พิมพ์หน้านี้ - NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: l3loodl2o5e ที่ 26-09-2015 21:00:17

หัวข้อ: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 26-09-2015 21:00:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 26-09-2015 21:08:22
-Yoh! What's up Guy นี่เป็นซี่รี่ที่สองของเราแล้วนะค่ะ แนวเดิมแหละค่ะ ชอบอะไรที่มัน Super Natural จากเรื่องเเรก Night Knight อัศวินรัติกาล กระแสตอบรับแม้จะไม่ถล่มทลายแต่ทุกคนก็อบอุ่นมาก ปลื้มปริ่มแบบสุดๆ นิยายส่วนใหญ่ที่เราเขียนล้วนแปลงมากจากตำนานต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกนี้ ซึ่งซีรี่นี้จะเอาตำนานอะไรมาเขียนนั้น โปรดติดตามกันต่อไป :z1:

-เรื่องโครงการหนังสือของเรื่องแรกกำลังดำเนินการอยู่ค่ะ อยู่ในช่วง ติดต่อประสานงานและหาทุนให้ตัวเอง ตอนพี่เศษไม่ได้ทิ้งนะก็เขียนอยู่ เพียงแต่ตรีมเรื่องใหม่ในหัวมันกำลังเล่น อิอิ แอบอู้นิดหน่อย สำหรับคนที่คิดถึง คุ่รักอย่างรอทกับโย หรือพี่หมาริคกับน้องข้าว รอซักนิดนะค่ะ :hao7:

-เรื่องนี้ ภาษาการเขียนอาจเปลี่ยนไปบ้าง เกรียนตามสถานภาพตัวละครค่ะ หวังว่าทุกคนจะยังให้การตอบรับดีอย่างที่ผ่านๆมา เพราะเเนวเรา นั้นไม่ค่อยตีตลาด Boy's Love อันนี้รู้ดีค่ะ :z3:

-สุดท้านนี้ปราถนาอย่างยิ่งให้ทุกท่านเอ็นจอยกับเรื่องของเรา และภาพวาดงาม(ที่วาดเมื่อมีอารมณ์) ที่กำลังจะลงต่อไปนี้ค่ะ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกัน รักทุกคนนนนน :mew1:

(http://upic.me/i/c1/small.png) (http://upic.me/show/57425498)

สารบัญ

บทที่ 1 Twin http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3187477#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3187477#new)

บทที่ 2 Heartless http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3189329#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3189329#new)

บทที่ 3 Secret http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3192270#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3192270#new)

บทที่ 4 Angry http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3193961#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3193961#new)

บทที่ 5 Missing http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3187457#msg3187457 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3187457#msg3187457)

บทที่ 6 Evidence http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3201205#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3201205#new)

บทที่ 7 The Sea http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3206811#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3206811#new)

บทที่ 8 Begin http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3212933#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3212933#new)

บทที่ 9 When i fall...http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3232518#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3232518#new)

บทที่ 10 Couple http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3242989#new

บทที่ 11 Deal http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3247881#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3247881#new)

บทที่ 12 Secretly Loves http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3254649#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3254649#new)

บทที่ 13 Crash http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.60 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.60)

บทที่ 14 Prisoner http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3282983#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3282983#new)

บทที่ 15 Run Away http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3291725#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3291725#new)

บทที่ 16 Deprive http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.90 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.90)

บทที่ 17 Lonely http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3299478#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3299478#new)

บทที่ 18 Goods http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3304050#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3304050#new)

บทที่ 19 Your Hero http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.90 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.90)

บทที่ 20 One and Only(End) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3313502#new (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3313502#new)

ตอนพิเศษ Rainy Day  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48986.msg3321460#new
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 26-09-2015 21:17:45
บทที่ 1 Twin
[/size][/color]



   สภาวะเตียงดูด มักเกิดขึ้นยามเช้าในวันที่คุณมีธุระสำคัญ ดังเช่นวันนี้ เปิดเทอมวันแรกของชีวิตมหาลัย ผมลากสารร่างออกจากที่นอน คว้าเอาผ้าขนหนูข้างเตียงก่อนเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองทั้งที่ยังหลับตาอยู่แบบนั้น ทั้งที่เมื่อคืนก็บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่นอนดึกแต่ก็ตีฮอน(Hero of Newerth)เพลินจนเกือบตีสาม ชีวิตผมมันก็มีแค่นี้แหละ ขลุกอยู่หน้าคอมกับเกมส์และสาว 2D ใช่ว่ามันจะไร้ประโยชน์เสียทีเดียวเพาะไอ้ความชอบนี้มันทำให้ผมสอบติดคณะศิลปกรรมอันเนื่องมาจากการชอบวาดภาพคาแรคเตอร์ที่ชื่นชอบ อาบน้ำเสร็จก็ต้องมาง่วนกับการผูกเนคไท ปกติก็ไม่เห็นผูกกันหรอกครับ แต่วันแรกต้องถ่ายรูปติดบัตรเต็มยศนิดหนึ่ง...โว้ย ยากจัง ไม่ผูกแม่ง ไว้ไปหาเพื่อนที่คณะผูกให้แล้วกัน คิดได้ดังนั้นก็คว้าเอาแว่นมาใส่เป็นอันจบกระบวนการ

   ผมก้าวเท้าออกจากหอพักที่ย้ายมาอยู่ได้เกือบสองเดือนในช่วงปิดเทอมใหญ่ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดครับแต่เข้ามาเรียนในเมืองตั้งแต่มัธยม ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับญาติแต่พอเข้ามหาลัยจึงขอย้ายมาอยู่คนเดียว ผมมีพ่อคนเดียวครับแต่ไม่ได้ลำบากเรื่องเงินทอง เพราะพ่อผมเปิดโรงกลึงใหญ่ในตัวเมืองจังหวัด แต่ก็นะลูกผู้ชายมันต้องพึ่งตัวเองจึงทำงานพิเศษบ้างเป็นครั้งคราว เวลาเอาเงินไปใช้ไร้สาระจะได้ไม่ต้องกังวลใจ ดูเวลาในไอโฟนเจ็ดโมงสิบห้าไปแล้ว ยังพอมีเวลาแวะโรงอาหารในมอ ผมเดินลัดออกมาตรงซอยเล็กๆ ข้างหลังหอซึ่งลัดไปถนนใหญ่หากแต่แคบเกินกว่าที่รถยนต์จะสัญจร ขณะที่เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามทาง เสียงโวยวายตรงมุมถนนดึงความสนใจให้หันมอง

   "เฮ้ย!!"ถังขยะที่ควรจะวางอยู่ตรงเสาไฟล้มกลิ้งมาทางผมทำเอาถอยหลบแทบไม่ทัน นั่นไม่น่าตกใจเท่ากับชายร่างยักษ์ที่ล้มกลิ้งมาพร้อมกันด้วยร่างสะบักสบอม แถมยังมีอาการลนลานคลานหนีตายอย่างน่าสังเวช แต่ยังไม่ทันไปไหนไกลกับถูกลากกลับไปในทันทีด้วยมือใครอีกคน ผมมองเจ้าของมือนั้นอย่างตื่นตะลึง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่มองตอบมาให้ความรู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัว...จะไม่ให้อึ้งได้ไงครับพี่แกเล่นลากกลับด้วยมือเดียว ทุกสิ่งเกิดขึ้นไวมากเมื่อคนที่ลากกลับจัดการเอามีดสีเงินเชือดคออีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยมจนเลือดกระเด็นเต็มเสื้อสีขาวในทันที ผมได้แต่ยืนช๊อคตาค้างอยู่ตรงนั้น...นี่มันการฆาตกรรมชัดๆ ความซวยของผมที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้

   "เฮ้อ...โดนเห็นเข้าเสียแล้ว" เสียถอนหายใจดังขึ้นข้างหูทำเอาผมสะดุ้งหันกลับไปมองพบใครอีกคนกำลังแย้มยิ้มสดใสบนใบหน้าที่เหมือนกับเจ้าของมีดหากแต่ต่างตรงนัยน์ตาที่เป็นสีเขียวเท่านั้น "ไม่รอบคอบเอาซะเลย"
   ผมมองทั้งสองสลับกันพลันเท้ากลับถอยห่างคนใกล้ตัวอย่างเร่งรีบจนสะดุดแต่ยังไม่ทันล้มเจ้าของตาสีเขียวก็คว้าเอวผมไว้ได้ทัน...นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ มันคงไม่ฆ่าปิดปากผมหรอกนะ

   "ขอโทษนะ เราไม่ได้อยากทำให้ตกใจ" ใบหน้านั้นยังคงแย้มยิ้ม...แต่ตัวผมกำลังสั่นด้วยความกลัว "กลัวหรอ...เราไม่ทำอะไรนายหรอก"

   "จะ....จริงหรอ" ผมถามพลางเงยหน้ามองคนสูงกว่าอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทั้งที่แฝดนายเพิ่งเชือดคอคนไปต่อหน้าผมเนี่ยนะ

   "จริงสิ...เพียงแต่ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร รู้ใช่ไหมถ้าบอกจะเกิดอะไรขึ้น" นิ้วเรียวไล้คอผมก่อนจะกรีดเล็บลงแผ่วเบาให้ขนลุกไปกับความหมายที่แอบแฝง...ตาย!

   "มะ...ไม่บอกหรอก"

   "ดีมาก..." หมอนั่นว่าก่อนจะยีหัวผมอย่างเอ็นดู? ก่อนหันไปทักคู่แฝดของตนที่ตอนนี้โยนอาวุธในมือทิ้งลงบนศพอย่างไม่ใยดี "เสื้อพี่เลอะ กลับไปเปลี่ยนก่อนไหม?" คนถูกทักมองสำรวจตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเดินตรงมาทางผม นัยน์ตาสีน้ำเงินจ้องมาเพียงชั่วครู่ทำเอาผมสะดุ้งเฮือกอย่างลืมตัวแล้วเดินผ่านไป...คนอะไรน่ากลัวชะมัด!

   "ผะ...ผม ไปได้หรือยัง คือมันสายแล้ว" ผมถามเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ปล่อยเอวผม ด้วยใบหน้าคมคายดวงตาคมกล้าบวกกับผิวสีแทนและรูปร่างสูงใหญ่ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงฟินไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

   "อ่า...จริงสิ สายแล้วนี่เนอะ ฉันชื่อเรนนะแล้วเจอกัน" เจอกัน!? ใครจะไปอยากเจอวะ....คนน้องยังคงยิ้มสดใสต่างจากคนพี่ราวฟ้ากับเหวก่อนปล่อยผมเป็นอิสระ กล่าวขอบคุณแผ่วเบาก่อนโกยแนบออกมาในทันที

   เยี่ยม!...เปิดเทอมวันแรกของผมเจอเรื่องสยองขวัญแต่เช้าเลย ผมหนีเข้ามาสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำของโรงอาหารเห็นเลือดแล้วความอยากอาหารมันลดลง พยายามข่มใจที่สั่นด้วยความกลัวให้สงบ ลืมมันผมต้องลืมมัน ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นก่อนรีบตรงไปที่คณะเพราะมันเลยเวลามามากแล้ว




   "วันแรกก็มาสายเลยนะ" เสียงทักของรุ่นพี่ที่น่าจะเป็นพี่ระเบียบ(พี่ว๊าก)ต้อนรับผมทันที่เสนอหน้าถึงตึกคณะ ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ แทนคำตอบเพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

   "นี่ก็อีกคน!" อีกคน? นอกจากผมยังมีคนมาสายอีกสินะ...หันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมด้วยความยินดี...หรือเปล่า!? เพราะไอ้เพื่อนที่ว่าคือไอ้ฆาตกรเมื่อเช้านั่นเลยครับ

   "วะ....หวัดดี" แล้วจะทักมันเพื่อ!?...นิ่งมันหันมามองผมหน้านิ่ง โอ๊ยยย!!! คนหรือหุ่นยนต์วะ หรือมันอาจจะเป็นเครื่องจักรสังหารถูกส่งมาจากโลกอนาคตเพื่อฆ่าแม่ของพระเอกที่จะเกิดไปกำจัดมัน...เพ้อออกนอกโลกแล้วครับ

   "จะยืนจ้องกันอีกนานไหมครับ ปฐมนิเทศเริ่มจนจะจบอยู่แล้วมาป่านนี้ไม่ต้องเข้าไปแล้ว...แล้วนี่อะไร เนคไทก็ไม่ผูก" งือ...มันมาเป็นชุดเลย อย่าจ้องผมแบบนั้น ผมไม่ได้ไปทำใครท้อง

   "ผมผูกไม่เป็น" ตอบเสียงแผ่วก่อนดึงเนคไทในกระเป๋ากางเกงออกมาโชวว่ากูไม่ได้ลืมเข้าใจไหม!!!!

   "เรานะช่วยผูกให้เพื่อนที เพื่อนกันต้องช่วยกันสิ" รุ่นพี่ดึงเนคไทในมือผมไปยัดใส่มือคนข้างตัว ม่ายยย...พี่ไม่รู้เหรอมันอาจเอาเนคไทรัดคอผมตายก็ได้ ผมสะดุ้งเมื่อผ้าเส้นบางพาดลงบนคอและถูกผูกเรียบร้อยสวยงาม...จนเผลอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

   "ขอบคุณ" หมอนั่นเหลือบมองผมแวบหนึ่งก่อนหันไปมองทางอื่น...โอ๊ยย อึดอัดเป็นบ้า

   "ชื่ออะไรรหัสอะไรกัน"

   "ผมชื่อ มีน มัสยา สิงหคิรี รหัส 182ครับ" ผมแนะนำตัวพร้อมรหัสนักศึกษา นามสกุลผมชัดมากครับสำหรับคนทางเดียวกันจะรู้เลยว่าผมมันเด็กอีสานบ้านเฮาอันมีบิดาเป็นคนโพนพิสัย จังหวัดหนองคายครับ ผมไม่สนหากมีใครล้อว่าผมลาว บอกเลยว่าภูมิใจ

   "แล้วอีกคนละ" พี่ว๊ากหันไปถาม ทีกับมันพูดซะเบา ผมแอบลุ้นว่าหมอนี่จะแนะนำตัวหรือเปล่านะ ตั้งแต่เจอกันมายังไม่เห็นพูดอะไรซักคำ

   "เร อรุณ เรเวน รหัส 183.........................................ครับ" พระเจ้ามันไม่ได้เป็นใบ้ รหัสต่อผมเลยด้วย แต่...นามสกุลฝรั่ง สงสัยลูกครึ่ง ถึงว่าตาสีน้ำเงิน พี่ชื่อ เร น้องชื่อ เรน

   "รู้ใช่ไหมคนสายต้องถูกลงโทษ" ได้แต่พยักหน้ารับหงอยๆ "วิ่งรอบสนามฟุตบอลสิบรอบ แล้วกลับมาให้ทันถ่ายรูปติดบัตรด้วย ตอนบ่าย" เชี่ย...สิบรอบ สนามฟุตบอลมหาลัยมันเล็กซะที่ไหน มองดูเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว...อีพ่ออีแม่ แล้วจังซี่ผู้ข้าซิได้กินข้าวเที่ยงกับเขาบ่...เริ่มบ่นภาษาถิ่น แต่ก็ได้แต่ตอบรับแล้วเดินคอตกมาที่สนามพร้อมกับเพื่อนร่วมคณะผู้แสนดี?อีกคน




   รอบแรก   พอไหวๆ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น

   รอบสาม   โอย...แดดประเทศไทยร้อนเวอร์

   รอบห้า   แฮกๆ เหนื่อยไม่ไหวแล้ว

เหลือบมองเพื่อนร่วมชะตากรรมหมอนั่นยังคงวิ่งต่อไปไม่ได้เร่งรีบแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก เรมันต้องเป็นหุ่นยนต์แน่ๆ

   -Bitch better have my money!  Y'all should know me well enough.Bitch better have my money! -...เสียงโทรศัพท์ดังขัดอารมณ์เพ้อ ผมรีบกดรับแบบไม่ได้ดูคนโทร

   "ไอ้เชี่ยมีนนนนน มึงหายหัวไปไหนไม่ทราบ ทำไมไม่เข้าปฐมนิเทศ" สีแหลมวีนลั่นจากสตรีนามดาหลาทำให้ผมต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกห่างหู

   "กูมาสาย เข้าไม่ทันโดนรุ่นพี่ลงโทษอยู่เนี่ย" ผมบ่นพลางถอดแว่นที่เริ่มมัวออกมาเช็ด

   "สมน้ำหน้า ดูเมะดึกหรือไง" ผมหัวเราะแหะๆ แทนคำตอบ "แล้วพี่เขาลงโทษอะไร"

   "วิ่งรอบสนามสิบรอบ"

   "ดียะออกกำลังกาย (สมน้ำหน้า!)" เสียงเพื่อนในกลุ่มดังแทรกเข้ามาเป็นเพื่อนสมัยมัธยมครับ แง้...ทำไมต้องซ้ำเติมโผ้มมม

   "ดีอะไรละเจ๊ดา เพิ่งได้ห้ารอบข้อยสิตายแล้วเนี่ย" เดินไปคุยไปครับตอนนี้

   "ตายแล้วมึง นี่เที่ยงแล้ว มึงจะได้กินข้าวไหม..." ยังคงเสียงดังเช่นเดิม "เออ อยู่สนามฟุตบอลใช่ไหม กินข้าวเสร็จเดี๋ยวซื้อไปให้ เอาแซนวิชเซเว่นแล้วกัน"

   "ได้หมด เจ๊ ไวๆ เด้อ กูยังไม่กินข้าวเช้า" ผมว่า พอดีกับที่ร่างของอีกคนวิ่งเหยาะๆ ผ่านผมไป "เอ้อ เอามาสองชุดนะเจ๊ มีเพื่อนโดนลงโทษด้วยอีกคน คิดว่าคงไม่ได้ไปกินข้าวเหมือนกัน"

   "ยะ! แค่นี้นะ" วางโทรศัพท์แล้วกลับมาวิ่ง(คลาน)ต่อ แม่งเอ้ย!...ทำไมวันนี้อะไรๆ มันซวยไปหมดวะ
   หลังจากกลิ้งเอ้ย!...วิ่งครบสิบรอบจึงย้ายร่างมานั่งหมดแรงตรงชุดโต๊ะหินข้างสนามโดยมีไอ้คุณเรนั่งอยู่ตรงข้ามด้วยเหงื่อโทรมกายแต่ไม่ได้ดูเหนื่อยจะเป็นจะตายแบบผม ที่ตอนนี้แข้งขามันล้าไปหมด ยังดีที่มันไม่ได้มองมาทางนี้ ไม่งั้นคงตายด้วยดวงตาสีน้ำเงินเย็นเยือกคู่นั้นแน่ ร้อนชิบ!...ผมคลายเนคไทออกก่อนปลดกระดุมแล้วพับแขนเสื้อเพื่อคลายร้อน คนตรงข้ามก็ทำเช่นกันจึงเผยให้เห็นรอยสักที่โผล่พ้นแขนเสื้อด้านซ้ายและตรงอกที่คลายกระดุมออกสองสามเม็ด เมื่อรวมกับหน้าดุๆ นิ่งๆ แบบมันแล้วเถื่อนสัด...อย่างกับมาเฟียอิตาลี...บางทีมันอาจจะเป็นนักฆ่า...หรือเป็นมือปืน...แล้วสรุป ไอ้คุณเรตรงหน้าผมนี่มันเป็นใครกันแน่วะ

   "ไอ้เชี่ยมีนนนนน" เสียงแหลมแปดหลอดดังมาแต่ไกล ไม่เข้าใจทำไมต้องเติมยศให้ผมด้วย ดามันเดินมาทางผมพร้อม ก้อง ภูผาแล้ว ก็กร ในมือถือถุงเซเว่นอันอุดมไปด้วยเสบียง

   "ไงมึงวันแรกก็สายเลยนะ สันดานเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" ไอ้ก้องว่า

   "กูว่าสิบรอบน้อยไป" ภูผามันเสริม

   "กูก็ว่างั้น ไอเชี่ยแว่นมึงต้องหัด..."

   "หยุด!...ถ้ามึงจะเทศน์กูพอเลย วันนี้สิบรอบสำนึกแล้วสัด" ผมเบรกไอ้กรไว้ก่อนที่มันจะร่ายยาว "ไหนของกินกูอะ"

   "นี่ยะ" ดายื่นถุงเซเว่นให้ผม "คนนี้เพื่อนคณะเราใช่เปล่า นาย นายชื่ออะไร เราดาหลานะ ไอ้นี่ชื่อ ก้อง ภูผา ส่วนไอ้เตี้ยนี่ชื่อกร" ดาถามพลางชี้ไปยังคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมก่อนแนะนำเพื่อนทุกคน อย่าไปชี้เดี๋ยวมันกัดนิ้วขาดนะเว้ย!

   "ชื่อเร..." ผมตอบแทนคนที่ยังนั่งนิ่ง

   "อ๊าย เร ชื่อเท่ดี แถมหล่อด้วย ไอ้มีนไม่รีบบอกวะ จะได้รีบมา" เหอะ...ไม่ค่อยเลยเพื่อนผม "อ๊ะนี่ มีนให้เราซื้อมาเผื่อ คิดว่านายคงหิวเหมือนกัน" ดาหยิบแซนวิชในถุงแถมเป็นอันที่ผมเล็งไว้ให้เรไป พร้อมยิ้มหวาน

   "เฮ้ย!!!!เจ๊ดา นั่น แฮมซีสของกู" ผมงอแง ทำหน้ายู่ใส่มัน

   "ไส้อะไรก็กินๆไปเถอะยะ ซื้อมาให้แล้ว" เออเอาสิเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน เรมองหน้าผมก่อนจะสลับแซนวิชในมือกับของผมแล้วแกะกินเงียบๆ ผมมองมันแบบอึ้งๆ




   ผมเดาว่ารูปติดบัตรนักศึกษาผมต้องอุบาทสุด เพราะกลับจากวิ่งรอบสนามสภาพผมโทรมซะ กลายเป็นไอ้แว่นหัวยุ่งผู้มีฮิวโก้เป็นไอดอล จนเจ๊ดามันรำคาญจับมัดผมให้เรียบร้อย ดีนะไม่ใช่คนเหงื่ออกเยอะไม่งั้นหน้าคงมันเป็นกระทะทอดไข่
   คณะนี้พี่ว๊ากแรงสมคำร่ำลือครับแต่ไม่โหดเท่าแต่ก่อน อาจเพราะโดนร้องเรียนรุ่นหลังๆ เลยโดนเบาลง มีช่วงเครียดและช่วงเอนเตอร์เทรน ก็สุ่มรหัสไปแสดงอะไรเกรียนๆ หน้าแถวประมาณนั้นครับ มีรอบหนึ่งผมโดนไอ้ภูผาถีบไปข้างหน้ากล่าวคำสรรเสริญมันแทบไม่ทัน ไอ้เพื่อนเลว!!!! ก็ไม่มีอะไรมากพี่แกให้เต้นเพลง...มัดหมี่ขูดมะพร้าวทำกับข้าวอยู่ในครัว มัดหมี่ไม่รู้ตัวถูกโจรชั่วจับเอาไป เอาไม้แหย่รู...ฮึ่ยยย ร้องแล้วมันขึ้น...ไอ้เราก็จัดเต็มเพราะหน้าด้านเป็นทุนเดิม แถมไม่ใช่พวกหนุ่มหล่อมาดเท่จึงไม่จำเป็นต้องรักษาภาพพจน์อะไร ไอ้มีนคนนี้เลยกลายเป็นที่รู้จักในวันแรกเฮ้อ!!!

   "ไงเชี่ยมีนกลับแล้วหรอ"

   "แว่น มึงนี่เรื้อนได้ใจจริงๆ เลย"

   "เอ้อ ไอ้แห้งไปแดกเหล้ากับกูเปล่า"

   สารพัดคำทักทายจากผองเพื่อน และชื่อที่เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น ไอ้แห้ง ไอ้แว่น ไอ้เชี่ยมีน ฯลฯ คือผมควรจะภูมิใจใช่ไหมที่กลายเป็นที่รักขนาดนี้ จบสิ้นภารกิจวันนี้ผมก็เตรียมตัวเดินกลับหอ จริงๆ มีมอเตอร์ไซต์เวฟร้อยครับแต่ตอนนี้นอนป่วยอยู่อู่ เพื่อนในรุ่นมันชวนไปก๊งเหล้าเชื่อมสัมพันธ์แต่วันนี้ขี้เกียจเลยขอผ่าน

   "ไง เจอกันอีกแล้ว" เสียงทักเรียกผมและผองเพื่อนให้หันมอง เรน!...ในชุดนักศึกษายิ้มกว้างพร้อมโบกไม้โบกมือให้ผมแล้วเดินตรงมา "เรียนคณะเดียวกับเรหรอ ดีจัง" ว่าแล้วมันก็ทำตัวสนิทสนมด้วยการเดินมากอดคอผมเลยครับ

   "รู้จักกันด้วยหรอ" เจ๊ดาหันมาถาม ตามึงนี่เยิ้มเลยนะครับเห็นผู้ชายหน้าตาดีหน่อย

   "เพิ่งเจอเมื่อเช้านี่แหละ" คิดถึงเรื่องเมื่อเช้ายังสยองไม่หายผมพยายามขืนตัวออกจากแขนอีกฝ่ายแต่ก็ไร้ผลเพราะไอ้คุณเรนยังคงยิ้มหน้าระรื่นแถมเปลี่ยนมาโอบเอวผมแทน...เชี่ย! ขนลุก

   "อ๋อถึงว่า อย่างไอ้เกรียนนี่ไม่น่ามีใครคบหรอก จริงไหมมึง" สัดกร ด่ากู แล้วพวกที่เหลือจะพยักหน้ารับทำไม เง้อ โดนรุมตลอด

   "แหะๆ...ผมว่าเพื่อนนายก็โอเคดีนะ" เรนแย้ง...เออให้มันได้แบบนี้สิ "ผมเรนเป็นน้องชายฝาแฝดของเร พวกนายคงรู้จักพี่แล้วแหละ ผมเรียนอยู่คณะวิทยา ว่าแต่นายชื่ออะไร นายยังไม่แนะนำตัวเลย"

   "มีน"

   "มีน..." ผมพยักหน้ารับ "อ๊ะ...เร" แล้วมันก็ปล่อยผมซะที ไปเกาะพี่มึงโน่น "วันแรกเป็นไง สนุกไหม" เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวยิ้มร่าพลางเกาะแขนพี่ตัวเองเหมือนเด็กๆ ซึ่งคนถูกถามทำเพียงแค่ยักไหล่

   มองดีๆ บุคคลิคของสองคนนี้ต่างกันชัดเจนเรนดูเป็นคนร่าเริงสดใสเข้ากับคนง่ายไปเสียหมดแม้แต่การแต่งตัวยังดูเนียบอย่างกับคุณชาย ในขณะคนพี่ถึงจะหน้าตาเหมือนกันแต่กลับเงียบเชียบเสียจนรู้สึกแปลกๆ เมื่ออยู่ใกล้ แถมรอยสักตามตัวยังให้อารมณ์ดิบเถื่อนไม่น้อย เปรียบง่ายๆ ก็คงเหมือนแสงกับเงาละมั้ง เรนคุยเล่นกับพวกเพื่อนผมพักใหญ่จนเริ่มสนิทกัน!!? ถึงขั้นที่พวกไอ้กรกล้าขึ้นมึงกูด้วย ไวไปไหมเนี่ย แต่นั่นไม่สำคัญเท่าประโยคสุดท้ายที่เรนฝากไว้ก่อนพาพี่ตัวเองกลับ

   "ยังไงก็ฝากพี่เรด้วย ถึงจะเงียบแต่ก็ไม่เลวร้ายอะไร (ฆ่าคนตายเนี่ยนะ) ไปไหนก็ชวนมันไปด้วยก็ได้ มันไม่เรื่องมากหรอก" คนน้องเอ่ยฝากฝังกับกลุ่มผมเสร็จสรรพ

   "ได้สิ ไม่มีปัญหา เราจะเทคแคร์เป็นอย่างดีเลย" เจ๊ดารับคำอย่างเร็วไว คนอื่นๆ ก็เช่นกันยกเว้นผม...ม่ายยยยย!!!!! ไม่รับฝากได้ไหม ผมได้แต่กรีดร้องในใจพลางมองตามสองพี่น้องที่เดินจากไปพร้อมถอนหายใจแบบปลงๆ

Talk Talk
[/b]

-ทุกอย่างเหมือนเดิมจ้า อยากได้อะไรอยากให้วาดอะไรบอก เดี๋ยวหนูจัดให้ถ้ามีอารมณ์ ติชมได้เลยนะ กันเอง :impress2:


หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 26-09-2015 22:44:21
แล้วใครเป็นพระเอกล่ะนี่ เราชอบบุคลิกเรนะ นิ่งๆเย็นชา แต่เรนก็ดูอบอุ่นดี อย่างมีนน่าจะเหมาะกับเรมากกว่าจะได้ปราบมีนด้วย แต่ดูเหมือนเรนจะชอบมีนนะเนี่ยะ 555 #ทีมเรมีน เอ๊ะ!! หรือว่าจะ #เรนมีน คิคิ
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-09-2015 22:55:35
โอ๊ะ ภาค 2 หรอ? แล้วโยจะมาแจมด้วยม่ะ
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 26-09-2015 23:39:06
รอตอนต่อไป........ 3pมั้ย ถ้าใช่จะชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 27-09-2015 00:52:56
เรื่องน่าสนุกดี รออ่านตอนต่อๆไปครับ เป็นกำลังใจให้นะ

อนึ่งภาคแรกเรื่องอะไรเหรอครับ อยากอ่านดู
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 27-09-2015 01:04:34
เรื่องน่าสนุกดี รออ่านตอนต่อๆไปครับ เป็นกำลังใจให้นะ

อนึ่งภาคแรกเรื่องอะไรเหรอครับ อยากอ่านดู

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0)

ตามลิ้งค์เลยค่ะ บอกไว้ก่อนเราเขียนบทหวานแหววไม่เทพ ดังนั้น เรื่องของเราจะเข้มข้นที่เนื้อหา บางท่อนบางตอนไม่เคลียก็อินบอคมาถามไถ่ได้ค่าาา
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 27-09-2015 02:00:42
มีนคู่กับคนพี่หรือคนน้องกันนะ
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-09-2015 05:41:20
มีนตลกดี
เราเชียร์เร
รอติดตามจ้า.  :L2:

หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 1 Twin p.1 26/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 28-09-2015 20:01:09
บทที่ 2 Heartless
[/b]


   ถามว่าชีวิตมหาลัยสำหรับผมเป็นยังไง บอกเลยว่าสนุกดี โดยเฉพาะเวลารับน้องที่มักมีการทำอะไรห่ามๆ เรียกเสียงฮาแต่คนทำไม่ฮาเนื่องจากคำสั่งของรุ่นพี่ ไอ้เราก็คนเด่นคนดังรุ่นพี่มันคิดอะไรไม่ออกแม่งก็เรียกชื่อผม...เอาสิซวยอีกแล้วสิ

   "มีนๆ มึงมานี่" กลุ่มพี่ต้นปีสามกวักมีเรียกยิกๆ เมื่อเห็นผมเดินผ่าน ตอนพักเที่ยง

   "เอ้อ...งั้นพวกกูรอที่โรงอาหารนะเว้ย" เพื่อนผมบอกตบบ่าแปะๆ พร้อมยิ้มสยอง แล้วเดินจากไป   

   "มีอะไรครับพี่" ผมถามพร้อมยกมือไหว้รอบวง

   "มึงเคยเจอดาวอักษรปีสองเปล่าวะ" ดาวอักษร ก็เคยเห็นตอนรับน้องรวมที่แต่ละคณะจะเวียนฐานกันไป ซึ่งแม่นางฟ้าคนนี้เคยมาคุมฐานของคณะ เป็นพวกหมวยตาโตและมีดั้งสวยมากเห็นครั้งแรกแสงวิ้งเข้าตาเลยครับ
 
   "ก็เคยเห็นนะพี่ โครตสวย อย่างกับดาราเกาหลี ตัวเล็กๆ ขาวๆ หน้าอกนี่แบบ(วาดมือออกกว้างๆ)...ได้ซักครั้งจะตั้งใจเรียน" เฮ้ย! ไม่ใช่แล้ว

   " ทะลึ่งแล้วเชี่ยมีน คนนี้กูจอง" เพื่อนพี่เขาอีกคน น่าจะชื่อเก่งเขย่าไหล่ผมรัวๆ หน้านี่แดงจัด สงสัยคิดตามคำบรรยายผม

   "อ้าว แล้วสรุปพี่เรียกผม มีอะไรครับ"

   "ก็เพื่อนกูปลื้มเขาอยู่ อยากทำความรู้จัก แล้วคิดว่ามึงคงช่วยได้" พี่ตั้มอธิบาย ขณะที่เพื่อนชายเขากำลังบิดไปมาด้วยความเขินอาย เหอๆ มันไม่เข้ากับหน้าพี่เล้ย

   "จะให้ผมช่วยอะไร"

   "ง่ายๆ ไปขอเบอร์เขามาให้หน่อย" ง่ายพ่อง!!! พี่จะให้ไอ้แว่นแบบผมไปขอเบอร์ดาวอักษรปีสองเนี่ยนะ คงได้เบอร์รองเท้าแทน

   "หน้าอย่างผมจะขอได้หรอพี่" ผมอิดออด

   "นั่นมันเป็นปัญหาของมึง" แต่คนอยากได้มันเพื่อนพี่ไง

   "ไปสิไวๆ เลย เพื่อนกูมันใจร้อน เอามาให้พวกกูคาบบ่าย ไม่ได้ก็อย่ามาเรียกกูว่าพี่" ฮะ!...ใจร้ายวะ พี่ตั้มโยกหัวผมพร้อมยิ้มเหี้ยมก่อนที่เขาและผองเพื่อนจะเดินจากไป

   ผมยืนเคว้งกับภารกิจที่ได้รับ ไม่ใช่จีบสาวไม่เป็นนะ แต่ผมก็เลือกจีบเฉพาะคนที่คู่ควรเท่านั้น ไอ้พวกนางฟ้าเหล่านั้นมันอาหารตาครับ โอ๊ย!!! เอาไงดีวะ หันรีหันขวางอย่างหาทางไป จนสายตาไปสบกับดวงตาสีน้ำเงินที่มองมาทางผมให้สะดุ้งเล่น เรไม่ได้ตามพวกเจ๊ดาไปหรอ? ผมยืนพินิจพิเคราะห์เพื่อนร่วมรุ่นอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบังเกิดไอเดียบางอย่าง...ไหนๆ มึงก็เงียบแล้ว ใช้ความเงียบกับความหล่อให้เกิดประโยชน์หน่อยแล้วกัน

   "เร! มากับกูหน่อยดิ มีอะไรให้ช่วย" ผมจับมือมันลากเดินไป ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนอกจากเดินตามมาเงียบๆ เรียนกับมันมาอาทิตย์หนึ่ง ถ้าลืมๆ เรื่องวันแรกที่เจอกันไป ไอ้เรมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถึงมันจะเงียบแต่ก็ดีตรงที่ไม่เรื่องมากขอให้ช่วยมันก็ช่วยหรือมันขี้เกียจปฏิเสธอันนี้ก็ไม่รู้แฮะ ชวนไปไหนถ้ามันอยากไปมันก็จะเดินตามมาเอง
 
   เราเดินมาจนถึงโรงอาหารฝั่งหน้ามอ ที่นี่มีโรงอาหารสองที่ครับแถวหลังมอ ใกล้คณะผม กับหน้ามอแถวคณะอักษร กวาดตามองหาเป้าหมายไม่นานก็เจอ...พี่ลูกแก้ว ดาวอักษรปีสองนั่งหัวเราะกับกลุ่มเพื่อนๆ หาไม่ยากหรอกครับ กลุ่มพี่เขามีแต่คนสวยออร่าเลยแผ่กระจายมองเห็นแต่ไกล ผมก้าวเท้ายาวๆ ไปหาพวกเธอ

   "สวัสดีครับ พี่ลูกแก้วใช่ไหมครับ" เสียงทักของผมเรียกสายตาทุกคนในโต๊ะให้หันมอง ให้ตาย...เริ่มประหม่าแล้วสิ

   "มีอะไรค่ะน้อง" พี่ลูกแก้วถามพร้อมยิ้มสวย โอยยย กูจะละลาย

   "น้องคงไม่ได้มาขอเบอร์เพื่อนพี่หรอกนะ ไอ้แห้งหน้าแว่นแบบเราไม่ใช่เสปกมันหรอก ตัดใจซะเถอะ มันเป็นไปไม่ได้" ฉึก! วาจาเชือดเฉือนใจ เพื่อนพี่ลูกแก้วสวยนะ แต่ปากจัดชิบหาย

   "ไอ้ขอเบอร์นะใช่ครับ แต่ผมขอให้เพื่อนผมคนนี้" ว่าแล้วก็ดันเรให้ไปยืนข้างหน้า มันหันมองผม จึงทำเพียงขมุบขมิบปากบอกมันว่า...ช่วยกูหน่อย มันจึงหันไปพร้อมกับพยักหน้าให้สาวๆ ในกลุ่มที่จ้องมันไม่วางตา เอาสิ ลูกครึ่งหน้าคมผิวแทนแถมสูงยาวเข่าดีขนาดนี้ไม่ให้ก็บ้าแล้ว "คือเพื่อนผมมันพูดไม่เก่งครับ แหะๆ"

   "ชื่ออะไรละจ๊ะเรานะ" พี่ลูกแก้วถามพลางก้มหน้าก้มตาอย่างเขินอาย ทีกับผมนะ...เฮ้อ!

   "เร!" มันตอบแค่นั้น

   "เอาโทรศัพท์เรามาสิ" เรนิ่งไปซักพักก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ยื่นให้พี่เขาไปซึ่งเธอก็กดเบอร์พร้อมเมมให้เสร็จสรรพ

   "ขอบคุณครับ" ผมบอกส่วนเรก้มหัวนิดๆ ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินจากมา

   "ขอโทรศัพท์ให้กูหน่อย" มันล้วงเอาโทรศัพท์ยื่นให้ผมแต่พอจะหยิบมันกลับชักมือกลับ "น่า เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวเที่ยง เป็นการตอบแทน"

   "ข้าวเย็น" เรแย้ง ก็เป็นปกติของมันที่จะพูดคำสั้นๆ ที่นานน๊านนนนนน จะได้ยินที

   "ข้าวเย็นก็ข้าวเย็นแต่ไปกินที่ร้านเหล้านะ วันนี้กูต้องไปทำงานที่ ร้านเธอร์วะ" มันก็พยักหน้ารับ ผมรับจ๊อบร้องเพลงตามผับและร้านเหล้ามาตั้งแต่มอปลายแล้วครับ ไม่ใช่พ่อไม่ให้เงินใช้นะครับแต่จะเก็บเงินไว้ซื้อฟิกเกอร์อนิเมะ เผลอๆอาจเก็บไปแต่งเมีย

   "เฮ้ยวันนี้มึงไปร้องเพลงร้านเธอร์เปล่าวะ" ไอ้ก้องถามตอนหมดคาบสุดท้าย

   "ไปดิ เดี๋ยววันนี้เอาไอ้เรไปด้วย" ผมบอก "ว่าจะไปเลี้ยงข้าวขอบคุณมัน"

   "มึงนี่ตัวติดกันจังเลยน๊า กูละจิ้น มีมีนที่ไหนมีเรที่นั่น เมื่อเที่ยงมันยังรอกินข้าวพร้อมมึงเลย อ๊ายยยย รังสีวายแผ่ซ่าน ว่าแต่ใครรุกใคร...อ๊ะ!" อีเจ๊ดามันเพ้อเลยแบมือป้ายปากมันที่กำลังอ้าอยู่เต็มๆ "แหวะ เค็มสัด อีดอกมีน สกปรก"

   "ออกจะอร่อยขี้มือกู" ผมหัวเราะลั่น ป๊าบ!"โอ๊ย เจ๊ดามันเจ็บเด้เนี่ย" แม่งฟาดผมหลังแอ่นเลย เพื่อนสามตัวมันก็หัวเราะประกอบฉาก




   ผมพาไอ้เรมาที่ร้านเหล้าชื่อว่า เธอร์ ก่อนมาแวะไปเอากีต้าที่หอผมโดยมีไอ้เรเป็นสารถี ตอนแรกเห็นรถมันผมนี่ตาโตเท่าไข่ห่านกระทิงดุรุ่นอะเวนตาโดร์เลยนะเว้ย แถมสีดำด้านสวยจับจิต เป็นบุญตูดจริงๆครับได้นั่งรถหรู บ้านมันค้ายาหรือไงวะถึงได้รวยขนาดนี้

   มาถึงร้านเธอร์ตอนทุ่มหนึ่ง ที่ได้มาทำงานร้านนี้ก็เพราะมีวันหนึ่งผมเอากีต้ามานั่งเล่นกับพี่ยามหน้าหอพี่หนิงมาหาน้องที่หอได้ฟังเลยชวนมาทำงานร้านแก ร้องเพลงร้านนี้มาเกือบสองเดือนแล้วครับ ก็อังคาร พฤหัส และเสาร์ สลับวันกับนักร้องคนอื่นๆ วันนี้เจ้าของร้านขอให้ผมเล่นถึงตีหนึ่งเพราะเปิดเทอมใหม่ลูกค้าเยอะ ก็เหล่านักศึกษาผู้ล่าปริญญานั่นแหละครับมาสังสรรค์ทำความรู้จักเพื่อนใหม่กัน

   "ไงมีน พาเพื่อนมาด้วยหรอ เดี๋ยวพี่จัดโต๊ะให้นั่งนะ เอาใกล้ๆ เวทีละกัน สั่งได้เลยนะพี่คิดราคาพิเศษให้" พี่หนิงทักทายพวกเราก่อนเรียกเด็กมาบริการแล้วกลับไปดูแลร้านต่อ

   "มึงอยากกินอะไรก็สั่งเลย สั่งเผื่อกูด้วย" ผมบอกพลางยื่นเมนูกระดาษกับปากกาให้เร เรนไม่มาด้วยครับมันโทรมาบอกว่าจะไปกับหญิงจะลากพี่มันไปไหนเชิญตามสบาย มันสั่งยำรวม เอ็นไก่ทอด ต้มยำกุ้งน้ำข้น กับข้าวสองจาน แบล็คเลเบอร์อีกกรม

   "เฮ้ย! ไม่ได้บอกจะเลี้ยงเหล้า" ผมทวนเมนูในกระดาษก่อนร้องออกมา เหล้าขวดเกือบพัน ไหนจะโซดาน้ำแข็ง อานดิครับ มันไม่ตอบแต่แย่งกระดาษในมือผมยื่นให้เด็กเสริฟ เบอร์ดาวอักษรราคาแพงขนาดนี้เลยหรอวะ เฮ้อ! ผมมุ่ยหน้าใส่มันแบบเซ็งๆ ระหว่างรอข้าวก็มองสำรวจไปรอบๆ ว่าจะกินรองท้องซักนิดก่อนขึ้นไปร้องเพลง
 
   แล้วคนคุ้นเคยเดินเข้าร้านมาพร้อมคล้องแขนชายหนุ่มในชุดชอป...พะแพง! แฟนผมเองครับเพิ่งห่างกันก่อนจบมอหกโดยเธอให้เหตุผลว่าจะเข้ามหาลัยแล้วอยากเต็มที่กับการเรียน...เป็นไงละ คำพูดนางเอกสุดๆ แต่ตอนนี้ผมกระจ่างแล้วครับ เธอมีคนใหม่แถมเธอยังเข้ามาเรียนที่เดียวกับผมเสียด้วยดูจากชุดนักศึกษาและเข็มที่ปักบนอก เหอะ! คิดแล้วมันเฮิธ ผู้หญิงสมัยนี้แม่งนิยมแบดบอย ไอ้แว่นอย่างผมจะไปสู้อะไรวะ

   "อ้าว มีน" เหมือนเธอจะเห็นผมแล้วครับ แต่ไม่ต้องเดินจูงมือกันเข้ามาได้ไหม...มันปวดใจ "ไม่เจอกันนานเป็นไงบ้าง เรียนที่เดียวกับเราด้วย อยู่คณะอะไรละ"

   "ก็สบายดีเรื่อยๆ" ผมตอบ พยายามข่มเสียงให้ปกติที่สุด "เราเรียนศิลปกรรมนะ แล้วพะแพงละ"

   "เราเรียนศึกษาศาสตร์นะ อ๊ะ พี่น๊อตแฟนเรา นี่มีน...เพื่อนแพง...จบมอปลายที่เดียวกัน" พี่น๊อตยิ้มให้เรา เหอะ เพื่อน!...ฟังแล้วหน่วงดี "นั่นเพื่อนนายหรอ"

   "อืม คณะเดียวกัน"

   "แล้วมาทำอะไรที่นี่ละ"

   "รับจ๊อบร้องเพลงนะ เคยมีคนบอกเวลาเราจับกีต้าแล้วหล่อดี" ผมบอก พะแพงจึงได้แต่ยิ้มฝืนๆ มาให้เพราะคนที่พูดก็เธอนั่นแหละ

   "แล้วเราจะคอยฟัง ขอตัวก่อนนะ" ไปเถอะ ไปรักกันไกลๆ โว้ยเซ็ง พอดีกับเหล้าและข้าวมาเสริฟเลยเป๊กเพียวๆ ไปแก้ว แสบคอสาดดด

   "ขอบใจ" ไอ้เรมันรู้งานรินน้ำเปล่ามาให้ล้างคอ ย้อมใจให้กรึ่มก่อนคว้ากีต้าร์เดินขึ้นเวทีไม่กินแม่งแล้วข้าว เฮิธๆ แบบนี้อารมณ์ศิลปินมันมา จัดเพลงนี้แด่เธอเลยแล้วกัน

อยากให้ลมหายใจ
สุดท้าย ได้หมดไป
ในตอนนี้ มันเจ็บจนเกินรับไหว
หัวใจ จงหลับไหลไปเสียที

มันผิดที่ฉันเอง ที่เฝ้ารัก
จนทำให้เธอนั้นมองข้ามไป
มันผิดที่ฉันเองที่ง่ายนัก
ของตายก็มีความหมายแค่นั้น

มันผิดที่ฉันยอมยกใจให้เธอไป
มันผิดที่ฉันยอมให้เธอเก็บไว้
มันผิดที่ฉันมองเห็นเธอด้วยหัวใจ
ผิดตรงที่ไว้ใจ
ฉันมองตัวเธอผิดไป
 (ผิดที่ไว้ใจ Silly fools)

https://youtu.be/Wk0_c0kjxso (https://youtu.be/Wk0_c0kjxso)

   จบเพลงเรียกเสียงปรบมือโห่ร้องดังลั่นร้าน ไม่รู้เพลงมันโดนหรือผมร้องเพราะ(แบบว่าอิน) บางทีอาจมีพวกอกหักแบบผมอีกเยอะก็ได้ สารพัดเพลงกระแทกใจผมจัดไปยาวๆ ตามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น ลึกลึก(Cell) ทำได้เพียง(25Hours) ไหนว่าจะไม่หลอกกัน(Silly Fool) น้ำตา(Sweet Mullet) ฯลฯ ระหว่างนั้นก็มีสาวๆ บางโต๊ะเดินเอาน้ำเมามาเสริฟที่ร้องเพลงถูกใจแหมเวลาไม่เกรียนผมก็ดูดีเป็นปกตินะครับ ปกติของผมนะแต่ไม่ปกติของคนอื่น หันไปอีกทีก็ไม่เห็นพะแพงอยู่ที่โต๊ะแล้วครับสงสัยทนแรงกดดันไม่ไหว แต่โต๊ะผมไอ้เรก็ไม่อยู่เหมือนกันแต่กระเป๋ายังอยู่สงสัยไปเข้าห้องน้ำ ว่าแล้วผมก็ขอพักเบรกไปทำธุระส่วนตัวเช่นกัน

   "เดี๋ยวมีน" เสียงเรียกดังขึ้นตรงทางเดินไปห้องน้ำ พะแพงคว้ามือผมไว้ท่าทางอึกอัก

   "เราไม่บอกใครหรอก เรื่องของเรา" ผมแกะมือเธอออกช้าๆ   

   "บอกอะไร มึงมีอะไรจะบอกกู" เสียงตวาดดังขึ้นข้างหลัง คนชื่อน๊อตเดินมาทางเราท่าทางเดือดดาลพร้อมพวกอีกแปดคน สายตาเชือดเฉือนมองมือพะแพงที่รั้งแขนผมอยู่ "ในแพงบอกพี่ว่าแค่เพื่อนไงค่ะ"

   "ก็เพื่อน...พี่น๊อตมันไม่มีอะไรจริงๆ"

   "หึ...อย่าโกหกสิ ถ้ามันไม่เป็นอะไรกับแพงจริง ทำไมต้องมองแพงด้วยสายตาแบบนั้น ตอนที่มันร้องเพลง" ตอนที่ร้องผมมองแบบไหนนะ "มันเป็นแฟนเก่าแพงใช่ไหม" ก็ไม่เก่านะ เพราะเราไม่เคยเลิกกัน

   "ชะใช่...แต่เราเลิกกันไปนานแล้ว"

   "ไงไอ้แว่น เลิกไปนานแล้วมึงก็เลิกยุ่งกับแฟนกูซะสิ" น๊อตว่าก่อนคว้าคอเสื้อผม ชิบหายแล้วไง แต่ท่าทางกวนตีนแบบนั้นผมก็ไม่ยอมแม่งเหมือนกัน หมั่นไส้

   "ผมก็ไม่ได้ยุ่งนิ"
 
   "มึงจับมือแฟนกู"

   "แพงจับ ผมไม่ได้เริ่ม" ผลัวะ! หมัดหนักๆ เสยหน้าผมทั้งที่ไม่ทันตั้งตัว

   "พี่น๊อตอย่า" พะแพงร้องลั่นจะพุ่งมาช่วยพยุงแต่โดนรั้งเอาไว้

   "มึงพาน้องมันไปรอที่โต๊ะ" ร่างบางถูกส่งให้เพื่อนมัน "กูขอสั่งสอนไอ้แว่นนี่หน่อยเถอะ"

   ผลัก! เท้าประเคนเข้าท้องจุกจนตัวงอ เชี่ยเล่นทีเผลอ ผมฝืนตัวต่อยสวนไปหนึ่งหมัดจนอีกฝ่ายหน้าหัน เอาสิวะคิดว่ากูไม่สู้หรอ

   เพล้ง! แรงกระแทกเข้าที่หัวทำเอามึนไปชั่วขณะ ทั้งตัวเปียกไปด้วยของเหลวจากขวดที่แตกกระจายผสมกับเลือดของผม ไอ้เชี่ยน๊อตมันคว้าเอาขวดแป๊ปซี่จากลังแถวนั้นมาฟาดหัวผม มันยิ้มเหี้ยมก่อนเอามีพกในกระเป๋ากางเกงออกมากาง นี่มันกะเล่นผมถึงตายเลยหรือไง  พยายามฝืนร่างที่หลบมีดที่พุ่งมาแต่ผมช้าไป

   ฉึก! มือใครซักคนคว้ามีดไว้ก่อนที่มันจะแทงตัวผม มือแกร่งกำแน่นก่อนจะบิดมันออกจากมืออีกฝ่ายโดนไม่สนว่าคมมีดจะบาดเนื้อจนเลือดอาบ ผมมองเจ้าของมือดวงตาสีน้ำเงินที่จ้องตอบกลับมา คิ้วหนาขมวดมุ่นเล็กน้อยบกบอกถึงอารมณ์เจ้าตัวที่เริ่มครุกรุ่น เรโยนโลหะเงินนั้นลงพื้นโดยปราศจากท่าทีเจ็บปวด

   "มือนาย" ผมคว้ามือมันมาดูอย่างร้อนรน มันบ้าหรือเปล่ารับมีดด้วยมือเปล่าแบบนั้น แต่สิ่งที่เห็นกลับทำเอาผมนิ่งค้างเมื่อ บาดแผลนั้นค่อยๆ สมานตัวจนหายไปเหลือเพียงหยาดเลือดที่เลอะบนมือ ผมมองมันอย่างตื่นตระหนก แต่เรกลับไม่สนใจเชยคางผมขึ้นสบตามันพลางมองสำรวจหน้าผมแล้วถอนหายใจออกมาหนักหน่วงทำเอาผมรู้สึกแปลกๆ

   "นี่ไม่ใช่เรื่องของมึง อย่าเสือกถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปอีกคน" ไอ้เชี่ยน๊อตประกาศกร้าวพร้อมเพื่อนๆ มันที่ตั้งท่าจะลุย แต่ร่างสูงตรงหน้าผมหาได้หวั่น อีกทั้งยังปรายตามองนิ่งๆ ความรู้สึกแบบวันแรกที่เจอกันแผ่ซ่านรอบกายเร...ตายแน่พวกมันตายแน่ๆ ต้องโดนเรฆ่าแน่ๆ

   "เรอย่า...ไม่" ผมรั้งแขนแกร่งนั่นไว้ก่อนส่ายหน้ายิกแต่กลับโดนสะบัดออกแล้วมันก็ผลักผมไปยืนหลบพิงกำแพงข้างหลังมัน
   "เชี่ยเร...กูขอร้อง อ๊ะ" ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่จนต้องเอามือกุมหัว มองของเหลวสีแดงที่อาบมือทำเอาสติเริ่มพร่าเลือน...ผมเสียเลือดมากไป ผมพยายามฝืนทนมองภาพตรงหน้าแต่ไม่ไหวแล้วครับ ผมค่อยๆ ทรุดลงบนพื้น

   "มึงจะเอาใช่ไหม ได้" ผลัก! โครม! ผมเห็นลางๆ ว่าพวกไอ้น๊อตโดนเตะกลิ้งไปกับพื้น ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะเลือนหายไปพร้อมกับสติของผม ให้ตายสิเจ็บทั้งใจเจ็บทั้งตัว

Talk Talk
[/b]

-มาอัพแล้วจ้า เรื่องนี้ ไม่3p หรอกจ้า ขอแสดงความเสียใจกับคนอยากได้ และก็คนที่กลัวจะมี 3p สบายใจได้จ้า :z2:

-ช่วงวันธรรมดา ความเร็วในการอัพจะหน่วงหน่อยนะค่ะ เราได้งานทำแล้ว หลังจากจบใหม่เตะฝุ่นมาแสนนาน :เฮ้อ:

-ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า :mew1:

-ฝากผลงานเรื่องเก่า Night Knight อัศวินรัตติกาล http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0)
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 2 Heartless P1. 28/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-09-2015 20:34:35
เย้ เรมาจริงๆด้วย อย่าฆ่าคนล่ะแต่เอาให้หลาบจำ
ปัญญาอ่อนว่ะแค่ผู้หญิงคนเดียว
ยินดีด้วยกับเรื่องงานนะคะสู้ๆ :katai2-1:    :mew1: 
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 2 Heartless P1. 28/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 29-09-2015 05:20:37
อร๊ายยยยย!! กรี๊ดดดดดด!! เรเป็นพระเอกสินะ มันใช่อ่ะ เป๊ะเว่อร์ โอ๊ย!! อยากอ่านต่อล้าวววววว
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 2 Heartless P1. 28/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 29-09-2015 05:42:48
เซ็งนิดๆที่ไม่ใ่ช่3p :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 2 Heartless P1. 28/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 01-10-2015 22:13:48
บทที่ 3 Secret
[/b]


   อึก! ปวดหัวชิบหาย ผมเอามือกุมหัวนิ่วหน้าอย่างทรมาน รับรู้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของตัวเอง ผมพยายามปรับสายตาให้เข้ากับแสงจ้าจนมองเห็นทุกอย่างรอบตัวชัดเจน ผมนอนเหยียดบนเตียงนุ่มในห้องนอนของใครซักคนตกแต่งด้วยโทนขาวดำให้ความรู้สึกโล่งสบาย เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแผลที่หัวก็ถูกทำให้เรียบร้อย ความรู้สึกตึงๆ ที่แผลบอกให้รู้ว่ามันถูกเย็บ แสงสีทองจางๆ ตรงขอบฟ้าบอกให้รู้ว่าเช้าแล้ว

   "อ้าวตื่นแล้วหรอ" เรนเปิดประตูเข้ามาทักผม แยกไม่ยากเพราะหมอนี่ตาสีเขียวและถ้าเป็นพี่มันคงไม่ทักผมหรอก

   "อืม"

   "ไง ขอกูดูหน่อยดิ เป็นไงบ้างวะ" มันว่าพร้อมนั่งลงข้างๆ แล้วจับหน้าผมบิดไปบิดมา นิ้วสากไล้เบาๆ ที่มุมปาก "เจ็บเปล่าวะ กูว่ามันดูช้ำกว่าเมื่อคืนอีก"

   "เจ็บโครต ว่าแต่กูมาที่นี่ได้ไงวะ" ผมว่าพลางปัดป้องมือไอ้เรนที่จับนั่นแตะนี่ไม่หยุด แม่งสกินชิฟกูตลอด "ไม่ลูบไม่ไล้กูซักวันจะตายไหม"

   "ไอ้พี่เรพามาเมื่อคืน บอกมึงมีเรื่องที่ร้าน ก่อนมามันพามึงไปหาหมอแล้วแต่มันไม่รู้จักหอมึงเลยพามาที่คอนโดนี่แหละ" ผมพยักหน้ารับ

   "แล้วพวกไอ้น๊อตละ กูหมายถึงพวกที่มีเรื่องกับกูนะ เรมันคงไม่..."

   "สบายใจได้ ไม่ถึงตายหรอกแค่นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล มึงห่วงตัวเองเถอะ ตัวร้อนๆ ด้วยกินยาลดไข้กันไว้ก่อน" ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกว่าพวกมันจะโดนฆ่าตายไปซะแล้ว จำได้ว่าเรมันมันมาช่วยผม...แล้วมือมันละ ผมเห็นว่ามือมันโดนแทงจนทะลุแล้วก็...ผมเบิกตากว้างเมื่อนึกได้

   "มือไอ้เรเป็นไงมั่ง" ผมถามเสียงตื่น

   "อ่า...มึงเห็นแล้วสินะ" ดวงตาสีเขียวร้อนรนคล้ายปิดบังบางอย่าง

   "อืมกูเห็น มีอะไรจะบอกกูไหม" เรนมีสีหน้าลำบากใจก่อนกุมมือผมไว้

   "กูบอกก็ได้ แต่มึงรับปากนะเว้ย ว่าจะไม่รังเกียจพวกกูอะ" ผมพยักหน้ารับ มันมีอะไรให้ผมรังเกียจวะ พวกมันไม่ใช่คนเลวซักหน่อย อย่างน้อยไอ้เรมันก็ช่วยผม

   "พวกกูเป็นอมนุษย์ พวกปีศาจ ภูติผีอะไรทำนองนั้นแล้วแต่คนจะเรียก" มันอธิบาย ความจริงทำให้ผมถึงกับอึ้ง มีจริงหรอวะ ของแบบนี้มีอยู่บนโลกด้วยหรอ นึกว่ามีแต่ในการ์ตูนเสียอีก

   "มีน" เรนเขย่าแขนผม "มึง...ไม่ได้กลัวกูใช่ไหม อย่ากลัวกูนะ พวกกูไม่มีอะไรหรอก" เสียงไอ้เรนดูหงอยมาก จะว่าไปพวกมันก็ดูไม่ต่างจากมนุษย์เลยนี่ ไม่มีเขี้ยว ไม่มีเขางอกหรือหน้าตาน่าเกลียด แถมหล่อสัดจนสาวหันตามคอแทบหัก

   "เปล่า...กูแค่ตกใจ แล้วนอกจากมึงกลับพี่ มีคนอื่นอีกเปล่า"

   "มีเยอะแยะ หลากหลายเผ่าพันธุ์ บางพวกก็อยู่ในที่ของเขา บางพวกก็อาศัยปะปนและใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา อย่างกูกับเร ต้องเรียนต้องทำงาน หาเงินเหมือนๆ กัน" ผมพยักหน้าเข้าใจ โลกใบนี้แม่งมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะเลยนี่หว่า "แต่มันก็มีนะพวกที่ล่ามนุษย์ พวกกูเลยต้องมีกฎไง คอยควบคุม อืม....ก็เหมือนตำรวจแหละ ถ้ามึงทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ แบบวันแรกที่เราเจอกันไง ไอ้คนที่เรฆ่าทิ้ง หมอนั่นเป็นฆาตกร เลยถูกสั่งเก็บ นั่นคืองานของพวกกู"

   "ฟังดูสุดยอดไปเลย" ผมยิ้มกว้างเมื่อคิดตาม อย่างกับแวนเฮลซิ่ง ที่ตัวเอกแม่งคอยปราบปีศาจร้าย "แล้วมึงกับเรเป็นเผ่าพันธุ์ไหนวะ"

   "ก็เรเวน เอิ่ม...แปลว่าอีกา หรือแบบในตำนานไทยก็พวก ปักษา กินร กินรี อะไรพวกนี้" นัยน์ตาสีเขียวพราวระยับดูมีความสุขที่ผมรับได้ในตัวตนของมัน "จริงๆ พวกกูบินได้นะ มีปีกแบบนี้" ว่าแล้วมันก็ถอดเสื้อออกก่อนปีกนกสีดำจะค่อยๆ สยายออกต่อหน้าผม

   "เชี่ย!!!! โครตเท่" ผมมองมันไม่วางตา มันยิ้มกว้างก่อนปีกของมันจะหดกลับหายไปดังเดิมเหลือเพียงรอยสักรูปปีกที่ด้านหลัง

   แกรก! เสียงเปิดประตูพร้อมกับเรที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว เผยให้เห็นรอยสักบนตัวมันเต็มตา แขนซ้ายเป็นลายกราฟฟิกเลื้อยยาวเกือบถึงข้อมือ ส่วนตรงอกเป็นใจกลางเป็นแพนทาเคินล้อมกรอบด้วยภาษาแปลกๆและเถาไม้กระจายตามแนวอกกว้าง แม่งหุ่นดีชิบหาย ไม่ได้ล่ำแบบนักเพราะกายแต่กล้ามเนื้อทุกส่วนกับชัดเจน ไอ้แห้งแบบผมเห็นแล้วรู้สึกหดหู่วะ

   "พี่ไม่ว่าใช่ไหมที่ผมบอกไอ้มีนไปว่าเราเป็นเรเวน" เรยักไหล่ก่อนเดินผ่านเราไปที่ตู้เสื้อผ้าเผยให้เห็นรอบสักรูปปีกกลางหลังแบบของน้องชาย มันหยิบชุดนักศึกษาขึ้นมาใส่ย้ำเตือนให้รู้ว่าวันนี้ผมเองก็มีเรียน เหลือบมองนาฬิกาเพิ่งเจ็ดโมงยังพอมีเวลา "มึงหิวไหม เดี๋ยวกูไปทำอะไรให้กิน ไปอาบน้ำรอก็ได้" คนน้องบอกก่อนลุกไปรื้อเอาผ้าขนหนูและชุดในตู้เสื้อผ้ามาให้ผมพร้อมกางเกงในตัวใหม่ที่ยังไม่แกะกล่อง "ใส่ของไอ้พี่เรไปก่อนนะ อาจจะตัวใหญ่ไปหน่อย เอ้อ! อาบในอ่างอาบน้ำก็ได้นะมีน น้ำจะได้ไม่โดนแผลที่หัว กูไปทำข้าวเช้าละ"

   "นี่ห้องมึงหรอเร" มันพยักหน้า "แล้วไอ้เรนนอนไหน" มันชี้ไปห้องข้างๆ นี่ผมมาแย่งที่มันนอนเปล่าวะ ผมคว้าเอาผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป ได้นอนแช่น้ำอุ่นๆ ในอ่างช่วยให้อาการปวดตามตัวทุเลาลง ที่หอแม่งไม่มีอิจฉาวะ คอนโดนพวกมันคงเป็นห้องชุดราคาแพงลิบไม่แปลกใจเพราะดูจากรถที่ไอ้เรใช้ แต่ฟินนานไม่ได้เพราะวันนี้ผมมีเรียนเก้าโมงต้องรีบลากสังขารออกจากอ่างมาเช็ดตัวพร้อมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย หยิบแว่นมาใส่ เหมือนเห็นรอยร้าวเล็กๆ ต้องเลนด้านซ้าย เฮ้อ! ได้เวลาเปลี่ยนของใหม่แล้วสิบนะ เสื้อแม่งตัวใหญ่ชิบหายผมเลยกลายเป็นเด็กฮิปฮอปในตอนนี้ เปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอกลับไอ้เรที่ยืนหรอผมอยู่หน้าประตู ผมมองมันแบบงงๆ ก่อนที่จะถูกมันจูงให้เดินตามมาที่เตียงแล้วกดไหล่ผมนั่งลง กล่องพยาบาลถูกหยิบออกมาเปิดพร้อมอุปกรณ์ทำแผลที่ถูกรื้อมาออกมาวาง

   "กูทำเองได้"

   "อยู่นิ่งๆ"มันว่าก่อนปัดมือผมออกจากอุปกรณ์เหล่านั้น เรค่อยๆ แกะผ้าก๊อตปิดแผลที่หัวออก ก่อนลงมือล้างแผลใส่ยา มือมันเบาจนนึกไม่ถึงเลยว่าเป็นมือเดียวกับที่ต่อยพวกไอ้น๊อตเมื่อวาน หน้ามันดูตั้งใจมาก ได้มองใกล้ๆ แบบนี้ชวนให้รู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด ตามันสวยจัง สีน้ำเงินเข้ม ราวกับสายน้ำวนที่ดูดดึงให้ไม่อาจละไปทางอื่น มันดูนิ่งสงบและให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด...ตึก ตึก...เสียงหัวใจผมเต้นดังอยู่ในอก เชี่ยกูไม่ใช่สาวน้อยนะเว้ย แล้วหน้าจะร้อนเพื่อ!

   "ยิ้มเชี่ยอะไร!" ผมแขวะเมื่อเห็นริมฝีปากหนานั่นยกยิ้มบาง มันเลิกคิ้วกวนตีนก่อนจะหยิบเอายาแก้ฟกเช้ามาป้ายมุมปากผมเบาๆ
 
"เฮ้ย!!!!" ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆ มันเลิกเสื้อผมขึ้นเผยให้เห็นรอยตีนที่หน้าท้องซึ่งโดนไอ้น๊อตถีบมา ผมเป็นคนขาวจัดและผิวบางโดนอะไรนิดหน่อยก็เป็นรอยเลยทำให้รอยถีบมันดูเขียวช้ำน่ากลัวเกินความจริง มือสากลากเนื้อครีมยาผ่านหน้าท้องแบนราบทำเอาผมสะท้านเฮือก ลมหายใจสะดุดจนรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว

   "เจ็บหรอ" ผมได้แต่ส่ายหน้ารัวๆ พร้อมหลบสายตามัน

   "ขอบใจ" ผมบอกเสียงแผ่ว...เฮ้อ! เสร็จซักที

   เราสามคนจบมื้อเช้าด้วยข้าวต้มกุ้ง เพิ่งรู้ว่าไอ้แฝดน้องแม่งทำอาหารอร่อยสัด ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนโดยผมมาที่คณะพร้อมแฝดพี่ สภาพผมที่ก้าวลงจากรถเรียกเสียงกรีดร้องลั่นคณะของอีเจ๊ดา เพื่อนในรุ่นผมโวยวายยกใหญ่ที่รู้ว่าผมโดนกระทืบ ถึงพวกมันจะชอบแกล้งชอบว่าผมแต่พวกมันก็รักผมมาก พวกมันประคบประหงมผมจนเวอร์ ไอ้ก้องกับไอ้ภูผาแทบจะแบกผมขึ้นตึกถ้าผมไม่ห้ามไว้ก่อน ห่า...แค่โดนกระทืบไม่ได้พิการ




   ปัง! เสียงตบโต๊ะของเจ๊ดาดังลั่นโรงอาหารทันทีที่ผมเล่าเรื่องเมื่อคืนจบ เจ๊ดาลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะพร้อมถกแขนเสื้อพร้อมรบแต่โดนไอ้ก้องคว้าไว้ก่อน

   "เจ๊จะไปไหนวะ" ผมร้องลั่น

   "ไปตบอีแพง บังอาจทำลูกรักกูเจ็บตัว"แม่คนที่สองประกาศกร้าว "มันเรียนศึกษาใช่ไหม หึม...มึงเจอกูแน่"

   "เหอๆ ใจเย็น" ไอ้กรพยายามห้าม

   "ใจเห็นห่าไรค่ะ แม่งทิ้งไอ้มีนไปมีแฟนใหม่ยังไม่พอ แฟนแม่งยังมากระทืบมันอีก ดูดิหน้าลูกสาวกูเสียโฉมหมด" ใครลูกสาวมึง!!!! กูแมน ผู้ชายทั้งแท่งลองได้

   "เอาเป็นว่าใจเย็นๆ นะเจ๊ ไอ้เชี่ยนั่นก็โดนเรกระทืบเข้าโรงพยาบาลไปแล้วไง" ผมพยายามไกล่เกลี่ย หันไปขอกำลังเสริงซึ่งไอ้เรก็พยักหน้ายืนยัน

   "เออ ก็ได้ แต่ถ้ามันออกโรงพยาบาลมา รบกวนสุดหล่อของเจ๊ไปกระทืบซ้ำอีกซักรอบก็ดีนะ" เจ๊ดาบอก เหอๆ ผู้หญิงเวลาโกรธน่ากลัวจริงครับ แล้วมึงจะพยักหน้ารับทำไม

   "พอเลยมึงเดี๋ยวเข้าคุกหรอก" ผมร้องห้าม   

   "ห่วงมันก็บอก" ไอ้กรล้อ

   "เปล่ากูกลัวโดนซักทอด" บรรยากาศครุกรุ่นเริ่มกลับมาดี พวกผมหยอกล้อกันตามปกติก่อนตัดสินใจแยกย้ายกันไปซื้อข้าว โดยเพื่อนผมมันอาสาไปซื้อข้าวให้ผม พร้อมสั่งให้ไอ้เรมันนั่งเป็นบอดี้การ์ดผมอยู่ที่โต๊ะเรียกสายตาเสียดแทงจากสาวๆ รอบตัวตัวได้เป็นอย่างดี กูไม่ใช่คู่วายยย

   "มีน" คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้เดินมาหาผมที่โต๊ะ "เราขอโทษนะเรื่องเมื่อคืน เพราะเรามีนเลยเจ็บตัว"

   "อืม พะแพงไม่ต้องขอโทษหรอก" ผมบอกพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่รักแล้วจะมาห่วงทำไมวะ

   "เรามีเรื่องอยากจะขอ" ผมหันมามองเธอ "อย่าเอาเรื่องพี่น๊อตได้ไหม เราหมายถึงอย่าแจ้งตำรวจนะ" เหอะ!...ที่แท้ก็ห่วงมัน

   "เราไม่แจ้งหรอก" ผมถอนหายใจหนักหน่วง ที่โดนเรกระทืบไปน่าจะพอแล้วละ

   "ขอบคุณนะ มีนเป็นคนดีจริงๆ เราขอโทษที่โกหกมีน เรา..." เธอยิ้มดีใจและทำท่าจะจับมือผมแต่ผมชักมือหลบ

   "ไปเถอะพะแพง เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่นะ" ผมบอกเสียงเรียบตัดบท อดีตแฟนเหมือนจะรู้ตัวดีจึงยอมเดินจากไปเงียบๆ ท่ามกลางสายตาอยากรู้ของคนทั้งโรงอาหาร

   พอเธอพ้นสายตาไปความเข้มแข็งเหมือนพังทลาย คบกันมาตั้งสองสามปีจะไม่ให้รู้สึกอะไรคงเป็นไปไม่ได้ ผมรู้คนเราต้องเคยอกหักแต่มันกลับรู้สึกแย่กว่าที่คิดเมื่อเราจบกันด้วยการทรยศ คำโกหกและเธอไปมีคนใหม่โดยไม่บอกกล่าว ผมพิงไหล่คนข้างกายอย่างหมดแรงอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก เฮ้อ! เรยังคงนั่งนิ่งให้ผมพิงพร้อมทั้งลูบหัวผมเบาๆ นี่มึงกำลังปลอบกูใช่ไหม






   อาทิตย์นี้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า มันน่าเบื่อน่าเซ็งไม่มีอารมณ์จะทำอะไรจนรุ่นพี่ออกปากถามว่าไอ้แว่นเกรียนคนเดิมหายไปไหน พึ่งรู้นะว่าการที่คนอย่างมีนสงบปากสงบคำไปมันทำให้บรรยากาศหม่นหมองได้ขนาดนี้

   "กูคิดถึงมีน" เสียงไอ้เรนครวญคราง ไอ้คนที่มึงกอดโยกไปโยกมาอยู่นี่ไม่ได้ชื่อมีนหรือไง ผมเริ่มชินกับอาการถึงเนื้อถึงตัวของมันแล้วครับ มันจะเป็นแบบนี้เฉพาะกับผมและก็พี่ของมัน เลิกเรียนบางวันมันก็มาขลุกอยู่กับกลุ่มผม เฟลนรี่แบบมันไม่มีเพื่อนคบหรอไงที่คณะ

   "กูไม่ได้ชื่อมีนหรือไง"

   "ใช่มึงชื่อมีน แต่กูอยากได้ไอ้มีนกวนตีนๆ คนเดิมกลับมา" มันยังง้องแง้งไม่เลิก

   "เออ เมื่อไหร่มึงจะเลิกเฮิธซักทีวะ" เจ๊ดาบ่นบ้าง "เห็นหน้ามึงแบบนี้แดกข้าวไม่อร่อยวะบอกตรง"

   "ก็มันเบื่อๆ นี่หว่าเจ๊ ข้อยก็ไม่อยากอกหักเปล่าวะ  เฮ้ยๆ เชี่ยเรนพอๆ" ผมมุ่ยหน้า เอี้ยวตัวหลบไอ้เรนที่เริ่มระรานแก้มผม เดือดร้อนพี่มันต้องมาจับแยก "มึงเป็นเกย์หรือไง"

   "กูเป็นไบ" มันตอบชัดเจน

   "นี่มึงคงไม่ได้หวังเคลมเพื่อนกูใช่ไหม" ไอ้กรถามทำท่าสยองเต็มที่

   "ก็หวังอยู่ แต่ยังไม่อยากตายวะ" มันหัวเราะแหะๆ "แต่เพื่อนมึงน่ารัก ขอกูตอดหน่อยเถอะ" เชี่ยไปไกลๆ ตีน ผมยันร่างสูงนั้นออกห่างก่อนหลบไปลี้ภัยหลังคนหน้าเหมือนมัน ไม่รู้ว่าไอ้เรมันมองน้องด้วยสายตาแบบไหนอีกฝ่ายถึงกับถอยทัพ ไอ้เรนหันไปคุยเล่นกับพวกไอ้กรแทน ถ้าพวกนั้นรูว่าสองแฝดนี้เป็นตัวอะไรจะยังหัวเราะยังยิ้มให้พวกมันอยู่ไหมนะ


Talk Talk
[/b]

-มาอัพแล้วจ้า อิอิ :mew1: เรื่องนี้จะพยายามไม่เครียดนะ  :z1:











หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 3 Secret P1. 1-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-10-2015 22:24:32
กรี้ด. ความเถื่อนของพี่เรกระแทกใจอ้ะ
แฝดน้องนางดูมุ้งมิ้งเนอะคิดถึงข้าวหอมเลย
เราอ่านตอนนี้แล้วหายใจไม่ทั่วท้องเลยค่ะ  :o8:

นี่ขอรูปภาพประกอบล่วงหน้าเลยได้ไหมคะ อยากเห็นร่างเต็มของแฝด
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 3 Secret P1. 1-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 02-10-2015 02:09:38
พี่เรแอบหลงแอบหวงตั้งแต่ตอนไหนกันน้า? แต่แบบ น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 3 Secret P1. 1-10-58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 03-10-2015 23:03:17
บทที่ 4 Angry
[/b]


   "นวลอนงค์นอนดีๆ ให้พี่ขี่ นอนดีๆ พี่จะขี่นวลอนงค์ ถ้าไม่ดีพี่จะจับ...." ผมแหกปากร้องเพลงพร้อมดีดกีตาร์ แบบว่ามันกรึ่มๆ โดยมีไอ้กรคอยเคาะขวดเหล้าประกอบจังหวะ วันนี้รุ่นพี่ชวนก๊งกันหน้าตึกพร้อมปิ้งหมูเลี้ยงน้องในยามเย็น ไอ้วันที่มีเรื่องกับไอน๊อตวันนั้นทำให้ทุกคนรู้ว่าผมร้องเพลงเก่ง จึงโดนพวกรุ่นพี่สั่งให้เป็นนัทนาการจำเป็นในค่ำคืนนี้ แรกเริ่มก็เพลงป๊อปเพราะๆ ซึ้งๆ พอดีกรีเริ่มมาก็เริ่มเป็นเพื่อชีวิตสุดท้ายจึงมาจบด้วยเพลงเกรียนดังนี้ เฮ้อผมชักจะสงสัยแล้วนะว่าบุพการีส่งมาร่ำเรียนหรือร่ำสุรา

   "ไอ้มีนๆ มึงลองนี่" พี่ตั้มกอดคอผมก่อนยื่นบ้องแสตนเลทให้ ผมมองบ้องกัญชาในมือรุ่นพี่ ควันจางๆ แม่งทำเอาไอ คุก คุก คุก! เลย ถึงผมจะดูดบารากุแต่ระดับสโมกวีดขอบายได้ไหม

   "ไม่เอาอะพี่ ผมสายเมาไม่ใช่สายเขียว" ผมปฏิเสธพัลวัน ลิ้นรวนๆ วะ แหงสิน้องมีนที่ใครๆ ก็รักโดนรุ่นพี่จับยัดทั้งเหล้าและเบียร์

   "เชี่ยกูอุส่ายำเพื่อมึงโดยเฉพาะเลย" พี่ตั้มแม่งยังดึงดันพร้อมเสียงเชียร์จากรุ่นพี่คนอื่นๆ เหมือนแกจะทนไม่ไหวจับยัดปากผมจนเผลอสูดเข้าไปเต็มหลอด กลิ่นกัญชาฉุนกึกขึ้นสมองจนมึนเบลอ รู้สึกลอยๆ อย่างประหลาด...อา ฟิน ไม่ใช่ละ!

   "เฮ๊ย!!! มึงดูใครมา" ผมมองตามแรงสะกิดยิกๆ ของไอ้พี่ตั้ม พี่ลูกแก้ว!...นางฟ้ามาเหยียบคณะผมครับ เธอและแก๊งนางฟ้าแจกยิ้มหวานทำเอาหนุ่มๆ ในคณะผมตาพร่าไปเป็นแถบๆ เรียกสายตาหมั่นไส้จากเหล่าสตรีไร้คู่รอบๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอีเจ๊ดาที่หันไปซุบซิบกับไอ้ก้องและภูผาอย่างออกรส

   "เชี่ยๆ เขาเดินมาทางนี้วะ" เสียงพี่เก่งเพื่อนพี่ตั้มคนที่แอบปลื้มพี่ลูกแก้ว ที่ผมเดือดร้อนไปหาเบอร์มาให้เขย่าแขนเพื่อนยิกๆ หน้างี้ระรื่นเชียว แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อแม่นางนั่งลงข้างๆ ร่างสูงที่นั่งเงียบข้างผมมาตั้งแต่เริ่มแล้ว

   "ไง ไม่ติดต่อมาเลยนะเร" ดาวอักษรทักทายไอ้หล่อข้างผมแบบถึงเนื้อถึงตัวทำเอาทุกคนที่นั่งล้อมวงอยู่นั่งอึ้ง...นางออกตัวแรงเว่อร์ "เอาเบอร์ไปก็ไม่โทรหา มีแต่ไอ้โรคจิตที่ไหนไม่รู้โทรมาได้ทุกวัน" พี่เก่งสะดุ้งเฮือก ไอ้โรคจิตที่ว่าคงไม่พ้นพี่แกแน่

   "ไอ้มีนมึงมานี่" คนโดนหาว่าโรคจิตคว้าคอผมมากระซิบกระซาบ "บอกมาซะดีๆ ตอนขอเบอร์มึงทำยังไง"

   "เอ่อพี่"

   "บอกมาเดี๋ยวนี้ไอ้น้องเวร" เสียงเข้มรอดไรฟันทำเอาผมขนลุกซู่

   "ผมลากไอ้เรไปด้วย แล้วบอกว่ามันเป็นคนอยากได้ โอ๊ย! พี่" พูดจบเฮียแกส่งกำปั้นกระแทกต้นแขนผมทันที...แง "ก็วิธีนี้มันได้ง่ายที่สุดนี่ แล้วเฮียก็ไม่ได้บอกด้วยว่าให้ขอแบบไหน โอ๊ย!! พี่พอแล้ว ข้อยเจ็บสิตายแล้วเนี่ย" ผมโอดโอย ก่อนจะหันไปสนใจแม่นางฟ้าที่ยังรุกเพื่อนผมไม่เลิก

   "พี่ลูกแก้วจำผมได้ไหม" ผมเอ่ยทัก พักยกให้ไอ้เรที่ยังคงนิ่งเฉย เดาว่ามันคงรำคาญแค่ขี้เกียจพูด

   "อ้อเรานี่เอง เพื่อนเรานะแย่มากเลย เอาเบอร์พี่ไปก็ไม่โทรหา" เธอตัดพ้อ ดูท่าดาวอักษรคนนี้จะชอบเพื่อนผมเข้าจริงๆ

   "เอ่อพี่ มันเป็นคนพูดน้อย บางทีที่มันไม่โทรอาจเพราะมันไม่รู้จะพูดอะไรละมั้งครับ" ผมแก้ตัวให้ ไอ้เรมองผมแวบหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจพี่ลูกแก้วที่ตอนนี้แทบจะขึ้นมาเกยบนตักมัน เฮ้อ! ไอ้เรมึงก็ปฏิเสธเขามั่ง ไม่ใช่นั่งให้เขาเอานมไถอยู่แบบนั้น หรือมึงชอบวะ ผมเลิกมองมัน อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทนเธอเร้าได้ซักแค่ไหน

   "แล้วพี่คนสวยละครับ มาหาใคร หรือว่าคิดถึงผม" ผมหันไปทักเพื่อนที่มากับพี่ลูกแก้วแทน

   "เพ้ออะไรค่ะน้อง เอาจริงๆ หน้าตาน้องก็โอเคแหละ แต่แห้งๆ แว่นๆ บอกเลยไม่ใช่เสปกค่ะ" แรง! เพื่อนพี่ลูกแก้วคนนี้ยังคงแขวะได้เจ็บแสบดังเดิม "แล้วนี่อะไรค่ะ ถือกีตาร์เล่นเป็นด้วยหรอ พี่ละก็นึกว่าเราจะเป็นโอตาคุเสียอีก" ยาวไปเลยครับกับคำเสียดแทง ถึงพี่จะสวย แต่ปากแบบนี้ระวังจะไม่มีผัวนะครับ ก็ได้แต่เถียงในใจ

   "หวังว่าตอนร้องเสียงคงไม่เหมือนสัตว์กินพืชออกลูกหรอกนะค่ะ" เหอๆ ทำไมต้องหาว่าผมเป็นกระต่ายด้วยวะ ใช่ซิผมมันก็แค่ไอ้แว่น ไม่หล่อไม่ล่ำ ผู้หญิงสมัยนี้มันชอบแบดบอย ไอ้คนดีๆแบบผมก็ก็ได้แต่แห้วแดก สาวไหนก็ไม่เหลียวแลมีแฟนก็ยังทิ้งไปมีคนใหม่คิดแล้วมันเศร้า กระดกเหล้าเยียวยาใจ...บ้องอยู่ไหน ขอสูดซักปื๊ดด

   "เชี่ยมีน มึงทำหน้าหมาหงอยอีกทำไมวะ" แม่คนที่สองว่า ก่อนจับแก้มผมยืด "ยิ้มสิยิ้ม เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย" ผมยิ้มหวานให้มันทั้งที่ยังมึนๆ กัญชาแม่งไม่ดีเลยวะ ลึกถึงอารมณ์ไปซะหมด สุขก็สุขเกิน เศร้าก็เศร้าเกิน

   "น้องไม่เล่นต่อแล้วหรอค่ะ" พี่ลูกแก้วละความสนใจจากไอ้เรมามองกีต้าร์ในมือผมแล้วเอ่ยทัก เออว่ะ เล่นกีต้าร์แหกปากระบายอารมณ์ดีกว่า   

   "เออ เล่นต่อๆ ขอเพลงเจ็บๆ มาๆ เมาให้ลืมเธอ พวกมึงชน" พี่เก่งบอก ก่อนชนแก้วกับเพื่อน เคร้ง!

   ผมมองไอ้เรที่ก้มกระซิบบางอย่างกับพี่ลูกแก้วทำเอาเธอหน้าแดงจัด สีหน้าทั้งเขินทั้งโกรธก่อนใบหน้าสวยจะพยักหงึกหงักแล้วเพื่อนผมก็ลุกเดินนำออกไปโดยมีสาวเจ้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไป...หึ! ขนาดมึงได้หญิงแล้วยังทิ้งกูเลยเร...ว่าแล้วก็คว้าแก้วมากรึ๊บ ก่อนจรดนิ้วเรียวลงบนคอกีตาร์แล้วเริ่มบรรเลงทั้งที่ยังมึนๆ

   ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมน้าแอดแม่งชอบดูดเนื้อ มันทำให้อารมณ์ศิลปินบรรเจิดแบบนี้นี่เอง ในหัวสมองผมล่องลอย ริมฝีกปากก็ขับกล่อมบทเพลงไปเรื่อยๆ ขอเพลงมาหรอเหอะ กูไม่ร้อง กูจะร้องตามใจกู กูเซง กูเศร้า กูเหงา กูอยากเกรียน สารพัดสิ่งมึนเมาเริ่มออกฤทธิ์หนักเกินต้านทาน จำได้ลางๆ ว่าเมาหัวทิ่มจนต้องเลื้อยลงไปหนุนตักแม่ดา!? นอนเพ้อเอาหน้าซุกนมมัน!? ให้มันปลอบมันโอ๋จนหลับไปในที่สุด





   ผมสะดุ้งตื่นพบว่าตัวเองอยูบนรถของไอ้เรซึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างทาง เจ้าของมันกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่หลังพวกมาลัยก่อนเงยหน้าขึ้นมองผมที่เพิ่งตื่น มองดูนาฬิกาหน้ารถตีสามแล้วครับ

   "รออยู่นี่" มันว่าก่อนเอื้อมมือดึงเก๊ะหน้ารถแล้วหยิบปืนออกมาแล้วลงรถไป ผมมองตามมันแบบงงๆ ตั้งสติที่ยังมึนเบลอก่อนหยิบเอกสารที่มันทิ้งไว้มาดู เป็นภาษาอังกฤษล้วน ในนั้นมีหน้าของชายฉกรรจ์นายหนึ่ง พร้อมชื่อ และเผ่าพันธุ์ รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ นี่น่าจะเป็นงานที่ไอ้เรนเคยเล่าให้ฟังว่าพวกมันต้องคอยกำจัดอมนุษย์ที่ไม่ทำตามกฎ แต่ผมมากับมันได้ไงวะ

   ด้วยความอยากรู้จึงกดโทรศัพท์ไปถามไอ้กร ได้ความว่าผมเมาหลับพวกมันเลยวานให้เรมาส่ง เดาว่ามันคงแวะทำงานมันก่อนไปส่งผม ระหว่างรอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นรอ เชคเฟชหน่อยดีกว่า...ตามคาด ตอนผมเมาเพื่อนเชี่ยแม่งอัดคลิปตอนผมเพ้อมาแท็กหน้าเฟชเรียบร้อย ...กูเป็นไอ้แว่นมันผิดหรอวะ งือกูไม่ได้แห้งนะกูแค่ผอม มึง ใครๆ ก็ไม่รักกู แง พะแพงแม่งทิ้งกู กูมันไม่หล่อ ไม่รวย ค...ยไม่ใหญ่...สารพัดจะเพ้ออกมา เอาเถอะ สภาพผมมันก็ไม่ได้อุบาทว์อะไรมากมั้ง ผมนั่งอ่านคอมเมนท์ถึงกับยิ้มขำ

   ...ลูกสาวอกหักมาซบอกแม่...เจ๊ดา...ให้บอกกี่ทีกูเป็นลูกชายยย

   ...ไอ้ลูกแหง่ หญิงไม่เอาก็หาผัวสิ...ไอ้ก้อง แนะนำได้เชี่ยมาก

   ...เมาไม่กลัวโดนลากไปเคลมเลยนะสัด...ไอ้ภูผา ฯลฯ จากเพื่อนๆ และรุ่นพี่ ยอดไลค์นี่พอกับเน็ตไอดอล ว่าไปนั่น!!!!

   นั่งรอมันเกือบชั่วโมงเริ่มจะเซง มันไปจัดการเขาหรือโดนเขาจัดการวะ ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนตัดสินใจออกจากรถไปตามหามัน ก็รู้อยู่ว่ามันไม่ใช่คนแต่ไอ้เรมันก็เจ็บได้ตายเป็นไม่ใช่หรอ ผมเดินเข้าไปในซอยที่อยู่ใกล้ๆ จำได้ว่ามันมาทางนี้ มืดก็มืด มีแค่แสงจันทร์ส่องทางให้เห็นลางๆ  เงียบจนเสียวสันหลัง อมนุษย์ยังมีจริงผีก็คงมีเหมือนกัน หวังว่าคงไม่โผล่มาตอนนี้นะครับ ยังไม่ใกล้หวยออกไม่ได้ต้องการเลขเด็ด แถมเวลานี้เขาก็ปิดบ้านนอนกันหมดแล้ว แม่งไปตายไหนของมันวะ ผมพยายามกวาดตามองไปรอบๆ เห็นแสงจากเสาไฟฟ้าอยู่ลิบๆ จึงมุ่งตรงเข้าไปหา บนพื้นที่ที่ไฟส่องสว่างสิ่งที่ผมเห็นบนพื้นนำพาให้ร้อนใจขึ้นมาในทันที

   เลือด!!! หรือว่าเป็นของไอ้เร เกิดอะไรขึ้นกับมันเปล่าวะ หายไปนานขนาดนั้นต้องมีอะไรแน่ๆ ผมสาวเท้าตามหยดเลือดนั้น ปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นยิ่งทำให้ร้อนรนจากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่ง จนไปถึงสะพานสูงข้ามคลองที่อยู่สุดซอย
   "เฮ้ย!!!" ใครบางคนล๊อคคอผมจากด้านหลังก่อนลากถูกลู่ถูกังขึ้นไปบนสะพาน มันจับหัวผมกดลงลำตัวครึ่งบนพาดราวสะพานอยากหน้าหวาดเสียว ผมพยายามจะหันมองว่าเป็นใครแต่มือแกร่งกับออกแรงบีบต้นคอผมแน่นจนเจ็บร้าว สะพานสูงถึงจะไม่มากแต่ลำคองที่แห้งผากเบื้องล่างหากตกลงผิดท่ามีหวังคอหักตาย กลิ่นเลือดคละคลุ้งลอยแตะจมูก และมันยังคงไหลออกจากท้องคนที่มันล๊อคคอผม

   "อย่าเข้ามาถ้าไม่อยากให้ไอ้เด็กนี่ตาย!!!" เสียงแหบแห้งตวาดก้อง มือที่ล๊อคผมไว้สั่นเกร็ง ผมพยายามฝืนมองผู้มาใหม่ ที่ก้ามเท้าเข้ามาอย่างใจเย็น เร!!! โล่งอกไปทีที่มันไม่เป็นอะไร แต่ดูเหมือนว่างานนี้ผมจะกลายมาเป็นตัวถ่วงซะแล้ว

   "เชี่ย!!! เจ็บ ปล่อยดิสัด" ผมโวยวาย ดิ้นรนจนมันโมโหเตะข้อพับผมจนเข่าทรุด "โอ๊ย!!!"

   "หุบปากไอ้มนุษย์โสโครกก่อนที่กูจะสงเคราะห์ให้มึงไปยมโลก" มันหันมาตะคอกเอาซะหูอื้อไปเลยครับ "กูไม่ยอมให้มึงจับง่ายๆ หรอก ใครมันจะโง่ไปนอนในคุกซังกะตายแบบนั้น เลือกเอาแล้วกันระหว่างกูกับมัน" คราวนี้มันปล่อยคอผมแล้วจึงได้เห็นหน้านั่นอย่างชัดเจน ดวงตาสีอำพันกับเขี้ยวยาวๆ ใบหน้าที่เปราะเปื้อนไปด้วยเลือดนั่นกำลังแสยะยิ้มให้ผม ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก เพราะร่างของผมถูกมันจับโยนในทันใดพลันให้ท้องไส้มันโหวงเหวงจนแทบอาเจียน ...เชี่ย! ผมกำลังจะร่วง ได้แต่เบิกตากว้างมองพื้นดินแห้งขอดที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆตายๆ!!! กูตายแน่

   หมับ!!! ก่อนที่ไอ้มีนผู้นี้จะได้จูบธรณี แขนแกร่งสอดรั้งเอวไว้ทันก่อนที่เรมันจะใช้ปีกสีดำโบยบินพาเราทั้งคู่ลงจอดตรงตีนสะพานอย่างสวยงาม...เกือบไปแล้วไหมกู

   "ขะ ขอบใจ" ผมบอกมันอย่างยากลำบาก จะพูดแต่ละคำเจ็บราวไปทั้งคอ แม่งเอ้ย!!! มันกะหักให้ตายคามือเลยหรอไง ผมคว้าไหล่มันเป็นหลักยึด ไอ้บ้านั่นเตะข้อพับผมซะเคล็ดจะยืนยังลำบากเลย ตั้งหลักได้ผมจึงเงยหน้ามองไอ้เร ดวงตาสีน้ำเงินที่มองมาคุกรุ่นด้วยอารมณ์ชวนให้หวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก มันกำลังโกรธผมรู้ เพราะไอ้นั่นมันหนีไปแล้วและผมก็ทำงานมันพัง

   "กูขอโทษ" ผมก้มหน้างุดด้วยรู้สึกผิด "กูเห็นมึงออกมานาน ไม่กลับมาซักทีก็คิดว่ามึงอาจเป็นอะไรเลยออกมาตาม กูเดินมาเห็นกองเลือดยิ่งตกใจรีบตามหามึงเพราะกูคิดว่านั่นเป็นเลือดมึง แต่กูดันมาเจอมันก่อน ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น" ผมพยายามแก้ตัวพัลวันยิ่งมันนิ่งผมยิ่งร้อนตัว...ทำไมกูต้องกลัวมันโกรธด้วยวะ "เร....กูไม่ได้ตั้งใจทำให้มึงเดือดร้อนนะเว้ย กูก็น่าจะรู้แหละว่าระมึงไม่เป็นอะไรหรอก แต่กู กูก็แค่ ก็แค่ กู อุ๊บ"

   ไอ้เรเอามือปิดปากผมไว้พร้อมมองดุๆ มึงรำคาญกูสินะ เจอแบบนี้ถึงกับหงอยสิครับ ผมก้มมองมือตัวเองที่กำเสื้อมันแน่นอยู่แบบนั้น จนได้ยินเสียงถอนหายใจหนักหน่วงจากมัน เรแกะมือผมออกช้าๆ รังเกียจกูหรือไง ผมเผลอเม้มปากแน่นอย่างขัดใจ ร่างสูงยังคงเงียบก่อนหันหลังเดินออกไปส่วนผมยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ทำไมรู้สึกแย่จังวะ...ผมสะดุ้งเมื่อมันหันกลับมาจับมือผมก่อนออกแรงจูงให้ผมเดินตามมันไป ตลอดทางเราต่างคนต่างเงียบ นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะมีอิทธิพลต่อผมได้ขนาดนี้ เรากลับมาที่รถ ไอ้เรไม่ได้ไปส่งผมที่หอครับแต่ขับไปคอนโดมันแทน วันนี้ผมคงได้แย่งที่นอนมันอีกแน่

   "อ้าวมีน มาไงวะ" ไอ้เรนเสนอออกมารับแขกทันทีที่ไปถึง "แล้วทำไมสภาพเป็นแบบนั้น" มันถามตาตื่นก่อนเข้ามาสำรวจผมใกล้ๆ จนแทบจะสิง

   "โดนตีนมานิดหน่อย" ผมหัวเราะแหะๆ

   "แล้วงานเป็นไงมั่งเร" มันหันไปถามพี่มันซึ่งส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ

   "คืองี้เรน ไอ้บ้านั่นมันหนีไปได้วะ"

   "หา!!! จริงดิไอ้พี่เร ปกติมึงไม่เคยพลาดนี่" ผมดูประหลาดใจที่ได้ยิน

   "ก็คือเรื่องมันเป็นงี้ ไอ้กรวานให้เรไปส่งกู มันก็แค่แวะเคลียงานก่อน ไอ้เรมันให้กูรอที่รถแต่กูดื้อตามมันไป เลยโดนไอ้นั่นจับเป็นตัวประกันก่อนมันจะหนีไป" ผมอธิบายแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มเลวร้าย

   "รู้ว่าตัวเองต้องออกล่าแล้วทำไมไม่ไปส่งมีนให้เรียบร้อยก่อน" คนน้องว่าเสียงห้วน "ทำไมต้องเอามีนไปเสี่ยงด้วยวะ ดูสิคอมันช้ำขนาดนี้ ออกแรงมากกว่านี้คงคอหักตาย มันเป็นมนุษย์นะ โดนฆ่าตายจะทำยังไง" สองพี่น้องยังคงมองกันนิ่งบรรยากาศมาคุชวนให้อึดอัด ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดที่พี่กับน้องมันต้องมาเคืองกันแบบนี้แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร แล้วก็เป็นเรที่ยอมอ่อนให้ มันเบือนหน้าหนีแล้วเดินเข้าห้องตัวเองไปเงียบๆ เฮ้อ...ก่อเรื่องซะแล้วกู

   "เรน มึงใจเย็นก่อนนะ" ผมบอกคนน้องที่ยังยืนข้างตัว "พี่มึงคงไม่ตั้งใจหรอก ไม่งั้นมันจะช่วยกูหรอ" นัยน์ตาสีเขียวหลุบต่ำดูสลด มันคงไม่อยากขึ้นเสียงใส่พี่มันแบบนั้นหรอก

   "กูก็แค่โมโหที่เห็นมึงเจ็บ" มันบอกเสียงแผ่ว

   "เอาน่ากูไม่เป็นไร ไว้อารมณ์เย็นๆ ก็ขอโทษพี่มึงซะ" ผมตบบ่ามันเบาๆ

"อืม" มันว่าแค่นั้นก่อนเดินจูงผมไปห้องมัน "คืนนี้นอนนี่แล้วกัน นี่เสื้อเปลี่ยน นี่ยาแก้ฟกช้ำ อาบน้ำเถอะมึงแล้วรีบนอนมีเรียนไม่ใช่หรอ จะเช้าแล้วงีบซักนิดก็ยังดี" มันบอกก่อนดันผมเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูให้เสร็จสรรพ ผมถอนหายใจรอบที่ล้านของวันนี้ เพลียตัวเอง รู้สึกเหมือนเป็นต้นเหตุให้มันทะเลาะกันเลยวะ แล้วงี้ไอ้เรมันจะไม่ยิ่งเคืองผมหรอ ทำงานมันพังยังทำน้องโกรธมันอีก ยิ่งมันไม่พูดยิ่งเดาไม่ออกเลยว่ามันคิดอะไร โอ๊ย!!!...กูละกลุ้ม

Talk Talk
[/b]

(http://upic.me/i/hd/re-rain.jpg) (http://upic.me/show/56886915)

มีคนรีเควสมา เส้นหยาบนิดๆ แต่ตอนวาดคือฟิน สนองนีดตนเล็กน้อย ประมาณเน้แหละ เช็ดน้ำลายแปป :z1:

-เรื่องนี้อืมม พยายามจะไม่เครียดเนอะ พยายามจะรักใสๆ ? แต่คิดว่ายากอยู่ :m16:

-ขอบคุณสำหรับเม้น รีเควสได้เรื่อยๆ นะ นอกเรื่องก็วาดได้ ฝึกฝีมือ  :-[

-รักนะ :L1:
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 4 Angry p.1 3/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-10-2015 23:48:29
ทำไมเห็นรูปแฝดแล้วคิดถึงพี่น้องHemsworth
ชอบมากๆเลยค่ะขอบคุณ.  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 4 Angry p.1 3/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-10-2015 10:11:44
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 4 Angry p.1 3/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 07-10-2015 22:47:12
บทที่ 5 Missing
[/b]


   ไอ้เรไม่มาเรียน!!! ตั้งแต่เกิดเรื่องมันก็ยังไม่โผล่หัวมาเลย เว้นแต่ไอ้เรนที่โผล่หัวมาบ้างบางวัน ถามแม่งก็ไม่บอก นี่วันศุกร์แล้วสงสัยอาทิตย์คงไม่ได้เจอ หรือว่ามันโกรธผมจริงๆ คิดมากวะ!...มันอาจไปทำงานนอกสถานที่หรือเยี่ยมญาติต่างจังหวัดก็ได้ วันจันทร์คงมาเรียนแหละ แล้วถ้ามันไม่มาละ?!!!...ก็ไม่มาไงวะไอ้มีน แล้วกูจะคิดมากเรื่องมันทำไมวะ หงุดหงิดแล้วพาลมาลงงาน เผลอละเลงพู่กันลงผ้าใบหนักเออเชี่ย ตั้งใจจะเพนท์เรียลลิสติกกลายเป็นงานอิมเพลสชั่นไปแล้ว เพราะมึงเลยไอ้เร

   "หน้ายุ่งๆ" ไอ้กรชะโงกหน้ามามองงานผมแล้วหันมาจ้องผม "หงุดหงิดอะไรวะ ละเลงงานซะเละ แต่สวยดีวะได้อารมณ์ไปอีก"

   "จะหงุดหงิดอะไรได้ คิดถึงไอ้เรละสิ" รู้ได้ไงว่าผมคิดเรื่องมันอยู่ แต่เฮ้ย!...ใครจะไปคิดถึงไอ้ท่อนไม้นั่นวะ แค่ชินกับการที่มันอยู่ข้างๆ เหมือนเงาก็แค่นั้น เจ๊ดามันล๊อคคอผมไว้ "มันไม่ได้บอกมึงเลยหรอว่าไปไหน"

   "ปกติมันพูดอะไรด้วยหรอ" ผมย้อน เบอร์มันก็ไม่มี ไม่ได้ขอเพราะโทรไปมันคงได้ฟังเสียงมันหายใจ

   "เออวะ" ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

   "แต่มึงเคยไปคอนโดมันนิ" เจ๊ดาถาม

   "ก็เคย ทำไมวะ"

   "ไปดูมันหน่อยเถอะ เผื่อมันไม่สบาย ยังไงก็เพื่อนนะเว้ย กูห่วงมัน" ผมได้แต่เงียบไม่คิดว่าเรเวนจะป่วยได้หรอกครับ

   "มันอาจไปธุระก็ได้ เดี๋ยววันจันทร์ก็มาเองแหละ" เหมือนปลอบใจตัวเองเลยวะ "อีกอย่าง น้องมันก็อยู่ด้วยกันไม่เป็นไรหรอก" พวกเพื่อนๆพยักหน้าเข้าใจก่อนจะตบบ่าผมเบาๆ แล้วแยกย้ายไปทำงานต่อ

   เลิกเรียนผมเดินเท้าออกจากตึกอย่างช้าๆ ไม่ได้ถ่วงเวลารอใครเล้ยย!!!! รถมอไซต์ผมเกินเยียวยาแล้วครับเลยขายเป็นเศษเหล็กให้ร้านซ่อมไป หอก็ไม่ได้ไกลไม่ลำบากหรอกครับ

   "น้องๆ" ผมหันตามเสียงเรียก "ชื่อมีนใช่ไหม"

   "ครับพี่" มองดีๆ มันพี่ที่คณะนี่หว่า น่าจะปีสอง ผมจำเขาได้ค่อนข้างแม่นส่วนหนึ่งเพราะใบหน้าที่เรียกว่าดีจัด ที่เด่นสุดๆ คงเป็นนัยน์ตาสีเทาคู่นั้นละมั้ง

   "เป็นเพื่อนเรใช่ไหม" ผมพยักหน้ารับ พี่แกจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ผม "มีคนฝากนี่ให้เร"

   "เอ่อ อาทิตย์นี้มันยังไม่มาเรียนเลยพี่"

   "อ่าวหรอ แปปนะ" ว่าแล้วพี่แกก็กดโทรศัพท์หาใครซักคน "ฮัลโหล เรไม่มาเรียน จะเอายังไง...ก็เอาไปให้เรนสิ...หา!!! ขี้เกียจ!!! หลานมึง ก็ตามเรื่องเองดิวะ...ผัวเชี่ย" คำว่าผัวทำเอาผมสะดุ้ง ผู้ชายหน้าตาดีกินกันเองหมดแล้วสินะ "เออ เออ งั้นฝากน้องมันไว้ก่อนก็ได้ อืมๆ เดี๋ยวบอกให้...น้องมีนครับ" วางสายพี่แกก็หันกลับมาสนใจผม

   "ว่าไงครับพี่"

   "พี่ฝากไว้ที่น้องก็แล้วกัน มันมาก็เอาให้มันด้วย" ซองสีน้ำตาลถูกยัดใส่มือเรียบร้อย

   "เรื่องด่วนไหมพี่" ผมมองซองที่ปิดสนิทในมือ บรรยากาศแปลกๆ รอบพี่เขาทำให้เดาได้ลางๆ ว่าอาจไม่ใช่มนุษย์

   "จริงๆ ก็รีบแหละ แต่ไว้เจอค่อยให้ก็ได้ เอ่อ...แล้วก็บอก ว่าอาชวนกินข้าวที่บ้านอาทิตย์นี้มีเรื่องจะคุย ลากเรนมาด้วยให้ได้" อางั้นหรอ แสดงว่าพี่คนนี้ก็เป็นอมนุษย์จริงๆ สินะ

   "เดี๋ยวผมจัดการให้พี่"

   "ขอบใจนะ เห็นมันมีเพื่อนแบบนี้ก็เบาใจแหละ เอ้อ พี่ชื่อโยนะ มีอะไรอยากรู้หรือไอ้สองแฝดมันก่อเรื่องอะไรก็บอกพี่ได้ แล้วเจอกันนะน้อง" ผมมองตามพี่โยจนลับตา ไอ้พวกอมนุษย์นี่มันหน้าตาดีทุกคนเลยเปล่าวะ ผมมองเอกสารในมืออยู่พักใหญ่ เอาไปให้มันที่คอนโดจะได้ไปถามมันให้รู้เรื่องด้วย ดีกว่าคาใจอยู่แบบนี้

   ก๊อกๆ เงียบสนิท สงสัยจะไม่อยู่ ผมเคาะประตูห้องซ้ำดูอีกทีทุกอย่างยังคงเดิม สงสัยไม่มีคนอยู่จึงตัดสินใจหันหลังกลับแต่ยังไม่ทันได้เดินประตูห้องถูกเปิดพรวดพร้อมกับไอ้แฝดน้องที่ลากผมเข้าห้องปิดประตูเสร็จสรรพพร้อมยิ้มทักทาย

   "ไงมีน"

   "หวัดดีมึง กูนึกว่าไม่มีคนอยู่"

   "โทษทีเมื่อกี้หลับ แล้วมีธุระอะไรหรอ" ผมดึงซองเอกสารสีน้ำตาลยื่นให้มัน

   "มีคนฝากมาให้พี่มึง เอ่อ เป็นรุ่นพี่ที่คณะ ชื่อโย บอกอาฝากมา" ผมบอก "เป็นพวกเดียวกับมึงเปล่าววะ"

   "ใช่ แต่คนนี้พิเศษหน่อยเป็นแวมไพร์เลือดผสมนะแล้วก็เป็นแฟนกับอากูด้วย" เรนบอกท่าทางตื่นเต้นพอตัว "คือ พวกเราเวลาพ่อแม่คนละพันธุ์ ลูกจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่พี่คนนี้เป็นลูกครึ่ง แถมสายเลือดแวมไพร์พี่แกแข็งแกร่งสุดๆ"

   "อ่าว อมนุษย์นี่เก่งไม่เท่ากันหรอวะ" ผมถามอย่างสนใจ ฟังดูน่าสนุกดีจัง

   "ก็เหมือนมนุษย์แหละมีชนชั้นปกครอง พวกกูก็มีสามตระกูลใหญ่ ท่าให้เทียบระดับคงเหมือนพวกอมนุษย์เชื้อเจ้าอะไรประมาณนั้น   แต่พี่โยมันเจ๋งตรงที่ความเป็นลูกผสมของมันทำให้ไม่แพ้เงินหรือน้ำมนต์ที่แม่งศักดิ์สิทธิ์โครตๆ แบบพวกกู กูหมายถึงน้ำมนต์ที่ปลุกเสกมาถูกต้องจริงๆไม่ใช่น้ำมนต์ของขลังปาหี่ตามสำนักหรือตามวัดที่มึงเห็นหรอกนะ" โอ้ววววว....มันช่างล้ำลึกยิ่งนัก  "แต่อาเจ๋งสุดเพราะท่านเป็นแวมไพร์เลือดแท้จากสามตระกูลใหญ่ เก่งแม่งทุกอย่าง คนที่สอนกูกับไอ้เรมาก็เขานั่นแหละ" ผมว่ามันคงรักและเคารพอามันมากดูจากอาการชื่นชมบูชาของมัน

   "แต่ทำไมอามึงเป็นแวมไพร์วะ"

   "ก็ จริงๆ แล้วพวกกูไม่มีพ่อแม่หรอก ตายหมดแล้ว ท่านพ่อซึ่งสนิทกับพ่อแม่แท้ๆ กูเลยรับพวกกูมาเลี้ยง" ดวงตาสีเขียวสลดลงก่อนเจ้าตัวจะเงียบไปพักใหญ่

   "เฮ้ย! บางอย่างมึงก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ" ผมตบบ่ามันแปะๆ

   "กูก็แค่อยากเล่าเรื่องของกูให้ใครฟังบ้างนอกจากที่บ้าน คือกูไม่เคยมีมนุษย์คนไหนที่ยอมรับในตัวพวกกูแบบมึงอะ ตอนเด็กๆ ก็เคยบอกเพื่อน บางคนก็หนีหาย บางคนก็เกลียดก็กลัว บางคนถึงขั้นคิดจะกำจัดพวกกูทิ้ง" ไอ้เรนที่แสนร่าเริ่งมันกำลังทำสีหน้าเจ็บปวด

   คิดเสมอว่าการที่มีพละกำลังมหาศาล แถมบินได้แม่งเป็นอะไรที่โครตเท่ แต่จริงๆ มันอาจไม่ใช่เรื่องดีเพราะดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เราถูกปฏิเสธจากสังคม สองแฝดนี้คงมีวัยเด็กที่ไม่ค่อยราบรื่นนัก คิดแล้วสงสารมันวะ ผมเดาว่าสิ่งเหล่านี้อาจส่งผมต่อบุคลิกของมันทั้งสองอย่างที่เราเห็นกัน คนหนึ่งยิ้มเสมอเพื่อกลบเกลือนความโดดเดี่ยว ในขนาดที่อีกคนกลับทำเฉยชาเพื่อไม่ต้องรับรู้สรรพสิ่งรอบตัว    

   "เพราะพวกนั้นไม่รู้จักตัวตนมึงไง กูชอบนะเวลามึงเล่าอะไรให้ฟัง แม่งสนุกดี เหมือนแบบ...เฮ้ย! ของแบบนี้มีจริงด้วยหรอวะ อย่างกับในเมะเลย ฮ่าๆ" ผมยิ้ม มันก็ยิ้ม บรรยากาศดีขึ้นมาหน่อย

   "น่ารักวะ!" เรนว่าพร้อมดึงแก้มผม กูไม่ภูมิใจกับคำชมมึงเลย

   "เชี่ย!!! เจ็บๆ แก้มกูยืดหมด "ว่าแต่เรไปไหนวะ"

   "ไม่รู้วะ มันไม่ได้บอกไว้ อาจไปทำงานมั้ง ถามทำไมวะ" แล้วมึงจะเสียงแข็งทำไม

   "ก็กูไม่เห็นมันไปเรียน นึกว่ามันโกรธกูที่ก่อเรื่อง แวบมาดูเผื่อมันป่วยตายประมาณนั้น"

   "มึงห่วงมันหรอ..." เรนถาม

   "ก็เปล่า...แบบว่า พวกเจ๊ดาให้แวะมาดูให้เฉยๆ แล้วก็เอาเอกสารมาให้ด้วย...แหะๆ" จะหัวเราะทำไมกู

   "ทำไมละ กูอยู่ตรงหน้ามึงแท้ๆ ทำไมต้องถามหาไอ้เรด้วยวะ" เอ้า!!!...น้อยใจเฉย แล้วมือมึงจะโอบเอวกูเพื่อ!? กอดกูทำม้ายยยยยย!!! "กูไม่รอแล้ว" รอ...มันรอเชี่ยอะไรวะ

   "ระ...เรน จะ จะทำอะไร กูไม่เล่นนะเว้ย!!!!" ผมถามเสียงสั่น เมื่อจมูกคมลากผ่านแก้มเบาๆ พยายามผลักแม่งออกแต่ไร้ผล "เชี่ยเรน"

   "กูไม่ได้เล่นกูจริงจัง" มันดุ ตรัสรู้เลยว่าสองแฝดมันเหมือนกันแค่ไหนเวลาทำหน้านิ่งๆ แบบนี้

   "แต่กูไม่...อื้อ!!!" จูบ!!! ไอ้เรนมันจูบผม ความรู้สึกแรกคือกูช๊อคที่โดนผู้ชายจูบ ติดสตันทำอะไรไม่ถูก มันยังคงบดจูบช้าๆ หนักหน่วงเอาแต่ใจ รับรู้ถึงลิ้นร้อนที่เริ่มระราน "อื้อ...เอี้ย อ่อย (เชี่ยปล่อย)" มันจูบเก่งไปแล้ว ผมทุบแม่งรัวๆ พยายามงัดตัวเองออกก่อนที่จะเคลิ้มไปกับมันจริงๆ

   "มึง...รังเกียจกูหรอ" มันยอมถอนริมฝีปากออกทำเอาผมหอบฮัก นัยน์ตาสีเขียวมองผมแบบตัดพ้อสุดๆ

   "กู...เปล่า แต่ กู กูเป็นผู้ชาย ปล่อยเถอะ" พยายามงัดตัวเองออกจากมัน ผมยังหลงใหลในนมสาวๆ อยู่นะ ถึงมึงจะหล่อจนผู้หญิงค่อนมหาลัยอยากแดกก็เถอะ ไอ้มีนขอผ่าน

   "ผู้ชายแล้วไง กูเป็นไบ ไม่ซีอยู่แล้ว" แต่กูซีไง "ถ้าเป็นไอ้เร...มึงจะปฎิเสธไหม"

   "เกี่ยวอะไรกับพี่มึงวะ" ผมสวน "มึงหน้ามืดหรอ เรน อื้อ...หยุด กูไม่อยากเสียตัวให้ผู้ชาย เฮ้ย! เย็นโว้ย!" ผมร้องลั่นเพราะมันดันผลักผมนอนราบกับโซฟาแล้วกดไว้

   "มึงไม่ลองดูแล้ว จะรู้หรอว่าอยากไม่อยาก" เฮือก!! ไอ้เรนยิ้มเหี้ยม "พวกมึงแม่งปากแข็ง กูเลยต้องใช้ไม้แข็งไง"

   "อ๊ะ จับเชี่ยอะไรของเมิ้งงงงงง!!!!" ผมบิดเร่าเมื่อมือหยาบล้วงเข้าสาบเสื้อ มั่นใจนะว่าไม้แข็งกูว่าอยากอื่นมันเริ่มแข็งแล้วไหม หยุดเร้ากูเดี๋ยวนี้ "อือ...ไม่เอา ตรงนั้น อย่าลูบ"

   "ผิวมึงเนียนจัง" ขอบใจที่ชม...ไม่ใช่แล้ว! ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อใบหน้าคมก้มลงซุกไซ้ซอกคอจนสะท้าน เผลอร้องออกมาบ้างเมื่อมันขบกัดผะแผ่วแต่ก็เจ็บนะ...งือ จะเป็นรอยไม่เนี่ย

   "กู อ๊ะ...บอกให้...งือ....หยุด" ร้องลั่นห้องแต่คอนโดมึงเก็บเสียงขนาดนี้ เห็นทีไอ้มีนผู้นี่คงไร้ทางรอด ทำไงดีวะ ขาก็ถีบไม่ได้มันนั่งทับไว้ มือก็โดนมันรวบไว้ กัดหูแม่งเลยไหม...แต่มันเป็นอมนุษย์จะสะเทือนไหมวะ...โอย เทพยดาเทวา ซ่อยบักหล่าแน่ บักหล่าทันได้อยากมีผัว...

   ปัง!!! ประตูห้องเปิดพรวดออกมาก่อนที่ผมจะได้เสียซิงตูดจริงๆ ไอ้เรเดินเข้ามาหาเรา หน้านี่นิ่งมาเชียว จนน้องมันรีบผละออกจากผมไปลี้ภัยหลังโซฟาแต่ไม่วายส่งยิ้มทะเล้นให้พี่มัน ส่วนไอ้มีนคนนี้นั่งเอ๋อไปแล้วครับ...เกือบไปแล้วสิกู

   "ฮ่าๆ กะแล้วว่าพี่ต้องทนไม่ไหว" แฝดน้องหัวเราะลั่นห้อง...งงไปหมดแล้วครับ

   "แกล้งหรอ!?" เรถามน้องเสียงนิ่ง

   "ก็ใช่นะสิ เบื่อพวกปากแข็ง รู้ตัวช้า ทำตัวด้านชา มันก็ต้องเร่งปฏิกิริยากันหน่อย" เมื่อเห็นท่าที่แฝดพี่สงบลงไอ้ตัวแสบก็เข้าไปกอดคอทำซี้เลยทีเดียว "เร มึงหัดเห็นแก่ตัวบ้างก็ได้ ไอ้ความเชื่อที่ว่าพี่ต้องเสียสละให้น้องมันก็ดีอยู่ แต่มึงให้กูมามากพอแล้ว ไหนจะงานนักล่าที่มึงแทบจะไม่ให้กูแตะอีก กูโตแล้วและก็เก่งด้วยถึงจะไม่เท่ามึงก็เถอะ แล้วบางอย่างมันก็ให้กันไม่ได้เพราะท้ายที่สุดมันจะทำให้มึงรู้สึกแย่เอาเสียเอง" เรนร่ายยาวพลางส่ายหัวแล้วยิ้มน้อยๆ ให้พี่มัน

   "นี่มันเรื่องอะไรกันวะ คือกูงง อธิบายได้ไหม" ผมถามหลังจากตั้งสติอยู่พักหนึ่ง

   "พี่กูชอบมึง"

   "ฮะ!!!!!!" อึ้งกว่าตอนโดนไอ้เรนจูบอีกครับ ผมมองไอ้เรตาค้างเลยครับ มันยังนิ่งไม่ปฏิเสธไม่ตอบรับ ไอ้ท่อนไม้นี่นะชอบผม "มึงอำกูแล้วไอ้เรน"

   "อำไม่อำไปพิสูจน์เอาเองวะ หึๆ" ผมเริ่มเกียจรอยยิ้มมันแล้ววะ เมื่อกี้แทบช๊อคตายจู่มาปล้ำกัน ไอ้มีนผู้นี้ไม่เค้ยไม่เคยนอกใจน้องนางทั้งห้าเลย "แต่กูได้ข้อพิสูจน์ของกูแล้ว ตามสบายเถอะ กูไปแล้ว" เอิ่ม...ผมยังไม่เคลียวะ คือบอกว่าเรนชอบผมยังน่าเชื่อกว่า แล้วนี่อะไรเล่นทิ้งไว้กันสองต่อสองกับพี่มัน ไอ้เรนมันคิดว่าผมจะง้างปากพี่มันพูดได้หรอวะ

   เงียบ! ระหว่างเรามีแต่ความเงียบ  จะจ้องให้ท้องไปเลยไหม  เริ่มทนไม่ไหวสุดท้ายเป็นผมที่เปิดปากพูดออกมา

   "คือกูแค่แวะเอาของมาให้" ผมชี้ไปที่ซองสีน้ำตาลบนโต๊ะ "อามึงให้คนชื่อโยเอามาให้แล้วเขาก็ฝากมาบอกว่า วันอาทิตย์เขา
อยากเจอมึงแล้วก็อย่าลืมลากไอ้เรนไปด้วยละ" มันพยักหน้ารับ "เค...หมดธุระแล้ว กูกลับนะ"

   "จริงๆ กูโกรธมึง" ยังไม่ทันลุกจากโซฟา จู่ๆไอ้เรก็พูดขึ้น

   "เรื่องที่กูทำงานมึงพังกูขอโทษ" พอจะเดาได้แหละว่าเรื่องอะไร แต่มันกลับส่ายหน้า บอกว่าไม่ใช่ "อ้าว แล้วโกรธกูเรื่องอะไรวะ" มันเดินมานั่งลงข้างๆ ผมเอียงตัวหลบมือมันที่เอื้อมมาจับคอเสื้อแต่มันกลับส่งสายตาดุๆ ประมาณว่าให้อยู่นิ่งๆ อยู่กับมันได้ต้องหัดเดาความคิดคน แล้วมึงจะแหวกคอเสื้อกูเพื่ออะไร

   "กูโกรธ เรื่องที่มึงไม่รู้จักระวังตัว" สีหน้ามันเริ่มหงุดหงิดจ้องผมแทบทะลุ "คอมึงเป็นรอย"

   "ไหนๆ" คว้าเอาจอไอโฟนมาส่องเชี่ย!!!! ผิวกูมีราคีหมด รอยดูดฝีมือน้องมึงไง "มึง...จะทำอะไร " ลางร้ายกำลังลอยเข้ามาเมื่อไอ้คุณเรมันล๊อคเอวผมไว้ ดวงตาสีน้ำเงินบวกกับรอยยิ้มมุมปากนั่นทำเอาเสียวสันหลังวาบไปทั้งตัว

   "ช่วยลบให้ หึๆ" เป็นครั้งแรกที่ได้ยินมันหัวเราะแต่...ผมไม่ดีใจเลยวะ

Talk Talk
[/b]

-มาต่อแล้วจ้า ขอโทษที่ให้รอนาน

-อยากรู้ว่าเรสนใจมีนได้ไงเดี๋ยวมาเฉลย แต่ตอนไหนไม่รู้ลุ้นไปเนอะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 08-10-2015 02:35:57
อย่าเผลอลบเพลินนะ 55555
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 08-10-2015 03:33:44
อร๊ายยยยยยย!! กรี๊ดดดดดดด!! ไปลบกันท่าไหนน๊า โอ๊ย!! อารมณ์ขึ้นเลย อยากอ่านต่อ มันจะไปจบลงเหมือนตอนที่โยอกหักแล้วรอทช่วยปลอบป่าวว่ะะ5555 ฟิน ได้รู้ความในใจเรแล้วสิ คิคิ รอๆๆๆๆ อย่าหายไปนานนะค่ะ เดี๋ยวจะตามถึงบ้าน แฮร่
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-10-2015 09:00:10
ทำไมแค่นี้ก็ฟิน    :o8:

ลบรอยกันเพลินๆเนาะ คุณแฝดน้องออกไปข้างนอกแล้วใช่ปะ
เอ็นดูนางเนอะ โยกลายเป็นคุณอาเสียแล้วสิ นี่หลานสะใภ้ค่ะชื่อน้องมีน   :mew1: 
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-10-2015 21:57:42
ขอดันกระทู้ค่ะ
เราว่าชื่อเรื่องไม่เด่นเลย ตั้งชื่อภาษาไทยดีไหมคะ
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 08-10-2015 23:57:33
แนะนำได้ไหมค่ะ คือไม่รู้จะตั้งว่าอะไร  :mew1: ช่วยหน่อยๆ
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 09-10-2015 17:02:50
มีนไม่รอดแน่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Night Knight 2:Dark Wing บทที่ 5 Missing p.1 7/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 11-10-2015 21:21:34
บทที่ 6 Evidence
[/b]


   "อือออออย่ากวน" ผมครางเสียงแผ่วพร้อมมุดผ้าห่มหลบมือสากๆ ที่ระรานแก้มผม เตียงแม่งนุ้มนุ่ม หลับสบายสุดๆ

   "เร กูจะนอน" ยื้อยุดฉุดกระชากผ้าห่มจนท้ายที่สุดก็แพ้มัน จึงได้แต่พลิกตัวหันหลังให้ มีหรือมันจะรามือเพราะไอ้ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดข้างแก้มทำเอาผมตื่นเต็มตา หน้าเหน้อนี่แดงไปหมด

   "เชี่ย!!! โอ๊ะ" คนจะหลับจะนอนกวนอยู่ได้ ผมลุกพรวดมาอาละวาดมัน แต่ถึงกับร้องลั่นเมื่อเจ็บร้าวไปทั้งก้นลามยันหลัง อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด และเดาเรื่องเมื่อคืนไปแบบนั้น ไอ้มีนผู้นี้หาได้เสียซิงตูดให้ใครไม่ แต่ที่เจ็บจะเป็นจะตายเพราะผมนอนตกเตียงเมื่อคืน เดือดร้อนไอ้เรลากผมกลับขึ้นไปนอน ผมเป็นคนนอนดิ้นเผลอละเมอถีบมันไปหลายดอกสุดท้ายเลยโดนมันรวบกอดไว้เป็นหมอนข้างไม่ให้กระดุกกระดิก สมน้ำหน้ามันเสือกบังคับให้ผมค้างด้วยเอง แต่ถ้าถามว่าทำไมผมยอมนอนค้างกลับมันละก็เอิ่ม...เอ่อ...คือ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟังแล้วกันเผื่อจะเข้าใจ

   10 ชั่วโมงที่แล้ว

   สมองผมกำลังประมวลผลผิดๆ ถูกๆ เมื่อไอ้เรมันออกปากจะลบรอยจูบให้ คือ...คิดไม่ออกไงว่ามันจะใช้วิธีไหน แต่จำต้องผวาเมื่อจู่มันดึงผมไปนั่งบนตักแล้วโอบเอวไว้หลวมๆ กูควรขัดขืนใช่ไหม หรืออยู่นิ่งๆ หรืออะไร โว้ยยยยย! รวนไปหมดแล้วครับ ดวงตาสีน้ำเงินสงบนิ่งบวกกับรอยยิ้มบางๆ เชี่ย...หล่อวะ เหอๆ เป็นบ้าอะไรผม ไปชมผู้ชาย โดนเพื่อนบิ้วมากจนเบี่ยงเบนไปแล้วหรอเรา ตึก...ตัก...ตึก...ตัก รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นไวขึ้น มันต่างกับตอนไอ้เรนจู่โจม ความรู้สึกในตอนนั้นคือผมตระหนกและอยากถีบมันไปไกลๆ ทีกับคนตรงหน้ามันไม่ใช่ ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันแต่กลับทำไม่ได้แม้แต่หลบตา ราวกลับโดนมันตรึงไว้ตรงนั้น...มันชอบผมจริงหรอวะ...ถ้าจริง บอกไอ้มีนทีซิว่าควรทำตัวยังไง ทั้งชีวิตไม่เคยมีผู้ชายมาชอบเลยนะเว้ย

   "เรนทำอะไรมึงบ้าง" มันถามขึ้น เอิ่มผมต้องอธิบายหมดเลยหรอ ถึงน้องมีนจะเรื้อนจะเกรียนแค่ไหนน้องมีนก็มียางอายนะเว้ย ใครมันจะไปนั่งเล่าเหตุการณ์ตอนโดนผู้ชายกดได้วะ "ว่าไง" เฮือก! ผมละแพ้สายตาดุๆ ของมันจริงๆ

   "มันดึงกูเข้าไปกอด" ผมสะดุ้งเมื่อไอ้เรรวบกอดผมแน่นขึ้นจนกลายเป็นนั่งคร่อมตักมัน สถานการณ์ล่อแหลมชะมัด

   "แล้ว... มันก็ จ...จูบ" จุ๊บ! ฉ่าาาาาาา...หน้าผมร้อนเมื่อจู่ๆ มันก็จูบปากผมเบาๆ ช๊อคสิ!!! ไอ้มีนช๊อค ผมพยายามผลักมันออกมึงแรงเยอะหรือกูไม่มีแรงวะ
 
   "ปล่อยเว้ยยย!!! อย่ามาเล่นเหมือนน้องมึง กูไม่เล่าแล้ว กู อื้อ" ยังไม่ทันแหกปากก็โดนมันจับปิดปากด้วยปากไปเสียแล้ว จูบของมันเยือกเย็นเหมือนบุคลิก เชื่องช้าแต่มั่นคง ทำเอาผมที่ขัดขืนในทีแรกถึงกับคล้อยตาม เพราะริมฝีผมตอนนี้มันโดนละเลียดชิม ขบเม้ม บดเบียดชวนให้เคลิบเคลิ้มจนลิ้นร้อนแทรกเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

   "อืม..." เหมือนโดนสูบพลังงานไปจากร่างจนแทบทรงตัวไม่อยู่...แล้วผมจะเอาแขนคล้องคอมันเพื่อ! พยายามตั้งสติบอกตัวเองว่ามันไม่ปกติที่ต้องมาจูบกับผู้ชาย แต่ไอ้ลิ้นชื้นๆ ที่ไล่ต้อน เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อในเรียวปาก ทำเอาสติกระเจิดกระเจิง รู้ตัวอีกทีเมื่อไอ้เรมันยอมถอยให้ผมได้พักโกยอากาศเข้าปอดก่อนจะได้ขาดใจตาย ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบใคร แต่ไอ้ท่อนไม้นี่มันจูบเก่งเกินไป เล่าต่อแล้วมันทำตามหมดผมคงแย่แน่

   "ไม่ต้องเล่า...เดี๋ยวเดาเอง" เชี่ย!!!! มึงอ่านความคิดกูได้หรือไง

   ผมว่าไอ้เรมันจินตนาการล้ำเลิศไป รู้แล้วว่าเรียนศิลปะแต่ไอ้ที่มึงเดามันเกินกว่าที่น้องมึงทำเปล่าวะ

   "อ๊ะ อย่ากัดกู" แง...น้องมีนน้ำตาจะไหล ลบรอยบ้านมึงสิครับ แม่งกัดซ้ำด้วย แล้วมึงจะทำเพิ่มทำม้ายยยยย "อา...เสื้อ...อย่า อือ" ใครคราง ผมเปล่านะ แล้วไอ้ที่นอนราบบนโซฟาเนี่ยผมเมื่อยหรอก...ว่าแต่เฮ้ย! กระดุมถูกปลดจนหมดตั้งแต่เมื่อไร? ใบหน้าคมซุกไซ้ซอกคอชวนให้จั๊กจี้ ริมฝีปากร้อนๆ ทำเอาสะท้านในทุกสัมผัสที่มันกดจูบลงมานำพาให้ลมหายใจติดขัดยิ่งขึ้นเมื่อมันไล้ต่ำลงเรื่อยๆ พร้อมกับมือกร้านที่ลูบไล้ไปตามตัว ความรู้สึกแปลกๆ เริ่มถาโถมจนทั้งร่างสั่นอย่างคุมไม่อยู่ ทั้งอารมณ์อย่างว่า ทั้งสับสน ทั้งกังวล มันไม่ได้รู้สึกดีแต่ก็ไม่ได้เกลียด...ไม่ พอแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้

   "เร...พอแล้ว หยุด...ขอร้อง...หยุดสิวะ" ผมร้องเสียงดัง ไอ้เรมันยอมหยุดแต่ไม่วายมองผมอย่างงุนงง ผมหลบตามันหอบฮัก พยายามข่มใจตัวเองให้เต้นช้าลงแล้วตั้งสติ "มึง...ชอบกูจริงๆ หรอ" มันไม่ตอบ แต่กลับพลิกผมให้ขึ้นมานอนบนตัวมันพร้อมกดหัวให้ซบลงบนอกแล้วลูบเบาๆ จนเริ่มสงบ

   "มึงก็เป็นแบบเนี่ย ให้กูเดาเองตลอด" แม่งชอบเงียบใส่ คิดแล้วโมโหเผลอทุบอกมันดังอั๊ก

   "กูยังไม่รู้วะ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่ไอ้เรนบอกเท่าไหร่ มึงอาจจะเล่นๆ เหมือนที่ทำกับพี่ลูกแก้ว" ผมไม่ได้โง่หรอกว่าสองคนนั้นเขาหายไปไหนกัน " หรือถ้ามึงชอบกูจริง กูควรตอบรับความรู้สึกมึงยังไง เพราะมึงก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ตอนนี้กูรู้สึกแบบไหนก็ยังอยากหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ มึงเข้าใจกูใช่ไหม"

   "อืม" มันกอดผมแน่นขึ้น อุ่นดีจัง เอาเป็นว่าผมจะลองเปิดใจกับมันดูแล้วกัน แต่แบบ...จะอยู่แบบนี้อีกนานไหม เดี๋ยวแม่งคึกอีกผมจะซวยเอานะ

   "เอ่อ...จะกลับแล้ว ปล่อยเถอะ"

   "นอนนี่แหละ" มันบอก ผมว่ามันแอบพูดเยอะกว่าปกตินะ "คิดถึง อยากกอด" โดนไปอีกดอก แหงสิไม่เจอกันตั้งสามสี่วัน ว่าแต่...มึงใช่ไอ้เรที่กูรู้จักเปล่าวะ เฮ้อ...แล้วผมจะไปไหนได้ เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นตามนั้นแหละครับ...เห็นไหมว่าไม่มีอะไรเลย อิอิ




   หลังจากโดนไอ้เรกวนจนไม่สามารถนอนต่อได้ผมจึงยอมลากสารร่างมาอาบน้ำตอนเกือบเที่ยง ชอบอ่างอาบน้ำห้องมันชะมัด ได้หลับตาแช่น้ำแล้วฟิน บ้านผมอยู่ริมโขงตอนเด็กๆ ว่ายเล่นประจำ ผมชอบเล่นน้ำแต่เด็กแล้วครับ ย่าบอกเหมาะกับชื่อผมไงเพราะ มีนแปลว่าปลา แต่พอย้ายมาอยู่ในเมืองก็เลยห่างหาย แต่ก็มีไปว่ายที่สระบ้างนานๆ ที

   "แว๊กกกกกกกก มึงเข้ามาได้ไง" ลืมตาทีแทบกรี๊ดดด!? เมื่อไอ้คนที่ควรรออยู่ข้างนอกมันยืนหน้าสลอนพร้อมผ้าขนหนูในมือ คือ...ผมว่าผมล๊อคประตูแล้วนะ เชี่ยๆ จ้องเพื่อ!? กูอายเป็นนะ...แหนะยังจะมายิ้มมุมปาก

   "เอาผ้ามาเลย" คว้าผ้ามาห่อตัวลวกๆ พลางดันมันออกไปจากห้องน้ำ ปากมันไม่พูดแต่สายตามันเนี่ย เทะโลมผมได้ตลอด แม่งหน้ากลัวกว่าโดนแซวอีก

   ...รอพี่หน่อยได้ไหม จะรีบหาตังให้ใช้ จะไปผ่อนรถ ตู้เย็น รถไฟ เครื่องบินให้เธอ...

   เสียงโทรศัพท์กรีดร้องขณะที่ผมกำลังรื้อตู้เสื้อผ้าไอ้เรเพื่อหาอะไรใส่ ได้เสื้อยืดสีน้ำเงินตัวโคร่งกับกางเกงนักเรียนขาสั้นสีเดียวกันที่คิดว่ามันน่าจะไม่ใส่นานแล้วและมันก็ดูหลวมน้อยสุดด้วย

   "ว่าจังใด๋ครับ" ผมกดรับพร้อมกรอกเสียงทักทาย

   "อยู่ไหนยะ พวกกูมาหาที่ห้องเงียบสนิท" เสียงแม่คนที่สองดังเจื้อยแจ้วจากปลายสาย

   "อยู่คอนโดไอ้เร"

   "อ๋อ แล้วมันเป็นไงมั่ง ทำไมไม่มาเรียนวะ" อีเจ๊ถาม

   "ก็สบายดี เอ่อ มันไป..." ผมหันไปมองหน้ามันอย่างขอความเห็นแล้วพี่แกก็ชี้ไปที่รูปทะเลบนหนังสือหัวเตียง "ไปทะเลกับที่บ้านมา" ตอแหลตามน้ำไป "แล้วเจ๊มาหาน้องมีนมีอะไรครับ คิดถึงเค้าหรอ"

   "บ้านแกสิ จะชวนไปเดินเซ็น(ทรัล) อยากกินยากินิกุ" จะว่าไปตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่ได้ไปกินเลยนี่หว่า "งั้นไปเจอที่ห้างแล้วกัน อย่าลืมชวนสุดหล่อกูมาด้วยนะ"

   "ครับเจ๊ ห่วงมันจังนะ ขอเป็นผัวเลยสิ" ผมแซว

   "ไม่ละ อยากได้เป็นลูกเขยมากกว่า ไวๆ นะ จะเที่ยงแล้ว หิว! (มาช้ากูเหยียบ)" เสียงแก๊งสามช่าแทรกเข้ามา คงอยู่กันครบองค์ประชุม ผมวางสายจากเจ๊ดาสุดที่รักหันมาฟาดมือไอ้เรที่กอดเอวผมไว้หลวมๆ พี่กับน้องติดสกินชิพพอกัน

   "มึงไปไหม" มันพยักหน้า "ชวนน้องมึงด้วย" ไอ้เรคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์หาน้องมันก่อนที่เราจะพากันโดยสารเจ้ากระทิงดุของไอ้เรไปยังจุดหมาย ไปถึงหน้าห้างพวกมันนั่งรอกันอยู่ตรงบันไดทางเข้า ไอ้เรนมาถึงก่อนพวกผมอีกแต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากับแก๊งนางฟ้า(พวกพี่ลูกแก้ว)ที่นั่งเมาท์มอยกันอย่างออกรสกับพวกไอ้กรดูสนุกสนานดีแถมยังดูสนอกสนใจแฝดน้องอย่างเต็มที่ เว้นเจ๊ดาไว้คนหนึ่งเพราะตอนนี้ดูจะหมั่นไส้คนสวยกว่าเต็มทน

   "กว่าจะมาได้ พวกกูไส้แทบขาด" เจ๊ดาเหวี่ยง อารมณ์โมโหหิว

   "แหมเจ๊ กว่าจะตื่นตั้งสิบเอ็ดโมง ใจคอจะไม่ให้อาบน้ำเลยหรือไง" ผมบอกพร้อมบีบๆ นวดๆ ไหล่เพื่อนสาวให้อารมณ์เย็นลง "ว่าแต่ พวกพี่ลูกแก้วมาด้วยได้ไงครับ"

   "พี่ก็มาเดินช๊อปกันตามประสาแหละค่ะ เผอิญเจอเรน คิดว่าเป็นเรเลยเข้าไปทัก เลยรู้ว่าพวกเราจะนัดมาทานข้าวกันเลยขอแจมด้วย" พี่ลูกแก้วเล่าพร้อมยิ้มสวย ตอบผมแต่ตานี่มองไอ้เรเชียวนะ เหตุผลที่แก๊งนางฟ้าเสนอตัวร่วมแจมคงไม่พ้นอยากเจอคนที่ยืนข้างผมนี่แหละ แถมมีไอ้แฝดน้องบวกเข้าไปเพื่อนๆ พวกพี่เขาคงอยากทำความรู้จักจนตัวสั่น

   "ไปกันเถอะ กูหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว" ไอ้ก้องโวยวายเราทั้งหมดจึงรีบเคลื่อนทัพ

   "ไปกันเถอะจ๊ะเร ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน" ดาวปีสองว่าพร้อมแทรกกลางมาคล้องแขนเรแล้วเดินนำไป...เหอะ! หน้าตาก็สวยไม่คิดว่าเป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายขนาดนี้ แล้วผมจะไปแขวะเขาทำไม?

   เดินวนรอบห้างสุดท้ายจึงพากันมาตั้งทัพที่ร้าน Aka เพราะร้านอื่นเต็มหมด ครั้นจะให้ยืนรอเจ๊ดามันคงโมโหหิวจนกลายร่างขย้ำคอผมแน่ๆ ร้านนี้ใช่ว่าคนจะน้อย แต่ยังพอมีที่ว่างนั่นก็เพราะราคาที่สูงกว่าร้านอื่นหน่อยแต่เอาเถอะนานๆ กินที คิดซะว่าซื้อความสุข พวกเราได้โต๊ะใหญ่กลางร้าน แฝดนรกประจำการมุมขวาสุดตรงข้ามกัน ฝั่งไอ้เรถัดจากมันเป็นแก๊งนางฟ้า โดยที่แม่ดาวอักษรนั่งชิดจนแทบจะสิงมันอยู่แล้วครับ ส่วนผมนั่งถัดจากไอ้เรนข้างๆกันเป็นขุนแม่ที่รัก ภูผา ก้องและไอ้เตี้ยกร แต่ละคนคงหิวจัดเล่นสั่งกันรัวยิ๊ก จนเด็กเสิร์ฟกดบันทึกเมนูแทบไม่ทัน ไม่ช้าไม่นานเสบียงก็ถูกลำเลียงมาวางจนแน่นโต๊ะ ก่อนที่ต่างคนต่างลงมือย่างสิ่งที่ตัวเองอยากกิน

   "เชี่ย! ก้อง กุ้งตัวนั้นของกู" ภูผาโวยเมื่อกุ้งลายเสือตัวโตลอยเข้าปากเพื่อนไปแล้ว "ตัวนั้นก็ด้วย หยุดเฮ้ย" และแล้วการประลองยุทธ์ด้วยกระบี่ไม้คีบได้ก็เริ่มขึ้น แต่จอมยุทธ์ทั้งสองหาได้มีผู้ชนะไม่ เมื่อนางพญามารดาหลาได้ซิวกุ้งตัวที่สองนั่นเข้าปากไปเป็นการเรียบร้อย

   "อีเจ๊!!!"

   "ย่างใหม่สิยะ!!! ตีกันจะได้กินไหมค่ะ ใช่ไหมจ๊ะเรน"

   "ช่ายยยยย!!! ครับคนสวย" เจ๊พูดถูก...ย่างเลยตัวต่อไปผมเล็งอยู่ อิอิ

   "เรนนี่น่ารักจัง ดูเฟรนรี่ดี คนละเรื่องกับพี่เลยเนอะ แต่ก็มีเสน่ห์คนละแบบ"

   "แหมชมซะผมเขินเลยนี่ ถ้าน่ารักไม่ลองทำความรู้จักละครับ ผมยังว่างนะเออ" ปากมันบอกเขิน แต่เล่นขยิบตาให้เพื่อนพี่ลูกแก้วจนสามสาวฟินตายกันเป็นแถบ ส่วนไอ้กรที่ถูกเมินตอนนี้หูเริ่มดำเพราะมันเล่นดูแลเทคแคร์เพื่อนพี่ลูกแก้วอย่างเต็มที่ กับหญิงละดี๊ดีแต่กับเพื่อนนะ...เฮ้อ!

   "เรกินนี่ไหมจ้ะ" เสียงหวานออดอ้อนพร้อมเอาเนื้อชิ้นโตจ่อปาก ตามปกติผมต้องอิจฉามันแน่ๆ แต่ตอนนี้กลับหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก  ป้อนกันเข้าไป ไอ้นี่ก็กินง่ายเกิน เขาเอาอะไรให้ก็แดกหมด ยัดๆ ให้ติดคอตายไปเลยนะ...แล้วผมจะเหวี่ยงมันทำไมวะ? มันก็นิ่งเฉยเป็นปกติอยู่แล้วนี่หว่า แต่แบบเฮ้อ...ปฏิเสธนะ มึงรู้จักไหม?

   "โอ๊ะ ปากเลอะแล้ว มาๆ ลูกแก้วเช็ดให้" อืมมมมม ครับ บริการดีอย่างกับศรีภรรยา ไอ้เรมันยิ้มขอบคุณอีกฝ่ายแต่ทำไมผมถึงรู้สึกหน่วงๆ ก็ไม่รู้ เฮ้อเซง!...มองไปก็เลอะสายตา ดูสิตอนนี้แม่งไม่เห็นจะทำอะไรที่ดูเหมือนว่าชอบผมเลยซักนิด นัวกับพี่ลูกแก้วจนลืมผมแล้วมั้ง ไอ้ที่กอด จูบ ลูบ คลำกูเมื่อวาน ตกลงมึงจะเอาไง ล้อเล่นใช่ไหม แม่งรวมหัวอำผมชัวร์ ไอ้น้องหลอกว่าพี่มันชอบผม ส่วนพี่มันก็เล่นตามน้ำไปแน่ๆ สนุกใช่ไหมเปลืองเนื้อเปลืองตัวกูเนี่ย...เซงชิบ ไอ้สองตัวนี่แม่งน่าตบชะมัด ว่าไหมมึง...หันมาส่งสายตาขอความเห็นกับศพปลาหมึกในถ้วย

   "มีน มึงไม่กินหรอวะ"

   "อ๊ะ...เออวะ กินสิ เดี๋ยวกู รอย่างไง แหะๆ" ผมคงนั่งปรึกษากับปลาหมึกในถ้วยนานเกินไปไอ้เรนถึงหันมาสะกิด แล้วผมก็ก้มลงเขี่ยหนวดหดๆ นั่นต่อ เริ่มอิ่มแล้วอะ

   "มึงเป็นไรวะดูเงียบๆ" เจ๊ดาเริ่มหันมาสนใจ เงียบหรอ บางทีผมอาจจะคิดเรื่องไอ้เรมากไป พอเถอะไอ้มีน... มันจะทำอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ แม้แต่หน้ายังไม่อยากมอง มึงก็ด้วยไอ้เรนเพราะพวกมึงหน้าเหมือนกันไง

   "ไม่มีอะไรหรอกเจ๊" ผมบอกปัด

   "เหอๆ ผีเข้าหรอค่ะน้อง ปกติเห็นพูดมากจะตาย" เพื่อนพี่ลูกแก้วเจ้าเก่าเจ้าเดิมเลยครับ ชื่อน้ำหวานแต่ปากไม่หวานเอาซะเลย ปกติผมคงดิ้นเร่าๆ หาเรื่องแถ แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์นอกจากยิ้มกวนๆ ตอบ

   "แต่กูว่ามี" ไอ้แฝดน้องแย้ง "แล้วพอจะรู้ด้วยว่าอะไร"

   "อะไรหรอวะ/อะไรละยะ" ต่อมอยากรู้ของเดอะแก๊งเริ่มทำงาน

   "ไอ้พี่เร" มันเรียกพี่มันที่นั่งตรงข้าม "อย่าให้ต้องออกปากว่าอะไรควรไม่ควร เล่นพอประมาณเถอะ" แล้วมันก็จ้องหน้ากันซักพักเหมือนคุยอะไรบางอย่างกันในใจ ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายก่อนที่ไอ้เรจะหัวเราะหึๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่างออก สังหรใจว่าภัยจะถึงตัว แล้วจู่ๆ ไอ้สองพี่น้องลุกขึ้นสลับที่นั่งกัน ทำเอางงกันทั้งโต๊ะโดยเฉพาะผมที่ถึงกับเหวอทันทีที่ไอ้เรนั่งลงข้างๆ เพราะมันเล่นเอาแขนโอบเอวผมไว้แน่น

   "อะไรของมึง" ผมถามด้วยความงุนงง แต่มันไม่ตอบกลับเอามืออีกข้างมาจิ้มแก้มผมแล้วยิ้ม "สัด...ถามก็ตอบ อย่ามากวนตีน" ผมเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ

   "เหอๆ แฟนมึงโกรธแล้วเร ง้อสิวะ" และแล้วไอ้เรนก็ทิ้งระเบิดลงกลางโต๊ะ

   "ฮะ! แฟน!!!!!!" แล้วทุกคนก็ร้องออกมาลั่นโต๊ะจนคนทั้งร้านมอง จากโมโหกูเริ่มจะอายแล้วไหมละ

   "กะ...กูไปตกลงเป็นแฟนพี่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่"

   "อ้าวแล้วที่กูอุส่าหนีไปนอนที่อื่นให้มึงอยู่กันสองต่อสองเนี่ย ยังไม่ได้...เอ้ย!...เคลียกันอีกหรอ" สองต่อสอง มึงจงใจเอากูใส่พานถวายพี่มึงหรอวะไอ้เพื่อนเลวววว

   "เคลียอะไรละพี่มึงเป็นใบ้ไม่รู้หรอ" ผมเถียงเสียงแผ่ว อยากจะแทรกแผ่นดินหลบทุกสายตาในตอนนี้ ปากมันเกือบใบ้แต่จูบโคตรเก่งเลย...เฮ้ย!!! หลงประเด็น

   "สรุปยังไง เป็นหรือไม่เป็น แฟนกันอะ" เจ๊ดาคาดคั้น

   "ตอนนี้ยัง แต่เร็วๆ นี้ผมว่าไม่รอด" ไอ้เรนตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ "จริงไหมครับพี่สะใภ้" ฮึ่ยยยย!!! ผมได้แต่ยกนิ้วกลางใส่ไอ้ตัวชงอย่างเดือดดาล

   "กูว่าแล้ววววว กูเอาห้าบาทพอสินสอด จ่ายมาไอ้ลูกเขย" แม่คนที่สองผมยิ้มกว้าง ก่อนแบมือมาตรงหน้าไอ้เร แล้วมันก็บ้าจี้ควักเหรียญห้ามาจ่ายด้วยเอาสิ แล้วไอ้พวกที่เหลือจะเฮทำไมวะ

   "คือ...พี่งงไปหมดแล้ว" พี่ลูกแก้วที่เงียบอยู่นานเอ่ยถาม

   "ก็ไม่มีอะไรครับ แค่พี่ผมชอบไอ้มีน กำลังดูๆ กันอยู่ พี่คนสวยก็ตัดใจซะเนอะ หรือถ้าหาคนดามใจ ผมยินดีนะ" ไอ้เรนเสนอตัว ไม่รู้พี่ลูกแก้วเข้าใจที่มันพูดไหม แต่สีหน้าเธอดูไม่ดีเอาซะเลย

   "แล้วที่ผ่านมาคืออะไรละ" เธอยังคงทักท้วง

   "ก็ไม่อะไรนี่ครับ ผมก็เห็นพี่เป็นฝ่ายเข้าหาไอ้เรเองตลอด มันก็ไม่ได้บอกนิว่าสนใจ พี่แค่ทึกทักไปเองไม่ใช่หรอ ปกติก็เห็นเก็บแต้มอยู่แล้วนิ สนใจเอาผมไปเพิ่มแต้มไหมครับ เก่งไม่แพ้พี่เลยนะ" ไอ้แฝดน้องพูดได้...แรง!!!!

   "นี่เธอ" เอาแล้วๆ นางฟ้าเริ่มกลายเป็นซาตาน "ถ้าไอ้แว่นนั่นมันดีนักก็ตามสบายเถอะ" ว่าแล้วเธอก็คว้ากระเป๋าลุกจากโต๊ะ เดินออกไปเลย เพื่อนพี่ลูกแก้วอีกสามคนดูลังเลแต่ก็ยอมลุกตามออกไปติดๆ

   "อ่าว แล้วใครจะจ่ายค่าข้าวส่วนของพวกนั้นวะ" ไอ้กรบ่น

   "น่า...กูรับผิดชอบเอง ไม่สิ พี่เร มื้อนี้มึงเลี้ยงเลย มึงตัวต้นเหตุนะ" และแล้วมันก็โยนให้พี่ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับอย่างเต็มใจ กูละเบื่อคนรวย เอาละสถานการณ์กลับมาสงบและทุกคนก็ลงมือทานต่อ

   "หึงหรอ" ยกเว้นผมที่ต้องหยุดมือเพราะคำพูดไอ้เร

"ใครหึงมึง...หลงตัวเอง" แล้วหน้ากูเนี่ยจะแดงทำซากอะไร

   "ขอโทษ" ผมย่นคอหนีเมื่อมันกระซิบข้างหู ให้ตายสิตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตามันด้วยซ้ำ แล้วยิ่งรอยยิ้มกว้างๆ นั่นเล่นซะทำอะไรไม่ถูกเลย

   "อ๊ะ ขอบคุณ" กุ้งตัวโตที่ถูกแกะเปลือกแล้วถูกคีบมาใส่ถ้วยผม ด้วยฝีมือไอ้ท่อนไม้ที่ชื่อเร ก่อนจะตามด้วยของกินอื่นๆ ที่ทยอยมาลงจอดในถ้วย ทั้งอันที่มันให้เอง ทั้งอันที่ผมอยากกินแล้วชี้บอกมันหยิบมาให้ มันเอาใจผมเวอร์ซะจนโดนคนอื่นแซวไปหลายดอก นี่คงเป็นวิธีการง้อของมันสินะ ผมจะพยายามเข้าใจแล้วกันเพราะมันไม่ค่อยปกติแบบคนอื่น มื้ออาหารผ่านไปแบบที่ผมเขินแทบดิ้นกับการเอาอกเอาใจของไอ้เร แบบนี้ค่อยน่ารับพิจารณาหน่อยว่าไหมครับ

   ตอนเย็นไอ้เรมาส่งผมที่หอตอนแรกมันก็ว่าจะค้างด้วย แต่เมื่อผมท้วงเรื่องที่มันนัดอาวันอาทิตย์มันจึงยอมล่าถอยแต่โดยดี ไม่ไหวครับอยู่ใกล้มันแล้วใจเต้นจนแทบวาย ผมขอเว้นระยะพักเหนื่อยหัวใจซักหน่อยก็แล้วกัน

Talk Talk
[/b]

-อัพแล้วค่ะ ช้าไปนิด วันอาทิตย์หยุดงานตื่นมาปั่นบนนี้แต่เช้าเลยนะเนี่ยเพื่อท่านผู้อ่านสุดที่รัก :3123:

-ชื่อเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มภาษาไทยเข้าไป เพราะมีผู้อ่านที่รักคนนึงแนะนำมาค่ะ แล้วเราก็คิดว่าแบบนั้นเช่นกัน ขอบคุณมากนะค่ะ :katai2-1:

-ขอให้สนุกนะค่ะ อีก ไม่เกินสามบทจะเข้าโหมดแฟนตาซีแล้วนะจ้ะ หมดเวลาของรักใสๆ แล้วละ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดพื้นน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-10-2015 21:34:26
 :katai2-1:   ชอบอ้ะ เรนแรงสะใจเจ้. พ่อท่อนไม้ก็ช่างขี้แกล้ง. น้องมีนเขินจะบิดแล้ว
อะไรคือสินสอดห้าบาทคะ แหม่ถูกไปไหมคะ
ชอบชื่อเรื่องจังเลยค่ะ รอน้องมีนลุกขึ้นมาแฟนตาซีกับเค้าบ้าง

 :mew1:  คนเขียนสู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 12-10-2015 00:31:39
เรบางทีก็ดูร้ายกาจนะ แอบเจ้าเล่ห์ เรนก็เสน่ห์แรงเกิน รู้ทันตลอด
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 12-10-2015 01:24:35
นึกว่าจะลบรอยกันเลือดสาดแบบพี่รอทปลอบโยตอนอกหัก หึหึ
อ่านไปยิ้มไป เรก็นะ ชอบแกล้งแถมเจ้าเล่ห์อีก เรนบทนี้นายได้ใจไปเต็มๆ แรงได้ใจจริงๆ ตอกซะชะนีหน้าหงายเลย
รอมีนลุกมาแฟนตาซีบ้าง จะมีป่าวหว่าาาา คิคิ
เมื่อไหร่จะมีเลือดสาดใส่ไหลกระซิกๆจนหมดตัวน๊า อยากอ่าน 5555
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 12-10-2015 21:57:56
วันนี้คึกเลยลุกขึ้นมาวาด น้องมีนของเราด้วยสีน้ำ เอ่ม จริงๆ มันเป็นสีที่เรากากที่สุดแหละ


(http://upic.me/i/b5/rmein.jpg) (http://upic.me/show/56965362)
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 12-10-2015 22:43:59
หุหุ แกล้งให้มีนหึงหราเนี้ย
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-10-2015 16:01:52
เพิ่งได้มาเห็นรูปน้องมีนค่ะ อืม สีน้ำควบคุมยากเนอะแต่หน้านางเนิร์ดได้ใจเลยอ่า
อิอิ
รอตอนต่อไปนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ (เร-มีน) บทที่6 Evidence p.1 11/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 18-10-2015 16:37:43
บทที่ 7 The Sea
[/b]

   ตอนนี้ผมกำลังเดินวนไปวนมาหน้าร้านเหล้าร้านเดิมที่ผมมาร้องเพลงประจำ โดยมีไอ้ท่อนไม้เจ้าเก่ายืนประกอบฉาก ทำไมนะหรอก็น้องมีนผู้นี้กำลังเดี่ยวไมโครโฟนอย่างเป็นสุขระหว่างพักพ่อผมดันโทรมาเซอไพร์ว่าอยู่หน้าหอ จึงบอกไปตามตรงว่าอยู่ร้านเหล้ามาร้องเพลง ท่านเลยออกปากว่าจะมาหาที่ร้าน ไอ้เรื่องมารับจ๊อบไม่น่ากลัวเท่าไอ้เพื่อนๆ ทั้งสี่ห้าตัวที่โต๊ะ ไม่รู้มันจะแฉวีรกรรมอะไรผมบ้าง รถเบนซ์สีดำคุ้นตาชะลอก่อนจะจอดนิ่งตรงหน้า แล้วพ่อผมก็ลงมาก่อนที่คนขับรถจะนำไปจอดให้เป็นที่เป็นทาง

   "บักหำน้อย..." นั่นไงครับ แค่เปิดตัวก็อลังการงานสร้าง ร้องเรียกผมเสียงดังซะคนแถวนั้นต้องหันมอง...และที่สำคัญ ผมไม่เล็กนะครับ

   "ป๋าหวัดดี"

   "คิดถึง มาๆ มาป๋ากอดหน่อย" และแล้วไอ้มีนผู้นี้ก็โดนพ่อจับกอดรัดฟัดเหวี่ยง แถมหอมแก้มซ้ายขวาไปอีกฟอดใหญ่...หมดกัน ภาพลักษณ์ดิบห่าม? ที่ไอ้มีนสร้างมา  ผมละเพลีย

   "พอแล้วป๋า แก้มมีนช้ำหมดแล้วเนี่ย" เบรกก่อน "นี่เร อยู่คณะเดียวกับมีน" ผมหันไปแนะนำ คนข้างตัว มันก็ยกมือไหว้พร้อมยิ้มเล็กน้อย

   "หวัดดีไอ้หนุ่ม แหม...เพื่อนเอ็งนี่หน่วยก้านดีจังเลยนะ แบบนี้ค่อยวางใจหน่อย เวลาเอ็งไปอ้อนตีนใครจะได้มีคนช่วย" พ่อผมยิ้มร่าพร้อมตบบ่าไอ้เรอย่างเอ็นดู

   "ไปข้างในเถอะป๋า พวกเจ๊ดารออยู่"

   "ไปสิไป ไม่ได้เจอไอ้พวกทโมนนั้นนานแล้ว" ว่าแล้วท่านพ่อกระผมก็กอดคอลากเข้าด้านในราวกับรู้จักที่นี่ดี ไปถึงโต๊ะก็ยกมือรับไหว้บรรดาเพื่อนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สร้างบรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์ลุงกำนัน

   "ป๋า สวัสดีค่า นั่งค่ะนั่ง คนนี้ชื่อเรนนะค่ะคนน้อง ส่วนไอ้คนที่เดินมากับป๋าชื่อเรค่ะคนพี่ ส่วนสัมภเวสีที่เหลือป๋าคงรู้จักแล้วเนอะ"  เจ๊ดาทำหน้าที่รับแขกคนสำคัญพร้อมขยับเก้าอี้ให้พ่อผมนั่ง  ก่อนเรียกเด็กเอาเมนูมาให้ "ป๋าทานอะไรมายังค่ะ ที่นี่อาหารอร่อยนะค่ะ ลองสั่งทานได้เลย หนูรับประกัน"  ที่มันดีแบบนี้ไม่ใช่อะไรนะครับ พ่อผมมามื้อนี้มีคนจ่ายชัวร์

   "ยังเลย อิ่มยังละพวกเรา ไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ เหล้าเบียร์อยากกินอะไรก็สั่งนานๆ เจอกันทีป๋าเลี้ยงเอง" นั่นไงครับเดาผิดให้เตะเลย หน้าใหญ่ตลอด สรุปวันนี้ผมคงต้องขอพี่หนิงไม่รับค่าแรงแล้วละ ท่าจะยาว

   "คร้าบบบบ / ค่ะ" หึ เกรงใจนะ รู้จักไหมพวกมึง แล้วสารพัดสิ่งมึนเมาและกับแกล้มก็ถูกสั่งมาวางบนโต๊ะ

   "หนูมีน เป็นไงมั่งที่คณะ มันก่อเรื่องอะไรหรือเปล่า" พ่อเปิดประเด็น เรียกสายตาลุกวาวจากเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะไอ้กรที่ดูคันปากอยากจะแฉเหลือเกิน

   "ก็มีเยอะครับป๋า เกรียนตามประสามันแหละครับ แต่มีเรื่องเด็ดอยู่เรื่อง ป๋าจำพะแพงได้ไหม ผู้หญิงตัวเล็กๆ ขาวๆ ที่ไอ้มีนพาไปกินข้าวกับป๋าตอน ม.หก "

   "อ้อ ว่าที่ลูกสะใภ้นะหรอ"

   "ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วป๋า เพราะเขาทิ้งมันไปแล้ว" ควับ!...ป๋าหันมามองผมทันควัน

"อ่อนจริงลูกป๋า แล้วยังไงต่อ" แง...อย่าซ้ำเติม

   "ประเด็นคือ พะแพงไม่ได้บอกเลิกมันไง แต่ชิ่งไปเลย แฟนใหม่พะแพงเลยคาใจ มากระทืบไอ้มีน" ไอ้เชี่ยกร!!!!! ผมกรีดร้องในใจแทบจะมุดโต๊ะหนีสายตาคาดคั้นจากบุพการี

   "จริงหรือ" เฮือก!!!...เสียงเข้มมาเชียว ผมจึงได้แต่พยักหน้ายอมรับ "มันเป็นใคร บังอาจมาก ป๋าจะไปจัดการมัน"

   "ม่ายยยย ป๋า เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างพวกมันก็โดนไปเยอะแล้ว" ผมรีบเบรก เดี๋ยวเกิดพ่อผมส่งเด็กไปกระทืบมันจะทำยังไง บานปลายไปกันใหญ่ "คือ...ไอ้เรมันช่วยกระทืบส่งพวกมันนอนโรงพยาบาลให้แล้ว จริงไหมเร" ผมสะกิดมันยิกๆ ตอบดิวะ

   "ครับ!" แค่นี้!? ยืนยันให้มันหนักแน่นกว่านี้สิ

   "ใช่ครับคุณพ่อ พี่ผมเป็นคนเข้าไปช่วยมีน แล้วพามีไปหาหมอด้วยครับ" ไอ้เรนช่วยขยายความแทนพี่มัน

   "เฮ้อเอาเถอะ ว่าแต่หนูมีนไม่เฮิทหรอลูก โดนหักอก" พ่อหันมาถามพร้อมลูบหัวผมไปพลาง เง้อ ทำอย่างกับผมเป็นเด็กเล็กๆ ไปได้

   "โอ๊ย! ป๋า จะเอาอะไรมาเฮิทละค่ะ ตอนนี้มันมีคนดามใจแล้ว" เจ๊ดารีบแย่งพร้อมยิ้มกริ่ม

   "หืม!? ใครละ"

   "คนคนนั้นก็คือ ระ...อื้อ!!!!" ผมรับเอามือปิดปากอีเจ๊ก่อนที่มันจะพูดออกมา คือยังไม่ตกลงซักหน่อยแค่ดูๆ ก่อน แล้วพ่อแม่ที่ไหนจะรับได้วะ ที่ลูกชายตัวเองโดนผู้ชายจีบ

   "ถ้าบอกขอให้เจ๊ขึ้นคาน" ผมแช่งมันเสียงแข็ง เหลือบตาไปมองไอ้คนโดนพาดพิง เรกลับยิ้มกริ่มพร้อมยักคิ้วให้อย่างท้าทายผม หล่อ ร้าย ชวนให้ใจสั่น... ไม่ใช่แล้ว! สติ...สติจงกลับมา

   "ฮ่าๆๆ หน้าแดงใหญ่แล้วไอ้หนู ถ้าจะเขินขนาดนี้ ไว้พร้อม เอ็งค่อยบอกก็ได้ ป๋าเข้าใจ" ปากอะเข้าใจแต่สายตาล้อเลียนนี่มันอะไรครับป๋า แล้วทั้งโต๊ะก็หัวเราะกันยกใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้ท่อนไม้ ที่หัวเราะ หึๆ อยู่ข้างตัว...แว๊กกกกก แล้วมึงจะดึงมือกูไปจับทำไม...เง้อเขิน

   "แล้วป๋ามาหามีนมีอะไร" ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนรุมยำไปมากกว่านี้

   "คิดถึงลูก มาหาไม่ได้หรอ"

   "แหมป๋าก็ เอาแบบจริงจังสิป๋า"

   "ป๋าจะไปธุระที่สิงคโปร อีกสองวัน ต้องมาขึ้นเครื่องที่กรุงเทพฯ เลยแวะมาดูว่าบักหำน้อยของป๋า มันตายยัง แล้วนี่เลยถือโอกาสมาชวนเอ็งไปด้วยเลย เผื่ออยากไปเที่ยว ลาได้ไหมล่ะ ให้ป๋าเซ็นลากิจให้ก็ได้นะ" พ่อผมทำหลายอย่างครับ เป็นกำนันและยังทำธุรกิจซื้อขายอะไหล่รายใหญ่ในอีสานทำให้ต้องเดินทางไปสัมมนาในต่างประเทศ บางครั้งก็ชวนผมไปด้วยเพื่อถือโอกาสเที่ยวไปในตัว

   "ผมคงไปไม่ได้หรอกป๋า อาทิตย์หน้าต้องไปรับน้องนอกสถานที่"

   "ที่ไหน" คือ ผมกำลังลังเลว่าจะบอกดีไหม ผมกลัวว่าพ่อจะไม่ให้ผมไปอย่างที่แล้วๆ มา

   "ทะ...ทะเลครับ"

   "ไม่ได้!!!!" ถูกค้านตามที่คาด "เอ็งจะไปไหนก็ได้บนโลกนี้ ที่ไม่ใช่ทะเล ป๋าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ"

   "ผมเข้าใจ แต่..."

   "ป๋าไม่อยากให้ไป ทะเลเอาแม่เอ็งไปจากป๋า ก็แค่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก" พ่อบอกเสียงแผ่ว ใช่ผมรู้ดี สถานการณ์ชวนอึดอัดเสียจนคนอื่นๆ ต่างเงียบเพื่อเปิดโอกาสให้เราคุยกัน

   "ผมรู้ แต่ถ้าไม่ไปผมก็ไม่ผ่านกิจกรรม แล้วผมก็อาจไม่จบปีหนึ่งนะป๋า" พยายามที่จะงัดเหตุผมมาพูด "ป๋าไม่ต้องกลัวมีนจมน้ำหรอก มีนโตแล้วมีว่ายน้ำก็เก่ง ดูแลตัวเองได้นะ...ให้มีนไปนะ"

   "ไม่ได้ งั้นเอ็งก็ย้ายไปเรียนที่อื่น ที่ๆ ไม่ต้องรับน้อง" เสียงทุ้มยื่นคำขาด มันทำให้ผมรู้สึกขุ่นเคือง ทำไมพ่อถึงต้องจมกับอดีตขนาดนี้ ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่และผมก็ไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำไม่เคยเห็นแม้แต่ภาพถ่าย ได้ยินแต่พ่อบอกซ้ำๆ ว่าผมเหมือนท่าน

   "ใจร้ายเกินไปแล้ว ทั้งๆ ที่มีนพยายามแทบตายเพื่อสอบเข้าที่นี่ แต่ป๋ากลับบอกมีนย้ายเพียงเพราะไม่อยากให้ไปทะเล" ผมบอกเสียงขุ่น พ่อไม่เคยนึกถึงความรู้สึกผมเลย เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่  เรพยายามจะดึงมือผมไว้เพราะทำท่าจะลุกขึ้น "บางทีมีนก็ไม่เข้าใจนะ ว่าทะเลมันเลวร้ายอะไรนักหนา มีนก็แค่อยากเห็นทะเลจริงๆ ที่ไม่ใช่ในทีวี ว่ามันสวยแค่ไหน ใครๆ เขาก็เคยไปทั้งนั้น แต่ป๋าดูมีนสิ จนจะสิบแปดอยู่แล้วยังไม่เคยไปเหยียบเลยซักครั้ง เพียงเพราะความฝังใจในอดีตของป๋า" ผมบอกเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์

   "ไม่ได้ยังไงก็ไม่ได้ เอ็งไม่เข้าใจ"

   "งั้นก็อธิบายเหตุผลมาสิ เหตุผลที่ไม่ใช่เรื่องของแม่" ผมถาม...เชื่อว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ท่านไม่บอกผมและยังคงนิ่งเงียบ  "หึ...อธิบายไม่ได้!? งั้นมีนก็ไม่มีอะไรจะคุยกับป๋าแล้ว" ผมเนรคุณหรือเปล่าที่คิดว่าพ่อเห็นแก่ตัว ผมหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น มันคงเป็นอารมณ์ดื้อรั้นแบบเด็กๆ ที่เมื่ออยากทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ หากถูกห้ามก็ต้องมีเหตุผลที่ดีพอแต่เผอิญตอนนี้มันไม่มี และผมก็ไม่ได้ยินดีรับฟังกับเหตุผลเดิมๆ ของพ่ออีกด้วย

   ผมเดินออกมาจากร้านไม่ไกลมาก ผมไม่อยากกลับหอเพราะมันใจพ่อผมต้องไปรอเจอที่หอแน่ๆท่านไม่เคยยอมให้ผมหลบหน้าท่านได้นานหรอก แล้วจะไปไหนละ!?...เดินคิดไปเรื่อย เริ่มจะเหนื่อยจึงนั่งพักหน้าเซเว่นเล่นกับหมาไปพลางๆ แล้วใครคนหนึ่งก็นั่งลงข้างๆ พร้อมยื่นชาเขียวเย็นให้ จะเป็นใครได้นอกจากไอ้ท่อนไม้เจ้าเดิม มองข้ามถนนไปก็เจอเอสตราโดคันสวยจอดนิ่งอยู่ ไม่รู้ว่ามันตามผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรับน้ำขวดนั่นขึ้นมาเปิดดื่ม ตั้งใจจะเดินเข้าไปซื้ออยู่แล้วแต่นั่งบิ้วอารมณ์เพลินไปนิด

   "กูไม่อยากกลับหอ ยังไม่อยากเจอป๋าตอนนี้ กูไปนอนคอนโดมึงได้ไหม" ผมหันมองคนข้างๆ ซึ่งมันก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย 

   "แต่ตอนนี้กูหิว พาไปหาอะไรกินหน่อยสิ" เรลุกขึ้นจูงมือผมไปที่รถ มันขับรถพาไปกินโจ๊กหม้อดินแถวมหาลัย โจ๊กอร่อยะดีแต่นั่งกินไม่ค่อยเป็นสุข ทำไมนะหรอ!? ก็ไอ้คนนั่งตรงข้ามมันกินไปจ้องหน้าผมไปบางทีมันก็ยิ้มให้ จนเริ่มสงสัยว่าไอ้เรมันสติดีเปล่าวะ แต่มันก็ช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้นเยอะ เริ่มสงสัยแล้วสิว่ามันชอบอะไรในตัวผมกันนะ แค่ไอ้เด็กแว่นเกรียนๆ ไม่ได้หล่อเหลาน่าเอาจนเก้งกวางต้องเหลียวหลังซักหน่อย

   ผมมานอนห้องมันบ่อยเกินไปหรือเปล่า!? ไอ้เจ้าของห้องมันก็บริการดี๊ดี กลับมาถึงเตรียมน้ำอุ่นให้อาบ มันรู้ว่าผมชอบนอนแช่น้ำในอ่าง จะว่าไปมันก็ดูใส่ใจผมดีเหมือนกันนะ เพราะเคยมีแฟนมาก็ต้องเป็นฝ่ายดูแลเอาใจเขามากกว่า มันรู้สึกดีนะที่ถูกให้ความสำคัญ  ทุกอย่างก็ดูเข้าท่าดีหรอกเว้นแต่ตอนนอนผมโดนมัน แกล้งบ้าง กวนบ้าง ลวนลามบ้าง พอเป็นพิธีแต่เอาเถอะน้องมีนหยวนให้ในฐานะที่มันทำตัวดี

   กว่าผมจะตื่นก็เกือบเที่ยงไอ้เรตื่นก่อนนานแล้ว จำได้ลางๆ ตอนสิบโมงมันบอกจะไปรับใครไม่รู้ ว่าแล้วชักหิวล้างหน้าแปรงฟันเลยเดินมึนออกมาหาอะไรกัน แต่ทันทีที่เปิดประตูออกจากห้องนอนเจอไอ้แฝดนรกกำลังนั่งเล่น PS4 กันอย่างเมามัน แต่แขกอีกคนที่นั่งอยู่ทำเอาผมถึงกับชะงัก ป๋า!...มาได้ไงวะ หันรีหันขวางไม่รู้จะทำยังไง แถมยังไม่อยากคุยตั้งใจว่าจะลี้ภัยกลับเข้าห้องแต่ไอ้เรดันคว้าผมได้ทันก่อนบังคับให้ผมนั่งลงตรงข้ามกับพ่อผม โดยมีมันล๊อคเอวไว้ส่วนอีกฝั่งเป็นไอ้เรน บรรยากาศอึดอัดเริ่มปกคลุมก่อนที่พ่อจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบเสียเอง

   “ป๋าขอโทษ” พ่อมองหน้าผมจริงจัง “ขอโทษที่ยึดติดมากเกินไปห่วงมากเกินไป จนลืมนึกถึงความต้องการของเอ็ง มันก็จริงอย่างที่เรนมันว่า ไม่มีใครหนีความจริงพ้นเราควรยอมรับมันให้ได้”

    “มีนรู้ว่าป๋าห่วง แล้วก็ ขอโทษที่เสียงดังใส่นะครับ” ผมบอกเสียงแผ่ว แต่ก็เอะใจในสิ่งที่ท่านพูด “ว่าแต่...ความจริงอะไรหรอครับ”

   “เอ่อ...ให้อธิบายคงยาก เอาเป็นว่าเกี่ยวกับเรื่องแม่ของลูก เมื่อถึงเวลาลูกจะรู้เอง” กรรม...ทำไมต้องทำตัวมีลับลมคมนัยน์อะไรกับผมด้วยเนี่ย

   “เฮ้อ!!!...บอกตรงๆ ไม่ได้หรอป๋า” ผมทำหน้ายู่ใส่ พ่อผมนะ ถ้าไม่อยากบอกอยากเล่าบังคับให้ตายท่านก็ไม่คลายออกมาหรอก

   “แล้วก็อีกเรื่อง...ไอ้หนุ่ม ชื่อเรใช่ไหมเรา” พ่อเอ่ยเสียงเข้มขึ้นพร้อมหันไปจ้องไอ้คนข้างตัวทำเอาผมสะดุ้ง “จริงหรอที่เอ็งชอบลูกข้า” เชี่ย...ป๋ารู้ได้ไงวะ

   “ครับ” มันตอบทันทีแบบไม่ลังเล งือ...แอบดีใจ...มั้ง ผมเริ่มใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เมื่อพ่อนิ่งเงียบไปพักใหญ่ แอบลุ้นว่าท่านจะตอบว่าอะไร หรือพ่อจะรับไม่ได้ ผมจะโดนว่าไหมแล้วไอ้เรจะโดนป๋ากระทืบหรือเปล่า

   “ไม่เห็นต้องทำหน้ายุ่งนาดนั้นเลยนิ” ป๋าบอกพร้อมเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ “ถึงมันไม่ใช่เรื่องปกติแต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ป๋าไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น ถ้าลูกป๋าอยู่กับใครแล้วสบายใจ ก็ยินดี ส่วนเอ็ง ได้ลูกข้าแล้วห้ามทิ้ง ทิ้งเอ็งตาย”

   “ป๋า!!!! ผมยัง...” มันชักจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วมั้ง ผมยังซิงเว้ยยย

   “ยังอะไรสภาพขนาดนี้ แล้วเสื้อที่ใส่ไม่ใช่ของไอเรเรอะ” มันก็ใช่ “แล้วไอ้รอยแดงๆ ที่คอจะบอกว่ายุงกัดหรือไง” มันก็แค่จูบกับนัวนิดหน่อย ยังไม่ได้ทำไรเลย ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้จะเถียงอะไร ถ้ามองจากหลักฐานมันก็ชวนให้เข้าใจตามนั้น...เง้อ

   “แล้วสรุปป๋ายอมให้ผมไปทะเลแล้วใช่ไหม” เปลี่ยนเรื่องดีกว่าก่อนจะโดนสอบปากคำไปมากกว่านี้
 
   “ใช่ แต่ถ้าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นไอ้หนูมีนต้องโทรบอกป๋าทันที เข้าใจไหมไอ้ลูกเขย”

   “ครับผม” ไอ้ท่อนไม้ตอบรับแข็งขัน เฮ้ย! ป๋า ทำไมยอมรับมันเป็นเขยง่ายจังวะ ถึงน้องมีนจะเป็นผู้ชายก็ช่วยหวงกันหน่อย
 
   ผมใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายทำหน้าที่ลูกที่ดี พาพ่อเที่ยวแถวๆ มหาลัยเพราะพรุ่งนี้ท่านต้องขึ้นเครื่องแต่เช้า เอาใจนิดหนึ่งเผื่อได้ตังค่าขนมไปเที่ยวเยอะๆ อ้อนไปอ้อนมาจากที่จะซื้อเวฟคันใหม่ป๋ารับปากจะถอยรถยนต์ให้เลย แกบอกปลอดภัยกว่าเนื้อหุ้มเหล็ก เห็นไหมผมมันลูกกตัญญูรักบุพการีจะตายไป
 
   ผมตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะต้องไปรับน้องนอกสถานที่ อดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะเห็นทะเลครั้งแรกถึงขนาดแพคกระเป๋าล่วงหน้าสองวันคืน ก่อนไปก็ไปสิงที่ห้องไอ้เรกลัวไม่มีคนปลุกแต่เปล่าเลย กลายเป็นผมนี่แหละคึกจัดตื่นมาอาบน้ำตั้งแต่ตีสี่แถมลากไอ้คุณเรออกจากที่นอนตั้งแต่เช้ามืดโหวกเหวกโวยวายจนไอ้เรนต้องเปิดประตูห้องมาด่าเพราะรบกวนเวลานอนมัน ใครๆ อาจจะหาว่าผมเวอร์ก็คนมันไม่เคยไปอะเข้าใจกันหน่อยสิ

   เป้าหมายทริปนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลเพราะเราไปรับน้องกันที่หัวหินในหาดส่วนตัวของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตีกลองแหกปากร้องเพลงกันไปตลอดทาง แบบนี้สิค่อยสนุก ปีนี้ดีเพราะรุ่นพี่ปฏิวัติกันแล้วไม่ใช่เอะอะก็ว๊ากถึงจะมีบ้างแต่ก็ไม่ได้เครียดตลอด มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกครับกดดันรุ่นน้องแบบแต่ก่อน ซ่าได้ไม่นานก็โดนไอ้เรกลับมานั่งประจำที่ เพลงกำลังโดนน้องมีนอยากเต้นอะ

   "เชี่ย! เร มึงเป็นพ่อกูหรอ คนกำลังสนุก" ผมดิ้นพลาดๆ "ปล่อยดิ อารมณ์ร่วมนะรู้จักไหม แทนที่จะนั่งบื้อเป็นท่อนไม้ แดนซ์โว้ย ดะ ...อื้ออออ" ด่ามันยังไม่ทันครบชุดก็โดนมันปิดปากด้วยปากเรียบร้อย...เล่นเอาทั้งรถหันมามองเราเป็นตาเดียวตามมาด้วยเสียงแซวเซงแซ่ ผมรีบมุดเข้าไปนั่งริมหน้าต่าง พร้อมดึงเสื้อแขนยาวคลุมทั้งหัวไปลี้ภัยหนีอายกับพระอินทร์ในทันที ไอ้หน้าด้าน บอกผมเงียบดีๆ ก็ได้มั้ง

   เมื่อไปถึงเราก็แยกย้ายเอาของไปเก็บในบ้านพักขนาดสี่ห้องนอนซึ่งแบ่งเป็นหลังๆ แยกหลังละเอกตามชั้นปีแยกชายหญิงอย่างละหลัง ห้องผมนอนกันห้าคนซึ่งก็แก๊งผมทั้งหมดและครับ กิจกรรมวันนี้คือเข้าฐานต่างๆ ที่รุ่นพี่จัดเตรียมไว้ ร้องรำทำเพลงสร้างความสัมพันธ์และการทำงานเป็นกลุ่ม ก่อนจะถูกปล่อยแยกย้ายตามอัธยาศัยในตอนเย็นจึงมีเวลามาร่ำสุรากันหน้าบ้านพักซึมซับบรรยากาศของทะเลอย่างเต็มที่ ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหมว่าตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ร่างกายมันรู้สึกดี ผ่อนคลายอย่างประหลาด เพราะแบบนี้สินะใครๆ จึงชอบมาพักร้อนที่ทะเล นั่งคุยเล่นกันเพลินๆ พวกผู้ชายก็ถูกบรรดารุ่นพี่ในเอกเรียกออกมาที่ชายหาด เพิ่งรู้นะว่าพี่โยก็อยู่เอกเดียวกับผม

   "ตามมาๆ กูมีภารกิจลูกผู้ชายให้มึงทำ" พี่ตั้มประกาศก่อนเดินนำพวกเราเลียบหาดมาเรื่อยๆ จนถึงสะพานส่งปลาทำจากไม้เก่าๆ ซึ่งยื่นลงไปในทะเล บวกกับพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้าให้บรรยากาศหนังสยองขวัญ ถ้ามีผู้หญิงผมยาวๆ นั่งตรงสุดสะพานนี่ใช่เลย

   "เอิ่ม ภารกิจอะไรหรอพี่" ไอ้กรถามเสียงสั่น มันเป็นพวกกลัวผีขึ้นสมองครับ

   "พวกมึงเห็นธงแดงตรงปลายสะพานนั่นไหม" พี่ผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ยืนข้างพี่โยว่าพร้อมส่องไฟฉายไปตรงจุดนั้น "ไปเอามันกลับมา แล้วพวกกูจะรับมึงเป็นน้อง ง่ายใช่ไหมละ" ง่ายอะง่าย ถ้าสะพานที่ว่าไม่ใช่ไม้ผุๆ ที่ดูผ่านร้อนผ่านหนามาหลายสิบปี

   "แล้วใครจะเป็นคนไปละ" ไอ้ก้องถาม ทำท่าพร้อมถีบผมออกหน้าแล้วครับ

   "ก็จับฉลากเอา" พี่ตั้มบอกพร้อม ชูโหลแก้วเล็กๆ ที่มีกระดาษหลายใบม้วนอยู่ "ไอ้มีนมานี่ ในฐานะที่มึงเป็นที่รักของพี่ๆ ทุกคน กูให้มึงเป็นคนจับ" !เฮือกกก!! คือ ผมมันพวกซวยบรรลัยเกิดจับได้ตัวเองทำไงวะ "ไวๆ เลยมึงรีบทำ จะได้กลับไปเมาต่อ" ผมหยิบส่งๆ ก่อนจะยื่นให้พี่ตั้มไป

   "คะ...ใครหรอพี่" ไอ้กรถาม มันเกาะไอ้ภูผาแน่นจนแทบจะขี่คอ...ถ้ามึงจะกลัวขนาดนั้นนะ

   "ไอ้มีน!!!" เชี่ย!!! จับเองได้เอง ไอ้สะพานมืดๆ ไม่กลัวหรอกครับ ประเด็นคือมันจะพังลงไปตอนไหนเถอะ รีบไปเอามาแล้วรีบกลับ ยังไม่ทันจะก้าวออกไปไอ้เรดันคว้ามือผมไว้ สายตามันดูกังวลเอามากๆ "น่า แค่เดินไปเอาธง ไม่เป็นไรหรอก"

   "มั่นใจ?"

   "อืม...มึงช่วยกูทันอยู่แล้ว" ผมบีบมือมันเบาๆ ก่อนจะก้าวเท้าลงบนสะพานนั่นช้าๆ และมั่นคง แค่รู้ว่ามันมองตามก็รู้สึกปลอดภัยแล้ว เป็นเอามากนะผมเนี่ย

   "ทำเชี่ยอะไรของมึงไอ้มีน" เพื่อนๆ ร้องลั่นเมื่อผมลองกระโดดๆ บนสะพานหลังจากเดินมาได้สิบกว่าก้าว แหมก็ต้องทดสอบความแข็งแรงกันหน่อย ถ้ามันจะพังให้มันพังซะตอนนี้ยังพอวิ่งกลับทัน แต่ทุกอย่างนิ่งสงบมีแต่เพียงคลื่นน้ำเบื้องล่างที่ดูจะเชี่ยวกราดกว่าตอนกลางวัน สะพานนี้ยาวเกือบร้อยเมตรจากการประมาณด้วยสายตาเดาว่าตรงส่วนปลายสุดที่มีธงแดงอยู่น้ำคงลึกน่าดู

   ยิ่งก้าวห่างออกมายิ่งเมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่ง ผืนน้ำที่ทอประกายของแสงจันทร์เพ็ญกลิ่นน้ำทะเลกับสายลมอ่อนๆ เหมือนดึงดูดให้เข้าหา เหมือนหูจะแว่วเพราะท่ามกลางเสียงคลื่นและลมเหมือนได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ จากรอบๆ ตัว มันไม่ได้น่ากลัวแต่กลับอบอุ่นใจอย่างประหลาด พลันเสียงนั้นกก็หยุดลง

   'ระวัง ถอยกลับไป' เสียงใครบางคนกระซิบเตือนทำเอาผมหยุดชะงัก อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงธงแดงแล้วแค่หยิบมัน 'ถอยกลับไป...เร็ว!!!' เสียงนั่นดูร้อนรนขึ้น ผมหันรีหันขวางมองหาที่มาของเสียงนั่น แล้วทุกอย่างก็กระจ่างชัดเกี่ยวกับคำเตือนนั่น เมื่อพื้นสะพานที่ผมยืนอยู่เริ่มโยกคลอน

   เปรี๊ยะ!! ตูม สะพานไม้เริ่มผุพังบางส่วนหัก บางส่วนหลุดร่วงลงไปสู้ผืนน้ำเบื้องล่าง ชิบหายแล้วกู ทำไงดี วิ่งกลับยังทันไหม ไหนๆ ก็มาแล้ว ผมเอื้อมไปคว้าธงเป็นจังหวะเดียวกับที่พื้นใต้เท้าหักลงพาร่างทั้งร่างร่วงสู่ผิวน้ำ

   "มีน!!!!" เสียงเพื่อนๆ บนฝั่งตะโกนก้อง น้ำเค็มทะลักเข้าตาเข้าปากจนแสบไปหมดผมพยายามตระกายขึ้นสู่ผิวน้ำแต่กลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่าง สงสัยจะโดยตะคริวกิน เมื่อดวงตาชินกับน้ำเค็มทำให้เห็นพระจันทร์จางๆ เหนือน้ำที่ลอยห่างไปเรื่อยๆ ผมพยายามกลั้นใจไม่ให้สำลักน้ำทะเล แต่เหมือนจะเกินลิมิตของตัวเองแล้ว อึดอัด ทรมาน เหนื่อยเหมือนจะขาดใจ นี่ผมจะต้องมาจมน้ำตายแบบนี้จริงๆ หรอ ไม่นะ ไม่ !!! ได้แต่กรีดร้องในใจ เมื่อภาพตรงหน้าเริ่มเลือนลาง ในสมองทุกสิ่งเริ่มหยุดนิ่งเพราะขาดอากาศหายใจ

   ภาพสุดท้ายที่เห็นราวกับภาพฝันเมื่อร่างบอบบางขาวกระจ่างเคลื่อนผ่าน ผมยาวๆ ที่สยายออกตามแรงว่ายระแผ่วผ่านผิวกาย ก่อนที่ลำแขนเล็กๆ นั่นจะโอบกอดร่างทั้งร่างไว้เผยให้เห็นใบหน้างดงามที่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน...นางฟ้าหรอ นางฟ้าอะไรจะอยู่ในทะเล หรือว่าผมตายแล้วเขามารับวิญญาณกันนะ

   'ไม่เป็นไรนะ' เสียงหวานกระซิบบอก 'ทะเลไม่มีวันทำร้ายเรา'

TALK TALK
[/b]

-มาอัพแล้วจ้า น้องมีนของเราแท้จริงแล้วเป็นใคร เดี๋ยวเจอกันบทหน้าจ้า

-ขอบคุณท่านผู็อ่านทุกคนที่ติดตาม สำหรับเรื่องเดิม http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0) ตามลิ้งนี้ไปเลยจ้า อ่านเพลินๆ ติชมกันได้  :mew1:
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่ 7 The Sea p.2 18/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 18-10-2015 17:03:42
ฉันว่า นังหนูมีนเป็นเงือกไม่ก็นารีน้ำ.....
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่ 7 The Sea p.2 18/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-10-2015 17:18:54
อิอิ.  มาทั้งคุณพ่อคุณแม่เลยใช่ไหม. คุณแม่น่าจะเป็น เงือกแน่.
ส่วนน้องมีนไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร. แต่ขออย่าเป็นปลาหมึกปลาดาวอะไรงี้เลย

 :กอด1:  คนเขียนสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่ 7 The Sea p.2 18/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-10-2015 14:32:12
พึ่งมาอ่านจร้าาาาาาาา
คือชอบอ่ะ ชอบแนวนี้
นุ้งมีนเป็นเงือกแน่ๆเรยอ่ะ >\\\\\\<
รออ่านตอนต่อไป (เร ไปช่วยให้ไวค่ะ รออะไร)
หัวข้อ: Re: Nn2:Dark Wing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่ 7 The Sea p.2 18/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 25-10-2015 22:34:30
บทที่ 8 Begin
[/b]

   เป็นอีกครั้งที่ผมลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มที่ไม่ใช่ห้องตัวเอง และก็ไม่ใช่ในรีสอร์ทที่มารับน้อง แล้วที่ไหนวะ? มองเลยไปตรงระเบียงฝั่งปลายเตียง ประตูไม้สีขาวบานใหญ่เปิดกว้างเผยให้เห็นวิวทะเลด้านนอก ดูจากแสงแดดจ้าๆ เดาว่าคงเป็นเวลาเที่ยงวัน แบบแปลกใจทั้งที่ไม่มีแว่นกลับมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน ลูบหน้าลูบตาตั้งสตินึกถึงเรื่องเมื่อคืน หลังจากสะพานพังลงมาผมกำลังจะจมน้ำ แล้วตอนนั้นก็มีผู้หญิงว่ายมาหาผม ใครวะ!? หรือผมกลัวตายจนหลอนไปเอง เดาว่าคนที่ช่วยผมขึ้นมาคงเป็นไอ้เรแน่นอน เพราะผมมั่นใจว่าแค่คนจมน้ำคนไม่เหลือบากกว่าแรงเรเวนแบบมัน เอาเถอะเลิกเดาไปถามมันก็รู้เอง

   ผลัก! แค่ก้าวลงจากเตียงแข้งขามันอ่อนแรงจนลงไปนั่งแหมะกับพื้น ทำไมขากู...เฮ้ย!!! หายไปไหนวะ

   "เร!!!!!" ผมแหกปากลั่นบ้านเลยทีนี้ "เร!!!!! อยู่ไหน ไอ้เชี่ยเร"

   "อะไรๆ" แล้วมันก็วิ่งหน้าตื่นมาเลยครับ

   "ขากูละ ทำไมเป็นนี้" ผมชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่ร่างกายท่อนล่างของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นหางปลาไปแล้ว

   "ก็มึงเป็นเงือกนิ" ไอ้เรบอกผม มันดูไม่แปลกใจเลยซักนิด

   "กะ...กูนี่นะ เป็น เงือก เงือกที่แม่งครึ่งคนครึ่งปลาอะนะ" ผมได้แต่อึ้ง ทึ่ง เสียวเฮ้ย! อย่างหลังไม่ใช่ ลูบเบาๆ ที่เกล็ดสีมุกของตัวเอง สัมผัสได้ถึงน้ำหนักมือที่ไล้ไปตามเกล็ดนั่น เป็นหลักฐานให้รู้ว่ามันคือส่วนหนึ่งของผมจริงๆ "โอ๊ย!!!" ผมลองดึงเกล็ดสีมุกนั่นแรงๆ จนหลุดติดมือมาอันนึง เจ็บจนน้ำตาร่วงเลยแม่ง...อารมณ์เหมือนโดนดึงขนขาเลย

   "ซน!" ไอ้เรว่า ก่อนที่มันจะอุ้มผมมาไว้บนเตียงเหมือนเดิม มันลูบเบาๆ ตรงรอยเกล็ดที่ผมดึงเล่น จนเลือดซึม

   "มึงรู้เรื่องนี้อยู่แล้วหรอ" มันพยักหน้า "ขออธิบายชัดเจนกว่านี้ได้ไหม กูรู้มึงกลัวหลุดคอนเซปห้ามพูดเกินวันละสิบคำ แต่ขอร้องเถอะ กูอยากรู้จริงๆ อธิบายด่วน" ผมเขย่าๆ ตัวมันอย่างร้อนใจ จนมันต้องรวบแขนผมแล้วกอดไว้หลวมๆ

   "เรเวนย่อมรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าใครเป็นอมนุษย์เหมือนกัน แต่แค่ไม่แน่ใจว่ามึงเป็นเผ่าพันธุ์ไหน เพราะกลิ่นไอมึงก็ไม่ได้ชัดเจนเดาว่าอาจจะไม่ถึงวัยที่แสดงพลังออกมา ซึ่งอมนุษย์ ตัวมึงเองก็ดูจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร"
 
   "อืม กูก็เพิ่งรู้"

   "พวกกูเอะใจ วันที่เมิงทะเลาะเรื่องไปทะเลกับพ่อ ตอนมึงเดินหนีไป ไอ้เรนมันเลยเข้าไปถามตรงๆ เรื่องแม่ เลยรู้ว่ามึงไม่ใช่คนตั้งแต่เกิดแล้ว" มันเป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่ไอ้เรพูดกับผมมา สับสนกับชีวิตสุดๆ เลยครับตอนนี้ เป็นไอ้แว่นเกรียนๆ อยู่ดีๆ กลายเป็นเงือกสะงั้น ผมมองสภาพตัวเองในตอนนี้ ลองขยับส่วนต่างๆ ทั้งส่วนหางส่วนครีบด้วยความรู้สึกไม่คุ้นชินพอๆ กับเด็กหัดเดิน

   "มึงเป็นคนช่วยกูไว้หรอ" ผมถามทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากท่อนล่างของตัวเอง เกล็ดสีมุกที่สะท้อนแสงบวกกับครีบสีครามอ่อนๆ อืม...มันก็สวยดี

   "มายาเป็นคนช่วย" เรบอก

   "ใครวะ"

   "เป็นเงือกเหมือนกัน บอกบ่ายๆ เดี๋ยวแวะมาหาอีกรอบ สงสัยอะไรก็ถามเอาแล้วกัน"

   "แล้วคนอื่นๆ ละ ยังอยู่ที่รีสอทร์ทหรอ" มันพยักหน้ารับ "แล้วที่นี่ที่ไหน"

   "บ้านอากู" โอเค เข้าใจแล้ว เพราะอยู่ในสภาพนี้ไอ้เรคงไม่อยากให้คนอื่นเห็น ลองนึกดูนะ ถ้าเจ๊ดามันรู้มันคงกรี๊ดจนหูผมแตกแน่ "หิวไหม!?"

   "อืม" พอมันทักก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วสิ

   "จะรออยู่ในห้องหรือจะไปว่ายน้ำเล่นในสระ" มันถาม สระ บ้านนี้มีสระว่ายน้ำด้วยหรอ ก็ดีจะได้ลองอะไรหลายๆ อย่าง

   "จะไปรอที่สระ"  ก่อนลงไปผมขอให้มันพาไปอาบน้ำ ถามว่าอายไหม ถ้าเป็นปกติคงอายแหละครับ แต่ตอนนี้ท่อนล่างมันกลายเป็นหางปลาไปแล้วครับ ว่าแต่หำข้อยอยู่ตรงไหน เงือกมีอวัยวะเพศไหมวะ หรือเป็นเหมือนของปลาเลย ไม่นะ มีนน้อยที่ผมภาคภูมิใจหายไปแล้ว...น้ำตาจะไหล เข้าใจอารมณ์คนพิการเลยครับ เหมือนเป็นอัมพาตท่อนล่างจะไปไหนลำบากให้แต่ไอ้เรมันอุ้ม จนแอบสงสัยว่าภายใต้ใบหน้านิ่งๆ นั่นมันรำคาญผมบ้างไหมนะ รู้สึกว่าผมเป็นภาระบ้างหรือเปล่า ลำพังแค่มันชอบผมจะทำให้มันอดทนทำแบบนี้ได้ถึงเมื่อไหร่

   เรเอาผมมาปล่อยไว้ในสระนอกตัวบ้าน พร้อมลากเอาร่มชายหาดมากางริมสระไว้สองสามอันเพราะกลัวไอ้น้องมีนผู้นี้จะกลายเป็นปลาแดดเดียวเพราะแดดยามบ่าย ตามด้วยอุปกรณ์สร้างความบรรเทิง ทั้งไอแพดกับโทรศัพท์พร้อมด้วยแบตสำรอง และเหาอะไรให้รองท้องอย่างนมกับขนมอีกสองห่อ แล้วมันก็ออกไปข้างนอกเพื่อซื้อเสบียง ระหว่างรอผมก็ดำผุดดำว่ายอยู่ในสระจนเริ่มคล่อง ปกติชอบเล่นน้ำอยู่แล้วแบบก็สนุกดีครับถ้าเป็นทะเลกว้างๆ คงสนุกกว่านี้ ความรู้สึกตอนอยู่ในน้ำคงอารมณ์แบบนกที่บินอยู่บนฟ้าแหละครับร่างกายมันเบาแปลกๆ

   "ไง หนุ่มน้อย" เสียงหวานทักขึ้นตรงริมสระ เรกลับมาแล้วพร้อมผู้หญิงอีกคนที่บอกได้เลยว่าสวยมาก สวยยิ่งกว่าพี่ลูกแก้วเสียอีก ผมมองใบหน้าขาวเนียนที่ตัดกันดีกับนัยน์และเรือนผมดำขลับนั่น อ๊ะ ผมจำได้แล้ว...เงือกที่ช่วยผมเมื่อวาน "พี่ชื่อ มายานะจ้ะ"

   "ดีครับ" ผมว่ายไปเกาะขอบสระพร้อมยิ้มรับ "พี่มีขาด้วยหรอ" ผมชีโบ้ชี้เบ้ไปทางสาวงามในชุดเดรสสีขาวสะอาดตา รู้สึกตื่นเต้นที่เห็นเรียวขาสวยแทนที่จะเห็นเป็นหางปลาอย่างเมื่อคืน เธอมองตอบผมพร้อมหัวเราะในท่าทางของผม

   "ก็ต้องได้อยู่แล้ว เงือกนะมีสองร่าง ไม่รู้หรอจ้ะ" ได้ฟังคำตอบแล้วรู้สึกมีหวัง ผมไม่ต้องอยู่ในสภาพนี้ตลอดไปสินะ

   "ไม่เลยครับ ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นเงือกด้วยซ้ำ" ผมตอบหน้าตื่น ใบหน้าสวยแย้มยิ้มก่อนเชยคางผมขึ้นสบตา

   "ถูกเลี้ยงแบบมนุษย์สินะ ไม่ต้องคิดมากไม่นานก็ชินเองแหละจ้ะ หางเธอสวยมากเลยรู้ไหม พี่ไม่เห็นเกล็ดสีนี้นานแล้วนะ" ผมทำหน้างงใส่เธอจึงอธิบายต่อ "ชาวเงือกส่วนใหญ่ไม่ค่อยอาศัยอยู่บนบกหรอกจ้ะ เพราะมันอันตราย"

   "อันตรายแบบไหนครับ"

   "ก็ความเชื่อว่า หากได้ดื่มกินเลือดเนื้อของเงือกจะทำให้เป็นอมตะไงละ พวกเราเลยถูกเผ่าพันธุ์อื่นล่า จนต้องหนีไปอยู่ในเมืองของตัวเองใต้น้ำ" ได้ฟังแบบนั้นแล้วรู้สึกกังวลขึ้นมาเลยครับ เพราะแบบนี้สินะพ่อถึงไม่อยากให้ผมมาทะเล

   "แล้วทำไมพี่ถึงอยู่บนบกละครับ"

   "พี่อยู่กับสามีจ้ะ" เธอบอกด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข "แล้วเดี๋ยวนี้สภากลางมีกฎคุ้มครองพวกเราแล้วด้วย จึงปลอดภัยกว่าแต่ก่อนเยอะ" เธออธิบาย "เห็นเราไม่เป็นอะไรแบบนี้ก็ดีแล้วแหละ"

   "แล้วพี่มาช่วยผมได้ยังไงครับ"

   "อืม...ชาวเงือกสามารถรับรู้ถึงพวกตัวเองได้จ้ะ ถ้าอยู่ในระยะใกล้ๆ บ้านพี่อยู่แถวนั้นรับรู้ถึงการมาของเราพี่เลยตามมาดู พอดีกับที่สะพานพังลงมาเลยไปช่วยไว้ ดูท่าทางเราแล้วคงไม่เคยเปลี่ยนร่างมาก่อนลำบากหน่อยนะ" ลำบากมากกกกกกกก...ในน้ำก็คล่องตัวดีแต่บนบกนี่สิ ง่อยชัดๆ

   "พี่สอนผมเปลี่ยนร่างได้ไหมครับ"

   "พี่ก็ไม่แน่ใจว่าของแบบนี้มันสอนกันได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นสันชาติญาณ" พี่มายาตอบพลางหัวเราะร่า "แต่จะพยายามนะ อ่า ชักหิวแล้วสิ เรซื้อกับข้าวมาเต็มเลย ยังไม่กินอะไรเลยไม่ใช่หรอ กินข้าวก่อนเนอะ ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน"

   ไอ้เรลากเสื่อมาปูริมสระก่อนที่จะลงมือทานข้าวเที่ยงในยามบ่ายกันตรงนั้น พี่มายาบอกว่าความสามารถของเงือกคือเสียง ว่ากันว่าเสียงของพวกเราสามารถสะกดคนได้ คงเคยได้ยินใช่ไหมเรื่องเล่าที่ว่าชาวประมงมักได้ยินเสียงเพลงในทะเลหากคนไหนหลงตามเสียงนั้นไปอาจถูกพวกเงือกจับไปอะไรประมาณนั้น  แล้วก็เล่าเรื่องอาณาจักรชาวน้ำให้ผมฟัง จริงก็มีมานานแล้วแถมยังมีหลายๆ ที่ทั่วโลกจะเห็นได้จากตำนานเก่าแก่ในแต่ละส่วนของโลก อย่างแอตแลนติส หรือเมืองบาดาลของไทย พี่สาวคนงามเล่าว่าที่นั่นเราก็ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปนี่แหละไม่ได้ว่ายๆไปว่ายมาอะไร เพียงแต่ พลังงานที่ใช้ล้วนเป็นวิทยาการเวทมนต์ไม่มีพวกเทคโนโลยีแบบบนบก ส่วนสภาพบ้านเมืองที่นั่นล้วนก็จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุคกลางของแต่ละพื้นที่ปนๆ กันไป ฟังไปชักอยากไปเห็นแล้วสิ บางทีที่พ่อบอกว่าทะเลเอาแม่ไป แม่ผมอาจจะมีชีวิตและอาศัยอยู่ซักที่บนโลกนี้

   "เฮ้ย!!!! พี่ทำอะไร" ผมร้องลั่นเมื่อเมื่อพี่มายาแก้ผ้าโดดลงสระมากับผมหลังจากนั่งย่อยกันซักพัก

   "จะสอนน้องมีนกลายร่างไงจ๊ะ" ครับตามนั้นเลยครับ และแล้วบทเรียนการเป็นเงือกของผมก็เริ่มขึ้น คุณครูจำเป็นบอกว่าเวลากลายร่างในยามปกติเราก็แค่ตั้งสมาธิว่าเราอยากมีขา อยากเป็นคน ฟังดูง่าย แต่เพ่งจนจะเข้าฌานแล้วครับมันก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนต้องงัดมาทุกกระบวนท่า ตั้งแต่ไอ้มดแดงแปลงร่าง ยันเซเลอมูน ส่วนไอ้เชี่ยเร! นอกจากจะไม่ช่วยห่าอะไรยังนอนขำกลิ้งอยู่ริมสระ จนเย็นพี่สาวคนสวยจำต้องขอตัวกลับบ้านเลยไล่ไอ้ท่อนไม้ไร้ประโยชน์ไปส่ง

   เฮ้อ!!! ผมถอนหายใจหนักหน่วง ถึงจะเริ่มชินกับสิ่งที่เป็นแต่ต้องอยู่ในสภาพนี้คงไม่ดี ผมจะไปมหาลัยยังไง ป๋าเห็นแล้วจะรู้สึกแบบไหน พวกเจ๊ดา ไอ้ก้อง ไอ้ภูผา และไอ้เตี้ยกรมันจะรับได้ไหม หากเป็นแบบนี้ไปตลอดผมคงใช้ชีวิตกับคนทั่วไปไม่ได้  ถึงไอ้เรมันจะดูแลผมดีแต่นานๆ ไปมันอาจจะเบื่อ มองผมเป็นภาระและทิ้งไปผมไป ปล่อยตัวลอยหงายบนผิวน้ำพลางเหม่อมองท้องฟ้าที่เริ่มมืด สุดท้ายผมคงต้องอยู่คนเดียวในทะเลจนเหงาตายแน่ๆ

   "เป็นอะไร" เสียงทุ้มดังขึ้นบอกให้รู้ว่าเรกลับมาแล้ว

   "กูกลัว...ที่จะเป็นเงือกแบบนี้ไปตลอด" ผมบอกพลางเอื้อมมือไขว่คว้าฟ้าตรงหน้าอย่างไรจุดหมาย "กูคงอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้" ผมรับรู้ถึงเสียงที่สั่นของตัวเอง

   "ก็อยู่กับกูไง" มันแย้ง

   "ไม่!!!! เดี๋ยวมึงก็เบื่อกู เดี๋ยวมึงก็รำคาญ มึงทนไหวหรอต้องคอยแบกกูไปนั่นไปนี่หาข้าวหาน้ำให้กูกิน เอากูไปเป็นภาระ ซักวันมึงคงทิ้งกู"  เงียบ...แบบที่ไอ้เรชอบทำ แค่คิดว่าโดนมันทิ้งขอบตาก็ร้อนผ่าวก่อนน้ำตาจะไหลอย่างห้ามไม่อยู่ ทำไมผมต้องคิดเรื่องมันขนาดนี้ด้วยวะ

   "มีน มานี่สิ" มันเรียกหลังจากเงียบไปนาน ผมมองมือที่ยื่นมาก่อนจะยอมว่ายไปหา ทันทีที่สัมผัสมือกันไอ้เรมันดึงผมขึ้นจากสระไปนั่งเกยบนตักมันพร้อมกอดเอวไว้หลวมๆ โดยไม่สนเลยว่าผมจะทำเสื้อผ้ามันเปียกหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเพราะแช่น้ำนานไปหรือเปล่าถึงได้รู้สึกว่าตัวมันอุ่นมากจนเผลอซุกอกกว้างๆ นั้นอย่างลืมตัว

   "อะไร" ผมก้มหน้าหลบตามัน

   "กลัวกูทิ้ง?"

   "ใช่ กูกลัว กูไม่อยากถูกทิ้งไว้คนเดียว" ผมตอบเสียงแผ่ว แต่มันกลับกอดผมแน่นขึ้น

   "น่ารักแบบนี้ใครจะไปทิ้ง" ฮะ...น่ารัก ใคร? ผมหรอ เขินหน้าแดงเลยเนี่ย "แค่คืนร่างเป็นคนใช่ไหม"

   "ช...ใช่" ผมเงยหน้ามองมันแบบมีความหวัง "มึงรู้หรอว่าทำยังไง มึงช่วยกูได้ใช่ไหม"

   "ต้องลอง" ลองอะไร!?...อื้อ ริมฝีปากร้อนประทับแน่นบนปากผม บดจูบเชื่องช้าและอ่อนโยน ไม่ว่ากี่ทีผมก็แพ้รสจูบมันตลอด พูดไม่เก่งแต่จูบเก่งเว่อ มือกร้านลูบยาวลงตามแนวสันหลังทำเอาสะท้านเฮือก อย่าบอกนะว่านี่เป็นวิธีของมันแบบว่าเอิ่ม...มันใช่หรอวะ

   "เร...มึง...อ๊ะ มั่ว อื้อ เปล่า วะ" ร่างของผมบิดเร่าอย่างคุมไม่อยู่ เมื่อไอ้เรเล่นจู่โจมผมไม่หยุด จมูกคมซุกไซร้ซอกคอในขนาดที่มือทั้งสองบีบขย้ำสะโพกผมอย่างหมั่นเขี้ยว

   "อ๊า เชี่ยเร ไม่เอา ตรงนั้นมัน อ๊ะ" ผมครางลั่นเมื่อนิ้วเรียวไล้ไปตามแนวครีบหลังก่อนจะสอดเข้าไปในช่องทางที่ถูกบดบังไว้ มันหาเจอได้ไงวะ!? ความรู้สึกวาบหวามถาโถมจนสั่นสะท้าน ราวกลับมีกระแสไฟฟ้าเล่นกระจายไปทั่วร่างในทุกครั้งที่มันขยับสิ่งที่แทรกเข้ามา เรวกกลับมามอบจูบอันดูดดื่มให้อีกครั้ง ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวกระหวัดจนผมแทบหายใจไม่ทัน ในขนาดที่มือหนึ่งยังคงปรนเปรอเบื้องล่างสวนอีกมือก็ฟอนแฟ้นแผ่นอกแบนๆ พาสติล่องลอยจนลืมขัดขืน

   "ตรงนี้หรือบนเตียง" เสียงทุ้มกระซิบถาม ยังจะมีหน้ามาถาม เร้ากันขนาดนี้ตรงไหนก็ทำๆ ไปเถอะ...ผมก้มหน้าหลบสายตาร้อนแรงนั่น รับรู้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันบั้นท้ายบ่งบอกว่าอารมณ์มันก็มาไกลพอกัน

   "ตรงไหนก็ได้" มันจูบหน้าผากผมหนักๆ ก่อนจะช้อนอุ้มขึ้นตรงดิ่งไปที่ห้องนอนแล้ววางร่างลงบนฟูกนุ่ม ร่างหนาตามมาทาบทับอย่างเร่งร้อนแล้วทุกอย่างก็เริ่มอีกครั้ง รสจูบร้อนแรงหลอกล่อให้ผมตอบสนองจนเผลอเอามือคล้องคอมันอย่างลืมตัว ริมฝีปากร้อนลากต่ำลงพร้อมทิ้งรอยไว้ทั่ว

   "เร อา!!!!!" ผมถึงกับแอ่นร่างรับสัมผัสเมื่อลิ้นร้อนลากผ่านสะดือ ก่อนจะต่ำลงผ่านท้องน้อยแล้วขบกัดเบาๆ ที่ต้นขาด้านใน ขา!?...ผมคืนร่างเป็นคนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้เพราะตอนนี้ ในสมองยุ่งเหยิงเกินกว่าจะเรียบเรียงสถานการณ์เมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองส่วนกลางพร้อมมือสากๆ ที่กอบกุมมันไว้แล้วขยับรูด

   "เสียว...ฮึก เร" มันคนละเรื่องกับตอนช่วยตัวเองเลยแม่ง...ผมสบตาสีน้ำเงินเป็นประกายนั่นอย่างเว้าวอน เหมือนถูกกดไว้แล้วกำลังกระเสือกกระสนสู่ผิวน้ำ "อย่า!...มัน..." นิ้วยาวแทรกเข้ามาในร่างช้าๆ เพราะชุ่มโชกของเจลจึงทำให้ไม่เจ็บปวดมากนัก อะไรๆ มันไวไปหมดจนไม่รู้ว่ามันไปหยิบเจลหล่อลื่นมาจากไหน การปรนเปรอจากด้านหน้าและหลังเล่นซะผมแทบคลั่ง ยิ่งไอ้เรเพิ่มจำนวนนิ้วเข้ามาเท่าไรยิ่งอึดอัดจนร่างแทบระเบิด...บ้าไปแล้ว นี่ผมกำลังจะโดนผู้ชายเอา แต่แม่งโคตรรู้สึกดี แล้วไอ้เรก็หยุดจนเผลอมองค้อนมันแบบขัดใจ?

   "อย่ายั่วสิ" มันบอก ใครเขายั่วเมิงงงง คิดไปเอง!!! ดวงตาสีน้ำเงินที่มองมา มันทั้งต้องการ และร้อนแรงจนแทบเผาผมให้ตายลงตรงนี้ ร่างสูงลุกขั้นยืนตรงปลายเตียงก่อนปลดเปลื้องพันธนาการทุกอย่าง เผยให้เห็นร่างกายกำยำที่ดูเซ็กซี่สุดๆ เมื่อบวกกับผิวสีแทนของมัน พาดผ่านด้วยรอยสักงดงามจนไม่อาจละสายตาได้ โดยเฉพาะตรงนั้นที่เริ่มตื่นตัวชวนให้ลมหายใจติดขัดขึ้นทันที เรจับขาผมแยกกว้างข้างหนึ่งเอาพาดบ่า ส่วนอีกข้างชันขึ้นกับพื้นเตียง ท่อนเนื้อร้อนรุ่มถูกจ่อตรงปากทาง ถูกไถเบาๆ เรียกเสียงครางกระเส่าจนผมนึกอายตัวเอง

   "อา จะเจ็บ บ...เบา" ผมผวาเอามือยันแผ่นอกกว้างอย่างตระหนก เมื่อความใหญ่โตนั่นชำแรกเข้ามาเบื้องล่างได้แค่ส่วนหัว เรหยุดพักให้ผมได้ปรับตัวพลางจูบปลอบไปพลาง ผมสูดหายใจลึกๆ ไขว่คว้าไหล่แกร่งเป็นหลักยึด อารมณ์ผมมาไกลเกินจะหยุดแล้ว ผมพยักหน้าเบาๆ บอกให้รู้ว่าพร้อมแล้ว...มั้ง!!!!

   "อ๊า... เร ฮึก" ผมร้องเมื่อแก่นกายร้อนๆ นั่นกดเข้ามาทีเดียวจนสุด น้ำตาไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ เผลอจิกข่วนร่างหนานั่นอย่างทรมาน มันเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ให้ความแข็งขืนเสียดสีด้านในจนเสียวซ่านระคนเจ็บ "ระ เร...กู อ๊า ถาม อ๊า ไรหน่อย ซี๊ด"

   "ถามว่า"

   "มึง ฮึก ชอบกูจริงๆ ระ...หรอ" คิ้วหน้าขมวดมุ่นอย่างขัดใจ ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เวลามาถามแต่อยากรู้ไง เอวหนากระแทกเข้ามาหนักๆ จนผมทั้งครางทั้งสะอื้น "โอ๊ย เร เบา ฮึก ซี๊ด ตอบกู อ๊ะ"

   "สำหรับมึง มันเลยคำว่าชอบไปไกลแล้ว" มันตอบพลางช้อนตัวผมลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตักมัน มือกร้านประครองสะโพกมนพลางกระแทกสวนรัวๆ แรงกดบวกกับน้ำหนักตัวทำให้อะไรๆ มันเข้าลึกโดนจุดกระสันจนแหงนหน้าครางลั่นด้วยความเสียวซ่าน  ห้วงอารมณ์ผมถูกฉุดไปไกลจนสติกระเจิดกระเจิงเกินย้อนกลับ เสียงทุ้มครางต่ำสลับกับรสจูบร้อนแรงทำเอาภาพตรงหน้าพร่าเบลอ ทำไมผมถึงเผลอตัวเผลอใจไปกับมันขนาดนี้นะ เพราะมันหล่อ เพราะมันดูแลเอาใจใส่ เพราะมันตามใจ หรือว่าผมเผลอชอบมันไปแล้ว

   "ไม่ไหว อ๊า เร อ๊า กู..." ผมครางไม่เป็นภาษาคลอไปกับเสียงหอบหายใจหนักหน่วงของร่างสูงความรู้สึกต่างๆ ถาโถมจนบอกไม่ถูกว่าสุขสมหรือทรมานแต่ช่างยาวนานจนปลดปล่อยออกมาในที่สุด
   "อา มีน" ไอ้เรกัดฟันกรอดก่อนจะเร่งจังหวะตามผมมาติดๆ ความรู้สึกอุ่นวาบเต็มตื้นตรงส่วนนั้น
   "เร..." เรวางผมลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาพร้อมถอนแก่นกายออกจนอะไรๆ มันไหลย้อนออกมาเลอะขาไปหมด ผมนอนหายใจหอบมองมันอย่างเหนื่อยอ่อนแข้งขามันหมดแรงไปหมดแถมตรงนั้นยังรู้สึกขัดๆ จนไม่อยากขยับให้เจ็บร้าวไปมากกว่านี้

   "ครั้งแรกหรอ" เชี่ย!!...ดูมันถาม

   "ครั้งแรกแล้วหนักหัวมึงหรอ" ผมคว้าหมอนฟาดมันเลย แม่งถามมาได้ ยัง...ยังจะมายิ้ม เกิดมาเคยผ่านแค่น้องนางทั้งห้ามันผิดมากหรือไง งอนสัด ได้กูแล้วก็มากวนตีน "ไม่ต้องมาแตะกูเลย งื้อ" แล้วมันฟัดแก้มผมจนหนำใจ ก่อนจะรู้หน้าที่ไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้แล้วล้มนอนลงข้างๆ ก่อนดึงผมเข้าไปกอด

   "ก็แค่ดีใจ" เสียงทุ้มกระซบบอกทำเอาร้อนผ่าวไปทั้งหน้า

   "มึงลืมอะไรหรือเปล่า" ไอ้เร!? มองผมแบบงงๆ "ใจคอมึงจะไม่ขอกูเป็นแฟนเลยหรือไง" มันหัวเราะเบาๆ พร้อมกอดผมแน่นขึ้น"ตอบเลย ถามเหี้ยอะไรก็เอาแต่ยิ้ม ก็เอาแต่หัวเราะเมากัญชาหรอ"

   "ก็เป็นเมียแล้วนี่ไง" โอเค...เข้าใจ พอ...ไม่ต้องจ้องกูแล้วเขิน  นอนครับนอน...ก่อนมันจะไม่ยอมให้ผมนอน

Talk Talk

-คิดภึงฉันไหมเวลาที่เธอไม่เจอะเจอกันกับฉัน :o8: มาอัพแล้วนะจ้ะ ช้ามากกขออภัย

-แบบไม่รู้จะบรรยาความรู้สึกการเปนเงือกยังไง ไม่ราบรื่นประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ :mew2:

-น้องมีนเสียซิงแล้วเย้ๆ :laugh:

-แอบเขียน น้องข้าสกับพี่หมอเล่นๆ อยุอะ แต่มันละนิ๊๊ดดดดด จนไม่รุจะเสร็จเมื่อไหร่ o18

   
   

   
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-10-2015 22:56:20
กรี้ดด มีนน้อยกลับมาแล้วแต่ซิงหายไปแทน
น้องมีนน่ารักจังเลยพ่อลูกปลาน้อย. เอ๊ยเงือกน้อยสิ
เรรู้ล่ะสิว่าต้องกดปุ่มตรงไหนขาจะงอก.  อิอิอิ

สงสัยว่าท่านแม่จะไม่อยู่แล้วจริงๆเหรอ. สงสารจัง
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ. ชักสงสัยแล้วว่าหางของน้องสวยขนาดไหน
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 25-10-2015 23:19:55
เหงือกน้อยโดนกินซะแล้วกลับร่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว เรร้ายกาจมาก มีนน่ารักที่สุดๆๆ
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 25-10-2015 23:49:41
น้องมีนร้อนแรงกันตั้งแต่ครั้งแรกเลยหรอ
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 26-10-2015 10:46:09
กรี๊ด เสียซิงเฉยเรยอ่ะมิน~~~~!!!
แต่ไม่เปนไร ได้ขาคืนมา แถมยังร้อนแรงขนาดเน้นี่เน้อ ^.,^
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 30-10-2015 18:21:26
เงือกน้อยโดนเรเวนกินไปเรียบร้อยแล้ว 555 เสียซิงไปแล้วมีนจ๋า ต้องคอยดูว่าต่อไปมีนจะได้ออกโรงช่วยงานเรรึป่าวแล้วจะมีใครตามล่ามีนไหม ต้องเอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 03-11-2015 21:50:47
 :haun4:
หัวข้อ: Re: Nn2:DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ(เร-มีน)บทที่8 Begin(NC) p.2 25/10/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 17-11-2015 18:39:40
บทที่ 9 When I fall...
[/b]


Amun-Ra Say

   ผมชื่อเร มีน้องชายฝาแฝดหน้าเหมือนแต่สันดานไม่เหมือนชื่อ เรน  เร มาจากคำว่า อมันรา หรือถ้าคุณจะอ่านแบบอียิป อ่านอมุนเรก็ได้ และมีเมียสดๆ ร้อนๆ ชื่อมีน หลายคนอาจสงสัยว่าผมไปคว้าเอาไอ้แว่นเกรียนนี้มาครอบครองได้อย่างไรในเมื่อผมเองก็ไม่ได้นิยมชมชอบเพศเดียวกันมาแต่เริ่ม มันเริ่มจากไอ้เรนน้องรักมันเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้นั่นเอง ในวันที่พวกผมกำลังไล่ล่าพวกบีสตามใบสั่งของสภาดันมีไอ้เด็กแว่นมาเห็นเข้า ตอนแรกไม่ตกใจหรอกเพราะกลิ่นไอของไอ้แว่นนั่นบอกให้รู้ว่ามันก็ไม่ใช่คน แต่ดันมายืนช๊อคตาค้างกับสิ่งที่เห็นราวกับไม่รู้ว่าตัวเองก็เป็นอมนุษย์ไม่ต่างกัน เราสองพี่น้องเลยเดาว่ามันคงคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา ไอ้น้องชายสุดรักเลยจัดการข่มขู่พอเป็นพิธี ผู้เห็นเหตุการณ์พยักหน้ารับคำด้วยความกลัว ยิ่งหันมามองผมทำหน้าอย่างกับเห็นซาตาน ออกจะหล่อขนาดนี้จะกลัวไปทำไม

   (เด็กนั่นน่ารักเนอะพี่)เสียงไอ้น้องชายดังในหัว อ้อ ที่เห็นผมเงียบๆ ส่วนหนึ่งเพราะผมกับไอ้เรนชอบโทรจิตคุยกันเพราะเราเป็นแฝดและเชื่อมถึงกัน ส่วนกับคนอื่นผมมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องคุยด้วย

   (ไม่รู้ ไม่ได้สังเกตุ)

   (อยู่มหาลัยเดียวกันด้วย ไม่พลาดแน่)

   ( เอาที่สบายใจเลยน้อง กูยังไม่อยากเป็นยอดชาย) ถามว่าไอ้เด็กนั่นหน้าตาดีไหม ไม่รู้สิใส่แว่นบังไปครึ่งหน้าซะขนาดนั้น ยิ่งไม่ใช่สาวนมโตผมคงไม่คิดจะแลตามอง

   (ได้เจออีกก็คงดี รู้สึกถูกชะตาอยากบอกไม่ถูก มันต้องเป็นพรมลิขิตแน่ๆ) แล้วน้องผมมันก็ทำหน้าเพ้อ ไม่ช้าไม่นานความปรารถนาของไอ้น้องเวรก็เป็นจริงเมื่อไอ้เด็กที่ว่านั่นดันเรียนคณะเดียวกันเอกเดียวกันกับผม แล้วมีหรอไอ้คู่แฝดผมจะไม่รู้ มันนี่รีบสั่งให้ผมตามติดชีวิตไอ้เด็กแว่นนั่นในทันที

   เราทั้งคู่มาสายเลยโดนรุ่นพี่บ่นยาว จากการแนะนำตัวเลยรู้ว่ามันชื่อมีน ชื่อแต๋วแตกชะมัด แถมไอ้เด็กนั่นยังผูกเน็คไทไม่เป็นจนต้องวานให้ผมช่วย มองมือสั่นๆ ที่ยื่นเนคไทให้ผมแล้วตลกชะมัด มันจะกลัวอะไรมากมาย ได้มองดูมันใกล้ๆ แม่งโครตขาวเลยวะ ขาวมากจนดูแทบจะเรืองแสง นี่คงเป็นลักษณะของเผ่าพันธุ์มันก็ได้ เราโดนลงโทษด้วยกันกว่าจะวิ่งรอบสนามเสร็จก็เที่ยง ครั้นจะสปีดรวดเดียวให้จบเดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันพอดีว่าผมไม่ใช่คน แต่ไอ้คนข้างๆ ที่นั่งหอบฮักๆ เป็นจะตายนี่สิเคยได้ยินว่าอมนุษย์บางเผ่าพันธุ์จะไม่มีพลังจนกว่าจะโตเต็มที่ผมว่ามีนคงเป็นแบบนั้น

   มีนเป็นคนมีสีสันในการใช้ชีวิตด้วยนิสัยที่เป็นคนเฮฮาและออกจะบ้าๆ ในบางครั้ง ทำให้ใครๆ ก็เข้าหามัน เพราะมันมักจะมีน้ำใจต่อคนรอบข้างเสมอดังเช่นวันแรกที่เจอทั้งที่กลัวผมจะเป็นจะตายมันก็ยังอุส่าฝากเพื่อนซื้อของกินมาให้ผมเพราะกลัวหิว  หรือแม้แต่เวลาที่โดนรุ่นพี่ใช้ไปทำอะไรหากไม่เหลือบากกว่าแรงมันก็ทำ ไม่แปลกใจเลยที่น้องผมรู้สึกถูกชะตากับมันมาก ขนาดผมเองที่คิดตอนแรกว่าการตามติดชีวิตมันคงหน้าเบื่อแต่ท้ายที่สุดกลับไม่เป็นอย่างนั้น การอยู่ข้างๆ มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน รู้ตัวอีกสายตาผมดันมาหยุดที่ไอ้แว่นเกรียนคนนี้เสียแล้ว

   ในวันที่มันถูกแฟนใหม่พะแพงกระทืบ ยอมรับเลยว่าผมฉุนจัด คนที่มักจะยิ้มแย้มกลับต้องทำหน้าเศร้า มันทำให้ทั้งโลกหมองลง หากไอ้มีนไม่ห้ามผมในวันนั้น พวกสวะนั่นคงถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ความรู้สึกผมมันชัดเจน ถึงแม้ว่าผมไม่นิยมผู้ชายแต่ผมชอบมันไปแล้ว นั่นแหละปัญหา ในเมื่อไอ้น้องรักก็ดูจะสนใจมีนเหมือนกันถึงขนาดยอมบอกเรื่องเผ่าพันธุ์ของเรายิ่งตอกย้ำว่าผมไม่ควรไปแทรกกลาง เมื่ออยู่ในสถานการที่ต้องเลือก แน่นอนผมต้องเลือกน้องชายผม พยายามแล้วที่จะไม่ใส่ใจ แต่ในวันที่มันเกือบโดนอมนุษย์เล่นงาน...ผมทำไม่ได้ ทั้งห่วง ทั้งโกรธ จนแทบคลั่ง ต้องหลีกหนีไปทำใจอยู่เกือบอาทิตย์เพื่อให้ไอ้เรนได้สมหวัง แต่ยิ่งห่างผมยิ่งคิดถึงมัน คิดถึงรอยยิ้มมัน เสียงของมัน หรือมือนิ่มๆ ที่มักจะจูงผมไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน สุดท้ายก็ทนความรู้สึกตัวเองไม่ไหวพาเท้าทั้งสองมายืนอยู่หน้าห้องในที่สุด เสียงร้องโวยวายของไอ้แว่นเกรียนทำเอาผมแทบจะพังประตูห้องเข้าไปถ้าไอ้เรนไม่ทักขึ้นก่อน

   (ไงพี่ กลับมาไวกว่าที่คิดนะ) เสียงร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ท่าทางไอ้แว่นมันจะขัดขืนสุดชีวิต

   (มึงทำอะไร)

   (จะปล้ำไอ้มีน ถ้าไม่มีอะไรไปที่อื่นก่อนก็ได้นะพี่) มันออกปากไล่ซะงั้น ควรจะทำตามที่มันบอกแต่ผมกลับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น...ไม่ได้!!!!

   (ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะเว้ย)

   (ไม่ถูกยังไง พี่มีเหตุผลดีพอที่จะให้ผมหยุดหรอ) เหตุผล?...มีสิ แต่ถ้าพูดไปน้องชายผมจะเสียใจไหม (ว่าไงไอ้พี่เร เอาแบบจริงๆ จากใจ ถ้ามันดีพอผมหยุดแน่) เสียงไอ้เรนยังถามซ้ำในความคิด จริงๆ จากใจนะหรอ...

   ปัง!!!! ผมผลักประตูเข้าไปอย่างแรง ไอ้แว่นเกรียนเหวอแดกไปแล้วครับ ส่วนไอ้น้องรัก แค่เห็นรอยยิ้มกวนๆ ก็รู้แล้วว่ามันแกล้งผม

   (มึงรู้!!?)

   (แหม อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ในท้องจะไม่รู้ได้ไงว่ามึงชอบใคร ไอ้พี่เร)  ไอ้มีนจ้องพวกผมพร้อมทำหน้างง เพราะไม่ได้ยินที่เราคุยกัน

   (แล้วมึงไม่ชอบมันหรอ)

   (ชอบ...แบบเพื่อน พี่ก็น่าจะรู้นิ ว่าผมรักใคร) ครับผมรู้ว่าเรนมันรักคนที่เป็นไปไม่ได้ ไอ้ที่มันทะเล้น เจ้าชู้ จีบคนนั้นคนนี้ไปวันๆ ส่วนหนึ่งเพื่อไม่ให้มันคิดถึงใครคนนั้นมากเกินไป สาเหตุที่ผมยอมถอยเรื่องมีนเพราะคิดว่าไอ้แว่นนี่คงทำให้น้องผมเปิดใจได้แต่กลับเป็นผมที่เผลอใจให้มันซะเอง

   ไอ้น้องเวรมันเฉลยทุกอย่าง ว่าที่มันทำมาเป็นแผนจับคู่ให้ผมกับมีน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้มันเจอดีแน่ แต่ตอนนี้อาจต้องขอบคุณแทนแล้วละเพราะมันช่วยให้ผมได้ไอ้แว่นเกรียนมานอนกอดดังเช่นในวันนี้

   ได้มองหน้ามันใกล้ๆ โดยปราศจากแว่นบดบัง บอกได้คำเดียวว่าแม่งโคตรน่ารัก แพขนตางอนยาว จมูกรั้นๆ และริมฝีปากแดงเรื่อ ดูตัดกันดีกับผิวเนียนขาวราวกับหยกที่ไร้ตำหนิจนอดไม่ได้ที่จะลูบไล้ร่างที่หลับใหลอยู่อย่างเพลินมือ เคยได้ยินมาว่าเงือกเป็นเผ่าพันธุ์ที่งดงามที่สุดเท่าที่โลกเคยมี เรื่องนี้ผมไม่เถียง ไม่ว่าจะในร่างมนุษย์หรือร่างของเงือกมีนสามารถดึงความสนใจจากผมได้เสมอ แต่นี่แหละคือสิ่งที่น่ากังวล เพราะพลังที่แสดงออกมาเต็มที่เมื่อได้สัมผัสกับทะเล ทำให้กลิ่นไอของมีนชัดเจนขึ้นจนผมนึกกลัวว่ามีนอาจถูกล่าเพราะไอ้ความเชื่อที่ว่าเนื้อของชาวเงือกทำให้เป็นอมตะ ถึงแม้สภากลางจะมีคำสั่งคุ้มครองชาวเงือกอย่างเข้มงวด แต่เผ่าพันธุ์นี้หากไม่ได้อยู่ในที่ของตนอย่างทะเลก็จะอ่อนแอไม่ต่างจากมนุษย์

   -Bitch better have my money!  Y'all should know me well enough.Bitch better have my money! – เสียงไอโฟนดังขึ้นตรงหัวเตียง

   “ไง” สิ่งเสียงซักนิดให้รู้ว่ามีคนรับเพราะเจ้าของโทรศัพท์ยังหลับไม่ตื่น

   “เร หรอ” เสียงแหลมแสบหู เจ๊ดาแม่ยายผมเองครับ “ไอ้มีนเป็นไงมั่ง”

   “ดีขึ้นแล้ว หลับอยู่” ผมสรุปสั้นๆ

   “ก็ดี ตอนแรกที่พวกพี่เข้าเล่าให้ฟังว่าสะพานพังแล้วมันตกไปในน้ำ ฉันนี่แทบช๊อคแต่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เดี๋ยวพวกฉันจะกลับวันนี้แหละ แกไม่ต้องรีบก็ได้ให้มันพักซักหน่อย ฝากดูมันด้วย แล้วก็ถ้าจะทำไม่ดีไม่ร้ายมันก็เพลาๆ หน่อยนะจ้ะ อิอิ” ร่ายเสร็จดาก็วางหูไป ผมหลุดยิ้มกับคำแซวของเธอ เพลาๆ หรอ ไม่ทันแล้วหละ เผลอเล่นแรงซะจนไอ้มีนนอนสิ้นฤทธิ์อยู่แบบนี้

   เมื่อวานไอ้มีนมันเครียดจัดเรื่องที่มันคืนร่างไม่ได้ ส่วนผมไม่ว่าร่างไหนมันก็น่ามองทั้งแหละ ตอนที่ผมไปส่งมายาที่บ้าน เธอดันนึกขึ้นได้ว่ามีอีกวิธีที่จะช่วยให้คืนร่างได้นั่นคือเซ็กซ์ วิธีการนี้เข้าท่าและน่าลอง หึหึ...เพราะอารมณ์ มีผลต่อการเปลี่ยนร่างของอมนุษย์ทุกประเภท ผมเป็นเรเวนผมยืนยันได้  อีกอย่างที่ผมยังไม่รีบรวบหัวรวบหางมันเพราะอยากให้เวลาเรียนรู้กัน แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเดินมาถึงขนาดนี้มีหรือผมจะไม่จัด...เอ้ย!!! ช่วยมันจริงไหม

   “อือ...ใครโทรมา” ไอ้มีนงัวเงียถามแบบคนไม่ตื่นดี ปรับสายตาซักพักแต่พอสบตามันก็รีบซุกลงกับอกผมด้วยความเขินอายกับสภาพของเราในตอนนี้

   “เจ๊ดา” ผมตอบพลางกอดมันแน่นขึ้น ความแนบชิดปราศจากอะไรมากั้นรับรู้ได้ถึงหัวใจมันที่กำลังเต้นแรงในตอนนี้

   “กูหิว...” มันบ่น “แต่กูอยากอาบน้ำก่อน แบบว่ามันรู้สึกไม่สบายตัว...มัน...”

   “ไม่สบายตรงไหน” ผมแกล้งซื่อ ไอ้อาการหน้าแดงไปไม่เป็นแบบนั้นเดาไม่ยากหรอก

   “ตรงนั้นแหละ” มันบอกเสียงแผ่ว “อ๊ะ!!!”

   “นี่หรอ” กระเซ้าถามพลางลูบก้นมันเบาๆ ก่อนจะสัมผัสช่องทางด้านหลังของมันที่ยังชุ่มเพราะสิ่งที่ผมทิ้งไว้เมื่อคืน ไอ้มีนทุบอกผมดังอั๊ก ทั้งโกรธทั้งอาย  ไอ้เงือกน้อยงอนแก้มป่อง จนผมอดไม่ได้ที่จะฟัดแก้มนิ่มๆ นั่นอย่างมันเขี้ยว ได้แกล้งมันแล้วมีความสุขชิบหาย ฟัดแก้มมันจนหนำใจจึงจัดการอุ้มมันไปอาบน้ำตามคำขอ

   “กูทำเองได้!!!! ไม่ต้องยุ่งเลย” ไอ้มีนโวยวายปัดป่ายมือผมออกจนน้ำในอ่างกระเซ็นเมื่อผมจะช่วยมันล้วงเอาน้ำที่ค้างในตัวออก มีหรือผมจะฟัง จับขาเรียวนั้นแยกกว้างก่อนจะค่อยๆ ล้วงเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มนั่นทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกคว้าไหล่ผมเป็นหลักยึด ช่องทางร้อนรุ่มตอดรัดนิ้วเรียว “อือ....ไอ้เชี่ย...เร” ดวงตาคู่สวยฉ่ำน้ำ คิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากอิ่มกัดแน่นอย่างฝืนกลั้น เมื่อผมควานนิ้วช้าๆ กวาดเอาสิ่งที่คั่งค้างออกมา มันไม่รู้ตัวหรือไงว่ายั่วผมอยู่ “อา...เสร็จยัง...วะ” ยัง...ยังมีหน้ามาถามเสียงกระเส่า เดี๋ยวต้องโดน

   “ยัง!!!” ผมบอกเสียงเข้มพร้อมกับความอดทนที่ขาดผึ่ง พาตัวเองลงไปนั่งในอ่างก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก จัดแจงท่าทางพร้อมรบทำเอาคนจะโดนกระทำเหวอแดกไปเลยครับ

   “มึงจะทำอะไร...” มันถามเสียงตื่น พยายามขืนตัวเต็มที่

   “เอามึง!!!” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะกดสะโพกมนลงบนแก่นกายรวดเดียวทำเอาร่างบางร้องลั่นน้ำตาซึม

   “ฮึก...กูเจ็บนะเว้ย มึงแม่ง...” เสียงหวานทั้งวีนทั้งสะอื้นจนต้องจูบปลอบ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนตามแรงปารถนา...ใครใช้ให้มันทำตัวน่ารักน่าเอาละครับ ผมไม่ผิดเลยซักนิด 

   "แล้วเมื่อไหร่ ฮะ!...กูจะได้กิน...อา...ข้าวว" มันยังจะถาม

   "ค่อยกิน!!!!" ก่อนมีนจะกินข้าวผมของกินมันก่อนเหอะ ไม่ไหวละ

 “อา...เร... อ๊ะ...”  เพียงแค่ขยับเบาๆ ก็เรียกเสียงครางเครือเร้าอารมณ์ของมันได้จนจังหวะช้าๆ ไม่อาจเติมเต็มความต้องการได้เพียงพอ ร่างกายของมันดูเปล่งปลั่งมากเมื่อเปียกน้ำ ผิวกายเรียบลื่นเป็นประกายดึงดูดให้ ทั้งมือทั้งปากสัมผัสไปทั่วร่างอย่างลุ่มหลง กดจูบริมฝีปากนิ่มๆ ที่เผยอครางอย่างไม่รู้จักพอ
 ไม่เคยคิดว่าจะตัวเองจะอาการหนักขนาดนี้ ตอนแรกผมสนใจมันที่นิสัย ยึดติดกับมันด้วยความชิดใกล้ และจมดิ่งไปกับความสวยงามที่ผมค้นเจอ ว่ากันว่าทุกคนต้องมีจุดศูนย์กลางในการชีวิต ผมว่าผมเจอแล้วแหละ...มีน มัสยา คือศูนย์กลางในชีวิตผม



Rain Say

   พี่ชายผมกำลังมีความสุข ที่รู้สึกได้เพราะเรามักเชื่อมถึงกันเสมอด้วยจิตวิญญาณ เรเวนมีพลังแห่งการหยั่งรู้ เพราะนกคือสัญลักษณ์แห่งการสื่อสาร ในอดีตสายเลือดของเราสำคัญเสมอในการรบเพราะการล่วงรู้แผนของศัตรูมักนำมาซึ่งความได้เปรียบเสมอ ถึงแม้สิ่งที่เรารับรู้นั้นไม่ชัดเจนและอาจเปลี่ยนแปลงได้คล้ายๆ กับทฤษฎีความน่าจะเป็น

 ตระกูลของเราเคยอยู่ในกลุ่มของซาโตนี่ (satanimus creed) ในตอนแรก และเป็นผู้สร้างประตูนรกขึ้นซึ่งมันถูกทำลายทิ้งไปแล้วตอนที่เราไปช่วยพี่โยนาห์คนรักของท่านอา ออกมาจากปราสาทอาร์เคน แต่เมื่อแนวทางของซาโตนี่เปลี่ยนไป เรเวนไม่เห็นด้วยกับแนวทางการทำลายล้างมนุษย์ขององค์กรจึงแยกตัวออกมาในรุ่นพ่อแม่ผม ท่านทั้งสองจึงถูกกำจัดเพราะล่วงรู้ความลับของซาโตนี่มากเกินไป เราสองพี่น้องถูกตามล่าทั้งที่ยังเล็ก ตอนนั้นเราทั้งคู่เพิ่งสิบขวบด้วยซ้ำแต่ก็รอดพ้นทุกอย่างมาได้เพราะเร พี่ชายฝาแฝดของผม พี่แข็งแกร่งกว่าผมมากและปกป้องผมมาตลอด ทั้งที่คิดว่าต้องหนีไปทั้งชีวิต แต่สวรรค์ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเราทั้งคู่เมื่อได้พบกับ อีคารอส ผู้นำของตระกูลซานซิโอคนปัจจุบัน และเป็นเพื่อนรักของพ่อแม่แท้ๆ ของเรา ท่านพ่อรับอุปการะเราทั้งสองเป็นลูกบุญธรรม ให้ครอบครัวที่แสนอบอุ่นและรอยยิ้มกับเราอีกครั้ง

   วินาทีแรกที่ผมเจอมีนรับรู้ได้ว่าเด็กนั่นเป็นคนพิเศษและมีบางอย่างผูกพันกับพี่ชายผม อย่างที่บอกเรเวนมีพลังแห่งการหยั่งรู้ แม้พละกำลังผมจะด้อยกว่าไอ้เรแต่พลังด้านนี้ผมมีมากกว่ามัน บอกเลยว่าผมถูกชะตาไอ้เด็กแว่นคนนี้มาก ทั้งที่เป็นผู้ชาย แต่ก็น่ารักมากแถมยังมีกลิ่นไอเฉพาะตัวที่สัมผัสได้เมื่ออยู่ใกล้ๆ จนเผลอออกปากชม แต่เหมือนไอ้เรจะไม่สนใจสิ่งเหล่านั้นเพราะมันไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกันแบบผมจนนึกหมั่นไส้มันขึ้นมา แผนจับคู่ของผมจึงเริ่มขึ้น เรทำเพื่อผมมามากพอแล้วถึงเวลาที่น้องอย่างผมต้องตอบแทน โดยการหาใครซักคนมาทำให้ชีวิตพี่ชายผมมีความสุขจริงๆ ซักที

   ไอ้พี่เรมันสมหวังไปแล้ว ส่วนผมคงต้องพยายามต่อไป ดันไปรักคนที่สูงกว่าก็ต้องทำใจ แต่ใช่ว่าจะยอมแพ้หรอกนะ ระหว่างนี้ ที่ควงๆ ถือว่าซ้อมรบไปก่อน เพราะผมกำลังพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นและมีคุณค่าเทียบเท่ากับคนๆ นั้น เมื่อวันนั้นมาถึงผมจะได้บอกกับคนที่ผมรักอย่างภาคภูมิใจและคู่ควรจะดูแลใครคนนั้นตลอดไปจริงๆ


Talk Talk
[/b]

-ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษผู้อ่านทุกท่านที่หายหัว เนื่องจากการทำงานกว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำ และติดเกมส์ The wicher 3 กาเรธหล่อมาก ฉากอาบน้ำ แซบเว่อ  :jul1:

-ยังยืนยันจะเขียนต่อไปต่อให้เหลือคนอ่านแค่ไหนเราก็จะเขียน เพราะการได้ถ่ายทอดจินตนาการคือความสุขของเรา  :mew2:

-รูปน้องมีนในร่างเงือกเอามาไถ่โทษ ให้อภัยข้าน้อยเถอะน้าาาา :z3:

(http://upic.me/i/as/mermaid.jpg) (http://upic.me/show/57235990)
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บท9 When I fall (Re part) p.2 17/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-11-2015 19:09:26
เรนชอบใคนอยุ่น้ออ :hao3:

เรก็หื่นซะ !!! :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บท9 When I fall (Re part) p.2 17/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-11-2015 21:12:46
อิมเมจของเร เปลี่ยนไปเมื่ออ่านตอนนี้จบเบย อิอิ ^.,^
เรน รักใครน๊าาาา แต่เหมือนตงิดๆจะเดาได้นา

ปล. รอจร้าาาา แต่มาต่อบ่อยน๊า
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บท9 When I fall (Re part) p.2 17/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-11-2015 21:23:40
 :katai2-1:     :mew1:    o13.  Finnnnn มาก
มีนสวยมากในร่างมัจฉา. กรีดร้องด้วยความฟินกับคู่รักหมาดๆ
ทีนี้หางคงไม่งอกง่ายๆใช่ไหมก็เล่นโดนกระตุ้นตลอดๆจากเร
น้องเรนน่ารักอ่า อยากให้น้องสมหวังมีความสุขบ้าง
เป็นห่วงนายเอกของเราอีกแล้วอ่า. พ่อห่วงเพราะแบบนี้เอง
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บท9 When I fall (Re part) p.2 17/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 18-11-2015 07:27:29
เอาแล้วเว้ย!! ไม่ค่อยเลยนะเร ไม่ทันไรหลงเมียซะแล่ะ แต่ก็ดี ทีนี้มีนมีแต่อันตรายน่ะสิ อยากเห็นพลังของมีนจังว่าจะทำไรได้บ้าง
น้องเรนน่ารักมาก เอาใจช่วยให้น้องมีความสุขเหมือนพี่ชายน้าาาาา
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บท9 When I fall (Re part) p.2 17/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 22-11-2015 13:41:32
กลัวมีนจะท้องก่อนแต่งจัง  :haun4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บท9 When I fall (Re part) p.2 17/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 29-11-2015 17:57:41
บทที่ 10 Couple
[/b][/b]


   ชีวิตคนเราไม่แน่นอนเหมือนชีวิตไอ้มีนผู้นี้ก็ไม่มีอะไรแน่นอนเลย เปิดเทอมวันแรกก็เจอไอ้คู่แฝดนรกที่มันไม่ใช่มนุษย์ แต่มันเป็นเรเวนมีปีกบินได้ แถมแรงควายยิ่งกว่าซุปเปอร์แมน สองพี่น้องทำงานให้สภาล่าเหล่าอธรรม เหอๆ อย่างกับในหนัง แถมไอ้คนพี่ยังเอาแต่แผ่รังสีอมหิตจนผมปฏิญาณกับตัวเองว่าผมจะไม่เข้าใกล้มันเด็ดขาด เอาไปเอามามันกลับกลายเป็นคนที่อยู่ใกล้ผมมากที่สุด เหมือนอวัยวะที่สามสิบสามก็ว่าได้

   หลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นเงือกอะไรๆ มันก็เปลี่ยน เหมือนเรากุมความลับระดับโลกเอาไว้  ไม่ว่าใครก็กำชับนักหนาว่าห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดแม้แต่อมนุษย์ด้วยกันเพราะมีความเชื่อที่ว่าเนื้อของเงือกทำให้เป็นอมตะ ฟังเขาบิ้วมากๆ เริ่มระแวง ชนิดที่ว่าไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้สระน้ำเพราะกลัวจะกลายร่างแบบไม่ตั้งใจแล้วโดนลากไปทำซาซิมิ

   "วันนั้นที่สะพานพังลงมากูตกใจชิบหาย" ไอ้กรมันกำลังรำลึกเหตุการณ์ตอนไปรับน้องในยามพักเที่ยง "ใจกูนะอยากช่วยมึงนะเว้ย แต่กู ว่ายน้ำไม่เป็นวะ" ก่อนจะจบท้ายประโยคเสียงเบา

   "กลัวตายก็บอก ไอ้ก้องมึงเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตอนม.ปลาย ทำไมไม่ลงไปช่วยเพื่อน" เจ๊ดาหันไปแว้ดใส่ไอ้ก้องแทน

   "โถ่ เจ๊กูยังไม่ทันตั้งท่าก็มีพระเอกพุ่งหลาวลงน้ำไปก่อนกูแล้ว" มันรีบแก้ตัว "แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่ะ เพราะพวกพี่แม่งไล่กูกลับก่อน บอกเดี๋ยวก่อเรื่องเพิ่ม เลยไม่รู้ว่าไอ้เรมันช่วยมึงยังไง" มันว่า พร้อมตบบ่าผม

   "เชี่ย...ตบขนาดนี้ทุบเลยไหม" ไอ้ก้องมันจะฆ่าผมแล้ว เท่าที่ฟังคงไม่มีใครนอกจากเร และพี่โยที่รู้ว่าผมเป็น
เงือก...สบายใจไปอีกเปลาะ
 
   “หูยยยยยย !!!! ไอ้มีน กูอิจฉาวะ” อีเจ๊ดามันเขย่าคอเสื้อผมรัวๆ เมื่อเมื่อก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ถูกนำมาถวายตรงหน้าด้วยฝีมือไอ้ท่อนไม้ของผม ก่อนที่มันจะนั่งลงข้างๆ พร้อมกับชามของมัน

   “เจ๊ก็รีบหาแฟนซักทีเถอะ เอาไอ้กรก็ได้ มันก็ไม่มีใครเอาเหมือนกัน...โอ๊ย!!!” ไรวะคนอุส่าแนะนำยังจะมาตบหัวกันอีก
   “กูไม่อยากให้ลูกขาสั้น”

   “อ่าว อีเจ๊ ถามกูยังว่าจะเอามึงเปล่า” จากนั้นสงครามน้ำลายก็เริ่มขึ้น เจ๊ดากับไอ้กรเนี่ย...ผมว่าเถียงกันมากๆ เดี๋ยวก็ได้กันเชื่อสิ

   “เดี๋ยวพวกกูไปหาซื้อข้าวแปป ไอ้เตี้ย เจ๊ เอาไร” ภูผาว่า

   “เหมือนมึง” แล้วมวยคู่เอกก็ตอบพร้อมกันก่อนจะหันไปกัดกันต่อ ผมได้แต่ส่ายหัวเอือมๆ กับมันสองตัว

   มองก๋วยเตี๋ยวในชามตรงหน้าแล้วรู้สึกเขินวะ ผมชอบกินบะหมี่ไม่ใส่ถั่วงอก ไอ้เรมันก็ซื้อมาให้ถูกต้องเป๊ะทั้งที่ไม่ได้บอก มันเป็นความใส่ใจเล็กน้อยๆ แต่ก็รู้สึกดี ดวงตาสีน้ำเงินมองมาประมาณว่า มีปัญหาอะไร กินไม่ได้หรือ หรืออะไรประมาณนั้น เดี๋ยวนี้กูอ่านใจคนได้ด้วยหรอ...ท่าจะบ้า มองหน้าเรมากๆ แล้วจะขาดใจ คนอะไรไม่ขาวก็ดูดีได้ จึงเลือกเบนสายตามองรอบแก้เก้อแต่แบบจากอารมณ์ดีๆ เริ่มขุ่นมัวขึ้นทันใด ทำไมนะหรอ...ก็พวกลิงค่าง บ่างชะนี เล่นจ้องคนข้างๆ ผมอย่างกับจะกลืนกิน บางคนก็มองมาที่ผมแบบเหยียดๆ บ้างกูซุบซิบนินทา ประมาณว่าไอ้แว่นอย่างผมมานั่งเสล่ออะไรข้างๆ เทพบุตร...หงุดหงิด รู้สึกตัวเองสาวแตกขึ้นทุกวัน นั่น...สาวโต๊ะนั้นกำลังเดินมาทางเรา...คงมาขอเบอร์ไอ้เรชัวร์…ไม่ได้โว้ย!!!

   “กินปะ” ผมคีบลูกชิ้นในชามป้อนคนนั่งข้างๆ ไอ้เรงับมันเข้าปากอย่างว่าง่าย ทำเอาสาวสวยที่ว่าจะเดินเข้าหาเราถึงกับชะงัก “ยิ้มอะไร กูจ่ายค่าที่มึงเดินไปซื้อมาให้เฉยๆ หรอก อย่ามาหลงตัวเอง ไม่มีใครเขาหวงมึงเล้ยยย” แล้วกูจะเสียงสูงทำไม เปล่าร้อนตัวนะครับ เรยักคิ้วกวนๆ ใส่อย่างล้อเลียนก่อนที่มันจะก้มลงมาจุ๊บปากแล้วหันกลับไปกินต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่สนใจเสียงฮือฮาของคนรอบข้าง ทิ้งให้ผมเหวอแดก หน้าแดงไปไม่เป็นอยู่ข้างๆ ส่วนผู้หญิงคนที่กำลังจะเดินมา เจ้าตัวรีบถอยทัพกลับไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนในทันที

โอ๊ยยยยย ทำอะไรเกรงใจคนโสดอย่างกูมั่งเถอะ นี่มันโรงอาหารนะ” เสียงแหลมกรีดร้อง ก่อนที่เพื่อนๆ จะรุมแซวผมยับ แซวเลย น้องมีนไม่ตอบโต้ เขินอยู่เข้าใจไหม

ก่อนที่ผมจะโดนเดอะแก๊งรุมทึ้งไปมากกว่านี้ พี่โยก็เดินมาหาเราพร้อมกับฝรั่งตัวสูงๆในเสื้อชอปคณะวิศวะ พี่คนนั้นยิ้มให้ผม ดูจากผิวที่ขาวจนซีดคงไม่ใช่มนุษย์แน่ชัวร์

“พี่โย...หวัดดีครับ/ ดีค่ะ” พวกผมยกมือไว้พี่เขาตามมารยาท

“มีอะไรให้รับใช้พี่” ผมถาม

“พี่นะไม่มีหรอก พาไอ้รอทมาหาหลานชายนะ” ผมหันมองตามพี่เขาบอก นี่นะหรอท่านอาของไอ้แฝดนรก ยังเรียนอยู่เลย แถวยังหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวขนาดนี้

“อามึง ยังไม่แก่เลยนี่หว่า” ไอ้กรเอ่ยแซว

“มันอายุเยอะกว่าที่เห็นนะ...จริงไหมลุง” พี่โยตอบยิ้มๆ คนถูกพาดพิงก็แค่ยิ้มรับ ก่อนจะหันไปคุยอะไรบางอย่างกับหลายชาย พร้อมเอาเอกสารอะไรซักอย่างให้ไอ้เรอ่าน คือผมก็อยากเสือกนะว่าคุยอะไรกัน แต่แม่งฟังไม่ออกอะ อังกฤษจ๋ามาเลย คงเป็นเรื่องงานนักล่าของมันละมั้ง แต่ดูจากสีหน้าไอ้เรคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่  ไอ้เรหันมามองผมด้วยสายตาวิตก ชวนให้ร้อนๆ หนาวๆ ว่าเกี่ยวอะไรกับผมหรือเปล่า ยิ่งทำให้อยากรู้ยิ่งขึ้น ...ผมควรถามมันไหม? มีสิทธิ์ที่จะถามหรือเปล่า แล้วมันจะมองว่าผมก้าวก่ายเรื่องงานของมันแค่ไหน เอาเถอะ ถ้ามันอยากบอกคงบอกเองละมั้ง

   ไอ้เรมันเงียบ เอ่อ...ปกติมันก็ไม่พูดอยู่แล้วนี่ คือจะให้อธิบายยังไงดีละ...เอ่อ มันดูนิ่งกว่าปกติเหมือนมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา ตั้งแต่กลับจากมหาลัยมา มันก็เอาแต่นั่งอยู่หน้าคอมค้นนู่นหานี่ ส่วนไอ้เรนกลับมาก็ป่วนผมเลยครับ ท้าผมดวลวินนิ่งจนล่วงเลยไปถึงมื้อเย็น ไอ้เรนจึงจัดการลากพี่มันออกจากคอม*มานั่งร่วมโต๊ะอาหาร เดี๋ยวนี้ผมย้ายมาอยู่คอนโดไอ้เรเต็มตัวแล้ว น้องมีนเปล่าแรดนะเว้ย!! แต่ก่อนก็ไปๆ มาๆ นั่นแหละ แต่เวลาผมกลับไปนอนหอไอ้เรมันก็ตามมาด้วย นึกสงสารไอ้แฝดน้องที่ต้องอยู่คนเดียว เหมือนผมมาแย่งพี่ไปจากมัน เลยย้ายมาอยู่คอนโดของไอ้แฝดเรเวนเต็มตัว

   "กับข้าวเป็นไงมั่ง" ไอเรนถาม วันนี้ไปซื้อแกงถุงมากินครับ ขี้เกียจทำ

   "มึงทำอร่อยกว่า" ไม่ได้ยอเกินจริงนะ มันทำกับข้าวอร่อยจริง

   "ชมขนาดนี้ แย่งเมียพี่ผิดไหมวะ" ผัวะ! แล้วเรนก็โดนพี่มันตบหัวทิ่มทันที "เออ หวงนักนะ เก็บให้มิดนะ กิ๊กทั้งหลายมึงนะ จะเอามาแฉให้หมด" แล้วมันก็ทิ้งระเบิดให้พี่มัน ผมไม่เชื่อหรอกแต่...

   "ว่าแต่...จริงหรอวะ กี่คน" คิดไปคิดมามันก็เป็นไปได้ คนอย่างไอ้เร อยู่เฉยๆ สาวก็วิ่งเข้าหาแล้ว ไอ้ท่อนไม้เนี่ยมันร้ายลึกดูอย่างพี่ลูกแก้วเหอะ ไม่ถึงอาทิตย์มันยังได้แอ้มเขาเลย

   "เห้ย!!! กูแหย่เล่น" ไอ้เรนร้อนรน หลังจากโดยสายตาเสียดแทงจากพี่มัน

   "กูก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น!!!"

   "เอ้อ คืนนี้นอนคนเดียวนะจ้ะ พวกกูต้องออกไปทำงาน" แฝดน้องบอก

   "ไปทั้งคืนเลยหรอ"

   "ใช่ อามาขอให้ช่วยนะ ถ้ากลับช้า ขาดเรียนยังไงก็ช่วยลาให้ไอ้เรมันด้วยนะ" ถึงว่าไอ้เรมันดูจริงจังกว่าปกติ ระหว่างที่ไอ้สองพี่น้องไปเตรียมตัวทำภารกิจผมจัดการเก็บกวาดโต๊ะ พร้อมล้างถ้วยล้างจานให้เรียบร้อย มาอาศัยเขาเลยต้องทำตนให้เป็นประโยชน์ซักนิด ผมไม่ใช่นังแจ๋วประจำบ้านหรอกนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป สลับๆ กันล้าง บางทีก็ช่วยๆ กัน ตามความสะดวกตามสภาพอารมณ์

   ผมจัดแจงติดกระดุมช่วยไอ้ท่อนไม้ เชิตสีดำเข้ากับดีกับกางเกงยีนสีซีดๆ แม่งดูหล่อเถื่อนมากมาย เรนบอกว่าพวกเราส่วนใหญ่แพ้อาวุธจำพวกเงิน หากถูกยิงกระสุนหรือถูกแทงด้วยอาวุธที่ทำจากเงินอาจบาดเจ็บสาหัสจนถึงตายได้ แต่ก่อนตอนที่รู้ว่าพวกมันทำงานเป็นนักล่าให้สภากลาง ในสายตาผมมันเป็นงานที่โครตเจ๋ง ดูเท่เอามากๆ คิดเสมอว่าระดับไอ้เรจัดการทุกอย่างได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันเปลี่ยน ยอมรับตรงๆ เลยว่าเป็นห่วงมัน คนเราผิดพลาดกันได้ แต่งานที่มันทำแม่งโคตรอันตรายผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิต ไม่ยักรู้ว่าผมเป็นพวกคิดมากขนาดนี้...เฮ้อ!!!

   "ระวังด้วยมึง" เรยิ้มรับพร้อมดึงผมเข้าไปกอดพร้อมจูบหน้าผากผมเบาๆ จากที่หน้าบึ้งหลุดยิ้มเลยครับ ^////^

   "คือพวกกูไปออกล่า ไม่ใช่ไปถูกล่า ร่ำลากันอย่างกับจะไปตาย" ไอ้เรนแซวแรง...อิจฉากูละสิ

   "เออ ไปซักทีเหอะชิ่วๆ"

   และแล้วคืนนี้น้องมีนก็ได้นอนคนเดียว...ซะที่ไหน ผมโดนพวกพี่ตั้มลากออกมาสังสรรค์ที่ผับแถวมหาวิทยาลัย พี่แกจะเลี้ยงไถ่โทษที่ผมตกสะพาน ของฟรีมีหรือไอ้มีนจะพลาด ตามมาด้วยแก๊งสามช่า ก้อง กร และภูผา ส่วนเจ๊ดานั้นวันนี้เป็นกุลสตรีครับไม่เที่ยวกลางคืน

   "ผัวไม่มาหรอวะ" ไอ้เตี้ยกรแซว

   "มันออกไปธุระกับน้องมัน"

   "จริงเหรอมันอาจไปหลีสาวก็ได้ แค่ตอแหลมึงไปงั้น" แล้วมันยังเสี้ยมต่อ ถ้ามันรู้ว่าสองพี่น้องทำงานอะไรมันคงไม่พูดแบบนี้

   "พี่ หวัดดี" พวกพี่ตั้มแอนด์เดอะแก๊งยกมือทักทาย

   "มาๆ ไอ้น้องมีนที่รัก มาให้พี่ตั้มกอดปลอบขวัญหน่อย" ว่าแล้วพี่แกก็ลากคอผมไปล๊อคเลยครับ กลิ่นเหล้านี่หึ่ง เมาแต่หัววันเลยพี่กู...ร่ำสุราพากันแดนซ์ สาวๆ แต่ละคนนี่แบบนุ่งน้อยห่อมน้อยจนอย่างจะบอกพวกเธอว่าถอดเถอะจ๊ะ พี่ขี้เกียจลุ้น แต่สรวงสวรรค์อยู่กับเราได้ไม่นานเมื่อ ภูผามันสะกิดผมให้ดูบางสิ่ง

   "ไหนว่ามันไปธุระกันวะ" ไอ้ก้องบ่น

   ตรงที่นั่งโซน VIP แฝดนรกกำลังหัวเราะต่อกระซิกกับสาวสวยที่ลุ้มล้อม คำถามมากมายผุดขึ้นให้หัวผมจนหน่วงไปหมด ไหนว่าไปทำงาน ไอ้เรนหันมาเห็นผมมันดูตกใจก่อนสะกินให้พี่มันมองตาม ผมจ้องทั้งสองอยู่แบบนั้นโดยเฉพาะเร ดวงตาสีน้ำเงิมองผมนิ่งๆ ชวนให้อึดอัด ลุ้นว่ามันจะทักผมไหม เดินมาหาหรือไม่ แต่เปล่าเลยมันหันกลับไปราวกับไม่ได้เห็นผมอยู่ตรงนี้....ทำไม!? รู้สึกหน้าชา ผมอยากรู้ว่าทำไมพวกมันถึงมาที่นี่ ผู้หญิงรอบๆ ตัวมันนี่เรียกงานใช่ไหม แต่ผมไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปถาม ท่าทีเฉยชาของเรทำให้ผมลังเล...ว่าผมยังมีสิทธินั้นด้วยหรอ

   "เอาไงวะ" ภูผามันถาม ...เอาไง...ผมไม่รู้

   "พากูกลับที" ผมตอบเสียงเครือ ก็แค่รู้สึกแย่เอามากๆ ไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้ในที่ที่มันมองเห็นแต่กลับไม่สนใจมันต่างจากตอนที่เจอพะแพงควงพี่น๊อตมาต่อหน้า เพราะตอนนั้นเราเป็นแฟนกันแค่สถานะ และลมปาก แต่กับไอ้เรตั้งแต่เราเริ่มเปิดใจให้กันก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำอะไรร่วมกันตลอด ผลกระทบต่อจิตใจจึงมากกว่า

   "กลับคอนโดนะหรอ"

   "เปล่า...กลับหอกู" เพื่อนทั้งสามพยักหน้ารับก่อนจัดการล่ำลารุ่นพี่ เจ้าภาพอย่างพี่ตั้มโวยวายเล็กน้อยที่ผมกลับไวแต่เมื่อเห็นสีหน้าแย่ๆ ของผมแกเลยยอมแต่โดยดี

   อา...คิดถึงห้องนี้จัง ผมไม่ได้นอนหอตัวเองมาเกือบสองอาทิตย์ โชคดีที่ปิดประตูหน้าต่างหมดฝุ่นจึงไม่เยอะเท่าไหร่นัก ไอ้สามเกลอเสนอตัวจะอยู่เป็นเพื่อนแต่โดนไล่กลับ ผมไม่ใช่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องฟูมฟาย เวลาเฮิธก็แค่อยู่เงียบๆ คนเดียวแล้วทำใจ พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ตัดสินในสิ่งที่เห็น ไว้ค่อยถามเจ้าตัวตรงๆ อีกทีดีกว่า...แต่ว่ามันก็ชัดแล้วนิ ที่มันเมินใส่ขนาดนั้น

   "บ้าเอ๊ย...!" ผมสบถ อย่างอดกลั้น มันไม่จำเป็นต้องทุรนทุรายอะไรเลยแต่แค่หน้าไอ้เรลอยมาในความคิดทำไมน้ำตากูไหลวะ ผมยอมแพ้ตัวเองและไม่ฝืนอีกต่อไป นอนร้องไห้เงียบเงียบๆ อยู่บนเตียง ทั้งฤทธิ์เหล้าเมื่อรวมกับความเจ็บปวดในใจชวนให้ร่างกายเหนื่อยล้าจนผล๊อยหลับไปในที่สุด

   แกรก!! เสียงบางอย่างดังมาจากระเบียงปลุกผมขึ้นมาตอนรุ่งสาง เหมือนกำลังพยายามเปิดประตูเข้ามา...หรือว่าจะเป็นโจร!? คิดได้แบบนั้นผมจึงรีบก้าวลงเตียงรูดผ้าม่านออกเพื่อให้เห็นบุคคลที่อยู่หลังกระจกนั้น

   "เร!!!" ไอ้เราก็ลืมคิดไปห้องอยู่ตั้งชั้นห้าโจรที่ไหนจะบ้าปีนขึ้นมา ใจหนึ่งผมคิดจะเดินหนีไปด้วยความน้อยใจแต่พอเห็นสภาพอิดโรยกับเนื้อตัวมอมแมมของมันร่างกายกลับทำในสิ่งตรงข้าม ทันทีที่ประตูกระจกเปิดออกร่างสูงก็รวบผมเข้าไปกอดไว้แน่นจนได้กลิ่นเลือดจากตัวมัน ลมหายใจของมันถี่ราวกับกำลังกลัว

   "อย่าหายไปไหนโดยไม่บอกกูอีก" เสียงทุ่มสั่นเครือ "กูกลัว...ว่าใครจะเอามึงไป" ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วบอกเลยว่าโกรธมันไม่ลง ถึงแม้เมื่อคืนผมต้องนอนร้องไห้เพราะมันก็ตาม

   "กูก็แค่โมโห..." ผมตอบเสียงแผ่ว "ที่มึงเมินกู"

   "เฮ้ย!!!! มึงเลือดออก" ผมร้องลั่นเมื่อผละออกมาจากอ้อมแขนมัน คาบเลือดเลอะเต็มเสื้อผมเลยครับ มองสำรวจคนตรงๆหน้าชัดๆ ทำเอาใจตกไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อกลางอกเป็นรอยเล็บบาดลึกจนเสื้อขาด แถมตามแขนยังมีรอบบาดอีกมาก
   "กูไม่เป็นไร"ใบหน้าคมที่ยิ้มตอบดูเหนื่อยอ่อนบอกให้รู้ว่าไอ้เรมันฝืนตัวเองแค่ไหน

   "ไม่เป็นไรบ้านมึงสิ เลือดออกขนาดนี้" ผมร้อนรน ไอ้ที่โกรธเคืองกันช่างมันก่อนเถอะ "หาหมอ...ไปโรงพยาบาล...กูพาไป...อื้อ" ไอ้เรจูบผมหนักๆ ก่อนเดินไปล้มตัวลงนอนนิ่งอยู่บนเตียง

   "พักซักหน่อยก็หาย" คนเจ็บบอกก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ผมมองบาดแผลตามตัวมันที่ค่อยๆ สมานตัว...แล้วถอนหายใจแบบโล่งอก จึงจัดแจงถอดเสื้อขาดๆ ของมันทิ้งพร้อมกางเกงยีนจนเหลือแต่บ๊อกเซอร์แล้วลุกไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มัน กดซับไปตามร่างกำยำนั้นอย่างเบามือ คุณคงเคยได้ยินใช่ไหมที่คู่รักบางคนทะเลาะกันจนแทบไม่มองหน้า แต่พอเช้ามาภรรยายังเตรียมกับข้าวกับปลาให้สามีเหมือนเดิม เพราะเธอคิดว่าอีกคนสำคัญกว่าเรื่องไร้สาระพวกนั้น

   "ที่กูทำแบบนั้น" คนที่คิดว่าหลับไปแล้วลืมตามามอง "มันเป็นแผน ผู้หญิงพวกนั้นเป็นเด็กของคนที่เป็นเป้าหมาย พวกกูจึงต้องเข้าไปตีสนิท กูเห็นมึงแต่ถ้าลุกหนีงานก็พัง กูรู้ว่ามึงต้องโกรธมากๆ ขอโทษนะ"ดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นเต็มเปลี่ยมไปด้วยความรู้สึก จนผมนึกละอายใจเมื่อมองดูบาดแผลมากมาย ถึงเลือดจะหยุดไหลถึงมันจะหายเองได้ แต่มันต้องเจ็บมากแน่ๆ เรไม่สนใจสภาพตัวเองกลับตามหาผมจนเจอ

   "กูสำคัญขนาดที่มึงไม่รักตัวเองเลยหรอ" ผมถามเสียงเครือ น้ำตาซึม...ขี้แยชะมัด

   "ก็กูรักมึงมากกว่า" ...เว่อ!!!!! คำตอบที่ได้รับทำเอาผมร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ด้วยความซาบซึ้ง นอกจากป๋ายังไม่เคยมีใครบอกรักผมเลย เรยิ้มกว้างพลางเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้แล้วดึงผมล้มลงไปนอนกอดก่อนจะประทับริมฝีปากลงมา ถ่ายทอดทุกความรู้สึกผ่านจูบรสหวานของเรา

   "เชี่ย พอ...มึงยังเจ็บอยู่" ผมผละออกจากตัวมัน เมื่อมือกร้านเริ่มเลื้อยเข้าสาบเสื้อ เกือบเคลิ้มแล้วไหมละ ใบหน้าคอมดูขัดใจเต็มทน "พักผ่อนเลย...เดี๋ยวไม่หาย ไม่งั้นกูจะหนีไปให้ไกล เอาแบบที่มึงตามไม่เจอเลย" ผมขู่

   "งั้น ถ้าหายจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม" เรยิ้มร้าย พลางเกลี่ยเบาๆ ที่แก้มผม ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายจนต้องหลบสายตาเจ้าเล่ห์นั้นด้วยใบหน้าร้อนผ่าว...ในหัวแม่งมีแต่เรื่องนั้นหรือไงวะ...แต่ดูถ้า ผมไม่ตอบมันคงไม่ยอมนอน...งั้นก็

   "อืม เอาที่มึงสบายใจเถอะ" -/////-   


Talk Talk
[/b]

-มาต่อแล้วจ้าขอโทษที่ช้า อาทิตยืที่ผ่านมาไปสัมนาบริษัทที่ต่างจังหวัดอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่10 couple p.2 29/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 29-11-2015 19:31:28
โอยยย คิดว่าจะหนักกว่านี้ซะแล้ววว

เข้าใจกันดีจริง แต่เรเนี่ยบาดเจ็บอยู่ก็ยังไม่หยุดหื่นนะ555
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่10 couple p.2 29/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-11-2015 20:18:09
 :katai2-1:   ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
เราคิดว่าเรแมนๆดีนะ ไม่พูดมากแนวลงมือเลย. จูบเลยจ้า สาวๆผงะกันไป
แถมอ่านใจได้สินะ อีกหน่อยยิ่งไม่ต้องพูดใหญ่เอาเวลาคุยไปสื่อสารกันทางกายแทนดีกว่าใช่ปะ

ชอบค่ะยิ่งอ่านยิ่งชอบ พี่น้องคู่นี้ดูมีอะไรๆแถมน้องมีนเองน่าจะยังมีปริศนาอยู่อีกเยอะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่10 couple p.2 29/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 30-11-2015 01:53:08
ชอบเรอ่ะ คนแมนก็งี้ ตรงๆมั่นคงจริงใจ ชอบนิสัยเรนะดูแคร์คนสำคัญดีอ่ะ
น่ารักมาก ชอบๆ แต่เราว่าอนาคตอันใกล้นี้ต้องมีเรื่องเกิดกับมีนแน่ๆ แล้วมีนมีพลังพิเศษไงบ้างน๊า
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่10 couple p.2 29/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 30-11-2015 04:34:17
สมกับชื่อตอน Couple
โมเมนต์สามีภรรยามากเต็ม ฮิ้ววว!! ^///^
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่10 couple p.2 29/11/2015
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 30-11-2015 04:56:25
อยากรู้จังว่าคนที่เรนชอบจะเป็นใคร บางทีเรก็หื่นไปนะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 04-12-2015 19:58:25
บทที่ 11 Deal
[/b]

"สรุปเมื่อคืนเป็นยังไง" ผมโดนเจ๊ดาลากมาเค้นคอก่อนกลับบ้าน วันนี้มีเรียนครับ หลังจานอนนิ่งๆ เป็นหมอนข้างให้ไอ้เรซักพักผมก็อาบน้ำแต่งตัวมาเรียน ส่วนไอ้ท่อนไม้นอนฟื้นสภาพอยู่ที่ห้อง

   "คุยกันแล้ว มันเป็นงาน" ผมอธิบาย แต่เล่าหมดไม่ได้

   "มึงนี่ เขาบอกงานก็เชื่อหรอ งานแบบไหนยะ ไปนั่งนัวกับสาว" ผมชักสงสัยแล้วสิว่าไอ้เรเนี่ยผัวใคร ดูเจ๊มันแค้นเคืองแทนผมซะเยอะ คงเพราะพวกแก๊งสามช่ามันมาเล่าให้ฟัง

   "เอาเป็นว่ากูรู้ว่ามันทำงานอะไร แต่บอกไม่ได้เข้าใจไหม งานของที่บ้านมัน"

   "มึงไม่ได้แก้ตัวแทนมันใช่ไหม" ไอ้กรย้ำ ผมส่ายหน้ายิก "โอเคกูเชื่อมึงก็ได้ แต่ถ้ามีแบบนี้อีกนะ ต่อให้มึงยอมให้อภัยมัน แต่พวกกูยาก บอกเลย" ถึงพวกมันจะชอบด่าผม แต่เวลาแบบนี้เพื่อนผมก็รักผมมาก ดูอย่างตอนพะแพงสิ เจ๊ดาเกือบตามไปตบ

   "แล้วนี่ผัวมึงไปไหน"

   "ช้ำในเจ๊ โดนตีนมานิดหน่อย นอนอยู่ห้อง จะตามไปดูไหม" พวกมันทำหน้าคิดก่อนจะปฏิเสธแล้วเราทั้งหมดก็แยกย้าย ไอ้เรนไลน์มาบอกให้ผมดูพี่แทนมัน ส่วนตัวมันจะเข้าไปเคลียรายงานเรื่องคดีเมื่อคืนที่สภากลางของพวกอมนุษย์ ผมละอยากรู้จริงๆ ได้ตึกสภากลางที่ว่าเนี่ยข้างในจะเป็นแบบไหนนะ เดินเข้าไปจะมีตัวประหลาดเพ่นพ่านไปมาแบบมอนสเตอน์อิงค์หรือเปล่า ก่อนกลับหอผมแวะซื้อข้าวหมูกรอบไปสองห่อเผื่อไอ้ท่อนไม้ของผมด้วย

   "เป็นไงมั่งมึง" ผมโผล่หน้าเข้ามาในห้องแต่เรไม่อยู่ที่เตียง กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยจากระเบียงบอกให้รู้ว่ามันสิงอยู่ตรงนั้น ชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแสดงว่ามันอาบน้ำแล้ว ร่างสูงยืนพ่นควันทำตัวชิวอยู่ตรงนั้นแต่พอเห็นผมมันก็ดับบุหรี่โยนทิ้งทันที

   "มึงสูบด้วยหรอ" มันพยักหน้ารับ "กูไม่เคยเห็นเลย"

   "เวลาเครียด"

   "เรื่องอะไรสนใจระบายให้กูฟังไหม" ผมถามพลางเอนหลังพิงระเบียงข้างๆ แต่มันก็ยังนิ่ง "กูสำคัญกับมึงหรือเปล่า" มันพยักหน้ารับ

   "มึงก็สำคัญกับกูเหมือนกัน เพราะงั้น เล่าให้กูฟังบ้าง แบ่งมาบ้างปัญหาของมึงนะ ถึงช่วยอะไรมึงไม่ได้ แค่รับฟังเป็นที่ปรึกษาให้มึงก็ยังดี" ผมจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำเงินนั่นหวังว่ามันคงเห็นความจริงใจของผม

   เมื่อดูทีท่ามันคงไม่พูดอะไรผมจึงตัดสินใจเดินหลบออกมาปล่อยมันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยของมันไป คือ...แอบน้อยใจนะ ไม่ว่าจะในสถานะเพื่อนหรือคนรัก มันก็ยังไม่บอกอะไรผมเช่นเคย ขี้เกียจจะเดา...ผมไม่ใช่เรเวน ไม่มีญาณหยั่งรู้ มันคิดว่ามันแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่คนที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ แบบผมก็อดห่วงมันไม่ได้ทุกที ผมแกะข้าวใส่จานให้เราทั้งคู่ พลันรู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่โอบกอดผมจากด้านหลัง เรเอาคางเกยไหล่ ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดข้างแก้มชวนให้ประหม่าอย่างห้ามไม่อยู่

   "งอล?" เสียงทุ้มกระซิบถาม มือทั้งสองยังแกะถุงกับข้าวต่อไม่สนใจคำถามนั้น "มีน..." ผมเงียบ...ให้มันรู้ซะบ้างว่าผมรู้สึกยังไง "มีน...เป็นไร" ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนมัน...ว่าแต่มึงจะกอดกูอีกนานไหม จะเอาขยะไปทิ้งเนี่ย...! "อย่างอลนะ" ไม่ต้องมาอ้อนเลย...ไม่ใจอ่อนหรอก

   ฟอด...แล้วมันก็หันมาเล่นงานแก้มผมแทน...เริ่มเสียศูนย์แล้วทำไงดีวะ

   ฟอด...มึงจะหอมอะไรเยอะแยะ พยายามเอี้ยวตัวหลบแต่ไร้ผมเมื่อมันล๊อคไว้อย่างนี้

   ฟอด...ช้ำ...แก้มกูช้ำหมดแล้ว

   ฟอด...เขินโว้ย!!!! พอกันที

   "ไอ้เหี้ยเร!!!" ผมหันไปว๊ากใส่มัน ไม่ต้องสาธยายว่าหน้าผมแดงแค่ไหน ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเพราะเขินกันแน่

   "ครับ...ที่รัก" โอยยย...ไอ้มีนลาตายแปป

   "มึงจะเอายังไง"

   "ยังไงก็ได้ ได้ทุกท่า" คนหล่อยิ้มร้าย ในหัวมึงมีแต่เรื่องนี้หรือไงวะ

   "สัด ทะลึ่งแล้ว... ให้เล่าก็ไม่เล่า แล้วยังจะมากวนตีนกูอีก ปล่อย!!! จะแดกไหมข้าวอะ" ผมบ่น มันยอมปล่อยแต่โดยดี ก่อนที่เราทั้งคู่จะทิ้งตัวลงเก้าอี้ตรงข้ามกัน โต๊ะอาหารห้องผมไม่ใหญ่ เหมือนเป็นที่วางของซะมากกว่า จัดการมื้อเย็นตรงหน้าก่อนที่ไอ้คนกวนตีนกว่าจะถูกไล่ไปล้างจาน

   "เล่ามาให้หมด!" ผมสั่งขณะนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง มันนั่งลงข้างๆ พร้อมเอนหลังพิงหัวเตียงสบายๆ

   "พวกซาโตนี่ (Satanimus Creed องค์กรบูชาซาตาน) อยากให้พวกกูเข้าร่วมองค์กรมัน มันอยากให้กูช่วยสร้างHell Gateให้ เพราะอันเก่าถูกทำลายทิ้งไป และต้นตระกูลเรเวนสร้างมันขึ้นมา วิธีการถูกถ่ายทอดเป็นรุ่นๆ เพราะเรเวนมีพลังแห่งการหยั่งรู้ และยังเป็นตัวแทนของการเชื่อมต่อระหว่างภพ มันจึงตามยื่นขอเสนอต่างๆ ให้กูกับเรน" ซาโตนี่หรอ อารมณ์แบบผู้ก่อการร้ายในหมู่อมนุษย์สินะถึงว่าช่วงนี้ เรดูเครียดกว่าปกติ

   "แล้วมึงจะเข้าร่วมหรอ"

   "ไม่มีทาง พวกมันฆ่าพ่อแม่กูนะ" เสียงทุ้มแข็งกร้าว "แต่มันคงทำทุกวิถีทางให้พวกกูสร้างสิ่งที่พวกมันต้องการให้ได้ ตอนนี้มันอาจพยายามคุยดีๆ แต่ท้ายที่สุด พวกสารเลวแบบนั้นคงต้องใช้วิธีการสกปรกบังคับกูแน่...และสิ่งหนึ่งที่คือกลัวคือการที่มึงถูกดึงไปเอี่ยวด้วย..." ผมพยักหน้าเข้าใจ เพราะงั้นเมื่อคืนเรมันถึงได้ร้อนรนตามหาผมสินะ

   "กูจะระวังตัวให้มากที่สุด" ผมบอกพลางเอื้อมไปกุมมือมันไว้

   "อย่าอยู่ห่างกู" จริงจังซะเหลือเกิน

   "อืม...รู้แล้วน่า กูอยู่ตรงนี้ไง"

   "ไหน..." อีกาเจ้าเล่ห์ทำฟอร์มมองไม่เห็นก้มหน้าลงมาจนแทบชิด มือถือในมือกับแว่นโดนมันกำจัดไปไว้โต๊ะข้างเตียง...ลางไม่ดีอีกแล้วกู...ไม่มีสิทธิจะโวยวายเพราะคุณท่านเล่นปิดปากผมเรียบร้อย เรื่องลวนลามขอให้บอก ไอ้ห่าเรผู้นี้ว่องไวยิ่งกว่าใคร ร่างทั้งร่างถูกมันคร่อมไว้เรียบร้อย ปากมันก็จูบไป ขบเม้มริมฝีปากผมเบาๆก่อนจะแทรกลิ้นชื้นมาหยอกล้อในปาก จูบเก่งนักใช่ไหม...จูบตอบแม่งเลย ผมลองขบเม้มริมฝีปากนิ่มๆ นั้นบ้าง ไอ้เรยอมล่าถอยอย่างรู้งานให้ผมได้เป็นฝ่ายระรานสอดลิ้นเข้าไปสัมผัสในปากมัน...แม่งโคตรตื่นเต้นเลย ใบหน้าคมเอียงรับขยับนำพารสจูบของเรา มันสอนผมทำตาม กลายเป็นจูบดูดดื่มในบัดดล ลิ้นร้อนตอบรับกันชวนให้หัวหมุนสติเริ่มหลุดมีแต่อารมณ์ล้วนๆ

   "พัก...แฮกกกก...แปบ" ผมรีบโกยอากาศเข้าปอดทันทีที่เป็นอิสระ "อือ...พอ...อ๊ะ....เดี๋ยวยาว" จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอชวนให้จั๊กจี้ ผมดันหน้ามันออก เรถอนหายใจหนักๆ อย่างขัดใจ

   "บอกเองนิ ว่าถ้าหายแล้วจะทำอะไรก็ได้" นั่นมีทวง

   "มึงยังจำได้อีก อ๊ะ เร...ซี๊ดดดด" ร่างทั้งร่างสะท้านเฮือกเมื่อยอดอกถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว

   "น่า...เห็นดิ้นทีไรก็ยอมทุกที นะ นะ ไม่ได้เอามาสองสามวันแล้ว" ดูมันต่อรอง แล้วมันก็ดึงมือผมไปสัมผัสตรงเป้ากางเกงมัน เนื้อผ้าบางๆ ทำให้รู้สึกถึงความแข็งขืนใหญ่โตนั่นชัดเจน...ทำเอาหน้าร้อนผ่าวด้วยความกระดากอาย

   "มึงมันหื่น..."

   "ไม่สงสารหน่อยหรอ...มันรอมึงมาทั้งวันแล้วนะ" คือปกติมึงไม่เห็นพูดขนาดนี้ แม่ง...ไอ้เรเวนขี้เอา

   "ช่วยตัวเองสิวะ" ผมโวยหน้าดำหน้าแดง

   "แล้วจะมีเมียไว้ทำไม" แง้...ไม่มีอะไรจะเถียง ยอมๆ มันไป ไอ้คนมือไวจับผมลอกคราบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์ดีเชียวนะ

   "อา...เร...ทำไมมึงขยันเรื่องแบบ...ซี๊ด....อ๊ะ จังวะ" โอยเหนื่อยกว่าจะจบประโยค หลุดครางซะเยอะเมื่อลิ้นร้อนลากผ่านไปตามตัวก่อนจะละเลงยอดอกทั้งสองสลับกันทำเอาผมบิดเร่าด้วยความเสียว มือกร้านลูบไล้ไปทั่วร่างแต่กลับแกล้งละเลยมีนน้อยอย่างจงใจ

   "เพราะมันรู้สึกดี มึงอยากรู้ไหมว่ากูรู้สึกแบบไหน" มันยิ้ม ยิ้มแบบที่ทำให้ผมละลาย

   "จะทำอะไร...เร..." ผมเอ่ยถามอย่างหวาดๆ เมื่อมือกร้านรั้งขาของผมขึ้นพาดบ่าแล้วดึงมือผมไปเลียจนชุ่มก่อนสัมผัสช่องทางเบื้องล่างของของผมเองแล้วบังคับให้สอดนิ้วเข้าไป รับรู้ถึงความคับแน่นและอ่อนนุ่มในร่างของตน "อ๊า มัน...เร กูไม่ทำได้ไหม....อื้อ แฮก มัน น่าอาย"

   "ลองดู...เซกซี่ดีออก" ลองช่วยตัวเองให้คนอื่นดูเนี่ยนะ บ้าไปแล้วววว"ตรงนี้ด้วย" มืออีกข้างถูกดึงไปกอบกุมมีนน้อย ก่อนที่เรจะรั้งให้ผมขยับรูดตามความยาว ซาบซ่านจนครางเครืออย่างทรมาน นัยน์ตาสีน้ำเงินลึกล้ำที่จ้องมากระตุ้นให้ทำตามอย่างเสียไม่ได้

   "อา...ฮะ เร" ครางเองอายเอง ดูมันนั่งเป็นผู้ชม บรรเทิงมากไหม เขินจนร่างจะไหม้อยู่แล้วเนี่ย ภายในกายบีบรัดนิ้วจนชาหนึบ ยิ่งขยับมือปรนเปรอตัวเองเท่าไรอุณหภูมิภายในยิ่งพุ่งสูงมากเท่านั้น  ใบหน้าคมทอดมองอย่างหลงใหล ท้าทายให้แสดงออกถึงความอยากแบบลืมผิดชอบชั่วดี กัดปากนิดยั่วเย้า ดูสิว่ามันจะทนดูอยู่แบบนั้นไอ้แค่ไหน อึดอัดทรมาน ทั้งมือทั้งแขนอ่อนล้าเกินกว่าจะพาตัวเองไปให้สุด ทำได้เพียงสบตาร่างสูงอย่างอ้อนวอน..."เร...กูไม่ไหวแล้ว...ช่วย ที"

   "ด้วยความยินดี" ราวกับนักล่าที่เฝ้ารอ ทันที่ผมออกปากร่างสูงโถมทับพร้อมมอบจูบอันร้อนแรง นิ้วถูกดึงออกก่อนจะแทนที่ด้วยแก่นกายที่สะสมด้วยแรงอารมณ์แข็งขืน ท่อนเนื้อร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้ามาถึงจัเจ็ฐแต่ก็สร้างความรัญจวนจนแทบครั้ง เผลอจิกข่วนแผ่นอกแกร่งตรงหน้าระบายความซาบซ่าน "อือ...รัดแน่นจัง"

   "เชี่ย....ฮะ อย่าทัก ซี๊ด....อ๊า" แบบไม่ต้องบรรยายได้ไหม...เรยิ้มขันก่อนก้มลงมาจูบก่อนจะระรานฝากรอยไปทั่วแล้วเริ่มขยับเอวช้าแต่หนักหน่วง สอดลึกจนโดนจุดกระสันจึงจิกทึ้งหัวมันอย่างลืมตัว "เร...ไว...ไวอีก แฮก ซี๊ด เร็ว"

   "อืม...มีน วันนี้มึงโคตรเด็ด" มันชม...แต่ผมไม่มีสติจะมาภูมิใจ เมื่อเอวหนากระแทกกระทันจนเสียงเนื้อกระทบกันดังคลอไปกับเสียงครางกระเส่าจนลั่นห้อง ข้างห้องจะด่าผมเปล่าเนี่ย!!!...ร่างของผมโยกคลอนไปตามแรง เหมือนร่างกายตอบสนองต่อความอยาก ผมคว้าไหล่มันเป็นหลักยึดพลางรั้งร่างขยับรับทุกจังหวะที่มันโถมแรงเข้ามา...เสียวสัด..."โครตรักมึงเลยมีน..."

   "อืมม...กูก็รัก ฮะ มึง" ในยามปกติคงมัวกระดากอาย ไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้สติกระเจิดกระเจิง จิตใจที่แท้จริงจึงตอบกลับไปทันควัน  บอกรักกันเวลาแบบนี้ มันควรซึ้ง หรือรู้สึกยังไงดี ภายในกายร้อนระอุเจียนระเบิด ทุกสัมผัสทุกจังหวะที่เรมอบให้ทำเอาแทบคลั่ง ทั้งครางทั้งสะอื้นจนลืมอาย...รู้สึกถึงตัวตนอีกฝ่ายได้ชัดเจนเพราะภายในตอดรัดแน่นถี่เกินควบคุม ความรู้สึกของเราสองถูกปลดปล่อยเมื่อถึงที่สุดของอารมณ์ มันเลอะไปทั่วหน้าท้องของผม ขนาดที่ภายในเต็มตื้นไปด้วยไออุ่นจากอีกคน ตอกย้ำให้รู้ว่าผมเป็นของมัน เราเป็นของกันและกัน

   "ฮะ...ไอ้เชี่ยเร กูเหนื่อยแล้ว โอ๊ยยยย ซี๊ด" ผมบ่นเสียงแผ่วเมื่อทั้งร่างถูกมันจับพลิกให้คว่ำทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมกันอยู่ ท่อนเนื้อแกร่งครูดช่องทางที่ยังชุ่มทำเอาเสียวจนร้องลั่น

   "ขออีกรอบเดียว นะ" มึงจะมานะทำไม แม่งไม่รอคำตอบแต่กลับใส่ไม่ยั้ง จนไม่เหลือจังหวะให้ปฏิเสธอีกต่อไป

   "แล้วกูจะได้...อ๊ะ อาบ ฮ้า น้ำมั้ย วัน...เชี่ยเร..." พอเลิกพูดไปคงไม่จบประโยค

   "เดี๋ยวอาบให้ ตอนนี้เป็นเด็กดี....อืม อย่าดื้อ" ดื้อพ่องงง...กูจะไปเอาแรงที่ไหนมาดื้อฮะ ไอ้รอบเดียวนะของมัน แต่กว่ามันจะจบรอบเดียวผมที่เสร็จไปหลายรอบ นอนหมดสภาพให้มันกระทำชำเราจนหนำใจ...ตาย ตาย ไอ้มีนผู้นี้จะตายคาเตียงไหมคืนนี้

 
   ...คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เหมือนไอ้เชี่ยเร...เห็นมันนิ่งๆ เงียบๆ แต่บนเตียงท่วงท่ามาเพียบนะจะบอกให้....


Talk Talk
[/b]

-รีบมาลงรีบพิม ไม่ได้ทวนเพราะเดี๋ยวไป ตจว.

-เรแม่งงงง หื่นวะ  :o8:

-รักนะจุ๊บๆ
   

   
   
   
   


   
   

   

   
   
   
   
   
   
      


   
   

   
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-12-2015 20:07:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-12-2015 20:17:11
 :katai2-1:   ฟินไปนะเร

แหม มีนร้อนแรงจังเลย แบบนี้ไม่หื่นก็ไม่ได้สิ
แอบกลัวว่ามีนจะเป็นอะไร หาคนมาคุ้มกันน้องทีสิ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-12-2015 20:21:43
โดนไปกี่ท่วงท่าล่ะ มีนเอ้ยยย :hao3:

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 04-12-2015 21:40:16
พวกนี้ต้องใช้มีนเป็นตัวประกันแน่ๆเลย ดูแลน้องมีนดีดีนะเร
ฟินไปสิ มีนเด็ดจนเรหลงแล้วเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-12-2015 10:19:51
นั่นนนนนนน >\\\\\\<

แต่มีนต้องระวังตัวนะ ได้กลิ่นมาม่าเบาๆ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 05-12-2015 12:14:51
เรนี่หื่นเสมอต้นเสมอปลาย  :z1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 05-12-2015 13:23:22
 :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:เข้ามาติดตามค้วยคนจ้าาาาาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่11 Deal p.2 4/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 05-12-2015 16:38:37
มีนเป็นคนตลก  :laugh:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่12Secretly Loves p3 11/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 11-12-2015 19:35:42
บทที่ 12 Secretly Loves
[/b]

Rain Say...

   หากคุณเข้ามาใจกลางกรุงเทพคุณจะเจออะไร...ห้างหรู รถติดตายห่า และตึกสูงแต่ไม่เสียดฟ้า กับสาวๆ ที่แต่งตัวกันราวกับไปเดินแคทว๊อก หน้าให้นมใหญ่ก็ดีไป หน้าไม่ให้แต่ใจรักนี่สิ...เอาเถอะครับผมเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความสวยอยู่ในตัว ผู้ชายก็เช่นกัน สาเหตุที่ผมดันด้นฝ่ารถติดมาในวันนี้เพราะผมต้องเอารายงานการจับกุมเมื่อคืนไปส่ง ใครเล่าจะคิดว่าไอ้ตึกสูงๆ ใจกลางเมืองที่ดูภายนอกเหมือนบริษัทต่างชาติแท้จริงแล้วจะเป็นที่ทำการของ SCEC:Security Council of Eternal Clan ของเหล่าอมนุษย์

   สองเท้าพาร่างมายังชั้นรองสุดท้ายของตึก มุ่งสู่ห้องทำงานสุดทางเดินด้านตะวันออก เคาะประตูพอเป็นพิธีก่อนจะเปิดประตูเข้าสู่ห้องทำงานที่ปูด้วยพื้นหินอ่อนดูตัดกันกับโต๊ะหินไทเกอร์อายกลางห้อง นานแล้วที่ผมไม่ได้ย่างเท้าเข้าสู่ที่แห่งนี้...เพราะอะไรนะหรอ...เพราะมันเป็นที่ที่ทำให้หัวใจผมอ่อนแอด้วยความสุขที่เจือไปด้วยความอึดอัด และเจ็บปวดอยู่ลึกๆ

   "ท่านอา..." ผมปั้นหน้าให้แจ่มใสส่งยิ้มให้เจ้าของห้อง เรือนผมสีน้ำตาลดูตัดกันดีกับดวงตาสีฟ้าใสขับให้บุคคลตรงหน้าดูงดงามราวกับนางฟ้าจากสวรรค์ สง่างามและอ่อนหวาน ไม่ว่ากี่ทีเธอก็ตรึงสายตาของผมได้เสมอ

   "ไงหลานรัก" เสียงหวานเอ่ยทักพร้อมกับร่างบอบบางที่โผเข้ากอดผมแน่นไม่ต่างจากตอนที่ผมยังเด็ก แต่ความรู้สึกที่ผมมีให้เธอ...ซอนเน่ ซานซิโอ ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป  "หายหน้าหายตาจนอาลืมไปแล้วว่าไอ้เรมันมีแฝดอีกคน"

   "แหม...มองหน้าไอ้เรก็เหมือนมองผมแหละครับ" ผมแย้ง ระบายรอยยิ้มตอบ

   "แต่เวลากอด มันก็คนละคนนิจ้ะ" ผมรู้ว่าซอนเน่พูดแบบไม่คิดอะไร แต่ผมคิดไง...ใจเต้นไง...แม่งเอ้ย...ผมได้แต่กอดตอบร่างบอบบางนั่นแน่นๆ ซึมซับไออุ่นและกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอที่มักจะทำให้ผมหลับฝันดีในทุกคืนเมื่อผมยังเล็ก ตอนแรกๆ ผมโหยหาอ้อมกอดของเธอเพราะคิดว่าเธอคือตัวแทนของแม่ แต่นับวันความรู้สึกของผมยิ่งชัดเจน รู้สึกปั่นป่วนทุกครั้งที่มีใครเข้ามาใกล้ เอาจริงๆ ผมก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ซอนเน่ยังไม่แต่งงานทั้งที่อายุปาไปสองร้อยกว่าๆ เพราะลับหลังผมจะกันพวกผู้ชายเหล่านั้นออกไปทุกวิถีทาง

   สำหรับซอนเน่ ผมเป็นแค่เรนตัวน้อยที่เธอเฝ้ารักและทะนุถนอมดั่งลูกหลานที่เธอเลี้ยงมา แต่สำหรับผม รักเธอแบบที่ชายคนหนึ่งจะรักใครซักคนได้...ใช่เรารักกันแต่ในความหมายที่ต่างกัน มันจึงเป็นความเจ็บปวดที่งดงามในยามนี้

   "คิดถึงจัง..." อยากจะตบปากตัวเองที่พูดออกไปตรงใจ ใบหน้าสวยแย้มยิ้มก่อนจะหอมแก้มทั้งสองข้างของผมฟอดใหญ่...ตึกตัก...ตึกตัก...ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ดึงคนตรงหน้าเข้ามาจูบ

   "อาก็คิดถึงเราเหมือนกัน" ผมควรจะดีใจใช่ไหม...เพราะแบบนี้ผมถึงพยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอเธอ เพราะผมกลัวว่าผมจะคุมตัวเองไม่ได้ ทำอะไรหรือพูดอะไรไปดั่งใจ...

   "อ้อ...นี่รายงานเรื่องเมื่อคืน" พอตั้งหลักได้ก็เข้าเรื่องทันที

   "อ้าว ปกติเรจะเป็นคนเอามาให้นิ" ซอนเน่รับแฟ้มรายงานในมือไปนังอ่านที่โซฟาตัวยาวในห้อง "มานี่เร็ว" ก่อนจะตบแปะๆ ที่ตัก ผมจึงเดินไปล้มตัวนอนหนุนตักเธออย่างว่าง่าย

   "ก็พี่ผมมันไม่โสดแล้ว ป่านนี้คงนอนกอดแฟนมันอยู่ห้องแหละครับ" เมื่อคืนตกใจเหมือนกันที่เจอไอ้มีนในผับ ดูก็รู้ว่ามันเคือง...เป็นใครก็ต้องโกรธละครับเห็นแฟนท่ามกลางสาวๆ แล้วก็เป็นไปตามคาดพอกลับไปที่คอนโดไม่เจอมัน ไอ้เรวิ่งแจ้นหาแฟนมันทั้งคืนโดยไม่สนว่าตัวมันบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ ผมว่าพี่ชายผมคงรักไอ้มีนมาก เพราะนอกจากผมมันก็ไม่เคยห่วงใครขนาดนี้...อิจฉามันจัง มีคนให้รักให้ห่วง และให้ซั่ม!!! เอ้ย!!! อันหลังไม่ใช่แล้ว

   "อิจฉาพี่หรอ ฮึ!!!" มากกกกก....อะ "แล้วเมื่อไหร่เราจะมีแฟนซักที หล่อขนาดนี้ สาวๆ เสียดายแย่" รอซอนเน่อยู่นี่แหละครับ

   "ไว้หาไอ้สวยกว่าท่านอาแล้วผมจะจีบนะ" ผมยิ้มทะเล้นพลางดึงมือนิ่มๆ ข้างที่ว่างมาจูบ

   "ปากหวานจริง ไอ้หนูนี่" ...อย่าเรียกไอ้หนูเลย ผมยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะ

   "เนี่ยไอ้พี่เรมันก็หลงแต่แฟน ไม่สนใจผมแล้ว น้องเรนกลายเป็นหมาหัวเน่า...ท่านอาต้องรักน้องเรนมากๆ นะ อย่าทิ้งผม" ...อุบาถกับความง้องแง้งของตัวเองชิบ...แต่คนฟังกับหัวเราะร่าถูกใจ

   "อ้อนจังเลยน้า....อยากให้รักมากๆ ก็มาหาอาบ่อยๆ สิจ๊ะ" ผมหลับตารับสัมผัสอ่อนโยนจากมือนุ่มที่ลูบหัวผมเบาๆ  หากเธอรู้ มันจะเป็นยังไงนะ...กลัวเหลือเกิน ว่าจะสูญเสียทุกสิ่งที่ได้รับไป

   "พวกซาโตนี่ มันยื่นข้อเสนอ...ให้ผมกับเรสร้างประตูนรกบานใหญ่ให้มัน" เข้าโหมดจริงจัง "มันบอก จะให้ทุกอย่าง เงินทอง อำนาจ และจะลากคอไอ้คนที่ฆ่าพ่อแม่ผมมาถวาย...ให้ผมได้ล้างแค้น" ภาพหลุมศพพ่อแม่ในอดีตลอยมาในความคิด นำพาจิตใจให้เศร้าหมอง

   "เรน..." ซอนเน่โยนรายงานในมือทิ้งไปพร้อมสบตาผมตรงๆ ใบหน้าสวยดูกังวล"ท่านไปสบายแล้ว...เรายังมีพี่เร มีท่านพ่อ แล้วก็พวกอาไงจ๊ะ...แล้วเรื่องที่พวกมันเสนอมานะ...อาว่า"

   "ไม่ต้องกังวลหรอกครับ หัวใจผมอยู่ตรงนี้...ผมจะไปไหนได้" ใช่แล้วครับทั้งร่างกายและวิญญาณผมมอบให้เธอไปหมดแล้ว

   สวรรค์อยู่กับเราได้ไม่นานเมื่อแขกอีกคนมาเยือน อัลสไวเดอร์ อาร์เคน ผมจำหน้าเขาได้รู้สึกว่าจะเป็นพ่อของพี่โย ซอนเน่ยิ้มให้กับผู้มาเยือน ส่วนผมก็ได้แต่โค้งน้อยๆ ให้กับคนอาวุโสกว่า

   "สวัสดีครับ คุณซานซิโอ อ่อแล้วก็ เรนใช่ไหม"

   "ครับ...แยกออกด้วยเก่งจัง"   

   "ไม่คิดว่าคุณจะให้เกียรติมาที่นี้ด้วยตัวเอง" ไอ้รอยยิ้มนั่นมันอะไร แววตาชื่นชมที่ซอนเน่มีให้หมอนั่น ผู้นำตระกูลสูงกับเรเวนกากๆ แบบผม มันทำให้ผมเจ็บปวดเกินกว่าจะยืนอยู่ตรงนี้

   "เอ่อ...งั้นผมกลับก่อนนะ"

   "จ้า...พรุ่งนี้มากินข้าวที่บ้านด้วยละ" ซอนเน่กอดลา  ทันทีที่ออกจากห้อง หน้ากากแห่งรอยยิ้มก็พังทลาย รักข้างเดียวมันทรมานชะมัด ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว มัวแต่กล้าๆ กลัวๆ คนอื่นคงซิวไปแน่ แต่ทำยังไงดีล่ะ ผมกับหมอนั่นมันมวยคนละรุ่นชัดๆ

   /พี่อยู่ไหน.../ ผมส่งไลน์หาไอ้เร

   /หอไอ้มีน/

   /ไปหานะ/ บอกแค่นั้นก่อนจะบึ่งรถออกนอกเมืองทันที มาใกล้ๆ แถวมหาลัยก็หาไม่ยาก หากผมกับพี่อยู่ไม่ไกลกันจนเกินไปจะรับรู้ตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที ห้องไอ้มีนอยู่ชั้นห้าระเบียงหันออกทางด้านหลังหอ มองซ้ายมองขวาไร้ผู้คนผมก็กระโจนขึ้นไปทันที ไม่มึคีการ์ดครับต้องขึ้นทางนี้แหละ

   (ประตูไม่ได้ล๊อค) เสียงไอ้เรดังขึ้นในหัว ผมจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปข้างใน ก่อนดึงมู่ลี่บังแสงไว้ดังเดิม

   (เมื่อคืนจัดหนักหรือไง) ผมแซว เมื่อเจ้าของห้องยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่ข้างๆ อิจฉาโว๊ย!!! ที่คอนโด เวลาสองผัวเมียนี่อยู่ก็ดีอย่างเสียอย่างครับ ดีตรงที่ครอบครัวอบอุ่นฟรุ้งฟริ้ง เสียก็ตรงเวลามันเอากัน ถึงเสียงไม่ดังแต่เดือดร้อนห้องข้างๆ เพราะเรเวนอย่างพวกเราประสาทสัมผัสดี ไอ้ผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนบางคืนทนไม่ได้ต้องเนรเทศตัวเองไปหาที่ลง แถมไอ้พี่ผมแม่งก็ขย้านนน...ขยัน เห็นเงียบแบบนั้นมันก็หื่นไม่แพ้ผมหรอก

   ไอ้เรที่กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์อยู่ มันยิ้มตอบก่อนจะตบแปะๆ ตรงที่ว่างข้างตัว ผมเดินไปหาคนเป็นพี่อย่างรู้หน้าที่ก่อนจะทิ้งตัวลงข้างมัน

   (ไอ้เด็กขี้แย) วงแขนแกร่งดึงผมเข้าไปกอด ผมซุกหน้าลงบนไหล่กว้างๆ นั่น ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่ากี่ครั้งที่ผมอ่อนแอ เรมักจะเป็นหลักให้ผมยึดเหนี่ยว ประคองให้ผมยิ้ม เข้มแข็งและยืนได้ แม้ในวันนี้มันจะไม่ได้กอดผมเต็มสองแขนเพราะต้องแบ่งอีกข้างให้คนที่มันรัก แต่มันก็พอแล้วสำหรับผม

   (ทำไงดี อยู่แบบนี้คงทนไม่ไหวแน่) ผมโอดครวญ

   (งั้นมึงก็จีบ...) พี่ชายผมบอก

   (แต่ซอนเน่ไม่ได้รักผมแบบนั้น) ผมแย้ง มันไม่เหมือนพี่กับไอ้มีนนะครับ ต่างฝ่ายต่างปิ๊งกันแบบไม่รู้ตัว

   (มึงแค่หยั่งรู้ไอ้น้องรัก แต่อ่านใจคนไม่ได้ หรือมึงจะอยู่แบบนี้ต่อไปจนตาย) ผมส่ายหัวยิก

   (แล้วถ้ามันออกมาแย่ละ) จะด่าว่าผมป๊อดก็เชิญ

   (มันต้องดีสิ เชื่อกู กูพี่มึง)

   (คลานออกจากท้องก่อนนาทีเดียวทำกร่าง ผมนะเรื่องอย่างว่าโชกโชนกว่าพี่เยอะ) ทำมาเป็นแนะนำ นั่งนับดูผมผ่านศึกเยอะกว่ามันลองมาหมดทั้งชายหญิง...เชอะ!!

   (หึ...เอาเป็นไม่ได้แปลว่ามึงเป็นผู้ใหญ่) ฉึก...ช่างเชือดเฉือนยิ่งนัก ไอ้เรมันก็เป็นผู้ใหญ่กว่าผมจริงๆ แหละ ก่อนมาเจอท่านพ่อ เรก็รับผิดชอบทุกอย่างมาตั้งแต่เด็ก

   (อาชวนไปทานข้าวที่บ้านพรุ่งนี้)

   (ก็ไปสิ มึงจะรออะไรครับ)

   แน่นอนผมจะไป ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมจะจีบคุณแล้วนะ ซอนเน่ ซานซิโอ น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อน หากเจอหน้าหล่อๆ ของไอ้เรนทุกวันแล้วไม่ใจอ่อนผมจะไปลาหมาตายพูดเลย

Talk Talk
[/b]

-มาเฉลยแล้วนะจ้ะว่าน้องเล็กรักใครชอบใคร คู่แข่งไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อของน้องโยนาห์เองจ้า :hao3:

-ติชมได้น้าาาา :hao7:

-ขออภัยในความไม่ต่อเนื่อง เพราะชีวิตวัยทำงาน หาเวลาว่างไม่ได้เลย :hao5:

-รักทุกคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 11-12-2015 19:46:58
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:มาต่อแล้ววววววว : 222222: : 222222: : 222222: : 222222: : 222222: : 222222: : 222222: : 222222: : 222222: : 222222:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-12-2015 19:52:07
 :hao5:    โอ๋ๆนะเรนน้อย. พี่น้องคู่นี้เขาน่ารักกันจัง
คุยกันแบบมีนไม่ต้องรำคาญด้วยเพราะเงียบกริบ

อ้าวพ่อน้องโย. หลบเลยหลบ
ขอบคุณนะคะที่มาต่อ.  :L1: 
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 12-12-2015 01:03:30
ซอนเน่ พี่สาวของรอทรึป่าว พ่อโยนาห์นี่ก็นะ ปล่อยเด็กๆไปเหอะ คิคิ
ไม่เป็นไรนะเรน สู้ๆ เอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-12-2015 01:30:44
จีบให้ได้ล่ะเรน :hao3:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-12-2015 08:20:24
โอ้โห เล่นของสูง จีบของยากเลยนะเรน~~~~
จะรุ่งรึจะแห้ว เดายากเลย 555555
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 12-12-2015 21:30:52
Logo แบบว่าทำเล่นๆ ว่าจะเอาไว้แต่งปก
[/size][/color]


(http://upic.me/i/d2/n-knightsmall.png) (http://upic.me/show/57425522)

(http://upic.me/i/c1/small.png) (http://upic.me/show/57425498)

:-[
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 12 Secretly Loves p.3 11/12/2015
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 28-12-2015 00:48:14
บทที่ 13 Crash
[/b]

   หลังจากหัวฟูกับการสอบวิชากลาง และปั่นชิ้นงานอาร์ตสรุปในแต่ละลายวิชาจนหัวฟูชนิดที่ว่าต้องละเว้นกิจกามบนเตียงกันเกือบสองอาทิตย์ พรุ่งนี้ช่วงเวลาแห่งการปิดเทอมของผมก็มาถึง ผมนะไม่เท่าไหร่แต่ไอ้เรนี่สิมันอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด สัมผัสได้จากบรรยากาศอึมครึมรอบๆ ตัวมัน

   "อื้อ ไอ้เชี่ยเร ขอกูนอนเถอะ" ผมบ่นขณะที่นอนแผ่หราบนเตียงนุ่มหลังกลับมาจากคณะ อดนอนมาหลายคืนง่วงเป็นบ้า แต่จมูกโด่งยังคลอดเคลียแก้มผมไม่เลิก ผมก็อมนุษย์นะแต่ทำไมถึงผอมแห้งแรงน้อยไม่ต่างจากมนุษย์ ผิดกับไอ้แฝดนรก แม้การสอบและชิ้นงานปลายภาคจะมากมายแค่ไหน แต่พวกมันกลับมีพลังงานเหลือเฟือไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

   "อืมมมม..."มันฟังผมซะที่ไหน ริมฝีปากร้อนประทับจูบอ้อยอิ่งแล้วดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปไกล ไอโฟนที่รักได้ช่วยชีวิตผมไว้ ร่างสูงฮึมฮัมอย่างขัดใจ

   "ฮัลโลคร๊าบบบบบ"

   "เหอะ...ลืมป๋าไปแล้วใช่ไหมบักหำน้อย" เสียงบิดาบังเกิดเกล้าดังขึ้นจากปลายสาย

   "มีนเปล่าลืม ปั่นงานท้ายเทอมส่งอาจารย์ไงป๋า" ผมแถ

   "ไม่ใช่มีแฟนแล้วลืมป๋าหรอกนะ" ใครลืม...ผมไม่เค้ย ไม่เคย ลืมท่านจะเอาตังไหนใช้(รู้สึกตัวเองชั่ว)

   "โถ...มีนจะไปลืมป๋าได้ยังไง เนี่ยปิดเทอมแล้วมีนว่าจะกลับบ้านอยู่เนี่ย" ผมอ้อน ตั้งแต่มาเรียนมหาลัยก็ไม่ได้กลับหนองคายเลย

   "ก็ดี ย่าเอ็งถามหาอยู่เนี่ย" น้ำเสียงผู้เป็นพ่อฟังระรื่นขึ้นทันตา "แล้วจะมาวันไหน"

   "ก็ว่าจะออกพรุ่งนี้แหละป๋า..." พ่อถามมาแบบนี้เลยรู้สึกอยากเดินทางซะเดี๋ยวนี้ "แต่มีนขอแวะเที่ยวก่อนได้ไหม อ่านจะสองสามวันถึงไปบ้านอะ แล้วมีนจะอยู่ยาวๆ เลยเนอะ"

   "เออ เออ ยังไงก็ตามใจแกเถอะ ถ้าแวะปากช่องอย่าลืมของฝากป๋าละ" พ่อผมจะอยากได้อะไรถ้าไม่ใช่ เหล้าอุ(เป็นไหที่ยัดสมุนไพรเวลาจะทานก็แค่เติมเหล้าขาวลงไปแล้วทิ้งไว อธิบายง่ายๆ ก็ยาดองประเภทหนึ่งนั่นแหละครับ)

   "ได้เลย" พูดถึงอุแล้วเปรี้ยวปาก

   "ว่าแต่ไอ้ลูกเขยมันมาด้วยหรือเปล่า" บางทีพ่อผมก็ใจง่ายไปนะ ยอมรับไอ้เรเป็นลูกเขยซะแล้ว ผมหันไปมองหน้ามันเพื่อขอคำตอบ มันหูดีได้ยินอยู่แล้วละ

   "ไปสิ...จะไปสู่ขอ"...ฉ่า หน้าผมแดงจนแทบไหม้ ได้ยินป๋าหัวเราะลั่นจากอีกฝั่ง

   "บอกมันเตรียมตังมาเยอะๆ แค่นี้แหละ ขับรถกันดีๆ...ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด" ท่านก็ทิ้งระเบิดแล้วจากไป

   "เก็บกระเป๋ากัน" ผมออกปาก...รีบหาเรื่องอื่นให้ทำเดี๋ยวโดนมันปล้ำ

   "ค่อยเก็บ" แต่มีหรือมันจะยอมเมื่อไอ้เรเล่นกอดผมแน่นหมายจะสานต่อเหตุการณ์เมื่อครู่...คือ ถ้ายอมมัน คืนนี้ยาวได้หลับบนรถแน่ หลับไปตามทางคงอดถ่ายรูปวิวรอบๆ แถมปวดเมื่อยอีกต่างหาก

   "เร..." ผมเรียกมันเสียงนิ่งทำเอาเจ้าตัวชะงัก "กูตามใจมึงก็ได้นะ แต่หลังจากนี้ยันเปิดเทอมงดไปเลย เอาปะ" ไม่ใช่แค่ขู่นะ ไอ้มีนเอาจริง หน้าตาผมก็คงจะเอาจริงคนตัวโตถึงกับยกมือขึ้นเหนือหัวท่ายอมแพ้ "แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย...ฮิฮิ" แซวเองเขินเอง

   พวกผมเปล่าทิ้งไอ้แฝดน้องไว้ลำพังนะครับ แถมเจ้าตัวยังอาสาทำงานแทนพี่ ทั้งงานล่า ทั้งเข้าสภา คือมันขยันผิดปกติ แว่วๆ มาว่า มันตามจีบคนในนั้นอยู่ จากแต่ก่อนชอบง้องแง้งว่าพวกผมไม่สนใจมัน ตอนนี้กลายเป็นมันไม่สนใจพวกผมแทน ฮ่าๆ...บางครั้งก็หายหัวไปค้างที่อื่น ไม่มีมันมากวนคอนโดก็เงียบลงไปเยอะ เพราะเรมันก็ไม่ได้ช่างพูดอะไรมากมาย

   เราออกเดินทางแต่เช้าโดยมีท่อนไม้เป็นสารถี สาเหตุที่ไม่นั่งเครื่องบินเพราะผมอยากแวะเที่ยวตามทาง นานๆ หยุดยาวที เป้าหมายแรกของทริปนี้คงจะเป็นฟาร์มแถวปากช่อง ก่อนจะแวะพักกันตรงเขาใหญ่ จะสโสลไลฟ์ซึมซับบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่นี่ซักสองคืน ก็นั่นมันคือแผน ตอนนี้ผมกำลังนั่งง่วนอยู่กับการหาที่พัก ดีหน่อยที่ไม่ใช่ไฮซีซั่นห้องว่างเยอะแต่ราคานี่สิ ข้อยเวียนหัวเลย

   "แม่งแพง" บ่นครับ...ดูราคาที่พักแล้วหน้ามืด คือตรงใกล้ๆ เขาใหญ่คืนละสามสี่พัน เข้าใจว่าบรรยากาศมันดี วิวงามแต่มันไม่แพงไปหน่อยหรอวะ "เข้าเมืองไปซื้อเต้นท์เถอะเรกูว่า"

   "สวยไหม" ดูมัน ไม่ตอบ ถามกูกลับเฉย

   "ถ้าหมายถึงรีสอร์ทที่ดูอยู่อะ สวย ในรีวิวคนก็ชมเยอะ" ว่าพลางโชวไอแพตในมือให้มันดู

   "แล้วชอบไหม"

   "ก็ต้องชอบสิ" ไอ้นี่ถามไม่คิด

   "ก็ไป เดี๋ยวกูจ่าย" เหอะไอ้คนรวยใช้เงินไม่รู้จักคิด

   "เย้...ขอบใจมึง" ก็บ่นมันในใจไปงั้น ใครจะไปปฏิเสธละ

   มาถึงเป้าหมายในช่วงสายๆ เพราะไอ้เรมันพวกตีนหนักขับรถไวผมนี่หัวใจจะวายตาย เข้าเขตเขาใหญ่อากาศที่นี่แตกต่างจากกรุงเทพอย่างสิ้นเชิง จนอดไม่ได้ที่จะลดกระจกรถลงสูดอากาศบริสุทธิ์ ลมเย็นนำพาจิตใจให้ผ่อนคลาย เรลดความเร็วรถลงอย่างรู้งาน คว้ากล้องมาเก็บภาพไปพลาง สีเขียวของป่าแบ่งเขตชัดเจนกับท้องฟ้าแจ่มใส ให้ภาพถ่ายเบลอบ้างชัดบ้างแต่ได้อารมณ์ดี

   "มึงเคยมาเที่ยวที่นี่เปล่าวะ" ผมถามเมื่อรถมาจอดยังรีสอร์ท... ที่ดูไว้

   "เคย" มันตอบแค่นั้นพลางหยิบกระเปาเสื้อผ้าของเราออกจากเบาะหลัง ส่วนผมหอบกระเป๋ากล้อง กระเป๋าเลนและอุปกรณ์ยิบย่อยออกมาแต่ไอ้เรมันแย่งไปถือจนที่ตัวเหลือแค่กล้องโปรตัวเดียว

   ตัวอาคารล๊อบบี้สร้างจากไม้ผสมคอนกรีตดูกลมกลืนกับวิวเขาด้านหลังแต่ยังคงความหรูหราได้อย่างน่าทึ่ง แต่ที่ถูกใจสุดๆ คงเป็นทางเดินระแนงไม้หน้ารีเซฟชั่นที่ด้านล่างเป็นบ่อน้ำ มีพืชน้ำแซมตกแต่ง ราวกับกำลังเดินบนลำธาร ทุกการออกแบบคือแบบว่าสวยเว่อร์ แถมยังมีสนามกอล์ฟ และกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ สมราคาแพงๆ ของมันนั่นแหละ

   "มากี่ท่านค่ะ" พนักงานต้อนรับทักทายเสียงหวาน ก็เห็นอยู่เดินมาสอง

   "สองครับ" ผมตอบ

   "แล้วได้จองล่วงหน้ามาหรือเปล่า" พนักงานสาวคนเดิมถามต่อแต่สายตากับจดจ้องอยู่ที่ร่างสูงข้างตัวบอกให้รู้ว่าเธอจงใจถามใคร

   "เปล่าครับ ดูรีวิวในเว็บมาเลยสนใจ" ไม่ได้เสือกนะครับ คุณคิดว่าเรมันจะตอบหรอ

   "เอ่อ นี่คือรายการห้องของเราค่ะ แต่ตอนนี้ในส่วนห้องธรรมดาเต็มแล้วค่ะ จะเหลือก็แต่ที่เป็นฮอริซอนวิวสองห้อง เทอเรนสูทสำหรับที่เป็นครอบครัว แล้วก็เต็นท์ วิลล่า อันนี้จะมีแค่สี่หลังนะค่ะและมีสระว่ายน้ำส่วนตัว" พนักงานอีกคนยื่นโบวชัวร์ให้เรา บางที่ยื่นให้อ่านเอง แต่สาวเจ้าเล่นอธิบายยาวซะ รู้สึกหมั่นไส้นิดๆ กับอาการยิ้มเขินตอนมองหน้าไอ้เรของเหล่าพนัก แต่กับผมแม้จะแค่แวบเดียวแต่ก็แอบเห็นสายตาจิกๆ เหลือบมองผมก่อนที่นางจะปั้นยิ้มต่อ ฮึ่ยยยยยย!!!! เกิดมาหล่อน้อยกว่ามัน แค้นวะ

   "มึงคิดว่าไง" ผมรับมาอ่านเห็นราคาแล้วตกใจ หันไปมองหน้าคนจ่ายแบบขอความเห็น กูนอนข้างทางก็ได้มั้งถ้าจะคืนหลักหมื่นขนาดนี้ ไอ้เรชี้ที่รูปสุดท้าย "จะดีหรอวะ..."

   "ส่วนตัวดี"

   "เอ่อ...งั้นก็เต็นท์วิลล่าแล้วกันครับ" เอาเถอะ ซื้อความสุขครั้งหนึ่งในชีวิต "สองคืนครับ เพิ่มยังไงเดี๋ยวแจ้งอีกที"

   "รบกวนขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ สนใจชำระเป็นบัตรเครดิตหรือเงินสดค่ะ" เรเอี้ยวตัวให้ผมหยิบกระเป๋าตังในกระเป๋าหลังกางเกงยีนมัน รื้อเลยครับเงินของเรก็คือของมีนเงินของมีนก็คือของมีนนะครับ...เขาบอกผู้ชายที่ดีควรให้เมียเก็บตัง กรอกรายละเอียดจ่ายตังเสร็จสรรพ แต่ยังไม่ทันจะออกเดิน พนักงานกลับถามขึ้น

   "คือ ห้องมันเป็นเตียงคู่นะค่ะ คือถ้ากลัวไม่สะดวกยังไง เราเปลี่ยนเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียงให้ได้นะค่ะ" เอ่อ...มันเปลี่ยนได้ด้วยหรอวะ คือเลิกพยายามเถอะคนงาม ถามให้ตายไอ้เรมันก็ไม่คุยด้วยหรอก "จะได้นอนสบายๆ ไง" เธอยิ้มอย่างรอคำตอบ แล้วก็เรก็หันไปยิ้มตอบ

   "ไม่เป็นไรครับ มากับแฟนสะดวกดี" คือถ้าผมหัวเราะมันจะเสียมารยาทเปล่าวะ...ก็สองสาวทำหน้าเหวอซะขนาดนั้น มันตลกซะผมลืมเขินเลย แต่พอหันมาเจอสายตาคิมกริบที่ไอ้เรมองผมถึงกับสะดุ้งเฮือก ตาขวากระตุกสงสัยคืนนี้จะเสียตัว


   "เร็วดิวะเร ไปถ่ายรูปเล่นกัน เดี๋ยวมืดก่อน" ผมเร่งเรที่เปลี่ยนไปเสื้อกล้ามกางเขงขาสั้นสบายๆ ก่อนจะจูงมือมันให้เดินตาม ทิวเขาตรงนั้นก็สวย สระว่ายน้ำตรงที่พักก็งาม ดูสวนนั่นสิ...ชักจะจิตหลุดไปไกล รู้ตัวอีกทีพากันมาเดินเล่นอยู่ริวรั้วของตัวรีสอร์ท

   "เฮ้ย!!!!!" ผมร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ไอ้เรก็ช้อนอุ้มในท่าเจ้าสาว "คือ...มะ มีอะไร ปล่อยกูลงเลย...เชี่ย" แล้วจู่ๆ มันก็พาผมทะยานขึ้นฟ้าด้วยปีกสีดำของมัน พื้นหญ้าที่ดูห่างไกลขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาใจหายวาบ คือกูกลัวความสูง แง...ได้แต่ซุกหน้ากับอกแกร่งพร้อมกอดคอมันแน่นเพราะกลัวตก ไม่มงไม่มองแล้วครับอย่าพาไปตายพอ

   "ถึงแล้ว..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหูพร้อมปล่อยผมลงเบาๆ พื้นหญ้านุ่มทำให้ใจชื้นพอจะเงยหน้ามองไปรอบตัว หนองน้ำขนาดใหญ่ตรงหน้า กับทุ่งหญ้าและแมกไม้ของป่าเบญจพรรณทำเอาดวงตาวาวโรจน์ด้วยความตื่นตะลึงยิ้มกว้างอย่างหุบไม่อยู่

   "สวย..." พูดออกมาแค่นั้นก่อนจะหันมามองเรอย่างขอบคุณ ใบหน้าคมยิ้มตอบก่อนจะก้มลงมาจูบเบาๆ ให้เขินเล่น

   กดชัตเตอร์เก็บบรรยากาศไป บ้างก็ถ่ายรูปไอ้เรตอนเผลอ แฟนใครวะเท่สัดๆ ตลกตัวเองมาก ร้อยวันพันปีไม่เคยพิศวาสในตัวผู้ชายแล้วไงถึงมาตกลงปลงใจกับไอ้เรเวนตนนี้ได้ บริเวณนี้อากาศค่อนข้างเย็น แต่เจอแดดจ้าฟ้าใสยามบ่ายก็ไม่ไหวเหงื่อเริ่มมา มองดูหนองน้ำกว้าง มันใสซะจนมองเห็นกรวดข้างใต้ เห็นแล้วอยากลงไปว่ายดูจัง ตั้งแต่กลับจากทะเลผมลองกลายร่างเป็นเงือกบ้าง ในอ่างที่คอนโดแต่ยังมีปัญหากับการคืนร่าง แต่ก็สามารถตั้งสมาธิทำได้เองในบางครั้งแต่นั่นก็ยังทำให้ผมคิดหนักว่าจะลงเล่นน้ำดีหรือเปล่า

   "อยากเล่นก็เล่น แถวนี้ไม่มีคน" ไอ้เรบอกพลางถอดเสื้อกล้ามวางรองพื้นก่อนจะดึงกล้องจากมือผมไปวาง ตามด้วยแว่น โทรศัพท์และกระเป๋าตัง

   "เอ่อ...หันไปทางอื่นหน่อยดิ" ผมจะถอดเสื้อผ้าไง แต่ดวงตาสีน้ำเงินนั้นกลับเอาแต่จ้องจนรู้สึกประหม่า "หันไปๆ กูอายย" เดาว่าหน้าผมคงแดงแปรดเลยตอนนี้

   "ทำอย่างกับกูไม่เคยเห็น หึๆ"

   "กูไม่ได้หน้าด้านแบบมึง!!!!" ยัง...มันยังจะยิ้ม คนด่าไม่ได้รู้สึกเลย "เร...งือ ขอร้องเหอะ..." แล้วมันก็ยอมหันไป ถอดไปแอบมองมันแบบระแวงไป พอหมดพันธนาการผมรีบกระโจนลงน้ำในทันที

   น้ำเย็นสดชื่ออย่างที่คิด ความรู้สึกเจ็บปลาบแผ่กระจายเพราะร่างกายที่เปลี่ยนแปลงกลายเป็นหางซึ่งปกคลุมด้วยเกล็ดสีมุกแวววาวสะแสงอาทิตย์ ผมดำผุดดำว่ายเพื่อให้ชินกับการบังคับร่างกาย รู้สึกอิสระเป็นบ้าเลย ผมว่ายไปยังโขดหินกลางน้ำที่มีมอสปกคลุมก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งตีหางกับน้ำเล่น...หันไปมองเรที่ตอนนี้กำลังสนอกสนใจภาพในกล้องสลับกับมองตามผม ไอ้ท่าทางนิ่งๆ นั่นชวนให้นึกอะไรเจ๋งๆ ได้

   "เฮ้ย!!! เร มาดูนี่ดิ" ผมตะโกนข้ามไป ทำท่าถืออะไรไว้ในมือ แสร้งมองมืออย่างสนอกสนใจ ใจผมนะอยากให้มันโดดลงน้ำว่ายมาดูแต่พี่ท่านกลับกางปีกบินมาหา "เนี่ยดู..." พอมันเข้าใกล้พอเอื้อมดึงผมจัดการคว้าแขนมันลากลงน้ำไปด้วยกัน

   ตูม!!!! ซ่า!!!!! เราทั้งคู่เอนตกลงไปในน้ำ เรดูตกใจเล็กน้อยแล้วทำท่าเหมือนนึกได้จึงยิ้มออก ผมว่ายวนรอบๆ ตัวมัน หยอกล้อ ให้มันว่ายตาม แขนแกร่งคว้าหมับเข้าที่เอวเมื่อมันไล่ทัน หมุนตัวผมให้หันกลับไปเผชิญหน้า นันย์ตาสีน้ำเงินจ้องลึกลงมาทำเอาผมหยุดชะงัก ไม่ว่ากี่ครั้งดวงตาของมันก็สะกดผมได้เสมอ ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจทุกความรู้สึกของเรถูกถ่ายทอดผ่าแก้วสีน้ำเงินล้ำลึกลงสู่ใจ เมื่อรวมกับบรรยากาศรอบตัวซึ่งงดงามราวกับเทพนิยาย แผ่นน้ำ ผืนป่า และทิวเขา หยุดเวลาของเราไว้ตรงนี้

   "ขอบคุณนะ..." ผมบอกเสียงแผ่ว คิ้วหน้าเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัยแต่ก็ยิ้มรับ ในหัวมันว่างเปล่าจนนึกไม่ออกว่าอยากขอบคุณมันเรื่องอะไร...หรืออาจจะเป็นทุกๆ เรื่องที่มันทำให้ "เร..."

   "กูก็ ขอบคุณ" มันพูดออกบ้าง มือกร้านเกลี่ยเบาๆ ที่ข้างแก้มจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วหน้า "ที่เข้ามาในชีวิตกู" ก่อนที่มันจะดึงผมเข้าไปจูบ ริมฝีปากร้อนบรรจงจูบอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนิบช้าแต่ดูดดื่ม จิตใจล่องลอยไปไกลกับความอ่อนหวานของมัน แขนแกร่งโอบเอวไว้หลวมๆ เผลอโอบแขนคล้องคอมันอย่างลืมตัว ไอ้เรเริ่มจะซนแต่การประคองตัวให้ลอยบนผิวน้ำมันจึงทำอะไรได้ไม่มากนอกจากลูบไล้ไปตามแผ่นหลังให้ผมสยิวเล่น ริมฝีปากร้อนถอนจูบอย่างเสียดายไม่วายพรมจูบไปทั่วหน้าทิ้งท้ายก่อนจะยอมผละออกแต่โดยดี

   อย่าคิดว่าคนอย่างเรจะหยุดแค่นี้ ร่างสูงรั้งกายขึ้นนั่งบนโขดหินกลางน้ำแล้วดึงผมตามขึ้นไปนั่งบนตักมัน ไม่รู้ว่าตัวผมเบาหรือมันแรงควายถึงได้ถูกมันจับอุ้มราวกับตุ๊กตา แขนแกร่งกอดเอวผมไว้แน่น ส่วนอีกข้างเชยคางผมให้เงยขึ้นรับจูบเร่าร้อนเอาแต่ใจของมัน จูบเก่งนักใช่ไหม...หึ ดวลกันซักหน่อยเหอะ ถึงผมจะไม่ได้เทพ แต่คนเรามันต้องเรียนรู้ ลิ้นร้อนหยอกล้อในเรียวปาก เกี่ยวกระหวัดราวกับกระหายในตัวของกันและกัน มือกร้านที่บีบคลึงสะโพกหนักเตือนถึงห้วงอารมณ์ของมันที่เลยเถิดมาไกล

   "เร...นี่มัน กลางแจ้งเลยนะเว้ย" ผมดันอกแกร่งออกอย่างตระหนกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน

   "ไม่มีใครอยู่แถวนี้หรอกน่า...ไม่มีคนเห็นหรอก" มันแย้ง

   "แต่มึง...แบบว่ามัน..."

   "เมื่อคืนมึงยังใจร้ายกับกูไม่พอหรอ ฮึ" เสียงทุ้มตัดพ้อ ดูทำหน้าเข้าสิ ผมควรรู้สึกผิดไหม

   "มึงหมกมุ่นเกินไปหรือเปล่า" ผมแขวะอย่างนึกหมั่นไส้

   "หึ...ก็อยากเฉพาะกับมึงเท่านั้นแหละ" ใบหน้าคมยิ้มร้ายพลางไล้มือไปบนแผ่นอกผมเบาๆ ให้สะท้านเล่น "ก็มึงน่ากินขนาดนี้ กูทนไม่กดมึงจนหมดช่วงสอบได้นี่สุดๆ แล้ว สงสารผมเถอะนะ ที่รัก" อ๊ากกก...แล้วทำไมต้องมากระซิบข้างหูด้วยเสียงเซ็กซี่แบบนั้นด้วยเล่า ปกติถามคำตอบคำที่ไอ้เรื่องอย่างว่านี่มึงขยันต่อรองจังนะ

   "มึงนี่...แม่ง...." ไม่รู้จะด่าคำใด จึงได้แต่เงียบหลบตามัน

   "มีนครับ" ไม่ต้องมาพูดเพราะเลย "นะครับ" คิดว่าจะใจอ่อนหรอ "ไม่ตอบกูปล้ำแล้วนะครับ"

   "เชี่ย...จะทำอะไรก็ทำ จะเย็นแล้วเนี่ย เดี๋ยวมืดก่อนหรอก" ผมวีน

   ผมตั้งสติเปลี่ยนหางให้กลับคืนร่างเดิมจนกลายเป็นนั่งคร่อมตักมันไว้ในตอนนี้ บทรักเริ่มบรรเลงอีกครั้งจมูกโด่งซุกไซร้ไปตามตัว บ้างขบเม้ม กดจูบทิ้งรอยไว้ทั่ว ลมหายใจของผมสะดุดในทุกครั้งที่ถูกสัมผัส เผลอครางชวนให้รู้สึกกระดากจนต้องกัดริมฝีปากห้ามเสียงไว้ ทอดมองลำตัวหน้าลูบไล้ไปตามอกแกร่งอย่างหลงใหลและชื่นชม  ลูบต่ำลงผ่านกล้ามท้องที่เรียงตัวกันดูสวยงามจนนึกอิจฉา ก่อนจะดึงรั้งขอบกางเกงขาสั้นและกางชั้นในของร่างสูงลงให้ความแข็งแกร่งปรากฏต่อสายตา ผมได้แต่มองเรน้อยอย่างอึ้งๆ เมื่อนึกถึงยามที่มันอยู่ในร่างของผมแล้วอารมณ์มันขึ้น มีนหัดเป็นคนจังไรตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

   "หึๆ...อย่าเอาแต่มองสิ" เรว่าขำๆ พร้อมดึงมือผมไปรวบของเราทั้งคู่แลวบังคับให้ขยับรูด

   "อ๊ะ...เร" เสียวสัด รู้สึกตื่นตัวมากกว่าปกติส่วนหนึ่งเพราะเราอยู่ในที่โล่ง ทำไอ้ใจเต้นแรงแทบทะลุจากอก ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วเรียวสอดลึกเข้ามาในกาย หมุนวนกดเค้นอย่างรู้จุดทำเอาผมร้องครางอย่างกลั้นไม่อยู่

   "ขอโทษนะ"  ????

   "โอ๊ย...เร อ๊ะ เบา...ฮึก" ผมร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาทีเดียวจนสุด น้ำตาร่วงด้วยความทรมานเมื่ออีกฝ่ายขยับกายอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว มันทั้งเจ็บ ทั้งเสียว  เหมือนทุกความรู้สึกมันโถมเข้ามาจนเกินจะครองสติได้ ถึงอากาศจะเย็นแต่ภายในกลับร้อนรุ่มจนเหงื่อโทรมกายสองมือไขว่คว้าร่างหนามากอดไว้เป็นหลักยึด ท่อนเนื้อร้อนที่เสียดสีด้านใน กระแทกย้ำๆ ตรงจุดกระสันจนต้องจิกข่วนแผ่นหลังของเรเพื่อระบายอารมณ์ เสียงทุ้มครางต่ำที่ข้างหูกระตุ้นความอยากจนแทบคลั่ง ไม่คิดว่าเรจะทำให้ผมจมดิ่งได้ขนาดนี้ หรือเพราะเรากำลังทำกับคนที่รักมันจึงรู้สึกเหมือนกำลังถูกเติมเต็มทั้งกายและใจ เหมือนที่เขาว่าเซ็กซ์กับเมคเลิฟนั้นต่างกัน

   "เร...อ๊ะ" ร่างทั้งร่างสั่นเกร็งเพราะความรัญจวนถึงขีดสุดเมื่อเอวหนากระแทกกระทันเร็วรัวจนร่างสั่นคลอนไปตามแรง มือทั้งสองที่บดขยี้ยอดอกจนผมบิดเร่าอย่างซาบซ่าน

   "พร้อมกัน....อา..." เรพรมจูบไปทั่วหน้าก่อนจะจบที่ริมฝีปากผมด้วยจูบหนักๆ เร่งเร้าทุกสัมผัสจนพาเรามาถึงจุดสิ้นสุดพร้อมๆ กัน ภายในเต็มตื้นจนเอ่อล้น ผมฟุบหน้าลงกับไหล่หนา หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เรจูบขมับ แล้วนิ่งกอดผมไว้อยู่แบบนั้น

   "อ๊ะ" แก่นกายถูกถอนออกพร้อมอะไรๆ ที่ไหลเลาะตามมา

   "มึงโอเคไหม" มันถามอย่างนึกห่วงพลางลูบหัวผมเบาๆ

   "กูเหนื่อย...พักแปป"

   "กลับไหม เย็นแล้วเดี๋ยวจะมืดก่อน" มองฟ้า พระอาทิตย์เริ่มตกดิน คงใกล้เวลากลับอย่างมันว่า แต่สายตาที่มึงมองมานี่สิ

   "เร...กูรู้นะมึงคิดอะไร" โอ๊ย... ...งือ...เขินจะตายอยู่แล้วเนี่ยเหนื่อยแถมเริ่มหิวแล้วด้วย

   "หรือเมียอยากจะเอาท์ดอร์ อีกซักรอบ"

   "ไอ้จังไร...ทะลึ่งวะ...ไอ้ๆ..." ผมวักน้ำใส่หน้าคมที่ส่งยิ้มทะเล้นมาให้ ไอ้ที่หน้าแดงเนี่ยไม่รู้โมโหหรืออาย "กลับสิ...แม่ง" มืดแล้วยุงจะเยอะ ยิ่งผิวบางๆ แค่รอยจูบมึงกูก็ลายทั้งตัวแล้วเนี่ย....อยากจะร้องไห้

   "หึๆๆ" มึงจะหัวเราะเพื่อ!!?


   เรพาผมกลับมาถึงรีสอร์ทก็มืดพอดี เราตัดสินใจจะสั่งอาหารมาทานที่พักเพราะผมขี้เกียจ ที่นี่มีห้องอาหารญี่ปุ่นระดับห้าดาว ส่วนตัวคิดว่ามันก็เข้ากับบรรยากาศแห่งขุนเขาดีนะ แบบทานอาหารแล้วดื่มด่ำกับธรรมชาติตามปรัชญาเซน ผมสั่งปลาซาบะย่างซีอิ้ว ปลาดิบรวมเซตใหญ่ แซลมอนยำ ไข่ปลาแซลม่อนห่อสาหร่าย ปลาโอ แล้วก็สารพัดเมนูปลา จนไอ้เรแซวว่าผมทรยศต่อเผ่าพันธุ์ ก็คนมันชอบทำไงได้

   เราใช้เวลาวันที่สองทำโน่นเล่นนี่ เป็นกิจกรรมที่มีให้บริการในรีสอร์ท ปั่นจักรยานไปรอบๆ หัดขี่ม้า เก็บผลไม้สดๆ จากไร่มากินเอง โดยรวมก็สนุกดี ส่วนตอนกลางคืนเป็นคิวของคุณชายท่านเล่นผมซะหนำใจ ทริปนี้ไอ้เรเวนหื่นเปลืองตัง ส่วนน้องมีนผู้น่าสงสารเปลืองตัว...คิดซะว่ามาฮันนีมูน...เรมันว่างั้น


   เราออกเดินทางต่อในเช้าวันที่สาม ผมมีบ้านอยู่สองหลังครับ หลังหนึ่งอยู่ในตัวอำเภอตรงที่พ่อเปิดร้านขายอะไหล่ ส่วนอีกหลังเป็นบ้านพักต่างอากาศอยู่ริมโขง ในวันหยุดยาวผมมักใช้เวลาที่บ้านหลังนั้นเพราะผมชอบว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก ตั้งใจว่าจะแวบไปให้ปู่ย่าเห็นหน้าพอหายคิดถึง อ้อนป๋า พาไอ้เรเที่ยวในเมือง แล้วค่อยหลบไปทำตัวอาร์ตที่บ้านริมโขง ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ หลับบนรถเพราะสูญสิ้นพลังงานไปมากเมื่อคืน แรงกระชากของรถทำผมสะดุ้งตื่น

   "อะไร!!!!" ผมหันไปถามคนขับอย่างตกใจ

   "มีคนตามเรามา" เรบอกพลางเพ่งมองถนนพร้อมเพิ่มความเร็วจนหลังผมติดเบาะ หันไปมองด้านหลังรถแวนสีดำสองคันกำลังไล่หลังมาด้วยความเร็วไม่แพ้กัน กระทิงดุควบทะยานไปตามถนนโดยมีแรนโลเวอร์สองคันเกาะตามมาติดๆ ใกล้พ้นเขตทางเลี่ยงเมืองซึ่งข้างหน้าเป็นทางหลวงชนบน แม้จะลาดยางแต่ก็โค้งงอจนหน้าตกใจ

   "พวกไหน"

   "เดาว่า ซาโตนี่...จับดีๆ นะมีน"

   "เร! ระวัง" ผมร้องลั่นเมื่อสิบล้อเลนตรงข้ามขับแซงขึ้นมาเลนเรา ตายๆๆๆ ผมเบิกตามองก้อนโลหะขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งมาหาเราอย่างตื่นกลัว ด้วยความเร็วกว่าสองร้อยไม่มีทางที่จะเบรกทันแน่ เรหักหลบลงข้างทาง

   "มีน!!!!" ไวเกินความคิดเมื่อเรปลดเข็มขัดตัวเองและผมออกจากที่นั่งแล้วดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น แรงเหวี่ยงมหาศาลทำให้รถเราพลิกคว่ำลงข้างทางจนร่างของเรากระแทกแรงภายในห้องโดยสารโดยมีตัวของเรรองรับร่างผมเอาไว้

   ปัง!!!! เสียงปะทะดังสะนั่นเมื่อตัวรถกระแทกเข้ากับต้นยางใหญ่ข้างทางจนยับเยิน แรงกระแทกละแรงเหวียงทำเอาสมองพล่าเบลอ รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง หากไม่มีเรโอบกอดไว้ผมแหลกเป็นชิ้นๆ

   "เร..." ใบหน้าคมที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดมองตอบผมแต่มันช่างพล่าเบลอ

   "กู...ไม่เป็นไร" เสียงมันสั่นและดูฝืนเต็มที

   "เร...เร" ผมพยายามฝืนเรียกอีกคนแม้สติจะเรือนราง กลัวจับใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้หากผมต้องหลับไป

   "ไม่ต้องกลัวนะ กูไม่ทิ้งมึงหรอก" แต่เหมือนร่างกายไม่ฟังคำสั่งใด เพระทุกอย่างดับวูบไปเมื่อสิ้นคำพูดของมัน



Talk Talk
[/b]

-ขอประทานอภัยที่หายหน้าไปเนื่องจากงานรับปริญญา หมดแรง หมดตัง หมดตัวเลยทีเดียว และมันยังเป็นผลต่อเนื่องไปจนถึงงานที่กองเต้มโต๊ะเจียนจะเป็นลมเนื่องจากลาหลายวัน :sad4: เค้าขอโทษจริงๆ สำหรับความล่าช้านี้  :mew4:

-ขอไถ่โทษด้วยรูปแฝดน้องแล้วกันเนอะ  :mew2:

-เลิฟ เลิฟ มาหลายตอนเข้าโหมดจริงจังกันซักที  :mew1:

-สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ และอย่าลืมไปเยี่ยมชมนิยายเรื่องแรกของเราได้ที่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0)
กับเรื่อง Night Knight อัศวินรัติกาล  :-[

-ปีใหม่นี้สมหวังในทุกอย่าง พอใจกับสิ่งที่เป็น แล้วความสุขจะมาเอง สำหรับคนที่มีความฝัน อยากทำอะไรทำซะ ต่อให้ถูกด่าว่าไร้สาระ จงศรัทธา และเชื่อมั่นในเป้าหมายตน ไม่มีใครชอบเหมือนเราทุกคน ทำให้ดีที่สุด YOLO every one


(http://upic.me/i/91/861150_1487196691590113_8696404879073176814_o.jpg) (http://upic.me/show/57533490)
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-12-2015 06:17:40
งื้อน้องมีนต้องไม่เป็นอะไรนะ

รอตอนต่อไปค่ะ.   :hao5:

ขออวยพรปีใหม่ให้คนเขียนไม่เจ็บไม่จนนะคะ. สมหวังๆ ได้ทำอะไรอย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 28-12-2015 10:46:01
เร!! มีน!! พุ่งได้ฮันนีมูนไม่เท่าไหร่
ก้อเกิดเรื่องซะอย่างนั้น TT รอตอนหน้าคร้า อน่าเป็นอะไรกันไปนะทั้ง 2 คนนนน

ปล. สุขสันต์ปีใหม่คร้า มีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรง ^^
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 28-12-2015 11:50:09
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ :katai1:
เรย์หื่นมากอะ กร๊าก~~~
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-12-2015 12:16:23
หื่นๆอยู่ดีๆตื่นเต้นเฉยเลยยย
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 28-12-2015 21:44:57
ไปเที่ยวสวีทหวานกันไม่เท่าไหร่เกิดเรื่องซะแล้ว เอาแล้วไงคราวนี้คงมีให้ลุ้นตลอด
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 29-12-2015 02:36:53
ได้ไปฮันนีมูนกันแล้วแท้ พวกนี้ตามตื้อซะจริง อย่าเป็นอะไรไปนะทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-12-2015 09:50:11
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 13 Crash p.3 28/12/2015 คิดถึงจังQ_Q
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 08-01-2016 16:34:53
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 14 Prisoner P3 14-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 14-01-2016 20:38:16
บทที่ 14 Prisoner


Rain Say


   เพลัง!!! แก้วน้ำที่อยู่ในมือผมแตกกระจาย เมื่อความเจ็บปวดมหาศาลถาโถมมาที่ร่าง จนทรุดลงไปนั่งกับพื้นในห้องทำงานของซอนเน่ วันนี้ผมแวะมาที่สภากลางเพราะอยากเห็นหน้าคนที่รัก แม้ปราศจากเลือดและบาดแผลแต่มันก็ทำให้ใจของผมสั่นกลัว เพราะมันหมายถึงสิ่งที่อีกคนกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ เรกำลังอยู่ในอันตราย

   "เรน!!!" ซอนเน่รีบวิ่งเข้ามาในครัวเพราะได้ยินเสียง เธอทรุดตัวลงประคองผม

   "พี่เร...ท่านอาพี่เร" ผมระล่ำระลักบอก ไขว่คว้ามือนิ่มนั่นมาจับไว้แน่น

   "เรเป็นอะไร"

   "มันกำลังตกอยู่ในอันตราย" แฝดมักมีความเชื่อมโงยงกันและด้วยพลังแห่งสายเลือดเรเวนยิ่งทำให้ทั้งผมกับเรสามารถเชื่อมถึงกันได้ แม้มันจะอยู่ใกลเกินกว่าจะคุยกันในจิตแต่อารมณ์ความรู้สึกบางอย่างผมจะรู้สึกได้เช่นกัน ดังความเจ็บปวดเมื่อครู่แม้จะแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็ชัดเจนพอ ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่ผมแน่ๆ

   "แล้วเรอยู่ไหนละ" ซอนเน่ร้อนรน

   "มันไปเที่ยวกับมีน ผม...ไม่รู้ มันบอกจะไปหนองคาย" พยายามตั้งสตินึก " โทรศัพท์...เช็ค gps จากโทรศัพท์มัน" ร่างบางลนลานลุกขึ้นไปยังคอมบนโต๊ะทำงานเพื่อหาตำแหน่งของหลานรัก
 
   "เจอตำแหน่งแล้ว" ซอนเน่ร้องออกมา ผมจึงรีบลุกไปดู ตำแหน่งสุดท้ายที่เจอสัญญาณโทรศัพท์พวกมันคือทางเลี่ยงเมืองไปขอนแก่น ท่านอาจึงกดโทรศัพท์สั่งคนตามหาทันที "คำสั่งด่วน เจ้าหน้าที่ในพื้นที่นครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ให้ไปตรวจสอบที่พิกัด... ฉันบอกด่วน ภายในครึ่งชั่วโมง ... แล้วโทรมารายงานด้วย ...ได้...ไวๆ นะ ฉันรีบมาก รบกวนด้วย...ขอบคุณ"

   "ตอนนี้ทำได้แค่รอ ?" ผมถามเสียงอ่อน ทรุดนั่งลงกับโซฟาอย่างหมดแรง ถึงไอ้เรมันจะเก่งจะแกร่งแต่ผมก็กลัวเพราะลางสังหรณ์ของเรเวนไม่เคยพลาด ผมหลับตาพิงหลังกับพนักอย่างข่มใจ หวังว่าเราสองพี่น้องจะสื่อถึงกันได้แม้ว่าตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนก็ตาม






Min Say


   ผมตื่นขึ้นมาบนพื้นปูนเย็นเฉียบ รอบตัวมืดสลัว ได้ยินเสียงน้ำหยดก้องไปทั่วบริเวณอย่าบอกนะว่าดดนขังในห้องน้ำอนาถจริง แค่ขยับก็เจ็บร้าวไปทั้งกาย มือทั้งสองโดนมัดไขว้หลังไว้ ขาก็ด้วย ก่อนหน้านี้เราโดนใครสักคนไล่ล่าจนรถเสียหลักลงข้างทาง

   "เร..." ผมร้องเรียกเสียงแผ่วเพราะคอแห้งจนแสบไปหมด "เร...มึงอยู่ไหน"

   "ตรงหน้ามึง" เสียงทุ้มคุ้นหูช่วยทำให้ใจชื้น พยายามหรี่ตามองในความมืดก็พบใครอีกคนโดนมัดตรึงไว้ตรงกำแพงด้วยโซ่เหล็ก  หากเป็นปกติมันคงกระชากขาดไปแล้วถ้าไม่มีวงเวทย์ตรึงไว้อีกชั้น

   "มึงเป็นไรมากไหม ยังเจ็บ!...อึก...อยู่ไหม" ผมฝืนขยับตัวไปหามันด้วยความเป็นห่วง

   "ห่วงตัวเองเถอะมีน" มันปรามเสียงดุ "อย่าขยับเยอะ!!!"

   "เราอยู่ที่ไหน"

   "ไม่รู้ รู้แต่พวกซาโตนี่จับเรามา" มันบอกเสียงเครียด

   "ทำยังไงดี...มึง...มันจะทำอะไรเราหรือเปล่า" ผมถามอย่างร้อนรน ความเงียบที่ได้รับมันทำให้ผมใจเสีย

   พรึบ!!! จู่ๆ ไฟในห้องก็สว่างขึ้นมาทันใด เผยให้เห็นทุกสิ่งอย่าง อ่างน้ำขนาดใหญ่ มีด เตียง อุปกรณ์ทรมานสารพัด อย่างกับในหนังสยองขวัญ แล้วอมนุษย์กว่ายี่สิบตนจะย่างเท้าเข้ามาหาเรา บางคนมาในร่างเต็ม เป็นอสูรร้าย บางคนอาวุธครบมือจนอดสะพรึงไม่ได้ มันตัวหนึ่งถลาเข้าใส่เรอย่างโกรธแค้น

   "มึง!!!!" พลัก!!! หมัดหนักๆ ซัดเข้าหน้าคมจนหันไปด้านข้าง ทำเอาผมตกใจ

   "ใจเย็นดิวะ" ชายร่างยักษ์เข้ามาดึงเพื่อนไว้ก่อนที่มันจะได้ซ้ำ

   "แต่มันฆ่าไอ้วี!!!" เจ้านั่นตะโกนอย่างขุ่นเคือง เอาว่าคงเป็นหนึ่งในแบล็คลิสที่เรกำจัดทิ้ง "แม่ง!! นานๆ จะมีโอกาสกระทืบ!!!" มันเตะเข้าทองไอ้เรอย่างจัง แต่ร่างสูงกลับไม่สะทกสะท้านเพียงแค่มองตอบ พร้อมยักคิ้วให้อย่างกวนๆ ทำเอาอีกคนอารมณ์ขึ้น "กวนตีนนักนะมึง"

   โครม!!! ไอ้สารเลวนั่นโดนเรถีบกระเด็นไปไกลก่อนจะถึงตัวอีกรอบ ทำเอามันยั่วะจัดแต่แทนที่จะกลับไปลงที่เรร่างผมกับถูกกระชากขึ้นจากพื้น

   "เฮ้ย!!!!...อัก!!!! แค่ก แค่ก " ไอ้เวรนั่นต่อยท้องเข้าอย่างแรง จุกจนสำลักเลยครับ กระดูกซี่โครงผมหักเปล่าวะเนี่ย ร่างทรุดลงกับพื้นก่อนจะถูกเตะซ้ำสองสามครั้งเหมือนร่างจะแตกเป็นเสียงๆ...เจ็บเป็นบ้า แล้วมันก็กระชากตัวผมขึ้นมาอีก "โอ๊ย!!!" มันกระชากผมจนหน้าแทบหงาย แสบหนังหัวไปหมด มือแร่งบีบคางผมให้หันไปสบตาสีน้ำเงินเข้มของเรที่สั่นไหว

   "มึงจะอวดเก่งยังไงคิดให้ดี" มันบอกเสียงเหี้ยมก่อนจะแต่ข้อพับผมจนต้องลงไปคุกเข่าตรงหน้าไอ้เร "ถึงกูทำอะไรมึงไม่ได้ แต่กูทำไอ้เด็กนี่ได้"

   "เหี้ย!!...อย่า" ผมพยายามดิ้น เมื่อมือสากๆ ล้วงเข้ามาในสาบเสื้อ มือกร้านสัมผัสกายอย่างหยาบโลนให้ความรู้สึกขยะแขยงจนน้ำตาคลออย่างหวาดหวั่น

   "เอามือมึงออกไป" ไอ้เรบอกเสียงเหี้ยม "อย่าแตะต้องคนของกู" ร่างสูงดิ้นพลาดจนสายโซ่ที่ล่ามดึงกำแพงจนสะเทือน

   "แล้วมึงจะทำไม" มันตะโกนก้อง ทิ้งร่างผมลงพื้นเย็น ก่อนกระโจนใส่เรอีกครั้ง ทั้งถีบทั้งเตะรุนแรงตามอารมณ์ ถึงเรมันไม่ใช่คนแต่มันก็เจ็บเป็น ร่างสูงกัดฟันทนปราศจากเสียงร้องใดๆ สายตาที่จ้องมาทางผมทั้งเป็นห่วงทั้งกังวล ผมนอนมองภาพคนรักที่โดนกระทืบซ้ำๆมันไม่แม้แต่จะตอบโต้เพราะกลัวอีกฝ่ายจะวกกลับมาทำร้ายผม อยากจะห้ามอยากเอาตัวไปบังแต่ก็ทำไม่ได้เพราะร่างกายบอบช้ำเกินกว่าจะลุกไหวอีกทั้งมือยังถูกมัดเอาไว้

   "เร...ฮึก...พอ พอแล้ว อย่าทำมัน" น้ำตาผมไหลออกมาอย่างสุดกลั้น ยิ่งเรเจ็บกายเท่าไหร่ผมยิ่งเจ็บปวดในใจเท่านั้น "พอแล้ว หยุด...ฮือ กูขอร้อง ทำ...ทำกูก็ได้" ผมอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง ในตอนนี้รู้แล้วว่าผมรักมันมาก...มากจนรู้สึกทรมานที่เห็นมันโดนทำร้าย กลัวมันจะตาย กลัวมันจะจากผมไป

   "พอได้แล้ว!!!" เสียงหวานกังวานก้องไปทั้งห้อง ก่อนที่ร่างงดงามแต่ให้ความรู้สึกขนลุกจะเยื้องย่างเข้ามาในห้อง "โอ๊ะ ดูสิเด็กน้อยน่ารัก ช้ำไปหมดเลย" มือเรียวเชยคางผมขึ้นมองยิ้มๆ "เขาบอกความรักทำให้เราอ่อนแอ คิดว่าไงเร" เธอหันไปถามร่างสูงพลางยิ้มเยอะ "ปกติฝาแฝดเรเวนจับตัวยากจะตายไป...แล้วดูสิ...ได้คนพี่มาอยู่ตรงหน้าแล้วละ ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ถ้ามันไม่ห่วงเธอละก็ป่านนี้คงจะหนีหายจนจับไม่ทันแล้วละมั้ง ...ฮ่าๆๆๆๆ"

   คำพูดของผู้หญิงคนนั้นเหมือนน้ำเอาๆ สาดซัดจนร่างชา...เพราะผม...เพราะมีผมคอยถ่วงเรจึงพลาดท่าให้กับพวกมัน...มันรู้สึกแย่ จนไม่อาจหยุดน้ำตาตัวเองได้ พร่ำพูดคำเดิมซ้ำๆ อย่างรู้สึกผิดเต็มหัวใจ "ขอโทษ...กูขอโทษ...ฮึก"

   "มีน"

   "มึงน่าจะทิ้ง...ฮึก...กูแล้วหนีไป"

   "มีน...มีน พอแล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยปราม ผมได้แต่คู่ตัวซุกหน้าลงกับพื้น ไม่กล้าที่จะมองหน้ามันด้วยซ้ำ จนได้ยินเสียงถอนหายใจของมัน "ต้องการอะไร"

   "เคยบอกไปแล้วนี่ แค่สร้างของเล็กๆ น้อยๆ อย่างประตูนรก แค่นั้นเอง" ร่างระหงก้าวประชิดตัวเรก่อนจะไล้มือไปตามใบหน้าคมอย่างถูกใจ "ใจจริงก็ไม่ได้อยากใช้วิธีรุนแรงแบบนี้หรอก แต่ก็นะทั้งที่เสนอให้ทุกอย่างแล้วไม่รับ มันก็ไม่มีทางเลือกนี่นา"

   "ทำแล้วได้อะไร"

   "หึ...นายไม่อยู่ในสถานะที่ต่อรองได้" ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้ม "ชีวิตไอ้เด็กนี่เป็นไง" เธอมองมาทางผมอย่างมาดร้าย "เพราะถ้าไม่ทำ...เดี๋ยวเด็กๆ ของฉันจะช่วยรับไปดูแล" สายตาของอมนุษย์หลายตนจ้องมาที่ผม ให้ความรู้สึกสยดสองกับความหื่นกระหายที่สื่ออกมาอย่างชัดเจน...แค่จินตนาการว่าพวกมันจะทำอะไรร่างกายก็สั่นกลัวไปหมด

   "ก็ได้ แต่มีนต้องอยู่ในสายตากูตลอด" เรต่อรองเสียงเครียด "รับประกันได้หรอว่าไอ้พวกสวะนั่นจะไม่เตะต้องแฟนกู"

   "มึงว่าใครสวะวะ" จอมโมโหเจ้าเดิมตวาดลั่น

   "ใจเย็นน่า...." แม้คำพูดจะอ่อนหวานแต่สายตากลับหยุดอีกฝ่ายได้ทันที "เอาอย่างนั้นก็ได้"

   "แต่เจ้านาย!!!..."

   "เรไม่กล้าหนีหรอก...เพราะถ้าหนี เจ้านี่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แน่" ประโยคแรกพูดกับเรประโยคต่อมาก้มลงกระซิบข้างหูผม "ต้องการอะไรอีกไหม"

   "แก้มัด...กูไม่หนีหรอกน่า"

   "ก็ได้ๆ"

    วงเวทย์ถูกถอนออก โซ่ที่ล่ามข้อมือเรถึกกระชากขาดก่อนที่มันจะถลาเข้ามาหาผมในทันที พวกของซาโตนี่เดินออกจากห้องไปเงียบๆ ได้ยินผู้หญิงคนนั้นสั่งงานลูกน้องอยู่ไกลๆ จนจับใจความไม่ได้ เร แก้มัดผมอย่างเบามือ ซึ่งผมทำได้เพียงนอนนิ่งๆ แค่หายใจก็ยังเจ็บไปหมด

   "เจ็บมากไหม" มันเช็ดคราบน้ำตาผมด้วยมือที่สั่นเทา

   "ขอโทษ" ผมบอกเสียงเบา

   "ความผิดกู ไม่ต้องขอโทษ" เรสบตาผมจริงจัง "กูประมาทเอง..." ตาคมไล่มองไปทั่วตัวอย่างครุ่นคิดก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง

   "จะทำอะไร"

   "ทำให้มึงรู้สึกดีขึ้น"

   "โอ๊ย!!!" แขนแกร่งค่อยๆ ช้อนอุ้มผมขึ้น แค่ขยับเพียงเล็กน้อยก็เจ็บร้าวจนน้ำตาซึม ขายาวๆ ก้าวตรงไปยังอ่างน้ำขนาดใหญ่ก่อนวางผมลงให้เอนหลังพิงตัวมันที่นั่งตรงขอบอ่างแล้วเอื้อมมือไปเปิดน้ำ สายน้ำเย็นที่ไหลผ่านทำให้รู้สึกดีขึ้น อาการเจ็บปวดค่อยๆ ทุเราลง มือใหญ่วักน้ำไปทั่วร่างให้กระแสน้ำช่วยเยียวยา

   "อย่าให้พวกมันรู้" เสียงทุ้มกระซิบเตือน ผมจึงพยายามคุมตัวเองไม่ให้กลายร่าง "ดีขึ้นไหม..." ผมพยักรับก่อนจะฟุบหน้าลงกับตักมันอย่างเหนื่อยอ่อน...ไม่คิดเรยว่าชีวิตจะได้มาเจออะไรแบบนี้

   "แล้ว...มึงเป็นไงบ้าง"

   "กูไม่เป็นไร" มันตอบพลางลูบหัวผมเบาๆ

   "ทำยังไงดี" เอ่ยถามเสียงเครือ อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีก ขี้แยจริงไอ้มีน

   "มีน" มันเรียกผมเสียงอ่อน ก่อนจะเชยคางผมขึ้นสบตา " กูจะพามึงออกไปจากที่นี่ให้ได้...กูจะไม่ยอมให้คนที่กูรักมาตายที่นี่แน่...กูรักมึง...เชื่อใจกูนะ" นัยน์ตาสีน้ำเงินลึกล้ำมากไปด้วยความรู้สึกที่มันมีให้ คำว่ารักทำให้ผมยิ้มได้แม้หกายเจ็บ ใครว่ารักทำให้คนอ่อนแอ มันทำให้รู้สึกเข้มแข็งต่างหากละ แม้ในสถานการที่จนตรอกแบบนี้ผมกลับรู้สึกมีความหวังและอุ่นใจที่มีมันอยู่ใกล้

   "อืม...กูเชื่อใจมึง"


:n1:


Talk Talk
[/b]

- :hao5: ขออภัยในความล่าช้า ตั้งแต่ปีใหม่มางานเยอะมาก ลูกค้าที่รักมักบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ด่วนนะค่ะคุณน้อง :katai1:

- พักอารมณ์หวานแววมาสู่เรื่องหลักกันเถอะเนอะ :mew2:

-สำหรับเรื่องอัศวินรัติกาล ได้มีการอัพตอนพิเศษ ของ หมอกับน้องข้าวนะจ้ะ ชื่อตอนขำๆ เป็นเมียหมอต้องอดทน อะไรประมาณนี้  :hao7:  ตามลิ้งเลยจ้า http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.330 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.330)

-ขอบคุณทุกเสียงตอบรับค่า ทุกการอ่านทุกการเม้นคือกำลังใจของนักเขียนทุกคนจ้า ไม่ใช่แค่เรา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 14 Prisoner p3 14-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-01-2016 20:48:53
อิชั้นล่ะเบื่อพวกสวะนี่จริงๆเลย จะเอาประตูนรกพร้อมเดลิเวอรี่ถึงที่ใช่ไหม
ยาโยอารอทช่วยด้วยนะ. สภาต้องแกร่งกว่าสิ ฮรืออใจไม่ดีเลย
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ :mew1: 
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 14 Prisoner p3 14-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 16-01-2016 13:59:13
เชื่อฝีมือเร o13 เอามันให้ตายเลย :m31:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 14 Prisoner p3 14-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 16-01-2016 14:25:20
มีนต้องมีพลังอะไรสักอย่างแหละ เราเชื่องั้น
เอาใจช่วยเรกับมีณ
 โยนาห์ อารอท ซอนเน่ เรน ต้องมาช่วยอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 14 Prisoner p3 14-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: Ryu7801 ที่ 24-01-2016 13:03:52
ชอบมากตามตั้งแต่เรื่องแรกอ่ะ  รออ่านตอนต่อไปนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 14 Prisoner p3 14-01-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 25-01-2016 00:50:57
บทที่ 15 Run Away
[/b]


   สี่วันมาแล้วที่เราถูกขังอยู่แบบนี้ ในห้องคอนกรีตที่มีเพียงประตูเหล็กกล้าตัดเราจากภายนอกไม่เห็นเดือนเห็นตะวันมีเพียงแสงไฟจากหลอดนีออนที่คอยให้แสงสว่าง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับอมนุษย์อย่างพวกเรานัก พวกมันให้มีนอยูในสายตาผมจริงๆ ในห้องข้างกันที่มีเพียงบานกระจกหนาคั่นกลาง  มีเตียงเหล็กกับฟูกเก่าๆ กับห้องน้ำที่พอให้งานได้ไม่ถึงขั้นอนาถาเท่าของกรมราชทัณฑ์ ทุกวันคนของซาโตนี่จะเอาอาหารและน้ำรวมถึงเสื้อผ้าเข้ามาให้เราวันละครั้ง กระจกกั้นเสียงของเราไว้สำหรับผมนั้นพอจะได้ยินด้วยประสาทสัมผัสชั้นเยี่ยมที่มี แต่สำหรับมีนจากที่อยู่ด้วยกันมา ทำให้รู้ว่าชาวเงือกหากไม่อยู่กับน้ำก็ไม่ต่างจากคนธรรมดา ส่วนมากจึงมักสื่อสารกันด้วยท่าทางและสายตามากกว่า ผมมองร่างบางที่นั่งกอดเข่าเหม่อมองไปตรงหน้าอยู่บนเตียงห้องข้างๆ ดวงตาที่มักสดใสดูหม่นแสงไป สภาพร่างกายแม้จะดีขึ้นมากแต่สภาพจิตใจของมีนกลับดูแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด หลายครั้งที่ดวงตาคู่นั้นมองมาทางผมอย่างรู้สึกผิด มีนคงกำลังโทษตัวเองที่ทำให้เราถูกขังอยู่แบบนี้ เหลือบมองจานอาหารที่วางอยู่บนพื้น มันยังคงสภาพเดิมไม่พร่องไปแม้แต่น้อยนั่นยิ่งทำให้ผมห่วง


   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเคาะกระจกเรียกคนอีกห้องให้หันมองก่อนจะชี้ไปที่จานอาหารก่อนจะทำทางเตือนอีกฝ่ายให้กินซะ มีนหันมายิ้มฝืนก่อนจะส่ายหัว


   “กูไม่หิว” ได้ยินเสียงมันตอบ ผมมองมันดุๆ ตั้งแต่ฟื้นมามันแทบไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำ สุดท้ายไอ้ตัวดีมันก็ยอมลุกเดินกระฟัดกระเฟียดมานั่งอยู่ตรงหน้าจานข้าว ทำแก้มพองๆ น่ารักจนอยากลากมาฟัดให้หายอยาก ไอ้กระจกบ้าเนี่ย...แค่ทุบก็แตกแล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดประเด็นกับพวกซาโตนี่ตอนนี้ จึงต้องยอมตามน้ำไปก่อน ยืนกดดันให้คนน่ารักกินข้าวไปจนครึ่งจานจึงหันมาสนใจสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางห้องของตัวเองแทน


   มองแท่นศิลาตรงหน้าพลางถอนหายใจหนักๆ คงต้องเริ่มทำอะไรซักอย่างขืนยึกยักมันคงหาเรื่องทำร้ายมีนแน่ๆ แบบร่างของเฮลเกทมันคือสิ่งที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ศาสตร์แห่งการสื่อสารการหยั่งรู้เป็นสิ่งที่สั่งสอนกันมาในสายเลือดเรเวนรุ่นสู่รุ่น ผมมองแบบร่างในกระดาษที่วางอยู่ข้างกัน ก่อนลอกมันลงบนแผ่นศิลาสีดำ พลังของเฮลเกทมาจากผู้สร่างต่อให้คุณรู้แบบแปลนแต่ถ้าไม่ใช่สายเลือดเรเวนมันก็คงเป็นแค่งานศิลปะชิ้นหนึ่ง เส้นสายถูกลากไปอย่างช้าด้วยชอคขาว ไม่ได้ตั้งใจจะทำจริงๆ แต่เพื่อประวิงเวลา


   ผมกำลังตั้งสมาธิกับตัวเองพยายามสัมผัสกับทุกสิ่ง เสียงแผ่วที่ดังรอบตัว เสียงทำงานของเครื่องจักรจากไกลๆ กลิ่น อากาศ อุณหภูมิ พยายามเอาทุกสิ่งที่รับรู้ได้มาวิเคราะห์ว่าตอนนี้ เราน่าจะอยู่ในที่ๆ ใกล้น้ำมากๆ ไม่ติดแหล่งน้ำก็คงเป็นใต้น้ำด้วยความชื้นที่สัมผัสได้ในอากาศ กลิ่นใบไม้กลิ่นดินเดาว่าคงมีป่าอยู่ไม่ไกล เรเวนรอบรู้ส่วนหนึ่งเพราะสัญชาตญาณที่เฉียบคมทำให้เราสามารถประมาณการณ์สิ่งที่จะเกิดรอบๆตัวได้ จริงๆ ผมประมาณคร่าวจากตอนที่เราโดนพาตัวมาแม้จะถูกปิดตา แต่เดาจากความเร็วรถที่วิ่งมากับจำเส้นทางเวลามันเลี้ยวขึ้นเนินหรือรายระเอียดต่างๆ ทำให้รู้ว่าเราถูกพามาจากตรงที่รถคว่ำไม่น่าเกินสองร้อยกิโลเมตร


   (พี่เร!!!!) เสียงเรนดังในโสดประสาท หาเจอไวกว่าที่คิดแฮะ


   (มาช้าน้องรัก) ผมแซวกลับ พยายามเพ่งจิตดูว่ามันอยู่ตรงไหน หากคุยกับผมในความคิดได้แสดงว่ามันอยู่ไม่ไกล


   (ข้างบนไงไอ้พี่บ้า บนสันเขื่อน....) เพราะนี้จึงได้กลิ่นน้ำ ดินและต้นไม้สินะ เดาว่าเราน่าจะถูกขังอยู่ในสันเขื่อนส่วนที่ใช้ผลิตไฟฟ้า เดาจากกำแพงคนกรีตหนาชนิดที่แรงดันภายนอกแทบทำอะไรไม่ได้


   (มาถูกด้วย เก่งนะมึง)


   (โธ่ไอ้พี่ ที่มึงรับรู้ได้กูก็พอจะรู้ด้วยเปล่าวะ ถึงมันจะลางๆ ก็เถอะ อยู่โครตไกลขนาดนั้น) เรนตอบ เราเป็นแฝดจึงสื่อถึงกัน ความเชื่อมโยงนี้ช่างมีประโยชน์มหาศาล เมื่อใครคนใดคนหนึ่งหายไป อีกคนก็ตามหาได้ไม่ยาก เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากพ่อแม่แท้ๆของเรา ท่านพ่อที่รับเราไปเลี้ยง และท่านอา (เหอะซ่อนอยู่ในนี้ ใต้จมูกเราเลยนะ นึกว่าพวกรัฐบาลจะร่วมมือกับสภากลางเต็มที่เสียอีก ไหงถึงซ่อนไอ้พวกนี้ไว้ได้ เอาฐานซาโตนี่ไว้ใต้เขื่อน.... พลังเงินนี่น่ากลัวจริงๆ) ไอ้เรนบ่นยาว ดูจากที่ๆ ขังเราหน้าจะถูกแปลนให้เป็นฐานของพวกมันมาตั้งแต่เริ่มสร้าง (แล้วมีนเป็นไงบ้าง)


   (ก็ดูซึมๆ ไป ใจกูอยากพามันออกไปตั้งแต่วันแรกเลยด้วยซ้ำ) ผมบอกพลางมองคนที่อยู่ห้องข้างๆ กับต้องชะงักกับสิ่งที่เห็นเมื่อ น้ำที่เคยอยู่ในแก้วกำลังไหลไปไหลมาในอากาศตามมือเรียวที่โบกนำทาง มีนหันมามองผมพร้อมยิ้มกว้างพร้อมอวดสิ่งใหม่ที่เพิ่มรู้ว่าตัวเองทำได้ นี่หรอพลังของเงือกเพิ่งเคยเห็นกับตาก็วันนี้


   (พี่เร...เฮ้ย ทำไมเงียบวะ)


   (เออ...มีอะไร) ผมหันมาสนใจปัจจุบัน


   (ผมบอกกับพวกอาไปแล้ว คงเตรียมตัวกันอยู่) ผมนิ่งคิดไปครู่ถึงวิธีที่จะพาเราหนีออกไปจากที่นี่ ลำพังผมคนเดียวคงไม่ยาก แต่สิ่งที่กังวลขอต้องพาอีกคนออกไปโดยที่เสี่ยงน้อยที่สุด (ต้องวางแผนกันหนักอยู่วะพี่ ตอนนี้ให้คนไปหาพิมพ์เขียวของที่นี่อยู่ ขืนปะทะกันแรงๆ เขื่อนพังลงมานี่งานหยาบแน่ๆ)


   (ก็ดี เดี๋ยวคนที่อยู่ใต้เขื่อนจะเดือดร้อนกัน) นึกถึงมวลน้ำมหาศาลที่ไหลท่วมหมู่บ้านรอบๆ คงสูญเสียกันไม่น้อย


   (ก็ไม่ได้คิดดีขนาดนั้น) มันแย้ง (กูกลัวพี่โดนคอนกรีตทับตาย ฮ่าๆๆๆ ไปแล้วๆ เดี๋ยวจะรีบมา) เสียงหัวเราะมันชั่วเหมือนหน้าตาเลยไอ้น้องเวร (หน้าตาเหมือนกันไม่ใช่หรอ)


   ผมคว้าเอาสิ่วในมาตอกลงบนศิลาอย่างใจเย็น ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับว่าตอนนี้อยู่ในสภาพวะจำยอมและกำลังทำตามที่มันต้องการ หันมองคนรักที่อยู่ห้องข้างๆ เป็นระยะๆ มีนดูหายเบื่อไปบ้างกับการลองใช้พลังตัวเองบังคับน้ำไปมา เสียงเปิดประตูห้องผมดังขึ้นก่อนที่ร่างระหงจะเดินนวยนาดเข้ามากับลูกน้องสามสี่คนพร้อมอาวุธครบมือ มันจะกลัวอะไรมากมาย


   "ว้าว แค่เส้นร่างก็สวยแล้ว คิคิ" ผมละเกลียดเสียงหัวเราะของยัยนี่ซะจริง เวรุกาหนึ่งในแบล็คลิสที่ค่าตัวระดับต้นๆ ในไทย วีรกรรมไม่ต้องสาธยายเป็นเผ่าสมิงฆ่าคนมานับไม่ถ้วน หึ...เขาล่าตัวกันอยู่นานไม่น่าเชื่อว่าจะมามุดหัวอยู่ที่นี่ แล้วยังเป็นผู้นำของพวกซาโตนี่กลุ่มนี้ ถ้าออกไปจากที่นี่ได้เห็นทีต้องหิ้วติดไปด้วยซะแล้ว


   "มีอะไรอีกละ" ผมถามเสียงเย็นเมื่อฝ่ายหญิงเข้ามาโอบไหล่อย่างถือวิสาสะ


   "เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ ฉันเสียดายจริงๆ สายเลือดเรเวนของเธอ"  สายตาโลมเลียนั่นคงไม่เสียดายแค่สายเลือดหรอกมั้ง หึ...ต่อให้สวยเหมือนนางฟ้าก็สู้ไอ้เกรียนผมไม่ได้หรอกนะ จมูกโด่งคลอเคลียที่ข้างแก้มอย่างย่ามใจ ผมเบี่ยงหน้าหลบเมื่อหญิงสาวทำท่าจะจูบ ทั้งที่ใจอยากจะผลักให้กระเด็นแต่กลัวคุณเธอจะพาลไปลงคนห้องข้างๆ เหลือบมองมีน มันเบือนหน้าหนีดูก็รู้ว่าไม่พอใจก่อนจะล้มตัวลงนอนหันหลังให้ผมทันที


   "ถ้าสิ่งแลกเปลี่ยนมันดีพอนะ" ผมยกยิ้ม เอามือไล้แก้มเนียนอย่างหยอกเย้า


   "พูดง่ายๆ แต่แรกก็ไม่ต้องรุนแรงกันแล้ว" หึ...ก็ทำเป็นคล้อยตามไปงั้น ให้อีกฝ่ายระวังตัวกันน้อยลงก็ยังดี "เอาเถอะฉันไม่ไม่อยากเร่ง ให้เวลาไปคิดแล้วกันนะที่รัก...อ้อ ถึงฉันจะไม่รีบ แต่ถ้าฉันรู้สึกว่าเธอกำลังตุกติก ชักช้าในการสร้างมัน ฉันคงไม่ใจดีเท่าไหร่นะ"


   "หึ..." ผมยิ้มเยอะอย่างท้าทาย...ขู่เก่งจริง


   "เอาเถอะ ใจจริงก็อยากอยู่นานกว่านี้ แต่สักขีพยานเยอะไปหน่อย" ริมฝีปากอิ่มเบ้ใส่ลูกน้องอย่างรังเกียจ "ไว้ตัดสินใจได้เราค่อยมาสนุกกันสองต่อสองแล้วกันนะ"


   คนของซาโตนี่ออกจากห้องไปก่อนที่เสื้อผ้าและอาหารจะถูกนำเข้ามาให้แล้วประตูเหล็กกล้าบานใหญ่ก็ถูกล๊อคไว้ดังเดิม ผมถอนหายใจหนักๆ ไม่รู้เวรุกาจะพิศวาสอะไรกับผมนักหนา ชอบมาแตะเนื้อต้องตัวซะจริง หากเป็นปกติ ถ้าสวยก็จัดมา สนองให้หมด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมมีคนที่ผมรักแล้วการที่มีใครมาระรานมากๆ มันก็น่ารำคาญเกินทน ยิ่งท่าทางไม่พอใจของมีนผมยิ่งรู้สึกแย่แม้ลึกๆ จะดีใจที่มันหวงก็เถอะ



   รอ...ผมรอไอ้เรนอย่างอดทน รู้สึกสงสารมีนเต็มทน คนที่ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป ต้องมาถูกซ้อมถูกขังอยู่แบบนี้คงกลายเป็นความทรงจำแย่ๆ สำหรับเราสองพี่น้องมันเรื่องปกติตั้งแต่พ่อแม่ตายก็โดนล่ามาตลอดก่อนมาเจอตระกูลซานซิโอ ไอ้เรื่องโดนขังโดนจับมันเป็นเรื่องปกติ หันมองมีนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมึนๆ ออกมาจากห้องน้ำ ดูเสื้อผ้าที่พวกเวรนั่นมันเตรียมให้เมียผมสิ เสื้อยืดตัวโคร่งเก่าๆ ปิดหมิ่นเหม่พอถึงเขา ทรมานใจชิบหาย ออกไปจากที่นี่ได้นะพ่อจะฟัดให้จมเตียงเลย


   (ไอ้พี่เร หลับยางงง) เสียงทะเล้นเอ่ยทักขึ้นในความคิด


   (ยัง...ใครจะไปหลับลงวะ)


   (เออพี่ พวกผมพร้อมแล้วนะ พวกอาก็มาด้วย ตอนนี้ซุ่มกันอยู่รอบๆ ล้อมไว้หมดแล้ว) เรนเข้าเรื่อง (เราได้พิมพ์เขียวของที่นี่มาแล้วแล้ววางแผนกันแบบนี้ จากตรงที่พวกพี่โดนขังอยู่ มันอยู่ลึกเข้าไปในสันเขื่อน ออกมซักไม่น่าเกินร้อยเมตรมันจะเป็นส่วนผลิตไฟจะมีไดนาโมตัวใหญ่ๆ เรียงกันอยู่ ตรงนั้นจะมีท่อส่งน้ำที่ปล่อยน้ำจากในเขื่อนให้ไหลผ่าน)


   (แล้วยังไงต่อ)


   (คือประตูทางเข้าที่นี่ ส่วนที่เข้าสู่ห้องผลิตมันมีทางเข้าทางเดียวมันเลี่ยงไม่ได้ที่จะปะทะ คืออารอทบอกว่าเข้าจะปะทะไปตรงๆ ดึงความสนใจเดี๋ยวส่วนนี้อาหมอจะจัดการให้ ส่วนอารอทจะพยายามแทรกซึมเพื่อตัดระบบผลิต เพื่อปิดประตูน้ำด้านในหยุดกระแสน้ำที่ไหลเข้าอุโมงค์แล้วทีนี้อุโมงค์ขาออกก็จะโล่ง ให้พี่พามีนออกมาจากทางนั้น)


   (แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่)


   (ผมให้เวลาพี่ทำใจสิบนาที พวกผมจะบวกแล้ว แล้วถ้าอารอทแทรกเข้าระบบได้เมื่อไหร่ผมจะบอกพี่ อาบอกมีเวลาห้านาทีก่อนที่ประตูน้ำจะเปิดอีกรอบพี่ต้องออกมาให้ได้ คือกระแสน้ำมันแรงมากนะพี่ถ้าโดนพัดออกมาละก็ไม่รับประกันความปลอดภัยวะ ห้องที่โดนขังพี่พอจะพังออกมาได้ไหม)


   (ได้สิ  ประตูแค่นี้สบายมาก)   ผมมองผ่านช่องเล็กๆ ตรงบานประตูเหล็กดูเหมือนจะมีคนเฝ้าอยู่ข้างนอกแค่สี่ห้าคนพอไหว


   (โอเคงั้นรอเลย...เออพี่เร)


   (อะไรน้องรัก)


   (พ่อมีนรู้เรื่องแล้วนะ เขาโทรมาถามผมไง ไม่เห็นมีนถึงบ้านซักที) น้องผมบอกเสียงเครียด


   (แล้วเขาว่าไง) ลืมนึกไปเลยว่าที่หมายตอนแรกของเราคือพามีนไปเยี่ยมบ้าน


   (พ่อมีนโกรธพี่พอตัวเลยวะ เห็นบอกว่า ถ้าพามีนหนีออกไปได้คงต้องคุยกันยาว) เรนอธิบาย...แหงสิพาลูกเขามาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายขนาดนี้ (ตอนนี้เลยให้รออยู่ที่บ้านอาไปก่อน เตรียมตัวเจอพ่อตาอาละวาดไว้เลย)


   (อืม) ผมหันไปมองคนห้องข้างๆ ที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้วก่อนจะเคาะกระจกปลุกมีนให้ลุกขึ้นมา ร่างบางงัวเงียเดินมาหาผมประมาณว่ามีอะไร


   "เราจะหนี" ผมพูดให้มีนอ่านปาก นัยน์ตาสีดำเบิกกว้างอย่างแปลกใจ ผมจึงต้องขยับปากพูดซ้ำไปอีกทีก่อนจะทำสัญญาณมือให้ร่างบางถอยห่างจากกระจก ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำตามแต่โดยดี


   เพล้ง!!!! ผมออกแรงถีบกระจกหน้าตรงหน้าจนมันพังลงมาคาตีน คนของซาโตนี่ที่เฝ้าอยู่โวยวายอยู่ข้าง


   ตูม!!! เสียงระเบิดที่ดังจากด้านนอกดึงความสนใจพวกมันจนต้องวิ่งออกไปดูตามเสียงก่อนที่เสียงปืนเสียงปะทะจะตามมาจนคอนกรีตรอบตัวสะเทือนเบาๆ ผมก้าวข้ามกองเสดแก้วบนพื้นไปประชิดร่างบางก่อนจะดึงมันมากอดไว้แน่นอย่างโหยหา เพราะที่ผ่านมาทำได้เพียงมอง


   "เร..." มีนกอดตอบ


   "ฟังนะ เราต้องหนี กูจะพามึงวิ่งไปจนถึงเครื่องปั่นไฟ มันจะมีอุโมงค์ระบายน้ำ เราจะหนีออกทางนั้น" ผมจูบขมับคนรักที่พยักรับรัวๆ "อยู่ข้างหลังกูไว้ ถ้ามีการปะทะให้มึงหาที่ปลอดภัยหลบจนกว่ากูจะเคลียทางหมด เข้าใจนะ!!!"


   "อืม เข้าใจแล้ว"


   "งั้นไปกัน" ปัง!! ประตูเหล็กกล้าถูกถีบกระเด็นออกจากกรอบ ก่อนที่ผมจะหันมาดึงมือบางให้วิ่งตามออกมา


   "คิดจะหนีหรอ!!!!" ไอ้สารเลวที่เคยกระทืบมีนวิ่งดิ่งมาทางเราพร้อมพวก ผมดันคนรักให้ไปหลบหลังเสาก่อนจะรับหมัดที่พุงมาก่อนที่มันจะปะทะใบหน้าได้อย่างทันท่วงทีแล้วจับมันบิดจนแขนหมอนั่นหักดัง กร๊อบ เอี้ยวหลบอีกคนที่พุ่งมาก่อนจะคว้าเอามีดที่เหน็บอยู่ข้างเอวมันมาปาดคอมันเอง มนุษย์หมาป่าตัวโตกระโจนมาทางผมแต่พลาดเป้าเมื่อผมกางปีกบินขึ้นข้ามหัวมันมายืนซ้อนหลังก่อนที่จะปักมีดเงินที่ยิมคนแถวนี้มากลางแนวสันหลังเรียกเสียงคำรามลั่นอย่างเจ็บปวดไว้เป็นอย่างดี ในขนาดที่ผมกำลังชุลมุนกับพวกซาโตนี่ที่เข้ามาปะทะ มันตัวหนึ่งกับหันไปเห็นมีนแล้วพุ่งใส่


   "มีนระวัง" ผมร้องลั่นพอๆ ดวงตาหวานที่เบิกโพลงกับภัยตรงหน้าอย่างตระหนก แต่ก็หลบได้อย่างเฉียดฉิว ร่างบางคว้าเหยือกแก้วที่วางอยู่ใกล้ๆ ปาสวนไปก่อนที่มวลน้ำในเหยือกนั้นจะห่อหุ้มหัวอีกฝ่ายไว้ บางส่วนแปรเป็นเชือกน้ำรัดร่างนั้นไว้จนไม่อาจขยับ อมนุษย์ตนนั้นดิ้นทุรนทุรายเพราะกำลังขาดอากาศหายใจแล้วล้มลงกับพื้นในที่สุด มีนยืนอึ้งกับภาพตรงหน้า ดูสับสนและตระหนกในสิ่งที่พึ่งทำลงไป


   "กูฆ่าคน..." มันบอกเสียงสั่นๆ ผมจัดการหักคอตัวที่เหลือก่อนจะคว้าเอาคนที่กำลังช็อควิ่งต่อ หลบกระสุนหลบตีนกันจ้าละหวั่น มีโดนถากๆ บ้างแต่ไม่ใช่จุดสำคัญ เสียงกรีดร้องเสียงปะทะจากด้านนอกดังเข้ามาและชัดขึ้นเรื่อยๆ แรงรั้งตรงมือที่จับทำให้ผมหันกลับไปมอง มีนวิ่งตีนเปล่ามาตลอดทางทั้งเศษแก้วเศษหินทำเอาเท้าขาวแดงช้ำและเต็มไปด้วยบาดแผลที่แม้แต่ยืนเฉยๆ ก็เจ็บ


   "ยังไหวไหม" มันพยักหน้ารับ ฝืนเท้าวิ่งตามแรงดึงผมให้ทัน ถ้าอุ้มก็สู้กับพวกบ้านี้ไม่สะดวก "ทนหน่อย....น่าจะใกล้ถึงแล้ว"


   (พี่เร อาบอกตัดระบบแล้ว)


   (เชี่ย!!...กูกำลังไป) ผมมองสะพานเหล็กที่พาดผ่านประตูน้ำตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจอุ้มร่างบางข้างตัวขึ้นแล้วทะยานไปยังปากอุโมงค์น้ำที่เป็นทางออกไปยังภายนอก ตัดสินใจหย่อนมีนลงบนพื้นอุโมงค์นั่นก่อนจะหันมารับมือกับศัตรูอีกสองคนที่พุ่งเข้ามา


   "จะไปไหน..." เสียงแหลมกรีดร้องก่อนที่เวรุกาจะกระโจนใส่ผมจนล้มกลิ้งไปกับพื้นตระแกรงของสะพาน "แผนเยอะนักนะแก คิดว่าจะหนีไปได้หรอ" ใบหน้าที่เคยสวยแยกเขี้ยวใส่อย่างโกรธแค้น ลาดพาดกอนเด่นชัดกับหางเรียวยาวกลบความสวยที่ยัยนี่เคยมีไปสิ้นเหลือเพียงปีศาจร้ายที่ตอนนี้กำลังพยามฝังกรงเล็บบนอกผม แรงเยอะเป็นบ้า...สมแล้วที่เป็นหัวหน้าของพวกเวรนี้


   (ออกมายังวะพี่ เหลืออีกสองนาทีเองนะโว้ย) เสียงไอ้เรนโวยวายในหัวอย่างร้อนใจ


   "มีนวิ่งออกไปก่อนเดี๋ยวกูตามไป" ผมตะโกนบอกคนข้างล่างพลางออกแรงถีบร่างสมิงด้านบนจะกระเด็น


   "ไม่...มึงจะให้กูทิ้งมึงหรอ" มันใช่เวลาดื้อไหม  :katai1:


   "ไปสิวะเร็ว!!" ผมเร่งพลางหลบกรงเล็บที่ฟาดลงมาแล้วพยายามสวน


   (เหลืออีกนาทีเดียวเองนะโว้ย)


   "มีน!! ไปเดี๋ยวนี้" ผมตวาด แต่มีนยังยืนนิ่งมองมาที่ผมอย่างแน่วแน่


   "สนใจกันบ้างไอ้เด็กเวร" กรงเล็บฝังเข้าไหล่ซ้ายผมอย่างจัง จึงเตะสวนไป คว้าคออีกฝ่ายมาล็อคแล้วกดลงพื้น เสียงอ๊อดเตือนภัยดังลั่นบอกให้รู้ว่าเวลาหมดแล้ว


   "มีน..." ผมร้องลั่นเมื่อประตูน้ำถูกเปิดออก มวลน้ำมหาศาลถูกปล่อยผ่านประตูไหลบ่ามายังร่างบางที่มองมัน มีนมองมาทางผมอย่างไม่รู้จะทำยังไง ยังไม่ทันที่ริมฝีปากเล็กๆ จะเอื้อนเอ่ยกระแสน้ำก็ไหลพัดร่างบอบบางนั่นหายไปกับตา ใจผมกระตุกวูบกับภาพตรงหน้า วินาทีนั้นเหมือนหัวใจหยุดเต้นไป อยากจะโดดตามลงไปซะเดี๋ยวนี้หากไม่ติดว่าเวรุกายังรั้งผมไว้ เพระมึง..บอกเลยว่าโกรธจัด เพราะนังบ้านี่มาขวางทุกอย่างจึงผิดแผน ผมคว้าคออีกฝ่ายได้แล้วออกแรงบิดจนศีรษะอีกฝ่ายหันไปตามแรงโทสะที่มี ได้ยินเสียงกระดูกคอหักดังลั่น


   "มันอยู่นั่น" พวกที่ตามมามองศพผู้เป็นนายอย่างอึ้งๆ แต่ผมไม่ได้สนใจมันกับโดดลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราดนั่นทำเอาคนของซาโตนี่ไม่กล้าโดดตาม


   ก็รู้...ผมมันบ้า ถึงผมจะเป็นเรเวนแต่ก็ใช่ว่าจะกลั้นหายใจอยู่ในน้ำได้นาน ถึงจะแกร่งแต่ก็ขาดใจตายได้ ผมพยายามลืมตามองหาคนรักในขณะที่ร่างถูกน้ำพัดไป ตัวกระแทกกับอุโมงค์จนจุกไปหมด หากเป็นคนธรรมดาคงตายไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าอุโมงค์นี้มันยาวแค่ไหนแต่ผมกำลังจะหมดแรงเพราะขาดอากาศหายใจ บ้าน่า...ผมจะมาตายทั้งๆ ที่มีเป็นตายร้ายดียังไงก็ยังไม่รู้อย่างงั้นหรือ จิตใจในตอนนี้ดิ่งลึกถึงขีดสุดพยายามฝืนทุกสันชาติญาณเพื่อสัมผัสถึงอีกฝ่าย แค่คิดว่ามีนจะตายผมก็กลัวจนจับใจ


   สัมผัสจากฝ่ามือนิ่มๆ ฉุดผมขึ้นจากความมืดมิดในใจ ก่อนที่ร่างของผมจะถูกโอบกอดเอาไว้กระแสน้ำที่ไหลรุนแรงอันตรายกลับไหลช้าลงจนผมสามารถลืมตามองภาพตรงหน้าได้


   "จับได้แล้ว" มีนยิ้มให้ผมอย่างดีใจ ริมฝีปากนิ่มประทับจูบมอบอากาศให้ก่อนที่ผมจะจมน้ำตายไปจริงๆ มันช่วยต่อชีวิตผมไว้ แค่เห็นว่ามีนปลอดภัยแสงสว่างก็สาดลงบนใจจนอุ่นวาบขึ้นอีกครั้ง เรือนหางสีมุกแหวกว่ายพาผมมายังทางออกในที่สุด คนของสภาที่รออยู่เมื่อเห็นเราก็ร้องเรียกคนที่เหลือ


   "ทางนี้พี่..." เรนร้องเรียกอย่างดีใจก่อนที่มันจะกางปีกบินมารับเราทั้งคู่เข้าฝั่ง ทันทีที่เราทั้งคู่มาถึงฝั่งกระแสน้ำก็กลับมาเชี่ยวกราดอีกครั้งทำให้รู้ว่าทั้งหมดถูกควบคุมไว้ด้วยพลังของเงือก


        "ปลอดภัยแล้วสินะ" มีนที่กำลังคืนร่างเป็นคนเอ่ยอย่างอ่อนล้า ผมรับผ้ามาห่อร่างเปลือยเปล่าของคนรักไว้ ใบหน้าสวยขาวซีดจนน่ากลัวเหมือนจะเป็นการฝืนใช้พลังมากเกินไป ร่างบางจะล้มลงในอ้อมกอดผมอย่างสิ้นแรง ทำเอาทุกคนตรงนั้นร้องออกมาอย่างตกใจแม้แต่ผมเอง


   "มีน..." ลมหายใจสม่ำเสมอกับดวงตาที่หลับพริ้มนั่นทำให้ผมเบาใจ คงแค่หมดสติไปสินะ


   "มีนไม่เป็นไรนะพี่" ไอ้เรนถามอย่างร้อนใจ


   "มันแค่สลบไป" ผมตอบ ไอ้น้องรักยิ้มกว้างก่อนโผเข้ากอดผมและมีนไว้แน่น "กูนึกว่า จะไม่ได้พวกมึงกลับมาซะแล้ว"


   "พี่มึงเก่ง จะกลัวอะไร" เรนมันรักผมมากอันนี้ผมรู้ดีและสำหรับมัน มีนก็คือส่วนหนึ่งในครอบครัว ผมเข้าใจมันดีกว่ามันร้อนใจแค่ไหนกับเรื่องนี้


   "ปากดีตลอด...แต่กูก็รักมึงนะไอ้พี่เร" ผมยิ้มรับ อ้อนเก่งแต่เด็กจนโตเลยมัน "กลับบ้านกันเถอะ"


   "อืม!!!"

:katai2-1:


Talk Talk
[/b]

- :hao7: หนูมาแล้ว มาอัพแล้ว แต่มาช้า  :mew6: เค้าขอโทษ

- งวดหน้ากลับเข้ามาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ดีกว่าเนอะ เอาจริงเรื่องนี้บู๊ไม่ค่อยหนัก อาจเพราะอยากลองทำอะไรชิวๆ เน้น อารมณ์เลิฟ แต่แทรกความตื่นเต้นเลือกสาดพอประปราย   :katai4:

-ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจใครติชมยังไง มีข้อแนะนำยังไง ส่งมาได้เราเปิดกว้างเสมอ อยากให้วาดรูปอะไร เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องก็ได้ลองรีเควสมา คิดซะว่าเป็นการตอบแทนผู้อ่านจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 25-01-2016 02:49:19
รู้เลยว่าเรรักมีนมากแค่ไหน มีนก็รู้ใจตัวเองสักที

ปล.อยากเห็นมีนตอนเป็นเงือกจังเลยค่า
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-01-2016 05:39:35
เย้ น้องมีนเท่จังเลย  :impress2:   ขอบคุณค่ะ รู้สึกดีใช่ไหมที่มีแฟนเป็นเงือก
ด่านต่อไปคืดด่านพ่อตาค่ะ ฮิ้วว
มีคำผิดจ้า  เชี่ยวกราก สัญชาติญาณ ลายพาดกลอน และก็พิมพ์ตกนิดๆหน่อยๆค่ะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: xirainx@gamil.com ที่ 25-01-2016 07:51:08
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 25-01-2016 12:15:09
เตรียมรับมือกับพ่อตาให้ดีนะเร แสดงว่าหนูมีนทำอะไรได้มากกว่าที่คิด รอดูหนูมีนจะช่วยงานสภาได้ด้วยไหม
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 30-01-2016 10:33:16
เฮ้อออ ลุ้นเต็มที่  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 30-01-2016 12:43:53
ง่อววววว น้องมีนมีบทบาทได้บู้กับเขาด้วย เท่ฝุดๆ
ดีแล้วที่หนีกันออกมาได้อย่างปลอดภัย
ตอนหน้าเรจะรอดไหมเนี่ยยยยยย เจอฤทธิ์ขุ่นพ่อตา
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่15 Run Away P3 25-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 30-01-2016 22:55:19
บทที่ 16 Deprive
[/size][/color]


Min Say


   ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงกว้างในห้องที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย มันทั้งกว้างและหรูหราด้วยการตกแต่งแบบรอคโค่โค่ เครื่องเรือนทุกอย่างดูมีราคาสูงลิ่ว เน้นโทนน้ำตาลและแดงบ้างตัดด้วยทอง ผนังสีครามหม่น ขับให้ที่นี่สวยแต่น่ากลัวเมื่อทุกรายละเอียดบอกเล่าจากโคมไฟหัวเตียงที่ให้ความสว่างไม่มากนัก ไม่นานประตูห้องก็เปิดออกก่อนที่ร่างคุ้นเคยจะเข้ามาในห้อง ปราศจากคำกล่าวทักทายแต่รอยยิ้มที่ระบายบนหน้าคมบอกให้รู้ว่าทุกเรื่องเลวร้ายได้ผ่านพ้นแล้ว


   "เร..." ผมเรียกมันเสียงแผ่ว ร่างสูงนั่งลงบนเตียงแล้วดึงผมไปกอด ริมฝีปากร้อนจูบตรงหน้าผากก่อนจะเลื่อนลงมาประทับจูบที่ปากแนบแน่นและดูดดื่ม ถ่ายทอดทุกความรู้สึกที่มีให้ รัก ห่วงหา และอาวรณ์ และผมก็จูบตอบอย่างโหยหาไม่แพ้กัน


   เป็นคุณจะรู้สึกแบบไหนที่ต้องเฝ้ามองคนที่รักอยู่ใกล้ๆ แต่ก็แตะต้องไม่ได้ อยากพูดคุยแต่ก็ไม่ได้ยินเสียง บางครั้งที่คนอื่นเข้ามาสัมผัสคนของคุณ คุณก็ทำได้แค่มองไม่สามารถห้ามปรามทั้งที่ใจอยากจะกระชากใครคนนั้นออกทันใด ต้องนั่งลุ้นว่าจะเกิดอะไร เรมันจะโดนทำร้ายอีกเมื่อไหร่ ใช่...โคตรทรมานใจ ตลอดเวลาที่โดนพวกซาโตนี่ขังไว้ ผมรู้สึกสิ้นหวัง ตัดพ้อในความไร้น้ำยาของตัวเอง


   "มันผ่านไปแล้ว อย่าคิดมาก" เหมือนมันรู้ว่าผมคิดอะไรฝ่ามือใหญ่ลูบหัวผมเบาๆ อย่างปลอบโยน ผมซุกตัวเข้าหาอ้อมแขนอุ่นซึมซับมันอย่างตั้งใจ


   ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรจึงผละออกไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือน


   "ป๋า!!!!!" พ่อเข้ามาในห้องก่อนจะโผลเขามาดึงผมไปกอดไว้แน่น


   "ขวัญเอ้ยขวัญมา ไม่เป็นไรนะลูก" พ่อกอดผมโยกไปโยกมาเป็นเด็กๆ


   "ครับ ผมไม่เป็นไรปลอดภัยครบสามสิบสองประการ" ผมบอกด้วยรอยยิ้ม เรหลบฉาดออกจากห้องไปอย่างรู้งาน "ป๋ามาที่นี่ได้ไง"


   "ก็ป๋าเห็นเอ็งบอกจะกลับบ้านแต่ไม่ถึงซักทีเลยโทรหา โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด บังเอิญมีเบอร์ไอ้หนูเรนที่เคยขอไว้เลยโทรถาม ไอ้ความว่าเอ็งถูกพวก ซา...ซาอะไรซักอย่างจับไป เลยรีบเข้ากรุงเทพฯมาเลย" ป๋าเล่าเสียงตื่น มือกร้านของทั้งลูบปะป่ายไปตามตัวผม มันสั่นไปหมดราวกลับกลัวผมจะบุบสลายไปซะตรงนี้ "แต่เอ็งปลอดภัยก็ดีแล้ว...ไม่คิดเลยว่าลูกป๋าจะต้องมาเสี่ยงอันตรายขนาดนี้"


   "เพราะมีไอ้เรอยู่ ผมถึงรอดไง" ใบหน้าของบุพการีนิ่งตึงทันใดที่ผมพูดถึงเร "ป๋า...."


   "เพราะมันนะสิ แกถึงได้โดนจับ" ผมเม้มริมฝีปากแน่นไม่รู้จะเถียงยังไงเพราะมันจริง แต่ผมไม่ได้โทษมัน


   "แต่เรมัน...."


   "ป๋าไม่โอเคกับเรื่องนี้วะ ถึงจะรับได้ที่ลูกมีแฟนเป็นผู้ชาย...แต่ถ้าลูกป๋าต้องไปใช้ชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับผู้ชายคนนั้นบอกเลย ป๋ารับไม่ได้" น้ำเสียงจริงจรังทำเอาผมกลัวกับสิ่งต่อมาที่ออกจากปากท่าน "เลิกกับมันซะ"


   "ผมไม่..." รู้สึกช๊อคกับสิ่งที่ได้ยิน จะให้เลิกได้ยังไงในเมื่อต่างคนต่างก็รักกัน


   "ถ้าเอ็งยังเห็นแก่ความเป็นพ่อเป็นลูกกันอยู่ เลิกซะ ป๋าไม่อยากเสียเอ็งไปอีกคน แม่เอ็งเป็นตายร้ายดียังไงจนป่านนี้ป๋ายังไม่รู้เลย มันทรมานนะ...ที่ต้องทนอยู่กับความคิดถึงคนที่รัก หากเอ็งหายไปอีกคน ป๋าคง" เสียงของท่านสั่น พลางสบตาผมอย่างอ้อนวอน มือที่จับไหล่ทั้งสองข้างของผมบีบแน่นบอกให้รู้ว่าท่านทรมานใจแค่ไหน "ตายทั้งเป็นแน่ๆ" ผมกลืนทุกคำพูดลงคอ หยุดคำโต้แย้งเอาไว้แต่ใช่ว่าจะหยุดน้ำตาได้


   "เข้าใจ...ฮึก...แล้วครับ" ผมตอบออกมาแค่นั้น ทุกอย่างมันตื้อไปหมดไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี เมื่อเห็นน้ำตาผมนัยน์ตาของพ่อดูอ่อนลง


   "พรุ่งนี้ เราจะกลับบ้านกัน ป๋าจองตั๋วไว้แล้ว เดี๋ยวแปดโมงจะมารับ ระหว่างปิดเทอมนี้ไปอยู่กับป๋าก่อนนะ เปิดเทอมค่อว่ากันอีกที พักซะนะ เอ็งเหนื่อยมาเยอะแล้ว" น้ำเสียงอบอุ่นกล่าวอย่างห่วงใย ฝ่ามือนั้นลูบหัวผมเบาๆ หากเป็นแต่ก่อนนี่คือกำลังใจ นี่คือคำปลอบโยนแต่ตอนนี้ มันเปรียบเสมือนหินหนักๆ ที่ทับร่างผมให้จมไปกับความรู้สึกที่ติดลบ


   ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนทันทีที่ป๋าออกจากห้องไป คนหนึ่งก็พ่อคนหนึ่งก็แฟน น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างจนใจ ตอนที่พะแพงทิ้งไปมันแค่หน่วงๆ แต่ตอนกับเร มันช่างรุนแรงต่อจิตใจเสียจริง ผมฟุบหน้าลงกลับหมอนซะอื้นอยู่อย่างนั้น คิดหัวแทบแตกว่าจะต้องทำยังไง ในโลกของอมนุษย์อันตรายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเป็นสายเลือดที่สำคัญอย่างเรเวนแล้วละก็คงมีอมนุษย์ตนอื่นพยายามเข้ามาหาประโยชน์อีกแน่ๆ :hao5:




   "ร้องทำไม ยังไม่ได้เลิกกันซักหน่อย" เสียงทุ้มกระซิบข้างหูพร้อมลูบหัวผมเบาๆ


   "แต่มึงน่าจะได้ยินที่ป๋าบอกกู...ฮึก...เขาให้กูเลิก" ผมบอกไปสะอื้นไป


   "ก็กูไม่เลิกไง" มันแย้งนิ่งๆ จนต้องเงยหน้าจากหมอนขึ้นมาจ้องมันตรงๆ ไอ้รอยยิ้มมุมปากกวนตีนสิ้นดี คนกำลังเครียดเนี่ย! เข้าใจสถานการณ์หน่อยสิวะ   


   "กูไม่ได้ล้อมึงเล่นนะ" มันพยักหน้ารับรู้ ฮึ่ย!!! อยากจะบีบคอมันทิ้งจริงแต่กลัวเป็นหม้าย "ป๋าคุยกับมึงยัง" มันพยักหน้าแล้วยิ้ม เออ...ผัวกูเป็นบ้า "ตอบสิครับ...อมพะนำทำซากอะไร"


   "เขาให้กูพิสูจน์ตัวเอง" นัยน์ตาสีน้ำเงินสบตาผมแน่วแน่ มันดูมีพลังและมั่นคง ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจว่ามันต้องทำได้แน่นอน


   "ป๋าให้มึงทำอะไร" มันไม่ตอบเพียงแค่ยักคิ้วกวนๆ ให้ หล่อตายอะ แต่ก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ทั้งที่เมื่อกี้ทุกข์ใจจะเป็นจะตายแค่ไอ้เรมาอยู่ใกล้ๆ  ความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นกลับหายไปอย่างง่ายดาย "แล้วตอนนี้ป๋าไปไหน แล้วนี่บ้านใคร บ้านมึงหรอ"


   "พ่อเข้าห้องไปแล้ว   บ้านอาซอนเน่ เอ่อ...จริงๆ ก็บ้านพวกกูด้วยนั่นแหละ" เรตอบยาว คงหมายถึงอาหญิงที่ไอ้เรนมันแอบรักสินะ หันไปมองนาฬิกาหัวเตียง เพิ่งหนึ่งทุ่มนี่ผมหลับข้ามวันขนาดนั้นเลยจำได้ตอนหนีออกท้องฟ้าก็มืดแบบนี้ ชักหิวแล้วสิตั้งแต่ตอนนั้นยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แถมตอนโดนขังยังแทบไม่กินอะไรขาดแคลนพลังงานสะสมมาหลายวัน แค่นี้ก็ชัดแล้วว่าผมเองไม่ใช่มนุษย์ถึงได้ทนได้จนถึงตอนนี้


   "หิว...หาอะไรให้กินหน่อย" หันไปอ้อนคนใกล้ตัวหลังจากที่ไม่มีโอกาสทำมาซักพัก


   "สั่งแม่บ้านไว้แล้ว ซักพักคงยกมา" เรตอบด้วยรอยยิ้ม ทำเอาผมยิ้มตาม ไม่น่าเชื่อเลยว่าคือไอ้แฝดนรกคนพี่ที่เจอกันในวันเปิดเทอม ทั้งที่เจอกันแรกๆ มันเอาแต่ทำเก๊กนิ่งเหมือนรูปปั้นจนน่าหมั่นไส้ ระหว่างรอเสบียงก็พูดคุยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้เรื่องคร่าวๆ ว่าพวกผมหนีออกมาได้ยังไง แอบสะใจที่รู้ว่าเวรุกาตายไปแล้ว บังอาจมาแตะต้องคนของผมสมควรเหอะ...งานนี้ตอนจบน้องมีนเป็นพระเอกวะ พาเราทั้งคู่ออกมาด้านนอกได้ แต่ก็ใช้พลังเกินตัวจนหมดสติหลังจากนั้นก็ถูกพากลับมาบ้านของซานซิโอที่กรุงเทพฯ ซึ่งป๋ารอผมอยู่นั่นเอง


   พอข้าวมานั่งกินกันไปเงียบๆ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ช่างพูดส่วนผมก็หิวจัด ที่ต่างคนต่างกินเพราะบ้านนี้ประชากรส่วนใหญ่เป็นแวมไพร์เขาไม่ค่อยกินข้าวกัน พอท้องเต็มก็พาตัวเองไปอาบน้ำไอ้หื่นมันงอแงจะอาบด้วย ถีบส่งกันอยู่นานจนมีระฆังมาช่วยชีวิตเมื่อน้องมันโผล่หัวมาเรียกไปพบท่านอาผมจึงรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด


   ระหว่างรอก็นอนดูข่าวไป สภากลางของพวกอมนุษย์คงมีอำนาจล้นหลามทั้งที่ปะทะกันกลางเขื่อนเสียงดังขนาดนั้นแต่กลับไม่มีข่าวหลุดลอดออกมาเลย  เพราะอย่างนี้สินะถึงรักษาสมดุลในโลกนี้ได้มายาวนาน


   เรกลับเข้าห้องมาตอนเกือบสามทุ่มเลยโดนผมไล่ไปอาบน้ำก่อนที่มันจะออกมาออเซาะให้เช็ดผมให้ ผมนั่งหย่อนขาอยู่บนเตียงส่วนคนตัวโตนั่งขัดสมาธิอยู่บนพรมกอดเอวพลางเอาหน้าซุกท้องผมไว้เป็นเด็กๆ บรรจงเช็ดผมสีดำนั้นอย่างเบามือ ไอ้คนโดนเช็ดก็หลับตาพริ้มด้วยความเคลิ้ม กลายเป็นอีกาเชื่องๆ ไปซะงั้น ทอดมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่แต่งแต้มด้วยลายปีกสีดำ ลายกราฟิกที่เลื้อยไปตามแขนซ้าย ถึงมันจะดูเยอะแต่ก็เข้ากันดีกับผิวสีแทนของเร...เท่สัด


   "มึงมั่นใจเรื่องป๋าแค่ไหนวะ" ผมถามขึ้น


   "ก็มากอยู่"


   "แล้วถ้าเขายังยืนยันคำเดิมละ...ที่จะให้กูเลิกกับมึง" เสียงเริ่มเครียด


   "งั้นก็ฉุดมาปล้ำ...ทำให้ท้อง ถ้าท้องแล้ว จะได้ต่อรองง่ายขึ้น โอ๊ย!!!" เขกหัวมันซักทียังจะมีหน้ามาเล่น แขนเกร่งกอดเอวผมแน่นพร้อมซุกหน้ากับท้องผมอีกครั้งเหมือนกับเด็กหวงของเล่น ตอนรถคว่ำนี่สมองมันกระทบกระเทือนหรือเปล่าฮะ...ขยันอ้อนผิดปกติ


   "เป็นผู้ชายท้องได้ที่ไหน" ผมบ่น ถ้าท้องได้นี่คงป่องไปนานแล้วมันหื่นซะขนาดนั้น ยัง...ยังจะเงยหน้ามามอง ดวงตาสีน้ำเงินเปล่งประกายวิบวับดูเจ้าเล่ห์เต็มทน ชักร้อนๆ หนาวๆ แล้วสิ "อะไร...มีอะไร"


   "ท้องไม่ได้จริงๆ หรอ" มันถาม


   "อะ...เออ นะสิ" ตอบเสียงติดขัด "เฮ้ย เร!!!!!" ผมร้องลั่นเมื่อจู่ๆ มันก็ขืนตัวขั้นจับผมกดลงบนเตียงแล้วคร่อมทับมาอย่างรวดเร็ว เสตปเดิมเป๊ะ!!!!


   "ไม่เชื่อขอพิสูจน์หน่อยแล้วกัน" ไม่มีโอกาสได้แย้งเพราะริมฝีปากถูกอีกคนช่วงชิงไปเสียแล้ว มือกร้านลอกคราบผมอย่างไว ก่อนจะจู่โจมจุดอ่อนอย่างรู้ดี ทำเอาระทวยกันเลยทีเดียว เพราะเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดทำให้เราไม่ได้สัมผัสกัน ไม่ได้นอนกอดกัน มันจึงเต็มไปด้วยความต้องการ อารมณ์ถูกฉุดขึ้นจุดสูงสุดครั้งแล้วครั้งเล่า บทรักหลากรสถูกมอบให้ผมตลอดทั้งคืน กว่าจะเช้าทำเอาเหนื่อยแต่ก็อิ่มเอมใจไม่แพ้กัน เรานอนกอดกันอยู่อย่างนั้นแต่ผมยังไม่อยากจะหลับลง อยากใช้เวลากับมันให้นานๆ ซุกตัวเข้าหาอกกว้างจนตัวเกยบนร่างแกร่งของมันแทบทั้งตัว มือสากลูบหลังผมเบาๆ ในขณะที่มือผมเองก็ไล้ไปตามลายเส้นสักบนแผ่นอกมันอย่างไร้จุดหมาย มีแต่ความเงียบระหว่างเรา เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน มันสงบและอบอุ่น


   "กูคงลงแดงตาย" เสียงทุ้มเอ่ยออกมา นัยน์ตาสีน้ำเงินที่จ้องมาทำเอาหน้าร้อนผ่าวทั้งที่ก่อนหน้าทำอะไรกันไปถึงไหนแล้วก็ตาม


   "หมกมุ่นจริง!!!!" แขวะแก้เขิน "รีบพิสูจน์ให้ป๋ากูเห็นไวๆ สิ ไม่งั้นก็อดไป"

   
   "งั้น...ขอมัดจำอีกซักรอบแล้วกัน" มือสากที่ลูบหลังอยู่ดีๆ ลากลงต่ำก่อนจะบีบก้นแรงๆ ทำเอาผมสะดุ้ง ถึงกับเหวอแดกเมื่อจู่ๆ มันพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนอีกครั้ง


   "ไอ้หื่นเอ้ย!!!!"


   ตอนเช้าแหกขี้ตาตื่นมาเก็บของที่เหลือไม่มากเพราะหายไปตั้งแต่ตอนเกิดเรื่อง ดีที่พวกบัตรประจำตัวต่างๆ ไอ้เรมันใช้อำนาจมืดช่วยทำใหม่ให้ไม่ต้องไปตามเรื่องด้วยตัวเองไม่งั้นกว่าจะครบทุกอย่างคงหลายวัน ก็รู้ๆ กันอยู่ระบบราชการบ้านเรา มันอาสาขับรถไปส่งเราที่สนามบิน บรรยากาศในรถอึมครึมจนอึดอัด ป๋าก็เงียบผมก็เงียบส่วนไอ้เร รายนั้นปกติมันเป็นใบ้อยู่แล้ว ลากกระเปามาส่งผมถึงเกทแค่ต้องกลับไปอยู่ย้านยาวๆ ช่วงปิดเทอมไม่ได้ลาไปตะวันออกกลางแต่ก็อดใจหายไม่ได้ มือหนาจับมือผมไว้บีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ


   "จะล่ำลากันอีกนานไหม" พ่อบ่นเสียงดังเมื่อผมยังไม่เดินตามท่านไป มองมาทางเราด้วยสายตาดุๆ ผมหันไปมองพ่อทีหันไปมองเรที จูงมือผัววิ่งหนีนี่จะป็นลูกอกตัญญูเปล่าวะ


   "ไปเถอะ" เรบอกพร้อมยิ้มให้


   "เค...งั้นกู ไปนะ" ผมบอก ก้อนสะอื้นมันจุกอกจนพูดออกมาไม่เต็มเสียง พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้อง


   "แล้วกูจะไปรับ" มันว่าพลางจับตัวผมหมุนแล้วดันหลังให้เดินตามป๋าไป อยู่คนเดียวมาตั้งนานกับไอ้เรก็เพิ่งจะเจอไม่ถึงปี แต่ทำไมแค่คิดว่าต้องห่างมันไปนานๆ กลับรู้สึกใจหาย ผมต้องเชื่อใจมันบอกตัวเองไว้อย่างนั้น คนอย่างเร อรุณ เรเวน ต้องทำให้ป๋าของน้องมีนยอมรับได้อยู่แล้ว


Talk Talk
[/b]

-มาแล้วจ้า พักเรื่องบู้มาเรื่องรักกันเนอะ  :mew1:

-ใกล้ตรุษจีนแล้ว รอลุ้นโบนัส คิคิ ถ้ามีเวลาจะหา อังเปามาให้คนอ่านเช่นกันจ้า ขอบคุณสำหรับการติดตาม
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 31-01-2016 01:00:37
ถือเป็นการพิสูจน์ใจสองคนเลย สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-01-2016 07:56:38
 :mew4:   แอบเศร้าอ่า เรต้องพอสูจน์ให้พ่อเห็นนะ
ว่าแต่ท้องไม่ได้จริงเหรอคะเงือกน้อย.  ขอบคุณค่ะ  :L1: 
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 31-01-2016 08:22:36
โอ้ยเรพยายามเข้านะ ป๋าต้องใจอ่อนแน่ๆๆ รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 31-01-2016 08:22:46
พ่อตาจะใช้วิธีพิสูจน์ลูกเขยยังงัยนะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 31-01-2016 12:56:38
เรต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 31-01-2016 18:41:20
ป๋าไม่เอาอย่าให้เลิกกันนะ เรพิสูจน์ตัวเองให้ป๋ายอมรับให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 16 Deprive P4 30-1-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 03-02-2016 22:57:08
บทที่ 17 Lonely
[/size][/color]


Min Say


   "ไม่อร่อยหรอลูก" เสียงย่าดึงผมให้หันมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า มองข้าวเย็นที่ยังเหลืออยู่เต็มจาน

   "อร่อยสิครับ แต่มีนพึงกินขนมไปเมื่อบ่ายยังอิ่มอยู่เลย" โกหกคำโตพร้อมยิ้มแห้งๆ ให้คนสูงวัย พ่อผมอยู่กับย่าส่วนปู่เสียไปตั้งแต่ผมอยู่มัธยมต้น ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดี มื้ออาหารเป็นไปอย่างเงียบเชียบเพราะผมกับพ่อยังมึนตึงใส่กัน จะมีก็แต่ย่าที่เล่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผมไม่อยู่อย่างมีความสุขที่ได้เห็นหลานชายกลับบ้านมาร่วมโต๊ะ


   พ่อผมนะตามใจย่าทุกอย่าง เพราะตอนหนุ่มท่านเคยหนีออกจากบ้านเพราะความเห็นไม่ลงรอยกลับปู่ ทำเอาย่าทรุดป่วยไปหลายปีเพราะตรอมใจจนเกือบตาย พ่อจึงรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นและปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีเสมอมา ตอนที่พ่อหนีไปท่านไปอยู่ใต้เจอแม่แล้วก็มีผม ก็เพิ่งรู้ว่าแม่ไม่ได้ตายจากเรา แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่หรือเปล่า เพราะพ่อบอกว่าพอผมได้หนึ่งขวบแม่ก็กลับทะเลเพราะไม่อยากให้ผมโดนหางเลขจากพวกที่ล่าเผ่าพันธุ์เงือกอยู่ในขณะนั้น เพราะเหตุนี้พ่อจึงพยายามเลี้ยงผมแบบมนุษย์ทั่วๆ ไป แต่ก็นะ ไม่มีใครหนีความจริงพ้นเหมือนผมที่สุดท้ายก็รู้ว่าตัวเองเป็นเงือกอยู่ดี


   "พรุ่งนี้ย่าว่าจะไปเยี่ยม น้องพิม เห็นว่าเพิ่มคลอด ได้เหลนกำลังน่ารักเลย" ย่าเอ่ยถึงหลานของน้องสาวที่เป็นญาติห่างๆ กับผม พร้อมเอารูปเด็กน้อยจ้ำม่ำในไอโฟนมาอวด ทันสมัยซะด้วยคุณย่าผม


   "น่ารักเหมือนแม่มันเลย" ป๋าบอกยิ้มๆ


   "ใช่ไหมละ บักหล่าเอ้ย เมื่อไหร่จะมีหลานให้ย่าอุ้มมั่งละ หน้าตาก็ดี มีเมียเป็นตัวเป็นตนยัง" ผมฝืนยิ้มตอบย่า...มีแต่ผัวอะประเด็น ต่อให้หาเมียตอนนี้ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นสามีที่ดีให้ใครได้เพราะผมคงรักคนอื่นนอกจากไอ้เรเวนหื่นนั่นไม่ได้หรอก ว่าแล้วก็คิดถึงมัน นี่เป็นอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้ยินเสียง ป๋าเล่นยึดโทรศัพท์ผมไว้ติดต่อใครก็ไม่ได้ ครั้นจะเอาโทรศัพท์คนอื่นโทรก็ถูกขัดถูกเบรกเสียทุกที


    "แล้วจะไปกี่โมงครับ" ผมถาม


   "เอ็งตื่นเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้นละ" พ่อบอก


   "ตื่นเช้าก็ดีนะลูก ย่าอยากอยู่กับเหลนน้อยนานๆ" ย่ายิ้มร่า ดูท่านจะอยากได้หลานจริง นั่นยิ่งทำให้ผมหนักใจเข้าไปอีก
   มื้ออาหารจบลง ต่างคนต่างแยกย้ายผมขึ้นห้องมาก็ขังตัวเองอยู่แต่ในนั้น ตลอดหลายวันมานี้การตื่นเช้ามาไม่เจอเรอย่างทุกวัน ทำให้รู้สึกโหวงๆ เหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง จะเปิดคอมเล่นเกมส์อย่างที่ชอบมันก็น่าเบื่อไม่มีสมาธิเล่น จะนั่งวาดรูปแก้เซ็งก็ดันไม่มีอารมณ์ซะงั้น ผมว่าผมเป็นเอามาก ไม่รู้เรมันเป็นแบบผมหรือเปล่า คว้าผ้าขนหนูไปอาบน้ำ ใช้เวลาอยุ่ในห้องน้ำนานแสนนานปล่อยให้สายน้ำเย็นไหลผ่านเผื่อใจจะสงบ กว่าจะข่มตานอนได้ก็เล่นเอาเกือบเช้า



   ผมเดินมึนๆ ออกจากห้องไปขึ้นรถในวันรุ่งขึ้น ก่อนที่เราจะพากันไปบ้านพี่พิม ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ทำอะไรกินนั่งคุยกันเล่นกันตามประสา ทุกคนดูมีความสุขกับเจ้าตัวเล็กจนอดยิ้มตามไม่ได้ ผมเดินเลี่ยงมานั่งเล่นตรงศาลาริมน้ำ แรงตบเบาๆ ที่ไหล่ดึงผมให้หันมอง ก่อนที่ป๋าจะนั่งลงข้างๆ


   "ยังไม่เลิกหวังลมๆ แล้งๆ อีกหรอวะ" ป๋าบ่น ผมหัวเราะเบาๆ พลางทอดมองผืนน้ำตรงหน้า "จะทำตัวซังกะตายแบบนี้ไปอีกนานไหม"


   "ก็คงเหมือนตอนที่แม่ทิ้งป๋าไปละมั้ง" ผมย้อนจนโดนเพ่นกบาลไปทีข้อหายอกย้อน


   "มีน คิดดูดีๆ นะเว้ย ผู้ชายอย่างเรานะ อยากจะแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกน่ารักๆ ดูลูกพี่พิมพ์สิ มึงไม่อยากมีหรอ" ผมคิดตาม ครอบครัว...ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับไอ้เรมา ผมว่าผมพอแล้ว "เชื่อสิว่าไอ้เรก็อาจจะคิดแบบนั้น ตอนนี้มันก็แค่คบมึงขำๆ"


   "ทำไมป๋าถึงมั่นใจนัก" ไซโคกันเข้าไป


   "หน้าตามันก็ดี เงินทองมันก็มี คงจะมีผู้หญิงสวยๆ เข้าหามันไม่ขาด สุดท้ายมันก็ต้องเลือกคนที่เป็นแม่ของลูกได้ ซึ่งไม่ใช่เอ็ง ลูกเอ้ย เอ็งเป็นผู้ชาย เอาง่ายๆ ตั้งแต่ป๋ายึดโทรศัพท์มามันยังไม่โทรหาเอ็งซักครั้งเลย"  พ่อยื่นโทรศัพท์คืนให้ผม จึงเปิดเช็คข้อมูลการใช้ ว่างเปล่า...ไม่มีสายเข้าเลยแม้แต่สายเดียวข้อความก็ไม่มี


   "ป๋าตกลงอะไรกับเร" ผมถาม คิดเข้าข้างตัวเอ็งว่ามันอาจจะกำลังทำภารกิจพิชิตใจพ่อตาอยู่


   "ถ้ามันอยากได้เอ็งคืน ให้เอาสิ่งที่มีค่าสำหรับมันมาแลก สิ่งที่มันคิดว่ามีค่าเท่ากับตัวเอ็ง " สิ่งที่มีค่าเท่าผมงั้นหรอ แล้วอะไรละ ฝ่ามือหนักๆ ตบป๊าปลงหลังเหมือนเตือนสติ ก่อนที่พ่อจะเดินจากไป ว่าจะไม่คิดแต่ก็อดคิดไม่ได้ 



   ผมขอพ่อมานอนอยู่บ้านริมโขงคนเดียว ปลีกวิเวกอย่างต้องการความสงบให้จิตใจที่ฟุ้งซ่านขึ้นทุกวัน เพราะบ้านที่พ่อกับย่าพักนั้นอยู่ในตัวเมือง ติดกับโรงกลึงและร้านของอะไหล่ของพ่อเองทำให้มีคนไปมาหาสู่ตลอดเวลา บางวันพ่อกับย่าก็จะแวะมาทานข้าวด้วย แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทุกวันเสาร์และวันพุธ


   "เฮ้อ!!!" ผมถอนหายใจพลางมองโทรศัพท์ที่ยังคงเงียบสนิท พวกเจ๊ดาโทรมาเล่นบ้างแต่กับคนที่เฝ้ารอผมยังไม่ได้ยินเสียงมันเลยซักครั้ง เอาจริงๆ การมีผมอยู่ข้างกาย บางครั้งเรก็ดูทำอะไรลำบากเพราะต้องคอยพะวงคนข้างกาย อันตรายการเสี่ยงเป็นเสียงตายมันเลี่ยงไม่ได้ถ้าคุณทำงานนักล่า บวกลบคูณหารยังไงผมมันก็ภาระชัดๆ บางทีเรอาจยอมแพ้ไปแล้วก็ได้


   ...สุดท้ายมันก็ต้องเลือกคนที่เป็นแม่ของลูกได้...คำพูดของป๋าดังก้องในหัว ใช่...ผมเป็นให้มันไม่ได้ ถึงมันจะเป็นแค่อาการมโนจนเกินควร แต่ความจริงจุดนี้ก็สร้างความเจ็บปวดในใจจนน้ำตามันไหลออกมา


   ผมใช้ชีวิตแบบซังกะตาย นึกสมเพชตัวเองที่เป็นแบบนี้ ตื่นเช้ามา ใช้เวลานั่งเหม่อเป็นวันๆ ลอยไปลอยมา บางทีก็อยู่ในห้องบางทีก็อยู่ที่ท่าน้ำ บางทีก็ลงไปแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ บางทีก็ร้องไห้จนหลับไป ข้าวปลาอาหารกินบ้างไม่กินบ้างแล้วแต่อยากซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยาก เคยมีคนกล่าวว่าการเอาชีวิตไปผูกไว้กับคนอื่นรังแต่จะทำให้เจ็บปวด...ซึ่งมันก็จริง   แต่มันผูกมันพันไปแล้วจะให้ทำยังไง...เหมือนกำลังจะเป็นบ้าไปจริงๆ


   "วันนี้ป๋าจะไปบ้านลุงเบิ้ม ไปด้วยกันไหม" ผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย คงไม่วายลากผมไปเจอลูกสาวของเพื่อนรักแน่ๆ หลังจากวันนั้นพ่อก็วางแผนจับคู่ให้แม้จะไม่ได้จริงจังแต่ก็พยายามสร้างสถานการณ์ให้บ่อยๆ


   "ไม่อะป๋า อยู่นี่แหละมีนอยากเล่นน้ำ" ผมปฏิเสธพลางเดินเลี่ยงมาตรงท่าน้ำก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้แล้วถอดเสื้อตัวเองออก


   "อย่ามาทำเป็นอ้างเลย" ป่าบ่นพลางเดินตาม ผมยักไหล่ก่อนจะถอดกางเกงแล้วกระโดดหนีลงน้ำทันที


   "ถ้าตามจับผมทันละก็ ไปด้วยก็ได้" ผมกระเซ้าพลางยกหางสีมุกที่พึ่งเปลี่ยนให้บุพการีดู พ่อทำหน้าบึ้งก่อนจะทิ้งตัวนั่งตรงท่าน้ำแบบเซ็งๆ  ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะทอดมองผมที่ดำผุดดำว่ายนิ่งๆ


   "หางแกเหมือนของแม่แกเลย" พ่อบ่นพึมพำ ผมจึงว่าไปหาแล้วเท้าคางลงบนตักของท่าน เปลี่ยนจากเงือกเป็นแมวน้ำชั่วคราวตัวการเอาหัวไปไถๆ อ้อนซักนิด


   "แล้วหน้าตาละ"


   "ก็คล้ายนะ ยกเว้นตาเหมือนของป๋า"


   "งั้นแม่ต้องดูดีมากๆ แน่ มีนถึงหล่อขนาดนี้" ชมตัวเองครับ


   "อืม...แม่แกสวย" มองใบหน้าที่เริ่มแก่ตามวัย บัดนี้แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเมื่อท่านกำลังนึกถึงวันวาน "ดูนี่สิ" มือกร้านเปิดกระเป๋าตังตนก่อนจะรูดซิบด้านในสุดแล้วหยิบรูปใบหนึ่งออกมา หญิงสาวผิวขาวกระจ่างแย้มยิ้มอ้อมแขนบอบบางอุ้มเด็กตัวน้อย ข้างกันเป็นชายหนุ่มหน้าคุ้นตาหากแต่ปราศจากริ้วรอยกำลังโอบทั้งเธอและลูกพร้อมยิ้มอย่างภูมิใจ


   "นี่แม่หรอ" ผมถามอย่างตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นรูปของแม่ ท่านสวยมาก แววตาอ่อนโยนและรอยยิ้มนั่นทำให้ผู้หญิงในรูปนั้นงดงามราวกับเทพธิดา พาลให้รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสพบกัน


   "แม่แกชื่อ กัญ-กัญวรา" ท่านไม่เคยบอกเรื่องแม่มาก่อนเพราะพยายามปิดเรื่องของเงือกกับผมมาแสนนาน หันไปสบตาผู้เป็นพ่อยามที่มองรูปนั้นท่านช่างดูเหงาเหลือเกิน


   "ป๋าไม่คิดถึงแม่บ้างหรอ" ผมถามหลังจากเงียบไปนาน


   "คิดถึงสิ คิดถึงทุกวัน"


   "แล้วป๋าทำยังไงกับความคิดถึงของตัวเองครับ" ผมถามอยากรู้ว่าป๋าทำยังไง บางทีผมอาจเอามาใช้กำตัวเองที่ตอนนี้กำลังจะบ้าตายเพราะใครบางคน


   "ก็บอกตัวเองเสมอว่า ตอนนี้แม่เอ็งกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่ไหนซักแห่งบนโลกนี้อย่างปลอดภัย " ป๋าตอบพลางยิ้มอ่อนให้ผม พอดีกับโทรศัพท์ที่ดังขัดจังหวะ ลุงเบิ้มคงโทรตามแล้วละมั้ง "เอ็งไม่ไปจริงดิ"


   "ไม่ครับ" คนเป็นพ่อพยักหน้าเข้าใจก่อนจะขอตัวออกไปตามนัด ปล่อยให้ผมลอยตัวนิ่งๆ บนผิวน้ำอยู่ที่เดิม "จะทำได้หรอ..." พึมพำกับตัวเอง ถ้าจัดการกับความคิดถึงไม่ได้ก็คงต้องรอ ได้แค่รอใช่ไหม...แล้วเมื่อไหร่...แล้วถ้ามันไม่มาผมจะทำยังไง แล้วถ้ามันทิ้งผมหละ แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่คิดเยอะขนาดนี้ เพราะรักมากจึงกลัว


   แม้หนังตาจะหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้นจากความเหนื่อยล้าทั้งกายใจตลอดวันที่ผ่านมา ไอ้มีนผู้นี้คงเป็นเอามาก เพราะในห้วงความฝัน เสียงทุ้มเบายังก้องในหู หลากหลายคำพูดเกินจับใจความได้ กลิ่นกายอ่อนๆ หลอกหลอนในความรู้สึกพอๆ กับไออุ่นและแรงกอดที่มันดูสมจริงเสียจนปล่อยใจให้จมไปกับห้วงนิทราอย่างสงบ...เลิกทำให้กูคิดถึงเสียทีไอ้ เรเวร
........................................................

Talk Talk
[/b]

-ตอนนี้คืออาการเวิ่นของน้องมีนนะค่ะอย่าพึ่งรำคาญไปก่อนละ  :ling1:

-ของขวัญตรุษจีน คิคิ  :mew1:


(http://upic.me/i/3k/amure-mindeepblue.jpg) (http://upic.me/show/57798639)
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 17 Lonely P4 03-02-59+Art
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-02-2016 21:29:51
รูปสวยมากๆ กรี้ด.   :katai2-1:
ตอนนี้สงสารทั้งพ่อลูกเลย เรรีบมานะ มีนเหงา
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 17 Lonely P4 03-02-59+Art
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 04-02-2016 23:47:32
เรมาแน่ เชื่อสิมีน รีบๆมานะเรมีนเหงาแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 17 Lonely P4 03-02-59+Art
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 08-02-2016 19:44:24
พี่เรมาหาน้องแล้วใช่มั้ยยยยย   :hao7:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 17 Lonely P4 03-02-59+Art
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 09-02-2016 23:52:23
บทที่ 18 Goods
[/b]


Min Say


   "มีน ตื่นลูก" เสียงปลุกของย่าดังขึ้นใกล้หู


   "อือ ขอนอนอีกแป๊ปนึง" ผมงอแงพลางซุกเข้าไปหนุนตักอุ่นๆ มือหยาบกร้านตามกาลเวลาลูบเบาๆ ที่แก้มผม


   "ซูบลงไปเยอะเลยนะเรา" อย่าบอกเสียงเครียด จนผมต้องลืมตามองใบหน้ากลัดกลุ้มนั่น "มีเรื่องอะไรหรือเปล่า...เรากับพ่อนะ"


   "ไม่มีหรอกครับ" โกหกคำโตก่อนหลับตาลงอีกครั้ง "แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย"


   "เรื่องอะไร ไหนบอกย่ามาซิ" ผมอึกอัก ไม่อยากแถไปมากกว่านี้จึงเลือกที่จะเงียบจนได้ยินเสียงถอนหายใจของย่า
"มีน...คนเรานะไม่ว่าปัญหาอะไร...สิ่งที่ทำให้ให้ผ่านไปได้ คือกายและใจที่แข็งแรง ดูบักหล่าสิ ตอนนี้จะเอาแรงที่ไหน หืม" ผมพยักหน้าเบาๆให้กับคำกล่าวนั่น


   "งั้น มีนอาบน้ำแปป" ผมตัดสินใจลุกจากที่นอนไปจัดการธุระส่วนตัว ย่าจึงเดินไปนั่งเล่นที่ห้องรับแขก ไม่นานพ่อก็มารับเราไปทำบุญที่วัด


   นานๆ มาวัดทีคงไม่ร้อนเท่าไหร่มั้ง ซะที่ไหนละ อากาศเมืองไทยนะครับท่านผิวบางๆ ของน้องมีนแดงหมดแล้วเนี่ย ได้ออกมาข้างนอกก็ช่วยได้มาก บรรเทาอาการเวิ่วเว้อไปได้เยอะ อย่างน้อยมีอะไรทำก็หยุดคิดถึงไอ้เรได้ชั่วคราว ผมรับเอาธูปที่จุดแล้วมาจากพ่อขณะที่นั่งพับเพียบอยู่หน้าองค์พระประทาน


   "เขาบอกพระองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ ขออะไรก็ได้" ย่าบอกยิ้มๆ จริงหรอ?... งั้นคนแถวนี้ก็สบายเลยสิอยากได้อะไรให้มาขอ มันฟังดูงมงายแต่ก็อยากจะลองขอ ผมมองไปที่ใบหน้าขององค์พระอย่างตั้งใจ...ผมอยากเจอเร อยากเห็นหน้า หรือไม่ก็ได้ยินเสียงก็ยังดี...ที่ขอไปแบบนั้นเพราะผมอยากรู้ว่าตอนนี้มันเป็นยังไงบ้าง คิดถึงผมหรือเปล่า ครั้นจะโทรไปก่อนก็แบบ...เหมือนไม่เล่นตามกติกาที่ป๋าตกลงกับเรไว้


   พ่อมาส่งผมไว้บ้านริมโขงก่อนจะพาย่ากลับบ้านใหญ่ไป สี่โมงเย็นแดดร่มลมตกผมมานั่งเล่นที่ริมน้ำเหมือนทุกวัน แล้วเสียงไอโฟนที่เงียบไปนานก็ดังขึ้นในรอบหลายวันพร้อมเบอร์ที่ทำให้ใจผมเต้นรัว...ไอ้เชี่ยเร


   "ฮัลโล..." ผมรับเสียงตื่น ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากปลายสาย "เร...มึงหรอ"


   "อืม..."


   "มึงจริงๆ ใช่ไหม" เสียงผมเริ่มสั่น น้ำตาที่ค่อยๆ เอ่อ "ฮึก...เร"


   "กูเอง ผัวมึงไง อย่าร้องไห้สิ ขี้แยจริงเมียกู " น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยปลอบในแบบของมัน


   "ก็กู...ฮึกกูคิดถึงมีง ทำไมไม่โทรหากูเลย มึงไปไหนมา ฮึก" ผมทั้งถามสะอื้น


   "ไปหาสิ่งมาค่าพอที่จะเอามึงคืนมาไง" มันตอบ "แล้วกูก็ตกลงกับพ่อมึงไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับมึงจนกว่ากูจะทำได้" ผมพยักหน้าเข้าใจ


   "แล้วทำไมถึงโทรมาละ" ผมถามอย่างแปลกใจแต่ก็ดีใจนะที่ได้ยินเสียงมันแบบนี้


   "กู...คิดถึง คิดถึงจนทนไม่ไหว จริงๆ แล้ว...." มันเงียบไปพักใหญ่ ส่วนผมก็รอฟัง "กูผิดคำพูดกับพ่อมึงวะ เมื่อคืน กูไปหามึงมา ถ้าไม่ได้กอดมึงก็คงลงแดงตายแน่ๆ" มันบอกเสียงแผ่วเหมือนเด็กน้อยที่สารภาพผิด แต่คำสารภาพของมันก็ทำเอาผมเห่อร้อนไปทั้งหน้า เมื่อคืนไม่ใช่ฝัน เสียงของเรที่ผมได้ยิน อ้อมกอดอุ่น ลมหายใจทุกอย่างคือของจริง


   "กูไม่ได้ฝันสินะ" ผมยกมือปาดน้ำตา ยิ้มแก้มแทบแตกถึงแม้จะยังสะอื้นเบาๆ ทุเรศตัวเองจัง


   "เลิกร้องไห้ได้แล้ว ขอบตาซ้ำมาก กินข้าวบ้างนะ มึงผอมมากรู้ตัวไหม" เรบอกเสียงเครียด "ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ห่วงขนาดนั้น อีกไม่นานหรอกหลังจบคดีของสภาคดีนี้กูจะไปรับมึง โอเคไหมครับ...ที่รัก" ผมละไม่ชินกับการพูดจาเพราะๆ ของมันเลยฟังที่ไรมันเอิ่ม...ขนลุกทุกที แต่การที่เราคุยโทรศัพท์กันมันก็ทำให้เรพูดมากขึ้น ไม่ใช่ผมที่จ้ออยู่คนเดียว ไว้ครั้งหน้าถ้ามันเอาแต่ปิดปากเงียบโทรคุยแม่งเลย ต่อให้นั่งอยู่ข้างกันก็ตาม


   "ฮ่าๆ ...." ผมสะดุ้งเมื่อนึกได้ว่าเผลอหัวเราะออกมากตามใจคิด


    "มีอะไรน่าขำ"


   "ฮะ...เอ่อ ปะ เปล่า" ทอดมองผืนน้ำเบื้องหน้าอย่างเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นตลอดหลายวันมานี้ เราต่างคนต่างเงียบแค่ฟังเสียงลมหายใจของกันและกันมันก็เป็นสุข อยากให้มันมานั่งข้างๆ จัง  เดาว่าคงชอบ


   "มีน...กูต้องวางแล้ว" เรบอก "ต้องออกไปสภากลาง"


   "อะ...อืม" ผมรับแม้ในหัวจะคิดตรงข้าม


   "มีน...รักนะครับ" O/////O แพ้... ผมแพ้เวลาไอ้บ้านี่พูดเพราะ และด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแบบนี้ด้วย เขินจนแทบบ้า "รักผมไหม"


   "ระ...รักสิ" โอ้ยลิ้นพันกันไปหมดแล้วเนี่ย แล้วจะขย้ำขากางเกงเพื่อ!!?


   "น่ารัก!!!" มันหัวเราะเสียงใส "รอผมนะที่รัก ไม่เกินสองวันจะเอาผู้ใหญ่ไปขอ" มันตบท้ายก่อนจะวางหูไป ปล่อยให้ผมนั่งเขินกับประโยคเสี่ยวๆ ของมัน ผมวางโทรศัพท์ลงอย่างอารมณ์ดี มองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกสาดแสงสีส้มไปทั่วฟ้าและสะท้อนลงผืนน้ำ...ว่ายน้ำเล่นดีกว่า ผมถอดเสื้อผ้าตัวเองก่อนจะหย่อนตัวลงน้ำที่ทำให้ผมรู้สึกมีชีวิตชีวาทันที



..............................................................................



   อีกฟากของฝั่งน้ำคนกลุ่มหนึ่งกำลังซุ่มมองร่างบอบบางที่แหวกว่ายไปมาอย่างชื่นชม  ผิวขาวผุดผ่องกับเกร็ดสีมุกเสริมให้สิ่งมีชีวิตตรงหน้างดงามดุจอัญมณีแห่งผืนน้ำ ตอนแรกที่เขาได้รับคำสั่งจากนายมา คิดเสมอว่าผู้เป็นนายเพ้อเจ้อ ชาวเงือกนะเหมือนจะเป็นเพียงตำนานเพราะเมื่อเทียบกับอมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นแทบจะไม่มีใครเคยเห็นเลยด้วยซ้ำ แต่ก็นะในเมื่อหลักฐานปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคงไม่ขอโต้แย้งอะไร


   "นายสั่งให้จับเป็น" เพื่อนที่ซุ่มอยู่ข้างๆ กระซิบบอก "นิ่มนวลที่สุดอย่าให้มีรอยขีดข่วน" เสียงแหบห้าวเน้นย้ำ อีกคนที่รับหน้าที่เป็นพรานในวันนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ารับก่อนจะบรรจุลูกดอกยาสลบลงบนปืนยาวแล้วเล็งไปยังไปหมาย


   ปัง!!! เสียงปืนยาวดังสนั่นทำเอานกแถวนั้นแตกฮือพร้อมกับลูกดอกที่แหวกอากาศพุ่งสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ


   "โอ๊ย!!!!" เสียงใสร้องลั่น เมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่กลางหลังก่อนที่สติจะพล่าเรือนจนดับวูบในที่สุด ร่างบางจมดิ่งลงใต้น้ำ เหล่านายพรานจึงออกจากที่ซ่อนว่ายไปจับเป้าหมายดึงขึ้นเรือที่จอดซ่อนไว้แถวนั้นแล้วขับออกไปทันที แว่วเสียงร้องโวยวายของแม่บ้านที่บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์ ทำให้ต้องรีบเผ่นก่อนที่อะไรจะยุ่งยากไปมากกว่านี้


...........................................................................



   ผมตื่นขึ้นมาในห้องมืดชวนให้นึกถึงตอนที่โดนพวกซาโตนี่จับไปแล้วใจมันสั่นกลัว เพียงแต่สถานที่ในตอนนี้อยู่ในสภาพดีกว่าเยอะเพราะผมโดนมัดมือมัดเท้านอนตะแคงอยู่บนเตียงกว้างที่นุ่มหอมแบบไม่มีเสื้อผ้าติดตัวซักชิ้น ที่นี่ไม่ได้สกปรกและอับชื้นเหมือนใต้เขื่อนนั่น แต่สถานการณ์โดยภาพรวมก็ดูเลวร้ายกว่าเพราะผมถูกจับมาลำพังไม่มีไอ้เรคอยช่วยเหมือนทุกที พอสายตาปรับเข้ากับแสงสลัวก็เห็นหน้าต่างที่กั้นด้วยลูกกรงเหล็กตรงข้ามกันเป็นประตูห้องและปลายเตียงเป็นห้องน้ำที่แง้มประตูไว้  ได้ยินเสียงไขกุญแจจากด้านนอกก่อนที่ประตูจะเปิดออกเผยให้เห็นชายฉกรรจ์สองคนที่คนหนึ่งถือถาดอาหารเข้ามา ผิวคล้ำกร้านแดดกับแผลเป็นบนหน้าดูโหงวเฮงยังไงก็ไม่ใช่คนดี สายตาโลมเลียที่จ้องมาน่าทำเอาผมเกร็งไปทั้งตัว ถดตัวนี้จนแทบติดหัวเตียง ชันเข่าขึ้นปิดร่างกายจากสายตาน่าขยะแขยงของพวกมัน


   "ต้องการอะไร!!!!" ผมถามเสียงดัง


   "ถ้าพี่บอกน้องจะทำให้หรอจ้ะ" มันคนหนึ่งตอบพร้อมแสยะยิ้มแล้วคลานเข่าเข้ามาหา ยิ่งทำให้ผมถอยกรูดจนแทบสิงกำแพง


   "เฮ้ย...แล้วไม่ต้องเอาข้าวให้มันกินหรอวะ" เพื่อนมันถาม


   "วางไว้ก่อนมึง หึ...กินของพี่ก็ได้นะน้อง อิ่มเหมือนกัน" สถานการณ์ตอนนี้มันบ้าสิ้นดี


   "จะทำเหี้ยอะไรของมึง!!!!" ผมตวาดลั่นเมื่อมันเข้ามาใกล้พลางออกแรงถีบจนมันหงาย สายตาคู่นั้นวาวโรจน์อย่างโกรธจัด ความรู้สึกอึดอัดที่แผ่รอบตัวบอกให้รู้ว่ามันก็ไม่ใช่มนุษย์เช่นกัน "โอ๊ย!!!" มือแกร่งกระชากข้อเท้าผมแรงๆ จนนอนแผ่หลาลงบนเตียง "ปล่อยกูกู!!!"


   "ฤทธิ์เยอะนักนะมึง" ผลัก!!! หมัดหนักๆ ซัดเข้ามาเต็มท้องจุกจนตัวงอ แม่งแรงเยอะชิบหาย อยากจะด่าแต่พูดไม่ออก


   "คุยกันดีๆ ไม่ชอบ" เพื่อนมันอีกตัวคลานขึ้นมาบนเตียงจับผมนอนหงายก่อนจะกดมือที่ถูกมัดลงกับฟูกล๊อคเอาไว้แน่น


   "อย่า...ฮึก" ผมดิ้นรนด้วยความกลัว "ไม่...เชี่ย" เสียงผมสั่นเมื่อมันอีกคนคร่อมทับลงมาหมดสิ้นทางหนี มือสากลูบไล้ไปทั่วตัว สัมผัสหยาบโลนทำเอาน้ำตามผมไหลออกมากอย่างอดสู "พอ...ไอ้เชี่ย หยุด...อื้อ"


   ริมฝีกปากถูกประกบปิดจากไอ้คนที่กดมือผมไว้ พยายามที่จะเม้มปากแน่นแต่ก็โดนมันบีบคางจนเจ็บ บังคับไห้อ้าปากรับลิ้นร้อนที่รุกรานเข้ามา ในขณะที่อีกคนกำลังลิ้มรสไปทั่วร่างก่อนจะกัดแรงๆ เข้าที่อกทำเอาผมสะดุ้ง ขยะขแยงทุกสัมผัสจากพวกมัน


   "เชี่ย ผิวอย่างเนียน กูไม่ไหวแล้ว" ผมผวาเมื่อมันจับร่างผมพลิกคว่ำกดหน้าลงกับเป้าตุง ทำเอาใจผมเต้นรัวอย่างหวาดผวากับสิ่งที่ตามมาเมื่อมันรูดซิบดึงกางเกงลง


   "อื้อ" ผมเม้มปากแน่นพยายาม แต่มันกับบีบคางผมจนต้องอ้าปากรับไอ้จ้อนที่ยัดเข้ามาพรวดเดียวจนจุกคอ...แทบอ๊วก อยากจะอาเจียน...เรมึงอยู่ไหน มึงรู้หรือเปล่าว่ากูโดนจับมาที่นี่ ที่ๆ เหมือนขุมนรกนี่


   "ฮึก!!!!" น้ำตาผมไหลอาบแก้มอย่าสิ้นหวัง เมื่อนิ้วสากกดเข้ามาด้านหลัง ไม่อยากจะนึกถึงสิ่งต่อไปที่กำลังจะเกิด... ศักดิ์ศรีทุกอย่างมันถูกทำลายลงตรงนี้เจ็บทั้งกายทั้งใจ...ท้อถอยกับทุกสิ่งจนได้แต่หลับตายอมรับความอัปยศนี้...ร่างกายที่สกปรกจากใครก็ไม่รู้ที่มันจับผมมา...แล้วจับมาเพื่ออะไร ถ้าพูดเรื่องบาปกรรมผมมั่นใจว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำบาปอะไรที่มันหนักหนาจนฟ้าต้องมาลงโทษด้วยชะตากรรมเลวร้ายแบบนี้ ความรู้สึกด้านลบทุกอย่างถาโถมเข้ามาในใจ มันคงจะดีกว่าหากผมหยุดหายใจไปซะแล้วไม่รับรู้มันอีก


   "ทำบ้าอะไรของพวกมึง"  เสียงตวาดลั่นดังมากจากตรงประตูก่อนที่ไอ้สารเลวสองคนจะถูกกระชากออกจากตัวผมจนกระเด็นไปนอนกับพื้น


   "นาย!!!!" พวกมันโพล่งออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นผู้มาใหม่เต็มตา "พวกผม...."


   "กูบอกมึงว่าไง..." ชายร่างยักษ์กวาดมองไปทั่วอย่างเกี้ยวกราด "อย่าให้มีแม้แต่รอยขีดข่วน แล้วดูพวกมึงทำ...ถ้าในวันประมูลสินค้ากูราคาตกละก็เอามึงตาย...ออกไปได้แล้ว" มันตวาดลั่นไล่ลูกน้องออกจากห้อง ก่อนจะเดินมาแก้มัดผมออก "กินข้าวซะ...อย่าให้กูต้องบังคับ"


   ผมมองตามร่างยักษ์ที่เดินออกไปพร้อมปิดประตูขังผมไว้ ก่อนจะล้มตัวนอนร้องไห้คำว่าสินค้าเหมือนน้ำเย็นๆ ที่สาดเข้ามาจนชาไปทั้งร่าง มันจะเอาผมไปขายงั้นหรือ แล้วคนที่ซื้อจะเอาผมไปทำอะไร...มีคนบอกว่าเนื้อของชาวเงือกจะทำให้อมตะ...เมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยได้ยินใจผมแทบหยุดเต้น ขนลุกทั้งกาย เขาคงไม่ซื้อผมเพื่อไปแล่เป็นอาหารใช่ไหม หรือคงไม่เอาผมไปขังไว้ในตู้เหมือนปลาทอง หรือบางทีคนที่จะซื้อผมไปอาจใช้ผมเป็นที่ระบายอารมณ์แบบไอ้ชาติชั่วสองตัวนั่น...ไม่ผมต้องหนี แล้วจะหนียังไงละ...มองไปรอบๆ มันช่างไรหนทางกับร่างกายที่ยังเจ็บและใจที่ไม่เต็มร้อยผมจะรอดหรอ


   พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นวัตถุสีขาวที่วางไว้ข้างถาดอาหาร มันคนหนึ่งเผลอลืมโทรศัพท์ไว้เหมือนแสงจางๆ จากปลายอุโมงค์ ผมพาร่างที่บอบช้ำไปคว้าเอาโทรศัพท์นั่น กดหมายเลขสำคัญที่จำขึ้นใจแต่ก็ผิดซ้ำแล้วซ้ำเร่าเพราะรนเกินไปจนต้องตั้งสติกดมันใหม่จนโทรออกได้ในที่สุดยก ผมยกโทรศัพท์แนบหูด้วยมือที่สั่นทำ ตูด.....เสียงรอสายดังยาว

 
   "รับสิวะ....รับสิ" ผมพร่ำเพ้อด้วยใจระทึก "เร...รับสิ"


   "ฮัลโล..." เสียงปลายสายช่วยให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก


   "เร...ฮึก...กูเอง" พลันน้ำตาที่พึ่งแห้งก็กลับมาไหลอีกครา "ฮึก...มาช่วยกูด้วย กูไม่ไหวแล้ว"


   "มีน ตอนนี้มึงอยู่ไหน กูตามหามึงให้ทั่ว" เสียงทุ้มถามอย่างร้อนรน


   "เรฮึก...พวกมัน...ฮือจะ..." พยายามจะตั้งสติแต่ยิ่งได้ยินเสียงมันยิ่งปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น


   "ใจเย็นๆ นะครับ สูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ มีน...ตอนนี้อยู่ไหน" มันพยายามกล่อมผมให้สงบ


   "กูไม่รู้...ฮึกมันจับกูมา มันเกือบจะปล้ำกู" เหตุการณ์เมื่อครู่ยิ่งกระตุ้นความกลัวของผม "มันบอก...ฮือ... มันบอกจะเอากูไปขาย...กูต้องตายแน่ๆ เรกูกลัว ช่วยกูด้วย มันต้องฆ่ากูแน่ๆ" ผมร้องไห้สะอึกสะอื้น ตอนนี้สติแตกแล้วจริงๆอยากให้ไอ้เรมาอยู่ตรงหน้าซะเดี๋ยวนี้เพราะผมไม่ไหวแล้ว รับไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว


   "มีน...." ปัง!! เสียงประตูเปิดเข้ามาอย่างแรงก่อนที่ชายร่างยักษ์จะตรงปรี่เข้ามากระชากมือถือไปจากผม


   "วุ่นวายนักนะมึง" มันตะคอกก่อนลากกดหน้าผมลงกับพื้น


   "โอ๊ย!!! อย่า" มือถูกเอาไพล่หลังไว้ ผมน้ำหนักตัวที่มันกดลงมา จนแขนแทบหักหมดสิทธิ์ดิ้นรน รู้สึกเจ็บแปลบที่หลังคอเหมือนถูกเข็มแทงก่อนที่ความร้อนจะแผ่กระจายจากจุดนั้นดึงสติให้ดับวูบไป


Talk Talk
[/b]

-มีนแม่งอ่อน เอะอะโดนจับขึงตลอดเลย คิคิ :katai2-1:  มาต่อให้แล้วจ้า :mew1:

-สวัสดีปีใหม่จรนะจ้ะ สำหรับใครปีชงก็อย่าลืมไปแก้นะค่ะ ส่วนเราชงทั้งปี ชงทุกปี ชงตลอดเพราะดันไปดื่มกับรุ่นพี่ แต่ดีตรงไม่ต้องจ่าย อิอิ :hao7:  เงินทองไหลมาเทมาทุกท่านะค่ะ love you :L1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 18 Goods P4 09-02-59 T_T
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-02-2016 05:42:09
 :mew5:     :z3:   ไม่เอานะมีนลูกปลาน้อยของเค้า อย่าเป็นอะไรนะรอเรก่อน
นึกแล้วว่าวันนี้ต้องมาถึงแต่ทำไมเรไม่อยู่ แง
คนเขียนสู้ๆค่ะ โชคดีปีใหม่เช่นกัน
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 18 Goods P4 09-02-59 T_T
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 10-02-2016 17:15:13
เรต้องมาช่วยมีนให้ทันนะ งื่อ!! อย่าเพิ่งเป็นไรนะมีน
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 18 Goods P4 09-02-59 T_T
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-02-2016 22:27:07
เรจะมาช่วยมีนทันป่าว :katai1: ใครจับมีนมา มันเป็นใคร  :z6:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 18 Goods P4 09-02-59 T_T
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 14-02-2016 15:06:19
บทที่ 19 Your Hero
[/b][/b]


Amun-re


   ผมไม่เคยเสียใจที่มีสายเลือดเรเวนเลย แม้หลังพ่อแม่ตายเราจะถูกตามล่ากันเป็นว่าเล่น จากคนที่หวังประโยชน์จากพลังของเรา ที่เราเอาตัวรอดได้จนมาเจอท่านพ่อ อีคารอส ซานซิโอ เพราะพลังที่มีเช่นกัน แต่ตอนนี้แอบเซงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นนิดๆ เพราะตอนโดนพวกซาโตนี่เล่นงานมันทำให้คนรักของผมเดือดร้อนไปด้วย แต่เรื่องก็ผ่านไปได้ด้วยดีแต่สถานการณ์ใช่ว่าจะสู้ดีเมื่อพ่อตา!? ของผมดันไม่ชอบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็ไม่เห็นด้วยหากลูกชายคนเดียวของเขาต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ข้างกายผม จะว่าพ่อมีนใจร้ายก็ไม่ใช่ ก็แค่รักลูกมากเท่านั้นเอง เดาจากแรกๆ ที่เราคบกันพ่อของมีนก็ไม่ได้ห้ามอะไรขอแค่ลูกมีความสุขเขาก็พอใจ จากจุดนี้ผมจึงต่อรอง ให้ผมเลิกกับมีนง่ายๆ ผมเองก็ไม่ยอมหรอกครับ ข้อตกลงระหว่างผมกับคุณพ่อตาจึงเริ่มขึ้น หากผมอยากได้มีนคืนให้เอาสิ่งที่คิดว่ามีค่าเทียบเท่าคนที่ผมรักไปแลก...มันช่างประจวบเหมาะ กับบางสิ่งที่กำลังตามหาอยู่ ผมจัดการเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้วแต่ไม่มีใครรู้นอกจากผมกับน้อง ท่านอาและพี่มายา จะถามว่าทำไปทำไม ก็อยากเซอไพร์เมีย ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดประโยชน์เอาตอนนี้...ถ้าผมตามหาคนๆ นั้นเจอผมก็จะได้มีนคืนแน่นอน


   ผมยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีทอดมองถนนตรงหน้า นับวันผมยิ่งบ้าสงสัยติดเชื้อไอ้แว่นเกรียนนั่นมาแน่  ว่าแล้วหน้ามึนๆ ของมันก็ลอยมาในความคิด ทั้งที่รับปากคุณพ่อตาไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งกับมันจนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จ แต่ใครจะทนได้... ผมนอนกอดของผมทุกวัน ก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา สุดท้ายอดไม่ได้ต้องแอบไปหามันถึงบ้าน ได้เห็นคนน่ารักนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ผิวขาวๆ ในเสื้อนอนตัวบางกับกลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะเจ้าตัว ผมเกือบจะลักหลับมันแล้วสิเมื่อคืน ต้องข่มกายขมใจนอนกอดมันไว้เฉยๆ มันซูบลงจนสังเกตเห็นได้ คงจะคิดมากเรื่องผมนี่แหละ ลากสังขารจากหนองคายกลับมาถึงคอนโด พี่มายาก็ส่งไลน์มาบอกข่าวดีแก่ผม จึงตัดสินใจโทรหามัน เติมกำลังใจให้ไอ้เกรียนมันหน่อยกลัวจะเฉาตาย แต่รอไม่นานผมก็ไปรับมันแล้ว ใจจริงอยากไปซะเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ติดงานล่าที่พึ่งรับมา ตอนนี้ต้องเอารายงานที่พึ่งปั่นเสร็จไปส่งที่สภากลาง


   “ไงพี่เร” เสียงไอ้น้องรักทักทันทีที่เปิดประตูเข้าไปห้องทำงานของอาซอนเน่ พักนี้ถ้าไม่มีเรียนมันมาสิงที่นี่ตลอดแหละ ขยันทำคะแนนซะจริง


   “อ้าวเร...! รายงานวางไว้โต๊ะก่อนเลยขี้เกียจจะอ่าน” ท่านอายังคนสวยบอกพลางสะบัดมือเบาๆ ให้น้ำยาทาเล็บสีแดงสดที่พึ่งทาแห้ง เดาจากขวดน้ำยาในมือไอ้เรน


(อย่าบอกนะมึงเป็นทาให้)


(เออกูเอง) มันยิ้มๆ


(นี่น้องกู...แต๋วแตกแล้วสินะ) ผมล้อ


(แหมๆ หัดไว้เห็นซอนเน่ชอบ เพื่อคนที่รักกูทำได้หมดแหละ หรือมึงไม่เป็นไอ้พี่เร) แล้วผมกับมันก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน


“นี่คงไม่แอบนินทาอาในใจกันใช่ไหมเนี่ย” ท่านอาทำหน้ายุ่ง ตวัดสายตามองไอ้เรน ไอ้ตัวแสบก็ยิ้มกวนๆ ตอบ ยิ่งทำให้ใบหน้าสวยนั่นเหวี่ยงไปอีก รังสีหวานแหววแปลกๆ เดาว่าน้องผมคงจะคืบหน้าไปบ้างแล้วละ ดูสองอาหลานหยอกกันไปมาเพลินๆ แรงสั่นในกระเป๋าเตือนว่าโทรศัพท์มีสายเข้าจึงเอาออกมาดู...ก็ต้องประหลาดใจกับเบอร์ที่โชว์ พ่อตาโทรมา!!!!!

“ฮัลโลครับ”

“มีนโดนจับไป” น้ำเสียงร้อนรนจากปลายสายทำใจผมกระตุกวูบ

“เมื่อไหร่ครับ”

“ไม่เกินครึ่งชั่วโมง แม่บ้านที่อยู่อีกบ้านโทรมาบอกว่ามีนโดนใครไม่รู้ลากขึ้นเรือไป” ผมไม่น่าชะล่าใจเลย มีคนอื่นรู้ว่ามีนเป็นเงือก หลักๆ ก็คนในสภาที่ไปช่วยเราวันนั้น ไม่แน่พวกนั้นอาจบอกคนอื่นต่อ จึงมีคนคิดจะเอาตัวมีนไป

“ผมไม่น่าชะล่าใจเลย” รู้สึกเสียใจที่ยอมเล่นตามเกมคุณพ่อตา ปล่อยมีนอยู่ห่างตัว ถึงอยู่กับผมมันจะอันตรายแต่ผมก็ยังปกป้องดูแลมันได้

“เร...ป๋าจะทำยังดี” เสียงเขาสั่น “จะไปตามมีนที่ไหน...ได้ละ”

“ใจเย็นๆ นะครับ ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องหามีนให้เจอ...พวกมันมีกี่คน”

“รู้สึกจะสอง”

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเถอะ” ผมบอกก่อนตัดสายไป สบตากับน้องชายนิ่ง มันรับรู้ทุกอย่างแล้วเช่นกัน

“มีนโดนจับไป?...ฝีมือใคร” เรนถามเสียงเครียด ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ...ผมเองก็ไม่รู้ พยายามข่มใจที่เต้นรัวอย่างหวาดหวั่นในตอนนี้ให้สงบพร้อมคิดวิธีการ

“อาจะสั่งคนแถวนั้นไปตรวจสอบร่องรอย” ท่านอาบอกก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นสั่งงาน...โทรศัพท์!!! คนเราต้องพกโทรศัพท์ติดตัวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นภารกิจที่ต้องมีการสั่งการอย่างลักพาตัวยิ่งต้องมี

“สัญญาณโทรศัพท์!!!!” เราโพล่งออกมาพร้อมกันก่อนที่ผมจะก้าวยาวๆ ไปห้องฝ่ายข้อมูลโดยมีน้องชายก้าวตามมาติดๆ

(พี่จะทำอะไร...)

(หาสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกใช้งานแถวๆ บ้านมีน ตอนเวลาช่วงที่มีนโดนจับไป...บ้านริมโขงค่อนข้างห่างจากหลังอื่น คงมีคนใช้โทรศัพท์จากบริเวรใกล้ๆ นั้นไม่มาก)

(เออ...ลองดู เผื่อมันโทรประสานงานกัน)

 “รบกวนช่วยหาสัญญาโทรศัพท์ที่ใช้งาน แถวพิกัด….°....'….2"N …°…'….5"E ช่วงเวลา 16.00-18.00 น. ให้ผมที” ผมสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบทำตาม หมายเลขกว่ายี่สิบหมายเลขจะรัยขึ้นมาบนหน้าจอ “เบอร์นี่ไม่ใช่...เบอร์นี่ก็ด้วยๆ...” ผมตัดเบอร์ที่ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวมีนออกไป สงสัยใช่ไหมว่าผมรู้ได้ไง...ผมไปสืบมาหมดทุกอย่างเกี่ยวกับมีน พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง การศึกษา ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับมัน ผมค้นหาและจดจำไว้หมดเพราะมีนสำคัญกับผมนิ ผมจึงอยากรู้ทุกอย่าง

“หาจากเบอร์ที่เหลือ...ว่าเดินทางไปตรงไหนต่อบ้าง”

“เอ่อ ต้องให้เวลาค้นหาซักหน่อยนะค่ะ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอก ผมพยักหน้าเข้าใจแม้ภายในจะเดือดเต็มที



   รอ...ผมเกลียดการรอ ไม่รู้มีนจะเป็นยังไง ผมเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนั้นอย่างวิตก เหมือนจะเกะกะเจ้าหน้าที่ในห้อง จนน้องผมต้องลากกลับห้องทำงานท่านอา เปิดประตูไปทำเอาผมอึ้ง มีทั้งอาหมอกับข้าวหอม อารอทกับโยนาห์  ทั้งหมดมารวมกันที่นี่เพื่อหาทางช่วยผม  ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็วิ่งตามเอาพิกัดที่ตามจากสัญญาณทั้งหมดมาให้ผม จึงมีคำสั่งให้คนของสภาในพื้นที่ตามไปค้นตรวจตามที่อยู่จากพิกัดเหล่านั้น

   มองเข็มนาฬิกาเดินไปกว่าสองชั่วโมงผ่านมาแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องบินส่วนตัวบินไปหนองคายเพื่อหาเอาเอง เพราะให้ทนรอแบบนี้ทนไม่ไหวจริงๆ แต่ยังไม่ทันก้าวออกจากห้องโทรศัพท์ก็มีสายเข้าอีกครั้ง ผมรีบหยิบมารับด้วยใจระทึก

   "ฮัลโล..."

   "เร...ฮึก...กูเอง" เสียงปลายสายจุดความหวังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าคนที่หายังมีชีวิตอยู่ "ฮึก...มาช่วยกูด้วย กูไม่ไหวแล้ว" แต่เสียงสะอื้นทำเอาผมใจแทบขาด...เพราะต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแน่นอน

   "มีน ตอนนี้มึงอยู่ไหน กูตามหามึงให้ทั่ว"

   "เรฮึก...พวกมัน...ฮือจะ..."

   "ใจเย็นๆ นะครับ ตั้งสติ มีน...ตอนนี้อยู่ไหน"

   "กูไม่รู้...ฮึกมันจับกูมา มันเกือบจะปล้ำกู" ปล้ำ...คำในทำให้จิตใจของผมร้อนรน "มันบอก...ฮือ... มันบอกจะเอากูไปขาย...กูต้องตายแน่ๆ เรกูกลัว ช่วยกูด้วย มันต้องฆ่ากูแน่ๆ" มีนร้องไห้สะอึกสะอื้นจนพูดไม่เป็นคำ นำเสียงนั่นทั้งสั่นและหวาดกลัว บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวผ่านเรื่องเลวร้ายมาแค่ไหน

   "มีน...." ปัง!! ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ

   "วุ่นวายนักนะมึง" ใครบางคนตะคอกตามด้วยเสียงโครมคราม

   "โอ๊ย!!! อย่า" เสียงร้องอย่างเจ็บปวดที่ดังผ่านสายทำเอาใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

   "มีน!!!! มีน ได้ยินไหม Pffff!!!! แม่ง!!!!" ผมตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง แต่สายตัดไปแล้ว  ทำได้แค่ฟัง...ทำห่าอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง...โทรศัพท์เจ้ากรรมถูกบีบแน่นจนแทบแหลกคามือหากไอ้เรนไม่มาเกะมันออกไป พลางลูบไหล่ผมเบาๆ ให้ใจเย็นลง

   "มีนว่าไงบ้าง" หมอริคถามขึ้น

   "มันจะเอามีนไปขาย"  ผมตอบเสียงเบา...เรื่องที่ว่ากินเนื้อเงือกจะทำให้เป็นอมตะ...เหมือนตอกย้ำๆ ให้รู้สึกแย่

   "หรือว่าจะเป็น...งานประมูลใต้ดิน ที่กำลังจะเริ่มในอีกสองวัน" ซอนเน่บอกเสียงเครียด "ปกติสภาจะไม่ยุ่งกับงานพวกนี้ ไม่ว่าจะเอาอะไรไปประมูลกัน อาวุธ ของวิเศษ ของเวทย์มนต์ อะไรก็ตาม แต่นี่มันไม่ใช่ มันถือว่าผิดข้อตกลง เพราะเราไม่อนุญาตให้เอาสิ่งที่มีชีวิตจิตใจ อย่างมนุษย์หรืออมนุษย์ไปประมูล...พอไม่ยุ่งหน่อยก็ทำข้ามหน้าข้ามตากันสินะ" ใบหน้าสวยแสดงความเกรี้ยวกราดออกมาชัดเจน

   "ครั้งนี้จัดที่ไหน" ผมถาม

   "ซิดนี่!!!! เห็นทีต้องไปจัดระเบียบกันซักหน่อย" หมอริคหักนิ้วกร๊อบ...แววตาดุดันขึ้นทันใด

   "เจอแล้ว" อารอทโพล่งออกมาอย่างยินดีก่อนจะหันหน้าจอมาโชวร์พิกัดที่จับได้จากสัญญาณโทรศัพท์เมื่อครู่ หืม...ในเขตกรุงเทพฯ นี่เองใกล้ๆ กับสนามบิน "พี่ต้องไม่เชื่อแน่ บ้านหลังนี้เป็นของ วลัช เจ้าที่ฝ่ายการทูตของเรานี่แหละ" เพราะเป็นคนของสภากลางสินะจึงรู้ว่ามีนเป็นอะไร แต่ทุกที่ย่อมมีคนเลวประปนอยู่ไม่เว้นแม้แต่ที่นี่

   "ผมจะไปคุยกับมัน" บอกแค่นั้นก่อนจะเดินไปห้องทำงานเป้าหมายโดยมีน้องชายเดินตามเป็นเงา


   ปัง!!!! ผมเปิดประตูพรวดเข้าไป เจ้าของห้องดูตกใจเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะเหยียดยิ้มเย้ยหยันมองมาที่เรา

   "คงไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทกับพวกเธอ" ชายวัยกลางคนว่า

   "หึ....มีไม่มีไม่เกี่ยวหรอก" เรนบอกเสียงขุ่น

   "แฟนกูอยู่ไหน" เข้าเรื่องเลยแล้วกัน

   "ผมจะไปรู้แฟนคุณหรอ" มันยังคงเฉไฉแต่แววตาเจ้าเล่ห์นั่นบอกให้รู้ว่ามันเข้าใจเรื่องที่ผมพูด "คงหมายถึงเงือกตัวน้อยๆ คนนั้นสินะ หึๆ"

   "ผมไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับคุณ แล้วบ้านเลขที่...มันไม่ใช่ของคุณหรอกหรอ" เน้นคำย้ำชัดเจน ทำเอาอีฝ่ายชะงักงัน

   "บ้านนั้น ฉันยกให้คนอื่นไปแล้ว ญาติๆ กันนี่แหละ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่ามันเอาไปทำอะไร ไม่ได้ไปเฝ้าทุกวัน" ตอแหล!!!...ผมมองหน้ามันนิ่งๆ "หึ เด็กเมื่อวานซืนอย่ามาทำเป็นข่มหน่อยเลย หลักฐานก็ไม่มี อย่ามาปรักปรำกัน"

   "คุณลืมไปหรอว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างเรา ก็เป็นคนของซานซิโอ เข้าใจสถานะตัวเองด้วย" ไอ้น้องรักเถียงกลับอย่างมีน้ำโห ปกติมันไม่เอาเรื่องตระกูลมาข่มใครเพราะเรามันแค่ลูกบุญธรรม

   "แต่ฉันพูดจริงๆ ฉันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้" วลัชปฏิเสธ 

   "แต่จะไม่รู้เลยหรือไงว่าญาติตัวเองจะทำอะไร" เรนยังคนกดดันต่อ มันไม่อยากให้ผมลงมือเองเพราะอารมณ์ผมตอนนี้พร้อมหักคอได้ทุกคน

   "ก็บอกว่าไม่รู้ไง" ผมเดินเข้าไปหาบ้าง ไม่รู้ว่าแววตาผมเป็นแบบไหน แต่วลัชถึงกับถอยกรูดจนล้มนั่งลงเก้าอี้ ผมจึงเอามือค้ำมันไว้ก่อนก้มลงมองตาใกล้ๆ จนอีกฝ่ายตัวสั่น

   "แน่ใจในคำตอบแล้วสินะ" ถามเสียงเย็นเยียบ

   "แน่ใจ สะ...อ๊าก!!!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นห้องเมื่อผมคว้ามีดเงินที่เหน็บไว้ข้างเอวปักไหล่มันตรึงไว้กับเก้าอี้   

   หากคุณคิดว่า เร เป็นผู้ชายอบอุ่น หน้านิ่งแต่ใจดี คุณคิดผิด เพราะนั่นมีไว้ให้ครอบครัวและคนที่ผมรัก...สรุปง่ายๆ คงเป็น ถ้าดี ก็ดีใจหาย ถ้าร้ายก็ร้ายจนนึกไม่ถึง... เพื่อเป้าหมายผมทำได้ทุกอย่าง และคนตรงหน้าก็คงรู้ดีจากภารกิจเล็กใหญ่ที่ผมเคยสะสาง

   "นาวิน!!!...ลูกพี่ลูกน้องฉัน อย่ากด" เสียงสั่นๆ หลุดออกมาในที่สุด จึงผ่อนแรงกดให้มันได้พล่าม "มันบอกจะเอาของไปประมูลรอบนี้...ของนี้แพงมาก มันมาขอยืมบ้านฉันเก็บของ มันบอกถ้าได้เงินมาจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้"  ฉลาดนิ คิดว่าใช้บ้านทูตของสภากลางแล้วจะไม่โดนค้นสินะ

   "จะขนของไปซิดนี่เมื่อไหร่"

   "โอ๊ย ไอ้เด็กเวร" มันสบถด่าผมจึงกดมีดลงจนมิดด้าม "บอกแล้วๆ คืนนี้ อีกหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินส่วนตัว เที่ยวบิน  TX-0318(หนูมั่ว)...กองทัพอากาศ" วรัชละล่ำละลักบอก "แค่นี้ ฉันรู้แค่นี้" แววตามันสั่นไหวและหวาดกลัว มันคงไม่มีอะไรบอกแล้วจึงปล่อยมือจากด้ามมีดที่ทิ้งให้ปักไว้อย่างนั้น ทำเอาคนที่เคยเย่อหยิ่งอวดเก่งทรุดพิงเก้าอี้หมดสภาพ



   เราทั้งหมดขนโขยงมายังสนามบินของกองทัพไม่มีแผนไม่มีเตรียมการเพราะเวลาไม่อำนวย โยนาห์กับข้าวหอมถูกสั่งให้เฝ้าวรัชไว้ที่สภา งานนี้คงถูกสอบกันหน่อย เพราะอะไรนะหรอ...พอมาถึงพวกนาวินก็เตรียมการต้อนรับซะยิ่งใหญ่อาวุธซะครบมืออยู่หน้าโกดัง เดาว่าญาติมันคงโทรมาเตือนเรียบร้อย ก็ตื่นเต้นดีเพราะไม่ค่อยได้ลงสนามกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวแบบนี้มานาน

   กรรร!!! หมอริคกลายร่างเป็นแวร์วูฟตัวใหญ่ก่อนกระโจนเข้าไปประเดิมคนแรก ตามด้วยเพื่อนรักอย่างรอทพร้อมมีดคู่ใจ ส่วนซอนเน่วิ่งตามพวกเราที่ฝ่ามาด้านในรับมือพวกที่กระโจนเข้ามาไปพลาง ปกติแล้วผมไม่ค่อยเล่นถึงตายเอาแค่น่วมแล้วจับเข้าคุกทีหลัง แต่วันนี้มีหนักมือถึงตายกันบ้างเอาให้หนักให้สมกับที่ทำคนรักผมร้องไห้ เหมือนได้ระบายอารมณ์คุกรุ่นที่สะสมมาตลอดวัน พยายามฝ่าดงตีนไปตรงลานบิน และยิ่งเร่งฝีเท้าขึ้นเมื่อเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบิน Airbus ดังสนั่น ใช้เวลากว่าห้านาทีถึงสลัดไอ้พวกเหลือบไรนั้นหลุด เป็นจังหวะที่ตัวเครื่องกำลังทะยานไปตามรันเวย์เพื่อทะยานสู่ฟากฟ้า...ไม่ทันการแล้ว!!!

   ฟึบ!!! ปัง ปัง!!!! ผมคว้าเอาปืนกลแถวนั้นสาดใส่ศัตรูก่อนกางปีกพุ่งตามก้อนเหล็กที่กำลังเร่งความเร็วขึ้นจนล้อเริ่มลอยจากพื้น เรนบินเซงหน้าผมไปคว้าเข้าช่องเก็บล้อ ยันล้อที่กำลังพับเอาไว้

   "ไอ้พี่เร...เร็วดิวะ" น้องมันตะโกนแหวกเสียงลม เอื้อมมือมาหาผม จึงต้องเร่งสะบัดปีกพุ่งเข้าหามันแล้วมือเราก็คว้ากันทัน มันออกแรงดึงผมเข้าไปปล่อยขาที่ยันล้อไว้ประตูจึงเด้งปิดทันใด สองพี่น้องล้มกลิ้งไปกับพื้นใต้ท้องเครื่องบิน

   (เกือบไม่ทัน!!!) ผมหอบหายใจหนักๆ ถ้าหลุดไปนี่ตามยันซิดนี่อะ คงยุ่งยากน่าดู เราพักหายใจกันชั่วครู่

   (เอาไงพี่) ผมเงี่ยหูฟังไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงเครื่องยนต์และเสียงพูดคุยดังมาจากส่วนหน้า เดาว่ามันคงไม่รู้ว่าพวกผมขึ้นมาด้วยส่วนหนึ่งเพราะเราอำพรางกลิ่นไอและพลังของตัวเองไว้ตลอด ถ้าไม่เก่งถึงระดับพวกท่านอาคงยากจะรู้

   (อย่าเพิ่งบวก เราต้องหาก่อนว่ามันเอามีนไว้ที่ไหน...น่าจะส่วนเก็บสินค้าโถงล่าง มองหากล่องหรือลังที่น่าจะยัดคนเข้าไปได้) ผมค่อยๆ เจาะเพดานด้านบนเป็นช่องพอลอดได้หลังจาแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปตามด้วยไอ้เรน
 
   (ผมไปดูโซนนั้นแล้วกัน) เรนบอกก่อนเดินแยกไป เพราะการจู่โจมกระทันหันทำให้มีพวกมันขึ้นมาบนเครื่องบินไม่มากส่วนหนึ่ง มันชะล่าใจว่าไม่มีใครตามมาจึงพากันไปรวมอยู่ห้องนักบินกับโซนโดยสารเป็นส่วนใหญ่

   เสียงฝีเท้าเอื่อยๆ ตรงมุมขวาบอกให้รูว่ามีคนมา ผมย่อตัวลงอำพรางตัวเองกับความมืดในห้องก่อนจะล๊อคคอไอ้คนที่เดินผ่าน แกร๊ก...ผมหักคอมันทิ้งก่อนจะลากไปซ่อนไว้ตามซอกลัง

   (เจอแล้วพี่ ทางนี้) ผมรีบเดินไปหามันอย่างเร่งรีบ มันเป็นแทงค์กลมกว้างประมาณเมตรสูงสองเมตรครึ่ง

    เรนแกะผ้าที่ห่อออกเผยให้เห็นคนที่ตามหา ร่างบอบบางที่มีเรือนหางสีมุกลอยนิ่งอยู่ในนั้น ดวงตาหลับพริ้มไม่ได้สติ  สำรวจดูคร่าวๆ ก็ดูปลอดภัยดีนั่นช่วยให้รู้สึกเบาใจไปเปราะหนึ่ง ผมก้มเปิดวาวน้ำตรงฐานของแทงค์ มองหาฝาหรือช่องที่จะเอาคนในนั้นออกมา ไม่กล้าทุบครับ...กลัวเศษแก้วจะบาดเมีย...ด้านข้างไม่มี....หรือว่าจะเป็นข้างบน ผมปืนขึ้นไปข้างบน ก็เจอกับฝาที่ใส่กุญแจล๊อคอยู่ ผมกระชากมันขาดคามือก่อนจะเปิดแล้วอุ้มเอาคนที่อยู่ในนั้นออกมา เมื่อปราศจากน้ำร่างของมีนก็กลับคืนเป็นมนุษย์จึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอย่างช่วยไม่ได้

   (หืม...เมียพี่โคตรขาว....เข้าใจเลยว่าทำไมมึงหลงมันหัวปักหัวปำขนาดนี้) ไอ้เรนแซว พอเจอสายตาดุๆ ของผมก็หันหน้าหนีอย่างรู้งาน (ขี้หวงวะ)

   "มีน...มีน..." ผมตบแก้มขาวเบาๆ

   "เร..." มีเสียงครางเครือตอบแล้วก็นิ่งไป ผมได้กลิ่นยาสลบจางๆ จากในน้ำ รอสักพักน่าจะได้สติ ผมถอดเสื้อใส่ให้คนตัวเล็ก...พลันได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา อุ้มมีนหลบแทบไม่ทัน เรนก็หามุมแอบเช่นกัน

   "เฮ้ย!!!! พวกมึงทำอะไร" ผู้มาใหม่ร้องลั่นกับสภาพแทงค์ที่ว่างเปล่า เราฆ่าช้าไปเพราะมันดันกดสัณญาณเตือนภัยได้ซะก่อนทำเอาคนของนาวินกรูเข้ามาในห้องจนเกิดการประทะอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหนื่อยหน่อยก็ไอ้เรน เพราะผมยังอุ้มเมียอยู่ จึงเปลี่ยนท่าเอาคนตัวเล็กพาดบ่า เพื่อจะรับมือกับศัตรูที่โถมเข้ามาได้มากขึ้น

   (เอาไงวะ...)

   (ต้องหนี) ผมเหลือบมองประตูที่อยู่อีกฟากของพวกเรา (มึงไปเปิดประตูนั้นแล้วหาทางโดดออกไป)

   ผลัก!!! ผมเตะเข้าซี่โครงของปีศาจซักตัวที่เข้ามา

   ฟู่!!! คลื่นอากาศเหมือนจะดูดเราออกข้างนอกเมื่อเรนอาศัยจังหวะชุลมุนเปิดประตู แค่หันไปมองน้องแป๊ปเดียวก็ถูกชัดเสียหลักจนคนบนไหล่หลุดมือไถลไปตามพื้นแต่นั่นไม่น่าตกใจเท่าถูกแรงดูดอากาศดีงออกจากตัวเครื่องไปต่อหน้าต่อตา ใจผมถึงกับเคว้งรีบโดดตามออกไปแทบไม่ทัน ส่วนเรนหันไปประมือกับไอ้นาวินที่เข้ามารั้งก่อนจะซัดมันกระเด็น คว้าเอาระเบิดน้อยหน่าที่ตกอยู่แถวนั้นดึงสลักออกแล้วปาไปยังถังสารเคมีใกล้ๆ แล้วกระโดดตามออกมา ก่อนที่ระเบิดจะทำงาน เสียงระเบิดกัมปนาถดังก้องฟ้า ทำเอาเครื่องบินขาดเป็นสองท่อน


   ร่างของมีนร่วงลงอย่างเร็วตามแรงโน้นถ่วง อากาศเย็นเยียบปลุกให้เจ้าตัวตื่นขึ้นกลางอากาศ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังดิ่งพระสุธา ผมสะบัดปีกทะยานไปหาร่างตรงหน้า อีกนิดเดียว...อีกนิด...มือเราเตะกัน แต่ความเร็วที่ไม่คงตัวทำเอามีนหลุดไปหลายครั้ง ผมโถมแรงทั้งหมดพุ่งไปหาคนตรงหน้า แล้วในที่สุดผมก็คว้าคนรักไว้ได้ทั้งที่อีกไม่ถึงร้อยเมตรจะกระแทกกับพื้นมหาสมุทรเบื้องล่าง ต่อให้เป็นเงือกหล่นมาสูงขนาดนี้ก็อาจตายได้

   "ได้ตัวแล้ว" ผมดึงร่างนั้นมากอดไว้พลางสะบัดปีกชะลอความเร็วในแนวดิ่งของเราลง ปีกแทบขาดเพราะลงมาไวจัดเกินจะเบรกอยู่แต่ก็เบรกได้แหละ ชะลอตัวมาบินนิ่งๆ อยู่บนผิวน้ำได้สำเร็จ

   "เฮ้อ....เกือบ" มีนเป่าปากพยายามตั้งสติ ส่วนผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก...ซะที่ไหน

   "ไอ้พี่เร หลบบบบบ!!!" เสียงตระโกนของไอ้น้องรักมาพร้อมกับตัวเครื่องบินที่ตกตามมา โลหะชิ้นใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง สว่างจ้าท่ามกลางหมู่ดาว ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา -*- ใครใช้ให้มึงเอาของฝากมาด้วย!!!!

   "ชิบหายแล้ว" สัญชาติญาณสั่งให้ผมเอาตัวบังร่างในอ้อมแขนไว้ เตรียมใจรับแรงกระแทกที่จะเกิด

   ตูม ซ่า!!!!! เสียงโลหะตกกระทบผืนน้ำดังสนั่น รุนแรงจนน้ำกระจายไปรอบๆ แต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลย จึงเงยหน้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ม่านน้ำขนาดใหญ่ปกป้องเราทั้งสามคนไว้จากเศษซากที่ร่วงลงมา เพราะมันถูกรับไว้ก่อนสายน้ำจะพัดพามันจมหายไปในทะเลห่างจากเรา

   "พี่สะใภ้กูแม่งโคตรเจ๋ง" เรนออกปากชม ผมก้มมองคนในอ้อมแขน นัยน์ตาที่เคยดำสนิทบัดนี้เปล่งแสงสีครามเรืองรอง ยืนยันชัดว่าเป็นฝีมือของมีน...ใช่ เมียผม มักมีอะไรทึ่งๆ มาเซอร์ไพร์เสมอ จนรู้สึกพิศวงกับพลังของชาวน้ำ เมื่อทุกอย่างลงตัว มีนดูผ่อนคลายลงก่อนที่สีตาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

   "ใช้พลังมากไปอีกแล้ว" มีนบอกเสียงเบาใบหน้าเหนื่อยเต็มทน ดวงตาคู่สวยมาหยุดที่ใบหน้าผม ก่อนที่มันจะรื้นไปด้วยน้ำตา เจ้าตัวโผเข้ากอดผมแน่น ตัวสั่นๆ บอกให้รู้ว่ามันกลัวมากแค่ไหน "โชคดีที่มีมึง...ฮึก ไม่งั้นคงแย่แน่"

   "กูก็โชคดีที่มีมึงเหมือนกัน" ผมลูบหัวมันเบาๆ หันไปมองไอ้น้องรักก่อนยิ้มให้กันอย่างโล่งใจ

   "เพราะมีมึง ไอ้มีน...ไม่งั้นคงโดนซากเครื่องบินหล่นใส่กลายเป็นนกเป็ดย่างทั้งพี่ทั้งน้อง ฮ่าๆๆๆ" น้องหัวเราะเสียงใส พร้อมเขยับมาใกล้ๆ เอื้อมมือมาลูบหัวมีนบ้าง "เพราะมีมึง พี่กูถึงดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น นึกว่ามีพี่เป็นหุ่นยนต์ หึๆ" ผมยิ้มรับ "กูส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปแล้ว" เรนบอกพลางชู GPS ในมือที่มันหยิบติดมา "ไปหาที่นั่งพักก่อนเถอะ บินนานๆ กูก็เมื่อยนะ"


 
   เรนนำผมมายังเกาะเล็กๆ ไม่ไกลมากนัก น้องผมเสียสละเสื้อของมันปูให้มีนนอน เพราะเสื้อของผมมีนใส่อยู่ ก่อนที่เราสองคนจะช่วยกันหาฟืนมาก่อไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างบางที่หลับไปแล้วเพราะยาไม่สิ้นฤทธิ์ดี สำหรับพวกผมอากาศไม่ค่อยมีผลนัก ถ้านึกสภาพไม่ออกลองไปเปิดการ์ตูนขำขันที่มีฉากติดเกาะดูแล้วกัน อารมณ์ประมาณนั้น

   ทอดมองร่างที่สั่นน้อยๆ เพราะลมทะเลจึงตัดสินใจอุ้มมีนมาไว้บนตัก กดหัวมันให้ซบกับไหล่กอดไว้แบบนั้น คิดถึงมันจะแย่ได้มาเจอกันทั้งทีแต่ก็ในสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้ เอามือข้างที่ว่างเกลี่ยแก้มเนียนเล่นขนาดตอนหลับยังน่ารัก แม่งเอ้ย!!!!...ฟอด!!! อดไม่ไหวหอมแก้มนิ่มนั้นซักที...มั้ง เอาอีกซักที ฟอด!!!...จูบเลยงั้น!!!

   "อื้อ!!!" คนถูกกวนคางประท้วงพลางหันหน้าหนี

   (ไอ้พี่ มึงช่วยตรัสรู้ด้วยว่าน้องยังอยู่ตรงนี้) เสียงเรนดังแทรกในความคิด ผมจึงเงยมองมันที่มองมายิ้มๆ (ใจคอจะลักหลับมันตรงนี้เลยหรือไง...ไม่ได้อะไรนะ กูอิจฉา)

   (โทษทีวะ ลืมตัว)

   (เฮ้อ...ทำขนาดนี้แล้วพ่อตายังไม่ยอม จะช่วยพี่พามันหนีคอยดู)

   (ระดับกู หึๆ เรื่องตัวเองเอาให้รอดเถอะ)

   (เออ!! คอยดูแล้วกัน)  :hao3:


Talk Talk
[/b]

-เค้ามาแล้ว เหนื่อยมาหลายตา ถึงเวลาชิวบ้างเนอะ ให้มันเข้ากับ Thaiboy Love ซักนิด เพราะเรื่องข้อยชักออกทะเลไปไกลแล้ว :katai2-1:

-วาเลนไทน์ เศร้าใจ แฟนอยู่ไกลเกิน เลยต้องเป็นคนโสดจำเป็นในวันนี้ ตะเตือนใจ :mew6:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 19 Your Hero P4 14-2-59 @_@!
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-02-2016 15:21:29
 :katai2-1:  บู๊กันแหลกลาญอีกแล้วจ้าทีมนี้. เมียรักโชว์ของตลอดๆ. แอร๊ยจะได้เวลาหวานแล้วสินะ. 
ขอบคุณมากๆค่ะ. น้องมีนขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูก.
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 19 Your Hero P4 14-2-59 @_@!
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 14-02-2016 15:45:48
เราว่าเรต้องพาแม่กลับมาหามีนแน่เลย
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 19 Your Hero P4 14-2-59 @_@!
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 15-02-2016 18:08:45
รอดูของเซอร์ไพรส์จากเรอยู่น้าา  :impress2:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 19 Your Hero P4 14-2-59 @_@!
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-02-2016 18:27:42
บู๊แหลกเรยจร้าาาาาา~~~~!!!
มีนนี่โดนจีบได้ไม่เว้นแต่ละวัน สงสารอ่า TT
คุณป๋าคะ ยอมเถอะค่ะ มีนเป็นเงือกอ่ะ ต้องมีพวกจะจับไปขาย ไปประมูลอีกเยอะแน่ๆ ยกให้เรไปเห๊อะ!!!
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 19 Your Hero P4 14-2-59 @_@!
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-02-2016 23:51:12
โล่งอกช่วยมีนได้ทัน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 19 Your Hero P4 14-2-59 @_@!
เริ่มหัวข้อโดย: Ryu7801 ที่ 20-02-2016 10:07:35
โชคดีไปช่วยทัน  พ่อตาเห็นความดียกให้เลย o13 o13
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 Ond and Only(End)!! 21-2-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 21-02-2016 13:43:56
บทที่ 20 One and Only (End)
[/size][/color]


Min Say

   เรพาผมกลับมาที่บ้านของอาซอนเน่หลังจากเฮลิคอปเตอร์ของสภากลางไปรับเราที่เกาะมาตอนรุ่งสาง ผมโทรไปหาพ่อบอกว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว เห็นว่าจะลงมากรุงเทพพรุ่งนี้…คงไม่จับผมกับเรแยกกันอีกนะ...รอบนี้ผมคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้วละ กับเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมกลัว กลัวจะไม่ได้กลับมาหาทุกๆ คนอีก โดยเฉพาะเร ถ้าผมจะไม่เห็นมันอีกตลอดไปคงเหมือนตายทั้งเป็น


    “มีน” เสียงของเรเรียกจากในห้องน้ำ ก่อนที่มันจะเดินออกมาหาผมพร้อมผ้าขนหนูในมือ เจ้าตัวอาสาไปเตรียมน้ำร้อนให้ผมแช่ มันชอบทำแบบนี้เวลาต้องการจะเอาใจหรือตอนที่ผมไม่สบายใจเพราะการแช่น้ำอุ่นๆ ช่วยให้ผ่อนคลายเรื่องเครียดไปได้ เดินไปคว้าผ้าขนหนูจากมือมันก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป “มีอะไรก็เรียกนะ” มันว่าก่อนจะปิดประตูให้


   เสื้อเชิ้ตชิ้นเดียวที่ติดตัวถูกกำจัดไปจากกาย ก่อนหย่อนตัวลงในอ่าง…น้ำอุ่นกำลังดีเลย อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมากับความใส่ใจที่อีกคนมีให้ เอนหลังพิงขอบอ่างหลับตาลงสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ใส่ลงไปในน้ำ ความสงบที่ไม่ได้รับมาหลายวันทำให้ผลอยหลับไปอย่างลืมตัว

"ฤทธิ์เยอะนักนะมึง" ผลัก!!! หมัดหนักๆ ซัดเข้ามาเต็มท้องจุกจนตัวงอ แม่งแรงเยอะชิบหาย อยากจะด่าแต่พูดไม่ออก
   "คุยกันดีๆ ไม่ชอบ" ภาพในห้องที่โดนจับรีรันเข้ามา   

   "อย่า...ฮึก" ผมดิ้นรน ทุกสัมผัสช่างสมจริง ทุกภาพของไอ้สารเลวสองตัวนั่น ริมฝีปากของมัน มือของมัน น้ำเสียงและใบหน้าชั่วร้ายนั่น ทุกสัมผัสมันช่างน่าขยะแขยง...ออกไป ออกไปให้พ้น

   เฮือก !!! ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในอ่างน้ำ ฝันจริงๆ ด้วย พยายามข่มใจที่เต้นเร็วและเนื้อตัวที่กำลังสั่น ทำไมยังรู้สึกเหมือนพึ่งผ่านไป

   ทำไม! ทำไม! มันยังไม่หายไป

   ผมวักน้ำในอ่างล้างตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกทุกที่ที่โดนพวกไอ้สารเลวนั้นเตะต้อง ภาพแย่ๆ ซ้อนทับมาในหัวชวนให้สติแตก ยิ่งลงแรงขัดถูกับตัวเองจนเนื้อแสบเป็นปื้นแดง

   "มีน...ทำอะไร"

   ...มันสกปรก น่ารังเกียจ...


   "มีน ไม่เอา พอแล้ว...ตั้งสติหน่อย" เรรวบมือทั้งสองไว้ ใบหน้าคมดูตื่นตระหนกเมื่อเห็นผมน้ำตานองหน้า

   "ทำไม...ภาพพวกเวรนั่นมันไม่หายไปซักที" ผมถามอย่างอ่อนแรง "ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็เข้ามาในหัวทุกที ตอนที่กูเกือบ..." ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แค่คิดก็สะท้านขนาดผมแค่เกือบโดนไอ้พวกเวรนั่นปล้ำ...ยังจิตตกขนาดนี้ เกลียดตัวเองที่อ่อนเอ เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้

   "มองหน้ากู" เรเชยคางให้ผมขึ้นสบตา ไม่ว่ากี่ครั้งผมก็จมดิ่งไปกับสีน้ำเงินล้ำลึกนั่น "ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ตรงหน้านี้คือ เร คนที่จะไม่ยอมให้ใครทำร้าย มีน" เสียงทุ้มนุ่ม เอ่ยปลอบ มันอบอุ่นไปถึงใจ เรกดจูบเบาๆ ที่หน้าผาก

   "จริง...นะ"

   "จริงครับ" เรยิ้มรับก่อนจะคว้าผ้าขนหนูมาห่อตัวผมแล้วอุ้มท่าเจ้าสาวเดินออกจากห้องน้ำมา...อยู่กับมันมากๆ น้องมีนจะเป็นง่อยเอา มันปล่อยให้ผมนั่งหมิ่นเหม่ตรงขอบเตียงก่อนที่เจ้าตัวจะเอาผ้าขนหนูผืนเล็กมานั่งชันเข่าตรงหน้าเช็ดผมให้ งื้อเขิน...ยิ่งสบตากับมันยิ่งแทบละลาย เรยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเชยคางผมขึ้นรับจูบ ริมฝีปากร้อนละเลียดชิมช้าๆ ช่างอ่อนหวานชวนให้คล้อยตาม แค่เรเท่านั้น

   "ลบมันที"

   "ฮะ!!!!"

   "ที่พวกเหี้ยนั่นทำ ลบมันไปที" ผมบอกด้วยใบหน้าร้อนผ่าวกับสิ่งที่พูด "กูอยากรู้สึกแค่มึง...ได้โปรด" ก้มหน้าก้มตาหลบอีกฝ่ายเต็มที่ มันใจว่าตอนนี้หน้าคงแดงเถือก

   "หึๆ..." เสียงหัวเราะเบาๆ ชวนใจสั่น "น่ารักจริง!!!...งั้น ตามสบายเลยครับ"

   "เอ่อ...คือ" ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อเรย้ายตัวเองไปนั่งพิงหัวเตียงพลางส่งสายตาร้อนแรงมาให้

   "วันนี้ยกให้ ทั้งตัว และหัวใจ มาสิ" ว๊ากกกกก น้องมีนจะบ้าตาย เอาวะ...มาขนาดนี้แล้ว

   ผมคลานเข่าเข้าไปหามันที่ตบตักรอเยี่ยงป๋ารออีหนู น่าหมั่นไส้เกิน มือสากยื่นมารั้งผมให้ขึ้นไปคร่อมบนตัก ผ้าขนหนูหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้มึงต้องโป๊มั่งละ จัดการแกะกระดุมเสื้อเชิตมัน ถึงมือน้องมีนจะสั่นแต่สั่นสู้นะครับ

   "ใจเย็นสิที่รัก" เรยักคิ้วยียวน เชี่ย ดูหล่อเลวได้ใจ

   "แล้วที่รักเย็นไหวหรอ" ผมตอบ "โอยยย ผัวใครวะ หล่อจริง" บางทีก็อยากตบปากตัวเองที่พูดอะไรน่าอายแบบนี้ ขำเบาๆ แก้เก้อก่อนจะก้มจูบริมฝีปากร้อนนั้นเบาๆ รัวๆ หลายทีก่อนถอนออกมา  เรหน้าแดง ฮะๆ ... เพิ่งเห็นมันเขินก็วันนี้ "ฮิฮิ นึกว่าเขินไม่เป็น"

   "เขินแล้วทำไม" มันเถียง

   "ก็น่ารักไงครับ" คราวนี้แดงไปยันหูเลย โอยยสะใจ ว่าแล้วก็ก้มลงจูบมันอีกสักทีแต่พี่ท่านตั้งหลักได้ มือแกร่งกดท้ายทอยผมไว้ก่อนจะบดจูบร้อนแรงจนแทบละลายเป็นไอ

   "อือ เร อ๊ะ" มืออีกข้างลูบไล้ไปตามกายก่อนสัมผัสส่วนกลางที่เริ่มแข็งขืนแล้วขยับรูดให้เสียวซ่าน มือผมปะป่ายไปหยุดที่ขอบยีนหนาก่อนจะปลดมันลงแล้วจับเรน้อยมาเป็นตัวประกัน ใครจะยอมให้ถูกเร้าคนเดียวละ

   "หึๆ กินยาผิดมาหรอเมีย" เรแซวแรงพลางก้มลงลากเลียขบเม้มตรงซอกคอให้สะท้าน ไออุ่นจากตัวมันยิ่งกระตุ้นความอยาก ช่วงเวลาที่เราต้องห่าง ไม่ใช่แค่มันที่คิดถึงผมเองก็โหยหาสัมผัสจากมันพอกัน

   "มีนทำให้นะ" ผมผละออกจากอ้อมแขนแกร่งก่อนถอยร่อนมาคุกเข่าตรงหว่างขา มองท่อนเอ็นที่แข็งขืนในมือแล้วใจเต้นถี่ ได้มองชัดๆ ไอ้ความกล้าที่สั่งสมมาเริ่มจะถดถอย แต่มาขนาดนี้แล้วให้หยุดได้ไง สบตาสีน้ำเงินแน่วแน่ ก่อนจะก้มลงเลียแก่นกายตรงหน้าเริ่มที่ส่วนหัวก่อนจะรับมันเข้าไปในโพรงปาก หลับตาลงช้าพยายามคิดว่ากำลังดูดไอติม แม้มันจะเป็นไอติมร้อนๆ ที่ละลายในปากไม่ละลายในมือก็ตาม

   "ฮืมมม ดี" เสียงครางต่ำอย่างพึงใจกระตุ้นอารมณ์ดิบ ให้ริมฝีปากนุ่มปรนเปรอจนร่างสูงสะโพกไม่ติดฟูก ดูดดุน ลากเลีย ในขณะที่มือทั้งสองประครองรูดไปพลาง รู้ดีว่าการถูกออรัลรู้สึกดีแค่ไหนเพราะที่ผ่านมาเรมักทำให้ผมฝ่ายเดียว และตอนนี้ผมอยากทำให้มันบ้าง แค่เสียงลมหายใจหนักๆ กับเสียงครางต่ำมันปลุกเร้าซะจนมีนน้อยปวดหน่วงแม้ไม่ได้สัมผัส

   "ฮื้อ..." ผมสะดุ้งเมื่อมือสากลากเบาๆ ไปตามแนวสันหลัง ก่อนจะสอดนิ้วเข้ามาช้าๆ ทีละนิ้ว ความเย็นของเจลทำเอาผมสะท้าน ฟันเผลอครูดให้ได้ซีดกันไปที "ฮือออ ฮะ เอ ฮืม เร" สุดท้ายต้องยอมผละออกมาเหลือไว้เพียงสองมือ เล่นกระตุ้นจุดกระสันกันแบบนี้ผมคงเผลอกัดมันแน่

   "ขอเข้าไปเลยได้ไหม ไม่ไหวแล้ว" เรบอกเสียงพร่า พลางดึงผมขึ้นมานั่งคร่อมตักแล้วจับลูกชายตัวร้ายจ่อตรงช่องเนื้อนุ่ม ถูไถเบาๆ

   "เจ็บ ฮือ" ผมทุบอกมันดังอั๊กข้อหาใจร้อน ยัดมาได้ทีเดียวเจ็บจนน้ำตาซึม ของมึงไม่ใช่เล็กๆ

   "โทษที คุมตัวเองไม่ค่อยได้" น้ำเสียงที่บอกพยายามข่มอารมณ์เต็มที่ ก่อนจะเลี่ยงไปลงกับยอดอกทั้งสองเพื่อรอให้ผมตั้งตัว

   "ซีดดดด อย่ากัด ฮือ" ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากร้อนขบเบาๆ ตรงปลายยอดทั้งสองพร้อมดูดแรงๆ จนแทบจะหลุดติดปาก ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ย

   "ขยับสิครับ ไหนบอกจะทำให้ไง"

   "รู้แล้ว ฮะ อื้อ..." เถียงไม่ทันจบประโยค เรมันก็เด้งเอวสวนแรงๆ มาทีเป็นการเร่ง ผมยกตัวขึ้นจนท่อนเนื้อร้อนเกือบหลุดก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวลง "อ๊า!!!" ขาทั้งสองสั่นระริกจากความกระสันที่ได้รับ มันเจ็บปนเสียวแต่ก็รู้สึกดี ขย่มตัวลงช้าๆ เรเอามือจับสะโพกประครองสะโพกไว้พลางขยับสวน

   เสียงครางผมดังขึ้นเรื่อยๆ เคล้าคลอไปกับเสียงหอบต่ำของอีกคน เสียงเนื้อกระทบเนื้อหยาดเหงื่อและความร้อน แทบจะเผาเราทั้งคู่ให้เป็นจุล ยิ่งได้สบกับดวงตาสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยความต้องการ ยิ่งทำให้ผมอยากตอบสนอง ควบจังหวะรัวเร็วขึ้นตามแรงปรารถนา ความรู้สึกดีแล่นเข้ามาจนต้องหลับตาเชิดหน้าครางลั่น อารมณ์ของเราพุ่งสูงเรื่อยๆ ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่เรกลับยังไม่ถึงฝั่งมันจึงพลิกผมลงใต้ร่างก่อนจะดันขาผมขึ้นจนเข่าติดอกแล้วทิ้งน้ำหนักลงมา ทั้งแรงทั้งรัวแถมยังลึกเสียจนจุก สติกระเจิดกระเจิงไปกับรสรัก จนท้ายที่สุดเรก็ปลอดปล่อยออกมาภายใน มันร้อนวาบไปทั่วท้องน้อยพร้อมกับผมที่ปล่อยออกมาอีกรอบ

   ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเหลือเพียงเสียงหอบหายใจแผ่วๆ ใบหน้าคมก้มลงมาพรมจูบไปทั่วหน้าซึ่งผมก็ได้แต่หลับตารับสัมผัสอ่อนโยนนั่น มือของเรสอดประสานกับมือผมก่อนจะกดมันไว้เหนือหัว ริมฝีปากร้อนเริ่มลากต่ำบอกให้รู้ว่าอะไรๆ ที่เพิ่งจบไปกำลังจะเริ่มอีกครั้ง หวังว่าพรุ่งนี้จะลุกไหวนะ



..............................


   พ่อมาถึงในเที่ยงวันถัดมาพร้อมย่าที่ยืนยันจะตามมาด้วยเพราะเป็นห่วงผมและอยากเห็นว่าผมปลอดภัยกับตา และตอนนี้ท่านทั้งสองกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแหกของบ้านซานซิโอ นั่งอยู่บนโซฟาตัวกลาง โดยมีอาของไอ้แฝดนรกนั่งตรงโซฟาด้านข้าง วันนี้แฝดน้องออกไปข้างนอก เหลือผมกับเรที่นั่งอยู่ตรงพื้นด้านหน้าญาติผู้ใหญ่ด้วยใจลุ้นระทึก

   ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ย่าฟัง รวมทั้งเรื่องที่ผมเองไม่ใช่มนุษย์เพราะมีแม่เป็นเงือก รวมทั้งทุกคนในห้องนี้ก็ไม่ใช่ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ผมโดนอุ้มไป ว่าเพราะอะไรและกลับมาได้อย่างไร กว่าจะจบได้เล่นเอาย่าลมจับไปหลายรอบ จนผมต้องเข้าไปนวดแข้งนวดขาปลอบใจ

   "สรุปเอ็งคือคนที่ช่วยหลานข้า" เรพยักหน้ารับ "งั้นเอ็งก็ปกป้องหลานข้าได้นะสิ"

   "ครับ ผมมั่นใจว่าทำได้"

   "แล้วทำไมถึงปล่อยหนูมีนมันอยู่ห่างตัวละ" ย่าถามกลับ

   "เอ่อ ก็ป๋า เขา...." ผมอ้ำอึงพลางเหลือบมองหน้าพ่อตัวเอง

   "ก็การอยู่กับไอ้หนุ่มนั่น มีนก็เสี่ยงเหมือนกัน" พ่อแย้งเสียงแข็ง "รอบตัวมันมีแต่อันตราย มีนจะโดนลูกหลงอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้"

   "อยู่คนเดียวแล้วปลอดภัยหรือไง หลานมันก็รอดมาได้เพราะไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ใช่หรอ" ย่าย้อน

   "โธ่แม่ ไม่รู้ละ ป๋ายังยืนยันคำเดิม" พ่อหันมาบอกผมอย่างจริงจัง นี่จะจับผมแยกกับเรอีกหรอ ไม่เอาหรอก "ถ้าเอ็งอยากได้ลูกข้าจริงๆ ไหนละที่ตกลงกันไว้"

   "ผมยินดีทำตามข้อตกลงทุกอย่าง" เรบอกด้วยเสียงสบายๆ นี่มีผมเครียดคนเดียวใช่ไหม "ขอตัวซักครู่ได้ไหมครับ" พ่อกับย่าพยักหน้ารับ

   เรเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผมนั่งหน้าสลดอยู่ตรงนี้ โชคดีที่อาซอนเน่กับอารอทชวนท่านทั้งสองคุยบรรยากาศจึงดีขึ้นมาหน่อย ผ่านไปซักห้านาที เรก็เดินกับเข้ามาพร้อมน้องชาย พี่มายา กับผู้หญิงอีกคนที่คุ้นหน้าเหลือเกิน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นเธอในภาพถ่าย...แม่!!!

   "!กัญ! นี่เธอยัง" พ่อผมมองใบหน้าที่ยังคงงดงามหมดจดอย่างตื่นตะลึง แม้เวลาเปลี่ยนแต้แม่ก็ยังสาวยังสวยเหมือนในรูปที่ผมได้เห็นไม่มีผิด

   "ทำไมจ๊ะ คิดว่าฉันตายไปแล้วหรอ แค่กลับบ้านเกิดเท่านั้นเอง" เสียงหวานเอ่ยอย่างสดใส "โอ้ หนูมีนของแม่!!!!" ว่าแล้วเธอก็โผเข้ากอดผมที่นั่งอยู่ที่พื้นทันที ผมทำอะไรไม่ถูกมันทั้งตกใจและดีใจ อ่า...อ้อมกอดของแม่มันอบอุ่นจัง

   "โตเป็นหนุ่มแล้ว แต่แก้มยังนิ่มเหมือนเดิม" เธอว่าพลางหอมผมไปฟอดใหญ่ ผมกอดเธอไว้ก่อนเงยหน้ามองสองแฝดและพี่มายาที่มองตอบมายิ้มๆ

   "เร นี่มึงไปตามหาแม่ให้กูหรอ" ผมถามเสียงเครือ

   "จริงๆ ก็ไม่ใช่กูทั้งหมดหรอก แค่เอาข้อมูลใบเกิดมึงไปให้พี่มายา ช่วยตามหาในเมืองของชาวเงือกแถบนี้" พี่มายาพยักหน้ารับ

   "ดีใจด้วยนะ ได้เจอกันซักที" เธอบอก

   "ขอบคุณครับพี่"

   "ฉันก็ขอบคุณเธอเช่นกัน ฉันอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าโลกภายนอกเปลี่ยนไปยังไงจึงไม่กล้าที่จะออกมาเพราะยังคิดว่าเรายังถูกล่าอยู่และหนูมีนจะซวยไปด้วย ขอบคุณจริงๆ ที่ตามหาฉันจนเจอ" แม่บอกพลางรั้งผมยืนขึ้นแล้วส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนจะหุบยิ้มเมื่อหันมาเห็นพ่อ "ส่วนคุณ!!!"

   "ฮะ ฮะ...ผมทำไมหรอ" ผมทำหน้าเหรอหรา ใจอยากจะโผเข้ากอดคนรักเต็มทนแต่พอเจอสายตาดุๆ ที่ส่งให้ถึงกับหงอไปเลย


   "อยากให้ฉันกลับไปอยู่ด้วยหรือเปล่า"


   "อยากสิ ผมคิดถึงคุณจะตาย คุณกลับมาเราก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้าซักที" ป๋าอ้อนวอน ไม่เคยเห็นป๋าอ่อนให้ใครขนาดนี้ นี่ครั้งแรกเลยนะเนี่ย พลางหันไปขอความเห็นจากย่า หญิงชราเพียงยิ้มรับก่อนยักไหล่แบบไม่อยากยุ่ง

   "งั้นก็ยกมีนให้เรไปซะ" แม่ยื่นคำขาด

   "ฮะ...แต่..."

   "ไม่ต้องแต่แล้วค่ะคุณพ่อ" ซอนเน่ที่ฟังอยู่นานเข้ามาไกล่เกลี่ย "คุณให้เรหาสิ่งที่มีค่าที่เท่าเทียมมาแลกกับมีนนี่ค่ะ คนรักของคุณแลกกับคนรักของเขา มันยังไม่เท่าอีกหรอ"

   "ก็ได้ แล้วแม่ว่าไงครับ" พ่อบอกออกมาในที่สุด

   "ใจข้านะ ยกให้ไอ้หนุ่มนั่นไปนานแล้ว เฮ้อ จบเรื่องซักที เอ้านั่งๆ คนแก่เมื่อยแล้ว แม่หนูมานี่หน่อย" ย่านั่งคนแรกก่อนกวักมือเรียกแม่ไปนั่งข้างๆ "ชื่อกัญวราใช่ไหมเรา"

   "ค่ะ"

   "ขอบคุณที่กลับมา แม่นะก็แก่แล้วอยู่กับไอ้วิโรจน์คงไม่นาน ยังไงก็ฝากมันด้วยนะ มันนะแก่จนหัวหงอกแต่ก็ยังรั้นไม่เปลี่ยน ยังไงก็ห้ามก็ปรามมันบ้าง แม่ดีใจที่เจอหนูนะ" ย่ายิ้มพลางกุมมือลูกสะใภ้อย่างยินดี

   "จบเรื่องซะที" เรนถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางตบบ่าพี่แปะๆ

   "ไหนๆ ผู้ใหญ่ทางมีนก็มากันครบแล้ว เราเองก็มีเรื่องสำคัญจะคุยเช่นกัน" อารอทเอ่ยขึ้นหลังจากทำตัวเป็นผู้ฟังมานาน ก่อนที่แม่บ้านจะยกบางอย่างมา มันคือพานบายศรี กับพานที่ใส่ธูปเทียน หมากพลู และไข่ต้มสองใบ เรดึงมือผมให้นั่งลงพื้นตรงหน้าพ่อแม่แล้วก็ย่าก่อนจะรับเอาพานทั้งสองมาวางไว้ตรงหน้า
   "ผมเห็นความพยายามของหลานชายที่ผ่านมาจึงอยากจะทำมันให้ถูกต้อง วันนี้ในฐานะญาติผู้ใหญ่ของเร ผมจะสู่ขอ มีน มัสยา ลูกชายและหลานของพวกคุณ ให้กับ เร อรุณ หลายชายของผม ทางคุณจะว่ายัง" สิ้นคำของอารอท ผมได้แต่นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูก ถึงว่าของในพานมันคุ้นๆ เหมือนที่ใช้ในงานแต่งแถบอีสานบ้านผมเลย

   "กูบอกแล้วว่าจะเอาผู้ใหญ่ไปขอ" มันก้มมากระซิบกระซาบบอก ไม่คิดว่าเรจะทำอะไรจริงจังขนาดนี้
 
   "ทางเราก็ยินดี"

   "แล้วเรื่องสินสอดละครับ" เรถามพลางมองหน้าพ่อผม

   "ข้าไม่ได้ต้องการอะไร แค่เอ็งรับปากว่าจะดูแลลูกข้าดีๆ จะทำให้มีนมีความสุขข้าก็พอใจแล้ว ส่วนอย่างอื่นถ้าอยากให้ เอาให้ไอ้หนูมีนมันได้เลย ป๋าไม่อยากได้หรอกเงินทอง ป๋ามีพอแล้ว" พ่อบอกพลางลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ส่วนผมได้แต่ก้มหน้าก้มตามองพานอย่างขัดเขิน ไม่คิดเลยว่าจะมีโมนต์แบบนี้ในชีวิต

   " เอ้าเอ็งสองคนยื่นแขนมานี่" ย่าบอกพลางหยิบฝ้ายบนพานมา จับแขนของผมกับเรไขว้กัน โดยที่เอาแขนเรทับแขนผมเพราะต้องเอาแขนเจ้าบ่าวทับเจ้าสาวตามทำเนียม ก่อนบรรจงผู้ข้อมือให้เราพร้อมอวยพร

   "ข้อให้เอ็งสองคนมีความสุข มีความอดทนและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แม้ยามลำบากก็ให้นึกถึงวันที่มีความสุขร่วมกันแล้วผ่านมันให้ได้ การที่เอ็งสองคนเป็นผู้ชายรอบข้างก็ยังมีคนมองไม่ดีอยู่ ให้นึกถึงความสุขของอีกคนเป็นสิ่งแรกอย่าเอาคำพูดรอบตัวมาใส่ใจ รักกันนานๆ นะ" ย่าบอกพลางยกมือลูบหัวผมและเร ก่อนที่พ่อกับแม่จะผูกแขนและอวยพรให้บ้าง ตามด้วยคุณอาทั้งสองของเร พี่มายาคนสวยของน้องมีน แล้วปิดท้ายด้วยน้องเลิฟของมัน เสร็จแล้วเรหยิบไข่ต้มที่ปลอกแล้วผ่าครึ่งในพานยื่นให้ผมครึ่งหนึ่งแล้วถือไว้อีกครึ่ง ก่อนที่เราจะป้อนให้อีกฝ่ายกิน

   นัยน์ตาสีน้ำเงินที่มองมาเต็มเปลี่ยมด้วยความรักจนผมแต่ก้มหน้าก้มตาที่ตอนนี้คงแดงไปถึงหู เขินจนแทบบ้า รู้สึกร้อนๆ ที่ขอบตาก่อนน้ำตามันจะไหลออกมาอย่างตื้นตัน เรยิ้มพลางเชยคางผมขึ้นสบตาก่อนจะปาดเช็ดน้ำตาออกจากสองแก้มแล้วจรดริมฝากร้อนลงบนหน้าผากจนอุ่นวาบไปถึงใจ

   "ขอบคุณที่เข้ามาให้รักและมอบความรักให้ จากนี้มีนเป็นของเรอย่างเป็นทางการแล้วนะ"  มันกระซิบข้างหูก่อนจะหอมแก้มไปอีกฟอดใหญ่

ผมจึงโผเข้ากอดมันแน่นพลางสะอื้นไห้ออกมากอย่างสุดกลั้น ความสุขมันเอ่อล้นอยู่ภายใน ผมดีใจที่เจอมัน ถึงอยู่กับมันบางทีก็ลำบาก ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไม่รู้กี่ครั้งแต่ความสุขที่ได้รับกลับมีมากกว่า คิดว่าหากวันหนึ่งไม่มีมัน มีนคนนี้คงอยู่ไม่ได้

   "ขอบคุณเช่นกัน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง รักมึงนะเร  รักมึงมาก จากนี้อย่าทิ้งกูนะ อย่างห่างจากกูนะ อยู่กับกูตลอดไปนะ"

   "แน่นอนที่รัก"


TaLK Talk
[/b]


-จบแล้วววววววววววว เจอกันในตอนพิเศษ ถ้าว่างจิมานั่งบรรเลงให้  :katai4:

-ถึงนิยายจบแต่เราไม่จบนะค่ะ ผู้อ่านทุกท่านยังสามารถเข้ามาทักทายได้เหมือนเดิม อยากให้วาดอะไรขออะไรก็ลองรีเควสมาเรายินดีค่ะ :katai2-1:

-ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้กันมาตั้งแต่สมัย รอท โย และขอบคุณทุกคอมเม้น คำแนะนำต่างๆ ที่มีให้ เราไม่ได้เก่งมากมาย บางครั้งหากมองในมุมเราอาจไม่เจอข้อพกพร่องของตัวเองก็ได้คุณผู้อ่านที่แสนดีนี่ละ ช่วยชี้แนะบอกกล่าว ให้ผ่านพ้นมาได้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ขอแค่คนอ่านสนุก ชอบ และมีความสุขกับ เรื่องราวที่เราเขียน เราก้มีความสุขแล้วค่าาา  :pig4:

-ตอนนี้ เราเริ่มโปรเจคใหม่ไปบ้างแล้ว แต่เป็น Full Fantasy เลยจ้า เลยต้องมีการวางแผน และวางทฤษฎีต่างๆ ในเรื่องค่อนข้างละเอียด หลายอย่างอ้างอิงจากเกมที่เราเล่นเพราะติดเกมมากกกกก อิอิ และตำนาน นิยายปรัมปราทั้งหลาย เอามามั่วมิกซ์ในสไตล์เรา อย่ามลืมติดตามกันเน้อ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 21-02-2016 15:25:56
ยังไม่อยากให้จบเลย คิดถึงมีนกับแฝดอ่ะ
ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรกและยังคงตามต่อไปอีกนานนนนนนนน
แต่งมาให้อ่านอีกนะค่ะ ชอบมากกกก เรียกว่ารักเลยดีกว่าตั้งแต่อารอทกับโยนาห์แล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 21-02-2016 15:44:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-02-2016 20:13:22
ง่า จบแล้วเหรอ ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรกับมีน. น่ารักมากๆเลยค่ะ
ในทีีสุดคุณแม่ก็กลับมานะ คุณป๋าก็หายเหงาสักดี มีลูกเขยดีก็แบบนี้แหละนะ   :mew1:   สรุปลาสบอสคือคุณแม่นี่เอง
เป็นจุณเขียนแบบนี้จ้า ไม่ใช่ล ลิงสะกด ยังแอบอยากรู้เรื่องแฝดน้อง อยากให้น้องสมหวังบ้างเห็นรอมานานแสนนาน
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-02-2016 21:15:40
จบแล้ว ยังไม่อยากให้จบเลย  :ling1: แต่ก็มีความสุขแล้วเนอะทั้งเรมีน พ่อแม่มีนกลับมาอยู่ด้วยกันอีก แต่อยากอ่านคู่น้องชายเรอ่ะ สรุปจะได้คู่ใคร
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 22-02-2016 00:07:18
สุดท้าย คนที่แข็งแกร่งที่สุดในเรื่องได้แก่ คุณกัญวรา!!!  บอสลับของเรานั่นเอง ป๋าก็ป๋าเถอะ :hao7:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 22-02-2016 00:55:32
จบแบบแฮบปี้เอนดิ้ง เหมือนแต่งงานกันจริงๆเลย รักกันนานๆนะ

ภาพตอนมีนเป็นเงือกสวยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

ปล.ไม่สนใจทำรวมเล่มหรอ รออุดหนุนๆ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 22-02-2016 00:57:58
คุณแม่กัญวรามาทีเดียวคุณพ่อยอมทุกอย่างเลยยย :hao3:

ได้อยู่ด้วยกันสักทีน้าาา รอตอนพิเศษ :mew1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 22-02-2016 07:26:47
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 22-02-2016 13:13:29


ปาดน้ำตา

ซึ้งจัง

อยู่กันพร้อมหน้า

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 22-02-2016 13:41:16
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: 
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 22-02-2016 16:31:19
สนุกมากๆ นายเงือกกับอีกา แหล่ม
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: IsseYa ที่ 22-02-2016 23:03:05
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมาก พอมาอ่านอีกที จบแล้วเรอะ!
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ รอเรื่องต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 23-02-2016 13:57:57
อ่านไปตื่นเต้นไป ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ รอตอนพิเศษค่าาาาา >/////<
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 23-02-2016 20:28:17
ฝากนิยายเรื่องใหม่ค่ะ  :katai2-1: http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52090.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52090.0)

Guardian Of Heart ผู้พิทักษ์ใจ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 23-02-2016 22:26:42
ชอบนิยายแบบลึกลับเหนือธรรมชาติแบบนี้มาก ลุ้นมากกับตอนที่นายเอกจะโดนข่มขืนมากๆ ลุ้นว่านายเอกจะโดนข่มขืนหรือเปล่า ขอบคุณคนแต่งที่ไม่ใจร้ายกับมีนเร เพราะส่วนตัวรับไม่ได้กับการที่นายเอกโดนข่มขืน มันดราม่าเกินไปทนอ่านต่อไม่ไหวแน่ๆ ขอบคุณสำหรับนิยายที่อ่านแล้วน่าติดตาม จนวางไม่ลงเรื่องนี้ กราบงามๆ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 24-02-2016 08:53:02
ว้าาา จบซะแล้วว  :hao5:
รักน้องมีนกับพี่เรนะ  :กอด1:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Coffee ที่ 24-02-2016 11:28:48
สนุกอ่า...เรกับมีนน่ารักจริงๆนะ

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านค่ะ

 :katai2-1:   :mew1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: torto ที่ 24-02-2016 19:55:00
จบแล้วเหรอ  ลืมน้องเรนไปรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-03-2016 02:13:21
งะ จบซัะแล้ว รวดเดียวจบเบย รอตอนพิเศษๆ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: Kitsune1st ที่ 02-03-2016 17:35:34
อ่านรวดเดียวจบ อื้อหืออ พูดได้คำเดียว
เรหื่นมาก 5555
แล้วเรนนี่สมหวังไหมหรือยังไง
แต่ก็จะรอตอนพิเศษนะก๊ะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ บทที่ 20 One and Only(End)!!p4 21-02-59
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 02-03-2016 19:37:19
ตอนพิเศษ Rainy Day
[/b]

Rain Say

      พี่เรกับมีนเพิ่งผูกข้อไม้ข้อมือกันไป ย้ำเตือนชีวิตคู่ของพวกมันอย่างจริงจังหลังจากที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่พวกมันก็ผ่านพ้นมาได้ ด้วยความอดทนและเชื่อมั่นในกันและกัน ความรักของสองคนนั้นมากมายจนผมยังอิจฉา แล้วมีหรือน้องเรนจะน้อยหน้าถึงเวลาที่ผมจะบอกความในใจกับคนที่ผมเฝ้ารอมานานซักที

      วันนี้เป็นวันที่ผมใช้เวลาอยู่หน้ากระจกนานกว่าทุก เพราะอยากดูดีที่สุดทั้งที่ปกติเรนคนนี้ไม่เคยกังวลในรูปลักษณ์ตัวเองเลย แล้วจบลงด้วยเสื้อโปโลสีครีมที่ตรงปกคอและแขนตัดด้วยสีน้ำตาลที่ซอนเน่ซื้อให้ วันนี้เป็ยวันเกิดซอนเน่ ผมไม่ลืมที่จะหยิบกล่องของขวัญขนาดกลางที่ห่อไว้อย่างดีติดมือขึ้นรถไปด้วย

      ซอนเน่เป็นผู้หญิงที่สวยและเก่ง แต่เธอไม่มีใครเพราะทั้งชีวิตของผู้หญิงคนนี้ทุ่มเทให้กับงานและดูแลหลานๆ อย่างพวกผม เธอแทบจะไม่ได้พักร้อน เธอลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง ทั้งที่เธอมักจะทำเพื่อคนอื่นๆ เสมอโดยเฉพาะเพื่อให้ผมกับพี่มีความสุข

      (วันนี้สินะ) เสียงไอ้พี่เรดังขึ้นในหัวขณะที่ผมกำลังออกจากห้อง

      (ก็รอมานานแล้ว จะรุ่งหรือจะแห้วให้มันรู้กันไปเลย) ผมตอบ

      (ขอให้สมหวังแล้วกัน ถ้าอกหักจำไว้มึงยังมีกู) ก็ยังไม่วายแช่งอีกนะพี่เวร เอาวะเป็นไงเป็นกัน 

      ผมขับรถมาที่ตึกสำนักงานของสภากลาง ผมเกลียดรถติดแต่ก็มาบ่อยเพราะหัวใจมันอยู่ตรงนี้ กดลิฟท์ไปชั้นรองสุดท้ายก่อนจะก้าวเดินไปตามโถงด้วยใจเบิกบาน มองของขวัญในมือด้วยรอยยิ้ม มันเป็นกรอบรูปที่ผมทำขึ้นเองกับมือ ในนั้นมีรูปของทุกคนในบ้านซานซิโออยู่ ซอนเน่ไม่ได้ชอบของแพงแต่เธอชื่นชอบของที่ทำออกมาจากใจ

      "ท่านอาผมมาแล้ว" เสียงเจื้อยแจ้วทักทายพร้อมเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาวะ

      "อ๊ะ เรน" ภาพตรงหน้าทำให้ผมแทบหยุดหายใจ เมื่อร่างบอบบางของคนที่ผมรักอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคน ท่านอายิ้มแห้งๆ มาให้ผมก่อนผละออกมาจากอ้อมแขนของอัลไสวเดอร์ 

      "ไงเรน" เจ้าของเรือผมสีเงินเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม "ฉันเอาเค้กมาเซอร์ไพซอนเน่นะ" อัลไสวเดอร์บอกพลางยิ้มกว้างให้ซอนเน่ คนถูกมองได้แค่ก้มหน้าหลบอย่างเขินอาย ซึ่งมันก็ชัดอยู่แล้วว่าคนตรงหน้ารู้สึกต่อกันยังไง 

      "สะ สวัสดีครับ เอ่อ" ผมที่พึ่งหาเสียงตัวเองเจอทักตอบ "ผมแค่เอาของขวัญมาให้นะ"

      "ขอบใจจ๊ะ หลานอาน่ารักที่สุด" ซอนเน่ยิ้มกว้างก่อนจะถลามากอดผมไว้แน่น พร้อมหอมแก้มอีกที หลานอา...ผมมันเป็นแค่หลานสินะ ผมได้แต่ยิ้มรับทั้งที่ใจไม่ยิ้มเลย

      "งั้นผมกลับก่อนนะ ตามสบายเลยครับไม่อยากเป็น กขค" ปากก็แซวกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มันกำลังดิ่งของตัวเอง ก่อนจะหันหลังเดินออกมา

      แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ผมยิ้มหยันให้กับความกากของตัวเอง มัวแต่ชักช้าโดนคนอื่นตัดหน้าซะได้ แถมไอ้คนที่ตัดหน้าชนะเขาทุกอย่าง เพราะเป็นคนที่ท่านอาปลื้มมานาน แถมยังเป็นถึงผู้นำตระกูลอาร์เคน เรื่องหน้าตาถึงหมอนั่นจะอายุขึ้นเลขร้อยแต่แวมไพร์ย่อมไม่แก่ตามกาลเวลา ช่างเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบชนิดที่ว่าผมไม่มีสิทธิไปแทรกกลาง


      ผมนั่งเหม่ออยู่ริมน้ำเยื้องๆ กับสะพานสูง หลังออกจากสำนักงานก็พาตัวเองมาอยู่ตรงนี้เพราะมันเงียบดี เพื่อสงบจิตสงบใจ พร้อมโทรไปดราม่าให้พี่เรฟัง

      "ไงคนอกหัก" ดูๆ มันทักเหมือนมันรู้

      "แหมไอ้พี่ จะโทรมาให้โอ๋หมดอารมณ์เลยเนี่ย" ผมบ่นพลางยิ้มขื่น

      "ร้องไห้ไหมน้องรัก เดี๋ยวจะไปหาให้ซบอก" มันแซว 

      "ใช่ซี้ ใครจะไปสมหวังในรักแบบมึงละครับ เฝ้ามาตั้งนานโดนหมาคาบไปแดกซะงั้น"

      "สรุป คือจะร้อง!!!?" 

      "มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก" ผมบอก อาจเพราะรักท่านอาข้างเดียวมันทุกข์ปนสุขมานาน พออกหักจังๆ เลยไม่เจ็บเท่าไหร่มั้ง มันก็แค่เคว้งๆ หน่วงๆ เดินไม่ได้ไปไม่เป็นก็แค่นั้น เพราะอีกใจหนึ่งผมก็ยินดีที่ซอนเน่ได้สมหวังกับคนที่ปลื้มมานาน ผมรักเธอมาก รักเธอในหลายๆ ความหมาย และก็รักมากพอที่จะมีความสุขหากซอนเน่ก็มีความสุข

      ...ผมไม่ได้หล่อแค่หน้าหรอกนะ ใจผมอะหล่อมากกกกก...

      "แล้วเอาไงต่อ" เรถาม

      "ยังไม่รู้อะพี่ ยังไม่อยากกลับบ้านไปดูพวกท่านสวีทกันให้อิจฉาเล่น มันก็เฮิธๆ อะ อยากเมา อยากเหล้า อยากหาหญิงเอาให้ลืมเธอ" ตอนนี้คงต้องหาอะไรทำให้หายฟุ้งซ่านก่อนละ ผมไม่ใช่ประเภทมานั่งเศร้ากับชีวิต คนเรามีผิดหวังและเสียใจถ้าเรายังไม่ตายมันก็เริ่มใหม่ได้เสมอ 

      "ให้กูไปเป็นเพื่อนไหม" 

      "ไม่ต้องหรอกพี่ อยู่กับเมียไปเถอะ" ผมบอก โตแล้วไม่อยากให้ไอ้เรมาห่วงมาก "เกิดผมลากสาวๆ มาเต็มโต๊ะ ไอ้พี่มึงจะซวยเอา" ขนาดครั้งที่แล้วไอ้มีนเจอพี่เรในผับ ตอนนั้นพวกผมแฝงตัวทำภารกิจกัน มันยังโกรธจนหนีพี่ผมไป ตามหากันให้วุ่น

      "ตามใจแล้วกัน" 

      "เฮ้ย!!!" ผมที่ทอดสายตามองไปเรื่อยๆ ก็ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ บนสะพานสูงข้างๆ กันมีคนกำลังปีนระเบียง แล้วกระโดด ในยามที่ร่างนั้นกำลังดิ่งสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง สัญชาตญาณสั่งให้ผมกางปีกทะยานเข้าหาร่างนั้นอย่างรวดเร็ว

      ฟุป!!! ผมรับร่างนั้นได้ทันก่อนที่มันจะกระแทกกับผืนน้ำ กระโดดจากสะพานสูงรวมห้าสิบเมตรลำพังแรงกระแทกก็ตายคาทีแล้วมั้ง ไม่ต้องรอให้จมหรอก 

      "ทำบ้าอะไร!!" ผมถามเสียงตื่นทันทีที่พาอีกคนเข้าฝั่ง พอเท้าถึงพื้นไอ้คนในอ้อมแขนก็ทั้งดิ้น ทั้งผลัก 

      "ปล่อยกู ฮึก ปล่อยกูสิ กูไม่อยู่แล้ว กูไม่เอาแล้วไอ้ชีวิตเฮงซวยเนี่ย" เสียงโวยวายเจือสะอื้นดังก้องบริเวณ ดีนะแถวนี้ไม่มีใครอยู่แถมเจ้าตัวคงไม่มีสติพอรับรู้ว่าผมช่วยด้วยวิธีไหน

      "เฮใจเย็นสิ" ผมพยายามบอกพลางรวบร่างเล็กนั้นไว้แน่น 

      "ปล่อยเลย นายเป็นใคร ปล่อยดิวะ" เจ้าตัวยังคงตะโกนต่อไปจนเสียงแหบแห้ง ก่อนจะเริ่มหมดแรงแล้วแต่ก็ยังร้องไห้อย่างน่าสงสาร 

      พออีกคนยอมอยู่นิ่งๆ จึงมีโอกาสสำรวจคนที่เพิ่งช่วยไว้อย่างจริงจัง ใบหน้าหวานใสบัดนี้อาบไปด้วยน้ำตา ดวงตาสีดำหมองเศร้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สิ่งที่เจอมันเลวร้ายแค่ไหนกัน ถึงทำให้คนๆ หนึ่งละทิ้งชีวิตได้ขนาดนี้

      "มาช่วยทำไม" น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยถามพลางเงยหน้ามองผม ใบหน้าขาวๆ ตาโต จมูกนิด ปากหน่อย บอกผมสิว่านี่ผู้ชาย ยิ่งร้องไห้ จนจมูกแดง ขอบตาแดงกับน้ำตาคลอ แถมปากยังแดง...แม่งโคตร คาวาอี้เลยสัส...

      "ไม่รู้เหมือนกัน ร่างกายมันไปเอง" ผมบอกเสียงเบา "ทำไมถึงคิดฆ่าตัวตายละ" 

      "ก็ไม่มีใครต้องการเราแล้วนิ" เจ้าตัวบอกเสียงเบา พลางกัดปากเล็กๆ นั่นกั้นสะอื้น 
 
      "ไม่จริงหรอก" 

      "จริงสิ ฮึก...พ่อกับแม่ ก็ทิ้งเรา ยายก็ทิ้งเรา แฟนเราก็ทิ้งเราไปแต่งงานกับคนอื่น ฮือออ จีบเรามาตั้งนาน คบกันมาตั้งสามปี พอเรายอมให้มันเอาก็มาบอกว่าแค่อยากลองกับผู้ชาย ฮึกกกก...แม่งเหี้ย!!! ทำไมละ เรามันไม่ดีหรอ พี่เขาไม่เคยรักเราเลยใช่ไหม ฮึก" ร่างเล็กๆ สะอื้นตัวโยนจนต้องกอดเอาไว้แนบอกพลางลูบหัวเบาๆ 

      ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอ่อนไหวไปกับคนตรงหน้านัก ผมเองก็อกหักแต่อาการก็ไม่ได้หนักถึงขั้นฟูมฟาย ทั้งที่เจอกันครั้งแรกแต่ผมกับร้อนใจเสียจนลืมเรื่องเฮิธๆ ของตัวเองไปเลย

     "ชู่ว!!! อย่าไปร้องไห้ให้คนเลวๆ เลย" เสียทุ้มเอ่ยปลอบ ผู้ชายคนนั้นแม่งควาย ทั้งที่มีคนรักมันถึงขั้นยอมตายให้ได้มันกลับไม่เห็นค่า ถ้าเป็นผมหากมีใครซักคนรักผมขนาดนี้ คงจะดูแลใครนั้นให้ดีที่สุด

      "เราจะไปอยู่กับพ่อกับแม่ เราจะไปอยู่กับยาย บนสวรรค์ต้องมีคนรักเราแน่ๆ" คนตัวเล็กบอกอย่างเลื่อนลอย "ปล่อยเราไปเถอะนะ เราไม่ต้องการแล้วชีวิตนี้ เรา ฮึก ไม่อยากอยู่แล้ว" เสียงเศร้าๆ อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร 

      "นายชื่ออะไร"

      "ซัน" ชื่อก็ฟังดูสดใส แต่ชีวิตไม่สดใสเอาเสียเลย

      "ไม่เอาแล้วใช่ไหมชีวิตของนายนะ" ผมถามพลางยิ้มบางๆ เมื่อนึกบางสิ่งได้ คนในอ้อมกอดส่ายหัวน้อยแทนคำตอบ นั่นยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้างขึ้นอีก "งั้น ชีวิตนายถ้าไม่เอาแล้ว ผมขอแล้วกัน"

      "ฮะ" คนตัวเล็กเงยหน้ามองผมตาโต 

      "ผมเป็นคนช่วยไว้ ชีวิตนายเป็นของผมแล้วนะ ตกลงตามนั้น"

      "เอ่อ...เฮ้ย!!!"

.......................

-มาแล้วววว เราไม่ได้ทิ้งเรนน้อยนะเเค่กำลังเห่อเรื่องใหม่  :mew1:

-ที่เราไม่เขียนให้มันเศร้า เพราะน้องเรนของเราเป็นคนไม่เครียดจ้า สดใสไรงี้  :katai5:

-อย่าลืมไปติดตามเรื่องใหม่หนูน้าาา Guardian of heart

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52090.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52090.0)   :katai4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-03-2016 20:23:59
ว้าวๆๆ. น้องเรนน่าจะอกหักตั้งนานแล้วนะจะได้มีคนน่ารักๆผ่านสายตาเข้ามาบ้าง
แต่แบบปุบปับรับมาเลี้ยงแบบนี้ก็น่ารักดีค่ะ
ขอบคุณที่เอ็นดูน้องค่ะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 03-03-2016 19:43:47
 :L2: ติดตาม
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: love noon ที่ 06-03-2016 11:57:06
หูย ตามอย่างไวเลยค่าาาาาา อร้าย การ์เดียน แค่ชื่อก็ฟินละ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 06-03-2016 23:02:10
ขำขันมาก นิยายแนวนี้หายาก ขอบคุณที่แต่งให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 28-03-2016 18:38:36
อยากอ่านคู่เรน
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 24-04-2016 14:54:41
สนุกมากๆค่า ตามอ่านเรนนี่ต่อนะ  :3123:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 02-05-2016 10:20:21
สนุกและชอบมากค่ะ.  น้องมีนนี่น่าร๊ากมาก. พี่เรก้ออบอุ่น.   คงคล้ายคู่ของรอทกับโยนาห์   ในที่สุดท้ายน้องเรนก้อเจอคนที่ใช่สักทีดีใจด้วยจ้า.    ขอบคุณคุณนักเขียน(โรส). มากค่ะที่มีนิยายหนุกๆให้อ่าน. ส่งกำลังใจมาค่ะ. ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 02-05-2016 20:41:32
สนุกมากกกกก o13
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 04-05-2016 11:00:44
สนุกดีค่ะ พล็อตแฟนตาซีดี แอบขัดใจนิดนึงตรงที่พระเอกพูดหยาบตลอดเรื่องเลย ทำให้อ่านฉากหวานๆแล้วไม่ค่อยฟินเท่าที่ควร
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: Dumzila047 ที่ 04-05-2016 11:33:29
ขอบคุณสำหรับนิยายค่า พระเอกหื่นดีจัง  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 05-05-2016 15:57:39
ไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้เท่าไหร่ แต่อ่านแล้วสนุกมากกค่ะ เรมีนหื่นพอกันทั้งคู่เลยย  ขอบคุณนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-05-2016 21:36:18
สนุกมากกกกกก ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายดีๆ แอบอยากรู้เรื่องเรนต่อเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-05-2016 01:45:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 11-06-2016 09:41:49
สนุกมาก ชอบนิยายแนวนี้มากกกก ซึ่งนานๆทีจะมีคนแต่งแนวนี้ อิอิ ขอบคุณนาจาาาาาา
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-05-2017 02:09:15
 o13
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 12-11-2017 22:15:16
หุยดีอะ แล้วซันเพิ่งออกนี่แย่งความนิยมไปหมดเลย  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 14-11-2017 13:05:39
ชอบบบบบ มีนน่ารักกก //น้วยร้องเงือก อ้าว เรอย่าว่าเรา--- แค่ก
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 16-11-2017 10:55:25
ขอบคุณมากๆ อยากอ่านเรนซันจัง 55
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: sweetie ที่ 20-11-2017 21:33:21
ชอบอ่านแนวแฟนตาซีมากเลย แต่หาอ่านยาก
มาเจอเรื่องนี้สนุกมาก ขอบคุณนะคะ จะติดตามอ่านต่อไปนะ :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: bewitchz ที่ 12-12-2017 14:50:42
ตามมาจากเรื่องโยนาค่าา :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 02-03-2018 14:02:51
 :katai4:งามไส้ยยยยยยย