พิมพ์หน้านี้ - ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: mukmaoY ที่ 16-09-2015 20:57:01

หัวข้อ: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-09-2015 20:57:01
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


***************************************
(http://24.media.tumblr.com/tumblr_m6pbc1xnlC1qfvtamo1_400.gif)
genre: Drama
สวัสดีค่ะ  เปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว
แต่เรื่องนี้บรรจงแต่ง  โดยได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง 500 days of summer
ดังนั้นการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้จะไม่เรียงตามวันที่

ขอให้คนอ่านสนุกกับเรื่องนี้ค่ะ



ปล. กันการงง
ตัวอักษรสีน้ำเงินคือปัจจุบัน
จุดไข่ปลา..................... คือจบเหตุการณ์เวลานั้น
เนื้อเรื่องไม่ต่อกันหลังจุดนะคะ

▼สารบัญนิยายข้าพเจ้า►

•••เรื่องสั้นตอนเดียวจบ (แนวหน่วงๆ)

►แฟนดารา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45749.0)
-มีแฟนเป็นดาราต้องอดทน-
►หนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45751.0)
-เมื่อแฟนต้องแต่งงาน-
►ของตาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45890.0)
-ของตาย ใครเขาจะมองเห็น-
►It’s You (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45750.0)
-เมื่อนายกลับมา-
►เพราะอะไรmpreg (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47360.0)
-ทำไมผมต้องท้อง  ทำไมเขาไม่เคยฟัง-
►เหนื่อยไหม? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47457.0)
-เหนื่อยไหม  กับสิ่งที่เธอทำอยู่?-
►We Were Born to Die (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47515.0)
-เรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่ง ตั้งแต่วันแรก  จนถึงวันสุดท้าย-
► Two Pieces  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54909.0)
-คนสองคนเปรียบกับชิ้นส่วนสองชิ้น-

•••เรื่องยาว

☺เรื่องของหนู หม่าม้า และปะป๊า☺ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45194.0)
-หนูไม่อยากให้ป๊าม้าทะเลาะกันเลย- จบแล้ว
 แฟนในปกครอง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48600.0)
-ความสัมพันธ์ของเรา  ควรเรียกว่าอะไร....-
-จบแล้ว-

 คนนิสัยเสีย  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48822.0)
-นทีจะทำอย่างไรเมื่อแฟนที่เคยทิ้งต้องกลายเป็นคนพิการ-
-จบแล้ว-





หัวข้อ: Re: คนนิสัยเสีย คนนิสัยไม่ดี คนนิสัยอะไร? *บทนำ*
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-09-2015 20:58:05
Intro

"นั่งอยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวแม่มา"
อ้ายพยักหน้ารับทราบคำสั่งของแม่
อมยิ้มให้ตัวเอง พลางคิดว่านี่เรายังเด็กอยู่หรือ
อืม...ก็แค่อายุยี่สิบสอง คนปกติไม่น่าจะเรียกว่าเด็กแล้ว

อ้ายผินหน้ามองผู้คนนอกกระจกร้านกาแฟเจ้าประจำ
เท่าที่อยากจำได้ ..ก็น่าจะสองปีแล้วที่คุณแม่ผู้ดี คนดังในแวดวงไฮโซพามานั่งทุกเช้า...ของทุกวัน

อ้ายรู้ว่าคุณแม่คิดอะไรอยู่
แต่อ้ายก็ไม่บอกใครหรอกนะว่าการที่อ้ายยอมมานั่งที่เดิมซ้ำๆ มันทำให้อ้ายเบื่อขนาดไหน
เอาจริงอ้ายก็มีความสุขอยู่บ้างแหละ...แค่นิดเดียวเท่านั้น
มันน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย เกินกว่าที่คุณแม่ดรุณีคาดเดาเอาไว้เสียอีก


สองปีมานี้ อ้ายเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่าตนรู้จักตัวเองดี
แต่ถ้าอ้ายลองสังเกตสิ่งรอบข้างสักหน่อย อ้ายก็จะเห็นว่าตัวเองมีนิสัยขูดเล็บกับโต๊ะ
ขูดเสียจนโต๊ะเป็นรอย แหงล่ะ ขูดจนเล็บฉีกก็ยังไม่รู้ตัว

อีกเรื่องคืออ้ายขี้เหม่อ
เหม่อจนไม่รู้จะเหม่ออย่างไร
เหม่อจนคุณแม่อ่อนอกอ่อนใจว่าลูกฉันคงกู่ไม่กลับ
แต่ถึงอย่างนั้น แม่ก็ไม่เคยว่าอะไรอ้ายเลย ไม่แม้แต่จะพาอ้ายไปพบจิตแพทย์ หรือชวนอ้ายเปิดใจสักหน่อยก็ยังดี


"มาแล้วอ้าย ...นี่ลูกไม่แตะกาแฟอีกแล้ว"
คุณหญิงดรุณีตีแขนอ้ายเบาๆเป็นเชิงไม่ใคร่ชอบใจกับสิ่งที่เขาทำ

อ้ายหัวเราะในใจ พูดกับตัวเองว่าใครจะกินลง กาแฟรสขมปี๋ขนาดนี้
คนที่กินได้ก็คงมีแต่ไอ้สวะที่มันกำลังเดินชิลอยู่เยอรมันล่ะมั้งตอนนี้

อ้ายยิ้มให้แม่ ส่ายหน้าเบาๆบอกแม่ว่าไม่หิว
แม่ไม่ได้พูดอะไรต่อ คุณหญิงวัยห้าสิบยกกาแฟของตนขึ้นดื่ม เปิดนิตยสารดารารายเดือนอันไร้สาระขึ้นอ่าน

อ้ายหันกลับไปมองข้างนอกต่อ
...อ้ายไม่ได้หวังหรอกนะว่าไอ้เวรนั่นจะเดินผ่านมา
เขาก็แค่มอง
มองไปเรื่อยๆก็เท่านั้น

...แต่ไอ้ชั่วมันก็แว่บออกมาพอดี อย่างกับวิญญาณตามหลอกหลอน
อ้ายเสหน้ากลับมาหาแม่
เมื่อคืนคงนอนดึกไป...ไม่สิ ยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก
อ้ายไม่ได้เป็นอะไร เขาก็แค่นอนไม่หลับเท่านั้นเอง
แม้อาการนี้จะเป็นบ่อยครั้งแล้วก็ตาม


กึก
กึก
กึก

เสียงก้าวอันมั่นคง แต่มันเสนียดหูผู้ดีอย่างอ้ายเหลือเกิน
อ้ายสะบัดหัวสองสามที คิดว่าตัวเองหลับใน

"อ้าย.."
คุณแม่ผู้ดีตีโป่งจับมืออ้ายที่เล็บใกล้จะฉีกเต็มทีให้หยุด
อ้ายเปลี่ยนมากัดปาก
น้ำตาคลอเบ้า
ตัวสั่น




"อ้าย...




ทีกลับมาแล้วนะ"
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-09-2015 22:53:06
ตอน1

วันนี้อ้ายดีใจที่สุด!!!
ความพยายามของเด็กตัวเล็กๆคนนึงเห็นผลเข้าจนได้
อ้ายเก็บเอาผลประกาศติดมหาลัยไปบอกแม่  บอกแม่นม  บอกพี่ชาย

และไม่ลืมคนสำคัญอย่างนที คนรักที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ...ต้องใช้คำนี้ล่ะนะ
เพราะกว่าอ้ายจะผ่านด่านรด.แต่ละด่าน ก็ทำเอาเลือดตาแทบกระเด็น
ถ้าไม่ได้แฟนสุดรักสุดหลงอย่างนทีล่ะก็ อ้ายตายแน่ๆ ซี้แหงแก๋เลยทีเดียว

"ที~อ้ายติด¥¥ภาคอินเตอร์แล้ว!!"
อ้ายกระโดดเหย็งๆไปมา ทำเหมือนว่าทีจะเห็น แต่ทีจะไปเห็นได้อย่างไร ในเมื่อพูดกันทางโทรศัพท์

ทีรู้นะว่าอ้ายดีใจแค่ไหน แต่ทีคงดีใจมากกว่านี้ถ้าทีติดที่เดียวกับอ้าย
ทีหัวเราะหึๆในสาย แสร้งตื่นเต้นเอาใจเสียหน่อย

อ้ายจับความผิดปกติได้
อ้ายรู้จักคนชื่อนทีดี

"ทีติดที่ไหน?"

"คนละที่แหละ แต่ไม่ต้องห่วงนะ จะไปหาทุกวันเลย"
ทีพูดปลอบใจตัวเองและแฟน
อ้ายรู้ดีว่าทีเป็นคนอย่างไร พอๆกับที่นทีรู้ดีว่าชีวิตในรั้วมหาลัยเป็นอย่างไรนั่นแหละ

ทีรักอ้าย
รักมาก
รักมาตลอด
แต่ทีไม่ใช่คนยึดรักเป็นที่ตั้ง
การเรียนสำคัญกับทีมากกว่า


..............



"ทำไมล่ะลูก?"
เป็นคำถามที่อ้ายไม่ต้องการตอบ
คนตัวเล็กเลือกที่จะหมุนล้อด้วยตัวเอง

อ้ายเพิ่งเริ่มใช้เจ้าสิ่งนี้จึงยังไม่ถนัดนัก
แต่อ้ายไม่ชอบง้อใคร
อ้ายเกลียดการพึ่งพาอาศัยเป็นที่สุด
คนเราเกิดมาคนเดียว ก็ตายคนเดียว
อยู่คนเดียวไปสิ ไม่เห็นเป็นไร

อ้ายอยู่ได้
อ้ายบอกตัวเองอย่างนั้น ขณะที่จ้องหน้าอันเลืองลางของตัวเองในสระน้ำหลังบ้าน
หยดน้ำหยดลงเป็นวงกว้าง
ชั่วขณะแรก อ้ายคิดว่าฝนตก ...แต่ไม่ใช่
หยดน้ำนั้นมาจากดวงตาอันเจ็บปวดของเขาเอง

อ้ายสูดหายใจลึก ไล่ความร้อนรุ่มในอกออกไป

...ป่านนี้ไอ้เหี้_นั่นคงมีความสุขกับชีวิตใหม่
อ้อ!...อ้ายก็มีชีวิตใหม่เหมือนกัน
แต่มันไม่ได้เรียกว่าความสุขเลยสักนิด!


……………………….

“อ้าย....ทีกลับมาแล้ว”
หึ!  อ้ายแค่นหัวเราะ
มันไม่ใช่ภาพหลอนที่สมองของอ้ายสร้างมาหลอกกันเหมือนทุกวัน
แต่นี่คือความจริงที่อ้ายไม่อยากรับรู้

อ้ายจึงทำเป็นไม่ได้ยินเสีย
ง่าย...ง่ายจะตาย
แค่ก็ไม่ต้องได้ยิน  ก็แค่ไม่ต้องพูด
ใครกันน้าที่บอกว่าอ้ายไม่พูดยังจะดีกว่า
ดูซิว่าคราวนี้เขาทำตามแล้ว
มันจะยังว่าอ้ายอีกไหม

“ทีขอโทษ....”
ไอ้คนกลับกลอกจับมืออ้ายไปกุม   มันลูบไล้เล็บเน่าๆของอ้ายไปมา
อ้ายไม่ปล่อยให้มันลูบได้นานหรอก  เขาปัดมือสวยนั่นทิ้ง
มันสวยเกินไป  อ้ายอิจฉา
มืออันหยาบกร้านของอ้ายไม่มีค่าพอเทียบเท่ากับมันหรอก
มันจับอ้าย มันก็โดนเสนียด  อ้ายโดนมัน  อ้ายก็โดนเสนียดเหมือนกัน

อ้ายหมุนล้อเลื่อนออกจากร้านโดยไม่สนใจแม่และคนในอดีต
เขาถือว่าไม่รู้จักมักจี่ด้วย

อ้ายได้ยินเสียงแม่เดินตามหลังมา
คุณนายดรุณีคว้าแขนอ้ายเอาไว้
“ไม่ดีใจเหรอลูก?”

อ้ายหลับตา  สูดหายใจแล้วส่ายหน้าช้าๆ
“แม่นึกว่าหนูจะดีใจ...”
อ้ายส่ายหน้าอีก  พร้อมรับสมุดโน้ตมาจากแม่
อ้ายเขียนข้อความลงไป
*บอกให้เขากลับไป  อ้ายไม่สนใจเขาอีกแล้ว*

“ถ้าไม่สนใจ  แล้วอ้ายจะเดินหนีมาทำไมลูก”
หึๆ  อ้ายขำ
เขา ‘หมุนล้อ’ หนีมาต่างหาก
มันแทบไม่ต้องวิ่งตามด้วยซ้ำ  มันก็มาหยุดตรงหน้านี่แล้ว
แม่ดรุณีหันไปคุยกับมัน  บอกให้มันกลับไปก่อน

แต่ไอ้เศษมนุษย์กลับทำพยศ  ไม่ยอมกลับไป
ตอนนั้นไล่อย่างกับหมูกับหมา
มาตอนนี้เสือกอยากดูแล
ฮ่าๆ  น่าขำ  ถ้าอ้ายส่งเสียงได้  คนรอบข้างคงหันมามองว่าไอ้นี่บ้าแน่ๆ  ฮ่าๆๆ

“อ้าย  ทีกลับมาแล้วไง  ทีขอโทษจริงๆ”

อ้ายหันหน้าหนี  เหม็นน้ำลายคนสับปลับ
“ทีจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง  ฟังทีก่อนนะ”

ไม่!
อ้ายตวาดลั่นในใจ
อ้ายอดทน
อดทนที่จะลืมมาตั้งสองปี

อ้ายกำลังทำได้แล้ว
เขากำลังทำได้!!

แล้วมันกลับมาทำไม!

ให้ตาย....ก็ไม่ให้อภัยคนอย่างมัน


..........

แต่ละตอนก็สั้นหน่อยนะคะ
เหตุการณ์ปัจจุบันจะเป็นสีน้ำเงินนะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: F A I R Y L O S T ที่ 16-09-2015 23:10:47
ที ทำอะไรกับหนูอ้ายไว้!! :katai1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 17-09-2015 00:27:14
ชอบอ้าย o13

รู้สึกใช่!
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 17-09-2015 06:56:00
เริ่มปุ๊บก็หน่วงปั๊บเลย
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-09-2015 08:58:27
อ้ายทั้งพูดไม่ได้กับพิการหรือ?? ถาวรไหมคะเนี่ย?

ตามตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 17-09-2015 09:01:31
ตามอ่านเรื่องนี้แทนดีกว่า  ชอบๆ  :hao6:  :hao7:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-09-2015 20:12:31
เกิดอะไรขึ้นเมื่อสองปีก่อนกันนะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *บทนำ*+ตอน1
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-09-2015 21:10:46


อ้ายเกลียดโรงพยาบาล
และเกลียดทุกลมหายใจเข้าออก

อ้ายไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้
สภาพที่ต้องมาโดนตรวจทั่วร่าง ราวกับว่าเขาเป็นผักปลา
จะจับหันซ้ายหันขวาก็ทำโดยง่าย

หมอนวดขาอ้าย แต่อ้ายไม่รู้นะว่าแรงกดมหาศาลแค่ไหน
ก็ประสาทขามันตายด้านไปแล้วน่ะสิ ถึงจะรู้สึกจี๊ดๆขึ้นมาบ้างก็เถอะ
ฮะๆ อ้ายยิ้มให้หมอ แสดงความยินดีให้กับหมอเฮ็งซวยที่รักษาเขาไม่ได้สักที

"คุณอ้ายไม่ยอมปฏิบัติตามที่หมอบอกเลยนะครับ"
ทำเป็นรู้ดี!
อ้ายยังคงยิ้มหน้าซื่อ แม้ในใจอยากจะออกจากที่นี่เต็มแก่

"อ้ายฟังหมอเขาหน่อยสิลูก"
จะต้องฟังอะไร!?
อ้ายไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องเดิน
อ้ายควรเดินได้ไปเพื่ออะไร??
ข้างหน้านั่นมีใครรอรับอ้ายเหรอ....?

ไม่มี!
มันไม่มีหรอกคนที่รอเรา
อ้ายไม่ใช่คนหมดหวังร่ำไร
อ้ายก็แค่....ไม่เห็นความหมายของการมีชีวิต


"หมอยืนยันนะครับว่าถ้าคุณอ้ายตั้งใจทำกายภาพบำบัด  ภายในหนึ่งปี คุณอ้ายเดินได้แน่นอน...เอาเป็นว่าหมอจะส่งนักกายภาพคนใหม่ไปนะครับ หวังว่าคนนี้จะถูกใจคุณอ้าย"
หมอถอนหายใจก่อนตรวจเช็คเอกสารตามประสาหมอ
คุณนายดรุณีรุนอ้ายออกมาจากห้อง
เธอไม่อาจทนเห็นสายตาที่มองมายังเธอและลูกได้
ใช่ว่าคุณนายอายที่มีลูกพิการ
แต่เธอสงสารลูกตัวเองต่างหาก
อ้ายผอมอย่างกับศพตายซาก
อ้ายกินข้าวเพียงวันละมื้อ ผิวหนังแห้งกร้าน ดวงตาลึกโหล
ดูก็รู้...ว่าอ้ายร้องไห้ทุกคืน

เธอและลูกมาจากตระกูลเก่าแก่ เป็นที่รู้จักในแวดวงไฮโซ
ข่าวลือนี้ย่อมแพร่สะพัดไปต่างๆนานา
และเธอก็รับไม่ได้จริงๆถ้ามีใครมาว่าลูกของเธอเสียๆหายๆ
โดยไม่เป็นความจริงเลย


"กลับไปอยากกินอะไรดีลูก?"

อ้ายส่ายหน้าอย่างช้าๆ เหมือนภาพสโลโมชั่น

"ไปวัดไหม...?"

อ้ายพยักหน้า

"แม่จะให้ลุงชัยอยู่เป็นเพื่อนนะ แม่ต้องไปทำผมแต่งตัว ไปงานกาล่า"

อ้ายพยักหน้ารับรู้
หึ! ดีแค่นี้แหละ
นึกจะดีก็ดีให้มันสุดสิ
แก่หงำเหงือกห้าสิบเข้าไปแล้ว แม่เขาก็ยังติดหรู ติดสังคม ยังไงแม่ก็เลือกสังคมก่อนอ้ายอยู่ดี






ลุงชัยเดินตามรถเข็นอ้ายช้าๆ
นึกเวทนาคุณหนูแห่งบ้านตระกูลเกียรติ

รถเข็นหยุดหน้าประตูโบสถ์แกะสลักลายเทวดางดงามอ่อนช้อย
อ้ายมองไปยังพระประธานในโบสถ์
แม้มองจากที่ไกลๆก็ยังคงสวยงามและรู้สึกสงบ
นี่คงเป็นสถานที่เดียวที่เขาวางใจลงได้

อ้ายยกมือพนมไว้ที่หน้าอก
สวดบทบูชาพระรัตนตรัย


...................

"นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต  สัมมา สัมพุทธัสสะ....
.....ขอให้คืนนี้ลูกนอนหลับฝันดี ไร้สิ่งใดมารบกวนใจ
ขอให้ลูกลืมเขา
และขอให้พรุ่งนี้ลูกเจอแต่ความสุข
...สาธุ"

อ้ายก้มกราบสามครั้งแล้วล้มตัวลงนอน

ที่นอนหนานุ่ม อบอุ่น
ถ้าเป็นคนอื่นที่เขาหนาวกาย มันคงช่วยให้หายหนาว
แต่อ้ายหนาวใจเหลือเกิน
เขาควรทำอย่างไร

อ้ายกราบวิงวอนหลวงพ่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย
คำภาวนานับหมื่นนับพันครั้งที่อ้ายเพียรพูด
อ้ายยังปรารถนาที่จะลืม

ลืม

ลืม

ลืม...

....ถึงแม้มันจะกลับมาแล้วก็ตาม...



……………………………….

“คิดว่าพี่เกดจะได้ยินเสียงอ้ายป่ะ?”
เด็กหนุ่มวัยย่างสิบห้าอย่างอ้ายพูดเบาจนแทบจะเรียกว่ากระซิบ
ร่างเล็กนอนหนุนแขนแฟนที่ตัวหนากว่า
มันคงเป็นภาพสวีทหวานธรรมดาของคู่รักทั่วไป
แต่ไม่ใช่กับพี่การะเกด พี่สาวของนทีแน่
รายนั้นเกลียดเกย์กะเทยเข้าไส้  แล้วยิ่งมาทำบัดสีข้างห้องราวกับจะแกล้งอีก
นทีหัวเราะคิกคักที่ได้แกล้งพี่ตัวเอง
“ได้ยินชัวร์  ช่างเขาเหอะ”

“ทีทำอ้ายแรง  กลั้นเสียงไม่ได้เลย”
อ้ายกระเง้ากระงอด  แม้จะไม่เข้ากับร่างแกร็นๆหัวเกรียนๆสักเท่าไหร่
แต่ทีก็มองว่าน่ารักเสมอ

นทีเอ็นดูอ้าย  เพื่อนเล่นวัยเด็กที่แปรผันเป็นคนรักเมื่ออายุสิบห้า
ทีติดอ้ายมาก   การมีอะไรกันครั้งแรก  มันทำให้ทีรู้สึกไม่อยากห่างไปไหนเลย
อ้ายก็คิดเช่นนั้น
ดังนั้นไม่ว่าเรื่องที่ทำจะผิดอย่างไร  อ้ายกับทีก็จะทำ 
ชอบหาโอกาสดีๆมาแอบมีอะไรกันในห้องนทีเป็นประจำ

“เหมือนขนจะขึ้นแล้วนะ”
นทีทำทะลึ่ง  จับเนินส่วนนั้นหยอกเล่น

“อื้อ หนวดด้วย  ทีสอนโกนหน่อย”

“วิธีโกนเหรอ....ไม่มีไรมาก ง่ายโคตร  อ้ายไปซื้อมีดโกนหนวดมาก่อนละกัน  เดี๋ยวสอนให้”

“แม่งโคตรเซ็ง”
อ้ายบ่น  มือก็ลูบบริเวณใต้จมูกตัวเองไปมา
หน้าอ้ายไม่ได้หวานอะไร  พอหนวดมาขึ้นแบบนี้เลยยิ่งดูแมนเข้าไปใหญ่
อ้ายไม่ชอบเลย
อ้ายอยากหน้าตาดี  ทีจะได้รักอ้ายนานๆ

“อยากดูทีโกนก่อนมั้ยละ”

“เอาสิๆ”
นทีลุกขึ้น รั้งคนตัวเล็กกว่าให้เดินตามไปยังห้องน้ำ
เด็กหนุ่มหยิบโฟมโกนหนวดบีบใส่มือ แล้วป้ายยังคางตัวเอง

“อยากเล่นมั่ง”
นทีส่งขวดโฟมให้แฟน
อ้ายรับไปบีบเล่นอย่างเพลินมือ 

“เยอะไปแล้ว”

“ชอบอ่ะ นิ่มดี”
นทีเผลอกลอกตาไม่พอใจเพียงชั่ววิ
ปล่อยอ้ายเล่นโฟมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไป

“นี่โกนแบบนี้นะ”
นทีสาธิตวิธีโกนหนวดให้ดูอย่างช้าๆ
ดีใจที่แฟนตั้งใจดูขนาดนั้น
ตาโตๆของอ้ายเวลามันแสดงความสงสัยใคร่รู้แล้วมันน่ารักน่าฟัดจริงๆ

นทีล้างหน้า  ก้มลงหอมแก้มแฟน
“หอมมั้ย?”

“นั่นใช่วิธีให้อ้ายดมกลิ่นเรอะ!  มันต้องงี้สิ”
อ้ายจับใบหน้าทีโน้มลงมาหอมแก้มทั้งสองข้าง  แต่ละข้างสูดนานหลายวินาที
ใบหน้าสดใสหลับตาพริ้มพิสูจน์กลิ่น
“หอมมาก”
อ้ายกอดเอวคนรัก  ซุกหน้ากับอกอุ่น
นทีรวบตัวอ้าย  จุ๊บเหม่งคุณหนูของบ้านตระกูลเกียรติ
แล้วรัดร่างนั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว

“รักอ้ายนะ”

“เหมือนกันครับ”

ทั้งสองกอดกันแนบแน่น
ไม่มีความคิดนั้น
ไม่มีเลย
ความคิดที่ว่า....
....จะแยกจากกัน

หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน2* 18/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-09-2015 21:16:12
 :ling1:

จริงๆหมอบอกว่าอ้ายจะหายเป็นปกติ ถ้าทำกายภาพบำบัด แต่ตัวอ้ายเองที่มองแง่ลบ ทำให้เสียเวลาในชีวิตไปเปล่าๆ

ปล่อยอดีตให้เป็นอดีตไป แล้วทำให้อนาคตเป็นของเราดีกว่าน้าาาา
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน2* 18/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-09-2015 21:39:35
คนนิสัยเสียนี่คือใครนะ :z2:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน2* 18/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-09-2015 00:46:04
หนูอ้ายมองโลกแง่ลบเกินไปรึเปล่าลูก
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน2* 18/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-09-2015 02:27:20
ดูมืดมนดี
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน2* 18/9/58
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-09-2015 19:49:18


วันนี้อากาศอบอ้าว
เอาตามจริงอ้ายไม่อยากไปไหนเลยนอกจากกลับไปตากแอร์ที่บ้าน
แต่เพราะนัดกับคนรักที่นานๆทีจะว่างอย่างนทีไว้  จึงอยากเจอแฟนมากกว่า


อ้ายวนรถหาที่จอดอยู่เกือบชั่วโมง จนได้ที่ข้างๆคณะวิศวะฯ ที่นทีเรียนอยู่
เวลาสี่โมงเย็นแล้ว  ทีของอ้ายเลิกเรียนพอดี
ร่างสูงยืนรอหน้าตึกที่นัดกันไว้
อ้ายยิ้มพิมพ์ใจเข้าไปหา...
และเริ่มมีลางสังหรณ์ เมื่อนทีไม่มีรอยยิ้มเช่นอ้าย

“อ้าย...”
“ไม่ว่างใช่มั้ย?”
อ้ายตวัดน้ำเสียง
เป็นอย่างนี้ทุกที
อ้ายไม่รู้หรอกนะว่าเด็กวิศวะเขาเรียนอะไรกันถึงได้ยุ่งนักหนา
อ้ายก็พยายามเข้าใจ
และไม่อยากงี่เง่าใส่
“อย่างอแงน่ะอ้าย  มันเป็นโปรเจ็คต์กะทันหัน”
“ป...เปล่า  อ้ายไม่ได้งอแงนะ”
อ้ายปัดอากาศไปมา  ทำหน้าจะร้องไห้
เขาไม่อยากทะเลาะกับทีด้วยเรื่องเดิมๆอีก
คราวที่แล้วก็เล่นเอาอ้ายซึมไปเป็นอาทิตย์
“เดี๋ยวอ้ายรอทีดีกว่า ถ้าเลิกดึกขึ้นมาจะกลับบ้านลำบาก...ให้อ้ายรอนะ”
อ้ายกุมมือแฟนเอาไว้  ทำสายตาอ้อนขอความเห็นใจ

“อืม...ถ้ารถทีไม่เสีย  ก็ไม่อยากรบกวนอ้ายหรอก”
นทียิ้มในที่สุด
มือหนาลูบหัวคนรัก
“ทำเพื่อคนที่เรารัก ไม่เรียกว่ารบกวนหรอก”
อ้ายพูดในสิ่งที่คิด
นทียิ้มชอบใจที่อ้ายตามใจเขาทุกอย่าง
ถึงแม้การเรียนคนละมหาลัยจะทำให้เกิดระยะห่างระหว่างกัน
แต่อ้ายกลับบริหารความรักของเราได้ดีเสมอ

นทีไปทำงานที่บ้านเพื่อน ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม
ไอ้เนมมันก็เกรงใจอ้ายอยู่หรอก เพราะรู้ว่างานนี้โต้รุ่งแน่
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมนทีเพื่อนรักถึงได้ไม่บอกแฟน


"ทำงานไปกินเหล้าไป มันจะเสร็จเหรอ"
อ้ายบ่นให้ทุกคนในห้องได้ยิน

เนมและคนอื่นๆทำเป็นหูทวนลม
ส่วนนทีหาว่าอ้ายเสียมารยาท

อ้ายไม่พูด ไม่เถียง
อ้ายอดทนได้ เพื่อความรักของตน
แม่สอนอ้ายเสมอว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กๆ
ทุกสิ่งสามารถมองข้ามไปได้ทั้งนั้น
ยกเว้นเรื่องเดียวคือนอกใจ
ที่อ้ายไม่ควรยอมนที
เคราะห์ดีเหลือเกินที่นทีไม่ใช่คนเช่นนั้น

อ้ายนอนรอคนรักทำงานบนโซฟาตัวเขื่อง
เวลาเที่ยงคืนแล้ว กับแกล้มและเหล้าร่อยหรอ สี่หนุ่มหนึ่งสาวจึงลงมือทำงานกันจริงๆจังๆเสียที


นทีตาบอดหรือไงกันนะ....
ถึงไม่เห็นว่าเพื่อนสาวตัวเองจ้องจะกินอยู่ตลอดเวลา

อ้ายยิ้มหยัน
ต่อให้อ่อยแค่ไหน นทีก็ไม่เอาหรอก
อ้ายมั่นใจ
ครอบครัวของทั้งสองรับรู้ทุกอย่าง
ทำการหมั้นหมายกันไว้แล้วด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะมีคนไม่ชอบใจอย่างพี่เกด
แต่ก็ใช่ว่าพี่เขาจะไม่รักน้อง

นทีรักอ้าย
อ้ายรู้เพียงเท่านี้ อ้ายก็ไม่จำเป็นต้องสู้รบปรบมือกับเพลี้ยไรให้เหนื่อยเปล่า


"อ้าย...ง่วงมั้ย?"
นทีเดินมาดูแฟน เพราะเห็นว่าอ้ายตาปรือ
อ้ายน่ะหลับง่ายจะตาย

"ง่วงมั้ย จะได้เอาผ้าห่มกับหมอนมาให้"
อ้ายส่ายหน้า บิดตัว

"จะเสร็จกี่โมงอ่ะ"

"น่าจะอีกนาน กลับก่อนก็ได้นะ ทีพักนี่จนเช้าก็ได้"

ใครจะปล่อยให้ปลาย่างอยู่กับแมวล่ะ
อ้ายลูบต้นแขนแฟนกึ่งยั่วเย้า

"อ้ายจะอยู่กับที..."
เสียงร่างเล็กบนโซฟากระเส่า ได้ยินกันเพียงสองคน
นทีห่างเหินอารมณ์อย่างนี้มาหลายวันก็จุดติดง่ายสิ
ร่างข้างบนอมยิ้มยั่วบ้าง
ก้มหน้ากดปลายจมูกลงบนแก้มแฟน

"เฮ้ยๆๆ ใจเย็นๆ"
เสียงเพื่อนแซวมา ทำให้นทีต้องผละออก
เจ้าตัวเขินหน้าแดง เดินกลับไปทำงานกับเพื่อนต่อ

อ้ายแอบเห็นสายตาของตัวอิจฉาอยู่ไกลๆ



........................



คนในชีวิตอ้ายมีอยู่สองจำพวก
คือหนึ่ง พวกที่พูดรู้เรื่อง ฟังภาษาคนออก
กับพวกที่สอง ...คือคนประเภทที่พูดเท่าไหร่ไม่เคยฟัง ..ไม่เคยแม้แต่พยายามเข้าใจ


"แม่บอกแล้วว่าไม่ต้องมา แม่ไม่อยากให้อ้ายเครียด"
อ้ายได้ยินเสียงเสียงหนึ่งสาวแก่เถียงกับหนึ่งหนุ่มมาได้สักพักแล้ว
แต่เขาหาได้สนใจ
เพราะการกินข้าว สำหรับกว่าเสียงนกเสียงกาเป็นไหนๆ

"แต่ผมต้องอธิบายให้อ้ายเข้าใจ"

"ปล่อยอ้ายไปเถอะที"
เสียงทั้งคู่ใกล้เข้ามา


*ป้าอ๋อย ขอข้าวต้มเพิ่ม*
อ้ายเขียนโน้ตใส่กระดานแม่เหล็ก อย่างที่เด็กๆเล่นกัน
อ้ายส่งยิ้มให้ป้าแม่บ้านราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ที่ประตูครัวนั่น ไม่มีใครยืนอยู่

"อ้าย....! ฟังทีนะ"
ชายที่ได้ชื่อว่าตัวซวยคุกเข่าจับรถเข็นอ้าย

อ้ายเดินไม่ได้ พูดไม่ได้...จะเสแสร้งว่าหูหนวกอีกเรื่อง ก็คงไม่เป็นไรมั้ง

"ที...ฟังแม่นะ อ้ายกำลังมีความสุขแล้ว"
ใช่
แม่เขาพูดถูก

อ้ายตักข้าวต้มร้อนกำลังดีใส่ปาก
รสชาติของมันกลมกล่อม
หมูสับนุ่มละเอียด


"ถ้าอ้ายมีความสุขจริง แล้วแม่จะเรียกให้มาหาทันทีที่กลับไทยทำไมครับ?"

หึๆๆ แม่เรียก?
ฮ่าๆๆๆ แม่อ้ายเป็นคนตามมันมา
ถ้าแม่ไม่ขอร้อง มันจะมาหาอ้ายมั้ย

อ้ายขำเสียจนกลั้นต่อไปไม่ไหว
ข้าวในปากพุ่งเลอะเทอะ
แต่อ้ายเพียงแค่เช็ดปากตัวเองให้เกลี้ยงแล้วกินต่อ
ไม่สนใจเศษอาหารโดยรอบสักนิด

ทีเห็นแล้วอ้าปากค้าง
แน่นอนนี่ไม่ใช่ปัญหาธรรมดาๆแล้ว
แต่ทำไมคุณนายดรุณีถึงปล่อยปละละเลยขนาดนี้

"...?"
นทีส่งคำถามทางสายตาให้อดีตแม่ยายที่ยืนน้ำตาซึม

อ้ายกินข้าวจนหมดเกลี้ยง ก็ไถล้อออกจากมลพิษทางจิตใจ

อ้ายไม่รู้ว่าแม่กับไอ้นั่นคุยอะไรกันต่อ
เขาอาบน้ำใหม่
มองตัวเองในกระจก

....นี่ไม่ใช่อ้าย แต่ก็ยังคงเป็นอ้าย
อ้ายผู้ไม่สามารถลืมความเจ็บปวด
กับอ้ายผู้ที่ไม่สดใสอีกต่อไป




อ้ายกำลังนั่งบนเตียง ขณะที่แม่ไขกุญแจเข้ามา
อ้ายชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

"แม่ขอโทษลูก แต่แม่ต้องคุยกับลูกเรื่องทีให้ได้"

"นทีเขาบอกว่าต้องการแก้ตัว...แม่ไม่อยากบังคับอ้าย แต่อยากให้อ้ายคิดทบทวนดีๆมากกว่า ว่าสิ่งที่อ้ายต้องการจริงๆคืออะไร ถ้าทีเขาทำผิด ก็ให้โอกาสแก้ตัวเถอะ"

อ้ายเบือนหน้าหนี
ไม่อยากเห็นสายตาอ้อนวอนของแม่

"แม่รู้ว่าอ้ายยังรักทีอยู่ ทำไมไม่ใช้ให้มันคุ้มค่าล่ะลูก คนเราเกิดมาจะมีความรักสักกี่ครั้งกัน"

"เนี่ยเดี๋ยวพี่อัฐก็กลับแล้ว ถ้ารู้ว่าทีมา พี่เขาต้องดีใจและสนับสนุนแน่ๆ อ้ายก็รู้ขัดพี่เขาได้ที่ไหน"

นั่นสิ...
พี่ชายอ้ายรักไอ้ทีอย่างกับอะไรดี และเข้าข้างมันมาตลอด
ถึงแม้จะแสดงออกว่าตามใจอ้าย แต่มีหรือที่อ้ายจะไม่รู้ว่าลับหลังทำอะไรกัน


"แม่ให้เวลาอ้ายตัดสินใจนะ นทีเขากลับมาถาวร มีเวลาให้อ้ายได้ตลอดชีวิตเลยนะลูก"

ตลอดชีวิตงั้นเหรอ....?

คำว่าตลอดชีวิตของอ้าย
เคยมีใครบางคนอยู่ในนั้น
คนที่ตามใจอ้าย
คนที่ดูแลอ้าย
คนที่ดีที่สุด ...คนที่ตายไปแล้ว!
ตายไปพร้อมกับอุบัติเหตุของเขา!

อ้ายก้มหน้าเครียด มือเกร็ง ตัวเกร็ง
มันน่าจะศัลยกรรมหน้าใหม่
เผื่ออ้ายจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
...ไม่ได้รักหรอกน่า ก็แค่ผูกพันเท่านั้น



คุณนายยังรีรอขอคำตอบจากอ้าย
อ้ายตัดสินใจหยิบโน้ตมาเขียน

*อยากได้นักกายภาพคนใหม่*


อ้ายอยากรู้จริงๆนักว่าลมปากคน มันสามารถเชื่อถือเป็นครั้งที่สองได้หรือไม่



หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน3* 26กย58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-09-2015 22:31:32
นทีกับพี่อัฐทำอะไรกับอ้ายไว้เหรอ มันดูไม่น่าให้อภัยเลย อ้ายถึงแค้นฝังใจขนาดนี้ :katai1:
แต่ถ้าต้องมีคนรักที่คอยแต่จะทำให้เราเจ็บปวด ก็ไม่ต้องมีก็ได้นี่นา ใครจะมาบังคับเราได้ นอกจากตัวเราเอง :hao5:
อ้ายสู้ๆนะ ร่างกายป่วยแล้วไม่อยากให้ใจป่วยตาม เข้มแข็งๆ สู้ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน3* 26กย58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-09-2015 23:15:05
 :ling1:

ยังไม่รู้อดีตที่ทีอยากจะเล่า เลยยังว่าอะไรฮิมไม่ได้  :mew2:


แต่ถ้าน้องเขาไม่อยากเจอหน้าคุณมรึงแล้ว ก็จรลีหายหัวไปจากชีวิตน้องเขาเถอะค่ะ จริงๆนะ

(ดูจากที่อ้ายเล่ามา เหมือนจะโดนทีเล่นมาหนักเหมือนกันนะ)


นั่งรออ่านอดีตต่อไป  :really2:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน3* 26กย58
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-09-2015 00:19:49
อยากรู้ว่าพี่ชายและอดีตคนรักทำอะไรกับอ้ายไว้
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน3* 26กย58
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-10-2015 22:42:07

"แม่คับ อ้ายเล่นกับทีนะ"
เด็กวัยห้าขวบส่งเสียงถามแม่เจื้อยแจ้ว
 "เล่นดีๆนะลูก"
คุณดรุณีตั้งใจจับคู่เด็กทั้งสองอยู่แล้ว
..เธอหมายความตามที่ว่านั่นหละ
'จับคู่' อย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน
เพราะตอนนี้สถานะทางการเงินย่ำแย่
 ไหนจะสามีที่เพิ่งมาตายหนีไปอีก
 
 ถ้าน้องนทีติดลูกเธอเมื่อไหร่
 นั่นหมายความว่า
 ลูกชายสุดนิ่งจนผิดปกติเด็กของเพื่อนเธอ
 จะกลายเป็นคนของบ้านเธอไปโดยปริยาย
 
 แล้วแน่นอนว่าเธอจะได้เงินซัพพอร์ตในการเลี้ยงดูลูกคนอื่น...
 ไม่ใช่สิ คนอื่นน่ะดูธรรมดาไป.. มหาเศรษฐีต่างหาก
 
 
 "แปลกจังนะดรุณี ลูกชายฉันไม่เคยยอมเล่นกับเด็กคนอื่นเลย"
 ผกามาศโบกพัดไปมาดับร้อน
 แหงล่ะ หล่อนเล่นแต่งเต็มยศ แล้วยังชวนมานั่งเล่นนอกบ้านในเวลาบ่ายแจ้ง
 จะไม่ให้ร้อนได้อย่างไร
 
 "ดีแล้วมาศ เรามาคุยเรื่องที่ดินดีกว่าน่ะ"
 ดรุณีลูบใบโฉนดบนโต๊ะที่กำลังจะกลายเป็นเงินในไม่ช้า
 
 
 "จริงๆแล้วฉันอยากให้คุณภูมิมาคุยมากกว่า แต่เพราะเป็นเธอ จะดีจะเสียอย่างไรฉันก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว"
 มือเล็กนุ่มนิ่มของผกามาศแตะแขนให้กำลังใจเพื่อน
 
 "ฉันนึกไม่ถึงว่าต่อให้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เธอก็ยังไม่ลืมฉัน"
 
 "โธ่...อย่าร้องไห้สิ อังกฤษไม่ดีกับฉันเท่าเธอหรอก ยังไงเธอก็สำคัญกว่า"
 
 "แล้วเธอจะกลับมาอยู่ถาวรตอนไหน"
 
 "อีกสักพักจ้ะ"
 
 
 หลังผกามาศและลูกชายกลับไปอังกฤษได้สามเดือน
 ดรุณีถึงได้รับการติดต่อ
 และมันเป็นข่าวดีอย่างที่สุด
 เมื่อเด็กประหลาดอย่างนทีร้องจะอยู่กับอ้ายทุกวัน ย้ำ! ว่า'ทุกวัน'
 
 ผกามาศจึงต้องส่งลูกมาอยู่กับเพื่อนสาว ระหว่างที่รอให้บ้านในไทยสร้างเสร็จ
 ดรุณีใช้เงินจากการขายที่ดินหลายที่ลงไปกับธุรกิจใหม่
 และนำเงินของเพื่อนที่ส่งให้นทีมาใช้ในครอบครัวโดยที่ไม่มีใครรู้
 
 
 ................
 
 




 "สวัสดีครับ ผมพลนะครับ"
 นักกายภาพคนใหม่ที่ดูอย่างไรก็แก่กว่าอ้ายโขยกมือไหว้
 อ้ายไม่รับไหว้ เบื่อนัก หน้าเขาแก่กว่าตรงไหนวะ
หน้าตาก็ดีนะ เสียดายตาฝ้าฟางไปหน่อย

"เรียกกันแบบสนิทเถอะจ้ะ คงได้อยู่ด้วยกันอีกนาน"
คุณนายดรุณีแตะไหล่คนอ่อนกว่า สั่งให้อ้ายเรียกพี่
บางทีมันก็ประดักประเดิดเหมือนกันนะ กับความหมายของคำว่าอ้าย
ทั้งแปลว่าพี่ แล้วยังพาลไปนึกถึงปลาบู่ทองอีก
ดูไม่มีอะไรเข้ากับความเป็นอ้ายเลยสักนิด

อ้ายที่กำลังจะตาย
อย่างน้อยๆ ตอนนี้...เขาก็เหมือนไม่มีวิญญาณเข้าไปทุกที


นักกายภาพคนใหม่คงเป็นคนจำพวกหุบปากไม่ได้
พอแม่ผละไป  มันก็ส่งเสียงแจ้วอย่างกับนกกระจิบแตกรัง
"น้องอ้าย...ได้ข่าวว่าทำกายภาพตั้งเดือนแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้นเหรอครับ ..
พี่ว่าเคสน้องอ้ายเป็นเคสที่เบามากเลยนะ พี่เชื่อว่ายังไงก็ต้องหาย เรามาสู้ไปด้วยกันนะครับ"

สู้เหรอ...?

อ้ายถามด้วยสายตา

"ถึงจะมีคนไม่รักเรา แต่เราต้องรักตัวเองนะครับ รักคนที่รักเรา ห่วงเรา...อ้ายอยากเห็นแม่ร้องไห้เหรอครับ"

เฉยๆ...อยากร้องก็ร้องไปดิ ไม่เข้มแข็งเอง ช่วยไม่ได้

อ้ายเบื่อจะคุยด้วย
เขาไม่ใช่เด็กนะที่จะมากล่อมด้วยถ้อยคำฝันหวาน
อ้ายเลวเกินกว่าจะรู้จักคำว่ากตัญญู  นั่นไม่ใช่อ้าย...


"เอาล่ะ พี่ไม่พาเครียดดีกว่า น้องอ้ายอยากไปไหนดีครับ"

ไปไกลๆจากคุณ

"หมอบอกว่าน้องไม่มีความผิดปกติอื่นๆอีก อย่าแกล้งไม่พูดกับพี่ดีกว่าน่า"

นั่นหมอ
ยังไงหมอก็คือคนอื่นอยู่วันยังค่ำ จะรู้จักร่างกายคนไข้ได้ดีกว่าคนไข้ได้ยังไง

อ้ายรำคาญเต็มทน
มือหมุนล้อรถเข็นหนีออกจากมลพิษทางเสียง

กึก!
ไอ้เวรตะไล!! กล้าดียังไงมาหยุดรถเขา!?

"โห อย่าจ้องพี่อย่างนั้นสิ แค่อยากช่วย"

อ้ายชักไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่แล้วสิ
มันกวนโอ๊ยแปลกๆ

หรือมันจีบอยู่...?
อย่าพยายามเสียให้ยาก
ร่างกายตายซากแบบนี้ มันคงหวังแค่สมบัตินั่นแหละ

"น้องอ้ายอยากไปไหน เดี๋ยวพี่พาไป"

*กินเหล้า*

"เอาจริงดิ แต่หัววันเนี่ยนะ?"

มีปัญหาก็ไม่ต้องยุ่ง!

อ้ายกระแทกสายตาคมอย่างเอาแต่ใจ

"โอเคๆ พี่มีที่ดีๆ ที่จะเป็นความลับของเราสองคน ทั้งๆที่จริงแล้วพี่ไม่ควรทำแบบนี้เลย
แต่พี่คิดว่าเราน่าจะสนิทกันก่อนเริ่มงาน ถูกไหมครับ?....แต่อ้ายต้องสัญญานะว่าถ้าได้กินแล้ว เราต้องทำกายภาพกัน"

อืม....อ้ายพยักหน้าตกลงแบบขอไปที

............................








นทีหัวร่อเรื่องขำของเพื่อนต่างชาติ
เรื่องลามกจกเปรตล่ะพวกมันถนัดนัก
เขาแซวมันเรื่องหญิงคนเมื่อวานซืนเป็นภาษาเยอรมัน
“เพิ่งชมอลิเซียไปหยกๆ  มึงก็ไปคว้าอีกคนและ...เฮ่ย! อ้าย!”

อ้ายยืนคอยท่าอย่างกับแม่นากรอสามี
เขารู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกินที่หลงผู้ชายจนต้องตามมาไกลขนาดนี้
อ้ายกำมือแน่น
นึกทวนคำพูดที่อุตส่าห์เรียบเรียงมาตลอดทาง

“อ้ายมาทำอะไร?”
คำถามห้วนๆออกมาจากปากคนรัก...คนที่อ้ายรักนักรักหนา

“มาทำอะไรเหรอ??  ก็มาเคลียร์เรื่องของเราไง!”
อ้ายยังไม่ทันท่องยุบหนอพองหนอด้วยซ้ำ ตบะเขาก็แตก
นทีบอกเพื่อนให้ขึ้นห้องไปก่อน
ร่างสูงกว่าหันมาดึงแขนอ้ายให้ออกไปนอกอาคารท่ามกลางลมหนาว
อ้ายจะได้รู้ซะบ้างว่านี่มันถิ่นใคร  อย่ามาเอาแต่ใจไม่เข้าท่า!

อ้ายกัดปากไล่ความเจ็บในใจ
ยกมือถูกต้นแขนทั้งสองข้างไปมา

“ทำไมทีพูดแบบนั้นอ่ะ...”
อ้ายหมายถึงเมื่ออาทิตย์ก่อน

อ้ายติดต่อนทีผ่านอินเตอร์เน็ตตามปกติ 
แต่..แต่ ..มันไม่ปกติตรงที่เขาสองคนทะเลาะกันรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ
และอยู่ๆนทีก็พูดตัดความสัมพันธ์
ไม่หรอก...เรียกว่า...ห่างกันสักพัก ถึงจะถูก
อ้ายหรือจะทนได้  เลยมาหาอย่างกับคนบ้านี่ไง

“ฟังภาษาคนรู้เรื่องป่ะอ้าย?”

“ทีจะทิ้งอ้ายใช่มั้ย....อ้ายขอโทษที่พูดไม่คิด”

“ทีนี้คิดได้หรือยัง?”

“...ท..ทีเป็นอะไร...ทำไมต้องพูดเย็นชาขนาดนี้”
อ้ายขยับเข้าใกล้คนรักมากขึ้น
หนาวเหลือเกิน  หนาวทั้งกายใจ
ร่างเล็กเบียดตัวเข้าหา  โอบกอดนทีเอาไว้  ไม่อยากให้จากไปไหน  ไม่อยากได้ยินถ้อยคำบั่นทอนใจเลย

“อ้าย..วันนั้นอ้ายบอกว่าทีเปลี่ยนไป...นี่ไงทีเปลี่ยนพอยัง”
นทีดันตัวอ้ายออก
ดวงตาไร้แววสงสาร

อ้ายน้ำตาไหล
สู้อุตส่าห์มาง้อ  ไม่เห็นใจกันบ้าง
“อ้ายเข้าใจแล้ว  ทีเครียดกับเรื่องเรียน  เรื่องปรับที่อยู่ใหม่  อ้ายผิดเองที่ตอนนั้นโวยวายไป”

“อืม”

“ที...พูดอะไรหน่อยสิ  เราคบกันมาตั้งนานนะ”

“อ้ายขอโทษไอ้แก้วมันได้มั้ยล่ะ  อ้ายปรักปรำมัน  ทำให้มันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร”

“อะไร? อ้ายว่าแก้วตอนไหน”

“อ้าย....อย่าคิดว่าทีไม่รู้นะ  อ้ายคิดอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ  เลิกเสแสร้งได้ป่ะ  รำคาญว่ะ”
อ้ายสะอึก...
นี่ไม่ใช่....
ไม่ใช่
ไม่ใช่...

“ที....จะให้ทำยังไง  จะให้กราบก็ได้ ..ต.. แต่อย่าเฉยชาแบบนี้..อึ..ก...”
ร่างเล็กแทบหมดเรี่ยวแรง
ที่ฝืนยืนอยู่ได้ก็เพราะนทียังคงยืนอยู่ไม่ไปไหน
นั่นเท่ากับว่าแฟนเขารอคำแก้ตัวอยู่
อย่างน้อยมันก็ดีกว่าเดินจากไป

“กล้ากราบแก้วมั้ย”

อ้ายแทบทรุด
“จะให้กราบคนอื่นได้ยังไง  อ้ายผิดตรงไหน!”

“แก้วมันทุกข์ใจนะ  มันอยู่นี่คนเดียว มันก็เครียดจะตายอยู่แล้ว  ยังจะตามมาหึงหวงอีก”

เส้นด้ายขาดผึง
อ้ายตบหน้าคนใจร้ายไปหนึ่งที
“เพราะมันมากับทีนั่นแหละถึงได้หึง!

 ...ข..ขอโทษ”
อ้ายรู้สึกผิดทันทีที่ตบ   เขาลูบแก้มแดงปื้นของคนรักอย่างถนอม  แต่ทีสะบัดหน้าหนี

“ออกไปซะ”

“ไม่!!!”
อ้ายรู้ว่าความหมายของมันคืออะไร
ไม่!!
เขาจะไม่เลิกกับทีเด็ดขาด
ชีวิตทั้งชีวิตมีแต่นทีคนเดียว
เขาขาดทีไปไม่ได้

“เลิกยุ่งสักที”
.....อย่างกับหมูหมา
อ้ายทรุดตัวกอดเข่าทั้งสองข้าง
ร้องไห้น่าเกลียด  แต่จะให้ฝืนคงไม่ได้
อ้ายคร่ำครวญอ้อนวอน  ไม่มีทางขอโทษอีแก้ว
มันใส่ร้ายอ้ายสารพัด 

อ้ายเอ่ยประโยคหนึ่งที่สะกิดใจคนรักกัน
“ทีไม่รักอ้ายแล้วเหรอ?”
อ้ายโง่เอง ดันพูดออกมาตอนนทีโกรธ
คำตอบที่ได้รับมันจึงสาหัสสากัน
“ไม่รัก...”

น้ำตาพร่างพรูแทบจะเป็นสายเลือด
อ้ายรู้สึกว่าหัวใจตัวเองขาดสะบั้น
ทีจะพูดคำไหนเขาไม่ว่าเลย
แต่ต้องไม่ใช่คำนี้
รับไม่ได้
หน้าตาน่าเกลียดอย่างนี้  นทีเลยไม่รักใช่ไหม

อ้ายกระตุกหายใจแรง
เส้นเลือดตรงขมับบวมปูด
ลำคอเหยียดเกร็ง

แต่ก็ยัง....พยายาม
อ้ายใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพูดขอร้องให้นทีทบทวนเสียใหม่
นทีแค่โกรธ
ใช่
นทีรักอ้าย
อ้ายรู้เสมอมา
อ้ายจะทำทุกอย่างที่นทีสั่ง
อ้ายจะไม่ขัดใจ
อ้ายรัก...รัก  รัก  รัก รัก รัก รัก รัก รัก
รักยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง….


“แม่งเอ๊ย!  หยุดพูดซักที! กูรำคาญ!”



หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน4* 5ตค58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 05-10-2015 22:51:43
 :ling3:

นทีไล่อ้ายแล้ว แล้วที่ทะเลาะกันจริงๆสาเหตุมาจากใครกันแน่ แก้วนี่ใคร???


หมอกายภาพบำบัดคนใหม่ น่าจะทำให้อ้ายเปิดใจได้ นิดนึงก็ยังดี *3*
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน4* 5ตค58
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 05-10-2015 23:11:14
โอ้ยงง จริงๆปัญหาอยู่ที่ใคร แก้ว ทีหรือตัวอ้ายเองที่ไม่ดี?
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน4* 5ตค58
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 06-10-2015 00:09:27
เฮ้อ อ้าย :hao5:

นี่เป็นแนวที่ชอบเลยนะ อ่านแล้วอินสุด

มาต่อเร็วๆนะคะ เค้ารอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน5* 14ตค58 มาแล้วว
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-10-2015 20:47:45



อ้ายรู้ว่าแม่แอบมองเขาอยู่
แต่อ้ายจะทำเป็นไม่รู้แล้วกัน   ให้แม่แอบมีความหวัง  มันก็น่าจะดี
แม้เพียงน้อยนิด  ก็ยังดีกว่าปล่อยให้แม่เครียดจนแก่ตาย

อ้ายอ้าปากรับโจ๊กอุ่นๆ  รสชาติเหรอ...อ้ายไม่รับรู้
นกสองตัวที่กำลังหยอกกันบนคบไม้น่าสนใจกว่าข้าวเดิมๆ เป็นไหนๆ
และยังดีกว่าหน้าของคนป้อนเป็นร้อยเท่าพันเท่า!

“อีกคำนะอ้าย”
เสียงของมันจารจารึกอยู่ในความทรงจำ
ฝังแน่นยิ่งกว่ารอยสัก

อ้ายสะบัดหัวไล่ความคิดวุ่นวาย  เปิดปาดรับโจ๊กอีกช้อน
*อิ่มแล้ว*
อ้ายเขียนใส่กระดานแม่เหล็ก 
พยายามไม่มองหน้ามัน  ไม่มองมือของมันที่รับกระดานไปอ่าน
เสียงมันหัวเราะในลำคอเบาๆ
ไม่เชิงสมเพช  เป็นเพียงความเอ็นดู  แต่อ้ายกลับไม่ชอบ
อ้ายปัดชามโจ๊กทิ้ง
โจ๊กที่ยังเหลือกว่าค่อนในชามกระเซ็นเปรอะเปื้อน

มัน....หัวเราะ
อ้ายรู้  อ้ายรู้..
ตลอดเวลาทั้งอาทิตย์  มันเจอเหตุการณ์อย่างนี้ทุกเช้า
คิดจะเล่นสงครามประสาท...หมายถึงอ้ายนั่นแหละเล่นอยู่
แค่อยากรู้ว่ามันจะทนได้อีกนานแค่ไหน
กับการดูแลคนบ้าคนหนึ่ง
คนที่มันทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย!

“อ้าย!!  ทำไมทำนิสัยอย่างนี้อีกแล้ว!  ทีมันอุตส่าห์มาดูแล้เราแล้วนะ  จะเจ้าคิดเจ้าแค้นไปถึงไหน”
พี่อัฐ....พี่สุดแสนเลิศเลอของอ้าย
แต่อ้ายกลับดีไม่พอให้พี่เขาเข้าใจ
พี่อัฐห่วงมันมากกว่า  ปกป้องมันมากกว่า

อ้ายคว้าเอากระดานมาเขียน
*นี่มันนักกายภาพของอ้าย  คนใช้ของอ้าย พี่อัฐมายุ่งทำไม*

พี่อัฐอ่านแล้วโยนกระดานลงบนโต๊ะ  กระชากแขนอ้ายจนตัวลอย
มันช่วยดึงอ้ายออกมาจากแรงคนขี้โมโห
แต่ไหนแต่ไรมา...พี่อัฐของอ้ายไม่เคยเป็นอย่างนี้
แต่เพราะมัน  เพราะมันคนเดียว!
อ้ายน้ำตาไหลด้วยความน้อยใจ
อ้ายเจ็บ
เจ็บที่มันทำให้อ้ายเจ็บ

“ตาอัฐ  ไปสงบอารมณ์ก่อนไป”
แม่เข้ามาช่วยอ้ายอีกคน
เห็นมีแต่แม่นี่แหละที่เข้าใจอ้าย

“แม่ก็รู้!  อ้ายมันเป็นยังไง  นิสัยเสียแค่ไหน  แม่จะตามใจมันทำไม”

“แล้วเราล่ะไปตามตาทีกลับมาทำไม?!  น้องเรากำลังจะดีขึ้นแท้ๆ”
แม่ร้องไห้มั่ง
แม่โอบกอดอ้าย  ลูบหัวอ้าย  ปลอบอ้าย
สิ่งที่ไม่มีใครคิดจะทำ

“แม่ก็เป็นซะอย่างนี้”

“ถ้าอัฐอยู่กับน้องตั้งแต่แรก  อัฐจะเข้าใจ...”


....................................




เจ็บเจียนตาย....
อ้ายไม่มีคำนี้ในสมอง  หากแต่มันรับรู้ได้เองว่าความรู้สึกของคำว่าตายนั้นเป็นอย่างไร
มีร่างกายก็เหมือนไร้วิญญาณ
เขาเดินล่องลอยออกจากสนามบิน 
น้ำตาไม่เคยหยุดไหล  ทั้งๆที่อ้ายอยากให้มันหยุดใจแทบขาด!

“คุณครับ  โอเคไหมครับ”
พลเมืองดีไม่ได้ทำให้อ้ายซึ้งใจ
อ้ายปัดมือที่ยื่นออกมาทิ้ง

“อย่ามายุ่ง!”
เสือขู่ทั้งน้ำตา  ไหนเลยจะน่ากลัว  มันก็กลายเป็นลูกแมวนั่นแหละ

พลเมืองดีทำทีเป็นไม่สนใจอ้าย  แต่ลอบเดินตามด้วยความเป็นห่วง
อ้ายปล่อยให้มันเดินตาม
เขาไม่มีสมาธิจะมานั่งจดนั่งจำใคร
ให้มันฆ่าให้ตายเลยก็ได้
อ้ายจะได้ไม่ต้องไปโดดตึกเอง
อย่างนั้นมันสยองเกินไป  เขาอยากตายศพสวยๆ
เผื่อว่าคนอย่างมัน.....คนอย่างไอ้ที! จะกลับมาดูหน้าอ้าย  แล้วสำนึกว่ามันได้เสียสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไปแล้ว!

อ้ายพาตัวเองออกมาจากสนามบินของประเทศ
เดินไปเรื่อยๆ
เดินไปเรื่อยๆ
เข้าเขตชุมชน  ท้องอ้ายร้อง  ปวดขาปวดแขนเพราะกระเป๋าอันหนักอึ้ง
รู้ไหมนที....อ้ายยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น
น้ำตาแทบหลั่งเป็นสายเลือด
อ้ายปวดหัวตุบ  อยากวิ่งให้รถชน
จู่ๆอ้ายก็ทรุดตัวลงกับพื้น  เข่ากระแทกจนเจ็บหน่วง
อ้ายกุมหัว  นวดขมับตัวเอง
รู้สึกตัวร้อน  พลเมืองดีคนเดิมมาช่วยพยุงให้อ้ายไปนั่งในร้านอาหารตามสั่ง
กลิ่นฉุนทำให้อ้ายไอโขลก  ร่างเล็กดูแทบสลายไปกับอากาศร้อนระอุ
“เดี๋ยวผมเอาน้ำมาให้นะครับ”
คนดีจริงๆ
ถ้านทีได้ครึ่งหนึ่งของคนนี้  มันจะดีแค่ไหนนะ
อ้ายควรกลับไปขอโทษหรือเปล่า
ไม่สิ....ที่อ้ายไป  อ้ายขอโทษมันแล้วไม่ใช่หรือ....?
แล้วสิ่งตอบแทนคืออะไร
คือธาตุแท้สินะ
นั่นคือตัวตนที่แท้จริงคนไม่รักกันสินะ

อ้ายซบหน้าลงกับโต๊ะ
ปวดตาไปหมด  ในที่สุดมันก็หยุดไหลสักที
อ้ายทรมานเหลือเกิน
ชีวิตอ้ายพังแล้ว  อ้ายไม่เหลือใครแล้ว
ไม่ว่าจะแม่หรือพี่อัฐ  ก็ไม่สำคัญเท่านที
สองคนแรกดูแลตัวเองได้  และไม่ได้มาสนิทใจอะไรกัน
ตั้งแต่อ้ายจำความได้  อ้ายก็มีแต่นที

“คุณอยากกลับบ้านไหมครับ”

อ้ายส่ายหน้าช้าๆ  ราวกับภาพสโลว์โมชั่น
เหม่อมองหยดน้ำผุดขึ้นรอบแก้ว
นที  แปลว่า  น้ำ
น้ำมันมีพรรคพวก  ยังมีหยดอื่นให้รวมกลุ่มกัน 
ต่างกับอ้าย
ทั้งชีวิตของอ้ายอยู่ที่นทีคนเดียว
คนเดียว
คนๆเดียว
ที่ทำให้อ้ายตายทั้งเป็น.....


“คุณจะไปไหน!!”
อย่าไปสนเลยอ้าย
อย่าไปใส่ใจเลยว่าตอนตายศพจะสวยหรือไม่สวย
เขากล้าทิ้งเราแล้ว
เขาจะมาดูศพเราเหรอ
เขาใจร้ายถึงขนาดนั้น
สู้ตายไปซะยังดีกว่า
คนใจดำ
คนระยำ!

อึก!!
นี่สิ....นี่สิความเจ็บปวดที่แท้จริง
อ้ายหลับตา  ปล่อยร่างตัวเองกระแทกพื้นราวปุยนุ่น
มันช่างบางเบา  มันช่างยั่วเย้า
คนเราก็เท่านี้  เกิดมาก็ตาย
อ้ายยอมตาย  เพื่อให้คนที่อยู่มีความสุขมากขึ้น  เพื่อปลดปล่อยจากความระทมทุกข์ทั้งปวง

นที....
นที...
อ้ายขอโทษ
อ้ายขอโทษนะที่ด่วนตัดสินใจ
อ้ายทนเจ็บมามากพอแล้ว
เมื่อนทีไม่ต้องการอ้าย
อ้ายก็จะไปตามคำสัญญา....

นี่คือสิ่งสุดท้ายที่อ้ายทำให้ได้
หวังว่านทีจะถูกใจนะ

……………………..





“หนาวมั้ย”

“อื้ม  หนาวโคตร”
อ้ายตัวสั่นงันงก อย่างกับลูกนก
แต่แม่นกสุดหล่อรู้หน้าที่ดี  ก็อ้ายน่ะน่ารักขนาดนี้  แต่ดื้อเป็นที่หนึ่ง
ทำไมนทีจะไม่พกผ้าพันคอมาเผื่อแฟนละ

นทีโอบเอวอ้ายเพื่อสร้างความอบอุ่น
ตัวอ้ายหอม  ....เหมือนดอกไม้หน้าฝน
ใบหน้าของอ้ายสดใส
ริมฝีปากของอ้ายยิ้มเย้าตลอดเวลา
นทีเพ่งพิศพิจารณาหาเหตุผลว่าทำไมแฟนตัวเองถึงได้น่ารักขนาดนี้
คิดมาตั้งแต่วันที่รู้ตัวว่าอ้ายคือคนที่ใช่
คิดมาตลอด  แต่ยังไม่รู้สักทีว่ารักอ้ายเพราะเหตุใด

ดูสิ....ถูกจ้องแค่นี้ก็เขินหน้าแดง
ช่างบริสุทธิ์อะไรอย่างนี้
ผู้ชายไม่น่าใสซื่อได้เท่าอ้าย
นทีหมั่นเขี้ยวเหลือเกิน  อยากจะฟัดแก้มสักทีสองที
ติดตรงที่คนรอพระอาทิตย์ขึ้นเยอะมาก
จนไม่เข้าใจว่านี่เรียกว่าอุทยานได้หรือ
แต่ช่างมันเถอะ
นทีหลวมตัวมากับอ้ายแล้ว  นทียอมทุกอย่าง
อ้ายอุตส่าห์เกิดมาเพื่อนทีแล้ว  แล้วทำไมนทีจะไม่อยากอยู่กับอ้ายล่ะ

“พอได้และ”
เสียงอ้ายสั่นเบา
นทีหัวเราะหยอก

“รักอ้ายจัง”
เพียงเสียงแผ่วเบา  แต่ถ้อยคำกลับหนักแน่นลึกซึ้งในอก
อ้ายเอนตัวซบไหล่คนรัก
“อ้ายก็รักที”
สองมือสอดประสาน  สายตามองจ้อง
ดวงตาของนทีมีแต่อ้าย 
รักสุดหัวใจ...
“ขอให้ดวงอาทิตย์เป็นพยาน  ว่าทีจะรักอ้ายตลอดไป”

“ขอบคุณนะ  อ้ายก็จะมีแค่ทีคนเดียวจนตาย”
น้ำตาแห่งความซาบซึ้งไหลหยด
นทีใช้นิ้วโป้งปาดมันเบามือ
ทะนุถนอมยิ่งกว่าตัวเอง
นทีหันหน้าไปที่หน้าผา  ดวงอาทิตย์สีส้มสดใสกำลังเคลื่อนขึ้นอย่างช้าๆ

“ผมรักอ้าย!!!”
อ้ายตาโต   หันซ้ายแลขวา  ก็เจอสายตานับร้อยคู่จ้องมอง
ราวกับเวลาหยุดนิ่ง
อ้ายอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
“ที!! ตะโกนทำมะ..--”
“ปัดรักเกมนะ!!”
“ฉันรักลัคกี้ที่สุด!!”
“ผมรักแวว!”
“ผมรักคนไทย!!”
“ห้ามส่งเสียงดังนะครับ!!!!!!”

อ้ายกับนทีหัวเราะให้กัน
ทุกคนยิ้มหยอกเย้าแม้เป็นคนแปลกหน้า
อา...นั่นสินะ
นี่คือความสุข  ความสุขไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อเราได้ปลดปล่อยทุกสิ่งออกไป   นั่นคือความสุขที่ซ่อนลึกอยู่ในใจทุกคน
 





หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน5* 14ตค58 มาแล้วว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-10-2015 11:42:32
 :katai4:

อ้ายรักคนอื่นมากไป รักเกินกว่ารักตัวเอง

พออกหักอาการเลยหนักมาก

 :ling1:


อยากให้อ้ายลืมอดีตไวๆ แล้วรักตัวเองให้มากขึ้น ม๊าอ้ายก็ปวดใจนะ เห็นลูกเป็นแบบนี้  :hao5:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน5* 14ตค58 มาแล้วว
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-10-2015 12:56:38
บอกจะรักตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม ก็ทำให้สำเร็จนะอ้าย ลุกขึ้นมาเริ่ดๆเชิดๆใส่ไอ้คนที่ทำให้เราเจ็บเจียนตายดีกว่า o17
ว่าแต่พี่อัฐทำไมดูร้ายกว่าอ้ายซะอีก :katai1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน5* 14ตค58 มาแล้วว
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 15-10-2015 14:48:56
แม่ทำให้อ้ายมีแต่นที
พอไม่มีนที อ้ายก็เคว้ง :mew4:

กอดนะอ้าย  :hao5:

ปล. พี่อัฐนี่ยังไงฮึ!
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน5* 14ตค58 มาแล้วว
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 19-10-2015 15:02:39
 :katai1: รอต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน6* 24ตค58 มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-10-2015 02:43:00
“ไม่ต้องห่วงหรอก อ้ายมันไม่ได้เป็นไร”
“พี่ไม่สนับสนุนให้กลับมาหรอกนะ คนเอาแต่ใจอย่างมันต้องโดนซะบ้าง”
“เอาเป็นว่าพี่จะคอยส่งข่าวให้ดีกว่า ทีเรียนไปเถอะ”
“อย่าเอาอนาคตของทีมาผูกกับคนแบบน้องชายพี่เลย”
“เพราะพี่รักมัน พี่ถึงได้ทำอย่างนี้หรอกน่า”

เพล้ง!  “ไอ้อ้าย!”
อัฐหลบแก้วที่น้องชายปามาได้เฉียดฉิว
หน้าโกรธของอัฐยังไม่น่าเกลียดเท่าของอ้าย
หน้าที่ซีดอย่างกับศพ  ผิวแห้งผอมติดกระดูกกำลังเครียดเขม็ง
สิ่งเดียวที่มีสีเห็นทีจะเป็นปากห้อเลือด
อ้ายอ้าปากพะงาบเหมือนจะพูดบางสิ่ง
อัฐจึงโยนสมุดเก่าๆข้างตัวไปให้
แต่อ้ายกลับไม่เขียน  เขาเลือกที่จะเปิดปากด่าพี่ชายโดยไร้เสียงว่า “ไอ้เหี้ย”

นั่นเป็นวันที่อ้ายบอกกับตัวเองว่าพี่ชายที่เคยดีของอ้ายเปลี่ยนไปราวเป็นคนละคน
อ้ายไม่เข้าใจว่าเขาไม่ดีตรงไหน
เขาทำแย่ขนาดถึงต้องกับรังเกียจกันเลยเหรอ
พี่อัฐไม่เคยขัดใจอ้ายเลยสักครั้ง
แต่ทำไมวันนี้กลับพรากสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตอ้ายไป

อ้ายเกลียด...
เกลียด...
เกลียด!!!

“เลิกบ้าได้แล้ว!”
อัฐพุ่งมากระชากตัวน้องลงจากรถเข็น
รั้งตัวให้อ้ายยืนขึ้น  แต่ร่างผอมอ่อนปวกเปียก
ร่างสูงจับอ้ายกระแทกผนัง  จ้องตากลมโตปูดโปนตรงหน้า

“เดินสิ! แกต้องเข้มแข็งสิโว้ย”

“ฮึก....”
มือผอมปัดป่ายไปมา  อ้ายหายใจรัวแรง
ไม่อยากให้พี่อัฐเร่งรัดแบบนี้เลย
ก็พี่ไม่ใช่เหรอที่ทำอ้ายหมดกำลังใจ

“อย่าสำออย  แม่ไม่อยู่ เดินซะ!”
ไม่....อ้ายอ้าปากเถียง
ร่างบางเกาะไหล่พี่ชายไว้
จริงๆแล้วอ้ายเจาะจงจิกเล็บคมๆกับไหล่พี่เพื่อระบายความแค้นมากกว่า
พี่เข้าข้างมัน
พี่กีดกันความรักของเรา

“อ้าย....พี่ขอพูดดีๆนะ  อย่าทำให้คนอื่นเขาลำบากใจได้มั้ย  นะอ้ายนะ...พูดสักคำก็ยังดี”
อ้ายหลบดวงตาเศร้าสร้อยของพี่ชาย

“อย่าทำร้ายตัวเองได้ป่ะวะ”
มือหนาลูบแก้มตอบของน้องชาย
อัฐรักน้อง  เขาถึงต้องทำอย่างนี้...
หากขืนปล่อยให้อ้ายไม่รู้คุณค่าตัวเอง
สักวัน....อ้ายต้องฆ่าตัวตายแน่  อัฐเชื่ออย่างนั้น...





...............................................




“กรี๊ดดดดดด   อ้าย..อ้ายลูกแม่!!  อัฐมาดูน้องเร็ว! ใครก็ได้!”
เสียงคุณนายดรุณีโวยวายลั่นบ้าน
กรีดร้องราวกับจะขาดใจเมื่อพบว่าบนเตียงลูกชายคนเล็กของเธอเต็มไปด้วยกระปุกยา
ร่างผอมแห้งนอนจมลึกไปกับเตียงสีขาวสะอาด
คุณนายตบหน้าลูกชายเบาๆเพื่อเรียกสติ  แต่กลับไร้การตอบสนอง
จวบจนลูกชายคนโตวิ่งเข้ามาอุ้มน้องไปขึ้นรถ


อัฐไม่รู้ว่าแม่คิดอะไร  ถึงได้เอาแต่พูดว่าแม่ขอโทษ  แม่ผิดไปแล้ว
เขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่กี่วันก็เกิดเรื่อง...
เดาเอาเองว่าช่วงที่ไม่อยู่ อ้ายคงทะเลาะกับแม่

“อัฐ...ต่อไปนี้กลับมาหาน้องบ่อยๆนะลูก”
อัฐอยากจะเถียง
มาหาไปเพื่ออะไร
ก็น้องมันเกลียดเขาแล้ว
ไม่เอาเขาแล้ว

อัฐถอนใจ  เอนหลังมองเพดาน
“จะพยายามครับ  แม่ก็รู้ว่ากิจการเรายุ่งแค่ไหน”

คุณหญิงแตะไหล่ลูกชาย  น้ำตาไหล
“แม่เข้าใจ....แต่ตอนนี้  ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องอีกแล้ว”

“แม่ก็เลิกตามใจน้องสิครับ  น้องมันได้ใจ  ถึงไม่ยอมเดินสักที  มันคงรอไอ้ทีคนเดียว”

คุณนายส่ายหัว
“ไม่ใช่นะอัฐ...น้องดีขึ้นมาก น้องเข้าวัดทุกวัน  น้องเริ่มยิ้มได้แล้วนะ”

“เหรอครับ....”  อัฐหัวเราะ  “แล้วที่มันซัดยาไปทั้งกระปุกนี่ล่ะ?”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน  เท้าเอว  เดินไปมา 
เหนื่อยใจเหลือทน
มีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมด
เขาถูกกำหนดให้มาสืบสานกิจการที่ไม่ชอบ  แล้วยังมาเจอน้องชายที่กำลังกลายเป็นบ้า
ท้อเป็นเหมือนกันนะ....

“แม่ผิดเอง  แม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไป...”
คุณดรุณีทำทีอึกอัก  เธอละอายกับการตัดสินใจอันผิดพลาดของตัวเองจึงไม่อยากเล่าให้ลูกชายคนโตฟัง
กลัวว่าลูกชายจะต่อว่า หรือมองเธอไม่ดี

“ช่างมันเถอะแม่  ไปดูน้องเถอะ”
อัฐตัดบท  เมื่อพยาบาลเข็นเตียงผู้ป่วยออกมาพอดี

สภาพอ้ายหน้าซีดจากการโดนล้างท้องทำให้คนเป็นแม่สะอื้นไห้เสียงดัง
อัฐน้ำตาซึม  ลูบหัวน้องปลอบขวัญ
อ้ายอ่อนเพลียมาก  และหลับไปเพราะฤทธิ์ยานานแล้ว
สองแม่ลูกไม่รู้จะคุยอะไร  ปล่อยให้ความเงียบงันกัดกินจิตใจ
อัฐอยากโทษน้องที่ทำให้ครอบครัวเละเทะแบบนี้
แต่เขาทำไม่ลง

“อัฐ....แม่ว่าแม่จะไม่ทำงานแล้ว”
เสียงแหบโหยของคุณดรุณีเอ่ยขึ้น
“แม่จะมาดูน้องเหรอ”

“แม่ไม่ไว้ใจใครแล้วหละ  ต่อไปนี้แม่จะดูแลน้องเอง”

“แล้วพวกงานสังคมล่ะครับ”

“นานๆทีค่อยไปก็ได้  น้องเป็นแบบนี้แม่ไม่มีความสุขเลย  คงไปงานเพียงเพราะติดต่อหาลูกค้าเท่านั้นแหละ”

“ผมว่าก็ดี...”
อัฐไม่มีอะไรพูดต่อ
ต่างคนต่างเงียบ  นั่งมองร่างบอบบางของผู้เป็นที่รักบนเตียง



..........................................



อ้ายอุดหูไม่รับฟังคำบ่นอย่างกับคนแก่ของมัน
น่ารำคาญเป็นบ้า...
ไอ้ทีเอาแต่บ่นนู่นนี่นั่น
นี่เขาจะสวดมนต์ยังไม่มีสมาธิจะสวดเลย

“สวดไปทำไม ถ้าใจไม่สงบลง”
ดูนั่น มันบ่นอีกแล้ว
บ่นหึ่งๆ  ชาติก่อนมันคงเป็นผึ้ง
อ้ายอุดหู  นอนกลิ้งเกลือกกับหมอนหอมๆ
หมอนหอมๆจะทำให้ฝันดี  แม่บ้านจึงต้องซักหมอนทุกวัน  ไม่อย่างนั้นคุณหนูเล็กจะอาละวาดหนัก

นั่นแหละนะ..ไม่มีใครเข้าใจสักทีว่าอ้ายจะสวดมนต์ไปเพื่ออะไรในเมื่อเจ้าตัวไม่เคยสงบ

หัวทุยๆซุกหน้าลงกับหมอนนิ่ม  เตรียมตัวพักผ่อน
แต่แรงยวบข้างตัวกลับทำให้อ้ายสะดุ้งตื่น

ทำไมยังไม่ไปอีก!!
ร่างเล็กลุกผลุงถีบคนข้างๆตกเตียง
นทีร้องโอดโอย  “รุนแรงจังวะ  จะเกลียดอะไรนักหนา  เล่าให้ฟังไปหมดแล้ว”

เหอะ! ต่อให้มันเป็นเรื่องจริง  อ้ายก็รับไม่ได้อยู่ดี
คนเลว  คนปลิ้นปล้อน  นึกจะทิ้งก็ทิ้งง่ายๆ
วันนั้นใครนะที่ไล่อย่างกับหมูกับหมา
เอาพี่อัฐมาอ้าง ก็ไม่ได้ช่วยให้ภาษีดีขึ้นหรอก

“แรงเยอะชะมัด...แต่เอ๊ะ!.....เอ่อ.....”
นทีเกาหัวอยู่นานจนอ้ายเผลอลืมทำหน้าตาย
คิ้วสวยยกขึ้นด้วยความฉงน  ตกลงมันจะพูดอะไร?

“ช่างมันเถอะ”
ร่างสูงกระโดดกลับขึ้นมาบนเตียง ทำให้อ้ายต้องขยับหนี  มือผมรวบผ้าห่มขึ้นมาถึงหน้าอก

“ทำอย่างกับจะโดนปล้ำ”
อ้ายล่ะอยากตะโกนด่ามันเสียจริง
เป็นแบบนี้ก็อัดอั้น  อกจะแตกตาย

“คืนนี้ขอนอนด้วย แม่บอกมา”

นอนห้องรับแขกไปสิ  เสือกไรห้องนี้วะ

“ไม่ทำอะไรหรอก”

อ้ายขี้เกียจจะพูด
วันนี้เหนื่อยเหลือเกิน  เล่นสงครามมาเยอะแล้ว  จึงล้มตัวลงนอน

“ฝันดีนะอ้าย”
นทีปิดไฟหัวเตียง  นอนตามร่างบาง
กลิ่นสบู่อ่อนๆลอยตามแรงแอร์
นทีขยับผ้านวมให้สูงขึ้น  ด้วยกลัวว่าอีกคนจะเป็นหวัด

สถานการณ์ตอนนี้มืดแปดด้าน
เขาไม่รู้ว่าจะช่วยคนรักยังไง
ไม่รู้ว่าอ้ายกำลังคิดอะไรอยู่  ที่แน่ๆอ้ายโกรธเขามาก
นทีอยากได้โอกาส..ที่ไม่ใช่การปาข้าวของใส่กัน
โอกาสที่มาจากใจอ้ายจริงๆ

“ทีรักอ้ายนะ....ทุกครั้งที่ทีหลับตา  ...รู้มั้ย...ไม่เคยลืมเลย  รอยยิ้มตลกๆของอ้าย  หน้าตามีความสุขของอ้าย
มันกลายเป็นหน้าเศร้าๆของวันสุดท้ายที่เราเจอกัน”
นทีพูดเพ้อกับตัวเอง  เขาไม่อยากให้อ้ายได้ยินหรอก  เพราะมันน้ำเน่าเกินไป
ถ้าอ้ายได้ยิน  อ้ายก็จะคิดว่านทีปั้นเรื่องขึ้นมาอีก
“ผมรักอ้ายนะ....จำได้มั้ยวันที่เราไปภูกระดึง”
“ทีอยากพาไปอีกจัง...หายไวๆนะครับ”

นทีโอบร่างผอมแห้งเข้ามาแนบอก


....เหมือนจะมีอีกสิ่งที่ทีไม่รู้นะ...


อ้าย....ยังไม่หลับ


.......................................


เรื่องนี้แต่งสด ไม่มีสต็อค  เลยช้า   :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน6* 24ตค58 มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-10-2015 06:04:34
เพราะอ่านจากมุมมองของอ้าย ทุกคนเลยดุร้ายไปหมด แต่รู้สึกคดีอาจจะพลิกก็ได้ :katai1:
คิดไปคิดมา อ้ายนี่แหละนิสัยเสียที่สุด :laugh:
ไปเผลอถีบทีแบบนั้น ความลับได้แตกกันพอดี ไม่ใช่ทีเค้าเริ่มระแคะระคายแล้วเหรออ้าย :z1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน6* 24ตค58 มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 24-10-2015 11:50:30
ฮรื้ออออ :hao5: ดีใจมาต่อ

นี่เข้าข้าอ้ายนะ อ้ายอ้ายอ้ายยยย :fire:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน6* 24ตค58 มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-10-2015 19:31:48
อ้าย อ้ายเป็นอะไร
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน6* 24ตค58 มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-11-2015 15:22:44
คนนิสัยเสีย
ตอน 7



อ้ายไม่รู้ว่าคนอื่นจะมีอาการแบบนี้หรือเปล่า
อาการที่ว่ากระวนกระวายใจเวลาแฟนไปปาร์ตี้
อาการหงุดหงิด แต่บอกตัวเองว่าเราแค่ไม่มีอะไรทำ
ทั้งๆที่จริงแล้ว...มันโคตรของโคตรจะมี

อ้ายแอบมารอที่บ้านนทีด้วยซ้ำ
ถ้านทีมาเห็นเข้า เขาคงจะโกรธ
แต่อ้ายไม่รู้จะทำอย่างไรนี่
ก็มันห่วง ไม่มีไรทำด้วย
สู้มาเล่นกับข้าวเหนียวยังจะดีซะกว่า

อีกอย่างพ่อแม่นทีไม่อยู่
อ้ายผิดตรงไหน
ลูกสะใภ้มีประโยชน์อย่างเนี้ย หาที่ไหนไม่ได้แล้วนะ

"ข้าวเหนียว! เลอะโคลนอีกแล้วนะ!"

อ้ายจับเจ้าข้าวเหนียวหมาต๊องให้อยู่นิ่งๆจนตัวเองต้องเลอะตามไปด้วย
หมาน้อยสะบัดขนพรึบพรับ วิ่งพล่านไปทั่วบ้านด้วยคิดว่าอ้ายเล่นกับมัน

กว่าจะจับหมายอมซนได้ก็ใช้เวลานานโข
อ้ายอุ้มตัวหนักเป็นสิบกิโลของมันพาดบ่า
เปิดน้ำใส่อ่าง วางหมาคลั่งน้ำลงไปให้มันว่ายเล่น
ข้าวเหนียวตีน้ำกระโดดโลดเต้นยกใหญ่
ทำให้อ้ายพอจะลืมความกังวลไปได้บ้าง

ทีนะที เดี๋ยวนี้เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ ก็กินเหล้าเก่งขึ้นเยอะ
"ถ้าคืนนี้พ่อแกไม่กลับ จะจับฆ่าทิ้งเลยคอยดู"
อ้ายจ้องหน้าหมา และบีบคอมันแบบไม่จริงจัง

"เฮ้อ...เมื่อไหร่จะกลับ"
อ้ายไม่ใช่คนประเภทโทรตามโทรจิก
นทีก็ไม่ชอบด้วย
เขาเลยทำได้แค่ส่งข้อความ หวังให้คนเมาเปิดอ่านบ้าง



เวลาล่วงเข้าตีสองแล้ว
นทีไปไหนของเขา
สิ่งที่อ้ายห่วงอันดับหนึ่งเลยคือ
นทีจะเมาจนเผลอไปนอนกับใครหรือเปล่า?
อ้ายรับไม่ได้แน่...
อ้ายพยายามทำใจว่าชีวิตมหาลัยไม่ใช่มัธยม
เราจะมาทำตัวเป็นเด็กไม่ได้
แต่อ้ายเพิ่งจะ18เองนะ ใช่ว่าต้องแก่ซะเมื่อไหร่
แค่อ้ายเสียตัวตั้งแต่ม.ต้น ก็รู้สึกแก่จะแย่อยู่แล้ว...

"ข้าวเหนียว!!" อ้ายดุหมาดื้อ ที่ตอนนี้วิ่งพล่านไปทั่วบ้านทั้งๆที่ตัวยังไม่แห้ง

ร่างสมส่วนเหงื่อแตกพลั่ก สู้กับหมา

เป็นวันที่เหนื่อยจริงๆ

เหนื่อยใจน่ะนะ...
.
.
.
.

แผล่บ...
แผล่บๆ

อื่อ... หมาบ้า
อ้ายเช็ดน้ำลายหมาออกจากแก้มเนียน ก่อนขยี้ตางัวเงีย
แดดยามเช้าแยงตา ทำให้อ้ายซุกหน้ากับโซฟา
ปวดหลังปวดคอไปหมด  เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ไฟก็เปิดทั้งบ้านอีก
แม่สะใภ้รู้คงโดนตำหนิ


แต่นั่นไม่น่าเศร้า
เท่ากับการรับรู้ว่า


.....นทียังไม่กลับมา


............






"อย่างนั้นครับ ค่อยๆเดินนะ อย่าตื่นเต้นจนลงน้ำหนักมากไปล่ะ"

พลตั้งใจสอนอ้ายอย่างใจเย็น
นักกายภาพคนนี้ดีกว่าคนไหนๆที่อ้ายเคยรู้จัก
ร่วมสามเดือนกว่าแล้วที่อ้ายออกจากโรงพยาบาล
แต่เขาก็เพิ่งมาฝึกจริงๆจังๆกับพลได้แค่เดือนเดียวเอง

อ้ายพัฒนาการดีขึ้นมากจนแม่ตกใจ
คุณนายดรุณีคิดว่า ต่อให้ลูกซูบลงกว่าเดิมแต่เดินได้เป็นปกติ เธอก็พอใจมากแล้ว

เธอไม่รู้เลยว่าพลผู้เปรียบดั่งเทวดามาโปรดนั้น มัวเมาอ้ายอย่างไรบ้าง


"คืนนี้พี่จะเอามาอีกนะ"
พลหมายถึงวิสกี้ชั้นดีที่ซื้อด้วยเงินคนขาเจ็บ
เขาหายใจไม่ทั่วท้องทุกทีเวลาคุณนายเดินมาดู
นักกายภาพบ้าอะไรมอมเหล้าคนป่วย
นี่ยังไม่รวมค่ำคืนแสนเมามันส์กับอ้ายอีกนะ
เขามีความสุขจริงๆ
โดยเฉพาะเวลายัดแท่งกามเข้าไปในร่างกายคนพิการ
นี่แหละคือเวลาที่เขาเหนือที่สุด


*อ้ายมีอะไรจะถาม  เมื่อคืนวานอ้ายเจ็บตัวไปหมด เป็นเพราะกายภาพแล้วกินเหล้าหรือเปล่า*

อ้ายส่งกระดาษให้พล ขณะนั่งพักเอาแรง
สงสัยอาการปวดหนึบของตัวเอง โดยเฉพาะช่วงสะโพก และรูก้น
วันนั้นเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย
พลเล่นเอาทั้งเหล้าทั้งเบียร์นอก มาให้ลอง มันเลยตีกันแทบตาย

อ้ายพยายามหลอกตัวเอง ว่าคงไม่ใช่เรื่องนั้น


"คงใช่แหละน้องอ้าย ตอนนี้ดีขึ้นยัง"

อ้ายพยักหน้า ปากซีดยกยิ้ม

แม้สายตาของพลจะไร้ความจริงใจ
แต่อ้าย ....เลือกมองข้าม

*ถ้าอ้ายหาย พี่พลต้องอยู่ที่นี่ต่อนะ*

อ้ายเชื่อใจนพพล
พลทำให้อ้ายได้ทุกอย่าง
ไม่ใช่แค่ทำกายภาพ
แต่พลยังสอนอ้ายใช้ชีวิต
สอนวิธีลืมไอ้คนชั่วพรรค์นั้น

อ้ายซึ้งในน้ำใจผู้ชายคนนี้จริงๆ



...........







สัมผัสบางเบาบนแก้ม
ราวกับรอยผีเสื้อ

อ้ายค่อยๆลืมตา เพื่อพบว่านทีไม่อยู่ในห้อง
ทำไมจมูกเขาต้องร้อนอึงขึ้นมา
อ้ายก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

เขากอดตัวเองแน่นขึ้น
บอกว่ารักตัวเองเถอะ อย่าเผลอไปรักใครเลย

....หิวข้าวจัง

สายแล้ว
อีกไม่กี่นาทีก็เที่ยง

อ้ายรอให้แม่บ้านยกข้าวมาให้
เขาขี้เกียจลงไปข้างล่าง
สองสามวันมานี้ไม่อยากขยับตัวทำอะไร


"อ้าย...ตื่นแล้วเหรอลูก"
ไอ้เวรเอ๊ย ออกไปก่อนเขาตื่น แล้วยังไม่ล็อคประตูอีก
คอยดูเถอะ จะไม่ให้นอนด้วยอีกเลย


"ทีเขามีธุระด่วนน่ะ เลยออกไปก่อน"
แม่นี่ชักยังไง
เดี๋ยวก็สนับสนุน เดี๋ยวก็ไม่สนับสนุน


คุณนายดรุณีลูบหัวคนหน้ามุ่ย
ดูออกว่าลูกตัวเองรู้สึกอย่างไร
แต่จิตใจของอ้ายไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับความรัก
เธอผิดเองแหละ
ที่ตามใจลูก
ปล่อยให้ลูกรักษาตัวเอง แทนที่จะพาไปพบจิตแพทย์
อ้ายเลยเพี้ยนอย่างนี้ไง

โครก~

คุณนายหลุดขำ
ตบมือเรียกแม่บ้านให้ยกอาหารเข้ามา


*ทำไมวันนี้อยู่บ้าน*
อ้ายส่งกระดานแม่เหล็กให้แม่พลางตักข้าวเข้าปาก

"พี่อิฐไปดูบริษัทแทนแม่น่ะ"
อ้ายตาขวางทันทีเมื่อได้ยินชื่อ

"อย่าโกรธอย่าเกลียดพี่เขาเลยลูก พี่อิฐรักอ้ายนะ"


อ้ายกลอกตาไม่เชื่อ
รักตรงไหน
รักแล้วทำให้เสียใจ
 รักทำไม

"พี่เขาหวังดี อยากให้อ้ายกลับมาเป็นคนเดิม"

"นทีก็เหมือนกัน...นี่ไปลงคอร์สฝึกเป็นนักกายภาพเลยนะ เพื่ออ้ายเลยนะลูก"

อ้ายแบะปาก
น่าปลื้มจนแทบอ้วก

"เปิดใจนะอ้าย แม่มาคิดๆดูแล้ว ในเมื่ออ้ายไม่ลืมเขา ดังนั้นเราก็อย่าให้เขาลืมเราอีกสิ"

อืม....ที่พูดมามันก็ถูก
นทีต้องไม่ลืมเขา
อ้ายจะสร้างความเท่าเทียมนี้เอง!



หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-11-2015 18:49:38
เพราะอ่านจากมุมมองของอ้าย ทุกคนเลยดุร้ายไปหมด แต่รู้สึกคดีอาจจะพลิกก็ได้ :katai1:
คิดไปคิดมา อ้ายนี่แหละนิสัยเสียที่สุด :laugh:
ไปเผลอถีบทีแบบนั้น ความลับได้แตกกันพอดี ไม่ใช่ทีเค้าเริ่มระแคะระคายแล้วเหรออ้าย :z1:


อ้ายมีความลับเหรอคะ
ไม่มี้ ไม่มี 


ฮรื้ออออ :hao5: ดีใจมาต่อ

นี่เข้าข้าอ้ายนะ อ้ายอ้ายอ้ายยยย :fire:


มาต่อแล้วน้าหลังจากหายไปสามพันปี แต่เหมือนสิงเล้าอยู่ตลอดเวลา5555


อ้าย อ้ายเป็นอะไร

อ้ายเป็นคนอกหัก โดนคนรักทอดทิ้ง T^T
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-11-2015 22:10:26
เงิบ นพพล


อ้ายทำไมต้องเจอคนแบบนี้ด้วยนะ

ส่วนนทีก็ปล่อยอ้ายไปเถอะ จริงๆ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 09-11-2015 22:46:58
บางทีเหมือนอ้ายรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
บางทีก็เหมือนไม่รู้
ที่พลทำกับตัวเองนั้น
เลวร้ายมากๆค่ะ
ทำร้ายคนอื่น

งงเหมือนกันว่านทีกลับมาทำไม
ในเมื่อตัวเองก็หลุดพ้นไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 10-11-2015 14:21:38
รอตอนต่อคะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 10-11-2015 15:25:13
สงสารอ้าย. เสียใจจากที ต้องพิการ. แถมยังโดนพลล่อลวง. แม่คงรู้เรื่องพล. เลยรู้สึกผิด. แต่ก็ไม่เข้าใจทำไมทีต้องเชื่อแก้ว.

ไล่อ้ายแล้ว จะกลับมาทำไม. เหตุผลขัดแย้งกันสุดๆ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 10-11-2015 16:38:05
งง
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-11-2015 17:03:16
เหมือนอ่านข้ามช็อต อิตาพลนี่โผล่มาตอน อะไรยังไงอ่า :serius2:
แถมยังมาทำมิดีมิร้ายกับอ้ายอีก  :katai1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 11-11-2015 22:17:37
ห๊ะ ลักหลับอ้ายหรอ :z6:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน7* 7พย58 มาต่อกันๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 12-11-2015 00:11:59
เจออย่างพลควรให้ออกมากกว่านะ
น้องอ้ายทำไมซวยจัง
สรุปว่าชื่อเรื่องคือฝ่ายเคะ 555
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-11-2015 22:31:42

คนนิสัยเสีย 8



อ้ายกะพริบตาถี่ รอรูม่านตาปรับแสงให้เข้ากับความสว่างจ้า

ลำคอแห้งผาก
ในท้องหายปวดมวนไปนานแล้ว
แต่บางครั้งเมื่อนึกถึงความทรมานตอนล้างท้อง มันก็โครกครากขึ้นมาอีก

อ้ายไม่นึกเลยว่าการวางใจไปกับคนอีกคน
มันจะทำเขาได้เจ็บแสบขนาดนี้
ไอ้เวรนพพล!!!
ไอ้เดนมนุษย์!!

แม่จับมันเข้าคุกอย่างเงียบๆ
เพราะกลัวว่าถ้าพี่อัฐรู้ แล้วเรื่องมันจะบานปลาย
พี่อัฐอาจคาบข่าวไปบอกคนที่อยู่อีกฝั่งทวีป
อ้ายไม่อยากโดนสมเพช ไม่อยากได้รับความสงสารจากมัน

ทั้งๆที่จิตใจอ้ายดีขึ้นแล้วแท้ๆ
ทั้งๆที่อ้ายแข็งแรงแล้วแท้ๆ
แต่ทำไม....
การปิดหูปิดตาไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย
ความเจ็บก็คือความเจ็บ
มันเปลี่ยนให้เป็นความสุขได้เหรอ

อ้ายถึงขีดสุดของจุดนั้นแล้ว
อ้ายเคยอยากตายมาครั้งหนึ่ง

มาครั้งนี้....ทำไมสวรรค์ต้องกลั่นแกล้งให้อ้ายอยากตายอีก
แล้วเสือกไม่ตายด้วยโว้ย!

อ้ายหายใจแรง
ก่นด่าฟ้าฝนด้วยถ้อยคำเลวร้ายที่สุด เท่าที่จะนึกออก
น้ำตาไหลรินเปียกหมอน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ช่วยอ้ายเลย
ฮึก.....ไม่อยากทรมานแล้ว



อ้ายปาดน้ำตาทิ้งเมื่อพยาบาลเปิดประตูเข้ามา
เธออมยิ้มให้เล็กน้อย
ตรวจร่างกายตามปกติ
แต่เธอไม่สามารถตรวจจิตใจอันบอบช้ำได้

อ้ายอาละวาดตอนจิตแพทย์เข้ามาจนโรงพยาบาลแทบแตก
ตั้งแต่นั้นแม่อ้ายก็ไม่ให้พวกนั้นเข้ามาอีก

ไม่...เขาไม่ได้บ้า

เขาแค่ต้องการเวลา

และมันใกล้สำเร็จแล้ว

เวลาเพื่อลืมใครบางคน


..แล้วทำไม!!!!

ไอ้พล! ไอ้เลว! กูเกลียดมึง!!!
ไอ้ที ! ถ้าไม่ใช่เพราะมึง กูคงไม่เป็นอย่างนี้

กูต้องมีความสุขสิ!!



"ทานยาก่อนนะคะ"
เสียงพยาบาลฉุดสติอ้ายกลับคืน
ร่างผอมเพิ่งรู้สึกถึงความเจ็บของฝ่ามือจากการโดนเล็บจิก
อ้ายกางมือ จ้องมองรอยแดง
แผลแค่นี้....ทำให้อ้ายตายได้หรือเปล่า
.....ก็ไม่

อ้ายรับยาระงับประสาทมากรอกใส่ปาก
กลืนได้โดยไม่ตามน้ำสักหยด

ขอแค่ลืม
แค่อีกสักวัน...




..........................







จ๋อม...
จ๋อม.....

อาหารปลาถูกสาดกระจายเป็นวงกว้าง
อ้ายยืดตัวสูงขึ้นอีกนิดเพื่อจะได้เห็นฝูงปลาแย่งอาหารง่ายๆ
นทีพยายามเข้ามาพยุงเหมือนกัน
แต่อ้ายสะบัดออกทุกครั้ง

อยู่บนรถเข็นสบายดีน่า จะมาเสือกทำไม

"ทีซื้อรถเข็นดีๆให้เอามั้ย?"

ไม่ต้องยุ่ง ไม่จำเป็น!


"ทียอมอ้ายทุกอย่างเลยนะ"

ยอมจริงๆเหรอ?

อ้ายเหลือบตาถาม

นทีพยักหน้าเหมือนหมา

อ้ายจำไม่ได้แล้วว่าทีเคยทำหน้าแบบนี้หรือเปล่า

เวลาสองปีกว่า ก็ไม่ได้นานขนาดนั้น
แต่ทำไมอ้ายกลับจำความน่ารักอย่างนี้ไม่ได้เลย....

เขาหันไปมองทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก

อ้ายบอกกับแม่ว่า อ้ายจะทำให้ทีฝังเขาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุด
ต่อให้ตาย ทีก็จะไม่มีวันลืม
แต่มาวันนี้ เขากลับนึกไม่ออก

ดวงหน้าที่พอจะมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างส่ายหน้าปฏิเสธรถเข็นคันใหม่
เจ้าตัวที่เขานั่งอยู่กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายอ้ายไปแล้ว
อ้ายทิ้งมันไม่ลงหรอก

มือผอมๆส่งถุงอาหารปลาให้นักกายภาพฝึกหัด
อ้ายหมุนล้อไปทางอื่น  จ้องมองแม่น้ำเงียบๆ

ชีวิตเขาเคยสงบหรือเปล่า?
อ้ายไม่มีคำตอบ
เพราะยิ่งนึก
มันก็ยิ่งตอกย้ำเรื่องโหดร้ายที่เคยพบเจอ
ทั้งๆที่.....
.....เขากำลังก้าวต่อไป

.
.

“อ้าย....กลับกันยัง”
นทีแตะไหล่คนรัก
วันนี้อ้ายดูสงบขึ้นมาก  อาจเป็นเพราะอยู่ในวัด จึงไม่กล้าอาละวาด
แต่นทีพอจะดูสายตาอิ่มเอมนั้นออก
อ้าย...กำลังมีความสุข

เขาคิดว่า....เขาคิดนะ  แค่เขาคนเดียว
ว่าดีแล้วที่กลับมา
อ้ายอยู่กับใครไม่ได้หรอกนอกจากเขา




………………………………………..



อ้ายนี่นับวันยิ่งงี่เง่า
แก้วมันน่ารำคาญหูรำคาญตาขนาดนั้นหรือไง ถึงต้องขวางมันทุกทาง
มันก็เพื่อนเขา เพื่อนกันทั้งนั้น  แม่ง
เพื่อนที่ไหนจะดีเท่ามันวะ สรรหาทุนเรียนต่อมาให้ ชวนกันติว
นทีไม่ใช่คนโง่นะที่จะดูแก้วไม่ออก
ถ้าแก้วมันจ้องจะจับเขา มันเอาไปนานแล้ว
แต่แก้วมันก็เหมือนเดิมทุกอย่าง
น่ารำคาญ!
เห็นหน้าอ้ายทีไร  นทีก็นึกออกอยู่แค่คำเดียว

“อ้ายกลับไปก่อนนะวันนี้”
นทีไล่อ้ายตรงๆ
เขาจะติวสอบชิงทุนกับแก้วหลายชั่วโมง
ขี้เกียจให้อ้ายมารอ
เห็นแล้วแม่งหงุดหงิด


“ทีจะอยู่นานหรือเปล่า เดี๋ยวอ้ายซื้อของมาให้กิน”

“เฮ้ยนี่ฟังป่ะวะ กลับไปก่อน”

อ้ายยังคงยิ้ม  เหมือนคนไม่เข้าใจภาษาคน
“อ้ายหมายถึง.....อ้ายจะกลับ  แต่จะไปซื้อขนม...มาไว้ให้”
นทีรู้ว่าอ้ายกำลังกลั้นน้ำตา
เสียงคนตัวเล็กกว่าสั่นเครือ

เขาถอนใจ
พยักหน้าให้อ้ายไป
นทีเดินขึ้นห้องกับแก้วตามลำพังสองต่อสอง
แม้มันดูไม่ดีนัก แต่เขาบริสุทธิ์ใจจริงๆ
แล้วเดี๋ยวจะมีอีกสองสามคนตามมาสมทบด้วย
ฉะนั้นมันไม่มีอะไรน่าเกลียดสำหรับเขา

นทีและแก้วเตรียมอุปกรณ์การเรียนมาวางบนโต๊ะ
เรียบเรียงชีทก่อนอ่านอย่างเป็นระเบียบ

“นี่กูต้องรู้ภาษาเยอรมันป่ะวะ”
นทีกล่าวขำๆ

“เอออ้ายกลับไปแล้วเหรอ”

“เปล่า  เดี๋ยวคงเอาเสบียงขึ้นมาให้ก่อน”

“อืมๆ”

“ถามจริงเถอะแก้ว  มึงไปพูดอะไรกับเขาหรือเปล่า  ทำไมเกลียดมึงนัก”

“ไม่มีอะไรนี่หว่า ก็ทำตัวปกติ”

“เออๆ เดี๋ยวกูช่วยพูดให้  อ้ายมันเป็นคนเอาแต่ใจ ถูกกูเอาใจมาตลอด พอห่างๆกันมันเลยหวงนะ”


“มึงก็เตือนเขาบ้าง  ว่าจะมาทำกิริยาแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้  ไม่ใช่อะไรนะเว่ย กลัวโดนด่าหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
นทีคิดว่าแรงไป แต่ก็ไม่ได้ท้วงเพื่อน

“นี่ถ้ากูสอบติดขึ้นมา  มันเอากูตายแน่เลยว่ะ”

“อย่าเครียดน่าเพื่อน  ถ้าเขาฉุดอนาคตเรา ก็เลิกกันไปเลย”

ปั้ง!
“โทษที ลมมันตี”
อ้ายเดินข่มใจนิ่งมาที่สองเพื่อนรักเพื่อนพิศวาส
เขาวางถุงขนมลง   หน้าแดงจัด

“อ้ายกลับก่อนนะที”
อ้ายเอ่ยก่อนกลั้นใจหอมแก้มคนรักโดยที่ไม่มีความรู้สึกซาบซึ้งเลยสักนิด




ดีจัง....
ดีจังเลยที่น้ำตาเพิ่งไหลหลังออกมาจากห้องนรกนั่น
อ้ายไม่ยอมหรอก
เขาจะให้อีแก้วมันเห็นน้ำตาเขาไม่ได้!





.........................

ไม่น่าเชื่อว่าตอน8แล้ว
แต่เนื้อเรื่องยังไม่ค่อยถึงไหนเลย
น้องอ้ายยังคงเคียดแค้น5555
แต่ปมก็ค่อยๆเฉลยนะคะ ค่อยๆอ่าน  เรามิได้ปกปิดสิ่งใดเลยสักนิดดด
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-11-2015 00:00:18
นังแก้วนี่ร้ายจริงๆ นี่แน่ะ :beat:
แค่เรื่องนี้ คะแนนแกติดลบร้อยแต้มแล้วนที กลับมาตอนนี้ก็สายไปแล้ว ท่าทางจะทำเรื่องไว้อีกเยอะ :angry2:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-11-2015 00:16:37
อ้ายนิสัยเสียขึ้นเพราะเจอคนแบบนพพลกับนทีเนี่ยล่ะ

ขอพระเอกคนใหม่ได้ไหมค้าาาาาาาาาาา  :call:

แบบนิสัยดี รัก ดูแลอ้ายได้

ไม่ทำให้อ้ายต้องผิดหวังอีก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-11-2015 02:43:55
เรื่องดำเนินช้ามาก อ่านไปหน่วงไป
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 14-11-2015 09:49:11
เข้าใจอ้ายนะ แค้นมากก็เพราะยังรักมาก ผิดหวังมากก็เลยเสียใจมาก :m15:
ทุกความรู้สึก มันยังติดค้างอยู่ในใจ  :serius2:
แล้วอยู่ๆทีกลับมาทำดีด้วยทำไม? เพื่ออะไร? ไม่เข้าใจ? โปรดสัตว์เหรอ? :m16:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: oumpatta ที่ 14-11-2015 10:43:48
เจอแบบนี่ก็ไม่แปลกใจที่นิสัยเสีย ดูสิ่งที่พี่ ไอ้พล กับแฟนเก่าทำดิ
ไม่รู้มีเหตุผลอะไร แต่เจอแบบนี่ชาตินี้อย่ายุ่งกันอีกเลย
คิดว่าคนแต่งคงแต่งให้คนที่รับกรรมหนักๆมีแค่อ้ายนั่นแหล่ะ
แต่คนที่ทำจริงๆอย่างนทีโดนอะไร??  หรือมีมากกว่านั้น
อยากให้โดนมากกว่าที่อ้ายโดน เห็นมันเศร้าสุดก็แค่อ้ายเมิน เหอะๆ

ส่วนตัวคิดว่าที่อ้ายนิสัยเสียเพราะเจออะไรหนักๆจากคนรัก คนสนิทนั่นแหล่ะ
ยิ่งสะสมมาก ยิ่งระเบิด
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน8* 13พย58 ต้อนรับศุกร์13
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 14-11-2015 12:24:31
ไม่ชอบนทีเลย

อยากให้อ้ายมีความสุข
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-11-2015 21:08:48
คนนิสัยเสีย9



"เจ็บมั้ย?"
นทีวางท่อนขาผอมลงบนต้นขาตัวเอง
เขานวดเบาๆ เพื่อกระตุ้นเส้นประสาท

อ้ายควรจะเจ็บ
แต่อ้ายคงอยากรักษาฟอร์มต่อหน้าเขา
จึงทำนิ่ง จิบชาเอิร์ลเกรย์สบายใจเฉิบ

คนบนรถเข็นทำตัวราวตุ๊กตา
นทีจะหยิบจะจับท่าไหนได้ทั้งนั้น


"จิบแต่ชาไม่เบื่อรึไง ทีหาขนมให้กินเอามั้ย?"
นทีสู้เอาใจทุกอย่าง

อ้ายจินตนาการว่าตัวเองกำลังถอนหายใจอยู่
ดวงตาหม่นลง
เขาไม่มีอารมณ์คิด  อารมณ์เครียด

ไม่รู้ทำไม
....ตอนนี้อ้ายแค่อยากอยู่เฉยๆ
แค่อยู่ใกล้ๆกัน
แค่เห็นนทีห่วงหาอาทร  มันก็ทำให้อ้ายอิ่มในใจมาก

แต่อ้ายไม่บอกใครหรอก
เขาจะเก็บไว้เป็นความลับ

ถึงตายก็คงไม่มีใครรู้


"ขาผอมมากเลยน้า ...กินเยอะๆนะรู้ป่ะ"

"กินอย่างอื่นบ้าง ไม่ใช่แค่โจ๊กกับข้าวต้ม"

"อ้ายจ๋า ...อ้ายจะไม่พูดสักคำเลยเหรอ?"
นทีช้อนตามองจากเบื้องล่าง
มือหนากว่าเกาะกุมมืออ้ายไว้

อ้ายเพียงหลุบตามอง
แล้วหยิบกระดานแม่เหล็กขึ้นมาเขียน

*พูดไม่ได้*

นทีมุ่นคิ้ว
พี่อัฐบอกว่าอ้ายแกล้งประชดชีวิตไปอย่างนั้น
ปากอ้ายไม่ได้เป็นไรเลย
หมอก็บอกอยู่ว่าลำคออ้ายไม่ได้ถูกกระทบกระเทือนจนพูดไม่ได้สักนิด


"อ้าย....ทีสำนึกผิดแล้วนะ...."
นทีไม่รู้ว่าเขาต้องทำตัวอย่างไรจึงจะถูกใจอ้าย
บางครั้งก็ลืมคำพูดแก้ตัวเสียหมด
นึกออกอยู่เท่านี้ก็ดีถมเถ

เอาเข้าจริง  อาจเป็นเพราะเขารู้สึกสำนึกผิดน้อยเกินไป
รู้สึกว่าตัวเอง ...ทำถูกอยู่บ้างตรงที่อ้ายในคราวนั้น...น่ารำคาญสุดๆ

แต่พอคิดทบทวน
อ้ายกลับดีที่สุด  เท่าที่เขาจะหาคนมาเปรียบเทียบได้

*ไม่อยากฟังอ้ายพูดไม่ใช่เหรอ  รำคาญไม่ใช่เหรอ*
อ้ายเขียนรัวเร็วบนกระดาน  ข้อมือเกร็งเครียด
ไม่ถึงเสี้ยววิ อ้ายก็ลบมันทิ้ง
แต่ยังดีที่นทีจับใจความได้ทัน

นทีเผลอยิ้มออกมา

ทำให้อ้ายคิดว่าตัวเองเป็นตัวตลก

นี่เขาเผลอแสดงความรู้สึกมากไปหรือเปล่า??

อ้ายหันหน้าหนี
ดึงขาตัวเองออกมา  แล้วหมุนล้อไปยังสระบัว



.................





อ้ายรู้ตัวหรือเปล่าว่าอ้ายเปลี่ยนไปแค่ไหน
นทีอยากมีแฟนเป็นผู้ชายก็เพราะเข้าใจอะไรได้ง่าย
ไม่งี่เง่า

แต่อ้ายมันตรงข้ามทุกอย่าง
หน้าตาก็ใช่ว่าจะน่ารัก
ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ที่เราจะรู้สึกเอ็นดู

อ้ายมีดีแค่ตากลมโตเวลามันออดอ้อนเท่านั้นแหละ

นทียืนเท้าเอวรอแฟนที่นัดกันไว้อยู่หน้าโรงหนัง
หนังจะเข้าอยู่แล้ว ทำไมยังไม่มาอีกวะ


นทีตัดสินใจโทรตามคนไม่ตรงเวลา
แต่สายตาก็เห็นอ้ายวิ่งกระหืดกระหอบมา

เขาหัวเสีย
หมดอารมณ์ดูหนัง
แต่ก็ต้องดูเพราะเสียดายเงิน

นทีกระชากแขนอ้ายให้เดินตาม
พอถึงที่นั่งก็ดัน...ไม่สิ..ยัดอ้ายให้นั่งลง
ส่วนตัวเองกระแทกก้นกับเก้าอี้
ต่อให้มันพัง เขาก็ไม่สนใจ


"จะไปไหน หนังมาแล้ว!"
นทีกระแทกเสียง เมื่ออ้ายทำท่าจะลุก


"อ้ายหิวน้ำ จะไปซื้อน้ำ"
อ้ายพูดเสียงอ่อย


"ตัวเองมาช้าเอง"


"ขอโทษ อ้ายตื่นสาย"


"ไม่ต้องกิน  นั่งทนไป"

.
.
.
.

เมื่อหนังจบ อ้ายก็รีบวิ่งไปซื้อน้ำทันที
รู้ดีว่านทีโกรธอยู่
แต่ทำไงได้ล่ะ รถมันติดนี่
บอกให้นทีรอมาด้วยกัน มันก็ไม่รอ

คือไม่เข้าใจว่ามันจะทำให้เรื่องยุ่งยากทำไม
บ้านก็ติดกันแท้ๆ


"อ้ายกลับไปก่อนนะ ทีนัดเพื่อนต่อ"

หึ...นี่สินะเหตุผลที่แท้จริง
เอารถมาเอง ก็เพื่อไปต่อกับเพื่อน
เพื่อนคนไหนล่ะ ! คงไม่พ้นอีแก้ว!


"ถามจริงเถอะ ทีอยากมาดูหนังกับอ้ายจริงๆรึเปล่า?"

นทีชักสีหน้าทันที
"อยากสิ เราคุยกันมาตั้งหลายวัน ทำไมทีจะไม่อยากดู"


"ทีไม่ไปกับเพื่อนไม่ได้เหรอ...อยู่กับอ้ายนะ เนี่ยยังไม่เจอข้าวเหนียวเลย"
อ้ายจับแขนนทีเชิงอ้อน
เขาพยายามอ่อนลง เพราะสีหน้านทีเริ่มเหมือนยักษ์เข้าไปทุกที


นทีดึงแขนตัวเองออก
"ไม่ได้หรอก  ทีจะทำงาน"


"ทำไมงานเยอะจัง..."


"งานมันก็เยอะเป็นปกตินะอ้าย ..แล้วเนี่ย ทีก็ปลีกตัวมาอยู่กับอ้ายแล้วไง  อย่าคิดมากได้มั้ย 
เดี๋ยวนี้อ้ายวุ่นวายกับชีวิตทีมากไปป่ะ  เมื่อก่อนก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้นี่หว่า"

นทีพูดระบายความในใจ
เขารักนะรัก  แต่ทำไมมันโคตรน่ารำคาญ


"อืม...งั้นอ้ายกลับละกัน"
อ้ายฝืนยิ้ม
หันหลังกลับ  สมองยังมึนเบลอ
มันโล่งไปหมด

เอาล่ะ
 นทีคงชอบถ้าอ้ายว่านอนสอนง่ายแบบนี้ตลอดไป



.…




คืนนี้มันก็นอนด้วยอีกแล้ว
อ้ายจำต้องพับกิจกรรมที่ทำประจำเวลาอยู่คนเดียวไป

แม่นะแม่  สนับสนุนให้ลูกอ่อยผู้ชาย
ไม่รู้หรือไงว่าอ้ายทำไม่เป็น
แต่ก็ช่างเถอะ
อ้ายสะบัดหัวไล่ความคิด
คว้าแลปทอปมาเล่นบนตัก  ปรับลดแสงหน้าจอ  พยายามไม่ก้มหัวมาก
ช่วงนี้เขามึนหัวง่าย  อาจเป็นเพราะความดันไม่ดี   แต่ก็ไม่อยากบอกใคร
รู้สึกว่าถ้าตายๆไป มันก็เป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์


"เล่นอะไรอยู่"
นทีออกมาจากห้องน้ำ
มันสะบัดหัวไล่น้ำอย่างกับหมา
อ้ายถอนใจเอือมระอา


"ดูด้วยสิ เดอะซิมส์เหรอ"

อ้ายพยักหน้าตอบ
คลิกเลือกครอบครัวโปรดของตัวเอง
ครอบครัวนี้มีผู้ชายสองคนกับหมาและแมวอีกอย่างละคู่

นี่คือความฝันของอ้าย
เขาใช้เกมจำลองชีวิตสร้างฝันของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นมา และอ้ายก็ชอบมันมาก

อ้ายติดเดอะซิมส์เพราะไอ้พลมันเอามาให้เล่น
ไม่นึกเหมือนกันว่าคนจิตใจสกปรกแบบนั้นจะเล่นเกมประเภทนี้


ตัวละครของอ้ายเองถูกตั้งชื่อว่า 'อ้าย'
ส่วนแฟนของอ้ายมีชื่อว่า 'เอื้อย'
ดูง่ายดีใช่ไหมล่ะ
อ้ายไม่ตั้งว่านทีก็ดีเท่าไหร่แล้ว


"มันทำงานอะไรน่ะ"
นทีจิ้มไปที่ตัวนายเอื้อย หนุ่มหน้าโหดหนวดเฟิ้มที่กำลังเล่นกับหมาอยู่

อ้ายตอบด้วยการกดช่องข้อมูลการทำงานให้นทีอ่านเอาเอง


"โอ้โห! เป็นโจรเนี่ยนะ!"
อ้ายกลอกตาเชิงว่า 'แล้วไงล่ะ'


"อยากเล่นมั่งอ่ะ  ไม่ได้เล่นนานแล้ว ตั้งแต่ภาคสอง"

อ้ายไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
และรู้ตัวว่าเป็นคนขี้ใจอ่อน
จึงยกแลปทอปให้นทีเอาไปเล่น
ส่วนตัวเองพักสายตา  นวดขมับเบาๆ

"มึนหัวอีกแล้วเหรอ"

อ้ายพยักหน้าตอบ
นทีจึงลุกขึ้นไปหยิบยามาให้


"งั้นกินยาแล้วนอนดีกว่า เดี๋ยวทีเล่นต่อให้"



อ้ายว่าตามนั้น เพราะทั้งมึนหัว ทั้งปวดตา
ทั้งๆที่เพิ่งเปิดเกม

ร่างโปร่งสวดมนต์โดยไร้เสียง
และแทบจะเข้าสู่ห้วงนิทราทันทีเมื่อหัวแตะถึงหมอน

"ฝันดีนะครับ"
สัมผัสนี้อีกแล้ว

อ้ายด่าตัวเองว่าทำไมไม่รีบหลับให้ไวกว่านี้วะ
………




ช่วงนี้อ้ายกำลังสับสน
พยายามทบทวนตัวเอง
เลยมีเหตุการณ์อันน่าเบื่อซ้ำไปซ้ำมา
ก่อนถึงจุดเปลี่ยน  :hao5:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-11-2015 21:43:29
พักเรื่องนทีไปก่อน


อยากให้พลได้รับกรรมบ้าง
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 26-11-2015 22:41:03
เข้าใจอ้ายเลย ทำกันไว้ขนาดนั้น ถึงจะยังรัก แต่ก็ไม่สามารถลืมความผิดหวังเสียใจที่ผ่านมาได้ และก็ไม่อยากเห็นหน้านทีอีก ยิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งลืมไม่ได้ก็ยิ่งสมเพชตัวเอง                #อินเกิ๊นนนน  :ling3:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 26-11-2015 23:07:05
รออ่าน ดูเหมือนเรื่องน่าจะมีอีกหลายปม สนุกดี
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 26-11-2015 23:16:15
ที่จริงปล่อยมือไปแล้วก็น่าจะปล่อยไปให้ตลอด
แม่อ้ายก็ทำนทีไว้ในเรื่องของเงิน
กลัวแต่ว่านทีจะกลับมาแค่แก้แค้นหรือเปล่า?

รักนะนทีก็เห็นอ้ายเป็นอะไรเมื่อก่อน?
สงสัยโดนแฟนหักหลังมาหรือเปล่าถึงกลับมาหาอ้ายอีก

ขอบทจบพลหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 27-11-2015 00:46:35
#ทีมอ้าย

รอติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: oumpatta ที่ 27-11-2015 01:48:09
เมื่อไหร่นทีจะได้รับกรรมหนักๆซักที คือสิ่งที่ทำมันไม่น่ากลับมาเจอกัน
แล้วนี่คือมาตามง้อ อ่านแล้วรำคาญนที
ส่วนอ้าย ยิ่งหวั่นไหวยิ่งดูน่ารำคาญในสายตาเรา
แปลกนะ คนที่ทำกับอ้ายนี่ไม่โดนอะไรหรือรับกรรมเลย

นิยายส่วนใหญ่ชอบแต่งให้คนเลวๆที่รับบทพระเอก ได้ดีเสมอ
จะรอดูตอนนทีกับไอ้พลโดนเอาคืน
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 27-11-2015 14:22:11
เอาจริงๆอ้ายโคตรน่าสงสารเลย ทีเบื่อก็พาล อ้ายก็เก็บๆๆๆๆ โลกใบนี้ของอ้ายคือที ตอนนี้โลกหมุนกลับมาใกล้ๆอ้ายแล้วจะทนได้หรอ?
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: noina ที่ 27-11-2015 19:55:36
ไม่อยากให้ดีกันเลย  ให้อ้ายได้อยู่กับคนที่ดีกว่านี้เถอะ  ทีรักอ้ายจริงๆเหรอ  ถ้ารัก 2 ปีนี่ทำอะไรอยู่ มันก็ต้องมีอากกลับมาดูแลมั่งป่าวหว่า ตอนเจ็บใหม่ๆนอนพะงาบๆอยู่อะไรอย่างนี้  อยากให้อ้ายได้คนที่ดีกว่านี้


ขอบคุณคนแต่งมากเลยค่ะ  แต่งได้อินท์มาก :pig4:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน9* 26พย58
เริ่มหัวข้อโดย: beedy ที่ 29-11-2015 04:31:26
รู้สึกมีเงื่อนงำทุกตอนเลย  ชอบการเขียนแบบนี้ครับ ถึงจะย้อนไปย้อนมา แต่อ่านเข้าใจง่าย ให้คิดตลอดเวลาว่าตัวล่ะมีปมอะไร เจอกับอะไรมา และปัจจุบันคิดจะทำอะไรต่อไป :ling3: :ling2:

ละเอียดอ่อนทุกตอนเลยครับ สนับสนุนงานเขียนแบบนี้ครับ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ สร้างสรรค์ผลงานดีๆแบบนี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน. ติดตามตลอดครับ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-12-2015 03:08:11


คนนิสัยเสีย 10



จิตใจอ้ายกำลังต่อต้านอย่างหนัก
ก็ไม่รู้ไอ้พี่พลมันนึกคึกอะไรถึงล่อเหล้าไปทั้งขวดคนเดียว
แล้วเมาปล้ำอ้ายตอนที่เขายังมีสติ

ร่างสูงใหญ่พยายามเล้าโลมอ้าย
มันไซ้ซอกคอ และทิ้งรอยแดงช้ำเอาไว้ทุกจุดที่ปากเน่าๆของมันพาดผ่าน

อ้ายขยะแขยง

อ้ายไม่เคยผ่านผู้ชายคนไหนมาก่อนนอกจากที

เขาเกลียดการสัมผัสแตะต้องคนอื่น
อ้ายยอมให้ทีคนเดียว

แต่ตอนนี้....เวลานี้
อ้ายอยากอ้วก!!

เขาสมเพชตัวเองเหลือเกิน
ที่ปิดหูปิดตามาตลอด
พยายามคิดด้านดีของนพพล
แต่แล้วตัวมันเองกลับฉีกหน้ากากออก

มันก๊งเหล้ากับอ้ายตั้งแต่เย็น
และเริ่มลวนลามอ้าย
จับอ้ายทุ่มลงกับเตียง
ฉีกเสื้อผ้าจนขาดวิ่น

อ้ายรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะบ้า
เขาไม่ส่งเสียงเรียกให้ใครช่วย
เขาไม่แม้แต่ดิ้น

อาจจะบ้าจริงๆ
อาจจะบ้าจริงๆ
ใช่ๆ
บ้า


อื้อ!!
อ้ายกัดปากตัวเองอย่างแรง
ฟันคมทำให้เกิดแผลเหวอะ
เลือดค่อยๆไหลถึงคาง

ไอ้พลยัดท่อนเลวของมันเข้ามามิด
แล้วโถมกระหน่ำไม่ยั้ง


รสเลือดขมปร่าเต็มปาก
น้ำตาไหลลงด้วยความขื่นขม


อ้าย...ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย


...................





แม่อ้ายมีสีหน้าหนักใจกว่าที่ผ่านมา
ก็ตั้งแต่อ้ายเดี้ยง
อ้ายก็ไม่เคยเห็นแม่มีความสุขหรอก
เอาเป็นว่าคราวนี้แม่ดูอึกอัก
อยากพูดแต่ไม่ยอมพูด


"เอ่อ...อ้าย"
คุณนายสูดลมหายใจอย่างกับฝึกลมปราณ
"กับทีดีใช่ไหมลูก"

อ้ายรู้ว่านั่นไม่ใช่คำถามที่แท้จริง
แม่ต้องมีอะไรอีกแน่


"แม่...มีเรื่องจะบอก"

บอกมาเถอะน่า
ไม่เจอกันหลายวันเลยเขินรึไง


"ไอ้พลมันออกจากคุกแล้วนะลูก"
คุณนายหลับตาปี๋หลังพูดจบ

แม่คงกลัวเขาวิ่งไปหยิบมีดมาแทงตัวเองมั้ง

เอาตรงๆอ้ายเบลอไปเหมือนกัน
...ไอ้พลออกมาแล้ว
เพียงแค่ปีเดียว....

เวรเอ๊ย!!


วันนั้นทั้งวันอ้ายดูเป็นคนไม่มีสติไปเลย
ไอ้ทีประคบประหงมอย่างกับลูก
อ้ายเดาเอาว่าแม่คงบอกมันเรื่องไอ้พล

แต่แม่กลับไม่บอกพี่อัฐ
อยากจะบ้า!

อ้ายเหมือนคนบ้าก็จริง
แต่ไม่ได้บ้าสักหน่อย
ยังพอมีสมองคิดอยู่บ้างล่ะน่า
ว่าแม่เขาชักเอาใหญ่
ท่าทางอยากได้นทีกลับมาเป็นลูกเขยจนตัวสั่น

หึ...แม่นะแม่
อุตส่าห์ใจอ่อนให้แล้วเชียว

คนชอบสังคม
ยังไงๆ ก็ไม่พ้นวงการนี้หรอก

อ้ายก็เหมือนตัวถ่วงของแม่
มีนทีมา แม่หรือจะไม่ชอบ....


ไอ้พลออกจากคุกก็ดี
แม่จะได้ประสาทเสียและหันมาเอาใจอ้ายอีก

อ้ายอยากเห็นหน้าแม่มากกว่าไอ้คนข้างๆที่ยืนหัวโด่อยู่นี่


"อ้าย...หยุดเถอะ"

หยุด? หยุดอะไร?

อ้อ....อ้ายลืมตัว ขูดเล็บกับโต๊ะตามเคย

นทีจับมืออ้ายไปกุมไว้ ลูบรอยเลือดซิบเบา
มันพยายามเป่าเพี้ยงๆ แต่อ้ายคิดว่ามันติ๊งต๊อง


"เครียดใช่มั้ย ไปวัดกัน วันนี้ไม่มีแดด"

อ้ายส่ายหน้า ไม่ได้เครียดสักหน่อย
แค่กำลังดีใจที่แม่สนใจเขา

ไอ้พลมันก็มีประโยชน์เหมือนกันนะเนี่ย

อีกอย่างนะ ไอที่ไม่มีแดดน่ะ ก็เป็นเพราะฝนมันจะตกต่างหากล่ะ
นทีมันเรียนสร้างตึกจนโง่เรื่องดินฟ้าอากาศเลยเหรอ




ไหนๆฝนก็จะตกแล้ว
อ้ายอยากเล่นน้ำฝนมานานมาก
อยู่กับแม่ทีไร อ้ายไม่เคยได้เล่นสักที

เปาะ แปะ

ไม่ทันขาดคำ ฝนเม็ดเล็กก็โปรยลงมา
ลมพัดเอื่อยๆ เย็นสบาย

อ้ายหาจังหวะที่นทีเผลอ ไถล้อรถเข็นออกมาหน้าบ้าน

วู้ววววว!!! อ้ายตะโกนในใจ
สวยจังเลย
สวยจังภาพดวงอาทิตย์ขึ้น
กับคำบอกรักของใครบางคน

ทำไมมันซ้อนทับกับตอนนี้... เวลานี้ด้วยก็ไม่รู้

รสปะแล่มๆของหยดน้ำตาเข้าปาก
อ้ายเลียแผล่บ
มันก็อร่อยดี
น้ำตาเป็นเหมือนอาหารจานเด็ด
ที่เขาต้องลิ้มรสมันแทบทุกวันจนขาดไม่ได้



"อ้าย!! ออกมาทำไม?!"
นทีวิ่งหน้าตาตื่นลากอ้ายเข้าบ้าน
เขานึกว่าอ้ายเครียดเรื่องไอ้คนที่ชื่อนพพลจนจะฆ่าตัวตายแล้วเสียอีก

ยังดีแค่อาการเล็กน้อย
อ้ายคงอยากปลดปล่อยอะไรบางอย่าง

นทีสงสารอ้ายจับใจ
เช็ดหน้าที่เลอะน้ำฝน

"ตาแดงนะ"
ชั่วแรกเขาทักเพราะนึกว่าโดนน้ำเลยแดง
แต่ต่อมาก็นึกถึงความน่าจะเป็นของการร้องไห้มากกว่า
นทีชะงักเล็กน้อย ตบปากตัวเองว่าไม่น่าพูด

อ้ายต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเขารู้ว่าอ้ายร้องไห้


*หนาว*

นทีกลั้นยิ้ม
เวรกรรม
อุตส่าห์ระวังคำพูด
เจ้าตัวกลับแสดงความอ่อนแอซะเอง

สงสัยเพราะข่าวนพพล
สมองอ้ายจึงรวน จับต้นชนปลายไม่ถูกแน่ๆ
ถึงทำตัวน่ารักแบบนี้

นทีชอบเวลาอ้ายอ้อนจริงๆ


.
.
.
.

เพราะพี่เกดพาเจ้าข้าวเหนียวกลับมาให้เลี้ยงแท้ๆ
นทีถึงอดนอนกอดคนตัวผอมที่บ้านนู้น
ปีนี้ข้าวเหนียวก็เจ็ดขวบแล้ว
มันแก่  แต่พลังล้นเหลือเหมือนเคย
พี่เกดเอามันไปเลี้ยงตั้งแต่แต่งงาน เหตุผลคือเหงา
พอเจ้าของตัวจริงกลับมา  จึงเอามาคืนดีกว่า
และเจ๊แกก็ไปหาซื้อหมาพันธุ์เล็กเลี้ยงแทน
คงซึ้งกับการเลี้ยงข้าวเหนียวมากพอสมควร

“เออพี่หาคนมาสอนกายภาพแกได้แล้วนะ”

“ขอบคุณครับพี่....คิดถึงพ่อมั้ย”
นทีไม่ทันเห็นแววตาหมั่นไส้จากพี่สาว  เขากอดรัดข้าวเหนียวด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ทำไมวะ....แกก็ให้นักกายภาพที่ฉันหามาไปดูแลอ้ายมันดิ ลำบากทำหลายขั้นตอนเพื่อ?”

“เอ้า! ก็กำลังง้ออยู่”

“ง้อคนบ้าเนี่ยนะ  แกบ้ากว่ามันอีกว่ะ”

นทีพรูลมหายใจ
“พี่หยุดอคติอ้ายเค้าซักที  อ้ายเป็นถึงขนาดนี้พี่ยังไม่พอใจอีกเหรอ”

“ยิ่งมันสำออย ฉันยิ่งเกลียดมัน  น้องสะใภ้ที่ดีสำหรับฉันนะ มันต้องไปง้อแกที่เยอรมันนู่น
และถึงแกจะขับไสไล่ส่ง  มันก็ต้องง้อจนกว่าแกจะใจอ่อนสิ”

“พี่ไม่รู้อะไร.....”
นทีจิ๊ปาก
ก็เพราะอ้ายไปง้อนั่นแหละ  เรื่องมันถึงบานปลาย

“มันเรียกร้องความสนใจ  ตอนคบกันน่ะ มันเคยเป็นฝ่ายมาหาแกบ้างมั้ย แกต้องเริ่มก่อนตลอด”

ก็นั่นมันตอนที่พี่ยังไม่ไปเรียนเชียงใหม่นี่หว่า
นทีขี้เกียจพูดแก้ต่าง
เดี๋ยวพี่เขาก็หาเรื่องอื่นมาด่าอ้ายอีกนั่นแหละ
นทีจบประเด็นแค่ว่า  “เรื่องทุกอย่างเป็นเพราะทีเองพี่เกด...”

......................






....
EVERY DAY IS A WAR.
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-12-2015 06:26:08
ตกลงว่าพลไปอยู่คุก... ปีเดียว เวงจิ๊บ


ออกมาก็ทำชั่วๆอีกไหมเนี่ย สันดานมันแก้ยากนา



(โนเม้นท์เรื่องพี่สาวนที ชีอคติสูง)
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: oumpatta ที่ 03-12-2015 11:27:18

“ยิ่งมันสำออย ฉันยิ่งเกลียดมัน  น้องสะใภ้ที่ดีสำหรับฉันนะ มันต้องไปง้อแกที่เยอรมันนู่น
และถึงแกจะขับไสไล่ส่ง  มันก็ต้องง้อจนกว่าแกจะใจอ่อนสิ”
ความคิดแย่ทั้งพี่ทั้งน้อง เรื่องไอ้พลว่าแล้วต้องโดนแค่นั้น เหอะๆ ไม่ยุติธรรมสุดๆ
ส่วนเรื่องนที ก็วนอยู่แค่นี้ สรุปมีอ้ายโดนด่า เจ็บตัวคนเดียว
ส่วนนทีก็มาตามง้อ โอโหหหหห อ่านมามีแค่นี้ ชีวิตนทีดี้ดีเนาะ
ถ้าคนแต่งทีมนทีก็คงเป็นแบบนี้
ว่าจะเลิกติดตาม อ่านไปจากสงสารมันกลายเป็นรำคาญแล้ว ทุกตัวละครเลย
กว่าจะคุยกันให้เข้าใจคงอีกหลายสิบตอน โดยเฉพาะพี่ของอ้าย
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 03-12-2015 19:16:44
ทำไมมีแต่คนว่าอ้ายน้า

อ้ายน่าสงสารเกินไปแล้ว

ไอ้พลก้อดันออกมาจากคุกตอนนี้อีก

ดวงซวยจริงๆอ้าย
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-12-2015 22:12:46
รออ่าน ชอบเนื้อเรืื่องหนักดี
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-12-2015 23:43:43
แล้วจะมาทำอะไรอ้ายอีกมั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 04-12-2015 00:21:15
ชอบอ่ะ เรื่องนี้สนุกดี
อยากให้อ้ายดูแลตัวเองและหาแแฟนใหม่ อ่านแล้วหมั่นไส้นที
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน10* 3ธค58 War is coming!
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-12-2015 22:33:19


คนนิสัยเสีย 11


นี่หรือคนที่จะมาสอนกายภาพนที
หน้าตาดี....มาก
แม้ดวงตาจะออกเจ้าเล่ห์

นทีไม่ปักใจสนิทนายคนนี้
เขาพอดูคนออกอยู่บ้าง
นายนี่น่าจะมีดีแค่กายภาพเท่านั้นแหละ

หุ่นสูงแน่น ใบหน้าตอบแต่ดูดียกยิ้มตาปิด

นทียื่นมืออกไปทักทายตามมารยาทสากล
ในใจยังอึกอัก ไม่สนิทใจจะไหว้
ไม่รู้พี่เกดไปหาคนตาเจ้าเล่ห์แบบนี้มาจากไหนนะ
ดูท่าเจ๊แกแพ้คนหล่อตามเคย

"ผมนที"


"สวัสดีครับนที พี่ชื่อลพ"



............





อ้ายชอบเวลาเลิกเรียนที่สุด
แต่ไม่ใช่ทุกเย็นวันศุกร์
เพราะเขาต้องใช้เวลาชั่วโมงสุดท้ายยืนสวดมนต์หน้าห้อง
ใช่ว่าอ้ายจะรังเกียจหรอกนะ
แต่มันน่าเบื่อนี่นา

ดวงตาโตเหล่นทีที่ยืนถัดไปสองคน
ถึงบทพาหุงแล้ว ใกล้จบเต็มที
นทีจึงยิ้มให้  อารมณ์ว่ารู้กัน

อ้ายแทบรอเวลาเลิกไม่ไหว
เย็นนี้แฟนหมาดๆจะพาไปกินหมูกระทะเจ้าใหม่
เห็นเขาว่าของเยอะใช้ได้ อีกทั้งมีซีฟู้ดของโปรดด้วย



"ร้อนจัง"
นทีบ่นพลางปาดเหงื่อ ปากก็เคี้ยวหนวดหมึกหงุบหงับ

"อย่าบ่นๆ"
อ้ายคีบเนื้อหมูสามชั้นใส่จานแฟน
เนื้อร้านนี้นุ่มอย่างที่เขาว่า
น้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อม
เสียอย่างเดียวก็อากาศร้อนอบอ้าวเนี่ยแหละ
ทำไงได้ล่ะ เป็นเหมือนกันทุกร้านนี่นา

แค่มีอาหารรสชาติดีๆ เพลงเพราะๆ
กับแฟนหล่อๆ....เท่านี้อ้ายก็พอใจแล้วล่ะ




ถึงทั้งคู่จะค่อนข้างมีฐานะ
แต่กลับไม่ใส่ใจเรื่องความสะดวกสบายเหมือนเด็กคนอื่น
นทีกับอ้ายลงรถเมล์หน้าปากซอยถิ่นคนรวย
ที่ๆคนเดินดินมักเบะปากใส่ จึงมักเงียบสงัดในยามกลางดึก
ร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ที่สุดก็ต้องปากซอยถัดไปนู่น

"จุกอ่ะ"
อ้ายบ่นพลางลูบท้อง
จุกเหมือนอาหารมาจ่อคอหอย

"นั่งแท็กซี่เข้าบ้านมั้ยละ"

"เดินออกกำลังเหอะ"

"เราก็อยากอยู่กับอ้ายนานๆเหมือนกัน"
อ้ายพูดอย่าง นทีตีความเป็นอีกอย่าง
อ้ายหน้าแดงแจ๋ ที่แฟนเขาพูดตรงใจสุดๆ
แม้ต้องเจอกันทุกวัน แต่มันไม่เพียงพอเลย
ทุกลมหายใจมีแต่นทีๆ นทีๆคนเดียว


"เงียบเนอะ"
อ้ายหาเรื่องคุยแก้เขิน

"อืม ตอนกลางคืนคงน่ากลัวสุดๆ"

"งี้ขโมยก็เข้าง่ายเลย เฮ่ย!"
รถเบนซ์สีมุกขับไวอย่างกับทำพ่อแม่หาย
อ้ายเกือบโดนเฉี่ยวไปแล้ว

"เดินระวังหน่อย"
นทีเตือน ดึงตัวอ้ายให้ไปอยู่ฝั่งบ้านคนสลับกับตัวเอง
อ้ายประทับใจในการกระทำที่ไม่จำเป็นต้องพูด
นทีแสดงออกมาทุกอย่างว่ารักว่าห่วง ถึงขนาดเสียสละตัวเอง
เด็กอายุ 15 จะคิดได้ขนาดนี้เลยเหรอ
อ้ายที่หน้าแดงอยู่แล้วก็หน้าแดงเข้าไปใหญ่
จับมืออุ่นๆเอาไว้
มองหน้านทีด้วยความปลื้มปริ่ม

"อยู่กันอย่างนี้นานๆนะ"





.............






 คู่รักชูชื่นนัดไปติวเข้ามหาลัยกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
เลือกร้านฟาสฟู๊ดชื่อดังเป็นที่ติวหนังสือ
วิชาถนัดของอ้ายคือวิชาสังคมกับภาษาอังกฤษ
ส่วนนทีถนัดทั่วๆไป คือไม่เก่งและไม่แย่ในเรื่องไหนเป็นพิเศษ
เนื่องจากสมัยนี้ภาษาอังกฤษมีความสำคัญกับคะแนนและการสอบสัมภาษณ์มาก
อ้ายจึงจ้างรุ่นพี่เอกอังกฤษมาติวให้
วิธีการจ้างของอ้ายก็แค่เดินดุ่มๆไปที่คณะนั้น แล้วชี้ตัว เป็นอันเสร็จ

"น้องสองคนนี่ขยันเนาะ เพิ่งขึ้นม.5 ก็ติวแล้ว"
พี่มิวพูด น้ำเสียงเธอร่าเริงจนอ้ายชอบฟังเธอคุย

"เราอยากเรียนด้วยกันนี่ครับ"
อ้ายตอบ มองหน้านทีด้วยดวงตาเปี่ยมรัก

"พี่ออกตัวไว้ก่อนเลยนะว่าไม่เคยสอนใคร ไม่รู้จะดีป่าวอ่ะ"

"ไม่เป็นไรหรอกพี่มิว ถือว่าพี่ได้ประสบการณ์"

"เรายังไม่รีบร้อนมากหรอกครับ พี่อย่ากดดันเลย"
คนข้างๆอ้ายพูดเสียงหวาน

"แต่จริงๆเราก็ควรตั้งใจนะที จะได้เข้าที่เดียวกันได้อย่างที่ฝันไว้"
อ้ายจับมือหนาบนโต๊ะ กดย้ำๆเพิ่มความมั่นใจให้คนหล่อ

"เอ.....น้องสองคนเป็น...?"

"เพื่อนครับ/แฟนครับ"

อ้ายชักสีหน้าเมื่อจู่ๆนทีพูดแบบนั้น

"เป็นอะไรก็ช่างเถอะเนาะ"
พี่มิวแก้สถานการณ์
แต่ในใจรู้แล้วล่ะว่าเป็นอะไรกัน อดเสียดายไม่ได้ น้องสองคนน่ารักทั้งคู่
ยังดีที่เธอมีแฟนแล้ว  ไม่งั้นสิ้นหวังกว่านี้อีก


.
.
.
.

"ทีว่าพี่มิวน่ารักมั้ย"
อ้ายถามลองเชิง
เหตุการณ์เมื่อกลางวันมันกวนใจอ้ายให้ขุ่นเหลือเกิน
เขาเรียนไม่รู้เรื่อง สติหลุดตลอดเวลายามนทีถามนั่นถามนี่ ทั้งๆที่ไม่เคยตั้งใจเรียน
พี่มิวหน้าตาดีในระดับหนึ่ง
อ้ายหน้าตาธรรมดา นทียังรักได้  แล้วถ้าเป็นคนน่ารักล่ะ นทีจะไม่ยิ่งรักเหรอ

"ก็น่ารักดี"

"ถ้าไม่ได้เป็นเกย์ ทีอยากจีบพี่เขาป่ะ"
อ้ายยื่นหน้าไปถาม
มองลึกในดวงตาคู่เก่า

นทีหัวเราะเก็บเสียง
ตลกคำถาม
"ทีไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย ทีแค่รักอ้ายคนเดียว"
นทีหอมแก้มเอาใจ
รู้ว่าอ้ายกำลังหึงเขา

คนร่างเล็กกว่ารวบกอดนที
ซุกหน้ากับซอกคอ
"รักทีจัง"

อ้ายพูดไปอย่างนั้น.....
พูดเพื่อให้ลืมสิ่งที่ตนกำลังคิด

อ้ายเพิ่งรู้....
เพิ่งรู้ครั้งแรกว่านทียังชอบผู้หญิง
อ้ายไม่เข้าใจ..
ทำไมต้องยกคำพูดสวยหรู อย่าง "ไม่ได้เป็นเกย์ แค่รักเธอคนเดียว" มาด้วย
อ้ายไม่เคยลึกซึ้งกับถ้อยคำเหล่านี้เลย
มันกำลังหมายความว่าถ้าเลิกรักผู้ชายอย่างอ้ายแล้ว
ในอนาคตเขาก็คงเลือกที่จะมีภรรยา มีลูกที่น่ารัก เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ...มากกว่าสินะ

แต่อ้ายก็รู้ ว่าทีรักอ้าย
แค่ต่อนี้ไป
ความรู้สึกมั่นใจมันสั่นคลอน


................






กลับมาแล้วคนดี
คืนกลับมาด้วยรักมั่น กลับมาทวงความสัมพันธ์เมื่อครั้งก่อน~~

นายพล เอ้ย! นายลพ ปรากฏตัวแล้วจ้า (แค่สามวิ555)
ที่หายไปนานเพราะว่าตัน555
ตันในที่นี้คือกำลังหาวิธีให้นทีพบรัก(?)กับลพอยู่
คนเขียนสมองไม่ซับซ้อน เลยทำแนวพบรัก(?)ไม่เก่ง
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน11* 28ธค58 กลับมาแล้วคนดี
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-12-2015 22:44:50
หือม์?
นทีจะพบรักกับคนอื่นอีกหรือ?
หรือว่าเราพลาดอะไรไปสักที่?
พล หรือ ลพ?
โอ๊ย  งง  คงต้องกลับไปอ่านใหม่

เราเป็นอ้ายเราก็กล้ำกลืนยากนะ
ถ้ามารู้ว่าแฟนเรานี่เป็นไบ

พี่สาวนทีรู้อะไรบ้าง?
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน11* 28ธค58 กลับมาแล้วคนดี
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-12-2015 22:46:28
 :a5:

ห๊ะ

จะดันลพเป็นพระเอกเหรอคะ ขอดูอีกหน่อยก่อนละกัน  :mew2:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน11* 28ธค58 กลับมาแล้วคนดี
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-12-2015 23:10:52
ไม่ช่ายๆ  เรื่องนี้ พระเอกนายเอกคือ นทีกับอ้ายเท่านั้นค่า
แค่ไม่อยากใช้คำที่ดูเฉลยเกินไปเฉยๆ
รอตอนหน้านะๆ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน11* 28ธค58 กลับมาแล้วคนดี
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-12-2015 23:23:40
 :mew1:

เกือบไป

รอร๊อรอตอนหน้านะคะ :)

(แอบสงสารอ้ายอีกแล้ว  :hao5:)
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน11* 28ธค58 กลับมาแล้วคนดี
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-12-2015 09:19:39
อดีตของนทีกำลังทำคะแนนใหญ่เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน12 * 1มค59
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 01-01-2016 02:34:07

คนนิสัยเสีย 12


แสงแดดร้อนระอุส่องกระทบผืนน้ำ
ระลอกคลื่นยามต้องลมพริ้วไหว ปรากฏแสงแวววาว
ปลาสีเปรอะแย่งกันฮุบอาหารเม็ดดูเพลินตา
ริมขอบสระมีหมาสีขาวขนฟูตัวใหญ่กำลังเลียน้ำ  มันหอบหายใจแรงจนน่าสงสาร
ถ้าไม่ใช่เพราะป๊าอ้าย ข้าวเหนียวก็ไม่เล่นท่ามกลางแดดร้อนงี้หรอก

อ้ายยื่นมือออกไปข้างหน้า ให้แหวนทองคำขาวกระทบแสงแดด  มันสวยยิ่งกว่าผิวน้ำเบื้องหน้าซะอีก

"ข้าวเหนียวว่าสวยมั้ย"
เด็กหนุ่มวัย 17 ลูบหัวหมาน้อย โชว์แหวนให้หมาดู ทำยังกับว่ามันจะเข้าใจ
อ้ายไม่อยากเชื่อตัวเองเลย ทุกอย่างเหมือนฝันไป  เขาได้หมั้นกับนทีอย่างที่ขอแม่ไว้จริงๆ
 แม้พิธีการจะถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆ
ฝ่ายนทีก็มีพ่อแม่และพี่เกด
ฝ่ายเขามีแม่กับแม่บ้าน
ทำพิธีผูกข้อมือ พร้อมแลกแหวน จากนั้นก็ร่วมวงรับประทานอาหาร

อ้ายปลีกตัวออกมาเล่นกับข้าวเหนียวเพราะขี้เกียจกินของหวาน
ความรู้สึกอิ่มเอมยังไม่หายไป
การหมั้นจะทำให้นทีกับเขามีความมั่นคง
ต่อไปถ้านทีเริ่มเบื่ออ้าย นทีก็จะรู้สึกผิด แล้วกลับมารักอ้ายอีก

จู่ๆโลกทั้งใบก็มืดลง
"ทายซิ ใครเอ่ย"

"เล่นไรเนี่ย"

"ตอบก่อน"

"คนชื่อที"

"โห่ เล่นหน่อยซี่"
คนปิดตากระทืบเท้าเป็นเด็กๆ ทำให้อ้ายหัวเราะร่า

คนขี้จริงจังพยายามคิดมุก
"อืมมม...ที่รักใช่ป่าวครับ"

"ก็ดูดีขึ้นมาหน่อย"
พลันโลกก็สว่างขึ้นมา พร้อมๆกับใบหน้าหล่อๆของนที

อ้ายว่าแหวนสองวงนี้มันเข้ากันดีพิลึก ทั้งๆที่ต่างคนต่างซื้อแยก

"โคตรเห่อเลย"
นทีเขี่ยปลายจมูกแฟน อ้ายน่ะมองแหวนตั้งแต่เขาสวมให้แล้ว
แต่อย่างว่าแหละ เขาก็หลงรอยยิ้มของอ้ายจนไม่อยากละสายตาเหมือนกัน





...............




จะไม่ชมนทีก็ไม่ได้
ตั้งแต่มันกลับมา อ้ายก็รู้สึกเจริญอาหารขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ท้องป่องๆของเขาเริ่มอยากได้ของอร่อยๆแล้วตอนนี้  โดยเฉพาะขนม

"ขาเป็นไงบ้างอ้าย"
พี่อัฐแกเดินมาทางข้างหลัง รุนรถเข็นอ้ายออกไปยังสวนด้านนอก
อ้ายไม่ได้ว่าอะไร เพราะมัวแต่นึกถึงของกิน

"วันนี้ไอ้ทีมันมีเซอร์ไพรส์ให้ด้วยนะ"

อยากกินของหวานจัดๆ พวกทองหยิบทองหยอด แต่รู้สึกว่าแถวนี้มันรสชาติประหลาด
ไม่ใช่รสดั้งเดิม
..แต่รสดั้งเดิมเป็นไงก็ไม่รู้เหมือนกัน

"ทีแม่งตื่นสายชัวร์"
ได้ยินพี่อัฐบ่นๆ  ช่างเขาเถอะ รายนี้ขี้บ่นยิ่งกว่าคุณนายดรุณี
คิดแล้วก็น่าน้อยใจนะ  อ้ายไม่เคยได้ของฝากจากต่างประเทศเลย
พี่อัฐแม่งขี้งก


*ร้อน*
อ้ายกระแทกกระดานใส่หน้าอกพี่ชายเมื่อหยุดรถเข็นตรงแดด
พอเข้าใจว่าพี่ไม่ค่อยมาดูแลน้อง เลยลืมใส่ใจรายละเอียด  แต่ก็อดด่าไม่ได้
มันติดเป็นนิสัยอ้ายไปแล้วมั้ง โทษนั่นโทษนี่ตลอด
...แล้วอ้ายผิดเหรอ? 
ไม่ใช่สักหน่อย  อ้ายแค่นั้งเฉยๆ เงียบๆ จะมาผิดอะไรมากมาย
คนอื่นจะมาสนใจทำไมไม่รู้


*หาหนมให้กินหน่อย เอาน้ำเย็นๆด้วยนะ*

"ขนมอะไร มันฝรั่งเหรอ"

บื้อ!
 
*หนมไทยหวานๆ กับน้ำเก๊กฮวย*

"เลี่ยนตายพอดี เอาน้ำใบบัวบกดีกว่า"

อ้ายพ่นลมหายใจ
*มันไม่อร่อย*
ถึงอ้ายไม่ได้เขียนเคื่องหมายอัศเจรีย์(!) แต่อัฐก็พอเดาได้จากสีหน้าอยู่ว่าอ้ายเริ่มโมโหหิวแล้ว

"งั้นเดี๋ยวมาคร้าบคุณหนู"
เชื่อไหมว่าอ้ายบ่นว่าร้อนไปแล้ว พี่อัฐเขายังไม่เลื่อนรถเข็นจนอ้ายต้องทำเอง



ใต้ต้นมะม่วง มีต้นจำปีเตี้ยๆปลูกอยู่
ปีนี้ดอกไม่ดกเหมือนเคย
อ้ายอยากเด็ดแต่เสียดายดอกที่ต้องร่วงโรยก่อนวัยอันควร   มือผอมที่เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นมาหน่อยรั้งกิ่งหนึ่งลงมาจรดปลายจมูก

"กลิ่นสยอง"



"อ้ายยย!! ดูซิทีพาใครมาเอ่ย"

ปัญญาอ่อนจริง  คิดว่าอายุสิบขวบหรือไง
อ้ายกลอกตาด้วยความเหนื่อยหน่าย ก่อนหันไปมอง

โฮ่ง! โฮ่ง!

ข้าวเหนียว!!!

อ้ายฝืนเก็บรอยยิ้มทั้งที่ตาเป็นประกาย
ไม่เห็นหน้าข้าวเหนียวมาตั้งสองสามปี
มันยังคงร่าเริงและจำเขาได้

ข้าวเหนียวๆๆ
มาหาป๊าเร็ว~~

มันเลียมืออ้ายอย่างบ้าคลั่ง
คงเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่รักอ้ายอย่างไม่มีเงื่อนไข

อ้ายแทบฝืนต่อไปไม่ไหว
อยากยิ้มจะตายอยู่แล้ว
โคตรคิดถึงหมาติ๊งต๊องเลย


คนกำลังหลุดตัดสินใจหมุนตัวหันหลังให้นทีพร้อมคว้าข้าวเหนียวติดมาด้วย
ซุกหน้ากับขนนิ่มๆของมัน แล้วปล่อยยิ้มกว้าง
พวงหางสั่นพั่บๆ บอกว่ามันก็ดีใจที่ได้เจอเหมือนกัน

"วันนี้ข้าวเหนียวจะเป็นนักกายภาพกิตติมศักดิ์"
นทีพูดแทรกขึ้นมาเพราะกลัวไม่มีบท
เห็นทีอ้ายจะเอาแต่เล่นกับข้าวเหนียวแน่ๆ เขาเริ่มอิจฉามันนิดๆ
ดูตาโตๆที่จ้องมันด้วยความรักนั่นสิ...นทีไม่รู้ว่าตัวเองจะได้รับมันอีกครั้งไหม
ต่อให้เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เขาก็ต้องพยายามเพื่อชดใช้ความผิดที่เคยก่อเอาไว้ให้ได้!

.
.
.

"รู้สึกดีมั้ย?"

*งั้นๆ*

"แสดงว่ามีความรู้สึก"

*อะไร*

"ก็ถ้าอ้ายตอบเฉยๆ นั่นก็แปลว่าอ้ายไม่รู้สึกอะไร แต่พออ้ายตอบงั้นๆ ก็คืออ้ายรู้สึกแต่ไม่อยากเขียนอธิบายให้ที"

*รู้ดี*

นทีหัวเราะ
แกล้งคนพิการ จะโดนด่าว่าเลวมั้ยเนี่ย

"กินแต่ของไม่มีประโยชน์"

คราวนี้อ้ายไม่โต้ตอบ ทำเป็นหูทวนลม เล่นกับหมาที่นั่งเรียบร้อยอยู่ข้างๆ

"ข้าวเหนียวกลับบ้านไปเลยไป"
นทีหมั่นไส้หมาจริงๆ
ร้อยวันพันปีมันไม่เคยนั่งนิ่งๆเกินห้านาที
ทำไมวันนี้มันสงบเสงี่ยมจังวะ
*ไม่ให้กลับ*
อ้ายเขียนกระดานแทบจะทันที
กำลังสบายขา ทั้งยังสบายใจ
เรื่องอะไรจะให้ข้าวเหนียวกลับไปล่ะ

*พี่เกดจะเอาคืนมั้ย*

"ไม่หรอก ทีกลับมาอยู่ถาวร เจ้าของตัวจริงก็ต้องเลี้ยงสิ"

*ให้มันนอนนี่*

"ไม่ได้"

อ้ายหมุนล้อถอยหลังหนี บอกว่าตัวเองไม่พอใจแล้วนะ

"อ้ายอย่าเอาแต่ใจสิครับ ให้ทีนวดขาให้นะ พี่ลพอุตส่าห์สอนมา"

สายตาอ้ายถามว่าเขาคือใคร?

"นักกายภาพที่พี่เกดแนะนำมาน่ะ หน้าตาดีด้วยนะ แต่ทีไม่ชอบขี้หน้าเท่าไหร่ อ้ายไม่ต้องเจอหรอก"

ใครอยากเจอวะ!?
คิดเองเออเอง

*ทำไมต้องยุ่งยาก*

"ก็อ้ายให้โอกาสทีมาดูแล ทีก็ต้องทำให้ดีที่สุดสิครับ"

ก็แค่อยากเห็นหน้าเฉยๆ ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นหรอกน่า
ชอบทำตัวเว่อร์

"อีกอย่างทีก็ไม่ไว้ใจคนนอกอีก นับแต่ที่อ้าย..."

นทีเลือกที่จะไม่พูดต่อ
เขาเพิ่งรับรู้มาจากแม่ดรุณี
จึงยังไม่กล้าเดาว่าตอนนี้อ้ายรู้สึกถึงเรื่องตอนนั้นอย่างไรบ้าง
แต่ดวงตาที่หลุบลงตอนนี้ก็คงพอตอบข้อสงสัยได้

อ้ายไม่ยอมเขียนโต้ตอบอย่างที่หวัง
บรรยากาศรอบตัวสงบนิ่ง

ไม่น่าพูดเลย....

"ข้าวเหนียวเล่นกับแม่หน่อย"

อ้ายหันขวับ

*ไม่ได้เป็นแม่ ไม่อยาก*

นทีโล่งอก
อ้ายหายคิดมากเรื่องนั้นแล้วสินะ
หันมาชวนหมาต๊องเล่นแย่งตุ๊กตา
ดูท่าทางอ้ายก็อยากเล่นเต็มแก่
นทีดีใจที่อ้ายคุยกับเขาได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ต่อไปนี้ก็คงจะดีขึ้นอีก เพราะได้เจ้าข้าวเหนียวมาช่วยเป็นกาวประสานอีกแรง

......



สวัสดีปีใหม่
สุขกายสุขใจสุขจิต
นิยายอัพเม้นท์เป็นนิตย์
ชีวิตรื่นเริงบันเทิงดี
~~ไข่มุกสีนิล..0..~~


ตั้งใจจะอัพสิ้นปี แต่ฉลองนานไปหน่อย555
ไม่รู้ว่ามีอะไรเบลอหรือเปล่านะคะ

สำหรับตอนนี้หวานๆไปก่อน
อยากให้เห็นความรู้สึก ท่าทีของอ้าย ที่ค่อยๆใจง่ายขึ้น5555
อ้ายมันก็เป็นซะอย่างนี้  ถ้าตอนนั้นไม่สติแตกจนวิ่งให้รถชน มันคงกลับไปง้อเขาประมาณล้านครั้งได้
แต่ไม่ได้หมายความว่าอ้ายจะยอมง่ายๆนะ 
รอพี่ลพโผล่มาก่อน คนเขียนง่วงมาก
นทีไม่ได้มาสบายนะ แกมาเพื่อลำบากโดยเฉพาะ


หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน12 * 1มค59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 01-01-2016 12:08:11
คนอ่านใจอ่อนกับนทีแล้วแหละ

แต่แอบสนใจพ่อนักกายภาพเหมือนกันน้า

ขอดูท่าทีก่อน แม่ยกกำลังลังเลเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน12 * 1มค59
เริ่มหัวข้อโดย: oumpatta ที่ 01-01-2016 14:13:06
ไม่เชียร์นที ถ้าอยากคืนดีกับอ้ายก็ลำบากกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน13* 3มค59 ~บอกตัวเองทุกวัน ให้หันไปทางอื่น~
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-01-2016 17:22:53


ตอนที่ 13



ช่วงนี้นทีหัวหมุนหนัก
เขาต้องดูแลอ้ายทุกวันโดยที่ไม่ได้เงินสักบาท
แต่ไม่ได้หมายความว่านทีอยากได้  เขาแค่เริ่มขี้เกียจเป็นบางครั้งตามประสาคนเคยสบายมาก่อน
อันที่จริงนทีตั้งใจจะทำงานวิศวะอย่างที่ตนจบมาไปพร้อมๆกัน ถ้าหากอ้ายจิตใจเข้มแข็งขึ้นกว่านี้ อะไรๆคงง่ายขึ้น
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทุกคนยังไม่มั่นใจคืออารมณ์ของอ้าย  แม้แต่คนที่ดูแลอ้ายมาตลอดอย่างคุณดรุณียังไม่กล้าแตะเรื่องนี้มากเลย
อ้ายเหมือนแก้วที่แตกไปแล้ว และถูกนำมาเรียงต่อใหม่
ใครวะจะกล้าสัมผัสแก้วที่พร้อมแตกทุกเมื่อแบบนั้น


"พี่ว่าเมื่อไหร่แฟนผมจะหาย"

"ป่านนี้อาจจะหายแล้วก็ได้มั้ง"

"โถ่พี่ ถ้าเขาไม่ปั้นปึ่ง ผมคงสบายใจกว่านี้"

"แค่เขาคุยกับที พี่ว่าก็ดีแล้วนะ"

ลพเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือสอนแต่งภาพ
มองนทีคนหน้าตาดีที่นอนแหงนหน้าเอามือก่ายหน้าผากอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก

"ค่อยๆคุยกัน อย่าใจร้อน"
พัลลพแนะนำตามประสาคนมีประสบการณ์มากกว่า

"ให้พี่ไปเจอเขาไหมล่ะ"

ทำเอานทีเหลือบตามองกับประโยคนั้น
นี่เป็นครั้งที่ 8 แล้ว ที่พัลลพพูดแนวนี้
เขาไม่อยากคิดอะไรมาก  คงมาเจอคนจำพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเข้าแล้ว
ไม่รู้ว่าพี่เกดเล่าอะไรให้ฟังบ้าง  ถึงได้กระตือรือร้นทุกครั้งยามพูดถึงอ้าย
อ้ายน่ารักอยู่ด้วย เรื่องอะไรจะให้เจอกัน

"พักนานละ  พี่มาสอนผมต่อดีกว่า"

.
.
.

นทีร่ำลาครูฝึก 
คราวนี้เขาปีนกำแพงบ้านอ้ายเลย ง่ายดี
กว่าจะเดินถึงประตูก็ตั้งหลายเมตร ใครจะไปทำล่ะ  นี่อุตส่าห์ซ่อมบันไดไม้ด้วยตัวเองด้วย
สมัยเด็กๆก็ใช้เส้นทางนี้ประจำ

*ข้าวเหนียวล่ะ?*
แก้มผอมๆกำลังมีลมในปาก
นทีส่ายหน้าเอ็นดู
อ้ายคงทำไปไม่รู้ตัว

"มันนอน ขี้เกียจปลุก"

อย่ามาอ้างเลย  ข้าวเหนียวหูดีจะตาย แค่พ่อมันขยับปาก มันก็ตื่นแล้ว

นี่คงอิจฉาที่เราสนใจหมามากกว่าน่ะสิ

*วันนี้ขี้เกียจ*

"แล้วจะทำอะไรกันดี"

*ไปวัด*

ถ้ามีคำว่า 'อยาก' นำหน้า ก็จะดูน่ารักขึ้นเป็นกอง

"ทำไมกินแต่ขนม"
นทีทักขึ้นเมื่อเห็นซองขนมถูกแกะกินจนเกลี้ยงสุมๆอยู่บนโต๊ะ

*อย่าขี้บ่นเหมือนพี่อัฐได้ป่ะ*

"ตัวเองก็อย่าหน้าหงิกได้ป้ะ"
นทีย้อน  ทำเสียงดัดจริตล้อเลียน
อ้ายหมั่นไส้ปาซองขนมใส่ แต่มันไปไม่ถึงเพราะไร้น้ำหนัก

"ขอโทษครับๆ ยอมแล้ว"
คนตัวสูงยกมือพนม  อ้ายเห็นว่าสำนึกผิดจริงจึงหยุดอาละวาด

"ไปวัดอีกแล้วไม่เบื่อเหรอ"
นี่ไม่ใช่ประโยคคำถาม
แต่อ้ายนึกอยากตอบ

*ไม่รู้จะไปที่ไหน*
วัดนี่แหละดีที่สุด  ไปที่อื่นคนเยอะกลัวสติแตก

อ้ายปล่อยให้นทียืนเกาคางหาสถานที่ใหม่ๆ
ส่วนเขากำลังนึกวิธีการร้อยมาลัยจากดอกจำปี
วันนี้ดอกมันสุกทั้งต้น ...คือเขาไม่รู้ว่ามันควรเรียกว่าอะไร  ก็มันเป็นสีขาวแต่ยังไม่บานนี่
กลับมาที่เรื่องมาลัยดีกว่า
อ้ายไม่ชอบเห็นจำปีบานๆแล้วก็ร่วงไปโดยไร้คุณค่า ทั้งๆที่มันออกจะน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม
ใครๆก็ฮิตเอาไปครีเอททำมาลัยแบบใหม่กันตั้งเยอะแยะ
หลวงพ่อคงจะชอบถ้าอ้ายทำบ้าง
ไม่แน่นะ  มันอาจเพิ่มบุญให้อ้าย

"เบื่อวัดว่ะ ไปสวนสัตว์มั้ย"

อยู่เยอรมันแค่สองปี ไม่น่าเชยขนาดนี้นะ

*จะไปวัด ร้อยมาลัยจำปีด้วย*

"หืม...มาลัย ?"

อ้ายพยักเพยิดไปทางต้นจำปี นทีจึงเข้าใจ

"ค่อยมาทำได้มั้ย ไปเที่ยวไกลๆดีกว่า อย่างหัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงคาน"

"ขอพี่ไปด้วยคนสิครับ"
ไอ้พี่ลพของนทีโผล่หัวขึ้นมาจากกำแพง  ยังทำท่าปีบันไดอีก ถ้านทีไม่ห้ามไว้

"พี่ยังไม่กลับเหรอ"
นทียืนมองพัลลพขับรถออกไปแล้วนะ เขาจำได้

"พอดีพี่ลืมของน่ะ"
พัลลพตอบนที หากแต่ตามองอ้ายที่มองเขาเช่นกัน

"คนนี้อ้ายเหรอ น่ารักดีนะ"

แฟนตัวจริงชักฉุน  มันหยอดไม่ไว้หน้ากันเลย
ว่าแล้วเชียว แค่มองตาก็รู้ว่าพัลลพมันร้าย

"น่ารักอะไรล่ะพี่ ผอมจะตาย เนี่ยผมรอขุนให้อ้วนอยู่"

"ถึงว่าขนมเต็มโต๊ะเลย...เออตกลงไปไหนกัน พี่เป็นไกด์ให้มั้ย ไม่เคยไปไหนทั้งคู่นี่"

*ไม่จำเป็น*
เหมือนอ้ายจะเขียนรอไว้นานแล้ว  เมื่อพัลลพพูดจบจึงส่งให้นทีอ่าน

"ไม่เป็นไรครับพี่ ไว้วันหลังเนาะ"

"ว้า เสียดายจัง งั้นพี่กลับก่อนนะครับน้องอ้ายน้องที มีอะไรปรึกษาพี่ได้เสมอ"
พัลลพเดินจากไป นทีจึงตะโกนบอกป้าแม่บ้านว่าถ้ามีใครจะเข้าบ้านให้บอกเขาก่อน ไม่ใช่เปิดสุ่มสี่สุ่มห้า

*นั่นครูสอนกายภาพเหรอ*

"ใช่ คนนี้แหละ ก็สอนดีนะ ใจดี คุยสนุก"

*คุ้นหน้า*

"หน้าโหลๆ หาได้ทั่วไปเลยคุ้นมั้ง"
โหลๆของนที ก็หล่อๆของอ้าย
ติดตรงที่มาดแรกพบเหมือนไอ้พลไปหน่อย
ไอ้นั่นก็ใจดีอย่างนี้แหละ
หวังว่ามันจะไม่พานทีกินเหล้าเมายาจนเสียการเสียงานนะ




.............





อ้ายยิ้มให้กับเสียงปรบมือจากนพพล
ไม่ใช่แค่นพพลเท่านั้นที่ดีใจ  เขาก็ดีใจเหมือนกัน
ใช้เวลาประมาณสามเดือนกว่า อ้ายจึงสามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ
แม้ได้ไม่นาน  แต่ก็ภูมิใจ
พี่พลบอกว่าต้องฝึกสม่ำเสมอ สักอีกไม่กี่เดือนก็เดินได้คล่อง  เขาไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไร
ขอแค่มีกำลังใจก็พอ

*พรุ่งนี้เช้าอ้ายทำบุญ พี่พลไปด้วยมั้ย*

นพพลทำหน้าหยีทันที
"ขอผ่านดีกว่า วัดกับพี่ไม่ถูกกัน"

*ว่าจะชวนไปกินปลาช่อนอบฟางที่พี่เคยบอก*

"สุพรรณน่ะเหรอ....งั้นไปวัดป่าเลย์ไลย์แล้วเลยไปกินกัน?"

อ้ายยิ้ม เหตุเพราะได้เที่ยวไกลจากกรุงเทพฯ
ไม่ได้ออกไปไหนมานานมากแล้ว
แม้ภูกระดึงไม่ใช่ที่ล่าสุด
แต่เขากลับจำมันได้เพียงที่เดียว...

"เป็นอะไร...อย่าคิดมากสิ ไปเที่ยวกับพี่ อย่าคิดถึงคนอื่น"
พลลูบหัวน้องชาย  ดวงตาเศร้ารื้นด้วยหยาดน้ำตา

"พี่จะพากินปลาช่อนในทุ่งนาเอาไหม"

อ้ายพยักหน้า ฝืนยิ้ม

"ดีมาก ตะวันไม่ตกไม่กลับ เมาให้ตายไปเลย!"




............





อ้ายรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง
มันเป็นความรู้สึกชั่ววูบ ราวกับถูกผลักตกจากหน้าผา แล้วย้อนเวลากลับไปยืน ณ จุดเดิม
กระเพาะแปรปรวน อยากขย้อนถ้อยคำก่นด่า
ความคิดก็เหมือนยา ที่อ้ายพยายามเอามายับยั้งตัวเอง

อ้ายนึกว่านทีแค่สมัครไปเล่นๆ
หรือถ้าเอาจริงก็น่าจะชวนอ้ายบ้าง
อ้ายรอ
รอแล้วรอเล่า
รอจนนทีกรอกใบสมัคร
รอจนนทีออกไปติวกับเพื่อน
รอจนนทีสอบติด...
แม้แต่ถูกนินทา อ้ายยังไม่โวยวาย
เพียงเพราะเขารอเซอร์ไพร์ส
อ้ายไม่เคยคิดขัดขวางอนาคตของคนรักเลยสักนิด
เขาก็มีเงินนะ  นทีก็มีเงิน..รวยกว่าด้วยซ้ำ
แล้วทำไมต้องมาทิ้งให้อ้ายตั้งคำถามกับตัวเอง?

นี่เขาไม่สำคัญแล้วเหรอ...?


อ้ายนอนร้องไห้มากี่คืน...
หมอนเปื้อนน้ำตาของคนไม่มีค่ามาแล้วกี่ครั้ง...

"ทีจะไปเยอรมัน"

พูดง่ายนะ
คิดได้ไงวะ

"แล้วอ้ายล่ะ"

กูมันน่าเบื่อแล้วนี่
มึงกับอีแก้วไปถึงไหนต่อไหนกันล่ะ
กูเกลียดผู้หญิงก็เพราะมึง

"อ้ายเรียนที่นี่แหละ รอที เรียนแป้บเดียว"

หึ ! คนมันจะไป

"อ้ายอยากไปด้วย"

อนาคตของทีมีอ้ายหรือเปล่า
ทำไมเราต้องอ้างเรื่องอนาคตที่มีผันแปร ทั้งๆที่เราสามารถอยู่ด้วยกันได้ตลอด

"ลองห่างๆกันดู จะได้รู้ว่ารักกันแค่ไหน"

นั่นคือคำพูดของคนหมดใจ
คนเรารักกัน ก็ต้องหาวิธีให้อยู่ด้วยกัน
จะทรมานหัวใจเพื่อ???


เหอะ!

อยากไปก็ไป โลกเราเดี๋ยวนี้แคบลงเพราะอินเตอร์เน็ต
อ้ายไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก
ยังมีวิธีอีกเเยะให้เจอกัน

แต่บอกตรงๆว่าอ้ายโกรธ โกรธมาก
โกรธพาลไปถึงแก้ว
เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร
ดูซิมันจะมีปัญญาแค่ไหน

แต่ถ้าเดาไม่ผิด ...นทีไม่เอามันหรอก
คนอื่นน่าระแวงกว่าเยอะ


...........


น่าสงสาร
หลอกตัวเองทูกกกกวัน
ว่าให้หันไปทางอื่น
เวลาที่เขานั้นเข้ามาาา
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน13* 3มค59 ~บอกตัวเองทุกวัน ให้หันไปทางอื่น~
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 03-01-2016 18:23:37
อ้ายตอนนี้กำลังดื้อได้ใจเลย

ปกติตอนย้อนอดีตก้อเป็นจอมทิธิอยู่แล้ว

หวังว่าอะไรๆจะดีขึ้น
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน13* 3มค59 ~บอกตัวเองทุกวัน ให้หันไปทางอื่น~
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 11-01-2016 22:47:41
ชอบอ้าย แต่ไม่ชอบนทีเลยอ่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน13* 3มค59 ~บอกตัวเองทุกวัน ให้หันไปทางอื่น~
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-01-2016 01:58:45


ตอนที่ 14


"แน่ใจนะว่าจะไปกันสองคน"
พี่อัฐถามด้วยความไม่มั่นใจในอารมณ์อ้าย
สาววันดีสี่วันไข้ คนทนได้ก็มีแค่แม่กับนทีสองคน
บ่าวรับใช้ละอยากรู้เคล็ดลับจริงๆ
การตามใจอ้ายมันง่ายตรงไหน ทำไมถึงทำได้

"แน่ครับ อ้ายเขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง"

พี่อัฐมุ่นคิ้ว
รู้จักน้องมาตั้งแต่จำความได้ อ้ายมันคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยเหรอวะ

อ้ายที่นั่งมองหน้าอันสยดสยองของพี่ต้องเบะปากตาม
นทีมันก็พูดเว่อร์ เขาจะไปเที่ยวเฉยๆหรอก
มันเรียกว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองซะที่ไหนกันเล่า

"ทำหน้าเหมือนตูด"

โดนพี่ชายแขวะพร้อมเขกมะเหงก
อ้ายกลอกตาขึ้น นี่เขาโตแล้วนะ การมาเขกหัวเท่ากับการหยามกันสุดๆ
อ้ายหมุนล้อหนีไปข้างหลัง เหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจ

"งั้นผมไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะพี่"

"อืมไปเถอะ ถ่ายรูปมาเยอะๆล่ะ"
พี่อัฐโบกมือลาน้องเขยก่อนขึ้นห้อง

อ้ายบนรถเข็นเอากระดานแม่เหล็กเคาะสีข้างคนที่ยืนอยู่ปั้กๆ

*ตกลงไปกี่วัน*

"สองวันหนึ่งคืน ทำไมเหรอ?"

*จะเตรียมเสื้อผ้า*

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวทีทำให้"

อ้ายส่ายหน้าปฏิเสธ  เขาทำเองได้
คงกระดากตายเลยถ้าให้นทีจับกางเกงในตัวเอง
นทีทำยึกยักนิดหน่อยพอเป็นพิธี  ยังไงเขาก็ต้องอุ้มอ้ายลงจากรถเข็นอยู่แล้ว
อุ้มขึ้นแพ อุ้มลงแพ อุ้มเข้าห้องน้ำ
มองทางไหนก็กำไรเหนาะๆ


.
.
.


"ตกลงจะไปสองคนแน่นะ?"
ผู้อาวุโสสุดในบ้านอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
อ้ายไม่ได้ออกไปต่างจังหวัดมาสองปีแล้ว
คนเป็นแม่ได้แต่คิดสารตะ ห่วงลูกก็ห่วง อยากให้ลูกร่าเริงก็อยาก
คุณนายรู้ดีว่าการถามซ้ำกับอัฐจะทำให้อ้ายรำคาญ แต่เธอหลุดปากไป

"แม่ว่าทีชวนครูสอนกายภาพทีไปด้วยสิ ฝึกกันนอกสถานที่เป็นไงลูก"
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คุณนายจึงเสนอแนะทางเลือกที่จะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ
เธอไม่เคยไปล่องแพ ที่รู้ๆ การอยู่กันสองคนท่ามกลางผืนน้ำกว้างใหญ่นั้น มันไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย


"อ้ายเขาอยากไปกันสองคนน่ะครับ"
นทีหันไปมองอ้ายที่กำลังเท้าคางเบื่อๆ
ถูกถามอย่างนี้มาตั้งแต่เช้า จนพรุ่งนี้จะออกเดินทางอยู่ละ

"นะอ้าย...แม่ขอเถอะ แม่ไม่สบายใจเลย แม่รู้นทีดูแลอ้ายได้ แต่สองคนมันน้อยไป"

แม่ก็ไปด้วยสิ
อ้ายล่ะอยากพูดจริงๆ

สองหนุ่มคุยกันผ่านสายตา
นทีรู้ดีว่าอ้ายไม่อยากมีคนอื่นร่วมทริป
เขาก็พอกัน เพราะกว่าจะกล่อมอ้ายได้ก็หนักหนาเอาการ

"งั้นขอให้เพื่อนทีไปด้วยได้ไหมครับ"

จู่ๆไอ้คนที่ตกลงเสียดิบดีกำลังจะหักหลังกันซะงั้น
อ้ายกลัวคำว่า 'แก้ว' หลุดมาจากปากนทีเหลือเกิน

*ไปถามพี่ลพนั่นสิ*
อ้ายแทบจะโยนกระดานใส่หัวคนยืน
เขาปิดหูปิดตา
บอกตัวเองว่าแก้วตายห่าไปแล้ว
ให้คนไม่รู้จักยังจะดีซะกว่า


.
.
.
.


อ้าย นที และตัวแถมอย่างพัลลพมาถึงแพเช้าตรู่ 
คนบนรถเข็นพึงพอใจที่พัลลพวางตัวเงียบ ยิ้มบ้างให้พอรู้ว่ายังมีตัวตน
คนขับเรือลากแพไปปล่อยทิ้งไว้ที่เขาลูกเล็กๆกลางเขื่อน
บอกเพียงว่าพรุ่งนี้สายจะมารับกลับ
นทีได้แต่บ่นว่าจองผิด  เขาน่าจะเลือกแบบที่มีคนขับแพล่องไปตามเขื่อน แต่นั่นต้องพักสองคืน

อากาศเย็นปลอดโปร่ง ทำให้คนซีเรียสคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า
แพลำนี้ถูกสร้างมาอย่างดิบๆ ไม่จำเป็นต้องตกแต่งอะไรมาก ดีตรงที่มีดาดฟ้าให้รับลม  และมีห้องเล็กๆสำหรับคนไม่อยากนอนข้างนอก

"หิวยังอ้าย"
นทีถามหลังจากตกปลาตัวเล็กได้ ทำอย่างกับว่าจะเอามันมากินทันที
อ้ายจึงส่ายหน้า รอให้พ่อครัวจับปลาได้มากกว่านี้ดีกว่า

"ตกเผื่อพี่ด้วยนะที"
พัลลพตะโกนลงมาจากดาดฟ้า
บ้าหรือเปล่า ร้อนขนาดนั้นยังจะไปนอนเล่นอีก
คนตกปลาอยู่คงเห็นอ้ายทำหน้าเหยเกถึงได้หัวเราะ

"เอาชะโดเลยนะพี่"
หัวเราะเขาแต่ดันตอบคนอื่น  ไม่ให้เกียรติกันบ้างเลย

"ตกได้พี่ให้พันนึง"

อ้ายเบ้ปาก
อยู่กับเขาแล้วมันเครียดนี่
ที่จริงนทีคงอยากพาเพื่อนมาแต่แรกอยู่แล้วมั้ง  ไม่ได้สนใจเขาหรอก

"อ้ายจ๋า"

อะไรเล่า!?
อ้ะ!
ฟอดดด

มือผอมดันหน้าคนฉวยโอกาสออกทันที
อ้ายหน้าแดงแจ๋  ดังนั้นนทีไม่กลัวหรอก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหอมแก้มตอนที่อ้ายยังมีสติ
มันน่ารักไม่เคยเปลี่ยน

"งอนเหรอ?"
อย่ามาทำเสียงแอ๊บแบ๊ว ไม่ได้เข้ากับหน้าตาเลย
อ้ายเห็นว่ามันจ้องมาก็จ้องกลับ
คราวนี้ไม่อ่อนให้ง่ายๆหรอก

ดวงตาของนทีมีประกาย
มันไม่ใช่ดวงตามืดบอดอย่างเขา
มันช่างน่าอิจฉา
นทีมีความรู้สึกที่ส่งถึงมาให้
เจ้าตัวยิ้มหวาน 
อ้ายพยายามเฟ้นหาไอ้เลวคนนั้นในดวงตา

แต่กลับ...ไม่มี
"ทีรักอ้ายจัง"

ลูกตาสีดำสนิทค่อยวาววับด้วยน้ำตา
อ้ายเป็นฝ่ายแพ้  เขาหลบตาก่อน
ซ่อนน้ำตาไม่ให้ทีเห็น

นทีสังเกตได้
แหงล่ะเขาจ้องอยู่ตลอดนี่นา
มือหนารวบมือผอมๆมากุมแนบอก
"เริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ย..."


....อ้ายไม่ตอบ
เขาหมุนรถถอยหลัง  หันไปทางขวา ที่ๆมีผืนน้ำรอคอย

เสียงลงส้นเท้าหนักๆดังขึ้นพอดี
"เฮ้ยทีมีเบ็ดอีกคันป่ะ พี่อยากตกมั่งว่ะ"

นทีทั้งขอบคุณทั้งสาปแช่ง
ขอบคุณที่พี่ลพช่วยผ่อนคลายบรรยากาศอึดอัด
สาปแช่งที่มาขัดการง้อของเขา

"ผมบอกให้พี่เอามาก็ไม่เชื่อ"

"เออๆ ขี้เกียจแบกนี่หว่า"

สองหนุ่มคุยกันเรื่องตกปลา บางครั้งนทีก็จะเรียกให้อ้ายหันมามองผลงานตัวเองบ้าง เพื่อไม่ให้อ้ายจมอยู่กับสายน้ำมากเกินไป
ท่าทางคนบนรถเข็นจะชอบน้ำมาก
ไปที่ไหนก็มีแต่น้ำมาเกี่ยวตลอด
หรืออ้ายจะไม่ได้ว่ายน้ำนาน

"เล่นน้ำมั้ยอ้าย"

อ้ายเลิกคิ้วถาม

"ใส่เสื้อชูชีพก็เล่นได้แล้ว  เกาะแพนี่ไง เดี๋ยวทีเล่นด้วย"

จะดีเหรอ...

"นะๆอ้าย เบื่อตกปลาแล้วอ่ะ"
หนุ่มทีไม่พูดพล่ามทำเพลง ลุกขึ้นถอดเสื้อออกทันที
ผิวภายใต้เสื้อยืดเลื่อมเป็นมัน เพราะเหงื่อ
อ้ายหลบสายตาวูบ
บ้าน่า! อากาศมันร้อน  ใจมันเลยร้อนรุ่มตามต่างหาก

นทีไม่ลืมไล่พี่ลพให้ไปตกปลาท้ายแพ
บอกว่าอยากสวีทกับแฟน



"เอาล่ะ เดี๋ยวอ้ายทิ้งตัวลงมานะ ทีจะรับอยู่ข้างล่าง"

นทีมันบ้าหรือเปล่า  รับคนข้าพิการเนี่ยนะ
จะพากันจมกันสิไม่ว่า
อ้ายส่งสายตาเคืองๆให้ ลืมนึกไปว่าตัวเองใส่เสื้อชูชีพเสร็จสรรพ

ตามหลักคนขาใช้การไม่ได้นั้น มันก็ถีบตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
นทีคงลืมคิดข้อนี้ไปถึงได้คะยั้นคะยอนัก

"เร็วๆ น้ำเย็นสบายโคตรๆ"
คนตัวขาวตีน้ำไปมา หลอกล่อให้เหยื่อตายใจ
อ้ายน่ะยอมลงก็ได้นะ แต่เริ่มหมั่นไส้มันละ
เขาใช้แขนพยุงตัวเอง  กลั้นใจปล่อยตัวลงจากแพ
เสียงน้ำดังตูมจนนทีตกใจเกือบรับไม่ทัน

แฮ่กๆ
น้ำเย็นกรีดผิว
อ้ายตะกุยตะกายเกาะแพแทนเกาะคนเจ้าเล่ห์ที่มันกำลังหาเศษหาเลยด้วยการรัดเขาแน่น

"ลองขยับขาสิ"

อ้ายกลอกตา 
ก็ขยับอยู่นี่ไง ขืนใช้กำลังแขนอย่างเดียว เดี๋ยวกล้ามขึ้นกันพอดี

"ชอบมั้ย"
นทีเกาะแพลอยคออยู่ข้างๆ  ส่งแววตาหวานซึ้งที่ยิ่งเปล่งประกายเมื่อโดนน้ำ

อ้ายพยักหน้า  ถึงจะเหนื่อยมากๆก็ตาม

"หมายถึงทีอ่ะ ชอบมั้ย"

อ้ายแสร้งทำหน้าคลื่นไส้
คนข้างๆหัวเราะออกมาจนน่าหมั่นไส้
อารมณ์ดีตลอดเวลาเลยนะ

หน้าตาก็เหมือนเดิมนี่หว่า
จมูกโด่ง ตาคม ดูสำอางค์แบบฉบับลูกคนรวยนิดๆ  แต่เพราะเรียนวิศวะ จึงได้อารมณ์ดิบๆแบบผู้ชายมาด้วย
มองหาแล้วนะ...ไอ้เลวนั่น
มันหายไปไหน....



อ้ายไม่รู้ตัวว่าจ้องนทีนานเท่าไหร่
แม้ทีจะจ้องกลับ  เพ่งมองใบหน้าซูบที่เริ่มมีน้ำมีนวล  ปากเป็นกระจับสีชมพูคล้ำดูน่าหลงใหล
ถ้าเขาจูบล่ะ?
มันจะแดงแบบเมื่อก่อนไหมนะ?

"อ..อื้อ"
มือไม้อ้ายอ่อนกระทันหัน
ร่างหนาคว้าไว้ประชิดตัว  บดเบียดริมฝีปากให้ทักทายกันดูดดื่ม
ปากสั่นระริกของอ้ายตอบสนองได้แย่พอๆกับร่างกายที่แทบไม่ต่อต้านเลย
พูดง่ายๆว่าแข็งทื่อ
แต่นทีก็ดีใจ
ดีใจมากๆจนไม่ได้ยินเสียงครางแผ่วเบานั่น


.............


ขออภัยที่หายไปนาน เชื่อไหม แต่งตอนนี้ตั้งแต่เปิดเทอม 555 เสร็จเมื่อวาน
อาจารย์คนใหม่โหดมาก ให้การบ้านทุกวันเลย ท่องญี่ปุ่นจนจะบินไปและ
เวลาที่เหลือก็เอาไปอ่านนิยายคนอื่น ไม่มีเวลาแต่งของตัวเอง ฮือออ
เรื่องนี้กะไว้ที่ 20 ตอนจบ ดังนั้นอีกไม่กี่ตอนนะคะ อดใจรอ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน15* 29กพ59 ล่องแพ#2
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-02-2016 18:52:41


ตอน15

เหตุใดคนแข็งแรงกว่า บึกบึนกว่า ถึงได้จับไข้ซะงั้น?
อ้ายอยากจะด่ามันว่าเป็นภาระเขาเหลือเกิน
แต่พอสำเหนียกตัวเองได้ก็เลือกที่จะเงียบ
พื้นที่ในแพแคบ เขาจึงไม่นั่งรถเข็นให้เกะกะ
คลานเล่นดีกว่า  จะได้แกล้งคนป่วยที่นอนซมได้ด้วย
พัลลภต้องกลายเป็นพ่อครัวจำเป็น
ต้มข้าวต้มหมูง่ายๆเป็นมื้อเย็นให้คนป่วย
ส่วนคนสบายดีได้กินปลาทอด กุนเชียงทอด และหมูยอทอด
มีแต่ของทอดทั้งนั้นจนอ้ายอดถามพัลลภไม่ได้ว่าตกลงทำอาหารเป็นไหม

"ไม่อิ่มก็เติมข้าวต้มได้นะ พี่ทำเผื่อไว้ พร้อมบริการเราทุกอย่าง"
อ้ายหลบสายตากรุ้มกริ่มทันที
หันไปพัดวีคนป่วย อย่างน้อยมันก็ไม่พูดจาแปลกๆ
นทีอ้าปากรับข้าวต้มร้อนๆ พร้อมกับใจที่เริ่มร้อนรุ่มของเขา

ใช่ว่าไม่คิดอะไร
อาการหึงหวงมันเป็นแบบนี้เองสินะ
ตลอดมาเขาไว้ใจอ้าย ไม่เคยสนใจหอยปูปลาที่มาแทะโลมแฟนเขา เพราะยังไงอ้ายก็ต้องซมซานกลับมาหาเขาอยู่ดี
ทว่าตอนนี้ ...เวลานี้  เขากำลังหึง!
หึงทั้งที่ทำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ ไข้ก็จับ เลือดลมก็พุ่ง  ...ขอยกคำพูดคนแก่มาหน่อยนะว่า
"คงเป็นเวรเป็นกรรม" สินะ
แต่ก่อนทำเขาไว้ มาวันนี้ต้องเป็นฝ่ายรับกรรมนั้นเสียเอง

..อะไร?...
อ้ายหันตามแรงสะกิด
"ขอน้ำหน่อย"
รอยยิ้มออดอ้อนน่าหมั่นไส้
อ้ายส่งน้ำให้ นทีรับไปดื่ม แต่เพราะนอนกิน ทำให้น้ำหกเลอะหน้าไปหมด

"แค่ก!"
อ้ายส่ายหน้ารัวๆ ไม่คิดช่วย จนนทีต้องพยุงตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง คนดูแลถึงยกมือลูบหลังให้

"เซ็งชิบ"
นทีบ่นงึมงำกับตัวเอง
โตจนป่านนี้แล้วไม่น่าเซ่อเลยจริงๆ
หมดมาดคนหล่อมีเสน่ห์เมื่อกลางวันกันพอดี
รสหวานจากปากนิ่มนั้นยังไม่จางหาย
เผลอมองตากลมโตของอ้ายที่เริ่มมีประกายของคนปกติแล้วใจสั่น

...อยากจูบอีก

จูบเพื่อย้ำ เพื่อซ้ำ ว่าอ้ายกลับมาเป็นของเขา...


....................




แกร๊ง
เสียงขวดแก้วกระทบพื้นหินเงาวับ  ดังคลอไปกับเสียงหัวเราะของนพพล
อีกร่างที่เล็กกว่านอนเท้าแขนอยู่บนเตียง ฟังนักกายภาพรูปหล่อเล่าชีวิตผจญภัยของตัวเอง

"เออนี่ พี่ว่าจะสั่งวิสกี้ของญี่ปุ่นมาสะสม อ้ายว่าสวยมั้ย"
นพพลเปิดรูปจากโทรศัพท์มือถือให้ดู เป็นรูปขวดวิสกี้ที่ฝาเป็นตัวซามูไร ท่าทางแพงเอาการ
อ้ายรู้ว่านพพลจะขอเงินจากเขา เลยทำเป็นเล่นตัว ส่ายหน้าตอบ

"ทำไมล่ะ โคตรเท่เลยนะ"

*น่ากลัว*
ตัวซามูไรที่น่าจะทำจากโลหะเป็นสีดำเงาวับ
ดูไปคล้ายตุ๊กตาหลอนๆ
อ้ายกระตุกยิ้มแกล้งคนอยากได้

"เถอะน่า เรายังไม่เคยลองของญี่ปุ่นเลยนะ"


*ก็ได้ แต่ต้องให้อ้ายเปิด*


"เยี่ยมมากน้องรัก"
นพพลคว้าคออ้ายมากอด พลางชนแก้วฉลอง


...............



"ทีแรกพี่ว่าจะกินกับทีสองคน แต่ก็ดันมาเดี้ยงไปก่อน  น้องอ้ายสนใจไหมจ้ะ"

เอาจิ้จ้ะไปไกลๆเลยเหอะ
อ้ายขยับตัวหนี เบียดไอ้คนหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยา  หวังให้มันเป็นเกราะกำบัง
ขวดเหล้าซามูไรในอดีตย้อนกลับมาให้เห็นอีกครั้ง
ชีวิตคนเราคงไม่บังเอิญขนาดนั้นที่จะมีคนตามจองเวร  แต่อ้ายก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี
อย่างไรเสียเค้าหน้าของพัลลพก็คล้ายนพพลอยู่มาก อีกทั้งท่าทีนี่อีก

อ้ายดันแก้ววิสกี้เพียวๆออกห่างจากตัว
แต่พัลลพยังคงหน้าหนาดันกลับ
ทั้งสองต่างเล่นสงครามประสาทกัน  แต่อ้ายเชื่อว่าเขาประสาทมากกว่า
ร่างเล็กฉวยโอกาสที่อีกคนกำลังเผลอคว้าขวดวิสกี้มาชูสุดแขน

มันแสยะยิ้ม
“น้องอ้ายจะทำอะไรพี่ครับ?  เขวี้ยงทิ้งเหรอ?”
จากสายตาเล่นๆเปลี่ยนเป็นคุกคามในทันที

สายตาสู้สุดชีวิตของอ้ายกำลังตะโกนบอกว่า *มึงเข้ามาสิ กูเอาตายแน่!*

“ชีวิตน้องอ้ายอาภัพจังเลยนะครับ มีแต่คนไม่ได้เรื่องรอบตัว พี่แม่งโคตรคนดีเลยนะที่พยายามปลุกอารมณ์อ้ายขนาดนี้”
“....อ้ายครับ ลองลุกขึ้นยืน ตะโกนด่า  สู้อย่างที่คนปกติเขาสู้กัน  พี่ว่ามันจะสมศักดิ์ศรีกว่า--”
เพล้ง!!
ขวดวิสกี้กระทบเสาแพแตกกระจัดกระจาย  กลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นคละคลุ้งไปทั่ว

“สู้พอรึยัง”
อ้ายเปล่งเสียงหนักแน่นด้วยความโกรธ
โกรธที่นทีมันโง่รับคนชั่วมาทำงาน
โกรธที่เขาชินชากับการไม่ยืนหยัด
โกรธที่ชีวิตต้องมาเจอกับคนเลวๆ

และโกรธที่.....นทีมันตื่นมาได้ยินเขาพูดพอดิบพอดี!!
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน15* 29กพ59 ล่องแพ#2
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-02-2016 21:05:36
พัลลพมาดีหรือร้าย หรือว่ามองอ้ายออกตั้งแต่แรกนี่ *0*

 :hao3:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน15* 29กพ59 ล่องแพ#2
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 18-03-2016 00:13:03
ลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย
อ่านอีกรอบก็รักกอ้ายเหมือนเดิ๊มมมม
ใจแข็งไว้อ้าย ไอ้ทีมันเลวไป๊ :katai4:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน15* 29กพ59 ล่องแพ#2
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-05-2016 01:23:15




ตอนที่ 16


ที่คณะของอ้ายจะมีงานเปิดบ้าน
แน่นอนว่าการชวนแฟนวิศวะมาเปิดตัวเป็นเรื่องที่อ้ายใฝ่ฝันลึกๆ
ใครๆก็อยากอวดแฟนตัวเองทั้งนั้นหละน่า แม้ปากจะบอกไม่ๆ แต่ในใจระริกระรี้จะตาย

อ้ายโทรชวนแฟน(ที่ไม่เคยจะอยู่บ้าน)
ตอนแรกนทีก็ตอบอึกๆอักๆอยู่หรอก
แต่พอฟื้นฝอยหาตะเข็บสักหน่อย เจ้าตัวก็ยอมมา

"เอ่อบาส  เราขอเดินเที่ยวได้ป่ะ"
พูดกับเพื่อนที่เฝ้าบูธด้วยกัน ติดจะเกรงใจหน่อยๆ

"ไปดิ อย่าลืมพาแฟนมาเปิดตัวด้วยนะเว้ย"

มันรู้ได้ไงวะ...

อ้ายยิ้มร่าขอบคุณ  วิ่งมารับนทีที่กำลังถอยรถเข้าซอง

"คนน้อยนะ"

"อืม บ่ายแก่ๆ เขาก็กลับกันหมดแล้วแหละ"
อ้ายตอบ พลางจัดเสื้อช็อปของแฟนให้เข้าที่เข้าทาง

มีแฟนเรียนวิศวะนี่มันน่ารักจังเลยน้า

"ยิ้มอะไร"
นทีบีบแก้มคนกำลังเพ้อ

"ไม่มีโว่ย!"
ปัดมือทิ้ง หน้าแดง

"ไม่ร้อนตัวเล้ย"


อ้ายพาแฟนเดินชมงานเปิดบ้าน
โดยส่วนตัว เขาคิดว่างานนี้ไม่มีความน่าตื่นเต้นเลยสักนิด
จะพูดจะติอะไรก็ไม่ได้ด้วย เพราะไม่ใช่คนจัด
ไม่เคยเหนื่อย  ไม่เคยช่วยคิด
เพื่อนบอกให้ลงชื่อทำงาน ก็รีบจองเป็นคนเฝ้าบูธก่อนใครเพื่อน
ขืนไปติไปว่ามัน ก็จะมีคนด่าคนหมั่นไส้อีก ว่าไม่ทำแล้วยังเสือกสะเออะมายุ่ง


เจ้าถิ่นพาซื้อทาโกยากิก่อนเป็นอันดับแรก
สาเหตุเพราะปากว่างเกิน อยากหาของอร่อยมาเคี้ยวเล่น

"เฮ้ยอ้าย ฮั่นแน่..."
มาแล้วขาแซวทั้งหลาย  หูไวตาไวกันเหลือเกินนะ

"มีไรๆ"
อ้ายพูดกลบเกลื่อน ทั้งๆที่หน้าแดง

"ชื่อไรอ่ะนาย"
เพื่อนอีกคนรีบถามก่อนอ้ายจะลากแฟนหนี

"นทีครับ"

"โหยพูดเพราะซะด้วย"
ท่าทางของเพื่อนนี่มันน่ากระทืบโคตรๆ  ทำตัวแซวเป็นเด็กกัน
งี้ล่ะน้า เพื่อนอย่างไรก็ยังเป็นเพื่อนวันยังค่ำ

"จะแซวกันอีกนานมั้ย"
ว่าแล้วก็รีบลากแฟนแสนเฟรนด์ลี่ของตัวเองออกมา

"หน้าแดง"
จมูกรั้นถูกเขี่ยไปมา หาเรื่องให้โดนตีมือไปงั้น

"อ้ายไม่ชอบให้ใครแซวนี่หว่า"

"น่ารักดีออก มันเหมือนเขาเป็นเพื่อนเราจริงๆ ถ้าไม่รักก็ไม่แซว ถ้าอายจะพามานี่ทำไมล่ะ"

"ไปนั่งตรงนู้นกัน...."  มือชี้ไปยังมุมไม้เงียบไร้ผู้คน
เขาพูดต่อ  "ถ้ามากไปมันก็ไม่ดีไง แต่ดีตรงที่เขารู้ว่าทีเป็นแฟนอ้าย จะได้ไม่เผลอชอบทีเข้า ไม่ก็เป็นหูเป็นตาให้ได้"

นทีย่นคิ้ว รอยยิ้มหุบฉับ
"จะให้เค้าจับผิดเวลาทีหนีเที่ยวว่างั้น"

"ก็เออดิ"
อ้ายตอบเล่นๆ ไม่นึกว่านทีจะคิดมากจนเงียบไป  สีหน้าไม่สดใสเลย

"เป็นไร"
ลองแย็บๆถามดู  แต่นทีส่ายหน้า อมยิ้มฝืนๆตอนส่งทาโกยากิให้

"เฮ้ย อ้ายพูดเล่น...ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก"


.................



อ้ายปัดมือที่จับแก้มตัวเองอยู่ออก
ขับรถไปเลยไป จะมายุ่งทำไมวะ คนกำลังหงุดหงิด
ถึงนทีจะทำดีด้วยการไล่ไอ้นั่นกลับ
 แต่เขายังเสียหน้าเรื่องที่นทีได้ยินเขาพูดอยู่

"ทีไม่เล่าให้ใครฟังหรอก  ไหนมีอะไรบอกทีหน่อย อ้ายรับคนเดียวไม่ไหวหรอกนะ"

คนฟังถอนใจ
สับสนไปหมด จะคุยอะไรล่ะ
ไม่รู้โว้ย!!


ฝั่งนทีกลั้นขำ
อ้ายไม่ขี้โวยวายประสาทเสียเหมือนตอนแรกๆ แล้ว
อ้ายคนนี้คล้ายคนเก่าอยู่มาก
อย่างน้อยที่เขาฉวยจูบ มันก็พอมีประโยชน์บ้างน่ะ

ลองเอื้อมมือไปแตะไหล่คนหน้าบึ้ง ..เรียกว่าจิ้มดีกว่า

ชี่

คนไม่พูดห้ามด้วยเสียงดุหมาแบบที่เคยเห็นรายการฝึกหมาทำ แต่มีหรือนทีจะกลัว
ค่อยๆชะลอรถ เลือกข้างทางเปลี่ยวๆเหมาะๆเป็นที่ง้อ
อ้ายตวัดสายตาด่า
'อย่าทำอะไรบ้าๆนะเว่ย!!'

"ไม่ต้องพูดก็ได้ แค่อยากให้อ้ายสงบจิตสงบใจก่อน บอกตรงๆไม่อยากขับรถแบบมีจิตอาฆาตอยู่ข้างๆว่ะ"

คนฟังฮึ่มฮั่มในใจ  กดเลื่อนหน้าต่างลงเพื่อสูดอากาศสบายๆจากข้างนอก
นทีเห็นดังนั้นก็เอาบ้าง  เขาพยายามทำตัวให้น่าไว้ใจมากที่สุด เขารู้ว่าแผลของอ้ายมันใหญ่เกินกว่าตัวเองจะแก้ไขได้
ถ้าอ้ายยอมรับเขามากขึ้น ก็ว่าจะพาไปพบจิตแพทย์ดู

"ดูนกนั่นสิ สีสวยดี"
นทีชี้นกตัวเล็กสีคล้ายปีกแมลงทับที่กำลังเกาะบนกิ่งไม้ริมธาร  โดยไม่รู้ตัวว่าใบหน้าตัวเองใกล้กับอีกคนมากแค่ไหน

"อยู่แต่ในเมืองเลยไม่รู้โลกกว้าง เออ..ทีเคยเห็นกระทู้ถามว่าสัตว์ตัวที่เขาถ่ายรูปมาคืออะไรด้วยนะ แล้วมันโคตรเป็นสัตว์ธรรมดาอ่ะ อ้ายลองทายดิว่าคืออะไร"

อ้ายส่ายหน้า ไม่รู้หรือไม่ทายกันแน่

"มันคือกิ้งก่า! โคตรธรรมดา ทียังรู้เลย"

คนฟังหลุดยิ้มเพราะเห็นด้วย คนที่ไหนวะไม่รู้จักกิ้งก่า

"มีอีกนะ อันนี้ง่ายกว่า"

“....เอ.......นึกไม่ออกว่ะ”
เอ๋า...หลอกให้อยากแล้วจากไป

"ว่าแต่อ้ายรู้จักนกตัวนั้นป่ะ ชอบอ่านหนังสือนี่"

อ้ายพยักหน้ารู้จัก พลางทำหน้าเสียดายเมื่อมันบินจากไปราวกับรู้ว่าตัวเองกำลังถูกนินทา

"ว้า...ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย....งั้นเรามาเซลฟี่แทนนะ"

ไหลได้อีก....อ้ายกลอกตาบน ดันหน้ามึนๆของอีกคนออก  เสียงแชะดังรัวไม่ได้ทำให้เขาอยากมองกล้องเลยสักนิด
นี่คิดจะเอาใจหรือบังคับขู่เข็ญวะ

"วันเก่าๆมันก็ดี ...แต่ทีว่าตอนนี้..มีความสุขกว่านะว่ามั้ย?....


ทีแทบไม่เคยสนใจอ้ายเลยตั้งแต่เข้ามหาลัย ทั้งๆที่มันควรเป็นช่วงรักวัยรุ่น รักที่สดใสแท้ๆ แต่ทีกลับทิ้งอ้ายตลอด ...ทีเสียใจนะ
ไม่รู้ภูตผีห่าอะไรมันเข้าสิง แม่งถึงลืมแฟนตัวเอง สนใจแต่เรื่องของคนอื่น
ลืมหมดเลยว่าเคยรักกันมากแค่ไหน
ทีคิดว่าตอนเด็กๆ มันก็แค่ปั๊บปี้เลิฟ ทีอยากลองอะไรใหม่ๆ อยากทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง
แต่แม่ง.....”

ยกมือกุมหัวเมื่อภาพวันวานหวนย้อน  ....สี่เขาทำไม่ดีกับอ้ายมากขนาดนี้เลยเหรอ?

“ทำไมกูโง่อย่างนี้วะ"

ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ อารมณ์ก็ยิ่งขึ้น
นทีตบคอนโซลรถระบายความอัดอั้น แม้แต่เขายังทนไม่ได้ แล้วจิตใจของอ้ายตอนนั้นล่ะ
มันจะแหลกสลายขนาดไหน...

อ้ายที่มีแต่เขา
อ้ายที่วางเขาไว้เป็นที่หนึ่งของชีวิต
การที่จู่ๆคิดจะดัดนิสัยแฟนตัวเองแบบนั้นน่ะ 

แม่งโคตรใจดำ

ตอนนั้นเขาเชื่อพี่อัฐไปได้ยังไง
ทำไมเขาไม่กลับมาให้ไวกว่านี้
บางทีคนที่คิดว่ารู้จักกันดีที่สุด ...อาจไม่รู้ห่าเหวอะไรเลยก็ได้




...."แล้วตอนนี้มีความสุขยังไง"



........
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน16*18พค59 newnew
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-05-2016 01:28:06


ตอนที่ 17





...."แล้วตอนนี้มีความสุขยังไง"


เสียงแผ่วเบาเอ่ยถาม เบาเสียจนนทีคิดว่าตัวเองฝันไป
เขากระพริบตาถี่ๆ เลือกที่จะตอบก่อนแสดงท่าทีว่าตกใจ ไม่อยากให้อ้ายคิดว่าตัวเองประหลาด ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ (ทั้งๆที่มันใหญ่)

"มีความสุขสิ...

ทีมีความสุขมากที่เลือกกลับมาดูแลอ้าย กลับมาเห็นหน้าอ้าย...สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของที"

คนกำลังใจอ่อนผินหน้าหนี กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นหยาดน้ำตาเอ่อคลอ

"มันถึงจุดๆหนึ่งที่ทีกลับมาคิดถึงคนที่รักทีมาก ทีอยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา"

..."ไม่ใช่ว่าสมเพช--"

"ไม่ใช่เลยอ้าย...นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ทีอยากให้อ้ายกลับมาเป็นเหมือนเดิม  กลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน อย่างที่เคยฝันไว้ไง...ว่าเรียนจบเราจะสร้างครอบครัวของเราเอง"

คนฟังก้มหน้านิ่ง
ทำไงดี...เขาเชื่อนะ...เชื่อคำพูดของนทีจริงๆ
แต่นทีจะเข้าใจไหม
ความรู้สึกของหัวใจที่เคยแตกสลายน่ะ

มันเหมือนหนามยอก แล้วเอาหนามด้วยกันมาบ่ง
มันทรมานมาก
ความหวังที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
...นทีเคยเข้าใจหรือเปล่า??

"ทีจะย้ำไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ จนกว่าอ้ายจะมั่นใจ  แต่ถ้าอ้ายเจ็บให้บอก ถ้าไม่อยากเจอที ก็ขอให้บอก จะตามใจทุกอย่าง แล้วไม่ต้องพูดก็ได้ถ้าไม่อยาก แต่ถ้าจะให้ดี ทีขอวันละประโยคนะ กลัวแมงกินฟัน"
ทีนะที
ชอบพูดขัดอารมณ์อยู่เรื่อย...
กำลังซึ้งเลยถ้าไม่เจอคำขออันท้าย

แต่ยังไงๆ
อ้ายก็พยักหน้าตกลง พลางแตะหลังมืออีกฝ่ายเพื่อวัดอุณหภูมิไข้แก้เก้อ
ปรากฏว่าอุ่นกว่าที่คิดไว้
ก็เล่นพูดไม่หยุดนี่นา เลยนึกว่าหายแล้ว


"งั้นกลับบ้านเรากันนะ ทีจะกินข้าวกินยาให้อิ่มเชียว"

"อือ"


.
.
.
.


ดูท่าฝนจะตกเสียล่ะมั้ง ที่วันนี้คุณชายอ้ายเกิดนึกคึกไปกินข้าวบ้านนที
พี่อัฐแกนนำด้านการดัดสันดานน้องยิ้มกระหยิ่มดีใจที่แผนตนเป็นไปได้ดี
คนแก่ก็งี้ ชอบคิดเองเออเอง ไปว่าไปขัดก็หาว่าเถียงอีก


ฝั่งบ้านนทีในเวลานี้มีเพียงคนสองคนกับหมาหนึ่งตัว  เพราะแม่ของนทีเห็นลูกเที่ยวเลยอิจฉา จึงยกโขยงครอบครัวพี่เกดไปเที่ยวกัน ส่วนแม่บ้านถือโอกาสลาพักร้อนหนึ่งวัน
อ้ายไม่อยากกลับบ้านไปเจอคนเยอะๆพร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังอยู่แล้ว  กอปรกับนทีชวน
ดังนั้นอ้ายจึงเลือกมาเล่นกับข้าวเหนียวดีกว่า

"ต้องขอบคุณที่ข้าวเหนียวเกิดมา ทีเลยได้อานิสงส์ไปด้วย"

..เว่อ..
อ้ายพูดไม่มีเสียง

หมาสีขาวขนฟูแลบลิ้นเลียเท้าป๊าของมัน

..ไม่เอา ไม่เดิน..

ข้าวเหนียวยกขาตะกายคนบนรถเข็น

..ออกไป ป๊าขี้เกียจ..

"เล่นกับมันหน่อยน่า ดูดิถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวทั้งวัน"


*พาไปนั่งโซฟาหน่อย*


"ได้คร้าบคนน่ารัก ทีอุ้มนะ"


ให้พยุงโว้ย เอะอะจะอุ้มอย่างเดียวเลยไอ้นี่

อ้ายตีแขนแน่นไปทีหนึ่ง กับท่าทางแบบนี้มันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
นทีค่อยๆวางเขานอนลง และแน่นอนคนกะล่อนอย่างมันต้องแกล้งโน้มตัวมาหาเขาแน่ อ้ายเลยแจกมะเหงกไปอีกที

"ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก"
คนตัวใหญ่บึกบึนโถมตัวใส่ร่างบางผอมแห้งจนหลุดเสียงร้องดัง อั่ก
ได้แกล้งแล้วเลยหัวเราะใหญ่

"อือออ"
อ้ายพยายามดันปากจู๋น่ากลัวออก เล่นอะไรเป็นเด็กไปได้

"ขอหน่อย"

"หึ"
ส่ายหน้ารัวๆ

ความน่าเอ็นดูทำให้คนแกล้งใจอ่อน

"ไม่แกล้งแล้วก็ได้"
นทีซบตัวลงนอนบนตัวอ้าย  ปลายจมูกแนบต้นคออีกฝ่าย สาบานว่าไม่ได้คิดทะลึ่ง แค่ตัวอ้ายหอมดีเท่านั้นเอง

"หนัก"

ร่างใหญ่ขยับตัวตะแคงชิดโซฟา แล้วรวบตัวอ้ายให้เกยไหล่ตน
เมื่ออยู่ในท่ากำลังสบายทั้งคู่ สองแขนหนาจึงโอบกอดเอาไว้แน่น ส่วนมือกุมประสาน

....ต่างฝ่ายต่างไม่พูดสิ่งใด

ถ้าเขาสองคนจะไม่ได้คู่กันจริง
อ้ายก็ขอเก็บช่วงเวลานี้เอาไว้ต่อลมหายใจแล้วกัน




.........
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน16*18พค59 newnew
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-05-2016 01:37:19


ตอนที่18



....


"ไง...หลับสบายเลยสิเมื่อคืน"
นักธุรกิจหนุ่มแต่สมองวัยใกล้กลางคนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะตื่นเช้า ออกมาปรากฏกายให้คนในบ้านเห็น
อ้ายอุตส่าห์บอกให้ทีพามาส่งตอนเขาหลับกัน มันก็ยังมีมารผจญ
เขาหลบแก้มแดงๆของตัวเอง ปล่อยให้ทีรับมือไป

"แหมพี่อัฐตื่นเช้าจังเลยครับ สงสัยฝนจะตก"

"เออๆ ไม่ต้องเลย ไปกินข้าวต้มไป กำลังร้อนๆ"

"พี่ไม่ไปทำงานเหรอ"

"ไม่หรอก อยากอยู่กับน้องสักวัน เผื่อได้ข่าวดี"

"พี่พูดอย่างนี้ผมกดดันแย่"

"ไม่ต้องกดดันหรอก พี่ต่างหากที่ต้องกดดัน ทำอ้ายไว้เยอะนี่หว่า"

..รู้ตัวด้วย..
บุคคลที่สามทำปากขมุบขมิบ ซึ่งไม่รอดสายตาพี่ชายจอมบงการ

ร่างในชุดนอนผ้าฝ้ายอย่างดีตรงดิ่งมาลูบหัวน้อง  สายตาเอ็นดูยิ่งกว่าใคร  ทว่าอ้ายกลับไม่เคยมองเห็นมัน

"พี่กินยาลืมเขย่าขวดเหรอ"
นทียังสงสัยไม่เลิก...
...ก็มันแปลกจริงๆนี่นา จู่ๆคนนิสัยแห้งแล้งอย่างพี่อัฐเนี่ยนะจะมาปล่อยบรรยากาศหวานฟุ้งชวนเลี่ยนอย่างนี้
ดีไม่ดีคงโดนคุณนายด่าช่วงอ้ายไม่อยู่แหง

พี่อัฐขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง จึงขอตัว

เมื่อพ้นหลังพี่ชายผู้เต็มไปด้วยปริศนามาได้ อ้ายก็ร้องจะกินข้าวต้มทันที  โดยให้เหตุผลว่าท้องหิว ตัวอ้ายไม่ได้หิวนะ
เลยโดนนทีว่าว่าอย่าฟอร์มจัดไปที  เขารู้แล้วว่าตัวน่ะพูดได้
อย่างอแงเป็นเด็ก

พอเด็กโข่งโดนว่าเข้า มีหรือจะยอม ทำคิ้วขมวดหน้าบึ้งอยู่นั่น 
นทีง้อแล้วง้ออีก  ง้อจนเผลอหลับด้วยฤทธิ์ยาลดไข้ไปเองนั่นแหละ

"จะให้ง้อให้ตายเลย"
อ้ายบิดจมูกโด่งอย่างกับสันเขื่อนอย่างลืมตัว
ฟู่วว  ดีนะไม่มีใครเห็น



...........



เวลาตีสอง ...เสียงเครื่องปรับอากาศดังหึ่ง 
ดวงตากลมยังคงเบิกโพลงท่ามกลางความมืดมิด
...ทั้งที ทั้งพี่พล.......ต่างก็หักหลังอ้ายกันหมด
อ้ายไม่ดีตรงไหนหรือ
...เพราะเราพิการ  เอาแต่ใจ น่ารำคาญ...ใช่ไหม?

อ่ะ!

....ไม่เจ็บเท่าไหร่แฮะ....

ต้นขาทั้งสองข้างยังไม่หายดี ด้วยเวลาเพิ่งผ่านไปเพียงเกือบปี
แต่ไอ้พลบอกว่าอ้ายมีพัฒนาการดีมาก สามารถฝึกเดินเองได้แล้ว
...ถ้าอ้ายมีอารมณ์อยากจะเดินน่ะนะ

อ้ายลองลุกขึ้นนั่งเอง  ยังมีความรู้สึกขัดๆอยู่บ้าง แต่นั่นก็เพียงชั่วครู่
เขาเปิดโคมไฟหัวเตียง  จินตนาการว่านทียืนยิ้มอยู่ที่ประตู ในมือมีช่อดอกไม้ที่ติดการ์ดอันว่างเปล่า  เพราะนทีมันจะขอโทษด้วยการก้มลงกราบแทบเท้าเขา  ขอขมาเขา  อ้อนวอนให้เขากลับไป
ฮ่าๆๆๆๆ  แค่คิดแม่งก็สุขสุดๆ

"ที....อ้ายให้อภัยทีนะ"


.....ถ้าอ้ายเดินได้น่ะ คิก"


อ้ายค่อยๆทรงตัวยืนขึ้น  ยังมีโอนเอนอยู่บ้าง ถึงพลมันจะเลวแต่มันก็ดูแลเรื่องกายภาพดีมาก
เขาคว้าเอาไม้ช่วยพยุงมาใช้  พยายามเดินก้าวแรกด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรกในชีวิต
เป็นก้าวที่ค่อยๆสอนเขาว่า...เราคงหวังพึ่งใครไม่ได้นอกจากตัวเราเอง

พอได้แค่สามก้าว อ้ายก็หอบตัวโยน  เจ้าตัวไม่ได้ร้องไห้โวยวาย  ไม่ได้ตัดพ้อต่อว่าใครเหมือนอย่างเคย
ภาพนทีคุกเข่าจางหายไป เหลือเพียงความมืดเป็นเพื่อน
เขาปฏิภาณกับตัวเองไว้ว่า  จากนี้ต่อไป...จะลองหัดเดินเองทุกคืน
ถามว่าเพื่ออะไร...


....ก็คงเป็นความสุขล่ะมั้ง



...............



คุณนายดรุณีในวัยกลางคนยังคงมีหน้าตาสะสวย  แต่งตัวเก่งเหมือนสมัยสาวๆ อีกทั้งกิริยาวาจาใช้ได้  ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนในแวดวงธุรกิจ 
เสียดายแกมาเขวช่วงที่ลูกชายคนเล็กประสบอุบัติเหตุ อาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิตถ้าไม่ทำกายภาพ
คุณนายที่วันๆบริหารงานกับออกงาน  ทุกวินาทีคืองาน งาน แล้วก็งาน  จึงต้องแปลงร่างเป็นคุณแม่เต็มตัว เฝ้าดูแลลูกชายคนเล็กเป็นอย่างดี จนลูกครอบครัวอื่นต่างอิจฉากันหมด

"แหมช่วงนี้ดูแลลูก ไม่ค่อยอยากแต่งตัวไปอวดใครเลยค่ะ  ขอโทษจริงๆนะคะ...โอ๊ยลูกคนโตน่ะเหรอคะ บ้านช่องยังไม่กลับเลยค่ะ..ไม่สนใจหรอกค่ะ  ขอบคุณนะคะ ...ดิฉันต้องไปดูลูกแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ"

"ฟู่วว...โทรมาจริงๆ ...ถ้าทำแล้วรวยฉันทำไปนานแล้วย่ะ!  ...ทำไมตาอัฐไม่โทรมาหาแม่นะวันนี้....มาศ!!  มาศ!! เก็บข้าวที่ห้องอ้ายหรือยัง?"

"เฮ้อ!..."

ร่างเล็กๆของผู้หญิงคนหนึ่งทรุดนั่งอย่างหมดแรง  โซฟาราคาหลายหมื่นรองรับน้ำหนักเบาหวิว ...คงพอๆกับลูกชายนายห้องข้างบน ที่วันๆแทบไม่กินอะไร  กับข้าวไม่เคยพร่องเลยสักวัน  จนคนเป็นแม่อดห่วงไม่ได้
กว่าชีวิตจะมีวันนี้ได้ คุณนายผ่านมรสุมมาเยอะเหลือเกิน  พอกำลังจะดี ...อ้ายก็มาเป็นแบบนี้อีก
เหนื่อยนะ 
ยอมรับว่าเหนื่อย
แต่ไม่เคยบ่นให้ลูกฟังเลย  กลัวว่าลูกจะท้อใจ จนอยากตายอีก
เธอเลี้ยงอ้ายมาแบบผิดๆ ปกป้องมากเกิน ทะนุถนอมมากเกิน
พอเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงต่อใจ  อ้ายจึงรับมือไม่ได้
เคยคิดว่าไอ้นพพลมันจะเปลี่ยนอ้าย  แต่ที่ไหนได้ ....เลวร้ายกว่าเดิม
คนเป็นแม่น่ะ...เมื่อเห็นลูกทุกข์  แม่ทุกข์กว่า ...เคยคิดว่าอยากให้ลูกได้ดิบได้ดีนะ...แต่ตอนนี้ขอแค่อ้ายยิ้ม  แม่ก็แทบขึ้นสวรรค์แล้ว




"คุณนายคะ...จะตีสองแล้วนะคะ ขึ้นนอนเถอะค่ะ"

"เหรอ..."
ดรุณีขยี้ตารับแสงโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้งไว้  โฆษณาขายตรงตามมากวนใจยันนี่เลยหรือ
คุณนายกล่าวขอบอกขอบใจสาวใช้ที่อุตส่าห์แหกขี้ตามาปลุก

บ้านหลังใหญ่...แต่ไร้ชีวิต
ยิ่งในยามกลางดึกอย่างนี้ยิ่งแล้วใหญ่
จิตใจคนเป็นแม่ห่อเหี่ยว  พลอยให้ร่างกายห่อเหี่ยวตามไปด้วย  เธอเดินนวยนาดขึ้นบันได 
แสงไฟสลัวช่วยส่องให้มองเห็นทาง 
ทุกๆครั้งที่คุณนายขึ้นบ้าน  เธอจะหยุดหน้าประตูลูกทั้งสองคน  คนโตมักอยู่ต่างประเทศ  สายตาที่ทอดมองจึงเต็มไปด้วยความคิดถึง
ส่วนคนเล็กคงไม่ต้องเดาว่าสายตานั้นสื่อถึงความทุกข์มากเพียงใด
แต่วันนี้รู้สึกแปลกๆ...
ห้องของอ้ายไม่มืดเหมือนปกติ.. 
มีไฟสีส้มลอดออกมาจากช่องใต้ประตูตอนตีสองเนี่ยนะ!

คุณนายดรุณีเอาหูแนบประตูแอบฟัง

"ทีกลับมาขอโทษอ้ายเหรอ? อ้ายไม่ใช่คนใจง่ายสักกะหน่อยน่า"

อ้าย!!!  คุณนายกรีดร้องในใจ  รีบมือสองข้างปิดปากตัวเองให้แน่นๆ

"อ้ายจะลองเดินให้ทีดูนะ ถ้าได้สองก้าว เราคบกัน ถ้าได้สามก้าว เราแต่งงานกัน"

ถึงแม้เสียงนั้นจะแผ่วเบาแทบจับใจความไม่ได้...แต่หัวอกคนเป็นแม่..มันบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ  หญิงวัยกลางคนผู้หวังให้ลูกหายป่วยยืนร้องไห้
เธอดีใจที่ได้ยินเสียงลูก....ดีใจที่อ้ายบอกว่าจะเดิน
แม้ไม่เห็นภาพ  ..ไม่เห็นก้าวแรกแห่งความพยายาม  แต่เท่านี้มันก็สุขใจมากแล้ว

อ้ายของแม่ต้องกลับมาเป็นคนเดิม
กลับมาน่ารักเหมือนเดิมนะลูก...



..........



"ทีกลับไปแล้วเหรอ"

อ้ายพยักหน้าหงึก ปากเคี้ยวหมึกย่างหงุบหงับ

"เจ้าทีนี่ถึกทนดีนะ  อ้ายก็ยอมๆเอาใจเขาบ้างล่ะ"

สอนอะไรเนี่ยแม่...

*ต้องเอาให้หนัก*
เขียนแกล้งแม่ไปก่อน  ทั้งๆที่จริง นทีแทบจะปล้ำเขาได้อยู่แล้ว

คุณนายหัวเราะกิก  "แล้วแต่ลูกเถอะ แม่มั่นใจว่าทีเขารักอ้าย"

...เป็นงั้นก็ดี  ...ไม่รู้สิ ภาพมันเบลอๆ ฟุ้งๆ เหมือนฝัน


Rrrrrrrrr

"ใครโทรมา....ฮัลโหลสวัสดีค่ะ ดรุณีพูดค่ะ"

"เอ๊ะ...เอ่อ...ใครคะ?"

"อ้ายไม่อยู่ค่ะ สวัสดี"


"ใครโทรมาก็ไม่รู้  เป็นเสียงผู้ชาย ขอสายอ้ายน่ะ"

*ใครจะโทรมา*

"แม่ก็ว่างั้น  เลยวางทิ้งเลย"

*น่าสงสัย*

"งั้นเดี๋ยวแม่เช็คให้แล้วกัน  แปลกเกินไป"

สองแม่ลูกไม่รู้ตัวว่า ต่างฝ่ายต่างคิดเหมือนกัน
ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใครไปไม่ได้  นอกจากไอ้พล!!



....................


เอาสามตอนมาเสิร์ฟ  ก็จะเหลือ 19-20 (ไม่แน่ใจว่าเกินไหม5555)
เป็นคนแต่งนิยายยาวไม่ค่อยรอดจริงๆ5555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน16-17-18*18พค59 newnew
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-05-2016 07:24:21
เอ๋

ใช่พลแน่เหรอ? อย่าบอกนะว่ามาล้างแค้นอะไรทำนองนั้น

ไม่สำนึกอีก

(อ่านพาร์ทคุณแม่แล้วสงสารแทน ต้องทำงาน ต้องเลี้ยงลูก แถมอ้ายช่วงแรกก็จิตใจย่ำแย่

หวังว่าคุณแม่จะมีกำลังใจเยอะๆนะคะ ต้องใช้กำลังใจอีกนานเลยล่ะ)
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน16-17-18*18พค59 newnew
เริ่มหัวข้อโดย: [x]-SayHi ที่ 19-05-2016 17:54:10
ผมมารอนานมาก ชอบเรื่องนี้นะคับ เป็นกำลังใจให้จนจบนะคับ ^^
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน19* 25กค59
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-07-2016 03:51:46



ตอนที่19



ความกังวลก็เหมือนเมฆฝน
ตั้งเค้าสีดำมืดมนตั้งแต่ก่อนลืมตา กระทั่งหลับตา

ผู้ชายคนนั้นใช้เบอร์ตู้โทรมาทุกวันจนอ้ายแน่ใจว่าเป็นเสียงนพพลจริง
น้ำเสียงของมัน น้ำคำของมัน...เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ล้อเลียนว่าเขาพิการบ้างล่ะ ขู่ว่าจะกลับมาบ้างล่ะ
มันคงคิดว่าอ้ายจะกลัว คงหวังความสะใจ
แต่อย่าหวังเลย  ไอ้โรคจิต!



แน่นอนเรื่องนี้อ้ายไม่ยอมบอกตื้นลึกหนาบางให้นทีรับรู้  เพราะเชื่อขนมกินได้เลยว่านทีจะต้องคลั่งและทำเสียแผนแน่ๆ
ไอ้นพพลน่ะมันเป็นพวกมาดนิ่ง วางแผนแยบยล เขาจึงอยากให้มันโผล่หัวออกมาเองมากกว่าไปตามไล่มัน
ช่วงนี้แม่จึงสั่งคนคุ้มกันบ้านเพิ่มขึ้น และไม่ให้อ้ายออกไปไหนแม้แต่บ้านนที
แต่อ้ายก็ไม่อยากจะไปหรอกนะ เพราะไปทีไรโดนแต๊ะอั๋งทุกที มันขนลุกพิกล

.
.
.
.


"วันนี้ลองเดินหรือยัง"

อ้ายส่ายหน้าเป็นคำตอบ
อากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ทำให้เขาไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้น

"ต้องฝึกนะอ้าย อ้ายไม่อยากเที่ยวสบายๆกับทีเหรอ"

ก็มันเดินได้แล้วนี่ จะฝึกทำไมล่ะ
แล้วทำไมเราไม่บอกเขาไปวะ โมโหตัวเองเหมือนกัน
คิดว่าเก็บไว้เป็นความลับ มันก็สนุกดี ทีมันไม่โกรธร้อกกกก

"ทีอยากให้อ้ายเข้มแข็ง อยากให้อ้ายสู้ อย่างน้อยที่พี่ลพพูดมันก็ถูก"

 ไอ้ลพ!

"มันติดต่อมาบ้างมั้ย?"
อ้ายถามทันควัน
บางทีคนเพิ่งยอมพูดก็เก็บอาการไม่ค่อยอยู่
ทำไงล่ะ เขาขี้เกียจเขียนกระดานแล้วนี่
อีกอย่างถ้าพูดเยอะๆ ปากจะได้ไม่เหม็นด้วย ข้อนี้สำคัญมากสำหรับperfectionistอย่างคุณชายอ้าย

"ไม่นะ ก็ไล่เขาไปแล้วนี่"

"อืม..."

"ทีก็ไม่ค่อยถูกชะตาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ยิ่งมีเรื่องกับอ้ายก็ยิ่งเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง"

"ขอเบอร์มันหน่อย"

"เอาไปทำไมครับ?"

ฮึ่มม

"ครับๆ เดี๋ยวทีขอกลับไปดูที่บ้านนะ จดไว้บนบอร์ดอยู่"

"เชย"

"ก็กดลบในมือถือไปแล้วนี่นา  เฮ้อง่วงจัง!"
คนกะล่อนไม่พูดเปล่า ยังอุ้มเอาร่างบางเบาขึ้นมานั่งบนโซฟา จัดท่าเสียดิบดี พอได้ที่ก็ล้มตัวลงนอน เอาหัวหนุนขาต่างหมอน
ซึ่งการกระทำทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที  คิดดูว่าคนเอ๋อๆ ที่กำลังอ้ำอึ้งมันจะด่าทันไหม


"ขอนอนหน่อย ง่วง"
มัวแต่เล่นเกมโทรศัพท์อยู่ล่ะสิ งานการก็ไม่ทำ อุตส่าห์ได้ทุนไปเรียนเมืองนอกเมืองนา

....จะทิ้งโอกาสมาหาคนบ้าทำไมก็ไม่รู้

"จะยอมอยู่เป็นเพื่อนก็ได้"

"อย่าอยู่เป็นเพื่อนดิ อยู่เป็นเมียดีกว่า"

พลั่ก! อดตีแขนคนปากดีไม่ได้

"ชอบความรุนแรงเหรอ"
ฝ่ายคนเจ็บมีหรือจะยอม เข้าคลุกวงในหวังแก้แค้น

"อื้ออ"
ด้วยความที่แรงน้อยกว่าอยู่แล้ว พอโดนนทีล็อคแขนจึงเจ็บกว่าคนปกติอยู่มาก
อ้ายยังฝืนขืนตัวไม่เล่น สีหน้าบอกอารมณ์หงุดหงิดชัดเจน แต่เจ้าตัวก่อกวนยังไม่ยอมเลิกรา

นทีสูดกลิ่นแก้มนวลด้วยความหลงใหล บางจุดก็เผลอฝังรอยฟันจางๆอันเกิดจากความหมั่นเขี้ยว  อ้ายน่ารักขนาดนี้ เขาทนเป็นพระอิฐพระปูนไม่ไหวหรอก  ยิ่งอาการดีขึ้น ร่างกายก็ยิ่งมีน้ำมีนวลมากขึ้น

"พอ..."
เสียงแหบเครือผะแผ่ว  หน้าอ้ายคงแดงจัดมาก เพราะเขารู้สึกว่ามันร้อนผ่าวเหลือเกิน
ต้องโทษไอ้ทีจอมหื่น มันคิดจับกดไม่ดูสถานที่เลย  นี่มันกลางบ้านเขานะ แถมคนรับใช้ก็เดินกันให้ควัก

"ทีรักอ้าย"


ภาพครั้งแรกของเขาสองคนผุดขึ้นมา....
เด็กชายสองคนที่ยังไม่รู้ประสีประสา มีรักอันบริสุทธิ์ต่อกัน มีความจริงใจต่อกัน
เมื่ออยาก ..เมื่อสงสัย... ก็ลองทำ ด้วยความรัก  ทำเพราะอยากรัก...หาใช่ความใคร่

มาวันนี้หัวใจที่ถูกปิดตายของอ้ายกำลังถูกนทีเขย่ารุนแรง  ฝุ่นที่จับลูกกรงเหล็กหนาฟุ้งกระจายไปทั่วหัวใจ
ประตูหัวใจกำลังพังครืน  ทว่าฝุ่นนั้นยิ่งทำให้หวาดผวา เกินกว่าจะยื่นมือออกไป

อ้ายยอมรับว่ายังรักอยู่  จะให้ยอมอย่างอื่นก็ย่อมได้...
แต่..นทีแค่อยากชั่วครั้งชั่วคราวหรือเปล่า?
แต่..
แต่..
มีแต่คำว่า'แต่'เต็มไปหมด

ฟอดดดด
"พอละ แกล้งจนชื่นใจละ"
นทีผละออกพร้อมรอยยิ้มหวาน คราบความจริงใจฉายชัด



กลืนกินความเงียบงันไปสักพัก

.....อ้ายยิ้มตอบ...

ฝ่ามือบางเกาะกุมมืออีกฝ่าย
'ขอบคุณนะ...ที่รับฟัง'


.
.
.



นอกจากการเล่นเกมเพื่อลืมเรื่องนพพลไปสักพัก อ้ายก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาอาการทางจิตที่อ้ายเป็นอยู่
เขาดีใจนะที่ตัวเองยังรู้ตัวว่าเป็นอะไร ยังพอมีสติอยู่บ้าง เพียงแต่สติที่ว่ามักถูกอารมณ์มาเหนือกว่า
การที่นทีกลับมานั้นทำให้อ้ายทั้งสุขทั้งเจ็บในอก เพราะลึกๆก็ยังแคลงใจอยู่ตลอด ดีแค่ไหนแล้วที่นทีกลายเป็นพวกขี้ตื๊อ ไม่ใช่ทำตัวเป็นพ่อพระ ยอมเสียสละจากไปเพื่อให้แฟนตัวเองดีขึ้น ...
สำหรับอ้ายแล้วมันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่น่ะสิกับไอ้เรื่องน้ำเน่าพรรค์นั้น!

"โอ้โห...ต้องผูกข้อมือกันแล้วมั้งคู่นี้"
เสียงแซวอารมณ์ดีจากพี่ชายที่นับวันชักจะเริ่มน่ารักดังขึ้นมาพร้อมหน้าหล่อๆ

"อะไรพี่อัฐ?"
นทีลุกจากตักแฟน พลางลงมือนวดคลายกล้ามเนื้อที่เผลอนอนทับเพลินไปหน่อย

"แตะเนื้อต้องตัวกันขนาดนี้ มันผิดผีไม่รู้เหรอ? ไปเอาพานธูปเทียนมาขอขมาเลย จะได้หมั้นกันสักที"

นทีส่ายหน้าเอือมระอา ไม่สนใจจะตอบ
"ดูท่าพี่อัฐจะเพี้ยนไปแล้ว"
เขากระซิบบอกอ้าย


ครืนนนนน/กริ๊งงงง
ทั้งสามสะดุ้งเมื่อเสียงฟ้าร้องบังเอิญดังพร้อมกับเสียงโทรศัพท์

"เดี๋ยวพี่รับเอง"
เซนส์ของอ้ายบอกว่าไอ้นพโทรมาแน่ แต่เขาห้ามพี่ชายไม่ทัน

"อะไร ?ใคร?"

"มึงเป็นใคร?!"
พี่อัฐเริ่มขึ้นเสียงแล้ว อ้ายว่าไม่ดีแน่ เขาจึงสะกิดนทีให้ไปเอาโทรศัพท์มา

"ไอ้สัตว์!!"
ไม่ทันแล้ว....!
พี่อัฐกระแทกโทรศัพท์อย่างแรง ใบหน้าเคียดขึง
อ้ายหลบตา ส่วนนทียังงงๆ

"นพพล....มันโทรมา"

"มันบอกว่าจะกลับมาเล่นกับอ้ายอีก ตอนนั้นมันยัง...'เอา' ไม่พอ" พี่อัฐเงียบไป
"หมายความว่าไงอ้าย?"

ทั้งอ้ายและนทีต่างเงียบ  อ้ายคิดว่าเสียแผนแน่ถ้าพี่อัฐรู้

"ไอ้นักกายภาพที่แม่บอกว่าลาออก...พร้อมๆกับที่อ้ายกินยาฆ่าตัวตาย คือไอ้นี่ใช่มั้ย?"
คนเป็นพี่ชายกดเสียงต่ำ ความโกรธและความผิดหวังอัดอยู่ในอก
นี่เขา...ไม่รู้อะไรเลยหรือ

"ตอบพี่มาสิอ้าย!!"

"พี่อัฐใจเย็นก่อน แค่นี้อ้ายก็เครียดแล้ว"
นทีปราม

"กูไม่เย็นแล้ว!!"

โบราณว่าอย่าทำให้เสือโกรธ
เสียงฟ้าร้องตอนนี้ยังไม่น่ากลัวเท่า

อ้ายถอนหายใจเมื่อพี่ชายขึ้นห้องปิดประตูเสียงดัง  แต่ก็ต้องสะดุดกึกเมื่อพี่เขากลับลงมาอีกครั้งพร้อมวัตถุสีดำมะเมื่อมในมือ

"พี่จะเอาไปทำอะไร"
นทีถามเสียงสั่น นี่มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเพิ่งจะหวานกับอ้ายไปหยกๆ คนธรรมดาตั้งรับไม่ทันจริงๆ

"ไอ้เวรนั่นมันอยู่แถวนี้แหละ กูได้ยินเสียงฟ้าร้องเหมือนฝั่งเรา"

"มันก็แค่คนโรคจิตน่ะพี่ เดี๋ยวเราแจ้งตำรวจหาเรื่องจับมันเข้าตะรางอีกก็ได้"

"มันทำร้ายแฟนมึงนะที! มันทำน้องกูให้เกือบตาย! กูเข้าข้างมึงคนเดียวก็เกินพอ กับไอ้เชี่ยนี่กูเอาตายจะดีซะกว่า!"

"เดี๋ยวพี่อัฐ!"

ร่างสูงใหญ่เดินดุ่มออกไปแล้ว!
"อ้ายอยู่นี่นะ"
อ้ายส่ายหัว หน้าเสียไปเหมือนกัน พอถึงสถานการณ์จริงก็ไม่อยากให้เกิดการฆ่าแกงกันอยู่ดี

"ฝนมันตก อยู่นี่แหละ ทีไปดูเอง"

"ไม่" เสียงแหบเอ่ย  อ้ายลงทุนพูดอย่างนี้คงห้ามไม่ได้แน่ นทีจึงหันไปสั่งแม่บ้านให้ไปดักพี่อัฐไว้ก่อน ส่วนตนเองอุ้มอ้ายนั่งรถเข็น หาร่มมากางก่อนพาออกไป

"ลองให้โกรธเถอะ เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่"
อ้ายพูดด้วยความกังวล

"ไอ้นั่นมันต้องพูดแย่มากแน่ๆเลย พี่อัฐถึงควบคุมอารมณ์ไม่ได้"
แม้เรื่องราวจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ใจมันก็อดสั่นไม่ได้ มันเป็นความกลัวฝังใจที่อ้ายยังไม่เคยแสดงออกไปให้ใครรู้


สองหนุ่มออกจากบ้านอย่างทะลักทุเล ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้ใครทำอะไรบุ่มบ่าม  ถ้านพพลมาจริงก็ต้องคุยกันดีๆเพราะดูแล้วจิตมันไม่ปกติแน่

พี่อัฐยืนนิ่งหน้ารั้ว  ฝนตกหนักทำให้ทัศนวิสัยในการมองแย่เข้าไปอีก
"มันหนีไปแล้วมั้งพี่ เข้าบ้านเถอะ"
นทีตะโกนบอก ส่งซิกให้แม่บ้านเอาร่มไปให้ แต่อัฐกลับปฏิเสธ  สายตายังคงมุ่งมั่นสอดส่องหาตัวการ ไอ้เลวที่ข่มขืนน้องเขา!

"ออกมาคุยกัน!!"

"พี่ถือปืนแล้วใครมันจะออกมาวะ" นทีคราง

อ้ายเห็นว่าเรื่องราวคงยืดเยื้อ พี่อัฐหายโมโหยาก จึงให้แม่บ้านเข้าบ้านไปก่อน เดี๋ยวจะพาไม่สบายกันหมด  ส่วนตนเข็นรถเข้าไปใกล้พี่ชายมากขึ้น

"อ้าย.."
มือด้านแตะหลังพี่ชายขี้โมโห ส่งสายตาอ้อนวอนว่าให้หยุดเถอะ  จองล้างจองผลาญไปมันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก
ดูอย่างนทีสิ  กว่าจะดิ้นจนเขาให้อยู่ใกล้ได้ ก็ต้องใช้เวลา และทุกข์มาตั้งเท่าไหร่ แม้มันอาจเทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ของเขา

"พี่อัฐจะฆ่าคนเหรอ....?"
คนถูกถามเบิกตาโพลง  ลมหายใจสะดุดกึก
น้องของเขาพูดแล้ว!

แต่อัฐจำต้องเก็บความดีใจเข้ากรุ เพราะสถานการณ์อันตึงเครียดข้างหน้า

"แล้วมันล่ะ? มันฆ่าน้องพี่ทั้งเป็น! ถ้าพี่รู้ตั้งแต่แรก มันคงตายห่าไปนานแล้ว"

"พี่ฆ่ามันตายตอนนี้ มันก็แค่ตาย สู้พี่หาเรื่องให้มันติดคุกนานๆยังจะสะใจกว่านะพี่"
คนบนรถเข็นกระทุ้งชายโครงคนพูดอย่างแรง  แต่ก็อดเห็นด้วยกับนทีไม่ได้

หมดกัน...เขาอุตส่าห์เอาธรรมะเข้าข่ม

"เออๆ ให้มันโผล่หัวออกมาก่อนค่อยว่ากัน"
อัฐบอกน้องไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ในใจเขาเอานพพลตายแน่

เม็ดฝนซาลง พร้อมกับอารมณ์ที่เบาลง เมื่อไม่เห็นวี่แววมนุษย์อยู่บริเวณหน้าบ้าน  อัฐเช็คปืนที่เปียกฝนของตัวเอง ปรากฏว่ายังใช้งานได้ ใจร้อนๆเริ่มผ่อนเป็นเย็น
เห็นทีวันนี้กระสุนเงินคงไม่ได้กินสมองไอ้เวรนั่น  แม้จะถูกปิดบังเรื่องนพพล แต่อัฐไม่คิดโกรธน้องกับแม่เลยสักนิด  เพราะเขารู้ดีว่าแม่ปิดไปเพื่ออะไร
นิสัยเฉียบขาด เคร่งครัด อารมณ์ร้อน จนเกือบจะเรียกได้ว่าย่ำแย่อย่างเขา...พึ่งพาได้ดีก็แค่เรื่องงานเท่านั้นแหละ
ถึงเวลาแล้วที่เขาควรทำหน้าที่'พี่'ที่ถูกต้องเสียที


"พี่ไม่อยากเป็นพี่ชายที่แย่ในสายตาอ้าย"
เขารำพึง
"แต่ถ้าพี่ฆ่าคน อ้ายคงรู้สึกแย่"
อัฐได้ฟังก็ถอนใจ 

"เข้าบ้านเถอะพี่ อ้ายเปียกแล้วเนี่ย"
นทีช่วยพูดผ่อนคลายบรรยากาศ

ฟ้าใสแล้ว...นทีคิดว่าชีวิตจริงของหลายๆคนคงไม่ผาดโผนโจนทะยานขนาดนั้น  เราไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหาเลย ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพี่อัฐ ที่ไม่ทำให้มันเกิดขึ้น

ปัง!!! "พี่อัฐ!!!"
เสียงปืนดังสนั่นท่ามกลางท้องฟ้าที่กลับมามืดมัวอีกครั้ง  จู่ๆพี่อัฐก็ยกปืนยิงแถบรั้วด้านนอก
เมื่อนทีได้สติก็รีบปัดปืนในมือพี่ชายทิ้ง  คนยิงมีสีหน้าราบเรียบ แต่ทว่าคนที่น่าเป็นห่วงคืออ้าย  ใบหน้านั้นซีดเผือด
"อ้ายโอเคมั้ย"

"ฮึก.."
อ้ายส่ายหน้า  เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเกลียดกลัวความรุนแรงมากขนาดนี้  ใจอ้ายเหมือนจะฉีกขาดไปพร้อมเสียงปืน แน่นอนเขาไม่ได้ห่วงไอ้เลวระยำที่ถูกยิงข้างนอกนั่น แต่เขาแค่กลัว...กลัวอย่างประหลาด

"อะไรวะ!"
นทีสบถ หันไปถามพี่อัฐ เจ้าตัวก็เดินดุ่มๆหยิบปืนออกไปรั้วหน้าบ้านไวชั่วพริบตา

"อยู่นี่นะอ้าย"

"ไม่เอา อย่าไป"
ใจคออ้ายไม่ดีเลย รั้งแขนนทีไว้

รอไม่นานพี่ชายก็ลากร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามา  ตะโกนบอกรปภ.ให้โทรเรียกตำรวจ แล้วทุ่มร่างปวกเปียกนั้นลงแทบเท้าอ้าย

"ลพ!"
นทีตกใจ ปะปนกับความขยะแขยงเมื่อมันแสยะยิ้ม ...มันบ้าไปแล้วจริงๆ

"พี่นพพลไง จำไม่ได้เหรอน้องอ้าย ฮ่าๆๆ"

ความจริงกระจ่างแจ้ง!
อ้ายชักเท้าหนีมือสกปรกที่พยายามเอื้อมมาแตะเขา  แล้วมันก็โดนพี่อัฐเหยียบอย่างไม่ปรานี

"มึงทำแบบนี้ทำไม!"

"เฮอะ! ตอนแรกกูก็จะเข้ามาดีๆหรอกนะ อุตส่าห์ไปโมหน้าใหม่มาหลอกพวกมึง แต่พวกมึง! ไม่เห็นความตั้งใจที่กูทำ! เสือกไล่กูอย่างกับหมูกับหมา!"

"มึงมันโรคจิต"
เสียงอดกลั้นของอ้ายเอ่ย  นพพลดีใจที่ได้ฟังเสียงเทวดาสวรรค์ของมัน  มันจึงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แม้จะถูกอัฐเหยียบแผลที่โดนยิงตรงหัวไหล่แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

"พี่ดีใจนะ ที่การกระทำของพี่ไม่เสียหลาย  อย่างน้อยอ้ายก็เข้มแข็งขึ้น"

"อย่าพูดเอาดีเข้าตัวหน่อยเลย  ถ้าไม่มีมึง อ้ายอาจดีขึ้นเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ"
นทีอยากจะเหยียบหัวมันแล้วบี้ลงกับพื้นจริงๆ

"โถๆ ๆ แฟนเก่าเลวๆอย่างมึงอย่ามาสั่งสอนกูหน่อยเลย"

"หยุดพูดได้แล้ว! ตำรวจคงจะถึงละ ช่วยพี่จับมันหน่อยที  ...คราวนี้กูเอามึงติดคุกตลอดชีวิตแน่" อัฐพูดเสียงเหี้ยม จับแขนทั้งสองข้างของคนเบื้องล่างไพล่หลังไว้ รั้งตัวมันให้ลุกขึ้นนั่ง  สะอิดสะเอียนเลือดชั่วที่ไหลเปื้อนมือ รอนทีมาจับอีกแรง ก่อนจะรับเชือกมาจากลุงรปภ.ของบ้าน

นที...ไอ้อ่อน
บุคคลที่นพพลไม่นึกกลัวเลยสักนิด ความย่ามใจ หน้ามืดตามัว เพราะนี่คือครั้งสุดท้ายของมัน! มันจะไม่ได้เห็นหน้ายอดดวงใจมันอีกแล้ว!
นพพลใช้จังหวะนี้ดิ้นขัดขืน  มือข้างที่ไม่เจ็บหยิบมีดพกตรงขอบกางเกงออกมาเอี้ยวหลังแทงเข้าที่ท้องนทีอย่างแรง

"อย่า!!!"
อ้ายพุ่งตัวไปสู้ตามสัญชาตญาณ เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีจิกหนังหัวไอ้เลวนั่นออก ส่วนเท้าเตะมีดในมือมันอย่างแรงจนโดนบาด

อัฐสะดุ้งตกใจ ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เขาเผลอ นทีก็ถูกแทงไปแล้วสองแผล  พร้อมร่างน้องชายที่กำลังจับหัวคนแทงกระแทกพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พี่ชายรีบเข้าไปห้ามน้องที่กำลังขาดสติ  เลือดเปรอะเปื้อนเต็มหน้า ยังไม่น่ากลัวเท่าแววตาที่ไร้ความรู้สึก!
..........................
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน19* 25กค59
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 27-07-2016 02:15:37
สะเทือนอารมณ์จริงๆค่ะ ต่างคนต่างมีเหตุผล อาจไม่ดีของตัวเองหรือไร แต่จะตามอ่านต่อไปค่ะ โหดร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน19* 25กค59
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-07-2016 03:00:17


ตอนที่ 20


ความเงียบงันกำลังกัดกินใจทุกคน
นทีเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินเป็นเวลาเกือบชั่วโมง ยังไม่มีทีท่าจะเสร็จสิ้น
ครอบครัวนที ทั้งแม่ พ่อและพี่เกดไม่ได้สนใจอ้ายเลย จะว่าไป...พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก
อ้าย...ไม่ได้สนใจใครเลยมากกว่า
ดวงตาอ้ายกลับมาเป็นปกติ มันยังคงมีชีวิต พริ้วไหวไปมาตามแสงไฟ ...เพียงแค่อ้ายไม่คิดที่จะสนใจสิ่งอื่นใดนอกจากมือเปื้อนเลือดของตัวเอง
พี่อัฐนั่งกอดน้องชายไม่ยอมปล่อย  แม้พยาบาลจะทำแผลที่ขาอ้ายอยู่ก็ตาม
คราวนี้เขาขออยู่กับน้อง เขาอยากให้น้องรู้ว่ายังมีพี่ชายที่พึ่งพิงได้ หาใช่แค่แม่คนเดียว

"พวกเราไปกินอะไรรองท้องกันก่อนดีมั้ย?"
คุณนายถามทุกคนเบาๆ พยายามทำให้ผ่อนคลายที่สุด แม้จะยากก็ตามที

"เผื่อหมอออกมาล่ะ"
แม่นทีส่ายหน้า มือเกาะกุมผู้เป็นสามีหาหลักยึดเหนี่ยว เพราะตอนนี้หน้ามืด ไม่มีแรงทำอะไรแล้ว

"เกดก็ไม่อยากค่ะน้า"

คุณนายดรุณีหันมาถามลูกชายทั้งสองคนของเธอบ้าง ปรากฏว่าอ้ายนั่งซบไหล่พี่ชาย ตาเหมือนจะเคลิ้มหลับ ส่วนอัฐยิ้มแหยๆ ไม่กล้าขยับด้วยกลัวน้องตื่น

"คงอีกนานกว่าหมอจะออกมา พาน้องไปนอนเถอะ"

"ไม่เอา!"
คนฟังได้ยินดังนั้นก็สะดุ้งตื่นเต็มตา ตัวอ้ายสั่นเทิ้ม น้ำตาคลอ
อ้ายยึดท่อนแขนแกร่งพี่ชายเอาไว้ เผลอจิกเล็บลงไปแต่พี่ก็ไม่บ่น

"เปิดห้องสักห้องให้น้องอ้ายดีกว่าไหมคะ แล้วก็ปรึกษาหมอเรื่อง...."
ถึงพี่เกดจะไม่ชอบอ้าย แต่เรื่องของคนป่วยเธอก็อดที่จะแนะนำไม่ได้  นั่งมองอ้ายที่หลุดบ้างดีบ้างแล้วเริ่มสงสาร 
ไม่มีใครคิดสนใจจะรักษาหรือไงกัน 

"อ้ายกำลังช็อคน่ะเกด หมอก็บอกแล้ว"
คนเป็นแม่กลัวลูกจะเหยียดเหมือนเคยๆ เลยปรามอย่างอ้อมๆ
การะเกดจึงไม่พูดสืบสาวต่อ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่อัฐที่กำลังกล่อมน้องให้ไปนอนรอก่อน
ไม่นานนักอ้ายก็ยอมทำตามพี่  เพราะเขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน ปวดหัวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
รู้ตัวอยู่ว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ....เขาแค่จัดการไม่ได้  ควบคุมมันไม่ค่อยได้
น้ำตาไหลด้วยความสมเพชตัวเอง  เป็นห่วงนทีก็เช่นกัน

"จะเดินหรือว่านั่งรถเข็น?"

เขาปาดน้ำตา
"เดิน"

อ้ายเคยคิดนะว่าเขาจะนั่งรถเข็นตลอดไป  หลอกทุกคนไปเรื่อยๆ  แต่ ณ สถานการณ์ตอนนี้เขาทำไม่ได้แล้ว  เขาอยากให้นทีตื่นมาแล้วเห็นเขาเป็นปกติ
แต่นทีก็ไม่ตื่นสักที

"เจ็บแผลมั้ย"
แผลมีดบาดเป็นแผลไม่ลึก แค่ยาวตั้งแต่ข้อเท้าจนถึงเกือบกลางน่อง  อ้ายจึงเดินสบายๆ โดยมีพี่ประคอง



อัฐทำเรื่องขอห้องพิเศษแบบสองเตียง เผื่อนทีด้วยอีกคน แม้อาการอ้ายไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่คนดื้อยืนกรานว่าจะนอนที่นี่

"แต่งชุดคนไข้อีกแล้วเรา"
พี่ชายบ่นน้องพลางลูบหัว
ภายในระยะเวลาสองปีกว่า เขาเห็นน้องใส่ชุดนี้มากกว่าคนแก่เสียอีก
เรื่องกายน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ใจที่ไม่แข็งแรงสิน่าเป็นห่วง


"ไหนบอกหน่อยเดินได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะเรา"

"นานแล้ว"

"เจ็บมั้ย"

"ไม่เจ็บ แต่ก็ยังไม่เคยเดินนานๆด้วย ต้องลองดูอีกที"
อัฐอมยิ้มเมื่อน้องชายตอบยาวๆเป็นกับเขา

"เอ้อ..ถ้าตำรวจถาม ให้บอกไปว่าป้องกันตัวนะ แล้วก็มีอาการทางประสาท พูดช้าๆ ทำหน้าน่าสงสารเข้าไว้"
จริงๆเขาไม่ควรแนะนำน้องอย่างนี้
แต่อ้ายกลับพยักหน้าหงึกหงัก ให้เรื่องมันจบๆไป
"มันเป็นไงบ้างล่ะ"
ถามถึงคนจิตใจบิดเบี้ยว

"ไม่รู้สิ พี่ก็อยู่กับอ้ายตลอดนี่นา"

"หวังว่าคงไม่ตาย"

"ไม่ตายหรอก...แปลกนะ พี่นึกว่าอ้ายจะโกรธมากกว่านี้"
ที่ทุบจนหน้าเละไปข้างนี่ไม่เรียกว่าโกรธ?
"โกรธ ...แค่ไม่อยากฆ่าใครตาย"

"งั้นต่อไปนี้คิดใหม่ทำใหม่ อะไรดีๆอย่างนั่งสมาธิสวดมนต์ก็ทำต่อ จิตใจที่หมกมุ่นก็ปล่อยวาง"

"บอกตัวเองด้วย"

"ฮ่าๆ นั่นสิ พี่มันใจร้อน ขี้โมโห สงสัยต้องให้อ้ายสอนนั่งสมาธิ ได้ไหมครับ?"

"อืม"

"พี่ว่าเรานอนพักก่อนดีกว่า ถ้านทีมาพี่จะปลุก"
แม้การพูดคุยครั้งนี้ออกจะประดักประเดิดไปบ้าง แต่อัฐคิดว่านี่ก็ดีที่สุดในรอบสองปีระหว่างเขากับน้องแล้วหละ
แน่นอนคนเราย่อมมีช่วงเวลาที่ผิดพลาด ขนาดคนเพอร์เฟ็คต์ไปซะทุกเรื่องอย่างเขา ยังตัดสินใจผิดพลาด คิดว่าการสั่งสอนแบบรุนแรงและหักดิบจะช่วยให้น้องคิดได้
แต่แล้ว...ไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าการมอบความอบอุ่น การแสดงความรัก และความห่วงใยต่อกัน  ดูอย่างวันนี้สิ แค่เขาปกป้องน้อง โอบกอดน้อง อ้ายก็ยอมคุยกับเขาเหมือนไม่ได้โกรธกันมาก่อน
คิดแล้วดีใจชะมัด ...อาการบราค่อนที่เก็บไว้ลึกสุดใจ ดูเหมือนจะเริ่มปะทุซะแล้วสิ

"ยิ้มอะไร โรคจิต"
อ้ายทำหน้าแหยก่อนหลับตาพักผ่อน

.
.
.
.

อ้ายฝัน
หรืออาจจะไม่ฝัน?
ช่างมันเถอะน่ะ เขาอาจกำลังหลอนเพราะฤทธิ์ยาก็ได้
ภาพเลือนลางของกลุ่มมวลสีดำเบื้องหน้าคืออะไรไม่สามารถเจาะจง มันกำลังเคลื่อนไหวไปมาราวกับเต้นระบำ ซ้ายทีขวาที วูบวาบหยอกล้อเขา
ดูไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เสียงหัวเราะคิกคักนั้นกลับคล้าย
เงาสีดำวิ่งวนสักพัก ก่อนจะโบกมือลาจางหายไป พอดีกับที่อ้ายขยี้ตาเบลอๆให้ชัดแจ้ง

นที....
นทีนอนอยู่บนเตียงข้างกัน  สีหน้าดูดีกว่าที่คิด ไม่มีสายระโยงระยาง หรือท่อช่วยหายใจที่ทำให้คนเฝ้าใจหาย  ทุกอย่างดูปกติ
คนไม่ป่วยก้าวลงจากเตียง  อาศัยแสงจันทร์เต็มดวงส่องทางเพื่อเปิดไฟ

"ที"
เสียงแผ่วเบาราวกระซิบ เพียงเพราะไม่อยากให้คนหลับตื่น แค่อยากพูดเตือนตัวเองว่านทีอยู่ตรงนี้แล้ว .... มาอยู่ข้างเขาแล้ว...
ทำไมหนอความรักจึงยากเย็นนัก
เหตุผลร้อยแปดจะมีทำไม ในเมื่อสุดท้ายแล้ว เราก็แค่ดีใจ
...ดีใจที่เขาปลอดภัย
...ดีใจที่เขากลับมา

"เพิ่งรู้ว่าขี้แย"

"ที!!"

"กี่โมงแล้ว"

"ไม่รู้ ตีสี่มั้ง"
อ้ายเช็ดน้ำตาเสียงเครือ เรียกเสียงหัวเราะจากคนบนเตียง

"น่ารักจัง"

"เพี้ยนเหรอ?"

"เปล๊าาา"

"นอนต่อเถอะ ก่อนจะเพี้ยนไปมากกว่านี้ ขอโทษที่ปลุก"
อ้ายหน้าบึ้ง ทำท่าจะปิดไฟ

"ไม่เอาๆ อยากอยู่กับอ้าย...เป็นไงบ้าง?"
นทีจับมือคนรักมากุมไว้ สายตาห่วงหาอาทร

"ไม่เป็นไง โดนมีดบาดนิดหน่อย"

"คราวหน้าคราวหลังอย่าทำอีกนะ  ให้ทีเจ็บคนเดียวก็พอ"

"ก็อยากอยู่หรอก แต่ทำไม่ได้"

นทียิ้ม เป็นอารมณ์ที่บรรยายไม่ถูก เขาโชคดีขนาดไหน ที่อ้ายมารัก

"แล้วเรื่องเดินได้อีก ไม่บอกกันบ้าง"

“ไว้ค่อยคุยกัน ดึกแล้ว”

“ทีดีใจนะที่อ้ายหายดี ดีขึ้นทั้งกายทั้งจิตใจ  ทีสัญญานะ—“

"ไม่ต้องสัญญาอะไรทั้งนั้น...นอนก่อน"

".....ขออะไรอย่างหนึ่งได้มั้ย...ถ้าทีตื่นมา ขอให้อ้ายอยู่ข้างๆทีนะ"

"ได้สิ"


...........END………


โฮ่ง!
ร่างสูงโปร่งลูบหัวหมาขนฟูสีขาวอย่างหมั่นเขี้ยว  มันเห่าเรียกเขาตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าบ้านเพื่อจะอวดลูกชายลูกสาวแสนน่ารักของมัน
นทีไม่รู้ว่าข้าวเหนียวไปไข่ทิ้งไว้ตอนไหน  รู้ตัวอีกทีก็มีหมาจรจัดสีน้ำตาลทรงสวยมาคลอดลูกหลังบ้าน  ซึ่งเด็กๆก็แทบไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นลูกของใคร

“ไงข้าวสุก ข้าวเปลือก วันนี้เป็นเด็กดีไหม”
โฮ่ง!
ไหงพ่อของมันเห่าตอบซะงั้น

“ยุ่งจริงๆเลยข้าวเหนียว  ทำไมตัวแกเลอะอย่างนี้เนี่ย ดูลูกๆเป็นตัวอย่างสิ ไม่ดื้อไม่ซน”


“ดุหมาอีกแล้ว เดี๋ยวมันก็งอนอีก”

“ปล่อยให้งอนไปเลย”

“โธ่ที่รัก  ไม่คิดจะให้โอกาสบ้างเลยเหรอ”

“ไม่รู้สิ ยังหาโอกาสไม่เจอ ถ้าเจอแล้วจะให้”

“อ้ายจ๋า อย่าโกรธทีเลยนะ ก็ไอ้ปั่นมันย้ำนักย้ำหนาว่าโทรมาบอกอ้ายแล้ว ทีเลยวางใจ ไม่คิดว่ามันจะโกหก”

“ไม่ได้โกรธเรื่องนั้น โกรธเรื่องที่กินเหล้าเมาเกินลิมิต ทั้งๆที่เคยตกลงกันแล้วว่าได้เท่าไหน”

“หยวนๆกันนะ  นานๆครั้ง”

“ถ้าอ้ายกินบ้าง ทีคงไม่ว่านะ”

“เอ่อ....”

“ดีเลย อ้ายซื้อโกด์ลมา ทีช่วยชงให้อ้ายหน่อยสิ”

เรื่องราวมันเกิดเมื่อลูกน้องของนทีนามว่าปั่นเลี้ยงฉลองที่กลับมาโสดอีกครั้ง เจ้านายผู้เป็นที่รักจึงถูกชวนอย่างปฏิเสธไม่ได้  เพราะดันไปพนันเสียดิบดีว่ายังไงกับสาวคนนี้ก็ได้แต่ง  นทีวานให้ปั่นโทรบอกอ้าย แต่ไม่นึกว่ามันจะหักหลังได้ลงคอ  จริงๆไปโทษปั่นก็ไม่ได้หรอกที่ดูเหมือนไม่เคารพเขา  เพราะไม่ว่าจะเลี้ยงที่ไหน ใกล้ไกลเท่าไหร่ นทีก็จะโทรแจ้งภรรยาสุดที่รักทีหลังอยู่ดี
แล้วเขาก็โทร.....แต่โทรหลังจากเมาเละอ่ะนะ
อ้ายไม่ชอบคนหยำเหย่ ไม่ชอบคนผิดศีล ไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่องหรือไร้สติ  รวมๆแล้วคือคนเมานั่นแหละ
นทีจึงถูกโกรธอย่างช่วยไม่ได้  ตอนแรกนทียังเบาใจอยู่ที่อ้ายไม่หนีไปนอนบ้านตัวเอง 
แต่ตอนนี้เขาหนักใจกว่าเก่าเสียแล้วสิ
เขากำลังทำให้อ้ายผิดศีล!!

.
.
.

คุณชายอ้ายของคุณนายดรุณีนิ่งสนิท...เงียบสงัด
นี่เพิ่งแก้วที่สอง หน้าจิ้มลิ้มนั้นก็แดงเถือก อย่างกับคนเอาสีไปฉาบ
นทีจึงหยุดชง แล้วหยุดดื่มของตัวเองบ้าง  เขาหันไปเก็บกระติกน้ำแข็ง โซดา ปิดฝาขวดเหล้าให้เรียบร้อย

“ขอข้าวเปลือกไปอยู่บ้านนู้นนะ ไม่อยากให้คอกเดียวกันอยู่ด้วยกัน”

“อ่า.....”  เด็กชงเหล้าสะดุ้งแทบทำขวดหล่น  “ได้สิครับ บ้านอ้ายจะได้ไม่เงียบด้วย”

แล้วไงต่อ?
นทีคิดว่าเขาน่าจะเปิดเพลงสร้างบรรยากาศเสียตั้งแต่แรก

“เหล้า....”

“ครับ?”

“มีคนเคยชวนกิน”
คนฟังตั้งใจฟังแทบกลั้นหายใจ  ดวงตาอ้ายหม่นแสงลง มือวางแก้วที่เหลือเพียงน้ำแข็ง
ลมแอร์พัดหวีดหวิวเป่าปอยผมให้สั่นไหว  ดวงตาหยาดเยิ้มบ่งบอกว่าอยากหลับเต็มแก่
แต่อ้ายก็ยังจะฝืน

“เหล้ามันทำให้ลืมใครบางคน....แต่จริงๆก็ไม่เคยลืม”

นทีอมยิ้ม

“อ้ายไม่ค่อยพูดนะทั้งๆที่ผ่านมาหลายปีแล้ว  อ้ายคิดว่าแสดงออกดีกว่าสักแต่พูด ดูดิ...เงียบจนไอ้เหนียวมันมีลูกก่อนแก่ตายซะอีก....
.....รู้ว่าเหนื่อยกับงานมาก แล้วยังต้องคอยดูแลคนไร้ประโยชน์อย่างเราอีก”

“ไม่เป็นไรหรอก ทีเต็มใจ”

“ก็เลยคิดว่า....อยากลงทุนหาอะไรทำบ้าง”
เสียงคนเมาแผ่วลงๆ ด้วยความอาย

“อ้ายอยากทำอะไรล่ะครับ เรียนต่อก็ดีนะ”

“ไม่เอาๆ แก่แล้วไม่อยากเรียนแล้ว ไม่อยากเจอคนเยอะๆ”

“ความจริงคือแฟนอ้ายไม่อยากให้อ้ายทำอะไรอ่ะครับ  อยากให้อยู่บ้าน”

“งั้นทำงานที่บ้านก็ได้”

“ทำอะไรดี?”
นทีช่วยคนรักคิด  พูดกับคนเมาแล้วเหนื่อยเหมือนกัน  อ้ายเวอร์ชั่นเมานั้นพูดช้า นึกนาน
ส่วนเขารู้ดีว่าอ้ายถนัดด้านไหน  ชอบอะไร  ขึ้นอยู่กับว่าอ้ายจะตั้งใจทำมันไหม  เพราะอ้ายกลายเป็นคนสมาธิสั้น  นอกจากการนั่งสมาธิกับนั่งมองอะไรเรื่อยเปื่อย อ้ายก็ทำกิจกรรมอื่นไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย  ขนาดเกมที่ชอบๆยังไม่เคลียร์สักเกม

“เลี้ยงหมา”

“หืม?”

“อยากเลี้ยงหมาขายมั้ง”

“มันจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า เพราะอายต้องดูแลมันตลอด”

“งั้นปลูกต้นไม้”

“อืม....อันนี้ดี  เพาะต้นเล็กๆอย่างแคคตัส พืชอวบน้ำ”

“คืออะไร?”
คนหน้าแดงเอียงคอถาม

“กระบองเพชรน่ะ เลี้ยงให้สวยๆ รายได้ดีเลยนะ”

“เราไม่เคยปลูกนี่นา...  เอาต้นสวยๆอย่างผกา จำปา จำปี กุหลาบ ราตรี พะยอม อังกาบ ทั้งกรรณิ---“

“พอๆครับ!  เอางั้นก็ได้  พื้นที่เรามีเยอะแยะ ทีกลัวอ้ายเดินมากเฉยๆถ้าปลูกอะไรที่มันใหญ่กว่ากระบองเพชร”

“ขอบคุณนะ”
คนน่ารักฉีกยิ้มกว้าง  ก่อนกลับไปนั่งเงียบอีกครั้งจนนทีนึกว่าหลับไปแล้ว  ที่ไหนได้ นั่งสมาธิอยู่ต่างหาก
นทีต้องขัดการทำสมาธิของแฟนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันผิดที่ผิดทาง ผิดเวลาด้วย  เมาขนาดนี้ เขายังไม่เข้าใจว่าจะได้อะไรจากการนั่งสมาธิ
อ้ายตอนเมานี่ตลกชะมัด  แต่แอบถ่ายคลิปไว้ไม่ได้...ก็เจ้าตัวเล่นนิ่งสงบ ไม่น่าแกล้งเอาเสียเลย

.........


ทำไมชอบให้เคะเมา5555
ขอขอบพระคุณยิ่ง ด้วยใจจริงที่กรุณา ปลื้มจิตเป็นหนักหนา ขอขอบพระคุณ ขอข๊อบพระขุ่น♪♪
พูดถึงตอนจบ...♥♥
ไม่อยากให้เขาพูดว่ารักกันแล้วค่ะ พูดจนเบื่อแล้ว อ้ายรับรู้แล้วหละ
แล้วเราก็คิดว่าหลายๆคนต้องว่านทีแน่ๆที่มันดูเหมือนจะรับกรรมน้อย(ตามฉบับพระเอกไทย55)
แต่เปล่าหรอก สำหรับเรา เราว่ามันรับเยอะนะ
คืออ้ายก็เจอเยอะจริงๆนั่นแหละ  แต่ต้องเท่าไหนกัน นทีถึงจะเรียกว่ารับกรรมเท่า?
กรรมมันมาคนละรูปแบบน่ะค่ะ  อ้ายเคยเป็นคนเข้มแข็งร่าเริง กรรมของอ้ายจึงมาบั่นทอนกำลังชีวิตเขา
ส่วนกรรมของนทีมาในฐานะความอดทน ความมุ่งมั่น ความมานะบากบั่นทุกอย่างเพื่อให้ได้อ้ายคืนมา  จากที่เขาไม่เคยคิดจะทำอย่างนั้นเลย  นทีจึงเครียดและกดดันมาก รวมทั้งชีวิตหลังจากนั้นด้วย
ส่วนอ้ายพอได้นที ได้ความรักดีๆกลับคืนมาแล้ว นางก็ลอยตัวแล้วจ้า ต้องขอบคุณคนรอบข้างด้วยที่เป็นกำลังใจ
ท่านผู้อ่านคิดว่าอย่างไรบ้างคะ แชร์กันได้ เราก็อธิบายไม่เก่ง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตั้งใจแฝงนู่นนี่นั่นมากๆ ทุกตอนมีเบื้องลึกหมด  แต่ก็นั่นแหละ ....ข้าพเจ้าแต่งเองยังลืมเอง...เราแฝงอะไรไปวะ??
คือขี้ลืมมมาก ขี้ลืมพล็อตมากกกก (ถึงกับจดว่าตัวละครชื่ออะไร เคยทำอะไรไว้บ้าง ชอบกินอะไร นิสัยเป็นไง แต่ละตอนมีอะไรเกิดขึ้น ....ยาวขนาดนี้ ได้เรื่องใหม่เลย)
เขียนเรื่องยาวมาก็หลายเรื่องแล้ว(ไม่ถึงสิบหรอก) ยังไม่เก่งขึ้นเลย แถมแต่ละเรื่อง ยังใช้สำนวนการเขียนไม่เหมือนกันเท่าไหร่ โดยส่วนตัวคิดว่างั้นนะคะ ที่แน่ๆในเล้าสามเรื่องละที่ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นข้าพเจ้าควรต้องเขียนต่อไป555555 (ถ้าไม่ล้มหายตายจากไปเสียก่อน)
 
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านนิยายคนกำลังฝึกฝนอย่างเราจนจบ
ถ้าชอบแนวหน่วงๆ ก็สามารถอ่านได้ตามลิสต์ในหน้าแรกเลยนะคะ มันหน่วงทุกเรื่อง(สำนวนก็ไม่ค่อยจะเหมือนกันอี๊กกก)
อ่านเรื่องสั้นฆ่าเวลาก็ได้ค่ะ อ่านแล้วเหนื่อยใจดี
แต่ไม่เป็นไร โปรเจ็คต์หน้าเรามีเรื่องใสๆ(?)มานำเสนอ ทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาว ลองไปเรื่อยๆก็สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน20* 27กค59 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 27-07-2016 13:49:24
สนุกนะ แต่เราอยากอ่านตอนพิเศษ

คืออยากอ่านความรู้สึกนทีตอนช่วงที่อยู่เมืองนอก หลังเลิกกับอ้ายแล้วรู้ว่าอ้ายพิการ ระหว่างนั้น สำนึกอะไรได้บ้าง จนตัดสินใจเดินกลับมาหาอ้าย อะไรประมาณนี้ค่ะ

คือเราอ่านเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น(ที่นทีกับอ้ายทะเลาะกันบ่อยๆตั้งแต่อยู่ไทย) จนถึงตอนที่อ้ายตามไปเมืองนอก ช่วงนั้นนทีร้ายกับอ้ายมาก ดูหงุดหงิด รำคาญ ไม่สนใจ และดูหมดใจ ไม่รักแล้วว่างั้นเถอะ เลยงง ๆ ตอนนทีกลับมาหาอ้ายว่า "สรุปรักเหรอฟะ" เหตุการณ์มันเหมือนหายไปอ่ะ ไม่ต่อเนื่อง

เรื่องนี้สนุกจริง ๆ นะ แต่บางตอนมันสั้นไปนิด (ที่เราบอกมันไม่ต่อเนื่อง) ถ้าขยายความมากกว่านี้น่าจะได้อรรถรสเพิ่มขึ้นอ่ะ

เรายังอยากรู้ว่ายัยผู้หญิงที่เกือบเป็นมือที่สามนั่นหายไปไหน ผลสรุปเป็นยังงัย ได้คบกับนทีหรือป่าว ไม่พูดถึงเลย
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอน20* 27กค59 ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-07-2016 14:40:30
ทีต้องทนอ้ายกันต่อไป~ ดีใจที่จบแฮปปี้เอนดิ้ง แถมอ้ายก็คืนดีกับพี่ชายแล้วด้วย  :hao5:


(ตกลงพี่อัฐนี่บราค่อนสินะ ทำปากแข็งตั้งนาน ตอนแรกไม่ชอบขี้หน้าพี่อัฐเล้ย)

ว่าแต่ตอนอ้ายเมาแล้วจะติดนั่งสมาธิเหรอคะ? น่ารักดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-08-2016 20:28:31


••••••



หมดรัก....จะใช้คำนั้นก็ต่อเมื่อหมดรักจริงๆ
หากแต่นทียังมีใจ'ต้องการ'อ้ายอยู่


ชีวิตวัยรุ่นคือการได้ลองสิ่งใหม่ๆ อยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน หรืออยู่กับครอบครัว เราก็ควรใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด
นทีคิดว่าตัวเองอยู่กับแฟนและครอบครัวมาตลอดชีวิตเท่าที่จำความได้
เขาไม่เคยห่างอ้าย  ไม่เคยคิดว่า...เออ สักวันคงเลิกว่ะ
ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย!
ดังนั้น เมื่ออ้ายคิด...เขาเสียใจเป็นนะ เสียดายความผูกพันที่อยู่ร่วมกันมา  อ้ายดูไม่ออก หรือโง่จนคิดไม่ได้เลยหรือไง!
นั่นแหละที่ทำให้เขารำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ
นทีจัดสรรเวลาดีเสียยิ่งกว่าประธานบริษัทเจียดเวลาไปหาเมียน้อยซะอีก

แต่คนรักของเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ
แถมยังจับผิดนั่นนี่ หาว่าเขามีกิ๊กบ้างล่ะ เลิกรักกันบ้างล่ะ
น่ารำคาญ!
จากที่ให้มาก ก็ให้น้อยลง
แต่ไม่เคยคิดว่าจะทิ้งเลยสักครั้ง

จนวันที่กลุ่มเพื่อนเขาเอาใบสมัครสอบชิงทุนมาให้  พวกมันปรึกษากันไปกันมาจนสรุปได้ว่าคนที่จะไปได้จริงๆก็แค่เขา แก้ว เนม และชาย
เป็นการสอบที่ทรหดมาก
เขาแทบไม่มีเวลาจี๋จ๋ากับอ้าย แม้กระทั่งจะอธิบายยังขี้เกียจ
ดังนั้นก็ตามคาด...อ้ายอาการหนักขึ้นทุกวัน
ยามเจอกันคือช่วงเวลาที่อึดอัดที่สุดของนที
สีหน้าอ้ายไม่เคยผ่อนคลาย รอยยิ้มเยือกเย็น บางครั้งเศร้าสร้อย
นทีอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข
จึงเป็นการดีถ้าเขาสอบติด จะได้พักกายพักใจ ไม่อยากเครียดเรื่องรักๆใคร่ๆที่ไร้สาระเป็นบ้า

เขาอยู่กับอ้ายมาตลอด อ้ายน่าจะเข้าใจว่าการเผชิญโลกใบใหม่คืออะไร




........




"สอบชิงทุนบ้าอะไรมีแค่ทีกับมัน!!!"

"ก็สอบติดแค่สองคน มันบังเอิญ"

"ไม่เชื่อ! ทีก็มีเงินอ่ะ จะเอาทุนไปทำไม แล้วทำไมไม่ชวนอ้าย ไม่เคยสนใจอ้าย ไม่อยากเห็นหน้ากันแล้วใช่มั้ย ฮึก..ทีเปลี่ยนไปมากนะ"

"เมื่อไหร่จะพูดรู้เรื่องสักทีวะอ้าย"

"ทีสนใจแต่มัน มันคงยั่วล่ะสิ เอากันมานานเท่าไหร่แล้วล่ะ!"

"พูดอะไรหัดคิดก่อนบ้างนะ"

"กูถามมันแล้ว! มันมีรูปนอนกับมึงด้วย! มึงอย่ามาโกหก!!"

"โว้ย! พูดไม่รู้เรื่อง! ห่างกันสักพักเถอะ!"

"ว..ว่าอะไรนะ?"

"ห่างกันเถอะ ลองทบทว--"

"ไม่!!"

"กลับไปคิดดีๆนะอ้าย"

คนอยู่เยอรมันปิดการเชื่อมต่อทันที
เขากุมหัวคิดไม่ตก
แฟนเขาไม่ใช่คนบ้าแบบนี้
เขาต้องหาคนช่วยระบาย คนแรกที่เข้ามาในหัวคือพี่อัฐ
พี่ชายที่เคารพและค่อนข้างเด็ดขาด
พี่แกน่าจะให้คำปรึกษาได้ดี




กว่าจะหมดคาบติวภาษาเยอรมันก็เที่ยงพอดี หญิงมาดลุยอย่างแก้วจึงชวนเพื่อน'รัก'กินอาหารไทยในตัวเมืองหลังจากนทีบ่นโหยหนักมาหลายวัน

"มันจะอร่อยป่าววะ"

"เออน่า"
แก้วยิ้มตอบ แม้เสียงแสร้งรำคาญไปอย่างนั้น
นทีทำอะไรก็น่ารักสำหรับเธอหมดนั่นแหละ
บอกตรงๆไม่ได้คิดจะแย่ง
ของแบบนี้ ....อยู่ที่ใครดีใครได้มากกว่า

"อ้ายทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ"
นทีถอนหายใจ ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ร้านอาหารไทยขึ้นชื่อของเยอรมัน
สีหน้าเซ็งจัดของเขาทำให้แก้วกระหยิ่ม

หล่อนรับสมาร์ทโฟนคู่ใจกลับมา หน้าจอปรากฏแอปชื่อดังในช่องแชท บทสนทนาระหว่างเธอกับคนรักของนที
ในนั้นมีแต่อ้ายทักมาเสียส่วนใหญ่ ส่วนมากก็ไม่มีอะไร แค่เตือนว่าอย่ายุ่งกับนที
มีบ้างที่เธอโมโหหรือเครียดๆก็แกล้งส่งรูปคู่นทีไปยั่วอารมณ์ อย่างรูปแรงสุดก็รูปนอนเตียงเดียวกัน
ไม่อยากจะบอกว่าวันนั้นมีปาร์ตี้บ้านอัลโด้ แล้วทุกคนนอนห้องนั้นกันหมด ไม่มีอะไรเกินเลยหรอก เธอแค่แคปแค่ตัวเองกับนทีที่เมานอนสลบ

แต่รูปนั้นเธอก็ลบก่อนให้นทีดูน่ะนะ
สิทธิ์ของเธอ
ไม่ผิดนี่!

"เราเครียดนะ รู้สึกเหมือนโดนบีบอยู่ตลอดเวลา เราก็คนธรรมดาด้วย กลัวว่าอ้ายจะใช้อิทธิพลอะไรมาบีบเราให้ห่างจากที เราไม่มีปัญญาย้ายมอนะเว่ย"
แก้วน้ำตาตก

"เข้าใจ..."

"เฮ้ยไม่เครียดๆ กินต่อๆ"
คนเศร้าปาดน้ำตา ฝืนยิ้ม

ไม่เครียดแล้วให้กูดูทำไมวะ ...นทีกลอกตา
เขาก็รู้ว่าแก้วแอบชอบ และคิดว่านะ...คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนให้ความหวัง  ไม่เคยอ่อย ไม่เคยชอบแก้วในเชิงชู้สาวเลย
แต่กับเรื่องนี้ มันคนละเรื่องกัน
อ้ายไม่ควรระรานคนอื่น มันดูแย่มากๆ ในสายตาเขา
แล้วถ้าแม่อ้ายรู้ล่ะ สงสารคุณนายที่มีลูกบ้าผู้ชายแบบนี้จริงๆ
เขาเบื่อมาก ...แต่เรื่องเลิกกัน...ก็ไม่อยากทำอีกนั่นแหละ



.
.
.
.


นทีใช้ชีวิตเปื่อยๆ พยายามตั้งใจเรียน ไม่คิดถึงอ้าย
เขาอยากคุย แต่ก็ต้องให้เวลาอ้ายทบทวนตัวเองก่อน อ้ายเอาแต่ใจมากไป

หลังเรียนเสร็จ นทีเดินกลับห้องกับเพื่อนตามปกติ ส่วนแก้วอยู่หอหญิงล้วน ซึ่งไปคนละทาง
ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอคนที่อยู่ในห้วงคำนึง

อ้ายยืนปากสั่น หน้าซีด หากแต่ดวงตาแดงก่ำ
ใจหนึ่งคือดีใจ อีกใจหนึ่งคือเหนื่อยหน่ายกับบทสนทนาที่ไม่ไปไหน

สรุปแล้วก็ทะเลาะกัน
สรุปแล้วคือเลิกกัน..

นทีไม่ได้โกรธหรอกนะที่โดนตบ
เขาเสียใจที่พูดไม่ดีออกไป
พูดเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บที่สุด
เขาสับสน
เขาเซ็ง
บางทีเลิกกันอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุด

"ก็ดีวะที่พูด"



.
.
.



"ไงมายเฟรนด์ อกหักล่ะสิ"
วัลเดน เพื่อนคนที่เห็นเหตุการณ์วันนั้นทักอย่างรู้ดี
ร่างสูงใหญ่ กับแว่นเนิร์ดๆ ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นเด็กเรียน
ไอ้นี่มันตัวจัดปาร์ตี้ แก๊งเดียวกับอัลโด้ นี่ก็คงมาชวนไปบ้านอัลโด้ที่จัดปาร์ตี้ประจำเดือน

"มาถูกเวลาพอดีว่ะวัลเดน โคตรรรรเซ็งเลยตอนนี้"

"โลกเรามันก็เข้าใจยากอย่างนี้แหละ"

"สู้ปลดปล่อยในปาร์ตี้ไม่ได้"

"ถูกต้องครับเพื่อน"


.
.
RRRRRRRR
โทรศัพท์ดังครั้งแรก ไม่น่าสนใจนัก เหล้าข้างหน้าน่าสนใจกว่าขุม
นทียกแล้วยกอีกจนหน้าเริ่มแดง
เขาดื่มย้อมใจ
ใช่....เขาคิดถึงอ้าย  ความรู้สึกผิดเกาะกุมจิตใจ  แม้แต่เพื่อนยังดูออก ต่างพากันปลอบให้นทีหายเศร้าเร็วๆ


Rrrrrrr

7 โมงเช้า!
ใครวะโทรมาตอนนี้  ร่างสูงลุกขึ้นโงนเงน  มือทุบหัวไล่ความมึน
รอบกายมีแต่เพื่อนตัวใหญ่ๆนอนขึ้นอืด ดูสภาพแล้วน่าถีบชะมัด

Rrrrrrrr
เขาสะดุ้ง กดรับโทรศัพท์
"ครับ?"

["ตื่นหรือยัง"]

"ยังมั้งพี่ มีอะไรหรือเปล่าโทรมาแต่เช้า"

["ไม่มีอะไร แค่จะมาบอกว่า...."]

"บอกอะไรครับ"
นทีถามย้ำเมื่ออัฐเงียบไปนาน  รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ

["อ้ายถูกรถชน"]

"ว่าไงนะ!?!"

["ใจเย็นๆเว้ย ไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ต้องห่วงๆ  แค่โทรมาบอก  ก่อนที่คนอื่นจะโทร กลัวมึงกังวลจนหนีกลับไทย"]

"ผมว่าผมต้องไปนะ อาการเป็นไงบ้าง โดนชนเมื่อไหร่"

["ขาหักนิดหน่อย เพิ่งชนสองสามวัน"]

สองสามวันที่ว่า ก็พอๆกับเวลาที่อ้ายถึงไทยไม่ใช่เหรอ
"ถ้าผมเคลียร์วันว่างได้ แล้วจะรีบกลับ"

["ไม่ต้องมาหรอก ทางนี้ดูแลได้ อีกอย่างมึงเพิ่งเลิกกัน อ้ายมันคงอยากเห็นหน้าหรอก ตอนนี้มันพาลทุกคนแม้แต่แม่ เอาไม่อยู่หรอก"]

"แต่พี่ว่ามันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ อ้ายเพิ่งกลับไทยนะ อ้ายมีอะไรหรือเปล่า พูดถึงผมบ้างมั้ย"

["เปล่า.....เอางี้  ถ้ามีอะไรจะโทรบอกให้กลับ มึงเรียนไปเถอะ แค่สองปีกว่าเอง แป้บเดียว"]

"เฮ้อ...ผมจะโทรถามอาการเป็นระยะนะพี่"

นทีกุมขมับ ตาสว่างโดยไม่ต้องอาศัยตัวช่วยใดๆเลย
เขากลับห้องไปนอนต่อ  แต่ก็นอนไม่หลับ  พยายามข่มตา ก็กลับกลายเป็นความทรมานยิ่งกว่าเดิม
ภาพวันนั้นฉายชัด  เขามันเลวจริงๆ เขาตบปากตัวเองซ้ำๆ
มึงพูดแบบนั้นได้ไงวะที
ตอนรักกันใหม่ๆ มึงทำดีแค่ไหน ทำไมมึงทำในตอนนี้ไม่ได้วะ  ถ้ามึงดีกับอ้าย อ้ายก็ต้องดีตอบอยู่แล้ว




ตั้งแต่วันนั้น นทีก็จะโทรถามอาการจากพี่อัฐเรื่อยๆ 
พี่อัฐแกก็ย้ำเหมือนท่องสูตรไว้ว่า อย่ามาๆ หายแล้วๆ
จนผ่านไปแรมเดือน เขาจึงคิดเอาเองว่าคนขาหัก เข้าเฝือกน่าจะหายแล้ว จึงไม่โทรไปอีก กอปรกับเริ่มเข้าสู่ช่วงสอบ


นทีลืมเลือนความเศร้าไปได้ในเวลาสองปี อาจมีบ้างที่คิดถึงคนน่ารักเป็นระยะ แต่เขาก็สู้เรียนจนจบ เพราะอย่างไรเสีย มันก็สำคัญกับชีวิตเขาเหมือนกัน

ก่อนจบ เขาติดต่อบริษัทที่ไทยไว้หลายบริษัท เมื่อเห็นความฝันของตัวเองใกล้จะเป็นจริงก็อดภูมิใจไม่ได้  เขาเช่าคอนโดในตัวเมืองกรุงเทพ เพราะไม่อยากกลับบ้าน  ไม่อยากเห็นอ้ายบ่อยนัก ถึงจะแพลนเรื่องง้อไว้บ้าง แต่ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย

ก่อนสัปดาห์ที่เขาจะกลับไทย พี่อัฐก็โทรมา ตอนแรกนทีคิดว่าพี่แกจะโทรมาแสดงความยินดี แต่เปล่าเลย
เป็นวันที่นทีลืมไม่ลง เมื่อได้ยินว่าคนที่เขารักพิการ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมเดิน ไม่มีใครเอาอยู่ และเป็นอย่างนี้มาถึง 2ปี!
โดยที่เขาไม่รู้เนี่ยนะ!

ความหวังเดียวตอนนี้คือนที
พี่แกปรึกษากับแม่แล้ว แม่ก็อยากให้ลองดู อย่างน้อยๆ แม่เชื่อว่า อ้ายยังรักนทีไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แม่เล่าหลายๆอย่างให้เขาฟัง ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด รู้สึกว่า ..เราต้องแก้ไข

ดังนั้น  ชีวิตของเขาที่วางแผนไว้ จึงเปลี่ยนกระทันหัน

แต่นทีไม่เคยเสียใจหรอกนะ
ในเมื่อตอนนี้ เขามีทั้งคนรักที่ดี และงานที่ดี ยิ่งกว่าฝันเสียอีก



"ที! ข้าวเสร็จแล้ว นั่งเหม่ออยู่ได้"
คนที่กำลังคิดถึงโผล่มาให้กอดพอดี นทีเลยฉวยโอกาสรวบตัวอ้ายมาไว้บนตัก กอดแน่นเหมือนกอดตุ๊กตา อ้ายตัวนิ่มขึ้นเยอะ อยากกอดทั้งวันเลย

"ทำอะไรกินวันนี้"

"ข้าวผัดเบคอน กับแกงอะไรเนี่ยแหละ"

"น่าอร่อยจัง"

"น่าอร่อยก็ไปกินได้แล้ว อยากอาบน้ำ เหนียวตัว เหม็นข้าว"

"ท้องเหรอ"

"จะบ้ารึไง ท้องแทนหมาน่ะสิ ไอ้ข้าวเหนียวมันขึ้นเมียมันอีกละนะ สงสัยได้ทำฟาร์มหมาจริงๆล่ะคราวนี้"

"หยุดพูดเรื่องหมาเหอะ อิจฉามันว่ะ"

อ้ายขึ้นเสียงเข้ม
"คนอะไร อิจฉาหมา"

"โห่ย แค่นี้ก็ดุ ทีกับหมาไม่เคยดุ"

"ไปกินข้าว หิว!"

"คร้าบบบ"


เอาล่ะ  มันก็สนุกดี

ถ้าอ้ายไม่เอาแต่พูดถึงหมา!!

..........



(http://www.petpaw.com.au/wp-content/uploads/2015/03/Japanese-Spitz-Dog.jpg)

ข้าวเหนียว หมาหล่อ
มีเมียเป็นหมาจร
รักเมียมาก ไม่นอกใจ แถมยังรับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านอีก
สามีที่ดี
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-08-2016 20:40:23
TvT

อืม แต่เมื่อก่อนอ้ายก็ระรานเยอะไปนั่นล่ะ

ข้าวเหนียวขยันปั๊มลูกจริงๆ อ้ายพาไปทำหมันหน่อยสิ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 04-08-2016 01:12:05
ผิดที่ใคร...อ้ายเริ่มรักจากศูนย์ค่อยๆ เพิ่มความรักที่มีให้นทีมากขึ้นทุกวัน...
ส่วนนทีเริ่มรักอ้ายจากร้อยแต่ความรักที่มีให้ก็ลดลงทุกวัน
แล้วหลังๆ นทีก็เจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ก็ยิ่งหลงลืมอ้าย รำคาญจนบอกเลิก
แต่กลับมาเสียใจภายหลังยิ่งแสดงให้เห็นว่านทีเห็นอ้ายเป็นของตาย
เดี๋ยวกลับมารักมาหาเมื่อไหร่ก็ได้ ถามจริงๆ นะ
ถ้าอ้ายไม่พิการนทีคงคิดไม่ได้หรอกเพราะแผนการณ์ในอนาคตของนที
เหมือนไม่มีอ้ายอยู่ด้วยเลย เห็นได้จากที่นทีเช่าคอนโดอยู่เพราะไม่อยากเจออ้ายบ่อยๆ
แต่พอรู้ว่าอ้ายพิการถึงรู้ว่ากำลังจะเสียอ้ายไป เลยกลับมาดูแลอ้าย...
ก็นะสมควรกับบทลงโทษที่นทีได้รับอยู่นะ
แต่หมั่นไส้พระเอกอยู่อย่างคือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็ไม่ต้องมีแฟนสิ
อยู่คนเดียวโสดๆไปเถอะ จะได้ไม่ต้องมาทำนอื่นเสียใจ
นทีโทษแฟนว่าน่าเบื่อน่ารำคาญเซ้าซี้อะไรทำนองนี้อยู่ได้แต่ไม่ยอมโทษตัวเอง
ก็นะอ้ายถึงจะทำตัวร้ายๆ แต่เพราะใครล่ะที่ทำให้อ้ายร้าย ทำให้อ้ายระแวงก็ไม่ใช่ตัวนทีเองหรอ
แล้วที่อ้ายตามหึงหวงยุ่งวุ่นวายกับชีวิตนทีเนี่ยมันเพราะรักนทีหรือป่าว
ลองคิดกลับกันนะถ้าอ้ายทำกับนทีอย่างนั้นบ้าง
ไม่สนใจไม่มาหาเหมือนที่พี่เกดพี่สาวของนทีเข้าใจผิดอ้ายล่ะ
นทีจะรู้สึกยังไงคงคิดเหมือนอ้ายนั่นล่ะว่าแฟนเราไม่รักไม่สนใจมีคนอื่นหรือป่าว...

ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะแฝงคติสอนใจที่ว่าตอนเริ่มรักก็รักกันดี
แต่พอเวลาผ่านไปจากคนที่รักกลับกลายเป็นคนที่น่ารำคาญมองเห็นแต่ข้อเสียของอีกฝ่าย
แล้วลืมความรักที่เคยมีให้กันไปว่าเคยรักกันมากแค่ไหน
กว่าจะรู้ก็เกือบสายแทบจะรักษาความรักไว้ไม่ได้นทีโชคดีที่อ้ายให้อภัย
แต่ในชีวิตจริงเหตุการณ์อย่างนี้มักเกิดขึ้นกับคู่รักที่คบกันมานาน
แล้วคู่ไหนบ้างที่จะโชคดีเหมือนนที...

สุดท้ายบอกเลยว่าถ้าคุณรำคาญคนที่คุณรักเพราะเขาคอยตามยุ่งวุ่นวายกับชีวิตคุณมากเกินไป
จงคิดได้สะว่าเขายังรักยังห่วงใย เพราะถ้าเขาไม่รักเขาจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตคุณหรอก แม้แต่หน้ายังไม่อยากมอง

อินกับเรื่องนี้มากบอกเลย ยิ่งอ่านตอนพิเศษยิ่งตะหงิดๆ กับความคิดของนที
จนต้องขอบคุณอุบัติเหตุที่ทำอ้ายพิการ
แต่สงสารอ้ายเรื่องถูกข่มขืนอยู่นะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-08-2016 20:32:16
หลงเข้ามาอ่าน อ่านแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ  :เฮ้อ:
นิยายคุณดีจริงๆ ทำให้เราอิน แต่เราอ่านแล้วเครียดอ่ะ  :ling1:
ขอบคุณค่ะสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2016 21:35:20
รัก แล้วเปลี่ยนแปลง
อ้าย รักนที แล้วรักมาตลอด
นที เป็นฝ่ายเปลี่ยนไป
เจอสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ ชีวิตใหม่
ต้องการความเป็นส่วนตัว
เบื่ออ้าย ที่หึงหวง สุดท้ายบอกเลิก
ใครผิด นทีรู้ตัวหรือยัง
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 04-08-2016 22:10:52
สรุปคือคนเขียนแต่งเข้าข้างนที
ส่วนอ้ายก็คือโดนรับกรรมเพราะรักมาก
นทีก็แค่โดนแทงสองสามแผลโครตยุติธรรม ถ้ารู้ตอนจบเป็นงี้ไม่น่าเข้ามาอ่าน
คนแบบนทีสมควรไม่เหลือใคร แต่นี้คนเข้าข้างเพียบ
ไม่อินกับรักของนที อ่านจบบอกเลยโครตผิดหวัง
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-08-2016 00:17:29
สรุปคือคนเขียนแต่งเข้าข้างนที
ส่วนอ้ายก็คือโดนรับกรรมเพราะรักมาก
นทีก็แค่โดนแทงสองสามแผลโครตยุติธรรม ถ้ารู้ตอนจบเป็นงี้ไม่น่าเข้ามาอ่าน
คนแบบนทีสมควรไม่เหลือใคร แต่นี้คนเข้าข้างเพียบ
ไม่อินกับรักของนที อ่านจบบอกเลยโครตผิดหวัง


คนเขียนคงต้องฝึกปรือฝีมืออีกเยอะค่ะ ถึงจะทำให้คนอ่านเข้าใจแก่นที่ต้องการสื่อได้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
แต่คิดว่า คนเข้าข้างนทีไม่มีนะคะ มีก็แต่ คนที่พยายามทำความเข้าใจกับการตัดสินใจของนที
นทีเป็นเพียงตัวประกอบในเรื่อง เพื่อให้ตัวเอกของเราเป็นฮีโร่ เป็นคนที่สู้ แม้ไม่มีเขาค่ะ
ขอโทษหากทำให้ไม่ถูกใจ เพราะให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้
ปล. ขอแก้คำว่า โครต เป็น โคตร นะคะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mass ที่ 05-08-2016 01:47:00
ขอบคุณนะคะที่แต่งมาให้อ่าน สนุกมาก อ่าทีเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเลย :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 06-08-2016 15:59:07
ให้กราบก็ยอม งั้นกราบแก้วไหม
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 08-08-2016 18:58:23
พล็อตน่าสนใจมาก  แต่ไปไม่สุดอ่า 

ขอโทษด้วยนะเรารู้สึกแบบนี้อะ
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 08-08-2016 20:05:52
เฮ้อออ นึกว่าจะจบไม่สวยซะแล้ว   :hao6:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: [x]-SayHi ที่ 09-08-2016 11:44:15
ทีก็แค่ต้นเหตุของสิ่งเลวร้าย แต่สิ่งเลวร้ายที่เกิดมันเกิดจากการที่อ้ายทำตัวเองจากการที่อ้ายรักตัวเองไม่เป็น และลพที่ฉวยโอกาส ในการหาเศษหาเลยจากการใกล้ชิดและไว้วางใจของผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ยาก

ผมว่าจบแบบนี้ก็ OK แล้ว คนเราสิ่งที่คิดสิ่งที่เข้าใจมันไม่ได้ถูกต้องเสมอ ถูกต้องตลอดไป บางครั้งบางสิ่งแค่เวลาที่ผ่านไปก็ทำให้สิ่งที่ชื่อมั่นนั้นผิดไปแล้ว เวลามันทำให้ความคิด ความเป็นจรืงเปลี่ยนไปได้เสมอ ผมว่าทีไม่ผิดนะที่อยากพักอยากหยุดในเวลาที่เหนื่อย แต่ผิดที่ไม่เปิดใจไม่เคลียร์ให้ชัดเจนในสาเหตุ ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดไปไกลจนเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น

ในชีวิตจริงเองก็เช่นกัน มีหลายคู่ที่แต่งงานมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อยเพราะคิดว่ารักมากคนนี้ใช่ที่สุด ใครจะห้ามจะปรามก็ไม่ฟัง แต่เมื่อโตขึ้นเจอสังคมเจอผู้คนมากขึ้น สิ่งที่เคยคิดว่าดีที่สุดรักที่สุดเมื่อตอนนั้น มันก็เปลี่ยนไปบางคู่ก็ยังสามารถปรับตัวรับมือกับการเจอสิ่งใหม่ๆที่แม้จะใช่กว่าโดยที่ยังคงมีความสุขกับสิ่งเก่า แต่บางคู่ต่างก็แยกย้ายเลิกรากันไปกับคนที่ใช่มากกว่าก็มี

ซึ่งสิ่งที่ทีต้องเจอ หรือบทสรุปสุดท้ายแล้วผมก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว แต่แก้วละคับร้ายนะคับนางเป็นอย่างไรบ้าง ยังอยู่ดีอยู่ไหม ว่าไง Hello แก้ว!!
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: p^tarn ที่ 09-08-2016 17:12:40
เสียน้ำตาเยอะมากเรื่องนี้.  คนแต่ง แต่งดีมากคะ. ถึงเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมสำหรับอ้ายเลย. คือนทีไม่ผิดหรอกที่มองอนาคตข้างหน้าและเลือกทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ  สำหรับเรานทีเป็นผู้ชายที่มีอนาคต เป็นตัวท๊อปแบบสบายๆ. แต่สำหรับความรักนทีไม่มีค่าพอสำหรับความรักของอ้าย  นทีวางอ้ายเป็นของตาย.ตัวเองก้าวไปข้างหน้าไปหาสิ่งใหม่ๆทิ้งขว้างความรักของคนๆหนึ่งไว้ไม่ไยดี. พอวันหนึ่งต้องการก็กลับมา. นทีไม่เคยสำนึกจริงจังว่าตัวเองผิดอะไรเลวอะไร ตัวนทีเองก็รู้ว่าแก้วหวังจะจับตัวเองแต่กลับไม่เข้าใจเวลาอ้ายหึง นทีเอาตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วใช้เหตุผลมาทำให้ตัวเองเป็นคนถูก คนเราถ้ารักกันจริงจะไม่มีวันนิ่งได้เลยถ้าคนรักตัวเองเจ็บ คนถ้ารักมันต้องขวนขวายจะกลับมาดูมาให้กำลังใจกันแล้ว. และถ้านทีรักอ้ายจริงๆ นทีจะไม่มีวันอภัยให้ตัวเองได้เลยที่เป็นต้นเหตุทำอ้ายเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ ส่วนอ้าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้นเหมือนกับว่าอ้ายทำตัวเองแต่จริงๆแล้วคนเราในชีวิตจริงเจอการทำร้ายจิตใจมาขนาดนั้นจะบ้าก็ไม่แปลก. คนเราพอเจ็บปวดมากๆก็เลือกวิธีแก้ปัญหาต่างกัน อ้ายเลือกที่จะเก็บความเจ็บไว้เพื่อเป็นเกราะปกป้องตัวเองจากการโดนทำร้ายใจอีก เรามองว่า อ้ายตามคนรักตลอดเพราะ อยากอยู่ด้วย.  แต่คนรักกลับหนีไปไกลๆ พอไปง้อก็โดนไล่ บอกเลิก. เหี้ยที่สุดก็บอกให้กราบแก้ว. คิดได้ไงให้แฟนตัวเองกราบผู้หญิงที่คิดมาแย่งผัว นทีไม่เหี้ยจริงคงคิดแบบนั้นไม่ได้  ทุกคนก็คิดว่าอ้ายผิดที่คอยตาม และมองว่าเอาแต่ใจ อ้ายจึงเลือกที่จะไม่เดิน ไม่หัดไม่ฝึกไม่อะไรทั้งนั้น.    เวลาอ้ายพูด นทีไม่ต้องการฟัง แม่ไม่อยู่ฟังไม่ดูแล. พี่ชายเข้าข้างคนอื่น รับฟังเสียงคนอื่นไม่ใช่อ้าย.  อ้ายจึงเลือกที่จะไม่พูด ไม่คุย   บางสิ่งบางอย่างที่เคยทำแล้วไม่เป็นที่ต้องการ. ไม่แปลกที่จะไม่อยากทำอีก   ตั้งแต่ต้นจนจบอ้ายรักนทีมากเกินไปจริงๆให้ความรักนทีมากกว่าที่คนแบบนทีควรได้รับ.   
เป็นกำลังใจให้นักเขียนคะ. คุณเขียนได้บีบคั้นอารมณ์ทุกตัวอักษรจริงๆ. รอเรื่องต่อไปนะคะ. ถ้ามีการรวบเล่มฝากแจ้งด้วยนะคะ อยากได้เก็บไว้
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: vongola119 ที่ 12-08-2016 00:04:01
หลงเข้ามาอ่าน และอยากบอกว่าเนื้อเรื่องสนุกดี ขอบคุณที่แต่งให้อ่านจนจบน๊าา
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 15-08-2016 12:29:43
การอยู่กับคนป่วยไม่ใช่เรื่องง่ายนะ พระเอกเก่งและต้องอดทนมากอ่ะ
เป็นเรื่องที่สนุกมากจริงๆ อ่านแล้วสงสารพลนะเป็นคนที่ทำให้นายเอกยอมพูด นายเอกยอมเดิน
ถ้ามันจีบดีๆเป็นตัวละครที่น่าเชียร์มากแต่มันดันจีบเลวๆๆนี่สิ เลยดร๊อปไปเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-08-2016 13:50:50
แล้วชะนีแก้วล่ะ ทีรู้รึยังว่าเค้าทำอะไรไว้กับอ้าย
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-08-2016 21:32:18
แล้วชะนีแก้วล่ะ ทีรู้รึยังว่าเค้าทำอะไรไว้กับอ้าย

แก้วจะโผล่มาในเรื่องสั้นของเราค่ะ แต่อาจจะนานนิดนึง5555
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 27-08-2016 01:15:16
เเต่งดีค่ะ จบเเฮปปี้ เเต่อารมณ์ค้าง เกลียดนที
อยากให้อ้ายหยุดเเคร์มัน หยุดตามหยุดตื้อ
เราว่าที่ไอ้ทีทำมันเเย่ไป
ให้เเฟนกราบเท้าคนที่จะคาบตัวเองไปเเดก
มึงคิดได้ไง มึงเอาอะไรคิด

เสียดายที่เป็นเรื่องสั้น เพราะเราว่าเรื่องนี้ต่อยอดไปได้อีกเยอะ
โดยให้นทีมันมาอยู่ในมุมของอ้ายบ้าง
ให้มันรู้ว่าการที่มีคนมาชอบเเฟนตัวเอง
โดยที่ไม่สนว่าอ้ายมีเเฟนอยู่เเล้วมันเป็นยังไง
ให้มันได้ตามอ้ายเหมือนที่อ้ายตามมันบ้าง

part2 เถอะค่ะคนเขียน อยากอ่านจริงๆ 55555
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-08-2016 21:06:31
เเต่งดีค่ะ จบเเฮปปี้ เเต่อารมณ์ค้าง เกลียดนที
อยากให้อ้ายหยุดเเคร์มัน หยุดตามหยุดตื้อ
เราว่าที่ไอ้ทีทำมันเเย่ไป
ให้เเฟนกราบเท้าคนที่จะคาบตัวเองไปเเดก
มึงคิดได้ไง มึงเอาอะไรคิด

เสียดายที่เป็นเรื่องสั้น เพราะเราว่าเรื่องนี้ต่อยอดไปได้อีกเยอะ
โดยให้นทีมันมาอยู่ในมุมของอ้ายบ้าง
ให้มันรู้ว่าการที่มีคนมาชอบเเฟนตัวเอง
โดยที่ไม่สนว่าอ้ายมีเเฟนอยู่เเล้วมันเป็นยังไง
ให้มันได้ตามอ้ายเหมือนที่อ้ายตามมันบ้าง

part2 เถอะค่ะคนเขียน อยากอ่านจริงๆ 55555


เราแต่งภาค2 ต่อไม่ได้จริงๆค่ะ  :ling1:
ถ้าในหัวจบ เรื่องทุกอย่างจะจบเลย  แต่เราจะแต่งตอนพิเศษเพิ่มนะคะ รออีกหน่อย

ฝากเพจด้วยนะคะ รวมนิยายกับเรื่องสั้น จะได้ไม่กระจาย หาทุกเรื่องได้ง่ายๆ

https://www.facebook.com/Mukmaoynovel/
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 28-08-2016 21:14:02
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ •นที•* 3 สค 59 จบแล้ว ♥ฝากเพจ♥
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 02-09-2016 23:04:01


ตอนพิเศษ
•เขามาเอง•



อ้ายจำได้ว่าวันนั้นฝนตกหนักมาก
ข้าวเหนียวกับเมียมันวิ่งลนลานไม่เป็นสุข
มีแค่ข้าวสุกมั้งที่สงบสุดในบ้าน
อ้ายถอนใจรอแฟนกลับ
แต่ก็รู้แหละว่านทีรถติด เพราะเจ้าตัวโทรมาบอกแล้ว  บ่นใหญ่ด้วยนะว่าเป็นชั่วโมงแน่
นทีน่ะปวดขาง่าย  สงสัยกลับมาอ้ายต้องนวดให้สักหน่อย

"เฮ่ย! หยุดวิ่งได้แล้ว!"
อ้ายตวาดข้าวเหนียวเสียงดัง
เดี๋ยวนี้มันดื้อ ไม่ค่อยฟัง บ้าๆบอๆ

"ถ้าไม่หยุดจะจับกินแน่!"
ขู่อะไรก็ได้ ขอให้น่ากลัวไว้ก่อน
แน่นอนข้าวเหนียวไม่เข้าใจ รู้แค่ว่าปะป๊าโกรธมากๆ  เลยวิ่งไปตะกายประตูเพื่อจะหนี

"ฝนมันตก!! มานี่เลย"
อ้ายเดินดุ่มๆไปหา ข้าวเหนียวยิ่งตะกายไม่หยุด

"อยากออกไปนักใช่มั้ย! ได้!"
อ้ายชักรำคาญเลยเปิดประตูประชด แต่ข้าวเหนียวก็วิ่งออกไปจริงๆ
ปกติไอ้หมาตัวโตจะชอบหลบใต้เก้าอี้หลังบ้าน ซึ่งตรงนั้นมีหลังคาร่มรื่น เอาไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ตอนนี้อาจจะเปียกไปบ้าง แต่อ้ายคิดว่าคงไม่เป็นไร ข้าวเหนียวมันไม่เคยซนอยู่แล้วถ้าได้อยู่ในที่หลบภัยของมัน

แต่อ้ายคิดผิด


ความผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อนทีถึงบ้าน
ข้าวเหนียวที่ควรจะกระดี๊กระด๊ากลับหายไปเสียเฉยๆ
นทีกับอ้ายจึงตามหามัน 
ใจหายเมื่อใต้เก้าอี้ว่างเปล่า

อ้ายกับนที พร้อมด้วยเด็กรับใช้ที่บ้านใหญ่ ช่วยกันตามหาทั้งคืน



.........



สองวันแล้วที่ข้าวเหนียวหายไป
อ้ายน่ะนอนร้องไห้ทุกคืน มีนทีคอยปลอบแล้วร้องไปด้วยกัน
นึกๆดูก็น่าสมเพชยังไงไม่รู้
สองผัวเมียนอนกอดกันร้องไห้
เฮ้อ!  อ้ายวางจานข้าวผัดลงตรงหน้าคนรัก
ใต้ตานทีลึกโบ๋ เหตุเพราะขับรถตามหาหมาทุกคืน

"ไปทำงานเถอะวันนี้"
อ้ายตักข้าวผัด ยื่นช้อนตรงหน้านที

"ทำไปมันก็ไม่มีสมาธิหรอก"
นทีอ้าปากรับข้าว เคี้ยวเอื้องด้วยความจำใจ

"อ้ายจะตามหาเอง คนของเรามีเยอะแยะ"
ดูท่าคนเคยเปราะบางจะแข็งแรงกว่าแฟนซะแล้ว
อ้ายป้อนข้าวนทีจนหมด  ดันหลังให้ขึ้นรถไปทำงานอย่างทุลักทุเล
ใครว่าเขาไม่เศร้า  พอลับหลังนที อ้ายก็คิ้วตก ปากเบะ พยายามกลั้นอารมณ์จุกในอกตลอดเวลา
เขาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมออกไปตามหาหมาแก่สติเลอะเลือน

"ข้าวเหนียวนะข้าวเหนียว ถ้าหาเจอเมื่อไหร่จะเอามาต้มกินเลย"
บ่นพลางติดกระดุม

"ลูกแกฉันก็จะไม่เลี้ยง  อ้ะ.."
เสียงออกบ้านดังขัดจังหวะคนกำลังเครียด

คงไม่มีใครมาเยี่ยมอ้ายตอนหกโมงเช้า...
ความผิดปกติทำให้ร่างโปรงไม่ลงไปทันที แต่เลือกที่จะแอบดูผ่านม่านหนา

ตรงริมรั้วไกลๆ ปรากฏร่างผู้ชายผิวขาว มองตรงนี้ยังออร่าพุ่งออกมา  อ้ายไม่ปฏิเสธเลยว่าความระแวงนั้นหายไปเกือบครึ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้อ้ายต้องรีบวิ่งออกไปคือหมาสีขาวขนปุย....ข้าวเหนียว!!


ไอ้หมาแก่ร้องหงิงๆ ดีใจที่ได้เจอเจ้าของ  มันกระโดดใส่ป๊าจนเสื้อตัวใหม่เลอะโคลนไปหมด 
อ้ายดีใจน้ำตาไหล รีบพาหนุ่มคนนั้นกับหมาเข้าบ้าน  แล้วโทรหานทีด้วยความตื่นเต้น

เขาบอกนทีว่าไม่ต้องเป็นห่วง ทางนี้จะคุยกับพลเมืองดีเอง แล้ววางสายไป

"ขอบคุณนะครับที่พามาส่งถึงบ้านเลย"
อ้ายยกมือไหว้สวยงาม สายตาเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้ง
ถ้าไม่ได้คนๆนี้ อ้ายคงเสียใจจนตาย

"ไม่เป็นไรครับ โชคดีที่เราอยู่ซอยเดียวกัน ผมเจอเค้านอนอยู่หน้าบ้าน เลยคิดว่าน่าจะเป็นคนในซอยนี่ล่ะ"

"แล้วคุณมาเจอผมได้ยังไง"

"ถามมาตั้งแต่บ้านแรกอ่ะครับ วันละไม่กี่หลังเอง  พอดีวันนี้หยุดงาน เลยออกมาหาแต่เช้า"

"โห!! คุณเป็นคนดีมากๆเลย ต้องขอโทษจริงๆที่ทำให้ลำบาก  ผมอ้ายนะครับ อยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อจัง"

อ้ายลืมตัวคว้ามือขาวมาเขย่าไปมา  ข้าวเหนียวแสนรู้ไม่ลืมเลียมือขอบคุณไปอีกทบ

"ไม่เป็นไรหรอกครับ คนกันเอง"

"ไม่เอาๆ ผมจะเลี้ยง"

"เอ่อ...แต่ผมไม่ค่อยว่างน่ะสิ  ผมเป็นหมอน่ะครับ"

"หืม อยู่โรง'บาลไหนครับ"

"โรงพยาบาลxxxครับ"

"เอ๋....!  ผมนี่สนิทกับพยาบาลที่นั่นมากๆเลยนะ เอ๊ะ!  ใช่หมอที่เป็นเพื่อนหมอนพหนือเปล่า?"
อ้ายนึกถึงวันหนึ่งที่เพื่อนของคุณหมอหน้าตายเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้องแผนกจิตเวช  หมอคนนั้นก็ตัวขาวหน้าใสแบบนี้ล่ะ

"ผมเป็นเพื่อนหมอนพนะ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่คนที่คุณอ้ายเคยเจอหรือเปล่า"

"เรียกผมอ้ายก็พอ แล้วหมอล่ะชื่ออะไร"

คุณหมอหน้าขาวสะดุ้ง คุยกันมาตั้งนานดันลืมบอกชื่อ
"หมอชื่อสันติครับ เรียกว่าแก๊งก็ได้"

"ชื่อน่ารักเหมือนหน้าเลย"
อ้ายแค่ชมเพราะถูกชะตา แต่ไม่นึกว่าหมอจะหน้าแดง แถมยังก้มหน้าอายๆอีก


อ้ายชวนคุณหมอคุยอย่างติดลม  ไม่เคยนึกว่าตัวเองจะมีช่วงเวลานี้กับเขา
อยากให้อีกคนสนุก อยากชวนคุยตลอดเวลา
อาจเพราะหมอมีบรรยากาศสบายๆ ฟุ้งๆรอบตัวล่ะมั้ง  หมอนพที่เป็นจิตแพทย์ประจำตัวยังชวนน่าเกรงขามกว่านี้
เสียดายที่หมอแก๊งอยู่แผนกอายุรกรรม ไม่อย่างนั้นอ้ายคงขอเปลี่ยนหมอไปแล้ว

พอเที่ยงตรง รถของนทีก็จอดหน้าบ้าน
ร่างสูงวิ่งตึกๆมาหาลูกรัก ฟัดกันนัวเนีย ถึงค่อยมองเห็นแฟนกับคนแปลกหน้า

"นี่คนที่เจอข้าวเหนียว หมอแก๊งที่เป็นเพื่อนกับหมอนพ"

หมอหน้าใสยกมือไหว้  รอยยิ้มพิมพ์ใจทำเอาคนมองพากันละลาย
หมอไม่ได้หน้ารักตรงสเป็คขนาดนั้น แต่ทำไมยิ่งมองยิ่งสบายใจก็ไม่รู้

"ขอบคุณนะครับหมอ"

"จริงๆไม่ต้องเรียกหมอก็ได้นะครับ ดูทางการจัง"

"เรียกแก๊งเฉยๆ มันก็แปลกๆนี่ครับ"
อ้ายว่า

"สำหรับคุณอ้าย เรียกอะไรก็ได้ครับ ผมว่าเราสนิทกันแล้วนี่นา"

เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางกบาล
นทีกระพริบตาปริบๆ มองออร่าสีชมพูลอยวนเต็มบ้าน
ไม่รอช้า รีบดึงแขนแฟนเข้ามาหาตน พร้อมถลึงตาใส่ไอ้หมอหน้าใส

เฮ้อ! ข้าวเหนียวก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าพ่อ เป็น'พ่อ'ของข้าวเหนียวจริงๆ

"แล้วนี่จะทำอะไรกิน คุณหมอจะกลับยัง"
พูดห้วนๆใส่  หวังให้หมอแก๊งสำเหนียกว่านี่น่ะแฟนเขา!

"จะทำต้มยำกุ้งน้ำข้น  ยำถั่วพู กับวุ้นมะพร้าวตอบแทนคุณหมอน่ะ  รู้ไหมหมอแก๊งเคาะทุกบ้านตามหาข้าวเหนียวเลยนา แล้วยัง¥€%#&)@"

ตอนนี้นทีไม่รับฟังอะไรอีกแล้ว
พิษรักแรงหึงทำให้เขาโกรธควันออกหู  ยืนจ้องหมอเขม็ง
ส่วนหมอแก๊งที่พอจะเข้าใจ ก็เกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมา
เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย! ไหงเจ้าบ้านขู่เหมือน 'หมา' อย่างนี้นะ
หมอแก๊งน่ะไม่ได้ใสซื่อเหมือนหน้าหรอก  เขาจึงจ้องตาท้าทายกลับ

ไม่ชอบเลยไอ้พวกขี้หึงสุ่มสี่สุ่มห้า



...........



นทีดิ่งถึงบ้านเร็วกว่าทุกวัน ด้วยระแวงว่าหมอแก๊งยังอยู่
ร่างสูงเดินตามหาเมียอยู่นาน จนมาเจอว่าเพิ่งออกจากห้องน้ำพร้อมตัวเปียกๆ  ราวกับกำลังยั่วยวน
อ้ายเห็นนที แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่งตัวตามปกติ 

"ป่านนี้หมอแก๊งจะเป็นยังไงน้า..."

ก็แค่ใส่กางเกงช้าขึ้นหน่อย  รูดขึ้นยังขาอ่อน  ยกขาพาดลงกับเตียง เผยส่วนลึกลับวับๆแวมๆ 

"คนอะไรก็ไม่รู้ คุยด้วยแล้วสบายใจ"

หยิบเสื้อกล้ามหลวมโพร่ง ที่ใส่ไปแล้วก็ไม่เหมือนใส่ขึ้นมา   หลับตาพริ้มสวมผ่านศีรษะ  ปากอ้าน้อยๆ

"อะแฮ่ม!"

"กลับมาแล้วเหรอ?"
อ้ายยิ้มระรื่น  กอดต้อนรับ พลางจูบแก้มซ้ายขวา
นทีชอบอ้ายเวอร์ชั่นนี้จริงๆ  เห็นทีต้องซื้อของไปเซ่นไหว้หมอนพ

.....พอคิดถึงหมอนพ...หน้าไอ้หมอหน้าอ่อนก็ลอยขึ้นมา!
คนหล่อจูบตอบแรงๆตามสัญชาตญาณความหึง

"อื้อ!!"
มือคล้ำทุบหน้าอกล่ำหลายที
หอบแฮ่กโกยอากาศเข้าปอด

ไม่จำเป็นต้องพูด  แค่นทีมองตา อ้ายก็เข้าใจ
ร่างโปร่งปลดเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเอง  ดึงเน็คไทอีกคนให้เดินตาม
อ้ายเอนตัวนอนช้าๆ  ไม่ละดวงตาจากอีกฝ่าย
นทีปลดเข็มขัด กระชากเสื้อตัวเองจนกระดุมขาด  ดึงเน็คไทออกมาฟาดหน้าอกคนยั่ว

"ซี้ดดด"

อ้ายเล่นยอดอกตัวเองทั้งสองข้าง  อ้าขาต้อนรับร่างหนาที่ปลดเพียงซิปกางเกง  ทำให้ส่วนนั้นโผล่ออกมา สีเนื้อตัดกับสีดำของกางเกงสแล็ค  อ้ายรู้สึกหัวหมุน
รสจูบวาบหวามดำเนินไปเหมือนไม่รู้จบ

"อืม..."
ความเย็นจากเจลเกิดขึ้นที่บั้นท้าย  จากนั้นจึงต่อด้วยความอุ่นของนิ้ว
นทีไม่ชอบใช้นิ้วทำรุนแรงนัก เขาคิดว่ามันยังไม่สะใจพอ และรู้ว่าอ้ายก็คิดเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อเขาใส่ของจริงที่ใหญ่กว่า  เอวหนาจึงเด้งเข้าออกอย่างรุนแรง  เสียงเตียงดังลั่นจนน่ารำคาญ แต่ไม่มีใครคิดจะหยุด

เพี้ยะ!!
ฝ่ามือสากตบหน้าคนที่กำลังโยกเอวเข้าออกเบาๆ พอแสบๆคันๆ
อ้ายยิ้มยั่วยวน ดูดนิ้วข้างที่เพิ่งสัมผัสแก้มหล่อไปหมาดๆ
นั่นยิ่งเร่งความแรงและลึกของเบื้องล่าง

"ที!! จะ..ไม่ไหว..แล้ว"
ใบหน้าเหยเก  มือบีบต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม 

นทีแกล้งคนข้างล่างโดยการหยุดร่อนเอว
นี่อ้ายรู้ไหมว่ากำลังถูกเขาลงโทษเพราะไอ้หมอก๊องแก๊งนั่น!
อ้ายนะอ้าย ขลุกอยู่กับมันทั้งวัน  งั้นจากนี้ก็ขลุกอยู่กับเขาทั้งคืนแล้วกัน!

"อ๊า!!!"




............




ย้อนไปเมื่อเวลาบ่ายสอง
อ้ายยังคงนั่งจ้อไม่หยุดกับหมอแก๊ง
ทั้งเขาและหมอเป็นผู้ฟังและผู้พูดที่ดีเหมือนกัน จึงไม่รู้สึกขัดใจเวลาสนทนา

หมอแก๊งชอบหมามาก แต่ที่บ้านก็เลี้ยงแมวตั้งสามตัว  เขาจึงขี้เกียจเอาหมามาให้แมวโกรธ
ดูตลกดีที่หมอแก๊งเป็นทาสแมวไปโดยปริยาย

"อ้าย....คือว่า..ถ้าแก๊งละลาบละล้วงก็ขอโทษนะ ไม่ต้องตอบก็ได้"

"ว่ามาเลย"
เรื่องของอ้ายมีให้เล่าเยอะแยะไปหมด เขาจึงไม่คิดมาก

"กับคุณนทีน่ะ..."

"เราเป็นแฟนกัน"

"ว่าแล้วเชียว!  ก็เมื่อตอนกลางวันเขาทำหน้าน่ากลัวมากๆ"

"เราก็เพิ่งรู้ว่ามันขี้หึง ฮ่าๆๆ แก๊งมาก็ดีเหมือนกัน  เรากับที..ผ่านอะไรด้วยกันมามาก  มากจนเราบ้า เลยต้องไปรักษากับหมอนพ"

"ไม่ได้บ้าหรอกน่า อย่าพูดอย่างนั้นเลย คนเราทุกคนต่างก็มีปัญหา"
หมอแก๊งแตะไหล่อ้ายปลอบประโลม

"ว่าแต่แก๊งมีแฟนยัง"

คนถูกถามหน้าแดง
"ก็...ไม่รู้สิ  มีมั้ง"

"มีอยู่แล้วทำหน้าแบบนี้"

"ก็ไม่รู้ว่าเขาอยากเป็นแฟนเราป่าว วันๆเอาแต่คุยกับพยาบาล ไม่ก็หมอหนุ่มหล่อๆ"

อ้ายขมวดคิ้ว 
แฟนหมอแก๊งเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่

"เขาก็ดูแลเราดีนะ  ...แต่ไม่รู้สิ  เราชอบคิดว่า เขาแห้วมาจากหมออีกคน เลยมาหาเบี้ยบ้ายรายทางฆ่าเวลา"
หน้าหมอแก๊งหม่นลง
อ้ายเข้าใจดี ...ความรู้สึกนี้
นทีก็เคยทำกับเขาเหมือนไม่ใช่คนรักกัน
มันอาจจะคนละกรณี  แต่ก็อารมณ์เดียวกัน

"แล้วทำไมถึงยังคบกันล่ะ ถ้าเขาคิดแบบนั้น"

".....อธิบายไม่ได้  อ้ะ!  พูดถึงก็โทรมาเลย ตายยากจริงๆ"
อ้ายเห็นนะว่าร้อยยิ้มหมอแก๊งสว่างไสวขึ้นมาเชียว
หมอคุยกับแฟนสองสามประโยคก็ขอตัวลากลับบ้านเพราะคนๆนั้นมาตาม
ร่างโปร่งจึงเดินไปส่งพร้อมกับครอบครัวจอมป่วนอีกสามตัว

ที่หน้ารั้วมีรถสีดำขลับจอดสนิท
ชายคนหนึ่งลงจากรถ ดูภูมิฐาน เหมือนคนอายุประมาณสี่สิบเศษ  หากแต่แววตาเจ้าชู้ขี้เล่นแบบที่มองจากดวงจันทร์ยังดูออก

"พี่กริช ...นี่อ้าย เจ้าของหมา"

อ้ายยกมือไหว้ทักทาย ขณะที่คนสูงวัยกว่าพยักหน้ารับ

"ไปกันเถอะ  พี่จะพาไปซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ที่เคยสัญญาไว้ไง"
เสียงทุ้มชวนฟังเอ่ย  ไม่ได้สนใจอ้ายเลยทั้งๆที่เข้ายิ้มจนปากจะถึงรูหูอยู่แล้ว

"งั้นเราไปก่อนนะอ้าย"
คุณหมอหน้าใสโบกมือลา  หันไปกอดเอวคนสูงใหญ่แนบแน่น

ถ้าจะหวานแหววขนาดนี้...เขานึกเรื่องหน่วงๆไม่ออกเลย
หมอแก๊งขี้อ้อนอย่างนี้ คนแก่ไม่ชอบก็บ้าแล้ว
ท่าทางจะขี้มโนขนาดหนักแน่ๆ
ดูสายตาที่หันมามองเข้าก่อนปิดประตูรถนั่นสิ
'อย่ายุ่ง ไม่งั้นตาย'

นทีจะขี้หึงเท่านี้ไหมน้า~
อยากรู้จัง...


..........



ทีเอ๊ย~~จะให้เขาเบี้ยนกันเหรอลูก!??
สำหรับตอนนี้ ต้องขอบคุณคุณ4life ที่เสนอพล็อตมาค่ะ  เลยปิ๊งไอเดียเลย ลองแต่งแบบฮาๆบ้าง

ส่วนถ้าใครเคยอ่านเรื่องหนูน้ำหวาน ก็น่าจะคุ้นกับตากริช5555
ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องมีแฟนคนเดียว  มันก็ต้องมีเลิกรากันบ้าง
ตากริชที่แห้วประจำ จึงแห้วกับหมอของวิว เลยมาจีบหมอแก๊ง(ที่อยู่โรงพยาบาลเดียวกันอี้กกก)
ตอนนี้ชีวิตลุงกริชจึงสดใสสุดๆ lovey doveyมากๆ และคาดว่าคนนี้แหละใช่ เพราะลุงแก่แล้ว
ก็อยู่ที่เด็กล่ะนะว่าจะมั่นใจในตัวลุงตอนไหน

ถ้าใครอยากอ่านความน่าหมั่นไส้ที่น้ำหวานเด็ก5ขวบ มีต่อลุงแกขนาดไหน ก็ตามไปอ่านได้นะคะ เรื่อง "เรื่องของหนู หม่าม้าและปะป๊า"
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2กย59 จบแล้ว ♥ฝากเพจ♥
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 02-09-2016 23:09:29
 o13

หนูอ้ายอ่อยขึ้นเยอะ ตกลงนี่คือคู่เคะxเคะ เพื่อให้นทีหึงหรือยังง๊ายยยยยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-09-2016 13:47:08

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55604.msg3472195#msg3472195

เจอแก้วได้ที่นี่ค่ะ...
เป็นตัวประกอบ และชีวิตนางอาจไม่ดราม่าอย่างที่หลายคนหวัง แต่เราอยากให้มองในอนาคตต่อๆไปของนางมากกว่า
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 16-09-2016 21:54:31
=v=

แก้วออกมาโครตตัวประกอบสุดๆดีแท้

หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: joyey6217 ที่ 18-12-2016 10:06:36
เค้าก็ถึงว่ามันไม่มีความยุติธรรมในสงครามและความรักไง นทีกับอ้ายมีความยึดมั่นในมั่นในความรักต่างกัน  อ้ายยึดทีเป็นที่หนึ่งเดียวในชีวิตขนาดแม่กับพี่ชายยังแทบไม่มีอันดับในใจอ้ายด้วยซ้ำ โลกของอ้ายมีแค่นที ชีวิตนี้หากไม่มีใครขอแค่เพียงมีนที มีแต่นทีตั้งแต่ 5 ขวบ เป็นเพื่อนและขยับมาเป็นคนรักตั้งแต่ 15 คิดดูความรักของนางหนาแน่นหนักหน่วงแค่ไหน ส่วนนที  อ้ายเป็นส่วนหนึ่งในอีกหลายๆส่วนของชีวิต นทีมีเพื่อน มีการเรียน และอื่นๆอีกมากมาย เปรียบเทียบว่านทีคือโลกทั้งใบของอ้าย อ้ายเป็นดวงดาวบริวารที่โคจรอยู่รอบๆ ไม่จากไปไหน สำหรับนทีอ้ายคือสิ่งที่รอได้ เมื่อต้องไปหาอย่างอื่น ไม่ใช่ว่าไม่รัก แค่นทีคิดว่าในชีวิตเค้าไม่ได้มีแค่คนรัก ยังมีเรื่องอื่นรออีกมากมาย ให้คิดให้ทำ คู่นี้ที่ว่างของความสัมพันธ์ไม่เท่ากัน อ้ายไม่มีที่ว่างสำหรับความพันธ์อื่น หรือมีก็ไม่มากเท่านที รายนั้นที่ว่างเยอะมาก สำหรับสิ่งโน้นนี่ในชีวิตที่นทีแบ่งส่วนๆ แถมน้ำหนักของเวลาและความใส่ใจที่เคยมีให้ความรักก็ลดลงเรื่อยๆ นทีเป็นฝ่ายที่เปลี่ยนแปลง ส่วนอ้ายไม่เปลี่ยนไปเลย แล้วเค้าสองคนที่มีกันมาตั้งแต่จำความได้ รักกันตั้งแต่เด็ก มันก็มีจืดจาง ถ้าจางกันทั้งสองฝ่ายก็พอว่า แต่มาจางฝ่ายเดียวนี่อีกฝ่ายเคยได้มาก ต้องถูกบั่นถูกทอนไปให้ส่วนอื่น ตอนแรกที่แก้วโผล่มาอ้ายมั่นใจในความรักของนทีมากว่าไม่มีทางนทีไม่มีทางนอกใจ อ่อยไปก็เท่านั้น แต่พอความนานวันเข้า นทีมีเวลาให้น้อยลง อ้ายก็ยิ่งตามติด ไปเฝ้ารอมากมากขึ้นเหงามากขึ้น บวกกับนทีก็ไม่พยายามจะรักษา ไม่พูดหรือทำความเข้าใจ ให้รอไป คิดว่าถึงเวลายังไงอ้ายก็อยู่กับตน ใจคนรอก็กระวนกระวายจากไม่เคยหวาดระเเวงก็มีอาการตามหึงหวง ทวงหายึดไว้่ ยิ่งตามนทียิ่งเบื่อว่าทำไมไม่เข้าใจกันเลยเข้าไปอีก เลยทำให้ทั้งสองยิ่งค่อยๆห่างกัน ยิ่งหนีไปเรียนเมืองนอกยิ่งห่าง นทีคิดน้อยไปไม่พูดไม่บอก เพระาให้เหตุผลว่า พูดไปอ้ายก็ไม่เข้าใจหรอก รังแต่ทะเลาะกัน  แต่รักไหมก็รักแต่ไม่ดูแล คิดว่ายังไงอ้ายก็คงรอตนอยู่แล้วล่ะ ...รักของเรามันไม่เท่ากันเนอะ  สงสารอ้ายในจุดนี้ แล้วปัญหามันก็มาเพิ่มอีกเมื่อคิดสั้น ป่วย ใจมีแต่จะประชดทำลายตัวเอง ถ้าคนที่รักที่สุดไม่เห็นค่ากันแล้วก็จะตายให้ดู  เผื่อเค้าจะคิดเสียใจที่ทำกับเราแบบนี้ บลาๆ ไม่ตายก็ทำตัวให้เหมือนตาย ปัญหาของอ้ายคือปัญหาทางจิตมากกว่าทางร่างกาย ปิดทุกอย่างไม่เดิน ไม่พูด ไม่ยอมรับการรักษา ทั้งทีถ้าอ้ายได้รับการบำบัดทางจิตกับจิตแพทย์ก็น่าจะดีขึ้น  พอเจอตัวปัญหาอย่างอีพลมาซ้ำเติมยิ่งหนักมากให้ความรู้สึกหนักหนาไปอีก ยิ่งทวีความเคียดแค้น โทษต่อทุกอย่างเกิดขึ้น ...ดื้อมากด้วยนะ ทำตัวให้ชินชาไร้ความรู้สึก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอทีกลับมา ที่คิดว่าชินชา ที่ไร้ความรู้สึก จริงๆไม่ใช่นี่นามันก็สั่นไหว ความรู้สึกในใจ และอ้ายๆก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จริงๆก็รอทีเสมอนั่นแหล่ะ ฝึกเดินตอนกลางคืน มโนว่าเค้ากลับมา ก็คือยังรักยังรอนั่นแหละ  เราดีใจที่มันจบแบบนี้นะ ดีแล้วที่นทีกลับมา กลับมาหาอ้ายทำให้อ้ายกลับมาได้อีกครั้ง ...เขียนยืดยาวมาก เราชอบงานเขียนของคนเขียนนะ ตั้งแต่เรื่องปะป๊ะ หม้าม้า และน้ำหวานแล้ว หน่วงแต่ได้คิด ทุกชีวิตมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง ขนาดอีตากริชที่นึกว่าจะลงเอยกับหมอหน้าใสของน้ำหวานยังมีแฟนใหม่เลย555
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 20-12-2016 03:29:00
เป็นเรื่องที่หน่วงได้ใจจริงๆ
แต่หน่วงที่ว่าไม่ใช่เรื่องของอ้ายกับทีหรอก หมายถึงตอนที่อ้ายโดนข่มเหงจากสารเลวพลต่างหาก
นี่บ่งบอกเลยว่าแม่กับพี่ชายไม่ใส่ใจอ้ายเลยสักนิด ไม่งั้นต้องจับได้สิ กลิ่นเหล้างี้ ตอนอาบน้ำงี้
แต่ตอนหลังก็ดีใจนะคะที่แม่กับพี่อัฐิคิดได้ว่าควรใส่ใจกับอ้ายมากกว่านี้
อ้ายดูเอาแต่ใจมากก็จริง แต่เราว่ามันเป็นไปด้วยสาเหตุที่รับได้นะ แม่ตามใจขนาดนั้น แต่กับทีนี่อ้ายดูจะตามใจทีมากกว่าซะอีก
สำหรับที เราว่ามันไม่ค่อยสาแก่ใจเท่าไหร่ นอกจากพลแล้วก็มีนทีนี่แหละที่เลวเข้าขั้นพอกัน เหอะๆๆ
น่าเกลียดที่สุดตอนให้อ้ายกราบแก้ว ทั้งๆที่รู้ว่าแก้วก็ชอบตัวเอง ไม่ค่อยมีเซ้นส์เท่าไหร่อ่ะที่จะไม่รู้ว่าอ้ายหึงเพราะอะไร
แต่ก็นั่นแหละ โดนแทงไปสองแผลก็พอให้นักอ่านใจชื้นบ้างว่าทีก็ได้รับกรรมบ้าง
นอกจากนี้...ชื่นชมนักเขียนนะคะ เขียนให้เราตามอ่านจนหยุดไม่ได้ อ่านรวดเดียวจบจริงๆ 555
มีบางฉากที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเพราะฉากสลับย้อนไปมา แต่ก็โอเค เหมาะกับการเล่าเรื่องแนวนี้อยู่
เพียงแต่ต้องบรรยายและลำดับเหตุการณ์ให้ชัดเจนกว่านี้จะดีมาก
ปล.สุดท้ายแล้วเป็นกำลังใจนักเขียนต่อไปนะคะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 23-12-2016 18:27:06
 o13
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 23-12-2016 23:33:19
 :mc4:  :serius2:
ขอบคุณค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 31-12-2016 21:32:30
ขอบคุณค่ะ ฟินจิงเรื่องนี้ ถึงจะหน่วงตอนย้อนอดีตชั่วๆ ของทีก็เถอะ  :mew1: :mew2:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-01-2017 11:40:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 01-01-2017 15:28:00
ก็ยังคงยืนยันว่าคุณเขียนได้เข้าข้านทีนั้นละคะ
กลับมาอ่านตอนท้ายๆที่อ้ายคุยกับพี่ชายเราว่าอ้ายเป็นคนฉลาดมีความคิดดี
แต่มีไอ้เลวที่ชื่อนทีทำให้อ้ายเป็นคนแบบนั้น
เราเข้าใจที่คนเขียนจะสื่อถึงกรรมที่นทีได้รับ แต่นี้หรือคือกรรมที่นทีได้รับกับคนคนนึงที่โดนทำลายอนาคต
เราไม่เข้าใจคนเขียนที่จะสื่อถึงตรงนี้
สำหรับเรา เราอยากให้ชีวิตอ้ายมีความสุขแม้ไม่มีมันมาก
อยากให้อ้ายทำให้ทุกคนเห็นว่าฉันก็สุขได้นะ
แต่ไม่เลย ให้อ้ายจมอยู่ในความทุกข์ ส่วนมันก็สบาย อดทนนิดหน่อยคนช่วยเยอะ นี้หรอกรรม?
ส่วนเลยอิแก้วกับลพไม่อยากพูดอีสองตัวนี้มันแค่มารร้าย
หัวข้อ: Re: ••►คนนิสัยเสีย•• *ตอนพิเศษ เขามาเอง* 2 กย59
เริ่มหัวข้อโดย: _SHINE_ ที่ 04-01-2017 00:16:23
 :z3: :z3: :z3: :z2: :pig4: