ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
♥พักพิง...อิงใจ♥
INTRO
เพราะอกหักจึงทำให้อยากไปพักใจที่ไหนสักที่ของประเทศ เพื่อนๆจึงแนะนำว่าให้ไปพักใจที่ทะเล ผมตัดสินใจไปตามคำแนะนำของเพื่อนๆ โดยพึ่งจะมารู้ก่อนวันเดินทางหนึ่งเดือนว่ารักแรกของผมเป็นเจ้าของโรงแรมที่ผมไปพักแถมเพื่อนรักตัวดียังฝากฝังผมไว้ให้เขาดูแลอีก งานนี้หัวใจผมจึงต้องทำงานหนักอีกครั้งทั้งๆที่พึ่งอกหักมาแท้ๆเลย จะเจ็บกลับไปหรือจะมีความสุขกลับไปก็คงต้องรอดูกันล่ะงานนี้.....
:กอด1: :กอด1:
ตอนที่5
คนรักเก่าของพี่สันต์
ผมมาอยู่จังหวัดภูเก็ตได้ประมาณสามวันแล้วและวันนี้คือวันที่สี่ ตลอดทั้งสามวันมีพี่สันต์คอยนำเที่ยวและแนะนำสิ่งต่างๆให้ผมเสมอแต่วันนี้แพลนของผมที่ตั้งเอาไว้ต้องพับเก็บลงเพราะฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย การเที่ยวของผมจึงต้องหยุดไปก่อน ทำให้ตอนนี้ผมต้องมานั่งมองเม็ดฝนที่ตกโปรยปรายลงมาตรงหน้าต่างห้องรับแขก
บรรยากาศเวลาฝนตกมันทำให้ผมเหงามากขึ้นยิ่งกว่าทุกครั้ง มันทั้งเหงาทั้งเย็นแต่ก็รู้สึกดีขึ้นบ้างเมื่อได้โทรหาครอบครัวเหมือนอย่างตอนนี้
“ที่นี่สวยมากเลยครับ ผมอยากให้พ่อกับแม่มาด้วยจริงๆนะ”
(ไว้วันหยุดคราวหน้าเราค่อยไปพร้อมกันใหม่ก็ได้เนอะ)
“ครับแม่”
(ฝนตกอย่างนี้ลูกไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหนใช่ไหมจ๊ะ)
“คงอย่างนั้นแหละครับแต่ผมอยากไปเที่ยวจะแย่ เหลืออีกตั้งหลายที่ที่ผมยังไม่ได้ไปเลย”
(ถ้ายังเที่ยวไม่พอลูกก็อยู่ต่ออีกหน่อยสิจ๊ะ กว่าจะเปิดเทอมก็อีกตั้งเดือนเลยนะ)
“แต่ค่าใช้จ่ายทั้งที่พักทั้งค่ากินจะเยอะเอาสิครับ พีทไม่อยากใช้เงินฟุ่มเฟือยเท่าไหร่”
(ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ นานๆทีลูกได้ไปผ่อนคลายแม่ก็อยากให้ลูกเต็มที่ ลูกยังไม่ได้จองตั๋วกลับนี่จ๊ะ เที่ยวเพิ่มสักอาทิตย์คงไม่เป็นอะไรหรอก)
“แค่นี้พีทก็คิดถึงพ่อกับแม่แล้วนะครับ ถ้าเที่ยวเพิ่มอีกหนึ่งอาทิตย์พีทคงแย่”
(เอาเถอะ แม่ตามใจพีทอยู่แล้ว จะอยู่เที่ยวต่ออีกสักเดือนแม่ก็ไม่ว่าหรอก)
“โธ่ แม่ก็...”
ผมโอดครวญกับแม่ที่หัวเราะขำมาจากปลายสาย ผมรู้ว่าแม่พูดจริงถ้าหากว่าผมอยู่ต่ออีกเดือนแม่คงไม่ว่าแต่ตั้งหนึ่งเดือนผมจะอยู่ทำไมกันล่ะ ผมแค่มาเที่ยวเองนะแต่ถ้ามีปัจจัยอื่นให้อยากอยู่ต่ออีกนี่สิคงต้องว่ากันใหม่
(แม่ต้องวางแล้วนะจ๊ะ ลูกก็ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ รักลูกนะ)
“รักแม่เหมือนกันนะครับ สวัสดีครับ”
วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวและจดจ้องไปยังเม็ดฝนที่กำลังโปรยปรายไม่ขาดสาย มองดูเม็ดฝนที่ตกกระทบกับพื้นผิวน้ำทะเลที่มองจากไกลๆก็ยังคงดูไม่ออกว่าจะสวยหรือจะน่ากลัวอย่างที่เคยได้ยินหลายๆคนพูดบอกมา ถ้าเพียงให้ผมมองจากตรงนี้คงตอบได้คำตอบเดียวว่ามันดูสวยในอีกแบบของมัน
ผมคิดว่าธรรมชาติมีความสวยงามเสมอ จะมากจะน้อยก็ยังขึ้นชื่อว่าสวย น้ำทะเลในตอนฝนตกก็เช่นกันถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้สวยเท่าตอนที่แดดออกสว่างจ้าจนแสงตกกระทบกับผิวน้ำแต่น้ำทะเลก็ยังคงสวยในแบบของมันอยู่ดี
ถ้าหากถามว่าสามวันนี้ผมเลิกคิดเรื่องคนรักของตัวเองบ้างหรือยัง ผมตอบได้แค่ว่ายังแต่ก็คิดน้อยลงกว่าช่วงแรกๆแล้ว มันอาจจะมีความคิดถึงชั่วขณะแต่ก็เพียงเท่านั้นในเมื่อตอนนี้ผมมีคนที่ทำให้ต้องคิดถึงเขามากกว่า คนๆนั้นที่มอบความใจดีและรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอและแม้จะผ่านมาสักกี่ปีคนๆนั้นก็ยังยิ้มและใจดีกับผมเสมอมา
ใช่...ผมคิดถึงแต่เรื่องของพี่สันต์จนสามารถทำให้ผมลืมเรื่องของแฟนเก่าได้เลยล่ะ
แต่ก็นั่นแหละ ผมคงได้แค่เพียงคิดและมีความสุขอยู่กับตัวเองเงียบๆโดยไม่กล้าบอกให้พี่สันต์ได้รับรู้ความรู้สึกที่ผมเคยมีต่อเขาและตอนนี้ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีกครั้ง มันกลับมาโดยที่ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวและความรู้สึกที่ผมมีต่อเขานั้นมันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย มันมากขึ้นและเพิ่มขึ้นจนน่ากลัวว่าสักวันผมอาจจะทำให้พี่สันต์อึดอัดไปโดยไม่รู้ตัว
นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยได้ไม่นานเสียงท้องก็ร้องประท้วงว่าควรจะลงไปหาอะไรทานสักที เวลานี้และตอนนี้คงทานได้แค่ที่ห้องอาหารของทางโรมแรม ไม่อยากนั่งทานอุดอู้อยู่แต่ในห้อง หากได้ออกไปเดินพบปะผู้คนข้างนอกบ้างคงทำให้ผมคลายเหงาที่มีอยู่ได้ไม่มากก็น้อยและหากได้บังเอิญเจอกับพี่สันต์ ผมว่าวันนี้คงเป็นวันที่ดีและไม่ต้องเหงาอีกวัน
อ่า...นี่ผมกำลังหวังอะไรอยู่กันนะ
{----------♥----------}
ลงมาถึงห้องอาหารก็มีพนักงานเข้ามาบริการเป็นอย่างดี จนแอบจะรู้สึกชื่นชมพี่สันต์ไม่ได้ว่าควบคุมและสอนพนักงานได้ดีทุกคนจริงๆ จากการที่ผมได้สังเกตและพบเห็นเวลาพี่สันต์อยู่ต่อหน้าพนักงานจะดูใจดีเป็นเจ้านายที่พนักงานเคารพนับถือและรักเขาเพราะความใจดีและไม่ใช้อำนาจของตัวเองสั่งคนนู้นคนนี้ให้ทำตามใจ เขาจะมีรอยยิ้มบางๆติดอยู่ตรงริมฝีปากเสมอ เมื่อเห็นพนักงานทำผิดก็กล่าวตักเตือนด้วยคำพูดดีๆ ไม่มีการด่าหรือตะคอกใส่ให้ต้องหวาดกลัว
พี่สันต์ยังไงก็คือพี่สันต์ จะผ่านมากี่ปีพี่สันต์ที่ผมเคยรู้จักก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
นั่งลงบนโต๊ะเพื่อรออาหารจากพนักงาน สายตากวาดไปรอบๆเพื่อสำรวจสิ่งแวดล้อมต่างๆในห้องอาหารแต่สายตาก็ต้องสะดุด เมื่อพบว่าคนที่เข้ามาอยู่ในความคิดผมตลอดเวลาอย่างพี่สันต์ กำลังนั่งทานข้าวและพูดคุยด้วยรอยยิ้มที่ผมชอบกับ...แฟนเก่า
ไหนเขมบอกว่าเลิกกันแล้วล่ะ...
ผมรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจเมื่อเจอภาพนั้นอยู่ตรงหน้า มันรู้สึกหน่วงๆและไม่ชอบใจเอาซะเลยที่ตัวเองเลือกที่จะมาทานข้าวในห้องอาหารแทนที่จะโทรสั่งเพื่อทานในห้อง
หากผมเลือกทานในห้อง ภาพของคนสองคนที่พูดคุยกันด้วยรอยยิ้มผมคงไม่ต้องมาเห็นให้หัวใจตัวเองเจ็บเล่นๆแบบนี้หรอก
หัวใจเจ็บมากกว่าตอนที่ยังแอบชอบพี่สันต์เมื่อตอนปีหนึ่งซะอีก เพราะตอนนั้นผมรู้ยังไงล่ะว่าคงเป็นไปไม่ได้แต่ผิดกลับตอนนี้ที่เขมเคยบอกว่าเขาสองคนเลิกรากันไปแล้ว มันจึงทำให้ผมได้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่รับรู้ว่าต้องมาพบเจอพี่สันต์ที่ไม่มีเจ้าของหัวใจในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ผมอยากเบนสายตาไปทางอื่นแต่คงไม่ทันเมื่อพี่สันต์สบตาเข้ากับผมพอดี ทำให้ผมที่มองเขาอยู่ก่อนแล้วต้องคลี่ยิ้มให้พร้อมผงกหัวเป็นเชิงบอกสวัสดีกับพี่สันต์จากนั้นจึงได้เวลาเบือนหน้าหนีจากภาพของคนสองคนที่นั่งทานข้าวด้วยกันและเป็นภาพที่ดูเหมาะสมกันโดยไม่สามารถมีใครค้านได้เลย
นั่งถอนหายใจกับตัวเองเงียบๆก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่าคนที่ผมพึ่งเบือนหน้าหนีเขามาถือวิสาสะนั่งลงฝั่งตรงข้ามด้วยรอยยิ้มที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่า....ผมรักรอยยิ้มของเขาเสมอ
“พี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
ขนาดเสียงพี่สันต์ผมยังชอบเลย ไม่มีอะไรที่ผมไม่ชอบในตัวเขาสักอย่าง มันจึงยากที่จะตัดใจเมื่อได้พบเจอกันอีกครั้ง
“ครับ” ผมตอบแล้วก้มหน้ามองมือตัวเองที่ผสานไว้บนตัก พอพี่สันต์มานั่งด้วยกันอย่างนี้ก็อยากจะบอกความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้ มันอึดอัดจนผมอยากจะเดินหนีขึ้นห้องของตัวเองไปซะตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“เป็นอะไรครับ สีหน้าดูไม่ดีเลย”
พี่สันต์เก่ง...เก่งที่สามารถทำให้ผมตกหลุมรักเขาได้ตลอดเวลา
“ป่าวครับ...พี่สันต์” ผมเอ่ยเรียกเขาเสียงเบาในท้ายประโยคเมื่อมือหนายื่นเข้ามาแตะตรงหน้าผากของผมเบาๆเพื่อตรวจวัดไข้ของผม
“ปวดหัวไหมครับ?”
“ม..ไม่ครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“แน่ใจนะครับ”
“อ...เอ่อผมแค่หิวข้าวครับ พี่สันต์ไม่ต้องห่วงนะครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยิ้มขำเมื่อผมเอ่ยจบประโยค พี่สันต์มองผมด้วยความเอ็นดูแล้วเขาก็เปลี่ยนมือที่วางบนหน้าผากมาวางไว้บนหัวผมแทน จากนั้นก็ขยี้เบาๆให้ผมใจสั่นขึ้นมากับการกระทำเล็กๆน้อยๆของเขา
“น่ารักนะเรา หิวข้าวแล้วจะงอแงหรือครับ?” เขาพูดเหมือนผมเป็นเด็กแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผม...ชอบทุกๆคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากของเขา
“ผมไม่ใช่เด็กสักหน่อยนะครับ ก็แค่หิวข้าวเอง”
พี่สันต์ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าพี่มีน้องแบบพีทคงจะดีนะ”
“ผมไม่ได้อยากเป็นน้องพี่สักหน่อย” ผมอยากจะเอามือขึ้นมาตะครุบปากของตัวเองตอนนี้แต่ก็รู้ว่าคงไม่ทันเมื่อคำพูดที่เผลอคิดคนเดียวในใจ ผมได้โพล่งมันออกไปแล้ว
“หืม...เมื่อกี้พีทพูดว่าไงนะครับ พี่ไม่ได้ยิน”
และคงจะเป็นโชคดีของผมที่พี่สันต์ไม่ได้ยินประโยคนั้นที่ผมพูดมันออกไป “อ่า...เปล่าครับ แค่บอกว่าใครได้เป็นน้องชายพี่สันต์คงโชคดีมากแน่ๆ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แต่ถ้าพีทอยากพิสูจน์ว่าจะโชคดีจริงๆหรือเปล่า ลองมาเป็นน้องพี่ดูไหมล่ะครับ?”
“เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรือครับ”
โอ๊ย...พีท อยากจะตบปากตัวเองจริงๆเลยที่โพล่งอะไรออกไปไม่คิดอย่างนี้
“อย่างอื่นหรือครับ อืม...เป็นอะไรดี พีทอยากเป็นอะไรล่ะครับ?”
“ผม...ผมแค่ล้อเล่นเองครับพี่สันต์ อย่าถือสาคำพูดผมเลย”
“เป็น..อืมงั้นเป็นแฟนพี่ดีไหมครับหืม?” ผมรู้ว่าพี่สันต์เพียงแค่พูดเล่นและหยอกล้อมผมเท่านั้นแต่มันก็อดไม่ได้เลยที่จะดีใจไปกับคำพูดของเขา
“พี่สันต์....”
หน้าผมร้อนไปหมดจนต้องยกมือขึ้นมากุมแก้มของตัวเองไว้ หัวใจก็พองโตขึ้นมากะทันหันจนกลัวว่าจะระเบิดออกมาให้พี่สันต์ได้รับรู้ว่าผมดีใจและยินดีขนาดไหนเมื่อได้ยินคำพูดของเขาแบบนั้นแต่หัวใจก็ต้องฟีบลงเมื่อมีใครอีกคนก้าวเข้ามา
“สันต์”
เสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้ผมและพี่สันต์ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองพร้อมกันและพบว่าตัวจริงของพี่สันต์ไม่ใช่ผมแต่เป็นเธอคนนี้ต่างหากล่ะและเรื่องเมื่อกี้ก็คงเป็นเรื่องล้อเล่นที่พี่สันต์พูดขึ้นขำๆเท่านั้นเอง
“ครับ จะกลับแล้วหรือ?” พี่สันต์ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้เพื่อที่จะคุยกับเธอ
“อื้ม เราไปก่อนนะ” เธอบอกลาพี่สันต์แล้วหันมาผงกหัวให้ผมท่างยิ้มตอบกลับให้เธอเช่นกัน
“เราเดินไปส่งไหม?”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง”
พี่สันต์พยักหน้าตอบรับสิ่งที่เธอบอก “โอเค งั้นกลับดีๆครับ”
“จ้า”
เธอเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำให้ผมตาพร่าไปชั่วขณะเพราะรอยยิ้มของเธอคนนั้นสวยมากจริงๆ สวยจนพี่สันต์ยังคงมองตามเธอจนเธอหายไปจากสายตาแล้วก็ยังคงจ้องไปยังทิศทางนั้นเหมือนเดิม
อืม...หน่วงใจดีจริงๆเลย
กว่าพี่สันต์จะละสายตาออกจากเธอคนนั้นได้ก็ตอนที่อาหารของผมมาเสิร์ฟที่โต๊ะ นั่นล่ะเขาถึงหันกลับมายิ้มให้ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นยิ้มที่ดูฝืนมากกว่าทุกๆครั้งที่เขายิ้มให้ผม
พี่สันต์กำลังมีเรื่องไม่สบายใจ....นั่นคือสิ่งที่ผมพบบนแววตาและรอยยิ้มของเขาที่ดูหม่นลง
“พีทสนใจไปนั่งรถเล่นกับพี่ไหมครับ?” เสียงของพี่สันต์ทำให้ผมที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มต้องวางแก้วน้ำลงแล้วเอ่ยถามเขากลับ
“พี่สันต์ว่างแล้วหรอครับ?”
“จริงๆก็ไม่ว่างหรอกครับแต่วันนี้ขอโดดงานสักวันคงโดนคุณพ่อด่าไม่เท่าไหร่หรอก” เขาว่าแล้วยิ้มขำ “ว่าไงครับพีทอยากไปด้วยกันหรือเปล่า?”
“แต่ฝนตกอยู่นะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกแค่ขับรถเล่น แถวๆนี้”
“อ่า...งั้นก็ได้ครับ”
เพราะใบหน้าและน้ำเสียงที่ดูไม่สบายใจของเขา ทำให้ผมต้องยอมตกลงรับคำของพี่สันต์ อยากจะด่าว่าตัวเองทำไมถึงใจง่ายขนาดนั้นแต่ก็ช่างเถอะถ้าใจมันอยากจะให้ผมเป็นยังไง ผมก็คงต้องตามใจมันล่ะนะ
{----------♥----------}
อย่างที่พี่สันต์บอกว่าเขาจะพาผมขับรถเล่น เราออกจากโรงแรมเมื่อผมทานข้าวเสร็จ พี่สันต์ขอตัวไปคุยงานกับเลขาและบอกให้ผมไปรอข้างล่าง พอพี่สันต์มาถึงเขาก็นำผมไปขึ้นรถของเขาและเขาก็ขับรถไปเรื่อยๆไม่ได้เร่งรีบทั้งที่สายฝนยังคงโปรยปรายอยู่อย่างนั้น และผมคิดว่าฝนคงจะตกแบบนี้ไปทั้งวัน ทั้งรถมีแต่ความเงียบจะมีแค่เพียงเสียงที่ปัดน้ำฝนดังขึ้นเป็นระยะแต่ไม่ได้น่าหนวกหูอะไร
ผมแอบเหลือบไปมองทางพี่สันต์ เขาดูผ่อนคลายลงหลังจากได้ขับรถไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่าปลายทางเขาจะหยุดลงตรงไหนแต่ตอนนี้แค่ได้เห็นสีหน้าเขาที่ดูดีขึ้นจะให้พาผมไปไหนผมก็คงไม่อาจปฏิเสธเขา
ไม่รู้ว่าพี่สันต์ขับรถมานานเท่าไหร่และไม่รู้ว่าผมมองใบหน้ายามที่พี่สันต์ขับรถนานขนาดไหน พอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่สันต์หันหน้ามาทางผม ทำให้ผมตกใจ เบือนหน้าหนีไปทางหน้าต่างและผมพึ่งรู้ว่าตรงที่เขาจอดคือหน้าหาดราไวย์ ที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นในการขับรถเล่นของพี่สันต์
ผมทำหน้าแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าในเมื่อก็ใกล้ถึงโรงแรมแล้วทำไมพี่สันต์ถึงไม่ขับให้ถึงไปเลย ทำไมเขาถึงมาจอดหน้าหาดและผมก็สงสัยได้ไม่นาน เมื่อพี่สันต์เอ่ยให้ผมกระจ่างมากขึ้น
“พี่ไม่รู้จะขับไปไหน พี่อยากลงไปนั่งที่ชายหาดเพื่อมองทะเลแต่ตอนนี้ฝนยังตกอยู่ เลยคิดว่านั่งมองในรถคงจะเหมือนกัน”
ผมมองรอยยิ้มของพี่สันต์ รอยยิ้มที่ไม่อยากจะยิ้มแต่ก็ต้องยิ้มมันเพื่อส่งมาให้ผม มองแล้วผมก็รู้สึกไม่ชอบใจ ผมไม่ชอบที่พี่สันต์ต้องฝืนยิ้มให้ใครต่อใครทั้งที่ในใจไม่มีความสุขเลย
“พี่สันต์ครับ” ผมเรียกชื่อเขาที่มองผมด้วยความสงสัย
“ครับ?”
“ถ้าพี่ไม่มีความสุขที่จะยิ้ม พี่ก็อย่าฝืนเลยครับ”
พี่สันต์ยังคงยิ้มเป็นรอยยิ้มฝืนๆของเขาเหมือนเดิมทั้งที่ผมก็พูดจบประโยคไปแล้ว
“ทำไมพีทถึงคิดว่าพี่ไม่มีความสุขล่ะ”
“แล้วตอนนี้พี่สันต์มีความสุขหรือเปล่าล่ะครับ?” ผมเห็นแววตาที่ไหววูบของพี่สันต์แต่แค่เพียงแวบเดียวเขาก็กลบความวูบไหวลงไปจนมิด
“พี่...พี่มีความสุขดีครับ” เขายังคงยิ้มอยู่แบบนั้น รอยยิ้มนั้นยังคงไม่หายไปจากริมฝีปากของเขา
ยิ่งเห็นเขาต้องฝืนตัวเอง ผมก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเขาเป็นแบบนั้น จนผมทนไม่ไหวคว้าตัวเขามากอดไว้ในอ้อมกอดของตัวเองอย่างถือวิสาสะ
“ตอนนี้ผมไม่เห็นหน้าพี่แล้ว ถ้าพี่ทำหน้าแบบไหนผมก็จะมองไม่เห็นหน้าพี่ พี่จะยิ้มจะร้องไห้หรือจะทำหน้าเจ็บปวด ผมก็ไม่สามารถมองเห็นหน้าของพี่ได้แล้วนะครับ ผมขอร้อง ผมไม่อยากให้พี่ฝืนยิ้มแบบนั้นเลย”
ผมพูดยาวเหยียด กลัวเขาจะผลักผมออกหากเป็นแบบนั้นผมคงจะเจ็บปวดไม่น้อยแต่ผมก็ต้องหายกลัวเมื่อเขายกมือขึ้นมากอดตอบและกระชับอ้อมกอดผมแน่นมากยิ่งขึ้น
“ขอบคุณครับ”
เขาว่าเพียงแค่นั้นก็ซบหน้าลงกับบ่าเล็กๆของผม ไม่นานผมก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นตรงบ่าที่เขาซบอยู่ ผมไม่ได้ทักท้วงอะไรทำเพียงแค่ลูบหลังเพื่อหวังว่าจะทำให้เขาสบายใจขึ้นมาบ้างว่ายังมีผมอยู่ตรงนี้ด้วยกันกับเขา
“ขวัญกำลังจะแต่งงาน”
แค่เพียงประโยคนี้ก็ทำให้ผมสามารถเข้าใจทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องพูดอธิบายอะไรออกมาอีก แค่ได้ยินเสียงของพี่สันต์ผมก็รับรู้ถึงความเสียใจของเขาว่ามันมากมายขนาดไหน มันมากขนาดที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวดตามเขาไปด้วย
“พี่รู้ว่าสักวันพี่คงต้องเจอเรื่องแบบนี้ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆพี่กลับยอมรับไม่ได้และมันทำให้พี่รู้...รู้ว่าพี่ยังรักขวัญอยู่เต็มหัวใจของพี่”
ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับคำว่ารักของพี่สันต์ที่มีให้คนอื่น แต่ผมก็ยังคงลูบหลังปลอบเขาอยู่แบบนั้นไม่ผละหนีไปไหน
“ตอนที่ขวัญยื่นการ์ดแต่งงานมาให้ พี่หัวใจแทบสลายแต่ก็ต้องฝืนยิ้มและแสดงความยินดีให้กับเขา ทั้งที่ใจของพี่เจ็บจนเจียนตาย”
พี่สันต์กระชับอ้อมกอดของผมแน่นยิ่งขึ้น มันทำให้ผมอึดอัดนิดหน่อยแต่ไม่ได้คิดจะขัดขืนหรือบอกกับเขา
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เอาแต่ซบหน้าและกอดผมไว้อย่างนั้นท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาหนักมากกว่าเดิมแต่พี่สันต์ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยผม จนกระทั่งเวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนานพี่สันต์ก็ผละออก เขามองหน้าผมและครั้งนี้ใบหน้าของเขาไม่หลงเหลือรอยยิ้มอีกแล้ว
“ขอบคุณนะพีท”
“ครับ”
ผมเพียงยิ้มตอบรับและคิดว่าแค่เป็นคนที่สามารถทำให้เขาสบายใจได้ มันก็ดีมากแค่ไหนแล้ว....
{----------♥----------}
TBC.........
#พักใจไปกับพีท