พิมพ์หน้านี้ - 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 20-02-2015 17:07:04

หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 20-02-2015 17:07:04
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


------------------------------------------------

นิยายของ เข่งสะพานปลา

ปรสิต (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.0) | HORROR THRILLER (จบแล้ว)
WRONG พื้นผิดเบอร์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45629.0) | ROMANTIC COMEDY
ว ร ร ค (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45779.0) | ANGST DRAMA
HUMAN FARM (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46412.0) | DYSTOPIA DRAMA
DARK HORSE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50457.0) | ROMANTIC DRAMA
(เรื่องสั้น) NOAH (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46235.0) | METAPHOR ROMANCE (จบแล้ว)
(เรื่องสั้น) BEDFAST (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46246.0) | ROMANCE (จบแล้ว)
(เรื่องสั้น) ก่อร่าง • สร้างตัว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50317.0) | THRILLER (จบแล้ว)

------------------------------------------------

สารบัญ ปรสิต

PROLOGUE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2969739#msg2969739) | P.1
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2969740#msg2969740) | P.1
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2970732#msg2970732) | P.1
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2971928#msg2971928) | P.1
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2973055#msg2973055) | P.2
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2974103#msg2974103) | P.3
ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2975626#msg2975626) | P.4
ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2976860#msg2976860) | P.5
ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2977508#msg2977508) | P.6
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2980025#msg2980025) | P.7
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2981919#msg2981919) | P.8
ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2987224#msg2987224) | P.10
ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2988796#msg2988796) | P.11
ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2990011#msg2990011) | P.11-12
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2992621#msg2992621) | P.13
EPILOGUE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2994119#msg2994119) | P.14

------------------------------------------------




(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)



ปรสิต | PROLOGUE




ผมไม่ได้บ้า

นั่นคือสิ่งที่ผมพอจะบอกกับคุณได้ และเขาเองก็ไม่เชื่อนักหรอก

 

ผมรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

มีบางสิ่งบางอย่างกำลังเกาะติดผม

และนานวันเข้า... หัวใจผมก็ยิ่งถูกความกลัวกัดกินจนไร้เรี่ยวแรงที่จะมีชีวิตอยู่
 


 

ผมไม่สามารถไปไหนมาไหน หรือแม้แต่จะอยู่ตามลำพัง

เพราะ มัน จะมา
 

 
' คนไข้ของผมส่วนใหญ่ก็พูดว่าตัวเองไม่ได้บ้ากันทั้งนั้น... คุณชนกันต์ '






เคยทำอะไรเอาไว้ . ให้ระวังตัว






------------------------------------------------





ฝากนิยายผีแฝงความกุ๊กกิ๊กของบรรดาหนุ่มโรง'บาลไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
เป็นแนว Horror ที่มีความเป็น Thriller และ Drama เบา ๆ (อย่างหลังนี่น่าจะ)
ใครที่ชอบแนวนี้ หรืออ่านแล้วถูกใจบ้างสักนิด ก็อยู่เป็นเพื่อนกันไปนาน ๆ นะคะ >_<

เรื่องนี้เราแปลงมาจากฟิคชันที่ได้แต่งไว้ แต่ขอให้ลืมมันไปค่ะ 55555555555
เพราะสำหรับที่นี่ เราจะสร้างตัวตนของตัวละครทั้งหมดขึ้นมาใหม่เลย ; )
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (UPDATE 20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 20-02-2015 17:12:39
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 01







ตึก... ตึก... ตึก...




ตึก





อีกแล้ว

เป็นแบบนี้มาเกือบทั้งสัปดาห์


สมองสั่งให้หันหลังกลับไปมองเหมือนครั้งก่อน ๆ ซึ่งร่างเล็กก็ทำตามแต่โดยดีแม้ว่าจะใช้เวลาทำใจลำบากถึงห้าวินาทีเต็ม ๆ ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าเบื้องหลังของเขานั้นยังว่างเปล่าและไม่มีร่องรอยของใครคนอื่นอย่างที่รู้สึกระแวงอยู่เสมอ


ชนกันต์ต้องใช้เวลากลั้นหายใจอีกรอบกับการหันกลับมา ก่อนจะรู้สึกโล่งใจเป็นครั้งที่สองเมื่อสายตาของเขายังคงมองเห็นแค่แถบตู้ยาที่ทอดยาวไปเหมือนชั้นหนังสือในห้องสมุด ผนังห้องอยู่เลือนรางยังปลายสายตาเพราะไฟที่ถูกหรี่ลงจนสลัว


ใช่... ไม่มีอะไรเลย มีแค่เขาคนเดียวในห้องนี้


แต่พอขาเรียวออกก้าวเดินต่อ ข้อสันนิษฐานเดิม ๆ ก็ร่ำให้ถูกพิสูจน์อีกครั้ง




ตึก... ตึก... ตึก...


ตึก




เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทุกครั้งที่หยุดเดินเสียงฝีเท้าก็มักจะเกินมาก้าวหนึ่งเสมอ โดยเฉพาะในเวลาที่เขาอยู่เพียงลำพังและห้องทั้งห้องเงียบกริบจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงแอร์ดังหึ่ง ๆ


ประสาทจะกินอยู่แล้ว


ชนกันต์บอกกับตัวเองอย่างติดตลก หากแต่มันคือความจริง ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองไม่ต่างจากคนบ้าซึ่งต้องคอยเงี่ยหูฟังเสียงทุกครั้งที่ก้าวเดิน หลายครั้งก็ได้แต่หัวเราะเพื่อกลบเกลื่อน แต่ลึก ๆ แล้วนั้นรู้ดีแก่ใจว่าในช่วงเกือบสัปดาห์ผ่านมานั้น –


เขาไม่ได้อยู่คนเดียว


ไม่ว่าจะเป็นก๊อกในห้องน้ำที่เปิดเอง เสียงฝักบัวอาบน้ำตอนตีสาม หรือแม้แต่ไฟที่ชอบกระพริบถี่แม้ว่าจะซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม


ชนกันต์กลัวผีเข้าไส้ แล้วสองวันมานี้เขาก็เป็นฝ่ายหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับเจตน์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท จริงอยู่ว่าชวนให้อุ่นใจขึ้น แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้นเลยในเวลาที่จำเป็นต้องอยู่คนเดียวเฉกเช่นตอนนี้ ชนกันต์ไม่มีสิทธิ์เอาตัวเองไปผูกติดกับใคร เจตน์มีงานที่ต้องทำ และเขาเองก็เช่นกัน


ค่อย ๆ นับจำนวนยาในกล่องที่วางอยู่ระดับเอวสลับกับเอกสารในมือ บ่อยครั้งที่คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะตัวอักษรภาษาอังกฤษเล็ก ๆ ซึ่งพากันอัดแน่นอยู่ในช่องตาราง แต่แล้วก็คลายออกก่อนจะค่อย ๆ หยิบยาเรียงเข้าไปบนชั้นอย่างระมัดระวัง อย่างน้อยการมีอะไรให้ทำมันก็ขจัดความกลัวได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว


“....”


หากแต่เสียงกึก ๆ ที่ดังแว่วมานั้นกลับเรียกให้หัวใจกระตุกวูบ คิ้วนั้นม่วนเข้าหากันจนเหมือนปมตายเล็ก ๆ ชนกันต์หลับตาลงเพื่อตั้งสติ โดยนับไล่ตั้งแต่เลขหนึ่งไปจนถึงสิบ นี่เขาพยายามมากแล้ว... พยายามที่จะข่มความกลัวและเอาชนะมันให้ได้


“....!!”


สัมผัสปลายนิ้วที่ค่อย ๆ ไล้ขึ้นมาจนหยุดอยู่บนบ่านั้นมันเกินกว่าที่คาดคิดไว้มาก ต่อให้เจอเหตุการณ์แปลก ๆ มาแค่ไหน แต่ไม่มีสักครั้งที่จะประชิดตัวขนาดนี้


จะ –


จะทำยังไงดี


มือที่ถือแผ่นรองเอกสารนั้นสั่นเสียจนจะหมดแรงปล่อยให้ตกไปอยู่รอมร่อ แต่เขากลับไม่กล้าขยับเพียงเพราะกลัวว่าจะต้องหันไปเห็นอะไรที่ไม่อยากเห็น สักพักมันก็คงหายไป เด็กหนุ่มเชื่ออย่างนั้น ได้แต่หลับตาปี๋จนกระทั่งเสียงลมหายใจนั้นดังเคลียใกล้ใบหู มันกำลังพูดอะไรบางอย่าง


“ไอ้กันต์...”


ทันทีที่ได้ยินเสียง ร่างทั้งร่างก็สะดุ้งพลางเบิกตาโพลง คิ้วที่ขมวดเข้าหากันนั้นผูกเป็นโบว์ แถมด้วยมือเล็ก ๆ ที่ตบไปบนต้นแขนของหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งยืนหัวเราะคล้ายจะเป็นจะตายอยู่ตรงหน้า


“พี่ตอง! ไม่ตลกเลย!”


“ก็ว่าอยู่ เห็นแกหลับตาปี๋” ปรัชญา เจ้าหน้าที่บริบาลทางเภสัชกรรมประจำโรงพยาบาลยิ้มทะเล้น เขาแกล้งเอามือมาไล้บนหัวไหล่ตัวเองบ้างพลางว่าด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “หลอนจริงว่ะ ขอโทษที่แกล้งแล้วกัน ไม่คิดว่าจะขวัญอ่อนขนาดนี้”


ถึงจะน่าเตะคว่ำแค่ไหน แต่ตรงกันข้ามแล้ว ชนกันต์กลับรู้สึกยินดีเสียยิ่งกว่าอะไรในโลกที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนเขาสักที แต่ที่ไม่น่ายินดีก็คือมันได้เวลาออกเวรแล้วนี่สิ ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ดีใจจนวิ่งออกไปแทบไม่ทัน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอยากยื้ออยู่กับใครก็ตามให้นานขึ้นอีกหน่อย เพราะเมื่อไรก็ตามที่อยู่คนเดียว เขากลับไม่รู้สึกลำพังอย่างที่ควรจะเป็น


“ไป ๆๆ กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวพี่ทำต่อเอง” ว่าพลางแย่งเอกสารในมือไปเช็กสต็อกยาอย่างคล่องแคล่วแล้วเรียงขึ้นชั้นโดยไม่ลืมดูฉลากและสภาพโดยรอบของแต่ละขวด คนถูกไล่เบ้หน้าน้อย ๆ ก่อนจะเดินกลับไปยังทางที่เพิ่งเดินผ่านมาด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก กระเป๋าสัมภาระของเขาถูกเก็บไว้ในตู้เก็บของขนาดเล็กใกล้กับเคาน์เตอร์จ่ายยา ซึ่งมีกฎว่าหลังเที่ยงคืนไปแล้วเภสัชกรหรือพนักงานจ่ายยาไม่จำเป็นต้องนั่งประจำหน้าเคาน์เตอร์ก็ได้หากอยู่คนเดียว แต่จะมีออดสำหรับให้กดเรียกเจ้าหน้าที่เมื่อมีคนไข้ต้องการติดต่อแทน


ชนกันต์ถอดเสื้อกาวน์สีขาวแขนสั้นออกแขวนไว้บนผนังเหนือตู้เก็บสัมภาระ พอไม่มีมันแล้วเขาก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาที่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ออกไปไหนมาไหน แต่ว่าก็ว่าเถอะ โรงพยาบาลรัฐน่ะไม่เจ้ากี้เจ้าการเรื่องการแต่งตัวเหมือนโรงพยาบาลเอกชนราคาแพง ๆ หรอก


นาฬิกาบนผนังบอกเวลาตีหนึ่งห้านาที เป็นเรื่องปกติสำหรับนักศึกษาปีสุดท้ายอย่างเขาอีกนั่นแหละที่จะถูกจัดตารางให้อยู่เวรรอบดึก และชนกันต์ก็ไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าทำไมเขาถึงมาติดฝึกงานที่โรงพยาบาลนี้เพียงคนเดียวในสาขา


“เฮ้ยเดี๋ยว ๆ”


ยังไม่ทันจะได้คว้ากระเป๋าเดินออกไป ปรัชญาก็รีบปรี่มาทางนี้เสียก่อน ถึงตอนนี้ชนกันต์เพิ่งสังเกตเห็นกระดาษใบหนึ่งที่มีลายมือหวัด ๆ ของใครบางคนเขียนอยู่ตรงมุมด้านล่าง แถมยังใส่รูปยิ้มมาให้อีกแน่ะ


“อ่านไม่ออกอย่างนี้ ลายมือหมออธิศใช่ไหมเนี่ย ช่วยแกะที”


คนที่ปรัชญากำลังพูดถึงนั้น ชนกันต์จำได้ดีว่าเคยเดินสวนกันอยู่เป็นครั้งคราว หมออธิศที่ว่าก็คือนายแพทย์อธิศ จิตแพทย์คนดังประจำแผนกจิตเวช ใคร ๆ ก็บอกว่าใจดีมาก... มากเสียจนพยาบาลค่อนโรงอยากจะแปรสภาพไปเป็นคนไข้ให้รู้แล้วรู้รอด


“แกบอกว่าสั่งยารอบหน้าขอไดอะซีแพมกับเมโปรบาเมทมาเพิ่มด้วย”


ทั้งที่หวังใจว่าปรัชญาจะชวนอยู่คุยนานกว่านี้อีกสักหน่อย หากแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อหนุ่มรุ่นพี่เพียงแค่พยักหน้ารับแล้วโน้มตัวไปเขียนอะไรขยุกขยิกกำกับข้อความนั้นอีกที ครั้นเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเขายังอยู่ก็ยกมือขึ้นโบกไล่หยอย ๆ ให้รีบกลับไปพักผ่อนเสีย หากแต่ในหัวของชนกันต์นั้นกลับกำลังลังเลอะไรบางอย่าง ไดอะซีแพมที่เขาเพิ่งออกปากเรียกชื่อไปเมื่อครู่นั้นเป็นยากล่อมประสาทชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์คลายเครียดและอาจทำให้นอนหลับหากกินในปริมาณที่สูงขึ้น “พี่ตอง”


ใช่ เขาอยากได้มัน


“หืม?”


“ถ้าผมจะขอจิ๊กยากลับไปสักแผงสองแผง พี่จะว่าอะไรไหม” ถามไปทั้งที่รู้ว่าจะต้องถูกอีกฝ่ายแหวกลับเข้าให้ แล้วก็จริงดังว่า ปรัชญาหยัดตัวตรงแทบจะทันที มองเขาด้วยสายตาราวกับกำลังครุ่นคิดว่าจะหาคำไหนมาตำหนิมากกว่า


“ยาอะไร”


ตาเรียวรีเสมองไปที่คำว่าแวเลียมตรงชั้นด้านใน “พวกไดอะซีแพมครับพี่ หรือไม่งั้นเป็นยานอนหลับก็ดี”


“ไม่ได้ ยาในควบคุมของแพทย์จะให้สุ่มสี่ห้าไม่ได้แกก็รู้ ถ้าเป็นพาราแคปก็ว่าไปอย่าง” เคาะปากกากับฝ่ามืออยู่สองสามที ทำท่าจะเดินไปจัดยาเข้าตู้ต่อก็ยังไม่วายหันกลับมาชี้หน้าคาดโทษจนชนกันต์ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ตอบกลับไป “พูดแบบนี้อีกไม่ให้ผ่านงานนะเว้ย เสียจรรยาบรรณหมด”


“ผมก็พูดเล่นเฉย ๆ น่า แต่ถ้าอยากได้ต้องทำไงครับ”


“ไปให้หมอสั่งจ่ายให้ไป”


ปรัชญาโผล่หน้ามาร้องตอบส่ง ๆ ก่อนจะหายเข้าไปในหลืบตู้ยาอย่างเคย ถึงมันจะเป็นคำถามโง่ ๆ ที่เขารู้ดีอยู่แล้วก็ตาม แต่คงคาดการณ์ผิดไปว่าจะอะลุ่มอล่วยให้กันบ้าง ซึ่งไม่เลย


ขนคอตั้งชันเมื่อรู้สึกได้ถึงลมเย็น ๆ ที่วูบผ่านไปข้างหลัง กลั้นใจเพียงอึดใจหนึ่งแล้วจึงหันไปดูทว่าไม่พบอะไร แต่ชนกันต์มั่นใจว่านี่ไม่ใช่การนอนน้อยแน่ เพียงแต่เขายังไม่แน่ใจนักว่าจะด่วนสรุปเกินไปหรือเปล่า


ร่างเล็กเร่งฝีเท้าเดินไปตามทางซึ่งเริ่มคุ้นเคยจนแทบเป็นบ้านหลังที่สอง เขายอมเดินอ้อมผ่านโถงใหญ่ ห้องพักนางพยาบาล หรือที่ไหนก็ตามที่คิดว่ายังคงมีคนอยู่ในตอนตีหนึ่ง


ใช่แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะเดินไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างเด็ดขาดถ้ามีทางเลือก


ล้วงหาบางอย่างในกระเป๋าตามความเคยชิน ควานอยู่สองสามทีก็เจอพวงกุญแจที่ห้อยติดกับลูกกุญแจสี่ห้าดอก จับเอาดอกใหญ่ที่สุดกระชับไว้ให้ถนัดมือแล้วกวาดสายตามองหาเจ้ารถสีดำคันเก่งที่จำได้ว่าจอดอยู่ตรงไหนสักที่ รู้สึกขอบคุณที่มีบุรุษพยาบาลสองคนกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ลานจอดรถโรงพยาบาลในตอนตีหนึ่งนั้นวังเวงยิ่งกว่าอะไรดี เสียบกุญแจเข้าไปที่รถก่อนจะไขโดยขณะที่ตายังคงจับจ้องเพื่อนร่วมโรงพยาบาลอย่างอุ่นใจ ดึงประตูรถเปิดออกพร้อมกับหันกลับมาทางเดิม


ทว่าแวบหนึ่งที่สายตามองเห็น




“เฮ้ย!”




ตกใจจนต้องผงะถอยไปชนกับรถอีกคันหนึ่งจนบุรุษพยาบาลต้องวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ ประตูรถของเขาในตอนนี้อยู่ในสภาพเปิดค้างไว้ชนกับรถอีกคันหนึ่งจนน่ากลัวว่าจะเกิดรอยถลอก แต่ก็ช่างเถอะ ถ้าเจ้าของรถไม่มาเห็นก็คงไม่เป็นไร


ชนกันต์สูดลมหายใจลึก เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง หลังจากตั้งสติได้เขาก็พยายามเค้นรอยยิ้มแห้ง ๆ ออกมาก่อนจะหันไปโค้งให้ผู้มาใหม่


“ขอโทษนะครับ พอดีผมหน้ามืดนิดหน่อย”


หลังจากที่บุรุษพยาบาลเดินกลับไปยังที่สูบบุหรี่เดิมแล้วร่างเล็กก็รีบแทรกตัวเข้า ไปนั่งในรถทันที จัดการปิดประตู หลับตาลงและนับหนึ่งถึงสิบ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อลืมตาแล้วพบว่ามันไม่มีอะไรปรากฏในกระจกหน้ารถอย่างหนังสยองขวัญ


แต่เมื่อกี้น่ะ...


ไม่... ไม่เอา... ไม่คิด...




มันจะมีผู้หญิงมายืนอยู่หลังเขาได้ยังไงกัน




แต่ก็เพราะเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือไงถึงต้องมานั่งกลัวอยู่อย่างนี้ ให้ตายเถอะ!


นึกภาพเงาสะท้อนบนกระจกรถแล้วก็รู้สึกขนลุกวาบเสียจนต้องสตาร์ทรถแล้วเปิดเพลงดัง ๆ ปลุกใจ ถอยรถออกมาจากที่จอด แล้วจึงมุ่งหน้ากลับสู่แมนชั่นของตัวเองอย่างไม่เต็มใจ แหงล่ะ ถ้าวันนี้ไอ้เจตน์มันสะดวกล่ะก็ เขาไม่มีทางยอมกลับไปนอนคนเดียวทั้งแบบนี้แน่







--------------------------------------







ทางเดินในแมนชั่นยามนี้เงียบเชียบยิ่งกว่าอะไรดี ชนกันต์หวังให้มีคนจากสักห้องเปิดประตูออกมาเดินสวนเขาสักหน่อย แต่จนแล้วจนรอดเด็กหนุ่มก็ยังต้องพึ่งตัวเองโดยการใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงรักสดใสเสียงดังให้ไม่ได้ยินอะไร กระเบื้องสีขาวเหมือนตึกเก่าในโรงพยาบาลนี่ก็ช่างน่าขนลุกสิ้นดี


ฝีเท้ายังคงก้าวต่อไปหลังจากเห็นประตูห้องอยู่ไม่ไกล พอทำอย่างนี้แล้วจึงไม่ต้องกลัวว่าจะได้ยินเสียงเท้าเกินมาอีก มันได้ผลดีทีเดียว ถ้าหากว่าไฟตรงทางเดินไม่ได้กำลังกระพริบถี่จนรู้สึกปวดตาไปหมด


จริงอยู่ที่ไฟมันไม่ค่อยจะดี แต่ก็ไม่น่าเป็นพร้อมกันแทบทุกดวงอย่างนี้สิ


ชนกันต์เร่งฝีเท้าเดินไปให้ถึงประตูห้อง พอรู้สึกว่ายังได้ยินเสียงก๊องแก๊งจากพวงกุญแจก็ล้วงไปในกระเป๋าเพื่อเปิดเสียงเพลงในโทรศัพท์ให้ดังขึ้นอีก เข้ามาในห้องได้ก็รีบปิดประตูโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองด้านนอก มือเล็กรีบควานหาสวิตซ์เปิดไฟก่อนอะไรอื่น


ไม่เคยเกลียดการอยู่คนเดียวมากเท่านี้มาก่อน


ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกินหัวใจตั้งแต่ครั้งแรกที่สังเกตได้ว่าเสียงฝีเท้าสุดท้ายนั้นมักจะช้ากว่าตัวเขาเสมอ หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือมันเกินมาก้าวหนึ่ง ถ้าอาการเป็นบ้าแบบเฉียบพลันมันเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ล่ะก็ ขอเวลาอีกไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ เขามั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี่มันทำให้เขาประสาทเสียได้แน่ ๆ เพราะตอนนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรจากคนแปลก ๆ สักคนในแผนกจิตเวชแล้ว


เอื้อมมือไปหยิบขวดยาแก้แพ้มาเทใส่มือสองสามเม็ดแล้วเปิดตู้เย็นเอาน้ำมาดื่มเพื่อฝืนกลืนลงไป เอาเข้าจริง ๆ มันก็ช่วยได้แค่นิดหน่อย แต่ไม่มากพอจะทำให้หลับได้ทันทีแบบที่เขาอยากได้เลยสักนิด ว่าแล้วก็ไปรื้อหาเอายาคลายกล้ามเนื้อมากินอีกสองเม็ด อะไรก็ได้ที่มันจะทำให้เขาง่วงและหลับยาวไปได้จนถึงเวรเข้างานวันพรุ่งนี้


ถอดกางเกงออกจนเหลือแต่บ็อกเซอร์แล้วทิ้งตัวลงนอนทั้งอย่างนั้น ชนกันต์ยินดีจะหลับไปทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำและไฟยังเปิดอยู่ ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วมันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าให้ไปกลัวอะไรไม่เข้าท่าในห้องน้ำนั่น หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คและดูนู่นอ่านนี่อีกนิดหน่อยเรียวปากบางก็หาวหวอด รีบเอาโทรศัพท์วางไว้หัวเตียงและยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปงทันที เพราะกลัวว่าถ้าขืนยังเล่นโทรศัพท์ต่อไป ฤทธิ์ง่วงอ่อน ๆ นี่จะหายไป


หลังจากพลิกตัวไปมาเพื่อหาท่าที่สบาย ในที่สุดสติก็เริ่มหลุดลอยจนคิดว่าคงผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ไม่ยาก


“....”


Rrrr


เสียงโทรศัพท์เครื่องโปรดที่แผดเสียงดังลั่นส่งผลให้ร่างทั้งร่างสะดุ้งโหยงแล้วตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ชนกันต์โผล่หน้าออกมาพ้นผ้าห่มอย่างไม่สบอารมณ์นัก ส่วนหนึ่งก็เพราะเริ่มหายใจไม่ออกหลังจากเอาแต่อุดอู้อยู่ใต้ผ้าห่ม เอื้อมมือไปคว้าเอาโทรศัพท์ตรงหัวเตียงมากดดูท่ามกลางแสงจันทร์ที่ทำให้ทั้งห้องพอมีแสงสลัว แต่พอกดเจ้าเครื่องมือสื่อสารดูก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเพราะมันไม่มีใครโทรเข้ามาสักคน ไม่มีแม้แต่ข้อความโฆษณาหรืออะไรเลยด้วยซ้ำไป


ซ่า


จำต้องตื่นเต็มตาเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นว่าโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งไว้ ภาพการตัดขาดสัญญาณซึ่งแสดงเพียงเส้นสั่น ๆ เต็มเฟรมจอนั้นไม่ได้ทำให้ชนกันต์แปลกใจมากไปกว่าการที่เขาลืมปิดโทรทัศน์ก่อนนอน ซ้ำยังหลับไปพร้อมเสียงซ่า ๆ นั่นด้วยน่ะนะ?


แต่เดี๋ยวก่อน


“....”


ตั้งแต่กลับมา เขาก็แค่กินยาแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนเลยไม่ใช่หรือไง


หนำซ้ำวันนี้ยังเปิดไฟนอนด้วย


คิดได้อย่างนั้นก็ไม่อยู่ให้สายตามองเห็นอะไรในความมืดอีกต่อไป ร่างเล็กรีบฝังหัวลงกับหมอนแล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปงปิดจนมิดศีรษะอีกครั้ง เสียงซ่าจากจอโทรทัศน์ยังคงดังต่อไป และชนกันต์ก็แทบจะรู้ตัวดีว่าคืนนี้ยาของเขาคงช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว


หลับ


หลับสิวะ



พยายามบอกตัวเองเป็นครั้งที่ร้อยในขณะที่ข่มตาหลับไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจก็ยังคงเต้นแรงเสียจนไม่เปิดโอกาสให้ความง่วงมาเยือนเป็นครั้งที่สอง


พรึ่บ


เสียงโทรทัศน์เงียบไปแล้ว ชนกันต์ไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หน้าออกไปพ้นผืนผ้าห่มแม้ว่าใจมันร่ำจะอยากรู้แค่ไหน โทรทัศน์ปิดตัวเองไปแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ มันไม่มีระบบตั้งเวลาปิดอัตโนมัติสักหน่อย


บ้าเอ๊ย


ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่านเพราะรู้ว่านี่มันชักจะผิดปกติไปกันใหญ่ ช่วงแรกก็คิดว่าคงหลง ๆ ลืม ๆ ไปเอง แต่นี่มันชัดเจนเกินไป บางทีเขาอาจจะไม่ได้ขี้หลงลืมมาตั้งแต่แรก ยังไม่ทันที่จะทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ทั้งหมดความรู้สึกแปลก ๆ ก็บังเกิดขึ้นจนขนลุกวาบ แอร์ในห้องดูจะเย็นเยือกขึ้นอย่างประหลาด แต่เขารู้ตัวดียิ่งกว่าอะไร ว่าที่ตัวกำลังสั่นเทานี่ไม่ได้มีต้นเหตุจากความหนาวเลยสักนิด


ร่างทั้งร่างชาวาบเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงยวบข้างกาย มันยวบลึกลงไปราวกับจะบอกให้รู้ถึงการมีตัวตน ทั้งที่อยากรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่จะให้เปิดตาเปิดผ้าออกไปมองก็ไม่กล้าพอ บางทีอาจเป็นของตกหรือหนังสือสักเล่มก็ได้


ท้ายแล้วความอยากรู้ก็เอาชนะความกลัวด้วยการเลื่อนมือออกไปนอกผ้าห่มเพื่อควานหาหนังสือที่ตกมาจากหัวเตียง ใช่ มันควรจะต้องเป็นอย่างนั้น นี่คือคำปลอบใจที่เข้าท่าที่สุดในตอนนี้


“....”


แล้วก็จริงดังที่คิด ได้แต่ถอนหายใจโล่งอกเมื่อจับโดนหนังสือเล่มหนาในตำแหน่งที่รู้สึกถึงแรงยวบ หากแต่ยังไม่ทันจะได้เอามือกลับ ปลายนิ้วก้อยก็สัมผัสเข้ากับอะไรเย็นเยียบใกล้เล่มหนังสือ


บางทีมันอาจจะตกลงมาสองเล่ม


เพียงแต่มันไม่ได้แข็งเหมือนหนังสือ ชนกันต์รีบชักมือกลับเข้ามาใต้ผ้าห่มทันทีที่ลองวางมือลงไปบนวัตถุนั้น


มันทั้งเย็นเยียบ มีความนุ่ม และที่สำคัญ...




มันคือเท้า




ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่น้ำตาคลอหน่วงขึ้นมา ความยาวนานของราตรีนำมาซึ่งความสิ้นหวังและหวาดกลัวเพียงแค่คิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่บนเตียงเดียวกัน ซ้ำยังวางเท้าห่างจากหัวเขาไปเพียงแค่ฟุตเศษ


และเพราะว่ามันเหมือนเท้าคน ชนกันต์จึงมั่นใจว่ามันไม่ใช่คน


“ไม่ไหวแล้ว...”


น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายมันทำให้รู้สึกหายไม่ออก ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยอมที่จะฝังตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มและปิดปากกลั้นสะอื้นไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่หลุดเสียงร้องออกไป เสียงสะท้อนก้องภายในห้องกลับไม่ใช่ของเขาเพียงคนเดียว


กว่าสี่ชั่วโมงที่ทนทรมานอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเสียงนกร้องในตอนเช้าดังขึ้นพร้อมกับไอแดดอ่อน ๆ ชนกันต์จึงย่อมโผล่หน้าออกมาเหนือผืนผ้าห่มทีละนิด




เช้าแล้ว




ห้องทั้งห้องว่างเปล่า โทรทัศน์ถูกปิดสนิท หรือจะพูดให้ถูกคือมันไม่ได้ถูกเสียบปลั๊กไว้ตั้งแต่แรก ร่างเล็กรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินสะโหลสะเหลไปหยิบเอาเสื้อและกางเกงมาเปลี่ยนใส่เป็นชุดใหม่ทันที ถ้าจะให้มานอนเอาเวลานี้ล่ะก็ ยังไงก็ต้องไม่ใช่บนเตียงที่เพิ่งควานเจอเท้าคนเมื่อคืนนี้แน่ ๆ


ชนกันต์ยอมเป็นคนซกมกที่ไม่อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน และสองอย่างหลังเขาคิดว่าจะแวะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อไปจัดการธุระที่โรงพยาบาล อย่างน้อยก็ยังขอให้ใครไปอยู่เป็นเพื่อนได้ และถ้าไปตั้งแต่ตอนนี้ บางทีอาจไปดักพบหมออธิศได้ทันก่อนจะมีคนไข้ รีบพรวดพราดออกไปทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูของห้องอื่น เขาไม่มีทางลงลิฟท์คนเดียวเด็ดขาด และแน่นอน ไม่เดินคนเดียวด้วย


เพื่อนห้องอื่นดูจะแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเด็กหนุ่มใต้ตาหมองคล้ำเดินสะโหลสะเหลเหมือนคนอดหลับอดนอนติดลิฟท์ลงไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นชนกันต์ก็ไม่สนใจหรอก เขายอมเป็นไอ้บ้าห้าร้อยดีกว่าเจอเรื่องแบบเมื่อคืนเป็นไหน ๆ


ครั้นเดินผ่านเคาน์เตอร์ของฝ่ายนิติบุคคลก็อดไม่ได้ต้องก้าวฉับเข้าไปแล้วหยุดยืนละล้าละลังถาม เรื่องที่เขากำลังเจออยู่นี่มันควรต้องมีที่มาที่ไป


“พี่ครับ”


“คะ?”


“ที่แมนชั่นเรา... เคยมีคนตายไหมครับ”


ทันทีที่ถามออกไปชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าเขากลายเป็นตัวประหลาดขึ้นมาในชั่วพริบตา หล่อนดูจะตกใจนิดหน่อย แล้วจึงหันไปเรียกป้าอีกคนที่ทำงานในฝ่ายนิติบุคคลออกมาพลางทวนคำถามให้อย่างเสร็จสรรพ


ชนกันต์นึกภาวนาในใจให้มันไม่ใช่ห้องของเขา แต่ถึงอย่างนั้นคุณป้าข้างหน้าก็พูดเสียงแข็ง “ไม่มีหรอกค่ะ” คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับสิ่งที่ได้ยิน ถึงอย่างนั้นก็ยังออกปากยืนยันสิ่งที่ต้องการรู้ไปอีกครั้ง


“จริงเหรอครับ ไม่มีเลยเหรอ”


“เห็นน้องอยู่มาตั้งเป็นปีแล้วไม่ใช่เหรอคะ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาถามแบบนี้” หญิงสาวคนก่อนหน้าถามขึ้นน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งสิ่งที่เธอพูดก็มีมูลมากทีเดียว เพราะถ้าเป็นผีในแมนชั่นนี่จริง แล้วทำไมถึงเพิ่งจะมาแสดงตัวเอาป่านนี้


ชนกันต์เอ่ยขอบคุณแล้วเลี่ยงเดินออกมาพลางขบคิดตามไปด้วย จะยังไงก็ช่าง วันนี้เขาต้องได้แวเลียมมาให้ได้ และอย่างดีที่สุดก็ต้องได้ไปนอนค้างกับเจตน์ด้วย


คิดแล้วก็ยังรู้สึกกลัวไม่หาย ใจมันสั่นจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอก ไม่เคยต้องเจออะไรอย่างนี้มาก่อน และแทบไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าช่วงอาทิตย์นี้มามันเป็นวันซวยหรือยังไง


แล้วทำไมต้องเป็นชนกันต์คนนี้


มันต้องการอะไรกันแน่





TBC





----------------------------------------------------


ก็รอให้ถึงเวลา ใครกันหนอ พระเอกของชนกันต์




หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fran23 ที่ 20-02-2015 18:08:07
หลอนดีคะ ชอบบบบบ #บรึ้ยๆ มาต่อไวๆนะคะ :mew3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: JuDaZz ที่ 20-02-2015 18:09:25
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงหนังจีนเรื่องหนึ่ง ที่นางเอกมีอาการทางจิตจนปฏิเสธการมีตัวตนของคนรัก น่าติดตามมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-02-2015 18:41:04
พลังงานลึกลับผู้นี้ (เรียกงี้ละกันเพราะเจ้าตัวไม่อยากให้เรียกว่า ผี 55) ดูท่าทางจะเป็นคนตลกนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 20-02-2015 18:50:41
น่ากลัวมาก คุณพระเอกจะเป็นใครล่ะเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 20-02-2015 20:18:28
พระเอกใช่คุณหมอติตแพทย์ใจดีคนนั้นหรือเปล่าเอ่ย  ช่วยชนกันต์ด้วยยยย
รับชนกันต์ไปอยู่ด้วยเลย  หลอนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-02-2015 20:42:27
อ่านไปนี่ผวาไปด้วยนะเนี่ยยยยย  :katai1: :katai1: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 20-02-2015 21:12:22
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก มาต่อบ่อยๆนะ :L2: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: toey-yyy ที่ 20-02-2015 21:49:24
หลอนอ่า เป็นผีจริงใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 20-02-2015 22:00:03
โคดของความน่ากลัว
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 20-02-2015 23:28:59
พอดีอ่านในโทรศัพท์...ในบ้านเหลือคนเดียวที่ยังไม่นอน...ปิดไฟเตรียมเข้านอน...อ่านนิยายก่อนนอนหลับฝันดี...
.
.
.
เท้า........ฮือออเค้าจะไม่อ่านนิยายตัวแบบปิดไฟอีกแล้ว :o12:อ่านถึงตอนเท้านี้ขนลุกเลยครัช
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ShiRaZ_Prime ที่ 21-02-2015 03:34:55
แปะไว้ก่อนค่ะ
เป็นแนวที่ชอบพอดีเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 21-02-2015 05:03:18
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด :katai5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 01 』 | horror thriller (20-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: nimfadora ที่ 21-02-2015 05:12:34
โอ้โห......
นี่อ่านตอนตีสี่ครับ อ่านบนเตียงด้วยครับ   
ตาค้างไม่กล้านอนเลยครับ....TT
แล้วตกลงมันคืออะไรกนแน่
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 21-02-2015 15:17:18
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 02







“เข้างานตั้งสี่โมงเย็น แล้วแกมาทำไมตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า”


ชนกันต์เท้าตัวเข้ากับเคาน์เตอร์จ่ายยาพลางมองหน้ารุ่นพี่คนสนิทราวกับเป็นแสงสว่างของชีวิต ภายในโรงพยาบาลมีเสียงจอแจต่างจากกะกลางคืนที่เขาทำงานลิบลับ คนไข้เริ่มทยอยมาโรงพยาบาลกันแล้ว เพราะในการตรวจเฉพาะทางหมอจะลงแค่เวลาราชการ เพราะอย่างนั้นการมารอรับบัตรคิวแต่เช้าตรู่นั้นจึงถือเป็นเรื่องปกติ


“ผมนอนไม่หลับ”


ใบหน้าอิดโรยที่แทบจะฟุบหลับอยู่รอมร่อดูเหมือนจะเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนได้เป็นอย่างดี ปรัชญาได้แต่หัวเราะเบา ๆ ก่อนชี้พื้นที่ว่างซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเคาน์เตอร์ให้อีกฝ่ายดู “จะเข้ามานอนในนี้ไหมล่ะ มินท์กับโจ้มันเข้างานแปดโมง แกคงได้งีบสักชั่วโมงหนึ่ง”


อันที่จริงก็อยากทำแบบนั้นใจจะขาด แต่ชนกันต์รู้ตัวดีว่าที่เขามาโรงพยาบาลแต่เช้าเพราะเรื่องอะไร ยกมือขึ้นโบกปัด ๆ ก่อนจะกลั้นใจเหยียดตัวตรง บิดขี้เกียจน้อย ๆ แล้วว่าเสียงยานคาง “ไม่เป็นไรครับ”


“ตามใจแล้วกัน”


“ว่าแต่...”


“หืม?”


“หมออธิศนี่ใจดีจริง ๆ ใช่ไหมพี่”


พอได้ยินประโยคนี้ดวงหน้าขาวอวบก็เงยขึ้นมองเด็กฝึกงานตรงหน้าอีกครั้ง คิดว่าอยู่ดี ๆ ก็เล่นมุกไปตามประสา แต่พอมองหน้าถึงได้รู้ว่านายชนกันต์คงจะจริงจังกับสิ่งที่ถามออกมาจริง ๆ “ทำไม จะเอาอะไร”


“ผมถามพี่ก็ตอบสิครับ” เท้าตัวลงมากับเคาน์เตอร์อีกครั้ง คนเป็นพี่หรี่มองดวงตาเรียวเล็กตรงหน้า เขาแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้พูดอะไรเกี่ยวกับหมออธิศให้หมอนี่ฟัง


“ไม่รู้สิ แต่เห็นเขาว่ากันอย่างนั้น”   


ทั้งที่อยากจะซักไซ้ไล่เรียงต่ออีกสักหน่อย แต่ชนกันต์ก็รู้งานและเดินลิ่วไปอีกทางทันทีหลังจากฟังคำตอบนั้นจบ ปรัชญาถอนหายใจเบา ๆ โดยไม่ได้ติดใจอะไรนักแล้วก้มหน้าลงเขียนใบสั่งยารอบหน้าโดยไม่ลืมที่จะสั่งไดอะซีแพมและเมโปรบาเมทซึ่งถูกกำชับมาด้วย


ไม่รู้ทำไมพอเดินเลี่ยงมาทางห้องน้ำที่แทบไม่มีใครแล้วถึงได้รู้สึกขนลุกขนพองนัก อาจจะเพราะเมื่อคืนเขาเจอเรื่องหนัก ๆ กว่าคืนไหนที่เคยเจอมากระมัง นึกแล้วก็ยังกลัวไม่หาย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชีวิตต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ ทั้งโดนผู้ป่วยไอซียูจ้องก่อนตาย ถูกวิ่งตัดหน้ารถ ได้ยินเสียงแปลก ๆ รู้สึกเหมือนมีใครตาม แล้วยังต้องมาอดหลับอดนอนอีก


ดวงตก ดวงซวย จะเรียกอะไรก็แย่ทั้งนั้น


“เคยได้ยินไหม ที่ว่าดวงวิญญาณจะผูกจิตกับบางอย่างที่ฝังใจก่อนตายน่ะ”


เสียงนางพยาบาลเดินคุยกันสวนเขาไปชวนให้รู้สึกขนลุกซู่อย่างประหลาด ชนกันต์ชะงักฝีเท้าแล้วเอี้ยวหลังกลับไปมองทั้งสองคน ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาเองก็อยากได้ยินต่อเหมือนกัน เผื่อว่ามันจะเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเจออยู่นี่


“จริงเหรอ น่ากลัวจัง”


ทว่าพวกเธอก็เดินห่างออกไปจนเกินกว่าที่เขาจะแอบฟังได้ชัดเจน เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเดินทอดน่องตรงไปยังห้องน้ำตรงสุดทางเดินตามที่ตั้งใจไว้แต่ทีแรก พลันความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาอย่างดื้อ ๆ อะไรที่ไม่เคยนึกถึง และคิดว่ามันไม่มีเหตุผล


เหตุการณ์เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เตียงฉุกเฉินเข็นผ่านหน้าห้องจ่ายยาไป ดวงตาเหลือกโลนซึ่งอาบไปด้วยเลือดนั้นจ้องมองเขา สบตาเพียงครู่หนึ่ง แล้วก็เห็นว่ามีเตียงคลุมผ้าสีขาวถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินหลังจากนั้นไม่นาน


“....”


ถึงอย่างนั้นมันก็ดูไร้เหตุผลสิ้นดี


ชนกันต์แทบจะตัดเรื่องนี้ทิ้งไปจากหัว ถ้าไม่ติดที่เขานึกขึ้นได้ว่าได้ยินเสียงฝีเท้าเกินมาครั้งแรกนับจากนั้นสองวัน


เสียงแปรงฟันดังอยู่ภายในห้องน้ำเล็ก ๆ ที่แบ่งเป็นห้องสำหรับถ่ายสองห้อง เหตุผลที่เขาไม่ใช้ห้องน้ำใหญ่ทางโถงด้านนอกก็เพราะมันคงจะดูไม่ดีแน่ที่มีคนไปยืนแปรงฟังต่อหน้าคนไข้แบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมพอเขามาใช้ห้องน้ำแบบนี้ ข้างนอกถึงแทบไม่มีใครผ่านไปมาอย่างตอนก่อนหน้าเลย


‘เคยได้ยินไหม ที่ว่าดวงวิญญาณจะผูกจิตกับบางอย่างที่ฝังใจก่อนตายน่ะ’


ส่องกระจกมองดูหน้าตาอิดโรยของตัวเองไปใจก็คิดถึงเรื่องก่อนหน้าไม่หาย เขายังจำสายตาของผู้หญิงคนนั้นได้ดี สายตาที่มองมาตราบจนกระทั่งหายลับไปในห้องไอซียู


และถ้าใช่ เธอต้องการอะไรกันล่ะ?


สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวแล้วก้มลงกวักน้ำล้างหน้า สายน้ำเย็น ๆ ไหลผ่านมือพร้อมกับความรู้สึกเย็นวาบที่แผ่ไปทั่วแผ่นหลัง


“เฮ้ย!”


ชนกันต์กระโดดถอยหลังจนตัวโยนเมื่อน้ำที่เขาเห็นเมื่อครู่มันเป็นสีโคลนอย่างที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ครั้นลองขยี้ตาแล้วเพ่งมองอีกที ใจสั่น ๆ ก็แทบชวนให้ประสาทเสียเมื่อน้ำที่ไหลจากก๊อกนั้นเป็นสีใสปกติอย่างเช่นน้ำประปาทั่วไป


บ้าไปแล้ว


จะเป็นไปได้ไงกัน


เมื่อครู่เขาคงตาฝาดไปจริง ๆ ชนกันต์อาจจะคิดแบบนั้นหากว่าไม่เคยพบเจอความแปลกประหลาดใด ๆ มาก่อน ร่างเล็กกลั้นใจอีกอึดหนึ่งก่อนจะเดินกลับเข้าไปล้างหน้าบ้วนปากให้เสร็จ ๆ แล้วออกจากที่นี่ไปเสีย


แต่ว่ามันหนาว... หนาวชะมัดเลย


หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กในกระเป๋ามาซับหน้าซับตาให้เรียบร้อย อดไม่ได้ที่จะถูมันลงไปแรง ๆ เพื่อเรียกสติให้ตื่นเต็มตา สูดลมหายใจลึกราวกับจะบอกตัวเองให้อดทนต่อไปแม้ว่าความกล้าในใจเขานั้นมันจะถูกกลบจนมิดแล้วก็ตามที


ใช่ อดทน


อดทนต่อความกลัวที่เข้าครอบงำ


‘ . . . . ’


“....!!”


อีกครั้งที่ร่างทั้งร่างสะดุ้งโหยงเพราะความรู้สึกเย็นเยือกคล้ายมีใครกระซิบกระซาบอยู่ข้างหู ลดผ้าลงจากใบหน้าทั้งมือสั่นเทา ชนกันต์มองภาพภายในห้องน้ำผ่านกระจกเห็นเพียงความว่างเปล่า


ไม่มีใครเลย


ไม่มีใครอยู่ในนี้นอกจากเขาเพียงคนเดียว แล้วเสียงเมื่อกี้เป็นของใครกัน ใครที่สายตามองไม่เห็นและไม่อยากจะเห็น


เจออย่างนั้นก็รีบยัดผ้าเช็ดหน้าลงในกระเป๋าเป้อย่างลวก ๆ แล้วเร่งผีเท้าออกจากห้องน้ำทันที ทั้งสมองและหัวใจสั่งการตรงกันว่าให้รีบไปจากที่นี่ก่อนจะมีอะไรชวนขนลุกเกิดขึ้นซ้ำ


พอเริ่มเห็นคนอื่น ๆ ทยอยเข้ามาในกรอบสายตาก็เผลอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ยกมือขึ้นกอดตัวอย่างหลวม ๆ พลางบีบกระชับต้นแขนเพื่อเรียกสติ


นี่มันมากเกินไปแล้ว


ขาสองข้างสั่นเทาจนแทบยืนไม่ไหว ครู่หนึ่งที่ชนกันต์จำต้องหยุดเอนร่างกายที่ข้างเสาเพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าต้องมีแรงใจมากกว่านี้ ให้มาใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่กลัวที่สุด สาบานได้ว่ามันทรมานเสียยิ่งกว่าต้องอดข้าวเป็นอาทิตย์ ๆ


เมื่อไหร่ที่รู้ตัว ก็รู้สึกถึงเพียงความกลัวที่แล่นไปทุกอณูในร่าง


ครู่หนึ่งที่เขาอยู่อย่างนั้นโดยไม่แคร์สายตาคนเดินผ่านไปมา เมื่อลืมตาขึ้นมองภาพตรงหน้า ชายหนุ่มก็ตัดสินใจก้าวเดินต่อไป อย่างน้อยก็ด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่ว่าสักวันเขาอาจจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ไปได้และกลับไปมีชีวิตปกติสุขสักที


ผ่านผู้คนมากมายทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล แม้แต่นักศึกษาแพทย์ที่ยืนดื่มกาแฟกันอยู่ตรงตู้กดน้ำ การอยู่ท่ามกลางคนมาก ๆ มันทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อยในตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็ยังพอปลอบใจตัวเองได้ว่ามันเป็นของใครสักคนในนี้ แต่แล้วผู้คนก็ค่อย ๆ ซาลงเรื่อย ๆ จวบจนเข้ามาเหยียบถึงแผนกจิตเวช


ชนกันต์ทอดสายตามองผนังอาคารและพื้นกระเบื้องสีขาวที่ไม่ต่างอะไรจากแผนกอื่น ๆ เพียงแต่มันกลับดูโล่งและนึกสภาพในยามพลุกพล่านไม่ออก ทางขวามือมีเคาน์เตอร์พยาบาลสำหรับติดต่อสอบถามและบริการ ไม่รอช้า เด็กหนุ่มเดินดุ่ม ๆ ไปทางนั้นทันที


“หมออธิศมาหรือยังครับ”


อาจเพราะว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใส่เครื่องแบบจึงดูไม่ต่างอะไรจากคนไข้ธรรมดา ทั้งยังหน้าตาอิดโรยและเสียงทุ้มพร่าที่ถามออกไปโต้ง ๆ นางพยาบาลจึงทอดรอยยิ้มให้ไม่ต่างอะไรจากคนไข้คนหนึ่ง และสาบานได้ว่ามันไม่ชวนให้รู้สึกดีนักหรอกที่ได้เป็นคนไข้ของแผนกจิตเวช “หมออธิศเหรอคะ”


“ครับ” ชนกันต์มองนาฬิกาแขวนผนังก่อนจะเห็นว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง ปกติหมอเฉพาะทางจะเข้าเวรในตอนแปดหรือเก้าโมง เพราะอย่างนั้นคำตอบที่ได้รับจึงถือว่าไม่น่าแปลกใจนัก


“คุณหมอยังไม่มาเลยค่ะ มีใบนัดหรือเปล่าคะ”


“เอ่อ...”


“คะ?”


“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่มีธุระกับหมอนิดหน่อย”


พอถูกถามอย่างนั้นก็อึกอักไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ แล้วถอยหลังเดินกลับออกมาจนถึงที่นั่งรอสำหรับคนไข้ เป็นม้านั่งยาว ๆ ตั้งเรียงกันประมาณสี่ถึงห้าแถว แถวละสองตัว ห่างออกไปมีแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังนั่งรอกันอยู่เงียบ ๆ นอกเหนือจากนั้นก็มีคุณลุงแก่ ๆ อีกคนหนึ่งที่กำลังนั่งแคะเล็บพลางบ่นพึมพำอะไรบางอย่างไปด้วย


แค่เห็นก็ชวนให้รู้สึกหดหู่แล้ว


ชนกันต์วางกระเป๋าเป้บนที่นั่งแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ พอได้ทิ้งร่างกายในท่าที่สบายแล้วเขาก็รู้สึกอ่อนเพลียขึ้นมาจนแทบอยากทิ้งตัวลงนอนให้รู้แล้วรู้รอด ค้อมตัวลงฝังใบหน้าลงกับฝ่ามือด้วยความรู้สึกที่ไม่สู้ดีนัก เปลือกตาบางค่อย ๆ ปิดลงพักสายตาอย่างที่เคยทำเมื่อต้องอ่านหนังสือตลอดทั้งคืน แอร์ในแผนกนี้มันเย็นเสียจนทำให้รู้สึกหนาวขึ้นมา แต่ก็ใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อรู้สึกได้ถึงคนที่เริ่มเดินผ่านไปมาอยู่รอบตัว บ้างก็นั่งลงถัดจากเขาไปเพียงหนึ่งที่นั่ง อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ต้องอยู่คนเดียว ราวกับผู้คนกลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้ปิดตาหลับลงได้


ทั้งที่กำลังจะปล่อยหัวสมองให้ขาวโพลนและฟุบหลับสักตื่น หากแต่สัมผัสอุ่น ๆ บนบ่านั้นกลับเรียกให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ใจหนึ่งก็ไม่สบอารมณ์นิดหน่อยที่ถูกปลุก แต่พอเห็นผู้ชายร่างสูงผมสั้นในชุดกาวน์ยืนมองเขาด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ เรียวปากบางของชนกันต์ก็แทบจะคลี่ยิ้มได้ทันที


ชื่อบนป้ายที่หน้าอกนั้นอ่านได้ว่า นพ.อธิศ ศินท์พิรัช


“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”


มือที่อยู่บนบ่าเขาถูกดึงกลับไปซ่อนอยู่ใต้กระเป๋าเสื้อกาวน์ดังเดิมแล้ว ส่วนอีกมือนั้น ชนกันต์เห็นเป็นแก้วกาแฟร้อน ๆ อย่างที่พวกหมอชอบดื่ม ทั้งตอนเช้า กลางวัน เย็น ก็เห็นดื่มแต่กาแฟมากกว่าข้าวด้วยซ้ำ


“เปล่าครับ ผมกำลังรอหมอน่ะ” ยิ้มตอบกลับไปแล้วยกมือขึ้นขยี้ตาสองสามที นี่เขาเผลอหลับไปนานเท่าไหร่กันนะ ถ้าให้เดาล่ะก็คงจะแปดโมงกว่าแล้วแน่ ๆ “นี่กี่โมงแล้วครับ แปดโมงหรือยังคนถึงมากันเต็ม --”


ยังพูดไม่ทันเต็มปากเต็มคำดีก็ต้องชะงักหยุดอยู่อย่างนั้นเมื่อความรู้สึกพลุกพล่านเมื่อครู่มันหลอกลวงทั้งเพ เขาหันหลังไปเห็นแม่ลูกคู่เดิม คุณลุงคนเดิม แต่ไม่มีใครเพิ่มขึ้นมาสักคนอย่างที่รู้สึกตอนหลับตา


ไม่มีเลย


ไม่มีใครสักคนเพิ่มขึ้นมา


ไม่มีคนที่นั่งถัดไปหนึ่งที่นั่ง หรือคนที่เดินผ่านหน้าเขาเลยสักคน


“....”


“ตอนนี้เจ็ดโมงสามสิบห้าครับ พยาบาลบอกว่าคุณเพิ่งมาได้ครู่เดียว”


“....”


“มีอะไรกับผมหรือเปล่า”


“....”


“....”


“ครับ”


ร่างผอมสูงเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง แต่เพียงครู่เดียวก็ทำสีหน้ากลับเป็นปกติแล้วเอื้อมมือมาช่วยพยุงแขนอีกคนให้ลุกขึ้นยืนสะโหลสะเหล ก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้งหนึ่งแล้วจึงว่าเสียงทุ้มนุ่ม “ถ้าอย่างนั้นไปคุยกันในห้องผมก็แล้วกัน ยังพอมีเวลาอีกหน่อย”


เป็นที่รู้กันว่าพอแปดโมงตรงแล้วแพทย์ต้องเริ่มตรวจคนไข้คิวแรกอย่างตรงเวลา นายแพทย์อธิศเดินนำอีกคนไปพร้อมแก้วกาแฟในมือ ห้องตรวจของเขาอยู่ทางขวามือเยื้องกับเคาน์เตอร์พยาบาลไปไม่ไกล มือแกร่งเลื่อนเปิดประตูสีไข่ รอให้ใครอีกคนเดินนำเข้าไปแล้วจึงเลื่อนปิด ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงยังด้านในของโต๊ะประจำ


เท่าที่ชนกันต์สังเกต ห้องนี้เป็นห้องสีครีมสว่างที่ดูโล่งสบาย รวมถึงเหลี่ยมมุมส่วนใหญ่ก็ถูกลบออกจนเหลือแต่ส่วนเว้าโค้งมน ๆ แปลกตา มันไม่เหมือนห้องตรวจของหมอแผนกอื่นสักเท่าไหร่ อาจจะคล้าย ๆ กันตรงที่อีกฝั่งของห้องซึ่งถูกกั้นไว้ด้วยผ้าม่านแบบทึบนั้นมีเตียงเอนหลังสีขาวสะอาดตั้งอยู่ และไฟตั้งพื้นที่สามารถปรับระดับได้คล้าย ๆ กับที่เห็นในภาพยนตร์ ดูแล้วก็ชวนให้รู้สึกแปลก ๆ ดีเหมือนกัน


“ว่าไงครับ”


พอได้มองใกล้ ๆ ชนกันต์ก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าหมออธิศอายุเท่าไหร่กันแน่ ดวงหน้าใต้กรอบแว่นนั้นดูอ่อนวัยทั้งยังชวนให้รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด แต่ช่างเถอะ เขาไม่ได้มาในฐานะคนไข้ แต่มาเพราะมีจุดประสงค์อยู่แล้วต่างหาก


“งั้นเข้าเรื่องเลยนะหมอ”


“....”


“ผมอยากจะรบกวนให้หมอช่วยเขียนใบจ่ายยาให้ เอาเป็นพวกยากล่อมประสาทหรือว่าจะยานอนหลับก็ได้ทั้งนั้น”


หลังจากพูดจบ อธิศไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับมานอกเหนือจากอาการนิ่งเงียบ ตากลมโตสีนิลสนิทนั้นเลือกที่จะก้มลงไปจดจ่อกับเอกสารบนโต๊ะ เปลี่ยนท่าทีไปอย่างสิ้นเชิง “ไม่ได้ครับ”


“ทำไมไม่ได้ล่ะครับ ผมรู้น่าว่ามันเป็นยาอะไร” ชนกันต์เถียงหัวชนฝา เขาคือนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ปีสุดท้ายแล้ว เพราะอย่างนั้นเขารู้เรื่องยาดี... ดีพอที่จะไม่ต้องให้ใครมาบอกย้ำอะไรให้มากความ


“มันเป็นยาอันตราย”


“โธ่หมอ ผมเรียนเภสัช ฯ นะครับ แล้วผมก็ทำงานที่นี่ด้วย”


ใช่ อธิศรู้ดีว่าเด็กหนุ่มทำงานที่นี่ เพราะอย่างนั้นเขาถึงอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้คนซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องแจ้นมาหาหมอเองแบบนี้ แพทย์หนุ่มลอบสังเกตใต้ตาหมองคล้ำ มือที่วางบนโต๊ะนั้นสั่นน้อย ๆ และท่าทีที่ดูลุกลนอยู่ตลอดเวลามันทำให้เขาปล่อยผ่านไปเฉย ๆ ไม่ได้


“เพราะอย่างนั้นคุณก็ยิ่งต้องรู้ ว่าผมจ่ายยาให้คุณเฉย ๆ ไม่ได้”


“แต่ --”


“ถ้าอยากได้ยา คุณก็ต้องผ่านการตรวจ”


เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ในประโยคสุดท้ายจนร่างเล็กนิ่งไป ชนกันต์กระฟัดกระเฟียดแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะพูดจาขึ้นเสียงออกมาอีก


“ผมไม่ได้บ้านะหมอ”


“....”


“คือผมหมายความว่า ผมไม่ได้มีอาการทางจิต หรือ --”


“จิตแพทย์ก็ไม่ได้มีเพื่อรักษาคนบ้าอย่างเดียว ผมว่าคุณรู้นะ”


ใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง เสียงนั้นก็แผ่วลงก่อนจะว่า “หมอจ่ายยาให้ผมมาเถอะครับ เรื่องนี้หมอช่วยอะไรผมไม่ได้หรอก”


“แต่คุณก็มาเพื่อให้ผมช่วยไม่ใช่หรือไงครับ”


คนตัวเล็กกว่าถอนหายใจคล้ายกับว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยากเสียเต็มประดา จริงอยู่ที่เขาอ่านลายมือหมออธิศเก่งอย่างที่พี่ตองว่า แต่พอมาได้คุยกันจริง ๆ กลับอ่านใจอีกฝ่ายไม่ออกเลยสักนิด ดวงตาใต้กรอบแว่นนั้นละจากเอกสารบนโต๊ะแล้ว ตอนนี้นายแพทย์กำลังทอดสายตามองคนตรงหน้าพลางพินิจไปในที สองมือวางประสานกันบนโต๊ะอย่างหลวม ๆ ก่อนจะแย้มรอยยิ้มชวนคุยด้วยท่าทางสบาย


“คุณชื่ออะไร”


“ชนกันต์” คนถูกถามตอบกลับแทบจะทันที และถ้าเขามองไม่ผิด ไม่ว่ายังไงชนกันต์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันไปทางผ้าม่านห้องตรวจเลยตราบที่ยังรู้ตัวเอง


“โอเคครับคุณชนกันต์ ช่วงนี้คุณได้นอนบ้างหรือเปล่า”


“หา... ครับ?” ต้องใช้เวลาประมวลผลกับคำถามอยู่สองสามวินาทีถึงได้คิดคำตอบออกมาได้ ในหัวเขามีแต่เรื่องที่เพิ่งพบเจอมาเต็มไปหมด เหมือนกับทฤษฎีที่ว่าสมองจะทำงานช้าลงหลังจากการเกิดตื่นตัวอะไรแบบนั้น “เอ้อ... ก็ไม่ค่อยครับ ผมถึงต้องมาขอยาหมอนี่ไง”


อธิศเอนกายลงกับพนักเก้าอี้พลางกอดอกหลวม ๆ ถ้าเขาสันนิษฐานเบื้องต้นไม่ผิดล่ะก็ ชนกันต์ดูหวาดกลัวกับอะไรบางอย่างจนเกิดอาการเครียดอย่างรุนแรง แต่ก็เป็นแค่ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น และไอ้อะไรบางอย่างที่ว่านี่แหละที่เป็นปัญหา


“ทำไมถึงนอนไม่หลับล่ะครับ คุณเครียดเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า”


“ก็ประมาณนั้นครับ”


“เรื่องอะไร พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม”


คนตัวเล็กนิ่งไปอึดใจหนึ่ง เขาดูครุ่นคิดเสียจนชวนให้คิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญอะไรบางอย่าง ถึงอย่างนั้นอธิศก็มั่นใจว่าเขาเจออาการแบบนี้มาเยอะ เยอะจนไม่คิดว่าสิ่งที่คนตรงหน้ากำลังจะพูดออกมานั้นเป็นเรื่องน่าเชื่อเพียงใด


“ถ้าผมเล่า หมอก็จะหาว่าผมบ้าอีก”


“ผมไม่พูดอย่างนั้นหรอก มีเรื่องอะไรก็ระบายมาเถอะครับ”


“แล้วถ้าผมเล่า หมอจะจ่ายยาให้ผมใช่ไหม”


“....”







( มีต่อ )



หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 21-02-2015 15:18:18
( ต่อ )




“มันก็... ประมาณอาทิตย์หนึ่งมาแล้วครับ” ทั้งที่คิดว่าพูดไปยังไงก็คงไม่ยอมเชื่อ แต่ถึงอย่างนั้นชนกันต์ก็คิดว่าเขาคงต้องยอมเป็นคนบ้าเพื่อจะได้ยากล่อมประสาทนั่นมาให้ได้ ไม่จำเป็นต้องเล่าเกินจริงเลย


มือที่ประสานกันนั้นบีบแน่น เพียงแค่นึกถึงก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มันจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า จะกำลังนั่งฟังเขาพูดถึงมันอยู่ไหม เป็นความรู้สึกที่ว่ากลัวจนไม่กล้าเปล่งออกมาเป็นคำพูด แต่พอได้สบตากับนายแพทย์ตรงหน้า ชนกันต์ก็ตัดสินใจให้สิ่งอัดอั้นอยู่ในอกพรั่งพรูออกมาพร้อมกับความรู้สึกคล้ายกับจะร้องไห้


“ในตอนแรกผมก็คิดว่าผมคงแค่เบลอ ๆ เพราะนอนน้อยหรือว่าทำงานหนักอะไรเทือกนั้น แต่ผมก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากสังเกตได้ว่ามันมีเสียงฝีเท้าเกินมาก้าวหนึ่งทุกครั้งที่ผมหยุดเดิน”


“....”


“แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะหมอ... บางทีผมก็รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว มันเริ่มมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น ทีแรกก๊อกน้ำในห้องน้ำมันเปิดเอง ผมพยายามบอกตัวเองว่าก็แค่ลืมปิด”


“....”


“แต่บางทีผมก็ตื่นเพราะเสียงฝักบัวในห้องน้ำบ้างล่ะ ทีวีเปิดเองบ้างล่ะ แล้วผมก็มั่นใจนะว่าคงไม่ลืมปิดมันแทบทุกวันอย่างนั้นหรอก เพราะผมจะต้องนอนไม่หลับแน่ ๆ”


ถึงตรงนี้ชนกันต์แทบไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตามันซึมออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือจนกระทั่งฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วก็ได้แต่ก้มหน้าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่


ความกลัวเข้ากัดกินใจเขาโดยสมบูรณ์แล้ว


ครู่เดียว เพียงครู่เดียวที่เขารู้สึกเหมือนจะตายลงไปให้ได้ มันทั้งอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะพูดคำใดออกไปได้อีก


“หมอ... ผม... ผม --”


“ใจเย็น ๆ”


หากแต่สัมผัสอุ่นที่บีบลงมาเบา ๆ บนท่อนแขนนั้นคล้ายกับจะปลอบประโลมและเรียกสติให้กลับคืนมา เพียงแค่คำสั้น ๆ ที่ลอยเข้าหูแต่กลับทำให้เขารู้สึกสงบลงอย่างประหลาด เงยหน้าขึ้นเห็นสายตาซึ่งกำลังจับจ้อง จิตแพทย์หนุ่มไม่ได้ยิ้มอย่างเคย แต่กำลังส่งสายตาอ่อนโยนมาอยู่เคียงข้างเขาแทน


เกือบ ๆ นาทีที่เขายังคงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนหมด จนเมื่อเริ่มหายใจคล่องขึ้น ชนกันต์ก็ตัดสินใจเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองต่อจนหมดเปลือก เขาแทบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าที่นี่คือแผนกจิตเวช ลืมไปแล้วว่าเขากลัวที่จะต้องเป็นคนบ้า ลืมไปแล้วว่าคนตรงหน้าคือจิตแพทย์ที่ใจร้ายเหลือเกิน


แค่เหมือนอยู่กับใครสักคนที่ชวนให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก็เท่านั้นเอง


“เมื่อคืน”


“....”


“ผมรู้สึกเพลียมากก็เลยกินยาแก้แพ้กับยาคลายกล้ามเนื้อเข้าไปเพื่อจะให้หลับ ผมมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเปิดไฟนอนเฉย ๆ จนเริ่มง่วง แต่พอกำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ทั้งที่ไม่มีใครโทรเข้า ผมเห็นทีวีถูกเปิดอยู่ แล้วไฟที่เปิดทิ้งไว้ก็ถูกปิด”


“....”


“ตอนนั้นผมกลัวมาก... พยายามข่มตาหลับแต่มันก็ไม่ยอมหลับ จนรู้สึกได้ว่ามีอะไรยวบ ๆ อยู่ข้างตัวก็เลยลองควานมือไปจับดู”


“....”


“หมอต้องหาว่าผมบ้าแน่ ๆ แต่ผมมั่นใจว่าผมจับโดนเท้าคน”


ครู่หนึ่งที่ห้องทั้งห้องเงียบไปอึดใจ อธิศยังคงมองอีกฝ่ายนิ่งราวกับจะพินิจพิเคราะห์และตีความเรื่องเล่านั้นไปในตัว ชนกันต์กำลังบอกเขาว่ามีผีสักตนที่กำลังปั่นป่วนและสร้างความหวาดกลัวให้จนเจ้าตัวมีสภาพแบบนี้


“แล้วคุณทำยังไงต่อไปครับ”


“ผมนอนคลุมโปงยันเช้า ไม่กล้าเปิดผ้าห่มออกไปดูด้วยซ้ำ จนผมมั่นใจว่าสว่างแล้วนั่นแหละถึงได้กลั้นใจลุกขึ้นมาแล้วก็รีบขับรถตรงมานี่เลย”


ท้ายเสียงที่ทอดยาวทำให้คนฟังรู้ว่าชนกันต์เล่ามันออกมาจนหมดแล้ว ความคิดในหัวกำลังประมวลผล ถึงจะเป็นจิตแพทย์เต็มตัวมาได้ไม่นาน แต่จากการที่ต้องพบเจอคนไข้หลากหลายรูปแบบมันทำให้เขาไม่อยากด่วนสรุปเร็วเกินไป


“คุณอยู่กับครอบครัวหรือเปล่า”


“อยู่คนเดียวตั้งแต่เรียนมหา’ลัยครับ”


“แล้วคุณกลัวผีไหม”


ทันทีที่อีกฝ่ายพูดประโยคนี้ออกมา ชนกันต์ก็รู้สึกเหมือนโดนต่อยหน้าไม่มีผิด ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง ความรู้สึกในตอนนี้คล้ายว่ากำลังเปลี่ยนไปเป็นความโกรธ เป็นความรู้สึกที่คล้าย ๆ กับคำว่าผิดหวัง


“หมอจะหาว่าผมคิดไปเองใช่ไหม”


“....”


“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้บ้า”


“คนไข้ของผมส่วนใหญ่ก็พูดว่าตัวเองไม่ได้บ้ากันทั้งนั้น”


ถึงแม้จะพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หากแต่ชนกันต์กลับรู้สึกว่าคำพูดนั้นมันกรีดแทงใจเขาเหลือเกิน พูดอะไรไปอีกก็คงสูญเปล่า


“งั้นผมขอตัว” ร่างเล็กผุดลุกขึ้นยืนทันทีที่ตัดสินใจได้ ผลุนผลันจะเดินออกไปจากห้อง หากแต่เสียงทุ้มนุ่นที่ไล่หลังมากลับทำเอาเรียวขาชะงักกึก


“คุณยังไม่ได้นอนเลยไม่ใช่เหรอ”


เอี้ยวหน้าหันกลับมาตาขวาง โกรธ เคือง โมโห หรือคำไหนก็ได้มันใช้แทนความรู้สึกในตอนนี้ได้หมด คนที่กลัวแทบตายแต่ก็ยอมระบายความในใจออกไปหมดเปลือก กับอีกคนที่ยอมรับฟังจนจบแต่กลับหาว่าเขาบ้า บ้าคิดไปเองว่ามีผีตามรังควาน


“ผมจะนอนหรือไม่มันก็ไม่ใช่เรื่องของหมอ”


อธิศได้แต่ระบายยิ้มบาง ๆ พลางโน้มตัวมาท้าวแขนกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พยักเพยิดไปทางโซฟายาวสีครีมที่อยู่ใกล้ตัวอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ


“ถ้าคุณยอมนอนที่โซฟานั่นให้ผมดู บางทีผมอาจจะให้ยาคุณก็ได้”


หากแต่มันเป็นข้อต่อรองชั้นเยี่ยม


ดวงหน้าขาวส่ายไปมาน้อย ๆ ราวกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง อาการคล้าย ๆ คนที่กลัวฝันร้าย แต่คงต่างออกไปนิดหน่อย


ชนกันต์ไม่ยอมอยู่คนเดียว


“ผมอยู่ตรงนี้”


พูดแล้วพยักหน้ายืนยันเสียทีหนึ่ง ค่อย ๆ เลื่อนหยิบแฟ้มเอกสารออกมาเปิดอ่านแล้วจดบันทึกลงไปอย่างที่ทำก่อนหน้าราวกับจะยืนยันกลาย ๆ ว่าเขาไม่ไปไหน เห็นอย่างนั้นชนกันต์ใช้เวลาครุ่นคิดอีกราว ๆ เกือบสิบวินาที สุดท้ายแล้วร่างเล็กก็ยอมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจะหันมาหาจิตแพทย์หนุ่มทั้งที่ยังนั่งไม่เต็มก้นดี


“ถ้าผมยอมนอน หมอจะจ่ายยาให้ผมจริงนะ”


ได้แต่ยิ้มรับทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมอง ถึงมันจะเป็นคำตอบที่ไม่ชัดเพียงไร หากชนกันต์ก็คิดว่าเขาไม่มีทางเลือก และอย่างน้อยถ้ามองในแง่ดีคือเขาอาจจะได้นอนหลับ  สักตื่นพอให้ร่างกายยังเดินต่อได้ ค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอนหนุนหมอนอิงใบเล็ก พลิกตัวไปมาอยู่สองสามทีเปลือกตาก็เริ่มหนักอึ้งและปิดลงในที่สุด ภาพในหัวของเขากำลังจะเป็นสีดำสนิท เสียงรอบตัวเริ่มเงียบงัน แล้วสติก็หลุดลอยออกไปแสนไกล


อธิศละสายตาจากตัวอักษรเต็มแผ่นกระดาษที่กำลังจับจ้องแล้วเบนสายตาไปยังบนโซฟา เขาแกล้งเคาะโต๊ะสองทีหากแต่แผ่นอกนั้นก็ยังดูกระเพื่อมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกาก่อนจะเห็นว่าเขาเบี้ยวนัดตรวจสายไปพอสมควรแล้ว ร่างสูงค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบ เดินไปหยุดมองคนที่กำลังอยู่ในนิทรา ชนกันต์ในตอนนี้ดูผ่อนคลายกว่าตอนที่ขึ้นเสียงขอยาเป็นไหน ๆ


เลื่อนบานประตูสีไข่เปิดออกก่อนจะจัดการปิดให้ตามเดิมอย่างเบาที่สุด มองเห็นพยาบาลประจำแผนกกำลังถือแฟ้มคนไข้รออยู่แล้ว มีคนตรงม้านั่งเพิ่มมาอีกสองสามคนซึ่งทำเอาจิตแพทย์หนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมา เขาไม่ใช่คนผิดเวลาบ่อยนัก


“คุณโอ๋ เดี๋ยวผมขอย้ายไปใช้ห้องตรวจสี่ชั่วคราวนะครับ” พูดในขณะที่เดินมาถึงเคาน์เตอร์พยาบาลและเจอแต่คนหน้าคุ้นเคย พยาบาลสาวทำสีหน้าแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยถามเสียงสุภาพ


“ทำไมล่ะคะคุณหมอ เอ๊ะ แล้วผู้ชายคนนั้น?” หล่อนพูดถึงชนกันต์ที่หายเข้าไปในห้องกับเขาตั้งแต่เมื่อราว ๆ ครึ่งชั่วโมงก่อนนั่นเอง นายแพทย์หนุ่มได้ยิ้มเป็นเชิงขอโทษ ขอโพยแล้วรับแฟ้มคนไข้จากมืออีกฝ่ายมาเปิดดูคร่าว ๆ


“คนไข้พร้อมแล้วใช่ --”


“อ๊ากกกกก”


หากแต่เสียงที่ดังออกมาจากหลังประตูห้องนายแพทย์อธิศนั้นทำเอาเจ้าของห้องต้องเบิกตาโพลง อธิศรีบส่งแฟ้มคนไข้ให้พยาบาลสาวตรงหน้าแล้ววิ่งกลับเข้าไปอย่างเป็นห่วง จนกระทั่งเปิดบานประตูเลื่อนเข้าไปพบคนที่เพิ่งนอนหลับสนิทไปเมื่อครู่กำลังนั่งขดตัวถอยไปจนติดพนักโซฟา ดวงหน้าขาวฉายแววตื่นตระหนก และที่น่าแปลกคือขาข้างหนึ่งของชนกันต์นั้นอยู่ในท่าเหยียดออกมาเพียงข้างเดียวในขณะที่ส่วนอื่นของร่างกายขดอยู่กับลำตัวแน่นิ่ง


และทันทีที่เห็นหน้าเขา ดวงตาเรียวเล็กก็รื้นไปด้วยน้ำตาอีกรอบ


“หมอครับ”


“เป็นอะไรหรือเปล่า”


“มัน --”


“....”


มันเกิดขึ้นอีกแล้ว”






TBC





----------------------------------------------------


ดีใจที่ชอบกันนะคะ จะพยายามมาอัพอย่างสม่ำเสมอ อิอิ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 21-02-2015 16:05:38
ขอเป็นตอนกลางวัน แดดดีๆแรงๆนะคะ
อ่านตอนกลางคืนคง นอนไม่หลับเป็นเพื่อนชนกันต์แน่ๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fran23 ที่ 21-02-2015 16:14:42
อ้ากกกกกก
หลอน 
คนอ่านจะหลอนกว่าแล้วค่า
เด๋วเท้า เด๋วมือรึป่าว
เจองี้ไปถึงกับบ้าได้เลย
วานหมอช่วยด้วยนะคะ.

#อัพไวๆน้า สู้ๆคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 21-02-2015 16:42:16
 :ling3:
อ่านแล้วหลอน แต่ก็อยากอ่านต่ออ่ะ
แต่มันหลอน ฮือ ฮือ แต่อยากอ่านนนนน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-02-2015 17:06:36
น่าแอบตั้งกล้องวีดีโอไว้จัง เผื่อจะได้เห็นอะไรรางๆ
น่าเห็นใจกันต์มากอ่ะ การอยู่กับความกลัว ความหวาดระแวง ถึงขั้นนอนไม่ได้(เพราะถูกรบกวนจากปัจจัยลึกลับ)นี่ทรมานจริงๆนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ปล.ตอนแรกแอบคิดว่าเป็นอาการอย่างหนึ่งที่เกิดจากจิตใจ อ่านไปอ่านมาชักจะไม่ใช่ละ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 21-02-2015 19:47:19
คือ...ไม่รู้เป็นอะไร อ่านนิยายเรื่องนี้เเล้วร้องไห้!! o22
#ฉันบ้าไปแล้ววว...เพราะงั้น หมอขาตรวจอาการหนูที ฮ่าๆๆๆๆ :hao7:

ช่นช๊น นายไปหาพี่ริวกับพี่เจนเถอะไป :katai1: :mew4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 21-02-2015 19:55:48
อ๊ากกกกกกกกกกกก  หมอช่วยชนกันต์ทีสงสาร  TT
เราเข้าใจชนกันต์เลยละ  ปกติเราอ่านแนวๆนี้ไม่ค่อยได้เพราะป๊อดมากๆ
แต่เรื่องนี้อยากให้คนเขียนอัพทุกชั่วโมงเลยละ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 21-02-2015 21:34:46
มาต่อเถอะคร๊าฟฟฟฟ กำลังสนุกเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 21-02-2015 23:05:45
ชีวิตชั่งน่าเศร้า จะระทึกไปไหนนี่ ฮื่ออออ ยังไม่ทันๆด้นอนเลยยย จะเป็นปรสิตหรือผีดี :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 22-02-2015 00:32:32
นี่มันปรสิตหรือผีกันแน่เนี่ย บรื๋อว์
คลาดสายตาแปบเดียวงานงอกเลย
พี่หมอดูแลน้องหน่อย :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: actionmarks ที่ 22-02-2015 00:46:07
เคยลงแล้ว เขียนใหม่หรือเปล่า ตัวละครมันคุ้นมาก เหมือนเคยอ่านมาแล้วเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 22-02-2015 12:10:40
'เสียงลมเป่าฟู่ข้างหู'
ทำเอาย่นคอเหลียวหลังกลับไปมองเลยทีเดียว
นี่กุก็อยู่คนเดียวนี่หว่า
แถมเหตุการณ์แบบน้ัน  ดันเคยเกิดขึ้นกับเราด้วยนี่แหละ
ทำเอาหลอนเข้าไปใหญ่
เหมือนวันนั้นจะเป็นวันพระมั้ง บ้านเราก็อยู่ใกล้ๆวัดด้วย ได้ยินเสียงพระสวดมนต์เลยล่ะ แต่ก็ยังนอนต่อไป
แม่เราก็น่าจะไปวัดมั้ง ตอนนั้นสลึมสลือ แต่ก็รู้สึกตัวนะว่าตื่นแล้ว แค่ไม่ได้ลืมตา เรานอนคลุมโปง
อยู่ดีๆ ก็มีเหมือนมือ คนแก่มาจับมือเรา เราก็คิด ว่าบนเตียงเราก็นอนคนเดียว ก็ไม่น่าจะมีใคร
เราก็เลยคลำไปใหม่ คราวนี้เราไปจับมือเค้า พอแบบนั้น เราก็โดนจับคืนซะแน่น รีบสะบัดมือออกทันที
ใจนี่เต้น ตุบ ตุบ เลย
เราก็อยากรู้ว่าใครมานอนด้วย ก็เลยลองเอามือเลื่อนขึ้นไปข้างบน เจอท้อง
สัมผัสได้ถึงเสื้อ เสื้อแบบลื่นๆ เหมือนคนแก่จีนๆใส่อะ
แค่นั้นแหละ ก็เลยลองใจกล้า เปิดผ้าห่มออกมาดูหน้ามันไปเลย ว่าแม่งเป็นใคร
เปิดปุ๊ป
แล้วอยู่ดีๆ เราก็ตื่น งง มาก ตอนนั้น เรารู้ ว่าเราไม่ได้ฝันแน่ๆ
สัมผัสนั่น  มันยังคามืออยู่ แต่ก็ไม่รู้ยังไง
เฮ้ย เล่ายาว จริงๆเราเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่า ยายมาปลุกมั้ง มั่วจริงๆแม่ ยายอะไรมาปลุกวะ
เอิ่ม จนตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วเหตุการณ์คล้ายๆแบบนั้น ก็เกิดกันเรา มาประมาณ
สี่ถึงห้าครั้งได้ เราก็เลยแน่ใจว่า เราคงไม่ได้ฝันแล้วล่ะ
พอมาอ่านเรื่องนี้แล้วแบบ แอบหลอนเบาๆ  นี่เราไม่ได้บ้าใช่ป่ะวะ
ไม่นะ
เราไม่ได้คลุ้มคลั่ง ไม่ได้กลัวขนาดน้านนน
#รู้สึกเวิ่นยาว
#พึ่งรู้ตัวเหรอวะ 555
#คุณหมออธิศคะ รับหนูเป็นคนไข้สักคนมั้ย อิอิ
#กันต์ ก็อย่าได้แคร์มันค่ะ ไปหาพระสวดมนต์ทำบุญทำทานก็หายแล้ว เชื่อเรา เราเคย 55
#เราไม่ได้บ้าหรอกค่ะ
#ทำหน้าจริงจัง
ปล.1 เมนต์อะไรมันจะยาวขนาดนี้วะ
ปล.2 มันเป็นรีเอกชั่นจากตอนนี้ล้วนๆเลยค่ะ #เวิ่นยาวชิป
ปล.3 รอตอนต่อไปค้าาาาาาาาาาาาาาาา
ปล.4 มาทุกวันยิ่งดีนะคะ
(คนเขียน:อินี่ไม่เกรงสิ่งมีชีวิตลึกลับเลยรึไงฟร่ะ==')
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 02 』 | horror thriller (21-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: KilluaZoaldyeck ที่ 22-02-2015 12:58:21
เดี๋ยวเค้ามาอ่านนะ o22
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 22-02-2015 19:19:33
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 03







นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้ ราวกับความโดดเดี่ยว หนาวเหน็บ และหวาดกลัวนั้นถูกโยนทิ้งไปชั่วครู่ ชนกันต์ปล่อยตัวเองเข้าสู่ภวังค์สีดำมืดก่อนทุกอย่างจะจางหายไป เหลือเพียงลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ โสตประสาทไม่รับรู้อะไรอีก แม้ว่าใครบางคนจะกำลังยืนจ้องมองและเปิดบานประตูเลื่อนออกไป ทิ้งให้เขานอนอยู่ภายในห้องตามลำพังแล้วก็ตาม


เขากำลังหลับสนิท


และพอตื่นขึ้นมาอะไร ๆ ก็จะดีขึ้น


ใช่ หวังไว้เช่นนั้น และหากเขาได้ยินเสียงประตูนั่นสักนิดล่ะก็ –


อากาศเย็นเยือกขึ้นเสียจนต้องขดกายเข้าหากันเพื่อคลายความหนาว สองมือนั้นบีบกระชับหัวไหล่โดยที่ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมองโดยรอบ ความง่วงทำให้เขาเลือกที่จะไม่สนใจสิ่งอื่นใด ยังคงข่มตาต่อไปเพราะหวังเข้าสู่ช่วงนิทราอย่างเต็มอิ่มบ้าง


ไม่เป็นไร ยังไงหมออธิศก็ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะนั้น


หากแต่เสียงสวบสาบที่ดังเข้ามาเต็มสองหูและความรู้สึกรุงรังราวกับมีอะไรมารบกวนใบหน้านั้นทำให้ชายหนุ่มยากที่จะข่มตาหลับต่อไปได้ น้ำตาแทบจะไหลออกมาเมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองถูกดึงขึ้นจากนิทราอีกครั้ง


ยิ่งรู้ว่าสิ่งที่กำลังสร้างความรำคาญอยู่คืออะไร ทั้งร่างก็ยิ่งเกร็งสะท้าน ทำไมเสียงขีดเขียนของหมอถึงได้เงียบไป ทำไมมีแค่เสียงลมหายใจของเขาที่กำลังเด่นชัดอยู่ตามลำพัง


ทำไม


“หมอ...”


ส่งเสียงเรียกออกไปเบาหวิวหวังจะให้ใครอีกคนเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ อย่างน้อยการได้เห็นสายตาใต้กรอบแว่นนั่นก็ยังดีกว่าจะต้องเห็นอะไรที่สู้ทนหนีมาตลอดหลายวัน


“หมอ...”


กลัว


ชนกันต์กลัวจับใจ หากแต่เขาก็ยังเลือกที่จะแนบสองมือไว้ข้างลำตัวมากกว่าจะยกขึ้นปัดสิ่งชวนรำคาญบนใบหน้า


“หมออธิ -- แค่ก ๆ”


ต้องสำลักออกมาด้วยความรู้สึกที่ชวนอาเจียนเมื่อสิ่งน่ารำคาญนั้นระลงมาอัดแน่นอยู่ภายในปาก กลิ่นสาบโคลนเหม็นคละคลุ้งเสียจนชนกันต์ต้องยกมือขึ้นปัดสิ่งนั้นออกด้วยอาการคลื่นเหียนและหวาดกลัว


เส้นผม


“แค่ก แค่ก”


ต้องลืมตาตื่นพลางล้วงเอาสิ่งที่อยู่ในปากออกมาจนเต็มกำมือ เป็นเส้นผมเปียกชุ่มที่ชวนให้อาเจียนเมื่อคิดว่าเมื่อครู่นี้มันอยู่ในปากเขา หัวใจกระตุกวูบขึ้นอีกคราเมื่อเห็นรอยที่เปียกเป็นวงอยู่ตรงชายเสื้อ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงมีน้ำหยดลงมา


กลิ่นสาบโคลนที่ลอยอบอวลกำลังเตือนให้เขารีบหลับตาลงเพื่อหยุดการรับรู้ทางสายตาเสีย ทว่าร่างกายไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งนั้นเลย ชนกันต์ช้อนสายตาขึ้น เห็นชายกระโปรงสีขาวเปรอะโคลนและปลายผมสีดำสนิทซึ่งระลงมา


หยุด ควรหยุดสายตาไว้แค่นี้แล้วหนีไปเสีย


หากแต่ก็ยังคงมองขึ้นไปจนสบเข้ากับดวงตาโหลลึกที่แทบจะกลืนไปกับดวงหน้าขาวซีดของหญิงสาว หล่อนมองด้วยสายตาเฉยชาและปล่อยให้น้ำสาบโคลนไหลลู่ลงมาตามเรือนผม


“อะ...”


หล่อนยังคงมองเขา บนใบหน้านั้นปรากฏเส้นเลือดปูดโปนสีเขียวชวนให้รู้สึกขนลุกจนร้องไม่ออก เรียวปากเขียวคล้ำนั้นอ้าขึ้นราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง


เพียงแต่สิ่งที่ออกมานั้นไม่ใช่คำพูด แต่กลับเป็นน้ำโคลนมากมายที่ไหลทะลักออกมาเสียจนเส้นสติของคนได้มองขาดผึง


“อะ -- อ๊ากกกกกก”


เสียงโคลนดังก้องเต็มสองหูเสียจนร่างบางต้องหลับตาปี๋แล้วยกมือขึ้นปิดใบหู จนกระทั่งเสียงนั้นเงียบหายไปพร้อมกับสัมผัสชื้นที่ค่อย ๆ แห้งเหือด เขาได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งเข้ามา


หมออธิศใช่ไหม?


ค่อย ๆ ขดตัวเข้าหากันเพื่อรอให้ใครอีกคนมาถึง ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาคลอเต็มสองเบ้า ขาซ้ายยังคงอยู่ในท่าเดิม เหยียดอยู่ดังเดิม เพราะสัมผัสเย็นที่จับรั้งมันไว้ราวกับจะเชิญชวนให้เขาเบิกสายตาขึ้นมอง


“อึก...”


ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าสะอื้นไห้ และดูเหมือนว่าเธอจะอยากให้เขาลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง ชายหนุ่มค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นเจ้าของมือนั้น


“อ๊าาาาาาาาาา”


ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ขาซ้ายทำให้เขาต้องร้องออกมาอย่างสุดกลั้น บานประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมกับใบหน้าตื่นตระหนกของอธิศที่รีบเข้ามาดูอาการ ชนกันต์รีบคว้าเสื้อกาวน์นั้นไว้พลางปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้าย


“หมอครับ”


“เป็นอะไรหรือเปล่า”


“มัน --”


“….”


มันเกิดขึ้นอีกแล้ว”


พูดจบก็ปล่อยโฮออกมาเสียจนอธิศต้องบีบไหล่เขาไว้เพื่อเรียกสติ สายตาใต้กรอบแว่นนั่นกำลังลดลงเพื่อให้อยู่ระดับเดียวกับเขา “คุณชนกันต์”


“หมอ... ผมไม่ไหวแล้ว”


บีบเสื้อกาวน์สีขาวในมือจนยับยู่แล้วฟูมฟายอย่างไม่อายใคร ไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเห็นในสิ่งที่กลัว สิ่งที่คงไม่มีใครยอมเชื่อและหาว่ามันไร้สาระอย่างถึงที่สุด


“ขาคุณเป็นอะไร” จิตแพทย์หนุ่มดูเหมือนจะสังเกตเห็นเรียวขาที่เหยียดยาวในท่าเดิมนับตั้งแต่เขาเข้ามา ชนกันต์ได้แต่ส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างหายไปหมดยกเว้นเพียงอาการเจ็บแปลบที่เรียวขา


ไวเท่าความคิด อธิศค่อย ๆ เลื่อนตัวไปประคองขาข้างนั้นไว้แล้วถกชายกางเกงขึ้นจนเห็นรอยข่วนเด่นชัดที่หน้าแข้ง เลือดสีแดงสดไหลซิบจนดูรู้ว่าเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ถึงอยากจะวินิจฉัยว่าคนตรงหน้านี้ทำร้ายตัวเองเพราะอาการประสาทหลอน แต่รอยแผลที่ทอดยาวไปทางปลายเท้านี่ดูยังไงก็ไม่มีทางทำตัวเองได้ ครั้นจะคิดว่าบังเอิญไปข่วนอะไรเข้า แต่ที่กางเกงดันไม่มีรอยขาด อีกทั้งเมื่อไม่ถึงห้านาทีก่อนเขายังมั่นใจว่าชนกันต์หลับสนิทดีอยู่ ถึงอย่างนั้นอธิศก็ยังรักษาอาการสงบนิ่งไว้ได้และหันไปพูดกับอีกฝ่ายเสียงเรียบ


“เดี๋ยวคุณไปทำบัตรผู้ป่วยให้เรียบร้อย แล้วติดต่อพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์”


“หมอจะจ่ายยาให้ผมแล้วใช่ไหม”


ถามออกไปอย่างมีความหวัง แล้วก็ยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตาเมื่อนายแพทย์พยักหน้ารับก่อนจะลุกเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานประจำ ถึงจะน่าผิดหวังอยู่นิดหน่อย เอาเถอะ เขาเองก็ไม่คิดว่าจะมีใครช่วยอะไรได้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่อย่างน้อย ๆ ก็ได้ยากล่อมประสาทกลับไป เขาต้องการจากหมออธิศแค่นี้เอง


ดึงขากางเกงตัวเองลงทั้งน้ำตา ยิ่งเห็นรอยข่วนนั้นก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่ากำลังโดนคุกคามด้วยสิ่งที่ไม่มีชีวิตอยู่จริง


ถึงกลัวแทบตาย แต่จะทำอะไรได้?


“....”


มองคนที่ลุกจากโซฟาบุหนังอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา นายแพทย์หนุ่มได้แต่ถอดแว่นออกแล้วนวดหัวตาตัวเองก่อนจะเลยไปถึงขมับด้วยความรู้สึกไม่สู้ดีนัก เขาคงนอนน้อยเกินไป ถึงได้เห็นรอยยวบข้างกายชนกันต์ค่อย ๆ หายไปราวกับมีคนลุกตามติด


พาตัวเองออกไปจากห้องตรวจของนายแพทย์ทั้งขากะเผลกอย่างนั้น เพราะว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เขาถึงไม่ต้องเสียเวลาตามขั้นตอนมากมายนัก หลังจากได้บัตรผู้ป่วยก็นำไปยื่นให้พยาบาลประจำเคาน์เตอร์อย่างที่ถูกสั่งมา


“นี่เป็นใบนัดการตรวจครั้งต่อไปนะคะ กรุณามาตามนัดด้วย เชิญชำระเงินและรับยาที่เคาน์เตอร์จ่ายยาค่ะ” เธอยื่นกระดาษสองใบมาให้เขาพลางพูดชัดถ้อยชัดคำไม่ต่างจากที่พูดกับผู้ป่วยคนอื่น ชนกันต์โค้งศีรษะน้อย ๆ ก่อนจะทอดสายตาอ่านตัวหนังสือบนกระดาษสีขาวแผ่นล่างอย่างแปลกใจ


นัดตรวจอาการสัปดาห์หน้า?


“เหอะ...”


แค่นยิ้มสมเพชกับตัวเองเป็นครั้งที่สอง ให้ตายเถอะ นี่ใจคอจะหาว่าเขาบ้าให้ได้ใช่ไหม ป่านนี้คงนั่งคิดอยู่กระมังว่าคนบ้าอะไรจะข่วนขาตัวเองจนเป็นแผลแบบนี้


ตอนนี้เป็นเวลาประมาณแปดโมงครึ่ง เผลอ ๆ เวลาหนึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปไวเสียจนน่าใจหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้รู้สึกหิวแทบแย่ แต่พอนึกถึงภาพในห้องหมอแล้วร่างทั้งร่างก็แทบจะทรุดลงอาเจียนออกมา ทั้งความรู้สึกที่มีเส้นผมอยู่ในปาก กลิ่นสาบโคลนเหม็นคละคลุ้ง   ทุกอย่างมันดูจะติดอยู่ตรงลิ้นตรงจมูกจนกินอะไรไม่ลงอีก


ทั้งสะอิดสะเอียนแล้วก็ขนลุก


เดินกลับมาที่ห้องจ่ายยาก็ยังเห็นปรัชญากำลังนั่งเช็กรายการยาอยู่ในท่าเดิม ชนกันต์กระชับสายสะพายเป้แน่นขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์แล้วยื่นใบเสร็จให้หนุ่มรุ่นพี่ ครั้นเงยหน้าขึ้นเห็นว่าคนไข้ใหม่เป็นใคร ปรัชญาก็ต้องเบิกตาโพลง เขาพักจากงานเอกสารก่อนจะเรียกให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาคุยกันข้างใน


“หายไปเป็นชั่วโมงนี่เป็นไรมา” ว่าพลางรับเอาใบเสร็จมาคีย์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์จอแอลซีดีรุ่นเก่ากึกแล้วก็ตะโกนเรียกหญิงสาวซึ่งกำลังจัดยาอยู่ด้านในให้หยิบยาตามสั่งแพทย์ติดมือมาให้ด้วย “มินท์ครับ เดี๋ยวขอคลอกซาซิลลิน 500 มิลลิกรัมสิบห้าเม็ด แล้วก็ไอบูโพรเฟน 200 มิลลิกรัมสิบเม็ดด้วยครับ”


หญิงสาวตอบรับมาอย่างว่าง่ายในขณะที่ใครอีกคนอ้าปากค้าง ชนกันต์วางมือลงกับโต๊ะแล้วตัดสินใจพูดสิ่งที่ข้องใจออกมาเสียงแข็ง “เมื่อกี้ยาของผมเหรอครับ”


“เออสิ ว่าแต่แกเป็นไรมายังไม่ตอบพี่เลย”


ขมวดคิ้วมุ่นจนผูกเป็นโบว์เมื่อแน่ใจว่าเขาเองจำชื่อยาไม่ผิด เภสัชกรสาวเดินเอายาในถาดมาวางไว้ให้ก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ปรัชญาจัดการเอาแผงยาใส่ถุงซิปล็อคที่เพิ่งแปะกระดาษใบเล็ก ๆ เสร็จเมื่อครู่


ให้ตายเถอะ


จำต้องอุทานคำนี้ขึ้นมาในใจอีกครั้ง นายแพทย์อธิศสั่งจ่ายยาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบให้เขา และนักศึกษาเภสัชศาสตร์อย่างชนกันต์เข้าใจได้ทันทีว่ามันไม่ได้มีไว้ช่วยด้านจิตใจ แต่มีไว้รักษาแผลที่ขา!


“หมอบ้าเอ๊ย”







--------------------------------------------------







 “หมอศรัณย์คะ ผลตรวจความดันคนไข้ค่ะ”


“ขอบคุณครับ”


ร่างผอมโปร่งในชุดกาวน์สีขาวแย้มยิ้มก่อนจะรับเอาแฟ้มคนไข้มาถือไว้แนบลำตัว เขายืนคุยกับพยาบาลหญิงวัยกลางคนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะขอตัวเลี่ยงออกมาเพราะกลัวว่ากาแฟดำในมือจะเย็นชืดไปเสียก่อน พยาบาลสาวตามทางเอ่ยทักเรื่องเนคไทเส้นใหม่กันไม่หยุด ซึ่งนายแพทย์หนุ่มก็ทำเพียงยิ้มรับแล้วเดินร่อนไปตามอัธยาศัย ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง แต่เขาเองก็ไม่ชอบข้าวกลางวันสักเท่าไหร่ ถ้าหมอนั่นมาเห็นล่ะก็คงจะบ่นแล้วขู่เรื่องเอากาแฟนี่ไปเททิ้งแน่


“จะกินข้าวกลางวันหรือกาแฟดี”


“กูหิวข้าวว่ะ”


“ฮ่า ๆ วันนี้เหนื่อยเอาการเลย”


คิดยังไม่ทันขาดช่วงก็เห็นกลุ่มนักศึกษาแพทย์ในชุดกาวน์เดินสวนมา เจ้าของชื่อศรัณย์ได้แต่ลอบอมยิ้มกับตัวเองเมื่อเห็นใครบางคนเดินรั้งท้ายมาแต่ไกล เอาแต่ทำหน้าตาง่วงนอนแบบนั้นไม่ถูกบ่นเอาหรือไงนะ


ดูเหมือนเด็กหนุ่มร่างสูงที่ได้แต่หนีบแฟ้มตรวจเดินตามเพื่อนต้อย ๆ จะสังเกตเห็นเขาเสียแล้ว เรียวปากรูปกระจับนั้นถึงได้หยักยิ้มออกมาราวกับเป็นการทักทายครั้งแรกของวัน


“....”


ชั่วนาทีที่เดินสวนกันคนแก่กว่าก็จงใจสัมผัสปลายนิ้วเข้ากับหลังมือนั้นแล้วกระซิบเสียงพร่าให้พอได้ยินกันสองคน เลยจากกันไม่นานนักก็ได้ยินเสียงรามิลพูดกับเพื่อน ๆ ภายในกลุ่มดังแว่วมา


“พอดีนึกขึ้นได้ว่าลืมของ พวกมึงกินกันก่อนเลยแล้วกัน”


สิ้นเสียงทุ้มร่างสูงระหงของนักศึกษาแพทย์ปีสี่ก็ย้อนเดินกลับมาทางเดิม หรือจะพูดให้ถูกก็คือตามหลังเขามาติด ๆ







--------------------------------------------------








“พี่ไปคิดถึงผมมาจากไหนเนี่ย”


พูดกลั้วหัวเราะในขณะที่ปล่อยให้อีกคนดันร่างของตัวเองลงกับเตียงตรวจภายในห้องประจำ อดไม่ได้ที่จะชะเง้อมองให้แน่ใจว่าเจ้าของห้องได้ล็อกประตูไว้ดีแล้ว อย่าให้มีพยาบาลเข้ามาตอนนี้แล้วกัน ไม่งั้นล่ะเป็นเรื่อง


“คิดถึงสิ” คนถูกถามตอบหน้าตายก่อนจะแขวนเสื้อกาวน์ไว้กับผนังแล้วตรงเข้ามานั่งบริเวณข้างเตียง แก้วกาแฟดำที่ซื้อมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะทั้งที่ค่อนไปไม่ถึงครึ่งแก้ว สองมือบรรจงช่วยเด็กตรงหน้าถอดเสื้อกาวน์ออกแล้วลุกเอามันไปแขวนไว้อีกรอบ “ระวังยับ”


หากแต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะเอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนเตียงเดียวกันกับเด็กหนุ่มแล้วคร่อมตัวจูบจนรามิลต้องดันร่างคุณหมอขวัญใจสาว ๆ ออกด้วยแรงเพียงแผ่วเบา ก็รู้อยู่ว่าช่วงก่อนที่เขาติดสอบทำให้แทบไม่ได้เจอกันเลย แต่ศรัณย์ก็มีเวลาพักเที่ยงอีกแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มันเสี่ยงเกินไป


“ไว้วันนี้ผมไปค้างกับพี่ โอเคไหมครับ”


“ดีเลย”


“แต่ไม่ใช่ตอนนี้”


พูดจบก็ดันร่างคนแก่กว่าออกทั้งรอยยิ้มรู้ทัน คนข้างบนได้แต่ยอมแพ้ ก่อนจะผละตัวเองออกมานั่งเฉย ๆ แล้วกลั้วหัวเราะในลำคอ


“มาอยู่ด้วยกันดีกว่า”


“ผมรู้ว่าช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกัน แต่พี่อย่าพูดเล่นอย่างนี้”


“พี่พูดจริง”


“....”


“เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กันครั้งแรกนะเก้า”


สวนขึ้นเสียงเรียบก่อนจะหันไประบายรอยยิ้มให้อีกคน รู้ว่ามันคงเป็นเรื่องไม่ดีนักถ้าเพื่อนของรามิลจะรู้ว่าเจ้าตัวคบกับหมอรุ่นพี่ แต่ถึงอย่างนั้นทุกวันนี้ก็ตัวคนเดียวอยู่แล้ว อย่างไหนก็คงค่าเท่ากันนั่นแหละ


“พี่เป็นพี่ชายให้เราได้ ใครถามก็บอกไปอย่างนั้น”


“พี่เสือ...”


เอื้อมตัวไปกดจูบหนัก ๆ แล้วลุกขึ้นไปหยิบเสื้อกาวน์มาคืนให้อย่างว่าง่าย ถึงจะดูเอาแต่ใจก็เถอะ แต่ศรัณย์มั่นใจว่าเขามั่นคงพอที่จะดูแลคนรักได้ ด้วยหน้าที่ การงาน วุฒิภาวะ และความรู้สึกที่บ่มเพาะมาตลอดหลายปีนี้ “คุยกับเพื่อนให้เรียบร้อย ไปอาศัยเขาอยู่นาน ๆ มันไม่ดี เดี๋ยววันศุกร์พี่ไปช่วยย้าย”


รามิลถอนหายใจยอมแพ้ อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไปคิด อย่างน้อยถ้าการได้อยู่ด้วยกันมันทำให้ศรัณย์มีกำลังใจขึ้นแล้วล่ะก็ “พี่ครับ วันศุกร์มันฉุกละหุกไป ไอ้นิลด่าผมตายพอดี”


“แล้ว?”


“ผมมีสอบด้วย”


พูดจบนายแพทย์ก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะรูดม่านไปอีกทางแล้วเดินไปนั่งพิงโต๊ะทำงานตัวเก่ง มือก็หยิบเอาปฏิทินมาเปิดดูผ่านตา “งั้นวันเสาร์เป็นไง หลังจากนี้พี่เข้าเวรยาวอีกแทบทั้งอาทิตย์ คงย้ายลำบากแน่”


“งั้นพี่เอาคีย์การ์ดไว้ให้ผม เดี๋ยวผมขนของไปเอง” รามิลยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุด รู้ว่าศรัณย์น่ะงานยุ่งยังกับอะไรดี การเป็นอายุรแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐไม่ใช่งานสบาย ๆ ต่อให้เขาไม่มีสอบหรือติวหนังสือ ศรัณย์ก็ต้องอยู่เวรจนดึกดื่น เรื่องเวลาก็นับเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง


“ไม่ได้ จะขนของด้วยรถแท็กซี่หรือไง”


“ก็มีแค่เสื้อผ้า --”


“เก้า”


ยังยื่นคำขาดไปเสียงแข็งประสาคนโตกว่า เด็กหนุ่มรู้ดีว่าไม่ควรให้เขาต้องพูดหลายรอบ แค่นั้นรามิลจึงพยักหน้าตกลงแล้วกลอกตาขึ้นมองเพดานราวกับจะคิดว่าควรหาข้ออ้างอะไรไปเบี้ยวนัดเพื่อนดี


“โอเคครับ งั้นอีกสี่วันเจอกัน” แต่สุดท้ายแล้วร่างโปร่งก็หัวเราะ ให้ตายเถอะ เขาแพ้ทางพี่เสือตลอดเลย


ทุกอย่างดูราบรื่น สวยงาม และคงทำให้อะไรดีขึ้นได้แน่ ๆ







--------------------------------------------------









ล่วงเข้าวันที่สี่แล้วที่อธิศใช้เวลาหลังออกเวรนั่งง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และตั้งหนังสือมหึมาซึ่งเขาเป็นคนไปทำเรื่องขอยืมจากคณะแพทยศาสตร์ของทางมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ตึกข้าง ๆ ห้องสมุดไม่ได้ใหญ่มาก ทว่ามีหนังสือที่ต้องการมากพอสมควร แต่สิ่งที่ฉงนมาตลอดสามสี่วันนี่ยังหาคำตอบไม่ได้เลยสักนิด


ถึงจะแสดงท่าทีไม่สนใจออกไป แต่หลังจากนั้นจิตแพทย์หนุ่มก็เลือกที่จะไปขอตารางการเข้างานของนักศึกษาฝึกงานชนกันต์เป็นการส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคลากร หากมีเวลาว่าง เขาเองก็อาจจะถือแก้วกาแฟเดินผ่านหรือเลียบเคียงถามเจ้าหน้าที่ในห้องยาคนอื่นบ้าง ซึ่งคำตอบที่ได้เป็นเสียงเดียวกันทั้งหมด


ชนกันต์เป็นเด็กน่ารักสดใส เพียงแต่ช่วงอาทิตย์หลังมานี้ ปรัชญาแอบให้ข้อมูลว่าเด็กหนุ่มมักจะใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลเสียเป็นส่วนใหญ่ ยอมอยู่ช่วยจัดสต็อกยาโดยไม่ลงเวลางานบ้างล่ะ หรือแม้แต่ชวนไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนบ้างเวลาที่เข้าเวรด้วยกันเหมือนเด็กผู้หญิงบ้างล่ะ


เด็กนั่นไม่ยอมอยู่คนเดียว ถ้าเลือกได้


ก็ตรงกับอาการที่เจ้าตัวแสดงกับเขาในวันนั้น แต่ไม่ว่าจะหาข้อมูลมาประกอบอาการยังไง อธิศก็ลงความเห็นเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากภาวะประสาทหลอนหรืออาจจะเข้าขั้นจิตเภทเบื้องต้น ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อยากด่วนสรุปเพราะไม่มีใครเป็นโรคจิตได้อย่างเฉียบพลันขนาดนี้หรอก


ปมครอบครัวไม่มีอะไร ที่บ้านฐานะดี ไม่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งให้ผู้อื่นเห็น พอขึ้นมหาวิทยาลัยซึ่งไกลบ้านก็เลยย้ายออกมาอยู่แมนชั่นและคงกลับไปอยู่บ้านหลังจากเรียนจบ มีรถขับ เงินไม่ขาดมือ ผลการเรียนใช้ได้ จะให้คิดว่าเป็นเพราะต้องอยู่คนเดียวมาห้าปีก็ดูจะไม่เข้าเค้าเท่าไหร่นัก เพราะชนกันต์กลับบ้านแทบทุกสัปดาห์ถ้ามีโอกาส ในเมื่ออาทิตย์ก่อนยังดูปกติดีทุกอย่าง แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มีท่าทีหวาดกลัวขนาดนั้นกัน


เว้นแต่ว่าจะได้เจอกับเหตุการณ์บางอย่าง


ร่างสูงเอนกายลงกับพนักก้าวอี้ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างตึงเครียด นึกไปถึงรอยข่วนตรงขาที่เขาเห็นในวันนั้นแล้วมันก็พาให้ทุกอย่างดูทึบไปหมด รอยแผลแบบนั้นยังไงก็คงทำตัวเองไม่ได้ ที่เล็บนิ้วมือไม่มีรอยเลือด แล้วเหตุการณ์ก็เกิดคล้อยหลังเขาไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง


ยกสองมือขึ้นนวดขมับตัวเองแล้วหยิบเอาสมุดบันทึกเล่มเล็กในลิ้นชักออกมาเปิดดู หน้าหนึ่งในเล่มเป็นลายมือบันทึกหวัด ๆ ที่เขาเฝ้าสังเกตอาการอีกฝ่ายห่าง ๆ มาตลอดสามสี่วัน อาการที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็นการที่ชนกันต์เอาแต่เดิน ๆ หยุด ๆ บ้างก็หันกลับไปมองข้างหลังแล้วเร่งฝีเท้าเดินต่อ ทว่าไม่ทันไรกลับหยุดตัวเองเอาไว้อีก


‘ในตอนแรกผมก็คิดว่าผมคงแค่เบลอ ๆ เพราะนอนน้อย หรือว่าทำงานหนักอะไรเทือกนั้น แต่ผมก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากสังเกตได้ว่ามันมีเสียงฝีเท้าเกินมาก้าวหนึ่งทุกครั้งที่ผมหยุดเดิน’


แล้วยังอาการย้ำคิดย้ำทำประเภทที่ว่า กดเปิดสวิทช์ไฟซ้ำ ๆ หรือการเตือนคนอื่นให้ช่วยจำในสิ่งที่ทำไปแล้วนั่นอีก


‘แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะหมอ... บางทีผมก็รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว มันเริ่มมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรกก็แค่ก๊อกน้ำในห้องน้ำมันเปิดเอง ผมพยายามบอกตัวเองว่าก็แค่ลืมปิด แต่บางทีผมก็ตื่นเพราะเสียงฝักบัวในห้องน้ำบ้างล่ะ ทีวีเปิดเองบ้างล่ะ แล้วผมก็มั่นใจนะว่าคงไม่ลืมปิดมันแทบทุกวันอย่างนั้นหรอก เพราะผมจะต้องนอนไม่หลับแน่ ๆ’


ถึงคำพูดคำจาในตอนนั้นจะดูสับสนอยู่บ้าง แต่พอมานั่งทบทวนดูแล้ว อธิศก็ไม่เห็นนัยยะผิดปกติในคำพูดพวกนั้นสักเท่าไหร่ เขายังได้ข้อมูลไม่พอ บางทีนัดครั้งหน้าอาจจะต้องสังเกตอาการของชนกันต์ให้มากขึ้นอีก


เหลือบไปเห็นตารางเวรของคนในความคิดแล้วก็นึกขึ้นได้ ตอนนี้เด็กนั่นคงเข้าเวรอยู่ที่ห้องจ่ายยาคนเดียว ตอนนี้สามทุ่ม เขาเองก็อยากได้กาแฟสักแก้วเหมือนกัน


หยัดตัวลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหยิบเอากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วย พอไม่ใช่เวลาราชการ อธิศก็ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา เขาไม่ได้สวมชุดกาวน์สีขาว แว่นสายตาถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีสุภาพเพราะไม่ต้องใช้สายตาเพ่งอะไรมากนัก ดันเก้าอี้ล้อเลื่อนเข้าไปในโต๊ะอย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินออกไป หากแต่เรียวขายาวต้องหยุดชะงักไว้แค่นั้น


“....”


หันกลับมาตามเสียงก็เห็นเก้าอี้ที่เขาเพิ่งดันเก็บกำลังเลื่อนถอยหลังไปจนชนกับตู้จนส่งเสียงดังกึงเบา ๆ ร้อยวันพันปีมันไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็เพราะเป็นเก้าอี้ล้อเลื่อน อธิศถึงได้คิดว่าวันนี้เขาอาจจะผลักเก็บมันแรงเกินไป


เดินออกไปจากห้องอย่างไม่ใส่ใจนักโดยไม่ลืมที่จะล็อกประตูห้องไว้ด้วย เพราะว่าใช้ชีวิตอยู่คอนโดมิเนียมเพียงคนเดียว หมอหนุ่มจึงไม่มีพันธะอะไรให้ต้องรีบกลับนัก ร้านกาแฟในโรงพยาบาลเปิดแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง และนั่นถือเป็นเรื่องดี


“อ้าว คุณหมอยังไม่กลับอีกเหรอคะ”


ยิ้มรับให้พยาบาลที่อยู่เวรตอนกลางคืนอย่างเป็นมิตร ร้านกาแฟอยู่ใกล้ ๆ กับโรงอาหารที่ชั้นสอง ดูจากเวลาแล้วป่านนี้คงเงียบพอสมควร แล้วก็เป็นดังที่คิด ร้านอาหารปิดไปจนเกือบหมดแล้ว มีบ้างที่ยังอยู่ขายให้ญาติที่มาอยู่เฝ้าผู้ป่วยอย่างประปราย ร่างสูงเลี่ยงเดินเข้าไปในร้านกาแฟก่อนจะออกปากสั่งเมนูเดิมด้วยรอยยิ้มอย่างที่รู้กันกับบาริสต้า


“คาปูชิโนร้อนครับ”


“ทำไมวันนี้กลับดึกจังล่ะคะคุณหมอ”


บาริสต้าหญิงชวนคุยในขณะที่อัดกาแฟไปด้วย คนถูกถามได้แต่ยิ้มรับก่อนจะหยิบเอานิตยสารบนโต๊ะมาเปิดดูผ่าน ๆ ฆ่าเวลา รอราว ๆ สามนาทีก็ได้กลิ่นกาแฟร้อนหอมฉุยอย่างที่ชอบ หยิบเอาธนบัตรในกระเป๋าเสื้อจ่ายออกไปโดยเอาเงินทอนหยอดกล่องทิปพนักงานอย่างทุกที


เดินทอดน่องผ่านโถงกลางหน้าห้องฉุกเฉินแล้วก็เห็นว่ายังมีพอมีผู้ป่วยอยู่บ้าง แผนกจิตเวชนั้นมักจะได้ทำงานเป็นเวลา ต่างจากแพทย์ส่วนใหญ่ มีบ้างที่อาจจะถูกเรียกตัวมากลางดึกเพื่อช่วยแทนแพทย์ระบบประสาทเพราะอยู่ในสายที่คาบเกี่ยวกันหรืออาจจะด้วยเหตุฉุกเฉินบางประการเช่นคนไข้ที่ประสบเหตุกระทบทางจิตใจ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นถี่นัก


ไม่ลืมที่จะเหลือบมองไปทางห้องจ่ายยาซึ่งเห็นใครบางคนกำลังจัดยาเข้าชั้นอย่างขะมักเขม้น แต่แล้วอธิศก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อชนกันต์เหมือนจะพยายามหยิบล้วงเอาอะไรออกจากปากด้วยสีหน้าคลื่นเหียนแล้วตัดใจทำงานต่อ บางทีเขาควรต้องบันทึกนี่ลงไปเป็นอีกหนึ่งในการผิดปกติของผู้ป่วยคนนี้ด้วย


เพราะสายตาที่สั้นหรืออะไรก็ตามแต่ ร่างของชนกันต์เดินไปยังตู้ยาแถวต่อไปแล้ว หากแต่กลับเผยให้เห็นใครบางคนซึ่งอาจจะถูกยืนบังไว้เมื่อครู่ อธิศพยายามเพ่งสายตามองหญิงสาวผมยาวซึ่งกำลังยืนมองเขาแทนที่จะเดินตามชนกันต์ไป ใช่ ความรู้สึกมันบอกว่าหล่อนมองมาทางนี้ หากแต่เพียงละสายตาไปเพื่อหยิบแว่นในกระเป๋าขึ้นมาสวม ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมเสียแล้ว


ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็ วันนี้ เวลานี้ มีชนกันต์ประจำห้องยาแค่คนเดียวไม่ใช่หรือไง แล้วห้องยาก็ไม่ใช่ที่ที่จะให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามได้ง่าย ๆ อธิศมั่นใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด และมันไม่ใช่เงาสะท้อนในกระจกแน่ ๆ


หากแต่พอจะยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ กลิ่นดินโคลนก็ลอยมาแตะจมูกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แพทย์หนุ่มก้มลงมองแก้วคาปูชิโนร้อนในมือแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมอีกรอบเมื่อเห็นเศษดินที่ลอยขึ้นมาจนดื่มต่อไปไม่ลง


ดินอาจจะติดมากับกากกาแฟอย่างไม่น่าเป็นไปได้ แต่ที่น่าคิดยิ่งกว่าคือเขาดื่มมันเข้าไปค่อนแก้วแล้วนี่สิ


คิดติดตลกเอาว่าดินคงไม่ร่วงมาจากเพดานเมื่อครู่นี้หรอกกระมัง






TBC





----------------------------------------------------


เปิดตัวตัวละครใหม่ หมอเสือ กับนศพ.เก้า
ทั้งหมดจะเข้ามาเกี่ยวข้องกันยังไง นี่เป็นเหมือนแค่บทเกริ่นนำเท่านั้น
ตอนต่อจากนี้ ทุกอย่างจะเริ่มขมวดเข้ามาสู่เรื่องราวที่แท้จริงค่ะ


ตอบคุณ actionmarks ค่ะ

อ้างถึง
เคยลงแล้ว เขียนใหม่หรือเปล่า ตัวละครมันคุ้นมาก เหมือนเคยอ่านมาแล้วเลย

เรื่องนี้ เราเขียนไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และลงแค่ในลักษณะฟิคชัน
นี่เป็นที่ที่สองที่เราเอามาลงค่ะ เพราะงั้นไม่มีของเราแน่นอน 555555555555





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 22-02-2015 19:44:13
เอิ่มคือคุณผี นี่ตามเกาะติดชีวิตหนูกันต์ไม่พอ ยังจะมีเผื่อแผ่ไปทักทายหมออธิศด้วยเหรอ
แค่เห็นแว้บๆไกลๆกันนิดเดียวนี่ถึงกับมีทักทาย จะมารยาทดีไปไหน จิตใจเธอทำด้วยอะไร หา!
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-02-2015 19:50:34
พี่หมอคะ แบบนี้หนูก็หลอนและคงไม่ดื่มต่อแล้วล่ะ :mew5:
เรื่องนี้สนุกดีคะ ชอบการใช้ภาษา การบรรยาย และเนื้อเรื่อง
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 22-02-2015 20:09:55
ตื่นเต้นอยากอ่านต่อแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Foey ที่ 22-02-2015 20:23:55
หลอนสุดๆ :ling3:
อยากอ่านต่อไวไวแล้วอ่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pedpilin ที่ 22-02-2015 20:39:43
 :mc4:สนุกมากอ่ะ อ่านแล้วรู้สึกกลัวตามไปด้วยเลย   :ling3:  :ling3:

มาอัพอีกเร็วๆ น้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 22-02-2015 20:50:52
ถ้าติดต่อได้ละก้อ :katai1:
สำลักน้ำที่กำลังกิน......มันมีกลิ่นโคลนไหมนี้
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 22-02-2015 20:59:41
หลอนนนนนนนน :katai1:
คือหมอก็โดนด้วยหรอ T^T หมอคะช่วยน้องชนด้วยนะคะ
ได้แผลไม่พอจะนอนก็หลอนแบบนั้นอีก  :sad4:
PS.เนื้อหาน่าติดตามเพราะเราก็สงสัยเหมือนกันว่าตามน้องชนทำไม
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 22-02-2015 21:00:32
ชอบอ่ะ มาลงอีกได้ไหม  พลีสสสสสส :call: :call:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 22-02-2015 21:07:28
เฮ้ยยยยยยยยยยยย
ยังจะคิดว่าดินหล่นลงมาจากเพดานอีกนะ
แล้วนี่ เรื่องมันเป็นมายังไงถึงได้มีวิญญาณตามจองล้างจองผลาญเนี้ย
หมอ รีบให้กันต์ ไปอยู่คอนโดด้วยเลยนะ
จะได้สักเกตุอาการอย่างใกล้ชิดไง
 :z1:
มาต่อด่วนๆ ค่าาา
พรุ่งนี้มามั้ยน้าาา
มาทุกวันนะคะ
วันนี้ตั้งแต่ช่วง เย็นๆมา กด F5 หน้านี้อยู่เนืองๆทีเดียวเชียวว
พรุ่งนี้มาด้วยเถิดดดดดด
 :call:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 22-02-2015 21:46:56
โหยยยย น่ากลัวอะ ถ้าจะจงเวรกันขนาดนั้นไม่น่าจะใช่ปรสิตแล้วว นี่มันผีตามชัดๆ ฮื่ออออออ กลัวอะ  :hao5: :katai1: :sad4: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fran23 ที่ 23-02-2015 00:25:13
คือแบบ อ่านซะดึก พลาดแล้วละ
โอ้ยยยสงสารชนกันต์อยู่ไปได้ยังงายย
คุณหมอเด๋วรู้เลยคะ
เอาใจช่วยนะคะ

#อัพบ่อยๆน้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Gapompom ที่ 23-02-2015 00:55:13
หลอนสุดๆ ถ้ามาดีก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ
เคยเจอกับตัว นอนแล้วเมื่อคนมานั่งทับหลัง
ตอนแรกก็นึกว่าน้อง แต่คิดไปคิดมา ว่าตัวเองอยู่หอคนเดียว
แล้วใครจะมานั่งทับ ลุกหันไปเลยจ้า
เจอเต็มๆ เด็กผู้ชายใส่ชุดสีขาวยืนอยู่ปลายเตียง
เล่นเอานอนไม่หลับเลย

ทุกวันนี้ยังงอยู่ว่าฝันรึว่าเป็นจริง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 23-02-2015 00:57:37
คุณหมอยังคิดบวกได้อีก เหอๆๆ o22
คุณผี!คุณจะทำอะไร!อย่ามายุ่งกับคุณหมอของฉัน(เหรอออ)นะยะ :angry2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-02-2015 01:06:47
สารภาพว่าเรากลัวผีมาก หลงเข้ามาอ่านคิดว่ากันต์จะหลอนไปเอง  แต่ไม่ใช่ คนเขียนเขียนดีมากค่ะ เรากลัวมาก ร้องไห้เลย จริงๆนะคะ ถ้าเจอแบบนี้คงรับไม่ไหว TT
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PlenG ที่ 23-02-2015 01:48:42
เราชอบนิยายคุณนะ

อ่านไปได้ 2 ตอนค้างมากถึงขั้นไปอ่านฉบับฟิคชั่นค่ะ
ปกติจะไม่แตะต้องฟิคฝั่งเกาหลีแต่คือแค่ธีมเรื่องก็โดนละ
เราชอบthrillerแต่ก็มักจะมาคู่กับhorrorสินะ #ร้องไห้แปป

สรุปคืออ่านจบแล้วค่ะ ภาษาดี ผูกเรื่องดี น่าติดตาม สนุกมาก
ลุ้นไปกับตัวละครตลอด

ไม่พาดพิงถึงเนื้อเรื่องแล้วกันเดี๋ยวจะไปสปอยล์ท่านอื่นเข้า
ไว้จะแวะเข้ามาอ่านฉบับนิยายนะคะ อันฟิคนี่คือจำชื่อตัวละครไม่ได้เลย ฮ่าๆ
เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 23-02-2015 05:06:55
โอ๊ย อ่านแล้วหลอนค่ะ ทรมานจิตใจ
เสียวสันหลังวูบๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bbmkaj ที่ 23-02-2015 08:44:34
คือเป็นเรื่องแรกที่เค้ามาเม้น
 หลอนมากกก ชอบๆ แนวนี้หายาก
ปรกติชอบแนวนี้แต่หาอ่านเป็นแบบวายไม่ค่อยได้ 555
อยากอ่านต่อแล้ว สู้ๆนะคะ คนเขียน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 23-02-2015 11:01:34
ชวนให้นึกถึง อาการนอนไม่หลับติดต่อกันจนทำให้ผู้ป่วยตาย
ที่เป็นต้นกำเนิดหนังเรื่อง Nightmare on The Elm Street เลยครับ
ที่มีอีผี เฟรดดี้ ครูเกอร์ อ่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-02-2015 12:28:23
แอบคิดว่ามันสามารถแพร่ไปให้คนอื่่่นได้แบบโรคติดต่อรึเปล่า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 23-02-2015 13:37:08
กำลังหลอนได้ที่
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 23-02-2015 14:15:18
เฮ้ย อิผีผู้หญิงนั้นมันต้องการไรกันแน่ ให้ชนกันต์เห็นไม่พอ ยังจะหมออธิศอีก อยากรู้จิงๆ  มีโรงบานรักษาผีโรคจิตไหมให้มันไปรักษาด่วนๆ

ปล.หวังว่าคงไม่ดราม่านะคะ คนเขียนนน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 23-02-2015 16:59:53
ทำไมอยู่ๆพล็อตนี้ไหลเขามาในหัว.. เฉลยว่าผู้หญิงในเรื่องคนนั้นประสบอุบัติเหตุอะไรสักอย่างที่ชนกันต์เผลอทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ขับเบียดมอไซตกคลองข้างทางเพราะรีบมาเข้าเวรงี้.. หรือทำอะไรไว้แล้วหลอกตัวเองว่าไม่เคยทำ..
โอ้ยคิดมาก  :ling2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ShiRaZ_Prime ที่ 23-02-2015 17:59:31
โฮร๊วววว อ่านรวดเลยค่ะ
อ่านแล้วหลอน ทำเอาเราอยู่คนเดียวไม่ลง ฟุ้งซ่านตามกันต์
 :ling3: :ling3:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 23-02-2015 18:30:57
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 04







 “ขอบคุณมากนะคะหมอ”


“อย่าลืมดูแลตัวเองตามที่หมอบอก แล้วก็ทานยาให้ครบนะครับ ถ้าไม่ดีขึ้นยังไงเนี่ย ให้รีบมาหาหมอทันที” ยิ้มรับอย่างสุภาพก่อนจะเอ่ยกำชับคนไข้หญิงวัยกลางคนซึ่งโค้งให้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงเดินออกไป นายแพทย์หนุ่มเขียนลายมือหวัด ๆ ลงไปในแฟ้มสีฟ้าซึ่งมีตราโรงพยาบาลประทับอยู่ด้านหน้า เอนตัวไปส่งข้อมูลผ่านทางคอมพิวเตอร์เพื่อส่งต่อคำสั่งจ่ายยาไปถึงฝ่ายเภสัชกรรมก่อนที่คนไข้จะไปถึง


หยัดหลังตรงแล้วบิดขี้เกียจอยู่สองสามทีพลางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย คนไข้คิวสุดท้ายของรอบนี้หมดลงแล้ว และพยาบาลก็ไม่ได้เข้ามาแจ้งกำหนดการต่อไป ชายหนุ่มจึงคิดว่าเขาควรใช้เวลาในการตรวจสอบประวัติคนไข้ในความดูแลเสียที


เอี้ยวตัวไปมองที่ตู้กระจกด้านหลังพลางหมุนเก้าอี้แล้วเลื่อนตามมาด้วย เหมือนเป็นนิสัยเสียเล็ก ๆ สำหรับคนที่นั่งเก้าอี้แบบนี้อยู่ประจำ ศรัณย์แทบนับได้ด้วยซ้ำว่ามีเพียงไม่กี่ครั้งที่เขายอมผละก้นลุกจากเก้าอี้แล้วใช้การเดินไปหาของใกล้ ๆ แทนเลื่อนล้อนี่ไปมาจนเกิดเสียงครืดคราด


แฟ้มเอกสารหลาย ๆ อันถูกเรียงรายกันอยู่ภายในตู้กระจกอย่างเป็นระเบียบ คนเป็นหมอเขาว่าขยันและทุ่มเท แต่ก็มีบ้างที่ศรัณย์เกิดอยากงอแงกับตัวเองแล้วหนีกลับไปหาคนรักให้รู้แล้วรู้รอด คิดขึ้นมาแล้วก็อมยิ้มไม่หุบ รามิลย้ายมาอยู่กับเขาได้สองสามวันแล้ว


เสียงบานประตูเลื่อนเปิดและปิด กระจกใสตรงหน้าสะท้อนเงาภาพชายกระโปรงสีขาวและขาของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเดินเข้ามา


ไหนว่าคนไข้เมื่อครู่คนสุดท้ายแล้วไง


“เชิญครับ”


เพราะว่ายังอยู่ในเวลางาน นายแพทย์จึงไม่อาจปฏิเสธหน้าที่หมอได้ ศรัณย์ละจากแฟ้มเอกสารตรงหน้าแล้วหมุนเก้าอี้กลับมาพร้อมปั้นยิ้มให้อย่างที่ชอบทำ ทว่ายิ้มนั้นกลับต้องหุบลงอย่างรวดเร็ว


“....”


ไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว


มีแต่เขาเพียงลำพังภายในห้อง และไม่นานนักบานประตูก็เปิดออกอีกรอบพร้อมกับพยาบาลสาวผมสั้นซึ่งถือแฟ้มสีฟ้าหน้าตาเหมือนเดิมมาวางไว้ให้บนโต๊ะ


“คุณเอ๋”


“คะหมอ”


“เมื่อกี้มีใครเข้ามาหรือเปล่า” ศรัณย์แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด และเพียงเสี้ยวนาทีที่หันกลับมาคน ๆ หนึ่งก็ไม่น่าจะหายไปได้ไวขนาดนี้ นั่นแหละ เธอยืนอยู่ตรงนั้น... ตรงที่พยาบาลสาวกำลังยืนมองเขาด้วยสายตาฉงน


“ไม่มีนี่คะ เมื่อกี้เอ๋ยืนคุยกับพี่พิศอยู่แถว ๆ หน้าห้องคุณหมอนี่เอง”


ได้ยินอย่างนั้นคิ้วสองข้างก็ขมวดมุ่น ยกมือขึ้นถูจมูกไปมาช้า ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มเป็นเชิงให้พยาบาลสาวออกไปได้


มันจะเป็นไปได้ยังไง






------------------------------------------------------







นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นดูสลับกับท้องฟ้าข้างนอกที่มืดสนิทมาได้ครู่ใหญ่ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้ว อธิศต้องรับคนไข้รายสุดท้ายไปเมื่อเกือบชั่วโมงก่อน อันที่จริงนี่เป็นเวลาที่เขาควรจะเก็บของกลับบ้านได้แล้ว ถ้าไม่เพียงแต่ยังติดใจเรื่องที่คนไข้รายหนึ่งเบี้ยวนัดไปตั้งแต่เมื่อช่วงบ่าย


เป็นคนไข้ที่จำได้ขึ้นใจเสียด้วย


นั่งทำงานรอภายในห้องตรวจจนถึงทุ่มครึ่ง สุดท้ายความคิดที่ใช้เวลาชั่งใจมาตลอดทั้งช่วงเย็นก็เอาชนะในที่สุด เลื่อนตัวเองออกจากโต๊ะเล็กน้อยแล้วเอี้ยวตัวไปกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นตามด้วยร่างของพยาบาลสาวฝึกหัดซึ่งเดินเข้ามา


“คุณหมอมีอะไรเหรอคะ”


ร่างสูงละสายตาจากจอแล็บทอปขนาดสิบสามนิ้ว ยิ้มให้คนตรงหน้าเพื่อให้หล่อนรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขาเขียนบางอย่างลงในกระดาษโน้ตแผ่นเล็กด้วยลายมือที่พยายามให้อ่านง่ายที่สุด แล้วดันมันส่งไปยังอีกฝ่าย


“ไปที่ห้องจ่ายยาแล้วตามคนในกระดาษแผ่นนี้มาพบผมทีครับ ถ้าเขาอยู่” ไม่ลืมที่จะสร้างทางเลือกปิดท้ายไว้ให้หากในกรณีที่เจ้าของชื่อนั้นไม่ได้อยู่ในห้องจ่ายยาตามที่คาดไว้


“ชนกันต์”


พยาบาลสาวทวนชื่อในกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา และหลังจากที่อธิศพยักหน้ารับ เธอก็ขอตัวไปทำตามที่ได้รับมอบหมายทันที บานประตูถูกฝ่ามือของใครอีกคนเปิดค้างไว้แล้วเอี้ยวตัวหลบจนพยาบาลเดินออกไป อธิศต้องเงยหน้าขึ้นจากจอแล็ปท็อปอีกครั้งเมื่อมีแขกมาหาเขาถึงที่ ร่างในชุดกาวน์สีขาวก้าวอาด ๆ มานั่งลงตรงหน้าพร้อมยิ้มทักทายอย่างคุ้นเคย


“ไง”


“ออกเวรแล้วเหรอ” เอ่ยตอบคำทักทายไปตามประสา มือหนากดเซฟไฟล์ในเครื่องและปิดลงจนเหลือเพียงแค่หน้าเดสก์ท็อป มันอาจจะไม่แปลกที่เพื่อนอายุรแพทย์มาหาเขาถึงห้อง เพียงแต่มันไม่ได้เกิดขึ้นจนเป็นปกตินั่นเอง อธิศถึงได้คิดว่าศรัณย์คงมีเรื่องที่อยากพูดคุยด้วยเป็นการส่วนตัว


“เวลาพักหายใจหายคอน่ะ” เสียงนุ่มติดหัวเราะอยู่ในที บางทีศรัณย์คงกำลังคิดว่าจะพูดเกริ่นอย่างไรเพื่อพาเข้าสู่บทสนทนาได้อย่างไม่ผิดสังเกต “นายก็เถอะ นี่มันเลยห้าโมงมาตั้งนานแล้วทำไมยังไม่กลับอีก”


จะว่าติดคนไข้ก็คงไม่ถูก แต่จะให้บอกว่ารอคนไข้มันก็ฟังดูประหลาดเกินกว่าที่อธิศจะยอมพูดเป็นคำตอบออกไป “ฉันมันตัวคนเดียว จะอยู่ที่ไหนก็คงเหมือนกัน”


เป็นอันรู้กันว่าต่างฝ่ายก็ต่างแยกตัวออกจากที่บ้านแล้วมาพักอยู่คอนโดมิเนียมที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก หนึ่งคือภาระหน้าที่ และสองคือความสบายใจในการใช้ชีวิต


“มาหาฉันถึงนี่ อยากจะปรึกษาอะไรหมอจิตเวชกัน” แซวออกไปทั้งอารมณ์ขัน ศรัณย์หัวเราะตอบ แต่ก็วางสองมือขึ้นประสานบนโต๊ะหลวม ๆ แล้วว่า


“หมู่นี้ฉันรู้สึกแปลก ๆ”


“ยังไง”


“บางทีมันเหมือน... ฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว จะว่าตาฝาดก็ไม่ใช่” ศรัณย์ยกนิ้วขึ้นชี้เป็นวงกลมอยู่บริเวณดวงตาเป็นอิริยาบถประกอบ และนั่นทำให้คิ้วเรียวของจิตแพทย์หนุ่มต้องเลิกขึ้นน้อย ๆ “เฮ้ อย่ามองฉันอย่างนั้น”


“รู้เหรอว่าจะพูดอะไร”


“ฉันเป็นหมอนะอธิศ ฉันรู้ตัวเองดีว่าไม่ได้เครียดเกินไปหรือว่านอนน้อยจนเกิดภาพหลอนแน่ ๆ” เสียงของศรัณย์ดูเคร่งเครียดขึ้นมาเพราะกลัวจะถูกเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้ชวนให้รู้สึกถึงความไม่พอใจ “แล้วเวลากินน้ำหรือว่าอาหาร”


“....”


“มันเหม็นกลิ่นโคลนแปลก ๆ เหมือนไปติดจมูกจากไหนมา ไม่หายสักที”


ได้ฟังอย่างนี้ อธิศก็ขมวดคิ้วมุ่นจนแทบผูกเป็นปม กลิ่นของโคลนในกาแฟแก้วเมื่อคืนก่อนราวกับจะลอยขึ้นมาเพื่อย้ำเตือนถึงสิ่งที่เพื่อนพูด แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ยังคงท่าทีไว้ได้แม้ในใจจะกำลังโต้แย้งถึงเรื่องความเกี่ยวข้องที่เกิดขึ้นก็ตาม บางทีศรัณย์อาจจะเตรียมคำพูดมาแค่นี้ ร่างโปร่งถึงได้เงียบไปเพื่อรอความเห็นจากเขาหรืออะไรก็ตามที่พอจะใช้เป็นเหตุผลขึ้นมาได้ แต่น่าผิดหวังที่ความคิดในหัวของจิตแพทย์หนุ่มยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากพอ


ก๊อก ก๊อก


“คุณหมอคะ”


เสียงเคาะประตูพร้อมด้วยนางพยาบาลสาวที่เปิดเข้ามาโดยมีชายอีกคนทางด้านหลัง ชนกันต์ยืนหน้าบูดอยู่ในชุดกาวน์แขนสั้น สีหน้านั้นดูอิดโรยไม่ต่างจากจากวันก่อน ไม่สิ มันต่างตรงที่เด็กคนนี้ไม่ยอมทักทายเขาด้วยท่าทางนอบน้อมเหมือนอย่างในวันแรกที่เจอกันมากกว่า


“มีคนไข้เหรอ” ศรัณย์ถามทั้งที่ได้หยัดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงเรียบร้อยแล้ว และถึงต่อให้อธิศตอบว่าเปล่า แต่เขาก็คิดว่าได้ใช้เวลาอู้มามากเกินพอ “งั้นขอตัวเลยแล้วกัน”


ปรายสายตามองเด็กในชุดเสื้อกาวน์อย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินสวนออกไป หากแต่เพียงครู่เดียวที่สวนกันร่างผอมก็ต้องขนลุกซู่แล้วหยุดชะงักแทบจะทันที


“....”


“ครับ?”


ชนกันต์ตอบหยั่งเชิงกลับไปเมื่อถูกจ้องด้วยดวงตากลมโตของอายุรแพทย์ที่เขาเคยเห็นเพียงผ่าน ๆ ศรัณย์ดูเหมือนจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรักษาท่าทีให้กลับมาเป็นปกติ แต่ผิดคาดที่คุณหมออารมณ์ดีเลือกหันกลับไปยังเบื้องหน้าแล้วก้าวเท้าเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก


ทันทีที่ประตูห้องตรวจของหมออธิศปิดลง นายแพทย์หนุ่มก็ต้องหยุดเดินแล้วเหลียวกลับไปมองทางด้านหลังอีกครั้ง ตอนที่เขาเดินสวนกับเด็กคนนั้น --


“เป็นไปไม่ได้...”


พึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางยกมือขึ้นถูจมูกไปมา หันไปเห็นพยาบาลสองคนตรงเคาน์เตอร์กำลังนั่งพูดคุยกันก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถาม ไม่ว่าเด็กคนเมื่อสักครู่จะเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ ก็ต้องเดินผ่านตรงนี้ก่อนเข้าห้องตรวจอยู่แล้ว


“มีอะไรให้ช่วยคะหมอ”


ถึงตอนนี้เขาพยายามเค้นคำพูดที่ติดอยู่ในคอออกมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ยากเย็นเหมือนกับมีก้อนดินติดอยู่ในลำคอยังไงยังงั้น “เมื่อกี้พวกคุณได้กลิ่นเหม็นอะไรบ้างหรือเปล่า”


“คะ?”


“คือผมหมายความว่า --” ทั้งที่อยากจะอธิบายออกไปใจแทบขาด แต่สายตาและท่าทีที่มีกลับมานั้นกลับเป็นคำตอบได้อย่างชัดเจนว่าคงมีเขาที่รู้สึกไปคนเดียว เพราะอย่างนั้นหมอหนุ่มถึงได้ฝืนปั้นยิ้มบาง ๆ ตอบกลับไปคล้ายกับว่าแค่เผลอพูดมันออกมาเรื่อยเปื่อย “ไม่มีอะไร”


บรรยากาศวังเวงของแผนกจิตเวชและความคลื่นเหียนที่ยังติดอยู่ในลำคอยังคงเด่นชัด กลิ่นคาวคละคลุ้งและรสขมปร่าติดปลายลิ้นแทรกขึ้นมา นั่นทำให้รู้สึกแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองพูดกับอธิศไป มันต้องมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ


แล้วยิ่งตอนที่เดินผ่านเด็กคนนั้น ความรู้สึกอย่างที่ว่าก็ดูจะรุนแรงขึ้นเสียจนบางอย่างในท้องมันตีขึ้นมาติดคอหอย กลิ่นเหม็นสาบของดินโคลนทำให้รู้สึกเวียนหัวจนเขาคิดว่าเด็กนั่นอาจจะเพิ่งไปตกบ่อโคลนที่ไหนมา


แต่ที่ผิด... ก็คือการที่เขารู้สึกอยู่คนเดียว






------------------------------------------------------







ความเงียบโรยตัวขึ้นหลังจากนางพยาบาลขอตัวออกไปด้านนอก ตอนนี้ภายในห้องตรวจจึงมีแค่จิตแพทย์อธิศกับว่าที่เภสัชกรชนกันต์เท่านั้นที่ยืนสร้างความอึดอัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร สีหน้าอิดโรยของคนอ่อนวัยกว่ายังคงดูรั้นเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แล้วก็ยืนยันท่าทีด้วยการไม่ยอมเดินมานั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม


อธิศตัดสินใจเก็บเรื่องปฏิกิริยาของศรัณย์เมื่อครู่เอาไว้ในใจแล้วให้ความสนใจกับคนตรงหน้า คนตัวเล็กกว่าดูอยากจะพูดคำว่ามีอะไรออกมาเต็มแก่


“แผลคุณหายดีหรือยัง” ถามไปถึงรอยข่วนใต้กางเกงที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ชนกันต์ทำเพียงแค่พยักหน้ารับ ถ้าคิดในแง่ดีนี่คงไม่ใช่การจงใจกวนประสาทสักเท่าไหร่ “นั่งสิครับ” อธิศเหลือบมองนาฬิกาข้อมือซึ่งบอกเวลาเกือบ ๆ สองทุ่ม ร่างเล็กนั่งลงแล้ว แต่ยังล้วงสองมือไว้ในกระเป๋าเสื้อกาวน์เหมือนอย่างตอนที่ยืนอยู่


“หมอจะเรียกผมมาทำไมอีก” ถึงมันจะดูเสียมารยาทแต่ความขุ่นเคืองในใจกลับมีมากกว่า ไม่รู้ว่าหมออธิศจะอยากเจอเขาไปทำไมในเมื่อไม่เชื่อสิ่งที่พูด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถึงกับให้นางพยาบาลไปตามถึงที่ทำงานด้วยแล้ว อธิศไม่ตอบอะไรนอกจากเลื่อนถาดยาแบบมีฝาปิดไปตรงหน้าพร้อมกับแก้วน้ำเปล่าที่ยังคงมีไอน้ำเย็น ๆ เกาะอยู่รอบแก้ว พอจับดูถึงได้รู้ว่ามันอาจจะถูกนำเข้ามาครู่หนึ่งแล้ว


“ครับ?”


“ไดอะซีแพม คุณอยากได้มันไม่ใช่เหรอครับ” ใบหน้าหล่ออมยิ้มน้อย ๆ แล้วกอดอกรอให้ชนกันต์กินมันเข้าไป กลับกันที่ร่างเล็กเงยขึ้นมองเขาแบบไม่เชื่อสายตา และไม่กี่วินาทีต่อมามันก็หรี่ลงอย่างสงสัย “เอาใส่ปาก ดื่มน้ำตาม และไปนอนที่โซฟาครับ”


บางทีชนกันต์อาจจะไม่ได้ต้องการคำแกมสั่งแบบนี้ แล้วยิ่งถ้าจะต้องให้เขาไปนอนบนโซฟาตัวเดิมที่ต้องฝันร้ายและขาถูกข่วนจนเป็นแผลน่ากลัวนี่ด้วยแล้ว คำพูดของอธิศก็ดูจะเป็นเรื่องไร้สาระและไม่น่าฟังเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว


“ไม่ครับ ผมจะกลับไปนอนที่ห้องจ่ายยา”


“ผมอยู่ตรงนี้”


“คราวที่แล้วหมอก็พูดอย่างนี้” แล้วทิ้งให้เขาต้องเจอกับอะไรบ้าง อยากจะตัดพ้อออกไปจริง ๆ


นี่เป็นเรื่องที่อธิศอดจะรู้สึกผิดไม่ได้ ไม่ถึงห้านาทีที่เขาละสายตา แต่มันกลับเกิดเรื่องแปลกประหลาดและดูเหมือนจะฝังลึกลงไปในใจอีกฝ่ายจนเป็นผลกระทบทางจิตใจ ร่างสูงโน้มตัวมาข้างหน้า ประสานสองมือลงวางบนโต๊ะแล้วว่าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนจนน่าคล้อยตาม


“ครั้งนี้ผมจะไม่ไปไหน”


“....”


“จะนั่งอยู่ตรงนี้”


“....”


“ผมสัญญา”


ได้ยินอย่างนั้น ชนกันต์ก็แสร้งบอกตัวเองให้ใจแข็งต่อไปไม่ไหว ลึก ๆ แล้วสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้ก็คือที่พักพิง จิตแพทย์นี่เกลี้ยกล่อมเก่งทุกคนเลยหรือไงนะ


สุดท้ายแล้วชนกันต์จึงหยิบยาในถาดขึ้นใส่ปากแล้วกระดกน้ำตามอย่างเสียไม่ได้ เห็นอย่างนั้นคนมองก็อมยิ้มแล้วหันหน้าเข้าจอแล็ปท็อปเพื่อสานต่องานที่ทำค้างไว้ หางตายังคงปรายมองคนที่เดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาด้วยท่าทางหวาดระแวง และอธิศก็ไม่ได้มีความคิดที่จะบอกความลับเรื่องที่เขาเห็นรอยยุบข้าง ๆ คลายตัวหลังจากเจ้าตัวลุกไปเมื่อครั้งที่แล้ว


ราวห้านาทีต่อมาก็ละสายตาจากแล็ปท็อปเพื่อมองดูอีกฝ่ายว่าเข้าสู่นิทราไปแล้วหรือยัง เหมือนคราวที่แล้ว ชนกันต์หลับง่ายมากเหลือเกิน อาจจะเพราะต้องอดหลับอดนอนมาครึ่งค่อนเดือน ลมหายใจผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอทุกครั้งที่เขาหันไปดู จนกระทั่งสองทุ่มครึ่งก็ปิดเอกสารงานทั้งหมดในหน้าจอแล้วหยิบฮาร์ดดิสแบบพกพากับหูฟังออกมาจากกระเป๋าส่วนตัว อธิศใช้เวลาเกือบชั่วโมงไปกับการนั่งดูหนังเรื่อยเปื่อย วันนี้เขาเตรียมตัวมาสำหรับการนั่งเฝ้าเด็กคนนี้หลับอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ว่าจะนั่งแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงเช้าเลยหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ แต่ถ้ามันจะทำให้คนไข้คนนี้ได้นอนหลับเต็มอิ่มสักคืนล่ะก็คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงเท่าไรนัก


อธิศไม่ได้ยินเสียงลมพัดหวีดหวิวจากทางด้านนอก ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงแอร์ภายในห้องทำงาน หูฟังทั้งสองข้างทำหน้าที่ส่งผ่านเสียงจากในหนังเข้าหูจนเลิกที่จะสนใจสิ่งแวดล้อมอย่างอื่นไปพักใหญ่ ฉากตัวละครหญิงกับชายทะเลาะกันเรื่องปัญหาครอบครัวดำเนินมาได้พักหนึ่งแล้ว หากแต่ความสนใจก็ต้องถูกดึงไปเมื่อไฟนีออนในห้องเกิดกระพริบถี่ ถอดหูฟังออกข้างหนึ่งเพื่อเงี่ยฟังเสียงฝนตก เพียงครู่เดียวร่างสูงก็ใส่หูฟังกลับเข้าหูดังเดิมหลังจากให้คำตอบกับตัวเองว่านี่ก็แค่ไฟตกธรรมดาเท่านั้นเอง


หากแต่ไฟที่ดับพรึ่บลงนี่มันกลับสร้างความแปลกใจให้กับคนที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลอย่างเขาเหลือเกิน เป็นไปไม่ได้เลยที่ระบบจ่ายไฟสำรองจะไม่ทำงาน บางทีอาจจะมีเพียงแค่ห้องนี้ห้องเดียวที่ฟิวส์ขาดหรือหลอดไฟมีปัญหา คิดได้อย่างนั้นจึงหยัดตัวเองลุกขึ้นเพื่อจะเปิดประตูไปดูทางโถงด้านนอก เขาอาจลืมไปว่ายังคาหูฟังไว้ที่หู ปลั๊กของมันถึงได้หลุดออกจากแล็ปท็อปจนเกิดเสียงหวีดดังไปทั่วห้อง


‘you're so nosy!’

( แกนี่สาระแนจริง! )


ทั้งห้องสว่างขึ้นมาอีกครั้ง อธิศรีบถลาไปกดหยุดเล่นไว้เพราะกลัวว่าเสียงเมื่อครู่จะทำให้อีกคนตกใจตื่นขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว เพราะชนกันต์ดีดตัวลุกขึ้นมานั่งมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวงเป็นที่เรียบร้อย


“เกิดอะไรขึ้น”


นายแพทย์หนุ่มถอดหูฟังออกจากหูลงวางบนแล็ปท็อปในขณะที่ดันมันปิดลงไปด้วย เขาแย้มรอยยิ้มบาง ๆ พลางว่าเสียงเรียบ “ไม่มีอะไร ผมทำหูฟังหลุดน่ะ” มันก็แค่เหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นเท่านั้น อธิศคิดว่ามันไม่ได้มีอะไรผิดปกติมากไปกว่าไฟที่ดับลงเมื่อครู่ และตอนนี้ทุกอย่างก็เข้าสู่ความปกติแล้ว “คุณนอนต่อเถอะ”


พอพูดออกไปอย่างนั้น ชนกันต์ก็ส่ายหน้าตอบกลับมาเป็นคำตอบ เสียงนั้นอ่อนลงกว่าก่อนหน้านี้พอสมควร “ไม่ครับ... ผมรู้สึกไม่ค่อยดี”


บรรยากาศดูจะแย่ลงกว่าที่เป็นอยู่จนน่าอึดอัด ใช้เวลาคิดไม่นาน อธิศก็เดินไปหยิบเอากระเป๋าเงินกับโทรศัพท์มาไว้กับตัว “คุณหิวหรือยัง”


“ครับ?”


“ออกไปหาอะไรกินกัน ผมเลี้ยงเอง” ร่างเล็กขมวดคิ้วน้อย ๆ หลังจากได้ฟัง อธิศเอื้อมตัวไปหยิบกระเป๋าส่วนตัวขึ้นมาถือไว้แล้วทำท่าจะเดินนำออกจากห้อง และนั่นทำให้ชนกันต์ต้องรีบลุกตามอย่างช่วยไม่ได้


คนตัวสูงพาเขาเดินออกจากแผนกจิตเวช ลัดเลาะตามทางเดินไปจนถึงบริเวณห้องจ่ายยาของตึกผู้ป่วยนอกที่ชนกันต์ทำงานอยู่ พอไม่ได้ใส่ชุดกาวน์หรือวางท่าเป็นหมอเหมือนอย่างในห้องตรวจแล้ว อธิศก็เป็นแค่ผู้ชายอายุมากกว่าคนหนึ่งที่ช่วยให้เขาอบอุ่นใจอย่างประหลาด


“เดี๋ยวคุณเข้าไปเอาของ ผมจะรอที่หน้าห้อง”


พูดแล้วก็ยืนรอที่หน้าห้องจ่ายยาอย่างที่ว่า แล้วปล่อยให้ชนกันต์เข้าไปเก็บสัมภาระใส่กระเป๋าส่วนตัว นั่นรวมถึงการถอดเสื้อกาวน์ประจำตัวออกแขวนไว้ที่มุมห้องด้วย พูดคุยกับเจ้าหน้าที่กะดึกนิดหน่อยร่างเล็กก็ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบย่อมที่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าสมุด ยา และพวงกุญแจ


“เราจะไปไหนกันครับ” ถามทั้งที่ยังเดินตามอีกฝ่ายไปยังลานจอดรถ ชนกันต์มองตามแผ่นหลังของร่างสูงที่ยังคงเดินด้วยระดับความเร็วเท่าเดิม มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าหนังใบเล็กสำหรับใส่แล็ปท็อป ของส่วนตัว และถือแฟ้มเอกสารสองสามอัน ส่วนอีกมือนั้นเพียงแค่ล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบาย ๆ


“คุณอยากกินอะไร”


ถูกถามกลับมาอย่างทื่อ ๆ จนตอบไม่ถูก สัปดาห์ที่ผ่านมาเขานึกออกแค่อาหารไม่กี่อย่างในศูนย์อาหารโรงพยาบาล อยู่ดี ๆ มาให้คิดใครจะไปนึกออกกัน “ผมคิดไม่ออกหรอก หมอเลือกเลย”


อธิศเพียงแค่ยิ้มและเดินต่อไปเท่านั้น บรรยากาศในลานจอดรถนั้นเงียบและวังเวงจนชวนให้รู้สึกหวาดกลัว แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการให้เขาเดินมาคนเดียวในเวลาแบบนี้ ชนกันต์เร่งฝีเท้าจนทันขึ้นไปเดินขนาบข้างอีกฝ่าย พอเห็นอย่างนั้นคนตัวสูงจึงยินดีเดินช้าลงโดยไม่ต้องถามให้มากความ “รถผมจอดอยู่ทางนั้น”


ทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้ารถยนต์สีขาวสะอาดซึ่งเป็นของหมออธิศอย่างไม่ต้องสงสัย ร่างสูงกดรีโมทปลดล็อกประตูพลางหันไปมองสีหน้าไม่สู้ดีนักของคนข้าง ๆ ขณะชี้ไปอีกทาง


“กลัวที่จะขับรถคนเดียวเหรอครับ” ถามออกไปเหมือนตอนตรวจอาการไม่มีผิด แต่เชื่อเถอะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ชนกันต์รู้สึกดีกับคำถามของจิตแพทย์คนนี้ ถึงได้ยอมพยักหน้ารับอย่างง่ายดาย


“หมอจะคิดว่าผมบ้า --”


“งั้นไปรถผม” อธิศไม่ได้ต้องการฟังประโยคตัดพ้อหรือเหตุผลเดิม ๆ อีก แค่นี้เขาก็พอดูออกว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว “เดี๋ยวผมพาคุณกลับมาส่งเอง”


พูดจบก็เดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วขับออกมาเพื่อให้ชนกันต์เปิดประตูได้ง่ายขึ้น รับเอากระเป๋าอีกฝ่ายมาแล้วเอี้ยวตัวไปวางรวมกับสัมภาระของตัวเองยังเบาะหลังรถ สิ่งที่เขาควรทำในตอนนี้ก็คือทำให้คนไข้สบายใจขึ้น


และถ้านี่เป็นคืนที่ทำให้ไม่ต้องอยู่คนเดียวล่ะก็... ชนกันต์ยอมทั้งนั้น






------------------------------------------------------







น้ำอุ่นจากฝักบัวไหลรินลงตามร่างกายเปลือยเปล่า ในหัวก็คิดเรื่อยเปื่อยไปถึงใครอีกคนซึ่งยังไม่กลับมา ถึงย้ายมาอาศัยอยู่ด้วยกันแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ มีเวลาอยู่ด้วยกันวันหนึ่ง นับ ๆ ดูแล้วแทบไม่เกินหกชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นหกชั่วโมงที่รามิลมีความสุขเสียยิ่งกว่าอะไร ศรัณย์เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเขายังอยู่มัธยมปลาย ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นความสัมพันธ์แบบนี้ไปได้ยังไง อาจจะเริ่มต้นที่ความรู้สึกดี ๆ หรืออะไรก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเที่ยวไปป่าวประกาศหรือเปิดตัวสถานะให้คนอื่นรู้ แม้แต่ในสายตาเพื่อนด้วยกันแล้ว รามิลกับศรัณย์เป็นเพียงแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันเท่านั้น


ก้มลงมองเมื่อน้ำที่นองอยู่บนพื้นห้องน้ำมันขังขึ้นมาจนถึงตาตุ่ม เวลาที่น้ำไม่ยอมไหลลงท่อก็มักจะเกิดจากเศษผมไปอุดตันแทบทุกครั้ง รามิลจึงใช้ปลายเท้าเขี่ยบริเวณท่อโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากความ หากแต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือการที่ฝาท่อระบายน้ำมันไม่ได้อุดตันไปด้วยเศษผมอย่างที่คิด ยกเท้าออกก่อนจะเพ่งมองดูแล้วก็เห็นว่ามันคือก้อนดิน ซึ่งก็นึกไม่ออกเลยสักนิดว่าเขาหรือศรัณย์เคยทำอะไรที่มันจะพาเศษดินเข้ามาอยู่ในห้องน้ำได้บ้าง


Rrrr


เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องละความคิดในหัวและรีบกุลีกุจอล้างสบู่ออกจากตัวโดยเร็วที่สุด หยิบผ้าขนหนูมาพันเอวอย่างลวก ๆ แล้วเปิดประตูออกไป เสียงโทรศัพท์เงียบไปแล้ว รามิลหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดู คิดในใจว่าอาจจะเป็นศรัณย์


หากแต่ชื่อที่เห็นกลับทำให้คิ้วเรียวต้องขมวดเข้าหากันจนเป็นปม เด็กหนุ่มรีบกดโทรกลับอย่างไม่คิด ทั้งที่เพิ่งจะผ่านไปได้แค่ไม่ถึงนาที แต่ปลายสายกลับเป็นเสียงโอเปอเรเตอร์ที่ไม่ได้พูดประโยคซึ่งใหม่ไปกว่าการขาดการติดต่อ กดวางแล้วโทรไปอีกรอบ หากแต่เสียงที่ตอบกลับมาก็ยังเป็นเสียงโอเปอเรอเตอร์อย่างเดิม


ทั้งที่เมื่อสักครู่นี้แพรพลอยเพิ่งจะโทรหาเขาในรอบเดือนนับตั้งแต่ที่หายตัวไปแท้ ๆ






TBC





----------------------------------------------------


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ ดีใจมาก ๆ ที่หลายคนชอบเรื่องนี้ :man1:
อันที่จริง นี่เป็นนิยายแนวสยองขวัญเรื่องแรกของเราค่ะ 555555555555
ส่วนตัวเป็นคนชอบอะไรแบบนี้มาก (ชอบทริลเลอร์มากด้วย) แล้วเป็นพวกไม่กลัว
บางทีเขียนไปก็มโนตามแบบที่ตัวเองชอบ แต่ไม่รู้ว่ามันจะน่ากลัวบ้างหรือเปล่า (ฮา)





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: hotoil ที่ 23-02-2015 18:46:00
หมอโดนแล้ววววว .. หลอนอ่ะ T^T
ชนกันต์สู้ๆ เจอขนาดนี้ใจแข็งสุดๆแล้ว
ถ้าผู้หญิงคนนั้นตามติดขนาดนี้มันต้องมีอะไรเชื่อมกันแน่ๆ..(ว่าแต่คืออะไร 555)
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: hotoil ที่ 23-02-2015 19:01:11
รู้แล้วว่าเธอคือใคร... แต่ไม่เข้าใจทำไมเธอถึงตาม ... (หลอน)
เริ่มโดนกันทีละคนแล้ว บรรยายได้เห็นภาพจนเรากลัว และเริ่มหลอน 555
แพรพลอย...ทำไมเธอถึงตาย แล้วตามมาหลอกคนที่ไม่ได้ฆ่าเธอ? หรือ จะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน?
อารมณ์คล้ายอ่าน WARD ห้องคลอดมรณะ เลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 23-02-2015 19:13:16
เอิ่ม...แพรพลอยหนูจะมาบอกอะไรลูก
มาซะสะพรึงเลยนะ แล้วทำไมถึงว่าหมออธิศสาระแน
หรือหนูจะมีอะไรในกอไผ่กับหนูกันต์ น่าสงสัยๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 23-02-2015 19:16:29
นางหลอนมากจริงๆ เล่นหลอกทุกผู้ทุกคนไม่เลือกเลย :sad4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 23-02-2015 19:25:10
มันจะต้องมีอะไรเชื่อมโยงกันซักอย่าง รามิลต้องรู้จักผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ

เฮ้อ ขนลุก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 23-02-2015 19:25:54
เมื่อคืนวาน อ่านตอน สาม ทนต่อไปไม่ไหว จนต้องไปหาอ่านฟิคเลยทีเดียว
พยามอ่านชื่อ คนให้สลับกัน เพื่อเพิ่มอรรถรส ซะหน่อย แต่ก็แอบสับสน 55
เราชอบเวอร์ชั่นที่เป็นชื่อไทยนะ ดูจินตนาการง่าย ได้อารมณ์กว่า ไปเอาชื่อคนอื่นมาแล้วแต่งฟิค
มันขัดอารมณ์อะ เอาจริง #เราเป็นพวกชอบจินตนาการหน้าตัวละครเอง
แต่ก็อย่างว่าแหละ อ่านจนจบภาคปรสิตเลยทีเดียวเชียว รอภาคแคปซูลต่อนะ
ส่วนเรื่องนี้ก็จะตามไปเรื่อยๆจ้า
มันคงได้อารมณ์กว่าการจิ้นชื่อเองเยอะ 555
รอตอนหน้าจ้า
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 23-02-2015 19:50:57
หลอนโฮกกกกกก  วันละสามตอนไม่ได้หรอ :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoionlyyes ที่ 23-02-2015 20:02:04
ฮืออออ กลัวอ่ะ ไม่อยากอ่านต่อแล้วว แต่อยากรู้ว่าปมคืออะไร โอ๊ยยย  :m15:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-02-2015 20:15:09
ชอบอ่ะ เราก็เรียนสายวิทยาศาสตร์ แต่ก็รู้ว่าบางอย่างมันอธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ :z3:
ดังนั้นมันน่าติดตามมากค่ะว่าชนกันต์ หมออธิศ หมอศรัณย์ รามิล จะหาคำตอบกับเรื่องนี้ยังไง :impress2:
ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ชอบมากับดินโคลนจะเป็นคนเดียวกับแพรพลอยหรือเปล่า แต่ถ้าอยากให้ช่วยอะไรน่าจะบอกดันดีๆเนอะ :katai1:
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกขัดแย้งคือ ตอนเป็นคนยังทำอะไรแบบอภินิหารไม่ได้ พอกลายเป็นกลุ่มก้อนพลังงานบางอย่าง (ยืมคำรายการดังมา) ถึงได้ทำเรื่องเหนือธรรมชาติได้ซะงั้น
แต่คำตอบก็คงอยู่ในคำถามแหละเนอะ...ก็ผีมันเหนือธรรมชาตินี่ :katai1:
ถ้าสิ่งมีชีวิตแบบปรสิตนี่ นิสัยไม่ดีนะคะ มีแต่ได้กับได้ พยายามคิดอยู่ว่าคุณผีนี่จะมาแนวไหน :sad4:
กลัว แต่ชอบมากค่ะ นี่ก็อ่านตอนกลางคืน แต่คงต้องเปิดไฟนอน หวังว่าไฟจะไม่ดับเองนะฮะ o22
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ѷanᴉ££a ที่ 23-02-2015 20:22:37
เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม

ข้อมูลก็แน่นมากจ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: MonsterKJ95 ที่ 23-02-2015 20:27:51
เพิ่งจะได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก เพราะตอนแรกคิดว่ามันไม่น่าจะสนุก T^T แต่พอเจอคนในทวิตเตอร์สปอยล์เลยต้องมาอ่านนี่แหละ  :-[

เราว่าเป็นแพรพลอยแน่ๆเลย แต่ก็ยังไม่ทราบดีว่าแพรพลอยเกี่ยวอะไรกับทั้งสี่คนนี้ รอตอนต่อไปเนอะ สนุกดีน่าติดตามขนาดมาแค่สี่ตอนเอง  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 23-02-2015 20:28:40
ฮื่ออออ หลอนอ้าาา นี่ระรานคนอื่นเพิ่มอะ ปรสิตหรือเชื้อโรคคคค :katai1: :katai1: :sad4: :sad4: :ling3: :ling3: :ling3:  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 23-02-2015 20:33:45
เทพมาก อยู่คนละที่แต่แบ่งกระจายได้ครบทุกคน เทพเทพ ผู้หญิงคนนี้เทพจริงๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: on_2542 ที่ 23-02-2015 20:51:29
หลอนมากค่ะ
 :z3: :z3:
บอกตรงว่าระแวง5555555555555555
 :serius2: :angry2:
ไงก็มาต่อเร็วๆนะคะ
 :bye2: o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 23-02-2015 21:00:01
น่ากลัวว  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: toey-yyy ที่ 23-02-2015 21:46:34
ชอบอ่ะ LOVE เลย ขอบคุณนะค่ะ o13 o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 23-02-2015 22:54:10
งือออออ บุคคลปริศนาปรากฎตัวเเล้ววว!!
นางน่ากลัวอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Foey ที่ 23-02-2015 23:12:38
แพรพลอยเธอคือใครใช่ผีที่ตามชนมั้ยอ่ะ :hao4:
มาต่อไวๆนะ :call:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-02-2015 23:41:07
 ทำไมแพรพลอยต้องมาหลอกกันต์ด้วย   

อยากรู้ว่าทำไมถึงชื่อเรื่องปรสิตอ่ะคะ ถ้าบอกไม่ได้เป็นปมเรื่องหรืออะไรก็ไม่เป็นไรค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ผายลม888 ที่ 24-02-2015 10:22:40
เราชอบเรื่องนี้นะถึงจะระทึกขวัญแต่ทำให้เราฮาได้. เราคิดว่าผีผู้หญิงนั่นน่าจะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับรามิลไม่ทางใดก็ทางนึงแล้วเจ้าหมอศรัณย์ก็น่าจะมีส่วนในการตายอาจจะเป็นการยัดท่อหรือทิ้งลงบ่อร้าง...รึเปล่า  เหตุน่าจะเพราะความหึงหวงแต่ที่มาตาม...ตัวเอกอ่ะชื่อไรนะ ลืม เอ่อจำได้แต่ตัวประกอบ แต่ก็นั่นแหละตัวเอกน่าจะมีสัมผัสที่สื่อถึงกันหรือไม่ก็หน้าคล้ายคนรู้จักของเธอถึงได้ติดใจขนาดนั้นส่วนหมอโรคจิตนี่ทำเราฮาหลายครั้งอ่ะตอนมันเจอกับตัวเองมั่ง แล้วก็อยากจะบอกว่าชอบเรื่องนี้นิยายในเล้าช่วงนี้ไม่มีอันที่อยากอ่านเท่าไหร่ที่เราเข้ามาดูปรสิตนี่คือชื่อมันคล้ายกับการ์ตูนที่เคยอ่านก็เลยแวบมาดูปรากฏว่าติดซะแล้ว ไอ่เรามันประเภทชอบเดาเรื่องอ่านรวดเดียวจบแล้วคันไม้คันมือจริงๆไว้คราวหน้าจะมาเม้นต์อีกนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 04 』 | horror thriller (23-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 24-02-2015 16:14:02
ไม่กล้าอ่านตอนกลางคืนเลยอะ เดี๋ยวไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำ :ling3:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 24-02-2015 21:05:37
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 05







ร้านข้าวต้มติงลี่ คือสิ่งที่ทั้งคู่เลือกจะจอดรถและลงไปนั่งกินด้วยกัน แพทย์หนุ่มอมยิ้มเล็ก ๆ กับท่าทางที่เหมือนไปอดอยากมาจากไหนของชนกันต์ เขาแค่ลองเชิงถามไปว่าอยากกินอะไรบ้าง แล้วสั่งมาให้ ถึงอีกฝ่ายจะปฏิเสธด้วยสีหน้าเกรงใจ สุดท้ายแล้วกัยข้าวหลายอย่างก็วางอยู่เต็มโต๊ะจนเลือกกินไม่ถูก


“ผมชอบร้านนี้มาก รสชาติถูกปากคุณใช่ไหม”


“อร่อยมากเลยหมอ” พูดเสร็จก็ตักข้าวต้มใส่ปากคำโต นานแค่ไหนแล้วที่เด็กคนนี้อยู่กับความหวาดระแวงจนกินอะไรไม่ลง พอเห็นชนกันต์ดูผ่อนคลายขึ้น เขาก็รู้สึกดีไปด้วย


“งั้นก็กินเยอะ ๆ” อธิศพูดแค่นั้น บางทีเขาควรจะเริ่มบรรลุวัตถุประสงค์ในตอนที่ทั้งคู่อิ่มท้องดีแล้ว เพราะรู้ดีว่าพอถึงตอนนั้น ชนกันต์คงไม่ยิ้มและคีบเอาอาหารใส่ปากอย่างมีความสุขแบบนี้อีก


ครึ่งชั่วโมงสำหรับความสุขประจำวันของว่าที่เภสัชกรน้องใหม่ ตาเรียวรีเสมองต้นเหตุของเสียงฝนก้องจากทางนอกร้าน ขอบคุณที่มีแค่ถนนคอนกรีตและรถยนต์สีซ้ำ ๆ กันบนถนนที่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรไปมากกว่าการอยากมากินอาหารร้านนี้ทุกวัน ชนกันต์คีบยำปลาสลิดคำสุดท้ายใส่ปาก ก่อนจะวางรวบตะเกียบไว้ในชามอย่างเรียบร้อย คนตรงข้ามกินเสร็จก่อนเขาไม่นานนัก แล้วตอนนี้หมออธิศก็ประสานสองมือไว้บนโต๊ะแล้วปล่อยให้แผ่นหลังพิงกับพนักเก้าอี้ในท่าทีสบาย ๆ อย่างที่ชอบทำ


“เราจะกลับกันเลยหรือเปล่าครับ” คนตัวเล็กถาม เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งอีกฝ่ายแย้มรอยยิ้มออกมานั่นแหละ


“จริง ๆ แล้วผมแค่อยากจะคุยกับคุณสักหน่อย” อธิศเปิดบท เป็นอย่างที่คาดว่าชนกันต์ยกแก้วน้ำปากขึ้นกระดกลงคอแล้วมีสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษหลังจากนั้น  “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ”


พออีกฝ่ายไม่ได้มองคนไข้ผ่านเลนส์แว่นอย่างทุกทีแล้ว ชนกันต์ก็คิดว่าบรรยากาศระหว่างเขากับชายหนุ่มตรงหน้าดูผ่อนคลายขึ้นอย่างประหลาด สายตาที่มองมานั้นไม่ได้คาดคั้น มันกำลังรอฟังคำตอบอย่างใจเย็น แล้วก็ทำให้เขารู้สึกเสียไม่ได้หากจะเลี่ยงการซักถามในครั้งนี้


“หมออยากให้ผมตอบว่าอะไรล่ะ” คนถูกถามกวนประสาทตอบในประโยคแรก แต่แล้วเขาก็เริ่มพูดในสิ่งที่สมองค่อย ๆ นึกออกอย่างช้า ๆ “ผมก็ยังอยู่คนเดียวไม่ได้ ไอ้เสียงฝีเท้าที่เกินมาหรือว่าความรู้สึกที่เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวก็เหมือนเดิม”


“ครับ” อธิศตอบรับ มันเบาพอที่จะไม่ขัดการบอกเล่าใด ๆ


“ผมยังไม่ได้เล่าให้หมอฟังว่าทำไมวันนั้นผมถึงได้โกรธหมอขนาดนั้น”


ถึงตรงนี้ ชนกันต์ก็เหมือนจะรู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย ไม่คิดด้วยซ้ำว่าหมออธิศจะเรียกให้มาหาเพื่อนั่งเฝ้าเขานอนหลับแบบนั้น แล้วยังเรื่องที่หันไปเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังลอบมองเขามากกว่าสองครั้งในรอบสัปดาห์นี้ด้วย ถึงได้พอรู้ว่าถูกจับตามอง


อธิศโน้มตัวมาข้างหน้าและไม่ได้ตอบรับอะไรอีก นั่นเป็นกิริยาบ่งบอกว่าพร้อมจะตั้งใจฟังข้อมูลใหม่ ๆ แล้ว


“ตอนนั้นผมกลัวที่จะต้องนอนในห้องหมอ แต่ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร แค่งีบสักตื่นก็ได้ยานอนหลับแล้ว ยิ่งหมอบอกว่าจะนั่งเฝ้าผมแบบนั้น...”


“….”


“ไม่รู้ว่าหมอออกไปตอนไหน บอกตรง ๆ ว่าผมง่วงเต็มแก่ แต่พอเริ่มคล้อยจะหลับก็มีเศษผม -- ผมหมายความว่ามีเส้นผมมาระ ๆ หน้าผมอยู่แบบนี้” ทำมือเป็นท่าทางปัด ๆ บนใบหน้า ในตอนนั้นเองที่ชนกันต์กระแอมเล็กน้อยเหมือนตอนที่พยายามขับเส้นผมออกจากปากอีกครั้ง “แล้วพอลืมตา ผมก็เห็นผู้หญิง... เป็นผู้หญิงตัวซีด ๆ ใส่ชุดสีขาว กำลังมองมาที่ผมแล้วก็อ้วกโคลนออกมาเต็มไปหมด”


ร่างเล็กไม่กล้าเสสายตาไปทางอื่นนอกจากมองกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตรงหน้า เขาแค่กลัวว่าจะต้องเจอใครสักคนกำลังหันมายิ้มให้แล้วอาเจียนดินโคลนใส่แบบภาพในความคิด


“แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น”


“ผมก็ได้แต่หลับตาปี๋ มันทั้งกลัว ทั้งขยะแขยง รู้สึกเหมือนตัวเองเปียกไปทั้งตัวแต่ก็ไม่กล้าลืมตามองอยู่ดี” ชนกันต์จิกเท้าซ้ายภายใต้รองเท้าผ้าใบเล็กน้อย เขาขยับมันเข้าหาตัว “ขาซ้ายผมโดนจับไว้”


“....”


“ตอนนั้นผมไม่กล้ามองหรอก แต่ก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเลยลืมตา”


“....”


“ผู้หญิงคนนั้นข่วนขาผม จากนั้นหมอก็เข้ามาพอดี”


“....”


“ผมกลัวมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่เคยเจอมันแบบชัดเป็นตัวเป็นตนขนาดนี้ ผมไม่คิดว่าขาตัวเองจะมีแผลจริง ๆ ด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นผมก็โมโหด้วย พอคิดว่าหมอคงหาว่าผมข่วนขาตัวเองแน่ ๆ”


“....”


“ใครมันจะบ้าทำร้ายตัวเองแบบนั้น ผมน่ะรักตัวเองยิ่งกว่าอะไรดี”


มือแกร่งของอธิศขยับน้อย ๆ แทนความคิดที่วิ่งแล่นอยู่ในหัว ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตีความอย่างรุนแรงได้สองทาง ในทุก ๆ ห้าวินาที อธิศจะเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง แต่ในห้าวินาทีต่อมาก็รู้สึกกลับไปทางอีกฝั่ง


“หมอพูดอะไรบ้างสิ” ถ้าร่างสูงยังไม่พูดอะไรออกมา ชนกันต์คิดว่าเขาอาจจะร้องไห้ ในตอนนี้เขาขอแค่คำว่าแบบนี้นี่เอง หรือผมเข้าใจแล้ว อะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่รอจนแล้วจนรอดเขาก็ยังอยู่กับความผิดหวัง เมื่อหมออธิศไม่ตอบอะไรกลับมาสักที


ท้ายสุดชนกันต์ได้ยินเสียงกุญแจกระทบกันและเสียงดังครืดจากการเคลื่อนเก้าอี้ อธิศหยัดยืนขึ้นเต็มความสูง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะอยากรู้สึกร้องไห้ขึ้นมาจริง ๆ เพราะคนตรงหน้าเดินผ่านเขาไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ทุกอย่างมันดูแย่สิ้นดีเพียงคิดว่าเก้าอี้ว่าง ๆ ตรงหน้าจะมีผู้หญิงคนนั้นนั่งหัวเราะเยาะแล้วสบถคำว่าไม่มีใครเชื่อชนกันต์ออกมา


ความรู้สึกที่เหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกมันเป็นแบบนี้นี่เอง


“ไปกันเถอะ”


“ครับ”


ได้ยินเสียงผ่านเข้าหูก็ได้แต่ยืนขึ้นตาม ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายกำลังมีท่าทีแบบไหน อธิศอาจจะแค่กำลังเก็บเงินทอนใส่กระเป๋าและนึกอยากพาเขากลับไปส่งที่โรงพยาบาลให้จบเรื่อง หรือกำลังชั่งใจว่าชนกันต์ดูเหมือนคนเสพยาเกินขนาดหรือเปล่า


หลังจากปิดประตูรถก็ได้แต่แปลกใจ เมื่อคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับเพียงแค่สตาร์ทรถทิ้งไว้ อธิศเหมือนคนที่กำลังครุ่นคิดเรื่องเดิม ๆ ซ้ำไปมา


“กันต์”


“ครับ?”


“ช่วยบอกทางไปแมนชั่นของคุณด้วยครับ”


ชนกันต์คิดว่าเขาต้องได้ยินประโยคเมื่อครู่นี้ผิดไปแน่ ๆ นี่น่ะมันงี่เง่าสิ้นดี “หมอหมายความว่าไง”


“ผมจะพาคุณกลับไปส่งที่นั่น”


“หมอ...” แผ่นหลังเหยียดตรงขึ้นจนดูลุกลี้ลุกลน อีกครั้งที่ชนกันต์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาควรจะวางมือไว้ตรงไหน หรือการเปิดประตูรถลงไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เป็นสิ่งที่สมควรทำหรือเปล่า “ไม่... ไม่เอาแน่ ๆ”


“การที่คุณนอนโรงพยาบาลก็ไม่ได้ทำให้คุณนอนเต็มอิ่มขึ้น” นี่อาจจะเป็นสิ่งที่อธิศคิดดีแล้ว ถึงแม้เห็นความตื่นตระหนกของคนตรงหน้าแค่ไหน แต่นายแพทย์หนุ่มก็คิดว่ามันยังไม่มากพอให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนความคิด “เก็บของที่คุณคิดว่าจำเป็น แล้วเราจะกลับไปคอนโด ฯ ผมด้วยกัน”


“....” ชนกันต์รู้สึกเหมือนตัวเองคงเป็นไอ้งั่งถ้าเลือกถามออกไปอีกครั้ง “หมอหมายถึง... ให้ผมไปค้างด้วย? กับหมอ?”


อธิศคิดเรื่องนี้นับตั้งแต่ที่ฟังคำบอกเล่าของชนกันต์จบ เขาให้คำตอบตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าควรเชื่อหรือทำอย่างไรกับความเชื่อของเด็กคนนี้ดี มันคงเลวร้ายมากหากจะด่วนตัดสินว่านี่คือการคิดไปเองอย่างเช่นโรคไฮโปคอนดริเอซิส ยิ่งแสดงออกไปอย่างนั้นก็รังแต่จะส่งผลในทางลบ แต่ด้วยความเป็นคนของวิทยาศาสตร์ทำให้เขาทำใจเชื่อคนไข้คนนี้ได้ยากเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นบทสรุปอันคาดเดาไม่ได้นั่นแหละที่ปลุกนิสัยชอบความท้าทายอย่างช่วยไม่ได้


“มันอาจจะฟังดูน่าโมโหสักหน่อย” ดวงตาคมปราดมองเขาจากที่นั่งฝั่งคนขับ นี่อาจเป็นการกระทำที่ไม่ก่อให้เกิดหรือส่งผลใด ๆ ก็ตามแต่ “แต่ผมกำลังพยายามเข้าใจคุณอยู่”


“หมอไม่เชื่อผม...”


“ไม่ใช่” ตาของอธิศเป็นสีดำวาว มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสายตาของปราชญ์ “ขอพูดอีกครั้ง ว่าผมกำลังพยายามที่จะเข้าใจคุณอยู่”


รถยนต์สีขาวถอยออกจากที่จอดในขณะที่ชนกันต์มองเห็นแค่หมอนกั้น แสงไฟสีเหลืองสาดผ่านรถคันข้าง ๆ แต่แค่ครู่เดียว การจราจรของกรุงเทพ ฯ ในตอนกลางคืนก็พากันยัดเยียดเข้ามาอยู่ในกรอบสายตา ถนนเบื้องหน้าดูเหมือนโถงทางเดินสีขาวของโรงพยาบาล และเบาะรถนุ่ม ๆ นี่ก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากรถเข็นคนไข้เลยสักนิดเดียว


‘ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่คนเดียว’


เหมือนหมออธิศจะบอกเขาอย่างนั้น ทั้งที่ปากไม่ได้ขยับและสายตายังทอดมองไปอีกทาง






------------------------------------------------------







ศรัณย์ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าคอนโดมิเนียมของเขาจะชวนให้รู้สึกวังเวงได้เท่านี้ หลังจากจอดรถเข้าที่จนล้อแตะกับหมอนกั้นเรียบร้อยแล้ว ร่างผอมโปร่งก็เอื้อมแขนไปหยิบกระเป๋าส่วนตัวจากเบาะนั่งข้าง ๆ แล้วเปิดประตูรถ ยามคนใหม่ไม่ได้มีนิสัยช่างคุยเหมือนคนเก่าที่พร้อมเอ่ยทักทายว่าคุณหมอทุกครั้งที่เจอหน้า ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี เพราะตอนนี้เขาเพลียเกินกว่าจะมานั่งร่ายชีวิตประจำวันให้ใครสักคนฟัง


ลิฟท์สองตัวตั้งอยู่คู่กันและมีบันไดอยู่ทางซ้ายมือ ห้องของเขาอยู่ชั้นเจ็ด แน่นอนว่าศรัณย์ไม่มีทางใช้บันไดแน่ตราบใดที่เขายังจ่ายค่าส่วนกลางครบตามกำหนดและมีสิทธิ์รับสวัสดิการทุกอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ รอไม่ถึงครึ่งนาทีลิฟท์ก็เลื่อนลงมาจากชั้นหกและส่งเสียงดังเรียกให้เขาก้าวเท้าขวาไปยืนรอหน้าลิฟท์ตัวที่สอง กดเลขเจ็ดอย่างลวก ๆ และเดินเข้าไปยืนพิงผนังลิฟท์ทางด้านในสุด หากแต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นเส้นผมสีดำขลับยาวระกลางหลังยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับประตูลิฟท์ซึ่งปิดลง หยัดตัวขึ้นตรงเล็กน้อยเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ใช้ลิฟท์เพียงคนเดียว หญิงสาวไม่กดปุ่มที่ชั้นไหน และนั่นหมายความว่าตัวเลือกในการคาดเดานี้มีเพียงทางเดียวว่าเธอคงเป็นเพื่อนบ้านชั้นเดียวกันไม่ผิดแน่


ภาพสะท้อนบนบานประตูไม่ได้ชัดเจนนัก มันบิดเบี้ยวตามรอยเจียโลหะและช่วยเรื่องที่พยายามนึกการมีอยู่ของเธอได้แค่รูปพรรณคร่าว ๆ เพราะไม่ได้อยู่ติดห้องนัก ศรัณย์จึงไม่แปลกใจหากว่าเขาจะจำผู้อาศัยไม่ได้ครบทุกคน


ทันทีที่พื้นชั้นเจ็ดปรากฏแก่สายตา นายแพทย์หนุ่มยืนรอจนอีกฝ่ายเดินออกจากลิฟท์ไปก่อนแล้วเขาค่อยเดินตาม หากแต่เสียงดังจากพวงกุญแจรถที่ตกบนพื้นนั้นกลับเรียกฝีเท้าให้หยุดลงเพื่อก้มเก็บ ศรัณย์ไม่คิดว่าการทำงานเป็นผู้เสียสละจะทำให้เหน็ดเหนื่อยจนมือไม้อ่อนขนาดนี้


หากทันทีที่ช้อนระดับสายตาสูงขึ้นก็ยิ่งเบิกโพลง เมื่อเห็นชายกระโปรงสีขาวของหญิงสาวในลิฟท์หยุดอยู่หน้าห้องของเขา น่าเวียนหัวเล็กน้อยสำหรับการหยัดตัวขึ้นในระยะเวลาเสี้ยววินาที เขาคิดว่าตัวเองมองผิด แต่ความไม่แน่ใจกลับยิ่งเด่นชัดเมื่อมองในระดับสายตาปกติแล้วเห็นร่างไว ๆ ของเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องเขาก่อนจะปิดลงเฉกเช่นเจ้าของห้อง


ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินไปหยุดอยู่ยังจุดที่ผู้หญิงคนเมื่อครู่ยืนอยู่ เลือกเอาลูกกุญแจที่จำได้ขึ้นใจแล้วใส่ไปในรูลูกบิดนั้น คิ้วเรียวขมวดมุ่น เพ่งมองเลขห้องแล้วไม่ผิด แต่ศรัณย์กลับไขประตูไม่ออก “เก้า” ร้องเรียกคนในห้องเมื่อจิตใจรู้สึกผิดปกติขึ้นมา ใช้แรงกระแทกประตูเล็กน้อยตอนที่พยายามหมุนลูกกุญแจเพื่อเปิดให้ออก หลังรู้ว่ามันไม่ได้ผล ศรัณย์ก็ส่งเสียงเคาะแล้วร้องเรียกคนข้างในซ้ำ ๆ “เก้า ได้ยินไหม”


ศรัณย์ไม่ใช่คนช่างหึงหวงที่จะคิดไปถึงเรื่องพรรค์นั้นเป็นอันดับแรก เขาแทบยังไม่มีความคิดใด ๆ ในหัวด้วยซ้ำนอกจากความต้องการที่จะเข้าไปในห้องซึ่งตนเป็นเจ้าของ อย่างน้อยรามิลก็ควรขานตอบมาบ้าง หรือถ้านานกว่านี้ ศรัณย์อาจจะต้องลงไปเรียกยามประจำตึกมาช่วยดู


“เก้า! เปิดประตู ได้ยินพี่ไหม” ร้อยวันพันปีกุญแจไม่เคยมีปัญหา แล้วศรัณย์ก็ไม่คิดว่าไอ้การที่พวงกุญแจตกจากมือเขาเมื่อครู่มันแรงมากพอให้สร้างรอยบิ่นใด ๆ นี่มันดึกเกินไปสำหรับการที่เขาจะกระแทกกระทั้นให้เกิดเสียงดังโครมครามรบกวนห้องอื่น ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าไม่ควรจัดการเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเองในกลางดึก อย่างน้อยยามรักษาความปลอดภัยก็อาจมีกุญแจสำรอง และนั่นทำให้เขาหมุนตัวกลับไปทางลิฟท์ซึ่งเพิ่งเดินออกมาทันที


“....!!”


ร่างทั้งร่างผงะถอยเมื่อเห็นคนคุ้นเคยยืนอยู่ตรงหน้า รามิลในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสามส่วนดูแปลกใจอย่างคนที่เจอสิ่งผิดปกติ มือข้างหนึ่งถือถุงร้านสะดวกซื้อ ส่วนอีกมือเป็นพวงกุญแจส่วนตัวห้อยสัญลักษณ์ฮีโร่อย่างที่เจ้าตัวชอบ


“เก้า?”


“มีอะไรเหรอครับ” เจ้าของชื่อถามกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน รองเท้าแตะของรามิลยังมีคราบเปรอะ ๆ จากพื้นแฉะฝนภายนอก แล้วศรัณย์ก็ถามสิ่งที่ไม่น่าถามออกมา


“หายไปไหนมา”


รามิลดูงงงวยยิ่งกว่าเก่า เด็กหนุ่มอมยิ้มน้อย ๆ แล้วชูถุงร้านสะดวกซื้อขึ้นให้คนตรงหน้าดู “ผมไปหาอะไรกินที่เซเว่นมา ไม่คิดว่าพี่จะกลับเร็ว ไม่งั้นคงรอชวนไปหาอะไรกินด้วยกันแล้ว”


น่าแปลกใจที่ศรัณย์ไม่เปิดประตูห้องเข้าไปเพื่อพูดคุยกันข้างในห้องอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่กุญแจก็คาอยู่ตรงลูกบิด เอื้อมตัวผ่านคุณหมอรุ่นพี่เล็กน้อย รามิลก็ไขกุญแจนั้นจนเกิดเสียงปลดล็อก นั่นยิ่งสร้างความแปลกใจให้ศรัณย์เมื่อประตูถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย คนอ่อนวัยเดินนำเข้าไปในห้อง ทุกอย่างปกติดีเหมือนตอนที่เขาเพิ่งล็อกและออกไปเมื่อสิบนาทีก่อนไม่มีผิด แท็บเล็ตยังคงวางไว้บนเตียงที่เดิม ไฟก็ถูกเปิดทิ้งไว้ ที่แปลกไปก็คงมีแต่คนรักซึ่งได้แต่ยืนอยู่ตรงประตูโดยที่ไม่ยอมเข้ามาถอดรองเท้าให้เรียบร้อยเสียที


“พี่เสือ”


ในห้องไม่มีความผิดปกติใด ๆ ไม่มีคนแปลกหน้า ไม่มีผู้หญิงผมยาวที่เขาเห็นกับตาว่าเธอเดินเข้ามาในห้องนี้ ศรัณย์เดินเข้ามาทั้งที่ไม่ถอดรองเท้าหนังดำขลับ เขาวางกระเป๋าไว้บนเตียงอย่างลวก ๆ เดินไปเปิดประตูห้องน้ำดูและผละไปที่ระเบียง ตรวจดูจนแน่ใจแม้แต่การชะโงกหน้าลงไปมองลานจอดรถทางด้านล่าง ห้องนี้ไม่มีที่ให้หลบซ่อนอีกแล้ว


มันเป็นไปได้ยังไง


“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า” สัมผัสอุ่น ๆ ของรามิลแตะลงบนบ่า ดวงหน้าขาวนั้นไม่ได้ส่อพิรุธว่ามีสิ่งแปลกปลอมใด ๆ เกิดขึ้น ศรัณย์ได้ตรวจดูจนแน่ใจกับตาตัวเองแล้ว เขาไม่รู้ว่าอาการตาฝาดมันน่าโมโหขนาดนี้


“ไม่มีอะไร” ตอบกลับปัด ๆ ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นเก้ ๆ กัง ๆ เมื่อคิดขึ้นได้ว่าได้เผลอทำห้องเปื้อนรอยดินไปจนทั่ว “เอ้อ... ’โทษทีนะ”


รามิลหัวเราะ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมถูพื้นเอง พี่ดูเหนื่อย ๆ นะ”


พูดจบก็เดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบเอาน้ำเปล่าขวดเล็กขึ้นมาแกะพลาสติกหุ้มฝาออกแล้วยื่นให้อีกฝ่าย รามิลรู้ว่าศรัณย์ทำงานหนัก อายุรแพทย์มักจะขาดแคลนเสมอสำหรับโลกที่คนยังป่วยออด ๆ แอด ๆ แบบนี้


“ขอบใจ” รับขวดน้ำเย็นที่ถูกเปิดฝาแล้วกระดกใส่ปาก อย่างน้อยถ้าเขาสดชื่นขึ้นก็อาจจะมีสติกว่านี้บ้าง “แค่ก ๆๆ”


“พี่เสือ!”


เด็กหนุ่มรีบเข้ามาดูอาการพลางลูบหลังให้ด้วยความเป็นห่วง สีหน้าศรัณย์เหยเก นายแพทย์ลดระดับมือลงจ้องฉลากบนขวดน้ำแล้วพูดทั้งที่คิ้วยังไม่คลายปม “ทำไมน้ำถึงเหม็นแบบนี้”


คนฟังเลิกคิ้ว รามิลรับขวดน้ำจากมือคนตรงหน้ามาดม ๆ ดูแต่ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นกลิ่นที่แปลกประหลาดไปกว่าน้ำเปล่าปกติยังไง เลยลองยกดื่มดูเสียสองสามอึก


“ก็ปกตินี่ครับ”


ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ศรัณย์ก็รู้เลยว่าเขาคิดไปเองคนเดียวอีกแล้ว






------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 24-02-2015 21:06:45
( ต่อ )





รถยนต์สีขาวแล่นเข้ามาจอดยังแมนชั่นซึ่งมีลักษณะเป็นตึกคู่รูปตัวยู ลานจอดรถใหญ่แน่นขนัดไปด้วยรถยนต์และมอเตอร์ไซด์ ยิ่งดึกก็ยิ่งหาที่จอดยาก นี่เป็นสิ่งที่ชนกันต์พูดหลังจากอธิศต้องขับวนหาที่จอดอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งยามประจำแมนชั่นโบกมือเรียกให้ไปจอดบริเวณกำแพงทางด้านหลังนั่นแหละ


ชนกันต์ไม่คิดว่านี่เป็นไอเดียที่เข้าท่านัก แต่ถึงอย่างนั้นการไม่ต้องอยู่คนเดียวก็นับเป็นข้อเสนอที่เย้ายวนจนทำให้เด็กหนุ่มยอมกลับมายังความทรงจำเลวร้ายที่ในที่สุด ชนกันต์ไม่ได้เหยียบห้องพักตัวเองตอนกลางดึกมานานมากแล้ว ทุกครั้งที่รู้สึกกลัว เขามักจะหันไปมองคนข้าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าหมออธิศไม่ได้หนีไปไหน อย่างน้อยการได้ยินเสียงฝีเท้าจากคนเป็นและไฟตลอดทางเดินไม่ได้กระพริบถี่ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี


ร่างเล็กขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพัก น้ำที่ซึมผ่านช่องใต้ประตูและอยู่ตรงปลายเท้าเขานี่มันดูผิดปกติเกินไป ควานหากุญแจในกระเป๋าเป้ ไม่คิดว่าแม่บ้านจะปล่อยหน้าห้องเขาผ่านไปถ้ามันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ชนกันต์เหยียบที่นี่ครั้งล่าสุด มือเรียวสั่นเทาในยามที่จับลูกบิดเย็นเยียบ เขาหันไปมองอธิศอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าจิตแพทย์หนุ่มยังคงยืนอยู่ที่เดิม ประตูห้องถูกดันเปิดออก ห้องไม่ได้เหม็นอับอย่างที่กังวล เลื่อนมือไปเปิดสวิทช์ไฟที่ข้างประตู แล้วก็ต้องขมวดคิ้วจนเป็นปมเมื่อแจกันดอกไม้ทรงสูงบนโต๊ะรับแขกเล็ก ๆ ล้มคว่ำจนน้ำไหลนองเจ่ออยู่บนพื้น ชนกันต์ไม่มีความทรงจำที่ว่าเขาทำมันล้มลงก่อนออกไป แต่นอกเหนือจากสิ่งนี้ ทุกอย่างปกติดี


อธิศมองไปรอบ ๆ ห้องคล้ายกับจะเก็บรายละเอียดที่ได้เห็นในเวลาจำกัด เขาเห็นแล้วว่าชนกันต์ดูจะให้ความสนใจกับเรื่องแจกันและน้ำบนพื้น แต่ในเมื่อเจ้าของห้องไม่ได้พูดอะไร ร่างสูงก็ไร้คำถาม


“หมอนั่งรอที่โซฟาก่อน ผมขอเวลาไม่เกินสิบนาที” เป็นเรื่องดีที่ห้องของชนกันต์มีลักษณะเป็นห้องแบบส่วนเดียว คือไม่ได้กั้นผนังแบ่งเป็นห้องยิบย่อยอีกนอกจากห้องน้ำ จากตรงโซฟา อธิศสามารถเห็นอีกฝ่ายกำลังเก็บของในตู้เสื้อผ้า กวาดเอาของใช้บางอย่างจากหน้ากระจก หรือแม้แต่เตียงนอนที่ไม่ได้พับเก็บอย่างเรียบร้อยนัก ครั้งล่าสุดที่ออกไป ชนกันต์คงจะรีบพอตัว


แก้วน้ำถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมรอยยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นร่างเล็กก็ง่วนกับการเก็บแจกันขึ้นแล้วเช็ดน้ำบนพื้นด้วยท่าทางเร่งรีบ “ขอโทษด้วยนะครับหมอ ผมดึงปลั๊กตู้เย็นออก เลยมีแต่น้ำเปล่าธรรมดา”


“ไม่เป็นไร”


ตอบรับแล้วมองกระเป๋าเป้บนเตียง ชนกันต์คงเก็บของใกล้เสร็จแล้ว ใช้เวลาไปไม่ถึงสิบนาทีอย่างที่เจ้าตัวว่า แมนชั่นนี้ค่อนข้างให้บรรยากาศเหมือนโรงพยาบาลทีเดียว ทั้งผนังและกระเบื้องปูพื้นเป็นสีขาว ใหม่ ๆ ก็คงดูสะอาดตา แต่พอนาน ๆ ไปอย่างเช่นตอนนี้ อธิศว่ามันมีผลทำให้จิตใจรู้สึกอึดอัด


ฝนตกลงมาอีกแล้ว แพทย์หนุ่มรู้ได้จากเสียงฟ้าร้องทางด้านนอก ตอนนี้ชนกันต์หายเข้าไปในห้องน้ำ อาจจะกำลังเก็บข้าวของส่วนตัวในนั้นและจัดการกับผ้าขี้ริ้วเมื่อครู่


การที่ฝนตกไม่ทำให้ชนกันต์รู้สึกใจชื้นขึ้น เขาจัดการซักผ้าขี้ริ้วชุ่มน้ำอย่างลวก ๆ ในอ่างล้างมือ นี่ค่อนข้างมักง่ายทีเดียว แต่เด็กหนุ่มก็นึกอยากทำให้มันเสร็จ ๆ ไปภายในไม่กี่นาทีนี้ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะต้องมากลัวห้องของตัวเอง อ่า ใช่ มันไม่เกี่ยวหรอก เพราะไม่ว่าที่ไหนเขาก็ไม่มีความสุขทั้งนั้นแหละ ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่จบ หลอดไฟสิบแปดวัตต์กระพริบเหมือนไฟตก ทั้งที่มันเป็นเรื่องปกติยิ่งกว่าอะไรในตอนฝนตก แต่กลับจุดชนวนรอยด่างสีดำในใจให้ขยายวงกว้างขึ้นโดยไร้สาเหตุ ได้แต่วิงวอนขอให้ไม่มีเรื่องบ้าเกิดขึ้นอีก


ชนกันต์เดินออกมจากห้องน้ำแล้วก็เห็นว่าอธิศยังคงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม ใบหน้าคมเข้มนั้นหยักยกรอยยิ้มบาง ๆ ให้เขาราวกับไม่ถือสาที่เขาใช้เวลาเกินสิบนาทีแล้ว ขออีกแค่นาทีเดียว ชนกันต์พึมพำกับตัวเองในใจเพราะไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก


ฝนข้างนอกตกหนักกว่าที่คิด ได้เห็นแบบนั้นก็ตอนที่เลื่อนประตูระเบียงเปิดออก จัดการหนีบผ้าขี้ริ้วไว้กับราวตากจนแน่ใจว่ามันจะไม่ปลิวหายไปไหนระหว่างนี้     ทุกอย่างดูง่ายดายจนอดลอบยิ้มออกมาไม่ได้


หากแต่เสียงฟ้าร้องครั้งสุดท้ายนั้นส่งผลกระทบต่อความหวาดกลัวได้อย่างเลวร้ายเหลือเกิน ไฟตรงระเบียงดับลง แน่นอนว่าบ้านเรือนแถวนี้ก็เข้าสู่ความมืดเหมือนกับจุดที่เขายืนอยู่ นี่เป็นลางไม่ดีเอาเสียเลย คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อหันกลับไปเห็นว่าภายในห้องก็ไม่มีแสงสว่างเช่นเดียวกัน ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือบานประตูกระจกปิดสนิท ชนกันต์จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาปิดประตูระเบียงทั้งที่ตั้งใจจะออกมาไม่ถึงนาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เลื่อนมือไปพยายามเปิดมันแต่ทำไม่สำเร็จ


“....”


หัวใจเต้นเร็วแรงเมื่อได้รับรู้ว่าเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นอีกแล้ว อย่างน้อยในห้องก็มีหมออธิศ ผู้ชายคนนี้คือสิ่งเดียวที่ทำให้ชนกันต์รู้สึกใจชื้นอยู่บ้าง เขาเห็นหมอนั่งอยู่ยังโซฟาตัวเดิมภายใต้แสงสลัวจากจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า


ไม่...


แทบหลุดเสียงร้องออกมาเดี๋ยวนั้น


แสงสาดส่องให้เห็นมือสีขาวซีดที่วางอยู่บนหน้าตักกระโปรงสีขาว ข้าง ๆ อธิศควรจะว่างเปล่าอย่างก่อนหน้านี้ถ้ายังเห็นแก่เขาบ้าง ร่างเล็กลดมือลงจากบานประตูเย็นเยียบ นึกอยากจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าเขาเคาะเรียกคนด้านใน ใบหน้าที่หันมาจะเป็นของหมอหรือว่าผู้หญิงคนนั้น


“หมอ...” พึมพำเรียกใครอีกคนที่อยู่ไกลออกไปแค่ไม่กี่ก้าว เสียงฝนในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากเสียงหัวเราะเยาะเลยสักนิด “หมอครับ”


อาจเป็นโชคดีที่อธิศหันมาเห็นพอดิบพอดี ร่างสูงกำลังลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงมาทางระเบียงห้อง แต่ทุกครั้งที่ชนกันต์ลืมตามอง ก็จะเห็นชายกระโปรงและเท้าเปรอะโคลนนั้นเดินตามหลังเจ้าของกางเกงสแล็คสีดำราวตัวติดกัน


เหมือนตลกร้ายที่เล่นกับความประหวั่นพรั่นพรึงของเขาได้อย่างเจ็บแสบ


“ไม่เอา...”


เสียงที่เปล่งออกมาไม่ต่างอะไรจากการสะอื้นไห้ ถอยหลังไปจนสะโพกติดกับราวเหล็ก สายฝนสาดซัดจนไหล่เปียกเป็นวงชื้น เสียงลมหวีดหวิวนั้นราวกับเสียงหายใจเยือกเย็นที่ข้างหู


“ออกไป”


ไม่กล้าลืมตามองด้วยซ้ำว่าความกลัวเข้ามาใกล้ตัวเขาเพียงไร มือที่จับอยู่กับแผงราวกั้นระเบียงนั้นอ่อนแรง ไม่มีที่ให้เท้าก้าวถอยนอกเหนือเสียจากต้องเหยียบเท้าขึ้นไปบนราวเหล็ก ท้ายชนกันต์ก็ทำ ต้นขายกขึ้นสูงเหนือราวบนสุด ร่างกายโงนเงนคล้ายจะยอมโอนอ่อนไปตามแรงลมได้อย่างง่ายดาย


ตลกสิ้นดีถ้าความกลัวฆ่าคนให้ตายได้


“ออกไป...”


“ชนกันต์!”


วงแขนอุ่นรวบร่างทั้งร่างลงมาในอ้อมกอดด้วยความตื่นตระหนก อธิศไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนตรงหน้าเขากำลังร้องไห้ฟูมฟายเหมือนตอนนั้น ทั้งที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในการมาหา แต่ดูเหมือนว่ามันสายไปเสมอ


“ไม่เป็นไรแล้ว” เสียงพร่ากระซิบที่ข้างหู เขาลูบเรือนผมเปียกลู่นั้นอย่างปลอบประโลมเท่าที่จะสามารถทำให้คน ๆ หนึ่งใจเย็นลงได้ เสียงฝนยังคงสาดซัดอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่านี่คือสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีนัก


“หมอ...” ชนกันต์ฝังศีรษะลงกับแผ่นอกเขาเหมือนคนไม่อยากรับรู้อะไรอีก มันทั้งอ่อนแรงและสิ้นหวังเกินกว่าจะสามารถตั้งสติและบรรยายออกมาให้ฟังได้ศัพท์ “อีกแล้ว”


“....”


“อีกแล้ว”


ร่างเล็กพึมพำคำว่าอีกแล้วออกไปถึงสองครั้ง เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึงสิ่งที่เห็น ไม่กล้าแม้แต่จะเอาชนะแรงอุปทานพื้นฐานของความกลัวซึ่งเกิดขึ้น


“กลับเข้าไปข้างในก่อน”


ชนกันต์ส่ายศีรษะไปมาทั้งที่ยังไม่ลืมตามอง อธิศพยายามประคองใบหน้าของอีกคนขึ้นอยู่ในระดับเดียวกัน แนบสองมือไว้ข้างแก้มและจรดปลายนิ้วโป้งบีบเบา ๆ เพื่อเรียกสติ


“ไม่มีอะไรแล้ว ผมอยู่ตรงนี้”


“ไม่เอาแล้ว...”


“ผมเอง”


“ไม่...”


“ผมเอง อธิศ”


เสียงนั้นอาจจะได้ผลเมื่อร่างสั่นเทายอมสงบลงเล็กน้อย อย่างน้อยชนกันต์ก็ไม่ได้สบถอะไรออกมาอย่างเช่นก่อนหน้านี้อีก อธิศรั้งร่างอีกคนหลบจากฝนที่ตกหนักขึ้นทุกขณะ มันคงไม่ดีแน่ถ้าสภาพร่างกายจะแย่ตามจิตใจไปอีก เขาค่อย ๆ พาชนกันต์เข้ามาข้างในห้องก่อนจะเลื่อนประตูระเบียงปิดแล้วล็อกให้เรียบร้อย ข้างนอกนั่นมันอันตรายเกินไปสำหรับคนที่กำลังคลุ้มคลั่ง


“เอาล่ะ ทีนี้คุณมองผม”


ดวงหน้าขาวยังคงส่ายไปมา อธิศเกลี่ยไรผมเปียกน้ำออกเพื่อไม่ให้ปรกหน้า ปล่อยตัวของอีกคนให้พิงประตูไว้เป็นหลัก ห้องทั้งห้องยังคงมืดสลัว ไม่มีทีท่าว่าไฟฟ้าจะมาเร็ว ๆ นี้ หลังจากดูสภาพอากาศภายนอกแล้ว


“ไม่มีอะไรแล้ว เชื่อผมสิ”


“....”


“กันต์”


ชนกันต์รู้สึกว่านี่เป็นคำพูดที่ใจร้ายเสียยิ่งกว่าอะไรดีในตอนนี้ อธิศไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขากำลังสติแตกแค่ไหน


“ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ เราก็จะไปไหนไม่ได้”


เสียงนั้นยังพูดอยู่ตรงหน้า ชนกันต์รู้ว่าตัวเขาขี้ขลาดยิ่งกว่าอะไรดี


มันไม่มีอะไร


ใช่ ไม่มีอะไรแล้ว


เปลือกตาบางค่อย ๆ ลืมขึ้นก่อนจะมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่าย เขาเห็นอธิศกำลังยิ้มให้ ได้ยินแค่เสียงหัวใจกำลังเต้นไม่เป็นส่ำจากความกลัว


“ตรงนี้มีแค่คุณกับผม”


อธิศพูดเช่นนั้น หากแต่เสื้อเชิ้ตสีอ่อนของร่างสูงกลับยับยู่เป็นรอยรั้งขึ้นไปที่บริเวณไหล่ รอยมือเปียกน้ำขยายเป็นวงกว้างโดยที่เจ้าของร่างไม่รู้ตัว


“ไม่!”


ชนกันต์ผลักร่างตรงหน้าออกทันที่คิดได้ว่าใครบางคนกำลังบีบไหล่ของอีกฝ่ายคล้ายเป็นการหยอกล้อ ไม่ใช่แค่เขาที่คิดว่าอธิศเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียว


เพราะแม้แต่เธอคนนั้นก็เหมือนจะรู้


อธิศงุนงงกับการที่เขาถูกผลักออก ชนกันต์สะอื้นไห้โวยวายบางอย่างทั้งที่ปิดเปลือกตาเอาไว้แน่นเหมือนก่อนหน้า เขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เห็นอะไร หรือแม้แต่รอยเปียกชื้นที่ไหล่นี่ อธิศก็คิดว่ามันมาจากตอนที่เขาออกไปช่วยอีกฝ่ายเมื่อครู่ ไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าปล่อยให้ตัวเองเปียกปอนไปด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่นั่นไม่ได้น่าใส่ใจนัก


“ต้องการอะไร...” คำพูดของชนกันต์แทบฟังไม่ได้ศัพท์ นี่คือจำกัดความคำว่าคุ้มคลั่งไม่มีผิด ร่างเล็กแทบไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้หรือว่าประคองตัวขึ้น นั่นทำให้นายแพทย์ลำบากใจ เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ว้าวุ่นใจพอ ๆ กับที่คนไข้ในปกครองกำลังเป็นอยู่


“กันต์”


“ออกไป! อย่าเข้ามา!”


ทั้งผลักทั้งยื้อยุดกันอยู่อย่างนั้น อธิศพยายามจะทำให้ชนกันต์สงบลงโดยไม่รู้สาเหตุ อีกฝ่ายเอาแต่รัวคำว่าไม่ ไม่เอาแล้ว ออกมานับครั้งไม่ถ้วน ใช่ว่าจะไม่เคยเจออาการแบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับรักษา ไม่ใช่เวลาที่เขามีผู้ช่วยหรือสามารถฉีดยาโดยพลการได้


“คุณกลัวอะไร”


เขาใกล้จะสติแตกในขณะที่กำลังช่วยคนกำลังสติแตก


“ชนกันต์!”


ประสบการณ์และบทเรียนมากมายในหัวถูกงัดขึ้นมาสู่สมองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อควบคุมสถานการณ์ เสียงบานประตูกระจกที่ถูกกระแทกซ้ำ ๆ นั่นน่ากลัวว่ามันจะแตกลงมาจนก่อให้เกิดอันตราย


“กันต์! คุณต้องมีสติไว้”


“ไม่เอาแล้ว! ออกไป!”


ชนกันต์ยังเอาแต่ส่งเสียงและดีดดิ้นจากการกอบกุม ถึงจะตัวใหญ่กว่า แต่ก็ใช่ว่าอธิศจะเอาชนะแรงของผู้ชายด้วยกันได้อยู่หมัด เขาอาจทำให้ชนกันต์สงบลงได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่


อธิศไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าวิธีแบบนี้อยู่ในตำราข้อไหน ในหัวคิดแค่ว่าทำยังไงก็ได้


“....”


“....”


ทุกอย่างนิ่งงัน หลังจากที่กดทาบริมฝีปากลงไปบนเรียวปากอีกฝ่าย


ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน นาฬิกาข้อมือดูจะไม่มีผลเลยในตอนที่ทั้งคู่ยังคงแนบชิดกันผ่านสัมผัสอุ่นร้อน ร่างเล็กสั่นเทา หากแต่มันก็อยู่ในอ้อมกอดใหญ่ง่ายดายกว่าก่อนหน้านี้ ชั่วครู่หนึ่งที่ลืมความเปียกชื้น ความหนาวเหน็บ และความกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง


เสียงหวีดหวิวดังขึ้นข้างหูเหมือนใครสักคนกำลังกรีดร้อง บางทีมันอาจจะผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที อธิศผละออกในตอนที่ได้ยินเสียงแก้วน้ำตกลงแตก ไฟทั้งห้องกระพริบถี่ก่อนจะสว่างขึ้นเหมือนเมื่อเกือบสิบห้านาทีก่อน และพอหันกลับไปมอง อธิศก็เห็นว่าน้ำในแก้วกำลังเจิ่งนองบนพื้นเหมือนกับตอนที่เขาเข้ามาไม่มีผิด


แสงไฟอาจทำให้ชนกันต์อุ่นใจ เพราะพอหันกลับมาก็สบเข้ากับดวงตารื้นน้ำตาของคนตรงหน้า ทั้งคู่นิ่งไปเหมือนคนเข้าหน้ากันไม่ติด


“....”


“....”


แต่แล้วร่างสูงก็เรียกสติกลับคืนมาได้ก่อน เขาประคองร่างของอีกฝ่ายให้ยืนตั้งหลักได้ จากนั้นก็กุมข้อมือไว้ให้สัมผัสอุ่น ๆ คอยย้ำเตือน


“ไปกันเถอะครับ”


พูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินไปหยิบเอากระเป๋าเป้ของเจ้าของห้องขึ้นมาสะพายไว้บนบ่า ไม่มีใครสนใจจะเช็ดน้ำซึ่งนองอยู่บนพื้น นี่เป็นอีกเรื่องแปลกประหลาดที่อธิศคิดว่าถ้าเขามีสติดีพอเมื่อไหร่ก็ควรจะคิดหาเหตุผลที่แก้วน้ำตกลงมาแตก และเรื่องประตูระเบียงล็อกจากด้านในตอนออกไปช่วยชนกันต์ ถึงจะรู้แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเขานั่งอยู่ที่โซฟาและเจ้าของห้องก็อยู่ทางด้านนอก อาจมีบางสิ่งบางอย่างกำลังส่งสัญญาณเตือนถึงการมีอยู่ บางสิ่งบางอย่างที่อธิศสามารถเอาเหตุผลมาโต้แย้งมันได้ทุกครั้ง


ตระกองกอดร่างอีกคนไว้อย่างหลวม ๆ แล้วพาออกจากห้อง ไม่ลืมที่จะสับคัทเอาท์ไฟบริเวณประตูลง เขาดันตัวชนกันต์ให้เป็นฝ่ายออกไปข้างนอกก่อน ในขณะที่ตัวเองเอื้อมตัวมาดึงประตูลูกบิดเข้าหาตัวเพื่อปิดประตู


หากแต่สิ่งที่อยู่ในสายตาคือร่างหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวกรอมเข่ากำลังเดินออกไปยังระเบียง ร่างของเธอเปียกแฉะเหมือนอยู่กลางสายฝน


“....”


บานประตูยังคงปิดเข้าหาตัว หากแต่นัยน์ตาคมไม่อาจละจากร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ เสียงลมหวีดหวิวและสายฝนสาดซัดได้ยินเต็มสองหู อธิศเป็นคนปิดประตูนั้นกับมือ ทว่าตอนนี้มันกลับเปิดอยู่ ชั่ววินาทีที่ประตูห้องกำลังจะปิดลงนั่นเอง หล่อนถึงเอี้ยวหน้ากลับและสบดวงตาสีดำสนิทเข้ากับเขา


“....”


เสียงประตูปิดสนิทไม่ได้เรียกอธิศให้หลุดออกจากภวังค์ เขายังรู้สึกได้ถึงลูกบิดเย็นเยียบและการถูกจ้องมองจากผู้หญิงคนนั้น รู้สึกเหมือนมือขากำลังอ่อนปวกเปียก รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นช้าจนเหมือนใกล้หยุด และรู้สึกแม้กระทั่งริมฝีปากแห้งผากซึ่งไม่สามารถขยับเป็นรูปร่างใดได้


แน่นอนว่าจิตแพทย์อย่างเขารู้จักความกลัวดีที่สุด หากแต่ตอนนี้ สิ่งที่ไม่รู้นั้นมันเลวร้ายกว่าหลายเท่า




เขาไม่รู้ว่ากำลังสู้กับอะไรอยู่






TBC





----------------------------------------------------


ในความระทึกขวัญ เราก็ยังแทรกตลกร้ายและอะไรขำ ๆ ลงไปจริง ๆ ค่ะ
อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวทั้งนั้น 55555555555555555555 ชอบผีบ้า

ตัวละครแบบหมออธิศนี่ เป็นอะไรที่ต้องเจอเองสัมผัสเองจริงๆ คราวนี้ล่ะรู้เลย


ฝากนิยายรอมคอมอีกเรื่องด้วยค่า อ่านปรสิตอิน ๆ ไปตัดอารมณ์ด้วยเรื่องนี้กันได้นะคะ อิอิ
W R O N G พื้นผิดเบอร์ 』 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45629.0)





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-02-2015 21:35:57
หมออธิศขา เจอของจริงเข้าแล้วไหมล่ะคะ แอร๊ยยย o22
เราอ่านแล้วนึกถึงหนังผีเรื่องนึงตลอดเลย ที่ไม่ว่าผ่านมากี่ปี เราก็ว่าหนังเรื่องนั้นเป็นหนังผีที่ดีที่สุด :ling3:
กันต์จะอยู่ยังไงต่อไปเนี่ย แต่อยู่กับหมออธิศก็คงดีขึ้นเนอะ :impress2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pixie ที่ 24-02-2015 21:40:09
คุณผีอาจจะเป็นคนรักของ ศรัณย์หรือรามิล แล้วเห็นสองคนนั้นกิ๊กกันแน่ๆ โถ่วว เป็นสาววายก็ไม่บอก นี่มาจับคู่ให้หมออธิศด้วยล่ะสิ 55 :hao7:

มโนแจ่มมาก  :o8: เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 24-02-2015 21:48:50
 :m30: อ๊ากกกกกกกกกกก!!! ยายตนนี้มันยิ่งกว่า จูออน อีกง่ะ
หลอนนนนนนนนนนนนนน  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 24-02-2015 21:49:03
กรี๊ดมาก จิกหมอนสุด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 24-02-2015 22:22:38
คือคนเขียนเป็นคนที่เล่าเรื่องได้อินมากๆคนนึงเลยค่ะ สุดยอดนะคะ
คือเราเกือบจะกดปิดจอไปแล้ว เราอินเกินไป กลัวเก็บไปฝัน  :serius2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 24-02-2015 22:29:47
คือแบบ...หนูผีขยันโผล่มาทักทายหมอๆ มากอ่ะจ้าคือนางต้องการสื่ออะไรนี่?
หรือหนูผีจะเป็นสาววาย เห็นหมออธิศจุ๊บหนูกันต์ทีมีกรี๊ดเลยอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 24-02-2015 22:36:24
อ่านไป ขนลุกไป
แต่งได้ดีจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-02-2015 22:48:43
ก็คิดอยู่นะว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
ว่าแต่คนเขียนหมั่นไส้หมออธิศใช่มั้ยคะ เลยแกล้งให้เจอกับตัวเองซะเลย  :mew5:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 24-02-2015 23:00:45
อร๊ากกกกกกกกกก  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:  น่ากลัวอะ หลอนนนนนน และแล้วหมอก็เจอกับตัว :3123: :sad4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เกสรทอง ที่ 24-02-2015 23:26:54
โอ้ยหลอนไม่ไหวแล้วววววววว T___________T ขอความกรุณาอัพตอนกลางวันเถอะครับ อัพดึกๆใจนึงก็อยากอ่าน แต่พออ่านไปขนาดนี้แล้ว /เตรียมฝันร้ายละ ฮือออ


โอ้ย หมออธิศน่ารักอ่ะ แพ้เลย อยากป่วย 555 /ปกติก็เป็นบ้าอยู่ละ ช่วยบอกพิกัดด้วยค่ะ 555

กันก็น่ารัก โดนประกบปากหน่อยก็อ่อนไปหมด 5555 หายดื้อเลยทีเดียว

ต่อทุกวันเลยน้า รออ่านอยู่ แต่ขออย่าดึกนะ หนูกลัววววว ;___________;
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 24-02-2015 23:46:07
หลอนนนนนนนนนนนนนน  ทามมายยยยยหยุดอ่านไม่ได้ :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 25-02-2015 00:16:17
คือบั๊บว่า...นังผีตัวนี้มันต้องการอะไรกันแน่เนี่ย แล้วแพรพลอยจะใช่นังผีนี่รึปล่าว คือนางก็ขยันแว่บไปแว่บมา ไปหลอกไปหลอนคนโน้น คนนี้ดีเนอะ เป็นนินจาป่ะ หรือนางเป็นผีแฝด เอาจิงๆนางต้องการอัลไล??? ว็อท ว็อท ว็อท??? นังผีโรคจิตตตตตตต จมบ่อโคลนตายรึไง มาแต่ละทีกลิ่นสาบโคลนนี่มาตลอดอ้ะ แหม!!อ่านถึงตอนกลิ่นสาบโคลนทีไร ขมคอแทนเลอะ เหอะๆๆ -[]-
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 25-02-2015 01:01:38
ไม่รู้จะว่า หรือจะชมคนเขียนดี ที่แต่งได้หลอนแบบนี้ อ่านไปกลั้นหายใจไป เสียวหลังวาบ

หมอเจอของจริงแบบนี้ คงเชื่อแล้วล่ะนะ
ไปอยู่ด้วยกันคงได้พัฒนาความสัมพันธ์
และดีกรีความหลอนคงเพิ่มขึ้น
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 25-02-2015 05:38:22
มันน่ากลัวมากจริงๆ อยากรู้ว่าคุณผีต้องการอะไร
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-02-2015 06:03:09
อารมณ์เหมือนดูหนังผีเอเชียดีๆ เลยครับ
จังหวะการเดินเรื่อง การผูกปมคลายปม เป๊ะมาก
ความหลอนก็เต็มสิบ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ผายลม888 ที่ 25-02-2015 07:39:50
เรื่องนี้ช่างเหมาะสมจะอ่านตอนเช้าซะจริงๆ ไอ่เราว่าเราเปลี่ยนใจละเรื่องของศพ บางทีตอนนี้น่าจะโดนฝังอยู่ที่ไหนสักที่ ดินโคลนคงเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย เฮ้อ ชัดเลยว่าเป็นแฟนเก็บของรามิลเพราะรักจึงโดนน้อยสุด รึเปล่า เหตุผลน้อยจริงเรา แต่เอาเถอะ   ติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 25-02-2015 10:12:05
ไม่เข้าใจว่าทำไมเราชอบเจอนิยายเรื่องนี้อัพตอนเย็นถึงประมาณค่ำๆ
เห็นแล้วก็อยากกดเข้าไปอ่านนะแต่กลัวหลอนจนนอนไม่ได้นี่สิ เรานอนคนเดียวชั้นบนบ้านด้วย ฮือ~~

แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนต่อไปนะคะ นิยายหลอนปนสนุกดี ^^
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-02-2015 16:15:13
นางกรี๊ดตอนหมอจูบกันต์ใช่ไหม ขอหนักๆเลย เอาให้ตายอีกรอบ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 25-02-2015 17:52:58
มะมะมะหมอ...แอบลวนลามคนไข้เหยอ กร้ากๆๆๆๆ :hao7: แหมแต่อ่านไปก็ลุ้นไปจริงๆ o22
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 25-02-2015 17:57:03
หลอนมากอ่านเมื่อคืนตอน 5 ทุ่มได้ฟิลสุดๆ เหอๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 25-02-2015 18:06:13
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงความรู้สึกสมัยอ่านเดอะริงใหม่ๆเลยค่ะ เกือบลืมไปแล้วว่าครั้งนึงตัวเองก็เคยชอบอ่านอะไรแนวนี้นะเนี่ย
บรรยายเก่งมากเลยค่ะทำเอาเราอินนึกว่านั่งอยู่ห้องพร้อมน้องกันต์ด้วยเลย หันไปมองบนเตียงแล้วถอนหายใจที่ไม่มีรอยยุบ 555
เราเองก็เคยมีประสบการณ์ก็อกน้ำไหล ทีวีเปลี่ยนช่องเอง อะไรมาบ้าง แต่นานมากแล้วและเราก็เลือกจะไม่ใส่ใจ
พอมาอ่านแล้วทำให้นึกถึงเรื่องสมัยก่อน โชคดีที่เราเจอแค่นั้น  :mew5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: hotoil ที่ 25-02-2015 18:35:55
เจอตัวเป็นๆเลยนะหมอ.....  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ถึงจะไม่ได้โผล่มาให้ตกใจ แต่แบบนี้ก็เกินไป จะหลอนอะไรกันขนาดนี้(ลุ้นทุกตอน)
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 25-02-2015 18:43:07
บอกเลยไม่อ่านแล้วนิยายเรื่องนี้


ชอบทำให้ลุ้น สั่นประสาท  หลอนดีแท้


รอจองหนังสือเลยดีกว่า



จองค่ะ พิมพ์เมื่อไหร่บอกด้วย


เนื้อหา ข้อมูลแน่น การดำเนินเรื่องโดนใจจริงๆ


ผมนี่เก็บตังค์รอเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 25-02-2015 19:00:01
ยิ่งอ่าน ยิ่งกลัว :sad4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: mam79 ที่ 25-02-2015 19:04:32
 :katai1: อินตามกันต์มากๆเลยค่ะแทบจะร้องไห้ตามเลยในบางตอน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 25-02-2015 19:07:54
อารมณ์ยังกะดูหนังผี รอบสองเลยทีเดียวเชียว
ถึงจะรู้ว่ามันต้องแบบนี้ๆนะ
แต่บับ
ก็แอบลุ้นตามอยู่ดี
รอตอนต่อไปจ้าา แว้ปไปอ่าน พื้นที่ผิดเบอร์ดีก่าา
 :katai5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ZooS ที่ 25-02-2015 20:15:29
บางทีก็หงุดหงิดหมออธิศ หมั่นไส้ รำคาญ และสุดท้ายสมน้ำหน้า เชิญหมอไปหาเหตุผลที่มันจะไม่สมเหตุสมผลสำหรับหมอต่อไปเถอะ !!! แบบนี้เรียกว่า "อิน" ป่ะ ^^
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 25-02-2015 20:58:29
สนุกมากกกก

อ่านไปหลอนไป อยากรู้มากๆว่าเธอคนนั้นต้องการอะไร เพราะโดน!! กันทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 26-02-2015 00:13:21
กลัวมากกกกกกกกกกกกเลยนะ....แต่หยุดอ่านไม่ได้อ่ะ (แถมอ่านคนเดียวตอนกลางคืนอีกต่างหาก) งื่ออออออออ กลัวอ่ะ :ling3:

แต่รอตอนต่อไปอยู่นะค้าาาาา   สนุกและลุ้นมากเลยค่ะ ชอบๆๆๆๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 26-02-2015 00:20:35
โห ไม่เคยอ่านแนวนี้เลยบอกตรงๆ
หลอนสุดๆ
โชคดีที่เป้นคนไม่กลัวผีหรืออะไรพวกนี้ไม่งั้นบอกเลยตรงๆ ว่าคงไม่กล้าอ่านในเวลานี้แน่ๆ
ขนาดไม่กลัว อ่านไปยังลุ้นยังตื่นเต้นเลยอะ
สุดยอดมากๆ ยกนิ้วไห้เลย
คุณหมอโดนเข้าให้แล้ว
คงไม่ต้องตรวจสภาพจิตคนไข้แล้วละมั้งเนี้ย
เพราะเจอเองแล้วนิ
สมน้ำหน้าเลย ตอนแรกอยากไม่เชื่อ 5555+
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 26-02-2015 00:22:51
สนุกมากกก

น่ากลัวมากกกกก

น่าติดตามมากกกกกค่ะ 

โอย คืนนี้จะนอนหลับไหมเนี่ย แงงงง  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 26-02-2015 07:29:43
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zaszaq ที่ 26-02-2015 12:56:42
 :ling3:  :ling3:  :ling3:  เธอเป็นใคร ต้องการอะไร ถึงหลอกแต่หมอหนุ่มๆใคร รพ.


สนุกมากๆๆๆค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 26-02-2015 14:01:54
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 06







รูบิกเป็นของเล่นเด็ก ๆ ซึ่งกลายเป็นงานอดิเรกของศรัณย์ไปโดยปริยาย


เขาได้แต่มองมันสลับกับแผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ทางด้านหนึ่งของห้องพัก ตอนนี้ศรัณย์รู้สึกไม่ดี ทั้งที่มีเวลาได้นั่งเฉย ๆ มาพักใหญ่ หากแต่ความรู้สึกแปลก ๆ กลับทำให้เขาสงบใจไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น รู้แก่ใจว่ามีเวลานอนอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นเพื่อไปเข้างานต่อ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ นี่ก็ปาเข้าไปเป็นครั้งที่สามแล้วที่รูบิกทั้งหกด้านเรียงกันเป็นสีเดียว และอาจจะเป็นครั้งที่ห้าที่เขาเห็นรามิลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพยายามโทรออก แต่แล้วมันก็ถูกวางลงในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา


ชายหนุ่มตัดสินใจวางรูบิกไว้บนโต๊ะหัวเตียงก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนถูกถอดโยนลงในตะกร้าแล้วจึงคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาพันไว้รอบท่อนล่าง พรุ่งนี้รามิลมีสอบย่อย เพราะอย่างนั้นคนเป็นรุ่นพี่อย่างเขาจึงรู้แก่ใจว่าการเข้าไปกวนตอนนี้เป็นสิ่งควรทำอันดับสุดท้าย


ศรัณย์เปิดน้ำฝักบัวเย็น ๆ ให้สาดลงมากระทบใบหน้าเผื่อว่าความคิดฟุ้งซ่านจะถูกขจัดออกไปได้บ้าง ชายกระโปรงสีขาวและเรือนผมสีดำขลับยังคงเด่นชัดในความคิด เขาไม่เห็นหน้าเธอชัด และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะเอาสิ่งที่ใกล้เคียงกับการตาฝาดนี่ไปถามหาเอาจากเจ้าหน้าที่คอนโดมิเนียมหรือเปล่า เขาไม่เชื่อเรื่องผี ๆ สาง ๆ มันพิสูจน์ไม่ได้ แต่กลับมีอิทธิพลให้สภาพจิตใจติดลบอย่างที่เป็นอยู่


Rrrr


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากทางด้านนอก ศรัณย์คิดว่ารามิลอาจจะพูดคุยกับเพื่อนของเจ้าตัวเรื่องการสอบ ถึงได้เอาแต่พะว้าพะวงอยู่กับโทรศัพท์อย่างนั้น


Rrrr


นึกตำหนิที่ไม่ยอมทำให้มันเงียบไปสักที เวลาแค่ไม่กี่นาทีเด็กคนนั้นคงไม่เผลอหลับสนิท อีกอย่างรามิลเป็นคนตื่นง่าย เจอเสียงโทรศัพท์แผดใส่อย่างนี้เป็นต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกที


ใช้มือยันผนังกระเบื้องไว้ก่อนจะเลื่อนเท้าไปเขี่ย ๆ บริเวณท่อระบายน้ำหลังจากทนความหงุดหงิดไม่ไหวเมื่อน้ำบนพื้นขังขึ้นมาจนถึงครึ่งเท้า ห้องน้ำนี่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเส้นผมอุดตันนัก เพราะเขาและรามิลเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ก่อนหน้าอีกคนย้ายเข้ามา ศรัณย์ใช้วิธีการจ้างแม่บ้านสัปดาห์ละครั้งหรืออาจจะน้อยกว่านั้น


เอาน้ำจากฝักบัวลูบ ๆ ใบหน้าให้พอแน่ใจว่ายาสระผมจะไม่ไหลเข้าตา ก้มลงมองปลายเท้าซึ่งสัมผัสอยู่กับเศษดินแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว


Rrrr


เสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุดนั่นสร้างความหงุดหงิดแก่จิตใจที่ไม่สงบเป็นทุนเดิม การอาบน้ำไม่ช่วยให้เขาผ่อนคลายเสียแล้ว คิดได้อย่างนั้นก็ล้างแชมพูสระผมออกจากหัวก่อนถูสบู่ด้วยความเร็วปกติ เป็นห้านาทีที่เขารำคาญเสียงโทรศัพท์จนคิดจะออกไปเฉ่งรามิลให้รู้แล้วรู้รอด


Rrrr


“เก้า ทำไมไม่รับโท --”


หากแต่ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา ศรัณย์กลับได้ยินแค่เสียงแอร์หึ่ง ๆ กับเสียงของสายฝนดังแว่วมาจากทางด้านนอก รามิลเอี้ยวตัวมาเลิกคิ้วใส่เขา พอได้รับกลับมาแค่ความเงียบ เด็กหนุ่มก็ส่งเสียงทวนถาม “ครับ?”


เห็นโทรศัพท์ของรามิลวางนิ่งอยู่ห่างจากเจ้าตัวไปแค่เอื้อมมือ ส่วนโทรศัพท์ของเขาก็วางแอ้งแม้งอยู่บนเตียงในสภาพหน้าจอดำสนิท ใช้เวลาตั้งสติกับตัวเองครู่หนึ่ง นายแพทย์หนุ่มก็เดินไปหยิบเสื้อในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่บนตัวอย่างลวก ๆ


“ตอนอยู่ในห้องน้ำพี่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ของเราหรือเปล่า”


รามิลขมวดคิ้วน้อย ๆ หลังจากได้ยินคำถาม ที่หูเขาไม่มีหูฟัง แล้วเสียงฝนทางด้านนอกก็ไม่ได้ดังมากพอจะกลบเสียงโทรศัพท์ “ผมอ่านหนังสืออยู่ ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย”


ได้ยินอย่างนั้น ศรัณย์จึงตัดบทความแคลงใจของตัวเองด้วยอาการประสาทหลอน เขาคงฟุ้งซ่านมากไปถึงเกิดได้ยินอะไรบ้า ๆ แบบนี้ ควรจะนอนได้แล้ว บอกตัวเองพร้อม ๆ กับการสวมกางเกงแล้วพาร่างขึ้นไปนอนพักบนเตียง รามิลหันกลับไปอ่านหนังสือ ส่วนศรัณย์ก็ใช้ปลายนิ้วนวดขมับช้า ๆ ชักจะรู้สึกว่ามันเต้นตุบ ๆ ขึ้นมาแล้ว


เอื้อมตัวไปคว้าเอารูบิกมาถือไว้เป็นเครื่องช่วยสงบจิตสงบใจ แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วจนผูกเป็นปมอีกครั้ง


“เก้า”


คนถูกเรียกหันมาทำหน้าแปลกใจใส่เขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่นั้นนับไม่ได้ รามิลเลิกคิ้วมองรูบิกในมือคนรักด้วยสายตานิ่งเฉย ไม่เข้าใจสิ่งที่ศรัณย์ต้องการจะสื่อ


“เมื่อกี้เราเอารูบิกพี่ไปเล่นเหรอ” เขาถาม แต่ก็ได้รับการส่ายหน้ากลับมาเป็นคำตอบ รามิลชี้ย้ำที่หนังสือตรงหน้าตัวเองราวกับจะบอกว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ขยับก้นออกจากเก้าอี้นี่เลยด้วยซ้ำ


เขาจ้องมองรูบิกในมือหลังจากอีกฝ่ายหันกลับไปแล้ว อีกครั้งที่ความรู้สึกในใจมันโหวงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ศรัณย์ไม่ใช่คนความจำสั้น หรือถ้าจะสั้นขนาดจำไม่ได้ว่าล่าสุดที่เขาจับลูกรูบิกนั้น ทุกด้านเรียงตัวเป็นสีเดียวกันอย่างชัดเจน เขาก็คงใกล้เข้าคำว่าอัลไซเมอร์ตั้งแต่อายุเพิ่งเข้าเลขสาม แต่ไอ้การเรียงสีมั่วซั่วเหมือนตอนที่ต้องสับก่อนเริ่มเกมใหม่ทุกครั้งนี่ศรัณย์ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น แน่นอนมันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำไป


วันนี้เขาพูดคำว่าเป็นไปไม่ได้ไปกี่ครั้งแล้วนะ







--------------------------------------------------







ประตูสีไม้โอ๊คตรงหน้าไม่ได้ชวนให้ชนกันต์รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเสียทีเดียว ร่างเล็กมองจิตแพทย์หนุ่มที่สะพายกระเป๋าเป้ของเขาเอาไว้พลางเปิดสวิทช์ไฟให้ห้องทั้งห้องสว่างโล่ ชนกันต์รีบพาตัวเองเข้าไปแล้วปิดประตูล็อกจนเรียบร้อย ไม่สบายใจนักถ้าจะต้องยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ด้านนอกให้ธรณีประตูกั้นระหว่างทั้งคู่อีก ในตอนนี้เขากลัวแม้กระทั่งการกวาดสายตาไปรอบ ๆ กลัวว่าสายตาจะหยุดยังที่มืดสักจุดแล้วอุปทานความกลัวในใจขึ้นมาจนเป็นรูปเป็นร่าง เจ้าของห้องวางกระเป๋าเขาไว้บนโซฟาก่อนจะหันมาส่งสายตาเป็นคำถามว่าต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แค่อธิศทำท่าจะเดินไปรินน้ำมาให้ดื่ม ชนกันต์ก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบมืดลงในพริบตา ถลาไปรั้งแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้แล้วส่ายหน้าไปมาแทนประโยคขอร้อง รู้ว่านี่มันดูงี่เง่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรแย่ไปกว่าเรื่องที่เพิ่งได้พบเจอมา


ตั้งแต่ออกมาจากห้องนั้นสิ่งที่คั่นกลางระหว่างคนทั้งคู่มีเพียงความเงียบ ราวกับจมอยู่ในความคิด ความหวาดผวา และน่าแปลกที่หมออธิศไม่ได้เอ่ยถามอะไรเขาในสิ่งที่ควรจะอยากรู้ ชายหนุ่มเหมือนหุ่นยนต์ขับรถที่ตาจับจ้องแค่เพียงถนน และชนกันต์เองก็ทำได้เพียงแค่ปล่อยลมหายใจให้ผ่อนเข้าออกจนกระทั่งร่างกายสั่นเทาค่อย ๆ สงบลง


“แค่คืนนี้ใช่ไหมครับ” คนอ่อนวัยกว่าเอ่ยถาม ครั้นได้สบกับนัยน์ตาคมตรงหน้าก็นึกขึ้นได้ว่าคำพูดของตัวเองคงฟังไม่เข้าใจนัก “ผมหมายถึง -- ผมต้องค้างกับหมอแค่เฉพาะคืนนี้ใช่ไหม”


ชนกันต์ไม่ได้คาดหวังอะไรในใจ แต่ถึงอย่างนั้นคำถามกล้า ๆ กลัว ๆ ของเจ้าตัวก็ได้คำตอบเป็นรอยยิ้มบางซึ่งแย้มออกบนใบหน้าของใครอีกคน


“เอาเป็นว่าจนกว่าคุณจะสบายใจดีกว่า” ยิ้มนั้นหุบลงเร็วเสียจนดูรู้ว่าฝืน จิตแพทย์หนุ่มรักษาท่าทีของตนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่แน่ใจนักว่าห้องพักนี้จะปลอดภัยต่อสภาพจิตใจหรือไม่มีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นอีก แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งเดิม ๆ ซึ่งคงไว้แค่ความทรงจำเลวร้ายก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่นี่นัก การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไม่ต่างจากการล้างจิตใจทางอ้อม ชนกันต์ยังไม่ดูผ่อนคลายขึ้นอย่างที่หวังเอาไว้ หากแต่ทั้งคู่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการคาดหวังต่อไป


อธิศลังเลเกี่ยวกับความคิดในหัวซึ่งผุดขึ้นไม่หยุดหย่อน นัยน์ตาสีดำด้านของผู้หญิงคนนั้นยังคงติดอยู่ในห้วงคิด ก่อนอื่นเขาต้องลำดับความคิดของตัวเอง นั่นคือหน้าที่ของจิตแพทย์ก่อนการบำบัดผู้อื่น ถึงในหัวจะมีแต่ความใคร่รู้ แต่ชนกันต์คงน่าสงสารเกินไปถ้าต้องมานั่งตอบคำถามทั้งที่เพิ่งเจอเรื่องร้าย ๆ มา


จัดแจงตู้เสื้อผ้าของตัวเองซีกหนึ่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้อาศัยชั่วคราว อธิศไม่ได้มีเสื้อผ้าเยอะนัก มันจึงเป็นเรื่องง่ายหากเขาจะใช้มือเบียดมันไปฝั่งหนึ่งและเหลืออีกฝั่งเพื่อเอาเสื้อผ้าสี่ห้าชุดของชนกันต์ขึ้นแขวน ถึงเจ้าตัวจะแสดงออกชัดเจนถึงความเกรงใจจนเหมือนเป็นคนละคนกับเจ้าของท่าทีกระด้างกระเดื่องเมื่อหัวค่ำ


“ถ้าคุณอยากอาบน้ำ”


เจ้าของห้องยื่นผ้าเช็ดตัวซักแล้วให้คนตรงหน้า แน่นอน ชนกันต์รับมันไปถือไว้แต่ดูละล้าละลัง หันกลับมาก็ยังเห็นอีกฝ่ายยืนอยู่ท่าเดิม และนั่นทำให้อธิศลำบากใจ  สภาพของคนทั้งคู่ตอนนี้เหมือนคนที่ล่ามกุญแจมือติดกันไม่มีผิด ร่างเล็กไม่ยอมไปไหน ตราบใดที่รู้แก่ใจว่าเป็นการแยกอยู่คนเดียว สำหรับสถานะซึ่งไม่ต่างอะไรจากคนแปลกหน้าของทั้งสอง ทุกอย่างมันช่างน่าอึดอัดใจจนชวนประหม่า


“ถ้าอย่างนั้น” นายแพทย์พยายามหาทางออก เขาเฝ้าชนกันต์อาบน้ำไม่ได้ และเจ้าตัวก็คงไม่ต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน “แค่ล้างหน้าล้างตาแล้วเปลี่ยนชุดก็พอ”


หลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไป ชนกันต์อาจจะตั้งหลักและอยู่ตามลำพังได้ อย่างน้อยก็ห้าถึงสิบนาทีเหมือนอย่างเคย แต่มันไม่ใช่คืนนี้ ตอนนี้ และแปลกที่อย่างที่นี่


ไม่ดีเลย อธิศทอดสายตามองเด็กหนุ่มซึ่งยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ตรงอ่างล้างหน้าเหมือนเด็ก ชนกันต์กำลังแกะห่อแปรงสีฟันอันใหม่ที่เขาเอาให้ และเขาก็ไม่ควรจะมักง่ายแบบนี้เลย เด็กคนนี้เพิ่งเปียกฝนมา ขืนให้เปลี่ยนชุดแล้วนอนทั้งอย่างนี้คงไม่ดีแน่ แล้วก็ไม่แน่ใจเสียด้วยว่าในห้องนี้มียาลดไข้เหลืออยู่หรือเปล่า


“หมอครับ”


ร่างสูงหลุดจากภวังค์ ส่งตัวออกจากผนังกระเบื้องที่ยืนกอดอกพิงตั้งแต่เมื่อครู่เพื่อแสดงออกว่ากำลังรับฟัง


“ขอโทษที่ทำให้หมอลำบาก” เสียงนั้นติดละห้อย ดูจะอยากพูดอะไรมากกว่าคำขอโทษแต่ก็เงียบไปทั้งอย่างนั้น


“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ลำบากอะไร” หยักยิ้มตอบแล้วเดินไปหยิบแปรงสีฟันในแก้วมาถือไว้บ้าง อธิศบีบยาสีฟันใส่แปรงของคนข้าง ๆ ก่อนบีบให้ตัวเอง คว้าแก้วน้ำมารองน้ำจากก๊อกแล้วจึงถอยออกมาเพื่อให้อีกคนใช้อ่างล้างหน้าได้สะดวก







--------------------------------------------------







“กินยาก่อนนอนนะครับ”


ยื่นยาลดไข้และแก้วน้ำเปล่าให้คนที่ยืนรออยู่ตรงประตูห้องนอน ชนกันต์เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่เขาซึ่งยังอยู่ในชุดเดียวกับที่ใส่มาตลอดวัน พรุ่งนี้เด็กหนุ่มต้องเข้างานก่อนเขาสองชั่วโมง อธิศกำลังชั่งใจว่าควรตื่นพร้อมกันหรือเปล่า


“ขอบคุณครับ”


รับเอายามาใส่ปากก่อนจะกระดกน้ำตามอย่างว่าง่าย เจ้าของห้องรับแก้วกลับไปวางไว้บนโต๊ะใกล้มือชั่วคราวแล้วปิดประตูห้อง “ผมขอเวลาสองนาที”


อธิศว่า ถึงจะไม่เต็มใจนักแต่ชนกันต์ทำได้แค่พยักหน้าตอบกลับไปด้วยความเกรงใจ ไม่นานนักร่างสูงก็ออกมาในชุดเสื้อยืดและกางเกงผ้าสำหรับใส่นอน เป็นเรื่องดีที่ในสองนาทีนี้ชนกันต์ไม่เจออะไรผิดปกติจนหวาดผวาขึ้นมาอีก เขาสงบใจลงมากหลังจากพยายามตั้งสติได้ จะว่าไปแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด อาจด้วยโทนสีของห้องหรือการมีคนอยู่เป็นเพื่อนด้วยความเข้าใจก็แล้วแต่ ถ้าเทียบกับหลาย ๆ วันที่ผ่านมาแล้ว วันนี้เป็นทั้งวันที่แย่ที่สุดและอาจดีที่สุดเช่นกัน


“หมอจะไปไหน”


เอ่ยถามเมื่อเห็นร่างสูงหยิบเอาหมอนบนเตียงไปถือไว้ใบหนึ่ง อธิศยิ้มแล้วตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณนอนที่เตียงเถอะ ผมจะไปนอนโซฟาเอง”


ถึงจะยืนยันว่าสามารถเปิดประตูทิ้งไว้ได้เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน แต่ชนกันต์กลับไม่สบายใจเหมือนเด็ก ๆ ยิ่งได้ยินเสียงฝนแว่วมาจากทางด้านนอกก็ยิ่งรู้สึกหวาดระแวงอย่างบอกไม่ถูก เขารู้ว่าไม่ควรร้องขอมากไป แต่ถึงอย่างนั้นการให้เจ้าของห้องไปนอนข้างนอกมันไม่ถูกต้อง


“ผมนอนโซฟาเองก็ได้ครับ หมอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว นอนในห้องเถอะ” ทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อหลีกทางให้ ทั้งยังเอื้อมตัวไปยื้อเอาหมอนในมืออีกฝ่ายราวกับขอร้อง “แค่นี้ผมก็รบกวนหมอมากแล้ว”


อธิศยอมปล่อยหมอนสู่มือของอีกฝ่ายแต่โดยดี เขาก้มลงมองเตียงห้าฟุตแล้วชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง พอดีกับที่เสียงฟ้าร้องคะนองจนเกิดเสียงดัง หันไปเห็นชนกันต์กำลังยืนห่อไหล่หลับตาปี๋อยู่ตรงประตูห้อง


เด็กหนุ่มไม่เคยกลัวฟ้าร้องฟ้าผ่าจนถึงตอนนี้ ทว่าสิ่งที่เขากลัวคือภาพซ้อนทับซึ่งมาพร้อมกับเสียงเมื่อครู่นี้ต่างหาก มันทั้งสดใหม่และตรึงอยู่ในความรู้สึกเสียจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อนาทีก่อน การเปิดประตูทิ้งไว้ไม่ช่วยอะไรสักนิดเดียวหากถูกคุกคามด้วยสิ่งนั้น เขาได้เรียนรู้แล้วในวันนี้


“กันต์”


มืออุ่น ๆ วางลงบนไหล่ หมอหยิบเอาหมอนในมือเขาไปถือไว้อีกครั้ง ดวงตาทอประกายความเห็นใจ เช่นเดียวกับแขนของเขาที่ถูกรั้งให้เดินกลับไปข้างเตียงสีน้ำตาล


“นอนในห้องนี้เถอะ” อธิศพูดพร้อมกับวางหมอนลงยังที่มันเคยอยู่แล้วตบเบา ๆ “ถ้าเตียงห้าฟุตมันไม่อึดอัดจนเกินไปนักสำหรับผู้ชายสองคน”


พักใหญ่ที่ชนกันต์นอนจ้องเสี้ยวหน้าของอธิศซึ่งนอนอยู่ข้าง ๆ เขาก็ไม่ได้มีเจตนาจะมองหมอหรอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการนอนตะแคงหาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้นมันรู้สึกปลอดภัยกว่าเป็นไหน ๆ แม้จะต้องแลกกับการถูกแสงสีส้มจากโคมไฟแยงตาเพราะมันวางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียงก็เถอะ


ร่างสูงไม่ได้สนใจหันมามองตอบหรือรับรู้ว่าตัวเองได้กลายเป็นเป้าสายตาของคนนอนไม่หลับ อธิศเปิดโคมไฟเอาไว้ให้เพราะหวังดีต่อสภาพจิตใจคนไข้ แต่ชนกันต์เชื่อว่าเหตุผลที่อีกฝ่ายยังเอาแต่นอนก่ายหน้าผากมองเพดาน ส่วนหนึ่งก็มาจากถูกแสงนั่นแยงตาเหมือนกัน แต่ครั้นจะให้นอนคลุมโปงอย่างที่ทำมาตลอด ชนกันต์ก็เกรงใจผ้าห่มซึ่งใช้ร่วมกัน ท้ายแล้วคนทั้งคู่เลยทำได้แค่จมอยู่ในความคิด มันอาจฟังดูน่าอึดอัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหมออธิศที่ไม่ควรจะต้องมาร่วมรับผิดชอบอะไรแบบนี้


เสียงฟ้าร้องทำให้ชนกันต์ตกใจอีกแล้ว มือซึ่งเหมือนจะไม่มีที่วางมาตั้งแต่แรกก็เผลอไปกระตุกเอาเสื้อยืดอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ อธิศรู้สึกตัวแล้วหันมามองคนข้าง ๆ ก่อนจะเอามือที่ก่ายหน้าผากลงเพื่อไม่ให้เสียมารยาท


“ยังไม่หลับอีกเหรอ”


แปลกดีที่คนเรามักถามในสิ่งที่เห็นชัดอยู่แล้ว อธิศก็ด้วย แม้จะเป็นจิตแพทย์แต่เขาก็คือหนึ่งในคนส่วนมากที่ติดนิสัยนี้ นัยน์ตาเรียวรีตรงหน้ามองตอบด้วยความเก้อเขิน “ถ้านอนไม่หลับล่ะก็ หมอปิดไฟก็ได้นะครับ ผมไม่เป็นไร”


ทุกครั้งที่ฟ้าร้องร่างเล็กจะห่อไหล่น้อย ๆ จนดูเหมือนคนขี้ตกใจ อธิศเป็นคนเปิดโคมไฟทิ้งไว้เองแต่ก็ยอมรับว่ามันทำให้เขาข่มตาหลับไม่ได้ พอได้ยินอย่างนั้น จิตแพทย์หนุ่มจึงใช้เวลาอีกไม่กี่วินาทีในการไตร่ตรอง


ขอเห็นแก่ตัวด้วยการเอี้ยวตัวไปปิดโคมไฟจนห้องทั้งห้องมืดสนิท และมืดลงไปยิ่งกว่าเดิมเมื่อชนกันต์บังคับตัวเองให้ข่มตาปิดเพื่อหลับลงให้ได้ในคืนนี้ แต่อีกไม่ถึงสิบวินาที ร่างทั้งร่างก็ถูกรั้งเข้าไปจนจมอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของใครอีกคน อธิศกดศีรษะเขาให้ฝังลงตรงช่วงอก ตอนนี้ถึงจะลืมตา ชนกันต์ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดและกลิ่นโคโลญจน์อ่อน ๆ ท่อนแขนแกร่งที่แทรกผ่านระหว่างศีรษะกับที่นอนนั้นช่วยให้นอนได้สบายขึ้น มือใหญ่ของหมอลูบเรือนผมเขาเบา ๆ สองสามทีแล้วจึงหยุดลง มันคล้ายการบอกราตรีสวัสดิ์แบบไม่มีเสียง


ในขณะที่พยายามทำให้อีกคนหลับ หากแต่นัยน์ตาคมยังคงมองไปท่ามกลางความมืด อธิศสลัดแววตาสีดำด้านและชายกระโปรงเปื้อนโคลนนั้นออกไปจากสมองไม่ได้ มันท้าให้เขาใคร่รู้และชั่งใจถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น


ดีแล้วที่เลือกไม่พูดมันออกไป เพราะพอเบี่ยงตัวลงมองคนในอ้อมกอดอีกครั้ง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคืนแรกที่เด็กคนนี้หลับสบาย อธิศลืมเบาแอร์ทั้งที่ฝนตก อย่างน้อยก็ขอให้อ้อมกอดนี้อบอุ่นพอจนถึงเช้าแล้วกัน






------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 26-02-2015 14:05:39
( ต่อ )





กริ๊งงงงงง


ทันทีที่เสียงกริ๊งครั้งสุดท้ายดังขึ้นก็ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจของหนุ่มสาวในชุดกาวน์สิบคนที่พากันทยอยออกจากห้อง เสียงพูดคุยจากข้างนอกอื้ออึงขึ้นมาอีกครั้ง รามิลมีเวลาไม่ถึงห้าวินาทีในการเดินจากโต๊ะที่เขากรอกคำตอบสุดท้ายเพื่อมาส่งคำตอบให้ผู้ช่วยอาจารย์ซึ่งรอรับกระดาษอยู่ตรงประตู


“โคตรยากเลยว่ะ นี่จะตอบได้ถึงห้าข้อหรือเปล่าก็ยังไม่รู้”


รามิลฟังเสียงบ่นโอดครวญของเพื่อนในกลุ่มในขณะที่เบี่ยงตัวหลบทางให้นักศึกษาแพทย์ร่วมคลาสชุดต่อไปได้เข้าห้องแลป ชายหนุ่มเอาปากกาเสียบใส่กระเป๋าเสื้อกาวน์สีขาวก่อนจะยืนกอดอกร่วมวงถกเถียงเกี่ยวกับการสอบที่เพิ่งผ่านไป


“กูว่ากูจะไม่จบก็เพราะเจอแลปกรอสมันทุกปีนี่แหละ”


“ก็สมควรอยู่หรอก เจอมาตั้งแต่ปีสองแล้วมึงยังผ่านแบบกระง่อนกระแง่นอย่างนี้”


“อาทิตย์หน้าจะรอดเหรอวะ ฮ่า ๆ”


คุยกันอย่างออกรสเพราะทางด้านนอกนี่แทบไม่มีใครเหลืออยู่ กลุ่มของพวกเขาเป็นชุดรองสุดท้ายของการสอบวันนี้ ตอนนี้ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว ตั้งแต่เช้าที่นัดเจอกันเพื่อติวรอบสุดท้ายนั้นยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง จนสุดท้ายก็มีคนหนึ่งในกลุ่มขัดจังหวะขึ้นมาด้วยเหตุผลว่าหิวจนได้ การเรียนในปีสี่ทำให้รามิลต้องฟังเพื่อน ๆ บ่นเรื่องความเบื่อที่มีต่อโรงอาหารของโรงพยาบาลเป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นการออกไปหาร้านใกล้เคียงก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาสักเท่าไหร่ ระหว่างทางแต่ละคนพากันถอดเสื้อกาวน์เก็บลงกระเป๋า หรือถ้าขยันหน่อยบางคนก็อาจแวะเอาไปพับเก็บในล็อกเกอร์เสียดิบดี


ภายในโรงอาหารนั้นเสียงดังจอแจ ที่มุมหนึ่งมีนักศึกษาแพทย์นั่งกระจัดกระจาย บ้างก็เพิ่งเดินมาพร้อมแก้วกาแฟ ภาพพวกนี้ค่อนข้างเป็นที่ชินตาสำหรับโรงพยาบาลไปเสียแล้ว


หลังจากได้อาหารจานเดียวแบบกินง่าย รามิลก็ปักหลักอยู่ที่โต๊ะ นึกตำหนิภาพข่าวในทีวีซึ่งนำเสนอข่าวการฆ่าตัวตายซึ่งสยดสยองเสียยิ่งกว่าอะไร ถึงจะชินกับเลือดเนื้อ แต่ใช่ว่ามันน่าพิสมัยในเวลากินข้าวเสียเมื่อไหร่


นัยน์ตาเรียวทอดมองเพื่อนที่ทยอยกันมานั่งโต๊ะพร้อมด้วยอาหารและน้ำซึ่งวางเรียงกันหลายต่อหลายแก้ว พวกเขายังคงคุยกันเรื่องการสอบที่เพิ่งผ่านพ้นไป จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งเปิดบทขอให้หยุดเพราะกินข้าวไม่อร่อยนั่นแหละ คนที่เหลือถึงได้ทำท่าทางล่อกแล่กแล้วคิดหาหัวข้อสนทนาใหม่


“เออใช่ แล้วนี่เขาเจอตัวยัยนั่นกันหรือยัง”


มือที่จับช้อนส้อมชะงักลง ไม่มีคำพูดใดออกจากปากรามิลนอกเหนือจากการนิ่งฟัง อีกแล้วที่เขานึกอยากหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก


“เมื่อกี้กูเหมือนเห็นพ่อแม่เขาแวบ ๆ สงสัยมาตามหาลูกอีกแล้ว”


“ก็พูดไป น่าสงสารเหมือนกันนะ”


“เฮ้ยไอ้เก้า ทำไมเงียบจังวะ ไม่มีปากมีเสียงหน่อยหรือไง”


“....”


การอยู่เฉย ๆ ไม่เคยได้ผล ร่างโปร่งวางวัตถุในมือลงกับจานจนเกิดเสียงดัง พยายามข่มอารมณ์ด้วยสีหน้าราบเรียบไม่ต่างจากทุกที แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเลี่ยงการถูกกระเซ้าเย้าแหย่แบบละลาบละล้วงไม่ได้อยู่ดี


“เฮ้ย ใจเย็น ๆ”


ไหล่ลาดถูกตบเบา ๆ เป็นการเรียกสติ รามิลคิดว่าเขาไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปมากมาย แต่ดูเหมือนว่าคิดผิด เพื่อนทั้งโต๊ะเริ่มหันมาจับจ้องเป็นตาเดียว


“มึงจะพูดขึ้นมาทำไมวะ แม่งโมโหแล้ว”


“เอ้า กูก็แค่ถามดูเฉย ๆ ไม่ได้หรือไง”


ไม่บ่อยนักที่รามิลจะแสดงอาการไม่สบอารมณ์ออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ครั้งนี้ดูเหมือนเป็นส่วนน้อย ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำท่าจะหยิบจานขึ้นมาแล้วเดินหนีไป


“นั่นมึงจะไปไหนไอ้เก้า”


“เอาจานไปเก็บ” ตอบทั้งที่จานอาหารในมือยังพร่องไปไม่ถึงครึ่ง เขายอมเสียเวลาอีกแค่ไม่กี่วินาทีสำหรับฟังปากเสีย ๆ นั่นพ่นเรื่องไม่เป็นเรื่องออกมา


“พูดแค่นี้ถึงกับรับไม่ได้เลย?”


“....”


“อย่าเซนซิทีฟไปหน่อยเลยน่า เรื่องนี้ไม่พาดพิงกับมึงแล้วจะไปพาดพิงกับหมาตัวไหน” เสียงนั้นติดจะกวนประสาทอยู่ในที ตอนแรกก็กะจะแซวแค่พอสนุกปาก “ยัยนั่นหายไปแท้ ๆ แต่กูก็ไม่เห็นมึงจะเดือดร้อนอะไรสักนิดเลยนี่หว่า”


“....”


“อย่าคิดว่าพวกกูไม่รู้นะ ว่ามึงฟันพลอยไปแล้ว”


ประโยคสุดท้ายซึ่งเบาราวกับกระซิบนั้นคล้ายจะดึงสติของรามิลให้ขาดผึง มือข้างที่ไม่ได้ถือจานกำแน่นจนขึ้นเส้นเลือดปูดโปน ถ้านี่ไม่ใช่โรงพยาบาล สาบานได้ว่าคนตรงหน้าต้องถูกต่อยก่อนได้พูดประโยคเมื่อครู่จบแน่ แต่เพราะตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการแสดงออกถึงความไม่พอใจ อีกฝ่ายจึงยิ่งได้ใจกว่าเดิม


“เฮ้ยไอ้โอ๊ต มึงพอได้แล้ว”


“จะขุดขึ้นมาให้โมโหกันทำไมวะ คนอื่นเขามองแล้ว”


“เก้ามึงใจเย็น ๆ นะ”


สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อข่มโทสะ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ถ้าขืนพวกเขายังมีปัญหากันที่นี่ สำหรับรามิลแล้ว เรื่องของผู้หญิงคนนั้นไม่ควรถูกนำมาพูดด้วยซ้ำ ร่างโปร่งตัดสินใจแยกตัวออกมาก่อนจะกลายเป็นเป้าสายตาของคนในโรงอาหารเพราะเผลอไปต่อยเพื่อนชายเข้า รู้ว่าถ้าอยู่ต่อไป โอ๊ตจะต้องเอาแต่พูดเรื่องนี้ไม่หยุด และคนที่ได้รับผลกระทบมันก็ตัวเขาทั้งนั้น


เปิดล็อกเกอร์แล้วหยิบเสื้อกาวน์ออกมาสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาว จัดแต่งจนดูเรียบร้อย ตอนนี้เขาควรหาอะไรทำได้แล้ว จะไปโซนผู้ป่วย เตรียมสอบ หรืออะไรก็ตาม เสยเรือนผมขึ้นอย่างลวก ๆ แล้วพาตัวเองเข้าสู่โถงทางเดิน ผ่านรถเข็นผู้ป่วย ห้องจ่ายยา เคาน์เตอร์พยาบาล จนกระทั่งถึงตึกผู้ป่วยนอก ไม่บ่อยนักที่รามิลจะเดินไปไหนมาไหนคนเดียว เขามีเพื่อนรายล้อมเสมอ ลำพังจะไปหาศรัณย์ยังต้องคิดหาข้ออ้างดี ๆ ทั้งที่ตอนนี้มีโอกาส แต่เขาไม่ได้อยากเจอคนรักรุ่นพี่ตอนนี้


ร่างโปร่งชะงักเมื่อเห็นอาจารย์หมอกำลังยืนคุยอยู่กับชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่ง ผู้ชายร่างท้วมอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีพื้นและกางเกงสแล็คหลวมโครก ส่วนผู้หญิงมีรูปร่างเล็กแกร็น เธอสวมกระโปรงสุภาพยาวกรอมเข่าและกำลังร้องไห้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รามิลเห็นภาพครอบครัวนี้มาถามหาข่าวคราวลูกสาวซึ่งหายตัวไป เขานับมันได้เป็นครั้งที่สาม


เหงื่อกาฬไหลซึมตรงขมับก่อนจะเบี่ยงตัวเข้าหลบยังตรอกทางด้านซ้ายมือ นางพยาบาลเข็นเตียงคนไข้ผ่านพอดิบพอดีกับที่อาจารย์หมอหันมาทางนี้ หลังจากมั่นใจว่าไม่มีใครเห็น เด็กหนุ่มก็ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดเข้าหน้าเบอร์โทรออกล่าสุด ไล่ลงมาจนเจอชื่อพลอย มือสั่นลนลาน อาจจะเกือบ ๆ ครึ่งนาทีที่จ้องมองชื่อนั้น มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นคำว่าพลอยเหมือนเดิม


เบอร์นี้โทรหาเขาครั้งสุดท้ายคือเมื่อคืน โชคดีว่าตอนนั้นศรัณย์หลับไปแล้ว รามิลเลยไม่ต้องคอยตอบคำถามว่าพยายามโทรกลับหาใครอย่างเอาเป็นเอาตาย


‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’


ลดโทรศัพท์ในมือลงก่อนจะกดโทรออกซ้ำอีกครั้งทั้งที่รู้แก่ใจว่าไม่มีคนรับ ใช่ มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนั่นแหละ


แต่แพรพลอยโทรหาเขา... โทรหาได้ยังไง






TBC





----------------------------------------------------


เห็นมีคอมเมนท์แซวว่าจะทำเล่มขายไหม
นี่ไม่กล้าขายใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ ไม่ได้คิดไว้เลย 5555555555
แค่ทุกคนชอบ แล้วคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้กันบ้างก็พอค่ะ  :กอด1:





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 26-02-2015 14:56:45
ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 26-02-2015 15:36:10
ถ้าพลอยยังไม่เลิก สองคนนี้คงตัวติดกันไปตลอด ก็ฟินดีนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 26-02-2015 16:13:49
กันต์ กับ หมออธิศ อยู่ด้วยกันก็ดี แต่แม่คุณเพลาๆ หน่อยเหอะ
ไปหลอนคู่อื่นมั่ง เดี๋ยว กันต์ จิตหลุด สติแตก เป็นบ้าไปก่อนพอดี  :katai1:

ปล. +พาราไซต์ เอ้ย! เป็ด ให้จ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 26-02-2015 16:23:30
เฮ้ยเก้า! มีซัมติงอะไรกันจริงๆด้วยตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นแค่เพื่อน...เหอๆ

อ้ายยยพี่หมอกับน้องกันต์ :impress2:ช่วยเหลือกันไปนะจ้ะ~หุหุหุ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 26-02-2015 17:26:11
 o13 :katai4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 26-02-2015 17:30:59
ถ้าขายนี่ก็ซื้อนะ อิอิ  o13 :katai2-1: :katai3: :katai5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 26-02-2015 17:55:13
ความลับค่อยๆคลายละ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 26-02-2015 18:07:18
ทำไมเก้าถึงรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าจะไม่มีคนรับสาย
น่าสงสัยๆๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zoochi ที่ 26-02-2015 18:19:35
ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบอกว่า ชอบเฟ่ออออออออออ
คนเขียนแต่งดี ชอบคู่แรกมากกว่า มันหวานแบบขมๆ กิกิ
อัพถี่ๆเลยนะค่ะ จะติดตาม

#หนูน้อยใจ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pim-lovemj ที่ 26-02-2015 19:06:31
 o13 สนุกปนหลอน แต่ก้อต้องติดตามคร่า
คนเขียนเขียนได้สนุกมากๆๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 26-02-2015 19:47:31
อะฮะ เหมือนจะได้เงื่อนงำบางอย่าง :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-02-2015 19:59:31
คิดไปแล้วว่าแพรพลอยนี่ผีแหงๆ o22
กันต์หายกลัวบ้างยัง มีหมออธิศกอดไว้ด้วยอ่ะ อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 26-02-2015 20:59:26
แล้วกันต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง   :serius2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 26-02-2015 21:02:41
รามิล น่าสงสัยมากอ่ะ ทำไมถึงมั่นใจว่าแพรพลอยไม่น่าจะโทรมาหาได้
แล้วที่ตามน้องกันต์อยู่นี่ ใช่แพรพลอยหรือเปล่า ทำไมไปตามน้องกันต์ไม่ตามเก้าอ่ะ
พี่หมออธิศ อบอุ่นจังเลย  :o8: อย่างน้อยก็คืนนี้แหละ ที่น้องกันต์จะได้หลับเต็มอิ่มกับเขาบ้าง
น้องน่าสงสารมาก ดีนะที่พี่หมอ ก็ได้เห็นอะไร ๆ กับเขาบ้าง จะได้ไม่หาว่าน้องกันต์บ้าอยู่คนเดียว

ลึกลับซ่อนเงื่อน สยองขวัญดีแท้ สนุกมากเลยค่ะ รอติดตามน้า
อ่านตอนกลางคืนอีกแล้ว แงงงง  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-02-2015 21:58:36
รอให้ปมต่างๆค่อยๆคลายออกมา ตอนนี้รามิลน่าสงสัยจริงๆแหละ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 26-02-2015 23:01:15
หลอนนนน  :katai1:
แต่ถ้าตัดความหลอนไปนี่เขิลตอนเค้าจูบ เค้ากอดกัน เอร้ยยย  :-[ คนเขียนแอบซ่อนมุมหวานๆในมุมหลอนๆนะเนี่ย 5555
อีกเรื่องคือ มานั่งคิดดู รามิลกับศรัณย์พอเข้าใจว่าทำไมพลอยถึงหลอก (ถ้าเข้าใจไม่ผิดว่าผีโคลนนั่นคือพลอย?)
แต่อธิศกับชนกันย์น่ะ? ไปทำอะไรให้เธอตั้งแต่เมื่อใดดด เค้ารู้จักเธอกันด้วยหรือนี่  :katai1:
ก็จะติดตามต่อไปจ้า คนเขียนแต่งได้สุดยอดมากค่ะ ทำให้คนอ่านเข้าถึงอารมณ์ได้ ยิ่งเรื่องหลอนๆนี่แต่งดึงอารมณ์ยากมาก นับถือ  o13
จะติดตามต่อไปจ้า +ให้เบยย สู้ๆ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 26-02-2015 23:14:07
อย่าบอกว่าเก้าสั่งคนไปฆ่าปิดปากพลอยนะ !!! แล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับกันต์ยังไงอ่ะ ต่ออีกวันละ3ตอนหลังอาหารได้ป้ะ55555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 26-02-2015 23:30:37
สงสัยว่าน้องกันต์เกี่ยวข้องะไรกับเรื่องนี้ เพราะน้องโดนหลอกคนแรกแถมโดนหนักสุดด้วย
ถ้าศพที่น้องจ้องตาด้วยใช่แพรพลอยจริง ทำไมจนป่านนี้ยังบอกว่าหายตัวไปอยู่ ก็น่าจะเป็นพบศพแล้วอะไรงี้มากกว่านี่นา
หรือว่าถ้าเป็นศพที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วตอนนั้นก็มีคนตามหาลูกสาวที่หายไป ปกติจะมีการให้ตรวจดูมั้ยว่านี่ลูกสาวคุณรึเปล่า
อะไรงี้ โอ้ย อยากรู้เรื่องไวๆค่ะ ต่อมขี้สงสัยกำเริบ 555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เกสรทอง ที่ 26-02-2015 23:37:36
โอ้ย ตอนนี้ดีงาม ไม่มีผี มีแต่ฟิน 5555555 อัพบ่อยๆนะครับ แต่อย่าอัพดึกๆนะเตง รัก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 27-02-2015 01:15:59
หลอนมากกกกก สนุก รออ่านตอนต่อไปค่ะ รีบมาต่อไวๆ นะ  :call:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zaszaq ที่ 27-02-2015 07:11:01
 :เฮ้อ:  แพรพลอยนี้ท่าจะตายแล้วแน่ๆๆ

แล้วใครฆ่าละ  :m28: ปมเยอะ


สนุกมากๆๆค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 06 』 | horror thriller (26-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 27-02-2015 14:31:32
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:หลอนดีขอบรอติดตามตอนต่อไปจ้า :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 27-02-2015 21:54:53
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 07







รับเอาแก้วกาแฟร้อนออกมาจากตู้อัตโนมัติ มือหนึ่งล้วงอยู่ในเสื้อกาวน์ขณะที่อีกมือยกแก้วขึ้นจรดปาก ดวงตากลมโตวันนี้ไม่มีแววของความสดใส มันทั้งหมองคล้ำ อิดโรย และผิดปกติเกินกว่าที่พยาบาลหลายคนจะกล้าเอ่ยทักทาย


ศรัณย์รู้สึกว่าน้ำกาแฟร้อนน้อยกว่าปกติด้วยซ้ำในตอนที่เขาถือมันเดินกลับไปยังห้องตรวจ ทั้งที่ทำงานมาค่อนวันแล้ว แต่กลับนึกโมโหตัวเองที่ยังปล่อยให้หัวสมองคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนคนไร้สติ ในตอนนี้เขาแทบท่องชื่อกระดูกได้ไม่ครบทุกส่วนด้วยซ้ำถ้าถูกถาม โชคดีว่าในตอนเช้าไม่มีผู้ป่วยหนัก


ยกปลายนิ้วขึ้นนวดขมับเบา ๆ ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเตียงคนไข้แล้วรื้อฟื้นเรื่องเมื่อวานขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ศรัณย์นอนไม่หลับ แต่พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เช้าแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เขาต้องขอบคุณความอ่อนเพลียในการเป็นยานอนหลับชั้นเลิศ ครั้นก้นถึงเก้าอี้ก็ได้แต่ปล่อยตัวพิงพนักแล้วหลับพักสายตาอยู่ครึ่งนาที มีแฟ้มคนไข้กองอยู่เต็มโต๊ะ เห็นอย่างนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ ถึงได้หยิบเลือกแฟ้มแต่ละแฟ้มมาเปิดดูผ่าน ๆ


เดินออกไปทางเคาน์เตอร์ด้านหน้าด้วยคิ้วขมวดมุ่น แฟ้มสีส้มจากมือถูกยื่นให้พยาบาลวัยกลางคนในชุดกางเกงสีขาว หล่อนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มีอะไรคะหมอ”


“คนไข้ไม่มาตามนัดเจาะเลือดสองอาทิตย์แล้วนะครับ รบกวนโทรเช็กญาติผู้ป่วยให้ที” ขณะที่พูดก็นึกหน้าคุณยายรูปร่างท้วม ผมดำแซมอยู่ตามผมหงอกที่ขึ้นครบทั้งหัว ทั้งยังสีหน้าหวาด ๆ จากการเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนที่แล้วอีก


“นางจำเนียร จันทร์โสภา” พยาบาลทวนชื่อในแฟ้มก่อนจะเสิร์ชข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อหาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หันไปหยิบโทรศัพท์และพูดคุยกับปลายสายไม่ถึงสองนาที คิ้วเธอก็ขมวดปมตามเขาไปอีกคนหนึ่ง “เอ่อ หมอคะ”


“ว่าไงครับ” ศรัณย์รู้สึกว่าการรอคอยคำตอบช่างยาวนานเหลือเกิน


“คนไข้ชื่อจำเนียร อายุเจ็ดสิบสี่ใช่ไหมคะ”


“คิดว่าใช่”


“คือ --” เธอดูอึกอัก อาจเพราะยังเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก “ญาติบอกว่าคนไข้เสียชีวิตไปตั้งแต่สามวันที่แล้วค่ะ”


“ว่าไงนะ?”


ถึงนี่จะเป็นเรื่องสุดแสนปกติของการเป็นแพทย์ แต่ถึงอย่างนั้นศรัณย์ก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเท่าไรนัก เขารีบเดินอ้อมไปทางด้านข้างก่อนถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องระเบียน หยุดยืนอยู่หน้านางพยาบาลคนเดิมแล้วว่า “ขอผมคุยกับญาติคนไข้เอง”


เอี้ยวตัวไปดูหมายเลขบนจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะกดเบอร์ลงไปบนโทรศัพท์ เสียงรอสายดังเข้ามาในหู ไม่ถึงสิบวินาทีเสียงจากปลายสายก็ตอบรับ







--------------------------------------------------







ช่วงบ่ายวันนี้แผนกจิตเวชมีคนไข้น้อยกว่าทุกที รายสุดท้ายที่มาปรึกษาอาการนอนไม่หลับกลับไปตั้งแต่เมื่อชั่วโมงก่อน แพทย์หนุ่มพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นจนถึงศอก ถอดแว่นออกพักสายตาแล้วก้มมองนาฬิกาข้อมือ จากที่นัดกันไว้ เขายังต้องรอชนกันต์ออกเวรในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า


ข้างนอกฟ้ามืดแล้ว อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนในช่วงนี้ส่งผลให้กลางคืนดูยาวนานกว่าปกติ ถึงใจอยากจะออกไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อย แต่อธิศก็ตัดสินใจใส่แว่น  แล้วจับจ้องอักษรภาษาอังกฤษละลานตาบนหน้าจอแล็ปท็อปต่อ ค่อยรอออกไปทีเดียวตอนชนกันต์เลิกงานแล้วกัน


นึกถึงเรื่องจูบนั่นขึ้นมาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ เขาเลือกไม่พูดถึงมันเพราะคงแลกมาด้วยการทำตัวไม่ถูกและอึดอัดยิ่งกว่าเดิมแน่ พอมาคิดดูตอนนี้ นั่นเป็นการกระทำที่สิ้นคิดมาก ซึ่งเขาคงทำได้แค่โมโหตัวเองอยู่อย่างนี้และขอบคุณชนกันต์ที่ไม่พูดถึงมันขึ้นมาอีก ในเวลาทำงานทั้งคู่ไม่ได้ก้าวก่ายกัน มีบ้างที่เดินผ่านในตอนเที่ยงแล้วแอบมองเข้าไปเห็นว่ายังทำงานได้ปกติดี ข้างกันมีเภสัชกรอีกคนคอยคุยเป็นเพื่อน เพราะอย่างนั้นอธิศถึงไม่ห่วงอะไร


แต่ถึงจะบอกตัวเองให้จดจ่ออยู่กับกรณีศึกษาที่หาข้อมูลมาได้ ทว่าเขารู้ตัวดี ในหัวเอาแต่พะว้าพะวงอยู่กับภาพผู้หญิงผมยาวในห้องคนนั้น ไม่รู้ว่านี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง ถึงอยากบอกตัวเองว่ามันเป็นภาพหลอน แต่หลังจากลำดับความคิดตามขั้นตอนแล้วมันก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี


‘พอลืมตาผมก็เห็นผู้หญิง เป็นผู้หญิงตัวซีด ๆ ใส่ชุดสีขาว กำลังมองมาที่ผมแล้วก็อ้วกโคลนออกมาเต็มไปหมด’


ทั้งที่เคยคิดจะสรุปว่าชนกันต์นั้นมีอาการจิตหลงผิดไปแล้วแท้ ๆ แต่อธิศกลับไม่คิดว่าเขาเกิดภาวะประสาทหลอนจากสิ่งที่อีกฝ่ายเล่าให้ฟังตามไปด้วย นี่มันน่าโมโห สิ้นดี จะให้เชื่อว่าผีสางวิญญาณมีจริงนี่มันดูถูกคนเป็นจิตแพทย์ชัด ๆ อธิศทำได้แค่พยายามหาเหตุผล แต่พอหาได้แล้วเขาก็รู้ว่ากำลังหลอกตัวเอง


เพ่งมองไปยังบานประตูสีไข่และห้องที่ว่างเปล่า ตอนนี้อธิศอยากเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง อยากให้มีสิ่งปกติเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเพื่อย้ำเตือนว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นเรื่องจริงและสมควรแก่การเชื่อ


ถ้ามีอยู่จริงก็ออกมาสิ


ทันทีที่คำพูดในใจมันผุดขึ้นมาอย่างนั้น อธิศก็รู้ตัวแล้วว่าเขาควรยอมจำนนต่ออีโก้ได้แล้ว


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


เสียงเคาะประตูสามทีดังขึ้นก่อนมันจะถูกเปิดออก นี่เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องที่เพื่อนอายุรแพทย์มาเยือนแผนกจิตเวชถึงสองวันติด


“ว่าไง” อธิศยิ้มทักทาย มองคนตรงหน้าเลื่อนเก้าอี้ออกจากโต๊ะแล้วนั่งลงอย่างช้า ๆ ศรัณย์อยู่ในชุดเสื้อสีเข้มและกางเกงผ้าสุภาพไม่มีสวมกาวน์ทับ ซึ่งนั่นไม่ได้ดูแปลกตาเท่าไรนักถ้าไม่ติดว่ามันกอปรเข้ากับสีหน้าอิดโรยของเจ้าตัว วันนี้ศรัณย์ไม่ได้ยิ้มแบบคนอารมณ์ดีนัก มันติดจะฝืน ๆ และดูออกว่าทำไปตามมารยาท


“เห็นพยาบาลข้างหน้าบอกว่านายยังไม่กลับ ก็เลยเข้ามา”


อธิศพยักหน้ารับ พับจอแล็ปท็อปปิดลงเพราะรู้ตัวดีกว่าคงอ่านต่อไปไม่รู้เรื่อง วันนี้ทั้งวันเขาเองก็ไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์และสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีฟ้า เกินครึ่งของเสื้อเชิ้ตในตู้เสื้อผ้าของอธิศเป็นสีโทนอ่อน มันช่วยให้คนไข้รู้สึกสบายใจขึ้นในตอนที่พูดคุยกัน


พอไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับเป็นเสียงพูด ศรัณย์ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาอีกครั้งในการคิดคำพูดดี ๆ ขึ้นมาสักประโยคเพื่อเริ่มต้นบทสนทนา


“คือว่า... ฉันไม่ได้อยากให้นายมองว่าฉันเป็นคนไข้หรืออะไร ช่วยคิดเสียว่านี่คือการที่เพื่อนคุยกันได้ไหม”


“พูดมาสิ” ทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ต้น ว่ากันจริง ๆ แล้วอธิศกับศรัณย์ก็ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนร่วมงานที่มารู้จักกันในวันอบรมตอนเข้าบรรจุเป็นหมอโรงพยาบาลนี้ ใหม่ ๆ ถึงจะสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่จากคำพูดของคนตรงหน้าร่างสูงคิดว่าเขาคงทำได้แค่แกล้งทำตามคำขอ ศรัณย์รู้สึกไม่ดีนักกับการเป็นคนไข้เสียเอง


“ฉันทำคนไข้ตายอีกแล้ว


“....” ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่ได้ฟังคำพูดร้ายแรงออกมาจากปาก เขาเคยคุยเรื่องนี้กับคนตรงหน้าไปสองสามครั้งเมื่อตอนเกิดเรื่องนั้นใหม่ ๆ “ช่วยเล่าอย่างละเอียดได้ไหม”


ศรัณย์สูดลมหายใจลึก ดูไม่สบายใจนักแต่ก็ตัดสินใจเล่า “ครั้งนี้ฉันคงไม่โดนเรียกไปสอบ เพราะคนไข้ไม่มาตามนัดเอง”


“แล้วทำไมนายถึงพูดว่าทำคนไข้ตายล่ะ”


“ยายแกเป็นคนไข้ในความดูแลของฉัน” เหตุผลนี้ดูฟังไม่ขึ้นนักถ้ากอปรกับประโยคข้างต้น “เบาหวานกับความดันโลหิตสูง อยู่ในระยะรักษาและประเมินอาการ”


“....”


“ครั้งล่าสุดที่เจอแกคือเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนั้นฉันเผลอดุไปเรื่องผิดนัดไปเป็นสัปดาห์ แกดูท่าทางกลัวมาก แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร”


“....”


“จนเลยนัดตรวจของเดือนนี้มาเป็นสัปดาห์อีก ฉันถึงได้ให้ฝ่ายระเบียนโทรตาม แต่ลูกแกบอกว่าแกช็อกตายไปเมื่อสี่วันก่อน”


“....”


“ภาวะคีโตซิส” ศรัณย์ดูลำบากเหลือเกินในการกลืนน้ำลายลงคอ ราวกับมีก้อนเหนียว ๆ ติดอยู่จนทำให้หายใจไม่ออก “แกไม่ยอมบอกลูกว่าอินซูลินหมดแล้วไปหาซื้อยาเอาเอง พอรู้ว่าเป็นความดันสูงด้วย เภสัช ฯ ก็สั่งจ่ายคลอโรทาลิโดน”


“....” ไม่ต้องพูดอะไรชัดเจนนัก อธิศก็พอเข้าใจได้จากพื้นฐานการเป็นแพทย์ที่ผ่านมาว่าผู้ป่วยคงช็อกตายในที่สุด เขาเข้าใจดีถึงสิ่งที่ศรัณย์ต้องการสื่อ แม้ว่าจะเจ้าตัวจะเริ่มพูดมันออกด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ก็ตาม


“ถ้าฉันไม่เผลอขึ้นเสียงใส่แกไปครั้งนั้น แกคง --”


ยกมือขึ้นลูบหน้าแรง ๆ โดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นปื้นแดงจนเหมือนคนร้องไห้ จิตแพทย์อย่างเขาเข้าใจดีถึงสภาพจิตใจของศรัณย์หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อเกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถูกเรียกสอบเสียยกใหญ่ แม้สุดท้ายแล้วผู้อำนวยการจะลงความเห็นว่านั่นเป็นเรื่องสุดวิสัยก็ตามที แต่การที่ศรัณย์กลับมาทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้นเทียบไม่ได้เลยกับเรื่องที่เจ้าตัวระงับการขอทุนเพื่อเรียนต่ออนุสาขาด้านระบบหายใจอย่างที่คิดไว้มาตลอดระยะเวลาการเป็นแพทย์


“นายก็เลยโทษว่าเป็นความผิดตัวเองเหมือนกับเรื่องครั้งนั้น?”
 

“...”


คนถูกถามไม่ตอบ แต่นี่คือสิ่งยืนยันคำตอบที่อยู่ในใจของอธิศได้เป็นอย่างดี ร่างสูงโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วยกมือขึ้นวางประสานกันบนโต๊ะอย่างหลวม ๆ ใช้เวลาคิดไม่นานนักก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่โอนอ่อนลง


“ฉันเข้าใจว่านายกำลังรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ แต่ -- เสือ นี่มันคนละเรื่องกัน” ใช้ปลายนิ้วดันแว่นขึ้นให้เข้าที่ก่อนจะพูดต่อ “หรือแม้แต่เรื่องในครั้งนั้นก็ไม่มีใครโทษว่าเป็นความผิดของนาย”


“ฉันรู้ดีแก่ใจ” ศรัณย์เถียง


“เราทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าการเป็นหมอต้องแบกรับอะไรไว้บ้าง เราช่วยพวกเขาเท่าที่เราจะช่วยได้ แต่ถ้าพูดแบบมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง”


“....”


“นายได้ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว”


“....”


“หรือแม้แต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้น ในฐานะเพื่อนแล้วฉันขอพูดเหมือนกับคนอื่น ๆ เธอมาช้าไป”


ภาพการเจาะน้ำออกจากปอดในคืนที่ฝนตกหนักผุดขึ้นมาในหัวของอายุรแพทย์หนุ่มราวกับการฉายซ้ำ คืนนั้นเขาต้องเวียนมาเข้าเวรเสริมที่แผนกฉุกเฉิน เสียงชีพจรที่ค่อย ๆ เบาลง เสียงพยาบาลตะโกนบอกค่าความดันและค่าออกซิเจนดังเข้าหูไม่ขาด เขาทำอินเทิร์นคนหนึ่งร้องไห้ และเรื่องก็จบด้วยเสียงแหลมลากยาวจากเครื่องวัดชีพจร


คืนนั้นศรัณย์ใช้เวลาทั้งคืนอยู่ที่ม้านั่งหน้าห้องฉุกเฉิน ในตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่แม้แต่ชุดสครับ ไม่ได้คิดว่าเป็นวันที่ต้องทำให้คนไข้สักคนตาย แม้ว่าการถูกเรียกไปสอบสวนในวันรุ่งขึ้นจะผ่านไปด้วยดีเพราะเหตุผลว่าคนไข้มาถึงโรงพยาบาลช้าไปก็ตาม


ศรัณย์เจียดเวลาทั้งอาทิตย์เพื่อมาปรึกษาเพื่อนจิตแพทย์จนคิดว่าตัวเองมีสภาพจิตใจดีขึ้น หรือแม้แต่รามิลที่เป็นห่วงจนยอมใจอ่อนย้ายมาอยู่ด้วยหลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด เขาคิดว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่ก็ตลกดีที่สองสัปดาห์ต่อมากลับต้องมานั่งเป็นคนไข้ของเพื่อนคนนี้อีกครั้ง


“ฉันคงวิตกจริตไปเอง” ศรัณย์พูดหลังจากตั้งสติได้ พยายามใจเย็นลงถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะยังส่งผลต่อจิตใจไม่ปกติก็ตามที “คงจะประสาทไปเองจริง ๆ”


ประโยคพึมพำนั้นทำเอาอธิศขมวดคิ้วน้อย ๆ เขาคิดจะถามต่อ ถ้าไม่เพียงแต่ว่าเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง


“อ่า...”


ชนกันต์นั่นเอง ร่างเล็กเก้อไปเมื่อถูกศรัณย์หันไปมองอีกคน นั่นทำให้อธิศนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เขาผิดสังเกตเมื่อวานในตอนที่ชนกันต์เดินเข้ามายังโต๊ะเขา ถึงได้พยายามสังเกตท่าทีของศรัณย์เป็นพิเศษ น่าแปลกว่าครั้งนี้อายุรแพทย์หนุ่มไม่ได้รู้สึกเหม็นสาบดินโคลนเช่นตอนเจอเด็กคนนี้ครั้งก่อน ครั้นหันสีหน้าแปลกใจกลับมาก็ต้องสบเข้ากับเพื่อนหมอที่นั่งประสานมือมองอยู่ก่อนแล้ว มีอีกเรื่องที่ศรัณย์อยากระบาย แต่การมีบุคคลที่สามอยู่ร่วมห้องจึงทำให้เขาตัดสินใจเก็บมันไว้ในใจก่อน ถ้าพูดต่อหน้าคนอื่นคงมีหวังถูกเรียกว่าหมอบ้าแน่ ๆ


“ผมเข้ามากวนหรือเปล่าครับ” ชนกันต์ถาม นั่นทำให้ศรัณย์ฝืนยิ้มและหยัดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้


“ไม่เป็นไร ผมคุยธุระเสร็จพอดี”


หลังจากชั่งใจว่าเด็กคนนี้หน้าคุ้น ๆ ในที่สุดศรัณย์ก็นึกออกว่าคงเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ประจำอยู่ห้องยาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แต่หันไปคุยกับอธิศแทน


“ขอบคุณมากนะอธิศ จริง ๆ แล้วถ้านายว่างก็ว่าจะชวนไปดื่มสักหน่อย”


คำชวนนี้ไม่ได้ทำให้คนฟังรังเกียจอะไร ศรัณย์เป็นเพื่อนดื่มที่ดีและกำลังมีสภาพจิตใจย่ำแย่ แต่หันไปเห็นพันธะกำลังยืนปั้นหน้าไม่ถูกอยู่ด้านหลัง อธิศก็คิดปฏิเสธ


“เอ่อ...” ชนกันต์โพล่งขึ้นมาก่อนที่ผู้ปกครองชั่วคราวจะทันได้พูดอะไร “หมอไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมไม่เป็นไร”


ได้ยินอย่างนั้นศรัณย์ก็เลิกคิ้วกับประโยคสนทนาระหว่างคนทั้งคู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอธิศไปสนิทกับเด็กคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ “ติดธุระเหรอ” เขาถาม และคนถูกถามขยับมือซึ่งประสานกันเล็กน้อยก่อนจะตอบ


“กันต์เพิ่งมาพักอยู่กับฉันชั่วคราวน่ะ” หันไปเห็นบุคคลที่สามยืนยิ้มแห้ง ๆ แล้วศรัณย์ก็เข้าใจขึ้นมา แต่ไม่อยากเสียมารยาทถามรายละเอียด


“ถ้าไม่รังเกียจ จะไปดื่มด้วยกันก็ได้นะ” ประโยคนี้ศรัณย์พูดกับชนกันต์ ก่อนจะหันไปหาอธิศในประโยคต่อมา “หรือถ้าไม่สะดวก ไว้โอกาสหน้าก็ได้”







--------------------------------------------------







โชคดีที่รามิลยังศึกษาดูคนไข้เพื่อเตรียมสอบในสัปดาห์หน้า ศรัณย์ถึงได้สะดวกในการพามาด้วยกันโดยไม่ต้องแวะกลับไปรับที่คอนโดมิเนียม สีหน้าของเด็กหนุ่มไม่สดใสนัก เขาคิดว่าคงมาจากการที่เจ้าตัวอ่านหนังสือจนเกือบเช้า


“แน่ใจนะว่าจะไม่กลับไปนอนห้อง”


ถามย้ำอีกครั้งในขณะที่เลี้ยวรถเข้าจอดยังที่จอดรถหลังร้านอาหารกึ่งคลับเจ้าประจำ ซึ่งคนถูกถามก็รับคำด้วยรอยยิ้ม “แน่ใจครับ ผมอยากดื่มด้วย”


เห็นรถของอธิศกำลังเลี้ยวเข้ามาจอดเช่นกัน จึงตัดสินใจบอกคนรักให้ยืนรอจนจิตแพทย์กับว่าที่เภสัชกรเดินมาสมทบ วันนี้คนเยอะกว่าปกติเพราะเป็นวันทำงานสุดสัปดาห์ เป็นเรื่องดีที่ชนกันต์ก็ออกตัวว่าดื่มเป็น ศรัณย์จึงไม่ต้องลำบากใจในการเลือกเมนูนัก สั่งอาหารเบา ๆ และเหล้าหนึ่งกลมพอเป็นกระสัย เมื่อได้รับออเดอร์แล้วพนักงานก็เดินแยกไปทางหลังร้าน


“เหมือนผมเคยเห็นคุณในวอร์ดเลย” เป็นรามิลที่เปิดบทขึ้นก่อน นั่นทำให้นายแพทย์ทั้งสองคนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แนะนำคนทั้งคู่


“ผมฝึกงานบริบาลเภสัช ฯ น่ะ บางทีก็ต้องขึ้นวอร์ดไปดูพี่เขา แต่ส่วนใหญ่ต้องอยู่ห้องยา” ชนกันต์ตอบ เขาเพิ่งมาฝึกงานที่โรงพยาบาลได้ไม่ถึงสามเดือน ทั้งยังรู้สึกผิดที่ไม่คุ้นหน้าอีกฝ่ายเอาเสียเลย


“นี่เก้า รุ่นน้องผม” ศรัณย์แนะนำ แล้วรามิลก็ยิ้มรับ


“คลินิกปีสี่ครับ”


ได้ยินอย่างนั้นร่างเล็กจึงเข้าใจว่ารามิลเด็กกว่าเขาปีสองปี เพราะนักศึกษาเภสัชศาสตร์จะฝึกงานในปีสุดท้ายก็คือปีที่หก ชนกันต์จึงกลายเป็นพี่อย่างไม่ต้องสงสัย


“แล้วนี่ไปสนิทกันตอนไหน” อายุรแพทย์เพียงคนเดียวบนโต๊ะเปิดบทสนทนาใหม่หลังจากที่ทั้งโต๊ะเงียบไปจนน่าอึดอัด นี่เป็นการสังสรรค์ที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ยกขึ้นมาพูดคุยมากนัก เพราะนอกจากเขาและอธิศแล้ว ระหว่างคนที่เหลือก็แทบจะเรียกได้ว่าแปลกหน้า


“ไม่นานนี้ครับ” ชนกันต์ยิ้มเก้อรับคำถามนั้น อธิศไม่ตอบอะไร เขาไม่เคยชี้หน้าบอกว่าใครคือคนไข้ต่อหน้าผู้อื่น “ผมเป็นคนไข้ของหมออธิศ”


แต่ชนกันต์พูดออกมาเสียเอง ได้ยินอย่างนั้น ทั้งศรัณย์และรามิลก็รู้ตัวว่าไม่ควรถามต่อ แผนกจิตเวชนั้นมีแต่เรื่องละเอียดอ่อน พวกเขาไม่มีสิทธิ์รู้ว่าชนกันต์ป่วยทางจิตหรือแค่มีปัญหาชีวิตในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง


สุดท้ายการร่วมดื่มด้วยกันครั้งนี้ก็มีแต่เรื่องสัพเพเหระอย่างที่ทั้งสี่คนจะร่วมวงเข้าใจได้เหมือนกัน ศรัณย์ไม่พูดเรื่องที่เขาเกือบร้องไห้ในห้องตรวจ ชนกันต์และอธิศไม่พูดเรื่องเหลือเชื่อที่ติดค้างอยู่ในใจ และแม้จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นพัก ๆ แต่รามิลก็ยังคงร่วมดื่มและพูดคุยได้ปกติดี


รามิลเริ่มรู้สึกร้อน ๆ แล้ว เขาไม่แน่ใจนักว่าหน้าแดงหรือได้ออกอาการอะไรไป ศรัณย์ถึงได้แย่งแก้วของเขาไปดื่มแล้วสั่งให้พอ ทั้งที่ตัวเองก็เพิ่งจะสั่งเหล้าเพิ่มไปอีกหนึ่งแบน หมออธิศดื่มน้อยที่สุดเพราะอ้างว่าต้องขับรถ แล้วดูคนข้าง ๆ นี่สิ เสียงอ้อแอ้แล้วแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


“พี่เมาแล้วนะ” เขากระซิบ เห็นว่าอธิศกำลังหัวเราะน้อย ๆ


“คุณเองก็ดื่มไปเยอะนะ”


คนถูกแซวหัวเราะเบา ๆ แล้วหาพวกด้วยการหันไปแซวชนกันต์ซึ่งเพิ่งจะกระดกเหล้าเข้าปากหมดไปอีกแก้ว “พี่กันต์ก็ดื่มเก่งนะครับ”


“ไม่ได้ดื่มนานน่ะ พอมาฝึกงานก็ไม่มีเพื่อนเที่ยวเลย”


“เขาไม่ได้ขับรถ กลับไปคงจะหลับสบาย” อธิศพูดเสริมหลังจากคนข้างตัวเอ่ยตอบไปแล้ว ได้ยินอย่างนั้น ชนกันต์จึงตอบแทนด้วยการหยิบแก้วของหมอมาชงให้อีก


“สงสัยผมคงต้องนอนร้านเหล้าถ้าหมอเสือคอพับกลางร้าน” ไม่วายหันไปค้อนใส่คนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มทั้งตาเชื่อม ๆ ถึงห้ามไปศรัณย์ก็คงไม่ฟัง เขาคิดแต่แรกแล้วว่าวันนี้คงได้กลับแท็กซี่


เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกแล้ว ถึงรู้ตัวว่าหมออธิศมองเห็น แต่รามิลกลับไม่ได้สนใจอะไร นี่มันค่อนข้างปกติที่วัยรุ่นจะติดโทรศัพท์ และตราบใดที่เขาไม่พาตัวเองเข้าไปเป็นคนไข้ของจิตแพทย์ อธิศก็คงไม่สนใจจะอยากรู้นักหรอก


ครู่หนึ่งรามิลเลือกเก็บโทรศัพท์ลงเพราะไม่อยากเสียมารยาทจนเกินไป เขาคิดว่าควรชงเหล้าอีกแก้วเพราะปากว่าง ศรัณย์เอาแต่ดื่มไม่หยุด ถ้าไหน ๆ จะต้องกลับแท็กซี่ การดื้อเงียบคงไม่เลวร้ายเท่าไรนัก


“....!!”


หากแต่เสี้ยวหน้าขาวของใครบางคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะห่างออกไปกลับทำให้ร่างโปร่งรู้สึกสร่างขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น รามิลวางแก้วที่เพิ่งมีแต่น้ำแข็งลงบนโต๊ะแล้วรีบลุกขึ้น มีแค่หมออธิศที่ละจากแก้วแล้วมองทางเขา เด็กหนุ่มจึงขออนุญาตแบบส่ง ๆ


“เดี๋ยวผมมานะครับ”


แทรกตัวผ่านผู้คนที่เริ่มลุกขึ้นมาเต้นกันสนุกสนานหลังจากดึกได้ที่ สายตาพยายามจับจ้องโต๊ะตัวนั้นตลอด แต่ก็ต้องคลาดไปทุกครั้งที่มีคนเดินผ่าน


ไม่ผิด


ไม่ผิดแน่ ๆ เมื่อครู่เขาเห็นแพรพลอย


ขมวดคิ้วเมื่อหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะตัวนั้นในที่สุด มันทั้งว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่แก้วหรือก้นบุหรี่สักตัว รามิลเมาแล้วแน่ ๆ ที่เห็นผู้หญิงคนนั้นทั้งที่ไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ เขาคงประสาทหลอนไปเองเพราะเอาแต่คิดเรื่องนี้ พอคิดได้อย่างนั้น ร่างโปร่งกลับต้องเบิกตาโพลงขึ้นมาอีกเมื่อเห็นคนในความคิดเดินลับไปอีกทาง


รามิลรีบพาตัวเองแทรกผู้คนในร้านไปจนถึงจุดที่เห็นเธอเมื่อครู่ นอกจากห้องน้ำชายหญิงแล้วก็เป็นทางที่เชื่อมออกไปยังหลังร้าน บางคนเพิ่งกลับออกมาทั้งกลิ่นบุหรี่เหม็นหึ่ง พอเลือกไม่ถูก เขาก็เห็นชายกระโปรงของเธอเลี้ยวไปทางตรงข้ามห้องน้ำราวกับจะนำทาง กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ในขณะที่ยกขาหนัก ๆ ก้าวไปข้างหน้าคล้ายคนมีตุ้มถ่วง เหงื่อกาฬไหลซึมลงมาตามขมับชื้น ทั้งเวลาผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่ทั้งสมองของรามิลขาวโพลน หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ มันเหมือนมีกลองดรัมใหญ่ ๆ กำลังทุบอยู่ข้างในจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด


“....”


รามิลไม่เห็นใครเลยที่ประตูทางออกเปิดโล่ง ไม่มีแม้แต่คนกำลังยืนสูบบุหรี่หรือพูดคุยกันด้วยซ้ำ ขายาวค่อย ๆ ก้าวไปจนถึงธรณีประตู พื้นดินขรุขระสีน้ำตาลเข้ม จนกระทั่งมองเห็นพระจันทร์เสี้ยวเมื่อสายตาแหงนมองพ้นแนวกันสาด


แหมะ


หยดน้ำบนหน้าและกลิ่นชื้นลอยเตะจมูก สมองรามิลประมวลผลช้ากว่าทุกที จนกระทั่งสายฝนเทลงมาจนเสื้อเขาเปียกเป็นด่างดวงนั่นแหละร่างโปร่งถึงได้รีบพาตัวเองถอยเข้ามาหลบในแนวกันสาด ค่อย ๆ ยกเท้าขึ้นและเดินกลับเข้าไปเหยียบพื้นปูนภายในธรณีประตูหลังรู้สึกถึงแรงยวบ ยกเท้าขึ้นมองด้วยความหัวเสียทันทีที่เห็นว่าชายกางเกงสแล็คสีดำเปื้อนดินโคลนเข้าให้เสียแล้ว


ไม่วายจะหันกลับไปมองทางด้านนอกร้านอีกรอบ เขาคงตาฝาดไปเองอย่างนั้นสินะ


เมาแล้ว รามิลบอกกับตัวเองในใจ






------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 27-02-2015 21:56:29
( ต่อ )





“เก้าไปไหน”


ศรัณย์ถามขึ้นเสียงยานคาง มือซึ่งกำลังถือแก้วโงนเงนไปมาแต่ก็ยังพอพูดรู้เรื่อง อธิศกะว่าเต็มที่เขาคงดื่มเป็นเพื่อนได้อีกแค่สองสามแก้ว ชนกันต์ก็ดูมึน ๆ แล้วเหมือนกัน คืนนี้ควรพอเท่านี้ก่อน


“คงไปเข้าห้องน้ำ”


ได้ยินอย่างนั้นจึงไม่ได้ติดใจอะไรนัก ศรัณย์รู้ว่าวันนี้เขาดื่มเกินลิมิตมากไปแล้ว รู้สึกผิดที่จะต้องพารามิลกลับแท็กซี่ แต่จะให้ขับรถเอาตอนนี้ชายหนุ่มมั่นใจว่าคงไม่มีทางถึงห้องโดยสวัสดิภาพแน่


ชนกันต์เริ่มเอนตัวพิงเบาะด้านหลัง นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ดื่มหนักขนาดนี้ ในตอนแรกก็คิดแค่ว่าอยากดื่มให้เมาจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องน่ากลัวพวกนั้น แต่พอเห็นว่าหมออธิศใส่ใจกับการพาเขากลับโดยยอมไม่ดื่มเยอะแล้ว ชนกันต์ก็รู้สึกว่าความเกรงใจมันค้ำคอขึ้นมาจนต้องดื่มช้าลงเพื่อให้ตัวเองประคองสติไว้ได้


อธิศเทเหล้าก้นขวดสุดท้ายใส่แก้วตัวเองก่อนจะคีบน้ำแข็งและตามด้วยมิกเซอร์ ดื่มเพิ่มอีกแก้วเดียวคงไม่เป็นไร แลกกับที่ศรัณย์จะดื่มครึ่งแก้วนั้นให้หมดและพอเหลือสติไว้กลับที่พักบ้าง


“....!!”


เซไปเล็กน้อยหลังจากโดนแขกโต๊ะอื่นเดินชนข้อศอกจนเหล้าเต็มแก้วในมือกระฉอกเลอะเสื้อเชิ้ตสีฟ้าเปียกเป็นวง


“ขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ”


เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้ติดใจอะไรคนต้นเรื่องก็เดินกลับไปโต๊ะ ชนกันต์ดึงเอากระดาษทิชชู่ซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะด้านในยื่นให้เช็ดมือและเสื้อ ในจังหวะที่รับเอาทิชชู่มาจากมืออีกคน จิตแพทย์หนุ่มก็เห็นว่าร่างเล็กดูชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด


“ไม่มีอะไร”


จับมือของชนกันต์เอาไว้แล้วโน้มตัวไปกระซิบเบา ๆ ให้พอได้ยินกันสองคน ก้มลงมองรอยเปียกบนเสื้อตัวเองก่อนจะเช็ดอย่างลวก ๆ สีหน้าของชนกันต์ดูไม่สู้ดีแล้ว จะว่าไป อธิศยังไม่มีโอกาสได้คุยกับคนข้างตัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานด้วยซ้ำ กอปรกับนี่ก็ดึกมากแล้ว เป็นเวลาสมควรแก่การแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน ต่อให้พรุ่งนี้จะมีงานหรือไม่ก็ตาม


“เช็คบิลด้วยครับ”


ส่งเสียงเรียกพนักงานซึ่งเพิ่งคิดเงินจากโต๊ะข้าง ๆ เสร็จ หล่อนพยักหน้ารับก่อนเดินหายไปเพื่อนำใบเสร็จมารับชำระเงิน พอดีกับที่รามิลเดินกลับมา


“ไปไหนมาเก้า” ศรัณย์เอ่ยถาม ชนกันต์ดูไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่เห็นเสื้อเปียกน้ำเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง


“เข้าห้องน้ำครับ”


“แล้วทำไมถึงได้เปียกขนาดนั้น”


“อ่า...” รามิลใช้เวลาคิด เขาทำท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ และเอื้อมตัวไปหยิบเอากระดาษทิชชู่มาเช็ดคราบโคลนที่ชายกางเกงอย่างลวก ๆ “บังเอิญเจอคนรู้จักน่ะครับ คุย ๆ กันอยู่ฝนก็ตกลงมา”


อธิศรู้สึกได้ถึงแรงรั้งน้อย ๆ ที่แขนเสื้อ เขาเห็นชนกันต์จ้องมองรอยโคลนเพียงครู่เดียวก่อนจะหลับตาลงราวกับเจอเรื่องน่ากลัวเสียเต็มประดา “ไม่มีอะไร” เพราะรู้ อธิศถึงได้กระซิบบอกแบบนั้นอีกครั้ง หากแต่ร่างเล็กกลับส่ายหน้าพรืด ซ้ำยังพูดเสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้ไม่มีผิด


“ผมยังพูดไม่ได้”


หลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่สองคน อธิศก็ตัดสินใจตัดบทด้วยการหันไปเรียกศรัณย์เพื่อขอตัวแยกกลับก่อน เรียกอยู่สองครั้งอีกฝ่ายถึงจะหันมาพร้อมกับอาการสะดุ้ง พอดีกันกับที่รามิลทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม แม้แต่ศรัณย์ก็มองไปที่ชายกางเกงนั้นเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ อธิศไม่เข้าใจว่าทำไม


“ฉันขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน”


“ขอบคุณที่มาดื่มเป็นเพื่อนนะ” ศรัณย์ยิ้ม เริ่มเห็นคนตรงหน้าแยกออกเป็นสี่


หยิบเอากระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเพื่อจ่ายให้กับพนักงานก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับผู้ชายซึ่งอยู่ตัวคนเดียวและใช้เงินไม่มากอย่างเขา พอเด็กสองคนทำท่าจะหยิบเอากระเป๋าสตางค์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มก็รีบปรามทันที “ไม่เป็นไร”


ถึงอย่างนั้นศรัณย์ก็เป็นคนที่ยัดเงินส่วนของตัวเองใส่มือของอธิศได้สำเร็จ เพราะอายุและหน้าที่การงานซึ่งพอ ๆ กัน ทำให้ชายหนุ่มไม่ดื้อดึงปฏิเสธ


“กลับได้ไหม ฉันไปส่ง”


ถึงจะเป็นประโยคที่พูดกับเพื่อน หากแต่สายตาของจิตแพทย์หนุ่มกลับหันไปมองรามิลคล้ายจะให้ตอบคำถามแทน เด็กหนุ่มทำเพียงยิ้มรับแล้วประคองรุ่นพี่ให้ยืนขึ้นอย่างทุลักทุเล “ขอบคุณครับ แต่เดี๋ยวเรากลับแท็กซี่ก็ได้”


“ขอโทษทีนะ” ศรัณย์กระซิบบอกคนข้าง ๆ รามิลยิ้มรับแบบไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะประคองอีกฝ่ายออกมาจากด้านในของโต๊ะเพื่อให้อธิศช่วยพาไปขึ้นรถแท็กซี่ได้สะดวก ข้างนอกเหลือเพียงฝนปรอย ๆ แล้วหลังจากตกลงมาห่าใหญ่เมื่อครู่ อธิศอาสาออกไปเรียกแท็กซี่ให้แล้วเดินกลับมาช่วยประคองศรัณย์ไปขึ้นรถ ระหว่างนั้นต้องคอยมองชนกันต์ที่ได้แต่รออยู่ใต้ร่มกันสาดอย่างอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ด้วยความเป็นห่วง เสื้อบนตัวเปียกเป็นด่างดวงตามเม็ดฝน คนเรียนหมออย่างรามิลน่ะเขาไม่ห่วงเท่าไหร่ แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องคอยดูแลหรือเช็ดตัวให้ศรัณย์แล้วก็อดจะร่ำลาเป็นคำแซวเล็ก ๆ ไม่ได้


“ลำบากหน่อยนะ”


คนถูกแซวหัวเราะแล้วปิดประตูรถ เห็นอย่างนั้นจึงเดินกลับมาเพื่อพาชนกันต์ไปยังลานจอดรถเล็ก ๆ ทางด้านข้าง







พอขับรถออกมาจากคลับได้สักพัก ชนกันต์ถึงได้ดูสงบลงจนสามารถผ่อนลมหายใจยาว ๆ ได้ อธิศปรับระดับความแรงของแอร์ลงเพราะฝนทำให้อากาศในรถเย็นกว่าปกติ มันคงไม่ดีแน่ถ้าเด็กคนนี้จะไม่สบายหลังจากต้องตากฝนถึงสองวันติด


“ผมขอโทษนะ” ชนกันต์ว่า ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวปัญหา “หมอมาดื่มกับเพื่อนแท้ ๆ”


“ไม่เป็นไร เสือเองก็เมามากแล้ว” ตอบทั้งที่สายตายังมองถนนเบื้องหน้า แสงไฟจากท้ายรถในคืนวันหยุดนั้นเหมือนโบเก้สวย ๆ ในรูปถ่ายไม่มีผิด


“....”


“....”


หลังจากเงียบไปพักใหญ่ อธิศคิดว่าบรรยากาศที่เป็นอยู่มันไม่ได้กดดันหรือเลวร้ายอะไร ถึงได้โพล่งคำถามในใจออกไปเสียงเรียบ “คุณดีขึ้นหรือยัง”


การใช้ความคิดในคำถามง่าย ๆ แบบนี้มันดูงี่เง่า ถึงอย่างนั้นชนกันต์ก็รู้ว่าหมออธิศกำลังรอคำตอบจากเขาอยู่ “ครับ คิดว่านะ”


“....”


“หมอจะถามใช่ไหมว่าผมเห็นอะไร”


ในดวงตาเรียวรีนั้นมีแต่ความหวาดระแวง กลัวที่จะต้องพูด แต่ก็รู้อีกนั่นแหละว่าอีกฝ่ายต้องถามขึ้นมาแน่ ๆ แล้วเขาก็ต้องเล่าให้คนข้าง ๆ ฟังอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นในรถหรือเมื่อถึงห้อง


“คุณกลัวโคลน” อธิศเดา แต่คนถูกเดาไม่ได้หัวเราะชอบอกชอบใจแม้ว่ามันจะถูกเผงก็ตาม


“ผมเห็นรอยเท้าอยู่ตรงพื้นข้างหลังเก้า” เสียงของชนกันต์สั่นแต่ยังแข็งใจพูดต่อ “รอยเท้าเปื้อนโคลน”


“....”


“แค่คู่เดียว แต่ว่าเป็นเท้าเปล่า”


พูดดักทางไว้เพราะเขาเข็ดกับการโดนหาว่าเป็นบ้า อธิศตอบรับด้วยความเงียบ ค่อย ๆ ชะลอรถและหยุดลงเมื่อไฟจราจรสีแดงฉายอยู่ตรงหน้า


“หมอไม่เชื่อผมอีกแล้วสิ” ชนกันต์คิดว่าเขาสร่างเมาตั้งแต่เห็นรอยเท้านั่น


“ผมพูดอย่างนั้นเหรอ”


“ไม่พูดก็เหมือนพูด” ถึงจะอยู่ในความหวาดระแวง แต่การต่อปากต่อคำกับจิตแพทย์ก็กลายเป็นเรื่องที่รู้สึกเฉย ๆ ไปเสียแล้ว การที่อธิศยอมให้เขาอยู่ด้วยนั่นไม่ได้หมายความว่าเชื่อกันแล้วสักหน่อย


“เล่ามาเถอะครับ ยังไม่หมดไม่ใช่เหรอ”


“....”


คนฟังรู้ว่ามันหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสติแตกเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะนึกถึงเรื่องไหนก่อนเป็นอันดับแรก ยกมือขึ้นป้องริมฝีปากแล้วกระแอมไอเบา ๆ ในลำคอแห้งผาก


หมออธิศไม่พูดอะไร เพราะอย่างนั้นชนกันต์ก็ควรมองข้ามเรื่องจูบนั่นไปเหมือนกัน


“หมอรู้ไหมว่าผมกลัวที่จะต้องเล่าแค่ไหน”


คนฟังยิ้ม หันมามองทางเขาทั้งที่มือยังจับพวงมาลัยไว้หลวม ๆ “ผมรู้ แต่คุณจะไม่เล่าก็ได้นะ”


มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ชนกันต์คิดว่าผู้ชายคนนี้กวนประสาทเก่งเอาเรื่องตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกัน มือเล็กหยิบเอาเสื้อคลุมในกระเป๋าขึ้นมาคลุมร่างกายเอาไว้ มันไม่ได้หนาวอะไรหรอก แต่เขาก็แค่อุ่นใจขึ้น


“ตอนนั้นหมอเห็นแล้วว่าผมอยู่ตรงระเบียง” เริ่มพูดด้วยเสียงพร่า มือซึ่งอยู่ใต้เสื้อคลุมนั้นบีบแขนตัวเองเบา ๆ ราวกับจะปลอบโยนเหตุการณ์ฝันร้าย “ผมไม่ได้ปิดประตูตอนที่ออกไปด้วยซ้ำ”


“....” อธิศออกรถเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว เสียงหายใจของชนกันต์ยังเชื่องช้าในระดับเดิม


“พอไฟดับ ผมพยายามจะกลับเข้าไป แต่ว่าประตูมันเปิดไม่ได้ ตอนนั้นผมคิดแล้วว่าผมคงไม่ได้เผลอปิดไปแน่ ๆ” คนพูดหลุดเสียงหัวเราะฝืน ๆ เหมือนนี่เป็นตลกร้าย เขาอาจจะใกล้บ้าไปแล้วก็ได้ “หมอว่าผมบ้าไปเองหรือเปล่า”


“ไม่หรอกครับ” อธิศตอบ รถยังคงขับไปข้างหน้าด้วยความเร็วสม่ำเสมอ “เพราะมันล็อกจากข้างใน”


ดวงหน้าขาวหันไปมองคนข้าง ๆ ราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง สีหน้านั้นยังสงบนิ่ง ชนกันต์ไม่เห็นตอนที่หมออธิศเปิดประตูออกมารั้งไว้ไม่ให้ตกลงไปเพราะมัวแต่หลับตา ครั้นคิดถึงตอนนั้น ภาพผู้หญิงผมดำยาวก็เด่นชัดขึ้นมาในความคิดราวกับกำลังนั่งซ้อนอยู่ข้างอีกคนไม่มีผิด


เขาชักจะฟุ้งซ่านเกินไปแล้ว


หลุบสายตาลงมองเสื้อคลุมสีดำบนร่างตัวเอง ยอมมองเศษฝุ่นสีขาวนี่ดีกว่าจะต้องหลอนด้วยการนึกภาพสิ่งที่กลัว “ผมเห็นผู้หญิงคนนั้น”


“....”


“คนเดียวกับที่ข่วนขาผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว”


“....”


“เธอนั่งอยู่ข้างหมอ เดินตามหมอ ตอนนั้นผมก็เลยกลัวจนอยากตกตึกลงไปจริง ๆ”


มือเรียวบีบแขนตัวเองภายใต้เสื้อคลุมจนรู้สึกเจ็บ ชนกันต์ปิดเปลือกตาตัวเองหลังจากเห็นฝุ่นบนเสื้อกลายเป็นชายกระโปรงเปื้อนโคลน เขาไม่ได้กำลังร้องไห้ฟูมฟาย แต่ก็กลัวเสียจนไม่อยากรับรู้อะไรอีก


“ผมว่าผมไม่ไหวแล้วหมอ...”


รู้สึกได้ถึงการหักเลี้ยวก่อนจะสงบนิ่งลง ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง มือของอธิศก็วางลงบนหัว รถกำลังจอดอยู่ข้างทาง ดวงตานั้นทอประกายอบอุ่น ทุกครั้งที่ใส่แว่น คิ้วของอธิศจะดูเหมือนขมวดอยู่ตลอดเวลา แล้วชนกันต์ก็เห็นแววสะท้อนบนแว่นก่อนแววตาของหมอด้วยซ้ำ


“คุณจะต้องผ่านมันไปได้”


“....”


“ผมอาจไม่ใช่คนสำคัญอะไรในชีวิตคุณ แต่อย่าคิดฆ่าตัวตายเป็นอันขาด”


“....”


“ถือว่าผมขอร้อง”


มือแกร่งผละออกไปแล้ว ตอนนี้ทั้งรถมีเพียงแค่เสียงแอร์หึ่ง ๆ ดังแทรกความเงียบขึ้นมา ชนกันต์ยิ้มออกหลังจากได้ยินประโยคเมื่อครู่ เขาไม่ได้ใจชื้นขึ้นนักหรอก แค่รู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมาที่เกิดอยากตายด้วยเหตุผลว่าโดนผีหลอกก็เท่านั้น


ก็นั่นแหละ ไม่มีใครเชื่อในเรื่องที่เขาเจอหรอก แม้แต่หมออธิศก็เถอะ


“ขอบคุณครับหมอ”


ตัดบทออกไปเสียงอ่อน รู้สึกว่าใจมันเบาโหวงเสียจนกลัวว่าจะเล็กกว่ากำปั้น การที่อธิศยอมให้เขามาอาศัยด้วยชั่วคราว ปลอบใจ หรือแม้แต่อยู่เป็นเพื่อนและทำเหมือนเชื่อกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ตัวคนเดียวมาตั้งแต่แรก


“กันต์”


เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง รถยังไม่เคลื่อนตัวออกไปเสียที ครั้นหันไปมองก็สบเข้ากับนัยน์ตาคมซึ่งกำลังจับจ้องมาคล้ายหยั่งเชิง “ครับ?”


อธิศดูใช้ความคิด แต่ในที่สุดก็พูดมันออกมา “ผมขอทรมานคุณด้วยคำถามอีกแค่ข้อเดียว”


“....”


“ช่วยบอกลักษณะของผู้หญิงคนนั้นอีกทีได้ไหม”


น่าแปลกใจที่ถามเรื่องนี้ขึ้นมา บางทีมันอาจจะตามด้วยคำถามที่ว่า คุณเคยมีแฟนไหม ฝังใจกับอะไรหรือเปล่า ก็เป็นได้


“ผมยาวสีดำ ผิวออกขาวซีด”


“สวมชุดเดรสสีขาวเปื้อนโคลน”


อีกครั้งที่เขาพยายามจ้องลึกลงไปในแววตาของจิตแพทย์หนุ่มตรงหน้า พอคิดว่าอธิศเพียงแค่ทวนสิ่งที่เขาอาจเคยพูดไป เสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นเมื่อครู่ก็กลับช้าลงมา ชนกันต์ไม่เคยคิดว่าเสียงแอร์มันจะน่าตลกขนาดนี้มาก่อน แต่น้อยกว่าตัวเขา กำลังหวังให้คนอื่นมาเจออย่างตัวเองหรือไงกัน


“ครับ”


ตอบรับเสียงเรียบก่อนจะหลุบสายตาลงมองเสื้อคลุมสีดำอีกครั้ง มือที่จับอยู่ตรงเรียวแขนทั้งสองข้างขยุ้มแขนเสื้อจนยับยู่


อธิศเปลี่ยนเกียร์รถในขณะที่อีกมือกระชับพวงมาลัยไว้แน่น เขากำลังจะเลี้ยวกลับเข้าสู่เลนส์สองเพื่อแล่นไปต่อ ชนกันต์คิดว่าบทสนทนานี้จบลงแล้ว ถ้าไม่เพียงแต่เสียงทุ้มนั้นเอื้อยเอ่ยประโยคต่อไปออกมา


“ผมเจอเธอแล้ว”







--------------------------------------------------







“ขอบคุณนะครับ”


กล่าวขอบคุณยามประจำคอนโดมิเนียมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดประตูล็อกและแบกร่างเหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์มาที่เตียงอย่างทุลักทุเล รามิลโน้มตัวให้ศรัณย์นอนลงบนเตียงได้ เอื้อมไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงก่อนจะย้อนไปปิดสวิทช์ไฟบริเวณประตูห้อง


มองร่างผอมของอายุรแพทย์ที่นอนแผ่หมดสภาพ นี่ถ้าไม่ได้ลุงยามช่วยแบกขึ้นมาจนถึงหน้าห้องเขาก็แทบนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะทุลักทุเลขนาดไหน ถอนหายใจแล้วเข้าไปจัดแจงท่าทางให้อีกฝ่ายนอนดี ๆ ถอดรองเท้าถุงเท้าให้จนเรียบร้อย คิดว่าหลังจากเช็ดตัวให้เสร็จเขาก็จะไปอาบน้ำบ้าง เหม็นกลิ่นเหล้า


“เก้า...”


รู้อยู่ว่าศรัณย์ไม่ได้หมดสติไปเสียทีเดียวหรอก แต่อ้อแอ้จนไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะตื่นไปทำงานไหวหรือเปล่า ต้องเข้าเวรหรือเป็นวันหยุด อันนี้รามิลก็ไม่รู้อีก เขาพลาดแล้วที่ลืมถามตั้งแต่เจ้าตัวยังไม่เมา


“ไปอดอยากจากไหนมาครับ แล้วมาห้ามไม่ให้ผมดื่มหนัก” บ่นแล้วจึงนั่งแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ เขาเองก็เหนื่อย แต่ปล่อยให้ศรัณย์นอนตัวชื้นทั้งอย่างนี้ไม่ได้


“เก้า...” รั้งเอาเอวคนที่นั่งอยู่เอาไว้ ลืมตาได้มากขึ้นกว่าตอนอยู่บนรถแท็กซี่ อันที่จริงแล้วยังพอมีสติอยู่ แค่ประคองตัวเองเดินไม่ไหวเท่านั้นเอง


“พี่เสือ”


ส่งเสียงปรามแล้วหยิบเอากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงอีกคนออกมาวางไว้หัวเตียง ศรัณย์ไม่ยอมนอน รามิลคิดว่าเขาอาจต้องเสียเวลากล่อมให้คนเมาหลับเสียก่อน


“พี่นี่เหมือนเด็กเลย” แกะมือเรียวออกจากเอวแล้วเอนตัวลงนอนท้าวแขน ตั้งใจว่าไว้คนรักหลับค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก็แล้วกัน แบบนั้นคงง่ายกว่ากันเยอะ


“แก่ไปไม่ดีหรอก”


เสียงยานคางตอบกลับมาก่อนรั้งศีรษะอีกคนลงมากดจูบหนัก ๆ อย่างที่ชอบทำ แรก ๆ รามิลพยายามฝืนยกหัวขึ้น แต่ท้ายแล้วเขาก็ปล่อยให้เลยตามเลยด้วยการแลกลิ้นแล้วใช้มือประคองใบหน้าคนรักเอาไว้ จูบอย่างนั้นซ้ำ ๆ จนศรัณย์กลายเป็นฝ่ายพลิกขึ้นมาอยู่ด้านบนเสียเอง มีอยู่สองสิ่งที่ทำให้คนสองคนมีความสุขกับเซ็กส์มากขึ้น หนึ่งคือแอลกอฮอล์ และสองคือความมืด


หงุดหงิดตัวเองที่เมาจนแกะกระดุมเสื้อของร่างข้างใต้ไม่เสร็จสักที รามิลหัวเราะน้อย ๆ ให้กับชัยชนะ เขาแกะกระดุมเสื้อของศรัณย์ออกหมดก่อน


“เก้า ช่วยพี่เร็ว” ศรัณย์สั่ง เพราะถ้าหวังพึ่งตัวเองในสภาพแบบนี้คงหงุดหงิดตายแน่ ๆ ร่างโปร่งยิ้มขำออกมาก่อนจะยอมแกะกระดุมเสื้อของตัวเองแต่โดยดี ในขณะที่ศรัณย์พยายามถอดเข็มขัดออก รามิลคิดว่าตลกดีเหมือนกัน


แต่ทันทีที่ถอดเสื้อเสร็จคนแก่กว่าก็โถมตัวเองลงมาทั้งที่เข็มขัดยังถอดสุรุ่ยสุร่ายไว้แบบนั้น นัวเนียกันพลางพยายามปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างใจร้อน ถึงย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็ใช่ว่าเซ็กส์จะเกิดขึ้นบ่อย ศรัณย์ทำงานกลับมาเหนื่อย ๆ ย่อมเห็นคุณค่าของการนอนมากกว่ารอเขาอ่านหนังสือจนเสร็จ แล้วต่อให้เจียดเวลามามีเซ็กส์กันก่อน รามิลก็รู้ว่าเขาคงขี้เกียจและอยากนอนกอดพี่เสือไปทั้งคืนนั้นแน่ ๆ


Rrrr


หากแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังมาจากในกระเป๋าสะพายทำเอาเด็กหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นทันที เขาผลักศรัณย์ออกไปข้าง ๆ แล้วรีบถลาลุกขึ้นจากเตียงทั้งที่สวมแค่กางเกงตัวเดียว ควานหาโทรศัพท์ด้วยใจกระวนกระวาย แล้วก็อย่างที่คิด พอหยิบโทรศัพท์ได้ หน้าจอก็ขึ้นสายที่ไม่ได้รับจากพลอยอีกแล้ว


มองไปยังศรัณย์ซึ่งนอนรออยู่แล้วรามิลก็ยังตัดใจไม่ได้ เขาหยิบเอาโทรศัพท์แล้วแยกเดินออกไปตรงระเบียงซึ่งมีเพียงกลิ่นอายชื้น ๆ จากฝนที่เพิ่งหยุดตก พยายามโทรออกหลายต่อหลายครั้งเหมือนอย่างทุกทีแต่ก็ไม่ติดอย่างเดิม


ศรัณย์ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังหรืออะไรเลย


เหตุผลนี้มันมากพอให้โกรธรามิลซึ่งลุกหนีเขาไปดื้อ ๆ ได้หรือเปล่า ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ทำอย่างนั้น ใส่ใจโทรศัพท์มากเกินความจำเป็นแล้ว ถ้าลุกไปดูแล้วเห็นว่าหูแว่วไปเองก็น่าจะกลับมานี่ได้แล้วสิ


พอนอนเฉย ๆ ก็เกิดรู้สึกง่วงขึ้นมาจากอาการเมาซึ่งยังไม่สร่างดี จากที่หัวเสีย ศรัณย์ก็พยายามเฝ้ารอ รามิลยังคงยืนอยู่ที่ระเบียงข้างนอกและไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้ามา เขาพยายามนับเลข หรือบางทีควรจะลุกขึ้นนั่งเพื่อไม่ให้หลับ แต่ห้องมืด ๆ และอากาศเย็น ๆ นี่มันมีอิทธิพลพอ ๆ กับเตียงดูดเลยด้วยซ้ำ ยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ เพื่อคลายอาการง่วงงุน สุดท้ายก็ยอมแพ้เปลือกตาซึ่งหนักอึ้งได้ที่


“เก้า ถ้าไม่กลับมาพี่จะหลับแล้วนะ”








ศรัณย์จำไม่ได้อีกนั่นแหละว่าเขาเผลอหลับไปจริง ๆ ตอนไหน ห้องทั้งห้องเงียบสงัด หันไปข้าง ๆ ก็เจอรามิลกำลังนอนตะแคงหันหน้ามาทางนี้ ตลกตัวเองสิ้นดีที่เมาหลับไปทั้งอย่างนั้น ทั้งที่คิดว่านี่เป็นโอกาสดีเพราะจะได้ปลดปล่อยด้วยกันแท้ ๆ แต่ก็ดันเป็นคนหมดสภาพไปก่อนเสียได้ มีหวังเด็กนี่คงขำแล้วล้อเลียนไปทั้งชาติแน่


หยัดตัวขึ้นท้าวแขนกับหมอนหวังจะเข้าไปลักหลับคนที่นอนอยู่ ความคิดแย่ ๆ ในหัวบอกให้ทำจนรามิลตื่นขึ้นมาต่อกับเขาให้ได้ และเสือตัวนี้จะได้เป็นผู้ชนะ


“....”


ชะงักไปเมื่อเห็นเรือนผมสีดำขลับภายใต้แสงสลัวนอนอยู่อีกฝั่งของเตียง เขาหยัดตัวขึ้นสูงอีกเพื่อให้เห็นภาพนั้นได้ชัดขึ้น ศรัณย์ไม่เคยคิดว่าอาการตาฝาดจะเด่นชัดขนาดนี้ เมื่อสายตาพ้นหัวไหล่ ภาพตรงหน้ายิ่งเด่นชัดว่ามีผู้หญิงนอนกอดคนรักของเขาอยู่ เธอกำลังจ้องมองต้นคอรามิลด้วยแววตาดำด้าน ผมสีดำยาวสยายตัดกับผ้าปูเตียงสีอ่อน ดูแล้วราวกับว่าร่างของเธอจะฝังลงไปบนแผ่นหลังของเด็กหนุ่มเหมือนกาฝากก็ไม่ปาน


ศรัณย์กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ภาวนาให้เธอไม่รู้สึกตัวว่ากำลังถูกจับจ้องอยู่


แต่แล้วดวงตาดำด้านนั้นก็ตวัดมองขึ้นมา







“....!!”


เปลือกตาเบิกโพลงในความมืดสลัว และเป็นเรื่องดีที่ศรัณย์รู้ตัวเองว่าเขากำลังมองเห็นแค่เพดานว่างเปล่า เหงื่อกาฬไหลซึมจนรู้สึกร้อนวาบขึ้นมาทั้งที่อีกใจก็คิดว่าแอร์นั้นเย็นจนหนาว ถอนหายใจออกมาเมื่อหันไปมองข้าง ๆ เห็นว่ารามิลนอนหลับสนิทด้วยลมหายใจสม่ำเสมอและนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาเขา


ภาพในความฝันเมื่อครู่ติดตาจนศรัณย์ต้องชั่งใจกับตัวเองอยู่พักใหญ่ว่าควรจะมองดูอีกฝั่งของเตียงเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่มีอะไรจริงหรือไม่


ใช่ เขาควรทำอย่างนั้น


กลืนน้ำลายเหนียวลงคอในขณะที่ปล่อยให้ความคิดตบตีกันเองในหัว ค่อย ๆ หยัดตัวขึ้นเล็กน้อยและท้าวข้อศอกไว้กับหมอนซึ่งหนุนอยู่ ทั้งที่บอกตัวเองว่าภาพเมื่อครู่เป็นแค่ความฝัน แต่หัวใจของแพทย์หนุ่มกลับเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อส่วนลึกในใจบอกว่ามันเหมือนจริงเกินไป


“....”


ท้ายแล้วคืนนั้นศรัณย์ไม่แม้แต่จะนอนกอดรามิลด้วยซ้ำ เขาพลิกตัวนอนตะแคงอีกด้านเพื่อหันหลังให้กับความหวาดหวั่นที่กำลังสั่นคลอนความรู้สึกข้างใน ต่อให้ตัดสินใจมองให้รู้ชัด มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้


ศรัณย์โกรธตัวเองที่เลือกหันหลังให้รามิล






TBC





----------------------------------------------------


ยาวจัง





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pedpilin ที่ 27-02-2015 22:19:44
หรือว่ายัยพลอยนั่นจะเคยเป็นคนรักเก่าของรามิลมาก่อน? แล้วรามิลฆ่าเธอ? หรือไม่ใช่??

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคู่ของอธิศกันต์ด้วยน้าาาา

ป.ล. ขอเซอรวิสคู่อธิศกันต์เยอะๆ  :hao7:  เอาแบบปลอบให้หายกลัวโดยจูบแบบครั้งที่แล้วก็ได้ :mew1: :mew1: ขอแบบแลกลิ้-- ด้วยก็ดี 55555
ไรต์มาต่อเร็วๆ น้าาาา

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 27-02-2015 22:23:05
ตื่นเต้น ลุ้นนมาก
เดินเรื่องเก่งมากเลยค่ะ เนิบๆแต่น่ากลัวยกกำลังสิบ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 27-02-2015 22:39:06
เรื่องนี้ควรจะสงสารใครดี ระหว่าง ผี,คนที่มีผีเกาะหลัง หรือ คนที่เห็นผีดี  :ling2:
ไม่สิ น่าสงสารตัวเอง นิยายหลอนแบบนี้ยังติดหนึบได้อีก จะลงแดงอยู่แล้ว ขอตอนใหม่ด้วยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 27-02-2015 23:12:05
เก้าต้องฆ่าพลอยแน่ๆเลยอะ เพราะกลัวพลอยจะมาบอกพี่เสือเรื่องของของพลอยกับเก้า แต่สงสัย กันต์เกี่ยวอะไรด้วย งง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-02-2015 23:19:15
หลอนแทนหมอศรัณย์ แบบนี้ก็น่าแคลงใจในตัวรามิลอยู่นะ
กันต์จะรู้สึกว่าหมออธิศเข้าใจกันต์มากขึ้นมั้ยนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 27-02-2015 23:23:09
กันต์ยังเจอหนักสุดอยู่ดี รองมาก็ศรันย์เลย  แพรพลอยเป็นอะไรกับรามิล สงสัยว่ารามิลฆ่านาง = ='  ส่วนหมออธิศ ดีงามมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 27-02-2015 23:25:23
แล้วเกี่ยวอะไรกับเภสัชกรหนุ่มน้อยของเราละเนี่ยย
ยิ่งลามไปถึงจิตแพทย์สุดหล่อของเราอีกด้วย
คุณผีนี่มีตนเดียวใช่มั้ย  แต่หลอกเขาไปทั่วเลยนะเนี่ย สุดยอดจริงๆ
เป็นคุณผีที่ขยันมาก
+1+เป็ด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zoochi ที่ 27-02-2015 23:39:15
เข้ามาอ่านก่อนนอน จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว คนเขียนจะรู้มั้ยว่า
คนอ่าน อ่านไปเกร็งไป อะไรมันจะหลอนขนาดนั้น
แล้วคืนนี้จะหลับมั้ยเนี่ย  :katai1:   นัเขียนทำร้ายยยย
ทำไมไม่มาอัพให้เร็วกว่าเน้!!!!  :ling3:
ขอเซอร์วิสหน่อยค่าาาาา

@หนูน้อยใจ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 28-02-2015 03:10:03
ใช่...หมอมันเห็นแล้ว นายไม่ได้ผจญอยู่กับสิ่งนั้นคนเดียวแล้วนะน้องกันต์ :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ShiRaZ_Prime ที่ 28-02-2015 06:21:20
กำลังอ่านตอนดีๆตอนตีห้า คนอื่นก็หลับกันหมดแล้ว ฉากกำลังสยองเลย จู่ๆเสียงโทรศัพท์ดัง! อิชั้นแทบช็อค ใครแม่มโทรมาตอนนี้ฟระ! ใจจะวาย

ตอนนี้แต่ละคนน่าสงสัยไปหมด เดาเนื้อเรื่องต่อไปไม่ถูก  :ling3: แต่นางหลอนยิ่งกว่าจูออนอีกนะ ฮือ ที่แน่ๆหลงรักหมอเรียบร้อยแล้วค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-02-2015 08:12:43
โดนหลอกทั้งกลางวัน กลางคืน เป็นเรานี่ประสาทตาย  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 28-02-2015 08:25:05
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียเท่านั้น!



 :katai5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 28-02-2015 10:28:47
ปัญหาน่าจะอยู่ที่รามิล แต่กันต์โดนหลอกไปด้วยเพราะอะไรหว่า?
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 28-02-2015 13:09:16
เหมือนรามิลเป็นชู้กับพี่เสือ แล้วแพรพลอยรู้เลยเสียใจร้องไห้หนักมาก ขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง รถคว่ำตาย พี่เสือเป็นคนรักษาแต่แพรพลอยตาย  5555555555 พิมพ์เองยังงงเอง  :m20:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ผายลม888 ที่ 28-02-2015 13:13:02
[/leftปริศนาเริ่มคลี่คลายละ. เอาตามที่คิดคือรามิลกับผีตัวเมียน่าจะเป็นชู้กัน
พอได้ฟันแล้วผู้หญิงน่าจะยุ่งด้วยเกินไป กลัวความลับไปถึงหูแฟนเลยบอกเลิก จากนั้นเธอก็ฆ่าตัวตายน่าจะโดดตึกนะแต่คงไม่สูงพอเลยแค่สาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอศรัณย์ทำการช่วยเหลือแต่ไม่รอดเพราะเภสัชกรจ่ายยาผิดหรือมีการผิดพลาดพอผีตายก็เลือกตามเภสัช
แต่เรื่องก็ยังไม่เข้าเค้า
อยู่ดีเพราะหมอเสือนี่อายุรแพทย์นะ เฮ้อ  ไปต่อไม่ถูกแฮะ เดาเองจนมุมเอง แต่ชอบตรงที่ว่าความสัมพันธ์ของหมอกะเภสัชมันดำเนินไปแบบพวกเอ็งยังไม่รู้ตัวแบบเนี้ย ไม่
ชอบอะไรที่มันปุบปับไวไฟเท่าไหร่
ขอชมคนเขียนที่ใส่ใจบุคลิกของตัวละครมาก
ชอบเรื่องนี้มาก แต่ขอไม่มาตรวจดูกระทู้ตอนดึกละกัน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ѷanᴉ££a ที่ 28-02-2015 15:34:56
สนุกมากๆนะ

แต่ทำใจอ่านตอนกลางคืนไม่ได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 28-02-2015 15:37:16
แวะมาดัน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 28-02-2015 16:07:58
ยังคงหลอนๆ กันอยู่
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 28-02-2015 16:09:24
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 08







หลังจากเสียงปิดประตู ความเงียบก็ดูเหมือนมีอิทธิพลเหนือความในใจของคนสองคนขึ้นมาอย่างเด่นชัด อธิศวางกระเป๋าส่วนตัวไว้ยังโซฟาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ความอึดอัดใจเล่นงานจนไม่อาจคิดหาคำพูดดี ๆ มาสานต่อบทสนทนาได้ หากจับเวลาตั้งแต่ตอนอยู่บนรถ นี่ก็พักใหญ่แล้วที่พวกเขาเอาแต่เงียบและมองหยั่งเชิงกันไปมา ชนกันต์ไม่รู้ว่าเขาควรพูดอะไร ในเมื่อไม่มีคำพูดปลายเปิดจากหมออธิศหลุดออกมาเป็นตัวช่วย ริมฝีปากแห้งผากที่พยายามจะเปิดปากพูดก็ดูเหมือนยิ่งเหนียวติดกันอย่างไรอย่างนั้น เขาบอกตัวเองให้นั่งลง แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเมื่อทุกอย่างสงบนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงแอร์และสายฝน


ภายในห้องสี่เหลี่ยมโทนอุ่นนั้นเย็นขึ้นมาในระยะเวลาไม่นาน อธิศอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ และจมอยู่ในความคิด เขามองชนกันต์สลับกับพรมสีน้ำตาลตรงกลางพื้นห้อง จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครยอมเปิดปากพูดก่อน


จนกระทั่งอธิศยอมแพ้ “ทำไมไม่นั่งล่ะครับ”


เหมือนขวานจามเอาโซ่ล่ามหนัก ๆ ให้ชนกันต์กล้าขยับตัวเองไปนั่งลงยังพื้นที่ว่างบนโซฟา เหลือระยะห่างกับคนข้างตัวไว้ราวหนึ่งศอกแล้วก็เหมือนกลืนทุกอย่างลงคอไปอีกครั้ง


‘ผมเจอเธอแล้ว’


นั่นคือประโยคล่าสุดที่เปล่งออกมาจากปากจิตแพทย์ พอเอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่าเขาควรต้องรู้สึกอย่างไรดี แน่นอนมันเหมือนมีเพื่อน แต่นี่มันก็ไม่ใช่ลางดีนักหรอกในเมื่อมีใครสักคนถูกดึงเข้ายุ่งเกี่ยวกับความไม่ปกติในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกคน


“หมอ” เขาเรียก และร่างสูงก็หันมามองทั้งที่ข้อศอกแทบจะชนกัน


“ว่ายังไง”


“เรื่องที่หมอพูดบนรถ” ชนกันต์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “จริงเหรอครับ”


อธิศยิ้ม คนถามคิดว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายก็คงแห้งผากไม่ต่างกัน “จริงอยู่ที่จิตแพทย์อย่างเราต้องเออออตามคนไข้ในบางครั้ง แต่ผมคิดว่าคุณรู้ว่านี่คือคำโกหก -- หรือเรื่องจริง”


ชนกันต์มีสิ่งที่อยากรู้ใจจะขาด แต่เขาไม่กล้าถามออกไปทั้งที่ความกลัวยังเล่นสนุกอยู่กลางใจเช่นนี้ ถึงกำลังรู้สึกอย่างนั้น แต่สมองก็คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางความคิดซึ่งใหญ่ที่สุดเสมอ


“หมอเจอที่ไหน” หลีกเลี่ยงจะพูดคำว่าเธออย่างที่อีกฝ่ายพูด ในระยะเวลาไม่กี่วินาทีที่หมอนั่งคิด เด็กหนุ่มคิดว่าหัวใจของเขาเต้นไม่ต่ำกว่าสามสิบครั้ง นายแพทย์อธิศชอบใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา เทียบสถานการณ์ตอนนี้แล้วมันน่าอึดอัดขึ้นอีกสิบเท่า


“ที่ห้องของคุณ”


“....”


“....”


“หมอเชื่อผมแล้วใช่ไหม”


“ผมคิดว่ามันต้องมีเหตุผลนะกันต์”


เสียงนั้นราบเรียบกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ตอนนี้ชนกันต์ไม่ได้อยู่ในกรอบสายตาของคนตรงหน้า เขาไม่เข้าใจแม้กระทั่งว่าพรมบนพื้นกลายมาเป็นจุดนำสายตาได้อย่างไร “เหตุผลอะไร หมอจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคน หรือเราพากันหลอนเพราะปลาสลิดในร้านข้าวต้ม”


นี่อาจจะเป็นนิสัยเสียของชนกันต์ไปแล้วก็ได้ ผิดคาดอีกนั่นแหละที่หมออธิศไม่ใส่ใจจะตำหนิอะไรเขานอกเหนือจากการเบือนสายตาขึ้นสบกัน


“ผู้หญิงคนนั้นทำไมต้องมายุ่งกับคุณ”


“....”


“แล้วถ้าเรื่องที่คุณเล่ามันไม่ใช่การคิดไปเอง พอจะบอกผมได้ไหมว่าทำไมคุณถึงได้ถูกคุกคามขนาดนี้”


ชนกันต์เงียบไปหลังจากเจอยิงคำถามที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่มีคำตอบ ไม่รู้ว่าควรต้องเริ่มพินิจจากตรงไหน ภาพเหตุการณ์นับตั้งแต่เริ่มเจอเรื่องแปลก ๆ พากันแย่งฉายขึ้นมาในหัว ทำไมเขาถึงทนมันมาได้ตั้งเกือบเดือนกัน


นี่อาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการคุยเรื่องพรรค์นี้นัก แต่เชื่อเถอะว่าสำหรับคนที่ถูกข่วนขาตอนกลางวันแสก ๆ มาแล้ว ทุกเวลามันก็เหมือนนรกทั้งเป็นทั้งนั้นแหละ


“คุณรู้จักเธอไหม”


ร่างเล็กท้าวข้อศอกลงกับหน้าขาก่อนจะโค้งตัวลงเพื่อนวดขมับเบา ๆ อย่างคนใช้ความคิด ถ้าตอบโดยไม่ต้องคิดอะไร แน่นอนเขาคงจะบอกว่าไม่ แต่คำตอบนั้นมันไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นก็ควรต้องคิดดูก่อน


รู้ตั้งแต่ตอนที่เห็นหน้าครั้งแรกแล้วว่าไม่คุ้นหน้าเธอเลยสักนิดเดียว ไม่ใช่แม้แต่ผู้ป่วยไอซียูที่พุ่งเป้าไปตอนแรกอย่างไร้เหตุผล สมองสั่งให้คิดทบทวนย้อนขึ้นไปก่อนหน้านั้น ซึ่งชนกันต์นึกออกแค่ชีวิตที่ปกติสุขของตัวเอง เขายังสามารถปิดไฟนอนคนเดียวได้ เดินโดยไม่ต้องเปิดเพลงในหูฟังดัง ๆ หรือแม้แต่การขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดตอนกลางคืนโดยไม่นึกถึงเรื่องผี ๆ สาง ๆ ขึ้นมา


“ผมนึกไม่ออก” ถึงปากพูดไปอย่างนั้นแต่ก็ยังพยายามนึกต่อไป “ผมไม่เคยเจอผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นใคร”


เขาพูดเสียงแข็ง และนั่นทำให้อธิศยอมแพ้จนยุติบทสนทนานี้ในที่สุด ความแคลงใจขยายวงกว้างหลังได้ฟังคำยืนยันจากปากอีกฝ่าย นี่มันแปลกเกินไป อธิศเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกต้องมีที่มาที่ไป แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็เช่นกัน หรืออย่างน้อยถ้าเริ่มต้นจากรู้ตัวตนของผู้หญิงคนนั้น อาจมีหนทางนำไปสู่ทางออกของเรื่องนี้ก็เป็นได้







--------------------------------------------------







“อ้าว วันนี้วันหยุดนายไม่ใช่หรือไง”


คิ้วเรียวเลิกขึ้นหลังจากเห็นร่างสูงโปร่งของใครบางคนเดินทอดน่องเข้ามาในโถงโรงพยาบาลพร้อมกาแฟร้อนเจ้าอร่อย ถ้ามีเวลาล่ะก็ นี่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าร้านตรงโรงอาหารทีเดียว วันนี้อธิศอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนสบาย ๆ และกางเกงผ้า ส่วนอีกมือก็ถือกระเป๋าสัมภาระทรงแบนที่คาดว่าคงเป็นกระเป๋าแล็ปท็อปขนาดสิบสามนิ้ว


“มันไม่มีอะไรทำน่ะ” อธิศตอบด้วยรอยยิ้ม ซึ่งศรัณย์คิดว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงหรอก


“ว่างงานนี่มันดีจริง ๆ เลย บางทีฉันควรจะเลือกไปเรียนจิตเวชตั้งแต่แรก” ประชดไปด้วยเสียงหัวเราะแบบไม่จริงจังนัก จริงอยู่ที่แพทย์เฉพาะทางอย่างพวกเขาต้องเข้างานตามเวลาราชการ แต่ถึงอย่างนั้นก็จำเป็นจะต้องผลัดกันเข้าเวรบ้างในกรณีมีเหตุจำเป็น และสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินยังไม่เป็นที่นิยมนักในหมู่นักเรียนแพทย์ไทย


วันนี้ควรจะได้เป็นวันหยุดของอธิศหลังจากดื่มเหล้าไปค่อนคืน สีหน้าศรัณย์ดูอิดโรยไม่แพ้กัน แต่ก็ก้ำกึ่งระหว่างการนอนน้อยและฟุ้งซ่าน ร่างผอมสวมเสื้อยืดโปโลสีขาวและกางเกงยีนส์สีเข้มอย่างที่ไม่มีทางเห็นในวันทำงานปกติ ห้อยสเตทโตสโคปขนาดยี่สิบเจ็ดนิ้วไว้ที่คอ เดาได้ไม่ยากว่าคงแวะเข้ามานอกเหนือเวลางาน


“นายเองก็เถอะ” อธิศหัวเราะ มองอินเทิร์นที่กำลังเดินประกบเตียงคนไข้ไปยังลิฟท์ “ตอนนี้บ่ายสอง เดี๋ยวสักราว ๆ สี่โมงเย็นไปกินมื้อเย็นด้วยกันไหม”


“เอาสิ”


ตกลงกันแค่นั้น ศรัณย์จึงเป็นฝ่ายแยกตัวไปก่อน ดูรู้ได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายมีเรื่องที่อยากคิดอัดแน่นอยู่เต็มหัว เขาเองก็ไม่อยากไปสะกิดใจมากนัก นี่คงเป็นวิธีบำบัดตัวเองแทนการอยู่ว่าง ๆ เพื่ออ่านหนังสือจนจบเล่มแต่สรุปไม่ได้ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร







--------------------------------------------------







ชนกันต์ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี อันที่จริงหมออธิศควรจะได้นอนพักผ่อนที่ห้องแทนการขับรถมาโรงพยาบาลกับเขาแล้วยังจะรอจนถึงสี่โมงเย็นอีก ถึงวันนี้จะต้องทำงานเพราะปรัชญาขอแลกเวร แต่ก็ได้เลิกงานตั้งแต่สี่โมงเย็น อย่างน้อยตอนที่ฟ้าสว่างมันวังเวงน้อยกว่าตอนกลางคืนเป็นไหน ๆ เกิดความรู้สึกลำบากใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นภาระของหมออธิศขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเต็มใจให้พักด้วยไปถึงเมื่อไร ทั้งที่จริง ๆ ชนกันต์เองสามารถนอนโรงพยาบาลได้เหมือนช่วงแรกแท้ ๆ


“แค่ก...” หลบลงใต้โต๊ะก่อนจะพยายามขากความรู้สึกขยะแขยงในปากออกมา ถึงใครอีกคนจะบอกว่ามันไม่มีเส้นผมหรือดินโคลนอะไรเทือก ๆ นั้นอยู่จริงก็เถอะ ถ้าทำใจเชื่อได้ง่าย ๆ ก็คงไม่ต้องคอยประสาทเสียอยู่กับสิ่งที่ไม่รู้แบบนี้


“ไหวไหม?” โจ้เป็นเจ้าหน้าที่อีกคนที่ประจำอยู่ แน่ล่ะว่าส่วนใหญ่เขาต้องทำงานประกบกับพี่ตองบ่อยกว่า เวลาพี่โจ้มาเข้าเวรถึงได้เป็นตอนที่เขาพยายามข่มตาหลับอยู่ทางด้านในของห้องจ่ายยาแทบทุกครั้ง


“ขอบคุณครับ”


แทนที่จะบอกว่าไม่เป็นอะไร ชนกันต์กลับเลือกขอบคุณแบบปิดบท เพราะเขาคงตอบคำถามไม่ถูกหากอีกฝ่ายถามไถ่มากกว่าเดิม เลี่ยงตัวไปจัดยาขึ้นบนชั้นแล้วให้คนตำแหน่งสูงกว่านั่งประจำตรงเคาน์เตอร์แบบสบาย ๆ เป็นเรื่องธรรมดาในการที่เด็กฝึกงานอย่างเขาต้องเสนอตัวรับงานหนักกว่าเป็นการแสดงน้ำใจ


เรื่องที่คุยกันเมื่อคืนยังคงไม่หายไปจากหัวสมอง คำพูดของหมออธิศคล้ายการบีบให้เขารีบคิดหาเหตุผลของเรื่องนี้เสียถ้าไม่อยากจมอยู่กับมันไปเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาชนกันต์คิดว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้และกลัวว่ามันจะทวีความรุนแรงขึ้นหากยังเป็นเช่นนี้อยู่ ต้องคอยหันไปมองว่าเภสัชกรรุ่นพี่ยังอยู่ดีและไม่ได้หายไปไหน อย่างน้อยการมีมนุษย์เป็น ๆ อยู่ใกล้ตัวก็ช่วยให้สภาพจิตใจของเขาเข้มแข็งพอจะฝืนคิดถึงเรื่องผู้หญิงคนนั้นต่อ อีกครั้งที่ พยายามฟื้นความทรงจำตั้งแต่ที่รู้สึกถึงความผิดปกติในชีวิต เขาเริ่มต้นจากเตียงผู้ป่วยไอซียูคนนั้น เสียงทีวีเปิดปิดเอง สัมผัสตอนจับโดนเท้า พลันที่ขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ในห้องตรวจคราวนั้น


มันคลับคล้ายคลับคลาว่ายังมีอะไรอีก


อะไรที่เขามองข้ามไป




“ชนกันต์”


ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันไปมองโจ้ซึ่งเอี้ยวตัวหันมามองด้วยสายตาประหลาดใจ ก็รู้อยู่หรอกว่าที่ตัวเองเป็นอยู่ทุกวันนี้มันเข้าขั้นประหลาด “ครับ?”


โจ้พยายามรักษาน้ำใจเขาด้วยการปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “พี่ตองฝากบอกว่าเอกสารฝึกงานที่จะให้เซ็นน่ะทิ้งไว้ที่นี่ได้เลยนะ เดี๋ยวเข้าเวรแล้วแกจะได้เซ็นให้”


ชนกันต์ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง ตอนนี้เกือบบ่ายสามโมง แล้วเอกสารที่ว่าเขาก็ทิ้งไว้ในรถมาพักใหญ่โดยไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับมันนัก ปรัชญามักจะย้ำเสมอว่าอย่าเอามาให้เซ็นทีเดียวในวันที่ฝึกงานจบ แบบนั้นจะประเมินกันลำบาก


“ให้ผมไปเอาเลยไหม” เขาถาม ตอนนี้ห้องยาไม่ได้งานยุ่งมาก ถึงจะกลัวการอยู่ตามลำพังแต่ชนกันต์ก็คิดว่าเขาควรเอาชนะมันให้ได้ก่อนที่จะส่งผลกระทบทางลบต่อผู้ร่วมงาน อีกทั้งในโรงพยาบาลยังมีคนเดินผ่านไปมาอยู่ตลอด นั่นทำให้รู้สึกปลอดภัยมากพอ


โจ้พยักหน้าส่ง ๆ ก่อนหันไปจดจ่ออยู่กับรายการการสั่งยาเพื่อจะได้นำให้ปรัชญาตรวจเช็กอีกทีตอนช่วงเย็น เห็นอย่างนั้นชนกันต์ก็วางตะกร้ายาในมือลงกับโต๊ะแล้วพาตัวเองออกจากห้องจ่ายยาแคบ ๆ แสงไฟจากโถงภายนอกทำให้เขารู้สึกดีขึ้น แน่นอนว่ารวมทั้งเสียงจอแจจากผู้คนที่ชนกันต์เคยบอกเพื่อนว่าเกลียดนักเกลียดหนาด้วย







--------------------------------------------------







ชั้นเรียนภาควิชาอายุรศาสตร์ของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีสี่นั้นน่าง่วงนอนกว่าทุกวัน รามิลคิดว่าเขาโชคดีกว่าเพื่อนอีกสามสี่คนในกลุ่มที่เพิ่งออกเวรไปเมื่อเช้า การมานั่งฟังบรรยายและสรุปผลการเรียนการสอนในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงเช่นนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นวันหยุดสำหรับคนที่ไม่ต้องเข้าเวรอย่างเขาก็ได้ เต้ที่นั่งข้าง ๆ กำลังแสดงออกว่าเครียดพอสมควร แน่นอนว่าพวกเขาไม่ควรวินิจฉัยผิดต่อหน้าอาจารย์ แต่หลาย ๆ คนก็พลาดมันไปและพยายามกดดันตัวเองมากขึ้น เขาอาจจะโชคดีกว่าคนอื่นก็ได้ที่มีศรัณย์คอยช่วยติวให้หากมีโอกาส


ถึงเสียงของอาจารย์จะเบาและเนิบนาบแค่ไหน ทุกคนกลับรู้แก่ใจว่าไม่ควรหลับตามใจตัวเอง เสียงปากกาเคมีส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดขณะเสียดไปตามพื้นผิวกระดานไวท์บอร์ดไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจนัก รามิลต้องเอื้อมตัวไปสะกิดเต้ให้เปิดหนังสือหน้าต่อไปด้วยความเป็นห่วง เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาต้องมีชั้นเรียนเสริมในวันสุดสัปดาห์ อาจจะมีใครสักคนรู้ว่าชั้นเรียนนี้มันน่าเบื่อก็ได้ เสียงประตูห้องเปิดออกถึงได้จุดชนวนความสนใจให้สมาธิของใครหลายคนแตกกระเจิง


“....”


อีกแล้ว นี่เป็นเรื่องน่าเบื่อที่ทำให้คนส่วนใหญ่ในห้องนี้แสดงความอึดอัดใจออกมากับความรู้สึกเลว ๆ ของตัวเอง ใช่ พวกเขาเกือบจะเข้าขั้นรำคาญแล้วกับการต้องเห็นหน้าใครสักคนในชายหญิงคู่นั้น ครั้งนี้เป็นคนแม่ สีหน้าหล่อนดูทรุดโทรมแต่ก็แฝงแววเกรงใจแม้จะรู้ตัวว่ากำลังทำเรื่องเสียมารยาท


“รบกวนหน่อยนะคะ”


หล่อนพูดกับอาจารย์วัยกลางคนหน้าชั้นเรียนซึ่งมีสีหน้ากระอักกระอ่วน แน่นอนว่าเขาเห็นใจเธอ แต่ก็คิดว่ามันไม่ถูกต้องกับการมารบกวนเวลาเรียนเช่นนี้


“ฉัน -- ฉันมาถามหายัยพลอยค่ะ” เสียงนั้นติดอ่าง นักศึกษาซึ่งนั่งอยู่โต๊ะเลคเชอร์ด้านหน้า ๆ เริ่มพากันเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพราะกลัวจะเป็นเป้าสายตา “มีใครได้ข่าวคราวพลอยกันบ้างไหม”


เงียบ


ต่างรู้อยู่แก่ใจว่าคงไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา นางสุพิศยิ้มแห้ง ๆ แล้วพูดอีกครั้ง “ไม่มีใครได้ข่าวพลอยบ้างเลยเหรอลูก”


“....”


“ทำไมไม่มีล่ะ พวกเธอเป็นเพื่อนยัยพลอยไม่ใช่เหรอ”


รามิลเป็นหนึ่งในคนที่คิดว่าเธอไม่ควรมาที่นี่อีกหลังจากโวยวายให้ตำรวจสอบปากคำคนในห้องนี้จนครบทุกคน แน่นอนมันไม่ได้เรื่อง ไม่มีใครให้ข้อมูลเรื่องการหายตัวไปของนักศึกษาคนหนึ่งในชั้นได้เลย


“บอกฉันหน่อยเถอะนะ ขอร้องล่ะ”


โต๊ะเลคเชอร์ไม่ได้ใหญ่จนปกปิดอะไรได้มิดนัก เพราะอย่างนั้นรามิลถึงต้องคลายมือออกจากหน้าขากางเกงทุกครั้งที่รู้สึกตัว แอร์ในห้องเย็นเฉียบ แต่เขาก็ยกมือขึ้นปาดเหงื่อกาฬตรงขมับด้วยท่าทางที่เป็นปกติที่สุด ร่างโปร่งปั้นหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นคนอื่น เขาไม่มีความคิดที่จะทำให้นางสุพิศสนใจ


“ก็พลอยหายไปวันที่อยู่กับพวกเธอ”


“....”


“แล้วจะไม่มีใครรู้เรื่องได้ยังไง”


เสียงสั่นเครือนั้นเริ่มฟังไม่ได้ศัพท์ นางสุพิศเริ่มทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาอย่างง่ายดาย ทุกครั้งที่เธอมาถามหาข่าวคราวลูกสาวก็มักไม่เคยได้อะไรกลับไปเลยสักครั้ง แม้แต่คำพูดของตำรวจที่ว่าเริ่มตันกับคดีคนหายครั้งนี้ก็คล้ายจะฉีกหัวใจคนเป็นแม่อย่างเธอออกเป็นเสี่ยง ๆ


“ลูกฉันหาย...” เธอคร่ำครวญ “แต่เพื่อน ๆ แกกลับไม่รู้เรื่องเลยสักคน”


“....”


“เป็นไปได้ยังไง มีใครตอบได้บ้างว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”


สุดท้ายแล้วเธอก็ปล่อยโฮออกมา แม้แต่อาจารย์เองก็ทำอะไรไม่ถูก เขาพยายามเข้าไปพยุงเธอออกไปจากห้องนี้เพื่อให้บุรุษพยาบาลมารับช่วงต่อ แต่กลับถูกผลักออกอย่างไร้มารยาท


รามิลรู้ตัวขึ้นมาว่าเขากำลังขยำกางเกงด้วยมือชื้นเหงื่ออีกแล้ว ดวงตาสีเข้มหลุบลงมองพนักเก้าอี้ของคนข้างหน้า ละอายใจเกินกว่าจะทนให้นางสุพิศอยู่ในกรอบสายตาต่อไปได้ รู้สึกขอบคุณที่ตั้งแต่การสอบปากคำไม่มีใครโพล่งชื่อของเขาขึ้นมา สถานภาพรามิลไม่ต่างจากเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ทำตัวเหมือนน้ำท่วมปาก น้ำในปากเขามันเป็นสีขุ่น ทั้งเหม็นและน่าสะอิดสะเอียนเกินกว่าจะยอมคายออกมาให้ใครได้รับรู้


นางสุพิศถลาตัวไปจับไหล่ของคนที่นั่งโต๊ะตรงหน้าราวเสียสติ หล่อนดึงให้เด็กสาวยืนขึ้นแล้วพูดเสียงดังจนฟังไม่ได้ศัพท์


“เธอล่ะ! เธอเห็นพลอยบ้างไหม ลูกฉันเคยคุยกับเธอหรือเปล่า” หล่อนลนลานกลอกตาไปทางคนที่อยู่ทั้งข้างซ้ายและขวาด้วย “พลอยล่ะ... พลอยโทรหาเธอบ้างไหม บอกหรือเปล่าว่าแกอยู่ที่ไหน”


ไม่มีใครนับว่านางสุพิศพูดชื่อแพรพลอยออกมากี่ครั้ง อาจารย์พยายามช่วยเข้าไปแกะมือเธอออกจากร่างนักศึกษา เด็กสาวร้องโอดโอยหลังถูกเขย่าตัวหลายต่อหลายครั้ง ดวงตาเหลือกโลนของหล่อนยิ่งดูปูดโปนเมื่อมันเต็มไปด้วยรอยหมองคล้ำน่ากลัว


“หนูไม่รู้!”


นักศึกษาแพทย์โชคร้ายคนนั้นร้องเสียงดัง รามิลโกรธตัวเองที่เขายังนั่งก้มหน้าอยู่กับที่ หนำซ้ำกลับขยำกางเกงอีกแล้ว


“ต้องรู้สิ! เธอต้องรู้! ต้องมีคนรู้ -- อะ!


ร่างเล็กแกร็นถูกผลักออกจนล้มไปกับพื้น เด็กสาวตื่นตระหนกหลังจากเผลอทำร้ายหญิงวัยกลางคนกับมือ ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสนใจกล่าวโทษ ทุกสายตาในห้องกลับจับจ้องไปยังร่างที่กำลังโอดครวญอยู่ตรงพื้นหน้าชั้นเรียน


นางสุพิศปล่อยโฮ เธอกรีดร้องเป็นคำพูดฟังไม่ได้ศัพท์ “ทำได้ยังไง...!”


“....”


“พวกเธอทำได้ยังไง! ทอดทิ้งพลอยได้ยังไง”


“....”


“ทั้ง ๆ ที่แกหายไป พวกเธอทำ... ได้... ยังไง...”


เสียงหายใจช่วงท้ายติดขัด ดวงตาเบิกโพลงเหมือนคนหายใจลำบาก นั่นทำให้อาจารย์รีบเข้าไปประคองร่างเธอก่อนจะเรียกนักศึกษาที่นั่งอยู่ใกล้ประตูให้ไปเรียกบุรุษพยาบาลทันที เสียงนางสุพิศร้องไห้ปานจะขาดใจยังดังก้องอยู่ในหูของรามิลราวกับคำก่นด่า ในตอนนี้เขาอยากร้องไห้ออกมารอมร่อ เหงื่อที่ไหลซึมลงมาตามใบหน้าไม่ได้อยู่ในความสนใจของคนในห้องนี้เลยสักนิด


หล่อนถูกหามออกไปแล้ว ทั้งที่ตอนนี้ห้องทั้งห้องเหลือแค่ความเงียบจนดูเคว้งคว้าง ทว่าใจของรามิลนั้นไม่ต่างอะไรจากไฟสุมอก


ภาพของแพรพลอยกำลังกรีดร้องในการเจอกันครั้งสุดท้ายฉายชัดขึ้นมา







--------------------------------------------------







“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นฝากด้วยนะ ยังไงวันจันทร์ผมจะเข้ามาดู --”


“หมอคะ!”


เหลียวมองไปทางต้นเสียง มือที่จับปากกาหมึกซึมรีบวางลงก่อนจะเร่งฝีเท้าตามเตียงคนไข้ซึ่งเพิ่งถูกเข็นเข้าไปอยู่หลังม่านมุมหนึ่งของห้องฉุกเฉิน เดินตามไปได้ครึ่งทางนางพยาบาลก็ตามเข้ามาประกบ


“คนไข้เป็นอะไรมา”


ถามออกไปเสียงเรียบ อย่างที่รู้กันว่าวันนี้ไม่ใช่เวรประจำของหมอศรัณย์ แต่ถึงอย่างนั้นการปล่อยให้แพทย์ประจำบ้านหรือแพทย์ฝึกหัดที่กำลังงานล้นมือปลีกตัวจากคนไข้มากะทันหันก็ไม่ใช่เรื่องดี หากไม่ได้ต้องผ่าตัดหรือเป็นเคสร้ายแรงอะไร การยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงเขานัก


“คนไข้อยู่ในภาวะช็อกค่ะ บุรุษพยาบาลนำมาส่งจากคณะแพทย์”


คนฟังขมวดคิ้ว “แล้วรู้สาเหตุหรือเปล่า”


พยาบาลสาวส่ายหน้า พอดีกับที่นายแพทย์หนุ่มเลื่อนม่านเปิดออกจนเห็นพยาบาลสองคนกำลังทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ศรัณย์แทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ข้างเตียง เปิดดูม่านตา ก่อนหยิบเอาสเตทโตสโคปขึ้นมาใส่หูแล้วทาบไปบนอก หล่อนหายใจหืดหอบจนเหมือนจะขาดใจ มือเท้าจีบเกร็ง นายแพทย์หนุ่มกลอกตามองนางพยาบาลข้าง ๆ ซึ่งกำลังเอาเครื่องวัดความดันหนีบเข้ากับนิ้วชี้ของหญิงวัยกลางคน ส่วนอีกคนกำลังเร่งฝีเท้ากลับมาพร้อมหมอนใบหนึ่ง


“คุณ” เขาก็หันไปสั่งพยาบาลฝึกหัดที่ได้แต่ยืนงุ่นง่านหลังจากเอาหมอนวางรองบริเวณข้อเท้าคนไข้ “รบกวนโทรตามหมออธิศให้ทีครับ”


“คะ?” หล่อนดูงุนงง จนเขาต้องพูดอีกรอบ


“หมออธิศ แผนกจิตเวช ให้คุณโอ๋โทรให้ก็ได้” ลอบถอนหายใจเมื่อหล่อนเดินพ้นจากม่านไป จากนั้นจึงมองไปยังคนข้าง ๆ ก่อนจะว่า “ส่วนคุณ รบกวนเตรียมกรวยกระดาษให้ผมหน่อย”







------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 28-02-2015 16:11:11
( ต่อ )





ร่างสูงโปร่งแหวกม่านเข้ามาพร้อมนางพยาบาล เมื่อเธอส่งจิตแพทย์หนุ่มเสร็จจึงแยกตัวไปอีกทาง อธิศทอดสายตามองหญิงวัยกลางคนที่ดูจะเพิ่งได้สติ ศรัณย์ค่อย ๆ นำกรวยออกจากใบหน้าคนไข้แล้วหันมายิ้มให้ นั่นทำให้เห็นว่าเธอพึมพำอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา


“ขอโทษที พอดีคงต้องพึ่งนายนิดหน่อยน่ะ”


ทิ้งกรวยลงถังขยะก่อนจะดันแขนคนสูงกว่าให้ตามออกมาทางด้านนอกม่าน ข้างในมีเพียงพยาบาลฝึกหัดอีกคนซึ่งเขาสั่งให้คอยดูแลผู้ป่วยชั่วคราว ศรัณย์ยังคงอยู่ในชุดเสื้อโปโลและกางเกงยีนส์สีเข้มเช่นในทีแรก


“ไฮเปอร์เวนทิเลชั่นซินโดรม”


กอดอกพูดเสียงเรียบ นี่ไม่ใช่อาการร้ายแรงนักถ้าเทียบกับภาวะช็อกจากสาเหตุอื่น เสียงพึมพำของเธอยังคงลอยลอดออกมาให้ได้ยิน ไม่ต้องถามอะไรต่อ อธิศก็พอเข้าใจได้ว่าศรัณย์อยากให้เขาช่วยอะไร


“พยาบาลบอกว่าแกถูกส่งมาจากคณะแพทย์ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำอะไรที่นั่น”


“เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไม่ต้องห่วง”


ได้ยินอย่างนั้นอายุรแพทย์ก็ตบบ่าอีกฝ่ายเบา ๆ เป็นการขอบคุณ คิดได้ว่าหมดหน้าที่จึงขอตัวไปเขียนข้อมูลเพื่อส่งให้ฝ่ายระเบียนทำประวัติคนไข้ หันกลับไปอีกทีก็เห็นพยาบาลที่รับคำสั่งจากเขาเดินมาทางนี้แล้ว


ไฟกลางโถงห้องฉุกเฉินดูเหมือนจะกระพริบตกไปวูบหนึ่ง หรืออาจเกิดจากความอ่อนเพลียของเขาเอง เรื่องนี้ศรัณย์ไม่แน่ใจนัก


“....”


หากแต่หัวคิ้วต้องขมวดมุ่นเข้าหากันอีกครั้ง เมื่อเงาลาง ๆ ภายใต้ผ้าม่านรอบเตียงคนไข้เมื่อสักครู่ที่เห็นนั้น --


หนึ่งคือหญิงวัยกลางคนบนเตียงคนไข้


สองคืออธิศที่เขาขอให้ช่วยดูอาการหล่อน


และสาม --







“พลอย...”


อธิศหยุดยืนยังฝั่งขวาของเตียง ทอดมองร่างเล็กแกร็นและนัยน์ตาซึ่งเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย เขาหันกลับไปเลื่อนม่านจนปิดสนิทเพื่อให้คนไข้รู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้น ศรัณย์กล่าวว่าหล่อนเป็นไฮเปอร์เวนทิเลชั่นซินโดรม อยู่ในกลุ่มอาการโรคที่เกิดจากการหายใจเกินความจำเป็นจนเกิดภาวะเลือดเป็นด่าง แต่โดยรวมอาการทางกายไม่น่าเป็นห่วงนัก บางทีเขาอาจสั่งยาให้ แต่ต้องเป็นหลังจากการพูดคุยกันสักเล็กน้อย


“สวัสดีครับ”


“พลอย...”


“....” เธอไม่ตอบเขา หนำซ้ำยังพึมพำคำเดิม ๆ นั้นออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อธิศค่อย ๆ โน้มตัวลงเล็กน้อยพลางเลื่อนมือไปแตะที่ท่อนแขนนั้นเป็นการสะกิดแล้วทวนคำซ้ำอีกครั้ง “สวัสดีครับ”


ได้ผล ดวงตาปูดโปนนั้นกลอกมองมาด้วยความเฉยเมย มันเป็นสีดำด้านอย่างที่ชวนให้รู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก


“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” เธอว่าเสียงเย็นเยียบ ทำท่าจะลุกออกจากเตียงจนนายแพทย์หนุ่มต้องรั้งแขนเธอไว้เบา ๆ เป็นการปราม แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไหนอยากเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนไม่รู้จักฟัง “ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ”


“เห็นพยาบาลบอกว่าพาคุณมาจากทางตึกนั้น บอกได้หรือเปล่าครับว่าไปทำอะไรที่นั่น” ถามเบา ๆ ให้พอได้ยินกันสองคน หญิงแก่หลุบตาลง กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะพูดด้วย บางทีอธิศก็คิดว่าการไม่สวมเสื้อกาวน์นั้นส่งผลก้ำกึ่งในหลายทางเหลือเกิน “ผมชื่ออธิศ เป็นหมอของที่นี่”


ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปหลังจากรู้หน้าที่การงานของชายแปลกหน้าที่พยายามพูดคุยด้วยอยู่นานสองนาน


“แต่ถ้าเป็นธุระส่วนตัวและไม่ต้องการบอกก็ไม่เป็นไรครับ ผมอาจจะสั่งยาให้คุณกลับไปทานสักหนึ่งชุด --”


“พลอย”


“....” นิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเธอพูดชื่อนั้นออกมาอีกครั้งหลังจากยอมพูดคุยประโยคอื่น แน่นอนว่าอธิศและแพทย์ที่นี่จะไม่แปลกใจเลยหากว่าอาคารเรียนไม่ได้มีไว้เฉพาะนักศึกษาแพทย์และอาจารย์ที่เกี่ยวข้อง น้อยครั้งถึงมีคนนอกเที่ยวไปเดินเหินอยู่ในตึกนั้น


“พลอย...”


เธอพูดอีกแล้ว ครั้งนี้เขาไม่ได้ทิ้งความสงสัยไปเฉย ๆ


พลอยเป็นใครครับ” เขาถามหล่อนด้วยน้ำเสียงห่างไกลความอยากละลาบละล้วง นางสุพิศหันมาทางหมอร่างสูงอีกครั้ง เธอทำหน้าเหมือนคนจวนเจียนจะร้องไห้ ภาพความเฉยชาของเด็กหลายคนที่แสดงต่อการหายตัวไปของเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งนั้นช่างโหดร้ายเหลือเกิน


“ลูกสาวฉัน” หล่อนพูดเสียงสั่น คว้าเอาแขนเสื้อของคนตรงหน้าเอาไว้พลางเขย่าเบา ๆ อย่างเว้าวอน “หมออยู่ที่นี่ใช่ไหม เคยเห็นลูกสาวฉันหรือเปล่า พลอยหายไปเป็นเดือนแล้ว”


แล้วหล่อนก็ร้องไห้อีก เสียงครืดจากการรูดม่านของพยาบาลที่เปิดเข้ามาดูเหตุการณ์เผื่อว่าต้องการความช่วยเหลือ ทว่าหมออธิศกลับหันไปส่ายหน้าเพื่อบอกให้เธอออกไปก่อนที่คนไข้จะรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว


“พลอยทำงานที่นี่เหรอครับ” ชายหนุ่มถามเสียงอ่อน เป็นการดีที่หล่อนรู้สึกวางใจและพูดกับเขาถึงที่มาอาการอย่างช้า ๆ แม้ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม


“พลอยเรียนที่นี่ แกกำลังจะได้เป็นหมอแล้วเชียว” นางสุพิศโอดครวญ เธอรั้งเอาชายเสื้อเชิ้ตและกระตุก “แกเคยบอกฉันว่าไม่มีเพื่อน แต่ฉันก็บอกให้แกตั้งใจเรียนไป”


“....”


“แล้วนี่แกไม่ได้กลับมาพร้อมคนอื่น พลอยหายตัวไป...” อธิศแตะที่มือเธอเบา ๆ เป็นการเรียกสติ สภาพจิตใจผู้หญิงคนนี้คงไม่สู้ดีนัก ดีไม่ดีอาจจะช็อกขึ้นมาอีกก็ได้ “ตำรวจก็ทำท่าจะช่วยไม่ได้ แถมเด็กพวกนั้นยังไม่สนใจเรื่องที่แกหายตัวไปเลยสักนิด”


เขาสัมผัสได้ถึงความเสียใจของเธอ แววตาดำด้านนั้นโศกไปด้วยน้ำตาของการสูญเสีย มันดูอิดโรย ทุกข์ระทม และทำให้ดูแก่กว่าวัยขึ้นอีกเป็นสิบปี


“ใช่... ใช่แล้ว” ตาลึกโหลของนางสุพิศยิ่งดูปูดโปนขึ้นไปอีก เธอทำท่ากระวนกระวายและพยายามควานหาอะไรบางอย่างจนเห็นกระเป๋าสะพายส่วนตัววางไว้บนโต๊ะหัวเตียง “ฉันต้องให้หมอดูรูป เผื่อหมอจะเคยเห็นแก”


ชายหนุ่มถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อเปิดโอกาสให้เธอรื้อหาบางสิ่งในกระเป๋า ภายในนั้นมีเอกสารอยู่หลายอย่าง แวบหนึ่งอธิศเห็นสัญลักษณ์ของสถานีตำรวจด้วย


“นี่ค่ะ ยัยพลอยเรียนที่นี่ หมอต้องเคยเห็นแกสิ” หล่อนยื่นกระเป๋าสตางค์สีเลือดหมูใบยาวมาตรงหน้าแล้วย้ำซ้ำในสิ่งที่พูดไปแล้วราวกับไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อยในการพูดถึงลูกสาว “เคยเห็นไหมคะ หมอเจอลูกฉันบ้างไหม”


จิตแพทย์หนุ่มรับเอากระเป๋าสตางค์มาดู ในนั้นมีรูปถ่ายเด่นชัดอยู่ใบหนึ่ง มันถูกเก็บไว้ในช่องใส่บัตรซึ่งเจาะช่องแผ่นเคลือบใสไว้อย่างดี


“....”


“เคยเห็นไหมคะ” เสียงของนางสุพิศดังเข้าเต็มสองหู หล่อนจดจ่อรอคำตอบจากเขาจนดูเหมือนคนไม่ปกติ


“เธอคือพลอยเหรอครับ?”


หญิงแก่ดูมีความหวัง เธอกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคคำถามนั้น “ใช่แล้ว นี่แหละพลอย”


“....”


“ชื่อแพรพลอย”


เจ้าของดวงตาสีดำด้านที่คล้ายกับหญิงแก่ตรงหน้า เรือนผมตรงยาวตัดกับผิวขาวซีด และยังความโศกเศร้าที่ราวกับจะส่งผ่านให้ทุกคนซึ่งได้สบตา


ใช่แล้ว เขาเคยเจอเธอมาก่อน







--------------------------------------------------







กี่วันแล้วนะที่ชนกันต์ไม่ได้ขับรถคันนี้ไปไหนมาไหน ตั้งแต่ก่อนจะพักอยู่กับหมออธิศ ก็แทบไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย นี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์หรืออาจจะสองสัปดาห์ที่เขายอมแยกออกมาคนเดียวแบบนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกดีนัก ความกลัวมันแล่นวาบขึ้นมาทุกครั้งก่อนจะจางหายไปเมื่อเจอคนเป็น ๆ เดินผ่าน ทางออกสู่ลานจอดรถอยู่ตรงหน้า แล้วชนกันต์ก็ภาวนาขอให้มีใครสักคนนั่งอยู่ข้างนอกให้เขาพออุ่นใจบ้าง


เสียงรถขับขึ้นลงและวนหาที่จอดช่วยให้ร่างเล็กไม่รู้สึกเปล่าเปลี่ยวจนเกินไป ชนกันต์ปลอบใจตัวเองว่าเขาต้องใช้เวลาอีกแค่ไม่ถึงนาทีเท่านั้นเองในการหยิบเอกสารที่เบาะหลังของรถ กดรีโมทปลดล็อกก่อนจะเปิดประตูหลังแล้วเอื้อมตัวเข้าไปหยิบซองกระเป๋าหนังสำหรับเก็บเอกสารมาไว้ในมือ ไม่ต้องใช้เวลามากก็ได้กระดาษมาปึกหนึ่งเพื่อให้ปรัชญาเซ็นประเมินการทำงานในฐานะผู้ดูแล เขาถือมันไว้และโยนกระเป๋ากลับเข้าไปยังเบาะหลัง  บางทีชนกันต์ควรจะรีบกลับเข้าไปหาแสงสว่างทางด้านในอาคารได้แล้วถ้าไม่อยากมัวเล่นสงครามประสาทกับตัวเองอยู่แบบนี้


วูบหนึ่งที่ในหัวร้อนวาบคล้ายคนกำลังหน้ามืด ถึงอย่างนั้นร่างเล็กก็ฝืนตัวเองให้หันกลับข้ามไปอีกฝั่งเพื่อรีบเข้าไปทางด้านใน อาจจะเป็นผลพวงจากการนอนน้อยมาตลอดระยะหลังนี่ก็ได้


“....!!”


เสียงแตรรถดังลั่นจนแสบแก้วหู ร่างของชนกันต์เซถอยหลังและล้มลง  ก้นจ้ำพื้นซีเมนต์อย่างจัง รถยนต์คันสีบลอนด์เมื่อครู่ขับผ่านไปแล้ว มันเกือบจะเฉี่ยวเขา และถ้าถอยหลบไม่ทัน ชนกันต์เชื่อว่าคงได้เจ็บตัวไม่น้อย


ว่าที่เภสัชกรรู้สึกหัวเสีย เขาค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นด้วยการเกาะเอารถของตัวเองเป็นหลักและแรงส่ง โชคดีเอกสารสำคัญไม่เสียหาย


“....”


หากแต่เมื่อมองไปยังตำแหน่งมือที่เกาะอยู่บนรถคันคุ้นเคย ยิ่งเพ่งสายตา อาการร้อนวูบวาบก็ยิ่งเหมือนจะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง มันเหมือนมีเข็มนับพันเล่มกำลังทิ่มอยู่ตามตัวเขาก็ไม่ปาน รอยขูดเล็ก ๆ ข้างตัวรถที่ชนกันต์ไม่เคยสังเกตเห็นกำลังเด่นชัดอยู่ในกรอบสายตา มันบางเสียจนเขาแทบนึกไม่ออกว่าไปทำรถเป็นรอยเอาตอนไหน


“....”


แต่แล้วภาพบางอย่างก็กลับผุดขึ้นมาในหัว ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกที่เหมือนเข็มนี่ให้ยิบ ๆ น่ารำคาญไปทั้งตัว


“ไม่หรอก... ไม่น่าใช่”


เสียงพร่าพึมพำกับตัวเองเบาหวิว ทุกอย่างค่อย ๆ ฉายขึ้นมาเป็นฉาก ๆ ในขณะพยายามนึกให้ออก มันก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด ทั้งที่แทบลืมไปอย่างสนิทใจแล้วถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้พบเจอหลังจากนั้น


จากที่สับสน ชนกันต์ก็ยิ่งทวีความสับสนขึ้นกว่าเดิม


จากที่แน่ใจ เขาก็เริ่มไม่แน่ใจ


เอาแต่พูดคำว่าไม่ใช่ในใจซ้ำ ๆ และเหมือนบรรยากาศโดยรอบจะพากันมืดลงเหมือนกับคืนนั้นไม่มีผิด







--------------------------------------------------







“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เจอกันวันอังคารครับ”


ชั้นเรียนวันนี้เลิกช้ากว่าทุกทีเพราะเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อน รามิลรู้แก่ใจว่าเขาเรียนไม่รู้เรื่อง แม้แต่การประมวลผลในครึ่งหลังของชั้นเรียนก็ไม่ได้เรื่องเลยสักอย่างเดียว เลคเชอร์หยุดค้างไว้ที่ข้อห้า และก็กลับกลายเป็นเต้ที่ดูควบคุมตัวเองได้ดีกว่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพื่อนคนหนึ่งสะกิดให้เขาลุกขึ้นหลังจากพากันทยอยออกจากห้องเรียน บ้างก็พูดเรื่องแม่ของแพรพลอยที่เข้ามาวุ่นวายระหว่างการเรียนการสอน


รามิลพาร่างสะโหลสะเหลของตัวเองเดินแออัดผ่านโต๊ะเลคเชอร์ไปพร้อมคนอื่น ๆ เขาเดินออกมาจนถึงหน้าห้อง ได้ยินเสียงปิดประตูของเพื่อนซึ่งเดินรั้งท้าย ข้างตัวเป็นบอสกอดคอให้เดินไปพร้อมกัน


กึก กึก กึก กึก


รามิลคิดว่าตัวเองหูฝาดถึงได้ยินเสียงขีดเขียนเหมือนตอนอยู่ในชั้นเรียนไม่มีผิด บางทีอาจจะเป็นความทรงจำตกค้างจากการที่นั่งฟังเสียงนี้มาตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงก็ได้ มันน่าหงุดหงิด เขารู้สึกอย่างนั้น


บานประตูครึ่งหลังของห้องมีกระจกเหมือนกับประตูทางด้านหน้าที่พวกเขาใช้เข้าออก ต่างกันที่มันมีประตูกรงเหล็กปิดซ้อนไว้อีกทีเพราะการขอเปิดห้องแบบไม่เป็นทางการในวันหยุด หลายห้องมักทำแบบนี้


ทั้งไม่น่าจะมีใครหลงเหลืออยู่ในห้องเรียนแล้ว แต่รามิลก็ยังเห็นผ่านช่องกระจกแคบ ๆ ว่ามีใครบางคนอยู่ข้างใน เรือนผมสีดำขลับยาวจนถึงกลางหลังตัดกับเสื้อกาวน์สีขาว ร่างนั้นสั่นน้อย ๆ ในขณะที่ก้มลงขีดเขียนอะไรบางอย่าง เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะเลกเชอร์แถวที่สองนับจากข้างหน้าสุด


“....”


เขาคุ้นเคยกับภาพนี้ดี... แต่ไม่ใช่ตอนนี้! เวลานี้!


ร่างโปร่งปัดเอามือของเพื่อนที่กอดคอออกก่อนหันหลังกลับแทรกตัวผ่านคนอื่น ๆ เพื่อย้อนไปทางประตูครึ่งหน้าของห้อง เขาแน่ใจยิ่งกว่าอะไรว่าไม่มีทางจำแผ่นหลังนั้นผิด


ครืด


“....”


ห้องทั้งห้องยังอบอวลไปด้วยไอเย็นจากแอร์ที่เพิ่งปิดไปไม่ถึงสามนาทีก่อน ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปภายในห้องแม้จะเห็นกับตาตัวเองว่ามีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีคนนั่งอยู่โต๊ะเลคเชอร์แถวที่สอง หรือแม้แต่โต๊ะตัวไหน ๆ รามิลก็ไม่เห็นวี่แววของใครสักคนภายในห้องนี้


เป็นไปไม่ได้


ถึงคิดอย่างนั้นแต่เด็กหนุ่มก็รู้ตัวดีว่าเขาอาจตาฝาดไปเอง ไม่มีทางที่แพรพลอยจะมาอยู่ที่นี่ ไม่มีวี่แววแม้แต่การที่ผู้หญิงคนนั้นกลับมาหลังจากหายตัวไป


ยกมือขึ้นนวดหัวตาเบา ๆ และปล่อยให้เส้นประสาทในขมับเต้นตุบ ๆ ในหัวเขาคิดอะไรไม่ออกสักอย่างเดียว มีเสียงอื้ออึงดังอยู่ในหัวเหมือนแมลงสักร้อยพันตัวกำลังบินวนเวียนอยู่รอบ ๆ


เขาก็แค่ฟุ้งซ่านไปเอง


“....”


หันกลับมาเจอกระดานไวท์บอร์ดที่ควรเป็นสีขาวโล่งถูกขีดเขียนด้วยหมึกน้ำเงินเป็นอักษรเด่นหราอยู่ตรงกลาง หัวใจของรามิลเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล


จำได้ดีว่าคำบนนั้นมีความหมายว่าอย่างไร




ง่าย




มันถูกเขียนไว้อย่างนั้น


นี่อาจจะเป็นตลกร้ายที่ใครบางคนจงใจแกล้งกัน แต่ความน่าจะเป็นอยู่ที่เสียงปิดประตูซึ่งเขาได้ยินหลังพ้นประตูห้องไปเพียงเสี้ยวนาที รามิลจำได้ว่าก่อนออกไปเขาไม่เห็นอะไรบนนี้ และเขาก็นึกไม่ออกด้วยว่าใครอุตริแกล้งกันด้วยวิธีบ้า ๆ


ใช่ นี่มันบ้าชัด ๆ


Rrrr


หากแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงนั้นเรียกให้สะดุ้งโหยง เขาละสายตาจากบนกระดานแล้วรีบกุลีกุจอล้วงเอาต้นเสียงขึ้นมา


“....”


มือเรียวสั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นสายโทรเข้าและไม่ถูกตัดไปเสียก่อน มันกำลังรอให้เด็กหนุ่มกดรับ ห้องทั้งห้องดูกว้างใหญ่ขึ้นจนเคว้างคว้าง และเก้าอี้เลคเชอร์ก็ดูเหมือนทอดยาวออกไปเป็นร้อย ๆ ตัว เหงื่อกาฬไหลซึมตามขมับ ทั้งที่ตื่นตัวกับมันมาตลอดและพยายามโทรกลับหลายต่อหลายครั้ง แต่กลับทำอะไรไม่ถูกเมื่อโทรศัพท์กำลังดังอยู่ตรงหน้า และมือก็เหมือนจะสั่นไปตามจังหวะของมันจนไร้เรี่ยวแรง


รับสิ


รามิลบอกตัวเอง ไม่รู้ว่ากำลังกลัวอะไรอยู่


ทำไมไม่กดรับล่ะ


เหมือนโทรศัพท์กำลังพูดกับเขา มันทั้งร่ำบอก อ้อนวอน สะกดให้ตกอยู่ในภวังค์


รามิลกดรับแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู


“....”


ปลายสายเงียบเชียบ ใจหนึ่งเขาคิดว่ามันคงตัดไปเหมือนกับทุกที และพอลดมือลงก็จะเห็นเป็นมิสคอลอย่างที่เกิดขึ้นทุกครั้ง น้ำลายในคอรามิลเหนียวจนแทบกลืนไม่ลง แต่เขาก็พยายามกลืนมันลงไปอย่างยากลำบาก


“....”


ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วินาที เขาบอกให้ตัวเองพูดอะไรออกไป ทั้งที่ใจหนึ่งก็ไม่คิดว่ามันอาจมีเสียงอะไรตอบกลับมา ในความรู้สึกแล้วมันนานเสียจนรามิลสั่งให้ตัวเองลดโทรศัพท์ลงดูหน้าจอ ใช่ เขากำลังจะทำอย่างนั้น ถ้าไม่เพียงแต่มีเสียงบางอย่างดังออกมาเสียก่อน




( รอก่อนนะ )


“....”


( แล้วฉันจะกลับมา )




ตุบ


โทรศัพท์ตกลงบนพื้น มือไร้เรี่ยวแรง รามิลนึกอยากก่นด่าตัวเองขึ้นมา เขาตกใจอะไรอยู่


ใช่แล้ว เสียงเมื่อครู่


ไม่ผิดแน่ เหมือนกับว่าเสียงของแพรพลอยดังอยู่ข้างหูไม่มีผิด


“....”


บนกระดานว่างเปล่าแล้ว





เคยทำอะไรเอาไว้ . ให้ระวังตัว







TBC





----------------------------------------------------


วันนี้ไม่ติดอะไร เลยลงแต่หัววันให้แล้วนะคะ  :katai2-1:
หลัง ๆ ลงตอนนึงต้องแบ่งสองกระทู้ตลอดเลย 55555555555





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 28-02-2015 16:32:13
รามิล! :katai1:  ตกลงแกไปทำอะไรแพรพลอยไว้อ่ะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 28-02-2015 16:37:15
ฝันที่เป็นจริง..  อัพกลางวันแดดแร๊งแรงง!!!
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 28-02-2015 16:44:00
เอ่อ...นี่หนูผียังไม่เรียกว่ากลับมาอีกเหรอเนี่ย ถ้ากลับมาแบบฟูลออฟชั่นจริงๆ จะเฮี้ยนขนาดไหน  :katai1:
แล้วเหล่าบรรดาคนเห็นผีจะรับไหวไหม แค่นี้ก็เพลียทั้งกายทั้งใจแล้ว ตอนจบของนิยายเรื่องนี้อาจเห็นแพนด้าขนร่วงสามตัวก็เป็นได้
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zoochi ที่ 28-02-2015 16:54:31
นั่งทำงานง่วงๆ เปิดมาเจอ ผมนี่ ตื่นเลยครัช

สนุกมากกกกกกก รอๆลุ้น มีโอกาสที่เรื่องจะดำเนินเร็วกว่านี้มั้ยค่ะ เพราะเอาจริงๆ

อยากรู้ความจริงมาก ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง

แต่ก็ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆนะคะ ติดตามจ้าาาา

ปอลิง รู้มั้ยนี่เป็นเรื่องแรกเลยนะที่เอาเม้นฉันได้เกือบทุกตอน ตั้งแต่ฉันตามอ่านมา
บางเรื่องนี่ แต่งดีแค่ไหนยังไม่เม้นให้ เพราะเรารู้สึกว่า เค้าทำได้ดี แต่อาจจะไม่ตรงกับแนวเรา
พอเจอเรื่องนี้ (ที่หาอ่านยากได้) ก็อยากจะสนับสนุน เม้นให้กำลังใจนักเขียน

ถ้าทำเป็นหนังสือจะ ซื้อจ้าาาาาา รอตอนต่อปายยยยยยย :hao5: :hao5:

@หนูน้อยใจ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 28-02-2015 17:22:44
เห็นเรื่องนี้ตอนช่วงเริ่มสอบ เลยไม่กล้าคลิกเข้ามาอ่าน กลัวติด 555 และแล้วก็พบว่าคิดถูกที่ไม่เข้ามา เพราะติดจริงๆค่ะ!

ชอบเรื่องนี้จัง ในเล้าไม่ค่อยมีนิยายแนวนี้ เลยคิดว่าพอเจอแนวแบบนี้ทีเลยรู้สึกเหมือนเจอขุมทรัพย์ ฮ่าๆๆ
เรื่องทางเก้ากับศรัณย์นี่ยังพอทำความเข้าใจได้ว่าทำไมถึงเจอกัน
เพราะเหมือนส่วนตัวของคนทางนั้นรู้จักกับแพรพลอย  และดูจะมี'อะไรๆ'ที่เกี่ยวข้องกัน
แต่กันต์กับอธิศนี่ยังไง หรือกันต์มีความลับอะไรที่เกี่ยวข้องกับแพรพลอยแต่ยังไม่เฉลย
หรือเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่รู้ตัวเลยโดนลากเข้ามาเอี่ยวด้วยหว่า
หมออธิศก็เหมือนกัน ตอนแรกไม่สัมผัสถึงอะไรเลย เห็นแค่รอยยุบที่โซฟา นับวันยิ่งพัฒนาขึ้นเป็นเห็นจะๆจังตา
ทำเป็นโรคติดต่อไปได้ ถึงปรสิตจะติดต่อได้ก็เถอะค่ะ
นี่infectกันทางไหนเนี่ย  ไชเข้าทางแผลเปิด หรือกินระยะติดต่อกันเข้าไปฮะ? 5555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-02-2015 17:31:51
ชนกันต์ทำอะไรไว้อ่ะ อยากรู้ๆๆๆ
แล้วหมออธิศ กับหมอศรัณย์ล่ะเกี่ยวอะไรด้วย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Darkwoof ที่ 28-02-2015 17:48:53
เรื่องนี้อ่านตอนกลางคืนไม่ได้เลย หลอน :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 28-02-2015 17:54:32
อ่านไปอ่านมาก็รู้สึกงงว่าชนกันต์เกี่ยวกับอีผียังไง เป็นเพื่อนก็ไม่ได้เป็น เคยได้กับอีผีหรือเปล่าก็ไม่น่าใช่เพราะนุ้งกันนั้นใสๆ



ปล.อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเราอ่านกอนเกิร์ลเลย น่าติดตามมากๆ ชั่วโมงพิศวงเว่อออออออ  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-02-2015 17:58:16
กันต์ต้องไปทำอะไรไว้แล้วไม่ใส่ใจหรืออะไรแน่ อาจเป็นตอนขับรถกลับบ้านดึกๆ

แต่รามิลนี่ต้องไปฟันพลอยแล้วทิ้ง พลอยน่าจะรักรามิล แต่ไม่อยากเดา เดี๋ยวผิด 55555555555555555555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 28-02-2015 19:26:25
หลอน
กลัวอ่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 28-02-2015 19:34:08
น่าติดตามมากค่ะ อ่านแล้วเหมือนกำลังดูหนังผี
รอตอนต่อไปนะ เป็นกำลังใจให้ค่าาา
 o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 28-02-2015 19:48:13
เป็นเรื่องที่ทิ้งทุ่นความสงสัยไว้ให้ทุกตอนเลยเชียว
กันต์ อธิศ ศรันย์ เกี่ยวกับพลอยยังไงบ้าง
แต่ดีนะที่ตอนนี้ระดับดีกรีหลอนนางจางลงบ้าง  :เฮ้อ:
ช่วงแรกๆ นี่  o22 ประสาทจะกินตามน้องกันต์ไปละ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 28-02-2015 19:55:20
รถชน...? :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 28-02-2015 19:57:05
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:ใครทำให้พลอยตายยยยยย :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zaszaq ที่ 28-02-2015 21:24:24
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

มันอะไรกันนัก อะไรกันหนา  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

มีเจ้าทุกข์กี่คนนี้  :really2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Foey ที่ 28-02-2015 21:51:08
อยากรู้ความจริง  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 28-02-2015 22:25:53
เค้ากลัวมาก บรรยายได้สยองสุดๆ

ตอนนี้เริ่มเชื่อมโยงรามิลได้คนเดียวเอง. แต่คนอื่นยังมึนอยู่เลยอ่า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 28-02-2015 22:46:58
รู้สึกว่ากันต์จะรู้สาเหตุแล้วใช่มั้ยยยยย :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 28-02-2015 23:15:52
อั้ยหยา อย่าบอกนะว่าน้องกันต์ขับรถไปเฉี่ยวแม่คุณเข้าน่ะ รถถึงได้มีรอยกรีด
ดูจากท่าทางน้องคงนึกออกแล้วว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้ โอย ลุ้นมาก อยากอ่านวันละสามตอน
ตกลงศพนางอยู่ไหนเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 28-02-2015 23:21:52
คุณแม่แพรพลอยน่าสงสารมาก คุณหมออธิศก็รู้แล้วว่าที่หมอเห็น คือแพรพลอย
รามิล แสดงอาการออกมาเยอะที่สุด เป็นไปได้ว่า แพรพลอยรักรามิล แต่รามิลแค่เล่นสนุกด้วยเท่านั้น
แล้วทั้งห้องเรียนไปไหนด้วยกันรวมทั้งแพรพลอย แล้วทิ้งเธอไว้งั้นเหรอ แต่ไม่มีใครใส่ใจเลยที่แพรพลอยหายไป
แล้วถ้าคนไข้ที่หมอศรัณย์รักษาชีวิตไว้ไม่ได้เมื่อครั้งนั้น คือแพรพลอย ทางพ่อแม่ก็น่าจะรู้แล้วนี่ว่าแพรพลอยหายไปไหน
ยิ่งแพรพลอยเป็นนักศึกษาที่นี่ด้วยแล้ว เหมือนความจริงเริ่มใกล้เปิดเผยทีละนิด ๆ
แต่ที่กล้วที่สุดเลยตอนนี้ก็คือ  น้องกันต์คงไม่ใช่เป็นคนฆ่าแพรพลอย หรอกนะ แงงง
ที่น้องกันต์ว่า มีคนตัดหน้ารถ แล้วน้องกันต์ก็กลับบ้านทุกอาทิตย์ เหตุการณ์ที่เจอหลังจากกลับบ้านมา
ที่สำคัญ รถมีรอยขูดขีด คงไม่ใช่น้องกันต์ ขับรถชนแพรพลอยตกลงไปในน้ำ แล้วน้องกันต์ไม่รู้
หรือ รู้ แต่ความกลัวทำให้ตัดความทรงจำส่วนนี้ของตัวเองออกไป เลยจำไม่ได้ว่าไปทำอะไรไว้หรือเปล่า
แล้วถ้าเป็นจริง น้องกันต์จะต้องรับโทษไหมอ่ะ แงงง เดาเอง กลัวเอง ไม่อยากให้น้องกันต์เป็นฆาตกรเลยอ่ะ
ขอโทษที่เขียนยาวค่ะ มันอินจัดไปหน่อย หลอนมาถึงคนอ่านจริง ๆ นะเรื่องนี้ ฮืออ  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: white shark ที่ 28-02-2015 23:23:40
เคยอ่านตั้งแต่เวอร์ชานแบคเมื่อปีที่แล้ว(และอ่านไม่จบ)
พอมาแต่งเป็นเวอร์ไทยเรารู้สึกชอบกว่าแหะ รู้สึกเหมือนโรงบาลแถวบ้านอะไรแบบนี้

เป็นฟิคที่อ่านแล้วต้องคอยเหลือบมองข้างหลังทุกห้าวิแต่ก็หยุดอ่านไม่ได้
สนุกมากน้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 01-03-2015 00:16:21
หลอน  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 01-03-2015 01:23:06
ว่างอ่านแค่ก่อนนอน.. เหมือนมาทรมาณตัวเอง
คือคนเขียนเขียนได้อินจัดมาก
เรากัดฟันไปอ่านไป จิกมือไป เป็นคนกลัวเรื่องแบบนี้ แต่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครทำไมอะไรยังไง
หลอนสุดๆ

เท่าที่เก็บมา รอยข่วนข้างรถของกันต์  น้ำท่วมปอดของหมอศรันย์ แล้วก็ง่ายของรามิล
เราเดานะ.. รามิลฟันแล้วทิ้ง กันต์รีบไปไหนสักที่แล้วขับเฉี่ยวตกน้ำ หมอช่วยไม่ได้หรือเป็นคนรักเลยโดนด้วย
เอ้ะหรือไปทัศนศึกษาหรือเที่ยวเป็นกลุ่มแต่ว่าตอนกลับ ไม่มีพลอยกลับมาด้วยเพราะเกิดอุบัติเหตุ
 ยิ่งคิดยิ่งงตัวเอง  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 01-03-2015 04:19:24
ถ้ารามิลทำคนเดียว ทำไมคนอื่นต้องมาโดนผียัยพลอยหลอกด้วยโดยเฉพาะกัน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 01-03-2015 04:44:15
พอจะเข้าใจลางๆละ
แต่บอกความรู้สึกก่อน ตอนนี้อ่านไปน้ำตาคลอไปเลย
ตอนที่แม่ของ พลอย มาเรียกร้องเนี้ย
คือมันน่าสงสารมาก การที่ไม่รุ้ลูกตัวเองหายไปไหนอยู่หรือตาย แล้วไม่มีใครใยดีสักคน ไม่มีใครให้คำตอบได้เลย
น่าสงสาร
แต่เดาเรื่องไปก่อนว่า
เก้าเนี้ย คงจะมีอะไรกับพลอยแล้วไม่รับผิดชอบ ประมาณเห้นเป้นเรื่องสนุก เลยหาว่าพลอยง่าย
ประมาณว่าพลอยคงจะชอบเก้าเอามากๆ
ส่วนเรื่องที่พลอยตาย แล้วเป้นผีมาหลอก กันต์นี้ เพราะกันต์คงมีส่วนที่ทำให้พลอยตายหรือป่าว
จากการที่ตัวรถเป็นรอย ไปชนพลอยเข้าหรือป่าว คงจะตายตอนฝนตกแล้วเปียกโคลนแหงมๆ ไม่ก็ตกไปในบ่อน้ำ
มโนไปล้วนๆ ไงก้มาต่อเร็วๆนะ
เรื่องนี้มันตื่นเต้นจริมๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 01-03-2015 12:24:25
รอตอนต่อไปค่ะ

สนุกมากๆเลย อานไปลุ้นไป
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: หัวเเม่มือ ที่ 01-03-2015 14:51:57
ลุ้นมากเลยยย สนุกมาก รอตอนต่อไปน่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bellebee ที่ 01-03-2015 22:32:39
โอ้ยยยยย ระทึกจังเน้อออออออ ปริศนาเริ่มโผล่มาเรื่อยๆ แล้ว ติดตามต่อค่าาาา

ปล. คุณ เข่งสะพานปลา เรา PM. ไปหา รบกวนเช็คข้อความด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ShiRaZ_Prime ที่ 01-03-2015 23:54:51
ตอนนี้มันเครียดแท้
หนุ่มๆไปทำอะไรกันไว้คะ โหยยยย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 02-03-2015 11:04:10
เก้าฟันพลอยแล้วทิ้งแถมบอกว่าพลอยง่ายรึปล่าว ส่วนกันต์คงไม่ได้ขับรถไปชนพลอยหรอกนะ ต่ออีกกกก
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 02-03-2015 22:00:28
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 09







ชนกันต์ได้ยินเสียงเพลงคลอเบา ๆ ในหู แต่ไม่รู้ว่ามันคือเพลงอะไร


ไม่สิ เขาเคยรู้ แต่ตอนนี้ในหัวมันไม่สามารถประมวลผลของสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างเคย ตาของเขาเหม่อมองไปข้างทาง ทั้งที่รู้ว่ากำลังถูกรถคันหนึ่งแซงไปแล้ว แต่ผ่านไปแค่สองวินาทีก็จำไม่ได้ว่ารถคันนั้นสีอะไร ตอนนี้เสียงเพลงแทบไม่เข้าหู ชนกันต์นึกออกแค่เสียงฝน รถราที่ประกบอยู่ทางด้านข้างก็กลายเป็นพงหญ้าขึ้นสูง ร้านรวงตอนเช้าตรู่หายไป เหลือเพียงท้องฟ้าครึ้ม ๆ เหมือนว่าพระอาทิตย์กำลังปิดสวิทช์ตัวเอง มือที่วางอยู่บนกระเป๋าตรงหน้าตักนั้นชวนให้รู้สึกเกะกะอย่างบอกไม่ถูก ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากอวัยวะส่วนเกินซึ่งเขาไม่รู้จะทำยังไงกับมัน เด็กหนุ่มเกร็งไปทั้งร่าง ทั้งที่เขาควรทำแค่นั่งเฉย ๆ


มันเป็นอย่างนี้มาสองวันแล้ว


รู้สึกได้ถึงการเบี่ยงออกทางซ้ายของรถ ข้างหน้าค่อนข้างชุลมุน ชนกันต์ยังคงปล่อยให้สายตาล่องลอยอยู่กับสิ่งข้างนอกบานกระจก รถมอเตอร์ไซค์ส่งของล้มเยินอยู่ทางหนึ่ง มีรถยนต์สีบลอนด์เงินจอดอยู่อีกทางหนึ่ง ส่วนรอบ ๆ คือผู้คนมากมายที่พากันยืนล้อมรอบโศกนาฏกรรม


ถึงจะทำงานในโรงพยาบาลแต่สมองก็ตื่นตัวขึ้นมาในตอนที่เห็นเลือด ร่างหนึ่งกำลังถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยห่อใส่ผ้าขาวและลำเลียงขึ้นไปไว้บนรถกระบะแบบมีตู้หลัง นายตำรวจยืนจัดการจราจรซึ่งไม่น่าจะติดขัดขนาดนี้ในช่วงเช้าขนาดที่แดดยังไม่ทันออก สายตาชนกันต์วกกลับมาอีกศพ เขาไม่ชอบตัวเองเวลารู้สึกสะอิดสะเอียนกับภาพตรงหน้านี่สักเท่าไหร่ ทั้งที่อยู่ในรถ แต่กลับคิดว่านี่มันงี่เง่าสิ้นดีกับการได้กลิ่นเหม็นคาวราวกับยืนอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ตรงนั้น


“....!”


ทั้งใจกระตุกวูบเพียงแค่เห็นเท้าเปรอะ ๆ คู่หนึ่งยืนอยู่รวมกับฝูงชน ชายกระโปรงเปรอะโคลนนั้นคล้ายกำลังขยายใหญ่ขึ้นจนเข้ามาครอบคลุมเต็มสองใจเขา ชนกันต์ห้ามตัวเองว่าอย่ามอง อย่าเลื่อนสายตาขึ้นไปสูงกว่านั้น ให้แพ้ความกลัวไปเสียตั้งแต่ตอนนี้


แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ


ดวงตาสีดำด้านนั้นเด่นชัดจากระยะไกล ถึงอย่างนั้นร่างเล็กก็แน่ใจว่ามันกำลังมองสบกับเขาไม่ผิดแน่ ผู้หญิงคนนั้น คนที่ชนกันต์ไม่แม้แต่จะรู้จัก


สีหน้าของเธอเรียบเฉย แต่เขาแน่ใจว่าเธอกำลังโกรธ – โกรธเคืองทุกอย่างบนโลกและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจเป็นตัวเขา


ความกลัวกินหัวใจดวงนี้อยู่ แต่มันก็แค่ส่วนเดียว


‘ …. ’


ริมฝีปากซีดแตกนั้นขยับเป็นคำพูดบางอย่าง เด็กหนุ่มไม่ได้ยิน แต่เธอพูดกับเขา พูดทั้งที่เปลือกตาไม่กระพริบปิดแม้แต่เสี้ยววินาที


“....”


มือเรียวกำเข้าหากันแน่นเสียจนเขาแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเมื่อปลายเล็บจิกเข้ากลางฝ่ามือ เจ้าของร่างเปรอะโคลนกำลังเดินมาทางนี้แล้ว เธอสะกดสายตาเขาไว้ราวกับต้องการบอกให้ตั้งใจดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้


มาแล้ว


เธอมาแล้ว


แล้วหัวใจที่เต้นระรัวจนทรมานนี่ก็เหมือนหยุดลงไปชั่วขณะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินผ่านหน้ารถเขาไปพร้อมกับพาร่างผู้หญิงคนนั้นให้หายวับไปจากสายตา


หายไปเหมือนสายลม


และน่ากลัวว่ามันจะโหมกระหน่ำขึ้นในไม่ช้า




“-- กันต์”


“....”


“ชนกันต์”


ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสอุ่น ๆ ของใครบางคนแตะลงบนมือ ชนกันต์คลายมือสั่นเทาออกจากกันแล้วปล่อยให้มันวางราบอยู่บนกระเป๋าดังก่อนหน้า แต่ใช่ -- มันไม่หายสั่น เช่นเดียวกับริมฝีปากแห้งผากและบังคับไม่ได้ แอร์ในรถหนาวจับใจ ดวงตาของอธิศจับจ้องมาทางเขา มันทั้งคลางแคลง สงสัย และเป็นห่วงในคราเดียวกัน


ทำให้อยากจะร้องไห้ออกมา


“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” หมอรู้ทันเสมอ รู้ว่าควรถามอะไรและพูดมันออกมาเมื่อไหร่ แต่ทำไมกัน ทำไมถึงได้รู้สึกกลัวความใจดีนี้จนอยากวิ่งหนีไปให้ไกล


“ผม...”


เขาทำมันจริง ๆ เหรอ


“ผม...”


ไม่หรอก... ไม่ใช่


“ผมไม่เป็นไร”


ยังไงก็ไม่ใช่


ถ้าเป็นทุกทีคงโผเข้าเกาะแขนหมอไว้แล้วเอาแต่พูดว่าช่วยด้วย มันมาแล้ว เธอมานั่นแล้ว แต่ตอนนี้ชนกันต์พูดไม่ออก ทุกอย่างมันจุกอยู่ตรงคอ อัดอั้นไม่ต่างอะไรจากระเบิดเวลาจนต้องผินหน้าหนีความห่วงใยนั้นไปอีกทาง


“....”


พอไฟแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียว อธิศก็จำต้องเบนสายตากลับไปมองถนนเบื้องหน้า นายแพทย์หนุ่มไม่ได้พูดอะไรอีก สายตาเขาเหมือนรู้ แต่ก็ไม่รู้


เมื่อไรก็ตามที่พยายามจัดการทุกอย่างให้อยู่ระเบียบของเรา เมื่อนั้นใจจะวุ่นวาย







--------------------------------------------------







หลังจากส่งชนกันต์เข้ากะแล้ว เขายังมีเวลาเหลือเฟือจนเกินไป กลิ่นกาแฟร้อนหอมฉุยจากร้านหน้าโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้จันทร์นี้เป็นเช้าที่ดีนัก บนเส้นทางผ่านมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แล้วเด็กคนนั้นก็ไม่ได้พูดจาเกรงอกเกรงใจอย่างทุกทีเรื่องเขาต้องถ่อมาโรงพยาบาลทั้งที่ไม่ใช่เวลาเข้างาน ชนกันต์แปลก ๆ มาสองวันแล้ว มีทั้งอาการเหม่อลอยและจมอยู่กับความคิดบางอย่างซึ่งเจ้าตัวจงใจปิดมันไว้เป็นความลับ อ้อใช่ คุณห้ามไม่ให้จิตแพทย์รู้ได้ แต่ห้ามไม่ให้พวกเขาดูอาการคุณออกไม่ได้หรอก


มือแกร่งเลื่อนไปหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบ เสียงฝนโปรยปรายจากด้านนอกชวนให้เย็นวาบขึ้นมาราวกับนี่เป็นกลไกมหัศจรรย์บางอย่าง แผนกจิตเวชไม่เปิดแอร์จนกว่าจะเจ็ดโมงครึ่ง และถ้าย้อนไปประโยคก่อนหน้า นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้รู้สึกร้อนอะไร


จริง ๆ แล้ววันนี้อธิศมีความตั้งใจอย่างหนึ่ง แต่ดูจากเวลาแล้ว กองระเบียนของคณะแพทยศาสตร์คงยังไม่เปิด ไม่เป็นไร ชายหนุ่มพูดกับตัวเองหลังจากเปิดแล็ปท็อปคู่ใจเอาไว้แล้วหมุนเก้าอี้หันไปทางตู้เก็บหนังสือและเอกสารทางด้านหลัง


อธิศสลัดเรื่องความผิดปกติของชนกันต์ออกไปจากหัวไม่ได้ เช่นเดียวกับที่เขาแบ่งเวลาในสองวันที่ผ่านมาให้จดจ่อไปกับชื่อของแพรพลอยและและสิ่งที่นางสุพิศพูด ใบหน้าในภาพถ่ายนั้นเรียบเฉยประสารูปติดบัตร มันไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ เช่นเดียวกับตอนที่เจอเธอในห้องนั้น แต่เขาเชื่อว่าแพรพลอยอาจกำลังเศร้าสร้อย ยิ่งถ้าได้เห็นสภาพครอบครัวซึ่งแตกร้าวไม่มีชิ้นดีขนาดนี้แล้ว แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่กับนางสุพิศเพื่อรอสามีมารับ หล่อนก็ยังเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด ความปวดร้าวของคนเป็นแม่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนอื่นจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง


คุณมนตรีเป็นผู้ชายรูปร่างท้วม อธิศเชื่อว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้าท้องของชายวัยกลางคนคงอ้วนพลุ้ยกว่านี้ ถ้าแพรพลอยได้ตาและปากมาจากแม่ จมูกก็คงได้มาจากพ่อ ชายแก่โค้งตัวขอบคุณเขาเสียยกใหญ่ทั้งที่โหลสะโหลสะเหลเต็มทน ถึงอย่างนั้นจิตแพทย์หนุ่มกลับไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าข้อมูลการสั่งยาและกำชับให้กินมันตรงเวลา


ลูกสาวคุณเสียชีวิตแล้ว ประโยคนี้คาอยู่ที่ปาก


การบอกคนเป็นพ่อแม่ถึงจุดจบของบุตรสาวในไส้มันใจร้ายเกินไป อธิศจึงทำแค่ยิ้มรับและเลือกเป็นคนนอกต่อไป มันคือทางที่ดีกว่า ตราบใดที่เขายังไม่รู้อะไรแน่ชัดมากไปกว่านี้


แล้วแพรพลอยมาตามติดชนกันต์ทำไม?


เคยมีความคิดที่ว่าถ้าได้รู้ตัวตนของผู้หญิงคนนั้นแล้วคงจะสามารถสาวต่อไปถึงมูลเหตุของเรื่องทั้งหมดได้ แต่หลังจากรู้แล้วชายหนุ่มก็ยังปล่อยให้สองวันมานี้ผ่านไปอย่างสูญเปล่า เขาไม่ได้เอ่ยปากถาม


ไม่สิ ที่ไม่เอ่ยปากถาม ก็เพราะว่าคิดว่ามันต้องมีอะไรนี่แหละ


ครืด


ละสายตาจากสันหนังสือมากมายบนชั้นเพื่อหันกลับไปมองต้นเสียง เป็นเสียงเก้าอี้ถูกลากออก


“....”


แต่มันว่างเปล่า


เขาอาจหูแว่วเพราะไม่มีสติมากพอ ไม่มีทั้งคนไข้ พยาบาล หรือใครสักคนที่เปิดประตูเข้ามา ฉะนั้นแล้วเสียงเมื่อครู่ถือเป็นโมฆะเมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ อาจเป็นเพราะเขายังปรับตัวกับการตื่นเวลานี้ไม่ได้กระมัง คิดได้อย่างนั้นจึงหมุนเก้าอี้หันกลับเข้าตู้หนังสืออีกครั้งเพื่อรื้อหาสิ่งที่ต้องการ


“....!”


ครืด


นายแพทย์หนุ่มเลื่อนเก้าอี้ถอยห่างจากตู้ทันทีที่หันกลับไป หัวใจคล้ายหยุดไปชั่วขณะ จากนั้นมันก็เต้นแรงจนส่งผลกระทบไปถึงมือที่ถือปากกาให้ปล่อยมันร่วงตกไปบนพื้น เงาสะท้อนเผยให้เห็นร่างของใครบางคนนั่งอยู่บนเก้าอี้คนไข้ แน่นอนมันเลือนราง แต่อธิศไม่คิดว่าเขามองผิด


“....”


ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ และหลังจากเอาชนะความตกใจได้เขาก็คิดว่าภาพในกระจกมันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาสีดำด้านนั้นกำลังมองเช่นที่เขามองเธอ


เธอคือผู้หญิงที่เขาจำได้ขึ้นใจ หลังจากวันนั้น อธิศไม่เคยเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดอะไรอีก เว้นเสียแต่ตอนนี้ แล้วถ้าเขาหันหลังกลับไปเธอจะยังนั่งอยู่ที่เดิมหรือเปล่า และความไม่แน่ใจนั้นจึงเป็นเหตุผลให้นายแพทย์หนุ่มยังนั่งอยู่โดยไม่ละสายตาจากเงาสะท้อนบนกระจก


“คุณคือแพรพลอยใช่ไหม” เขาถามย้ำ รอลุ้นว่าจะได้รับคำตอบใดกลับมาหรือเปล่า แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่


มันนานพอสมควรที่แพรพลอยนั่งอยู่ตรงนั้น เธอไม่ได้ทำอะไรอย่างเช่นอ้วกเป็นโคลนหรือกรีดร้องอย่างที่เคยทำกับชนกันต์ แค่นั่งนิ่ง ๆ มองเขา... มองอยู่อย่างนั้นจนชวนให้รู้สึกขนลุกอย่างประหลาด


เธอทำตัวเหมือนเป็นคนไข้ แต่มันไม่เหมือน


อธิศอยากถามว่าทำไมครั้งนี้ถึงเป็นเขา แต่ก็คิดอีกว่าเธอคงไม่ตอบ


“คุณแพรพลอย” นายแพทย์กลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง ภาพของหญิงสาวบางทีก็เลือนราง บางทีก็เด่นชัดขึ้นมาเหมือนคนจริง ๆ “คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรหรือเปล่า” เขามองอีกฝ่ายในขณะที่คิดถึงดวงตาปูดโปนรื้นน้ำตาของมารดาเธอ คิดถึงความทรุดโทรมของนายมนตรี และเมื่อรู้สึกถึงความทรมานของครอบครัว ราวกับบรรยากาศเย็นเยือกภายในห้องนี้จะยิ่งหนาวเหน็บและอ้างว้างขึ้นเท่าทวี


คงตลกดีถ้าบอกใครต่อใครว่าจิตแพทย์กำลังพูดคุยกับวิญญาณ เขาเองก็ไม่เชื่อ ทว่ารู้ตัวว่ากำลังทำมันอยู่จริง ๆ มีคำพูดมากมายที่อยากพูดออกไป อย่างเช่นว่าครอบครัวคุณกำลังเป็นห่วง หรือคุณเสียชีวิตอย่างไร แต่ก็นั่นแหละ แพรพลอยไม่มีทีท่าว่าจะตอบ


เขาอยากทำเหมือนเธอเป็นมนุษย์ แต่เธอไม่ใช่


อัตราการเต้นของหัวใจสงบลงเหมือนท่าทีของชายหนุ่ม อธิศตัดสินใจหมุนเก้าอี้หันไปหาเก้าอี้ว่างเปล่า แต่พอเขาหันกลับมามองตู้กระจกอีกที แพรพลอยก็หายไปแล้ว


ต้องการมาปรากฏตัวให้เห็นเพื่ออะไร







--------------------------------------------------







ทันทีที่ตรวจคนไข้รายสุดท้ายในช่วงเช้าเสร็จ ร่างสูงก็รีบพาตัวเองเดินผ่านบุคลากรและคนไข้ของแผนกอื่น ๆ ไปยังตึกคณะแพทย์ทันที ฝนหยุดตกแล้ว แต่บรรยากาศในวันนี้ยังคงเย็นยะเยือกและมืดครึ้มจนชวนให้รู้สึกหดหู่ บางทีเขาคงปล่อยเวลาให้ผ่านทิ้งเฉย ๆ นานเกินไป


แพรพลอยอาจไม่ต้องการให้เขายุ่งเรื่องนี้ นี่เป็นครั้งที่สามสำหรับการเจอกันถ้านับรวมเรื่องเมื่อราว ๆ สองสัปดาห์ก่อนเข้าไปด้วย แต่วิญญาณอาจเหมือนกับจิตก็ได้ เขาไม่แน่ใจนัก แต่ถ้าให้พูดในฐานะจิตแพทย์ก็คงประมาณนั้นนั่นแหละ


อธิศไม่เคยเป็นวิญญาณ ฉะนั้นแล้วเขาไม่มีทางรู้หรอกว่าดวงวิญญาณมีภาวะทางจิตซับซ้อนแค่ไหน มันอาจแบ่งแยกไม่ได้ด้วยทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมันด์ ฟรอยด์ หรือหนังสือสยองขวัญสักเล่มที่พยายามบรรยายความนึกคิดของจิตหลังความตายไว้ใกล้เคียงกับภาวะจิตไร้สำนึก แต่ถึงอย่างนั้น ในเมื่อพวกเขาสั่งการตัวเองได้ อธิศก็ขอเชื่อในทฤษฎีที่ว่าวิญญาณคือมนุษย์ไร้กายเนื้อ และถ้าให้คาดเดาจุดประสงค์ของผู้หญิงคนนั้นกับการปรากฏตัวเมื่อเช้านี้ อธิศคิดว่าเธอไม่ได้มาเพื่อจุดประสงค์เดียวกันกับที่เธอกระทำต่อชนกันต์


“สวัสดีค่ะหมอ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ”


“ผมมีเรื่องอยากรบกวน” เขาทอดสายตามองหญิงวัยสามสิบต้น ๆ หลังบานกระจกเลื่อนออกจากช่องติดต่อขนาดเล็ก “เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีนักศึกษาแพทย์ปีไหนมีการเรียนการสอนที่นี่หรือเปล่าครับ”


หล่อนนึก หันไปถามเจ้าหน้าที่รุ่นพี่ซึ่งนั่งอยู่ทางโต๊ะด้านหลังให้แน่ใจอีกครั้ง “น่าจะเป็นพวกปีสี่ปีห้าน่ะค่ะ หมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”


นั่นเป็นคำตอบที่อธิศรู้อยู่แล้ว นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งถึงปีสามจะเรียนอยู่อีกวิทยาเขต เมื่อขึ้นชั้นคลินิกแล้วจึงได้ย้ายวิทยาเขตมาอยู่ในโรงพยาบาล เขาควรเจาะจงลึกกว่านั้น


“แล้วแพรพลอยล่ะครับ เธออยู่ภาควิชาไหน”


“....”


ทั้งห้องระเบียนเงียบกริบ หญิงวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่โต๊ะทางด้านในตัดสินใจเป็นฝ่ายลุกขึ้นมาพูดคุยกับนายแพทย์เสียเองหลังจากได้ยินชื่อนั้น “หมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”


หล่อนถามซ้ำด้วยประโยคเดิมเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้อธิศก็ตีสีหน้าเคร่งเครียดเพื่อใช้ความเป็นหมอต่อรองออกไปทางสายตา


“ผมขอดูระเบียนประวัติของแพรพลอยด้วย”







เขาจัดการเปิดใบระเบียนของนักศึกษาแพทย์ปีสี่อย่างช้า ๆ มันไม่ได้เยอะถึงขนาดที่จะเสียเวลาค่อย ๆ ดูทีละแผ่นไม่ได้ หน้าค่าตาของบางคนในนี้ อธิศเองเคยเห็นผ่าน ๆ มาก่อน แต่แผนกจิตเวชสันโดษเกินกว่าจะมีโอกาสได้จดจำคนครบทั้งโรงพยาบาล


“....”


เจอแล้ว


รหัสนักศึกษาพาเธอมาอยู่ช่วงท้าย ๆ เล่มของแฟ้มระเบียน รูปบนนั้นเป็นรูปคล้ายกับที่นางสุพิศเอาให้ดู แต่น่าจะอ่อนวัยลงไปอีกสักราว ๆ สองสามปี ผมของเธอเป็นสีดำยาวมาแต่ไหนแต่ไร ผลการเรียนอยู่ระดับต้น ๆ และมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดพิจิตร


น่าเจ็บปวดตรงที่เธอเป็นลูกคนเดียว


ชายหนุ่มถ่ายรูปข้อมูลบนใบระเบียนนั้นด้วยโทรศัพท์มือถืออย่างคร่าว ๆ ถ้าลำพังตำรวจยังหาไม่เจอแล้วหมออย่างเขาจะทำอะไรได้ แต่ถึงอย่างนั้น อธิศก็คิดว่าเขาควรทำ มือแกร่งจัดการเปิดใบระเบียนต่อ ๆ ไปเผื่อว่าสามารถสุ่มเลือกไปถามเรื่องเด็กสาวจากใครสักคนในนี้ได้


“....”


หัวใจเต้นระรัวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเมื่อสายตาหยุดอยู่มุมบนขวาของระเบียนนักศึกษาคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่คุ้นตา แต่เขาจำได้ดีว่าเป็นคนที่เพิ่งไปนั่งดื่มด้วยกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง


รามิล


รีบกดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนร่วมงานทันที รอไม่นานนักปลายสายก็กดรับ เสียงทุ้มจึงรีบกรอกเสียงลงไปโดยพยายามปรับโทนเสียงให้เป็นปกติที่สุด


“เสือ ฉันมีเรื่องจะรบกวน”


และในตอนที่นำระเบียนประวัติไปคืน จิตแพทย์หนุ่มยังได้ข้อมูลใหม่เพิ่มด้วยว่าค่ายกิจกรรมของนักศึกษาปีสี่เมื่อราวหนึ่งเดือนก่อน เดินทางไปที่ระยอง







--------------------------------------------------







“รออีกสักสิบยี่สิบนาทีก็แล้วกัน เก้ายังไม่ออกเวรเลย”


ศรัณย์ถามเหตุผลตั้งแต่ในโทรศัพท์ แต่อธิศไม่ยอมบอก


มือเรียววางแก้วกาแฟดำลงบนโต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัสภายในศูนย์อาหารของโรงพยาบาล ศรัณย์ไม่ได้อยู่ในชุดกาวน์ ใบหน้าที่มักจะแย้มยิ้มนั่นดูทรุดโทรมยิ่งขึ้นภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มันแย่ยิ่งกว่าตอนไปดื่มกันเมื่อวันศุกร์ และชัดเจนดังที่คิดเมื่อดวงตาสีเข้มนั้นสะท้อนแสงไฟจากหลอดนีออนเหนือหัว ทอประกายเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังแบกโลกทั้งใบ


อธิศยกคาปูชิโนร้อนขึ้นจิบ ครั้นวางมันลงบนโต๊ะก็ยังเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่จับจ้องแก้วประดาษสีเขียวแบบเดียวกันกับแก้วตรงหน้า วันนี้กาแฟดำอาจจะไม่อร่อยเพราะอายุรแพทย์หนุ่มยังไม่ได้ดื่มมันเลยสักอึกเดียว


“นายดูเหนื่อย ๆ นะ” คนตัวสูงกว่าทัก เอนกายพิงพนักแข็ง ๆ แล้วจับจ้องอย่างที่จิตแพทย์มักจะทำเสมอเวลาต้องเจอคนไข้ แน่นอนว่าศรัณย์ไม่ชอบให้เขาใช้สายตาแบบนี้นักถึงได้ขยับเขยื้อนตัวพลางสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยสีหน้าที่ดูจะมีสติกว่าเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน


“นิดหน่อย”


“งานหนักเหรอ” อธิศถามอีก เขาแกล้งมองข้ามอาการกระสับกระส่ายของเพื่อนได้ไม่ดีเท่าไหร่


“ก็ไม่เชิง มีเรื่องให้ต้องคิดน่ะ”


เมื่อได้รับคำตอบแล้วคนถามกลับไม่ได้ต่อบทสนทนาในทันที จริงอยู่ว่าพวกหมอติดกาแฟ แต่นั่นเป็นเหตุผลรองลงมาทีเดียวถ้าเทียบกับการยกมันขึ้นดื่มเพื่อลดอาการประหม่าสำหรับการพูดคุยเครียด ๆ สักเรื่อง ยังมีเวลาอีกพอสมควรกว่ารามิลจะมาตามที่นัด เพราะศรัณย์รู้ ถึงได้แต่ชั่งใจว่าควรพูดมันออกมาดีหรือไม่


ศูนย์อาหารในช่วงเย็นคนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่แพทย์และบุคลากรในโรงพยาบาลมักมีมุมเฉพาะที่ไม่ต้องไปเบียดเสียดและคอยขยับเก้าอี้ให้ทางเพราะกลัวน้ำซุปร้อน ๆ จะหกใส่ พวกเขาสามารถไปคุยกันในที่ส่วนตัวกว่านี้ก็ได้ แต่อธิศมองว่านั่นดูจงใจเกินไปสำหรับการเริ่มต้นสอบถามอะไรบางอย่างในขณะที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ


“อันที่จริง --” เสียงนุ่มเปิดบท ทิ้งระยะราวกับจะบอกให้ผู้ฟังเตรียมใจ “ระยะนี้มีแต่เรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น”


“แปลกแบบไหน”


“ขอฉันเรียบเรียงว่าควรจะเริ่มเล่ายังไง”


ศรัณย์เคยเล่าเรื่องทำนองคล้าย ๆ กับชนกันต์ รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวและมีกลิ่นโคลนติดจมูก ซึ่งมันน่าสนใจตรงที่อธิศเริ่มให้ความสำคัญกับโคลนขึ้นมาหน่อยแล้ว ดวงตาคมแฝงแววกระสันอยากรู้ บางทีคนตรงหน้าอาจกำลังพูดไปถึงเรื่องอื่นก็ได้ ทว่าในใจของจิตแพทย์หนุ่มกลับเต้นรัวเหมือนจังหวะโหมโรงเมื่อสร้างทางเลือกขึ้นมาว่ามันอาจเป็นเรื่องเดียวกัน


“เมื่อวันก่อนตอนกลับบ้าน” เงียบไปราวสามวินาทีเพื่อเรียบเรียงคำพูดที่สื่อให้คนฟังเข้าใจได้ “ฉันขึ้นลิฟท์ไปพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เห็นกับตาว่าเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องฉัน”


“....”


“แต่พอรีบวิ่งตามไป คือ -- อาจเป็นเพราะฉันลนลานเองก็ได้ แต่ประตูเปิดไม่ออก”


“....”


“หลังจากนั้นเก้า --” ชะงักไปหลังจากหลุดชื่อคนรักออกมา อธิศไม่เคยรู้เรื่องนี้ พูดให้ถูกคือไม่มีใครรู้นอกจากเขาสองคน แต่ถึงอย่างนั้นมันคงไม่ผิดอะไรถ้ารุ่นน้องอยู่ห้องเดียวกันกับรุ่นพี่ที่สนิท “เก้าก็มา เราพักอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว”


จิตแพทย์หนุ่มยังคงเงียบฟังโดยที่ไม่พูดอะไร ร่างสูงกอดอกหลวม ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เพื่อฟังศรัณย์เล่าเรื่องประหลาดนี้ให้จบ


“เก้าใช้กุญแจของฉันเปิดประตูเข้าไปได้ง่าย ๆ แต่นายเชื่อไหม ในห้องนั้นไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ฉันไล่เช็กหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นปิดประตูใส่แค่ไม่ถึงสามนาที” ร่างผอมเล่าออกอารมณ์มากขึ้นในช่วงหลัง นัยน์ตากลมโตนั้นดูสับสน ข้องใจ และหวาดกลัวที่จะหาคำตอบ


“แล้วเก้าล่ะ เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม”


“ไม่ได้ถาม แต่คิดว่าคงไม่เห็น เด็กคนนั้นไม่ได้มีท่าทีอะไร”


พูดจบศรัณย์ก็เอนหลังพิงพนักหน้าอี้แล้วล้วงมือหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขณะที่อีกมือวางเคาะนิ้วอยู่บนขอบโต๊ะเป็นจังหวะแปลก ๆ และถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดไปเมื่อตัดสินใจพูดประโยคต่อมา


“น้ำที่ฉันกิน... ทั้งที่เพิ่งแกะซีนออกจากขวดแต่มันดันมีกลิ่นดินจนกินไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเคยเล่าหรือเปล่า แต่เก้าดื่มมันได้ปกติ” อธิศรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามใช้คำว่าดื่มหลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวกลับยิ่งดูสับสนขึ้นเป็นเท่าตัวหลังจากหันไปหมกมุ่นกับความคิดในหัว “ตอนอาบน้ำฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุดทั้งที่เก้าก็ไม่ได้ยินมัน หรือแม้แต่รูบิก”


ทำมือเป็นรูปการจับลูกบาศก์ในความคิดก่อนจะกำเข้าหากันแล้ววางลงบนโต๊ะอย่างเนิบนาบ


“มันเปลี่ยนรูปร่างเอง”


“....” ถึงตรงนี้คิ้วของคนฟังขมวดเข้าหากันเล็กน้อย พยายามไล่เรื่องจิตหลงผิดของชนกันต์และลักษณะเริ่มต้นของอาการดังกล่าวออกไปให้เป็นอีกเรื่อง


“ฉันหมายถึง -- ฉันเล่นจนมันเป็นสีเดียวกันทุกด้านก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ” ศรัณย์ละแผ่นหลังออกจากพนักก่อนใช้สองมือทำท่าบิดรูบิกลมประกอบ “แต่พอออกมามันดันสุ่มสีมั่วไปหมด”


“นายแน่ใจหรือเปล่า”


คนถูกถามพยักหน้าแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก “ถ้าฉันไม่แน่ใจ นายจับฉันส่งโรงพยาบาลบ้าได้เลย”


อธิศกำลังชั่งใจ ในหัวเขามีเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างคำว่าคนละเรื่องและเรื่องเดียวกันซึ่งตั้งท่ากระโจนกันมั่ว ความบังเอิญในเรื่องผู้หญิงกับดินโคลนค่อนข้างน่าคิด คนตรงหน้าไม่เคยรู้เรื่องชนกันต์ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาทำใจยอมรับและพยายามจะพูดคุยกับสิ่งไม่มีตัวตนเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ศรัณย์กลัวการถูกหาว่าบ้า แต่ตอนนี้มีคนที่พร้อมจะบ้ากว่าโดยที่เจ้าตัวไม่รู้


“ผู้หญิงคนนั้นลักษณะเป็นยังไง”


ใช่คนที่เขาเห็นไหม แล้วทำไมศรัณย์ถึงได้เข้ามาข้องเกี่ยวด้วย พอคิดได้อย่างนั้นก็เกิดความเป็นไปได้แย้งความบังเอิญขึ้นมาชะงัด


อาจจะไม่ใช่


ศรัณย์รู้สึกเย็นเยือกราวกับตรงนี้มีแค่เขากับอธิศ ร่างผอมเกือบจะตอบไปว่าไม่เห็น ถ้าไม่เพียงแต่ดวงตาสีดำด้านนั้นหลอกหลอนขึ้นมาในห้วงคิด หล่อนนอนกอดรามิล แต่นั่นเป็นความฝัน


“ผมยาว ใส่ชุดกระโปรงสีขาว”


“โคลนล่ะ”


“อะไรนะ” อายุรแพทย์ขมวดคิ้ว เริ่มรู้สึกว่าท่าทีของเพื่อนผิดแผกไปจากทุกที ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้เป็นแค่ผู้ฟัง “โคลน...?”


ไม่มีทางเป็นแพรพลอยหรอก อธิศคิด แต่เขากลับขัดคำสั่งตัวเองด้วยการถามออกไป


“น่าจะ เสื้อผ้าเธอค่อนข้างเปรอะ ๆ แต่ฉันไม่ได้สังเกตเสียทีเดียว”


“แล้วนายได้เห็นหน้าเธอหรือเปล่า” มือแกร่งเลื่อนลงจากโต๊ะไปจับอยู่ที่กระเป๋ากางเกงเพื่อกำโทรศัพท์เอาไว้ แค่รอให้คนตรงหน้าตอบว่าเคยเห็น แล้วทุกอย่างก็จะกระจ่างถ้าได้เอารูปที่ถ่ายมาจากแฟ้มระเบียนให้ดู


โอกาสเป็นไปได้น้อยนิด แต่เหลือเชื่อว่าในส่วนน้อยนิดนั้นคือความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเขาสี่คนอย่างปฏิเสธไม่ได้


ศรัณย์นิ่งคิด เขาบอกตัวเองให้ปักใจเชื่อว่านั่นคือความฝันและชั่งใจว่าควรเล่าดีหรือไม่ “คือ -- ฉันไม่แน่ใจนะอธิศ แต่เมื่อวันศุกร์ ฉันว่าฉันอาจจะเห็น”


“....”


“มันก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ว่าฉันอาจจะฝัน คืออาจจะไม่ใช่คนเดียวกันก็ได้ ฉันอาจจะติดตามาจากที่ไหนสักที่ แต่ --”


นายแพทย์ศรัณย์เอาแต่พูดคำว่าอาจจะ เหมือนคนติดอ่างที่พยายามพูดเร็ว ๆ เพื่อกลบเกลื่อนอาการนั้นไม่มีผิด มันไม่มีความน่าเชื่อ แต่ความรู้สึกสยดสยองแบบนั้นเขากลับจำมันได้ดีเสียยิ่งกว่าอะไร


“ฉันอาจจะเมาเกินไป”


ศรัณย์พูดคำว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย


“แต่มีผู้หญิงนอนกอดเก้าอยู่”


อธิศตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า เสียงโหมโรงในใจสั่งให้รีบสไลด์หน้าจอเปิดไฟล์ภาพล่าสุดภายในเครื่องให้เร็วที่สุด อยากรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ สิ่งที่ชนกันต์และเขาเจอนั้นยังมีความเกี่ยวข้องซึ่งทอดวงกว้างออกไปเป็นแหผืนใหญ่แค่ไหน


รูปถ่ายของแพรพลอยปรากฏอยู่บนกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าจอเล็ก ๆ แต่จิตแพทย์หนุ่มก็ต้องรีบคว่ำมันลงเมื่อเงยหน้าขึ้นพบบุคคลที่สาม







------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 02-03-2015 22:02:16
( ต่อ )





“รอนานหรือเปล่าครับ”


รามิลยืนค้ำหัวศรัณย์อยู่ นัยน์ตานิ่งสงบที่เคยทอประกายสดใสในตอนเหยียดยิ้มนั้นหม่นแสงจนดูด้านชา ถ้านับจากที่เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อสามวันก่อนแล้ว เพื่อนอายุรแพทย์ของเขาดูแข็งแรงขึ้นมาทันตาเมื่อเทียบกับคนในชุดเสื้อกาวน์


ร่างโปร่งนั่งลงยังเก้าอี้ทางฝั่งซ้ายมือของอธิศ รามิลไม่ได้พกกระเป๋ามาด้วย คงคิดว่าจะมาตามนัดเพื่อตอบคำถามบางอย่างโดยใช้เวลาไม่นาน ริมฝีปากหยักนั้นคล้ายจะเป็นเส้นตรง เดาได้ยากว่าเจ้าตัวรู้จุดประสงค์ในการนั่งลงที่โต๊ะตัวนี้หรือเปล่า


“สวัสดีเก้า” คนสูงวัยกว่าแสดงมารยาทด้วยการออกปากทักก่อน เชื่อเถอะว่ารามิลแค่ดูเหมือนจะยิ้มเท่านั้น ทั้งเสียงและท่าทางนั้นอ่อนแรง


“สวัสดีครับหมออธิศ”


รามิลดูคล้ายกับคนในภาวะไอโซเลชั่น อันเป็นกลไกการเก็บกดอารมณ์บางอย่างไว้นอกเหนือจากความนึกคิดในขณะนั้น ๆ แต่ก็แค่คล้าย ดูตลกดีที่ความเฉยชาทำให้ตีความคนไปได้หลายแบบ อธิศไม่ค่อยพอใจตัวเองในตอนนี้


ศรัณย์ขยับตัวอีกแล้ว ร่างผอมทำเหมือนตัวเองเป็นอากาศธาตุที่มีมวลสารแน่นเกินไป เขาไม่แน่ใจว่าควรนั่งอยู่ตรงนี้หรือเปล่า แต่ก็ไม่คิดว่าอธิศจะมีความลับกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่สามวัน บวกลบคูณหารความเหมาะสมแล้ว ศรัณย์เลยยอมนั่งอยู่แม้ว่าหนทางในการเดานั้นค่อนข้างดำมืด


“มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ พี่เสือบอกว่าหมอเป็นคนนัดผมมา”


“ก็ใช่” อธิศตอบ การนั่งเป็นสามเหลี่ยมทำให้เขารู้สึกหนักซีกขวา รามิลเป็นยอด ส่วนตัวเขาและศรัณย์คือฐาน “ผมแค่อยากจะถามอะไรคุณสักสองสามข้อ”


วันนี้รามิลอาจแค่อารมณ์ไม่ดี อย่างน้อยถ้าเด็กคนนี้ยิ้มสักหน่อยเหมือนอย่างตอนที่ไปดื่มด้วยกันคงดีกว่านี้ “ครับ”


สีหน้าศรัณย์เป็นคำตอบว่าเพื่อนร่วมห้องคงไม่ได้เพิ่งมีอาการแบบนี้ในตอนนี้ รามิลเหมือนคนที่กำลังหมางเมินกับทุกสิ่งและเก็บกดความคิดเอาไว้เพียงลำพัง แต่เดิมเด็กคนนี้พูดน้อย แต่ไม่เย็นชาถ้าเทียบกับปัจจุบัน


“คุณดูไม่ค่อยสบายเลยนะ”


รามิลยิ้มแบบที่ดูรู้ว่าตามมารยาท “นั่นนับเป็นคำถามแรกหรือเปล่าครับ”


ร่างสูงหัวเราะเบา ๆ ราวกับจะปัดคำถามเมื่อครู่ทิ้งไปถ้าอีกฝ่ายนับรวมมันเป็นเรื่องเสียเวลา อธิศเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง มันคงไม่ดีถ้าเป้าหมายในการสนทนาครั้งนี้เห็นเขากำลังเอารูปแพรพลอยให้ใครอีกคนดู


จิตแพทย์หนุ่มเงียบ เขาแค่ทิ้งระยะเวลาให้ดวงตาเรียวรีนั้นแสดงความใคร่รู้ออกมาอีกสักหน่อย ถ้าให้คิดเป็นคำพูดง่าย ๆ ก็อย่างเช่นว่า จะถามอะไร? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องเป็นผม? แน่นอนว่ามันไหววูบไปด้วยคำถามพวกนั้น ท่อนแขนที่ทอดเข้าไปหลังโต๊ะจากระดับสายตากำลังขยับเล็กน้อย แต่จากเส้นเลือดที่เกร็งขึ้นตามท้องแขนทำให้อธิศเดาได้ว่า ป่านนี้มือข้างใต้โต๊ะคงแดงจากแรงบีบ


รามิลแค่แสร้งทำเป็นเรียบเฉย แต่หวาดกลัวทุกสิ่งที่ถาโถมเข้าใส่


และอธิศไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นพายุ กลับกันที่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นยอดและสองคนตรงหน้าเป็นฐาน


“ค่ายที่ระยองเมื่อเดือนที่แล้วสนุกดีไหมครับ”


มันเหนือคาดที่เขาคิดว่ารามิลคงเป็นแค่เพื่อนร่วมเรียนด้วยกันธรรมดา ทั้งสองคนอาจจะไม่มีความเกี่ยวพันกันด้วยซ้ำนอกเหนือจากรู้ถึงการมีตัวตน หากตั้งแต่มาถึงนี่ รามิลเอาแต่มีพิรุธ ถ้าอธิศเป็นตำรวจคงไม่แปลกเท่าไหร่ แต่เพราะเขาเป็นคนอื่น ถึงได้แปลกที่เด็กคนนี้แสดงความกลัวต่อทุกอย่าง


คนถูกถามไม่ได้ยิ้มเก้อ ๆ แล้วตอบว่า ก็สนุกดี


“ครับ”


“คุณสนิทกับแพรพลอยหรือเปล่า”


“....” สิ้นประโยคนี้เด็กหนุ่มกลอกตาขึ้นมองเขาอย่างแปลกใจ แต่แค่ครู่เดียวก็เบือนมันไปทางแก้วกาแฟเย็นชืดของศรัณย์ “นี่หมออยากรู้เรื่องอะไรครับ”


“ผมบอกไปแล้ว”


“แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้มาถามเรื่องพลอย”


อธิศคิดว่าเขาโชคดีเหลือเกินที่จังหวะทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัวขนาดนี้ รุ่นน้องของศรัณย์ไม่ได้เอาแต่ปั้นหน้าเหรอหราและทำเหมือนไม่รู้อะไรนอกจากเพื่อนร่วมภาควิชาหายตัวไป แต่รามิลเหมือนเอาป้ายบางอย่างแปะกลางหน้าผาก น่าเสียดายที่เขายังไม่รู้ว่าคำบนป้ายนั้นกำลังบอกอะไร


“ผมมีเหตุผล”


สายตาของรามิลคล้ายจะก่นด่าลึก ๆ ว่าหมอไม่เกี่ยว ถึงอย่างนั้นร่างโปร่งก็ทำแค่หลุบสายตาลงแล้วถอนหายใจ แต่แย่ตรงที่เขาทำมันหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว


“ผมไม่รู้เรื่องพลอย”


“....”


“ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”


เป็นการโกหกคำโตที่แม้แต่ศรัณย์ยังดูออก เขายังคงนั่งเงียบและเพ่งมองคนรักที่แสร้งหมางเมินต่อทุกสายตาบนโลก ใช่ เขารู้จักรามิล รู้จักดีพอที่จะไม่ต้องฟังคำวิเคราะห์จากจิตแพทย์ว่าเด็กนี่กำลังบ่ายเบี่ยงความจริงบางอย่าง ศรัณย์เองก็ไม่คิดว่าอธิศจงใจทำให้รามิลตกอยู่ในสภาพจำเลย มันไม่มีไฟส่องลงกลางโต๊ะหรือคำข่มขู่อย่างที่เห็นในหนังอาชญากรรม รามิลโกหกไม่เก่ง เพราะรู้ตัวเองดีถึงได้เลือกไม่พูดมันออกมาแทนถ้าเป็นไปได้


อ้อแน่ล่ะ เก้าเป็นเด็กน่ารัก เว้นเสียแต่ตอนที่พยายามโกหก


“แล้วคุณพอจะรู้ไหมครับว่าเธอหายตัวไปช่วงไหน”


“ไม่รู้ครับ”


“ถ้าลองนึกดูดี ๆ ล่ะ”


“ผมไม่รู้”


“....”


“....”


“แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว”


“....!”


ครั้งนี้ใบหน้าของรามิลแดงก่ำคล้ายเด็กร้องไห้ เขาเกลียดเก้าอี้ว่างตรงข้ามเสียยิ่งกว่าอะไรในตอนนี้ มันเหมือนเป็นที่นั่งของคนนับพันซึ่งรอฟังการสารภาพบาป แต่มันไม่ใช่ความจริง! นั่นก็แค่ที่นั่งว่าง ๆ แล้วคนที่นั่งเยื้องไปทางขวานี่ก็ไม่ใช่ใครสักคนที่มีไว้เพื่อให้เขายอมพูดทุกอย่าง


เด็กหนุ่มยัดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง ไม่สนว่าเสียงเก้าอี้เลื่อนออกจะดังได้เสียมารยาทมากแค่ไหน รามิลแค่คิดว่าถ้าเขานั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปคงได้กลายเป็นจำเลยเข้าจริง ๆ หมออธิศไม่ได้ทำ – แต่ก็เหมือนทำให้มันเป็นอย่างนั้น


“ผมไม่รู้”


เสียงนั้นพูดลอดไรฟัน


“หมอไม่รู้”


เขาสูดลมหายใจลึก


“ไม่มีใครรู้ว่าพลอยหายตัวไปไหน”


“....”


“ผมขอตัว”


รามิลเดินไกลจากโต๊ะออกไปทั้งที่มือยังแดงไปด้วยเลือดฝาด จังหวะการเดินนั้นค่อนข้างแปลก มันไม่ปกติเลยหากพยายามนับจังหวะในใจทั้งที่กำลังทอดสายตามอง ร่างของเด็กคนนั้นยังไม่ทันหายลับไปจากสายตา ศรัณย์ก็ลุกขึ้นยืนตาม


อายุรแพทย์หนุ่มไม่ได้ถามไถ่ถึงจุดประสงค์ในการสนทนาครั้งนี้ ไม่ทำสีหน้าใคร่รู้ว่าอธิศต้องการรู้เรื่องนี้ไปทำไม พูดให้ถูกคือเขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ เลย ตากลมโตนั้นเต็มไปด้วยการขบคิด อธิศคาดว่ามันมหาศาล แล้วศรัณย์ก็ดูหนักอึ้งไปด้วยความรู้สึกบางอย่างในขณะที่ทอดฝีเท้าเดินตามรามิลไป


“....”


ชายหนุ่มเกรงว่าเขาคงทำเกินไป แต่ในทางกลับกันแล้วก็ทำให้ได้ข้อสรุปเพิ่มมากขึ้นอีกหลายอย่าง ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี


แล้วชนกันต์เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้







--------------------------------------------------







เสียงหัวใจกระหน่ำรัวเสียจนรู้สึกเจ็บ ถ้าเปลี่ยนมันเป็นลูกตุ้ม ชนกันต์คิดว่าเขาคงตายไปแล้ว ค่อย ๆ ลดมือซึ่งแหวกตาข้างขวาลงจนแค่แตะผะแผ่วกับใบหน้า ดูสารรูปตัวเองในกระจกอีกครั้ง ความรู้สึกที่กระแทกกระทั้นขึ้นมาคือความต่อต้าน บางทีเงาสะท้อนนี่อาจเป็นภาพลวงตาที่ทำให้เห็นว่าดวงของเขาแดงก่ำเพียงข้างเดียว


รีบเปิดก๊อกและกวักน้ำลูบใบหน้าซ้ำ ทั้งลูบแรง ๆ และประคองราวกับกลัวแตกสลาย ก่อนร่างทั้งร่างจะโน้มลงกับอ่างล้างโดยปล่อยให้มือเป็นทางผ่านของน้ำ ชนกันต์กำลังร้องไห้ ในห้องน้ำไม่มีใคร เสียงสะอื้นของเขาจึงดังก้องโดยไม่รู้จักความอายอีก


ความรู้สึกบางอย่างได้กลายเป็นปรสิต และกัดกินตัวตนจนกว่าจะยอมรับมันให้ได้







TBC





----------------------------------------------------


 :katai5:





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 02-03-2015 22:14:29
หนูกันต์ไปเอี่ยวยังไงกันล่ะนี่ คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของหนูผีหรอกนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: white shark ที่ 02-03-2015 22:35:50
โอ๊ยยย เรื่องนี้มีเงื่อนงำ
สงสารน้องชนกันต์ที่สู้ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 02-03-2015 22:47:00
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :katai4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 02-03-2015 23:07:55
ทำไมต้องพยายามสิงกันต์ มีเหตุผลอะไร
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 02-03-2015 23:11:23
คิดยังไงก็ยังคิดไม่ออก ว่าถ้าไม่ใช่รถชน รถเฉี่ยวแล้ว น้องกันต์จะไปเกี่ยวกับการตายของแพรพลอยได้ยังไง
เพราะรถมีแค่รอยข่วนขนาดที่ต้องสังเกตดีๆถึงจะเห็นก็แสดงว่าตัดเรื่องรถชนทิ้งไป
หรือจะแนวซอมบี้ แบบมีผู้หญิงต้องการความช่วยเหลือแต่น้องไม่ใส่ใจ ทิ้งไว้แล้วขับรถไปต่อ

ตอนนี้เราเริ่มกลับมาคิดใหม่แล้วว่าตกลงแพรพลอยฆ่าตัวตายจริงรึเปล่า หรือว่าบังเอิญโดนฆ่า หรือว่าอุบัติเหตุ
เพราะตามหลักแล้ว ถ้าฆ่าตัวตายป่านนี้ก็ต้องพบศพไปนานแล้ว คงไม่มีใครบ้าไปแอบฆ่าตัวตายแล้วซ่อนศพตัวเอง
นี่พยายามมโนเลเวลแปดแล้วนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-03-2015 23:23:24
เกิดอะไรขึ้นกับกันต์อ่ะ โอ๊ย!! คนอ่านอยากจะกรีดร้อง
อยากให้มาต่อเร็วๆ ถ้าเป็นไปได้ขอให้มาต่อทุกวันเลยนะคะ แทบอดใจรออ่านตอนต่อๆไปไม่ไหว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-03-2015 23:37:53
แล้วกันต์เกี่ยวยังไงงงง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 02-03-2015 23:41:37
คิดยังไงก็ยังคิดไม่ออก ว่าถ้าไม่ใช่รถชน รถเฉี่ยวแล้ว น้องกันต์จะไปเกี่ยวกับการตายของแพรพลอยได้ยังไง
เพราะรถมีแค่รอยข่วนขนาดที่ต้องสังเกตดีๆถึงจะเห็นก็แสดงว่าตัดเรื่องรถชนทิ้งไป
หรือจะแนวซอมบี้ แบบมีผู้หญิงต้องการความช่วยเหลือแต่น้องไม่ใส่ใจ ทิ้งไว้แล้วขับรถไปต่อ

ตอนนี้เราเริ่มกลับมาคิดใหม่แล้วว่าตกลงแพรพลอยฆ่าตัวตายจริงรึเปล่า หรือว่าบังเอิญโดนฆ่า หรือว่าอุบัติเหตุ
เพราะตามหลักแล้ว ถ้าฆ่าตัวตายป่านนี้ก็ต้องพบศพไปนานแล้ว คงไม่มีใครบ้าไปแอบฆ่าตัวตายแล้วซ่อนศพตัวเอง
นี่พยายามมโนเลเวลแปดแล้วนะคะ  :mew2:

เดาเก่งมากเลย เฉี่ยว แล้วไม่ได้ช่วย เลยแค้น  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 03-03-2015 00:25:40
ตื่นเต้นน เราว่าชนกันต์ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน
ขนาดรามิลยังไม่โดนหลอกเท่าเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 03-03-2015 00:26:09
โอ้ย
กันต์ยอมรับความจริงสะทีสิ
เราจะได้รู้ว่าเรื่องอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 03-03-2015 00:33:55
พี่หมออธิศคิดเหมือนน้องเลยค่ะอีกันไปเกี่ยวอะไรด้วย  :ling2: :ling2:

ปล.รอตอนที่จะเฉลยว่าอีกันเกี่ยวอะไร
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet~ ที่ 03-03-2015 05:20:13
เขียนได้ดีมากๆ เลยค่ะ
เข้ามาอ่านแบบฟลุคๆ แต่เล่นเอาเราอ่านรวดเดียวจนสว่าง
มาต่อบ่อยๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 03-03-2015 12:12:36
กันต์เกี่ยวไรด้วยอะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 03-03-2015 12:56:48
น้องกันต์จะแย่แล้ววว พี่หมอรีบมาช่วยเร็ว  ๆ
ยังไงเก้า ก็มีส่วนเกี่ยวกับเรื่องแพรพลอยหายไปแน่ ๆ ไม่มากก็น้อย
แต่น้องกันต์ของเราล่ะ ทำไมโดนหนักสุด ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
สงสารน้องกันต์ สงสารหมอศรัณย์ด้วย
แต่หวังว่า น้องกันต์จะไม่ใช่คนทำให้แพรพลอยตายนะ แงงงง  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 03-03-2015 13:10:22
นี่คือการเดาล้วน : ชนกันต์คือคนที่ทำให้แพรพลอยตาย ไม่งั้นผีสาวไม่ตามหลอกหลอนหนักขนาดนี้ แต่ตัวชนกันต์อาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นสาเหตุ
ส่วนแพรพลอยรักเก้าแน่ๆ ถึงเป็นผีแล้วก็ยังตามไม่ห่าง การแสดงออกชัดเจนว่าต้องการให้เก้าและศรัณย์ระแวงและผิดใจกัน
ส่วนเก้าคงฟันสาวแล้วทิ้งแหงๆ พอพลอยหายไปเลยระแวงไปว่าเป็นเพราะตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้แพรพลอยหายตัวไป

..... แต่อีกทางก็เหมือนเก้าจะแน่ใจว่าพลอยไม่มีทางโทรมาหาตัวเองได้ โอ๊ยยยยยย สรุปว่าไงแน่เนี่ย ..... อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก  :serius2:

อ่านไปก็กลัวไป + ลุ้นไปด้วย

ผู้แต่งเขียนได้ดีมากเลยค่ะ นับถือมากๆ เลย เนื้อเรื่องสนุกสุดๆ 
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 03-03-2015 13:18:33
หมออธิศแกก็กล้าดี มานั่งให้เห็นขนาดนั้นเราคงเลือกเป็นลมไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 03-03-2015 13:19:00
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 03-03-2015 13:58:17
สงสัย จนเครียดจะลงกระเพาะแล้วอ่ะ น้องกันต์เกี่ยวยังไง
ทำไมพลอยนางเล่นงานกันต์หนักๆ อยู่คนเดียว  :katai1:

หมออธิศครับ แนะนำให้ปรึกษา เจติญา(ผิดเรื่องแล้ว นั่นมัน รากบุญ)
แล้วก็ จูบปลอบชนกันต์อีกสักทีซิ  :hao7: :-[ :hao6:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 03-03-2015 15:13:31
คนแต่งเก่งมากกกก เราลุ้นตลอดอะ กลัวมาก

อาจแล้วสมองตึงๆตื่นตัวทั้งเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: buzeative ที่ 03-03-2015 15:57:30
ชนกันต์ = กันชน

เกี่ยวกับรถแน่นอนฟันธง และเกี่ยวกับการ "ชน" "กัน" ด้วย

ฮ่าๆๆๆๆ

สนุกมากเลยครับ น่าติดตามสุดๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 03-03-2015 15:59:18
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า เราเป็นคนขี้กลัวมาก พยายามเอาตัวออกห่างจากอะไรก็ตามที่สยองขวัญ ไม่ว่าหนัง การ์ตูน หรือนิยาย
แต่เรื่องนี้เหมือนมีแรงดึงดูดอะ พออ่านไปบทแรกแล้วก็หยุดอ่านไม่ได้ ตอนนี้ลุ้นมากกกกกก อยากอ่านต่อออ
คือชอบบุคลิกหมออธิศมาก คือช่างสังเกต และช่างวิเคราะห์ ยังกะพระเอกซีรีส์ฝรั่ง กรี๊ดด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: eveniing ที่ 03-03-2015 17:21:30
ลุ้นมากกกกก จะเป็นยังไงต่อ  :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 03-03-2015 19:44:40
กันต์เกี่ยวอาร้ายยยย  :katai4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-03-2015 20:19:40
เกิดอะไรขึ้นนนนนนน :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: on_2542 ที่ 03-03-2015 20:51:21
แพรพลอยยยยยยยยยยทำงี้ทำไมมมม
สรุปแล้วน้องกันต์เป็นอะไรกับแพรพลอยย
หมอใจเย็นมากค่ะ เป็นเรานี่ตัวแข็งค้างเป็นลมไปล่ะ5555
มาต่อเร็วๆนะคะ รออยู่เน้อออ  สนุกมากเลยยย
 :z2: :z13:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ShadowlllusioN ที่ 03-03-2015 21:25:26
 :katai1: อ่านเรื่องนี้แล้วอกจะแตก ลุ้นไปกับเรื่องราวจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 03-03-2015 21:56:22
บางที ชนกันต์อาจจะเกี่ยวข้องเต็มๆก็ได้นะ อืมมม แบบว่าไงล่ะ อาจจะเกี่ยวเต็มๆ แต่ไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดรึเปล่านะ? เก้าก็น่าจะมีส่วนรู้เห็นในการตายองแพรพลอยด้วย?

ยิ่งคิดยิ่งเลอะเทอะ 5555 แถมยังเผลอกลั้นหายใจตอนอ่านอีกเอ้า เหนื่อยมาก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 03-03-2015 22:44:31
อ่านตอนดึกๆ ได้ฟีลมากก เสียงนาฬิกาเดินยังน่ากลัว
เป็นกำลังใจให้ค่าาา
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 04-03-2015 14:26:30
ขอบคุณครับ สนุกชวนตามมาก รอนะครับ :z2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 09 』 | horror thriller (02-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ShiRaZ_Prime ที่ 04-03-2015 16:35:19
สรุปหนูผีฆ่าตัวตายหรือใครฆ่าลูก
เกี่ยวอะไรกับน้องกันต์ อร๊าย คือมันสับสน พยายามมโนแต่เวลต่ำเกินไป
เครียดนะนิ เครียด! :ling1:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 04-03-2015 20:18:22
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 10







“เก้า”


เรียวขายาวยังคงก้าวไปข้างหน้าไม่ต่างจากเวลาที่ปล่อยให้แมลงบินผ่านหู อ้อใช่ มันน่ารำคาญแล้วก็ชวนให้รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้นการหันกลับไปเพื่อปล่อยให้ศรัณย์ทำหน้าถมึงทึงแล้วออกคำสั่งก็ไม่ใช่ทางเลือกที่คิดอยากจะทำเหมือนกัน


“รามิล”


เจ้าของชื่อหยิบกุญแจที่ถือเตรียมไว้แล้วไขเปิดประตูห้องด้วยความเคยชิน ระยะเวลาระหว่างนี้ทำให้อีกคนเดินตามมาจนประชิดตัวได้ แต่ก็นั่นแหละ ศรัณย์ไม่โวยวายออกมาโจ่งแจ้งทั้งที่พวกเขากำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องหรอก รามิลเตรียมใจไว้แล้ว เพราะเมื่อไรที่หนุ่มรุ่นพี่ปิดประตูลง เขาอาจต้องโดนซักในเรื่องที่ถูกหมออธิศคาดคั้นจนกว่าจะหลุดปากพูดอะไรออกไปแน่


ร่างโปร่งวางกระเป๋า เขาได้ยินเสียงศรัณย์ปิดประตูอย่างที่คาดไว้ไม่ผิดเพี้ยน จากนั้นคือเสียงกุญแจที่ถูกโยนไว้บนโต๊ะเขียนหนังสืออย่างลวก ๆ “พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”


“ครับ” รามิลตอบเสียงเรียบอย่างที่ไม่มีทางจะเฉยชาไปกว่านี้ได้แล้ว


“เรื่องที่อธิศพูด” ไม่ผิดไปจากที่คิดสักประโยค “หมายความว่ายังไง”


ระยะเวลาจากตอนนั้นถึงตอนนี้มันนานพอให้คิดข้ออ้างดี ๆ ได้สักสองสามข้อ ถ้าไม่โง่จนเกินไป เวลาก็คงเล่นโกงจนไม่แม้แต่จะให้เขาได้พักหายใจด้วยซ้ำ


“ผมไม่รู้”


“....”


“....”


“นายโกหก”


ศรัณย์จับผิด แล้วมันถูกเผงทีเดียวเมื่อเห็นว่าคิ้วเรียวนั้นขมวดน้อย ๆ เหมือนตอนอยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีผิด รามิลกำลังไม่พอใจ นั่นคือสิ่งเดียวที่เขามีสิทธิ์รู้ในขณะตัดสินใจยกเวลาพักผ่อนทั้งหมดในค่ำคืนนี้ให้กับเรื่องที่อีกฝ่ายไม่ต้องการพูด


“แพรพลอยเป็นใคร” เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบ ริมฝีปากที่บางอยู่แล้วยิ่งเม้มสนิทจนเหมือนเป็นแค่เส้นตรง ๆ เท่านั้น แล้วมันก็น่าหงุดหงิดเสียจนคนอายุมากกว่าต้องใจร้อนถามออกไปอีกรอบ “ว่าไงเก้า”


“....”


“นายจะให้พี่ทำใจเชื่อว่ามันไม่มีอะไร ทั้งที่นายแสดงความบริสุทธิ์ใจแทบตายอย่างนี้น่ะเหรอ” ศรัณย์ประชด ก่อนหน้านี้เขาพยายามแล้วกับการไม่งี่เง่าพูดอะไรพรรค์นี้ออกไปในขณะที่รามิลทำตัวน่าสงสัยเต็มแก่ แล้วการยอมปิดปากเงียบโดยไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเพื่อนร่วมงานอย่างอธิศนั่นก็มากพอสำหรับความไว้ใจที่ศรัณย์มีให้คนรักของเขา


รามิลควรจะโมโหและพูดมันออกมา ซึ่งมันไม่เกิดขึ้นง่าย ๆ เขารู้


เด็กหนุ่มพยายามทำใจให้สงบเท่าที่จะทำได้ ทั้งสูดลมหายใจลึก ทั้งตรึกตรองให้ถ้วนถี่ก่อนจะกล้าเอ่ยคำพูดสักประโยค หมออธิศน่ะน่ากลัวก็จริง แต่ไม่ใช่คนที่ยืนบึ้งตึงจ้องเขาเขม็งอยู่ตรงหน้า รามิลปลอบใจตัวเอง อย่างน้อยศรัณย์ก็ยังไม่รู้อะไรอย่างที่จิตแพทย์คนนั้นอาจจะรู้


“อธิศพูดถึงเรื่องเด็กผู้หญิงที่ชื่อพลอย” ศรัณย์ทวนมันราวกับช่วยฆ่าเวลาระหว่างให้อีกคนคิดหาคำตอบ “แล้วก็เรื่องค่ายที่ระยอง”


นายแพทย์หนุ่มขนลุกวาบเมื่อคิดย้อนขึ้นไปกอนหน้านั้นว่าพวกเขาได้คุยกันเรื่องผู้หญิงชุดขาวด้วย ถ้าปะติดปะต่อแบบมั่วซั่วคือแพรพลอยตายแล้วจริง ๆ แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีทางเป็นเรื่องเดียวกันไปได้หรอก ความบังเอิญไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น


รามิลยืนตัวสั่น ลมระเบียงอาจจะแรงเกินไป


ศรัณย์นึกขึ้นมาได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่รามิลลืมปิดประตูระเบียงก่อนออกจากห้อง ขอบคุณที่เขาไม่ได้เกิดมามีนิสัยรักความสมบูรณ์แบบจนเกินไป ไม่อย่างนั้นการต้องเดินไปปิดมันให้เรียบร้อยในระหว่างสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้คงเสียอารมณ์พอดู


คนถูกถามเอาแต่ทำตัวน่าหงุดหงิด เงียบ เงียบ แล้วก็เงียบซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับทุกคำถามของเขา จะให้ประชดประชันเซ้าชี้ขึ้นมาอีกมันก็ไร้เหตุผล เขาไม่อยากทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ


“เก้า...” ศรัณย์เริ่มใช้ไม้อ่อน เสียงเรียกนั้นอ่อนระโหยคล้ายวอนขอ


“พี่จะอยากรู้ไปทำไม” ได้ผล รามิลยอมโอนอ่อนตาม เขายอมแพ้ถ้าต้องเอาชนะด้วยการยืนกดดันกันตลอดทั้งคืน “พี่ไม่เคยละลาบละล้วงเรื่องของผม”


“แต่นายแสดงออกว่ามันเป็นความลับ --” ศรัณย์สวนตอบ พยายามใจเย็นในแบบที่คนอายุมากกว่าควรทำ “มันเป็นเรื่องสำคัญ”


“แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะยื่นมือเข้ามายุ่งอยู่ดี!”


รามิลทำเหมือนคนที่อยากแค่นหัวเราะประชดชีวิตเต็มแก่ แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของเขา เด็กหนุ่มอยากจบบทสนทนานี้แต่ก็คิดอะไรไม่ออกนอกจากนอนคลุมโปงและหันหลังให้กัน แต่ความเป็นจริงคือพวกเขายังคงยืนอยู่ ร่างโปร่งผ่อนลมหายใจให้เบาลง ตรงข้ามกับวงกลมสีดำใหญ่ ๆ ซึ่งเต้นตุบอยู่กลางใจ เก็บมันมาได้นานเท่าไรก็อยากจะเก็บมันไว้ต่อไปเท่านั้น


“ผมไม่อยากทะเลาะกับพี่เรื่องนี้” คำพูดรามิลค่อนข้างได้ผลเสมอเมื่ออายุรแพทย์หนุ่มเกิดย้ำเตือนตัวเองขึ้นมาว่าอายุมากกว่าอีกฝ่าย แล้วยังไง สิ่งพิสูจน์ความเป็นผู้ใหญ่คือการยอมจบมันไปง่าย ๆ และให้ความลับนั้นผูกติดกับรามิลตลอดไปอย่างนั้นหรือ ศรัณย์พยายามเล็งหาความถูกต้อง แต่มันผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ระหว่างความรักกับความจริง


เสียงลมหวีดหวิวด้านนอกชวนให้รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เสียดายที่คิดผิดไม่เดินไปปิดมันก่อนหน้านี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังหวาดระแวงกับอะไรอยู่ สิ่งที่เขาควรกลัวในตอนนี้ก็คือระเบิดความจริงก้อนใหญ่ซึ่งอาจกำลังทิ้งตัวลงมาต่างหาก โอเค รามิลพูดถูกเรื่องที่พวกเขาไม่ควรจะมาทะเลาะกันด้วยเรื่องส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง เด็กตรงหน้าตัวสั่นโงนเงนเหมือนกับคนยืนตรงแทบไม่อยู่ ดวงตานั้นแดงก่ำและสั่นระริกเช่นเดียวกับตอนพูดคุยกับอธิศ กลับกันที่ตอนนี้เป็นเขาซึ่งไว้ใจว่ารามิลเป็นเพียงวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง


ศรัณย์เดินไปหยิบกุญแจรถบนโต๊ะ ทุกก้าวที่เดินเขาได้แต่หวังว่าในใจจะสงบลงสักขั้นหนึ่ง แต่ก็นั่นแหละ เขาแค่กำลังพยายามอยู่ พยายามไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้ในฐานะคนอื่น รามิลมีสิทธิ์ปิดมันไว้ แต่เขาไม่มีสิทธิ์รู้


แล้วถ้าความลับนั้นมันร้ายแรงล่ะ เขาจะรับไหวหรือเปล่า


จะกอดเด็กคนนี้ไว้แน่น ๆ แล้วแค่ดุว่าทำไมไม่บอกกันแต่แรกใช่ไหม


หลังจากนั้นก็แก้ปัญหาไปด้วยกันเหมือนอย่างที่เคยทำ


“พี่จะไปไหน”


รามิลถาม แต่แพทย์หนุ่มแน่ใจว่าเขาไม่ได้กำลังถูกรั้งหรอก ร่างผอมกลอกตาขึ้นมองเพดานคล้ายชั่งใจครั้งสุดท้าย มือยังคงกุมกุญแจรถอยู่บนพื้นโต๊ะเย็นเยียบ ไม้ชื้น ๆ ก็เหมือนความคิดในตอนนี้ มันดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนตราบใดที่แค่มองด้วยตาเปล่า แล้วรามิลก็เหมือนความชื้นในอากาศ มันน่าหงุดหงิดเหลือเกินสำหรับคนที่ไม่ชอบฝน
ลมพัดแรงขึ้นอีกแล้ว ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าฝนคงสาดซัดลงมาอย่างไม่ต้องสงสัย


“ไปข้างนอก” เขาตอบเสียงเรียบ


“แต่ฝนกำลังจะตก”


รามิลพูดอย่างคนรู้ดีเสมอ นั่นคือสิ่งหนึ่งที่ศรัณย์หลงเด็กคนนี้หัวปักหัวปำ “นายรู้ว่าพี่ชอบหรือไม่ชอบอะไร”


“....”


“แต่ทำไมถึงยังโกหกล่ะเก้า?”


สิ้นคำมือเรียวก็หยิบเอาชีทที่วางซ้อนกันบนโต๊ะขึ้นมาปึกหนึ่ง มันถูกแทรกอยู่ระหว่างตรงกลาง มีไฮไลท์สีชมพูสลับเหลืองขีดอยู่หลายจุดในหน้าแรก เขาไม่เคยยุ่มย่ามกับโต๊ะเขียนหนังสือของรามิลเลยสักครั้ง ไม่แม้แต่จะสอดส่องสายตาผ่านในยามที่เดินเฉียดไปมา ใช่ เขาก็แค่เพิ่งเห็นคำว่า แพรพล -- โผล่พ้นออกมาเพียงเล็กน้อยในตอนที่ศรัณย์นึกขึ้นได้ว่าจะมีอะไรที่เขาเกลียดได้มากกว่าฝน


คำโกหกไง


ศรัณย์เกลียดการโกหก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่เขาไว้ใจ


“เป็นไปไม่ได้...” รามิลหลุดพึมพำเสียงแผ่ว


คนมองรู้สึกวาบชาไปทั้งร่างเพียงแค่เห็นเส้นไฮไลท์อย่างที่เขาไม่ชอบอยู่บนแผ่นชีทตรงหน้า เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเห็น ไม่สิ ต้องไม่มีทางเห็นแน่ เพราะรามิลเป็นคนเอามันไปทิ้งกับมือเมื่อหลายวันก่อน เขาเก็บทุกอย่างที่เป็นชื่อแพรพลอยใส่ถุงขยะสีดำ แล้วก็ตุบ หย่อนลงไปทางช่องทิ้งขยะข้างบันได และตอนนี้มันควรถูกเผาทิ้งอยู่ที่โรงกำจัดขยะ แต่มันดันวางแทรกอยู่ระหว่างชีทของอาจารย์บนโต๊ะที่เดิม!


ศรัณย์ไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าของนายแพทย์เพียงแค่พยักรับราวกับตอนที่เขาบอกว่าอยากไปค้างติวหนังสือที่หอเพื่อน ต่างกันก็แค่ตานั้นไม่ได้มองสบตอบกันอย่างเคย ร่างผอมวางชีทในมือลงบนโต๊ะไม้เย็นชื้น แล้วก็คว้าเอากุญแจรถขึ้นมากำไว้ในมือ


รอยร้าวน่ากลัวกว่าการเตะลูกฟุตบอลโดนกระจกแตกตรงไหน?


ตรงที่เราไม่รู้ว่ามันจะแตกลงมาเมื่อไร อาจเป็นตอนที่กำลังหลับสบายและฝันหวานถึงอาหารมื้อเช้าในวันหยุด หรือฝันว่ากำลังกอดกับแฟนเก่าที่เลิกรากันไปได้สามวัน และจากนั้นมือของเราก็ไปสะกิดโดนมันเบา ๆ


เพล้ง


แตกลงมาไม่รู้ตัว


รามิลรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางโคลนดูดไม่มีผิด มันลึกลงไปและมีศรัณย์ยืนทำสายตาว่างเปล่าอยู่ที่ปากหลุม ผู้ชายคนนั้นเหนื่อยที่จะเค้นความจริงใจจากเขาแล้ว


“พี่อยากรู้ใช่ไหม”


เขาพูดมันขึ้น ทำให้คนที่กำลังจะเปิดประตูออกไปจำต้องชะงักมือที่หมุนลูกบิด  ค้างไว้ เสียงฟ้าร้องดังโหมโรงสำหรับพายุฝนในค่ำคืนนี้ แต่น่าแปลกที่ศรัณย์ยังได้ยินเสียงหอบหายใจของคนรักชัดเจน


รามิลรั้งไว้ด้วยประโยคที่คิดมาตลอดว่าคนตรงหน้าคงไม่อยากได้ยิน


“เพราะผมเลือกพี่ไง” เสียงสั่นเครือนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกพยางค์ที่เอ่ยปาก


ดวงตาแดงก่ำ แสงจากฟ้าแลบทั้งด้านนอกก็คล้ายกำลังโอบกอดเด็กหนุ่มจากด้านหลัง ทั้งรุนแรง เกรี้ยวกราด และสร้างเงาทะมึนบนใบหน้าอ่อนโยนนั้นอย่างที่ศรัณย์ไม่เคยเห็นมาก่อน เสียงหวีดหวิวของลมแรงเหมือนปฐมบทความจริงทุกอย่าง


ชายหนุ่มพอจะรู้แล้วว่าผู้หญิงชุดขาวที่เคยเจอนั้นเล่นซ่อนแอบอยู่ส่วนไหนของห้องนี้ เขาถึงหาไม่เจอสักที


“เพราะว่าเลือกพี่ ผมถึงได้ทำแบบนั้นกับพลอย”


ผู้หญิงคนนั้นซ่อนอยู่หลังรามิลมาตลอด








--------------------------------------------------








“กันต์”


ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกพลางหันมองเจ้าของเสียงทุ้มนุ่มซึ่งกำลังผุดลุกจากม้านั่ง ข้างตัวร่างสูงคือกระเป๋าสัมภาระและแล็ปท็อปที่มักจะพกมาทำงานทุกวัน หมออธิศอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนเหมือนเมื่อเช้า ในมือมีสมาร์ทโฟนซึ่งกำลังถูกหย่อนลงกระเป๋าอย่างไม่เร่งรีบ


“ตาคุณ?” จิตแพทย์เอ่ยถามทั้งที่ยังเดินมาไม่ถึงตัวเขาเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งชนกันต์จะขอโทษขอโพยถ้าอธิศมานั่งรอเขาออกเวรที่ม้านั่งหน้าห้องยาแบบนี้ แต่ก็อย่างที่คิดไว้


วันนี้มีแต่ความผิดปกติ


มือเล็กรีบยกขึ้นขยี้ตาข้างขวาคล้ายจะหาทางปกปิดมันไว้ทั้งที่รู้ว่าสายไปแล้ว สัมผัสอุ่นทาบทับลงบนมือเขา ค่อย ๆ จับมันลดลงจนเห็นคิ้วขมวดมุ่นนั้นเต็มสองตา


“คุณไม่ควรทำแบบนี้” อธิศปล่อยมือจากอีกฝ่าย แล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนขึ้นมาประคองซีกหน้าขวาเอาไว้เบามือ “ไปหาหมอจักษุหรือยังครับ” ชนกันต์ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ทำเพียงแค่กระชับสายสะพายเป้ให้แน่นขึ้นด้วยความประหม่า


“แล้วเจ็บไหม หรือว่าแค่เคืองตา”


คนถูกถามส่ายหน้าอีก เขาคิดว่าควรจะพูดอะไรออกไปสักอย่าง ไม่อย่างนั้นก็คงถูกหมออธิศจ้องหน้าอยู่อย่างนี้ มันน่าอึดอัดแม้ว่าเป็นความหวังดีก็ตาม “ผมอาจจะแค่ขยี้มันแรงเกินไป”


“....” อธิศยอมถอยตัวออกไป ไม่เคยเห็นชนกันต์มีนิสัยชอบขยี้ตาถึงจะเป็นตอนที่เจ้าตัวกำลังอ้าปากหาวหวอดก็เถอะ แต่วันนี้เขาทำตัวเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไปแล้ว ถ้านับเรื่องที่พยายามเค้นความจริงจากรามิลเมื่อตอนเย็น


ร่างสูงเพียงเดินกลับไปหยิบสัมภาระบนเก้าอี้มาถือไว้ในมือเท่านั้น ระหว่างทางเดินไปลานจอดรถก็ล้วงหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงมาถือเตรียมพร้อมเอาไว้ด้วย เขาเดินอยู่ข้างหน้าเสมอ แล้วชนกันต์ก็เอาแต่หลบเลี่ยงสายตาในตอนที่ถูกหันไปมองด้วยความพะว้าพะวง


มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น


อธิศรู้ แต่เขายังไม่คิดพูดอะไรออกไป


การมีสีแดงติดอยู่ในกรอบสายตานั้นชวนให้นายแพทย์รู้สึกแปลก ๆ คล้ายกับถูกทิ่มแทงด้วยอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ชนกันต์อาจแค่เส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก มันเกิดได้ง่ายมาก แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้พยายามทำตัวให้เป็นปกติอย่างที่เคยเป็น


แสงไฟสีขาวแสบตาภายในโรงพยาบาลค่อย ๆ ไกลออกไปแล้ว อธิศไม่เคยรู้สึกกระวนกระวายใจเท่านี้มาก่อน เขาทำเหมือนทุกที กดรีโมทปลดล็อกรถในระยะสามเมตรแล้วเปิดประตูเบาะหลังเพื่อนำสัมภาระของตัวเองและคนข้าง ๆ วางเก็บอย่างเป็นระเบียบ   คำว่าระเบียบก็แค่ความมั่นใจว่าวางแบบนี้แล้วมันจะไม่พากันเทตกลงมาจากเบาะถ้าหากเขาลองเหยียบเบรกกะทันหันสักทีสองที หันไปเห็นร่างเล็กยืนแก้ ๆ กัง ๆ แล้วก็ยิ่งทวีความใคร่รู้มากยิ่งขึ้นไปอีก ชนกันต์ไม่มีสติเอาเสียเลย เดือดร้อนเขาต้องแตะต้นแขนเบา ๆ จนร่างนั้นสะดุ้งโหยง


“....”


อธิศคิดจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอีก ทางเดินเล็ก ๆ ที่ทอดไปสู่ชนกันต์นั้นตันไปด้วยเรื่องของรามิลซึ่งอัดแน่นอยู่เต็มหัว เหตุการณ์วันนี้เขาก็แค่รู้เยอะขึ้นนิดหน่อย ซึ่งน้อยมาก และมันไม่ได้ช่วยให้กระจ่างขึ้นมาสักเรื่อง


“อยากหาอะไรกินก่อนกลับคอนโด ฯ ไหม” ท้ายสุดนายแพทย์ก็เอ่ยคำถามขึ้นมาเขาสตาร์ทรถ ค่อย ๆ ถอยแล้วก็เลี้ยวลงไปตามทางลาดสู่ชั้นล่างของตัวตึก การขับรถวนเป็นก้นหอยชวนให้เวียนหัวเสมอ


จนแล้วจนรอดชนกันต์ก็ไม่ได้ตอบจนถึงทางออกโรงพยาบาล ข้างนอกคงอากาศเย็นพอสมควร ฝนตกปรอย ๆ กระทบกับกระจกหน้าเป็นด่างดวงจนเจ้าของรถต้องกดเปิดระบบการทำงานของที่ปัดน้ำฝน การจราจรในตอนหัวค่ำคลาคล่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าฝนตกเช่นเดียวกับตอนนี้ อธิศทำได้แค่หมุนพวงมาลัยเอื่อย ๆ และเหยียบคันเร่งโดยแทบไม่ต้องออกแรง เขาปล่อยให้บรรยากาศในรถเงียบกว่าเสียงข้างนอก เลือกจมอยู่กับความคิดตัวเอง ในเมื่อชนกันต์ยังต้องการโลกส่วนตัวด้วยการนั่งเหม่อมองทิวทัศน์เฉย ๆ


มีเรื่องอะไรที่จะต้องวิตกจริต?


เขาอยากถาม แต่เขาก็ล้มเลิกมันไปตั้งแต่ห้านาทีก่อน


สิ่งที่ได้จากรามิลมีสองข้อ โอกาสความเป็นไปได้ที่แพรพลอยจะหายไประหว่างค่ายที่ระยองมีความเป็นไปได้สูงและรามิลมีความเกี่ยวพันกับเรื่องนี้อย่างน้อยก็ครึ่งตัว อธิศไม่แน่ใจว่าศรัณย์รู้เรื่องนี้หรือไม่ เบื้องต้นเขาเดาว่าไม่รู้ และข้อสันนิษฐานนี้ยิ่งทวีความเป็นไปได้หากอีกฝ่ายติดต่อกลับมาในเร็ว ๆ นี้


ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจิตแพทย์หนุ่มจะปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้ เขาควรต้องตามซักถามเพื่อน ๆ ของเด็กสองคนนั้นมากขึ้น หรือให้พอจำกัดความสัมพันธ์ที่รามิลมีต่อแพรพลอยได้ ย้อนคิดไปถึงเรื่องเมื่อเช้า การที่คนนอกอย่างเขาถูกปรากฏกายให้เห็นแบบนั้นย่อมต้องมีความหมายแน่


วิญญาณคงพูดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องน่าจะง่ายกว่านี้


อธิศคิดติดตลกในใจ




ปัง




“...!”


ชนกันต์สะดุ้งเฮือก ร่างของใครบางคนถูกชนเข้าอย่างจังจนกลิ้งหลุนไปทางด้านหลัง อธิศยังคงขับรถด้วยความเร็วปกติ มือหนึ่งท้าวระหว่างสันกรามกับประตูรถ และดวงตาคมปลาบก็ไม่ได้สนใจจะหันกลับไปมองร่างที่เพิ่งขับปะทะจนเกิดเสียงดัง ร่างเล็กเอี้ยวใบหน้าไปมองข้างหลัง รถราในช่วงเย็นยังคงขับกันปกติและไม่มีวี่แววของอุบัติเหตุดังเช่นที่เกิดในกรอบสายตาเขา เด็กหนุ่มปล่อยตัวเองจมลงกับพนักเบาะ ดวงตาลึกโหลของเขาปูดโปนและพยายามบอกตัวเองว่าแค่ตาฝาดไป


“หมอ...”


อธิศหันมาส่งสายตาเป็นคำถาม คิ้วนั้นเลิกขึ้นน้อย ๆ มันไม่นานนัก แต่นัยน์ตาไม่ได้แสดงความผิดแผกไปจากเดิมจนกระทั่งมันหันกลับไปจดจ่อกับถนนเบื้องหน้าต่อ เห็นอย่างนั้น คำว่าหมอเห็นอย่างที่ผมเห็นไหม ถึงได้ถูกกลืนหายไปในลำคอ


“....”


บ้าเอ๊ย


ชนกันต์สบถคำนี้ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ป้ายทะเบียนของรถคันข้างหน้าไม่ได้ทำให้ใจเขาสงบขึ้น มันก็แค่สงครามประสาทโง่ ๆ


ไม่มีอยู่จริง


ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงหรอก



ร่างหญิงสาวในชุดสีขาวโผล่ออกมาจากข้างทางราวกับมีประตูมิติ เสี้ยวหน้านั้นยังไม่ทันหันมาทางนี้ ร่างทั้งร่างก็ปะทะเข้ากับรถยนต์สีขาว ปัง จนกลิ้งกระเด็นผ่านกระจกหน้าไปทางด้านหลังรถ อธิศไม่ได้ขยับมือที่ท้าวอยู่กับสันกรามดังเช่นก่อนหน้า แพทย์หนุ่มยังดูปกติดีทุกอย่าง


เหงื่อเย็นซึมชื้นตรงขมับทั้งที่ในรถช่างเย็นยะเยือก เด็กหนุ่มได้แต่ฝังตัวเองให้จมเข้าไปกับพนักเบาะยิ่งกว่าเก่า ชนกันต์อยากปิดตาลงเหมือนที่พึมพำไปว่าไม่มีอะไร ถึงอย่างนั้นดวงตากลับถ่างมองข้างหน้าราวกับภาพฉายซ้ำ ๆ


ปัง


เรือนผมสีดำสยายเต็มหน้ารถก่อนร่างในชุดเดรสสีขาวเปรอะจะกระเด็นกระดอนไปทางด้านหลัง คล้ายมือนั้นพยายามยึดตัวรถเอาไว้ แต่นอกเหนือจากครั้งแรกแล้ว ชนกันต์ก็ไม่ได้เหลียวมองตามอีก อธิศขับรถที่ความเร็วระดับเก้าสิบ มันไม่ช้าแล้วก็ไม่เร็วเกินไปสำหรับคนที่คุ้นชินเส้นทางและระยะห่างระหว่างรถแต่ละคันก็มากพอสมควร ชนกันต์นึกอยากจะให้รถติดกันเป็นเบือเหมือนเมื่อสิบนาทีก่อน แต่เขาก็กลัวเหลือเกินว่าการชนครั้งต่อไปจะไม่ได้พาร่างนั้นกระเด็นไปเบื้องหลัง


ถ้าเป็นคนขับเสียเอง เขาสาบานได้ว่าคงเหยียบคันเร่งจนมิด


เหมือนกับคืนนั้น


ปัง


เย็นยะเยือกไปทั้งตัวเหมือนกำลังยืนอาบอยู่กลางสายฝน ดวงตาแดงก่ำคล้ายจะเต้นตุบ ๆ ทุกครั้งที่เห็นว่ามีใครบางคนกำลังจะวิ่งโผล่ออกมาจากหลังป้ายโฆษณา


“พอ...”


หางตาชื้นด้วยน้ำอุ่น ๆ จากความหวาดระแวง แล้วก็อย่างที่กลัว


ปัง


หล่อนวิ่งออกมาและพยายามคว้าเอาที่ปัดน้ำฝนเอาไว้ในตอนที่กระเด็นกระดอนไปด้านหลัง มือของชนกันต์ชื้นเหงื่อ กระเป๋าเป้ร้อนเหมือนไฟในตอนที่เขาบีบจับมันเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวเดียว เรียวขาที่พยายามยกขึ้นชันแนบกับลำตัวนั้นหนักอึ้ง เขาเกลียดความรู้สึกในตอนที่เหมือนมีแมลงนับพันไต่อยู่ตามตัว


ปัง


“พอแล้ว...”


เสียงของชนกันต์สั่นเครือ


ปัง


“พอที...”


เหมือนจะตายให้ได้


ปัง


รถหยุดลงข้างทางในที่สุด เส้นผมสีดำขลับยังสยายอยู่เต็มหน้ารถ ชายกระโปรงเปื้อนโคลนไหลลู่ไปตามแนวน้ำไหล ที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงาน ตรงข้ามกับร่างบิดเบี้ยวซึ่งกำลังพยายามขยับเขยื้อนจนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าด


“....”


น้ำตาไหลพรากเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีดำด้าน แก้มซึ่งนาบอยู่บนกระจกนั้นเปื้อนโคลนเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ที่ปาดเปื้อนเป็นรอยปื้นยาวสีน้ำตาล


ตุบ


ตุบ


เอี๊ยด



มันดังอยู่อย่างนั้น


หล่อนดูทุกข์ทรมานเหลือเกินในการพยายามหยัดตัวขึ้นเพื่อจับจ้องดวงตาสีดำด้านนั้นให้สบกับเขา ร่างกายบิดเบี้ยวไม่เข้าที่เข้าทาง แต่เส้นผมที่ขดเป็นวงอยู่หน้ากระจกตัดกับชุดสีขาวเปรอะนั้นช่างเป็นภาพที่สยดสยองเกินกว่าจะเอาชนะได้


น้ำตาคลอหน่วงขึ้นมาบดบังภาพตรงหน้าให้เลือนลาง ชนกันต์ฝืนปิดเปลือกตาลง เขาไม่กล้ามอง ไม่แม้แต่จะอยากได้ยินเสียงขยับเขยื้อน


ทว่าตาของเขาถูกถ่างเอาไว้


อาจจะด้วยความหวาดกลัวทั้งหมดที่มี หรือมือเย็น ๆ ซึ่งกำลังแนบอยู่สองข้างแก้ม


“....”


เสียงแหบพร่าไม่ได้เล็ดลอดออกมานอกเหนือจากลมหายใจ


ไม่ไหวแล้ว


แล้วลมเย็น ๆ ก็ผะแผ่วที่ข้างใบหู




‘จำได้หรือยัง?’




“กันต์!”


น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม ตรงหน้าเขาคือหมออธิศที่กำลังร้องเรียกและใช้สองมือใหญ่บีบกระชับต้นแขนเพื่อเรียกสติ นายแพทย์หนุ่มดูกระวนกระวาย ครั้นสองสายตาสบกัน อธิศก็ถอนหายใจราวกับโล่งอกที่เขาไม่ได้ไหลตาย


เมื่อครู่ก็แค่ภวังค์ฝัน


แค่เรื่องโกหก หลอกลวง และเป็นสงครามประสาทโง่ ๆ


“คุณเป็นอะไร ไหวหรือเปล่า”


คนอายุมากกว่าถามด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงทาบสัมผัสอุ่น ๆ ลงบนใบหน้า จับจ้องดวงตาแดงก่ำที่เจ้าตัวหงุดหงิดนักหนา


“หมอ...”


เสียงแหบพร่าสั่นเครือ ชนกันต์เห็นดวงตาคมปลาบของหมอไม่ชัดนัก ทุกอย่างอยู่หลังม่านน้ำตา และเขาคงจะตายได้ง่าย ๆ ถ้าหากว่ามีอะไรชัดเจนขึ้นมาหลังจากที่อธิศช่วยซับมันออกให้ ความรู้สึกของแมลงนับพันยังไม่จางหายไป มันกระจายตัว กัดกิน และหลอมร่างทั้งร่างให้หมดเรี่ยวแรงอย่างน่าขนลุก


จำได้หรือยัง?


ศีรษะเล็กโคลงเคลงจนเซลงกับอกแกร่ง เสื้อของอธิศเปียกเป็นวง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยถ้าเทียบกับสิ่งที่ชนกันต์จะพูดมันหลังจากนี้


“หมอ...”


“....”


“ผม...”


“....”


“ผมฆ่าคน”


“....”


“....”


“คุณพูดอะไร?”


อธิศไม่อยากเชื่อหูตัวเอง มือที่เป็นหลักให้คนตรงหน้ายังทรงตัวอยู่ได้นั้นอ่อนแรงลง หลังพูดประโยคเมื่อครู่ เด็กหนุ่มก็เอาแต่ร้องไห้จนตัวโยน ก่อนหน้านี้ในหัวมีแต่เรื่องของรามิล แต่ตอนนี้เขาแค่ต้องลูบศีรษะอีกฝ่ายไปมาทั้งที่ทุกห้วงความคิดพร้อมใจกันดีดตัวขึ้นจนวุ่นวาย ในหัวของอธิศไม่เป็นระบบระเบียบ ราวกับการสันนิษฐานทุกอย่างพังทลาย แวบหนึ่งที่เรื่องรูบิกสุ่มสีมั่วของศรัณย์เด่นชัดขึ้นมา ในหัวของจิตแพทย์หนุ่มมีแต่สีแสบสัน


“....”


ร่างทั้งร่างชาวาบไปชั่วขณะเมื่อสายตาหันไปเห็นบางอย่างนอกตัวรถ


เขาเลื่อนมือไปสับปิดที่ปัดน้ำฝน สายน้ำค่อย ๆ ไหลปิดภาพผู้หญิงชุดขาวซึ่งยืนห่างออกไปให้พร่ามัวจนกระทั่งมองไม่เห็นอะไรอีก


“บอกผมมา กันต์” เสียงทุ้มกระซิบบอกข้างหูคนในอ้อมกอด อธิศไม่รู้ว่าผลลัพธ์ในคืนนี้จะเป็นไปในทางไหน หากชนกันต์เกี่ยวข้องกับแพรพลอยจริง ทุกอย่างก็คงกระจ่างในไม่ช้า “เล่าทุกอย่างที่คุณรู้”


กดศีรษะอีกฝ่ายลงกับแผ่นอกแนบแน่นขึ้น


“ผมอยู่กับคุณ”






TBC





----------------------------------------------------


เรื่องมาเกินครึ่งทางแล้วนะคะ  :man1:




หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 04-03-2015 20:28:28
ชอบมากเลยค่ะ...น่าติดตามมาก...แต่บทสรุปจะเป็นเช่นไรนา...
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 04-03-2015 20:50:43
อ๊ากกก ตัดฉึบทรมาณใจ  :sad4: น้องกันต์ไปทำอะไรมา ทำไมถึงบอก
ว่าตัวเอง ฆ่าคนตาย  :ling1: :ling1: :ling1: กลับมาต่อเดี๋ยวนี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 04-03-2015 20:51:23
เป็นผีที่จองเวรมากกกก ใครคือคนที่ฆ่าาาา :katai5: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-03-2015 20:52:03
อืม ดูเหมือนว่ารามิลจะเป็นคนหักอกแพรพลอย ส่วนชนกันต์เป็นคนขับรถชน (รึเปล่า)
แล้วด้วยอะไรก็ตาม อาจเป็นความกลัว ตกใจ หรือรู้สึกผิด จิตใจของกันต์ก็สั่งให้ตัวเองลืม (อย่างงี้รึเปล่า)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 04-03-2015 20:58:57
น่าจะเป็นแบบ #222 ว่า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: eveniing ที่ 04-03-2015 21:00:03
สงสารกันต์   :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: buzeative ที่ 04-03-2015 21:13:23
ชนกันต์ กันชน รถชน รอยที่กันชน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 04-03-2015 21:20:29
โอ๊ยยยย เเงงงงงงงง ลุ้นนนน :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 04-03-2015 21:34:49
กรี้ดดดดด น้องกันต์ หนูขับรถชนคนแล้วลืมหรอลูก???!?
ต้องให้คุณผีมาตามระลึกความทรงจำ
รามิลคงเกี่ยวกับการหายตัวไปของน้องผี
น่าติดตามมากเลยค่า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-03-2015 21:40:40
ค้าง........     :z3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 04-03-2015 21:43:25
รู้สึกว่าที่เราเดาเอาไว้เล่นๆ จะเข้าเค้านะเนี่ย 5555  :mew4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 04-03-2015 22:00:09
เดาเกือบถูกเฉยๆแหะ.. นึกว่าชนกันต์เฉี่ยวตกคลองเฉยๆไม่งั้นจะจำอะไรไม่ได้ได้ยังไง
นี่เล่นชนเอาตรงๆเลยเหรอ..  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: nawa masaki ที่ 04-03-2015 22:09:05
กรี้ดดดดดดด   :z3:      แทบดิ้นตายเพราะเรื่องนี้เลยค่ะ  T^T  กลัวก็อ่านรู้สึกติดใจ ขนาดล็อกอินมาบวกเป็ดเลย
มาต่ออีกน่ะคะะะะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 04-03-2015 22:23:44
อะไร ยังไง น้องกันต์ทำอะไรไว้กันแน่เนี่ย โดนหนักกว่าชาวบ้านเขาขนาดนี้  :ling1:
ดีที่น้องมีพี่อธิศอยู่ข้าง  ๆ ตลอดนะ พี่หมออบอุ่นมาก ๆเลย
เห็นภาพซ้ำ ๆ ที่ผู้หญิงวิ่งมาให้รถชนเนี่ย สมควรจะสติแตกจริง ๆ นั่นแหละ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 04-03-2015 22:45:50
^ โดนเบากว่าคนอื่นแล้วค่ะ o22
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 04-03-2015 23:35:52
me and น้องกันต์ :z6:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 04-03-2015 23:37:14
กันต์ชนแพรพลอยหรอ ชนตอนไหนอะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: NiNJA ที่ 04-03-2015 23:57:36
คือลุ้นอ่ะ คนเขียนแต่งได้ดีจังค่ะ ชอบมากกก รอต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 05-03-2015 00:23:46
อั้ยยะ ตกลงน้องกันต์ขับชนจริงอ้ะ แล้วทำไมตัวรถถึงมีแค่รอยข่วนอ่ะ  :katai1:
คือเรามีประสบการณ์ชนคนเพราะถูกวิ่งตัดหน้ารถมาแล้ว เราค่อนข้างแน่ใจว่ามันไม่มีทางมีแค่รอยข่วน
ไม่แน่ใจว่ารถน้องกันต์คือรถอะไร แต่เราคิดว่าถ้าเป็นรถญี่ปุ่นน่าจะต้องมีบุบบ้างล่ะ
ยิ่งถ้าเป็นรถยุโรปต้องอาการหนักกว่าแค่บุบมาก เพราะระบบเซฟตี้จะทำให้กระโปรงรถดีดขึ้นมาเพื่อลดแรงกระแทกของคนที่โดนชน
ซึ่งสภาพรถหลังจากนั้นจะสยองประหนึ่งรถชนรถเลยทีเดียว  :mew5:

แต่ไอ้ที่บอกซ่อนอยู่หลังรามิลเนี่ย ขี่คอด้วยรึเปล่านะ ชัตเตอร์ลอยมาเต็มๆ 555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 05-03-2015 00:31:21
กับเก้าเราว่านางอาจทำเรื่องเลวร้ายนะ
แต่กันต์นี่ยังไง ขับรถชนเขารึป่าว
มาต่อไวไว ยยยย
งอมแงมล่ะจร่าาา
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 05-03-2015 01:05:01
อ่านตอนนี้แลัวอิชั้นจะหลับลงมั๊ย  :katai4: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 05-03-2015 02:13:25
กลัวครับ แต่ชอบ  น่าติดตามมากๆ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Death_note ที่ 05-03-2015 03:29:15
กำลังหนุกเลยยย มาต่อไวไวนะครัช

จะรออ่านน สงสารกันต์มากกก ToT'
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 05-03-2015 07:16:14
ถ้ามีรอยเหมือนข่วนที่ข้างรถเราคิดว่าไม่ใช่แค่ชนมั้งคะ น่าจะทับด้วย..
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 05-03-2015 07:40:39
คลายปมแล้ว เข้มข้นมาก รอนะครับ สนุกมากๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ผายลม888 ที่ 05-03-2015 10:10:40
เรื่องนี้มีกลิ่นอายคล้ายกับของคุณภาคินัยเลยเห็นภาพชัดเหมือนกัน
เราชอบพฤติกรรมกับบุคลิกของตัวละครเรื่องนี้นะ
เฮ่อ แต่ทั้งเรื่อง ดูท่าบางทีชนกันต์อาจจะเป็นเหยื่อที่โชคร้ายกว่าหมอเสือซะอีก สุดท้ายนี้เอาใจช่วยหมอโรคจิตยอดนักสืบ

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ZEZEN ที่ 05-03-2015 11:36:08
อย่าทำแบบนี้นะคะ เราคิดว่าคุณต้องเคยได้อ่านข้อความนี้แน่

Over deeds determine us, as much as we determine our deeds.
การกระทำตัดสินเรา เท่ากับที่เราตัดสินใจกระทำ

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 05-03-2015 11:42:30
อ่านไปขนลุกไป กลัวผีและเรื่องสยองมาก แต่ก็ชอบอ่าน
ให้ความรู้สึกเหมือนดูชัตเตอร์ + I miss you รวมกันเลย
ตอนพิมพ์คอมเม้นต์ก็ยังขนลุกอยู่ 555
ทุกคนน่าสงสารจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 05-03-2015 11:55:25
 :ling1: ตายจริง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 05-03-2015 11:55:36
สงสารทุกคนเลยนะนี่...
ไม่ว่าจะคนเป็นหรือคนตาย...
แต่ต้องมาดูเหตุและผลว่าเป็นมายังไงเนอะ..
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 05-03-2015 12:22:58
รามิลไม่ได้ฆ่าแพรพลอยแน่ๆ ส่วนแพรพลอยน่าจะโดยรถของกันต์ชน แล้วกันต์ไม่รู้ว่าชนคนรึเปล่า ?
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujung ที่ 05-03-2015 13:39:56
อ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองหลง  หลงเข้ามาอ่านได้ยังไง  :katai4: :katai4: หลอนสวดๆ  แต่ในเมื่อหลงแล้วก็หลงเลยละกันนะ  ชอบๆจิตนาการตามได้เป็นช้อทๆเลย  ยัยแพรพลอยนี้ก็ร้ายเหลือเกิน :katai1: ชอบมาให้หลอนแบบไม่มีเหตุผล    จะรอดูว่าสุดท้ายใครจะเป็ฯผู้ร้ายตัวจริง   :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 05-03-2015 14:21:00
กันต์ชนเต็มๆเลยอ่าาา !! ลืมไปได้ไงเนี่ย ผีต้องมาทวนความจำให้ซ่ะงั้นนน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 05-03-2015 15:19:29
นั่นไง! นั่นไงเล่า เอาล่ะ เหมือนแต่ละคนค่อยๆโดนแฉว่ามีส่วนร่วมยังไง สนุกมาก ลุ้นสุดๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noockie ที่ 05-03-2015 17:50:59
ดีอะ ชอบ   :m11:

ติดตามอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 05-03-2015 18:48:17
โอ๊ย...ตื่นเต้น ตื่นเต้น ..
อ่านรวดเดียวจบเลย..
อยากรู้..จะว่ากลัวก็ได้นะถ้าเราเป็นชนกันต์..
แต่เพราะเราเป็นเรา..เลยอยากรู้ให้ได้ว่าเพราะอะไร..เป็นไรเป็นกัน.ผีก็ผีว๊ะ.#เลือดบ้าเยอะ
ชอบหมออธิปนะ..นิ่ง สุขุม..สมกับเป็นจิตแพทย์
มาต่อเร็วๆนะคะ...อยากรู้ความจริงอ่ะค่ะ..
แต่เราว่ารามิลเป็นฆาตกร
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เกสรทอง ที่ 06-03-2015 00:19:20
โอ้ยยยยยยย คือจนตอนนี้ก็ยังติดใจการบรรยายคู่ เก้า เสือ ตอนทะเลาะกันอยู่ คือภาษาดีมาก สื่ออารมณ์ดีสุดๆ อ่านละแบบ ลึกเข้าไปใจจิตใจของทั้งสองคนเลย มีมิติมากๆ ดูจริงมากๆ นี่ถ้าบอกว่าเป็นพระเจ้ามองดูเรื่องจริงที่กำลังเกอดขึ้นอยู่ณสถานที่แห่งหนึ่งก็เชื่อนะเนี่ย ดีจริงๆถึงขนาดทิ้งหนังสือมาเม้นเลย ชอบตอนนั้นมากๆจริงๆ ขอฉากที่มีมิติ และก็บรรยายคมลึกแบบนี้อีกนะครับ

ชอบตอนที่เสือคิดในใจว่ากลัวจะรับความจริงอันโหดร้ายไม่ได้ กับตอนที่เปรียบรอยร้ายกับกระจกแตกมากๆครับ บรรยายความรู้สึกไม่ถูกเลย แต่มันถึงอารมมากๆ

แต่งเรื่องใหม่ๆภาษาสวยๆแบบนี้ดยอะๆนะครับ มันทั้งสวย และก็ลื่นมาก ไม่ได้เว่อวังจนอ่านตามยาก แต่มันละเอียดจนเข้าใจได้ในรอบเดียว

 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 06-03-2015 02:28:17
เพราะมีเหตุ จึงมีผลเช่นนี้นี่เองงงงงงงงงงงงง :a5: o22 น่ากลัวเหมือนเดิมค่ะะะะะะ สนุกมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 06-03-2015 15:32:29
เข้ามาดันค้าา
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 06-03-2015 15:59:06
โง้ยๆๆๆๆๆๆ กันตต์ฆ่าแพรวพลอยจริงๆด้วย โหยๆ
สมควรโดนหนักๆแล้ว รามิลนี่ก็อีกคน ไปทำไรพลอยเค้าไว้เนี่ย
อยากอ่านต่อแล้วววววว มาต่ออีกไวๆน้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 06-03-2015 22:47:46
บรื๋ออออออออ หลอนมากค่า โดยเฉพาะฉากรถชนนี่ T^T กลัวก็กลัว แต่อยากอ่านก็อยาก ฮือๆๆๆๆ คืนนี้ไม่กล้าอาบน้ำแล้ววววว
คนแต่งใจร้าย มาต่อเลยนะๆ ค้างงง ดีนะไม่ได้นอนคนเดียว
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 07-03-2015 04:06:19
อีหนูผีแพรพลอยนี่น่ากลัวจิงๆค่ะ  :ling3: :ling3:  อ่านไปจะเป็นโรคประสาทตามกันต์    :katai1: :katai1:
ปมกำลังเริ่มคลี่คลายแล้ว  อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ  รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ  :impress: :m13:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 07-03-2015 13:10:38
วันนี้จะมามั้ยอ่ยย
รออยู่นะคะะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 07-03-2015 14:59:15
พึ่งอ่านจบ บอกได้คำเดียวสนุกมากกกกกกกก  :L2:

น่ากลัวมากกกกกกกก  :hao5:

รอตอนต่อไปจ้ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 07-03-2015 15:10:52
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:เข้ามารอออออออออ :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 07-03-2015 19:49:29
อ่านเรื่องนี้แล้ว...ชวนแอะสุดๆ  แต่อ่านแล้วก็หยุดไม่ได้  อ่านไปสยองไป ผะอืดผะอมไป   :oak:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 07-03-2015 23:19:23
โอยยยย ทั้งหลอนทั้งลุ้น
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: GarGee ที่ 08-03-2015 02:56:31
อร๊ายยยยย
ตามอ่านตอนล่าสุดทันแล้ววววว
มาปักหมุดค่ะ  :hao5:
สนุกมากกกก หลอนนน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: « ‡± ÚêKí ±‡ » ที่ 08-03-2015 05:36:35
ผมอ่านเรื่องนี้ตอนประมาณตี4 .. และก็อ่านมาถึงตอนปัจจุบัน
... หลอน .. หลอนมาก
      ... คือเนื้อเรื่องมันชวนให้คิดเยอะ แต่ผมชอบนะ
              ... ไม่เคยอ่านเรื่องแนวๆนี้ด้วยแหละ เอาจริงอ่านไปก็หลอนไป
                        .. เก่งมากครับ เป็นกำลังใจให้ ...
                   ... รีบมาต่อเลยนะครับ ตอนนี้ค้างมาก ...
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 08-03-2015 12:34:24
รออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 09-03-2015 09:04:59
มาต่อได้แล้ววววววว ลุ้น
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 09-03-2015 17:12:18
รอออออออออออออออ
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 10-03-2015 00:23:00
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 11







คืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด สายฝนที่โปรยปรายลงมายิ่งทำให้บรรยากาศภายในรถ หนาวเย็นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ชนกันต์เลื่อนมือไปเปิดวิทยุและหมุนหาคลื่นที่ชอบด้วยความรู้สึกเอื่อยเฉื่อยผิดจากปกติ อ๋อแน่ล่ะ เขาอยากทิ้งตัวลงบนที่นอนในห้องเต็มแก่ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ยังต้องขับรถฝ่าฝนอยู่กลางถนนเปลี่ยว ๆ ซึ่งทอดยาวเข้าสู่เมืองหลวง ตามกำหนดการเดิมแล้วเขาตั้งใจจะถึงกรุงเทพ ฯ ก่อนฟ้ามืด แต่ก็นั่นแหละ การเจอเพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่แทบไม่ได้ข่าวคราวกันเลยนับเป็นโอกาสหาได้ยาก นอกจากเจตน์ที่เรียนอยู่ในกรุงเทพ ฯ แล้ว ก็มีพัฒน์นี่แหละที่เขาเต็มใจควักกระเป๋าซื้อเบียร์มานั่งดื่มด้วยต่อให้รู้ว่าต้องขับรถกลางคืนก็ตามที เผลอ ๆ ฟ้าก็มืดแล้ว ชนกันต์ดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าเป็นเวลาทุ่มเศษ พรุ่งนี้เขาเข้ากะเช้า เพราะอย่างนั้นการแลกเปลี่ยนโซเชียลเน็ตเวิร์คและเบอร์โทรศัพท์ก่อนจะพากัน แยกย้ายค่อนข้างเป็นทางเลือกที่ดีกว่า


ระยะทางจากสัตหีบไปถึงกรุงเทพ ฯ ใช้เวลาโดยรวมประมาณสองชั่วโมงถ้าชินทาง ระหว่างนั้นชนกันต์แอบพกเบียร์กระป๋องและวางมันไว้ที่ช่องใส่แก้วถัดจากเกียร์ออโต้ จะหาว่าเขาทำผิดกฎหมายเพราะดื่มเบียร์ติดลมก็ช่างเถอะ ถนนสายนี้น่ะมีด่านตรวจเสียที่ไหนถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลที่รถเยอะเป็นพิเศษแล้วล่ะก็


พูดแล้วก็ขนลุก เมื่อวานในตอนที่กำลังจ่ายยาให้ผู้ป่วยตามปกติก็ดันมีเตียงฉุกเฉินถูกเข็นผ่านหน้าห้องยาไป ผู้หญิงโชกเลือดคนนั้นจ้องเขาเขม็ง อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากนั้นเตียงคลุมผ้าขาวก็ถูกเข็นออกมาอีกรอบ แล้วยังไงต่อ คืนนั้นชนกันต์นอนฝันร้ายไง รู้ถึงไหนอายถึงนั่นว่าเขาเป็นผู้ชายที่กลัวผียิ่งกว่าอะไรดี


พอเห็นถนนโล่ง ๆ เท้ามันก็หนักขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ รถยนต์สีดำทะยานไปบนถนนลื่น ๆ ด้วยความเร็วที่เรียกได้ว่าปกติสำหรับบนทางด่วน นึกเสียใจขึ้นมาที่ไม่รีบกลับตั้งแต่ฟ้าสว่าง แล้วป่ารกชัฏข้างทางก็ไม่ได้ช่วยผลักดันความรู้สึกให้เป็นไปในทางบวกสักเท่าไร


ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสองทุ่มกว่า


ชนกันต์ปล่อยให้เบียร์คลายความเย็นทิ้งเฉย ๆ ตั้งแต่เมื่อห้านาทีก่อน ไม่ล่ะ เขาไม่ควรดื่มมากไปกว่านี้ถ้ายังอยากถึงแมนชั่นโดยสวัสดิภาพ และภายในสิบกิโลเมตรนี้ก็ควรแวะปั๊มน้ำมันสักที่เพื่อทิ้งหลักฐานให้เรียบร้อยก่อนโชคร้ายเจอด่านตรวจในเส้นตัวเมืองชลบุรีหลังจากที่พลาดขับเลยปั๊มก่อนหน้า ใจอ่อนหยิบมาย้อมใจอีกสักอึกเพราะนึกเสียดายขึ้นมาถ้าจะต้องทิ้ง


เอาน่า พอถึงปั๊มแล้วค่อยเอาน้ำลูบหน้าลูบตาก็ยังได้


“....!”


หากแต่ดวงตากลับต้องเบิกโพลงเมื่อเห็นร่างไหว ๆ สีขาวกระโจนออกมาจากข้างทาง สายฝนไม่ได้ทำให้เขามองเห็นชัดนัก และชนกันต์ก็มีเวลาไม่ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำในการยั้งคิด


กระป๋องเบียร์ยังไม่ทันถูกวางยังที่ที่มันควรอยู่ เท้าขวาเหยียบเบรกจนมิด แต่ถนนลื่นเกินกว่าจะช่วยสนับสนุนแรงเสียดทานให้ทำงานเป็นปกติอย่างที่เคยเป็น จำต้องหักเลี้ยวทั้งที่ไม่แน่ใจนักว่ามันปลอดภัยหรือเปล่า ซึ่งเขาใช้เวลาในการลังเลมากไปหน่อย


ปัง


ร่างสีขาวหายไปจากกรอบสายตาหลังแรงปะทะ รถของชนกันต์หมุนคว้าง สามหรือห้าวินาทีนับจากที่เสียงเมื่อครู่ดังเต็มสองหู ไกลออกมาสิบเมตรหรืออาจจะมากกว่านั้น จนกระทั่งมันหยุดสนิทเฉียดขอบพื้นยางมะตอยไปราวสองคืบ ขอบคุณสวรรค์ที่รถเขาไม่ได้ไหลคว่ำลงข้างทางอย่างที่นึกกลัว กลิ่นแอลกอฮอล์จากเบียร์ยี่ห้อโปรดคละคลุ้ง ชนกันต์รีบวางมันลงในขณะที่หอบหายใจอย่างหนัก เมื่อกี้เป็นอุบัติเหตุ


เขาชนคน?


ให้ตายเถอะ คนดี ๆ ที่ไหนจะมาตากฝนอยู่ตรงป่านอกเมืองแบบนี้


ร่างเล็กสูดลมหายใจลึก ความกล้าที่มีแทบจะไม่เพียงพอด้วยซ้ำสำหรับการบังคับสายตาตัวเองให้เหลือบขึ้นมองกระจกมองหลัง มันต้องแย่แน่ ๆ ถ้าเกิดมีร่างใครสักคนนอนอยู่ตรงนั้น


ชนกันต์ให้เวลาตัวเองอีกห้าวินาที


หากแต่ห้าวินาทีหลังจากนั้น เขาพบกับความว่างเปล่า


“บ้าน่า...”


นาทีนี้ควรมีประโยคขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธ์ดี ๆ สักประโยคมาปลอบใจตัวเอง แต่ก็นั่นแหละ เขาคิดไม่ออกเลยสักอย่าง ยิ่งตอนที่กลั้นใจเหลียวตัวกลับไปมองข้างหลังแล้วเห็นว่าถนนทั้งสายมีแค่เม็ดฝน ทิวเขาด้านหลังแทบกลืนไปกับความมืดของผืนฟ้า ขนตามร่างกายก็ลุกซู่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


“....”


เขาเจอสิ่งที่กลัวที่สุดเข้าให้แล้ว ปลายเท้าเหยียบคันเร่ง ให้ตายก็ไม่มีวันย้อนกลับไปตรงนั้นอีกเป็นอันขาด


วันนั้นมีแต่ความผิดพลาด ชนกันต์เพิ่งตระหนักได้เดี๋ยวนี้เอง








----------------------------------------------------








“คุณแน่ใจนะว่าไม่เห็นอะไรเลย”


เสียงทุ้มถามซ้ำ อธิศปล่อยให้แก้วกาแฟคายความร้อนออกอย่างเสียเปล่าทั้งที่เพิ่งดื่มไปได้แค่สองอึก พอเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้ารับ คิ้วสองข้างก็ขมวดเป็นปม


“มันจะเป็นไปได้ยังไง” เขาสบถกับตัวเองเบา ๆ ในขณะที่เคาะโต๊ะใช้ความคิด แสงสีส้มจากหลอดไฟเหนือหัวไม่ได้ทำให้ใจของจิตแพทย์หนุ่มสงบขึ้นอย่างที่ได้พยายามช่วยอีกฝ่าย ร้านกาแฟมีคนพลุกพล่าน ถึงไม่ได้ช่วยสร้างสมาธิแต่ก็ช่วยเรียกสติของชนกันต์คืนมาจนสามารถเล่าเหตุการณ์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้ อย่างน้อยเสียงดนตรีบอสซ่าก็คงน่าฟังกว่าเสียงพายุฝนเป็นไหน ๆ


“ผมคิดว่าตัวเองถูกผีหลอกตั้งแต่ตอนนั้น เลยไม่ได้เอะใจอะไร”


จนถึงตรงนี้คนเล่าก็ยังไม่แน่ใจ ในดวงตาสีดำสนิทยังแฝงความคลางแคลงอยู่กลาย ๆ ต่อให้เพิ่งถูกทวนความจำด้วยความสยดสยองเกินคาด หลักฐานคือรอยข่วนเล็ก ๆ ที่รถซึ่งชนกันต์ไม่แน่ใจนักเรื่องสาเหตุการเกิด แต่ว่าที่เภสัชกรก็ยังไม่สามารถใช้ความจำและความคิดที่มีวิเคราะห์ออกได้อยู่ดีว่าร่างนั้นหายไปในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีได้อย่างไร


“คุณชนเธอเข้าจัง ๆ เลยหรือเปล่า” อีกฝ่ายช่วยลงรายละเอียด


“ไม่ครับ แค่เฉี่ยว” เขาเลียริมฝีปากแห้งผาก ท่าทางหลุกหลิกและตาข้างขวาก็ยังแดงก่ำเหมือนมีเลือดสาดละเลงอยู่ในนั้น “พอเดาได้ว่าเป็นผู้หญิง แต่ผมไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น”


“....”


อธิศนิ่งคิด ดวงตาคมปลาบทอดมองมือเรียวเล็กซึ่งกำลังบีบกันแน่นและเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างกันทุกสองวินาที นานพอสมควรกว่าชนกันต์จะยอมสงบ


ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงก่อน หันไปเห็นเด็กคนนี้ตัวแข็งทื่อเหมือนกับคนที่พร้อมจะช็อกขึ้นมาได้ทุกเมื่อ น่ากลัวว่าอาจเป็นไฮเปอร์เวนทิเลชั่นซินโดรม ถ้าหาข้อต่างก็คงเป็นมือนั้นไม่ได้จีบเกร็งแต่กลับขยำกระเป๋าบนหน้าตักแน่นจนเป็นรอยยับยู่ สายตาของชนกันต์จับจ้องไปเบื้องหน้า แต่สำหรับอธิศแล้ว เขาไม่เห็นว่าท้องถนนมีอะไรผิดปกติ


ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทางแล้วหันไปสะกิดเรียกคนข้าง ๆ ชนกันต์น้ำตาไหล เหม่อลอยเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ความคิด อธิศจึงต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่งในการเขย่าตัวเรียกจนกระทั่งร่างเล็กยอมหันมาทั้งน้ำตานองหน้า ครู่ใหญ่ที่เขาต้องกอดปลอบประโลมกว่าคนในอ้อมกอดจะยอมสงบลงได้ เสียงนั้นพูดจาอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่องสลับกับเสียงสะอื้น


อธิศเห็นหล่อน เขาจึงไม่ถามอีกว่าชนกันต์ร้องไห้ทำไม


หลุบมือที่เคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะมาไว้บนหน้าตัก ภาพซ้อนตอนที่ศรัณย์ทำเช่นเดียวกันทำให้ชายหนุ่มได้สติ


“เธอคือแพรพลอย”


“....!”


นายแพทย์จับสายตามองคนตรงหน้า เก็บทุกรายละเอียดอากัปกิริยาหากว่ายังมีความจริงอะไรปิดบังซ่อนอยู่


แต่ก็ไม่พบ


ชนกันต์ห่อไหล่เล็ก ๆ เข้าหากันราวกับเป็นปราการปกป้อง เนื้อแขนนูนขึ้นมาเหมือนหนังไก่ แสดงออกชัดว่าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงออกมาจากปากของคู่สนทนา


“หมอรู้ได้ยังไง”


อธิศแค่ยิ้มรับคำถามนั้น “ที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ทำไมเธอถึงไปอยู่ที่นั่น” เขาพูดต่อ ไม่ได้เว้นจังหวะสำหรับการขบคิดคำถาม “แล้วหลังจากที่ถูกคุณขับรถเฉี่ยว ร่างของเธอหายไปไหน” ค่อย ๆ วิเคราะห์ข้อสงสัยออกมาทีละจุด แต่จนแล้วจนรอดก็ยังตันจนไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้เสียทีเดียว “เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนอื่นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”


“ยังไงครับ”


“ผมเองก็ไม่รู้ ตอนนี้ความคิดในหัวมันค่อนข้างสะเปะสะปะ” เขาเคาะขมับเบา ๆ จริงอยู่ที่ถนนเข้ากรุงเทพ ฯ ระยองและชลบุรีเป็นสายเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้น --


Rrrr


โทรศัพท์ดังแว่วเป็นเสียงที่ค่อนข้างอุดอู้ ร่างสูงยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วจึงดึงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตสั่นระริกคล้ายคนที่เพิ่งเล่นเกมสุ่มโชคชนะ ความคิดก่อนหน้าก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วก็แตกฟองหายไป “ว่าไงเสือ”


( อธิศ นายอยู่ที่ไหน )


ปลายสายถาม ตอนนี้อธิศคงเรียบเรียงความคิดได้ลำบากจริง ๆ เขาถึงตอบช้ากว่าเคย “ร้านกาแฟแถวพระรามเก้า มีอะไรหรือเปล่า”


น้ำเสียงศรัณย์ฟังกระอักกระอ่วน


( มาเจอกันหน่อยได้ไหม ) เดาได้ไม่ยากว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ศรัณย์อาจรู้อะไรบางอย่างแล้วก็ไม่ได้ลังเลที่จะปิดบังมันอีกต่อไป ( เก้าอาจจะสนิทกับเด็กที่ชื่อพลอยจริง ๆ )


“แล้วนายอยู่ไหน” เสียงทุ้มสวนขึ้นทันทีหลังอีกฝ่ายคายสิ่งที่รู้ หัวใจเต้นเร็วขึ้นเพียงแค่คิดได้ว่านี่เป็นหนทางเข้าใกล้ความจริงไปอีกก้าว กลองทอมบ้าดังตึงตังอยู่ในอก


( ฉันเพิ่งขับรถออกมาจากคอนโด ฯ ได้สักพัก เรากลับไปเจอกันที่นั่นก็ได้ อีกสักสิบห้านาทีนายคงจะถึงใช่ไหม )


“ได้ สิบห้านาที” เขาตอบรับ แล้วศรัณย์ก็วางสายไป


อธิศหยิบกุญแจรถบนโต๊ะขึ้นมาไว้ในมือ ในขณะที่หยัดตัวลุกขึ้นจึงสังเกตเห็นแววตาคลางแคลงของคนตรงหน้า ชนกันต์ยังไม่พร้อมไปไหน ร่างเล็กกล้า ๆ กลัว ๆ หลังจากรู้ว่าต้องออกไปจากแสงไฟอบอุ่นนี้อีกครั้ง


“หมอ...”


“ครับ?”


“ผมขอถามอะไรหมอสองเรื่องได้ไหม” คนถามเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ดูหวาดกลัวเกินกว่าจะมองไปโดยรอบได้เต็มตา “ทำไมหมอถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ --”


เด็กหนุ่มละเว้นชื่อเอาไว้ ไม่เข้มแข็งพอจะเรียกชื่อของสิ่งที่เพิ่งปั่นประสาทตัวเองจนกระเจิงไปเมื่อชั่วโมงก่อน


“ผมขอบอกคุณหลังจากที่ได้รู้อะไรมากกว่านี้แล้วกัน” อธิศตอบ ไม่ใช่ว่าปิดเป็นความลับหรือให้รู้ทีหลัง แต่เพราะตอนนี้เป้าหมายในอีกสิบห้านาทีข้างหน้าตามคำนัดของศรัณย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถึงอย่างนั้นเขาก็รอจนชนกันต์ถามคำถามต่อมา “อีกข้อล่ะครับ”


จมูกแดง ๆ ของเด็กหนุ่มรั้นขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนคนที่พร้อมจะเปลี่ยนใจไปถามเรื่องอื่นได้ทุกเมื่อ “อาจฟังดูฟุ้งซ่านไปหน่อย แต่ถ้าผมชนคนตายขึ้นมาจริง ๆ”


“....”


“ผมต้องติดคุกกี่ปีครับ”


คนถูกถามเงียบไปครู่หนึ่ง ร่างสูงทิ้งตัวลงบนที่นั่งซึ่งยังเหลือไออุ่นจากอุณหภูมิของร่างกายเมื่อสักครู่ มือของคนตัวเล็กยังกอบกุมกันเป็นรูปร่างต่าง ๆ เห็นอย่างนั้นจิตแพทย์หนุ่มจึงยื่นมือออกไปกุมทับมันไว้ด้วยสองมือซึ่งใหญ่กว่า เขาปลอบประโลมให้ชนกันต์หายเกร็ง ค่อย ๆ แกะคลายมันออกแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นจับประสานไว้ตรงระดับสายตา  ปลายนิ้วโป้งลูบเข้ากับสันกระดูกหลังมือช้า ๆ “อย่าเพิ่งคิดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด”


ตาข้างขวายิ่งแดงก่ำเหมือนเลือด ลมหายใจกระตุกขาดช่วงคล้ายคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ “ผมกลัว...” แรงบีบตอบที่มือแน่นขึ้นจนอธิศต้องยกอีกมือขึ้นประกบมันไว้แนบแน่น อย่างน้อยในตอนที่ชนกันต์ล้มลงไป เขาก็ยังสามารถคว้าไว้ได้ทัน


“ตอนนี้เรายังไม่รู้อะไรแน่ชัด”


“....”


“แต่ต่อให้ผลออกมาแล้วคุณเป็นผู้กระทำผิดจริง”


“....”


“ผมก็อยู่ข้างคุณครับ”


มือของอธิศอบอุ่นเหลือเกิน ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาช่วยเยียวยาความรู้สึกปวดหนึบในใจของเด็กหนุ่ม เขาไม่สามารถทำใจไม่คิดอะไรอย่างที่คนตรงหน้าว่าได้ ถ้าอธิศบอกว่ามีทางออกเขาก็จะเชื่อ ถึงมันเป็นแค่คำโกหกปลอบใจให้สามารถครองสติเอาไว้ได้ก็ตาม ไม่เป็นไร ชนกันต์ปลอบใจตัวเอง แม้ว่าสิ่งที่พบเจอจะร้ายแรงเกินคณานับ


“แล้วนี่หมอจะไปไหนครับ”


นายแพทย์แย้มยิ้มบาง ค่อย ๆ ฉุดร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนด้วยกัน “ไปถามความจริงที่เหลือจากนายเก้า”
อธิศไม่ได้ตอบว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนักศึกษาแพทย์คนนั้น แล้วเขาก็ไม่ยอมปล่อยมือคนข้างตัวจนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องขับรถ








----------------------------------------------------








แสงไฟจากรถราที่ผ่านไปมาไม่ได้ทำให้หัวใจและความคิดของศรัณย์สงบขึ้น หนำซ้ำมันยังยิ่งว้าวุ่นและไขว้ทับกันจนกลายเป็นปมยุ่งเหยิงเหมือนดักแด้ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นคือตัวอะไร อาจจะเป็นอีกตัวตนหนึ่งของรามิลซึ่งเขาไม่เคยรู้จัก


‘เพราะว่าเลือกพี่ ผมถึงได้ทำแบบนั้นกับพลอย’


มือเรียวบีบนวดขมับเบา ๆ ด้วยความคาดหวังว่ามันจะช่วยลดอาการปวดศีรษะลงได้บ้าง คำพูดร้ายกาจนั่นวิ่งพล่านอยู่ในหัว เหมือนตลกร้ายที่ขำไม่ออก เพราะศรัณย์ไม่เคยได้ยินชื่อแพรพลอยมาก่อนด้วยซ้ำ


โทรศัพท์มือถือวางอยู่เบาะข้างตัว หลังจากวางสายอธิศ เขาก็ไม่ได้หยิบมันขึ้นมาอีก ตาที่เคยทอประกายสดใสทอดมองไปข้างหน้า เขาไม่ชอบสายฝน แต่ตอนนี้กลับเหมือนเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันดีขึ้นมายังไงยังงั้น


ไม่เคยเหงาขนาดนี้มาก่อน


นั่นคือสิ่งที่อายุรแพทย์หนุ่มกำลังคิด หลังจากแน่ใจตัวเองแล้วว่ายังรู้จักคนรักไม่ดีพอ ศรัณย์จำวันแรกที่เจอกับรามิลได้ เด็กคนนั้นอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายแล้วก็ดูตื่นเต้นกับชุดกาวน์สีขาวของอินเทิร์นมากเป็นพิเศษ เพื่อนของรามิลเป็นน้องชายเพื่อนเขาอีกต่อ เพราะอย่างนั้นเวลาว่างที่เหลือจากการเข้าเวรตลอดเจ็ดวัน ศรัณย์จึงกลายเป็นพี่ติวและเล่าเรื่องชีวิตการเป็นนักเรียนแพทย์อยู่ถึงพักใหญ่ ๆ


เขาจูบรามิลครั้งแรกในวันที่อีกฝ่ายบอกว่าสอบติดแพทย์แล้ว หลังจากนั้นตลกดีที่ทั้งคู่ต่างคุยเรื่องที่ศรัณย์เลือกเรียนเฉพาะทางในด้านอายุรศาสตร์และเริ่มชีวิตการเป็นแพทย์ประจำบ้าน รามิลเอาชุดกาวน์ไปใส่เล่น แล้วเขาก็ขู่ทั้งเสียงหัวเราะว่าเพิ่งซักรอยเปื้อนเลือดของคนไข้ออกไปเมื่อวานนี้เอง


รามิลเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งในสายตาเขามาตลอด


แต่ศรัณย์ก็เข้าใจผิดมาตลอดเหมือนกัน


นัยน์ตาสีดำด้านแทรกขึ้นมาในความทรงจำ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมความรู้สึกที่ว่าผู้หญิงคนนั้นคือแพรพลอยถึงได้แรงกล้านัก เขาอยากได้คำยืนยันจากปากอธิศ อยากเห็นหน้าของคนในรูปนั้นว่าเป็นคนเดียวกับที่เคยเจอหรือเปล่า ถ้าใช่จริง ศรัณย์ก็ไม่รู้ว่าควรต้องรู้สึกยังไงกับสิ่งที่คนรักพยายามปกปิดมาตลอด ชนักติดหลังรามิลคงไม่พ้นเรื่องชู้สาว เพราะสำหรับเด็กนั่นแล้วเขาคงมีค่าพอให้เลือกแค่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ยอมรับว่าไม่ควรมานั่งน้อยใจแบบนี้สักเท่าไร แต่ขอทำความเข้าใจใหม่อีกทีเถอะ ในสถานะของเขาและรามิลทำให้เรื่องมันลึกซึ้งมากกว่านั้น


‘ถ้าวันหนึ่งที่นายรู้สึกว่าพี่ไม่ใช่ก็ขอให้บอกมาตรง ๆ มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการโกหก’


เคยพูดเอาไว้ในตอนที่ทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โต อ้อ ตอนนั้นศรัณย์ผิดเอง


ชายหนุ่มทิ้งชีทชื่อแพรพลอยไว้ให้รามิลดูต่างหน้าในขณะที่เลือกเดินจากมาทั้งอย่างนี้ เด็กนั่นไม่พูดอะไรอีก รามิลเอาแต่ลูบหน้าลูบตาแรง ๆ อย่างที่ไม่เคยทำแล้วเดินงุ่นง่านไปมา นี่ไม่ใช่คนที่เขารู้จัก ศรัณย์ออกมาจากห้องแค่เพราะกลัวการรับรู้ความจริง คำว่าทำแบบนั้นของรามิลมีแต่จะยิ่งถีบความรู้สึกของนายแพทย์หนุ่มให้เป็นไปในแง่ลบ


แล้วถ้าความลับนั้นมันร้ายแรงล่ะ เขาจะรับไหวหรือเปล่า


จะกอดเด็กคนนี้ไว้แน่น ๆ แล้วแค่ดุว่าทำไมไม่บอกกันแต่แรกใช่ไหม


หลังจากนั้นก็แก้ปัญหาไปด้วยกันเหมือนอย่างที่เคยทำ


ศรัณย์ถามตัวเองเป็นรอบที่ร้อยและทุกครั้งคำตอบที่ได้ก็ไม่เคยซ้ำ มันมีแต่ความไม่แน่ใจ คลางแคลง และหวาดหวั่นเมื่อคิดไปถึงบุคคลที่สาม ถ้าลองเดาโดยเชื่อตามความรู้สึกนึกคิด ตัวเลือกเดียวของผู้หญิงที่เขาเคยเจอคือเธอคนนั้นไม่ผิดแน่


แต่ถ้าใช่จริง เธอต้องการอะไรล่ะ


Rrrr


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คล้ายจะขมวดปมในใจชายหนุ่มให้รัดแน่นยิ่งกว่าเดิม








------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 10-03-2015 00:29:07
( ต่อ )





ปรสิตคืออะไร?


คือกาฝากที่เกาะกินร่างกายและคอยแย่งอาหารไปเลี้ยงชีพตัวเอง แน่นอน นี่ก็แค่ความหมายตามความเข้าใจพื้นฐานของคนทั่วไปเท่านั้น ไม่มีใครรู้จักมันดีเท่าเจ้าของร่าง ไม่มีใครรู้ว่าภายในตัวของคน ๆ หนึ่งนั้นมีปรสิตมากมายเท่าไร มันอาจนับไม่ถ้วน และกัดกินเป็นกาฝากอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะถูกกำจัดออกไป


รามิลจับจ้องเสี้ยวหน้าของตัวเองผ่านกระจกเงาขนาดครึ่งตัวตรงตู้เสื้อผ้า เขามองมันจากที่นั่งปลายเตียง เห็นดวงตาลึกโหลและรอยคล้ำที่ทำให้ดูอิดโรยกว่าปกติหลายเท่า ชีทเจ้าปัญหาวางอยู่บนโต๊ะ มันถูกฉีกออกเป็นชิ้นส่วนทั้งใหญ่และเล็ก มีบางแผ่นที่ปลิวตกลงมาบนพื้นเพราะแรงลม


ประตูระเบียงถูกปิดแล้ว เด็กหนุ่มคิดว่าเขาคงจะอ่อนเพลียเกินไปถึงได้หลง ๆ ลืม ๆ และละเลยที่จะปิดมันก่อนออกจากห้องเมื่อครั้งก่อน เสียงลมหวีดหวิวน่ารำคาญ ฝนฟ้าคะนองอยู่ทางด้านนอก แล้วศรัณย์ก็ยอมหนีเขาด้วยการขับรถออกไปอยู่ท่ามกลางสิ่งที่ไม่ชอบ รามิลมีค่าน้อยกว่าฝนเสียแล้ว รูบิกของคนรักวางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง มันสุ่มสีมั่วซั่วเหมือนหัวสมองเขาในตอนนี้ไม่มีผิด


‘แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว’


เสียงทุ้มต่ำของหมออธิศแล่นเข้ามาในหัว แวบแรกที่ได้ยิน รามิลคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด จิตแพทย์คนนั้นอาจแค่สร้างเรื่องให้เขาคายความลับ แพรพลอยทำตัวเป็นผู้หญิงชอบเล่นสงครามประสาท เธอมีลูกเล่นเสมอถ้าเป็นเรื่องของเขา แน่นอนว่ารามิลต้องอยู่กับความหวาดกลัวมาตลอดหนึ่งเดือนนี้ เขาพยายามติดต่อเธอ แต่แพรพลอยก็ปิดทุกช่องทางและปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายรับเพียงผู้เดียว


ก่อนหน้านี้รามิลรู้ว่าเธอต้องการอะไร แต่ตอนนี้เขาไม่รู้


สองวันก่อนที่เธอโทรหาเขาเพื่อบอกว่าให้รอการกลับมา จากนั้นโทรศัพท์ก็หลุดตกจากมือ สายตัดไปพร้อมกับความหงุดหงิดที่ว่าเธอยังเรียกร้องความสนใจจากเขาเสมอ


อ้อใช่ อาจจะเป็นอย่างนั้น


Rrrr


สะดุ้งน้อย ๆ เพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น รามิลตั้งเสียงนี้ไว้สำหรับข้อความเข้า เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่ได้กระตือรือร้นในการรีบหยิบมันมาเปิดดูนัก ร่างโปร่งเอื้อมตัวไปคว้าเอากระเป๋าเป้คู่ใจมาควานหาเจ้าเครื่องมือสื่อสารเจ้าปัญหา แต่แล้วหัวใจก็ต้องเต้นระรัวเมื่อเห็นว่ามันถูกส่งมาจากใครบางคนในเวลาเหมาะเจาะ


คุณได้รับข้อความจาก พลอย


“....”


‘แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว’


เขาชักจะเกลียดเสียงของหมออธิศขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มือข้างขวาสั่นเล็กน้อยจนชวนให้รู้สึกหงุดหงิด เด็กหนุ่มรีบเปิดดูข้อความนั้น เขาบอกตัวเองว่าไม่เชื่อเรื่องที่จิตแพทย์คนนั้นพูด แต่ในใจก็คิดอยากเอาชนะ เสียงฟ้าผ่าดังแทรกทุกมวลความคิดในโสตประสาท ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนขี้ตกใจมาก่อนจนกระทั่งตอนนี้ ลมเย็นพัดอวลอยู่ภายในห้อง รามิลไม่แน่ใจว่ามันมาจากไหน


ข้อความที่ถูกส่งมานั้นว่างเปล่า


คิ้วเรียวขมวดน้อย ๆ ก่อนจะกดออกแล้วเลือกเข้าไปในข้อความของแพรพลอยอีกครั้ง มันไม่มีตัวหนังสือสักตัว ไม่มีแม้แต่สัญลักษณ์หรืออะไรที่สื่อถึงความต้องการของเธอ


พรึ่บ


แล้วแสงไฟก็ดับลงหลังเสียงฟ้าผ่าครั้งที่สอง


มองไปรอบ ๆ ห้องทั้งที่ในมือยังคงถือโทรศัพท์ เปิดหน้าข้อความค้างไว้อย่างนั้น ใจก็คิดหาเหตุผลมารองรับเหตุการณ์ไฟดับครั้งนี้หลายต่อหลายอย่าง


เขาหยัดขึ้นยืนเต็มความสูง จัดการเปิดระบบไฟฉายในเครื่องเพื่อใช้นำทางไปยังประตู ข้างนอกเองก็คงจะมืดเหมือนกัน ป่านนี้คุณป้าที่อยู่ถัดจากนี้ไปสองห้องคงออกมาโวยวายแล้วแน่ ๆ แรงเสียดจากการเปิดประตูนั้นก่อให้เกิดเสียงน่ารำคาญ เป็นอีกครั้งที่ใบหน้าขาวฉาบไปด้วยความแปลกใจเมื่อทางเดินตลอดทั้งชั้นยังคงถูกสาดไปด้วยแสงไฟสีขาวมัวจากนีออนที่อยู่เหนือหัว ไม่มีใครออกมาโวยวายหรือส่งเสียงเอ็ดตะโรเรื่องไฟดับ มันเงียบเป็นเป่าสาก


รามิลเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อพึ่งแสงจากด้านนอกก่อนจะเดินไปลากเก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือมาตั้งข้างประตูห้อง เขาปีนขึ้นไปยืนอย่างคล่องแคล่ว ด้วยความที่เป็นคนรูปร่างผอมสูง การเอื้อมมืออีกเพียงนิดหน่อยจึงทำให้เด็กหนุ่มสามารถเปิดเช็กคัทเอาท์ไฟได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เปิดปิดอยู่สองสามครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าไฟจะติด


กึก


“....”


เสียงอะไรบางอย่างจากบริเวณหัวเตียงเรียกความสนใจจนต้องหันไปมอง รามิลยกโทรศัพท์มือถือขึ้นส่องไกล ๆ จากจุดที่ยืนอยู่ แล้วก็ได้ความว่ามันไม่ได้ช่วยให้แสงสว่างมากพอสำหรับการมองเห็นต้นเหตุ


อาจจะของตก เขาเดา


ร่างโปร่งค่อย ๆ พาตัวเองลงจากเก้าอี้แล้วเดินไปดูยังบริเวณที่เป็นต้นเสียง โต๊ะหัวเตียงอยู่ใกล้กับหน้าห้องน้ำ แล้วแสงจากดวงจันทร์ก็ไม่ได้ส่องผ่านผืนผ้าม่านเข้ามาให้พอมองเห็นสิ่งที่อยู่นอกกรอบแสง ปลายเท้าเตะเข้ากับวัตถุทรงลูกบาศก์จนต้องนิ่วหน้าเจ็บปวด รามิลคิดว่ามันเป็นรูบิกของศรัณย์ แล้วเขาก็ได้รู้ว่าเดาไม่ผิดหลังจากที่ส่องไฟจากโทรศัพท์ยังพื้นห้อง โน้มตัวลงไปอย่างเกียจคร้านเพื่อหยิบมันขึ้นมาวางบนโต๊ะตามเดิม ถึงจะเอะใจเรื่องที่เจ้าวัตถุก้นแบนนี่ตกลงมาเองก็เถอะ แต่จะให้คิดหาเหตุผลมารองรับ หัวสมองก็ตื้อไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาควรจะไปหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วออกไปซื้อหลอดไฟจากร้านสะดวกซื้อมาเปลี่ยนมากกว่า


Rrrr


เสียงข้อความเข้าดังขึ้นอีกในจังหวะที่ร่างโปร่งหมุนตัวกลับ ไฟจากช่องแฟลชดับลง นั่นส่งผลให้ห้องทั้งห้องถูกกลืนกินด้วยความมืดและมีเพียงแสงจากหน้าจอที่ส่องเข้ากับใบหน้าเท่านั้น


คุณได้รับข้อความจาก พลอย


“....”


ข้างในนั้นว่างเปล่าเหมือนกับข้อความก่อนหน้า เขาไม่เข้าใจการเล่นตลกของผู้หญิงคนนี้นัก แต่ก็นั่นแหละ แพรพลอยไม่เคยเข้าใจง่ายเลยสักครั้งเดียว


กดออกจากหน้าข้อความและเปิดแสงแฟลชให้ทำงานอีกครั้ง ไม่อยากต้องเดินเตะอะไรอีกถ้าจะอาศัยแค่ความเคยชินเดินไปในความมืด


“....!”


หากแต่ทันทีที่แสงแฟลชส่องไปข้างหน้า รามิลก็คิดว่าตัวเองตาฝาดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ กรอบแสงสีขาวทอดไปบนชุดเดรสสีขาวเปรอะคราบดินโคลน ร่างนั้นยืนนิ่งหันหลังเอียงสิบองศาอยู่ตรงมุมโต๊ะเขียนหนังสือ แสงเพียงน้อยนิดจากนอกผ้าม่านสาดให้เห็นเรือนผมสีดำขลับปล่อยยาวลงมาจนถึงกลางหลัง เขาส่องไฟใส่หล่อนตั้งแต่หัวลงมาจนถึงพื้นห้อง หยุดตำแหน่งไฟอยู่ที่เท้าเปล่า มันทั้งเปรอะเลอะและมีแต่โคลนเข้าไปจนถึงซอกเล็บ


เด็กหนุ่มเพ่งสายตามองด้วยลมหายใจติดขัด ค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า ร่างนั้นเหมือนหุ่นนิ่ง แม้แต่เส้นผมเปียกเป็นก้อนของเธอก็ไม่ขยับ ความประหวั่นพรั่นพรึงตีขึ้นมาในความรู้สึกอย่างรุนแรง


หัวใจรามิลเต้นระรัว


เขาหันไปมองประตูห้องที่น่าจะเปิดค้างไว้เมื่อครู่แล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีแสงจากภายนอกเข้ามาเช่นก่อนหน้า มันถูกปิด แล้วรามิลก็ไม่ได้ความจำสั้นถึงขนาดที่ว่าจำเรื่องปิดประตูไม่ได้


“....”


ครั้นเบือนสายตากลับมา ร่างที่ถูกสาดด้วยแสงแฟลชนั้นหายไปแล้ว


ไม่ถึงสามวินาทีหลังจากเขาหันไปตรวจเช็กประตูห้อง เหงื่อกาฬไหลซึมตามขมับ นี่คงไม่ใช่รายการตลกร้ายที่เล่นสนุกกับความกลัวหรอกใช่ไหม


ส่องไฟจากโทรศัพท์มือถือไปรอบ ๆ มันว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของบุคคลที่สามอย่างที่สองตาได้เห็นเลยสักนิดเดียว ไม่มีแม้กระทั่งรอยเท้า รอยโคลน หรือร่องรอยใด ๆ เหลืออยู่ตามที่ควรจะเป็น อกซ้ายปวดหนึบขึ้นมาโดยไร้เหตุผล เสียงห่าฝนข้างนอกยังดังสลับกับเสียงฟ้าผ่าเป็นระยะ มันแลบแสงแปลบปลาบเหมือนแฟลชถ่ายรูป มือเรียวชื้นเหงื่อ อากาศเย็นยะเยือกขึ้นมาผิดปกติ


Rrrr


“....!”


ตุบ


ร่างโปร่งสะดุ้งตัวโยน อีกครั้งที่เขาเผลอทำโทรศัพท์หลุดออกจากมือได้อย่างโง่เง่าเป็นที่สุด ตอนนี้ดวงตาของรามิลมองเห็นแต่ความมืด เขาเกรงว่าโทรศัพท์จะดับไปจากแรงกระแทก ซึ่งมันคงเป็นเรื่องยากถ้าต้องพยายามควานหาให้เจอก่อนออกไปข้างนอก


แต่ก็นั่นแหละ เขาต้องทำ


ค่อย ๆ โน้มตัวลงวาดมือไปตามพื้นอย่างสะเปะสะปะ มันคงตกลงไม่ไกลจากจุดที่ยืนอยู่ ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เด็กหนุ่มกลับกวาดเจอแค่ความว่างเปล่า เขยิบตัวไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย สัมผัสหยาบ ๆ ของรอยต่อระหว่างผืนกระเบื้องทำให้รามิลรู้สึกหงุดหงิด


“อยู่ไหนนะ” เขาสบถเบา ๆ แต่ก็ใช่ว่าเรียกแล้วจะหาได้ง่ายขึ้นเสียเมื่อไร


รามิลคิดว่าเขาได้เขยิบตัวมาไกลจากจุดที่มันตกมากเกินไปแล้ว น่าจะลองหันกลับไปหาข้างหลัง มันคงไม่กระเด็นห่างจากตัวมาถึงตรงนี้หรอก


แหมะ


ความรู้สึกเย็นเยียบแล่นวาบอยู่บนหลังคอ มือเอื้อมไปแตะย้ำจุดนั้นช้า ๆ


แหมะ


แหมะ


มันหยดลงบนหัว


“....”


น้ำ?


Rrrr


“...”!”


ร่างโปร่งเซถอยไปข้างหลังทันทีที่เห็นภาพภายใต้แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ ก้นของเขาจ้ำเบ้าลงกับพื้น แล้วความเย็นเยียบเช่นหยดน้ำก็ไหลท่วมไปทั้งใจ โทรศัพท์มือถืออยู่ห่างจากมือทั้งสองข้างในระยะคืบถึงสองคืบ มันวางอยู่ตรงกลางข้างหน้าสายตา และนอกเหนือจากชื่อของพลอยซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าจอนั้น --


ยังมีเท้าของใครบางคนยืนอยู่ด้วย


ปลายเท้าเปรอะโคลนยืนคร่อมเจ้าเครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์เองก็เป็นเสียงเรียกเข้าประสานไปกับเสียงหอบหายใจ คล้ายกับว่าชื่อบนหน้าจอนั้นกำลังสั่นระริกเพื่อเรียกให้เขาหยิบมันขึ้นมา


รามิลเงยขึ้นสบกับชายกระโปรงเปรอะ ค่อย ๆ มองสูงขึ้นไปตามแนวแสงจากหน้าจอโทรศัพท์ เดรสนั้นยาวกรอมเข่า แม้แต่ลายลูกไม้ตรงช่วงอก เขาก็เป็นคนเลือกให้


แหมะ


แหมะ


“....”


น้ำจากปลายผมเปียกลู่หยดลงบนหน้า ปะทะเข้ากับโหนกแก้มก่อนจะไหลไปตามแนวสันกรามและเย็นลงไปถึงคอ


คางเรียวมนนั้นเป็นดวงหน้ารูปไข่แสนคุ้นเคย


แหมะ


“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


ร่างโปร่งถอยกรูดทันทีที่สบเข้ากับดวงตาสีดำด้านซึ่งกำลังก้มมองเขาไม่ไหวติง ก้อนเนื้อตรงอกซ้ายบีบรัดแน่นและส่งความหวาดกลัวไปยังสมองเพื่อให้พาร่างกายไกลออกมาจากภาพน่าตระหนกให้ไวที่สุด ริมฝีปากแห้งผากไม่แม้แต่จะกล้าเรียกชื่อสิ่งที่เห็น รามิลผุดยันตัวเองลุกขึ้นทุลักทุเล เขาเตะเข้ากับรูบิกอันโปรดของศรัณย์อีกครั้ง ทั้งที่หยิบมันขึ้นวางบนโต๊ะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า พาตัวเองคลานขึ้นไปบนเตียงก่อนจะถลาไปอีกฝั่ง กลิ่นชื้นอ่อน ๆ ลอยคละคลุ้ง มันทั้งเหม็นสาบ แล้วก็ชวนให้รู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ


แทบล้มหน้าคะมำในตอนที่พาตัวเองลงมาเหยียบพื้นอีกฟากของฝั่งเตียงได้ ความเจ็บปวดที่ปลายนิ้วเท้าจากของเล่นทรงลูกบาศก์ไม่ได้สลักสำคัญนัก รามิลล้มลุกคลุกคลาน หวาดกลัวแม้กระทั่งการที่มือสัมผัสโดนแผ่นกระดาษซึ่งเขาเป็นคนฉีกมันทิ้งเองกับมือ เสียงฝนเหมือนการหัวเราะ ทุกอย่างพากันเหยียดหยัน ลูกบิดประตูเปียกชุ่มแต่เขาก็บิดมันออก


หลังจากเปิดประตูได้ รามิลก็ไม่มีความคิดจะเหลียวกลับไปมองข้างหลัง ไม่สนว่าประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้ในขณะที่ตัวเองวิ่งเท้าเปล่าออกมาท่ามกลางไฟทางเดินติด ๆ ดับ ๆ ในตอนนี้ เขาอยากให้คุณป้าที่อยู่ถัดไปสองห้องเปิดประตูออกมา หรือใครก็ได้ที่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายในห้องนั้น


‘แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว’


เสียงของหมออธิศคล้ายจะดังจนก้องอาคาร รามิลวิ่งหนีอะไรอยู่?


น้ำใส ๆ รื้นขึ้นตรงหางตา


“พี่เสือ...”


แพรพลอยตายแล้ว


เธอกลับมา



กลับมาเพื่อพานพบกับรามิลอย่างที่เคยบอกไว้ไม่มีผิด


“อั้ก!”


ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นริ้วขึ้นจากส้นเท้าจนถึงสมอง มือเรียวออกแรงยึดราวเหล็กไว้ได้ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะไถลลงไปตามขั้นบันได เขารีบจนเหยียบพลาด แต่ก็จำใจต้องกะเผลกไปให้ถึงชั้นล่างโดยเร็วที่สุด


นัยน์ตากลอกมองไปโดยรอบ ไม่เห็นยามประจำคอนโด ฯ ไม่เห็นรถที่แล่นเข้าออก ไม่เห็นใครสักคนเดินผ่านไปมาบริเวณนี้ ไม่เห็นอะไรนอกสายฝนที่สาดซัดลงมาจนทุกสิ่งทุกอย่างพร่ามัวเป็นสีเทา หินกรวดประปรายอยู่ตามลานกว้างหน้าอาคาร มันกดเข้ากับฝ่าเท้าจนรู้สึกเจ็บปวด ร่างทั้งร่างเปียกชุ่ม รามิลกวาดสายตามองหาความช่วยเหลือ แล้วตู้โทรศัพท์ก็กลายเป็นทางออกเดียวที่เด็กหนุ่มนึกขึ้นได้ในขณะยืนอยู่ตามลำพัง


รามิลฝ่าฝนไปยังเป้าหมายอย่างทุลักทุเล ข้อเท้าคงจะซ้น แต่เด็กหนุ่มก็ยังกัดฟันพาตัวเองไปให้ถึง ในกระเป๋ากางเกงมีเศษเหรียญอยู่สองเหรียญ มันมากพอสำหรับการกดเบอร์โทรศัพท์หาใครสักคนซึ่งเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียว ศรัณย์ไม่รับสายจนเขาต้องหยอดเหรียญซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง มันหล่นลงมาตรงช่องทอนเหรียญดังแกร๊ง


เสียงฝนบ่มเพาะความรู้สึกสิ้นหวังให้พองโตดีเหลือเกิน


ภาพนัยน์ตาสีดำด้านและเส้นผมดำขลับจับตัวเป็นก้อนเปียก ๆ ยังคงติดอยู่ในห้วงความคิดเขาเด่นชัด ที่คอของแพรพลอยมีรอยรัดแดง ๆ แล้วสายตาที่มองมาก็ช่างเกรี้ยวกราดเกินกว่าจะให้เขาพยายามใจเย็นและยอมรับหล่อนได้


หล่อนฆ่าเขาให้ตายในแวบแรกที่เห็น


“รับสิ...”


รามิลวอนขอ แทบจะขาดใจตายอยู่รอมร่อเพียงแค่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ “พี่เสือ...” เสียงทุ้มสั่นเครือ หยาดน้ำไหลคลอจนรู้สึกร้อนไปทั้งดวงตา ตอนนี้มันทั้งแดงก่ำแล้วก็กลอกไปมาจนไม่เหลือคราบนักศึกษาแพทย์แสนอ่อนโยนคนนั้นอีก


( สวัสดีครับ )


ปลายสายยอมกดรับในที่สุด เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มออกมาได้ “พี่เสือ”


( เก้า? )


เสียงนั้นแสดงความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องทิ้งช่วงความอึดอัดอะไรอีก คนในตู้โทรศัพท์ก็รีบกรอกเสียงลนลานไปยังอีกคน “พี่เสือ พี่กลับมารับผมนะ”


( ทำไมถึงโทรจาก -- )


อีกฝ่ายถาม แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้ศรัณย์พูดจนจบ “มาหาผมที... ได้โปรด”


( นี่นายอยู่ไหนน่ะเก้า )


“ผม --”


ปัง


สายตัดไปแล้ว


รามิลไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดให้จบประโยคด้วยซ้ำ เสียงจากหูโทรศัพท์มีเพียงสัญญาณที่ดังเป็นจังหวะแหลมถี่เท่าๆกันทุกครึ่งวินาที เหรียญสองเหรียญถูกใช้จนหมด อีกโอกาสที่เขาเสียไปคือการรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรักหลังเสียงดังสนั่นเมื่อครู่


“พี่เสือ...”


ก้อนสะอึกใหญ่จุกอยู่ตรงคอ


“พี่...”


มือเรียวปล่อยให้หูโทรศัพท์ขนาดใหญ่ตกลงจากมือแล้วห้อยต่องแต่งไม่มีความหมาย ถ้าบอกว่าดาวบนฟ้าพร้อมใจกันปิดสวิตช์ตัวเองก็คงเป็นแบบนั้น ถ้าบอกอีกว่าห่าฝนนี่เหมือนกำแพงสูงใหญ่ซึ่งกั้นเขาให้อยู่เพียงลำพัง รามิลก็เชื่ออีก


“อึก... ฮึก...”


ร่างโปร่งทรุดลงกับพื้นซีเมนต์อย่างคนจนตรอก แผ่นหลังไถลกับกระจกข้างตู้เป็นเสียงเสียดหูที่เบากว่าเสียงฝน ทุกอย่างอื้ออึงและสิ้นหวัง มันดูดกลืนโลกทั้งใบของรามิลให้กลายเป็นสีดำมืด


‘แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว’


ภาพความทรงจำบิดเบี้ยวราวม้วนฟิล์มบูด


หัวใจค่อย ๆ คลายตัวออกช้า ๆ หลังจากที่น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย เขาได้แต่นั่งกอดเข่าแล้วซุกตัวเองเข้ากับผนังตู้โทรศัพท์ น้ำสีดำสาดกระเซ็นเลอะตามเนื้อตัวเป็นด่างดวง มันเหมือนหยดหมึก แล้วเขาก็เป็นกระดาษเปื่อย ๆ ก้อนหนึ่ง


‘แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว’


รามิลไม่รู้ว่าความรู้สึกปลอดภัยของเขากองอยู่ที่ส่วนไหน อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว แล้วสายฝนโดยรอบก็คล้ายจะก่อตัวขึ้นมาเป็นป่ารกชัฏเหมือนกับถนนเส้นนอกเมืองไม่มีผิด ตอนนั้นเขานั่งอยู่บนรถบัส แล้วรอบ ๆ ก็คือเสียงเฮฮาของเพื่อนนักเรียนแพทย์ที่พากันพูดคุยถึงเรื่องตลกในค่ายรับน้อง


จากนั้น --


Rrrr


ทั้งร่างสะดุ้งจนตัวโยน ตาลึกโหลปูดโปนเขม็งมองไปยังหูโทรศัพท์ซึ่งห้อยต่องแต่งอยู่ข้างตัว มันยังคงดังอย่างนั้น เป็นเสียงเดียวกับเพลงเรียกเข้าในโทรศัพท์มือถือไม่มีผิด


ได้โปรด


รามิลวอนขอ ในขณะที่ถอยตัวเองออกมาจนตกขอบซีเมนต์ของตู้โทรศัพท์ มือสัมผัสอยู่บนพื้นปูนหยาบของลานโล่ง ตาจับจ้องโทรศัพท์สาธารณะซึ่งยังคงดังหลอกหลอนกันอยู่อย่างนั้น


‘แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว’


อีกครั้งที่สะดุ้งเฮือกแล้วต้องก้มลงมองเศษกระดาษเปียกยุ่ยตรงฝ่ามือ มันเป็นชีทของบทเรียนเมื่อเทอมที่แล้ว มีรอยแม็กอยู่ตรงมุมกระดาษ นอกนั้นก็ถูกขีดเขียนด้วยไฮไลท์สีชมพูสลับเหลือง


“อา... อึก...”


เขาไม่ได้ยินแม้แต่เสียงกลั้นสะอื้นของตัวเอง แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ยังคงดังออกมาจากตู้ตรงหน้าไม่หยุด




‘ทำไมไม่รับล่ะ’


เสียงแหลมกระซิบข้างหู




รามิลหันขวับไปมองทางต้นเสียงตามสัญชาตญาณ ใจของเขาอาจกำลังอยู่ที่ตาตุ่มหรือหลุดลอยไปแล้ว


เด็กหนุ่มหอบหายใจหนัก ภายใต้ม่านฝนพร่ามัวนั้นกลับปรากฏร่างของใครบางคนยืนห่างออกไปราวสิบเมตร ทุกวินาทีเธอจะเดินเข้ามาหนึ่งก้าว แล้วรอยลูกไม้บนอกเสื้อนั้นก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ


รามิลเคยหัวเราะแล้วบอกว่ามันสวย ทั้งที่ความจริงเชยเสียยิ่งกว่าอะไร


ได้โปรด


เขาอ้อนวอนอีกครั้ง แต่มันเป็นแค่เสียงที่ดังภายในใจ เรียวขายาวขดเข้าหาตัว ทันทีที่บังคับเปลือกตาปิด เสียงกระซิบว่าหวานก็ดังก้องคล้ายเสียงเราะ มันดัง เก้า


เก้า


เก้า


แล้วก็เก้า


คำว่าเก้าเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน ดังก้องเหมือนแมลงกำลังหวีดหวิว


รามิลยกสองมือขึ้นปิดหู น้ำตาเป็นเป็นเหมือนกาวยึดดวงตาให้เกร็งปิด ชื่อของเขายังคงถูกกระซิบเรียกซ้ำ ๆ มันมาจากทุกหนทุกแห่ง ทั้งสุข เศร้า เหงา เจ็บปวด


พอที... ได้โปรด


‘ไม่มีค่าอะไรกับฉัน’


มันดังสลับกับเสียงโทรศัพท์ เพลงเรียกเข้าเดียวกับวันนั้น วันที่เขาจงใจปิดเครื่องแล้วหลับหูหลับตาพูดคุยกับเพื่อนคนอื่นเหมือนปกติ


ดวงตาของรามิลหลุกหลิก


เก้า

เก้า

เก้า






แล้วเธอก็เงียบไปเมื่อได้รับการปฏิเสธ


“....”


ทุกอย่างสงบลง


“....”


เปลือกตาบางเปิดขึ้น วงกลมสีเข้มกลอกมองไปรอบ ๆ แล้วก็ยังคงเห็นแค่เม็ดฝนที่สาดซัดลงมา


“....”


มันไม่มีอะไรแล้ว


ผู้หญิงคนนั้นหายไป ตรงหน้ามีแค่กำแพงสูงใหญ่กั้นระหว่างคอนโดมิเนียมและบ้านหลังใหญ่ข้าง ๆ ยอดอาคารสีขาวทรงทึบตัดกับท้องฟ้าดำมืด แสงไฟฉายของลุงยามรักษาความปลอดภัยประจำตึกสาดออกมาจากลานจอดรถทางด้านหลัง รามิลค่อย ๆ หยัดร่างกายเปียกปอนของตัวเองให้ลุกยืน ความเจ็บปวดที่ข้อเท้ากลายเป็นชาวาบ หัวใจเต้นระรัวและคงจะหยุดลงในไม่ช้า


“....”








คุณรู้ไหม ว่าปรสิตคืออะไร?


มันคือเศษก้อนของอะไรบางอย่างที่ต้องแบกรับไปจนวันตาย กัดกินความรู้สึกอย่างไม่รู้จักพอ เป็นดังกาฝากที่สูบเลือดสูบเนื้อ


แต่ถามว่าคุณจะตายไหม?


ไม่หรอก









รามิลหันไปเจออะไรบางอย่าง เต็มเท่าที่สองตาเขาจะสามารถเบิกกว้างได้


สิ่งที่เรียกว่าผู้หญิงคนหนึ่ง เธอบอกว่ารักเขาสุดหัวใจ


เธออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา


เธอจะไม่ทิ้งผู้ชายที่ชื่อว่ารามิล เช่นเดียวกับที่จะไม่มีวันเดินจากไป


ริมฝีปากของเธออ้าออก น้ำขุ่น ๆ สีน้ำตาลไหลออกมาจนท่วมคาง แต่เสียงเล็กแหลมก็ยังชัดเจนและหนักแน่นในยามที่พูดกับผู้ชายตรงหน้า


‘....’


“อะ...”


‘....’


ต่อให้เขาถีบเธอลงหุบเหวนรกก็ตาม


“....”


แววตาสุดท้ายของเธอเฉยชา จับจ้องมา แล้วก็ใช้ความหวาดกลัวนั้นผลักเขาให้ถอยออกไปสู่แสงสว่างวาบที่สาดเข้ามาทางด้านหลัง เด็กหนุ่มเจ็บแปลบขึ้นมาตรงข้อเท้า ร่างโปร่งเซถอยออกห่างจากร่างตรงหน้า สติของเขาเลื่อนลอย ทุกอย่างขาวจ้าจนไม่อาจมองเห็นอะไรได้ชัด


แผ่นหลังของรามิลสัมผัสกับที่นอนนุ่ม


พอตื่นมาก็จะเห็นศรัณย์นอนยิ้มให้อยู่ข้าง ๆ


ปัง








คุณรู้ไหม ว่าปรสิตคืออะไร?


มันคือความผิดที่ตามติดตัวเหมือนกาฝาก ตามจองล้างจองผลาญ และรอวันที่จะได้รับการชดใช้อย่างสาสม







ผิด


ผิดแล้วต่างหาก








นี่เก้า...


‘กลัวอะไร?’


“....”


‘เก้าก็รู้นี่’


“....”


‘ว่าเราไม่มีวันทำร้ายเก้า’








------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 10-03-2015 00:30:13
( ต่อ )





“เก้า”


อธิศส่งเสียงทุ้มต่ำในลำคอขณะที่หมุนพวงมาลัยเข้าจอดยังหน้าคอนโดมิเนียมของศรัณย์ ร่างสูงรีบล็อกเกียร์จนเรียบร้อย ไม่มีเวลาแม้แต่จะหันมาหาคนที่นั่งตกตะลึงอยู่ข้าง ๆ เปิดประตูแล้วถลาตัววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิด


พอได้สติ ชนกันต์ก็เห็นว่าผู้ชายที่มากับเขากำลังประคองร่างของรามิลซึ่งหมดสติอยู่หน้ารถยนต์สีดำคันหนึ่ง เจ้าของรถมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่ก็พยายามช่วยประคับประคองคนเจ็บหลังจากวางโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้ยินว่าอธิศกับผู้ชายคนนั้นพูดอะไรกัน คาดว่าน่าจะโทรเรียกรถพยาบาล ยามประจำคอนโดมิเนียมรีบวิ่งมาสมทบจากลานจอดรถทางด้านหลังตึก ทุกคนเปียกชุ่มไปด้วยฝน จึงคิดได้ว่าควรจะรีบปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วตามไปสมทบ


ทันทีที่ลงจากรถได้ ในหัวเขาเต้นตุบ ๆ เหมือนกับอกซ้าย


“....”


ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างหมออธิศ ดวงตาสีดำก้มมองรามิลที่กำลังถูกปฐมพยาบาลช่วงขาโดยนายแพทย์เพียงหนึ่งเดียวในที่นี้ เสียงโวยวายดังสลับกับเสียงฝนไม่ได้ขาด แต่หูของชนกันต์ราวกับเลือกรับแค่เสียงหัวใจเต้น


ลมหายใจขาดช่วง เธอไม่สนใจเขา ชายกระโปรงเปื้อนโคลนไม่ไหวติงไปตามแรงลม


แต่แล้วดวงตาดำด้านนั่นก็ตวัดมองมา


ชนกันต์หลับตาปี๋ เขายังจำน้ำเสียงของหล่อนได้ครบถ้วน


สมองของเขาบิดเบี้ยวเป็นเครื่องเล่นเทป ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ หยาดน้ำฝนไหลลู่ตามโครงหน้า บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือก และพื้นที่ยืนอยู่ก็ลาดลึกลงไปเป็นถังน้ำแข็งทรงกระบอกกลม ๆ


มันทั้งเย็นแล้วก็หนาวจับขั้วหัวใจ


‘ช่วยด้วย!’


ตอนนั้นเธอกรีดร้องว่าอย่างนั้น








“....!”


หายใจไม่ออก


ผืนน้ำห่อรอบตัวเอาไว้จนแทบขยับเขยื้อนไม่ได้ ดันทุรังตะเกียกตะกายขึ้นหาแสงสว่างทางด้านบน แต่กลับรู้สึกหนักคล้ายกับมีตุ้มขนาดมหึมาถ่วงร่างเอาไว้ ที่ข้อเท้าของเขาผูกติดกับห่อผ้าบางอย่าง มันมีขนาดประมาณลูกฟุตบอลสักลูกแล้วก็จมลึกลงไปในโคลนเสียครึ่งหนึ่ง นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการคิดประเมินค่า ชนกันต์รีบโค้งตัวลงไปแกะชายผ้าซึ่งผูกติดกับข้อเท้าอย่างทุลักทุเล เขาต้องตายแน่ ๆ ถ้าจมอยู่ใต้นี้อีกสักครึ่งนาที


ได้เห็นว่าผ้านั้นคือแขนเสื้อ มันเป็นเงื่อนตาย ซ้ำสิ่งที่ถูกห่อไว้ข้างในก็หนักเสียจนเขาขยับเขยื้อนตัวได้ลำบาก อากาศหมดลงเรื่อย ๆ ในขณะที่พยายามแกะพันธนาการออกจากร่าง ฟองอากาศซึ่งผุดออกปากไม่ต่างอะไรจากระเบิดเวลา


ทรมาน


นี่คือคำเดียวที่บ่งบอกความรู้สึกของชนกันต์ได้


“....”


ชั่วขณะที่เขารู้สึกเหมือนจะขาดใจ สัมผัสบางเบาก็ระผ่านข้างแก้ม


“....”


เขากลอกสายตาขึ้นมอง เห็นเจ้าของดวงตาสีดำด้านลอยล่องอยู่ตรงหน้า เส้นผมสีดำขลับสยายไปตามผืนน้ำ จากนั้นจึงโอบอุ้มตัวเขาให้ดำดิ่งลงไปในความหนาวเหน็บด้วยกัน









“-- กันต์”


“....”


“ชนกันต์!”


ความรู้สึกของเขาเหมือนเพิ่งขึ้นจากน้ำ




ริมฝีปากบางอ้ากว้างเพื่อกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด ดวงตาสีเข้มปวดแสบขึ้นมาเมื่อสัมผัสกับอากาศ เปลือกตาปิดลงและเปิดขึ้นอยู่อย่างนี้ถึงสองสามครั้งภาพท้องฟ้าสีดำถึงได้เริ่มปรากฏดวงดาวประปราย


ฝนหยุดตกแล้ว กลิ่นอายชื้น ๆ ยังคงเจือจางอยู่ในมวลที่คว้าไม่ได้


“แค่ก ๆ” เด็กหนุ่มไอสำลักจนตัวโยน แผ่นหลังถูกลูบประโลมด้วยสัมผัสอุ่น ๆ ของใครอีกคนซึ่งเอาแต่พร่ำเรียกชื่อไม่ได้ขาด มันดังกันต์ กันต์ หลังจากหายใจคล่องขึ้น เขาก็จมเข้าไปในในอ้อมกอด เสียงจอแจและแสงโบเก้สีแดงค่อย ๆ เด่นชัดขึ้น


“ผมนึกว่าคุณจะเป็นอะไรไปเสียแล้ว”


นอกเหนือจากแสงแสบตาของไซเรนรถพยาบาลก็คงเป็นใบหน้าของนายแพทย์อธิศกระมังที่ชัดเจนเหนือสิ่งอื่นใดขึ้นมา ริมฝีปากอิ่มจูบขมับเล็กไปสองที เขาชักจะถูกกอดบ่อยเกินไปแล้ว


“หมอ...” ชนกันต์นวดหัวคิ้วหลังจากถูกประคองให้ผละออกเล็กน้อย อธิศหันไปพยักหน้าให้บุรุษพยาบาลซึ่งเข้ามาถามไถ่อาการ เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่ากำลังนอนอยู่บนเปลสนามหน้าคอนโดมิเนียมหลังเดิม หันไปเห็นเตียงของรามิลเพิ่งถูกเข็นขึ้นไปบนรถ แล้วบุรุษพยาบาลอีกคนก็เข้ามาขอเปลคืนเมื่อเห็นว่าคนป่วยพอจะลุกขึ้นนั่งไหว


“อยู่ดี ๆ คุณก็ช็อก ตัวแข็งทื่อ พอถูกจับก็ล้มลงไป”


“ครับ?” คนป่วยเลิกคิ้วหลังจากฟังอาการ อธิศกุมมือเขาไว้แน่นมาก มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกถ้าเทียบกับความหนาวเหน็บใต้ผืนน้ำเมื่อครู่ “....”


ใช่


ชนกันต์คิดว่าต้องใช่แน่ ๆ


“หมอ” แพรพลอยอาจจะยกโทษให้หรือไม่ก็ตามแต่ ชนกันต์คิดว่าเขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องบางอย่างได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่เขายังมีชีวิตอยู่ “เมื่อกี้... ผม...”


หล่อนต้องการใช้ประโยชน์จากเขาก่อน


หมออธิศมองทั้งคิ้วขมวดมุ่น เสื้อเชิ้ตสีเขียวซีดดูเข้มขึ้นในยามที่มันยังเปียกชุ่ม นาฬิกาข้อมือสีเงินสะท้อนกับแสงไฟโดยรอบจนวาววับ ร่างเล็กสูดลมหายใจลึก ออกแรงบีบยึดต้นแขนของคนตรงหน้าเบา ๆ เพื่อเป็นหลัก


“ผมรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน”


ชนกันต์ไม่รู้มูลเหตุของเรื่อง แต่ถ้าว่ากันด้วยผล เขาอาจเป็นคนเดียวที่รู้







TBC





----------------------------------------------------


คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอเหงาใจ

หายไป 4-5 วันเลย พอดีช่วงนี้ว้าวุ่นกับงานนิดหน่อยค่ะ
ขอโทษที่ปล่อยให้ค้างตั้งเกือบสัปดาห์นะคะ
ไถ่โทษด้วยการต่อตอนนี้ยาว ๆ เลย  :กอด1:
(ต้องแบ่งเป็นสามโพสต์แน่ะ จุใจกันไปข้าง)


แอบไปเปิดเรื่องแบบไม่ยาวมากมาด้วย
เป็นเรื่องหนึ่งที่เขียนแล้วมีความสุขมากค่ะ
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ


『 ว ร ร ค 』 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45779.0)
A N G S T - D R A M A





หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ซิกาแร๊ต ที่ 10-03-2015 01:09:01
เราเพิ่งอ่านตอนก่อนหน้านี้รวดเดียว เมื่อบ่ายวันเสาร์ .... ก็ว่าระทึกมากแล้วนะ
พอมาอ่านตอนล่าสุด ... เวลานี้ ...... คือ มันหลอนนนนนนนนมากกกกกกกกก

รู้สึกเกลียดจินตนาการของตัวเองก็ตอนนี้แหร่ะ ...
คุณเข่งฯบรรยายละเอียดยิบ จนเราคิดภาพตามทุกฉาก ทุกอารมณ์เลย T__T
สนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม หลอนระทึก ... และอบอุ่น


ปล. ไม่ได้ log in เข้ามา comment นานมาก ... ต้องยอมให้เรื่องนี้จริงๆ  :a5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 10-03-2015 01:51:35
แพรพลอยโดนถ่วงน้ำเหรอ ใครกันนะที่ทำ  :z3:
กันต์ขับเฉี่ยว แต่แพรพลอยทำให้รู้สึกว่าจมน้ำ
แถมโดนถ่วงน้ำหนักไว้ที่ขาอีก เครียด ต้องเชิญ โคนัน
เอ้ย! อธิศ ชนกันต์

ตอนนี้เหมือนน้องกันต์เป็นหนุ่มมีเซนส์ คู่กับ หมออธิศที่เหมือนนิติเวชเลย
 :m19: :m24: :m9:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lasnorches ที่ 10-03-2015 01:57:57
เป็นตอนที่ระทึกจริงๆค่ะ ตอนอ่านจบนี้เพิ่งรู้ว่าตื่นเต้นจนลืมหายใจเลย (ฮา)
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 10-03-2015 02:49:25
อดไม่ได้ไปลองอ่านที่เป็นฟิคมาอยากรู้เรื่องมาก พอรผุ้เรื่องแล้วมาอ่านในนี้ต่อยังสนุกยังหลอน นี่ก็ดึกแล้วขอแปะไวก่อนเดอะมาอ่าน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 10-03-2015 04:42:47
โอ๊ย พลาดมากค่ะที่กดเข้ามาอ่านตอนนี้ กลางคืนในห้องมืดๆ
เสียวหลังวาบๆ ยิ่งฉากตอนข้อความเข้าโทรศัพท์หลุดมือยิ่งแล่วใหญ่ ไม่กล้ามองไปรอบๆห้องเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 10-03-2015 05:57:10
โชคดีจริงๆที่มาเปิดอ่านตอนเช้าแทนที่จะเป็นตอนกลางคืน555
ถึงจะเริ่มเดาอะไรออกได้บ้าง แต่ก็ทิ้งท้ายได้ชวนลุ้นระทึกอีกแล้ว แงงงงง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 10-03-2015 08:22:47
หลอนสุดสุด  :heaven

ปรบมือให้คนเขียนจ้ะ เหมือนดูหนังเลยมันน่ากลัวมากกกกกกก รอตอนต่อไปจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-03-2015 08:32:01
คนเขียนมาอัพแล้ว!!!! เย้  :hao5:
แอบฟินกับความเห็นใจและสงสารที่หมออธิศมีให้กันต์
กันต์รู้ได้ไงอ่ะ ว่าแพรพลอยอยู่ที่ไหน เราเดาว่าเป็นบ่อน้ำ ว่าแต่ที่ไหนล่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 10-03-2015 08:41:08
เรื่องจะคลี่คลายแล้วใช่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 10-03-2015 10:27:02
โอยยย รามิล มาเจอหนักเอาตอนนี้ซะงั้น น่ากลัวมากเลยอ่ะ แงงง  :sad5:
ไม่รู้ว่า รามิลทำอะไรกับแพรพลอย แต่ตอนร้องหาพี่เสือนี่ น่าสงสารมากเลย
จริง ๆ ก็น่าสงสารหมดเลยนั่นแหละ ทั้งน้องกันต์ หมอศรัณย์ รามิล

ว่าแต่ ตกลง ที่น้องกันต์ ชนเข้าให้นั่น ใช่แพรพลอยจริง ๆ เหรอ
แล้วทำไมถึงไม่มีอะไรอยู่บนพื้นถนนเลยล่ะ ถ้าเราเป็นน้องกันต์นะ
ในสถานการณ์อย่างนั้น เป็นเราก็ไม่คิดว่าเป็นคนเหมือนกันนะ

แล้วที่รามิลเจอ ทำไมแพรพลอยถึงมีรอยแดง ๆ รอบคอล่ะ  รอยอะไร
แต่อาการที่น้องกันต์เจอ เหมือนคนกำลังจมน้ำ ตกลง แพรพลอย ตายเพราะอะไรกันแน่
ตอนหน้า จะเจอตัวแพรพลอยแล้วสินะ คดีกำลังจะคลี่คลายแล้วใช่ไหม

ในขณะที่เหตุการณ์เคร่งเครียด ก็ยังมีฉากหวาน ๆ แทรกมานิด ๆ นะ
ชอบตอนพี่หมออธิศจูบขมับปลอบน้องมากเลยอ่ะ  :o8: รู้สึกน้องกันต์ สำคัญกับพี่หมอมาก
โชคดีของน้องกันต์ ที่มีพี่หมอคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา

นี่ขนาดอ่านตอนกลางวัน ใจเต้นระทึกตามตลอดเลยอ่ะ แต่งเก่งมาก ๆ เลยค่ะ 
แถมคราวนี้ มาอย่างยาวมากด้วย ขอบคุณคนเขียนมากเลยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 10-03-2015 11:18:26
ตอนนี้ยาวสุดๆ ชอบค่า
เนื้อเรื่องน่าสนใจอีกเช่นเคย เดาทางผิดๆถูกๆ ลุ้นดีค่า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เกสรทอง ที่ 10-03-2015 12:57:11
พีคมากกกกกก รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววววววววว  :z3: :z10: :z13: น่อวววว หมออบอุ่นมาก ทำขนาดนี้แล้ว แอบหลงน้องกันก็บอกมาตรงๆเถอะฮะ เราจะได้ฟินกันถ้วนหน้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ommy ที่ 10-03-2015 13:12:39
ตอนนี้พีคมากคะ ทั้งกลัวทั้งฟิน ทำไมพี่หมออบอุ่นแบบนี้ ฮื่อๆๆ รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วค่า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 10-03-2015 15:10:58
ชนแล้วตกลงท่อระบายน้ำสินะคะ
เอ้ะหรือรอยแดงที่คอ... โดนบีบคอจับถ่วงน้ำรึเปล่า  แบบมัดไว้กับเชือกอีกฝั่งเป็นก้อนหินแล้วโยนลงบ่อน้ำ
เดาทางยากจริงๆ..
โชคยังดีที่รามิลยังไม่เป็นอะไร แต่ไม่รู้ฟื้นมาจะเป็นบ้ามั้ย เจอขนาดนั้น  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 10-03-2015 16:47:39
สุดยอดดด ไม่ทำให้เสียใจจริมๆเลยที่นั่งรออัพ
อ่านแล้วขนนี้ลุกชันเลย สงสารทุกคนในเรื่องนี้เลยนะเนี่ย
เฮ้ออออ ใครทำไรไว้ก็ต้องรับกรรมไปสินะ อ่านแล้วแอบเจ็บปวดนิดๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 10-03-2015 16:52:53
เนื้อเรื่องดูหลอนๆนะ น่าติดตามดีว่าแต่ผู้หญิงนั่นคือผีหรอม่าย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 10-03-2015 17:15:08
ปมของเรื่องคือแพรพลอยหรอ ผีผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 10-03-2015 17:47:44
เอาล่ะ...จะไม่เดาอะไรอีก...มันเกร็ง มันลุ้น มันเครียด..
โอ๊ยยยยยยยยยย..จะบร้าาาาาาาาาา....ทำไมแต่งได้
สุดยอดจริง เหมือนนิยายแปลเลยนะ...  บอกแล้วว่า
สงสารทุกตัวละครเลยนะ ไม่ว่าใครจะผิดมากผิดน้อย
ถึงไม่ผิดเลย เพราะอาจมีเหตุผลต่างกันไป ถ้าใครในนี้
ไม่ได้เป็นฆาตกรเน่ะนะ.....
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 10-03-2015 19:23:21
ผีฟินเลยอ่ะดิเขานอนกอดกันอร๊ายๆๆๆๆ
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพลอยนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 10-03-2015 19:30:12
โอ้ย เดาไม่ถูกเลย แต่มาทำกับเก้าแบบนี้มันเกินไปไหมแพรพลอย  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 10-03-2015 19:32:47
จะรู้แล้วววววว นางไปอยู่หนใดดดด แพรพลอยย :mew4: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 10-03-2015 19:45:42
 o13  สนุกมากคะ รู้สึกหัวใจเต้นตึกๆๆๆ ตลอดเวลา ลุ้นระทึก ได้ใจมากคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 10-03-2015 21:25:49
ตอนนี้มันทั้งลุ้นทั้งกลัวเลย  แง้งงงงง  :ling3: :ling3:
สรุปแพรพลอยมันตายได้ยังไง  แล้วพี่เสือล่ะเป็นไง
โอ๊ยยยยยย  ตอนนี้มันบีบหัวใจมากกกกกก   :katai1:
อ่านไป หัวใจเต้นไป   ไม่กล้ามองรอบห้องเลย  :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujung ที่ 10-03-2015 23:11:39
แพรพลอยเธอมันร้าย ต้องการอะไรกันแน่เนี่ย  มาท้วงความรัก มาท้วงความยุติธรรม  สักอย่างเถอะ ลุ้นไปหมดแล้วเนี่ย    :katai1: :katai1: :katai1:  รู้ไหมว่าอ่านแล้วมันเครียดมันลุ้น  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Lalita ที่ 10-03-2015 23:19:00
เคยอ่านแบบฟิคชั่นมาแล้ว จะยังไงก็หลอนเหมือนเดิม

แต่งดีมากเลยค่ะ เราเป็นคนชอบอ่านตอนกลางคืนและมโนแบบหลอนๆ

เปิดไฟนอนได้ไหมนิ้
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 11-03-2015 01:31:59
โอยยยยย เครียดมากตอนที่เก้าเจอพลอย ตอน แหมะ แหมะ แหมะ นี่ต้องรีบๆอ่ายเลย หัวใจจะหยุดเต้นตาม
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 11-03-2015 11:11:19
เรื่องกำลังสนุกเลยค่ะ

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-03-2015 14:11:50
สงสารกันต์ ให้กันต์หลุดจากเรื่องนี้แล้วครองรักกับพี่หมอเถอะค่ะะะะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 11-03-2015 16:26:45
ตื่นเต้นๆ...
เรื่องราวค่อยๆคลี่คลาย..
ยังคงตื่นเต้นกับเหตุการณ์..
แต่ก็ไม่รุ้สึกแน่นอกเหมือนก่อนหน้านี้..
ความจริงใกล้จะเปิดเผยแล้วซินะ..
แอบดีใจที่หมออธิปจะอยู่เคียงข้าง..มันอบอุ่นใจจัง  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate1134 ที่ 11-03-2015 16:54:04
ตอนนี้ยาวมากกกก ><
อยากอ่านเฉลยแลล้วค่ะ ตกลง ใครอะไรยังไงกันแน่ ค้างงงง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 11-03-2015 17:07:32
น่ากลัวจริง รอติดตามตอนต่อไป :katai4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 11-03-2015 17:46:30
ตามอ่านจนทันแล้ว ฮื่อออออ. เมื่อคืนกดอ่านเรื่องนี้ตอนแรกประมาณตี3 หลอนจนไม่กล้านอนเลยค่ะ
ฝืนถ่างตาอ่านต่อจนตอนล่าสุด ขอบอกว่าน่ากลัวมากกกก. พึ่งจะทำใจมาคอมเม้นได้ :ling3:
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 11-03-2015 19:35:46
มันช่าง.........  :really2:  ปมเรื่องค่อยๆคลายเรื่อยๆ ความจริงแล้วทั้งเก้า หมอเสือ แล้วก็กันต์ ทั้งสามคนนี้เชื่อมโยงกันด้วยผู้หญิง

คนเดียวกันที่ชื่อว่าแพรพลอย แม้จะดูเหมือนมันจะเป็นคนละเรื่องกัน แตเหตุการณ์ก่อนจายและหลังตาย ต่างก็เชื่อมโยงทั้งสามไว้

ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมคนนอกอย่างอธิศถึงได้มาเกี่ยวข้อง แต่ว่าดูเหมือนว่าเพราะหมออธิศ ถึงได้ทำให้เรื่องค่อยๆคลาย

มันเหมือนเป็นชะตาของทุกคน ที่ต้องมาแก้ไขสิ่งผิดร่วมกัน ก็ว่าอยู่ว่าโคลนมันต้องเกี่ยวข้องกับตอนตายแน่ๆ

ตอนแรกก็งงๆว่าทำไมกันต์ถึงได้โดนผีตามทั้งๆที่ไม่เคยรู้จัก คิดเล่นๆว่าความจริงแล้วกันต์อาจจะเคยทำไรให้แค้นแต่ลืมไปแล้ว

นี่ดันกลายเป็นว่า ไม่ได้แค้นธรรมดา แต่นี่มันขนาดอาฆาตได้เลยแหละ ยังไงก็เอาใจช่วย ขอให้เรื่องคลีคลายได้ใช้ชีวิตสงบสุข

สักที ถึงแม้ความผิดบาปมันจะไม่ได้หายไปก็เถอะ
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 11-03-2015 20:39:42
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 12







เปลือกตาบางปิดลงทันทีที่เปิดออกพบแสงสีขาวสว่างจ้า ครั้นกระพริบตาอีกสองสามที เรตินาถึงได้ปรับจนชัดเจนว่าภาพที่เห็นก็คือเพดานสีขาวและพัดลมเพดานขนาดสี่สิบแปดนิ้วที่ถูกปิดไว้จนเห็นใบพัดเป็นสามซีกชัดเจน ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยาม ทั้งห้องถึงได้ถูกความมืดกลืนกินจนมองเห็นเพียงรูปร่างสิ่งของลาง ๆ ร่างกายของเขาหนักอึ้งเหมือนมีตุ้มหนัก ๆ ห้อยถ่วงแขนและขาสองข้างเอาไว้ราวกับพันธนาการของผู้ป่วยทางจิตในภาพยนตร์เกินจริงสักเรื่อง ถึงอย่างนั้นก็พยายามจะนวดขมับตัวเองเพื่อลดอาการปวด มันเต้นตุบ ๆ มีอะไรบางอย่างกำลังดิ้นรนอยู่ข้างใน และหนังศีรษะของเขาคือสิ่งเดียวที่ควรจะถูกพังทิ้งเสีย


ที่นี่เหมือนโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ใช่ อาจเป็นห้องพักพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นความทรงจำสุดท้ายก็ไม่ได้บอกว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร น่ากลัวว่าองศาแอร์จะน้อยกว่าสิบองศา เสียงฝนข้างนอกก็ดังเสียจนดับความคิดทุกอย่างจนอื้ออึงและมีสีดำทึบ เขาพยายามมองหาใครสักคนในความมืด พยาบาลหรือจะเป็นพี่เสือก็ได้ จากนั้นเสียงประตูห้องน้ำบริเวณใกล้กับประตูห้องก็ลั่นเอี๊ยด มันตีให้ความกลัวแทรกขึ้นมากดทับความหวังอย่างประหลาด


รามิลไม่เคยกลัวความมืด ไม่เคยคิดด้วยว่าจะมีอะไรสักอย่างโผล่ขึ้นมาตราบใดที่แน่ใจว่ากำลังอยู่ตามลำพัง แต่ตอนนี้เขากลืนน้ำลายตัวเอง แล้วก็หวาดระแวงเสียจนต้องสร้างภาพนางพยาบาลหน้าตาใจดีให้มีตัวตนขึ้นมาในความคิด แต่พอเสียงประตูดังขึ้นอีก ตรงนั้นก็กลับกลายเป็นว่างเปล่า


เขาเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง มันทั้งแห้งผากและทำให้ใบหน้าภายใต้แสงสลัวดูขลาดเขลาจนน่าสมเพช ความมืดไม่ต่างอะไรจากกระจกเงา มันปรากฏทุกอย่างที่เจ้าของสายตาใคร่จะเห็น


และเซอร์ไพร์สสิ่งที่ไม่อยากเห็นขึ้นมาด้วยเสมอ


“....!”


สัมผัสเย็น ๆ แนบลงที่สองข้างแก้ม ร่างทั้งร่างสะดุ้งโหยงก่อนจะถูกถ่วงด้วยตุ้มหนักให้ราบอยู่กับเตียงดังเดิมในวินาทีต่อมา


“พลอย...”


เสียงนั้นแหบพร่าและฟังไม่ชัดเจนนัก แต่มันเป็นเสียงเขา เสียงที่ไม่ได้ออกมาจากลำคอและปากของเขาเอง


“เก้า... อย่าทำแบบนี้เลยนะ”


“อา” สัมผัสเย็นจากของเหลวถูกสร้างเป็นทางจากหางตาลงไปจนถึงใบหู ค่อย ๆ เห็นเส้นผม มันต่ำลงมากระทั่งผะแผ่วกับใบหน้า แล้วสันหน้าผากโค้งมนก็เลื่อนเข้ามาจนอยู่ในกรอบสายตา


“รู้สิ”


เสียงนั้นยังดังอย่างต่อเนื่อง เป็นเสียงของเขา แต่ริมฝีปากซึ่งกำลังขยับนั้นต่างหากที่เอื้อนเอ่ยมันออกมา


“จะให้ทำยังไง”


“....”


ดวงตาดำด้านจ้องมองมา ขยับพูดเป็นเสียงทุ้มแบบผู้ชายราวกับเครื่องดัดเสียง


“เราก็เต็มใจกันทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ”


แล้วมันก็กลับมาเล็กแหลมเป็นเสียงผู้หญิงเฉกเช่นก่อนหน้า


“เก้า”










“อ้ากกกกกกกกก”


ความรู้สึกปวดแปลบที่ข้อเท้าหลังการขยับตัวทำให้เปลือกตาจำต้องปิดลงอีกครั้งหลังจากลืมขึ้นสบกับเพดานสีขาวจ้าและใบพัดของพัดลมเพดานขนาดสี่สิบแปดนิ้ว คิ้วเรียวขมวดมุ่น มันเจ็บเสียจนเขาต้องปล่อยให้ทั้งขาห้อยอยู่กลางอากาศโดยมีเครื่องช่วยพยุงกำลังสั่นไปตามแรงขยับ


รามิลฝืนชะเง้อมองเฝือกปูนหล่อสีขาวที่หุ้มตั้งแต่หน้าแข้งไปจนเห็นแค่ปลายนิ้วเท้า มันทำให้เขาดูเหมือนเป็นตัวประหลาดอะไรสักอย่าง ศีรษะทิ้งลงบนหมอนนุ่มที่รองคออีกครั้งหลังจากทนเกร็งคอเพื่อมองสภาพแย่ ๆ ของตัวเองต่อไปอีกไม่ไหว เหงื่อกาฬไหลซึมขมับอย่างที่ไมได้ชวนให้รู้สึกร้อนเลยสักนิด เสียงหึ่ง ๆ ดังเข้าโสตประสาทหลังค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจจนอ่อนลงในระดับใกล้เคียงกับปกติ ความรู้สึกรุมร้อนรุมหนาวเล่นงานจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้านเมื่อนึกขึ้นได้ถึงภาพสุดท้ายก่อนหมดสติไป


“เก้า?”


เสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านซ้ายของเตียง รามิลไม่คิดว่าเขาจะเห็นใครรีบรุดออกจากโซฟาสีครีมด้วยสายตาเป็นห่วง ฝันครั้งนี้เหมือนจริงเหลือเกิน และมีแต่จะยิ่งบีบหัวใจของเด็กหนุ่มให้เจ็บปวดยิ่งขึ้นเมื่อคนรักของเขากำลังลากเก้าอี้ที่อยู่ตรงมุมห้องมาไว้ข้างเตียงด้วยมือเดียว เด็กหนุ่มคิดว่าเขายังตั้งสติได้ไม่ดีนัก


“พี่ --” เขาอยากเรียก แต่ลำคอและริมฝีปากนั้นแห้งผากเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกไปได้ในครั้งเดียว “พี่เสือ”


หมอศรัณย์ไม่ได้ยิ้ม แต่พาตัวเองนั่งบนเก้าอี้พนักแข็ง ๆ นั้นโดยไม่พูดอะไร เสื้อเชิ้ตที่สวมใส่เป็นตัวเดียวกับเมื่อคืน ดวงตากลมโตยังดูบวมนิดหน่อยอย่างคนที่เพิ่งสะดุ้งตื่น อายุรแพทย์หนุ่มคล้ายอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ทำเพียงแค่ปิดเรียวปากจนแนบสนิทลงตามเดิมราวกับต้องการเวลาคิดให้มากกว่านี้


“แขนพี่เป็นอะไรไป”


ตลกดีที่นอกจากจะต้องเห็นเฝือกหน้าตาแย่ ๆ ที่ขาตัวเองแล้ว เขายังต้องมองศรัณย์ในสภาพแขนซ้ายถูกพยุงไว้กับผ้าคล้องแขนอีก มันเป็นสีกรมท่าตัดกับเฝือกอ่อนสีขาว ๆ ซึ่งโผล่พ้นตัวผ้าออกมา รามิลใจไม่ดีเลย เขาพยายามห้ามตัวเองเพียงเพื่อไม่ต้องนึกถึงใบหน้าสุดท้ายในกรอบสายตาก่อนหมดสติไป


“พี่ไม่เป็นไร เราเถอะ” มืออบอุ่นของศรัณย์แตะลงที่แก้มของเขา จากนั้นจึงเกลี่ยหน้าม้าสีน้ำตาลให้ปัดพ้นดวงตา “อธิศบอกว่านายถูกรถชน เอ็นข้อเท้าฉีก ต้องใส่เฝือกสักเดือนแล้วก็ทำกายภาพบำบัดอีกพักใหญ่”


ศรัณย์คล้ายจะยังพูดไม่จบ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อและปล่อยให้ความอึดอัดเข้าแทรกแซงอย่างง่ายดาย นั่นมันไม่ดีสำหรับทั้งสองคน และรามิลรู้ดีแก่ใจว่าเมื่อคืนพวกเขาตัดสินใจได้ไม่สวยนัก


เด็กหนุ่มเอื้อมมือออกไปแตะแขนของคนรัก สัมผัสกับที่คล้องแขนสีกรมท่าด้วยดวงตาสั่นไหว เห็นอย่างนั้นนายแพทย์ถึงได้เข้าใจว่าเขาควรเป็นฝ่ายพูดต่อ “แค่แขนซ้น สักสองอาทิตย์ก็ถอดเฝือกออกได้แล้ว”


“พี่ไปโดนอะไรมา” รามิลถามเมื่อศรัณย์พูดคล้ายกับอยากตัดบทให้จบไปเสีย


คนแก่กว่าทอดสายตามองเขา สิ่งที่แรงกล้าขึ้นมามีเพียงระลอกคลื่นและความคลางแคลง “รถชนน่ะ”


“....”


“คนขับทางนั้นเขาเมา เลยชนเข้ากลางคันตอนพี่กำลังกลับรถพอดี โชคดีที่โครงเหล็กไม่บุบ ไม่อย่างนั้นก็คงเจ็บหนักกว่านี้” ภาพอุบัติเหตุเมื่อคืนปรากฏขึ้นในห้วงคิดอีกครั้ง ตอนนั้นเขากำลังคุยโทรศัพท์ อีกมือก็หมุนพวงมาลัยกลับรถโดยมีเป้าหมายคือกลับไปยังคอนโดมิเนียมตามที่ถูกร้องขอจากคนในสาย “ตอนที่ถูกชน โทรศัพท์มันตกแล้วดับไป พี่พยายามโทรกลับเข้าเครื่องเราแต่ก็ไม่มีคนรับ”


“....”


“แต่อธิศโทรเข้ามาพอดีว่ากำลังจะถึง ส่วนพี่ถูกบังคับพามาที่นี่เพราะแทบขยับแขนไม่ได้”


“....”


“รถพยาบาลอีกคันพานายมา อธิศตามมาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น”


ศรัณย์เล่าจนจบในทีเดียว อย่างน้อยถ้าได้อธิบายเรื่องทั้งหมดแล้ว รามิลก็คงจะพอมีกะใจพูดอย่างอื่นออกมาบ้าง แน่นอนว่าเด็กหนุ่มดูเบาใจ แต่ดวงตานั้นก็ไม่ได้แสดงออกว่าใจชื้นขึ้นมาเลยสักนิด


“แล้วนายล่ะ” เขากลั้นใจถามออกไป ไม่ทิ้งช่วงประวิงเวลานานเกินกว่าที่เป็นอยู่ หากแต่รามิลหลุบสายตาหนี บ่งบอกชัดเจนว่าเลือกที่จะสู้ด้วยความเงียบเฉกเช่นเมื่อคืน บีบคั้นให้คนรักอย่างเขาใจเย็นอยู่กับความอดทนครึ่งปรอทอีกนิด แต่ครั้งนี้ศรัณย์ไม่ได้คาดหวังบทสรุปแบบเดิม เขาได้รับรู้เรื่องราวกึ่งหนึ่ง รวมถึงมีเวลาคิดมาทั้งคืนแล้ว “ยังไม่ต้องเล่าก็ได้”


รามิลเงยหน้าสบกัน ทั้งงุนงงและหวาดหวั่นต่อความลับที่เจ้าตัวไม่ยอมเปิดเผย


“สักบ่ายโมงพี่จะเข้ามาใหม่”


“....”


“แล้วเราจะได้คุยเรื่องนี้พร้อมกัน”


นายแพทย์หนุ่มไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไรแล้วพาตัวเองออกมาจากห้องผู้ป่วย ทางเดินทอดยาวและไม่ได้ดูจอแจเท่าชั้นผู้ป่วยรวม เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนทั้งคู่สบตากันเป็นครั้งสุดท้าย รามิลเงยหน้ามองเพดานห้องทั้งตัวสั่น ๆ เหมือนคนร้องไห้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงรีบเข้าไปกอดปลอบพร้อมทั้งพูดว่าช่างมัน ต่อให้จะเป็นเรื่องที่เด็กนั่นเผลอทำนาฬิกาทรายเรือนโปรดตกแตกก็เถอะ


ร่างผอมทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ชุดหลังจากแข็งใจเดินมาได้ราวแปดก้าว มือเรียวยกขึ้นลูบใบหน้าจนเกิดเป็นรอยริ้วแดง นัยน์ตาเรียวรีสั่นระริก ทั้งยังดูชุ่มชื้นเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาหัวเราะหนังตลกจนท้องคัดท้องแข็ง


จากตอนนี้ไปจนถึงบ่ายยังมีเวลาอีกสี่ชั่วโมง อธิศกับเด็กชนกันต์ขอตัวแยกออกไปตอนเช้าตรู่หลังจากที่ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อหน้าเขาเมื่อคืนนี้ ศรัณย์รู้ว่าตัวเองไม่เข้มแข็งพอ อย่างน้อยการมีใครอีกสองคนอยู่ในห้องระหว่างที่ความลับทุกอย่างคลี่คลายอาจดีกว่าก็เป็นได้ เพราะเขาไม่แน่ใจนักว่าจะทนนั่งฟังมันจนจบได้หรือเปล่า


อยู่ ๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ








----------------------------------------------------








มือใหญ่เลื่อนปิดตาของชนกันต์ทันทีที่เห็นว่ามีบางอย่างถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันยกและลากขึ้นโผล่พ้นเหนือผืนน้ำ กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทุกอย่างยิ่งทุลักทุเลเมื่อเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยช่วยยกศพขึ้นบนบกนั้นรังแต่จะเสียหลักล้มลงไปเพราะพื้นโคลนที่ยวบลงตามน้ำหนักการเหยียบ


“ค่อย ๆ ยกขึ้นมา! อย่างนั้น!”


“ระวังแขนศพด้วย!”



“อย่ามอง” อธิศกดศีรษะคนในวงแขนให้แนบเข้ากับแผ่นอก เขาไม่คิดว่านั่นเป็นภาพที่น่ามองนัก ต่อให้ชนกันต์จะยืนกรานเสียงแข็งว่าเคยเห็นมันมาแล้วตั้งแต่เมื่อคืนก็เถอะ ร่างซึ่งถูกวางลงบนผืนพลาสติกบวมอืดจนคับไปทั้งชุดเดรสผ้าสีเดียวกับหนองน้ำ ผิวศพเขียวคล้ำและค่อนไปทางสีเทา ที่คอมีเข็มขัดหนังยุ่ย ๆ รัดเอาไว้จนน่ากลัวว่าจะเหมือนขาข้างหนึ่งที่ขาดออกจากตัวศพเพราะการเน่าเปื่อย ก่อนหน้านี้มันคงยังไม่ขาดจากกันจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่พยายามย้ายขึ้นมา ข้าง ๆ กันนั้นมีเสื้อแขนยาวสีเขียวเปียกชุ่มตัวหนึ่งซึ่งห่อก้อนหินขนาดใหญ่เอาไว้แต่ไม่ได้ถูกใส่รวมในถุงห่อศพไปด้วยกัน


ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ก็นำโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งขึ้นจากน้ำ ดูจากสภาพไม่น่าใช้ได้อีก มันถูกนำใส่ถุงซิปล็อคสำหรับเก็บหลักฐานในเวลาต่อมา


เมื่อคืนต้องใช้เวลาคุยอยู่พักใหญ่กว่าทางตำรวจจะยอมคล้อยตามว่ามีศพถูกถ่วงอยู่ในหนองน้ำหลังถนนศรีราชา หลายครั้งเจ้าหน้าที่เอาแต่ถามว่ารู้ได้อย่างไร ชนกันต์อึกอักเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ตนเล่านั้นมีน้ำหนักเพียงพอ (แน่นอนว่าเรื่องเหนือธรรมชาติไม่ถูกนำมาพูดถึงกับบุคคลอื่น) ร้อนจนถึงอธิศที่ต้องเอาหน้าที่การงานเป็นหลักประกันค่าเสียเวลาว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะต้องไม่สูญเปล่า อธิศคิดว่าแพรพลอยน่าสงสาร ในตอนที่ความคิดของเขาเด่นชัดขึ้นมาว่าเธอถูกฆาตกรรมแน่นอนแล้ว


“หมอ... ผมขอดูเธอได้ไหมครับ”


อยากออกปากถามเหลือเกินว่าทำไมถึงได้อยากจะดูภาพน่าสะอิดสะเอียนแบบนั้นนัก แล้วก็อย่างที่คิด ไม่ถึงสิบวินาทีต่อมา ชนกันต์รีบผละจากเขาและถลาไปอาเจียนตรงพงหญ้าถึงแม้จะมีแค่น้ำย่อยที่ขย้อนออกมาก็ตามที


ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมเอกสารในมือ อธิศไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นกองพิสูจน์หลักฐานหรือว่ากองสืบสวน แต่ถึงอย่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ขออนุญาตพาตัวชนกันต์ไปชี้จุดเกิดเหตุที่เห็นแพรพลอยเป็นครั้งสุดท้าย แต่สำทับไว้ว่ายังไงก็ต้องนำศพกลับไปกองนิติเวชเพื่อทำการชันสูตรและพิสูจน์บุคคลอีกที จากนั้นจึงจะแจ้งให้ญาติรับรู้


เขามองดูนักศึกษาเภสัชกรรมร่างเล็กที่ทำมือไม้เป็นท่าขับรถประกอบการเล่า สีหน้านั้นไม่สู้ดีนัก แต่ถ้าเทียบกับเมื่อคืนที่เขาต้องนั่งกุมมือปลอบประโลมอยู่เป็นชั่วโมงแล้ว ก็นับว่าชนกันต์พิสูจน์เจตนารมณ์ของตัวเองได้ดี ไม่ว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นจะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ แต่ยังไงชนกันต์ก็ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับทางตำรวจเพื่อชดใช้ความผิด เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ารอยข่วนตรงกระโปรงรถนั้นมีอยู่จริง จากการมองสภาพศพและนาฬิกาที่รัดอยู่กับข้อมือบวมอืดเมื่อครู่ อธิศเดาแบบง่าย ๆ เอาว่ามีโอกาสจะเป็นสิ่งของมากกว่าผิวเนื้อของคนปกติที่สร้างร่องรอยสุดท้ายของเธอเอาไว้


ถ้าไม่มีอะไรผิดคาดอีก ก็แน่ชัดแล้วว่าเรื่องราวตลอดหนึ่งเดือนมานี้ของชนกันต์เกิดจากสาเหตุและการกระทำใดที่เจ้าตัวเคยสร้างเอาไว้ หากจะเปรียบเรื่องนี้เป็นจิ๊กซอว์ล่ะก็มันคงยังไม่สมบูรณ์นัก บางทีชนกันต์อาจเป็นเพียงส่วนประกอบสิบหรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด ยังไม่แน่ชัดว่าทำไมแพรพลอยถึงได้มาจบชีวิตเอาที่นี่


รามิลเป็นคนหลอกเธอมาหรือ


มันค่อนข้างไม่เป็นธรรมและด่วนตัดสินความอำมหิตของเด็กคนนั้นไปสักหน่อย นั่นทำให้อธิศเลิกสันนิษฐานในใจมั่วซั่วและเดินไปสมทบที่บริเวณถนนทางด้านนอก มันค่อนข้างน่าหงุดหงิดเมื่อต้องเดินผ่านพงหญ้ารกครึ้มที่มีความสูงเท่าเอวผู้ชายตัวสูง ๆ อย่างเขา


ชนกันต์ยืนอยู่อีกเลนของถนน มือนั้นชี้ลงตรงไหล่ทางและมองกลับมาใกล้ ๆ กับจุดที่เขายืนอยู่ บางทีคงกำลังจำลองเหตุการณ์คืนนั้นให้เจ้าหน้าที่เข้าใจได้มากที่สุด ครั้นเห็นเขา ริมฝีปากบางนั้นก็เหยียดออกเป็นรอยยิ้มอย่างเช่นครั้งสุดท้ายที่พูดว่าไม่เป็นไร แพทย์หนุ่มจึงยิ้มลักษณะเดียวกันกลับไปเพื่อจะสำทับซ้ำว่าไม่เป็นอะไรเช่นกัน


ตำรวจสืบสวนสองสามนายใกล้ ๆ ปรึกษากันว่าอาจต้องเรียกตัวเด็กในชั้นเรียนเดียวกันมาเพื่อยืนยันรูปพรรณสัณฐานของผู้ตาย อย่างน้อยก็อาจจะบอกได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธออยู่กับพวกเขาได้ใส่ชุดเดรสสีขาวตัวนี้หรือเปล่า นั่นจะทำให้คดีง่ายขึ้นอีกเป็นเท่าตัว


อธิศเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ความรู้สึกหดหู่ในใจเขาขดตัวเป็นก้อนกลมและดำดิ่งลงลึกอย่างบอกไม่ถูก


บางทีฟ้าหลังฝนก็ไม่ได้สวยงามดังเช่นบทกวี








----------------------------------------------------








 “ผลทางนิติเวชอาจต้องรออีกราว ๆ สองสามวันเป็นอย่างเร็ว ตอนนี้สิ่งที่พวกเขากำลังทำคือชันสูตรหาเวลาตายที่แน่นอนแล้วยืนยันตัวบุคคล” เสียงทุ้มเล่าความคืบหน้าโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ เจือลงในน้ำเสียง ตาคมปลาบทอดมองเพื่อนร่วมสายอาชีพ “ทางตำรวจกำลังติดต่อนักศึกษาที่ไปออกค่ายด้วยกันมาช่วยยืนยันอีกที แต่ก็เชื่อกันไปแล้วเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าคงเป็นแพรพลอยไม่ผิดแน่”


“....” ศรัณย์เงียบไปพักหนึ่ง เขาเงยขึ้นสบกับอธิศและชนกันต์ที่ยืนห่างออกไปอีกทาง ทุกคนมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก “แล้วคนร้ายล่ะ”


ถึงจะโกรธตัวเองที่ถามออกไปแบบนั้น ทว่าชายหนุ่มไม่สามารถโกหกความรู้สึกได้ว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการรู้ที่สุด ไม่ว่าอธิศจะดูออกหรือไม่ก็ตามแต่ “ยังจับไม่ได้”


“....”


“แต่เหมือนตำรวจจะเบนความสนใจไปหาเบาะแสจากปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ”


ชนกันต์นึกภาพปั๊มออกแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะพูดอะไรออกไปขัดบทสนทนาของนายแพทย์ทั้งสอง ยอมรับว่าเขาเองก็อึ้งไม่ต่างจากศรัณย์ตอนที่อธิศเรียบเรียงเรื่องของรามิลอย่างคร่าว ๆ ให้ฟังเมื่อคืนนี้ ถึงแม้จะไม่ได้พูดข้อสันนิษฐานหรือการอนุมานในทางบวกหรือลบ แต่ถึงอย่างนั้นทิศทางของเรื่องราวค่อนข้างไม่ชวนให้รู้สึกดีสักเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมอศรัณย์ที่คิดไม่ต่างกันว่ารามิลต้องมีส่วนในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย


“คุณเห็นเธออีกหรือเปล่า” ชนกันต์ขนลุกซู่หลังได้ยินคำถาม แต่เขาก็ตอบหมออธิศไปเสียงเบาหวิว


“ไม่ครับ ครั้งสุดท้ายคือที่เธอบอกว่าอยู่ในหนองน้ำนั่น”


เป็นเรื่องเหลือเชื่อว่าจิตแพทย์อย่างอธิศยอมรับการมีอยู่ของวิญญาณและยังเปิดรูปถ่ายในโทรศัพท์ให้ศรัณย์ดูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เด็กหนุ่มจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก แต่เขาก็ยิ่งรู้สึกพรั่นพรึงขึ้นไปอีกเมื่ออายุรแพทย์หนุ่มมีสีหน้าตกใจโดยไม่ต้องพูดยืนยันอะไรให้มากความ เป็นครั้งแรกที่ชนกันต์รู้ว่านอกจากเขาแล้ว แพรพลอยก็ได้ปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นเช่นกัน


พอคิดได้ว่าเคยไปนั่งดื่มกับรามิลและหมอศรัณย์แล้วก็ขนหัวลุกขึ้นมาอีกรอบ เรื่องทุกอย่างวนกลับมาใกล้ตัวเสียจนไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กนักเรียนแพทย์ท่าทางสุภาพคนนั้นจะเป็นกุญแจสำคัญของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ชนกันต์คิดว่าเรื่องทุกอย่างคงคลี่คลาย แต่เขาก็ยังกลัวเหลือเกินว่านี่อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่เธอต้องการ ถึงอย่างนั้น การที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นอีกก็นับว่าเป็นลางดีทีเดียว


“เก้ายังอยู่ในห้อง แต่ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง” ร่างผอมไม่ได้เป็นฝ่ายเดินนำหลังจากบอกเล่าถึงบุคคลที่สี่ ตาเรียวรีคู่นั้นแดงก่ำ ก้ำกึ่งว่าโกรธหรืออยากร้องไห้ ศรัณย์มักจะแทรกชื่อรามิลเขาไปในการพูดคุยเสมอ มันฟังดูน่าเห็นใจถ้าคิดในแง่ของชายหนุ่มว่าเด็กคนนั้นใกล้ตัวเพียงใด


อธิศหันมาสบตากับเขาก่อนจะก้าวขาออกไปก่อน ชนกันต์เดินตาม และเป็นศรัณย์ที่เลือกรั้งท้าย ซ้ำยังช้าจนทิ้งห่างออกไปราวกับว่าบานประตูนั้นเป็นปากเหวหรืออะไรสักอย่าง เขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรในตอนที่เห็นรามิลนั่งรอบนเตียงอยู่แล้ว ที่พยุงขาถูกเอาออกและปล่อยให้เฝือกแข็ง ๆ วางบนหมอนอิงทรงสูงแทน ความอิดโรยของรามิลในตอนนี้ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยไปหลายปี ชนกันต์คิดว่าคนตรงหน้าคงเตรียมใจไว้แล้ว แววตานั้นไม่ได้มีความกราดเกรี้ยวหลงเหลืออยู่ มันทั้งหม่นแสง อ่อนแรงคล้ายพระอาทิตย์ก่อนเวลากลางคืน ซ้ำยังแผ่กระจายความเศร้าสร้อยวังเวงจนห้องทั้งห้องดูกว้างขึ้นทันตา


“เป็นยังไงบ้างครับ”


หมออธิศถาม ในขณะที่คนฟังวงนอกเอี้ยวใบหน้าไปข้างหลังเพื่อเห็นว่าศรัณย์ยืนห่างออกไปมากที่สุด รามิลยังไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ร่างสูงถอนหายใจ มือใหญ่ลากเอาเก้าอี้เฝ้าไข้ออกห่างจากเตียงอีกราว ๆ ครึ่งเมตรแล้วจึงนั่งลง ส่วนชนกันต์สามารถไปนั่งตรงโซฟาได้


“ทางตำรวจเจอศพของแพรพลอยแล้ว” อธิศเปิดบท ครู่หนึ่งม่านตาของคนบนเตียงเบิกกว้างขึ้น แต่แล้วมันก็หลุบลงมองผ้าห่มสีขาวตามเดิม “เธอถูกฆาตกรรมที่ศรีราชา ศพถูกถ่วงอยู่ก้นหนองน้ำ นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมถึงไม่มีใครเจอเธอเลยตลอดหนึ่งเดือนมานี้”


“....” ตาของรามิลแดงขึ้นอีก มือที่วางบนหน้าขาบีบผ้าห่มบาง ๆ นั้นจนเป็นรอยยับยู่ ใช่ว่าจิตแพทย์หนุ่มจะไม่รู้สึกรู้สา เพราะในนาทีต่อมาเสียงนั้นก็อ่อนลงอย่างชัดเจน


“เก้า... เรื่องนี้ไม่มีทางจบลงได้”


“....”


“ตราบใดที่เรายังไม่รู้สิ่งที่อยู่ในใจคุณ”








------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 11-03-2015 20:47:23
( ต่อ )









ชนกันต์คิดว่าเขานั่งไกลออกมาแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นหยดน้ำตาซึ่งร่วงเผาะลงกับหลังมือนั้นอย่างสิ้นหวัง หลังของรามิลโค้งงอ มันทำให้เด็กหนุ่มดูเหมือนคนที่อาจขาดใจตายขึ้นมากะทันหัน มีเหตุผลที่อธิศยอมปั้นตัวเองเป็นจอมละลาบละล้วงใจร้าย เพราะหากตำรวจมาที่นี่หลังจากได้ข้อมูลแล้ว อาจจะอีกหนึ่งวัน สามชั่วโมง หรือครึ่งชั่วโมงข้างหน้า ถึงตอนนั้นรามิลคงได้ขาดใจตายขึ้นมาจริง ๆ หากความลับที่เก็บซ่อนไว้เป็นดังอาวุธที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง


เบาะข้างตัวยวบลงจนชนกันต์สะดุ้งน้อย ๆ หมอศรัณย์นั่นเอง ดวงตาของผู้ชายคนนี้ก็ดูอ่อนแรงไม่ต่างกัน มันสั่นระริกอย่างใคร่รู้ ริมฝีปากรูปกระจับคว่ำลงผิดจากรอยยิ้มที่เจ้าตัวฝืนส่งมันออกมาทุกที


ร่างโปร่งหอบหายใจจนตัวโยน ความเจ็บปวดที่ข้อเท้าก็ทวีขึ้นในทุกครั้งที่เด็กหนุ่มขยับตัว ภาพของแพรพลอยเมื่อคืนยังติดตรึงอยู่ในห้วงความคิด ไม่ว่าจะสลัดอย่างไร รามิลรู้ว่ามันคงไม่มีทางออกไปง่าย ๆ และจะอยู่เป็นตราบาปในใจเขาไปอีกนาน กลัวที่ทุกการกระทำของตัวเองได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งทั้งในมูลเหตุและความเป็นไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สีดำในใจขยายวงกว้าง ยิ่งหันไปเห็นสายตาของศรัณย์ เสียงก่นด่าในใจก็มีแต่จะยิ่งรุนแรงจนไม่สามารถพูดคำใดออกมาเป็นศัพท์ เด็กหนุ่มพยายามอย่างยิ่งที่จะสงบตัวเองลงให้ได้


“ผมกับพลอย... เรามักจะเรียนเซคเดียวกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง” เสียงทุ้มนุ่มสั่นเครือ และต้องตั้งใจฟังสักหน่อยหากว่าอยากได้ยินมันชัดเจน “เราไม่ได้สนิทกัน ผมก็คิดเหมือนเพื่อนว่าเธอเป็นคนแปลก ๆ พลอยเลยไม่มีกลุ่มเพื่อนสนิทเหมือนอย่างคนอื่น”


“....”


“มันเริ่มจากความสงสาร บางทีคนอื่นก็แกล้งพลอยแรงเกินไป ไม่ค่อยมีใครใส่ใจเวลาเผลอพูดกับเธอไม่ดี ช่วงกลางเทอมแรกตอนปีสามผมเลยยอมคุยด้วย คุยแบบที่ -- ผมแค่ไม่ได้รังเกียจถ้าพลอยมาขอความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ พอมีครั้งแรกแล้วมันก็มีครั้งที่สอง จนรู้ตัวอีกที ก็เหมือนมีแค่ผมที่พลอยกล้าคุยด้วย หรือแม้แต่ตอนมีสอบ เธอก็มักจะเก็งข้อสอบมาให้ผมดูด้วยเสมอ”


“....”


“ต้องมีใครสักคนให้เธอหวังดีด้วยหรือรู้สึกว่ามีเพื่อนอยู่บ้าง”


ไม่มีใครพูดอะไรออกไปในระหว่างที่รามิลเล่า เขาพูดช้า ๆ และใช้เวลาคิดเล็กน้อยในช่วงรอยต่อของช่วงเวลา ดูเหมือนรามิลพยายามเหลือเกินที่จะเล่ามันให้ปะติดปะต่อมากที่สุด


“ตอนจบปีสาม เรารวมเงินกันจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ปกติไม่ค่อยมีใครสนใจพลอยนัก แต่คืนนั้นเธอแต่งตัวจัดเป็นพิเศษ มันไม่ถึงกับแย่ แต่เพื่อน ๆ ของผมมองว่าตลก”




‘เฮ้ย! สวยมาอ่อยมึงแน่เลยว่ะ’

‘ชุดดำมาเชียว แหม กูนึกว่าแม่ชีฝรั่ง’

‘ถ้าใส่ชุดขาวมานี่ กูว่าน้อง ๆ จูออนเลยนะ ฮ่า ๆๆ’





“ผมไม่คิดว่าพลอยจะกล้ามา... คืนนั้นเธอตัวติดกับผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรในตอนที่พวกเพื่อนในกลุ่มพยายามแกล้งมอมเหล้าเธอหนัก ๆ ทุกคนหัวเราะกันหนักมาก พลอยเรียกผมเสียงอ้อแอ้”


“....”


“ผมไม่ได้สนิทกับพลอยถึงขนาดที่ว่าจะอยากช่วยอะไรเธอ ไม่มีใครชวนพลอยด้วยซ้ำ! แต่ลึก ๆ ก็รู้ว่าเธอมาเพราะมีผม” ถึงตอนนี้รามิลเริ่มหายใจติดขัด มันคล้ายกับว่าสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้ยากเย็นเหลือเกิน “พลอยเมาหนักมาก เราเลยต้องยืมห้องนอนแขกของเพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้าน”


“....”


“คืนนั้นผมไม่ได้ตั้งใจ แต่ --”








‘โอ๊ต มึงอย่าทำแบบนี้ดีกว่า’ ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะรั้งแขนคนที่กำลังจะลุกขึ้นเอาไว้ ตอนนี้ทุกคนเริ่มเมาเละอยู่ทางด้านนอก ไม่มีใครสนใจสักเท่าไรว่ากลุ่มผู้ชายติดเที่ยวด้านในบ้านกำลังทำอะไรกันอยู่


‘นิดนึงน่า มึงชอบพลอยหรือไงถึงต้องหวงด้วย’


‘พูดบ้าอะไร’ รามิลท้วงเสียงแข็ง แล้วก็รู้สึกผิดในเวลาต่อมาที่เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องของแพรพลอยมากไปกว่าสายตาที่ถูกมอง ‘กูไม่ได้เล่นด้วย’


‘แล้วมึงจะมาห้ามกูทำไม’ โอ๊ตแค่นยิ้ม ถึงจะชะงักไปเพราะโดนติง แต่พอประมวลผลจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างแล้วชายหนุ่มก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงไม่กล้าพูดอะไรมาก ‘แล้วน่าเชื่อตายห่าเลยว่าพลอยยังไม่โดนมึงเอา เว้นแต่มึงจะเป็นตุ๊ดว่ะไอ้เก้า’


‘ไอ้ --’


โอ๊ตไม่ได้กลัวถูกต่อยถึงแม้ว่าคอเสื้อกำลังอยู่ในมือของไก่อ่อนตรงหน้า มีผู้ชายที่ไหนถูกผู้หญิงอ่อยเป็นปี ๆ แล้วจะปล่อยผ่านไปได้ พวกเขาละสงสัยมาตั้งนานแล้วว่ารามิลจะเป็นพวกเก้งกวางอะไรแบบนั้น หน้าตาสำอางตุ้งติ้งอย่างมัน แต่ดันโมโหเป็นฟืนเป็นไฟทุกทีเวลาเจอใครแซวเรื่องเป็นเกย์


‘ว่าไง ตุ๊ดหรือเปล่ามึงอะ’


เป็นเขาเสียเองที่ไม่ต่างอะไรจากโดนต่อยหน้า การยืนเป็นไอ้งั่งแล้วปล่อยให้เพื่อนผู้ชายดูแคลนด้วยคำอย่างนั้น มันเป็นการเหยียบศักดิ์ศรีของรามิลจนมิดดิน อันที่จริงเขาควรใจแข็งกว่านี้ถ้ารู้ว่าตัวเองอยู่ผิดสังคมตั้งแต่ต้น เขาแค่กลัวการอยู่คนเดียว กลัวการแปลกแยก เพราะอย่างนั้นถึงได้หลับหูหลับตาแล้วใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยสนุก ๆ มาโดยตลอด เข้าร้านเหล้าบ้าง หรือบางครั้งรามิลก็มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงไปตามประสา แน่นอนเขารักศรัณย์ แต่ความรักนั้นยืนอยู่กับที่ สิ่งที่จะปกป้องตัวเองในสังคมได้ก็คือตัวเอง ถ้าความลับเรื่องคบผู้ชายเปิดเผย น่ากลัวว่ารามิลจะมองหน้าใครไม่ติดอีกเลย


‘กูไม่ได้เป็น’


‘แล้ว?’


‘กูชอบผู้หญิง’


รามิลไม่ปฏิเสธถึงแม้ว่าความหงุดหงิดจะตีขึ้นมาจนใบหน้าขาวแดงก่ำเพราะโทสะ ผุดลุกขึ้นแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนแขกอย่างที่คิดว่าทุกคนคงอยากเห็น อ้อ แน่นอน พวกมันอยากให้เขาแสดงความเป็นผู้ชาย และถึงแม้วิธีนี้อาจจะสร้างความยุ่งยากตามมาหลังจากนี้ แต่รามิลก็เชื่อเช่นกันว่าแพรพลอยคงคุยได้ไม่ยากนัก


เขาปิดประตูล็อก ตาก็มองร่างที่นอนอ้อแอ้อยู่บนเตียงอย่างคนไม่รู้ประสา มือซึ่งคาอยู่ที่ลูกบิดชื้นเหงื่อ รามิลโทษฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้เขาระงับความโมโหบ้า ๆ นั้นได้น้อยกว่าที่เคย ถ้าเขาไม่เข้ามา ผู้ชายที่อยู่ตรงนี้คงเป็นไอ้โอ๊ตหรือใครสักคน และแม้จะคิดว่านี่เป็นเรื่องเลวระยำสักแค่ไหน แต่รามิลกลับพาตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องโง่ ๆ ครั้งนี้เสียแล้ว


‘เก้าเหรอ...’ แพรพลอยร้องเรียก เธอไม่รู้ตัวว่ากระโปรงทรงสอบสีดำนั้นเลิกขึ้นจนเห็นโคนขา ศีรษะหนักอึ้ง แล้วก็มองเห็นแค่เพื่อนชายซึ่งเดินเข้ามาจนหยุดอยู่ข้างเตียง


‘ทำไมปล่อยตัวเองเมาขนาดนี้ แล้วจะกลับบ้านยังไง’


‘เก้า...’ เธอเอื้อมมือมาคว้าแขนเขาไว้สะเปะสะปะ พยายามจะหยัดตัวลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ‘ลุกไม่ไหวเลย’


รามิลคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ พรูลมหายใจก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ‘บ้านเธออยู่ไหน’


‘เก้า’


เขาจับแขนเธอพาดคอเอาไว้แล้วพยายามหาท่าทางเหมาะ ๆ เพื่อช้อนตัวขึ้นมาให้ได้ แต่ก่อนหน้านี้รามิลก็ดื่มไปหนักพอตัว นอกจากอาการรู้สึกมึนอยู่บ้างแล้ว เห็นจะเป็นเรี่ยวแรงที่น้อยลงกว่าปกติ ‘พลอย ช่วยกันหน่อย’ เขาส่งเสียงบอก แต่แพรพลอยก็ยังทำตัวหนักแล้วรังแต่จะยึดตัวเองไว้กับที่นอนทั้งอย่างนั้น เรียวขาชันขึ้นจนชายกระโปรงถกขึ้นเห็นซับใน มันไม่ใช่ท่าทางที่เหมาะสมเลยสำหรับชายหญิงซึ่งอยู่ตามลำพังบนเตียงสองต่อสอง ‘พลอย’ เด็กหนุ่มเรียกอีก พยายามจะพยุงหญิงสาวขึ้นมาทั้งที่ตัวเองก็จวนเจียนล้มตามไปอยู่หลายครั้ง


‘เรารักเก้า’ เธอพูดขึ้น ยกมือไร้เรี่ยวแรงวางนาบบนแก้มร้อนของเขา แต่แล้วมันก็ตกลงไปบนหน้าขากางเกงยีนส์ ‘รักมากเลย... เก้าใจดีกับเรา’


‘พลอย...’ รามิลพยายามปราม เขารู้ดีว่าอะไร ๆ จะยุ่งยากมากไปกว่านี้ถ้ายังลากแพรพลอยไปขึ้นรถแท็กซี่ไม่ได้ ‘เธอเมามากแล้วนะ กลับบ้านดีกว่า’


แพรพลอยขดตัวน้อย ๆ เธอบิดหน้าขาไปมาอย่างคนที่อยู่ในสถานะขาดการยั้งคิด สำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยสัมผัสเรื่องเซ็กส์แล้ว การถูกกระตุ้นนิด ๆ หน่อย ๆ ก็สร้างอารมณ์กระสันได้ง่ายดาย ใช่ว่าเขาไม่รู้เรื่องที่แพรพลอยกำลังเป็นแบบนี้ เพียงแต่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ไม่อยากพาตัวเองเข้าสู่วังวนของความยุ่งยากหลังจากนี้


‘แล้วน่าเชื่อตายห่าเลยว่าพลอยยังไม่โดนมึงเอา เว้นแต่มึงจะเป็นตุ๊ดว่ะไอ้เก้า’


คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น จริงอยู่ที่รามิลไม่ได้โง่ถึงขนาดจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คิดกับเขาเกินเพื่อนมาตลอด แต่ก็นั่นแหละ เขามีศรัณย์อยู่แล้ว และถึงจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่แพรพลอยนั้นห่างไกลกับลักษณะที่พึงจะคบในแง่ชู้สาวอย่างสิ้นเชิง


ร่างโปร่งเอี้ยวหน้ากลับไปมองบานประตูที่ปิดสนิท ก่อนจะกลับมาจับจ้องร่างผอมบางบนเตียงอีกครั้ง หล่อนยังครางเรียกเขา มือก็ปะป่ายสะเปะสะปะไปตรงนั้นตรงนี้ที ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือตอนที่มีสติสัมปชัญญะครบทุกอย่าง ผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่มีวันปฏิเสธ


มันคงไม่ยุ่งยากอะไร ในเมื่อเรื่องคืนนี้แพรพลอยเป็นฝ่ายเรียกร้องเขาเอง











“....”


อ่า – ใช่ ต่อให้คนตรงหน้าจะดูเป็นคนที่บุคลิกสุภาพเรียบร้อยแค่ไหน แต่ก็คือผู้ชายอยู่วันยังค่ำ ในบางสถานการณ์ การยั้งคิดมีประสิทธิภาพต่ำลง สีหน้าของรามิลไม่เหมือนคนร้องไห้แล้ว หากแต่ยังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ส่งผลให้แววตานั้นดูเงาวับ ชนกันต์รู้สึกปวดหนึบในใจขึ้นมาอย่างประหลาด ปกติเขาไม่เคยสักครั้งที่จะอยากนึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าเรื่องที่รามิลเล่ากำลังเป็นไปในทิศทางที่คิดจริง ๆ ดวงตาดำด้านคู่นั้นก็คงสื่อถึงหัวใจที่แหลกสลายของเธอได้เป็นอย่างดี


หมอศรัณย์ไม่ได้ขยับตัวเลยในขณะที่ฟังเรื่องเมื่อครู่ ดวงตากลมโตยังคงทอดมองไปข้างหน้า น่าเชื่อว่าคงเป็นผนังสีครีมอ่อนมากกว่าคนบนเตียง ส่วนหมออธิศไม่ได้พูดอะไรออกมาในทันที ชนกันต์เห็นแผ่นหลังกว้างนั้นขยับเพราะการเปลี่ยนท่าทาง


“แล้วหลังจากนั้นเป็นยังไงครับ”


คนเล่าปล่อยให้เวลาผ่านทิ้งไปเฉย ๆ ในขณะแสดงสายตาขบคิดต่อคำถาม สักพักเขาถึงได้ยอมพูดต่อ “หลังมีอะไรกับพลอยเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งกลับหอ คนอื่นยังนั่งกินเหล้าอยู่ข้างนอก พวกมันยิ้มอย่างกับรู้ดีว่าผมทำอะไรมา”


“แพรพลอยล่ะ”


“ผมปล่อยพลอยไว้อย่างนั้น แต่โอ๊ตบอกว่าไม่ได้ทำอะไรแล้ว พอเมาตื่นมาตอนเช้าเธอก็หายไป”


“....”


“วันนั้นพลอยโทรมาหาผม เราเลยนัดคุยกันที่ร้านข้าวแถว ๆ มอ เธอบอกผมว่าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นไรเลย ผมถึงได้เบาใจและคิดแค่ว่าต้องทิ้งระยะห่างกับเธอหลังจากนี้” ฟังดูง่ายดายและเป็นไปได้ยาก แต่นั่นคือสิ่งที่รามิลต้องการจะสื่อ “พลอยโทรมาหาผมบ่อยขึ้น ผมไม่ค่อยอยากรับ เลยหาข้ออ้างต่าง ๆ นานาว่าไม่ค่อยว่าง แต่พอเปิดเทอม ผมก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีเพราะเราเรียนเซคเดียวกัน”


“....”


“วันแรกที่เปิดเทอม พวกไอ้โอ๊ตเขียนคำว่าง่ายต้อนรับเธอบนกระดานห้องเรียน ตอนนั้นผมโกรธและอายมาก อายเกินกว่าจะมานั่งสนใจว่าพลอยรู้สึกยังไง ผมเถียงกับเพื่อนในกลุ่มจนเป็นเรื่องใหญ่ คืนนั้นผมไม่ได้จริงจัง อันที่จริงมันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของผมด้วยซ้ำ” เสียงทุ้มนุ่มราบเรียบขึ้น รามิลตอนนี้ดูออกได้ง่ายว่าใช้ความคิดในทุกประโยคที่เอื้อนเอ่ยออกมา “ผมเคลียร์กับพลอยอีกรอบ บอกให้เธออยู่ห่าง ๆ ถ้าไม่อยากตกล่องปล่องชิ้นเป็นขี้ปากไปด้วยกัน”


“....”


“แต่พลอยไม่เข้าใจ... เธอไม่พยายามเข้าใจอะไรเลย”




‘ทำไมล่ะ? เราเป็นเหมือนเดิมก็ได้นะ’

‘พลอย ที่เราพูด --’

‘ที่เราไม่เป็นไรก็เพราะว่าเราอยากอยู่กับเก้า’





“เธอโทรมาบ่อยขึ้น แทบจะตลอดเวลา ไม่เว้นช่องว่างให้ผมได้หายใจ” ถึงตอนนี้ร่างโปร่งหันมาทางชนกันต์ ไม่ใช่สิ เป็นคนข้าง ๆ ต่างหาก “ผมก็เลยจงใจให้เธอรู้ความลับบางอย่าง เพราะคิดว่ามันน่าจะทำให้พลอยตัดใจได้ง่ายขึ้น”


“....” มือข้างที่ไม่ใส่เฝือกขยุ้มขากางเกงจนเกิดรอยเส้นเลือดบนท่อนแขน ไหล่ลาดของศรัณย์สั่นเทาน้อย ๆ แต่สายตาก็ยังสบเข้ากับรามิลโดยไม่ละจากกัน


“ผมบอกให้เธอเอาชีทมาให้ที่คอนโด ฯ”


“....”


“ให้เธอเจอพี่”










‘รอนานหรือเปล่าเรา?’


ร่างโปร่งหันไปยิ้มรับ ฟังเสียงกุญแจรถในมือของคนรักกระทบกันทุกจังหวะที่ศรัณย์ก้าวเข้ามาหา หางตาปราดมองไปทางแพรพลอยซึ่งยืนหลบอยู่หลังเสาต้นใหญ่เมื่อถูกใครบางคนตัดหน้าเดินเข้าไปหาเพื่อนชายโดยไม่รู้เรื่องราว


‘ไม่นานครับ ผมคิดถึงพี่’


ศรัณย์ชะงักไปเล็กน้อย ปกติรามิลไม่ใช่คนปากหวาน แต่มันก็น่าเอ็นดูเสียจนเขาต้องเอื้อมมือไปโคลงศีรษะคนรักเบา ๆ ‘น่าหมั่นเขี้ยวจังไอ้แสบ ขึ้นห้องกันดีกว่า’


‘....’










ตาเรียวรีของชนกันต์เบิกขึ้นน้อย ๆ เมื่อต้องรับรู้ข้อมูลใหม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองคนตรงหน้านั้นเป็นไปในทางที่เขานึกไม่ถึง หากแต่การที่อธิศหันมามองเพื่อนร่วมงานเพียงเสี้ยววินาที ทำให้คิดได้ว่าเจ้าตัวเองก็คงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเช่นกัน หมอศรัณย์กับนักศึกษาแพทย์รามิลมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และนั่นคือความลับที่ทำให้หัวใจผู้หญิงคนหนึ่งแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี


“แต่เรื่องมันเป็นไปในทางตรงกันข้าม พลอยยิ่งแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของผมมากกว่าเก่า เธอชอบใจถ้าจะมีใครสักคนสงสัยเรื่องความสัมพันธ์นี้ แต่ผมพยายามห่างออกมา เลี่ยงเท่าที่จะเลี่ยงได้ จากอึดอัดก็เริ่มกลายเป็นรำคาญ พลอยโทรหาผมแม้กระทั่งในตอนที่เธอรู้ทั้งรู้ว่าผมอยู่กับพี่เสือ” ดวงตาของเด็กหนุ่มยังคงแดงก่ำ น้ำเสียงกดต่ำฟังดูรุนแรงและส่อเค้าถึงสถานการณ์เลวร้ายในตอนนั้น “จนวันที่เรากลับจากค่าย...” รามิลแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก “รถบัสจอดแวะที่ปั๊มน้ำมันให้พวกเราแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว อาจจะสักหกโมงหรือทุ่มหนึ่ง ผมจำได้แค่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว”


“....”


“พลอยลากผมไปคุยแถว ๆ หลังปั๊ม มันค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็ทำให้แน่ใจว่าระหว่างนั้นคงไม่มีใครผ่านมาได้ยินเรื่องที่เรากำลังจะพูด”


“....”


“เธอบอกว่าเธอท้อง”


“....!” ชนกันต์เบิกตามองเสี้ยวหน้าของรามิลหลังจากพูดประโยคนี้ด้วยใจเต้นระส่ำ ไหล่ของหมออธิศยังคงนิ่งสงบ จากนั้นจึงหันมามองคนข้างตัวเพียงเพื่อเห็นว่าหมอศรัณย์กลับไปก้มหน้าก้มตามองพื้นแล้ว หากแต่เส้นเลือดที่หลังมือและท่อนแขนมีแต่จะยิ่งปูดโปนจนเห็นได้ชัดกว่าเก่า อยากรู้เหลือเกินว่าตอนนี้จิตแพทย์หนุ่มกำลังทำหน้าอย่างไรอยู่ ถ้าแพรพลอยเสียชีวิตในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่จริงคงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก เขาเองก็มีส่วนในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ อกซ้ายบีบรัดแน่นขึ้นทุกทีเพียงแค่คิดอยากย้อนเวลากลับไปในคืนนั้นและลงไปดูร่างของเธอให้แน่ใจ


“แล้วเธอตั้งครรภ์จริง ๆ หรือเปล่าครับ” อธิศถามขึ้น น้ำเสียงไม่ได้สบอารมณ์ไปในทางใดทางหนึ่งเสียทีเดียว


“ผมไม่แน่ใจ” รามิลกดใบหน้าลงต่ำ “คืนนั้นไม่มีถุงยาง ผมก็เลยปล่อยนอก แต่อีกใจก็คิดว่ามันอาจจะเป็นลูกเล่นของพลอยเพื่อให้ผมรับผิดชอบ”










‘เธอท้องเหรอ?’


เสียงทุ้มแค่นสมเพช ยิ่งทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวตัวเก่งของเธอยืนหน้าชาด้วยท่าทางที่งุ่นง่านเสียยิ่งกว่าเก่า แพรพลอยพยักหน้า ‘เรา -- ผลตรวจเป็นสองขีด’


รามิลสูดลมหายใจลึก เขาโผล่หน้าออกไปมองไปรอบ ๆ ราวกับให้แน่ใจว่าเพื่อนคนอื่นยังคงทำธุระของตัวเองกันอยู่ ดวงตาสั่นระริกไปด้วยความโมโห หงุดหงิด แล้วก็สารพัดสิ่งที่แพรพลอยทำให้เขารู้สึก แล้วอย่างไรต่อ เขาควรแสดงความรับผิดชอบแล้วรีบไปลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อหางานทำเลี้ยงเมียที่กำลังท้องอย่างนั้นเหรอ นี่มันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เป็นเรื่องเลวร้ายระดับต้น ๆ ที่รามิลไม่อยากได้ยิน มือเรียวลูบใบหน้าตัวเองจนแดงก่ำ นึกอยากเขวี้ยงอะไรสักอย่างลงกับพื้นแรง ๆ ให้มันพัง แต่เขาก็กำไว้ได้แค่ลมเย็นที่ชวนให้หงุดหงิดยิ่งว่าเก่า


‘ไม่เข้าใจหรือไงว่าเราไม่ได้ชอบพลอย’


‘เก้า...’


‘ไม่แม้แต่จะคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นไปได้ด้วยซ้ำ’


‘เรา...’


‘หรือต่อให้ท้องขึ้นมาจริง ๆ แต่สิ่งที่อยู่ในท้องของเธอน่ะมันว่างเปล่า’


‘….’


‘มันไม่มีค่าอะไรกับเรา’


‘….’


‘พอได้แล้ว’


เขาเดินออกมาจากตรงนั้น เดินออกมาแม้จะได้ยินเธอส่งเสียงกับตัวเองด้วยความอัดอั้นเหมือนจะตาย แพรพลอยทรุดตัวลงร้องไห้ ร้องไห้ให้กับผู้ชายที่ไม่แม้แต่จะคิดหันกลับไปพยุงเธอเอาไว้


เธอไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น










นัยน์ตาของศรัณย์แดงก่ำ มันคลอด้วยน้ำใส ๆ ที่หยดลงบนหลังมือจนต้องรีบปาดออกอย่างลวก ๆ ชนกันต์สะดุ้งอีกครั้งเมื่อร่างผอมของอายุรแพทย์ยืนเต็มความสูงโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าสองคนที่อยู่ตรงเตียงจะหันมา บรรยากาศโดยรอบตึงเครียด ถ้าเทียบความรู้สึกเป็นอะไรสักอย่าง มันก็คงบางเหมือนเส้นด้ายที่กำลังดีดตัวเพราะถูกขึงไว้ตึงเกินไป


ศรัณย์เดินวนอยู่แถว ๆ หน้าประตูห้องด้วยท่าทางงุ่นง่าน และก่อนที่เขาหรืออธิศจะเอ่ยปากให้รามิลเล่าต่อ เสียงทุบเข้ากับกำแพงห้องน้ำก็ดังขึ้นมา ตุ้บ มันหยุดทุกอย่าง หยุดแม้กระทั่งปีศาจในใจรามิลให้ตัวเล็กลงเท่ากำมือ


อธิศชั่งใจว่าเขาควรออกไปห้องนี้สักพัก แต่เสียงสั่น ๆ ของรามิลก็รั้งทุกอย่างเอาไว้ “ผมทิ้งเธอไว้ตรงนั้น”


ชนกันต์เกือบจะสบถออกไปว่าอะไรนะ แต่เขาก็หุบปากตัวเองไว้ได้ทัน


“บนรถไม่มีใครเอะใจเรื่องพลอยหายไป พอเริ่มเข้ากรุงเทพ ฯ ก็มีคนขอทยอยลงระหว่างทางบ้างประปราย ตอนเรากลับถึงมหา’ลัย ฝนกำลังตก ทุกคนเลยชุลมุนเอาสัมภาระของตัวเองแล้วรีบแยกย้ายกันกลับ”


“....”’


“นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นพลอย”


“....”


“....”


ห้องทั้งห้องตกสู่ห้วงความเงียบอีกครั้ง ริมฝีปากของรามิลกลับเป็นเส้นตรงปิดสนิทดังเช่นก่อนหน้า อธิศนิ่งเงียบใช้ความคิด ในขณะที่ชนกันต์ยังคงไม่ละสายตาจากศรัณย์ที่ยืนหันหน้าเข้ากำแพงแล้วซุกศีรษะไว้กับท่อนแขน จิ๊กซอว์ถูกปะติดปะต่อเข้าด้วยกันทีละชิ้น รูปคดีก่อขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง เหลือช่องโหว่ก็แค่ตัวคนร้ายที่แท้จริงซึ่งยังลอยนวลอยู่ที่ไหนสักแห่ง


แม้แต่จิตแพทย์เพียงคนเดียวในที่นี้ยังดูเก้ ๆ กัง ๆ จนผิดปกติ อธิศคงไม่รู้จะพูดอะไร แต่เขาก็ต้องพูดเพื่อเบนเข็มการพูดคุยในครั้งนี้ให้เป็นไปในทางที่ควรจะเป็น “ผมคิดว่าเดี๋ยวทางตำรวจก็คงติดต่อมาเพื่อขอสอบปากคำคุณ ตอนนี้ศพยังอยู่ในขั้นตอนชันสูตร อีกราว ๆ สองสามวัน --”


“นายทำอะไร”


เสียงของศรัณย์เบาหวิว หากแต่มันก็หยุดเสียงของอธิศได้ชะงัดนัก


รามิลมองตอบสายตาแข็งกร้าวของคนตรงหน้า ข้างแก้มศรัณย์มีน้ำตาเช่นเดียวกัน ดวงตายังพร่ามัวและมือที่ไร้เรี่ยวแรงก็บีบผ้าห่มแน่นขึ้นอีก เขาเกลียดสายตาแบบนั้น


“ฉันถามว่านายทำอะไร รามิล!” มือเรียวยกขึ้นชี้หน้าคนรัก อายุรแพทย์หนุ่มยังคงยืนอยู่แถว ๆ หน้าประตู มันอาจจะมีกำแพงจาง ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งคู่หลังเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นได้ สายของศรัณย์ถึงได้ดูเกรี้ยวกราดและห่างเหินจนน่าใจหาย


“พี่เสือ...”


แน่นอน รามิลคิดว่าศรัณย์ไม่เคยชี้หน้าเขา ไม่เคยแม้แต่จะขึ้นเสียงและทำตัวเป็นคนไร้ความอดทนเฉกเช่นตอนนี้ ภายใต้น้ำตาเป็นประกาย มันไม่ได้สะท้อนภาพคนรักอย่างเขา แล้วเด็กหนุ่มก็ไม่ได้คาดหวังการยกโทษหรือปลอบประโลม ตอนนี้มันเลวร้ายกว่านั้นหลายเท่า


ริมฝีปากของศรัณย์แห้งผาก มันคล้ายจะขยับเป็นคำพูดมากมายแต่แล้วก็เงียบไป


แล้วถ้าความลับนั้นมันร้ายแรงล่ะ เขาจะรับไหวหรือเปล่า


จะกอดเด็กคนนี้ไว้แน่น ๆ แล้วแค่ดุว่าทำไมไม่บอกกันแต่แรกใช่ไหม


หลังจากนั้นก็แก้ปัญหาไปด้วยกันเหมือนอย่างที่เคยทำ


“ตอบสิ พูดมันออกมาให้หมด”


ศรัณย์ตวาดทั้งน้ำตา เขาไม่เคยกล้าฟัง กลัวความจริง กลัวว่าใจตัวเองจะรับไม่ได้ถ้าหากความลับนั้นแพร่งพรายออกมาจากปากคนที่รักที่สุด บานกระจกแตกได้พัดพาเอารักและศรัทธาให้ลงสู่หุบเหวลึก พัดพาเอาความเกรี้ยวกราดและสิ้นหวังขึ้นมาแทนที่ ตอนนี้มันยิ่งใหญ่เหมือนท้องฟ้า ครอบคลุมจิตใจให้กลายเป็นสีเดียวกับพายุฝนที่เกลียดนักเกลียดหนา


รามิลกลัวเหลือเกิน – กลัวว่าในวันนี้เขาจะมีค่าน้อยยิ่งกว่าเม็ดฝน


“พี่อย่าพูดแบบนั้นกับผม...”




‘เพราะว่าเลือกพี่ ผมถึงได้ทำแบบนั้นกับพลอย’




ใช่
จนถึงตอนนี้ศรัณย์ก็ยังรู้จักเขาดีกว่าใคร


ร่างโปร่งเกร็งสะท้าน จับจ้องสายตาตอบกับคนรักท่ามกลางความตึงเครียดภายในห้อง ตอนนี้อธิศอาจจะอยากเข้ามาห้ามคนทั้งคู่ แต่ตรงกันข้าม จิตแพทย์หนุ่มส่งซิกบอกชนกันต์ให้นิ่งเข้าไว้เมื่อสายตาของรามิลยิ่งฉายชัดถึงการปิดบังบางอย่าง ลมหายใจหอบขึ้นจมูก ม่านตาขยายใหญ่ และลำคอเกร็งแข็งจนส่งให้บุคลิกออกมาแปลกประหลาด


“เก้า”


“ผมไม่ได้ฆ่าเธอ!”


นักศึกษาแพทย์ตวาดเสียงกร้าว น้ำตารื้นขึ้นอาบใบหน้าเช่นเดียวกับที่ศรัณย์กำลังมองเขา แม้ในขณะที่หอบหายใจ ทั้งคู่ก็ไม่ได้ละสายตาจากกันและกัน มันทั้งมืดมน แตกสลาย และร้าวรานจนไม่คิดว่ามีทางใดจะต่อให้ติดได้อีกครั้ง


“ผมไม่ได้ทำ”


“....”


“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น พี่เสือ”




เพล้ง


แก้วบนโต๊ะหัวเตียงถูกปัดลงแตกกระจายที่พื้นเหมือนกับในวันนั้น โทสะทำให้เด็กหนุ่มดูโมโห งุ่นง่าน และทำอะไรไม่ถูกหลังจากที่รู้ตัวว่าได้ระเบิดอารมณ์รุนแรงออกไปต่อหน้าคนนอกอีกถึงสองชีวิต เพราะในตอนนั้นเขาไม่มีอะไรเลย กำได้แค่ลมเย็น ๆ ที่แสนว่างเปล่า รามิลไม่มีสติ ไม่มีการยั้งคิดใด ๆ นอกเหนือจากโทสะซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นครอบงำจิตใจ


พลอยหายไปเสียได้ก็ดี เขาคิดแบบนั้น









กระเป๋าของแพรพลอยยังคงวางอยู่บนที่นั่งเดี่ยวข้างหน้าของเธอ รามิลรู้ว่าไม่มีใครนั่งตรงนี้ ไม่มีใครอยากเสวนาหรือแม้แต่จะรับรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นยังอยู่บนรถคันนี้ด้วย ทุกคนเริ่มทยอยกันเดินกลับมาที่รถเพราะเงาครึ้มของฟ้าฝนกำลังทอดตัวลงมา การนั่งรถในขณะฝนตกไม่ใช่สิ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยนัก


รามิลรู้ดีว่าใครบางคนยังคงอยู่ตรงนั้น หลังอาคารสำนักงานเก่า ๆ และกำแพงสูงสองเมตรที่กั้นระหว่างตัวปั๊มและทุ่งโล่งไกลสุดลูกหูลูกตา เขาหยิบเอากระเป๋าถือของแพรพลอยติดมือไปยังเบาะหลัง เสียงเปิดประตูรถบัสดังขึ้นพร้อมกับเสียงจอแจของเพื่อนร่วมคณะกลุ่มใหญ่ นั่นทำให้เด็กหนุ่มรีบยัดกระเป๋าถือผู้หญิงลงในเป้ส่วนตัวก่อนที่ใครจะทันสังเกตเห็นเข้า


รามิลก็แค่ไม่อยากเจอแพรพลอยตอนนี้ อยากให้เธอสิ้นหวังและรู้ซึ้งว่าเขาน่ะมันเลวร้ายสิ้นดี


ทอดมองปั๊มน้ำมันซึ่งอยู่ไกลสายตาออกไปจากการเคลื่อนตัวของรถบัส ใจหนึ่งบอกให้รีบวิ่งลงไปตามเธอ หรืออย่างน้อย ๆ ก็บอกคนขับว่าบนรถมีคนไม่ครบ ผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่


แต่ก็เพราะเขามันร้ายไง


ครืด... ครืด...


มันสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงเป็นสิบ ๆ รอบ ส่งผ่านว่าเธอคงจะร้อนรน สิ้นหวัง และต้องการความช่วยเหลือจากเขาผู้ซึ่งเป็นโลกทั้งใบมากแค่ไหน รามิลรำคาญ ยิ่งเธอโทรมามากเท่าไรก็ยิ่งตอกย้ำให้เขารู้สึกผิดและอยากย้อนเวลากลับไปช่วยมากขึ้นเท่านั้น


ช่างเถอะ ยังไงก็คงหาทางกลับมาเองจนได้ แล้วจะได้เกลียดขี้หน้ากันให้หมดเรื่อง


มือเรียวลอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ในมือ รามิลแสร้งทำทีเป็นปกติ หันไปหัวเราะกับมุกตลกลามกของเพื่อนในกลุ่ม เพื่อนที่ถึงจะเข้ากันไม่ได้ แต่ก็ช่วยสร้างสังคมให้เขาแทนที่จะพยายามพังมันลงเหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง เพียงแค่คิดว่าอนาคตต้องถูกแพรพลอยทำลายเพราะเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ รามิลก็โกรธขึ้งเสียจนกดปิดโทรศัพท์โดยไม่สนใจสามสิบกว่าสายที่ไม่ได้รับซึ่งปรากฏบนหน้าจอ


เขาเบาใจและเก็บมันกลับใส่กระเป๋ากางเกงโดยที่ไม่มีอะไรมากวนใจอีก


เมื่อถึงมหาวิทยาลัย รามิลเอากระเป๋าไปยัดไว้ในล็อกเกอร์ว่างที่ไม่ได้ล็อก เดินผ่านคนขับรถซึ่งกำลังงุนงงกับกระเป๋าสัมภาระสีน้ำเงินที่ไม่มีใครมาเอา ชายแก่ทำท่าจะถาม แต่ร่างโปร่งก็เร่งฝีเท้าเดินจากมาทั้งที่รู้ว่าเจ้าของไม่มีทางกลับมารับมันได้ในตอนนี้


คืนนั้นฝนไม่ได้ตกหนัก แต่จิตใจของเด็กหนุ่มกลับดำทะมึนเสียยิ่งกว่าท้องฟ้า








------------------------------------------------------


( มีต่อ )




หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 11-03-2015 20:52:50
( ต่อ )





“ผมไม่คิดว่าเธอจะหายไป! ได้ยินไหม ผมไม่ได้คิดว่าพลอยจะถูกฆ่าแค่เพราะว่าผมทิ้งเธอไว้ตรงนั้น!” เสี้ยวหน้าของรามิลเหมือนปีศาจ ชนกันต์พยายามจะเชื่อว่าน้ำตาอาจทำให้นักศึกษาแพทย์ตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนขึ้น แต่ไม่เลย เขานึกภาพรามิลที่อมยิ้มอย่างสุภาพในร้านอาหารคืนนั้นแทบไม่ออกเสียแล้ว


สายตาของศรัณย์ผิดหวังยิ่งกว่าเก่า มันเจ็บปวด แม้ว่าน้ำตาจะหยุดไหล หากแต่ลาดไหล่กลับสั่นเทาด้วยความอัดอั้นหลังได้รู้ความจริงซึ่งประดังประเดเข้ามาลบภาพเด็กคนนั้นไปจนหมดสิ้น คนถูกมองหอบหายใจจนตัวโยน ถ้าไม่ติดว่าที่ขาขวานั้นยังใส่เฝือกและไม่สามารถขยับไปไหนได้สะดวก ชนกันต์ก็เดาได้ยากเหลือเกินถึงสิ่งต่อจากนี้


“อย่าเกลียดผม”


รามิลวอนขอ เสียงสั่น ๆ ยิ่งเบาลงเมื่อเห็นคนรักยกมือขึ้นเสยเรือนผมจนยุ่งไม่เป็นทรง ร่างของศรัณย์คล้ายจะเซถอยไปข้างหลัง เขาไม่ได้เกาะยึดกับกำแพงเอาไว้ แต่กลับปล่อยให้ตัวเองคว้างไปกับบางสิ่งบางอย่าง อาจเป็นความรัก ความศรัทธา หรือพายุฝนที่แพทย์หนุ่มไม่เคยรู้สึกชอบมัน


“ขอร้อง”




ในฐานะของคนรักแล้ว ศรัณย์อภัยให้รามิลได้ทุกเรื่อง


แต่ไม่ใช่ในฐานะของผู้ชายคนหนึ่ง




สายตานั้นทอดมองใครคนที่ไม่เคยรู้จักมาตลอดห้าปี สำหรับศรัณย์แล้ว ความรักนั้นยิ่งใหญ่ แต่ความไว้ใจต่างหากที่เปราะบาง


“พี่เสือ”


เสียงทุ้มนุ่มประวิงขอ จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ต่อให้มีตำรวจร้อยนายมายืนล้อมรอบ ตราบใดที่มีพี่เสือ เขาก็พร้อมรับทุกอย่าง อายุรแพทย์ลดมือลงแล้วกำมันไว้ข้างตัว ใบหน้าอาบคราบน้ำตาส่ายไปมาอย่าง ช้า ๆ มันเจ็บปวด เจ็บเสียยิ่งกว่าตอนที่ชี้หน้าด่าคนรักด้วยความกราดเกรี้ยวนั้นเสียอีก


“พี่คิดไม่ถึง”


“....”


“ว่านายจะเป็นคนแบบนั้น”


ก้อนสะอึกตีขึ้นมาจุกตรงคอ รามิลรู้ดีว่าในสายตาของคนรักนั้นเขาได้กลายเป็นใครอีกคนที่เลวร้ายเกินรับไหว เป็นผู้ชายที่ทิ้งผู้หญิงคนหนึ่งให้พบจุดจบของชีวิตอย่างเลือดเย็น


“นี่ไม่ใช่เก้าที่ฉันรู้จัก”


ศรัณย์เลือกหันหลังให้รามิล




สิ้นเสียงประตูปิด อธิศและชนกันต์ก็เห็นเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังร้องไห้อย่างหมดหวัง พวกเขาไม่มีตัวตนอีกแล้ว โลกทั้งใบของรามิลคงพังทลายลงนับตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้น และตอนนี้ศรัณย์เองก็คงจะร้องไห้อยู่ที่ไหนสักแห่งข้างนอกนั่น


ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ รามิลคงไม่ทำเช่นนั้น เขาคงตัดสินใจเดินไปบอกคนขับให้หยุดรถ เช่นเดียวกับที่ชนกันต์จะแข็งใจลงไปดูให้แน่ชัด ต่อให้ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็ตามที เราทุกคนล้วนคิดถึงตัวเองเป็นที่ตั้ง หลายครั้งที่เราไม่เคยรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แค่เลือกทำในสิ่งที่เป็นปัจจุบัน และปัจจุบันนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นอดีต ทั้งสามล้วนเป็นสิ่งเดียวกันมาตลอด


ประโยคหนึ่งของจอร์จ อีเลียต ดังก้องขึ้นมาในความคิดของอธิศอีกครั้ง





Our deeds determine us, as much as we determine our deeds.

การกระทำตัดสินเรา เท่ากับที่เราตัดสินใจกระทำ







TBC





----------------------------------------------------



ในที่สุดก็ได้เวลากรี๊ด 555555555555555555555
สารภาพว่าตอนนั้นเราตกใจมากค่ะที่เห็นคุณ ZEZEN พูดถึงข้อความนี้ขึ้นมายังกับรู้แน่ะ
แต่ก็ต้องทนเก็บไว้ รอจนได้พูดถึงในตอนนี้ :heaven

อย่าทำแบบนี้นะคะ เราคิดว่าคุณต้องเคยได้อ่านข้อความนี้แน่

Over deeds determine us, as much as we determine our deeds.
การกระทำตัดสินเรา เท่ากับที่เราตัดสินใจกระทำ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 11-03-2015 21:33:33
ตอนนี้มันนิยายสืบสวนใช่ไหมคนเขียน ตอบ!!
ฮ่าๆๆ สนุกมาก ยาวสะใจ ไซส์จัมโบ้ (เอ่อ คิดอะไรของฉันอยู่เนี่ย)

 o13 o13 o13 เธอจ๋าจงมารับเป็ด  :m23: :m4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-03-2015 21:43:44
เริ่มคลี่คลายละ ตกลงว่ายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า แต่ก็พอจะรู้ว่าการกระทำของแต่ละคนมีผลยังไง
เป็นอุทาหรณ์ว่าการกระทำของเราส่งผลกระทบถึงคนอื่นด้วย ดังนั้นเวลาจะตัดสินใจทำอะไรก็ให้นึกถึงคนอื่นบ้าง
อย่างน้อยถ้ามานึกถึงทีหลังจะได้ไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไป สินะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 11-03-2015 22:02:02
อ้าวสรุปแพรพลอยตายเพราะคนอื่นจริงๆ ใช่ไหม แล้วที่โดนรถชนล่ะ?
แล้วใครรัดคอฆ่าแพรพลอย? โอ๊ยยยยยยยยย สนุกและลุ้นตามมากๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 11-03-2015 22:09:06
ลุ้นจนตัวโก่ง อยากเห็นหน้าพี่หมออธิศจริงๆ ว่าเฮียแกทำหน้ายังไงตอนซักฟอกรามิลเนี่ย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 11-03-2015 22:11:30
ใช่แล้ว การกระทำบ่งบอกถึงจิตใจมนุษย์จริง ๆ......
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 11-03-2015 22:18:33
เม้นนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ//

พออ่านจบตอนนี้เราไม่รู้สึกสงสารแพรพลอยเลยค่ะ เก้าชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้รู้สึกอะไร พลอยต่างหากที่คิดไปเอง แล้วพอมีอะไรกับเขาทั้งๆที่ตัวเองก็สมยอม จะมาทวงถามความรับผิดชอบ ง่ายๆคือตอนแพรพลอยมีชีวิตอยู่ เธอไม่ได้ดูน่าสงสารนะ เธอดูน่าสมเพสมากกว่า ถ้าวันนั้นเก้ารับผิดชอบแพรพลอย แล้วชีวิตเก้าล่ะ ต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักงั้นเหรอ แล้วแพรพลอยจะมีความสุขจริงๆเหรอ ?

แต่ถ้ากลับกลายเป็นว่าเก้าฆ่าแพรพลอย ก็ถือซะว่าเราไม่เคยเม้นอันนี้นะ 55555555555  :laugh:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 11-03-2015 22:23:28
ชอบบบบบบบบบบบบ ยิ่งอ่านยิ่งเข้มข้น ><
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 11-03-2015 22:24:50
สนุกมากกกกกก แล้วตกลงใครฆ่าพลอยหนาา
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 11-03-2015 22:30:46
ตอนนี้ความจริงก็กระจ่างจนเกือบหมดแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆนอกจากอารมณ์นี้เลย  :hao5: :sad4: :m15: :o12:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 11-03-2015 22:50:11
เอ... สรุปว่า แพรพลอย ถูกฆาตกรรมรัดคอ ถ่วงน้ำ นั่นคือสาเหตุการตาย
แล้วที่น้องกันต์ชนล่ะ รถมีร่องรอยชนอะไรสักอย่างจริง คือ ชนแพรพลอยจริง ๆ เหรอ
งั้นตอนที่น้องกันต์ชนแพรพลอย แพรพลอยยังมีชีวิตอยู่ อย่างนั้นเหรอ ยังไงอ่ะ
หรือเราอ่านอะไรข้ามไปอ่ะ  :mew2:

ตอนนี้มันช่างกดดันเหลือเกิน สงสารทุกคนเลย ฮืออออ  :monkeysad:

จริง ๆ แพรพลอย น่าจะตามไปหลอกพวกไอ้โอ๊ตด้วยซะเลยนะ พวกนี้ก็เลวร้ายเหมือนกันแหละ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 11-03-2015 23:30:41
โอยยย เรื่องมันเศร้า แต่คงไม่มีอะไรเศร้าเท่ากับการที่คนที่เรารักหันหลังให้แล้วล่ะ อย่างคำที่ว่า
'ต่อให้คนทั้งโลกหันหลังให้ฉัน ขอแค่คุณยังอยู่ข้างฉันไม่ไปไหน' จริงๆแล้ว......... เราคิดเองล่ะ 5555
แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าเลือกที่จะปิดบังความผิดตัวเอง แม้แต่วินาทีสุดท้าย จนแม้ความลับถูกเปิดเผย เราก็ต้องยอมรับผลที่มันตามมา เพราะเราได้เลือกจะปิดมันไว้แล้ว และในโลกนี้ มันไม่เคยมีความลับอยู่จริงๆหรอก
ถ้าจะให้บอกว่ารามิลผิดหรือเปล่าที่เขาทำแบบนั้น แน่นอนเค้าผิด ถ้าเราใช้ตรรกะและเหตุผลของเราตัดสิน
แต่ทุกๆคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง และเหตุผลของรามิล แม้จะเห็นแก่ตัว  ก็คือเค้าไม่อาจจะแชร์ความรู้สึกกับใครได้ ยิ่งกับคนที่รักด้วยแล้ว ใครจะกล้าบอกล่ะจริงป่ะ? เค้าก็เลยเลือกที่จะใช้สัญชาตญาณของตัวเองแทน
และสุดท้าย ผลลัพธ์ที่มันออกมา แม้จะไม่ได้เป็นแบบที่เค้าคิด และดูว่าจะเลวร้ายแบบสุดๆ แต่ต่อให้เค้าจะอยากย้อน ก็คงจะย้อนกลับไปไม่ได้ กันต์ก็ด้วย หรือแม้แต่ศรันย์เอง เค้าก็คงคิดว่าถ้าย้อนไปได้ หรือถ้าเป็นไปได้เค้าก็อยากจะทำแบบนั้น หรือไม่ทำแบบนั้น แต่เพราะมันกลับไม่ทันแล้วไง อดีตทำให้มีปัจจุบัน แต่อย่าให้อดีตตัดสินปัจจุบัน และเรื่องนี้ก็ยังได้เป็นอุทาหรณ์ให้เราด้วย ว่าก่อนจะคิด จะทำอะไร ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เราคนเดียวแล้วนั้น อย่าได้ใช้สัญชาตญาณผิดๆตัดสินใจเด็ดขาด บางทีการพูดความจริง มันอาจจะยาก แต่ก็ดีกว่า รอจนมันผ่านไป แล้วพอมาพูดความจริงแล้ว วันนั้นอาจจะไม่เหลืออะไรแล้วก็ได้ ไอ้แนวคิดว่าจะให้ความจริงตายไปกับตัวเองน่ะ เลิกฝันเลยค่ะ เพราะความจริงมันไม่ได้ตายไปไหน มันก็ยังอยู่ตรงนั้นแหละ รอวันมีคนมาขุดคุ้ยมันเท่านั้นแหละ  .... อุ้ย! พล่ามมาเยอะจนน้ำลายเปียกน้ำลายแฉะ และดูท่าว่าตอนนี้จะแห้งเรียบร้อยแล้วแจ่ะ  :mew5:  ขอบคุณคนแต่งที่มาลงต่อค่ะ แหม่ะ พึ่งอ่านจบตอนที่ 11 วันนี้ ก็ได้ตอนที่ 12 มาเกยใกล้ๆกันเลยทีเดียว   :impress2:    :กอด1:   :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 12-03-2015 00:16:59
รอๆ ความจริงทั้งหมด แล้วยังหวังฉากกุ๊กกิ๊ก หนูชลอยู่นะก๊ะ 555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 12-03-2015 01:25:07
โอ๊ยยยย มาเร็ววววว ดีใจจจจจจจ สนุกมากกกกกกก  :mew3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 12-03-2015 02:20:35
คือตันมากตอนนี้
อ่านจบแล้วอึน คิดไรไม่ออก อยากเม้นให้กำลังใจแต่เม้นไม่ออกเลย  :ling2:
จะโทษใครคนเดียวก็ไม่ได้ ความผิดแจกจ่ายกันมาก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 12-03-2015 08:40:20
เราอ่านแล้ว ไม่รู้สึกสงสารพลอยเลย ทำตัวงี่เง่าเอง เฮ้อ  :hao4: ใครทำอะไรไว้ ก็ว่าไปตามนั้น
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 12-03-2015 16:11:19
วินาทีที่พี่เสือหันหลังให้เก้ามันเหมือนทั้งหมดที่ทำมาศูนย์เปล่า ทุกอย่างพังทลายมาก อย่างที่เก้าพูดถึงไม่มีใครแค่มีพี่เสืออยู่ข้างๆคนเดียวก็พอ แต่นี่แบบ...   :เฮ้อ:

ส่วนแพรพลอยเราไม่สงสาร ถือว่าเธอทำตัวเองนะ น่ารำคาญจริงๆ ปล.ไม่ต้องมาหลอกเรานะ เรากลัวมากจนต้องเก็บตอนไว้อ่านกลางวัน  o22
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 12-03-2015 18:49:48
สนุกมาก หลอนมาก
รอต่อค่ะ รอนะคะ !!
ชอบบบบบบบ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 12-03-2015 20:18:32
 :sad4: สองวันนี้อ่านเรื่องนี้จนจบ (อ่านๆ หยุดๆ แบบระแวงหลัง) ...
ทำไมอ่านไปรู้สึกสงสารเก้ามากมายเหลือเกิน เก้าผิดนะที่ปิดบังและหลงไปคำยุยง แต่ในขณะเดียวกันความชัดเจนของเก้า
ตลอดมาทำให้รู้สึกนับถือเลย ไม่บังเกิดความรู้สึกสงสารแพรพลอยเท่าที่ควร เพราะรู้สึกเหมือนส่วนหนึ่งทำตัวเอง แพรอาจจะ
มองว่าการกระทำของเก้าเป็นการให้ความหวังเธอเเหละ แต่ในอีกมุมนึงน่าจะคิดได้นะว่าเก้าเเสดงสถานะเพื่อนที่ช่วยได้ก็ช่วย
ซะมากกว่า ความใกล้ชิดที่ตัวเเพรพยายามสร้างขึ้นนั่นเเหละที่ทำให้ตัวเธอเองคิดไกล(ประจวบเหมาะกับการได้ต่ะลาลากัน)
ถ้าต้องเลือกใครสักคนเเค่คนเดียวอย่างที่เก้าทำ คนเราเห็นเเก่ตัวทั้งนั้นเเหละ เราคงเลือกคนที่เรารักเหมือนกัน ไม่ได้บอกว่า
เก้าไม่ผิดนะ ที่ไม่รับผิดชอบ เเต่อารมณ์ตอนนั้นให้ตายก็คงไม่เชื่อว่าเเพรท้อง เพราะเเพรพยายามทำทุกทางเพื่อรั้งเก้าจริงๆ
ก็ผลจากการกระทำของเเพรเองอีกนั่นเเหละ เก้ามาน่าสงสารเห็นใจที่สุดก็ตอนที่เลือกพี่เสือ เเต่ผลสุดท้ายมันว่างเปล่า เก้า
ยอมเป็นคนใจร้ายก็เพื่อให้ได้อยู่กับคนที่รัก ไม่ได้ต่างกับเเพรนักหรอกที่อยากจะอยู่กับเก้า แต่การกระทำของเเพรมันฝืนใจ
อีกคน พี่เสืออาจสูญเสียความเชื่อใจหรือมองว่าเก้าใจร้ายเหลือเกิน แต่ก็น่าจะคิดนะ เพราะรักมากคนเราถึงเห็นเเก่ตัวมาก ถ้า
ในวันนั้นเก้าเลือกจะรับผิดชอบเเพระ เรื่องเเบบนี้คงไม่เกิด แต่กลายเป็นพี่เสือที่เสียใจและคนที่จะตรอมใจก็คือเก้า :mew2:

ปล.สงสารเก้าสุดใจ แต่... ถ้ามีอะไรเบื้องหลังคง...  :katai4:

ปล2. หนูชนผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว อิอิ... รอความรักผลิบานกับพี่หมออยู่นะ  :o8:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 13-03-2015 00:27:53
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 13







เสียงหอบหายใจดังก้องอยู่ภายในห้องพักทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอับแสง เศษกระเบื้องจานชามตรงขาโต๊ะไม่ได้ทำให้ทัศนียภาพน่าดูนัก กลิ่นเหม็นหืนจากอาหารบูดยิ่งทำให้ที่นี่เหมือนกับอะไรสักอย่าง มันเคยดีกว่านี้ อย่างน้อยก็เมื่อราว ๆ หนึ่งเดือนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ตาสีดำปูดโปนกลอกมองไปรอบข้างอย่างหวาดระแวง ครั้นมีเสียงกึกดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง ร่างทั้งร่างก็สะดุ้งโหยงคล้ายจะกระดอนออกไปได้ทุกเมื่อ


เสียงจอแจจากร้านค้าด้านล่างอาคารช่วยยืนยันว่ายังอยู่ในช่วงเวลากลางวันแสก ๆ แต่กับคนที่จิตใจดำดิ่งลงสู่ห้วงของความหวาดผวาแล้ว แม้แต่เส้นแสงที่แล่นผ่านไปมายังพร้อมจะก่อตัวเป็นรูปร่างของโจทก์กรรมซึ่งเคยได้กระทำเอาไว้


เพล้ง


ชามอาหารบูดร่วงแตกลงมาอีกใบ หล่อนดูใจเย็นและสนุกเหลือเกินที่ได้เป็นฝ่ายกระทำคืนบ้าง หล่อนรู้สึกดีที่เห็นเขาร้องไห้ ริ้วรอยบนใบหน้านั้นทำให้ดูแก่ชราลงนับสิบปี   ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ยังพาร่างคลานไปคว้าเอากระเป๋าเดินทางที่อีกมุมห้องมากอดไว้ เขาพยายามอยู่ไกลโต๊ะอาหาร ไกลจากจุดที่ได้รับรู้ว่าหล่อนคนนั้นอาจยังอยู่ และเฝ้ามองด้วยสายตาเคียดแค้นจนอยากฆ่าให้ตาย


ถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากยอมรับว่าคงหมดเวลาของผู้ที่เคยล่าแล้ว








--------------------------------------------------








“ทางตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว”


เบื้องหน้าเขาคือหมออธิศและแก้วคาปูชิโนร้อนร้านหน้าโรงพยาบาล เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วหลังจากเรื่องวันนั้น ดวงตาใต้กรอบแว่นสงบกว่าที่คิด ในขณะที่พูดก็ไม่ได้ดูสนุก ตื่นเต้น หรือมีปฏิกิริยาใด ๆ ที่มากกว่าความตึงเครียดซึ่งถูกส่งออกมา


“เป็นยังไงบ้างครับ แล้วศพนั่นก็ยืนยันได้แล้วใช่ไหม” ชนกันต์ถามในเรื่องที่รู้อยู่เต็มอก เขารู้ว่าต้องเป็นเธอ รู้ว่าป่านนี้หนังสือรับรองและหมายเรียกต่าง ๆ นานาคงถูกส่งไปยังคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว


อธิศพยักหน้ารับ แต่ดูลำบากใจเหลือเกินที่จะพูดเรื่องต่อจากนี้


“ในระยะห้ากิโลเมตรจากจุดพบศพ ตรงกับปั๊มน้ำมันที่เก้าให้การกับตำรวจ” หัวใจของคนฟังเต้นไม่เป็นส่ำ เขากำลังจะได้รับรู้จุดจบของวิญญาณหญิงสาวที่ไม่สงบมาร่วมเดือน รับรู้ว่าหากเขาเลือกช่วยเธอในคืนนั้น จุดเปลี่ยนบางอย่างอาจพาเรื่องไปในทางที่ดีขึ้น “ทางนิติเวชเองก็คำนวณระยะเวลาการตายได้ใกล้เคียงกับวันที่คาดว่าจะเป็นวันเกิดเหตุ คือวันที่เธอถูกทิ้งอยู่ที่ปั๊มนั้น


“....”


“น้ำในหนองค่อนข้างเย็นมาก การเน่าเปื่อยเลยประวิงเวลาออกไปให้พอตรวจสอบได้ โชคดีที่ปลาไม่ได้กินเอานิ้วซ้ายของเธอไปด้วย เราเลยเหลือลายนิ้วมือให้ยืนยันตัวตนได้ไม่ยาก”


“หมอพูดต่อเถอะ ผมฟังไหว” สีหน้าของชนกันต์ไม่สู้ดีนัก ถึงกระนั้นอธิศก็มองว่านี่ไม่ใช่สัญญาณบอกให้เขาหยุดเล่า


“เธอไม่ได้ท้อง” จิตแพทย์บอก นั่นทำให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามพรูลมหายใจออกมา เขามีเวลาไม่มากสำหรับการดื่มกาแฟครั้งนี้ เพราะคิวคนไข้ในช่วงบ่ายที่ยาวไปจนถึงเย็น “มีเด็กที่ทำงานอยู่ในปั๊มให้การว่าจำแพรพลอยได้”


“....”


“เธอนั่งร้องไห้แล้วก็โทรศัพท์ จนกระทั่งขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้า”


ไม่แน่ใจนักว่าหมออธิศต้องเสียสละเวลาไปตามเรื่องกับทางตำรวจแค่ไหน ถึงได้ข้อมูลมามากขนาดนี้ มันอาจจะมากพอเพื่อทำให้ชนกันต์มั่นใจว่าจะไม่ต้องพบเจอเรื่องแย่ ๆ อีก และได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำเอาไว้แล้ว


แต่เขาอาจจะคิดในแง่ร้ายเกินไปก็ได้ว่า --


“คนร้ายเป็นใครครับ?”


“พนักงานบริษัทขนส่งสามคน”


“....”


“ตำรวจบอกว่าพวกนั้นยังไม่ยอมให้การอะไร” ถ้าจะต้องแน่ใจอะไรขึ้นมาสักอย่างในตอนนี้ เขาคิดว่าจุดนี้แหละที่สีหน้าของหมออธิศคดิ่งลงสู่ความลำบากใจมากที่สุด “ตอนนี้มีแค่หลักฐานทางนิติเวชและจากคำให้การของพยานเท่านั้น”


“....”


“เธอถูกข่มขืนแล้วก็ทำร้ายร่างกาย แต่ไม่ได้ตายเพราะถูกเข็มขัดรัดคอ” หัวใจของชนกันต์ปวดหนึบขึ้นมาอีกแล้ว เขารู้สึกหนาวเหมือนตอนที่เห็นภาพใต้หนองน้ำคืนนั้น “แพทย์ชันสูตรบอกว่าศพมีอิเล็คโทรไลท์ในร่างกายผิดปกติ มีน้ำในปอด นั่นสอดคล้องว่าตอนโดนถ่วงน้ำ แพรพลอยยังไม่ตาย”


ในร่างของเธอคงมีแต่น้ำ ปากคงมีแต่พืชและโคลน ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ทั้งหัวใจและร่างกายกำลังทรมานถึงขีดสุดเช่นนั้น ชนกันต์นึกโทษตัวเองขึ้นมาอีกแล้ว เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อยากย้อนเวลากลับไปในตอนที่อะไร ๆ ยังสามารถแก้ไขได้


“ผมขอโทษ...”


มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าลูบตาแรง ๆ เขาก็แค่อยากร้องไห้


“ผมจำได้แล้ว”


หลังหมดเวลาของความรักไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เธอก็ต้องหมดเวลาของชีวิต


ในตอนที่เขาขับรถเฉี่ยวแพรพลอยและเสียหลักไปอีกทางนั้น คงเป็นตอนที่เธอกำลังหนีจากคนร้ายเพื่อออกมาขอความช่วยเหลือบนถนนใหญ่ แทนที่แสงไฟจากหน้ารถจะเป็นความหวังที่เกิดขึ้นจริงของเธอ เพียงแค่เขาไม่ประมาท หยุดรถทัน แสดงความช่วยเหลือ เธออาจจะติดรถคันนี้กลับมาถึงกรุงเทพ ฯ ได้โดยสวัสดิภาพ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือช่วงเวลาเสี้ยวนาทีนั้น แพรพลอยถูกคนร้ายที่มีถึงสามคนลากกลับลงไปข้างทางได้ทันท่วงที พงหญ้าและความมืดช่วยพรางสายตาจากการที่เขาหันกลับไปมอง นั่นคือความหวังสุดท้ายซึ่งดับวูบ ก่อนเธอจะจบชีวิตลงอย่างน่าสะเทือนใจ


เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเป็นความหวังสุดท้าย คนแรกที่เธอนึกถึงเมื่อเข้าสู่อัตตา


ชนกันต์ไม่รู้ว่าหากพ่อแม่ของแพรพลอยเดินทางมาถึงกรุงเทพ ฯ แล้ว เขาควรแสดงสีหน้าอย่างไร จะยอมให้ถูกทุบตีหรือก่นด่าอย่างเคียดแค้นแค่ไหน เด็กหนุ่มเคยคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยที่ต้องมาโดนหลอกหลอนและตามติดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่านั่นไม่ใช่บทสรุปที่สมบูรณ์นัก


ความผิดบาปที่เกาะกินเป็นปรสิตไปจนถึงวันตายนั่นต่างหาก


แต่เขาอาจจะคิดในแง่ร้ายเกินไปก็ได้ว่า – มันจบง่ายเกินไป








--------------------------------------------------








เสียงล้อขนาดใหญ่ของเก้าอี้รถเข็นหมุนเลื่อนไปตามทางของโถงกว้าง อาคารนี้มีกลิ่นคล้าย ๆ หนังสือเก่าสักเล่ม อาจจะเป็นตำราแพทย์เมื่อราวสิบกว่าปีก่อนกระมัง อ้อ เขาคิดไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ รามิลไม่เคยต้องจับหนังสืออะไรแบบนั้น เพราะแทบจะทุก ๆ สี่ปี ตำราเล่มเก่าก็มักถูกตีพิมพ์ออกมาพร้อมกับการแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ ๆ เพื่อให้เป็นปัจจุบัน หรือแม้แต่เครื่องมือแพทย์เองก็มีรุ่นและยี่ห้อให้เลือกใช้มากถึงครึ่งหนึ่งของโทรศัพท์มือถือ


รามิลไม่ได้สนใจฟังว่าพ่อแม่ของเขาที่เพิ่งมาจากต่างจังหวัดกำลังพูดว่าอย่างไร ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเคยมีโอกาสได้เจอแค่เพียงไม่กี่ครั้ง สองในนั้นคือชนกันต์และนายแพทย์อธิศ ส่วนอีกคู่คือชายหญิงซึ่งกำลังยืนร้องไห้ปานจะขาดใจในขณะที่ชนกันต์โค้งไหว้จนศีรษะแทบติดพื้น สี่คนนั้นยังไม่มีใครรับรู้ถึงการมาของเขา ทุกคนอยู่ในชุดสุภาพพร้อมสำหรับขึ้นศาลเพื่อเป็นพยานและฟังคำตัดสินในวันนี้


หมออธิศดูเหมือนกำลังพูดอะไรสักอย่าง คงเป็นการไกล่เกลี่ยเรื่องความผิดที่ชนกันต์ได้ทำเอาไว้ รามิลคิดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนกลุ่มนั้นคุยกัน นอกจากนางสุพิศแล้วแล้ว นายมนตรีดูสงบกว่ามาก เขายืนมือไปช่วยประคองให้เด็กหนุ่มเงยศีรษะขึ้นแล้วเข้าไปเตรียมตัวทางด้านใน


ความรู้สึกในตอนนี้ของรามิลมันปะปนไปทั้งการอิจฉาและสมเพช อย่างหลังเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง สัปดาห์กว่ามาแล้วที่ไม่ได้พบหน้าค่าตาคนรักอย่างศรัณย์หลังจากเรื่องในวันนั้น จะมีก็แค่อธิศที่แวะมาเยี่ยมเยียนและพูดคุยถึงเรื่องความคืบหน้าของคดีหลังจากที่เขาได้ให้ปากคำไปกับทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ชนกันต์มีหมออธิศอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา แต่ศรัณย์ที่ครอบครองคำว่าคนรักกลับเลือกหันหลังให้ เด็กหนุ่มรู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะโกรธเคืองหรือตัดพ้อการตัดสินใจนั้น ทางกฏหมายแล้ว อัยการบอกว่ารามิลไม่มีความผิดอะไร หากแต่ทางศีลธรรมและจริยธรรมนั้น เขากลายเป็นบุคคลที่สมควรถูกทอดทิ้งตามลำพังอย่างนี้จริง ๆ น่ะหรือ


ศรัณย์เป็นคนแรกที่เลือกสาดบทลงโทษนี้ใส่ และหลังจากนั้นก็เป็นเพื่อน ๆ ในสาขาที่เริ่มให้การซัดทอดมาถึงความสัมพันธ์แปลกประหลาดระหว่างเขาและเหยื่อในคดีนี้ทีละนิด


มากกว่าสิบครั้งที่ถูกคาดเค้นทั้งจากทางเจ้าหน้าที่และผู้เป็นบิดามารดา แม่เท่านั้นที่เอาแต่พูดกับเขาว่าไม่เป็นไร และถึงพ่อจะเงียบ รามิลก็สำเหนียกได้ถึงเศษส่วนความผิดหวังอย่างที่ศรัณย์แสดงออกมาไม่มีผิด พ่อแค่ให้ขอนไม้มาเพื่อให้เขาลอยคออยู่กลางมหาสมุทรซึ่งเรียกว่าอดีตและบทเรียน


อีกไม่กี่วินาทีจากนั้น นางสุพิศหันมาเห็นเขา หล่อนตะโกนด่าทอมากมาย ทั้งยังทำท่าจะปราดเข้ามาทำร้าย ทั้งหมดล้วนแล้วสรุปได้ว่าเขาคือสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวของเธอตาย ไม่ใช่ชนกันต์หรือใครทั้งนั้น


เขาผู้เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ของโศกนาฏกรรมครั้งนี้


รามิลไม่ได้กล่าวขอบคุณที่หมออธิศช่วยห้ามนางสุพิศเอาไว้ ส่วนชนกันต์ต้องยืนประกบหลังนายมนตรีซึ่งกำลังตัวสั่นและน่ากลัวว่าอาจถลามาทางนี้ได้ทุกเมื่อ ส่วนพ่อแม่ของเขาไม่ได้พูดอะไร ล้อใหญ่สองข้างเร่งแรงหมุนรถเข็นเพื่อเลี้ยวเข้าไปทางห้องรับรองให้ไวยิ่งขึ้น หลังจากทิ้งตัวนั่งบนโซฟา รามิลถึงได้เห็นว่าแม่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้


ไม่ถึงสามนาทีจากนั้นมีอัยการเข้ามาคุย ทั้งถามย้ำและเล่าสรุปรูปคดีอีกครั้งอย่างคร่าว ๆ หล่อนพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรละเลยตอนให้การ หรือแม้แต่สิ่งที่ไม่ควรพูด ในที่นี้ คนนอกอย่างอัยการทำให้เขารู้สึกดีที่สุด นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่ได้รับจากคนใกล้ตัวล้วนเป็นคำพิพากษา


หลังจากอัยการแยกตัวไปทางด้านในได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้การรับรองต่ออีกทอด อีกไม่ถึงสิบนาทีผู้พิพากษาจะมาถึง เป็นโชคดีที่ครั้งนี้ไม่ใช่การตัดสินโดยคณะลูกขุน ไม่เช่นนั้นมันอาจต้องกินเวลามาก และรามิลไม่ชอบเอาเสียเลยกับการพูดเรื่องความผิดพลาดของตัวเองซ้ำ ๆ ในขณะที่เขาไม่ใช่จำเลยในคดีนี้


ในขั้นตอนเบิกตัวจำเลยนั้น เด็กหนุ่มได้เห็นว่าคนร้ายทั้งสองมีสภาพไม่ต่างจากตัวเขานัก คนหนึ่งดูเหมือนเสียสติเข้าไปทุกที ในขณะที่อีกคนหวาดระแวงต่อสิ่งรอบข้าง ชายวัยกลางคนร่างท้วมที่มาคอยดูแลห่าง ๆ นั้นได้ยินว่าเป็นนิติจิตแพทย์ ซึ่งหมายความว่าสองคนนั้นกำลังมีสภาพจิตที่ไม่ปกติอย่างนั้นหรือ


รามิลฟังคำเรียกจำเลยบนชั้นศาล ได้ความว่าทั้งคู่เป็นลูกจ้างของบริษัทขนส่งที่รับหน้าที่ขับรถส่งของเป็นประจำบนถนนเส้นนั้น แต่สิ่งหนึ่งซึ่งผิดคาดไปคือ คนร้ายมีสามคน และทันทีที่ได้โชว์รูปและเล่าสภาพการณ์ของจำเลยคนที่สามซึ่งเสียชีวิตไปแล้วนั้น เด็กหนุ่มถึงกับต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นสถานที่และภาพข่าวที่ตรึงอยู่ในหัวท่ามกลางเสียงจอแจของโรงอาหารวันนั้นแวบขึ้นมา วันที่เขาตำหนิการนำเสนอการฆ่าตัวตายสุดแสนพิสดาร ในขณะที่รามิลกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนนักศึกษาแพทย์และมีเรื่องกับโอ๊ตในเวลาต่อมา


ขนบนผิวกายลุกซู่และเย็นเยียบขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น เดาว่านั่นไม่มีทางเป็นการฆ่าตัวตายจากความรู้สึกผิดบาปที่ทำกับแพรพลอยไว้แน่ แต่มันจะเป็นอะไรไปได้ล่ะ ถ้าลองเทียบกับเรื่องที่เขาได้รู้จากชนกันต์หลังมีโอกาสคุยกันในช่วงหลายวันก่อนแล้ว มันก็ไม่แปลกถ้าหล่อนจะปลีกเอาเวลาที่เหลือไปหลอกหลอนใครคนอื่นเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้ชีวิตอีก


แต่จนถึงตอนนี้ รามิลคิดว่ามันจบแล้ว








--------------------------------------------------








บานประตูเปิดออก เผยให้เห็นชายหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวกำลังเดินเข้ามาภายใต้สีหน้าไม่สู้ดีนัก หลายวันเห็นจะได้ที่เขาไม่เจอศรัณย์ วันนี้อายุรแพทย์อยู่ในเสื้อผ้าสีเข้ม เป็นเทาสลับดำ แล้วก็เทาอีก มันกลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบคล้ายต้องการพรางความมีชีวิตชีวาที่เคยมีของชายหนุ่มเอาไว้ ร่างผอมค่อย ๆ ทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แต่ไม่ได้เอนหลังพิงพนักอย่างที่มักทำทุกที


“ไง” เขาทักออกไป อีกฝ่ายเพียงยิ้มบางกลับมาแทนคำทักทายตอบ


ศรัณย์อาจจะคิดมาดีแล้วถึงได้ดูสงบนิ่งเหลือเกิน ริมฝีปากนั้นเหยียดออกว่าคำถามที่คาใจ “เรื่องคดีเป็นยังไงบ้าง”


“เรียบร้อยดี” คำว่าเรียบร้อยของจิตแพทย์นั้นไม่ชัดเจนนัก เป็นเรื่องจริงที่อธิศคิดอะไรซับซ้อนกว่าคนปกติ “ศาลตัดสินให้ประหารชีวิต ข้อหาข่มขืน ฆาตกรรม จงใจอำพรางศพ แต่คนร้ายเคยมีคดีติดตัว ถึงจะยื่นอุทธรณ์ก็คงไม่พ้นจำคุกตลอดชีวิต”


นัยน์ตาคมจับจ้องราวกับรู้อยู่แก่ใจว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของการมาเยือนห้องตรวจจิตเวชในวันนี้ ศรัณย์หวังจะให้เขาพูดยาวขึ้น อย่างน้อย ๆ ก็พูดรวมไปถึงคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างรามิล แน่นอน อธิศยังคงจำได้ดี วันที่คนตรงหน้าทุบมือเข้ากับกำแพงเพื่อระเบิดความรู้สึกทั้งหมดออกมาอย่างเหลืออด ภาพของการทะเลาะเบาะแว้งไปจนถึงความรู้สึกที่แตกสลายไม่เหลือชิ้นดีในวันนั้น


ภายใต้ความสงบนี้ทำให้อธิศนึกถึงทะเลที่ไม่มีคลื่นลม ผิวน้ำเหมือนกับสิ่งที่ศรัณย์แสดงออกมาไม่มีผิด แต่ลึกลงไปนั้น มันอาจเป็นผืนน้ำที่สับสนและพร้อมดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างลงไปก็เป็นได้


ชายหนุ่มตรงข้ามเขาขยับตัวเล็กน้อย ดูลังเลเหลือเกินในการตัดสินใจถามถึงใครอีกคนออกมาตรง ๆ “ฉันไม่รู้ว่านายคิดยังไงกับเรื่องนี้”


“ฉันไม่คิดอะไรหรอก” อธิศรีบตอบ อย่างน้อยศรัณย์ก็ควรวางใจว่าเขาไม่ได้ตั้งแง่กับเรื่องเพศและความรัก


“ดี คือ --” เสียงนั่นสั่นไปเล็กน้อย “เรื่องเก้า”


“....”


“เป็นยังไงบ้าง”


จิตแพทย์หนุ่มนึกไปถึงสามวันก่อนซึ่งได้เจอรามิลเป็นครั้งล่าสุด เด็กคนนั้นอยู่บนคอกพยานทั้งใบหน้าซีดเซียว ดวงตาสีดำหลุกหลิก ริมฝีปากได้รูปนั้นปิดสนิทและบางเหมือนกับเส้นตรง ทั้งยังไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่า ครับ ในทุกครั้งที่อัยการถาม




‘พยานมีความสัมพันธ์กับผู้ตายใช่หรือไม่’

‘ครับ’

‘ผู้ตายได้พยายามติดต่อพยาน หลังจากรู้ตัวว่าถูกทิ้งให้อยู่ที่ปั๊มน้ำมันใช่หรือไม่’

‘ครับ’





สภาพจิตใจของรามิลคงไม่ดีเท่าไร ถึงแม้จะพอปะติดปะต่อได้ว่ามีเรื่องใดให้ต้องกังวลใจบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นความคิดของเด็กหนุ่มก็เดาได้ยากอยู่ดี ตาเรียวรีนั้นมองผ่านครอบครัวแพรพลอยที่ได้แต่ฟังคดีทั้งน้ำตา อธิศหันไปเห็นว่ารามิลมองที่นั่งว่างเปล่า บางทีนี่คงเป็นเรื่องที่เดาได้ง่ายที่สุดสำหรับเด็กคนนั้น แล้วอธิศก็ไม่แน่ใจเสียด้วยว่าศรัณย์จะอยากได้ยินคำตอบแบบไหน


“ไม่ค่อยดี” เขาตอบตามจริง “ฉันไม่อยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของนายนัก แต่เก้ามีอาการน่าเป็นห่วง”


“....”


“เขาอยากให้นายคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ”


“ฉันรู้”


“จะให้อภัยไม่ได้เชียวหรือ”


ศรัณย์เงยหน้าออกจากผ้ายืดพันเคล็ดที่แขนซ้ายแล้วมองผู้พูด อันที่จริงเขาเองก็คิดเรื่องนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มไม่ได้พูดคือการที่เขาต้องแอบเฝ้ามองเด็กคนนั้นอยู่ห่าง ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส ศรัณย์บอกตัวเองว่าไม่อยากเจอหน้ารามิล แต่นั่นปะไรเล่า ทุกครั้งที่รู้ตัว ขามันก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าห้องผู้ป่วยเพื่อมองผ่านช่องกระจกแคบ ๆ เข้าไปข้างในเสียแล้ว การทำความเข้าใจกับยอมรับให้ได้นั้นเป็นคนละเรื่อง และเขาทำใจได้ยากเหลือเกินที่จะยอมรับว่ารามิลได้ทิ้งผู้หญิงให้พบเจอเหตุการณ์เลวร้ายด้วยความเลือดเย็นถึงเพียงนั้น


“ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เก้าเองก็ได้ชดใช้ในสิ่งที่ก่อแล้ว ฉันไม่เห็นด้วยถ้าเด็กคนนั้นจะไม่มีใครสักคนให้เขาวางใจได้ระหว่างที่สภาพจิตใจแย่ขนาดนี้”


“ฉันรู้ อธิศ ฉันรู้” นัยน์ตาของอายุรแพทย์หนุ่มแดงก่ำขึ้นมาอีกแล้ว ศรัณย์เข้าใจ แล้วอธิศก็เชื่อเสียด้วยว่าอีกฝ่ายเข้าใจจริง ๆ “ในใจฉันมีแต่ความกลัว สับสน ระแวง บางทีฉันอาจจะแค่ผิดหวังที่คิดว่าตัวเองรู้ดีมาตลอด”


“....”


“ฉันอยากอยู่กับเก้า อยากจะพูดว่าไม่เป็นไร”


“....”


“แต่ใจมันไม่คิดอย่างนั้น”


อธิศปั้นสีหน้าลำบากใจ โน้มตัวมาข้างหน้าแล้วประสานสองมือขึ้นวางบนโต๊ะ เข็มวินาทีบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือส่งเสียงดังติ๊กเบา ๆ ทว่าก้องไปทั่วความเงียบงันที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ จิตแพทย์ผ่อนลมหายใจเข้าออกถึงสี่ครั้ง กว่าเขาจะคิดอะไรออกได้


“เรื่องของความรู้สึกมันน่ากลัวนะเสือ” คนตรงหน้านิ่งงันไปหลังคำนี้ ดวงตาเรียวรีนั้นเคลือบด้วยความสงสัย หวาดหวั่น และลุ้นว่าเขาจะพูดอะไรออกไปอีก “ฉันอยากให้นายกลัวมันไว้มาก ๆ”


“หมายความว่ายังไง”


“นายรู้จักเก้าดีที่สุด ถ้าเด็กคนนั้นเข้มแข็งก็ดีไป แต่ถ้าไม่ล่ะ”


“....”


“เก้าทำกับแพรพลอยอย่างนั้น ก็เพราะว่านายเป็นสิ่งสำคัญที่เขาอยากรักษาไว้”


“....”


“ลองคิดทบทวนดูดี ๆ” ภาพในตอนที่รามิลถูกเข็นเข้าไปในห้องพักพยานฉายวาบขึ้นมาในความคิด อย่างหนึ่งที่รู้คือ อธิศคิดว่าเรื่องนี้น่าเป็นห่วง เขาอยากให้ศรัณย์ตรึกตรอง ระลึกถึงเหตุและผลของเรื่องทั้งหมดเพื่อที่ตัดสินใจว่าสามารถปล่อยมือจากคนรักได้ง่ายดายแค่ไหน “เก้าให้ความสำคัญกับการยึดติด เขายึดติดนาย ยึดติดสังคม แล้วก็จุดยืนของตัวเอง”


“....”


“แต่แววตาของเขาในศาล... เด็กคนนั้นคิดว่าตัวเองไม่เหลืออะไรแล้ว”








------------------------------------------------------


( มีต่อ )
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 13-03-2015 00:30:33
( ต่อ )





รามิลรู้สึกเบื่อ เขาเทเวลาไปกับการหงุดหงิดอาการคันขาข้างซ้ายในขณะที่มันอยู่ใต้เฝือกอ่อนสีขาว เรื่องดี ๆ เพียงอย่างเดียวหลังจากความผิดของเขาถูกเปิดโปงก็คือแพรพลอยไม่ได้มีเด็ก อย่างน้อยมันคงไม่ได้ทำให้พ่อแม่หรือเพื่อนมองเขาด้วยสายตาที่กำลังก่นด่าว่าไอ้สารเลวอะไรเทือกนั้น อ้อแน่ล่ะ เขาไม่ต้องรับโทษอะไรเลย ไม่มีบทบัญญัติกฏหมายในข้อไหนบอกว่าการการกระทำเยี่ยงคนเห็นแก่ตัวเช่นนั้นเป็นความผิด


รามิลพยุงตัวออกจากรถของผู้เป็นแม่ด้วยไม้ค้ำข้างเดียว มันทุลักทุเลพอสมควร แต่ก็ดีกว่าการต้องหมุนล้อเก้าอี้รถเข็นหากต้องการไปไหนมาไหน แสงแดดอ่อน ๆ ทอดยาวบนถนนคอนกรีตขรุขระหน้าอาคาร เขาผ่านตึกผู้ป่วยนอกเพื่อไปยังทางเชื่อม ส่วนคุณแม่ขับรถออกไปแล้ว


ร่างโปร่งพาตัวเองไปตามขั้นบันไดเตี้ยอย่างระมัดระวัง เรื่องของอนาคตถูกดึงกลับเข้ามาเป็นสิ่งที่ต้องครุ่นคิดอย่างหนักอีกครั้งหลังจากความเปลี่ยนแปลง นอกจากพ่อและแม่แล้วมีคนแวะเวียนมาเยี่ยมรามิลประปราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นญาติผู้ใหญ่หรือคนรู้จัก ไม่มีเพื่อนคนไหนโผล่มา แล้วรามิลก็ยังคิดไม่ออกเสียด้วยว่าหากขึ้นไปถึงห้องเรียนแล้วจะต้องวางตัวอย่างไร เริ่มเข้าหาเพื่อนกลุ่มใหม่ หรือเพื่อนจะยอมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในเมื่อชื่อของแพรพลอยได้กัดกินเข้าเป็นตราบาปในใจทุกคนโดยสมบูรณ์แล้ว


มันเหมือนเป็นตลกร้ายสักเรื่องซึ่งไม่มีใครคาดคิดถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น


หากรู้ว่าแพรพลอยจะตาย เขาคงไม่แข็งใจปล่อยเธอไว้ตรงนั้น อย่างน้อยก็อาจรับโทรศัพท์และบอกให้คนขับวกรถกลับไป รามิลทิ้งโอกาสครั้งที่สองด้วยการเอากระเป๋าของเธอไปทิ้งไว้ในล็อกเกอร์ ตอนนี้มันอยู่ในมือของครอบครัวแพรพลอยแล้ว แต่การไม่ยั้งคิดกลับกลายเป็นรอยแผลใหญ่ ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว


รามิลขอบคุณที่อาคารเรียนมีลิฟท์ ถ้าอารมณ์ดีกว่านี้สักหน่อย เขาแน่ใจว่าจะต้องเป็นคนหนึ่งที่ขอลงนามเข้าสมาคมศิษย์เก่าเพื่อร่วมบริจาคเงินมาบำรุงลิฟท์ทุกปีแน่ ๆ ตอนนี้เกินเวลาเข้าเรียนไปไม่มาก แต่ตามวิสัยแล้ว คนที่เพิ่งพ้นช่วงวิกฤติอย่างรามิลคงไม่ถูกเช็กขาดเพียงเพราะต้องกระเผลกขาหมดสภาพนี่ไปกับไม้ค้ำหน้าตาตลก ถ้าขาไม่เจ็บ เขาจะสามารถไปถึงห้องเรียนได้ภายในห้านาที แต่ก็ทำได้แค่ค่อย ๆ พยุงตัวเองผ่านบรรดานักเรียนแพทย์สาขาอื่นที่รวมกลุ่มกันประปรายบนทางเดิน อาจมีบางห้องที่อาจารย์มาช้า แล้วรามิลก็ไม่รู้สึกดีสักเท่าไรที่ต้องเป็นเป้าสายตาเพราะการเป็นไอ้เดี้ยงแบบนี้


เขาออกแรงเปิดประตูห้องเรียนฝืด ๆ แต่มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เชื่อเถอะว่าการถูกนักศึกษาสาขาอื่นจ้องโดยที่ไม่รู้อะไรมากไปกว่าเขาเป็นไอ้เดี้ยงน่ะมันดีกว่าเป็นไหน ๆ ไม่มีใครออกมาช่วยเขาปิดประตู อาจารย์หมอถามไถ่อาการตามมารยาทราวสองสามประโยคก็ให้เขาไปนั่งได้ เก้ ๆ กัง ๆ ขึ้นมาอีกก็ตอนที่ไม่รู้จะเอาไม้ค้ำพิงไว้ตรงไหนดี


รามิลหยิบเอาสายสะพายเฉียงออกจากการคล้องตัว เขาหยิบเลคเชอร์คู่ใจเล่มสีน้ำเงินขึ้นมา จ้องบนกระดานให้ผ่านตาอีกนิดหน่อย แล้วจึงหันไปสะกิดนิลซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ


“ถึงไหนแล้ว”


“เอ่อ...” อีกฝ่ายทำสีหน้ากระอักกระอ่วนขึ้นมาเสียอย่างนั้น อย่างกับว่ารามิลจะถามใครก็ได้ เว้นแต่คน ๆ นี้ “อาจารย์นัดสอบวันศุกร์”


แน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรดีอย่างที่คิด นี่เป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่เพิ่งเจอเรื่องสาหัสมาเห็น ๆ นั่นหมายถึงว่ารามิลสูญเสียโอกาสในการราวน์วอร์ด วินิจฉัย หรือแม้แต่ขาดการฟังบรรยายไปถึงหกคาบตั้งแต่เกิดเรื่อง แน่นอนเขาอ่านหนังสือหนัก ๆ เพื่อเข้าสอบได้ แต่ในข้อสอบวินิจฉัยโรค รามิลคิดว่าตัวเองเสียเปรียบ


“จะนัดติวกันเมื่อไร”


นิลเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง “ไม่รู้สิ ต้องไปถามไอ้บอส”


รามิลไม่ได้คิดไปเองแน่ว่าเขากำลังถูกมองแปลก ๆ ละสายตาจากเพื่อนชายที่นั่งข้าง ๆ ทำให้เห็นว่าดวงตาหลายคู่ในห้องกำลังรีบหันกลับไปก้มหน้าก้มตาอยู่กับโต๊ะทันทีที่เป้าสายตารู้ตัว ทุกคนทำเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด ทำเหมือนระหว่างสามสัปดาห์มานี้มีเรื่องที่รามิลไม่รู้อย่างไรอย่างนั้น


สมุดเลคเชอร์ว่างเปล่าในส่วนสิบห้านาทีแรกของคาบ เขาไม่ได้เข้มแข็งถึงขนาดที่ว่าจะหันไปหานิลเพื่อขอดูสมุด แล้วก็ไม่ได้ทำไม่รู้ไม่ชี้เก่งพอที่จะไม่รู้ตัวว่าแม้แต่บอสหรือคนอื่น ๆ ก็ยังพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ้อ อะไรที่ว่านั่นหมายถึงการเดินเข้ามาในห้องนี้ของรามิลต่างหาก


รู้ทั้งรู้ว่ามันจะเปลี่ยนไป และพอรู้แล้วว่าจากนี้จะเป็นไปในทางไหน


มันเป็นเรื่องของคำพิพากษา


หากคุณมีเพื่อนสักคนที่แอบมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงประหลาด ๆ คนหนึ่งของห้อง จากนั้นก็ทิ้งให้เธอถูกฆ่าอยู่ข้างทางแล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติราวกับยกภูเขาออกจากอก ใช่ ไม่มีใครเกลียดรามิลหรอก แต่ทุกคนก็แค่ให้ความสนใจกับเขาในแบบที่ไม่เหมือนเดิม


กลุ่มเพื่อนเก่ามองมาทางนี้ รามิลคิดว่าพวกนั้นก็เลวพอ ๆ กัน เพียงแต่คนที่มีสิทธิ์เลือกทิศทางมันไม่ใช่เขา เด็กหนุ่มถึงทำได้แค่นั่งเป็นไอ้งั่งและมองดูทุกคนเดินออกไปจากห้องโดยไม่มีใครเข้ามากอดคอชวนไปกินมื้อกลางวันอย่างเคย เดาได้ในอนาคตว่าอาจจะต้องเริ่มหากลุ่มติวหนังสือใหม่ หาสังคมใหม่ ๆ และมันเป็นไปได้หรือไง ในเมื่อไม่มีใครในที่นี้อยากเกี่ยวข้องกับเขาเลยสักคน


“....”


กระดาษเลคเชอร์ภายใต้ฝ่ามือถูกขยำจนยับยู่ อยากจะฉีกมันออกมาเขวี้ยงออกไปให้ไกล


อย่ามาทำแบบนี้ เขาตวาดโดยไม่มีเสียง


อย่ามาทำเหมือนกับว่ารามิลเป็นส่วนหนึ่งของแพรพลอยเข้าจริง ๆ








--------------------------------------------------








 “แล้วต้องไปรายงานตัวครั้งต่อไปเมื่อไรครับ”


มือแกร่งยื่นออกไปกดปุ่มรอลิฟท์ทั้งที่มือเต็มไปด้วยถุงจากซูเปอร์มาร์เก็ต เจ้าของห้องก็แค่ยื่นข้อเสนอว่าขอฉลองเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับบทสรุปของเรื่องนี้ นั่นทำให้ชนกันต์ยิ้มออกมา ทั้งยังออกปากว่าคืนนี้จะเจริญอาหารฝีมือจิตแพทย์ให้พุงแตกกันไปข้าง


“อ๋อ” คนตัวเล็กอ้าปากจะตอบ แต่ก็มัวพะว้าพะวงกับสายกระเป๋าเป้ที่ทำท่าจะหลุดจากบ่า ในมือเขาก็มีแต่ถุงไม่ต่างกัน กระทั่งอธิศรวบทุกอย่างในมือซ้ายไปเกี่ยวเข้ากับนิ้วขวา แล้วจึงมีมือข้างที่ว่างมาช่วยเขาจับสายสะพายขึ้นให้เข้าที่เข้าทาง “ขอบคุณครับ”


ลิฟท์เปิดออก ทั้งคู่หลบทางให้หญิงสาวสองคนซึ่งเดินสวนออกมา ก่อนร่างสูงจะใช้มือข้างที่ยังว่างนั้นดันประตูลิฟท์ไว้แล้วให้ว่าที่เภสัชกรเดินเข้าไปก่อน ชนกันต์อมยิ้มที่อยู่ดี ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ว่า เสื้อเชิ้ตสีฟ้าของหมออธิศไม่เข้ากับถุงซูเปอร์มาร์เก็ตสีเหลืองสดเอาเสียเลย


“อังคารหน้าครับ หลังจากเข้าอบรมที่นั่นเสร็จก็ไปรายงานตัวต่อได้เลย”


คนฟังพยักหน้ารับรู้ เขาไม่แปลกใจกับคำว่าที่นั่นเท่าไรนัก เป็นที่รู้ ๆ กันว่าการเป็นนักศึกษาฝึกงานเภสัชกรรมปีสุดท้ายนั้นไม่ใช่การประจำอยู่ที่เดียวตลอดทั้งปี ชนกันต์จะได้ใบรับรองการฝึกงานจากทางโรงพยาบาลในวันศุกร์นี้ หลังจากนั้นจึงต้องทำหนังสือรายงานผลการฝึกที่มหาวิทยาลัยอีกราว ๆ หนึ่งสัปดาห์แล้วจึงเริ่มฝึกงานผลัดสองที่ร้านขายยา


และนัยหนึ่ง การฉลองในคืนนี้ก็คล้ายกับเป็นการบอกลาเพื่อนร่วมห้องชั่วคราว ชนกันต์เก็บของพร้อมสำหรับการกลับแมนชั่นในวันพรุ่งนี้แล้ว


อธิศไขประตูห้อง เดินเอาถุงซูเปอร์มาเก็ตไปวางกองรวมกันที่โต๊ะกินข้าว แล้วก็รีบมารับถุงจากชนกันต์ไปอีกต่อ เดือนหนึ่งเห็นจะได้ที่อีกฝ่ายไม่ได้เจอเหตุการณ์ ประหลาดหรืออะไรที่แย่มากไปกว่าการฝันร้ายเป็นครั้งคราว ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ ถึงตอนนี้ชนกันต์จะไม่ได้วางใจเท่าที่ควร แต่เด็กหนุ่มก็เป็นฝ่ายออกปากเองว่าอยากพึ่งตัวเองให้ได้ และอธิศไม่รู้จะพูดอย่างไร เขารู้ว่านี่คือสิ่งที่สมควร


เป็นครั้งแรกที่จิตแพทย์อย่างเขายอมพูดจาไปในทางโอ้อวดว่าทำซุปไก่มันฝรั่งอร่อย แน่นอนมันเป็นอาหารง่าย ๆ แต่ในความง่ายนั้น หากมีสูตรพิเศษก็จะยิ่งอร่อยขึ้นอีก และนี่เป็นครั้งแรกที่ชนกันต์รู้ว่าพ่อครัวคนนี้เคยติดคุณย่ากับเขาด้วย


“แน่ใจนะว่าไม่หิวเท่าไร” อธิศถามเป็นรอบที่สอง แล้วคนตัวเล็กก็ตอบอีกว่ารอได้ ให้ตั้งเตาทิ้งไว้นานตามใจชอบได้เลย


ชนกันต์ทำท่าจะลุกไปช่วยหั่นหมูสำหรับผัดขิงเป็นกับข้าวอย่างที่สอง แต่ก็ถูกห้ามแล้วบอกให้รออีกสักครึ่งชั่วโมง จะได้ไม่เย็นชืดไปเสียก่อน นั่นเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นทีเดียว


“หมอจะไปงานเผาศพเธอหรือเปล่า”


เป็นที่รู้กันว่าสำหรับคนเจอเรื่องร้าย ๆ มา คงไม่ใจแข็งพอจะเรียกชื่อเธอคนนั้น เรื่องดีอีกอย่างคือครอบครัวแพรพลอยไม่ได้โกรธเคืองเด็กคนนี้อย่างที่อธิศกลัว ในทีแรกทั้งสองฝ่ายอาจอึดอัดกันบ้าง แต่ทันทีที่ชนกันต์พาตัวเองลงคุกเข่าแล้วก้มกราบจนศีรษะติดพื้น นายมนตรีก็ใจอ่อนลงมาช่วยพยุงตัวขึ้นในที่สุด จากนั้นทั้งคู่จึงขอเวลาทำใจอีกสักพัก หลังจากที่เข้าใจแล้วว่าความไม่เจตนาของชนกันต์นั้นเป็นเหตุสุดวิสัย อาจน่าโกรธเคืองที่ไม่ยอมลงไปดูลูกของทั้งคู่ แต่นอกจากตัวแพรพลอยเองแล้ว มันถูกที่ใครคนอื่นไม่มีสิทธิ์โกรธเด็กคนนี้


“ไปสิ” อธิศตอบ เขาดูพอใจที่จัดการมันฝรั่งเสร็จจนได้ “ผมก็ได้รับคำเชิญเหมือนกัน”


“พรุ่งนี้หลังจากเอาของไปเก็บที่ห้องเสร็จ ผมจะรีบตามไป” เด็กหนุ่มเบาใจขึ้นมาที่รู้ว่าหมออธิศมีโอกาสจะไปถึงก่อน เพราะหากต้องโผล่ไปที่นั่นโดยไม่รู้จักใครสักคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนที่เกี่ยวกับคดีด้วยแล้ว นั่นคงน่าอึดอัดพิลึก


“ให้แวะไปรับไหม” นายแพทย์เสนอ “ผมต้องรอรับเสือไปพร้อมกัน ยังไงก็คงช้าอยู่แล้ว”


“หมอเสือไปด้วยเหรอครับ”


อธิศพยักหน้ารับ มือก็ยกหม้อซุปไก่ไปตั้งบนเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอายุสี่เดือน “รถของเสือยังซ่อมไม่เสร็จ พยาบาลบอกว่าเขาต้องนั่งแท็กซี่ไปกลับทุกวัน”


ชนกันต์พยายามนึกภาพรถของหมอศรัณย์ ได้ยินว่าบุบไปพอสมควรจนดูเหมือนทั้งคันเบี้ยวไปทางขวา โชคดีเหลือเกินที่เจ้าของรถแค่แขนซ้นเท่านั้น


“แล้วเก้า...”


ถึงตรงนี้อธิศเงียบไป เขาท้าวสองมือไว้กับขอบโต๊ะหลังทำอาหารหม้อแรกเสร็จ มีเวลาให้ทั้งคู่คุยฆ่าเวลากันอีกราวครึ่งชั่วโมง “ผมไม่รู้”


“อ่า...”


"ผมได้คุยกับเสือไปบ้างแล้ว แต่เก้า -- เด็กคนนั้นน่าเป็นห่วงทีเดียว”


สองคนเงียบไปอีกพักใหญ่ และปล่อยให้ห้องทรงยาวนี้มีเพียงเสียงแอร์ที่ทำลายความเงียบตอนหัวค่ำโดยไม่ได้มีทางเลือกอื่น เมื่อไรที่พูดเรื่องของรามิล พวกเขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ อาจด้วยความเคลือบแคลง แปลกใจ หรือบอกตัวเองว่าไม่ควรหาคำใดมาพูดถึงตัวตนของเด็กนั่นอีกหลังจากเรื่องครั้งนั้น


“ผมสงสารเขานะ” เป็นครั้งแรกที่ชนกันต์ทำลายกฏเงียบ “ถ้าเลือกได้ เก้าก็คงไม่ทิ้งเธอไว้ตรงนั้นใช่ไหมล่ะครับ”


“ครับ”


“ถ้าหมอเป็นหมอเสือ หมอจะอภัยให้เขาได้หรือเปล่า”


อธิศใช้เวลาคิดคำถามนี้อยู่พักหนึ่ง ชนกันต์ว่ามันนานเกินไปสำหรับคนที่ตัดสินใจอะไรเร็ว นัยน์ตาคมนั้นหลุบลงต่ำ จากนั้นริมฝีปากก็เหยียดเป็นยิ้มเล็ก ๆ ที่ดูไม่มีความหมาย


“แล้วผมโกรธคุณหรือเปล่า”


“ไม่ใช่สิ” คนอ่อนวัยกว่าท้วง “ผมหมายถึงถ้าหมอเป็นหมอเสือ มันเทียบกับผมไม่ได้สักหน่อย”


“ทำไมล่ะ”


“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแบบนั้นนี่ครับ”


ชนกันต์ตอบตรง ๆ และคำตอบที่เขาได้รับกลับมาก็มีแค่เสียงหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่ร่างสูงเดินลงมาลากเก้าอี้ข้างตัวแล้วหมุนทำมุมหันเข้าหากัน อธิศทิ้งตัวนั่งลงเพื่อบอกกลาย ๆ ว่าจะเข้าสู่ช่วงบทสนทนาฆ่าเวลาเต็มตัวแล้ว


“ไม่รู้สิ ผมก็อาจพยายามเข้าใจอย่างที่เสือกำลังทำ แต่จะรับได้ไหมก็เป็นอีกเรื่อง”


แทบไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่เลือกคุยเรื่องของคนอื่น สำหรับเด็กหนุ่มที่เคยมีแฟนนับคนได้แบบชนกันต์แล้ว ยอมรับว่าเขายังเก็บเรื่องความสัมพันธ์ของคนคู่นี้มาติดใจอยู่นิดหน่อย แล้วก็พาลจะนิสัยเสียจนนึกไปจับผิดถึงครั้งแรกที่ไปดื่มด้วยกันในบาร์


“แล้วหมอว่า... เรื่องนี้จบลงจริง ๆ หรือยัง”


ริมฝีปากของอธิศไม่ได้ฉีกกว้างไปกว่าเดิม แต่มันดูมากขึ้น “ดูจากที่คุณหลับได้ตั้งแต่ห้าทุ่มแทบทุกวัน ผมว่าแฮปปี้เอ็นดิ้งครับ”


นึกอยากจะสวนไปว่าหมอด่วนสรุป แต่ชนกันต์ก็กลัวจะกลายเป็นคนก้าวร้าวขึ้นมาอีก “ไม่รู้สิหมอ ผมยังกลัวอยู่”


“หืม?”


“ยังรู้สึกแปลก ๆ แบบบอกไม่ถูก แต่ผมก็คงจะรู้สึกไปเอง แบบนี้เรียกควันหลงได้ไหม” หัวเราะแก้เก้อให้ดูผ่อนคลายขึ้น และมันได้ผล เมื่อสิ่งที่ตามมาในหัวก็มีแต่เรื่องดี ๆ ท่ามกลางเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมา ชนกันต์ไม่แน่ใจว่าเขาโตขึ้นบ้างหรือเปล่า แต่ถ้า    วัดจากตอนโทรไปแจ้งเรื่องโดนคดีขับรถโดยประมาท ที่พ่อแม่บอกว่าภูมิใจในตัวลูกชาย และเรื่องคดีของแพรพลอยที่ได้กลายไปเป็นพยานอย่างช่วยไม่ได้ นั่นก็เชื่อได้ว่า มันทำให้ชนกันต์คิดอะไรได้มากขึ้นในระดับหนึ่ง ถึงน้อยนิด แต่จะมากขึ้นตามกาลเวลา


ความเงียบโรยตัวลงมาแทนที่บทสนทนาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าความประหม่านี้มาจากไหน อาจจะมาจากหมออธิศที่กำลังใช้นัยน์ตาสีเข้มนั่นมองเขาจากเก้าอี้ตรงหน้ากระมัง ไม่บ่อยอีกนั่นแหละที่อีกฝ่ายจะยอมปล่อยให้เกิดสถานการณ์แปลก ๆ ชนกันต์เคยชอบหมออธิศตอนถอดแว่นเพราะดูใจดีกว่า แต่พอเป็นตอนนี้ เขาดันอยากเดินไปหยิบแว่นมาใส่ให้หมอเดี๋ยวนี้เลย


“ขอโทษครับ” อธิศรู้ตัวไวเสมอ ร่างสูงเอนแผ่นหลังจนตั้งฉากกับพื้น และนั่นทำให้แขนยาว ๆ ที่กุมมืออยู่บนหน้าตักเมื่อสักครู่ดูเก้ ๆ กัง ๆ ไปโดยปริยาย


“มีอะไรหรือเปล่าครับหมอ”


ดวงตานั้นมีแต่ความเคลือบแคลง ว้าวุ่นไปด้วยความคิด และบ้าชะมัด -- นี่เขาหัดมีนิสัยคิดวิเคราะห์คนอื่นตั้งแต่เมื่อไรกัน


“ไม่มี” อธิศโกหกทื่อ ๆ ตัดสินใจไม่ได้ว่าควรพูดออกมาหรือเปล่า “ขอโทษที”


การอยู่ด้วยกันมาร่วมเดือนทำให้เด็กหนุ่มจับทิศทางได้ว่าการขอโทษครั้งที่สองนั่นสื่อถึงการควบคุมความคิดของคนตรงหน้าอย่างชัดเจน อธิศมักจะพูดอะไรในครั้งเดียว หรืออย่างน้อย ๆ ก็ทิ้งระยะห่างจนเรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ต้องการการพูดซ้ำอีกครั้ง แต่นั่นแหละ – หมอกำลังดูประหลาด


“ผมก็แค่ใจหายน่ะ” ในที่สุดจิตแพทย์ก็ไม่ได้เลือกทางโกหก พูดให้ถูกคือชายหนุ่มคงละอายมากกว่าที่รู้ว่าตัวเองปกปิดความรู้สึกไม่สำเร็จ เขาทำมันได้เสมอ เว้นแต่บางที “ซึ่งมันตลกดี”


“ยังไงครับ”


เชื่อเถอะว่าอธิศแสดงออกให้รู้เลยว่าชนกันต์ไม่ควรถาม “ตลกที่ผมใจหายเพราะคุณจะย้ายกลับครับ”


“อ่า... ใจหายนี่ใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีนะ” คนตัวเล็กพูดติดตลก นิ้วก็ยกขึ้นเกาสันกรามแก้เก้อ “ผมรบกวนหมอมานานมากเหลือเกิน”


“....”


“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่าง”


“....”


“ผมเคยดีใจที่หมอเชื่อผมสักที แต่ตอนนี้มันมากกว่าคำว่าดีใจอีก เพราะถ้าไม่มีใครสักคนทำอย่างที่หมอทำ ผมได้กลัวจนตายไปแล้วแน่ ๆ”


“....”


“สิ่งที่หมอให้ มันมากกว่าไดอะซีแพมเสียอีก”


“กันต์”


เสียงทุ้มพูดสวนขึ้นมาทันทีที่จบประโยค ชนกันต์คิดว่าตานั้นยิ่งทำให้เขาร้อนรุ่ม มันแปลกประหลาดเกินกว่าเด็กหนุ่มจะคิดอยากจำกัดความด้วยคำใดที่นึกออก และหลังจากชื่อของเขา หมออธิศก็ไม่ได้พูดอะไรอยู่สองนาน


“เราจะได้เจอกันอีกไหมครับ”


“....”


“มันจะแปลก ๆ หรือเปล่า ถ้าผมติดใจยำปลาสลิดร้านที่หมอเคยพาไปกิน”


“....”


“....”


ทั้งคู่เงียบไปอีกแล้ว ว่าที่เภสัชกรรู้ว่านี่มันยากกว่าการสอบครั้งไหน ๆ ตลอดห้าปีที่ผ่านมา มันยากตรงที่เขาไม่รู้จะพูดอะไรอีก แล้วก็คิดว่าที่พูดไปมากเกินพอแล้ว และหากย้อนกลับไปในร้านอาหารครั้งนั้น ความรู้สึกเดิมของชนกันต์คือขอให้อธิศพูดอะไรออกมาสักคำ


“ไม่ต้องย้ายกลับได้ไหม”


“ครับ?”


ตาสีเข้มนั้นหยุดสั่นแล้ว มันแน่นิ่ง แล้วก็ลุ่มลึกเสียจนทำให้คนฟังร้อนไปทั้งตัว “ผมพูด คุณฟัง แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บไปคิด ถึงแม้คำที่ว่าไม่ต้องคิดนั้นผมจะโกหกคุณก็ตาม”


ชนกันต์เกลียดยิ้มอบอุ่นของหมออธิศขึ้นมาจับใจ มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ แม้จะยังประมวลผลประโยคก่อนหน้าได้งุนงงก็ตามที


“ผมไม่อยากให้คุณย้ายกลับไปอยู่คนเดียว”


“ทำไมครับ”


“เพราะผมคิดว่า ผมเก่งกว่ายาไดอะซีแพม”


สิ้นประโยคร่างเล็กก็หัวเราะเบา ๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมต้องหัวเราะ แล้วก็สั่งตัวเองว่าพยายามอย่าหยุดหัวเราะด้วย “ก็จริง”


อธิศนิ่งไปอีกแล้ว นิ่งและจับจ้องใบหน้าของเขาอย่างชั่งใจ มันคล้ายเป็นคำสั่งกลาย ๆ ให้ชนกันต์หยุดหัวเราะแล้วตั้งใจฟัง ซึ่งให้ตายเถอะ เขาอยากฝ่าฝืนคำสั่งนี่เป็นบ้า


“มีอีกเรื่องที่ผมอยากขอโทษคุณ”


หัวใจของเด็กหนุ่มต้องหลุดออกจากอกไปแล้วแน่ ๆ ในตอนที่นายแพทย์อธิศเลื่อนริมฝีปากเข้ามาแตะกับปากของเขา อาจจะสักสามวินาทีหรือนานกว่านั้น มือใหญ่ก็ยกขึ้นทาบบนพวงแก้ม มันพาชนกันต์ให้เป็นไปในทิศทางที่ทั้งคู่อยากให้เป็น ไม่นานนัก สัมผัสผะแผ่วนั้นผละออก จากนั้นจึงถือวิสาสะบดเบียดครั้งที่สองลงมาอย่างเชื่องช้า หนักแน่น และบาดลึกลงไปถึงความรู้สึก


แสร้งบอกตัวเองให้ไม่ต้องคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็นั่นแหละ -- เขาเคยโกหกตัวเองได้ที่ไหนกัน เรียวลิ้นของแพทย์หนุ่มแห่งแผนกจิตเวชไล้เล็มริมฝีปาก ค่อย ๆ ส่งลิ้นเบิกทางเข้ามาต้อนและเกี่ยวเขาเอาไว้ อีกมือที่เคยเก้กังอยู่บนตักขยับขึ้นมาจับแขนเล็ก ทุกอย่างเหมือนห้วงสีขาวฟุ้ง สิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาขึ้นก็คือนัยน์ตาสีเข้มไม่มีเลนส์แว่นขวางกั้น และไออุ่นยังคงรดริมฝีปากของชนกันต์อยู่ในประโยคต่อมา


“ผมลืมคืนสุดสยองนั่นไม่ได้สักที”


คนตรงหน้าพูดติดตลก แต่ครั้งนี้มีความรู้สึกอื่นขึ้นมาแทนที่อารมณ์ขันเสียแล้ว


“แล้วผมก็อยากอยู่กับคุณต่อไปครับ”








--------------------------------------------------








เปลือกตาบางลืมขึ้นในความมืด เรตินาทำงานอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะเริ่มเห็นแสงจันทร์ส่องผ่านผืนผ้าม่านและเปลี่ยนให้เพดานค่อย ๆ สว่างขึ้นจนเป็นสีเทาอ่อน ไม่แน่ใจนักว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร อาจเป็นตอนที่กลับมาแล้วเอาแต่ร้องไห้ ถ้าอย่างนั้นไม้ค้ำก็คงยังอยู่ที่ปลายเตียง ข้าวของระเนระนาด แล้วกางเกงขายาวที่สวมอยู่ก็เป็นสแลคสีดำ


ทันทีที่เริ่มเรียบเรียงความคิดได้ ภาพความแปลกแยกในหัวกลับเริ่มเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เขาต้องใส่ชุดกาวน์แล้วเป๋ไปเก็บรายละเอียดอาการคนไข้เพียงลำพังเพื่อเตรียมตัวสำหรับสอบย่อยที่จะถึง ในการขึ้นวอร์ดกับอาจารย์แพทย์ รามิลคิดว่าคงไม่มีใครกระซิบบอกคำตอบให้เขาได้ลุ้นและหัวเราะกับพฤติกรรมแผลง ๆ นั่นอีกแล้ว


คำตัดสินจบไปตั้งแต่ในชั้นศาล หากแต่คนที่ยังต้องรับคำพิพากษาต่อจากนั้นก็คือคนผิดนอกกฏหมาย ตราบาปซึ่งกัดกินตัวตนลึกลงไปเป็นปรสิต มันสูบเอาความคิด ความรู้สึก เรี่ยวแรง และความหวัง ให้หายไปจากชีวิตของรามิลได้อย่างเลือดเย็นเฉกที่เขาเคยทำกับผู้หญิงคนนั้น แทบทนไม่ไหวที่ต้องแสดงออกว่าอยู่ได้ แต่เปล่าเลย เขาอยู่ไม่ได้


ศรัณย์ให้บทลงโทษความรักได้เจ็บแสบเหลือเกิน


โดยการไม่เลือกมัน


ถ้าถามว่าอารมณ์ของรามิลในตอนนี้เป็นแบบไหน เขาก็คงโกรธ -- แต่โกรธจนหมดแรงแล้ว เสียงฝีเท้าแว่วเข้ามาในหู และหลังจากหยัดตัวขึ้นนั่งได้ไม่ถึงสิบวินาที เสียงเคาะประตูสองทีก็ดังเรียกอย่างที่คิดเอาไว้


“เก้า มีเพื่อนมาหาจ้ะ”


แม่นั่นเอง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย นัยน์ตาเริ่มมีประกายอย่างลิงโลด รามิลรู้สึกว่าการที่หัวใจเต้นแรงขึ้นมานั้น เหมือนตอนที่เพื่อนขอเกี่ยวก้อยหลังจากทะเลาะกันในวัยเด็กไม่มีผิด เขาแบ่งความดีใจเป็นสามระดับ และศรัณย์อยู่อันดับแรกเสมอ


เด็กหนุ่มเอื้อมตัวไปกดเปิดโคมไฟแล้วลุกขึ้นจากเตียงอย่างทุลักทุเล การใส่เฝือกอ่อนทำให้เดินเหินถนัดขึ้นนิดหน่อย แม้จะแลกมาด้วยความเจ็บปวดซึ่งทุเลาลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม และรามิลไม่ชอบใช้ไม้ค้ำในขณะที่ยังอยู่ในบ้าน นั่นหมายถึงเขาต้องการบำบัดทางกายภาพด้วยการฝืนออกไปโดยไร้เครื่องช่วยพยุง


อาจจะเป็นนิล บอส โอ๊ต หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ในกลุ่ม


หรือถ้าดีหน่อยก็เป็นพี่เสือ


“เก้า” แม่เร่ง แต่เด็กหนุ่มไม่กระตือรือร้นเดินเร็วกว่านี้ถ้าไม่ใช่เสียงของศรัณย์


เขาปิดประตูห้องเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพเละเทะ ก้าวเดินช้า ๆ โดยอาศัยราวของชั้นสองซึ่งทอดยาวมาถึงบันได ในสามขั้นแรก รามิลอาจต้องพะว้าพะวงมองพื้นสักหน่อย แต่เขาก็ยอมชะโงกหน้ามองเงาคนไว ๆ ที่อยู่หลังผนังกั้นทางขวามือ “เพื่อนเอาเลคเชอร์วันนี้มาให้แน่ะจ้ะ”


“....!”


ขาขวาใต้เฝือกอ่อนรู้สึกเจ็บขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น เจ้าของเรือนผมสีดำยาวค่อย ๆ หันมาทางบันได เผยให้เห็นเดรสสีขาวลายลูกไม้เชย ๆ ผิวของเธอซีดเผือด ดวงตารีเล็กดำด้านในขณะเอ่ยคำทักทายคุ้นเคย


ริมฝีปากฉีกออกเพื่อขยับ


“สวัสดี เก้า”










เฮือก


เปลือกตาบางลืมขึ้นในความมืด เรตินาทำงานอย่างเกียจคร้านก่อนจะเริ่มเห็นแสงจันทร์ส่องผ่านช่องหน้าต่างเล็ก ๆ ที่ช่วยให้สิ่งรอบตัวเริ่มก่อเป็นเค้าโครงร่าง รามิลคิดว่าแค่เผลอหลับไป เขานอนอยู่ และจะตื่นขึ้นมาเพื่อหัวเราะเยาะกับตัวเองว่าเมื่อครู่เป็นแค่ฝันร้าย


ทว่ามือของเขาจับราวบันได เท้าข้างที่ไม่มีเฝือกสัมผัสอยู่บนพื้นไม้ รอบข้างมืดครึ้ม และชั้นล่างไม่ได้เปิดไฟอย่างที่เห็นเมื่อครู่ ไม่มีแม้กระทั่งเสียงโทรทัศน์ เสียงคุยโทรศัพท์ของพ่อ และรามิลไม่รู้ว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร


“....”


พลันห้วงคิดฉายภาพซ้ำแทนที่ ชายกระโปรงสีขาวกรอมเข่าพริ้วไสว เจ้าของเสียงทักทายเขาทั้งรอยยิ้ม ดวงตาสีดำด้านขยายกว้าง แล้วก็ราวกับความทรงจำสมจริงนั้นจะฉุดกระชากความรู้สึกทั้งมวลของเขาให้พุ่งสูงและระเบิดออกจนควบคุมไม่ได้


เขาถอยขาขวากลับขึ้นข้างบน และทันทีเฝือกอ่อนสัมผัสกับพื้นบันได ก็สายเกินกว่าที่รามิลจะรู้ตัวว่าได้เหยียบเอากระดาษปึกหนึ่งเป็นแรงส่งให้เขาลื่นไถลลงไปทางด้านล่าง


“อ้าก --”


ความเจ็บแปลบที่ข้อเท้าทำให้เด็กหนุ่มเจ็บจนน้ำตาไหล หัวไหล่กระแทกเข้ากับพื้นไม้ปาร์เก้ มันส่งเสียงครึกโครมและคงจะปลุกคนในบ้านนี้ให้ตื่นขึ้นมา เพดานสีเทาอ่อนเริ่ม มืดมิด แสงจันทร์หดกลับออกไปทางหน้าต่าง และทิ้งให้สายตาของรามิลคว้างอยู่กับชีทเปื้อนไฮไลท์สีชมพูสลับเหลือง เสียงจั๊กจั่นกลางคืนร่ำไรอยู่ไกลแสนไกล


เจ็บจนอยากให้ขาหลุดออกไป ความคิดสุดท้ายเขามีแค่นั้น




แล้วก็เหมือนฝันที่เสียงของศรัณย์แว่วเข้ามา


“เก้า”







TBC





----------------------------------------------------



เรื่องของเรื่องก็คือ ปรสิตมี 15 ตอนจบค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 13-03-2015 02:41:25
อ๊ากกกก....หวานแป๊ป
สยองต่อ....กรี๊ดดดดด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 13-03-2015 02:53:06
โฮรววววววว   ปรับอารมณ์กันไม่ทันเลยทีเดียว 
หวานอยู่ดีๆ  กลายเป็นสยองซะงั้น   :ling3:  :ling3: :ling3:
เก้าจะเป็นไรมั้ยน้อ... :katai1: เหลือแค่อีก 2 ตอนเองก็จะจบแล้ว
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fellina ที่ 13-03-2015 05:57:08
สงสารเก้า  แอบโกรธศรัณอย่างบอกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 13-03-2015 06:53:57
เก้าโดนเยอะเลย หลอนทิ้งท้าง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 13-03-2015 07:03:46
อ๋อยยยยยยยยยย หวานนนน กู๊ดจ๊อบมากหมอ o13
ว่าแต่จะจบแล้วเหรอ ยังไม่อยากให้จบเลย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sin ที่ 13-03-2015 07:37:31
โครตเกลียดหมอเสือเลย ขี้ขลาดชิบหาย ทำเป็นรับไม่ได้
คืออีเก้าก็ผิดล่ะ แต่แหม คนที่น่าจะผิดที่สุดคือแพรพลอยเปล่า
เค้าใจดีด้วยหน่อยตามติดเชียว อีผีบ้า หลอกคนไปทั่ว
หลอกว่าท้องอีกต่างหาก ไร้สาระว่ะ ถ้าผีเป็นคนดีก็น่าช่วยหน่อย นี่ผีบ้าบอคอแตก

สงสารเก้าจริงๆ คือผิดไรนักหนาวะ เก้าเป็นคนดีนะ ตอนที่แพรพลอยโดนบอยคอตก็มีแต่เก้าที่ดีด้วยป่ะ
จนเก้าเองนั่นแหล่ะ โดนหางเลข และถ้าไม่ใช่เพราะแพรพลอยมันคิดเกินไปเองเก้าก็คงไม่ปฏิเสธแบบแรงๆหรอก
คนแบบนี้ทำดีด้วยก็มีแต่จะเข้าข้างตัวเองทั้งนั้นแหล่ะ

แต่เรื่องนี้เกลียดไอ้หมอเสือที่สุด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 13-03-2015 08:40:10
รู้สึกว่าจะเป็นผีที่จองเวรไม่ยอมไปเกิดซักที :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 13-03-2015 09:34:18
อ้ากกกกกกก หมออธิศกับน้องกันต์ หวานเวอร์  :-[ :-[ :-[


อ่านๆ ผมก็คิดตามไปนะครับ ว่าการเป็นจำเลยของสังคมมันน่ากลัวจริงๆ
เราอาจไม่ได้ผิดอะไรเลย หากพิจารณาตามกฎหมาย แต่หากถูกตัดสิน
จากอารมณ์และจารีต ที่ยกมาสั่วๆ เพื่อให้ตัวเองดูดี ดูสูงส่งกว่า ดูไม่แปลกแยก
จำเลยในที่นี้ก็เหมือนเป็นคนเดียวในจักวาลอันอ้างว้างแต่โกลาหลแบบนี้
ซึ่งบางที คนที่ตัดสินอย่างนั้นแล้วเลือกแยกตัวออกไป คงไม่ต่างจากคน
ที่เขาชี้ว่าผิดนั่นเอง

สำหรับเรื่องการกระทำของตัวละคร ทำให้นึกถึงคำว่า 'ผิดเพราะรัก' เลย
ก็รักน่ะมีเขา/เธอ เป็นคนเดียวที่สำคัญ เลยทำทุกอย่างเพื่อรักษาเขาเอาไว้
ถึงเราจะดูร้ายแค่ไหนมันไม่สำคัญเลย ขอให้ได้รักนั่นก็เพียงพอแล้ว

ปล. ผมเวิ่นเว้ออะไรเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 13-03-2015 10:03:36
ทั้งเรื่องเราสงสาร "รามิล" ที่สุด เราอยากให้พี่เสือกลับมา  :hao5:

อยากให้แพรพลอยหายไปจากชีวิตรามิลสักที  :katai1:

อยากให้จบมีความสุข แม้หนทางดูจะมืดมนมากมาก  :เฮ้อ:

 
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: elieanna ที่ 13-03-2015 10:12:25
เหมือนตอนต่อไปจะหวาน....แต่ทำไมถึงรู้สึกว่ามันอาจจะสยอง :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 13-03-2015 10:13:00
 o13 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: buzeative ที่ 13-03-2015 10:54:37
สงสารเก้า อีเพื่อนๆเก้าหน่ะเหี้ย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 13-03-2015 11:24:01
พี่หมออธิศกับน้องกันต์ ในที่สุดความสัมพันธ์ก็คืบหน้าสักที 
พี่หมอเนี่ย เห็นนิ่ง ๆ พอรู้ใจตัวเองที รุกน้องเร็วเลยนะ จุ๊บซะเร่าร้อนเชียว :m1:

เข้าใจ ที่แพรพลอยจะเจ็บแค้นน้องกันต์มากขนาดนี้ล่ะนะ ความหวังสุดท้ายที่จะได้มีชีวิตรอด
แต่ก็สงสารน้องกันต์ ชีวิตแพรพลอยจบไปแล้ว แต่น้องกันต์ก็ต้องแบกความรู้สึกผิดในใจไปตลอด

ตอนนี้สงสารเก้ามาก  ๆ อย่างที่ พี่หมออธิศว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก
เกลียดพวกเพื่อน ๆ เก้าจริง ๆ ตั้งแต่ตอนแพรพลอยแล้ว ก็มาจนถึงเก้า
ทำเป็นหวาดกลัวเก้า ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรนักหนา คนพวกนี้ จิตใจคับแคบ
จนไม่อยากจะเชื่อว่า นี่น่ะหรือ คือ คนที่ในอนาคตจะเป็นแพทย์ ที่คนไข้ต้องมาฝากชีวิตด้วย

ใกล้จบแล้วหรือนี่ พี่หมออธิศกับน้องกันต์ เพิ่งจะเริ่มปลูกต้นรักกันเองน้า
ส่วนพี่เสือกับเก้า ยังไงซะ ก็อยากให้พี่เสือเห็นในความรักของเก้าบ้าง อภัยให้เก้าสักครั้ง
และแม้ตอนนี้ ทุกคนจะได้รับผลจากการกระทำของตัวเองกันไปแล้ว
แต่แพรพลอยก็ยังไม่พอใจสินะ จะทำอะไรอีก เฮ้อ  :เฮ้อ: ยังไง ก็ขอให้ทุกคนปลอดภัยก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 13-03-2015 12:00:09
คห. 336 ฮาร์ดคอร์มาก  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 13-03-2015 12:18:52
แพรพลอยยังจะต้องการอะไรจากเก้าอีก..
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 13-03-2015 12:26:29
คุณสั่นอารมณ์ในการอ่านของเราตลอดเวลาเลยอ่ะ  กำลังหวานใจกระตุก ก็ต้องกลับมาผวาต่อกับความหล่อนของแพรพลอย โอ๊ยยยยยเหนื่อยอ่ะ แต่สนุกและลุ้นเช่นเดิมค่ะ   :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: INNAOM ที่ 13-03-2015 14:03:50
เอาจริงๆเราคิดว่าพลอยไม่สมควรโกรธแค้นกันต์เลยด้วยซ้ำ
กันต์พลาดที่ไม่ยอมลงมาก็จริง
แต่ในเมื่อเนื้อเรื่องบอกว่าพลอยโดนลากไปแล้ว ต่อให้กันต์ลงมาจริงก็คงไม่เห็นอะไรอยู่ดี
แต่มองอีกมุม แล้วถ้าเห็นคนพวกนั้นมีตั้งสาม คาดว่ากันต์คงกลายเป็นอีกศพ

แต่ถ้าเราเป็นพลอย ความหวังสุดท้ายหายไปแบบนี้
เราก็โกรธอ้ะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 13-03-2015 14:25:49
เห็นรูปคดีแล้วสงสารแพรพลอยมาก เข้าใจเลยว่านางมาหลอกหลอนคนอื่นทำไม..
ถึงจะทำให้ชนกันต์แย่.. แต่ทำให้ได้เจอกับหมอ เราว่าคุ้มนะ  :laugh:

ส่วนฉากสุดท้ายตะกี้ เราคิดว่าแพรพลอยคงจะยอมให้เก้าแล้วแหละ หยอกเล่นก่อนจะปล่อยไป..
ถึงเธอไม่กลับมาหลอกอีก ตราบาปนี้ก็จะติดอยู่ตลอดไปอยู่แล้วล่ะ ถึงไม่มีคำพิพากษาจากศาล ศาลเตี้ยก็เล่นกันอยู่ดี
ความตายมันหนักจริงๆนั่นล่ะ ใช่ว่าทำลงไปแล้วจะไม่รู้สึกอะไร..
เราว่าที่เพื่อนเก้าทำแบบนั้นส่วนนึงเพราะรู้สึกผิดแต่ไม่อยากผิดเลยลงที่เก้าผิดคนเดียวมากกว่า
เพื่อนหายไปทั้งคนจะให้ก้าวตามคนเดียวก็ไม่ใช่ ถึงจะทำเป็นเมินแต่อย่างน้อยก็น่าจะรู้บ้างสักนิดว่ามีคนหาย บอกคนขับแล้วมาเล่นต่อจะเป็นอะไรไป
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 13-03-2015 15:30:13
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:เห็นใจทุกคนเลยอะนะ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เกสรทอง ที่ 13-03-2015 16:39:43
กรี๊ดดดดดดดดดด ฟินสุดๆๆๆๆ น่อวววว ละมุ่นนนนน นั่ลล้าคคคคคคค ไม่อยากให้จบเลย อยากให้พัฒนาความสัมพันของสองคนนี้ไปเรื่อยๆ ./////.  :z13: :z3: :katai5: :hao7:

อ้างถึง
ชนกันต์เคยชอบหมออธิศตอนใส่แว่นเพราะดูใจดีกว่า
ตอนถอดแว่นป่ะครับ แต่คราวนี้กลับอยากให้เขาใส่แว่น จะได้ไม่ส่งสายตาชวนหวั่นไหวแบบนั้นมา น่อวววว -..-
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 13-03-2015 16:48:56
อุ๊ฟ! จำเลยสังคมมันน่ากลัวงี้แหละค่ะหนูเก้า
ตอนทำความดี ร้อยครั้งพันครั้ง ไม่มีใครมันจะมาเห็นหรอกค่ะ
แต่พอทำชั่วครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวเท่านั้น อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตไปเลยก็ได้
ถ้ามีคนที่รักและเข้าใจอยู่เคียงข้าง ก็ถือว่าดีไป แต่หากทุกคนเลือกที่จะหันหลังให้
ก็คงไม่มีใครเข้มแข็งพอจะทนได้หรอก แต่เพราะเก้ายังมี เข้มแข็งไว้นะ คิดว่ายังมีพ่อมีแม่ คนอื่นมันไม่ได้มาเลี้ยงมาให้ตังค์ใช้
จะแคร์ทำไมกลับพฤติกรรมขึ้นๆลงๆของมนุษย์ เปลี่ยนความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขซะนะ
เคยอ่านหนังสือธรรมของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่ว่า 'ทุกขัง อริยสัจจัง'
ความทุกข์ คือความจริงอันประเสริฐ ทุกข์หน่อยก็ครูอนุบาล ทุกข์มากหน่อยก็ครูประถม ทุกข์จนน้ำตาไหลก็ครูมัธยม
ทุกข์จนแทบอยากตายก็ครูใหญ่มาเอง ความทุกข์มาก็กราบท่าน คิดว่าพระพุทธองค์มาโปรดเราแล้ว
เพื่อให้ความทุกข์ เกิดเป็นความสุขที่ยั่งยืน คนเราต่างผ่านทุกข์มามากมาย แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจมัน?
อย่าคิดสั้นฆ่าตัวตาย คนเราเกิดมาก็ต้องตายทุกคน คนจนก็ต้องตาย คนรวยก็ต้องตาย ทุกคนมีความตายเป็นจุดหมายปลายทาง
ทั้งสิ้น ถ้าคุณแค่คิดว่า 'ฉันไม่กลัวหรอกความตาย' แล้วคุณจะกลัวทำไมกับแค่เป็นทุกข์?
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 13-03-2015 17:18:08
สิ่งที่แย่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือคำพิพากษาจากสังคม
การกระทำของ'เพื่อน'เก้าน่ะ มันคือการเหยียบคนล้มพร้อมกระทืบซ้ำและฝังกลบ
ส่วนหมอเสือ ก็ดูจะใจร้ายใจดำไปหน่อย แต่เอาเถอะ คงผิดหวังในตัวคนรักเขาล่ะนะ
คิดว่าตอนที่เหลืออยู่คงจะมีอะไรดีขึ้นกว่านี้

จริงๆแอบคิดแหละว่าจบง่ายไป๊ เจอศพ พบเบาะแส แต่เรื่องไม่จบแน่ๆ แล้วมันก็จบไม่ลงจริงๆด้วย ฮ่ะๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 13-03-2015 17:19:44
โหดร้าย สงสารเก้า ฮืออออ
ทั้งๆที่เก้าไม่ได้ผิดอะไร
แต่สังคมกลับยัดเยียดความผิดพวกนั้นให้เก้า
ไม่ยุติธรรมเลย
เรื่องทั้งหมดนั่นก็เกิดขึ้นจากเเพรพลอยเองทั้งนั้น
ความรักของเธอเป็นตัวทำร้ายเธอเอง
เก้าแทบไม่ผิดเลย
ฮือออ พี่เสือ อภัยให้เก้าได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ninik ที่ 13-03-2015 19:10:41
แอร๊ยยยย สนุกมากค่ะ พึ่งได้เข้ามาอ่าน เห็นใจน้องเก้านะ เพราะน้องก็โดนเพื่อนยุ แต่ก็ไม่ควรทำกับพลอยขนาดนี้ :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 13-03-2015 19:56:27
ตามอ่าน 13 ตอนรวด ฮู้ว! ฉากแพรพลอยมาหาเก้านี่น่ากลัวสุดสำกรับเราแล้ว

ยิ่งนึกภาพตามภาพยิ่งติดตา ฮ่า นึกถึงความกลัวของเก้าตอนนั้นได้เลย

แต่พี่หมอนี่อบอุ่น ดี๊ดี เขินตลอดตอนพี่แกเป็นห่วงกันย์ เป็นผู้ชายในฝันเลย

คือสงสารตัวละครหมอเสือกับเก้ามากนะ  ต่างคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง

จะจบแล้วอ่ะ ยังไม่อยากให้จบเลย ฮ่า

ปล. ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆ แบบนี้นะฮะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 13-03-2015 20:21:56
สงสารเก้าจับใจ เฮ้อ~ ไม่น่าเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 13-03-2015 20:43:33
1..ถ้าเป็นอิป้านะ เห็นตอนกลางคืนฝนตก ๆ มีเสียง...ปัง....ภาพสีขาวโบกไปมาพอหันกลับแล้วหาย..อี่นี่ผีหลอกชัด ๆ...เผ่นแน่บ...
2..เก้าก็ร้ายในรูปแบบที่ทิ้งให้พลอยอยู่บนความเสี่ยงท่ามกลางฝนตกและความมืด เสี่ยงต่อการถูกข่มขืนซึ่งเกิดขึ้นจนได้ แต่ก็น่าสงสารนะ ไม่ว่าใครถ้าไม่รักแล้วถึงตามติดเป็นเหาฉลามเชื่อเถอะ ...โว๊ยอินี่มึงจะตามกูไปถึงหนายยยยย...คงมีหรอกนะที่ ...เธอจ๋าเลิกตามชั้นเถอะนะขอร้อง....
3..หมอเสือนี่ก็น่าสงสารหวังไว้ว่าคนรักคงเป็ฯคนที่มีจิตใจดีพอเจอแบบนี้เลยอึ้ง..แต่ก็ทิ้งทันทีนี่ก็โหดสัสนะจะบอกให้..........
.....ส่วนสุดท้ายคุณแพรพลอย คุณเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเพราะเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นโดยเอาเหตุผลของตัวเองเป็นที่ตั้ง  ไม่คิดถึงจิตใจของคนอื่นบ้างเลย  แถมยังไม่ยอมหยุดอาฆาต........
..............รอบทสรุป อยากให้เก้ากับหมอเสือเข้าใจกัน กลัวว่าเก้าทนไม่ไหวหลอนจนฆ่าตัวตาย  แล้วหมอเสือเสียใจจนกลายเป็นจิตไม่ปกติ หมออธิศต้องเข้ามารัษา....  ส่วนหนูชนกันต์อย่าไปยุ่งกะเค้าเลยนะให้เค๊าหวานไปกับหมออธิศเถอะตัวเอง.....

เวิ่นเว้อ...เพ้อเจ้อ...พร่ำเพ้อ......อิป้าเป็ฯบ้าไปแล้วหมออธิศช่วยด้วยยยยยยยยย.....
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 14-03-2015 00:30:39
สนุกมากกกกกกก คนเขียนแต่งเรื่องนี้ได้น่าสนใจมาก และมีกลิ่นไอของความเป็นจริงสุด บอกคำเดียวชอบมาก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 14-03-2015 02:10:42
คนเขียนแต่งเก่งมากอ่ะ  o13 หลอนสุดๆ บทนี้ไปทำหนังสยองขวัญได้เลย อิอิ
อยากให้น้องชนกะพี่หมอหวานอีกอ่า ยังไม่สะใจ ชอบคู่นี้มากตั้งแต่ดำเนินเรื่องเลย
สงสารหมอเสืออ่ะ ต้องผิดหวังแล้วก็ช้ำใจมากๆๆ
สำหรับเก้า หลายๆคนเห็นใจ เราไม่เลยอ่ะ
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เพื่อนยุเลยต้องนอกใจแฟน นอนกับคนอื่นทั้งๆที่ไม่ได้รักและไม่มีทางรัก
ถ้้าเก้าไม่นอนกับพลอย พลอยก็มาทำอะไรไม่ได้อ่ะ ตอนนี้พลอยคงอยากเอาเก้าไปอยู่ด้วยแล้วล่ะ แหะๆ
จริงๆอยากให้มีตอนต่อเอาความหวานของคู่หลักจุง อิอิอิ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-03-2015 10:30:04
ขอบคุณความหลอน!! :)
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 14-03-2015 13:07:39
แล้วตอนนี้คือเก้าก็โดนไปด้วยเลย แล้วนางผีจะพาไปอยู่ด้วยเลยมั่ง เฮ้อ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 14-03-2015 16:49:42
ชอบง่า สนุกจริงๆ รออีกค่ะ รอ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noockie ที่ 14-03-2015 19:36:01
ติดตามอยู่ค่ะ

ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยายสนุกๆให้อ่าน

เลิฟมาก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 13 』 | horror thriller (13-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 15-03-2015 17:25:09
 :a5:
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 15-03-2015 19:16:31
(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | 14







“กาแฟค่ะหมอ”


ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองแก้วกระเบื้องซึ่งถูกวางลงบนโต๊ะ กลิ่นโรบัสต้าลอยเตะจมูก นายแพทย์แย้มยิ้มเล็ก ๆ จากนั้นจึงว่าเสียงทุ้มนุ่มเพื่อเป็นการขอบคุณพยาบาลเอ๋ที่อุตส่าห์แสดงน้ำใจ อันที่จริงกาแฟกึ่งสำเร็จรูปที่มีติดห้องระเบียนก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ส่วนใหญ่ค่อนข้างขึ้นอยู่กับฝีมือคนชง และศรัณย์คิดว่าเป็นโชคดีของเขาแล้วที่ผู้หญิงตรงหน้าติดหนึ่งในห้าพยาบาลสาวช่างชง


คืนนี้เงียบเหงาและไม่มีคนไข้อาการสาหัสเข้ามามากนัก ส่วนใหญ่จะปวดหัว ปวดท้อง หรืออุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถยกให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลในการทำแผล นั่นทำให้หมอเวรอย่างศรัณย์มีเวลาพักสายตาหลังจากที่ต้องรักษาคนไข้ในวอร์ดมาตลอดทั้งวัน หรือต่อให้นอนไม่หลับ ก็จะมีพยาบาลแวะเวียนมาพูดคุยสัพเพเหระอยู่ตลอดคืน


“หิวเนอะหมอ” บุรุษพยาบาลเดินมาพร้อมกาแฟกระป๋อง เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบสีขาว เดาว่าคงเพิ่งเสร็จจากการล้างแผลให้คนเจ็บเมื่อยี่สิบนาทีก่อน “ผมว่าจะโทรสั่งแมค หมอสนไหม”


“เอาสิ ฝากสั่งแมคฟิชมาชุดหนึ่ง”


ศรัณย์มองคนตรงหน้าที่หยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกอย่างที่ว่าไว้ ตาชั้นเดียวคู่นั้นสอดส่องมองจำนวนเพื่อนร่วมงานหน้าตาคุ้นเคยที่พอมองเห็นได้ แล้วจึงสั่งอาหารฟาสต์ฟู้ดแบบง่าย ๆ มาหลายชุด เป็นเรื่องธรรมดาที่เวรกลางคืนจะเกิดหิวขึ้นมากลางดึก เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ยังกับมีปาร์ตี้พิซซ่า ซึ่งแพทย์หนุ่มคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนัก ตราบใดที่คนไข้ไม่เยอะ และทุกคนต่างเวียนกันไปทำงานตามความรับผิดชอบ


ทันทีที่สั่งอาหารเสร็จ บุรุษพยาบาลก็จำต้องรีบเก็บเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง กระดกกาแฟกระป๋องอึกสุดท้ายแล้วจึงทิ้งลงถังขยะ ในขณะที่เดินไปรอรับเตียงผู้ป่วยต่อจากทางด้านหน้า แพทย์ประจำบ้านอีกคนรีบร้อนออกมาจากห้องพัก ในมือมีถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นั่นทำให้หมอศรัณย์ต้องแสดงน้ำใจของการเป็นรุ่นพี่ด้วยการโบกมือปัด ๆ ไล่ให้กลับเข้าไป


“ไปกินให้เสร็จเถอะหมออั้ม เดี๋ยวผมดูคนไข้เอง” ศรัณย์ไม่ได้รีบร้อนตามไปในทันที หยิบเอาสเตทโตสโคปบนโต๊ะขึ้นมาคล้องคอ และรอจนเตียงถูกเข็นเข้ามาถึงห้องฉุกเฉิน


“ผู้ป่วยไม่ได้สติครับหมอ ญาติบอกว่าตื่นขึ้นมาพบผู้ป่วยตกจากบันได” คนฟังพยักหน้ารับ “ที่เท้าใส่เฝือกอ่อนไว้อยู่ ญาติเกรงว่าจะเป็นอะไรไป ก็เลยพามาส่งครับ”


ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยซึ่งมากับเฝือกมีเปอร์เซ็นต์สูงทีเดียวที่ต้องส่งต่อให้ศัลยแพทย์ เบื้องต้นเขาคงต้องดูอาการก่อนในฐานะแพทย์อยู่เวร บางทีอาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากนัก แต่ก็ควรเอ็กซเรย์เผื่อไว้หากมีอาการบาดเจ็บมากกว่าแผลฟกช้ำหรือเจ็บกล้ามเนื้อ คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเฝือกอ่อนที่ปลายขาขวา ครึ่งตัวล่างโผล่พ้นจากผ้าม่านกั้นระหว่างเตียง หัวใจของศรัณย์เต้นเร็วขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ และน่ากลัวว่าจะเป็นอย่างที่เขาลุ้นในใจ


รามิลอยู่ในชุดเสื้อยืด กางเกงผ้าสีดำถูกถกขึ้นไปเหนือเฝือกเพื่อให้หมออย่างเขาตรวจดูอาการบาดเจ็บได้สะดวก อย่างหนึ่งที่ศรัณย์รู้คือ อาการเส้นเอ็นที่ข้อเท้าฉีกของรามิลยังไม่หายดี แล้วเขาก็ไม่อยากให้มันรุนแรงกว่าเดิมจนถึงขั้นต้องผ่าตัด ซึ่งนั่นหมายถึงว่าการกายภาพบำบัดอาจจะกินเวลาต่อไปอีกร่วมครึ่งปี


“เก้า” อายุรแพทย์สะกิดเรียก พยายามสะกดกลั้นเสียงไม่ให้สั่นต่อหน้าพยาบาลคนอื่น ๆ อีกเหตุผลหนึ่งคือ แทบทุกคนในทีนี้จำนักศึกษาแพทย์รามิลได้ “เก้า”


เขาทาบสเตทโตสโคปเพื่อฟังอัตราการเต้นของหัวใจ รามิลลืมตาขึ้นในตอนนี้เอง


“พี่เสือ?”


“เจ็บตรงไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”


“....” สีหน้าของเด็กหนุ่มนั้นเดาได้ไม่ยากว่าคงเจ็บปวดเอาเรื่อง แทนที่จะตอบอาการในทันที รามิลกลับเงียบไปเมื่อถูกนายแพทย์ตรงหน้าถามไถ่อาการด้วยความห่างเหิน “ที่ข้อเท้าครับ นอกนั้นไม่เท่าไร”


“เจ็บแบบไหนครับ”


“คิดว่ากระดูกคงไม่ได้หักครับ”


สิ่งหนึ่งที่พิเศษหากคนในวิชาชีพบาดเจ็บเสียเอง คืออย่างน้อยมักจะรู้ว่ากระดูกไม่ได้หักหรือแตกจากการเจ็บในระดับนี้ ศรัณย์ค่อย ๆ ถอดเฝือกออกดูเพื่อเช็กอาการบาดเจ็บด้วยตาเปล่า เป็นอย่างที่คิด ชัดแล้วว่ามันบวมจนน่ากลัว “คิดว่าเดินไหวไหม”


รามิลส่ายหน้า เขาดูจะไม่สามารถเข้าไปอยู่ในกรอบสายตาของอีกฝ่ายได้เลย จะว่างี่เง่าก็ได้ ที่ถึงแม้กำลังอยู่ในฐานะคนเจ็บ แต่รามิลกลับไม่ได้ต้องการอายุรแพทย์มากไปกว่าคนรักที่เคยเป็นห่วงเป็นใยกันเลยสักนิด เขาดูออกว่าศรัณย์แข็งใจ และดวงตาเรียวรีนั้นก็ดูอ่อนลงเรื่อย ๆ ในนาทีต่อมา


ริมฝีปากรูปกระจับคล้ายอยากพูดอะไรที่น่าฟังกว่านี้ แต่ท้ายสุดก็กลับกลายเป็นประโยคที่คนฟังไม่อยากได้ยินนัก “คุณเปิ้ล เดี๋ยวฉีดไดโคลฟีแนคแล้วรอดูอาการด้วยนะครับ พรุ่งนี้อาจจะต้องส่งไปให้ออร์โธเช็กอีกที”


รับคำแล้วพยาบาลก็แยกตัวออกไปเพื่อเตรียมตัวยาตามสั่ง ภายในม่านกั้นจึงมีความส่วนตัวขึ้นมาหลังเหลือเพียงแค่คนไข้และหมอหนุ่มซึ่งกำลังทำสีหน้ากระอักกระอ่วน อย่างน้อยศรัณย์ก็มีอะไรอยากพูดกับเขา รามิลคิด ไม่อย่างนั้นคงเลือกเดินออกไปจากตรงนี้หลังจากสั่งงานพยาบาลแล้ว


“พี่เสือ...”


รามิลเรียกเสียงเว้าวอน เรียกใบหน้าของคนรักให้หันมาสบกันได้ในที่สุด คนถูกเรียกถอนหายใจเบา ๆ แล้ววางมือเปล่าลงไปสัมผัสกับข้อเท้าบวมช้ำ “เจ็บมากไหม?”


“ครับ” เด็กหนุ่มไม่ได้โกหก มันเจ็บมากพอ ๆ กับตอนที่ถูกผู้ชายคนนี้ทำหมางเมินใส่ “ผมคิดถึงพี่”


ศรัณย์คิดถึงตอนที่คุยกับอธิศเมื่อกลางวันขึ้นมาอีกครั้ง คำที่บอกว่าความรู้สึกเป็นสิ่งน่ากลัว เอาแต่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาในหัว มันผลักดันให้เขายอมเข้าไปใกล้รามิลขึ้นอีกนิด แต่ก็ยังไม่อาจหลุดจากแรงรั้งของความรู้สึกอีกด้านในจิตใจที่ว่าก่อนหน้านี้ศรัณย์รู้สึกแปลกแยกกับเด็กคนนี้มากแค่ไหน แม้กระทั่งรามิลที่กำลังโหยหาเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นใครกันแน่


“พี่คิดอะไรอยู่ บอกผมได้ไหมครับ”


“....”


“ยังโกรธผมอยู่เหรอ”


“....”


“พี่เสือ ผมทำไปก็เพราะรักพี่ แต่ไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องออกมาเป็นแบบนี้”


“....”


“ได้โปรดเถอะ พูดอะไรกับผมบ้าง”


“....”


“หรือถ้าพี่หายโมโหเมื่อไร --”


“เก้า” คนตรงหน้าแทรกคำเรียกขึ้นมาด้วยชื่อของเขา ศรัณย์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ใกล้ขึ้นหรือไกลออกไป ดวงตานั้นอ่อนแสง มือที่จับอยู่บนข้อเท้าก็ผละออกไป “ฟังพี่นะ”


ศรัณย์ดูลำบากใจเหลือเกิน หลายครั้งรามิลได้เห็นสีหน้าอมทุกข์ของคนรัก และมันเป็นแบบนี้แหละ แบบที่พร้อมจะบีบหัวใจของเขาให้เจ็บปวดไปพร้อม ๆ กัน ปากนั้นเหยียดออกเป็นคำพูด มันทั้งทุ่มนุ่ม และช้าเพื่อย้ำชัด ถ้าตอนนี้มีเส้นใยบาง ๆ สักเส้น ศรัณย์ก็คล้ายกำลังกระตุกมันเบา ๆ


“อย่าเข้าใจว่าพี่โกรธหรือโมโหในตัวนาย และที่สำคัญ พี่เกลียดนายไม่ลงอย่างที่นายอาจจะเข้าใจ”


“....”


“แต่ระหว่างเรา -- มันเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกัน พี่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับนายเลย ซึ่งมันทำให้พี่สับสน ผิดหวังว่าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอย่างที่คิด และนายก็เหมือนคนที่พี่ไม่รู้จัก”


“....”


“ผลลัพธ์ของเรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสเกินไป พี่แค่รับมันไม่ไหว” ความอัดอั้นของชายหนุ่มค่อย ๆ ถูกส่งผ่านคำพูดมากมาย มันอาจทำให้รามิลเจ็บจนจุก ทำให้ความรู้สึกสั่นคลอน วงกลมสีดำประหลาดระหว่างห้วงความรู้สึกของคนทั้งคู่ขยายวงกว้าง แต่ศรัณย์หวังให้มันเจือจางเหมือนหยดหมึกบนผิวน้ำ “มันยากนะเก้า”


“....”


“พี่อยากรักและรู้สึกกับนายเหมือนเดิม แต่มันทำไม่ได้”


บางทีถ้าคนตรงหน้าเข้ามากุมมือเขาเอาไว้ รามิลอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ก็ได้ ยิ่งฟัง เขายิ่งรู้สึกว่าตาของตัวเองร้อนผ่าว ศรัณย์หมายความว่าอย่างไร ต้องการพังทลายความรักอายุห้าปีนี้ หรือว่าอยากให้เขาทำอะไรเพื่อให้มันดีขึ้น


รามิลยอมทุกอย่าง


เชื่อเถอะว่าเขายอมทุกอย่าง ขอแค่ได้พี่เสือกลับมา


นายแพทย์ไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือไปปลอบประโลมคนรักอย่างที่สมควรทำ  ศรัณย์เจ็บถ้าต้องเห็นรามิลร้องไห้ แล้วเขาก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอมามากเกินไป ในขณะที่อธิศบอกเล่าว่าเด็กคนนี้กำลังแย่แค่ไหน ทุกอย่างย้อนกลับเลยไปจากจุดเริ่มต้น


“ให้เวลาเราทั้งคู่เถอะเก้า”


“....”


“เมื่อไรที่เราจัดการความรู้สึกตัวเองได้”


เด็กหนุ่มกลั้นมันต่อไปไม่ไหว เขาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างที่มันอยากเป็น “ครับ ผมจะรอ”








--------------------------------------------------








ศรัณย์ในชุดสูทสีดำยืนอยู่หน้าคอนโดมิเนียมขณะมองรถยนต์สีขาวขับเลี้ยวเข้ามาตามทางรถแคบ ๆ ที่คุ้นเคยดี ตอนนี้เก้าโมงเช้า นี่เป็นวันแรกที่เขาไม่ได้พันอะไรไว้บนแขนซ้าย หลังอาการแขนซ้นจากอุบัติเหตุดีขึ้นมากจนแทบไม่รู้สึกปวดแล้ว ถึงอย่างนั้นในการยกกระเป๋าสัมภาระไปวางยังท้ายรถ ศรัณย์ก็ยังต้องใช้แขนขวาเพียงข้างเดียวเป็นหลัก   มันค่อนข้างลำบาก แต่อธิศก็รีบลงมาและรับอาสาจัดการให้


อายุรแพทย์เปิดประตูเบาะหลังแล้วพาตัวเองเข้าไปนั่ง กล่าวทักทายชนกันต์ที่อยู่ข้างหน้าพอเป็นมารยาท ครั้นอธิศกลับขึ้นมาประจำที่นั่งคนขับ ก็ราวกับความเงียบนั้นโรยตัวลงมาครอบคลุมบรรยากาศภายในรถระหว่างเดินทางไปพิจิตร เขาเลือกที่จะเงียบ อธิศใช้สมาธิกับการขับรถ ส่วนชนกันต์ขออนุญาตงีบหลับเพราะเพิ่งออกเวรจากห้องยาเมื่อสองชั่วโมงก่อน และต้องถ่างตาตื่นอีกจนถึงดึกดื่น


เพราะเป็นเช้าวันธรรมดา พวกเขาถึงได้มาช้ากว่าที่คาดไว้ อธิศโทรไปแจ้งกับทางโรงแรมว่าจะเข้าไปเช็คอินทีเดียวตอนเย็นหรือหัวค่ำ ในสองห้องนั้น ศรัณย์เลือกนอนคนเดียว เขาอยากใช้เวลาอยู่กับความเงียบเพื่อคิดอะไรให้มากอีกสักหน่อย หลังจากเมื่อคืนนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับรามิลถึงทิศทางที่ทั้งคู่จะเลือกเดินต่อจากนี้


ไม่มีใครชวนรามิลมาเคารพศพแพรพลอยเป็นครั้งสุดท้าย อย่างที่รู้ ๆ กันว่าทุกคนที่กรุงเทพ ฯ ล้วนเป็นความทรงจำอันเลวร้ายของคนบ้านนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กผู้ชายที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด และยังมีโอกาสได้ย้ำความผิดของตัวเองต่อหน้าพ่อแม่ของหญิงสาวอีกหลายครั้งบนชั้นศาล


บรรยากาศภายในพิธีศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ไม่มีใครยินดีต่อการจากไปของเด็กสาวผู้นี้ คน ส่วนใหญ่ในงานเป็นญาติและคนในชุมชนละแวกนั้น นางสุพิศกำลังถูกลูบหลังโดยหญิงวัยกลางคนซึ่งคาดว่าคงเป็นคนสนิทหรือเพื่อนบ้าน น่าสลดใจที่นอกจากพวกเขาสามคนและพวงหรีดไว้อาลัยของทางมหาวิทยาลัยแล้ว ที่งานนี้ไม่มีคนจากกรุงเทพ ฯ เลยสักคน


ศรัณย์มีโอกาสได้มองหน้าแพรพลอยชัด ๆ ก็ตอนที่วางดอกไม้จันทน์บนโลงศพของเธอ รูปถ่ายนั้นแทบไม่ต่างจากภาพที่อธิศเคยเอาให้ดูสักเท่าไร เธอไว้ผมทรงตรงยาวมาตลอด ดวงตาก็เป็นสีดำด้านเหมือนกับแม่ของเธอ เขาอาจคิดไปเองว่าโศกเศร้า และดึงเอาจิตใจของนายแพทย์หนุ่มให้ดิ่งลงลึกเมื่อตัดสินตัวเองว่ามีส่วนในการทำให้เธอจบชีวิตลงเช่นกัน


ชนกันต์ช่วยงานเท่าที่พอจะช่วยได้ เขาทำทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ำ อาหารว่าง และรับเอาพวงหรีดนำมาตั้งประดับอย่างทุลักทุเล เห็นอย่างนั้นอายุรแพทย์จึงอาสาเข้าไปช่วย ส่วนอธิศนั้นรับหน้าที่ส่งดอกไม้จันทน์อยู่บนเมรุ และช่วยประคองผู้สูงอายุหลายคนให้ขึ้นลงบันไดชัน ๆ ได้สะดวกขึ้น


พิธีเผาศพสิ้นสุดลงตอนห้าโมงครึ่ง ฟ้ายังไม่มืดแต่ก็ไร้ซึ่งแดดจ้า ในมือของชายหนุ่มเคยมีดอกไม้เช่นเดียวกับทุกคนใน  ที่นี้ แต่บัดนี้มันถูกนำเข้าเตาเผาไปพร้อม ๆ กับโลงของแพรพลอยเพื่อส่งเธอกลับสู่ความเป็นนิรันดร์ดังที่ใครต่อใครว่าเอาไว้


ร่างสูงหันมองคนที่เพิ่งมายืนข้าง ๆ ภายในงานอาจไม่มีอะไรให้ต้องทำเท่าไรแล้ว “เสือล่ะครับ”


“หมอเสืออยู่ตรงนั้นครับ ส่วนผมมายืนเป็นเพื่อนหมอ”


ได้ยินคำตอบอย่างนั้นจิตแพทย์ก็หลุดยิ้ม หลังจากเรื่องเมื่อคืน พวกเขามีอะไรเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็ยังน่าขลาดเขินที่จะปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์อยู่ดี “เดี๋ยวเราก็กลับกันได้แล้ว”


“งั้นเราไปเรียกหมอเสือกัน” เมื่อคนสูงกว่าพยักหน้ารับ ชนกันต์ก็เป็นฝ่ายเดินนำไปยังศาลาที่อยู่ทางซ้ายมือ ศรัณย์อยู่ใต้ร่มกันสาดนั้น ยืนนิ่งเหมือนหุ่นปั้น มองภาพควันดำที่พวยพุ่งออกจากปล่องสูง และเดาไม่ถูกว่าใจของชายหนุ่มนั้นกำลังคิดถึงเรื่องใดอยู่ ครั้นถูกสะกิด นายแพทย์จึงหันไปมองเพื่อนและเด็กฝึกงานที่คุ้นเคยกันดี


ก่อนก้าวขึ้นรถ เขาเหลียวกลับไปมองยังเมรุอีกครั้ง แวบหนึ่งที่เห็นชายกระโปรงสีขาวและดวงตาดำด้านคู่นั้น แต่แล้วมันก็มลายหายไปเมื่อมีคนเดินผ่าน


“....”


เขาคิดว่าเธอยืนอยู่ตรงนั้น


อาลัยทุกสิ่งทุกอย่าง ความรัก ความฝัน ความเกลียดชัง ชีวิตอันปลาสนาการ








--------------------------------------------------








โรงแรมอยู่ไกลจากที่นี่ไม่มาก ขับแบบช้า ๆ ประสาคนไม่แน่ใจทางไปได้สักราวสิบห้านาที พวกเขาก็มาถึงในที่สุด ใช้เวลาอีกห้านาทีในการเช็คอิน แล้วก็ได้รับกุญแจกับคีย์แท็กมาสองชุด ชุดหนึ่งเป็นของศรัณย์ ส่วนอีกชุดมันค่อนข้างน่าขลาดเขินสักหน่อยที่อธิศและชนกันต์เลือกนอนห้องเดียวกันหลังจากอะไร ๆ เปลี่ยนไป (ซึ่งเตียงเดี่ยวสองเตียงอาจจะช่วยลดความประหม่าระหว่างทั้งคู่ลงได้บ้าง)


ห้องของพวกเขาอยู่ลึกเข้าไปสุดทางเดินชั้นสาม ศรัณย์ขอเลือกนอนห้องด้านใน และอีกครึ่งชั่วโมงจากนี้ ทั้งหมดจะออกมาเจอกันเพื่อแวะร้านอาหารขึ้นชื่อของพิจิตรสักมื้อ


การพักที่นี่สักคืนแทนที่จะเลือกกลับกรุงเทพ ฯ ทันทีทำให้มนุษย์โรงพยาบาลผ่อนคลายมากขึ้น อธิศและศรัณย์ตกลงกันว่าจะสั่งเบียร์มาดื่มพอเป็นกระสัย แน่นอน ชนกันต์ก็ด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าอธิศต้องตั้งขีดจำกัดของตัวเองในระดับที่สามารถขับรถไหว ส่วนคนที่ดื่มหนักก็เป็นอายุรแพทย์เจ้าเก่า แต่วันนี้ทั้งสามคนไม่ยอมให้ใครเมาจนคอพับ


กลับมาถึงโรงแรมอีกทีก็เกือบสามทุ่มเห็นจะได้ ศรัณย์คิดว่าเขาควรจะนอนตั้งแต่ตอนนี้หากอยากพึ่งฤทธิ์หลับสบายของตัวช่วย ร่างผอมล้มตัวลงบนเตียงทั้งสภาพกางเกงขายาวและเสื้อเชิ้ต เสียงแอร์หึ่ง ๆ เป็นเหมือนเพลงบรรเลงระหว่างสมองตกอยู่ในความคิด ศรัณย์คิดถึงรามิลเหลือเกิน และพอคิดขึ้นมาอย่างนั้น ภาพหญิงสาวภายในงานศพก็กลับเด่นชัดขึ้นมาจนกลบทุกมวลความรู้สึกให้เหลือเพียงความหนาวเย็น


ข่มตาหลับซะ เขาคิด


ศรัณย์บังคับตัวเองให้ปิดเปลือกตา เขาอยากงีบสักตื่นเพื่อจะไม่ต้องฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ถ้ามันทำได้ง่าย ๆ ก็คงดี ถ้าแววตาดำด้านนั้นหายไปจากในความทรงจำนี้ได้


ซึ่งคงต้องขอบคุณฤทธิ์เบียร์








--------------------------------------------------








รามิลคิดถึงศรัณย์เหลือเกิน


เขาคิดอย่างนี้ทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมาเห็นพัดลมเพดานขนาดสี่สิบแปดนิ้วท่ามกลางความมืด ถึงจะคลุกคลีอยู่ในโรงพยาบาล แต่ก็ต้องยอมรับว่าพอต้องมานอนบ้างในฐานะคนไข้เสียเองแล้ว รามิลไม่รู้สึกดีนัก เขามักจะพะว้าพะวง ไม่สบายใจ แล้วก็ฟุ้งซ่านขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ ในหูมีแค่เสียงติ๊กเบา ๆ ของนาฬิกาบนผนัง แต่มันมืดเกินกว่าให้เพ่งสายตามองได้ว่านี่เป็นเวลากี่โมง เขางีบไปตั้งแต่ช่วงหนึ่งทุ่ม และการไม่มีอะไรทำ ก็ทำให้รามิลหลับ ๆ ตื่น ๆ อย่างนี้เสมอ


พ่อหรือแม่ไม่ได้มานอนเฝ้าเพราะยังต้องไปทำงานในรุ่งเช้า ศัลยแพทย์ให้เขานอนที่นี่อีกคืนก็คือคืนพรุ่งนี้ และมันคงไม่น่าเบื่อเลย ถ้าวันนี้พี่เสือเลือกแวะมาหาเขาบ้าง ซึ่งรามิลรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขารู้อีกว่าศรัณย์ไปงานศพของแพรพลอย


Rrrr
แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงสองสว่าง มันเป็นเสียงเรียกเข้าที่ถูกตั้งไว้เป็นพิเศษสำหรับคนในความคิด เด็กหนุ่มตื่นเต็มตาแล้ว เขากระตือรือร้นเหลือเกินที่จะขยับตัวเอื้อมไปหยิบมันให้ได้โดยไม่ตกเตียงลงไปเสียก่อน ไม่เคยรู้สึกว่าตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียงมันประหลาดเลยจนมาเป็นคนเจ็บเสียเอง รามิลนึกถึงเวลาที่คนไข้ต้องขอให้คนอื่นเทน้ำหรือหยิบของให้ ก็คงเพราะมันลำบากแบบนี้


“อะ...!”


น่าโมโหชะมัดที่มือของเขาดันไปปัดมันตก


มือเรียวยื่นออกไปพยุงขาเบา ๆ เสียงโทรศัพท์เงียบไปแล้ว อาจจะเครื่องดับ แล้วรามิลก็คิดว่าเขาคงต้องลงจากเตียงแล้วไปหยิบมันขึ้นมาเพื่อโทรกลับหาศรัณย์ ข้อเท้าขวายังค่อนข้างเจ็บนิดหน่อย โชคดีที่การตกบันไดไม่ได้ทำให้เส้นเอ็นฉีกเพิ่มอีกเส้น แต่มันดันไปย้ำแผลเก่า และนั่นหมายถึงรามิลต้องใช้เวลาพักรักษาตัวนานขึ้นกว่าเดิมอีกพอสมควร


เตียงที่ถูกยกสูงนั้นลงได้ลำบากเกินไปสำหรับคนขาเจ็บที่ไม่มีใครช่วยประคอง ถอนหายใจแล้วทิ้งให้ศีรษะฝังลงกับหมอนตามเดิม เขาหงุดหงิดตัวเอง แล้วก็รู้สึกเหมือนเป็นคนหมดสภาพอะไรอย่างนั้น


Rrrr


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้ว แทนที่มันจะเรียกความดีใจที่ว่าศรัณย์ยอมโทรหาเขาอีกรอบ แต่กลายเป็นว่ารามิลต้องผงะถอยไปทางซีกขวาของเตียงทันทีที่เห็นว่าแสงจากจอโทรศัพท์นั้นบอกตำแหน่งที่มาจากโต๊ะข้างเตียง มันสั่นและร้องเรียกให้เขาหยิบรับ แต่เด็กหนุ่มไม่คิดว่าควรทำอย่างนั้น


“....”


รับสิ มันพูด


และสุดท้ายก็เงียบไป พร้อมแสงบนหน้าจอที่ดับลง


รามิลรู้สึกรุมร้อนรุมหนาวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ทุกอย่างยังคงสงบนิ่ง เขาพรูลมหายใจเบา ๆ หลังจากที่พอตั้งสติได้ มันจบแล้ว รามิลบอกตัวเองอย่างนั้น แต่หัวใจก็ไหววูบขึ้นมาอีกเมื่อเสียงฟ้าร้องทางด้านนอกคำรามขึ้น


ไม่มีอะไร


เขาย้ำอีกครั้ง ในเมื่อแพรพลอยหายไปได้ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะยังอยู่อีก วิญญาณ ความเกลียดชัง บ่วงหรือผลกรรมอะไรก็ช่าง ตอนนี้มันไม่มีอยู่จริง


“....”


เสียงฝีเท้าจากทิศปลายเตียงดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ฟังคล้ายกับเสียงหยดน้ำ ซึ่งรามิลสั่งตัวเองว่าอย่าเปิดตาไปรับรู้มันเด็ดขาด และเขาจำไม่ได้ว่าเมื่อไรที่ร่างกายฝ่าฝืนสมอง แสงฟ้าแลบแปลบปลาบ ส่องให้เห็นใครบางคนยืนอยู่ไกล ๆ


“พี่เสือ...”


แต่ในแสงต่อมา กลับกลายเป็นเจ้าของเรือนผมสีดำยาว







------------------------------------------------------


( มีต่อ )
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 15-03-2015 19:17:37
( ต่อ )





“....!”


เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงลมหวีดหวิว หน้าต่างถูกพัดให้พบเข้ากระทบผนังปูนจนเกิดเสียงดัง กลิ่นอับชื้นลอยเตะจมูก และมันน่าหงุดหงิดสิ้นดีที่ศรัณย์คงนอนต่อไม่ได้เพราะเสียงนี้ น่ากลัวว่าฝนจะตกอีกรอบหลังจากหยุดไปเมื่อตอนหัวค่ำ


ร่างผอมหยัดตัวเองลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลาบนหน้าจอ ตอนนี้เพิ่งห้าทุ่ม เขาเพิ่งหลับไปได้แค่สองชั่วโมงเศษ แพทย์หนุ่มค่อย ๆ ลงจากเตียงอย่างเกียจคร้าน ก้าวอาด ๆ ไปปิดหน้าต่างพลางตำหนิตัวเองในใจ ศรัณย์คิดว่าตัวเองคงลืมปิด นั่นหมายถึงเขานอนเปิดแอร์ทั้งอย่างนี้อยู่สองนาน


ไม่รู้ว่าตอนนี้อธิศกับชนกันต์จะหลับไปหรือยัง เอาเข้าจริงนี่ก็ยังไม่ดึกเท่าไร และทั้งวันนี้เขามัวแต่จมอยู่กับความโศกเศร้าแปลก ๆ โดยไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทางมากเท่าที่ควร


ศรัณย์เปิดตู้เย็นแล้วหยิบเอาขวดน้ำเปล่าที่ทางโรงแรมมีไว้บริการมาแกะพลาสติกซีนออก แสงจันทร์ไม่ได้ทำให้ห้องนี้มืดนัก อย่างน้อยก็พอให้ไม่เผลอไปเตะอะไรเข้าจนต้องนอนกุมขาโอดโอย ถ้าเทียบกับก่อนงีบ ตอนนี้ศรัณย์สร่างฤทธิ์มึนเมาไปพอสมควร


“แค่ก ๆ”


มือเรียวพาขวดน้ำออกห่างจากปากเพื่อเพ่งสายตามองให้ชัด แล้วก็ได้คำตอบว่าสิ่งที่ทำเอาเขาสำลักแล้วก็รู้สึกเหม็นหืนขึ้นมานั่นคือเศษดินภายในขวด แบบนี้สามารถเก็บเป็นตัวอย่างไปฟ้องร้องเอากับสาธารณสุขได้สบาย ๆ คิดอย่างนั้นจึงปิดฝา เปิดตู้เย็นอีกรอบเพื่อหาน้ำขวดใหม่ด้วยความระมัดระวัง เขาควรต้องล้างปากล้างคอสักหน่อย แล้วก็โชคดีที่อีกขวดในตู้นั้นมองจากตาเปล่าไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมอะไร


พอปิดประตูตู้เย็น ภายในห้องก็มืดลงเหลือแค่เพียงแสงจากทางหน้าต่างเท่านั้น แต่ว่าอีกแล้ว --


กลิ่นเหม็นของดินยังติดจมูก มันทำให้เขานึกไปถึงความจำเลวร้ายตอนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้จากน้ำดื่มในห้องของตัวเอง ใช่ มันเป็นกลิ่นแบบนั้น แล้วก็ทำเอาหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อระลึกขึ้นได้ว่านี่คงเรียกเหตุการณ์ผิดปกติ เขาหมดอารมณ์จะดื่มน้ำ ตั้งขวดในมือไว้บนหลังตู้ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อกวาดสายตาไปทั่วทั้งห้องแล้วไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้ามาในกรอบสายตา


ความไม่สบายใจบอกให้ศรัณย์เดินไปเคาะเรียกอธิศที่ห้องข้าง ๆ ทว่าอีกใจเขาก็คิดว่าไม่สมควร กับแค่น้ำมีเศษดินแล้วก็เหม็นหืน จะวิ่งโร่ไปให้คนอื่นเดือดร้อนใจด้วยหรือยังไงกัน ถ้าทำแบบนั้น มีหวังคงได้แคลงใจในการเป็นหมอของตัวเองแน่


กริ๊ก


คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอีกครั้ง เสียงหมุนปลดล็อคลูกบิดเรียกให้ร่างผอมหมุนตัวไปเพื่อเพ่งสายตามองต้นเสียง ศรัณย์จำได้ว่าเขามักจะกดล็อคประตูจนเป็นนิสัย


“....”


ตัดสินใจเดินไปดูเพื่อจัดการความแปลกใจนี้ให้สิ้นซาก รู้สึกไม่ดีนัก ราวกับมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในใจของเขาโดยไร้สาเหตุตั้งแต่งานเผาศพเมื่อช่วงเย็น ในหัวสลัดภาพผู้หญิงคนนั้นทิ้งไปไม่ได้ ทั้งความรู้สึกที่ว่าตัวเองได้ร่วมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโศกนาฏกรรมครั้งนี้กลับยิ่งแรงกล้า มันเหมือนมีรูบิกกำลังหมุนสับกันในหัว จากนั้น --


กึก


ทั้งร่างชะงักไป ถึงไฟจะไม่ได้เปิดอยู่ แต่ศรัณย์กลับแน่ใจว่าเขาคงไม่ได้ตาฝาดที่เห็นว่าปุ่มล็อคนั้นกดตัวเองเข้าไป สวิทช์ไฟและช่องใส่คีย์แท็กอยู่บนผนังข้างกัน บางทีเขาอาจควรต้องเปิดไฟเพื่อมองอะไรให้ชัดขึ้น แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมากกว่าเดิมอีก เมื่อจนแล้วจนรอด ไฟในห้องก็ไม่สว่างขึ้นมาสักที ทั้งลองหยิบคีย์แท็กออกจากที่แป้นแล้วใส่มันลงไปใหม่ กดสวิทช์ไฟซ้ำ ๆ แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบสนองขึ้นมา ทั้งที่เมื่อหัวค่ำยังไม่มีทีท่าว่าหลอดไฟจะขาดเลยแท้ ๆ


ศรัณย์เปลี่ยนมาหมุนลูกบิดประตูด้วยดวามตั้งใจว่าจะลงไปแจ้งล็อบบี้เรื่องไฟ ทว่ามันไม่หมุนมากไปกว่าสิบองศา ซึ่งหมายถึงเขาไม่สามารถเปิดประตูได้ทั้งที่มันไม่มีทางจะเป็นอย่างนั้น นี่มันข้างในห้อง และคงเป็นไปได้ยากว่าลูกบิดกับไฟจะเสียพร้อมกันแบบนี้


มันไม่ปกติ


เหงื่อเย็นผุดพรายบนแผ่นหลังในชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ใช่ว่าศรัณย์จะคิดได้ช้าจนถึงกับประมวลผลไม่ได้ว่าเขากำลังเจอกับอะไรอยู่ ทั้งคำบอกเล่าจากชนกันต์ อธิศ หรือแม้แต่สาเหตุที่รามิลต้องเจ็บขาและยอมเล่าความลับของเรื่องทุกอย่างออกมานั้น ทั้งสี่คนย่อมรู้แก่ใจว่าเป็นเพราะเธอทั้งสิ้น


ชายหนุ่มชั่งใจว่าเขาอาจไม่ควรหันหลัง เสียงลมหายใจเชื่องช้าของอะไรบางอย่างอยู่ห่างออกไปไม่มาก และมันก็กำลังบีบให้เขากลัวถึงแม้จะพยายามแข็งใจเพียงไรก็ตาม


ส้นเท้าเย็นเยียบขึ้นเพราะของเหลวบางอย่าง มันไหลต่อเป็นทางจนเปียกไปทั้งฝ่าเท้า นั่นเร่งให้แพทย์หนุ่มข่มใจตัวเองเอาไว้แล้วหมุนลูกบิดประตูซ้ำ ๆ ถึงรู้ว่ามันคงเป็นไปได้ยากก็ตาม เมื่อไม่ได้ผลเขาก็ทุบมันจนส่งเสียงปัง และทุกครั้งที่ทำอย่างนั้น เสียงหอบหายใจทางด้านหลังก็มีแต่จะยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ


“คุณต้องการอะไร”


เขาถามเสียงสั่น สำหรับศรัณย์แล้ว แพรพลอยไม่เคยแสดงความต้องการใดชัดเจนนัก เธอเพียงมาหยอกเย้า ก่อกวน หรือแม้แต่เล่นสงครามประสาทอย่างเช่นว่าแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของรามิลในความฝัน


ซึ่งนี่มันบ้าสิ้นดี -- เขาคุยกับผี!


และยิ่งพอเป็นอย่างนี้ ศรัณย์ก็ยิ่งแน่ใจว่าดวงตาที่สบกับเขาในงานศพนั้นไม่ได้เป็นผลพวงจากอาการจิตตกหรือความหมกมุ่นของตัวเอง


เธอยังต้องการอะไรบางอย่าง


เขารู้สึกได้




‘อะ...’




อายุรแพทย์หนุ่มหลับตาลมพลางสูดลมหายใจลึก กลิ่นอับชื้นของดินโคลนคละคลุ้ง และมันยิ่งแรงขึ้นทุกขณะ ศรัณย์อยากเอาชนะความกลัวนี้ให้ได้ หากแต่ใจเขามีแต่ความหวาดหวั่น แล้วก็ขลาดกลัวเกินกว่าจะยอมหันไปเพื่อรับรู้ว่าสิ่งที่อยู่ทางด้านหลังเป็นอย่างไร ลมหายใจเย็นยะเยือกผะแผ่วถึงหลังคอ หางตาเห็นเงาของมือนั้นทอดลงมาเหนือบ่า และมันยิ่งชัดขึ้น... ชัดขึ้น... จนเห็นเล็บหลุดลอกและผิวเนื้อสีเขียวคล้ำบนปลายนิ้ว


ศรัณย์ไม่รู้ว่าเขาควรต้องคิดอะไร ส่งเดียวที่รู้คือความประหวั่นพรั่นพรึงที่ระเบิดขึ้นจนไม่อาจข่มใจไว้ได้อีก


สองมือบนบ่าค่อย ๆ จับให้เขาหันไป... หันไปเพื่อเห็นลาดไหล่และเส้นผมเปียกชุ่ม เห็นท่อนแขนเป็นริ้วเลือดคล้ำเข้ม สองหูได้ยินเสียงเคาะประตูทางด้านหลังและเสียงหยดน้ำที่ไหลลู่ลงจากปลายผมสู่พื้นกระเบื้อง มันดัง แหมะ


แหมะ


ดวงตาดำด้านนั้นจ้องมองมา








--------------------------------------------------








 “หมอ ได้ยินเสียงอะไรไหม”


“หืม?” อธิศกดปิดเสียงโทรทัศน์ แล้วจึงหันไปสบกับชนกันต์ที่นอนเล่นสมาร์ทโฟนบนเตียงเพื่อขอคำตอบ เขาเงียบฟังเสียงนั้นอย่างที่คนตัวเล็กกำลังทำ แล้วก็ --


ปัง


เป็นอย่างชนกันต์ว่า เสียงกระแทกประตูดังมาจากข้างนอก และนั่นหมายถึงมันเป็นครั้งที่สองแล้วหลังจากที่ครั้งแรกถูกเสียงรายการวาไรตี้ฆ่าเวลาในจอโทรทัศน์กลบ จากนั้นก็ ปัง เป็นครั้งที่สาม ซึ่งมากพอให้จิตแพทย์หนุ่มยอมหยัดตัวเองลุกจากโซฟาเพื่อเดินไปเงี่ยฟังใกล้ประตู


“มันดังใกล้ ๆ นี้ ใช่ห้องหมอเสือหรือเปล่าครับ”


อธิศตอบไม่ได้ แต่เขาคิดว่าลองออกไปดูสักหน่อยก็คงดี “คุณรอที่นี่แหละ เดี๋ยวผมไปดูเอง”


ได้ยินอย่างนั้น ร่างเล็กจึงทิ้งตัวลงบนเตียงตามเดิม มองแผ่นหลังของหมออธิศที่ลับหายไปจากขอบประตู ใจดวงเท่ากำปั้นวูบไหวแปลก ๆ ความรู้สึกเดียวที่เล่นงานมาตลอดมีแต่จะยิ่งเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ มันร่ำให้ชนกันต์รีบตามออกไป แต่ก็ทำแค่นั่งรออยู่เฉย ๆ ตามที่อีกฝ่ายบอก


หลอดไฟบนเพดานกระพริบสองสามครั้ง นี่ไม่ใช่เค้าลางที่ดีสำหรับคนที่เคยเจอเรื่องราวอย่างเขานัก ภาวนาขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องนี้มันควรจะจบด้วยดีได้แล้ว ในเมื่อแพรพลอยเองก็ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ


ใช่ มันเป็นอย่างนั้น










“เสือ”


อธิศเคาะเรียกเป็นรอบที่สอง ไม่มีเสียงนั้นดังขึ้นอีกหลังจากเขาเปิดประตูออกมา นั่นหมายถึงมันอาจจะเป็นห้องสักห้องทางด้านนี้ เพียงแต่อธิศไม่รู้ว่าเป็นห้องไหน และเขาต้องการดูเพื่อนของตัวเองให้แน่ใจว่าไม่ใช่เจ้าของเสียงนั้น


“เสือ” อธิศเคาะเป็นรอบที่สี่ เขาเริ่มร้อนใจขึ้นมาแปลก ๆ ที่เพื่อนอายุรแพทย์มาเปิดประตูได้ช้าเหลือเกิน ตามนิสัยแล้ว ศรัณย์ไม่ใช่คนหลับลึกเท่าใดนัก “เสือ”


และพอจะเคาะเป็นรอบที่ห้า ลูกบิดประตูก็ถูกหมุนจากด้านใน ภายในห้องนั้นยังมืดสลัว ส่วนศรัณย์ยืนตัวตรงและไม่มีทีท่าผิดแผกไปจากปกติ


“ฉันได้ยินเสียงทุบประตู เลยมาดูให้แน่ใจว่านายโอเคดี”


ศรัณย์ฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันนอนเพิ่งตื่น”


ได้ยินอย่างนั้นอธิศก็พยักหน้ารับ เขาสอดส่องสายตามองทุกห้องจนครบบานประตู แล้วก็หันกลับมาหาเพื่อนชายอีกครั้งเพื่อให้วางใจ “ขอโทษที่รบกวนเวลา ไม่ใช่ห้องนายก็ดีแล้ว”


เจ้าของห้องยิ้มรับ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูแล้วเงียบหายไป อธิศคิดว่าศรัณย์คงนอนต่อ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ร่างสูงจึงหมุนตัวเพื่อกลับไปยังห้องข้าง ๆ โดยไม่ปล่อยให้ชนกันต์รอนาน


“....”


หากแต่น้ำที่นองจนเปียกไปทั้งพื้นรองเท้าสลิปเปอร์กลับทำให้แพทย์หนุ่มขมวดคิ้ว เขาเห็นว่ามันไหลซึมออกมาจากห้อง แต่ก็ลังเลเกินกว่าจะเคาะประตูเรียกอีกครั้งเพียงเพื่อถามว่าทำน้ำหกหรือเปล่า


ไม่มีอะไรหรอก อธิศบอกตัวเอง


เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่ามันจบแล้ว







TBC





----------------------------------------------------

ตอนหน้า กับบทส่งท้ายของปรสิต : )

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 15-03-2015 19:33:13
 :katai1: แพรพลอยนางต้องการอะไร นางเล่นหลอนไม่ยอมเลิกเลย :sad4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 15-03-2015 20:02:42
ถ้าพี่เสือหรือเก้าต้องเป็นอะไร เราจะเกลียดแพรพลอยแบบไม่เผาผีเลยคอยดู !!
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-03-2015 20:09:40
ถ้าพี่เสือหรือเก้าต้องเป็นอะไร เราจะเกลียดแพรพลอยแบบไม่เผาผีเลยคอยดู !!

ได้ข่าวว่าเขาเผากันไปแล้วนะ แหะๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-03-2015 20:11:48
นั่นสิ แพรพลอยต้องการอะไรล่ะเนี่ย
หวังว่าหมอศรัณย์จะไม่เป็นอันตรายนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 15-03-2015 20:12:00
มันยังไม่จบใช่ม๊ายยยยยยย  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 15-03-2015 20:36:07
ถ้าพี่เสือหรือเก้าต้องเป็นอะไร เราจะเกลียดแพรพลอยแบบไม่เผาผีเลยคอยดู !!

กลัวจะโดนกันหมดสิครับ เก้า หมอเสือ แล้วเมื่อกี้ที่หมออธิศไปเคาะห้องหมอเสือ
นางก็แว่บไปหาน้องกันต์อีกง่ะ นางต้องการอาาาาร๊ายยยยยย  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ZooS ที่ 15-03-2015 20:48:34
แพรพลอยยึดร่างพี่เสือและอยู่กับเก้าตลอดไป ไป ไป ไป !!! สยองงงงงงงงงงงงง !!!
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: zoochi ที่ 15-03-2015 20:57:02
แพรพลอยสิงศรันย์ แล้วกลับไปหารามิลแน่เลย ไม่นะ อย่าเป็นอย่างงี้ อ่านไปก็เสียวไป อะไรมัยจะน่ากลัวอย่างเน้

#หนูน้อยใจ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 15-03-2015 21:00:42
ขอเดาว่าแพรพลอยต้องสิงร่างเสือเพื่อกลับไปหาเก้าตามสัญญา :z3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 15-03-2015 21:30:14
แพรพลอยเป็นผีก็อยู่ส่วนผีสิเฮ้ยยยย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 15-03-2015 21:38:21
โอยยย อะไรอีกกก นี่จะให้ใจตุ้มๆต่อมๆจนตอนสุดท้ายเลยใช่ม้อยยยย :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ซิกาแร๊ต ที่ 15-03-2015 21:44:07
มาถึงตอนท้ายๆ เราก็นึกว่าคุณเข่งฯ จะใจดีมีฉากสวีทหวาน เป็นของปลอบใจกันบ้าง
ที่ไหนได้ แพรพลอยยังตามมาลวง หลอก หลอน ไม่เลิก ... จะเขย่าขวัญกันจนนาทีสุดท้ายเลยสินะ  :a5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 15-03-2015 21:49:24
อ่านตอนกลางคืนอ่านไปก็เสียวสันหลังไป ใจก็ตุ้มๆต่อมๆ

ไปผุดไปเกิดสักทีเถอะ นี่นางยังต้องการอะไรอีก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: INNAOM ที่ 15-03-2015 21:52:52
สิงร่างพี่เสือรึเปล่า ????
หรือช่วยให้ปรับความเข้าใจ ???
แต่เอ๊ะเรื่องมัน ปรสิต น่าจะสิงร่างเป็นกาฝากสิ
โอ้ยยยย เดาบ่ถูก ขอให้พี่เสือไม่เป็นไร  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: sin ที่ 15-03-2015 21:59:13
แพรพลอยจะเฮี้ยนไปไหนคะ ? คือคุณทำตัวเองทั้งนั้น
ไม่ได้น่าสงสารเลย
อ่านไปอ่านมาถ้าสุดท้ายเก้าโดนผีแพรพลอยขี่คอ นี่ใช่เลย 555 ชัตเตอร์
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 15-03-2015 22:04:23
เห้ยยยย สิงไปแล้วปะเนี่ย  :z3: :z3: ถึงไงเก้าก็ต้องรู้อยู่ดีปะว่านั่นไม่ใช่พี่เสือ คือสงสารแพรพลอยมั่ยก็สงสารแหละ แต่ถึงจะรักเก้ายังไงก็ต้องรักตัวเองให้เแ็นก่อนปะ ถ้าขึ้นรถตามเวลาเรื่องก็คงไม่เกิด นี่เจอตัวแล้วก็ยังไม่หยุด ถามว่าเอาชนะได้แล้วยังไง มีความสุขมั้ยก็คงไม่ สุดท้ายแล้วก็ได้แต่หลอกตัวเอง ก็สมแล้วล่ะที่เก้าไม่เอา ผู้หญิงแบบนี้ต่อให้เราเป็นผู้ชายก็เซย์โน   :mew5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 15-03-2015 22:29:15
เห้ยยยย ไหงเรื่องมันยังไม่จบ? อิหนูแพร แกยังต้องการอะไรอีกคะ? โปรดบอกค่ะลูกกกกก  :z10:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 15-03-2015 23:08:24
เกลียดนังผีแพรพลอย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: WoonMyuk ที่ 15-03-2015 23:14:03
อาการอย่างนี้ พี่เสือโดนสิงชัว!!! นังแพรพลอย!!! ทีแรกก็สงสารอยู่หรอก สมควรแล้วที่ให้เค้าทิ้งเนี่ย ไม่ไปผุดไปเกิดซักที วุ้ย!!!!!!!!!! :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 15-03-2015 23:17:36
แพรพลอย ถ้ามีฤทธิ์จะทำอะไร ๆ ได้มากขนาดนี้
ทำไมไม่ไปใช้เวลาอยู่กับ พ่อแม่ ที่รักตัวเองดั่งแก้วตาดวงใจนะ  :เฮ้อ:
มาเที่ยวตามติดคนที่เขาไม่ได้รักตัวเองไปเพื่ออะไร
ทุกคนก็ได้รับผลจากสิ่งที่ทำไปแล้ว ยังไม่สาแก่ใจอีก
ตามจองล้างจองผลาญ แม้แต่พี่เสือที่ไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลย
เมื่อไหร่จะยอมไปผุดไปเกิดเสียทีนะ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 15-03-2015 23:20:44
แพรพลอย..มาหาเสืออีกทำไม..ต้องการอะไร
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujung ที่ 15-03-2015 23:25:17
ยังต้องการอะไรอีกแพรพลอย  ในเมื่อเขาไม่เลือกเธอเธอก็ควรพอนะ  :katai4: เวรต้องระงับด้วยการไม่จองเวร ตอนเป็นก็ชอบสร้างปัญหาตอนตายก็สร้างปัญหา จะหลอกหลอนคนอื่นทำไมหนักหนา :katai1: อย่างนั้นไม่หลอกให้หมดทั้งรุ่นเลยละพวกคนที่ไม่สนใจเธอน่ะ คนพวกนั้นก็มีส่วนให้เธอเป็นแบบนี้  เฮ้อ โมโห :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 15-03-2015 23:32:44
อ๊ากกกกกกกกๆๆๆ ไม่ยอมๆๆๆๆ :ling1:
คนเขียนขาาาา อย่าให้พี่เสือเป็นอะไรไปนะ พลอยมันสิงไปแล้วใช่ไหมอ่าาา
พี่เสือเป็นตัวละครตัวนึงที่เดี๊ยนรักนะ ถึงไม่ได้คู่กับเก้าเดี๊ยนก็ไม่ว่า
แต่อย่าให้ยัยพลอยมาสิงนะ ไม่อาววววววววว แงๆๆๆๆๆๆ (บ้าแล้ววว อินจัดมากๆๆๆ) :sad4: :o12:
ยัยพลอยถ้ารักเก้ามากก็ไปเป็นชัตเตอร์เกาะเก้ามันเด้ :angry2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 15-03-2015 23:37:47
สงสารเก้า เจิมไว้ก่อน
 :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 16-03-2015 01:53:31
อีนังผีนี่ไม่ยอมจบนะ   ตอนแรกๆก็รู้สึกสงสารอยู่หรอก
แต่นี่เล่นตามรังควานไม่เลิกแบบนี้ก็ไม่ไหวนะค่ะ
รีบๆไปผุดไปเกิดซะที  นังผีบ้าผู้ชาย  :z6:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate1134 ที่ 16-03-2015 09:22:01
รออ่านต่อว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ลุ้นมากก ><
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 16-03-2015 12:19:20
ไม่ใช่อีผีบ้าแดร็กพี่เสือไปแล้วนะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥MPEGz♥ ที่ 16-03-2015 13:18:20
มาตามด้วยคนค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 16-03-2015 13:47:55
ตอนจบนี่ยังกะเปิดเรื่องใหม่เลยยย ลุ้นสุดๆ 5555555555+
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 16-03-2015 13:58:53
ผู้หญิงคนนั้นยังต้องการอะไรอีก? น่ากลัวว่าจะเป็นอย่างที่คิดๆ กันจริงๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-03-2015 19:01:40
ไม่ปล่อยให้คนอ่านได้ผ่อนคลายเลยสักตอน
อึดอัด หวาดหวั่น ระแวง แคลงใจว่ามีอะไรที่เรายังไม่รู้อยู่หรือเปล่า แม้เรื่องดูจะคลี่คลายไปมากแล้ว

คุณเข่ง สะพานปลาเก่งจริงๆ

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 16-03-2015 21:11:02
ทำไมเรื่องราวยังไม่จบ แพรพลอยต้องการอะไรกันแน่ :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Chianti ที่ 16-03-2015 21:15:37
เรื่องนี้บอกเลยว่าชอบบรรยากาศคู่ของหมออธิศกับชนกันต์มากๆค่ะ ชอบนิสัยคุณหมอกับน้อง น่ารักดี
เนื้อเรื่องก็แต่งดีอ่ะ น่าติดตามต่อมากกกก
แต่พออ่านถึงบทล่าสุดคือ........
....เราเฉยๆกับคู่ของเสือกับเก้านะ แต่พอเรื่องเฉลยแล้วมันแบบ
แพรพลอยคะ หล่อนต้องการอะไร
เรื่องที่มันเกิดทั้งหมดนี่ก็ทำตัวเองปะคะ?
ที่เสือใจดีกับนาง ก็เพราะนางไม่มีเพื่อน เพราะสงสาร แต่นางชอบเขาเลยเสนอตัวให้เขา #แล้วเก้าก็ผิดที่ดันไปมีอะไรกับนาง เพื่อนเก้าก็ผิดที่เสือกยุ
ต่อมาเรื่องที่พยายามแบล็กเมล์เรื่องเก้ากับเสือ ถ้าอ่านไม่ผิดเหมือนจะเห็นอยู่....
ตอนนั้นก็รู้สึกแล้วว่า อะไรนักหนานะผู้หญิงคนนี้ คือหล่อนไม่มีอะไรทำแล้วเหรอ
วันที่นางตายนี่คือ---ก็สงสัยนะ จะบอกว่าเก้าผิดที่ทิ้งนางเอาไว้ แล้วทุกคนก็โทษเก้า
แล้วนางไม่ผิดเหรอ ที่เรียกร้องความสนใจด้วยการยืนเฉยๆไม่ยอมมาขึ้นรถตามเวลา #อันนี้คนเช็คจำนวนบนรถก็ผิดพลาดนะ โทษมันด้วยสิ
ตอนล่าสุดนี่คือต้องการอะไรรรรร
ศพก็เจอแล้ว ดำเนินคดีกับคนร้ายก็แล้ว เก้าก็โดนแบนแล้ว งานศพก็จัดแล้ว ทำไมไม่ยอมจบ?
อ่านท้ายแล้วแบบ---นี่นางสิงเสือแล้วใช่มั๊ยยยยยย
ความรู้สึกที่มีต่อนางในตอนนี้คือ อิผีเยอะจัด อยากได้ผู้ชาย (...)

#เพื่อนเก้าคือเหี้ยมาก ตัวเองก็ผิดเสือกตีเนียน #เกลียดมัน

#ขอร้อง---อย่าแบดเอนด์ให้คู่หมออธิศกับชนกันต์เลย รับไม่ไหวจริงๆ O<---<
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 16-03-2015 22:33:04
ล่อให้อธิศออกจากห้องแล้วล็อคประตูจากข้างในเพื่อขังชนกันต์ต่อป่ะ..
 :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 17-03-2015 01:39:08
ตามอ่านหลายวันด้วยความระทึกขวัญ ในที่สุดก็อ่านถึงตอนล่าสุด...และค้าง. คงไม่ขอตัดสินการกระทำของใครในเรื่องว่าถูก, ผิด, สมควร, สาสม, ฯลฯ เพราะหลายคนก็ได้พูดไปแล้ว ดิฉันเห็นใจทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องมากๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชนกันต์ หมออธิศ ศรันย์ รามิล หรือแม้กระทั่งแพรพลอย. ดิฉันว่าชนกันต์ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาก็เลยโดนหางเลขเอี่ยวเข้าไปด้วยแบบไม่รู้ตัว. แต่ก็ชอบที่เรื่องนี้ยังมีความหวานเข้ามาด้วย ไม่ใช่แค่สยองอย่างเดียว แอบกรี๊ดตอนหมออธิศแอบสารภาพรักกลายๆ กับชนกันต์

...ขอคิดในทางโรแมนติกหน่อยว่า ที่แพรพลอยยังมาตามติดหมอเสือ อาจเพราะต้องการให้หมอเสือกลับไปหาเก้า หล่อนอาจโกรธที่เสือทอดทิ้งเก้าในโมงยามที่เก้าต้องการคนอยู่เคียงข้างที่สุด ก็เลยมาหาและบอกให้รู้? ฮ่าๆ เดาสุ่มไปงั้นแหละค่ะ คงต้องรอให้คุณเข่งฯ รีบมาเฉลยโดยเร็ว อย่าให้รอหลายวันเลยนะคะ คนอ่านคิดถึงค่า
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ EPILOGUE 』 | horror thriller (17-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 17-03-2015 07:11:41
วันรุ่งขึ้นทั้งสามคนต้องกลับแต่เช้า พอถูกถามถึงเรื่องเสียงทุบประตูเมื่อคืน พนักงานที่ล็อบบี้ก็ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่แทนลูกค้าห้องตรงข้าม จึงได้ความว่าเสียงทุบประตูนั้นเกิดจากสามีภรรยาทะเลาะกัน คืนก่อนพวกเขาเข้าพักก็เป็นอย่างนี้จนต้องมีพนักงานไปเตือน ทั้งอธิศและชนกันต์ถึงได้คลายกังวลลงได้


รถออกจากโรงแรมตั้งแต่ตีสามและถึงที่คอนโดมิเนียมของศรัณย์ในตอนเจ็ดโมงเช้า ขากลับใช้เวลาน้อยกว่าขามา เพราะอธิศกะเวลาถูกแล้วว่าถ้าเขาเดินทางตั้งแต่เช้ามืดก็จะหลีกเลี่ยงรถติดได้


จิตแพทย์หนุ่มช่วยศรัณย์ยกกระเป๋าลงจากท้ายรถ พูดคุยกันนิดหน่อยก็ได้ความว่าเดี๋ยวขึ้นไปเก็บของเสร็จ ศรัณย์จะนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาลเอง แพทย์อย่างพวกเขาไม่มีสิทธิ์ลางานมากนัก ในอีกหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างช้า อธิศกับชนกันต์เองก็ต้องรีบออกจากคอนโดมิเนียมของตัวเองเพื่อไปให้ทันเวลาเข้างานตอนแปดโมงตรง


“หมอ ผมยังกังวลแปลก ๆ” ชนกันต์พูดขึ้นตอนที่ทั้งคู่อยู่บนรถขณะขับตรงไปยังโรงพยาบาล แต่พอชั่งใจได้ว่าเรื่องไฟในห้องพักที่โรงแรมกระพริบไม่ใช่เหตุผลที่ดีนัก ประโยคถัดจากนั้นคือ “ไม่เป็นไร ผมคงคิดไปเอง”


ได้ยินอย่างนั้นคนฟังก็ยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปยีผมทุยเบา ๆ พลางว่า “ทำใจให้สบายเถอะครับ มันไม่มีอะไรแล้ว”


ทุกคนเอาแต่พูดคำว่าไม่มีอะไร เช่นเดียวกับชนกันต์ที่พยายามหลอกตัวเองด้วยคำนั้น







(http://upic.me/i/wi/parasite-1.png)


ปรสิต | EPILOGUE







เสียงเปิดประตูเรียกให้คนบนเตียงค่อย ๆ สะลึมสะลือตื่นขึ้นหลังจากหลับคาหนังสือที่แม่เอามาให้ เขาเพ่งสายตามองบานประตูสีเมเปิ้ลแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นใครอีกคนเดินเข้ามาภายในห้อง หัวใจดวงเท่ากำปั้นของรามิลเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบใช้สองแขนพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น แล้วมันก็ตลกเสียด้วยที่เขาดันนั่งหลังตรงยังกับกำลังสอบสัมภาษณ์ ศรัณย์อยู่ในชุดกาวน์และมีสเตทโตสโคปคล้องคอ ไม่แน่ใจนักว่าอีกฝ่ายมาด้วยจุดประสงค์แบบไหน กระทั่งริมฝีปากรูปกระจับนั้นระบายยิ้มตอบขณะค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้เยี่ยมไข้


“เป็นยังไงบ้าง” คนแก่กว่าถามขึ้นก่อน และเชื่อเถอะว่านี่เป็นคำถามแรกที่รามิลอยากตอบที่สุดในรอบเดือน


“หมอธนพลให้แอดมิทอีกคืนครับ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้” เขามองริ้วรอยความอ่อนเพลียของคนตรงหน้า เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ศรัณย์ยอมอ่อนลงเร็วกว่าที่คิด หลังจากขอเวลาเขาไว้ทั้งสีหน้าลำบากใจอย่างนั้น “วันนี้ไม่ต้องเข้าเวรต่อเหรอครับ”


รามิลถามหยั่งเชิง อีกฝ่ายเพียงส่ายหน้าตอบแล้วเงียบไปพักใหญ่


“พี่เสือ?”


เขาเรียกซ้ำ ศรัณย์ดูราวกับจมอยู่กับภวังค์ความคิดบางอย่าง ปากก็เม้มจนเป็นเส้นตรง แต่แล้วในนาทีต่อมา แพทย์หนุ่มกลับกุมมือคนรักเอาไว้พลางลูบด้วยนิ้วหัวแม่มืออย่างทะนุถนอม


“เก้า”


“....”


“พี่คิดถึงนาย”


“อ่า...” แปลก นี่มันแปลกแต่ก็ดีเอามาก ๆ หรืออันที่จริงเขาควรรู้อยู่แล้วว่ารอไม่นาน ศรัณย์ก็คงใจอ่อนและพยายามช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้น คนตรงหน้านี้ช่างอ่อนไหวเหลือเกินพอเป็นเรื่องของรามิล “พี่... เปลี่ยนใจแล้วเหรอครับ”


“มาคิด ๆ ดูแล้ว พี่ไม่น่าทำกับนายอย่างนั้น” ศรัณย์ยิ้ม พลางทอดสายตามองมือของทั้งคู่ซึ่งกอบกุมกันเอาไว้ ความคิดหลายอย่างเหมือนผืนน้ำที่ตื้นเขินอยู่ในแววตา และถึงจะดูขลาดเขินที่จะพูดต่อ แต่ศรัณย์ก็พยายามระบายการเสียฟอร์มครั้งนี้ออกทางแรงบีบที่มือซึ่งมากขึ้นจนแนบแน่น “อันที่จริงพี่ได้คุยกับอธิศ แล้วมันก็น่าละอายใจชะมัดเลยที่ต้องเอาเรื่องนายไปปรึกษาคนอื่น”


คนฟังแปลกใจ แต่ก็ยิ้มรับและฟังต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ เขาคาดหวังเหลือเกินกับสิ่งที่จะได้ยินจากปากคนรัก
“ทั้งที่นายมีแค่พี่เท่านั้น -- ดูสำคัญตัวเองจัง” ในประโยคหลัง นายแพทย์แซวตัวเองทั้งเสียงกลั้วหัวเราะ “พี่ลองถามตัวเองอีกครั้ง ว่าจะโกรธนายด้วยเรื่องอะไร”


“....”


“แค่เพราะพี่ไม่รู้จักนายดีพออย่างนั้นหรือ? อย่างนั้นก็คงเป็นความผิดของเราทั้งคู่”


“พี่เสือ...”


“แล้วพี่ก็คงต้องขอโทษนายด้วย นายพยายามบอกพี่หลายครั้งว่ารักครั้งนี้มันมีค่ามากแค่ไหน”


“ไม่เป็นไรเลย แค่พี่ยกโทษให้ ผมก็ดีใจมากแล้ว”


รามิลหัวเราะบ้าง ราวกับความขมขื่นที่ผ่านมามลายเป็นปลิดทิ้งเพียงแค่ได้ยิน มือของศรัณย์ยังอบอุ่นเสมอ คล้ายจะปลอบประโลมความรู้สึกซึ่งทั้งคู่สูญเสียไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา คนรักของเขายิ้มได้มีความสุขเหลือเกิน ถ้าได้พี่เสือกลับมาอยู่เคียงข้างอย่างนี้ รามิลก็ไม่สนอะไรอีกแล้ว


“เมื่อคืนพี่ฝัน เหมือนจะเป็นฝันร้าย”


“ครับ?”


“เด็กคนนั้น... พลอยมาหาพี่”


ร่างทั้งร่างชาวาบ คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน และปากก็แข็งทื่อจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไป เขาไม่ได้คิดเล่าเรื่องฝันร้ายเมื่อคืนนี้ ทันทีที่เห็นศรัณย์เปลี่ยนเป็นใครอื่น เด็กหนุ่มก็สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะมีนางพยาบาลเข้ามาดูอาการ หล่อนพูดคุยเป็นเพื่อนเขาอยู่ครู่หนึ่ง และถึงจะนอนต่อไม่หลับในทันที แต่รามิลเลือกเปิดรายการวาไรตี้ดูฆ่าเวลา พอรู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลับคาเสียงโทรทัศน์ไปตอนไหน


เด็กหนุ่มกลืนก้อนน้ำลายเหนียวลงคอ “แล้ว... เกิดอะไรขึ้นครับ”


“พี่คิดว่าเธออาจมาลา” เสียงของศรัณย์สงบนิ่งและราบเรียบ “ในตอนนั้นพี่ได้เห็นหน้าเธอชัด ๆ แต่แทนที่จะรู้สึกกลัวอย่างในทีแรก มันกลับกลายเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก”


รามิลหายใจได้ยากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเจตนาแบบไหน เขาก็อยากลบชื่อแพรพลอยออกไปจากสารบบอยู่ดี


“เราทั้งคู่ต่างก็รักนาย เก้า”


คำนี้กรีดใจของคนฟังให้ปวดหนึบขึ้นมาหลังจากความคิดก่อนหน้า


“แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกัน คือพี่ยังอยู่ตรงนี้กับนายได้ แต่เธอไม่แล้ว”


ศรัณย์คลายแรงบีบแล้วจึงประคองขึ้นมาด้วยสองมือ เขาพรมจูบที่มือของรามิลแผ่วเบา ดวงตาเรียวรีสั่นระริก และรามิลไม่รู้ว่าเขาควรต้องรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ ศรัณย์ไม่เคยรู้จักแพรพลอยมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าตัวเองถูกดึงเข้ามามีส่วนในเรื่องนี้จนกระทั่งวันที่เขาสารภาพ เด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่าแพรพลอยรู้สึกอย่างไร เขาไม่เคยสนใจเธอด้วยซ้ำ ไม่แม้กระทั่งอยากไปเหยียบที่งานศพนั้นเพื่อบอกลา ในการพบเจอครั้งสุดท้ายของคนทั้งคู่ ใจของรามิลมีแต่ทิฐิและความเกลียดชัง


และจากนั้น แพรพลอยจึงส่งศรัณย์มาลงโทษเขา


“พี่ก็แค่เดามั่วซั่วน่ะ พอเห็นอย่างนั้น ก็สะดุ้งตื่นอีกทีตอนเช้าเพราะเสียงนาฬิกาปลุก” แพทย์หนุ่มพูดติดตลก “ที่จริงเด็กคนนั้นอาจจะเกลียดพี่มาก จนอยากมาเข้าฝันก่อนไปก็ได้”


รามิลอยากหัวเราะตาม แต่พอเป็นเรื่องของแพรพลอยแล้ว มันทำให้เขาเกิดอยากสงบปากสงบคำมากกว่าการพูดอะไรออกไป ในหัวมีแต่คำว่าอะไรก็ช่าง จะอะไรที่เป็นเหตุผลให้ศรัณย์และเขาฝันถึงผู้หญิงคนนั้น แต่รามิลเชื่อว่ามันได้จบลงแล้ว เขาอยากให้อีกฝ่ายเลิกคิดเรื่องที่เป็นชนักติดหลังนี้เสียที


“ว่าแต่ --” ยังกับรู้ใจ หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ศรัณย์ก็เปลี่ยนเรื่องในที่สุด “พรุ่งนี้แม่นายจะเป็นคนมารับใช่ไหม”


“ครับ” ถึงตรงนี้เสียงของรามิลแผ่วลง เขาอาจจะโลภมากเกินไปถึงได้กระชับมือของคนรักไว้เสียแน่นขนาดนี้ “ยังมีของผมอีกเยอะเลยที่ห้องพี่”


“แล้ว?” แพทย์หนุ่มยิ้ม ในแบบที่คงนึกอยากจะฟัดนักศึกษาแพทย์ขาเจ็บได้ทุกเมื่อ


“ผมว่าพี่รู้ ว่าผมจะพูดอะไร”


ทั้งคู่เงียบไปชั่วอึดใจ จากนั้นมืออีกข้างของศรัณย์จึงรั้งท้ายทอยของเขาเข้าไปใกล้ ประกบริมฝีปากอย่างโหยหา ออดอ้อน และไร้ซึ่งช่องว่างใด ๆ ของความสัมพันธ์ เรื่องร้ายทุกอย่างผ่านไปแล้ว เราทุกคนล้วนผ่านฝันร้าย อดีต และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์


ปลายจมูกของทั้งคู่คลอเคลียกัน ก่อนจูบครั้งต่อไป ศรัณย์จึงให้คำตอบที่รามิลอยากฟังเป็นที่สุด


“โทรบอกที่บ้านสิ ว่าพรุ่งนี้จะมีคนรับกลับไปอยู่หอแทนแล้ว”


และไม่ว่าตอนนี้แพรพลอยจะอยู่ที่ไหน อย่างไร หรือส่วนใดของความทรงจำ รามิลก็คิดว่ามันคงไม่สำคัญอะไรอีก









--------------------------------------------------








เชื่อเถอะว่าอธิศแปลกใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด ในตอนที่รู้ว่าศรัณย์จะเป็นคนรับรามิลออกจากโรงพยาบาลและตรงกลับคอนโดมิเนียมเลย ร่างผอมยกแก้วอเมริกาโนขึ้นจิบ ไม่ว่าจะตอนไหน ๆ พวกเขาก็ชอบร้านกาแฟหน้าโรงพยาบาลเสมอ


“ไม่เป็นไรหรอก กว่านายจะได้รถก็ตั้งอาทิตย์หน้า ตอนนี้ก็ให้ฉันไปส่งก่อน”


จิตแพทย์หันไปขอบคุณพนักงานซึ่งยกคาปูชิโนร้อนมาเสิร์ฟ เสียงน้ำตกเล็ก ๆ ตรงมุมร้านคล้ายจะช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และเขาก็ยืนยันเป็นครั้งที่สองแล้วว่าการอาสาพาทั้งสองคนไปส่งไม่ได้ลำบากอะไร


วันนี้เป็นวันเสาร์ ชนกันต์ต้องแวะมาเอาเอกสารรับรองจากทางโรงพยาบาลและคงจะเสร็จในไม่ช้า ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกที่อธิศเจอศรัณย์ที่นี่ ได้ความว่าเจ้าตัวกำลังนั่งรอรามิลตรวจเช็กอาการครั้งสุดท้าย อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ขึ้นไปรับกลับบ้านได้


“รับจ็อบเป็นสารถีหรือไง” ศรัณย์แซวทั้งเสียงกลั้วหัวเราะ “ที่จริงแล้ว นั่งแท็กซี่น่ะสบายกว่าขับรถเองเสียอีก ไม่ลำบากอะไรหรอก”


“รับน้ำใจหน่อยเถอะเสือ พอไปถึงที่คอนโด ฯ ฉันกับกันต์จะได้ช่วยนายสองคนถือของขึ้นไปได้”


“ของมีแค่กระเป๋าหนึ่งใบ เว้นแต่นายจะอยากร่อนไปแถวนั้นเพราะติดใจร้านก๋วยจั๊บนั่นแหละ ถึงเป็นเหตุผลที่เข้าท่า” อายุรแพทย์เสนอ ทำเอาอธิศต้องหัวเราะยอมแพ้แล้วยอมให้อีกคนใช้บริการรถแท็กซี่แต่โดยดี


หันไปเห็นนายแพทย์รุ่นพี่ทางด้านนอกร้านกำลังโบกมือหยอย ๆ บวกกับเสียงกระดิ่งตรงประตูดังขึ้น อธิศจึงขอตัวสักห้านาที แล้วฝากให้ชนกันต์ซึ่งเพิ่งมาถึงอยู่คุยเป็นเพื่อนศรัณย์ไปก่อน คนตัวเล็กได้แค่ยิ้มรับ ก่อนจะแวะสั่งม็อคค่าเย็นแล้วเดินไปทิ้งตัวลงตรงข้ามนายแพทย์ที่พูดทักทายเขาขึ้นมา


“อ้าว ว่าไง”


“สวัสดีครับหมอ” ชนกันต์ยิ้มรับ พลางมองเอกสารสองสามแผ่นที่วางอยู่ข้างจานรองกาแฟของอีกฝ่าย อาจจะดูค้างไว้ตั้งแต่ที่นั่งคุยกับหมออธิศเมื่อสักครู่นี้กระมัง ครั้นหันไปมองนอกร้าน ก็เห็นคนในความคิดกำลังยืนพูดคุยอยู่กัยชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน ดูจากความอ่อนน้อมของอธิศแล้ว ชนกันต์คิดว่าคงเป็นผู้ใหญ่ที่อีกฝ่ายเคารพ


เด็กหนุ่มหันกลับมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้า ศรัณย์ยกกาแฟขึ้นจิบ ระหว่างคนทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรให้ต้องพูดคุยกันนัก


“สบายดีนะ”


“ครับ สบายดี” คนถูกถามยิ้มตอบ สมองทำงานหนักเมื่อไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาชวนคุย “วันนี้หมอเข้าเวรเหรอครับ”


“เปล่าหรอก ผมแวะมารับเก้าน่ะ”


ชนกันต์ทำตาโตเหมือนอธิศไม่มีผิด “เอ่อ... หมอคืนดีกับเก้าแล้วเหรอครับ” แล้วเขาก็เพิ่งนึกได้ว่าคำถามนี้อาจเสียมารยาทเกินไป แต่ศรัณย์ไม่ได้มีทีท่าถือสาหาความ


“จะว่าอย่างนั้นก็คงใช่” ริมฝีปากนั้นฉีกยิ้มกว้าง “ไหน ๆ ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีแล้ว งานศพแพรพลอยทำให้ผมคิดได้ว่า ไม่อยากให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกแบบนั้นอีก”


คนอ่อนวัยกว่ายิ้มตาม พอเห็นความสุขของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว หัวใจเขามันก็คลายกังวลลงได้บ้าง ถึงจะเอาแต่วิตกจริตว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก แต่ก็เท่านั้น มันเป็นแค่ความคิดลม ๆ แล้ง ๆ ซึ่งพาลทำให้ชนกันต์โกรธตัวเองขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ที่ยังนึกระแวงแพรพลอยอยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะจากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของบ้านอันเป็นที่รักแล้วก็ตาม


“นั่นสินะครับ ก่อนหน้านี้มีเรื่องมากมาย ผมดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้นสักที”


“คุณเองก็สาหัสน่าดู”


สิ้นคำแซวของหมอศรัณย์ ทั้งคู่หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน พอได้คุยด้วยความผ่อนคลายอย่างนี้แล้ว ชนกันต์ก็รู้สึกว่าอธิศไม่ได้อยู่ข้างนอกนานจนเกินไปนัก ทุกคนต่างเกี่ยวโยงกันในเรื่องนี้ด้วยความบังเอิญ เป็นโชคชะตาที่น่ากลัว เหลือเชื่อ ทั้งยังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไปในทางใดก็ตาม


หมอศรัณย์กับรามิลอาจจะรักกันมากขึ้น เด็กคนนั้นได้รับบทเรียนที่ลบล้างไม่ได้ไปตลอดชีวิต ชนกันต์คิดว่าหมอเสือคงคิดได้ว่าความแข็งแกร่งที่สุดของความรักก็คือการที่ทั้งสองคนช่วยประคับประคองกันอย่างเห็นใจ


ส่วนเขาและอธิศก็ได้พบเจอความรู้สึกใหม่ หลังต้องเกื้อกูลกันถึงหลายต่อหลายครั้ง ชนกันต์นึกภาพไม่ออกว่าถ้าในวันนั้น อธิศยอมจ่ายยาให้เขาแบบไม่ถูกกฏ หรือไม่สนใจแม้กระทั่งว่าเด็กฝึกงานหัวแข็งคนนี้จะมาตามนัดหรือเปล่า บางทีเขาคงไม่ได้มานั่งดื่มมอคค่าเย็นแก้วนี้ แล้วมองดูสีหน้ามีความสุขของทุกคนที่ยังมองเห็นได้


ส่วนแพรพลอย ความรักและการไม่สมหวังไม่ใช่สิ่งที่ฆ่าเธอให้ตาย แต่เป็นความโชคร้ายต่างหาก ถ้าวันนั้นเธอมีโอกาสได้กลับมา หรือเลือกที่จะไม่ขึ้นรถไปกับคนพวกนั้นแล้วล่ะก็ บางทีถึงตอนนี้ เธออาจยังอยู่เพื่อเจอใครที่มอบความจริงใจให้โดยไร้ข้อแม้ หรืออีกสองปีเธออาจจะเป็นแพทย์หญิงฝีมือดีอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่มีตัวตนแค่เพียงในความทรงจำของใครสักคน




“....!”




ทั้งร่างเย็นวาบเมื่อได้ยินบางอย่างในโสตประสาท ชนกันต์มองคนตรงหน้าที่ยังคงนั่งอ่านเอกสารบนโต๊ะ หากแต่ไหล่สองข้างสั่นเทา มันประสานไปกับเสียงหัวเราะพึงพอใจที่เล็กแหลมเกินกว่าจะเป็นเสียงของหมอศรัณย์ ร่างเล็กเหลียวมองรอบตัว นอกจากพนักงานในเคาน์เตอร์และผู้ชายที่อยู่ถัดไปอีกสองโต๊ะแล้ว ในร้านนี้ก็ไม่มีใครนอกจากเขาสองคน


ไหล่ของศรัณย์ยังสั่นไปพร้อม ๆ กับเสียงนั้น บรรยากาศเย็นยะเยือกคล้ายจะโรยตัวลงมา มือของเด็กหนุ่มคว้าเอากระเป๋าซึ่งวางอยู่ข้างตัวเอาไว้ แต่มันก็ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะพาตัวเขาลุกขึ้นแล้วเดินหนีความแปลกประหลาดนี้ไปเสีย


“ห... หมอ...”


นายแพทย์เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เสียงหัวเราะเงียบไปแล้ว ศรัณย์เลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายซึ่งถอยไปเสียจนแผ่นหลังแทบจะฝังลงไปในพนัก “ว่าไงกันต์”


ชนกันต์อยากถามเหลือเกินว่า เมื่อกี้หมอหัวเราะเหรอครับ แต่เขาก็ไม่กล้าพูด ศรัณย์ดูต่างไปจากเมื่อครู่นี้เหลือเกิน ไหล่นั้นสงบนิ่ง ทั้งยังสีหน้าแปลกใจ ราวกับว่าเขาน่าเป็นห่วงที่เหงื่อออกได้แม้กระทั่งอยู่ในห้องแอร์และมีมอคค่าเย็นวางอยู่ตรงหน้าแบบนี้


พอเห็นเด็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ตอบอะไร ศรัณย์ก็ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกา แล้วจึงรวบเก็บเอกสารบนโต๊ะเพื่อใส่ลงในกระเป๋าทรงแบนข้างตัว อธิศไหว้ลาคู่สนทนาแล้ว จิตแพทย์มองมาทางนี้เพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับมาทางประตูร้าน


“เดี๋ยวผมต้องไปรับเก้าแล้ว เอาไว้เราไปหาร้านนั่งดื่มกันแบบคืนนั้นอีกนะ”


ยิ้มของศรัณย์สดใสเหมือนตอนที่เขาเพิ่งมาถึง มือจับกระเป๋าไว้ข้างตัวเป็นมั่นเหมาะ แล้วก็ก้าวขาออกจากช่องแคบ ๆ ระหว่างโต๊ะกับโซฟาอย่างระมัดระวัง


ก่อนจะเดินสวนออกไป มือนั้นวางบนไหล่ของเขา มันบีบเบา ๆ เมื่อเสียงนั้นพูดทิ้งท้าย ชนกันต์รู้สึกเหมือนแข็งเป็นหิน ขนบนร่างกายลุกซู่ ความรู้สึกเหมือนมีแมลงนับพันตัวไต่ยุบยับ แล้วก็ไม่แม้แต่จะกล้าหันไปเพื่อสบว่านัยน์ตาของหมอศรัณย์เป็นสีดำด้านหรือประกายไปด้วยความสุขสม


ริมฝีปากนั้นฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม




“ชนกันต์”


“....”


“รู้อะไรไหม”


“....”


“เราทุกคน... ไม่มีใครหลุดพ้นจากเรื่องนี้หรอก”




ได้ยินเสียงหมอศรัณย์คุยกับหมออธิศอีกราว ๆ สองสามประโยคแถวประตู จนกระทั่งร่างสูงเดินกลับมาถึง ก็ต้องขมวดคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นว่าชนกันต์เอาแต่จ้องมองรอยน้ำที่อีกฝั่งของโต๊ะไม่ละสายตา


“กันต์”


ร่างเล็กไม่ยอมขยับ ดวงตาเบิกโพลงและแดงก่ำ อธิศต้องเขย่าต้นแขนนั้น  เบา ๆ เพื่อเรียกสติ ซึ่งดูเหมือนว่าชนกันต์คงไม่มีแล้ว เพราะในนาทีต่อมา หยาดน้ำตาก็ค่อย ๆ ล้นและไหลออกมาเป็นสาย มือบนหน้าตักนั้นสั่นเทา แล้วก็ราวกับจะบีบกระเป๋าทั้งใบลงมาเป็นก้อนเล็ก ๆ ภายใต้ฝ่ามือ


“กันต์”


เด็กหนุ่มยกมือขึ้นบีบแขนของอธิศเอาไว้เป็นที่ยึด ริมฝีปากบิดเบี้ยว พยายามพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเปล่งเสียงคำแรกออกมาได้


“หมอ...”


“ใจเย็น ๆ ตั้งสติดี ๆครับ”


เสียงหอบหายใจของชนกันต์นั้นน่ากลัว เขาพยายามสูดลมหายใจลึก ปากอ้าออกกว้างเพื่อโกยอากาศและความกล้าเข้าปอด




“มัน...”


“....”


“มันยังไม่จบ”






------------------------------------------------------

( มีต่อ )
หัวข้อ: 『 ปรสิต ☤ EPILOGUE 』 | horror thriller (17-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 17-03-2015 07:16:20
( ต่อ )





รามิลยัดเอาของชิ้นสุดท้ายลงในกระเป๋าแบบสะพายข้างแล้วจึงรูดซิป หยิบเอาไม้ค้ำมาพยุงตัวแล้วเดินไปมองตัวเองในกระจกห้องน้ำเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในชุดที่ดูดีพอสำหรับการกลับไปอยู่กับคนรักวันแรก อีกสักพักศรัณย์คงขึ้นมาตามเวลานัด และรามิลอดใจรอแทบไม่ไหว เขามีความสุขยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เมื่อแน่ใจแล้วว่าได้รักครั้งนี้กลับคืนมา


ร่างโปร่งกลับไปที่เตียงแล้วรอจนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดออก วันนี้อายุรแพทย์อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงผ้าอย่างที่มักแต่งเป็นประจำ


“สวัสดี เก้า”


นั่นคือคำทักทายแรกของวัน อีกฝ่ายยื่นมือออกมาเพื่อช่วยรับเอากระเป๋าไปถือไว้ รามิลค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนเก้าอี้รถเข็นแล้ววางไม้ค้ำไว้บนตัก “มาช้านะครับ”


“ช้าตรงไหนกัน พี่เคยรอนายนานกว่านี้อีก”


“ตอนไหนครับ” รามิลหัวเราะ “นึกไม่เห็นออกเลย”


คนถูกถามไม่ได้ตอบอะไร ศรัณย์เข็นรามิลไปจนถึงประตู และก่อนที่จะเปิดออกไปจากห้อง นายแพทย์หนุ่มก็โน้มตัวลงมากอดเขาเอาไว้จากข้างหลัง ทั้งแนบแน่น โหยหา อบอวลด้วยความรัก จูบพรมที่สันกราม ก่อนจะเลื่อนขึ้นมากระซิบที่ข้างหู


“ดีใจที่ได้อยู่กับนายอีก”


เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว ใจคอศรัณย์จะให้เขาสำลักความสุขตายเลยหรือไงกัน “ผมก็ดีใจ กลับบ้านของเรากันนะครับ”


“นี่เก้า”


“หืม?”


“พี่รักนายเหลือเกิน”


“....”


“รักจนไม่อยากจากไปไหนอีก”


รามิลกอดรัดอ้อมแขนนี้ตอบ เขาคงตายจริง ๆ ถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายยังพูดคำหวานออกมาไม่หยุด “ผมรู้ แล้วพี่ก็ต้องรู้ด้วยว่าผมรักพี่มากเหมือนกัน”


ศรัณย์ยิ้ม ผละตัวเองออกจากคนในวงแขน แล้วจึงเอื้อมตัวไปดึงประตูเปิดออกเพื่อพาคนรักกลับบ้าน... บ้านซึ่งเป็นของเขาสองคน และจะไม่มีใครเข้ามาขัดขวางได้อีก


เขาจะพารามิลย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น เพื่อเริ่มใหม่ และพาทุกอย่างให้เป็นไปในทิศทางที่ควรเป็น


“นี่เก้า”


เสียงนั้นเรียกอีกครั้ง


“มีอีกอย่างหนึ่งที่นายไม่รู้”


รามิลเอี้ยวหน้าไปมองคนข้างหลัง ศรัณย์ยังคงเข็นเขาไปตามพื้นกระเบื้องสีขาวซึ่งทอดตัวยาวไปสู่ลิฟท์ที่สุดทางเดิน พยาบาลหลายคนเอ่ยทักทายหมอเสือ แต่เจ้าของชื่อนั้นกลับไม่ได้มองตอบ มีเพียงลิฟท์ที่เปิดออกเพื่อรอให้รถเข็นของเขาถูกเลื่อนเข้าไปเท่านั้น


ก่อนลิฟท์จะปิดสนิท รามิลเห็นว่าทางเดินสีขาวที่เขาเพิ่งผ่านมานั้นเต็มไปด้วยรอยรองเท้าของศรัณย์ และถ้าเพ่งมองรอยซึ่งใกล้ที่สุดให้ชัด


น่าแปลกใจที่มันเป็นรอยโคลน




“นี่เก้า”


เสียงนั้นเรียกอีกครั้ง


“พี่มีแค่นายคนเดียว”


มันดังขึ้นข้างหลัง ประตูลิฟท์ปิดสนิทแล้ว




“คนเดียว”








--------------------------------------------------









ปรสิตคืออะไร?

คือกาฝากในร่างกาย คอยสูบเลือดสูบเนื้อ
คือสิ่งกัดกินความรู้สึก และไม่มีวันปล่อยไป
คือเศษก้อนของอะไรบางอย่าง ที่ต้องแบกรับจนวันตาย

มันคือส่วนหนึ่งในชีวิต ของใครก็ตาม









FIN.





----------------------------------------------------

จ... จบแล้วววววววววววววววววววววววววววววว
ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า นี่คือตอนจบที่บริบูรณ์สำหรับเรา และเป็นสไตล์เราสุด ๆ เลยค่ะ ._ .
เนื่องจาก เข่งสะพานปลา ไม่เคยได้พูดคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย ฉะนั้นขออนุญาตพล่ามยาวสักทีนะคะ (ฮา)

ตอนเริ่มเขียนเรื่องนี้แรก ๆ มีหลายคนทีเดียวที่แปลกใจกับชื่อเรื่อง ปรสิต ต้องยอมรับว่าครั้งแรกที่คิดชื่อนี้ขึ้นมานั้น เรามีคีย์เวิร์ดในหัวคือคำว่า กาฝาก ค่ะ ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษที่ว่า Parasites พอดี แต่เราก็ใส่คำว่าปรสิตกำกับเข้าไปอีก ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือ เพื่อให้สามารถจดจำได้ง่ายและติดปากในภายหลังค่ะ แต่หลังจากเขียนไปได้สักพัก จากคีย์เวิร์ดว่ากาฝาก เราก็เริ่มดื่มด่ำไปกับคำว่าปรสิตแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน มู้ด (Mood) และโทน (Tone) ของเรื่องในหัวก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามปรสิตในเรื่อง จากแกนหลักของเรื่องที่วางไว้ เราก็สนุกกับการใส่รายละเอียดเข้าไปมากมาย จนในที่สุด เราก็คิดชื่อเรื่องที่ตรงกับใจเรามากกว่าคำว่าปรสิตไม่ออกซะแล้ว

เราไม่ได้ตั้งใจเขียนให้เรื่องนี้ซับซ้อนมากเท่าไรนัก (ไม่รู้ว่าจะมีคนผิดหวังกับจุดนี้ไหม แต่มันคือสิ่งที่เราไตร่ตรองไว้แล้วค่ะ) และตัวละครในเรื่องสำหรับเรา ก็ไม่อาจเอาคำว่าถูกหรือผิดไปตีตราให้ใครได้ ทุกคนยอมมีเหตุผลที่ถูกต้องสำหรับตัวเอง ถูกต้องสำหรับคนที่เข้าใจ แต่กับคนอื่นที่มีจุดยืนต่างกันแล้ว ความถูกต้องนั้นอาจจะผิด และไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นแบบใด ทุกการกระทำล้วนมีคำพิพากษาในแบบของมัน เราเชื่อว่าไม่มีอะไรยุติธรรมบนโลกนี้หรอกค่ะ เพราะความถูกผิดของคนเราไม่เท่ากัน

สิ่งที่ชนกันต์ทำอาจจะไม่ผิด เพราะเขาไม่รู้ แต่สำหรับแพรพลอยแล้ว ชนกันต์นั้นคือความหวังสุดท้ายที่พังทลายไปแล้วของเธอ

เก้าอาจจะไม่ผิดที่โต้ตอบความอึดอัดใจและเลือกกระทำอย่างนั้น ซึ่งการที่เก้าไม่รู้สึกผิดเลย ก็เพราะเขาคิดแล้วว่ามันถูก เก้าจึงไม่ยอมรับและโกรธเคืองต่อทุกคำพิพากษาที่ทุกคนสาดใส่ ตัวละครที่ยึดติดและทนอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างนี้มีจริง ๆ ไหม เราเชื่อว่ามีค่ะ เพราะเราได้เจอคนแบบนี้มาจริง ๆ ได้เคยอยู่จุดที่คลางแคลงใจจริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงยังเลือกทำแบบนั้น คิดแบบนั้น และยืนอยู่ตรงจุดนั้น ส่วนเรื่องเพื่อนของเก้า มันถูกอย่างที่ความเห็นหนึ่งเคยว่าไว้ ว่าบางครั้ง คนเราก็แค่ต้องการหลุมที่โยนขี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกแปลกแยกเท่านั้นเองค่ะ

ทำไมเก้ากับหมอเสือถึงไม่เข้าใจกันสักที? หมอเสือเป็นตัวละครที่เราชอบเขียนที่สุดเลยค่ะ (รองไปคือหมออธิศ) เราชอบที่หมอเสือไม่ได้สมบูรณ์แบบทางความคิด มีความอ่อนไหว โลเล ซึ่งไม่แปลกเลยที่จะมีทั้งคนที่เข้าใจหรือไม่เข้าใจตัวละครนี้ เรื่องของแพรพลอยนั้นมันกระทบหมอเสือทั้งในด้านความรักและศีลธรรม มันคือความอ่อนไหวของเขาค่ะ คนที่เราคิดว่าเป็น พอถึงจุดหนึ่งกลับไม่ใช่อย่างที่เราคิด แต่เพราะรักมาก เมื่ออารมณ์เย็นลง หมอเสือจึงยอมให้ตัวเองตกตะกอนความคิดและอ่อนลงเท่าที่ใจจะรับไหว ในแง่ของคนเขียน ตัวละครหมอเสือคือตัวละครที่มีความเป็นคนมากที่สุดสำหรับเราเลยค่ะ

ส่วนหมออธิศ เขาคือคนที่อยู่วงนอกของเรื่องนี้อย่างแท้จริงค่ะ ทุกครั้งที่หมออธิศเจอผีพลอยนั้น หากคุณลองเปรียบเทียบกับสิ่งที่ตัวละครอีกสามตัวพบเจอ มันจะชัดเจนเลยว่าแพรพลอยไม่ได้หลอกหลอนหมออธิศ ทีแรกเธอแค่ต้องการกันเขาออกไปจากเรื่องนี้ และจุดเปลี่ยนนั้นก็คือการที่หมออธิศพบแม่ของเธอ เกิดความคิดที่จะช่วยเหลือ เห็นใจในชะตากรรม ฉะนั้นจุดประสงค์ของเธอจึงเริ่มเปลี่ยนไปนับจากนี้ ตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัวให้หมออธิศเห็น และถ้าย้อนกลับไปฉากนั้นดี ๆ มันชัดเจนแล้วว่าตำแหน่งที่แพรพลอยปรากฏตัวก็คือ เก้าอี้คนไข้ : )

และถึงแพรพลอยจะเป็นผีบ้า เป็นผู้หญิงที่โง่เง่ามากแค่ไหน คนเราจะเป็นแบบใด แต่เรากลับคิดว่าบทลงโทษในเรื่องของความเป็นความตายนั้นมันมากเกินไปค่ะ ฉะนั้น เรามีสิทธิ์โกรธชนกันต์ไหม? มีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยวางในเรื่องของเก้าหรือเปล่า? ในเมื่อตอนนั้นเธอยังไม่ได้อยากตาย

เราสนุกที่จะเห็นฟีดแบ็กของคนอ่านแตกไปในหลาย ๆ ทาง เพราะขึ้นชื่อว่างานสร้างสรรค์ ฉะนั้นเราจึงยิ้มได้กับทุกความคิดเห็นที่แสดงกับเข้ามานะคะ ขอให้เต็มที่ได้เลย ^^

อย่างที่เคยได้แจ้งไว้ว่า ลำพังตัวเรานั้นไม่ได้คิดที่จะมีรวมเล่มเรื่องนี้เพราะกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ตั้งแต่ช่วงกลาง ๆ เรื่อง เราได้รับการติดต่อจากทางสำนักพิมพ์เพื่อตีพิมพ์เรื่องนี้ค่ะ และด้วยความที่อีกใจก็อยากเห็นปรสิตออกมาเป็นหนังสือนิยายสักเล่ม จึงได้ตอบตกลงไป สำหรับใครที่กังวลเรื่องเนื้อหา ทั้งหมดที่เราลงในเล้านี่คือสุดสำหรับเราแล้วค่ะ มันบริบูรณ์ในแบบของเราที่เขียนเองคนเดียว แต่สำหรับในเล่มนั้นคงจะมีการปรับแก้เพิ่มเติมตามความเหมาะสม (และตอนนี้ก็ยังแก้ต้นฉบับไม่เสร็จเลยค่ะ ฮา) ซึ่งเบื้องต้นถูกแจ้งมาว่าคิวพิมพ์อยู่ที่ปีหน้า ฝากติดตามด้วยนะคะ :D

ปล. เราเองก็ยังใหม่ ไม่มีช่องทางติดต่ออะไรมากนัก เพื่อนเสนอว่าให้ทำเพจเฟสบุ๊คไว้อัพเดทข่าวสาร แต่ไอ้เราก็เขิน T_T เพราะเป็นคนอัพคุยอะไรแบบนี้ไม่เก่งนัก กลัวจะเว่อวังเกินไป 5555555555 เอาเป็นว่าขอฝากเพจไว้ ณ ที่นี้นะคะ ไว้มาพูดคุยกันเล่น ๆ อิอิ
จิ้มตรงนี้เลยค่ะ (http://on.fb.me/1DueQEU)


ปรสิตแบบที่ลงให้อ่านกันบนเว็บ พอเป็นเล่มแล้วก็จำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ดีขึ้น
ดังนั้น เนื้อเรื่องและรายละเอียดต่างๆ จึงมีการเปลี่ยนแปลงตามดุลยพินิจของสนพ.และนักเขียน
แต่พิเศษตรงที่มันรวมถึงตอนจบของเรื่องด้วยค่ะ ^^ (แต่ไม่ใช่การกั๊กตอนจบแต่อย่างใดนะคะ จบคนละแบบจริงๆ)



ขอบคุณที่ติดตามปรสิตเสมอมา
เข่งสะพานปลา

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥MPEGz♥ ที่ 17-03-2015 07:33:15
สมกับชื่อเรื่องปรสิตจริงๆ ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆ ให้เราได้อ่านกันค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 17-03-2015 08:08:23
แงงงงงง :sad4: ม่ายยยน้าาาาา  ฮือออ พี่เสือ
ยัยแพรพลอย จะยึดร่างพี่หมอเสือเพื่อจะได้อยู่กับเก้าตลอดไปเหรอ
แล้วพี่เสือล่ะ ก็ยังอยู่ในร่างตัวเอง แต่พี่เสือรู้ตัวหรือเปล่าที่มีแพรพลอยมาอยู่ด้วยอ่ะ
สงสารพี่เสือมากเลยอ่ะ ไม่ได้ทำอะไรแพรพลอยเลยสักนิด เห็นใจแพรพลอยด้วยซ้ำ
แต่ผลที่ได้รับ ต้องมาร่วมรับเคราะห์ เหตุเพราะเป็นคนที่เก้ารัก ไม่ยุติธรรมเลยอ่ะ
ยัยแพรพลอย นิสัยอย่างนี้สินะ ตอนมีชีวิต เพื่อน ๆ ถึงไม่อยากยุ่งด้วย
ถ้ารามิล ย้อนเวลากลับไปได้จริง ๆ คงไม่ย้อนไปแค่ตอนที่ จะไม่ทิ้งแพรพลอยไว้หรอก
คงย้อนไปตั้งแต่ ไม่ควรไปเห็นใจ แล้วเข้าไปทำดีด้วยกับคนแบบนี้แล้ว
ตอนแรกที่มาตามอาฆาต ก็เข้าใจความแค้นของแพรพลอยหรอกนะ แต่นี่มันมากไป
ทุกคนได้รับผลจากสิ่งที่ตัวเองทำไปแล้ว แล้วทำไมแพรพลอยยังไม่เลิกจองเวรอีก
เกลียดยัยแพรพลอยจริง ๆ  :katai1: ทำไมไม่ไปเกิดเสียที ฮือออ

เอาแต่ด่าแพรพลอยซะเยอะ ลืมขอบคุณคนเขียนเลย
ขอบคุณมากค่ะ  :pig4: คุณเป็นนักเขียนที่เก่งมาก ๆ เลยนะสำหรับเรา
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว ทำให้ความหลอนติดตามเราไปหลายวันทีเดียว
ปรกติ อ่านนิยาย ไม่ค่อยกลัวเท่าดูหนังผี เพราะภาพมันติดตา แต่นี่
นิยายของคนเขียน สามารถทำให้เราจินตนาการและอินตามจนหลอนได้
จะอาบน้ำ จะเข้านอนที ระแวงไปหมด กลัวเจอแบบน้องกันต์ 555
ขอบคุณ ที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ อย่างนี้ให้พวกเราได้อ่านกัน ชื่นชมจากใจค่ะ  :L1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pim_onelove ที่ 17-03-2015 08:39:02
พี่เสือจะรู้ไหมเนี่ยว่ามีผีย้าสิงอยู่ด้วยเนี่ย แต่มันเหมือนผีแพรพลอยจะออกมาครอบงำหมอเป็นระยะๆ ไม่ได้ควบคุมตลอดเวลา
อย่างเวลางานก็ปล่อยให้หมอเป็นตัวของตัวเองไป แต่พออยู่กับเก้าก็จะเป็นหมอที่แพรพลอยควบคุมอยู่ ร้ายจริงๆ ผีตัวนี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 17-03-2015 08:59:54
ขอบคุณค่ะ♥
อยากอ่านตอนพิเศษของหมออธิศกับชนกันต์จัง ><
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 17-03-2015 09:31:55
ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ เปิดรับจองรวมเล่มแจ้งอีกครั้งนะคะ ชอบค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ผายลม888 ที่ 17-03-2015 09:34:28
เฮ่อ อ่านจบแล้วก็เกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก แต่เรื่องนี้จบแบบนี้น่ะแหละเหมาะที่สุดแล้วถ้าจบแฮปปี้เอนด์ก็จะดูแหยงๆเป็นนิยายรักไปซะ เราชอบอะไรแบบนี้อ่ะแค่มีความรักสอดแทรกเล็กน้อยพอให้มีความวาย ผีก็ผีเลย นิยายรักก็รักไปเลยแบบนั้น.
อ่า คืออีกอย่างที่ชอบเรื่องนี้คือการบรรยายบุคลิก ความคิด แล้วก็พฤติกรรมของตัวละครของเรื่องนี้เยี่ยมเลยรู้สึกคล้ายอ่านของผู้เขียนมืออาชีพอ่ะ คือมันให้ความรู้สึกสมจริงอะไรงี้
อืม นอกจากชมก็ไม่รู้จะพิมพ์ไรแล้วล่ะ ขอบคุณที่ลงเรื่องนี้จนจบไม่ดองเค็มเหมือนเรื่องสนุกหลายๆเรื่อง ส่วนมากนิยายแนวนี้มักไม่ค่อยมีคนแต่ง ขอบคุณจริงๆที่ไม่ทิ้งระยะการอัพนานเกินไป อ่า จบแค่นี้ล่ะนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: .hnk ที่ 17-03-2015 09:36:26
เราชอบค่ะ

เอิ่มม ยังไงน้อ แบบเนื้อเรื่องโอเคมากค่ะ
ตอนจบอาจไม่ได้สวยหรู แต่ก็จัดว่าดีค่ะ
มันเหมือนมุมมอง เรื่องที่เราว่าไม่ผิด แต่ก็มีคนที่คิดต่าง
คิดคำพูดไม่ออกง่า .. แต่นิยายเนื่องนี้ดีมากค่ะ :)

เยี่ยมๆ ถ้ามีเรื่องต่อไป อาจตามอ่านนะคะ อิอิ
สู้ๆค่ะ !

 :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 17-03-2015 10:11:55
จบได้สมกับสถานการณ์ที่น่าจะเป็นจริงดีครับ แต่มันก็แอบสงสัยไม่ได้ว่า
ทำไม หมอเสือ(อาจจะเป็นพลอยที่พูด) พูดกับน้องกันต์ว่า

“เราทุกคน... ไม่มีใครหลุดพ้นจากเรื่องนี้หรอก”

แปลว่านอกจากนางเกาะอยู่กับเสือแล้วนางจะตามหลอกหลอนน้องกันต์อีกหรือเปล่า
หรือว่าที่พูด นางอาจจะหมายความว่าไม่พ้นไปจากความรู้สึกผิดที่ติดตัว

ยังไงก็ขอบคุณ คุณเข่งฯ ครับ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 17-03-2015 10:13:53
ชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบเลย เราชอบเรื่องที่ไม่หลุดธีม ไม่หลุดคาแรคเตอร์ และยิ่งชอบเป็นพิเศษกับเรื่องที่เมื่ออ่านจบแล้วทำให้ย้อนกลับไปคิดถึงชื่อเรื่องอีกครั้ง มันทำให้งานเป็นเอกภาพ และรู้สึกตรึงใจ
จะติดตามผลงานของคุณต่อไปค่ะ ย้ำอีกครั้งว่าชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เกสรทอง ที่ 17-03-2015 10:16:51
ยังไม่อยากให้จบเลยอ้ะะะะ  555 อยากให้เขียนภาคต่อ  :hao5: กลับมาเขียนเรื่องใหม่เร็วๆน้าาา เป็นเรื่องต่อก็ดี รักน้องกันต์มาก อยากเห็นความรักของกันต์กับคุณหมออธิศพัฒนาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะไปติดตามเรื่องอื่นพลางๆละกัน ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆแบบนี้นะ ปกติเราชอบนิยายสยองขวัญมากๆ แต่นี่คือครั้งแรกของนิยายวายสยองขวัญเลย คือฟินมาก หลอนมาก ครบทุกอารมณ์ ที่สำคัญภาษาดีมากๆ ชอบมากครับ   :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 17-03-2015 10:44:03
นี่ล่ะค่ะคือที่สุดของความที่สุด

ตั้งแต่อ่านมายังไม่ได้ชมอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลย ก็ต้องขอบอกว่า คุณเข่งฯ ใช้ภาษาดีมาก เขียนได้ราวกับมืออาชีพ (อาจเป็นนักเขียนแนวเมนสตรีมอยู่แล้ว แต่แอบมาเขียนนิยายวาย? อิอิ) การนำเสนอเนื้อเรื่องมีลูกล่อลูกชน ตลบแตลงจนบางครั้งก็ต้องอ่านซ้ำจึงจะเข้าใจจุดประสงค์ ดิฉันชอบมากๆ ค่ะ

สำหรับดิฉันแล้ว ตอนที่น่ากลัวที่สุดคือตอนส่งท้ายนี่แหละค่ะ แม้ว่าก่อนหน้านั้นแพรพลอยจะมาหลอกหลอนอย่างไร ไม่ว่าจะอ้วกออกมาเป็นโคลน ข่วนข้อเท้า ยืนอยู่ข้างหลัง ฯลฯ แต่ก็น่ากลัวได้แค่ความหมายของคำว่าน่ากลัว แต่สำหรับตอนท้ายนี้ ดิฉันอ่านไปแล้วขนลุกเลยค่ะ ไม่อยากให้ลงเอยอย่างนี้ เพราะสงสารเก้า ดีใจที่พี่เสือยอมยกโทษให้ แต่จริงๆ แล้วกลับไม่รู้เลยว่าที่พาตัวเองกลับบ้านน่ะเป็น...

และดิฉันก็รู้สึกเสียและเห็นใจ ที่แพรพลอยยังเลือกจะยึดติด, ไม่ปล่อยวาง, อาฆาตแค้น, แม้เมื่อร่างกายเธอได้ถูกไฟเผาผลาญไปแล้ว แทนที่จะรับส่วนบุญที่บิดามารดาได้กระทำให้ หล่อนกลับเลือกจะไม่ move on ถ้าเป็นคติความเชื่อทางพุทธ ท่านก็ว่าหล่อนยังติดอยู่กับบ่วงแห่งบาปอันเหนียว ความทุกข์อันไหนก็ไม่เท่ากับทุกข์ในใจซึ่งจะกัดกินให้หล่อนทรมานยิ่งกว่าตกนรกเสียอีก

ขอบคุณคุณเข่งฯ มากๆ ค่ะ ที่ต่อจนจบ
ขอตัวติดตามเรื่องอื่นๆ ของคุณเข่งฯ นะคะ (ชอบวรรคมากๆ เลยค่ะ)
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 17-03-2015 12:50:23
สงสารเก้าที่สุด อีผีบ้าไม่ปล่อยน้องซะที  :z3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 17-03-2015 13:12:04
อีผีบ้า สิงหมอเสือจริงๆด้วย โง้ยยยย
ใครก็ได้ไปไล่ผีบ้านั่นออกจากหมอเสือที ToT
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณ์ ที่ 17-03-2015 13:18:13
จบแบบนี้เราชอบนะ เราว่านิยายเรื่องนี้เหมาะที่จะเอาไปสร้างหนัง มันเหมือนเรากำลังดูหนังผีสักเรื่องแล้วเกิดหักมุมตอนจบเหมือนที่หนังไทยบางเรื่องชอบทำดี

ตัวละครของคุณดีแล้วล่ะค่ะมีความสมจริง ไม่ใช่ว่าพระเอกคือต้องดีสุดโต่งทำอะไรเทพๆ ภาพลักษณ์เจ้าชาย มันดูสมจริงดี มีโกรธ มีอ่อนไหว อ่อนแอ แถมทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด เนื้อเรื่องไหลไปได้ดีไม่ติดขัด

ยิ่งช่วงโดนสิงหรือมาเป็นกาฝากนี่เราว่าเข้าเค้าดีนะ หมอเสือแกจิตใจกำลังอ่อนแออย่างแรง แบบนี้น่าจะถูกสิงได้เอาง่ายๆเลย

แพรพลอยนี่.. เราไม่ค่อยโกรธนางนะ คือซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ ไม่มีเพื่อน พอมีก็เหมือนโลกทั้งใบมีแต่เขา แล้วผู้หญิงผู้ชาย น้อยนักที่จะเป็นเพื่อนกันได้แบบสนิทใจ ยิ่งโดนจิ้มไปยิ่งจะเรียกร้องให้ดูแล แล้วมาโดนทิ้งไว้ เคว้งสิ โทรไปไม่รับ จะกลับโดนข่มขืน จะหนีโดนเฉี่ยวร่วง โดนเอาเข็มขัดรัดคอ โดนถ่วงน้ำ โดนทำร้ายร่างกาย แถมไม่มีเพื่อนคนไหนจะไปตามอีก

เรื่องบางเรื่อง การขอโทษใช่ว่ามันจะทำอะไรให้ดีขึ้น สิ่งที่เกิดไปแล้วมันจะเป็นตราฝังไว้กับตัวตลอดไปล่ะเนอะ..

สุดท้าย ขอบคุณคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องราวออกมาให้เราได้อ่านกันนะคะ คุณสุดยอดมากเลย
ปกติเราไม่ใช่คนที่อ่านอะไรแนวนี้ อย่างมากก็ผีแบบน่ารักๆไม่แหกพุงโชว์หลอน แต่คุณเขียนได้เย้าให้เรามาอ่านต่อเรื่องๆแม้จะอ่านตอนดึกๆก็ตาม.. #หลอนใช่ย่อย
ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 17-03-2015 14:07:17
ขอบคุณคนเขียนค่ะ แต่งแนวนี้อีกนะคะเราชอบ 55555

รำนังแพรพลอยมาก ชั้นไม่กลัวแกแล้ว !!
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 17-03-2015 14:55:50
เมื่อเป็นมนุษย์ไม่สมหวัง..
แพรพลอยรักแรงจริงๆ..
กรรมคือการกระทำ...
จริงๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-03-2015 15:05:54
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: WoonMyuk ที่ 17-03-2015 15:30:15
อ่านจบแล้วมีความรู้สึกสงสัยอย่างคือ
พลอยสิงหมอเพื่อมาอยู่กับเก้า หรือมาสิงเพื่อพาเก้าไปอยู่ด้วยคะ
อ่านปรัชญาซ่อนเงื่อนอะไรแบบนี้แล้วไม่ค่อยเก็ท และค้างคาใจมาก helppppp!!!!  :hao5:

โดยรวมสนุกมากค่ะ ชอบบบบบบบ รอติดตามผลงานต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-03-2015 16:53:03
เนื่องจากได้รับแจ้งมาว่า

สวัสดีค่ะ คุณบลู
ดิฉันมีเรื่องมาแจ้งให้คุณบลูทราบค่ะ เนื่องจากว่านิยายของคุณเข่งสะพานปลา(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45587.msg2994146;topicseen#msg2994146)นั้นมีเนื้อเรื่องแทบจะเหมือนเรื่อง ปรสิต อีกเรื่อง (http://writer.dek-d.com/oharha/story/view.php?id=1042330) โดยเรื่องในเว็บเด็กดีนั้นได้มีการแต่งจนจบก่อนแล้วและดิฉันเองยังไม่ได้สอบถามเรื่องนี้จากทางฝ่ายใดทั้งสิ้นจึงอยากทราบความจริงว่าเป็นอย่างไรพร้อมกับหวังว่าจะไม่มีฝ่ายใดที่ฝ่าฝืนกระทำการผิด

ขอบพระคุณค่ะ


รบกวนคนเขียนชี้แจงด้วยนะคะ

หนึ่ง โมดุฯ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-03-2015 16:56:29
คนเขียน PM มาหาได้เลยนะคะ ถ้าจะชี้แจงจะได้เปิดกระทู้ให้
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-03-2015 17:31:59
ทางคนเขียนแจ้งมาแล้วนะคะ 

สวัสดีค่ะคุณโมดุ
เข่งสะพานปลา จากนิยายเรื่องปรสิตนะคะ :D

เราเป็นคนเขียนปรสิตทั้งเวอร์ชั่นฟิคชันและนิยายเองค่ะ
และได้แจ้งไว้ในหน้าแรกของกระทู้แล้วว่านิยายเรื่องนี้มีเวอร์ชันฟิคด้วย
เพื่อเป็นการยืนยันคำชี้แจง เราแคปหน้าแก้ไขฟิคชันปรสิตมาให้ดูเป็นหลักฐานนะคะ
http://upic.me/i/i9/smu8h.jpg

ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-03-2015 18:32:01
จำได้ฮะว่าคนเขียนเคยบอกว่ามันมีเวอร์ชั่นฟิคมาก่อน ไอ้เราก็ทนไม่ไหวไปแอบอ่านทางนั้นจนจบ สยองไปหลายวัน :katai1:
ส่วนเวอร์ชั่นนี้ รอเคลียร์งานเสร็จก่อนจะมาตามฮะ เห็นอีกที อยู่ห้องจบซะแล้ว :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิกาแร๊ต ที่ 17-03-2015 19:08:08
ถึงจะหลอนไปหน่อย ... แต่ก็ยังไม่อยากให้จบเลยแฮะ  :hao5:
ไม่ได้รู้สึกว่าตามติด ติดงอมแงม เฝ้ารอเช้าเย็น แบบนี้มานานแล้ว ... ตื่นเต้นดีจริงๆ

((ปล. แล้วเวอร์ชั่นนี้ จะทำเป็นเล่มด้วยมั้ยเอ่ย คุณเข่งฯ))
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: INNAOM ที่ 17-03-2015 20:36:34
เอาจริงๆ ตัวละครที่น่ารังเกียจที่สุดคือ แพรพลอย
ไม่ชอบอ้ะ คนที่เริ่มทุกอย่างก็ตัวเองแล้วมาแค้นคนอื่น น่ารังเกียจ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Mississippi ที่ 17-03-2015 20:42:40
เพิ่งได้เข้ามาอ่านครั้งแรก อ่านรวดเดียวจบเลย ตอนอ่านอึดอัดมากเหมือนเรากำลังนั่งดูหนังผีเรื่องนึงที่มีปมซับซ้อน
ลุ้นมากๆ คนเขียนแต่งได้สุดยอดมากค่ะ ไมไ่ด้อ่านแนวนี้มานานแล้ว ฝีมือแบบนี้ไปเขียนบทละครได้เลยนะ

ปล ลึกๆเราคิดไว้แล้วว่ามันต้องจบแบบหักมุม แต่จบแบบนี้โอเคแล้วค่ะ แต่ก็แอบสงสารน้องกันต์ ดูจะหลอนประสาทที่สุดในเรื่อง

ขอขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ืnomucang ที่ 17-03-2015 22:28:41
อีแพรพลอยยยยยย หล่อนทำอะไรกับพี่เสือฉานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ม่ายยยยยยยย!!!! :katai1: :sad4: :o12:
ชนกันต์แลดูโชคร้ายตล๊อดตลอด :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 17-03-2015 23:55:32
อ่านตอนเที่ยงคืน ปิดไฟอ่านเพราะเมทนอนหมดเเล้ว นั้งหันซ้ายหันขวา กลัววววว
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: 末っ子 ที่ 18-03-2015 01:05:54
ขนลุกมาก น่ากลัวทุกตอนเลย น่าติดตามมากๆๆ ชอบค่ะ เหมาะจะเป็นนิยายสยองขวัญแห่งปี :ling3: o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: คุณอัง ที่ 18-03-2015 01:23:12
สนุกมากค่ะ เป็นนิยายผีเรื่องแรกที่เคยอ่านเลย
จะบอกว่าเผลอกลั้นนหายใจตอนอ่านบ่อยมากกก  อ่านจนจบตอนแล้วถึงรู้ว่าตัวเองกลั้นหายใจอยู่ คุณเขียนได้หลอนจริงๆค่ะ ฮือออ

แต่เอาตรงๆนะคะ เราไม่ชอบแพรพลอยที่สุดในเรื่อง
เค้าไม่สมควรตายค่ะ แต่ก็ไม่สมควรไปคุกคามชีวิตคนอื่นเหมือนกัน

ไม่ว่าจะทั้งตอนเป็น หรือตาย ถ้าบาปกรรมมีจริงนี่ก็ไม่แน่ใจว่าทำขนาดนี้แล้วจะได้ไปเกิดอยู่อีกไหม

อาจจะฟังดูใจร้ายนะคะ แต่เราไม่แปลกใจเลยที่ตอนมีชีวิตอยู่ ทำไมเค้าถึงไม่มีเพื่อน  เพราะเค้าดูนิสัยแปลกๆตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตแล้วว ~

ยิ่งตอนท้ายเรื่องยังตามมาสิงหมอเสืออีก คือไม่ไหวอะ แทนที่จะปลงได้แล้ว แต่นี่ไม่ยอมรับความจริงเลย ประสาทมากกกก  *อิน*


ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Fujung ที่ 18-03-2015 01:24:55
โอ๊ย ปวดหัวกับนาง :serius2: เออจะทำไรก็ทำเอาที่เธอสบายใจ  อยากไปเกิดเมื่อไหร่ก็ไปละกันนะ   :call: :call:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 18-03-2015 01:31:56
สำหรับนังแพรพลอย   :beat: :beat: :beat: :z6:   อีนังผีบ้าทำมัยแกไม่ไปผุดไปเกิดสักทีว่ะ  :angry2:
มาตามราวีเก้ากับพี่เสืออยู่ได้   พี่เสื่อของหนูโดนนังผีบ้านี่สิงไปซะแล้วววววววววว  :sad4:
แล้วน้องกันต์อีก  น่าสงสาร   :o12:  ตอนจบเป็นอะไรที่แบบว่า  จบจิงๆหรอ ความรู้สึกเหมือนมันไม่สุด
เหมือนมันยังมีต่อไปได้อีก  ซึ่งเราอยากรู้อยากอ่านมากกกกก  ถ้าในหนังสือมีตอนพิเศษนะเราจะเก็บตังค์รอซื้อเลยค่ะ  :katai4:
.
.
.
.
.
.
.
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวบอยเลิฟหลอนแห่งปีของเราเลยค่ะ  เราชอบการดำเนินเรื่องมากกกก
ภาษาก็เขียนถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก อ่านได้ลื่น ได้อารมณ์ของตัวละคร  และหลอนมากๆเลยค่ะ  :ling3:

สำหรับสุดท้ายนี้อยากจะขอบพระคุณ คุณเข่งสะพานปลามากที่เขียนผลงานดีๆ มาให้เราได้อ่าน 
ได้หลอน ได้ลุ้นไปกับตัวละคร   :pig4: :pig4: :pig4:  ขอบพระคุณค่า


หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Pine_apple ที่ 18-03-2015 01:35:33
เจอเรื่องนี้ตอนสี่ทุ่มไม่ก็ห้าทุ่ม
อ่านจบตอนตีหนึ่งครึ่ง​ ชอบมากเลย​ ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้แต่ชอบสำนวนและการใช้ภาษาค่ะ​ มันสวยมากเลย​ ฮ่าๆ
เรื่องนี้เดาได้ตอนที่กันต์เห็นรอยขูดที่ระตัวเอง​ คิดเลยว่ากันต์ไม่ได้ชนจังๆและอาจจะชนแล้วกลิ้งตกน้ำเจ้าตัวถึงไม่รู้​ คิดแบบนั้นเลยนะ​ จินตนาการดราบรรเจิดมาก
พอตอนใกล้จบ​ คุณจิตแพทย์ไปเคาะประตูคุณอย​ุ  เรานี่คิดเลยนะว่า​ เอาเล่าา​ ทำไมบรรยากาศหมอเสือถึงอ่อนๆเหมือนผู้หญิงชอบกล​ ไม่นะ​ อย่าจบแบบนั้น
แต่ะอมาคิดอีกที​ เรื่องแนวนี้กับบทสรุปแบบนี้อาจเข้ากันที่สุดแล้วก็เป็นไปได้

อยากบอกว่าอาชีพแฟนหนูกันต์นี่อาชีพในอนาคตหนูเองค่ะ​ ฮ่าาา​
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: micky_yunjae ที่ 18-03-2015 01:38:11
 :mew1:จบได้ตรงคอนเซ็ปกับชื่อเรื่องมากเลยค่า อ่านไปก็หลอนไปกันเลยทีเดียว ขอบคุณคนเขียนนะค่ะที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านสนุกมากเลยอยากให้มีภาคต่อว่าจะเป็นยังไงต่อไปอ่า ชอบไม่รู้จะเอาอะไรมาพูดอีกล่ะไว้จะติดตามผลงานอื่นๆนะค่า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 18-03-2015 04:53:20
คนเขียนเก่งมากครับ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: poonnana2533 ที่ 18-03-2015 10:17:55
นานแหละที่ไม่ได้ชมเรื่องไหนเป็นจริงเป็นจังเรื่องหน้ากลัวอะอธิบายออกมาให้เหนเป็นภาพเลย ถ้ามีรายละเอียดกว่านี้คงต้องเปิดไฟอ่าน555555 กลัวผีเรื่องนี้เป็นเรื่องนานทีจะอ่านแนวนี้เพราะสวนใหญ่จะแนวเดิมๆมีแปลกๆมาบางก็ดีนะ
สรุปนางพลอยแกไปเกาะอยู่กับคุณหมอใช้ม่ายยยสยองอะ สยองแทนตัวละคร
ส่วนเรื่องรถชน อันนี้ที่บ้านก็สอนมานะว่าถ้าขับรถคนเดียว ดึกๆ ใครอยู่ข้างทาง รถชน มอเตอร์ไซ เกิดอุบัตเหตุ  อะไรก็ตามห้ามลงไปช่วย ให้โทรหาตำรวจก่อนเลยให้เขามาแล้วคอยลง เหมือนพวกไม่มีน้ำใจ แต่คนสมัยนี้ดูยากอะบางที่ลงไปช่วยกลายเป็นรับเคราะสะเอง โดยว่าร้ายหรือโนปล้น

เราคิดว่าเก้าไม่ผิดหรอกเรื่องแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใครจากที่ดูเพื่อนพวกนั้นดูเลวกว่าเยอะ แค่แต่ละโอกาศในการลงมือทำต่างกัน ถ้าเป็นคนอ่านเราก็คงทำไม่ต่างจากเก้าเท่าไร ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบสิ  รักษาน้ำใจกันไปแล้วเราลำบากใจมันก็ไม่ดี  แอบเลว เรื่องที่เกิด สาเหตุมาจากเก้าก็ได้ เพราะเก้าไม่ได้บังคับให้ไม่ขึ้นรถนี้เนอะ แค่ทะเลาะ บอกว่าท้องด้วย(สตอ) รักเขาหลงเขาแต่ไม่รักตัว  ถ้ารักตัวเองคงจะคิดได้นะต้องทำไง :mew5: 
ส่วนเรื่องเพื่อน ไม่มีเพื่อนก็ซิวสิค่ะไปเรียนที่อื่นสังคมไม่ได้มีอยู่แค่นั้นนี้เนอะ  ต้องพูดว่าเป็นกรรมของ ตัวละคร
เรื่องหน้าเอาแนวนี้นะผู้แต่งเอาหน้ากลัวๆ ชอบไม่คอยเจยแนวนี้เท่าไร ขอบคุณเนอะค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 18-03-2015 10:18:52
ขอบคุณคนเขียนมากนะค้าาาา
สุข สนุก และหลอนตั้งแต่ต้นยันจบเรื่องจริงๆ ค่ะสำหรับเรื่องนี้ 
คนเขียนเขียนได้ดี บรรยายได้เห็นภาพ เข้าใจง่าย แต่ทรงพลังในการเข้าถึงอารมณ์ของเรื่องดีค่ะ
เป็นเรื่องแรกที่อ่านแนวนี้แล้วชอบหมดใจค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งนะค้าาาาา  :L1: :pig4: :L2: จะรอผลงานชิ้นต่อไปนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 18-03-2015 12:16:26
นัง !! แพร !!พลอย !! :katai1:  :z3:  :z6:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 18-03-2015 14:10:19


หลอนดีจริงๆ

แอบหลอนยันตอนจบ (ที่มีปรสิตเกาะ)

เหมือนจะจบด้วยดี

แต่มันก็ไม่ดีเสียทีเดียว

เพราะมันมีกาฝากเกาะมาด้วย บรื๋อออออ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: plugie ที่ 18-03-2015 14:30:43
อ่าาาาา ชอบนิยายแนวนี้มาก มีอะไรมาให้ลุ้นตลอด

พลอย ศพเธอก็เจอแล้วไปเกิดใหม่เถอะขอละ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: twenty8 ที่ 19-03-2015 05:03:25
อ่านจบแล้วค่ะ เกือบตีห้า 55555
แต่คือจริงๆตามอ่านมาหลายวันแล้ว อ่านๆหยุดๆ เนื้อเรื่องมันหนักๆสำหรับเรา เลยต้องขอพักแป๊บ
แฮ่ เราขอเล่าอะไรนิดนึงได้มั้ย คือคืนก่อนนู้นที่นอนอ่านเรื่องนี้เราจำได้ว่าปิดไฟนอนแต่พอสะดุ้งตื่น
ไฟเปิดอยู่เฉยเลย งงมากอะ สลับกับชนกันต์นิดนึง55555 คือตื่นมาแล้วงง ในใจคิด นี่กูจะเจอแบบชนกันต์หรอฟะ 55555

ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากบอกว่าคนเขียนแต่งเรื่องนี้ได้สุดยอดมากจริงๆ สำนวนภาษาต่างๆไม่มีที่ติจริงๆ
นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอนิยายที่มีพล็อตและสำนวนการเขียนที่น่าติดตามแบบนี้ มันกรี๊ดมากๆเลยค่ะ
เรื่องนี้มันทั้งหลอนและน่ากลัวจนแบบเข้าถึงแก่น ขนในร่างนี่ลุกพรึบๆตลอดการอ่าน เป็นนิยายที่ตราตรึงใจอีกเรื่องนึงเลยค่ะ

ขอบคุณคุณเข่งฯสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ค่ะ

 o13 :กอด1:

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-03-2015 13:11:41
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate1134 ที่ 19-03-2015 15:21:14
ว้ายยย จบแล้ววว นิยายเรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ สำนวนการเขียนก็ดีมาก ในแต่ละตอนจะทิ้งปมเอาไว้ให้คนอ่านค้าง เอ๊ยย คิดต่อตลอด ไม่เว้นตอนจบ 555 การบรรยายนี่เห็นภาพมากค่ะ ทำเอาหลอนไปเป็นวันๆเลย

นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าใครทำอะไรไว้ต้องได้รับผลตอบแทนจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: monalism ที่ 19-03-2015 16:44:27
จบได้เลิศค่ะ
ความต้องการเเต่เดิมของพลอยคือการที่ได้อยู่กับรามิล ติดแต่ตรงที่รามิลยังไม่รู้ว่าตายแล้ว เลยพยายามที่จะทำให้ได้รู้ ในขณะเดียวกันก็ปลดเรื่องที่พ่อแม่เป็นห่วงไปด้วย พออะไรอะไรเรียบร้อยแล้วนางก็เข้าสิงคนรักของรามิล และอยู่ด้วยกันตลอดไป

 :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 19-03-2015 20:44:26
ไม่มีความสงสารเลยสักนิด สมแล้วแหละที่เพื่อนๆก็พากันไม่ชอบ

ฉันเกลียดนางง!!!!! ยัยผีปรสิต  :angry2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 20-03-2015 01:01:28
 o22 อ่านแล้วหลอนมาก สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: theG ที่ 20-03-2015 15:49:49
เพิ่งได้มาอ่านค่ะ ไม่เหนือความคาดหมายที่จบแบบนี้

แต่อ่ะๆๆๆ ย้อนไปนิด เอาจริง เราเกลียดอิผีบ้านี่ที่สุดอะะะะะะะ  :m31: :m31: :m31:
ตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่แล้ว เก้าดีด้วยก็เหลิง ได้ป้าบๆกันก็ยิ่งบ้าบอ ตามจิกนั่นนี่ ไม่รู้ดิ แต่แบบ คนเราน่าจะเจียมตัวกันบ้าง ยิ่งไม่มีใครดีด้วย แต่เก้ามาดีด้วย ก็ยิ่งควรจะเจียมตัวปะวะ =____= ละเก้าก็ทำให้เห็นชัดแล้วมั้ยว่าไม่ได้ชอบๆ นางก็ตามไม่เลิก
ยิ่งตอนบอกว่าท้องยิ่งแบบสตอออออออออออ ถ้าเราเป็นเก้า เชื่อเหอะ ว่าเราก็คงใจร้ายแบบนั้นเหมือนกันอะ เพราะบางทีถ้ายังใจดีอยู่ก็จะยืดเยื้อไปเรื่อยไม่จบไม่สิ้น

แต่ถ้าถามว่า แล้วนางผิดจนขนาดต้องโดนฆ่าข่มขืนไหม เออ นางก็ไม่ได้สมควรได้รับอะไรอย่างนั้นหรอก แต่นางแค่ "โชคร้าย" นางโชคร้ายยยยย เรามองว่าเก้าเป็นฟันเฟืองที่ทำให้โชคชะตานางมาเป็นแบบนี้ แต่สำหรับเราเก้าไม่ได้ผิดเลย เอาจริง นางพพ.นี่ก็เรียนหมอ ละอยู่ปี 4 ด้วยนะ วิธีการเอาตัวรอดตั้งแต่โดนรถบัสทิ้งน่าจะฉลาดกว่านี้อะ -*- นี่อะไร ขึ้นรถไปกะผชแปลกหน้า จะบ้าหรอหล่อนนนนนน  นังโง่วววววววววววว (เราคิดว่าการที่โดนทิ้งไว้ที่ปั๊มไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ สำหรับคนที่อายุเกิน 20 แล้วและยังมีมือถืออยู่กะตัวอะ เป็นเราโดนทิ้งก็คงโทรหาพ่อแม่ก่อนอะ ให้พ่อแม่ช่วย นี่ไร โทรหาเก้า ขึ้นรถกะคนแปลกหน้า ให้ตายเถอะหอยหลอด ทำยังกะตัวเองเป็นเด็กสามขวบ -*-)

แล้วเรื่องชนกันต์ เราก็งงนะว่าถ้ากันต์ขับรถตรงเลนดีๆจะไปเฉี่ยวอิผีบ้าได้ยังไง ยกเว้นแต่นางจะเสร่อเอาหน้าออกมาเลยเส้นเลนขอบถนนเอง เออ แต่ก็เข้าใจแหละ จังหวะกำลังตื่นตกใจ รีบ ต้องการความช่วยเหลือขนาดนั้น นางอาจจะโผล่หน้าขวางทางรถก็ได้ กันต์คือทางรอดทางเดียวของนาง ถ้าบอกว่านางซวยแล้ว กันต์ไม่ซวยกว่าหรอ  :z3: คิดในแง่ถ้าเราเป็นกันต์ เราก็ไม่ลงไปดูอะ ตอนมืดๆ เหมือนจะชนคน แต่หยุดดูละไม่มีใคร จะบ้าหรอออออออ ที่น่ากลัวกว่าผีคืออาจเป็นมิจฉาชีพไรงี้ เห็นด้วยกับคห.นึงที่บอก ต่อให้ตอนนั้นถ้ากันต์ลงไปดูหรือลงไปช่วย กันต์ก็อาจเป็นอีกศพไปด้วยก็ได้เพราะพวกนั้นมี 3 คน เออ แต่อิผีบ้านั่นก็อาจดีใจก็ได้ มีเพื่อนตายไรงี้  :katai5:

ถ้าให้บรรยายนางพพ.สักคำ เราจะยื่่นให้เลย ... ซ่งติง = = (นางรักเก้ามากกว่าพ่อแม่นางหรอ นี่สงสัย)

บางทีคิดแบบคนใจร้ายสุดๆนะ... หรือคืนนั้น เก้าควรปล่อยให้โอ๊ตเข้าไปซั่มนางผีบ้าให้หนำใจ เออ หรือเรื่องจะดราม่ากว่านี้อีกเพราะเดี๋ยวนางก็คงหาว่าเป็นเพราะเก้าไม่ดูแลนางเลยโดนซั่ม ถถถถ จริงๆก็ไม่อะไรนะ ทุกคนต่างโยนความผิดอะ นางผีนั่นก็โยนความผิด โทษเก้า โทษกันต์ โทษทุกอย่างที่ทำให้นางโดนแบบนั้น แต่นางไม่เคยโทษตัวเองว่าทำไมต้องเรียกเก้าไปคุยในที่ลับตาอย่างนั้น ทำไมถึงยอมขึ้นรถไปกะคนแปลกหน้าอย่างนั้น ถถถถ นังคนโง่!

อย่างเพื่อนในชั้นเรียนก็โยนความผิดมาที่เก้า ทั้งที่ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าวันนั้นนางพพ.หายไปตั้งแต่ไม่ได้ขึ้นรถบัสมาด้วย จริงๆสังคมอย่างนี้น่ารังเกียจนะ เราเคยเจอ และเข้าใจดี

นี่พยายามนึกหาเหตุการณ์เปรียบเทียบเรื่องของเก้ากับพพ.อยู่ อาจจะไม่ใกล้เคียงที่สุด แต่น่าจะพอถูไถไปได้มั้ง

ครั้งนึง เราเคยจะพยายามซ่อนของเล่นจากน้องชาย ตอนนั้นอยู่หน้าบ้าน หน้าบ้านก็มีมอไซค์จอดอยู่
น้องชายก็เดินเข้าหาเรา แบบอยากรู้ว่าเราซ่อนไรไว้ เราก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนขาโดนท่อมอไซค์ เป็นรอยใหญ่ พอง แดง แล้วเราก็โทษว่าเป็นความผิดของน้องชาย ที่ทำให้เรามีแผลแบบนั้น (เพราะการคิดแบบนี้มันทำให้เราสบายใจมากกว่าไง ทั้งที่คนเดินถอยหลังคือเราเอง และทั้งที่รู้ว่าข้างหลังมีรถจอดอยู่ ก็ยังไม่ระวัง ไม่เอะใจ และการซ่อนของเล่นนั้นจากน้องชายก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลยด้วยซ้ำ ยังไงสุดท้ายก็ต้องเอามาเล่นกะน้องอยู่แล้ว แต่มันเป็นเพราะความงี่เง่าของเราเอง)

กรณีเก้ากับพพ.ก็คงเหมือนกัน เก้าทิ้งพพ.ไว้ตรงนั้น จนนางขึ้นรถไปกะคนอื่น ละก็โดนข่มขืนในที่สุด
กลไกลการป้องกันตัวเองของนางจึงโทษเก้า โทษนั่นนี่นู่น นั่นแหละ .... จริงๆนางน่าโดนจับไปบำบัดนะ จิตป่วยนะนี่  :mew5:

ตอนจบนี่แบบ หลอนกว่าตอนอื่นมาก TT เรากลัวอะ เราสงสัยว่านางมาเกาะหมอศรันย์นี่คือ แค่อยากอยู่กับเก้า หรือว่าอยากเอาให้เก้าตาย จะได้ไปอยู่ด้วยกัน ฮือออออออ ที่หนักกว่าคือสงสารกันต์อะ จะเป็นบ้าอยู่แล้ว

ส่วนหมออธิศไม่มีอะไร เรารักคนนี้มาก เป็นหมอที่ดี~~  :กอด1:

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้ออกมา อยากซื้อหนังสือเก็บเหมือนกันนะ แต่ก็ลังเลอะ กลัวผีไงไม่ใช่ไร ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zhanzhao ที่ 20-03-2015 23:27:32
ขอบคุณนิยายสั่นประสาทนะคะ หนุกมาก แต่... อีกนิดก็ไม่ได้...  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sha-em ที่ 21-03-2015 01:36:01
อ๊ากกกก อ่านจนจะตี2 ขอบอกว่าหลอนมาก นอนอ่านแทบจะคลุมโปง :ling3:
ชอบวิธีการนำเสนอ อ่านดูมีอะไรที่น่าสนใจเยอะ วิธีการเปรียบเทียบ ชอบอ่ะ จะตามติดผลงานเรื่องอื่นนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 21-03-2015 06:15:40
สุดๆจิงๆกับเรื่องนี้ ตอนเเรกๆไม่เลือกเข้ามาอ่านเพราะคิดว่าเป็นเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดอะไรทำนองนี้
พอได้อ่านก็รู้ความหมายของคำว่าปรสิต ผู้เเต่งๆได้หลอน สยองสุดๆ เข้ามาอ่านรวดเดียว ตั้งเเต่เที่ยงคืนจนถึงตีสอง
ตอนนี้ก้อนอนถ่างตา ไม่หลับเเล้วค่ะ  :ling3:   
ชอบเรื่องนี้ค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 23-03-2015 22:10:44
อะไรคือคำว่าฟินคะ :katai4: :katai4:

ปล.นิยายเรื่องสนุกมากจริงๆค่ะ ถึงแม้ตอนจบจะค้างไปนิด แต่ก็ต้องขอบคุณคุณนักเขียนที่เขียนนิยายดีๆภาษาสวยๆคุณภาพอัดแน่นอย่างนี้มาให้อ่านนะคะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ /ยิ้มอ่อน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 25-03-2015 00:14:05
เรื่องนี้ทำเค้านอนดึกมาหลายคืนแล้ว
สนุกมากๆๆๆๆๆจนไม่อยากหยุดอ่าน
เรื่องพลิกตลอด คิดจนปวดหัวว่าทึกคนเกี่ยวกับผีแพรพลอยยังไง
คือนิยายมันหลอนมากๆๆ
คือไม่ได้น่ากลัวถึงขนาดไม่กลเาเข้าห้องน้ำตอนดึก
แต่มันหลอนอ่ะ
คือผีแพรพลอยนางน่ารำคาญมากอ่ะ
นางยังไม่ยอมไปเกิด
แต่การสิงพี่หมอก็ฉลาดดี



คู่หลักค่อยๆหวานๆ น่ารักๆกันไป
 ปล.รอภาคแค๊ปซูลจ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 25-03-2015 13:39:48
สุดยอดเลยค่ะ นิยายสนุกมาก อ่านแล้วอิน รู้สึกหลอนๆเวลากลางคืนเลย ตอนนอนนี่ไม่กล้ามองไปที่มืดๆเลย กลัวว่าจะเห็น.....555
ยังไงก็ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ
เป็นกำลังใจให้กับเรื่องต่อๆไป สู้ๆน๊า
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zaszaq ที่ 25-03-2015 14:34:23
สนุกมากๆๆค่ะ  ลุ้นระทึกเลย  :mew1:  :mew1:  :mew1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 25-03-2015 21:19:10
อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: แพรพลอยเธอจองเวรจริงๆๆๆๆ  :z3: :z3: :z3: :z3: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jungjiyoo ที่ 26-03-2015 16:22:37
นี่อ่านตั้งแตาเริ่ม กลัว หลอน จิตตก และสุดท้าย..อยากตบนังแพรต่ะ เอาผช.เป็นสรณะ จบไม่สวยเลย ถ้าเป็นน้องเก้าคงยืนด่านางทุกครงที่ทะลึ่งโผล่มา ผญ.อะไรไม่สงวนเนื้อตัวแล้วยังโทษนู่นนี่ ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นเลย ยังแอบคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับพี่หมอทั้งสองคนนิดๆนะ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยยังโดนผีชะนีรงควาญ (เป็นฟิควายแบบชะนีร้ายจริงๆ555) อ่านละขึ้นเลย เรียลจริงๆ เขียนดีมากๆจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 27-03-2015 15:55:59
หลอนมากกกก
โดยส่วนตัวนะสงสารเก้าอ่า คือแบบ.. นางแพรพลอยมันเกินไป พาพี่เสือไปรดน้ำมน หาหมอผี หรืออะไรก้แล้วแต่ได้มั้ย เกลียดนาง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yakkaru ที่ 28-03-2015 03:50:30
ชอบเรื่องนี้ การเล่าเรื่อง การนำเสนอ จังหวะจะโคนดี อ่านเพลินมากๆ
ปกติกลัวเรื่องผี เพราะเป็นคนจินตนาการฟุ้งซ่าน ประเภทถ้าได้ยินเรื่องผีมาแค่นิดหน่อย ก็เอามาหลอนตัวเองได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ไม่ค่อยเห็นแนวนี้กับนิยายวายเลยคลิ้กเข้ามาอ่าน ซึ่งช่วงต้นๆของเรื่องบอกเลยว่าหลอนพอตัว แต่พอโทนเริ่มเป็นแนวไขปริศนาหาความลับ ถึงจะรู้สึกว่าความหลอนมันน้อยลง แต่ปริศนาในเรื่องก็ดึงให้เราติดตามอยากอ่านต่อมากๆ กลายเป็นหลังๆอ่านไปลุ้นไปด่าผีอีพลอยไป 5555

จุดที่เราคิดว่าคนเขียนเจ๋งคือการที่ค่อยเลาะปมที่คลายออกเรื่อยๆ กับการสร้างจุดที่ดึงให้คนอ่านไขว้เขว่ (คนที่กันต์ไปสบตาด้วย) ตอนกลางๆเรื่อง เราคิดว่าเรื่องนี้จะมีผีมากกว่าหนึ่งซะอีก.. แต่ก็คิดผิด ฮา

พูดถึงตัวละครหน่อย ถ้าถามว่าสงสารใครสุด ก็ตอบว่าผีอีพลอยนะ เรียกว่าเห็นใจก็ได้ คือเข้าใจเลยว่าคนไม่มีเพื่อนคบ โดนปฏิบัติอย่างแปลกแยก ถูกทำให้โดดเดี่ยวทั้งๆที่.. ก็ไม่ได้ทำไรผิดหรือเปล่า (ถ้าจะให้พูดก็คงผิดที่มีตัวตนอยู่นั่นแหละ) มันรู้สึกยังไง .. คือใครมาดีด้วยก็คงดีใจมากอ่ะ แล้วคงอยากยึดคนๆนั้นไว้เพื่อให้รู้สึกว่าฉันไม่ได้โดดเดี่ยวในสังคมนี้นะ..พอเขาจะหลุดไปเลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรั้งเอาไว้ ความรู้สึกแบบนั้นยังคงติดในใจนางไปแม้นางจะตายไปแล้ว เป็นความยึดติดอย่างรุนแรง เลยกลับมาหารามิล โดย ..อันนี้ยังไม่แน่ใจว่า พลอยสิงพี่หมอเสือแบบบังคับยึดร่างไปเลย หรือพี่หมอเสือแกรู้เห็นตกลงแบ่งร่างให้ใช้..

พออ่านมาถึงตอนท้าย กลายเป็นว่าเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นนี่ กันต์เป็นแค่เฟื่องเล็กๆเองนะ (แต่โดนหลอกหนักมาก) เป็นเครื่องมือที่พลอยใช้เพื่อหาร่างเท่านั้น เฟื่องที่ใหญ่กว่าอย่างรามิล กับพี่เสือ เหมือนเพิ่งเริ่มขยับด้วยซ้ำ  "มันยังไม่จบ" คงหมายถึงเรื่องของรามิล-พลอย-ศรัณย์ แต่ก็ไม่ได้ค้างคาหรือขัดใจอะไรกับ "ตอนจบ" แบบนี้ของ "ปรสิต" หรอกค่ะ เราชอบและคิดว่ามันจบได้พอดีแบบเปิดให้คนอ่านไปคิดต่อกันเองเล่นๆ ก็สนุกดี..

แต่ว่าถ้ามีภาคต่อก็ดีใจเหมือนกันนะคะ 555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KilluaZoaldyeck ที่ 28-03-2015 23:06:21
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ
เขียนได้ดีมากๆ ภาษาสวย เราอ่านทุกตัวอักษรเลย

โดยส่วนตัวเเล้วเราสงสารเสือมาก 
คิดว่าถ้าแพรพลอยนางไม่ตายนางก็ยังคงตามราวีเสืออยู่(ตายแล้วก็ตาม)
เสือพลาดตั้งแต่ไปยุ่งกับนาง แล้วก็เเคร์สังคมรอบข้างมากเกิน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 31-03-2015 15:36:09
(เม้นนี้อาจยาวนะคะ ต้องขอโทษด้วยถ้าทำให้รกค่ะ *โค้ง)


อ่า .. เริ่มพิมพ์แทบไม่ถูกเลย อ่านจบแล้วก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายจริงๆค่ะ
ยังคงชื่มชมในงานเขียนของคุณเข่งสะพานปลา ไม่ต่างจากที่เคยเม้นไปในเรื่องวรรคนะคะ พอได้มาอ่านเรื่องนี้ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
ตั้งแต่ตอนอ่านเรื่องวรรคเราก็นึกว่าคุณเข่งสะพานปลาเรียนเกี่ยวกับปลาซะอีกค่ะ เพราะรู้เรื่องละเอียดดีมาก
แต่พอมาอ่านเรื่องนี้ก็กลับคิดว่าเรียนหมออีกเหมือนกัน 555555555 คือรู้เรื่องภายในดีมากเลยค่ะ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็เก็บได้หมด
เราชอบนักเขียนที่ใส่ใจงานเขียนของตัวเองและหาข้อมูลมาเป็นอย่างดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงคุณค่าเลย

พูดถึงตัวเนื้อเรื่องกันบ้าง ..
/ขอนอกเรื่องก่อนแล้วกันนะคะว่าเราอ่านเรื่องนี้เมื่อคืนค่ะ เริ่มตอนห้าทุ่มกว่า อ่านแล้วหยุดไม่ได้ทั้งที่มีเรียนแต่เช้า
สุดท้ายก็ยาวไปจนถึงตีสามกว่าค่ะ แถมหลังจากนั้นยังนอนไม่หลับอีก ผวาตามชนกันต์ไปเลย .. คือสงสารนะคะ สงสารจริงๆ
เข้าใจถึงความเครียด ความกดดัน และ"ความกลัว" เลย เพราะเราเองเคยโดนผีอำทีนึงค่ะ
(ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดเพราะหลับไม่สนิทก็เถอะ แต่พอเจอจริงๆแล้วมันน่ากลัวมากนะคะ)
กับการแบบ ขยับไปไหนไม่ได้ แขนขายกไม่ขึ้น //ที่จริงมันคือฝันนั่นแหละค่ะ แต่ก็เข้าใจเลยว่าอยากคลุมโปงหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด
แต่อีกใจก็อยากเปิดตามาดูว่ามันมีอะไรทับเราอยู่จริงไหม

ยิ่งตอนที่ชนกันต์กลัวจนลนลานจะกระโดดลงไปจากระเบียงอพาร์ทเมนต์นี่เราแบบ .. คือแทบจะร้องไห้เลยค่ะ
สงสารมากๆ คิดว่ายังโชคดีที่หมออธิศเห็นเธอเหมือนกันนะคะ ไม่งั้นคงโดนมองหาว่าบ้าแล้วก็คงรู้สึกโดดเดี่ยวมากแน่ๆ
หมออธิศเป็นตัวละครที่เราชอบมากที่สุดในเรื่องนี้เลยค่ะ ชอบตั้งแต่ฉากแรกสุดเลย คงเพราะได้แสดงความเป็นจิตแพทย์ล่ะมั้งคะ
เป็นเด๊นท์สายนึงที่เราสนใจเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าการได้เยียวยาจิตใจของผู้ป่วยมันไม่ได้แค่เยียวยาผู้ป่วยเพียงคนเดียว
แต่ได้ช่วยเหลือครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือใครที่อาจได้รับผลกระทบจากผู้ป่วยน่ะค่ะ ยิ่งคาแรคเตอร์แบบนี้ยิ่งชอบเลย
สุขุมและมีสติสุดๆ เป็นที่พึ่งให้กับคนไข้ได้จริงๆ

สำหรับนิยายเรื่องนี้ เราอ่านแล้วเราไม่คิดว่ามีใครผิดซักคนเลยนะคะในเรื่องที่เกิดขึ้น คือทุกการกระทำมันมีเหตุผล ทั้งหมดทั้งมวล
การที่ชนกันต์จะโดนเยอะ โดนหนักที่สุด สำหรับเราก็รู้สึกไม่แปลกใจ (เพียงแต่อาจจะมากไปนิดตอนชนกันต์เกือบจะฆ่าตัวตาย)
เพราะเขาที่ความหวังสุดท้าย แต่เขากลับชนแล้วหนี ความผิดหวังนั้นมันคงประเมินไม่ได้
หรือในมุมของแพรพลอย คือเธอไม่ได้ผิดอะไรเลย เธอเกิดมาแปลกแยก โดนเพื่อนกันออกไป พอมีใครเข้ามาจะรีบคว้าไว้ก็ไม่แปลก
ความผิดที่เธอโกหกเรื่องที่ท้อง เราว่ามันก็ชดเชยไปกับความใจร้ายของรามิลที่เธอโดนกระทำใส่เหมือนกัน
แต่ก็ไม่มีใครที่ไม่ควรค่าในการมีชีวิตอยู่หรอกนะคะ ตราบใดที่ไม่ได้ทำผิดร้ายแรงถึงขั้นฆ่าคนตาย ในกรณีนี้เธอคือเหยื่อมากกว่า

ที่เราบอกว่าเข้าใจตัวละครทุกตัว แต่ที่เราเข้าใจที่สุดก็คือหมอเสือนี่แหละค่ะ .. เราชอบหมอมากเหมือนกัน แล้วก็คิดว่าเข้าใจด้วย
คือมันไม่ใช่ว่าโกรธ หรือโมโห หรือเกลียด แบบไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใจ .. ไม่ใช่ค่ะ
แต่มันเป็นความรู้สึกที่แบบ เคว้งๆมากกว่า เหมาะกับคำว่า "เสียความรู้สึก" นั่นแหละ คือมันเสียไปจริงๆ ไม่รู้ต้องทำยังไงให้มันคืนมา
คงมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะช่วยไว้ได้ แต่สุดท้ายคนที่เราสงสารที่สุดก็หมอเสืออยู่ดี เพราะหมอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ
ไม่มีส่วนผิด ไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่มีส่วนอะไรซักนิดเลย เราว่าหมอก็อยู่วงนอกไม่ต่างจากหมออธิศเลยนะคะ แต่กลับต้องเป็นคนโดนกัดกิน ต้องเป็น host ซะอย่างนั้น
จุดนี้เราว่าแอบไม่ยุติธรรมกับหมอเลยค่ะ T T

ชอบประโยคนึงมากในเรื่องนี้คือฉากตอนอยู่ที่ศาลค่ะ ที่รามิลคิดว่าอัยการถึงแม้เป็นคนนอกก็ไม่ตัดสินเขา ไม่เหมือนคนอื่น
ทั้งที่เป็นคนรู้จักแท้ๆ กลับพากันพิพากษาเขาเสียอย่างนั้น มันทำให้เราเข้าใจความอ้างว้างนั่นเลยค่ะ เทียบกับแล้วชนกันต์ยังโชคดีกว่ามากจริงๆ

สุดท้ายนี้ก็จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อไปพร้อมทั้งขอฝากตัวเป็นแฟนคลับคุณเข่งสะพานปลานับตั้งแต่ตอนนี้นะคะ ><
เป็นกำลังใจให้มากๆเลยค่ะ เรื่องนี้เขียนดีมากจริงๆ อยากรอติดตามผลงานคุณภาพแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเลยจริงๆค่ะ
สู้ๆนะคะ ♡

ปล. จบแบบนี้เพอร์เฟ็กต์ที่สุดแล้วจริงๆค่ะ
ปล2. เรื่องนี้ถ้าเอาไปทำเป็นหนังคงสนุกน่าดูเลย เพราะแค่อ่านใจก็เต้นตามด้วยความกลัวแล้วค่ะ ; - ;
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 08-04-2015 21:03:31
อ่านจบแล้ววววววว
ดีนะที่อ่านตอนกลางวัน หลอนมากค่ะ

ขอบอกเลย พี่คนเขียนเก่งมากอะ เขียนได้โคตะระมีปม มีเงื่อน ช่างน่าติดตาม
เรียกว่าอ่านแล้วหยุดไม่ได้เลยอะ
ต้องบอกว่าโชคดีที่มาตามอ่านตอนเรื่องจบแล้ว
ไม่งั้นต้องลงแดงตายตอนถึงจุดพีคแล้วพี่ตัดจบตอนแน่ๆอะ

สนุกมากๆ ขอบคุณมากๆสำหรับเรื่องสนุกนะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 10-04-2015 04:09:13
มันส์มาาากกกก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kekaprain ที่ 11-04-2015 20:44:28
โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  เป็นนิยายสยองขวัญเรื่องแรกที่อ่านเลยค่ะ
และมันสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ครบมิติแบบที่ เวลาเราซื้อนิยายเรื่องนึงมา  พออ่านจบแล้วแบบ  รู้สึก  โหยยคุ้มกับตังค์ที่จ่ายไปงี้  ฮ่าๆ  คุ้มมากค่ะที่อ่าน
เป็นนิยายเรื่องแรกที่ไม่ได้หวังฉากมุ้งมิ้งน่ารักของพระนายเลยค่ะ  หวังแต่ว่า  เมื่อไหร่ความจริงจะเปิดเผย
ผีต้องการอะไร  ใครเป็นคนฆ่า  ฮ่าๆ  คือ  อ่านแล้วสมจริงทุกอย่าง  ฉากผีมา  ความรู้สึกกลัว  การบรรยายความรู้สึก
ตัวหนังสือการบรรยายมันอัดแน่น  แต่เราไม่รู้สึกว่ามันเยอะจนอยากอ่านข้ามเลยค่ะ
ชอบที่ความเป็นไปของเรื่องสมจริงค่ะ  ชอบที่มีความรู้สึกนึกคิด อามรมณ์ของคนจริงๆเข้ามา
ความคิด  มุมมองของสังคมต่อตัวละคร  เรารู้สึกว่าอ่านแล้วได้อะไรมากกว่าความสนุกค่ะ 

รอติดตามผลงานชิ้นต่อๆไปนะคะ  สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 11-04-2015 21:15:23
นิยายเรื่องนี่ควรจั่วหัวเรื่องไว้ว่า 'ไม่ควรอ่านกลางคืน' หลอนเป็นบ้าาาาาา อ่านไปสองตอนตอนเที่ยงคืน ไม่ไหวแล้ว อ่านคนเดียว เงียบๆ วังเวง ค่อยกลับมาอ่านกลางวันใหม่ดีกว่าา

พลอยทำไมเธอไม่ปล่อยวางซะบ้าง ใครๆเขาก็กลัวเธอกันหมดแล้ว เอาคืนคนร้ายไปแล้วก็พอๆบ้างเถอะ สงสารกันต์ หมอเสือ

ขอบคุณคนเขียนนะคะ ไม่เคยอ่านนิยายวายแนวนี้มาก่อนเลย เปิดโลกใหม่มากๆ เรื่องรักๆใคร่ๆของตัวเอกไม่มีผลใดๆมาหักล้างความหลอนได้เลย แต่งเก่งเกินไปแล้วค่ะ

เราทุกคนไม่มีใครหลุดพ้นจากเรื่องนี้หรอก หลอนนนนนน ~
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 15-04-2015 17:00:54
พึ่งเคยอ่านนิยายแนวนี้เป็นครั้งแรก(แบบวาย) ปกติไม่ชอบอ่านเรื่องผีเลยกลัวค่ะ
ที่เข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่องเลยค่ะ พอดีพึ่งดูอนิเมะมา เรื่องปรสิตเดรัจฉาน
นึกว่าเรื่องนี้จะเป็นฟิคของการ์ตูน ที่ไหนได้เล่นซะหลอน อาบน้ำยังระแวงเลยอ่ะ
อ่านเสร็จแล้วรู้สึกเคืองผีมากๆ เข้าใจว่ากลัว อารมณ์ก่อนตายคงทรมานมาก
แต่นางพาลอ่ะ รู้สึกเสียใจแทนเก้าเลย ถ้าวันนั้นไม่ไปชวนนางคุย
ปล่อยนางอยู่คนเดียงของนางไป คงไม่เกิดเรื่องราวแบบนี้
แล้วที่ไปโกรธหนูกันต์ ตามหลอกซะเกือบตาย คืออยากหาเพื่อนผีมาอยู่ด้วย
ถ้าวันนั้นน้องกันต์ลงไปช่วยนางคงได้เป็นเพื่อนผีกันตั้งแต่วันนั้นละ
เคืองผีมากกกกก ถ้าพาลขนาดนี้ไม่ตามหลอกทุกคนเลยล่ะ
เพื่อนในห้องที่ไม่คุยด้วยอ่ะ เก้าก็ผิดที่ทิ้งนางไว้ ผิดมาก
แต่ก็เข้าใจในระดับหนึ่ง ว่านางทำตัวประหนึ่งปรสิตตั้งแต่ยังไม่ตาย
พาพี่หมอไปรดน้ำมนต์เถอะ สงสารพี่หมอและหนูกันต์มากกกกก :o12:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 16-04-2015 00:31:33
สวัสดีค่ะ พิมพ์ครั้งที่สองแล้วเพราะเมื่อกี้เออเร่อ
ชอบมากๆเลยค่ะ เราอ่านรวดเดียวจบเลย สุดยอดจริงๆ ตัวละครทุกคนดีมากมีมิติ สัมผัสได้ บรรยายดีมากๆเลยค่ะทำให้อินมากๆ
ทำให้เรารู้สึกว่าที่เราเขียนมันยังไม่ดีพอเลยค่ะทำให้เราอยากปรับปรุงนิยายตัวเองให้ดีขึ้นอีก
แต่งนิยายดีๆออกมาอีกนะคะชอบมาก
เห็นอีกเรื่องเป็นแนว angst เราว่าคุณต้องแต่งดีมากแน่เลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 17-04-2015 01:31:04
สุดยอด!!!! 2 วันอ่านจบแล้วค่ะ
นี่ใช้เวลาช่างกลางคืนอ่านเรื่องนี้ หลอนชะมัด
เอาไปทำหนังเหอะ รุ่งแน่ๆ
ตัวละครสมจริง น่ากลัวมาก
ชนกันต์คือต้องรับรู้แต่เรื่องหลอนๆไปตลอดหรอ
บทส่งท้ายที่เป็นความหวังเดียว คิดว่าเรื่องจะจบ
แต่กลับไม่จบง่ายๆซะงั้น
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 25-04-2015 01:49:09
จบได้ทรมานหัวจิตหัวใจมาก คือพลอยนี้แบบว่า ยอมใจจริงๆ
อ่านแล้วขนหัวลุกหัวตั้ง ตื่นเต้น ลุ้นไปกับทุกขั้นตอนจริงๆนะ
อ่านแล้วรู้สึว่าหมอเสือ หมออธิป กัน และเก้า เป็นคนจริงๆ คนที่มีทั้งดีและเลว ไม่ใช่ตัวละครที่สมบูรณ์แบบ
อ่านตอนเที่ยงคือน ในห้องมืดๆ แอร์เย็นๆ อ่านไปก็เลี้ยวหลังไป แอบหลอนไปเอง
บรรยากาศ พล๊อต การสืบสวนสอบสวน ทุกอย่างน่ากลัวสมจริง

แต่ที่ขัดใจก็คงเป็นเรื่องของหมออธิป-ชนกันต์ที่มาลงเอยกันได้แบบงงนะผมว่า
คือมันไปรักกันตอนไหน? มันอาจจะรู้สึกดีๆต่อกัน แต่มันดูไม่น่าเชื่อว่าจะพัฒนาไปถึงขั้นรัก ยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้
อย่างไรก็ดีประทับใจ ตื่นเต้น อ่านสนุกจนแทบลืมหายใจครับ

ไปตามอ่านงานชิ้นๆอื่นครบหมดแล้ว ประทับใจทุกเรื่อง รออ่านและสนับสนุนเรื่องอื่นๆนะครับ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-04-2015 21:05:34
อ่านจบไปแล้ว ยังรู้สึกหลอนได้อีก มันเป็นอะไรที่โอย  :katai4:
เหมือนอ่านิยายสยองขวัญที่ซับซ้อน หักมุมซ่อนเงื่อน

ชอบการเล่าเรื่องราวที่มันซ้อนปม แล้วค่อยๆคลายปมออกเมื่อผ่านไปทีละตอน
มันเป็นอารมณ์ร่วมที่น่าตื่นเต้น แต่ก็รู้สึกสยองไปในคราวเดียวกัน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันให้อ่านนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Titania ที่ 29-04-2015 16:29:24
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ

ลุ้นระทึกกันทุกฉากทุกตอน บรรยายดีอ่านได้ลื่นไหล อินมากค่ะ

ประทับใจตอนจบมาก เป็นการจบที่ไม่จบ แต่ก็ไม่ค้าง

ขอบคุณคุณเข่งสะพานปลามากค่ะที่เขียนผลงานดีดีออกมาให้ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 30-04-2015 15:46:14
สนุกมากค่ะ หลอนไม่กล้าอยุ่คนเดียวเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 01-05-2015 18:48:58
ไม่ได้อ่านแนวนี้มานานแล้ว เดี๋ยวต้องไปดูเรื่องอื่นๆ ของคนแต่งด้วย
เริ่มแรกให้ความรู้สึกเหมือนอ่านเดอะริงเลย พอเข้ากลางๆ เรื่อง เริ่มเฉลยสาเหตุต่างๆ จนถึงตอนใกล้จบรู้เลยว่ายั้ยผีปลงไม่ตกนี่ต้องการอะไร คนแบบนี้ยึดติดตั้งแต่เริ่มแรก ทำตัวแปลกแยกแต่โยนความผิดให้คนอื่นหมด ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เรียนระดับดี สงสัยอีคิวต่ำจัด รักผู้ชายจนตามืดมัวจะเอาให้ได้ ตายแล้วก็ตามแต่คนนั่นคนนี้ เคยเห็นภาพแม่กับพ่อที่ตามหาหล่อนไหม โดยเฉพาะแม่ หล่อนตามติดรามิลขนาดนั้นทำไมจะไม่เห็นว่าแม่สภาพย่ำแย่แค่ไหน ไม่ ชีไม่รู้ชีจะเอาผู้ชาย มีปัญญาเรียนหมอได้ แต่ไม่มีเมตาต่อคนอื่น

ชนกันต์ เป็นแค่ปลายเหตุที่บอกว่าเป็นแสงสุดท้ายก่อนตาย ถ้าหล่อนไม่สิ้นคิดตามไปออกค่าย ไม่ประท้วงด้วยการไม่ขึ้นรถ ไม่ขึ้นรถผู้ชายแปลกหน้า 3 คน จะตายไหมยะ แล้วไง หมอเสืออุตส่าห์สงสารไปร่วมงานศพ สิงเค้าซะงั้น ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางหลุดพ้นหรอกใจยึดติดผูกกรรมไปเรื่อยๆ วันหนึ่งร่างเสือเสื่อมสภาพหล่อนจะโดนกรรมหนัก

เก้า ผิดตั้งแต่ใจดีกะพลอยและยิ่งผิดหนักที่หลงคำยุ แต่ไม่ผิดเท่าพลอยรักเก้า และเก้าจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

หมอเสือ ซวยที่สุดไม่เกี่ยวอะไรกะเค้าเล้ย ต้องมีกาฝากเกาะกิน ปกติกาฝากจะทำให้ต้นที่เกาะตายนะ

หมอธนิส บอกตรงๆ อ่านเรื่องนี้แล้วอยากเป็นจิตแพทย์กันทีเดียว เสียดายเกินวัยมามากโข

ปล.1 ผู้เขียนเป็นแฟนนิยายของภาคินัยไหม คนนี้จบหักมุมอึ้งกันหลายเรื่อง
ปล.2 เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า ยังมีคนอ่านไม่รอบครอบกว่าอิชั้น
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 01-05-2015 21:32:00
รู้สึกผิดปกติตั้งแต่อธิศไปเคาะประตูห้องโรงแรม แล้วหมอเสือก็ตอบกลับแบบแปลกๆ
นี่เราเดาถูกด้วยอ่ะ 5555
คือ แพรพลอยเขารักของเขาขนาดนั้น ไอ้เรื่องจะปล่อยเก้าไปนี่เป็นไปไม่ได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kissings ที่ 02-05-2015 16:16:28
เพิ่งเข้ามาอ่าน  อ่านไปตอนแรกก็น่าติดตามมากๆแล้วค่ะ  เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งนะคะ  ><
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 03-05-2015 16:26:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: baka_bunny ที่ 04-05-2015 10:17:21
เพิ่งมีโอกาสอ่านจนจบ เล่าเรื่องดีมากกกกกเลยค่ะ ไม่มีตรงไหนในเรารู้สึกสะดุดหรือแคลงใจเลยไม่ต่างกับเวลาต่อจิ๊กซอว์ที่เราค่อยประติดประต่อเรื่องจนเห็นภาพในที่สุด เป็นกำลังใจให้นะคะเดี๋ยวจะไปตามอ่านเรื่องอื่นๆต่อ ^_^
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เข่งสะพานปลา ที่ 11-05-2015 20:40:04
แต่ที่ขัดใจก็คงเป็นเรื่องของหมออธิป-ชนกันต์ที่มาลงเอยกันได้แบบงงนะผมว่า
คือมันไปรักกันตอนไหน? มันอาจจะรู้สึกดีๆต่อกัน แต่มันดูไม่น่าเชื่อว่าจะพัฒนาไปถึงขั้นรัก ยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้
อย่างไรก็ดีประทับใจ ตื่นเต้น อ่านสนุกจนแทบลืมหายใจครับ

ขออนุญาตตอบคุณ TONG นะคะ

หมออธิศและชนกันต์ยังไม่รักกันค่ะ เป็นเพียงอาการมีใจที่เริ่มจากความเห็นใจกันก็เท่านั้น
ในช่วงท้ายของเรื่อง สองคนนี้ตัดสินใจเริ่มความสัมพันธ์กันในลักษณะคบหาดูใจค่ะ
เรื่องที่จะรักกันนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไทม์ไลน์ของเรื่องเพียงแค่ 1-2 เดือนเท่านั้นเอง
ถ้าพูดเป็นภาษาวัยรุ่น ก็คงต้องใช้คำว่า เพิ่งเริ่มสปาร์คกันนั่นแหละค่ะ
(ชั่งใจอยู่นานว่าควรมาตอบดีไหม แต่ก็ไม่มีทอล์คให้อธิบายเรื่องนี้แล้ว ขออนุญาตนะคะ :D )


ปล.1 ผู้เขียนเป็นแฟนนิยายของภาคินัยไหม คนนี้จบหักมุมอึ้งกันหลายเรื่อง
ปล.2 เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า ยังมีคนอ่านไม่รอบครอบกว่าอิชั้น

ขออนุญาตตอบคุณ jing_sng ค่ะ

ส่วนตัวไม่ได้ติดตามคุณภาคินัยหรือนิยายสยองขวัญเรื่องไหน ๆ เลยค่ะ
อาศัยเสพจากหนัง แล้วก็เรื่องเล่าในหมู่คนรู้จัก
เพราะเข่งเป็นคนเรื่องมากและไม่ค่อยกลัวค่ะ จึงหานิยายถูกใจยากเหลือเกิน T_T
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 14-05-2015 15:49:01
ชอบอ่ะ หลอนได้ใจ o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: anchoviiz ที่ 17-05-2015 15:51:00
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ
ปกตินี่กลัวผีมากเรื่องนี้ก็ใช้เวลาราว ๆ สี่ห้าวันกว่าจะอ่านจบ
ตอนที่อ่านจบก็รู้สึกใจยังสั่นอยู่เลยค่ะ หลอนจนเหนื่อยไปหมด
แต่บทบรรยายดีมาก ดีจนหยุดอ่านไม่ได้ แทบจะนึกว่าตัวเอง
อยู่ตรงนั้นไปด้วย นี่คงจะหลอนชุดเดรสยาวสีขาว กับสีดำด้านไปสักพักล่ะค่ะ

ขอตินิดนึงคือช่วงเปลี่ยนพาทของตัวละครบางครั้งยังงง ๆ
แต่ไม่ร้ายแรงค่ะ รับได้คำผิดนี่เรียกว่าหาไม่ได้เลย
ปลื้มมาค่ะสำหรับนิยายแนวสยองขวัญเรื่องแรกที่อ่าน
จะรออุดหนุนตอนออกมาเป็นเล่มแล้วก็เรื่องอื่น ๆ ด้วยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 18-05-2015 23:03:43
เป้นเรื่องที่อ่านแล้วมีอะไรให้คิดได้ตลอด สนุก น่าติดตาม เอาไปทำหนังได้เลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 25-05-2015 02:09:24
โอ๊ยแพรลูกหนูไม่ควรยึดติดกับผู้ชายแค่คนเดียวนะคะ :z3:

พี่เสือแกไม่ได้ทำอะไรผิดนะะ

เขียนดีค่ะ ชอบมาก ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 28-05-2015 06:56:17
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ทั้งหลอนทั้งตื่นเต้น ครบรสทุกอย่าง แอบหมั่นไส้คุณผีมาก อ่านแล้วอยากเดินเข้าไปตบ 5555 สำหรับตัวนัทสึเองมองว่า ผู้หญิงคนนี้ถูกกระทำ แต่กลับทำตัวให้น่ารังเกลียดมากกว่าน่าสงสารเห็นใจ  คุณหมอกับคุณเภสัชกรน่ารักมาก อยากให้มีฉากกุ๊กกิ๊กออกมาเป็นตอนพิเศษจังค่ะ ในเรื่องมีน้อยมาก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 06-07-2015 07:12:35
ตอนแรกเราไม่เจ้าใจค่ะ ว่าแราิืมคนเกี่ยวอะไร ผีภปเลยดีไหม ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ เลยคิดว่าตั้งชื่อเรื่องได้ดีมาก ความผิด หรือรู้าึกผิดมันเกาะกินหัวใจ และจิตใต้สำนึก ว่าเราได้กระทำอะไรลงไป ทำอะไรไว้ ก็ได้รับผลตามนั้น คนแบบแพรพลอยน่ากลัวทั้งตอนเป็นคน และตอนเป็นผี  คนหนึ่งคนที่ไม่มีคนนอทคบด้วย เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตเจ้ามาทำดีด้วย ตะโดนยึดติดและเกาะติด เพราะนั้นเป็นเพียงที่พึ่งเดียว บางครั้งการเกาะติดจนเกินไป จนลืมทิ้งช่องว่าง คนคนนั้นก็จะรู้สึกรำคาญ จนอยากที่จะห่างออกไป แต่นั้นแหละ อีกฝ่ายคงไม่ยอม  จนอาจจะต้องเกิดความรุนแรงทางใดก็ทางหนึ่ง พอมานั้งคิดดู เราควรให้ความช่วยเหลือหรอ ความใจดีของเราจะเป็นปัญหาในอนาคต หรือจะอยู่เฉยๆ และปล่อยให้เค้าไม่มีใครต่อไป อย่างนั้นหรอ เรื่องแบบนี้มันยากนะคะ แล้วเราควรทำอย่างไร ?
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: libra82 ที่ 17-07-2015 06:15:18
อ่านเรื่องนี้กลางคืนตลอด 3 คืนเลยค่ะเพราะกลางวันไม่มีเวลา อันที่จริงไม่ได้กลัวแต่คิดว่ามันดราม่ามากกว่า
ยอมรับค่ะว่าไม่เคยอ่านนิยายวายแนวผีแบบผีจริงๆ แบบนี้มาก่อนเลย ต่างจากเรื่องอื่นๆ ไม่ฟิน ไม่หวาน แต่สนุกมากถึงมากที่สุด
ยิ่งอ่านก็ยิ่งลุ้นว่าผีแพรพลอยเป็นใครและต้องการอะไร แต่พอเงื่อนงำต่างๆ ถูกเฉลย กลับไม่ได้รู้สึกสงสารผู้หญิงคนนี้เลย
เพราะหากจะถามถึงสาเหตุที่ทำให้หล่อนกลายเป็นผีอาฆาตเป็นเพราะว่าหล่อนให้ความหวังตัวเองมากเกินไป บางทีการที่ใครคนหนึ่งทำดีกับเราไม่ได้หมายความว่าเขาจะรักเราแบบชู้สาว แต่เพราะหล่อนคิดไปเองแล้วก็เลือกที่จะรักทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ได้รัก เก้าเองก็ผิดที่ทำตามคำยุบ้าๆ ของเพื่อน แต่ความรักของแพรพลอยผิดยิ่งกว่า รักและต้องการจับจองเป็น ตอนเป็นคนว่าโรคจิตแล้วเป็นผียิ่งโรคจิตยิ่งกว่า สรุปคือเกลียดผีแพรพลอยมาก เป็นตัวร้ายที่เกลียดที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา หล่อนไร้เหตุผลและไม่รู้จักคำว่าอภัย
ระบายอารมณ์แล้วก็ขอชมคุณสะพานเข่งปลาบ้างนะคะ ชอบสำนวนการเขียนมากเลยค่ะ ข้อมูลการเขียนก็แน่นมาก ถึงจะไม่รู้เรื่องของหมอเลยแต่ก็เข้าใจ การบรรยายทุกฉากเห็นภาพตามหมดทั้งวิธีการรักษารวมไปถึงการหลอกหลอนของผีแพรพลอย ขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายดีๆ ถึงจะไม่ฟินไม่ได้จบแบบสมหวังแต่เป็นนิยายที่สุดมาก แล้วเป็นเรื่องแรกที่เมนต์ยาวขนาดนี้ ขอบคุณจากใจค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CNBLUE ที่ 17-07-2015 09:36:34
เนื้อเรื่องสนุก น่าสนใจ น่าติดตามมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 29-07-2015 17:39:01
น่ากลัวและซับซ้อนซ่อนปมดี ได้รับบทเรียนสยองกันถ้วนหน้า
ส่วนตัวคาดหวังว่า คุณผีบ้าก็น่าจะต้องโดนด้วย นางก็ทำตัวเองหลายเรื่อง
นางไม่ควรถึงกับต้องตายก็ใช่ น่าสงสารอยู่ แต่นางก็ไม่ควรไปจิกผช.ขนาดนั้นแต่แรก
ถ้าวันที่ถูกทิ้ง พอโทรหารามิลไม่รับ ไม่โทรบอกพ่อบอกแม่ หรือติดต่อตำรวจกู้ภัยกู้ชีพล่ะ (พล็อตคนเขียนเค้าาาา ^^")
กรี๊ดๆๆๆ อินกับคุณผีบ้ามาก นางปัญญาดีเรียนแพทย์ แต่ท่าทางอีคิวนางจะไม่ค่อย พอเป็นผียิ่งหนักเลยทีนี้

ปล. เมื่อคืนอ่านรวดเดียวจนถึงพบศพอะไรเรียบร้อย ก็สบายใจคลี่คลายละ นอนก่อน ชิลๆแล้วคิดว่า
วันนี้เลยมาอ่านที่เหลือต่อ พร้อมกินก๋วยเตี๋ยวเรือไปด้วย ...ไม่น่าเลย ใครจะไปนึก ว่านางยังจะโผล่มาสิง
ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก...โคลน...ริ้วเลือดคล้ำเข้ม...หยดแหมะ . . . แงๆๆๆ

//นิดนึงๆ ตอน 7 ตรงที่เขียนว่า "...ทันทีที่ถอดเสื้อเสร็จคนแก่กว่าก็โถมตัวเองลงมาทั้งที่เข็มขัดยังถอดสุรุ่ยสุร่ายไว้แบบนั้น"
คิดว่าเข็มขัดควรใช้กับคำว่า "รุ่ยร่าย" จะเหมาะกว่าค่ะ สุรุ่ยสุร่ายใช้กับการใช้จ่ายอ่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 10-10-2015 05:30:13
อ่านแล้วลุ้นตามตลอดเรื่องเลย
มองซ้ายที ขวาที แถมประตูอีกรอบ (ผิดเองที่เริ่มอ่านตอนตีสอง)

อยากอ่านเรื่องประมาณนี้อีก แต่เว้นคุณผี ไม่ต้องตามไปเรื่องใหม่ได้ไหม
ไม่ได้กลัวนะ แต่เกรงใจออกทุกเรื่องเดี๋ยวเหนื่อยแย่เลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 13-10-2015 21:50:35
 :sad3: หลอน        ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jjasu ที่ 20-10-2015 14:47:26
โง้ยยยยยย อ่านจบสักที สนุกมากกกกกกก
แต่สงสารพี่เสืออ่ะ โอย อิพลอยผีบ้า  :fire: :m31:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MissM ที่ 20-10-2015 23:14:34
บรรยายได้สุดยอดไปเลยค่ะ อ่านแล้วยังขนลุก o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: สาววายรำพัน ที่ 22-10-2015 17:30:33
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ส่วนตัวชอบแนวนี้อยู่แล้วด้วย
อ่านรวดเดียวจบแบบไม่ทำงานทำการเลยค่าาาา 55555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mymiracle ที่ 01-11-2015 09:26:25
ขอตอนพิเศษได้ไหมคะ อยากเห็นหมออธิศหวานกับกันต์กว่านี้นิดนึง ชอบหมออธิศ หมออบอุ่น อิจฉากันต์และสงสารที่ต้องมารับรู้เรื่องต่อจากนี้ แต่ก็อย่างว่ากรรมใครกรรมมันเราจะไปช่วยเขาก็ไม่ได้ ชอบทุกฉากที่กันต์หลุดไปในมิติหนึ่ง มันทั้งสงสารและอึดอัดไปพร้อมกัน แต่โชคดีที่มีอธิศอยู่ข้างๆเสมอ ภาคพิเศษเถอะคะ พลีสสสสส  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: นาฬิกาทรายดำ ที่ 01-11-2015 12:52:50
น่ากลัวโครต

แต่งได้ดีมากๆๆๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 01-11-2015 15:46:52
จบแบบเรายังไม่เก็ทเท่าไหร่ แต่เราก็ชอบบบบบบบบแนวนี้น่ะ คือนี้เป็นครั้งแรกที่อ่านแนวสยองขวัญแบบนี้ ปกติเราเป็นคนกลัวอะไรแบบนี้มากกกกกกกกกกกกก !! แล้วพออ่าน ฮึ่ยยยยยยย..โคตรน่ากลัวววววววววว บอกตรงๆโคตรหลอนเลยยย :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :z3: :z3: :z3: :z3: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: makiri ที่ 07-11-2015 07:57:15
นิยายสนุกมากเลยนะคะ
เราอ่านเรื่องนี้ตอนห้าทุ่ม อ่านยาวถึงตีสอง ให้อารมณ์สยองขวัญสั่นประสาทอย้างรุนแรง แทบไม่กล้าเหยียดขาตรงๆ ต้องงอขาไว้ มันน่ากลัว แต่หยุดอ่านไม่ได้ ต้องอ่านไปเรื่อยๆ จนง่วงหลับไปเอง
ตอนนี้ยังจำความรู้สึกนั่นได้ หล่อนไปพักนึ่งแน่เลยคะ
ตัวละครถึงตัว มีมิติ ความรู้สึก การคิด การกระทำต่างเฉพาะตัว ทำให้บ้างครั้ง แทบจะอินไปว่าถ้าเป็นตัวละครนั้น เจอแบบนี้ เราจะรู้สึกอย่างไร อย่างแรก คือกลัวแน่นอน มาให้เห็นแบบ HD ขนาดนั้น รูแ รส กลิ่น เสียง ซาวเอ็ฟเฟ็กพร้อม ใครไม่หล่อนให้รู้ไป
เรื่องทุกอย่างดีมาก ดีจริงๆ ลุ้นสนุกน่าติดตามทุกตอน
ส่วนตัวชอบหมออทิศมากคะ เหมือนหมอเป็นจึดศูนย์กลางของเรื่อง เหมือนเป็นที่พักให้ตัวละครทุกตัว ได้คิดถึงปัญหา เป็นผู้ประสานทุกสิ่ง เป็นผู้ที่ คลายปมหลายๆอย่าง มีสติ คิด พิจารณา แม้ว่าตัวเองจะถูกนำพาไปพบกับสิ่งที่ขัดในความเชื่อของตน ก็ไม่คิดหักดิบอย่างทันที แต่กลับ คิดหาเหตุผลของเหตุการต่างๆ ถึงแม้คุณผียังไม่อยากจะจบ ยังตามหล่อนทุกคนแบบนี้ แต่เรากลับเชื่อว่า มีหมออทิศ ทุกอย่างคงไปได้ดี ชอบความหวานๆแบบผู้ใหญ่
ขนาดหล่อนอยู่ เรายะงฟินจิกหมอนจิกพาห่มตอนเค้าจูบกัน >///<
แอบคิดไปไกล อยากจิอ่านนิยายหวานๆ ในบรรยายการบู๊ล้างผลาญในภาษาของคนเขียน เราว่ามันต้องสนุกมากกกกกกกแน่ๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่แต่งมาให้อ่านมากคะ ต่อไปคงจะได้ติดตามนิยายของคุณเรื่องต่อๆไปแน่คะ ประทับใจมาก เป็นนิยายที่เราคงจำ จำว่าพาเอาหล่อนจนคิดฟุ้งซ่านกันที่เดียว
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 30-11-2015 23:33:55
สงสารหมอเสือจริงจังนะเนี่ย เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่โดนเกาะติดไปตลอดเนี่ย
ขอบคุณมากค่าที่แต่งนิยายหลอนๆ แบบนี้มาให้เสพ หลอนจริงจังแต่ก็หยุดอ่านไม่ได้
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 30-12-2015 09:43:09
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้ เราอ่านทั้งคืนเลยอ่านไปหลอนไปเองเข้าห้องน้ำยังระแวงอะ55555 ตอนนี่ง่วงมาก อยากบอคนเขียนว่าสนุกมากกกกก จบแบบให้จินตนาการต่อเองแบบนี้ตือสุดยอด5555 เรายังไม่ค่อยชอบเก้างั้นก็ปล่อยเก้าอยู่กะผีไป แต่สงสารพี่เสืออ่ะ งือออออ แจ่ชอบกันต์กะหใออธิศมากกก อารมณ์อบอุ่นดี สรึปคือชอบมสกเรื่องนี่อ่ะ :mew1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 30-12-2015 13:50:01
ผู้หญิงมักมีความอาฆาตแรง สยองเว้ย! อ่านิยายเรื่องนี้ทีไร อยากให้ การิน(ตัวละครเอกของอีกเรื่อง) มาจัดการชีเหลือเกิณ ของแรงก็ต้องเจอกับของแรง
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 30-12-2015 17:44:54
สนุกมาก แต่ก็หลอนเหมือนกันนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jennyha ที่ 16-01-2016 14:01:42
ชอบมากเลยตอนอ่านแรกๆ นี้ หลอนไม่กล้านั่งอ่านคนเดียวอะ ฮาๆๆ
คือสนุกมาก เรื่องได้แบบบ สุดๆ แต่เอาจิงๆ
เกลี่ยดแพรพลอยมากกก
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lipure ที่ 19-01-2016 01:33:40
อ่านแล้วหลอน ให้ความรู้สึกเหมือน ผีอีแพง(จากละครเรื่องนึง) 

คือมันหลอน ข้ามภพข้ามชาติ ไม่มีคำว่าปล่อยวาง

ผีเรื่องนี้ น่าสงสารน่ะ ในตอนแรกๆ แต่หล่อนแค้นผูกปม กัดไม่ปล่อยเยี่ยงนี้

ถ้าย้อนเวลาได้ ก็คงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับหล่อนอยู่ดี

และการที่หล่อนไปสิงสถิตย์อยู่กับพี่เสือ ก็เป็นการเพิ่มเวรกรรมให้กับตัวเอง

อยากให้พาพี่เสือไปเข้าวัด รับน้ำมนต์ เอาวัดที่ศักสิทธิ์ ขลังๆน่ะ

จะได้ปัดรังควานผีอิแพร สักที บรื๋อ

หลอนจนหยดสุดท้ายจริงๆ

ขอบคุณ คนแต่งมาก ที่ทำให้เราหลอนนนนจนไม่กล้านอน

 :L2: o13


หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jjasu ที่ 30-01-2016 18:53:49
 :mew2: ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nida2020 ที่ 31-01-2016 20:04:43
ขอบอกว่าหลอนมากเรื่องนี้..อ่านคนเดียว..แม่มาเรียก สะดุ้งสุดตัวเลย..ชอบ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 08-02-2016 00:12:29
เป็นนิยายที่ทำให้หลอนมาก และลงตัวมาก ไม่หลุดคอนเซปเลย

มันยังคงวนเวียนไปเลื่อยๆ แพรพลอยก็เป็นกาฝากติดพี่เสือ น้องกันก็ไม่หลุดออกจากวงเวียนนี้ ซักที

สงสารน้องกันมากกก หมอดูเเลดีๆนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 29-02-2016 20:14:17
อ่านแล้วหลอนตามได้จริงๆ :sad3:

แต่ส่วนตัวแล้วชอบการจบแบบนี้นะ ดูเป็นอะไรที่คิดต่อได้ จบแบบไม่ห้วน แต่ก็ยังน่ากลัวตามคอนเซ็ปต์ :ling3:

ขอบคุณมากจ้า
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arakanji ที่ 05-03-2016 22:53:12
อ่านวันเดียวจบ เป็นอะไรที่หลอนมาก55+
ปกติชอบอ่านหนังสือแนวนี้เหมือนกันค่ะ
แม้จะอ่านแล้วก็หลอนนอนไม่ค่อยหลับ^^
เนื้อเรื่อง ภาษาดีสุดๆ เหมือนดูหนังเรื่องนึงเลยค่ะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: heyguy ที่ 31-03-2016 09:28:12
วิ่งมาแปะไว้ก่อนค่ะ พอดีมีเพื่อนแนะนำมา แต่โดยจริตส่วนตัวแล้วนั้นเป็นคนมิค่อยกล้าอ่านเรื่องแนวนี้สักเท่าไร T^T แต่พอคลิปมาอ่านคอมเม้นหน้าสุดท้าย เห้ย ทำไมมีแต่คนบอกสนุก อินมากเลย แบบนี้! ก็อดไม่ได้ที่จะมาจองไว้ก่อน เดี๋ยวต้องไปทำงานให้เสร็จแล้วจะรีบมาอ่าน อยากจะร้องไห้ที่จริงอยากจะอ่านตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่ทำไม่ได้ T _____ T
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 29-05-2016 17:53:40
อ่านวันเดียวจบค่ะ ติดมาก อยากให้มีภาคต่อ  :ling1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 29-05-2016 22:17:38
หลอนอ่ะ รู้สึกคล้ายฮัตเตอร์เลย
จบเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 31-05-2016 15:43:29
สยองขวัญดีเนอะ ..

ตอนปมยังไม่คลายนี่โคตรน่ากลัวเลย แต่พอคลายหมดแล้วมันโล่งมากกว่า

แลดูถ้าอ่านกลางคืนคงหลอนน่าดูชมนะครับ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sincere13 ที่ 01-09-2016 23:13:25
 :ling3: กัววมากกก อ่านไปนี่หวาดกลัวไปหมดดเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 30-09-2016 17:54:04
เพิ่งได้มาตามอ่านค่ะ ชอบเรื้องนี้มากๆๆๆๆ
คุณคนแต่งเก่งมากเลยค่ะ ขนาดเราไม่ใช่คนกลัวผียังมีเสียวสันหลังวาบๆเป็นบางช่วงลยค่ะ^^ ลุ้นตลอดเลยว่าใครจะเป็นฆาตกร
ขอเดาว่าคุณคนเขียนต้องชอบอ่านนิยายฝรั่งแน่ๆเลยใช่ไหมคะ  สำนวนการเขียนเหมือนนิยายแปลเลยค่ะ ชอบบบบ เราไม่ค่อยเห็นสำนวนแบบนี้ในนิยายวายเลยค่ะ หายากมากกกกก แนวเรื่องก็ดีมากค่ะ^^
เราไม่เคยอ่านฟิคชั่นที่แปลงมา แต่ตัวละครที่อ่านในตอนนี้ก็ดีมากๆๆๆๆ ชื่นชอบค่ะ
ดีใจนะคะที่รื่องนี้จะทำเป็นหนังสือ  หลังจากมีอาจมีคนติงเรื่องการแปลงมาจากฟิคก็อย่าคิดมากนะคะ เพราะเขาทำออกมาได้ไม่ดีอย่างคุณคนเขียนหรอกค่ะ
เรื่องนี้สนุกมากและแน่นอนว่ามันเจ๋งในความคิดเรา ทั้งเนื้อเรื่อง กรดำเนินเรื่อง ตัวละครและสำนวน
สู้ๆค่ะ รอหนังสือนะคะ^^
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: แอลเคน ที่ 08-10-2016 23:09:06
จบแล้ววว เรื่องนี้เพื่อนเราแนะนำมาค่ะ เป็นนิยายวายผีๆ แปลกใจนะตอนแรก ไม่คิดว่าจะมีนิยายวายแนวนี้ด้วย แต่พอได้เข้ามาอ่านแล้วแอบหลอนนะ ฮ่าาา เราเดาแทบทั้งเรื่อง พอไรต์เริ่มเปิดปมเราก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น สงสารพลอยนะคะที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แอบเห็นใจกันต์กับเก้านะ แต่ใครทำอะไรก็คงต้องได้รับแบบนั้น สงสารหมอเสือสุดๆ สุดท้ายก็เหมือนโดนวิญญาณพลอยเข้าครอบงำ ทำไมเป็นงี้ไปได้นะ ฮื้อออ ขอบคุณไรต์ที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ให้อ่านนะคะ จะติดตามผลงานเรื่องอื่นๆแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 09-10-2016 15:54:48
หลอน คำเดียวสั้น ๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 10-10-2016 21:55:00
 o13
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Arrun ที่ 14-10-2016 23:23:21
เป็นเรื่องที่สนุกมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบไม่พักเลย 555
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 15-10-2016 19:07:39
นังพลอย นังผีบ้า ไม่ผุดไปเกิดซักทีก็ไม่ได้เหรอ พี่เสือของเรานี่คือโดนสิงไปแล้วเหรอ หรือนางอยากได้ชีวิตเก้าด้วย แต่นักเขียนก็ไม่ได้บอกว่าลิฟท์มันตกหรืออะไร เราก็แอบงงๆ แต่ที่แน่ๆคือสงสารพลอยไม่ลงเลย  :z6: :z6: :z6: ไม่ว่าจะตอนที่มีชีวิตหรือตอนที่นางเป็นผีแล้วก็ตาม เป็นคนนี่ก็เหมือนคนพูดไม่รู้เรื่องแล้วน่ารำคาญด้วย แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ขนาดรู้ว่าเขามีแฟนแล้วก็นะ แล้วอีขึ้นรถกับคนแปลกหน้าก็ด้วย ก็ยอมขึ้นเนอะ  :mew5: 


ถ้าเปรียบเทียบแล้วแพรพลอยก็เหมือนตัวขี้อิจฉาเกรด C ตามนิยายทั่วไปนั่นแหละค่ะ แต่!! นางเป็นผี! ความแอดวานซ์มันเลยเพิ่มขึ้นมหาศาลมากจนกลายเป็นนางร้ายเกรด A++ หนอยยย นี่ถ้านางไม่กลายเป็นผีจะไปเบียดเบียนใครเขาได้กันล่ะ เบียดเบียนคนอื่นทั้งตอนมีชีวิตทั้งตอนตาย โกรธ!  :katai4: :katai4:


อ่านจบแล้วถอนหายใจยาวๆเลย คือเรายังจับจุดจบไม่ได้ว่าคู่พี่เสือกับเก้าตกลงเป็นยังไง เลยรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ขอชมนักเขียนอีกอย่างคือภาษาดีมาก บรรยายละเอียดดี นึกตามละขนคอลุกเลย ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆนะคะ   :man1: :man1:

พูดถึงพระเอก หมอจะใจแข็งเกินไปแล้วนะคะ พูดคุยกับผีด้วย สายแข็งสุดๆ 5555555555555 ส่วนฉากจูบนี่คุณหมอนี่หัวใสจริงๆเลยค่ะ  จูบแล้วได้ยินเสียงหวีดของนางด้วย สงสัยเพราะมีอคติกับชายรักชายตั้งแต่คู่เก้าเสือแน่ๆ สมน้ำหน้านางค่ะ ว๊ายย

เราเริ่มเดาเรื่องของกันต์เหมือนกันว่ามันเกี่ยวกับนางยังไง พอปมเฉลยเราก็เลยรู้ว่านักเขียนบอกเป็นนัยๆมาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่เขียนแบบคนพูดลอยๆให้เรารู้สึกเด๋อไม่รู้ตัวเหมือนน้องกันต์ เราชอบนะ วางโครงเรื่องมาอย่างดีเลย  :katai2-1: :katai2-1:

เป็นกำลังใจให้มีเรื่องต่อๆไปค่ะ  :man1:



ปล.เราฟอลทวิตคนเขียนมานานแล้วค่ะ เพราะเป็นติ่งเหมือนกัน แต่เราเป็นคนติดนิยายวายมากกว่าแฟนฟิคเลยไม่ได้ตามแฟนฟิคของคุณเลย แต่เรารู้สึกคุ้นๆเพราะเราเคยดูงานตัดต่องานเขียนของคุณในยูทูปมาแล้วก่อนหน้าแล้ว พอเราจะหาแบบแฟนฟิคอ่านก็ไม่เจอแล้ว คือเราไม่คุ้นนามปากกาของคุณในนี้เลย เลยจะหาดูนามปากกวาในแฟนฟิค
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: minyjae ที่ 19-10-2016 09:51:52
เพิ่งไปสอยหนังสือมา สนุกมาก เขียนดีมากจริงๆ
มีความหลอนระดับสิบ (วางที่คั่นหนังสือลายหน้าหมออธิศไว้ข้างๆ มองไปฟินไป)
ถึงจะหลอนแต่ก็มีความวายด้วย ฟินไปอีก
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PKrabKrab ที่ 26-10-2016 18:33:03
ดีงามมมมม อ่านจบปุ้บกดสั่งนิยายร้านนายอินทร์เเทบไม่ทัน จะติดตามทุกเรื่องเลยนะ ส่วนตัวเเล้วชอบเรื่องเกี่ยวกับหมออยู่เเล้วด้วย :pig4:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Rebtur ที่ 06-11-2016 13:21:37
ตายละ คนเขียนบอกจบคนละแบบแบบนี้ควรทำยังไงดีคะ!
ตอนแรกเราก็คิดว่าจะมาลองอ่านประกอบการตัดสินใจไปซื้อหนังสือสักนิด
ผลปรากฏว่า.... ติดค่ะ! ติดงอมแงมเลย ถึงกับอ่านจนจบ 5555555555
แต่สัญญาว่าจะไปซื้อหนังสือมาแน่นอนค่ะ เพราะคนเขียนบอกมาซะขนาดนี้แล้ว โฮะๆๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zerobasa ที่ 16-12-2016 16:29:59
เรื่องนี้ถือว่าสุดยอดมากที่สุดเท่าที่อ่านมาเลย
ทำให้ติดตาม ทำให้หลอน แล้วทำให้กลัวไฟดับด้วย55
สนุกมากค่ะ อยากให้มีต่ออีก  มันยังคาใจ
ถึงจะเฉลยทุกอย่างหมดแล้ว
แต่แค่อยากรู้ถึงสุดท้ายของพลอยว่าจะไปเมื่อไหร่ เหอๆๆ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Map ที่ 14-07-2017 19:19:58
ขอบคุณคุณเข่งมากเลยนะคะที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา
เราชอบมากค่ะทั้งภาษาการบรรยาย การดำเนินเรื่อง เป็นแนวที่เราชอบมากแทรกข้อคิดได้หลายๆอย่างในเรื่องราว
อ่านแล้วรู้สึกขนลุกวางไม่ลงจริงๆค่ะ อ่านยาวเลยจนจบ จบได้อย่างเอาไปคิดต่อ ทำให้รู้สึกว่าตัวละครยังมีชีวิตอยู่แม้ในตอนนี้ก็ตาม จะติดตามและอุดหนุนผลงานต่อไปนะคะ  :o8: :bye2:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 09-02-2018 05:09:29
เข้ามาส่อง ขอเม้นไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวอ่านแล้วมาแก้ไข ประเด็นเรารอให้มันสายกว่านี้ก่อน กลัวปี๋ อิอิ


***คอมเม้นนนนนน***

สุดท้ายแล้วเริ่มอ่านตอนตี3.... อ่านมาได้สามสี่บท แต่ยังไม่ทราบ

ชื่อเล่นพระนายเลยหรือเราอ่านไม่ละเอียดว่า แต่คู่รองนี่ยังไงนะ

เหมือนจะม่ามะ แล้วจะเกี่ยวกับตัวเอกยังไงน้า

แต่อื่นใดคุณหมออธิศคะ คุณกำลังเจอดีค่ะ  :laugh: รู้สึกสมน้ำหน้า

มีความสะใจ ว่าแต่ชนกันต์ดีนัก หึหึ เจอเข้าแล้วแต่ยังไม่รู้ตัว

สนุกดีค่ะ อ่านไป หลอนไป เสียวที่หูแว้บๆ ฮือ ผญคนนั้นเป็นใคร

เจอกับชนกันต์ตอนไหน โดนฆาตกรรมหรอ หรือมาเสียที่ร.พ.
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 03 』 | horror thriller (22-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 03:58:45
โอ๊ะ ไม่ใช่แค่หมออธิศกับชนกันต์สะแล้วสิ หมอศรัณย์นี่น่าจะเกี่ยว

มากกว่าเพื่อนนะ รามิลเป็นอะไรกับแพรพลอย? นิลคงไม่มีเอี่ยว

ด้วยใช่มะ ใครกันนะ แต่สำหรับเราเหมือนจะพุ่งไปที่หมอศรัณย์

หรือว่าทั้งหมดจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องแพรพลอย แค่เธอมาขอ

ความช่วยเหลือแค่นั้น o8(ไม่ใช่อะไรไปส่องตอนจบมานิดหน่อย )
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 05 』 | horror thriller (24-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 04:24:24
คุณหมออออออ เจอขนาดนี้เมื่อไรจะเชื่อคะ  :katai1:

โอย ดิฉันปวดหัวแทนเลยข่าาา ปมนี่มันคืออะไร

หมอศรัณย์กับรามิลเกี่ยวกับแพนพลอยมากๆเลยใช่ไหม

ป.ล. เราจะมองข้ามฉากจุ๊บกันไปข่า มันไม่พีคสำหรับเราแล้ว

ที่พีคมากๆ คือที่คุณหมออธิศได้เห็นและได้สัมผัสค่า  :a6:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 07 』 | horror thriller (27-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 05:08:01
แพรพลอยคงไม่ใช่ผญคนนั้นที่หมอศรัณย์บอกว่าตัวเองทำคนไข้ตาย

แต่ที่ชัวร์คือรามิลมีความสัมพันธ์อะไรสักอย่างกับแพรพรรณ

อ่านไปคิดตามไป หลอนไปแล้วสุดท้ายก็ปวดหัวตามไปอีก :hao5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 08 』 | horror thriller (28-02-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 05:29:34
อยากจะบอกว่า.... อือ อ่านตอนนี้ไป ขนงุกไปจนจบตอนเลยค่ะ

อมกก หลอนมาก รามิล! รู้เห็นในการหายตัวไปของพลอยใช่ไหม

ดีไม่ดีอาจฆ่าพลอยด้วยตัวเอง แล้วเหมือนปมกำลังเริ่มคลาย

หมออธิศจำพลอยได้ ชนกันต์เหมือนจะนึกอะไรออก

หมอศรัณย์ยังไม่รู้ว่ายังไง แต่หนึ่งคือเกี่ยวแน่ตรงเป็นแฟนรามิล

สองอาจเป็นตรงที่ตอนช่วยชีวิตผญที่น้ำท่วมปอดคนนั้น

แล้วที่พลอยบอกว่ารามิลง่ายนี่คงเกี่ยวกับหมอศรัณย์หรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 10 』 | horror thriller (04-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 06:19:23
.........  :sad3: สรุปกันต์ชนพลอยแล้วไม่ได้ช่วย?


งง พลอยรอดมาจากรามิลได้แล้วมาตายเพราะถูกชน?

โอ๊ย ปมหนอปม
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 11 』 | horror thriller (09-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 06:43:25
เหยยยยยย อย่าบอกนะว่าหมอศรัณย์รถชนเพราะรับโทรศัพท์ :sad5:

แล้วสรุปรามิลฆ่าแพรพลอยจริงๆถูกมะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 12 』 | horror thriller (11-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 07:09:40
ว่าแล้ว ว่าโอ๊ตต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้  :z3: แต่รามิลไม่ได้ฆ่าพลอย

จริงๆหรอ โอ๊ตหรอทำหรือว่าเป็นพวกขี้ยาแถวนั้น ส่วนเรื่องท้อง

ท้องกับพวกโอ๊ตหรือเปล่า วันนั้นไม่มีทางที่พวกนั้นจะไม่ทำอะไรเลย
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 07:38:35
เอิ่ม..... สรุปแล้วแพรพลอยไม่ไดท้อง... :z3:  ไม่เบาทีเดียว


สำหรับเธอ ส่วนเก้า เราสงสารนะ แต่เก้าก็ผิด ส่วนโอ๊ตเราขอโทษ

ที่มองนายผิด ก็นายดูร้ายๆว่าเก้างั้นงี้อ่ะ และก็หมอศรัณย์ เห้อม

ก็ไม่รู้นะ ถ้าเป็นเราก็ไม่รู้จะเลือกทางไหน จะอีกทางหรือแบบเดียว

กับหมอศรัณย์ แต่ในใจก็แอบอยากให้หมอกลับไปเคลียร์ให้รู้เรื่อง

กลับไปบอกเก้า ว่าอย่างน้อยๆก็เป็นงั้นงี้แต่มีความรู้สึกแบบนี้อยู่นะ

ให้เก้ารู้ว่าอย่างน้อยก็ไม่ถือว่าอยู่คนเดียวตลอด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ 14 』 | horror thriller (15-03-15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 07:54:14
โว้ยยยย นังผี!  :z6: หล่อนจะเอายังไงอีก

จะไม่ยอมปล่อยเลยใช่ไหม จะเอาให้ตายตกไปกับหล่อาเลยหรือ

ปวดจิตจริงๆ อีกตอนเดียวจะจบแล้วหล่อนยังมารังควานอีก

ปวดหัวเพราะผีนี่ตัวเดียวเลย ถ้าตกลงไม่ได้ก็เอาไปทั้งคู่เลยไป๊

หลอกหลอนเขาอยู่นั่นแหละ เขาจะบ้ากันเพราะหล่อนอยู่แล้ว

เขาก็รักกันมาของเขาดีๆ อดมาคิดไม่ได้ว่าเก้าไม่น่าไปคุยด้วยเลย

ไม่น่าไปยุ่งด้วยจริงๆ มีแต่เรื่องเข้ามาเลยทีนี้ :m31:  :m16:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-02-2018 08:04:40
เดี๊ยววววงววง  :katai1:  :z3:  :ling1: ฮืออออออิ


เราอยากร้องไห้ อยากตะโกนดังๆ ฮืออออออออ


ไม่น่าเลย ปรสิต ไม่น่าเลยยยย  ชื่อมันก็บอกอยู่ ม่ายย


ทึ้งหัวตัวเอง ฮืออ ไปต่อไม่ถูก เหมือนๆกำลังเดินอยู่แล้วแบบ

มีอะไรมาชนตู๊มมมม แบบ งง เอ๋อไปหมด  :dont2: :freeze:


สุดท้าย... ขอบคุณมากค่ะ แต่งดีมากไ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: loocbomb ที่ 25-02-2018 00:57:18
อ่านตอนนั่งขี้แล้วขี้ไม่ออกเลย :mew5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mpalism31 ที่ 25-03-2018 04:43:37
อมกกกกกก  ในที่สุดก็อ่านจบกัวก็กัว  :jul1:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 16-05-2018 21:17:02
ยัยแพรพลอย ทำไมไม่ปลงบ้าง !!!! :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 31-05-2018 22:38:54
 :a5:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 29-08-2018 04:21:49
จบได้เด็ดขาดจริงๆ

ยังกับ classic literature สักเล่มเลย อันนี้สมมตินะ ถ้าตอนจบไม่มีเอฟเฟ็กน้ำนองเป็นทางกับเสียงสองของพลอย (ฮา) หมายถึงว่า สมมติตอนจบพลอยไปสู่สุขคติแล้ว ไม่มีผีพลอยตามหลอกหลอนแล้ว ตอนจบแบบนี้ก็ยัง reasonable สำหรับเรานะ เพราะหมอเสือจะไม่มีทางเป็นคนเดิมอีกต่อไป เราไม่แปลกใจเลยถ้าหมอเสือจะรับเอาตัวตนบางส่วนของพลอยมาแบกไว้กับตัว เพราะดูเป็นคนที่มีกรอบศีลธรรมชัดเจนไม่ยืดหยุ่น อะไรมากระทบทีนึงคงเอฟเฟ็กต์ตัวเขามากๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nittanid33333 ที่ 17-11-2018 03:33:12
ดิ่งยาวรวดเดียว จบตอนตีสามครึ่ง หัวใจวาย พ่อแก้วแม่แก้วกลัว จนตาสว่าง ไม่กล้านอนเลย ง่าาาาาา
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sevenny ที่ 25-11-2018 13:35:27
จบแบบหลอนค่อดๆ เราหลอนทั้งเรื่องเลยค่ะ จนตอนนี้ก็หลอนอยู่ ไม่เคยอ่านนิยายที่ดูจะหลอนขนาดนี้มาก่อนอ่ะ เเล้วเสือจะยังมีชีวิตอยู่ไหมอ่ะ ถ้าพลอยมาเเบบนี้ :ling3: :ling3: :ling3: :hao7:
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 04-12-2018 20:06:43
อ่านจบแล้ว สนุกมากเลยอ่ะเหมือนดูหนังสยองขวัญเลย เพราะส่วนใหญ่มันจะเหมือนปมจะคลายแต่มันก็ยังคาอยู่ สนุกมากๆ สงสารชนกันต์ รู้สึกจะโดนเยอะกว่าคนอื่นเลย
ปล.หมอศรันย์โดนเข้าสิงตอนไหนอ่ะ?? 55555 แล้วจะมีภาคต่อมั้งมั้ยค่าาาา
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Paweesudaeve ที่ 08-02-2019 13:57:15
ตอนจบทำให้เราช็อคมากกกกกก แบบห้ะแรงมาก ยอมรับเลยว่าแต่งดีมากกทั้งภาษา ตัวละคร การเรียบเรียงเหมือนกับการดูหนังเรื่องนึงที่ตอนจบหักมุม แล้วมันโอเคมากเลยที่จบแบบนี้ เป็นกำลังใ้ห้นักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ss.suttida ที่ 09-02-2019 13:40:52
เดาส่า รามิลจิ๊จ๊ะกับพลอย พลอยรักแต่รามิลเลิกเพราะทีศรัณย์แล้ว วันเลิกสัมพันธ์​ชนกันก็ขับชนเลยโดนตามติด แต่เพราะอธิปยื่นมือมาเลยเห็นผีไปด้วย   เดาล้วนๆ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 10-02-2019 14:49:20
อ่านแล้วติดมากๆค่ะ อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ
สงสารพลอยนะ แต่สงสารเก้าและทุกคนที่บังเอิญมาเกี่ยวมากกว่า
เป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยวางเลย โห~ดูซิ เผาแล้วยังไม่ยอมไปอีก

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
การเดินเรื่องและภาษาที่ใช้เริ่ดค่ะ

บวกจ้า^^
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: poyhoney ที่ 10-02-2019 15:20:16
และคนที่ร้ายที่สุดก็คือแพรพลอยนั่นแหล่ะ
ทำไมไม่ไปวัดกันนะ
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: HISOKA ที่ 05-05-2019 11:55:15
อ่านจบตอนตี 5 แล้วนอน

เก็บเอาไปฝันว่าตัวเองคือแพรพลอย แทบจะทุกฉากที่นักเขียนแต่งมา โดนเพื่อนแอนตี้ ตัวคนเดียว ไม่มีที่พึ่ง ถูกลากไปข่มขืนดีที่สะดุ้งตื่นก่อน คือมันแย่มากอ่ะ ถึงจะเป็นแค่ฝันแต่ความรู้สึกในฝันคืออยากตายไปให้พ้นๆมาก ทำไมต้องเป็นเราที่โดนทำแบบนี้ โลกไม่ยุติธรรม

ตอนแรกที่อ่านอาจจะคิดว่าอิผีนี่ทำเกินไป ผีก็อยู่ส่วนผีสิ ตายแล้วจะมางอแงอะไร พอได้มาอยู่ในมุมของผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวอย่างงี้ เป็นเราคงไม่ยอมให้จบแค่นี้แน่

อินมาก เก็บไปฝันเหมือนจริงมาก คิดว่าเป็นความจริงเลย ความรู้สึกตอนโดนใครไม่รู้ลากไปจะข่มขืนนี่แบบ ไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน สงสารแพรพลอย นักเขียนแต่งดีมากจริงๆ ที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ผีในเรื่องนี้หรอก
ใจคนนั่นแหละน่ากลัวที่สุด
หัวข้อ: Re: 『 ปรสิต ☤ บทส่งท้าย 』 | horror thriller (17-03-15) | จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nonocong ที่ 26-05-2021 10:27:28
ยอมรับเลยว่าเป็นคนไม่ชอบอ่านแนวสยองขวัญเพราะกลัวมาก ๆ แต่เรื่องนี้อ่านแล้วพลิ้วไหวตามอารมณ์มาก ๆ เลย ขอคารวะนักเขียน เขียนได้จรรโลงมาก ๆ  :pig4:  :mew1: