข่าวซุบซิบแพร่กระจายเป็นไวรัสแล้วมั้ง!

"ใครว่า! พี่เต๋าออกจะหล่อ ออกจะแมน เสียอย่างเดียวชอบทำหน้าตึง ไอ้ที่มึงหาแฟนไม่ได้นี่อย่ามาโทษกูสิวะไอ้นี่"

"เออเพราะมึงนั่นแหละ!" ผมส่ายหน้าเอือมๆกับไอ้ท่าทางกวนตรีน! ที่ยิ้มแก้มปริแล้วยักคิ้วใส่ผมนี่แหละ ไม่ให้ผมหน้าตึงได้ไงโดนมันกวนตีนตั้งกะอยู่ที่มหาลัยแล้วนี่ยังจะตามมากวนตีนต่อที่หอ นี่ถ้าไม่เห็นว่ามันเมามันคงโดนผมดีดกระเด็นไปนานแล้ว

"ฮ่าๆๆ อะไรว๊าวันเกิดตัวเองแท้ๆอารมณ์ดีหน่อยน่า" มันยังมีหน้ามาเกาคางผมอีก ปัดมือมันออกไปด้วยความรำคาญแล้วสงครามขนาดย่อมก็เกิดขึ้น แต่สงครามนั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผมเห็นเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่หน้าห้องผม พวกเราหยุดชะงักกึกอยู่กับที่ ยกเว้นไอ้ไก่ที่หยุดยืนเพราะงงกับอาการของผม

"อะไรวะ?"

ผมเพ่งไปที่สิ่งนั้นด้วยความสนใจ เสื้อผ้าแบบนั้น... แล้วท่านั่งพิงประตูนั่นอีก....

"เอ้าไอ้นี่ถามไม่ตอบ"

ผมเดินฉับๆไปที่ตุ๊กตาดอลฟี่ซึ่งผมมั่นใจว่ามันต้องใช่แน่ๆ และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด ในทีแรกผมนึกว่าลูกๆของผมแอบออกมานั่งเล่นหน้าห้อง แต่จะบ้าเรอะ! ตุ๊กตามันจะเดินเองได้ที่ไหน แต่พอผมย่อตัวลงอุ้มเขาขึ้นมา อาการตกใจหัวใจของผมนี่รัวอย่างกับเต้นแท็ป

ดวงตาสีครามทะเล ใบหน้าคมจมูกโด่งกลีบปากอวบอิ่มผมสีบรอน ผมไม่อยากจะเชื่อ! นี่ผมเมาไปหรือเปล่าวะที่เห็นภาพหลอน...

"ดอลฟี่ตัวใหม่ของมึงหรอทำไมมานั่งตรงนี้วะ?" แล้วคำยืนยืนจากไอ้ไก่ที่บอกว่าผมไม่ได้ฝันไป!

ผมรีบลุกขึ้นแล้วควักกุญแจไขเข้าไปในห้องในทันทีแล้ววางเขาเอาไว้ที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง อาการตกใจ และดีใจของผมทำให้สับสน

ถามเขา"มาได้ไง" แบบงุนงงสุดๆ

"มึงลืมหยิบกระเป๋ามาด้วยว่ะ" ผมหันไปมองไอ้ไก่ที่ถือกระเป๋าที่มีรูปร่างเหมือนกล่องมากกว่าเข้ามาด้วย ผมเลยรีบเดินไปรับที่มือมันแล้วเปิดเพื่อสำรวจว่าข้างในนั่นคืออะไร

มันเป็นเซทแต่งตัวของตุ๊กตาครับ จำเซทที่พนักงานคนนั้นบอกผมได้ไหม นั่นล่ะมันอยู่ในกล่องนี่ทั้งหมดพร้อมๆกับจดหมายสีขาวที่แนบอยู่ ผมงุนงงกับมันมากว่าใครส่งดอลฟี่ราคาเหยียบแสนมาให้ผม
รู้สึกโกรธที่ไม่ยอมให้ผมกับมือแล้วมาวางไว้หน้าห้อง ถ้าเกิดมีใครขโมยหรือหยิบไปจะเกิดอะไรขึ้นวะ! ดีนะที่ผมมาเห็นก่อน

"พ่อ..."
ผมครางเสียงต่ำรู้สึกเซงที่เขายังคงวุ่นวายกับผมไม่เลิก

"ของขวัญพ่อมึงส่งมาหรอ?" ผมพยักหน้าให้ไอ้ไก่ที่นอนแผ่บนโซฟาข้างๆผม

"เหมือนรู้ใจเลยเนอะส่งดอลฟี่มาให้ แต่น่ารักดีว่ะ" ไม่พูดเปล่ามันยังอุ้มมาดูด้วย ผมรีบตบมือมันแล้วเอามากอดเอาไว้เอง มันเลิกคิ้วแล้วหัวเราะให้กับอาการหวงของ และเห่อตุ๊กตาตัวใหม่

"ไม่โทรไปขอบคุณเขาหรอวะ"

"ทำไมกูต้องโทร? ไม่ได้ขอให้ซื้อ"

"แต่มึงก็ชอบนี่" ผมเงียบแล้วมองมันตาขวาง

"ถ้ามึงอยากนอนค้างกับกูก็อย่าพูดอีก"

"เอ้าไอ้นี่กูแค่ถามโกธรกูอีกละ มึงนี่สมควรแล้วที่ไม่มีแฟนขี้งอนชิบหาย"

ผมยักไหล่อย่างไม่ยีระในคำพูดของมันแล้วหันมามองดอลฟี่ที่อยู่ข้างหน้า ใครจะไปคิดไปหวังล่ะว่าเขาจะได้มาอยู่กับผมจริงๆ หลังจากที่เศร้า และนอยมาหลายวันเรื่องที่ไม่มีตังซื้อเจ้าตุ๊กตาดอลฟี่ตัวนี้ วันดีคืนดีกลับมานั่งอยู่หน้าห้อง เรียกได้ว่าเป็นของขวัญที่ทำให้ผมดีใจที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ผมข้องใจว่าพ่อผมรู้ได้ไงว่าผมอยากได้มัน...

"กูไปนอนก่อนนะ" ผมพยักหน้าให้มันไปทีแต่สายตายังจับจ้องไปที่ดวงตาสีครามนี่อยู่ มันดูมีประกาย และผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าตุ๊กตาตัวนี้เขาดูเหมือนอารมณ์ดีไม่ต่างจากผม เมื่อผมเห็นมุมปากที่มักจะทำหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลากำลังยกยิ้มขึ้นมาบางๆ...

บางทีผมอาจจะคิดไปเอง...

"ยินดีต้อนรับลูกพ่อ! ชื่ออะไรดีล่ะ" ผมเอียงคออย่างใช้ความคิดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และผมก็ตื่นเต็มสองลูกตาพร้อมด้วยการสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง หันไปมองลูลู่ มินนี่ และเซย์ที่นั่งอยู่แล้วยิ้มบางๆ

"ชื่อคริสดีไหม หรือจะชื่อเควิ่น ไม่ๆไม่ดีกว่าชื่อคริสน่ะดีแล้ว จะได้หล่อ และเก่งเหมือนคริสเรสฟิลไง ฮ่าๆๆๆ"

"มึงนี่คิดชื่ออื่นไม่ออกแล้วสินะ เอาไอดอลกูมาตั้งเฉย" ไอ้ไก่มันยังไม่วายบ่นครับ

"นอนไปเหอะไอ้ห่าไก่กูคุยกับลูกกู"

"เดี๋ยวเช้ามึงมาไฟว์กับกูเลยดีกว่ารอบที่แล้วยังเล่นค้างเอาไว้เลย"

"กูไม่เล่นเว้ย! กูจะเล่นกับลูกกู"

"เออ! เรื่องของมึง" น้ำเสียงเอือมๆพร้อมๆกับตะแคงหันหลังให้กับผม สงสัยมันคงจะขี้เกียจเถียงผมแล้วแน่ๆ แต่ผมไม่สนหรอกในเมื่อมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงหน้า

"คริส... นายนี่น่ารักจริงๆเลยนะ"

ผมยิ้มให้กับคริสที่มองผมตาไม่กระพริบ รู้สึกมีความสุขอย่างแปลกประหลาด และรู้สึกว่าตัวของคริสเองก็รู้สึกดีที่ได้มาอยู่กับผมไม่น้อย นับว่าเป็นอีกวันที่ทำให้ผมยิ้มได้อย่างมีความสุข ความน่าหลงใหลของเขาทำให้ผมไม่อาจที่จะข่มตาหลับได้ ในเมื่อดวงตาที่ดูมีเสน่ห์กำลังจับจ้องมองผมอยู่อย่างนั้น เหมือนเป็นแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่บอกผมว่า...

เจ้าจงตกอยู่ในห้วงแห่งความรักของข้าเสียเถอะ...











ขอบคุณสำหรับคำคอมเม้นค่ะจะพยายามปั่นเท่าที่ความขยันจะบังเกิดแฮ่...

 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 1 - 11/25/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 25-11-2014 13:53:37
อ่านแล้วนึกถึงเรื่องLover's dollของคุณmishima kazuhiko คนรักตุ๊กตากับตุ๊กตามีชีวิต
ปูเสื่อรอติดตามค่า  :mc4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 1 - 11/25/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-11-2014 19:57:23
แอบคิดเหมือนความคิดเห็นข้างบน ว่าน่าจะเป็นความรักระหว่างคนชอบตุ๊กตากับตุ๊กตา
แต่ชื่อเรื่องแอบน่ากลัวนะ... เลยไม่แน่ใจเท่าไหร่
เต๋าน่ารักดี ชอบอาการที่มักจะคุยกับตุ๊กตาอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 25-11-2014 22:57:39


 :hao5: บรรยายอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยเก่ง เลยไม่รู้จะคุยกับคนอ่านอย่างไรดี
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ! ไปอ่านกันเถอะ  :ling2:










DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
2
[/color]






ภายในค่ำคืนดึกสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจของชายหนุ่มสองคน แต่เห็นจะดังจนน่ารำคาญคงจะเป็นร่างของผู้ชายตัวโตที่นอนอยู่บนเตียงเสียมากกว่า ร่างที่นั่งแน่นิ่งภายในอ้อมกอดของเจ้านายคนใหม่ เสมือนไม่มีชีวิต และไร้จิตวิญญาณ หากแต่นั่นมันก็แค่สิ่งที่ตุ๊กตาทั่วไปควรจะเป็นแต่ไม่ใช่สำหรับเขา...

ร่างเล็กๆค่อยๆขยับ เรียวนิ้วกระดิกไปมาเหมือนกับมนุษย์ไม่มีผิด ดวงตาสีครามทะเลที่มักจะเบิกค้างอยู่ตลอดเวลาไหวระริก พร้อมๆกับกระพริบตาปริบๆหลายๆครั้ง กวาดสายตาไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นเคยนัก ความมืดสลัวทำให้ไม่อาจรู้ว่าตัวเขาอยู่ที่ไหน

ครั้งสุดท้ายที่จำได้... เขาอยู่กับเด็กชายซึ่งเป็นลูกเศรษฐีคนหนึ่ง และนั่น... มันก็ผ่านมาร้อยปีแล้ว...

เงยหน้าขึ้นมองเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจผะแผ่ว ใบหน้าคมคายในยามที่หลับตาพริ้ม ครั้งแรกที่รู้สึกคือความรักที่ส่งผ่านมาให้ นี่สินะคือเจ้านายคนใหม่ของเรา...

ขยับกายออกจากอ้อมกอดแล้วกระโดดลงไปยังพื้นห้อง ร่างของตุ๊กตาที่หันหลังให้ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ กลับกลายเป็นชายร่างสูงขึ้นมาในบัดดล ร่างกายสูงใหญ่ ผิวสีขาวไข่ไก่ ดวงตาเรียวคมออกไปทางดุดันในยามที่ตวัดดวงตา จมูกโด่งเป็นสันกลีบปากอวบอิ่มรับกับใบหน้าคมหล่อเหลา เรือนผมสีบรอนเป็นเอกลักษณ์สะท้อนแสงจนเกิดประกายวาว ดวงตาสีครามทะเลมองมือของเขาที่ขยับไปมาอย่างอิสระ และขยับกายเพื่อไล่ความเมื่อยล้าที่อยู่ข้างในเสียงดังกรอบแกรบราวกับกระดูกที่ลั่นเมื่อมันยึดตัวจนแข็ง 

กวาดสายตาไปรอบๆห้องแล้วหันไปทางเตียงของคนที่นอนอยู่ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีกลิ่นของความชั่วร้ายคงไม่น่าเป็นอันตรายสำหรับเขา ก่อนจะหันกลับไปยังเจ้านายที่หลับตาพริ้ม ดวงตาคมเอาแต่จับจ้องอยู่อย่างนั้น กลีบปากอวบอิ่มค่อยๆเผยอยิ้มออกมาที่มุมปาก มือเรียว และใหญ่สัมผัสไปที่พวงแก้มของคนที่แหงนหงายคอไปตามโซฟา สัมผัสความรัก และแววตาที่เป็นประกาย...

ความรัก  คริส...  จดจำมันได้อย่างชัดเจน...






"ไอ้เต๋า ไอ้เต๋า! สัดเต๋าตื่นเดี๋ยวลูกมึงก็เดี้ยงหรอก!"

หือ? เห?

"ฮะ!? อะไรวะ?" ผมลืมตาขึ้นพรึบ! ด้วยอาการมึนงงแล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเสียงของไอ้ไก่ที่พยายามจะเรียกผมดังกรอกอยู่ที่หู มองไอ้เพื่อนที่ยืนมองผมหัวฟูหน้าตานี่บ่งบอกว่าเพิ่งจะตื่นนอนไม่ต่างกัน

"ห่าอะไรล่ะ มึงนอนทับขาตุ๊กตาตัวใหม่ของมึงอยู่ไง"

"ทับหรอ?"

ทับได้ไงวะ? ผมเกาหัวแกรกๆด้วยด้วยอาการเมาขี้ตาที่ยังไม่ตื่นดีนักแล้วหันไปทางข้างๆ ซึ่งคริสที่ไอ้ไก่มันบุ้ยปากให้ผมหันไปมอง ปรากฏว่าดอลฟี่ของผมนั่งอยู่ข้างๆซึ่งก่อนหน้านั้นผมยังคงนอนทับเขาอยู่  เฮ้ย! ได้ไงวะเมื่อคืนจำได้ว่านั่งหลับซึ่งจำได้แม่นว่ามีคริสอยู่ในอ้อมกอด แล้วไหงมานอนทับดอลฟี่ตัวเอง ผมไม่เคยละเมอแบบนี้เลยนะ!

"เมื่อคืนก็ไม่ได้แดกเยอะนี่หว่า เมาค้างป่าววะ"

ผมไม่ตอบเพราะยังคงตกใจอยู่รีบอุ้มคริสขึ้นมาดูแล้วสำรวจว่าเสียหายตรงไหนหรือเปล่า พอมองสำรวจแล้วยังคงปกติผมนี่แทบยกภูเขาออกจากอก ถอนลมหายใจเฮือกแล้วเงยหน้ามองไอ้ไก่ที่ยืนเกาพุงเปลือยๆของมันแกรกๆ

"ไม่นะ... แต่สงสัยกูจะละเมอ" มันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้ผมสำรวจลูกชายตัวเองอยู่อย่างนั้น

โชคดีแค่ไหนที่ไม่แตก ถ้าแตกมีหวังคงได้เกิดเรื่องดราม่าขึ้นแน่ๆ แต่คงจะยากในเมื่อคริสทำขึ้นมาจากไม้ แต่... เป็นไม้ที่นุ่มมาก นุ่มเสียจนผมรู้สึกหลับฝันสบายเลยก็ว่าได้ เมื่อเห็นว่าคริสยังคงปลอดภัย ผมยิ้มให้เขาแล้วทักทาย

"อรุณสวัสดิ์" แล้ววางเขาเอาไว้ข้างๆรวมกลุ่มกับดอลฟี่ตัวอื่นๆ แน่นอนว่าผมไม่มีทางลำเอียงพวกเขาหรอกอย่างน้อยผมก็ทักทายพวกเขาทุกตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำแล้วเคาะประตูปังๆเพื่อเร่งให้ไอ้ไก่ออกมา

"สัดไก่เข้านานไปแล้วมึงกูปวดขี้!"
แน่นอนครับว่า... เช้าๆแบบนี้เรื่องขี้ไม่เข้าใครออกใครแม้กระทั่งผม...

แล้ววันนี้ก็เป็นวันธรรมดาสำหรับพวกผม แน่นอนครับว่าวันนี้ไม่มีเรียน! วิฮี้วววว!!! รู้สึกดีใจเหมือนหยุดยาวทั้งเดือน ทั้งๆที่ผมก็หยุดมันมาเกือบจะอาทิตย์แล้วเหอะ ความขี้เกียจนี่ยังสุมอยู่ตามร่างกายแน่นอนว่ามันสลัดออกไปไม่หลุดหรอก แต่อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับมันไม่ดี แต่ถ้าเป็นโดยสันดานแล้วนี่ก็เลยตามเลย ฮ่าๆ  :hao7:

วันนี้ก็เลยชิลๆสำหรับผมแล้วก็ไอ้ไก่ที่ยังคงสิงสถิตไม่กลับห้องมันด้วยข้ออ้างที่ว่าขี้เกียจนั่งรถเมล์ แถมด้วยเวลานี้เป็นเวลาที่รถติดบรรลัย มันยังคงนั่งอืดไม่ต่างจากผมนั่นล่ะครับหลังจากที่ซดมาม่าเป็นอาหารเช้าไปคนละสองห่อ

"เอามาให้กูเล่นมั่งดิ่"

"อะไร? ลูกกู ไหนว่ามึงไม่ชอบ"

"กูพูดตอนไหน กูแค่บอกว่าไม่ได้สนใจแล้วบ้าเหมือนมรึง!"

อื้อหือ... เอฟเฟคคำว่ามรึงนี่เต็มๆหน้าผมเลยครับ ผมเลยประเคนส้นตีนยันมันไปที แล้วมันก็ทำหน้ามุ่ยใส่ผมประมาณว่าอยากจะเอาคืน แต่ด้วยพละกำลังของผมที่มีมากกว่ามันอย่าหวังว่าจะมันจะสู้ผมได้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ไอ้ไก่มันโดนผมข่มอยู่ตลอด ยกเว้นเวลาที่ผมต้องการให้มันช่วยเรื่องงานนั่นแหละมันถึงจะได้นั่งแท่นแล้วให้ผมคำนับแทบคุกเข่าอ้อนวอนยกให้เป็นเต้ยเป็นใหญ่ แทบจะเรียกลูกพี่เลยล่ะ กวนตรีนไหมล่ะ

"ไม่เล่นก็ได้วะ" มันบ่นแล้วก็เดินไปทางโต๊ะทำงานของผม แน่นอนว่าเป้าหมายไม่ใช่ไรอื่นไกลนั่นคือโน๊ตบุ๊คของผมที่นอนแน่นิ่งอยู่

"เอาค่าชั่วโมงมาด้วย"

"ไอ้งกเอาขนหน้าแข้งกูไปก่อนไหม!" ผมหัวเราะให้มันไปทีแล้วกลับมาสนใจกับตุ๊กตาที่ผมกำลังเห่ออยู่ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ผมเอาแต่ลูบคลำคริสนั่งจ้องกันอย่างนี้ทั้งวัน นี่ถ้าเป็นปลากัดคงจะท้องกันไปข้าง แต่มันคงไม่มีทางเป็นจริงในเมื่อคริสเขาเป็นผู้ชาย แต่ก็น่ารักเหมือนดอลฟี่ผู้หญิงนะ...

"น่าร๊าก"

'อย่าเรียกว่าน่ารัก!'

"หืม?" ผมเงยหน้าไปทางไอ้ไก่ด้วยความงงเหมือนได้ยินมันว่าอะไรผมสักอย่างขณะที่ผมกำลังเอื้อมจะไปหยิบกล่องที่ใส่อุปกรณ์ของดอลฟี่ ไอ้ไก่มันรู้ตัวแล้วหันกลับมาทางผม

"อะไร?" หน้ามันดูงงๆครับ ผมเลยส่ายหน้า

"เปล่าสงสัยจะหูฝาด"

มันพยักหน้าเออออแล้วหันไปเปิดเกมวินนิ่งเล่นอย่างเคย ส่วนผม... สงสัยต้องแคะขี้หูบ้างแล้วว่ะ

วางคริสเอาไว้ข้างๆแล้วก้มลงรื้อค้นเสื้อผ้าของคริสขึ้นมาสำรวจ ส่วนใหญ่มักจะเป็นชุดที่อลังการไม่น้อย เหมือนพวกคอสเพลย์ในอนิเมะอะไรเทือกนั้นแต่แหงล่ะส่วนใหญ่ดอลฟี่ก็ใส่แต่แบบนี้ แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ผมมักจะวาดแบบแล้วให้ร้านตัดเสื้อตัดให้ผมอีกทีมากกว่า ขนาดตัวของคริสคงจะใช้เสื้อผ้าร่วมกับลูลู่หรือมินนี่ไม่ได้  ถึงเซย์จะดูเหมือนไล่เลี่ยกันแต่เซย์ก็ตัวเล็กกว่ามาก ซึ่งขนาดตัวของคริสนี่เหมือนกับเด็กหนึ่งขวบเลยด้วยมั้ง

"นี่อะไรวะ? ลูกตา" ผมหยิบกล่องพลาสติกขึ้นมาซึ่งมันดูเหมือนกับลูกตาของคน พอมันมาอัดแน่นวางเรียงกันเป็นคู่ๆ สีตาหลากหลายไปตามเชื้อชาติแล้วผมรู้สึกสยองชอบกล

"เดี๋ยวนี้ดอลฟี่แม่งล้ำว่ะ มีเล่นแต่งตัวเปลี่ยนลูกตาเปลี่ยนสีผมด้วย ถามจริงเหอะมันสนุกตรงไหนวะ"  ไอ้ไก่มันถามเสมือนมันมีตาหลังก็ไม่ปาน ผมไม่ตอบมันครับยังคงสำรวจทำความเข้าใจในเมื่อดอลฟี่ของผมตัวเก่าไม่ได้ล้ำขนาดที่จะเปลี่ยนลูกตาได้ แน่นอนว่า... มีวิกผมอยู่ในกล่องใบนี้ด้วย ตาผมนี่เป็นประกายวิ๊งๆเลยล่ะครับเหมือนได้ของเล่นชิ้นใหม่มาก็ไม่ปาน ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมมันถึงได้แพงขนาดนี้ และนี่... คือสิ่งที่ทำให้ผมกระจ่างแก่ใจ

แล้ว... มันเปลี่ยนยังไงล่ะ?
ด้วยความมือใหม่แล้วมันดันไม่มีคู่มือห่าเหวอะไรแนบมาเลยทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด จะเล่นกับดอลฟี่ทั้งทีแต่ก็เกร็งว่าเขาจะเสียหายซึ่งผมเองก็คิดว่าดวงตาของเขาคู่นี้ก็สวยดีอยู่แล้วเลยเลิกสนใจมันซะโยนมันกลับเข้าไปในกล่องตามเดิมแล้วดึงชุดฤดูหนาวขึ้นมาคลี่ดู เป็นเสื้อโคทที่มีฮูดขอบๆจะเป็นขนฟูๆนิ่มๆน้ำตาลเข้ม ข้างในเป็นเสื้อกันหนาวถักสีไข่ไก่ดีไซน์นี่เหมือนกับของคนไม่มีผิดเพี้ยน จริงๆแล้วตอนนี้ก็เข้าหน้าหนาวแล้วนะ แต่สำหรับเมืองไทยนี่ห่างไกลคำว่าหนาวครับผมเลยคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อให้เขาเพราะชุดขุนนางนี่ก็หล่อดีอยู่แล้วเลยเอาเสื้อกลับไปไว้ในกล่องตามเดิม

ร่างเล็กๆของคริสนั่งอยู่บนตักของผม สุดท้ายแล้วสิ่งที่อยากได้ที่สุดก็มาอยู่ตรงหน้า นี่ผมต้องขอบคุณเขาสินะที่มอบขวัญที่พิเศษชิ้นนี้ให้ แต่... คำขอบคุณมันจะไม่มีวันหลุดออกมาจากปากผมเด็ดขาด

"วินนิ่งเปล่ามึง" เสียงไอ้ไก่ที่เริ่มจะชักชวนผมอีกครั้งสงสัยคงจะเหงา ไหนๆก็ไหนๆแล้วไอ้เพื่อนรักมาก็มาค้างห้องทั้งทีผมก็ควรที่จะสนใจมันบ้างสินะ

ถอนลมหายใจแล้วพยักหน้าเนิบๆวางคริสเอาไว้ที่โซฟาแล้วเดินไปไฟว์วินนิ่งกับมันสักตาคงไม่เป็นอะไร ถ้าขืนยังไม่สนใจมันเชื่อเหอะทั้งวันมันก็คงรบเร้าผมแบบนี้ สุดท้ายแล้วผมก็นั่งเล่นกับมันยันเย็นนั่นล่ะครับเรื่องเตะบอลไม่ว่าจะในเกมหรือนอกเกมเป็นอะไรที่ผู้ชายแม่งทำได้ทั้งวันไม่เคยเบื่อ แล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกหนึ่งวันอย่างไร้ค่าไม่ได้มีสาระอะไรเล้ย

"กลับแล้วว่ะ พรุ่งนี้เจอกันที่ซุ้มนะเว้ย"

"เออๆ" ผมพยักหน้าให้มันส่งๆมองไอ้ไก่ที่ใส่รองเท้าแล้วเตรียมจะออกไปจากห้อง

"เออ กูว่าจะบอกมึงแต่กูลืมไปหลายรอบละ พี่โอเขาจะจัดนิทรรศการซุ้มว่ะแล้วเขาให้พวกเราเตรียมงานไปคนละชิ้นอย่าลืมทำนะเว้ย"

"ส่งเมื่อไรวะ" ผมหันไปถามมัน

"สิ้นเดือนแล้วอย่าลืมล่ะ" ผมพยักหน้าให้มันอีกครั้ง และมองมันที่ปิดประตูจากไป แล้วห้องทั้งห้องก็กลับคืนสู่ความเงียบซึ่งมีผมคนเดียวอีกตามเคย ไม่สิ ต้องบอกว่าอยู่กับดอลฟี่ตามลำพังซึ่งผมเองก็ชินแล้วล่ะ ยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจจนกระดูกลั่นกรอบๆแล้วเดินไปเปิดทีวีดูการ์ตูนอนิเมะที่กำลังฉายในช่วงเย็น

มันก็... เป็นกิจวัตรประจำวันของผมนั่นแหละที่ทำอะไรซ้ำซาก ถ้าไม่เรียนอยู่ซุ้มก๊งเหล้า ก็นอนตีพุงอยู่ในห้องเปิดทีวีนอนดูการ์ตูนในห้องแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมๆกับลูกๆที่นั่งอยู่บนตักขนาบข้างซ้ายขวา แต่วันนี้คริสค่อนข้างที่จะได้เปรียบตัวอื่นๆหน่อยที่ได้นั่งอยู่บนตักผม พวกเรานั่งดูการ์ตูนกันจนหิวนั่นล่ะครับผมถึงต้องขยับตัวด้วยความเกียจคร้าน วางคริสเอาไว้แทนที่นั่งผมแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นสำรวจว่ามีเสบียงอะไรเหลือบ้าง

แน่นอนว่า... "ไม่มีห่าไรเลย"

สรุปนี่คงต้องลงไปหาซื้ออะไรกินข้างล่างสินะ?

ผมหันไปมองพวกเด็กๆที่นั่งอยู่แล้วต้องถอนลมหายใจปิดตู้เย็นไปตามเดิม เดินฉับๆไปหยิบกางเกงกับเสื้อใส่เพื่อที่จะลงไปข้างล่างไปหาซื้ออะไรขึ้นมากิน ถ้าหวังจะกินมาม่าทั้งวันผมคงกลายเป็นพวกขาดสารอาหารแน่นอน

"เดี๋ยวมานะเด็กๆอย่าตีกันล่ะ" เตือนทั้งๆที่รู้ว่ามันคงไม่มีประโยชน์อะไร และแน่นอนว่าดอลฟี่ของผมคงไม่วันขยับตัวลุกขึ้นมาตีกันได้อย่างเด็กขาด นี่ถ้าเกิดไอ้ไก่มันอยู่แล้วได้ยินมีหวังผมโดนหัวเราะเยาะแน่ๆ นี่เดาสภาพหน้ามันตอนขำกลิ้งได้เลยแต่อย่าให้มันรู้เลยจะดีกว่า

ผมปิดประตูห้องพร้อมด้วยการล็อกจากข้างนอกเพราะกลัวขโมยเข้าไปฉุดบรรดาลูกชายผมนี่แหละ รีบวิ่งไปที่ลิฟต์เพื่อซื้อของกินข้างล่างเพราะกลัวว่าจะไม่ทันการ์ตูนโคนันที่จะฉายในรอบต่อไป ผมใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็ได้ข้าวผัดกับแปปซี่หนึ่งถุงหิ้วขึ้นมากินบนห้อง เพราะกินข้างล่างแล้วมันวุ่นวายในเมื่อหอที่ผมอยู่คนค่อนข้างเยอะ และเป็นแหล่งชุมชน กินในห้องนี่เป็นการดีที่สุดแถมไม่เหงาด้วยเหอะ ค่อยๆเปิดประตูเข้าไป และเดินผ่านพวกเด็กๆที่นั่งอยู่ ทุกตัวยังคงนั่งเรียบร้อยไม่ไหวติง แต่ผิดที่โทรทัศน์ผมนั่นล่ะทำไมมันถึงดับวะ?

ตอนแรกจำได้ว่าเปิดทิ้งไว้เพราะเดี๋ยวยังไงก็ต้องขึ้นมาดูต่อด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบลดโลกร้อนประหยัดพลังงาน (ประชดตัวเอง) ก็เลยไม่ได้ปิด แต่ตอนนี้ห้องทั้งห้องกลับเงียบกริบมีเพียงแค่เสียงแอร์ที่ยังคงดังหึ่งๆ...

เอ่อ... กูจำได้ว่ากูไม่ได้เปิดแอร์...

ผมย่นคิ้วด้วยอาการงุนงงว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนขี้ลืมว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะผมปิด และเปิดมันเอง แต่มั่นใจว่าทั้งหมดทั้งมวนนี่ผมไม่เป็นคนทำเลย แล้ว... มันเกิดอะไรขึ้นวะ?

อาการงุนงงทำให้ผมกวาดสายตาหารีโมท แต่ไม่ต้องมองหาให้วุ่นวายในเมื่อทั้งสองอันมันวางอยู่ข้างๆคริส ซึ่งดอลฟี่ของผมยังคงนั่งท่าเดิมสงบนิ่งไม่ได้ขยับเขยื้อนผิดท่านั่งอะไร ก็มีแต่มือของคริสนั่นล่ะที่พาดอยู่บนรีโมททีวี สงสัยมือของเจ้าตัวอาจจะหล่นแล้วมาโดนปุ่มปิด แต่คือนี่ข้องใจแอร์? มันเปิดได้ไงวะอากาศเย็นจะตายห่า แถมผมก็เปิดกระจกบานเลื่อนเอาไว้ด้วยเพราะหน้าหนาวในช่วงกลางคืนนี่หนาวจริง

ผมหยิบรีโมทสีขาวที่วางอยู่ตรงปลายเท้าของคริสขึ้นมาแล้วปิดมันซะด้วยอาการขี้หนาวของตัวเอง จริงๆนี่เปิดเฉพาะช่วงหน้าร้อนเพราะที่หอค่าไฟค่อนข้างที่จะแพงแล้วมันจะเป็นภาระกระเป๋าตังของผม
แต่บางทีผมอาจจะลืมไปเองนั่นล่ะว่าเป็นคนเปิดทิ้งไว้ ไม่ได้สนใจอะไรครับแค่วางรีโมทไว้ตามเดิมแล้วหยิบอีกอันมาเปิดทีวีดูโคนันที่กำลังฉายพอดิบพอดี หยิบโต๊ะญี่ปุ่นที่วางแอบไว้ที่มุมห้องออกมาตั้งเพื่อโซ้ยข้าวผัดหอมๆ เสียพลังงานไปกับการเตะบอลกับไอ้ไก่มากพอควรเลยต้องเติมพลังให้ร่างกายเสียหน่อย ไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไมซิกแพคผมถึงได้มีแค่แพคเดียว ถึงมันกำลังจะก่อตัวขึ้นอีกก้อนน้อยๆอยู่บนพุงผม แต่มันก็แทบจะมองไม่เห็นนั่นล่ะ...

ไม่เอาๆ ไม่พูดดีกว่าผมอาย...

ข้าวผัดที่อยู่ในกล่องถูกผมจัดการไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น และเอนหลังพิงไปตามโซฟาตาจ้องไปที่โทรทัศน์ดูดแปปซี่ในถุงเพื่อคลายความกระหาย พอทุกอย่าเสร็จก็นั่งพักท้องแล้วเอนคอไปข้างหลังซึ่งศีรษะของผมจะอยู่ตรงกลางระหว่างคริสกับลูลู่

แหมะ...

หืม?
ผมเงยหน้ามองขึ้นไปเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนหน้าผากผม อันที่จริงก็อยู่ตรงกลุ่มผมๆนั่นล่ะ แต่พอมองว่ามันคืออะไรกลับเป็นเป็นมือของคริสที่วางอยู่สงสัยผมคงไปโดนเขาเข้า ก็เลยยิ้มหล่อให้เขาจนตาหยีแล้วกลับไปดูการ์ตูนโคนันต่อ แต่ด้วยนิสัยของคนขี้เกียจ พอกินอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน จากที่นั่งดูการ์ตูนกลับกลายเป็นผมนั่นล่ะที่ให้เจ้าหนูโคนันนั่นดูแทน  บรรยากาศที่เย็นสบายชวนให้เคลิบเคลิ้ม ความอิ่มทำให้ร่างกายทุกสัดส่วนของผมผ่อนคลาย ถึงจะนอนเน่ามันอยู่ตรงนี่ก็ตาม...

เสียงของการ์ตูนที่ดังอยู่เสียงเงียบลงไป ภายในห้องดูเหมือนจะเงียบสงบราวกับว่าอะไรบางอย่างไม่อยากจะทำให้ผมตื่น สัมผัสนิ่มๆ และอบอุ่น เหมือนมีใครบางคนกำลังลูบกลุ่มผมของผมผะแผ่ว ปรือดวงตาด้วยอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ปรือตาที่หนักอึ้งแทบจะไม่สามารถที่จะถ่างตามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ ใครบางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งหัวของผมกำลังพิงอยู่บนตักเขา เงาเรือนลางที่เห็นกลีบปากอวบอิ่มนั่นกำลังระบายยิ้มส่งลงมา แล้วอยู่ๆร่างกายก็เหมือนลอยหวืออยู่ในอากาศ

ทั้งๆที่ตัวผมก็ไม่ได้เล็กพอที่จะสามารถโอบอุ้มได้ง่ายๆ แน่นอนว่าผมค่อนข้างที่จะสูง และมีน้ำหนักพอตัว แต่ใครคนนั้นที่น่าจะสูง และรูปร่างใหญ่กว่าผมกำลังพาผมเคลื่อนตัวไปยังเตียงนอนอย่างช้าๆ สัมผัสนุ่มนิ่ม และอบอุ่นทำให้ผมรู้สึกขอบคุณเขาในใจลึกๆ

ฝันงั้นหรอ? ทำไมฝันมันถึงรู้สึกเหมือนจริงอย่างนี้ล่ะ...

ผมกำลังถามตัวเอง และกำลังถามเขาคนนั้นอยู่ ดวงตาที่ปรือของผมกำลังมองเพ่งผ่านความสลัวที่พร่ามัว ดวงตาสีครามทะเลที่กำลังทอดมองผม พร้อมๆกับที่เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ และประทับจุมพิตบนหน้าผากมนของผมในเวลาต่อมา ความอ่อนโยนนั่นคือสิ่งที่จดจำ และ... รู้สึกงุนงงว่าเขา... คือใคร?




ตกลง...  นี่ผมฝันจริงๆหรือเปล่า...











 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 25-11-2014 23:28:43
ก็แอบหลอนเบาๆนะ ถ้ากลับมาห้องแล้วเจอแอร์เปิดทีวีปิดแบบนี้.. ไม่รู้เต๋าจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่ามันไม่ใช่ฝัน  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 25-11-2014 23:50:44
 :-[ ชอบแนวนี้อ่ะ
มาต่อไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 26-11-2014 00:01:20
 o13
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 26-11-2014 02:13:34
โฮกกก เค้าหลงรักนิยายเรื่องนี้

เค้าชอบนายเอกเล่นตุ๊กตา >///<
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 26-11-2014 10:44:14
แอบหลอนเบาๆอ่ะ  :a5: :a5: :a5: :a5: o22 o22
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 26-11-2014 17:21:56
ชอบมากค่ะ มาต่อไวๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 27-11-2014 00:34:32


 :katai5:







DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
3





แปลก...

ทำไมผมรู้สึกแปลกๆในใจพิลึก...

ผมมองไปรอบๆห้องตัวเองด้วยอาการมึงงงปนสับสน ทั้งๆที่คิดว่าพอลืมตาขึ้นมาจะต้องจ๊ะเข้ากับจอทีวี แต่ทำไมผมถึงมานอนอยู่บนเตียงได้วะ? ซ้ำไม่พอ ไอ้จอทีวีมันกลับดับสนิทเหมือนมีใครไม่รู้หวังดีปิดให้ซึ่งผมจำได้แม่นว่าตัวเองเผลอหลับไปเมื่อตอนหัวค่ำโดยให้เจ้าหนูโคนันยอดนักสืบนั่นดูผมนอนแทน ยัง! ยังไม่พอนะ ไอ้เจ้าเสียงแอร์ที่ดังหึ่งๆทำให้ห้องเย็นเฉียบชนิดที่ว่าผมนั่งตัวแข็งไข่หดนี่ยิ่งสร้างความประหลาดใจเข้าไปอีก...

"ฮัดเช้ย!!!!"  เอาแล้วไง...

ใช้นิ้วถูจมูกไปมาเมื่อหวัดกำลังเล่นงานผม สงสัยเมื่อคืนละเมออีกแล้วแน่ๆ แต่นี่มันหนักไปป่าววะ? ไอ้ที่ผมทำลงไปทำไมถึงจำไม่ได้เลย? รู้สึกข้องใจใครรู้ช่วยบอกผมทีเหอะไอ้เต๋านี่จะอาการหนักแล้วครับ

ค่อยๆเลื้อยลงจากที่นอนด้วยสภาพเน่าๆชุดยังคงเป็นตัวเดิมที่ออกไปซื้อของเมื่อคืน เดินฉับๆไปที่โซฟาที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงผมเท่าไรนักแล้วใช้รีโมทปิดแอร์ซะ มองข้าวของที่ยังคงวางระเกะระกะ กินอะไรไว้ก็ยังอยู่เหมือนเดิมยกเว้นแต่ผมกับไอ้เครื่องแอร์ตัวปัญหานั่นล่ะ อ้อทีวีนี่ด้วยซึ่งไม่รู้ตัวว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไป ยืนคิดมันอยู่อย่างนั้นแล้วสายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่คริสที่นั่งพิงอยู่ตรงที่วางแขนของโซฟา ซึ่งอยู่อีกฝั่งกับพวกลูกๆผมที่นั่งเรียงกันอยู่สามตัวไม่ได้ผิดท่าไปจากเมื่อคืน มีก็แต่คริสนั่นล่ะที่แยกตัวไปนั่งตรงนั้น...

เอ๋?

หรือลูกชายผมจะรักสันโดษวะ?

มันใช่ประเด็นปะวะ!

สบตาสีครามนั่นด้วยความรู้สึกหวาดกลัวในใจพิลึก หรือเมื่อคืนผมจะเป็นคนวางคริสเอาไว้เองวะ แต่มั่นใจว่าผมไม่ได้ทำอย่างนั้นแน่นอน!

ใช่! เมื่อคืนผมจำได้ว่าดูโคนันแล้วหลับไป แล้วทำไม... ทำไมถึง...

พลันความคิดที่กำลังสับสนก็ทำให้รูขุมขนของผมตั้งชันไปทั้งอณู มันวาบขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปจนถึงศีรษะ ร้อนๆหนาวๆชอบกล หรือผมจะโดนผีหลอกวะ? บ้าเหอะกูนอนห้องนี้มาสามปีกว่าแล้วเพิ่งจะเจอหรอตลกตาย!

"ไร้สาระว่ะไอ้เต๋า"

พยายามปลอบใจตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด พยายามมองในแง่ดีว่าผมอาจจะเป็นคนทำ และลืมมันเอง จะถือว่าเมื่อคืนเมาแปปซี่แล้วเผลอทำสิ่งนี้ลงไปก็แล้วกันวะ กะอีกแค่เครื่องใช้ไฟฟ้ามันเปิดปิดเอง แล้วก็... ลูกชายที่รักสันโดษไปนอนแอ้งแม้งอยู่ตรงนั้นลำพัง...

เอิ่ม...

"คริสนายไม่ใช่..." ชักระแวงขึ้นมาตงิดๆ

สบตาสีครามที่มองมาทางผม ในขณะนั้นทำไมความรู้สึกผมมันถึงได้หนาวอย่างนี้วะ แอร์ก็ปิดไปแล้ว มองใบหน้าของดอลฟี่ที่มักจะบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลาบัดนี้กลับกลายเป็นยกยิ้มที่มุมปากราวกับว่าคริสกำลังสนุกที่ได้แกล้งผม...

ชิบหาย...

คิดไปเอง... ระแวงไปเอง หวาดวิตกไปเอง... กรูมโนไปเอง...

หายใจเข้าไอ้เต๋า หายใจออกชายเต๋า... อย่าเอาความปอดแหกไร้สาระมาทำให้ความสัมพันธ์ของมึงกับคริสต้องผิดใจกัน...
ผมรู้สึกประหม่าจนเผลอถอยหลังไปรวมอยู่กับดอลฟี่ลูกๆของผมนั่นแหละ ซึ่งอันที่จริงก็กำลังกลัวคริสอยู่อย่างน้อยผมก็ยังคุ้นเคยกับลูลู่ มินนี่ แล้วก็เซย์มากกว่าคริส แถมเพิ่งได้มาด้วยอันนี้ไม่น่าไว้วางใจ แต่ถ้าพูดถึงตามหลักวิทยาศาสตร์ถึงความเป็นไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นมักจะมีสาเหตุของมัน ไม่แน่ผมอาจจะทำสิ่งเหล่านั้นเองแล้วดันลืมเพราะอาจจะง่วงมากไรงี้ สบตาคริสตาปริบๆอยู่นานสองนานซึ่งดอลฟี่ผมก็ยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง...

เอ่อ... นี่กูกำลังทำบ้าอะไร?

เกาหัวแกรกๆด้วยความมึนซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง ค่อยๆลุกออกจากลูกๆแล้วนั่งลงไปบนโซฟา เอื้อมแขนอุ้มคริสขึ้นมาแล้วจ้องตาเขม็งคิ้วขมวด

"ห้ามแกล้งพ่อนะคริสไม่งั้นพ่อจะโกรธจริงๆด้วย" ทำไมผมต้องรู้สึกงอนตุ๊กตาตัวเองด้วยวะทั้งๆที่เขาอยู่ของเขาเฉยๆ ผมนี่รู้สึกว่าจะบ้าตุ๊กตาอย่างที่ไอ้ไก่มันด่ากรอกหูอยู่บ่อยครั้งจริงๆ มองยังไงก็เห็นเป็นตุ๊กตาไม่เห็นจะมีพิษสงไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว น่ารักแบบนี้ใครเขาจะกลัวลงกันล่ะ  ยิ้มให้ลูกชายก่อนทำจากจู๋จุ๊บไปที่เหม่งของคริสแรงๆแถมด้วยน้ำลายเพื่อทำตำหนิว่านี่ของกรู ก่อนจะวางเขาเอาไว้ตามเดิมเมื่อความรู้สึกปอดแหกของผมเมื่อครู่กำลังกลับคืนสู่ภาวะปกติ

"เดี๋ยววันนี้ขากลับแวะไปร้านตัดเสื้อให้คริสดีกว่า" บ่นกับตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อเตรียมไปมหาลัยซึ่งตอนนี้มันก็สายมากแล้ว แต่ใจจริงก็ยังไม่เลิกสงสัยหรอกแต่เดี๋ยวไปถามกูรูอย่างไอ้ไก่ที่มหาลัยเอา ไอ้เพื่อนมันอาจจะรู้ว่าไอ้ที่ผมเจอนั่นมันคืออะไร แต่ผมก็ยังเชื่อนะว่า ยังไงตุ๊กตามันก็เป็นตุ๊กตาอยู่วันยังค่ำ โตมาเป็นมนุษย์โลกจนอายุ21นี่ผมยังไม่เคยเห็นผีเลย กะอีแค่เจอเรื่องแปลกๆแค่ครั้งนี้มันกลับทำให้ผมกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปในพริบตา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธนะว่าผมไม่ได้กลัวผี ขออย่าให้เจอเลยจะดีกว่าชาตินี้  เพราะผมเองก็ขี้ขลาด และกลัวผีทั้งๆที่ไม่เคยเจอนั่นล่ะ!






"อืม... แปลกจริงๆว่ะ" น้ำเสียง และสีหน้านี่บ่งบอกว่าเชื่อมาก... เชื่อโคตร เชื่อชิบหายเลย...

"มึงช่วยหยุดแดกแล้วทำเหมือนว่ามึงเชื่อกูจริงๆทีเหอะไอ้ไก่  เดี๋ยวกูยันโครม" ไม่ว่าเปล่าผมเตรียมขาพาดขึ้นมาบนเก้าอี้หินอ่อนเตรียมจะยันมันจริงๆถ้าขืนมันยังทำตัวกวนตีนแบบนี้อยู่ หลังจากที่ผมเล่าเรื่องราวแปลกๆให้มันฟังมันก็เอาแต่แดกขนม แล้วก็พยักหน้า ไม่ก็ครางอือเออออไปกับผม แต่หน้าตานี่แม่งไม่มีความเชื่อผมเลยสักกะติ๊ดนึง

"เอ้า! แล้วมึงจะให้กูทำไงล่ะ จะให้ไปปรามผีให้มึงไง?"

"กูไม่ได้บอกว่ามีผีแต่กูแค่งงเฉยๆว่าอยู่ๆทำไมกูถึงทำอะไรลงไปแล้วเสือกจำอะไรไม่ได้เลย"

"อัลไซเมอร์แดกมั้ง"

"ไม่มีทางอ่ะ" ผมส่ายหน้าคอนี่แทบจะหลุดแน่นอนว่าผมไมได้เป็นแบบนั้นแน่นอน

ไอ้ไก่มันมองหน้าผมเหมือนกำลังใช้ความคิดแบบหน้านิ่งๆ ปากนี่ก็เคี้ยว มือนี่ก็ล้วงไปด้วยเพื่อไม่ให้ขนมที่มันกินขาดตอน มันอร่อยตรงไหนวะเลย์เนี่ย!

หมับ!

"ไอ้สัด  เลย์กูเอาคืนมา!"

"มึงชวยกูคิดก่อนดิ่" ยกยิ้มยักคิ้วให้มันแล้วเอียงห่อเลย์หลบมือยาวๆที่พยายามจะแย่งของมันคืนไป ไอ้ไก่มันทำหน้ามุ่ยแล้วกลับไปนั่งท่าปกติของมัน

"วุ่นวายจริงๆเลยมึงเนี่ย มึงก็ถามลูกๆมึงสิ"

"เอ้าไอ้นี่ถ้าลูกกูพูดได้กูไม่ต้องมานั่งถามมึงหรอก"

มันเหล่สายตามองผมเหมือนหมั่นไส้อย่างไรชอบกล สายตามันดูกวนตรีนมากครับ สักพักมันก็ยิ้มเหมือนคิดอะไรออก

"กูว่านะ คริสต้องเป็นตุ๊กตาผีแน่ๆ"

"ผีพร่อง!"

"ไอ้เหี้ยด่าพ่อกูอีก" มันยกมือเตรียมจะโบกกบาลผม แต่อย่างหวังว่าจะทำสำเร็จในเมื่อวิทยายุทธ์ของผมมันล้ำเสียยิ่งกว่านินจา... เอ่อ... คนละเรื่องล่ะไม่ช้าย! ผมนี่ก็ยังอุตส่าห์มาตลกเนอะ

"ก็มึงใส่ร้ายคริส!"

"อ้าวววววว... กูก็แค่สันนิฐานตามที่มึงเล่า"

"สันนิฐานห่าไรมึงบ้าปะตุ๊กตาผีมึงมีที่ไหน"

"อ้าวไอ้นี่สงสัยจะอยู่หลังเขามานานนะมึงอ่ะ ไม่เคยดูแอนนาเบลหรอวะ" ผมส่ายหัว

"ตำนานตุ๊กตาอลิซล่ะ" ผมส่ายหัวอีก "เมอร์ซี่" ยืนยันคำตอบเดิม "จูเลียต"

"หึ"

"คิคุโกะ"

"ไม่อ่ะ"

"เออกูพอเข้าใจละไอ้บ้าตุ๊กตา!" มันทำหน้าแบบเหนื่อยใจสุดๆหลังจากที่รู้ว่าผมไม่ได้สนใจในตำนานตุ๊กตาผีพวกนั้น พอๆกับที่มันไม่ได้สนใจตุ๊กตาเหมือนผม

"เอ้า! แล้วมันเกี่ยวยังไงล่ะวะ!?" ผมก็เริ่มสุดจะทนแล้วเหมือนกัน

"เออ เชิญมึงบ้าแล้วหาคำตอบเองเถอะกูขี้เกียจเล่าเดี๋ยวหาว่ากูพยายามเป่าหูให้เกลียดคริสอีก แต่มึงอย่าเอามาใส่ใจเหอะกูว่าไม่มีอะไรหรอก อะไรมันจะโชคร้ายขนาดนั้น"

"หรอวะ" ผมยังคงมึนอยู่ และรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่ตัวผมเองก็ยืนยันกับตัวว่าคริสก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติ คือรักลูกมากทุกตัวไง เขาคงไม่ใจดำแกล้งผมหรอกมั้ง แล้วผมก็ถูกชะตา และชอบเขามากๆด้วยในตัวของดอลฟี่ตัวนั้น

"งั้น... คืนนี้มึงอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยดิ่" ผมหันไปบอกไอ้ไก่ที่หันมามองผมด้วยสีหน้าที่กวนตีนมาก ปากมันยิ้มๆ สายตามันดูเจ้าเล่ห์ชอบกล หรือไอ้ที่เล่ามาให้ผมฟังนี่มันจะเป็นแผนวะ?

"ด๊าย! แต่มึงต้องเลี้ยงข้าวเย็นกูนะ"

โป๊ะเชะ! ไอ้สันดาน...

"มาม่าสองห่อเหมือนเดิมก็แล้วกัน..."

ไอ้ไก่มันดูอึ้งๆให้คำตอบผมแล้วมันก็เบะปากเหมือนโคตรเอือม...  อะไร? มาม่านี่ก็บุญแล้วเหอะดีกว่าแดกตีนกูอีกนะ
ผมหัวเราะใส่มัน"หึหึ" กวนตีนมันกลับ แล้วกลับมาสนใจกับสมุดวาดภาพที่อยู่ตรงหน้า

วันนี้ที่ซุ้มเงียบเหงาพอควรครับสงสัยจะมีเรียนกันในช่วงบ่าย แต่พอบ่นไปไม่เท่าไรไอ้แบคมันก็บึ่งรถมาจอดอยู่ตรงลานเล็กๆ ข้างๆซุ้มนั่นล่ะ พวกเราทักทายกันตามประสา

"ไงไอ้แบคหน้าตูมเหมือนคนปวดขี้" ผมทักมันไปอย่างเช่นทุกวัน

"ปวดขี้ห่าไรล่ะ กูปวดใจมากกว่าเมียไม่ให้มาสองคืนละเนี่ย"

"อ้าว" ผมครางด้วยความประหลาดใจ ลูกตานี่เบิกขึ้นด้วยอาการหูผึ่ง

นี่คบกันมาตั้งสองปีกูเพิ่งรู้ว่ามันมีเมีย เห็นกระหนุงกระหนิงกับไอ้ดีโด้กูนึกว่าซัมติ้งกันซะอีก ผมมองไอ้แบคที่เดินเข้ามาแล้วกระแทกก้นนั่งอยู่อีกฝังแล้วเอาขาตั้งเข่ากดโทรศัพท์ยิกๆเหมือนกำลังจะโทรหาใคร สงสัย... แม่งโทรง้อเมีย

"แล้วมึงไปทำไรให้เมียมึงโกรธวะ?" ต่อมเสือกยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี ไอ้แบคมันส่งสายตาโหดๆมาให้ผมแล้วเดาะลิ้น จิ๊จ๊ะ เหมือนไม่พอใจคำถามผมเท่าไร

"ก็วันก่อนเสียไพ่ให้มึงไง มันเลยหาข้ออ้างบอกช้ำใจไม่มีอารมณ์ คราวหลังมึงไม่ต้องนั่งข้างๆพี่โอเลยนะ"

"อ้าวเกี่ยวไรกับกู" งงสิครับ กระผมนี่งงเป็นไก่ตาแตกมองไอ้แบคที่ดูหงุดหงิด และพร้อมจะแยกเขี้ยวใส่ผมได้อยู่ตลอดเวลา ถามจริ๊ง! กูไปรู้จักกับเมียมึงตอนไหนวะ!?

หันไปถามไอ้ไก่ "ใครเมียมันวะ"

"มึงลองเข้าชาญเดี๋ยวก็นึกออกเอง"

"พ่อง!" เหอะช่วยได้มากเลยไอ้เหี้ยไก่

"ทำอะไรกันอยู่นะ" ชะอุ้ย!

นี่ก็มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง!

ผมหันไปมองพี่โอที่ก้มลงกระซิบข้างหูจากทางด้านหลังแน่นอนว่าเขาจงใจทำให้ผมตกใจเล่นไปงั้น เออ... กูขวัญอ่อนแล้วชอบแกล้งกันใหญ่กับจุดอ่อนกูเนี่ย

"โหพี่ มาแบบนี้เดี๋ยวผมแบล็ค!"

"แบล็คอะไรครับ?" พี่แกเลิกคิ้วแล้วยิ้มกวนๆ แต่สายตานี่บ่งบอกว่า ถ้ามึงตอบไม่เข้าหูแน่นอนว่าอาจจะได้โดนบาทาของท่านพี่แน่ๆ ผมหัวเราะแหะๆ แล้วตอบกลับไป

"ก็แบล็คเลเบิ้ลไงพี่ กำลังอยาก" สเต็ปการแถนี่อย่างกับเดอะฟาสภาค4

พี่โอเลิกคิ้วแล้วนั่งลงข้างๆผม "โหนี่กินของแพง ไปนอนห้องพี่สิเดี๋ยวเลี้ยงแน่"

"โหพี่! แค่เลี้ยงเหล้าทำไมต้องนอนค้างด้วยอ่ะ อย่าบอกนะว่าจะมอมเหล้าผม" ผมหลิ่วตาแล้วทำสายตากรุ้มกริ่มแกล้งพี่แกให้ขนลุกเล่น เหมือนเวลาที่อีเจย์มันทำกับพวกผมเวลาที่คิดจะไปก๊งเหล้ากันที่ห้องใครสักคน แต่สำหรับพี่โอนี่นิ่งได้อีก แถมมีการนั่งอมยิ้มจนตาหยีแก้มนี่แทบจะปริออกมาละ โหยๆๆ ไม่สนุกเลยว่ะ

"ฮ่าๆๆ ตลกละเต๋าพี่ก็แค่เป็นห่วงตอนเรากลับบ้านมากกว่ามันอันตราย อีกอย่าง ขอให้เราไปได้ก่อนเถอะแล้วค่อยมาแซวพี่" ผมมองหน้าพี่แกตาปริบๆแล้วเกิดอาการเกรงใจรุ่นพี่ขึ้นมาในทันที เพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่แกชวน นอกจากที่มหาลัยแล้วผมก็ไม่ได้เคยดื่มที่ห้องใครหรอกครับเพราะกลัวเด็กๆที่รออยู่ที่ห้องจะเหงาไม่ต่างกัน อันที่จริงผมไม่ชอบไปนอนค้างห้องใครด้วยล่ะ

"ฮะๆ" หัวเราะกลบเกลื่อน "โหยพี่ไม่ได้หรอกเดี๋ยวที่บ้านผมเป็นห่วง เขาไม่ชอบให้ผมค้างข้างนอก" แถสดรอบสอง

"หืม? นี่อยู่บ้านหรอ" ผมพยักหน้าหงึกๆคอแทบจะหลุดว่ามันจริงอย่างที่พี่เขาเดา แล้วไอ้ไก่ก็เอาคางมาเกยบ่าผมแล้วตอบกวนตีน
"มันค้างข้างนอกไม่ได้หรอกพี่เดี๋ยวลูกเมียมันเป็นห่วง"

"ไอ้สัดไก่!"  ผมเอามือดันหน้ามันออกไป แล้วไอ้ห่าเพื่อนมันก็ระเบิดหัวเราะเหมือนมันสามารถกวนตีนผมคืนได้  นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าพี่โอนั่งอยู่กูจะถีบมึง!

"ร้ายนะเนี่ยมีครอบครัวแล้ว?"

ผมรีบหันกลับไปมองแล้วโบกมือปฏิเสธ "โหยไม่ใช่พี่ผมยังโสดร้อยเปอร์ อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวสาวๆเขาไม่แลผม"
พี่โอเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มบางๆเหมือนจะขำ "จริงหรอ อย่างนี้สาวๆก็พอมีหวังน่ะสิ"

"หนุ่มๆด้วยพี่ไม่ใช่แค่สาวๆ"

"เงียบไปเลยไอ้ไก่!" หันไปตะคอกเมื่อไอ้เพื่อนมันเริ่มจะเกรียนเมื่องานของมันที่กำลังปั่นใกล้จะเสร็จ ผมหันกลับมาทางพี่โอพลางยิ้มแหยๆแบบ... คือผมทำตัวไม่ถูกกับสายตาพี่แกว่ะ มันดูประหลาด... ยังไงดีล่ะ ก็... มันประหลาดก็แล้วกันซึ่งผมเองก็อธิบายไม่ถูก หันไปทางไอ้ห่าไก่แล้วเร่งๆมันให้รีบๆทำงานให้เสร็จ เพราะผมเกร็งไอ้สายตาไอ้พี่โอนี่แหละ กูกลัว...







"มึงว่า... ไอ้พี่โอนี่แปลกๆเปล่าวะไอ้ไก่" ผมหันไปถามไอ้ไก่หลังจากที่ซดมาม่าเป็นมื้อเย็นอย่างที่ผมบอกมันไว้จริงๆหลังจากที่พวกเรากลับมาที่ห้องของผมแล้ว ผมนอนตีพุงใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวปล่อยให้พัดลมโกรกดากสบายอุรา มองไอ้ห่าไก่ที่นั่งโชว์แผ่นหลังของมันกำลังเปิดจอคอมเตรียมจะไฟว์วินนิ่งกันอีกตามเคย

"หืม? แปลกไงวะ" มันถามผมกลับไม่ได้สนใจนัก

"ก็... พี่เขาดูใจดีกับกูแปลกๆอ่ะ"

"อ้าว ก็ดีแล้วนี่หว่า พี่เขาคงเอ็นดูมึงเหมือนน้องมั้งก็เลยใจดีเป็นพิเศษ"

"แต่กูเกร็งว่ะ เวลาจะกวนตีนพี่แกแล้วกูเกรงใจ เวลาที่เขาสุภาพแล้วกูดูเถื่อนไปเลย"

"มึงก็อย่ากวนตีนเขาดิ่งั้น"

ผมถอนลมหายใจเซงๆให้กับไอ้เพื่อนที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรกับผมสักอย่าง ผมขอปลดตำแหน่งมันออกมาจากยอดกูรูที่ผมได้ยกย่องมันไว้ บวกด้วยความคิดที่ว่าไอ้ห่านี่มันไม่ได้เป็นประโยชน์โตดโต้งอะไรกับผมเลย แถมไอ้ที่ชวนมานอนเป็นเพื่อนแล้วรีบแจ้นมานี่คงไม่พ้นอยากไฟว์วินนิ่งกับผมมากว่าเป็นห่วงว่าเพื่อนจะโดนผีหลอก

"ลุกดิ่กูเตรียมเสร็จแล้วเนี่ย" มันหันมาเร่งผม

"เออๆๆ" รับมันแบบรำคาญแล้วลุกขึ้นคลานไปปลายเตียงแล้วรับจอยมาจากมัน

สรุปแล้วไอ้ที่มันมานี่คือมาแค่เล่นเกม ส่วนไอ้เรื่องแปลกๆภายในห้องนี่พวกผมก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิดแถมลืมไปเสียสนิท แต่ถึงจะลืมมันก็ไม่ได้เกิดอะไรที่ว่าแปลกขึ้นเลยกระทั้งเที่ยงคืนกว่าๆนั่นล่ะที่เริ่มจะง่วงกันแล้วมีความเห็นตรงกันคือสมควรจะนอนได้แล้ว

"ทำไรวะ?" ไอ้ไก่กระดิกเท้าตะแคงข้างถามผมที่กำลังจับลูกๆให้นั่งเป็นระเบียบ

"กู๊ดไนท์ลูกกู" มันเบะปากใส่แล้วหันหลังใส่ผมไปตามเดิม

"เออ รีบๆด้วยกูแสบตา" ยังไม่วายสั่งเร่งผมอีก

แต่จะด่านี่ก็เปลืองน้ำลายครับ ผมหันกลับมายังลูกของผมที่นั่งอยู่ จับลูลู่อิงไปที่หมอนนิ่มๆแล้วจับมินนี่นอนตักพี่เขา ส่วนเซย์นี่ตัวค่อนข้างใหญ่กว่าลูลู่กับมินนี่ผมเลยพาเขาไปนั่งที่เก้าอี้เล็กๆสำหรับดอลฟี่ เอาหมอนเด็กเล็กที่ผมซื้อมาวางเอาไว้ก่อน เพราะกลัวว่าเซย์จะปวดหลัง ก่อนจะหันไปทางคริสที่จ้องมาทางผมเขม็ง ยิ้มให้กับเขา

"คริส วันนี้เรานอนด้วยกันดีกว่า" ผมชวนตามนิสัยของคนที่ชอบพูดกับตุ๊กตา

"ระวังนะมรึงงงงง..." แล้วไอ้ห่าไก่ก็ยานคางส่อความใน

"ระวังห่าอะไรวะ" ถามมันน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไร  มันหันมาเหล่มองผมแล้วยิ้มกวนตีน

"ระวังคริสมึงจะกลายเป็นแอนนาเบลเวอร์ชั่นดอลฟี่"

"เหี้ยไก่นอนไปเลยสัด! ก่อนที่กูจะกลายร่างเป็นเดอะฮักแล้วทุ่มมึงลงหน้าต่าง"

"ฮ่าๆๆๆ โหดจ๊าง เออๆๆๆกูล้อเล่น" ล้อได้กวนตีนกูมากไอ้บ้าเอ๊ย! อุตส่าห์ลืมแล้วนะเนี่ย!

ผมหันกลับมามองคริสด้วยอาการที่เกิดปอดแหกขึ้นมาอีกแล้ว สองจิตสองใจเกิดลังเลว่าผมควรที่จะเอาคริสไปนอนกอดดีไหม แต่ตัวนิ่มๆลื่นๆของคริสที่เหมือนกับผิวคนจริงๆทำให้ผมอดใจไม่ไหว คืออยากนอนกอดลูกชายอ่ะจะเป็นตัวห่าอะไรก็ช่างเหอะ!
เดินไปปิดไฟกลางห้องพรึบ! แต่ก็เปิดไฟห้องน้ำเพื่อให้ความสว่างภายในห้องเป็นแสงสลัวๆ แล้วเดินกลับมาที่เตียง ใช้เท้าเขี่ยๆให้ไอ้ไก่ขยับออกไป มันแค่จิ๊ปากเหมือนรำคาญแต่ก็ขยับไปแต่โดยดีผมเลยจัดที่จัดทางแล้วล้มตัวลงนอนโดยให้คริสนอนด้านนอกซึ่งผมนอนอยู่ตรงกลาง โชคดีที่ว่าเตียงผมค่อนข้างที่จะใหญ่เลยไม่ค่อยจะนอนอึดอัดกันสำหรับผู้ชายตัวโตๆสองคนอย่างผมกับไอ้ไก่ สบตาคริสที่ตะแคงมองผมแล้วบอก "กู๊ดไนท์" ยิ้มๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งเพื่อเข้านิทรา เมื่อความเงียบมันทำให้ผมเคลิ้ม...

แต่... ผมควรจะหลับไปตั้งแต่ตอนที่หลับตาในนาทีนั้น...

ทว่า... ความรู้สึกของที่นอนที่ยุบลงด้วยน้ำหนักของอะไรบางอย่างทำให้ผมที่กำลังจะเคลิ้มตื่นขึ้นมาสลึมสลือ มองฝ่าความมืดแล้วคราง "อือ..." ในลำคอเมื่อสัมผัสนิ่มๆของริมฝีปากกดจูบมาที่ขมับข้างของผมผะแผ่ว ฝ่ามือหนาลูบคลึงไปตามกล้ามเนื้อสะโพกของผมที่อัดแน่นจนรูขุมขนตั้งชัน ในนาทีนั้นผมรู้แล้วว่ามันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายผม และสิ่งนั้นมันกำลังทำให้ผมกลัว เมื่อดอลฟี่ที่เคยนอนอยู่ตรงหน้าตอนนี้กลับกลายเป็นผู้ชายผมสีบรอนที่ใส่ชุดขุนนางชุดเดียวกันกับคริสเดะๆ!

ไม่พอ!

ด้วยอาการตกใจของผมทำให้ผมนอนเกร็งตาค้างฝ่าความมืดไม่กล้าสบตาเขาคนนั้น เมื่อใบหน้าคมหล่อที่สะท้อนแสงไฟสลัวนั่น ค่อยๆก้มหน้าลงมาที่ข้างหูของผมแล้วกระซิบเสียงกระเส่าว่า...

"ฉันหิว..."

 :o

กี๊สสสสสสสสสสสสสสส!!!!!!












 :ling2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 27-11-2014 00:56:35
หิว!! หิวอะไรลูกกกกกกกกกก  :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 27-11-2014 01:22:30
เต๋าทำไมหนูฮาอย่างงี้ลูกกกกกกกกกกกกกกกก o17
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 27-11-2014 03:24:16
หิวเหรอลูกกก ซัดเจ้านายตัวเองเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 27-11-2014 04:11:34
เฮือก!!!!!! :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 27-11-2014 06:08:46
เอาแล้วเห็นเต็มๆ


ขนลุกเลยอะ



รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 27-11-2014 07:12:25
อร๊ายย หิวอัลไลคะ
คริสเอ้ยมาเงียบๆเต๋าช็อกตายพอดี
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 27-11-2014 07:37:24
หิวอะร๊ายยยย :serius2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 27-11-2014 08:19:51
คริสขี้แกล้ง ถ้าเต๋าหัวใจวายทำไงเนี่ย5555555555555555

"ฉันหิว..."
หิวอะไรคริสพูดให้เคลียร์ เราจิ้นนะ :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-11-2014 08:24:44
โห คริส นี่ตุ๊กตาแวมไพร์ปะเนี่ยขอดูเขี้ยวหน่อย     :-[

เต๋าของเราโก๊ะนะ จะเข้าใจว่าหิวไข่เจียวไรงี้รึเปล่า

กลัวเพื่อนตื่นมาช็อคจัง  กินกันเบาๆนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 27-11-2014 09:24:39
อร๊ายโดนกินแน่???
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-11-2014 10:26:35
 o22
คริสหิวอะไรรรรร
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: dariganae ที่ 27-11-2014 12:29:41
อยากบอกคำเดียวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า.......
ชอบมากค่ะ!!!!!!!!!
ชอบแนวเรื่อง ชอบพล็อตเรื่อง น่าติดตามน่าลุ้น
มาอัพไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้^^
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 27-11-2014 13:31:25
กินเลยค๊าาาาาาา55555555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 27-11-2014 14:01:55
โอ้มายดอลฟี่ หลอนมาก  แต่ท่าทางจะฟินน   หิวไรหว่า  เหอๆๆ :hao6: :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Ѷanᴉ££a ที่ 27-11-2014 14:55:15
หิวอะไร คริส

ค้างแบบนี้ "จิ้น" นะ

 :o8:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 27-11-2014 16:08:58
ชิหายแล้วไง!!
ตุ๊กตากลายร่างแล้วเฟร้ยยยย!!!
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 27-11-2014 16:44:45
 :katai5:





DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป 
4






ตกอยู่ในสถานการณ์ผีอำอย่างสมบูรณ์แบบ...

ผมตาเหลือกมองค้างกับภาพตรงหน้าเมื่อเห็นร่างหนาของคนที่กำลังคร่อมร่างของผมอยู่ กำลังระบายยิ้มให้กับผม แน่นอนว่าภายในห้องถึงจะดับไฟหมดแล้วแต่แสงจากห้องน้ำก็สามารถทำให้ผมพอจะเห็นโครงหน้าของไอ้ผีตัวนี้ได้อย่างชัดเจน ความสงสัยที่ทำให้ผมเป็นกังวลมาทั้งวันบัดนี้มันกระจ่างแก่ใจแล้วว่า คริส คือตุ๊กตาผี!!!!!

"ฉันไม่ใช่ผี"

แถมมันยังสามารถอ่านใจผมได้ด้วยเถอะ! ย๊ากกกกกก!!! พ่อแก้วแม่แก้ว ไอ้ห่าไก่ช่วยกรูด้วยนี่ก็เอาแต่นอนจังเพื่อนมึงจะโดนผีหักคอตายห่าแล้วยังจะเสือกละเมอ

"น้องผึ้งจ๋า... งืมๆ"

ผึ้งบ้านมึงสิ! มาช่วยกูไล่ผีก่อนเถอะ!

ผมนอนเกร็งตัวค้างเหงื่อแตกซิกสบตาสีครามที่สะท้อนแสงจางๆในความมืด ร่างของเขาค่อนข้างที่จะหนามากกว่าผม ใบหน้าคมจัดได้ว่าหล่ออย่างกับเทพบุตร ดวงตาคมที่สามารถมองทะลุได้ถึงหัวใจ แต่ถ้าเป็นสาวๆที่ถูกมองนาทีนั้นอาจจะได้ละลายอ่อนละทวยกันไปข้าง คิ้วหนาซึ่งถูกบดบังด้วยเรือนผมสีบรอนเลิกขึ้นเล็กน้อยเหมือนมันกำลังประหลาดใจในอาการที่หวาดกลัวของผม
จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังแสยะยิ้มนี่มันคิดจะหักคอผมป่าววะ  แต่ยอมรับว่าแม่งหล่อมากเหอะ หล่อกว่าผมหลายเท่าเลยก็ว่าได้ ไอ้บ้าเอ๊ยก่อนตายมึงใช้โฟมล้างหน้ายี่ห้ออะไรวะทำไมถึงหล่อเป๊ะ! ไร้สิวแบบนี้ แต่มันใช่เวลามาชื่นชมความหล่อของมันปะวะ?

"นะ นะ..โม... อะระ..." อาการลิ้นชาที่หลับตาปี๋พยายามจะสวดมนต์ทำให้ผมกลายเป็นคนโง่ และโรคอัลไซเมอร์ในนาทีนั้น ไม่ต้องบอกว่าผมกลัวขนาดไหนขนาดร่างเจ้าตามวัดที่โดนองค์ทรงยังต้องอาย แล้วผมต้องอธิบายไหม! ว่าผมกลัวไอ้ห่านี่แค่ไหน!

"หึหึ"

ฮือออออ.... แม่จ๋าเขาจะทำร้ายเต๋า มันหัวเราะแบบสยิวกิ้วฟังแล้วขนลุก แถมมันก็ยังนั่งทับเต๋าด้วยตัวมันเบาๆซะเมื่อไหร่ มึงเปลี่ยนตำแหน่งให้กูอยู่บนจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง แต่มันใช่เรื่องเรอะ?

"อย่ากลัวสิ รักคริสมากไม่ใช่หรอ?"

ไม่ลงไม่รักมันแล้วเฟร้ย!

ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองอย่างช้าๆแม้ว่าจะกลัวอยู่ก็ตาม หัวใจผมนี่เต้นเป็นระบำจ้ำบ๊ะแทบจะกระเด็นออกมาอยู่แล้ว สบนัยน์ตาสีครามที่กำลังระบายยิ้มให้กับผม ถามว่ามันน่ากลัวไหม หึ ผมสายหัวรัวๆให้กับคำตอบว่าไอ้ผีตัวนี้ไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่ผมชอบมโนเอาเอง แต่พึงระลึกว่าผี...  ผีแม่งน่ากลัวทั้งโลกนั่นล่ะวะ! จะผีไทย ผีเทศ ผีฝรั่ง คือผมกลัวผีเข้าใจม้ายยยยยยยยย!!!!!

"อยะ... อย่าทำอะไรผมเลยผมกลัวแล้ว..." แทบจะยกมือไหว้กราบอ้อนวอน แต่บังเอิ๊ญ! ข้อมือผมเสือกโดนเขาจับล็อกไว้ไม่ให้ผมขยับไปไหน ถามจริงเหอะกูโดนผีหลอกแบบนี้แล้วจะมีแรงดิ้นปะ? แล้วตัวใหญ่อย่างกับหมีแบบนี้ ผมนึกสภาพตอนที่ไอ้หมอนี่เป็นดอลฟี่กับเป็นผีนี่ต่างกับลิบลิ่ว คุณหลอกดาวชัดๆ!

"รักคริสทำไมต้องกลัวล่ะ ไม่ได้จะทำร้าย" แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่มึงจะเล่นกับกูว่างั้น!?

เอ่อออออ.... เพิ่งจะรำลึกว่าไอ้นี่มันเป็นตุ๊กตาผี เป็นคริสแน่แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเสื้อผ้าหน้าผมอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมเชื่อว่าคริสเป็นตุ๊กตาที่แสนจะโมเอะ คาวาอี้ น่าร๊ะ มุ้งมิ้ง กุ้งกริ้ง ความน่ารักชนิดที่ว่าสาวไทยนี่ชิดซ้าย ความหล่อน่ารักที่ทำให้หนุ่มไทยนี่ชิดขวา แต่ผมชอบคริสแบบน่ารักมากกว่าร่างหมีที่คิดพยายามจะทำอะไรผมก็ไม่รู้นี่มากกว่า...

ฮึก... กูกลัวแล้วนะเนี่ยไอ้บ้าเอ๊ย!

"อย่าร้องไห้สิ ทำไมต้องร้อง?" 

ถามจริง? ไอ้ตุ๊กตาผีนี่มันซื่อหรือมันคิดจะกวนตีนผมกันแน่วะ?

"อย่าหลอกกูเลย.... ฮือ.... เดี๋ยวเช้าเมื่อไรจะกรวดน้ำทำบุญไปให้..."  พยายามหลอกล่อด้วยคำพูดเพราะๆที่ดูสั่นๆเพราะผมกลัวมาก อยากกินไรบอกมาเลยเดี๋ยวป๋าจะไปซื้อ และใส่บาตรให้ แต่ขออย่างเดียวอย่างเสือกทำให้กลัวแบบนี้ เดี๋ยวจัดหมูกระทะชุดใหญ่ให้ก็ได้นะถ้ากลัวไม่อิ่ม อ้อ! ไอ้ตุ๊กตาผีนี่มันมาจากเมืองนอกเดี๋ยวทำบุญด้วยสเต็กจากซานตาเฟ่ให้ด้วยเอ้า! นี่กูโฆษณาให้ร้านเขาเต็มที่เลยนะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขาเล้ยยยยย... แต่มันอร่อยจริงๆ พูดถึงแล้วก็หิว...

"บุญ... มันคืออะไร" เสียงทุ้มนุ่มหูถามผมเหมือนจะข้องใจ

เอ๊ะ! ไอ้ผีนี่เป็นผีประสาห่าอะไรวะ สงสัยจะเป็นผีนอกเลยไม่รู้ ผมค่อนข้างที่จะจิ๊จ๊ะกับไอ้ผีบ้านนอกนี่เต็มทน ลืมตามองมันด้วยอาการที่เริ่มจะหงุดหงิดมากกว่ากลัวในเวลานั้น

"แล้วอยากกินอะไรล่ะเดี๋ยวกูจัดให้ แล้วช่วยๆไปจากกูอย่ามารังควาญได้ไหมวะ!"

แล้วชั่วขณะนั้นสีหน้า และแววตาของเขาก็เปลี่ยนไป มันดูน่ากลัว... มันน่ากลัวนะ แต่ไม่ได้น่ากลัวในฉบับผีว่ะ ผมได้กลิ่นอะไรไม่รู้ตุ่ยๆว่าไอ้หมอนี่มันไม่น่าจะเป็นผีสักเท่าไร คือผมสามารถสัมผัสเนื้อหนังของเขาได้มิหนำซ้ำผมยังรู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายที่ส่งผ่านมาจากเขา เรียกได้ว่าผมคิดว่าไอ้นี่มันเป็นคนมากกว่าผีทำนองนั้น

ผมย่นคิ้วแล้วเงียบด้วยอาการสงสัย แล้วอยู่ๆใบหน้าหล่อๆนั่นก็ระบายยิ้มออกมาอย่างช้าๆ เป็นยิ้มที่โคตะระน่ากลัวแปลกๆ

"ทำไม่ได้หรอกในเมื่อตั้งชื่อให้แล้ว"

ชิบหาย... ไอ้บ้านี่ค่อนข้างที่จะดื้อน่าดู

"อื้อ... ปล่อยสิวะกูอึดอัด" ในเมื่อการเจรจาระหว่างผมกับไอ้ตุ๊กตาผีนี่ไร้ผล สุดท้ายคงต้องใช้กำลังกันหน่อยละครับพี่น้อง! ผมพยายามที่จะดิ้นให้หลุดออกจากพันธนาการหน้าแดงหน้าเขียว แต่โลกนี้มันยังมีคนที่แรงเยอะกว่าผมเป็นหลายเท่าอย่างไอ้ห่านี่ แต่ผมลืมไปว่ามันไม่ใช่คน!

นาทีนี้กูไม่กลัวแล้วเฟร้ย! อ๊ากกกกก! ไอ้ไก่ช่วยกูด้วย!

ผมพยามหันไปเรียกไอ้ไก่ แน่นอนว่าผมตะโกนเรียกมันลั่นห้อง "ไอ้ห่าไก่ช่วยกูด้วยยยยยยย!" แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้ยินผมเลยสักกะติ๊ด พยายามหลับตาฝืนแขนให้หลุด แต่ดูเหมือนมือใหญ่ๆจะพยายามกอบกำข้อมือของผมเอาไว้เสียแน่นหนา พยายามที่จะตะโกนให้หลุดออกจากพันธนาการที่มันดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์ เฮ้ย! นี่ฝันหรือเรื่องจริงวะ? ถ้าฝันก็ตื่นเร็วๆเหอะเหนื่อยแล้วนะเนี่ย แต่ถ้าเรื่องจริงขอเถอะ อย่าทำอะไรกูเลยชีวิตนี้ยังใช้ไม่คุ้มเลยน๊า!

ผมนี่นึกถึงเพลง คุกเข่าของCOCKTAIL เลยคับ


ฉันกำลังอ้อนวอนขอร้องเธอไปไกลๆ


ทิ้งใจลงตาตุ่มผลักไสไปจากผม


พนมสองมือขึ้นกราบวอนมึงอย่าหลอกหลอน


มันคงไม่มีประโยชน์ถ้าคิดจะหลอกเต๋า....


ได้โปรดอย่าหลอกหลอนตูเลย... อ่ะฮืออออ.....


"..."

เอิ่ม... กูนี่ก็มีอารมณ์ร้องเพลงนะไอ้บ้าเอ๊ย!

วินทีนั้นไม่ว่าจะบทสวดอะไรก็แล้วแต่ที่ท่องได้นี่งัดเอามาใช้หมดเลยครับ แต่ทำม้ายทำไมผมยังข้องใจว่าผมสวดผิดไปท่อนไหนหรือเปล่า ไอ้ผีตัวนี้ถึงไม่ได้กลัวหรือหวาดเกรงเลยสักนิด มันกลับยิ่งหัวเราะเหมือนจะขำ...  "ฮึฮึ"

ตลกตายห่า! ขำมากป่าววะ!? ไม่ว่าจะสวดหรือจะดิ้นแต่ดูเหมือนผมจะกลายเป็นตุ๊กตาเเทนมันที่ให้มือนิ่มๆ นิ้วเรียวๆของมันลูบไปตามหน้า

อ่ะเฮือกกกก....

ผมนี่ขนลุกตั้งชันเลยให้ตาย! นี่มันจะทำอะไรวะ!?

"แปปเดียว..."

ฮะ? อะไรแปปเดียว?  วอสสสสสส!!!!!?

ผมนี่ตาเหลือกยิ่งกว่าไข่ห่านอีกเหอะ! สมควรเอาไปเปรียบกับดวงจันทร์หรือลูกโลก อยากจะบอกว่าผมเหลือกตาแทบจะถลนออกมาแล้วเพราะสิ่งที่เห็นข้างหน้ามันทำให้ผมถึงกับช็อก...

"อ่ะ... ฮือ  ย่ะ อย่า" อย่าไปยุ่งกับน้องชายกรูไอ้บร้า!

"อะอา... ไอ้ห่าอะ..." คำว่าเอ๊ยนี่ไม่สามารถเปล่งออกมาจากผมได้เมื่อริมฝีปาก และความอบอุ่นชื้นแฉะกำลังโลมเลียไปที่ส่วนนั้น แล้ว... ไอ้น้องชายของผมที่ไม่รักดีนั่นมันก็กำลังตื่นตัวเต็มที่ ไอ้บร๊า!!! มึงหิวแล้วเสือกกินน้องชายกรูทำม๊ายยยยย!!!

"อ่ะ อือ... ไม่เอา"  สองแขนที่ถูกปล่อยออกเป็นอิสระ สองมือจิกไปบนที่นอนเพื่อระงับความปั่นป่วนที่อยู่ภายใน ดวงตาที่ปรือของผมมองเพ่งผ่านความมืดที่เห็นร่างสูงใหญ่ของเขากำลังดูดดุนไปที่ส่วนนั้น ความแข็งขืน และปันป่วนตีรวนไปกับความทรมานทำให้ร่างกายของผมบิดเร้าจวนเจียนระเบิด  แล้วไอ้คนที่กำลังกินน้องน้อยของผมก็เหมือนเอร็ดอร่อยหนักหนา นี่มันเห็นน้องชายผมเป็นแท่งไอติมหรือไงวะพับผ่าเอ้ย!

ผมพยายามเอื้อมมือไปทางไอ้ห่าไก่เพื่อที่จะให้มันช่วยผม...

ชะ... ช่วย... กูด้วย... ไอ้เหี้ยไก่กูโดนผีข่มขืน อ่ะเฮือก....

พยายามปัดแขนให้โดนไอ้เพื่อนเวรที่หลับเป็นตายไม่ได้รับรู้เลยว่าเพื่อนมันกำลังแย่ ผมพยายามสะกิดให้มันตื่นแต่มันกลับอือออเหมือนรำคาญ ผมเลยใช้แรงเฮือกที่มีซึ่งไม่ได้ถูกครอบงำทั้งหมดประเคนส้นตีนยันไปที่ก้นงามๆของไอ้ไก่ดังพลัก!!!!

โครม!

กึก!

"อ่ะ อ๊า!!!" ผมนี่ร้องไม่เป็นภาษาเมื่อฟันคมๆของคริสครูดไปตามลำแกร่งในขณะที่ผมยันตีนให้ไอ้ไก่ แถมมันไม่ตื่นด้วยครับ ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากมันเลยนอกจากผมที่บิดเร้าๆเหมือนไก่โดนน้ำร้อนลวก เมื่อความชื้นแฉะพยายามดูดรีดน้ำที่อยู่ในท่อนลำออกมา

ขุ่นพระ! กรูเพิ่งจะเคยเห็นผีขอส่วนบุญเป็นน้ำอสุจิกูนี่แหละสัดเอ๊ย!!

"อ่ะ อือ เจ็บ" เสียงผมนี่แม่งก็เซะซี่ได้อีกว่ะ

คือมีอารมณ์ร่วมไหมเนี่ย?

นะตอนนี้คือรู้สึกปวดมากๆเหมือนไอ้ตรงส่วนนั้นกำลังจะระเบิดออกมาให้ได้ ผมแอ่นสะโพกไปตามแรงจังหวะที่สาวปากเข้าออกจนมันแข็งปลักเสียยิ่งกว่าตอนแรก มันอึดอัดจนจุกเสียดไปทั้งท้อง มือของผมกำไปที่กลุ่มผมนุ่มสลวยสีบรอน ความรู้สึกนุ่มนิ่มเหมือนขนแมวยิ่งทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม และสับสนในเวลาเดียวกัน ไม่นานนักน้ำรักที่อัดแน่นจนถึงขีดสุดทะลักออกมาจากลำกล้องเหมือนเขื่อนแตกทะลักออกมา

ผมได้ยินเสียงดังอึก! กลืนของเหลวข้นคาวที่ออกมาจากร่างกายของผม โลมเลียทำความสะอาดชนิดที่ว่าไม่เหลืออะไรเลย นี่ถ้าผมทำกับผู้หญิงรับรองว่าเธอคงมีลูกน้อยๆให้ผมแน่ๆล้านเปอร์เซ็นต์ หอบหายใจหนักด้วยความรู้สึกแปลกๆมองร่างสูงที่ลุกขึ้นนั่งคุกเข้าแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบขาวไปตามกลีบปาก ดวงตาสีครามเปล่งประกายกว่าในคราแรกมากนัก แล้วเขาก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกใจเต้นตึกตักอีกระลอก...

หนำใจแล้วสิ? พอเหอะแค่นี้กูก็โดนเหมือนสูบวิญญาณออกจากร่างจนจะแย่แล้วนะ นั่น... อะไรน่ะ ไม่อ๊าววววว!!!!

ผมหลับตาแน่นเมื่อใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ ริมฝีปากอวบอิ่มประทับจูบแนบแน่นมาที่ริมฝีปากของผม กลิ่นคาวยังคงอบอวนอยู่ในปากของเขา ผมเพิ่งจะตระหนัก และรับรู้แล้วว่ารสชาติของน้ำขาวข้นที่ออกมาจากกายมันมีรสชาติปร่าลิ้นอย่างนี้นี่เอง...

แหยะไม่เห็นจะอร่อย...

ลิ้นร้อนโลมเลีย และดุนดันแลกน้ำลายอยู่ข้างในปากจนผมสับสน ตกลงมันเป็นผีแน่หรอวะ? ทำไมมันถึงได้รู้สึกว่าไอ้นี่มันมีเนื้อหนังเหมือนกับคน แต่ความสงสัยนั่นก็ถูกกลบด้วยความรู้สึกที่ตื่นตัว เมื่อมือใหญ่ๆ และนุ่มนิ่มกำลังสัมผัสไปตามแผ่นอก ลูบไล้ลงไปตามพุงน้อยๆที่มีกล้ามเนื้อแค่ไม่กี่ก้อน สัมผัสแปลกๆที่กำลังทำให้ผมเตลิดเปิดเปิง สุดท้ายแล้วผมกลับคล้อยตามสัมผัสนั้นจนเผลอคราง "อือ" กระเส่า

บ้าเอ๊ย! ทำไมเสียงมันถึงได้สยิวกิ้วแบบนี้วะ ครางเอง ได้ยินเอง เขินเอง

ผมกัดฟันยกมือปิดปากเมื่อร่างสูงที่ผละออกมาจากริมฝีปากกำลังจ้องหน้าผม มือแกร่งยังคงลูบไล้และยิ้มกระหายกรุ้มกริ่ม ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้ผมทำสีหน้ายังไง แล้วเป็นแบบไหน เพียงแค่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกร้อนมาก ความร้อนมันมากระจุกอยู่ที่หน้าของผมในยามที่สบตาเข้ากับดวงตาสีครามทะเลนั่นที่ยิ้มที่มุมปากเหมือนพึงพอใจอะไรบางอย่างหนักหนา ก่อนที่ผมจะเบิกตาเมือสะโพกของผมถูกยกขึ้นจนลอยหวือ

"อะ มะไม่"

ยึดรั้งหัวเตียงเอาไว้เมื่อรู้ชะตาตูดในอีกข้างหน้าจะเป็นเช่นไรต่อจากนี้ ท่อนลำที่แข็งแกร่งพร้อมๆกับความชื้นแฉะที่เย็นเฉียบ ไม่รู้ว่าผมถูกทำอะไรลงไป แต่รู้เพียงแค่ว่ามันเจ็บ เจ็บมาก เจ็บของมากๆๆๆๆ ที่สุดเหมือนร่างกายจะฉีกขาดก่อนที่ความเจ็บนั้นจะกลายเป็นความกระสัน และปั่นป่วน ผมแอ่นกายไปตามจังหวะเนิบนาบ และมือแกร่งที่ประคองเอวของผมเอาไว้ จังหวะเร่งเร้าขยับสะโพกพลิ้วไหว จนผมเผลอร้องครางออกมาอยู่บ่อยครั้ง ยอมรับเลยก็ได้วะ ว่ารู้สึกดี! อะไรมันจะช่ำชองขนาดนั้นวะกูไม่ได้พิสมัยผู้ชายด้วยกันเล้ย! แถมถูกกระทำด้วยแล้ว หมดกันหนุ่มมาดแมนทั้งแท่งเยี่ยงผม

เสียงครางอืออาระงมด้วยเสียงกระทบของเนื้อหนังที่รับจังหวะของร่างแกร่งที่ถาโถม โลกทั้งใบแม่งขาวโพลนเหมือนตัวเองหลุดออกไปจากนอกระบบของจักรวาล ผมมองร่างสูงที่หิวกระหายพยายามกลืนกินผมไปทั้งร่าง แต่มันผิดที่ว่าร่างกายของผมกำลังกลืนกินท่อนลำท่อนนั้นแทน...

มะ... ไม่นะ... นี่ผมเสียตัวให้กับตุ๊กตาดอลฟี่ของผมหรือวะเนี่ย!? เวรเอ้ยยยยยย!!!!
 :o12:





"เต๋า ไอ้เต๋า เฮ้ย! เป็นไรป่าววะ..."

อ่ะฮึกกก!!!

แรงเขย่า และเสียงเรียกที่ดูเหมือนตื่นตกใจทำให้ผมสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นพรึบ!!! ปรากฏเป็นไอ้ไก่ที่ดูเหมือนกังวลอะไรของมันก็ไม่รู้ ผมย่นคิ้วมองมันแล้วปรือตาที่รู้สึกแสบเพราะแสงที่สว่างจ้า และอาการหนักอึ้งของเปลือกตาเหมือนนอนไม่พอ

"อือ... อะไรวะ" ครางในลำคอเพราะกำลังงุนงง และสับสน ไอ้ไก่มันถอนลมหายใจพรืดแล้วกลับไปนั่งอยู่ที่ขอบเตียงมองมาทางผม มองเหมือนเป็นห่วงผมอยู่

"จะอะไรล่ะก็มึงไข้แดกอยู่นี่ไง"

"อ้าวหรอ" เลิกคิ้วแล้วยกมือจับห้าผากตัวเอง เออว่ะร้อนจริงด้วย "แคกๆ"

"ยังจะอ้าวอีก เมื่อคืนเจอผีจนจับไข้หรือไงวะ?"

หืม? ผี...

ผมชะงักดวงตานิ่งค้างเมื่อไอ้ห่าไก่มันพูดอะไรที่สะกิดใจผมเหลือเกิน ผมมองไปทางคริสขวับในทันทีแล้วเห็นว่าดอลฟี่ของผมยังคงนอนอยู่ข้างๆไม่ได้หนีหายไปไหน ผมขยับหนีโดยอัตโนมัติจนไอ้ไก่มันเลิกคิ้วสงสัยในอาการผม

"เป็นไรวะทำอย่างกับคริสหลอกมึงจริงๆ"

ผมหันไปหามัน "มึงไม่โดนหลอกหรอ?"

มันส่ายหน้า "ไม่เห็นจะมีห่าอะไรเลย"

ไม่มีส้นตีนสิ! กูโดนผีปล้ำทั้งคืนแถมแหกปากซะคอแหบแห้งจะไม่มีเลยได้ไง แล้วไอ้ไก่ก็ทำเหมือนปกติไม่ได้สงสัยหรือถามอะไรแปลกๆสักอย่าง มีแต่ผมนั่นล่ะที่โดนกระทำทั้งคืน บัดซบ! แล้วพอตื่นมาก็จับไข้ แล้วมาบอกไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวมองไปทางตุ๊กตาเจ้าปัญหายังนอนแอ้งแม้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ...

แต่ถ้าพูดถึงตามหลักวิทย์...

เชรี้ย! มึงยังจะเอาหลักวิทย์มาอีกนะไอ้เต๋า มึงย้ายสายไปเรียนเอกวิทย์เลยไหม!

ผมนี่จะบ้าขึ้นทุกวันว่ะ แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงวิญญาณที่ไหนมันจะถึงเนื้อถึงตัวคนได้วะ หรือผมจะฝันเพราะพิษไข้วะ? อันที่จริงเมื่อวานก็รุมๆเหมือนจะเป็นไข้ด้วยล่ะเพราะหวัดแดกอยู่แล้ว เมื่อคืนไอ้ไก่มันล่อเปิดพัดลมเบอร์สามด้วย แต่... ไม่ได้รับรู้ความหนาวเลยนอกจากความร้อนแล้วก็เหงื่อที่ชุมไปทั้งตัวของผมกับคริส...

เอ่อ... แล้วทำไมผมต้องร้อนวูบวาบที่หน้าด้วยวะ?

"เป็นอะไรวะหลุดไปอยู่ในมิติที่สี่หรือไง?" ไอ้ไก่มันทักผมแล้วเลิกคิ้วเหมือนจะขำในท่าทาง

"มิติบ้าอะไรล่ะ" ถีบมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ แต่มันเสือกทำหน้าเหมือนเจ็บปวดมากทั้งๆที่ผมแค่สะกิด

"แล้วมึงเจออะไรล่ะไอ้เต๋า พูดทำนองเหมือนมึงโดนหลอกจริงๆ"

ผมเงียบไปครู่ครับ สบตามันแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงให้โผล่พ้นแค่ลูกตามองมันแล้วตอบอู้อี้ "กูโดนผีขย่มว่ะ"

ไอ้ห่าไก่มันทำหน้าเป็นหมางงแดก "อะไรวะ?"

"ไม่ๆ" ผมส่ายหน้าเพราะคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ มันต้องบอกว่า "ไอ้ผีทะเล" แล้วหันไปมองค้อนคริสที่นอนอยู่ แต่ก็ยังอดสยองตัวเองไม่ได้  ไอ้ไก่มันพ่นลมเหมือนจะขำไม่ขำก้ำกึ่งแล้วส่ายหน้าแบบเอือมๆ

"อยู่กับมึงแล้วกูจะปัญญาอ่อนตามว่ะ เดี๋ยวกูลงไปซื้อโจ๊กให้มึงก่อนนะ"

พยักหน้าให้มันส่งๆแล้วหันไปมองคริสที่ยังคงนอนสงบแน่นิงไม่ไหวติง...

ทำไมถึงยังเป็นตุ๊กตาวะ พอเช้ามาแม่งเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเหมือนโดนแกล้งยังไงชอบกล หรือเป็นเพราะว่าคิดไปเองวะไม่เข้าใจเลยว่ะ แต่ผีที่ไหนจะมาขอส่วนบุญ บะ แบบ...

มันต้องเป็นความฝัน... เป็นฝันที่ขายขี้หน้าที่สุด... 

ผม... ปลอบใจตัวเองอย่างนั้น...

"ตอนที่กูลงไปซื้อโจ๊กมึงก็ลุกขึ้นมาเช็ดตัวมึงซะ ไหวเปล่า"

ผมพยักหน้าให้มันเพราะมั่นใจว่ายังพอมีแรง ไอ้ไก่พยักหน้าอืมๆแล้วหยิบกระเป๋าตังของมันที่วางเอาไว้ยัดใส่กระเป๋ากางเกงยีน ผมเห็นมันยืนท่าแปลกๆ แถมเดินกะเผลกเหมือนคนปวดขา ผมเลยทัก

"มึงเป็นไรวะเดินเหมือนเจ็บขา"

มันหันมาทางผมแล้วตอบสีหน้าแบบหงุดหงิด "จะห่าอะไรล่ะเมื่อคืนกูนอนตกเตียง" แล้วมันก็หันไปใส่รองเท้าพร้อมบ่นงึมงำในลำคอ "แม่งนอนดิ้นแล้วถีบกูหล่นแหงๆ อย่าให้เผลอเถอะ กูจะเอาคืน จะยันมึงแรงๆกลับเลยคอยดูดิ่ นี่เห็นว่าป่วยหรอกเชี่ยเต๋า"

"..."

ปังงงง!!!

เอ่อ...  ไม่รู้ว่าผมควรที่จะบรรยายอารมณ์ของผมอย่างไรดีในตอนนี้ที่รู้สึกหนาววาบไปทั้งร่างมองคริสที่นอนอยู่ข้างๆด้วยอาการตัวเกร็งเหมือนโดนสต๊าฟเอาไว้...


สัดก่ายยยยยยยยย!!!! อย่าทิ้งกรูววววววววววว!!!!!

 :serius2:














 :hao7:

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: dariganae ที่ 27-11-2014 17:46:05
โอ๋ๆๆๆ ยอมรับเถิด รักเขานี่นา ตุ๊กตาคริสสสส~~
=\\\\\=
คริสก็ดูจริงใจดี555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-11-2014 17:57:14
ไก่นี่ฮาได้อีก  :katai2-1:    แล้วเต๋าก็ได้รู้ว่าผีหิวอะไร
คริสนี่เปลี่ยนร่างได้แบบไม่รอกลางคืนด้วยนะแจ่มอะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 27-11-2014 18:47:44
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   เผลอหลงเข้ามาอ่าน พออ่านจบขอพูดประโยคนี้เลยว่า...หนูชอบมาก หนูชอบมากๆเลยค่า

อ่านรวดเดียวจนจบเลย แถมยังนั่งฟิน นอนยิ้มหยั่งกับคนบ้า :hao7:

ขอยกนิ้วโป้งให้ทั้งสี่นิ้วเลยค่า  สนุกม๊ากกกกกกกก
ชอบทุกตัวละครเลยโดยเฉพาะดอลฟี่คริสกับเต๋า ปรากฎโฉมครั้งแรกก็จับเต๋ากินซะแล้วไวจริงๆ อ๊าก:impress2:

ปล.เรานายเอกแบบนี้แหละ แมนๆเป็นผู้ชายปกติ ไม่จำเป็นต้องน่ารักฟุ้งฟิ้ง(เดี๋ยวอิจฉา) พระเอกก็หล่อออกสวย(มั้ง) ชอบอ่ะ 

ขะติดตามปูเสื่อรอทุกวันเลยนะค่ะ :กอด1:


หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-11-2014 19:05:20
โดนตุ๊กตาคริสจับกิน(?) ซะแล้ววว 555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 27-11-2014 19:09:00
อ๊ายย สนุกกกก
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-11-2014 19:12:09
อีกหน่อยก็ชินไปเองนะเต๋า 55
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 27-11-2014 19:28:27
ตลกได้อีกนะขนาดเวลาคับขัน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 27-11-2014 19:45:48
 o22   กินแล้วชักดาบบบบ :hao7: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 27-11-2014 20:05:28
โดนตุ๊กตาขย่มไปซะล่ะ :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 27-11-2014 20:08:59
 :katai2-1: :katai2-1:อาหารของน้องคริส คือกะทิสดนิเอง กร้ากๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao7: :z2:แหมหน้าออกจะฝรั่งชอบของไทยเหยอออเอิ้กๆ สนุกค่ะสนุกหนุกหนานๆ :mew1: :bye2: :-[
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 27-11-2014 20:38:59
อย่าหายสิจ๊ะคริ สมารับผิดชอบด่วน :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 27-11-2014 21:17:46
กรี๊ดๆๆๆๆ น่ารักมากมายก่ายกอง เต๋าน่ารักมากๆเบย
คริสก็นะ แหมๆๆๆ หิวบ่อยๆนะ อิอิ มาต่อไวๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Ѷanᴉ££a ที่ 27-11-2014 21:29:49
คริส ต้อง "หิว" ทุกคืนแน่ๆเลย

 :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 27-11-2014 21:42:30
สนุกกกก รอติดตามนะคะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-11-2014 21:43:31
ตลกน่ะ แต่แอบหลอนอะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 27-11-2014 22:16:31
หิวเราะ
โฮะๆๆๆ
จัดเจ้านายไปกี่จานล่ะ หนูคริส
แล้วเจ้านายคนเก่า เจอกินแบบนี้ป่ะเนี้ยยยยย
 :mew6:
เรื่องนี้สนุก รอตอนต่อนะ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 27-11-2014 22:57:32
ที่แท้ก็หิว...นี่เอง >///<
ขอส่วนบุญแบบนี้ทุกคืนเลยนะคร้าาาาา 55555
สนุกค่ะ ชอบๆ เราชอบดอลฟี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 27-11-2014 23:59:28
คริสน่าร๊ากกก แต่ถ้าหิวบ่อยๆอีกคนจะระบมเอานะ =..=
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: มานามิ ที่ 28-11-2014 01:02:50
น่ารักกกกก  :o8: :o8:


ชอบนะแนวนี้ รอต่อจ้า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 28-11-2014 01:47:06
เชื่อล๊ะว่าคริสหิวจริงๆ
ก็เล่นไม่พูดไม่จาจับเต๋ากินลูกเดียว หึหึหึหึหึ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 4- P2 - 27/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-11-2014 09:28:26
นิยายเรื่องนี้มันคืออะไร???

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารัก

คริสสุดยอดไปเลย แป๊บๆจับกินซะละ

อยากรู้จริงที่อยู่กับคนก่อนเป็นแบบนี้ไหม  :hao6:

รอตอนต่อไป


ปล.ไก่น่าสงสาร  :hao7:
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 28-11-2014 09:39:40





 :heaven







DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
5





เกราะกำบังแน่นหนาพร้อมด้วยเครื่องรางของขลังเตรียมพร้อม...

ผมจ้องเจ้าตุ๊กตาดอลฟี่อยู่ปลายเตียงโดยมีผ้าห่ม และหมอนที่กำลังกระจุกอยู่เป็นฐานทัพพร้อมด้วยสร้อยไม้กางเขนที่ซื้อมานานแล้วเส้นละร้อยเอาไว้ใส่เก๋ๆเวลาที่ไปจีบสาว หรือแม้กระทั่งสร้อยพระที่มักจะห้อยเวลาที่ทำข้อสอบ ผมเอามารวมกันแล้วยื่นไปทางคริสหวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะสามารถช่วยชีวิตดอลฟี่ของผมให้รอดพ้นจากเจ้าวิญญาณร้าย

"ออกไปจากคริสนะเว้ย! อย่าทำร้ายคริสนะไม่งั้นโดนไม้กางเขนปลุกเสกแน่!" ข่มขู่มันไปงั้น แต่เห็นเขาว่าผีฝรั่งกลัวไม้กางเขน แต่พระนี่คงไม่ทำให้เจ้าผีร้ายนั่นกลัวได้  ย่นคิ้วหลิ่วตามองดอลฟี่ที่ยังคงนั่งเงียบฉี่ไม่ได้แปลงร่างหรือตัวขยายใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด แต่เพราะความหวาดระแวงของผมไงถึงต้องมาทำอะไรบ้าๆบอๆ

"แค่กๆ อะแฮ่ม ฮึม..."  รู้สึกคันคอชอบกล แล้วไอ้ไก่นี่ก็หายหัวไปตั้งกะออกไปซื้อโจ๊ก ตกลงนี่มันรักเพื่อนมันจริงหรือเปล่าวะเนี่ย!

แหงนมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้มันก็เกือบๆจะเก้าโมงเช้าแล้ว ผมว่าไอ้ไก่มันคงไปช่วยลูกสาวร้านป้าขายโจ๊กใต้หอเก็บร้านแน่ๆเลยว่ะ ไอ้นี่มันยิ่งไว้ใจให้ไปซื้อของไม่ได้เมื่อมันหน้าหม้อเป็นกิจวัตร เอาแต่จีบหญิงปล่อยให้เพื่อนนอนซมหิวข้าวได้ไงวะ!

ผมคลำท้องป้อยๆเพราะหิวจนไส้จะขาดแต่ไอ้เพื่อนตัวดีมันยังไม่โผล่ ประกอบกับอาการปัญญาอ่อนที่หยั่งเชิงตุ๊กตาดอลฟี่ของตัวเองอยู่อย่างนั้นแต่ดันไม่มีอะไรโผล่ ความรู้สึกเหมือนเสียดายทำให้ผมเสียเซลฟ์ชอบกล อะไรวะ ทีเวลาตรูทำใจได้แล้วเสือกไม่โผล่ ผีนี่โรคจิตเหมือนกันทุกตนปะ? ที่ชอบโผล่ออกมาทำให้หัวใจวายเล่นๆตอนกลางคืน
 
คือ... เมื่อคืนผมยังข้องใจว่าตกลงมันจริงหรือฝัน แต่ผมไม่เล่นมุกกฎวิทย์แล้วล่ะมันจำเจไป เอาเป็นว่าผมจะเชื่อสายตาตัวเองในตอนนี้...

ค่อยๆย่องเข้าไปหาทั้งๆที่ร่างกายไม่อำนวย แต่ก็พึ่งคุณพระคุณเจ้าเดินนำหน้าเข้าไปหาคริสที่ยังคงนอนอยู่ไม่ได้ขยับเขยื้อนหรือมีชีวิตขึ้นมาแต่อย่างใด สบตาสีครามทะเลสุกใสซึ่งตอนนี้ผมว่ามันมีประกายมากกว่าเดิม

จะว่าสวยมันก็สวยนะ ถ้าเป็นเวลาปกติผมอาจจะรู้สึกดีมากแทบอยากจะฉุดเข้ามาฟัดเลยเถอะ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ร้ายๆที่คิดว่าตัวเองสูญเสียเอกราชเป็นประตูหลังไปนั่นทำให้ผมเกิดอาการหวาดระแวง  เวลาที่คริสมีประกายตาแบบนี้ทีไรมันมักจะมีเหตุการณ์แปลกๆขึ้นทุกที

หมับ!

"ฟูว์!!!" พ่นลมออกมาด้วยความโล่งอกหลังจากที่เอาพระคล้องคอให้กับดอลฟี่ของผม พร้อมๆกับถอยออกมาเพื่อหยั่งเชิงว่าจะมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าประมาณหนึ่งก้าว มองคริสด้วยอาการหวาดระแวงแต่มันดันไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกตามเคย มันยังคงเงียบ... เงียบชนิดที่ว่าได้ยินแค่เสียงของรถบนถนนที่วิ่งผ่านแว่วมาเท่านั้น ดอลฟี่ของผมไม่ได้เกิดอาการกระตุกเกร็งหรือทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ไม่ได้มีความรู้สึกว่าสิ่งที่ห้อยอยู่จะรู้สึกร้อนหรือแพ้อำนาจบารมีของคุณพระคุณเจ้า

อย่าถามว่าผมทำแบบนี้ทำไม เพราะผม... จำเอามาจากหนังผีอีกทีนั่นล่ะ...

"บ้าไปเองเปล่าวะ?" ทำไมผมรู้สึกสับสนงี้วะ เหมือนโดนหลอกให้กลัวยังไงไม่รู้ว่ะ

คลำคางที่กำลังมีหนวดพรอมแพรมอย่างใช้ความคิดจ้องมองคริสที่ยังคงไม่ขยับ แต่ถ้าเกิดเขาขยับตัวได้ขึ้นมาตัวผมก็คงไม่อยู่มันละห้องเหิ้ง อาการวิ่งป่าราบแบบในหนังไทยนี่คงได้ประสบพบกับตัวเองแน่ๆ

"..."

วุ้ย! ช่างมันเถอะไม่มันเลยว่ะ หิวแล้วด้วย หมุนตัวตั้งท่าจะไปต้มมาม่าเพื่อประทังชีวิตเพราะไอ้ไก่ไม่ยอมโผล่กลับมาสักทีแต่พอผมก้าวขาเท่านั้น ไอ้ไก่มันก็เปิดพรวดเข้ามาด้วยหน้าตาที่โคตรจะเบิกบานเป็นจานกระด้ง ผมนี่ไม่ต้องซื้อหวยมันละงวดนี้ ไม่ต้องถามมันด้วยว่าทำไมถึงหายไปนาน

"กว่าจะโผล่มานะมึง ไม่รอให้กูหาแดกเองก่อนล่ะ" บ่นมันครับ ไอ้ไก่มันยังมีหน้ามายิ้มแล้วเดินลั้นลาเข้ามาข้างในเดินไปหยิบโต๊ะญี่ปุ่นมากางหน้าจอทีวี

"คุยกับน้องแนนนานไปหน่อยว่ะ"

หึ! ไงล่ะรางสังหรณ์ผมไม่เคยผิดไอ้หน้าหม้อเอ๊ย!

ผมส่ายหน้าให้มันเอือมๆแล้วเดินไปที่โซฟาพร้อมๆกับทิ้งตัวลงไปบนโซฟานุ่มๆจนลูกๆของผมสะเทือน หันไปมองมินนี่กับลูลู่แล้วจับพวกเขาให้นั่งตามเดิม รู้สึกหัวหมุนจนต้องพิงกลับไปแล้วเอาคอพาดด้วยอาการหมดแรง ตอนนี้ผมป่วยอย่างสมบูรณ์แบบหลังจากที่ห่างหายจากไข้หวัดมานานนับเดือน หน้าหนาวเป็นแบบนี้ทู้กที!

"ไหวป่าววะ" พยักหน้าตอบไอ้เพื่อนที่ส่งชามโจ๊กให้ สายตามันดูห่วงผมจริงๆ แต่ผมจะซึ้งกับความห่วงใยมันมากถ้ามันเอาเวลาไปจีบสาวมาหาข้าวหาน้ำให้ผมกินก่อนที่ผมจะทรุดขนาดนี้

"ปวดหัวว่ะ ปวดเนื้อปวดตัวด้วย"

"แบบนี้จะไปมหาลัยไหวหรอวะหยุดอีกซักอาทิตย์ก็ได้มั้ง" ผมเลิกคิ้วกับการสนับสนุนที่ดีเยี่ยมแต่ไม่ตอบมันหรอก ก้มหน้าจ้วงโจ๊กกินด้วยความหิว แต่ถึงจะหิวก็ไม่ได้มีความอยากเลยสักนิด ไอ้ไก่มันเบะปากแล้วหันไปเปิดทีวีเพื่อดูการ์ตูน มันก็ชอบอะไรที่ไม่ต่างจากผมนักหรอกครับ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราคบกันได้ยืดยาวแทบจะเข้าขากันได้ดีขนาดนี้

นั่งจ้องดูทวิตตี้พร้อมๆกับกระเดือกโจ๊กลงคอได้ยากลำบาก ผมกินไปแค่สี่ห้าคำก็ไม่ไหวแล้วล่ะมันพะอืดพะอมชอบกล พอไอ้ไก่มันเห็นผมวางชามมันเลยหยิบขวดน้ำแล้วก็ส่งแผงยาที่มันน่าจะวิ่งไปซื้อมาให้ส่งให้ผม

"เข้ามหาลัยปะ" ผมถามมัน

ไอ้ไก่ส่ายหน้าแต่ตายังอยู่ที่จอทีวีแล้วละเลียดกินโจ๊ก "ไปดิวะวันนี้กูมีเรียนกับอาจารย์เหมือนฝัน งานที่จะส่งยังไม่เสร็จดีเลย"

เอิ่ม... แล้วมึงจะส่ายหัวทำให้กูดีใจทำไมวะ!

"อยากให้อยู่เป็นเพื่อนว่ะ"

"กลัวผีหรามึง" น้ำเสียงนี่โคตรจะล้อกูเลย จากการล้อเรื่องตุ๊กตาไอ้บ้านี่มันกลับมาล้อผมเรื่องผีแทน นี่ถ้าเกิดยังสบายดีอยู่พ่อจะยันโครมให้ แต่ไอ้ไก่มันคงพอที่จะสัมผัสได้ว่าอาการผมน่าจะเป็นเยอะมันเลยกล้ากวนตีน... ฝากไว้ก่อเถอะมึง

ผมจิ๊ปาก "อยู่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรกูแค่ถามเฉยๆ"

"หรา อัก!" 

มันอดไม่ได้จริงๆที่จะยันเท้าอันหนักหน่วงไปที่ก้นปอดๆของมัน ไอ้ไก่มันหันมายู่ปากมองค้อนแล้วคลำก้นป้อยๆ แต่ขอโทษเถอะผมถีบมันเบาๆเองนะแต่มันทำหน้าเหมือนเจ็บมาก อ้อ! ผมลืมไปว่ามันปวดขาปวดเอวอยู่เนื่องด้วยการหล่นเตียงโดยบาทาของผม แต่เรื่องเหตุการณ์เมื่อคืนก็ยังคงเป็นเงื่อนงำที่ยังไม่สามารถคลายออกได้

"กวนตีน" อย่าหวังว่าด่ามันแล้วจะสำนึกครับ ไอ้เพื่อนคนนี้มันไม่สะทกสะท้านกะอีแค่คำด่าขั้นเบสิก ซึ่งคำหยาบคายเป็นสิ่งที่พวกผมมักจะพ่นออกมาเป็นกิจวัตรกันอยู่แล้ว มันเลยไม่ค่อยสะใจเท่าไร ซ้ำมันยังเกิดอาการคันไม้คันมือยิ่งขึ้นไปอีก

"น้อยกว่ามึง" มันเถียงกลับแล้วกระเถิบก้นของมันหนีผมแทบจะทันที...

"ไอ้..." ไม่รู้จะเอาอะไรมาด่าให้มันเจ็บแล้วละครับ เฮ้อ...

"ว่าแต่..." ไอ้ไก่มันเงียบไปครู่เหมือนมันกำลังคิด ก่อนจะหันมาถามผมอีกครั้ง "วันนี้ไม่เห็นมึงเล่นกับคริสเลยวะ เห็นทุกทีเห่อนักไม่ใช่หรอ"

ผมนี่ถึงกับสะดุ้งเลยล่ะครับ...

"เอ่อ... วันนี้กูให้ลูกกูพักผ่อนก่อนว่ะเดี๋ยวจะติดไข้"

ไอ้ไก่มันย่นคิ้วหลิ่วตาเมื่อเห็นผมแถค่อนข้างที่จะกวนนิดนึง มันเบะปากแล้วส่ายหน้าก่อนจะหันไปทางจอทีวีอีกครั้ง ซึ้งผมไม่อยากจะพูดกับมันมากเดี๋ยวมันเกิดสงสัยขึ้นมาอีกผมขี้เกียจตอบคำถาม แล้วตอนนี้ผมก็ง่วงมากจนต้องปิดเปลือกตาเพื่อพักผ่อน ชั่วขณะผมเผลอหลับไปก่อนจะรู้สึกตัวอีกครั้งตอนไอ้เพื่อนมันมาปลุกผมในชุดนักศึกษา สงสัยเตรียมจะไปเรียนแล้ว

"ไปนอนที่เตียงไปมึงเดี๋ยวกูไปเรียนก่อน" ผมพยักหน้าให้มันแล้วเดินเซโดยมีไอ้ไก่ช่วยหิ้วปีก รู้สึกมึนๆว่ะไม่ชอบเลยแบบนี้

"เป็นเยอะว่ะไปหาหมอปะ?" มันถามน้ำเสียงค่อนข้างที่จะห่วงผม

ผมส่ายหน้าแล้วฟุบไปที่หมอน "ไม่ต้องอ่ะมึงไปเรียนเหอะเดี๋ยวนอนพักก็คงดีขึ้น"

"เออๆ แล้วอย่าลืมกินยาล่ะ กูเอาโจ๊กอีกถุงวางไว้ที่เดิมอย่าลืมกินนะ" ผมพยักหน้าแต่เปลือกตาปิดไปแล้ว

"ไม่ไหวไงโทรหากูนะเว้ยกูเป็นห่วงนะเนี่ย"

"อือ" ผมครางในลำคอเบาๆออกไปในทางรำคาญมันด้วยซ้ำ ไอ้ไก่มันเลิกเซ้าซี้ สักพักผมได้ยินเสียงมันเดินไปหยิบกระเป๋าของมันแล้วไปทางประตู ก่อนที่เสียงประตูจะถูกเปิดปิดแล้วภายในห้องก็เงียบกริบ

ผมพลิกตัวแล้วคลานไปที่หมอนนุ่มๆด้วยอาการปวดเมื่อยไปตามตัว พร้อมด้วยเหงื่อที่กำลังไหลออกมาตามรูขุมขนเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป ตอนนี้ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวมาก บอกได้เลยว่าหงุดหงิด แต่ความอ่อนเพลียทำให้ผมหลับลงไปในเวลาอันสั้นเท่านั้น...





แกร่ก... ฉึบ! ฉึบ!

เสียง?

ผมค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างช้าๆเมื่อเสียงอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมตื่นจากการนอนหลับที่แสนจะทรมาน แต่มันก็ได้แค่ปรือตาเท่านั้นเมื่อเปลือกตาของผมมันหนักเสียเหลือเกิน กระพริบตาเพื่อปรับแสงแล้วหันไปทางเสียงปริศนาที่ดังอยู่ข้างๆหู ใครบางคนในทีแรกผมนึกว่าไอ้ไก่กลับมาแล้ว แต่นั่นมันไม่ใช่ในเมื่อรูปร่างของไอ้ไก่ไม่ได้สูงใหญ่มากกว่าผมนัก แล้วชุดสีน้ำเงินเข้มดูแปลกตาเกินกว่าที่คนธรรมดาจะสวมใส่มันทำให้ผมต้องย่นคิ้วมอง

เรือนผมสีบรอนที่หันหลังกำลังก้มๆเงยๆทำอะไรบางอย่าง ผมเห็นกลุ่มควันเล็กๆที่พวยพุ่งขึ้นมาแล้วเห็นแสงสว่างวาบดังปุ้งก่อนที่มันจะจางหายไป เอ่อ... ไม่ทราบว่ากำลังเล่นแร่แปรธาตุอยู่หรือครับช่วยไปเล่นไกลๆได้ไหมเนี่ยคนจะหลับจะนอน
รู้สึกสนใจจนตาของผมที่มันพยายามจะปิดอยู่ตลอดเวลาเบิกโพลงมองแผ่นหลังนั่นตาแจ๋ว มิหนำซ้ำคริสที่เคยนอนอยู่ข้างๆก็หายไปด้วย ชุดที่ใส่นั่นค่อนข้างที่จะ... แฟนตาซีเล็กน้อย ไม่นานนักคนที่ผมกำลังสงสัย และรู้สึกหวาดกลัวก็หันกลับมา...

ผมนี่มองเขาตาค้างยิ่งกว่ารูปปั้นอีกครับพี่น้อง!

ดวงตาสีครามทะเล ใบหน้าหล่อเหลาที่ผมนึกว่าเขาอาจจะหลุดออกมาจากการ์ตูนเทพนิยาย ดวงหน้าที่เด่นชัดซึ่งผมจดจำเขาได้อย่างชัดเจน รู้สึกตะลึงงันจนไม่อาจกระพริบตา ปากผมที่อ้าค้างจนแมลงจะเข้ามาบินเล่นข้างในอยู่รอมล่อไม่อาจที่จะหุบลงได้ รู้สึกใจสั่นหัวใจเต้นระทึกจนมันแทบจะหลุด เมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านั่นคือใครที่ไหนก็ไม่รู้แต่กลับใส่ชุดขุนนางอังกฤษเหมือนกับคริสไม่มีผิด!

คริสงั้นหรอ?

ในขณะที่ผมกำลังตกตะลึงสบตาคมสวยคู่นั่น ไอ้คนที่ยืนอยู่ซึ่งดูยังไงๆมันก็เป็นมนุษย์โลกคนหนึ่งค่อยๆเดินมาทางผมอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้หัวใจของผมสั่นไหว ไอ้ที่สั่นนี่ไม่ใช่อะไร แต่เพราะกลัวโดนผีอำอีกมากกว่า เฮ้ย! อย่าทำอะไรนะยังป่วยอยู่เลยขอหายดีก่อนค่อยว่ากันอีกที!

ผมมองร่างสูงที่ค่อยๆนั่งลงข้างๆผมอย่างช้าๆแล้วเขาก็ค่อยๆเอี้ยวตัวหันมามอง ใบหน้าคมหล่อนิ่งเฉยไร้สีหน้าใดๆ บางครั้งผมก็เห็นว่าไอ้บ้าที่นั่งอยู่นี่น่ากลัวพิลึก ค่อยๆกระเถิบออกห่างเชื่องช้าเพราะกลัวว่ามันจะรู้ตัวแล้วเกิดทำร้ายนี่ไม่แย่หรอวะ? แต่พอผมไถตัวเพียงแค่พรืดเดียวเท่านั้น ฝ่ามือนิ่มๆ และใหญ่คว้ามาที่ใบหน้าของผมหมับ!

ทีนี้ล่ะพ่อแก้วแม่เอ้ย ไอ้เต๋าตัวแข็งทื่อมือนี่เย็นเฉียบทั้งๆที่อุณหภูมิในร่างกายสูงปรี๊ดขึ้นมาในทันที ตาเบิกค้างกรอกตามองมือหนาๆข้างแก้มกับลูกตาสีครามที่เอาแต่มองผมเงียบๆไม่พูดไม่จาอะไรสลับกันไปมาด้วยอาการหวาดระแวง ประมาณว่านี่มรึงจะทำอะไรกูวะ! อย่านะเฮ้ย เดี๋ยวกูกราบงามๆเก้าสิบองศาเลยเอา!

"..."

แฮ่... ผมเองก็กลัวมันนะ คงไม่กล้าคิดจะสู้กับคนที่ตัวโตกว่าผมนักหรอก

"ขอมาสิ"

"ฮะ?"

เกิดอาการเอ๋อไปชั่วขณะเมื่ออยู่ๆให้มาขอ จะให้ขออะไรล่ะแค่คิดจะพูดนี่ก็ลิ้นแข็งแล้วล่ะ! 

ผมย่นคิ้วคือแบบ กรูงงมากช่วยอธิบายได้ป่าววะว่าขออะไร คือจะให้ผมขอมันหรือมันต้องการอะไรจากผม แต่ขอแบบเมื่อคืนไม่เอานะ หึ ผมส่ายหัวรัวๆเลยถ้าจะเอาอย่างเมื่อคืน สัมผัส และคำพูดจังๆแบบนี้แม่นแล่ว! ชัดเลย ชัดเบย ชัด! ว่ามันไม่ใช่ความฝันแถมผมไม่ได้บ้าละเมอเบลอเห็นภาพหลอนในเมื่อผมกำลังสนทนากับคริสตัวเป็นๆไม่ได้อยู่ในรูปแบบดอลฟี่ที่ผมชอบ แต่ก็หล่อลากจนผมรู้สึกอิจฉา คนอะไรวะหล่อชิบ หล่อชิบหาย หล่อล้างทำลาย กูขอ! ขอหล่อแบบมรึงได้ไหมชีวิตคนโสดจะได้จบสิ้นกันสักที!

"อยากหล่อแบบนี้มั่งอ่ะ"

"..."

เอ้า! ก็บอกให้ขอไม่ใช่เรอะ? ทำไมต้องทำหน้างงย่นคิ้วแบบนั้นวะ ทำหน้าเหมือนไอ้ไก่เวลาที่เห็นผมปัญญาอ่อนยังไงยังงั้น เฮ้ย! ไม่ชอบนะเดี๋ยวปั๊ดจิ้มตาบอด

"หน้าตาก็ดูดีอยู่แล้วทำไมถึงขออะไรไร้สาระ"

ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าแหกไปชั่วขณะตรงที่โดนหลอกด่าว่าไร้สาระนี่แหละ...

อะไรว๊าก็แค่อยากหล่อแฟนตาซีแบบนี้บ้างผมผิดตรงไหน มันออกจะมีสาระนะ คิดดูถ้าผมหล่อสาวๆจะติดตรึมแค่ไหน แถมไม่ต้องมานั่งหลีให้ตาเหล่กันด้วย แค่เดินผ่านสาวๆอาจจะวิ่งเข้าหาเลยก็ได้ใครจะรู้ แล้วชีวิตหนุ่มโสดก็จะกลายเป็นตำนาน หลังจากนั้นอาจจะตามมาด้วยตำนานใหม่...

หนุ่มเต๋าเพลย์บอยร้อยเบอร์โทร เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น แล้ววันดีคืนนี้ถูกยิงอนาถเพราะเสือกไปคั่วแฟนสาวมาเฟีย...

เฮ้ย! เพิ่งจะคิดได้ว่าความหล่อไม่ได้มีสาระอะไรจริงๆ แถมทำตัวเป็นเพลย์บอยนี่เสี่ยงลูกตะกั่วเพราะสาวๆที่เข้าหานี่ละวะไม่ได้มีความปลอดภัยกับตัวเองเท่าไร พอไอ้คนตรงหน้ามันทักผมนี่เก็ทเลย ผมว่า... ทำตัวกวนตีนเพื่อนๆแล้วเอื่อยเฉื่อยไปวันๆนี่น่าจะดีสำหรับผมเป็นที่สุด

"ว่าไงล่ะอยากจะเปลี่ยนใจหรือขออะไรดี" ผมย่นคิ้วแล้วสบตาสีครามที่ทอดมองลงมา กลีบปากอวบอิ่มกำลังยิ้มบางๆแต่หน้ามันไม่ได้ยิ้มกับผมเลย อันนี้ผมสัมผัสด้ายยยยย... มันดูพิรุธว่ะ แถมผมยังข้องใจว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ ผมไม่ได้กลัวแล้วว่าไอ้คนตรงหน้าจะเป็นคริสดอลฟี่ หรือคริสผีสิง  หรือเป็นวิญญาณที่สิงอยู่ในดอลฟี่ก็ตาม แต่สิ่งที่สงสัยคือทำไมถึงโผล่มาให้ผมเห็นคนเดียวแต่ไอ้ไก่ทำไมถึงไม่ทำอะไรมันเลย มันไม่แฟร์!

"มึงเป็นใคร" นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมควรจะถามมากกว่าขอในสิ่งที่มันให้ขอ!

"คริส"

"กวนตีนกูปะเนี่ย?" รู้แล้วเฟร้ยว่าคือคริสดอลฟี่แต่ช่วยบอกว่าตัวตนจริงๆทีนะว่ายูเป็นใคร แต่มันไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของผมนัก มันกลับยิ้มตาหยีพร้อมด้วยการหดตัวเหลือตัวนิดเดียวประกอบว่าแม่งเป็นคริสจริงๆ 

ไม่ต้องถามว่าผมเป็นยังไง ไม่ต้องถามว่าสีหน้าหรือหน้าตาผมเป็นแบบไหน คิดเอาแล้วกันว่าเวลาโดนผีหลอกจะเป็นยังไง ตาเหลือกตาค้าง หัวใจเต้นระบำจั้มบ๊ะชนิดที่ว่ารัวๆเลยก็ว่าได้ ผมรู้ว่ามันคือตุ๊กตา แต่... ขอเถอะ... อย่าทำแบบนี้กับตรูววววววว...

คร่อก!

"เอ้า!"

ผมได้ยินเสียงนุ่มทุ้มหูที่ร้องอุทานดังก้องอยู่ในโสตประสาทหลังจากที่ผมเกิดสภาวะหนึ่งนั่นคือ... ช็อก ครับ ใช่แล้วครับผมช็อก ช็อกจนสลบเหมือดมันไปทั้งๆอย่างนั้นโดยที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย แต่ถามหน่อยเหอะคนขวัญอ่อนอย่างผมนี่คุยกับสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นได้นานเป็นนาทีนี่ก็บุญหัวผมมากแล้วล่ะครับ แล้วไอ้ภาพแฟนตาซีตรงหน้าที่หดตัวเล็กลงเป็นดอลฟี่หน้าตาแอ๊บแบ๊วเหมือนเดิม คุณคิดว่าผมยังจะมีสติอยู่อีกเรอะ? ไม่เว้ย! ถึงจะให้เห็นกี่รอบผมก็ไม่มีทางชินกับมันหรอก! อย่าเอาความน่ารักของคุณมาหลอกดาว...

"เดี๋ยวตื่นมาคุยกันอีกทีก็ได้"

ดู๊! ขนาดผมแกล้งหลับมันยังรอให้ผมตื่นขึ้นมาคุยกับมันอีกนะ ไอ้ตุ๊กตาผีนี่มัน... มัน... หน้าด้านชิบหาย! แม่จ๋าเต๋าอยากจะCry ผมควรร้องเพลงคุกเข่าอีกไหม? ไม่ดีกว่า...

ผมขอ... ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ความฝัน และขอให้ดอลฟี่ที่น่ารักคือดอลฟี่ที่แอ๊บแบ๊วไม่ใช่เทพบุตรในร่างหมี... สาธุ...

 :katai1:















..........

นายเอกเราค่อนข้างที่จะสติดีเกินไปสักนิดไม่ต้องถือสานะคะ

ขอบคุณสำหรับคอมเม้น เเละกำลังใจจะขยันปั่นไปเรื่อยๆค่ะ  :hao7:

ส่วนเนื้อเรื่องค่อนข้างที่จะหยาคายสักเล็กน้อยในความคิด

เเต่เอาเข้าจริงๆเรื่องจริงกับในนิยายความเถื่อนบวกสติของพวกเอกศิลป์ก็ไม่ได้แตกต่างกันหรอกนะเเจ๊ะ  :katai3:


ไปดีกว่า :katai5:







หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-11-2014 09:59:37
 :katai5:  เต๋าเอ๊ย 555

คริสนี่ยังคลุมเครือนะ เป็นบุคคลปริศนาที่เรารู้แค่ว่าหื่นและหล่อมาก ที่ให้ขอนี่เนื่องจากได้กินไปทีนึงใช่ป่าว
รอต่อจ้า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 28-11-2014 10:03:38
ที่คิดนี่ ถือว่าขอแล้วใช่ป่ะ
อ้าวแล่วๆๆ
แล้วคริสจะทำไงอะ. จะไม่ยอมออกมาอีกแล้วน่ะหรอ
เฮ้ยยย. อย่านะเว้ยยย
 :serius2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 28-11-2014 10:05:52
เหอะๆสรุปใครต๋องกันแน่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: wapview ที่ 28-11-2014 10:08:21
ชอบแนวนี้อ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หิวได้ดีจริงๆเลยพี่คริสขา5555555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-11-2014 11:32:30
เต๋าอย่างฮาอ่ะ

จะหลับจะตื่นก็คงไม่รอดคริสหรอกนะ

สรุปคริสมีมนต์ใช่ไหม  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-11-2014 12:35:42
กลัวแล้วยังจะเล่นอีกน่ะเต๋า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 28-11-2014 14:36:50
ส่ายหน้าให้เต๋าอย่างคนปลงๆ...สรุปพี่ท่านจะกลัวหรือเอาฮา ทั้งความคิด คำขอ พวกเด็กศิสป์มันเป็นเยี่ยงนี้ทุกคนป่ะวะ

ส่วคริสก็ใช่ย่อย กวนตรีนตั้งแต่ปิดทีวีเปิดแอร์ ไม่รู้เพราะชุดมันร้อนหรืออยากแกล้ง  ยิ่งมาตอนฟังคำขอบ็องๆอีก(นี่ท่าท่านไม่เป็นตุ๊กตาใจเย็น สงสัยคงได้มีจูบลงโทษคนบ๊องๆแน่ :hao6:)

รักนะ ดอลฟี่คริสกับเต๋าคนคลั่งตุ๊กตา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: yummiie ที่ 28-11-2014 16:09:45
5555 ขำเต๋าอะ :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 28-11-2014 16:53:49
คริสเป็นยักษ์ในตะเกียงอ่ะป่าว มีให้ขงให้ขออะไรด้วยนะเออ :oni3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 28-11-2014 18:42:22
คริสเอ๊ย ยังจะคุยอีกเหรอ เดี๋ยวเต๋าก็เป็นลมอีกรอบหรอก

ปล.เป็นกำลังใจให้นะคะทั้งเต๋าและก็นักเขียนด้วย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 28-11-2014 20:06:06
คริสอย่าแกล้งเจ้านายใหม่สิลูก :katai3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 28-11-2014 20:28:37
 :hao6:  ไม่ต้องแกล้งหลับหรอกเธอ เดี๋ยวตื่นมาก็เจออยู่ดี
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 28-11-2014 21:00:20
เต๋ารั่ว 5555  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 28-11-2014 21:22:21
ฮาตรงผีขย่มอ่ะ :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 28-11-2014 21:52:24
คริสขี้แกล้งว่ะ5555

รอครับ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 28-11-2014 22:20:18
เป็นเจ้นี่ตื่นมาโยนทิ้งเลยนะนั่น
ต่อให้แพงขนาดไหน น่ารักขนาดไหน แต่ถ้ามาระรานเราก็ไม่เอาไว้!
เราว่าคริสรีบแสดงตัวไป แค่วันแรกก็สร้างเรื่องแปลกๆ ให้แหละ แถมอยู่ด้วยกันยังไม่ค่อยนานก็เผยตัวจริงออกมา เป็นเราทิ้งหรือไม่ก็ขายไปเลย หลอน!
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 28-11-2014 22:50:38
เหมือนวิญญาณยักษ์ในตะเกียงวิเศษ ถูๆแล้วขอพร แต่นี่หมีหล่อ โดนกิน แล้วขอพร กรี๊ดดดดด เมื่อไหร่คริสจะหิวอีกค้าาาา 55555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 5- P2 - 28/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-11-2014 23:19:14
ถูกกินครั้งหนึ่ง ขอพรได้ครั้งหนึ่งเหรอ... :z1:
รีบชินซะเถอะเต๋า อย่าไปกลัว เราอยากรู้เรื่องแล้ว 55
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 29-11-2014 09:28:51
 :katai4:








DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
 6






ผมไม่รู้ว่าผมหลับไปนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าอีกเมื่อไรที่ผมจะหลุดออกมาจากความฝันบ้าๆพวกนี้สักที รู้สึกเหมือนตัวเองหลับไปนานมาก และหนาวจนอยากจะเอาแต่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ แต่ร่างกายของผมที่มันร้องว่ามึงสมควรที่จะตื่นได้แล้วหลังจากที่สลบเหมือดนอนซมไข้กินมาหลายชั่วโมง ในที่สุดเปลือกตาของผมก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
ดวงตาสีครามลอยเด่นอยู่ตรงหน้าจนผมถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ผงะลุกขึ้นนั่งมองดอลฟี่ที่นั่งมองมาทางผมอยู่ข้างๆ ผมอุ้มคริสขึ้นมาสบตาแล้วถอนลมหายใจออกมาดังพรืด นึกว่าจะตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคริสเวอ์ชั่นมนุษย์แล้วซะอีก แต่จะมนุษย์หรือตุ๊กตามันจะแตกต่างกันตรงไหนกันวะในเมื่อตุ๊กตาของผมมันไม่ธรรมดาเหมือนชาวบ้าน แล้วก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนตุ๊กตาผีอย่างที่ไอ้ไก่ว่าด้วย

ห้องทั้งห้องมีแค่ผมคนเดียวที่ยังคงนอนซมอยู่ สรุปวันนี้ไอ้ไก่มันคงไม่มาค้างกับผมแน่ๆ พอเห็นเวลาโพล้เพล้แบบนี้แล้วมันหนาว และวังเวงชอบกล เสียงเครื่องยนต์บนท้องถนนไม่ได้ช่วยให้ห้องทั้งห้องลดความน่ากลัวลงเลย...

อยู่มาตั้งกี่ปีเพิ่งจะมาปอดแหกตอนอยู่คนเดียว...

ผมวางคริสเอาไว้บนที่นอนตามเดิมเพราะพิษไข้ที่กำลังรุมเร้าทำให้ผมเลิกคิดมาก คิดเล็ก คิดน้อย หรือคิดอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมปวดหัว คือตอนนี้ทั้งมึน และอึนมาก ใครจะทำอะไรก็ช่างแต่ขอให้วันนี้ผมรอดพ้นไปจากพิษไข้นี่เถอะ

พาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงลุกขึ้น ขาผมนี่สั่นพับๆโลกทั้งโลกนี่หมุนติ้ววิ๊งๆ อาจเป็นเพราะผมกินข้าว และยาไปมื้อเดียวนั่นล่ะ เดินไปที่มือถือของตัวเองที่วางอยู่หน้าจอมคอมเผื่อจะมีเครือญาติโทรหา ปรากฏเห็นเบอร์ไอ้ไก่ที่โทรมาสิบกว่าสายแต่ผมไม่ได้ยิน พร้อมกับไลน์ของไอ้เพื่อนอีกนั่นล่ะที่ไลน์มาหาผมเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนบอกให้ผมโทรหา ผมเลยหย่อนก้นนั่งที่ปลายเตียงแล้วโทรหามัน

[[เป็นไงบ้างวะโทรไปตั้งหลายรอบไม่ยอมรับสายกูเลย]]

"โทษทีว่ะกูนอนเพลิน" ผมตอบมันเสียงงัวเงีย

[[แล้ว... ค่อยยังชั่วยัง]]

"ไม่ค่อยดีว่ะ ยังปวดหัวแต่เดี๋ยวจะหาอะไรกินแล้วกินยานอนว่ะ แล้วมึงจะเข้ามาปะ"

[[เอ่อ... คงไม่ได้เข้าแล้วว่ะกูมีงานกลุ่มต้องทำ พรีเซ้นพรุ่งนี้ด้วย ตัวที่ไม่ได้ลงเรียนกับมึงนั่นล่ะ]]

ผมพยักหน้า "อืมๆไม่เป็นไรกูดูแลตัวเองได้" ไม่อยากให้มันต้องเสียเรื่องเรียนตามผมมาด้วยยังไงงานก็ต้องมาก่อนเสมอ ยังไงผมกับมันก็ไม่สามารถที่จะแบ่งเกรดกันได้อยู่แล้ว ผมเลยไม่อยากอ้อนมันมาก

[[เออ ให้กูส่งใครไปดูมึงใหม?]]

"เฮ้ยไม่ต้อง! กูดูแลตัวเองได้ไม่ใช่เด็กๆ"

[[ไม่ใช่ห่าไรเล่นตุ๊กตา]]

"อันนั้นมันความชอบส่วนตัวกูเข้าใจปะ แคกๆ ฮึ่ม ไม่เป็นไรไม่ต้องให้ใครมา" พยายามบอกปัดมันหน้าแดง แล้วยกมือกุมหน้าผากที่ร้อน

[[เออๆ เดี๋ยวกูถามพวกไอ้แบคให้ว่ามีใครว่างไหม]] ไอ้นี่มันไม่ฟังผมเลยใช่ไหมเนี๊ยะ! ได้ยินเสียงมันแว่วๆเหมือนตะโกนถามไอ้แบคจริงๆสงสัยมันยังคงอยู่ที่ซุ้ม [ไอ้เต๋ามันป่วยการเมืองมีใครอยากไปดูใจมันปะวะ]

[ป่วยจริงดิ่ เออๆเดี๋ยวกูไป]

[ไปเหี้ยไรมึงแล้วงานจ็อบมึงล่ะเขาจะเอาพรุ่งนี้] เสียงไอ้ดีโด้ลอดผ่านเข้ามาเหมือนด่าไอ้แบค

[อ้าวทำไมที่รักพูดไม่เพราะเลยล่ะจร๊ะ กลัวไม่มีเงินทำทุนวงไพ่หรือไง]

[เหี้ยแบคแดกตีนกูไหม!]

ย่นคิ้วให้กับความวุ่นวายที่ลอดเข้ามาในสาย  เฮ้ย! พวกมันทำไรกันวะดูครึกครื้นเชียว ทีเวลาตูไม่อยู่ทำไมมันดูลั้นลากันจังวะ รู้สึกอยากหายไข้ขึ้นมาในทันทีเบื่อจริงๆเวลาที่เป็นไข้เนี่ย

[[ไอ้แบคมันมาไม่ได้แล้วว่ะ]] ไอ้ไก่มันกลับมาพูดอีกครั้ง

"เออไม่เป็นไร"

[เดี๋ยวเป็ดไปดูให้ พรุ่งนี้เป็ดไม่มีเรียน]

[[เฮ้ย! ได้น้องเป็ดแล้วว่ะเดี๋ยวส่งน้องไปดูใจมึงแล้วกัน]]

"ดูใจพ่องมึงสิกูยังไม่ตาย"

[[อ้าวหรอ ฮะๆๆๆ]] มันยังมีหน้ามาหัวเราะกวนตีนอีก ให้กูหายไข้ก่อนเถอะมึงโดนกูเจี๋ยนแน่ไอ้ไก่

"กวนตีนนะมึงเนี่ย เออๆให้น้องส้มมา" อันที่จริงผมก็กลัวการอยู่คนเดียวเหมือนกันครับในเวลานี้ เพราะรู้สึกว่าการที่ผมอยู่คนเดียวมันไม่ปลอดภัยสำหรับผมเลยสักกะติ๊ด! เพราะอะไรนะหรอ...

ผมค่อยๆหันไปทางคริสที่นอนอยู่รู้สึกหวิวๆวังเวงชอบกล ยิ่งคิดตอนที่ดอลฟี่มันขยายใหญ่หรือหดตัวแล้วมันขนลุก

"..."  แต่เมื่อเห็นตุ๊กตามันทำให้ผมนึกถึงลูกๆที่นั่งอยู่ในห้อง ชิบหายแล่ววววว!!!

"เฮ้ยไอ้ไก่บอกน้องไม่ต้องมาแล้ว!"

[[อ้าวทำไมวะ]]

"เดี๋ยวน้องเขารู้ความลับกู"

ไอ้ไก่มันเงียบเหมือนอึ้งๆในคำตอบ แล้วมันก็พ่นลมขำพรืดใส่หูพูดกลั้วหัวเราะ [[มึงกลัวว่าน้องเขาจะไปเจอคริสเวอร์ชั่นแอลนาเบลหรอวะ?]]

"มึงจะพูดทำเหี้ยไรตอนนี้เนี่ยกูอยู่คนเดียวยิ่งกลัวๆอยู่" ผมยู่ปากใส่มันไม่พอใจ บรรยากาศโพล้เพล้แบบนี้ยังจะชวนพูดเรื่องน่าขนลุก

[[เอ้า! ไหนมึงรักคริสหนักหนาไงวะ กูก็แค่ล้อเล่นจะเอามาใส่ใจทำไม]]

กูไม่ใส่ใจแน่ถ้าอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตุ๊กตาผีสิงเทือกนั้นถ้ากูไม่ได้พบมันกับตัว ผมเหล่ไปทางคริสแบบหวาดระแวงเพราะกลัวว่าเขาจะได้ยินในสิ่งที่ผมกำลังจะพูด ป้องปากพยายามทำเสียงให้เบาที่สุด

"มันก็จริงที่กูชอบ... เอ่อคริสดอลฟี่ แต่... คริสเขาไม่ได้เป็นอย่างที่มึงคิด"

[[อะไรของมึงวะ]] มันถามผมเหมือนตลก น้ำเสียงนี่มันพยายามกลั้นขำสุดๆ

"มึง... กูเห็นคริสกลายเป็นคน"

[[ไอ้บ้า! เมาไข้แล้วมโนไปเองปะ?]]

"กูว่ากูสติดีทุกอย่างแล้วก็ไม่ได้เมาไข้หรือมโนไปเอง"

[[ฮ่าๆๆๆ มึงคิดมากเรื่องที่กูพูดเมื่อวันก่อนหรือไงวะ อย่าไร้สาระน่าถ้าเกิดคริสเป็นผีจริงๆเมื่อคืนกูก็โดนหลอกแล้วดิ]]

"ก็กูโดนไง!" ผมเผลอหวาดเสียงแหบ ก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วป้องปากคุยกับไอ้ไก่เพื่ออธิบายให้มันฟัง "อย่าว่าแต่เมื่อคืนเลย ตอนที่มึงออกไปจากห้องแล้วกูก็โดน"

[[แล้วมึงโดนทำอะไรบ้างล่ะ]]

"..." จะตอบมันยังไงดีวะ

ทั้งผมทั้งไอ้ไก่เงียบเสียงเพื่อรอคำตอบจากผม ซึ่งผมยังพอได้ยินเสียงแว่วๆของบรรดาเพื่อนๆที่ซุ้มดูเหมือนกำลังวุ่นวายอาจจะเป็นเพราะวงไพ่อย่างปกติ แต่ผมกลับรู้สึกกดดันเวลาที่จะตอบคำถาม แต่ไอ้ที่กดดันนี่ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะเล่านะ แต่ไอ้ตุ๊กตาผีที่นอนแอ้งแม้งนั่นมากกว่า...

มัน... ทำให้ผมเกรงใจจนไม่กล้าเล่าให้ไอ้ไก่ฟัง...

"ช่างเถอะกู... คงจะเมาไข้จริงๆ"

[[เอ้าไอ้นี่ กวนตีนกูนะเนี่ยเอาให้เครียดตามไปด้วย]]

"เออๆช่างเถอะ บอกน้องส้มมาไวๆก็แล้วกัน"

[[เออ! ทีอย่างนี้ล่ะมาเร่ง เดี๋ยวกูให้น้องเขาโทรหามึงตอนใกล้จะถึงห้องก็แล้วกัน]]

"อืม..." ผมครางในลำคอเบาๆก่อนจะวางสายจากไอ้ไก่ แล้วกลับมานั่งอึนอยู่กับที่ ยังไงก็ดีกว่าอยู่คนเดียวละวะอย่างน้อยก็ได้น้องส้มหรือน้องเป็ดนั่นล่ะมานอนเป็นเพื่อน บางที... คริส... ในเวอร์ชันแปลงร่างก็คงไม่กล้าโผล่ออกมาตอนที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ความรู้สึกผมมันบอกอย่างนั้น

หืม?

ค่อยๆหันกลับไปมองดอลฟี่ที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงก่อนจะหันกลับไปยังจอคอมอย่างช้าๆ ภาพเงาสะท้อนที่ผมสะดุดเข้าตามันทำให้ผมขนลุกไม่น้อย หันกลับไปยังเตียงนอนอีกครั้งก็ยังเป็นดอลฟี่ตัวเล็กๆที่เหมาะมือสำหรับผม แต่เมื่อหันกลับไปยังจอที่สะท้อนเงานั่นไหงกลับกลายเป็นคนที่กำลังนอนหลับสงบนิ่งอยู่ฟระ!

ผมรีบลุกขึ้นแล้วเอี้ยวตัวไปยังที่นอนจนตัวเซ สิ่งที่ผมเห็นมันกำลังทำให้ผมเป็นบ้ามิหนำซ้ำยังขนลุกเกรียวตั้งชันจับไข้หัวโกร๋นมันซ้ำเข้าไปอีก

ตึกตัก ตึกตัก!

"ขนาดคนป่วยนี่ยังไม่เว้นอีกหรอวะ!?"  ในนาทีนั้นผมไม่ได้กลัวเลยครับ แต่ผมกำลังหงุดหงิด และโกรธมากกว่า นี่ตกลงมันจะเอายังไงกับผมกันแน่วะ!

ไม่มีเสียงหืออือใดๆตอบกลับมาจากคริสที่ท่านเรียก... มันยังคงนอนเงียบไม่ขยับเขยื้อนจนน่าโมโห ผมเดินฉับๆเข้าไปมองแล้วเท้าสะเอวด้วยท่าทางที่ขึงขัง เวลาที่เลือดขึ้นหน้านี่มันก็ไม่ได้มีความกลัวแล้วล่ะครับ ตอนนี้มีแต่โกรธกับโกรธมากที่สุดเลยก็ว่าได้

อุ้มคริสขึ้นมาหมับ! แล้วประชันสายตาจ้องมอง ดวงตาสีครามที่ดูเหมือนตุ๊กตาทั่วไปทำให้ผมย่นคิ้วเข้าหากันแน่น

"นี่คิดจะเล่นตลกอะไร? ไม่ตลกเลยนะทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่ ถ้าไม่ทำให้กลัวจะรู้สึกดีมากทั้งๆที่ชอบมากขนาดนี้ รู้ไหม! ถ้ายังทำให้กลัวจะเอาไปคืนร้านจริงๆด้วย!" ตวาดห้วนแม้เสียงจะแหบแห้ง และรู้สึกปวดหัวตุบๆ ผมย่นคิ้วมองดอลฟี่ที่ยังคงจ้องผมตาแป๋วไม่ได้มีสีหน้าหรือหืออือโต้ตอบผมแต่อย่างใด เหมือนเขากำลังแกล้งผมให้กลายเป็นคนบ้าคนหนึ่งที่ทำตัวประหลาดใส่ดอลฟี่ แถมยังคุยกับเขาได้เป็นตุเป็นตะถึงแม้ผมจะทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำกับพวกลูลู่ แต่เด็กๆของผมเป็นเด็กดีกันทุกตัวยกเว้นแต่กับคริสนั่นล่ะที่ชอบแกล้งผม!

"ตอบสิทำไมไม่ตอบล่ะ นี่ถามแล้วนะ เวลาที่อยากให้ตอบกลับเล่นตัวคิดว่าหล่อมากหรือไง? ถึงหล่อก็ไม่สนใจหรอกนะถ้ายังตัวเกเรแกล้งกันแบบนี้ ตอบสิว่าทำไมถึงแกล้งไม่อย่างนั้นจะเอาไปทิ้งจริงๆ!"

เปรี้ยง!!!

เฮือกกกกก!!!

ผมสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อเสียงที่ดังลั่นไปทั้งห้องเหมือนฟ้าฝ่าในระยะเผาขน ทำให้ดอลฟี่ที่อยู่ในมือหล่นตุบไปบนที่นอนตามเดิม ก่อนที่ผมจะรู้สึกหัวหมุนติ้วด้วยอาการมึนงงแล้วนั่งกุมขมับด้วยความปวดหนึบ ดวงตาของผมเหลือบขึ้นมองตักแกร่งที่อยู่ตรงหน้า พลันร่างกายกลับรู้สึกชาหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ใบหน้าของผมนี่ชาวาบขึ้นมาในทันที เผือดสีซีดค่อยๆเงยหน้ามองใบหน้าคมหล่อที่นั่งชักสีหน้าบึ้งตึง ดวงตาแข็งวาวโรจน์เหมือนโกรธเคืองในสิ่งที่ผมพูดออกไป...

ฮึก!

พอเอาเข้าจริงๆอาการปอดแหกของผมมันก็เข้าเล่นงานเหมือนเดิมนั่นล่ะว่ะ!

"ถ้าคิดจะทิ้งก็ลองดูสิ"

นั่น... ผมจะถือว่านี่เป็นคำขู่ระหว่างผมกับไอ้ตุ๊กตาผีที่อยู่ตรงหน้า...

ผมนี่ตัวแข็งทื่อขึ้นมาเสียดื้อๆตาค้างปากค้างตัวเกร็งจนไม่กล้าที่จะขยับไปไหนเมื่อมือหนาๆค่อยๆเอื้อมสัมผัสมาที่พวงแก้มของผม นาทีนั้นเหมือนร่างกายที่ร้อนรุมค่อยๆถูกถ่ายเทออกไปด้วยสัมผัสของฝ่ามือที่เย็นชืด ก่อนที่มันจะร้อนจัดราวกับไฟ

"ฮือ..." ผมครางในลำคอเบาๆ และนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ กลิ่นหอมประหลาดที่อยู่ๆก็โชยมาเตะจมูก มันมีความหอมเหมือนกลิ่นกุหลาบระคนกลิ่นกำยาน และฉุนในเวลาเดียวกันก่อนที่ผมจะค่อยๆปรือดวงตาขึ้นมองอย่างช้าๆ สบตาคมที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ มันรู้สึกเหมือนกระหายเหมือนเมื่อครั้งที่ผมได้เจอกับเขาในรูปกายนี้ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งร่างกายปล่อยให้เขาใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยไปตามแก้มของผมอย่างช้าๆ

"นะ... นายเป็นอะไรกันแน่"  ถามเสียงสั่นแม้ในใจจะหวาดกลัวต่อรอยยิ้มที่เย็นชา

คริสไม่ตอบกลับในทันที แต่เขากลับเลือกที่จะโน้มตัวลงมาแล้วประทับริมฝีปากของผมผะแผ่วแล้วผละออกไป ความนุ่มนิ่มที่ผมสัมผัสได้ทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า ร่างกายของผมเมื่อก่อนหน้าผมรู้ตัวดีว่าอาการไข้หวัดมันย่ำแย่มากแค่ไหน แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกโล่งสบายไปทั้งตัว ไม่ได้มีความรู้สึกปวดร้าวหรือครั่นเนื้อครั่นตัวอะไร แต่มันกลับแทนที่ด้วยความอ่อนละทวยเพราะรสจูบของมันเสียมากกว่า...

ยอมรับเลยว่าตอนนี้ใจเต้นแรง...

"ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นมนุษย์เหมือนกับเธอ" เสียงทุ้มนุ่มหูที่กระซิบบอกผมทำให้ผมใจสั่นไม่น้อยจนรูขุมขนตั้งชันไปทั้งร่าง หลับตาแน่นเมื่อใบหน้าคมหล่อเหลาแฟนตาซีนั่นค่อยๆโน้มเข้ามาหาผมอีกครั้งอย่างอ้อยอิ่ง ริมฝีปาก และจมูกที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มทำให้ผมกลัว และจินตนาการว่าไอ้บ้านี่มันอาจจะเป็นผีดูดเลือดแล้วหมายจะกัดคอผมให้จมเขี้ยวแต่นั่นมันก็แค่สิ่งที่หวาดกลัวเมื่อคริสกระซิบกระซาบ

"แต่เพราะโดนคำสาป...  เลยต้องกลายเป็นตุ๊กตานำโชคเพื่อให้เจ้านายสมหวัง..."

โชคเลือดกับเอ็งน่ะสิวะ! ตั้งกะเอามานี่ผมยังไม่เคยเห็นคำว่าโชคดีอะไรสักนิดนอกจากเสียกับเสีย! อย่าพูดต่อนะเว้ยพ่อยังเคืองเรื่องเมื่อคืนไม่หาย... ฮรึก! ประตูหลังของไอ้เต๋า...

"อยากได้อะไร... เราจะทำให้เต๋า... สมหวัง..." คำว่าเต๋าที่ไอ้นี่มันเรียกชวนให้ผมสยิวกิ้วพิลึก แต่ตอนนี้ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนอะไร มันกลัว ตกใจ และเกร็งกลายเป็นคนที่ถูกครอบงำเสียเอง เสมือนว่าผมถูกชักนำมากกว่าที่จะเป็นเจ้านายมันอีกนะ ผมขอใช้สิทธิ์นั้น (เจ้านาย) เดี๋ยวนี้!

"ปะ ปล่อย"  พยายามที่จะดันตัวของคริสออกไปเมื่อแผ่นอกแกร่งมันใกล้ชิดกับผมเสียเหลือเกิน ผมสาบานได้ว่าผมไม่เคยคิดที่จะพิศวาสผู้ชายด้วยกันเลยนะ ไม่เคยแม้แต่จะแลเลยด้วยซ้ำในเรื่องทำนองนี้ ตะ.. แต่... ไอ้บ้านี้มันกำลังทำให้ผมใจสั่น ร่างกายสั่นเทาเหมือนลูกแมวตกน้ำ ย๊ากกกกก! พอเถอะออกไปจากกรูวววววว!

"ขอมาก่อนสิแล้วจะปล่อย"

เอ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิวะ! มีการสั่งให้ขอด้วยผมว่าผมได้กลิ่นตุ่ยๆไม่ชอบมาพากล ดูเหมือนมันพยายามอยากจะให้ผมขอพรกับมันมาก นี่มันพยายามเล่นบทเป็นนี่ยักษ์จินนี่ในตะเกียงแก้วหรือไงฟระ! คนอย่างไอ้เต๋านี่ไม่ได้โง่ที่จะโดนหลอกง่ายๆนะเฟร้ย! ถ้ายิ่งรบเร้าให้ขอแบบนี้ผมว่ามันมีอะไรมากกว่าขอพรเฉยๆแน่นอน!

"ไม่" ผมส่ายหน้ารัวๆแล้วดันมันออกไป อันที่จริงต้องเรียกว่ายันมากกว่า เพราะทั้งมือทั้งเท้าที่ใช้แรงเฮือกที่มีพยายามไม่ให้มันโน้มตัวเข้ามาใกล้ยังไม่สามารถที่จะทานแรงมหาศาลนี่ได้เลย แล้วไอ้รอยยิ้มกวนตีนนี่มันทำให้ผมแทบจะบ้า! มีอย่างที่ไหนตุ๊กตากลายเป็นคนที่คิดจะปล้ำคนด้วยกัน เดี๋ยว.. เดี๋ยวนะ แล้วทำไมผมต้องมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ด้วยวะก่อนอื่นต้องเอาชีวิตรอดก่อนดิ่เฮ้ย!

"ถ้าไม่ขอก็ต้องฆ่า" ในนาทีนั้นผมชะงักกึก! เบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อไอ้ที่มันพูดออกมานี่เต็มสองรูหู

ขะ... ฆ่า หรอ? สีหน้าที่ดูเย็นชารอยยิ้มที่ดูเยือกเย็น น้ำเสียงที่ไม่ได้ล้อเล่นนี่ทำให้ผมตัวชาหนึบแทบไม่กล้าจะหืออือเลยให้ตาย!

"หากให้กลับไปเป็นตุ๊กตาเจ้านายก็ต้องสละชีวิตให้ อยากเอาแบบนั้นไหมล่ะ" ส่ายหัวรัวๆ ผมนี่ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไรแล้ว!  สิ่งที่พูดออกมาจริงป่าววะ แต่สีหน้าที่จริงจังนี่บ่งบอกได้เลยว่ามันไม่มีทางโกหกแน่ๆ รู้สึกมึนงง สับสน หวาดกลัว และเหมือนโดนดึงวิญญาณออกจกร่างอย่างไงอย่างงั้น

"ถ้าเช่นนั้นก็ขอ" น้ำเสียงแผ่วเบาแต่หนาวไปถึงขั้วหัวใจพูดพลางแสยะยิ้มจนตาหยี ไม่มีคำว่าน่ารักหลงเหลืออยู่ในหัวผมแล้วในตอนนี้ เข็ด... เข็ดมาก เข็ดไปจนวันตาย ไหงดอลฟี่มันถึงได้โหดร้ายกับเจ้านายของมันนัก!

"กะ ก็ได้" ลิ้นที่แข็งพยายามที่จะเปล่งเสียงออกมา ผมเบือนหน้าหลับตาแน่นในหัวกำลังเพิ่มเส้นหยักในสมองให้นึกถึงอะไรก็แล้วแต่ที่มันสามารถที่จะทำให้ผมรอดพ้นไปจากเจ้าสิ่งชั่วร้ายสิ่งนี้ ยิ่งร่างสูงที่กำลังคร่อมร่างของผมจ้องนิ่งค้าง ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ในขณะที่ผมกำลังอ้าปากพะงาบๆ เมื่อเสียงที่จะเปล่งออกมานี่มันช่างเบาหวิวแทบกลืนหายเข้าไปในลำคอ

"ขะ.. ขอ..."

"หืม?"

"ขอให้..." ผมกลืนน้ำลายอึกก่อนจะใช้เสียงเฮือกที่มี  ""คริส กะ กลับไปเป็นตุ๊กตาเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้!"

ก็อก ก็อก ก็อก!

เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงที่ดังลั่นที่ตะโกนสุดเสียงด้วยความหวาดกลัวจนถึงขีดสุด และเปล่งเสียงตวาดลั่นเอาชนะความกลัวเหล่านั้นออกไป ดวงตาที่หลับแน่นแขนที่ปกป้องตัวเอาไว้กอดร่างกายด้วยความหวาดหวั่น หัวใจเต้นระทึกต่อสิ่งที่สัมผัส ก่อนที่ทุกๆอย่างจะกลับมาเป็นปกติไม่มีเสียงหรือสัมผัสใดๆเกิดขึ้นเลย...

ก็อก ก็อก ก็อก!

ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆเมื่อเสียงเคาะประตูห้องเตือนสติของผมให้กลับมา และพบว่าคริสไม่ได้อยู่ตรงหน้าผมแล้ว รีบยันตัวลุกขึ้นพรึบ! มองไปทางดอลฟี่ที่นั่งพิงหมอนผมรีบถอยกรูออกห่างมาหลายก้าวนักก่อนที่จะสะดุ้งตกใจเพราะเสียงมือถือ

"ฮัลละ..."

"พี่เต๋าเปิดประตูให้เป็ดหน่อยเป็ดอยู่หน้าห้องพี่แล้วเนี่ย"

ชิบหาย!

ลืมความกลัวไปก่อนเมื่อเรื่องนี้มันสำคัญเสียยิ่งกว่าการโดนผีตุ๊กตาหลอก จะเป็นอะไรก็ช่างหัวมัน ผมรีบวิ่งไปที่ลูลู่ และมินนี่ อุ้มพวกเขาขึ้นมา แล้วคว้าเอาเซย์มาไว้ในอ้อมกอด มองซ้ายมองขวาหาที่ซุกซ่อนจึงตัดสินใจพาพวกเขาไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง
แต่พอหันไปที่เตียงไอ้ตัวปัญหานั่นมากกว่าที่ผมจะต้องกลัว เดินฉับๆไปอย่างเร่งรีบแล้วคว้าเอาคริสอุ้มขึ้นมาหมับ! แล้วรีบจับยัดไปกับดอลฟี่ตัวอื่นๆ เมื่อทุกอย่างคิดว่าโอเคดีแล้วไม่มีอะไรที่น่าสงสัย เพราะกลัวว่าน้องมันจะรู้ในสิ่งที่น่าอาย ผมรีบหมุนตัว และเดินฉับๆไปทางประตูเพื่อเปิดให้ไอ้น้องส้มเข้ามา

"หวัดดีพี่" มันยกมือไหว้ผมโดยมีข้าวของพะลุงพะลังเต็มมือ ผมพยักหน้าให้มันไปทีแล้วหลบให้มันเข้ามาข้างใน พยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด....

"เห็นพี่ไก่บอกว่าพี่ป่วยแล้วยังไม่ได้กินอะไรเป็ดเลยซื้อบะหมี่เกี๊ยวหน้าปากซอยมาฝาก" มันว่าแล้วยกถุงบะหมี่ให้ดู ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วยืนลูบหน้าพยายามกล้ำกลืนความตื่นเต้นให้กลืนหาย แต่ดูเหมือนผมจะเก็บอาการนั้นไม่ดีเท่าไรเจ้าเป็ดมันเลยทัก
"พี่เต๋าไม่สบายมากจริงๆนะเนี่ยหน้าซีดเลย มานั่งสิพี่เดี๋ยวก็น็อกไปหรอก" ผมพยักหน้าให้มันอีกครั้งแล้วเดินไปทางโซฟาโดยพี่มันกำลังเอาโต๊ะญี่ปุ่นมากางเตรียมหาข้าวให้ผมกิน  ทิ้งตัวไปบนโซฟาด้วยสภาพที่หมดแรง เหงื่อโทรมกายจนรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว หลับตาเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง

แหมะ...

หืม?

"ทำอะไรน่ะส้ม" ผมถามรุ่นน้องที่มันเอามืออังที่หน้าผากของมันกับของผม

"วัดไข้ไงพี่" มันตอบยิ้มๆ

"นี่ดูอนิเมะมากไปป่าวเนี่ยทำซะโมเอะเลย"

"โถ่ พี่เต๋าอย่าพูดงั้นดิ่เป็ดเป็นผู้ชายนะ แล้วอย่าเรียกส้มได้ไหมมันเหมือนผู้หญิง"

"เอ้า! ไอ้นี่ชื่อส้มออกจะเพราะจนน่ากิน แต่พูดถึงแล้วพี่ก็อยากว่ะ"

ผมค่อนข้างที่จะอารมณ์คงที่ขึ้นมาบ้าง และคุยกับน้องเป็ดหรือเจ้าส้มที่ยิ้มแหยๆให้ผม มันเอื้อมหยิบถุงอีกถุงขึ้นมาแล้ววางแหมะเอาไว้ที่ตักของมัน "เป็ดรู้ว่าพี่ต้องอยากกินก็เลยซื้อมาครึ่งโล เดี๋ยวกินข้าวกินยาเสร็จก่อนแล้วกัน เดี๋ยวส้มแกะให้กิน"

แหม๊! เจ้าส้มนี่มันเด็กดีเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ผมมองรุ่นน้องที่ผมสัมผัสได้ถึงออร่าความพรุ้งพริ้งที่เปล่งออกมา แถมเจ้าตัวยังน่ารักในความคิดของผม อันที่จริงเจ้าส้มไม่ได้หล่ออะไรมากมายถ้ามองผ่านๆ แต่ถ้าเกิดลองสังเกตดีๆไอ้เด็กนี่มันหน้าหวานมากอาจจะเป็นเพราะตาเล็กๆของมัน ขนตางอนๆจนดูสวย จมูกโด่ง ริมฝีปากบางๆแต่มุมปากยกยิ้มอยู่ตลอดเวลาแม้ในเวลาที่มันโกรธหรืองอนพวกผมตอนที่โดนแกล้งบ่อยๆก็ตาม

"อืมมมมม เราก็กินกับพี่ด้วยเลยสิ"

"โหยไม่ชวนก็กินอยู่แล้ว"

ยิ้มบางๆให้เจ้าส้มที่มาคั่นเวลาได้อย่างเหมาะเจาะ ก่อนจะเอื้อมหยิบกระเป๋าเงินผมควักแบงก์ร้อยให้มันคืน เจ้าส้มมันมองหน้าผมตาปริบๆ ผมเลยเลิกคิ้วว่ามันข้องใจอะไร

"พี่... ค่าบะหมี่แปดสิบ ส้มครึ่งโลสามสิบห้าบาท"

"โหไอ้งก!" ด่ามันแบบยิ้มๆพร้อมส่ายหน้าให้กับความงกของมันแล้วควักแบงก์ร้อยให้มันอีกใบ แน่นอนว่าผมไม่ได้เงินทอนหรอก มองเจ้าส้มที่ยิ้มทะเล้นแล้วหันไปแกะบะหมี่ใส่ชามให้ผมต่อ ส่วนผมน่ะหรอ? กลับไปพิงโซฟาตามเดิมแล้วถอนลมหายใจออกมาดังเฮือก! ตามองไปทางตู้เสื้อผ้าแล้วเบะปากเมื่อคิดว่าคริสคงไม่พอใจผมแน่ๆ เพราะข้างในมันค่อนข้างที่จะอึดอัด แต่ผมก็ห่วงลูกๆอีกสามตัวเช่นกัน แต่ให้ทำไงได้พวกเขาต้องอยู่ในนั้นก่อน

"พี่ช่องซีรี่ย์เกาช่องไหนอ่ะ" ไอ้เจ้าส้มมันหันมาถามผมเลยคว้ารีโมทขึ้นมากดให้มันก่อนจะเลื้อยตัวเองลงไปข้างล่างเพื่อจัดการกับของกินซะ

กองทัพมันก็ต้องเดินด้วยท้องสิ จะเจออะไรก็แล้วแต่เรื่องกินเรื่องใหญ่เรื่องผีๆนี่กลายเป็นเองขี้ปะติ๋วไปในพริบตา จัดการโซ้ยบะหมี่กับเจ้าส้มในเวลาที่รวดเร็วเมื่อผมไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่บ่าย ส่วนเรื่องไข้หวัดนี่มันเป็นเรื่องนี่อัศจรรย์ใจที่ว่าตอนนี้ไข้ผมลดลงเยอะมาก

"อะ นี่ยา" ผมรับยามาจากเจ้าส้มแล้วโยนใส่ปากอย่างว่าง่าย ตามองไปที่โทรทัศน์ถึงแม้ว่าซีรี่ย์ที่ไอ้ส้มมันดูออกจะน้ำเน่าไปหน่อย ในใจก็แอบนินทาผู้ชายห่าอะไรดูซีรี่ย์รักมุ้งมิ้ง ผมคนนึงล่ะที่ไม่ชอบดูอะไรพวกนี้แน่นอน ครั้นจะเปลี่ยนช่องก็สงสารน้องมันเห็นมันบอกว่าดูทุกวัน แถมนำเสนอว่าสนุกมาก...

มัน... สนุกมากเลยไอ้น้อง สนุกจนพี่นี่อยากจะหลับ...

"นอนบนเตียงกับพี่ก็แล้วกันนะ เดี๋ยวผ้าขนหนูพี่หยิบให้เตรียมมาหรือเปล่า"

"หึ เป็ดไม่ได้เตรียมมากะจะยื้มพี่นั่นล่ะ" ผมพยักหน้าให้มันแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่พอเปิดผาง! ออกมานี่ทำเอาผมใจหาย เกิดอาการสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นดอลฟี่ของตัวเองนั่งอยู่... 

แหะๆ บางทีผมก็ลืมพวกเขาจริงๆนะ...

เอื้อมมือหยิบผ้าขนหนูที่ไม่ค่อยได้ใช้ออกมา แต่ไม่วายขอกวนตรีนสักนิดนึง ผมเบะปากใส่คริสที่นั่งนิ่งค้างไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไรดวงตาของเขายังคงจ้องไปทางข้างหน้าตลอดไม่ได้สบตาผม ตอนนี้มีพวกแล้วเว้ย! ไม่กลัวหรอก เดี๋ยวเช้าเมื่อไรเตรียมย้ายบ้านได้เลยคริสเดี๋ยวพ่อจะพาไปเข้าวัดแล้วขับไล่วิญญาณร้ายออกไปซะ  เหยียดยิ้มที่มุมปากแล้วแลบลิ้นใส่ให้มันด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะปิดตู้เสื้อผ้าเอาไว้ตามเดิม ดังปัง!

"พี่เต๋าจะอาบน้ำหรอ เช็ดตัวดีกว่ามั้ง"

"ไม่เอาอ่ะพี่เหนียวตัว ไข้ก็ลดมากแล้วไม่เป็นไรหรอก"

"อ่า...  งั้นก็ได้ แต่อย่าอาบนานนะพี่เดี๋ยวไข้กลับ" ผมพยักหน้าตอบมันอีกครั้งก่อนจะพาดผ้าขนหนูเข้าไป ไอ้ส้มนี่มันก็เป็นน้องที่ดีจริงๆตั้งแต่รู้จักกันมามีแต่มันนั่นล่ะที่ดูเรียบร้อยที่สุด แถมสั่งให้ทำอะไรก็ทำ มองโลกในแง่ดีจนผมคิดว่าไอ้เด็กนี่น่าจะเอาตัวรอดยาก แต่ก็นะ โดยส่วนตัวก็อยากได้มันมาเป็นน้องชายจริงๆเหมือนกัน ดูมันรักรุ่นพี่มันดีจริงๆ แต่อย่างว่าล่ะคนดีมักจะเป็นเหยื่อของคนเลว โดยเฉพาะไอ้พวกรุ่นพี่ที่ชอบใช้แรงงานน้องๆอย่างพวกผมนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ

รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิสนึงหลังจากที่ได้สายน้ำช่วยชโลมความหงุดหงิดที่อยู่ภายในให้หายออกไป รู้สึกโล่งจนร่างกายเบาขึ้นเยอะมาก สิ่งที่ทำให้ผมหายป่วยได้เร็วขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะคริสหรือเปล่าวะ? แต่ช่างเถอะจะถูกทำอะไรก็ช่างแต่ผมต้องหาทางทำอะไรบางอย่างกับไอ้ตุ๊กตาผีที่คิดจะฆ่าผมให้ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาไปที่วัดให้หลวงพ่อพ่นน้ำมนต์ให้หน่อย เผื่อวิญญาณชั่วร้ายจะได้หลุดออกไปเสียที ดอลฟี่ผมราคาตั้งสามแสนนะครับ! ไม่ใช่สามบาท ถึงแม้ว่าจะครอบครองมาอย่างฟรีๆก็ตามที จะทิ้งมันก็ทิ้งไม่ลงอยู่ดีนั่นล่ะให้ตาย! ผมทั้งสงสาร แล้วก็... ทำไมผมถึงมาถูกชะตากับไอ้บ้านั่นด้วยวะ! (ข้ออ้างของคนงก)

ถอนลมหายใจเฮือกเพื่อสงบจิตใจที่กำลังสับสน และหวังว่าคริสจะไม่ออกมาหลอกหลอนผมอีก หยิบชุดนอนขึ้นมาใส่ก่อนจะเปิดประตูออกไปเพื่อเรียกให้น้องมันเข้ามาอาบบ้างจะได้นอนหลับพักผ่อนกันเสียที ถึงจะนอนมาทั้งวันแต่ก็ยังรู้สึกเพลียอยู่ดีนั่นล่ะวะ!

แต่เมื่อเปิดประตูออกไปกลับทำให้ผมรู้สึกช็อกจนตาค้างอีกครั้ง...
 o22

"อ้าว พี่เต๋าอาบน้ำเสร็จแล้วหรอ เป็ดเห็นดอลฟี่พี่หล่นออกมาจากตู้ก็เลยหยิบขึ้นมาดู แต่ทนความน่ารักไม่ไหวก็เลยรื้อห้องพี่เอาดอลฟี่มาเปลี่ยนโฉมซะเลย แหะๆ"

ผมมองไอ้ส้มที่กำลังหวีผมให้กับคริส ซึ่งตอนนี้ผมของเขากลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเป็นเซทฤดูหนาวที่ผมคิดว่าจะเปลี่ยนแต่เพราะกลัวว่าดอลฟี่ผมจะร้อนนั่นล่ะ ซ้ำไม่พอมันยังอุตส่าห์จับคริสหันหน้ามาทางผมเพื่อให้ดูประกอบว่าตุ๊กตาที่มันเล่นอยู่นั่นน่ารักมากแค่ไหน ผมเหลือกตาค้าง มองคริสที่นัยน์ตาตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลอ่อนเข้ากับสีผมได้อย่างลงตัวเหมือนคนเอเชียก็ไม่ปาน ทำให้ดอลฟี่ตัวนั้นกลับกลายเป็นตัวละตัวเลยก็ว่าได้...

ผมอาจจะชื่นชมในความน่ารักของมันมากกว่านี้ ถ้าสิ่งที่ไอ้ส้มอุ้มอยู่มันเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาดอลฟี่ธรรมดา แต่... คุณยังจะยิ้มตอบไอ้ส้มอีกหรือครับที่มันสามารถแต่งตัวให้คริสได้น่ารักขนาดนี้ ถ้าสิ่งที่คุณเห็น และจ้องมอง... ดวงตาสีน้ำตาอ่อนนั่นกระพริบปริบๆแล้วค่อยๆระบายยิ้มออกมาอย่างช้าๆพร้อมๆกับยักคิ้วหลิ่วตาให้กับผมเอาซะแฟนตาซีอย่างกับหลุดออกมาจากตัวการ์ตูนใน3D...

นอกจากคำว่าน่ารัก น่ากลัว ก็ยังมีคำว่ากวนตรีนนี่แหละครับที่ทำให้ผมอยากจะจับมันเหวี่ยงลงหน้าต่างไปเสียเดี๋ยวนั้นจริงๆ...

เอิ่ม... พี่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้แล้วล่ะส้มเอ้ย!
 :sad2:




 











....

 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 23/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 29-11-2014 09:38:46
ใส่วันที่ผิดรึเปล่า?  จิ้มแปะ  :z13:

**********************

คริสขี้แกล้งอ่ะ  แบบนี้ก็มีคนรู้ความลับของเต๋าเพิ่มอ่ะดิ

ว่าแต่ต้องฆ่าเจ้าของเท่านั้นหรอ แล้วมันมีทางที่จะพ้นจาก

คำสาปไหมนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 29-11-2014 09:44:49
ใส่วันที่ผิดรึเปล่า?  จิ้มแปะ  :z13:



ใส่วันที่ผิดจริงด้วย... อิอิ    :ling2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 29-11-2014 09:46:26
หลอนนนนนนนนกะคริส
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 29-11-2014 09:47:04
เมื่อไหร่พวกนางจะได้จับเข่าคุยกันให้รู้เรื่องสักทีเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-11-2014 09:50:38
พอจะได้คุยก็มีมารมาขัดตลอดเหอๆ
แต่น้องส้มน่ารักดีนะ เต๋าแอบคิดไรรึเปล่า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 29-11-2014 10:02:25
ทำตัวได้หลอนมากกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-11-2014 10:47:13
ความลับแตก!!!
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 29-11-2014 10:48:02
คริสน่ารักก
 :mew1:
อยากได้สักตัว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 29-11-2014 12:41:51
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 29-11-2014 12:56:14
น่าสนใจอ่ะ เปลี่ยนสีผมสีตาได้เท่าที่ต้องการเลยสินะเนี่ยยยยยยย #โฟกัสผิดจุดรัวๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 29-11-2014 15:20:28
มาต่อเรื่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 29-11-2014 15:50:27
อุกรี๊ดดดดดด ต้องฆ่าเลยรึคะน้องคริส!!
ทำอย่างอื่น(?)แทนไม่ได้เหรอ-.,- :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 29-11-2014 16:11:06
ฮาเต๋ามาก สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 29-11-2014 16:30:15
ทางเดียวที่จะแก้คำสาปมีแค่ทำตามคำขอและฆ่าเจ้านายตัวเองเหรอ แล้วกับเจ้านายคนเก่าคริสได้ทำอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้ยังเป็นตุ๊กตาไร้เจ้าของมาเป็นร้อยๆ ปีจนมาเจอเต๋า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 29-11-2014 17:22:43
เหอะๆน่ากลัวแบบแปลกๆว่ะ ถ้าเจอจริงๆแบบเต๋านี่
ท่าทางจะโรแมนติกไม่ออก
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 29-11-2014 18:15:41
คริสแอบน่ากลัว จะฆ่าเจ้านายจริงๆอะ
ถูกสาปให้ทำตามคำขอ ดูน่าจะมีอะไรๆมากกว่านั้นนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 29-11-2014 19:34:52
อยากรู้อดีตของคริสอ่ะ
ว่าทำไมถึงกลายมาเป็นตุ๊กตา
แล้วดอลฟี่อย่างคริสมีมาเป็นร้อยปีแล้วเหรอ?

แอบกระซิบว่าเรื่องนี้ทำเอาเราไปดูรูปดอลฟี่เกือบๆร้อย5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-11-2014 20:59:22
ข้อสงสัยเพียบ มาต่อเร็วๆนะจ๊ะคนเขียน
เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 29-11-2014 23:04:44
คริสทั้งหลอนทั้งกวนตีนไปพร้อมๆกันนะคะ =_=

ปล. สุดท้ายความลับเต๋าก็แตก 555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 6- P3 - 29/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: มานามิ ที่ 30-11-2014 18:27:41
มารอต่อจ้า   ชอบเรื่องนี้สุดๆ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 01-12-2014 00:10:35





 :katai2-1:






DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
7








วันนี้ผมกับน้องส้มเราพากันมาทำบุญที่วัดครับ...

มันเป็นความโชคดีของผมที่ผมกับน้องส้มค่อนข้างที่จะเข้ากันได้ดีเนื่องจากเจ้าตัวไม่ค่อยที่จะเรื่องมากเท่าไร มิหนำซ้ำผมสั่งให้ทำอะไรเจ้าส้มมันก็ทำโดยที่ไม่หืออือหรืออิดออดอะไรเลย อันที่จริงผมกับมันก็ไม่ได้สนิทกันมากมายแต่เนื่องด้วยเมื่อคืนทำให้ความสัมพันธ์ของเรากระเถิบขึ้นโดยเร็วเหมือนติดจรวด ก็เพราะมันดันมีรสนิยมชมชอบตุ๊กตาดอลฟี่นี่แหละคือสิ่งที่ผมตามหามานาน...

ผมนี่น้ำตาจะไหลขอเม้าท์นะครับ!

เมื่อคืนเรานั่งโม้กันอยู่นานมาก และเป็นครั้งแรกที่ผมสามารถอวดลูกๆผมให้คนอื่นได้เห็นอย่างภาคภูมิใจ จนทำให้ผมลืมเรื่องบางเรื่องไปเสียสนิท ถึงแม้ว่ามันจะดูชอบคริสมากก็ตามแต่ผมก็ระแวงไม่น้อยเพราะกลัวว่าไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นเกิดพิเรนอาจจะคิดแกล้งน้องชายผมเข้า...

เอ่อ ตอนนี้เราดื่มแปปซี่สาบานเป็นพี่น้องกันแล้วครับผมเลยค่อนข้างที่จะหวงน้องเป็นพิเศษ และเป็นห่วงความปลอดภัยของมันเนื่องด้วยไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นมันชอบทำอะไรที่ทำให้หัวใจวายอยู่เรื่อย แต่หลังจากที่มันกวนตีนผม ยักคิ้วหลิ่วตาเสมือนเตือนสติให้ผมรำลึกเอาไว้ว่ามันยังไม่ยอมไปไหน

แน่นอนครับว่าคำขอของผมสำริดผล คริสยอมกลับไปเป็นตุ๊กตาจริงๆแต่มันพิเศษหน่อยดันเสือกเป็นตุ๊กตาที่มีชีวิตนั่นล่ะ ผมนี่อยากจะCry   :o12:

แต่เมื่อคืนเหตุการณ์ยังคงปกติดีครับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเช่นคืนก่อนๆ ผมกับไอ้ส้มคุยกันจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตื่นมาอีกทีก็ตอนเกือบสว่างนั่นล่ะครับ ก็เลยพาน้องมาทำบุญพร้อมกับพาคริสมารดน้ำมนต์สวดส่งวิญญาณหน่อยเผื่อมันอาจจะได้ผลอย่างที่คิดจริงๆ

แน่นอนครับว่า ไม่ว่าพวกผมจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ด้วยความหล่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้วบวกด้วยดอลฟี่ที่เหน็บข้างเอาไว้เพราะขี้เกียจถือ จริงๆคริสก็หนักพอตัวครับแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับผมนอกเสียจากอยากแกล้งตุ๊กตาให้หัวมันโคลงเคลงเล่นจนไอ้ส้มมันว่าผมอยู่บ่อยๆจนมันอดไม่ได้ที่จะแย่งเอาไปอุ้มเอง แล้วคนทั้งวัดก็โฟกัสไปที่ไอ้ส้มที่อุ้มตุ๊กตาดอลฟี่ตัวสวยหน้ามุ้งมิ้งเดินหน้าบานเข้าไปทำบุญ ตั้งแต่ใส่บาตรนั่งฟังพระสวด แล้วรอพระฉันเช้าจนกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อยนั่นล่ะครับมันถึงคืนให้ผมแล้วบอกว่ามันเมื่อย ยิ่งอุ้มยิ่งหนักยังไงไม่รู้ อันนี้ไม่ต้องสงสัยครับว่าทำไม...

ผมกับไอ้ส้มพากันไปรอหลวงพ่อซึ่งท่านเป็นพระพ่อเพื่อนเก่าผมนั่นล่ะครับ เพราะเรื่องคริสผมเลยต้องหาทางที่จะช่วยเขาให้หลุดพ้นออกมาจากวิญญาณที่สิงอยู่

"นมัสการครับหลวงพ่อ"

"เจริญพรเถอะโยม" ผมกับไอ้ส้มไหว้ท่านอย่างนอบน้อมแล้วท่านก็ถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็ตอบไปตามที่เป็นอยู่ทุกวัน

"สบายดีครับหลวงพ่อ แต่ก็ไม่ถือว่าสบายดีไปทั้งหมดช่วงนี้เหมือนจะโชคร้ายอยู่บ่อยๆ"

"อะไรล่ะโยมที่ว่าโชคร้าย"

"ผมโดนผีตุ๊กตาหลอกครับ แต่ก็... ไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่าก็เลยอยากให้หลวงพ่อช่วย" แล้วท่านก็ชะเง้อมองไปทางไอ้ส้มที่นั่งยิ้มกับคริสอยู่ใต้ต้นไทรไม่ไกลจากเรานัก

"นั่นน่ะหรือ"

"ครับ"

พอผมตอบ ท่านกลับยิ้มขึ้นมาบางๆแล้วพยักหน้าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ช่วยบอกผมได้ไหมครับว่าที่ท่านยิ้มนี่หมายความว่าอะไร แต่ผมไม่กล้าที่จะคาดคั้นหรอกครับ ท่านเงียบไปครู่เหมือนกำลังทำสมาธิอยู่ลำพังก่อนจะหันมามองผม ไอ้ผมที่กำลังนั่งรอด้วยอาการขี้เกียจนี่รีบดีดผึงนั่งหลังตรงในทันที

"ไม่เป็นอะไรหรอกเขาไม่ทำอะไรเรา"

"เอ๋? หลวงพ่อคุยกับเขาแล้วหรือครับ" ท่านไม่ตอบครับเอาแต่ยิ้มอยู่อย่างนั้น...

เอ่อ... หลวงพ่อ หลวงพ่อนี่ทำให้กระผมสงสัยในรอยยิ้มของหลวงพ่อนะครับ...

"บางสิ่งบางอย่างมันอาจจะเกิดมาจากกรรมเก่าหรือไม่ก็บุญที่เคยทำร่วมกันมา ไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอกเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรแต่เพราะมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ ซึ่งอาตมาก็ไม่อาจที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย มีแต่เรานั่นล่ะที่จะยุติเรื่องนี้เอง"

"อ้าว! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมละครับ"

"อาตมาพูดไม่ได้หรอก"

ผมมองหลวงพ่อตาปริบๆโดยที่ท่านไม่อาจไขข้อสงสัยให้แก่ผมได้ ท่านเอาแต่ยิ้มให้ผมด้วยความสงบนิ่ง แต่ในใจผมนี่กำลังเต็มไปด้วยคำถาม และเลือดร้อนปุดๆอยู่ในใจ สรุปคือผมไม่สามารถที่จะไล่วิญญาณนั่นออกไปจากคริสได้เลยสินะ?

"แล้วที่เขาบอกว่าไม่ใช่ผีล่ะครับ" ผมยังคงถามต่อไหนๆก็ไหนๆแล้ว

"อืม... มันก็อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่เป็นแค่ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งไม่ใช่คนแต่อีกครึ่งเขาเป็นคน"

"เอ่อ..."

"ถ้าอยากรู้มากกว่านั้นก็ถามเขาเองเถอะโยม" หลวงพ่อพูดแทรกเมื่อผมคิดจะถามอีกครั้งโดยที่ไม่ให้ผมถามต่อ เหมือนท่านตัดบทสนทนาที่ไม่อยากจะตอบคำถามผมยังไงอย่างงั้น แต่ผมก็ทำได้แค่พยักหน้า และยกมือไหว้ขอบคุณท่าน "ขอบคุณครับหลวงพ่อ"  ก่อนท่านจะให้ศีลให้พรแล้วเดินจากไปในเวลาต่อมา...

สรุปนี่ผมต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ใช่ไหมเนี่ย โอ้ยจะบ้าตาย!



"สีหน้าไม่ดีเลยพี่ ไข้กลับอีกหรือเปล่า" ไอ้ส้มมันถามผมน้ำเสียงค่อนข้างที่จะเป็นห่วงผมมากครับ เลยหันไปมองมันกับคริสที่นั่งอยู่บนตักสลับกันไปมาก่อนจะก้มหน้าลงแล้วถอนลมหายใจออกมาดังเฮือก! หลังจากที่กลับมาที่ห้องผมก็กำลังนั่งมึนอึนอยู่บนโซฟา โดยที่ปล่อยให้ไอ้ส้มเล่นกับตุ๊กตานั่นล่ะ วันนี้ไอ้ไก่มันมีเรียนเกือบทั้งวันมันเลยไม่เข้ามาหา ส่วนไอ้น้องส้มนี่ไม่มีเรียนเลยได้โอกาสขลุกอยู่กับดอลฟี่ของผม ดูมันลั้นลาดีครับ แต่ผมอยากจะรู้จริงๆถ้ามันรู้ว่าคริสไม่ธรรมดามันยังจะกล้าเล่นอยู่อีกหรือเปล่า แต่เห็นแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ครับ

"ส้ม..."

"หืม?" มันหันมามองผมตาปริบๆ

"ถ้าเกิด... วันดีคืนดีตุ๊กตาเอ็งเกิดมีชีวิตขึ้นมาเอ็งจะทำยังไงวะ"

ไอ้ส้มมันทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะหันมาตอบด้วยท่าทางซื่อๆของมัน "ก็ดีสิ่พี่ ส้มชอบนะ"

บร๊ะ! คำตอบมันนี่ทำเอาผมอึ้งไม่น้อย

"ละ... แล้วไม่กลัวหรอ?"

มันส่ายหน้ารัวๆแทนคำตอบ "จะกลัวทำไมล่ะในเมื่อเป็ดรักของเป็ดอ่ะ จริงๆถ้าเขามีชีวิตพูดได้ว่าต้องการอะไร ชอบอะไร มันอาจจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ไม่เหงาก็ได้ อย่างน้อยก็มีพวกเขาเป็นเพื่อนเล่นใช่ไหมละ"

ผมพยักหน้า เออ... มันก็จริงอย่างที่ว่า "แล้วไม่กลัวเขาจะทำร้ายเหมือนในหนังหรอ?"

"ฮื่อ ทำไมต้องกลัวล่ะ?" ไอ้ส้มมั่นส่ายหน้าแบบซื่อๆอีกตามเคย "เป็ดยังไม่เคยเห็นข่าวว่าตุ๊กตาจะลุกขึ้นมาทำร้ายใครเลย พวกหนังที่เอามาทำก็ทำให้มันดูน่ากลัวทั้งนั้น ทั้งๆที่เรื่องจริงตุ๊กตาพวกนั้นก็ทำได้แค่ให้คนประหลาดใจ และกลัว ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่ได้น่ากลัวเลย ยังมีคนที่เก็บตุ๊กตาแบบนั้นเอาไว้ด้วยนะทั้งๆที่เขาก็รู้ว่ามีสิ่งลึกลับที่ซ่อนอยู่"

ผมนี่หูผึ่งขึ้นมาในทันทีเลยครับ ขยับตัวนั่งหลังตรงแล้วหันไปหาไอ้ส้มด้วยอาการตื่นเต้น "มันจริงหรอวะที่มีเรื่องตุ๊กตาผีจริงๆ"
ไอ้ส้มมันทำหน้าลังเล "ก็ไม่เชิงหรอกเพียงแค่ว่าตุ๊กตามักจะหายไปแล้วโผล่ไปอยู่ตามที่ต่างๆโดยที่ไม่มีใครเห็น และไม่เข้าใจก็แค่นั้น"

ผมพยักหน้าด้วยความรู้สึกโล่งอกเมื่อมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ไอ้ส้มบอก แถมดูเหมือนมันจะสนใจเรื่องนี้ไม่ต่างจากผมเท่าไรนัก ก็แน่ล่ะในเมื่อมันก็มีลูกชายเป็นดอลฟี่เหมือนผมนี่หว่ายังไงคนรักตุ๊กตามันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่วันยังค่ำ

"ว่าแต่ตุ๊กตาเราชื่ออะไรนะ" ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากพูดถึงมันอีกยิ่งมีคริสอยู่ตรงหน้ายิ่งไม่อยากพูดเยอะ มันแปลกๆชอบกลที่เราสนทนาเรื่องตุ๊กตาผีทั้งๆที่ตัวอันตรายอยู่ในระยะเผาขนแบบนี้

ไอ้ส้มมันยิ้มตาหยีเห็นฟัน "ชื่อเลย์ไงพี่ รุ่นเดียวกันกับคริสเลย แต่เลย์ไม่ได้ทำขึ้นมาจากไม้นะแต่ของพี่น่ะแปลกดี"
"อ้าวแปลกหรอ?"

"อื้ม! ปกติแล้วดอลฟี่ทำมาจากเรซินชั้นดี แต่สำหรับคริสเขาดูแตกต่างเพราะพี่บอกว่าเขาทำมาจากไม้ คริสจะเป็นDODเพราะผมดูจากสีผิวของเขา แต่เวลาที่ผมสัมผัสผิวมันจะดูลื่นๆเหมือนผิวคน คือ... มันแปลก"

โอ้โห... นี่ผมเจอคนรักดอลฟี่ตัวจริงเสียงจริงแล้วใช่ไหมเนี่ย ถึงผมจะชอบแต่ก็ไม่ได้รู้ละเอียดขนาดนั้น ที่ซื้อนี่ก็เพราะเห็นว่าพวกเขาน่ารักหรอกนะถึงได้ยอมเก็บเงินซื้อมาจนได้ แต่ไอ้ที่น้องมันสงสัยนี่ก็ทำให้ผมทึ่งอยู่ไม่หยอก อยากจะบอกนะว่าไอ้ตุ๊กตาดอลฟี่ที่น้องอุ้มอยู่น่ะมันไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดา แต่พอเอาเข้าจริงๆผมก็ไม่กล้าที่จะบอกมันหรอก เพราะกลัวว่าน้องมันจะหาว่าผมคิดมากเหมือนที่ไอ้ไก่มันมักจะว่า แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่าการที่รักอะไรสักอย่างมันทำให้คนเราเห็นดำกลายเป็นขาวจริงๆ

อยากได้เจ้านายใหม่ไหมคริส? เดี๋ยวพ่อยกเราให้เขาแล้วแลกกับเลย์มาอยู่ที่นี่แทน...

ฮึก!

ผมกลืนน้ำลายเฮือกหลังจากที่คิดพิเรนออกมา เกิดอาการผวาเมื่ออยู่ๆใบหน้าของคริสค่อยๆหันมาทางผมอย่างช้าๆในระหว่างที่ไอ้ส้มมันเผลอ สายตาที่ดูไม่พอใจเหมือนอ่านใจผมออกว่าผมคิดอะไร จนต้องรีบถอยกรูแทบติดขอบโซฟาเลยให้ตาย!

"พี่เป็นอะไรอ่ะ?"  สีหน้างุนงงมองผมเหมือนจะตลกที่พี่มันทำท่าทางประหลาด รีบแสร้งยิ้มแหยๆแล้วยักไหล่ไม่มีอะไรก่อนจะหยิบรีโมทมาเปิดซีรี่ย์ให้ไอ้ส้มมันดูเรียกร้องความสนใจ และมันก็ได้ผลเมื่อมันหันไปทางจอทีวีแล้วนั่งตาแจ๋วไม่ได้ถามผมอีก
ส่วนผมก็ดูไปกับมันนั่นละครับ แต่ก็ไม่วายหันไปทางคริสที่จ้องไปข้างหน้า มองด้านข้างของดอลฟี่ที่ตอนนี้อยู่ในมุมมองใหม่ที่ดูดีเหมือนคนเอเชีย ทีนี้ละครับผมรู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับดอลฟี่แล้วหลังจากนี้ก็งามไอ้เต๋าสิเฮ้ย! คงมีเรื่องได้เสียตังซื้อนั่นนี่ให้ลูกๆอีกแน่ๆ

วันนี้ก็เป็นวันที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาได้เปราะหนึ่งครับหลังจากที่ได้คุยกับไอ้ส้ม หรือแม้แต่ไปหาหลวงพ่อแม้ว่าท่านจะไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย แต่ก็ยืนยันแน่ชัดว่าคริสคงไม่ใจร้ายทำร้ายเจ้านายของตัวเอง แม้ว่ามันออกจะกวนๆอยู่บ้าง และเป็นผมที่สับสนไปกับเหตุการณ์พวกนั้น ตอนนี้ผมเริ่มทำใจได้แล้วครับ เพราะงั้นเราจะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!

"เป็ดต้องกลับแล้วล่ะ เอาไว้วันหลังเดี๋ยวเป็ดพาเลย์มาเล่นด้วยนะ" ผมพยักหน้าให้ไอ้ส้มที่ยืนอารมณ์ดีอยู่หน้าห้องเตรียมจะกลับบ้านเมื่อพวกผมใช้เวลาคุยเรื่องดอลฟี่จนเย็น เวลาที่เราทำในสิ่งที่ชอบที่รักมีความรู้สึกว่าเวลามันมักจะหมุนไปเร็วจริงๆนั่นล่ะครับ

"โอเค แล้วอย่าลืมที่พี่กำชับล่ะว่าห้ามบอกใคร" ไม่วายยังเตือนให้มันไม่หลุดพูดความลับระหว่างเราสองคน ไอ้ส้มมันพยักหน้าหงึกหงักยิ้มจนตาหยี

"รับแซ่บ!" มันตะเบะท่ารับปากขึงขังก่อนจะหัวเราะ "ไม่หลุดพูดแน่นอนพี่ เป็ดก็ไม่เคยบอกใครหรอกว่าชอบตุ๊กตาแค่นี้เขาก็เข้าใจผิดกันแย่ว่าเป็ดเป็นเกย์"

"อ้าวไม่ใช่เรอะ?" ผมแกล้งชี้นิ้วเลิกคิ้วเหมือนประหลาดใจ ไอ้ส้มมันมองค้อนแล้วยู่ปากเหมือนจะงอน หัวเราะให้มันไปทีแล้วยีหัวมันไปเต็มแรงด้วยความหมั่นเขี้ยว

"ฮ่าๆพี่ล้อเล่น กลับบ้านดีๆล่ะ"

ไอ้ส้มมันกลับมายิ้มอีกครั้ง "ครับ หวัดดีคับพี่เป็ดไปล่ะ"

ผมพยักหน้าให้มันที่ยกมือไหว้ลา และปิดประตูห้องเมื่อเห็นว่าน้องมันเข้าลิฟต์ไปแล้ว ความรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กตอนที่เพื่อนมันมาเล่นบ้านแล้วไม่อยากให้กลับเลยว่ะ

พ่นลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยก่อนจะกลับไปที่โซฟาอีกครั้งแล้วนั่งลงเว้นระยะห่างระหว่างผมกับคริสสักเล็กน้อย พอเอาเข้าจริงๆเวลาที่ไม่มีคนอื่นนอกจากเราสองคน มันก็ทำให้ผมรู้สึกกลัวๆเหมือนกัน

นี่ผมจะทำอะไรต่อดีล่ะ หาข้าวกิน? แต่ยังไม่หิวเลยนะ 

แต่ถ้ามานั่งเงียบนี่มันก็อึดอัดมากจริงๆในเมื่อคริสแกล้งนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาเหมือนเดิมแบบนี้ ผมนี่เดาอารมณ์เขายากมากครับ อย่าว่าแต่ตัวคริสเลย ตัวผมนี่ก็เดาใจตัวเองไม่ถูกว่าควรที่จะกลัวหรือจะชินดี

แต่... มันยากว่ะ

"เอาล่ะ..." เริ่มทำใจแล้วพูดขึ้นมาหลังจากที่นั่งเงียบไปพักใหญ่ หันไปมองคริสที่กำลังนั่งจ้องจอทีวีตาไม่กระพริบ "นี่พร้อมที่จะรับฟังทุกอย่างว่านายเป็นใคร แต่ขออย่างเดียวอย่าทำให้กลัว..."

"..."

 ไม่มีการตอบรับจากดอลฟี่ที่ท่านเรียกในขณะนี้...

ก่าห้อย ก่าห้อย...

เฮ้ย! นี่มันจะกวนตรีนผมหรือไงวะ!? ทีเวลาถามแล้วทำใจได้นี่เสือกไม่หืออืออะไรเลย มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะเสยดั้งโด่งๆนั่นจริงๆตอนที่มันแปลงร่างเป็นคน ผมเอื้อมดึงขึ้นคริสเข้ามาหาแล้วสบตาสีน้ำตาลอ่อนนิ่ง

แต่... ผมไม่ค่อยชอบลูกตาของเขาเท่าไรมันเหมือนไม่ใช่ตัวตนของดอลฟี่ตัวนี้เลย หรือผมจะเป็นประเภทยึดติดกับสิ่งเดิมๆกันวะ?

"นี่ได้ยินไหมเนี่ยอย่าทำเป็นหูทวนลมได้ปะ?"

ก็อย่างว่าล่ะครับเหมือนคุยกับตุ๊กตาปกติไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลยจนน่าโมโห สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นผมที่เกิดอาการงอนมันขึ้นมาเสียดื้อๆ เลยจับมันวางไว้ที่โซฟาตามเดิมแล้วลุกขึ้นกระฟัดกระเฟียดหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำด้วยความหงุดหงิด
เออ! ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้ตุ๊กตาผีสิง สงสัยอยากตายหมกตุ๊กตาอีกรอบเดี๋ยวพ่อเต๋าจัดให้แต่ตอนนี้ขอเข้าห้องน้ำก่อนเพราะรู้สึกปวดท้องมวลๆชอบกล สงสัยจะกินส้มมากไป ไอ้ส้มมันดันตะบี้ตะบันแกะให้ บอกว่าถ้ากินเยอะๆแล้วจะทำให้หายไข้ไว ไม่รู้ว่าโดนไอ้ส้มมันเล่นแล้วหรือเปล่าแต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมขอเวลานอกแพบนึง!



ยี่สิบนาทีผ่านไปไม่ขาดไม่เกิน...

วู้วววว!!! ออกมาด้วยสภาพที่โล่งสุดๆ แถมด้วยร่างกายกลิ่นหอมฟุ้งด้วยสบู่เด็กแคร์ รักเธอแคร์เธอต้องสบู่เด็กแคร์... เอ่อ.. มันใช่เวลามาตลกไหมเนี๊ยะ!

ผมเปิดประตูออกจากห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นหลังจากได้ปลดทุกข์ลงชักโครกไปเรียบร้อย แต่เพียงแค่ก้าวขาออกมาเท่านั้น

"อ่ะเฮือกกกก!!" ผมนี่แทบจะร้องลั่นผวาจนชะงักกึก! เมื่อร่างสูงที่กำลังหันหลังให้อยู่นั่นกำลังทำอะไรบางอย่างกับตัวของเขาอยู่ ผมมองคริสตาค้างไม่ได้รู้สึกตกใจกลัวเหมือนในคราแรกเพียงแค่เพลาๆอาการเหล่านั้นลงเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นที่เห็นแผ่นหลังนั่น

เสื้อผ้าในชุดใหม่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้วอีกนั่นล่ะว่าคนตรงหน้าจะดูดีมากแค่ไหน แต่พอร่างสูงที่ค่อยๆเหยียดหลังตรงอย่างช้าๆเมื่อเขารู้ตัว ผมย่นคิ้วให้กับผมสีบรอนนั่นก่อนจะรู้สึกประหม่าเมื่อคริสหันกลับมามองเชื่องช้า เนิ่นนาน เหมือนภาพสโลโมชั่น สบนัยน์ตาสีครามที่ยืนระบายยิ้มให้กับผมบางๆจนตาหยี นาทีนั้นผมรู้สึกเหมือนถูกดวงตาคู่นั้นดึงดูดใจอีกครั้งเหมือนเมื่อตอนที่ได้เจอกับคริสครั้งแรกที่ร้านตุ๊กตา...

และแล้วก็กลับมาสู่สถานการณ์กดดันอีกเช่นเคยละคับ ท่านผู้ชม...

"เอ่อ... อ่า..."

เชี่ยเอ๊ย! ทำไมเวลาจะพูดนี่รู้สึกติดอ่างขึ้นมาเสียดื้อๆ ทำไมต้องประหม่ากับสายตานั่นด้วยวะ!

ฉึบ!

"ห่ะ เฮ้ย! จะ จะทำอะไร" ร้องลั่นด้วยความตกใจ และรีบถอยกรูจนตัวติดกับมุมตู้ที่อยู่ด้านข้าง ตกใจที่อยู่ๆร่างสูงก็เดินเข้ามาหาโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร เพียงแค่เขาเข้ามาใกล้อาการปอดแหกทำให้ผมหลับตาแน่นด้วยความตื่นกลัว และหดคอเมื่อเห็นมือใหญ่ๆเอื้อมมาที่แก้มอย่างช้าๆ

"ทำไมยังกลัวอีกล่ะ?"

ไม่ให้กลัวแล้วจะให้กรี๊ดเป็นแต๋วแตกแล้ววิ่งเข้าใส่เหมือนเจอเกิลกรุ๊ปหรือไงฟระ!

ผมสัมผัสได้ถึงฝ่ามืออุ่นๆจับมาที่แก้มของผมผะแผ่ว มันอ้อยยิ่ง และนุ่มนวลจนเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้น ค่อยๆลืมตามองคริสอย่างช้าๆ จ้องมองใบหน้าคมหล่อที่กำลังยิ้มบางๆ...

เขาไม่ได้ทำร้ายผม พูดง่ายๆมันก็เหมือนมนุษย์ธรรมดาคนนึงนั่นแหละ ผิดที่ว่ามันหล่อเกินมนุษย์จนเกินไปก็เท่านั้น

"มะ ไม่ได้กลัวน้อย" แต่กลัวมาก

คนตรงหน้าเลิกคิ้วแล้วป้องปากหัวเราะ ทันใดนั้นเองร่างของผมกลับลอยหวือขึ้นมาจนผมต้องแหกปากร้อง "หวา!!!" เหลือกตาด้วยความตกใจเมื่อร่างของผมลอยเข้าหาอ้อมกอดแกร่งที่อ้ารับ

เฮ้ย! กูไม่ใช่สาวน้อยนะปล่อยกรู!!!!

ใช้สองมือยันไหล่แกร่งซึ่งตอนนี้ผมรับรู้ได้ว่าร่างของคริสหนามาก ไหล่กว้าง และแข็งเหมือนหินผาเลยก็ว่าได้ ความสูงของเขาบวกกับของผมที่ถูกโอบกอดให้นั่งอยู่บนแขนแกร่งทำให้หัวของผมนี่เกือบจะติดกับเพดานอยู่รอมล่อ ยิ่งเห็นวงหน้าคมหล่อใกล้ๆอย่างมีสติครบถ้วนยิ่งทำให้ผมตระหนักแล้วว่า โลกนี้มันยังมีคนที่หน้าหล่อเหมือนกับเจ้าชายในเทพนิยายจริงๆ

แต่... ได้โปรดเถอะครับ ปล่อยกรู...

"ปะ ปล่อย" แล้วทำไมต้องทำเสียงสั่นแบบนี้ด้วยวะ!

คนถูกสั่งยังคงจ้องสบตาผมนิ่งแถมด้วยการยิ้มหล่อทำลายล้างที่ทำให้ผู้ชายอย่างผมรู้สึกอิจฉายิ่งขึ้นไปอีก มันไม่ตอบครับแต่มันกลับพาผมเดินไปที่เตียงนอนทำเอาซะผมหวาดกลัวว่าจะหงายหลังหล่นลงพื้นในที่สูงๆ ถ้าเกิดมันหลุดมือขึ้นมาความซวยของไอ้เต๋ามาเยือนแน่นอนรับลองว่าเดี้ยงกับเดี้ยง!

"หวา!!!"

ตุบ!

ใจหายแวบขึ้นมาชั่วขณะเมื่อร่างสูงทิ้งตัวผมให้ลงไปบนที่นอนดังตุบ! ถึงมันจะไม่แรงมากแต่ก็ทำให้ใจหายแวบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมรีบลุกพรึบดีดตัวนั่ง ปากนี่เตรียมจะด่า "ไอ้..." แต่พอสบตาสีครามนี่ทีไรคำด่ามันกลับกลืนหายเข้าไปในลำคอทุกที...

ทำไมชอบหลอกให้กลัวอยู่เรื่อยวะ?

"ไม่ได้อยากให้กลัวเสียหน่อย"

"ฮะ?" ผมร้องเมื่ออยู่ๆมันกลับพูดขึ้นมาหลังจากที่ผมคิดอยากจะด่ามัน
 
"ก็กลัวไม่ใช่หรอ" เสียงทุ้มถามผมอีกครั้งแถมด้วยคิ้วหนาๆที่เลิกสูงขึ้นเหมือนข้องใจในตัวผม

"นี่มึงอ่านใจกูหรอ?" ชัด! ชัดแน่ๆ ชัดชัวร์ๆ

คริสไม่ตอบกลับมาเขานิ่งเงียบไปครู่แล้วค่อยๆระบายยิ้มแทนคำตอบ ทำไมเวลาที่ผมเห็นเขายิ้มแล้วมันรู้สึกคันแข้งคันขาคันไม้คันมือยิบๆชอบกล คือพูดง่ายๆมันเป็นยิ้มที่กวนประสาทผมม๊าก! รู้ไหมว่าเวลาที่คนอื่นเขาถามแล้วไม่ตอบกลับยิ้มนี่เขาเรียกว่าการกวนตรีนอย่างหนึ่งที่เสี่ยงเจ็บตัวเอามากๆ

"แล้ว... นี่ตกลงเป็นอะไรกันแน่ อย่าเสือกตอบตุ๊กตานะเดี๋ยวกูจับชำแหละแยกร่าง!" ถลึงตาชี้นิ้วสั่งเมื่อเห็นมันกำลังอ้าปากจะพูด แค่มันขยับปากเตรียมจะเอ่ยนี่ก็มองทะลุไปถึงลิ้นไก่แล้วล่ะครับ! คำถามเดิมคำตอบเดิมแน่ๆในเมื่อไอ้ตุ๊กตานี่มันก็กวนประสาทพอตัว

คริสยิ้มที่มุมปากบางๆแล้วจับมือของผมที่ชี้นิ้วสั่งจ่ออยู่ที่หน้ามันให้ลดลง แล้วส่ายหน้าเนิบๆ "ตอนนี้เป็นคนเหมือนกับเจ้านายแต่ก่อนหน้า... เป็นตุ๊กตา"

ผมค่อนข้างที่จะอึ้งกับคำตอบแต่ก็ยังเกิดความสงสัย ซึ่งตอนนี้ลบความกลัวออกไปจากหัวได้เลยในเมื่อความรู้สึกเหมือนผมคุยกับคนมากกว่าตุ๊กตาผี

"ละ แล้วเป็นคนได้ยังไง เป็นตุ๊กตาไม่ใช่หรอ หรือเป็นผีตุ๊กตากันแน่"

ถามเขาแบบกล้าๆกลัวๆนั่นละครับ แต่มันก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนอย่างน้อยผมก็อาจที่จะช่วยเขาได้ หากเขาพยายามที่จะให้ผมเห็นอะไรแบบนี้ อีกอย่าง... หลวงพ่อบอกว่าเขาไม่เป็นอันตรายเช่นนั้นผมก็จะยอมทำเป็นใจดีสู้เสือสักครั้งในชีวิตล่ะกัน อย่างน้อยถ้าเกิดมีลูกมีหลานจะได้เล่าสู่กันฟังว่าครั้งหนึ่งคนอย่างไอ้เต๋าก็เคยได้เจออะไรที่มันเหนือปรากฏการณ์ธรรมชาติ เอาซะอยู่ในโลกของเทพนิยายเเฟนตาซี เท่ปะล่ะ!

เขากรอกตาไปมาเหมือนใช้ความคิดก่อนจะตอบ "ถ้าตอบไปแล้วห้ามถามต่อจากนี้นะ"

บ๊ะ! มีต่อรองด้วยว่ะ แต่ช่างเถอะขอแค่ให้มันตอบให้หายข้องใจก็พอ พยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไป

คนตรงหน้าเมื่อเห็นผมตกลงเขายิ้มออกมาบางๆแล้วเริ่มพูดออกมา "เมื่อนานมาแล้วเราเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดพระคัมภีร์ทางศาสนา"

"ที่เขาเรียกว่าบาทหลวงใช่ปะ?" คริสพยักหน้ามันทำให้ผมยิ่งรู้สึกประหลาดใจจนหูผึ่ง

"อ้าวแล้วมาอยู่ในร่างตุ๊กตาได้ยังไง"

คริสยิ้ม "ฉันถูกพ่อมดด้านมืดคนหนึ่งใช้เป็นเครื่องมือทดลองกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติ และเล่นตลกกับซาตาน"

"..." ผมนี่ถึงกับอึ้งเลยครับพี่น้อง

"ซาตาน... เนี่ยนะ?"

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะครับ!  เพราะสิ่งที่ผมเห็นมันก็เกินความเป็นจริงอยู่แล้ว บนโลกใบนี้มันมีสิ่งประหลาดอยู่หลากหลายยากที่จะหาคำตอบจริงๆ แต่แบบ... มันดันมาเกิดกับผมด้วยนี่สิปัญหา ผมที่นั่งด้วยอาการอึ้งๆ ทึ่งๆ ตาค้าง แต่ท่านั่งตอนนี้สงบนิ่งมากคือเริ่มอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคริสยิ่งขึ้นไปอีกว่าเป็นไงมาไง รู้สึกเหมือนตัวเองมีหางแล้วกำลังกระดิกไปมาอย่างไงอย่างงั้น...

"ถูกทำอะไรบางอย่างก่อนจะกลายมาเป็นตุ๊กตา..."

"ละ แล้ว... ดอลฟี่นี่เกิดมานานตั้งกะสมัยนายเอ่อ..."

คริสเลิกคิ้วเมื่อเห็นผมชี้ไปที่ตัวเหมือนพยายามจะถามว่าตุ๊กตาแบบคริสนี่มีมานานแล้วหรือเปล่า "ตุ๊กตาเขาเรียกว่าดอลฟี่หรือ?"

"อ้าวแล้วนายไม่ใช่"

คริสหลับตาแล้วส่ายหน้าเชื่องช้าเขาดูสงบนิ่งมาก "เราเป็นคนที่กลายมาเป็นตุ๊กตาที่เหมือนกับดอลฟี่ที่เธอว่ามากกว่า แต่มีความพิเศษที่ว่าร่างกายนี่คือคนจริงๆไม่ใช่ไม้..."

"ฮะ!?" ผมนี่ถึงกับลุกขึ้นเลยครับ ตกใจสิวะ!

"สรุปแล้วนายไม่ใช่คน? เดี๋ยวๆ เดี๋ยวนะ ช่วยอธิบายให้มันละเอียดกว่านี้หน่อย" ผมพยายามตั้งสติที่กำลังสับสนให้กลับคืนมา แล้วเงยหน้ามองคริสที่กำลังยกยิ้มที่มุมปากบางๆให้กับผมจนดวงตาคมหรี่ลง ในขณะนั้นผมกลับเห็นว่ารอยยิ้มของเขามันดูเจ้าเล่ห์แปลกๆ แล้วคำตอบที่ผมได้กลับมา ทำเอาซะผมรู้สึกสตั้นไปหลายสิบวิ พูดง่ายๆ กรูอึ้ง...

"ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็ให้กินก่อนสิ ฉันหิว"

 o22

"..."

ฉันหิว... นี่มันคุ้นๆนะ

เฮ้ย!  กิน? กินอะไร? จะบ้าเรอะ!!!?

ฮรึก! ตอนนี้... ผมไม่อยากรู้เรื่องของมันแล้วล่ะครับ ฮอล์ลลลลล....

 :katai1:














.....


 :katai5:


หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 01-12-2014 00:20:01
เป็นเหมือนคนถูกย่อส่วนไม่ใช่ดอลฟี่สินะ.. แต่ทำไมเปลี่ยนตาเปลี่ยนผมได้.. หรือมันปรับเข้ากับกาลเวลาไปเรื่อย
เอะเริ่มงงความคิดตัวเอง  :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 01-12-2014 00:39:26
เวลาแห่งความหิวมาเยือนอีกแล้วสินะ คริๆ
รีบมาอัพนะคะ เดี๋ยวคริสหิวไส้กิ่ว 55555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 01-12-2014 01:24:40
เค้าก็หิวนะคนเขียน มาอัพไวๆนะคะ :ling1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 01-12-2014 08:41:46
หิวบ่อยๆ. กก็กินบ่อยๆเนาะ
คริสส
เอ๋
เป็นบาทหลวงเหรอ บาทหหลวงนี่
มีอะไรกับคนอื่นได้ด้วยหรอ หรือว่าเป็นแค่บาทหลวงชั้นผู้น้อย เค้าเรียกไรนะ
priest ใช่ป่ะ  มีอะไรได้แต่งงานได้ใช่ป่ะ
ถ้าเป็น ยศอย่าง  pop นี่สูงกว่าพริส. ป่ะ แต่โปป มีไรกับ ผญ ไม่ได้ป่ะ
ความรู้ศาสนาคริส เริ่มเสื่อม 555
รอติดตามต่อดีกว่า ขี้เกียจมโนแระ
 :impress3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-12-2014 09:29:39
คุยกันได้ไม่กี่คำจับกินอีกแระ.    :impress2: 
โฮก คริสหล่อมาก พระเจ้าสร้างมาแท้ๆ อิจฉาเต๋าเบาเบา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 01-12-2014 10:38:01
นี่มันคือวิธีแก้หิวของตุ๊กตาต้องสาปเรอะ
จะเป็นลม!
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-12-2014 10:42:03
ได้เวลาอาหารแล้วสิ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 01-12-2014 13:31:26
กว่าจะรู้เรื่องทั้งหมดโดนกินจนพรุน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 01-12-2014 13:48:34
 :hao6:ได้เวลาอร่อยแล้วสิ ถถถถถ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 01-12-2014 14:31:28
กว่าจะรู้เรื่องทั้งหมดคงมีหยอดน้ำข้าวต้มแหละนะ

เอ๊ะว่าแต่อดีตบาทหลวงนี่หื่นด้วยหรือจ๊ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 01-12-2014 16:48:56
อยากเห็นเต๋าโดนกินอ่ะ ฮอลลลล
แหมๆ เพ่คริสนี่ก็น่าสงสารแท้ๆ โดนสาปซะได้
รีบๆกินเต๋าไวๆนะ กินบ่อยๆเลยยิ่งดี ฮิฮิฮิฮิ มาต่ออีกน้า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 7- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 01-12-2014 17:48:48
คริสหิวอีกแล้ววววววว  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 01-12-2014 18:33:47
 :katai4:








DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
8




ผมนั่งอึ้งตาค้างมองไอ้คนที่เป็นตุ๊กตา ปีศาจ ซาตาน มนุษย์โลกพิสดาร เจ้าชายในเทพนิยาย  หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันพยายามจะกินผม ความรู้สึกขนลุกขนพองสยองเกล้าทำให้รูขุมขนตั้งชันขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง มันชาวาบไปตามไขสันหลังในยามที่นึกถึงฉากวิบวิ้วในคืนที่ผ่านมา มันช่างดุเดือดร้อนแรง และโคตรทรมานระคนรู้สึกดี...

ถามจริง? เป็นตุ๊กตาผีนี่เขากินอสุจี๊! กันหรือฟระ!?

ไม่ๆๆ บางทีผมอาจจะเข้าใจผิดไปเอง ไอ้ที่ว่าหิวนี่มันอาจจะหมายถึงอย่างอื่นก็เป็นได้ สบตาคมนัยน์ตาสีครามนิ่งตาปริบๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์หล่อเหลายังคงประดับบนใบหน้าที่ดูร้ายกาจนั่น ผมว่าไอ้ตุ๊กตาผีนี่มันต้องเป็นเทพบุตรในร่างซาตานมาหลอกผมแน่ๆเลยว่ะ!

ผมกลืนน้ำลายเฮือกลงคอ ไอ้อยากรู้ก็อยากนะแต่ก็ระแวงมันมากจริงๆ มนุษย์อย่างผมนี่ไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกที่เหนือมนุษย์พวกนี้เลยให้ตายสิ!

"กะ... กิน กินอะไรอ่ะ ถ้าหิวมีมาม่าเดี๋ยวต้มให้ได้นะ?" มาม่าก็อร่อยนะเออ อาหารมื้อหลักของเต๋าด้วยนา แค่ห่อเดียวนี่ก็อืดไปถึงพรุ่งนี้แล้ว ถ้ากลัวไม่อิ่มเดี๋ยวต้มเพิ่มเป็นสองห่อก็ได้... เอิ่ม...

 แต่พอถามไปอย่างนั้นไอ้หน้าหล่อๆมันก็กระตุกยิ้มที่มุมปากเหยียดขึ้นมาจนรู้สึกน่าขนลุกชอบกล

"เราไม่กินอาหารมนุษย์" คำตอบนี่มันช่างเย็นยะเยือกจริงๆให้ตาย!

ฮรึก!

กลืนน้ำลายอึกลงคอเมื่ออยู่ๆร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆคืนคลานเข้าหาอย่างช้าๆพร้อมๆกับแววตาที่กระหายอย่างไรชอบกล ผมค่อยๆคลานถอยหลังหลบหนี แต่อันที่จริงเหมือนหาทางตันแล้วฆ่าตัวตายชัดๆ! เมื่อข้างหลังของผมมันคือหัวเตียง และไร้หนทางที่จะหนีโดยสิ้นเชิง สบวงหน้าที่เด่นชัดในยามที่เข้าใกล้ หัวใจผมเต้นตึกตักระรัวราวกับจังหวะแท็ป

"แต่เรา... กินชีวิต" คำกระซิบแผ่วเบาราวกับกระชากดวงวิญญาณไปทั้งดวง...

"กะ กินชีวิต?"  นะ นี่... นี่ผมกลัวจริงๆแล้วนะเว้ย!

ชำเลืองตามองคริสที่ยิ้มให้กับผมจนตาหยี "ไหนว่าเป็นบาทหลวงไง บาทหลวงต้องเมตตาต่อสัตย์โลกสิวะ?" 

"ฮึฮึ" น้ำเสียงทุ้มหัวเราะข้างหูเหมือนสิ่งที่พูดมันตลกหนักหนา แต่นี่ไม่ตลกเว้ย! จะมากินกันง่ายๆได้ยังไงคนเขามีพ่อมีแม่แบบนี้มันผิดศีลธรรมกันชัดๆ!

"เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่"

ผมนี่ถึงกับกลืนน้ำลายอึกเลยครับ กรอกตาไปมาเพื่อหาทางหนีที่ไล่ พลัน! ฉุกคิดได้ด้วยสมองอันชาญฉลาดที่บรรจุด้วยขี้เลื่อย ผมหันไปทางคริสแล้วแหวเสียง "แต่กูเป็นเจ้านายนะ! จะมากินเจ้านายได้ไง!?"

"จะเป็นเจ้านายก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ"

เอ่อ... นี่ถามกูยังว่าอยากเป็นไหม๊!?

"ไม่เอา! ไม่ยอม ไม่ให้กิน ออกไปเดี๋ยวนี้เลยไม่งั้นกูต่อยจริงๆนะเอา!" ไม่ได้พูดเล่นๆด้วยนี่ยกกำปั้นข่มขู่แล้วนะ รู้จักคำว่ากลัวปะ? หรือยังไม่เคยเจอหมัดพิฆาตสะท้านโลกาของไอ้เต๋า อยากเจอเดี๋ยวจัดให้แบบเต็มเหนี่ยว

"ฮ่าๆ นายนี่ตลกดีนะ"

เฮ้ย! นี่ไม่ตลกเว้ย! เอาจริงไม่กลัวด้วย ไอ้เต๋าแมนพอว่ะ ไม่กลัวอะไรแบบนี้หรอกจะเป็นผีหรืออะไรก็ช่าง ตอนนี้โมโหมากด้วยจะมากินกันได้ไงเป็นหนุ่มเป็นแน่น นี่ขอพ่อแม่ยัง ก็ไม่ นี่เสียหายนะ มีแต่เสียกับเสีย จะมากินกันแบบนี้ง่ายๆคนอย่างไอ้เต๋าไม่ได้ใจง่ายนะเออ แล้วทำไมต้องทำหน้านิ่งอย่างนั้น...

เฮ้ยๆๆๆ มันจะใกล้เกินไปแล้ว!

"กลัวหรอ?"

ไม่กลัวเว้ย!

"ไม่กลัวแล้วทำไมต้องกอดตัวเองแน่นแบบนั้น?"

กูหนาว!

"หรออออออ...."

เชี่ย! กวนตรีน!

"ไม่ต้องกลัวหรอกเจ็บแค่แปบเดียว"

หือ? อะไรคือเจ็บแปบเดียววะ? ตอนที่โดนกินนี่เจ็บแปบเดียวหรอ มันจะทรมานเปล่าวะโดนแดกชีวิต? แล้ว... มันกินกันง่ายๆจริงอ่ะ แล้ว...ไม่เป็นไรแน่หรอวะ? คือมันจะฆ่าผม เฮ้ย! ไม่เอาชีวิตนี้ยังใช้ไม่คุ้มเลยแฟนสักคนยังไม่มี ยังไม่ได้บอกรักแม่เลยด้วย แถมๆ แถมยังไม่ได้ลาเพื่อนๆเลยน๊า ฮึก! อย่าฆ่ากูเลยกูยังไม่พร้อมตาย...

"ไม่ได้หมายความว่าจะฆ่าเสียหน่อย"

"อ้าว!"

ผมนี่กำลังบิ้วอารมณ์เลยครับ แต่ดันถูกเบรกซะล้อตายดังเอี๊ยด! เงยหน้ามองดวงตาสวยนั่นที่ดูเหมือนจะรำคาญผม มองมันตาปริบๆด้วยความงง "ก็ไหนว่ากินชีวิต แล้วไม่ได้จะฆ่าหรอ?" ไรวะอุตส่าห์กลัวแทบตายกลับบอกว่าไม่ได้จะฆ่า ไอ้ปีศาจตุ๊กตานี่เรื่องมากชะมัด

คริสถอนลมหายใจเหมือนเหนื่อยมาก เฮ้ย! อะไร? นี่ควรจะเหนื่อยมากกว่าไหมโดนมึงหลอกให้กลัวเนี่ย!

"ก็แค่กินชีวิตที่ยังไม่ได้เกิด"

วอส!?

อาการหมางงรอบที่ร้อยแล้วมั้งเนี่ยตั้งแต่วันที่ผมได้เจอมัน อะไรคือกินชีวิตที่ยังไม่เกิดว่ะ !

ไอ้โนเก็ท แอ่น ไม่เข้าจาย ยูช่วยขยายความที หรือไม่ใครก็ได้ช่วยโยนวุ้นแปลภาษาให้ตรูทีหืมมมมมม??????
หน้าผมนี่เต็มไปด้วยเครื่องหมายเควสชั่นมาร์คเลยล่ะคับ....

"ก็เคยกินมาแล้ว"

"เห?" อาการมึนงงยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มฉายแววความหงุดหงิดขึ้นมาในทันที ก่อนจะคว้าเอวของผมให้ไถลพรืดลงมานอนตุบ! อยู่บนหมอนนุ่มๆ ผมเบิกตามองดวงตีครามด้วยความตกใจระคนมึนงง นี่ยังไม่เกทเลยไอ้ที่มันพูดออกมา มือไหญ่ๆกอบกำข้อมือของผมทั้งสองข้างแล้วกดไปบนที่นอนจนไร้ทางขัดขืน...

แล้ว... ทำไมต้องขึงตูด้วยฟระ! ดิ้นไม่ได้นะเฮ้ย!

"ก็เวลาที่มนุษย์ให้กำเนิดชีวิตนี่เขาทำยังไงกันล่ะ?" เขาถามผมอีกครั้ง

นี่มันจะลองภูมิวิชาสุขศึกษาผมหรือไงวะ? เฮ้ย! นี่ไม่อยากจะโม้นะว่าได้เกรดสี่มาทุกเทอมที่เรียนน่ะไอ้เต๋าค่อนข้างมั่นใจว่ากูไม่ได้โง่

"ก็... จะบะร่ะฮึ่ยกันไง?"

มันย่นคิ้วงงๆ "อะไร?"

"เอ้าไอ้โง่! เขาก็มีSEXกันไงวะ!"

มันทำหน้าบ้างอ้อ พยักหน้าหงึกหงักก่อนจะพูดกับผมอีก "นั่นล่ะที่จะบอก"

"เฮ้ยแล้วมันเกี่ยวไร?"  คำพูดมันชวนสยิวกิ้วเสียวตูดชอบกลว่ะครับ!

"ก็เกี่ยวสิก็ในเมื่อชีวิตนับล้านมันอยู่ในตัวของนาย..."

แล้วความจำค่ำคืนที่แสนจะเจ็บใจก็หวนกลับมาในความคิดของผม ร่างแกร่งที่ใส่เสื้อครบชุดที่เอารัดเอาเปรียบผมด้วยการแก้ผ้าหมดทั้งตัว ไม่พอมันยังขย่มผมอย่างกับผู้หญิง นี่ถ้าท้องได้นี่ท้องไปนานแล้วนะเนี่ย...

สักพักใบหน้าของผมมันก็เริ่มร้อนฉ่าขึ้นมาเสียดื้อๆ เหมือนเลือดมันกำลังขึ้นมาหล่อเลี้ยงแค่ส่วนนั้นจนมันแดงจัด

สมองขี้เลื่อยนี่เกทขึ้นมาในทันที จะให้กำเนิดชีวิตได้นี่คือผมต้องยิงกระสุนชีวิตใส่ไปที่รังไข่ของผู้หญิง จากนั้นก็จะเกิดการปฏิสนธิจนเกิดเป็นชีวิตน้อยๆขึ้นมา... ฮ่า! วิชาสุขศึกษาของผมนี่ยังคงเปะอยู่วะเฮ้ย! แต่...

"จะบ้าเรอะ!"

ผมตวาดห้วนเกิดอาการขมิบก้นขึ้นมาในทันที แต่มันกลับเอาแต่หัวเราะครืนจนน่าถีบ แต่น่าเสียดายที่ร่างกายผมถูกตรึงเอาไว้

"จะ... จะ บ้าหรอมากินกันง่ายๆได้ยังไงกันวะ นี่เป็นเจ้านายไม่ใช่หรอต้องเชื่อฟังสิไม่ใช่บังคับขืนใจกัน" ผมนี่ใช้สิทธิ์เจ้านายขึ้นมาในทันที

"ก็อยากรู้ไม่ใช่หรอว่าเราเป็นมายังไง"

"ตอนนี้ไม่อยากแล้วเว้ย!"

"ถ้าอย่างนั้นขอพรมาก็ได้ทำได้นะ"

"นี่มึงคิดว่ามึงเป็นจินนี่หรือไง!?"

"ไม่ถึงกับเป็นจินนี่นะ แต่ก็ทำได้ดีไม่ต่างกัน"

บร๊ะ!!! ไอ้หน้าด้าน!

ผมนี่ถึงกับหอบฮักหน้าแดงหน้าเขียวมองหน้าไอ้ผีตุ๊กตาหื่นกาม ตอนนี้ไม่สนแล้วเว้ยว่าจะเป็นปีศาจหรืออะไร แต่ที่รู้ๆ แม่งหื่นชิบหาย!

"มึงก็ให้พรตัวเองแล้วไปหาผู้หญิงเซ่!"

"ก็ผู้หญิงกินไม่อิ่ม"

ผมย่นคิ้วด้วยความงง "ทำไมวะ?"

"ก็มีไข่ใบเดียว ชีวิตเดียวจะอิ่มอะไร"

"ว๊ากกกก!!! ไม่เอาออกไปไอ้เหี๊ยะ!" ผมนี่ดิ้นพล่านเลยครับ!

"แต่ถ้าไม่กินก็จะไม่มีพลังพอ... บางทีฉันอาจจะหิวจนตาลาย และอาจจะกินชีวิตเจ้านายจริงๆ"

"ฮะ?" ผมชะงักเล็กน้อยย่นคิ้วมองด้วยความมึน

สายตาที่แน่วแน่ทอดมองลงมาดูจริงจัง และน่าหวาดกลัว ในชั่วขณะผมเหมือนเห็นแววตาที่เศร้าของเขาชั่วครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะจางหายไป และแทนที่ด้วยความน่ากลัวจนเผลอกลืนน้ำลายอึกที่ฝืดเคือง

"ขอร้องล่ะ... อย่าทำให้เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นเพราะเราไม่อยากทำร้ายเจ้านาย" น้ำเสียงที่เบาหวิวดูร้องขออย่างไรชอบกล แววตาของคริสเปลี่ยนไปกลายเป็นเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะฟุบตัวลงทับกับร่างกายของผม ซุกศีรษะอยู่ที่ข้างแก้มจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกลิ่นกำยานที่ลอยออกมาจนเตะจมูก ซึงผมที่กำลังนอนอึ้งนี่ถึงกับทำตัวไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี...

 รู้สึกใจหาย และใจอ่อนยวบ...

"ละ... แล้วกินอย่างอื่นไม่ได้จริงๆหรอ?" ผมพยายามถามกลับไปแม้ว่าใจจะเต้นแรง และปากสั่นมากก็ตาม

"ฉัน... ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้วถึงจะเป็นมนุษย์มาก่อนก็ตาม ร่างกายของฉัน... ต้องพึ่งชีวิตพวกนั้น"

"อ่อ... แล้วชีวิตพวกนั้นจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ... ที่.. ที่นายกินเข้าไปน่ะ" ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ผมถามไปเช่นนั้น รู้แค่ว่าผมอยากรู้มาก อย่างน้อยถ้าผมรู้ผมอาจจะตัดสินใจได้ถูก

คริสค่อยๆยันตัว และสบตาผมนิ่ง...

"ฉันกินชีวิตมนุษย์ จนกระทั่งเขาตาย วิญญาณจะถูกส่งไปในที่ๆหนึ่ง... เป็นทาสของซาตาน..."

"เห?"

"ก็อย่างที่บอกว่าฉันถูกคำสาปจากพวกพ่อมดด้านมืดที่อยากจะลองดีกับ..."

เขาเบือนหน้าหนีสายตาของผมที่เต็มไปด้วยคำถาม มันดูเจ็บปวดในยามที่เขาพูดถึง จนผมไม่กล้าที่จะถามเขาต่อราวกับว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่มันช่างทรมาน...

ผมเงียบมองวงหน้าด้านข้างที่คมหล่อนิ่งก่อนจะถามขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งแม้แต่ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงพูด "แล้ว... มันมีหนทางที่จะช่วยให้หลุดพ้นหรือเปล่า"

"หึ" เขากระตุกยิ้มเหมือนขบขันในสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะหันมาทางผมอย่างช้าๆ "มีสิทำไมจะไม่มี..." ชั่วขณะนั้นแววตาของเขามันช่างเย็นชาเหลือเกิน "แต่ถึงจะมีมันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้ในเมื่อเจ้าพ่อมดเลวนั่น... ได้หนีตายจากเรามาหลายร้อยปีแล้ว..."
และในครั้งนั้นเอง... ผมจึงตระหนักขึ้นมาในความคิด ว่าความทรมานที่ติดอยู่ในร่างตุ๊กตาเหมือนตายทั้งเป็นนั่น มันรู้สึกยังไง....







ในค่ำคืนที่หนาวเย็นกว่าทุกคืนที่ผ่านมามันทำให้ร่างกายของผมหนาวสะท้าน รูขุมขนตั้งชัน และขนลุกเกรียวไปทั้งอณู แต่ทว่าความหนาวเย็นเหล่านั้นกลับถูกเผาผลาญด้วยไอร้อนของเหงื่อที่ชุ่มกาย มันร้อนรุม และหนาวสะท้านตีรวนปนเป เสมือนร่างกายกำลังปั่นป่วนด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรู้สึกกระสันเหล่านั้น

ร่างกายถูกครอบครองด้วยชายแปลกหน้า แต่ทว่าเขากลับไมใช่มนุษย์อย่างที่เห็น เรือนร่างที่กำยำกำลังเคลื่อนทับเข้าหา กดจูบดูดเม้มไปตามเรือนร่างเสมือนร่างกายของผมเป็นดอกไม้หวานที่ให้เขาดื่มด่ำ

ริมฝีปากอวบอิ่มไล่ไปตามผิวกายที่ชื้นแฉะด้วยไคลเหงื่อที่ชุ่มกาย จากหน้าอกค่อยๆเลื่อนลงไปยังท้องน้อยจนผมรู้สึกเสียววาบ ดวงตาหลับแน่นพยายามสะกดกลั้นเสียงที่จะเล็ดรอดออกมา หอบหายใจหนัก และเผลอแอ่นกายไปตามสัมผัสที่วาบหวิว..

"อ่ะ อือ..."  นี่คือเสียงที่น่าอายที่สุดสำหรับผมเลยก็ว่าได้ แต่มันไม่อาจที่จะฝืนได้อีกแล้ว เมื่อริมฝีปากหนาค่อยๆครอบงำมาที่แก่นกายส่วนกลางที่แข็งขืน เขากำลังกลืนกินมันอย่างช้าๆ โลมเลียอย่างอ้อยอิ่ง ผะแผ่วจนรู้สึกเคลิบเคลิ้มจนเผลอล่องลอยไปกับสัมผัสนั้น

"อา..." เสียงทุ้มแหบพร่าครางกระเส่าโดยที่ไม่รู้ตัว

ดวงตาของผมฉ่ำเยิ้ม ปรือตามองเพดานที่พร่ามัว แสงสลัวยิ่งเพิ่มบรรยากาศที่เป็นใจจนเกิดอารมณ์คล้อยตาม นิ้วเรียวค่อยๆกอบกำไปที่กลุ่มผมนิ่มสลวย มือที่ว่างขบนิ้วของตัวเองผะแผ่ว ความรู้สึกในยามที่ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากอวบอิ่ม มันช่าง... รู้สึกดี...

เสียงชื้นแฉะของโพลงปากที่เนิบนาบค่อยๆดูดดุน และเร่งจังหวะเป็นร้อนแรงในเวลาอันสั้นจนร่างกายของผมบิดเร้าระส่ำกาย ร้องครางอื้ออึงราวกับไม่ใช่ตัวตนของผมเอง แอ่นกายแหงนหงายจวนเจียนระเบิด เมื่อสิ่งที่คริสปรนเปรอมันกำลังทำให้ผมกลายเป็นคนบ้า

เสียววาบไปตามท้องน้อยมันอัดแน่นจนมวลท้องในยามที่ถึงขีดสุดของร่างกาย อารมณ์ที่อึดอัดอยากจะปลดปล่อยจนท่อนลำแข็งขืน ยิ่งรู้ว่าผมใกล้จะถึงที่หมาย ริมฝีปาก และศีรษะที่เข้าออกยิ่งเร่งจังหวะกระตุ้นเร่งเร้าจนร่างกายของผมแทบจะแตกละเอียด กำกลุ่มผมนิ่มหลับตาแน่นคราง "อะ อ๊า!" ราวกับผู้หญิง นาทีนั้นมันช่างน่าอาย... น่าอายมากจริงๆ...

อึก!

เสียงกล้ำกลืนดื่มด่ำน้ำคาวที่ถูกปลดปล่อยยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขิน ยิ่งเห็นดวงตาสีครามทะเลที่ช้อนขึ้นมองในยามที่กลืนกินมันเข้าไปราวกับอาหารอันโอชะยิ่งทำให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว ในเวลานี้ผมกลับกลายเป็นสาวน้อยที่เสียเวอร์จิ้นไปในทันที เกิดมายี่สิบเอ็ดปีนี่ก็ถูกผู้ชายด้วยกันจับกินเป็นครั้งที่สองแล้วละวะ อย่าถามถึงความมาดแมนร้อยเปอร์เซ็นต์ของผม เพราะตอนนี้มันค่อยๆลดลงฮวบๆอย่างเห็นได้ชัดด้วยน้ำมือของคริสไอ้ปีศาจร้ายหรือดอลฟี่ผีสิงสายหื่นกามนี่ยังไงล่ะ!

"ฮึก..." ผมหอบหายใจเหมือนตัวเองเพิ่งจะวิ่งฝ่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาหมาดๆ หัวใจเต้นตึกตักแทบทะลุจนมันดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผม ดวงตาฉ่ำเยิ้มมองคริสที่ยิ้มบางๆ เขาดูเหมือนพอใจในรสชาติคาวหวานหรือที่เขาเรียกว่าชีวิตนับล้านซึ่งจะกลายมาเป็นลูกๆของผมนั่นล่ะ

"พะ... พอได้แล้ว ฮือ..."

ผมบิดเร้าสะโพกไปตามนิ้วเรียวที่ค่อยๆสอดใส่เข้ามาในโพลงที่คับแคบอย่างช้าๆ เมื่อสิ่งที่คิดว่าน่าจะพอสำหรับมันไม่ได้ทำให้คริสพึงพอใจเสียเท่าไร เมื่อมันกินส่วนหนึ่งที่ออกมาจากร่างกายของผมเข้าไป ก็คงถึงเวลาที่ผมจะกินสิ่งที่แข็งขืนของคริสบ้างเช่นกัน

แต่... ถามผมยังว่าอยากกินไหม?

"ไม่ ฮึก ไม่เอา"  ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมนางเอกหนังAVเวลาที่มีกิจกกรรมเข้าจังหวะแบบนี้มันต้องครางอืออาส่งเสียงหวานให้กระตุ้นหัวใจเล่นๆ มันก็คงเหมือนกับผมละมั้งที่กำลังรู้สึกแปลกๆกับร่างกายจนเผลอส่งเสียงที่น่าอายออกมา น้ำเสียงแหบพร่านี่ทำเอาหัวใจเต้นแรงไม่น้อย คำร้องขอปฏิเสธเหมือจุดชนวนให้ร่างแกร่งยิ่งทาบทับลงมา

ใบหน้าหล่อเหลาที่ทอดลงมองจุดยิ้มที่มุมปาก มันช่างร้ายกาจเกินกว่าที่ผมจะสรรหาอะไรมาบรรยายกับรอยยิ้มนั้น เหมือนมันกำลังกลั่นแกล้งให้ร่างกายของผมแตกหักสะบั้น นิ้วแกร่งที่เข้ามาภายในขยับคว้านเหมือนหาของเล่นข้างในนั้นก็ไม่ปาน

"อือ... ฮือ!" ผมขบฟันแน่นกลั้นเสียงที่มันจะเปล่งออกมา หลับตาน้ำตาปริ่มสะกดกลั้นความกระสันเมื่อคริสกำลังสัมผัสไปที่ส่วนอ่อนไหว

ใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวเข้าหา จากนั้นจึงบดเบียดริมฝีปากรุนแรง ผมเผลอคลายมือจากสิ่งที่ยึดเหนี่ยวแล้วคว้าเอาไหล่แกร่งที่กำยำเอาไว้ ร่างกายที่ชุ่มเหงื่อยิ่งทำให้ผม และเขามีความใคร่ในอารมณ์ตันหาจนเพิ่มทวี หลับตาแน่นดูดเม้มกลีบปาก บ้าคลั่งเหมือนถูกชักจูงโดยมนต์สะกด ลิ้นร้อนโลมเลียแลกน้ำลายที่จืดชืด แต่นั่นมันกลับทำให้ผมรู้สึกดี และล่องลอย เผลอไผลไปกับรสจูบนั้นจนผ่อนปรนสะโพกที่เกร็งรับนิ้วเรียว

กึก!

"อ่ะ ฮื่ออออ!!" ครางในลำคอข่มขู่ด้วยความเจ็บเมื่อท่อนลำที่แข็งแกร่งดันกายผลุบเข้ามาภายในได้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าไม่อาจที่จะร้องโวยวายเมื่อผมถูกครอบงำโดยคริส ลิ้นของเราเกี่ยวพันแทบไม่รู้เรื่องราวขบเม้มเหมือนเป็นขนมหวานจนกลายเป็นความรู้สึกชอบในเวลาต่อมา ความเจ็บปวดที่เคยมีมลายหายไปก่อนจะกลายเป็นความเสียววาบแล่นพล่านไปตามไขกระดูกสันหลัง
 
ยอมรับเลยว่าเสียวมาก กระสันมาก และ... ผมเคลิ้มไปกับลำแกร่งนั่นมาก

ยิ่งคริสเร่งจังหวะที่หนักหน่วงจนเตียงโคลงไปตามพละกำลังที่มหาศาลนั่น แทบจะไม่รับรู้ความเจ็บปวดเหล่านั้นเมื่อมันรู้สึกเสียววาบไปตามท้องน้อยมากกว่าความเจ็บจนร้องครางระงม นิ้วเรียวกดจิกไปตามไหล่แกร่งเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว น้ำตาของผมไหลไปตามแก้มอย่างช้าๆโดยที่ไม่มีเสียงออกมาสักเเอะ ไม่เข้าใจว่าผมกำลังเจ็บหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ เพียงแค่ว่าผมอยากปลดปล่อยมันออกมาก็เท่านั้น

ริมฝีปากของคริสกดจูบไปตามขมับข้างที่เปียกชื้น จูบซับหยาดน้ำตาของผมเหมือนปลอบประโลมร่างกาย และยิ่งถาโถมเข้าใส่จนร่างกายของผมแข็งตัวจนแทบจะระเบิด สิ่งที่เขามอบให้มันเหมือนกับมนต์วิเศษที่ทำให้ร่างกายของผมล่องลอย ร่างกายบิดเร้าด้วยความอัดแน่นในอารมณ์ของตัวเอง และของคริสที่แข็งปลักจนคับแน่นไปตามช่องทาง กระสันจนรูขุมขนตั้งชันก่อนที่ร่างกายจะเสียววาบ และปลดปล่อยสิ่งที่อัดแน่นออกมาจนหมดเรี่ยวแรง...

"ฮึก..."

"เต๋า..."

"อืม..."

ครางในลำคอด้วยความรำคาญเมื่อร่างกายของผมเหมือนถูกดูดกินวิญญาณออกไปจนไม่อยากรับรู้สิ่งใดแล้ว ผมปรือตาขึ้นท่ามกลางความมืดสลัวไปทางข้างหน้า ซึ่งคริสที่อยู่ด้านหลังของผม และกอดก่ายจนรู้สึกถึงความอบอุ่น เขากระซิบกระซาบเหมือนพูดอะไรบางอย่างอยู่ข้างหู...

"ขอบคุณ... ที่ไม่กลัว..."

"..."

ไม่กลัวหรอ? จะบ้าเรอะนี่กลัวจะตายห่า!

แต่ถึงจะกลัวแต่ก็อยากเข้าหา และไม่อยากทอดทิ้ง  ไม่รู้เป็นอะไรเวลาที่มองตานายแล้วฉันรู้สึกถึงความรัก แววตาของนายมันสวยเสียจนฉันไม่อาจทอดทิ้งนายได้ลงเลยล่ะคริส...

แต่ผมขี้เกียจที่จะพูดมันออกไปเมื่อรู้สึกเหนื่อยมากเหมือนโดนสูบพลังงานในร่างกายออกไปทั้งหมด ทั้งๆที่ผมออกจะแข็งแรงเหมือนผู้ชายทั่วไปเเต่ตอนนี้มันกลับเหนื่อยง่าย เเละอ่อนเเอ มันเหนื่อย... จนไม่อยากจะทำอะไร และค่อยๆหลับตาลงเพื่อพักผ่อน

ผมได้ยินเสียหัวเราะที่แผ่วเบาของเขาเหมือนพอใจอะไรบางอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ได้ยิน...


นั่นคือเสียงสัญญาณของหัวใจ...














.....

 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-12-2014 18:49:35
 :z1:    :-[.  :haun4:   อิ่มแล้วสินะ
เต๋าต้องบำรุงซักหน่อยแล้วนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 01-12-2014 19:05:16
วรั๊ยๆๆๆๆๆ น่ารักจริงๆเบย คริสนี่น้าจะว่าหื่นก็ไม่ได้ เพราะเค้าหิว
จะว่าโหดก็ไม่ได้ เพราะเค้าโดนสาปให้เป็นยังนั้น โหยๆ เต๋าเราโดนทั้งสูบวิญญาณทั้งหัวใจใชัวร์
555555555 มาต่ออีกไวๆน้า รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-12-2014 19:52:04
คริสน่าสงสารอ่ะ มีทางทำให้กลับมาเป็นคนมั้ย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 01-12-2014 20:22:38
อ่านสองตอนควบหายข้องทุกข้อเลย
คริสหิวแล้วเต๋าหิวบ้างดิ่

"เสียงสัญญาณหัวใจ"

...ของคริสเหรอ?
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-12-2014 20:26:10
เลิศมากลูกดีแล้วหาหนุ่มหล่อๆมาดูแลเรา เราก็ต้องแลกเปลี่ยนกับเขาหน่อยนะเป็นการ
ตอบแทนไงหนูเต๋า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 01-12-2014 20:38:39
ต้องใช้ความรัก ใช่มะ ถึงจะเป็นคนเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 01-12-2014 20:51:10
อร๊ายย  ลูกๆเต๋าโดนกินไปซะล่ะ  :hao6:

คนแต่งลงเร็วมาก ปลื้มปริ่มม :3123:

ขอบคุณค้าา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 01-12-2014 21:15:22
เฮ้ย!!! :a5: ไม่เข้ามาแค่ไม่มีกี่วัน ไรเตอร์มาต่อตั้งสามตอน  ...สุโค่ยว่ะ o13

พออ่านมาทั้งสามตอนแล้ว ...เป็ดที่เป็นน้องน่าสงสัยจริงๆเลยน้า สงสัยจะมโนไปเอง 
ตัวดอลฟี่คริสเองก็น่าสงสัยเหมือนกัน เพราะมาเจอประโยคที่ว่า ...ผมได้ยินเสียหัวเราะที่แผ่วเบาของเขาเหมือนพอใจอะไรบางอย่าง ...ฟังดูเหมือนมันมีเงื่อนงำเลยว่ะ

ปล.เต๋า ตอนนี้นายเป็นนากเอกที่เอ๊กซ์มากกกกกก  ไหนๆดอลฟี่คริสก็ต้องกินอาหารแบบนี้อย่างเดียว คราวหลังนายก็ช่วยเซอร์วิสฉากนี้กับคริสบ่อยๆหน่อยนะ  เราชอบ :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 01-12-2014 21:43:36
น่าร๊าก
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 01-12-2014 22:14:24
 :hao6: :hao6: :hao7: อุฮิ คริสอย่าทำรุนแรงกะเต๋าสิตะเอง:mew4:เดี๋ยวสึกหรอๆหรอก :katai2-1: :impress2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 02-12-2014 00:13:43
ลงเร็วถูกใจแม่ยกคริสมากๆค่ะ ฮิฮิ
มีความรู้สึกว่าเต๋าจะยิ่งร่างกายอ่อนแอลงรึเปล่า???
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-12-2014 03:58:20
คริสทำเรากำเดาแทบพุ่ง...

ร้อนแรงมากพ่อคุณเอ้ย.. :m25:

วิธีแก้มันน่าจะมีค่อยๆคิดกันไป
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: wapview ที่ 02-12-2014 07:26:21
อุต้ะ  กินอิ่มนอนหลับคะ ลูก 55555555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 8- P4 - 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 02-12-2014 14:36:44
ตอนแรกใจเอนเอียงไปทางน้องส้มแต่ตอนนี้กลับมาหาคิดเหมือนเดิมล่ะ ฮุฮุ
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 03-12-2014 01:31:28
 :katai4:






DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
9







ผมนี่เคยวาดฝันเอาไว้ว่าครั้งแรกของผมที่เสียหนุ่มให้กับสาวๆหรือไม่ก็แฟนที่รัก หลังจากตื่นเช้าขึ้นมาผมจะจุดซิกการ์แล้วคาบเอาไว้เท่ๆ เวลาที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาผมจะบอกอรุณสวัสดิ์ จะกระซิบแผ่วเบาแล้วบอกกับเธอว่า "อรุณสวัสดิ์ที่รัก" หลังจากนั้นเธอก็จะยิ้มหวานแล้วกระเถิบดูมๆมาที่หน้าอกของผม ซบใบหน้าเนียนๆอยู่ตรงหัวใจ แล้วผมก็จะโอบกอดเธอเอาไว้พร้อมๆกับยิ้มร้ายกาจเหมือนมาเฟียในหนัง...

แม๊! มันเป็นอะไรที่เท่โคตรๆเลยล่ะถ้าสิ่งที่ผมคิดมันเป็นจริงขึ้นมา อย่างน้อยไอ้การที่ผมเกิดเป็นชายนี่ก็ยังเคยได้ใช้ลำกล้องที่แสดงความเป็นผู้ชายแมนๆละวะ หรือว่าคุณไม่เคยคิด ไม่เคยคิดงั้นหรอ? อย่ามาโกหกหน้าตาย! ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักอยากจะได้แอ้มสาวกันทั้งนั้น ยิ่งขาวๆสวยๆหุ่นบางๆ หน้าอกดูมๆด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความฟินเป็นสิบเท่า แค่คิดนี่ผมก็เคลิ้มไปถึงดาวอังคารแล้วล่ะครับ!

แต่...

มันต้องไม่ใช่แบบนี้...

ไม่ใช่เอาหุ่นหมี ไม่เอาหล่อเท่จนกรูรู้สึกอิจฉา ไม่เอาหน้าอกแบนราบเป็นไม้กระดานแบบนี้...

ฮอล์ลลลลลลลล.....!!!!! นี่ผมทำอะรายลงปายยยยยยยยย!!!!

พ่ออยากจะร้องว๊ากให้ลั่นห้องแต่ด้วยเกรงใจไอ้ห้องข้างๆเลยไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงร้องออกมาสักแอะ นั่งอึน มึน งง ด้วยใบหน้าของคนที่เพิ่งจะตื่นนอนแล้วยังไม่แคะขี้ตาออกมาสักเม็ด หัวฟูๆกับอาการงงงวยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

จำได้ว่านั่งคุยกับคริส แล้วไอ้บ้านั่นก็บอกว่าหิว...

ฉ่า....

ย๊ากกกกกกก!!!! ทำไมต้องเห็นภาพตัวเองตอนที่โดนไอ้ตุ๊กตาปีศาจนั่นขย่มด้วยวะ! รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น! แน่นอนว่ามันจะไม่มีวันเปิดเผยออกไปอย่างแน่นอน! คิดแล้วก็เจ็บใจตัวเองไม่น่าโง่หลงไปกับคำพูดที่ดูน่าสงสารนั่นเลยให้ตายสิ! น้ำตาจะไหลขอกระดาษทิชชูด้วยครับ!

  มองซ้ายมองขวามองหาไอ้ตัวปัญหาที่ทำลายความแมนของผมให้ย่อยยับป่นปี้ไม่มีเหลือ ประตูหลังถูกศัตรูบุกทะลวงจนแตกพ่ายภายในคืนที่สอง ความเวอร์จิ้นที่เก็บสะสมมานานถูกคาบไปด้วยตุ๊กตาดอลฟี่ของตัวเอง โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ผมนี่แทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีเลยครับ!

ย่นคิ้วชักสีหน้าไม่พอใจตุ๊กตาดอลฟี่ที่นอนนิ่งพิงอยู่บนหมอนนุ่มเคียงข้างผม ราวกับว่าค่ำคืนที่ผ่านมาไม่ได้มีกิจกรรมจังหวะร็อกที่โยกซะเตียงเกือบจะพัง เห็นแล้วมันหงุดหงิดเว้ย! กินอิ่มแล้วหลับสบายแบบนี้มันน่าอุ้มขึ้นมาแล้วจับฟัดอีกซักรอบ...
ม๊วฟฟฟฟ!!! "อรุณสวัสดิ์คริส"

สบตาสีครามทะเลของดอลฟี่คริสที่ไม่หือไม่อืออีกเช่นเคยตาปริบๆ

"..."

มันต้องไม่ใช่แบบนี้เซ่! ยังจะมีหน้ามาทักทายกันอีกนะ ผมควรที่จะโกรธเค้าไม่ใช่หรอไหงใจอ่อนกับดอลฟี่อีกแล้ววะ! ไอ้นิสัยเห็นความน่ารักแล้วใจอ่อนนี่มันแก้ไม่หายเลยจริงๆ มองคริสที่แน่นิ่งแล้วถอนลมหายใจอย่างปลงๆ

เฮ้อ! นี่กรูกำลังทำบ้าอะไรตอนเช้าๆแบบนี้วะ เพราะไอ้ดอลฟี่ตัวนี้แท้ๆที่ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป จากที่เคยนอนตื่นสายตูดโด่งแล้วตะลีตะลานไปมหาลัยกลับกลายมาเป็นว่าผมต้องมานั่งจูจุ๊บอรุณสวัสดิ์ หรือไม่ก็มานั่งคิดบ้าบออยู่คนเดียว...

แต่ปกติก็ทำแบบนี้กับพวกลูลู่อยู่แล้วประจำนี่หว่า...

มองคริสตาปริบๆอีกครั้งหวังว่ามันจะพูดอะไรสักอย่างแม้ว่าจะรู้ดีว่ามันคงไม่มีประโยชน์ในเมื่อไอ้บ้านี่คิดจะเป็นมนุษย์ก็เป็น คิดจะอยู่ในร่างตุ๊กตาก็อย่างหวังว่ากูจะตอบมึง ตกลงมันเป็นตุ๊กตาผีสิง จินนี่ หรือว่าเป็นปีศาจซาตานกันแน่วะ? ผมนี่เดาอารมณ์เขาไม่ถูกเลย แต่ดูเหมือนว่าตัวเองจะโดนหลอกยังไงชอบกล... หรือผมคิดไปเองวะ?

เอ้อ! ช่างเถอะผมว่าผมควรที่จะหยุดคิดเรื่องพวกนี้ซะ แล้วพาร่างกายที่เมื่อยล้า และเหนียวเหนอะหนะเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว รู้สึกท้องร้องโครกครากจนต้องคลำท้องป้อยๆ เมื่อวานเย็นแทบจะไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยด้วยมั้ง พอเช้าขึ้นมาน้ำย้อยมันเลยร้องประท้วงอย่างที่เห็น

"เฮ้อ! นิสัยแย่ชะมัดกินอิ่มอยู่คนเดียวแต่ปล่อยให้เจ้านายหิว..." ผมวางคริสเอาไว้บนที่นอนตามเดิมแล้วค่อยๆกระเถิบก้นที่สะโพกรู้สึกปวดระบมลงจากเตียง นิ่วหน้าด้วยความปวดแล้วคล้ำป้อยๆ

ไหงเช้านี้มันเจ็บกว่ารอบที่แล้ววะ! แต่ช่างมันก่อนตอนนี้หิวมากควรอาบน้ำแล้วรีบไปมหาลัยเพื่อหาอะไรกิน แต่เช้าๆแบบนี้ได้นมร้อนๆกับขนมปังปิ้งทาเนยร้านหน้าปากซอยก็ยังดี

"อยากกินขนมปังกับโอวันตินร้อนๆว่ะ แต่ขี้เกียจชิปหาย" บ่นกับตัวเองงึมงำก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระคราบเหงื่อไคลที่เหนียวหนึบ

เพียงเวลาไม่นานผมออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกโล่งสบาย และเบาตัวขึ้นมาก แต่พอเปิดประตูห้องออกมาเท่านั้นผมกลับได้กลิ่นโกโก้ที่อบอวลไปทั้งห้อง ได้กลิ่นขนมปังจนเผลอกลืนน้ำลายอึก รีบเดินไปที่หน้าจอทีวี ที่ๆผมมักใช้เป็นที่ส่วนสำหรับกินข้าวของผมนั่นล่ะครับ ปรากฏเห็นถาดขนมปังปิ้งที่ถูกทาด้วยเนย และแยมหน้าต่างๆ มีเหยือกลายสวยวางไว้ข้างๆ และแก้วโกโก้ที่มีควันขึ้นหอมกรุ่น รู้สึกงงว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง แต่เมื่อหันไปทางคริสผมนี่แทบไม่ต้องเดา

ยิ้มออกมาบางๆ "ก็เป็นเด็กดีเหมือนกันนี่" ผมชมเขาเบาๆ และรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับมาจัดการกับขนมปังฝีมือของคริสที่เตรียมเอาไว้ ครั้งแรกที่กินเข้าไปผมรับรสที่หอมอร่อยจนซัดไปจนหมด เป็นครั้งแรกที่เคยกินขนมปังที่กรอบแต่ก็นุ่มในแบบนี้มันไม่เหมือนกับขนมปังที่ขายอยู่ตามข้างทาง ไม่คิดว่าคริสจะทำขนมปังพวกนี้เป็น...

จริงสินะแค่ใช้เวทย์มนต์อย่างที่โม้เอาไว้ก็สามารถเสกขนมปังอร่อยๆนี่ได้แล้ว...

ขอพรอย่างนั้นหรอ?

ผมจิบโกโก้อุ่นๆอย่างใช้ความคิด

ที่บอกว่าให้ขอพรแล้วจะทำตามคำขอนี่มันจะเป็นจริงได้อย่างนั้นหรอ? แล้วมันไม่มีข้อแม้หรือกฎเกณฑ์อะไรเลยหรือไง ขนาดจินนี่ยังขอได้แค่สามข้อ แต่คริสกลับคะยั้นคะยอโดยที่ไม่บอกรายละเอียดอะไรเลยแบบนี้มันน่าสงสัยจริงๆ...

แต่ถึงจะสงสัยไปก็คงเปล่าประโยชน์ในเมื่อตอนนี้เจ้าตัวไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนทำให้รู้ว่ามีชีวิตจริงๆ มองอย่างไรก็เป็นแค่ดอลฟี่ธรรมดาเท่านั้น ผมถอนลมหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อย และคิดว่าเย็นนี้อาจจะกลับมาคุยกับเขาอีกครั้ง แต่... ถ้าเกิดถามไปแล้วไอ้บ้าคริสเกิดเล่นลิ้นขึ้นมาอีกล่ะไม่เท่ากับเสียตัวเหมือนเมื่อคืนหรอวะ? แค่ได้ยินคำว่าฉันหิวนี่ก็ขนลุกเกรียวแล้วเว้ย! ไม่เอาดีกว่าคืนนี้จะกลับค่ำๆพอถึงห้องก็แกล้งหลับมันซะเลยถ้าขืนมีอะไรกันติดๆกันนานๆไอ้เต๋าคงเดี้ยงซะก่อน

แล้ว...

ทำไมผมต้องมานั่งคิดกังวลกับเรื่องคืนนี้อีกวะ! ถึงจะบอกว่าหิวนี่ก็จะไม่ให้กินอีกแล้ว ในเมื่อเป็นเจ้านายก็ต้องเชื่อฟังดิ่!

พอๆเลิกๆนั่งอยู่ในห้องนานแล้วฟุ้งซ่าน ลุกขึ้นคว้ากระเป๋า และกุญแจห้องเพื่อเตรียมจะเข้ามหาลัย ไม่วายต้องล่ำลาลูกๆสามตัวที่นั่งอยู่ ช่วงนี้ไม่ได้จูจุ๊บกันเลยเดี๋ยวเด็กๆน้อยใจแย่ ส่วนคริสน่ะหรอ...

ปล่อยให้มันนอนอืดตรงนั้นไปเหอะผมโกรธมัน!

 :angry2:




"หน้ามึงโทรมๆนะยังไม่ฟื้นไข้อีกหรอวะ?" ผมปัดมือของไอ้ไก่ที่ชี้นิ้วมาที่หน้าของผม ไอ้ห่า! เสียมารยาทจริงๆมาว่าเต๋าสุดหล่อคนนี้ว่าหน้าโทรมได้ไงวะ

"โทรมตรงไหนวะก็หล่อเหมือนเดิม" ผมว่าพลางรีบๆเดินไปที่ซุ้มหลังจากที่เรียนมาทั้งวันจนหมดคาบเรียนช่วงบ่ายสามกว่าๆ รู้สึกง่วงมากจนอยากจะหลับสักงีบ กะว่าถึงซุ้มแล้วจะปูเสื่อนอนพักสักหน่อย

"ถุ้ย! เออไอ้หล่อ หล่อลากเลยล่ะมึงอ่ะ" น้ำเสียงประชดแถมทับถมด้วยน้ำลาย

"ไอ้สัดไก่!" ผมโบกมันไปทีแต่ดูเหมือนวิทยายุทธ์ของมันจะล้ำหน้าไปอีกก้าวผมเลยโบกเอาลมซะเต็มเหนี่ยว ไอ้เพื่อนเวงมันยังมีหน้ามาหัวเราะ

"อ้าว รับตัวเองไม่ได้อีก โถ ไอ้หล่อลงเบื้อย"

"คะ คุ!" ผมยกนิ้วกลางให้มันด้วยความกวนตรีนที่อยากจะยันก้นปอดๆของมันสักป้าบให้หายโมโห ไอ้ไก่มันลอยหน้าลอยตาแล้วรีบเดินไปที่ซุ้ม ผมซึ่งเห็นกลุ่มคนอยู่ไกลๆคงไม่พ้นเตรียมก๊งเหล้ากันอีกแน่ๆ

"พี่เต๋า!" เสียงไอ้ส้มร้องลั่น แล้วกวักมือเรียกผม สีหน้าระรี้ระริกยกมือไหว้ผมกับไอ้ไก่ก่อนจะทักผมอีกครั้ง "ดีขึ้นเยอะแล้วใช่ไหมพี่"

ผมพยักหน้า "อืมหายแล้วไม่ต้องห่วงพี่หรอก" แล้วก็ยกมือยีหัวมันเบาๆ

"โหยๆๆๆ ไรวะไปเฝ้าไข้คืนเดียวนี่พวกมึงสนิทกันขนาดนี้เลย เห็นทุกทีมึงมาไอ้เป็ดมันจะนั่งเงียบไหงกระดิกหางเหมือนหมาเจอเจ้าของวะ"

"พี่แบคอ่ะ เป็ดเป็นคนนะไม่ใช่หมา" น้ำเสียงงอนใส่ไอ้แบคที่แซวก่อนจะกวักมือเรียกผมให้ไปนั่งข้างๆมันผมเลยเดินเข้าไปหามันสักหน่อย

"อ้าวไอ้เต๋า มึงทิ้งเมียจ๋าอย่างนี้เลยหรอ?" เสียงอีแคทแซวผมจากวงไพ่ที่พวกมันหลายคนกำลังนั่งหน้าเครียดทำสมาธิกันเงียบกริบทั้งวง

"เมียจ๋าบ้านมึงสิอีแคท!" ไอ้ไก่แหวเสียงลั่น ส่วนผมนี่ได้แต่นั่งทำตาปริบๆใสใส กูซื่อนะบอกตามตรงหันไปทางไอ้ไก่

"เอ้า! เมียจ๋าผัวขอโทษ รีบๆมานั่งข้างๆกูสิไอ้ห่า" ให้มันแซวอยู่ได้เดี๋ยวได้เกิดมวย

"เอ้าฮี้ววววว!" แล้วไอ้พวกวงไพ่ก็เสือกบ้าจี้กวนตีนใส่พวกผมอีก เห็นแล้วมันปวดสมองจริงๆถ้าเป็นเวลาปกติผมอาจจะเดินเข้าไปเตะก้นพวกมันคนละที แต่วันนี้ขอบายครับไม่ไหว ปล่อยให้ไอ้ไก่จัดการ รายนั้นมันเข้าไปโบกไอ้คนที่แซวคนละทีก่อนที่ตัวมันเองนั่นล่ะจนโดนยำด้วยวงไพ่ แต่เล่นกันเอาขำๆครึกครื้นครับไม่ได้เจ็บตัวอะไร ก็แค่โดนจี้เอวให้ขำก๊ากกันทั้งซุ้ม
แม้แต่ผมยังอดขำไม่ได้ครับนั่งมองพวกมันที่เล่นกันอยู่ และหัวเราะแบบสะใจจนพอใจนั่นล่ะถึงจะหันกลับไปทางไอ้ส้มที่สะกิดให้ผมดูอะไรบางอย่างในมือถือ

"หืม เลย์?" ผมหันไปมองไอ้ส้มที่ยิ้มจนตาหยีแล้วพยักหน้าจนเสียวคอจะหลุดแทนมัน

"น่ารักไหม?" ผมส่ายหน้า

"พี่ว่าหล่อมากกว่านะ"

"โหยพี่อ่ะออกจะน่ารัก" ไอ้ส้มมันยู่ปากแล้วสไลด์รูปอื่นให้ดูอีก

"เออใส่เสื้อตัวนี้แล้วน่ารัก" ผมชี้ให้มันดูด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นดอลฟี่ของไอ้ส้มที่ใส่ชุดเหมือนนักเรียนม.ปลายของพวกญี่ปุ่นนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่าง ไอ้ส้มมันเงยหน้ามองผมแล้วยิ้มตาหยี

"เห็นมะบอกแล้ว อิอิ"

ไอ้อิอิทำไมมันมุ้งมิ้งอย่างนี้วะไอ้ส้มเอ้ย! แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกพี่คิดว่าเอ็งเป็น... ผมขำครืนออกมาเสียงเบาแล้วโยกหัวไอ้ส้มเบาๆก่อนจะตกใจสะดุ้งเฮือก

"ฮรึก! ผัวขาช่วยกูด้วยกูโดนรังแก" ไอ้ห่าไก่มันพุ่งเข้ามากอดผมไว้แล้วแกล้งทำเป็นร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเจ็บปวด ผมนี่รีบดันหัวมันออกไปด้วยอาการขนลุก

"ไอ้เชี่ยออกไปเลยมึง" ทั้งถีบทั้งยันแม่งยังกวนตีนไม่เลิก ผมเลยประเคนส้นตีนหนักๆไปที่ก้นจนมันร้องอัก! แล้วคลำก้นมันป้อยๆ ไม่พอ ไอ้เพื่อนที่สนับสนุนให้ผมใช้กำลังนี่ยังหัวเราะเยาะไม่เลิก ไอ้ไก่มันก็ยังบ้าจี้ทำหน้างอนใส่ผมแล้วสะบัดตูดไปเล่นเกมเศรษฐีกับพวกพี่ชินกับพี่เดียร์ที่นั่งดวนกันอยู่  แต่อย่าไปสนใจคับมันบ้า!

ผมป้องปากหาววอด และมองหาที่นอนเหมาะๆสักที่ บอกไอ้ส้ม "เดี๋ยวพี่ขอนอนสักงีบก่อนนะเพลียๆ"

"อื้ม! เดี๋ยวส้มปลุกพี่ตอนพี่โอกลับมาจากซื้อข้าวเย็นก็แล้วกัน"

"กินกันอีกละ" ผมบ่น

"แล้วมึงจะแดกไหมล่ะครับ?" ไอ้ห่าแบคที่หูไวรีบหันมาถามผมแบบกวนตรีนในทันที

"แดกสิครับ แต่เดี๋ยวกูขอนอนเอาแรงก่อน" ยักคิ้วกวนมันไปที



ผมเดินอ้อมไปทางวงไพ่แล้วหยิบเสื่อที่ชั้นลงมาปูอยู่ทางด้านหลังของพวกมันนั่นล่ะ ทนเสียงดังเอาหน่อยแต่ก็พอชินดีกว่ากลับไปห้องแล้วนอนไม่หลับเพราะฟุ้งซ่านเรื่องคริส ดีไม่ดีผมอาจจะบ้าตายถ้าเกิดมันกลายร่างเป็นคนอีกครั้ง แค่คิดว่าจะมองหน้ามันยังไงดี หน้าเหน้อผมนี่ก็พาลจะร้อนวาบขึ้นมาเสียทุกครั้ง ทำไมผมต้องทำตัวเป็นสาวน้อยที่เสียสาวด้วยวะไม่เข้าใจเลยให้ตาย!
ผมทิ้งตัวลงนอนบนหมอนอิงที่เมื่อก่อนมันเคยเป็นสีขาวแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสีดำพร้อมด้วยกลิ่นสีน้ำมัน น้ำมันสน หรือแม้แต่กลิ่นขี้ฝุ่นก็ตามที่จับอยู่ตามหมอน แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกลับเข้าสู่ในโลกของตัวเองก่อนจะหลับเปลือกตาอันหนักอึ้งลง หวนนึกถึงคริสที่คร่อมร่างผมอีกครั้งด้วยความไม่เข้าใจ

โลกนี้มันยังมีสิ่งที่ประหลาดอย่างนั้นอยู่จริงๆน่ะหรอ? ถึงแม้จะเห็นกับตา และเคยคิดว่ามันอาจจะมีอยู่จริงๆ แต่อีกใจก็ยังค้านว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เฟคขึ้น แต่ด้วย3Dแฟนตาซีทะลุจอออกมาแบบนั้นถ้าไม่เชื่อนี่ก็บ้าเกินไปแล้วล่ะ!

ครั้นเมื่อเปลือกตาที่หนักอึ้งถูกปิดสนิทมีเพียงแค่เสียงป็อกเก้าป็อกแปดเป็นสิ่งที่ขับกล่อม และท่องตัวเลขตามพวกมันไปด้วย พลันจิตภาพของผมกลับเห็นใบหน้าหล่อเหลาของดอลฟี่จอมกวนที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีครามทะเลออกเขียวมรกตนั่นที่จ้องสบตาพาลให้หัวใจเต้นระรัว

ไม่ว่าจะพยายามลบมันออกไปแต่ก็ไม่สามารถที่จะลบมันออกไปได้ เหมือนมันติดตรึงหัวใจเข้าให้แล้ว ไม่เข้าใจทำไมผมถึงได้ติดใจกับคริสนัก นี่ถ้าเป็นคนปรกติอาจจะช็อกตายไม่ก็เป็นบ้าไปแล้ว แต่อย่างว่า... ผมไม่ใช่เจ้านายคนแรกที่เขารับใช้เช่นกัน...
นี่ผมจะถูกกินชีวิตแล้ววิญญาณจะถูกส่งไปหาซาตานที่ว่านั่นหรือเปล่านะ...

'ขอร้องล่ะ... อย่าทำให้เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นเพราะเราไม่อยากทำร้ายเจ้านาย'

กระแสเสียงที่ดูเศร้านั่นดูเหมือนเขาไม่น่าจะเป็นคนที่เลวร้าย มิหนำซ้ำยังเคยเป็นบาทหลวงแน่นอนว่าเขาอาจจะเป็นคนที่เคยเมตตาต่อสัตว์โลกที่สุด...

'เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่'

ชิ๊! แต่ผมว่าไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นนิสัยกวนประสาทมากกว่า ขอลบความคิดที่ว่าน่าสงสารเป็นโคตะระกวนทีนดีกว่าไหม?

พอๆเลิกๆ ทำไมต้องมาคิดถึงมันด้วยไม่เข้าใจ ผมควรที่จะพักผ่อนได้แล้ว ไม่อย่างนั้นผมคิดว่าผมอาจจะน็อคคารถแล้วกลิ้งลงจากรถเมล์เป็นลูกขนุน...



สายลมเอื่อยๆของฤดูหนาวที่เข้ากระทบร่างทำให้ผมค่อนข้างที่จะหนาวสั่นเล็กน้อย จนต้องขยับวงแขนกอดตัวเองเอาไว้แน่น ยิ่งตกเย็นบรรยากาศก็ยิ่งเป็นใจพร้อมด้วยวงไพ่ที่เริ่มจะดัง และเฮฮาขึ้น

บอกตามตรง...

"ป็อกแปดว่ะสัด!"

ผมนี่ป็อกแปดว่ะสัดเลยว่ะ....   

เย้ย! ไม่ใช่ ผมนี่โครตรำคาญเลยว่ะ! ฮ่วย! นี่ก็ยังอุตส่าห์เล่นมุก คิดถูกคิดผิดวะที่มานอนตรงนี้ เมื่อกี้ยังโม้ว่าชินอยู่เลย เอ้อ!

ถอนลมหายใจอย่างปลงๆพยายามข่มใจให้หลับลงให้ได้  ได้ยินเสียงรถมอไซน์ของไอ้พี่เอกที่เข้ามาจอดตรงลานจอดรถ พร้อมด้วยเสียงเหมือนวงไพ่กำลังจะแตก...

เออดี เลิกๆกันมั่งวันๆไม่ทำห่าไร ไม่เล่นไพ่ก็ก๊งเหล้า ไม่ก๊งเหล้าก็คลุกสี ไม่คลุกสีก็หลีสาว ไม่หลีสาวก็....

พอๆ ไอ้เต๋าไอ้บ้า! นี่มึงจะได้หลับสักทีไหม๊ ยิ่งโตสติเริ่มไป ผมนี่เริ่มบ้าก็ตั้งแต่วันที่เจอคริสนั่นล่ะ!

แล้วทำไมต้องโทษมันอีกละวะ!? ว๊ากกกกกกก!!!! ออกไปจากหัวกรูววววววว!!!

ผมนี่นึกถึงเพลงคุกเข่าเลยล่ะครับ...

แต่ไม่ร้องจะดีกว่าผมกลัวรองเท้าหลากเบอร์จะลอยมากระทับใบหน้าของผมเสียมากกว่า เล่นมุกเพลงไปนี่ก็ไม่ดีคับ เดี๋ยวได้เพลงใหม่ที่เข้ากับอารมณ์เดี๋ยวผมค่อยร้องให้พวกคุณฟัง ไม่อยากจะโม้ว่านี่เสียงดีนะครัช! แต่ต้องหลับก่อนนะเดี๋ยวเต๋าจะร้องให้ฟัง เกรงว่าจะเป็นห่วงสุขภาพหูของทุกท่านถ้วนหน้า...

"เต๋าล่ะ ยังไม่หายอีกหรอ?" ได้ยินเสียงพี่โอแว่วๆ

"มันบอกว่าหายแล้ว แต่หน้ามันยังโทรมๆดูเหนื่อยๆอยู่เลย" ไอ้ไก่รายงาน

"เป็ดต้องปลุกพี่เขาไหมอ่ะ"

"ไม่ต้องไม่ให้ดื่มเดี๋ยวเป็นไข้หนัก แค่นี้ก็หยุดเป็นว่าเล่นแล้ว"  เสียงพี่โอดูเคืองๆชอบกล แต่ผมไม่สนใจเท่าไรหรอกครับ ตอนนี้คืออยากนอนอย่างเดียวถึงจะเรียกให้ไปก๊งเหล้านี่ก็ไม่ไหวแล้วล่ะ แต่ก็ซึ้งใจว่ะมีรุ่นพี่เป็นห่วงด้วย พี่โอเขาก็ดูเอ็นดูผมดีจริงๆ แต่ไม่ไหวจะลุกขึ้นมาไหว้พี่เขาแล้วล่ะครับ...

ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้แล้วหยุดลงข้างหลังซึ่งผมนอนกอดตัวเอง และตะแคงข้าง  เสียงของพวกไอ้แบคกำลังครึกครื้นได้ที่เลยสงสัยกำลังก๊งกันอยู่ ได้กลิ่นหอมๆของเนื้อหมูด้วย โอ้ยยยยยย.... หิวข้าว...

"เป็นยังไงบ้างเต๋า?"

"อืม" ผมครางในลำคอเบาๆเมื่อได้ยินเสียงของพี่โอที่ถามอยู่ใกล้ๆ สัมผัสได้ถึงฝ่ามืออุ่นๆที่จับไปตามเนื้อตัวผมเหมือนสำรวจ แต่ผมไม่มีแรงพอที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นหรอกครับ มันรู้สึกหนัก และง่วงมากจริงๆ

"ตัวร้อนอีกแล้วนะไข้ขึ้นหรือเปล่า?"

ผมเปล่าเป็นอะไร ผมจะนอนค้าบบบบบบ ปล่อยให้ผมนอนเถอะ

รู้สึกเหมือนมีผ้าอุ่นๆห่มไปตามร่างกายทำให้ผมคลายอ้อมกอดได้นิดหน่อยหลังจากที่ทนนอนหนาวมาสักพัก ฝ่ามือใหญ่ๆลูบไปตามกลุ่มผมของผม และได้ยินเสียงลมหายใจที่ทอดถอนยาวๆ

พี่โอบ่นอะไรงึมงำสักอย่าง "ทำไมชอบให้พี่เป็นห่วง พอพี่อยากจะดูแลเราก็ปฏิเสธตลอด รู้ไหมว่ามันเจ็บ..."

พี่เขาบ่นอะไรวะ?

ฝ่ามือหนาที่ผละออกไปพร้อมๆกับได้ยินเสียงพี่โอที่เดินออกไปแล้ว ได้ยินเสียงพี่เขาอีกทีก็ตอนที่คุยกับพวกไอ้ไก่

"พี่ว่าเต๋าไข้ขึ้นอีกแล้วล่ะเดี๋ยวพี่ไปเอารถมารับน้องไปโรงพยาบาลนะ"

"อ้าว! จริงอ่ะพี่ มิน่าล่ะทำไมมันดูซึมๆ"

"เฝ้าเต๋าก่อนก็แล้วกัน แล้วอย่าเพิ่งไปกวนล่ะเดี๋ยวพี่เอารถมารับ"

"ได้ๆๆๆพี่ เดี๋ยวผมดูเอง"

"...."

หลังจากที่ได้ยินเสียงบ่นระงมของไอ้พวกบรรดาเพื่อนๆพร้อมด้วยเสียงรถของพี่โอที่ขับออกไป ดูเหมือนว่าไข้ผมจะกลับมาจริงๆอีกแล้วสินะ... เฮ้อ! นึกว่าจะหายป่วยแล้วแท้ๆดันไข้กลับซะได้ จะหยุดเรียนนี่ก็ไม่ไหวแล้วนะ ผมนี่ก็กลัวว่าจะได้ด็อกหรือไม่ก็เอฟตัวโตมากินจนพุงกางเหมือนกัน ไม่ได้ตะกละขนาดนั้น อย่างน้อยก็ขอซีขึ้นให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ

ได้ยินเสียงไอ้ไก่ที่บ่นไอ้ส้มไม่เลิก "ไอ้เป็ดไหนเอ็งบอกว่าดูแลคนเก่งไง ไหงเพื่อนพี่มันนอนซมอีกล่ะ"

"ก็ส้มเห็นว่าพี่เขาแข็งแรงแล้วจริงๆนี่ เมื่อวานยังไปทำบุญกันมาเลย"

"แล้วทำไมมันเป็นไข้อีกแล้ววะ?"

"เมื่อคืนมันแอบดูหนังโป๊แล้วแฟบหนักป่าววะ?"

แฟบพ่อมึงสิไอ้แบค!

จะด่านี่ก็ไม่มีแรงจะด่ากลับ ได้แต่นอนหลับตาด่ามันอยู่ในใจแบบนี้ เสียงวงเหล้าที่เต็มไปด้วยคำบ่น และคำห่วงใยในตัวผมที่นอนหนาวอยู่ตรงนี้ เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นที่พวกมันกำลังบ่นผม อยู่ๆในซุ้มก็เงียบกริบขึ้นมาเสียดื้อๆเหมือนไม่มีใคร ได้ยินแต่เสียงของถ่านไฟที่ใช้ย่างหมูดังเปรี๊ยะๆ

อะไรวะ? มันเป็นอะไรกันวะ?

กำลังพยายามปรือดวงตาเพื่อที่จะหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น พลันมีเสียงที่คุ้นดังก้องเสียงทุ้มนุ่มหูทำลายบรรยากาศที่เงียบกริบ ผมนี่รีบลืมตาขึ้นพรึบ! ทั้งๆที่ก่อนหน้าแทบจะเปิดเปลือกตาไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ พร้อมๆกับหัวใจที่เต้นระรัว เมื่อได้ยินคำๆหนึ่งที่เอ่ยถามเพื่อนๆผม

"ขอโทษนะครับ พี่เต๋าอยู่ไหมเขาโทรให้ผมมารับกลับห้อง..."

นี่จำได้ว่าไม่มีน้องชาย แถมเป็นลูกคนเดียว แล้ว... ใครกันวะที่แอบอ้าง? แต่ทว่าเสียงนั่นมันไม่ผิดไปจากที่คิดแน่นอน...

"พี่เต๋าผมมารับพี่..."


เฮ้! ผมมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไรหรอครับ!?


 o22










............

ช่วงนี้อัพช้าหน่อยนะคะเนื่องจากมหาลัยเปิดเรียนเเล้วจึงไม่มีเวลาขลุกอยูที่หน้าจอ  :katai2-1:

 :katai5:



หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 03-12-2014 01:43:06
หืมมมมมม...??
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 03-12-2014 02:28:57
ชอบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 03-12-2014 03:11:42
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 03-12-2014 03:13:33
คริส น่ารัก
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-12-2014 05:39:50
 :hao3:   พอเหอะเพลงคุกเข่าของแกน่ะ เพ้อเพราะไข้เหรอ
คริสปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นๆแล้วใช่ไหม  o13.
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: มานามิ ที่ 03-12-2014 08:23:54
โอ้ยอยากอ่านอีกติดสุดๆ รอต่อจ้า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 03-12-2014 09:11:33
อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 03-12-2014 09:58:43
ปฝกรี้ดดด หนูคริส :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 03-12-2014 12:25:56
คริสโผล่มาแบบนี้เป็ดไม่จำได้เหรอ?

ว๊าาาา...พี่โอโดนปาดหน้าเค้กซะแล้ว5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-12-2014 12:44:58
คริสมารับเต๋าเหรอ
นึกว่าจะไม่ดูดำดูดีกันซะละ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 03-12-2014 12:49:32
เหอะๆคริสมารับเองเลยอ่าาาา เด็กดีชะมัด
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 03-12-2014 13:00:53
เปิดตัวแล้วมารับถึงม.เลย



รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-12-2014 13:02:43
คริสมารับแล้วพี่เต๋า  :hao3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 03-12-2014 13:49:08
ใคร?? คริสหรอ?? ไม่รู้แต่ที่รู้แน่ๆตอนนี้

ไอ้พี่โอมันชอบเต๋าล่ะ  :hao7:

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-12-2014 14:46:26
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 03-12-2014 18:13:40
มารับพี่เต๋า ทำไมคริสน่าฮักมากๆแบบนี้นะ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ
อยากได้ดอลฟี่แบบนี้มั่งจัง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ มาต่อเร็วๆน้า ><
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 03-12-2014 18:15:40
พี่โอก็อบอุ่นพึ่งพาได้
น้องส้มก็น่ารักน่าเอ็นดู
ส่วนคริสก็เอ่อ...แปลกๆ
เต๋าเลือกไม่ถูกเลยนะเนี่ย 55+(เต๋า : ไม่ได้เป็นเกย์เฟ้ย!!!!!)
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 9- P5 - 3/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2014 19:05:14
โดนจับกินอีกแล้ว
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 04-12-2014 11:15:16



 :katai4:






DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
10






น้องชาย?

มองดวงหน้าคมหล่อเหลา ดวงตาสีดำขลับจมูกโด่งเป็นสันกลีบปากอวบอิ่มสีแดงสดนั่นกำลังระบายยิ้มให้แก่ผม ย่นคิ้วด้วยความไม่เข้าใจแล้วมองไอ้ผู้ชายแปลกหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เฮ้ย! ไม่เคยมีน้องที่หล่อขนาดนี้ แต่ถึงจะมี ลูกของผู้ชายคนนั้นกับนางมารร้ายเพิ่งจะสองขวบเองนะ! ไหงมันถึงได้ขยายกลายร่าง กลายเป็นหนุ่มหล่อสูงโปร่งอย่างนี้ไม่เข้าใจ

"เอ่อ..." ผมนี่อึ้งถึงกับพูดไม่ออกเลยครับ คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหน ไอ้คนที่เรียกนี่ผายมือรอรับเพื่อที่จะให้ผมลุกขึ้นจากเสื่อที่กำลังนั่งมึน ไอ้ผมนี่ก็ดันบ้าจี้เอื้อมจับแต่โดยดีไม่ได้ซักถามเลยสักนิด ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมองใบหน้าหล่อที่เลิกคิ้วหนาๆขึ้น เหมือนจะถามผมว่าข้องใจอะไรในตัวเค้า

"น้อง... น้องรู้จักพี่ด้วย?" ผมงงนะเออ เราไม่เคยรู้จักนายนะ ถึงจะดูคุ้นหน้าแต่อย่ามาขี้ตั๊วนะเบ่เบ๋ รู้จักไหมแฟนจ๋าของพี่เบิร์ดกับจินตหราน่ะ  ขี้ตั๊ว เบบี้  อะ! ขี้ตั๊ว ตาลาลา ขี้ตั๊ว เบบี้ อะ! ขี้ตั๊ว ตาลาลา อย่ามาขี้ตั๊วนะเออ!

แหมพอฟังเพลงนี้ทีไรแล้วอยากลุกขึ้นเต้นจริงๆ แต่คงไม่เหมาะกระมังไม่งั้นคงได้เป็นตัวตลกในหมู่คณะ เอาล่ะ! เราคุยกันถึงไหนแล้ว อ้อ! ผมถามไอ้หล่อนี่ว่ามันรู้จักผมหรือเปล่า ไอ้คนตรงหน้านี่ไม่ตอบในทันทีครับ เขากลับยิ้มจนตาหยีแล้วเอื้อมวงแขนเข้ามากอดเฉย

เฮ้ย! ตกใจดิ่ ผมนี่ดิ้นพล่านเลยครับตั้งท่าจะผลักมันออกไปแต่ก็ต้องชะงักกึก! เมื่อได้กลิ่นกำยานอ่อนๆ และเสียงทุ้มที่เอ่ยถาม

"เรียกหาไม่ใช่หรอ ก็มาแล้วไงทำไมต้องทำเหมือนไม่รู้จักกัน?"

"ฮะ!" ผมนี่ถึงกับงงเลยครับ แล้วเงยหน้ามองไอ้คนที่พูดตาปริบๆ มันดูเหมือนคริสเลยว่ะพอมองใกล้ๆแบบนี้ แต่ตอนนี้หุ่นบาง

กว่าตอนแปลงกลายจากดอลฟี่มาเป็นมนุษย์ที่สูงใหญ่กำยำ ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นผู้ชายธรรมดาที่หล่อเหมือนเดิม ผิดที่ว่าหุ่นบางลงแต่สูงมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของคนที่เดินผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี

"คริส? ระ หรอ..." แผ่วเสียงถามย้ำ ไอ้คนที่ถูกเรียกกลับยิ้มกวนๆตอบ

เฮ้ย! มาได้ไง ไอ้เต๋านี่แทบเป็นลมเลยคับ! อ้าปากค้างชี้หน้าไอ้ตุ๊กตาผีที่ยิ้มร่าง มองสำรวจร่างสูงที่กลายเป็นคนเอเชียไปซะแล้ว ผมสีน้ำตาลเข้ม คิ้วหนาๆสีดำ ดวงตาสีนิลนัยน์ตาลุกวาวเหมือนกำลังเจอเรื่องสนุก นี่มันกำลังเล่นตลกอัลไล!?

"มีอะไรหรือเปล่า?" ไอ้ไก่มันเข้ามาหาแล้วจับไหล่ผมเบาๆเงยหน้ามองคริสเหมือนไม่ไว้ใจอย่างไงอย่างงั้น ผมนี่รีบขวางมันกับคริสให้เลิกสบตากันแล้วยิ้มให้ไอ้เพื่อนแหยๆ

"ไม่มีอะไร นี่น้องกูเอง"

"น้องมึง?" หน้ามันดูไม่เชื่อเท่าไร แหงสิ! เชื่อก็บ้าแล้วในเมื่อผมเคยเล่าให้มันฟังว่าผมเป็นลูกคนเดียว วันดีคืนดีเกิดมีน้องชายโผล่มาใครๆเขาก็งงกันล่ะเว้ย! ทำเป็นหนังน้ำเน่าที่พี่น้องพรากพลัด พลัดพรากแล้วได้มาเจอกันเลยวุ้ย!

ผมพยักหน้าให้มันรัวๆ สบตาไอ้ไก่ที่เลิกคิ้วประหลาดใจแล้วรอคอยคำตอบจากผมอย่างคาดคั้น เวลานั้นผมนี่เหงื่อแตกซิกแทบอยากจะเป็นลมด้วยพิษไข้ แล้วทำไมผมต้องทำตัวมีพิรุธด้วยวะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมกลัวว่าไอ้ไก่มันจะรู้ว่าคริสเป็นตุ๊กตา!
'บอกเขาไปว่าผมเป็นรุ่นน้อง' เอี้ยวตัวมองไอ้คนข้างหลังที่กระซิบกระซาบบอก มันยิ้มให้ผมบางๆผมเลยหันไปทางไอ้ไก่

"น้องไง รุ่นน้อง อยู่ปี... เอ่อ ปีไรวะ?" ผมหันไปถามมันจะให้โกหกทั้งทีเสือกบอกไม่หมด มันยังมีหน้ามาป้องปากหัวเราะแล้วตอบไอ้ไก่แทนผม

"สวัสดีครับผมชื่อคริส อยู่ปีหนึ่ง"

"คริส?"

"ไม่ใช่!" เผลอแหวเสียงลั่นซะลืมตัวเมื่อไอ้ไก่มันยิ่งสงสัยในชื่อที่ไอ้ตุ๊กตาบ้านี่แนะนำ ไหงมันไปบอกชื่อจริงอย่างนั้นวะ เดี๋ยวเขาก็รู้กันหมด!

ไอ้ไก่มันเลิกคิ้วทำหน้างงๆ ผมเลยรีบยิ้มเจื่อนบดบังอารมณ์ตื่นเต้วของตัวเอง "อ่อ.. ไอ้เด็กนี่มันชื่อคิส คิสที่แปลว่าเด็กน่ะ เฮ้ย! เดี๋ยวกูกลับก่อนนะ ไปสิยืนทำห่าอะไรล่ะ!" บอกกับไอ้ไก่ด้วยความเร็วเหนือแสงจนลิ้นแทบจะพันกันก่อนจะหันไปแหวใส่ไอ้คนข้างหลังที่ยืนทำหน้ามึนอยู่โดยที่ไม่รอให้ไอ้ไก่มันถามเซ้าซี้ หันไปลาไอ้เพื่อนๆที่นั่งก๊งเหล้าสายตานี่จับจ้องมาทางคริสตาเป็นมัน

"เฮ้ย กูกลับก่อนนะ" ผมโบมือลาพวกมันที่พยักหน้าตอบไม่ได้ทักท้วงอะไร แล้วรีบลากคริสออกมาจากซุ้มให้เร็วที่สุด สายตาของไอ้ไก่ที่เต็มไปด้วยคำถาม และความสงสัย ผมรู้ชะตาตัวเองเลยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงผมคงต้องหาคำแก้ตัวดีๆเพื่อที่จะอธิบายให้มันฟัง

"เป็นอะไรกลัวคนอื่นจะรู้หรอว่าเราอยู่ด้วยกัน?"

"เปล่าเว้ย!" หันไปแหวเสียงลั่นให้คนที่ถามหน้าตาย ใบหน้าหล่อเหลาดูแปลกตาไปจากทุกทีทำให้ผมรู้สึกไม่คุ้นเลยให้ตายสิ! หลังจากที่เดินออกมาได้สักพักอาการหน้ามืดก็เข้าเล่นงานในทันที บ้าจริง! ทำไมช่วงนี้ทำอะไรก็ดูปวกเปียกไปหมด!

ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวใต้ซุ้มของตึกคณะบริหารเพื่อพักเหนื่อย เมื่ออาการวิงเวียน และอ่อนเปลี้ยกำลังสุมไปตามร่างกาย นั่งลงลูบหน้าลูบตาหวังให้ความทรมานนั่นหายไปซะ

"ให้ช่วยไหม?"

ช่วยออกไปห่างๆเถอะไอ้บ้า!

"นายมาทำไม?" ผมเปิดประเด็นถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนักหลังจากที่เริ่มจะควบคุมอาการตื่นเต้นของตัวเองให้คงที่ ยอมรับเลยเมื่อกี้น่ะสติแตกสุดๆ ไม่พอยังกลัวว่าเพื่อนๆมันจะรู้ว่าผมกับคริสเราอยู่ด้วยกัน แต่พอมาคิดๆดูอีกที...

เมื่อกี้ผมทำบ้าอะไรวะ? ทำไมต้องทำตัวมีพิรุธด้วยในเมื่อคริสก็ดูเหมือนผู้ชายปกติ อีกอย่างผู้ชายกับผู้ชายรู้จักกันมันก็ไม่แปลกนี่หว่า ทำไมกูต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตเหมือนกลัวว่าไอ้เพื่อนสนิทนี่มันจะรู้ว่าผมแอบเก็บผู้ชายตัวโตๆเอาไว้ในห้องอย่างไงอย่างงั้น แถมไอ้หน้าหล่อๆแบบนี้ยังเป็นจุดเด่นให้ทุกคนสนใจด้วย ในเมื่อเอกผมคนที่อยู่ที่ซุ้มหน้ามันแต่ละคนนี่สามารถเอาไปแสดงหนังเป็นลูกน้องมาเฟียได้อย่างสบาย

สุดท้ายกลายเป็นว่าผมกำลังฆ่าตัวตายซะเอง... อ๊ากกกกกกกกก!!!!

คริสกรอกตาไปมาเหมือนใช้ความคิดก่อนที่จะตอบ "ก็... เต๋าเรียกหาคริสไม่ใช่หรอ"

"ฮะ!?  ใครเรียกหายังไม่ได้เรียกเลย" ชื่อนี่ยังไม่ได้เรียกออกมาสักแอะอย่ามาแหม่วหน้าตาย!

"ก็..." มันเงียบไปชั่วขณะมองผมด้วยดวงตาคมคู่สวย ถึงแม้ว่าแสงไฟสลัวตามทางจะดูมืดมาก แต่ผมกลับเห็นประกายตาสีครามที่สะท้อนผ่านดวงตาสีนิลที่ปกปิด ผมนี่อยากจะรู้นักว่ามันเปลี่ยนโฉมตัวเองได้ด้วย?

คริสยิ้มออกมาบางๆ "ก็คิดถึงกันไม่ใช่หรือไง?"

ผมมองมันตาปริบๆ สบใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจก่อนจะรู้สึกหน้าร้อนวาบ เลือดไหลเวียนขึ้นมากระจุกกันจนแดงเถือก "บะ  บ้าเหอะใครกันที่คิดถึง" ตอบมันด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นตัวของตัวเองเสียเท่าไร ได้ยินเสียงทุ้มที่หัวเราะออกมาเสียงเบา

มันน่าตลกตรงไหนเนี่ย! ใครจะรู้ล่ะว่าแค่นึกถึงมันก็รับรู้ได้ด้วย สักพักไอ้คนตรงหน้าก็หันหลังแล้วทำท่าจะให้ผมขี่หลังมัน เลิกคิ้วด้วยความสงสัย

"นี่จะทำอะไร?"

"กลับห้องไงล่ะ หรือไม่กลับ"

ผมส่ายหน้ารัวๆ "กลับ! แต่ไม่ขี่หลัง" ใครจะบ้าจี้ทำตามอายเขาแย่ ผู้ชายตัวโตๆขี่กันเนี่ยนะไม่เคยเห็น

"ไม่สบายไม่ใช่หรอ? ขึ้นมาเถอะไม่มีใครสนใจเราหรอก"

ย่นคิ้วชักสีหน้ากระเง้ากระงอดใส่มันแบบไม่ไว้ใจเท่าไร ไอ้ที่บอกว่าไม่มีใครสนใจนี่ไม่สนใจน้อยแต่สนใจมากอ่ะเด่ะ ใครจะบ้าทำตามวะ!

คริสถอนลมหายใจเมื่อเห็นผมยังคงนิ่งอยู่ "มาเถอะ พี่หิวไม่ใช่หรอ?" พร้อมๆกับเอี้ยวใบหน้าหล่อๆหันมามองทำตาปริบๆเหมือนเด็กๆที่ดูใสๆซื่อๆอะไรประมาณนี้ ชั่วขณะผมรู้สึกใจเต้นแรงชอบกล แถมใบหน้ายังร้อนผ่าวขึ้นไปอีก เบือนสายตาหนีแล้วกอดอก

"ไม่ขี่" ยังคงแน่วแน่ไม่ใจอ่อนกับมันหรอกเฟ้ย! แต่ทำไมต้องเรียกผมว่าพี่ด้วยวะ แต่... ก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมานิดนึงนะเนี่ย ผมเป็นประเภทที่ใครให้เกียรติเรียกพี่เข้าหน่อยก็มักจะใจดีกับคนๆนั้น เหมือนไอ้บ้านี่มันเอาจุดอ่อนผมมาใช้แทนการบังคับเลยว่ะ

"นะพี่เต๋า คริสก็แค่เป็นห่วงสุขภาพของพี่"

"..."

ผมนี่ถึงกับสตั้นไปหลายสิบวิ...

เฮ้ย! ทำไมต้องทำตัวมุ้งมิ้งงี้ด้วยวะมันเอามาจากไหน?

ผมมองไอ้คนตรงหน้าที่เบือนใบหน้าหนีผม ทำให้เห็นมันแค่วงหน้าด้านข้าง หน้าที่เจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด และดูหงอยจนน่าสงสารเอาซะใจหล่นไปที่ตาตุ่ม นี่ผมกำลังเป็นอะไรวะ! ผมควรที่จะยืนยันคำเดิมให้เด็ดขาด และแน่วแน่ว่ายังไงก็ไม่มีวันคล้อยตามไอ้ตุ๊กตานี่ง่ายๆเป็นรอบที่สาม  สี่ หรือห้า ไม่ว่ารอบไหนๆไอ้เต๋าขอปฏิญาณตนว่ากระผมจะไม่มีวันทำตามคำร้องขอหรือบังคับจากมันอีกแล้ว!

"เออ! ก็ได้หันหลังดีๆสิวะ!"

เอ่อ... แล้วทำไมผมถึงกระโดดขึ้นหลังมันง่ายๆอย่างนี้วะที่ไม่เข้าใจตัวเอง.... เฮ้อ!

 :ling1:







ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนผ่านไปมาขวักไขว่ ไม่มีใครเลยที่จะหันมาสนใจผู้ชายตัวโตๆที่กำลังขี่หลังกันอย่างผมกับคริส ทุกๆคนยังคงที่จะเดินไปข้างหน้า และรีบเร่งทำเวลาเพื่อกลับบ้านของพวกเขา เส้นถนนที่รถติดจนน่าอึดอัดทำให้ผมรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างไรชอบกล รู้สึกมึน และเหม็นควันจนต้องฟุบหน้าลงไปบนแผ่นหลังแกร่ง

นี่ถ้าเกิดกลับบ้านคนเดียวคงได้เป็นลมจริงๆแน่ๆเลยว่ะ แต่ก็ดีแล้วที่ได้คริสเพราะอันที่จริงก็ขี้เกียจเดิน เหลือบตาขึ้นมองวงน้าด้านข้างที่เห็นไม่สะดวกเท่าไรนัก ใบหน้าเฉยๆมองไปบริเวณรอบๆพื้นที่ด้วยความสนอกสนใจ ไม่มีทีท่าว่าจะพาผมขึ้นรถหรือเดินต่อเมื่อพวกเรามาหยุดยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์

เออ... ยังดีที่รู้ว่าตรงนี้เป็นป้ายรถเมล์... แล้วรถสายที่จะพาเรากลับห้องก็แล่นไปฉิบ...

เอิ่ม...

"ทำไมไม่โบกละวะ! รถไปแล้วน่ะเดี๋ยวก็กลับห้องค่ำกันพอดี" ค่อนข้างที่จะโมโหมันจนทุบไหล่ไปที  ใบหน้าหล่อๆนั่นค่อยๆหันมาพร้อมด้วยการเลิกคิ้วเหมือนงุนงงในอาการของผม

จะมางงๆเงิงๆอะไรวะ รู้ไหมเนี่ยกว่ารถจะสายนี้จะมาต้องยืนรอเป็นครึ่งชั่วโมง แถมรถติดแบบนี้อย่าหวังว่ามันจะมาเร็วอย่างที่คิด ถึงมันจะชอบขับรถรับส่งผู้โดยสารเสมือนว่ามันเล่นหนังเดอะฟาสอยู่ก็เถอะ

"ก็ไม่ได้คิดจะพานั่งรถนี่"

"เอ้า! ไม่นั่งแล้วจะกลับได้ไงล่ะวะ!?" ผมค่อนข้างที่จะหงุดหงิดเหมือนโดนกวนประสาทยังไงยังงั้น ไม่ขึ้นรถแล้วจะมายืนทำบื้อเป็นพระเอกมิวสิคทำเหมือนผมเป็นผีจูออนเกาะหลังไปได้ ไอ้บ้าเอ๊ย คนไม่สบายนะเนี่ย!

"ก็..." มันกรอกตาไปมา แล้วยิ้ม... ยิ้มพ่อง! เดี๋ยวกูโบกหัวทิ่ม แต่ไม่ทันที่ผมจะทำจริงๆหรอก เจ้ากรรมพยาธิในกระเพราะอาหาร และน้ำย่อยที่ทำหน้าที่ของมันได้ดีเกิดการทำศึกปะทะกันจนร้องโครกกกกกก!!! ไม่โครกสั้นด้วยโครกนานมาก แถมคริสมันยังเอี้ยวใบหน้าหันมามองผมเหมือนตกใจ ก่อนที่มันจะหันกลับไปแล้วแอบหัวเราะครืน

"ตลกตรงไหนวะไม่เคยเห็นคนหิว?" เอามือฟาดมันไปที่ไหล่อย่างแรงแบบเคืองๆ แต่กลับกลายเป็นผมที่ต้องมาสะบัดมือยิกๆเพราะไหล่แม่งโคตรแข็ง ไหล่มึงนี่ทำด้วยเหล็กหรือไงวะ!

"เปล่าครับ ผมแค่..."

"แค่อะไรวะพูดดีๆ แล้วทำไมต้องพูดเพราะขนาดนี้วะ" มันรู้สึกแปลกๆว่ะ เมื่อก่อนหน้ายังเป็นตุ๊กตาดอลฟี่ตาฟ้าหื่นกามจ้องจะกินกันอยู่ทุกเวลา ไหงตอนนี้พอเปลี่ยนลุคกลายเป็นคนละคนไปเลยวะ

คริสยิ้ม "ก็จำเอามาจากในจอสี่เหลี่ยมๆในห้อง ว่าแต่อยากกินอะไร?"

"อยากกินข้าวต้มกุ๊ยร้านหน้าปากซอย... ไม่ใช่เว้ยอย่าเปลี่ยนเรื่อง!" ผมนี่อยากจะบีบคอมันจริงๆ จงใจจะแถไปเรื่องอื่นสินะ!

"ฮะๆ" มันหัวเราะ แถมเป็นการหัวเราะที่ทำให้ผมอึ้งมากเพราะไม่เคยเห็นมันหัวเราะแบบนี้ มันเป็นการหัวเราะที่แบบ... ทำให้ใครก็ตามที่เห็นต้องใจเต้นโครมคราม... "ได้ เดี๋ยวจะพากลับไป แต่ต้องหลับตาก่อนนะ"

"นี่มึงจงใจยั่วโมโหกูเปล่าวะ?"

"เปล่า แต่ถ้าเจ้านายต้องการ... อะไรก็ได้ทำให้ได้ทุกอย่างยกเว้น... คืนชีวิตคนตาย"

ผมนี่ถึงกับอึ้งเลยครับ...

"กะ ก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ทำอย่างนั้น" ผมอ่อนเสียงลงแล้วฟุบหน้าไปบนหลังมันอีกครั้งมองไปข้างๆที่เห็นคนหลายคนกำลังยืนรอรถเมล์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจพวกเราเลย หรือนี่อาจจะเป็นเพราะว่าคริสทำให้พวกเขามองไม่เห็นพวกผมกันล่ะ

"หิวไม่ใช่หรอ? หลับตาสิ"

ผมถอนลมหายใจเฮือกใหญ่เมื่อถูกเร่งเร้าให้ทำตาม ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆตามที่บอก รับรู้ได้ถึงการสั่นไหวของไหล่แกร่งเหมือนคริสกำลังพาผมเดินไปตามถนนหนทาง

"แล้วนี่มาที่มหาลัยได้ยังไง"

"ก็... เดินมาเรื่อยๆ"

"นี่มึงกวนกู?" อยากจะลืมตาด่ามันนะ แต่มันบอกว่าห้ามลืมตาจนกว่าจะถึงซึ่งผมเองก็อยากรู้อยากเห็นนั่นล่ะว่าทำไม แต่ก็ไม่กล้าที่จะลืมตาเมื่อจิตใจส่วนลึกของผมมันห้ามไว้อย่างนั้น

คริสหัวเราะ "เปล่า... ร้านข้าวต้มใช่ตรงที่อยู่ตรงข้ามกับร้านที่ขายวัสดุก่อสร้างหรือเปล่า?"

"อือๆนั่นล่ะ เฮ้ย! ถึงแล้วหรอ!?" ผมเผลอตัวดีดตัวผึง! แล้วลืมตามองไปยังข้างหน้าด้วยความตกใจ เมื่อคิดว่าคริสพาผมเดินมาจากป้ายรถเมล์หน้ามหาลัยไหงมาถึงร้านข้าวต้มเร็วขนาดนี้วะ! ชั่วขณะนั้นหางตาของผมเห็นเหมือนบริเวณสว่างจ้า มันเหมือนเป็นทุ่งกว้างที่ล้อมรอบไม่ใช่ถนนอย่างที่คิด ภาพรอบๆถูกกลืนกินไล่หลังจนหายไปเหมือนในหนัง กลับกลายเป็นถนนหนทางอยู่ที่หน้าปากซอยหอของผมดังเดิม

วอสสสสส!?

เมื่อกี้ผมเห็นอะไรวะ!

"ถึงแล้ว" คริสหันมาบอกผมแล้วตั้งท่าจะปล่อยผมที่ดูอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อครู่ มันไวมากจนผมจับตามองแทบไม่ทันว่าเมื่อครู่เราอยู่ที่ไหน ละ แล้วทำไมมาถึงไวแบบนี้

"นี่มึงเป็นจัมเปอร์ด้วย?" เงยหน้าถามมันแบบทึ่งๆ

"เปล่าครับ แต่ใช้ทางลัด"

"อ้าว! แล้วเมื่อเช้าไม่บอกกูว่าทำได้ เสือกให้กูเข้ามหาลัยสาย" แถมมันยังเงียบกริบได้กวนตีนมาก ตกลงไอ้บ้านี่มันจงใจกวนประสาทจริงๆสินะ!

"ก็..." มันกรอกตาอีกละ น่าเอานิ้วจิ้มตาจริงๆ "พี่ไม่ขอผมเองนี่"

บร๊ะ! ไอ้นี่ ผมนี่อยากจะจระเข้ฟาดหางให้หายโมโหจริงๆ มองหน้ามึนๆที่แสร้งทำเป็นคนซื่อๆ หน้าหล่อๆระบายยิ้มบางๆจนตาหยี เห็นแล้วมันหงุดหงิดพิลึก

"รับอะไรดีคะ" ป้าร้านข้าวต้มเดินเข้ามาถามผมกับคริสที่ยืนอยู่

ผมเลยหันไปสั่งเขา "เอาข้าวต้มสองชุดครับ แล้วก็ผัดผักบุ้ง ยำไข่เค็ม"

"ค่ะ เข้าไปนั่งรอข้างในก่อนนะคะ" ผมยิ้มให้ป้าเขาอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงที่หันไปมองลุงที่กำลังใช้กระทะจนไฟท่วมตาเป็นประกาย ผมเลยต้องดึงแขนให้มันเข้ามาข้างในเร็วๆ เพราะรู้สึกเหมือนสายตาหลายสิบคู่ที่เดินผ่านหน้าร้านหันมาจ้องมันกันทั้งนั้น แถมสาวๆหน้าตาน่ารักหลายคนที่เดินมากับเพื่อน ต่างก็ส่งสายตาเคลิ้มๆก่อนที่จะหันไปกระซิบกระซาบ

วุ้ย! อิจฉาคนหล่อ พอมันปรากฎโฉมต่อหน้าผู้คนมันทำให้ผมกลับกลายเป็นคนธรรมดาไปในทันที เอามันมาด้วยนี่เรทติ้งหล่นกระจุย ขนาดน้องหวานร้านน้ำที่น่ารัก และมักจะทักผมบ่อยๆยังสนใจไปที่มันตาไม่กระพริบ นี่คิดถูกคิดผิดวะที่มานั่งกินที่ร้านเนี่ย!

"แล้วคิดยังไงโผล่ไปที่มหาลัยบอกมาตามตรงเลย" ระหว่างที่รอข้าวผมก็ถามมัน

"ก็บอกไปแล้ว"

ผมย่นคิ้ว "อะไร ก็แค่คิดถึงเนี่ยนะ!?" ไม่ได้เรียกหาอะไรเลยก็แค่... คิดเรื่องของเรา  เอ่อ...

คริสพยักหน้า สายตาของเขามองไปยังป้ายเมนูอาหารที่ติดอยู่

เฮ้อ! ช่างเถอะ ถามไปก็รั้นแต่จะตายซะเอง

"อยากกินอะไรล่ะเดี๋ยวสั่งเพิ่มให้" ถามมันพร้อมๆกับรินน้ำเปล่าใส่แก้วส่งให้  ใบหน้าหล่อๆหันกลับมาแล้วยิ้มที่มุมปากให้กับผม มันเป็นยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ร้ายๆอย่างไรชอบกล แต่พอผมที่กำลังยกแก้วเตรียมจะดื่มน้ำไอ้คนที่ถูกถามกลับตอบทำเอาซะผมเกือบสำลักน้ำตาย

"อยากกินพี่เต๋า"

พรูดดดดดด!!!!

"แคกๆ ไอ้... เอี๊ยะ!" ไอโขลกจนหน้าแดงแล้วรับทิชชูจากไอ้ตุ๊กตาปีศาจที่ดึงมันส่งให้ ยังมีหน้ามาทำหน้าตายแล้วยิ้มบางๆอีก ไม่ให้กินเว้ย! ผมนี่หน้าเหน้อแดงเถือกไปถึงใบหูเพราะอาการสำลักน้ำนี่แหละว่ะ!

"ก็กินอย่างอื่นไม่ได้นี่"

เออจริงของเอ็ง!  ผมย่นคิ้วชักสีหน้าใส่ไม่พอใจนิดๆ จริงๆจะตอบว่ากินไม่ได้ก็ได้นี่หว่าแต่เสือกตอบซะตรงขนาดนี้ทำเอาซะขนลุกซู่ กะจะถามมันว่าออกมาให้คนเห็นแบบนี้ไม่เป็นอะไรหรือไง แต่ป้าร้านข้าวต้มดันเอาอาหารมาเสริฟเสียก่อน ไอ้ผมซึ่งสูญเสียพลังงานมาครึ่งวันก็เลยต้องเอาแรงด้วยการกินอย่างตั้งอกตั้งใจ บอกตามตรงว่าหิวมาก!

แกรก...

หืม?

เงยหน้ามองแก้วน้ำส้มปริศนาที่ถูกวางลงข้างๆ ผมเลยเหลือบตามองไอ้คนที่วางแก้วจนตาเหลือก ปรากฏเป็นไอ้หวานที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

"อ้าวว่าไงเอ็ง พี่ไม่ได้สั่งนะ" ผมถามมันกลับไป แต่ดูมันไม่ได้สนใจเลยสักนิดเอาแต่ยืนบิดตัวแล้วมองผมกับคริสสลับกันไปมา เฮ้ย! มันปวดเยี่ยวทำไมมันไม่ไปเข้าห้องน้ำวะมายืนบิดมองผมทำเพื่อ? นี่เห็นเป็นส้วมหรือไง!

ไอ้หวานมันยิ้มจนเห็นฟัน ไอ้นี่มันน่ารักครับตัวมันจะเล็กๆขาวๆ แก้มยุ้ยๆตาโตๆขนตางอนๆปากเล็กรูปกระจับ แต่เสียอย่างเดียวหน้าอกมันแบนมันเลยไม่ผ่านคิวซีสำหรับผม มองผมตาปริบๆแล้วยิ้มแปลกๆ

แปลก... อะไรของมัน?

"พี่เต๋าอ่ะ หวานก็นึกว่าพี่จะมีแฟนสวยกว่านี้ ทำเอาซะหวานเป็นห่วงอนาคตของพี่เลย"

หืม? ห่วงอนาคตอะไรของมันวะ

"อะไรของเอ็งไอ้หวาน" ผมถามมันยิ้มๆแล้วหันไปสบตาคริสที่ไม่ได้สนใจไอ้หวานนัก มันมองหน้าผมเหมือนกำลังฟังผมคุยมากกว่า

"เอ้า กะก็" แล้วมันก็หันไปมองคริส แต่เสือกหน้าแดงเป็นลูกตำลึง "ช่างเถอะ น้ำส้มหวานเลี้ยงพวกพี่ก็แล้วกัน คบกันนานๆนะพี่" แล้วมันก็วิ่งสะบัดตูดไปฉิบ

ผมนี่ได้แต่นั่งงงแดกเป็นไก่ตาแตกสิ่ครับพี่น้อง...

"ผีเข้าหรือไงวะไอ้นี่" ส่ายหน้าให้มันเอือมๆแล้วหันกลับมาโซ้ยข้าวต้มต่อ แต่ก็เหลือบมองคริสที่ยังคงมองผมไม่เลิก

"มองอะไร" มองนานๆเดี๋ยวก็ท้องกันพอดี แต่คิดอีกทีผมไม่ใช่ปลากัด...

มันไม่พูดอะไรครับ มันกลับยิ้มแล้วส่ายหน้าเนิบๆแทนคำตอบ ถามจริง นี่กวนประสาทปะ? ไอ้มองหน้าแล้วไม่พูดเนี่ยไม่รู้หรือไงว่ามันเป็นการกวนบาทาได้อย่างดีเยี่ยม แต่อย่าไปสนใจครับผมควรรีบกิน และกลับห้องไปพักผ่อนจะดีกว่า เผื่อวันพรุ่งนี้จะได้มีแรงไปเรียนต่อหยุดยาวๆนี่ก็ไม่ไหวจริงๆ ว่าแต่...

ผมวางตะเกียบลงเมื่อซัดข้าวต้มชามที่สองจนเกือบหมด ยัดไม่ไหวแล้วครับ เงยหน้ามองมันแล้วลองถามเพื่อหยั่งเชิง "เอ่อ..." มันเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นผมจะถาม "แล้ว... คืนนี้ต้องกินอีกไหม?"

รอยยิ้มชั่วร้ายประดับบนใบหน้าหล่อๆ แล้วตอบว่า "ถ้าเจ้านายอยากให้กินก็จะกินนะ"

"ไม่ให้เว้ย!"

แล้วทำไมผมต้องถามเพื่อเข้าเนื้อตัวเองด้วยวะ!
 :katai1:











.....
 :katai5:






หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 04-12-2014 11:45:33
เหอะๆกินบ่อยๆเต๋าโทรมแย่แน่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-12-2014 12:01:57
 :jul3:  พักสักคืนเนอะ เต๋าเนอะ แบบว่าถี่ไปเดี๋ยวเพลียแย่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-12-2014 13:06:51
ปรากฎตัวสู่สาธารณชนแล้ว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 04-12-2014 13:22:57
แต่คนอ่านอยากให้โดนกินทุกคืนค่ะ ก๊ากๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 04-12-2014 13:59:52
ทนหิวไปก่อนนะคริส รอให้เจ้านายหายไข้ก่อน
ค่อยทบต้น เพิ่มดอก กินให้พุงกางไปเลย :hao7:

ไม่ใช่หง ไม่ใช่หื่น อะไรหรอกนะ แค่เห็นผู้ชายได้กันแล้วมันฟินเ_ี้ยๆ :laugh: (อุ๊บ ขออภัยที่พูดหยาบคาย)
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-12-2014 14:38:32
คริสน่ารัก..
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 04-12-2014 15:50:31
คริสที่เป็นแบบนี้ก็น่ารักดีนะ

แหม.....เต๋าไม่ให้น้องกินหน่อยหรอ

เดี๋ยวก็หิวอีกหรอก  คิกๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 04-12-2014 15:55:13
เจ๋งอ่ะ มีทางลัดด้วย งี้เต๋าขี่หลังมามหาลัยทุกวันเลยใช้ให้คุ้มกับที่โดนกินไป  :laugh:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 04-12-2014 22:32:16
ให้กินเถอะ สงสารคริส
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 05-12-2014 09:48:16
กร๊ากๆ ฮาอิน้องหวาน แหม่รู้ดีนะเรา 55+
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 05-12-2014 21:00:09
ยอมๆน้องคริสไปเหอะเต๋า ต้องอยู่ด้วยกันอีกยาววววววว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 10- P5 - 4/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 05-12-2014 23:56:35
กินเยอะเกินไปมันก็จะไม่ดีนะคริสเดี๋ยวเต๋าจะช้ำหมด
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 06-12-2014 00:43:56
 :katai4:






DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป 
11




เอาล่ะ! ว่ากันด้วยเรื่องของตุ๊กตาผีที่ออกจะพิสดารเกินกว่าสิ่งเร้นลับที่เราคิดทั่วๆไป แน่นอนครับว่ามันเกินกว่าที่จะจินตนาการเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อสิ่งที่ผมเจอมาหลายวันนี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ถ้าเกิดเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่ออีกนั่นล่ะ ดีไม่ดีพวกเขาเหล่านั้นอาจจะหาว่าผมบ้าก็ได้ใครจะรู้

ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆดวงตาสีฟ้าครามที่จับจ้องไปยังจอทีวีที่ผมเปิดอยู่  เมื่อก่อนหน้ามันยังบอกว่ารำคาญเสียงตูมตามของพลังคลื่นเต่าอยู่เลย ไหงมาตอนนี้มันกลับนั่งตาค้างตัวแข็งทื่อเหมือนตุ๊กตาไม่มีผิด...

เออ ลืมไปว่ามันเป็นตุ๊กตา... แถมเป็นตุ๊กตาที่หล่อมากจนผมรู้สึกอิจฉาตาร้อนผ่าว...

ใครจะรู้กันละวะว่าตุ๊กตาดอลฟี่ที่ผมได้มาจะล้ำมากถึงขนาดกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ไม่พอมันยังสามารถเปลี่ยนร่างแปลงกายให้เข้ากับสถานการณ์ และหลากหลายเชื้อชาติได้ด้วย มันทำให้ผมถึงกับทึ่งในความสามารถ และพลังของเขา ถามจริงนี่ผมกำลังฝันหรือไอ้ที่เป็นอยู่นี่เรื่องจริงกันแน่ ? (ทำมึนแปบ)

แต่สุดท้ายไอ้สิ่งที่ผมเคยคิดอยากจะถามก็ยังไม่ได้ถามเสียที ในเมื่อๆคืนหลังจากที่ผมกลับมาจากกินข้าวต้มผมก็หลับเป็นตาย ขนาดที่ว่าฟ้าถล่มแผ่นดินทลายถึงจะเอาช้างมาฉุดให้ตรูลุกขึ้นจากที่นอนนี่ก็คงไร้ผล แถมไอ้ไก่โทรมาเป็นสิบๆสายอย่างที่คิดเอาไว้นี่ก็ยังไม่ได้โทรกลับไปหามันเลยเถอะ ป่านนี้มันคงคิดถึงผมแย่ละ แต่ช่างมันขี้เกียจคุย

"หิวข้าวอ่ะหาข้าวให้กินหน่อยดิ่" เอาศอกสะกิดมันยิกๆว่ากรูหิวแล้วนะ แต่ไอ้บ้านี่มันกลับเอาแต่นั่งบื้อดูการ์ตูนตาไม่กระพริบ เออ! ให้มันได้อย่างนี้สิวะ

เบะปากใส่มันไปทีแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนมือใหญ่ๆของมันกลับเอื้อมคว้าแขนผมเอาไว้หมับ! หันไปมองมันพลางเลิกคิ้วขึ้นว่าข้องใจอะไร ดวงตาสีครามค่อยๆช้อนขึ้นมองแล้วพูดออกมา "อยากกินอะไรล่ะ"   

ฮั่นแน่! จะเสกข้าวให้กินรึ เต๋าไม่ขัดสัทธานะเออ รีบนั่งลงบนโซฟาตุบแล้วตอบมันในทันที "อยากกินบาบีก้อนพาไปกินหน่อยดิ่แต่ต้องเลี้ยงนะ"

"..."

เอ้า! ก็จะให้เลี้ยงอ่ะมันผิดตรงไหน ช่วงนี้อยู่ในสภาวะโรคทรัพย์จางเพราะเดี๋ยวต้องเอาเงินไปซื้อเฟรมกับสีเพิ่มเพื่อทำงานซุ้มอีก แถมงานตัวเองที่อาจารย์สั่งก็ยังไม่ได้ทำเลยเหอะ ดองไว้มานานจนพอกหางหมูแข็งโป๊กละลายน้ำล้างไม่ออก ผมนี่เห็นอนาคตของตัวเองอยู่รำไรไม่หมาก็เอฟละวะ!

"บาบีก้อนมันคืออะไร"

"เอ้า! ไม่เคยกินหรือไงวะ มันก็เหมือนหมูกระทะนั่นล่ะ ไปๆอยากกินหิวจนจะแดกช้างได้ละเนี่ย"

"อยากกินช้าง? ทำไมผู้คนสมัยนี้กินอะไรที่แปลกจริงๆ"

"ไม่ใช่เว้ย! แค่เปรียบเปรย"

บร๊ะ! ไม่รู้จักบาบีก้อนแต่เสือกรู้จักช้าง ผมนี่ปวดกระบาลกับไอ้หน้ามึนนี่ที่นั่งทำหน้าครุ่นคิดนี่จริงๆถึงมันจะเหมาะกับบุคลิกนี้ก็ตามทีเถอะ มันดูซื่อๆดี ดีกว่าไอ้มาดนิ่งๆขรึมๆดูร้ายกาจตอนที่หิวนั่นเป็นไหนๆ ดีไม่ดีอาจจะหว่านล้อมมันให้เลิกกิน.... เอ่อ อะไรแบบนั้นแล้วกลับมาบริโภคอาหารมนุษย์แทนซะ

"ถ้าอยากกิน... ก็ขอมาก่อนสิ"

เลิกคิ้วให้กับคำตอบ "อะไรวะทีก่อนหน้าไม่เห็นจะต้องขอ" บ่นๆมันแล้วหันไปนั่งกอดอกดูโงกุนชาร์ตพลังคลื่นเต่าต่อ

"ก็... ตอนนั้นตอบแทนที่ให้กิน" แล้วมันก็หันมามองผมพร้อมๆกับยิ้มหล่อให้จนตาหยี

"ตอบแทน...?" นี่นึกถึงคืนแรกที่โดนปล้ำเลยครับ "ไอ้เหี๊ยะ! อย่าบอกนะว่าถ้าจะขอพรนี่ต้องกินก่อน" ผมนี่ลุกขึ้นยืนชี้หน้าถามมันด้วยความตกใจ แล้วมันก็พยักหน้าตอบหงึกหงักหน้าตาย

ตบเข่าเข้าฉาดดดด!!!

กูว่าแล้วว่าแม่งได้กลิ่นตุ่ยๆ ในโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหรอกเว้ย!  เกือบไปแล้วไหมล่ะประตูหลัง ถ้าโดนบุกทะลวงมาอีกนี่ได้ตายห่า มันเจ็บนะเว้ยถึงจะรู้สึกดีหลังจากนั้นก็เถอะ...

เอ่อ... ตะ แต่ใครจะยอมให้มันใส่เข้ามาอีกละวะ  ละ แล้วทำไมผมต้องมาพูดอะไรที่มันน่าอายแบบนี้ด้วย! อ๊าก!!! (สติแตกไปแล้ว) แล้วไอ้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ยิ้มตอบกลับมานั่นมันคืออะไรวะ? ผมนี่อยากจะเอานิ้วจิ้มตาสีฟ้าๆนั่นให้หายโมโหจริงๆ

"ก็ตอนให้พรมันต้องใช้พลังเยอะนี่ แล้วตอนนี้ก็ไม่มีแรงแล้วด้วยเพราะเพิ่งจะใช้พลังพาพี่กลับบ้าน"

"กูไม่มีน้อง!" ไอ้บ้า! เชิญหิวตายไปเลยเถอะมีอย่างที่ไหนให้กินแลกกับขอพร แล้วก่อนหน้าที่มันจะมาเจอผมก็แสดงว่ามันก็กิน... เอ่อ... ไอ้นั่น... มาก่อนด้วยสินะ

แล้วความสงสัยก็บังเกิดขึ้นมาในหัวเกิดเป็นเควสชันมาร์คลอยอยู่บนใบหน้าของผม ย่นคิ้วสบตาสีครามประกายตาปริบๆ แล้วถามมันกลับไป "แล้ว.. ก่อนหน้า นี่ก็กินแล้วก็ให้พรแบบนี้ตลอดเลยหรอ?"

"ครับ"

ผมนี่ถึงกับขนลุกเลยครับ หน้าเหน้อนี่บอกได้เลยว่าง้ำงอมาก ขนาดไม้แขวนเสื้อยังอายเลยเหอะ นั่งลงไปข้างๆมันแล้วถามกลับไป "แล้วถ้าเกิดไม่ขอล่ะ แล้วถ้าหากไม่ให้กิน"

คริสกรอกตาไปมาก่อนจะหันมาตอบผมด้วยน้ำเสียงที่โคตรจะชิวๆแบบกวนสะหะบาทามาก "ก็คงต้องปล้ำอีกละมั้ง"

ผลัก!!!

"เอาส้นตีนกูก่อนไหม!"

"ฮึฮึ"

ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก นี่ต่อยไปที่ไหล่มันๆยังไม่สะทกสะท้านเลยกลับเป็นผมที่ต้องมานั่งสะบัดมือป้อยๆแทบน้ำตาเล็ด เจ็บโว้ย!!! กรูจะไม่ต่อยแม่งอีกแล้วคนหรือเหล็กกันวะไอ้ห่าเอ๊ย

"อย่าทำแบบนี้เลยเจ็บตัวเองเปล่าๆ"

ไม่ทันแล้วเว้ยไม่ต้องมาหวังดี!

แก้มผมนี่พองแทบจะแตกออกมาให้ได้ ตอนนี้คือกำลังงอนมันมาก เหมือนผมโดนแกล้งยังไงอย่างงั้น ลูบนิ้วมือที่เจ็บจนรู้สึกชาแล้วสะบัดใบหน้าไปที่จอทีวีอย่างกระฟัดกระเฟียด

เหมือนจะได้ตุ๊กตานำโชคนะแต่ผมว่าโชคเลือดมากกว่าเถอะ แถมไม่รู้ด้วยว่ามันจะไปจากผมเมื่อไร หรือว่าจะรอให้ผมตายก่อนจริงๆแล้วพาผมไปหาซาตานอะไรนั่น นี่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ะว่าซาตานมีจริงไหม แล้วหน้าตานี่จะน่ากลัวเหมือนที่ผมเคยดูในหนังหรือเปล่าวะ?

หมับ!

หืม?

ผมหันไปมองฝ่ามือหนาที่เอื้อมดึงมือผมข้างที่เจ็บไปวางไว้บนตักของมันแล้วลูบคลึงเบาๆ ช้อนดวงตามองวงหน้าหล่อเหลาที่ดูอ่อนโยนขึ้นแปลกๆ เลยถามมัน "ทำอะไร?"

"จะทำให้หายเจ็บ" ผมย่นคิ้วด้วยความฉงนสงสัยแล้วก้มหน้ามองมือที่มันกำลังลูบไปมา และเห็นแสงสีขาวสว่างวาบไปตามมือของผมชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นก็หายไปพร้อมๆกับความเจ็บปวด...

ผมนี่ถึงกับตาค้างมองสิ่งอัศจรรย์แฟนตาซีเมื่อครู่เลย...!

"ทำได้ไงวะสอนมั่งดิ่"  นี่ก็อยากทำเป็นบ้างนะเออ มันเป็นเวทย์มนต์หรืออะไรกันวะ รู้สึกกระดี๊กระด๊าจนลืมโกรธเมื่อครู่ไปฉิบ
รอยยิ้มบางๆยิ้มให้แม้ว่ามันจะเป็นรอยยิ้มแต่กลับไม่ได้รู้สึกดีกับรอยยิ้มนั่นเลย เหมือนเขาไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจเลยสักนิด เสียงทุ้มนุ่มหูตอบกลับมาน้ำเสียงกระด้าง "ถ้าอยากมีพลังเดี๋ยวคริสไปบอกซาตานได้นะ แต่ต้องมาเป็นตุ๊กตา..."

"..."

เอ่อ... ขอเวลาอึ้งก่อน...

"มะ ไม่เอา... ก็แค่พูดเล่น" ไอ้นี่มันไม่รับมุกผมเลยว่ะ แถมชอบให้เครียดตามด้วย รีบดึงมือออกมาจากมันแล้วนั่งมองเท้าตัวเองที่แกว่งเล่นไปมาแก้เบื่อ...

เฮ้อ...!

พวกเราเงียบไปครู่ใหญ่จึงเป็นผมที่เริ่มจะถามต่ออีกครั้ง "นี่"

"หืม?"

"หนทางที่จะกลับมาเป็นคนนี่ไม่มีเลยหรอ? แล้ว... นายไม่เหงาหรอที่ติดอยู่ในร่างนี้?"

แอบชำเลืองมองคริสที่นั่งจ้องไปที่จอทีวีตาไม่กระพริบ ใบหน้านิ่งเฉยนั่นยากที่จะเดาใจ ผมเห็นเขาระบายยิ้มที่มุมปากบางๆก่อนที่จะตอบผม "มีสิ... แต่มันก็ยากน่าดูถ้าหากจะให้ซาตานตาย..."

"ฮะ?" ผมนี่ถึงกับหันขวับไปมองเลยให้ตายสิ! สบตาคริสที่หันมามองแล้วระบายยิ้มจนตาหยี ใบหน้าหล่อๆนั่นตอบหน้าตายว่า  "ระหว่างใช้เลือดของพ่อมดที่ทำให้กลายเป็นตุ๊กตาก็คงมีแค่สังหารซาตานละมั้งที่สามารถจะแก้คำสาปได้"

เอ่อ... นี่เรากำลังจะเล่นบทละครในหนังเรื่อง End of  Days กันหรือไงครับ? แต่ผิดที่ว่าเรื่องนี้ที่เรากำลังสวมบทมันดันไม่มีนางเอก... บร๊ะ! สังหารซาตานพูดเป็นหนังการ์ตูนไปได้ ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์นี่สามารถปลิดชีพได้ปะ? แล้ว... มันต้องทำยังไงบ้างอ่ะ หรือต้องไปตามหาดราก้อนบอลก่อนแล้วขอพรให้มีพลัง...

เอ่อ... นี่กูก็เล่นจังเลยว่ะ!

ผมหยิบรีโมทแล้วปิดเสียงกาเมกาเม้ก้าที่กำลังจะเฮทชาลาล่าฟิวชั่นกับเบจิต้าซึ่งมันดังแทรกบทสนทนาระหว่างผมกับคริสจนน่ารำคาญ ก็เลยต้องปิดมันไป แล้วหันไปทางร่างสูงที่นั่งเหม่อออกไปทางข้างหน้า ถามเขาด้วยความสงสัยที่มีมาก พูดง่ายๆ... เรื่องสอดรู้สอดเห็นนี่เต๋าชอบ ยิ่งมันฟังดูแปลกประหลาดนี่ของมักนักแล เห็นกลัวผีแบบนี้แต่ก็ชอบเรื่องลึกลับนะเออ

"แล้ว... ที่ผ่านมานายกิน เอ่อ... ชีวิตเป็นไอ้นั่น... จริงๆหรอ" จะถามมันนี่ก็เขินแทน เลยค่อนข้างที่จะพูดตะกุกตะกักอย่างที่เห็น

คริสส่ายหน้าเนิบๆ "มันก็ไม่เสมอไป ก็อยู่ที่ว่าเจ้านาย... อยู่ที่ความเลวว่าในระดับไหน" คำตอบของเขามันดูน่ากลัวพิลึก มองคริสซึ่งผมยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี คริสหันมามองผมแล้วตอบยิ้มๆ "ก็อย่างที่เคยพูดเมื่อก่อนหน้านี้หลายครั้ง เราเลือกที่จะกินชีวิตได้ในสองรูปแบบ  และอยู่ที่ว่าเจ้านายจะให้หรือไม่..."

"แล้วที่ว่านายกินพวกเขาจนตายแล้วส่งให้ซาตานน่ะ จริงหรอ? แล้วที่ผ่านมานายเจอกับอะไรมาบ้าง"

คริสทำสีหน้าคิดเล็กน้อย แล้วหลับตาลงอย่างช้าๆเหมือนกำลังย้อนรำลึกไปในอดีต "เราเจอคนมาหลากหลายประเภท มีทั้งผู้หญิง ขอทาน หรือเศรษฐีมั่งมี ไม่ก็... เด็ก"

"เด็ก!?" ผมร้อง

คริสพยักหน้าแล้วลืมตาหันมามองผม เขาเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ ราวกับว่ามันเป็นแค่เรื่องธรรมดาเท่านั้น "ใช่ เด็ก... ถึงมันจะผ่านมาหลายร้อยปีแต่ก็ยังจดจำได้ดี"

"งั้นนายกินเด็กยังไง" ผมถามเขาด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัวในใจ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอกที่จะทำแบบนั้นกับเด็กเหมือนที่ทำกับผม หรือว่าคริสจะกินชีวิตเด็กคนนั้นไปจริงๆ

เขาเงียบไปครู่แล้วพูดขึ้นมาอีก "เด็กคนนั้นป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เขาไม่ได้ตายเพราะเรา"

ผมรู้สึกโล่งใจพิลึกแต่ก็ยังสงสัย "เอ๋... ป่วยงั้นหรอ? แล้วทำไมนายไม่ช่วยเขา"

เขาค่อยๆหันมาหาผมอย่างช้าๆ ระบายยิ้มออกมาบางๆก่อนจะตอบ "ถ้าหากไม่ขอพรก็ไม่สามารถที่จะช่วยได้" แล้วเบือนใบหน้าหนีผมไปอีกครั้ง "เราตื่นขึ้นตอนที่เด็กคนนั้นใกล้จะตายอยู่แล้ว เขานอนอยู่บนเตียงไม่สามารถที่จะลุกไปไหน ครั้งแรกที่รับรู้คือเขารักตุ๊กตามาก รอยยิ้มบางๆตอนลมหายใจสุดท้ายกำลังจะหมดลงมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนชีวิตนี้มีแต่ความว่างเปล่า..."

น้ำเสียงเขาดูเศร้าลงอีกแล้วมันทำให้ผมปวดใจพิลึก มันคงจะยากที่จะทนเห็นอะไรที่สะเทือนใจ ความรู้สึกของเขาผมรับรู้ได้ในทันที และมันทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่น่ากลัวอะไร "แล้ว... นายทำยังไงกับเด็กคนนั้น เอ่อ.. วิญญาณนั่น"

"ในเมื่อถูกสังเวยต่อซาตาน... ก็คงต้องทำตามหน้าที่ๆเขาสั่ง แม้ว่าอยากจะหลุดพ้นก็คงเป็นเรื่องยาก..."

"แล้วหลังจากที่เด็กคนนั้นตายล่ะ นาย... ทำอะไร?"

"นอน... อยู่ในห้องคับแคบมืดๆ และรอคอยเวลาที่จะได้เจอกับเจ้านายคนใหม่อีกครั้ง..."

โว้ะ! นี่มันไม่เท่ากับเล่นตลกกับหัวใจคนหรอ? มันเป็นคำสาปหรือคำสั่งของซาตานที่แบบ... ทำให้ผมพูดไม่ออกเลยจริงๆ มันเป็นคำสาปบ้าบออะไรกันวะผมไม่เข้าใจเลย มันทรมานทั้งคริส และตัวของเจ้านายคริสเอง วันใดวันหนึ่งที่แยกจากกันมันไม่เจ็บปวดไปหน่อยหรอ ผมคนหนึ่งล่ะที่รู้สึกแย่อย่างนั้น แค่ได้ยินนี่ก็รู้สึกบีบหัวใจเกินทน ผู้ชายคนนี้เขาทนอยู่ในวังวนที่น่ากลัวนี่มานานหลายๆปีได้ยังไงกันวะ?

"มันต้องมีทางออกอื่นสิน่า! ยังไงคำสาปจะต้องถูกลบล้างออกไป และนายต้องเป็นอิสระต่อสิ่งที่เลวร้ายนั่นแค่ตอนนี้เรายังไม่สามารถหาวิธีการได้ก็เท่านั้น" ผมเชื่ออย่างนั้นแน่นอน

คริสหันมาทางผมดวงตาเขาดูเปล่งประกายแปลกประหลาดชอบกล มันผิดกับแววตาที่ผ่านมาซึ่งผมก็ไม่อาจที่จะอธิบายให้รับรู้ได้ แต่ก็ทำให้จิตใจของผมอ่อนไหวเช่นกัน เขายิ้มออกมาบางๆ วันนี้เป็นวันที่เขายิ้มมากที่สุดเลยก็ว่าได้ที่เราได้คุยกัน "เจ้านายเป็นคนดีนะ คริสรับรู้ได้ถึงความรักที่ส่งผ่านมาจากเต๋า...  รักคริสมากหรือ?"

ฮะ?

คำถามที่ทำเอาผมอึ้ง และหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที "บ้า! ใครกันรักนาย" แล้วเบือนใบหน้าหนี  ดวงตาที่ทอดมองมานั่นมันทำให้หัวใจของผมเต้นแรงชอบกล

"ฮึฮึ..." ผมชำเลืองสายตามองคริสที่หัวเราะ และแสร้งทำสีหน้าไม่พอใจต่อเขานัก "ก็ไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น ตุ๊กตาสามารถรับรู้ความรักของเจ้านายได้ เพราะเจ้านายทำให้ตุ๊กตาเหล่านั้นมีชีวิต แม้แต่สามตัวนั้นที่นั่งอยู่รวมถึงคริสเองก็ด้วย"

"ฮะ!" ผมนี่ฮะรอบที่เท่าไรแล้ววะ! นี่ตกใจนะเออมันบอกว่าลูลู่ เซย์ กับมินนี่มีชีวิตเรอะ!! อะไร?

"แต่เขาก็เป็นแค่ตุ๊กตาธรรมดาที่ไม่สามารถมีชีวิตเหมือนคริสได้ก็เท่านั้น"

ผมเผลอกลืนน้ำลายอึกด้วยความรู้สึกที่หลากหลายจริงๆ ได้โปรดเถอะช่วยหยุดยิ้มทีหัวใจมันเต้นแปลกๆ เหมือนคนวิ่งหนีหมาไล่ฟัดมาเหนื่อยๆแล้วหยุดพักหายใจ มันทั้งระทึก และรู้สึกดีตีรวนกันไปหมด นี่ผมเป็นอะไรวะ?

"ก็อย่าพูดให้กลัวสิยิ่งกลัวอยู่นะ" ผมยู่ปากแล้วกลับมานั่งกอดอกพิงโซฟาตามเดิม

"ความกลัวเป็นสิ่งที่ดีนะ วันใดก็ตามที่เราเลิกกลัว เมื่อนั้นมันทำให้รู้ว่า เรา... ไม่มีหัวใจ..."

ผมหันไปมองเขา กระแสเสียงที่เปล่งออกมามันช่างดูเจ็บปวด ราวกับว่าคริสกำลังพูดถึงตัวของเขาเอง การที่อยู่ในร่างตุ๊กตาแม้ว่าจะมีจิตวิญญาณเช่นกัน แต่ทว่าเนื้อหนังกลับไร้หัวใจเพราะผมไม่เคยได้ยินกระแสเสียงที่บ่งบอกถึงการมีชีวิตของคริสเลย มันทำให้ผมเผลอยกมือแล้วตบไปที่มือของเขาเบาๆเพื่อปลอบ แม้ว่าจะรู้ว่ามันบ้ามากแต่ผมกลับยิ้มให้เขาจนตาหยี แล้วพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สดใส

"เอาน่า ไม่มีอะไรที่ทำให้กลัวแล้วล่ะ เพราะที่รู้คือนายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด"

ขณะนั้นเหมือนเขาจ้องมองผมนิ่งค้างอยู่นานเนิ่นนาน แม้แต่ผมเองก็สบตาเขานิ่งค้างไม่ไหวติง ราวกับว่าดวงตาสีครามทะเลนั่นกำลังดึงดูดจิตใจของผมให้เต้นถี่ระรัวเหมือนเมื่อครั้งแรกเห็น ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนเพราะเราสองคน

ทำไมวะ... ทำไมผมถึงอ่อนไหวเฉพาะกับคริส...

"ช่วยอะไรคริสอย่างหนึ่งได้ไหม?" น้ำเสียงทุ้มอ่อนลงเอ่ยถามผมพลางยกมือเกลี่ยไปตามพวงแก้มของผมผะแผ่ว ผมเพียงพยักหน้าตอบเขาเบาๆเพียงเท่านั้น สบแววตาที่ดูเศร้านั่นด้วยความรู้สึกที่ตีรวน จ้องมองกลีบปากอวบอิ่มที่กำลังจะขยับพูดออกมา "ตราบใดที่ยังเป็นเจ้านาย... อย่ามอบคริสให้ใครจนกว่าลมหายใจจะหมดลง..."

"ทำไมล่ะ?"

"เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราจากกันนั่นคือความตาย และคริส... ไม่อยากส่งเต๋าให้กับซาตานเร็วกว่าอายุขัยจริงๆ..."

คำขอพร้อมแววตาที่ทอดมองลงมานั่นดูนิ่งสงบ และไร้สีหน้าใดๆในยามที่ทอดมอง แม้ว่าคำขอของคริสตัวผมรู้ดีว่าผมคงไม่มีวันมอบสิ่งที่ผมรักให้แก่ใครง่ายๆ แต่ความรู้สึกของผมกลับคิดว่าดอลฟี่ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กำลังกลัวหัวใจของผมมากกว่าว่าจะผันแปรเปลี่ยนไปในอีกไม่ช้า ผมไม่ได้ตอบตกลงเขาไปในขณะนั้นเมื่อผมไม่ได้คิดที่จะทำมันอยู่แล้ว แต่ทว่า... กระแสเสียงที่ดูแผ่วเบาราวกับหายไปในอากาศนั่น... มันบีบหัวใจผมจริงๆ...

และสิ่งหนึ่งที่ผมลืมไปในขณะนั้น... ว่าตัวผมเองก็เป็นเจ้านายของคริสคนหนึ่ง...

แล้วคริสจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มอบวิญญาณผมให้กับซาตาน... แล้วถ้าหากผมมอบเขาให้กับคนอื่น มันจะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ?...

 :hao4:










........
 :katai5:



หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 06-12-2014 00:52:50
ตอนนี้หน่วงๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 06-12-2014 06:28:12
 :mew2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-12-2014 07:42:14
 :pig4: 
ชอบตอนนี้มาก เต๋ากับคริสเค้าสื่อความรู้สึกกันได้แน่ๆ อย่างตอนที่ป่วยแล้วคิดถึงคริสก็มารับ
ตอนนี้ทั้งความห่วงใย ความรัก? ที่ก่อตัวลึกๆ คริสต้องสัมผัสได้แน่ถึงได้ขอยังกะขอแต่งงานแบบนี้

ขอแค่ความตาย(ตามอายุขัย) จะพรากจาก  :o8:

มีคำผิดประปรายไม่เสียอารมณ์มากมายแต่คราวหลังทวนดีๆก่อนลงจะเยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณที่อัพเร็วตลอด
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-12-2014 08:43:06
สงสารคริส แต่เราค่อนข้างแน่ใจ(เหรอ?)ว่าจะต้องมีทางถอนคำสาป... (ใช่มั้ยคนเขียน (ทำเสียงเหี้ยม))
ไม่งั้นเรื่องนี้คงเศร้าน่าดู
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 06-12-2014 08:45:38
แล้วคริสที่กินเต๋าตลอดๆนี่ เต๋าไม่ตายก่อนอายุหรือ??? ถูกกินทุกครั้งเหมือนจะเหนื่อยจนป่วยเลยนี่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 06-12-2014 09:39:57
เฮ้ยยย

#รู้สึกซับซ้อน
 :hao4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 06-12-2014 10:18:57
ซาตานหล่อใหม#ผิดประเด็น
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 06-12-2014 11:26:11
อยากเห็นคุณเต๋าไฟท์กับซาตาน  :hao3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 06-12-2014 11:35:24
น่าสงสารคริส :mew2:
ขอให้หาวืธีแก้คำสาปได้เร็วๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-12-2014 11:44:20
ทำไงถึงจะฆ่าซาตานได้ล่ะ

หรือจำทำสัญญากับซาตานเพิ่มดี

สงสารคริส เต๋าอย่าไล่คริสไปนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 06-12-2014 16:30:45
ฆ่าซาตาน!!!ไหวมั้ยอะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 06-12-2014 16:44:10
เจ้านายจะเป็นอย่างไรต่อฮ่ะถ้าตายไปวิญญาณจะไปอยู่กับซาตานแล้วซาตานจะทำอะไร
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: pui32 ที่ 06-12-2014 17:40:58
ตามมาจากทวิตเลยค่า สนุกมากกกกก รีบมาต่อน้าค่าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 06-12-2014 18:11:26
คริสน้อยผู้น่าสงสาร ให้เต๋าปลอบใจให้นะเธออ  :mew6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 06-12-2014 21:25:47
เต๋าต้องช่วยคริสนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 11- P6 - 6/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 06-12-2014 22:06:05
งืมๆตอนนี้รู้สึกหน่วงๆอ่ะ :ling3:
งือๆโลกฉันเป็นสีเทาๆ~
อยากรู้จริงนังคุณพ่อมดกับคุณซาตานมีซัมติงกับคริสน้อยหอยสังข์มาก่อนสินะ รึว่า!!??...
แล้วซาตานเนี้ย...หล่อไหมอ่ะ#  :a5: :z6:กร้ากๆๆๆ
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 08-12-2014 02:21:42

 :katai4:




DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
12







'ถ้าไม่ให้กินก็จะไม่กิน'

'ได้ด้วยหรอ?'

'คริสไม่อยากเห็นพี่เจ็บ การกินครั้งเดียวก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์ถ้าไม่ใช้พลังหรือให้พร'

'เอ้า! นี่กำลังนึกเลยว่าจะขออะไรดี อยากรู้ว่าจะเจ๋งจริงไหม'

รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา 'ให้ได้ แต่พรที่ให้ไปก็อยู่ที่พี่จะต้องตอบแทนคริสด้วยเช่นกัน'

'ตอบแทน?'

'ก็... จะกินมากกินน้อยก็คงขึ้นอยู่กับพรที่เจ้านายขอมาว่ามันอยู่ในระดับยากมากแค่ไหน"

'นายนี่มัน... เป็นตุ๊กตาที่ตะกละจริงๆ!'

"..."



เฮ้อ...!

ฮื้อ...!

ฮ้า!

ป้าบบบบบบบบบ!!!!

"ไอ้สัดไก่!"

ผมนี่แทบจะเอี้ยวตัวจระเข้ฟาดหางไอ้ห่าไก่เลยครับ คนกำลังนั่งกลุ้มอยู่ที่ซุ้มอยู่คนเดียวเพลินๆมันมาจากไหนก็ไม่รู้เดินดุ่มๆแล้วตบมาที่หัวผมซะได้  ไอ้นี่สงสัยอยากโดน อยากได้อยากโดนเดี๋ยวเต๋าจัดให้!

ผมนี่ลุกขึ้นยืนเตรียมจะโบกคืนเลยครับ!

"เอ้า! ก็กูเห็นมึงนั่งเหม่อคิดว่าวิญญาณจะออกร่างกูเลยดึงวิญญาณมึงกลับมา" มันรีบถอยหลังหนีผมที่จะเอาคืนแล้วยังมีหน้ามาพูดติดตลก มันยิ้มแบบกวนตรีนมาก

"วิญญาณออกบ้านมึงสิ" หน้าตึงใส่มันไปทีแล้วกลับไปนั่งชันศอกมองเข้าไปในซุ้มที่เงียบเหงา เที่ยงๆแบบนี้พวกไปกินข้าวกันหมด มีแต่ผมนี่แหละที่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ที่จะทะเลาะกับใครแม้แต่ไอ้ไก่ก็ยังสังเกตเห็น

"เป็นไรมึง" มันตบไหล่ผมแล้วข้ามเก้าอี้มานั่งข้างๆ "วันก่อนกูโทรไปก็ไม่ยอมรับสายแถมไม่เข้าเรียนอีก ถามจริงเทอมนี้มึงเป็นอะไรวะ?"

"กูเป็นคนไงไอ้ฟาย"

"เอ้าไอ้ห่าถามดีๆ" ผมหันไปหาไอ้ไก่ที่เบะปากใส่ผมแบบเอือมๆ ส่ายหน้าเนิบๆแล้วก้มลงรื้อสมุดวาดเขียนของมันขึ้นมาวาดรูปเล่นแก้เบื่อตามปกติ

"กูไม่สบายไงถามแปลก นานๆไข้จะแดกทีมันก็เป็นแบบนี้แหละ" มันพยักหน้าเนิบๆไปที

"แล้วหายยังล่ะมึง คนอื่นเขาเป็นห่วงจะโทรหาก็เสือกปิดเครื่อง  แถมกูก็ติดทำงานกลุ่มเลยไม่ได้เข้าไปดูมึงเลย"

"อือ หายแล้ว" ผมตอบมันตาก็ลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สักพักไอ้ไก่มันก็ค่อยๆเหล่มามองด้วยสายตาที่ดูแปลกๆ สักพักมันก็จุดยิ้มที่มุมปากกวนๆตามสไตล์มัน

เอิ่ม...

"ยิ้มเหี้ยอะไรละครับ?" ถามมันแบบสงสัย สายตามันนี่ไม่น่าไว้วางใจเลยว่ะ

"ยิ้มไก่ครับไม่ได้ยิ้มเหี้ย ว่าแต่หายไวจังเลยเนอะไข้น่ะได้ใครช่วยดูแลวะ?" แล้วมันก็ยิ้มแบบกวนๆจับผิดยังไงไม่รู้

"อะไรของมึง กูไม่สบายแล้วจำเป็นต้องมีใครดูแลด้วยหรอวะ" ผมนี่ค่อนข้างงงกับคำถาม และท่าทางของมันจริงๆ ไอ้ห่าไก่มันเริ่มหลิ่วตาลง มุมปากมันค่อยๆยกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วมองผมประมาณว่าแน่หรา...

ถ้าเกิดผมรังแกไอ้สัตว์! ไก่ นี่จะบาปปะครับ? แต่ถ้าเอาสะใจผมว่าไม่นะ ดูท่ามันอยากจะกินตีนมากบางทีผมอาจจะได้บุญมากกว่าที่ช่วยสงเคราะห์เป็นบาทางามๆไปป้าบ!

"กวนตีนหรอ?" ผมถามมันหน้าซื่อๆยิ้มกวนมันกลับไป

ไอ้ไก่มันร้อง "ป๊าว!" เสียงสูง "กูก็แค่เห็นว่าช่วงนี้มึงดูแปลกๆ แล้วก็ชอบหายเงียบไปไม่ค่อยมานั่งก๊งกับพวกกูเท่าไร"

"แค่อาทิตย์สองอาทิตย์นิดๆเนี่ยนะ?"

เลิกคิ้วถามมันแบบ... อะไรของมึง? กูหยุดไปนิดเดียวเองน๊า! แต่อันที่จริงมากกว่านั้น

มันพยักหน้าเหมือนจะงอแงทำปากยื่นๆจนน่าดึง แล้วช้อนดวงตามองผม... ทำเอาซะกูขนลุกเลยไอ้สัดไก่! "ก็กูคิดถึงมึงไง ไม่รู้เป็นไรคิดถื้งงงงงง คิดถึงๆๆ" แล้วมันก็ทำหน้าแบบคิกขุอาโนเนะยกกำปั้นขึ้นแนบหน้าอกแล้วทำหน้าอ้อนๆซบมาที่ไหล่

"..."

กูจะถือว่ามึงทำแล้วไม่อุบาทว์ยอมปล่อยมึงไปสักครั้งก็แล้วกันนะไอ้เพื่อน...

"เอาหน้ามึงไปไกลๆเลย" พยายามดันหัวมันที่ยังกวนไม่เลิก ไอ้นี่มันจงใจยั่วโมโหผมอีกแน่ๆ สงสัยมันคงจะโรคจิตไปแล้ว เฮ้ย ออกไป!

"อะไรวะแค่นี้ต้องผลักไสไล่ส่งด้วยทีเมื่อก่อนละไม่เคยหวงตัว ฮั่นแน่แอบมีกิ๊กใช่มะ?"

ผมเอามืออังหน้าผากมัน "ก็ไม่ร้อนนี่หว่า"

ไอ้ไก่มันเลิกคิ้วงงๆ "ทำไรวะ?"

"วัดไข้ไง กูจำมาจากไอ้เป็ด ตัวมึงก็ไม่ได้ร้อนแล้วทำไมเลอะเลือนงี้วะ? ถามจริงมึงติดเชื้อมาจากพวกอีแคทปะ?"

มันยักไหล่ "แหมะ กูก็แค่ล้อเล่นเห็นมึงเหม่อๆ แล้วตกลงเป็นส้นตีนไรครับ?" มันเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติเป็นไอ้ไก่เจ้าคำถามอีกครั้ง

ผมแค่เบะปากแล้วหันใบหน้าหนีสายตาที่กลับมาจับผิดอีกแล้ว "แล้วมึงจะให้กูเป็นอะไรล่ะเพิ่งกินอิ่มก็ง่วงเป็นปกติ" แถไปเรื่อยเพราะไม่อยากให้ไอ้เพื่อนมันเป็นกังวลเพราะผม จะให้บอกไปได้ไงวะว่าเครียดเรื่องตุ๊กตา

พักหลังๆคริสไม่ค่อยจะโผล่ออกมาเป็นคนเท่าไรส่วนใหญ่มักจะเอาแต่นอนอยู่ในร่างตุ๊กตาอยู่ท่าเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เอ่ยปากว่าหิวอีกแล้วซึ่งผมแอบดีใจเหมือนถูกหวยก็ตาม แต่ก็เป็นห่วงว่าเขาจะอยู่ได้หรือถ้าไม่กิน หรือว่าคริสจะไม่สบายกันวะ?

หืม?

ผมมองมือใหญ่ๆของไอ้ไก่ที่โบกอยู่ตรงหน้าเลยหันไปมองมันที่ทำหน้าเหมือนข้องใจในตัวผม

"เป็นไรวะหลุดเข้าไปอยู่ในมิติที่สี่อีกแล้วหรือไง?"

"เปล่า..." ผมตอบมันสั้นๆแต่ดูเหมือนว่ามันไม่เชื่อเท่าไร

"มีเรื่องกลุ้มใจอะไรปรึกษากูได้นะเว้ย ยังไงกูก็เป็นเพื่อนมึง" มันทำหน้าเหมือนเป็นห่วงผมมาก

ส่วนผมนี่ได้แต่มองมันตาปริบๆ ฮรึก! ซึ้งว่ะครับ "ขอบใจวะเพื่อนแต่มึงช่วยกูไม่ได้หรอก" แล้วผมก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะหินอ่อน เพราะไม่อยากจะเผชิญหน้ากับไอ้ไก่ที่อยากจะรู้ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งอันที่จริงแล้วผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไร เวลาที่อยู่ที่ห้องกับคริสแม้ว่าเราเริ่มจะคุยกันบ้างแต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นผมที่เปิดประเด็นพูดก่อนมากกว่า ผมอุตส่าห์ทำตัวเป็นเจ้านายที่ดีแล้วนะแต่ทำไมมันถึงได้ทำตัวห่างเหินผมนัก หรือว่ามันจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อยั่วโมโหผมกันแน่ เหอะ! ไอ้ตุ๊กตาบ้า!

"แล้วมึงเป็นอะไรกันแน่วะ? นี่ถ้าเป็นไอ้แบคกูคงนึกว่าแฟนมันไม่ให้เอาแล้วนะเนี่ย"

ผมตะแคงหน้าไปทางมันพร้อมๆกับย่นคิ้วด้วยความงง "ยังไงวะ?"

มันหลิ่วตาลงแล้วโน้มหน้ากระซิบใกล้ๆหูของผม "เอ้า! มึงไม่เคยสังเกตหรอ? เวลาที่แฟนมันไม่ให้ มันไม่หงุดหงิดก็หงอยเหมือนมึงนั่นล่ะ... เฮ้ย!" แล้วมันก็ดีดตัวลุกดึ๋งมองผมเหมือนเป็นตัวประหลาด นี่ผมเริ่มสงสัยในสติของไอ้เพื่อนผมคนนี้แล้วล่ะครับ

"อย่าบอกนะว่าที่ไอ้หวานเล่าจะเป็นเรื่องจริง"

อะไรของมันวะ?

ผมลุกขึ้นนั่งแล้วมองมันงงๆ ทำไมต้องเอ่ยถึงไอ้หวานด้วยกูไม่เข้าใจ อธิบายด่วน! "อะไรของมึงเนี๊ยะ!"

มันอ้ำอึ้ง "เอ่อ... ตอนแรกกูก็ว่าจะแซวมึงเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามึงจะมีแล้วจริงๆ"

คิ้วผมที่มันกำลังย่นเข้าหากันนี่แทบจะเป็นรางรถไฟเหาะอยู่แล้วล่ะครับ พร้อมด้วยต่อมสงสัยที่ถูกกระตุ้นด้วยไอ้บ้าที่อยู่ตรงหน้า มันทำตัวแปลกจริงๆ

"มีอะไรวะ?"

มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้รีบๆพูดมาสิฟระ! เดี๋ยวพ่อยันโครม... อันนี้พยายามคาดคั้นมันทางสายตาตอนที่มองไอ้ไก่กำลังทำตัวน่าสงสัย

"ก็... วันก่อน" มันเงียบไปเหมือนพยายามคิดว่าจะพูดดีไหม เเต่สุดท้ายมันก็พูดออกมา "กูเจอน้องหวานบนรถกูเลยเข้าไปจีบน้องมัน"

ผมพยักหน้า "แล้วไง" จีบไอ้หวานมันแปลกตรงไหนวะ หรือว่าไอ้หวานมันเล่นตัว?

ไอ้ไก่มันยิ้มแหยๆ "แต่เหมือนมันจะรู้ทันก็เลยดักคอกู ปรากฏว่าแห้วแดก"

"เออสมควร" ผมส่ายหน้าแบบเอือมๆแล้วหันสายตามองไปทางอื่น

ไอ้น้องหวานมันค่อนข้างที่จะเล่นตัวเหมือนกันครับ แน่นอนว่าหน้าตาอย่างมันนี่เลือกได้ แต่บางทีมันก็เล่นตัวจนเกินไปจนน่าดีด แต่มันก็เป็นอดีตไปแล้วเมื่อไอ้อกไข่ดาวมันไม่ผ่านคิวซีเต๋า และถึงไอ้ไก่มันจะเล่าให้ผมฟังยังไงก็คงไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะต้องหูผึ่งของขึ้น ถึงกับถกแขนเสื้อแล้วประกาศแข็งกร้าวแบบนักเลงว่า ไอ้หวานน่ะกูเล็งเอาไว้แล้วเว้ย!  ทุกวันนี้เจอหน้ามันทำได้แค่ยิ้มทักหรือไม่ก็ไปหลอกกินน้ำฟรีไรงี้ ส่วนเรื่องอื่นนี่ไม่ได้สนใจนานแล้วครับ

หลังจากที่ไอ้ไก่มันเอาแต่นั่งมองผม และเงียบไปครู่เพื่อให้เวลาผมได้บ่นถึงไอ้หวานให้พวกคุณฟัง ไอ้ไก่มันก็เริ่มพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทำเอาซะผมหูผึ่งขึ้นมาในทันที

"แต่... มันกลับเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วเม้าว่ามึงแอบซุกเด็กไว้ในห้องว่ะ"

"ฮะ!"

ผมนี่หันขวับกลับไปมองมันแทบคอเคล็ด เผลอร้องซะดังลั่นจนไอ้ไก่มันมองผมแบบอึ้งๆสักพัก... "ฮ่นแน่! มีจริงๆสิมึงปฏิกิริยามันฟ้อง อยู่กินด้วยกันแล้วสินะ ชื่อไรวะ? เด็กคณะเราปะหรือเด็กที่อื่น โหยๆๆๆ นี่กูไม่ได้ไปหาหน่อยเดียวริอาจนอกใจกูหรา"

เหล่มองไอ้คนที่มันกำลังกอดคอผมแล้วยิ้มกวนๆเหมือนคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ เลยกระทุ้งศอก "ไม่ใช่เว้ย! ไม่มี!"

"อุก!" มันร้องแล้วรีบผละออกก่อนจะหันมามองผมเหมือนจะล้อเลียน"หรา..."

ผมว่าเมื่อกี้ผมคงกระทุ้งศอกเบาไปนะ...

"เออ ไม่มี! มีที่ไหนวะห้องกูมีแต่มินนี่ ลูลู่ เซย์ แล้วก็คริส มึงอยากรู้ไหมละว่ากูคบกับใครอยู่?" แล้วผมก็ยักคิ้วกวนๆใส่มัน ไอ้ไก่มันเบะปากแล้วเอาสมุดวาดเขียนตีมาที่หัวผมเบาๆ

"อุ๊ก! ไอ้หะ...."

"คบกับคริสไงทำไมกูจะไม่รู้เห็นมึงเห่อจะตายห่า"

"..." ผมมองมันตาปริบๆตั้งท่าจะด่าแต่พอได้ยินมันพูดนี่ถึงกับด่าไม่ออก พร้อมๆกับเลือดที่เห่อขึ้นมาบนใบหน้า ร้อนวูบวาบชอบกล 

เอิ่ม... ทำไมผมต้องหน้าแดง และรู้สึกเขินตอนที่ไอ้ไก่มันบอกว่าผมกับคริสคบกันด้วยวะ! ไม่เอาๆไม่คิด ไม่พูด ห้ามพูดห้ามคิดนะว่าผมกับคริสเราคบกันอยู่ ผมเป็นแค่เจ้านายมันเท่านั้น! แถมเรายังเป็นผู้ชายทั้งคู่! แล้วเสียงหนึ่งก็แว่วมา (ผู้ชายคบกันแปลกตรงหนายยยยย!) แปลกตรงที่มันเป็นผมนั่นล่ะโว้ย!

"หน้าแดงทำไมวะ? อย่าบอกนะว่ามึนเขินที่กูพูดเมื่อก่อนหน้า..."

"อะ อะไรมึง จะบ้าปะ? กูจะเขินทำไมแล้วอีกอย่างคริสเป็นแค่ตุ๊กตา" แล้วผมก็แสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจมันเท่าไร

"หรา กูก็นึกว่ามึงจะอยู่กินกับตุ๊กตามึงไปตลอดชีวิตซะอีก ก็อย่างว่าละวะผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาชอบผู้ชายมุ้งมิ้งเล่นตุ๊กตาอย่างมึงวะถ้าเกิดเขารู้ความจริง"

"ไอ้ห่าไก่นี่มึงหลอกด่ากูป่าวเนี่ย?" มันเริ่มจะเกรียนผมขึ้นมาอีกละไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมไก่เนี่ย

"ป๊าว! กูก็แค่คิดเป็นห่วง ใครๆเขาก็กลัวว่ามึงจะไม่มีแฟนกันทั้งนั้น นั่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา สาวมาจีบบอกแก่เกินไป ไปจีบเขาเสือกบอกหน้าอกเล็ก ผู้ชายมาจีบเสือกไปต่อยเขา"

"เป็นมึงไม่ต่อยหรอสัดไก่ ลองให้มันมาจับก้นมึงแล้วบอก พี่ชอบเรานะ แบบนี้เอาไหมล่ะ!" ค่อนข้างที่จะเริ่มของขึ้นเมื่อไอ้เพื่อนมันกำลังแฉวีรกรรมของผมเมื่อนานมาแล้ว ไม่จรีงงงงงงไม่จริง! เต๋าออกจะเป็นคนดี เป็นผู้ชายแมนๆที่กำลังรอความรักที่ใสบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าตอนนี้ความบริสุทธิ์มันจะไม่เหลือแล้วก็ตามเถอะ... ฮือ... เพราะไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นแท้ๆ!

"ฮ่าๆ ๆไม่เอาอ่ะ" มันส่ายหน้ารัวๆแถมด้วยการกอดตัวเองแบบขนลุก เมื่อนึกถึงตอนที่ไปรับน้องตอนช่วงปีหนึ่ง ปีนั้นเป็นปีซวยมากเมื่อรุ่นพี่ที่เป็นตุ๊ดพวกพี่เขาค่อนข้างที่จะแรดแรงกันไปนิดนึง พอมันหมายตาพวกผมก็เลยโดนให้เต๋ายำบาทาเข้าให้จนเกิดเรื่องราวใหญ่โต แต่ดีที่ว่าเจ้าทุกข์ (ซึ่งมันควรจะเป็นผม) ยอมความก็เลยปล่อยๆมันไป แต่ทุกวันนี้ก็ไม่กล้าเฉียดไปที่ตึกกิจกรรมอีกแล้วล่ะ...

"เออ แล้วไอ้หวานมันไปเอาเรื่องนั้นมาจากไหนวะ?" ยังคงข้องใจอยู่

ไอ้ไก่มันส่ายหน้า "ไม่รู้ว่ะ สงสัยมันเข้าใจผิดมั้ง ไม่ก็มึงนั่นแหละที่เสือกไปเดินควงกับใครเข้าแล้วมันเห็นก็เลยมโนเองไรงี้"
ตอนนี้สมองผมกำลังประมวนผลอย่างฉับพลัน...

เดินควงกับใครหรอ? ทั้งอาทิตย์นี่ก็ไม่ได้ควงใครเลยนา แถมด้วยการจีบเขาให้ติดก่อนเถอะค่อยมีเด็กมาควงแขนน่ะ แล้ว... ไอ้หวานมันเห็นใครวะ? นอกจากคริสที่พักหลังๆผมกับมันมักจะออกมากินข้าวต้มหน้าปากซอยกันบ่อยๆ เพราะมันบอกว่าไม่อยากใช้พลังมากเดี๋ยวเกิดหิวขึ้นมาจะหน้ามืดจับเต๋าปล้ำอีก... เอ่อ... แล้วทำไมผมต้องเล่าให้ฟังด้วยวะ! อุตส่าห์จะกั๊กไว้

อ่ะแฮ่ม... อันที่จริงเพราะผมห่วงว่ามันจะไม่สบายเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วนั่นล่ะครับ แถมผมก็ไม่ยอมให้กินด้วย ขอพรครั้งนึงต้องให้กินไอ้นั่นเพื่อทดแทนพลังที่สูญเสียนี่มันเป็นข้ออ้างของคนหื่นปะครับ? แค่ครั้งสองครั้งนี่ก็เกินแรงไอ้เต๋าแล้วนะ!
ชะอุ้ย!

ตกใจไอ้หน้ากวนๆของไอ้ไก่ที่จ้องผมเขม็งตอนที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไอ้เพื่อนมันรีบพูดเลย "ดูมีพิรุธนะ  มึงน่ะกูว่า..." มันก็แกล้งมองมาที่ตัวผม "กูได้กลิ่นตุ่ยๆ"

"ตุ่ยพ่อง!"

ป้าบ!

แล้วผมก็ตบไปที่หน้าผากมันแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้ไก่รีบเอามือถูๆด้วยความเจ็บแล้วด่าผมแบบงอนๆ ทำแก้มพองให้ดูน่ารักมุ้งมิ้ง แต่จากน่ารักนี่ควรเปลี่ยนเป็นน่าลักไปกระทืบซ้ำมากกว่านะ

"ตบหัวกูไมอ่ะ"

"เอาคืนไงไอ้ห่า! กวนตีนกูจังเลยนะมึงเนี่ยชอบเล่นบทเป็นโสรยาหรือไง"

"เปล่าเว้ย! กูเป็นโสรยาก็ยังดีกว่ามึงที่ชอบเล่นหนังแขกนั่นล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วกูถามจริงทำไมพักนี้มึงชอบหลบหน้าพี่โอวะ?"

ผมมองมันตาปริบๆก่อนจะตอบหน้าตาย "กูหลบไงวะ?" จำได้แค่ว่าไม่ค่อยได้เจอพี่แกเลยนี่หว่า แล้วกูไปหลบหน้าพี่เขาตอนไหน?

" นี่มึงตอบจริงหรือกวนตีนวะเนี่ย?" มันถามผมเหมือนจะยั๊วะโมโหแล้วเหมือนกัน ผมเลยยิ้มแหยๆ

"ฮ่าๆ กูล้อเล่น แหมทีกูเอาคืนล่ะทำเป็นขรึม" เบะปากใส่มันไปที

"เอาจริงๆดิเฮ้ย พี่เขาโกรธมึงมากเลยนะวันนั้นน่ะที่มึงกลับบ้านไปกับน้องมึง แถมมึงไม่โทรไปขอโทษหรือขอบคุณที่เขาหวังดีกับมึงด้วย ไอ้เต๋าเอ้ย! มึงโดนพี่โอเตะแน่ถ้าเกิดพี่เขาเจอมึง"

"จริงหรอวะ?" ค่อนข้างที่จะกังวลเพราะไม่อยากมีปัญหากับพี่ๆในซุ้ม พวกผมค่อนข้างที่จะเคารพรุ่นพี่กันมากเพราะพวกพี่เขามักจะเลี้ยงเหล้าพวกเราบ่อยๆ นี่ถ้าเกิดมีเรื่องบาดหมางกันเองคงไม่มีใครออกค่าเหล้าให้อีกต่อไปแน่ๆ แล้วมันอาจจะเดือดร้อนมาถึงกระเป๋าตังของพวกผมก็เป็นได้...

แต่... มันใช่เวลามาคิดถึงเรื่องนี้ไหมเนี่ย!

ไอ้ไก่มันพยักหน้า "เออ แต่ดีที่ว่าช่วงนี้พี่เขาไม่ค่อยเข้าซุ้มอยู่แล้วด้วยมึงเลยรอดไป แต่เดี๋ยววันเกิดไอ้แบคมึงต้องซื้อเหล้าไปเซ่นพี่เขาแทนคำขอโทษด้วยนะมึง เออ! แล้วเรื่องงานซุ้มอีกอย่าลืมนะ"

โหยนี่ถ้ามันไม่พูดไม่บอกไม่ย้ำไม่เตือนไอ้ที่มันพูดสั่งออกมานี่ผมคงไม่ได้ทำเกือบทั้งหมด มัวแต่ยุ่งเรื่องของคริสนี่ผมลืมไปเสียฉิบ!

"เออขอบใจที่เตือน"

ไอ้ไก่มันตบไหล่ผมปักๆ "เออๆไม่เป็นไร แต่ขอเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นให้กูไปค้างห้องมึงแทนก็แล้วกัน"

"เรื่อง?"

"พอดีน้องกูมันโทรมาบอกว่ายืมห้องทำรายงานกลุ่มคืนนึงว่ะ"

"ก็เลยเดือดร้อนกูเนี่ยนะ" ผมชี้ตัวเอง ไอ้ไก่พยักหน้าหงึกหงักแล้วยิ้มกวนๆเอาแขนโอบไหล่ผมแล้วทำหน้าทำตาแบบเจ้าเล่ห์มาก...

"กูจะไปพิสูจน์ด้วยว่ามึงไม่ได้ซุกสาวหรือเด็กน้อยเอาไว้ในห้องของมึงจริงๆ หึหึ"

นี่ทำได้แค่มองหน้ามันตาปริบๆเลยครับ...

โถ... ไอ้ไก่ อยากจะไฟว์วินนิ่งกับกูก็บอกมาเถอะ! ไม่ต้องเอาเรื่องน้องมึงมาอ้าง

ว่าแต่... มันใช่เวลามานึกถึงเรื่องนั้นไหมเนี่ย! ถ้าไอ้ไก่ไปค้างห้องผมแล้วคริสไม่หงุดหงิดแย่หรอวะที่จะต้องอยู่ในร่างตุ๊กตาไปยันเช้า... ไม่สิพรุ่งนี้วันหยุด...

ผมนี่นึกถึงหน้าตอนที่เขาเห็นไอ้ไก่โผล่ไปที่ห้องผมไม่ออกเลยล่ะครับว่ามันจะเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆ... เขาค่อนข้างที่จะหงุดหงิดเพราะไม่ได้กินผมมาหลายวันแล้วนั่นล่ะประเด็น... 

เอ... หรือผมจะจับไอ้ไก่แก้ผ้าแล้วสังเวยมันให้คริสกินแทนผมดีวะ? อืมๆๆ น่าจะดีนะ อยากกวนตีนผมดีนัก...

รู้สึกเหมือนตัวเองชั่วร้ายขึ้นมายังไงชอบกล หึหึ

 :katai2-1:







........

เพิ่งจะได้ว่างปั่น เเต่ก็ดึกมากเเล้วยอมรับเลยว่าง่วงมาก
เเต่งกลางคืนนี่สมองเบลอตบมุกไม่ออกเลยจริงๆ
 :katai5:



หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 08-12-2014 02:37:31
จะไม่ให้คริสกินจริงๆเร้อ o18 o18
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: pedchara ที่ 08-12-2014 06:18:22
ถ้าไม่ให้กินแล้วคริสไม่สบายจริงๆ จะทำไงๆ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 08-12-2014 08:17:18
คริสจับเต๋าปล้ำเลยรู้เรื่อง5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 08-12-2014 08:41:14
เดี๋ยวคริสหิวจนตาลาย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-12-2014 08:44:42
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 08-12-2014 09:09:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 08-12-2014 09:29:58
หาเพื่อนร่วมแก๊งเหรอเต๋า จะเอา 3P งั้นสินะ 555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2014 12:37:55
เดี๋ยวคริสโมโหหิวนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-12-2014 13:33:25
ให้คริสทนหิวนานๆระวังระเบิดลงแล้วจะน่วมจนฟ้าเหลืองนะจ๊ะเต๋า
 :mew3: 
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 08-12-2014 15:33:43
ชะรอยว่าถ้าไก่ไปอาจโดนถีบตกเตียงอีกรอบ ฮ่าๆๆๆ

ไม่ไหวๆ เต๋าใจร้ายเกินไปแล้ว คงต้องปล้ำแล้วล่ะคริส  :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: pui32 ที่ 08-12-2014 17:56:51
จะเอาไก่ไปเซ่นแทนเลย? โอ้ยขำ5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-12-2014 18:50:31
เต๋าเจ็บแต่คริสอิ่ม หรือเต๋าสบาย(ตัว)แต่คริสหิว
ถ้าอันแรกคริสอาจลั้นลานะเต๋า แต่ถ้าอันหลังคริสคงต้องเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน(ให้เต๋าห่วง)ต่อไป 55
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 08-12-2014 20:01:03
ถึงเวลาจริงๆเต๋าจะยอมยกคริสให้คนอื่นเขาเหรอ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 08-12-2014 20:25:39
 :L2:  :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 12- P6 - 8/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 09-12-2014 20:28:28
พี่โอนี่ ต้องมีไรในก่อไผ่ชัวร์
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 10-12-2014 17:10:13


 :katai4:




DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป 
13






"ทะ... ทำ อะไร"

ป้าบบบบ!!!

"ไอ้สัดตบหัวกู" ไอ้ไก่มันหันมาแหวเสียงหน้างอหลังจากที่โดนฝ่ามือพิฆาตตบไปที่กบาลมันเต็มแรง หลังจากที่เอ้อระเหยลอยชายอยู่หน้าห้องไม่เข้าไปสักทีเหมือนมันกำลังมองสำรวจห้อง ก็เลยต้องลงไม้ลงมือเตือนสติมันเสียหน่อย แถมมันยังชักสีหน้ายู่ปากทำหน้างอนใส่ได้น่าถีบมาก

"มัวแต่ชักช้าอยู่ได้ไอ้ห่า" ด่ามันไปที

ว่าแต่... ทำไมห้องมันเย็นงี้วะ!

"เฮ้ย! กูว่ากูปิดแอร์แล้วนะ" แล้วผมก็วิ่งแซงมันเข้าไปในห้องเพื่อปิดแอร์ที่กำลังทำงาน เอาซะห้องผมเย็นอย่างกับขั้วโลกเหนือ
นี่คริสแอบเปิดแอร์อีกแล้วหรอเนี่ย! มองหาไอ้ตัวปัญหาที่น่าจะนอนอยู่ที่เตียง แน่นอนว่าดอลฟี่ของผมยังคงนอนหลับตาโตอยู่ที่เดิม...

เฮ้อ!

"แม่งไม่มันเลยวะเข้ามาไม่เห็นจะเจอใคร"

"แล้วมึงอยากเจอใครละครับคุณเพื่อน" หันไปหาไอ้ไก่ที่วางสัมภาระของมันไว้ข้างๆโซฟาแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆจนลูลู่กับมินนี่สะเทือน ผมเลยต้องรีบไปเอาลูกๆของผมมาไว้ที่เตียงก่อนเดี๋ยวไอ้ยักษ์มันจะทับลูกของผม

ไอ้ไก่มันชำเลืองตามองแล้วยิ้มกวนๆ "เอ้า! กูอยากลุ้นว่ามึงจะแอบนอกใจกูหรือเปล่าแหมๆ"

"แหมพ่อง!" แล้วผมก็ยันไข่มันไปที

ปึก!"

"ไอ้เหี้ย! เดี๋ยวไม่มีใช้" มันยังจะมีน่ามาหัวเราะ เพราะผมไม่ได้ยันโดนจุ๊ดจู๋น้อยมันแต่อย่างใดเพราะไอ้ห่านี่มันไวอย่างกับปรอด รีบยกขาบังเท้าผมเอาไว้ได้ทันเลยรอดตายอย่างหวุดหวิด แล้วมันก็กวนตีนผมด้วยการลอยหน้าลอยตาทำหน้าล้อเลียนแล้วเปิดทีวีดูโคนันที่กำลังฉาย

"..."

เฮ้อ! ทีเมื่อก่อนไม่เห็นมันจะรับมุกผัวเมียทีตอนนี้เสือกเอามาเล่นเป็นเรื่องปกติ สงสัยสมองมันคงกลับไม่ก็โดนล้างสมองจากพวกไอ้แคทไปแล้ว โถเพื่อนกรูไม่อยู่กับมันหน่อยเดียวนี่เปลี่ยนไปขนาดนี้เศร้า...

แต่มันใช่เรื่องมาห่วงมันไหมเนี่ย! ถ้าขืนเล่นมุกนี้จนเป็นเรื่องปกติผมว่าคนอื่นคงเข้าใจผิดแย่ หันไปหามัน รู้สึกได้กลิ่นตุ่ยๆ หรือว่า...

"ไอ้ไก่..."

"ไร..." มันขานแต่ตาก็ยังดูการ์ตูนอยู่

"มึงแอบชอบกูหรอ?" แกล้งถามมันแบบกวนๆ

"ถามเหี้ยไรครับไอ้สัด!" มันหาทางผมแล้วหยิบม้วนกระดาษทิชชูปามาอย่างแรงจนผมต้องเอี้ยวตัวหลบแล้วหัวเราะใส่มัน

"เอ้า!" กูผิดเรอะ!? "ก็เห็นช่วงนี้มึงรับคู่จิ้นได้ทีเมื่อก่อนละโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ"

"กูโดนเป่าหูจนชินไงอยู่กับมึงแล้วโดนแซะประจำ มึงไม่รู้หรอกว่ากูโดนอะไรบ้าง" มันทำเสียงเศร้า

"หรา มึงเลยอยากเป็นเมียกรูจริงๆเลยงั้น? มามะไก่จ๋าเดี๋ยวพี่สนองให้" ผมรีบเดินไปทางมันแล้วทำหน้าหื่นๆให้ไอ้ไก่มันกลัว แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อไอ้เพื่อนมันหน้าเหวอแล้วรีบกระเถิบตัวหนีกอดตัวเองเอาไว้แน่น ทั้งเท้าทั้งมือนี่ตั้งท่าเตรียมจะยันผมออกไป...

สึด! รักกูมาก...

"ไอ้เหี้ย! ขนลุกออกไปไกลๆตีนกูเลย" สีหน้ามันดูกลัวผมมาก

"ฮ่าๆๆๆๆๆ" กุมท้องหัวเราะเยาะใส่มันแล้วตบแก้มมันเบาๆ ไอ้ไก่มันปัดผมออกไปแล้วทำหน้ายุ่งเหมือนคนปวดอึ ชำเลืองมองผมแล้วดึงหมอนเข้ามากอดป้องกันตัว

"ตลกมากปะ? กูเล่นเอาขำๆเฉยๆเสือกเอาจริง อย่าเล่นงี้อีกนะมึงกูใจหายหมด"

"ความผิดกูปะเนี่ยมึงเริ่มก่อนนะ" ถามมันแบบกลั้วหัวเราะ พอเห็นมันทำท่างอนๆแบบนี้ก็น่ารักดีว่ะ น่ารักน่าถีบนะ ฮ่าๆๆๆๆ รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนวุ้ย!

มันมุ่ยปาก "เออออออออ... เล่นตอนคนเยอะๆได้แต่ห้ามเล่นตอนที่พี่ชินอยู่นะ"

"ทำไมวะ?"

พอผมถามกลับไปไอ้ไก่มันเปลี่ยนสีหน้าจากที่งอนๆผมอยู่ เปลี่ยนมาเป็นผงะตกใจเล็กน้อย ก่อนจะทำคิ้วขมวดแล้วซุกหน้าเข้าไปในหมอน

"ป่าว" มันเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดอีก "ช่วงนี้กูมีเรียนวิชาเลือกกับพี่เขาแล้วทั้งคลาสมีกูกับพี่ชินที่อยู่เอกศิลป์ กูก็แค่..."

ผมย่นคิ้วใส่มันที่ดูเครียดขึ้นมาเฉยๆซะอย่างนั้น ก่อนจะส่ายหน้าให้มันแบบเอือมๆเมื่อมันเงียบไม่พูดออกมาอีก มันผีเข้าผีออกพอๆกับดอลฟี่ที่ห้องกูเลยวุ้ย! ไอ้พวกนี้มันเป็นอะไรของมันกันวะชักจะประสาทขึ้นทุกวัน

ผมเลยเปลี่ยนเรื่อง "เออๆ ไม่เล่นก็ไม่เล่นไปอาบน้ำก่อนเลยมึงอ่ะ" เอาขาสะกิดมันให้ลุกขึ้นก่อนที่รากมันจะงอกแล้วงอแงไม่ยอมอาบอีก ไอ้ไก่มันยินฟันใส่ผมพลางมองตาขวางที่โดนไล่

"ไม่อาบก่อนกูล่ะ"

ผมยักไหล่ "ให้เกียรติน้อง"

"เอออออ..."

ครางยาวๆพร้อมกับพยักหน้าได้กวนบาทามากจนผมรู้สึกคันแข้งคันขาอยากจะส่งมันเข้าห้องน้ำด้วยฝ่าเท้าพิฆาตจริงๆ มองไอ้ไก่ที่ทำปากขมุบขมิบบ่นงึมงำในลำคอเดินผ่านผม หยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานนักห้องทั้งห้องก็กลับคืนสู่ความสงบแม้ว่าจะมีเสียงดนตรีของเจ้าหนูโคนันประกอบให้ดูระทึก...

เฮ้อออออ....!

แล้วทำไมผมต้องมายืนยกมือทาบอกแล้วถอนลมหายใจออกมายาวๆด้วยวะ ความรู้สึกเหมือนโล่งอกที่คริสไม่ได้มานั่งหน้าจ๋องอยู่หน้าจอทีวีในร่างคนเหมือนทุกๆวันที่ผมกลับมา...

ถ้าขืนไอ้ไก่มันเห็นคริสร่างคนนั่งอยู่ในห้องมันคงไม่ดีสำหรับผมเท่าไร แล้ว... คริสหลับอยู่หรือไงกันนะ...

"คิดถึงผมอยู่หรอ?"

อ่ะเฮือกกกกกกกกกก!!!!!

"ว๊ากกกกก!!! อุบ!"

"ชูวววว์ เดี๋ยวคนนั้นก็ตกใจหมด" ผมหันขวับกลับไปมองไอ้ร่างสูงที่ปิดปากผมจากทางด้านหลัง อดไม่ได้ที่จะถลึงตาแยกเขี้ยวใส่ แทบอยากจะอ้าปากด่าเสือกเข้าข้างหลังตอนที่กำลังเผลอๆ ไอ้บ้านี่มันชอบเล่นแบบนี้อยู่เรื่อย! ตกใจนะเว้ย! คนยิ่งขวัญอ่อน

"เล่นอะไรเนี่ย" ถามกลับไปแบบเคืองๆ ไอ้คนตรงหน้ากลับยิ้มตอบจนตาหยีแล้วสวมกอดผมเอาไว้จนแน่น เฮ้ย อะไรเนี่ย!

"เจ้านายกลับมาช้า..."

"..."

วอสสสสสสสสส!!!!!?

เอิ่ม... นี่มันเป็นอะไรวะ มันตอบไม่ตรงคำถามแถมดันมาแปลกกว่าทุกวัน...

เฮ้ย อะไรเนี่ยออกป๊ายยยยย!!!

พยายามดันไหล่แกร่งให้ออกไปจากตัว แล้วเงยหน้ามองคริสที่ยิ้มบางๆให้ผมเหมือนทุกๆวันที่กลับมา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้ง  "ก็กลับแบบนี้ปกตินี่หว่า นายนั่นล่ะเปิดแอร์ทำไมเล่นซะห้องเย็นเหมือนอยู่ในขั้วโลก ถามจริงนี่เป็นหมีหรือคน?"

"เป็นตุ๊กตา" แล้วมันก็ยิ้ม

นี่มันกวนตีนผมปะ? ไอ้!

"นี่แนะ!" ต่อยเข้าที่ท้องมันด้วยความหมั่นไส้

ปึก!

"อึก!" มันเซถอยหลังไปหลายก้าวทำหน้าเหมือนเจ็บจนน่าซ้ำเข้าไปอีก เดี๋ยวนี้แอคติ้งเยอะนะไอ้บ้า! รู้หรอกว่าไม่เจ็บมีแต่ผมนี่แหละที่เจ็บแทน... อ่ะฮืออออ... ไม่น่าต่อยมันเลย สะบัดมือยิกๆ

"เจ็บหรอ?" ชำเลืองมองมันที่เข้ามาหาแล้วดึงมือผมที่กำลังคลำด้วยความเจ็บแต่ไม่มากเท่าไร ช้อนดวงตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่ก้มลงมองมือของผมเหมือนเป็นห่วง ดวงตาสีครามที่ดูเอาใจใส่เวลาที่มองลงมามันทำให้ผมใจเต้นแรง...

โว้ยยยยยย!!!! เดี๋ยวนี้เป็นโรคแพ้คนหล่อว่ะ!

"อะ ออกไปน่า... ไม่ได้เป็นอะไร" พยายามดึงมือคืนแต่เขากลับจับมือของผมเอาไว้แน่นก่อนจะใช้พลังช่วยทำให้ผมหายเจ็บ เวลาที่เห็นมันมักจะทำให้ผมสงบลงแล้วเหลือกตามองไอ้สิ่งที่เห็นตาแทบถลนเมื่อไอ้ภาพ3Dแฟนตาซีทะลุจอนั่นมันทำให้ผมวิเศษไปกับมัน และตกตะลึงเสมอ...  ไม่เคยชินอ่ะบอกตามตรง

"ทำๆไม ไม่ต้องช่วยเลย ก็รู้ตัวอยู่ว่าต้องเก็บพลังงานเอาไว้" เงยหน้าถามด้วยความไม่พอใจนัก แต่คริสกลับไม่ได้ฟังในสิ่งที่ผมพูด เขาเอาแต่ยืนนิ่งมองผมเหมือนไม่รู้เบื่อ

"ผมทนเห็นพี่เจ็บไม่ได้เช่นกัน หากไม่ช่วย..."

เห...

เสียงที่ฟังดูอ้อนๆนี่มันคือ?... เฮ้!  ผมนี่เอียงตัว45องศาเลยครับ! เมื่อไอ้หน้าหล่อๆนี่มาแปลกกว่าทุกที ปกติจะทำหน้าตูมเป็นดอกเห็ดแล้วบังคับให้ผมขอพร เฮ้ย! ทำไมต้องทำหน้าอ้อนแบบนี้ ไม่อ๊าวววว มันไม่ชิน!

"อือ... รู้แล้วออกไป" ผมดันไหล่มันออกไปแรงๆ แต่ขอโทษเหอะ แรงๆของผมที่เท่ามดดันเมื่อไอ้ตุ๊กตาบ้านี่มันแข็งแรงกว่าผมเป็นสิบๆเท่า บ้าเอ๊ยยยย! อย่ายิ้มหวานแบบนี้สิไม่ใจอ่อนหรอกนะ!

"ไม่ให้รางวัลคริสหน่อยหรอ?"

"เอาส้งตีนกรูไปก่อนมะ!"

"ทำไมพูดไม่เพราะเลยทั้งๆที่คริส..."

"อย่ามากวนนะคริส!"

"แต่คริสหิว..."

"..."

หวา!!!!!

ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มใบหน้ามาหาผมอย่างช้าๆมือใหญ่ๆคอยยึดเอว และแผ่นหลังของผมเอาไว้ไม่ให้ถอยหนี แม้ว่าจะพยายามดันคริสออกไปแต่มันก็คงไร้ผล ผมทำได้แค่สบตาเขาด้วยใจระทึกเต้นตึกตักแทบจะทะลุออกมา และดูเหมือนว่าเขาจะรับรู้ความรู้สึกของผมได้ กลีบปากอวบอิ่มเผยอยิ้มที่มุมปากบางๆพร้อมๆกับแววตาที่เจ้าเล่ห์  เลือดสูบฉีดขึ้นบนใบหน้าจนร้อนผ่าวบอกได้เลยว่าหน้าผมแดงมากแน่ๆ

เฮ้ย! ยังไม่พร้อม ไม่เอา ไม่ให้กินหรอกนะ ได้โปรดอย่าทำอะไรเต๋าเลย ออกป๊ายยยยยยย!!!!

เหมือนเห็นอนาคตตัวเองอยู่รำไรว่าจะต้องโดนกินแน่ๆค่อยๆหลับตาปี๋รับสัมผัสนุ่มนิ่มที่กำลังบดเบียดเข้ามาบนริมฝีปาก พร้อมๆกับลิ้นร้อนระอุที่ค่อยๆสอดแทรกเข้ามาภายใน ร่างกายผมแทบจะอ่อนยวบเหมือนโดนดูดวิญญาณ บอกตามตรงทั้งอายทั้งรู้สึกดีไม่ว่าจะถูกจูบหรือใกล้ชิดกับคริส ร่างกายของผมมันไม่เคยชินเลยสักครั้งแต่กลับรู้สึกดีทุกครา

"อือ..." เผลอคราง และยิ่งย่นคิ้วเข้าหากันแน่น ปล่อยให้เขากระทำจนพอใจ ค่อยๆปรือตามองคริสที่ผละออกไปด้วยอาการหอบหายใจหนัก สบตาสีคราม และก้อนเนื้อสีแดงสดที่กำลังเลียลิ้นไปตามริมฝีปากอย่างกระหาย 

ผมคิดว่า... คืนนี้กรูคงไม่รอด...

เขามองผมด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม เสียงทุ้มนุ่มหูกระซิบ "นะ... คริสหิว..." ไอ้คำว่าหิวนี่มันสยิวกิ้วจริงๆ

ผมพยายามดันไหล่ของเขาออกไป "อืม... ออกไปก่อน" ก่อนที่ไอ้เต๋ามันจะตายคาอกในตอนนี้! เหมือนเห็นตัวเองเล่นบทนางเอกที่โดนพระเอกปล้ำแล้วเล่นตัวอย่างไงอย่างงั้น บร๊ะ! ทำไมผมต้องตอบอะไรกำกวมแบบนี้วะ

"ให้กินจริงนะ" ไม่ให้เว้ย!

"ไม่รู้ ปล่อยก่อนเดะ" ช้อนดวงตามองมันแบบเคืองๆแต่เอาจริงๆนี่เขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้วเนี่ย! มันเห็นผมเป็นสาวน้อยหรือไงวะ? ผู้ชายนะเฮ้ยมาขอกันแบบนี้ได้ไง  มันเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่างพ่อจะกระโดดเข้าใส่เลย แต่มันคงไม่มีวันเป็นจริง

ไอ้เต๋าเอ้ย! มึงอย่ามโนว่ามันจะกลายเป็นสาวน้อยกระโปรงฟูฟ่องอกสะบึ้มนะมึง แค่เห็นหน้ามันนี่ก็ดับฝันได้แล้วละ! แต่มันก็หล่ออยู่นะ...

"นี่ชอบแบบนี้หรอกหรอ?" มันถามผมเลิกคิ้วแบบประหลาดใจมากแล้วก็หัวเราะ

ส่วนผมน่ะหรอ งงดิ! อะไรคือชอบแบบนี้? แบบนี้แบบไหน? อย่าบอกนะ ว่ามันอ่านความคิดผม! "อะ... อะไร" ย่นคิ้วจนจะผูกโบว์ได้แล้วนะ  อะไรวะ ปล่อยดิว๊าปล่อยสิ ปล่อย...!

"..."

"พี่เต๋า..."

ทำไมต้องทำเสียงอ้อนๆแบบนี้วะ มันขนลุก! แล้วทำไมผมไม่หนีมันละเฮ้ย!

จ้องดวงตาสวยที่มองผมเสียหยาดเยิ้มก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้ง นี่ยังจูบไม่พออีกเรอะ! แต่ถึงคิดจะด่ามันไป ตัวผมกลับยืนนิ่งเฉยแล้วรอคอยให้คริสโน้มใบหน้าเข้าหาผมอย่างช้าๆ อ้อมแขนที่เคยขืนบังคับค่อยๆผ่อนแรงลงร่างกายของผมแนบชิดกับอกแกร่ง และแหงนคอเตรียมพร้อมรับสัมผัสที่นุ่มละมุนที่กำลังเข้าหาอย่างช้าๆนั่นอีกครั้ง...

แกร่ก...

"เฮ้ย!"

"เฮ้ยยยยยยย!!!"

ผมนี่ถึงกับหอนเลยละครับ!

หันขวับไปมองไอ้ไก่ที่ตกใจแล้วก้มหน้าขยี้ตาของมันเอง ราวกับว่ามันกำลังเห็นอะไรที่ชวนสยองเขย่าขวัญอย่างไงอย่างงั้น พอมันเงยหน้ามองผมอีกครั้งกลับย่นคิ้ว

"เมื่อ... กี้กูเห็นมึงกอดใคร!" มันดูตื่นตกใจมากแล้วชี้นิ้วมาทางผมเหมือนเจอผีมาหมาดๆ

ผมได้แต่ยืนทำหน้าหรอหรากอดคริสเอาไว้ในอกแน่น "อะ... อะไร๊? กูยืนคุยกับคริสอยู๋" เสียงกูนี่ก็หลงชิบหายเลย! ใจเต้นแรงโคตรให้ตายเถอะ!

"ทำไมเมื่อกี้กูเห็นเหมือนมีคน..." มันเดินเข้ามาหาผม มองเหมือนจับผิดแล้วกวาดสายตาไปรอบๆห้องซึ่งไม่ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกคนแต่อย่างใด

"ตะ ตาฝาดป่าว จะมีใครนอกจากกูในห้องวะ" แทบจะปาดเหงื่อที่แตกซิก ทำไมห้องมันร้อนงี้วะเมื่อครู่ยังเย็นอยู่เลย ยิ่งไอ้ไก่มันมองเหมือนไม่เชื่อผมก็ยิ่งกอดคริสแน่นขึ้นเรื่อยๆระแวงว่าไอ้ไก่มันจะรู้ความจริง ถ้าเกิดความแตกผมคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปมุดไว้ส่วนไหนของห้องดี ถ้าไอ้เพื่อนมันรู้ว่าผมเสียสาวเอ้ย! เสียหนุ่มให้ผู้ชายด้วยกันไอ้ไก่มันคงหัวเราะเยาะผมแน่ๆ...

นี่มันเรื่องซีเครียด เอ้ย! ซีเรียสนะเว้ย! ปัญหาระดับโลกเลยไม่ใช่ระดับชาติดั๊วะ! เป็นธรรมดาที่ผมจะกลัว

มันหันมามองผมแล้วเลิกคิ้วหลิ่วตาพยักหน้าแบบกวนตีน ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วชี้นิ้วใส่หน้าผม "อย่าให้รู้นะมึงว่าแอบซุกเด็ก"

"ซุกศพมึงสิเดี๋ยวพ่อยันโครม"

"ฮ่าๆๆ" มันหัวเราะแบบสะใจมากที่โดนผมยันเอวมันไปทีเบาๆ "เออๆสงสัยตาจะฝาดไม่มีก็ไม่มีสิวะ ทำหน้าเหมือนจะแดกหัวกู"
 
"กวนตีนไง! เอ้าเอาคริสไปเลยเดี๋ยวกูอาบน้ำก่อน" ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมดันคริสให้ไอ้ไก่มันอุ้มแล้วดึงผ้าขนหนูจากไหล่มันเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วระดับลิงลม มันทำหน้าเหมือนจะงงในท่าทีของผมแต่นี่ไม่สนแล้วโว้ยยยยยย!!!

วู้วววววว!!! รอดตายอย่างหวุดหวิดนึกว่าจะโดนกินแล้ว นี่ลืมนึกถึงไอ้ไก่ไปเสียฉิบ! ว่ามันอยู่ในห้องด้วย เวลาที่อยู่กับคริสเหมือนพวกผมหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวของตัวเองทุกที ดีนะที่ไอ้ไก่มันไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้ไม่งั้นผมคงจะแย่

 แต่พูดถึง... มันมาวันนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เอามันมาเป็นไม้กันหมาเปรียบกับไก่เป็นกระดูกชิ้นโตที่ขวางคอคริสไม่ให้กระเดือกผมไปทั้งตัว แต่พูดก็พูดเถอะไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นมันก็เห็นว่าไอ้ไก่มาห้องมันยังจะโผล่ออกมาแกล้งผมอีก...

'คริสหิว....'

เออมันคงจะหิวจริงๆ...

ก็ไม่อยากให้ทรมานเพราะหิว แต่กูกลัวเจ็บอ่ะเก็ทปะ... ร้องไห้แปบ... 

เฮ้อ....!

ถอนลมหายใจแบบเหนื่อยโคตรๆ หวังว่าคืนนี้คริสจะทำตัวน่ารักไม่ทำอะไรที่ทำให้ผมหัวใจวายตายทีเถอะ แต่ไอ้ไก่อยู่มันคงไม่ทำอะไรหรอกมั้ง...

ไม่ทำกับผีดิวะ! คราวที่แล้วมันยังทำแบบไม่เกรงใจไอ้ห่าไก่เลย พอคิดแล้วนี่ก็ยังเคืองมันไม่หาย ช่างมัน ไม่สนใจแล้ว! ก็ลองทำดูสิพ่อจะโกรธข้ามวันข้ามคืนแน่ๆ...

"..."

มัวแต่ยืนอึนอยู่หน้ากระจกแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรรั้นแต่จะบ้าเอาเสียเอง ถอนลมหายใจแบบปลงๆกับชีวิต ก่อนจะเปิดฝักบัวเพื่ออาบน้ำ ป่านนี้ไม่ใช่ว่าคริสจับไอ้ไก่เชือดไปแล้วเรอะ? ทีแรกว่าจะลองเจรจาส่งไอ้ไก่เป็นตัวแทนของผมแต่พอเห็นหน้าคริสนี่ก็ไม่กล้าแล้วละว่ะ! ใครเขาจะทำจริงๆบ้าไปละ  รีบๆอาบน้ำก่อนดีกว่า ไม่ไว้ใจให้ไอ้เพื่อนอยู่คนเดียว

แต่พอผมเปิดประตูห้องน้ำหลังจากอาบเสร็จเท่านั้นล่ะ... อื้อหือออออ!!!

 o22

เชี่ยไก่!

เดินดุ่มๆเข้าไปหาไอ้ไก่ที่กำลังนั่งโก่งดากอยู่บนเตียงจัดท่าทางเล่นกับลูกๆของผมได้กวนตีนมาก กรีดนิ้วเรียงกัน "ทะ ทำเชี่ยไรครับ" แล้วตบกบาลมันไปป้าบ! ใหญ่จนมันหัวทิ่มฟุบเข้ากับที่นอน

มันรีบดีดตัวขึ้นมาแล้วแหวลั่น "ไอ้เหี้ยเดี๋ยวกูเยี่ยวรดที่นอน มึงอย่ามาบ่นนะ"

"หรา" แล้วก็ถีบมันไปอีกซักป้าบจนมันกลิ้งไปอีกฝั่งของเตียง

ผมนี่โคตรเพลียจิต เผลอแผล็บเดียวมันเอาดอลฟี่ผมมาเล่นเอาซะเสียตุ๊กตา ถ้ามันเล่นดีๆนี่จะไม่ว่าแต่มันเสือกจับตุ๊กตาผมมาขี่กัน ไม่ได้ขี่ธรรมดาด้วยแต่มันส่อ18+เหี้ยๆ! เรื่องจังไรนี่ไว้ใจไก่เลยครับ!

แม้แต่คริสนี่มันยังไม่เว้น! ผมรีบดึงลูลู่ขึ้นมาจากตัวคริสให้ไวแล้วมองใบหน้าของดอลฟี่ที่ตอนนี้แผ่รังสีอัมหิตออกมาอย่างน่าสะพรึง หน้าคริสตอนนี้คือบึ้งตึงสุดๆ! ซวยแล้วไอ้ห่าไก่! รีบอุ้มคริสขึ้นมาแล้วกระซิบแก้ตัวจนลิ้นพันกัน "ขะ ขอโทษนะคริส! อย่าถือสาไอ้ไก่มันสติไม่ดีเท่าไร"

เอ่อ... นี่เขาเรียกกระซิบแล้วหรอวะ!

"อ้าวไอ้ห่าว่ากูสติไม่ดีอีก สติกูยังดีอยู่เว้ย!" แล้วมันก็หัวเราะกวนตีนแบบไม่รู้สึกสำนึก

"กวนตีนแล้วไงมึง ลูกกูเสียหมดเดี๋ยวกูไล่ไปนอนนอกห้อง"

"แหมดุจริงไม่เล่นก็ได้วะ ชิ" แล้วมันก็เดินสะดิ้งสะบัดก้นปอดๆกลับไปนั่งดูทีวีที่เปิดทิ้งไว้จงใจกวนอารมณ์กันชัดๆ!

ผมนี่ได้แค่ถอนลมหายใจเฮือกๆ ปวดกระบาลจริงๆเว้ย! ก้มลงมองคริสที่ตอนนี้หน้าดอลฟี่ดูบึ้งตึงเหมือนโกรธใครมาเป็นสิบชาติ ผมยิ้มแหยๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีที่จะให้คริสจะกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง

"ขะ  ขอโทษ... อย่าโกรธเลยนะเดี๋ยวมันก็กลับแล้ว"

"..."

กูนี่ก็พูดซะมันจะหายโกรธง่ายๆ

สบตาสีครามแล้วตรูอยากจะร้องไห้...

"เพื่อนเต๋าคงอยากจะตายมากเลยสินะ"

กีสสสสสสสสส!!!!

ผมนี่ถึงกับหน้าเหวอแต๋วแตกในใจ เมื่อคำตอบที่ได้ยินมันช่างเย็นยะเยียบจนหน้าขนลุก เฮ้ย! นี่โกรธจริงๆหรอวะ ชิบหายแล้วไอ้ไก่เรื่องนี้เต๋าขอไม่ยุ่งได้ปะ? เสือกไปทำอะไรพิเรนเข้าให้ แต่นั่นมันก็เพื่อนผมนะจะปล่อยให้เพื่อนโดนคริสฆ่าเรอะ!

"อย่าไปทำมันเลยเห็นแก่หน้าเต๋าเถอะนะ" นี่เบะปากร้องขอหน้าอ้อนเลยเอา!

สบตาคริสที่ตอนนี้แววตาเปล่งประกายแปลกๆไม่มีรังสีของความโกรธที่แผ่ออกมาเสียเท่าไร พอเห็นเขาเงียบผมเลยพยายามพูดโน้มน้าว "ฆ่าคนไม่ดีนามันบาป แล้วอีกอย่างนี่เป็นเจ้านายนะ เป็นเจ้านายก็ต้องฟังกันสิห้ามฆ่าใครเข้าใจไหม!" คริสไม่ตอบกลับในทันที แถมตอนนี้น่ากลัวด้วยไอ้ตุ๊กตาบ้านี่เริ่มทำตัวน่ากลัวขึ้นมาอีกแล้วว่ะ! ทำไมมันไม่มีจิตใจเมตตาต่อสัตว์โลกอย่างไอ้ไก่บ้างวะ ฆ่าไปก็ต้มแดกไม่ได้ด้วย เนื้อก็เหนียว หน้าก็มัน ฟันก็ไม่อยากจะแปลง แถมขี้ก็เหม็น... (หลังๆนี่คงไม่เกี่ยว) 

เหวออออ! แบบนี้มันไม่ดีนา

"ก็ได้... จะไม่ทำอะไร... แต่มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ"

"อะไร?"

ตุ๊กตาดอลฟี่ที่มีใบหน้าเรียบเฉยค่อยๆจุดยิ้มที่มุมปากอย่างช้าๆ มันดูสยองพิลึกจนเผลอกลืนน้ำลายดังอึกลงคอ คริสไม่ตอบกลับเดี๋ยวนั้นแต่ผมก็พอจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่...

ผมขอเปลี่ยนใจจากที่รักเพื่อนขอเป็นถีบส่งมันให้ไอ้ตุ๊กตาเจ้าเล่ห์นี่ได้ไหมครับ ทำไมผมรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบขึ้นมาอย่างไงไม่รู้วะ!

ไอ้เชี่ยไก่มึงมารับผิดชอบเลย!

"ทำไรวะคุยกับคริส?" มันหันมาถามผมได้หน้าแบ๊วมาก...

"อือ... คุยกับคริส" ตอบมันแทบจะหมดแรง แล้วเบะปากมองคริสประมาณว่า... ขอไม่ทำได้ไหม...

แน่นอนว่าไม่...

"ไม่หนาวหรอแก้ผ้านั่งจ้องตุ๊กตาอย่างกับคริสจะปล้ำมึงแบบนั้น"

ไอ้สัด! มึงเป็นอัปดุลหรอ?

 :angry2:

"..."

ผมหันไปทางไอ้ไก่ที่หัวเราะครืนหลังจากที่กวนตีนผมได้สำเร็จ ก่อนที่มันจะหันไปสนใจกับการ์ตูนที่กำลังออกอากาศ...

ไอ้เพื่อนเลวหางานให้กูอีกจนได้นะ อ่ะ ฮือออออออ...

คิดถูกคิดผิดวะเนี่ย ที่ให้มันมาค้างใครก็ได้ช่วยเต๋าที!

 :serius2:








..........
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 10-12-2014 18:01:42
จัดไปคริส  เข้าให้เต็มที่ให้สมกับที่เต๋าทำให้อดอยาก ทนหิวมาหลายวัน(ประมาณว่าฟ้าไม่เหลืองห้ามนอน)
....เรานะรักเต๋าอยู่นะแต่เชียร์คริสมากกว่า  อิอิ

ส่วนไก่แกจะเอาพี่ชินเป็นผัวหรือเป็นเมียกระซิบบอกด้วย จะได้ลุ้นถูก โอเคป่ะ?

ปล.รอฉากนั้นอยู่นะจ๊ะ  จุ๊บๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-12-2014 18:06:02
 :z3:   เต๋าคิดผิดแล้วจ้ะ วางยานอนหลับไก่ด่วน

คริสหิวนะ ได้ยินไหม เหอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-12-2014 18:24:08
ถ้าคริสจะลงทุนแกล้งโกรธขนาดนี้ ก็ยอมๆไปเหอะเต๋า (ถ้าไม่ยอมนะ สารพัดมารยาคริสคงจะตามมาอีกหลายเล่มเกวียน 55)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-12-2014 19:16:30
เอาเลยจัดหนักๆนานๆจะมีโอกาส
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 10-12-2014 19:35:02
เดี๋ยวนะคะคนเขียน ขอเบรกไว้สักนิด รู้สึกว่าเรื่องมันจะวนๆ อยู่กับที่ไม่ไปไหนเลยนะคะเนี่ย
สรุปแล้วเรื่องมันจะไปต่อยังไงเพราะว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งคิดว่าจะรู้ช่องทางการคลายคำสาปหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 10-12-2014 20:03:04
ต้องให้เต๋าทำยังไงคริสถึงจะหายจากการเป็นตุ๊กตาต้องคำสาปนะ

คริสอย่าฆ่าไก่เลยนะ
มาฆ่าลูกของเต๋าดีกว่า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-12-2014 21:45:59
อ้อนเพราะหิว น่ารักเชียว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 10-12-2014 22:08:21
จะขำก็สงสาร เต๋าน้าเต๋า ไม่น่าให้ไก่มานอนค้างด้วยเลยยยย
คริสนี่ก็โหดได้ใจ เจ้าเล่ห์จริงๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 10-12-2014 23:04:31
กรี้ดตอนหน้าาา :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 11-12-2014 07:28:35
แหมะ...สงสัยจะโดนกินอีกแล้ว... :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 11-12-2014 07:29:56
คริสขี้อ้อนนะนี่ แต่ถ้าโผล่มาแบบนี้บ่อยๆไม่กลัวความแตกเหรอ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: pui32 ที่ 11-12-2014 12:10:32
โอ้ย ไก่เอ้ยยยยยยยยยยยย เกือบพลีชีพล่ะไหมลูก ลำบากเต๋าเลย5555555 ว่าแต่พี่ชินคือใครรรร :hao3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 11-12-2014 16:13:40
ชอบคำนี้ 'คริสหิว' รู้สึกอ้อนๆ คริสเป็นผู้ชายขี้อ้อนนน :mew3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 11-12-2014 17:35:12
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ชอบจังค่ะ
จะมาม่าไหมคะ แอบกลัวจะมาม่าหนัก555
ปล.ชอบไก่อ่ะ ดีใจน้องไก่มีคู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 11-12-2014 18:56:25
คริสเวอร์ชั่นอ้อนแหะ
มาอีแบบนี้เต๋าจะยอมถูกกินมั้นน้าาา  :z1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 11-12-2014 19:32:11
นอกจากเรื่องจะแปลกๆ แล้ว เพิ่งจะสังเกตุว่า คนเขียนตั้งชื่อตัวนำได้ธรรมดามาก
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี จำง่าย คุ้นเคย บางเรื่องนะ สรรหาชื่ออะไรมาก็ไม่รู้ฝรั่งเกิ้น
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 11-12-2014 20:44:59
คริสจอมเจ้าเล่ห์:-)
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 13- P7 - 10/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกแมวหลงทาง ที่ 11-12-2014 22:39:17
อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากค่ะ ตอนสุดท้ายนี่เพื่อนพาซวยชัดๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 12-12-2014 15:18:46
 :katai4:


DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
14










เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้หรอกว่าอาการผีอำมันเป็นยังไง รู้แต่ว่ามันน่ากลัวมาก ตั้งแต่เล็กจนโตผมเคยได้ยินประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ บางคนมันก็เล่าซะเห็นภาพ บางคนมันก็เล่าเอาขำๆไม่คิดอะไร แต่สำหรับไอ้เต๋าแล้วไม่ว่าจะเล่าออกมาในแนวไหนทุกอย่างคือน่ากลัวหมด เรื่องผีอำเป็นสิ่งที่น่ากลัวครับ...

ก็ลองคิดดูสิ ถ้าคืนหนึ่งคุณกำลังหลับฝันหวานเห็นน้องพริตตี้นุ่งกระโปรงสั้นสีชมพูพรุ้งพริ้ง เกาะอกสะบึ้มที่แบกนมเอาไว้เป็นลิตรๆแทบจะหกกำลังนอนยั่วคุณอยู่ แล้วอยู่ๆก็มีอะไรไม่รู้มาทับร่างกายจนอึดอัดเหนี่ยวรั้งไม่ให้คุณกระโจนเข้าใส่น้องพริตตี้คนนั้น เป็นคุณๆจะตกใจมะ? มันเหมือนกับการดับฝันหวานดีๆแล้วพอลืมตาขึ้นมาอีกทีดันมาโผล่อยู่ในห้องของคุณเอง พร้อมด้วยภาพอันสยดสยองเป็นเงาตะคุ่มๆท่ามกลางความมืด กำลังคลืบคลานทาบทับร่างกายของคุณอย่างช้าๆ และคิดในใจว่ากูโดนเล่นแล้ว...!

สองขาถูกทับ สองแขนถูกกดด้วยฝ่ามือใหญ่ ร่างกายของคุณแข็งทื่อเหมือนรูปปั้นไม่อาจที่จะขยับตัวได้ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจแล้วมองฝ่าความมืดเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน จินตนาการว่าไอ้สิ่งที่เห็นมันจะน่ากลัวมากแค่ไหนในความมืด...

นะ... น่ากลัว...

น่ากลัว... น่ากลัวกับผีสิวะ!

"ทำอะไร?" ย่นคิ้วให้คริสที่อยู่ตรงหน้ากำลังยิ้มแฉ่งเสมือนถูกหวย...

เฮ้ย! มันยังไม่ออกมันออกพรุ่งนี้ นี่ซื้อไว้กำลังรอลุ้นอยู่เลยอยากถูกเหมือนกันนะแต่ซื้อมาทั้งชีวิตยังไม่เคยถูกเลย บังเอิญไม่ค่อยจะมีดวงทางนี้เท่าไร แต่ไม่เข้าใจว่าไอ้ตุ๊กตาบ้านี่กำลังเล่นอะไรของมัน พอหันไปทางไอ้ไก่ อ้าวเฮ้ย! เพื่อนกูหายไปไหน!

หันขวับไปทางคริสพลางเบิกตาโพลงเตรียมจะอ้าปากถามด้วยความตกใจ "กะ..."

"ไก่ไปนอนที่โซฟา"

"ฮะ?" อะไรนะไอ้ไก่มันไปนอนที่โซฟา ตอนไหน? เมื่อไร? ยังไง!? เมื่อก่อนหน้ามันยังเอาขาเกยตัวผมอยู่เลยหลังจากนั้นก็โดนผมยันจนมันตกเตียง... เอ่อ....

กูถีบมันลงไปเองนี่หว่า... แหะๆ สงสัยมันคงจะรำคาญ...

ว่าแต่... ไอ้บ้านี่มันจะทำอะไรกับผมวะ! พยายามดิ้นขลุกขลัก

สบตาสีครามที่ทอดมองลงมา...

หวา! ถึงห้องมันจะมืดสลัวๆแต่แสงไฟจากเมืองกรุงที่ส่องสว่างนี่ก็ทำให้ผมเห็นใบหน้าของคริสได้ชัดเจนเช่นกันเมื่อดวงตาสามารถปรับสภาพได้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มร้าย ดวงตากรุ้มกริ่มที่ทอดมองลงมาทำเอาหัวใจของผมเต้นระทึกเสียยิ่งกว่าโดนผีอำจริงๆ

กลีบปากอวบอิ่มขยับพูดช้าๆ "ตามสัญญา" แล้วมันก็ยิ้มให้ผมจนตาหยี...

"สัญ... สัญญาอะไร"

บังเอิญเต๋าเป็นคนความจำสั้นว่ะครับ อะไรนิดหน่อยก็ลืมแล้ว โดยสัญชาติเป็นญาติกับปลาทองก็เลยไม่ชอบบริโภคปลาจึงโง่อย่างที่เห็น ไม่เก็ทด้วยว่านี่กำลังจะสื่อถึงอะไร ขอทำหน้าแอ๊บแบ๊วว่าหนูไม่รู้แปบ... (ทำตากลมๆกระพริบตาปริบๆ)

 :m17:

"หึ"

อึก!

แค่นเสียงหัวเราะจนผมเผลอกลืนน้ำลายอึก น่ากลัวโว้ย! มาเล่นอะไรกลางดึกเงียบสงัดแบบนี้มันไม่ดีนาไอ้เต๋ายิ่งเป็นคนปอดแหกกลัวความมืดกลัวอยู่ด้วย แถมมันยิ้มน่ากลัวพิลึก หรือผมพูดอะไรไม่เข้าหูมันว๊า?... เอ๊า! ก็คนมันไม่รู้จริงๆนี่!
"เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าให้หิวมากๆ"

แนะมีขู่ด้วย พอได้ยินแบบนี้แล้วผมเก็ทขึ้นมาในทันทีพร้อมด้วยอาการใจฟ่อหน้าเจื่อน

"ก็ไม่อยากให้หิวนี่ แต่... ก็ไม่อยากให้ทำอ่ะ" ก็มันเจ็บน๊า เจ็บมากด้วยถึงจะรู้สึกดีก็เถอะ...

"..."

มันเงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิด ส่วนผมนี่พยายามกระพริบตาปริบๆทำหน้าบ้องแบ๊ว กอดตัวเองแน่นพยายามทำตัวให้น่าสงสารที่สุด เห็นใจป๋มเถอะ ป๋มไม่อยากถูกกิน

ดวงตาสีครามหลับตาลงแล้วถอนลมหายใจเบาๆก่อนจะลืมตาสีครามนั่นขึ้นมาอีกครั้ง "ถ้าเกิดทำแล้วไม่เจ็บล่ะ?"

"ได้ด้วย!" โพล่งเสียงด้วยความดีใจ

ชะอุ้ย! เก็บอาการแปบ ว่าแต่ทำได้ด้วยเรอะ!?

คริสจุดยิ้มที่มุมปากร้าย มันดูเจ้าเล่ห์ชอบกลจนไม่น่าไว้วางใจ ผมเผลอย่นคิ้วชักสีหน้าหวาดระแวงมองร่างสูงที่ค่อยๆเหยียดหลังตรงทอดมองลงมา ว่าแต่.... ช่วยลุกออกไปจากช้างน้อยข้าที่กำลังหลับอยู่ตรงเป้าเอ็งก่อนได้มะ?

"ได้สิถ้าเพื่อเจ้านายแล้ว แต่... ต้องให้กินเยอะๆนะ"

ฮะ? อะไรนะจะกินเยอะๆ ป๊าดดดดด ป่าดดๆๆๆๆ ของี้ฆ่ากูเลยเถอะ!

"จะ จะบ้าเรอะ!" ให้ก็บ้าแล้วสิ

"ถ้าอย่างนั้น... พรุ่งนี้เตรียมขุดหลุมฝังศพไก่ได้เลย"

 ผมนี่กลืนน้ำเฮือกๆด้วยความกลัวระคนลำบากใจเลยให้ตายสิ! นี่มันเอาไอ้ไก่มาขู่อีกแล้วอะไรวะ! แต่ถ้าปล่อยเลยตามเลยให้ไอ้ไก่มันเผชิญกับชะตากรรมตามลำพังนี่ก็เป็นเพื่อนที่เลวเกินไปนะที่ไม่ได้ช่วยเพื่อน

แต่สมัยนี้เขาไม่ฝังกันแล้วเว้ย! เข้าเตาเผากันอย่างเดียว สงสัยจะอยู่หลังเขามานาน...

ว่าแต่มันใช่เรื่องไหม!

"ไม่เอา อย่าทำอะไรไอ้ไก่มันนะนี่สั่งเลย!" ข่มขู่ไปนี่อย่าคิดว่ามันจะกลัวครับ ไม่เลยนี่ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเล้ย!

"ขอมาสิเจ้านาย" แล้วมันก็ยิ้มตาหยีข่มขู่แบบกวนๆ

ฮอล์ลลล... เต๋าอยากจะ Cry ทำไมต้องบังคับกันด้วยขอดีๆไม่ได้เรอะ?

 "กะ ก็ได้... แต่ตอนนี้มันคงไม่เหมาะม้างงงงงงง..." พยายามที่จะแถสด และโน้มน้าวมันอีกครั้ง คริสเลิกคิ้วเหมือนสงสัยในคำตอบผมเลยมองไปทางไอ้ไก่ซึ่งเห็นหัวมันดำๆอยู่ตรงโซฟาก่อนจะมองมาทางคริสเพื่อสื่อว่า ถ้าไอ้ไก่อยู่กรูไม่ทำนะเว้ย! อย่างน้อยคืนนี้ก็อดไปก่อนละวะ!

"กังวลว่าไก่จะตื่น?" ผมพยักหน้ารัวๆ

แม่นแล่ว... ถ้าขืนทำกิจกรรมยามค่ำคืนแล้วไอ้ไก่เสือกตื่นขึ้นมานี่ไม่แย่เรอะ แล้วอีกอย่าง มันแปลกๆนะที่จะ... จะบะระฮึ่ยกันโดยที่มีคนอื่นอยู่ด้วย น่าอายจะตาย!

สบตาคริสที่เป็นประกายฝ่าความมืดแล้วใบหน้าหล่อๆก็ยิ้มร้ายอีกครั้ง "ไม่ใช่ปัญหา" แล้วมันก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ!

พรึบ!!!

 o22

หืมมมมมมม!!??? โหวววววววววว!!!!!

 OMG! โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!! นี่มันอะไร!?

"ทะ ทำได้ไง"

ผมขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก ภาพตรงหน้านี่มันคือวิมานชัดๆ! ยิ่งกว่าแฟนตาซีอีกเถอะ นี่ผมเข้ามาอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายหรือไง! มองไปรอบๆที่เต็มไปด้วยปุยเมฆ และกลิ่นหอมๆของดอกไม้ มีผีเสื้อกระพือปีกบินประปลายราวกับว่าผมอยู่ในสรวงสวรรค์ เตียงของผมกลับกลายเป็นเตียงเสาสี่ต้นลายเถาแซมดอกไม้ที่ดูแปลกตา ประดับด้วยม่านสีขาวพรุ้งพริ้ง ที่นอนนุ่มๆใหญ่พอที่จะกลิ้งเท่าไรก็ไม่มีทางหล่นเตียงแน่นอนนี่มันช่าง... โอ้วววววววววว!!!! นี่ผมกำลังฝัน! ผมกำลังตกตะลึงไปกับความวิเศษของมันชนิดที่ว่าอ้าปากค้างอยู่นานมากจนลืมใครบางคน...

นี่ไม่ใช่เวลามาตกตะลึง!

ระ แล้วคริสล่ะ!

กวาดสายตาไปรอบๆเพื่อมองหาร่างสูงที่เคยนั่งอยู่บนตัวผม บัดนี้เขากลับหายไปซึ่งมองไปทางไหนก็มีแต่ปุยเมฆเต็มไปหมด เฮ้ย! นี่ผมโดนทิ้งปะ?... หรือเปลี่ยนใจไม่กินแล้ว ฮูเล่!  งี้ก็ดีสิ! งั้นเต๋าขอนอนก่อนละกันอยากนอนที่ๆสบายๆแบบนี้มานานละ เหมือนตัวเองเป็นเจ้าชายเลยเว้ย! ฮ่าๆๆๆ

 :oni1:

แต่ลั้นลาได้ไม่นานหรอกครับ...

เสียงดนตรีที่แว่วมาทำให้ผมต้องลืมตา และเลิกผ้าขึ้นมอง และต้องตกตะลึงในสิ่งที่เห็นอีกครั้งเมื่อสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าใส่ซีทรูอกสะบึ้มตามสเปคไอ้เต๋า ทรวดทรงองค์เอวนี่ไม่อยากจะบอกว่าน่ากินสุดๆ! ผิวขาวๆที่นวลเนียนพอต้องแสงแล้วพาลให้เลือดกำเดาแทบพุ่ง! ผมนั่งอ้าปากค้างตาแทบถลนมองคนตรงหน้าด้วยความตกตะลึง สาวน้อยที่ผมเห็นนั่นมัน.... คริส!

เอิ่ม... นี่มันเล่นอะไร?

ช็อคไหม? บอกได้เลยว่าช็อคมาก มันมากกว่าอาการเห็นสาวๆหุ่นเอ็กซ์ที่อยู่ตรงหน้าแล้วส่อน้ำลายไหลให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ถึงคริสมันจะดูดีสวยตามสเปคจากคริสหล่อแมนกลายเป็นคริสตี้อกสะบึ้มยืนยั่วผมอยู่ตรงหน้า แต่ยังง้ายยยยยย!!! ยังไงไอ้หุ่นแมนๆของมันนี่ก็ติดตาไม่เคยลืมเลือน...

ขอโก่งดากข้างเตียงแล้วอ้วกแปบ...

ไอ้บร้า! นี่มันเล่นตลกอะไรของมันวะ!

"ทะ... ทำอะไรน่ะ" ถามมันด้วยอาการตกตะลึง ตกใจ ตกกระเด็น...
ตกน้ำ ตกรถ ตกเรือ ตกท่าน้ำ ตกเครื่องบิน ตกโต๊ะ ตกเตียง ตกตู้ ตกสอบ สอบตก ให้คางคกกัด
ให้งูรัด ให้โดนพัดลมบาดมือ บาดนิ้ว และบาดแขน บาดขา...

บร๊ะ! นี่ยังมีอารมณ์มาร้องเพลงกำลังซีเรียสนะเว้ย!

คริสไม่ตอบผมเดี๋ยวนั้นแต่เขากลับยิ้มด้วยใบหน้าที่โคตรจะเซะซี่... โอ้ม้ายยยยยยยย... ทำไมเธอถึงได้ยั่วผมเช่นเน้รรรรรร!!!!....

เดี๋ยว! เดี๋ยวนะ เบรกอารมณ์แปบ เมื่อก่อนหน้ายังคิดจะอวกอยู่เลย ไหงกลายเป็นว่าไอ้คนที่ยืนบิดตัวทำท่าเซะซี่ปิดเรือนร่างวับๆแวมๆนุ่งน้อยห่มน้อยนั่นมันดูยั่วจนเผลอกลืนน้ำลายอึกขึ้นมาเสียดื้อๆงี้วะ!

เฮ้ยๆๆ

รีบถอยตัวหนีร่างสูงที่ดูยั่วบาดใจกำลังคืบคลานขึ้นมาบนที่นอนค่อยๆเข้าหาอย่างช้าๆ หนองโพที่คับเสื้อในจนล้นนั่นมันเป็นจุดสนใจทำให้ผมเกิดอาการปากสั่นใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา หน้าเหน้อมันนี่แทบจะไม่ได้มองเลยเหอะเมื่อสิ่งที่น่าสนใจมันคือ นม! ผมนี่หิวนมขึ้นมาเลยครับ...

ไม่ช้ายยยยยย!!!

"ชอบไม่ใช่หรอทำไมถึงทำหน้ากลัวแบบนั้น?" นี่มันจงใจถามเพื่อกวนประสาทหรือหน้าผมมันแสดงอาการออกมาแบบนั้นจริงๆวะ?

เผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่มองคริสที่กลายเป็นคริสตี้สาวสวย แต่จิตใต้สำนึกของผมมันบอกย้ำเตือนอยู่ในใจว่า ไอ้สิ่งที่เห็นนั่นมันภาพลวงตาชัดๆในเมื่อคริสน่ะเป็นผู้ชาย! ไม่อยากจะคิดเลยว่าไอ้ตุ๊กตาบ้านี่จะกลายร่างเป็นสาวได้ด้วย ถึงมันจะดูสวยแต่ก็น่ากลัวพิลึก

"มะ... ไม่ได้หมายความว่าจะให้เป็นแบบนี้" ตอบกลับไปเสียงสั่นพยายามไม่มองหนองโพที่อยู่ตรงหน้า โอ้ยยยยยย เอาหน้าออกไป อย่าเข้าม๊า!

"คิกๆ ชอบก็พูดมาสิคริสยอมเจ็บแทนเลยนะ"

หืม? เห? หา? เหอออออออ!!!!

สบตาไอ้คนที่ยิ้มจนตาหยีกำลังคร่อมร่างผมแบบยั่วอารมณ์ให้น้องชายตื่นตัว แถมด้วยการหัวเราะคิกคักให้ดูมุ้งมิ้งน่ารักในฉบับสาวสวย อะไรคือเจ็บแทนนนน!!!

 :o

"ชะ ชอบมันก็ชอบหรอก..." เหลือกตาดูดูมๆที่แซะเข้ามาใกล้ "แต่ไม่ชอบแบบนี้ เอ่อ..." จะบอกว่าไงดีวะ ชอบนี่มันก็ชอบนะ แต่ไม่ชอบให้มาหลอกกันงี้เว้ย! เต๋าเป็นคนจริงใจ ใจจริงนะเออ ไม่ชอบการปรุงแต่งถึงแม้ว่าตัวเองจะชอบมโนว่าจะมีสาวสวยมายั่วตรงหน้าแบบนี้สักครั้ง แต่อย่างนี้ไม่ไหว ไม่ไหวจริงๆครับ

"ไม่ชอบหรอ? แล้วแบบนี้ล่ะ"

หืม!?

แล้วมันก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ! อีกครั้งร่างสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าแตกตัวกลายเป็นควันสีขาวต่อหน้าต่อตาของผมจนเกิดอาการสำลัก "แคกๆ" ปัดป่ายให้ควันจางหายไปก่อนที่ผมจะตายเพาะไอ้ควันบ้านี่แหละ เล่นบ้าอะไรของมันวะเนี่ย!

"แบบนี้โอเคไหม?" ผมหรี่ตาที่เคืองๆเพราะกลุ่มควันก่อนที่มันจะจางหายไปปรากฏเป็นสาวน้อยร่างเล็กหน้าตาแอ๊บแบ๊วแต่หน้าอกยังคงสะบึ้มเหมือนเดิม พรืดดดดดด!!!

 :m10:

เลือดกำดำพุ่งสิจะเหลืออะไร!

"จะบ้าเรอะไม่ใช่โอตาคุเว้ย! เลิกเล่นสักที!" ก่อนที่กูจะเลือดหมดตัวซะก่อน นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย!

"เฮ้อ! เจ้านายนี่เอาใจยากจัง" แล้วมันก็ดีดนิ้วเหมือนเดิม มีควันเหมือนเดิม ก่อนที่ควันจะจางหายไปปรากฏเป็นร่างแกร่งที่เปลือยกายคร่อมร่างผมอยู่ตรงหน้า เหยียดหลังตรงทอดมองลงมาด้วยดวงตาสีครามที่ดูมีเสน่ห์

"..."

นี่มึงพร้อมจะเผด็จศึกกูเลยสินะ...

"เล่นอะไรบ้าๆเนี่ย" ถามด้วยความไม่พอใจเท่าไรพยายามปาดกำเดาที่ไหลย้อยออกไปจากปลายจมูก เอาซะเส้นเลือดฝอยแตกเลยไอ้บ้า!

"ก็..." มันกรอกตาไปมา "อยากให้เจ้านายมีความสุขก็เท่านั้น" แล้วมันก็ยิ้มจนตาหยี

เลือดร้อนไหลเวียนกระจุกอยู่ที่ใบหน้าของผมอีกแล้วให้ตายเหอะ! ไอ้ผมนี่ก็ซูดไปสิเลือดน่ะ แถมมันยังพูดอะไรก็ไม่รู้มันจักกระเดี๋ยมหัวใจชะมัด รอยยิ้มของเขาทำให้ผมโกรธไม่ลง...

บ้าเรอะ!

"ลุกออกไปสิ" นั่งทับอยู่ได้ เดี๋ยวช้างน้อยก็ฟาดงวงเข้าให้

"เลือด..." มันก้มลงมองผมเอาซะชิดจนใจผมเต้นแรง มองมันด้วยสายตาที่ระแวงว่าจะทำอะไร คริสค่อยๆใช้มือหนาๆอังมาที่จมูกโด่งๆของผม รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่น่าประหลาดก่อนที่ผมจะหายใจหายคอสะดวก ไม่ได้มีกลิ่นเลือดของตัวเอง มองคริสที่ยิ้มให้ผม

"มากินกันเถอะ" แล้วมันก็ตั้งท่าจะโน้มตัวจูจุ๊บ

"ว๊ากกกก!!! หยุดก่อน!" ยกมือห้ามให้ไว!

มองใบหน้าหล่อเหลาที่ย่นคิ้วทำหน้าอ้อนๆเมื่อมันยังเห็นผมไม่ยอมให้กินง่ายๆ ทำไมมันต้องทำหน้าแบบนี้ด้วยวะ รู้ไหมว่าผมใจเต้นแรงจนเกือบจะใจอ่อนอีกแล้วนะ แต่จะให้กินทั้งทีให้ไปเฉยๆนี่มันไม่เสียเปรียบไปหน่อยหรือไง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว...

"จะ... จะขอพร"

คริสทำสีหน้าประหลาดใจก่อนที่เขาจะยิ้มจนตาหยี "ขอมาสิ"

ผมเบือนใบหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าเขานัก มันมักจะทำให้สมองผมขาวโพลน แล้วหลังจากนั้นก็จะพลาดสิ่งสำคัญที่กำลังคิดอยู่

"ละ แล้วต้องมีข้อแม้อะไรบ้างล่ะ"

คริสถอนลมหายใจออกมาเบาๆ แต่ผมไม่ได้มองเขาหรอกว่าเขาทำหน้ายังไง "สิ่งที่คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้จริงๆ คริสไม่สามารถคืนชีพคนตาย ไม่สามารถดึงวิญญาณของคนที่ตายแล้วกลับคืนมา ไม่สามารถควบคุมจิตใจทำให้คนมีความรักได้ และแน่นอนว่า..."

หันกลับไปมองคริสเมื่อเขาเงียบเสียงลงเหมือนกำลังคิด "อะไรล่ะ"

 ดวงตาสีครามหันกลับมามองผมก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ  "ไม่สามารถทำให้คนธรรมดามีพลังเหมือนกับคริส..."

ชิ๊! กำลังจะขอเลย อยากเป็นยอดมนุษย์บ้างก็ไม่ได้ อ่ะโด่ววววว!!!

"รู้แล้วน่า! แล้วขอไม่จำกัดได้จริงหรอ?"

มันพยักหน้าดูไม่ได้ซีเรียสอะไรไม่เหมือนกับผมที่จริงจัง จะขออะไรมันก็ต้องรอบคอบก่อนสิเว้ย! ถ้าเข้าเนื้อเดือดร้อนตัวขึ้นมาจะได้ป้องกันตัวได้ทัน ใครจะรู้ว่าหลังจากขอแล้วจะเกิดอะไรขึ้นนอกจากโดนมันกิน... เอ่อไอ้นั่นล่ะจนอิ่ม...

"ขอเรื่องใหญ่ๆได้สามครั้ง"

"อ้าว! ทำไมได้แค่สามครั้งมันไม่ซ้ำกับจินนี่เรอะ!?" ผมขอค้าน!

"ฮะๆ เจ้านายนี่ตลกดีนะ"

มันยังมีหน้ามาหัวเราะแห้งๆ ไอ้บ้า! ไม่ตลกเว้ยนี่ซีเรียสจะเป็นตุ๊กตานำโชคทั้งทีนี่มันต้องเป็นให้ถึงที่สุดสิ!

แต่ดูเหมือนเขาจะอ่านใจผมออก "ไม่ต้องห่วงหรอกถ้าเรื่องเล็กๆน้อยๆคริสทำให้เจ้านายได้ เพียงแค่..."    มันแผ่วเสียงลงแล้วยิ้มที่มุมปาก ดูเจ้าเล่ห์ชอบกลแฮะ

"แค่อะไรล่ะ" นี่อยากรู้นะเออ บอกมาเร็วๆสิ!

"ก็... ให้คริสกินอิ่มหลับสบายก็พอ"

บร๊ะ! ไอ้นี่มันกวนประสาทดีแท้ ไม่พ้นเรื่องกินจริงๆ "แล้วจะรู้ได้ไงว่าขอครบแล้ว" ทุกทีก็บอกให้ขอๆไม่เคยพูดถึงรายละเอียดสักที

คริสถอนลมหายใจ "ทำไมชอบสงสัยจังนี่เห็นเป็นเจ้านายที่พิเศษหรอกถึงอยากให้พรแบบไม่อั้นไม่ดีหรอ?"

ผมส่ายหน้า ไม่เข้าใจอ่ะ...

"แล้วถ้าเกิดขอครบแล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ"

"..."

ไม่ถามก็ได้วะ สามก็สามแค่นี้ก็ต้องหงุดหงิดด้วย โด่วววววว ก็คนมันสงสัยนี่ สงสัยแล้วก็ต้องถามสิ

สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปเหมือนผมไปสะกิดต่อมอะไรบางอย่างเข้า...

"คริสเคยบอกไปแล้วนะ บางคนถูกกินชีวิตก่อนที่อายุขัยจะหมด... แล้วคริสก็กลับไปเป็นตุ๊กตานอนหลับเพื่อรอคอยเจ้านายคนต่อไป..." คำตอบของคริสทำให้ผมขนลุกชอบกล...

"นะ... นายฆ่า?"

"ก็บอกว่าบางคน"

"อ้าว! งั้นบางคนที่เหลือล่ะ"

"ก็ถูกกินแบบนี้ไปเรื่อยๆไง แต่ส่วนใหญ่พอครบก็ถูกกินหมด"

"แล้วแบบนี้มันใช่ตุ๊กตานำโชคเรอะ!?"

"มันไม่ใช่พรที่ดี มันคือพรชั่วร้ายที่ได้จากซาตานต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ"

"อ้าว! อย่างนี้มันเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคกันชัดๆ!"

"ขอมาเถอะน่าคริสไม่ปลอยให้เต๋าเป็นอะไรหรอก รับลองว่าจะไม่ทำร้าย"

"จะรู้ได้ไง นายนี่มันน่ากลัวว่ะ ออกไปเลย!"

"เต๋า!"

ตึงงง!!!

อึก!

กลืนน้ำลายอึกลงคอด้วยความตกใจเมื่อร่างแกร่งที่อยู่ข้างบนฟาดมือลงบนที่นอนนุ่มๆเหมือนกำลังโกรธจัด ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึงราวกับคนละคน ดวงตาสีครามวาวโรจน์เสมือนปีศาจร้าย... มันดูน่ากลัว...

ว่าแต่...  นี่ผมพูดอะไรผิดวะ?

เขาจ้องผมตาแข็งค้างดูน่ากลัวก่อนที่จะพยายามสงบสติของตัวเองให้กลับคืนไป "เอาล่ะ... อยากรู้ใช่ไหมเรื่องนี้"

ผมส่ายหน้ารัวๆ ไม่อยากรู้แล้วอ่ะเค้ากลัว....

"ถ้าไม่ขอพรมา... ถ้าซาตานรู้... เขาจะตามล่าพวกเรา ถ้าหากคริสไม่ได้พลังชีวิตของเต๋าไปส่วนหนึ่ง เข้าใจไหม?" ผมส่ายหน้า หึ ไม่รู้โว้ย

คริสพ่นลมหายใจอีกครั้ง "ถ้าไม่ฆ่าซาตานคำสาปก็ไม่มีทางหมด และคริสก็ไม่สามารถผิดคำสั่งไม่อย่างนั้นคริสจะไม่มีโอกาสที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว..."

"ตะ แต่... มันต้องมีทางอื่นอีกสิ"

เขายิ้มออกมาบางๆมันดูเย็นยะเยียบร้าย "ทางเดียวที่มีในตอนนี้ ตามหาพ่อมดนั่นที่กลับมาเกิดใหม่  ไม่สิ... เท่าที่จำได้ก่อนที่มันจะตายไม่เคยมีใครเห็นศพมันด้วยซ้ำ สรุปไม่ได้ว่ามันตายไปจริงๆหรือเปล่า แต่ถ้าคิดจะตามหามันก็คงจะยากหน่อยแทบจะพลิกโลกหาเลยล่ะมั้ง"

"เอ้า! มันก็มีทางนี่ทำไมนายไม่ตามหาไอ้พ่อมดนั่น"

"ก็เพราะติดพันคำสาปรับใช้เจ้านายเพื่อเจ้านายอีกที"

ขอโทษครับบังเอิญเต๋าโง่ ไม่เข้าใจเว้ย!

"งั้น... ถ้าเกิดไม่ขอล่ะ"

คริสเงียบไปครู่ใหญ่เหมือนกำลังคิดก่อนตอบ และเขาดูเหมือนไม่อยากตอบผมนัก...

"รู้อะไรไหม? ซาตานมักจะเลือกวิญญาณถ้าเขาพอใจใครสักคนเขาจะส่งคริสมา และแน่นอนว่าเต๋าก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่... คริสไม่อยากส่งเต๋าให้เขา คริสเคยทำผิดครั้งหนึ่ง และแน่นอนว่าครั้งนี้ไม่อยากให้มันผิดซ้ำสอง"

ผมสบตาเขานิ่งแววตาของเขามันดูเศร้าอีกแล้ว... หรือเขากำลังพูดถึงเด็กคนนั้นกัน...

"ละ แล้ว... มันเจ็บไหมถ้าเกิดถูกดึงชีวิตไปส่วนหนึ่ง..."

คริสยิ้ม "ไม่หรอก ไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่ตะเกียงชีวิตที่สว่างจะค่อยๆลดแสงลง อายุขัยจะลดไปส่วนหนึ่งเท่านั้น... ถึงแม้ว่าไม่อยากจะทำ แต่อย่างน้อยก็ยืดเวลาไปได้พักใหญ่ๆเพื่อให้เขารู้ว่าคริสไม่ได้คิดที่จะแข็งข้อ... นะ  ได้โปรดอย่าถามอีกเลย..."

เราสบตากันนิ่งไปพักใหญ่เมื่อความตึงเครียดเข้าครอบงำพวกเราทั้งสองคน แววตาที่ดูเศร้าลงทำให้ผมรับรู้ว่าทั้งชีวิตเขาคงเจอเรื่องร้ายมามาก การฆ่าคนไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกหรอกจริงไหม? เขาเหมือนพยายามที่จะปกป้องผมซึ่งมันสวนทางกับหน้าที่ๆเขาจะต้องทำ มัน... เจ็บปวดจะตาย...

ถึงอยากจะช่วยแต่มันก็มืดแปดด้านในเมื่อผมเป็นมนุษย์ธรรมดาที่อยู่บนโลก อย่างน้อยสิ่งที่ทำได้สิ่งเดียวนั่นคือยอมรับชะตากรรมของตัวเอง และรอคอยปาฏิหาริย์ว่าสักวันพระเจ้าจะรับรู้ความทุกข์ของคริส และช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ทรมานนี้ออกไป อย่างน้อย... ผมก็อยากให้เขามีความสุขสักครั้งในชีวิต...

คิดเป็นหนังการ์ตูนอีกละ...

"ถ้าถึงเวลานั้นจะปกป้องเต๋าไหม? จะส่งเต๋าให้ซาตานไหม? แล้วเต๋าจะเป็นยังไงต่อจากนี้? ให้เต๋า... ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน และครอบครัวให้นานกว่านี้อีกได้ไหม...." คำถามที่รู้สึกโหวงเหวงพรั่งพรูออกมาจากปากของผม มันทั้งกังวล และรู้สึกกลัวมาก มันเหมือนเป็นความโชคดีที่มาพร้อมกับความโชคร้ายในคราเดียวกับ แต่สัจธรรมโลกสอนให้คนรู้จักใช้ชีวิต มีเกิดก็ย่อมมีตายไม่ช้าก็เร็วอยู่ที่ว่าเราจะตายช้าตายเร็วมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นศาสนาจะสอนให้ทุกคนทำดีหรือ? ผมเริ่มเสียดายเวลาที่สูญเสียไปที่ว่าทั้งชีวิตผมทำดีเข้าวัดฟังธรรมแทบจะนับครั้งได้เลยด้วยซ้ำ ไม่แปลกอะไรที่สิ่งชั่วร้ายจะต้องการผม...

รู้สึกว่าตัวเองดูมีสาระขึ้นมาในทันที...

การตายมันน่ากลัวนะ...

คริสเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากที่ผมถาม ก่อนที่เขาจะตอบกลับมา "ไม่มีใครทำร้ายเต๋าได้ทั้งนั้น คริสสัญญา" แล้วเขาก็ยิ้มออกมา มันเป็นยิ้มที่ดูเหมือนมีความสุขที่สุดเลยก็ว่าได้ มันทำให้ใจของผมเต้นแรง และรู้สึกดีในคำตอบนั้น ผม... ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ถูกชะตากับคริสในครั้งแรกที่เราได้เจอกัน...

"งั้น... เต๋าขอ..." เขานิ่งเงียบเพื่อรอคอยคำตอบจากผมที่กำลังจะพูดมันออกมา รวบรวมความกล้าที่อยู่ในใจพยายามคิดอย่างรอบคอบที่สุด "ขอ... ขอให้คริสใช้เวลาอยู่กับเต๋าให้นานที่สุด อยากไปเที่ยวให้ทั่วเมืองไทยสักครั้งไปด้วยกันนะ"

พรืดดดดด!!!

แล้วเขาก็หัวเราะออกมา "อะไร!? มันน่าขำตรงไหน" ยู่ปากด้วยความไม่พอใจนัก คริสพยายามที่จะกล้ำกลืนเสียงหัวเราะของเขากลับคืนไปแล้วสบตาผมอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่ๆสัมผัสแก้มของผมเบาๆผะแผ่ว และอ่อนโยน ดวงตาที่ทอดมองมันทำให้ผมรู้สึกดี...

"เป็นการขอที่ฉลาดมาก" แล้วเขาก็ยิ้มให้ผมจนตาหยี ก่อนที่เขาจะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหาผมอย่างช้าๆ หลับตาลงรับสัมผัสอ่อนโยนที่ค่อยๆบดเบียดเข้ามา มันลึกล้ำ และนุ่มละมุนจนผมรู้สึกเคลิบเคลิ้ม ในนาทีนั้นเหมือนโลกมันหยุดหมุน และขาวโพลนไปเสียทุกๆอย่าง ผมไม่เคยคิดหรอกว่า... ตัวผม... จะหลงรักดอลฟี่ของตัวเองเข้าให้แล้ว...

"พรของท่านจะสมหวังดังปราถนา..."

แพลนกล้องไปที่โคมไฟ...

 :katai3:






......
ใจเย็นๆคับพี่น้อง....  :hao7:


 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-12-2014 15:33:18
 :ling1:  เขวี้ยงโคมไฟระบายอารมณ์
คริสตี้กินให้อิ่มนะ ชิส์ 555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-12-2014 18:28:55
ห้องเต๋ามีโคมไฟด้วยหรือ ฉันว่าฉันขโมยมาแล้วน่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 12-12-2014 18:35:12
เกลียดโคมไฟ!!!! ฮึ่ม!!!  :m16:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 12-12-2014 18:51:57
เป็นคำขอที่น่ารักมากเลย เหอะๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: wapview ที่ 12-12-2014 18:57:38
พังโคมไฟฟ 5555555555 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 12-12-2014 20:23:13
 :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 12-12-2014 21:11:16
เต๋าใจนายหล่อมาก o13  ขนาดซาตานยังถูกใจแบบนี้คริสต่อให้ตายก็ต้องปกป้องเต๋านะเฟ้ย

ไอ้โคมไฟบ้า!!! มาได้ไงว่ะ  เอาฉากตอนกินของเขาคืนมา :z3:  เอาคืนมา  เอาคืนมา :ling1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-12-2014 21:52:45
จะฆ่าซาตานอย่างไงบอกที
หวังว่าจะจบแบยแฮบปี้นะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-12-2014 23:24:49
งานนี้โคมไฟรับบทหนัก เพราะถูกยำเลยสินะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 13-12-2014 00:08:16
*จับโคมไฟเขวี้ยง*
ตอนนี้ทั้งเครียดทั้งฮา ครบรส555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 13-12-2014 09:48:42
งอนแล้ววว :ling1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 13-12-2014 09:52:13
 o22 คะ...โคมไฟแย่งซีนหมดเลยอ่ะ
 :m31:  :m31:  :m31:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 13-12-2014 11:23:31
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก :serius2:

ยื่นมือไปกระชากโคมไฟเควี้ยงทิ้งไป

เต๋ารักคริสแล้ว วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 13-12-2014 22:48:17
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ ขอกระทืบโคมไฟแบบรัวๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 14- P7 - 12/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 14-12-2014 15:17:50
โคมไฟ... :3125: :3125:
[/size]
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 14-12-2014 21:45:39
 :katai4:
NCวันละนิดจิตหื่นกาม เอ้ย! จิตเบิกบาน  :hao7:



 
DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
15








หัวใจของผมเต้นแรงดังตึกตักระรัวแทบทะลุยามเมื่อเสียงทุ้มที่กระซิบบอกมันชวนให้รู้สึกเขินแปลกๆจนไม่สามารถเก็บอาการเหล่านี้ได้ นี่เรากำลังเล่นบทอาละดินกับยักษ์ในตะเกียงแก้วกันหรือไงทำไมต้องพูดอะไรที่ชวนสยึมกึ๋ยแบบนี้ ถึงมันจะเป็นแค่คำพูดธรรมดา แต่ก็รู้สึกขวยเขินจนหน้าแดงซ่านสบตาสีครามที่ทอดมองลงมาราวกับสะกดจิตใจทุกครั้ง...

"อ่ะ... เอ่อ" อึกอักอยู่ในลำคอ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ แค่เห็นหน้าหล่อๆนี่ก็พาลให้เลือดลมร้อนวูบวาบ กำลังภายในแตกซ่านลมปราณไหลเวียนไม่สะดวก... เอิ่ม... ตอนนี้เรากำลังเล่นหนังกำลังภายในกันอยู่ครับ แน่นอนว่ากระบี่ของเราทั้งสองคนกำลังปะทะกันซึ่งๆหน้า ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเสื้อผ้าที่เคยสวมใส่เมื่อก่อนหน้ามันหายไปไหน...

ฉ่า!!!!!!!

โอ้ย! เขินว่ะ นี่หน้าแดงเป็นลูกสตรอเบอรี่แล้วมั้งเนี่ย... แดงไม่พอเพิ่มสิวขึ้นประปลายประมาณสองสามเม็ดเพราะช่วงนี้นอนไม่ค่อยพอเท่าไร ก็เพราะคริสนั่นล่ะไม่ต้องโทษใครเลย!

"เต๋า..." ช้อนดวงตามองไอ้คนที่เรียกชื่อเอาซะหวานหยด ไหงอารมณ์มันเปลี่ยนไปเร็วงี้วะแถมไอ้หน้าอ้อนๆอยากจะเอานี่อีก ย๊ากกกกกกก อย่าก้มลงมา...

"อืออออ...." เสียงครางในลำคอที่เปล่งออกมายามเมื่อลิ้นร้อนล้วงเข้ามาภายใน นี่ก็กระเส่าเกินไปจนน่าอาย ผมนี่หลับตาแน่นโอบกอดแผ่นหลังแกร่งที่ทาบทับลงมา ปรนเปรอด้วยลิ้นหนาให้เคลิบเคลิ้มไปกับความรู้สึกที่กำลังตื่นตัว

มือนุ่มนิ่มไล่นิ้วเรียวไปตามผิวกายของผมจนรู้สึกจักจี้ แผ่นอกสะท้านรูขุมขนตั้งชันมันวาบขึ้นไปถึงศีรษะ ยิ่งรสจูบสัมผัสยิ่งเร่าร้อนแรงปรารถนาของร่างที่อยู่เบื้องบนก็ยิ่งแข็งขืน มือลูบคลึงไปตามหน้าอก และหัวนมจนผมต้องกลั้นเสียงหอบหายใจ และรู้สึกเสียววาบเสียทุกครั้งที่ถูกสะกิด

ไม่อยากจะลืมตามอง ไม่อยากเห็นว่าคริสกำลังทำหน้าเช่นไรในตอนนี้ ใจผมรู้สึกอายมาก และสีหน้าที่ผมแสดงออกมานี่มันคงน่าเกลียดไม่น้อย...

"ลืมตาสิ..."

ไม่เอา...

"นะ ลืมตามองคริส..." คำร้องขอกระซิบแผ่วเบามันทำให้ผมใจอ่อน ค่อยๆปรือตามองภาพที่สว่างจ้าก่อนที่แสงนั่นจะถูกบดบังด้วยใบหน้าหน้าเหลาที่ทอดมอง ดวงตาอ่อนโยนรอยยิ้มละมัยยิ่งสร้างความรู้สึกให้ตีรวนปนเป

"อะ... อื้อ"

รีบปิดปากตัวเอง และบิดเร้าเมื่อมือใหญ่กำลังเคล้นคลึงไปตรงจุดที่อ่อนไหวที่สุดบนร่างกายมนุษย์ ปรือตามองคริสที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับสนุกที่ได้แกล้งแหย่...

ไอ้บ้า! มันแกล้งกันนี่...

"อืม..." เสียงครางในลำคอทุ้มต่ำยามเมื่อจมูกโด่งๆสูดกลิ่นกายที่ชื้นเหงื่อจากซอกคอของผม เสียงที่ฟังดูนุ่มทุ้มหูเมื่อครู่นั่นเป็นของคริสที่ครางออกมาเหมือนพอใจในกลิ่นของอาหารที่เขากำลังจะลิ้มลอง มือใหญ่คอยเค้นคลึงจนผมไม่อาจแม้จะปริปาก ถ้าขืนเผยอปากเพียงนิดนี่ก็พาลให้ส่งเสียงบ้าๆที่น่าอายออกมาเสียทุกที

"อย่าเกร็งสิ คริสไม่ได้ทรมานเต๋าเสียหน่อย"

แล้วไอ้ที่รูดเข้ารูดออกบีบๆจับๆไม่ยอมทำอะไรกับมันซักอย่างนี่เขาไม่เรียกว่าทรมานเรอะ!!!

พยายามด่าทอทางสายตา แต่ดูเหมือนว่าไอ้ตุ๊กตาบ้านี่จะหน้าหนาไม่ได้รับรู้ถึงแรงสังหารถ้าขืนมึงยังพิรี้พิไร ไม่อย่างนั้นไอ้เต๋านี่แหละจะเล่นบทเป็นหน่วยสังหารใช้อีดาบฟันให้ตาย! ผมไม่ได้ใจร้อนนะ! แต่ดาบของผมที่ถูกคลึงเหมือนตีด้วยเหล็กร้อนนี่กำลังจะระเบิด

"ฮื่อ... อะ ไอ้บร้า!"

"ฮึฮึ"

 ผมนี่เกลียดเสียงหัวเราะฮึฮึนี่จริงๆมันทั้งป่วนประสาท และน่าหงุดหงิดที่สุด พยายามใช้มือทั้งสองข้างยึดหมอนนุ่มเอาไว้ดวงตาปรือมองคริสที่อยู่ข้างบน มือใหญ่กำลังเปลี่ยนเป้าหมายกลับกลายมาเป็นประตูหลังพยายามที่จะแหย่นิ้วเข้าไปข้างใน

ผมกดใบหน้าซุกเข้ากับหมอนนุ่มกลั้นเสียงไม่ให้ครางออกมาแต่มันก็อดไม่ได้ "อะ อา ไอ้ อย่าแกล้ง... ฮื่อ!" แต่พอข่มขู่ไปไอ้บ้านั่นมันยิ่งเล่นตลกค่อยๆสอดนิ้วเข้ามาทีละนิ้ว โน้มตัวลงเข้าหาบดเบียดริมฝีปากของผมจากที่เคยอ่อนโยนกลับกลายเป็นฉกฉวย ตัวผมนี่ทำได้แค่บิดเร่าเมื่อนิ้วแกร่งนั่นกำลังทำอะไรบางอย่าง มันรู้สึกปวดหนึบแปลกประหลาด และรู้สึกดีในคราเดียวกัน มันทำให้ผมเผลอร้องคราง และผ่อนปรนเผลอตัว มารู้ตัวอีกทีก็ถูกสอดใส่ด้วยท่อนลำแกร่งที่สวนเข้ามาภายในอย่างช้าๆ ส่งเสียงครางระงมซะยิ่งกว่าสาวAVที่ผมเคยดูเสียอีก

กัดฟันปรือตา มองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังแย้มยิ้มบางๆทอดมองลงมาด้วยดวงตาสีครามนั่น ร่างกายขยับไปตามจังหวะร้อนของเนื้อหนัง กระทบเข้าหากันส่งเสียงดังสวบสาบสะท้อนก้องไปทั่ว

"อะ อือ คริส..." เบาๆ... กูคนนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง

อ๊า!!!!!!!!

กัดฟันข่มความกระสันที่กำลังปั่นป่วนยามเมื่อคริสกำลังปรนเปรอความรู้สึกที่แปลกใหม่เข้ามาในห้วงอารมณ์ ความเจ็บมันอันตรธานหายไปกลายเป็นความรู้สึกดี และแปลกใหม่ที่เพิ่มเข้ามา หยาดเหงื่อที่ชโลมเร่าร้อนไม่นานก็เหือดแห้งหายไปพร้อมๆกับสายผมเอื่อย ร่างกายผมบิดเร้าแหงนหงายไปตามจังหวะอารมณ์นั้นราวกับสติมันกำลังหลุดลอย ส่งเสียงอืออาราวกับไม่ใช่ผมกลายเป็นคนละคน

ไม่รู้ว่าถูกจับให้ทำอะไรบ้าง รู้แค่ว่าร่างกายตอบสนองคริสไปเสียทุกอย่าง คำกระซิบเรียกชื่อยามเมื่อร่างกายประสานฟิวชั่น มันกลับยิ่งทำให้ผมไม่อาจฉุดรั้งตัวตนที่แท้จริงของผมกลับมา พร้อมๆกับส่งเสียงครางเรียกชื่อเขากลับไปไม่รู้ตัว

กระทั่งห้วงอารมณ์มันถึงจุดขีดสุดๆท้ายของร่างกายที่กำลังจะระเบิด ก่อนที่มันจะปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกับร่างแกร่งที่กระแทกกระทั้นไม่กี่ครั้งก่อนที่ร่างกายจะกระตุกเกร็งไม่ต่างกัน...

โอบกอดแผ่นหลังแกร่งเอาไว้ให้มั่นแล้วรับสัมผัสลิ้นร้อนที่ดูดดุน ลมหายใจอุ่นๆที่หอบรวยรินสับสนปนเปจนแยกไม่ออก ถึงแม้ว่าคริสจะสามารถทำให้ผมเสร็จสมอารมณ์หมายสบายช้างน้อย แต่ดูเหมือนจอมตะกละนี่จะยังไม่อิ่มง่ายๆ ร่างของผมถูกยกให้นั่งขึ้นดังสวบ!!!!

"อ๊า!" พร้อมๆกับผมที่กรีดร้องเมื่อท่อนลำที่สวนเข้ามาทะลวงถูกเข้าที่จุดกระสันจนร่างกายกระตุกเกร็ง ร่างกายมันสั่นจนต้องยึดไหล่แกร่งเอาไว้รับลมหายใจอุ่นที่หอบหายใจหนักไม่ต่างกัน กลีบปากอวบอิ่มพรมจูบดูดซับน้ำตาที่ปริ่มด้วยความกระสัน ก่อนที่เขาจะเริ่มบรรเลงเพลงบทรักอันเร่าร้อนอีกครั้งหนึ่ง

"อา... คริส ตะ เต๋าจะไม่ไหวแล้ว อือ..."  ไม่อยากจะบอกว่าเสียงตัวเองเซะซี่น่าอายชะมัด! แล้วยิ่งเปล่งเสียงพยายามจะพูดไอ้บ้านี่มันก็ยิ่งจับสะโพกของผมให้ยกขึ้นแล้วกระแทกสวนทางจนร่างกายกระตุกเกร็ง

เออ! ไม่พูดก็ได้วะไอ่บ้าเอ๊ย!

"อืม... เต๋านี่เป็นเจ้านายที่วิเศษจริงๆ"

ฮะ? อะไรนะ อ่ะอืออออ.....

ปรือตามองไอ้คนตรงหน้าที่ดูเคลิ้ม และพึงพอใจในร่างกาย...

ใช่ซี้! ตัวเองอิ่มเอมแล้วสิ สีหน้าแลดูมีความสุขจนน่าหมั่นไส้...

มองใบหน้าของคริสที่ยิ้มบางๆให้กับผม แค่เห็นนี่ก็รู้สึกคล้อยตามจนเผลอเผยอกลีบปากบางๆยิ้มตอบกลับไป รสจูบที่โน้มตัวเขาหามันช่างวาบหวานจนไม่อยากที่จะผละออก ร่างกายที่ตอบสนอง และตื่นตัว ยอมรับร่างกายของคริสเข้ามาทั้งกาย และหัวใจ ในเวลานี้จะถูกกระทำเหมือนเป็นผู้หญิงยังไงก็คงไม่สนแล้ว...

ผมควรตักตวงความสุขในใจลึกๆระหว่างผมกับคริสไว้ให้นานที่สุด ผมผิดไปหรือเปล่าที่ยอมปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจกับร่างกายของผมแบบนี้...

แน่นอนว่า...

ผม...

คิดผิด...

 o7

แหงสิ! คิดผิดถนัดเลย พอให้เข้าหน่อยมันก็ได้ใจกินไม่บันยะบันยัง ฮอล์ลลลลลลลล... ไอ้บ้า! หยุดกินซักทีได้ไหมเนี่ย!

เวรเอ๊ย!

"..."

ก็นั่นล่ะครับ... ที่โบราณเขาว่าไว้ ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ แต่ดูดอลฟี่นี่ให้มองที่ลูกตา เพราะเมื่อไรก็ตามที่ดวงตาเปล่งประกายระยับในยามที่จ้องตาคุณ เมื่อนั้นล่ะจงเตรียมใจเอาไว้ว่า... มันหิว...

เชี๊ยะ! ใครก็ได้ช่วยเต๋าที!!!!!! พอได้แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!
(นี่คือเสียงโหยหวนของชายเต๋าที่กำลังร่ำร้องอยู่ในใจหลังจากที่โดนดอลฟี่คริสเขมือบไปหลายครั้ง.... อืม...)





'รู้อะไรไหม? เจ้านายเป็นคนที่แปลกที่สุดเท่าที่คริสเคยเจอ มีไม่กี่คนหรอกที่จะยอมขอพรเพื่อคนอื่นโดยที่ไม่คิดถึงตัวเอง... คริสส่งเจ้านายให้ซาตานไม่ได้...'



โลกนี้มันช่างขาวโพลน....
 :ruready

"เฮ้ย! เมาขี้ตาอยู่หรอมึง นั่งอึนอยู่ได้"  หันไปมองไอ้ไก่ที่ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพหล่อเนี๊ยบ มันมองผมที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียง และเซ็ทผมของมันไปด้วย

"..."

ไอ้เชี่ย... แอบใช้มูทจัดผมกรูแล้วไม่ขอ "แล้วมึงจะรีบไปไหน" เห็นแต่งตัวหล่อแบบนี้เดาไม่ยากหรอกครับ ไม่แต่งตัวกลับบ้านมันไม่ก็ต้องไปเที่ยว แต่ผมว่ามันน่าจะเป็นอันหลังมากกว่าได้กลิ่นน้ำหอมของผมด้วย มองตั้งแต่หัวจรดเท้านั่นมันเสื้อผ้ากรู... ไอ๋สาดดดดดดดด.... แอบนัดสาวเอาไว้แล้วทิ้งกูอยู่ในห้องหรอวะ แม่งเป็นเพื่อนที่ดีมาก

มันยิ้มแล้วยักคิ้วแบบกวนตีน นี่ถ้าไม่ติดว่ากูกำลังอึนนะจะเข้าไปดีดมันซักที "ตอนมึงหลับอยู่พี่ชินเขาโทรมา บอกงานกลุ่มที่ทำมีปัญหาต้องไปช่วยกันแก้ กูก็เลยกะว่าจะไปช่วยพี่เขาหน่อย"

ผมมองมันตาปริบๆ อ้าว! ไอ้เราก็นึกว่ามันจะไปเดทกับสาว "นี่มึงนัดพี่ชินเดท?"

"เดทบ้านมึงสิไปทำงานเว้ย!" แล้วมันก็หยิบผ้าขนหนูปาใส่ผม

"ฮ่าๆๆๆๆ อะไรกูแค่ล้อเล่นเองทำเป็นจริงจัง"

"เออ! รีบลุกเถอะมึงน่ะ  สายแล้วหาอะไรแดกไม่ได้อย่าโทษกูนะ เดี๋ยวกูไปก่อนละพรุ่งนี้เจอกัน" ผมพยักห้าให้ไอ้เพื่อนแบบส่งๆ แหมมมมมม... ดูรีบร้อนเสียเหลือเกิน พอมันออกไปจากห้องผมเท่านั้นล่ะไอ้เต๋านี่ทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิมเลยครับ...

เฮ้อ! ขี้เกียจเว้ย!

ดีนะที่ว่าวันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วไม่ได้ปวดเมื่อยหรือมีไข้ขึ้น แค่ปวดหนึบบริเวณสะโพกก็เท่านั้น ร่างกายก็ยังคงสะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนเมื่อคืนไม่ได้ผ่านศึกประลองดาบกับคริส...

ย่าห์!!!! ทำไมต้องนึกถึงไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นด้วยวะ!

ละแล้ว... (มองซ้ายมองขวา) คริสหายไปไหน?

รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองหาคริสทั่วห้อง กลับพบแค่มินนี่ลูลู่แล้วก็เซย์เท่านั้น แล้วคริสหายไปไหนกันล่ะหรือว่า... เขาจะไปหาซาตาน...

ต้องดึงพลังชีวิตเพื่อให้ซาตานเห็นว่าไม่ได้แข็งข้ออย่างนั้นหรอ?

แต่พอก้มลงมองพลางจับร่างกายสำรวจก็ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนไปเลยนี่หว่า รีบลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ตู้กระจกปรากฏก็ยังเห็นไอ้เต่าสุดหล่อมาดแมนคนเดิม พร้อมด้วยการจับคางเก๊กหล่อไม่ได้มีรอยเหี่ยวย่นเหมือนที่คิดไว้...

นึกว่าจะเหมือนในหนังที่เคยดู พวกปีศาจที่ดูดพลังแล้วทำให้ร่างกายเหี่ยวย่นไม่ก็แก่ไรงี้ แต่นี่ยังหล่อเป๊ะเป็นไอ้เต๋าสุดหล่อตาดุเหมือนเดิม... เออกูนี่ก็หล่อเข้มจริงๆวะ เพียงแค่ว่าตอนนี้ผมยาวก็เลยดูเซอร์จนสาวๆนึกว่าโจรป่าก็เท่านั้น แถมหนวดก็เริ่มขึ้นด้วย... เออ... กูนี่ก็หล่อติสแตกไม่ต่างอะไรกับไอ้พวกที่ซุ้ม แล้วทำไมสาวๆไม่ค่อยเข้าหาเลยวะ? มีแต่ไอ้ดอลฟี่บ้านั่นล่ะที่กระโจนเข้าใส่...

เฮ้อ.... หลับตาคอตกแล้วถอนลมหายใจยาวๆ ชาตินี้คงหาแฟนไม่ได้แล้ว... โกนหนวดดีกว่า...

แต่พอหยิบมีดโกนแล้วเงยหน้ามองกระจกเท่านั้นล่ะ "เฮ้ย!!!!!!!" ดอลฟี่หลอก! หันขวับไปมองไอ้บ้าที่โผล่ใบหน้าเข้ามาแล้วยิ้มแฉ่งเอาซะผมตกใจหัวใจกระเด็นตกไปที่ตาตุ่มแทบหยิบขึ้นมาไม่ทัน มันยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ! "ตลกมากไหม!"

"ขอโทษ" มันว่ายิ้มๆแล้วซุกใบหน้าโอบกอด

หวา!!!! อะไรวะเนี่ย!

"อือทำอะไรเนี่ย ปล่อยเลย" ผลักมันออกไปเบาๆก่อนที่หัวใจของผมจะเต้นแรงจนมันได้ยิน มองใบหน้าหล่อเหลาด้วยอาการไม่พอใจนักแล้วเดินหนีมันเข้าห้องน้ำไปซะอย่างนั้น... ไอ้บ้าเอ๊ย! ชอบแกล้งให้คนอื่นเขาหน้าแดงอยู่เรื่อย!

ยี่สิบนาทีหลังจากนั่งอึอยู่นาน ผมขอไม่เล่าตอนที่กำลังเขินมันบวกด่าทอมันในใจในช่วงนั้นนะครับ เสียงมันไม่มั่นคงเท่าไร... แฮ่...

พอผมอาบน้ำเสร็จ และออกมาอีกครั้ง มองหาไอ้ร่างยักษ์ที่นอนอยู่บนเตียงแล้วต้องถอนลมหายใจแบบหน่ายๆ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะปรี่ไปที่หน้าจอทีวีเมื่ออาหารเช้าที่วางเอาไว้เหมือนทุกวันมันชวนให้พยาธิในลำไส้เต้นระบำเหมือนจะรู้หน้าที่ของมันดี เปิดทีวีแล้วกินขนมปังยามเช้าที่คริสจัดเตรียมให้ เสมือนตัวเองอดอยากมาเป็นแรมปีตาจ้องทีวีปากก็เคี้ยวขนมปังจนแก้มตุ่ย...

วันนี้ทำไรดีวะ? หรือจะนอนกลิ้งกับคริสที่ห้อง "..." ไม่ดีม้างงงงงงงง... มันส่อให้เสียตัวพิลึกเมื่อไอ้บ้านั่นมันไม่น่าไว้วางใจเท่าไร พอแอบเหล่ไปมองไอ้คนที่นอนอยู่ พอเห็นดวงตาคมนั่นหลับตาพริ้มแล้วมันก็ชวนอยากให้เข้าไปกระแซะแล้วนอนด้วยจริงๆ แต่พอสายแล้วอากาศก็คงร้อนเหมือนเดิม...

อยากไปเที่ยวทั่วไทยเหนือใต้ออกตก...

อืม... เมื่อคืนเราขอไอ้บ้านั่นไว้นี่หว่า แล้วมันจะพาไปได้เรอะ? มันขาดอยู่อย่างเดียวนั่นล่ะเงิน ถ้าไม่มีเงินที่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมนี่ก็อยู่ในช่วงที่จะต้องเตรียมเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ศิลป์ แต่เมื่อคืนดันไปขอพรอะไรก็ไม่รู้ตลกชะมัด น่าจะขอให้ตัวเองกลายเป็นเศรษฐีน่าจะดีกว่านี้เสียอีกจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ นี่ลืมคิดถึงประเด็นนี้ไปก็เลยพลาดไปนิด มันคุ้มกับที่ให้กินกับที่ให้สูบพลังชีวิตไปหรือเปล่าวะเนี่ย...

ไม่ได้การละถ้ามีรอบหน้าจะขอให้มันรอบคอบกว่านี้...

ว่าแต่... ทำไมการ์ตูนที่ดูกลายเป็นหน้าหล่อๆของดอลฟี่คริสที่จ้องผมตาแป๋วแบบนี้วะ?

เย้ย!!

"มานั่งตั้งแต่เมื่อไร!?"

มันยิ้มให้ผมจนเห็นฟัน "เหม่อเองไม่ใช่หรอ?"

เออว่ะ... ยู่ปากใส่มันแล้วยัดขนมใส่ปากพร้อมๆดื่มนมจนหมดแก้วในรวดเดียวก่อนจะคุยกับคริส "ไหนล่ะที่บอกว่าจะทำตามคำขอ" ทวงๆ

"อยากไปที่ไหนล่ะคริสจะพาไป"

เออ... นั่นสิ อันที่จริงยังไม่ได้คิดว่าจะอยากไปไหน จับคางครุ่นคิด... แล้วเหลือบมองคริสที่รอคำตอบ "นายอยากไปที่ไหน?"
มันส่ายหน้า "เมืองไทย... เพิ่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก"

ผมย่นคิ้ว "ครั้งแรก?" มันพยักหน้า "แหมครั้งแรกนายนี่พูดไทยชัดปร๋อ" แขวะมันด้วยความหมั่นไส้ น่าเชื่อตายล่ะ

"คริสมีวุ้นแปลภาษาไง"

ไอ้!!!!!

ฮึ่ม...

ไม่รู้จะด่ามันยังไงดีอยากจะรู้นักว่าความเกรียนนี่ติดมาจากใคร แน่นอนว่าไม่ใช่ผมแน่ ไม่สิ ไอ้บ้านี่มันกวนบาทาผมมาตั้งแต่ตอนเจอกันใหม่ๆอยู่แล้ว ยินฟันใส่มันแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง "งั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยกูเห็นแล้วร้อนแทน" โยนให้คริสที่ดูงุนงง
"เอ้า! ยังจะมางง ไปเที่ยวไงเที่ยว" เอ้อ! เจ้านายจะพาเที่ยวนี่มันแปลกด้วยเรอะ?

แต่พอผมกอดอกยืนมองมันที่นั่งเงยหน้ามอง พอเห็นรอยยิ้มบางๆนั่นปรากฏมันทำให้ผมต้องเบือนใบหน้าหนี เหมือนเขากำลังดีใจยังไงไม่รู้ ลองจินตนาการเห็นหางงอกมาออกมาจากคนตรงหน้าแล้วกระดิกพับๆ เหมือนหมาเจอกระดูก....

 แม่งน่ารักว่ะ...
 :o8:

แต่พอผมหันกลับมาอีกครั้งคริสกลับใส่ชุดที่ผมให้ไปเสร็จเรียบร้อย...  เฮ้ย! เร็วไปไหมนี่มันจะนับวิได้เลยนะ! มองไอ้คนตรงหน้าที่ยืนอยู่ ร่างกายปรับตัวให้เหมือนเมื่อตอนที่มันไปโผล่ที่มหาลัย เสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนสีฟ้าซีดของผมซึ่งคริสใส่ได้พอดีตัว มันทำให้เขาหล่อขนาดผมยังเผลอมองอยู่นาน...

ขนาดชุดเซอร์ๆมันยังใส่ออกมาดูดี  ชิ! อิจฉาคนหล่อ ไม่หล่อบ้างให้มันรู้ไป!

หันไปหยิบของที่จำเป็นที่จะต้องพกยัดลงกระเป๋ากางเกงยีนแล้วลากไอ้คนที่ยังคงยืนมึนอยู่ให้ออกไปจากห้อง พวกผมเดินออกไปรอรถเมล์ที่หน้าปากซอย และกำลังคิดว่าจะพามันไปเที่ยวที่ไหนดี

"รอตรงนี้แหละเดี๋ยวสาย25ก็มา เราไปดูหนังกันมะ?"

"หนัง?"

"อืม ไปดูหนังแล้วก็ซื้อของด้วย เดี๋ยวต้องใช้เอาไปทำงาน"

"นั่นคือที่ๆเต๋าอยากไปหรอ?"

ผมส่ายหน้า "ยังไม่ใช่หรอก เดี๋ยวเรื่องเที่ยวเอาไว้ตอนปิดเทอม นี่หยุดจนเสียวจะติดเอฟแล้วเนี่ย" เงยหน้ามองมันที่ฟังผมบ่น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนี่มันก็หล่อดีนะ ซึ่งผมยังไม่ชินเท่าไร

แต่ตอนนี้ทำไมเหมือนผมกำลังพามันไปเดทยังไงไม่รู้ว่ะ แต่ผู้ชายไปเที่ยวด้วยกันมันแปลกเรอะ? ก็แค่พาไปดูหนังหาข้าวเที่ยงกิน แล้วก็เดินไปซื้อของๆที่ตัวเองต้องใช้ทำงานไม่ได้วิเศษตรงไหน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกับเขาได้ออกมาเดินท่ามกลางผู้คนเช่นนี้ ดูท่าคริสจะไม่ได้สนใจสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาเลยด้วยซ้ำว่าผู้คนเหล่านั้นมองเขายังไง...

เซงอ่ะโดนแย่งซีน ช่วยหันมามองคนหล่อที่ยืนอยู่ตรงนี้หน่อยครับ...

"อ้าว! พี่เต๋านี่จะไปไหนหรอพี่"
 :o

หันไปมองไอ้เสียงปริศนาดูคุ้นเคยที่ร้องทัก เป็นไอ้หวานนี่เองนี่กำลังจะไปเรียนสิท่า ทักมันเหมือนปกติ "ไงเอ็งจะไปเรียน?"
มันพยักหน้า "อื้ม!" แล้วยิ้มจนตาหยี แต่สายตามันดูวิบวับเป็นประกายแปลกๆมองผมกับคริสแบบเขินๆ มันกระแซะเข้ามาหาผม... อะไรของมัน?

"พี่เต๋าๆ พี่คนนั้นเขาชื่ออะไรน่ะหล่อดีนะ"

ผมเหลือบไปมองคริสที่ตอนนี้กำลังสนใจถนนมากกว่าพวกผม "ชื่อคิสน่ะ แต่มันหล่อสู้พี่ไม่ได้หรอกนะไปชมมันทำไม?"
นี่เคืองนะเว้ย! ไปชมมันมากกว่าพี่เดี๋ยวพ่อเตะเข้าให้เลย แต่ดูเหมือนไอ้หวานมันจะสามารถรับรู้อารมณ์ผมได้

"จร้า! พี่เต๋าอ่ะหล่อม๊าก! แต่พี่คิสน่ะโครตหล่อโพดๆๆ พวกพี่นี่สมกันอย่างกะกิ่งทองใบหยก คิดถูกแล้วพี่! หนวดเหนิดอ่ะหัดโกนซะบ้างจะได้ไม่น้อยหน้ากัน นานๆหวานจะได้เห็นโมเม้นแบบนี้ โอยน่ารักอ่ะทำไมพี่เต๋าไม่พามาเร็วกว่านี้ โอ๊ะ! รถมาแล้วหวานไปก่อนนะพี่ สวัสดีค่ะ พี่คิสหวานไปก่อนนะ อ้อ! พี่เต๋าเขาชอบให้แฟนจับมืออย่าลืมนะพี่" แล้วมันก็วิ่งเซบายพวกผมขึ้นรถเมล์ไป...

"..."

มองไอ้หวานจากไปตาปริบๆ...

 :m28:
วอสสสสสสส? อะไรของมันนี่คือกูงง อะไรคือ หล่อโพดๆ อะไรคือสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก อะไรคือโมเม้นน่ารัก แล้วอะไรคือจับมือ!!!!

"ไปกันเถอะรถมาแล้ว" หันไปมองคริสที่ชี้ไปที่รถสีครีมแดงที่จะพาพวกผมไปยังที่ๆคิดไว้...

แต่สิ่งที่น่าตกใจนั่นคือคริสมันเอื้อมจับมือผมอย่างที่ไอ้หวานมันพูดจริงๆ แล้วผู้คนที่ยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ก็หันมามองทางพวกผมเป็นตาเดียวกันด้วยสายตาที่แปลกประหลาด เงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มให้ผมจนตาหยี ดูใสซื่อ และ... หลงเชื่อที่ไอ้หวานมันทิ้งระเบิดไว้ก่อนที่มันจะโกยแนบขึ้นรถเมล์ไป...

ไอ้หวานนนนนนนน!!!! ไอ้เด็กเวงงงงงงงงงงงงง!!!!!!

 :m31:










......
 :katai5:

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-12-2014 21:53:29
น้องคิส พี่เต๋าโอ๊ยน่ารัก  :mew1: 
ได้เวลาเดททั่วไทยตามที่หวังแล้วนะเต๋า
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-12-2014 22:27:33
ฮึ่ย น่ารักอ่ะ ว่าแต่ไปเดทกันแล้วจะเจอใครป่าวเนี่ย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ  :L1:

ปล.อยากให้คริสเรียกเต๋าว่าเต๋า(เฉยๆอ่ะ)ไม่ต้องมีพี่นำหน้า
มันดูเหมือนคริสเด็กกว่ายังไงไม่รู้ คือที่แน่ๆคริสอายุเยอะกว่าเต๋าเยอะ...
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Merrychrista ที่ 14-12-2014 22:46:24
นิยายของคุณสนุกมากค่ะ คือเค้าไปค้นรูปดอลฟี่มาด้วยไม่รู้ว่าตรงกับอิมเมจของคริสหรือเปล่า 555
(https://33.media.tumblr.com/c868dc0b5a043a412149e49aa792a30b/tumblr_ngkwtwd5jC1rdykr8o1_1280.jpg)(https://31.media.tumblr.com/611d21a30fba8301745e26b0ba7fa5b2/tumblr_ngkwtwd5jC1rdykr8o2_1280.jpg)
(https://38.media.tumblr.com/ccd7dff80de96a503bda0810291a0b80/tumblr_ngkwtwd5jC1rdykr8o3_1280.jpg)
(https://33.media.tumblr.com/9e4bbafa207b140ddc374b7fc1f5baf7/tumblr_ngkwtwd5jC1rdykr8o4_1280.jpg)
รูปสุดท้าย ดูดาร์กๆ อ่า แต่ชอบ 555คนละฟีลกับตัวข้างบนเลยยย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 14-12-2014 23:05:32
 :mew3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: pedchara ที่ 14-12-2014 23:17:42
โอยยย เต๋า อยากให้พาคริสมาเล่นที่บ้ายเค้าจัง
เห็นรูปอิมเมทแล้วบอกเลย
คริสหล่อม๊ากกกกกกก กอไก่ ห้าสิบล้านตัว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: supernaturalgay ที่ 14-12-2014 23:18:22
คริส มันต้องให้ได้อย่างนี่เซ่!
พยายามทำตัวเนียนๆตาใสๆเข้าไว้
รับรองเต๋าหนีไปไหนไม่รอดหร๊อก o13

ยิ่งอ่านยิ่งสนุกอ่ะ ขอปรบมือให้ไรเตอร์รัวๆเลย  สู้ๆเด้อ

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-12-2014 23:37:05
หลงเลย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 15-12-2014 00:19:22
เขินอ่า คริสน่ารัก มีกระดิกหางดั้วะ! โกลเด้นห่มหนังหมาป่าชัดๆ 5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: มิวม๊าว ที่ 15-12-2014 08:53:25
ทำดีมากหวาน  :hao3:
แต่น่าจะทิ้งลูกใหญ่กว่านี่ไว้หน่อย
เช่นโอบลงโอบไหล่ คึคึ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 15-12-2014 12:33:16
โห พอเห็นดอลฟี่แล้วอยากมีมั่งจังเลย
น่ารักและสวยมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-12-2014 12:54:28
 :katai2-1:. ว้าว รูปที่หามามันตรงอิมเมจคริสในใจเราเลย หล่อเทพ ทั้งน่าหลงไหลและน่ากลัวนิดๆในเวลาเดียวกัน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 15-12-2014 13:46:13
ขอหวานๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-12-2014 16:10:56
โอ๊ยยยยยยยยยยย  หวานเวอร์

เต๋าน่ารักที่สุด อิอิ

ขอบคุณสำหรับรูป น่ารักมากเลยค่ะ คุณ  Merrychrista

รอตอนไปเดทดีกว่า คิๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 15-12-2014 18:30:04
ตอนนี้หวานกันมากๆๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 15-12-2014 19:33:52
เหมือนแฟนกันเข้าไปทุกทีทุกที
แอร๊ยยยยยยมีความสุข

ซาตานปิ๊งเต๋าเหรอ?
ถึงส่งคริสมา?
ว่าไปนั่น5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: pui32 ที่ 16-12-2014 10:42:09
ซาตานถูกใจอะไรเต๋าจ๊ะ ต้องขอบคุณซาตานไหมที่ส่งคริสมา5555
เต๋าเอ๋ย สาวน้อยแล้วลูก
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 15- P8 - 14/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 16-12-2014 21:13:11
น่ารักมากๆเลยอ่ะ ขอเขินแปป >_____________<
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P8 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 17-12-2014 14:55:46
 :katai4:
ขออภัยที่หายไปหลายวันค้าบ  :z10:



DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
16






เอาละครับท่านผู้ชมที่น่ารักทุกท่าน ขณะนี้ชายเต๋ากำลังพาท่านเข้าสู่ช่วงพาเด็กน้อยทัวร์ ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรพิเศษอะไรมากมายนักกับอีแค่พาเด็กโข่งที่สูงราวกับเสาไฟฟ้า ซึ่งตัวกระผมเองก็สูงเด่นเป็นสง่าไม่ต่างกันกำลังพาเด็กชายคริสเดินรอบห้างโดยมีคำซุบซิบนินทาตามหลัง พูดง่ายๆ เมื่อใดก็ตามที่เราเดินไปทางไหนทุกสายตาต่างก็จ้องมาทางพวกเราสองคน  โดยดวงตาหลายสิบคู่นั้น... กำลังโฟกัสมาที่มือที่ทากาวล่องหนเหนียวหนึบจนไม่สามารถแกะออกได้... ของพวกเรานั่นเอง...

เอิ่ม...

'เฮ้ยมึง! ดูนั่นสิเขาจับมือกันด้วยละ'

'เออว่ะเป็นแฟนกันแหง'

'หูยกล้าเนอะ แต่น่ารักดีว่ะ'

'น่าเสียดาย สมัยนี้ผญ.อยู่ยากผู้ชายกินกันเอง แต่กูสนับสนุนให้ผู้ชายกินกันว่ะ'

'เออ เนอะ หึหึหึ'

"..." ทำไมมันรู้สึกเสียวสันหลังวาบแบบนี้วะ! เหมือนถูกจ้องมองโดยเรด้าอะไรบางอย่าง...

หันไปมองไอ้คนข้างๆที่ยังคงยืนมึนอยู่ท่ามกลางห้างดังโดยที่สายตากำลังมองไปรอบๆด้วยความสนใจ ส่วนผมนี่ก็พยายามแกะมือมันไปเหอะ นี่แงะจนจะเอาเท้าช่วยงัดออกมาแล้วนะ เฮ้ย! ปล่อยสิวะ!

"ปล่อยดิ จะจับทำไมนักหนาไม่หายไปไหนหรอก"

ไอ้คนที่ถูกโวยมันค่อยๆหันมาทางผมอย่างช้าๆก่อนจะระบายยิ้มหล่อบาดใจแล้วตอบด้วยหน้าตาที่ใส่ซื่อ "ชอบไม่ใช่หรอ?"

"ชอบบ้าอะไรล่ะอายเขา!" ผู้ชายเดินจับมือกันมีที่ไหนไม่ใช่เด็กๆเว้ย!

"อายทำไมคนเยอะแยะ"

"..."

ไอ้...

ถ้าผมฆ่าดอลฟี่นี่จะบาปไหมครับ? ผมว่าไม่นะ ดีไม่ดีอาจจะดังข้ามคืนเลยก็ได้ ฮึ่ม...

สะบัดมือมันออกไปด้วยอาการหงุดหงิดกลบเกลื่อน อันที่จริงนี่โคตรหน้าร้อนผ่าวอายชิบหายเลยคนเยอะแยะเนี่ย คิดถูกคิดผิดวะพามันออกมาในที่ๆคนเยอะแบบนี้ พวกผมนี่ก็ไม่ค่อยจะเด่นเล้ย!

"ถามจริง? ไอ้ยุคที่นายอยู่ก่อนที่จะมาเป็นดอลฟี่เนี่ย เขาจับมือถือแขนผู้ชายด้วยกันเป็นเรื่องปกติหรือไงฮะ"

มองไอ้หน้าหล่อที่ทำหน้าครุ่นคิด คริสจับคางแล้วกรอกสายตาไปมา "ก็... ไม่รู้สิจำไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่น่าจะแปลกนะขนาดสองคนนั้นยังทำ" แล้วมันก็ชี้ไปทางข้างหลังของผม

ไหนวะ! กูอยากจะรู้นักว่ายังมีผู้ชายบนโลกที่กล้าจับมือถือแขนกันต่อหน้าประชาชี ถ้าไม่อายสายตาชาวบ้านนี่ก็หน้าด้านไม่แคร์สื่อ แต่บังเอิญไอ้เต๋ามันเป็นคนหน้าบางก็เลยค่อนข้างที่จะรับไม่ได้สักเท่าไร แต่เมื่อผมหันกลับไปมองเท่านั้น...

เฮ้ย! จริงด้วยว่ะ

มองแผ่นหลังของผู้ชายสองคนที่มีความสูงไม่แตกต่างจากผมนัก แถมพวกมันยังเป็นจุดสนใจไม่ต่างจากพวกผม ผมมองไปรอบๆที่เห็นนักศึกษาสาวบางกลุ่มที่เดินผ่านไอ้สองคนนั้นก่อนที่พวกเธอจะหันกลับมาส่งเสียงซุบซิบหัวเราะคิกคัก อายแทนผู้ชายที่กำลังทำอย่างนั้นกันอยู่  นี่ไม่ต้องจินตนาการเลยว่า เมื่อก่อนหน้าพวกผมถูกมองยังไง...

สาววายจะครองโลกก็เพราะอย่างนี้แหละครับ...

แต่นี่ไม่ใช่เวลามาอึ้งเฟร้ย! ผมว่าไอ้สองคนนั้นมันคุ้นๆ คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหน ยิ่งไอ้คนที่ตัวเตี้ยกว่านิดหน่อยนี่ยิ่งคุ้น ผิวสีคล้ำๆแต่ไม่ดำมากนี่ไอ้เต๋ารู้สึกคุ้นชินเป็นพิเศษ แต่พอพวกมันเดินไปหยุดอยู่ที่ร้านไอติมเสวนเซ่นแล้วหันกลับมาปรึกษากันเท่านั้นล่ะ ลูกตาผมนี่แทบจะถลนออกมาเสียเดี๋ยวนั้น...

เฮ้ย!

ไอ้ก่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!! นี่มึงแอบมีกิ๊ก!?

"เชี่ยไก่..." สบถไม่ดังมากนักแต่ก็ทำให้ไอ้คนข้างๆหันมามอง และก้มลงมองหน้าผมด้วยความฉงนสงสัย หน้าผมนี่เต็มไปด้วยเควสชั่นมาร์คเลยครับ...

"คริส นั่นมันไอ้ไก่ป่าววะ" เขย่าแขนให้มันหันไปมอง

"อืม... นั่นเพื่อนเต๋าจริงๆ"

บร๊ะ! นี่ผมไม่ได้ตาฝาดเว้ยเฮ้ย! มองไอ้สองคนที่เดินเข้าไปในร้านแล้วต้องรีบดึงไอ้เสาไฟฟ้าที่ยืนมึนอยู่ให้เดินตามโดยเร็ว รู้สึกตัวเองหน้าหนาขึ้นมาถึงสิบเซนแต่เพื่อเรื่องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านนี่งานถนัดครับพี่น้อง!

"อ้าวนั่นพี่เต๋า"

เอ๊ะเสียงใคร?

หันไปมองตามเสียงที่เรียก ปรากฏเป็นไอ้ส้มที่เดินหน้าบานเข้ามาหาผมพร้อมๆกับใครอีกคนที่ตามหลังมัน สายตาผมโฟกัสไปที่ผู้ชายคนนั้น บอกได้เลยว่า... เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมาก

แหม วันนี้มันเป็นวันรวมญาติคนหน้าตาดีหรือไงครับเนี่ย?

"อ้าวส้ม วันนี้ไม่มีเรียนรึไง" ไอ้ส้มมันยิ้มตาหยี แถมวันนี้ยังแต่งตัวดูน่ารักเป็นพิเศษแต่ไอ้คนข้างหลังนี่ดูจะมองผมไม่เป็นมิตรเท่าไร ไม่พอ ผมยังรับรู้ได้ถึงรังสีอะไรบางอย่างที่แผ่ออกมาจากคริสที่มองเพื่อนไอ้ส้มมัน

"ไม่มี วันนี้เป็ดมาเที่ยวกับเลย์ พี่เต๋ามาทำอะไรหรอ?"

"มาซื้อผักมั้งน้อง... ไอ้บ้า! มาเที่ยวดิวะถามได้!"

"แหะๆ" ไอ้ส้มมันหัวเราะทะเล้น "ก็แค่ถามเป็นมารยาท แล้วนี่คิสใช่ไหมพี่ ส้มจำได้"

"อืม อย่าไปสนใจมันเลย ไปกินติมกับพี่มะ?" ไหนๆก็เจอกันแล้วชวนไอ้ส้มมันซะเลยจะได้สนุกแลดูมีสีสัน ผมชอบอยู่กับเพื่อนฝูงเยอะๆมันดูเฮฮาปาร์ตี้ดี แต่ไม่ได้มองสีหน้าไอ้คนข้างๆที่ยืนฟังพวกผมคุยกันเสียเท่าไร

"กินติมหรอ ดีสิพี่! พี่เลี้ยงนะ"

ซวยแล้วไงกู!

ชิบหายละ รู้สึกเสียดายที่ชวนมันวะ เรื่องเงินนี่เรื่องใหญ่ครับเรื่องมิตรภาพนี่เอาไว้ทีหลังกะน้องกะนุ่งนี่ไม่มีคำว่าพี่เลี้ยงน้องครับเข้าสู่โหมดช่วงประหยัดตัง "เออได้  พี่เลี้ยงถ้วยเล็ก เอ็งเลี้ยงบุปเฟ่พี่คืนนะ"

"โหยพี่เต๋าอ่ะ" แล้วมันก็ยู่ปากทำแก้มพองแบบงอนๆ แกล้งไอ้ส้มนี่มันสนุกดีเหมือนกันครับ เป็นพี่ที่ดีนี่ต้องขยันแกล้งน้องบ่อยๆ แต่ตอนนี้พวกผมเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวของเราสองคนยังไงยังงั้น แล้วอยู่ๆเพื่อนไอ้ส้มมันก็ก้มลงกระซิบกระซาบคุยกับมัน ผมนี่เงียบหูฟังเลยครับ

ไอ้ส้มมันหันกลับมาแล้วทำหน้าเสียดาย "ว้า! แย่จังเลยพี่เดี๋ยวส้มต้องพาเลย์ไปตัดเสื้อก่อนเอาไว้วันหลังนะพี่"

"เฮ้ย! อะไร? ไอ้ที่ไม่ว่างนี่ไม่อยากเลี้ยงพี่สินะ" ไอ้นี่แผนสูง

ไอ้ส้มมันแลบลิ้นน้อยๆ "แหะๆ ไม่ใช่ซะหน่อยไม่ว่างจริงๆ ไปก่อนนะพี่"

ผมพยักหน้าให้ไอ้ส้มมันส่งๆ แล้วโบกมือลาน้องมันบ้าง มองรุ่นน้องสองคนที่เดินจากไปไม่ได้เหลียวหลังมองกลับมาอีก ได้กลิ่นทะแม่งๆจากสายตาของไอ้คนที่ชื่อเลย์ว่ะ มันดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไร แถมชื่อมันยังคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหน หรือจะเป็นเลย์ห่อละยี่สิบวะ... อืม....

"ผู้ชายคนนั้น..."

หืม?

"ทางที่ดี อย่าเข้าใกล้จะดีกว่า"

"เอ๋?" มองคริสที่ดูเครียดๆขึ้นมา ทั้งๆที่เมื่อก่อนหน้ายังดูอารมณ์ดีอยู่เลย ถามมัน "ทำไมอ่ะ" มันกลับเงียบไม่ยอมตอบ เออ... ดีเว้ย! มาบอกให้สงสัยแล้วจากไป ไอ้นี่มันต้องการอะไรจากชายเต๋า ไม่บอกก็ไม่บอกเข้าไปกินติมดีกว่าไหนๆก็ไหนๆละ ยืนอยู่นานเดี๋ยวไอ้ไก่มันจะรู้ตัว ลากเด็กชายคริสเข้าไปในร้านอีกครั้ง...

พยายามมองหาไอ้ไก่ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้มันนั่งอยู่ส่วนไหนเพราะคนเยอะมาก ในขณะที่เด็กเสริฟพาพวกผมไปนั่งที่มุมๆหนึ่ง แต่ก็มองหาแค่ปราดเดียวเท่านั้นละครับ พอเมนูวางปุ๊บผมก็คว้าปั๊บสายตาจ้องไปที่ลูกกลมๆหลากสี

"อยากกินอะไรอ่ะเดี๋ยวสั่งให้" ถามคริสที่นั่งจ้องผมอยู่

"อยากให้ตอบจริงๆหรอ" แล้วมันก็ยิ้มแบบกวนตีน

หึ! หึหึ อ่ะ หึหึ นี่ไม่ต้องเดาเลยว่ามันคิดอะไรอยู่

"ให้เลือกกินไอติมไม่ใช่กินเต๋า ไอ้ตะกละเมื่อคืนยังไม่อิ่มหรือไง" ถามมันน้ำเสียงไม่พอใจนัก

"ถ้ากับเต๋า คริสไม่เคยอิ่ม"

ป๊าดดดดดดดดดดดดด... ตอบมาแบบนี้ผมจะไปต่อยังไงล่ะ แถมไอ้สายตาที่ทอดมองมามันชวนให้หัวใจเต้นแรงพิลึก ทั้งๆที่ดวงตาของเขาไม่ได้เป็นสีคราม แต่มันก็ยังมีอิทธิพลต่อผมอยู่

"นี่กำลังเล่นเกมจีบหญิงหรือไงฮะ? ไอ้บ้า นี่เป็นผู้ชายเว้ยแมนทั้งแท่งไม่หวั่นไหวหรอก" แล้วก็ยกเมนูปิดหน้าหนีมันซะเลย...
ตั้งแต่เกิดมา ก็เพิ่งจะถูกผู้ชายด้วยกันจีบนี่แหลครับ....

เฮ้ย! ไม่ได้จีบซะหน่อยไอ้บ้านี่มันเป็นตุ๊กตา หัวสมองนี่ก็คงมีแต่เรื่องกินเต็มไปหมดนั่นล่ะทำไมผมต้องคิดอะไรบ้าๆด้วยวะ! ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มหูที่หัวเราะครืนนี่ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขินๆชอบกล ไอ้บ้านี่มันชอบแกล้งผมอยู่เรื่อย

"เอานี่ นี่ นี่ครับ เพิ่มเชอรี่ด้วยนะ"

"ค่ะ"

พอหันไปสั่งไอติมก็หันกลับไปทางคริสที่นั่งมองออกไปนอกกระจก ซึ่งมันกำลังมองความศิวิลัยของเมืองกรุง และเต็มไปด้วยความวุ่นวายของรถรา พอมองวงหน้าด้านข้างของคริสในมุมมองนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกเพลินได้เหมือกัน แต่สีหน้าคริสดูเหมือนคิดอะไรอยู่คนเดียว "เบื่อหรือไงดูทำหน้า" เพิ่งจะมาถึงก็เบื่อซะแล้ว หรือว่ามันติดนิสัยชอบนอนจนเคย แหงละเป็นผมๆก็ไม่ชอบความวุ่นวายแบบนี้สักเท่าไร

คริสหันกลับมาแล้วยิ้มบางๆ "ไม่หรอก อยู่กับเต๋าคริสไม่มีทางเบื่อง่ายๆหรอก"

โดนลูกหยอดแบบรัวๆ

ทำไมยิ่งฟังมันดูเหมือนเรากำลังเดทกันจริงๆเลยวะ ปกติไอ้คำพวกนี้มันต้องใช้กับคนที่เป็นแฟนกันไม่ใช่เรอะ ถ้ามากับไอ้ไก่ไอ้บ้านั่นมันจะเบะปากแล้วก็บ่นนั่นนี่ ดีไม่ดีพวกผมเม้าแตกขนาดผู้หญิงยังอาย...

"อะ อืม... นึกว่าเบื่อ ยุคสมัยนี้ค่อนข้างจะดูวุ่นวายหน่อยก็เลยกลัวว่านายจะเบื่อซะก่อน"

"คริสกลัวเต๋าจะเบื่อคริสมากกว่า"

"ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ" ถามด้วยความสงสัย

"คริสไม่ชอบพูดไง" เออจริง...

"ไม่ชอบพูดก็ดีแล้ว ไม่ชอบคนพูดมากเท่าไร" แต่เรื่องจริงนี่เป็นคนชอบเม้าแบบหาสาระไม่ได้ แต่กับคริสผมกลับไม่เบื่อเลยว่ะบอกตามตรง ถึงที่ผ่านๆมาพวกเราก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร แต่ความสัมพันธ์ที่เริ่มรู้จักกันทำให้ผมเริ่มชอบเขาขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าประหลาด

พอไอติมมาอยู่ตรงหน้าผมก็ไม่ได้สนใจแล้วล่ะครับนอกจากของกิน เรื่องกินนี่เรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องอื่นนี่เอาไว้ทีหลัง สายตาก็มองหาไอ้ไก่ไปด้วยแต่รายนั้นมันหายไปไวอย่างกับพวกนินจา แต่ข้องใจอยู่ว่าไอ้คนที่เดินกับไอ้ไก่นี่มันเป็นใครแถมยังดูคุ้นๆเหมือนกันเห็นแค่ข้างหลัง ถ้าจำได้นี่ก็ยอดมนุษย์แล้วล่ะครับ

"ไม่กินแน่หรอ?" พอหันกลับมาก็ยังเห็นคริสเอาแต่นั่งจ้องผมเหมือนเดิม ทำอย่างกับว่ามองผมแล้วจะอิ่มแบบนั้น

เขาส่ายหน้าเนิบๆ...

อืมจริงสิมันไม่กินอะไรแบบนี้นี่ แล้วความสงสัยก็บังเกิด "ถ้าเกิดจะให้กินล่ะกินได้ไหม แล้วถ้ากินจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ"

เขาสบตาผมแล้วทำหน้าเหมือนกำลังคิด ก่อนจะตอบ "ได้สิ ไม่เป็นอะไรหรอก" แล้วมันก็ยิ้ม เป็นยิ้มที่หล่อมากให้ตายสิ!

"งั้นต้องลอง อร่อยนะ นี่บอกได้เลยว่านายต้องไม่เคยกินมาก่อน" แล้วก็ตักรสช็อกโกแลตให้มันช้อนพูนๆแบบจัดเต็มคำ งับช้อนทีนี่เอาให้จี๊ดถึงสมอง ไอ้คนตรงหน้ามองเหมือนช่างใจก่อนจะอ้าปากกว้างๆแล้วกินไอติมที่ผมตัก...

จ้องมองอย่างมีความหวัง อร่อยป่าววะ? เป็นไงมั่ง? กินได้ไหม...

มันอมไว้ในปากครู่หนึ่งเหมือนพยายามลิ้มรสก่อนจะกลืนมันลงคอ และหันมาสบตายิ้มให้ผมจนตาหยี "อืม... อร่อยมากเลยล่ะ" แต่หน้ามันไม่ได้แสดงความอร่อยออกมาจริงๆเลย

"จริงอ่ะ" มันพยักหน้า แล้วผมก็จ้วงใส่ปากบ้าง "อืมมมมมม... อาหย่อย..." กินของหวานแล้วมีความสุข แฮ่...
 :heaven
"ว่าแต่จะดูหนังอะไรกันดีล่ะ เดี๋ยวต้องรีบไปซื้อตั๋วรอบบ่าย หิวข้าวหรือ..." เอิ่ม... ลืมไปว่ามันกินข้าวไม่ได้

"เดี๋ยวกินติมเสร็จไปซื้อตัวกันดีกว่า เดี๋ยวไม่ทัน" มันพยักหน้าตอบผม

แล้วหลังจากนั้นผมก็ต้องรีบกินไอติมให้ทันเวลาซื้อตั๋วรอบบ่าย พาเด็กชายคริสที่พยายามทำตัวเหมือนเด็กน้อยที่ต้องให้ผู้ใหญ่คอยจูงมือขึ้นไปชั้นบนของห้างเพื่อโปรแกรมเลือกหนัง อันที่จริงผมก็วางแผนเอาไว้ตั้งแต่ออกจากห้องแล้วล่ะครับว่าวันนี้จะมาดูแอนนาเบล...

ฟังไม่ผิดหรอกครับ วันนี้ไอ้เต๋าพยายามรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากที่จะมาดูหนังผี ซึ่งอันที่จริงเป็นคนกลัวผีชนิดที่ว่าขี้หดตดหายเลยถ้าได้ดูหนังแนวนี้ จัดการจิ้มหนังมาสองใบแล้วหันไปทางร่างสูงที่ยืนรอ "ปะ" แล้วก็ลากมันเข้าไปในโรงหนังอีกตามเคย มองหน้าหล่อๆที่ดูอารมณ์ดีแล้วมันหงุดหงิดชะมัด ทั้งๆที่ผมเขินจะตายห่าตอนที่เดินจับมือมันเพราะกลัวว่ามันจะหลงเนี่ย สรุปแล้วมันแกล้งทำมึนหรือมันเป็นโรคไม่ชินผู้คนกันแน่วะ

"ยิ้มอยู่ได้บ้าปะ?" หันไปชำเลืองตามองไอ้ตุ๊กตาบ้าที่เอาแต่นั่งยิ้มบางๆ ขนาดเข้ามานั่งในโรง โฆษณาผ่านไปสามสี่เรื่อง... ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่ามันจะเยอะไปไหน ไอ้หน้าหล่อนี่มันก็ยิ้มราวกับคนบ้า คริสหันมามองผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าผมข้องใจอะไรกับมัน... ไอ้ที่ถามไปคือลืมมันไปเถอะครับ...

"กลัวหรอ?" นี่มันตอบตรงคำถามป่าวเนี่ย!

"ไอ้บ้า!"

"ฮะ?"

"กวนตีน!"

"อะไรนะไมได้ยินเลย"

เฮ้อ... บางครั้งไอ้ตุ๊กตาดอลฟี่ในร่างคนนี่มันก็กวนตีนดีเหมือนกันนั่นละครับ...

แล้วผมก็หันกลับไปยังจอยักษ์ที่ตอนนี้กำลังเข้าเรื่องแล้ว เตรียมตัวหลอนไปกับแอนนาเบลได้แล้วครับท่านผู้ชม... (ทำเสียงใหญ่) ขณะนี้เชิญท่านเข้าสู่ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่จะป่วนประสาทให้หลอนไปตามๆกัน ซึ่งกระผมก็ข้องใจมาเป็นเวลานานถึงตุ๊กตาผี ว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหนซึ่งคำร่ำลือที่เคยได้ฟังมันทำให้ผมรู้สึกกลัวไม่น้อย...

สิบนาทีผ่านไป...

"หาวววววววววว.... เฮ้อ...." แจ๊บๆ ง่วงนอนชิบหายเลยว่ะเมื่อไรมันจะน่ากลัวสักทีวะ

"ง่วงหรอ?" หันไปทางคริสที่ชะเง้อหน้าถามผม ผมพยักหน้าหงึกหงักตาปรือมองตัวหลักของเรื่องที่กำลังจะเจอเรื่องหลอนๆ พอเสียงดนตรีมาแบบระทึกขวัญผมนี่ไม่ต้องเดาเลยว่ามันจะเจอกับอะไร ยกมือปิดตาแปป

"ฮึฮึ..." แง้มนิ้วมองไอ้คนข้างๆที่หันไปข้างหน้าแล้วแอบหัวเราะ

"มาดูหนังผีไม่ได้มาดูหนังตลก ชิ"  อย่ามาสนใจข้าเดี๋ยวโดนตบด้วยขนมป๊อบคอน

"กลัวแต่ก็ชอบจริงๆเลยนะ"

"แล้วจะทำไมอ่ะก็ชอบ"

"อืมมมมม..." มันพยักหน้าเนิบๆแล้วรอบยิ้มหัวเราะเบาๆ แต่อย่าได้แคร์ครับ บังเอิญผมไม่ชอบใช้แป้งเด็กแคร์เท่าไรก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมันมากนัก หันสายตากลับไปยังจอขนาดยักษ์แล้วเลื่อนสายตาลงต่ำสี่สิบห้าองศา ไม่ดูแม่มหรอกน่ากลัว...

เสียงมีด และเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มทำให้ผมกลัวไม่น้อย ชนิดที่ว่าหลับตาปี๋เลยก็ว่าได้ อาการง่วงนอนนี่เต็มตื่นในทันที เสียฟอร์มชะมัด แล้วสักพักผมก็รู้สึกถึงผ่ามือหนาที่เข้ามาจับขาของผมเอาไว้ เลยหันไปมองไอ้คนข้างๆที่หันมามองผม

"ไม่ต้องกลัวนะคริสอยู่ด้วยทั้งคน" มองมันตาปริบๆ

"จะ จะบ้าเรอะ ไม่ได้กลัวสักหน่อย"

มันไม่ตอบผมครับแต่มันกลับยิ้มแล้วคว้าเอามือของผมที่อยู่ฝั่งมันไปจับกุมเอาไว้เฉย เฮ้ย! แล้วกูจะเอามือข้างไหนปิดตาเล่า! พอหันกลับไปยังหนังเหตุการณ์ที่น่ากลัวก็ผ่านไปแล้ว ทำให้ผมโล่งใจขึ้นมานิดนึงแล้วกลับมานั่งตัวเกร็งเหมือนเดิม...

แอบชำเลืองมองคริสที่ตาจ้องไปข้างหน้าดูหนังอย่างตั้งอกตั้งใจ ผมว่ามันทำตัวเป็นธรรมชาติมากกว่าตอนที่เจอกันใหม่ๆนะหรือว่าผมคิดไปเอง บางทีผมก็คิดว่ามันเป็นมนุษย์มากกว่าตุ๊กตาดอลฟี่หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่คน ถึงแม้ว่าบางทีมันจะชอบทำตัวลึกลับก็ตามเถอะ

แต่... ก็รู้สึกดีจริงๆนะ มันทำให้ผมเผลอยิ้มแล้วเบือนหน้ากลับมาทางเดิมมองสำรวจไปตามที่นั่งที่อยู่ข้างล่างซึ่งพวกผมจะอยู่เกือบแถวบนๆ ซึ่งคนไม่เยอะเท่าไรนับหัวแทบจะได้ แล้วสายตาผมก็ไปสะดุดอยู่ที่นั่งตรงกลางซึ่งเห็นหัวของคู่รักที่กำลังกระซิบกระซาบคุยอะไรกันอยู่

อืมมม... ก็น่ารักดีนะอยากมีอะไรแบบนี้บ้าง แต่ในโรงค่อนข้างที่จะมืดผมเลยไม่เห็นหน้าพวกเขาหรอก แต่ก่อนที่ผมจะหันสายตากลับไปที่หนัง เมื่อแสงจอมันสว่างวาบทำให้ผมเห็นวงหน้าด้านข้างของผู้ชายสองคนได้อย่างชัดเจน

"..."

อ้าว! กูก็นึกว่าชายหญิง แต่ไอ้ที่น่าตกใจกว่านั่นมันไม่ใช่ว่าผู้ชายกระซิบกระเอาซะชิดทำให้ผมเข้าใจผิดว่ามันเป็นคู่รักเพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ผมตกใจ แต่ไอ้ที่ตกใจนี่น่าจะเป็นหน้าไอ้เพื่อนสนิทของผมกับไอ้พี่ชินที่กำลังจูบกันเสียมากกว่า...

 o22

ไอ้เชี่ยไก่...

ถ้ามึงจะโรแมนติกกันช่วยหาทำเลที่มันเหมาะกว่าบรรยากาศหนังผีในโรงหนังนี่ไม่ได้หรือไงวะ?...

โถเพื่อนกรูเสียท่าให้ไอ้พี่ชินซะแล้ว...

 o7









....
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-12-2014 15:13:25
เต๋าจะฮาไปไหนว้า พาดอลฟี่ในร่างคนมาดูตุ้กตาผีแอนนาเบล ฮาาาา :m20:
ไก่กับพี่ชินก็ไวไฟน่าดูนะเนี่ยแอบไปมีซัมติงกันตั้งแต่ตอนไหน
ที่สงสัยคือหนังผีนี่เค้าเอาไว้ทำสวีทกันใช่ไหม ตอบ

เราไม่ซีเรียสนะที่จะเดินเรื่องเนิบๆแบบนี้อะ เพลินๆดี เหมือนดูพัฒนาการของคริสและเต๋าไปเรื่อยๆ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 17-12-2014 16:34:31
ไก่กับพี่ชิน...เมื่อไหร่? อะไร? ยังไง? เคลียร์ด่วนนน

ปล.หรือว่าหนังแอนนาเบลจะเป็นแรงบันดาลใจนิยายเรื่องนี้หว่า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 17-12-2014 17:29:42
เลย์เนี่ย เลย์นั้นใช่มั้ย คงจะใช่เลย์เดียวกันเนอะ :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 17-12-2014 17:53:59
 :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 17-12-2014 18:13:28
เลย์ต้องเป็นเหมือนคริสแน่ๆ  ลุ้นอย่างแรง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 17-12-2014 18:35:50
เฮ้!!
จำได้แล้ว
ที่บอกว่าเลย์
เลย์นี่  ตดอลฟี่ของไอ้เป็ดนี่หว่าาาาาาาาาาา
ว่าแล้ว  ทำไมชื่อมันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน
อย่าบอกนะว่า พันธุ์เดียวกับคริส ไม่หรอกมั้ง ส้มยังบอกว่า
ผิวไม่ลื่นเหมือนคริสนี่ งั้นก็แสดงว่า อาจจะมีหลายคำสาปหรอ
เอะ ส้มเสร็จเลย์ยังเนี้ย ให้ทายว่าไม่เหลือ
เอะ หรือว่าไม่ใช่ อย่านะ เราไม่ได้มโนไปเองชิมิ
 :z10:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 17-12-2014 19:37:22
เลย์นี่ใช่เลย์ที่เป็นดอลฟี่ของส้มป่ะเนี่ย?

ไก่หนูมีผัวเหรอ????????

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 17-12-2014 22:29:43
ก่ายยยยยยย มาสวีทไรกันตอนดูหนังผีเนี่ย ใช่เวลามะ?
เขินคริสแปป ตุ๊กตาไรไม่รู้ น่ารักฝุดๆเลย ><
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: José_Gil ที่ 18-12-2014 07:32:28
ไก่มีชู้ นอกใจเต๋าอ่อ :hao3: //ไม่ใช่ละ555555
เลย์นี่เปนแบบคริสอ่อ แล้วได้กินน้องเป็ดไปยัง :hao7:
รุ้สึกค้าางงงง :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 18-12-2014 09:06:46
ขออย่าให้ส้มเป็นศรัตรูกับเต๋าเพราะเลย์เลยนะ

บางที่เลย์อาจจะโดนคำสาปอีกแบบก็ได้

แต่ไปเดทหวานๆนะ โดยเฉพาะไก่....คึๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 18-12-2014 20:39:15
เลย์นี่ดอลฟี่ของส้มมั้ย เหมือนจะเคยได้ยินชื่อ..
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 18-12-2014 22:32:00
ชอบอ่ะะ ชอบมากกก เต๋าฮาวุ้ย เรื่องนี้รู้สึกจะมาเค้ามาม่ามาแต่ไกล :hao5:ื
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 16- P9 - 17/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Merrychrista ที่ 19-12-2014 00:35:45
เหยดเข้!!! บอกมานะเลย์คือใคร
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 20-12-2014 17:42:05
 :katai4:





DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
17





ไอ้ไก่คบกับพี่ชิน ไอ้ไก่แอบคบกับพี่ชิน ไอ้พี่ชินแอบกินไก่ หรือไอ้ไก่มันไปกินชินชิกเก้น...

บร๊ะ! ทำไมกูต้องเอามาคิดมากด้วยวะในเมื่อเพื่อนกูมันกำลังมีแฟนเป็นตัวเป็นตน "..." แต่ไอ้แฟนที่ว่านี่มันดันเป็นพี่ชินนี่สิ แล้ว... มันก็เป็นผู้ชายทั้งคู่.. เอิ่ม... แล้วมันไปปิ๊งปั๊งกันตอนไหนวะไอ้เต๋าไม่เข้าใจเล๋ยอ่ะ! หรือว่ามันจะแอบคบกันมานานแล้วแต่ผมไม่ได้สังเกต หรือพวกเขาจะแอบจีบกันทางเกมเศรษฐีวะเออ! (ตบขาเข้าฉาด!) ชัวร์ๆ! แม่งใช้เกมเศรษฐีเป็นเกมสื่อรักแน่เลยไอ้ไก่นี่แมงร้ายกาจไม่ยอมบอกเพื่อนฝูง แบบนี้สาวๆในสังกัดมันก็กินแห้วไปตามๆกันสิวะ... ไม่สิต้องบอกว่าเป็นไทจากเชี่ยไก่เพราะไม่ต้องมาทนมองหน้าหม้อของไอ้เพื่อนผมที่ตอดป้อเขาไปทั่ว...

แต่... ทำไมมันต้องปิดบังผมด้วยวะนี่เคืองนะเว้ย!

"เป็นอะไรไป" หันไปทางคริสที่นั่งลงข้างๆผมพร้อมๆกับยื่นแก้วโกโก้ร้อนๆมาให้ อากาศเย็นๆแบบนี้ต้องโกโก้นี่แหละครับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะต้องดื่มก่อนนอน

ผมเอื้อมหยิบแล้วจิบมันพออบอุ่นร่างกายตามองไปข้างหน้าที่จอทีวีดับสนิท ไม่ได้ตอบอะไรมัน ตั้งแต่กลับมาที่ห้องผมก็เอาแต่คิดเรื่องของไอ้ไก่นี่แหละ

"เป็นห่วงเพื่อนเต๋าหรือ?"

ผมส่ายหน้า "ป่าวไม่ได้ห่วงอะไรมันหรอกก็แค่สงสัยว่าพวกมันไปคั่วกันได้ไง" แล้วก็ยู่ปากใส่

"งอนที่เขาไม่ยอมบอกว่าคบกัน?"

"ป่าวซักหน่อย!" เอ๊ะไอ้นี่! ชักจะรู้ดีเกินไปละ

เหล่หางตาไปมองคริสที่ป้องปากหัวเราะเบาๆ นี่อยากจะทุบมันจริงๆ "มันน่าขำนักหรือไง ห่วงเพื่อนมันน่าตลก?"

"เปล่า... เป็นเต๋าแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว" ย่นคิ้วเข้าหากันด้วยความงงงวยในคำตอบ ผมนี่ปวดหัวจริงๆกับไอ้ตุ๊กตาบ้านี่มันชอบตอบไม่ตรงคำถามอยู่เรื่อย แต่ก็เผลอหันไปมองคริสอยู่นานก่อนที่ผมเองนั่นล่ะจะรู้ตัวว่าผมแอบสบตาเขา และเขินสายตาที่ทอดมอง ดวงตาสีครามที่หยีลงพร้อมๆกับรอยยิ้ม... อ๊ากกกกก.. เขินจังวุ้ย วันนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่คริสทำให้ผมรู้สึกไม่เสียดายวันเวลาไปเลยจริงๆ

"ไม่ดื่มล่ะเดี๋ยวก็เย็นหมดหรอก" มันถามผมที่เอาแต่ก้มหน้ามองแก้วจนลืมดื่มไปเลย

"อื้มๆ" ครางในลำคอตอบเบาๆแล้วยกโกโก้ดื่มรวดเดียวหมด การมีคริสอยู่ด้วยมันก็ดีนะมันทำให้ผมไม่เหงาเวลาอยู่ที่ห้อง ซึ่งปกติจะเอาเวลาไปคุยกับลูกๆดอลฟี่อย่างกับคนบ้าจริงๆ เพราะอย่างนี้สินะที่เพื่อนๆผมมันมักจะบอกให้หาแฟน แต่ตอนนี้ผมว่าผมไม่ต้องหาแล้วล่ะ

"ว่าแต่..." จะถามดีไหมหว่า...

"หืม?" คริสเลิกคิ้วแล้วเอียงคอทำหน้าสงสัยมันทำให้ผมเขินจนไม่กล้าที่จะพูดออกมาเลย...

แต่ก็อยากจะถามอ่ะ "คืนนี้... จะนอนยังไง?" มันทำหน้างงในคำถามของผม เดาะลิ้นแบบรำคาญพวกคนโง่จริงๆ "ก็จะนอนแบบดอลฟี่หรือจะนอนในร่างนี้ เอ่อ... วันนี้มันหนาวนะหนาวมากด้วย ก็กลัวว่าจะนอนหนาวไข่สั่นไรงี้ ก็แบบ..."

"อยากให้คริสนอนกอด?"

"จะบ้าเรอะ!" แล้วทำไมต้องแหวเสียงใส่มันด้วยวะ! รีบทำตัวให้เป็นปกติ "ก็แค่ถามไม่ได้เป็นห่วงอะไรมากมายหรอก เดี๋ยวจะหาว่าเอานายมาเลี้ยงแล้วดูแลไม่ดี"

"อืม..." มันครางในลำคอพลางพยักหน้าเหมือนเข้าใจ แต่หน้าผมนี่ร้อนขึ้นมาในทันทีจากที่หนาวๆ พอๆเลิกคุยดีกว่าลุกขึ้นส่งแก้วคืนมันแล้วอุ้มลูกๆเอาไว้ในอ้อมกอดทั้งสามตัวหนีมันไปที่เตียง กอดลูกๆก็ได้ ไม่เห็นจะง้อเลย... แล้วทำไมผมต้องง้อมันด้วยอ่ะ โถ่ววววว... นอนดีกว่าวันนี้เดินเหนื่อยมาทั้งวัน...

สวบ....

หืม?

พอผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางข้างหลัง และไฟก็ถูกดับหมดแล้ว ค่อยๆหันไปทางข้างหลังท่ามกลางความมืดแล้วต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจระคนเขินอายชอบกล เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าตัวเองจะสาวขึ้นทุกวัน แต่มันก็อดไม่ได้ในเมื่อดวงตาสีครามที่ชันคางมองผมมันกำลังทำให้หัวใจของผมเต้นแรง

"ทำอะไร?" ถามมันน้ำเสียงแสร้งไม่พอใจนัก

"หนาวไม่ใช่หรอ?"

"ไม่ได้หนาวซักหน่อย แค่อากาศเย็น" แล้วมันก็ยิ้มออกมาบางๆค่อยๆสวมกอดผมจากทางข้างหลัง

"..."

เฮ้ยๆๆๆๆๆ! ทำแบบนี้ไอ้เต๋าก็แย่สิครับ! แต่ร่างกายมันกลับไม่ขยับหรือผลักไสมันออกไปกลับนอนแข็งทื่อตัวค้างอย่างกับถูกสตาฟเอาไว้ ค่อยๆหันใบหน้ากลับไปยังข้างหน้าเหมือนเดิมแล้วขยับกายถอยเข้าไปในอ้อมกอดของคริสซึ่งผมไม่รู้ว่าเขาหลับอยู่หรือเปล่า...

ถึงแม้ว่าผมจะห่มผ้าหลายชั้นหรือถึงแม้ว่าจะถูกกอดด้วยคริส มันกลับไม่ช่วยให้ดูอบอุ่นขึ้นเสียเท่าไร อาจเป็นเพราะอุณหภูมิของคริสมันเย็นกว่าคนทั่วไปก็ได้มั้ง แต่ผมกลับคิดว่าตอนนี้มันอบอุ่น และปลอดภัยมากขนาดที่ว่าผมเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ และหลับไปนานจนตื่นเช้ามารู้สึกว่าตัวเองนอนเต็มอิ่ม ใบหน้าผ่องใสเป็นไอ้เต๋าสุดหล่อที่สาวๆต่างก็หมายปอง? รู้สึกอารมณ์ดีชีวิตลั้นลามากเลยครับตอนนี้

"อยู่ห้องคนเดียวได้นะ" คริสพยักหน้า "ห้ามออกไปไหนะ" มันพยักหน้าอีก "แล้วห้ามใช้แอร์นะ" มันพยักหน้าอีกละ นี่ใจคอจะพยักหน้าให้คอหลุดออกมาเลยใช่ปะ?

"..." ผมหลิ่วตามองมันแบบจับผิด มันบอกว่าจะไม่เปิดแอร์นี่เชื่อไม่ได้ครับในเมื่อไอ้บ้านี่มันขี้ร้อนจะตายไป เลิกกลับมาจากมหาลัยทีไรผมนี่นึกว่าอยู่ในขั้วโลกทุกทีตอนที่กลับห้อง

"อืม... รีบกลับมานะ" มันพยักหน้าเนิบๆแล้วก็ยิ้มบางๆให้ผมจนตาหยี...

วันนี้มาแปลกแฮะไม่ได้ดูหงุดหงิดหรือทำท่าขรึมๆเวลาที่ผมให้มันอยู่ห้องคนเดียวแต่กลับดูชิวๆสบายๆเหมือนไม่มีผมก็อยู่ได้ หรือว่ามันจะชินแล้ววะ? สงสัยผมคงจะคิดมากไปเอง

"แล้วอย่าเปิดทีวีทิ้งไว้นะเดี๋ยวค่าไฟเยอะจ่ายไม่ไหวกันพอดี"

"อืม"

มันพยักหน้าหงึกหงัก ผมเลยตั้งท่าจะออกจากห้อง แต่บังเอิญผมดันปวดอึซะก่อนก็เลยต้องวิ่งเข้าห้องน้ำสายไปอีกสิบนาที ก็แบบนี้แหละครับเรื่องข้าศึกโจมตีมันไม่เข้าใครออกใคร ให้มันบุกมาตอนนี้ก็ยังดีกว่าตอนที่มันบุกตอนอยู่บนรถแล้วนั่งบิดไปบิดมาให้สะเทือนเล่น แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำคริสก็หายไปซะแล้ว

"คริส..."

เงียบฉี่...

สงสัยมันคงหาที่หลับไปแล้วมั้ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหามันต้องรีบไปมหาลัยเดี๋ยวไม่ทันวิชาสำคัญไม่งั้นเจอสายตาพิฆาตของอาจารย์อีก ผมรีบคว้ากระเป๋าที่ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าไม่แน่ใจสะพายขึ้นบ่า แล้วรีบวิ่งออกจากห้องในทันที สงสัยผมคงจะขนสีเยอะเกินไปมันก็เลยหนักแถมหิ้วเฟรมอีกข้างนี่พะลุงพะลังเกินทน พอมาถึงมหาลัยผมก็เอาของไปฝากไว้ที่ซุ้มแล้วรีบวิ่งตัวเปล่าไปที่ตึกเรียน อาวุธคือปากกาหนึ่งแท่งที่เหลือไปหาเอาข้างหน้า...

"สายอีกแล้วนะมึง" ไอ้ไก่มันทัก ผมพยักหน้าให้มันไปทีแล้วฟังอาจารย์บรรยาย

"เป็นไงมั่งเรื่องงาน" แอบแยบถามมันหลังจากที่นั่งหายเหนื่อย ไอ้ไก่มันยังทำตัวเป็นปกติครับไม่ได้ดูมีพิรุธอะไร

"เสร็จแล้ว กว่าจะเสร็จนี่ก็ยันเช้านั่นล่ะ"

"ฮะ!? นี่มึงกับพี่ชินทำงานกันยันเช้า?"

"จะเสียงดังทำไมวะก็แค่ทำงาน พอๆเดี๋ยวอาจารย์ด่าเอา" แล้วมันก็ก้มลงจดที่อาจารย์บรรยายต่อ

โอ้โฮวววววววววว!!! เชี่ยไก่มันร้ายกาจ  มันอยู่กับพี่ชินทั้งคืน มันทำรายงานหรือมันทำการบ้าน(ปั่มปั้ม)กันวะ? ยิ่งเพิ่มต่อมความอยากรู้กระตุ้นให้มันทำงานอย่างเต็มเปี่ยม ผมยังค้างคาตกลงไอ้สองคนมันคบกันจริงไหม

"แล้ว... มึงทำรายงานกันอย่างเดียวหรอวะ?"

มันเงยหน้าหันมามองแบบซื่อๆ "อืม ก็ทำรายงานไงมึงจะให้กูทำอะไรวะ?"

"ก็... มึงกับพี่ชินเอิ่ม..." เชี่ย... ไม่กล้าถามกลัวหน้าแหก แล้วเดี๋ยวมันจะหาว่าทะลึ่ง อย่ายัดเยียดเรื่องส่วนตัวให้เพื่อนจะดีกว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแฟนกันจะต้องเล่นผีผ้าห่มตอนกลางคืนถึงแม้ว่าผมกับคริสเราจะ...

"เอ้าไอ้ห่า พูดไม่จบเสือกหน้าแดงอีก" แล้วมันก็ส่ายหน้าแบบเอือมๆ

ฮะ ฮ๊ะ? หน้าแดงหรอนี่กูหน้าแดง ไม่ม้างงงงงงง สงสัยจะร้อนแดด...

ก็อย่างว่าล่ะครับผมไม่กล้าถามมันถ้ามันไม่บอกผม เพราะงั้นต้องแถ "ว่าแต่ไอ้ไก่... เดี๋ยวนี้มึงคบกับใครอยู่วะ?" เอียงคอถามมันที่ดูตั้งใจเป็นพิเศษ วันนี้ทำไมมันดูขยันเรียนกว่าทุกวันวะ!

"คบหรอ?" มันเลิกคิ้วหันมาทางผม แล้วแค่นหัวเราะแบบตลกในคำถาม "นี่มึงไม่สบายปะ?ถามอะไรแปลกๆ ถ้ากูคบมึงก็เห็นกูควงเด็กแล้วล่ะไม่มาเดินคู่กับมึงหรอก"

"เชี่ยถามดีๆนะสัด" นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวอาจารย์จะเห็นผมตบกบาลมันไปล่ะกวนตีนชิบหาย มันยังมีหน้ามาหัวเราะใส่อีก มีเพื่อนกวนตีนเหมือนกันก็รำบากแบบนี้ล่ะครับ เอาวะ! ถามมันไม่ได้ผลเดี๋ยวไปตอดถามพี่ชินก็ได้ แต่รายนั้นหนักกว่าเพราะผมกับพี่แกไมได้สนิทกัน แต่เพื่อเพื่อนแล้วผมควรที่จะหน้าหนาเข้าไว้อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าไอ้ไก่มันคบใครจะได้อยู่ในสายตาผม เวลาอยากกวนมันก็ยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาแซวน่าจะดี... หึหึหึ...

หลังจากเรียนเสร็จเราก็พากันไปซื้อข้าว และตรงไปที่ซุ้มทันที...

ช่วงบ่ายที่ซุ้มค่อนข้างคึกครื้นครับ อยู่กันหลายคนมีทั้งรุ่นน้องกับรุ่นๆผมปะปนกันไป กินข้าวนี่ไม่ต้องกลัวเหงาครับอยู่กันเป็นครอบครัว ผมหิ้วกล่องข้าวมันไก่กับไอ้ไก่ที่กินพวกเดียวกันเหมือนกันกับผมตรงดิ่งไปที่โต๊ะหินอ่อน แล้วแทรกตัวที่ว่างข้างๆพี่ชินในทันทีแล้วเว้นให้ไอ้ไก่นั่งด้วยแต่มันเสือกไม่นั่งครับ มันกลับข้ามไปนั่งกับไอ้แบคที่กำลังแดกข้าวไปด้วย เล่นไพ่ไปด้วย... ธุรกิจพวกมันนี่รัดตัวกันจริงๆ

"ว่าไงเต๋าไม่เจอหลายวันเลย" พี่ชินทักผมๆเลยทักพี่เขาบ้าง

"อะไรกันพี่เมื่อวานผมยังเจอพี่เลย แปปนะพี่... ไอ้ไก่มานั่งข้างๆกูดิ่" เรียกไอ้ไก่ที่เล่นตัว แล้วพวกอีแคทพี่เดียร์ก็เตรียมจะแซว

"พอเลยพี่ วันนี้พวกผมโดนงานมาจะคุยเรื่องงาน" ไอ้ไก่รีบเบรกพวกพี่เขาไว้ แต่ก็ไม่พ้นหรอก

"หรา"

นั่นล่ะครับคำเดียวแต่สื่อความหมายได้กวนตรีนมาก พี่คับปล่อยน้องนุ่งไปสักวันมันคงจะเป็นบุญของพวกผมมาก ไอ้ไก่นี่มันทำตัวได้มีพิรุธกว่าเดิม ผมว่าชัวๆ!

"ไหนว่าคุยงาน มึงก็มานั่งข้างๆกูดิ่"

"แดกข้าวก่อนดิเดี๋ยวติดคอตายห่า"

แม่งข้ออ้างเยอะชิบหายไม่อยากอยู่ใกล้พี่ชินให้กูจับพิรุธก็บอก แต่ช่วงเวลานี้อยู่ในช่วงเอาชีวิตรอดครับมื้อกลางวันเป็นมื้อที่ดีที่สุดหลังจากที่ไม่ได้กินข้าวเช้ากันมา พวกผมเลยก้มหน้าก้มตากินประหนึ่งอดอยากมาแรมปีก็ว่าได้

แอบเหล่ไปทางพี่ชินที่เห็นสายตาเขาเอาแต่จับจ้องไปทางไอ้ไก่ ปากก็เคี้ยวข้าวไปไม่ได้สนใจรอบข้างนัก... ได้กลิ่นตุ่ยๆ...

"พี่..." เอาวะรวบรวมความกล้า...

"หืม?" พี่เขาเลิกคิ้วหันมามองว่าผมเรียกทำไม ผมจะถามดีป่าววะ? แต่ไหนๆก็เรียกแล้ว

"เมื่อวานผมเห็นพี่กับไอ้ไก่ที่โรงหนัง..." แล้วก็ทำปากจุ๊บประกอบให้พี่แกรู้ตัว

แล้วพี่แกก็เบิกตาโพลง ปากที่เคี้ยวๆข้าวอยู่นี่ถึงกับหยุดกึกในทันทีด้วยอาการตกใจ... หรือผมจะพูดตรงไปวะ ผมยิ้มแหยๆให้พี่เขาพลางลูบท้ายทอยแก้เขิน แล้วทำไมกูต้องเขินแทนพวกเขาวะ "ถ้าพี่ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรครับผมเห็นพี่แก่กว่าผมหลายปีแล้วแบบ ผมก็ไม่ได้รังเกียจพวกพี่นะ แต่ไอ้ไก่มันไม่ยอมบอกผม..." แล้วเหลือบมองพี่ชินที่กินข้าวไปฟังผมไปด้วย ท่าทางพี่เขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรที่ผมรู้ความจริง

มองพี่เขาอย่างมีความหวัง... "อืม... ก็นะ  ต้องบอกว่าเริ่มคบกันมากกว่า" (นั่นไง ตบขาเข้าฉาด!) "แต่ไก่เขาไม่อยากให้เรารู้เพราะกลัวจะเสียเพื่อนน่ะ รอให้ไก่มีความกล้ากว่านี้หน่อยก็คงจะบอกเราเอง"

"แต่ผมคบกับมันมาตั้งนานนะกับเรื่องแค่นี้?"

"ชู่วววววว" พี่ชินเอานิ้วแตะปากให้ผมพูดเบาๆ แต่พี่ครับนี่พูดจนจะกระซิบอยู่แล้ว "พี่รู้พี่เข้าใจ แต่ไก่เป็นคนขี้อายนี่เราก็น่าจะรู้ ถือซะว่าพี่ขอได้ไหม? จนกว่าไก่จะบอกความจริงกับเราช่วยทำเป็นไม่รู้ว่าพี่กับไก่คบกัน" แล้วพี่ชินก็ยิ้มหล่อให้ผมเหมือนร้องขอ

"ได้มันก็ได้นะพี่ แต่พี่จะดูแลเพื่อนผมดีไหมอะ นี่ผมหวงเพื่อนนะ" แอบแซวสักเล็กน้อย พี่ชินกลั้วหัวเราะ

"แน่นอนขอบใจมาก" แล้วพี่เขาก็ยกมือลูบหัวผมเบาๆเอาซะไอ้เต๋าอายเลย เหมือนตัวเองเป็นเด็กๆที่ได้รับการเอ็นดูจากผู้ใหญ่ ปีนี้พี่ชินก็26แล้วล่ะครับแถมพี่เขาอยู่ที่ซุ้มมานานแทบจะเป็นปูชณียบุคคลเลยก็ว่าได้... ขอโทษครับพี่ที่นินทาในใจแหะๆ

"ถ้ามีปัญหาอะไรปรึกษาผมได้นะ เรื่องไอ้ไก่ผมรู้ทุกอย่างแม้กระทั่งไฝที่ตูดมัน ผมเคยเห็นตอนเข้าค่ายเมื่อปีที่แล้ว"

"ฮ่าๆๆๆ ขนาดนั้นเลย เอางี้ดีกว่าพี่จะช่วยเราตอบแทน แล้วเราก็ช่วยพี่เรื่องไก่"

"โหยพี่ไม่เป็นไรคนกันเอง ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร"

พี่ชินเขายิ้มให้ผมจนตาหยีก่อนที่เขาจะพูดอะไรบางอย่างออกมาซึ่งผมก็ไม่เข้าใจนัก "เต๋ารู้อะไรไหม? เราเป็นเด็กดีนะ พี่ชอบนิสัยเราที่มองอะไรในแง่ดีอยู่ตลอด แต่บางครั้งสิ่งที่เห็นที่คิดก็ไม่ได้ดีเสมอไป"

"เอ่อ... ผมรู้คับพี่แต่ผมก็เป็นแบบนี้แหละอะไรจะเกิดก็เกิด" ยิ้มให้พี่เขาแหยๆ

"คิดแบบนี้ได้ก็ดีไป แต่พอถึงเวลาเราจะคิดแบบนี้จริงหรือเปล่า? ก็ไม่ ไม่มีใครคิดทันหรอกถ้าเกิดอะไรที่มันไม่คาดคิดขึ้น"

"นี่พี่จะบอกอะไรผมหรอครับ?" จากที่ดีๆนี่เครียดขึ้นมาเลยครับ เริ่มสับสนกับไอ้พี่ชินละนิ่

"รู้อะไรไหม เราต้องขอบคุณไก่นะที่ทำให้พี่เลิกสนใจเรา"

เห?

"อะ เอ่อ..." ผมนี่ถึงกับไปไม่เป็น พูดไม่ออก นี่พี่ชินจะสื่ออะไร๊อ่ะ พี่ช่วยขยายความได้ไหมครับ!

มองพี่ชินที่ยิ้มให้กับผมก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนตบไหล่ผมปักๆ "พรสามข้อน่ะ ถ้าฉลาดใช้ก็เป็นประโยชน์กับตัวเรา แต่ถ้าใช้ในทางที่ผิด... เราคงได้เจอกันอีกครั้ง..." แล้วพี่ชินก็เดินถือกล่องข้าวไปทิ้งที่ถังขยะ เดินไปหาไอ้ไก่กระซิบอะไรบางอย่างที่ผมเห็นว่าหน้ามันแดงขึ้นมาซะดื้อๆ ก่อนที่พี่เขาจะเดินออกไปจากซุ้ม....

พี่ครับทุกวันนี้ผมก็เจอกับพี่ทุกวันอยู่แล้วนะ แล้ว... ละ แล้ว... พี่เขาพูดถึงพรสามข้อ พรไรวะ? นี่ผมงงว่ะไม่เข้าใจเลย ผมนี่รีบลุกขึ้นกระโดดออกจากเก้าอี้ด้วยความเร็วจนเพื่อนๆมันตกใจในอาการของผมเพื่อรีบวิ่งตามพี่ชิน แต่พอมาถึงทางแยกผมว่าผมเห็นหลังพี่แกไวๆพอพ้นทางพี่ชินก็หายไปซะแล้ว นี่มันคืออะไรครับผมไม่เข้าใจเลย พี่ชินพยายามจะบอกอะไรกับผมกันแน่!

"เฮ้ย! เป็นอะไรวะ" ผมหันไปทางไอ้ไก่ที่จับไหล่ผม

"มึงรู้ปะว่าพี่ชินเรียนอะไรต่อจากนี้"

มันส่ายหน้า "วันนี้พี่เขาไม่มีเรียน แล้วมึงอะเป็นอะไรดูร้อนรนแปลกๆ"

ผมเงียบไปครู่ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินกลับไปที่ซุ้ม เก็บเอาความสงสัยเพื่อกลับไปถามคริสที่บ้านดีกว่าไหม หรือพี่ชินจะรู้เรื่องดอลฟี่ต้องสาป...

ผมว่า... โลกนี้แม่งอยู่ยากขึ้นทุกวันว่ะ...

"วันนี้มึงจะกลับเร็วหรอ? ไหนๆก็เอาสีกับเฟรมมาแล้วไม่นั่งทำงานก่อนวะ" ไอ้ไก่มันถามตอนที่ผมวานให้ไอ้ส้มมันหยิบกระเป๋า

"อืมกูมีธุระที่จะต้องทำว่ะ" มองเวลาในมือถือตอนนี้ก็บ่ายสามแล้วล่ะครับ

"อะพี่เต๋ากระเป๋า หนักมากเลยเนี่ย" ผมรับกระเป๋าจากไอ้ส้มมาแล้วก้มลงมองเพื่อที่จะรื้อเอาสีออกมาให้ไอ้ส้มมันยืม

"ธุระอะไรวะ แล้วเมื่อก่อนหน้ามึงคุยอะไรกับพี่ชิน มึงดูแปลกๆนะ?"

ผมเงยหน้ามองไอ้ไก่ที่ไม่ยอมเลิกถาม "มึงน่ะแหละมีอะไรไม่บอกกูหรือเปล่า" มันเลิกคิ้วแล้วส่ายหน้าแบบซื่อๆ เฮ้อ....

"เปล่า ก็แค่คุยปกติหวงจังนะมึงเนี่ย" แอบแซวมัน

"อะ อะไรกูกับพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรกัน" แหมมมมมม... ไอ้ไก่ปากแข็ง!

ผมเบะปากส่ายหน้าแล้วเตรียมเอาสีออกมาให้ไอ้ส้มมัน แต่พอผมเปิดซิบกระเป๋าเท่านั้นล่ะ....

"...."

"เฮ้ย!!!"

"อะไร!?" ไอ้ไก่กับไอ้ส้มมองผมด้วยความตกใจ แม้กระทั้งเพื่อนๆในซุ้ม ผมนี่รีบเงยหน้าแล้วส่ายหน้ารัวๆตอบในทันทีว่าไม่มีอะไร ก่อนจะก้มลงมองเพื่อความแน่ใจ

"..." ชัด... ชัดเลย... ไอ้หน้าแอ๊บแบ๊วดวงตาสีครามทะเลที่นั่งคุดคู้อยู่ในกระเป๋านี่ชัดเลย....

"อ้าวพี่เต๋านี่มันคะ อื้อ!!!" ไอ้ไก่รีบเอามือปิดปากไอ้ส้มทันที...

"..." ไอ้ส้ม... เอ็งอย่าตอกย้ำพี่นักสิวะ...

ว่าแต่... ไอ้ตุ๊กตาดอลฟี่บ้านี่มันจะตามผมมาที่มหาลัยทำไมวะเนี่ย!

 :z3:







......
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 20-12-2014 18:04:25
เอ...พี่ชินนี่มีตุ๊กตาอย่างนี้เหมือรกันเหรอเนี่ยชักน่าสงสัย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 20-12-2014 21:48:43
ที่คริสไม่โวยวายเพราะแอบตามมาสินะ....
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 20-12-2014 22:36:31
หรือไก่ที่เต๋าเห็นวันนั้น จะไม่ใช่ไก่?! และ...และถ้าใช้พรสามข้อไม่ดี จะได้เจอพี่ชินอีกที หมายความว่า...!!!

หมายความว่า...!!!

...ว่าอะไรวะ?!

นังคริสทำเป็นเชื่อง ที่แท้...มิน่า กระเป๋ามันหนักๆ 5555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-12-2014 00:13:22
พี่ชินเป็นซาตานเหรอ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-12-2014 06:41:36
 :katai2-1:  สนุกมากค่ะ คนเขียนสู้ๆนะคะ
ขอตอนพิเศษวันปีใหม่ก็ได้นะคะถ้าจะกรุณา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 21-12-2014 15:51:12
พี่ชินต้องมีไรในกอไก่ เอ้ย กอไผ่ชัวร์
เป็นซาตานแน่ๆ ฆ่าพี่ชินเลย คริสจะได้เป็นอิสระ
ฆ่ามานนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 17- P9 - 20/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 23-12-2014 00:21:56
พี่ชินนี่ก็ดอลฟี่ป่ะ ส่วนเลย์ก็ดอลฟี่สินะ ดอลฟี่เต็มไปหมดเลย ฮื่ออออออออ

ชอบอ่ะเดินเรื่องน่ารักดี เต๋าก็สาวขึ้นทุกวัน แอร๊ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 24-12-2014 10:14:40
 :katai4:
ก่อนอื่นต้องอภัยที่หายไปนาน เเต่เพราะว่าหาเวลาว่างไม่ได้เลยงานเยอะมาก :hao5:
เเต่ตอนนี้เริ่มเคลียร์ๆได้เเล้ว หวังว่าคงไม่ลืมกัน เเละเพื่อดอลฟี่คริสไปเสียก่อน
อยากจะตอบคอมเม้นทุกคนนะ เเต่กลัวตอบไปแล้วจะหลุดพล็อตของตัวเอง
ขอบคุณนักอ่านบางท่านที่รอคอยเเละติดตามอยู่ขอรับ :heaven








DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป 
18





คุยกับพวกที่พูดไม่เรื่องนี่มันน่าหงุดหงิดครับ แต่คุยกับดอลฟี่ที่ไม่เข้าใจภาษามนุษย์นี่มันน่าหงุดหงิดยิ่งกว่า...

มันจะตามมาทามม้ายยยยยยยยยย!!!!

หลังจากที่เห็นคริสอยู่ในกระเป๋าผมก็รีบปิดซิบแล้วเผ่นออกมาจากซุ้มในทันที ดีที่ว่าไอ้ไก่กับไอ้ส้มมันไม่ได้ถามว่าทำไมผมถึงพาคริสมามหาลัยด้วย พอเห็นห้องน้ำโล่งๆปลอดคน ผมรีบตรงดิ่งเข้าไปห้องด้านในสุดแล้วเปิดซิบให้คริสออกมา

"นี่เล่นบ้าอะไร?" ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก ทำไมไอ้ตุ๊กตาบ้านี่มันถึงได้ชอบงอแงนัก

คริสไม่ตอบกลับในทันที เขากระโดดลงบนพื้นห้องน้ำ และขยายตัวเป็นชายร่างสูง จากห้องน้ำแคบๆตอนนี้แทบจะไม่มีอากาศหายใจเลยล่ะ!

เงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มออกมาบางๆ แล้วมันก็พูดน้ำเสียงไม่น่าเชื่อเท่าไร "ก็เป็นห่วง"

เหอะ! เป็นห่วงหรอ? นี่เชื่อมากเลยนะหน้ามันนี่ดูลั้นลามาก เมื่อวานยังเที่ยวไม่พอหรือไง! "นี่มาเรียนไม่ได้มาออกรบซักหน่อย พอเลยจะกลับห้องแล้วกลับไปเป็นตุ๊กตาเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้!" ผมสั่ง

แต่ดูเหมือนว่าคริสจะเชื่อผมมาก "..." ใช่... เชื่อมาก เชื่อขนาดที่ว่ามันยังยืนอยู่เฉยๆแล้วยิ้มจนตาหยีเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง นี่มันจงใจยั่วโมโหผมใช่ไหมเนี่ย!

"คริส!"

"ชู่วววว..."

พอผมตะคอกใส่ มันกลับเอามือปิดปากผมไว้แล้วยกนิ้วส่งสัญญาณให้เงียบเสียงลง ผมทำได้แค่ย่นคิ้วเข้าหากันมองร่างสูงรอดูว่ามันคิดจะทำอะไรกันแน่ ไม่นานนักกลับมีเสียงฝีเท้าของนักศึกษาที่เดินเข้ามาในห้องน้ำ แต่เสียงพวกเขาอยู่ไกลมากคาดว่าน่าจะอยู่อีกฝั่งของห้องน้ำ

"น่าเสียดายที่พี่เขากลับบ้านเร็วไม่อย่างนั้นคงชวนไปบ้านแล้ว" เฮ้ย! นี่มันเสียงไอ้ส้มหรือเปล่าวะ!

"ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกไม่นานเขาคงได้พบเราอีก"

"แต่ส้มอยากให้เลย์เป็นคนเร็วๆนี่ แล้วไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า แต่ถึงจะคิดแบบนั้นส้มก็กลัวว่าพี่เขาจะไม่ยอมช่วย..."

"ไม่เป็นไรนะเด็กดี... เลย์จะช่วยอีกแรงคาดว่าพ่อมดคงจะหาหนทางนี้ได้"

"แต่... ส้มกลัว"

"ความกลัวคือสิ่งที่น่ารังเกียจ... หากอยากช่วยเลย์ก็ต้องกำจัดความกลัวเหล่านั้นไปซะ..."

"ตะ แต่.."

"..."

เอิ่ม.... นี่ไอ้ส้มมันกำลังพูดถึงใครครับ?

บทสนทนาที่ได้ยินมันทำให้ผมใจเต้นอย่างแปลกประหลาดเหมือนได้ยินความลับอะไรบางอย่างของไอ้ส้มกับคนชื่อเลย์ ผมนี่นึกถึงใบหน้าหล่อๆของคนเมื่อวานเลยครับ และคาดว่าน่าจะเป็นคนๆเดียวกัน เงยหน้ามองคริสแล้วต้องสะดุ้งโหยงเมื่อแววตาสีครามนั่นมันช่างดุดันแลน่ากลัว มือหนายึดไหล่ของผมเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดราวกับหวงแหนผมก็ไม่ปาน

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน นี่ไอ้ส้มมันคิดจะทำอะไรอย่างนั้นหรอ? แล้วพี่ที่ว่านั่นมันใช่ผมหรือเปล่า ผมกำลังคิดในแง่ดีอยู่ว่ามันอาจจะหมายถึงเรื่องอื่น เราไม่ควรที่จะตีความไปก่อนหากไม่รู้ความจริงจากปากเจ้าตัว ตั้งท่าจะออกไปแสดงตัวคริสกลับจับมือของผมเอาไว้แน่น พอเงยหน้ามองมันกลับส่ายหน้าเนิบๆเพื่อห้าม

"เมื่อวานเลย์เห็นหน้าเขาแล้ว... ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพาตัวไป รอโอกาสเหมาะๆเสียก่อน"

"แต่เลย์... ส้ม... ขอส้มคิดเรื่องนี้อีกทีจะได้ไหม?"

"ส้มไม่รักเลย์อย่างนั้นหรอ?"

ผมนี่อยากจะแสดงตัวเข้าไปขวางพวกเขาจริงๆให้ตาย เรื่องสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านนี่เป็นงานถนัดครับ แต่บทสนทนานี่มันกลับทำให้ผมรู้สึกผิดที่ดันมาได้ยินเข้า ตั้งท่าจะออกไปคริสมันกลับห้ามผมไว้อีกครั้ง...

เฮ้ย! อย่าห้ามสิไอ้ส้มมันกำลังโดนล่อลวงนะแล้วไอ้ที่ผมได้ยินนี่มันส่อไปในทางที่ไม่ดีชัดๆ! ผมมั่นใจว่าน้องของผมมันเป็นคนดีนะอย่างน้อยก็กีดกันมันออกมาจากคนชื่อเลย์นั่นก็ยังดี!

แต่มาคิดอีกที... ถ้าเกิดผมออกไปแล้วพวกมันไม่ได้ทำอะไรมากกว่าที่ผมคิดล่ะ หรือผมจะระแวงไปเอง...

ถ้าขืนเป็นแบบนั้นนี่คงหน้าแหกหมอไม่รับเย็บดีไม่ดีถูกรุ่นน้องมองไม่ดีด้วย นี่อาจจะเสียคนดีๆอย่างไอ้ส้มไปเลย แถมมันยังใช้งานง่ายด้วย...

แต่พอผมคิดได้เสียงของพวกเขาก็เงียบไปแล้วล่ะครับ มีเพียงแค่ผมกับคริสที่กำลังแลกอากาศหายใจกันอยู่ในห้องน้ำแคบๆ เงยหน้ามองคางเรียวตาปริบๆ เสมือนตัวเองอยู่ในหนังรักใคร่แล้วมีเพลงรักหวานซึ้งประกอบให้มันพรุ้งพริ้ง...

แต่... บรรยากาศไม่เป็นใจครับ กลิ่นไม่ค่อยจะอำนวยเท่าไรพวกผมจึงต้องพากันเคลื่อนย้ายออกมาจากห้องน้ำแคบๆนี่โดยด่วน!
กอบโกยอากาศเข้าเต็มปอดแล้วหันไปถามคริส "เมื่อกี้ไอ้ส้มมันหมายความว่าอะไรน่ะ  เพื่อนมันชักชวนทำอะไรที่ไม่ดีเปล่าวะ?" แต่มันกลับยืนนิ่งเหมือนกำลังครุ่นคิด ผมนี่ทำได้แค่ถอนลมหายใจเฮือกๆ ห่วงน้องก็ห่วง สงสัยก็สงสัย แถมคริสมันยังทำตัวได้น่าหงุดหงิดอีก

"ถามไม่ตอบ นายนี่มันกวนประสาทจริงๆ" ส่ายหน้าแบบเอือมๆให้มันไปทีแล้วตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้องน้ำแต่คริสกลับยึดไหล่ของผมเอาไว้

"อะไรอีกล่ะ ปล่อยสิจะกลับห้องจะได้ไปคุยกันที่ห้องไง"

"ไม่ได้ กลับปกติไม่ได้แล้ว"

"ฮะ?" อะไรของมันดูร้อนรนชอบกล "เป็นอะไรของนายอีกเนี่ย"

"มีอะไรบางอย่างที่ชั่วร้าย และคริสคิดว่าพ่อมดชั่วนั่นอาจจะอยู่ใกล้ๆตัวเรา"

"ฮะ! อะไรนะ" อยู่ๆก็มาพูดแบบนี้นี่ผมงงไปหมดละนะ ถามมัน "ทำไมถึงคิดแบบนั้น มันจะมาโผล่ที่นี่ได้ยังไงทั้งๆที่นายก็ตามหามันมานานมากแล้ว แถมมันก็ตายไปแล้วนี่"

"นั่นมันก็แค่สิ่งที่คริสคิดเท่านั้น ส้ม... เมื่อครั้งที่เจอกันครั้งแรกไม่ได้มีกลิ่นอายของความชั่วร้ายอยู่เลย แต่ตอนนี้..." มันเงียบเสียงไป และทำสีหน้าตึงเครียด

"นี่จะบอกว่าไอ้ส้มเป็นพ่อมด? บ้าน่ะ! นั่นมันน้องกูไอ้ส้มมันนิสัยดีจะตายไป" ผมโวย

คริสส่ายหน้า "ครับไม่ใช่ส้มแต่เป็นคนอื่น"

"ฮะ? คนอื่น แล้วใครกันล่ะ"  ถามกลับไปด้วยความสงสัย แต่ไม่ทันที่คริสจะพูดอะไรกลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น แสงไฟในห้องน้ำที่เคยส่องสว่างกลับเกิดปัญหาติดๆดับๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัยพลางมองไปรอบๆบริเวณเมื่อบรรยากาศมันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันดูเงียบสงบราวกับว่าที่นี่ไม่มีใคร

"เดินทางกลับปกติไม่ได้แล้ว มาเถอะ"

"ฮะ อะไร?" ไม่ทันที่ผมจะถามว่ามันจะทำอะไร คริสกลับทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ดวงตาของผมเบิกโพลงเป็นไข่ห่านจ้องมองภาพตรงหน้าแฟนตาซีทะลุจอ เมื่อคริสใช้เล็บของเขากรีดม่านอากาศเป็นทางยาวจนเกิดช่องมิติ เห็นทุ่งกว้างที่ส่องแสงออกมา รู้สึกว่าทิวทัศน์นี้ผมจะเคยเห็นมันมาผ่านๆตาตอนที่คริสพาผมกลับห้องตอนที่ป่วย ตอนนี้มันชัดแล้วว่าคริสพาผมกลับห้องทางไหน

"ไปกันเถอะ"

หมับ!

"เฮ้ย! อุ้มทำไมเนี่ย!"

"ไม่ได้เดี๋ยวไม่ทัน"

"ไม่ทันอะไรวะปล่อยจะเดินเอง"  พอผมจะโวยมันก็วิ่งเข้าไปข้างในด้วยความเร็ว...

"บะ บะ เบา ห่อย กะ ด้าย กู สะเฮือน" นี่ตรูพูดภาษาอะไรวะเนี่ย! แล้วไอ้บ้านี่มันก็วิ่งไม่คิดชีวิตจริงๆ ตอนนี้สภาพเหมือนพวกเด็กช่างโดนวิ่งไล่กระทืบยังไงยังงั้น  คริสมันก้มลงมองผมครู่หนึ่ง

"แปปเดียวนะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" มันบอกผมว่างั้นผมเลยพยักหน้าจนฟันมันกระทบกันหงึกๆ เพราะว่ามันวิ่งอย่างกับติดไอพ่นผมเลยขยับตัวโอบกอดมันเอาไว้แล้วเอาหน้าซุกไหล่แต่ทว่า...

เหี้ยแล้วไง! นั่นมันตัวอะไรวะ!?

"เฮ้ย! ตัวไรอ่ะ" พยายามมองเพ่งผ่านไปตามทางเหมือนเห็นตัวอะไรไม่รู้เหมือนลูกกลอกวิ่งตามมา แต่ตัวมันดำมากตาสีแดงจัด ผมนี่ขนลุกซู่เลยครับพี่น้อง นี่ผมเห็นภาพลวงตาหรือไอ้ที่ตามมานี่มันเป็นผีวะ!

เชรดดดด! ผีหลอกกลางวันแสกๆเรอะ? ไม่สินี่มันเย็นแล้วโว้ยยยยย! ผีหลอกกกกกกกกก!!!!!

คริสหันกลับไปมองครู่หนึ่ง สีหน้าเขาดูเครียดมากก่อนจะสั่งผม "หลับตา"

"ฮะ?"

"หลับตาเร็วเข้า!"

เออๆ หลับก็หลับ! ไม่สั่งก็หลับอยู่แล้วเว้ยตัวอะไรไม่รู้น่ากลัวชิบหาย!

ผมกอดคอคริสเอาไว้แน่นหลังจากที่ทำตามคำสั่ง รู้สึกเหมือนร่างสูงจะหมุนตัวกลับไปทางตัวประหลาดเหล่านั้น ได้ยินเสียงดังวาบเกิดแสงสว่างกระทบเปลือกตาก่อนที่มันจะดังปัง! ไปทั่ว ไม่อยากบอกว่านี่มันยิ่งกว่า3Dอีกครับ! ทั้งกลิ่นไหม้กลิ่นดิน และเสียงร้องที่ดูน่ากลัวเหมือนเจ็บปวด ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เสียงสงบลง

"ใกล้จะถึงแล้ว" มันบอกผมน้ำเสียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายเหมือนหนทางมันจะไกลกว่าเดิม ผมจะถามมันว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกตกใจจนใจตึกตักแต่ไม่ทันพูดมันออกมาหรอกครับ...

ครึก ครึก ครึก...

"เฮ้ย! นั่นมันไททันหรอ?"  ชี้ไปทางข้างหลังด้วยอาการตกตะลึงงัน คริสเหมือนจะตกใจไม่ต่างจากผมแต่คราวนี้เขาเลือกที่จะหนีมันไปเสียมากกว่า มือของไอ้ยักษ์ที่เหมือนไททันยกขึ้นร่างกายมันเต็มไปด้วยเปลวไฟอะไรสักอย่าง มันฟาดมือที่เหมือนดาบมาทางพวกผมจนเกิดทางยาว

ปัง!!!

"เฮ้ย!!!"

"ถึงแล้ว!"

"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!"

โครมมมมมมมมม!!!!!!

นี่กลิ้งอยู่ในห้องเป็นลูกขนุนเลยให้ตายสิวะ!

พยายามหมุนตัวลุกขึ้นด้วยความมึนงงหลังจากที่พวกผมประสบพบเจอกันเหตุการณ์ระทึกขวัญมาหมาดๆ พอหันกลับไปทางที่พวกผมออกมาก็เห็นว่าประตูนั่นถูกปิดด้วยความเร็วจนปีศาจร้ายนั่นตามมาไม่ทัน นี่เรากำลังเล่นหนังกันอยู่หรือไงวะ!

"นี่มัน.. เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!" สบถด้วยความตกใจระคนตึงเครียด รีบคลานเข่าไปดูคริสที่นอนแน่นิ่งอยู่ เฮ้ย! เป็นอะไรมากป่าววะเนี่ย ตอนนี้ผมช็อคมากที่เห็นคริสบาดเจ็บ!

"เป็นอะไรหรือเปล่า" เขย่าร่างหนาที่นอนไม่ได้สติได้กลิ่นไหม้บนแผ่นหลังของเขา จับร่างกายให้ลุกขึ้นโอบกอดผมแล้วมองแผ่นหลังนั่น ปรากฏเห็นเป็นแผลไฟทางยาวพร้อมๆกับเปลวไฟสีแดงที่เหมือนมันกำลังจะมอดดับ

"ไฟหรอ!" ไม่ได้การต้องรีบดับ

หมับ!

"ยะ อย่า" ไม่ทันที่ผมจะหาอะไรมาห้ามไม่ให้ไฟมันลุกขึ้น คริสกลับคว้ามือของผมเอาไว้ และห้ามเสียดังลั่น ผมทำได้แค่นั่งเอ๋อมองไอ้ตุ๊กตาบ้านี่กำลังพยุงตัวเองลุกขึ้น ผมจึงค่อยๆพากันพยุงตัวลุกขึ้นยืนมองร่างสูงที่มีใบหน้าเหยเกย คริสเอี้ยวตัวไปข้างหลังแล้วใช้พลังทำให้เปลวไฟนั้นดับลง ผมนี่นึกถึงกลิ่นไก่ย่างเลยครับ...

"เจ็บไหม? เป็นอะไรมากหรือเปล่า? แล้วไอ้ตัวเมื่อกี้มันคืออะไร แล้วๆๆๆ" แล้วอะไรดีว่ะตื่นเต้นโว้ย!

"ไม่มีอะไรไม่ต้องห่วง"

ไม่ห่วงก็บ้าแล้วเว้ย! สีหน้าที่เคยซีดอยู่แล้วตอนนี้มันซีดเสียยิ่งกว่าไก่ต้มเสียอีก ผมนี่ใจหายวาบเลยให้ตายดึงแขนของคริสพาร่างสูงเดินไปนั่งบนที่นอนแล้วสั่งมัน "อย่าเพิ่งขยับตัวนะ" แล้วเดินไปทางตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบกล่องยาที่ซุกไว้ กลับไปหาคริสพร้อมถอดเสื้อผ้าของเขาออกไป คริสไม่ได้ห้ามผมที่กำลังจะแก้ผ้าเขามันกลับมองผมอยู่อย่างนั้น ส่วนผมนี่เครียดมากตอนที่ถอดเสื้อแต่พอเห็นบาดแผลแล้วต้องย่นคิ้วเข้าหากัน

"หายไปแล้ว?"

"ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรไม่ต้องห่วง" มันยิ้ม

"ไม่ห่วงได้ไงก็โดนเล่นงานตั้งขนาดนั้น แล้วเมื่อกี้ตกใจมากเลยรู้ไหมทำไมเรื่องบ้าๆพวกนี้ถึงเกิดขึ้นกันฮะ" ค่อนข้างที่จะไม่พอใจ และโล่งใจในคราเดียวกันจนอยากจะร้องไห้ออกมาเลยให้ตายสิ

"ไม่ร้องนะ"

"ไม่ได้ร้องเว้ย! เมื่อกี้ฝุ่นดินมันเข้าตา" ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่กลัวมากจริงๆ ผมกลัวว่าจะสูญเสียคริสไปแล้ว

ร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้าค่อยๆเอื้อมวงแขนโอบกอดผมอย่างช้าๆ ตอนนี้รู้สึกทำอะไรไม่ถูกจริงๆมันอยากจะร้องไห้ออกมาแบบนั้น ซบลงบนอกแกร่งแล้วใช้อกมันซุกหน้าเช็ดน้ำตาได้ยินเสียงหัวเราะครืนมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกโมโห นี่ไม่ตลกเลยนะ แต่ทำไมมันชอบเห็นเป็นเรื่องตลกอยู่เรื่อย แล้ววันนี้ก็มีอะไรไม่รู้แปลกๆเยอะแยะ แล้วคนที่ชื่อเลย์เป็นใครผมนี่อยากจะรู้มาก

เงยหน้ามองคริสสบนัยน์ตาสีครามที่ดูอ่อนล้า "บอกมาเดี๋ยวนี้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น นายต้องรู้ใช่ไหม?"

คริสทำหน้าเหมือนหนักใจแล้วพยักหน้า "ใช่"

ผมดันไหล่มันออกไปเพื่อเผชิญหน้าก่อนที่มันจะแถไม่ยอมเล่าอะไรให้ผมฟังอีก "แล้วตกลงสิ่งที่เกิดมันคืออะไร?"

คริสสบตาผมนิ่งก่อนจะพูด "ดูเหมือนว่าเราคงไม่ต้องออกตามหาพ่อมดนั่นแล้ว... มันกำลังตามล่าเรา"

"ฮะ!?"

"ฟังไม่ผิดหรอก ดูเหมือนว่ามันยังไม่ตาย และอาศัยอยู่ในประเทศนี้"

"นี่นายจะบอกว่า เจ้าพ่อมดอะไรนั่นมันมีชีวิตยืนยาวมาเป็นร้อยๆปีแล้วมาโผล่มาอยู่ที่นี่งั้นสิ" คริสพยักหน้า

"จะเป็นไปได้เรอะ!?" คนนะไมใช่ไดโนเสาร์แม่งมีอายุเป็นร้อยๆปี

"เป็นไปได้ในเมื่อมันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา" เออผมลืมไป

"ถ้าอย่างนั้น... ไอ้ตัวประหลาดนั่นเป็นฝีมือของ..."

"น่าจะใช่"

ผมนี่มึนกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าถึงจะเจอเรื่องแปลกๆมามากแต่มันก็ไม่ชินเสียที "มันต้องการทำร้ายเรา?"

คริสส่ายหน้า "ไม่แน่ใจว่ามันต้องการที่จะทำลายคริสคนเดียวหรือเปล่า" ผมนี่ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

"ทำลายหรอ บ้าไปแล้วก็ไหนนายเคยบอกว่ามันเป็นคนทำให้นายเป็น..."

"ก็ใช่ แต่ตอนนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว และอีกอย่างคริสเองก็เป็นอันตรายต่อมันเพราะไม่มีใครกำจัดมันได้นอกจากคริส" ยิ่งฟังยิ่งสับสน ยิ่งมึนงงจนต้องนั่งก้มหน้ากุมขมับ ในใจกลัวมากจริงๆ ผมกลัวว่าจะสูบเสียดอลฟี่ของผม...

"ไม่ต้องกลัวนะ คริสจะปกป้องเต๋าเอง" มือหนาที่จับไหล่บีบคลึงเบาๆให้ผมคลายความกังวลออกไป แต่... ขอโทษนะไอ้คำพูดนี่มันต้องเป็นของผมสิวะ!

"นี่มันต้องเป็นคำพูดของฉัน ไอ้พ่อมดโรคจิตนั่นมันจะฆ่านาย ฉันสิต้องปกป้อง!" มันทำสีหน้าเหมือนตกใจก่อนจะหัวเราะครืน...

"..."

อะไร? ทำไม? นี่ไม่ตลกเลยนะดอลฟี่ของผมตั้งสามแสนนะ ถึงจะได้มาฟรีๆแต่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกชายของผมแล้ว ไอ้เต๋าไม่ยอมเฟร้ย! ข้ามศพข้าไปก่อน!

"ฮึฮึ เต๋านี่เป็นเจ้านายที่ตลกจัง"

"ถ้าขืนยังหัวเราะอยู่กูนี่แหละจะบีบคอมึงให้ตาย!" ฮึ่ม! ไอ้บ้านี่มันชอบทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปจริงๆ

"อ่า... รู้แล้วไม่หัวเราะก็ได้" มันยิ้มให้ผมจนตาหยี แต่นี่ไม่เคลิ้มหรอกนะ! กำลังอารมณ์ไม่ดี "แต่... ขอบคุณนะ" แล้วมันก็พูดกับผมเสียงอ่อนมาก...

น้ำเสียงดูเหนื่อยล้าอ่อนแรง ใจที่กำลังเคืองๆอยู่อ่อนยวบจนต้องถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมทำได้แค่พยักหน้าย่นคิ้วเข้าหากันในความเป็นห่วงดอลฟี่ของผม จับมือหนาเอาไว้ และกุมเอาไว้แน่น ถ้าผมสูญเสียเขาไปมันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ...

ในเวลานี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ดูน่ากลัวไปเสียหมด จากชีวิตที่ธรรมดากลับกลายเป็นไม่ธรรมดาหลังจากวันที่ผ่านพ้นวันเกิดผมมา มันเป็นอะไรที่น่าปวดหัวที่สุด

ผมเช็ดเนื้อตัวให้กับคริสที่นอนพิงอยู่บนหมอนด้วยความอ่อนล้า แม้ว่ามันจะไม่จำเป็นต่อคริสเลยที่ผมทำอย่างนี้แต่ผมอยากจะทำ และดูแล สีหน้าที่ดูอิดโรยดูมันเหมือนไม่ใช่คริสของผมมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีนัก เขาสูญเสียพลังเพื่อต้องการปกป้องผมนี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกกังวล...

"หรือว่าไอ้ส้มจะเกี่ยวอะไรกับพ่อมดนั่น... หรือว่าจะเป็นไอ้ส้มที่ทำเรื่องนี้กันล่ะ? แล้ว คนชื่อเลย์นั่น... แล้ว... วันนี้พี่ชินก็พูดอะไรแปลกๆ"

"หืม?" คริสเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเมื่อผมบ่นในสิ่งที่สงสัยออกไป

หลังจากที่ผมได้ยินในสิ่งที่พวกนั้นพูด เพียงแค่คล้อยหลังไปได้ไม่นานก็เกิดเรื่องแปลกๆ หรือมันจะเป็นอย่างที่ผมคิด ไม่สิ ผมกับไอ้ส้มรู้จักกันมาก็เกือบจะสองปีแล้วตั้งแต่มันอยู่ปีหนึ่งมันไม่มีทีท่าว่ามันจะเป็นพวกของพ่อมดเลย แถมมันยังนิสัยดีมากในความคิดของผม แต่กับไอ้พี่ชินผมไม่ค่อยได้สนิทกันอยู่แล้วแต่ก็ไม่เห็นเขาจะดูเหมือนคนเลวอะไรเลย ทุกคนล้วนมีภูมิลำเนาของตัวเองเพราะพวกผมก็มักจะไปเที่ยวบ้านเกิดของแต่ละคนในแต่ละปีบ่อยๆเวียนกันไป... ผมนี่คิดไม่ออกเลยจริงๆ

"ยังกังวลอยู่อีกหรอ?"

ผมเงยหน้ามองมัน "แน่สิ ยังข้องใจอยู่ ว่าแต่คนชื่อเลย์นั่น..."

"อืม... คนชื่อเลย์ไม่ใช่คน"

"ฮะ?" เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

"ไม่ได้ยินเสียงของหัวใจ... อาจจะเป็นเหมือนกับคริส"

"อะไรนะ!? นี่จะบอกว่ามีตุ๊กตาต้องสาปอีก?"

เขาส่ายหน้า "ไม่ใช่ เขาไม่เหมือนคริส..."

"ไม่เหมือนยังไง" ผมนี่อยากจะรู้จนหูผึ่ง

คนตรงหน้าถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลับตาของเขาลงก่อนจะเปล่งเสียง "ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถ้าอยากจะรู้ต้องเจอกันซึ่งๆหน้าอีกครั้ง แต่มันคงไม่ดีหรอก"

"ทำไมล่ะ?" ผมคิดว่ามันอาจจะดีด้วยซ้ำบางทีมันอาจจะมีทางออกที่จะทำให้คริสกลับมาเป็นคนได้

คริสทำหน้าเหมือนหนักใจ เขาดูเครียดจนผมกลัว "จำได้ลางๆว่า พ่อมดนั่นมีตำราเล่มหนึ่งที่สามารถทำให้ตุ๊กตาสามารถมีชีวิตเหมือนคนได้ แต่ตุ๊กตานั่นจะถูกสิงด้วยดวงวิญญาณชั่วร้ายมันจะรับใช้คนที่ปลุกมัน... จะบอกยังไงดีล่ะ อืม... มันไม่มีความรู้สึกเหมือนกับคริส" ผมพยักหน้าสื่อว่าเข้าใจ

"แต่... ในตำรานั่นมันไม่ได้บอกว่าตุ๊กตาจะกลายเป็นคนได้..."

"แต่คนชื่อเลย์นั่นดูเหมือนคน" ผมเองก็กำลังหาข้อสรุปของเรื่องนี้ แต่ดูท่ามันจะมืดแปดด้านจริงๆ

"ใช่... คริสจึงไม่เข้าใจ"

"แล้วเจ้าส้มล่ะ? ตกลงใช่พ่อมดหรือเปล่าหรือมันเกี่ยวข้องกัน?"

เขาส่ายหน้า "ไม่ใช่"

รู้สึกโล่งใจอย่างแปลกประหลาดที่มันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด หรือไอ้ส้มมันจะถูกชักใยข้างหลังอีกทอดหนึ่ง แต่คนที่น่าสงสัยอีกคนนี่คงเป็นพี่ชิน แต่คริสก็ไม่เห็นจะมีปฏิกิริยาอะไรเวลาที่เห็นพี่เขา ผมว่าไม่น่าจะใช่หรอกมั้ง ถึงเขาจะพูดจาแปลกๆแต่เขาก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด...

"งั้น....เราจะรู้ได้ยังไงว่าใครคือพ่อมดตัวจริง"

มันส่ายหน้าอีกละ "ไม่รู้"

เฮ้อ! ผมนี่อยากจะเอาหัวโขกหมอนให้ตายให้รู้แล้วรู้รอด อะไรมันจะวุ่นวายน่าปวดหัวอย่างนี้ไม่อยากจะคิดว่าสิ่งที่ผมเคยดูในหนังหรือเคยอ่านเกี่ยวกับพวกนิยายแฟนตาซีมันจะเป็นเรื่องจริง แต่อย่างว่า... ถ้าไม่อิงจากเรื่องจริงมนุษย์เราคงไม่มีทางคิดมันออกแน่นอน อย่างน้อยผมก็เป็นคนหนึ่งบนโลกล่ะที่รู้ว่าสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติเหล่านี้มันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แต่เรื่องพ่อมดนั่นผมต้องเรียกแก๊งนักสืบสกู๊ปปี้ดูมาไขคดีให้ปะ? ไม่แน่นะโคนันอาจจะเคยมีตัวตนจริงๆ...

สติจงกลับมาเถอะเต๋า...

"ไม่ต้องคิดมากนะ พวกมันไม่มีทางทำร้ายเต๋าได้ถ้าคริสยังอยู่หากพันธะระหว่างเรายังไม่หมด..."

ผมมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มบางๆให้....

เฮ้อ...!

พยักหน้าให้มันหงึกหงัก "อืมรู้แล้ว"

"แต่ในระหว่างนี้... พยายามอย่าอยู่ห่างคริสหรือไก่นะ..."

"อ้าวไอ้ไก่เกี่ยวไรอ่ะ?"

"พวกมันคงไม่กล้าที่จะแสดงตัวให้มนุษย์เห็น... ถ้าอยู่กับไก่อาจจะปลอดภัย"

"ออ งั้นหรอ.... อืมๆรู้แล้วน่า ทุกวันนี้ก็อยู่กับมันตลอดจนจะกลายเป็นฝาแฝดตัวติดกันอยู่แล้ว" ตอบกลับไปไม่จริงจังนัก คริสยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนที่เขาจะหลับตาลง ดูเหมือนว่าเขาจะเหนื่อยมาก เหนื่อยจนน่าเป็นห่วง ผมควรจะมีประโยชน์กับคริสมากกว่านี้อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้สึกดีได้บ้าง ถาม "แล้วจะกลับมาเป็นปกติอีกเมื่อไร ไม่ชอบเลยที่เห็นนายดูอ่อนแอ"

ดวงตาสีครามค่อยๆลืมตาขึ้นมองผมอย่างช้าๆ กลีบปากอวบอิ่มยิ้มที่มุมปากบางๆ ยกมือหนาขึ้นจับใบหน้าของผมเบาๆจนผมรู้สึกใจเต้นแรง สบตาเขา ในเวลานี้เหมือนเวลามันหยุดหมุนอีกแล้ว...

"แค่รู้ว่าเจ้านายเป็นห่วงก็รู้สึกดีแล้วล่ะ" แล้วเขาก็ยิ้มให้ผมจนตาหยีอีกครั้ง...

อ๊ากกกกก ใจมันเต้นตึกตักเสียกว่าตอนที่หนีปีศาจพวกนั้นซะอีก!

"อย่ามาปากหวานน่า แล้วนี่มีอะไรที่พอจะช่วยได้หรือเปล่า" ถามกลับไปเหมือนมีความหวังว่าจะมีประโยชน์กับมันบ้าง
ใบหน้าหล่อเหลาที่ทอดมองมาค่อยๆแย้มยิ้มอย่างช้าๆ ผมว่ารอยยิ้มของมันเปลี่ยนไป มันดูเจ้าเล่ห์ตามสไตล์ของมันอย่างไงอย่างงั้น แล้วคำตอบที่ได้ผมนี่อยากจะเอาหมอนอุดปากมันจริง....

"ช่วยได้สิ... ถ้าเต๋ายอมให้คริสกินอีกหลายๆครั้ง..."

หึ!.... หึหึ

"อย่ามาเจ้าเล่ห์กับข้านะไอ้ตุ๊กตาบ้า!"

 :ling1:












.....

ส่วนใครที่ถามหาตอนพิเศษช่วงปีใหม่มีเเน่นอนครับ  :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-12-2014 10:22:41
 :katai2-1:  เย้ๆรอตอนพิเศษจ้า ขอบคุณล่วงหน้า

สงสัยชินที่สุดเลย โถน้องส้มอย่าไปเชื่อไอ้เลย์มันนะ
เอาล่ะสิ ไปล่าพ่อมดกันเถอะคริส ก่อนออกล่าต้องอิ่มก่อน...เข้าใจนะเต๋า  :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 24-12-2014 12:17:33
พี่ชินนี่เป็นพ่อมดหรือเปล่าเนี่ย
น่าสงสารคริสจังเลย คงไม่ดราม่าหรอกนะ
ไม่อยากเศร้าอ่า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-12-2014 14:24:50
ระทึกอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: nicedog ที่ 24-12-2014 15:20:15
พึ่งเขามาอ่านค่ะ

สนุกมากๆเลย

ตอนแรกนึกว่าะหลอนๆกว่านี้แต่ชอบแบบนี้มากๆค่ะ

หวานๆน่ารักออกแนวแฟนตาซี

จะติดตามนะค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 24-12-2014 15:44:11
 :z2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 24-12-2014 17:25:09
พี่ชินเป็นพ่อมดป่าว
 :m28:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 24-12-2014 17:41:17
ลางมาม่าเริ่มมารึเปล่านะ??
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 24-12-2014 19:53:37
เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นมาก ชินเป็นซาตานหรือพระเจ้า
อ้างอิงจากคำว่าชินในภาษาญี่ปุ่น ส่วนเลย์มาไม่ดีแน่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 24-12-2014 21:36:25
โอเค พี่ชินต้องไม่ใช่คนชัวร์ ถ้าไม่ใช่ซาตานก็เป็นพ่อมด
แอบเขินคริสจุง ตุ๊กตาน่ารักสุดๆไปเลย แอบสงสารส้ม โดนหลอกใช้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 26-12-2014 15:40:41
ลุ้นๆ ว่าพี่ชินเป็นใครกันแน่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 18- P9 - 24/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 26-12-2014 18:04:50
ไม่ได้อ่านมาหลายตอนเพราะติดสอบ
กลับมาอ่านเงิบเลยยย :a5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 27-12-2014 00:34:23
 :katai4:
ไม่ได้อัพต่อเนื่องพล็อตมันเเย่ลงหรือเปล่านะตบมุกไม่ออก
  :hao5: อย่าทิ้งเก๊าไปกันนะ
.......





DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
19








ผมว่านะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดมากกว่าผีหรืออะไรก็แล้วแต่บนโลกใบนี้ ผมว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคงจะเป็นดอลฟี่สายหื่นอย่างไอ้บ้าคริสนี่แหละครับ...
 o22

เฮ้ย!.... จะทำอะไรน่ะ!

ทอดมองร่างแกร่งที่กำลังคืบคลานเข้าหาผมอย่างช้าๆ ดวงตาสีครามสายตายั่วเย้าร่างกายเปลือยเปล่าพร้อมด้วยการผูกริบบิ้นสีแดงสดทำตัวเองให้เป็นของขวัญจากซานต้า แล้วกำลังคลานเข่าเข้ามาหาพลางส่งสายตาเชื้อเชิญ ดวงตาหรี่ลงพลางส่งจูบม๊วฟ! แล้วกัดริมฝีปากประหนึ่งเสือสาวก็ไม่ปาน ก็อยากจะฟินอยู่หรอกนะที่มาเชื้อเชิญกันแบบนี้ แต่ขอเถอะไอ้ร่างผู้ชายแบบนี้ผมเห็นแล้วขนลุกแทบสะพรึงมากกว่าฟินว่ะ!

"ทะ ทำอะไรวะ"

"ชอบไม่ใช่หรอ หืม?"

อยากบอกว่ากูสะพรึงมากกว่าชอบว่ะครับ! "เฮ้ย! ไม่เอาออกไป" บอกปัดมันไปแต่ดูท่าไอ้คนตรงหน้าที่กำลังรับบทเป็นแม่เสือป่ามันคงไม่ยอมผมง่ายๆ ค่อยๆคืบคลานเข้าหาผมอย่างช้าๆพร้อมๆกับที่ผมถอยร่นออกห่าง ในใจเต้นตึกตักแทบทะลุ บอกตรงนี่ตื่นเต้นมากจริงๆที่มันทำอะไรที่ชวนกำเดาพุ่งแบบนี้...

เดี๋ยว... เดี๋ยวนะ! นี่ผมกำลังหลงไปกับท่าทางยั่วยวนนั่นอีกแล้วเรอะ!? ผมต้องบอกว่าไอ้สิ่งที่เห็นนี่มันชวนให้เสียสายตาชัดๆ! รู้สึกใบหน้าร้อนฉ่า! ราวกับคนเป็นไข้ ลมหายใจติดขัดยามเมื่อร่างแกร่งค่อยๆทาบทับเข้าหาพร้อมๆกับผมที่ค่อยๆเอนหลังไปบนที่นอนอย่างช้าๆ...

"เจ้านาย... คริสรักเจ้านายเหลือเกิน"

หวา! ทำไมต้องทำน้ำเสียงหวานหยดขนาดนั้นนี่ผมตื่นเต้นจนใจเต้นแรงเป็นจังหวะแทงโก้แล้วนะเฮ้ย!

"ดะเดี๋ยว..." พยายามใช้มือ และขาดันอกมันออกไป แต่กลับกลายเป็นว่าผมให้ท่ามันได้อย่างเหมาะเจาะ ขาของผมถูกแยกออกพร้อมๆกับร่างกายกำยำที่ทาบทับ ดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายพราวจ้องมองผมราวกับจะกลืนกิน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ซุกซนเหยียดยิ้ม ในนาทีนั้นผมรับรู้ชะตากรรมของตัวเองได้เป็นอย่างดี...

"อา.... ยะ อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อือออออ..." บอกไม่พร้อมแต่ดันร้องครางระงมซะงั้น ผมไม่พร้อมจริงๆนะ ไม่พร้อมจริงจริ๊งสาบานได้เลย อ่ะ ฮึก อืออออออ.... คะ ใครก็ได้เอาปากมันออกไปจากช้างน้อยของผมที มันกำลังถูกฆาตกรรมโดยการดูดเม้มจากริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังพยายามรีดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าอาหารออกจากร่างกายผม อ๊า!!!! ไม่ไหวแล้ว!

พรวดดดดด!!!!

"ฮึก!" หอบหายใจหนักด้วยอาการหอบเหนื่อยหลังจากที่ปลดปล่อยกระสุนชีวิตออกมา ปรือตามองใบหน้าหล่อเหลาที่ยกยิ้ม และดื่มด่ำน้ำคาวที่ไหลย้อยไปตามข้อมือ ดวงตาคมทอดมองลงมาด้วยสายตาที่ยั่วจนผมเผลอกลืนน้ำลายอึก รอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ร้ายค่อยๆเผยอยิ้ม และใช้ลิ้นสีแดงสดโลมเลียน้ำคาวของผมอย่างช้าๆ

"อะ ไอ้..." ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาด่ามันดี แต่ที่รู้ๆตอนนี้ผมแทบจะหมดแรงแล้ว เหมือนถูกดูดพลังงานชีวิตออกไปแทบจะหมด ร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงทอดมองคริสที่ขยับกายคร่อมร่างของผมเอาไว้...

"อยากช่วยคริสไม่ใช่หรอ? ถ้าอย่างนั้น... ขอคริสกินให้หนำใจนะ" แล้วมันก็ยิ้มให้ผมจนตาหยี

อะ... ไอ้บ้า! ใครเขาจะให้กินง่ายๆวะ!

"..."

แต่เอาเถอะครับตอนนี้ร่างกายผมมันอ่อนแรงมากจริงๆ หลับตาแน่นยามเมื่อร่างสูงค่อยๆโน้มตัวเข้าหาอย่างช้าๆ รอคอยริมฝีปากหนาที่กำลังทำปากจู๋จะจูบจุ๊บผมอีกครั้ง

หวา!!!!!!!

"อือ.... อย่า..."

"เป็นอะไรไปน่ะเต๋า? นี่ ตื่นสิ เต๋า!"

พรึบ!

"หะ ฮะ อะไร?"

ลุกขึ้นพรวดด้วยอาการตกใจเหมือนถูกกระชากวิญญาณให้กลับมา เบิกดวงตาโพลงท่ามกลางแสงจ้าจนต้องหลิ่วตาลง มองคริสที่ย่นคิ้วเข้าหากันด้วยอาการอึนมึนงง... เย้ย!

"ทะ ทำอะไรน่ะ!" กอดผ้าห่มป้องกันตัวเองเต็มที่เพราะกลัวไอ้บ้านี่มันจะปล้ำผมอีก แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเมื่อใบหน้าหล่อเหลาทำสีหน้างุนงงไม่เข้าใจ ทำไมมันต้องทำเหมือนมันไม่ได้คิดจะกินผมแบบนั้นทั้งๆที่เมื่อก่อนหน้ามันกับผม... เอ่อ...

"เป็นคริสมากกว่าที่จะถามว่าเต๋าเป็นอะไร เห็นนอนกระสับกระส่ายเหมือนไม่สบาย ไม่สบายหรือเปล่า?" แล้วมันก็ยกมือมาอังหน้าผากผม

เฮ้ย! ไม่ต้องไม่ได้เป็นอะไร  ปัดมือมันออกไปเต็มแรง หน้าผมนี่ร้อนมากเมื่อเลือดมันไหลเวียนมากระจุกอยู่ที่ใบหน้าของผม และคาดว่ามันน่าจะแดงจัด รีบลุกขึ้นพรวดวิ่งเข้าห้องน้ำไปโดยด่วน ปิดประตูดังปัง! แล้วถอนลมหายใจเหมือนโล่งอก...

ฟู่วววววววว!!!!!

"...." ก้มลงมองไปยังกางเกงนอนตัวเก่ง...

"ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่กูฝันเปียก"  ไม่ได้ฝันเปียกธรรมดาด้วย! ดันไปฝันว่าผมกับคริสกำลังจะ... กัน

ทำไมผมต้องฝันแบบนี้ด้วยวะ ไม่พอยังปล่อยลูกชายนับล้านให้นอนตายเปรอะเปื้อนเต็มกางเกงบ็อกเซอร์ของตัวเอง ดีแค่ไหนแล้วที่ไอ้บ้านั่นไม่ทันเห็นไม่อย่างนั้นผมไม่รู้ว่าควรเอาใบหน้าหล่อๆของตัวเองไปมุดหัวที่ไหนดี ฮอล์ลลลลลลลล.... ไอ้เต๋าอยากCry ทำไมต้องเอาคำพูด สีหน้า หรือท่าทางของมันไปฝันด้วยว๊าไม่เข้าใจ คนอย่างผมนี่ต้องฝันถึงน้องพริตตี้สิ ไหงผมถึงได้ฝันถึงน้องคริสตี้ได้เป็นตุเป็นตะขนาดนี้ แล้วจะเอาหน้าที่ไหนไปมองม้านนนนนนน.... น่าอายชิบ!

"..."

ช่างมันแปลงฟันอาบน้ำดีกว่า...

แกรกๆ

แต่ไม่ทันที่ผมจะหยิบอุปกรณ์แปรงฟันหรอกครับ ประตูที่เคยถูกปิดสนิทกลับเปิดออกพรวด! หันไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยอาการหรอหา มองคริสที่ยืนจังก้ายกยิ้มให้กับผมบางๆ

"ได้กลิ่นหอมๆด้วยล่ะ"

หืมมมมมมมมมมมมมมมมม? เห หา?

"อะ อะไร?" อะไรหอมๆ? วอสสสสสสสส!!!!  ถามมันด้วยความตกใจมองร่างสูงที่เดินเข้ามาหาผมด้วยความเร็วแล้วสวมกอดผมเอาไว้แน่น

"หิวแล้วอ่ะ อยากกินเต๋าขอกินได้ไหม?"

ผมว่าคำว่าตาโตเป็นไข่ห่านนี่คงไม่เหมาะกับผมแล้ว ขอเปลี่ยนจากไข่ห่านเป็นลูกโลกก็แล้วกัน ไอ้บร้า! มากงมากินกันแบบนี้ง่ายๆได้ไงกันวะ แล้วตอนนี้ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ฝันแล้วด้วย! มองคริสที่ยิ้มให้ผมจนตาหยี มันดูหล่อจนใจละลาย นี่ผมกลายเป็นโรคแพ้รอยยิ้มผู้ชายไปตั้งแต่เมื่อไรกัน? ไม่สิที่เป็นนี่เป็นแค่กับคริสเท่านั้น ย๊ากกกกกกกก ใครก็ได้ช่วยผมที!

"นะ นะ นะ" นี่ก็คะยั้นคะยอจังวุ้ย!

มองคริสที่มองผมตาปริบๆเพื่อร้องขอ ส่วนหน้าผมนี่ร้อนจนแดงเถือก ไอ้หน้าด้าน! หน้าไม่อาย! ไอ้ตะกละ! ไอ้ดอลฟี่...

"อะ อื้อ...." พยักหน้าให้มันไปทีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงตกลงไปง่ายๆแบบนั้น ใบหน้าหล่อเหลาเบิกตาโพลงก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายอุ้มผมจนลอยหวือกลับไปที่เตียง

"หวา!!!!"

ตุบ!

ร่างของผมถูกวางเอาไว้บนที่นอนนุ่มมองคริสที่ตั้งท่าจะหม่ำผมเต็มที่....

"กินละนะ"

"ดะ เดี๋ยว!!!!" ไม่สิ มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ไปให้มันง่ายๆนี่ก็ไม่ใช่ไอ้เต๋าสิครับ! "นี่มันสว่างขนาดนี้จะทำอะไรน่ะ ไม่เอ๊า!"
มันทำหน้าเหมือนถูกขัดใจ คิ้วหน้าย่นคิ้วเข้าหากันแน่น "ก็ไหนว่าจะให้กิน" น้ำเสียงมันดูเคืองผมมาก สายตาที่ทอดลงมองดูตำหนิเหมือนผมเป็นเจ้านายที่ไร้สัจจะ...  ชิบหายละนี่ผมหางานให้ตัวเองหรอเนี่ย!

"งะงั้น..." เอาไงดีวะยังไม่พร้อมที่จะเสียเอกราชในวันนี้ กรอกดวงตาไปมา.. "งั้น... ให้แค่กินนะห้ามทำอย่างอื่น" มันย่นคิ้วเข้าหากันแล้วทำปากยื่นจนน่าดึง...

เอ๊ะไอ้นี่! ได้คืบแล้วจะเอาศอกเดี๋ยวพอยันโครมไปนั่น

"เลือกเอาว่าจะกินหรืออดไปเลย" ขู่มันเล็กน้อยแต่มีหรือที่มันจะฟังผม รอยยิ้มหล่อเหลาประดับบนใบหน้าก่อนที่มันจะโน้มริมฝีปากก้มลงจุมพิตที่ปากของผมเบาๆ

"ใจร้ายจริงๆ"

"ถ้าไม่ใจร้าย ดอลฟี่ตะกละอย่างนายก็ได้ใจสิวะ!" แล้วมันก็หัวเราะครืนจนผมอยากจะยันมันจริงๆ แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ด่ามัน มันกลับเคลื่อนตัวลงไปยังส่วนกลางลำตัวผมในทันที ริมฝีปากอวบอิ่มโพลงปากที่ชื้นแฉะเข้าครอบงำแก่นกายที่อ่อนยวบ ดูดดุนเอาซะผมเสียววาบ รูขุมขนตั้งชัน ยิ่งเวลาเช้าๆอากาศเย็นๆเป็นอะไรที่ถูกกระตุ้นได้ง่ายนักแล น้องชายที่เคยหลับสงบแน่นิ่งบัดนี้กลับตื่นเต็มที่จนแข็งปั๋ง มองไปยังกลุ่มผมสีบรอนนั่นที่กำลังขยับขับเคลื่อนดูดดุนเหมือนอดยากมานานแสนนาน...

"ฮึกกกกก..." อือ... ไม่ไหวแล้วมันรู้สึกดีจนเกินไป คริสมันกำลังทำให้อกของผมจะระเบิด รู้สึกเสียวจนเกือบเผลอร้องครางแต่พยายามไม่เปล่งเสียงออกมาไม่อย่างนั้นอาจจะถูกทำมากกว่านี้แน่ๆ...

สบดวงตาสีครามที่ค่อยๆเหลือบมองผมที่กำลังดิ้นเพราะลิ้นหนานุ่มนิ่ม และฟันคมที่ขบเม้มเย้าแหย่พาลให้อกสั่น แล้วจนแล้วจนรอดผมก็เผลอร้องครางออกมาเสียงทุ้มต่ำเสียงหลง สบดวงตาคมที่หยีลงนั่น ที่มันดูเหมือนกำลังหัวเราะเยาะผมจนน่าโมโห...

อา... อะ อืออออ.... ไอ้บ้า แบบนี้มันแกล้งกันนี่หว่า! อ๊า!!!!!!

แล้วหลังจากนั้น... ก็โดนกินไปตามระเบียบ...

เฮ้อ!... โลกนี้มันช่าง.... มืดสลัว...
.
"..." แน่สิตอนนี้มันใกล้จะค่ำแล้วนี่หว่าไม่มืดนี่จะให้มันสว่างเรอะ!?

แต่ทว่าตอนนี้สิ่งที่กำลังดูอยู่มันไม่เข้ามาในสายตาผมเลยสักนิด นั่งดูทวิตตี้แล้วมันน่าเบื่อชอบกล เปลี่ยนช่องไปช่องอื่นก็มีรายการการ์ตูนที่ไม่ได้น่าดูเท่าไรนัก... เฮ้อออออ! เบื่อโว้ย! มีใครสามารถรับรู้ความรู้สึกของชายเต๋าได้บ้าง วันนี้กะจะหยุดอยู่ห้องแต่ดันนอนไม่หลับ จะเล่นเกมก็เกรงใจไอ้คนที่มันนอนหลับอยู่บนเตียงนอนอืดเป็นหมีขั้วโลก นอนหลับสบายหลับตาพริ้ม เห็นแล้วมันน่าหมั่นไส้จริงๆให้ตายสิ!

ตุ๊กตาบ้าอะไรก็ไม่รู้กินอิ่มนอนหลับทำเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อยไปได้ แต่พูดถึงมันก็น่าอายเกินกว่าที่ผมจะเอามาคิดถึงเรื่องกินของมัน มองวงหน้าหล่อเหลาที่หลับอยู่แล้วมันอดไม่ได้...

"นี่จะหลับอีกนานไหมวะหิวข้าวแล้วเนี่ย" มุ่ยปากถามมัน

"..." แต่ก็ยังไร้เสียงตอบรับใดๆจากบุคคลที่ท่านถาม...

เฮ้อวววววว์!!!!!!!!

เบื่อว่ะหาอะไรทำดีกว่า....  แต่พอลุกขึ้นมองสำรวจห้องก็พึงระลึกได้ว่าผมขนเฟรม และสีเอาไปไว้ที่ซุ้มหมดแล้วตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรให้ทำนอกจากยืนมองคริสที่ยังคงหลับอยู่... คนอะไรหลับได้หลับดีหลับเป็นหมีขั้วโลก แต่พอคิดว่าที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะเสียพลังไปมาก ผมนี่ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากเรียกมันเท่าไร เดินดุ่มๆเข้าไปหา...

"ไม่ตื่นจริงอ่ะ?" ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมาอยู่ดี...

นั่งลงข้างๆมันแล้วมองสำรวจใบหน้าหล่อๆอย่างกับเทพบุตร อิจว่ะ... อิจฉาโว้ย! แถมไอ้หน้าหล่อๆนี่มันยังตามไปหลอกหลอนผมถึงข้างในฝัน นี่ฝันเป็นตุเป็นตะว่ามันกลายเป็นนางแมวยั่วสวาสดิ์ไปซะฉิบ แถมไอ้สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นกลับเป็นร่างกายกำยำของมัน นี่ผมเบี่ยงเบนทางเพศไปตั้งแต่เมื่อไรวะ? อย่างไอ้เต๋านี่มันต้องดื่มนมจากเต้าสิถึงจะถูก! ร่างกายจะได้แข็งแรงเติบโตสมวัย... (แต่ดื่มนมคริสก็ดีนะมันฟินดี)
 :hao6:

"..."

ว๊ากกกกกกกกกก!!!!! เอามันออกไปจากหัวผม!

 :serius2:

"น่าหมั่นไส้ชะมัด!" เห็นแล้วก็หงุดหงิดลูกตาจะทำยังไงดีล่ะที่จะเอาคืนไอ้บ้านี่ มองสำรวจไปที่โต๊ะทำงานของผม และเห็นปากกาเมจิกหลากสี ยกยิ้มที่มุมปากเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินไปหยิบมัน และกลับมาหาไอ้คนที่หลับอยู่อีกครั้ง

ยิ้มร้าย...

เอาละครับ! วันนี้ชายเต๋าจะมาสอนเทคนิคการแต่งหน้า ที่จะทำให้คุณดูฮา และอารมณ์ดีราวกับคนบ้าหากได้ลองแต่ง ก่อนอื่นเราต้องเริ่มไปที่หนวดแมวสามเส้นทั้งสองฝั่ง ตามด้วยเติมคิ้วสีดำหนาๆลากขึ้นไปถึงขมับแล้วม้วนกลมๆเหมือนซันจิ ต่อมาวาดหนวดสามเส้นตรงจมูกระหว่างริมฝีปากให้ดูเหมือนกับชาวญี่ปุ่นโบราณเล็กน้อย เขียนกลมๆรอบดวงตาเพื่อบ่งบอกว่าไอ้บ้านี่มันคือแพนด้าที่อดนอน...

 :hao7:

ฮ่าๆๆๆๆ เสร็จแล้วล่ะครับการแต่งหน้าที่แสนจะภาคภูมิใจ รับลองมันตื่นขึ้นมาเมื่อไรจะต้องตกตะลึงในสิ่งที่เห็น

หมับ!

"เฮ้ย!!!!"  ต๊กใจ๋โหม้ดเล๋ย...

"ทำอะไร?"

"ทำกับข้าว"

"..."

ผมนี่เหงื่อแตกซิกยิ้มเจื่อนเห็นฟันให้คริสที่อยู่ๆก็ตื่นขึ้นมา ทีเมื่อก่อนหน้าแม่งหลับเป็นตายขนาดช้างสามตัวมาลากก็คงเอาไม่อยู่ ผมว่าการนอนของมันๆควรเอาไปลงสถิติกินเนสบุ๊คซะ คงได้ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกแน่ๆกับสภาพหลับเป็นตาย มองดวงตาสีครามที่ทำสายตาดุแล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่มือมันยังจับข้อมือของผมเอาไว้แน่น...

"นี่คริสหลับไปนานไหน?" มันถามสีหน้างุนงง

ผมเลยตอบ "นายหลับไปตั้งสองวันกว่าๆ" แถมปล่อยให้ข้านั่งคุยคนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอกาเป็นคนบ้าคุยกับคนหลับ แถมไม่กล้าออกไปไหนเพราะกลัวโดนผีหลอกอีกตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องนั่นล่ะ!

"อ้าว! เบ็นเท็นไปถึงตอนที่เท่าไรแล้ว?"

"อ๋อ เบ็นเท็นตอนนี้มันกำลังหลุดเข้าไปอยู่อีกมิติ... ไม่ใช่เว้ย! นี่ใจคอจะคิดถึงแต่เบ็นเท็นงั้นเรอะ!" ไอ้บ้านี่มันน่าเอาหมอนจับกดจริงๆ พอลืมตาขึ้นมาก็ถามหาการ์ตูนเลย มันน่าสนุกตรงไหน? ทั้งๆที่เป็นคนชอบดูการ์ตูนมากแต่ตอนนี้ผมดูอะไรมันก็ไม่สนุกถ้าไม่มีคริสนั่งดูเป็นเพื่อน งอนว่ะ!

มันมองผมเหมือนอมยิ้มก่อนจะดึงผมเข้ามากอด หวา! ทำอะไรวะ! "ล้อเล่นนะ ดีจังที่ยังเห็นเต๋าอยู่ตรงนี้"

"ไม่อยู่ที่นี่แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหนวะ เมาขี้ตาอยู่หรือไง" พยายามดันมันออกไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะรัดผมแน่นมาก ถามจริง? นี่เป็นคนหรือเป็นอนาคอนด้า!

ได้ยินเสียงหัวเราะที่ทุ้มนุ่มหูหัวเราะครืน อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองมันแบบเคืองๆ "ก็คริสหลับไปนาน... ขอโทษที่ไม่ได้ดูแล"

"อย่ามาพูดจาเลี่ยนๆได้ปะ? พอเลยอึดอัดจะแย่ แล้วก็โตแล้วไม่ต้องให้ใครดูแลเข้าใจ๊!?" ผละออกมาจากตัวมันแล้วต้องกลั้นขำครับ เมื่อใบหน้าที่เคยหล่ออยู่ตลอดเวลาตอนนี้กลายเป็นตัวประหลาดไปซะแล้ว

 :katai2-1:

เอ้อ! ผมนี่ก็ฝีมือรระดับตำนานเหมือนกันนะ แต่อย่าครับ อย่าหัวเราะออกมาไม่งั้นมันจะรู้ทัน ยืนกอดอกมองมันที่ยังคงงัวเงีย...  "แล้วเป็นยังไง ดีขึ้นบ้างไหม?"

"อืม... ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่เต็มที่"

"ฮะ? ไม่เต็มที่ นี่ขนาดกินไปตั้งเยอะแล้วนะ!" ผมนี่ยืนอึ้งเลย

"อืม... อยากกินอีกสักหน่อย"

เฮ้ย!!!!  "พอเลย กินตีนกูก่อนไหม?" ตั้งท่าป้องกันตัวเมื่อเห็นคริสทำท่าจะเข้ามากอดผม มันทำหน้าเสียดายแล้วทิ้งตัวลงไปนอนตามเดิม เฮ้อ! ผมละเบื่อหมีขี้เซา

"นี่..."  เลิกคิ้วเป็นเชิงถามเมื่อเห็นมันกางแขนมาทางผม แต่พอมันร้องขอแบบอ้อนๆ "ขอนอนกอดหน่อยสิ" เท่านั้นล่ะไอ้เต๋านี่ถึงกับหน้าร้อนขึ้นมาในทันที อะไรวะนี่ขนาดเขียนหน้ามันๆยังทำให้ผมรู้สึกดีกับคำขอ แต่แน่นอนว่าไม่ฟังเว้ย! ไม่ยอมใจอ่อนหรอกอยากนอนก็นอนไปเด่ะ

แต่พอหันไปมองดูนาฬิกาที่บ่งบอกว่าตอนนี้มันก็ค่ำมากแล้ว สรุปทั้งวันผมนี่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย ถอนลมหายใจ "เฮ้อ!"  เดินกลับไปปิดทีวีปิดไฟแล้วกระโดนเข้าไปในอ้อมกอดแกร่งที่อ้าแขนรอ ได้ยินเสียงหัวเราะที่ดูพึงพอใจอย่างมากที่ผมทำตามคำขอมัน

แต่นี่ไม่ได้ใจอ่อนนะ เปล่าเล้ย! ผมแค่คิดว่าผมควรที่จะนอนตั้งแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้าต่างหาก! อย่าได้คิดว่าจะสงสารหรือยอมอ่อนข้อให้...

"เต๋า... ฝันดีนะ" คำกระซิบบอกนี่มันชวนทำให้หัวใจของผมเต้นแรงชอบกน แต่ก็ตอบมันไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่จริงๆกลับรู้สึกใจสั่น "เออรู้แล้ว นอนสิ"

มันหัวเราะครืนออกมาก่อนที่มันจะตอบผม "ครับ..." และหลับลงไปจริงๆ...

"..."

อา... นี่สินะความรัก

ถอนลมหายใจออกมาพรืดใหญ่.... มันจะดีสักแค่ไหนหากคริสเป็นแค่มนุษย์ ไม่ต้องมากังวลต่ออันตราย และหวาดระแวงว่าศัตรูจะโผล่ออกมาตอนไหน ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวผมก็มีความสุขที่อยู่ใกล้ๆเขา... แต่บางครั้งมันก็กลัวว่าจะสูญเสีย...

ความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี่ต้องโทษไอ้พ่อมดบ้านั่นคนเดียวเลย อย่าให้เจอพ่อจะตืบให้จมตีนบังอาจมารังแกดอลฟี่ลูกรักของชายเต๋าได้ไง!

แต่ก็นะ... นอนเถอะ....











.....
 :katai5:


หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-12-2014 03:24:03
เต๋าแพ้ลูกอ้อนคริสตลอด
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 27-12-2014 06:58:38
คริสนี่ท่าทางจะเหนื่อยจริงหลับนานมากกกก
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-12-2014 08:42:58
 :katai2-1:   ยอมรับว่ารักแล้ว
ชอบในความฝันจังเลย แต่ตอนกินจริงๆอะเรียลสุด
อยากจะหยุดเวลาของความสุขเอาไว้แบบนี้เนอะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 27-12-2014 10:35:27
คริสสส
ไม่นะ
กินเต๋าเยอะๆ
แล้วเก็บแรงไปสู้กับพ่อมดสิ
เลย์ของส้มนี่ เป็นตุ๊กตาที่พ่อมดสร้างขึ้นรึเปล่าเนี้ย
แล้วเลย์มันเป็นตัวอะไร
 :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 27-12-2014 16:14:04
คริสน่ารักตลอด เต๋ามองโลกดีเกินไปแบบที่ชินว่า

เลย์นี่คือตัวปัญหาสินะ สงสารส้มที่โดนหลอกใช้ (มั้ง)
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 19- P10 - 27/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 27-12-2014 22:52:35
น่ารักสุดๆไปเลยนายเต๋า นายรักคริสแล้วสินะ
อุ๊ยๆ อยากรู้จริงๆว่าถ้าคริสเห็นศิลปะของนายเต๋าบนหน้าคริสแล้ว
คริสจะทำยังไง 1. กินเต๋า 2. กินเต๋า 3. กินเต๋า กร๊ากกกกก
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 31-12-2014 02:29:38
 :katai4:
ตอนนี้ไม่ใช่ตอนต่อจากตอนที่เเล้วนะกั๊บ





DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่




ปีใหม่!

 :oni1:

เอ้า! รออะไรอยู่ละครับอวยพรมาสิอวยพร! ผมกำลังรอคำอวยพรจากพวกคุณทุกคนอยู่นะ ขอให้หล่อรวย สาวๆรุมล้อม เกรดสวยอะไรก็ว่าไป ผมนี่รอHappy New year พร้อมๆพวกคุณทุกคนอย่างใจจดใจจ่อ พรุ่งนี้แล้วสินะที่จะเริ่มนับวันที่ 1เดือนที่ 1สำหรับปีใหม่

เริ่มปีใหม่อะไรๆมันก็ต้องใหม่ด้วยจริงไหม? เพราะงั้นเราก็ต้องได้แฟนใหม่ด้วยสิ! จริงไหม? เอ้าฮี้วววววววว!!!! (ตบมือรัวๆ)
เพราะฉะนั้นก่อนที่คืนนี้จะเคาท์ดาวน์นับถอยหลัง กระผมจึงตั้งใจจะถอยแฟนก่อนเป็นสิ่งแรก พร้อมป้ายแดงแกะกล่องเป็นถึงเดือนคณะซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ามันได้ตำแหน่งนั้นมาได้ยังไง ทั้งๆที่ผมเข้าประกวดชิงตำแหน่งนั้นมาเกือบจะ4ปี! 4ปีเชียวนะ! ขอโทษเถอะแค่อาจารย์เห็นหน้าตอนกรอกใบสมัครนี่ก็โดนถามแล้ว

'เอกรินทร์เธอมาทำอะไรกับน้องๆปีหนึ่ง?'

'อ้อ! มาย้อนวันวานครับอาจารย์อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง'

ก่อนที่ผมจะถูกถีบออกมาจากตึกกิจกรรมอย่างดูแคลน 'สัดเต๋าอย่ามาเกะกะน้องๆเค้าสิวะ!'

"..."
 :katai1:
น้ำตาจะไล่ขอเก้าอี้ด้วยครัช! ถุ้ย!

 อย่างว่าล่ะครับคนหล่อมักจะได้รับความสนใจจากผู้อื่นเป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่กับไอ้เต๋าเว้ย! โลกนี้มันไม่ยุติธรรมคุณเอามาตรฐานที่ไหนมาวัดว่าห้ามให้รุ่นพี่สมัครเดือนคณะอีกทั้งๆที่ไอ้เต๋านี่มันก็หล่อรวยเรียนเก่ง ได้ดีเกือบทุกเทอมทำไมถึงไม่มีใครแลผมวะ! ทั้งๆที่ไอ้เพื่อนเอกผมนี่มันก็เข้าข้าง เห็นดีเห็นงามคะยั้นคะยอให้ผมลงแข่งหวังกอบกู้เอกราชเป็นชื่อเสียงอันดีงามของเอกศิลปะอย่างเราๆ ว่าภายใต้หนวดเครา และเส้นผมสลวยสวยเก๋นั่นมันเป็นเพียงแค่เปลือกนอก เน่! (ทุบอกตัวเอง ปัก ปัก) มันต้องดูที่จิตใจคนสิวะ ถึงหน้าพี่จะไม่หล่อ แต่ใจพี่หล่อมากนะครับ!

พูดถึงความหล่อ เวลาเดินไปทางไหนก็มักจะมีผู้คนมากมายที่รู้จักผมเช่นกัน เห็นเงียบๆแบบนี้พี่เต๋านี่ก็ป็อปในหมู่รุ่นน้องนา! แต่ความป็อปของผมนี่กลับถูกดับด้วยรัศมีความหล่อเจิดจรัสของไอ้อู๋เอกอังกฤษลูกครึ่งไทยจีน ซ้ำไม่พอพ่อยังควบเรียนปริญญาสองใบไปด้วย ไม่ต้องพูดถึงว่ารูปหล่อพ่อรวยแค่ไหนดูได้จากสาวๆที่กำลังรุมตอมหึ่งๆมันยืนหัวโด่เป็นเสาไฟฟ้า ถ้าเปรียบนี่ก็คงเป็นสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งโขยง...

 นี่ถ้าไม่ติดว่ามันหน้าตาคล้ายใครบางคนเด๊ะๆราวกับแฝดผมอาจจะไม่สนใจมันเลย ไม่อยากรีบรัมอยู่ในสมองผมด้วยซ้ำ ดีไม่ได้ไอ้บ้านั่นอาจจะโดนแก๊งมาเฟียของเอกศิลป์เขม่นเอาก็ได้...

หึหึ... ไม่อยากจะบอกว่ารักครั้งที่สองของผมจะเป็นไอ้อู๋ขี้เก็กที่หน้าตาเหมือนกับคริสราวกับโขลกมาพิมพ์เดียวกัน!

แต่ขอโทษครับ ถึงจะหน้าเหมือนกันยังไงนิสัยนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหวลึก โปรดลบคำว่ามุ้งมิ้งออกจากหัวไปได้เลยเพราะคริสหรือไอ้อู๋เวอร์ชันนี้มันมีแต่คำว่าเกรียน และเกรียนเท่านั้น! แค่เจอกันครั้งแรกนี่ก็ไม่ชอบขี้หน้าแล้วล่ะครับ...

แต่อย่างว่าล่ะเรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ยาก เวลาที่เห็นหน้ามันทีไรพาลให้น้ำตาจะไหลทุกที ไม่ได้ไหลธรรมดาแต่หลั่งน้ำตาจนอยากจะกระโดดเตะก้านคอมันยิ่งนัก อารมณ์แม่งทั้งตกหลุมรักทั้งเกลียด เพราะแบบนี้แหละผมจึงจะต้องเผด็จศึกด้วยการจับมันมาเป็นเมียให้ได้!!!!! ด้ายยยยยย!!!!! ด้ายยยยย!!!! ด้าย.... (แอคโค่วดังก้องสะท้อนในจิตใจ)

เมื่อเราเกิดข้อผิดพลาดในครั้งแรก จงอย่าทำในสิ่งผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง บทเรียนไม่มีวันลืมของผมจะไม่ยอมเสียประตูหลังให้มัน เอ้ย! ให้ชายเป็นรอบที่สอง ลองสลับบทบาทดูบ้างมันจะเป็นไรไปวะ!

เอาล่ะ! รวบรวมความกล้าเอาไว้ในจิตใจ สูดลมหายใจเข้ารวบรวมพลังลมปราณให้ไหลเวียนอยู่ในท้องน้อย เมื่อผมกำลังจะเข้าไปสารภาพรักกับมันให้ดูโรแมนติกท่ามกลางเหล่านกพิราบที่เป็นสักขีพยานระหว่างเราทั้งสอง... ถ้าไม่ยอมตกลงก็จับมันทุ่มแล้วหิ้วเอาหลับหอซะเลย...

เอิ่ม... เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ไอ้ที่เล่าๆมานี่ลืมมันไปเถอะผมก็แค่อยากเล่าพอเป็นพิธีในการเริ่มบทสนทนาระหว่างเราเท่านั้น...
 :katai3:
เอ๊า! ถ้าเริ่มมันโต้งๆก็ธรรมดาไปสิคนอย่างเต๋านี่จะทำอะไรมันก็ต้องเหนือมนุษย์เขาหน่อย อยู่กับพวกบ้าบอมานานมันก็เลยซึมซับเข้าสมองไปแล้ว นี่ถ้ามีพลังวิเศษโลกใบนี้คงตกมาอยู่ในมือของไอ้เต๋าไปแล้วล่ะ คงไม่ต้องมาด้อมๆมองๆเกาะต้นสาละแอบมองรุ่นน้องเอกอังกฤษที่มันกำลังถูกรุมล้อมด้วยสาวๆคณะศึกษาศาสตร์แบบนี้หรอก พอเห็นแล้วมันก็อิจฉาโว้ยยยยย!

แต่ละคนนี่ผมรู้จักพวกเธอดี เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันทุกปีทำไมมันไม่ให้ของขวัญปีใหม่กับผมบ้างวะ? นี่แอบหมั่นไส้ในใจลึกๆพอเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มระรื่นนี่อยากจะกินดอกสาละด้วยความหงุดหงิด เผื่อจะหล่อฉลาดเหมือนไอ้คนตรงหน้าบ้าง...

โลกนี้มันไม่ยุติธรรม ผลิตคนหน้าตาดีอย่างไอ้เต๋าคนนี้ไม่พอยังจะสรรสร้างคนหล่อราวกับเทพบุตรอย่างไอ้บ้านั่นมาฆ่าไอ้เต๋าอีก ฮรึก! ไม่ใจเลย!

นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวคนอื่นที่เดินผ่านไปมาเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนบ้า นี่คงแทะต้นไม้ดับความอิจฉาตาร้อนที่อยู่ในใจไปแล้วล่ะ

แอบด้อมๆมองๆมันอยู่แบบนั้น เวลามันหันหน้ามาทีผมก็หลบหลังต้นไม้ที พอมันเผลอหันไปทางสาวๆก็ค่อยๆโผล่หน้าออกมาดูมัน เบะปากให้กับความเจ้าชู้ที่ยากจะเกินบรรยาย นี่ไม่เถียงกับคำล่ำลือที่ว่าไอ้บ้านี่มันเป็นเพลย์บอยตัวพ่อเลยให้ตายเถอะ สาวๆให้ของขวัญทำเป็นยิ้มเล็กยิ้มน้อย อ่ะโถว่!!!! หล่อตายเลย แหยะ

"..."

แต่รอยยิ้มของมันกลับทำให้ผมเผลอยิ้มตามโดยที่ไม่รู้ตัวเช่นกัน...

ไม่ว่าจะเป็นโครงหน้าคมหล่อ คิ้วหนาตาเรียวคม จมูกโด่งเป็นสันปากอวบอิ่มนั่น... เรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่สะท้อนแสงยิ่งทำให้มันดูเด่นในสายตา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่รับกับเรือนผม ถ้ามันกลายเป็นสีครามทะเลมันคงจะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจมากจริงๆ
ก้มลงมองกล่องของขวัญที่อยู่ในมือแล้วอยากจะถอนลมหายใจออกมาดังเฮือก.... ถ้าให้มันไปนี่ มันคงไม่มีทางแลแน่ๆ ดูจากขนาดของขวัญของผมกับของพวกเธอเหล่านั้นมันช่างต่างกันราวกับพรนางฟ้า และยาจก...  พอดีผมรวยขนหน้าแข้งไม่ได้รวยกะตัง เวลาควักเงินซื้ออะไรทีขนหน้าแข้งไม่ร่วงจนหมดนี่ก็บุญแค่ไหนแล้ว แถมไอ้บ้านั่นมันยังอยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆแบบนั้น ผมคงไม่กล้าเรียกมันหรอก...

เฮ้อ!!!!!

ก้มหน้าถอนลมหายใจคอตก พรุ่งนี้มหาลัยก็ปิดปีใหม่แล้ว... เอาไว้เปิดเรียนมันคงไม่สายไปมั้ง....

ดั่งที่โบราณว่าไว้ ช้าๆได้พล้าเล่มงาม แต่ถ้าชายเต๋าอยากได้แฟนที่เป็นถึงเดือนคณะนี่คงต้องรอพล้าอีกซักสิบปี พอดีมันแก่ไม่มีใครเอาไง...

แต่เดี๋ยวนะ รุ่นๆสามสิบนี่มันกำลังกรุบกริบเลยนี่หว่า?

"...."

เอิ่ม... แล้วทำไมผมต้องมายืนคิดอะไรบ้าๆแบบนี้ด้วยวะเนี่ย!

เฮ้อ! เอาล่ะ ภารกิจวันนี้มันคงล้มเหลวไม่เป็นท่าเอาไว้กลับห้องไปเคาท์ดาวน์กับลูลู่ มินนี่ แล้วก็เซย์จะดีกว่า ไม่น่าปฏิเสธไอ้ไก่เลยที่ว่าจะไปดื่มฉลองปีใหม่ที่ห้องพี่เดียร์ เคยไปซะที่ไหนล่ะหอพี่เขา...

แต่พอผมเงยหน้าคิดว่าจะมองหน้ามันอีกสักครั้งก่อนจากเพื่อที่จะหยุดปีใหม่ ผมนี่แทบตกใจในเมื่อมันหายไปแล้ว.....

เอ้า! มัวแต่ยืนคิดเลยคลาดสายตาไปกับมันซะแล้ว แต่สาวๆที่รุมมันเมื่อก่อนหน้าก็ยังนั่งอยู่นี่หว่า แถมสมบัติมันก็ยังอยู่ที่เดิม เดินออกจากต้นไม้แล้วชะเง้อคอมองหามันที่ตอนนี้หายจ้อย หรือว่ามันจะปวดอึวะ? ถึงได้หายไปอย่างรวดเร็วอย่างกับติดจรวด เอาน่าๆบางทีมันอาจจะเดินกลับมาที่โต๊ะหินอ่อนอีกครั้ง....

"ทำไรอ่ะ?"

เย้ย!

"เฮ้ย!" เสียงทุ้มนุ่มหูทำเอาผมผวาเฮือก หันขวับกลับไปมองแล้วต้องร้องด้วยความตกใจเมื่อไอ้คนที่ผมกำลังมองหามันกลับมายืนอยู่ข้างหลังผม....

มาได้ยังไงวะ!

"หึหึ"

มันยืนป้องปากหัวเราะประหนึ่งเหมือนผมเล่นตลกให้มันดู มันน่าตลกตรงไหนวะ!

"อะไร!? เปล่าแอบมองนะ ไม่ได้แอบมองเลยอย่าหลงตัวเองนะเฟร้ย!"

แล้วมันก็เลิกคิ้วเหมือนประหลาดใจ ทำสีหน้าเหมือนเชื่อผมม๊าก! "หรา... ผมยังไม่ได้ว่าอะไรพี่เลยนะ"

พะเฮ้งงงงงงเพล้ง เพล้ง เพล้งงงงงงงงงงงง.....
 o7

รู้สึกหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆเดี๋ยวขอเวลาผมเก็บเศษหน้าของตัวเองสักประเดี๋ยว...

"นี่เอ็งเกรียนข้าหรอวะ!" อย่ามาแหยมกับเต๋านะเว้ย! เดี๋ยวเจอหมัดวายุสลาตัน

แต่อย่าคิดว่ามันจะกลัวท่าทางของผมที่กำลังถกแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นสูงเพื่อข่มขู่ (เสื้อแขนยาวนี่พับยากชิบ!)

มันพูดกลั้วหัวเราะ "ฮ่าๆๆๆ พี่เต๋านี่ตลกจัง"

พี่เต๋านี่ตลกจัง พี่เต๋านี่ตลกจัง พี่เต๋านี่ตลก..... เต๋านี่เป็นเจ้านายที่ตลกจัง.....

 o22

ตึก.... ตัก....

ทะ.... ทำไมตัวใจผมต้องกระตุกด้วยวะที่ได้ยินคำนี้... ทำไมมันถึงได้ดูคล้ายกันขนาดนี้ทั้งๆที่ไม่ใช่... ทำไมผมต้องเห็นภาพของคริสซ้อนมันด้วยวะ!

รอยยิ้มที่ยิ้มให้ผม และคำเอ่ยคำๆนั้นที่มักจะพูดออกมาบ่อยๆ มันช่าง... เจ็บหัวใจมากจริงๆ

"อ้าว... เงียบไปเลยผมชมหน่อยเดียวนี่เขินจนพูดไม่ออกเลยหรอ?" แล้วมันก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเห็นม่านตาสีน้ำตาลเข้ม และดูมีเสน่ห์ ผมตกใจจนเผลอผลักหน้ามันออกไปดังผลัก!

"โอ้ย! ทำไมต้องรุนแรงด้วยล่ะพี่! ผมคนนะไม่ใช่ลูกกระท้อน"

"เออ! เอ็งน่ะเป็นกระท้อนจะได้หวานๆไง รุ่นน้องบ้าอะไรเกรียนรุ่นพี่"

"เอ้า! นี่ผมยังหวานไม่พอ?"

"บ้านเอ็งสิ!"

"ไปบ้านผมก็ได้นะเดี๋ยวจองตั๋วเครื่องบินสองที่ ป๊าม๊ากำลังรอลูกสะใภ้เลย"

"เอาตีนกูไปก่อนไหมสึด! อย่างพี่นี่ต้องเป็นเขยสิวะถึงจะถูก"

"โหยพี่ อย่าอายเลยน่าดูพี่ดิเนี่ย ตัวก็เล็กกว่า เตี้ยกว่า หน้าหวานกว่า ผมรู้นะ ที่พี่ไว้หนวดไว้ผมนี่ต้องการปกปิดหน้าตาของตัวเอง แต่ขอโทษครับมันไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย!"

"เขาเรียกว่าสไตล์อาร์ตติสไอ้น้อง เอ็งนี่อินโนเซ้นท์จริงๆ มันเพิ่มความขลังของศิลปินอย่างข้าเว้ย!"

"เอ้า! หรอ ไม่บอกไม่รู้เลยเนี่ย!"

ฮึ่ม!!!!

มองหน้าหล่อๆของมันที่กำลังยิ้มระรื่นพร้อมด้วยการหัวเราะเพื่อท้าทายอำนาจมืดอย่างพี่เต๋าสุดหล่อคนนี้ ทำไมวะ? คนหล่อไว้เครานี่แปลกเรอะ? ไม่ว่าจะเจอมันกี่ครั้งมันมักจะแซะผมเรื่องหนวดทุกที มันเป็นสไตล์เว้ย สไตล์ นี่ไม่มีใครเข้าใจผมบ้างเลยหรือไง!

อาการงอนเริ่มบังเกิด ผมว่าเอามันมาทำภรรยาคงเป็นแม่พันธุ์ที่ดีไม่ได้ เช่นนั้นแล้วไอ้เต๋าขอบาย กู๊ดบายลาก่อยไอ้เด็กเวร....

"เอ๊า! จะรีบไปไหนล่ะพี่อยู่คุยกับผมก่อน โน่นสาวๆเพียบเลย" มันจับแขนผมไว้แล้วบุ้ยปากไปทางโต๊ะประจำของมันที่ตอนนี้สาวๆกำลังโบกมือมาทางผมพร้อมๆกับยกมือไหว้สวีดัส สวัสดี...

ไอ้อยากนี่มันก็อยากอยู่หรอกนะ คุยกับสาวๆนี่มันเป็นอะไรที่ฟินจนขึ้นสวรรค์ดีนักแล แต่มันคงไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ผมคงได้ตืบรุ่นน้องแถวนี้จริงๆ

"ไม่เอาอ่ะจะกลับไปเคาท์ดาวน์กับเพื่อนที่ห้อง" แล้วมองตาขวางใส่มันที่บังอาจมาจับมือถือแขนผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ผมละเกลียดไอ้หน้าปั้นยิ้มนี่จริงๆ!

"มาหาอู๋ไม่ใช่หรอ? ยังไม่ให้ของขวัญผมเลยนี่ ไหนอ่ะของขวัญน้อง?"

สะบัดแขนออกมา "อะไร? ของขวัญไร? น้องต้องให้พี่ไม่ใช่พี่ให้ของขวัญน้อง แล้วอีกอย่างไม่ชอบขี้หน้าด้วยเถอะอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย"

แล้วมันก็หัวเราะอีก...

เอิ่ม... สิ่งนี่แหละที่ผมอยากจะบอก...

ว่าแม่งเกรียนสุดยอดเลย!

 :angry2:

จะมีสักครั้งไหมที่มันจะทำตัวเป็นเด็กดีไม่กวนบาทารุ่นพี่อย่างผม ผมนี่พยายามซุกกล่องของขวัญเอาไว้ไม่ให้มันเห็นอย่างสุดกำลัง มองหน้าหล่อๆที่ยิ้มจนตาหยีของมันคิ้วขมวด

อู๋ยิ้มบางๆทอดมองผมด้วยแววตาที่ดูอ่อนโยนครู่หนึ่ง... "เขาบอกว่า... ถ้าใครสักคนเกลียดเรามากๆแสดงว่าคนๆนั้นรักเรามากเช่นกัน" แล้วหน้าผมก็ร้อนฉ่าไปถึงใบหูเมื่อได้ยินคำตอบจากมัน...

ว๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!!! นี่มึงเอาตรรกะที่ไหนมาอ้างวะ! มันมีที่ไหนเกลียดเพราะรักเนี่ย! ผมนี่ละปวดกระบาลกับมันจริงๆ ใครก็ได้เอามันไปเก็บทีไม่ก็ลากผมที่กำลังยืนแข็งทื่อจ้องมองวงหน้าคมหล่อที่ยักคิ้วหลิ่วตาได้หน้าถีบมากด้วยความรู้สึกอึ้ง! ทึ่ง! เขิน! บร๊ะ! อะไรมันจะเสี่ยวขนาดนี้วะ

ไม่อยากจะบอกว่าผมนี่ไปไม่เป็น...

จะเต๊าะเด็กทั้งทีนี่มันลำบากจริงๆว่ะครับ ต้องรับมือกับฝีปากที่กวนประสาทอยู่ทุกเวลา แถมยังต้องแข่งขันกับชาวบ้านเพื่อหวังพิชิตใจ แต่คนอย่างพี่เต๋านี่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตบตีกับใครคับ ผมอาศัยดักตีหัวมันแล้วรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว...

ไม่ใช่ละ นี่ไม่ใช่เวลามายืนเปื่อย ผมควรออกห่างจากไอ้เด็กบ้านี่เมื่อความรู้สึกบางอย่างจากจิตใต้สำนึกมันกำลังบอกว่า ไอ้เด็กนี่มันไม่น่าไว้วางใจ...

"บะ บ้าเรอะ!"  ละ แล้ว ทำไมผมต้องใจสั่นด้วยวะ!

มองใบหน้าหล่อๆที่กำลังยิ้มแล้วโน้มตัวเข้าหาผมเพื่อกระซิบกระซาบ...

"อู๋มีพรวิเศษมาให้พี่เต๋าด้วยล่ะ... ถ้าอยากให้เนื้อคู่ปรากฏก่อนปีใหม่ให้เราโกนหนวดเคราตัดผมให้เรียบร้อย เดี๋ยวคนๆนั้นจะมาหา" มันผละออกมาแล้วยิ้มให้ผมจนตาหยี "เดี๋ยวจะซื้อของเลี้ยงฉลองเคาท์ดาวน์ห้ามล็อกห้องนะ" ก่อนที่มันจะเดินหันหลังกลับไปยังโต๊ะของมันเมื่อเพื่อนๆกำลังเรียกหาอยู่....

ตึก.... ตัก... ตึก....

โอยยยยยยยยย..... ทำไมหัวใจของผมมันถึงได้เต้นแรงแบบนี้ รู้สึกถึงเลือดลมที่ไม่คงที่ นี่ผมกำลังเป็นอะไร? ผมกำลังป่วยเป็นโรคหัวใจใช่ไหม!?

บางที... มันอาจจะใช่ ผมอาจจะป่วยเพราะเป็นโรคเรอทัก....
 o16



เดินออกมาจากมหาลัยด้วยสภาพที่ดวงวิญญาณหลุดลอยด้วยท่วงท่าเต้นระบำจั้มบ๊ะออกไปไกลยากที่จะหวนกลับมา อยากจะบอกว่าหน้าผมมันบานมากแม้แต่จานกระด้งยังอาย...

พรวิเศษอย่างนั้นหรอ? บ้าน่า! มันจะเป็นจริงได้ยังไง หมอนั่นไม่มีทางให้พรผมได้ในเมื่อมันไม่ใช่ตุ๊กตาดอลฟี่วิเศษที่ผมรัก...
คริส... ฉันสามารถรักนายที่เป็นนายอีกคนได้ใช่ไหม?

นายเคยรับปากว่าจะอยู่กับฉันตลอดไปแต่นายกลับทำมันไม่ได้ แล้วไอ้เด็กนั่นมันจะทำได้หรือเปล่า?

อา... ทั้งๆที่เมื่อก่อนรู้สึกเจ็บแทบตาย ถ้าหากได้พบนายอีกครั้งฉันอยากจะต่อยหน้านายมากจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันกลับมีความสุขถ้าเกิดเราได้เจอกันอีกครั้ง...

ฉันเชื่อมาตลอดว่าสิ่งที่เห็น และสัมผัส ทุกๆอย่างมันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันที่นายอยากให้เป็น...

ความหวัง... ว่าจะได้เจอนายอีกครั้งมันจะเป็นเรื่องจริงได้หรือเปล่า...

"พี่เต๋าจะไปไหนพี่"

"ว่าไงส้ม พี่กำลังจะกลับห้องน่ะ"

"อ้าว! ส้มนึกว่าจะไปก๊งกับพวกพี่เดียร์ ส้มกำลังจะตามไปเลย"

"พอดีมีคนสำคัญจะมาหาน่ะ"

"ออ... ครอบครัวสินะงั้นส้มไม่ถ่วงเวลาแล้วพี่ ส้มไปก่อนนะเดี๋ยวรถติด"

"เออๆ เดินทางดีๆล่ะ"

"คร้าบบบบบบบ..."

ผมโบกมือลาให้ไอ้ส้มที่วิ่งขึ้นรถเมล์ไปแล้ว รอยยิ้มของผมยังคงยิ้มค้างอยู่อย่างนั้นเหมือนหัวใจของผมกำลังพองโต วันคืนที่แสนสุขที่อยากได้รับมันมาตลอดทั้งปีบัดนี้ผมกำลังจะได้รับมันในอีกไม่ช้า...

พรวิเศษอย่างนั้นหรอ?

สงสัยมันคงอยากทำตัวเป็นจินนี่... 

เอ้า! เอาก็เอาอยากเป็นจินนี่ เดี๋ยวพี่เต๋าจะรับบทเป็นอะลาดินให้ก็ได้!

ว่าแต่... แถวนี้มีร้านไหนที่ตัดผมดีๆบ้างวะเมื่อก่อนหน้าลืมถามไอ้ส้มไปเลย...

ไปวัดใจร้านตัดผมแถวหอเอาก็ได้วะ T^T   :o12:
 




......
สวัสดีจร้า! เเละขออภัยนักอ่านทุกท่าน
ใจจริงอยากให้นิยายจบก่อนปีใหม่เเต่ตอนนี้มันไม่ทันเเย้ว!
ภารกิจนักเขียนเยอะม๊าก!
เอาเป็นว่าตอนพิเศษในช่วงปีใหม่คงจะตอบโจทย์ให้หลายๆคน
เอ๊ะ! หรือจะเพิ่มความสงสัยเพิ่มอีกล่ะ  :a6:
เอาเป็นว่า ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน... แฮ่!
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Raycira ที่ 31-12-2014 02:54:44
คริส...หายไปไหน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-12-2014 08:27:11
 :mew5:  เอ๋ ทำไมอ่านแล้วงง
หรือนั่นแปลว่าอู๋คือคริสที่แปลงร่างมาเรียนปีหนึ่ง
งงจ้า คริสจ๋าแวร์อายู
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 31-12-2014 08:57:57
คริสจะหายไปเหรอ??? หรือจะเป็นคน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 31-12-2014 10:33:40
คริสสสสสสสสส นายหายไปไหนนนน
กลับมาน้าาาาาาา แล้วอู๋นี่ใคร? งงแปป
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 31-12-2014 11:27:35
 :mew3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: davina ที่ 31-12-2014 23:15:59
อันนี้คือข้ามไปในอนาคตระหว่างเต๋ากับคริสป่ะคะ? งงๆนิดหน่อย
แต่เกรียนๆเค้าชอบนะ คริๆๆ

ปล.เต๊าะเด็กมันฟินจริงๆนะ เดี๋ยวนี้เด็กน่ากิ๊นน่ากินนนน  :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 01-01-2015 02:26:05
นี่ไม่ได้อ่านตอนพิเศษนะ แต่สองตอนที่ล่าสุด(สำหรับเราที่ไม่ได้เข้ามาอ่าน) ฟินเบาๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 03-01-2015 20:25:03
ไม่ค้างเลย จริงๆนะ  :katai1:  :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 03-01-2015 20:51:39
เอิ่ม
อู๋นี่เป็นคริสมาเกิดใหม่หรอ
หรือว่า เป็นคำขอ
(?)
เต๋าได้ขอว่าจะต้องมาพบกันอีกป่ะเนี้ย
แล้วคริส มอดสลายดับไปกับซาตานเลยป่ะเนี้ย
 :serius2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: แมวอัดกระป๋อง ที่ 04-01-2015 21:39:33
พี่ซินนี่ทิ้งปมไว้ค่อนข้างละเยอะ

แต่ถ้าหาตัวพ่อมด แอบสงสัยพี่โอ :katai5:
หายตัวจากเรื่องไปหลายตอนแล้วด้วยหุๆ
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ2 เคาท์ดาวน์ปีใหม่ - P10 - 4/01/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 04-01-2015 23:52:14
 :katai4:
กระผมขอซุ่มเงียบ... :hao7:




DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนพิเศษ ภาคต่อ
เคาท์ดาวน์ปีใหม่




มันไม่มาแน่ๆ มันไม่มาชัวร์ๆ ไหนบอกว่าตัดผมแล้วสิ่งที่หวังจะเป็นจริงวะ แบบนี้มันเข้าข่ายหลอกลวงต้มตุ๋นกันนี่หว่า จะเป็นคริสหรืออู๋ก็ยังโกหกวันยังค่ำ! แหงนมองนาฬิกาที่ตอนนี้มันก็ปาเข้าไปเกือบจะห้าทุ่มแล้ว ถ้าจะให้ผมเดินไปเคาะห้องมันหรอ? ไม่มีทางอ่ะ รอไอ้เต๋ากินยาเกินขนาดก่อนนะเดี๋ยวจะทำแบบนั้นจริงๆ

เฮ้อ! ถอนลมหายใจอย่างสุดเซง ผมว่าผมควรเข้านอนได้แล้ว ไม่ต้องเลี้ยงข้ามคืนปีใหม่หรอกปีนี้ขอนอนข้ามปีก็ได้วะ! แต่พอผมเตรียมตัวลุกจากโซฟาเพื่อที่จะเข้านอนเสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น ผมนี่รีบเดินดุ่มๆแล้วเปิดผลั้ว! ออกมาทันที...

 :ruready

"คะ... คริส!" ไม่รู้ว่าเมาขี้ตาหรือเป็นเพราะว่าผมง่วงเกินไป สิ่งที่ผมอยากเห็นมาตลอดเกือบปีกำลังยืนหล่ออยู่หน้าห้องของผม สิ่งที่ผมปรารถนาเป็นจริงอย่างนั้นหรอ? หัวใจเต้นแรง มันแรงมากขนาดที่ว่าได้ยินเสียงดังตึกตัก ลมหายใจติดขัดจนพาลอยากจะร้องไห้ กระโดดกอดคอร่างสูงเอาไว้หมับ! จนมันเซไปข้างหลังหลายก้าว

"พี่ๆ อย่าเพิ่งมาดีใจตอนนี้อู๋หนัก"

หืม?

ทำไมเรียกตัวเองว่าอู๋วะ! ย่นคิ้วแทบจะติดผละใบหน้าออกมาจากอกแกร่งที่ยืนอยู่ ย่นคิ้วมองใบหน้าหล่อๆที่ยิ้มกวนๆให้กับผม

"เหมือนใช่มะล่ะดอลฟี่ นี่ยอมลงทุนไปหาซื้อชุดที่คล้ายๆภาพในรูปที่พี่วาดเลยนะ"

ฮะ? นี่อย่าบอกนะว่าไม่ใช่คริส...

รู้สึกทึ่งเล็กน้อย....

ขอกลับเข้าไปในห้องแปปนะครับ เดินดุ่มๆไปที่ห้องน้ำแล้วหยิบด้ามไม้ถูพื้นออกมา ตรงดิ่งไปที่ได้ห้องไปทางไอ้เด็กเวรที่มันกำลังวางสัมภาระที่หอบหิ้วมาเอาไส้บนโต๊ะญี่ปุ่น "อย่าอยู่เลยไอ้เด็กเวร!"

 :angry2:

"ว๊ากกกกกกกก!!!! นี่พี่จะทำอะไร"

"ตลกมากป่าววะ เดี๋ยวพ่อฟาดด้วยด้ามไม้ถูกพื้น"

"เฮ้ยๆๆๆพี่ ไม่เดี๋ยวแล้วนี่จะฟาดจริงๆ"

"เออ! มึงตายยยยยยย!!!!!"

"พี่!!!!!!!!"

"...."

นั่นล่ะครับ... ข้อหาเล่นตลกกับหัวใจ ผมอุตส่าห์ยอมลงทุนตัดผมเพื่อที่จะได้เจอกับคริสอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้หวังว่าเขาจะกลับมาจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้ว่าเขาไม่มีทางทิ้งผมไปไหน

"เจ็บอ่ะ... ทำไมต้องรุนแรงแบบนี้ด้วย"  มองไอ้เด็กบ้าที่แกล้งนั่งสะอึกสะอื้นร้องไห้หลังจากที่ผมแพ่นกะบาลไปจนหัวโน ผมนี่อยากจะกดหัวโนๆนี่ของมันจริงๆ พยายามทายาหม่องให้มันด้วยความรู้สึกหมั่นไส้

"แล้วเอ็งกวนข้าทำไมล่ะ รู้ไหมว่าไม่ชอบ"

มันเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีครามถึงแม้ว่ามันไม่ใช่สีตาจริงๆของเขา แต่มันกลับทำให้ผมใจเต้น และสะกิดใจไม่น้อย เวลาที่เห็นนี่พาลให้เกิดความรู้สึกที่สงสาร... แต่คริสมันไม่เคยมานั่งร้องไห้หมดมาดผู้ชายแบบนี้หรอกนะ แต่พอเห็นแบบนี้แล้วมันก็น่ารักไปอีกแบบ

"ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิจะได้เดินกลับไปเปลี่ยน ก็ผมเห็นว่าพี่ชอบดอลฟี่ก็เลยอยากให้พี่ชอบผมบ้างไม่ได้หรอ?" แล้วมันก็ยื่นหน้าทำหน้าอ้อนๆเข้ามาใกล้...

เฮ้ยๆๆๆๆ! ไอ้บ้า อย่าทำแบบนี้สิวะมันมีผลต่อหัวใจของพี่เต๋านะเว้ย!

"อะ... เออ! รู้แล้วน่าเอาหน้าของเอ็งออกไป" แล้วผมก็ดันหัวมันออกไปเบาๆ

"ฮ่าๆๆๆ" เสียงหัวเราะของมันทำให้ผมรู้สึกอายยังไงชอบกล เลยทุบไปที่แขนมันแรงๆเต็มเหนี่ยว ไม่อยากจะบอกว่ามันเหมือนคริสเกินไปจนทำให้ผมใจสั่น เผลอมองเขาอยู่นานจนลืมตัว กระทั่งมันหันมาถาม

"พี่ตัดผมแล้วหล่อนะ ทำไมชอบไว้ผมไว้หนวดเหมือนโจรยังไงยังงั้นคราวหลังไม่เอานะผมชอบแบบนี้มากกว่า" แล้วมันก็ยิ้มให้ผมจนตาหยี

รู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนขึ้นสู่ใบหน้าจนเห่อร้อน "อะ เอ็งนี่ยุ่งวุ่นวายจริงๆ นี่จะเป็นอะไรมันก็เรื่องของพี่เว้ย!" แล้วทำไมเสียงผมต้องสั่นด้วยวะ!

"ถ้าอย่างนั้นอู๋จะทำแบบพี่นะ?"

หันไปมองมัน "เพื่อ?"

"เอ้า! ก็โบราณว่าไว้ ว่าถ้าเนื้อคู่กันจะเหมือนกันไง" แล้วมันก็ยิ้มทำตาปริบๆจนน่าจิ้มให้คอนแทคมันติดลูกตาจริงๆ

"กวนตรีน"

"ไรอ่า นี่อุตส่าห์หวานแล้วนะยังไม่ชอบอีก"

"ไม่ชอบเว้ย! หล่อเกินมาตรฐานชายไทยไม่ผ่านQC" หันตัวหนีมันที่เขย่าแขน นี่มันจะอ้อนผมทำไมวะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนหน้ายังกวนบาทาผมอยู่เลย ผมชอบแบบนั้นมากกว่าเพราะมันทำให้ผมเป็นกันเองกับมัน แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ในเมื่อมันแต่งตัวเหมือนกับคริสซะขนาดนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็คือคนที่จากไปแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่เรียกหรือสีหน้าที่กำลังทำอยู่...

"พี่! ผมคนจีนไม่ใช่คนไทย"

"เออนั่นล่ะ!"

"อ่า...." แล้วมันก็ครางแบบงอแงที่สุด นี่มึงช่วยนึกถึงสภาพร่างหมีกับท่าทางคิกขุอาโนเนะเป็นอนุบาลหมีน้อยด้วยเถอะว่ามันเหมาะไหม๊!

"ไม่ได้จริงๆหรอ?" มันทำเสียงอ่อนลง ผมกอดอกแล้วพยักหน้าหงึกหงักแกล้งมัน แล้วมันก็ทำเสียงครางออกมาอีกก่อนที่จะเงียบเสียงไปครู่หนึ่ง

"ถ้าอย่างนั้น..." หันไปมองมันที่ท่าทางกำลังเปลี่ยนไป "ถ้าเกิดเป็นคริสพี่จะยอมคบกับผมใช่ไหม" แล้วมันก็หันมาทำสายตาจริงจัง ดวงตาคู่สวยนี่ทำให้ผมใจเต้นแรงมากจริงๆ

"ทำไมล่ะทั้งๆที่เหมือนคนนั้นมากแท้ๆ หรือผมดีไม่เท่าเขา?" กระแสเสียงที่อ่อนลงมันพาลให้ผมอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ
รู้ได้ไงว่าเหมือนเขาทั้งๆที่นายไม่ใช่ แล้วทำไมต้องทำสีหน้าเจ็บปวดแบบนั้นในเมื่อกูตามจีบมึงมาตลอด แต่มึงกลับเล่นตัวแถมกวนบาทาใส่... ไม่สิ ปกติแล้วเวลาที่ผมเจอมันๆไม่เคยหลบหน้าหรือหนีผมเลย แถมยังกวนผมกลับมาทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้ และสนุกเวลาที่เจอกันเสมอ เพียงแค่ว่าพวกเราไม่เคยบอกความรู้สึกออกไปจริงๆ อีกอย่าง... เขาไม่ใช่คริสคนเดิมที่อ่านใจผมได้แต่เป็นอู๋ที่เป็นมนุษย์เหมือนกันกับผม...

"พี่... พี่จะเชื่อไหมถ้าผมบอกว่า... ถึงผมไม่ใช่เขาแต่ผมก็รักพี่ไม่ได้น้อยไปกว่าคนๆนั้นเลย" คำพูดของมันทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจแปลกๆ หัวใจเต้นแรงด้วยความดีใจยังไงชอบกล ผมเบือนใบหน้าหนีเขาเมื่อน้ำตาที่เอ่อคลอพาลจะไหล มันยิ่งทำให้ไอ้เด็กบ้ารู้สึกผิดหวังที่คิดว่าผมไม่ยอมรับ มันหันกลับไปทางทีวีทางเดียวกับผมแล้วเริ่มร้องไห้ออกมาเผลาะๆ เฮ้อ! ไอ้เด็กขี้แยนี่มันผิดกับภาพลักษณ์ในสายตาของชาวบ้านที่มองมันจริงๆ

"ร้องไห้ทำไม" ถามเสียงเครือพยายามพูดให้น้ำเสียงเป็นปรกติที่สุด

มันตอบเสียงอู้อี้ "พี่เกลียดผม"

"ไม่แสบตาหรือไงร้องไห้ตอนใส่คอนแทคเนี่ย"

มันส่ายหน้า "ผมอยากตาย"

เอ้า! ไอ้นี่มีชีวิตดีๆไม่ชอบอยากจะตายซะละ แอบอมยิ้มก่อนจะพยักหน้าทำสีหน้าขรึมๆ ตบหลังมันปักๆ "เอาน่า มีคนหล่อๆตังเยอะแยะ สาวๆก็รุมล้อม แบบนี้หาแฟนไม่อยากหรอก"

"ไม่เอาอ่ะ ไม่ใช่สเปคไม่ได้ชอบคนหล่อ"

อ้าว! ไอ้นี่วอน นี่เอ็งกล้าว่าข้าไม่หล่อเรอะ! อยากตบเด็กขึ้นมาซะงั้น
 :m16:

ถอนลมหายใจ "แล้วชอบแบบไหนวะ"

"แบบพี่ไง" เออกูไม่น่าถาม ขอโทษคร้าบบบบบบบ!!! มองหน้ามันที่น้ำตาเปรอะเปื้อนเต็มแก้ม

"..." โว้ยยยยยยยยยยย!!!!!! หมั่นเขี้ยวเด็กไปทนแม่มละ!

"งั้นยอมอยู่ล่างมะล่ะ?" มันทำหน้างงๆใส่ แบบไม่เก็ทสุดๆ

เฮ้ย! นี่ยอมอ่อยแล้วนะทำไมมันไม่เก็ทวะแถมทำหน้าเป็นหมางงอีก ผมนี่รู้สึกอายจริงๆที่พูดเรื่องนี้ออกไป ถ้าเอ็งยอมเป็นฝ่ายรับข้าจะยอมรับเอ็งเป็นเด็กในสต็อก รับสิทธิพิเศษเป็นแฟนออกสื่อเลยนะ เด็กๆข้าเยอะถ้าไม่รับข้อเสนอเดี๋ยวเปลี่ยนใจไม่เอานะเว้ย!

"อะไรอ่ะพี่ อยู่ล่าง แบบนี้น่ะหรอ?" แล้วมันก็ลงไปนั่งจุมปุกนั่งพับเพียบเรียบร้อยได้น่าถีบมาก...

นี่เอ็งเกรียนข้าใช่ไหมไอ้อู๋!

อยากจะยีหัวเกรียนๆของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดแล้วลากแขนมันขึ้นมา เดินดุ่มๆไปที่เตียงเหวี่ยงมันลงไปประหนึ่งเล่นบทจำเลยรัก มองร่างหมีที่กอดตัวเองเอาไว้แล้วมองผมด้วยอาการตื่นๆ

"นี่พี่จะทำอะไรน่ะ!?"

"ฉลองปีใหม่ข้ามคืนไงเด็กน้อย"

"งะ งั้นผมไปเตรียมของก่อนนะ"

ตุบ!

ชันแขนคร่อมร่างที่สั่นเทาพลางเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ กลัวละซี๊! หึหึ เจอพี่เต๋าเอาจริงเข้าหน่อยถึงกับตัวสั่นเทาเลยหรา วันนี้ล่ะพี่จะเผด็จศึกลูกหมีน้อยที่สั่นเทาคนนี้ มาเป็นของพี่เสียเถิดคนดีโอ้มายเบบี๋น้องรัก...

"พะ พี่จะทำอะไรน่ะ..."

"ยะ... อย่านะพี่ ผม.... ผม...."

"หึหึ มาเป็นของพี่เถอะน้อง"

ตุบ!

หืม?

"ผมจะบอกว่า อย่าใจร้อนผมยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าเลย"

เห?

มองไอ้หน้ายิ้มหล่อที่คร่อมร่างผมด้วยความงุนงง เมื่อครู่ผมยังอยู่เหนือมันกว่าเลยทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าผมถูกมันครอบครองเสียแล้ว สบตาคมสีครามตาปริ่มๆที่ยิ้มให้ผมจนตาหยี ความกระหายที่อบอวลแผ่ออกมาจากร่างหมีที่อยู่ข้างบนนี่มันคืออะไรวะ!
"เฮ้ย! ดะเดี๋ยว นี่จะทำอะไร๊!?" เสียงนี่ก็หลงได้อีก

มันหัวเราะ "ฮ่าๆๆๆ ก็พี่จะเอาแบบนี้ไม่ใช่หรอ?" ไอ้หน้าใสซื่อนี่มันชวนอยากให้เอานิ้วจิ้มตามันจริงๆ

"ไม่ใช่เว้ย!" แหวเสียงใส่มันแบบหัวเสีย "พี่ต้องอยู่บนแล้วเอ็งอยู่ล่าง ไม่ใช่พี่อยู่ล่างแล้วเอ็งอยู่บนแบบเนร๊!" แล้วมันก็เลิกคิ้วเหมือนเข้าใจ

ฮ่วย! ทำอะไรนี่ต้องให้บอกไม่เก็ทเลยว่ะ เล่นกับเด็กนี่มันปวดสมองจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดีนะในเมื่อเด็กมันไม่ตะสีตะสาโดนผมหลอกง่ายๆแบบนี้ มองร่างสูงที่พยักหน้าหงึกหงักเข้าใจแล้วยอมผละตัวออกมา ผมเลยต้องรีบลุกขึ้นนั่งโดยเร็ว

"อ๋อออออออ...." มันครางพร้อมพยักหน้า กว่าจะรู้เรื่องนะเอ็งทำเอาซะข้าเสียวหลังวาบ "ก็ได้ถ้าอย่างนั้นถอดเสื้อให้ผมด้วยสิ"

ฮะ!

"ก็พี่อยากอยู่บน อยู่บนสบายจะตายก็ต้องหางานเพิ่มสิ"

อ๋อ! เออมันก็ฉลาดดีนี่หว่า นี่สงสัยจะเตรียมพร้อมมาดี ผมยิ้มร่า "แน่ใจ?" มันพยักหน้าแบบอารมณ์ดีสุดๆ

เอาละครับท่านผู้ชมไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้เปลืองน้ำลาย ไม่ต้องสาธยายให้ยืนยาว ขอหม่ำหมีน้อยอย่างน้องอู๋นี่ละกันครับ! หมับ! กระโดดคร่อมร่างแล้วปลดชุดของมันที่ถอดไม่ยากนัก เหมือนเสื้อผ้าถูกดีไซน์ออกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ยามเมื่อสบตาคมสีครามที่คอยทอดมองผมในยามที่แกะกระดุม มันพาลให้ใบหน้าของผมเห่อร้อนเสียทุกที...

อย่าน่า! อย่าให้มันรู้ว่าหวั่นไหว เดี๋ยวมันได้ใจ กฏของผู้อยู่บนต้องนิ่งขรึม และมาดแมน คนอย่างพี่เต๋านี่มีคุณสมบัติพอครับ!

ค่อยๆปลดกระดุมด้วยอาการมือไม้สั่นเทา... ฮึ่ม... ผมนี่อยากตบมือตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมาจริงๆ กว่าจะถอดเสื้อผ้ามันออกมาจนหมดนี่ก็กินเวลาไปหลายสิบวิ มองแผ่นอกที่เห็นแล้วพาลให้ใจเต้น... โอ้ย! อิจฉาเว้ย! คนมีซิกแพกเนี่ย ทำไมเราไม่มีเหมือนเขาบ้างวะที่มีนี่ก็แค่ก้อนไขมันหย่อมนึงตรงหน้าท้อง เห็นแล้วหมั่นไส้จริงๆ
 :impress2:

"ชอบหรอ?" มันถามผมที่เอาแต่จ้องอยู่นานเลยเงยหน้ามองมัน ทำหน้าปูเลี่ยนใส่ "ชอบทำไมนี่ก็มีเถอะ" ไม่ได้โม้ด้วย นี่เดี๋ยวโชว์ให้ดู...  แล้วก็เลิกเสื้อทำท่าจะถอด...

"อะ อื้อออออ..." เชี่ย! ทำอะไรวะสยิวสัด!

มองไอ้อู๋ที่ตอนนี้มันยิ้มเจ้าเล่ห์ยามเมื่อได้แกล้งผม มือของมันค่อยๆลูบไปตามแผงอกของผมอย่างช้าๆ ในขณะที่ผมกำลังถอดเสื้อ รู้สึกแปลกๆยามเมื่อถูกสัมผัส มันรู้สึกดี และคุ้นเคยจนตอบสนองไปกับมือนี้จนน่าแปลก เสียงลมหายใจของเขาที่โน้มเข้าหา ช่วยถอดเสื้อของผมออกไปอย่างช้าๆ สูดกลิ่นจากพวงแก้มแล้วกระซิบกระซาบจนขนลุกตั้งชัน

"ผมรักพี่เต๋านะ รักมากกว่าคริสอะไรนั่นเป็นสิบเท่าอีก"

ไอ้เด็กขี้โม้เอ๊ย!

มองมันที่ยิ้มให้จนตาหยี ก่อนที่ผมจะปริปากด่าก็ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหนาเสียแล้ว ริมฝีปากนิ่มๆกดจูบดูดเม้ม แลกลิ้นรุกล้ำเข้าหาภายในอย่างร้อนแรงราวกับอดอยากมานานแรมปี มือหนาปัดป่ายไปตามร่างกายของผมจนรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นทุกสัดส่วน หอบหายใจหนักแทบขาดอากาศหายใจ เมื่อเสียงจวบจาบของลิ้นพยายามดื่มด่ำผมให้มากที่สุด...

เฮ้ย! นี่มันจะเก่งไปไหน!

"อา... ฮึก" กลืนน้ำลายหลังจากที่ถูกปลดปล่อย สบวงหน้าหล่อที่ดูพึงพอใจมาก มันค่อยๆพาผมเอนหลังไปบนที่นอนนุ่มก่อนจะปลดกางเกงบ๊อกเซอร์ของผมออกจากร่างกาย...

"น่ารักจัง..."

"อย่าพูดนะเว้ย!" ไอ้บ้ามาชมช้างน้อยเก๊าว่าน่ารัก แค่นี้ก็อายสุดๆแล้วให้ตายเถอะ!

มันหัวเราะครืนในลำคอ ก่อนจะโน้มตัวเพื่อใช้จมูกชอนไชไปตามร่างกายของผม มือหนาคอยรูดคลึงส่วนที่อ่อนไหว จากที่อ่อนยวบค่อยๆพองโตจนคับแน่น รู้สึกเสียวไปตามท้องน้อย และร่างกายจนรูขุมขนตั้งชัน เคลิบเคลิ้มไปตามสัมผัสนั้นที่มันกำลังมอบให้ รู้สึกล่องลอยราวกับว่าผมคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดี...

ริมฝีปากหนาค่อยๆจูบไปตามร่างกายของผม ไล่จากท้องน้อยมาจนถึงยอดอก ขบเม้มเบาๆจนผมสะดุ้ง และคราง "อือ..." เสียงกระเส่า ปรือตามองอู๋ที่เคลื่อนตัวทาบทับ แล้วจุมพิตลงบนริมฝีปากผะแผ่วแล้วผละออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เคลื่อนตัวลงเบื้องล่างสู่กลางลำตัวของผมอย่างช้าๆ ก่อนที่ผมจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อความเปียกชื้นเข้าครอบงำส่วนที่อ่อนไหว "อะ อา.... อือ อู๋อย่าดูดแรง" พยายามดูดดุนแก่นกายราวกับว่ามันคือขนมหวาน เสียงดังจวบจาบพร้อมๆกับจังหวะเร่งเร้ายิ่งสร้างความกระสันในกาย แหงนหงายเรือนร่างก่อนที่อารมณ์ของร่างกายจะถึงขีดสุด มันอัดอั้นแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆก่อนที่มันจะทนไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำขาวข้นมากมายเต็มกระพุ้งแก้ม เสียงอึก! ยิ่งเพิ่มความอายให้ผมเป็นเท่าตัวเมื่อมันกำลังดื่มด่ำลิ้มรสชาติลูกๆของผมไปจนหมด...

ไม่ว่าจะคริสหรืออู๋ ม๊านนนนน!!! ก็ชอบกินไอ้นั่นอยู่ดี มันอร่อยตรงไหนวะ?

"แฮ่กๆ  ฮึก" หอบหายใจหนักเมื่อร่างกายเหมือนถูกสูบวิญญาณออกไป มองร่างแกร่งที่เข้าทาบทับผมอีกครั้ง ไม่ได้ออกศึกนานนี่มันเหนื่อยจริงๆ มองอู๋ที่ยกยิ้มแล้วโน้มตัวกระซิบกระซาบกับผมผะแผ่ว...

"พร้อมนะ?"

เห?...

"ฮะ เฮ้ย! พร้อมอะไร!" ดันอกมันออกไปเมื่อมันทำท่าดูเหมือนจะเผด็จศึกใช้ปืนใหญ่ทะลวงประตูด่านเข้ามาภายในร่างกายของผม ไอ้คนถูกถามทำหน้าใสซื่อ "อ้าว ก็พี่เสร็จแล้วขอผมเสร็จบ้างสิ" แล้วมันก็กระพริบตาปริบๆเหมือนใสซื่อ

"มะ ไม่ใช่เว้ย!" มันต้องไม่ใช่แบบนี้ "เอ็งต้องอยู่ล่างสิพี่จะอยู่บน!" ผมนี่ร้องจนลิ้นแทบจะพันกัน
 :angry2:

"อ๋ออออ โทษๆผมลืม" มันยังมีหน้ามายิ้มแล้วผละตัวออกมานอนรอ ไม่พอมันยังดึงผมให้กลิ้งตามแล้วอยู่ในท่าที่คร่อมร่างมันอยู่ ช้างน้อยของเราแนบชิดเหมือนรู้จักสนิทสนมกันมานาน มองไอ้เด็กเวรที่ยิ้มร่าแล้วถามว่า "เอ้า! จะรออะไรล่ะครับ เครื่องผมกำลังร้อนได้ที่เลย"

เออๆๆๆ นี่ก็เร่งจัง รู้จักไหมคำว่ายางอาย พยายามยกสะโพกขึ้นเพื่อหวังจะทำหน้าที่เผด็จศึกไอ้เด็กนี่ให้รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างข้านี่ต้องเป็นฝ่ายรุกเท่านั้น! วะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

แต่ไม่ทันที่ผมจะลุกขึ้นสูงเพื่อขยับตัว "อ๊า!!!!" เสียงร้องด้วยเจ็บความระงมหวานแหกปากลั่นเมื่อส่วนที่แข็งขืนทิ่มพรวดเข้ามา ใบหน้าเหยเกมองหน้าไอ้เด็กเวรที่กล้าหักหลังกันซึ่งๆหน้า มันยิ้มร่าแล้วพูดหน้าตาย

"แหะๆ ขอโทษครับพอดีทนไม่ไหวแล้วจริงๆ"

"อะ ไอ้ อ๊า! อือๆ"

มะ มันยังมีหน้ามาตอบอะไรที่น่า.... อะ อื้ออออ ไม่ไหวแล้วมันเสียวท้องจนพูดไม่ออก....

ร่างกายขยับขึ้นลงไปตามจังหวะของมือแกร่งที่คุมเกมขยับสะโพกให้เข้าออกเป็นจังหวะที่ร้อนแรง รู้สึกเจ็บ และเสียวในคราเดียวกันปนเปไปหมด...

"มะ ไม่..." มันต้องไม่ใช่แบบนี้!

มองใบหน้าหล่อเหลาที่เคลิบเคลิ้มไปกับร่างกายของผมที่ตอกเสาเข็มจนสุดด้ามก่อนจะดึงออกมาแล้วตอกลงไปใหม่ เวลาเห็นสีหน้าแบบนี้ทีไรนี่พาลให้รู้สึกหมั่นไส้ทุกที แต่ตัวผมเองก็รู้สึกดีไม่แตกต่างรับความสุขเล็กๆที่เขามอบให้ก่อนที่จังหวะนั้นจะถึงขีดสุดอารมณ์หมาย ปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นในเวลาต่อมาอีกรอบ....  ฮืออออออออ...
 :freeze:

บอกเลยว่า... "เหนื่อย!"

บ่นไอ้ร่างหมีที่นอนข้างๆตีพุงอิ่มเอมสบายอุราได้แบบน่าถีบให้หล่นจากที่นอนมาก นี่ถ้าไม่กลัวว่าอะไรมันจะไหลออกมาจากตัวพ่อจะทำจริงๆ... ฮรึก... ไอ้เต๋าโดนหลอกกินฟรีๆแบบเสียเนื้อเสียตัวเต็มที่ ทำไมชีวิตนี้ถึงโดนเป็นฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่ยุติธรรม!

"เหนื่อยหรอ? เดี๋ยวพรุ่งนี้อู๋ดูแลเป็นพิเศษเลยดีไหม?" ชำเลืองมองมันที่ยิ้มอ่อนโยนให้กับผม นิ้วแกร่งคอยเกลี่ยพวงแก้มของผมเบาๆด้วยความสนุกมือ

"จริงอ่ะ" ถามมันด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อเท่าไร ไอ้เด็กนี่มันไม่น่าไว้ใจเท่าไร

"อื้ม! ยอมเป็นเบ๊ให้วันนึง ไม่สิทุกๆวันเลย แล้วพรุ่งนี้เอ้ย วันนี้ก็ฉลองปีใหม่ด้วยเลยดีไหมเดี๋ยวโชว์ฝีมือเอง"

"จะท้องเสียปะ?"

มันหัวเราะให้กับคำถามผม "ฮ่าๆๆๆ พี่นี่ตลกอ่ะ กินได้สิระดับนี้แล้ว!" โธ่ไอ้ขี้คุยทำก่อนแล้วค่อยโม้ก็ได้...

"ว่าแต่..."  ลืมตามองมันอีกครั้งเมื่อผมทำท่าจะหลับไปแล้ว

"อะไรอีกล่ะ" ถามมันเสียงดุๆ เพื่อบอกว่าผมเหนื่อย และง่วงนอนเต็มที่

มันทำเสียงอึกอักแถมทำหน้างอพ่วงไปด้วย นี่มันจะกวนประสาทผมอีกหรือไงวะ! แต่พอได้ยินคำตอบทำเอาผมอึ้งไม่น้อย "พี่ยังไม่บอกรักผมเลย"

ง่ะ... รู้สึกผงะ และเลือดไหลเวียนกระจุกอยู่ที่หน้าอีกแล้ว นี่มันถามอะไรของมันวะ? ให้ขนาดนี้ยังจะถาม "ไม่บอกเว้ย! ของดีต้องเก็บเอาไว้"

"โหยยยย ไรอ่ะ นะนะ พูดหน่อยสิปีใหม่ทั้งที บอกชอบก็ยังดี"

"ไม่เว้ย ไม่พูด เอ็งมันเกรียนพี่ไม่พูดหรอก"

"หูยพี่ ทำไมอ่ะผมยอมพี่ขนาดนี้แล้วนะ...
"
ผมยันตัวมองหน้ามันแบบหน้างอสุดๆ "ยอมพี่จริงๆเมื่อไรเมื่อนั้นแหละถึงจะบอก!" แลบลิ้นใส่มันไปทีก่อนจะหันหลังหนีด้วยความรำคาญ งอนเว้ย! เสียท่าให้ไอ้เด็กนี่แล้วมันหงุดหงิด นอนดีกว่า...

"พี่เต๋า ตื่นมาคุยกับอู๋ก่อนเร็วๆ"

จ้างให้ก็ไม่ฟื้น....

แอบรอบยิ้มยามที่ได้ยินเสียงงุ้งงิ้งข้างหู เสียงโอดครวญมันทำให้ผมสนุกที่ได้แกล้งแหย่ แม้จะสงสารบ้างแต่ไม่มีทางยอมทำแบบนั้นหรอก เพราะอะไรน่ะหรอ... ถ้าขืนพูดออกไปผมว่ามันคงไม่จบแค่นั้น....

เสียงที่คอยเรียกผมจนน่ารำคาญค่อยๆเงียบเสียงลงไปอย่างช้าๆก่อนจะกลายเป็นความเงียบที่เข้าปกคลุม จนผมเผลอนึกว่ามันเหนื่อยที่จะเซ้าซี้ แต่เมื่อผมตั้งท่าจะหลับกลับได้ยินเสียงที่ชวนให้ใจเต้นแรง...

"ผมรักพี่นะ..." พร้อมๆสัมผัสที่กดจูบมาที่ข้างขมับของผมผะแผ่ว...

มันเป็นของขวัญปีใหม่ที่ทำผมรู้สึกดีใจจนไม่อาจหุบยิ้มได้เลย...

อือ... ฉันก็...นาย... ไอ้เด็กบ้า...






.....
แฮ่! สวัสดีปีใหม่จ้า! ถึงจะช้าไปบ้าง... ไม่บ้างอ่ะช้าโครต! แต่ก็.. สวัสดีปีใหม่จ้า
เอาล่ะ! ตอนพิเศษเชื่อว่าหลายคนอาจจะงง เอาไว้อ่านจนถึงตอนจบแล้วย้อนมาอ่านนี่ใหม่คงจะทำให้หลายๆคนเข้าใจมากขึ้น (เพื่อ?555) ตอนพิเศษนี่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่อัพอยู่เน้อ มันคือหลังจากที่เรื่องราวจบลงไปแล้ว ครุคริ อยากอัพเพื่อให้คนอ่านงง (โดนถีบ...) เอาเป็นว่าสวัสดีปีใหม่รอบที่สาม หวังว่าทุกๆคนจะมีความสุข และใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้เต็มที่... พรุ่งๆเปิดงานแล้วสิเนอะ ใครมีเรียนก็เรียนต่อปาย... ขอให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ใครโสดขอให้เจอะเนื้อคู่ ร่ำรวยเงินทอง อย่าเจ็บอย่าไข้สุขภาพแข็งแรงนะค้าบบบบบบ!!!!
บายๆ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 05-01-2015 00:07:45
 :katai4: กดสั่งลาเวนเดอร์สามรถบรรทุก ผมอยากผ่อนคลาย :heaven

อยู่ล่างอยู่บนไม่แตกต่างอะไรเลยนะ ชายเต๋า โดนแทงตลอด

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด........!!!!(สาวแตกละช้านนน)
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 05-01-2015 11:29:22
เป็นตอนพิเศษที่เสียดแทงใจจัง

คิดถึงคริสสสสสสสส

รอเรื่องจริงมาต่อจ้า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 05-01-2015 19:39:13
เอ๊ะๆๆๆ
น้ำตาจะไล่!!!! เห็นแบมแบมGOD7ลอยมาแว๊บนึง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-01-2015 19:59:05
เต๋าพลิกมาอยู่บนก็ดีใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆ
คิดถึงคริสแล้วนะ ปีใหม่นี้ขอให้คนเขียนประสบความสำเร็จ รวยๆนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up ตอนพิเศษ ก่อนคืนปีใหม่ - P10 - 31/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-01-2015 14:20:55
ต้องร้องไห้รอไหม
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 12-01-2015 01:35:53
DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
20








ช่วงนี้ผมรักไอ้ไก่เป็นพิเศษครับ...

"ยิ้มเชี่ยไรของมึงเนี่ยลำบากกูตลอด" เสียงบ่นของมันเวลาที่เห็นผมออกมาจากห้อง หน้าตามันดูหงุดหงิดมากเลยครับที่ผมทำตัวเหมือนเด็ก ทำหน้าเป็นตูดเลยนะเมิง

"ก็ช่วงนี้กูอยากอ้อนเมิงไง เอาน่ามารับหน่อยทำเป็นหงุดหงิด" มันเหล่มองผมที่คล้องคอมันแล้วทำหน้าอ้อนๆ เวลากูอ้อนนี่มึงช่วยตอบรับกูหน่อยเหอะนานๆจะรักเพื่อนรักฝูงทั้งทีหายากนะเว้ย! ถึงความรักของกูจะลำบากมึงก็เถอะนะ

เกาคอมันกุกกิ๊กๆไอ้ห่าไก่เสือกปัดมือผมออกอย่างรำคาญ โหยไรวะแค่ให้มารับไปมหาลัยพร้อมกันแค่สองสามวันไอ้นี่ทำมาเป็นไม่พอใจ เออ... เบะปากใส่มัน

"ที่ให้กูมารับไม่ใช่ว่ามึงไปคั่วหญิงแล้วเขามีผัวอยู่แล้วดันเกิดรู้เข้าจะมากระทืบมึง?" มันเลิกคิ้วเหมือนพยายามจับผิดผมที่พยายามปิดความจริงมันที่ว่าทำไมช่วงนี้รักมันเป็นพิเศษ ไอ้นี่ก็ขี้สงสัยจังวะ

"ระดับกูไม่โดนขนาดนั้นหรอกเว้ย!" ไอ้นี่ดูถูก แค่กูเดินเข้าหาสาวๆก็วิ่งหนีแล้วสัด เขานึกว่ากูจะจับพวกเธอเชือดหรือไงก็ไม่รู้ ไอ้เพื่อนเลวมันมองผมเหมือนไม่เชื่อแล้วส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะเร่งฝีเท้านำลิ่วๆไป ไรว๊าทีเมื่อก่อนกูเรียกไม่เห็นจะง้องแง้งแบบนี้เลย ไอ้ไก่เปี๋ยนไป๋

รู้สึกคันขาอยากถีบเพื่อนสนิทแต่ก็ต้องรีบวิ่งตามมันไปด้วยความเร็วไม่ลืมที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองทางช่องหน้าต่างของห้องผม เห็นเงาของคริสที่ยืนอยู่เลยยิ้มให้มันแล้วยกมือว่ากูโอเคน่า ก่อนจะเข้าไปกอดคอไอ้ไก่เอาไว้  เห็นไอ้ไก่ทำท่าทางรังเกียจผมแล้วยิ่งรู้สึกอยากแกล้ง สรุปผมก็กอดแขนมันเป็นตังเมจนถึงมหาลัยนั่นล่ะครับไม่วายโดนไอ้พวกสาววายที่ซุ้มแซวอีก

คริสเริ่มจะดีขึ้นมาบ้างแล้วครับแต่ก็ยังคงชอบนอนหลับเป็นหมีขั้วโลก ตอนมันยังเป็นตุ๊กตานี่มันยังนอนไม่พออีกหรือไงทำตัวเหมือนเด็กแบเบาะร้องกินข้าวแล้วก็นอน สงสัยอยู่ในวัยเจริญเติบโต... แต่ขอเถอะไอ้เต๋านี่จะตายเร็วครับถ้าขืนมันจับกินแบบนี้อยู่เกือบทุกคืนพูดแล้วก็เศร้าชอบหลงสงสารมันทุกที...

วันนี้ผมก็เลยกะว่าจะเกเรหน่อยถึงแม้ว่ามันยังมีเรื่องร้ายๆอยู่ แต่ผมก็คิดว่าผมสามารถที่จะเอาตัวรอดได้ โดนคริสสั่งกำชับว่าอย่าอยู่ห่างไอ้ไก่ ไม่ก็ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรก็ให้คิดถึงมัน และเรียกชื่อมันๆจะมาหา ทำตัวเป็นพนักงานส่งพิสซ่าไปได้ผมนี่ละเชื่อเลย มันจะมาหาผมอะไรได้รวดเร็วขนาดนั้นถ้าเกิดมีเรื่อง

อันที่จริงก็ยังคงกลัวนั่นแหละครับถ้าเกิดเจออะไรที่น่าสยดสยองเหมือนเมื่อหลายวันก่อน แต่นี่มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปรกติเกิดขึ้น หรือว่าพวกมันจะรู้ว่าไม่สามารถทำอะไรคริสได้ก็เลยยอมถอยไปวะ แถมไอ้ส้มช่วงนี้ก็หายไปด้วยกะจะจับพิรุธมันหน่อยแต่ดันไม่เจอซะงั้น

วันนี้มีเรียนตอนเที่ยงแถมเจอเซอร์ไพรส์อาจารย์เป็นข้อสอบเก็บคะแนน20คะแนนเพราะใกล้จะสอบนอกตารางแล้ว แค่เห็นโจทย์ข้อแรกนี่ก็กุมขมับแล้วละครับหลักสูตรอะไรไม่รู้เยอะแยะ ขอโทษเถอะแทบไม่ได้เข้าเรียนจะทำได้ไหม! สุดท้ายก็ชวด20คะแนนไปตามระเบียบ

"ไอ้เหี้ยเอ๊ยทำไม่ได้ว่ะทำไมอาจารย์ไม่บอกก่อนวะ"

"เขาบอกตั้งเเต่คาบก่อนแล้วไอ้ฟายมึงนั่นแหละไม่ยอมมาเรียน" อ้าวไอ้เหี้ยแบคนี่ปากหมาแล้วมึง

ผมหน้ามุ่ยเถียงไม่ออกเพราะไม่เข้าเรียนอย่างที่มันพูดจริงๆ สงสัยต้องไปตามชีทในแฟ้มเพื่อนๆแล้วล่ะ ถ้าขอไอ้ไก่มันคงมีไม่ครบ แล้วมันก็ยิ้มเยาะผม "ไงล่ะพ่ออัจฉะริยะ" ถ้าผมถีบไก่นี่จะบาปปะครับ แต่ผมไม่ถีบแม่งหรอกตบเลยดีกว่า

ป้าบ!!!

"เหี้ย!"

"อ้าว! ทำไม่คุณสุรเดชถึงพูดไม่เพราะเลยล่ะครับ? นี่พ่อพิมพ์ของชาติหรือเปล่า?" แอ๊บแมนทำเสียงให้เหมือนอาจารย์แล้วทำหน้าตกใจไอ้ไก่ที่คลำหัวมันป้อยๆหน้ามุ่ย สีหน้ามันอยากเอาคืนมากแต่อย่าฝันว่ามันจะทำผมได้ พวกผมนี่เดินหัวเราะไอ้ไก่ที่กระฟัดกระเฟียดเดินกระแทกเท้าฉับๆนำพวกผมไปลิ่วๆ ผมเลยได้โอกาสหันไปทางไอ้แบคที่เดินคู่มาด้วย

"แบคกูยืมแฟ้มมึงหน่อยดิ่"

"ไปขอเมียกูก่อนเหอะ" แล้วมันก็เดินหนีผมไปกันหมด...

เอ๊า! แล้วกูจะรู้ไหมว่าเมียมึงคนไหนไอ้พวกนี้ประสาทจริงๆ วู้วววววววว!!! รีบวิ่งตามไอ้แบคที่เดินหนีผม ไอ้แบคแม่งงกไม่ยอมให้ยืมสงสัยกลัวผมดองงานมันแล้วไม่คืนแน่ๆ

พอพวกผมมาถึงซุ้มก็เจอกับพวกพี่โอพี่ชินพี่เดียร์พี่โจ้พี่บอยสี่อาวุโสผู้เป็นปูชนียบุคคล... ไม่ใช่ละ... พวกพี่เขากำลังทำเฟรมเพื่อวาดรูปกันพอดีเลย สบโอกาสผมรีบวิ่งไปหาพี่โอทันที เผื่อจะเก็บเฟรมตัวเองไว้ใช้งานอื่น

"สวัสดีครับพี่ทำเฟรมให้เต๋าด้วยดิ่" พี่โอเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ผมแบบเอือมๆ

"นี่เอ็งเห็นพี่เป็นคนใช้หรือไง"

"โหยพี่เปล่าซะหน่อยแหะๆ" ยิ้มแก้เขินพี่แกที่ส่ายหน้าให้ผมแล้วก็เดินฉับๆไปหลังซุ้มดึงเฟรม60x40มาให้ โหยเล็กไปไหมเนี่ย

"พี่ทำให้  เราเอาขนาดนี้ก็พอแล้วล่ะไม่ค่อยมาซุ้มนี่" แนะพี่เขายังรู้ทันสงสัยกลัวงานไม่เสร็จแน่ๆ

"ช่วงนี้ปัญหาเยอะอ่ะพี่ก็เลยไม่ค่อยได้มาสิงที่นี่ แต่ผมก็แวะมานา...พี่นั่นแหละไม่อยู่รอเจอผม" ผมไม่ผิดนะเว้ย! ยิ้มให้พี่โอแหยๆดูเหมือนวันนี้พี่แกจะอารมณ์ดียกมือยีหัวผมด้วย

"ใครแม่งมาทำน้ำตาลหกแถวนี้วะมดขึ้นแล้วเนี่ย!" เสียงอีแคทที่มาตอนไหนไม่รู้โพล่งเสียงแซวมาจากทางด้านหลังผมนี่อยากเอาเฟรมฟาดปากมันจริงๆถ้าเกิดแม่งเป็นผู้ชาย ผมเลยเลิกคุยกับพี่โอแล้วเดินไปนั่งแหมะกับไอไก่ที่กำลังนั่งเล่นเกมเศรษฐีกับพี่ชิน ไอ้สองคนนี้มันก็ใช้เกมสื่อรักแอบจีบกันอีกและ มันสนุกไหนวะ!

"ไม่วาดรูปหรอมึง" ผมถามมันไอ้ไก่ส่ายหน้า

"หึ ยังไม่ทำอ่ะเดี๋ยวค่อยทำ เล่นก่อน" ผมเหลือบมองพี่ชินที่กำลังจดจ่อหน้ามุ่ย แม่งจริงจังมากตอนที่โดนไอ้ไก่แย่งเมือง... ใช่ป่าววะไม่เคยเล่นเเต่ดูเหมือนพี่ชินจะแพ้ ผมเลยไม่มีโอกาสที่จะถามพี่ชินเรื่องเมื่อคราวโน้นสักทีเพราะไอ้ไก่นี่แหละ วุ้ยเซ็ง

ผมหันไปถามไอ้แบคที่นั่งกินลูกชิ้นอยู่ "เดี๋ยวนี้มึงเห็นไอ้ส้มปะ?" แล้วแอบเนียนแย่งลูกชิ้นมันกินลูกนึง

"อ๋อไอ้ส้มน่ะหรอ มันไปเข้าค่ายลูกเสือกลับเย็นนี้ละมั้ง" อ้าวหรอ! มิน่าล่ะไม่เจอมันเลย แต่ไอ้แบคบอกว่ากลับวันนี้...

ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเห็นเพื่อนๆยังไม่มาไอ้พวกพี่ๆก็ไม่มีใครว่างผมเลยลุกขึ้นไปหยิบขาตั้งมาวางเฟรมแล้วลงมือวาดบ้างเดี๋ยวไม่มีเวลาว่างอีก ผมกะว่าจะเคลียร์งานให้เสร็จๆไปแล้วกลับห้องไปปั่นงานที่ค้างคาเพื่อตามคะแนน วันนี้เห็นข้อสอบแล้วจะอวกครับถ้าสอบจริงๆนี่จะขนาดไหน ขนาดอาจารย์สอบวัดความรู้นี้ยังจะแย่เลยผมนี่เห็นอนาคตคือเอฟแน่นอน...

"จะวาดรูปหรอ?" พี่โอหันมาถาม

"ครับพี่เดี๋ยวไม่ทันงานซุ้มไงใกล้จะสอบแล้วด้วย"

"อืมดีเหมือนกันวาดให้ครบๆทุกคนจะดีมาก" ผมยิ้มให้พี่แกไปทีแล้วก้มหน้าก้มตาเริ่มวาดโครงหน้าลงบนเฟรม ไม่รู้จะวาดอะไรแต่คนอย่างผมนี่ต้องใช้ใจวาดออกมา จะสวยไม่สวยก็รอดูกันอีกที

แต่ใจผมกำลังจดจ่ออยู่ที่คริส... ป่านนี้มันคงนอนอืดรอผมอยู่มั้ง ถ้ากลับดึกมันคงจะเป็นห่วงน่าดูหรือจะเรียกให้มันมารับดี ไอ้ส้มไม่อยู่แถวนี้คงไม่เป็นอะไรมั้ง แต่ถ้าพ่อมดที่ว่าหรือไอ้คนที่ทำให้คริสเจ็บตัวมันไม่ใช่ไอ้ส้มล่ะ? พวกมันจะทำร้ายผมหรือเปล่า หรือว่ามันตามแค่คริสคนเดียวคิดแล้วก็หงุดหงิดเว้ย!

"เป็นอะไรหน้าเครียดเชียว" ผมหันไปทางพี่โอที่กระซิบถามพลางเลิกคิ้วมองผม

หรือผมจะปรึกษาพี่โอวะ รายนี้ประสบการโชกโชนด้วย พี่แกค่อนข้างที่จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาของซุ้มได้ดีครับ ใครมีปัญหาอะไรก็คุยกับแกได้ตลอดแต่ยกเว้นเรื่องเงินนะผมเคยขอพี่แกสุดท้ายโดนถีบ...

"ไม่มีอะไรหรอกพี่ผมแค่เป็นห่วงเพื่อนผม" ผมแถไม่เล่าดีกว่า

"เพื่อน?" สายตาเหมือนประหลาดใจแล้วหันสายตาไปมองไอ้ไก่  ไม่ใช่แล้วพี่ผมไม่ได้หมายถึง

มันรายนั้นมันเอาตัวรอดได้อยู่แล้วเชื่อเห๊อะ!

"ไม่ใช่ไอ้ไก่พี่ แต่เป็นเพื่อนอีกคนไม่ได้อยู่ซุ้มเรา"

"ออ.." พี่เขาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งดูผมร่างรูปภาพ "มีอะไรไม่สบายใจปรึกษาพี่ได้นะ" แนะชี้โพลงให้กระรอกอีก "แต่ยกเว้นเรื่องเงิน" แถมด้วยการดับฝันอีกรอบหนึ่ง ไอ้พี่ขี้งกเอ๊ย!

"โหพี่รู้แล้วน่า" ผมมุ่ยปากแล้วพี่แกก็หัวเราะ เจอหน้ากันนี่ไม่แกล้งก็ใช้แรงงานนะ แต่คงเป็นเพราะผมกับพี่โอไม่ค่อยได้เจอกันพี่โอเลยพูดกับผมเยอะหน่อย เพื่อนๆเริ่มทยอยมากันบ้าง รวมไปถึงไอ้โด้ที่มันไล่ผมไปทำงานไกลๆวงไพ่หน่อย เจ้าพ่อป๊อกเก้าอย่างไอ้โด้นี่มึงไม่ยอมขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจเลยนะไอ้เวง

"มาๆเต๋ามาวาดทางนี้" พี่โอกวักมือผมๆเลยต้องขึ้นไปบนโรงยิม ซึ่งตอนนี้เริ่มตกเย็นบรรยากาศกำลังโพล้เพล้เลย ใจไม่อยากจะขึ้นไปหรอกมันวังเวงน่ากลัว เวลาที่มีคนซ้อมมวยเสียงตุบตับยังพอกลบความน่ากลัวได้แต่พอไม่มีใครแล้วบรรยากาศนี่เลวสุดๆครับ

"ไม่เอาอ่ะพี่เดี๋ยวลงสีอีกหน่อยก็พอแล้วเอาไว้ทำพรุ่งนี้" ไปทำธุรกิจหาตังเข้ากระเป๋ากับพวกไอ้โด้ก็ดีจะได้มีเงินค่าขนม เสียงเจ้ามือโดนกินนี่มันชวนให้อยากนักแล

พี่โอทำหน้าเจื่อนเล็กน้อย หรือว่าผมคิดไปเองวะ "เอางั้นก็ได้ ดีแล้วล่ะยิ่งเย็นยุงยิ่งมา" เป็นการห่วงน้องได้ซึ้งมากเลยพี่! แต่ทางที่ดีมาเล่นไพ่กับผมดีกว่า ผมวางพู่กันลงเมื่อคิดว่าควรที่จะพอแล้วสำหรับวันนี้ ระบายหน้าได้ครึ่งนึงพรุ่งนี้ค่อยมาต่อ

"ไพ่ไหมพี่?" ชวนพี่โอสบตาปิ๊งๆเหมือนรู้กัน พี่เขายิ้มร้ายๆไม่ต่างจากผมนักก่อนจะเดินไปร่วมวงไพ่โดยมีพี่โอตามมานั่งข้างๆ

"วางเงินดิ่รออะไรวะ" ไอ้โด้ที่เห็นผมลีลามันรีบท้วง หน้ามันนี่อย่างกับตูด ล้มละลายบ้างก็ดีวันๆไม่ทำอะไร

ผมลงไปห้าบาทพร้อมๆกับพี่โอที่วางด้วย ไอ้โด้สับไพ่แล้วแจกในวงพวกมันนี่นั่งลุ้นกันแทบตาย ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เก้ามาเถอะวะ! ลุ้นไปแบบนั้นเหงื่อนี่แทบตก แต่พอเห็นเลขแล้วผมนี่แทบจะร้องลั่น เชี่ยเอ้ย! เก้ามาจริงๆแต่เสือกพ่วงเอซมาด้วยตาแรกก็เสียห้าบาทแล้วดวงชักไม่ดี สักพักผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิดเป็นพี่โอที่รีบดึงเอซออกไปแล้วยัดคิงโพดำมาให้ผม ความไวเหนือแสงขนาดไอ้แบคที่นั่งอยู่ข้างๆยังไม่รู้สึกผมนี่ยิ้มร่าเลย

"ป๊อกเก้าเว้ย!" แล้ววางไพ่ให้มันดู พี่โอวางบ้างเป็นแปด ไอ้โด้ค่อนข้างหัวเสียเพราะมันโดนหลายตาโยนเงินให้ผมแล้วบ่น "ทำไมวันนี้ดวงไม่ดีเลยวะ เพราะมึงเลยไอ้เต๋า"

"อ้าวเกี่ยวอะไรกับกูวะ"

"มึงมันตัวนำโชคไง เวลามึงไม่อยู่โดนแดกจนมันรวย ทีเวลามึงอยู่ละทำเป็นบ่น" ไอ้แอมมันว่าไอ้โด้ที่หน้าบึ้งเข้าไปอีกก็จริงอย่างที่มันว่าล่ะเว้ย

"ไม่เล่นมันละแดกเหล้าดีกว่า"

"อ้าวเฮ้ยกูเล่นได้มึงแค่ตาเดียวเลิกเลย" แบบนี้มันไม่แฟร์กูยังแดกตังไม่คุ้มเลยนะ ห้าบาทยังซื้อมาม่าไม่ได้เลยด้วย

แต่อย่าคิดว่ามันจะฟังสะบัดตูดเดินไปหน้าซุ้มเรียกรุ่นน้องเพื่อใช้แรงงานไปซื้อของกินเป็นมื้อเย็นของวันนี้ ผมหัวเราะแบบขำๆเมื่อวงไพ่แตก แล้วหันไปทางพี่โอ ชะอุ้ย! ผมนี่สะดุ้งสิครับถ้าพี่เขาไม่มองผมซะสายตาเขม็งขนาดนั้น พี่เขามองผมแปลกๆว่ะ

"มีอะไรหรอพี่" พี่เขายิ้มตอบแล้วส่ายหัว

"นานๆได้มานั่งคุยนั่งเล่นด้วยกันทั้งทีก็เลยอยากมอง" เอ้าซะงั้น คำพูดพี่แกชวนขนลุกซู่เลยนี่ถ้าสาววายในซุ้มได้ยินมันคงเปลี่ยนคู่จิ้นไปละ แต่ผมพยายามคิดว่าไอ้คำพูดของพี่แกที่พูดออกมามันไม่มีอะไรคงจะคิดถึงน้องนุ่ง พี่โอลุกขึ้นแล้วดึงแขนผม

"ปะเตรียมโต๊ะหาข้าวกินเถอะพี่หิวละ"

"อาๆ" ผมก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วเดินตามพี่เขาไป แต่ว่านั่งนานไปหน่อยก็เลยปวดฉี่

"เดี๋ยวผมเข้าห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมาช่วย" ผมบอกพี่เขา แล้วหันไปทางไอ้ไก่เพื่อที่จะชวนมัน "ไอ้ไก่เข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ่" ผมไม่ลืมหรอกที่คริสบอกน่ะ และผมก็เป็นคนรอบคอบพอ จะอึจะฉี่นี่ก็ต้องมีเพื่อนไปด้วยเพื่อความปลอดภัยไอ้ไก่มันส่งเสียงจิ๊จ๊ะเมื่อมันยังงมเล่นเกมเศรษฐีอยู่ นี่พวกมันจะเล่นไปแข่งเอาโล่กันหรือไงวะ

แถมไอ้เพื่อนมันยังรักผมมาก "กระเพาะเยี่ยวกูไม่ได้ติดกับมึงนะไอ้เต๋า อยากเยี่ยวก็ไปเองดิ่" เอ้าไอ้นี่! กูชวนดีๆนะ ตอนนี้มันติดเกมมากกว่าติดผมซะอีก ชิชะ! เดี๋ยวกูเบล็คเมล์แม่ม พี่ชินที่นั่งงมเงยหน้าขึ้น

"เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน"

"ดีพี่ผมปวดจะแย่แล้วเนี่ย"

"ให้พี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ" พี่โอเสนอตัวบ้าง แต่ผมดันอยากไปกับพี่ชินมากกว่าไม่รู้เป็นไร

"ไม่เป็นไรพี่ๆรออยู่เนี่ยแหละผมเข้านานเดี๋ยวยุงกัด" เป็นน้องก็ห่วงพี่เป็นนะเออ แต่ในใจคือกูไม่อยากให้พี่เขาไปมากกว่า แต่เพราะความปวดฉี่มากผมดันลืมไปว่าไอ้พี่ชินนี่มันก็แปลกแล้วดูอันตรายไม่ต่างไปจากไอ้ส้มที่ผมสงสัยหรอกเว้ย! แต่กว่าผมจะคิดได้นี่ก็เดินลิ่วๆมาถึงหน้าห้องน้ำแล้ว ช่างแม่มกูปวดฉี่ จะทำอะไรกูเดี๋ยวเยี่ยวรดหน้าเอาซะเลย แต่อีกใจก็กลัวจะถูกเล่นงานนั่นแหละ...

จอก จอก...

"เสร็จยังล่ะเต๋า" พี่ชินเรียก ได้ยินเสียงพี่แกตบยุงแปะๆด้วยสงสัยรอผมนาน ผมก็เก็บน้อยชายเข้าไปหลับอยู่ในกางเกงตามเดิมแล้วเงียบหูฟังว่าข้างนอกมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า แต่มาคิดๆดู ในห้องน้ำนี่มันน่ากลัวกว่าข้างนอกอีก แถมบรรยากาศมันก็ปกติดีไม่เหมือนตอนที่ผมกับคริสกำลังจะเจอกับอะไรบางอย่าง พอเปิดประตูพรวดออกมาเห็นพี่ชินยืนกอดอกอยู่ แถมด้วยพี่โอที่กำลังล้างมือ


"เอ้าพี่มาเข้าห้องงน้ำด้วยหรอ" พี่โอพยักหน้า

"อืม พี่เข้าหลังเราอีกท้องเสียหรือไง" ไม่เชิงท้องเสียแต่ยิงกระต่ายนานเสมือนอยู่บ้านตัวเอง...

ไม่ใช่ละ... "อ่าครับ" เดินไปล้างมือบ้างแล้วชำเลืองมองพี่ชินที่ยังคงยืนรออยู่ พี่แกนี่ดีจริงๆขนาดพี่โออยู่จะเดินกลับซุ้มก็ได้แต่ยังคงยืนรออยู่ ผมนี่ซึ้งน้ำตาจะไหลขอทิชชู่ซักแผ่นด้วยครับจะเอามาเช็ดมือ

"พี่ชินพกทิชชู่ปะ?" ถามพี่ชิน แต่พี่โอเสือกตอบ "พี่มีเอามะ?" เออๆดีพี่ ผมยิ้มแล้วรับทิชชู่จากพี่โอมาเช็ดๆ กะว่าจะเดินกลับซุ้มเร็วๆเพราะไอ้รุ่นพี่สองคนนี่ไม่น่าไว้วางใจ ถึงแม้ว่าผมจะสงสัยพี่ชินมากกว่า แต่พี่โอนี่แม่งน่ากลัวกว่าเยอะ....

"เต๋าพี่ขอพูดอะไรกับเราหน่อยสิ" พี่แกรั้งผมไว้ยังไม่ทันที่จะก้าวขาด้วยซ้ำ

"เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ" ผมนี่หันขวับไปทางพี่ชินที่เดินออกไปแล้ว อ้าวเฮ้ย! ทิ้งกันเฉยเลยอยู่กับพี่โอนี่ก็ใช่จะปลอดภัยนะเว้ย! หันไปทางพี่โอเพื่อสบตารอพี่แกว่าจะพูดอะไรกับผม

สายตาพี่แกโคตรจริงจัง "ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้เจอเราเลย แถมเวลาเจอก็เหมือนเต๋าพยายามหนีพี่" เอ้า! นี่กูไปหนีเขาตอนไหนวะ? มาโมเมอะไรเนี๊ยะ!

"ฮะ? ผมน่ะหรอ" ชี้หน้าตัวเองงงๆ มองพี่โอที่ส่งสายตามันดูน้อยใจยังไงชอบกล

"ใช่..."

เฮยยยยยย.... "คิดไปเองมั้งพี่" ผมยิ้มเหมือนจะขำแต่พี่แกไม่ขำด้วย พี่โอเดินดุ่มๆเข้ามาแล้วจับข้อมือผมหมับเอาซะตกใจเลยเฮ้ยพี่! แค่ขำนี่คิดจะต่อยกันเลย? หน้าพี่แกบอกงั้นจริงๆ หรือผมเดาความหมายผิดวะ

"เต๋า" เสียงพี่เขานี่โคตรจะเข้มได้อีก.... น่ากลัวว่ะ

"คะ ครับพี่"

"พี่ชอบเรานะ"

"ฮะ!?" ผมนี่เอ๋อแดกสิครับบอกชอบ เอ๊ะหรือผมจะเข้าใจผิดชอบของพี่แกอาจจะหมายถึงชอบแบบน้องชายประมาณนี้เปล่าวะ แต่พอได้ยินคำตอบที่ได้รับมาอีกเมื่อเขาเห็นผมทำหน้างุนงงผมนี่แทบเอ๋อแดก

"พี่แอบชอบเรามานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสบอก พี่รู้นะว่าเต๋าเองก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไง"

ไม่รู้เว้ย! ไอ้คุณพี่นี่มึงทำผมขนลุกซู่ๆยิ่งกว่าตอนที่โดนคริสมันหลอกครั้งแรกอีกให้ตายเหอะ! สายตาจริงๆจังนี่บ่งบอกว่าไม่ได้พูดเล่น แต่ไอ้ที่มาบอกชอบในห้องน้ำนี่แม่งโคตรโรแมนติก พี่เขาเข้าใจหาทำเลนะกูจะอวก!

"อะ เอ่อพี่..." ผมนี่อึกอักไปไม่เป็น พี่โอยิ้มออกมาบางๆ

 :mew5:

"พี่ไม่เอาคำตอบตอนนี้หรอก แต่พี่อยากบอกให้เรารู้ว่าพี่ชอบเรา พี่ไม่อยากทำตัวเป็นพี่ชายที่ดีอีกแล้ว" เอาล่ะเหว๋ยไอ้เต๋าไอ้พี่โอนี่แม่งรุกหนัก เวลาพูดคำว่าชอบที่ไรนี่ขนลุกยิ่งกว่าโดนผีหลอกซะอีก ผมนี่อึ้งแดก...

"กลับซุ้มกันเถอะ..." พี่แกจับแขนผมแล้วเดินลากไปที่ซุ้ม นี่ถามกูยังว่าเต็มใจตามไปมั้ย?

"...."

 ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!

ไม่อยากถูกผู้ชายจีบ ชีวิตนี้กูจะมีสาวๆเข้ามาในชีวิตกูบ้างไหม! จะบ้าตาย ปวดหัวเพราะคริสไม่พอนี่กูยังต้องมาห่วงสวัสดิ์ภาพตูดที่มหาลัยอีกหรือไงวะ! ไอ้พี่โอนี่แม่ง.... ทำกูสตั้นทีนี่วินกว่าไอ้คริสมันอีกเว้ย! หนีไปบวชแม่ม....
 :katai1:









...

 :katai5:

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-01-2015 02:09:01
 :ling2:   แกจะมึนไปไหนวะเต๋า ฮ่าๆ คริสไม่ได้ออกเลยตอนนี้ คิดถึง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 12-01-2015 10:19:54
 :laugh: เต๋าเป็นคนตลกดีนะเนี่ย เอ้า...เปลี่ยนคู่จิ้น
ไก่-เต๋า มาเป็น โอ-เต๋า

ส่วนคู่จริง คริส-เต๋า หรือ อู๋-เต๋า

อยากให้อู๋เป็นคริสที่กลับมาเป็นมนุษย์จริงๆ  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 12-01-2015 10:29:10
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 12-01-2015 15:52:39
กลัวจังว่าตอนจบคริสจะหายไปเพราะในตอนพิเศษคนแต่งบอกว่าเป็นหลังเรื่องราวที่จบไปแล้ว :a5:

คริสจะหายไปจริงๆแล้วอู๋จะมาแทนใช่ไหมมมมมมมมมมมมมมมมมม
บางทีก็คิดว่าอู๋กับคริสคนเดียวกันแต่บางทีก็คิดว่าคนละคน

โอ๊ยเริ่มงงกับความคิดตัวเอง  :z3: :z3:

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 12-01-2015 17:16:47
พี่โอน่ากลัวจัง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-01-2015 20:36:28
จากตอนพิเศษแล้วเหมือนจะจบเศร้าที่เต๋ากับคริสจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็คงดีที่คริสหลุดพ้นจากคำสาป
เสียดายน่าดูถ้าคริสไม่ได้เป็นพระเอก (ุถ้าอู๋ไม่ใช่คริสที่กลับมาหาเต๋า) คงนึกได้แค่ประโยค 'รักแท้ไม่ได้มีได้แค่ครั้งเดียว(ในชีวิต)' ล่ะมั้ง

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Panpearwa ที่ 12-01-2015 22:30:30
คิดถึงคริส  :hao5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 12-01-2015 23:21:45
เต๋านี่น้า จะว่าน่าสงสาร จะว่าน่าอิจฉาก็น่าอิจฉา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP20 - P10 - 12/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 13-01-2015 01:22:57
ลุ้น พี่ชิน พี่โอ หรือม้ามืดคนอื่น?
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 14-01-2015 00:40:43
 :katai4:



DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
21






มีจริงหรือ รักแรกพบ เพียงสบตาแค่หนึ่งครั้ง
แค่แรกเห็นเดินผ่านมาไม่พูดจาไม่ทักไม่ทาย
ไม่รู้ว่าใครเหตุใดจึงรักกัน
ไม่มีทาง เรื่องเพ้อฝันความผูกพันอย่างง่ายดาย
รักแรกพบ มีอยู่จริงในนิยาย หนังสือนิทาน เพลงรักแสนหวาน
กับความฝัน

*กับวันหนึ่ง(แต่วันหนึ่ง) ฉันผ่านมาพบเธอตรงนั้น
ดวงใจเป็นเดือดมันร้อนช่างทรมาน
ราวกับโดนมนตร์แม่มดสะกดพลัน นาทีนั้น..
ฉันรักเธอทันใด

**รักแรกพบ แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะเธอใช่หรือไม่
ต่างจากใครที่ฉันเป็น
จากวันนั้นหัวใจรู้สึกเอง ชัดเจนว่าทุกสิ่ง เกิดขึ้นจริงใช่ฝันไป
ได้พบจึงเข้าใจ มีอยู่จริง

มีเหตุผล กว่าจะรักใครสักคนไม่ง่ายดาย
เรื่องลึกซึ้งความอ่อนบางของหัวใจ
ว่าเขาเป็นใคร มาถึงเมื่อไหร่ ไม่มีทางจะเข้าใจมันได้เลย...


เสียงกีตาร์และจังหวะทุ้มนุ่มหูของไอ้พี่โอมันชวนให้ผมขนลุกชอบกล ถึงแม้ว่าเสียงพี่แกจะเพราะขนาดที่ว่าทุกคนทั้งซุ้มนี่เงียบเสียงลงเพราะฟังพี่เขาร้องเพราะมาก ผมอาจจะอินไปกับเพลงของพี่เขา แต่ขอเถอะ... พลีส... ได้โปรดเลิกมองกูด้วยสายตาเชื่อมแบบนั้นได้ไหม...

ความรู้สึกเหมือนลูกแกะน้อยกำลังถูกหมาป่าจ้องจะขย้ำยังไงยังงั้น ผมเบือนสายตาไปทางไอ้ไก่ที่เคลิ้มๆทำท่าจะหลับไปแล้ว ผมเลยเบิดกระบาลมันเตือนสติไปที

"เหี้ยอะไรอีกเนี่ย" มันสะดุ้งโหยงหันมาบ่นหน้ามุ่ยพลางคลำหัวมันป้อยๆ

"อย่าเพิ่งหลับไปส่งกูก่อน" ผมกระซิบบอกมันเพราะกะว่าจะแอบชิ่งหนีตอนนี้ ไม่อยากอยู่ที่ซุ้มตั้งแต่ตอนที่ไอ้พี่โอมันบอกชอบแล้วว่ะ รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้

ไอ้ไก่มันทำหน้ายุ่งๆได้น่าถีบมาก ส่วนผมนี่ก็เหล่ไปทางไอ้พี่โอที่ดีดกีตาร์คลอเบาๆให้กับพวกขี้เมาในซุ้ม

เวรเอ๊ย! ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะไม่ชอบเลย

"ทำไมรีบกลับวะนานๆจะอยู่แดกเหล้ากันที"

"เบาๆดิ่วะ" ผมกระตุกแขนมันเพื่อให้เบาเสียงลงกลัวพี่โอจะได้ยิน แต่ก็ไม่พ้นเมื่อพี่แกหยุดดีดกีต้าร์แล้วทำหน้าจ๋อยลงถามผม "จะกลับแล้วหรอเต๋า"

"อ่าครับ พอดี..."

"มันกลัวลูกมันเหงามั้งพี่ไอ้นี่มันพวกติดลูก"

"ไอ้สัดไก่ไม่พูดนี่ก็ไม่มีใครด่าว่ามึงเป็นใบ้หรอกนะ!" ผมตบหัวมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ชอบพูดให้คนอื่นเข้าใจผิดตลอด มันเอาคืนด้วยการถีบมาที่ก้นผมหนึ่งที หน้ามันนี่งอเป็นไม้แขวนเสื้อแทบจะม้วนเข้าหากันอยู่ละ

"มึงไงไอ้ห่า! อะไรของมึงนักหนาวะ!" จะมีมวยกับไก่ก็คราวนี้สงสัยมันคงจะกรึ่มๆได้ที่ เฮ้ย! อย่าเพิ่งเมาไปส่งกูก่อน!

"ไปกลับ" ผมดึงแขนมัน อีแคทนี่ก็เตรียมแซวเลย

"กูจะอ้วกว่ะแม่งเลี่ยนน้ำหวานใครแม่งแอบหยอดน้ำตาลใส่ป่าววะ" มันหันไปถามไอ้แอมที่นั่งข้างๆ ผมเลยถีบมันไปทีกุลสตรีน่ะมีไหม!

"เฮ้ย! นี่กูผู้หญิงนะ" มันโวย

"อ้าวหรอ? กูนึกว่าเปลี่ยนเพศมาเป็นผู้ชาย" แล้วยิ้มเยาะให้มันที่ทำท่าทางฮึดฮัด

"เอาน่าๆพอเถอะ ไก่ไปส่งเพื่อนไปเราก็เมาแล้วนี่" โหยพี่ชินนี่ห้ามระฆังมวยได้จังหวะแถมช่วยพูดให้ผมอีก ผมว่าผมอาจจะมองพี่ชินผิดไปพี่แกเป็นคนดีระดับหนึ่งเลยนะ

"ให้พี่ไปส่งไหม?" แล้วพี่โอก็เสนอตัวมา ตลกเถอะเพ่! นี่ไม่รู้ตัวเลยเรอะว่านี่กำลังพยายามออกห่าง ผมยิ้มแห้งๆ "ไม่เอาอ่ะผมจะพาเมียผมกลับ" พี่แกหน้าบูดขึ้นมาในทันที สายตาจากที่ดูเหมือนอารมณ์ดีนี่ดุขึ้นมาเฉย

แถมไอ้ไก่ที่ได้ยินนี่ก็ไม่ยอมรับมุก "ไอ้เหี้ยใครเมียมึงเดี๋ยวกูโบก" แหม่! ปีกกล้าขาไก่ซะด้วยไอ้เพื่อนนี่แม่งเมาจริงๆว่ะฉุดแม่งกลับบ้านซะเลย แต่เดี๋ยวนะ มันเมาแอ๋แบบนี้จะช่วยอะไรผมได้วะจะบ้าตาย! นี่ไม่อยากให้คริสออกมาข้างนอกด้วยสิ ไม่ว่ามันจะอยู่กับผมหรืออยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยสำหรับมันเหมือนกัน

"เออๆเอาน่ากลับเถอะไอ้เพื่อนรัก" พยายามพูดดีกับมันที่ง้องแง้งแทบจะกอดขาไอ้พี่ชินอยู่แล้ว พี่เดียร์ที่ทนรำคาญไม่ไหวเลยออกปากไล่

"เออๆ พวกมึงรีบไปเลยเห็นแล้วรำคาญลูกตาจริงๆ" แค่นั้นหล่ะไอ้เพื่อนมันกระฟัดกระเฟียดยอมลุกขึ้นตามผมที่เกาะแขนมันหนึบ ผมกับมันยกมือไหว้พวกพี่ๆ รวมไปถึงพี่โอที่นั่งมองมาทางพวกผมเขม็ง ถ้าเป็นเวลาปรกติผมจะไม่คิดอะไรนะเพราะบางทีพี่แกอาจจะเมา แต่พอรู้ความรู้สึกส่วนลึกของหัวใจพี่แกที่ดันหลงผิดมารักผมเท่านั้นโลกแม่งน่ากลัวขึ้นเป็นสิบเท่า รีบลากไอ้ไก่ออกมาก่อนที่พี่โอมันจะรั้ง

พอพาไอ้ไก่เดินออกมาจากซุ้มแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น ไอ้เพื่อนมันสะบัดแขนผมเอาซะมันนั่นแหละเกือบจะหงายหลังซะเอง "เป็นเหี้ยอะไรวะกูเห็นมึงทำท่าทางแปลกๆร้องจะกลับตั้งแต่เย็นล่ะ" ผมเลยได้โอกาสบอกมันไปเลย เพราะตอนที่อยู่ที่ซุ้มผมคุยกับมันเรื่องนี้กับมันต่อหน้าทุกคนไม่ได้มันสยองเกินไป

ผมเลยหยุดเดินแล้วคุยกับมัน "จะอะไรอีกล่ะ ไอ้พี่โอแม่งสารภาพรักกู" ผมตอบมันเสียงเครียด มันเลิกคิ้วเหมือนประหลาดใจก่อนจะหัวเราะก๊าก

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!! ไอ้เต๋ามึงนี่มโนไปเองป่าว พี่เขาแกล้งมึงป่าววะ?"

"แกล้งเชี่ยไรล่ะมึงไม่เห็นตอนที่เขาร้องเพลงหรอ จะแดกกูทั้งตัวอยู่แล้ว"

"อ้าวหรอ กูนึกว่าพี่เขามองวิวข้างหลังมึง" คุยกับไอ้ไก่นี่มันปวดหัวจริงโวย!

"บ้าเรอะ! กูควรทำไงดีวะไอ้พี่โอแม่งแอ๊บเกย์กูว่าแล้วทำไมเทคแคร์กูดีนัก"

"ก็มีแค่มึงนั่นแหละที่ดูไม่ออก"

หืม?

หันไปทางมันในขณะที่กำลังครุ่นคิด ไอ้ไก่มันทำท่าเหมือนจะขำแต่ก็กลั้นเสียงไว้ อะไรนะที่กูดูไม่ออก ไอ้นี่ก็ลับลมคมในกับกูจังนี่ซีเครียดนะเว้ย!

"อะไร? อะไรที่กูดูไม่ออก" จับคอมันแล้วเขย่า

"เอ้า! เฮ้ยๆพอๆไอ้นี่กูหายใจไม่ออก" มันสะบัดแขนผมที่เสียสติเพราะคำว่าชอบนี่แหละ ขนลุก!

"มึงบอกกูดิ่ว่ากูควรทำไง?"

"แล้วมึงต่อยพี่เขาปะล่ะหลังจากที่ได้ยิน?" มันถามผมกลับ

ผมส่ายหัวรัวๆมันยิ่งเบะปากใส่ เอ้า! กูผิดอะไร! ไอ้ไก่มันหันไปเดินนำผมที่วิ่งตามตูดเป็นลูกเป็ดตามแม่ไก่ กูรูไก่กำลังอธิบายเพื่อให้ผมกระจ่างแก่ใจ "ถ้ามึงไม่ชอบทำไมมึงไม่ทำอะไรเขาล่ะ ขนาดที่แล้วๆมามึงยังต่อยพวกนี้ที่เข้ามาจีบมึง" เออวะ... ผมนี่เพิ่งจะคิดได้

แต่ผมจะทำได้ยังไงนั่นมันรุ่นพี่นะเว้ย! "กูจะต่อยเขาได้ไงในเมื่อกูเคารพเขาเหมือนพี่"

"มึงปฏิเสธเขาไปหรือยังล่ะ" ผมส่ายหัว "เอ้า! เห็นมะก็แสดงว่ามึงชอบเขา"

"กูไม่ได้ชอบเว้ย! ที่กูชอบคือคริสต่างหาก!" เย้ย! นี่กูพูดอะไรวะเนี่ย!

รีบปิดปากตัวเองแล้วมองไอ้ไก่ที่เลิกคิ้วหยุดเดินมองผม สายตาแม่งวิบวับหูผึ่งขึ้นมาเลย "ใครคิสวะ ออ... มิน่าล่ะ" มันยิ้มแปลกๆ เฮ้ย! หรือว่ามันรู้เรื่องคริสวะ

"อะไร ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง"

"เปล๊า! กูก็แค่... ตลกมึงอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!" แล้วมันก็หัวเราะออกมาอีกละ ผมเลยประเคนส้งตีนให้มันดังป้าบจนมันเกือบหัวทิ่ม คลำเอวมันป้อยๆน้ำตาเล็ดมองผมที่เริ่มออกอาการไม่พอใจแถมเริ่มจะงอนมันขึ้นมาแล้ว มีเพื่อนกวนตีนเหมือนกันนี่มันปวดกระบาลจริงๆ

"กูเล่นกับมึงไหมเนี่ย นี่กูจริงจังนะ!"

"ฮ่าๆๆ เออๆกูก็แค่อยากให้มึงอารมณ์ดีขึ้นเฉยๆ" เหมือนคนอารมณ์กูให้ขุ่นมัวเพิ่มขึ้นเสียมากกว่า ไอ้ไก่มันเข้ามาคล้องคอกระซิบกระซาบ

"ถ้ามึงไม่ชอบเขาก็บอกพี่เขาไปสิ ถ้ามึงกลัวเดี๋ยวกูช่วยเอง"

"ยังไง"

มันยักคิ้วจึกๆ "ก็เล่นบทผัวเมียแต่จริงจังกว่านี้ แต่กูไม่ได้พิศวาสมึงหรอกนะ"

ผมหลิ่วตาใส่ "ไม่ใช่ว่ามึงอยากซัมติ้งกับกู?"

"ไอ้เหี้ย!"

ผมหัวเราะก๊าก เริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ไอ้ไก่มันเลยถองศอกใส่ผมแทบจุกจนเหล้าที่กินๆไปแทบพุ่ง "พอเลยมึงเดี๋ยวกูไม่ช่วยหรอก กับพี่โอกูว่าเขาไม่ได้จริงจังหรอกถ้ามึงไม่สบายใจเดี๋ยวกูยอมเป็นไก่กันหมาให้มึงเองก็ได้" โหยเพื่อน.... แม่งซึ้งว่ะ

"แล้วมึงไม่กลัวโดนล้อแล้วไง"

"กูเลิกกลัวเพราะมึงนั่นแหละ"

"อ้าวหรอ? ฮ่าๆๆๆ ไก่จ๋าผัวจ๋าขอโทษนะที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด"

"เออ! สมน้ำหน้ามึงแหละที่พี่โอดันคิดว่ามึงชอบเพศเดียวกันสมองเท่าเม็ดถั่วจริงๆ"

"..."

เดี๋ยว... เดี๋ยวนะ นี่มันหลอกด่าผมนี่หว่าไอ้! เม้มปากอยากบีบคอไอ้เพื่อนเลวที่แสยะยิ้มแล้วยักคิ้วจึกๆเหมือนเยาะเย้ยที่ผมไม่กล้าทำมันเพราะตอนนี้ต้องพึ่งพาบารมีมันจนแทบจะก้มกราบนี่แหละ ฝากไว้ก่อนเถอะ!

ไอ้ไก่มันมาส่งผมถึงหน้าห้องนั่นล่ะครับ พอชวนมันว่าจะค้างหรือเปล่ามันบอกว่าไม่เอาเดี๋ยวจะกลับไปนอนที่ห้องมัน แล้วบอกผมอีกว่าจะมารับตอนเที่ยงๆเหมือนเดิม ที่ชวนมันนี่ผมก็ชวนไปพอเป็นพิธีนั่นล่ะใจจริงไม่ค่อยอยากให้มันค้างเพราะเวลามันอยู่แล้วกลัวคริสจะอึดอัดเวลาที่อยู่ในร่างตุ๊กตา

วันนี้มันโคตรวุ่นวายจริงๆ เจอแจ็กพ็อตเป็นข้อสอบไม่พอยังมีเรื่องพี่โอให้ปวดหัวเพิ่ม พี่เขาจะแกล้งผมหรือเปล่าไม่รู้แต่ที่รู้ๆคือไม่ชอบสายตาเขาเลยวะ...

วุ้ยเครียด!

แกรก...

พอเปิดประตูห้องเข้าไปไม่ต้องเดาหรอกว่าห้องผมเย็นมากแค่ไหน น้ำแข็งแทบจะจับตามผนังห้องแล้วมั้ง กูจะกรีดร้องโอยยยยยยยย!!!! มันอะไรกันวะ!

"ก็บอกว่าอย่าเปิดแอร์มันเปลืองค่าไฟ" ผมบอกมันหน้ามุ่ย ร่างสูงที่นั่งดูทีวีค่อยๆหันมาทางผมแล้วยิ้มให้จนตาหยี จากที่โกรธๆนี่ดับเลย

"กลับมาแล้วหรอ" กระแสเสียงเหมือนจะดีใจมากที่เห็นผมกลับมาร่างกายครบสามสิบสองเหมือนทุกๆวัน ผมพยักหน้า "อือกลับมาแล้ว"

เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้างๆเจ้าตัวที่มองผม รู้สึกเหนื่อยจนต้องใช้ไหล่มันพิงเพื่อพักผ่อน คริสชะเง้อหน้ามองผม แววตาที่เป็นห่วงมันทำให้ผมรู้สึกใจเต้นไม่น้อย หรืออาจเป็นเพราะว่าผมเองก็กรึ่มๆเหล้าวะถึงได้รู้สึกใจเต้นเวลาที่คริสอยู่ใกล้ๆทั้งๆที่มันก็เป็นผู้ชาย ทำไมเวลาพี่โอที่บอกชอบผมๆถึงได้รังเกียจวะ... แน่สิก็ผมรักคริสนี่เพราะอย่างนั้นผมถึงได้รู้สึกดี แต่ผมไม่บอกมันหรอกนะ

"เหนื่อยหรอ?" มันถาม  ผมพยักหน้าอีก

"เหนื่อยสิวันนี้อาจารย์สอบเก็บคะแนนด้วยทำไม่ได้เลยอ่ะ พอถึงเวลาจริงๆกลัวทำข้อสอบไม่ได้ว่ะ" เป็นพวกอ่านอะไรไม่เข้าหัวด้วยตอนนี้เหมือนเรียนๆเล่นๆไปวันๆยังไงไม่รู้

ได้ยินเสียงคริสที่หัวเราะครืนในลำคอ ก่อนจะสัมผัสถึงริมฝีปากนิ่มๆที่กดจูบลงบนหน้าผากมน ผมนี่รีบลุกพรวดมองหน้ามันอย่างเอ๋อๆเลยให้ตายสิ! "ทำอะไรวะ!" หน้าผมนี่เกือบจะร้อนวูบวาบอยู่ละ

"ก็... ให้กำลังใจ" แล้วมันก็ยิ้มหน้าตาย

"ให้กำลังใจเขาทำกันแบบนี้หรอ! บ้าเถอะ" เอาหมอนขึ้นมาฟาดมันไปที่แขนแรงๆด้วยความหมั่นไส้ เผลอไม่ได้นี่จู่โจมตลอด ลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำโดยเร็วถ้าขืนยังอยู่เป็นผมนี่แหละที่จะแย่ ยิ่งนับวันผมเริ่มจะบ้าไม่เป็นตัวของตัวเองก็เพราะไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นล่ะ!

พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นหมีขั้วโลกไปนอนอืดอยู่บนเตียงแล้ว นี่ใจคอจะหลับทั้งวันเลยจริงๆสินะ? เดินเช็ดหัวที่เปียกชื้นเข้าไปหามันแล้วนั่งลงที่ข้างเตียง ถาม "เป็นไงบ้างดีขึ้นบ้างหรือยัง" มันลืมตาขึ้นแล้วยิ้มบางๆ

"ยังเลย"

"หยั่มมาโกหก" ไม่ค่อยน่าเชื่อเพราะน้ำเสียงระรื่นที่ยิ้มให้ผมนี่แหละ

"ทำไมต้องโกหกล่ะ ในเมื่อคริสไม่อยากหาย"

นั่นไงไอ้คนหัวหมอ "นี่แกล้งบาดเจ็บหรือไงฮะ!" ผมนี่หน้าวิ้งๆรู้สึกฉุนที่โดนหลอกจับกินมาเกือบทุกคืน คริสหัวเราะเบาๆแล้วกอดผมเอาไว้

"ไม่ได้แกล้งซักหน่อยทำไมเจ้านายไม่ห่วงคริสล่ะ" อย่ามาอ้อนนะเว้ย! ไม่หลงกลหรอกนี่ไม่หลงกลจริงๆนะ!

"ใครว่าล่ะ นี่ก็ห่วงจนจะบ้าอยู่แล้ว..." นอนคิดทุกคืนจนเหมือนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วเนี่ย มุ่ยปากใส่มันแล้วกลับมาเช็ดหัวของผมตามเดิม คริสค่อยๆขยับลุกขึ้นนั่ง

"วันนี้ไม่มีอะไรแปลกๆใช่ไหม?" มันถามพร้อมกับเอามือใหญ่ๆมาคว้ามือผมให้ออกจากผ้าเพื่อที่จะเช็ดหัวให้ แต่ผมไม่ยอม

"ไม่ต้องก็ได้จะเช็ดเอง"

แต่มันดันไม่ฟัง "ให้คริสทำให้เถอะ" เห็นมะ? ตกลงใครเจ้านายใครกันแน่!

แต่ผมก็ปล่อยให้มันเช็ดอยู่ดี อีกใจก็เขินนะ แต่อีกใจก็รู้สึกดีจนเคลิ้มอ่ะ ผมตอบคำถามมันที่ถามเมื่อก่อนหน้า "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนที่ผ่านๆมานั่นแหละ หรือเป็นเพราะว่าไอ้ส้มมันไปเข้าค่ายก็ไม่รู้"

"เข้าค่าย?" มันเอียงคอถามผมทำหน้าเป็นเด็กขี้สงสัยอีกละ อย่าทำหน้าแบบนี้ใส่กันเซ่!

ดันหน้ามันออกไปแล้วอธิบาย "เข้าค่ายก็เหมือนไปพักค้างแรมที่อื่น มีการผจญภัย ไม่ก็นั่งฟังบรรยายลูกเสือ นี่ก็เพิ่งจะเข้าไปน่าเบื่อโคตรเลยอ่ะปฏิบัติ30ทฤษฏีนี่70%แต่ส่วนมากนั่งหลับมากกว่าไม่ค่อยได้ทำอะไร" โชคดีที่เข้าค่ายรอบนั้นผมเป็นแค่สมาชิกในหมู่ก็เลยไม่มีหน้าที่อะไรมาก ส่วนไอ้ไก่มันเป็นหัวหน้าหมู่ก็เลยรับกรรมไปเต็มๆ ผมได้ยินเสียงมันถอนลมหายใจออกมาผะแผ่ว

"คริสอยากตามเต๋าไปที่มหาลัยไม่ได้หรอ?" มันขอผม

"ไม่ได้" ผมตอบมันเสียงเข้ม ถ้าขืนใครเห็นมันก็แย่สิ คำถามมากมายมีหวังพรั่งพรูออกมาจากปากบรรดาเพื่อนๆแน่ๆ แล้วถ้าเกิดมันเป็นดอลฟี่แบบเมื่อวันนั้นถ้าใครมาเห็นเข้าผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดอยู่ที่ไหนดี ดีที่ว่าไอ้ไก่ไม่ได้ปากหมาชอบแซวเรื่องพวกนี้บ่อยนักถึงมันจะมีกวนตีนมาบ้างก็เถอะ

"ไม่ได้จริงๆหรอ?" เสียงมันดูเรียบๆนะแต่ฟังดูมันกำลังอ้อนขอร้องผมอยู่ ผมละเกลียดตอนมันทำแบบนี้จริงๆ หันขวับไปหาสบตาสีครามที่เป็นประกายมองผมตาปริบๆ จิ้มตาซะดีไหมเนี่ย!

"แล้วถ้าเกิดมันไม่ได้จะเล่นงานกูล่ะ แล้วถ้าเกิดพวกมันจงใจเล่นงานนายคนเดียวจะทำยังไง?"

"คริสยอมเจ็บตัวให้เต๋าปลอดภัยยังไงล่ะ" ผมนี่เหนื่อยใจกับมันจริงๆทำไมขี้งอแงแบบนี้ว๊า!

"วู้! ไม่เอาไม่ฟังไม่พูดละเรื่องนี้พาลจะเครียดว่ะ พอๆนอนเถอะ" ผมเอนหลังทิ้งตัวไปบนหมอนเมื่อรู้สึกว่าหัวของผมมันแห้งแล้ว คริสยังคงมองผมอยู่สายตาเขาห่วงผมมากจนใจผมสั่นและเต้นแรง จะให้ทำยังไงก็ผมเองก็ห่วงมันเหมือนกันคงยอมไม่ได้ถ้าเกิดมันต้องบาดเจ็บอีก ผมยังจำวันที่มันโดนทำร้ายได้อยู่เลย

"เต๋า..." มันเรียกผมอีกละ

ผมคราง "หืม?" เลิกคิ้วมองมันที่มองผมนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ปากมันเหมือนจะขยับพูดอะไรกับผมสักอย่างแต่ไม่พูด จนผมเริ่มรำคาญกะว่าจะนอนมันก็พูดขึ้นมาอีก...

"เต๋ารู้อะไรไหม?" มันเงียบเหมือนรอให้ผมขาน ผมเลยถามมันกลับไป "อะไรล่ะ"

แอบชำเลืองมองมันที่ยิ้มบางๆ "อันที่จริง... ตุ๊กตาควรไม่มีความรู้สึก ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือเศร้า แต่ว่าตอนนี้... ทำไมคริสถึงมีความรู้สึกแบบนั้นก็ไม่รู้" มันหลุบสายตาลงกระแสเสียงดูเศร้าชอบกล นี่มันจะบิ้วอารมณ์ให้ผมสงสารหรือไง? ถอนลมหายใจแล้วลุกขึ้นมองสบตามันอีกครั้ง

ยิ้มให้มัน "ถ้านายรู้สึกแบบนั้นก็แสดงว่านายไม่ใช่ตุ๊กตายังไงล่ะ ถึงนายจะไม่มีหัวใจที่เป็นมนุษย์... แต่หัวใจนายมันก็เต้นอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณของนายเชื่อฉันสิ..." ผมยิ้มให้หคริสจนตาหยีแม้ว่าจะรู้สึกกระดากปากที่พูดอะไรเลี่ยนๆออกไป ยิ่งเจ้าตัวเงียบก็ยิ่งทำให้ผมเคอะเขินสายตาที่จ้องมองมันพาลให้ผมใจเต้นแรงเป็นระลอก อา... นี่คิดถูกคิดผิดวะที่พูดออกมาแบบนี้

"ขอบคุณ..." มันกระซิบบอกผมเบาๆตอนที่เผลอ สัมผัสนิ่มๆและอบอุ่นกว่าทุกทีประทับลงมาที่ริมฝีปากของผมในขณะที่ผมเงยหน้ามองมัน ผมนิ่งค้างอยู่แบบนั้นด้วยความตกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกดีๆ หลับตาลงรับเรียวลิ้นและกลีบปากที่บกเบียดเข้ามา มันหอมหวานไม่มีความรังเกียจหรือหวาดเกรงเลยสักนิดในเวลานี้... ผมอยากให้มันเป็นไปเช่นนี้ไปนานๆ...


ผมตื่นเช้ามาอีกทีก็ตอนที่ได้กลิ่นขนมปังทาเนยหอมๆกับโกโก้ร้อนๆในทุกๆเช้า สงสัยคริสมันคงทำเป็นแต่แบบนี้หรือเปล่าเพราะผมเองก็รู้สึกเบื่อๆกินแบบเดิมๆจนจะอ้วนอยู่แล้วเนี่ย

"ขนมปังอีกละ ไม่อยากกินอ่ะ" ผมบอกมันหน้ายุ่งๆหลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟันออกมาจากห้องน้ำ  คริสเลิกคิ้วเหมือนประหลาดใจที่ผมโวย ก่อนจะยิ้มบางๆ เดี๋ยวนี้มันยิ้มบ่อยมากจริงๆให้ตายสิ!

"เต๋าอยากกินอะไรล่ะ"

"บอกไปก็ไม่รู้หรอก" เดินเข้าไปนั่งที่โซฟาแล้วอุ้มมินนี่เข้ามานั่งตักเพื่อเปิดทีวีดู คริสที่ยืนอยู่มองผมนิ่งจนผมสงสัย พอเห็นสายตาที่มองมา มันมองมินนี่เหมือนอิจฉาหรือว่าผมคิดไปเองวะ

"ถ้าเจ้านายต้องการคริสสามารถทำได้" ขี้โม้อีกละ

"อาๆ" ผมขานรับมันขอไปทีดูเหมือนมันพยายามที่จะเอาใจผม "อยากกินอะไรที่มันร้อนๆที่เป็นอาหาร โจ๊กหน้าปากซอยก็ได้"
"แค่นี้เองหรอ?" มันถามเหมือนสงสัย ผมเงยหน้าพร้อมพยักหน้า "อือ ก็จะกินแบบนี้"

คริสยิ้มก่อนจะก้มศีรษะลงทำเหมือนพ่อบ้านที่รับคำสั่งจากเจ้านายในการ์ตูนเมทอะไรเทือกนี้ เอาซะผมเขินแถมมีการขานรับ "ครับเจ้านาย" วู้! นี่กำลังเล่นบทพ่อบ้านกับท่านลอร์ดหรือไงวะ

มองคริสที่ตบมือแปะๆสองทีก่อนที่ขนมปังปิ้งจะแตกตัวเป็นควันดังปุ้ง! แล้วพอมันจางหายไปกลับกลายมาเป็นชามโจ๊กหน้าตาหน้ากินพร้อมไข่ไก่หนึ่งฟอง แถมปาท่องโก๋ของโปรดผมด้วยผมเลยขยับตัวเลื้อยลงไปกินมื้อเช้าเพราะท้องไส้มันเริ่มปั่นป่วน เปิดช่องการ์ตูนเป็นทวิตตี้ผมละเบื่อไอ้การ์ตูนเด็กๆแบบนี้จริงๆทำไมต้องมาฉายตอนที่ผมอยู่ห้วงด้วยวะ!

"อร่อยไหม?" มันถามแล้วหย่อนก้นนั่งตรงข้าม ผมเลยตักโจ๊กเป่าฟู่วๆก่อนจะยื่นให้มันลองชิม "เอ้า! กินดูสิจะได้รู้ว่ามันอร่อยหรือเปล่า" มันยังมีหน้ามาทำหน้ามึนใส่อีกแต่ก็อ้าปากรับแต่โดนดี สีหน้ามันเรียบเฉยมากตอนที่โจ๊กเข้าปาก สักพักมันก็ยิ้มแล้วก็บอกว่าอร่อย นี่มันอร่อยแน่หรอวะ!

"จริงอ่ะ?" ถามไม่เชื่อเท่าไร

แต่มันกลับถามผมกลับมา "เต๋าไม่อร่อยหรอ?" พร้อมๆกับทำหน้าหงอยลง

"อร่อยสิ! ของฟรีไม่เสียตังยังไงก็อร่อยอยู่แล้วขอบคุณสำหรับโจ๊กก็แล้วกัน" ผมบอกมันแกล้งทำเป็นไม่สดใจไอ้สายตามีความหวังเปล่งรัศมีกระจายวิ๊งๆพร้อมๆกับที่ผมกำลังตาฝาดเห็นหางและหูกระดิกดิ๊กๆเวลาที่เจ้านายชมอะไรแบบนี้ พอเห็นแล้วมันก็น่ารักให้ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงหมายังไงยังงั้น วู้! พอๆกินโจ๊กดีกว่า

ผมใช้เวลากินโจ๊กแค่ไม่กี่นาทีก็หมดถ้วย รู้สึกสบายท้องและอิ่มแปล้จนอยากจะนอนต่อ และคิดว่าจะตื่นมาอีกทีตอนที่ใกล้ๆเวลาไอ้ไก่มารับ นอนเอนหลังไปบนโซฟาแล้วเอื้อมเอาลูกๆมากอดนอนดูการ์ตูนไปด้วยแต่คริสมันกลับแย่งผมไปหมด

"ทำอะไรอ่ะจะกอดลูกๆกูเอามา!" ไม่พอใจมันเหมือนกันนะที่แย่งเด็กๆไป

แต่มีหรือมันจะฟังมันเดินเอาตุ๊กตาดอลฟี่ของผมไปวางไว้บนเตียงแล้วกลับมาหาผม ร่างกายมันค่อยๆหดเล็กลงเป็นตุ๊กตาดอลฟี่ที่แสนน่ารักน่าหลงใหล ดอลฟี่คริสปีนขึ้นมาแล้วมุดเข้ามาให้อ้อมกอดจนผมงง มันตะแคงข้างหันไปทางจอทีวีผมสังเกตเห็นแก้มดอลฟี่ที่ควรจะเป็นสีปกติคือสีขาวๆอมชมพูนิดหน่อย แต่ตอนนี้มันกลับแดงเถือกจนชัดเจน...

นี่อย่าบอกนะ...

ไม่อยากจะเชื่อว่าตุ๊กตาจะอิจฉาตุ๊กตาด้วยกัน...

ผมแทบหลุดขำพยายามที่จะกล้ำกลืนมันกลับไปไม่อยากให้คริสมันโกรธที่หัวเราะไปกับความหน้ารัก ผมกระชับอ้อมกอดที่ตอนนี้พวกเรานอนเต็มโซฟาพอดีจนอุ่น นอนดูหนังการ์ตูนกับคริสแบบนี้ก็ไม่เลวนะมันทำให้การ์ตูนทวิตตี้ที่น่าเบื่อหน่ายดูสนุกขึ้นมาในทันที...

พอเจอความสุขแบบนี้มันทำให้ผมแทบไม่อยากออกไปไหนเลยให้ตายสิ!

 :ling1:








....

 :katai5:





หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 14-01-2015 10:03:13
อร๊ายช่างน่ารักเกินไปแล้วหนูคริส ฟินฝุดๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-01-2015 10:24:46
 :mew1: โอ๊ย คริส หนูน่ารักเกินไปแล้วนะ มีการแปลงร่างให้เป็นตุ๊กตาเพื่อให้เต๋ากอดตัวเดียว
แอร๊ย
ตอนนี้รักแล้วแถมยังขี้หึงขี้น้อยใจด้วย ความรู้สึกต่างๆแบบมนุษย์จะเป็นอันตรายต่อคริสไหมนะ


 :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 14-01-2015 11:12:17
 :o8: น่ารักจริง คริส เดอะ ดอลฟี่  :impress2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: nimami ที่ 14-01-2015 12:02:19
คริสอิจฉาเหรอ แหม่อิจฉาได้น่ารักจริงๆ :o8:




หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Moomoo44 ที่ 14-01-2015 13:05:21
น่ารักมากๆๆอ่ะ.   :-[ :-[ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Panpearwa ที่ 14-01-2015 13:47:42
น่ารักอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค่ะเรื่องนี้สนุกมาก  :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-01-2015 17:28:25
น่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 14-01-2015 22:01:58
คริสน่ารักอ่ะ  เคยมีความคิดว่าอยากได้ดอลฟี่นะ แต่ดูราคาแล้วสู้ไม่ไหวว่ะ.. :really2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP21 - P11 - 14/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 14-01-2015 23:02:53
 :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 15-01-2015 08:42:59
 :katai4:


DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
22





ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้พอสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่ไอ้ไก่มันมาเคาะห้องเรียกผมปาวๆ พอรู้ตัวว่าสายก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าความไวเหนือแสงอุนตร้าแมน พอเปิดประตูรับไอ้ไก่ไม่ต้องบอกว่าหน้ามันบูดเป็นตูดแค่ไหน ยิ้มแหยๆให้มัน "ขอโทษว่ะ"

"ให้กูมารับแล้วยังให้กูรออีกนะ" มันบ่นแล้วทำหน้ามุ่ย ผมขอโทษขอโพยมันยกใหญ่กลัวว่ามันจะโกรธจนไม่ยอมมารับผมที่ห้องอีก ก่อนออกไปไม่ลืมที่จะแอบโบกมือลาคริสที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ดอลฟี่ที่มองตาละห้อยมันทำให้ผมใจโหวงเหวงชอบกล เดี๋ยวนี้ชอบเป็นพวกห่วงหน้าพะวงหลังจริงๆ

ยิ่งใกล้สอบอาจารย์มักจะให้งานและสอนดุเดือดเผ็ดร้อนจนเครียดแทบอวกไปตามๆกัน มันผิดที่ผมเลือกลงวิชาเอกไว้หลายตัวงานมันเลยเยอะสภาพพวกผมแต่ละคนนี่แทบดูไม่ได้ แถมงานซุ้มต้องทำเพราะเป็นรุ่นพี่อีกที งานส่วนตัวก็ต้องรีบปั่น พอเลิกคลาสพวกผมก็ตรงดิ่งไปที่ซุ้มอย่างไม่คิดชีวิต ที่ไปนี่ไม่ใช่อะไรคือต้องรีบปั่นงานส่งก่อน5โมงเย็น เมื่อคำบัญชาจากท่านอาจารย์ขีดเส้นตายให้แก่นศ.ตัวน้อยๆอย่างพวกผม ตอนนี้เหมือนตัวเองหดเล็กลงซักสิบเท่าได้มั้ง

"เหี้ยกูงงหลักสูตรว่ะ อาจารย์ทำเหมือนว่าเราออกสอนจริงๆซะงั้น หน้าตาโรงเรียนกูยังคิดไม่ออกเลย" ไอ้แบคไอ้ไก่เกาหัวยิกๆเพราะมันงงเรื่องหลักสูตร คือพวกมึงเข้าเรียนเกือบทุกวันมาถามกูที่นานๆเข้าทีเนี่ยนะ

"มึงก็ดูมาตรฐานตัวชี้วัดแล้วก็ดึงเอามาจัดการเรียนรู้ของมึงไง ทำๆไปเถอะเดี๋ยวแดงๆก็แปะอยู่ที่กระดาษมึงเอง"

"อะไรวะแดงๆ" ไอ้ไก่เงยหน้าถาม

"เอ้า! ก็ปากกาแดงของอาจารย์ไง" แล้วมันก็ทำหน้าเป็นบางอ้อก่อนจะส่ายหน้าให้ผมแบบเอือมๆ นี่จะสื่อว่ากูเล่นมุกควายได้แป๊กมากใช่ไหม?

"มัวแต่เล่นอ่ะพวกมึงไม่เสร็จเดี๋ยวอาจารย์ก็กลับก่อน" ไอ้แบคบ่น วิชานี้ถ้าไม่ส่งคะแนนจะหายไปเหมือนสายลมที่พัดผ่านเพราะเวลาสอบเชื่อว่าพวกผมคงงูๆปลาๆดำผุดดำว่ายอยู่ในห้องสอบกันแน่ๆ จึงต้องมาพึ่งคะแนนเก็บอันแสนมีค่าดังสมบัติที่อยู่ใต้ท้องมหาสมุทรยังไงยังงั้น พอไอ้แบคเงยหน้ามองผมมันรีบยกมือไหว้ทันที

"เออๆไว้พระเถอะลูก" ผมแซว

"เชี่ยกูไหว้พี่โอโน่น" มันมุ่ยปากมาทางด้านหลังของผมๆนี่แข็งทื่อทันที แอบเหล่มองไอ้ไก่ที่ยิ้มมุมปากกวนๆแล้วยักหน้า จะสื่อว่า เอาแล้วไงมึงโจทย์มึงมา แล้วผมก็ส่งสัญญาณว่า เอาเลยไหม? ไอ้ไก่มันกลับเบะปากแล้วส่ายหน้า ตอนนี้เหมือนพวกผมกำลังจะบ้ากันเลยแฮะ

"ว่าไงเต๋า"

อุ้ย!

สะดุ้งตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางแล้วรีบเงยหน้ายกมือไหว้พี่โอ หน้าพี่แกนี่ยิ้มระรื่นมากปกติเวลานี้พี่เขาไม่ค่อยจะเข้าซุ้มนี่ว่าไหงมาเร็วจังวะ!

"ทำอะไรกันน่ะ" พี่เขาถามแล้วก็นั่งลงข้างๆผม เอาหน้าหล่อๆโฉดๆชะเง้อมองโจทย์ที่พวกผมกำลังหาทางตีโจทย์เหมือนล่าขุมทรัพย์กันอยู่

"วิชาหลักสูตรไงพี่ เนี่ยปวดหัวกันจะแย่อาจารย์บอกให้ส่งก่อนห้าโมงด้วย" พี่แกพยักหน้าเข้าใจไอ้แบคที่รายงานเสียดิบดี
"ทำได้ไหมเรา?" หันมาถามผม

"ถ้าทำได้จะมานั่งงมกันไหมอ่ะพี่?" ตอบไปแบบกวนๆเหมือนทุกทีกลับไม่ถูกทำอะไรอย่างที่คิดปกติจะโดนเคาะหัวเบาๆนี่หว่า พี่โอมันเสือกหัวเราะที่ผมไปเกรียนมันเฉย เออ... แปลกคน

"มาๆเดี๋ยวพี่ช่วย"

"..." ช่วยอย่างเดียวพอเถอะพี่ไม่ต้องกระแซะเข้ามาใกล้ขนาดนั้น ไอ้ไก่ที่เคยบอกไว้ว่าจะช่วยกีดกันผมออกไปจากไอ้พี่โอมันเสือกนั่งกลั้นขำแล้วยักคิ้วกวนบาทา สงสัยคงต้องรอให้ไอ้พี่โอช่วยพวกผมทำงานให้เสร็ก่อนแล้วค่อยถอยออกมาจากแขนหรือมือที่เลื้อยอยู่ตามตัวผม

พวกเรานั่งงมกันประมาณเกือบสองชั่วโมงได้ พอทำเสร็จนี่แทบจะเฮลั่นทุบโต๊ะกันปึงปัง แล้วจากนั้นก็มอบหมายภารกิจส่งสาสน์ลับคือการบ้านที่ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงสมองอันน้อยนิด เป็นหน้าที่ไอ้แบคที่ต้องบึ่งรถไปที่ตึกคณะเพราะเวลาส่งที่ใกล้จะหมดเวลาอีกแค่ห้านาทีเท่านั้น ตั้งความหวังว่าจะไม่เจอโจรสลัดปล้นสาสน์ของพวกผมกลางทางนะเว้ย! หายเมื่อไรไอ้แบคโดนยำแน่ๆถึงแม้ว่ามันจะหวังดีขันอาสาไปเองก็เถอะ

"วู้ว! เสร็จแล้ว" ผมถอนลมหายใจยืดเส้นยืดสายจนกระดูกลั่นกรอบแกรบไอ้พี่โอนี่ก็ยังคงนั่งอยู่

"สบายใจแล้วสิ งานหมดหรือยังล่ะ" พี่โอถาม

ผมเลยตอบแบบง่วงๆไปว่า "อีกเยอะพี่ว่าจะเคลียๆไปเป็นงานๆ เดี๋ยววาดรูปที่ซุ้มเสร็จผมก็คงไม่ค่อยได้มาจนหลังสอบเสร็จนั่นล่ะพี่" ใจจริงนี่กะชิ่งไม่เจอหน้าพี่ด้วยนั่นล่ะ ไอ้ไก่เหมือนจะเห็นความจริงที่ผมเล่ามันไปเมื่อวานไอ้ห่ะนี่ก็เอาแต่นั่งขำมองพวกผมเหมือนมีเล่ห์ใน นี่มึงจะกวนตรีนกูสินะ...

"ห้ามลืมงานวันเกิดไอ้แบคมันล่ะพวกพี่คิดไว้กันแล้วว่าจะมาจัดห้องพี่"

ฮะ? ทำไมต้องห้องพี่เขาด้วยวะ

"ไม่ไปร้านหมูกระทะอ่ะพี่ง่ายดีไม่ต้องล้างจานด้วย" ถ้าขืนไปนั่งกินห้องพี่เขาจานคงจะเยอะเพราะที่ซุ้มนี่มีหลายคน

"ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกพี่จัดการเอง" พี่แกว่าอย่างอารมณ์ดีแต่อารมณ์ผมนี่ไปหมดแล้วครับ วันเกิดไอ้แบคอีกสองวันข้างหน้าแล้วผมต้องค้างห้องพี่เข้าหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เวลาแดร๊คเหล้าวันเกิดกันทีพวกผมนี่จะเต็มที่กับชีวิตมาก เมาเหมือนหมาหาทางกลับบ้านไม่ได้ต้องนอนค้างที่ห้องคนจัด ผมก็ไม่ซีเรียสหรอกนะแต่มันห่วงคริสเสียมากกว่าเว้ย!

"เอางั้นหรอพี่" ไอ้ไก่ถามขึ้นมาบ้างมันกดโทรศัพท์ไปพลางเหมือนโทรหาใคร แต่ผมไม่สนใจรีบลุกขึ้นไปที่งานเฟรมของผมที่ทิ้งคาเอาไว้ปล่อยให้ไอ้ไก่กับพี่โอคุยกัน แต่ดูเหมือนผนจะคิดผิดเมื่อพี่โอมันตามติดตูดผมถึงที่

"นี่จะวาดใครน่ะพี่ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว" ผมมองรูปผมแล้วตอบ

"วาดคนรักของผมน่ะพี่..."

"..."

เงยหน้ามองพี่แกที่เงียบเสียงลงแล้วต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อสายตากับหน้านิ่งๆที่มองรูปอยู่เหมือนเขาไม่พอใจในคำตอบของผม "โหยล้อเล่นอ่ะพี่ทำไมต้องทำหน้าเครียดด้วย โน่น เมียผมนั่งอยู่โน่นกำลังคิดว่าจะเอามันมาเป็นแบบ" แต่จริงๆไม่ใช่หรอกผมกำลังวาดคนที่ผมรักจริงๆ พี่โอมันยิ้มที่มุมปากบางๆเหมือนจะขำก็ไม่ขำแล้วยกมือยีหัวผม

"คิดจะหลอกพี่มันไม่ง่ายหรอก พี่บอกว่าพี่ชอบเราก็คือชอบไม่ต้องพูดให้พี่เลิกคิดเลย" แนะรู้ทันความคิดกูอีกสงสัยพี่โอนี่เป็นญาติอัปดุล ผมยิ้มแหยๆก่อนจะลงมือวาดเพราะกลัวมันจะค่ำและคิดว่าจะวาดให้เสร็จก่อนวันเกิดไอ้แบคจะได้เก็บตัวเตรียมลงสนามสอบ เพื่อไปไฟว์กับข้อสอบมหาโหดของท่านอาจารย์ที่เคารพดั่งไอดอลของตัวเอง

ผมก้มๆเงยวาดไม่สนใจประชาชีทั้งหลายแหล่ที่เริ่มมาที่ซุ้มเหมือนทุกๆวัน แต่วันนี้ไม่มีก๊งเหล่ากันนะมันคงจะเก็บท้องเพื่อดื่มวันเกิดไอ้แบคโดยเฉพาะ แต่ธุรกิจไพ่ป๊อกยังคงดำเนินต่อไปพอผมวาดจนจะเสร็จแล้วเหลือลงสีรอบนอกเพื่อเก็บรายละเอียด เวลาสบตาสีครามทะเลแล้วมันชวนให้ผมขนลุกทุกที แอบมาวาดไม่ให้ใครเห็นแล้วมันตื่นเต้นดีแฮะ แต่ไอ้พี่โอนี่ก็เข้ามาหาผมเป็นระยะๆ

"ใกล้เสร็จแล้วนี่..." ผมหันไปทางพี่โอที่ทัก มองวงหน้าหล่อๆที่เดินเข้ามาแล้วพี่แกเงียบเสียงไปชักสีหน้าเครียดยิ่งกว่าเก่าตอนที่เห็นรูปเต็มๆ... เอิ่ม... พี่โอถ้าพี่ปวดอึแนะนำเดินไปทางขวามือของซุ้มแล้วเลี้ยวขวาอีกที...

"นี่ใครน่ะ" เขาถามผมเสียงเครียดมาก สงสัยผมวาดไอ้ไก่หล่อเกินไปจนกลายไปคริสสินะ ผมยิ้มแหยๆ

"อ๋อ... เมื่อคืนก่อนผมฝันว่าผมกลายร่างเป็นเทพบุตรน่ะ หล่อแบบนี้เลยพี่ก็เลยวาดออกมาจากหัวผมล้วนๆ" ไอ้พี่โอมันจ้องรูปผมเขม็งเลยผมกลัวว่ารูปจะสึกเสียก่อนก็เลยรีบเอาผ้ามาคลุมไว้ หวังว่ารูปคงไม่โดนซิ่วไปก่อนเสร็จนะผมมั่นใจว่ารูปของผมค่อนข้างที่จะเพอร์เฟคถึงจะไม่เหมือนตัวจริงเป๊ะๆก็เถอะ

"พอแล้วหรอ?" เขาถามผมเสียงเย็นๆชอบกล

"พอแล้วพี่เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาต่อ เย็นแล้วด้วยเดี๋ยวรถติด เฮ้ย! ไอ้ไก่กลับยัง" ผมตะโกนถามไอ้ไก่ที่ยังคงนั่งเล่นเกมเศรษฐีกับพวกพี่เดียร์ วันนี้พี่ชินไม่เข้าซุ้มสงสัยงานเยอะไม่ต่างจากพวกผมนัก

"จะรีบกลับไปไหนล่ะ พี่ยังอยากอยู่กับเราต่อนะ"

"เอ่อ... เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ดีกว่าเดี๋ยวผมต้องรีบไปปั่นงานด้วย" พยายามแถให้แนบเนียนไอ้ไก่มันเดินมาเกาะแขนผมหลังจากที่เก็บของใส่เป้แล้ว

"พี่โอไอ้เต๋านี่มันของผมจะมาจีบแฟนผมล่ะซี๊ แย่งของน้องมันไม่ดีนะพี่" พี่โอเลิกคิ้วผมเองก็เหมือนกัน งงๆกับไอ้ไก่ที่เปลี่ยนไปไอ้นี่ผีเข้าผีออก มาถึงก็พูดส้นตีนไรไม่รู้ มันหันมามองผมแล้วขยิบตา... เออกูเก็ทล่ะ

"อะไรของเอ็ง" พี่โอถาม

"อ๋อ พอดีเมื่อวานผมเล่าเรื่องพี่ให้มันฟังแล้วมันงอนผมนิดหน่อยน่ะ" กูเนียนพอยังวะเนี่ยยิ้มแห้งๆให้พี่โอ

"อ้าว ปกติแกล้งกัน?" พี่โอชี้พวกผมไปมา

"อ่อ..." ผมอึกอัก "จริงๆ... พวกผมไม่ได้แกล้งกันหรอก แต่พวกผมคบกันจริงๆ แต่เพราะพวกผมกลัวว่าพวกพี่จะรับไปไม่ได้... ขอโทษนะพี่แต่ผมมีแฟนแล้ว" หน้าพี่โอแม่งยิ่งโหดสัดมองผมเหมือนอยากเชือดทิ้ง...

"พี่เขาจะร้องไห้วะ" ไอ้ไก่กระซิบ

จะร้องส้นตีนอะไรล่ะสายตาดุเสียขนาดนั้น แต่ก็เหมือนเขาผิดหวังในคำตอบของผม ช่วงที่ผมยืนอยู่ค่อนข้างจะห่างซุ่มเล็กน้อยเลยไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นหรือแอบฟัง คือตอนนี้พวกเรารับรู้กันแค่สามคน

พี่โอมันยิ้มบางๆสีหน้าจ๋อยลงแล้วก้มหน้าถอนหายใจ "อย่างนี้นี่เอง... อืมพี่เข้าใจขอโทษนะที่ทำให้ไม่สบายใจกัน" พี่เขาเงยหน้ามองผมกับไอ้ไก่อีกครั้งสลับกันไปมา "พี่ขอโทษนะเต๋า" หน้าตอนนี้พี่เขาทำให้ผมรู้สึกสงสารอยู่ลึกๆนะ แต่ขอโทษไม่ใจอ่อนหรอกเว้ย!

"เฮ้ยพี่! ผมต่างหากล่ะจะที่ต้องขอโทษที่ไม่ได้บอกตั้งแต่เมื่อวาน"

"อืม..." พี่โอครางในลำคอต่ำ ไอ้ไก่นี่ก็ไม่ช่วยกูพูดปลอบเลยเอาเเต่หันไปชมนกชมไม้ ขอโทษเถอะตอนนี้มันเย็นมากแล้วมีอะไรให้มองนักวะ พี่โอเริ่มพูดอีกครั้งหลังจากที่พวกเราเงียบจนอึดอัด "ช่างเถอะ... อย่าเอาไปคิดให้หนักหัวเลยคิดซะว่าพี่รักเต๋าแบบพี่น้องนี่แหละ" กรรม...

ทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองเลวจังเลยวะที่ไปหักอกพี่เขา ผมยิ้มให้พี่เขาแล้วยกมือไหว้เพื่อชิ่งออกมากับไอ้ไก่ พอพ้นซุ้มผมก็หันไปถามเพื่อนผม "กูโกหกกูจะบาปป่าววะ?"

"เฮ้ย...." ไอ้ไก่มันตบไหล่ผมปักๆ "มึงโกหกจนนรกเขาบันทึกวีรกรรมมึงไม่ทันแล้วจะกลัวห่าไรวะ" เออจริง...

ป้าบ!

"กวนตีนกูนะมึง"

"ไอ้สัดเต๋ามึงตบหัวกูจัง กูโง่เพราะมึงเนี่ย" มันโวยผมที่ยิ้มกวนๆให้มัน สะใจจริงๆเวลาตบเกรียนเนี่ย

"ไม่ใช่ว่ามึงโง่อยู่แล้วหาข้ออ้าง?" ยักคิ้วให้มันที่เถียงไม่ออก มันหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินบ่นผมไปเพราะไม่สามารถเอาคืนผมได้ "มึงก็โง่น้อยกว่ากูหรือไงล่ะ"

"เอ้าไอ้นี่" ผมขำมันที่เริ่มทำตัวง้องแง้งใส่ผมอีกละ แถมมีการมาทวงบุญคุณกับผมเรื่องพี่โอด้วย เป็นการแทคทีมที่ทำร้ายจิตใจชาวบ้านเขาได้อย่างแนบเนียน แต่ให้ผู้ชายมาชอบผมนี่ก็ไม่ไหวนะเออ ยิ่งเห็นหน้าค่าตาอยู่ทุกวันนี้ยิ่งแล้วใหญ่จับไอ้ไก่ทำเมียซะยังดีกว่า... (อันนี้เปรียบไม่ได้คิดจะทำจริงๆนะเออ)

ผมกลับมาถึงห้องก็เกือบจะทุ่มนึงแล้วเพราะรถติดมาก วันนี้ไอ้ไก่มันขอค้างเพราะเมารถไม่ต่างจากผม มันบ่นผมที่ว่าทำไมถึงเปิดแอร์ทิ้งไว้จะให้ตอบว่ายังไงล่ะในเมื่อคริสมันเป็นคนเปิด

"สงสัยกูลืม" ผมตอบมันแล้วเหล่สายตาไปทางดอลฟี่คริสที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ไอ้ไก่มันเหมือนจะคิดถึงลูกๆผมมากเตรียมหยิบมาเล่นละ

ผมดักคอมัน "เล่นเฉยๆอย่าเสือกพิเรนล่ะ" นี่ยังนึกถึงฉาก18+ของไอ้ห่าไก่ที่ทำกับลูกๆผมได้ติดตาเลยรู้สึกไม่ไว้ใจมันชอบกล มันเดาะลิ้นทำเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนขัดใจ ไม่ต้องทำมาแสดงอาการ กูรู้ทันมึงไอ้เพื่อนเวร แต่ก่อนอื่นต้องแยกคริสออกมาจากมันก่อนตัวนี้ขอสงวนให้มันเล่นไม่ได้เดี๋ยวจะซวยเอา

"แหมหวงจังนะมึง"

"แล้วไง" ผมยักไหล่

"มินนี่ดูสิพ่อไม่รักเราล่ะ" มันดัดเสียงหล่อๆเป็นเซย์ที่คุยกับมินนี่ "ช่ายๆพ่อไม่รักเรารักแต่คริสฮือๆ" แล้วมันก็จับแขนตุ๊กตาผมทำท่าร้องไห้

"..." ไอ้นี่วอนจะโดนทีนผมจริงๆนะเนี่ย!

ผมเดินฉับๆเข้าไปแย่ลูกๆผมออกมาแล้วเดินไปที่เตียง มันยังมีหน้ามาหัวเราะใส่ผมอีกนะคิดถูกคิดผิดวะที่ให้มันมานอนค้างเนี่ย ผมหันไปขู่มัน "ถ้ากูออกมาแล้วเห็นมึงยุ่งกับตุ๊กตากูนะกูจะจับมึงทุ่มออกหน้าต่าง" สีหน้ามันกลัวมากทำเล่นหูเล่นตาล้อเรียนกูอีก ไอ้... จะด่ามันว่าอะไรดีวะ วู้ว! อยู่กับมันก็ปวดหัวอาบน้ำดีกว่า

 หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จก็ไล่มันไปอาบบ้างเพราะเห็นมันนอนเอนอยู่บนโซฟาเริ่มปลอกเปลือกตัวเองเกาท้องแบนๆของมันแกรกๆดูหนังช่องธรรมดาอยู่ ตาลอยๆแบบนี้จะหลับชัวร์เลยเอาขาสะกิดไล่มันที่เตรียมจะเน่าไปอาบน้ำ กว่ามันจะยอมเข้าไปอาบก็อิดออดน่าดู

เฮ้อ! เหนื่อยเว้ย...

ถอนลมหายใจเท้าสะเอวอยู่หน้าจอทีวี การเดินทางไปกลับมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยพอกลับมาบ้านก็ไม่หิวหรืออยากทำอะไรเลยทั้งนั้น สัมผัสอ้อมกอดแกร่งจากด้านหลังทำให้ผมสะดุ้งตกใจ หันไปมองคริสที่กอดผมแล้วเอาคางเกยไหล่ผมอยู่

"คิดถึง..."

"อย่ามาทำเป็นอ้อนเลยวันนี้ไอ้ไก่มันมานอนค้างนะ" ผมว่าเพราะกลัวไอ้ไก่มันพรวดพลาดออกมาอีก แต่คริสมันกลับยิ่งกอดกระชับผมเข้าไปอีก

"ไม่เห็นเป็นไรเลยถ้าเห็นก็พูดความจริงไปสิ" ไม่ดีม้างงงงงงงง.....

ผมย่นคิ้วให้กับท่าทางประหลาดของมันแล้วหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับร่างสูง มองคริสที่ยิ้มบางๆให้กับผมแล้วแตะหน้ามันที่เย็นชืด "ป่วยหรือไง หรือสมองเบลอไปแล้ว? จะบ้าเรอะ! ถ้าไอ้ไก่มันรู้ได้ซวยกันพอดี พอเลยกลับไปเป็นตุ๊กตาเลย..." ผมไล่มันที่กำลังทำสีหน้านิ่งๆ กำลังป่วนประสาทผมด้วยแววตาแบบนั้น

"อย่ามากวนนะคริส!" ผมเริ่มจะงอนมันที่ยังคงดื้ออยู่ สักพักรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แววตาที่ดูซุกซนของมันก็ยกยิ้มที่มุมปากบางๆจนผมใจสั่น พร้อมๆกับโน้มหน้าเข้ามาหาผมเรื่อยๆจนผมต้องค่อยๆเอียงตัวหนีตาม หวา! ไอ้ตุ๊กตาบ้านี่มันคิดจะทำอะไรของมันอีกวะน่ากลัวชะมัด!

แล้วรอยยิ้มที่ดูร้ายกาจนั่นก็ผุดยิ้มออกมาพร้อมๆกับกระซิบคุยกับผมที่ข้างหูเอาซะผมตาคาง... "แต่คริสหิวนะ ดูสิท้องร้องเลย" ไม่ว่าเปล่ามันยังจับมือผมให้ลูบท้องของมันผ่านทางเสื้อเชิทสีขาวที่ตัดให้มันใหม่ กล้ามเนื้อท้องที่แบนราบสัมผัสได้ถึงซิกแพคที่เป็นลอน ผมกลืนน้ำลายอึกรู้สึกฝืดเคืองเพราะคอแห้งผากด้วยความตื่นเต้น...

นะ... นี่มันจงใจแกล้งผมนี่หว่า!

ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มเข้าหาก่อนจะบดเบียดริมฝีปากของผมอย่างหิวกระหาย ลิ้นของมันดูดันกับลิ้นของผมเสียงดังจวบจาบพร้อมกับมือหนาที่ลูบไปตามร่างกายที่เปล่าเปลือยจนรู้สึกสยิว เจ้าช้างน้อยที่หลับอยู่นี่ก็ตื่นตัวดีเหลือเกินมันพองตัวค่อยเจริญเติบโตจนแข็งปั๋ง ไอ้บ้าเอ๊ย! มันทำให้ผมเกิดอารมณ์ตอนที่ไอ้ไก่อยู่

"ฮึฮึ" เสียงหัวเราะที่น่าหมั่นไส้ทำให้ผมไม่พอใจเสียเท่าไรจนเผลอทำหน้างอ และช้อนดวงตามองมันที่ยิ้มร้าย ผมเตือน "เดี๋ยวไอ้ไก่ก็ออกมาเห็นหรอก" ถึงจะมีอารมณ์อีกใจก็กลัวมากจริงๆ

ร่างสูงโน้มตัวเข้าหาผมอีกครั้งแล้วกระซิบแผ่วเบาว่า "ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนเต๋ายังไม่ออกมาตอนนี้" แล้วตอนหน้ามันไม่ออกมาหรือไง! ผมตั้งท่าจะเถียงและเริ่มผลักไสแต่ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากท้วงร่างของผมก็ถูกอุ้มจนลอยหวือ "หวา!" สูงชะมัด!

กอดคอคริสที่ค่อยๆวางผมลงบนเตียงอย่างช้าๆแล้วเริ่มจูบผมอีกครั้งไม่ให้ตั้งตัว ผมรับสัมผัสของมันในใจก็กลัวว่าไอ้ไก่จะออกมา มันหวาดระแวงจนไม่กล้าหันมาสบตาคริส เหมือนเจ้าตัวจะรู้มันผละออกไปแล้วดีดนิ้วของมันดังเปาะ! แล้วภายในห้องก็เปลี่ยนไปเหมือนกับห้องที่มันเคยทำให้ผมเห็น

"ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันสองคนแล้ว" มันยิ้มบางๆก่อนจะโน้มเข้าหาผมอีก

คงไม่ต้องกลัวอายกันแล้วมั้ง...

โอบกอดคริสซึ่งตอนนี้ร่างกายของเขาเปล่าเปลือยเช่นเดียวกันกับผม เวลาที่เนื้อหนังของเราเข้ากระทบก็เหมือนกับเติมเชื้อไฟให้ยิ่งรู้สึกตื่นตัว ผมเพิ่งจะอาบน้ำมาแท้ๆแต่เหงื่อกลับชโลมร่างกายของผมจนชุ่มไปหมด นิ่วหน้าโอบกอดคริสที่กำลังสวนท่อนลำเข้ามาภายในอย่างช้าๆ ผมคราง "อืออา" รู้สึกดีที่เขาสอดใส่ เวลาที่คริสเริ่มขยับสะโพกผมก็ยิ่งกอดเขาแน่นมากขึ้น เราจูบกันแทบไม่ปล่อยตอนที่คริสกำลังขยับเอวเข้าออก มันรู้สึกดีจนครางออกมาเสียงหลงไม่นานนักผมก็ถึงฝั่งฝันของตัวเองคามือหนาที่รูดคลึงไปตามจังหวะของคริส...

ร่างแกร่งที่กระตุกเกร็งอยู่ในร่างกายของผมทำให้รู้ว่าคริสก็ถึงฝั่งของตัวเอง เขาค่อยๆถอดท่อนลำออกมาแล้วยิ้มให้ผมเหมือนพึงพอใจมาก โน้มใบหน้าจูบเม้ม แล้วไล่ริมฝีปากไปตามลำตัวของผมจนรู้สึกสยิว มันจะทำให้ผมรู้สึกดีและตื่นตัวอีกครั้งหนึ่ง ริมผีปากนิ่มๆที่จูบไปตามร่างกาย ลิ้นชื้นๆกำลังโลมเลียไปที่น้ำสีขาวข้นตรงหน้าท้องของผม ดูดดื่มเหมือนอร่อยหนักหนาซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ ยามที่เห็นคริสเริ่มก้มลงไปป้วนเปี้ยนตรงท่อนลำของผมที่เริ่มจะสงบลงมันทำให้ผมสะดุ้งฮึกเมื่อลิ้นเย็นๆนั่นแตะมาที่น้องช้างของผม

"อะ อา..." อะไอ้ตะกละ ผมบ่นในใจพลางปรือตามองร่างกายที่สมสวน ไหล่ที่กว้างขยับไหวในยามที่คริสเข้าคราบงำแก่นกายของผมอย่างช้าๆ เรือนผมสีบรอนไหวไปตามแรงดูขึ้นลง ทำจนผมสยิวกิ้วจนร้องครางเสียงหลงไปทั้งห้อง พยายามจิกทึ้งที่นอนเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวเมื่อร่างกายมันเหมือนจะแตกตัวออก มันอึดอัดไปตามท้องน้อยและรู้สึกดีในคราเดียวกัน ไม่นานนักสิ่งที่คริสทำก็ทำให้ผมปลดปล่อยมันออกมาอีกรอบ เสียงอึกๆที่บ่งบอกว่าเขากำลังกินชีวิตน้อยๆของผมมันทำให้ผมรู้สึกอาย... ไม่รู้เป็นอะไรทำไมถึงไม่ชินสักทีก็ไม่รู้ แต่เสียงดูดในเวลาที่เขากำลังกินน้ำของผม มันก็ดูเซ็กซี่จนผมเองก็เผลอกลืนน้ำลายตาม...

"เต๋า" ผมปรือตามองคริสที่เรียกหาผม เมื่อผมเกือบจะเผลอหลับ ร่างสูงโน้มตัวเข้าหาแล้วจูบอีกครั้ง นี่ยังได้กลิ่นน้ำคาวของผมในปากเขาอยู่เลย

"อือ... อ่ะคริส ไม่เอาน่าไอ้ไก่มันอยู่นะ" ผมบอกมันที่ตอนนี้มันเริ่มป้วนเปี้ยนอยู่ที่ร่างกายตรงส่วนกลางของผมอีกแล้ว แต่มีหรือไอ้ตุ๊กตาบ้านี่จะสนเมื่อมันยกยิ้มที่มุมปากแล้วตวัดสายตามอง ตอบกลับมาว่า "แต่ตัวเต๋าหอมจนคริสอยากจะกินไปทั้งตัวเลย" แล้วใบหน้าของผมก็ร้อนฉ่าแดงเถือกไปทั้งหน้าจนคุมไม่ได้

ไอ้หน้าไม่อาย! คิดในใจด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเลยตามเลยให้คริสทำกับผมอีกครั้งเมื่อตัวของผมเองก็ต้องการเขา...
แต่หลังจากนั้นเมื่อเราจบสิ้นภารกิจป้อนอาหารให้ดอลฟี่ผมก็ตระหนักในใจแล้วว่า... ผมจะไม่ชวนใครมานอนที่ห้องอีกแล้วเมื่อไอ้ดอลฟี่บ้านี่มันจะคึกทุกๆครั้งที่ใครก็ตามมาค้างด้วยโดยเฉพาะไอ้ไก่...

แล้วหลังจากที่คริสพาผมกลับมายังห้องของผมอีกครั้งผมก็รู้สึกว่าร่างกายของผมมันปวกเปียกอย่างกับตัวหนอน คริสอุ้มผมและขยับร่างไปบนที่นอนให้รู้สึกสบายตัว เสื้อผ้าใส่ให้ผมจนมิดชิดจนดูเหมือนว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นตุ๊กตาแทนมันเสียเอง พอไอ้ไก่ออกมาผมก็ดึงผ้ามาห่มคลุมโปงโดยมีคริสที่กลายเป็นดอลฟี่อยู่ในอ้อมกอด

"อ้าวมึงจะนอนแล้วหรอ?" มันถามผมเหมือนประหลาดใจ

ผมคราง "อือ" ตอบมันแล้วซุกหน้าลงบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มของคริสในอ้อมกอด ไอ้ไก่มันยักไหล่แล้วไม่ได้สนใจผมอีก มันเดินไปปิดไฟให้ก่อนที่จะเดินไปเปิดคอมเพื่อเล่นเกม...

"อย่าเสียงดังนะเว้ย" ผมบอกมันไอ้ไก่มันก็เออออๆตามประสา ส่วนผมได้แต่ซุกหน้าด้วยความอาย

ถึงแม้ว่าไอ้ไก่มันจะไม่รู้ว่าผมเพิ่งจะทำอะไรมาในระหว่างที่มันอาบน้ำ แต่ผมก็ไม่ได้หน้าด้านพอที่จะทำตัวเองให้เป็นปกติ มันละอายใจยังไงชอบกล ยิ่งได้ยินเสียงหึหึที่หัวเราะกวนประสาทอยู่ในอ้อมกอดนี่มันยิ่งทำให้ผมโมโห...

"ไอ้ตุ๊กตาบ้า..." ด่ามันเบาๆก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อย อาจจะเป็นเพราะมีคริสนอนอยู่ด้วยก็ได้มันเลยทำให้ผมผ่อนคลายและหลับไปในเวลาอันสั้น...
 
ได้ยินเสียงทุ้มที่บอกราตรีสวัสดิ์ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีจนนอนอมยิ้มเหมือนกับเด็กๆเลยล่ะ...

"กู๊ดไนท์เต๋า..."









....
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-01-2015 08:52:25
 :z1:  มอร์นิ่ง เต๋า คนเขียนด้วยค่ะ
สบายตัวแล้วซี่เต๋า  ต้องขอบคุณคริสเขานะ

เจ้าไก่มีประโยชน์ก็คราวนี้ แต่ดูเหมือนพี่โอจะไม่่ตัดใจง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 15-01-2015 09:02:49
 :3123: บวกเป็ดแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านครับ เขินล่วงหน้าได้มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-01-2015 14:55:58
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2015 16:32:09
โดนตลอดเมื่อไก่มาห้อง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 15-01-2015 19:32:13
พี่โอคงจะไม่สำแดงเดชอะไรเพิ่มนะดูน่ากลัวชอบกล
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 15-01-2015 19:54:15
 :o8: กลับมาอ่าน เขินแทนเต๋าเลย อ๊ากกกก....!!! น้องคริส  :-[
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP22 - P11 - 15/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Death_note ที่ 16-01-2015 20:25:24
 :hao7:  เต๋าาา ทำใจซะเถอะยังไงก็ถูกกินตลอดดด   อิอิ :laugh:
 o13 o18 อัยพี่โอนี่ก้อแปลกๆ ชัดยังไงๆ มีกลิ่นตุๆๆ แววมาม่า
 :monkeysad: รอตอนต่อไปอยู่นะครัชมาต่อด่วน  สู้ๆๆๆๆๆๆ  คร้าบบบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 17-01-2015 08:43:00
 :katai4:

DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
23






ผมตื่นเช้ามาก็ไม่เจอไอ้ไก่แล้วไม่รู้ว่ามันชิ่งกลับไปตอนไหน มองคริสที่ยืนตรงหน้าต่างกำลังมองความวุ่นวายของเมืองกรุง หันไปมองนาฬิกาตอนนี้มันก็เกือบจะเก้าโมงแล้ว... วันนี้คงเข้าเรียนสายอีกแล้วสินะ

"ไอ้ไก่มันกลับไปตอนไหน" ถามคริสที่กำลังเหม่อ หมอนั่นหันมาหาผมแล้วยิ้มบางๆ อา... ชีวิตผมตอนนี้มันแฮปปี้ดีจริงๆ ตื่นขึ้นมาเจอคนที่ตัวเองรักยิ้มให้แบบนี้ ถึงมันจะผิดแผนของชีวิตไปนิสนึงเพราะว่ามันเป็นผู้ชายก็เถอะ ผมจะมโนเห็นสาวน้อยยืนอยู่ตรงนั้นแล้วกัน

"ประมาณเจ็ดโมงเช้าได้ คริสได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับใครบางคนแล้วรีบออกไป"

ผมเกาหัวแกรกๆ มันไปกับใครวะ? น่าจะบอกกันหน่อยอย่างน้อยก็ปลุกกันบ้างก็ยังดี เออ... แล้วแบบนี้จะไปมหาลัยยังไงวะเนี่ย!
พยักหน้ารับรู้แล้วลุกขึ้นจากเตียงเพราะมันสายเต็มที ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวในเวลาอันสั้นเตรียมเอาของใส่เป้เรียบร้อย ไม่ลืมหันไปหาคริสที่ตามก้นผมต้อยๆทุกๆกิริยาที่ผมกระทำ ถ้าสิงได้นี่มันคงจะสิงผม เอ๊ะ! ไอ้นี่มาแปลกอีกละ

"ทำอะไรวะ?" ถามอย่างไม่เข้าใจแล้วสบตาสีครามที่มองผมเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่าง ไอ้สายตาละห้อยนั่นมันคืออะไรวะ

"ไปด้วยได้ไหม?"

"ไม่" แทบไม่ต้องคิดให้เปลืองสมอง ไอ้นี่มันเตรียมงอแงอีกละ

"ทำไมล่ะ?" มันยังมีหน้ามาถามกวนประสาทอีกทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ

ผมจิ๊ปาก "ก็อะไรเดี๋ยวก็โดนเล่นงานอีก"

"แต่คริสห่วงเต๋ามากกว่า"

ผมจ้องตามันปริบๆที่ตอนนี้หน้ามันเครียดขึ้นมาอีกละ คิ้วหนาๆที่ย่นคิ้วเข้าหากันจนเหมือนโบว์ผมเอื้อมมือไปดึงให้มันออกมาแล้วจับแก้มมันยืดออกให้ดูยิ้ม คริสมันยิ่งย่นคิ้วทำหน้าสงสัยว่าผมเล่นพิเรนอะไร

"ยิ้มหน่อยสิไม่ชอบให้ทำหน้าบึ้งว่ะ" เวลาทำแบบนี้แล้วน่ากลัวพิลึก ถึงมันจะหล่อแต่ก็น่ากลัวเวลาที่ทำหน้าบึ้งตึงนะขอบอก

"ก็เต๋าไม่ยอมให้ตาม" แนะมันยังมีหน้ามาเถียงผม ถอนลมหายใจเฮือกใหญ่กอดอกมองหน้าคริสที่เริ่มทำคอตกมองผมแบบอ้อนๆอีกละ

"..." ผมล่ะเกลียดตอนมันอ้อนจริงๆ ไม่ใจอ่อนหรอกโว้ย!

"จะรีบไปรีบกลับ วันนี้จะกลับเร็วไม่กลับดึกเหมือนเมื่อวานหรอก" พอทำงานเสร็จก็ชิ่งแน่นอนไม่อยู่นานให้รู้สึกกดดันเพราะไอ้พี่โอหรอกนะ มีลางว่าจะเจอพี่แกอีก แต่จะให้มองหน้ากันเหมือนเดิมมันคงมองไม่ติดเพราะดันมารู้ความรู้สึกพี่แกแล้วหักอกเขานี่และเว้ย!

คริสมันยังคงทำสีหน้าอยู่แบบนั้นเห็นแล้วมันเหนื่อยใจชิบเป๋ง! ทำไมดอลฟี่ผมมันเอาแต่ใจแบบนี้วะ "คริส" ผมเรียกมันเสียงเข้ม

"ครับ"

"ฉันสั่งให้นายอยู่ห้องก็ต้องอยู่โอเค๊!" แต่มันไม่โอเค แถมส่ายหน้าไม่เชื่อฟังผมอีก นี่มันจะแข็งข้อต่อเจ้านายหรือไงฮะ!

รู้สึกหงุดหงิดที่คนตรงหน้าไม่ยอมเชื่อฟัง แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออ้อมกอดแกร่งสวมกอดผมจนแน่น ถึงจะทำแบบนี้ก็ไม่ยอมใจอ่อนหรอกนะเว้ย ผลักอกมันออกไปแล้วพยายามพูดกับมันให้รู้เรื่อง

"รออยู่ที่ห้อง แล้ว... วันนี้จะให้กินอีก" นี่ยอมงัดไม้ตายเอาของกินมาล่อแล้วนะ อภินันทนาการจากชายเต๋าเป็นร่างกายของตัวเอง ผูกโบว์ให้ด้วยเอา! ถ้ายอมว่าง่ายเชื่อฟังกันแล้วอยู่ห้องเฉยๆ คริสมันมองผมนิ่งดูตกใจที่ผมพูดออกไปแบบนี้ ขอร้องเถอะหยุดมองแบบนั้นได้ไหมนี่ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะเว้ย!

"เข้าใจไหม อยู่ที่นี่ห้ามตามมาแล้วจะให้กินอีก แต่ถ้าไม่เชื่อกัน อด!" ขู่ร่างสูงแบบเสียงเข้มๆประหนึ่งข้าเหนือกว่าเอ็งอย่าริอาจขัดขืนคำสั่งไม่งั้นเจอดี แต่ดูเหมือนว่ามันจะกลัวมากกลับยิ้มออกมาแบบมีเล่ห์นัยสุดๆ

"อะไรล่ะที่ให้กิน" มันยังมีหน้ามาทำใสซื่อไม่รู้ความหมายอีก แล้วที่กินอยู่บ่อยๆนี่มันคืออะไรเล่า! หน้าเหน้อผมนี่ร้อนหมดละเพราะไอ้สายตากรุ้มกริ่มที่โน้มเข้ามาถามนี่แหละ!

"ไม่รู้! คิดเอาเองดิ่ คิดไม่ได้ก็อด!"

ผมว่าผมควรจะออกเดินทางไปมหาลัยได้แล้ว ไม่รอคริสตอบกลับมาเพราะกลัวว่ามันจะดื้อกับผมอีก นับวันผมเริ่มทำตัวประหลาด ไม่สิมันมากกว่าที่ทำตัวประหลาดมันดูน่ารักขึ้น? ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!! ผมไม่ได้มองว่ามันน่ารักขึ้นสักหน่อย มองยังไงก็เป็นไอ้ตุ๊กตาบ้าที่ร้ายกาจ คริสน่ะมันร้ายชอบเอาความน่ารักมาหลอกลวงผมซึ่งมักจะทำให้ผมคล้อยตามตลอด ผมเปล่ามองมันน่ารักนะ คำว่าน่ารักนี่มันต้องเหมาะกับสาวๆน่ารักๆเซ่ถึงจะถูก!

เดินออกมาจากห้องมาถึงหน้าปากซอยด้วยความเร็วที่มากกว่าทุกวัน แต่วันนี้มันรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นสายตาหลายคู่ที่มองมาทางผม มองอะไรวะ? สงสัยจะมองความหล่อของชายเต๋าที่หล่อเหลาดุจณเดช ขนาดเคนยังชิดซ้าย อั้มอธิชาติยังชิดขวา ทอมครูซวิ่งตามมาก็หล่อเท่าพี่เต๋าคนนี้ไม่ได้ ถุ๊ย! นี่กูชงความหล่อคนเดียวก็เป็น แต่ทว่าสายตาของคนที่ยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์นี่มันมองผมแปลกจริงๆนะเว้ย!

เหมือนข้องใจอะไรบางอย่าง นี่ผมไปเหยียบเล็บขบพวกเขากันหรือไงวะ?

พอรถเมล์ฟรีมาจะรอช้าอยู่ใยล่ะผมรีบกระโดดขึ้นแล้วเกาะราวเหล็กทันที ไม่ว่าจะเช้า สายบ่าย เย็น... ขอโทษเถอะผมนี่ไม่มีบุญได้นั่งกับเขาเลย แต่ก็ยืนแปบเดียวเพราะเลือกจะนั่งBTSมากกว่าในวันนี้ เพราะมันสายมากแล้ว แถมผมยังไม่อยากเป็นเป้าสายตาพิฆาตของอาจารย์ตอนที่เข้าเรียนสายด้วยล่ะ

 แต่อย่าว่าที่ป้ายรถเมล์เลย ขนาดบนรถไฟฟ้ายังมีคนจ้องมาทางผมเหมือนข้องใจ เฮ้ย! นี่มองอะไรกันนักวะหรือผมจะลืมโกนหนวด ลองเอามือคลำๆหน้ามันก็เกลี้ยงเกลาดีนี่หว่า ความเถื่อนของผมมั่นใจว่าลดลงประมาณ50%ได้ แต่งกายสุภาพเรียบร้อยมั่นใจว่าวันนี้ตัวเองปกติดีไหงโดนจ้องเหมือนผมเป็นตัวประหลาดแบบนั้น

ไม่ไหวแล้วเว้ย!

พอถึงสถานีผมรีบเดินแทรกผู้คนออกมาทันที แล้ววิ่งขึ้นรถเข้ามหาลัยตามปรกติ แต่ที่ไม่ปรกติคงจะเป็นสายตาของใครๆหลายๆคนนี่แหละเว้ย นศ.หญิงที่เดินผ่านพวกเธอมองผมแล้วทำสายตาประหลาดก่อนจะหันไปหัวเราะคิกคักเหมือนขำอะไรสักอย่าง หน้าพี่นี่กระตุกต่อมหัวเราะของน้องหรือไงครับ? เฮ้ย! งงอ่ะมันไม่กระจ่างแก่ใจไอ้เต๋าเลย

"เป็นไรวะหน้าเป็นตูดเลย" ไอ้ไก่ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของเรารออาจารย์เข้าสอนถามผมทันทีที่มันเห็นหน้า มันหนีผมมายังมีหน้ามาถามอีก วันนี้อารมณ์ไม่ดีเลยเว้ย!

"จะอะไรอีกละ มีแต่คนมองกูแปลกๆหน้ากูหล่อมากหรือไงวะมองจัง"

"ก็มึงหล่อไง แต่หล่อน้อยกว่ากูนิดนึง"

"ถุย!" มันยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ เจอหน้ากันก็กวนตีนเลยเดี๋ยวพ่อโบกให้ไก่กลายร่างแทบไม่ทัน กระแทกก้นนั่งอย่างหัวเสียดึงเป้จากข้างหลังมาวางไวบนโต๊ะ

ชิหอง!!!!

"เก็ทยังล่ะมึง" ไอ้ไก่มันถามผมอย่างงงๆ ผมนี่ก็งงไม่ต่างจากมันเมื่อเห็นดอลฟี่ของผมนอนแอ้งแม้งอยู่บนเป้ ทำหน้าแอ๊บแบ๊วได้ขัดกับร่างจริงของมันมาก แขนของคริสพันอยู่ที่เชือกของซิบซึ่งผมผูกมันให้ยาวๆออกมาเพราะคิดว่ามันเท่ดี ลูกตานี่แทบจะถลนออกมาอยู่แล้วล่ะครับ!

"เฮ้ย! มาได้ไงวะ"

"เอ้าถามกูๆจะรู้ไหมตุ๊กตามึง"

กูไม่ได้ถามมึงไอ้ห่า! ไอ้ไก่มันหัวเราะแหยๆใส่ผมแล้วส่ายหน้าแบบเอือมๆในความเปิ่นของผมเอง แต่ขอโทษครับนี่ไม่รู้จริงๆว่าคริสแอบตามมาด้วย ผมเลยต้องรีบเอาคริสจับยัดลงในกระเป๋าไม่ทันที่จะพูดอะไรกับไอ้ไก่อีกเพราะเพื่อนๆเริ่มทยอยเข้ามาแล้ว ส่วนคริส... อยากตามดีนักก็ทนอึดอัดอยู่ในนี้ก็แล้วกัน!

แล้ววันนี้อย่าหวังว่าจะเรียนรู้เรื่องเพราะมาห่วงหน้าพะวงหลังมองคริสที่อยู่ในกระเป๋านี่แหละ แถมวันนี้ก็เสต็ปเดิมครับท่านอาจารย์ที่เคารพรักมอบหมายงานให้ก่อนจากกันอีกตามเคย แล้วพวกผมก็ต้องระเห็จกันไปที่ซุ้มเพื่อปั่นงานกันเช่นเคยนั่นล่ะ แต่วันนี้เจอไอ้ส้มที่นั่งหน้าสลอนอยู่ด้วย ไปค่ายมาสองสามวัน ไม่เจอกันสี่ถึงห้าวันนี่มันดำขึ้นเยอะเลย

"สวัสดีครับพี่เต๋าพี่ไก่" มันยกมือไหว้พวกผมแล้วยิ้มให้จนตาหยี แต่นี่ไม่มีเวลามานั่งคุยกับมันได้แต่พยักหน้าตอบเออๆ แล้วหยิบงานขึ้นมาปั่นให้เสร็จ ดีที่ว่างานที่อาจารย์ให้ไม่ได้ยากมากมายเท่าไรไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกผมก็ทำเสร็จ แล้วผมก็ขี้เกียจเดินไปส่งเลยให้ไอ้ไก่มันเดินไปส่งให้ โดนมันบ่นนิดหน่อยไม่ได้ซีเรียสอะไรเดี๋ยวค่อยเลี้ยงน้ำมันตอบแทน

วันนี้ในซุ้มมีไอ้แบคไอ้โด้ที่ขยันเป็นพิเศษยืนระบายสีน้ำมันอยู่ พวกมันหันมาพยักหน้าทักทายผมแล้วหันกลับไปทำงานของมันต่อ ใจผมอยากทำงานต่อให้เสร็จนะแต่ไอ้ตัวปัญหาที่อยู่ในกระเป๋านี่ดิ่

"พี่เต๋าสบายดีนะครับไม่เจอหลายวันเลย" ไอ้ส้มมันถามผมหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนทุกครั้งไม่ได้ดูมีพิษสงค์อะไร ผมเลยหันไปตอบมัน

"พี่ก็เปื่อยไปเรื่อยของพี่แหละน้อง ว่าแต่เอ็งเถอะไหนล่ะของฝากพี่" ผมแบบมือยิ้มร้ายๆแล้วกระดิกนิ้วให้มันมอบของกำนัลให้แก่ผม ไอ้ส้มมันเหมือนรู้ดีว่าผมจะทวงมันรีบล้วงกระเป๋าแล้วหยิบขนมส่งให้ ทำดีมากไอ้น้อง

"เป็นไงบ้างล่ะสนุกป่าววะไปค่าย" ผมถามสารทุกข์สุขดิบมันบ้าง พยายามทำตัวให้เป็นปกติแม้ในใจจะไม่ค่อยไว้วางใจมันเหมือนดั่งเคย ในเมื่อมันยังมีคดีติดตัวตั้งแต่วันที่คริสโดนทำร้าย

ไอ้ส้มมันยู่ปาก "น่าเบื่อมากเลยพี่ผมนี่หลับอย่างเดียว" ทำดีแล้วน้องเอ้ย เป็นน้องพี่นี่เชื้อต้องไม่ทิ้งแถว พี่เป็นไงน้องเป็นงั้นถึงจะคนละพ่อแม่ก็เถอะ มันยิ้มให้ผมแล้วดูน่ารักตามประสาของมัน ผมยิ่งไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้ส้มจะเป็นพ่อมดหรือสมุนของพ่อมดอีกที

พลันความคิดผมก็แล่นเข้ามาในหัว อยากรู้ว่าปฏิกิริยามันจะเป็นยังไงถ้าผมพูดถึงเลย์ "เบื่อทำไมไม่พาเลย์ไปด้วยล่ะ"

ไอ้ส้มมันเลิกคิ้วแล้วยิ้มอายๆ "เอ่อ... เลย์เขาไม่ว่างน่ะพี่ แล้วอีกอย่างเราเรียนคนละเอก"

"พี่ไม่ได้หมายถึงเพื่อนเอ็ง พี่หมายถึงดอลฟี่เอ็งต่างหากชื่อเลย์ไม่ใช่หรอ" เหมือนมันจะตกใจที่ผมถามมันไปแบบนั้น เอ็งเข้าใจประเด็นพี่ผิดแล้วน้อง

"อ๋อ... พี่ก็รู้นี่ว่าเรามีรสนิยมเหมือนกันแล้วก็กลัวว่า..." มันยู่ปากไปมาจนน่าดึง

ผมหัวเราะ "ฮ่าๆๆๆ เออๆพี่รู้ แต่แหม๊! ถ้าดอลฟี่กลายร่างเป็นคนได้ก็ดีเนอะ เวลาไปไหนจะได้พาไปด้วยพี่ก็อยากพาคริสไปทุกทีนะแต่ก็กลัวอายชาวบ้านเขา มันคงไม่เหมาะถ้าเห็นผู้ชายตัวเท่าหมีอุ้มตุ๊กตาไปด้วยทุกที" คุยกับมันเสียงเบา แอบเหล่มองไอ้ส้มที่สีหน้าจ๋อยลง ผมรู้สึกว่าสีหน้ามันดูเศร้ายังไงชอบกลหลังจากที่ฟังผมพูด...

เฮ้ย! นี่มันเป็นอะไรวะ หรือผมพูดแรงมากไปเพราะไอ้ส้มมันก็รักดอลฟี่มากมันคง... อา นี่ผมรู้สึกแย่ว่ะ

ไอ้ส้มเงียบไปครู่แล้วพูดอีก "นั่นสิพี่" เสียงมันอ่อยมากอ่ะ หรือว่า? "แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ดอลฟี่ที่ไหนจะมามีชีวิตไม่ใช่การ์ตูนซักหน่อย" สีหน้ามันเปลี่ยนเป็นสดใสได้เร็วมากจนผมเองก็รับมือมันแทบไม่ทัน

"อะ... เออ จริงของเอ็ง" ยิ้มให้มัน หัวเราะแหะๆก่อนจะหันไปทางไอ้แบคที่ก้มๆเงยๆอยู่กับรูปของมัน อยู่กับไอ้ส้มแล้วมันอึดอัดเว้ย! ทำไมวะเวลาที่ยังไม่รู้เรื่องแย่ๆผมยังมองมันเป็นน้องชายที่น่ารักของผมอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมกลับคิดว่าผมควรอยู่ห่างมัน
ไอ้ส้มที่เงียบเสียงไปมันเงยหน้าเหมือนจะคุยกับผมอีก แต่ผมดันลุกขึ้นแล้วเดินไปที่รูปของไอ้แบคเพราะไม่อยากทนนั่งอึดอัด นี่กะว่าถ้าไอ้ไก่มันกลับมาจากส่งงานว่าจะชวนมันกลับห้องเลย ไม่ไหวละวันนี้รู้สึกวุ่นวายหัวใจชอบกล

"วาดตัวอะไรของมึงเนี่ย?" ผมแซวไอ้โด้ที่อยู่ข้างๆไอ้แบค มันเงยหน้ามองตาขวางประมาณว่าถ้ามึงคอมเม้นรูปกูกวนตีนได้เจอกูฆ่าแน่

"กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละ มันบอกว่ามันวาดแอฟแต็ก แต่กูว่าแม่งแอฟแตด"

"แตดพ่อง เดี๋ยวหัวมึงอะจะแตกไอ้แบค" ไอ้โด้มันยกพู่กันเหมือนจะฟาดไอ้แบคผมเลยต้องรีบถอยแล้วหัวเราะใส่มันจนท้องแข็ง ไอ้สองคนนี้มันเหมือนลิ้นกับฟันจริงๆ

"เอาๆอย่าเพิ่งตีกันวาดดิ่เดี๋ยวไม่เสร็จ" ผมเร่งไอ้ดีโด้เพราะกลัวว่ามันจะหงุดหงิดซะก่อน แล้วหันไปพยักพเยิดให้ไอ้แบคทำงานของมันบ้าง ไอ้นี่ก็หัวเราะกวนตีนมันไม่เลิกเดี๋ยวมันโมโหขึ้นมาก็เหลือกตาใส่หรอก

"แล้วมึงไม่ทำหรอวะมายืนกวนตีนอยู่ได้ เกะกะ" ไอ้โด้มันถาม เลยส่ายหน้าตอบ

"เดี๋ยวไอ้ไก่กลับมาที่ซุ้มก็จะชวนมันกลับแล้วล่ะ"

"อ้าวพี่เต๋าไม่อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนหรอ นานๆเป็ดจะได้กินข้าวกับพี่นะ" ไอ้ส้มมันถามน้ำเสียงเสียดาย ผมเลยหันไปมองมันที่กำลังทำหน้ามุ่ยยู่ปากเป็นเป็ดสมดั่งฉายาที่ซุ้มได้ตั้งชื่อให้

"เออ พี่จะกลับไปเคลียงานด้วย" เดินกลับไปที่โต๊ะอีกครั้งเพื่อเตรียมเอากระเป๋าเดินทางกลับห้องตัวเอง ไอ้ไก่นี่มันก็หายหัวไปเลย ผมก้มลงมองนาฬิกานี่เกือบจะสี่โมงเย็นแล้วป่านนี้คริสมันคงนั่งหน้าตึงอยู่ในกระเป๋า แต่ผมไม่กล้าเปิดดูมันหรอกเดี๋ยวมันง้องแง้งใส่อีก กะว่าจะกลับห้องก่อนแล้วค่อยปล่อยมันออกมา

ไอ้ส้มที่ดูกระตือรือร้นรีบถามผม "วันนี้ส้มไปค้างบ้านพี่เต๋าได้ไหม? ส้มคิดถึงลูกๆพี่อ่ะ" แล้วมันก็ทำสายตาวิ๊งๆขอร้อง

จะดีเร้อ....  มาขอกันแบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเว้ย! ปรกติไอ้ส้มมันไม่ค่อยขอผมหรอกถ้าผมไม่ได้เป็นคนชวนมันเอง หรือไม่ก็ไม่สบายเหมือนคราวที่แล้ว หน้าผมนี่โคตรหนักใจ

"จะไปไหนกัน?" เฮ้ย!

ผมรีบเอี้ยวตัวออกมาจากไอ้พี่โอที่ยื่นหน้าเข้ามาแทรกกลางระหว่างพวกผมทั้งสองคน ไอ้ส้มนี่ก็เหวอไม่ต่างจากผมนักเมื่อหน้าหล่อๆพี่แกนี่แทบจะหอมแก้มผมอยู่แล้ว

"เล่นไรอ่ะพี่โหยตกใจหมด" ผมนี่ใจหายใจคว่ำขวัญกระเจิงหนีไปไหนแล้ววะเนี่ยวิ่งไปตามมาให้เลยนะเว้ย! หน้าพี่แกนี่ไม่สำนึกกลับไปยืนตัวตรงแล้วหัวเราะเหมือนสนุกที่ได้แกล้งผม

"อ้าวหรอ โทษๆพี่ก็แค่อยากให้ตกใจเล่น" คุณทำสำเร็จแล้วครับ...

ไอ้พี่โอมันเกรียนวะ ไม่คุยด้วยล่ะ ในเมื่อพี่แกมาผมก็ขอชิ่งละบาย ....

"เอ้า! จะไปไหน" พี่แกคว้าแขนผมเอาไว้เมื่อผมสะพายเป้ของตัวเองซึ่งตอนนี้มันหนักขึ้นหลังจากที่รับรู้ว่ามีคริสอยู่ข้างใน ผมมองพี่โอแล้วยิ้มแหยๆให้ เพ่ๆ ปล่อยแขนผมก่อน...

พยายามดึงมือพี่แกออกแต่ดูเหมือนพี่แกจะทากาวตราช้างเอาไว้ เลยปล่อยเลยตามเลย แถไปตามเสต็ป "กลับไปเคลียร์งานเก่าไงพี่ เยอะเป็นภูเขาเดี๋ยวทำไม่ทันส่งก่อนสอบ"

"อ้าวหรอ" พี่โอพยักหน้าเหมือนเข้าใจแล้วผละมือออกไป สีหน้าดูเบื่อหน่ายทันทีที่รู้ว่าผมจะกลับ ผมไม่ได้หลงตัวเองนะแต่หน้าพี่เขาแสดงออกมาแบบนั้นจริงๆ

ผมก้มลงบอกไอ้ส้ม "เอาไว้วันหลังนะ เดี๋ยวพี่ให้มาค้างที่ห้องพี่" มันค่อยยิ้มได้ออกมาหน่อยเพราะเมื่อก่อนหน้ามันดูจ๋อยๆอยากไปห้องผมมากจริงๆ เอาไว้ให้พี่มั่นใจว่าเอ็งไม่ซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้ข้างในก่อนนะแล้วพี่จะกลับมาทำตัวดี๊ดีตามใจเอ็งประหนึ่งน้องในไส้อีกครั้ง ก่อนอื่นต้องรีบชิ่งไปละครับพี่น้อง

"ไปละพี่" พี่โอพยักหน้าหงึกหงักทำเป็นไม่สนใจผมที่จะเดินออกไปจากซุ้มแล้ว แต่ผมเองก็ไม่สนใจหรอกหันไปลาไอ้โด้กับไอ้แบค แล้วก้มลงลาไอ้ส้มอีกรอบ "พี่ไปก่อนนะฝากบอกไอ้ไก่ด้วยว่าพี่กลับแล้ว"

"ครับ" ไอ้ส้มมันขานเสียงอ่อน ไอ้นี่ก็อ้อนจริงๆให้ตายสิ!

ผมรีบเดินออกมาจากซุ้มด้วยความเร็วเพราะตอนนี้ใจผมอยากกลับห้องตัวเองมากๆ แต่มันคงไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะช่วงเวลานี้รถติดบรรลัย จากรถที่เคยวิ่งเสมือนตัวเองกำลังเล่นหนังเรื่องเดอะฟาด กลายมาเป็นนิทานกระต่ายกับเต่าคลานกระดึ๊บๆอยู่บนถนน... แต่กระดึ๊บๆนี่มันหนอนนี่หว่า? เออๆช่างมันเต๊อะ!

กว่าจะมาถึงป้ายรถเมล์ซึ่งผมต้องต่อรถไปอีกต่อหนึ่งนี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว แถมตอนนี้ผมก็หิวมากเลยตัดสินใจว่าจะแวะโลตัสที่อยู่ไม่ไกลจากป้ายนั้นนัก เข้าไปในห้องน้ำของห้างแล้วปล่อยให้คริสออกมา หน้าของมันตอนนี้หงิกสุดๆ

"ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าตาม" ผมว่ามันทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงเดินตามตูดผมต้อยๆมันงอนจนไม่ยอมพูดกับผม เออดี! นี่ผมเป็นคนผิดหรอวะ

"ถามไม่ตอบ กวนตีนกูหรอ?" เริ่มโมโหหิวเหมือนกันนะเนี่ย อย่ามากระตุกต่อมข้านะเว้ยเดี๋ยวจะโดนพี่เต๋ามิใช่น้อย... แล้วผมจะทำอะไรมันได้วะ?

แอบเหล่คริสที่สีหน้าเริ่มคลายลง แล้วตอบผมเสียงเครียด "ก็เป็นห่วง... วันนี้รู้สึกไม่อยากห่างจากเต๋า"
 
ตึก... ตัก...

คำพูดมันทำให้ผมใจเต้นแบบกระตุกขึ้นมาเหมือนรู้สึกดีที่ได้ยินแบบนี้ แต่ก็ยังวางฟอร์มว่าโกรธมันอยู่ แต่จริงๆหายแล้ว คริสมันเอื้อมมือมาจับมือผมที่เดินอยู่จนผมต้องหยุดชะงักแล้วรีบเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ ดึงมือกลับมาแต่มันไม่ยอมปล่อย

"ทำบ้าอะไรอายเขา" มันกลับยิ้มที่มุมปากดูเจ้าเล่ห์ตามสไตล์มัน ไอ้คนที่เดินผ่านก็มองไปสิ!

"กลัวหาย"

"ไม่ใช่เด็กเว้ย! ปล่อยเลยจะไปซื้อบัตร" ผมดึงมือมันออกแล้วรีบหมุนตัวไปที่เค้าเตอร์เพื่อแลกบัตรค่าอาหาร หน้าผมนี่ร้อนฉ่าเลือดมันมารวมตัวที่หน้าจนแดง ขนาดในห้างนี่ยังร้อนเนอะ พยายามไม่หันไปสบตาคริสที่ยืนรออยู่ข้างๆ แล้วเดินนำลิ่วๆไปทางศูนย์อาหารด้วยความเร็ว

ผมใช้เวลากินข้าวโดยมีคริสนั่งจ้องเพียงเวลาสั้นๆก็อิ่มแล้ว จะไม่ให้ผมรีบกินได้ยังไงในเมื่อไอ้สายตาคมที่จ้องมองมามันแทบจะเขมือบผมอยู่ตลอดเวลาแบบนั้น ขาดมันเห็นผมโกรธมันยังมีหน้ามามองผมด้วยสายตาแพรวพราวอีก

"เต๋า" มันเรียกผมในขณะที่เดินออกมาจากห้างเพื่อกลับไปยังที่พักของเรา ผมที่ยืนกอดอกขานรับมัน "อะไร" ห้วนๆ คริสมันก็เขยิบเข้ามาใกล้ผมจนชิด "ขอโทษที่ทำให้โกรธ แต่คริสเป็นห่วง" มันว่าเสียงสำนึกผิด แต่ผมก็ยังทำท่าทางใจแข็งไม่ยอมอ่อนกับมันง่ายๆ ทั้งๆที่ในใจนี่หายโกรธนานแล้วแต่อยากแกล้งมันต่อ

"ไม่ให้อภัย" หน้ามันจ๋อยลงหนักจนผมเกือบหลุดขำ

"เอางี้" เริ่มคิดอะไรดีๆได้ละ คริสมันสบตาผมที่กำลังจะให้มันทำอะไรสักอย่างเพื่อไถ่โทษ แววตามันดูมีความหวังประกายจนผมรู้สึกอยากแกล้งมัน แต่ก็อดสงสารไม่ได้อีกนั่นล่ะ "พอกลับถึงห้อง... นวดไหล่ให้ฉันโอเค๊" เพียงแค่นี้มันก็ยิ้มจนแก้มแทบปริแล้วล่ะ

ชิ๊! แค่อ่อนให้หน่อยก็ได้ใจแล้วไม่ต้องมายิ้มเลยเดี๋ยวถึงห้องจะให้ทำโน่นทำนี่ให้เข็ด!

คิดในใจระหว่างที่รอรถว่าจะให้มันทำอะไรดี ตอนนี้ก็มืดมากแล้วทั้งๆที่ผมคิดว่าพวกเราเข้าไปในห้างแค่แปบเดียวเท่านั้น คนก็เริ่มเยอะ รถก็เริ่มติด ผมรู้สึกอึดอัดเวลาที่มีคนเบียดขึ้นรถเมล์ฟรีพวกเขาเดินแทบจะผลักผมตกขอบฟุตบาทอยู่แล้ว มือใหญ่ๆคว้ามือและกอบกุมผมเอาไว้แน่นจนต้องเงยหน้ามอง

"เดี๋ยวหลง" มันว่าพร้อมยิ้มจนตาหยี รู้สึกเขินจนต้องรีบเบือนสายตากลับไปทางข้างหน้าตามเดิมเพื่อรอรถที่มันว่างพอให้นั่งได้ ถึงจะรู้สึกอายแต่ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นพวกผมที่กำลังกอบกุมมือกันอยู่เลยปล่อยไปเลยตามเลย พวกผมยืนรออยู่นานมากจนผมเองก็เริ่มหงุดหงิดเพราะควันรถและผู้คนที่เบียดเสียดจนร้อน ผมว่าให้คริสพากลับแบบฮาร์ดคอร์เหมือนวันนั้นยังดีกว่ามายืนรอรถให้เมื่อยตุ้ม จะได้นั่งหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย สุดท้ายผมคิดว่าจะขึ้นรถไฟฟ้าไปลงอีกสถานีหนึ่งน่าจะหารถว่างๆง่ายกว่า แต่ไม่ทันที่ผมจะบอกมัน คริสกลับกระตุกแขนให้ผมเดินตาม

"อ้าวเฮ้ย! จะไปไหน?" ถามร่างสูงที่เดินจูงผมไปตามทางเดินซึ่งมีผู้คนเดินพลุกพล่าน ท่าทางและสีหน้าที่ตึงเครียดมันทำให้ผมเอะใจ

คริสพูดกับผมเสียงราบเรียบ "มีคนตามเรามา"

"ฮะ?" ใครตามมาวะ?

ผมมองซ้ายแลขวาหมุนตัวหันหลังมองเพื่อหาคนที่ว่าแต่คนมันก็เยอะเหลือเกินดูไม่ออก คริสกระชับมือผมแน่นแล้วแค่นเสียงสั่ง "อย่าหันไปมองสิเดี๋ยวมันรู้ตัว" ทำเป็นพระเอกในเรื่องสายลับไปได้

มุ่ยปาก "เอ้า ก็อยากรู้นี่ว่าใครตามมาอาจจะเป็นคนรู้จักกัน" ผมยังคิดในแง่ดีบางทีคริสอาจจะมโนไปเอง

"ไม่ใช่... พวกมันมีเงาสีดำสิงอยู่มนุษย์มองไม่เห็นหรอกไปกันเถอะ"

"เฮ้ย! ผมร้องด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆคริสก็ดึงผมให้วิ่งจนเกือบหน้าทิ่ม

ผมพยายามวิ่งตามร่างสูงที่ดูเครียดซึ่งตอนนี้ผมก็เริ่มเครียดตามไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่วายยังหันกลับไปมองข้างหลังว่ามันจริงอย่างที่คริสพูดหรือเปล่าว่ามีใครตามเรามา ผมเห็นผู้ชายหน้าตาดูโจรมากประมานสามสี่คนที่กำลังวิ่งเหยาะๆตามพวกผม หรือจะเป็นพวกนั้นวะ? แล้วมันจะตามพวกผมมาทำไม!

"มันตามเรามาทำไม" ผมถามคริสด้วยอาการที่เริ่มหอบแล้ว

"พวกมันถูกส่งมาให้เล่นงานเรา"

"ฮะ!" ผมร้อง

หรือว่าจะเป็นฝีมือของพ่อมด... เฮ้ย! ทั้งๆที่คิดว่าพวกมันไม่คิดจะเล่นงานเราแล้วทำไมมันถึงยังตามมาอีกล่ะผมไม่เข้าใจเลย แต่ก็พยายามวิ่งตามคริสให้เร็วที่สุด แต่คนที่ดูเหมือนไม่เหนื่อยง่ายๆกำลังทำให้ผมขาดอากาศหายใจเพราะวิ่งหนีพวกนั้นมาได้เกือบกิโลแล้ว คริสที่เห็นอาการผมเริ่มผ่อนฝีเท้าลงแล้วมองไปรอบๆที่ตอนนี้ผู้คนเริ่มหายไปหมด มันคว้าเอวผมแล้วอุ้มเอาไว้ในอ้อมกอด

"จับแน่นๆแล้วหลับตา" พอได้ฟังผมรู้เลยว่าคริสจะทำอะไร ผมทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะได้ยินเสียงดังฝุบ!

"อึก!"

"เฮ้ย!"







.....
เดี๋ยวจะทยอย+เป็ดให้ทุกคนนะจร๊า! ขอบคุณที่คอยติดตามเป็นกำลังใจให้ทุกๆตอนค่ะ  :mew1:
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-01-2015 08:49:51
 o13.  คริสทำดีมาก
ว่าแต่เล่นกันแรงเชียวนะ อยากรู้จังว่าที่จริงใครบงการ

ตอนต้นเขียนชื่อผิดต้องเขียนชื่อไก่แทนชื่อเต๋าค่ะ. ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 17-01-2015 08:52:22
o13.  คริสทำดีมาก
ว่าแต่เล่นกันแรงเชียวนะ อยากรู้จังว่าที่จริงใครบงการ

ตอนต้นเขียนชื่อผิดต้องเขียนชื่อไก่แทนชื่อเต๋าค่ะ. ขอบคุณค่ะ


ขอบคุณมากจร้า เช้าๆนี่กำลังเบลอเลยขอบคุณที่บอกเน้อ!   :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 17-01-2015 09:09:31
ลุ้นมากๆเลยง่ะ :katai1: ตกลงใครเป็นพ่อมด ใครเป็นซาตาน พี่โอเป็นพ่อมด แล้วพี่ชินเป็นซาตานรึเปล่า อยากให้มีบทพี่ชินกับไก่เยอะๆจังเลยค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 17-01-2015 09:12:55
โหพวกตัวร้ายตามกันไม่เลิกจริงๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 17-01-2015 09:54:35
ตามได้ตามดีจัง
ปล่อยให้เต๋าให้อาหารคริสกาอนสิ้ :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 17-01-2015 12:27:14
:ling1: ทำไม่ตอนลุ้นระทึก กะ ตอนเชียร์ข้างเตียงถึงโดนตัดประจำ  :o12: :m15:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Death_note ที่ 17-01-2015 13:47:18


 :m31: :m31: อยากรู้แล้วนะว่าคัยเป็นคนส่งพวกนี้มาทำรายเต๋าา :serius2: :serius2:

  :o8:พระเอกของเรายิ่งดูยิ่งน่าร้ากกก แต่ แอบชอบตอนพี่แกโหดดด อ้ะ เอ๊ะ!! ยังไงง  :hao7:

 :katai2-1:เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบ  :katai4:




หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 17-01-2015 14:41:21
แต่ละคนนี่แบบ......คริสเต๋าเป็นแฟนกันแล้วสินะ

สงสัยคล้ายๆคุณ Phrase เลยว่า พี่ชินน่าจะเป็นซาตาน พี่โอเป็นพ่อมด แต่ไม่แน่อาจจะกลับกันก็ได้
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ง่วงนอน ที่ 18-01-2015 16:14:02
ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP23 - P11 - 17/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 19-01-2015 01:10:38
โอย ลุ้นมาก ๆ ค่ะ

ขอให้เต๋ากับคริสปลอดภัยนะคะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 20-01-2015 01:02:13
 :katai4:



DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
24
[/size]





"อึก!"

"เฮ้ย!"

ไอ้บ้าสะดุดขาตัวเองซะงั้น!
 o22

"ทำอะไรเนี่ย" ถามมันที่เกือบทำผมหน้าทิ่มลงฟุตบาต นี่ถ้าหน้าหล่อๆของผมเสียโฉมใครจะรับผิดชอบวะฮะ!

คริสมันยังมีหน้าหันมายิ้มแหยๆ แล้วบอก "ขอโทษ" ผมกระชับอ้อมแขนรอบลำคอแกร่งเมื่อเห็นว่ามันกำลังจะพาผมใช้ทางลัดเพื่อหนีไอ้พวกนั้นที่ตามมา แต่ไม่ทันที่ผมกับคริสจะหนีไปพวกมันก็กระโดดเข้ามาดักหน้าพวกเราเสียแล้ว!

"จะรีบไหนล่ะ!"

เฮ้ย! นี่มันเป็นลูกศิษย์กับจาพนมหรือไงวะ! วิทยายุทธ์ช่างล้ำยิ่งนักวิชาตัวเบาของมันเพียงแค่กระโดดควงตัวก็สามารถข้ามพวกผมเพื่อมาดักทางได้เพียงแค่พริบตาเดียว นี่มันยิ่งกว่าวิชาตัวเบาอีกเว้ย!

ผมมองพวกมันเหวอๆหน้าตามันนี่เหมือนผู้ก่อการร้ายอย่างไงอย่างงั้นหน้าเชี่ยโคตรๆ แถมแววตามันก็แดงกล่ำ สงสัยเป็นพวกซกมกไม่ชอบล้างมือแล้วขยี้ตาตัวเองสินะ แดงเชียว...

ไม่ใช่แล้วเว้ย! (นี่ก็ยังติดตลกได้อีก)

คริสถอยหลังหนีไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าออกมาก้าวหนึ่ง ส่วนผมนี่ก็รู้สึกกลัวจนกอดคอคริสแน่น นี่ถ้ามันเป็นคนคงตายด้วยอ้อมกอดผมแล้วล่ะ ตอนนี้รู้สึกรักมันมากถ้าสิงได้นี่สิงไปแล้ว!

"พวกนี้หรอ!?" ผมถามคริสเสียงเบามองหนังหน้าของผู้ชายแปลกหน้าที่ดักพวกผมเอาไว้ทุกทิศทาง ตอนนี้พวกผมหมดสิทธิ์หนีอย่างสิ้นเชิง แถมพวกมันยังมีออร่าแปลกๆให้ความรู้สึกน่าสะพรึงไม่น้อย คริสพยักหน้าเนิบๆแทนคำตอบจ้องไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นหัวหน้าของไอ้พวกนี้อีกที มันแสยะยิ้มดูน่ากลัวชิบเป๋ง!

"ส่งมันมาให้กู"

"ไอ้สัด นี่คริสของกูเว้ย! อยากได้ทำไมไม่หาซื้อเองละวะ" กูนี่ก็ปากดีจังเนอะ กลัวแทบตายแต่กลับเถียงมันหมับ ให้ตายดิ่มันแสยะยิ้มให้ผมอีกแล้ว!

"อยู่เฉยๆเต๋า"

"ก็มันจะมาจับนาย"

เฮ้ย! ให้อยู่เฉยๆได้ไงวะมันจะเอามึงไปนะ นี่โมโหนะเว้ยจะมาแย่งตุ๊กตาดอลฟี่จากชายเต๋านี่ข้ามศพไปก่อนปะ? แต่เหมือนจะเก่งอ่ะกอดคอคริสมันซะแน่นหนึบเลย ทำไมไอ้พวกนั้นมันน่ากลัวแบบนี้วะ หาเอาคำที่นอกเหนือจากคำว่าน่ากลัวของพวกมันมาบรรยายไม่ได้ จะบอกว่าไงดี? สะพรึง? หลอน? น่าขนลุก เวรเอ๊ย! ใจผมนี่เต้นแรงถี่ๆด้วยความตื่นเต้นจนมันจะทะลุออกมาอยู่แล้ว!

"หึหึหึ" เสียงหัวเราะโรคจิตยิ่งสร้างความสะพรึงให้กับผมเป็นสิบเท่า แต่ดูเหมือนคริสจะไม่ได้กลัวพวกมันเสียเท่าไร มันพยายามถอยหลังเพื่อให้ผมพ้นจากรัศมีสายตาของพวกมันที่เดินเข้ามา

"เอามันมาให้กู!" แล้วมันก็พูดแบบนั้นประโยคเดิม คริสมองหาทางหนีทีไล่เมื่อเห็นพวกมันพยายามเข้ามาจับพวกเรา พอพวกมันขยับเข้ามาเหมือนจะพุ่งใส่คริสมันเหมือนจะเห็นช่องทางที่พวกเราพอจะหนีไปได้เขาก็รีบกระโดดฟุบ! แล้วประตูที่เป็นแสงก็เปิดออกเป็นรอยแยก ผมกอดคอมันแน่นแล้วหลับตาปี๋ กลับถูกแรงกระชากของพวกมันที่ดึงคอเสื้อผมไว้

"เฮ้ย!"

ตุบ!

อัก!

"เต๋า!"

ร่างของผมกระแทกเข้ากับฟุตบาทดังแอ่ก! นิ่วหน้า เจ็บโว้ย!!!! คลำก้นป้อยๆมองไอ้สี่ห้าตัวนั่นที่พุ่งเข้าหาผมคนเดียว เฮ้ย! นี่มันอะไรวะ? ด้วยความเหวอของผมทำได้แค่นั่งตกใจ เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของมนุษย์ที่ดูเหมือนจะถูกปีศาจเข้าสิง ดวงตาแดงฉานพร้อมกับมือหยาบกร้านมีเล็บงอกยาวเฟื้อยพุ่งเข้าใส่ รอยยิ้มของพวกมันแทบทำให้ผมหยุดหายใจ

"ออกไปให้หมด!"

ฟุบ!!!

"อ๊ากกกกกก!!!"

ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อคริสทำอะไรบางอย่างกับพวกมัน แรงปะทะทำให้ร่างมนุษย์นั่นกระทบเข้ากับกำแพงดังปัง! แล้วร่วงสู่พื้นดังตุบ ผมมองไปทางร่างที่นอนกองอยู่ด้วยความเหวอ ก่อนจะถูกคริสดึงแขนให้ลุกขึ้น แล้วมันก็จับตัวผมพาดบ่ากระโจนเข้าเส้นทางลับที่มันเปิดขึ้น ผมสบตาสีแดงกล่ำนั่นที่ยิ้มเหยียดเหมือนโกรธจัด มันค่อยๆลุกขึ้นยืนมองเข้ามาในประตูที่กำลังจะปิดสนิท แล้วผมก็ได้ยินมันพูดออกมาประโยคหนึ่ง

"นายต้องเป็นของฉันเต๋า"...

"...."

ไอ้ชิบหายนี่มันจะจับกูนี่หว่า!
 o22

พรึบ! ตุบ!

"โอ้ย!" ร้องด้วยความเจ็บเมื่ออยู่ๆคริสก็พาผมวิ่งทะลุกลับมาที่ห้องของผมเอง แต่เป็นเพราะว่ามันรีบมากพอพ้นมาได้ก็เหมือนพวกเรากระโจนเข้ามาจากอีกที่หนึ่งแล้วหล่นตุบล้มทับกันอยู่กลางห้องของผมที่มืดสลัว แสงไฟจากท้องถนนที่ส่องเข้ามาทำให้ผมเห็นใบหน้าที่ดูเหนื่อยหอบของคริส มันไม่ต่างจากผมนักหรอกที่ตื่นเต้น ใจเต้นแรง เหงื่อแตกพลั่กด้วยความหวาดกลัว

"นี่มันเรื่องบ้าอะไร!" ผลักคริสออกไปแล้วย่นคิ้วสบตาร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้า

"ดูเหมือนว่า... มันไม่ได้ต้องการคริส แต่ต้องการตัวเต๋า"

"ทำไม?"

นี่ไม่เข้าใจนะเออ นี่ไปเหยียบเล็บขบมันหรือไงทำไมมันถึงเบนความสนใจมาทางผม แล้วคริสล่ะ? อย่างนี้คริสก็ไม่ต้องกังวลว่าพ่อมดนั่นจะตามมาฆ่าหรือเอาตัวไปแล้วสิ ผมควรดีใจที่ไม่ต้องคอยกลัวว่าคริสจะถูกพ่อมดทำร้าย แต่ควรกังวลใจเพราะถูกตามล่าเสียเองสินะ...

มันไม่ตลกเว้ย!

สีหน้าหล่อเหลาดูเครียดมากขนาดผมยังรู้สึกกลัว เขานิ่งเงียบไปครู่แล้วเงยหน้าสบตาผม มือใหญ่ๆเอื้อมจับไหล่ก่อนจะเข้าสวมกอดตัวผมเอาไว้แน่น รับรู้ถึงแรงสั่นของร่างแกร่งที่โอบกอดมันทำให้ผมรู้สึกใจคอไม่ดี

"คริส... คริสจะปกป้องเต๋า ไม่ต้องกลัวนะ..." น้ำเสียงสั่นเครือที่พยายามปลอบผม แต่ดูเหมือนเขานั่นแหละที่กลัวเสียเอง ผมรู้สึกเครียดจนมันออกมาจากสีหน้าและคิ้วเรียวที่ขมวดเข้ามาหากันแน่น ผมไม่ได้กลัว... แต่... มันแค่ตกใจเท่านั้น

มือของผมค่อยๆลูบหลังของเขา "มะ... ไม่ได้กลัวเสียหน่อยไม่ต้องกังวลหรอกไม่มีใครทำอะไรฉันได้อยู่แล้ว" เสียงที่เปล่งแทบจะไม่มีออกมาเลยด้วยซ้ำเมื่อเห็นอาการของคริสที่กำลังเป็นอยู่

คริสกำลังกลัวอย่างนั้นหรอ? ผมรู้สึกถึงแรงสั่นสะท้านจากร่างสูงที่โอบกอดผมแน่น แม้จะรู้สึกดีใจแต่ก็รู้สึกกลัวว่าคริสจะถูกทำร้ายไปด้วย ทำไมชีวิตของผมถึงได้วุ่นวายแบบนี้นะ! ความตกใจเมื่อครู่มันทำให้บ่อน้ำตาของผมเริ่มแตก ยิ่งคริสแสดงความอ่อนแอเมื่อเห็นว่าพวกมันพยายามที่จะเอาตัวผมไป ความรู้สึกในใจส่วนลึกมันลิงโลดจนตื้นตัน....

นี่ขนาดสถานการณ์ตึงเครียดผมยังสามารถทำซึ้งได้เลยแฮะ...

ตบหลังคริสตุบๆเหมือนกำลังปลอบเด็กน้อย "เอาน่าฉันไม่เป็นอะไรสักหน่อยอย่าร้องเลยน๊า" แล้วยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ ทำไมดอลฟี่ของผมน่ารักแบบนี้นะไม่ว่าจะเป็นคนหรือตุ๊กตาก็ทำให้ผมหลงรักหมดใจไปเสียแล้ว นี่สินะที่เขาเรียกว่าการตกหลุมรักอย่างแท้จริง ผมจะถือว่านี่คือรักแท้ของผมได้หรือเปล่า

"..." คริสยังคงเงียบอยู่...

ใช่... เขาเงียบมากจนนิ่งปล่อยให้ผมเอาหน้าถูๆไปบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มแล้วลูบแผ่นหลังของคริสไปมาแบบนั้นเสมือนว่าคนตรงหน้าคือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนปุกปุยนุ่มนิ่มน่ากอด ถ้าคริสมันเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิผมจะได้จับฟัดเช้าฟัดเย็น แต่ทำไมมันรู้สึกนิ่งแปลกๆวะ...

"หืม?" เงยหน้าสบตาคริสที่ดูจริงจังจนผมสะดุ้ง...

"อะ  อะไร?" ถามกลับไปด้วยความสงสัยก่อนที่คริสจะค่อยๆยิ้ม

"ไม่กลัวเลยหรอ?"

กลัว? กลัวหรอ ก็กลัวอยู่นะแต่ไม่ได้กลัวมากเพราะตอนนี้ยังครบสามสิบสองประการร่างกายยังไม่ได้บุบสลาย หรืออาจเป็นเพราะว่ามีคริสอยู่ด้วยก็เลยไม่กลัวก็ไม่รู้

ผมส่ายหน้า "ไม่..." แล้วค่อยๆก้มหน้าลงเมื่อเห็นสายตาคมที่จ้องตาผมไม่กระพริบ สายตาเขาดูจริงจังจนผมไม่กล้าแหย่เล่น "ไม่กลัวน้อยอ่ะดิ่..."

"หึ" แล้วทำไมต้องขำด้วยล่ะ!

เงยหน้ายู่ปากมองไอ้ตุ๊กตาบ้าที่แค่นเสียงหัวเราะใส่ผม มือใหญ่ๆจับแก้มของผมเอาไว้แล้วโน้มริมฝีปากจุมพิตก่อนจะผละออกไป "แต่คริสกลัว คริสไม่ยอมให้ใครแย่งเต๋าไปจากคริสเป็นอันขาด... เต๋า คริสขอโทษ"

"ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะในเมื่อนายไม่ผิด" เรื่องนี้ไม่มีใครผิดทำไมต้องโทษตัวเอง ขอให้ผมและเขาปลอดภัยนี่ก็พอใจมากแล้ว คนตรงหน้ายิ้มออกมาบางๆแล้วถอนลมหายใจเมื่อรู้สึกโล่งอกก่อนจะสวมกอดผมอีกครั้ง

"เต๋านี่เป็นเจ้านายที่แปลกมากจริงๆ ทำไมคริสถึงรู้สึกดีเวลาที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกกลัวและหวงในยามที่รู้ว่ามีใครพยายามที่จะพาเจ้านายไปจากคริส... นี่คือความรู้สึกของคนใช่ไหม?"

น้ำเสียของเขาดูมีความสุขแปลกๆทั้งๆที่มันควรจะเศร้า ผมกำเสื้อของเขาแล้วซุกหน้าลงบนลำคอแกร่งด้วยความรู้สึกเขิน เหมือนเขาพยายามจะอ้อนผมอีกแล้ว "ใช่สินายก็เป็นมนุษย์นี่คริส... ฉัน... ฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นผีหรือตุ๊กตาผีอีกเลยหลังจากที่เราอยู่ด้วยกัน... ฉัน..." ฉันอะไรดีวะ? ฉันรักนายอย่างนั้นหรอ ผมควรสารภาพกับคริสดีไหม อา... ทำไมผมรู้สึกเขิน

ผละตัวออกมาจากอ้อมกอดแกร่ง แล้วสบตาสีครามที่สะท้อนแสง ใบหน้าของผมเห่อร้อนในเวลาที่ถูกจ้องมองแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้ มันเหมาะแล้วที่จะพูดความรู้สึกออกไปตามบรรยากาศก่อนที่จะไม่ได้พูด...

"ฉะ..." ฉัน... ฉันอะไรดี พูดดิเต๋าพูด!
 :o8:

ทำไมบรรยากาศมันชวนโรแมนติกอย่างกับในหนังรักเลยว๊า! ย๊ากกกกกเขินว่ะ!

คริสทำสีหน้าสงสัยเมื่อเขารอให้ผมพูดออกมา ผมพยายามที่จะเปล่งเสียงแต่มันก็ไม่กล้าเพราะมันเขินไอ้หน้าหล่อๆนี่แหละ เกิดมายังไม่เคยบอกรักใครจริงจังนอกจากแม่เลยเว้ย!

สายตาของคริสนี่ก็เชื่อมเกินไปจนผมใจสั่น หัวใจเต้นแรง... หน้าแดงทุกที ใช่เธอหรือนี่ที่คอยตลอดมา ควบคุมไม่อยู่รู้เลยว่าตัวสั่น...

แหม่อารมณ์มันพาไปครับร้องผิดบ้างถูกบ้าง...

ใจมันสั่นจนควบคุมไม่อยู่แล้ววววววววว...

ริมฝีปากอวบที่โน้มเข้ามาบดเบียดลงบนกลีบปากของผมอย่างช้าๆและอ้อยอิ่ง มันนุ่มนวลจนทำให้ร่างกายของผมอ่อนปวกเปียก ลิ้นนิ่มๆดูดดันกันจนผมแทบหายใจหายคอไม่ทัน ใจมันเต้นแรงเกินจะห้ามไหวผมอาจจะตายได้เพราะรสจูบที่พิเศษกว่าทุกที หลับตาพริ้มโอบกอดลำคอแกร่งเพื่อตอบโต้รสจูบนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม...

บอกแล้วบรรยากาศมันพาไป...

เมื่อคริสผละออกมา ผมซึ่งหอบหายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าสีหน้าของตัวเองมันเป็นยังไงแต่ผมคิดว่ามันต้องน่าเกลียดมากแน่ๆเมื่อตาของผมมันเชื่อมแล้วทำหน้าเหมือนเซะซี่ สบตาคริสอย่างให้ความหวังเมื่อผมกำลังจะเอ่ยคำๆนั้นออกไป...

"คริส... ฉันระ..."

ปังๆๆๆๆ!!!

'ไอ้เต๋าโว้ย!'

เชี่ยเอ๊ย!
 :angry2:

ผมรีบผลักอกของคริสออกแล้วหันไปทางประตูเมื่อได้ยินเสียงไอ้ไก่ที่แว่วอยู่หน้าห้อง ทำไมมันมาได้จังหวะคนเขากำลังสวีทวิบวิ้วแบบนี้วะ! ไร้มารยาทจริงๆ

"อะ... เอ่อ..." ผมนี่ไปไม่เป็นเลยให้ตายสิ!

"มีอะไรจะบอกคริสอย่างนั้นหรอ?" คริสที่ดูเหมือนรอไม่ไหวถามผมขึ้นมาอีก แต่รอบนี้ความกล้าที่จะพูดมันกระเจิงหายไปแล้วเว้ย! ผมรีบลุกขึ้นยืนอ่อนปวกเปียก ใบหน้าร้อนฉ่ารู้สึกอายมากจริงๆที่จะพูดออกไป มองคริสที่เลิกคิ้วเป็นเชิงถามในอาการของผม

"กลับไปเป็นตุ๊กตาเถอะเดี๋ยวไปเปิดประตูให้ไอ้ไก่มันก่อน" หมุนตัวหนีออกไปฉับๆแล้วเปิดไฟเพื่อให้ห้องมันสว่างก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้เพื่อนสนิทของผมเข้ามา

"มีอะไรวะ?" ถามมันด้วยความงุนงงที่เห็นมันมาหาผมถึงที่นี่ สีหน้าตื่นๆของมันทำให้ผมประหลาดใจ ยิ่งเห็นอาการลุกลี้ลุกลนที่แทรกตัวเข้ามาในห้องด้วยความเร็วนี่ยิ่งทำให้ผมสงสัยเข้าไปใหญ่ เพื่อนผมมันดูเหมือนหนีอะไรมาเลยอ่ะ

"ไอ้เต๋ากูมีอะไรจะบอกมึง" น้ำเสียงมันร้อนรนแล้วมันก็กุมมือของตัวเองแน่น ผมย่นคิ้วสบตามัน ไอ้นี่ผีเข้าหรือไงวะ?

"อะไรของมึงเนี่ยใจเย็นก่อนก็ได้" ขนาดกูหนีคนที่ถูกปีศาจสิงมากูยังไม่ตื่นเต้นเท่ามึงเลย เพื่อนผมนี่มันแอคติ้งเยอะชิบ

"ไม่เย็นแล้ว! ไอ้เต๋ามึงเชื่อเรื่องปีศาจหรือซาตานหรือเปล่าวะ?"

รู้สึกช็อคที่ไอ้ไก่มันถามผมมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย... มึงเป่าเกลิ่นก่อนก็ได้นะ...

เฮ้ย! ทำไมมันถึงพูดเรื่องนี้ล่ะ!?

แอบเหล่ไปมองคริสที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ก่อนจะหันมาส่ายหน้ารัวๆให้ไอ้ไก่ นี่ผมไม่ได้ดูมีพิรุธใช่ไหม! "จะ  จะบ้าหรอปีศาจซาตานมันมีแต่ในหนังเว้ย!" แล้วทำไมผมต้องตกใจด้วยวะ ใจร่มๆไอ้เต๋าไอ้ไก่มันคงแค่ถามเฉยๆ มันคงไม่รู้หรอกว่าคริสคือดอลฟี่ มันถามถึงปีศาจ ซาตาน ไม่ได้ถามว่าตุ๊กตามีชีวิตได้หรือเปล่าสงบใจไว้ไอ้เต๋า!

ไอ้ไก่มันหน้าเครียดกว่าเก่า "งั้นมึงคงไม่เชื่อว่ากูเจอซาตาน"

"มึงมโนไปเองป่าววะ?" ถามมันพร้อมเอามืออังหน้ามันเพื่อวัดไข้ ไอ้นี่แม่งเบลอแน่ๆ

มันปัดมือผมออกไปแบบรำคาญอาการของมันดูหงุดงิดที่เห็นผมไม่เชื่อ "กูไม่ได้มโน! กูเห็นกับตาเลยว่าพี่ชิน!"

ปังๆๆๆๆ!

"เต๋าพี่ชินเองครับ"

เออ! วันนี้อะไรมันจะวุ่นวายแบบนี้วะ!?

มองหน้าไอ้ไก่ที่เบิกตาโพลงเท่าไข่ห่าน นี่มึงจะตกใจอะไรวะ? มองไปที่ประตูตั้งท่าจะเดินไปเปิดประตูให้พี่เขาไอ้ไก่มันเสือกดึงแขนผมไว้ "ไม่ต้องเปิดนะเว้ย มึงไม่รู้หรอกว่าพี่ชินน่ะน่ากลัว"

"น่ากลัวอะไรวะเห็นอยู่ทุกวันไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว" แถมเขายังช่วยเหลือพวกเราดีด้วย ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ไก่มันเป็นอะไรแต่อาการของมันดูเอ๋อๆตลกชะมัด! ผมว่าเราลืมเรื่องของผมเมื่อก่อนหน้าแล้วมาช่วยกันสรุปดีกว่าว่าไอ้เพื่อนของผมคนนี้มันเป็นอะไรกันแน่

"ก็ไอ้ที่กูหมายถึงน่ะ กูจะบอกว่าพี่ชินน่ะเป็น!"

แกร่ก...

"ขอโทษที่เสียมารยาทนะ" ผมหันไปทางพี่ชินที่เปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูโหดสัด เหมือนโกรธใครมาเป็นสิบๆชาติ แล้วเดินฉับๆมาที่ไอ้ไก่ที่รีบกระโดดผลุงมาอยู่ข้างหลังของผมทันทีที่เห็นพี่แก

"อ้าวพี่เข้ามาได้ไงอ่ะ" ผมล็อกห้องไว้นะเว้ย! เอ๊ะ หรือว่าผมลืมล็อกวะ?

แต่ดูเหมือนพี่ชินไม่ได้สนใจผมเท่าไรเขาเดินดุ่มๆเข้ามาทางผมแล้วคว้าแขนไอ้ไก่ให้ออกมา ไอ้ไก่มันก็แสดงอาการกลัวมากเหมือนพี่ชินจะฆ่ามันเลย หรือว่าสองคนนี้จะทะเลาะกันวะ? ผมรีบดึงเพื่อนผมเอาไว้ เมื่อเห็นไอ้ไก่มันโวยวายอีก

"เฮ้ย พี่ใจเย็นๆมีเรื่องอะไรกัน"

"ไม่มีอะไรหรอก พี่กับไก่เราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย"

"ไม่หน่อยหรอกเว้ย! ปล่อยผมไอ้เต๋าช่วยกูด้วยไอ้พี่ชินมันเป็น!"

"ไก่!"

อุ้ย!

เสียงตวาดของพี่แกทำให้ผมสะดุ้งตกใจ ใจหายใจคว่ำลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ส่วนไอ้ไก่นี่ไม่ต้องบอกว่ามันเป็นยังไงก็คงจะรู้ ไอ้เพื่อนผมมันหุบปากฉับ! ตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสต๊าฟกลายเป็นหิน

พี่ชินหน้าโหดมาก เขาสบตาไอ้ไก่ที่ดูเหมือนจะสติแตกไปแล้วแต่มันเสือกเงียบ ก่อนจะถอนลมหายใจแล้วปรับสีหน้าเป็นพี่ชินผู้แสนใจดีคนเดิม "กลับบ้านกับพี่ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" กระแสเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

"ตะแต่..." ไอ้ไก่มันตั้งท่าจะไม่ยอม แต่เมื่อมันเห็นแววตาที่ร้องขอมันก็เงียบเสียงลงไป ก้มหน้างุดๆเหมือนเด็กโดนจับผิดยังไงยังงั้น

ผมค่อยๆผละแขนมันออก พี่ชินหันมาหาผมแล้วพูดยิ้มๆ "ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะ"

"คะ ครับ" ผมรับคำสั้นๆงุนงง พี่ชินก้มลงมองไอ้ไก่ที่จ๋อยไปแล้วค่อยๆดึงแขนมันที่ยังเล่นตัวไม่ยอมตามกลับไปกับพี่เขา แต่ไม่ทันที่พี่ชินจะพ้นประตูออกไป เขาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้แล้วหันกลับมา

"พรุ่งนี้ไม่ต้องเข้ามหาลัยนะ วันเกิดแบคก็ไม่ต้องมาถ้ายังไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวาย" แล้วพี่แกก็ออกไปจากห้องพร้อมไอ้ไก่ ปิดประตูให้เรียบร้อยด้วยนะพี่...

ผมยืนงงเอ๋อแดกอยู่ที่เดิม งงกับไอ้สองคนนั้นที่เข้ามาแย่งซีนของผมกับคริสแล้วมันก็จากไปเหลือเพียงแค่สายลมมีใบไม้หมุนวนหนึ่งใบ... แถมยังทิ้งประโยคทิ้งท้ายที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจมากจริงๆ...

ทำไมพี่เขาถึงบอกผมแบบนั้นหลังจากที่เกิดเรื่องที่ผมถูกคนไล่ล่าซึ่งถูกปีศาจเข้าสิง แล้วไล่ตามพวกผมสองคนมาด้วยวะ! ไม่เข้าใจเลยอะ....

แต่ความเอ๋อของผมก็อยู่ได้ไม่นานเมื่ออยู่ๆร่างสูงของคริสก็เข้ามาโอบกอดจากทางด้านหลัง เอี้ยวคอหันไปมองมันที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ชอบกล รอยยิ้มหล่อๆยกยิ้มบางๆที่มุมปาก ประโยคเด็ดที่มักจะพูดออกมาบ่อยๆทุกๆครั้งทำให้ผมรู้สึกหน้าแดง...

"คริสเหนื่อยแถมหิวแล้วล่ะ... หยุดซักสองสามวันแล้วมากินกันให้เต็มอิ่มกันเถอะ"

ห๊ะ!? เมื่อกี้ยังเครียดกันอยู่เลยไหงถึงได้เปลี่ยนอารมณ์เร็วนัก...

สบตาคริสตาปริบๆก่อนหันกลับไปทางประตูอีกครั้ง ถองข้อศอกใส่คนข้างหลังเต็มแรงดังอึก! แล้วหนีมันออกมาจากวงแขนเมื่อได้โอกาส "ฝันไปเถอะ!" ก่อนจะวิ่งปรู๊ดดดดดดเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วติดจรวด...

เกือบไปแล้วไหมล่ะ!  ขนาดเกิดเรื่องมันยังมีอารมณ์มากิน ไอ้บร้า! ไอ้ตุ๊กตาบ้านี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ!
 :serius2:






....
เอาล่ะเรามาเดากันซิว่าพี่ชินเป็นใคร คาดว่าหลายคนเดาถูก :hao6:



 :katai5:




หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-01-2015 02:35:14
วิ่งเข้าห้องน้ำทำไมเต๋า เข้าไปเตรียมตัวหรือฮ่า ปริศนากำลังจะคลี่คลายใช่ไหม
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 20-01-2015 03:55:14
พี่ชินเป็นซาตานจริงๆสินะ  ชิน-ไก่   

ขอ nc ชิน-ไก่ ค่ะ  อยากศึกษาว่าซาตานจะบริโภคไก่แบบไหน  :hao6:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-01-2015 06:06:29
  พี่ชินจะกินไก่
ส่วนเต๋าก็ทำใจเถอะคริสเสียพลังงานไปเยอะ  :hao6:
 
แดงก่ำเขียนแบบนี้จ้ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 20-01-2015 10:36:03
พี่ชินเป็น...เป็น...พ่อมด???
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 20-01-2015 13:19:58
ท่าจะเหนื่อยมากนะลูก กินตลอดเลยหมีคริส  :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP24 - P12 - 20/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 20-01-2015 15:25:22
 :hao7:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 22/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 22-01-2015 15:16:36
 :katai4:




DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนพิเศษ ชิน - ไก่


ไก่


คุณรู้ไหมว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน? ทฤษฎีโง่ๆของคนที่ถามคำถามโง่ๆอย่างผมนี่คงจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าไก่มันต้องเกิดก่อนไข่อยู่แล้วจริงปะ? แล้วถ้าเกิดไข่เกิดก่อน แล้วไก่จะฟักไข่ได้ยังไงกัน...

แล้วตกลงไก่หรือไข่มันออกก่อนกันแน่วะ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังงงไม่เก็ทสักทีว่าไก่หรือไข่เกิดก่อนกันแน่...

"..."

พอๆ ผมว่าเราพอสำหรับเรื่องไก่-ไข่ ไข่-ไก่กันเถอะ ตอนนี้พวกคุณมาอยู่กับผมก็คือไอ้ไก่ธรรมดาๆคนหนึ่งซึ่งไม่สามารถออกไข่ได้ และแน่นอนว่าผมไม่ได้เกิดเองอย่างไข่ไก่แต่บุพการีท่านเบ่งออกมาแล้วฟูมฟักเลี้ยงดูกลายเป็นไก่สุดหล่อมาดแมนคนนี้ ความหล่อของผมนี่เรียกได้ว่าไปเกี้ยวสาวที่ไหนถ้าไม่หลงความหล่อนี่ก็คงเป็นคารมของผมแน่นอน

แต่อย่างว่าแต่สาวๆเลยครับหนุ่มๆก็มีนะซึ่งผมก็ได้ทั้งสองอย่างนั่นแหละ อ้าว งงล่ะสิ กิ๊วๆไม่บอกคงไม่รู้สินะ เอาเป็นว่าผมจะเล่าเรื่องของผมอย่างรวบรัดเลยก็แล้วกันเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาสำหรับผมกับไอ้พี่ชินสุดหล่อที่ชอบทำตัวนิ่งขรึมนั่น

ความรัก... ไม่สิ ขอลบคำว่ารักเปลี่ยนเป็นชอบก่อนก็แล้วกัน

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าความสัมพันธ์ของผมกับพี่เขามันเริ่มอยู่ที่จุดไหน? ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันรู้แต่เพียงว่า รัก... เฮ้ย! ลบๆๆคำว่ารักออกไปก่อน รู้แต่เพียงแค่ว่าช่วงเวลาที่เรารู้จักกันก็เหมือนว่าผมชอบพี่เขาไปแล้ว ไม่ใช่แค่ชอบแบบพี่น้องธรรมดานะ แต่มันมากกว่านั้น...

ช่วงเวลาที่ผมถูกไอ้เต๋าปล่อยปละละเลย พูดง่ายๆผมงอนมันไม่ต่างจากตอนที่มันงอนผมเวลาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจมันนั่นแหละ มันเหมือนห่างเหินผมไปหมกตัวอยู่กับลูกชายตัวใหม่ของมันหรือคริส  รู้ไหมผมเคยรู้สึกอิจฉาดอลฟี่นะ เวลาที่ไปนอนค้างกับมันทีไรผมมักจะรู้สึกน้อยใจมันทุกที

และเพราะความเหงาของผมเองนั่นแหละที่เพื่อนมันทิ้งไปไม่สนใจ ผมเลยมักจะเข้าซุ้มบ่อยๆ และเจอพี่ชินอยู่ที่นั่น ผมเห็นเขาว่างๆเลยชวนพี่เขาเล่นเกมมือถือ ซึ่งพี่เขาก็บอกว่าเล่นไม่เป็นผมเลยสอนพี่เขาเล่นทีละอย่าง จากที่แค่สอนเพื่อหาเพื่อนเล่นเฉยๆกลับกลายเป็นว่านับวันผมเริ่มสนิทกับพี่เขาก็เพราะเกม ขนาดอยู่ที่หอยังคุยไลน์เพื่อชวนเล่นเกมเลย แต่ก็มีบางคาบเรียนที่เราเรียนด้วยกัน สุดท้ายก็ได้งานคู่ที่ต้องทำร่วม

ช่วงเวลาหนึ่งที่ผมต้องไปนอนค้างเพื่อทำรายงานมันทำให้ผมรู้สึกว่าใจของผมมันเปลี่ยนไป จากที่ชอบคือที่ใช่ เวลาที่เราใกล้ชิดกันมันทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ ผมมักจะเขินหน้าแดงเวลาที่พี่เขายิ้มให้ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่เรานอนอยู่ข้างๆกันแล้วพูดคุยถึงเกม ซึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมใช้เกมนั่นหาข้ออ้างในการที่จะคุยกับเขาเสียมากกว่า แล้ววันหนึ่งพี่ชินก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจกับคำถามคำถามหนึ่งในขณะที่เรากำลังดูหนังกันอยู่ในโรงหนัง มันเป็นหนังผีแนวสยองขวัญหรือแอนนาเบลที่ไอ้เต๋ามันกลัวและไม่เชื่อนั่นแหละ แต่ผมเห็นว่ามันระทึกใจดีก็เลยชวนพี่ชินมาดูหลังจากที่ทำรายงานเสร็จ

"ไก่"

"หืม?" หันไปมองคนข้างๆที่นั่งกอดอกสายตามองไปยังจอใหญ่ยักษ์ที่กำลังฉาย ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าพี่เขาจะพูดอะไรไม่นานใบหน้าหล่อๆนั่นก็ค่อยๆหันมาหาผมอย่างช้าๆ

"ไก่เคยมีความรู้สึกรักบ้างไหม?"

"เอ๋?" ผมค่อนข้างงงกับคำถามเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง แล้วหันกลับไปมองจอหนังซึ่งตอนนี้มันควรจะเป็นตอนที่ระทึกที่สุดแต่มันกลับไม่เข้าหัวผมเลย ทำถามของพี่เขาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆในอก

"ถามทำไมอ่ะพี่ ก็ต้องมีสิ อย่าง... รักพ่อแม่ไง รักเพื่อนฝูงอะไรเทือกนี้"

"ไม่สิ รักแบบรักใครสักคนที่เราอยากจะอยู่กับเขาน่ะ"

แอบชำเลืองมองพี่ชินที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ วันนี้พี่เขามาแปลกจริงๆให้ตายสิ! มือของผมกำแน่นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่อยากนึกเข้าข้างตัวเองนักหรอกว่าพี่ชินกำลังจะจีบผมน่ะ เพราะตอนนี้เราสองคนก็เกือบๆเหมือนจะคบกันนั่นแหละ แต่... มันอาจจะเป็นเพียงแค่ความรู้สึกพี่ชายกับน้องชายเท่านั้น

ผมค่อยๆตอบกลับไป "ไม่รู้สิพี่... ผมยังไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนั้น" ไม่รู้ว่าพี่เขาได้ยินหรือเปล่าแต่เสียงหนังมันก็กระหึ่มจนเกินไป ผมเม้มปากแน่นตอนนี้สายตาก้มลงมองแต่เข่าของตัวเองเท่านั้น แล้วอยู่ๆมือหนานั่นก็กุมมือของผมเอาไว้แน่น เงยหน้ามองพี่ชินด้วยความไม่เข้าใจ

"เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่คิดว่า... ถ้าพี่อยากได้อะไรก็ต้องได้ แม้แต่ชีวิตมนุษย์เพียงเศษเสี้ยวก็เหมือนไม่มีค่าสำหรับพี่ แต่ตอนนี้หัวใจที่ด้านชามันกำลังรู้สึกชอบใครบางคน..."

น้ำเสียงพี่ชินมันดูเรียบเฉยแต่กลับแฝงความในที่รู้สึกเจ็บปวดชอบกล ผมถามกลับไป "ทุกคนก็ต้องมีความรู้สึกอยู่แล้วนี่พี่ ไม่เห็นจะแปลกเลยที่พี่จะมีความรู้สึกแบบนั้น" ผมตอบกลับไปตามความจริง แต่ในใจกำลังสงสัยว่าพี่เขาแอบไปชอบใครกัน... แล้วใครคนนั้นอาจจะไม่ใช่ผม หรือเปล่า...

"แต่พี่ไม่ใช่มนุษย์" คำตอบของเขามันทำให้ผมอึ้งจนนึกว่าพี่เขาคงจะล้อเล่นแน่ๆ

"บ้าน่า ถ้าพี่ไม่ใช่มนุษย์แล้วจะเป็นอะไรล่ะ ไม่เอาไม่พูดดีกว่า" ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องเละมองไปทางหนังซึ่งตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในสายตาของผมแล้ว อีกทั้งรอบหนังที่ผมดูคนก็น้อยมากจนเหมือนเราอยู่ที่นี่เพียงลำพัง

"รู้ไหม? ว่าพี่เคยคิดชอบเพื่อนสนิทของเรานะ..."

อึก!

ทำไมใจผมมันเจ็บแปลกๆวะ!

มือของผมกำแน่นรู้สึกจุกอยู่ในคอหอยเมื่อได้ยินในสิ่งที่พี่ชินบอก ชอบไอ้เต๋าอย่างนั้นหรอ?... นั่นสิเพื่อนของผมมันหล่อจะตายไม่ว่าใครก็ชอบมัน แม้แต่ผมยังเคยชอบมันเลยแต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ของผมกับมันๆคงเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ชินก็เป็นไปไม่ได้เหมือนกันสินะ ค่อยๆดึงมือออกมา...

มันเจ็บ... อย่างบอกไม่ถูก

เหมือนรู้สึกว่าพี่ชินกำลังมองผมอยู่ ตอนนี้มันรู้สึกอึดอัดมากในขณะที่เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ แล้วพี่ชินก็ถามผม "เป็นไรไปตกใจหรอ?" ผมส่ายหน้าตอบเนิบๆ ทำไมผมต้องตกใจล่ะ...

ได้ยินเสียงหัวเราะจากคนข้างๆมันอดไม่ได้ที่ผมจะหันไปมอง พี่ชินเขาเงยหน้ามองหนังแล้วพูดกับผม "เต๋าน่ะ พี่คิดว่าจะพาเขาไปอยู่ด้วยเหมือนกับของเล่นชิ้นอื่นๆของพี่นะ แต่ดูเหมือนว่าจะมีตุ๊กตาตัวหนึ่งที่แข็งข้อ รู้ไหมว่าพี่โกรธมากแค่ไหนที่รู้ว่าหมอนั่นทำแบบนั้นเพื่อปกป้องเพื่อนของไก่ แต่ตอนนี้สิ่งที่พี่สนใจกลับเป็นไก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ไก่คิดว่าพี่ควรจะแย่งเต๋ามาจากมันหรือจะให้พี่คบกับเราดีล่ะหืม?"

พี่ชินหันมาถามผมจนผมเองรู้สึกใจเต้นแรง ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชินพูดแต่สิ่งที่เขาพูดออกมานั่นคือการสารภาพรักกับผมได้หรือเปล่า

"ผะ... ผมไม่เข้าใจ" พี่ชินจับมือผมอีกครั้งและเชยคางให้ผมเงยหน้าขึ้น

"อีกหน่อยก็จะเข้าใจเอง แต่ไก่ต้องเลือกให้พี่ก่อนว่าพี่ควรแย่งเต๋ามา หรือไก่จะยอมคบกับพี่แทนเต๋า"

แล้วหน้าผมก็เห่อร้อนจนแดงจัด พะ... พี่ชินกำลัง...

"ไม่อย่างนั้นพี่จะเป็นคนเลือกเอง..." รอยยิ้มที่ยกยิ้มออกมามันชวนให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกแม้แววตาจะหยีลง รอยยิ้มกลับดูเย็นยะเยียบราวกับปีศาจร้ายที่กำลังจะฆ่าใครสักคนซึ่งคนที่ว่านี่คือผม ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้เมื่อมันรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงไขกระดูกสันหลัง ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าสมองมันขาวโพลน เมื่ออยู่ๆพี่ชินก็ค่อยๆโน้มใบหน้าก้มจูบผมผะแผ่ว กลีบปากบางบดเบียด ดันลิ้นเขามาดูดดันผมช้าๆ อ่อยอิ่ง มันเหมือนหัวใจที่ตายไปแล้วกลับมาเต้นใหม่อีกครั้ง...

ทั้งๆที่คิดว่าเป็นผมคนเดียวที่รู้สึกชอบพี่ชิน แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะว่า... พี่ชินก็ชอบผมเหมือนกัน...



หลังจากนั้นผมก็กลับมาที่ห้องของตัวเองตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆหน้าผมแดงมากแล้วใจมันก็เต้นแรง ดันไปพยักหน้าตกลงกับไอ้พี่ชินเฉยเลย แล้วแบบนี้ผมต้องทำยังไงต่อดีวะ? แม้ว่าความสัมพันธ์มันจะคืบหน้าแต่ผมก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าผมกับพี่เขาเรากำลังเริ่มต้นคบกันอยู่...

อา... แบบนี้ต้องห้ามให้ไอ้เต๋ารู้!

แล้วหลังจากวันนั้นผมก็ยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอกับพี่ชินอีก มิหนำซ้ำไอ้เพื่อนมันยังเรียกผมไปนั่งข้างๆพี่ชินด้วยซึ่งแน่นอนผมไม่ทำตามมันหรอก แต่พอเห็นมันกับพี่ชินคุยกันมันก็อดแอบมองไม่ได้ พอเห็นว่ามันจะกลับก็แปลกใจที่ไอ้เต๋ามันกลับเร็ว

"วันนี้มึงจะกลับเร็วหรอ? ไหนๆก็เอาสีกับเฟรมมาแล้วไม่นั่งทำงานก่อนวะ"
 
"อืมกูมีธุระที่จะต้องทำว่ะ"

"ธุระอะไรวะ แล้วเมื่อก่อนหน้ามึงคุยอะไรกับพี่ชิน มึงดูแปลกๆนะ?"  ผมถามมันอีก

"มึงน่ะแหละมีอะไรไม่บอกกูหรือเปล่า"   

รู้สึกสะอึกขึ้นมาในทันทีแล้วรีบส่ายหัวรัวๆ ทำไมมันต้องทำหน้าจับผิดอย่างนั้นด้วยวะ! แล้วมันก็พูดเหมือนแก้ตัว "เปล่า ก็แค่คุยปกติหวงจังนะมึงเนี่ย"

"อะ อะไรกูกับพี่เขาไม่ได้เป็นอะไรกัน"  ผมตอบมันไปแบบร้อนรนมันยังมายิ้มกวนตีนใส่อีก

ไอ้เต๋ากับพี่ชินคุยอะไรกันวะ! ทำไมมันมองผมแปลกๆแถมยิ้มมีเล่ห์นัยอีก ผมพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดไม่อยากให้มันจับพิรุธ ถ้าขืนมันรู้ว่าผมกับพี่ชินคบกันล่ะก็ หมาในปากต้องหลุดออกมาเพื่อล้อผมแน่ๆเลยให้ตายดิ่!

มองหน้าไอ้เต๋าที่เบะปากใส่ผมได้น่าถีบมากก่อนที่มันจะก้มลงเปิดกระเป๋าแล้วร้องเสียงหลงเพราะเห็นคริสอยู่ข้างในนั้น ผมรีบปิดปากไอ้ส้มที่ร้องทักเกือบทำให้คนอื่นได้ยิน ส่วนผมเองก็งงว่ามันจะพกลูกมันมามหาลัยทำไม แล้วหลังจากนั้นผมก็รอดตัวไปเพราะไอ้เต๋ามันต้องรีบกลับคงเป็นเพราะว่ามีคริสมาด้วยนั่นแหละ

หลังจากนั้นผมก็เริ่มกังวลและอยากรู้มากว่าพี่ชินกับไอ้เต๋ามันคุยอะไรกันก็เลยโทรไปหาพี่เขา

"ว่าไงครับไก่คิดถึงพี่หรอ?"

"คิดถึงอะไรล่ะพี่! พี่คุยอะไรกับไอ้เต๋ามันอ่ะ มันทำอาการแปลกๆใส่ผมเลย" ผมโวยเสียงเบาเพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจในขณะที่ผมกำลังเดินอยู่ข้างสระของมหาลัยเพื่อที่จะออกไปขึ้นรถเพื่อกลับหอของตัวเอง

พี่ชินหัวเราะครืนแล้วตอบ "พี่ก็แค่คุยกันธรรมดา ทำไมเมื่อก่อนหน้าไม่มานั่งฟังด้วยกันล่ะ เอ... หรือหึง?"

"หึงบ้าอะไรล่ะ แล้วทำไมไอ้เต๋ามันต้องถามผมเหมือนว่าผมมีอะไรปิดบังมัน" ผมโวย

"ฮ่าๆๆ ออเรื่องนี้นี่เอง... ก็ไม่มีอะไรมากแค่วันที่เราไปดูหนังเต๋าเขาเห็นตอนที่เราจูบกัน ก็เลยถามพี่" แล้วหลังจากที่ได้ฟังหน้าผมนี่ก็ร้อนฉ่าด้วยความอายมือถือนี่แทบร่วงลงไปเลยให้ตายสิ! นี่ไอ้เต๋ามันเห็นหรอวะ? มิน่าล่ะทำไมวันนี้คำถามมันถึงได้ดูแปลกๆนัก

ผมถามพี่เขาเสียงสั่น "แล้วพี่ตอบมันว่าไงอ่ะ แล้วมันว่าไงหลังจากที่พี่ตอบ" ตอนนี้ใจผมเต้นแรงจนอยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว ถ้าเกิดไอ้เต๋ามันรู้แล้วเสือกรังเกียจผมขึ้นมาล่ะวะ? ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพื่อนกับผมแต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันรับเพื่อนมันที่ชอบผู้ชายได้หรือเปล่า เพราะรายนั้นมันไม่ค่อยถูกกับเรื่องบพวกนี้เสียเท่าไร ดูได้จากตอนที่รุ่นพี่ที่เป็นกระเทยแอบจับก้นมันแล้วโดนมันตืบจนยับ...

"กังวลอยู่หรอ? นี่อยู่ไหนเดี๋ยวพี่ไปรับ" พี่ชินตอบกลับมาตอนนี้น้ำตาผมร่วงเผลาะๆไปแล้ว

"พี่ตอบผมสิว่าพี่ตอบอะไรมันไป!" ตะคอกใส่ปลายสายเพื่อหวังเอาคำตอบ พี่ชินเงียบไปครู่กับจังหวะที่ขาผมเริ่มอ่อนแรงจนหยุดยืนเพื่อรอคำตอบ

"พี่ตอบไปว่าเราเพิ่งจะคบกัน" ความรู้สึกของผมเหมือนโดนส้นตีนไอ้เต๋ายันหน้าเลยให้ตายสิ! มันอึ้งจนพูดไม่ออก

"แต่เต๋าก็เข้าใจนะ เขาบอกให้พี่ดูแลเราดีๆด้วย แต่ก็น้อยใจที่เราไม่ยอมบอกความจริงกับเขา"

"จริงหรอ? มันไม่ได้โกรธผมหรอที่ผมกับพี่... แล้วมันน้อยใจที่ผมคบกับพี่หรอ?..." ผมเงียบเพราะมันพูดไม่ออกจากที่กลัวตอนนี้มันเหมือนยกภูเขาออกไปแต่ก็ยังไม่แน่ใจเผื่อพี่ชินโกหกล่ะ

"เขาจะโกรธเราทำไมกันล่ะให้เมื่อเต๋าก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว"

"พี่อย่ามาโม้น่า" อย่ามาพูดให้สบายใจหน่อยเลย ตั้งแต่คบกันมาผมยังไม่เห็นมีใครเอามัน ถึงมีก็รับความเถื่อนของมันได้ไม่นานนั่นแหละ มันเป็นประเภทที่สาวๆเข้าหาก็จริงแต่มันอบอุ่นเหมือนพี่ชายมากกว่าคนอื่นก็เลยไม่เอา

พี่ชินหัวเราะ "พี่จะโกหกทำไม จำคนสูงๆที่มารับเต๋าวันที่ไม่สบายไม่ได้หรอ? นั่นล่ะแฟนเต๋า"

"เอ๋? แล้วพี่รู้ได้ไงอีกล่ะ" ผมถามกลับไปด้วยความสงสัยบวกตกใจไม่คาดฝันว่าไอ้เต๋าจะคบกับผู้ชายเหมือนผมเมื่อนึกถึงผู้ชายตัวสูงๆคนนั้น ตอนนี้เริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ

"ก็เด็กคนนั้นคือคนของพี่"

"..." คนของพี่? ผมรู้สึกงงมาก ตั้งท่าจะถามกลับไปอีกเพราะไม่เก็ทแต่พี่ชินก็ชิงอธิบายเสียก่อน

"ก็ที่พี่เคยบอกไว้ว่าพี่อยากได้อะไรก็ต้องได้พี่เลยส่งใครบางคนไปหาเต๋า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปกันด้วยดีเสียมากกว่า" ทำไมหัวใจผมมันห่อเหี่ยวอีกละ

"พี่เสียใจหรอ?" ผมถามกลับไป แต่ตอนนี้ผมดันเจ็บซะเอง

"ทำไมพี่ต้องเสียใจด้วยล่ะในเมื่อพี่มีไก่อยู่แล้ว..."

หืม?

"อ๊ะ!" ร้องด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆเสียงของพี่ชินกลับก้องอยู่ทางด้านข้างเหมือนเจ้าตัวอยู่กับผมที่นี่ หันกลับไปมองด้วยความเร็วแทบใจหายใจคว่ำถึงกับกระโดดโหยงออกมา

"เฮ้ย!" มองหน้าหล่อๆของพี่ชินที่มาโผล่อยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แถมยิ้มหล่อให้ด้วยผมถามกลับไปแบบเคืองๆ "พี่มาตั้งแต่เมื่อไรทำไมผมไม่รู้สึก"

แล้วพี่เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "ก็เรามัวแต่คิดน้อยใจพี่อยู่นิ่"

รู้สึกหน้าร้อนผ่าวจนต้องรีบเถียง "น้อยใจอะไรกันเล่า!"  ยู่ปากใส่พี่เขาที่เดินเข้ามาจับมือของผมแน่น  พอผมตั้งท่าจะปัดมือหนีแต่พี่ชินมันก็ไวกว่าคว้ามือผมเอาไว้หมับ! เงยหน้ามองพี่เขาไม่พอใจเสียเท่าไร แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาผมกลับใจเต้นแรง

"ปะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอ พี่กลัวว่าเดี๋ยวใครบางคนจะน้อยใจตายคิดว่าพี่ชอบเพื่อนเขาอีก"

ทุบไหล่พี่เขาไปที "บ้าเถอะ"  แล้วพี่เขาก็หัวเราะออกมาจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้



เราเดินจูงมือกันกลับไปที่หอของผมซึ่งตอนนี้มันก็มืดมากผู้คนก็เริ่มพลุกพล่าน แต่ไม่มีใครสนใจพวกเราที่กำลังจับมืออยู่ ผมมีความรู้สึกว่าพี่ชินพยายามทำให้ผมเชื่อใจเขา มีอะไรบางอย่างที่พี่เขาจะบอกผมแต่ก็ไม่ยอมบอกมันทั้งหมด แต่เรื่องไอ้เต๋าก็ทำให้ผมรู้สึกสงสัยเหมือนกันนั่นแหละ เรื่องของไอ้เต๋ากับคนที่ชื่อคิส  พี่ชินบอกว่าเขาเป็นแฟนกัน? รายนั้นผมไม่ค่อยเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันเท่าไร ไอ้เต๋ามันอ้างว่าเรียนคนละเอกแต่ผมก็ไม่คุ้นหน้าอยู่ดี แสดงว่าไอ้เต๋ามันโกหกสินะ ถ้าอย่างนั้นก็หายกันแล้วสิสำหรับเรื่องนี้

บางทีพี่ชินก็น่ากลัวเหมือนกันเวลาที่พูดคำว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ เหมือนพี่เขาจะเป็นพวกมาเฟียรายใหญ่หรือลูกเจ้าพ่อเลยให้ตายสิ! ผมเริ่มกลัวเหมือนกันว่าพี่ชินจะเป็นแบบนั้นถ้าเกิดผมทำอะไรให้พี่เขาไม่พอใจไม่ฆ่าผมหรอวะ?

"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ กังวลอะไรอยู่" พี่ชินถามผมในขณะที่เรากำลังเดินเข้าซอยเพื่อกลับหอ หอผมอยู่ถัดไปจากทางลงบีทีเอส แล้วมันก็ค่อนข้างเปลี่ยวในตอนกลางคืน

เงยหน้าขึ้นมองแล้วส่ายหน้ารัวๆ "เปล่าสักหน่อย" พี่ชินกลับยิ้มให้ผม แต่รอยยิ้มมันดูอ่อนโยนจนรู้สึกอบอุ่นเวลาที่เขาเดินอยู่ใกล้ๆ

มือใหญ่ๆของพี่ชินกุมกระชับผมแน่น "ไก่"

"ครับพี่" ผมขานน้ำเสียงปรกติ

"ถ้าเกิดวันหนึ่ง... พี่น่ากลัวเหมือนพวกปีศาจหรือซานตาน ไก่จะยังชอบพี่อยู่ไหม?"

ผมเงยหน้ามองพี่เขาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ตอบไปตามความรู้สึกไม่ได้คิดอะไรมาก "ผมชอบพี่ที่เป็นพี่นะ ชอบนิสัยของพี่ที่พี่ดีกับผม ตราบใดที่พี่ยังอ่อนโยนกับผมอยู่ผมไม่มีวันกลัวพี่หรอก" เมื่อตอบกลับไปแบบนั้น พี่ชินก็หยุดเดินแล้วยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่

ใบหน้าหล่อๆค่อยๆหันกลับมาทางผมที่กำลังรอเขา รอยยิ้มบางๆยกยิ้มที่มุมปากแทบจะมองไม่เห็นเลย "พี่หวังว่าไก่จะรู้สึกแบบนี้กับพี่ไปตลอด... เพราะพี่ชอบเห็นความหวาดกลัวของมนุษย์ มันมักจะปลุกด้านมืดในจิตใจของพี่ออกมาเสียทุกที" คำพูดของพี่ชินทำเอาผมขนลุกขึ้นมาอีกละ ผมค่อนข้างที่จะเหวอมองพี่ชินตาปริบๆ พี่เขาเงยหน้าสบตาผมแล้วขำพรืดออกมา

"ฮ่าๆๆ นี่ถึงกับตกใจเลยหรอ? ดูทำหน้าเข้าสิพี่ล้อเล่น" แล้วพี่เขาก็ยีหัวผมแรงๆแบบหมั่นเขี้ยว ผมรีบปัดมือพี่เขาออกไป

"โหยพี่ทำเอาผมกลัวจริงๆเลยนะ" ผมยู่ปากแล้วกระชับมือพี่ชินที่เย็นเฉียบเดินต่อไป

ได้ยินเสียงลมหายใจของพี่ชินที่ถอนออกมา... "แต่พี่ก็ไม่ได้อ่อนโยนอย่างที่เราคิดหรอก มัน... พูดยาก" เขาว่าแบบนั้น ผมเองก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าไอ้สิ่งที่พี่เขาพูดๆมาเนี่ยพยายามจะสื่ออะไรกันแน่ ผมก็ตอบพี่เขาไปตามความคิดของผมเอง

"ก็บอกแล้วไง ตราบใดที่ยังเป็นพี่ ถ้าพี่ยังชอบผม และผมก็ชอบพี่ไม่เห็นมีอะไรจะต้องกลัว..."

"งั้นหรอ?" เขาเอียงคอมองผมที่ตอนนี้รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบไปหมด ผมก้มหน้าด้วยความรู้สึกเขินสายตานั่นแล้วพยักหน้า อันที่จริงผมต้องพูดว่าแอบรักพี่เขาไปแล้ว แต่ทว่าความรู้สึกของผมมันยังไม่ชัดเจนเท่าไร

พี่ชินยิ้มหล่อแล้วเอียงคอหอมแก้มผมหมับ! "เฮ้ย!" ร้องด้วยความตกใจแล้วรีบเอามือปิดแก้มมองพี่ชินด้วยอาการที่เหวอมาก พี่เขากลับทำมึนแล้วหัวเราะอีก

"ที่พี่ชอบไก่ก็เพราะไก่น่ารักแบบนี้นี่แหละ แต่พี่อยากได้ยินอีกคำมากกว่า"

"หา!?"

"พี่จะรอคำนั้นนะ"

มองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มอย่างมีความสุขให้กับผมแล้วมันทำให้ใจของผมพองโตอย่างประหลาด อยากได้ยินอีกคำอย่างนั้นหรอ? ผมขอสงวนเอาไว้ก่อนไม่ได้หรือไงกันทั้งๆที่เราเพิ่งจะคบกันแท้ๆ

ก้มหน้ามองเท้าที่ย่ำเดินไปตามท้องถนน รู้สึกหัวใจเต้นแรง และหน้าเห่อร้อนจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าพี่ชินเลย...

ไม่เห็นจะต้องพูดเลยก็ในเมื่อพี่เองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว... ว่าผมรักพี่อ่ะ








...
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 22/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-01-2015 15:24:42
 :mew1:  อ่านตอนนี้แล้วแบบ เจ้าไก่มันมีบุคลิคเคะเหมือนกันนี่นา นึกว่ากวนตีนอย่างเดียว
พี่ชินทำอย่างที่พูดเถอะ มีไก่อยู่แล้วก็ไม่ต้องไปจับเต๋าแล้วดิ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 22/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 22-01-2015 19:03:18
พี่ชินมาแนวฮาร์ดคอเลยนะค้าบบบ
 o13
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 22/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-01-2015 19:33:53
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 22/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 22-01-2015 20:53:19
โอ้ว...ซาตานหลงรักมนุษย์หนุ่ม แล้วพี่ท่านไปทำอะไรไว้
ทำไมไก่กระเจิงสติแตกไปหาเต๋าได้ล่ะ  :z3:
โอ๊ย...อยากเผือก เอ้ย! อยากรู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 24/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 24-01-2015 14:14:07

 :katai4:




DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนพิเศษ ชิน-ไก่



ภาคต่อ - ไก่


ช่วงนี้ไอ้เต๋ามันเป็นอะไรไม่รู้ครับมันติดผมเสียยิ่งกว่าตังเม เอ๊ะ!? รึว่ามันจะกินยาผิดสำแดงหรือนอนตกเตียงแล้วหัวฟาดฟื้นเกิดสมองจูนเข้าที่นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนสนิอย่างผมคนนี้วะ? ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันเกิดบ้าอะไรถึงได้ติดหนึบผมแบบนี้

แต่ที่รู้ๆคือความที่รักเพื่อนของมันนี่โคตะระสร้างภาระให้กับผมที่ต้องมาเทียวไปเทียวกลับรับส่งเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อยที่ต้องรอผู้ปกครองอย่างผม ซึ่งคนอย่างไอ้ไก่นี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ เพียงแค่ว่าค่ารถกูอ่ะช่วยจ่ายให้กูบ้างเห๊อะ!

แต่พอจะทวงมันๆก็ชวนให้นอนค้างเดี๋ยวมันจะเลี้ยงข้าวแทนค่ารถ ขอโทษนะเพื่อนกูเกรงใจว่ะ... ถ้าขืนให้มันเลี้ยงข้าวแทนค่ารถมีหวังขาดสารอาหารเพราะซดมาม่ากันนี่แหละ ไอ้ไก่เกรงจ๊ายเกรงใจ...

แถมปัญหาร้อยแปดมันก็มักจะพ่วงให้ผมเข้าไปเอี่ยวด้วยอยู่เรื่อย เรื่องไอ้พี่โอผมก็พอจะรู้อยู่แล้วล่ะว่าพี่เขาก็แอบมองมันอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่คิดหรอกว่าพี่แกจะชอบไอ้เต๋าจริงๆ เกรียนๆอย่างมันพี่โอชอบนี่สุดยอดของแจ็คพอตแล้วล่ะเว้ย!

พอมันโดนพี่เขาบอกชอบมันก็วิ่งตูดแป้นมาบอกผมแล้วให้ช่วยคิดว่าจะทำยังไงดี ผมก็เลยแนะนำบอกๆมันให้มันสบายใจขึ้นซึ่งผมเองก็ตลกอยู่ในใจลึกๆนะ แต่กูไม่ช่วยมึงหรอกฮ่าๆๆๆๆ

แต่สุดท้ายทำไง? พอเห็นหน้ามันแล้วก็อดไม่ได้ต้องเขาไปช่วย พี่โอนี่โคตรผิดหวังสุดๆอ่ะ แต่ก็ดีแล้วที่พี่เขาบอกว่าเข้าใจแล้วถอยไปเอง? ผมเองก็แปลกใจนะที่พี่เขาไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นแต่มันคงไม่มีอะไรนอกจากนี้หรอกมั้ง... มั้งนะ...

แล้ววันนี้ผมก็ไปนอนค้างกับมันเพราะตัวผมเองก็เหนื่อยกับการเดินทางมากจริงๆ หอมันกับหอผมก็อยู่ไม่ไกลกันเท่าไรหรอกครับ จริงๆนั่งวินกลับหอผมยังได้ แต่ผมขี้เกียจจนเกินไปนอนห้องมันเล่นกับลูกๆมันก็ยังดี แต่พอจับดอลฟี่มันเท่านั้นแหละ ไอ้เพื่อนมันดันขู่ฟ่อก่อนเลย หวงอย่างกับจูจงอาง...

จะให้ทำไงล่ะนอกจากห้ามแตะทั้งๆที่คันไม้คันมือซะขนาดนั้น ตอนมันอาบน้ำผมก็เลยแอบเล่นมินนี่กับลูลู่จับพลิกท่านั้นท่านี้แล้วแอบถ่ายรูปเอาไว้แกล้งมันทีหลัง ก่อนจะมานั่งเกาพุงแกรกๆรอไอ้เต๋าออกมาจากห้องน้ำนั่นล่ะ

สายตาผมก็ปรือแล้วก็มองไปทั่วห้องโล่งๆของมัน ไหนว่าพี่ชินบอกว่ามันแอบซุกเด็กเอาไว้วะ? แต่พอผมมาผมกลับไม่เจอ จะเจอก็แต่ลูกๆมันนี่แหละ แถมคนชื่อคิสอะไรนั่นผมก็เห็นแค่ครั้งเดียวด้วยมั้งแต่ก็พอจำหน้าตาได้อยู่นะ ผู้ชายคนนั้นดูสูงๆหุ่นดี หน้าตาหล่อเหลาไปในทางลูกครึ่งมากกว่าคนไทย แถมสีหน้าและท่าทางที่ดูสุขุม ผมว่าเขาก็เหมือนพวกมาเฟียนั่นแหละ แล้วตกลงพี่ชินนี่เป็นอะไรกันแน่วะ? ผมอยากจะรู้นะแต่ก็ไม่กล้าถามพี่เขาอะ มัน... น่ากลัวไงไม่รู้ถ้าเกิดได้ยินคำตอบขึ้นมา คบๆกันไปก็คงจะรู้เองล่ะมั้ง...

พอผมใกล้จะเคลิ้มๆไอ้เต๋ามันก็ออกมาจากห้องน้ำได้จังหวะจะหลับอยู่พอดี ไอ้เพื่อนมันก็รักผมมากเอาเท้าเขี่ยๆแล้วไล่ให้เข้าห้องน้ำไปฉิบ ผมก็เลยต้องขืนตัวเองที่หนักๆเข้าไปในห้องน้ำดิ่ทำไง? จะหลับคาห้องน้ำก็วันนี้ล่ะ!

 แต่...

พอผมเข้าห้องน้ำไปไม่นานเท่าไรกลับได้ยินเสียงแปลกๆ...

"อะ อา... อือ... คริส..."
 o22

"..." เสียงที่ดังแว่วเข้ามาในห้องน้ำมันฟังดูสยิวกิ้วแทบทำให้ผมเกือบหัวทิ่มลงชักโครก...

ไอ้... เชี่ยเต๋า...

"อือ... "

เสียงครางกระเส่านี่ไม่ต้องเดาเลยว่ามันทำอะไร ถ้าไม่ดูหนังโป๊ก็คงทำกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่แน่ๆ แต่... เฮ้ย! ไอ้เต๋ามันทำบ้าอะไรวะ!

แต่ด้วยความเผือก... ว่ากูอยากรู้ว่ามันทำอะไร ผมค่อยๆเดินไปที่ประตูแล้วมันออกมาอย่างช้าๆ มองผ่านช่องของประตูที่ถูกเปิดออก...

"อา.... ซีด.... คริส เต๋าไม่ไหวแล้ว"

 :z3:
OMG! โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ไอ้เต๋ามัน... มัน ม๊านนนนนน! โดนขย่ม!

ผมเหลือกตาด้วยความตกใจมองร่างสูงที่กำลังขย่มไอ้เต๋าอย่างเมามันส์ เห็นสีหน้าไอ้เพื่อนที่กำลังยั่วจัดแม้แต่ผมยังเผลอกลืนน้ำลายอึก แล้วหน้าแดงซ่านด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

นะ นี่... ผมดันมาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นแล้วสินะ!
 
แล้วไอ้คนที่ชื่อคิส ซึ่งผมได้ยินไอ้เต๋ามันครางเรียกอยู่เหมือนเขาจะรู้ตัวค่อยๆหันมาทางผมอย่างช้าๆ แอบสำรวจใบหน้าหล่อเหลาเรือนผมสีบรอนดวงตาคมสีคราม... หรือสีเขียววะ! ที่กำลังสบตาผมอยู่ รูปร่างสมส่วนแผ่นหลังนี่แม่งโครตเซะซี่ มันเป็นผู้ชายที่โคตะระเฟอร์เฟคแม้แต่หน้าตาที่หล่อเหลา

ผมตกใจจนลืมตัวไปว่าผมถูกเห็น!  ไม่สิ! ต้องบอกว่าผมห็นพวกมันต่างหากเล่า!

รอยยิ้มหล่อๆค่อยๆประดับบนใบหน้าจนน่าขนลุกเมื่อเขาเห็นผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมตัดสินใจปิดประตูกลับไปดังเดิมเงียบๆ เอาหลังชิดประตูจนติด ไอ้สัดน่ากลัวว่ะ!

ไอ้ไก่ขอโทษที่รบกวนคร้าบบบบบบ.... จะทำอะไรก็เชิญเลยพวก!

แล้วเสียงกระเส่าของไอ้เต๋ากับผู้ชายคนนั้นก็แว่วเสียงมาอีกครั้งแทบทำให้ผมลืมหายใจ หัวใจมันเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ
ขอโทษนะเพื่อน... กูผิดเองที่ตามมึงมานอนค้าง....

ฮึก!... กูอยากร้องไห้...
 :ling2:

แกร่ก...

ทันทีที่ข้างนอกเงียบเสียงลง พอๆกับที่ผมเกือบจะหลับคาห้องน้ำไปแล้ว ผมก็ค่อยๆออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ เหมือนจะโล่งอกเมื่อผมไม่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจของพวกเขาแล้ว เลยเนียนออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางสบายๆ แต่ก็รู้สึกอายแทนพวกมัน

เห็นไอ้เต๋าคลุมโปงอยู่ก็เลยทักแกล้งมัน "อ้าวมึงจะนอนแล้วหรอ?" หน้ามันดูเหนื่อยๆเหมือนกันนะ แล้วผ้าที่มันคลุมโปงก็ดูหนาแปลกๆ แหม... ไอ้เต๋ามันร้ายกาจ...

มันพยักหน้าตอบผม "อืม" ผมเลยพยักหน้าเออออไปกับมันแบบ... เออๆ เรื่องของมึง ประมาณนี้ แล้วเดินไปที่โต๊ะคอมมันเพื่อหวังจะเล่นเกมอีกนั่นแหละ สงสัยรอบนี้คงได้นอนที่โซฟาอีกละ แต่พอรู้ว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องกับมันตามลำพังแล้วโคตรกระอักกระอวลใจบ่องตรง

เวรเอ๊ย! ทำไมเพื่อนผมมันหน้าหนาแบบนี้วะ! กูสนิทกับมึงก็ใช่ว่ากูอยากจะรู้นะว่ามึงทำอะไรกัน หยุดกิจกรรมเข้าจังหวะสักวันเพื่อเพื่อนนี่มันคงไม่เสียหายหรอกเว้ย

 แต่... ผมลืมไปว่าไอ้เต๋านี่มันหน้าหนาโดยสันดารมันคงไม่แคร์ผม...

ผมนี่อยากใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งกลับไปนอนที่หอตัวเองเลยให้ตายดิ่! แล้วมีหน้ามาบอกว่าไม่เคยซุกเด็ก ไม่ชอบผู้ชายแล้วไอ้ที่ผมเห็นเต็มสองลูกตา อยู่เป็นสักขีพยานความรักนี่มันคืออะไรฟระ!

นี่ถ้าเกิดผมไม่รู้ว่าไอ้เต๋ามันกำลังคบกับใครอยู่ผมอาจจะช็อคมากกว่านี้ นี่ผมควรขอบคุณพี่ชินหรือเปล่า?  แต่ช่างมันเถอะ ดูเหมือนว่าไอ้เต๋ามันไม่อยากให้ผมรู้ว่ามันนอนอยู่กับใคร แต่ถามหน่อยที่มึงนอนกกอยู่นั่นมันมิดมากหรอวะ?  เอ้า! ไม่อยากให้เห็นกูก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ได้ แอบเนียนเล่นเกมของมันไปเเล้วพอมันหลับค่อยชิ่งกลับหอตัวเองก็ได้ ไหนๆแล้วมันก็มีแฟนมันนอนอยู่ด้วยผมคงไม่อยากเป็น กขค. หรอกนะ

หลังจากที่ผมนั่งเล่นเกมไปสักพัก รู้สึกเหมือนเพื่อนผมมันจะหลับไปแล้วเลยหันไปมอง แต่...

เย้ย!

ไอ้หน้าหล่อๆที่นั่งมองผมอยู่นี่แทบทำให้ผมตกใจจนเกือบร่วงเก้าอี้ มันมานั่งมองผมตั้งแต่เมื่อไรวะ ใจหายใจคว่ำหมด!

"เอ่อ..." ผมนี่อึ้งแดกมองคิสที่ตอนนี้เขาดูเหมือนชาวต่างชาติมากจริงๆ เรือนผมสีบรอนกับดวงตาสีครามนั่นมันทำมาหรือเปล่าวะ? ตอนเจอกันครั้งแรกมันมีผมสีน้ำตาล ดวงตาก็สีเดียวกันกับพวกผมนั่นแหละ แต่ทว่าตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปราวกับคนละคน แต่ผมเป็นประเภทจำคนแม่นเลยไม่สับสนเสียเท่าไร  แต่ไอ้หมอนี่มันอยู่ในห้องกับพวกผมได้เนียนมากตัวอย่างกับหมี ผมว่าไอ้เต๋าสูงมากแล้วนะหมอนั่นยังสูงมากกว่าไอ้เต๋าอีก

"ผมทำให้คุณตกใจหรอ?"  ผมพยักหน้าหงึกหงัก แม่นแล่ว...

"คุณคือคิส?" ถามไปงั้นแหละทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว แต่เมื่อเขาสุภาพมาผมก็สุภาพกลับเอาความเกรียนไปสถุลใส่กับพวกไอ้เต๋ากับเพื่อนๆผมพอ ต่อหน้าคนอื่นเราต้องรักษาภาพพจน์เข้าไว้ พ่อแม่สอนมาดีก็เงี๊ยะ!

ร่างสูงที่นั่งอยู่พยักหน้าตอบเนิบๆ สีหน้าเขานิ่งและดูสุขุมมาก...

มันเป็นเรื่องแปลกที่ไอ้เต๋ามันคบกับคนประเภทนี้ ยังไงดีล่ะ... ดูนิ่งๆ เข้มๆ แล้วก็สุขุมเหมือนผู้ใหญ่ ผิดกับเพื่อนผมที่รั่วแตกตลอดเวลา แถมไอ้พี่ชินมันยังบอกว่าคิสเป็นคนของเขา ผมละอยากรู้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้จริงๆ แต่เก็บความอยากรู้นี้เอาไว้ก่อนเถอะ...

"ใช่ ผมคิส" เขาตอบกลับมาก่อนจะยกยิ้มบางๆ จนผมใจชื้นขึ้นไม่ค่อยเกร็งเท่าไร แฟนเพื่อนก็เหมือนแฟนเรา เฮ้ย! ไม่ใช่ เหมือนเพื่อเรานั่นแหละต้องทำความรู้จักสนิทๆกันเข้าไว้ใช่ไหมล่ะ?

"แล้ว มาอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อไร..." แกล้งถามกลับไปแต่รู้อยู่เต็มอก มันคงมาตอนที่ผมอาบน้ำนี่แหละมันเดาไม่ยากเลย
"อยู่ก่อนที่คุณมา" เขาตอบ...

ฮะ!?

"อ้อ..." ผมพยักหน้า "แบบนี้ผมก็กวนพวกคุณน่ะสิ ขอโทษนะไอ้เต๋าไม่ได้บอกว่ามีคุณอยู่" ผมยิ้มแหยๆแล้วลูบท้ายทอยด้วยความรู้สึกกระอักกระอวล ว่าแต่ที่บอกว่าอยู่ก่อนหน้านี่เขาไปซุกอยู่ตรงไหนของห้องวะ?  เอาซะผมไม่ทันสังเกตเห็น

"ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ และ... ขอบคุณคุณ"

"เอ๋?"

"ที่ช่วยมารับมาส่งเต๋า ช่วงนี้ผมอยากให้คุณดูแลเขาแทนผมจะได้ไหมครับ" สีหน้าร้องขอมันทำให้ผมรู้สึกใจอ่อนเลยล่ะ นี่ถ้าเป็นไอ้เต๋าทำมันคงจะกวนบาทามากกว่า แต่รายนั้นมันไม่เคยขอผมดีๆหรอกนอกจากบังคับเลย

"เรื่องแค่นี้เอง ได้สิ ยังไงมันก็เพื่อนผมๆต้องดูแลมันอยู่แล้ว" แล้วคิสก็ยิ้มออกมาบางๆ แต่มันโคตรหล่อว่ะ ไอ้เต๋ามันไม่ง้องแง้งบ้างหรอวะ ไอ้บ้านี่มันเป็นโรคไม่ถูกกับคนที่หล่อกว่ามันเสียเท่าไร ผมว่าคิสก็คงโดนเขม่นความหล่อบ้างนั่นแหละถึงแม้ว่าพวกเขาจะคบกัน

คนตรงหน้าทำหน้าเหมือนโล่งใจแล้วยิ้ม "ขอบคุณครับ"

แล้วหลังจากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง...

แต่เพราะผมทนความอึดอัดไม่ไหวเลยขอชิ่งดีกว่าไหนๆไอ้เต๋าก็มีคิสอยู่ด้วยแล้ว รีบคว้าเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ แต่ก่อนจะเข้าผมหันไปบอกคิส "เอ่อ.." ครางในลำคอเรียกร่างสูงที่นั่งจ้องเพื่อผมเหมือนอยากจะกินมันทั้งตัว คริสค่อยๆหันมาหาผมที่อยู่เป็นกขค.พวกเขา

โอเคครับ! ผมไม่อยู่เป็นกระดูกไก่ชิ้นโตขวางหูขวางตาพวกคุณแล้วล่ะครับ!

"เดี๋ยวผมกลับเลยก็แล้วกัน ถ้าไอ้เต๋ามันตื่นก็บอกว่าผมติดธุระแต่เช้าก็ได้" หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าห้องน้ำฉับๆเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเผ่นออกจากห้องของไอ้เต๋าในวินาทีต่อมาด้วยความเร็วเหนือแสง...

ภาพไอ้เต๋าโดนขย่มนี่มันยังติดตาผมเลยให้ตายดิ่! นี่กูจะเป็นตากุ้งยิงป่าววะ!

แล้วหลังจากเมื่อคืนผมก็มามหาลัยโดยที่ไม่มีไอ้เพื่อนรักคอยตามตูด ตอนเดินไปที่ตึกเรียนเจอพี่ชินด้วยผมเลยทักทายพี่เขาแล้วก็ชวนคุยกันตามซุ้มนิดหน่อย ไม่ได้เจอกันตั้งวันนึงแนะผมละคิดถื้งงงงงคิดถึง เหมือนพี่ชินจะรู้เขาก็ยิ้มให้ผมบางๆตามสไตลเขา

แล้วผมก็แอบเล่าเรื่องไอ้เต๋าเมื่อคืนให้พี่เขาฟังเพราะอยากหาคนเผือกร่วม ไม่หรอกผมอยากให้พี่ชินช่วยคิดด้วยว่าไอ้พวกนั้นมันคบกันตั้งแต่เมื่อไร แต่พี่ชินเขาไม่ได้ว่าอะไรครับเขากลับยิ้มออกมาบางๆแล้วลูบหัวผมแบบเอ็นดู สรุปนี่ผมคุยโม้อยู่คนเดียว...
แต่พอผมคิดว่าผมควรที่จะแยกกับพี่เขาเพื่อไปเรียนได้แล้วพี่ชินกลับพูดขึ้นมาอีก...

"ไก่ไม่อยากทำบ้างหรอ?"

ฮะ!? มองพี่ชินตาปริบๆ แต่พอเห็นสายตากรุ้มกริ่มนั่น...

"วอสเดอะฟะ...." สบถแบบอึ้งแดก...

"ฮ่าๆๆๆๆ พี่ล้อเล่น" แล้วพี่เขาก็ยีหัวผมแรงๆ

"โหยพี่ ล้อเล่นบ้านพี่ดิ่ ห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกนะ" มันเขินเว้ย! แถมในรั้วมหาลัยด้วยคนเยอะแยะเดี๋ยวเขารู้กันหมด!

พี่ชินยังคงหัวเราะร่วนแบบขำมากกับหน้าตาเหวอๆของผมที่แสดงออกไปเมื่อกี้ ผมเบะปากกำปั้นอยากอัดหน้าพี่เขาซักทีแต่ยั้งไว้ พี่ชินเหมือนจะรู้เลยหยุดขำแล้วไล่ผมให้ขึ้นเรียน ผมเลยต้องฝากเอาไว้ก่อนแล้วแยกย้ายเข้าเรียนในคาบต่อไป

พอผมนั่งแหมะอยู่ในห้อง ซักพักไอ้เพื่อนเลิฟผมก็มาถึงหน้านี่อย่างกับตูด ไม่รู้ว่าใครไปเหยียบหางมัน เอ๊ะ! หรือว่ามันจะงอนผมที่ผมหนีมันมาเมื่อคืนวะ? แต่ไม่น่าจะใช่อ่ะเพราะถ้ามันโกรธมันคงโทรมาเฉ่งผมนานละ

ผมเลยแซวมัน "เป็นไรวะหน้าเป็นตูดเลย"

แล้วมันก็โวยเสียงดัง "จะอะไรอีกละ มีแต่คนมองกูแปลกๆ หน้ากูหล่อมากหรือไงวะมองจัง"

แล้วผมก็กวนมันไปอีกตามประสาเพื่อนเลิฟ "ก็มึงหล่อไง แต่หล่อน้อยกว่ากูนิดนึง"

"ถุย!" เชี่ยเต๋าแม่งงงงงง....

ผมหัวเราะครืนใส่มันที่โดนผมแกล้งแหย่ แต่ดูเหมือนวันนี้มันจะอารมณ์ไม่ดีจริงๆ พอโดนแกล้งมันก็ยิ่งทำหน้างอคอหักเป็นปลาทู ก่อนที่มันจะเอากระเป๋าวางตุบบนโต๊ะ แล้วก็อึ้งแดกอีกรอบ...

เอิ่ม...

ตามันนี่แทบจะใหญ่กว่าไข่ห่านอยู่ล่ะทันทีที่เห็นลูกมัน ไอ้เต๋านี่แมงรั่วได้ตลอดจนผมเกือบขำก๊าก ไอ้บ้านี่มันไม่รู้ตัวเลยหรือไงวะว่ามันพกลูกมันมาด้วย แล้วหลังจากนั้นผมก็แซวมันอีก แต่มันยังคงเอ๋อแดกอยู่ก่อนจะเอาคริสจับยัดใส่กระเป๋าด้วยความเร็วเมื่อมีคนเริ่มเข้ามา ผมล่ะโคตรเอือมมันเลยล่ะกับความรั่วของมัน ปูนตราช้างคงอุดไม่อยู่

แล้วหลังจากที่เรียนเสร็จพวกผมก็ต้องเดินหน้าตั้งไปที่ซุ้มเพื่อหาที่ปั่นงานอีกเช่นเคย ที่ซุ้มค่อนข้างที่จะเงียบหน่อยเพราะวันนี้ไอ้สองคู่รักแบคโด้มันกำลังขยัน มีไอ้ส้มกำลังนั่งกินข้าวด้วย แต่นาทีนี้มีค่าคงไม่มีอะไรที่จะทำให้สมาธิที่พวกผมกำลังจดจ่อกับงานพังทลายลงได้ แต่พอปั่นเสร็จผมก็โดนใช้อีกล่ะโดนไอ้เพื่อนเลิฟมันมอบหมายหน้าที่ให้วิ่งไปที่ตึกคณะ... ผมนี่บริการส่งด่วนพิเศษยิ่งกว่าไปรษณีย์ไทยอีกเถอะ!

แต่ยังครับ... หน้าที่ไปรษณีย์ส่งด่วนพิเศษนี่มันคงยังไม่พอสำหรับไอ้ไก่ผู้ขยันคนนี้ นอกจากนี้ผมยังต้องรับบทเป็นกรรมกรแบกหามยกลังเอกสารของอาจารย์เป็นปึกขึ้นตึกอีก จากที่ผมส่งงานเสร็จกะว่าจะรีบกลับซุ้ม กลับต้องมาช่วยงานตรงนี้ก่อนซึ่งผมก็ปฏิเสธไม่ได้ เดี๋ยวเกิดจารย์หมั่นไส้ตัดเกรดแย่ๆขึ้นมาล่ะจะยุ่ง แต่เวลาออกเกรดขอสวยๆอย่างที่ใช้ผมได้ไหมกั๊บ.... T^T

แล้วจังหวะนั้นผมก็เจอกับพี่ชินพอดี โชคดีที่พี่แกว่างก็เลยช่วยๆกันยกขึ้นไปบนตึก ถึงแม้ว่าจะมีคนช่วยหลายคนแต่มันหนักมากอ่ะหลังจากยกเสร็จมือผมนี่มีแต่รอย

"เจ็บไหม?" พี่ชินที่เห็นผมลูบคลำๆรีบเข้ามาดู

"ไม่เท่าไรพี่เดี๋ยวมันก็หาย" ผมตอบไปยิ้มๆแต่หน้าพี่ชินนี่เป็นห่วงผมมาก สายตาจ้องไปที่มือของผมแล้วถูไปมาเบาๆ โชคดีที่ตอนนี้มันเย็นแล้วบนตึกก็เลยไม่ค่อยมีคน ผมก็เขินอ่ะที่พี่เขาทำแบบนี้แต่ก็ปล่อยให้พี่เขาทำจนเพลิน พอพี่เขาผละมืออกมาผมเพิ่งสังเกตว่ามือผมหายปวดแล้ว

"เฮ้ย! พี่ทำได้ไงอ่ะ" ผมนี่งงมากจริงๆทั้งๆที่เมื่อกี้โครตเจ็บอ่ะ

พี่ชินเขายิ้มให้ผมบาง "พี่เปล่าทำอะไรสักหน่อยมันหายเอง"

อ้าวหรอ? ผมนี่งงเลย หลงดีใจนึกว่าเป็นพวกมีพลังพิเศษ ปัดโธ๊!

แล้วผมกับพี่เขาก็พากันกลับไปที่ซุ้ม แล้วไอ้เต๋ามันก็ดันกลับบ้านไปแล้วด้วย หรือว่ามันไม่ต้องให้ผมไปส่งมันแล้วก็ไม่รู้ ผมกับพี่ชินเลยพากับกลับบ้านกันเลย ในระหว่างทางก็พากันคุยไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ ใจจริงอยากอยู่กับพี่เขาไปนานๆแต่ดูเหมือนพี่เขาจะติดธุระมั้ง...

"ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย? อยากไปนอนที่หอกับพี่หรอ" พี่ชินถามผมยิ้มๆ แถมสายตากรุ้มกริ่มที่น่าเอานิ้วจิ้มตา พี่แกเริ่มเยอะหลังจากที่ผมยอมเปิดใจหรือเราเริ่มรู้จักกันมากขึ้น ส่วนผมนี่ก็อายหน้าแดงเหมือนพี่แกจะแซวเรื่องที่ผมเล่าเรื่องไอ้เต๋าให้พี่แกฟัง

"บ้า! ใครจะไปนอนค้างล่ะไม่เอาด้วยหรอก"

พี่เขาหัวเราะ "แต่พี่อยากให้เราไปนอนค้างด้วยนะ ไม่ไปจริงๆหรอ พี่... อยากนอนกอดเรานะ" พี่ชินนี่แม่ง... รุกหนักอีกล่ะ ผมก็ทำเนียนเสียงเข้ม

"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวกลับไปปั่นงานที่ห้องต่อ" แต่ใจจริงอยากไปโคตร ไม่ได้ๆเราต้องรักษาภาพพจน์ของเราเอาไว้ เป็นผู้ชายต้องสงวนตัวเข้าไว้อย่าใจง่ายครับ ถ้าเขาไปนอนค้างหอผมก็ว่าไปอย่าง... เฮ้ย! ไม่ช้ายยยยย!!

"เอางั้นก็ได้ ปะเดี๋ยวพี่ไปส่ง" พี่ชินยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะดึงแขนให้ผมเดินตามซึ่งตอนนี้ก็มืดมากแล้ว

รถก็ติดคนก็เยอะผมเลยให้พี่ชินมาส่งแค่ขึ้นรถเมล์แล้วคิดว่าจะขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสถานีแถวๆหอเลยเพราะพี่เขาบอกว่ามีธุระจะต้องทำ

แต่พอผมนั่งรถไฟฟ้ามาถึงสถานีจุดหมายปลายทางของผมแล้ว หลังจากที่ลงบันไดลงมาผมมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดมากจริงๆให้ตายสิ!

มันวังเวงแทบไม่มีคน ปกติแล้วแถวนี้มันก็เงียบๆตามปกตินั่นแหละอาจจะมีรถวิ่งผ่านไปมาบ้างแต่ไม่มีใครมาสนใจหรอก ผมก็มองไปตามเสาไฟที่มันติดๆดับๆ จากที่ตัวเองเป็นคนจิตแข็งตอนนี้มันกลับป๊อดขึ้นมาเสียดื้อๆ อารมณ์เหมือนตัวเองอยู่ในหนังผีแล้วเดินในที่เปลี่ยวๆแบบนี้นี่แหละ ไม่ผีก็พวกปล้นจี้มากกว่าที่ผมกลัวแถมตัวผมก็ไม่ได้เก่งแม่ไม้มวยไทยเหมือนไอ้เต๋าด้วย ตอนนี้เลยได้แค่สาวเท้าไปยังข้างหน้าเรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดชะงักกึก! เมื่อสายตาของผมมันมองไปยังทางข้างหน้า...

 o22

นะ นั่นมันพี่ชินไม่ใช่หรอ?

ผมพยายามหรี่ตาลงเพื่อมองคนข้างหน้าให้ชัดขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างกับกองคน... ใช่... ต้องบอกว่ากองคน เมื่อผู้ชายประมาณสามสี่คนกองรวมอยู่ตรงนั้นสารรูปแต่ละคนต้องบอกว่า... ยับ...

ผมมองไปยังใบหน้าหล่อๆที่กำลังแสยะยิ้มให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาเหี้ยโคตร ร่างของเขาถูกกำคอแน่นจนลอยหวือโดยฝีมือพี่ชินเอง..

วอสสสสสส?... นี่มันอะไร.... ผมตกใจจนงงสับสนไปหมดแล้ว...

"ปละ ปล่อยข้าไปเถอะอย่าทำอะไรข้าเลย" เสียงอ้อนวอนเสียงทุ้มหนัก มันดูแปลกประหลาดเหมือนลำโพงแตกพยายามอ้อนวอนขอชีวิตพี่ชินที่ดูน่ากลัวเหมือนปีศาจร้าย ผมกลืนน้ำลายอึกด้วยหัวใจที่เต้นระทึกมองพี่เขาที่ค่อยๆแสยะยิ้มเย็นออกมา ดวงตาสีแดงราวกับโลหิตจ้องพวกมันเทบจะปลิดชีวิตพวกมันได้

เสียงอันคุ้นเคยค่อยๆขยับกลีบปาก เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "พวกมึงลำเส้นดินแดนกูเกินไป... ตายเสียเถอะ" หลังจากนั้นร่างที่อยู่ตรงหน้าพี่ชินก็ดิ้นพล่านเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ดวงตาเหลือกแดงกล่ำ พร้อมๆกับเลือดที่ไหลออกมาตามลูกตา หู จมูก ก่อนที่ไอควันอะไรบางอย่างสีดำจะพวยพุ่งออกมาจากร่างนั้น กลายเป็นเหมือนรูปร่างปีศาจ...

ตั้งแต่ผมเกิดมาผมเพิ่งจะเคยเห็นปีศาจนี่แหละ!

ผมหายใจรัวถี่ด้วยความกลัว คิดจะวิ่งหนีไปแต่ขามันกลับก้าวไม่ออก มองพี่ชินที่ยกมือไปทางกลุ่มควันสีดำก่อนที่มันจะถูกเผาไหม้กลายเป็นผุยผงในเวลาต่อมา พร้อมๆกับเสียงที่แสบแก้วหูโหยหวนของมัน...

ร่างของพี่ชินดูยังไงก็เป็นพี่ชินอยู่วันยังค่ำทว่าเงาร่างของพี่เขากลับแตกต่าง ปีกที่กางออกเหมือนเริงร่าในยามที่ดูดพลังชีวิตของปีศาจหรือภูติผีเหล่านั้นเข้ามา ร่างกายสูงใหญ่น่ากลัว มีเขายาวโค้งจนน่าสะพรึง

ผมตกใจค้างจนมือไม้อ่อนยวบกระเป๋าของผมที่ถืออยู่หล่นดังตุบ!

พร้อมๆกับพี่ชินที่หันมาทางผมด้วยความเร็ว ขวับ!

ชิหองงงงงง....

"อ่ะ เอ่อ..." เหมือนกระแสไฟจากสายตามันสป๊าคยามเมื่อเราจ้องตากัน ผมยิ้มแหยๆก่อนที่จะหันหลังแล้วโกยอ้าวออกมาจากตรงนั้นทันที!

"ไก่!" เสียงทุ้มที่ดังก้องดุดันน่ากลัวจนผมใจสั่น

ไม่หยุดหรอกเว้ย! หยุดก็บ้าแล้ว ผมเพิ่งจะเคยลิ้มรสการหนีตายโดยการหลับหูหลับตาวิ่งสี่คูนร้อยเมตรจนขาขวิดแบบนี้เป็นครั้งแรกล่ะครับ!

ผมควรทำไงดีวะ! พี่ชินจะฆ่าผมหรือเปล่า ทำไมพี่ชินถึงน่ากลัวแบบนั้นแล้วพี่เขาเป็นตัวบ้าอะไร!

แล้วผมก็ฉุกคิดถึงคำพูดของพี่เขาที่เคยถามผม...

ปีศาจ.. ซาตาน... บ้าเถอะ!
 :serius2:









....
เดี๋ยวตอนหน้าก็จบภาคไก่ของตอนนี้เเล้วงับ
:katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 24/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-01-2015 14:20:56
 :hao3:   อ่อ. แบบนี้นี่เอง

ไก่เป็นคนตลกที่จิตแข็งนะ ได้พบเห็นเรื่องน่าทึ่งแต่ยังยิ้มและพูดคุยได้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 24/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-01-2015 14:23:10
อยากเห็นพี่ชินกินตับไก่ มาลุ่นๆเลยอ๊ะ

บอกตรงนะว่าตอนที่ไก่บรรยายว่าเต๋าถูกคิสขย่มนั้นอ่านแล้วเซ็กซี่มากๆทั้งๆที่ไม่ได้บรรยายอะไรมาก

ท่าทางพ่อมดอยากจะล้ำเส้นซาตาน ไหวไหมนะ?
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 24/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 24-01-2015 16:05:42
เจอตัวซาตานแล้ว เย้ งี้ก็ไม่ต้องฆ่าหรอกมั้ง แค่จับไก่เป็นตัวประกันก็พอ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 24/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 24-01-2015 17:11:06
อ่อ เหตุผลที่วิ่งแจ้นไปหาเต๋าเป็นอย่างนี้เอง
และ บวกเป็ดให้ไก่ สำหรับความใจกล้ายืนดู
เหตุการณ์ระทึกขวัญ

ปล. เก็บเสียงไว้รอกรี๊ด ตอนพี่ชินแซ่บไก่
 :L2: :3123:  :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ ชิน-ไก่ - P12 - 24/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-01-2015 19:02:04
ความลับเผย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษจบพาร์ท ชิน-ไก่ - P12 - 29/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 29-01-2015 20:15:25
 :katai4:




DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนพิเศษ
จบพาร์ท ชิน-ไก่






ไอ้พี่ชินเป็นซาตาน ซาตานคือพี่ชิน... แล้วไอ้ซาตานอะไรเนี่ยมันมีอยู่บนโลกจริงๆด้วยหรอวะ?

รู้สึกว่าโลกนี้มันช่างขาวโพลน...

เฮ้ย! แล้วทำไมผมถึงกลับมาอยู่ที่ห้องพี่ชินได้อ่ะ? เมื่อก่อนหน้าผมจำได้ว่าผมวิ่งสู้ฟัดสี่คูณร้อยเมตรหนีพี่เขากระโดดขึ้นพี่วินให้พาแว๊นไปหาไอ้เพื่อนเลิฟเพื่อหวังให้มันช่วยผม แล้วสุดท้ายพี่ชินก็ตามมา แถมยังลากผมออกจากห้องโดยที่ผมยังไม่บอกความลับอันน่าสยดสยองนี่กับไอ้เต๋าเลยนะ!

แต่เดี๋ยวก่อน! แล้วผมมานั่งบื้อทำอะไรในห้องพี่เขากันวะเนี่ย เหมือนความกลัวเมื่อกี้มันยังตามหลอกหลอน คนอย่างไอ้ไก่นั่งสั่นกลัวฉี่จะราดอยู่แล้วล่ะ ผมพยายามที่จะไม่พูดอะไร เพราะลิ้นมันชาแถมกลัวสายตาคมที่กำลังจ้องเหมือนจะแดกผมอยู่นั่น

พี่เขาจะดูดเลือดผมหมดตัวป่าวอ่ะ? แต่พี่เขาไม่ใช่แวมไพร์นี่ หรือพี่เขาจะทำกับผมเหมือนกับคนพวกนั้น ไม่เอานะ! ชีวิตนี้ยังคั่วสาวไม่คุ้มเลย น้องน้ำหวานร้านน้ำหน้าปากซอยหอไอ้เต๋าผมยังม่อไม่ติดเลยนะครับ!

"ไก่" น้ำเสียงเย็นๆเรียกทำเอาผมขนลุกซู่ ค่อยๆชำเลืองสบตาไอ้พี่ชินอย่างช้าๆ สภาพผมนี่เจี๋ยมเจี้ยมสุดๆ อยากจะหนีนะแต่ดูเหมือนว่าห้องจะถูกล็อกอย่างดีแถมไอ้พี่ชินนี่ก็เอาแต่จ้องไม่ยอมไปไหน

"คะ ครับ" กลัวนะเว้ย ผมกลัวจริงๆนะ ขอเถอะออย่าทำอะไรคนอย่างไอ้ไก่เลยเถอะพลีสสส....

"กลัวพี่หรอ"

พยักหน้าหงึกหงักตอบ ไม่กลัวนี่ก็บ้าแล้วว่ะ! มีใครบ้างที่ไม่กลัวถึงจะชอบเรื่องลึกลับสยองขวัญ จิตแข็งดั่งหินผาแต่ก็มีความป๊อดอยู่ในหัวใจนะครับ!

"ไก่เคยบอกว่าไม่กลัวพี่ไง แล้วทำไมถึงกลัวพี่ล่ะ"

โหยพี่ ตอนคุยกันพี่เป็นคนนะเว้ย! แล้วอยู่ๆมากลายเป็นซาตานแบบนี้ไม่ช็อคตายก็บุญแล้วล่ะวะ นี่มานั่งคุยด้วยได้นี่ก็บุญหัวไอ้ไก่มากแล้วนะ!

แต่เหมือนพี่แกจะอ่านความคิดผมออก ใบหน้าหล่อๆค่อยๆยิ้มออกมา "แล้วตอนนี้กลัวมากไหม?"

กลัวมากไหมหรอ? พี่ชินนี่ถามแปลกว่ะ ไม่กลัวนี่เขาเรียกว่าตายด้านนะนี่เป็นคนครับไม่ใช่หมอผี! วู้ว ถามอะไรโง่ๆ

"หึหึ"

พี่แกหัวเราะนี่น่าขนลุกชิบหาย! ผมนั่งหนีบตัวลีบอยู่บนโซฟาแทบจะไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยให้ตายดิ่! ตอนอยู่ที่มหาลัยผมแฮปปี้กับพี่ชินมาก ใช่ผมชอบเขามากมันรู้สึกดีเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมรู้สึกอึดอัดจนไม่อยากอยู่กับพี่เขาเลย

ลมหายใจอุ่นๆทอดถอนออกมาหนักหน่วงอดไม่ได้ที่ผมจะชำเลืองตามอง พี่ชินสีหน้าดูเครียดมากกับผม ซึ่งอันที่จริงตอนนี้พี่เขาก็เป็นพี่ชินอยู่นั่นแหละ เขาเป็นมนุษย์แต่ทว่าสิ่งที่อยู่ข้างในพี่เขานั่นแหละคืออะไรผมยังไม่รู้เลย

"พี่รู้สึกผิดหวังจริงๆ"

หืม?

"ที่ไก่กลัวพี่... แล้วถ้าไก่กลัวพี่แบบนี้ พี่มีความรู้สึกอยากแกล้งขึ้นมาซะแล้วสิ"

"เฮ้ยพี่ มันไม่ดีนาแกล้งผมอ่ะ ใครกลัว? นี่ป่าวกลัวเล้ย! จริงจริ๊ง!" แกล้งทำตาปริบๆใส่เพราะกลัวคำพูดไอ้พี่ชินนี่แหละ พี่แกจะทำอะไรผมวะไอ้ที่ว่าแกล้งเนี่ย!

"จริงหรอ?"

พยักหน้ารัวๆคอแทบจะหัก ถ้าเป็นพี่ชินในร่างนี้ก็โอเคอยู่นะ ยอมเออออไปก่อนแล้วหลังจากหลุดพ้นไปจากสถานการณ์นี้ค่อยว่ากันอีกที บางทีผมอาจจะเข้าวัดเข้าโบสถ์เพื่อหาเครื่องรางอาถรรพ์ ผมเคยดูในหนังนะว่าซาตานกลัวไม้กางเขนกับน้ำมนต์ เดี๋ยวไปให้หลวงพ่อปลุกเสกน้ำ แล้วไปเดินจตุจักรหาไม้กางเขนสักอัน เอาแบบเรื่องแสงมีไฟกระพริบพี่แกน่าจะกลัวอยู่หรอก...

ในขณะที่ผมนะคิดหาวิธีเอาตัวรอด ไอ้พี่ชินที่นั่งมองผมนี่ก็ค่อยๆยิ้มออกมาจนผมรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบไปทั้งร่างเลยให้ตายสิ!

"อืม... ไก่ไม่กลัวพี่จริงๆด้วยสิ"

ใครว่า! ใครบอกล่ะว่านี่ไม่กลัว พี่ดูอาการผมตอนนั่งอยู่ดิ่ หน้าผมแฮปปี้มากเลยหรอนั่งคุยกับซาตานเนี๊ยะ!

"อยากเห็นร่างจริงพี่ไหม?"

ฮึ ส่ายหัวรัวๆ พี่ชินนี่ไม่เข้าใจคำว่าคนกำลังกลัวเลยหรือไงวะ!

"ถ้าอยากเห็น พี่จะบอกอะไรบางอย่างให้เราฟัง แต่ถ้าไม่..." พี่ชินทำหน้าได้จิตมากอ่ะจนเส้นขนผมนี่มันลุกเกรียวตั้งชันไปถึงขนหัว แล้วพี่แกก็แสยะยิ้มก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยียบว่า... "พี่จะกินไก่ซะ"

"พี่! ทำไมพี่ทำแบบนี้ล่ะทั้งๆที่ผมชอบพี่มากนะ" ผมตกใจมากที่ได้ยิน แล้วพี่ชินก็หัวเราะจนตาหยี พี่แกอารมณ์ดีมากที่เห็นอาการตกใจของผมเนี่ย!

ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นยืนจนผมผวาถอยกรูติดกับขอบโซฟาที่อยู่อีกด้านเมื่อพี่แกเดินเข้ามาใกล้ เขานั่งลงข้างๆผมแล้วใช้มือหนาจับมาที่พวงแก้มของผมผะแผ่ว มือพี่ชินเย็นเฉียบราวกับคนตายจนขนลุกซู่ไปทั้งหน้าของผมเลย

กลืนน้ำลายอึกเพื่อข่มความกลัวไม่กล้ามองหน้าพี่ชินที่กำลังจะทำอะไรอะไรบางอย่าง ฝ่ามืออีกข้างโอบอุ้มพวงแก้มของผมให้หันใบหน้ากลับมาหาเขา ผมลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ กลับยิ่งทำให้ผมใจเต้นแรง ดวงตาของพี่ชินมันแดงและวาวโรจน์จนหล่อ...

หล่อจริงๆนะ...

อืม... ก็พี่ชินเขาเป็นคนหล่ออยู่แล้วนี่...

ไอ้บร้าไก่! นี่มึงยังมีเวลามาชื่นชมความหล่อของพี่เขาอีกนะ!

"กลัวอย่างนั้นหรอ?" คำถามเดิมยังคงวนเวียนอยู่เมื่อใจของผมมันเต้นแรงและถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่เต้นนี่มันไม่ใช่อะไร เพราะว่าผมกำลังตื่นเต้นเสียมากกว่าเวลาที่ผมใกล้ชิดเขาผมมันจะเป็นแบบนี้เสมอ แม้จะรู้ว่าพี่ชินไม่ใช่มนุษย์แต่หัวใจของผมมันกลับซื่อตรง... ผมรักเขานะยอมรับเลยก็ได้ว่าตอนแรกน่ะกลัว แต่ตอนนี้พี่ชินก็คือพี่ชินไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เห็น

ผมหลุบสายตาลงต่ำไม่กล้าสบตาเขา ใบหน้ามันเห่อร้อนและแดงซ่านจนน่าตกใจ...

"พี่..." น้ำเสียงเบาหวิวพยายามเค้นออกมาจากลำคอ พี่ชินนิ่งชะงักเพื่อรอผมให้พูดมันออกมา ตอนนี้ผมกำลังสับสนมาก ในเมื่อผมเองรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แล้วพี่ชินล่ะ? ถ้าผมกลัวพี่เขาจนไม่อาจยอมรับเขาได้พี่เขาจะฆ่าผมหรือเปล่า ค่อยๆเงยหน้ามองแล้วถามกลับไป "พี่เคยรักไก่หรือเปล่า"

ซาตานน่ะไม่มีหัวใจ มันคือเรื่องที่ใครๆต่างก็รู้แล้วพี่ชินล่ะ? พี่เขารักผมบ้างหรือเปล่าคำถามนี้มันวนเวียนอยู่ตลอด

พี่ชินค่อยๆยิ้มออกมา "พี่ไม่เคยรักใคร" คำตอบที่ได้มันช่างห่อเหี่ยวหัวใจผมมากจริงๆ "แต่พี่รู้สึกอยากได้ไก่มาครอบครองนะ... ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน" แล้วผมก็ใจเต้นแรงอีกครั้งจากที่รู้สึกผิดหวัง สบตาพี่ชินที่ยังคงจับจ้องผมอยู่

"พี่อยากได้เรามาก... มากเสียว่าตัวพี่ก็เคยคิดอยากพาไก่ลงไปอยู่กับพี่ในดินแดนของพี่ เเม้เรายังคงมีลมหายใจอยู่..."

ผมกลืนน้ำลายอึกฝืดเคืองกับคำเยือกเย็นนั่น หากถามว่ากลัวไหม? ผมกลัวนะกลัวมาก แต่คำว่ารักมันมีมากกว่ากลัวให้ทำยังไงได้ เสียใจไหม? ผมไม่เสียใจเพราะชีวิตนี้ผมไม่เคยมีใครที่ทำให้ผมรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน ผมก้มลงเอาหน้าซุกกับอกพี่เขา ผมเพิ่งจะสังเกตว่าผมไม่ได้ยินเสียงหัวใจของพี่ชินเลย

"ผมไม่กลัวพี่หรอก... ผม... ผ... ผมรักพี่" พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นจนอยากจะร้องไห้ มันอัดแน่นอยู่ในหัวใจมากจริงๆให้ตายสิ!

พี่ชินเขาไม่พูดอะไรกลับมา เขาเงียบอยู่แบบนั้นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ฝ่ามือเย็นชืดนั่นโอบอุ้มใบหน้าให้ผมเงยหน้าอีกครั้งสบตาพี่ชินที่ยกยิ้มบางๆ เป็นยิ้มที่มักจะทำให้ผมรู้สึกดีตลอดเวลาที่ได้เห็น...

"หากวันหนึ่งพี่ไม่ได้อยู่กับเรา ไก่จะเสียใจหรือเปล่า" ผมพยักหน้าตอบเนิบๆ ต้องเสียใจสิ! ไม่เสียใจนี่ก็แปลกมากแล้ว

"ถ้าอย่างนั้นไปอยู่กับพี่ได้ไหม?" พี่ชินถามผมอีกครั้ง มันเป็นคำถามที่ทำให้ผมรู้สึกกลัว

ผมอยากอยู่กับพี่ แต่จะไปอยู่ยังไงล่ะ? พี่ชินจะทำอะไรกับผมอย่างนั้นหรอ ผมไม่เข้าใจหรอกว่าพี่เขาต้องการขออะไร แต่ผมเองก็อยากอยู่กับเขาให้นานที่สุด แต่ทว่าผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว...

"ตอบพี่มาสิ..." พี่เขาพยายามคาดคั้นเอาคำตอบเมื่อเห็นผมเงียบเสียงไป สถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี่มันกดดันผมไม่น้อย ตอนนี้ผมกำลังโลเล คำตอบที่จะตอบไปมันต้องไม่มีผลกระทบอะไรสักอย่างของชีวิต ผม... กำลังยกหัวใจให้ซาตานหรือเนี่ย...

"ผมไม่รู้..."

พี่ชินเงียบเหมือนอึ้งในคำตอบ ผมชำเลืองตามองพี่เขาที่ไม่ได้ฉายแววอะไรเลย พี่ชินถอนลมหายใจเฮือกเหมือนเหนื่อยมาก่อนจะพยักหน้าเนิบๆแล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง "พี่พอจะรู้แล้วล่ะ... ถึงไก่จะตอบพี่ไม่ได้แต่พี่เชื่อว่า... อีกไม่นานหรอกไก่จะต้องอยู่กับพี่"

ผมก้มหน้างุดหัวใจมันเต้นแรงมากผิดกับคนตรงหน้า นิ้วแกร่งเชยคางผมขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะก้มจุมพิตผมผะแผ่ว สมองของผมมันขาวโพลนไปหมดเวลาที่ริมฝีปากของพี่ชินแตะลงมาเบาๆ ดวงตาของผมหลับพริ้มลงอย่างช้าๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของผมมันวูบไหวแปลกๆ...

"พี่..." ครางเรียกพี่ชินเบาๆเมื่อตกใจในสิ่งที่ผมเห็น ร่างของผมนอนอยู่บนเตียงของพี่ชินเมื่อไรไม่รู้ร่างกายของผมกับพี่เขาไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น

มะ มันไม่เร็วไปหน่อยหรอ!

"พี่ทนมานานแล้วไก่"

ฮะ? ทน ทนไรอ่ะ นี่อย่าบอกนะคิดจะกินผมมานานแล้ว!

สายตากรุ้มกริ่มพร้อมๆกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่ชินมันทำให้ผมใจเต้นแรง มองเห็นกล้ามเนื้อสัดส่วนของร่างกายที่อยู่ตรงหน้ามันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขิน พี่ชินนี่หุ่นดีว่ะ! มันดีมากจนผมอดไม่ได้ที่จะมองอยู่แบบนี้ คิ้วเรียวของเขาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าผมข้องใจอะไร แต่ผมกลับหน้าแดงเห่อร้อนจนไม่กล้าที่จะมองหน้าพี่แกเลย!

"ไก่..." เสียงทุ้มนุ่มหูกระซิบเรียก ผมค่อยๆเบือนสายตากลับมาอีกครั้ง มองร่างสูงที่เข้าคืบคลานเข้าหา ริมฝีปากจูบไปตามขมับข้างไล่ลงไปตามแก้มจรดสันคางจนรู้สึกสยิว มือหนาลูบไปตามแผ่นอกจนรู้สึกขนลุก ริมฝีปากกดจูบดูดเม้มจนผมรู้สึกเจ็บ

รู้สึกเคลิ้มเวลาที่ลมหายใจอุ่นๆไล่ไปตามร่างกายของผมผะแผ่ว โอบกอดรอบลำคอพี่ชินที่กำลังสำรวจร่างกาย เวลาที่ลิ้นเย็นๆวนเวียนอยู่ที่หัวนมมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียววาบจนเผลอคราง ก่อนจะลืมตาขึ้นอึกครั้งเมื่อได้ยินเสียง พรึบ!

อึก!

สิ่งที่ผมเห็นมันทำให้ผมตาค้างใจเต้นแรงระทึก เมื่อร่างของพี่ชินเปลี่ยนไป แม้ใบหน้ายังคงเป็นพี่ชายที่แสนใจดี ทว่าเขาที่งอกยาวแทรกกลุ่มผม ดวงตาสีแดงสดดั่งทับทิม ปีกขนนกสีดำที่กางสยายนั่นมันทำให้ผมตกตะลึง!

"พะ พี่..."

"หืม"

แม่งโครตเท่เลยอ่ะ!

ผมคิดด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพที่โคตรวิเศษ ทั้งๆที่คิดว่าร่างจริงของซาตานจะน่ากลัว แต่ไอ้พี่ชินนี่ให้ความรู้สึกเหมือนดึงผมเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีมากกว่า

พี่ชินหัวเราะครืนเมื่อเห็นอาการของผม เขาอ่านใจผมออกหรือเปล่าวะ? ถ้าอ่านใจได้ผมนี่โคตรอายเลย เพราะตอนนี้คิดว่าพี่ชินน่ะเท่ห์และเซะซี่ที่สุดจนผมใจเต้นแรงแทบทะลุ

ร่างของผมถูกฉุดดึงให้ลุกขึ้นมา วงแขนแกร่งโอบกอดเอวของผมโดยที่เราจ้องตากัน ปีกพี่ชินโอบรอบลำตัวของพวกเราเอาไว้ราวกับปิดกั้นให้เราอยู่ภายในโลกที่มืดมิดเพียงลำพัง...

"เรียกชื่อพี่สิ" น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบ พลางคลอเคลียอยู่ที่ข้างหูจนมันเสียวขนลุกซู่ไปทั้งร่าง

คำขอนั่นมันทำให้ผมคล้อยตาม เรียกชื่อพี่ชินครางกระเส่า... "อืมมมมม.... พี่ชิน"

ลิ้นร้อนๆฉกฉวยริมฝีปาก ดูดดันแลกลิ้นกันอย่างกระหาย ตอนนี้ผมหน้ามืดตามัวจนไม่คิดอะไรเลยสักอย่าง รู้แต่เพียงว่าผมต้องการเขา ร่างกายมันตอบสนองจนไม่อาจเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองได้

เวลาที่มือใหญ่ๆจับมาที่ท่อนกาย ร่างผมมันก็กระตุกเกร็งจนต้องนิ่วหน้า มือที่ขยับรูดคลึงอย่างช้าๆเป็นตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายของผมมันร้อนรนดังไฟสุม ร่างแกร่งที่ซ้อนทับอยู่ข้างหลังยิ่งเติมเชื้อไฟให้อารมณ์พลุกพล่าน ผมเอี้ยวตัวจูบแลกลิ้นกับพี่ชินเพื่อดื่มด่ำ พร้อมๆกับมือของพี่เขาที่กำลังปรนเปรอ เหมือนร่างกายมันกำลังถูกบดขยี้ด้วยน้ำมือของซาตานตนนี้...

"อา พี่ชิน พี่.... ไก่" รู้สึกเจ็บและสยิวกิ้วเวลาที่ท่อนลำแกร่งของพี่ชิดกำลังเบียดเสียดเข้ามาในช่องทางที่คับแคบ วงแขนของพี่เขาพยายามโอบกอดผมเอาไว้ พร้อมกับจูบซับน้ำตาเพื่อปลอบประโลมร่างกาย

"อืม... ไก่" เสียงเรียกชื่อมันยิ่งชวนให้ผมรู้สึกเคลิบเคลิ้ม จากความเจ็บกลายเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ มันรู้สึกดีจนครางออกมาเวลาที่พี่ชินกำลังขยับมันเข้าออกอย่างช้าๆ

ริมฝีปากขบเม้มไปตามร่างกายจนมันขึ้นสีไปตามจุด ริมฝีปากจูบตามแผ่นหลังในขณะที่พี่ชินเร่งจังหวะกระแทกเข้ามาจนสุด และดึงออกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของผมมันเหยเกและครางด้วยความกระเส่า ยึดปีกพี่เขาเป็นที่ยึดเหนี่ยวกับความเสียวซ่านที่อยู่ภายใน

ขาข้างหนึ่งถูกยกพาดบ่าก่อนที่เขาจะสวนท่อนกายเขามาจนผมสะท้าน กรีดร้องด้วยความกระสันจนท่อนกายของผมเองมันปริ่มน้ำจนแทบจะระเบิด ปรือดวงตามองร่างสูงที่กำลังขยับร่างกาย รอยยิ้มบางๆผุดยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลาจนผมเผลอใจเต้นแรง
ร่างของพี่ชินโน้มเข้าหาฉกฉวยริมฝีปากอุ่นๆ ผมโอบกอดรอบลำคอแกร่งเมื่อพี่ชินพยายามที่จะเร่งจังหวะรัก ผมครางอยู่ในลำคอจนแทบอยากจะบ้า มันรู้สึกดีมากจนน้ำตาคลอ มือแกร่งยิ่งบีบเค้นคลึงเพื่อช่วยทำให้ผมรู้สึกดีและเสียวซ่านไปด้วย

กอดพี่เขาไว้เมื่ออกของผมมันอัดแน่นร่างกายเหมือนจะแตกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ พี่ชินพรมจูบไปตามใบหน้าเมื่อเขาเองกำลังจะถึงขีดสุดของร่างกาย ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของผม แลกลิ้นดุดันพร้อมๆกับท่อนกายที่สวนเข้ามา...

พี่ชิน พี่ชิน... พี่ชิน....

เอ่ยเรียกอยู่แบบนั้นเหมือนชีวิตนี้ผมมีเพียงแค่เขา สมองมันขาวโพลนไปกับความรู้สึกดีนั่นจนหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ราวกับว่าร่างของผมต้องการเขามาก แม้แต่หัวใจยังร่ำร้องพร่ำเรียกหาไม่หยุด

รอยยิ้มบางๆอบอุ่นที่เห็นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกดี ผมชอบเขา ชอบรอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ แม้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดแต่กลับรักจนไม่อาจถอนตัวขึ้นมาได้...

รัก... อย่างนั้นหรอ?

นี่ผมหลงรักซาตานอย่างนั้นหรอ?

ผมควรที่จะกลัวแต่กลับยอมรับเข้ามาเต็มความรู้สึกและหัวใจ ผมรักเขามันคือสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้จนอยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา พี่ชินคือผู้ชายที่ทำให้ผมรู้สึกดีที่สุดเลยก็ว่าได้...

ระหว่างชีวิตมนุษย์ธรรมดา กับการเป็นคนรักของซาตานอะไรมันจะดีกว่ากันล่ะ?

แต่ผมไม่รู้หรอกว่าหากผมตอบที่จะอยู่กับพี่ชินไปทั้งอย่างนั้น แล้วหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่รู้เลย..

แต่ในนาทีนี้ผมอยากใช้เวลาที่มีความสุขอยู่กับพี่ชินไปแบบนี้ให้เนิ่นนานที่สุด...

"ฮึก! พี่ ชะ  ชิน ผม..."

ผมรักพี่....

"อะอา..."

เสียงครางที่กลบกลืนคำว่ารักมันฟังดูเสียวซาบซ่านดีแท้ พี่ชินกระตุกเกร็งทาบทับร่างกายของผม เมื่อผมและเขาปลดปล่อยน้ำขาวข้นออกมา พี่ชินชันแขนมองผมที่นอนหอบหายใจหนักด้วยความเหนื่อยล้า รอยยิ้มอ่อนโยนพร้อมๆกับริมฝีปากที่ประทับจูบลงมามันพาลให้ผมรู้สึกเหนื่อย...

ผมค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆราวกับว่าร่างกายมันกำลังล่องลอยอยู่บนปุยนุ่น สติเกือบจะดับสิ้นแต่กลับรับรู้ความเคลื่อนไหวของร่างสูงที่ทาบทับ ก่อนที่ผมจะเผลอหลับไปนั้น ผมได้ยินคำกระซิบคำหนึ่งผะแผ่ว...

"ไก่ต้องเป็นของพี่... แม้กระทั่งชีวิต" ก่อนที่จะรู้สึกถึงรสจูบที่ดื่มด่ำหอมหวานไม่มีวันจบสิ้น...

เป็นของพี่... แม้กระทั่งชีวิตอย่างนั้นหรอ? ผม... รู้สึกดีจัง....

ไก่รักพี่ชินนะ...









.....


 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษจบพาร์ท ชิน-ไก่ - P12 - 29/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-01-2015 20:34:16
พี่ชินกินไก่เป็นๆแต่ตอนจะเอาไปอยู่ด้วยนี่ต้องฆ่ารึเปล่า พี่ชินอย่าใจร้ายสิ  :katai1: 
แล้วคริสกับเต๋าจะเป็นไงต่อไปล่ะเนี่ย ลุ้นๆ

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :mew1: 
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษจบพาร์ท ชิน-ไก่ - P12 - 29/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 29-01-2015 21:21:00
ชอบคู่นี้อ่ะ พี่ชิน:อยากกินไก่ 555
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษจบพาร์ท ชิน-ไก่ - P12 - 29/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 29-01-2015 22:01:01
ไก่ตรงกว่าที่คิดนะ ชอบก็คือชอบ
ไม่ต้องแปล
นี่ได่จะได้ไปเป็นจอมนายของซาตานหรือเปล่าเนี่ย?
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษจบพาร์ท ชิน-ไก่ - P12 - 29/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 29-01-2015 22:16:46
ซาตานชินกินไก่ โฮ้วววววว แซ่บ  :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษจบพาร์ท ชิน-ไก่ - P12 - 29/1/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 30-01-2015 09:23:55
เหอะๆแล้วจะเอาไปอยู่ยังไงนี่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 04-02-2015 11:41:19
 :katai4:
ขออภัยที่หายไปนาน...  :ling1:



DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
25


แปะ.... แปะ...

เสียงตบพุงพลางเกาแกรกๆในขณะที่ผมกับคริสกำลังสวีทวิดวิ้วดูหนังพลางหม่ำขนมไปด้วย มันเป็นอะไรที่โคตรจะมีความสุขแต่อาจจะทุกข์ทีหลังจากนี้เพราะอ้วนลงพุงนี่แหละ หลังจากที่ไอ้พี่ชินทิ้งระเบิดความสงสัยเอาไว้ผมก็เลยไม่กล้าที่จะออกไปไหนนอกจากนอนเล่นอยู่ในห้องกับดอลฟี่ตัวโตที่ผมกำลังนอนซุกอยู่ในตัวมันนั่นล่ะครับ

"นี่" เรียกคริสที่หลับตาอยู่ส่วนผมก็ล้วงขนมกินไปสิ

"อืม..."

"เมื่อวานที่พี่ชินพูดอ่ะ นายรู้ปะว่ามันหมายความว่าไง"

คริสลืมตามองผมแล้วยิ้มบางๆ "คงเป็นห่วงนั่นแหละ"

"มันต้องมีมากกว่านั้นดิ่ ร้อยวันพันปีไม่เคยห่วงอย่าว่าแต่คำเตือนอะไรนั่นเลยพี่ชินยังเคยพูดเรื่องขอพร"

"พร... อย่างนั้นหรอ แล้วยังไงล่ะ"

"ก็แล้วยังไงล่ะเว้ย! ก็เหมือนพี่เขาพยายามจะบอกอะไรสักอย่างแต่ดันเล่นตัว แล้วตกลงพี่เขาเป็นตัวอะไรกันแน่วะ" ความสงสัยนี่เต็มหัวไปหมด

"ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก" มันปลอบผมแบบนั้นแล้วมันก็ยิ้มเหมือนไม่มีอะไรต้องกลัวจริงๆ แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอวะ?

"มีอะไรที่ไม่บอกกูเปล่าเนี่ย" จ้องตาแบบจับผิดสุดๆ แต่อย่าหวังว่าจะได้ความจริงจากไอ้ตุ๊ตาบ้านี่ในเมื่อหน้ามันพิมพ์เดียวคือรอยยิ้มกวนๆนั่นแหละ บางทีก็รู้สึกหมั่นไส้นะ

"มี" นั่นไง!

"อะไร บอกมาเลย!" รู้สึกหูผึ่งจนต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่งรอให้หมีที่นอนอยู่พูดมันออกมา รู้สึกดวงตาตัวเองเป็นประกายวิบวับยังไงชอบกล แต่พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมันช่างไม่แน่ใจแล้วสิว่าที่ถามไปน่ะดีแล้วหรอ

"ก็..." มันกรอกตาไปมา ผมก็รอมันอย่างใจจดใจจ่อ "ลืมบอกรักเต๋าไง"

อึก!

"ทำไมต้องตกใจล่ะ?"

ไม่ได้ตกใจเว้ย! แต่มัน... มัน มันอะไรดีล่ะ มันดีใจต่างหากดีใจจนอึ้งมากกว่า เมื่อกี้มันพูดว่าไรนะ! "เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะคริส"

"หืม?"

"ก็ที่บอกมาน่ะ พูดออกมาใหม่สิ" รู้สึกหัวใจพองโตลิงโลดอย่างแปลกประหลาด ถ้าพูดออกมาอีกครั้งผมจะกระโดดจับฟัดจริงๆให้ตายสิ ทำไมดอลฟี่ผมน่ารักแบบนี้วะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกรักผม ในเมื่อคำนั้นมันไม่ควรออกมาจากปากของดอลฟี่ที่ไร้หัวใจคนนี้เลย

 คริสจุดยิ้มที่มุมปากสบตาผมเหมือนกำลังจะพูด ผมรอคอยอย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่ง... "ยอมให้กินก่อนสิ"

"ไอ้บ้า!" ทุบอกมันไปทีดังตุบ! แต่อย่าคิดว่ามันจะเจ็บครับ ไม่เลยมีแต่ไอ้เต๋านี่แหละที่เจ็บแทน...

 เจ็บโว้ยยยยยยยย!!!! ลืมไปว่าตัวมันแข็งพยายามสะบัดมือไล่ความเจ็บน้ำตาเล็ด ไอ้คนที่ทำผมเจ็บก็รีบลุกขึ้นแล้วคว้ามือของผมไปดู มันแดงมากตามข้อนิ้ว คริสย่นคิ้วเข้าหากันแน่นก่อนจะใช้พลังทำให้ความเจ็บปวดนั่นหายไป

"โกรธหรอ?"

อ้าวไอ้นี่ มันแกล้งบื้อหรือบื้อจริงๆวะ มันก็ต้องโกรธเซ่! มาแกล้งกันแบบนี้ ผมเบะปากใส่มันแล้วกลับไปนอนดูหนังต่อ แต่จริงๆก็ไม่ได้โกรธอะไรมากหรอกมันดีใจมากกว่าถึงแม้ว่าคำๆนั้นมันจะหลุดออกมาแค่นิดเดียวเท่านั้น

"เต๋า" เหล่ไปมองมัน "อย่าโกรธเลยนะถ้าเจ้านายโกรธคริส..."

"เลิกพูดเรื่องเจ้านายเถอะน่า" รู้สึกไม่ชอบเลยความสัมพันธ์แบบนี้ ขอแค่เวลานี้ผมอยู่กับเขาก็พอ จริงๆแล้วผมลืมไอ้เรื่องขอพรที่เหลือไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่ได้สนใจเรื่องซาตานหรือแม้แต่พ่อมดอะไรนั่นเลย

"ขอโทษ" แอบมองสีหน้าที่เจื่อนลง มันหงอยชอบกลให้ตายสิ!

"อะๆ ไม่ได้โกรธสักหน่อย มาใกล้ๆนี่สิ" กระดิกนิ้วให้มันโน้มหน้ามาหา คริสมันก็ทำตามอย่างว่าง่าย ผมยิ้มที่มุมปากบางๆก่อนจะโน้มจมูกกดไปที่แก้มของเขาเบาๆ ก่อนที่ตัวเองจะผลุบตัวเข้าผ้าห่ม คริสดูตกใจมากก่อนที่เขาจะยิ้มกว้าง เป็นยิ้มที่โคตรหล่อมากเลยล่ะถ้าดูจากรอยยิ้มที่แล้วๆมา มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขิน

ร่างสูงขยับลงมาแล้วนอนกอดผมไว้ ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรสายตาจับจ้องไปที่จอคอมที่เปิดหนังอยู่ แต่ตัวของผมกลับเกร็งมากเวลาที่เขาสวมกอดเอาไว้ มันอบอุ่นและหัวใจพองโต จนอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆเลยล่ะ

"รู้อะไรไหม?" คริสกระซิบคุยเสียงเบา แต่มันกลับก้องอยู่ในหัวของผม "เต๋าคือคนที่ทำให้คริสรู้สึกดีมาก ความเป็นตุ๊กตาที่ค่อยๆกลับมาเป็นคน... ตอนนี้คริสรู้แล้วล่ะว่าคำว่ารักเป็นยังไง"

ย๊ากกกกกกกก!!! นี่มันจะทำให้ผมบ้าตายใช่ไหมเนี่ย!

"ฉันก็รู้สึกเหมือนนายนั่นล่ะน่า" ผมตอบกลับไปเสียงแผ่ว กลับได้ยินเสียงหัวเราะครืนเมื่อมันเห็นผมที่เบะปากใส่ ไม่นานนักผมกับเขาก็เงียบเสียงกันไปเพื่อตั้งใจดูหนังสักทีเพราะตอนนี้ดูไม่รู้เรื่องเลย ดูเหมือนคริสกำลังจะหลับไปอีกแล้วผมเลยค่อยๆเงยหน้ามอง...

เวลาที่ดวงตาหลับพริ้มแบบนี้เหมือนเวลามันถูกหยุดลง ผมกับเขาเรานอนด้วยกันแบบนี้มานานแสนนาน นี่ก็เข้าเดือนที่สามแล้วล่ะที่เราอยู่ด้วยกัน แม้ว่ามันไม่มากสำหรับใครหลายๆคนแต่สำหรับผมมันเยอะมาก มากเสียจนสุขจนล้นถ้าให้บอกความรู้สึกออกมามันคงพูดไม่หมด แต่สิ่งที่ผมรู้คือผมรักเขามาก มากเสียงจนคิดว่า... ถ้าวันหนึ่งเขาไปจากผมๆคงหมดแรงที่เดินไปข้างหน้าอย่างแน่นอน...



RRRRRRrrrrrrrrr

เสียงมือถือที่ดังแทนนาฬิกาปลุกทำให้ผมรู้สึกรำคาญ แต่ก็ต้องคลานออกมาจากผ้าห่มเพื่อหยิบมือถือ รับสายของไอ้คนไร้มารยาทที่โทรมา นี่มันเพิ่งจะแปดโมงนะเว้ย! โทรมาทำไมแต่เช้าวะเนี่ย!

"มึงจะเอากี่โหลสัด โทรมาทำไมตอนแปดโมงนี่ยังเช้าอยู่เลย" ไม่รู้ว่าใครโทรมานี่ด่าไว้ก่อนมันหงุดหงิดโว้ย!

"ตื่นมาก็เกรียนแตกเลยนะมึง วันนี้จะมากินเลี้ยงวันเกิดกูไหมเนี่ยเมื่อวานก็ไม่ยอมเข้าซุ้มไอ้ตูด" ไอ้แบคนี่หว่า เสียงมันนี่กวนตรีนชิบหาย

"มึงสิตูดไอ้หมา" ด่ามันกลับแบบไม่ยอม ไอ้แบคมันเราะชอบใจไอ้นี่มันโรคจิตชอบให้คนเขาด่ามัน

"ตกลงมึงจะมาไหมเนี่ยกูรอมึงคนเดียวเลยนะเว้ย! ไม่มากูงอนนะเอา อย่าให้เจอที่ซุ้มไม่งั้นกูปล่อยไอ้ด่างไล่ฟัดมึงแน่"

"เออ เก่งนักนะมึงมีหมาเป็นพวกเนี่ย" เหน็บมันไปทีก่อนที่จะวางสายลง กะว่าจะไม่ไปไหนแล้วนะเนี่ยยังอุตส่าห์มีเรื่องให้ออกจากที่กบดาล ผมถอนลมหายใจด้วยความเหนื่อย  จะไม่ไปก็ไม่ได้...

หันไปมองคริสที่ยังคงหลับอยู่ หมอนั่นมันกินแล้วก็นอนแต่ไม่เห็นจะอ้วนบ้างวะนี่โคตรอิจฉา ผมขยับตัวไปทางมันแล้วเขย่าเรียกเบาๆ "คริสๆ" เจ้าตัวแค่คราง "อืม" มาเบาๆ ผมเลยบอกมัน

"วันนี้เข้ามหาลัยนะ อยู่ห้องอย่าไปไหนล่ะ" แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ฟังเลยด้วยซ้ำ อะไรวะเมื่อคืนมันน่าจะเป็นผมมากกว่ามั้งที่จะต้องนอนหมดเรี่ยวแรงแบบนั้นในเมื่อผมเป็นคนถูกกระทำ หมอนั่นมันแค่กินอย่างเดียวแต่กลับนอนเป็นหมีขั้วโลก แต่เห็นหน้าหล่อๆซุกอยู่ในผ้าห่มนี่ก็น่ารักดี ผมจุ๊บไปที่แก้มมันเบาๆก่อนจะผละออกมาเพื่อเข้าไปอาบน้ำ

วันนี้ขอเกเรซักวันคงไม่เป็นอะไรมั้ง...



"เอ้าชน!!!"

เสียงแก้วกระทบเข้าหากันโช้งเช้งประหนึ่งกำลังประลองยุทธ์ศึกดวนเหล้าภายในหอชายของไอ้หมาแบค เมื่อคำว่าเพื่อนมันค้ำคอคนอย่างไอ้เต๋า กระผมเลยต้องระเห็จออกมาจากที่กบดาลหลังจากที่นอนอืดเป็นหมูแช่แข็งอยู่คริสในห้องได้แค่หนึ่งวันเท่านั้น

คำเตือนพี่ชินมันก็แหม่งๆอยู่หรอกนะ แล้วผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยด้วย แต่มาคิดๆดู นั่งคิด นอนคิด เอาเท้าก่ายหน้าผากคิดจึงระลึกขึ้นได้ ว่าปีศาจหรือภูติผีทั้งหลายมันไม่เล่นงานตอนที่มีคนอยู่มากๆนี่หว่า

แต่อย่างว่าล่ะ เรื่องก๊งเรื่องใหญ่ เรื่องโดนพ่อมดไล่ล่านี่เรื่องเล็กเท่าขี้มด แถมคริสไม่รู้ด้วยว่าผมมาดื่มเหล้าเลี้ยงวันเกิดที่หอไอ้แบค กะเอาไว้ว่าซักสองสามทุ่มเดี๋ยวค่อยชวนไอ้ไก่มันกลับห้องมันบอกว่ามันกำลังเดินทางมา พอมันมาถึงปุ๊บ ก็อ้อนมันให้ส่งกลับหอตัวเองปั๊บ ไอ้เพื่อนมันใจดีจะตายมันไม่ว่าอะไรผมหรอกเชื่อดี๊!

"นี่ขาดไอ้ไก่ไอ้ส้มกับพี่ชินเลยนะเนี่ย พวกเขาจะมากันไหมอ่ะพี่" ไอ้แอมมันหันไปถามพี่โอที่กำลังคอยบริการพวกผมอยู่

"เดี๋ยวก็มาล่ะ เห็นบอกว่ารถติด" พอพี่แกบอกไอ้แอมเสร็จก็เดินมานั่งลงข้างๆผม ตอนนี้พวกมันเปิดหนังดูกันไปด้วยคุยกันเฉยๆก็น่าเบื่อเกินไป

"เป็นไงเราทำหน้าเหมือนไม่สนุก"

หืม?

หันไปทางพี่โอที่ถามผมยิ้มๆ หน้าแกโคตรมีความสุขอ่ะ "เปล่าหรอกพี่ เป็นห่วงไอ้ไก่มันเฉยๆกลัวมันมาไม่ถึง" อันที่จริงนี่อยากกลับบ้านแล้วล่ะพอเลิกเรียนเสร็จก็พากันมาที่ห้องพี่โอกันเลย ไอ้พวกนี้มันกินกันตั้งแต่ฟ้าไม่มืดโคตรมาราทอน แต่ไอ้พี่โอที่ก็แซะเกิ๊น ถ้าพี่แกไม่ทำให้ผมรู้สึกขยาดตั้งแต่ตอนที่บอกชอบผมอาจจะไม่คิดอะไรนะ แต่ตอนนี้มันน่าขนลุกชิบหายเลย แต่ก็ดีมีคนคอยชงเหล้าให้ไอ้เต๋าก็ไม่ขัดหรอก

"เดี๋ยวก็มาน่า ห่วงจังเลยนะแฟนน่ะ"

พรูดดดดดด!!!!

"อีเต๋าเล่นเหี้ยอะไรวะเนี่ยสกปรกว่ะ ยี๊!"

"เออๆกูขอโทษ" หันไปยิ้มแหยๆให้อีแคทที่โดนสะเก็ดน้ำพุแอลกอฮอล์ที่พ่นมาจาก ปาดน้ำเมาที่ไหลย้อยไปตามคางแล้วหันมาทางพี่โอที่เลิกคิ้วทำหน้างงๆในอาการ

"เป็นอะไรน่ะเรา"

ยิ้มแหยๆ "ปะ เปล่าพี่" แล้วหันกลับมาจิบเหล้าต่อ มาพูดคำว่าแฟนกับไอ้ไก่ผมนี่ขนลุกมากกว่าอีก แต่พี่โอก็นึกว่าผมคบกับมันนี่หว่า ไอ้เต๋าสติหน่อยมึงเดี๋ยวเขาก็รู้กันหมด

แต่หน้าผมมันคงเป็นอย่างพี่แกว่านั่นแหละ จะไปสนุกอะไรวะในเมื่อผมกำลังกังวลว่าคริสมันจะเป็นห่วง ตอนแรกก็ลั้นลาอยู่หรอกมากินเลี้ยงวันเกิดไอ้แบคเนี่ย แต่มาตอนนี้ผมกำลังรู้สึกผิดมากกว่าที่มา

มองไปรอบๆตอนนี้ประชากรซุ้มค่อนข้างเยอะ มีทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จักส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนไอ้แบคกับเพื่อนพี่โอนั่นแหละ ส่วนที่ผมรู้จักไม่ค่อยมีเท่าไรมันเลยทำให้ผมรู้สึกกร่อย แถมในห้องคนก็เยอะแยะไปหมดจนน่าอึดอัด

ผมพยายามที่จะชวนพวกไอ้แคทมันคุยเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลาไอ้ไก่มันมา แถมเลี่ยงไม่คุยกับพี่โอด้วยเพราะมันรู้สึกเกร็งๆยังไงไม่รู้ ผมแอบเห็นสายตาของพี่แกที่มองผมแล้วมันเยิ้มๆจนน่ากลัว แถมยิ่งเวลาผ่านไปน้ำเมาที่เข้าปากนี่ก็ทำให้ผมเริ่มควบคุมสติไม่ค่อยได้เท่าไร มีไรก็พูดออกมาหมดน้ำไหลไฟดับก็กูจะคุยอ่ะ นี่แหละนิสัยเสียอีกอย่าง

"ตกลงไก่กับเต๋านี่คบกันหรือเปล่า" ไอ้พี่โอนี่ถามอีกและ ก็บอกแล้วไงว่าคบกัน!

"รายพี่.... มันอ่ะ เป็นเมียโผมมมมมม" เสียงนี่ก็ยานได้อีกแถมลิ้นยังหนักๆด้วย

"แต่... พี่รู้สึกว่าไม่ใช่นะ เต๋าไม่ชอบพี่ก็เลยหาข้ออ้างใช่ไหม"

เอ๊ะ! ไอ้พี่โอนี่พูดภาษาเต๋าไม่รู้เรื่องเดี๋ยวเจอ

"@#%$^^(&(*__++_+_+_..." เกรียนใส่แม่มซะเลย

ไอ้พี่โอมันทำหน้าอึ้งๆก่อนจะป้องปากหัวเราะครืน เฮ้ย! มีไรน่าขำวะ? ขำมากมาไฟว์กันดีกว่ามา!

"เฮยยยยยยย สาดดดเต๋า เอ้าโชนนนนน" อีแคทนี่ก็เรียกชนจังกูจะไฟว์! เอ้ามา! ชนก็ชน

"เอ้า! แก้วนี้สำหรับมิตรภาพเชี่ยแบค" แล้วพวกมันก็ยกแก้วชนกันเสียงดังอีกรอบ ผมก็ดื่มมันหมดแก้วนั่นล่ะ แต่ก็เหลือบมองนาฬิกาไปด้วย

ชิบหาย!

นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนี่หว่า ผมเหลือกตาแทบสร่างเมาเมื่อเห็นนาฬิกาแขวนที่บอกเวลาว่าดึกมากแล้ว แต่ไอ้ไก่ก็ยังไม่มาผมหันไปรอบๆอีกทีเผื่อมันจะมาแล้วอาจจะซุ่มอยู่ แต่ก็ไร้วี่แวว

"มองหาอะไรล่ะเรา" พี่โอถามเมื่อเห็นอาการ

"ไอ้ไก๋มันมาหยังอ่าพี่"

"พี่ยังไม่เห็นนะ"

อ้าวไอ้เพื่อนเลว นี่เบี้ยวไม่มาหรอกสาดดดดด ต้องโทรตามเดี๋ยวก่อนๆ "เดี๋ยวผมมานะไปโทรตามมันก่อน" ผมบอกพี่โอก่อนจะลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซมาที่ระเบียงเพื่อรับลม โทรหาไอ้ไก่เผื่อว่ามันจะลืมผมไปแล้ว ไอ้เพื่อนนี่ใช้ไม่ได้ มันไม่มาแทนที่จะบอกผมเอาไว้ก่อน แต่พอโทรไปหาสายของมันกลับไม่ว่างมีแต่ฝากข้อความอย่างเดียวผมนี่หัวเสียเลย

"แล้วจะกลับห้องยังไงวะเนี่ย" ยีหัวตัวเองด้วยอาการมึนตื้อ หรือว่าจะให้คริสมาหาวะหมอนั่นบอกว่าเวลาที่คิดถึงมันจะมา แต่ผมไม่กล้าเรียกหาอ่ะกลัวโดนหมอนั่นแยกเขี้ยวใส่ แต่กลับห้องด้วยสภาพแบบนี้มันก็ไม่ต่างกันเลยนี่หว่า...

ไอ้ไก่นะไอ้ไก่เพราะมันเลย!

มันคงไม่มีทางเลือกแล้ว ภาพคนผียังติดตาติดใจฝังลึกเข้าไปยันปอด ตอนนี้อยู่ในอาการปอดแหกไม่กล้าออกไปไหนมาไหนกลางค่ำกลางคืนแล้วล่ะ แต่ทำไมเวลามากูไม่คิดวะให้ตายดิ่!

คริสจ๋า... มารับหน่อย...

น้ำเสียงในความคิดนี่โคตรยานคาง พยายามเรียกแบบอ้อนๆให้โดนบ่นได้น้อยที่สุด แต่พอคิดถึงแล้วก็เงียบกริบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักอย่าง

คริส...

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...

ทำไมไม่เห็นเหมือนอีตอนที่คิดถึงเมื่อครั้งที่แล้วๆมาวะ ปกติหมอนั่นจะมาเสนอหน้าในร่างมนุษย์เลยนี่หว่า แอบชะเง้อคอมองผ่านบานกระจกเลื่อนไปทางหน้าประตูแต่ก็เงียบกริบ ไม่เห็นมีใครออกไปรับแขกหรือมีใครหน้าใหม่เข้ามาเลย ถอนลมหายใจเฮือกก่อนจะมองไปรอบๆเมืองกรุงที่วุ่นวาย สายลมเอื่อยๆนี่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายมาก ตอนนี้ก็เกือบจะหายเมาแล้วล่ะ

สงสัยคงได้นอนค้างที่นี่แน่ๆ...

 ไอ้คริสบ้า ไอ้ตุ๊กตาบ้า ไหนบอกว่าคิดถึงเมื่อไรจะมาหายังไงล่ะ นี่เรียกหาเท่าไรก็ไม่เห็นจะหืออือตอบกลับมาเลย หรือว่ามันกำลังโกรธผมที่ไม่ยอมบอกก่อนว่าจะไปไหน...

รู้สึกผิดจริงๆนะเนี่ย...

ช่างเถอะ...

ผมกลับเข้ามาข้างในอีกครั้งแต่กลับได้กลิ่นตุ่ยๆ มันมีบางอย่างผิดปรกติ...

"ไรวะน็อคกันหมดเลย" กวาดสายตามองไปรอบๆห้องที่ตอนนี้เพื่อนๆผมมันนอนหมดสภาพไม่มีใครเลยที่ยังคงนั่นก๊งเหล้ากันอยู่ ขนาดพี่โจที่ว่าคอแข็งๆทำไมถึงลงไปนอนกองอยู่ตรงนั้นวะ เฮ้ย! นี่เพิ่งจะสี่ทุ่มกว่าๆเองนะทำไมคอแป๊บกันแบบนี้ว๊า! ไม่เข้าใจเว้ย

"เต๋า!" เสียงเรียกของพี่โอที่ดังอยู่ในห้องน้ำทำให้ผมตกใจจนต้องรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นพี่แกกอดคอห่านเหมือนกำลังอวกแตกอยู่เลยเข้าไปหวังดีจะลูบๆให้ แต่เพียงแค่ยืนอยู่ข้างๆเท่านั้นไอ้พี่โอมันคว้าขอมือของผมหมับ! ก่อนจะทุ่มผมให้ลงไปนั่งที่ชักโครกดังตุบ!

"อัก!" เชี่ยก้นกู...

"เฮ้ย! พี่ทำไรอ่ะ" งงสิไอ้พี่โอนี่มันจะทำอะไรผมวะ มองพี่แกที่เท้าแขนสองข้างพิงกำแพงไม่ให้ผมหนี หน้าตาพี่แกนี้ยิ้มชั่วมากจนน่าขนลุก

"พี่ชอบเต๋านะ ทำไมถึงเป็นพี่ไม่ได้"

อ้าวเหี้ยแล้วไงพี่เดี๋ยวเจอ "ผมว่าผมคุยกับพี่รู้เรื่องแล้วนะ? ผมว่าพี่กับผมเป็นแค่พี่น้องกันดีกว่า หลีกดิพี่ผมจะออก"

แต่พี่โอมันไม่ฟังครับ มันกลับผลักไหล่ผมให้นั่งลงไปตามเดิม เฮ้ย นี่มันจะตื้อเกินไปแล้วนะเว้ยไอ้พี่โอมันกำลังทำให้ผมกลัวว่ะ!
"พี่จะถามเต๋าเป็นครั้งสุดท้าย... จะยอมเป็นของพี่ดีๆหรือเปล่า"

"ฮะ!? นี่พี่เมาปะ? บ้าแล้ว! ใครจะไปยอมง่ายๆวะผมเป็นผู้ชายนะพี่" ขนแขนแสตนอัพกันเลยทีเดียว ตอนนี้ผมสร่างเมาเป็นปลิดทิ้งเพราะไอ้ห่าพี่โอนี่แหละสัด! ถามอะไรโง่ๆ

"พี่ไม่สน"

อ้าวชิบหาย!

มองหน้าพี่แกแบบเหวอๆ ตอนนี้ผมกำลังงงว่าพี่แกเมาหรือพูดจริง ปกติแล้วพี่เขาจะใจดีและสุขุมอยู่ตลอดทำไมตอนนี้มันน่ากลัวจนน่าขนลุกแบบนี้วะ ผมว่ามันต้องอำผมแน่ๆชัวร์ๆ

"พี่ล้อผมเล่นใช่ไหม? ฮั่นแน่... ล้อผมเล่นละซี้ ไม่เอาแล้วพี่ผมจะกลับบ้าน!" เผ่นแล้วโว้ยยยยยยยย!!!

ไม่รอให้พี่แกขวางแล้วล่ะ! นี่ใช้วิชาลิงลมลอดใต้รักแร้พี่แกไปฟุบ! ด้วยความไวเหนือแสง แต่พอจะถึงประตูเท่านั้นล่ะมือใหญ่ๆกลับคว้าแขนของผมเอาไว้อีกครั้ง ก่อนจะกระชากผมเข้ามาจนแขนผมแทบหลุด โถมน้ำหนักเข้าหาร่างสูงแล้วพี่แกก็จู่โจมด้วยรสจูบที่น่าขยะแขยง

แหยะๆๆๆๆ ไอ้เลวนี่แม่ง!

พลั่ก!!!

"พี่เล่นเหี้ยไรเนี่ย!" พยายามถูมือไปตามปาก แม่งน้ำลายเต็มปากเลยจะติดเชื้อบ้าป่าววะ?

"มาขนาดนี้แล้วยังคิดว่าพี่ล้อเล่นอีกหรอ?"

ปัง!!!

เฮ้ย!

หันไปทางประตูห้องน้ำมันปิดเองได้ไงวะ? ผมวิ่งไปทางประตูปรากฏว่ามันล็อกสนิทจากทางด้านนอก ตอนนี้ผมตกใจมากจนหัวใจเต้นแรงตึกตักยิ่งกว่ากลองระทึก ความสยองมันกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อไอ้พี่โอแม่งเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ ไม่พอมันยังแสยะยิ้มหื่นกระหายได้น่าถีบมาก

ทำไงดีวะ ทำไงดีไม่มีทางหนีเลยเว้ย!

คริสนายอยู่ไหนวะมาช่วยหน่อยกูจะโดนปล้ำแล้ววววววววววว!!!!

"หึหึ ไม่มีทางรอดแล้วล่ะ" พี่โอค่อยๆเอื้อมมือจับแก้มผมอย่างช้าๆจนผมรู้สึกกลัวขนแขนแสตนอัพ สะดุ้งเล็กน้อยพอเป็นพิธีแล้วสบตาพี่แกด้วยความหวาดหวั่น "พี่จะถามอีกครั้ง..." ถามเหี้ยไรล่ะครัช! "จะยอมพี่ดีๆหรือจะให้พี่เอาจริง" นี่มึงทำดีกับกูแล้วหรอ!?

ไอ้สลัดผัก!

"พี่อย่าทำอะไรผมนะผมเตือนด้วยความหวังดี" กูสู้นะเอา!

พยายามดันไหล่ไอ้พี่โอที่ค่อยๆเข้าหาตัวผมอย่างช้าๆ ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนหมดแรงเลยเว้ย! ทำไมร่างกายผมเป็นงี้วะ!
"อย่าพี่..." หลับตาแน่นแล้วเอียงคอหนีริมฝีปากที่โน้มเข้ามา

คริส... ช่วยด้วย... ไอ้คริสโว้ยยยยยยยยยย!!!

"เต๋า... ต้องเป็นของพี่คนเดียว!" นี่ก็ตื้อจังโว้ยยยยยยยย!!! แล้วไอ้พี่โอก็ขโมยจูบของผมอีกครั้งอย่างตะกละตระกาม ผมร้องไห้น้ำตาเล็ดด้วยความอึดอัด แถมพี่แกยังโถมน้ำหนักให้ผมตัวติดกับประตู ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักมันออกไป

"อย่าพี่!"

ผลักกกกกก!!!

"ผมบอกว่าอย่า!"

"อึก!"

"ได้ยินบ่!"

ตุบบบบบบ!!!!

"ไม่เข้าใจหรือไง!"

ผลักกกกก!!! ตุบตับ ตุบตับ ผลักๆ ตึงงงงงง!!!!

แล้วหลังจากนั้นผมก็หลับหูหลับตารัวหมัดใส่ตุบตับอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความหน้ามือก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างช้าๆด้วยความเหนื่อย หอบหายใจ "แฮ่กๆ" เป็นหมาลิ้นห้อยมองผลงานของตัวเองที่ลงไปนอนสลบอยู่ที่พื้นห้องน้ำ

กูเตือนมึงว่าอย่าๆแล้วนะไอ้ฟวย!

"อือ..." 

มึงยังจะลุกอีกหรา!

ตุบ!

"อึก!"

ปัดมือมองผลงานที่ตอนนี้มันคงลุกไม่ได้เป็นครั้งที่สอง ก่อนจะรีบเผ่นออกจากห้องด้วยความเร็วติดไนตรัส คว้าไรได้นี่เอาใส่กระเป๋าแล้วรีบโกยอ้าวออกจากห้องไอ้พี่โอไปในทันที มันเป็นเรื่องสยองที่สุดในชีวิตผมที่เคยเจอมา! มันจะตายหรือเปล่าผมไม่รู้แต่ที่รู้ๆผมอยากกลับห้องตัวเองมาก!

ไม่อยู่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยย!!!




ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงที่ผมนั่งรถเมล์กลับ แต่อาการกระวนกระวายหวาดระแวงนี่ไม่หายแน่นอน หวังว่าพอผมเปิดประตูเข้าไปจะเจอคริสนั่งรออยู่! ความรู้สึกเหมือนมีลางสังหรอะไรบางอย่าง หรือเป็นเพราะว่าผมคิดถึงคริสมากไปก็ไม่รู้ ใจมันหวิวๆกลัวว่าดอลฟี่บ้านั่นจะเกิดอันตราย แต่เมื่อผมเปิดประตูพรวดเข้าไป...

"คริส!"

ห้องทั้งห้องเงียบฉี่ไม่มีวี่แววว่าคริสจะนั่งรออยู่ตรงโซฟาเหมือนเคยๆ หมอนั่นหายไปไหนกันนะหรือว่าจะงอนกลายเป็นตุ๊กตาอยู่ที่เตียง พยายามคิดในแง่ดีที่สุดก่อนจะวางของเอาไว้ตรงโซฟาแล้วเดินไปที่เตียง แต่สิ่งที่ผมเห็นมันกลับยิ่งทำให้ผมเครียด ย่นคิ้วมองร่างเล็กที่ยืนกอดตุ๊กตาของผมเอาไว้ รอยยิ้มที่มักจะขี้อ้อนกำลังยืนยิ้มให้ผมจนตาหยี

"ไอ้ส้ม?" มันเข้ามาได้ไงวะ?

"พี่มาช้าจังเลยนะพี่เต๋า ส้มกำลังเล่นกับคริสเลย"

"มึงเข้ามาได้ไง"  ตอนนี้รู้สึกเคืองมันมากมิหนำซ้ำมันยังกอดคริสอยู่ ผมสบตาสีครามนั่นที่ไร้แววใดๆมันทำให้ผมกลัว

"ทำไมต้องดุส้มด้วยล่ะส้มเป็นน้องพี่นะ" สีหน้าที่เจื่อนลงแลดูน่าสงสาร หากเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะคิดแบบนั้นแต่ทว่าตอนนี้ไม่!

"เอาคริสคืนมา" ตั้งท่าจะเดินเข้าไปหากลับมีใครบางคนมาจับไหล่ของผมไว้หมับ! ผมตกใจหันไปมองด้วยความเร็วปรากฏเป็นเลย์เพื่อนให้ส้มที่ยืนทำหน้านิ่ง ผมปัดมือมันออกแต่มันกลับยิ่งจับไหล่ของผมแน่นหนึบจนต้องนิ่วหน้า กัดฟันกรอดพยายามดึงมือออกไปแต่ไม่ว่าเท่าไรก็ไม่เป็นผล

"อย่าขัดขืนเลยดีกว่าผมไม่อยากให้พี่ต้องเจ็บตัว"

"ไอ้ส้มมึง! อย่าบอกนะว่ามึงคือพ่อมด" ไม่อยากจะเดาสุ่มหรอกในเมื่อมันเห็นๆกันอยู่แบบนี้ คริส! หมอนั่นทำบ้าอะไรอยู่น่ะ
ไอ้ส้มมันกลอกตาไปมาก่อนจะยิ้มให้ผมแบบกวนตีนที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักมัน "ส้มไม่ใช่พ่อมด... แต่อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าส้มจะเป็นให้ดู" แล้วมันก็แสยะยิ้มที่มุมปากบางๆ

"คริส! นายเป็นอะไรน่ะคริสออกมาจัดการมันเซ่!" พยายามดิ้นให้หลุดจากไอ้คนชื่อเลย์เรียกคริสเพื่อหวังให้ร่างสูงกลายร่างหรือส่งเสียงเพื่อบ่งบอกว่าเขาก็อยู่ที่นี่ แต่มันกลับยิ่งทำให้ผมใจสั่นน้ำตาคลอเมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆ

"อย่าพยายามเลย ตุ๊กตานั่นถูกมนต์สะกด คงจะหลับยาวเลยล่ะ หึหึ" พอมันพูดจบก็โยนคริสไปบนที่นอนดังตุบ!

"ไอ้เหี้ยส้มมึงโดนตีนกูแน่!" ตอนนี้เลือดขึ้นหน้าจนมันร้อนจัด ผมนี่อยากฝากรอยเท้าไปบนหน้ามันจริงๆ ผมไม่เคยโยนคริสอย่างที่มันโยนเลยสักครั้งแล้วมันมีสิทธิ์อะไร!

พยายามดิ้นให้หลุดแต่ไอ้บ้าที่อยู่ข้างหลังกลับยิ่งบีบไหล่ผมแทบหัก หมุนตัวเตรียมจะชกหน้ามันแต่กลับรู้สึกมึนตื้อจนล้มวูบ!!!
ฮึกกกก!!

นี่ผมเป็นอะไรวะ? ทำไมอยู่ๆเหมือนอยากจะหลับขึ้นมาดื้อๆ หันไปมองไอ้ส้มที่ตอนนี้มันเปิดหนังสือเล่มหนามันดูเก่ามากและมีอักษรอะไรบางอย่างเต็มหน้าหนังสือไปหมด ยิ่งสิ่งที่มันพ่นออกมาจากปากมันยิ่งทำให้ผมทรุดกายลงกับพื้น หน้ามืดไร้เรี่ยวแรง...

มันเป็นอะไรที่บัดซบในเมื่อสิ่งที่ผมกับคริสกลัวหนักหนามันคือไอ้ส้มที่เป็นพ่อมดจริงๆ!

"หลับไปซักพักนะพี่" นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากมัน ก่นด่าสาปแช่งมันในใจก่อนที่สติสุดท้ายจะหมดลง...

ไอ้ส้ม... กูผิดหวังในตัวมึงจริงๆ...








....
:katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 04-02-2015 12:09:29
ไอ้เลวส้ม 

สรุปพี่โอเป็นไอ้หื่นธรรมดาหรือนี่?

พี่ชินก็ได้ช่วยเต๋ากับคริสหน่อย :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-02-2015 12:47:40
 :z3:  คนเรานี่แหละที่น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจซาตาน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 04-02-2015 12:54:07
เหอะๆไอ้ส้มเน่า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-02-2015 13:10:58
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 04-02-2015 20:01:57
มาเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 04-02-2015 20:06:28
อิส้มมมม ที่ผ่านมามึงตอแหลช้ะ อ๊ากกก  :katai1: :katai1:  ค้างขั้น10 พ่นไฟฟฟฟ  :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Panpearwa ที่ 04-02-2015 20:58:35
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 05-02-2015 01:19:56
เฮ้ยส้มคิดจะทำไร
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 05-02-2015 06:17:31
คริสรีบๆตื่นมาช่วยเต๋าเร็ว เต๋าแย่แล้ววว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP25 - P13 - 4/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 05-02-2015 08:33:20
 :z3: หรือว่าเจ้าส้มจะไปเจอตำราของพ่อมด
แล้วประตูห้องน้ำที่พี่โอจะปล้ำเต๋าปิดล็อคเองได้ยังไง
 :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 08-02-2015 02:03:06
 :katai4:


DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
26





มันเป็นอะไรที่... โคตรดับเบิ้ลบัดซบ!

อาการมึนงงยังคงอยู่แต่ตอนนี้สติผมมันเต็มตื่นมาก! มองไปรอบๆห้องสี่เหลี่ยมมีเพียงแค่กำแพงสีขาวที่ถูกขีดเขียนด้วยอักขระอะไรบางอย่าง มีวงแหวนรูปดาวทั้งสี่ด้านของผนังซึ่งผมรู้ว่ามันคือสัญลักษณ์ของซาตาน แสงไฟสลัวยิ่งทำให้ภายในห้องดูน่ากลัว อาการปอดแหกในที่มืดทำให้ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดผมติดกับโต๊ะที่ดูผุ รอบตัวเต็มไปด้วยแท่งเทียนสีแดงสดที่ถูกจุด

ผมชะโงกหน้ามองไปรอบๆ พบว่าไอ้ที่ผมนอนอยู่นี่มันคือแท่นอะไรบางอยากมากกว่าที่จะเป็นโต๊ะธรรมดา หรือว่าไอ้ส้มมันจับผมมาเพื่อเชือดทิ้งวะ! เฮ้ยไม่เอานะ ทำไมเรื่องมันถึงเป็นแบบนี้ได้ ตอนนี้รู้สึกสับสนมึนงงจนทำอะไรไม่ถูก พยายามดิ้นให้หลุดแต่ไอ้เชือกบ้านี่ก็แน่นเหลือเกิน!

แอ๊ดดดดดดด....

"ตื่นแล้วหรอ"

เสียงทักจากไอ้ตัวปัญหาทำให้ผมสะดุ้งโหยง แหงนคอมองไอ้ส้มที่เดินเข้ามาพร้อมด้วยกริชแหลมคมในมือ  มีคนชื่อเลย์เดินตามมาด้วยมันถือตะกร้าที่ใส่อะไรบางอย่างเข้ามาข้างใน ตอนนี้ผมมีความรู้สึกอยากถีบหน้าพวกมันจริงๆ!

"ไอ้ส้ม ไอ้เหี้ย ไอ้เด็กเวรปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่กูจะโมโห!" เวรเอ๊ย! เหมือนจะง่ายนะสั่งให้มันปล่อยเนี่ย

"หึหึ พี่เต๋าอย่าดิ้นดีกว่าแท่นบูชาของผมมันไม่ค่อยแข็งแรงเสียเท่าไร"

"ได้เด็กเปรตตตตตต ปล่อยกู!"

พยายามยื้อให้หลุดแต่มันก็เจ็บโคตรๆอ่ะ แล้วยิ่งเห็นกริชในมือมันๆยิ่งทำให้ผมใจหายวูบ มันรู้สึกเสียใจ ผิดหวังจนน้ำตาเล็ด ทั้งๆที่ผมคิดว่ามันเป็นน้องที่ดีของผมมาตลอด

"ทำไมวะ ทำไมต้องทำกับพี่แบบนี้ด้วย" ถามมันเสียงสั่นเครือย่นคิ้วสบตาไอ้ส้มที่ยืนนิ่ง แววตาของมันดูไม่เหมือนคนใจอัมหิตที่พอจะฆ่าใครได้เลยด้วยซ้ำ พยายามอ้อนวอนมันทางสายตาเเต่มันกลับไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย

"ตอบมาสิส้ม พี่รักเอ็งเหมือนน้องของพี่คนนึงจริงๆ แล้วทำไมเอ็งต้องทำกับพี่แบบนี้"

"เมื่อกี้พี่ยังด่าส้มอยู่เลย"

"อ้าวไอ้ห่า มึงจะให้กูร้องเพลงหรอโดนจับขึงแบบนี้" ไอ้นี่กวนตีนกูอีกละ ใจเย็นๆไอ้เต๋าตอนนี้มึงอยู่ในช่วงเจราเพื่อให้ไอ้ส้มปล่อยตัวประกันนั่นก็คือตัวมึงเอง

"พี่เต๋านี่ก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยนะ" แล้วมันก็หัวเราะครืน แต่ผมนี่ไม่ตลกเว้ย! มันเครียดจนคิ้วย่นหน้าจะเหี่ยวก่อนแก่อยู่แล้วเนี่ย

"แล้วตกลงเอ็งจับพี่มาทำไม พี่เคยทำอะไรให้เอ็งเกลียดพี่หรอ? แค่พี่ไม่คืนตังเอ็งร้อยนึงนี่คิดจะทำร้ายพี่เลยหรือไง" ตอนนี้มันโคตรเฟวเลย หรือมันจะแค้นผมที่แอบเนียนไม่คืนตังที่เคยยืมมันไปวะ?

ไอ้ส้มมันสบตาผมตาปริบๆแล้วมันก็ถอนลมหายใจ...

เฮ้ย! ไรอ่ะ แล้วมันไม่ใช่หรือไง? ผมว่าผมเป็นคนดีคนนึงเลยนะ บนโลกนี้ไม่มีใครใจดีเป็นพ่อพระเท่าผมอีกแล้วเหอะนี่เรื่องจริ๊ง!
"ที่ผมพาพี่มาที่นี่ก็แค่ให้พี่ช่วยส้มก็เท่านั้น"

"ช่วย? ช่วยไรวะทำไมไม่บอกพี่ดีๆ เอ็งมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจมีหรอวะที่พี่จะไม่ช่วย ทำไมต้องพาตัวมากันแบบนี้ด้วยวะ ฮะไอ้ส้ม" ไอ้ส้มมันเงียบหลุบสายตาลงไม่กล้าสบตาผม ตอนนี้หน้ามันเศร้าๆยังไงชอบกล ผมก็ยังโกรธมันอยู่นะที่มันทำแบบนี้ แต่ถ้าหากสิ่งที่มันทำเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบผมอาจจะให้อภัย

"เราควรเริ่มได้แล้ว" ไอ้คนชื่อเลย์มันเข้ามาจับไหล่ไอ้ส้มที่ยืนอยู่ แล้วมันก็เหลือบสายตามองผมครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก ไอ้ส้มมันเดินไปหยิบไอ้หนังสือที่ผมเห็นเมื่อก่อนหน้า ว่าแต่... ไอ้เริ่ม นี่มันเริ่มอะไรวะ!?

"พวกเอ็งจะทำอะไรพี่!" เวรแล้วไง นี่พวกมันจะทำอะไร!

"ส้ม... ไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่พี่... เขาบอกว่าต้องใช้ร่างกายของพี่เท่านั้น"

"ฮะ?"

"ร่างกายแลกร่างกายเพื่อที่จะทำให้เลย์กลายเป็นมนุษย์"

"อะไรของเอ็งวะพี่ไม่เข้าใจเว้ย!" แล้วที่ให้เลย์กลายเป็นมนุษย์นี่มันล้อกันเล่นหรือเปล่า ผมมองไปยังผู้ชายคนนั้นที่ตอนนี้มันเข้ามาใกล้ๆผมพร้อมๆไอ้ส้มที่กางตำรา ผมเหลือกตามองพวกมันในยามที่คนชื่อเลย์หยิบกระต่ายในตระกร้าซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ไอ้ส้มเริ่มท่องคาถา พร้อมๆกับไอ้คนชื่อเลย์ใช้กริชกรีดเข้าไปที่คอของสัตว์ขนปุยน่ารักตัวนั้น เลือดสีแดงค่อยๆหยดลงอ่างที่มันใช้รองรับอย่างช้าๆ ผมได้กลิ่นเลือดแล้วอยากอวกจริงๆให้ตายสิ!

ความมึนงงกับบทคาถาที่ไอ้ส้มกำลังท่องออกมาจากปากมันทำให้ผมมึนงง เหมือนวิญญาณที่กำลังจะหลุดลอยแต่พยายามที่จะครองสติเอาไว้ เวลาที่ผมสบตาคนชื่อเลย์มันทำให้ผมรู้ว่าหมอนั่นไม่ใช่คนอย่างที่เห็น ร่างกายที่แข็งทื่อไร้แววตาสดใส ดวงตาสีดำขลับดูร้ายมันทำให้ผมไม่อยากจะคิดเลยว่ามันเป็นตุ๊กตาเหมือนกับคริส!

เมื่อนึกถึงสิ่งที่คริสเคยเล่าให้ฟังมันกลับยิ่งทำให้ผมขนลุก หรือว่าพวกมันคิดจะทำให้ผมกลายเป็นตุ๊กตากันล่ะ? ไม่นะ ไม่เอานะเว้ย!

"ไอ้ส้ม ปล่อยพี่ไปพี่รู้ว่าเอ็งไม่อยากทำแบบนี้" มิตรภาพดีๆที่เราเคยมีด้วยกันมันไม่มีอยู่ในหัวเอ็งเลยหรือไงนะ ผมเสียใจมาก เสียใจจนร้องไห้ออกมา พยายามอ้อนวอนร้องขออย่าให้น้องมันทำอะไรที่ผิด

"พี่... ส้ม ส้มขอโทษ..." มันหยุดอ่านแล้วย่นคิ้วเข้าหากันแน่น เวลาที่มันพูดแบบนี้มันทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ได้รู้สึกยินดีด้วยเลยกับการกระทำของมัน

"พี่รักเอ็งๆเป็นน้องพี่ อย่าเดินทางผิด" ขอล่ะ ขอให้มันคิดได้ มันจะเป็นพ่อมดหรือไม่ก็ตามแต่ทุกอย่างมันย่อมมีทางเป็นไปและแก้ไขมันได้เสมอ ไอ้คนชื่อเลย์มันจับไหล่ไอ้ส้มอีกแล้ว มันส่งสายตาเหมือนพยายามให้น้องผมทำให้ในสิ่งที่ผิด

"แต่ส้มรักเลย์... ส้มอยากให้เลย์กลายเป็นมนุษย์" กระแสเสียงเศร้าเอ่ยพร้อมน้ำตาคลอหน่วย หรือว่าไอ้ส้มจะถูกครอบงำ?

"ตุ๊กตาไม่มีวันเป็นมนุษย์ได้หรอกส้ม อย่าไปเชื่อมัน ทำไมไม่เชื่อใจคนที่อยู่กับส้มมาตลอด เวลาที่เอ็งเดือดร้อนมีหรือที่พี่จะไม่ช่วย..." ตอนนี้ใจผมมันเต้นแรงมาก ความสับสนมันตีรวนไปหมดอีกทั้งดวงตายังหนักอึ้ง ไอ้ส้มมันยืนลังเลกลับยิ่งทำให้คนชื่อเลย์โมโห

"ทำมันซะไม่เช่นนั้นเลย์จะไม่ได้เป็นมนุษย์ รักเลย์ไม่ใช่หรอ?" มันเป็นคำที่โคตรเห็นแก่ตัวชิบหายเลย!

"ตะ แต่ แต่ส้มจะแน่ใจได้ยังไงว่าพี่เต๋าจะไม่เป็นอะไรจริงๆ" มันเงยหน้าถามไอ้ตุ๊กตาผีนั่นซึ่งผมคิดว่ามันต้องใช่แน่ๆ ผมพยายามที่จะขืนแรงและขยับแขนเพื่อให้หลุดจากเชือกเมื่อเห็นว่าแท่นบูชาห่าเหวอะไรนี่มันกำลังโครงเครงไม่คงที่

"ทำมันซะ ก่อนที่เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก..."

"ส้ม.. ส้มไม่เอาดีกว่า พอเถอะเลย์เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว อัก! อ่อก ๆ"

เหี้ยแล้วไง!

ผมตกใจมากเมื่อเห็นไอ้ส้มถูกคว้าคอจนลอยขึ้นโดยไอ้เลย์ที่ชักสีหน้าบึ้งตึงหลังจากที่ไอ้ส้มมันจะล้มเลิกในสิ่งที่กำลังทำ ผมพยายามกระตุกเชือกสุดแขนเพื่อให้มันหลุดแล้วมันก็ได้ผล รีบดีดตัวลุกขึ้นเงื้อมหมัดต่อยไปยังใบหน้าแข็งๆนั่นดังผลั่ก!!!

"เชี่ยเอ๊ย!" เจ็บชิบหาย!

ความแข็งแกร่งของมันนี่ไม่ต่างจากร่างกายคริสเลยให้ตายสิ! แล้วสิ่งที่ผมทำมันเป็นเพียงแค่การสะกิดใบหน้าให้มันปล่อยไอ้ส้มก็เท่านั้นไม่ได้ทำให้มันรู้สึกเจ็บเลย ผมกระชากเชือกออกจากขา แล้วลุกขึ้นเตรียมจระเข้ฟาดหางแต่กลับถูกไอ้ตุ๊กตาผีนั่นพุ่งเข้าหาแล้วคว้าคอจับกดเข้ากับแท่นบูชาหมับ!

อึก!!

มันเจ็บมากแทบหายใจไม่ออกเลยล่ะ!

"อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นก็จะสำเร็จแล้ว ทำให้มันเสร็จสิ้นไป" มันหันไปสั่งไอ้ส้มที่นั่งอ่อนแรงด้วยความหวาดกลัว ดวงตาไหวระริกนั่นมันทำให้ผมเกิดบ้า!

มึง! เพราะมึงแน่นอนที่ทำให้น้องกูเป็นแบบนี้ตายซะ!

ใช้สองขายันไปที่ตัวของมันเต็มแรงจนมันกระเด็นกระแทกผนังดังปัง! ผมไอโขกลน้ำตาเล็ดพยายามกอบโกยอากาศเข้าเต็มปอด ไอ้ส้มมันรีบลุกเข้ามาช่วยผมให้ลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะหนี "พี่... ส้มขอโทษ ส้มขอโทษส้มไม่ได้ตั้งใจ" มันร้องไห้ออกมาแล้วพยายามพยุงผม

"เออๆ อย่าเพิ่งมาขอโทษหนีกันก่อน" พยายามขืนตัวเพราะร่างกายมันอ่อนแรงไปเสียหมด พยายามไปที่ประตูอย่างยากลำบาก แต่ไม่ทันไรผมกลับถูกคว้าไหล่เต็มแรงหมับ! "โอ๊ย!" เจ็บกระดูกแทบร้าวหันไปทางไอ้เลวที่มันยังจองเวรไม่เลิก

"เลย์ปล่อยพี่เต๋านะ ส้มไม่เอาแล้วพอเถอะ พอได้แล้ว" มันทุบแขนไอ้ตุ๊กตาผีเพื่อให้ปล่อยผม มือใหญ่ๆคว้ามาที่คอผมหมับ! มันรู้สึกถึงใบหน้าที่ชาหนึบจนเขียว พยายามที่จะสู้แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน

"ปล่อย ปล่อยสิเลย์!"

"งานของเจ้านายจะต้องสำเร็จภายในคืนนี้!" มันตวาดเสียงห้วนก่อนจะหันไปทางไอ้ส้ม ดวงตาสีดำขลับแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสดดูน่ากลัว ไอ้ส้มผงะถอยหลังพลางส่ายหน้าหวาดหวั่น

"ฮึก... ปะ ปล่อยกู" พยายามที่จะสู้แต่พละกำลังของมันช่างมหาศาลเหลือเกิน...

ตาย ตายแน่ ตายแหงแก๋ ตายแบบไม่ต้องสงสัย ไอ้เต๋ามันจะเดทสะมอเร่ก็คราวนี้ล่ะ!

ฮึก! คริสนายอยู่ไหนทำไมนายไม่มาช่วยฉันคริส....

ในนาทีนี้หัวของผมมันช่างขาวโพลนไปหมด มือไม้มันอ่อนแรงจนไม่สามารถที่จะสู้มันได้ มันอ่อนยวบแทบขาดอากาศหายใจ... แต่ก่อนที่สติของผมจะหลุดไปผมได้ยินเสียงไอ้ส้ม "ไม่!!!!!!!!"

ผลัก!!! โครม!!!!

"อัก! แค่กๆ" เหมือนฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่เมื่อได้ไอ้ส้มช่วยจากความตายที่มาเยือน เมื่อมันยอมเอาตัวเข้ากระแทกกับไอ้ตุ๊กตาผีทำให้มันปล่อยผม จนพวกมันกระแทกเข้ากับแท่นบูชา ผมไอโขลกกลั้นน้ำหูน้ำตา ปรือดวงตามองภาพเรือนลางแทบจะปิด มองไปยังแท่นบูชาที่พังทลายไม่เป็นท่า...

"ไม่จริง..." ไอ้ส้มมันตกใจมากที่เห็นตัวเองอยู่ในกองเลือดของกระต่ายเพียงน้อยนิดพร้อมๆกับไอ้เลย์ที่นอนฟุบหน้าอยู่ ผมเบิกตาโพลงมองสิ่งที่เห็นเมื่อพื้นคอนกรีตมันเป็นวงเวทย์ที่เหมือนสัญลักษณ์บนกำแพงค่อยๆเปล่งแสงในยามที่เลือดสาดเต็มพื้น ร่างกายไอ้ส้มถูกครอบงำจากแสงสีแดง ดวงตาเบิกโพลงจนน่ากลัวก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง "อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!"

"ไอ้ส้มมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!"

ตะเกียกตะกายจะเข้าไปช่วยแต่ทุกๆอย่างมันเร็วไปเสียหมด! เมื่อร่างกายของไอ้ส้มกำลังถูกกลืนกินให้ดำดิ่งลงไปสู่พื้นพิภพด้วยแสงสีแดงนั่น ผมตกใจกลัวร้องลั่นตั้งท่าจะกระโจนเข้าไปช่วย หมับ! กลับถูกวงแขนแกร่งของใครบางคนโอบรัดจนตกใจหันขวับไปมอง...

"คริส!"

ใบหน้าหล่อเหลาสีหน้าเคร่งเครียดจ้องมองไปยังแสงสีแดงนั่น แล้วทันใดนั้นมันก็สว่างวาบไปทั่วห้องจนผมต้องหลับตาแน่นซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง ก่อนที่ทุกๆอย่างจะเงียบกริบจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมอง สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้ากลับเป็นตุ๊กตาดอลฟี่สองตัวที่นอนอยู่...

มะ ไม่นะ ทำไมล่ะ? ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้....

"การขายวิญญาณของผู้อื่นให้ซาตาน... ถ้าพ่อมดทำมันไม่สำเร็จ... ผลของมันคือพ่อมดผู้นั้นจะต้องเป็นตุ๊กตาเสียเอง..." น้ำเสียงทุ้มเศร้าเอ่ยกับผมที่กำลังอึ้งอยู่...

กลายเป็นตุ๊กตาอย่างนั้นหรอ?

มันจุกจนพูดไม่ออกได้แต่หลั่งน้ำตาออกมาอย่างเงียบๆ รู้สึกเหมือนจะหมดแรงให้ได้เสียเดี๋ยวนั้น ผมทิ้งกายทรุดลงนั่งโดยมีคริสที่ลูบไหล่เพื่อปลอบ...

"ทำไม?" เงยหน้ามองมันที่ย่นคิ้วสงสัย "ทำไมถึงมาช้า แล้วมาได้ยังไงทำไมไม่มาเร็วกว่านี้! ฮึก!" รู้สึกเกลียดตัวเองมากจริงๆที่ไม่สามารถช่วยน้องได้ พ่อมดอะไรนั่นมันไร้สาระสิ้นดี! ไอ้ส้มมันเป็นพ่อหมดหรอ? มันน่าตลกนะที่พ่อมดจะเป็นเพียงแค่เด็กมหาลัยที่หัวอ่อนแบบนั้น...

ส้ม... พี่ขอโทษ...

"อย่าร้องไห้เลยเต๋าคริสขอโทษที่มาช้า แต่กว่าจะสู้กับมนตรามันยากนักที่จะทำได้ในทันที"

มันพูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย...

"ฮึก ฮือ... กูมันไม่ดีเองที่ช่วยน้องไม่ได้ ทั้งๆที่กูเคยพูดกับมันเอาไว้ว่าจะเป็นพี่ที่ดีจะคอยปกป้อง แล้วนี่มันอะไร!"
 
ทุบกำปั้นลงบนพื้นปูนอย่างโกรธเคืองจนคริสคว้ามือหยุดไว้แทบไม่ทัน ความเจ็บนั่นมันไม่เท่ากับความรู้สึกนี่เลย ผมจะทำยังไง ผมควรแก้ปัญหานี่ยังไง ไอ้ส้ม... ผมอยากจะช่วยมัน

"มันไม่มีประโยชน์แล้วที่จะช่วยเขา เมื่อดวงวิญญาณลงไปหาซาตานแล้ว"

"ใช่สิ!" คว้าแขนคริสพลางร้องขอ "นายไปตามวิญญาณไอ้ส้มกลับมาได้ไหม? นะขอร้องล่ะ หรือไม่ก็ทำให้มันกลับมาเป็นคน" แต่มันกลับนิ่งเงียบ ผมยิ่งส่งสายตาเว้าวอนแต่มันกลับเบือนสายตาหนี

"คริส... ขอโทษ คริสไม่สามารถทำแบบนั้นได้..."

นั่นสินะ หมอนี่ไม่สามารถชุบชีวิตคนตาย หรือแม้แต่ตามดวงวิญญาณของไอ้ส้มมาจากซาตานที่น่ากลัว... ทำไมผมรูสึกแย่แบบนี้วะ?

มือของผมค่อยๆอ่อนแรง ดวงตาพร่าจนแทบไม่สามารถที่จะนั่งอยู่ ผมพิงตัวในอ้อมกอดคริสที่ปลอบขวัญร้องไห้ออกมาเบาๆ... ไอ้ส้ม... มันสมควรที่จะโดนแบบนี้จริงๆหรอวะ?

'การขอพร หากรู้จักที่จะขอก็เป็นประโยชน์กับตัวเราเอง' คำพูดของไอ้พี่ชินลอยมา...

"จริงสิ!" ใช่! มันต้องมีทางอื่นอีก

คริสเลิกคิ้วมองผมเมื่อเห็นอาการตกใจ ผมยิ้มบางๆในยามที่คิดอะไรออก "ถ้าเกิดใช้พรข้อที่สองล่ะ? มันต้องได้สิ!"

"เต๋าสามารถขอพรได้ แต่ไม่อาจขอชีวิตคนตายได้"

"รู้แล้วน่า!" แหวเสียงลั่นจนหัวมึนตื้อ ผมพยายามครองสติคิดคำพูดให้ดีที่สุด... "กูจะขอพร"  ผมหลับตาลงพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะลืมตาสบตาคริส  "กูขอให้ไอ้ส้ม... เกลียดตุ๊กตาตั้งแต่เกิด"

คริสเลิกคิ้วประหลาดใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่ผมขอ ก่อนที่มันจะยกยิ้มบาง... "คำขอของท่านจะเป็นจริง" แล้วร่างของมันก็หายฟุบ! ไปในทันทีจนร่างของผมทิ้งตัวลงบนพื้นดังตุบ! ด้วยสภาพที่อ่อนแรง ปรือดวงตาที่หนักอึ้งมองแสงสลัวภายในห้องมืดๆ
 
ถ้าหากสิ่งที่ผมขอมันสามารถส่งผลกับปัจจุบัน ถ้าหากไอ้ส้มเกลียดตุ๊กตามันก็ไม่มีวันที่จะได้เจอกับไอ้ตุ๊กตาผีที่ชื่อเลย์อะไรนั่น แล้วถ้าเกิดมันเป็นพ่อมด มันก็ไม่มีวันที่จะยุ่งเรื่องตุ๊กตาอีกนั่นล่ะ ใครมันจะยุ่งล่ะในเมื่อตัวเองรู้สึกเกลียด...

มันเป็นคำขอที่โคตรจะโง่มาก แต่ก็วัดดวงเหมือนโยนเหรียญว่ามันจะออกหัวหรือก้อย แล้วที่คริสหายไปในทันทีแสดงว่าคำขอของผมเป็นจริงใช่หรือเปล่า...

แล้วพวกมัน... จะกลับมาหาผมอีกไหมล่ะ?

ผมค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆเมื่อมันอ่อนล้าเหลือเกิน อยากลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วอยู่ในห้องของตัวเองโดยมีคริสนั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า คอยดูแลเอาใจใส่ไม่หายไปไหน ผมภาวนาว่าจะเห็นเขาอยู่ตรงหน้าผมแม้ในเวลานี้ แต่เมื่อผมกำลังจะหมดสติไปกลับรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง...

เสียงฝีเท้าที่เดินคุกคามเข้าหาภายในห้องที่เงียบเชียบก่อนที่มันจะหยุดอยู่ต่อหน้าผม พยายามปรือตาขึ้นมองแต่มันกลับพร่าเลือนมองไม่ชัด ก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบ ใครบางคนกำลังนั่งยองๆพลางลูบมือมาตามใบหน้าของผม ลักษณะท่าทางและน้ำเสียงที่เปล่งออกมามันช่างคุ้นหูผมมากจริงๆ

"เต๋าคิดหรอ... ว่าจะหนีพี่พ้น หึหึ"








.....
 :ling1:
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Death_note ที่ 08-02-2015 03:15:53
อ๊ากกกก!!  เกิดอารายขึ้นกะเต๋าา.

คริสมาช่วยเร็ววว  T^T
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-02-2015 03:38:33
อ้าวพี่โอสิ เราก็นึกว่าเป็นไอ้หื่นธรรมดา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 08-02-2015 04:33:27
พี่โอแน่เลย เต๋าจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 08-02-2015 06:56:52
อิพี่โอนี่แหละ พ่อมด แน่เลย ชั่วๆ แบบนี้
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-02-2015 07:53:21
 :ling1:   อ้ากกกก ค้าง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 08-02-2015 11:07:56
คริสไปไหนนี่
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP26 - P13 - 8/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 10-02-2015 01:30:11
หืมคริสละ แล้วใครมา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 12-02-2015 12:01:38
 :katai4:


DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
27







เวรเอ๊ย! โคตรเกลียดบรรยากาศแบบนี้เลย

บรรยากาศอึมครึมและมืดสลัวเหมือนเดิม ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนสักที่ซึ่งมันใกล้จะเช้าแล้ว พอตื่นมาสิ่งแรกเลยคือมองสำรวจไปรอบๆห้องไม้ที่ชื้นแฉะ เพราะจุดที่ผมนอนอยู่มันเป็นพื้นไม้เก่าๆมีคราบตระใคร่กับหญ้าที่ขึ้นทะลุร่องไม้ขึ้นมา  กลิ่นดินทำให้ผมยิ่งรู้สึกงุนงงว่าตัวเองอยู่ที่ไหนหันซ้ายหันขวาออกไปนอกหน้าต่าง ด้านนอกเต็มไปด้วยต้นไม้ที่บดบังทำให้ที่นี่ดูมืดวังเวงน่ากลัว
ชิบหาย นี่กูโดนลักพาตัวมาอีกละ!

อะไรมันจะป๊อบปูล่าขนาดนี่วะเนี่ยไอ้เต๋าไม่เข้าใจเว้ย!

นั่งกุมขมับที่ปวดหนึบพยายามคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนหน้า ตอนนั้นกูเห็นใครวะมันดูคุ้นๆ แล้วคริสไปช่วยไอ้ส้มมันได้หรือเปล่ารู้สึกเป็นห่วงมันมากจริงๆผมหวังว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ตอนนี้คือประเด็นตูอยู่ที่ไหนฟระ!ไอ้คนที่พามาเนี่ยดำดินแอบอยู่มุมไหนของห้องกันล่ะ! มันมืดจนมองไม่ถนัดเห็นแต่เงาตะคุ่มๆตามมุมห้องเท่านั้น
พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนซึ่งตอนนี้ไม่ได้ถูกขึงหรือถูกมัดเหมือนเมื่อตอนที่ไอ้ส้มมันจับผมมา แต่สรุปแล้วว่าไอ้ส้มมันเป็นพ่อมดแน่หรอ? ผมว่าไม่ใช่นะ ด้วยความฉลาดเกินยอดมนุษย์มันทำให้ผมคิดว่าน้องมันต้องถูกหลอก แล้วไอ้คนที่หลอกมันน่าจะเป็นไอ้พ่อมดนั่นอีกทีแต่นั่นล่ะประเด็นคือใคร? แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิด ทางที่ดีเราควรหนีก่อน ประตูที่ถูกปิดมันอาจจะเฝ้าอยู่ข้างนอกถ้าอย่างนั้นก็ต้องปีนหน้าต่างหนี!

อยู่ไหนไม่รู้หรอกโว้ย หนีเอาไว้ก่อนดีกว่าถูกฆ่าหั่นศพออกหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งนี่ไม่เวิคร์เลย รู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมาอย่างจับใจแม่จะรู้สึกยังไงถ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหายไป หรือถูกทำอะไรสักอย่างจนพวกเราต้องพรากจากกันไปตลอดชีวิต แค่คิดผมนี่ก็น้ำตาคลอหน่วยอยากร้องหาแม่เลย แม่ค้าบเต๋าอยากกลับไปหาแม่กราบแม่กอดแม่ ทำไมชีวิตมันถึงตลกแบบนี้วะ!

การหวังพึ่งใครก็มีแต่รอความตาย กว่าคริสจะมาผมคงซี๋แหง๋เรียบร้อยไปแล้ว เอาวะ! เอาไงเอากันพยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืนโงนเงน นิ่วหน้าแทบจะล้มทั้งยืน เดินไปที่หน้าต่างที่ถูกเปิด แต่ขอโทษนะ เพียงแค่ผมลุกขึ้นก้าวขาเท่านั้น...

เปรี้ยง!

ตุบ!

"อัก!" เจ็บ... เจ็บจนกระดูกแทบร้าวเลยให้ตายเถอะ!

นิ่วหน้าด้วยความเจ็บเงยหน้าไปยังม่านบาเรียสีแดงๆที่ขึ้นเป็นโดมอยู่รอบๆตัว ตามพื้นมีแสงสีแดงขึ้นมามันคือสัญลักษณ์เชี่ยนั่นอีกละ! มันหลอกให้เราดีใจแล้วมันก็ทรมานผมด้วยการใช้ม่านพลังนั่นดีดผมกระเด็นจนติดกับอีกด้านแล้วร่วงเผลาะลงมา มันเป็นอะไรที่โคตรเจ็บบัดซบ!

"อึก อือ..." ตอนนี้แทบไม่เหลือแรงขยับอีกแล้ว อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนวะเนี่ย!

"อย่าพยายามเลยดีกว่า" เสียงปริศนาที่ดังภายในห้องทำให้ผมต้องหันไปมองไอ้มุมมืดๆทางด้านขวามือประตู

"มึงเป็นใคร" นี่แหละคือสิ่งที่อยากจะถาม นั่งเงียบทำบื้ออยู่นานทำไมไม่บอกวะว่าขังกูเอาไว้!

"หึ จำพี่ไม่ได้หรอ?"

"จำ จำพี่? ไอ้สัดกูไม่มีพี่ชายเลวๆอย่างมึง!" ผมว่าผมเริ่มรู้ละว่ามันเป็นใคร ตอนนี้ความโกรธมันสุมอยู่ภายในจิตใจจนแสดงออกมาทางสีหน้า กำต้นหญ้าที่ขึ้นแซมแน่นด้วยความเคียดแค้น มองไอ้เหี้ยที่เดินออกมาจากมุมห้องเผยให้เห็นใบหน้าที่ผมอยากจะกระทืบมันให้จนตีน

"ไอ้เหี้ยโอ"

มันยิ้มเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายแล้วเดาะลิ้นส่ายหน้าได้น่าถีบมาก "ทำไมพูดกับพี่ไม่เพราะเลยล่ะ"

"ถ้าอยากได้เพราะๆเดินมาใกล้ๆกูก่อนดิ่" กูจะได้เอาส้นตีนยัดปากมึงก่อน เหี้ยเอ๊ยคนใกล้ตัวแท้ๆผมกลับไม่รู้ ดันไปสงสัยผิดคนทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้วะ!

"หึหึ ดูเหมือนเราจะโกรธพี่..." เออกูโกรธจนอยากฆ่ามึงเลยสัด!

มันเดินเข้ามาหาผมเเล้วค่อยๆนั่งลงตรงหน้า มันเชยคางผมขึ้นจนอยากจะกัดนิ้วแม่งให้ขาด ถึงกูสู้ไม่ได้แต่ฟันกูมีนะเว้ย! ฟันแม่ม!

"โอ๊ะ!" มันรีบชักมือของมันกลับไปด้วยความเร็ว "ดุจังเลยน๊า แบบนี้นี่แหละพี่ชอบ" แล้วมันก็ยิ้มกวนตีนอีกครั้ง

"ทำไมต้องจับกูมาฮะ? ไอ้พ่อมด"

มันเลิกคิ้วประหลาดใจ "อา... รู้แล้วหรอ" ไม่รู้นี่ก็ควายแล้วล่ะ!

"ตอบกูสิ ทำไมมึงต้องจับกู! แล้วทำไมมึงต้องทำให้คริสกลายเป็นตุ๊กตาด้วย" กูจะฆ่ามึงคริสจะได้กลับมาเป็นมนุษย์ปรกติ อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในร่างนั้นอีกต่อไป มันเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาทำสีหน้าดูเศร้า

"เป็นคำถามที่ดีนี่... แล้วอยากฟังเรื่องไหนก่อนดีล่ะ"

"อย่ามาลีลา" ผมมองมันตาขวางเพราะทำได้แค่นี้ไม่มีแรงแม้แต่จะเงยหน้ามองมันเลยด้วยซ้ำ ไอ้เหี้ยนี่มันยิ้มบางๆที่มุมปากก่อนที่จะเริ่มพูด

"ที่พี่จับเรามาเพราะพี่อยากให้เราเป็นตุ๊กตา"

"ตุ๊กตา? ไอ้เลวมึงนี่ชาติชั่วจริงๆ"

"ฮ่าๆๆๆ ด่าไปก็ไม่เจ็บหรอกนะ ในเมื่อพี่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ขนาดคริสพี่ยังได้มันมานับประสาอะไรกับชีวิตเล็กๆของเรา"

"มึง!" ตอนนี้รู้สึกโกรธจนหน้าร้อนวูบวาบไปหมด แต่ก็อดที่จะหยามมันไม่ได้ "หึ! ได้คริสอย่างนั้นหรอ? มึงแน่ใจได้ไงว่ามึงได้คริสในเมื่อเขาไม่ต้องการอยู่กับมึง มันคงเป็นเรื่องผิดพลาดสินะที่ตุ๊กตาต่อต้านเจ้านายคนแรกอย่างมึง พรที่ได้มันเลยไม่ส่งผล อึก!" แรงกระชากของฝ่ามือหนาที่กระชากเส้นผมทำให้ผมไม่อาจพูดต่อ มันเจ็บนะโว้ย!

"เธอนี่ฉลาดจริงๆ แม้เกิดใหม่แล้วก็ยังเหมือนเดิม"

หืม? มันว่าอะไรนะ

ผมย่นคิ้วมองหน้ามันไม่เข้าใจเสียเท่าไร

"รู้อะไรไหม? ว่าทำไมพี่ถึงอยากได้เราหนักหนาแม้แต่ซานตาน หรือคริสที่อยากปกป้องเธอ เพราะจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ก็คือเธอยังไงล่ะ"

"อย่ามาโกหก!" กูไม่เคยรู้จักพวกมึงมาก่อนเลยด้วยซ้ำ อย่าเอาความชั่วของมึงมาโบ้ยให้กู!

มันแสยะยิ้มเย็นชา "ตุ๊กตาที่เหมือนกับมนุษย์เป็นสิ่งที่น้องชายพี่ชอบมากที่สุด แต่รู้อะไรไหม? ตุ๊กตาที่มีชีวิตน่ะมันสวยและงดงามยิ่งกว่า น้องชายพี่ต่างก็วาดฝันอยากให้ตุ๊กตาสามารถคุยกับตัวเองได้ แต่การทำตุ๊กตามีชีวิตน่ะมันเสี่ยงมากถ้าพลาดเพียงแค่นิดเดียวก็สามารถกลายเป็นตุ๊กตาเสียเอง"

"มึงถึงได้หลอกใช้ไอ้ส้มสินะ"

"ฉลาดดีนี่" มันหัวเราะเหมือนขำมาก แต่ตอนนี้ผมไม่ขำ ไม่ขำเลย มันโกรธจนตัวสั่นปากเม้นแน่นเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ "แต่ความฉลาดของเธอก็มักจะจบชีวิตตัวเองทุกครั้ง" มันผละออกไปจากตัวผม ลุกขึ้นหันหลัง เดินไปทางหน้าต่างทอดมองออกไปภายนอกก่อนจะเริ่มเล่ามันออกมา

"มนุษย์ทุกคนย่อมมีความละโมบทั้งนั้น มันก็แค่ผลประโยชน์เล็กน้อยที่พี่จะให้มัน แต่น่าเสียดายที่ดันเกิดผิดพลาดเสียได้..." มันเงียบเหมือนกำลังคิดก่อนจะพูดมาอีก "รู้อะไรไหม? ที่พี่อยากได้เราเป็นตุ๊กตา ก็เพราะพี่ไม่ต้องการให้เราหนีพี่ไปอีก" ร่างสูงค่อยๆหันมาทางผมอย่างช้าๆ แววตาไร้แววใดๆในความคิดจนผมไม่สามารถอ่านใจเขาออกว่ามันกำลังโกหกหรือพูดจริง

"เมื่อหลายร้อยๆปีก่อนมีประเทศเล็กๆที่เชื่อในเรื่องของพลังที่เหนือมนุษย์ เพราะความเชื่อเหล่านี้ทำให้ประเทศพัฒนากว่าประเทศอื่นๆ แต่ก็ยึดติดต่ออำนาจมาก ฉันชื่อซาฮัน รอยเซอร์รา เป็นลูกคนโตที่ถูกน้องชายแย่งความรักจากพ่อแม่ไป กษัตริย์ และราชินีผู้คุณธรรมแต่กลับทำในสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับฉัน...." ผมกลืนน้ำลายอึกเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูน่ากลัวนั่นในยามที่เขาจดจ้องสบตาลงมา มันดูร้ายและน่ากลัวจนผมต้องเบือนสายตาหนี

"ฉันเกลียดทุกคนที่เข้าใกล้น้องชาย แต่รู้อะไรไหม? เพราะความเกลียดนั่นล่ะทำให้ฉันเฝ้าดูน้องชายของฉันมาตลอด... จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ฉันได้ฆ่าคน ฉันเกลียดพวกมันที่เอาแต่พูดว่าพ่อและแม่จะยกอำนาจให้แก่น้องชายที่นอนป่วยอยู่บนเตียงนั่น ฉันเกลียดที่พวกมันพยายามทำให้ฉันกลายเป็นปีศาจ พ่อแม่เริ่มไม่สนใจฉันเอาแต่ต่อว่าเรื่องพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป แต่พวกท่านกลับไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำมันเลวร้ายมากแค่ไหน" มันเดินเข้ามาหาผมอีกครั้ง นั่งลงยองๆเชยคางให้ผมเงยหน้าขึ้นสบตา ตอนนี้ผมรู้สึกกลัวอย่างจับใจ

"ฉันอิจฉาน้องชายที่ได้รับความรักทั้งหมดจากพวกมันทุกคน แม้แต่ไออุ่นของแม่ที่ฉันโหยหา น้องชายก็ขโมยไปทั้งหมดจนฉันอยากจะฆ่าเธอ... น้องชายของฉัน..." รอยยิ้มไร้หัวใจมันทำให้ผมเผลอกลืนน้ำลายอึกด้วยความหวาดกลัว ใจมันเต้นแรงจนได้ยินเสียงสะท้อนที่ดังก้องออกมา

"ฉันเริ่มเรียนพวกตำราพ่อมด หรือแม้แต่ศาสตร์มืดที่ทุกๆคนหวาดกลัว จนวันหนึ่งมีบาทหลวงเข้ามาพบฉัน คนๆนั้นก็คือคริสยังไงล่ะ"

"คะ คริสอย่างนั้นหรอ?"

"มันเป็นเรื่องที่บังเอิญจังเลยนะที่เธอตั้งชื่อตุ๊กตานั่นว่าคริส บาทหลวงที่สอนให้ฉันรู้จักความรักและความเกลียดในเวลาเดียวกัน"

"แล้วทำไม?" มันทำให้ผมรู้สึกสับสนมึนงงมากในเวลานี้ หรือว่าเมื่อก่อนคริสกับมันเคยเป็นคนรักกันอย่างนั้นหรอ? แล้วทำไมล่ะทำไมต้องทำให้คริสกลายเป็นตุ๊กตา

"แต่พี่ไม่ได้รักมันหรอกนะ มีแต่มันนั่นล่ะที่ผิดคำสาบานต่อพระเจ้าเอง หึหึ"

ผมสบตาเขาที่กำลังเล่าเรื่องราวความหลัง มันรู้สึกช็อคมากในยามที่ฟังเหมือนเวลามันกำลังพาผมย้อนกลับไปยังอดีตและหวนกลับไปยังคืนวันที่โหดร้าย

คริสคือบาทหลวงประจำราชวงศ์ซึ่งหลงรักซาฮันซึ่งเป็นเจ้าชายองค์โต และผมเอดิสันเป็นน้องชายที่ป่วยตั้งแต่เกิด ดูเหมือนว่าพ่อและแม่จะใส่ใจผมมากกว่าก็เลยทอดทิ้งละเลยต่อพี่ชาย ทำให้เขากลายเป็นคนนิสัยไม่ดีหรือตัวร้ายในละครนั่นแหละ เขาเคยฆ่าคนเพราะข้ารับใช้เหล่านั้นเอาแต่พูดว่าพ่อแม่รักผมมากที่สุด กระทั่งพ่อและแม่ผิดหวังกลับซ้ำเติมจิตใจด้วยคำพูด พวกเขาตั้งความหวังไว้กับเจ้าชายองค์เล็กที่ล้มป่วยหวังว่าสักวันหนึ่งจะแข็งแรงเพื่อปกป้องประชาชน แต่แล้ววันหนึ่งอาการของผมมันกลับยิ่งทรุดลงเรื่อยๆจนไม่อาจที่จะรักษาได้

"ฉันโกรธมากที่พวกเขาคิดจะให้น้องชายดื่มยาพิษเพราะไม่อยากให้เด็กคนนั้นต้องทรมาน" มันคือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่ผมได้ฟัง แต่มีหรอที่พ่อแม่จะไม่เจ็บปวด ผมพยายามฟังในสิ่งที่เขาเล่ามันออกมาทั้งน้ำตา ทั้งๆที่เกลียดน้องชายแต่สิ่งที่เฝ้ามองอยู่ทุกวันมันทำให้ความรู้สึกเกลียดเกิดเป็นความรักโดยที่ไม่รู้ตัว

"พวกมันจะฆ่าเขา เพียงเพราะหมดหนทาง แต่ฉันมีหนทางที่จะทำให้น้องชายหายป่วยนั่นก็คือทำให้คนกลายเป็นตุ๊กตา ในหนังสือเขียนเอาไว้ ว่าการแลกชีวิตจะทำให้ตุ๊กตามีพลังแต่ต้องรับใช้ซาตาน สุดท้ายสิ่งที่ฉันต้องทำนั่นคือหลอกใช้คริส" ลมหายใจอุ่นๆทอดถอนออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วไหลลงอาบแก้มเผลาะๆ จากที่ผมเคยมองเขาในด้านร้ายตอนนี้ใจผมมันกำลังสับสน

"ฉันหลอกเขาให้เข้าไปในห้องพิธี ทำร้ายเขาจนกระทั่งไร้หนทางหนี ฉันเป็นคนลงมือทำทุกๆอย่างทำให้เขากลายเป็นตุ๊กตาต้องสาป... มันเป็นผลสำเร็จที่ทำให้ชีวิตของฉันดูเหมือนมีชีวิตขึ้นใหม่ เพื่อที่จะอยู่กับน้องชายไปตลอดชีวิต แต่ฉันคิดผิด..." สีหน้าที่เศร้าแปรเปลี่ยนเป็นความผิดหวังอันสุดซึ้ง เมื่อน้องชายหมดลมหายใจก่อนที่เขาจะกลับมาพร้อมตุ๊กตาที่อยู่ในมือ ความโกรธทำให้เขาทำลายทุกๆอย่างจนหมดสิ้น แม้กระทั่งราชวงศ์ที่สูญสลาย ประเทศนั้นกลายเป็นประเทศร้างที่ถูกหลงลืมและถูกยึดดินแดนไปในที่สุด

หลังจากนั้นเขาไม่เล่ามันต่อ อาศัยความเงียบจมดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง ผมเองก็เช่นกันตอนนี้ผมไม่อยากคิดเลยว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ใครเป็นคนผิดกันแน่...

ปัง!!!

เสียงกัมปนาทที่ดังอยู่ทางด้านนอกมันดังลั่นสั่นสะเทือนจนเศษไม้ที่ผุพังร่วงหล่นลงมาจากทางหลังคา ผมรีบฟุบหน้าลงด้วยความตกใจ แต่พี่โอกลับช่วยเอาตัวของเขาปกป้อง

"ตามมาจนได้สินะ" เขาบ่นงึมงำอยู่ในลำคอก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหี้ยมเกรียม ผมนี่ไม่ต้องเดาเลยว่าใครตามพวกเรามา!
ปัง!!!

เสียงพังประตูเข้ามาอีกชุดหลังจากที่เสียงภายนอกเงียบเสียงไป ปรากฏเป็นคนที่ผมอยากเจอเขามากที่สุด "คริส!"  มันรู้สึกดีใจจนเผลอยิ้มออกมา ร่างสูงในชุดดอลฟี่ที่พวกเราพบกันเป็นครั้งแรก เนื้อตัวต่างเต็มไปด้วยบาดแผลเหมือนไปฟัดกับอะไรมาสักอย่าง ใบหน้าของเขาบึ้งตึงจ้องคนที่อยู่ตรงหน้าราวกับโกรธจัด ไอ้พี่โอมันแสยะยิ้มแล้วทักทายได้กวนตีนมาก

"ไงคริส ในที่สุดเราก็เจอกันอีกจนได้นะ"

"หึ ใช่... เจอกันอีกแล้ว แต่การเจอกันครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย!" แล้วร่างสูงของคริสก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วโดยที่ผมห้ามไม่ทัน ปัง! ม่านพลังที่อยู่รอบๆตัวมันสว่างวาบขึ้นมาพร้อมๆกับคริสที่กระเด็นทะลุบ้านไม้ออกไปไกล

"คริส! พี่อย่าทำเขา" ตอนนี้มันตกใจจนรู้สึกกลัว เบิกตาโพลงมองคริสที่พยายามพยุงตัวลุกขึ้น ไอ้พี่โอมันเดินออกไปข้างนอกแล้วอะไรบางอย่างก็โผล่ออกมาจากมือ มันคือเคียวขนาดใหญ่เงื้อมขึ้นหมายจะฆ่าคนตรงหน้าให้ตายโดยที่ไม่พูดอะไรเลย
มันโคตรแฟนตาซีสามดีเลยล่ะพระเจ้าจอร์จ!

"คิดจะแย่งไปไม่ง่ายหรอกนะ" ไอ้พี่โอมันพูดข่มขวัญก่อนที่จะสับเคียวลงไป คริสหมุนตัวหลบแล้วลุกขึ้นยืน กำปั้นของมันมีแสงออกมาด้วยก่อนที่จะชกเข้าไปที่หน้าพี่โอจังๆ! "อัก!"

ร่างสูงกระเด็นไปหลายก้าวแล้วหมุนตัวลุกขึ้นหยั่งเชิง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้วได้แค่นั่งมองด้วยอาการทึ่ง ตกตะลึงในสิ่งที่เห็น "เฮ้ย! ใจเย็นกันก่อนไม่คุยกันก่อนหรอ?" ถามไปงั้นแหละรู้ๆอยู่ว่าพวกเขาคงไม่ฟัง ได้แต่นั่งระทึกลุ้นอยู่แบบนั้นว่าใครจะชนะ เสียงเข้าปะทะยังคงดังก้องสะท้อนไม่รู้จบต่างคนต่างบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่จนกระทั่งคริสเสียท่า

"เฮ้ย!" ผมร้องด้วยความตกใจเมื่อเคียวกำลังจะฟาดใส่หลังของคริสที่นอนฟุบพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น ด้วยความเผลอตัวรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหมายจะเข้าไปช่วย แต่ผมดันลืมไปว่ารอบๆร่างกายผมมันเต็มไปด้วยม่านพลังที่ไอ้พี่โอมันสร้างเอาไว้ ร่างกายของผมเหมือนถูกแรงดึงดูด มันเจ็บปวดจนร้องราวกับหมูโดนเชือด "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!"

ปัง!!

"อั่ก..." ร่างกายกระเด็น กระแทกเข้ากับม่านพลังอีกด้านจนร่วงลงมา ผมกระอักเลือดออกมาเป็นก้อนๆแม้แต่ตัวเองยังตกใจ

"เต๋า!" คริสหันมามองผมที่กำลังบาดเจ็บ พร้อมๆกับไอ้พี่โอที่มัวแต่เหลียวหลังมามองผมเช่นกัน คริสเตะขาพี่เขาล้มลงพลางกระทืบซ้ำก่อนที่จะวิ่งมาทางผม

นิ่วหน้าด้วยความเจ็บพยายามพยุงตัวลุกขึ้นแต่ข้างในมันโคตรบอบช้ำ มองคริสที่วิ่งมาหาด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงแต่ข้างหลังนั่น...

"คริสระวัง!" เคียวถูกเหวี่ยงมากลางอกของคริสดังฉึก!

"อึก!"

"คริสสสสสสส!!!!"

มันเหมือนหัวใจถูกกระชากเวลาที่เห็นคนที่รักถูกทำร้าย ปลายเคี้ยวทะลุออกมาจากหน้าอกจนเห็นชัด ในเวลานี้น้ำตาของผมมันหลั่งไหลออกมาไม่หยุด มันช็อคและหวาดกลัวมองคนรักที่เดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆแม้ว่าร่างกายจะสาหัสและจวนเจียนใกล้ตาย...

"ตะ เต๋า" ร่างสูงเดินเข้ามาหาและทิ้งตัวอยู่ต่อหน้าพลางเอื้อมมือหมายจะจับเอาไว้ ผมตะเกียกตะกายฝืนร่างกายที่เจ็บปวดคลานเข้าไปหา มือเอื้อมไขว่คว้าเขา แม้ว่าม่านพลังจะเป็นตัวกั้นระหว่างเราแต่หัวใจไม่เคยที่จะขาดออกจากกัน

"ฮึก คริส... อย่าเป็นอะไรนะ"

รอยยิ้มบางๆผุดยิ้มที่มุมปากพลังของเขาแทบไม่เหลือ ผมมองไปทางด้านหลังซึ่งพี่โอมันยังตามราวีไม่เลิก ฝ่าเท้าถูกกระทืบลงมายังด้ามเคียวจนมันฝังลึกเข้าไปอีก

"อึก!"

"ไม่นะหยุดเถอะ!" คำอ้อนวอนที่ไร้ผลมองคนรักด้วยความเจ็บปวด ตัดสินใจทนต่อความเจ็บปวดนั้นกอบกุมมือคริสเอาไว้
รอยยิ้มบางๆจุดยิ้มที่มุมปากบนใบหน้าหล่อเหลาที่อิดโรย ผมกลัว กลัวจริงๆกับรอยยิ้มนั้นมันทำให้ผมพยายามคิดอย่างหนักว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้คริสรอดพ้นจากความชั่วร้ายนี้ และยิ่งได้ยินเสียงทุ้มแหบพร่าที่เปล่งออกมา "คริส... รักเต๋า" มันยิ่งบีบเค้นหัวใจให้แตกล่ะเอียด

"ไม่!" มันต้องไม่เป็นแบบนี้มันต้องมีทางอื่นอีก ถ้าหากคริสไม่เป็นตุ๊กตา หากจุดเริ่มต้นของเรื่องมันแก้ไขได้ ถ้าหากซาฮันไม่ถูกทอดทิ้งจากพ่อและแม่ทุกๆอย่างมันจะไม่มีวันเกิดเรื่องบ้าๆพวกนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน!

"คริสพรสุดท้ายฉันจะขอ" ผมย่นคิ้วสบตาคริสที่อยู่ต่อหน้า

"ขอพรตอนนี้ก็ไม่มีผลหรอก!" ไอ้พี่โอมันกระทืบเท้าให้เคียวจมลงอีกครั้งพร้อมๆกับหัวใจของผมที่เจ็บปวดเหมือนมีดปักอกไม่ต่างกัน

"ขอ... มาสิ" น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบางๆ ฝืนความเจ็บปวดนั่นเพื่อผม...

ผมเงียบไปครู่เพื่อใช่สติก่อนที่ผมจะขอพรข้อสุดท้าย... "ขอให้พ่อและแม่ของซาฮันไม่ทอดทิ้งซาฮัน เอดิสันต้องหายจากโรคร้าย และฉันจะรักพี่ชายของฉันเหมือนกับที่เขารักฉัน..." ผมเหลือบตามองพี่โอที่หยุดชะงักกึกทันทีที่ได้ยินในสิ่งที่ผมขอ เขาจ้องมองผมด้วยความอึ้งก่อนที่ผมจะหันมาสบตาคริส รอยยิ้มบางๆผุดยิ้มก่อนที่เขาจะเปล่งเสียง "คำขอของท่านจะเป็น... อึก! จริง"

เคียวถูกดึงออกด้วยความเร็วเมื่อไอ้พี่โอมันไม่ยอมให้คริสทำให้พรของผมสมหวัง "ไม่!!!!" เคียวถูกง้างขึ้นจนสุดแขนก่อนที่มันจะฟาดลงมาหมายปลิดชีพคริสให้ตาย ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของคริสที่ยกยิ้มอ่อนโยนเป็นครั้งสุดท้าย เขาขยับร่างกายที่เจ็บปวดจุมพิตมาที่ริมฝีปากของผมผะแผ่วก่อนที่ทุกๆอย่างมันจะสว่างวาบและขาวโพลน  เหลือเพียงแค่เสียงที่ยังคงดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวใจ แม้ว่าจะได้ยินกี่ครั้ง... แต่มันก็ไม่เคยเพียงพอสำหรับผม...

ฉันจะรักเธอตลอดไป... เต๋า....








.....
 :katai5:
โอ้เยจะจบเเล้ว มาไวไปไวดองหลายวันเอาให้ลืมกันไปข้าง แฮ่.....
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-02-2015 13:55:47
 :katai1: โอโน!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-02-2015 14:00:31
 :ling1: โอ๊ย ค้างได้อีก เอาไม้สอยเราลงมาที

คริส ไม่นะ แล้วคริสก็หายไปจนมาอวตารใหม่เป็นอู๋งี้เหรอ  :katai1:  ไม่นะจะเอาคริสคนเดิม
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 12-02-2015 15:03:52
ค้างงงง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 12-02-2015 16:32:11
เศร้าจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 13-02-2015 22:21:57
ไม่นะ คริสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-02-2015 22:36:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UP27 - P13 - 12/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 14-02-2015 02:35:20
ง่าาาาา จะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 14-02-2015 20:30:36
 :katai4:


DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนจบ






"คุณ คุณคะ คุณ"

วูบบบบบ!!!!!!

"หะ หืม?" เสียงเรียกของใครบางคนพยายามเรียกสติของผมให้กลับคืนมา ดวงตาที่เหม่อลอยกลับคืนสู่ตัวตนของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง เสมือนวิญญาณที่เคยหลุดลอยไปไกลบัดนี้กลับคืนสู่ร่างกาย  ราวกับว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น...
นะ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย...

มองไปรอบๆห้างซึ่งผู้คนกำลังเดินขวักไขว่ สะบัดหัวไล่ความมึนงงที่กำลังสับสนพลางมองเข้าไปในตู้กระจกซึ่งผมเคยจำได้ว่าเคยมีดอลฟี่ที่ผมหลงรักอยู่ตรงนั้นแต่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่า ย่นคิ้วด้วยความมึนงงปนสับสนว่าผมกำลังทำอะไรอยู่กันแน่!

"ต้องการตุ๊กตาของเราหรือคะ เชิญเข้าไปดูด้านในก่อนก็ได้ค่ะ" คำถามยิ่งทำให้ผมรู้สึกงงมากเป็นสิบๆเท่า

บ้าน่า! ผมจำได้ว่าผมอยู่กับคริสไม่ใช่หรอ? ละ แล้วทำไม....

"เอ่อ.. คุณ... เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เธอมองผมเหมือนงุนงง ผมรีบเอามือเช็ดน้ำตาที่กำไหลลงมาเผลาะๆโดยที่ไม่ทราบสาเหตุก่อนจะยิ้มให้เธอบางๆ

"ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่ตุ๊กตาดอลฟี่ที่เคยอยู่ตรงนี้..."

"เอ๋?" เธอร้องเสียงหลงเหมือนประหลาดใจ "เราไม่เคยโชว์ตุ๊กตาดอลฟี่หน้าร้านนะคะ" มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกมึนตื้อ!

"ระ หรอครับ ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรครับ" รีบเดินหนีพนักงานร้านตุ๊กตาออกมาด้วยความเร็วเหนือแสง

มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่สุดในชีวิตที่ผมเคยพบมา สิ่งที่ผมเห็นและรู้สึกมันเป็นเพียงแค่ความฝันหรือไงวะ! คริสนายหายไปไหน แล้วฉันมาเดินบ้าอะไรอยู่ที่นี่ ราวกับว่าก่อนช่วงเวลาที่ผมจะได้พบเขามันถูกย้อนเวลากลับมาใหม่ แต่ทว่าความทรงจำมันยังคงจดจำได้อย่างชัดเจน นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าคริสกำลังแกล้งผม

ใช่! มันต้องใช่แน่ๆให้ตายสิทำไมผมหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย!



วางเปล่า... ภายในห้องก็ว่างเปล่าไม่มีใครที่เคยรออยู่ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนแทบเข่าอ่อน พยายามกวาดสายตามองหาร่างสูงที่มักจะนั่งรออยู่หรือนอนรอผมอยู่ที่เตียงโล่งๆนั่น มีเพียงแค่ลูกๆสามตัวของผมเท่านั้นที่นั่งอยู่ตรงโซฟา หัวใจมันกระตุกวูบเหมือนจะขาดใจ...

ฮึก!... ทำไมล่ะ? หรือว่าพรที่ผมขอไปมันจะประสบผลสำเร็จ เรื่องทั้งหมดมันจึงกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน...

นั่นสินะ... ถ้าหากพี่โอไม่ได้เป็นพ่อมด หรือคริสไม่ได้เป็นตุ๊กตาต้องสาป... ก็เท่ากับว่าเรื่องราวทั้งหมดจะไม่มีวันเกิดขึ้น แต่ทำไมความรู้สึกอบอุ่นนั่นยังอบอวนอยู่ เสียงที่กระซิบคอยบอกรักมันยังซ้ำเติมจิตใจว่าคริสเคยกอดผมอยู่ตรงนี้...

เจ็บ... เจ็บมากจริงๆ...

"ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนกันนะคริส... เราจะไม่ได้เจอกันแล้วจริงๆน่ะหรอ? ฮึก..." รอยยิ้มทั้งน้ำตาทำไมมันเจ็บปวดแบบนี้วะ?

เอนคอไปตามโซฟาภายในห้องเงียบๆ ยังคอยได้ยินเสียงทุ้มหนักของคนที่เคยอยู่ที่นี่ด้วยกันดังแว่วแผ่วมาอยู่เลย หยิบรีโมทเพื่อเปิดทีวีดูการ์ตูนหวังดับความรู้สึกที่กำลังปั่นป่วนอยู่ข้างใน แต่มันกลับยิ่งซ้ำเติมหัวใจของผมให้ยิ่งรู้สึกคิดถึงเขา คำถามมากมายมักวนเวียนอยู่ในหัวว่าทำไมผมยังจดจดจำพวกเขาได้ หรือแม้แต่เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมามันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมากกว่าความฝัน มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะเล่นตลกกับหัวใจของผมแบบนี้

"คนบ้าอะไรจะยืนฝัน" หัวเราะครืนอย่างนึกสมเพศตัวเอง หากย้อนเวลากลับมาจริงๆ แสดงว่าวันนี้ต้องเป็นวันเกิดของผมแน่ๆ  หลังจากที่กลับมาที่ห้องผมต้องมานั่งหมดอาลัยตายอยากมองดูสมุดบัญชีที่มีเงินไม่พอซื้อดอลฟี่ที่มีดวงตาสีครามนั่น แต่ในตอนนี้ผมกลับมานั่งเสียใจว่า ดอลฟี่ที่ผมเห็นเป็นแค่เพียงความคิดหรือภาพความฝันที่ผมเป็นคนปรุงแต่งขึ้นมา...

"ฮึก... บ้าเอ๊ย!" น้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว ทำไมผมอ่อนแอแบบนี้วะ? มันเจ็บจนน่าอึดอัด เมื่อคิดว่าผมไม่อาจอยู่คนเดียวแบบนี้ได้อีกต่อไป มันไม่ชินเอาเสียเลยกับโซฟาตัวยาว หรือแม้แต่เตียงกว้างๆที่ผมกับคริสเราเคยนอนเบียดเสียด ทั้งๆที่ไม่เคยคิดชอบผู้ชาย แต่กับดอลฟี่คนนั้นกลับทำให้ผมหลงรักจนหมดใจ และสิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุดนั่นคือการที่ผมไม่ได้บอกรักเขา...

อย่างน้อยก็ขอโอกาสให้ผมบอกเขาบ้างก็ยังดี...

คริสฉันรักนาย รักนายมาก มากจนไม่รู้ว่าฉันควรทำอะไรต่อจากนี้...

RRRRrrrrrrr

เชี่ยไก่...

เหมือนกับตอนนั้นเป๊ะ...

"เอออออ...."

[[ตายยังคับคุณเพื่อน หรือมึงกลายร่างเป็นดอลฟี่ของมึงไปแล้วไม่โผล่หัวมาให้กูเห็นเลยนะแหม่]] น้ำเสียงติดประชดนั่นมันทำให้ผมต้องหัวเราะครืน มันโคตรเป็นเรื่องไม่บังเอิญ

"เออ ยังไม่ตาย แล้วยังไม่ได้กลายร่างด้วยแค่เบื่อๆนอนอืด"

[[อย่างมึงเนี่ยนะที่จะอยู่ในสภาวะนั้น ถามจริงเหอะที่ไม่มามหาลัยนี่มึงติดหญิงหรือติดดอลฟี่มึง]]

"ถ้ามีหญิงมาจีบกูๆคงไม่มานั่งเล่นตุ๊กตาหรอกเชี่ยไก่ แค่เขาเห็นหน้ากูก็วิ่งหนีกันหมดแล้ว"

[[เออไอ้คนหน้าโหด ว่าไงครับจะเข้าซุ้มหรือเปล่า]]

"ถ้ากูบอกว่าขี้เกียจล่ะ"

[[เชิญมึงนอนตายอยู่ในห้องมึงเถอะไอ้เต๋า! ไม่ได้เว้ยต้องเข้า วันนี้พี่โอเขาจะเซอร์วันเกิด...]]

ผมย่นคิ้วกับประโยคที่มันเงียบเสียง  "พี่โอหรอ? พี่โออยู่ที่ซุ้ม?"

[[เออ มึงนี่ก็แปลก เขารอมึงกันอยู่เนี่ยไม่โผล่หัวออกมาสักที]]

ในนาทีนั้นความรู้สึกลิงโลดทำให้ผมลุกขึ้นพรวดและกอบโกยสิ่งของจำเป็นที่จะต้องพกติดตัวใส่กระเป๋าออกจากห้องในทันที
พี่โออย่างนั้นหรอ? พี่โอที่ผมรู้จักจะใช่พี่โอที่เป็นพ่อมดอะไรนั่นหรือเปล่า! 

ความไม่แน่ใจ ความไม่ชัดเจนพยายามทำให้ผมวิ่งไปตามท้องถนน ผมใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงเพื่อมามหาลัย และหลังจากลงหน้ามหาลัยผมก็วิ่งโกยอ้าวไปยังซุ้มไม่ได้สนสายตาชาวบ้าน หรือเสียงทักทายจากรุ่นน้องที่เดินผ่านเลย มันจะเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่าว่าทุกๆคนที่ผมเคยรู้จักยังคงอยู่ แล้วพวกเขาในตอนนี้เป็นคนธรรมดาหรือเป็นในสิ่งก่อนหน้าที่ผมได้เจอ

หลังจากมาถึงหน้าซุ้มด้วยอาการกระหืดกระหอบ พวกพี่ๆค่อนข้างแปลกใจในความรีบร้อนของผม "หนีอะไรมาล่ะเต๋า เหงื่อแตกซกเลย" พี่โอ... พี่โอจริงๆด้วยว่ะ!

"พี่! พี่มาอยู่นี่ได้ไง แล้วคริสล่ะ? คริสมันอยู่ไหน?" ผมปรี่เข้าไปหาแล้วถามด้วยความร้อนรน แต่หน้าพี่โอแม่งโคตรเอ๋อ ก่อนจะย่นคิ้วทำหน้างงๆ

"ใครกันคริส ในซุ้มไม่มีคนชื่อคริสนี่"  ในนาทีนั้นผมโคตรโมโห ทั้งๆที่มันเป็นคนทำร้ายคริสแท้ๆ แต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมมันเป็นแบบนี้วะ!

"พี่อย่ามาโกหกผม พี่เป็นพ่อมดใช่ไหมพี่โอ!"

"ฮะ?  เฮ้ย! เอ็งเป็นไรของเอ็งไอ้เต๋า มาอำพี่แบบนี้พี่ไม่เล่นนะเดี๋ยวพี่ดีดกระเด็น" พี่แกค่อนข้างเคืองผมมากจนพวกพี่ชินต้องเข้ามาลากผมออกมา รวมถึงไอ้ไก่ด้วย

"มึงเป็นไรวะไอ้เต๋า กูอุตส่าห์ชวนมึงมาเพื่อเลี้ยงวันเกิดมึงนะ แล้วพี่เขาก็ตั้งใจจะเลี้ยงน้องอย่างมึงด้วย ทำไมต้องไปโมโหใส่พี่เขาแบบนั้น?"

ผมพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังพลุกพล่านจนกำหมัดแน่น ไอ้ไก่มันมองผมแบบไม่เข้าใจซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ผมหันไปทางพี่โอที่ย่นคิ้วมองผมนัยน์ตาเขาดูผิดหวังที่ผมทำแบบนี้ หรือว่ามันเป็นแค่ผมคนเดียวที่บ้าไปเอง สะบัดไหล่ออกจากมือไอ้ไก่แล้วเดินไปทางพี่แก

"ผมขอโทษพี่ ผม... ผมแค่กำลังสับสน"

พี่โอถอนลมหายใจเฮือกพลางพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ "เออๆไม่เป็นไร แต่ทีหลังเป็นอะไรมาอย่าพาลใส่คนอื่นแบบนี้มันไม่ดีนะ" ผมพยักหน้าพาลจะร้องไห้เมื่อได้ฟังในสิ่งที่พี่เขาสอน 

"เมายาป่าววะมึงเนี่ย เฮ้ย! ร้องไห้ด้วยอ่ะ" ไอ้ไก่มันชี้หน้ากลั้วหัวเราะ ไอ้ห่านี่ก็กวนตีนได้ถูกเวลาเลยเอาส้นตีนยันเอวมันไปทีจนมันกระเด็นเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชิน เออนั่นล่ะอนาคตผัวมึง! เหมาะกันดี๊ดี

"ไอ้เชี่ยเต๋า สัดอย่าให้เผลอนะ" มันคลำเอวป้อยๆแล้วชี้หน้ามโนว่าวันนั้นคงมาถึง ผมเลยยักคิ้วจึกๆกวนตีนให้มันไปทีมันยิ่งฟึดฟัด แต่ก็ได้พี่ชินอีกนั่นแหละตบไหล่ให้มันสงบสติอารมณ์ ผมเงยหน้ามองพี่โออีกครั้งซึ่งมันรู้สึกแปลกๆหลังจากที่เรากลับมาเป็นไอ้เต๋าคนเดิม กับชีวิตเด็กมหาลัยเดิมๆ

"มีอะไรข้องใจกับพี่อีกหรือเปล่า" พี่โอเขายังกลัวใจผมเลยถามอีก ผมเลยยิ้มแล้วขอโทษพี่เขาอีกครั้ง "ขอโทษนะพี่"
พี่โอตบไหล่ "เออๆ พี่ไม่ว่าหรอกพี่ก็คิดว่าเอ็งเป็นน้องนุ่งของพี่นั่นล่ะ"

"แล้ว... พี่ไม่คิดมากกว่านั้นหรอ?" ผมถามแบบหยั่งเชิง ไอ้พี่โอมันยิ่งเลิกคิ้วขึ้นหนักเข้าไปอีก

"บ๊ะ! ไอ้นี่จะให้พี่คิดอะไรกับเอ็งวะ? อย่านะเว้ยพี่มีแฟนแล้วขอร้องอย่ามาจีบพี่ซะให้ยาก" แล้วพี่แกก็หัวเราะ ซึ่งมันทำให้ผมโคตรตกใจมากอ่ะ พี่โอโน้มตัวมาทางผมแล้วกกระซิบกระซาบ "ห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังล่ะ" แล้วพี่เขาก็ตบไหล่ยักคิ้วหลิ่วตาก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะหินเมื่อเห็นพวกไอ้ส้มกับไอ้แบคที่กลับมาจากซื้อของ

ลูกตาไอ้เต๋านี่เท่าลูกโลกได้แล้วมั้ง!

ไอ้พี่โอแม่งร้ายกาจ...


สุดท้ายแล้วตัวผมก็ต้องเข้าสู้วงจรชีวิตของไอ้เต๋าเด็กมหาลัยธรรมดาๆเหมือนเดิม ไม่มีแฟน มีแต่เพื่อนกินเพื่อนเฮฮา แม้ว่าพวกเขาจะทำให้ผมหัวเราะได้แต่มันก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อไรก็ตามที่ผมอยู่คนเดียวความรู้สึกเหงามันกลับยิ่งทำให้ผมคิดถึงคริสอยู่ตลอดเวลา...

มันไม่เคยชินหรอกหากผมจะอยู่คนเดียวตื่นขึ้นมาแล้วเจอแต่โต๊ะคอมเหมือนเดิม แม้ว่าคริสจะอยู่กับผมเพียงเวลาสั้นๆ แต่จริงๆแล้วความรู้สึกเหมือนเรารู้จักกันเป็นปีๆ แล้วผมต้องใช้เวลาเป็นปีๆหรือเปล่าวะที่จะต้องลืมเรื่องของพวกเขาเหล่านั้นให้ได้ ในเมื่อทุกวันหลังจากที่คริสหายไปจากชีวิตของผม พี่โอก็ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ที่ซุ้ม ไอ้ส้มก็ยังชอบดอลฟี่อยู่เหมือนเดิมแถมมันยังชอบเอามาอวดผมบ่อยๆ แม้ว่าผมจะรู้สึกสยองไอ้ตุ๊กตาดอลฟี่ชื่อเลย์อะไรนั่นอยู่ แต่มันคงไม่มีวันกลายมาเป็นคนเดินได้แล้วล่ะ แถมทุกวันนี้ไอ้ส้มมันยังชอบมานอนค้างเอาลูกมานอนให้คิดถึงเรื่องเก่าๆอีก แถมไอ้พี่ชินมันก็ยังชอบพูดอะไรเป็นคำคม หรือปริศนาให้ผมคิดอีกตามเคยนั่นล่ะ ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้โรคจิตหรือเปล่าที่คอยแกล้งผม แต่มาคิดๆดูอีกทีมันก็ตลกนะทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผมเลยด้วยซ้ำในความเป็นจริง...

'เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์ความรัก บางครั้งการรอใครสักคนก็เหมือนกับเราพิสูจน์ตัวเองนั่นล่ะว่าเรารักเขามากแค่ไหน'

นี่คือสิ่งที่ไอ้พี่ชินพูดกับผม ซึ่งเมื่อมานั่งคิดๆดูแล้วมันดูเหมือนคำพูดปลอบใจเสียมากกว่า อาการของผมมันเหมือนคนอกหักมากเลยหรือไงวะขนาดพี่ชินมันยังรู้เลยนับประสาอะไรกับคนอื่น แต่มันก็เป็นแค่คำพูดลอยๆเท่านั้นล่ะซึ่งผมไม่อยากที่จะรออะไรแล้ว



จากวันเป็นเดือน จากเดือนสู่การสอบกลางภาค เป็นช่วงเวลาที่ผมเกือบจะลืมใครสักคนไปในช่วงนาทีหนึ่งซึ่งต้องใช้สมองอย่างหนักในการทำข้อสอบ ก่อนจะเดินตัวปลิวออกมาด้วยสภาพที่ไม่ได้มีความรู้บรรจุอยู่ในสมองเลยเนื่องจากทุ่มเทลงไปในข้อสอบจนหมด

สุดยอดความหฤโหด!

"สอบเสร็จสักที กูนึกว่ากูอยู่ในสนามรบเลยสัด! อาจารย์ออกข้อสอบเหมือนกูฉลาดเท่าไอสไตน์" ไอ้แบคมันบ่นทันทีที่หย่อนก้นแหมะลงบนเก้าอี้ภายในซุ้ม สภาพของแต่ละคนกว่าจะสอบเสร็จนี่เหมือนศพเดินได้ ซึ่งตัวผมก็หมดแรงที่จะบ่นอะไรออกมาแล้วเหมือนกัน

"แค่นี้บ่น ปีหน้าก่อนเถอะมึงมีแต่วิชาเอก" 

"เงียบเลยไอ้ดีโด้ เพิ่งจะสอบเสร็จอย่าเพิ่งนึกถึงเทอมหน้ากูจะอวกออกมาเป็นตัวหนังสืออยู่ล่ะ" ผมรีบห้ามไอ้เพื่อนจอมขยันก่อนที่มันจะพ่นอะไรที่ชวนสยองขวัญออกมา ในเมื่อเทอมหน้าผมกำลังจะเข้าปี4เต็มตัว ไม่พอวิชาเอกที่จะลงนี่มีตัวเลือกโคตรน้อย ฟังทีไรนี่สยองขนลุกทุกที

"ไปเที่ยวกันดีกว่า สอบเสร็จแล้วนี่ไปบ้านใครดีวะ?" ไอ้ไก่เสนอ ไอ้นี่จอมเที่ยวตลอด

"กูไม่เที่ยวอ่ะจะกลับไปหาแม่ที่จีน"

"โหย... จะบินอีกแล้วสิมึง"

ยักคิ้วจึกๆให้ไอ้ไก่แล้วชวนมันพอเป็นพิธี "สนใจไปกับกูไหมล่ะ"

"จะพามันไปไหว้แม่ผัวหรอวะ?"

"ผัวพ่องเดี๋ยวกูเอาส้นตีนอัดหน้าเลยนิ่ไอ้ห่าแบค"

แล้วพวกผมก็หัวเราะไส่ไอ้ไก่ที่โวยวายหลังจากที่โดนล้อเหมือนเดิม ทุกวันนี้ผมกับมันก็ตัวติดกันตลอดนั่นแหละแต่โดยส่วนใหญ่น่าจะเป็นผมเสียมากกว่าที่ติดมัน เพราะความโสดนี่แหละเลยต้องดึงให้ไอ้ไก่มันมาเป็นคู่จิ้นแก้ขัดไปก่อนทั้งๆที่มันก็คบกับพี่ชิน เรื่องพวกเขาคบกันอันนี้ผมรู้มาจากปากพี่ชินเหมือนเดิม

"อย่าลืมของฝากแล้วกัน" มันสั่งผมทั้งๆที่หน้ายังเป็นตูด ผมพยักหน้าให้มันส่งๆก่อนจะยืดเส้นยืดสายเพื่อไล่ความเมื่อยล้า
วันสอบนี่โคตรวุ่นวาย คนก็เยอะเวลาคุยเสียงดังคนภายนอกมันจะมองเข้ามาตลอดเพราะว่ามันเป็นทางผ่าน พอมองแดดที่เลียถนนจนขึ้นเป็นม่านแล้วรู้สึกสยองไม่กล้าชวนไอ้เพื่อนไปกินข้าวเลย แต่ตอนนี้มันก็รู้สึกหิวโคตรอ่ะ

"ไปแดกข้าวกัน"

"เออๆ ดีเหมือนกัน" ไอ้ไก่มันเห็นด้วยแถมลุกพรวดในทันที ก่อนจะเดินไปที่ชั้นวางของส่วนรวมของซุ้มคลำหาอะไรสักอย่างโดยที่ผมยืนรอเตรียมเดินไปที่โรงอาหาร มันออกมาพร้อมร่มคันใหญ่ที่ถืออยู่...

"แค่นี้เขายังคิดว่ามึงกับกูเกย์ไม่พอใช่ไหมไอ้ห่า"

"อ้าวเกี่ยวไรวะ แดดมันร้อนเว้ยเดี๋ยวเป็นมะเร็งไข่"

"ไข่บ้านมึงสิ" ผมส่ายหน้าให้มันขำๆ แต่ก็แทรกตัวเข้าไปในร่มกับมันนั่นแหละ กอดคอประหนึ่งรักกันปานจะแหกดากดม แต่จริงๆพยายามทำตัวลีบไม่ให้โดนแดดที่ร้อนเหมือนไฟกลัวผิวจะคล้ำเพราะแสงแดดอุนตร้าแมน ถุ้ย!

"วิวี้วววววว!!!"

วิ้วพ่อง!

"กูเกลียดซุ้มนี้ชิบหาย" เดินมาทีไรแม่งส่งเสียงขอส่วนบุญทุกที

"อย่าไปสนใจเลยมันพยายามกวนตีนเรา"

"เออ!" ไม่บอกกูก็รู้ไอ้พวกเอกอังกฤษเนี่ย ชอบใช้หน้าตาเป็นอาวุธไม่พอยังชอบดูถูกเอกศิลป์อย่างพวกผม มันอาจจะไม่ใช่ทุกคนแต่พวกผมก็เหมารวมไปแล้วล่ะ เรียกได้ว่าไม่ค่อยจะลงรอยสักเท่าไร ถ้ามองหน้ากันเมื่อไรนี่เตรียมเคาะระฆังมวยได้เลย

"ไอ้เดือนคณะที่นั่งอยู่หล่อดีนะ แต่แม่งเสียดายดันมาอยู่ซุ้มกับพวกไอ้เป๋งใครๆก็รู้ว่าแม่งเกรียน"

"เออ"

"แต่ไอ้เด็กนั่นกูเห็นมันมองมึงหลายรอบแล้วนะตาแม่งโคตรกวนตีนเลยหรือมันจะเหม็นขี้หน้ามึงวะ ไม่ชอบล้างหน้าป่าวอ่ะมึง"

"ไอ้สัดกูรักสะอาด แล้วใครมันจะเขม่นกูก็เรื่องของแม่งเหอะอยากมีเรื่องเดินมาเลยดีกว่าอย่าปอดแหกอยู่กับฝูง"

"ผมเปล่าปอดแหกนะ"

"เฮ้ย!!!!!"

ผมกับไอ้ไก่แหกปากร้องลั่นเมื่ออยู่ๆเสียงปริศนาทุ้มหนักดังแทรกกลางระหว่างพวกผม ทำเอาผมกับไอ้ไก่กระโดดออกจากใบหน้าหล่อๆนั่นแทบไม่ทัน แต่ทันทีที่ผมหันไปมองกลับทำให้ผมรู้สึกช็อคจนต้องอ้าปากค้าง...

"ที่ผมมองพี่เพราะผมชอบพี่ต่างหาก ถึงผมจะอยู่เอกอังกฤษแล้วอยู่ซุ้มกับพวกพี่เป๋ง แต่ก็ใช่ว่าผมจะต้องเขม่นพวกพี่ไปด้วยนี่" ไอ้หน้าหล่อๆที่ยิ้มด้วยสีหน้าใสซื่ออกไปทางกวนตีน มันทำให้ผมใจเต้นแรงจนพูดไม่ออก มันตกใจมากกว่าที่จะมายืนต่อปากต่อคำกับไอ้รุ่นน้องคนนี้...

บะ บ้าน่า!

"เฮ้ย! น้องโผล่พรวดมาแบบนี้อยากกินตีนหรอ?" ไอ้ไก่มันถกแขนเสื้อมองไอ้เสาไฟฟ้าแบบเอาเรื่องสุดๆ ผมยกแขนห้ามมันแล้วมองสำรวจ "คริส?" ตั้งแต่หัวจรดเท้า

ทำไมมันเหมือนจังวะ? ทำไมมันเหมือนอย่างกับพิมพ์เดียวกัน เพียงแค่เขามีเรือนผมสีน้ำตาลดวงตาที่กลมกลืนไปกับสีผม คิ้วหน้าจมูกโด่งๆ มันพาลให้หัวใจผมเต้นแรงระคนมึนงง เหมือนในนาทีนั้นความรู้สึกที่เคยคิดว่ามันอาจจะหายไปไม่มีวันกลับมา บัดนี้มันมาอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้งแทบไม่ทันตั้งตัว..

คนตรงหน้ายิ้มให้ผมบางๆก่อนจะตอบ "ผมชื่ออู๋ครับ พี่ชื่ออะไรอ่ะ"

"อ่ะ เอ่อ..."

"เพื่อนกูชื่อไรมันหนักหัวเอ็งปะ? ไปๆไอ้เต๋ากูหิวจนจะแดกหัวใครบางคนได้ละ" แล้วไอ้ไก่ก็ลากผมออกมาจากตรงนั้นปล่อยให้ไอ้เด็กชื่ออู๋นั่นยืนแห้วแดกอยู่กับที่ ผมเอี้ยวตัวหันไปมองมันที่ยังไม่วายโบกมือให้ผมพลางยิ้มหวาน ความรู้สึกใจเต้นพาลให้หน้าร้อนวูบวาบมันทำให้ผมรีบหันขวับกลับมา...

อะไรวะ มันก็แค่เหมือนนั่นแหละคริสจะมาอยู่ตรงหน้าได้ไง...

ไม่แน่บางทีอากาศมันอาจจะร้อนจนเกินไปทำให้เกิดภาพหลอน ผมยังไม่ได้คุยกับไอ้เด็กนั่นเลยด้วยซ้ำไอ้ไก่ก็พาผมมากินข้าวแล้ว ไม่อยากจะบอกเลยว่าใจผมอยากเดินกลับไปที่ตรงนั้นมาก เลยพยายามรีบๆกินข้าวให้เสร็จไม่ได้ฟังไอ้ไก่ที่กำลังบ่นๆถึงเรื่องราวเมื่อก่อนหน้าที่มันพยายามจะคลายความสงสัยว่าไอ้เด็กอู๋ปี1นั่น มันพยายามที่จะมาจีบผมหรือว่ากวนตรีนจริงๆกันแน่ แต่เมื่อพวกเรากลับมาทางเดิมโดยที่ต้องผ่านซุ้มเอกอังกฤษ คนที่เคยนั่งอยู่ก็หายไปเสียแล้วซึ่งผมไม่อยากมองหาเขามากนัก เพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าพวกไอ้เป๋งมันเข้าใจผิดขึ้นมาว่าผมจะหาเรื่องพวกมัน เวลานั้นคงได้สั่นระฆังมวย...

มันเหมือนปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปกับสายลมอีกครั้งโดยที่ไม่ยอมไขว่คว้าเอาไว้ ผมนั่งร้องไห้หลังจากที่หย่อนก้นนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อนเผลาะๆ...

"เฮ้ยเป็นไรวะ?" ไอ้ไก่มันถามผมด้วยความตกใจ ซึ่งผมทำได้แค่ส่ายหน้าและตอบมันว่า "ไม่รู้" ไม่รู้อยู่แบบนี้ว่าผมเป็นอะไร รู้แค่เพียงว่าผมคิดถึงเขามาก มากเสียจนอยากจะกอดให้หายคิดถึงหากได้พบกันอีก

คริส... ฉันคิดถึงนายมาก คิดถึงนายมากจริงๆ...

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของภาคที่พวกผมจะเลี้ยงฉลองซุ้มกันก่อนที่จะแยกย้ายไปตามทางของตัวเองในระหว่างที่ปิดเทอม กว่าผมจะได้กลับก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วและเป็นช่วงเวลาที่รถติดโคตร ท้องฟ้าช่วงเย็นก็ยังคงออกสีส้มอมแดงอยู่ ความมืดกำลังบดบังทัศนียภาพ ทุกๆสิ่งมีเพียงแค่แสงไฟสีส้มตามทางเดินที่มอบแสงสว่างให้ ผมเดินเรียบไปตามสระพลางก้มหน้ามองพวกนกพิราบที่ยังคงเดินหากินอยู่ การแกล้งนกให้บินแตกฮือมันก็สนุกดีอยู่หรอกนะ แต่มันไม่ทำให้ผมลืมนึกถึงคนชื่ออู๋ได้เลย

ความหวังที่มันกำลังจุดประกายอยู่ในความคิด หากเชื่อเรื่องการเกิดใหม่ผมจะหลอกตัวเองได้หรือเปล่าว่านั่นคือคริสจริงๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อคริสก็คือคริสไม่มีทางที่คนอื่นจะมาแทนที่หมอนั่นได้...

น้ำตาผมมันไหลอีกแล้วว่ะ...

"อะแฮ่ม!"

เฮือกกกกกก!!! "เชี่ยยยยยย!!!" ใครไม่รู้กระโดดพรวดมาดักข้างหน้าในขณะที่ผมกำลังเหม่อ เลยได้คำอวยพรไปเต็มๆตัว เงยหน้าย่นคิ้วมองร่างสูงด้วยความเร็วก่อนที่ผมจะรู้สึกผงะเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย

"คะคริส..." ไม่สิไม่ใช่คริส

"พี่กลับเย็นจังเลย เดินคนเดียวเหงาหรอถึงกับร้องไห้เชียว"

ผมปาดน้ำตาออกไปลวกๆก่อนจะมองคนตรงหน้าด้วยอาการเอ๋อแดก บทเวลาที่สมควรจะพูดแต่ดันลิ้นแข็งซะงั้น ผมว่าหน้าของผมมันคงตลกมากในขณะนี้ เพราะร่างสูงมันมองผมเหมือนตลกมากจนผมรู้สึกเคืองขึ้นมา

"หลบสิ..."

"หลบไม่ได้หรอก มองอยู่ตั้งนานพี่ไม่รู้ตัวเลยหรอ? กว่าจะได้คุยกันรู้ไหมว่าผมรอพี่นานมากขนาดไหน"

ฮึก!

ทำไมคำถามมันรู้สึกสะกิดใจแบบนี้วะ!

"อะไร ไม่รู้จักกันสักหน่อยทำไมต้องมารอ" ทำไมอยู่ๆถึงได้รู้สึกเขินขึ้นมาวะ! มันเขินจนใบหน้าเห่อร้อนเวลาที่ร่างสูงมองลงมา รอยยิ้มนั่นมันเหมือนกับเขามากจริงๆให้ตายสิ!

ผมตั้งท่าจะเดินหนีเพราะไม่สามารถควบคุมหัวใจของตัวเองได้ อย่างน้อยก็หนีไปตั้งหลักก่อนก็ยังดี แต่มือใหญ่ๆและอบอุ่นนั่นกลับคว้ามือของผมเอาไว้หมับ! จนผมต้องหันกลับมาและเงยหน้าสบตาเขาอีกครั้งหนึ่ง

รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหล่อเหลา น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนที่คุ้นเคยและไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อ ในเวลาที่เขาเปล่งเสียงออกมามันพาลให้ผมรู้สึกอยากร้องไห้ออกมาทุกที แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นเมื่อคนตรงหน้าพยายามที่จะพูดกับผม...

"ไม่รู้ว่าพี่เชื่อในพรมลิขิตหรือเปล่า แต่... ผมเชื่อนะ ไม่รู้ทำไมแค่เห็นพี่ผมก็รู้สึกรักเข้าไปแล้ว มันทั้งโหยหาทรมานและอยากกอดเอาไว้ แต่ความรู้สึกกลับต้องปิดบังเพราะกลัวว่าพี่จะหาว่าผมบ้า... อะเอ่อ.. คือ... ผมได้ยินข่าวลือว่าพี่ไม่ชอบเกย์ แต่... แต่ผมก็ไม่ได้เป็นเกย์นะ แต่รู้สึกชอบ อยากกอดพี่ ผะผม..."

"นายพูดบ้าอะไร" คำพูดที่ยืดยาวมันทำให้ผมรู้สึกรำคาญ แต่หัวใจกลับยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ามือของร่างสูงมันช่างอบอุ่นแตกต่างจากคริสที่เย็นเฉียบ และเหงื่อออกด้วยความประหม่า เด็กนั่นหน้าเสียหลังจากที่ผมพูดออกไปแบบนั้น เด็กนั่นตั้งท่าจะพูดต่อ

"คะคือ..."

"ไอ้ที่นายพูดเมื่อก่อนหน้าน่ะ นายพูดว่าอะไร" ความรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น มันทำให้ผมถามเขาย้ำเมื่อไม่ทันฟังให้ชัดเจน

"ฮะ ฮ๊ะ?"  เด็กนั่นทำหน้างงๆก่อนจะตอบ "ผมไม่ได้เป็นเกย์"

ผมถอนลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ "ไม่ใช่! ความรู้สึกของนายที่บอกฉันต่างหาก" ในนาทีนั้นผมเห็นหน้าเขาแดงจัดขึ้นมาหลังจากที่ผมถาม มันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาบางๆก่อนจะตีสีหน้านิ่งสนิท เด็กนั่นคลำท้ายทอยแก้เขินก่อนจะพูดมันออกมา

"ผะ ผม... ผมรักพี่"

หมับ!

สวมกอดร่างสูงเอาไว้จนแน่นโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว เหมือนเขาตกใจที่เห็นผมกอดเขาแบบนั้นจนตัวเกร็ง ก่อนที่จะคลายจากความตกใจและกอดผมตอบแนบแน่น ไม่สนสายตาของนักศึกษาหรืออาจารย์ที่เดินผ่าน ในเวลานี้ผมอยากกอดเขาให้นานที่สุดเท่าที่ความคิดถึงมันจะหายไป ร้องไห้ออกมาเงียบๆ มันเป็นความตื้นตันมากกว่าความเศร้า

แม้ว่าไม่พูดอะไรออกมา แต่มันกลับสื่อความรู้สึกออกมาจากอ้อมกอดทั้งหมด มันทั้งคุ้นเคยและอยากให้คริสหรืออู๋กอดอยู่แบบนั้น เขาไม่ใช่คริสผมรู้ดีว่ามันไม่สามารถเป็นคริสได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้ว่า... คนที่ผมรักมากที่สุดก็คือดอลฟี่คริสของผม หรือใครบางคนที่เป็นคริสกลับชาติมาเกิด...

รู้ไหม? ความรักที่แท้จริงน่ะมันบริสุทธิ์จะตาย การรักใครสักคนมันเป็นเรื่องง่าย แต่การตัดใจละทิ้งความรักด้วยจากลาน่ะมันทำได้ยากยิ่งกว่า ไม่มีใครรู้หรอกว่าความรักน่ะมันเริ่มอยู่ที่ตรงไหนเพียงแค่สบตาก็เกิดความรู้สึกนั้นได้แล้ว มันก็เหมือนกันกับผมที่เจอเขา...

ถึงเป็นตุ๊กตาก็ใช่ว่าจะไม่ต้องการความรักจากมนุษย์ หากพวกมันพูดได้พวกมันคงบอกรักพวกคุณเช่นกันที่คอยดูแลและพูดคุย มันอาจจะเป็นเรื่องตลกของใครหลายๆคน แต่มันกลับเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตของผมมีความสุขมากที่สุด แม้จะเป็นเพียงแค่เวลาสั้นๆ แต่นั่นก็ทำให้ผมพิสูจน์อย่างหนึ่ง ว่าความรักน่ะมันสามารถเอาชนะความชั่วร้ายทุกสิ่งได้ อยู่ที่ว่า... พวกคุณทุกคนจะทนต่ออุปสรรค์นั่นได้นานแค่ไหน...

ผมพยายามไขว่คว้าความรักในรูปแบบใหม่โดยที่ไม่มีวันทำผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง แล้วพวกคุณล่ะ? พร้อมที่จะมีความรักแล้วหรือยัง....

ฉันรักนาย... คริส...





จบบริบูรณ์




....
 :katai5:
Happy Valentine's Day
จบแล้ว!!!! นักเขียนอยากถอนลมหายใจออกมาดังเฮือก!!!!
มันอาจจะจบง่ายไปนิดแต่ก็จบดีนั่นแหละ อาจมีใครหลายๆคน
ผิดหวังเรื่องคริส แต่เอาน่าได้อู๋มาแทนก็ไม่ต่างกันหรอกมั้ง อิอิ
ต้องขอขอบคุณแฟนๆคริสเต๋าทุกคนที่คอยติดตาม
และให้กำลังใจกันมาตลอดระยะเวลาในการแต่งนิยายเรื่องนี้นะคะ น้ำตาจะไหล
ขอบคุณอีกครั้ง และขอให้มีความสุขในวัน  Valentine's Day ค่ะ!
 :heaven



หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-02-2015 20:32:57
 o22. 

ทำไมอ่านตอนนี้แล้วต้องร้องไห้.  :o12: 
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ ไม่ว่าคริสจะอยู่ที่ไหน อาจจะอยู่ในตัวอู๋. ขอให้เต๋ามีความสุขนะ
 จะรอตอนพิเศษนะขอกันตรงๆเลยละกัน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 14-02-2015 21:23:29
โอ้ๆจบแล้ววววว น่าจะมีตอนพิเศษๆ คู่นี้ยังหวานไม่เยอะเลยอ่า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ѷanᴉ££a ที่ 14-02-2015 22:02:12
จบแล้ว

ขอบคุณมากนะ

เหมือนเหตุการณ์หลังๆจะรวบๆไปนิดนึง แต่เนื้อเรื่องดีมากมาย

อยากจะบอกว่า อยากให้มีตอนพิเศษเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 14-02-2015 22:58:00
เค้าขอตอนพิเศษได้ม่ายยย เหมือนยังไม่พอ TT  :ling1:

 :z13: :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 14-02-2015 23:09:26
จะได้ไหมถ้ารู้สึกว่าอู๋มาแทนคริสไม่ได้ถึงแม้จะคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-02-2015 23:12:32
แว้บไปอ่านตอนพิเศษสองตอนที่หน้าสิบแล้วก็โอเคน่ะ

ชินไก่. อู๋เต๋า  ส้มโอเนอะ  สามคู่ที่คิดว่าน่าจะแฮปปี้ดี ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่ารักค่ะสนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-02-2015 23:12:51
จบแล้วจริงดิ ยังผจญภัยกับตอนที่แล้วอยู่เลย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-02-2015 00:15:41
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Panpearwa ที่ 15-02-2015 14:37:42
จบแว้ววว ฮื่อออ คริสเต๋า เรื่องมันเศร้าาา :o12: :o12: :o12:
ชอบเรื่องนี้อ่ะสนุกมาก คนเขียนเก่งมากครัช  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 15-02-2015 20:57:17
 :กอด1: :L2: :กอด1: ขอบคุณครับเรื่องนี้น่ารักมาก
และ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ เมื่อวาน วันนี้ ตลอดปีและตลอดไป
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: pp.ll.ee ที่ 16-02-2015 22:03:29
ง่า ยังไม่อยากให้จบอ่ะ ต่อเหอะ  :ling1: :ling1: :ling1:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 17-02-2015 17:28:32


เหมือนจะงง

แต่ก็เข้าใจว่า

อู่คือคริส

คริสคืออู๋

ทุกอย่างจะได้ไม่เศร้า

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 11-03-2015 16:08:48
.
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-03-2015 19:24:46
ถึงแม้ว่าการขอพรของเต๋าจะทำให้เรื่องราวในอดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบันเปลี่ยนไป
แต่เต๋าก็ยังคงมีความทรงจำตอนที่ได้อยู่กับคริสอยู่
และคิดว่าส่วนลึกของจิตใจคริสก็คงมีความทรงจำดีๆนี้อยู่เหมือนกันสินะ อู๋ถึงรู้สึกว่ารอคอยเต๋ามาตลอด
ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ

ปล.เราก็ยังคงคิดถึงคริสอยู่นะ (อาจเป็นเพราะจบในเวลาที่เต๋าเพิ่งรู้จักอู๋ เลยยังไม่ค่อยเทใจให้อู๋เท่าไหร่)
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 11-03-2015 20:06:45
ขอตอนพิเสดคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 13-03-2015 17:06:27
สนุกมากครับ อยากใหมีตอนพิเศษจัง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 13-03-2015 21:41:26
จบแฮปปี้ แต่เรารู้สุกเศร้านิดๆนะ สงสารคริส อยากให้เคียงคู่กัน(ในแบบที่ไม่ใช่เกิดใหม่เป็นอู๋)

สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วลุ้นตามใครคือพ่อมดตัวจริง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 14-03-2015 09:04:10
 :กอด1:สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 14-03-2015 11:39:51
จบแล้วววววววววววววววว
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ไม่รู้จะพูดยังไงดี
แต่ขอบอกว่าแต่งสนุกมากๆค๊าาาาาาาาา
ชอบคู่พี่ชินกับไก่อะ ดดยเฉพาะที่พี่แกบอกไก่ต้องเป็นของพี่นี่
กรี๊ดลั่นห้องเลยยยยยยยยยย
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Karn1892 ที่ 14-03-2015 15:37:46
ไม่รู้คิดไปเองหรือเราเบลอ..อ่านเรื่องนี้เหมือนอ่านฟิค EXO คู่ KrisTao เลยอ่า....
ส่งสัยเราจะเบลอจริงๆคิดมากไป แต่นอกจากคริสเทาแล้วยังมีแบคโดอีก อันนี้ยิ่งชวนคิดเลย
 :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready

แต่ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกมากเลยค่ะ...ชอบคู่ไก่กับพี่ชินรู้สึกมันดูเป็นความรักแบบแฟนตาซีสุดๆ
พี่ชินเป็นซาตานงี้ นึกภาพตอนมีปีกอย่างหล่ออ่ะ.......ต้องบอกเลยว่าพอเฉลยว่าพี่ชินเป็นซาตานตกใจนิดๆ
ตอนแรกก็พอรู้ว่าพี่ชินน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาแต่กลับมาเหนือความคาดหมายมาก

ชอบเรื่องนี้มากเลย...ขอบคุณมากนะค่ะที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้ให้ได้อ่านกัน
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 15-03-2015 01:32:19
 :pig4:
 :pig4:
 :pig4:
 :pig4:
สนุกมากๆๆๆๆๆ   ตามติดทุกตอน คนแต่งแต่งเรื่องดีมากๆคะ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 15-03-2015 04:35:27
สนุกดีจ้ะ ตัดจบเร็วไปนิดนึง เสียดายที่เอาตอนพิเศษลงก่อนตอนจบ เลยกลายเป็น spoil ตอนจบไปเลย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 15-03-2015 13:37:54
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆ นะฮ๊าฟฟฟ
เขียนได้สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Lalita ที่ 16-03-2015 00:17:47
สุดๆแล้วเรื่องนี้


สนุกมากกกกก เราชอบบบบบ


อ่านแบบรวดเดียว เพลินดีแท้ ชอบมากๆเลยค่าา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Gear77 ที่ 16-03-2015 23:06:04
ที่เป็นอย่านี้ตอนสุดท้ายเพราะว่าคำขอของเต๋าเป็นจริงรึเปล่า เพราะว่าถ้าย้อนไปในอดีตทุกอย่างแฮปปี้ก็จะไม่เกิดตุ๊กตาคริสขึ้น  :hao5: ก็เลยทำให้ทุกอย่างวนมาที่เดิมตอนเต๋าเห็นตุ๊กตาครั้งแรก แต่ครั้งนี้ไม่มีตุ๊กตา ไม่มีพ่อมด แต่มีอู๋แทน แบบนี้ก็แฮปปี้ดี ถ้าจะดีกว่านี้ขอตอนพิเศษหน่อยจิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนจบ - P13 - 14/2/58 [จบเเล้วย้ายได้เลยค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Egonoki ที่ 20-03-2015 15:22:11
อ่านจบแล้วววว....สนุกมาก
พลอตเรื่องน่าสนใจและติดตาม
จะติดตามผลงานเรื่องนะ...
หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น ตอนที่1 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 02-05-2015 14:20:48
 :katai4:



DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป
ตอนพิเศษ ตอนที่1
คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น
[/color][/size]





ภาพอันเลือนราง และเสียงที่ก้องกังวาลอยู่ในหัวใจนั่นมันคืออะไรวะ...

แกร๊งงงงง... แกร๊งงงง....

เสียงระฆังดังก้องกังวานไปทั่วโบสถ์ภายในเมืองโนอา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มอบความสุขต่างเต็มไปด้วยความรัก กลิ่นหายอันหอมหวานตลบอบอวลไปทั่วทุกพื้นที่ ทุกย่างก้าวที่เอดิสันเดินผ่านมักประดับไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวสะอาดตา แซมด้วยกุหลาบสีชมพูอ่อนประปราย ดั่งสัญลักษณ์แทนความรักคู่บ่าวสาวที่กำลังเบ่งบานดั่งดอกไม้เหล่านั้น

ชายหนุ่มร่างสูง หรือเจ้าชายน้อยเอดิสัน แห่งราชวงศ์โนอารอยเซอร์รา เดินไปตามเส้นทางสายเล็กอย่างเชื่องช้าหลังจากที่เจ้าชายซาฮันพี่ชายคนโตเข้าโบสถ์

ดวงตาเรียวคมมองไปตามพื้นอิฐที่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงพลางเตะกลีบใบไม้ด้วยความรู้สึกที่น่าเบื่อหน่าย 

เบื่อ... น่าเบื่อ... ทุกคนต่างยินดีที่พี่ซาฮันแต่งงาน แต่ข้าทุกคนกลับหลงลืม แม้แต่พี่ซาฮันเองก็เหมือนกัน เอาแต่ยุ่งอยู่กับนางจนลืมข้าแบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ

ชายหนุ่มคิดอย่างน้อยอกน้อยใจ เตะใบไม้ไปตามทางอย่างหงุดหงิด ใบหน้าคมหวานชักสีหน้าบึ้งตึง ย่นคิ้วเข้าหากันแน่น กลีบปากกระจับขบเม้มด้วยความรู้สึกโกรธเคืองในใจ

โดยปรกติแล้วเจ้าชายน้อยหรือเอดิสัน มักจะถูกตามใจและคอยประคบประหงมดั่งไข่ในหินที่ต้องเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดู ทุกคนรักเจ้าชายไม่เคยปล่อยปละละเลยออกห่าง โดยเฉพาะพี่ซาฮันที่รักเอดิสันมากกว่าใครๆ เจ้าชายองค์โตมักจะตามใจเอดิสัน ยิ่งรู้ว่าน้องชายป่วยง่ายมาตั้งแต่เด็กๆ ซาฮันก็ยิ่งหวงแหนและคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

แต่มาวันนี้กลับเปลี่ยนไป วันที่เจ้าชายเอดิสันหายดีจากอาการป่วยเหล่านั้น กลับมาเป็นเจ้าชายน้อยที่มีสุขภาพพลานามัยที่ดีดั่งชายหนุ่มทั่วๆไป วันที่เจ้าชายครบรอบอายุสิบแปดชันษา วันที่พี่ซาฮันเข้ามาบอกว่า "พี่จะแต่งงาน" วันนั้นจึงทำให้เอดิสันรู้ว่า... เขาไม่ใช่เด็กเล็กๆที่จะต้องรอให้เจ้าชายซาฮันดูแลอีกแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่ดี อิจฉา และน้อยใจเป็นเรื่องปรกติ แต่ถึงกระนั้นตัวเขาก็ไม่อาจยอมรับได้อยู่ดีว่า พี่ซาฮันอาจจะเลิกเอาใจใส่เขาและต้องไปคอยดูแลยัยเจ้าหญิงนั่น!

ร่างสูงโปร่งหยุดชะงัก เมื่อมาถึงอุทยานแห่งหนึ่ง เป็นอุทยานที่ดูไม่คุ้นตานักดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นส่วนย่อยของโบสถ์ เมื่อเงยหน้ามองก็รู้ว่าตัวเขามาไกลมาก ไกลเสียจนไม่รู้ว่าหลงมาอยู่ที่ไหน แต่รู้แค่เพียงว่าที่นี่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้ สร้างความงดงามให้แก่สถานที่ได้ดี

ดวงตาทอดมองไปข้างหน้า เห็นโบสถ์เก่าๆอีกโบสถ์หนึ่งอยู่ไม่ไกลนัก แลดูสภาพเก่าแก่ดอกกุหลาบเลื้อยเกือบจะถึงหลังคาอยู่แล้ว ขนาดโบสถ์ค่อนข้างใหญ่ ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่ๆถูกทอดทิ้งเป็นแน่ แถมให้ความวังเวงรู้สึกน่ากลัวมาก

ถึงจะเป็นหนุ่มแน่น แต่ก็ยังกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็นไม่หาย เหมือนมีไอดำรอบกายปกคลุมไปทั่วพื้นที่ มันจะน่าสะพรึงมากไปแล้วนะ ทำไมต้องมาเจออะไรแย่ๆแบบนี้ด้วย พี่ซาฮันก็ไปมีเมีย ส่วนข้าก็มาหลงอยู่ในโบสถ์เก่าๆน่ากลัวนี่ อย่ามีผีออกมาเชียวเดี๋ยวข้าถีบหน้าหงาย ขอตั้งหลักวิ่งหนีก่อนก็ได้ค่อยตามมาหลอกหลอน

ไม่วายยืนคิดและค่อยๆก้าวถอยหลังเตรียมเผ่น ความกลัวขึ้นสุมในจิตใจจนตาขาว ใครๆต่างก็รู้ว่าเจ้าชายน้อยกลัวสิ่งเร้นลับมากเพียงไร และเจ้าชายยังชอบจินตนาการในสิ่งที่มองไม่เห็นอีกด้วย นี่อาจเป็นผลกระทบเมื่อครั้งที่ยังเด็กอยู่ก็เป็นได้

ร่างสูงโปร่งค่อยๆก้าวถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะเอี้ยวตัวอย่างช้าๆเตรียมหนี แต่เมื่อเขาหันหลังเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็ว เพียงอึดใจก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปียโนที่ดังก้องกังวานไปโดยรอบ รีบหันกลับไปมองค้นพบว่าเสียงๆนั้นดังแว่วมาจากในโบสถ์ที่น่าสะพรึงนั่น

ชิบ!

ไม่ทันได้หนีก็เล่นกันแล้วหรือไง เอดิสันมองไปทางโบสถ์เก่าๆด้วยหัวใจที่เต้นระทึก ดวงตาเบิกโตใบหน้าหรอหรา ใจหนึ่งอยากจะก้าวขาแต่กลับก้าวไม่ออก ยืนฟังเสียงเพลงเศร้าๆนั่นที่กำลังบรรเลงเพลงอย่างช้าๆ ให้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังคิดถึงใคร
คิ้วเรียวขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ก่อนจะหันตัวเข้าหาโบสถ์นั่นอีกครั้ง นี่มันไม่ใช่เสียงผีแล้วล่ะ น่าจะเป็นเสียงคนเล่นเปียโนจริงๆ อย่าฟุ้งซ่านน่าเอดิสัน โตจนจะนำหน้าพี่ซาฮันไปแล้วอย่าปอดแหกเลยน่า....

แต่คิดปลอบใจตัวเองก็เปล่าประโยชน์ ถึงยังไงก็ยังกลัวอยู่ดีล่ะวะ ร่างสูงโปร่งค่อยๆก้าวขาไปข้างหน้า ไปตามาทางเดินสายเล็กซึ่งมีใบไม้ทับถมอยู่เต็มพื้น ผ่านรั้วกุหลาบที่กั้นทั้งสองฝั่งทอดยาวไปถึงหน้าโบสถ์ ถึงกลัวแต่ก็อยากสอดรู้สอดเห็น เสียงเพลงที่แว่วเสียงมาพาลให้หัวใจรู้สึกโหยหาอย่างแปลกประหลาด

ประตูไม้ของโบสถ์สีดำดูเก่าแก่เต็มไปด้วยคราบลมฝนมานานหลายสิบปี ไม่เคยมีใครมาดูแลรักษายิ่งทำให้เขาไม่อยากคิดจะผลักมันเข้าไป แต่เสียงเปียโนที่แว่วอยู่ภายในกลับกระตุ้น  เหมือนคำสั่งของเจ้าประตูนี่สั่งว่า ผลักข้าสิ ผลักข้า

ผลักน่ะผลักแน่ แต่สัญญาก่อนได้ไหมว่าผลักเข้าไปแล้วจะไม่จ๊ะเอ๋กับภาพอันน่าสยดสยอง ห้ามมีหน้าขาวๆโผล่ออกมาจากประตูด้วยนะโว้ยไม่งั้นถีบหน้าหงาย ยืนใช้กระแสจิตคุยกับประตูไม่เท่าไรมือเรียวก็ค่อยๆยกขึ้นหมายจะผลักมันเข้าไปดั่งใจกำลังสั่ง ใบหน้าตึงเครียดจนถึงขีดสุด หัวใจเต้นแรงเหมือนกำลังอยู่ในประสบการณ์ขนหัวลุกที่พี่ซาฮันชอบเล่าเป็นนิทานก่อนนอนให้ฟังบ่อยๆ

นี่ถ้าจะโทษใครก็ต้องโทษเจ้าชายใหญ่แห่งอาณาจักรโนอารอยเซอร์รานี่แหละ ที่ชอบแกล้งเจ้าชายน้อยอย่างเขา จนทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องปลูกฝังอยู่ในใจไปแล้ว ว่าโลกนี้มันมีสิ่งเร้นลับ แต่แท้ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กๆของอาณาจักรเสียด้วยซ้ำ ผิดก็แต่เจ้าชายน้อยนั่นล่ะที่อ่อนแอเอง (ซาฮันแอบยักไหล่ในความอ่อนหัดอยู่เบื้องหลัง)

แอ๊ดดดดดด...

เสียงประตูถูกเปิดออก ราวกับเสียงกระชากวิญญาณของเอดิสันให้ออกจากร่าง ขนาดเสียงประตูยังขนลุกเลย ถ้าเข้าไปนี่มันจะน่าสะพรึงขนาดไหนวะ แต่เอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เสียงนั่นก็ชวนให้อยากรู้เสียเหลือเกิน

ร่างสูงโปร่งแทรกกายเข้าไปในช่องประตูที่เปิดออกอย่างช้าๆ กวาดสายตาไปรอบๆโบสถ์ที่ดูเก่าแก่ แต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แสงแดดอ่อนๆส่องลอดเข้ามาตามรูหลังคาที่ผุพัง ส่องให้เห็นทัศนียภาพได้อย่างชัดเจน ที่นี่ร้างลามานานจริงๆอย่างที่คิดนั่นล่ะ ขนาดต้นไม้ยังแทงขึ้นมาจากพื้นดินเติบโตอยู่ภายในโบสถ์ดูให้ความร่มรื่น เถาวัลย์ไม้ขึ้นเกาะตามผนัง บ้างมีเถากุหลาบกำลังออกดอกผลิบานไม่ต่างจากภายนอก

อื้อ... หือ...

นี่มันไม่ต่างจากสวรรค์ดินแดนอัศจรรย์ในหนังสือเลยนะ ดวงตาแพรวพราวขึ้นมาในทันที นี่เขากำลังค้นพบสถานที่แห่งใหม่ ที่ๆใครก็ไม่รู้ว่าต้องมีความสวยงามอยู่ในโบสถ์นี่ ยกยิ้มกระหยิ่มใจ เดี๋ยวอีกหน่อยจะใช้ที่นี่แหละเป็นฐานทัพ จะเอาให้ปราสาทวุ่นวายตาเหลือกหากันให้ตายกันไปข้าง

ค่อยๆย่างเท้าเข้ามาสู่ภายในอย่างช้าๆ สายตาหันไปทางต้นเสียงที่อยู่ลึกข้างใน เปียโนที่ยังบรรเลงเพลงเศร้าค่อยๆชัดเจนขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเอดิสันเดินเข้าไปหาต้นเสียงนั่นเรื่อยๆ

แสงสีขาวลอดผ่านลงสู่เบื้องล่างหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง ส่องผ่านฝุ่นละอองในม่านอากาศที่กระจัดกระจายฟุ้ง กระทบกับแสงสีเขียวของต้นไม้ ทำให้ดูสวยงามยิ่งนัก เปียโนสีขาวตัวหนึ่งวางตั้งอยู่ตรงกลาง มีใครบางคนกำลังเล่นมันอยู่

เรือนผมสีทองเคลื่อนไหวไปตามสายลมเอื่อยที่พัดผ่านเข้ามา ดวงตาคมหลุบมองนิ้วมือที่กำลังบรรจงเคลื่อนไหว กลีบปากอวบอิ่มสีชมพูยกยิ้ม ใบหน้าคมหล่อเหลาดูเศร้านั่นสะกดจิตใจของเอดิสันตั้งแต่แรกเห็น

ใคร?

คำถามแรกที่ยังก้องอยู่ในหัวทันทีที่ได้เห็น ดวงตาเรียวคมเบิกขึ้นมองไปยังชายแปลกหน้าคนนั้นที่ยังคงสร้างบทเพลงอันไพรเราะ แม้ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าเขาเว้นระยะห่างเพียงแค่สี่ก้าว แต่คนๆนั้นก็ยังคงบรรเลงเพลงต่อไปไม่สนใจ กระทั่งตัวโน๊ตสุดท้ายในแผ่นกระดาษจบลง กลายเป็นความเงียบงันเข้าปกคลุมพาลให้หัวใจหยุดเต้นตาม

เอดิสันหยุดลมหายใจไปชั่วขณะ เหมือนสายลมเอื่อยพัดพาเอาความรู้สึกบางอย่างแล่นผ่านเข้ามาด้วย หัวใจเต้นถี่รัวแปลกประหลาดทอดมองคนตรงหน้าที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขา...

ดวงตาสีครามทะเลค่อยๆปรือตาขึ้นมองมาอย่างช้าๆ ใบหน้าเรียบเฉยแลดูเย็นชาค่อยๆคลี่ยิ้ม แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนยากที่ใครก็ตามจะได้เห็น ต่างต้องรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับรอยยิ้มนั้น... รอยยิ้มของเขา ตราตรึงตราใจตราบนานชั่วนาน...

"คริส"

 สายลมเอื่อยกระทบร่างของคนทั้งสอง ความหนาวแล่นผ่านเข้าสู่กาย แต่หัวใจเล่ากลับสับสน เขารู้จักคนๆนี้หรือ? ทำไมเพียงแค่เห็นดวงตาที่ทอดมองคู่นั้น กลับนึกชื่อๆหนึ่งออกมา เอ่ยมันโดยที่ไม่ต้องลังเล ไม่อาจละสายตาไปจากดวงตาคู่นั้นได้ พาลให้หัวใจกระตุกเกร็ง ดวงตาเอ่อคลอน้ำใสอุ่นที่กำลังล้นทะลัก...

ความคิดถึงจนหาที่สิ้นสุดมิได้นี่มันคืออะไร

"ในที่สุดก็เจอกันอีกครั้ง... จนได้สินะ" เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาจากร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า เอดิสันย่นคิ้วไม่เข้าใจว่าคนๆนั้นหมายถึงอะไร ดวงตาสีครามทะเลคู่นั้นที่ทอดมองพาลให้หัวใจเจ้าชายปั่นป่วน ถอยหลังหลีกหนี ก่อนจะหมุนตัววิ่งออกไปจากประตูด้วยความเร็ว

ทำไม... ทำไมข้าต้องหนี ทำไมล่ะ เหมือนกลัวว่าหากข้าอยู่กับคนๆนั้นจะต้องเจ็บปวดแน่ๆ...


พรึบ!

"อึก!" ผมลืมตาโพลงท่ามกลางแสงจ้าของวันใหม่ เหมือนมีบางอย่างมันฉุดกระชากร่างผมขึ้นมาจากความฝัน ก่อนจะหรี่ตาลงเพราะแสงแดดในเช้าสายของวันเสาร์พร้อมกับเสียงไอ้อู๋มันเรียกกินข้าวนี่แหละ

"พี่ตื่นหรือยังเนี่ย จะนอนกินบ้านกินเมืองอีกนานแค่ไหน"

แม่ง... จะนอนตื่นสายสักวันหน่อยไม่ได้หรือไง ตกลงเป็นแฟนหรือเป็นพ่อกูแน่วะเนี่ย

ลุกขึ้นนั่งเกาหัวแกรกๆทำมึน มองไอ้ยักษ์ที่เดินไปมาแก้ผ้าโทงๆ มีบ็อกแค่ตัวเดียวใส่ปิดน้องหนูกระปู๋ของมัน บ่นๆๆๆ แล้วก็บ่นไม่รู้จะบ่นอะไรของมันหนักหนา พอมันหันมาเป็นผมนั่งเอ๋อแดกเป็นแพนด้าไม่สร่างเมา พวกก็เดินเข้ามาลากแขนลากขา

"ลุกสิ มัวแต่นั่งอยู่ได้สิบโมงต้องออกรถแล้วนะ" มันยังมีหน้ามาทำตาดุใส่อีก พอเห็นมันแบบนี้แล้วคิดถึงคริสชะมัด หมอนั่นก็ชอบทำตาดุแบบนี้แหละ ถึงจะพูดน้อย แต่ไอ้อู๋กับคริสลักษณะนิสัยนี่ไม่ต่างกันเท่าไร ขี้ดุ ขี้ร้อน ขี้หื่น ขี้เซา ขี้เกรียน ขี้เหม็น... อย่างหลังนี่ไม่ใช่ละไม่เคยดมเว้ย วู้!

อย่าครับ อย่าสนใจชายเต๋า แค่อาการบ้าบอไปตามประสาไม่อาจจะรักษาหาย ยิ่งถูกไอ้เด็กนี่สั่งเป็นพ่อยอดยาหยี ตัวพรี่นี่อยากกระโดดถีบหน้าให้หายยุ่งในทันที ผมเลยโวยมันมั่ง "พี่ตื่นเช้ามาก็บ่นๆๆๆ ถามจริงพูดหวานๆสักวันนี่มันจะตายปะ"

อย่าคิดว่ามันจะสลดครับ ไอ้บ้านี่ไม่มีคำนั้นอยู่ในหัวหรอก แต่มันกลับยิ้มมุมปากได้กวนบาทาโคตรๆ "ถ้าพี่อยากให้ผมพูดแบบนั้น... ก็ได้นะ แต่ต้องให้ผมกินพี่ทุกครั้งที่พูด"

"ไอ้ฝลัด!" ไอ้เด็กเชี่ย! ถีบมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ มันยังมีหน้ามาหัวเราะผม แล้วก็ก้มลงหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ก่อนที่มันจะกลับไปเตรียมข้าวเช้าให้ผมนี่แหละ พอมันเห็นผมนั่งบื้ออยู่ ก็ส่งสายตาคมดุจิกกัดอยู่ได้ ก็เลยต้องรีบลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันก่อนที่จะโดนไอ้เด็กบ้านี่แดกจริงๆ

ปรกติผมมักจะตื่นก่อนเสมอ แต่เวลาจะออกไปไหนอู๋มันจะเป็นคนตื่นก่อน แล้วเร่งให้ผมทำอะไรเร็วๆ เวลาได้ทีนี่ขี่แพะไล่ตลอด ยังมีหน้ามาดุชาวบ้านทีเวลาตัวเองล่ะไม่เคยจะบ่น ชิ! หมั่นไส้ แต่ทำไรแม่งไม่ได้ เซง!

แต่ถึงจะหมั่นไส้ แต่ผมก็รู้สึกว่าวันๆหนึ่งของผมไม่ได้สูญเปล่าเวลาที่อยู่กับมันหรอกนะ หมอนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าคริสยังคงอยู่กับผมเสมอ แล้วมือที่กำลังแปรงๆอยู่นี่ก็ต้องหยุดชะงัก...

บ้าเอ๊ย! ทำไมผมต้องคิดถึงเขาด้วย...

ดวงตาเหม่อลอยไปที่หน้ากระจก มองใบหน้าหล่อๆตาคล้ำ ยาสีฟันฟูมปาก ผมก็ไม่เข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองแปรงฟันหรือแปรงปากกันแน่ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนักหวนคิดถึงฝันประหลาดฝันนั้น ราวกับว่ามันคือเรื่องจริง

ความฝัน เหมือนผมเป็นเจ้าชายน้อยเอดิสันคนนั้น หรือผมกำลังระลึกชาติของตนอยู่ หรือไม่... ก็ผมนั่นแหละที่คิดถึงพวกเขามากจนเกินไปทำให้เอามันมาฝันแบบนี้ แต่ดวงตาคู่นั้นยังติดตรึงไม่เสื่อมคลายจริงๆ ผมต้องทำยังไงที่จะหยุดลืมพวกเขาได้ ไม่ต้องเอามาทำร้ายหัวใจแบบนี้ ทำไมพรของคริสไม่ส่งผลให้ผมลืมพวกเขาไปเสียเลย ทำไมวะ? ผมนี่อยากจะแพ่นกระบาลคริสสักทีข้อหาทำงานหละหลวม ยังไม่พอนะ... หมอนั่นยังไม่ทำพรอีกข้อของผมให้สมหวังเลยด้วย!

"ทำไมนานนักล่ะ พี่กำลังเข้าชาญหรอ?"

"เข้าชาญป๊าเอ็งสิ" ด่าไอ้เด็กบ้าที่โผล่หน้าเข้ามาในห้องน้ำแล้วก็กวนตรีนผมเลย มันยิ้มที่มุมปากบางๆอีกแล้ว รอยยิ้มนั่นมันเหมือนเขาเสียผมใจสั่น ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วสวมกอดที่เอวแนบแน่น น้องชายภายใต้กางเกงแม่งตื่นเป็นตอปิโดเตรียมถลมป่าวอ่าวอยู่ได้

"ไอ้..." ยินฟันถลึงตาใส่นี่อย่าคิดว่าจะกลัว ไอ้บ้านี่มันหน้ามึนเหมือนใครวะ ไอ้บร้า! ออกป๊ายยยยย!!! นี่เสียวประตูหลังจนขมิบก้นแทบตะคริวกินแล้วนะเว้ย!

"ออกไปดี๊!"

"หืม? พี่อ่อยผมไม่ใช่หรอ จะเขินทำไม"

เขินพร่องเมิงเซ้!!!!!!! ไม่ได้อ่อยด้วยว้อยยยยยย!!! "ไอ้บ้าคริส! เอ๊ะ!" ผมรีบเอามือปิดปากเมื่อเผลอเรียกเขาอีกแล้ว อู๋มันเลิกคิ้วขึ้นสูงประหลาดใจที่ผมหลุดปากไปแบบนั้น ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายให้ผม ส่วนชายเต๋านี่น่ะหรอ... แมร่งเอ๊ยหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ
"ขะ ขอโทษ" ไม่ได้ตั้งใจคิดถึงเขานะเว้ย แต่เอ็งเหมือนเขามากเกินไปต่างหาก อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้มากได้ไหมวะ มันจั๊กกระเดี๋ยมหัวใจ เกิดตอปิโดมึงสปาร์คกับหนอนน้อยของพี่ขึ้นมาแล้วจะยุ่ง

"ไม่ให้อภัย" พูดงี้เอาส้นตรีนนาบหน้าพี่ไหมเลยครับ ไอ้บ้า! อย่าทำช้านเลยยยยยย!

ตอนนี้หน้าผมหงอยไปแล้วครับ ไม่รู้ว่ามันพูดเล่นหรือพูดจริง แต่ส่งสายตาอัมหิตดุดันงี้สงสัยจะพูดจริงว่ะ ฮรึก! ผมผิดก็ว่าไปตามผิด ผมผิดเองที่ทำให้เขาเสียใจที่มองเขาเป็นคริส แต่ให้ทำไงได้ในเมื่อสองคนนี้แทบจะเป็นคนๆเดียวกันเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้น้ำมูกน้ำตาผมไหลเผลาะๆ ปาดฟองยาสีฟันที่แตกละอองเม็ดๆตรงปากผมนี่แหละ ส่งสายตาเชื่อมอ้อนวอน อย่าโกรธกันเลยนะ ถ้านายจากพี่ไปสักคนแล้วพี่จะทำยังไง ใครจะคอยหาข้าวหาน้ำให้พี่ ใครจะกอดพี่ตอนหน้าหนาว ใครเล่าจะช่วยขับเหงื่อพ่อยอดยาหยีในหน้าร้อน...

ใช่แล้วครับ การเลี้ยงเด็กมันไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อแฟนเด็กของคุณมันโคตรขี้งอนเงียบและเอาแต่ใจโคตรๆ เอาแต่ใจไม่ใช่ว่างี่เง่านะ คำว่าเอาแต่ใจของไอ้บ้าอู๋นี่แม่ง...

"พี่ผิดสัญญากับผม เพราะงั้น... หึหึ"

ไอ้หึหึนี่โคตรเกลียด เดี๋ยวพ่อชกลูกกระเดือกหลุด แต่ยังครับ ตอนนี้ชายเต๋ากำลังมีความผิด ได้แต่ยืนเจี๋ยมเจี้ยมประสานมือก้มหน้า เป็นเด็กชายเต๋าลืมทำการบ้านแล้วไม่ยอมส่งอาจารย์อู๋ยังไงยังงั้น

แต่ยืนก้มหน้านี่ก็ใช่ว่าจะดี ทิวทัศน์เป็นภูเขาไฟฟูจิเตรียมระเบิดแบบนี้แม่งไม่ไหว ไอ้เด็กนี่มันเข้าใจเลือกซื้อลายบ๊อกเซอร์จริงๆเลยนะ

"มองแบบนี้อยากโดนกินนักหรือไง"

"ปละ เปล่า" เปล่านะเปล่าเลย แค่กินฟองยาสีฟันพี่ก็อิ่มแล้วล่ะครับ ขอเวลานอกบ้วนปากก่อนได้ปะ? ป่านนี้เชื้อโรคตายห่าหมดปากแล้ว ชายเต๋าอนุรักษ์เลี้ยงหมาเอาไว้ในปาก ถ้ามันตายไปคงน่าสงสารแย่ ชำเลืองตามองอู๋แบบอ้อนวอนชีวิตสุดๆ ขอเถอะ... เช้านี้ไม่เอาได๋ปะ? เดี๋ยวเพื่อนมันรู้ว่าไปออกศึกตีประตูชัยมา...

ร่างสูงทอดมองลงมานิ่งสีหน้ายากเดาใจ ไอ้นี่มันคิดอะไรของมันอยู่วะ? อย่าเงียบได้ไหมเนี่ย รู้ไหมว่ามันน่ากลัวมากแค่ไหน พยายามส่งสายตาเว้าวอนสุดๆ จำได้นะเว้ย! นี่ใช้วิชามารของคริสมาเล่นกับอู๋เลยนะ

เจ้าตัวถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลุบตาลงต่ำ ผมพยายามปิดน้องน้อยด้วยมือชุ่มเหงื่อสองมือนี้ กันสายตาไม่ให้ร่างสูงเห็น อย่าหาว่าผมทะลึ่งเลยนะ แต่แม่งเป็นธรรมดาโลกของผู้ชายว่ะที่ตื่นเช้ามาแม่งต้องแข็งทุกคน แถมมายืนเปลือยกันสองต่อสอง เห็นแผงอกกล้ามเป็นกล้ามแบบนี้แล้วมันพาลให้ใจหวิวๆ

ใบหน้าหล่อๆเงยหน้ามองผมอีกครั้ง ก่อนจะคลี่ยิ้มที่มุมปาก นี่เดาไม่ออกเลยว่าไอ้บ้านี่คิดจะทำอะไร เจ้าตัวเอื้อมมือข้ามไหล่ผมคว้าผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดฟองยาสีฟังออก แล้วฉกปากจูบผมโดยที่ผมยังไม่ทันร้องห้ามสักแอ๊ะ

เอี่ยอู๋แม่งฉวยโอกาส!

"อือ..." ลิ้นร้อนๆล้วงเข้ามาภายในดูดดันลิ้นเข้าหากัน มันดูดลิ้นผมอย่างกับดูดไอติมทำไมไม่กินมันไปด้วยล่ะวะ! ประกบปากแทบไร้ช่องว่างให้หายใจ ขยี้ปากผมจนหนำใจก่อนจะผละออกมา "แฮ่ก..." ผมกลืนน้ำหายกอบโกยลมหายใจก้อนโตเข่าแทบทรุด ไอ้บ้านี่แม่ง...

ยังมีหน้ามายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอีกนะ ผมเช็ดน้ำลายของผมกับอู๋ที่ผสมกันออกจากปาก แม่งโคตรน่าโมโห โดนจู่โจมอีกแล้ว จะมีสักครั้งไหมที่ผมจะอยู่เหนือมันบ้างแบบนี้ไม่ยอมเว้ย!

ผมดึงตัวมันมา แล้วจูบคืนไปอีกชุดโดยที่ตัวเองคิดจะเป็นฝ่ายรุก แต่ไอ้อู๋มันกลับครุกวงในจับเอวคอดผมเอาไว้โคตรจักจี้ พอผมเผลอผ่อนแรงมันก็ดูดดันลิ้นเข้ามา เกี่ยวกระหวัดลิ้นทั้งปากของผมแทบบวมเจ่อ

พอจูบจนหนำใจก็ผละออกมาหอบหายใจหนักตรงหน้าผม ตอนนี้อีดาบเล่มหนาสองเล่มที่นอนอยู่ใต้บ๊อกเซอร์กำลังตีเครื่องร้อนเสียดสีกันร้อนแรง

ไอ้อู๋มันยิ้มร้ายกระซิบกับผมว่า "พี่อยากให้ผมเป็นคริสเพราะแบบนี้หรือเปล่า?"

ฮะอะไรนะ? ผมมองมันอย่างเหวอๆ ไอ้อู๋มันมองผมตาเชื่อม มึงอย่ายิ้มมากกูเสียว

"ผมจะบอกอะไรพี่อย่างหนึ่งนะ"

บอกอะไรวะ... เฮ้ย! อย่าโน้มหน้าเข้ามามากเซ่! "อะ อะ อะไร..." น้ำเสียงผมโคตรสั่น สั่นมากจนแหบพร่า ตัวสั่น ใจสั่น แม้แต่หำยังสั่นเลยครับ ไอ้บร้า! อย่าทำร้ายหัวใจพี่ไปมากกว่านี้ได้ม้ายยยยย!!!

มันค่อยๆโน้มหน้าเข้าหาผมอย่างช้าๆ จมูกโด่งๆนี่แทบจะติดกันอยู่แล้ว ผมก็ค่อยๆเอนไปข้างหลังใช้สองแขนยังอ่างล้างหน้า จนกระทั่งหัวโขกกับผนังห้องน้ำดังปึกนั่นล่ะครับมันถึงจะหยุด ไม่ใช่ผมหยุดนะเว้ย! นี่แทบจะเล่นสะพานโค้งอยู่แล้วถ้าขืนไม่ติดผนังไอ้เด็กนี่ก็ไม่ยอมเลิกแกล้ง มันจ้องตาผมนิ่ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายนี่โคตรอยากเอานิ้วจิ้มตา

ผมกลืนน้ำลายอึกจ้องปากสีแดงช้ำอวบอิ่ม ที่กำลังขยับปากพูดกับผมอย่างช้าๆว่า "พี่คิดไม่ผิดหรอก... เขาก็คือผมนั่นล่ะ"

ห่ะ เห?

ผมมองไอ้บ้านี่โคตะระมึนงง ถ้างงไม่พอเดี๋ยวหาบรรพบุรุษของคำว่างงนี่มาให้ก็ได้ ผมว่าหน้าผมตอนนี้มันต้องตลกมากแน่ๆ ไอ้เด็กห่ะลากนี่ถึงกับผละตัวออกไปแล้วกุมท้องหัวเราะโคตรอร่อย

"เชี่ย..." ด่าเนิบๆแต่หนักแน่นและแข็งแกร่ง นี่มันแกล้งผมนี่!

แต่อย่าคิดว่ามันจะเจ็บครับ เมื่อดีกรีความเกรียนบวกหน้าหนาที่หาใครเปรียบไม่ได้ ผมเอาเท้ายันขามันไปที ไอ้บ้านี่ก็ฉวยโอกาสคว้าขาผมเอาไว้หมับ! ทีนี้ล่ะเข้าท่าพอดีเปะ! มันสวนตัวเข้ามา เอาตอปิโดจ่อหน้าคุยกับน้องชายของผมที่อ่อนยวบไปแล้ว

รอยยิ้มกรุ้มกริ่มแบบนี้ผมว่า... เช้านี้... ประตูหลังผมไม่น่ารอด...

ใบหน้าหล่อเหลาโน้มใบหน้าเข้าหากระซิบข้างหูผะแผ่ว ไอร้อนจากลมหายใจชวนให้ผมรูสึกสยิวกิ้วไม่น้อย "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... เรามาออกกำลังกายรอบเช้ากันดีกว่านะ" แล้วมันก็ผละตัวออกมายิ้มตาเชื่อมให้กับผม

ตอนนี้หน้าผมมันฉ่าร้อนมาก ฟดวสกหก้าดว@#&^%&()(_+_+...
 :angry2:

 :serius2:
ไอ้บร้า! นี่แทบจะพ่นภาษาต่างดาวใส่ด่าแล้วนะ แต่ทำไมร่างกายไม่ยอมขัดใจมันบ้างวะ เอาแต่ก้มหน้าเขินงุดๆ ให้เด็กมันเต๊าะอยู่ได้ นี่อายุมากกว่านะ เคยสาบานตนว่าจะลุกฮือตีประตูชัยกลับมา สู่เอกราชความแมน แต่ทำม้ายยยยยย ทำไมถึงยอมโดนเป็นฝ่ายรุกตลอด พอคิดแล้วแม่งก็ช้ำใจ

"คิดอะไรอยู่ บอกผมให้ได้ยินบ้างสิ" ไอ้นี่ก็ดันรู้ดีอีก บอกก็โง่แล้วเว้ย! ถ้ารู้ก็ยิ่งได้ใจเด่ะ

ผมเงยหน้าเบาะปากใส่ ก่อนจะด่ามันด้วยความหงุดหงิดใจว่า "เออ! จะทำก็รีบทำ ไอ้บ้า" นี่เขาเรียกด่าแล้วหรอเรอะ! ทำไมหน้าแม่งไม่เจ็บเลยล่ะ ฮืออออ... ไอ้บ้าเต๋าเอ็งไปให้ท้ายมันทำม้ายยยยย...

แล้วคิดว่าชายอู๋จะรอช้าหรือครับ... ตัวเขากับผมก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก แทบจะบอกได้ว่าเกือบไซต์เดียวกันได้ แต่มันกลับอุ้มผมจนลอยหวือสบาย ผมนี่หงายหลังแทบล็อกคอไม่ทัน สายตาและรอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั่นมันเหมือนใครชอบกล...

"จะกินให้อิ่มเลย..."

"..."

ม้ายยยยยยยยยยยยยย!!!!!
 :katai1:








 :katai2-1:
เจอกันตอนหน้างับ
.....
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-05-2015 14:50:58
 o13  สุดยอดค่ะ รอติดตามการรีเทิร์นนะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-05-2015 17:39:38
คิดถึง
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 02-05-2015 20:45:35
คถ.คริส
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 02-05-2015 21:50:24
นี่คือเรื่องราวก่อนฉากที่อู๋หลอกว่าจะให้พี่เต๋าขี่
แล้วตลบหลังซั่มพี่เต๋าสินะครับ  :hao6: :hao7:

=======================================

มาเม้นต์อีกที จบน่ารักมาก  :-[ :-[ :-[ :-[ อิจฉาตาเต๋า
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-05-2015 23:34:58
อู๋ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอเวลาที่เต๋าหลุดพูดถึงคริส
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 07-05-2015 17:56:29
 :jul1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: PJansam ที่ 12-05-2015 21:34:59
เห้ยยย เฮลยโก๊นน ตกลงคริสไปไหนน
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 15-05-2015 16:07:48
 :katai1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: karuna ที่ 16-05-2015 14:59:26
 :ling1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 17-05-2015 01:37:50
 :m25: เรียกเลือดแทบจะทุกตอนค่ะงานนี้
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 01-06-2015 14:18:15
อ่านรวดเดียวจบ สนุกค่ะ คริสหล่อเกินไปแล้ววว เต๋าเพ้อมากถึงมากที่สุด 55555+ แต่น่ารัก
พอมาฉบับอู๋เต๋าก็ยังฟิน เป็นอะไรที่รู้สึกไม่ขัดดี   :mew1:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: jorjinney ที่ 02-06-2015 21:40:51
อือหื้ออ ตอนแรกเหมือนจะดราม่าตอนหลังนี้น่ารักฝุดฝุด
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 04-06-2015 16:06:40
น่ารัก งุงิมากอะ อู๋ เต๋า คริส
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: yai feel ที่ 04-06-2015 20:34:38
พออ่านเรื่องนี้แล้วต้องหันไปมองพี่หมีขนาดยักษ์ของตัวเอง
หรี่ตาลงเพื่อจับกิริยา ตอนกลางคืนก็นอนมอง มึงใช่มั้ยไอ้พี่หมี มึงเป็นอย่างคริสมั้ย

แต่นิ่ง จับคอมาเขย่าๆ ก็ยังนิ่ง งืออออออออออ

//อยากได้คริส แง่ววววว
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 16-01-2016 17:29:07
สนุกมาก ....... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: Papaii ที่ 20-07-2016 16:34:47
อ่านรวดเดียว คอมเม้นต์รวดเดียวเลยแล้วกัน
แบบสนุกมากกกก การใช้ภาษาดี อ่านง่าย
ไม่อยากให้จบเลยย อยากให้คริสเป็นอู๋ แล้วจำทุกอย่างได้ ยังสงสัยว่าที่มีอู๋ขึ้นมาเพราะพรข้อที่หนึ่งรึเปล่า ขอให้เป็นแบบนั้น อยากให้มีภาคแยกของพี่ชินกับน้องไก่
รอให้มาต่อคริสอู๋เต๋าอยู่นะคะ
จะรอติดตามตอนต่อไป และทุกๆเรื่องน้าค้าา
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: Konta45 ที่ 23-07-2016 12:53:09
ตามอ่านจนจบแล้วค่ะ
สนุกมากกกกกกกกกก
 :katai5:
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 01-10-2016 06:58:15
อยากให้อู๋จำเรื่องตอนเป็นคริสได้จัง
พอเต๋าจำได้อยู่คนเดียวมันเหมือนสุขไม่สุดอะ
ถึงจะคนเดียวกันแต่มันเหมือนใช้อู๋เป็นตัวแทนคริสเลย
แต่สนุกมากกค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย
ชอบคริสมากกกๆๆๆ
เคยมีความคิดอยากได้d.o.d. อยู่เป็นปีเหมือนกันค่ะ
แต่เห็นราคาแล้วก้ต้องยอมแพ้
หาเงินได้เองแล้วค่อยคิดใหม่ดีกว่า5555

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
เริ่มหัวข้อโดย: sweetie ที่ 18-02-2018 23:14:01
ตามหานิยายแฟนตาซีอ่านอยู่ มาเจอเรื่องนี้
สนุกมากจ้า ขอบคุณนะ  :กอด1: