พิมพ์หน้านี้ - #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.5) 16/12/2019

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: lookpatty15407 ที่ 19-04-2019 03:06:28

หัวข้อ: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.5) 16/12/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 19-04-2019 03:06:28
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

_________________________

#ใครเขาจะไปทนกับมึง


ด่าคนอื่นว่าร่าน แต่ตัวเองเสือกไปมีอะไรกับชาวบ้าน
เป็นบุรุษที่ไม่รู้จักพอ

“ใครเขาจะไปทนกับมึง”

เนื้อหาที่อัพแล้วมีชื่อตอน

1.   คนแพศยา 1 – 2 END
2.   เพียงนิรันดิ์ END
3.   จดจำไม่รู้ลืม END
4.   มิอาจหวนคืน (ภาคต่อจดจำไม่รู้ลืม END)
5.   ดูนี่นะ END
ุ6.     อีกตัวตน END -----> *อยู่หน้าสอง*
ึ7.     ไม่ใช่นางเอก  1 - 5 End

หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : คนแพศยา 2 END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 19-04-2019 03:07:32
คนแพศยา : 1


ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะมีผัวที่มักมาก ตบตาเสแสร้งเก่งยิ่งกว่าสตรี นิสัยปลิ้นปล้อน หลอกลวง

แรกๆ อะไรก็ดีไปหมด ปากหวาน ตามจีบ ขอคบเป็นแฟน เข้าไปอยู่หอเดียวกัน…

สิ่งที่เห็นอยู่ตรงนี้ก็มีเพียงแค่เตียงนอนสีขาว

เผยภาพบุรุษแพศยากับสตรีนางหนึ่งที่นอนทอดกายเปลือยเปล่า

สวิตซ์ห้องถูกเปิดดังพรึ่บ แสงสีจึงตกกระทบไปที่เปลือกตาของคนสองคน

ร่างที่หลับใหลก็คล้ายงัวเงีย ฝ่ามือหยัดกายขึ้นไปที่ตั่งเตียง ปลายนิ้วชี้ขยี้ไปมาที่เปลือกตาเพื่อขับไล่ความง่วงงุน

ผ้านวมที่เคยอำพรางตัวก็ร่วงตกหล่น จนเห็นกล้ามเนื้อที่เคยกรีดกรายกับไรขนของสิ่งใต้ร่าง

แฟนคนนี้เคยมาก่อน…

เคยกลืนน้ำลายกับกล้ามเนื้อที่เป็นโต้คลื่นอย่างสวยงาม

เคยใช้ปลายนิ้วไล่สัมผัสไปมาอย่างยั่วเย้า

เคยสูดปากร้องกระสัน

เคยครวญครางเพราะสิ่งใต้ร่างที่ใหญ่โออ่า

ทว่า…

บัดนี้น่าคลื่นเหียนยิ่งนัก

อยากจะขย้อนกับสิ่งที่เคยปรนเปรอ

น้ำมักมากที่เคยดูดกลืนมาก่อน

ขยะแขยงไปหมดกับโพรงหยักนุ่มที่โดนสอดใส่

“คุณ!”

เสียงของคุณดูตกใจมาก

ทัศนียภาพที่เคยพร่าเลือนก็พลันกระจ่างชัด

คงคาดไม่ถึง

คงไม่อยากจะเชื่อ…

ว่าแฟนคนนี้…มาเห็นความลับเข้าให้แล้ว ?

โธ่…

มันดูน่าขำไปหน่อยนะ

เพราะที่ผ่านมา

เพื่อนเตือน

บอกว่าเห็นคุณ…

ไปแอบเดทกับผู้หญิง

แอบเจอที่ผับ

แฟนคนนี้ก็ได้แต่บอก

‘คงไม่ใช่เขาหรอก’ อาจจะเป็นคนที่หน้าเหมือน…

แต่ใจจริงก็แอบกักเก็บเอาไว้

ไม่ได้โง่ดักดาน หรือใสซื่อแต่อย่างใด

ไม่ได้รักมากจนกู่ไม่กลับ

ถึงแม้แรกๆ จะร้องไห้

ปวดร้าว ทบทวีกับความชอกช้ำที่ถูกหักหลัง

แต่แล้วไง ?

คนที่ต้องเข้มแข็ง

คนที่ต้องให้กำลังใจ

ก็คือตัวกูเอง…

ฉะนั้นวันที่ผ่านมาก็เจตนาล้วนๆ
 
เสแสร้งจอมปลอม

แย้มยิ้มต่อหน้าคุณ

ทั้งที่ในใจ

วางแผนต่างๆ นาๆ

เพราะเริ่มสังเกตเห็นถึงถุงยางในลิ้นชัก

ที่ลดลงมากขึ้นเรื่อยๆ

เส้นผมที่ร่วงหล่นบนพื้นห้อง

ยาวเหยียด

สีดำบ้าง

ย้อมสีบ้าง

ไม่ใช่ของแฟนคนนี้แต่อย่างใด…

วันนี้เลยจงใจบอกกับคุณ

บอกว่าจะไปนอนที่บ้าน…

เพราะสัปดาห์หนึ่งจะนอนกับคุณที่หอสี่ครั้งต่อสัปดาห์

ปัจจุบันเราเป็นนักศึกษา

เป็นเด็กมหาลัย

เจอผู้คนที่แน่นขนัด

คุณเลยถึงไม่รู้จักพอ

ทุกวันนี้…

คุณถึงไม่รู้จักพอ

ไปเจอผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักเข้าให้ล่ะสิ

คงคิดว่าเป็นคนสับรางเก่งนักสินะ…

คงคิดว่าฉลาดนักหนา ?

แต่โทษที…

แฟนคนนี้ฉลาดกว่า…

ได้แต่หลอกล่อคุณให้หลงกล

เช้ามาก็ไขกุญแจเข้ามาในห้อง

หากเป็นครั้งก่อนคงไลน์มาบอก…

ทักมาบอกกับคุณทุกการกระทำ

ว่าจะไปไหน

ไปทำอะไร

ไปกับใคร

หรือว่าจะกลับหอวันไหน….

แต่วันนี้ไม่…

ไม่เลย

ไม่ทำ

ไม่อยากทำ

ไม่อยากจะบอก

ไม่อยากจะให้รับรู้

เพราะอยากได้เห็น

อยากเห็นอีคนกลับกลอก

อีคนตอแหลที่ชอบหลอกลวง

ทำให้รู้ได้ดี…

ว่าผู้ชายแม่งหาคนจริงใจได้ยากแท้

โดยเฉพาะกับคนแบบคุณ

คุณที่ต่อหน้าดี แต่ลับหลังไม่…

คลับคล้ายคลับคลา…

เหมือนเจ้าชายที่ใฝ่ฝันที่ถวิลหา

เปลือกนอกเพียบพร้อมไปทุกสิ่ง

ทั้งที่ภายใน…

เหี้ยสิ้นดี

“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”

หึ แฟนคนนี้อยากจะหัวเราะนักกับสิ่งที่ได้ยิน

จับจ้องไปที่ใบหน้าของคุณที่เริ่มถอดสี

สายตาล่อกแล่กไปมา

หวาดกลัว

ตื่นตระหนก

ตอบไม่ได้

อธิบายไม่ถูก

พินิจมองแฟนคนนี้ที่มองผู้หญิงที่เริ่มตื่นขึ้นมา

ก่อนจะหยิบผ้านวมมาบดบังเรือนร่าง

ดวงตาเบิกกว้าง มองคุณกับแฟนคนนี้โดยไม่ปริปากใดๆ

คงกลัวโดนตบ…

แต่ไม่หรอก…

ไม่อยากจะทำเพราะเปลืองแรง

ได้แต่ยิ้มกับสิ่งที่เห็น

ไม่มีความยี่หระเลยสักนิด

คล้ายชินชา

คล้ายทำใจเอาไว้แล้ว

เลยได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน

เลือกที่จะมองข้าม

เดินไปหยิบของในตู้เสื้อผ้า

ยัดใส่กระเป๋าใบใหญ่

ไม่มีคำด่าใดๆ

ไม่มีการอวดครวญดั่งคนอกหัก

ปานจะขาดใจตาย กับการถูกหักหลัง

ไม่…

ไม่ทำ

มันดูงี่เง่า…

ร้องไปก็ไม่ได้อะไร

จะให้มาระบายตบตีสาแก่ใจ

ก็คงไม่ช่วยอะไร...

เจ็บมือเปล่าๆ

ปวดร้าวไปเปล่าๆ

ทำให้ใบหน้าต้องมาเปื้อนน้ำตา

น้ำมูกไหลหยด

คงดูน่าสมเพชกันน่าดู

เผยความเข้มแข็งแตกต่างจากคนทั่วไป…

แฟนคนนี้เลยเลือกที่จะทำ

กระทั่งคุณที่เริ่มเป็นฝ่ายร้อนรน

เริ่มลุกขึ้นมาสวมใส่กางเกงลวกๆ

วิ่งแจ้นเข้ามาหา

ใช้ฝ่ามือหยาบกร้านแตะลงที่ลาดไหล่

หมุนกายของแฟนคนนี้ให้หันมามอง

สบตากัน…

“คุยกับผมก่อน”

หืม ? คุยอะไรอะ

ในเมื่อหลักฐานก็เป็นที่ประจักษ์ชัด

เสื้อผ้ายกทรง รวมไปถึงกางเกงชั้นใน

ต่างก็กระจายเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นห้อง

มีอะไรที่ต้องคุยกัน ?

ได้แต่ยิ้มค้างเติงอยู่อย่างนั้น

เหมือนหุ่นที่ถูกสร้างขึ้น

ไม่เปิดเผยด้านอารมณ์

ถูกแต่งแต้มใบหน้าอย่างไร…

ก็เป็นเช่นนั้น

 พลางยกแขนขึ้นมา

ปัดมือทิ้งของคนมักมาก

ช่างเป็นมือที่แปดเปื้อนสิ้นดี

กล้าดียังไงถึงฉุกคิดมาสัมผัสกัน

หากกลับบ้านไป…

คงต้องถอดเสื้อตัวนี้ออก

เอาแอกอฮอล์ราด

จุดไฟเผาทิ้ง

สถานเดียว…

“ฟังผมก่อน !”

มีคนฉุนเฉียว

คล้ายหมาบ้าน

ใบหน้าแดงจัด

เส้นเลือดตึงขนัดที่ข้างขมับ

คงร้อนรน

คงหวาดกลัวกับท่าทางของแฟนคนนี้

คุณกำลังกลัว…

หวาดกลัวกับความเป็นจริง

แต่เชื่อเถอะ…

เทียบไม่ได้กับแฟนคนนี้

“เสร็จยังครับ” เสียงผู้มาใหม่ดังลอดขึ้น

แฟนคนนี้จึงหันไปมอง

มาได้จังหวะพอดีเลย…

ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ชายฉกรรจ์

สร้างความแคลงใจต่อใครบางคน

“อื้ม เสร็จแล้วครับ” พลันเอื้อนเอ่ยตอบกลับไป

รีบหยัดกายลุกขึ้นยืน

ไม่คิดจะมองเสี้ยวใบหน้าของคุณเลยสักนิด

พานเดินผ่านคนตัวโตที่กำลังบดบังทิศทาง

หลบเลี่ยง ไม่อยากจะเอาไหล่กระทบแดกดัน

คร้ามเกรงว่าเชื้อโรคจะตามติด

จบแบบนี้คงจะดีกว่า…

ไม่มีน้ำตาที่หวนไห้

กรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลัง

ตัวสั่นผงกเพราะความเกรงกลัว

หรือตั้งคำถามใดๆ เพื่อเค้นคำตอบออกจากปาก

ไม่มีการประทุษร้าย

พูดจาสาปส่งหรือคอยอวยพร

มีแต่ความเงียบที่คอยปกคลุม

จูงมือใครอีกคนแล้วเดินออกจากห้องไป

โชคดีที่ไม่มีการทำร้ายใดๆ

มีแต่ความงงงวยของคุณทั้งสิ้น

ไร้การดื้อดึง

หรือการยื้อไว้…

นอกจากจับต้นชนปลายกันไม่ถูก

ว่าบุรุษผู้นี้เป็นใคร…

แฟนคนนี้เอนกายแนบชิด

ยิ้มหวานและส่งสายตารักใคร่ให้กับเขา

ทั้งที่จริง…

เป็นคนที่ว่าจ้างก็เท่านั้น

กันไว้เผื่อถูกทำร้าย

กันไว้ยามที่คุณกู่ไม่กลับ

จะได้ให้เขาต่อยไปที่ใบหน้าของคุณให้น่วม

ทว่าวินาที…

กลับโชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ

เลยอดเจอร่องรอยเขียวช้ำ…

จากใบหน้าคุณ

.
.
.

บนโต๊ะที่มีแต่แก้วที่ถูกรินด้วยเหล้า

รสชาติเข้มข้นแสบพล่านไปตามลำคอ

สายตาจับจ้องไปยังผู้คน

แสงสีนวลลออหลากสีสัน สลับไปมาตามจังหวะของท่วงทำนอง

ผู้คนลุกขึ้นเต้น

อิริยาบถยั่วยวน มีเสน่ห์พริ้มเพราแตกต่างกันไป

ส่วนแฟนคนนี้กำลังมีบุรุษมาแตะต้องที่ต้นขา

ฉุกคิดมาลูบไล้

ใช้ใบหน้าคมคายประชั้นชิด

พรูลมหายใจอุ่นร้อนที่ข้างกกหู

สายตาพลันไปเห็นคนคนหนึ่งที่จ้องมองมา

เป็นคุณ…

คุณ ‘ดินแดน’  ที่เคยเลิกรากันไป

คุณอยู่ฝั่งตรงข้าม

แฟนคนนี้เลยเลือกที่จะแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

ยกเหล้าขึ้นมาจิบกันกระหาย

ทั้งที่มุมปากแอบลอบยิ้มกับสิ่งที่คอยอำพราง

มีคนหลงกล…

มีคนติดกับดักของนายพราน

อ่าห์…

การเช็กอินไม่เสียเปล่าเลย

เพราะตั้งค่าสาธารณะเอาไว้

การโพสต์รูปและข้อความนั้นได้ผล

ช่างเป็นประโยชน์ยิ่งนัก

แม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว

ลบเฟซของคุณไปแล้วก็ตามที

แต่ก็รู้ดี…

คนที่นิสัยอย่างคุณ

น่าจะสอดรู้ทุกเวลา

แฟนคนนี้เลยเลือกที่จะเอียงคอเล็กน้อย

ปล่อยให้หนุ่มหล่อคลอเคลียและดูดดุนไปที่ต้นคอ

สร้างตีตราจองได้ตามใจนึก

แลกผลพลอยได้ในกันและกัน

พลันเอียงหน้ามาหาชายหนุ่ม

ใช้กลีบปากนุ่มหยุ่นเข้าไปประทับ

บดจูบ

เคล้าคลึง

ก่อนจะสอดปากลิ้นรุกล้ำอณาเขต

เย้าแหย่รสสัมผัสที่หวานล้ำบนปลายลิ้น

ทุกอิริยาบถช่างจาบจ้วง

หยาบโลนเหมือนหยาดน้ำลายที่เชื่อมประสาน

กระหวัดรัดเกี่ยวไม่ยอมผ่อนผัน

เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด

เริ่มโชว์ไหปลาร้า

กางเกงยีนส์ขาดๆ ฉบับแฟชั่นก็พลันตวัดขาขึ้น

โถมทับขึ้นคร่อมบุรุษ

สะโพกมนบดขยี้ไปที่จุดยุทธศาสตร์

สัมผัสได้ถึงความแข็งขืน

ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่แสนหยาบโลน

บ่งบอกถึงความเจตนาภายในใจ…

“ไปต่อกันเถอะ”

เผื่อจะได้มีคนดิ้นเร่าทรมาณ

ทำตามเหมือนที่เคยถูกกระทำ

ลบล้างร่องรอยสัมผัส

แทนที่ด้วยสิ่งเร่าของใครต่อใคร

เพราะอยากจะแปดเปื้อนบ้าง

“ไปมีเซ็กส์กัน”

เพราะแฟนคนนี้ติดเซ็กส์สิ้นดี…

คุณเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ

จริตจะก้านในท่วงที

ถูกขัดเกลาทุกวี่ทุกวัน

คุณเป็นคนทำ…

โชกโชนจนชำนาญ

หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : คนแพศยา 2 END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 19-04-2019 03:08:22
คนแพศยา : 2 (END)


ครั้นออกมาข้างนอก…

กำลังจะก้าวขาขึ้นรถของชายหนุ่ม

แต่เป็นใครกันแน่ที่หน้าด้านมากกว่ากัน…

เป็นแฟนคนนี้…

หรือเป็นคุณที่วิ่งตามมา

ฉุดกระชากแฟนคนนี้เข้าหาตัวราวกับพวกหวงแหน

“เฮ้ย มึงปล่อยนะ !”

บุรุษที่หมายตาแฟนคนนี้ไว้

ผลักอกของคุณอย่างแรง

พูดจาเกรี้ยวกราดไม่ต่างจากคุณ

“นี่แฟนกู !”

แต่คุณกลับหน้าด้านยิ่งกว่า

สถาปนาบทบาทเก่าที่เคยมอบมาให้

ไม่วายมอบความเจ็บริ้วที่เรียวแขนเล็ก

ฝ่ามือเสมือนคีมเหล็กกอบกุมแน่นขนัด

หากปลดปล่อยออกมาคงเผยผิวขาวที่ช้ำใน

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเบื่อยิ่งนัก

เป็นเรื่องตลกร้ายที่อยากจะหัวเราะออกมาเสียดังลั่น

กล้าดียังไงถึงได้มารั้งแฟนคนนี้ไว้

ทั้งที่เป็นตัวคุณเองแท้ๆ…

เป็นคุณเองแท้ๆ…

ที่ทำให้ความสัมพันธุ์ต้องแตกหัก

ทำให้ความรักต้องขาดสะบั้น

ไม่มีวันที่จะสามารถเยียวยาบาดแผลลึกได้อีกต่อไป

ไอ้สิ่งที่ทะนุถนอมกันไว้

ต่อให้เปรียบเสมือนแก้ว…

ใช้กาวมาติดให้เหนียวหนืดเพื่อรักษาสภาพคงเดิม

ร่องรอยแห่งความร้าวรานก็ยังคงมี   

ฉะนั้นอย่าเลย…

“ปล่อย”

ครั้งนี้เป็นเสียงของแฟนคนนี้ที่ปริปาก

ประโยคชัดแจ้งผ่านคำๆ เดียว

นิ่วหน้าอวดครวญกับการทำร้ายร่างกาย

ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่

จากผู้ชายที่แสนอบอุ่น…

บัดนี้มีแต่ความรุนแรงจนน่าหวาดหวั่น

คุณเริ่มเป็นคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

หากทว่าแฟนคนนี้ก็ไม่ได้คร้ามเกรงเลยสักนิด

หนำซ้ำกลับนึกชอบด้วยซ้ำไป

นานๆ ทีจะเจอสีหน้าแบบนี้ของคุณ

มันก็แปลกดี…

“คุยกันก่อนได้ไหมพีท”

คุณทำสีหน้าเว้าวอน

เอื้อนเอ่ยชื่อแฟนคนนี้ออกจากปาก

ผ่อนผันความเจ็บร้าวที่เรียวแขน

ฉายชัดถึงความอ่อนโยนเฉกเช่นคงเดิม

“เราจบกันแล้ว”

ตอบออกไปให้มันกระจ่างชัด…

เป็นสิ่งตอกย้ำในสถานะของความสัมพันธ์ของคนเรา

ให้เลิกยุ่ง

ให้เลิกวอแว

ให้เลิกสาระแนกับชีวิตของคนเรา

อะไรที่มันจบแล้วก็ให้มันจบกันไป

โดยเฉพาะกับคนที่ชอบปลิ้นปล้อน

หลอกลวง…

พาผู้หญิงมากกกอดลับหลังแฟนตนเอง

คนเราต้องหน้าด้านแค่ไหนกัน…

ถึงได้มาสำนึกในตอนท้าย…

อยากหวนคืนในสิ่งที่ควรรักษาไว้

เพิ่งเห็นค่าหรือไงกัน ?

แฟนคนนี้ทำดีมานักต่อนัก

ไม่เคยจุ้นจ้าน

ไม่เคยหึงหวงเกินขอบเขต

เข้าใจทุกสิ่ง

ปรับแก้ทุกอย่าง

สิ่งไหนที่คุณชอบ

สิ่งไหนที่คุณไม่ชอบ

แฟนคนนี้ปฏิบัติทำตามทุกข้อ…

แล้วทำไม

ทำไมอะ

ทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจของแฟนคนนี้

เสพสมผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า…

แล้วจะมาขอให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม

ก็คงได้แต่บอก…

“เรื่องของเรามันไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิม”

เมื่อไหร่จะเข้าใจ ?

เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที

“เราเลิกกันแล้ว”

ย้ำเตือนให้ฟัง

บอกอีกสักรอบให้กับคนโง่

เผื่อสมองตื้นเขิน…

จะได้เข้าใจแม่งสักที

พลันโบกสะบัด…

ปัดแขนทิ้งที่กอบกุมอย่างไม่ไยดี

หมุนกายหันไปหาชายหนุ่ม

คาดหวังจะขึ้นไปที่รถ

แต่สิ่งที่ตามมาไม่หยุดหย่อน…

ปัญหามันก็เริ่มมาจากคุณ

อีกแล้ว….

“ขอร้อง คุยกับผมเถอะ ผมไม่อยากจะเลิกกับคุณ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดแล้ว”

เสียงสะอื้นไห้ดังลอดขึ้น

แฟนคนนี้แอบแปลกใจยิ่งนัก

แต่สีหน้าก็ยังคงเดิม

ฉายชัดถึงความเย็นชา

เหลือบมองคนข้างหลังที่ทิ้งตัวลงคุกเข่า

ยื่นแขนรั้งเรียวขาของแฟนคนนี้ไว้

ฝ่ามือเกี่ยวกระหวัดไปที่ท่อนขา

นัยน์ตาของคุณแดงก่ำเผยถึงความชอกช้ำ

ร้องไห้

เจ็บใจ

คุณช่างน่าเอ็นดู

ระคนน่าสมเพชอยู่ในที

“ผมยอมทุกอย่าง”

หืม…

“จริงเหรอ ?”

จะใช่จริงๆ เหรอ ?

อดไม่ได้จะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

เพราะอยากรู้นัก…

อยากรู้เหลือเกิน

ว่าไอ้ถ้อยคำที่ยอมทุกอย่างของคนเรา

มันทำได้ถึงขั้นไหนกัน

“กล้าจูบเท้าของผมไหมล่ะ ?”

คุณเงยหน้ามองทันที

“ถ้าคุณให้อภัยผมก็ทำ”

แฟนคนนี้ไม่ตอบ

เลือกที่จะเงียบ

จับจ้องคนที่น้ำตาไหลพรากไปตามผิวแก้ม

คุณแหงนหน้าขึ้น

พินิศแฟนคนนี้ที่ทำสีหน้าเบื่อหน่าย

ไม่ได้ปรากฏเค้าอารมณ์

ทั้งที่ภายในใจ…

ยากเกินจะคาดเดา

ก็ได้แต่พินิจดูคนตัวโต

จับจ้องอิริยาบถการเคลื่อนไหว

สิ่งที่น่าขนลุกคือคุณยอมทำตามดั่งคำพูด

ทิ้งศักดิ์ศรีที่ควรพึงมี

ทิ้งความโอหังทั้งหมดทั้งปวง

ทิ้งความละอายใจ

เพราะอยากรักษาแฟนคนนี้ไว้

แฟนคนนี้ที่ทำดีกับคุณทุกอย่าง…

แต่กลับได้รับบทเรียนที่แสนตราตรึง

แทนซะงั้น…..

“…”

ใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำ

ลำตัวกระตุกสั่นไหวเพราะการร่ำไห้

ริมฝีปากตีตราประทับ

จุมพิตลงที่รองเท้าผ้าใบสีขาว

ทุกการกระทำช่างแสนจะอ้อยอิ่ง

เชื่องช้า

เบาหวิว

พานให้หัวใจสั่นไหวเจือจาง

และวกกลับไปเรียบนิ่งคงเดิม

สาเหตุมีเพียงประการเดียว…

คือสิ่งที่คุณทำ

กับสัมผัสที่ตอกย้ำในความทรงจำ

ให้แฟนคนนี้ไม่หลงลืม

ไปอีกนาน…

“ขอบคุณ”

ยิ้มเย้ยหยันในทันใด

เพราะชอบใจ…

ชอบในความเจ็บปวดที่คุณควรมีเอาไว้

อยากให้คุณได้บทเรียนล้ำค่าในชีวิต…

ไม่ต่างจากแฟนคนนี้

อยากให้ฝังลึกในโสตประสาท

ระลึกได้แม้แต่ปัจจุบัน

ตายไปก็ขอให้มันย้ำเตือนเอาไว้

ให้มันกลายเสี้ยนหนามทิ่มแทงใจ

คอยกรีดแทง…

อย่างหนักหนาสาหัส

แล้วคุณจะเข้าใจเอง…

คุณจะพูดกับตัวเองได้เอง..

ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า…

ว่าไอ้การหักหลัง

เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ

เรื่องความเชื่อใจ...

มันคือสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้

ทะนุถนอมมันเอาไว้

ประคับประคองเอาใจใส่เอาไว้

อย่าได้บิดพลิ้วสักนิดเดียว

เพราะผลลัพธ์ที่ตามมา…

อาจไม่ค่อยเป็นที่พอใจสำหรับคุณ

“อย่าได้ไปทำแบบนี้กับใครอีก”

จับใส่กระโหลกเอาไว้ให้ดี

“เพราะคงไม่มีใครชอบ”

“…”

“ขนาดตัวกูเองยังไม่ชอบ”

ถ้อยคำหยาบจึงตามมา

ทิ้งด้วยด้วยคำว่า…

“แล้วใครเขาจะไปทนกับมึง”

.
.
.

บนรถที่เงียบสงบ

ไร้คำพูด

เพลงก่อนหน้านี้ที่คลอขึ้นมาช่างแสนจะเศร้าสร้อย

ท่วงทำนองตอกย้ำถึงความเจ็บปวด

เนื้อหาบ่งบอกถึงการหักหลัง

ก่อนจะถูกกดปิดด้วยน้ำมือของใครอีกคน

“ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไหม”

ใบหน้าคมคาย หล่อเหลาราวกับถูกจิตรกรปั้นแต่ง

นัยน์ตาที่เคยปิดสนิทพลันลืมขึ้น

ช้อนตามองบุรุษที่หันมามองอย่างเป็นห่วงเป็นใย

ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ

“มือของคุณช้ำ งั้นไปหาหมอแทนละกัน”

อีกฝ่ายเอ่ยบอก

ก้มลงมามองเรียวแขนเล็กที่เริ่มปรากฏชัดเป็นสีเขียว

“ไม่เป็นไร”

เลือกที่จะปฏิเสธไม่ใส่ใจ

ส่ายหน้าไปพลาง

เอี้ยวมองริมถนน

รถยนต์เคลื่อนผ่าน

ก่อนจะตัดสินใจชี้นิ้วไปที่ตอกมืด

ไร้ผู้คน

ไร้ยานพาหนะขับผ่าน

เป็นสถานที่เปลี่ยวที่ไม่ค่อยมีใครพบเห็น

ใกล้จะถึงบ้านตัวเองแล้วแท้ๆ

แต่จอดตรงนี้แหละ

ขี้เกียจมาทนรอ

ครั้นรถยนต์จอดผ่าน ความเคลื่อนไหวก็หยุดลง

ฝ่ามือขาวก็ปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย

ยื่นหน้าไปหาคนที่อยู่ด้านข้างในทันที

ประคองใบหน้าคมคาย

แลบลิ้นดุนดันเข้าไปที่โพรงปากร้อนชื้น

เป็นฝ่ายรุกเร้า

เป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยความต้องการ

ก่อนจะถูกตอบสนองตอบกลับมา

พลางเหยียดกายขึ้นเล็กน้อย

ตวัดขาขึ้นคร่อมฝั่งคนขับ

ดับเครื่องยนต์จนไร้สรรพเสียง ไม่แม้กระทั่งแสง

แทนที่ด้วยความมืดมิดที่ปกคลุม

แทนที่ด้วยเสียงครวญครางของคนเรา

เสื้อผ้าเบื้องล่างถูกปลดเปลื้อง

มือไม้เป็นระวิง

สัมผัสแตะต้องที่ต้นคอ

โอบรัดเอาไว้

พิงพนักในบางจังหวะ

ส่งเสียงหวานล้ำที่แหบพร่าในบางที

ทุกครั้งที่มีการเสียดสี

ทุกครั้งฝ่ามือลูบไล้ไปที่เอวคอดกิ่ว

ขณะที่อีกคน…

ทุ้มขรึมเป็นที่พอใจ

ใบหน้าเรียวเชิดหน้าขึ้น

พลันก้มมองบุรุษที่อยู่ข้างล่าง

ก่อนจะแยกขาออกกว้าง

กดสะโพกตัวเองดูดกลืนไปกับสิ่งสงวน

อีกฝ่ายเหมือนมีเพลิงโชติที่รุกโชน

ฉายชัดถึงความปรารถนา

เส้นเลือดถึงขนัดอย่างแข็งขืน

จับจ้องสีหน้าที่คล้ายปรีดาของคนผู้นี้

เผยออ้าปากออกกว้าง

กรีดร้องปานร่ำไห้

“อะอ๊า”

เพราะอยากลบล้างรสสัมผัส

อยากให้แทนที่ด้วยคนอื่น…

ใครก็ได้ที่ไม่ใช่มัน

ใครก็ได้ที่ไม่ใช่บุรุษผู้นั้น

ใครก็ได้ที่สามารถทำให้ตนพอใจ

พลางขบเม้มความนุ่มหยุ่นในบางครั้ง

ก่อนอ่อนระทวยยามถูกดูดเม้มที่แผงอกนุ่มหยุ่น

ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้า

ชวนสั่นสะท้านยิ่งนัก

พอใจยิ่งนัก

รวมไปถึงสิ่งใต้ร่าง..

ก็ใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าใครบางคน

สนองตัณหาทั้งหมดทั้งปวง

“ระ แรงๆ อะ ฮ้า”

“อึก ! คุณ”

“ลบสัมผัสพวกนั้นที”

“…”

“เอาผมแรงๆ”

เอาให้เสียวสะท้านไปทั้งตัว

ก่อนจะควงสะโพกตัวเองกับสิ่งใต้ร่าง

สะโพกบดเบียดกับสิ่งหยาบโลน

ตอดรัดความผงาดที่กระทบจุดกระสัน

พลันถูกกระแทกสวย

ลำตัวเปลือยเปล่าจึงกระเด้งไปมาอยู่เบื้องบน

“อึก อื้มมม !”

เสียงหนั่นเนื้อกระทบกันแน่น

แต่สิ่งที่ต้องการก็มีแค่ประการเดียว…

อยากลบเสียงในหัวออก

เสียงของคนผู้นั้น

สัมผัสที่เคยทิ้งท้ายเอาไว้

จูบที่เคยมอบมาให้

ความใหญ่โตที่เคยชำแรกเข้ามา

อยากให้มันหายไป…

“เอาจนกว่าคุณจะพอใจ”

เพราะบางคน…

ของดีอยู่ใกล้ตัว

แต่ไม่เคยเห็นถึงคุณค่าของมัน

“อ่าห์”

“คบกับผมไหม”

เป็นประโยคร้องขอ

จากคนแปลกหน้า…

ที่เพิ่งเคยเจอ

แม้จะรวดเร็วเหลือเกินนัก

“ตะ ตามใจ อะ อ๊า”

ตอบออกไปอย่างปลงๆ

ปล่อยให้ตัณหามาครอบครอง

ยามนี้ในหัว…

คงมีแต่ความคิดที่ว่า…

เบื่อความรักสิ้นดี

และก็พอกันที

กับการเสแสร้งเป็นคนดี


ใครจะมาคบก็คบไป

แต่คงยากเกินจะให้เต็มร้อย…

กับความรักที่เคยมี

ไม่อยากพยายามอีกต่อไปแล้ว

ให้เป็นฝ่ายที่ถูกประคับประคองบ้าง…

ก็คงดี

.
.
.

ห้าปีผ่านไปใครจะไปคาดคิด

ว่าบุรุษที่เพิ่งเคยเจอในวันนั้น

จะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำคำนี้…

แถมยังรักษาความสัมพันธ์ได้ดียิ่งกว่าใครบางคน

“แต่งงานกับผมนะ”

ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี…

น่ายินดียิ่งกว่าคนคนนั้น

ปัจจุบันก็ได้แต่เดินสวนผ่าน

แสร้งทำเป็นไม่รู้จักกัน

เพียงเพราะผมคนนี้ไม่อยากจะคุย

“อืม”

ตอบตกลง

ให้กับคนที่ถักทอความทรงจำ

ยื่นแหวนเงางามที่เจียระไนมอบมาให้

เขาเป็นคนดี…

ดีมากเลยล่ะ

ดีจนไม่อยากจะเชื่อ

ทะนุถนอมความสัมพันธ์ของเราได้ดี

ฉับพลันก็อุ้มผมคนนี้จนตัวลอย

“ฮ่าๆๆ ผมรักคุณจัง !”

เขาแย้มยิ้มสว่างไสว

ไม่ต่างจากผม…

มอบให้กับผู้ชายที่คอยปกป้องคุ้มกันภัย

เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขยิ่งกว่าเคยมีมา

แด่คนแปลกหน้า…

ที่แปรผันเป็นคนรักที่แสนดี


END
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : เพียงนิรันด์ END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 19-04-2019 03:20:20
เพียงนิรันด์ (END)


คุณเคยไหมกับการแอบรัก

เคยไหมกับการแอบชอบใครคนหนี่ง

แรกเริ่มด้วยการมอง

แรกเริ่มด้วยการสบตา

แปรผันเป็นชื่นชอบ

จับจ้องทุกอิริยาบถในท่าทางของเขา

ทำไมกันนะ ?

ทุกครั้งที่อีกฝ่ายอยู่ท่ามกลางผู้คน

เราจะเห็นเขาเด่นหราอยู่เพียงผู้เดียว

ราวกับว่า…

ทุกสิ่งที่เคยเห็น

คงมีแค่เขา

แค่เขาคนเดียวที่เด่นชัด

ความรู้สึกในใจก็พลอยเต้นระรัว

หายใจติดขัด

เหมือนชีพจรเต้นผิดจังหวะ

เพื่อนๆ ที่รู้เข้าก็เริ่มเอ่ยแซะ

เริ่มบอกกับเราว่า…

“มึงชอบเขาอ๋อ กิ้วๆ”

กลายเป็นคำหยอกล้อในท้ายที่สุด

กลายเป็นเรื่องชวนแกล้งในยามขบขัน

ครั้นเดินผ่านคนที่ชอบ

เพื่อนจะกระแซะมาทางเรา

เอาศอกสะกิดบ้างในบางจังหวะ

ผลักเราให้กระเถิบไปหาเขาในบางครั้ง

บ้างก็ฉวยโอกาสให้เราได้ใกล้ชิดกับคนตรงหน้า

ตอนนั้นอยากจะขอบคุณเพื่อนๆ มากเลย…

ทุกวันนี้เราถึงได้คบกับเขา

เราจึงได้คบกัน

พี่เขาน่ารักมากเลย

เป็นผู้ชายที่แสนดี

ดีทุกอย่าง

ดีจนน่าแปลกใจ

แต่เสียส่วนใหญ่มันเป็นเพราะเรามากกว่า…

เราที่ยอมทุกอย่างให้กับคนที่ชอบ

ยอมให้อภัย

ยอมเป็นฝ่ายง้อทุกครั้งเวลา

ทะเลาะ

หวังรักษาความสัมพันธ์

ครั้นพี่เขาสอบเข้ามหาลัยติด

แรกๆ มันก็ดีอยู่หรอก

แต่พักหลังๆ เริ่มขาดการติดต่อ

บ้างก็อ้างว่างติดงานมหาลัย

เสาร์อาทิตย์เราเลยมีโอกาสไปหาเขา

ไปนอนค้างที่หอ

พี่เขาดีใจมากที่เจอเรา

เราได้กอดกัน

จนกระทั่งตอนนั้นถูกจับนั่งอยู่บนตัก

สายตาของพี่หวั่นไหวมาก

ดูเร่าร้อนยิ่งนั้น

เราเลยอ่อนระทวยกับภาพเบื้องหน้า

ฝ่ามือประคองใบหน้าที่หล่อเหลา

ก้มหน้าลงไปจูบ

ท่าทางสั่นระริก

เพราะเป็นครั้งแรกที่เป็นฝ่ายเริ่ม

และเป็นครั้งแรกที่รู้ได้ดี…

ว่าหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร

เราถูกจับพลิกไปด้านข้าง

ล้มลงไปนอน

นอนอ้าซ่าอยู่บนผืนเตียง

ปลายนิ้วของพี่เขาสอดเข้ามาที่ชายเสื้อ

ลูบไล้สัมผัสบนผิวเนื้อเนียนลื่น

เราใจเต้นแรงมาก…

คล้ายกับว่ามีกลองตีระรัวอยู่ภายในอก

เลือดสูบฉีดไปตามกรอบหน้า

พวงแก้มมีสีเลือดฝาดแดงระเรื่อ

พลันครางสะท้ายเมื่อถูกเลิกเสื้อขึ้น

ปลายนิ้วไล่วนไปที่สิ่งชูชัน

เขาหยอกล้อกับแผงอกของเรา

ก้มลงไปบดขยี้

มอบความหฤหรรษ์ที่เราไม่เคยพบเจอ

มันวาบหวิว

สัมผัสเบาบาง

แต่โลดแล่นไปทั่วโสตประสาท

ทั่วสรรพางค์เลยขนลุกชู

เสียววาบที่ยอดอกเพริศ

ส่งผลกระทบต่อสิ่งเบื้องล่างให้ปรากฏเค้าอารมณ์

พวกเราจึงมีอะไรกัน…

เป็นครั้งแรกที่ถูกลิ้มรสด้วยเซ็กซ์

เป็นครั้งแรกที่เราได้ใช้ปากปรนเปรอ

ใหญ่มาก

คับปากเราจนแทบกลืนกินไม่หมด

ทำให้เราหลุดสำลักดังโครก

พี่เขายิ้มขำ

ลูบหัวเราอย่างเอ็นดู

ทุกการกระทำอ่อนโยนยิ่งนัก

เริ่มตั้งแต่ต้นยันจบ

ทุกอิริยาบถช่างแสนจะเอาใจใส่

เราได้รับความนุ่มนวลที่โถมกายเข้ามาหา

ขณะที่อีกคนกัดฟันดังกรอด

คลับคล้ายคลับคลาไม่อยากกระทำให้หนำใจ

เกรงกลัวว่าเราจะเจ็บแสบ

ช่างเป็นผู้ชายที่เอาใจใส่ยิ่งนัก

ช่างเป็นคนที่เหมือนหลุดพ้นออกมาจากนวนิยาย

อดไม่ได้ที่แอบขำกับคนตัวโต

ไม่ช้านาน…

เราก็ถูกกระแทกกระทั้น

ตัวสั่นโยนบนผืนเตียงกว้างขวาง

เกิดเสียงครางวาบหวิว

“อะ อ๊า”

เรียกชื่อขนานนาม

“พะ พี่เจมส์ อ๊ะ อื้ออ”

ถูกบดจูบขยี้มอบลงมา

“อึก อื้มมม”

เอื้อนเอ่ยถ้อยคำหวานหยดให้แก่เรา

“พี่รักเรา ฮ้า พี่รักมินนะ”

ทำเราลอบร้องไห้ด้วยความปรีดา

สดับรับฟังเสียงของพี่เขาที่เริ่มพร่ำเพ้อ

บอกกับเราว่ารักไม่หยุดปาก

จนทุกอย่างผ่อนผัน…

เสร็จสิ้นกามกิจ

เสียงหอบหายใจก็ค่อยๆ เจือจาง

เราจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปาก…

“มินรักพี่เจมส์นะ”

พูดออกไปโดยไม่กระดากอายแต่อย่างใด

.
.
.

การชอบพี่เจมส์ก็เหมือนชื่นชอบเน็ตไอดอล

เราคลั่งไคล้เขามากนัก

มีรูปพี่เขาเต็มไปหมด

เสียส่วนใหญ่จะนำมาแปะใส่ในไดอารี่

พูดถึงเขาในวันครบรอบต่างๆ นาๆ

วันที่พวกเราได้คบกัน

วันที่เราแอบหลงรัก

สาเหตุเพราะอะไร

ความหล่อล้วนๆ

แต่สักพักก็เพราะความดีที่เขามี

ความรักที่เขาถ่ายทอดให้แก่เรา

อีกแค่ไม่กี่วัน…

อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น…

ก็จะใกล้วันเกิดของพี่เจมส์แล้ว

เราจึงตั้งใจทำไดอารี่นี้มาก

มันมีแต่รูปของพวกเรา

รูปที่แอบถ่ายพี่เขาในยามเผลอ

ชายหนุ่มที่หันไปมองทางทิวทัศน์

ใบหน้าขาวกระจ่างใส

ดวงตาเรียวคม

จมูกโด่งสัน

ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ

สุขภาพดีตั้งแต่ผิวพรรณ

[ผมรักพี่มากนะ]

เป็นประโยคพรรณนาถ้อยคำสุดท้าย

สิ่งที่ถักทอประเดประดังทั้งหลายแหล่

เราถ่ายทอดออกมาหมดเปลือก

ครั้นถึงวันเกิด…

เรานัดเจอกับพี่เจมส์ที่ห้าง

เราพกไดอารี่ไปด้วย

ผูกโบว์เล็กน้อย

ไม่จำเป็นต้องห่อแต่อย่างใด

คิดจะยื่นให้ทันทีตอนเจอกัน

“มินนน !!”

เสียงพี่เจมส์ตะโกนเรียก

เราเห็นเขาอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน

ความหล่อเหลาทบทวีทุกครั้งที่แย้มยิ้ม

ทุกวันนี้…

ถึงหลงพี่กู่ไม่กลับนี่ไง

ไอ้เจ้าคนบ้า…

ไม่รู้จะหล่อไปไหน

ครั้นเดินมาถึงก็กลับถูกล็อกคอ…

จากใครก็ไม่รู้ที่อยู่ข้างหลัง

ตามมาด้วยเสียงหวีดร้องของผู้คน

ส่วนเราเห็นแต่สีหน้าของพี่เจมส์ที่เบิกตาโพลง

เขาหน้าซีดเผือด

เรียกชื่อเราอีกครั้งนึง

แต่ดังยิ่งกว่าที่เคยมีมา

ตื่นตระหนกคร้ามเกรงกับสิ่งที่เห็น

เพียงเพราะมีปืนจ่อลงที่หัวของเรา

“มินนน”

“อย่าเข้ามา พวกมึงอย่าเข้ามา ถอยออกไปสิวะ !”

เสียงแหบแห้งดังลั่นอยู่ข้างกกหู

คล้ายพวกจิตวิปลาส

แต่แท้จริงนั้นก็แค่โจร…

โจรที่หลีกหนีเพราะการลักลอบขนขโมย

เรากลัวมาก

มือไม้สั่นระริก

ข่มตาหลับแน่น

ไม่ยอมมอง

สะดุ้งตกใจทุกครั้งที่ปลายกระบอกปืนจ่อลงบนศีรษะ

มือกุมของที่ถืออยู่แน่น

หวังให้มันเป็นสิ่งที่พอบรรเทาความคร้ามเกรง

ของก็ยังไม่ให้

แต่ดันมีชะตาที่ซวยไปอีก

รู้สึกชีวิตบัดซบสิ้นดี

จวบจนกระทั่งพี่เจมส์ตื่นตระหนก

คล้ายจะถลาเข้ามาหา

เพียงเพราะปลายกระบอกปืนทิ่มกระแทกไปมาคล้ายจะยิง

พี่เขาแค่ก้าวนิดเดียวเท่านั้น

นิดเดียวจริงๆ

โจรคนนั้นเลยหันปืนไปหาชายที่เรารัก

เราส่งเสียงกรีดร้อง

“ม่ายยย !”

รีบยื่นมือไปจับเรียวแขนให้ลดต่ำลง

กระสุนยิงลงที่พื้นอย่างเฉียดฉิว

เรารีบอาศัยจังหวะโดยการก้มลงไปกัด

กัดไม่ยั้งแรงกับท่อนแขนอีกข้างของชายฉกรรจ์

หวังให้มันหลุดออก

“อ๊ากกก !!”

เสียงเจ็บริ้วจึงตามมา

ครั้นผละกายออกห่างก็รีบวิ่งไปหาพี่เจมส์

คิดว่าอย่างน้อยตำรวจคงอาศัยจังหวะในท่วงที

แต่ไม่คิดเลย…

ว่าโจรจะชิงไหวชิงพริบได้ดีกว่า

ปัง !!

เสียงกระสุนจึงดังลั่น

เรารู้สึกชาที่แผ่นหลัง

สักพักก็เจ็บเกินจะทัดทาน

ฉุกคิดขึ้นมาว่า…

คงเป็นเรื่องตลกร้าย

ฮ่าๆ

ต้องใช่แน่ๆ

บ้าไปกันใหญ่แล้ว

ใครจะไปซวยขนาดนั้น

เข่าพลันอ่อนแรง

ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาใครบางคนที่ยืนน้ำตาคลอ

“ไม่ ฮึก ! ไม่นะมิน !!”

พี่เจมส์รีบวิ่งแจ้นมาหา

แต่ไม่ทันเท่ากับร่างของเราที่ล้มคว่ำคะมำ

ปลายจมูกกระแทกลงกับพื้น

สัมผัสถึงน้ำเหนียวหนืดที่ไหลทะลักออกจากกาย

สายตาของเราพร่าเลือน

เสี้ยววินาทีก็ถูกประคองจากใครบางคน

“พี่เจม…”

เราส่งเสียงแหบแห้งคล้ายคนขาดน้ำ

พานมึนหัวไปหมด

มือคล้ายไร้เรี่ยวแรง

แต่ก็พยายามยกแขนขึ้น

ยื่นไดอารี่ที่ดันเปรอะเปื้อนหยาดโลหิต

เปื้อนจนได้…

เราแอบนึกเสียดาย

แต่ก็พยายามเค้นยิ้ม

ส่งสายตารักใครให้กับคนตัวโต

อวยพรให้กับคนตรงหน้า

“แฮปปี้เบริด…”

ฉับพลันก็ไร้เรี่ยวแรง

ทั้งที่ปกติในละครจะได้เอื้อนเอ่ยประโยคส่งท้าย

อย่างน้อยก็จบคำพูดในการลาโลก

แต่ไม่รู้ทำไมเราถึงอ่อนแรงยิ่งนัก

นัยน์ตาพลางดับวูบลง

เริ่มหายใจแผ่วเบา

อาจเพราะว่าเลือดมันไหลเยอะมากเกินไป

ความง่วงงุนจึงเข้ามา

ได้ยินเสียงร้องของพี่เจมส์ที่เรียกชื่อเราไม่ขาดปาก


เราอยากจะบอกเหลือเกินนัก

ว่าอย่าร้องไห้ไปเลย…

มันไม่ใช่ความผิดของพี่หรอก

แต่ก็อยากจะขอโทษนะ…

ที่ทำให้วันเกิดวันนี้…

กลายเป็นฝันร้ายไปซะได้

แต่พี่เจมส์…

พี่ลองเปิดไดอารี่ดูนะ

มันจะมีข้อความหนึ่งที่มินเขียนเอาไว้

[มินจะรักพี่ตลอดไป]

เป็นคำหมายมั่นสัญญาของเด็กคนหนึ่ง…

ที่ใฝ่ฝันอยากอยู่กับคนที่รัก

จวบจนกระทั่งหมดลมหายใจ

ถึงแม้ตอนนี้…

จะไม่สามารถอยู่เคียงข้างได้ดั่งใจต้องการ

.
.
.

กาลเวลาเดินผ่าน

แต่ความรักนั้นไม่เคยแปรผัน

มินหัวเราะกับสีหน้าของพี่ยามขมวดคิ้ว

อยากจะถามเหลือเกินว่าจะเครียดไปไย

ทำหน้าบึ้งตึงอยู่ได้

แต่ก็น่ารักดีนะ

ถึงได้มองไม่รู้จักเบื่อ

เมื่อไหร่พี่จะเลิกขมวดคิ้ว

ชอบเป็นไบโพล่าร์เวลามองสมุด

มินจึงเดินเข้าไปหา

ทำปากยู่กับภาพของเราสองคนที่ถูกเปิด

เป็นภาพที่พี่กำลังหอมแก้มมิน

น่าอายยิ่งนัก…

“เมื่อไหร่จะเลิกดู”

“คิดถึงมินจังเลยนะ”

พี่ตอบออกมา

ก่อนจะลุกขึ้นยืน

เดินผ่านร่างของมินไป

ทิ้งตัวลงบนตั่งเตียง

มินได้แต่จับจ้องพี่ที่นอนร้องไห้

ตัวมินเอง…

ก็พลอยร้องตาม…

หากพี่ไม่ปล่อยวาง

ชอบโทษตัวเองแบบนี้

มินก็คงไม่กล้า…

ไม่กล้าที่จะไปเกิดใหม่

“มิน ฮึก ฮืออออ มิน”


พระเจ้า…

ผมอยากให้เขาเลิกร้องไห้เหลือเกินนัก

ผมจะต้องทำยังไง

ทำยังไงพี่ถึงจะหายจากอาการพวกนี้


แต่แล้วพี่ก็หายจริงๆ

มินไม่สามารถทำอะไรได้…

ไม่สามารถขัดขวางอะไรได้เลย…

ได้แต่มองพี่ตัวลอยอยู่เหนือพื้น

หัวลอดผ่านเชือกที่คล้องคอ

ดวงตาเบิกถลน

ไร้ลมหายใจอย่างที่เคยเป็น

“มิน”

เสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง

ทำให้มินต้องหมุนกายหันไปมอง

“พี่เจมส์ ฮึก ฮือออ”

รีบถลาไปสวมกอดอย่างรวดเร็ว

คงเหลือทิ้งไว้แค่กายา

นอกจากจิตวิญญาณของเราสองคน


“พี่คิดถึงมิน”


END
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : เพียงนิรันด์ END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 19-04-2019 03:36:02
ตลอดไปจริงๆด้วย
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : เพียงนิรันด์ END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Fufufeel ที่ 19-04-2019 12:40:03
แต่งดีมากเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 19-04-2019 15:30:01
จดจำไม่รู้ลืม (END)


คนเรารักกันก็มีแต่เพิ่มพูนความสุข คอยประคับประคองเอาใจใส่ หมั่นดูแลอบรมสั่งสอนกับวิถีชีวิต ครั้นคบกันมานานปี ผ่านพ้นเป็นอดีตกาลยาวนานมาถึงห้าปี

เคยจำได้ไหมว่าบอกรักกันเป็นกี่ร้อยครั้ง? ริมฝีปากที่ทาบทับลงมากันกี่พันหน สัมผัสนุ่มนวลและรุนแรง ปรารถนารักใคร่จับจอง ทิ้งรอยฝากฝังด้วยความหึงหวง สิ่งเหล่านี้เราเคยทำร่วมกันมานานปี แต่คนเฉยชาดันไม่ใช่ใคร…

เริ่มตีตัวออกห่าง สร้างอาณาเขตไม่เหมือนแต่ก่อน

เราจูบกันน้อยลง…

หันหลังให้กัน

ไม่พร่ำบอกรัก

และยากนักหากคิดจะเอ่ยปาก

ดวงตาของคุณไม่เหมือนแต่ก่อน มันมีแต่ความเย็นชาและไร้เยื่อใยสร้างความเจ็บปวด หากหันกลับมามองคนรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต คุณจะเห็นหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาจนแทบเจียนตา…

จากคนรักที่รักคุณทั้งหัวใจ

คุณหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เราร่วมสร้างกันมา
   
บัดนี้วันครบรอบไม่มีเหลือ จางหายราวกับเรื่องธรรมดาสามัญชน แม้แต่สถานที่ที่เคยจับมือกันในยามบอกรัก ความสุขที่เราเคยให้กันในยามเสพสม

คุณบอกว่ามันไม่ใช่เพราะความใคร่ แต่เป็นเพราะความรัก

แต่คุณดันโกหก… เพราะคุณไปแสดงความรักให้กับคนอื่น

ตอนนี้มันเป็นของคนอื่นไปหมดแล้ว…

ความรักของคุณมันเป็นแบบนั้นไปหมดแล้วจริงๆ…

เพราะความเหี้ยของคุณจริงๆ….

รอยลิปสติกยังติดอยู่ที่ปกคอเสื้อของคุณ

คุณไม่ได้เป็นคนซัก แต่คนซักไม่แม้กระทั่งเศษผ้าผืนน้อย

ก็ดันรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เคยมองข้ามไป

เราเคยออมเงิน วางแผนอนาคตมาเนิ่นนาน สร้างบ้านเป็นของตัวเองในท้ายที่สุด หวังจะรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดูแล รักเสมือนลูกคนหนึ่งที่เติมเต็มความเป็นพ่อและแม่ให้กับเขา

คุณบอกว่าจะทำให้ผมมีความสุขในทุกๆ วัน คุณบอกว่าต่อจากนี้จะทำให้ผมมีแต่รอยยิ้ม

สร้างอนาคตไปพร้อมๆ กัน

“หึ”

ตอนนี้มันเริ่มเน่าเฟะไปหมดแล้ว…

แหวนมั่นที่เคยสวมให้บนนิ้วนาง ริมฝีปากที่ก้มลงมาจุมพิตบนหลังฝ่ามือ

ก็ไม่รู้ทำไม

ก็ไม่รู้ทำไมตอนนี้…

กลับกลายเป็นไร้ค่าขึ้นมาทันตา

แต่มันก็ดีอยู่อย่าง…

โชคดีอยู่อย่างนึง…

โชคยังดีที่เราสองคนไม่ได้รับเด็กมาเลี้ยงดูแล

นั่นก็เพราะปานนี้คงไม่มีความสุขให้เขาเห็น

เดี๋ยวนี้คุณเย็นชานัก ไม่เห็นคุณค่ากันและกันเลยสักนิด แตะเนื้อต้องตัวยังน่ารำคาญ ทุกๆ การกระทำบ่งชี้แน่ชัดว่าถึงจุดจบ

ฮ่าๆ

ห้าปี

ห้าปีเลยนะที่เราอยู่ร่วมกัน

ห้าปีเลยนะที่ต้องพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง

ต่อให้เป็นวัน เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน และเป็นปี อีกสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้กันมา ความทรงจำที่ถักทอและแบ่งเบาจากความทุกข์สุข คอยให้กำลังใจในกันและกัน

ต่อให้เป็นเพียงแค่วันเดียว แต่การได้รักใครสักคนหมดหัวใจ มีความผูกพัน มันลำบาก… มันยาก… และมันเจ็บ หากคิดจะตัดใจ

คุณเคยเห็นใครคนหนึ่งร้องไห้กันบ้างไหม ? คล้ายหัวใจนั้นกำลังฉีกขาด…
 
คนในตอนนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากเรื่องเล่าที่กล่าวขาน

เขาว่ากันว่า…

จงร้องไห้ให้ถึงที่สุด ระบายความทุกข์ให้มากที่สุด และมันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มันจะพอทุเลาในสิ่งที่เป็น

ใจจริงมันก็ดีขึ้นนะ แต่มันก็ยังเจ็บซ้ำซากเสียอยู่ดี ใต้ตายังบวมและแดงก่ำ จมูกแดงไม่แม้กระทั่งฝ่ามือที่ชอบทุบตีลงที่พื้น

ระบายความเจ็บปวดอยู่ภายในหัวใจ…

ก็เพราะรักคุณหมดหัวใจนี่ไง ไม่ได้รักใครชอบใครไปวันๆ…

จะตัดใจยังไงก็ทำไม่ได้…

แต่ก็ได้แต่บอกตัวเอง

เข้มแข็งเข้าไว้นะ…

“เราเลิกกันเถอะ”

เป็นคำพูดง่ายๆ ของคนหมดรัก จุดจบหายนะของคู่รักที่ไม่ลงเอยในท้ายที่สุด แต่คนเอ่ยปากไม่ใช่ใครนอกจากแฟนคนนี้
 
แฟนที่ถูกคุณหันหลังไม่ยอมบอกเลิกกันเสียที

คุณกักขัง ยึดเหนี่ยวจิตใจที่เปราะบางจนด้านชา ความอบอุ่นในคราก่อน แปรผันเป็นความหยาบช้าและรุนแรง บันดาลโทสะที่เรียวแขนเล็ก จ้องทะมึนเข้ามาในดวงตาที่วูบไหว

เคยจำได้ไหมว่าคุณจับแขนนี้ได้นุ่มนวลมากแค่ไหน? แววตาอ่อนโยนมากเพียงใด? แต่ครั้นมาปัจจุบันมันกลับแตกต่างจากอดีตเสียยิ่งนัก

“ฉันไม่เลิก!!”

แล้วทำไมถึงทำร้ายจิตใจ  ?

ทำไมถึงหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ?

‘ฉันท้อง’

เสียงผู้หญิงที่ได้พบเจอ นัดแนะเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกของกันและกัน หนึ่งในนั้นล้วนเป็นหัวข้อของคุณทั้งสิ้น กับคำอิดออดที่ว่า…

คบหาดูใจกันมานานแค่ไหน รักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นคำถามที่ต้องกลั้นน้ำตาทั้งหมดให้ขังอยู่ภายใน

คุณนัดเจอกับเธอหลายครั้งหลายครา บ้างก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านของเราเหมือนเช่นทุกวัน จนคนที่อยู่ในช่วงสับสนและหวาดหวั่น ต้องหาหลักฐานผ่านมือถือและข้อความคน

คุณไปหาเธอ ร่วมสุขสรรกับความหรรษาบนผืนเตียงที่กว้างขวาง คงพร่ำบอกรักและสร้างความเชื่อมั่นให้กับเธอ… ว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันไปนานๆ

แฟนคนนี้กำลังตัวสั่นระริก ร้องไห้จนตัวโยน ไม่ทันจะได้เอ่ยปากย้ำประโยคดังเดิม กลับถูกมือหนาฉุดให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ กระแทกเท้าปึงปังเข้ามาในห้อง ผลักดันประตูและเหวี่ยงร่างนี้ให้ล้มลงไปนอนบนตั่งเตียง

ช่างแย่ชะมัดเลย…

คุณเคยทำรุนแรงกับแฟนคนนี้หรือ?

ก็ไม่เคย

แต่ตอนนี้คุณดันเอาอารมณ์เกรี้ยวกราดมาระบายผ่านร่างกาย

“ฉันไม่มีวันเลิกกับนาย!”

ซ้ำยังบีบขย้ำที่ต้นขา ลากกายนี้ให้เขยื้อนเข้าไปหา ล้มตัวทาบทับลงมา พลางใช้จุดยุทธศาสตร์สัมผัสกับสะโพกที่โดนบดเบียด

คุณกำลังแสดงความหยาบคาย คุณกำลังฉีกทึ้งเสื้อยืดให้ขาดวิ่น ยื่นใบหน้าคมคายเข้ามาซุกไซ้ที่ลำคอ

“ฮึก!” คุณจะกักขังแฟนคนนี้ไปอีกนานแค่ไหน

“อย่าทำแบบนี้”

นี่คือคำร้องขอ

คำแห่งการวิงวอน

หวังเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะหยุดยั้งกับอารมณ์ที่กู่ไม่กลับ

ไม่คิดจะถามสาเหตุกันหน่อยเหรอ? สาเหตุที่ต้องบอกเลิกกับคุณ

รู้ไหมว่าทุกวันนี้จะเรียกคำว่า ’แฟน’ ยังช่างกระดากอาย

เธอคนนั้น กับแฟนคนนี้ ต่างก็รู้ซึ้งถึงสิ่งชั่วช้าของคุณกันทั้งนั้น

แต่สิ่งที่ยึดเหนี่ยวคือการที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องตั้งท้อง ฐานะและเสาหลักของพื้นฐาน จะขาดแคลนใครไม่ได้ถ้าไม่มีคำว่า ‘พ่อ’ เหมือนดั่งครอบครัวทั่วไป

ลูกที่กำลังถือกำเนิดจากผู้หญิงคนหนึ่ง หยาดเลือดเชื้อไขล้วนเป็นของคุณทั้งสิ้น ต่างจากคนคนนี้ที่ถือกำเนิดบุตรไม่ได้เลย

ดีที่ไม่สามารถมีลูกได้…

นั่นก็เพราะไม่ต้องมานั่งผูกมัดกับคนอย่างคุณ…

ฉะนั้นจบกันเถอะ หยุดสิ่งโสมมแต่เพียงเท่านี้ เพราะแฟนคนนี้มันช่างอ่อนแอยิ่งนัก กำลังจะตายช้าๆ ผ่านน้ำมือคน

คุณกำลังขืนใจ ทั้งที่ผ่านมาคุณไม่เคยล่วงเกินแฟนคนนี้โดยไม่เต็มใจ

เสียงครางของแฟนคนนี้ไม่ได้สุขสม หากจับใจความได้อย่างล้ำลึก คุณจะรู้ว่ามันคือเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวด ขอความเห็นใจ ไม่ได้หฤหรรษ์กับมือหยาบกร้านที่ปัดป่ายไปทั่วผิวนวล

มือที่ขย้ำบนผืนเตียงคือความอดทน แม้มันจะยับยู่ยี่มากเพียงใด แต่นั่นก็คือการบ่งบอกว่าต้องอดทนมากเท่านั้น

สิ่งที่กระทุ้งเข้าใส่ หวนนึกถึงแต่ก่อนคือความสุขสมอันปรีดา กลับต้องมาถูกกรีดกรายและขูดเข้ากับสิ่งพิศวาส ระบายความแสบเคืองผ่านผิวเนื้อ จิกเข้าที่ไหล่หนาให้รู้ซึ้งถึงอารมณ์ที่ร้าวราน

“ผมเกลียดคุณ”

“…”

“เกลียดในสิ่งที่คุณทำ”

“…”

“นั่นก็เป็นเพราะคุณ… เป็นเพราะคุณไม่เหมือนเดิม”

คนที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ใช่ใครเลย…

การทำผิดครั้งเดียวยังพอให้อภัย เหมือนที่คนสั่งสอนนักหนาว่าควรให้อภัยมนุษย์ด้วยกันแค่สามครั้ง แต่สำหรับคุณมันหนักหนาสาหัสเกินจะทนไหว

ครั้งที่สองและสามอาจจะไม่มีอยู่จริง

หากใครทนได้ก็ทนไป เพราะแฟนคนนี้กำลังยกสิ่งที่เคยรักให้ใครบางคนโดยไม่หวังผลตอบแทน

ปล่อยให้ห้าปีคือการเรียนรู้ เป็นความทรงจำดีๆ ที่เคยมีมา

รู้ไหมว่านาฬิกายังคงก้าวเดิน แต่ถ้าคนไม่เดินมันคงต้องตาย คำเหล่านั้นคือการฝ่าฟัน แม้คนหลั่งน้ำตาจะตายทุกวินาที

ขาดเขาเหมือนขาดใจ แต่ขาดเขาไป เราก็ยังมีตัวตน

“คุณเป็นคนทำลายทุกอย่างเอง”


.
.
.

เมื่อทุกอย่างมันพลิกผัน คนที่ต้องปรับสภาพกับสิ่งแวดล้อมให้กลมกลืนก็คือเรา…

แต่ในขณะที่คนคนนี้กำลังถูกขังมาเกือบเดือน

ทำตัวเย็นชาเสมือนหุ่นที่ไร้อารมณ์ในยามเสพสม

ทุกครั้งจะปัดป่ายปฏิเสธ

แต่บัดนี้ไม่มีอีกต่อไป

ตักข้าวเข้าปากก็ยังไร้อารมณ์

จวบจนกระทั่งวันเกิด…

คุณซื้อสเต๊กมาให้ทาน…

เนื้อของมันจำเป็นต้องใช้มีดกรีดกราย

แฟนคนนี้ได้แต่แหงนหน้ามอง

จับจ้องคุณที่มองอยู่อีกฝั่ง…

ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า…

ต้องหน้าด้านแค่ไหนกัน

ถึงจะสลับรางรถไฟเก่งถึงเพียงนี้

ไปอยู่กับเธอ

และก็มาอยู่กับแฟนคนนี้

ทำไมคุณไม่เคยเหนื่อยเลย ?

แต่พอเถอะ…

เหนื่อยเหลือเกิน

เป็นครั้งแรกที่จับอะไรนอกเหนือจากช้อนส้อม

คมมีดจึงกรีดลงที่ต้นคออย่างรวดเร็ว

สายเลือดพุ่งกระฉูด

กระจัดกระจายล้นทะลักต่อหน้าต่อตาชายฉกรรจ์

สีหน้าของคุณถอดสี

นัยน์ตาเฉียบคมเบิกกว้าง

ช่างน่าสะใจยิ่งนัก

ส่วนแฟนคนนี้คาดหวังเพียงอย่างเดียว…

ขอให้คุณจดจำไม่รู้ลืม


END
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-04-2019 15:39:46
เรื่องแรกแบบสะใจมากค่ะ หน้าเหน้อชาไปหมด ยอมขนาดจูบเท้า แต่เสียใจที่มันไม่ทันแล้ว เพราะหลัวใหม่ทั้งดีและใหญ่-- แค่กๆ

เรื่องสองนี่รอดูจุดหัก แต่ไม่ซะงั้น ขอให้ความรักของทั้งคู่เป็นนิรันดร์ค่ะ

เรื่องสามก็คืออยากอ่านพาร์คุณที่ไปมีคนใหม่หลังจากฉากปาดคอมากค่ะ อยากรู้ความรู้สึกเขาที่ไปมีคนใหม่ อยากเห็นเขาเจ็บปวดกับสิ่งที่ทำลงไป เหมือนตายทั้งเป็นและจดจำแฟนคนนี้ได้ไม่มีวันลืม ชอบมากกๆๆๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 19-04-2019 15:54:33
เห็นด้วยกับคุณหมีค่ะ อยากเห็นชีวิตนายคนนั้นหลังแฟนเอามีดปาดคอตัวเองไปแล้วว่าจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: megatef4 ที่ 19-04-2019 16:15:35
สะใจมากค่าา ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-04-2019 17:10:54
สะใจทุกเรื่องค่ะ ยิ่งเรื่องสุดท้ายนี่คือหลุดพ้นแล้วอ่ะ
ขอบคุณนักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: jimlimildly ที่ 19-04-2019 19:12:10
สะใจมากทุกเรื่องเลยค่ะ ใจดิ่งตามไปทุกประโยค อินไปด้วยมากๆ o13
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-04-2019 19:18:00
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: beindependence ที่ 19-04-2019 20:01:47
เป็นความสะใจหลายรูปแบบ ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องแรก อ่านๆ ไป ตบเข่า ป้าบ!! เหยยยยยย .. มันต้องอย่างนี้เซ่... o13 ฟินค่ะ ขอบคุณมากนะคะ สนองนีดมาก :heaven
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 19-04-2019 20:12:49
แต่งดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วอิน สะใจไปด้วยเลยบางเรื่อง ฮา
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Kiirojung ที่ 19-04-2019 22:10:52
 o13 สุดยอดเลยค่ะ อ่านแล้วเข้าใจอารมณ์ของตัวละคร  :pig4:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 20-04-2019 10:07:44
ชอบเรื่องที่ 2 ถึงแม่จุดจบจะไม่ดีนัก แต่ทั้งคู่ก็ได้เจอกัน....อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-04-2019 14:14:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : จดจำไม่รู้ลืม END) [18/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 20-04-2019 15:13:23
สำนวนแปลกใหม่มากค่ะ
กระชับ หนักแน่น ตรงไปตรงมา เห็นแต่ความดิบ ซ้ำเติมความเป็นมนุษย์
เนื้อหาก็กระแทกใจมากๆ
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ชอบทุกเรื่องมากๆ

ขอบคุณที่สร้างผลงานดีๆ มาให้อ่านนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END) [20/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 20-04-2019 20:09:41
จดจำไม่รู้ลืม : มิอาจหวนคืน (END)


กับบางสิ่งบางอย่าง...

ต่อให้อยากจะครอบครองอะไรกันนักหนา

ผมก็พร้อมที่จะมีมัน…

ไม่ว่าจะเงินทอง…

ความมั่นคงในชีวิต…

ความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน…

ไม่แม้กระทั่งความรัก…

ผมได้มันทุกสิ่ง

ต่อให้จะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวจากคนที่รัก…

ฉุกคิดนอกใจภรรยาที่คบมาห้าปี…

เพียงเพราะไปเห็นสิ่งสวยงามที่ล่อตา…

สิ่งเหล่านั้นมันก็แค่ผิวเผิน

มันก็แค่ผิวเผินจริงๆ

จนคุณเอ่ยปากบอกเลิก…

กลับเป็นผมเองที่ไม่ยินยอม

อยากกักเก็บคุณเอาไว้

ไม่อยากให้คุณห่างหายไปไหนเลย…

อยากจะให้อยู่ข้างกายผมไปนานๆ…

แต่คุณย้ำชัดทุกถ้อยคำ

ว่าอยากจะเลิกกับผม…

บอกกับผมว่าให้ไปดูแลผู้หญิงคนนั้นเถอะ…

สาเหตุเพียงเพราะคุณรับรู้เข้าแล้ว…

เข้าใจถึงความชั่วของผู้ชายคนนึงเข้าให้แล้ว

แอบคบกับสตรีคนนึง…

ที่ทำให้เธอต้องตั้งท้อง…

ทุกวันนี้คุณถึงได้เป็นเช่นนี้

ได้แต่นอนอิดออดอยู่บนผืนเตียง

สีหน้าเหมือนตุ๊กตาไขลานที่สิ้นสุดการเคลื่อนไหว…

แววตาของคุณหม่นแสง

ท่าทางนั้นดูหม่นหมอง

ไร้การแต่งแต้มบนใบหน้า

ไม่มีสิ่งประดับประดาของคราบน้ำตา…

ไม่มีความสุข

ไม่มีรอยยิ้ม

ไม่มีเสียงหัวเราะ

ไม่มีคำพูด

ไม่มี…

ไม่มีอีกต่อไป

ไม่มีอีกแล้วจริงๆ…

เรียวขาของคุณมีโซ่ตรวนที่กักเอาไว้

สาเหตุเพียงเพราะผมไม่อยากให้คุณหลีกหนีไปไหน…

ทุกครั้งที่ต้องเสพสมกับคุณ

เรือนกายที่ผมพร่ำเพ้อนักหนา

บ่งบอกให้คุณได้รับทราบ

ว่ามันสวย

ว่ามันเนียน

ว่ามันขาวนวลลออ

ว่ามันเซ็กซี่

พร่ำเพ้อเหมือนผู้ชายที่ลุ่มหลงในเรือนร่างอรชร

แต่สิ่งที่พูดออกไปในการรำพัน

ล้วนไม่บิดเบือนแต่อย่างใด…

คุณสวยจริงๆ นะ

ต่อให้จะทำสีหน้าแบบนี้

คุณก็ดูสวยจริงๆ…

แต่ผมไม่ชอบเลย…

ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยสักนิด

ทั้งที่การกระทำ

และคำพูดของผมคนนี้

ขัดแย้งสิ้นดี…

เพราะไม่รู้ซึ้งถึงผลลัพธ์ที่ตามมา…

“กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”

กลับมาเป็นคุณคนเดิม…

ผมพร่ำวิงวอน

กล่าวให้คนบนเตียงได้รับรู้

ทว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ ตอบกลับมา…

ทำให้ผมรู้สึกโกรธจัด

แอบคิดว่าคุณกำลังทำท่าทางตายด้าน

ยั่วโมโหให้ผมคนนี้มีนิสัยดิบเถื่อน

ผมจึงปู้ยี้ปู้ยำคุณอีกหน

อัดกระแทกไปที่ร่องหลืบเน้นๆ

“ครางออกมา !”

สั่งอย่างเหนือสิทธิ์

ราวกับมีอิทธิพลที่เหนือชั้น

มีสิทธิ์ครอบครองทุกอณูในกายา

ไม่แม้กระทั่งจิตวิญญาณที่ควรได้รับ

ผมอยากได้แฟนคนเดิมกลับมา

ต่อให้ผมจะเหี้ยบัดซบขนาดไหนก็ตามที…

ต่อให้จะดูชั่วช้า

เลวทรามต่อหน้าผู้คน…

ผมก็ไม่สนใจ

แต่ขอแค่เพียงอย่างเดียว…

อย่าทำตัวแบบนี้…

อย่าทำหน้าเหมือนคนไร้ชีวิตแบบนี้…

ทุกครั้งที่ร่างกายคุณถูกกระแทกกระทั้น

ท่วงท่าหยาบโลนจี้จุดกระสันภายใน

คุณก็ไม่ยอมร่ำร้องเลยสักนิด

ไม่มีเสียงสักแอะ

มีแต่ร่างกายร้อนชื้นที่ผุดเหงื่อ

มือไม้ปล่อยทิ้งปานไร้วิญญาณ

ชักชวนให้หมดอารมณ์

จึงได้แต่พลิกกายคุณเข้ามาขึ้นคร่อม

สอบสะโพกรัวแรงใส่คนเบื้องบน…

คาดหวังให้คุณร่ำไห้…

เพราะถ้าหากเป็นคราก่อน…

คงกรีดร้องครวญครางดังลั่น

ใบหน้าของคุณคงยั่วเย้าในตัณหา

ริมฝีปากสีแดงฉ่ำจะร่ำร้องพรรณนา

แต่บัดนี้เรียบนิ่ง…

ราวกับจิตวิญญาณได้ถูกปลิดปลิว

ลอยละลิ่วไปที่ไหนสักแห่ง…

เสมือนคุณหลุดพ้นจากวงโคจร

ทิ้งไว้แค่เรือนร่างให้ผมครอบครอง

ทุกครั้งที่เสร็จสิ้นกามารมณ์

ผมจะออกไปยืนข้างนอก

จุดบุหรี่ขึ้นสูบ

แค่อึกเดียวก็พลอยสำลัก

หน่วยน้ำตาก็คลอเบ้า

ความเป็นลูกผู้ชายจึงเจือจาง

มีเสียงร้องเจ็บใจขึ้นมาทันที

“ฮึก”

ไม่ชอบเลย…

คุณกำลังทำให้ผมอ่อนแอ

ย้อนไปจะไม่ทำเช่นนี้…

จะไม่มีวันหักหลังคุณเลย

.
.
.

กระทั่งวันนี้เป็นวันเกิดคุณ…

ผมที่ทำอาหารไม่เป็น…

จึงสั่งอาหารในโรงแรมสุดหรู

พวกสเต๊กที่คุณชอบรับประทานนักหนา

ผมตั้งใจมากนะ…

คาดหวังให้คุณรับรู้

ว่าผมก็ไม่ได้หลงลืมวันเกิดของคุณ…

ต่อให้ผมจะต้องไปมาหาสู่กับใครอีกคน

แม้ใจนึงจะชอบเธอ

แต่อีกใจนึงก็รักคุณมากกว่า

มันเป็นความเห็นแก่ตัวของผู้ชายคนนี้

ผมได้แต่สะบัดความคิด

พินิจมองความเรียบร้อยบนโต๊ะสีขาว

มีดที่แล่เนื้อ

เทียนหอมที่ถูกจุด

ไวน์ชั้นเลิศที่เตรียมเอาไว้

เพอร์เฟคเป็นที่พอใจ

ผมจึงประคองคุณเข้ามา

นั่งลงบนเก้าอี้

เราจะได้ใช้เวลาด้วยกัน

เพราะนี่มันก็เกือบเดือนแล้ว…

ที่ผมกักขังคุณเอาไว้

ไร้อิสระเสรี

ไร้การพบเจอต่อหน้าผู้คน

อยู่แต่บ้าน

ทำได้แค่นอน

ดูหนังไปพลาง

ผมให้คุณได้แค่นั้น…

ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้เลย

เรียกว่าเป็นนรกบนดินสำหรับใครบางคน…

เพราะรู้เป็นที่แน่แท้…

ว่าขืนปล่อยคุณออกไป

คนอย่างคุณต้องห่างหายไป

จากตัวผมตลอดกาล…

ฉะนั้นผมจึงแบกรับความเจ็บปวดนี้ไว้

แม้จะได้แค่กาย…

แต่ก็ขอครอบครอง…

มองคุณที่เริ่มแล่เนื้อเข้าปาก

แต่อิริยาบถเชื่องช้าอืดอาดยิ่งนัก

สีหน้าซีดขาวปานกระดาษ

แสดงการเคลื่อนไหวที่แสนเบื่อหน่าย

ทำตัวเหมือนตุ๊กตาที่ถูกชักใย

ผมจ้องหน้าคุณ…

ใจหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ไม่เคยคุ้นชินเลยสักนิด…

พอเห็นคุณทานได้

ผมก็ก้มลงไปใช้มีดแล่เนื้อ

เคี้ยวหมุบหมับข้างในโพรงปาก

ใช้ฟันบดขยี้ความนุ่มหยุ่นที่หลอมละลาย

จู่ๆ คุณก็หยุดนิ่ง

ช้อนตามองผม

แหงนหน้าขึ้นดุลพินิจ…

ผมขมวดคิ้วแปลกใจ

กับแววตาที่คุณใช้

คล้ายคุณกำลังไตร่ตรองความคิด

ทบทวนบางสิ่ง…

อยู่ภายในใจ

หัวใจของผมก็พลันถูกกระชาก

ดวงตาเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น

เหมือนโดนฟ้าผ่าแสกเข้าที่กลางกบาล

ขนลุกซู่กับสิ่งที่เจอ

ผมจดจำได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ท่วงท่าที่คุณทำ

อิริยาบถที่คุณเคลื่อนไหว

สีหน้าของคุณไร้อารมณ์

ไม่มีรอยยิ้มยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น

คมมีดที่เคยใช้ในการหั่นสเต๊ก

บัดนี้มีดสแตนเลสจึงฉวัดเฉวียน

ปัดผ่านที่ผิวเนื้อ

เชือดเฉือนที่ลำคอ

วาดผ่านที่เรียวคอระหง

ฝังลึกจนผิวเนื้อฉีดขาด

รอยกรีดกรายจึงเด่นชัด

หยาดโลหิตจึงพุ่งกระฉูด

เสมือนน้ำก๊อกที่รั่วไหล

แต่ไร้เสียงขาดอากาศหายใจจากใครบางคน…

นอกจากสีหน้าที่เบิกตามอง…

ไม่มีเสียงสักอึกเดียว

คุณเหมือนคนไม่แยแส

ไม่มีแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่ฉายชัด

พลอยให้ผมขนลุกเกลียว

หน้าถอดสี

หัวใจบีบหดแน่น

ราวกับว่า…

มีมือของคุณเข้ามากอบกุม

จับตรึงมันให้หยุดเต้นเร่า

และปล่อยในบางจังหวะให้หายใจหายคอ

ทว่าผมก็หายใจไม่ออกนัก

เสมือนว่า…

เป็นผมเองที่ถูกคุณเชือด

ที่รัก…

มือของคุณนั้นไร้เรี่ยวแรง

ใบหน้าตกกระแทกกับจานชามดังลั่น

มีเลือดไหลเจิ่งนองเต็มไปหมด…

“ไม่…”

ไม่จริง

“ไม่นะ ไม่ !!”

ไม่เอาแบบนี้

คุณไม่ควรทำแบบนี้…

ผมเหมือนเด็กที่งอแง

เด็กที่อยากจะได้อะไรก็ต้องได้…

คุณกำลังทำให้ผมรู้สึกเช่นนั้น…

ความรู้สึกที่ไม่มีคนที่รัก

สิ่งล้ำค่าหายไปเหมือนถูกแย่งชิง

พระเจ้า…

ไม่เอา

อย่าพาคุณไป

ได้โปรด…

ผมรีบลุกพรวดวิ่งไปหา

จับร่างที่นอนฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ

โอบประคองร่างของคุณลงมาที่พื้น

ช้อนตัวคุณให้นั่งอยู่ที่ตัก

จ้องมองสิ่งที่ดันแปรผัน…

ไร้ลมหายใจที่ดันผ่อนผัน

ไร้การเคลื่อนไหวจากใจจริง

หัวใจของคุณไม่เต้นแล้ว…

ลำตัวก็ซีดขาว…

มีเลือดที่ไหลจากคอไม่หยุดหย่อน

ผมพยายามเอามืออุดมันเอาไว้

มันก็ดันหลามไหลลอดผ่านนิ้วมือ

กายของคุณก็เย็นยะเยือก…

เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนคราบเลือดสีแดงก่ำ

เหนียวหนืดเลอะตามตัวคุณ

“อ๊ากกกกกก !!”

ผมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

นึกโกรธตัวเอง

นึกอยากทำร้ายตัวเอง

สิ่งสำคัญมันหายไปแล้ว

มันฉุดรั้งไม่ได้อีกต่อไปแล้ว…

คุณไม่หลงเหลืออะไรให้ผมเลย…

นอกจากความรู้สึกพรรค์นี้

ความเดียวดาย

ความสิ้นหวัง

ความต้องการ

ความรัก

ผมแค่อยากมีคุณอยู่เคียงข้างแท้ๆ…

อยากจะใช้ชีวิตด้วยกันไปจนแก่เฒ่า

“ตื่น ฮึก ตื่น ! คุณอย่าไป อย่าไปจากผม”

กลับมาหาผมเถอะ

ได้โปรด…

อย่าทำแบบนี้เลยที่รัก

“ได้โปรดอย่าตาย !!”

ผมรักคุณมากนะ

รักคุณมากจริงๆ

“ผมรักคุณ ผมรักคุณ ฮือออ ผมขอโทษ อึก ผมขอโทษ !!”

ได้แต่กอดร่างนี้เอาไว้

กอดรัดแน่นให้แนบชิดกับลำตัวของผม

ประคองใบหน้าของคุณให้ซุกอยู่ที่แผงอก

ขณะที่ใบหน้าของผมนั้นก็แนบอิง…

น้ำตาไหลพรากเหมือนสายธาร

ก้มลงจูบซับที่ข้างขมับของคุณแน่น

คำบอกรักสักครึ่งคำที่ผ่านมา…

ผมก็ไม่ได้ทำ

ความอบอุ่นที่อยากมอบให้…

ก็ดันไม่ได้ใช้   

มีแต่ฐิทิที่เห็นแก่ตัว…

คุณกำลังย้ำเตือนให้ผมรับรู้

ว่ามันสายเกินแก้

ตอกย้ำให้คนที่ไร้จิตสำนึก

เริ่มรู้สึกผิดชอบชั่วดี

เสมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา…

คุณอยากให้ผมรู้ซึ้งถึงความสิ้นหวัง

สิ่งที่คุณใช้อากัปกิริยา…

นับจากนี้ล้วนเข้าใจแจ่มแจ้ง

ผมถึงหายใจไม่ค่อยออกนี่ไง…

มือไม้พลอยสั่นระริก

เอนตัวไปมาขณะโอบกอดเรือนร่าง

ทำท่าเหมือนแม่ที่คอยกล่อมลูก

ร้องเพลงให้คุณฟัง…

แต่ดันผันแปรเป็นร้องไห้

พร่ำเพ้อเป็นคนบ้า…

คล้ายคนไร้สติ

“อย่าไป อย่าไปจากผม”

กลัวไปหมดเลย

กลัวเหลือเกินที่รัก

เกลียดเหลือเกิน

เกลียดในสิ่งที่ตนเองได้พึงกระทำ

ได้แต่ด่าทอตนเองเอาไว้

ว่าพอใจหรือยัง…

สาแก่ใจมึงหรือยัง

นอกใจเขาแท้ๆ

ถึงทำให้เขาเป็นแบบนี้

คงต้องจดจำไปจนตาย

จดจำไม่รู้ลืมกับสิ่งที่เห็น

ให้มันตรากตรำในห้วงความคิด

ระลึกได้ในยามใช้ชีวิต

ทุกลมหายใจที่ต้องสูดอากาศเข้าปอด

มันจะมีแค่คุณ…

คุณที่ทิ่มแทงในใจผมผู้นี้

เสี้ยววินาทีคงเห็นภาพคุณทุกเวลา

แจ่มชัด…

หลอกหลอนปั่นประสาท

ตราตรึงราวกับฝันร้ายที่ไม่สามารถหลุดพ้น

กลิ่นหอมของคุณที่เคยลอบดม

นับจากนี้คงเจือจางไม่ทันเชยชมอีกยาวนาน

ไม่สามารถย้อนไปแก้ไขได้อีกถาวรตลอดกาล…

ผมไม่ต้องการแบบนั้นเลย…

สาเหตุเพียงเพราะผม…

เพราะผมไม่ยอมเลิก

เพราะผมไม่ยอมปล่อย

ยื้อคุณเอาไว้เหมือนพวกกักขฬะ

กักขังคุณเหมือนกับนกที่อยู่ในกรง…

คุณจึงตอบแทนด้วยจุดจบเช่นนี้

.
.
.

นับตั้งแต่นั้นมา…

อาการของผมแย่ลงทุกที

ทุกครั้งได้แต่สาละวน…

ดูคลิปแต่งงานของพวกเรา

ผมทรมานเหลือเกินนัก

หัวใจเหมือนจะแหลกสลาย

ร่างกายผอมซูบจนคนรอบข้างนึกเป็นห่วง

ใต้ตาก็ดำคล้ำ…

ความหล่อเหลาก็หม่นหมอง

มีแต่หนวดเคราที่ผุดขึ้น

เขียวครึ้มเด่นชัด

ผมเหมือนคนอดหลับอดนอนเหลือเกินคุณ

คิดถึงคุณทุกเวลาเหลือเกินนัก

ร้องไห้ตลอดเวลาเลย

ขนาดหลับก็หลับไม่เต็มอิ่ม

หลับไม่สนิทเลยสักนิด

สะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกครั้ง

ร่างกายก็มีหยาดเหงื่อผุดไหล

ทั้งที่ภายในห้องเย็นฉ่ำ

แต่ภายในนั้นร้อนรุ่ม…

หัวใจตีบร้าวเหมือนหายใจไม่ค่อยออก

หมอบอกกับผมว่ามันคือโรคแพนิค

มันช่างแสนจะทรมาณ

ผมเหมือนคนไร้ชีวิตไม่ต่างจากคุณ

สีหน้าของคุณที่ผมเคยเห็น

ท่าทีของคุณที่ผมเคยเจอ

ราวกับวันนี้…

เป็นคุณในวันนั้น

มือถือก็มีข้อความส่งเข้ามา

ทุกคนล้วนให้กำลังใจผมทั้งสิ้น

ไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง

ว่ามันเป็นเพราะผมเอง…

เพราะผมเองแท้ๆ ที่ทำกับคุณ…

เป็นผมเองที่กักขังหน่วงเหนี่ยว…

เจ็บปวดเหลือเกินนัก

แบกรับความรู้สึกที่ต้องตื่นมาร้องไห้…

ไม่ไหวอีกต่อไป…

อาการแพนิคแย่ลงทุกที

ไม่กล้าจะกลับไปเยือนถิ่นฐานเลยสักนิด

สถานที่ที่คุณตาย…

บ้านของพวกเรา…

ผมไม่กล้าลอบมองมันเลย…

ผมจึงหยัดกายขึ้น…

ซวนเซเหมือนจะล้ม

พลางเดินมาที่โต๊ะ

ยื่นมือจับปากกา…

ขีดเขียนจรดใส่กระดาษ

ตราประทับเป็นการปิดท้าย

ส่งข้อความถึงครอบครัว

ส่งทอดตำแหน่งให้แก่ใครบางคน

รวมไปถึงมรดกที่มอบให้ผู้หญิง

เพื่อส่งทอดให้แก่ลูก

ผมไม่คิดจะเหลืออะไรไว้…

ขนาดผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งผม

นับตั้งแต่รู้ว่าคุณตายไป

เธอก็แช่งผมใหญ่

ตบตีผมจนแสบพล่าน…

ผมจึงประจักษ์…

ว่าสมควรแล้ว

ไม่มีใครดีเท่าคุณอีกแล้ว…

และผมก็ไม่ควรได้รับอะไรเลย

ไม่แม้กระทั่ง…

ความรัก

การให้อภัยจากตัวคุณ

แต่คุณรู้ไหม…

วันนี้ท้องฟ้าช่างมืดครึ้ม

ไอเย็นนั้นพลิ้วไหว

สายลมโบกสะบัดไปมากับเส้นผม

ผมได้แต่แหงนหน้ามองท้องฟ้า

รอบด้านมีทิวทัศน์ที่สวยงาม

พื้นดินมีรถที่วิ่งพล่าน

สำหรับผมแล้ว…

มันเลือนรางยิ่งนัก

ทัศนียภาพก็พร่าเลือน

จ้องดูดวงดาราที่สุกสกาว

เอื้อนเอ่ยตั้งคำถาม

“คุณจะอยู่ตรงนั้นไหม ?”

จะมองผมอยู่บ้างไหม…

ผมไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบ

ทันทีทันใด…

ปล่อยให้ร่างกายนั้นร่วงดิ่ง

ทิ้งกายลงจากคอนโดที่สูงละลิ่ว

ตกกระแทกพื้นปลิดชีพตนเองเสีย

เหมือนเป็นนกที่โบยบิน

แต่ไร้ปีกที่ถูกเด็ด

คาดหวังเพียงแค่ว่า…

ตกตายไปตามกัน…

เผื่อผมจะได้พบเจอ…

แล้วนรกจะพาผมไปลงทัณฑ์


อย่างมิอาจหวนคืน…


END.
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END) [20/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-04-2019 20:30:09
เศร้ายิ่งกว่าเดิม   :m15:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ดูนี่นะ END) [20/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 20-04-2019 22:01:35
ดูนี่นะ (END)


หรือความรักคือการผิดหวัง

หรือความไว้วางใจคือการทำร้าย

สายสัมพันธุ์ของคนเรา...

จึงถูกทำลาย…

เหตุผลก็มีแค่ประการเดียว…

มีคนจุดชนวนมันขึ้นมา…

“ฮึก ปล่อย ไม่ !”

พยายามสะบัดสะบิ้งจากร่างกำยำระคนเดียดฉันท์

เหตุผลจากการรับรู้…

รับรู้ว่าเขานอกใจ…

ไปมีใครอีกคน

ครั้นเอ่ยปากบอกเลิก

ร่างเพรียวบางจึงถูกจับโยนไปที่ตั่งเตียง

ร่างบึกบึนขึ้นคร่อม

ฉีกกระชากอาภรณ์เผยให้เห็นผิวเนื้อเปลือยเปล่า

ร่างเพรียวบางหอบแฮ่ก

น้ำตาไหลอาบ…

ไหลหยดผ่านปรางขาว

ร่วงตกหล่นไปที่ปลายคาง

ตั่วสั่นผงกกับความรุนแรงของคนตรงหน้า

“อย่าทำแบบนี้พี่ขุน”

ได้โปรด…

หยุดเรื่องพวกนี้สักที…

“มึงยั่วโมโหกูเอง กูบอกแล้วว่ากูไม่เลิก !”

แล้วทำไมกัน…

ทำไมถึงแอบนอกใจไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น

‘ภพ’ ได้เห็นมันเข้าแล้ว…

ข้อความที่แอบนัดไปมีอะไรกัน…

รวมไปถึงรูปอุจาดที่ถ่ายแลกเปลี่ยนกันไปมา

พี่ขุนถ่ายสิ่งสงวนให้คนพวกนั้นดู

ขณะที่คนพวกนั้น…

ก็ถ่ายเรือนร่างและคลิปที่ปรนเปรอช่วยเหลือตนเอง

น่าขยะแขยงยิ่งนัก

“ผมเกลียดพี่ !”

เพี๊ยะ ! เสียงตบกระทบไปที่ใบหน้าขาวผ่องอย่างรุนแรง

เรียวหน้าหันไปตามการประทุษร้าย

มุมปากพลอยมีเลือดรินไหล

รวมไปถึงข้างในกระพุ้งแก้ม…

เขาสัมผัสได้…

สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นพล่าน

ปวดระบมกับสันกรามที่โดนกระทบ

ความชานั้นตราตรึง

บวกกับความเจ็บริ้วที่ชวนปวดแสบ

ดวงตากลมโตจึงเบิกกว้าง

คล้ายไม่อยากจะเชื่อกับการลงไม้ลงมือ

ทำไมกัน…

พี่ขุนไม่เคยใช้ความรุนแรงกับเขาขนาดนี้เลยแท้ๆ

แต่ทำไมครั้งนี้กลับทำร้ายร่างกาย

ไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย

“ฮึก ฮือออ”

เผลอร้องไห้ออกมาด้วยความชอกช้ำใจ

รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิด

หัวใจมันตีบร้าวเหลือเกินนัก

คนที่ตามจีบมาแรมปี

กว่าจะคบกันได้ช่างยากเย็น

แต่พอมีช่วงเวลาแบ่งแยก…

ต่างคนต่างได้ไปเรียนมหาลัยคนละที่

เจอกันนานๆ ที…

หรือมันเป็นเพราะระยะทางใช่ไหม ?

หรือมันเป็นเพราะความไม่มั่นคงของคนเรา

จึงมีคนเปลี่ยนไป

“อะ อ๊า !!”

วินาทีนี้…

มีแต่เสียงหยาบโลนและการครวญคราง

สิ่งดุนดันภายใต้ร่างที่กระแทกชำเราโดยไม่คิดปรานี

น่าคลื่นเหียน…

น่าขยะแขยงยิ่งนัก

ฉุกคิดด่าทอตัวเองว่าทำไมกัน…

ทำไมถึงได้ไปหลงรักคนคนนี้

เขามีอะไรดี…

ดีที่เขาหล่อเหรอ ?

นั่นสินะ

ผู้หญิงทุกคน

ผู้ชายทุกคน

ล้วนก็มองคนที่หน้าตา…

ดีที่เพราะเขารวยใช่ไหม…

ดีที่เขาตรงเปค ?

สุดท้ายจึงโดนย่ำยี

สิ่งภายในก็พลอยฉีกขาด…

มีเลือดปนเปื้อนไปกับน้ำขาวขุ่น

อาบล้นอุจาดกับช่องทางสวาท

ผิวกายที่เคยขาวนวลออก็แทนที่ด้วยจุดด่างพร้อย

แดงก่ำในบางจุด

ม่วงคล้ำในบางบริเวณ

ทั้งแผงอก

แผ่นหลัง

ต้นคอ

ไม่หลงเหลือให้ปกปิดแม้แต่จุดเดียว

.
.
.

เช้ามาภพต้องแอบย่องกายออกจากที่นอน

สวมใส่เสื้อผ้าให้เบาที่สุด

หวังจะหนีจากคนที่แสนกักขฬะ

ทำร้ายจิตใจไม่แม้กระทั่งร่าง

ภพกลัวเหลือเกินนัก…

เพราะเมื่อคืนนี้ได้แต่นอนร้องไห้

แถมยังถูกสั่งให้หุบปากอีกต่างหาก

ครวญครางจนเสียงแหบพร่าไปหมด

เขาไม่เอาแล้ว…

ไม่อยากทนแบบนี้อีกแล้ว

แค่นอกใจมันก็มากพอแล้ว

ทว่ากลับมาบ้านไม่กี่ชั่วโมง…

“พี่ขุนมาหาน่ะลูก”

ฝันร้ายก็ดันตามมา…

ชายหนุ่มพลันสะดุ้งโหยงกับคำพูดของคนเป็นแม่

สายตาเหลือบไปเห็นคนที่เดินตามท้าย

อีกฝ่ายจ้องเขาตาเขม็ง

ครั้นแม่หันไปมอง…

ก็กลับเสแสร้งด้วยรอยยิ้มจอมปลอม

ภพรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

ตัวสั่นสะท้านกับสิ่งที่เจอ

ไม่คิดว่าพี่ขุนจะร้ายกาจถึงเพียงนี้

“คุยกันดีๆ นะลูก” แม่บอก

แต่ภพอยากจะร้องไห้เหลือเกินนัก

เพียงเพราะเขาไม่ได้พูด…

ไม่ได้เล่าถึงสาเหตุให้แม่ฟัง…

แม่ถึงไม่ได้รับรู้อะไรเลย…

พอบานประตูปิดลงเท่านั้นแหละ

คนตรงหน้าก็รีบพุ่งเข้ามาหา

ฝ่ามือบีบลงที่ลาดไหล่

“มึงคิดจะหนีกูเหรอ”

เสียงทุ้มดูโกรธจัด

อีกทั้งยังพยายามส่งเสียง…

ไม่ให้ดังมากจนเกินไป

ร่างบางสั่นระริก

น้ำตาคลอเบ้าจนอยากจะร้องไห้

“อย่าทำผม” ได้แต่วิงวอน

“กูไม่ทำหรอกถ้ามึงไม่หนีมา !”

อีกฝ่ายตะคอกใส่หน้า

ใบหน้าหวานก็พลันถอดสี

ถูกผลักพลิกกายให้ล้มลงไป

การถูกย่ำยีจึงตามมา…

แทนที่ด้วยเสียงครวญคราง

ชายหนุ่มราวกับพวกกักขฬะ

ทำอะไรไม่ได้

อธิบายไม่เป็น

ขอโทษไม่มีสักคำ

จึงเสพสมกับเรือนร่าง

ราวกับสัตว์…

ไม่เลือกสถานที่…

ภพต้องพยายามเอามืออุดปาก

ต้องพยายามสกัดกลั้นเสียงสะอื้นไห้

เกรงกลัวว่าพ่อแม่จะได้ยิน…

กลัวเหลือเกินนัก

สิ่งดุนดันนั้นรัวแรง

กระทบไปกับแก้มก้น

ไร้การป้องกัน

หลั่งภายในเฉกเช่นเมื่อคืน…

แถมยังหมายมั่นให้สัญญา

“กูจะไม่นอกใจมึงอีก”

ก็ไม่รู้เชื่อถือได้แค่ไหนกัน…

แต่สำหรับคนที่รักมากอย่างภพ

ราวกับสตรีเพศที่อ่อนไหว

เผลอไผลกับคำหมายมั่นให้สัญญา…

ก็ดันโอนเอียงคล้อยตามไป

เพียงเพราะประโยคเดียว…

“กูรักมึงจริงๆ นะ”

ร่างเล็กเลยหน้ามืดตามัว

ดั่งคำที่ว่า…

ความรักคือการให้อภัย

ภพในตอนนี้จึงไม่ต่างจากนวนิยายที่ถูกย่ำยี

แต่ก็ดันให้อภัยกับพระเอกของเรื่อง…

ไม่รู้ว่าโง่เขลา…

หรือฉลาดกันนัก…

เจ็บแล้วถึงไม่เจียมตัว

พวกนางเอกทั้งหลายแหล่…

ล้วนน่ารำคาญ


ผ่านไปสองเดือนแล้ว…

วันนี้วันเกิดของพี่ขุน

ภพบอกกับอีกฝ่ายว่าไม่ว่างไปหา

แต่แท้จริงนั้นหวังเซอร์ไพรส์

อยากเอาเค้กไปอวยพรวันเกิด

อยากเห็นอีกฝ่ายดีใจที่ได้เจอ

แต่พอเคาะห้องเท่านั้นแหละ…

ผู้ชายหน้าตาดีกลับเปิดออกมา

อีกฝ่ายผิวขาวจัด

หน้าตาหวานหยดย้อย

สูงโปร่งกว่าภพด้วยซ้ำไป

แต่ดูดียิ่งนัก

“คุณ…เป็นใครกัน”

น้ำเสียงก็พลอยสั่นระริก

คำถามประเดประดัง

อีกแล้วเหรอ…

เป็นแบบนี้อีกแล้วเหรอ

ทำไมนะ

ทำไมกัน

อีพี่ขุน

ทั้งที่ให้อภัยกันแล้วแท้ๆ

ทั้งที่สัญญากันแล้วแท้ๆ

เค้กในมือพลันสั่นระริก

เทียนที่จุดไว้ก็ส่องแสงสีส้มนวลลออ

ภาพในหัวที่เคยจินตนาการ

พลิกพลันจากความสุขสม

กลับกลายเป็นความผิดหวัง

ความน่าเบื่อหน่าย

ความคุกรุ่นที่เข้ามาแทนที่

ปวดร้าวเหมือนในครั้งนี้…

แต่เจ็บปวดยิ่งกว่า

เพราะการเห็นคาตา

หลักฐานทนโท่เป็นที่ประจักษ์ชัด…

คนแปลกหน้าที่เข้ามาในห้อง

นี่แหละเซอร์ไพรส์ไอ้ภพ

เซอร์ไพรส์ของจริง

สาแก่ใจหรือยัง…

อยากให้อภัยนักไม่ใช่เหรอ ?

นี่ไงผลตอบแทน…

ต้องพยายามแค่ไหนกันนะ

เสียงที่เริ่มหลุดลอด

ไม่อยากเลย

ไม่อยากจะส่งเสียง

ต้องแข็งแกร่งแค่ไหน

ถึงจะไม่รู้สึกรู้สา

“ภพ…”

พรึ่บ !

เค้กร่วงไปแล้ว

ปล่อยทิ้งอย่างไม่ไยดี

ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง

ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา

คงดูน่าสังเวชยิ่งนัก

สิ่งที่เห็นชัดก็คือ…

พี่ขุนท่อนบนเปลือยเปล่า

ขณะที่เบื้องล่างมีผ้าขนหนูปกปิดอำพรางตัว

แต่สิ่งที่เด่นชัดยิ่งกว่า…

คือรอยจูบ

รอยดูดดุนตีตราประทับไปที่ลำคอ…

ภพจำได้ดี…

ว่าตนเองไม่ได้สร้างมันขึ้นมา

“ไอ้คนเหี้ย !”

เริ่มก่นด่าไม่ไว้หน้า

ไม่อยากจะทนอีกต่อไป

เป็นฝ่ายด่าบ้าง

แม่งก็ดีนะ…

เหมือนคุณได้ปลดปล่อยห้วงอารมณ์…

เพราะไอ้คนที่มีพื้นฐานติดเป็นนิสัย

กมลสันดานแก้ไขได้ยาก…

ท้ายที่สุดก็เป็นเช่นเคย

ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย

ไอ้คนทุเรศพันธุ์นี้…

ไอ้ผู้ชายที่ขยันมักมากพันธุ์นี้

ไม่รู้หลอกลวงมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

เชื่อถือได้แค่ไหน ?

ภพรีบหมุนกายเพื่อหนีออกจากที่นี่

วิ่งออกมาเหมือนไม่รู้จุดหมายปลายทาง

เห็นแต่รถที่วิ่งเฉียดบนฟากถนน

จู่ๆ ลาดไหล่ก็ถูกแตะต้อง

จับหมุนให้หันมาจ้องประจันหน้า

พี่ขุนตามมา…

เขาวิ่งตามมา

สวมใส่เสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อย

หอบหายใจระรัวเหมือนเหน็ดเหนื่อย

“ฟังกูก่อน”

“ฟังอะไรอีก จะให้ภพฟังอะอีกวะ !!”

ตะโกนดังลั่น

โต้ตอบไม่พอใจ

เหมือนพวกไร้เหตุผล

แต่แท้จริงนั้น…

ก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

ว่ามันจะมีเหตุผลอะไรอีก…

จะแก้ตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกล่ะสิ

พอที

ไม่อยากฟัง

ไม่อยากจะฟังอีกต่อไปแล้ว

“กูไม่น่าเชื่อมึงเลย !”

เสียงแหลมปี๊ดจนแสบพล่านไปที่ลำคอ

อาจเพราะว่าเสียงร่ำไห้ก่อนหน้านี้

อาจเพราะความเจ็บใจ…

น้ำเสียงจึงแหบแห้งเหลือเกินนัก

ความโกรธมันล้นทะลัก

ร่างกายก็พลอยร้อนรุ่ม

ใบหน้าขาวจึงแดงก่ำ…

ด้วยความไม่ชอบใจ

ด้วยโทสะที่พรั่งพรู

เลยอยากด่า

ว่ามึงมันเลว

หรือว่า…

“มึงมันเหี้ย !!”

เพี๊ยะ !!

สิ้นคำพูดก็กลับถูกตบ

ฝ่ามือขาวรียยกขึ้นมากอบกุม

ก่อนจะเค้นหัวเราะในลำคอ

“หึ”

สักพักก็กลายเป็นหัวเราะเหมือนคนบ้า

“ฮ่าๆๆๆๆ !”

พอกันที

ครั้งนี้กูไม่ทนแล้วจริงๆ

ร่างกายเริ่มโอนเอียง

ยืนหันหลังบนริมถนน

สายตาพลันไปเห็นรถที่กำลังวิ่งผ่าน

เอื้อนเอ่ยถ้อยคำใส่คนตัวโต   

ว่าดูนะ…

“มึงดูนี่นะ”

กับผลของการหลอกลวง

รีบก้าวถอยหลัง

ไม่ปล่อยให้คนฉุดรั้งแต่อย่างใด

คาดหวังให้จดจำ

หุนหันพลันแล่นถอยหลังไปหลายก้าว

มีเสียงหวีดร้องจากผู้คนที่ลอบมอง

บ้างก็หลับตา

บ้างก็หวีดร้องสนั่นหวั่นไหว

รวมไปถึงสีหน้าของคนที่รัก…

ชายหนุ่มที่เคยปักใจชอบนักหนา

บัดนี้หน้าถอดสีในบันดล

ดวงตาเบิกโพลง

ริมฝีปากส่งเสียงเรียกชื่อของภพ

เรียวแขนทำท่าจะยื่นเข้ามาหาตัว

แต่ก็ดันสายเกินไป…

ร่างกายนั้นไกลออกไปแล้ว

ถอยร่นไม่กลัวกับสิ่งที่ตามมา

ได้แต่หลับตาพริ้ม

รอลิ้มรสชาติที่ขมขื่น

อยากเปรียบเทียบกับสิ่งนั้น

ว่าสิ่งไหนนะ

สิ่งไหนกัน

สิ่งไหนจะเจ็บเจียนตาย…

ยิ่งกว่ากัน

อยากลบล้างภาพตรงหน้าออก

อยากหายไปจากจุดนี้

พลันได้ยินเสียงรถที่บีบแตนดังลั่น

ปรี๊ดดดดดด !!

“ภพพพพพพพพพพพพพพพพ !!”

รวมไปถึงเสียงหวีดร้องของคนตรงหน้า…

จากนั้น…

ร่างกายก็ถูกอัดกระแทกอย่างแรง

รับรู้ได้ถึงความแตกหัก

เสียงดังกร็อบของกระดูก…

ที่แหลกละเอียดดังลั่น

ร่างกายจึงกระเด็นกระดอน

หัวเหมือนได้ยินเสียงแตกดังโพละ

แขนและขาถูกเหยียบไม่เหลือรูปทรง

ปวดร้าวทรมาน

ร่างกายบิดเบี้ยวไร้โครงกระดูก

ถูกปลิดชีพด้วยล้อรถบดขยี้

เป็นภาพที่ตราตรึงใจ

ป่นปี้แหลกเหลว

จนน่าหวาดกลัว

พลอยให้แขนขาหลุดลุ่ย

ไร้ความเป็นสมประกอบ

ของการเป็นคน…


แล้วภพก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ…

คำอวยพรที่ทิ้งท้ายเอาไว้

ว่าดูนะ…

มึงดูนี่นะ


มึงดูให้ดี


END.
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Poopookung ที่ 20-04-2019 22:19:38
รู้สึกสะใจกับนังพี่ขุนมากค่ะ แต่การบรรยายตอนน้องโดนชนนี่กินใจเรามากก :ling1:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nugnig7 ที่ 20-04-2019 22:28:29
ฮืออออ ชอบมาก ขอพาร์ทอิพี่ขุนทีค่ะ อยากดูจุดจบอยากรู้ความทุรนทุรายของพวกมักมาก
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 20-04-2019 23:29:46
แต่งได้บาดใจแท้ค่ะแต่ไม่อยากให้ฝ่ายที่ผิดหวังต้องฆ่าตัวตายแล้วนะ อย่างล่าสุดเราว่ามันยังไม่เจ็บถึงขั้นสุดอ่ะ ยังใช้ชีวิตสวย ๆ ได้ ถึงจะสะใจแต่เอาในความเป็นจริงมันคือความอ่อนแอนะในเรื่องล่าสุดคือยังมีทางได้ไปต่อ แต่นี่มาชิงโดดให้รถชนเราว่าไม่โอเค
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 20-04-2019 23:41:42
สมน้ำหน้าอิพี่ขุน ดแล้วจดจำไว้ให้ดีๆ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: xmchxng ที่ 21-04-2019 00:13:24
สุดยอดค่ะ เป็นการบรรยายที่น่าขนลุกมากๆ อ่านแล้วขมขื่นไปหมด สะใจตอนพี่ขุนกับภพมาก จดจำไปจนตายเลยอะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 21-04-2019 00:53:49
สำนวนใหม่สำหรับเค้าจริงๆค่ะ เพิ่งเคยอ่านแบบนี้ หนักแน่น เน้นย้ำ
จะบอกว่าแต่งได้อินมากเลยค่ะ เจ็บมาก แงงง นอนร้องไห้ยาวเลยอะ
ติดตามต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-04-2019 13:10:30
 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 24-04-2019 02:25:49
มาแบบสั้นๆ แต่ลึกซึ้ง สุดยอดค่ะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : มิอาจหวนคืน END / ดูนี่นะ END) 20/04/2019
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 27-04-2019 16:28:53
ขนลุกกับบทบรรยายในฉากกระโดดให้รถชน มันบอกถึงความคลั่งแค้น ความอาฆาตพยาบาทของเด็กคนหนึ่งที่อ่อนแอจนไม่สามารถแก้แค้นโดยการกระทำกลับกับไอ้ชาติชั่วนั่นได้โดยตรง ก็ให้มันดูภาพอันแสนสยดสยองที่จะติดตามันไปตลอดชีวิต เป็นตราบาปติดตัวมัน ให้มันถูกคนในสังคมตราหน้าว่าเป็นไอ้สารเลว....

ชอบมากค่ะ อินจริงๆ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : อีกตัวตน END) 02/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 02-05-2019 19:48:48
อีกตัวตน (END)



ทุกๆ วันมีแต่เรื่องน่าปวดหัว…

ต้องตื่นมารับฟังคำด่าทอของพ่อกับแม่

เสียงทะเลาะแว้งของคนทั้งคู่

ข้าวของที่ถูกพังพินาศย่อยยับ

เสียงครางที่ดังลั่นอยู่ภายในห้อง…

ช่างน่ารำคาญ

ได้แต่เดินออกมาจากห้อง

พิศสายตาไปยังข้าวของที่กระจัดกระจาย

จานชามแตกร้าว

พื้นห้องมีลิ่มเลือดที่แห้งกรัง

ไม่เบื่อบ้างหรือไง

ความรุนแรงภายในบ้าน

การทำร้ายร่างกายกัน

เมื่อไหร่จะหลุดพ้นกันสักที

ครั้นมองไปที่ตนเอง

ก้าวเดินไปยังห้องน้ำ

ส่องกระจกที่ฉายชัดถึงใบหน้า

พวงแก้มมีรอยฟกช้ำ

ริมฝีปากมีเลือดปริแตก

กลางปากบ้าง

มุมปากบ้าง

ตาข้างซ้ายปูดโปน

สาเหตุจากพ่อคนเดียวทั้งสิ้น…

ได้แต่เป็นที่รองรับอารมณ์

ของพ่อกับแม่

พ่อชอบตบตียามเมามาย

แม่ที่ด่าทอ

ต่างก็จิกหัวใช้กันสารพัดนึก

ทำให้เขาคนนี้

เด็กคนนี้…

ต้องเป็นโรคซึมเศร้า

ถึงแม้…

ถึงแม้จะไม่ได้ตรวจอาการก็ตามที…

แต่ก็รับรู้ได้ถึงอาการที่กำเริบ

ยามใดที่ฝักบัวมีน้ำรินไหล

หยาดธาราจะไหลอาบไปตามเรือนกาย

เสียงซ่าของสายน้ำดังสนั่นหวั่นไหว

เจือปนไปด้วยเสียงร่ำไห้ของเด็กคนนึง…

น่าเบื่อ

ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน

อยากพ้นจากวงโคจรพวกนี้

แต่ไม่สามารถไปไหนได้เลย…

เพราะตนเองยังเด็ก…

เด็กมากเกินไปนัก

งานก็ไม่มีให้ทำ

การศึกษาก็แทบไม่ได้เล่าเรียน

พ่อกับแม่ไม่เคยสนับสนุนใดๆ ทั้งสิ้น

กับสิ่งที่ชอบ…

ก็ไม่เคยได้ทำ

ความสามารถ…

ก็คล้ายจะไม่มี

เริ่มอยากเหมือนเด็กคนอื่นเขาบ้าง

เด็กที่ไม่จำเป็นต้องตื่นมาเจอเรื่องพรรค์นี้

เช้ามาก็ไปศึกษาเล่าเรียน

มีเพื่อนพ้องร่าเริงแจ่มใส

มีครอบครัวที่แสนอบอุ่น

ผิวพรรณตามเรือนกายไร้จุดด่างพร้อย

เขาอยากได้รับบ้าง…

ความอบอุ่นของพ่อกับแม่

คำบอกรักที่ควรพึงมี…

ให้ไม่ได้หรือไงกัน

ช่างน่าอิจฉา…

น่าอิจฉาคนอื่นนัก

“ฮึก ฮือออ”

เลยได้แต่ร้องออกมา

ฝ่ามือลูบไล้ไปตามใบหน้า

บดบังทัศนียภาพที่ต้องประสบพบเจอ

ฉุกคิดอยากฆ่าตัวตาย…

แต่ก็กลัวเหลือเกินกับความทรมาน

.
.
.

ครั้นออกมานอกบ้าน

ป่าดงพงไพรช่างกว้างขวาง

สถานที่สงบสุขและร่มเย็น

คงมีแต่เสียงนกร้องเสนาะหู

ใบไม้ร่วงหล่นในยามโบกพัด

ได้แต่ทิ้งตัวลงนั่ง

แผ่นหลังเอนกายพิงพนักกับต้นไม้โอฬาร

เริ่มอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ

หลับตาสู่ห้วงนิทรา


สดับรับฟังสิ่งรอบตัวจากธรรมชาติ

ทุกอย่างเพราะพริ้งราวกับท่วงทำนอง

หากทว่า…

“นาย…”

ต้องรีบลืมตาขึ้นมอง

ร่างกายพลันสะดุ้งโหยง

พินิจมองร่างสูงโปร่งที่เดินเข้ามา

ใบหน้าสะอาดสะอ้านของเขา

สัดส่วนกำยำล่ำสัน

แตกต่างจากตนเองที่ผอมแห้งสิ้นดี

ช่างดูดีไร้ที่ติ

“นายอยู่ที่นี่เหรอ ?”

เขาเอ่ยถาม

จับจ้องมาทางนี้

ขณะที่อีกคนได้แต่เงียบกริบ

ไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้า

เพราะไม่รู้ว่าเขาเข้ามาได้ยังไง

กับสถานที่แห่งนี้

บ้านของเขา…

กับละแวกหมู่บ้าน

ช่างห่างไกลกันนัก

เดินเป็นชั่วโมง…

ก็กว่าจะถึง

“ชื่ออะไรเหรอ”

อีกฝ่ายถามมาไม่หยุดหย่อน

ท่าทีเป็นมิตรยิ่งนัก

“ยุ่ง”

ชื่อยุ่ง

แต่กลับทำให้คนตรงหน้ากลับขมวดคิ้วมุ่น

“เอ่อ ไม่ยุ่งก็ได้ แค่ถามเฉยๆ”

เขารีบตอบทันควัน

พลอยให้คนที่พิงพนักอย่างเรา

ต้องส่ายหัวตอบกลับ

“ผมชื่อยุ่ง”

บ่งบอกให้เข้าใจได้อย่างถี่ถ้วน

คาดหวังให้คนตรงหน้าไม่เข้าใจผิด

“เราชื่อพงศ์นะ”

ชายหนุ่มแย้มยิ้ม

ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้

ขออนุญาตนั่งลงข้างๆ ต้นไม้

ตอนแรกตัวเกร็งมากนัก

พลางก้มหน้างุด

ไม่อยากให้เห็นบาดแผลบนใบหน้า

แต่ก็ดีเหลือเกินนัก…

ที่อีกฝ่ายไม่ฉุกคิดตั้งคำถาม

นับตั้งแต่นั้นมา…

ทุกๆ วัน

ยามใดที่เช้าตรู่

จะรีบวิ่งมาที่ป่าช้า

ลอบเจอกับพงศ์คนนี้

พงศ์ที่ชวนเล่น

หาของที่เขาไม่เคยได้เห็น

พวกหุ่นยนต์

พวกรถแข่ง

รวมไปถึงตุ๊กตาหมี

“เราให้”

อีกฝ่ายยื่นมันมา

มอบให้กับเด็กที่ชื่อยุ่งคนนี้

หัวใจเลยพลอยเต้นระรัว

สั่นไหวสะเทือนลั่น

คร้ามเกรงว่าคนตรงหน้าอาจจะได้ยินเข้า

ใบหน้าก็เริ่มแดงระเรื่อ

เคอะเขินยิ่งนัก

.
.
.

ครั้นกลับมาที่บ้าน

ในอ้อมอกมีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล

ขนมันปุยช่างนุ่มนิ่ม

ใบหน้าก็น่ารักน่าชัง

ยุ่งชอบกับของที่ถูกมอบให้

เปรียบเสมือนเป็นตัวตายตัวแทน…

ของคนคนนั้น…

ยุ่งตกหลุมรักพงศ์เข้าให้แล้ว

วินาทีนี้…

เรียวขาจึงสะดุดดังกึก

สายตาพลันเห็นพ่อกำลังเอาถังน้ำมันเติมที่รถ

ความหวาดหวั่นจึงไล่ตามมา

รีบแอบซ่อนสิ่งของเอาไว้ที่หลัง

กระทั่งพ่อชายตามอง

สีหน้าทะมึนตึงก็ฉายชัด

ปราฏกใบหน้าแดงจัดเฉกเช่นเคย

ยุ่งเลยเข้าใจได้ดี…

ว่าพ่อเมาอีกแล้ว

“มึงว่างนักเหรอ ถึงได้ไปเที่ยวเล่นตามใจชอบ !”

พูดเกรี้ยวกราดไม่ว่าเปล่า

ฝ่าเท้ากลับเดินขึงขังเข้ามาทางนี้

ฝ่ามือหยาบกร้านตีลงที่ใบหน้า

รวดเร็ว

เฉียบขาด

เพี๊ยะ !!

สิ่งเจ็บริ้วจึงตามมา

ร่างที่เล็กกว่าจึงล้มลงไปด้านข้าง

ปวดแปลบที่พวงแก้ม

ปวดร้าวที่มุมปาก

ระบมไปหมดกับแผลที่ถูกซ้ำเติม

ของที่ถืออยู่ก็ตกกระแทกพื้น

ร่วงตกหล่นตรงหน้าพ่อ

“มึงไปเอามาจากไหน ?”

น้ำเสียงดุดันเค้นคำตอบ

“ฮึก มะ มีคนให้ผมมา”

ยุ่งพูดมันออกไป

แต่พ่อกลับไม่รับฟัง

“ตอแหล มึงไปขโมยมาล่ะสิท่า !”

กระโชกโฮกฮากยิ่งนัก

ทำให้คนที่นอนตัวสั่นอยู่บนพื้นสะดุ้งโหยง

พลางแหงนหน้ามองพ่อ

อิริยาบถของร่างสูงใหญ่

ยกขาขึ้น

เหยียบย่ำลงที่ตุ๊กตาหมี

ขยี้จนมีดินเปรอะเปื้อน

โสมม

ไม่สะอาดสะอ้านอีกต่อไป

หัวใจเหมือนถูกกระชาก

ร่วงตกร่น

ใจนึงอยากคลานเข้าไปหา

ดึงกระชากว่าอย่าทำมันนะ

ก็ได้แค่คิด

จ้องมองพ่อที่โน้มตัวลงต่ำ

หยิบตุ๊กตาที่พงศ์เคยมอบให้

ยุ่งเลยได้แต่มอง

เสียงสาดคล้ายคลึงกับสายน้ำ

ขณะที่ตนเองน้ำตาไหลพราก

ปวดร้าวกับสิ่งที่ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้

ประกายตามีแสงสี

ภาพไอร้อนนั้นพวยพุ่ง

กลิ่นเหม็นไหม้ก็อยู่เบื้องหน้า

เขาเลยตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ว่าทำไมกัน

เหตุไฉนถึงเป็นเช่นนี้…

ทำไมพ่อต้องทำถึงเพียงนี้

กับไอ้แค่ของชิ้นเดียว

แต่กล่าวหาว่าลักลอบขโมยมา

ทำไมไม่คิดเสียบ้างนะ

ว่าเด็กคนนี้ก็ควรพึงมี

ไม่ใช่แตกต่างจากชาวบ้านแบบนี้

ของขวัญก็ไม่เคยได้รับ

นอกจากการทารุณของพวกท่านทั้งสอง

ยุ่งเริ่มเบื่อ

ยุ่งเกลียดพ่อเหลือเกินนัก

รวมไปถึงแม่ที่ทำร้ายไม่ต่างกัน

หัวใจคล้ายแตกสลาย

แน่นปวดหนึบไปหมด

ทิ้งตัวลงนอนไปกับพื้นดิน

เริ่มกรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลัง

เศษดินเปรอะเปื้อนไปที่ใบหน้า

แผลที่มุมปากก็รินไหล

ทรมาณเหลือเกิน

เขาทนไม่ไหวแล้ว

กับความปวดร้าวพรรค์นี้

ต้องเก็บสะอื้นเอาไว้

และปลดปล่อยออกมาเมื่อไม่มีใคร

พอเข้ามาในบ้าน…

พ่อกับแม่

ก็ทารุณกรรมเหมือนเช่นเคย

พ่อด่าทอแม่

ว่าพลางทำลายทรัพย์สิน

ส่วนยุ่งต้องเก็บกวาด

ถูกแม่จิกหัวกระแทกพื้น

ลอบทำร้ายลับหลังคนเป็นพ่อ

เป็นคุณเอง…

จะหาทางออกกันยังไง ?

.
.
.

ดึกดื่นมีแต่คนหลับใหล

หากทว่าห้วงนิทราไม่ได้ดำดิ่งแก่ใครบอกคน

ใครบานคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน

ทิ้งไม้ขีดไฟลงบนพื้น

สิ่งที่ถูกราดรินจึงเริ่มลุกโชน

เสียงดังพรึ่บจึงตามมา…

ส่องสว่างสุกสกาวบนพื้นพิภพ

เรือนหลังคามอดไหม้เละเป็นจุณ

คล้ายคลึงได้ยินเสียงกรีดร้อง

“กรี๊ดดด”

เสียงโหยหวนของมนุษย์ที่ทุกข์ระทม

“อ๊ากกกกก !!”

เลยได้แต่ยิ้ม

น้ำตาพลันไหลหยด

ภูเขาที่หนักอึ้งปลิดปลิวอยู่ภายในอก

ราวกับนกที่บินสู่ท้องนภา

กระพือปีกบินเล่น

หลุดพ้นจากวงล้อชะตากรรม

เป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก

เห็นแต่สีแดงและส้มของเชื้อเพลิง

ฝุ่นควันโขมงลอยละลิ่ว

ยุ่งได้แต่ยืนพินิศ

มองในสิ่งที่ไม่วันดับมอด

ขณะที่ภาพในหัว…

คาดหวังให้เหลือแต่เถ้าถ่าน

ไม่หลงเหลือชิ้นส่วนของเศษกระดูก

อาห์

ทุกสิ่งล้วนแล้วตราตรึงใจ

เปรียบเสมือนแสงสรัวที่โลดแล่น

หยอกล้อกับท้องนภา

เปรียบเทียบชั้นเชิงแข่งขันในกันและกัน…

ว่าความมืดหม่นของช่วงเวลานี้…

ลึกลงไปมีความหวังที่รำไรถึงเพียงใด

ดั่งดวงดาราที่เปล่งประกาย

ประดับประดาตั้งมากมาย

ใครจะเลิศเลอยิ่งกว่ากัน


เช้าวันใหม่ได้เริ่มขึ้น

ยุ่งได้แต่นอนอยู่บนพื้น

ก่อนจะได้ยินเสียงเรียก

“ยุ่ง…”

คล้ายแหบพร่า

และแจ่มชัด

ชักชวนปลุกคนนอนให้ลืมขึ้น

ฝ่ามือขยี้ตาตัวเองเล็กน้อย

แย้มยิ้มให้กับชายตัวโตที่มีใบหน้าซีดขาว

เพราะรอยยิ้มของยุ่ง ณ เวลานี้

ช่างขัดแย้งกับภาพเบื้องหลัง

ไร้ความเป็นบ้าน

ไร้ความเป็นอยู่ที่น่าอาศัย

มันมอดไหม้เจือจาง

หลังคาโครมหล่นลงมา

ยับยู่ยี่ไร้รูปทรง

“เกิดอะไรขึ้น”

อีกฝ่ายอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

แต่บางคนเลือกที่จะเงียบ

พลางแย้มยิ้มมีความสุข

ชั่ววินาทีก็ยอมปริปากเอ่ยว่า

“บ้านไหม้”

ตอบออกไปด้วยใบหน้าไม่แยแส

ก่อนจะปิดตา

ท่าทางนิ่งสงบ

ครั้นลืมตาขึ้นมาอีกที

หันไปมองสิ่งรอบตัวที่รายล้อม

อารมณ์ปรวนแปรแตกต่างจากเมื่อครู่

คำถามประเดประดังขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น ทะ ทำไม ฮือออ ทำไมบ้านเป็นแบบนี้”

เสียงเล็กเอ่ยถาม

สีหน้าใสซื่อและงงงวย

น้ำตาไหลหยดไม่ขาดสาย

ส่ายหัวระรัวกับสิ่งที่เห็น

ปลายนิ้วชี้ไปที่ตัวบ้าน

พลอยให้คนตรงหน้านึกเป็นห่วง

รีบถลาเข้ามาโอบกอด

พูดจาปลอบขวัญ

กอดรัดรึงคนตัวเล็กที่สั่นระริกแน่น

“ไม่เป็นไร เราอยู่ตรงนี้แล้ว”

“ฮึก ฮือออ”

“เราจะดูแลยุ่งเอง”

เพราะยุ่งคงไม่รู้เลย…

ว่าบุคลิกภาพเมื่อครู่นี้

มีอีกอุปนิสัย

บังเกิดขึ้น…

เพราะการทารุณ

ของคนในครอบครัว


เริ่มสร้างอีกตัวตน

ปกป้องคุ้มกันภัย



END
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : อีกตัวตน END) 02/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-05-2019 21:48:11
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : อีกตัวตน END) 02/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-05-2019 22:18:33
เนี่ย ชอบแบบนี้ ชอบน้องอีกคนที่มาเพื่อปกป้อง  :mew1:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : อีกตัวตน END) 02/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 02-05-2019 22:58:13
สงสารน้องจังมันมีแบบนี้เยอะเหลือเกินในสังคมยุคนี้สุดท้ายน้องป่วยเป็นปัญหาที่ติดตัวน้องเพราะความไม่พร้อมทั้งสิ้นที่ทำให้เขาเกิดมาล่าสุดเจอ13ปีอีก2เดือนจะคลอดร้องคนท้องมาพร้อมโรคประจำตัวหัวใจรั่วและเลือดจางพ่อเด็กอายุ15เราอ่านตอนนี้แล้วเศร้ามากๆๆคุณนักเขียนถ่ายทอดได้ดีมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : อีกตัวตน END) 02/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 05-05-2019 07:02:09
ชอบแต่ละเรื่องมากค่ะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก ตอนที่หนึ่ง) 20/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 20-05-2019 20:07:27
ไม่ใช่นางเอก


หนึ่ง…

เธอกำลังเบื่อ ?

แม้แต่ตอนนี้ก็กำลังเบื่อ

เราพูดถูกใช่ไหมล่ะ ?

เธอกำลังเลื่อนอ่านข้อความเรา

ในขณะที่เราโต้ตอบ พูดคุยกับเธอ….

เธอจะรู้สึกว่าโลกนี้มันเงียบเหงา

ขาดสีสัน ขาดความสุขที่เธอวาดหวัง

อ่านนิยายยังน่าเบื่อหน่าย

ไม่มีอะไรถูกจริตเธอเลยสักนิด…

แม้แต่นิยายของเราก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น

เธอเริ่มอยากจะได้อะไรที่มันดั่งใจนึก

ตัวเราเองก็อยากเป็นเช่นนั้น

เช่นเดียวกัน…

เราโคตรอยากมีความสุขกับชีวิต

อยากตื่นมาแล้วไม่รู้สึกเบื่อหน่าย

ทุกอย่างมันจะดูวนลูปสำหรับเรา…

ตื่นเช้ามาต้องอาบน้ำ

ตื่นเช้ามาต้องทานข้าว

ทำงาน หรือเรียนหนังสือ

ลุกขึ้นมาปลุกปั่นในงานเขียน

จินตนาการพล็อตประเดประดัง

ความสามารถมากมายแตกต่างกันไป

และคุณ

คุณบางคน

ก็อยากเป็นนักเขียนใช่ไหม ?

แต่ทำได้แค่อ่าน…

ดูถูกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ

แต่คุณไม่ทันลงมือเลยด้วยซ้ำ

หรืออาจลองแล้ว…

แต่ก็ตัดทอนกำลังใจ

เคยลงเว็บ

แต่วิวมันน้อย

ไม่ต่างจากเม้น…

เราก็เคยนะ

มีแต่ศูนย์ล้วนๆ

มนุษย์เรามันเริ่มจากศูนย์

หมั่นฝึกฝนทีละนิด

เช่นเดียวกับตอนเด็ก

กว่าจะยืนได้ก็ล้มตั้งหลายครั้ง

ไม่มีใครประสบสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่ม

เพราะงั้น…

เอาใหม่สิ…

ลองทำใหม่

ขนาดตัวเราเอง…

กว่าจะใช้คำวิจิตรขนาดนี้ได้

ล้วนถูกขัดเกลามาทั้งนั้น

คอยจดจำทุกถ้อยคำ

คำบางคำที่ไม่รู้ความหมาย

นำมาประดิษฐ์เป็นตัวอักษร

คอยขีดเขียนใส่หน้ากระดาษ

เราพลาดเป็นร้อยครั้ง

แต่ก็เพราะรักล้วนๆ เราถึงเป็นนักเขียนมาจนถึงทุกวันนี้

คนบางคนเกิดมามีความสามารถ

แต่สำหรับเราแล้ว…

เรามี ‘พรแสวง’ มากกว่า ‘พรสวรรค์’

ขนาด ‘คะ’ กับ ‘ค่ะ

แต่ก่อนเรายังแยกแยะไม่ออกเลย

สาเหตุจากโซเซี่ยลล้วนๆ

ทำให้มีคนใช้ผิดกันซ้ำซาก

จนเราเองก็หลงลืม…

ไม่เว้นแม้กระทั่งพวกผู้ใหญ่…

แต่เอาเถอะ

วกเข้าเรื่องกันดีกว่า…

มันจะซ้ำวนเวียนจนอยากฆ่าตัวตาย

อะไรคือจุดหมายของชีวิต

อะไรคือความสุขที่แท้จริงกันนะ

และอย่างพวกเราล่ะ ?

คนอย่างเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เหรอ ?

อาจเพราะวาดหวังมากเกินไป

สถานะของความรัก

เกรดเฉลี่ย

หรืองานที่ตั้งใจจะทำ

พอผิดหวังเลยดำดิ่งกับห้วงอารมณ์…

หลายคนมักจะบอกกับพวกคุณ…

ตั้งใจเรียนนะ

หางานทำ เพื่อทดแทนบุญคุณของพ่อแม่

เริ่มต้นใหม่สิ

เฮ้อออ

แค่ได้ยินยังรำคาญเลยใช่ไหม ?

ต้องตั้งจุดหมายปลายทาง เป็นขั้นเป็นตอน

จนคุณเริ่มเบื่อหน่าย

ลึกๆ คุณรู้ดี

รู้ดีอยู่แก่ใจทีสุด

มีคำตอบตายตัวเอาไว้แล้ว

ปรึกษาเพื่อนทีไร

ในยามอกหัก

คุณจะตั้งคำถาม ‘กูต้องทำยังไงวะ’

‘ไม่เห็นมีใครเข้าใจกูเลย’

มองอะไรก็มืดแปดด้านไปหมด

แต่ลึกลงไปจากการปรึกษา

ต่อให้มีคนมาปลอบขวัญคุณ หรือพูดอ่อนโยน

ลองทำแบบนี้ไหม ?

แต่คุณก็ไม่เคยรับฟัง

คุณมีทางออกเอาไว้แล้ว

แต่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

มีรูปแบบวิธีรับมือเป็นของตนเอง

แท้จริงนั้น…

ก็แค่ต้องการคนฟัง

ผู้รับฟังที่ดีก็แค่นั้น…

เช่นเดียวกับเราที่กำลังเป็นอยู่…

ราวกับนักเขียนขี้บ่น

แต่จำไว้นะ…

หนึ่งในนั้นเราเข้าใจคุณอย่างดิบดี

แต่ก็ไม่หรอก…

เรามีทัศนคติที่เรายึดมั่นเอาไว้

ว่าไม่มีใคร…

เข้าใจความทุกข์และสุขได้ดีเท่าตัวเราเอง


คนเราจะเข้าใจกันได้

มันต้องเริ่มจากการรับฟัง

มีเรื่องราวที่คล้ายคลึงกัน

จวบจนกระทั่งตอนนี้…

เราก็กำลังเป็นทุกข์…

และคุณเองก็คงทุกข์อยู่

เราเลยอยากจะปลอบโยนคนอ่าน…

งั้นเอางี้ไหม ?

ลองแบมือทั้งสองข้างขึ้นมาดู

ฮ่าๆ

แต่พวกคุณกำลังอ่านอยู่ใช่ไหมล่ะ

มือถือคงร่วงหล่น

ต้องวางทิ้งไว้บนตัว

หรือปล่อยจากเมาส์ที่กำลังจับ

ทำตามข้อเสนอแนะของเราคนนี้

เราก็แค่อยากให้คุณยิ้ม…

ยิ้มเหมือนที่เรากำลังฝืน…

เพียงแค่ลองกำมือแน่นๆ

บีบมันให้ลึกและแรงที่สุด

เหยียดแขนขึ้นสูง เพื่อขับไล่ความเกียจคร้าน

เพิ่มทัศนคติใหม่ให้ตนเอง

คุณจะรู้สึกเหนื่อยล้าเมื่อทำมันลงไป

สักพักจะเริ่มรู้สึกโล่งสบายตัว

ฝ่ามือจะมีความเจ็บเล็กๆ

ความปวดเมื่อยจากการกำแน่น

เราก็แค่อยากให้คุณฮึดสู้

แล้วลงมือทำในสิ่งที่คุณตั้งใจเอาไว้

เริ่มใหม่

เอาใหม่

ชีวิตคือการดิ้นรน

และฟ้าหลังฝนมันอาจมีจริง

เช่นเดียวกับนิยายเรา…

เราเป็นนักเขียนที่แสนเกียจคร้าน

ชอบทำตัวร่าเริงต่อหน้าผู้คน

และเราเองในตอนนี้…

ก็กำลังประสบพบเจอกับปัญหาใหญ่หลวง

ถูกคนรักหักหลัง

หลอกลวง

นอกใจ

ไปมีใคร…

คุณว่าเราควรทำยังไงดี ?

ทิ้งมันไป

หรือเอาคืนให้สาแก่ใจ ?

ปล่อยวางทิ้งไม่ต้องสนใจ

ไม่ต้องแคร์มันหรอก…

กับอีแค่พวกไม่เห็นค่า

อืมมมม

ความคิดของพวกคุณ…

มันก็ไม่เลวนะ

แต่นี่อาจเป็นแค่นิยายไง

นิยายสำหรับพวกคุณทุกคน…

พล็อตที่ไม่ได้มีจุดจบดั่งใจตน

เพราะตัวเราเอง

ก็มีคำตอบเอาไว้แล้ว

อีกทั้งตัวเราเอง

ก็ไม่สามารถปล่อยวางได้

ไม่เหมือนคำปราศรัย…

ที่ให้แก่พวกคุณทุกคน


.
.
.

วันนี้มันเป็นวันเสาร์

เป็นวันที่เราบอกเขาว่าจะกลับบ้านเก่า

คงไม่อยู่นะ

อาจไม่อยู่คอนโดนี้สักพัก

ทั้งที่ใจจริง…

รับรู้ว่าคุณมีใคร

แฟนหนุ่มที่แสนรักคนนี้

นอกใจเราไปเสพสมกับคนอื่น

นักเขียนอย่างเรามันช้ำใจยิ่งนัก

เสมือนนี่คือฝันร้าย

ยากเกินจะโกหกลบล้าง

เรื่องที่นายเอกในนิยายกำลังถูกหักหลัง

ถูกหลอกลวงจากคนที่ไว้วางใจ

อาห์

แปลกนะ

ตลกดีนะ

ขำฉิบหายเลย

ไม่คิดว่าต้องมาเจอกับตัว

นายเอกหลายเรื่องคงต้องร้องไห้

ฟูมฟักฟูมฟายต่อคนตรงหน้า

เข้ามาเจอบทบาทพิศวาส

เช่นเดียวกับวินาทีนี้

เรากำลังยืนมองคนทั้งสอง…

ร่างกำยำกับร่างเพรียวบาง

เป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย

ขึ้นคร่อมแฟนเรา

สิ่งสงวนสอดใส่กันและกัน

โยกตัวเหมือนควบขี่ม้าที่หาญกล้า

สนุกมัวเมากันน่าดู

แต่เราอะ

เราทำใจเอาไว้แล้ว

ตามันก็แดงนะ

น้ำตามันก็คลออยู่หน่อยๆ

เห็นคาตามันก็แอบทนไม่ไหว

จิตใจเปราะบางยากเกินจะควบคุม

เพราะอยากรู้คาหนังคาเขา

หวังจับผัวมักมากที่นอกใจตน

ว่าเออ

กูเนี่ย

กูคนนี้

ก็ไม่ได้โง่งมนะ

ไม่ได้ควายดักดานขนาดนั้น

ข้อความมันเด้งมาหลายวันแล้ว…

หลายเดือนแล้วที่ต้องทนเห็น

คำบอกรักของพวกมึง

นัดแนะชวนเที่ยว

คาดคะเนว่าเป็นผู้หญิงคนนี้

คนคนนี้ที่กำลังได้เสียกับคุณ

เอาล่ะ…

เราไม่ได้เป็นนายเอกใสซื่อ

ไม่ได้เป็นนายเอกที่นิ่งเฉย

หรือต้องปล่อยวางกับสิ่งที่เห็น

ริมฝีปากมันยิ้มแล้ว

รีบเดินแล่นเข้ามาภายใน

จิกหัวทึ้งผู้หญิงบนเตียง

กระชากหนังศีรษะให้ถอยหลัง

สิ่งสอดใส่หลุดพรึ่บ

ทรวงอกมันเด้งหยุ่น

เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย

และก็เป็นหญิงที่แสนโสมม

“กรี๊ดดด !”

อีกฝ่ายกรีดร้อง

แต่เรารำคาญยิ่งนัก

กลับบ้านไปแต่งนิยาย…

เราคงได้บทบาทใหม่ของตัวละคร

“คุณ !”

แฟนเรากำลังตื่นตระหนก

แหกปากดังลั่น

ฮ่าๆ

เหมือนนิยายที่เราเคยอ่านเลย

เจอเมียจับได้

และผัวอย่างพวกมึง

ก็จะมาตื่นตะลึง

เราไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

จิกหัวผู้หญิงและเหวี่ยงลงพื้น

ถีบร่างคนที่กำลังหยัดกายขึ้น

พลั่ก !

“กรี๊ดดด”

หวีดร้องราวกับภูติผี

เสมือนเปรตที่ร้องขอส่วนบุญ

หวีดสนั่นจนน่ารำคาญ

ผู้หญิงนี่ชอบร้องบ่อยนักเหรอ ?

ทำไมไม่เห็นเพราะพริ้งเหมือนตอนครวญคราง ?

เราถลึงตามองไปทางแฟน

แฟนเก่ามักมากนับจากนี้

เอื้อนเอ่ยบอกเขา

“มึงไม่ต้องเป็นห่วง”

กูไม่ได้ทำแค่ผู้หญิงหรอก

“เดี๋ยวมึงได้โดนคนต่อไป”

พูดจบก็ยกมือขึ้นสูง

หน้าแดงจัดด้วยความโกรธ

ไม่มาทนเป็นนางเอกที่ใสซื่อ

ชักชวนให้น่าสงสาร

โธ่

นายเอกบอบบางทั้งหลาย

โธ่เอ้ยไอ้ความคิดที่แสนดี…

เพี๊ยะ !

ตบหน้าผู้หญิงที่หันมามองทันที

เผยรอยช้ำแดงบนปรางขาว

เพราะอีดอกนี่แหละ

“รู้ว่ากูมีผัวแล้วแท้ๆ”

“ฮึก ฮืออ”

“ทำไมมึงร่านขนาดนี้”

อีกรุ่นน้องเวร

อีน้องเทคเหี้ย

“กูไม่น่าไว้ใจพวกมึงเลย !”

เริ่มแหกปากดังลั่น

วิ่งไปหยิบแจกันข้างห้อง

ยกขึ้นเหนือศีรษะ

หวังจะโถมฟาดใส่ใครบางคน

แต่ครั้งนี้ไม่พาลใส่ผู้หญิง

เพล้ง !

“โอ๊ย !!”

เสียงของคุณร้องลั่น

คุณที่เป็นผัวร่านรักไม่ต่างจากรุ่นน้องคนนี้

“มันเป็นรุ่นน้องกูแท้ๆ”

ทำไมมึงแยกแยะกันไม่ได้

ไอ้ชายโฉด หญิงชั่ว

“ฮือออ !!”

“กูเชื่อใจพวกมึงแท้ๆ อีพวกเหี้ย !”

เรารีบพุ่งพรวดพราดเข้าใส่

กำหมัดแน่นต่อยเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลา

ไม่คิดจะทิ้งจังหวะ

ชิงไหวชิงพริบเอาเปรียบล้วนๆ

เสียงดังผัวะ ! จึงไล่ตามมา

เจ็บทั้งมือ

เจ็บทั้งใจ

ขึ้นคร่อมบุรุษที่เปลือยเปล่า

หน้าแดงตาแดงไปหมดแล้ว

ร้องไห้เพราะเสียใจ

เสียใจกับสิ่งที่พวกมึงก่อ

เสียใจที่ต้องทำร้ายพวกมึงด้วย

เสียใจที่ตัวเองนั้นโง่เง่า

โดนหักหลังจากคนอย่างพวกมึง !

ถูกแฟนนอกใจ

ถูกรุ่นน้องแย่งแฟน

“อีผัวเฮงซวย !”

ผัวะ !

เลือดไหลซิบไปหมดแล้ว

จากข้อนิ้วมือของเราคนนี้

ต่อยไม่ทันสะใจ

เพื่อนที่เราได้บอกเอาไว้

สั่งห้ามให้ยืนรออยู่หน้าห้อง

ไม่ช้านานก็เข้ามาภายใน

รีบรั้งกายเราเอาไว้

“พอ ! มึงพอก่อน !”

พอเหี้ยอะไรกัน

“พวกมึงจำไว้นะ !”

เริ่มเอ็ดตะโรอีกหน

ชี้นิ้วไปทางผัวเลว

และชี้สลับไปยังผู้หญิงอีกคน

ว่าจำเอาไว้ให้ดี

“จำในสิ่งที่พวกมึงทำกับกูเอาไว้”

เพราะกูไม่มานั่งทนหรอกนะ

ไม่อยากเป็นคนดีเหมือนในนิยายที่เคยแต่ง

“กูไม่มีวันให้อภัยพวกมึงแน่ !!”

โทสะมันสุมอกไปหมดแล้ว

หยาดน้ำลายกระเด็นผ่านคำพูด

น้ำตาไหลนองหน้า

ไม่ได้เศร้าหรอก

ไม่ได้เสียใจที่ต้องเลิกรากันไป

แต่เสียใจที่ตัวเองไม่ฉลาดพอ

เริ่มฉายชัดถึงความแค้น

ความกรุ่นโกรธที่ยากเกินระงับ

แค่เห็นหน้าพวกมันสองตัวก็แสลงตา

ขยะแขยงกับเรือนร่างที่ตัวเองเคยเสพสม

อีแก่นกาย

อีหรรมที่มีคำหยาบโลนมากกว่านั้น

“ไอ้Kเหี้ยนี่ !” พูดพลางเบิกตาโพลง หันไปมองผู้หญิงที่อยู่ตรงพื้น

จับจ้องรุ่นน้องที่ร่างกายเปลือยเปล่า

เอามือปกปิดสิ่งสงวน

อำพรางสิ่งเบื้องล่าง

บดบังอีกข้างจากสิ่งเบื้องบน

มานึกอายอะไรกัน

ทีตอนเอากับผัวกู…

ไม่เห็นจะรู้จักอาย

และก็เอาไปเถอะ…

อีผัวคนนี้

อีดุ้นมันมาก

“กูให้มึง เชิญแหกขาเอากันตามสบาย”

“ฮึก”

“อย่าให้กูเห็นพวกมึงอีก”

กูจะประจานไม่ไว้หน้า

“กูเล่นพวกมึงตายแน่”

“…”

“ไม่เชื่อพวกมึงคอยดู”

เพราะตัวกูเอง

ก็ไม่ใช่นางเอกที่แสนดี

และขอเถอะคำพูดพวกนี้

เพราะมันเป็นสิทธิ์ที่เราควรได้เอ่ยปาก

ไม่จำเป็นต้องบอกเลิกรา…

“ผัวแบบมึง กูคงไม่เกลือกกลั้วมาทำพันธุ์”

ก่อนจะถูกเพื่อนดึงออกจากห้อง

จูงแขนรั้งเราไว้

ท่าทีพร้อมจะกระโจนตบตีตลอดเวลา

ทิ้งท้ายด้วยคำว่า

“เชิญพวกมึงเอาต่อกันตามสบาย”

ถ้าพวกมึงหน้าด้านกันมากพอ


TBC.
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.1) 20/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: BabyGB ที่ 20-05-2019 21:50:16
สะใจมากกกก ฮือออออ ชอบแบบนี้ ชอบทุกเรื่องเลย  :fire:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.1) 20/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-05-2019 21:58:51
สะใจ   o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.1) 20/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 23-05-2019 13:04:09
 :m31: สุดยอด
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.1) 20/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 24-05-2019 01:19:04
ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ เรื่องล่าสุดคือ ร้ายๆสะใจมาก o13
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 28-05-2019 20:06:24
ไม่ใช่นางเอก : 2



เดี๋ยวนี้คนบางคน…

ไม่ค่อยรักตัวเองหรอก

เหมือนกับเราที่กำลังดื่มเหล้า

ไหลผ่านไปที่ลำคอ

ความขมปะแล่มของมันมีรสหวานเจือจาง

ร้อนผะแผ่วชวนรู้สึกดี

ทีแรกเราเคยพูดนักหนา…

ว่าไม่ชื่นชอบสิ่งมัวเมา

แต่พอได้ลิ้มลองดู

ความรู้สึกเป็นตัวเองมันดียิ่งนัก

หัวสมองมันโล่งปลอดโปร่ง

หน้ามันออกจะแดงหน่อยๆ

บางคนคออ่อนก็เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง

มือไม้ปวกเปียก

ส่วนเรานั้นกำลังยิ้ม

ไม่ได้พร่ำเพ้อใดๆ ทั้งสิ้น

ไม่ได้ระบายความทุกข์ภายใต้จิตใจ

ก็แบบนี้มันดีแล้วนี่นา…

จบแบบนี้มันดีแล้วจริงๆ…

ดีกว่ามานั่งวิงวอน

ถามไถ่หาสาเหตุของการนอกใจ

เพราะนายเอกหลายเรื่องโคตรโง่เง่า

หวังเอาความดีเข้าสู้พิชิตใจเขา

เหมือนกับนิยายที่เราเคยแต่งนี่ไง…

คาดหวังให้พระเอกกลับตัวกลับใจ

เห็นความดีในสิ่งที่ตนเองได้พึงกระทำ

ทว่าจุดจบ…

หนักสุดก็ถึงขั้นทำร้าย

มากสุดก็ฆ่าตัวตาย

ตัวละครทนไม่ไหวกับการหักหลัง

ถูกชี้ทางให้จบหดหู่

ล้วนเป็นความคิดชั่ววูบกันทั้งนั้น…

บ้างก็สมหวัง…

แต่เอาเข้าจริง…

ก็ยากเกินจะให้โอกาส

หลายคนมักบอกไร้เหตุผล

แต่สำหรับเรานั้น…

เราที่สร้างตัวละครขึ้นมา

ใช้อารมณ์เข้าแลกกับการบรรยาย

จมดิ่งกับตัวอักษร

ช่างรู้ซึ้งถึงความรู้สึกกับสิ่งที่สร้าง

เราว่ามันเป็นความเจ็บปวดที่แสนหอมหวาน

ความเจ็บปวดที่ชวนทุกข์ระทม

อาจเพราะเราซาดิสม์

ชื่นชอบกับความเจ็บปวด

แต่เอาเข้าจริง…

ก็ไม่หรอก

ไม่ว่าใคร…

ก็คงไม่อยากเจ็บปวดจากคนที่รัก

ไม่ว่าใครทั้งนั้น…

ต่างคนต่างความคิด

และเราก็เชื่ออยู่หรอก

เชื่อว่ามันต้องมี…

คนที่ทนไม่ไหว

สาเหตุก็เพียงเพราะ…

รักมากจนกู่ไม่กลับ

รักมากเกินไป

จนทนไม่ได้กับความผิดหวัง

หรือถูกทำร้ายจนเป็นบ้าไร้สติ

เราเข้าใจความรู้สึกนั้นหมดเลย…

และต่อให้แฟนคนนั้นมายื้อเราเอาไว้

พูดพร่ำเพ้อขออธิบาย…

เราก็คงได้แต่บอก

“หึ”

Kuyเถอะ

ใครจะทนโง่วะ

ขณะที่ชีวิตจริงในตอนนี้…

ต่อให้ผัวอย่างมันมาราวีเรา

มีอดีตร่วมกันมามากมายขนาดไหน

ท้ายที่สุดของคำว่านอกใจกัน…

มันก็เป็นเหตุผลที่มากเพียงพอ…

สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้แค่เกิดเฉพาะผู้ชายหรอก

แม้แต่ผู้หญิงก็มีทั้งนั้น

แต่ตอนนี้มันเป็นเรานี่ไง

เราคนนี้ที่ต้องทนเจ็บ

เป็นนักเขียนอย่างเราที่ต้องแบกรับ…

ประจักษ์กับความหมายในรสชาติทุกข์ระทม

ว่าการถูกแทงข้างหลังมันเป็นเช่นไร

ขาดสะบั้นในความสัมพันธ์

ยากเกินจะเยียวยารักษา

หากฉุกคิดจะหาที่บรรเทา

หวังหาบุรุษมาเยียวยาฟื้นฟูจิตใจ…

มันช่างเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวยิ่งนัก

เราเคยเจอทัศนคติเช่นนี้มาก่อน

และเราเองก็คงไม่ทำตามเช่นนั้น

เมื่อไม่พร้อมมีใคร…

ก็อย่าไปทำร้ายใครอีกเลย

เพียงเพราะลืมใครไม่ได้

ฉะนั้น…

ก็ให้เวลากับตัวเองเสียเถอะ

หรือไม่…

ก็หาที่บรรเทา

หาความสุขใส่ตัว

หรือ…

วันไนท์แสตนของมนุษย์ทั่วไป

มันเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง

หาที่กกกอดลบล้างร่องรอยสัมผัส

นักเขียนอย่างเราก็คงไม่ชอบ

แต่หากต้องทำ…

เพื่อลบล้างสิ่งโสมมที่เคยตีตรา

มันก็ดีนะ…

อาจดีกว่า

ก่อนจะยกมือถือขึ้นมา

เหยียดยิ้มท่ามกลางแสงสี

ดนตรีในผับสนั่นหวั่นไหว

ทัศนียภาพพร่าเลือน

มองใครก็ดูสวยหล่อไปหมด

นางเอกทุกคน

นิยายที่เคยแต่ง

ส่วนใหญ่ไม่เคยทำเช่นนี้

ทำแบบเรา…

ร้ายกาจเฉกเช่นเรา

ปลายนิ้วไล่พิมพ์ข้อความ

บรรยายตัดพ้อ…

‘กูไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องเจอแบบนี้…

เจอแฟนตัวเองกับรุ่นน้องที่รัก

หักหลังแทงข้างหลังกูกัน

ทำไมวะ

พวกมึงแม่งชั่วฉิบหาย

แอบมีอะไรกัน

จนกูมาเห็นคาตา

กูว่าแล้วเชียว

มันผิดสังเกต’

แค่นั้นแหละ…

พิมพ์แค่นั้นเลย…

รอดูคนมาเม้นให้กำลังใจ

พลางตั้งค่าสาธารณะ

เผื่อมีคนแชร์

แชร์รูปคู่ที่ตัวเองเคยถ่ายเอาไว้

แชร์รูปผัวชั่วกับรุ่นน้องเลวทราม

ภาพเราสามคนที่ยิ้มให้แก่กัน

หวังให้พวกมึงสนุกกันล้วนๆ

เพราะในเฟสของเรา…

มีฐานแฟนคลับนิยาย

ที่มาติดตาม

เคยพูดคุยกันเป็นร้อย

เพราะนักเขียนอย่างเรา…

เฟลนลี่ล้วนๆ

แต่อย่าให้ร้ายกาจก็พอ

กูเหยียบให้จม…

ไม่ว่าวิธีใด

กูจะทำให้ล่มจม

ในเมื่อมีผัวชั่วเวรระยำ…

รุ่นน้องเหี้ยที่แสนบัดซบ

“ฟ้าหลังฝนจะมีจริงไหมวะ ?”

เราพูดขึ้น

ขัดแย้งบรรยากาศในวงเหล้า

ไม่ได้หมายความแค่เฉพาะกับความรัก

แต่หมายถึงชีวิตนี้ต่างหากเล่า

ที่ต้องดำเนินต่อไป…

ว่ามันจะมีจริงไหมวะ ?

“มีดิวะ มึงต้องเจอคนดีๆ แน่นอน”

เพื่อนเราปลอบโยน

เราจึงเค้นยิ้ม

ยังรู้สึกไม่สะใจมากพอ

แค่ในเฟซบุ๊กมันยังไม่พอหรอก

เข้าแอคเคาท์ทวิตเตอร์หลัก

ปริปากบอกเพื่อนๆ

“กูจะประจานมัน”

“มึงใจเย็นก่อน”

ให้เย็นไรกัน ?

เราเงยหน้ายิ้ม

สบตาเพื่อนสนิท

บัดนี้ทุกคนดูหน้าถอดสี

คล้ายหวาดกลัวถึงผลลัพธ์

ต่างรู้กันดี…

เราเป็นคนเช่นไร

ดีมาดีกลับ

ร้ายมาร้ายกลับ

เมื่อรักมากก็ย่อมเกลียดมาก

โทสะมันพรั่งพรู

คงฉุดรั้งกันไม่ได้

พลันก้มลงมามองอีกครั้ง…

แฉแฟนชั่วที่นอกใจตน

รวมไปถึงรุ่นน้องที่สนิทสนม

ฉุกคิดอยากแย่งผัวชาวบ้าน

รู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟน

ก็ร่านแม่งพอกัน

อีกคนแมงดา

เป็นชายแท้ที่เราจีบติด

คบมานานปี

มีความจำดีๆ ให้แก่กันทั้งนั้น

ขณะที่อีกคน…

ก็รุ่นน้องที่เรารัก

เสือกร่านรักยิ่งนัก

ฝากฝังเชื่อใจ

ถึงขนาดพาไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ

โอ้โห

ดูสิ

ดูสิ่งที่พวกมึงทำกัน

โทษผู้ชายฝ่ายเดียวก็ไม่ได้

อีกคนก็ทำตัวราวกับกะหรี่

มีมูลค่าต่ำตมถึงขั้นเอาฟรี

เอาเถอะ

เอาที่พวกมึงสบายใจ

ดูท่ายังไง

ก็ใช้ชีวิตคู่ไม่รอดพอกัน…

คงไม่จำเป็นต้องอวยพรใดๆ ทั้งสิ้น

โพสต์ตัดท้อกำลังใจ

บอกคนอ่าน

‘ช่วงนี้ขอหายไปสักพักนะครับ’

‘ไม่มีกำลังใจแต่งนิยาย’

‘เจอเรื่องถาโถมเข้ามาในชีวิต’

‘เศร้ามาก’

‘ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถแต่งนิยายต่อได้’

‘แต่จะรีบกลับมา’

และก็รอดูยอดรี

รวดเร็วทันใจ

เม้นมาให้กำลังใจเราทั้งนั้น

เราจึงเท้าคางยิ้ม

รอคอยให้มีคนมากระตุ้นถึงสาเหตุ

ข้ามวันข้ามคืนจึงมีข่าวสารอัพเดต

ดราม่า…

นักเขียนโดนนอกใจ

ทำไมเราจะไม่รู้…

เรามีฐานแฟนคลับที่น่ารัก

รู้จักกับกลุ่มลับที่พูดคุยกัน

อาจเพราะนิยายหลายเรื่องเราน่าสน

และเราก็ดูเป็นคนดีในสายตาชาวบ้าน

และเราก็ยอมรับ

ว่าเราเป็นคนดี

ดีมากด้วยซ้ำ

ดีจนต้องร้าย

สวมบทบาทเป็นตัวร้าย

ที่ไม่ใช่นางเอกนิยายที่คอยทน…

ยอดรีเป็นพัน

เราให้เพื่อนช่วยแฉด้วยซ้ำ

เพื่อนที่เอารูปแฟนเก่าเราไปลง

รูปรุ่นน้องแปะซ้อนกัน

โพสต์ด่าประหนึ่งเป็นเรา

กรุ่นโกรธแทนเรายิ่งนัก

เราตื่นมาเห็น

สะใจเล็กน้อย

แอบแฝงด้วยความเจ็บปวด

อยากจะร้อง

แต่ร้องไม่ออก

เหมือนหาสาเหตุไม่ได้

เหมือนไม่รู้จะร้องไปทำไม

ร้องไปแล้วได้อะไร

เลือกที่จะเรียนรู้ดีกว่าไหม ?

เจ็บแล้วจำคือคนไม่ใช่เหรอ ?

ล้มครั้งแรกยังพอให้อภัย…

แต่อย่าล้มบ่อยจนดูโง่เขลาก็เป็นพอ

พลันลุกขึ้นออกจากเตียง

เข้าไปอาบน้ำ

หยาดน้ำมันรินไหล

ปัดเป่าความโทมนัส

ขับไล่หยาดน้ำตา

คอยช่วยชำระล้างจิตใจให้เย็นสงบ

อย่างน้อยก็คงมากกว่าปกติ

อาจเพราะเราชอบ…

ชอบการอาบน้ำเป็นทุนเดิม

เลยเลือกที่จะหาอะไรที่บรรเทา

เยียวยาความโอดครวญในครั้งนี้

ออกมาก็แต่งตัว

ทำเรื่องเดิมๆ เป็นกิจวัตร

พยายามเขียนฉากนิยายที่ต้องแต่ง

ข้างกายก็มีนิยายเป็นสิบกว่าเล่ม

มีคลังคำในการหาความหมาย

ที่คั่นเสียบในหน้ากระดาษตั้งมากมาย

ล้วนมีหมวดหมู่ความหมายที่ต้องใช้

ก็เพราะบางครั้ง…

หลายครั้งหลายหน…

ตัวเราเองก็หลงลืมกับความหมาย

จึงจำเป็นต้องเปิดหน้าหมวดหมู่เพื่อศึกษา

คำเชื่อมต่าง ๆ นา ๆ

คำน่าประดิษฐ์นำมาใช้

หวังให้นวนิยายมีความหมายสวยหรู

ตัวอักษรดั่งต้องมนต์สะกดจิต

ชักชวนให้ดำดิ่งอยู่ในถ้อยคำบรรยาย

แต่ตอนนี้ไม่รู้เลย…

ว่ามันจะดีพอไหม

หาความหมายไม่เจอเลย

คำว่ารักคืออะไร ?

รักที่ดีต้องเป็นแบบไหน ?

พระเอกที่คู่ควรต้องเป็นเช่นไร ?

เพราะนักเขียนเพียงแค่จินตนาการ

หวังอยากได้พระเอกที่คู่ควรกับนายเอก

มีความเข้าใจในกันและกัน

จุดจบสวยหรู

สร้างบุคลิกตัวละครที่แตกต่าง

อีกทั้ง…

แนวรักหวานแหววซะส่วนใหญ่

ก็ล้วนเกิดจากความต้องการเราล้วนๆ

อุปนิสัยที่หลายคนถวิลหา

แต่แท้จริงนั้น…

ก็แค่สิ่งไร้ตัวตน

เราก็แค่หวัง

หวังให้มีคนเข้าใจ

ยอมรับในตัวเรา

อีกคนร้อน

อีกคนเย็น

แต่ตอนนี้ไม่รู้เลย…

คำว่าร้อนต้องมากแค่ไหน

เย็นในที่นี้ต้องเย็นยะเยือกเพียงใด

เพื่อให้ความสัมพันธ์มันเกื้อหนุนกันได้

จะมีใครเย็นอยู่ไหม ?

หากถูกนอกใจ…

อยากรู้นักเขาจะเย็นกันไหม

หรือยอมทนโง่

เพราะรักมากเหมือนนางเอกนวนิยาย

ครั้งนี้เลยได้แต่จดจ้อง

อยู่ในหน้า Word โง่ๆ เพียงลำพัง

เขียนไม่ออกแล้ว

แต่งต่อไม่ได้เลย

ฉากหลังต้องพิมพ์ยังไง

ความรู้สึกของตัวละครต้องเป็นแบบไหน

ทำไมมันมืดแปดด้าน

แต่งต่อไม่ออกสักนิด

แค่พิมพ์คำเดียวยังรู้สึกเหนื่อย

ทนฝืนต่อไม่ค่อยไหว

มันมีแต่ความรู้สึกของเราในตัวอักษร

ความกรุ่นโกรธจากภายใน

กระแทกแป้มพิมพ์ทุกครั้ง

โทสะมันพรั่งพรู

เว้นจังหวะทุกครา

เราไม่ชอบเลย…

กลับกลายเป็นว่า…

เราต้องแต่งเรื่องใหม่

แต่งเรื่องที่มันมีความเจ็บคล้ายตัวเอง

ยิ่งพรมนิ้ว

ยิ่งคิดคำ

สรรหาคำนำมาใช้ให้สวยหรู

ล้วนเสีอดแทงให้หายใจไม่ค่อยออก

เบื่อนัก

เกลียดนัก

รักเหี้ยๆ

รักจอมปลอม

น่ารำคาญ

น่าสมเพช

น่ารังเกียจฉิบหายเลย

จุดจบดีบ้าบออะไรกัน

ชีวิตคู่คือเหี้ยอะไรกัน

มีใครเข้าใจความรู้สึกของเราบ้างไหม

เพราะเรื่องอดีตของแต่ละคนนั้นแตกต่าง

ปมปัญหาชีวิตแตกต่างกันนัก

สุดท้ายจึงหยุดเขียน

นั่งลูบหน้าตัวเอง

เพิ่งรู้ตัวว่าน้ำตามันไหล

เผลอหลุดเสียงสะอื้นขึ้นมาทันใด

“ฮึก ฮือออ”

เกลียด

เกลียดไปหมดเลย

เกลียดแม่งด้วย

เกลียดน้ำตาในตอนนี้ด้วย

เกลียดที่ตัวเองต้องเป็นแบบนี้

เศร้าอีกแล้ว

อ่อนแอเหมือนตัวละคร

ไม่ชอบ

ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

ไม่อยากเป็นคนดูน่าสงสาร

โคตรอยากเข้มแข็ง

แต่ต้องเข้มแข็งแค่ไหนกันวะ

ถึงจะช่วยเราเอาไว้ได้

ตัดสินใจสูดอากาศเข้าปอด

พยายามระงับหยาดหยดธารา

เงียบไม่เกินห้าวิ

สักพักก็โอดครวญ

เสียงเศร้าจึงดังเครือ

อ่อนแอเหมือนจิตใจ

ทำตัวให้เข้มแข็งต่อหน้าผู้คน

ยิ้มแย้มมาหลายหน

วันนี้คงหมดสิ้น…

สิ้นสุดระยะเวลาของเกาะกำบัง

ทุกข์ระทมอยู่เพียงลำพัง

ไม่ให้ใครเห็น

ยิ่งคิดยิ่งโกรธ

หมายถึงโกรธที่โดนนอกใจ

จะปล่อยวางนิ่งเฉยก็ไม่ได้

จึงหยิบมือถือขึ้นมา

เปิดแอพไลน์แชท

ทักไปหาพี่ชายของตนเอง

‘พี่ช่วยผมด้วย’

ผมรู้สึกแย่ชะมัดเลย…

อย่างน้อยก็อยากหายไปจากจุดนี้

จุดที่ไม่ใช่ความตาย

แต่เป็นจุดที่จะสามารถเยียวยาเราเอาไว้ได้

จุดของแสงสว่างไสว

แม้มันจะแอบแฝงท่ามกลางความมืดมิด

เปรียบเสมือนเทียนไขที่ถูกจุด

ต่อให้สิ่งรอบตัวมืดครึ้มเพียงใด

แสงประกายก็ยังมีรำไร

เปล่งแสงสีเป็นความหวังของผู้คน

 

กระดิกนิ้วฟังเพลง

เปิดหนังคอมเมดี้ขัดแย้งกับห้วงอารมณ์

มีแต่สีหน้าที่เบื่อหน่าย

แต่ไม่รู้ทำไมชอบนัก

ชอบจ้องมือถือที่เริ่มมีข้อความส่งๆ

จากพ่อแม่ของแฟนเก่า

ญาติพี่น้องของพวกเขา

‘หนูเลิกกับพี่เขาแล้วเหรอลูก’

‘ลูกแม่นอกใจเราจริงใช่ไหม ?’

‘ขอโทษด้วย’

‘ไม่เป็นอะไรใช่ไหม’

เป็นห่วงเรากันหมดเลย

เราจึงเค้นยิ้ม

ยิ้มที่ปะปนไปกับความทุกข์

ผสมปนเปกับความชอบใจ

หายนะของพวกมึงเริ่มขึ้นแล้ว

ไม่ได้เป็นข่าวดัง

แต่ก็เป็นข่าวโซเซี่ยลที่โดนประณามยกใหญ่

ผัวชั่วนอกใจ

หญิงงามหน้าที่มาหักหลัง

ผีเน่ากับโลงผุ

เหมาะสมฉิบหาย

สมควรกับคำเปรียบเปรย

ฉะนั้น…

ขอให้เล่นสนุกกับสื่อออนไลน์

 

เมื่อไม่สามารถอยู่เพียงลำพังได้

กริ่งเกรงว่าจะทำให้เศร้าสร้อย

ยังต้องไปเอาของที่คอนโดอีกต่างหาก

เลยให้พี่ชายมาเป็นเพื่อน

แต่แท้จริงนั้นก็โกหก…

ล้วนมีจุดประสงค์ที่แอบแฝง

แถมยังต้องปลอบพี่ชายที่โทสะ

โมโหร้ายกับแฟนเก่าที่ทำชั่ว

ทำให้น้องอย่างเราต้องเป็นทุกข์

“พี่จะฆ่ามัน”

เป็นคำเปรียบเปรยของความโมโห

บ่งบอกให้ได้รับรู้

ว่าน้องของเขาไม่ควรเจอะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้

ก็แหม…

ก็นั่นสินะ

น้องอย่างเรามันดีนักหนา

เป็นแฟนที่ดีของผัวมาตั้งนาน

มีอาชีพที่มั่นคง

มีสำนักพิมพ์ติดต่อในงานเขียน

พอจะมีเงินประทังชีวิตตัวเองได้

วางตัวเองดีมาโดยตลอด

ไม่ว่าจะต่อหน้าผู้ใหญ่

หรือฝ่ายพ่อแม่ของแฟนเก่า

แต่บัดนี้ผ้าขาวคงบิดพลิ้ว

ไม่ได้ใสสะอาดผ่านหน้าตา

ใบหน้าดูยิ้มแย้ม

แต่ภายในนั้นเจ็บช้ำ

หรือภายนอกนั้นเศร้าโศก…

แต่ภายในอาจปรีดาเหลือหลาย

ล้วนไม่มีใครรับรู้…

และบางคนอาจจะไม่เข้าใจกับความหมาย

แต่ถ้าหากเป็นอย่างเหตุการณ์ตอนนี้ล่ะ ?

เราที่เดินเข้ามาในห้อง

ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของคนเป็นพี่

เจอะเจอกับรุ่นน้องที่มีสีหน้า คล้ายอดหลับอดนอน

ผัวเก่าที่นั่งซึมกะทืออยู่ตรงโต๊ะอาหาร

วินาทีนี้มีแต่เราที่สีหน้าเรียบเฉย

ต่างจากพวกมันสองตัวที่เบิกตาโพลง

ชายหนุ่มคล้ายเหงื่อตก

หญิงสาวหน้าขาวซีดเผือด

หวาดหวั่น

ขวัญผวา

ไม่ทันจะทำอันใด

เป็นพี่ของเรามากกว่าที่หุนหัน

พุ่งเข้าไปต่อยหน้าแฟนเก่าของเราอย่างรวดเร็ว

สะใจยิ่งนัก

โดยเฉพาะตอนที่พี่เหวี่ยงหมัด

อัดกระแทกข้างสันกรามของใครคนนึง

ผัวะ ! โครม !

หากแต่งเป็นนิยาย

คงต้องพิมพ์เป็นเสียงประกอบเช่นนี้

ตลกดีอะ…

ร่างของบางคนไถลไปกับพื้น

เก้าอี้ล้มคว่ำกระจัดกระจาย

ส่วนรุ่นน้องยืนตัวสั่น

มองดูเหตุการณ์ที่ฉุกละหุก

ไม่เหมือนกับเราที่ยืนนิ่งในทีแรก

ก่อนจะรีบเข้าไปดึงพี่ชายของตนเอง

หวังให้เขาถอยออกห่าง

“พี่อย่า !”

อย่าทำมัน

แต่ก็สะใจฉิบหาย

ตอนที่พี่ใช้ฝ่าเท้าเตะเข้าที่กลางลำตัว

ทำให้บุรุษโสมมร่างกายหดงอ

เลือดไหลซิบข้างมุมปาก

มีแผลช้ำที่เราทำก่อนหน้า

“มึงกล้านอกใจน้องกู ไอ้เด็กเหี้ย !”

เราชอบที่พี่ชายด่ามากๆ เลย

แต่ก็เศร้านะที่ต้องทำให้พี่ต้องมาเจ็บ

แม้หนึ่งในนั้นจะเป็นแผนของเรา

ทดแทนกับสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ดั่งใจนึก

ปากของเรามันสั่น

“ฮึก ฮือออ พี่อย่า”

แต่ภายในนึกสนุก

ถึงแม้จะเป็นคนไม่ชอบความรุนแรง

เจอเรื่องแบบนี้คงอกสั่นขวัญแขวน

แต่ทำไมนะ

ส่วนนึงลึกๆ

อยากบอกกับพี่ชายนัก

เอาอีกสิ

ทำมันอีก

กระแทกหน้ามันแรงๆ ให้สาสม

แถมยังอยากร่วมด้วยซ้ำ

อยากเตะแม่งให้ช้ำไปทั้งกาย

กล้าดียังไงมานอกใจกู…

มันควรเป็นกูมากกว่าที่นอกใจมึง

แต่ก็ดีแล้วล่ะ…

กูจะได้รู้เอาไว้

ว่าความรักกับคนบางคน

ใช้ไม่ได้กับคนบางประเภท

ให้ร้อยเกินไปก็คงไม่ดี

คิดว่ากูเป็นนางเอกมากดิ ?

คิดว่ากูจะต้องมาทนเหรอ ?

คิดว่าสิ่งที่กูทำในวันนั้นจะเพียงพอแล้วสินะ ?

ไม่หรอก

หึ ไม่เลย

หากคนอ่านรู้นิสัยธาตุแท้ของเรา

มันจะเป็นเช่นไรกันนะ

แต่ก็ช่างเถอะ…

แคร์ทุกคนนะ

แต่เราจะไม่แคร์…

กับคนที่ทำร้ายความรู้สึกเราก่อน

เพราะมันควรเป็นเรา

ที่ได้เอาคืน

ประณามหยามเหยียด

ให้พ่อแม่มันรับรู้ถึงสันดานชั่วๆ ของคนเป็นลูก

ให้ญาติพี่น้องมันได้พบเห็น

ว่าอีผัวเก่าเราคนนี้เป็นคนยังไง

โคตรร้าย

ใช่ เรานี่แหละที่โคตรร้าย

ร้ายจนน่าหวาดกลัว

ขอแค่อย่ามาทำร้ายกันก่อนก็พอ…

เราว่าเรา

ดีมามากเกินไป…

แฟนของเราคนนี้…

จึงนอกใจกัน

ถึงแม้…

ถึงแม้ในสายตามึงในตอนนี้…

จะดูอาลัยอาวรณ์

รักกูมากเหลือเกิน

 

‘ผมขอโทษ ผมรู้ว่าคุณคงไม่ให้อภัยผมได้ แต่เรามาคุยกันก่อนได้ไหม ผมเสียใจกับสิ่งที่ทำจริงๆ’

 

เพราะขนาดข้อความที่มึงส่งมา

จากเมื่อคืนนี้

กูก็ไม่คิดจะตอบ

เหตุผลข้อแก้ตัว

จากพวกเสนียดจัญไร




TBC.
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-05-2019 20:19:40
รอดูตอนจบ  :hao3:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: BabyGB ที่ 28-05-2019 23:53:06
หู่ยยยย ตอน2สนุกมากเหมือนกันค่ะ เราชอบตรงที่ว่า แคร์ทุกคนนะแต่ไม่แคร์คนที่ร้ายกับเรา สะใจดีค่ะ พวกคนทรยศ​มันต้องตกนรกทั้งเป็นแบบที่เราเจ็บ 5555555555​ เราอินอ่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 29-05-2019 16:16:06
เอาอีกกกก สมน้ำหน้ามัน ถ้าไม่โดนจับได้ก็ไม่สำนึกหรอก เริงรักกันหน้าระรื่นไม่เห็นมีความสำนึกอยู่ในหัว พอถูกประนามหน่อยหน้าบางขึ้นมาทันที หึ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 30-05-2019 02:27:30
เป็นนิยายที่มีการบรรยายที่แตกต่างจากปกติแต่อ่านเข้าใจง่าย ภาษาสวยเหมือนบนกลอนเลยค่ะ
เรื่องแรกสะใจมาก มูฟออนออกมาสวยๆ
เรื่องที่สองทำน้ำตาคลอเลย ตอนแรกเรานึกว่าคนพี่จะหมดรักน้อง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่พี่แค่ยุ่งเรียนจริงๆ แล้วรักกันมากจนยอมตามไปอีกโลกเลยอ่ะ
เรื่องที่สามคือแบบ ;-; ผู้ชายเห็นแก่ตัวมาก แต่งงานมาตั้งห้าปียังจะนอกใจอีก ยังกล้าพูดว่ารักได้ไง ถ้าบอกว่าพลั้งเผลอไปหาผู้หญิงคนนั้นจริง แต่ก็น่าจะเอาใจใส่เมียเหมือนเดิมนะ อันนี้เปลี่ยนไปเลยใครจะทนไหว แต่คนภรรยาตัดสินใจฆ่าตัวตายปุบปับมาก ผชจะได้รับบทเรียนและภาพฝังใจก็ไม่แปลก
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 30-05-2019 02:48:56
อ่านถึงตอนดูนี่นะแล้วค่อนข้างแน่ใจว่าไรต์จะชอบให้ตัวนายเอกมีจุดฝากความตายเป็นตราบาปให้ตัวพระเอก  :katai1:
สงสารรรรรรรร
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: poshbear ที่ 30-05-2019 11:32:47
อ่านตอนล่าสุดแล้วแบบ รู้สึกหายใจไม่ออกอ่ะ ไรท์แต่งเก่งมากจริงๆ 5555555
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.2) 28/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: joborcusier ที่ 01-06-2019 05:27:33
ชอบค่ะ คนร้ายก็ต้องเจออะไรร้ายๆที่ทำไว้กับคนอื่น  :katai4:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.3) 16/06/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 16-06-2019 21:10:14
ไม่ใช่นางเอก : 3



 

มันน่าเบื่อนะ

โดยเฉพาะ…

ผัวะ !

“อั่ก !”

กับเสียงหลุดร้อง

คนแบบคุณ…

ปวดระทมเป็นด้วยเหรอ ?

“อึก !”

จุกเสียดมากสินะ ?

ผัวะ !

แต่ไม่ตายหรอก…

แฟนคนนี้ยังคงมองคุณจากเบื้องบน

ใช้แววตาพินิจราวกับคนตรงพื้นคือเศษขยะ

น่าป่นปี้และจุดไฟเผาราวกับสิ่งไร้ค่า

เห็นฝ่าเท้าของพี่ชายที่เหวี่ยงไปด้านหลัง

และอัดกระแทกเข้าที่กล้ามหน้าท้องของสิ่งโสมม

บางทีก็คิดนะ…

ก็เผลอคิดอยู่เสมอ…

ว่าอีพวกตอแหล

อีคนที่แสนน่ารังเกียจเช่นนี้

ชอบนอกใจแฟนตนเอง

ไปมั่วเอากับคนอื่นไปทั่ว

อดนึกเปรียบเปรยกันแทบไม่ได้

ว่านี่มนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน

เป็นหมาที่ชอบเสพสมกันไม่เลือกหน้าใช่หรือไม่ ?

หรือเป็นสัตว์ที่แยกแยะผิดชอบชั่วดีกันไม่ค่อยได้

กูอดนึกไม่ได้จริงๆ

ว่าบางทีมันก็น่าลองนะ

น่าแอบทำเหมือนในหนังสยองขวัญ

จับหรรมที่ชอบพ่นเชื้อ

ทำยังไงก็ได้ให้แม่งเป็นหนองใน

ใช้กรรไกรตัดให้ขาดคงจะดีไม่ใช่น้อย

แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ…

ไม่ได้ฉุกคิดจะลงไม้ลงมืออย่างจริงจัง

จินตนาการเพื่อเอาความสะใจกันล้วนๆ

เพื่อจับผัวชั่วแบบมึง

และรุ่นน้องร่านแบบมึงด้วย…

พลางปรายตามองไปทางหญิงสาวด้วยความหงุดหงิด

รกหูรกตาจนอยากจะวิ่งไปจิกกระชากหัว

ถ้าคนเขียนแบบกูวิปลาสมากพอ

คงจะจับพวกมึงสองตัวมัดกับเชือก

ผูกมัดพันธการตรงข้อเท้าไว้กับหินก้อนใหญ่

จับถ่วงโยนลงทะเลสาบในป่าช้า

และยืนมองดูพวกมึงสองตัวดีดดิ้นทุรนทุราย

หวนคิดแค่นี้ก็น่าสะใจพอแล้ว

หรือจะจับพวกมึงผูกไว้กับท้ายรถดี

เวลาขับรถพุ่งทะยานไปกับถนน

หนั่นเนื้อของพวกมึงจะได้ฉีกขาด

เลือดไหลอาบไปตามถนนซีเมนต์

“พอเถอะครับ” เอ่ยปากบอกพี่ชาย

รีบดึงแขนเสื้ออย่างแรง

หวังให้พี่ไม่มีข้อมือที่ช้ำเลือดไปมากกว่านี้

เพียงแค่นี้ไอ้เหี้ยนี่ก็หน้าไม่เหลือเค้าเดิม

ริมฝีปากก็แตก

เลือดไหลรินข้างมุมปาก

ซีกแก้มก็เขียวช้ำ

เหนือข้างขมับมีผ้าก็อตที่ปิดปากแผล

คาดคะเนว่าก่อนหน้านี้คงไปหาหมอเพื่อรักษาบรรเทา

ก็เพราะเราคนนี้เอาแจกันฟาดหัวมัน

“คุณ”

“อย่ามาจับ !” รีบตวาดเสียงดังลั่น

สะบัดขาใส่มือเชื้อโรคที่หวังจะยื่นมาจับกุม

“ผมขอโทษ…”

“เก็บไว้ให้พ่อให้แม่มึงเถอะ”

เอาไปใช้กับบุพการีทั้งสองของมึงเหอะ

ถึงมึงจะพูดเป็นร้อยเป็นพันคำ

ยังไงกูก็ไม่ให้อภัย

ห้องนี้กูก็หารจ่ายด้วยแท้ๆ

“มึงก็ยังหน้าด้านอยู่อีกเนอะ”

“ฮึก”

“รุ่นน้องแบบมึงนี่หน้าด้านมากจริงๆ”

เป็นผู้หญิงงามไส้ซะจริงๆ

แต่ประทานโทษเถอะนะ

กูไม่สนเรื่องเพศสภาพอะไรของมึงทั้งนั้น

ในเมื่อหักหลังกูกันก่อน

กูไม่มีความสุข

พวกมึงก็ต้องไม่มีความสุข

อย่างน้อยก็ต้องแบ่งเบาความเจ็บปวดให้เท่าเทียมกัน

เอาไปบ้างนะ…

“โดนโซเซี่ยลประณามหยามเหยียดสนุกบ้างไหมล่ะ ?”

พวกเขาจะได้รู้ไง…

ว่าเด็กใสซื่อแบบมึง

แท้จริงก็ชอบเสแสร้งจอมปลอม

แอ็บเป็นเด็กร่าเริงสดใสอ่อนต่อโลก

ยิ้มง่าย

หึ นัดยิ้มเก่งแทนซะงั้น

“มึงนี่เหี้ยจริงๆ เลย”

คอยแย่งสามีชาวบ้าน

“กะหรี่ยังมีค่ามากกว่ามึงอีกรู้บ้างไหม ?”

พวกเขายังได้เงินมาประทังชีวิต

“แต่มึงเสือกได้แบบฟรีๆ”

รูร่านๆ ของมึงคงกรวงโบ๋แล้วสิท่า

“มึงคิดจริงเหรอว่าไอ้เหี้ยนี่จะรักมึงจริง” เค้นหัวเราะอย่างขบขัน

ก่อนจะชี้นิ้วไปทางบุคคลที่นอนกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ

รุ่นน้องแบบมึงนี่ก็น่าสงสารนะ

ตามเล่ห์กลอุบายผู้ชายไม่ค่อยทัน

ส่วนผัวแบบมึงก็หลงมารยาสตรีได้อย่างง่ายดาย

เหี้ยกับเหี้ยมาเจอกัน

เชิญโอบกอดประคองกันให้เต็มที่

“อีพวกควาย”

ผ่านพ้นมรสุมปัญหาชีวิตไปให้ได้นะ

อยู่ให้ได้กับโลกสังคมออนไลน์

แม้เวลาผ่านพ้นไป…

ก็อาจจะทำให้มนุษย์นั้นหลงลืมการกระทำ

แต่ญาติพี่น้องและคนใกล้ชิดของพวกมึงทั้งคู่

กูเชื่อนะ…

ไม่ว่ายังไง…

ก็เป็นที่น่าจดจำ

ฝังใจไม่มีวันลืม

คนอื่นอาจจะให้อภัยมึงเข้าสักวันนึง

แต่สิ่งที่มึงทำกับกูจะไม่มีวันให้อภัยอย่างแน่นอน

“บอกเหตุผลที่มึงแย่งผัวกูได้ไหม ?”

ตอนนี้กูเริ่มอยากจะรู้ซะแล้วสิ

เผื่อเอาเรื่องราวของตัวเองไปขีดเขียนเป็นนวนิยาย

ความเรียลของมันคงทำให้คนเขียนอย่างกูต้องอินมากแน่ๆ

“บอกด้วยนะว่าตอนได้กับผัวกูมันเป็นแบบไหน ?”

แบบว่ามันสนุกมากไหม ?

แบบว่ามันรู้สึกดียังไงตอนได้เสียกัน ?

แบบว่ามันจะพอมีจิตใต้สำนึกที่ฉุกคิดได้หรือไม่ ?

แล้วระงับความคันระริกระรี้ของมึงได้หรือเปล่า ?

“พูดสิ”

อย่าเอาแต่ร้องไห้…

“มึงพูดสิอีเหี้ย !”

กูเคยบอกแล้วไง

ว่าอย่าให้กูเห็นหน้ามึงเป็นรอบที่สอง

แต่วันนี้กูก็ยังเห็นมึงยืนค้างเติ่งอยู่ตรงนี้

บ้านซ่องไม่กลับ…

มึงจะแหกหลีให้มันมาเอาทุกวันเลยใช่ไหม !

พ่อแม่มึงคงภูมิใจมากเนอะ

แต่คงผิดหวังที่ลูกอย่างมึงเสือกแย่งผัวรุ่นพี่คนนี้

กูก็เคยเจอพวกท่านนะ

เอ็นดูมึงแบบน้องสาวด้วย…

แต่ที่ไหนได้เสือกเป็นน้องรักมารผจญ

“กรี๊ดดดด !” หลุดร้องอีกเช่นเคย

คร่ำครวญหวนไห้ไปกี่พันหน

วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ซึ้งเหมือนวันวาน

วิ่งไปจิกกระชากเส้นผมสีดำขลับ

เหวี่ยงร่างสตรีมักง่ายให้ลมอนาถกองกับพื้น

ก่อนจะจิกทึ้งอีกสักหน

“พี่ไม่ต้องยุ่ง !” รีบเอ่ยปากดักทางไว้

แล้วเดินเข้ามาในห้อง

กระชากหนังศีรษะของอีกคนที่ดีดดิ้นทุรนทุราย

ครูดไถลไปกับพื้น

ลากเข้ามาในห้องนอน

พอเรียวขาผ่านพ้นบานประตู

เราก็รีบจับปิดใช้นิ้วล็อกกลอน

จากนั้น…

หันมามองสตรีที่ดวงตาแดงก่ำ

น้ำตารินไหลอาบแก้มขาว

ท่าทางดูน่าสงสารสิ้นดี

แต่ทำไมกูจะไม่รู้ว่ากมลสันดานแท้จริงเป็นเช่นไร

“มึงจะพูดไม่พูด ?”

“พี่จะให้หนูพูดอะไร”

“ว่าทำไมมึงถึงแย่งผัวชาวบ้านไงอีควาย !”

สมองกลวงนักเหรออีเวรตะไร

ทีอย่างงี้กลับจำพูดกูไม่ได้

แล้วทำไมตอนเอากับผัวกู

รู้แท้ๆ ว่าแฟนรุ่นพี่

หรือเพราะว่าตอนแหกแข้งแหกขาเลยหลงๆ ลืม

“ถามจริงเถอะอีมุก”

ใช้หลีแทนสมองเหรอ ?

“มึงไม่อายเหรอที่แย่งผัวชาวบ้าน”

“แต่หนูรักเขาจริงๆ”

“เหตุผลหน้าด้านๆ แบบนี้น่ะเหรอ !?”

เพราะคำว่ารักจริงๆ งั้นเหรอ ?

“เพราะรักที่ทำให้มึงหน้ามืดตามัวแบบนี้น่ะเหรอ ?”

จนถึงขั้นต้องแย่งผัวของกู

“คำว่ารักของมึงแม่งไม่มีศีลธรรมเลยใช่ไหมห๊ะ !”

กระโชกโฮกฮากดังลั่น

ตะเบ็งเสียงจนเส้นเลือดตึงขนัดที่ข้างลำคอ

ถลึงตามองไปทางยัยผู้หญิงชั่วที่นอนอยู่ตรงพื้น

“มึงเป็นบ้าอ๋ออีมุก”

“ฮึก พี่”

“มึงใช้คำว่ารักโดยไม่สนหัวบุคคลอื่น”

ทำร้ายแม้แต่คนที่รักมึง

ไว้เนื้อเชื่อใจมึง

คอยเอ็นดูมึงมาโดยตลอด

แต่เนื้อแท้ภายใน…

“มึงนี่แม่งเน่าเฟะจริงๆ”

กักขฬะแม้แต่ความคิด

ความรักของมึงนี่แม่งโคตรไม่มีมูลค่า

“หึ อีเหี้ยนั่นมันเคยบอกว่ารักมึงบ้างไหมห๊ะ ?”

เคยบ้างไหมล่ะ ?

“ไม่เคยสินะ” ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

แค่เห็นดวงตาที่เศร้าสลดของมึงก็นึกสมเพช

“รักของมึง แม่งไม่ได้มีความหมายกับใครอีกคน”

มึงชอบจริงๆ เหรอ ?

“มึงยอมแหกขาให้เขาเอา”

และมึงรู้ตัวบ้างไหมล่ะ ?

“มึงทำแบบนี้ก็เป็นแค่ทางผ่านให้ผู้ชาย”

ได้แค่กายแต่ไม่มีวันได้ใจ

“ต่อให้แม่งจะวนเวียนเอามึงตลอดเวลา”

มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรักมึงอย่างแท้จริง…

“ติดใจอยากได้มึงแทบทุกวัน”

มันก็แค่ความลุ่มหลงเพียงชั่ววูบเท่านั้น

“ตัวมึงคงบอกรักแม่งทุกครั้ง”

แต่แม่งก็ไม่เคยโต้ตอบบอกรักกับมึงเลยสักหน

จริงเหรอ ?

เป็นความรักที่แท้จริงอย่างงั้นเหรอ ?

มึงเหมือนเหมือนเด็กไม่ประสีประสาด้านความรักยิ่งนัก

ก็แค่เก่งกาจชำนาญด้านราคะ

สิ่งที่เรียกว่าเพศสัมพันธ์

เหมาะสมยิ่งกว่าในการเลือกใช้คำพูดนี้…

“สมสู่เอากันลับหลังกู”

วินาทีนั้นกูอยากรู้นัก…

“มึงกำลังคิดอะไรอยู่”

แค่อยากเป็นตัวคั่นเวลาเท่านั้นน่ะเหรอ ?

“สมองเล็กๆ ของมึงไม่เคยไตร่ตรองเลยใช่ไหม ?”

จะหัดสาระแนจำกันบ้างไหม ?

“ว่าแย่งผัวชาวบ้านแม่งไม่ดี !”

เสียงสนั่นลั่นภายในห้อง

บ่งบอกถึงห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยโทสะ

“ก็กูชอบเขา !”

นิ่งเงียบ…

ก่อนจะยิ้มขำภายในเสี้ยววินาที

“นี่ไงธาตุแท้ของมึง”

ตาแดงจัดขุ่นเคืองเชียว

“กูเพิ่งเห็นคาตาก็วันนี้นี่แหละ”

“ฮ่าๆ !” ถึงกับตบมือให้เลยทีเดียว

มึงสวมบทบาทเป็นเด็กใสๆ มาเนิ่นนาน

ท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อยต่อโลกภายนอก

แต่อยู่บนเตียงคงสถาปนาบทบาทเป็นหญิงร่านรัก

“กะหรี่จริงๆ”

ไม่เคยพูดคำหยาบนี้มาตั้งนาน

ณ ตอนนี้สารพัดนึกนำมาใช้อย่างละเอียดหมด

ไม่ว่าจะอีเหี้ย

“อีสัตว์”

อีพวกหน้าด้าน

“แม่งเหมาะสมกับมึงจริงๆ”

“มึงก็พอกันนั่นแหละ” อีกฝ่ายถกเถียง

รู้สึกใจเต้นตุบตับ

ทั้งร้อนรุ่ม

ชอบใจกับนิสัยธาตุแท้ของคนเรา

อาจเพราะว่าถูกทำร้ายจนทนไม่ไหว

ท้ายที่สุดจึงเปิดเผยตัวตนสิ่งภายใน

หรือไม่…

ก็ชอบใช้เวลาลับหลังคนอื่น

“ปากเก่งเหมือนกันเลยหนิ”

เริ่มคันไม้คันมือขึ้นมาละ

“มาดูซิว่าจะเก่งสมดั่งปากไหม”

“ฮึก”

“อีเด็กหน้าด้าน !”

มึงเลิกสะอึกสะอื้นไปได้เลย

“ครั้งนี้กูจะให้มึงกราบตีนกูให้ได้”

เตรียมแหกปากวิงวอนได้เลย

กูจะไม่มีวันหยุด !

“กรี๊ดดดด !”

ร่ำร้องไปเถอะ…

เพี๊ยะ !

กระโจนเข้าไปขึ้นคร่อม

ปัดข้อมือที่หวังจะใช้ปลายเล็บจิกเข้าที่เรียวแขน

ก่อนจะถูกตบไปที่ใบหน้าอย่างรุนแรง

เผยริมฝีปากที่มีเลือดกบปากในทันใด

“ขอดูหน่อยเถอะ”

จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้

“ความรักของมึงจะมากมายแค่ไหนกัน”

จะต่อสู้เพื่อความรักในครั้งนี้ได้ดีแค่ไหน

เสียเปรียบในด้านพละกำลัง

ทั้งที่กูก็ตัวเล็กกว่ามึงด้วยซ้ำ

พลางใช้หลังฝ่ามือสะบัดไปทางขวาสุดแรงเกิด

ทำให้ใบหน้าสวยหวานต้องหันไปตามทิศทาง

แถมยังกล้าถลึงตามองอย่างไม่ยอมแพ้

เก่งนะ…

น่าควักให้มืดบอดซะจริงๆ

คงอยากจะโต้ตอบกลับบ้างแล้วล่ะสิ

“เอาสิ”

กูก็อยากเห็นละ

“กรี๊ดดด ! อีเหี้ย กูทนไม่ไหวแล้วนะ !”

กูก็พอกัน

ทนไม่ไหวกับพวกมึงพอกัน !

พรึ่บ !

ถูกขึ้นคร่อมในบันดล

ครั้งนี้เป็นเราเองที่ชิงไหวชิงพริบไม่ค่อยทัน

ถูกรุ่นน้องอย่างมันโถมทับ

ใจจริงก็ไม่อยากจะตบหรอกนะ

เพราะเหตุผลโง่ๆ แย่งผัวหน้าหนังหลี

แต่ที่อยากจะตบก็เพราะความสะใจล้วนๆ

รับฟังความเห็นแก่ตัวของพวกมึงสองตัว…

มามากพอละ

เพี๊ยะ !

“อีสัตว์ !” คำด่ามาจากยัยมุก

ส่วนเรานอนชักสีหน้าเจ็บริ้ว

ในใจก็ร้อนรุ่มดั่งเชื้อเพลิง

ยื่นแขนขึ้นสูง

กระชากเส้นผมของคนเบื้องบนให้หงายหลัง

ก่อนจะถูกเราขึ้นคร่อมดังเดิม

ครั้งนี้ใช้ปลายนิ้วทั้งห้าเข้ามาสัมผัส

เริ่มแตะต้องที่กึ่งกลางใบหน้าเรียวเล็ก

จิกเล็บลงที่ผิวหนังของอีกฝ่าย

ยกหน้าขึ้น…

และกระแทกลงอย่างรวดเร็ว

ให้หลังศีรษะของมันกระทบกับพื้นห้อง

ปั่ก !

“โอ๊ย !”

กูก็เข้าใจมึงนะ

ว่าถูกทำร้ายมามากก็ย่อมต้องโต้ตอบกลับ

ไม่มีใครอยากทนอยู่ฝ่ายเดียวหรอก

แต่สำหรับกูมันมากเกินไปไง

มากเกินไปที่ต้องยอมทนความเลว

แบบนี้ดีแล้ว

โต้ตอบกลับน่ะดีแล้ว

ไม่มีใครเป็นนางเอกทั้งนั้น

แสนดีไปเพื่ออะไร

ชีวิตแม่งก็ร้ายพอกัน

ถาโถมให้ต้องฝ่าฟัน

ดิ้นรนและกอปรกับเรื่องเหลวแหลก

อุปสรรคครั้งแรกของกู…

น่าจะเป็นขวางหนามของพวกมึงสองตัว

พลันแหกปากลั่นห้อง

ตึงๆ

คล้ายได้ยินเสียงเคาะประตู

แต่ก็ไม่คิดจะใส่ใจ…

สารพัดคำหยาบพ่นใส่คนใต้ร่าง

เงื้อมือขึ้นสูงฟาดลงในฉับไว

“คิดจะสู้กูเหรอ !”

เพี๊ยะ !

มึงไม่หัดจำเลยใช่ไหมห๊ะ !

“ปากเก่งนักใช่ไหม !”

เพี๊ยะ !

“รักเหรออีควาย”

เพี๊ยะ !

โธ่…

“อีดอก”

ไม่เจียมตัวเลยสักนิด

กล้าใช้คำว่ารักโดยไม่มีศีลธรรมพอกัน

ขัดแย้งพอๆ กัน

หุนหันพลันแล่นลุกขึ้นยืน

จับเส้นผมที่แทบจะร่วงกระจุกคามือ

เหวี่ยงสะบัดร่างบางทิ้งไปด้านข้าง

“กราบตีนกู”

ไม่งั้นมึงก็ต้องโดนอีก

ไฟมันสุมอกทบทวี

อยากจะออกไปต่อยตีอีเหี้ยนั่นด้วย

“มึงจะกราบไม่กราบ !”

ถลึงตาใส่พลางเข่นเขี้ยว

ชี้นิ้วด่าเป็นเชิงคำสั่ง

มองคนเลิกลั่กที่รีบพยุงร่าง

คล้ายจะไม่ยินยอมจนต้องถีบหงายหลัง

“มึงจะลองดีอีกใช่ไหม !”

“ฮึก !”

ฝ่ามือดันลงที่พื้นห้อง

ก่อนจะยกมือขึ้นพนม

บรรจงกราบไหว้ในทันที

แต่เราก็ถอยหลัง

บิดพลิ้วกับสิ่งที่ต้องการผ่านคำพูด

ลึกๆ ไม่ได้ยินดีกับความรู้สึกนี้เลยแม้แต่น้อย

“มึงไปคิดทบทวนดูดีๆ นะอีมุก”

ไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย

“ว่าสิ่งที่มึงทำกับกูมันชั่วช้าแค่ไหน”

เผลอหลุดเสียงสะอื้นเข้าซะงั้น

น้ำตาคลอใส่คนตรงหน้าที่ช้อนตามอง

ดวงตามีหยาดน้ำตารินไหลไม่ต่างกัน

หวังให้มึงเข้าใจหัวอกของกูบ้าง

“มึงมันเลว”

กูเริ่มเกลียดเข้าไส้

ความสัมพันธ์พี่น้องมันจบลงเพราะผู้ชายคนเดียวกัน

“มึงมันโง่ที่ไปหลงรักมัน”

โง่ที่เสือกอยากได้แฟนรุ่นพี่ของตัวเอง

ทำให้ชีวิตของมึงต้องเหลวแหลกแทนซะงั้น

หรือไม่…

ก็เป็นมึงนั่นแหละที่เหี้ยเป็นทุนเดิม

หลังจากนี้…

มึงจะถูกคนรอบข้างมองไม่ดี

“มึงเป็นคนทำให้กูต้องร้าย”

เสือกทำเอง…

“จำใส่กะโหลกโง่ๆ ของมึงเอาไว้ด้วย”

เป็นคนริเริ่มเอง

ทำให้กูคนนี้ต้องลงไม้ลงมือ

หวังทำลายความสงบสุขพวกมึงทั้งคู่

รีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาลวกๆ ทิ้ง

สูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ

หันหลังไปหยิบข้าวของที่ตัวเองต้องการมาเอาคืน

พลันเห็นโทรทัศน์จอแบนที่ตัวเองเคยใช้ตังค์หารครึ่ง

เอื้อมหยิบกระปุกครีมที่หนักพอสมควร

ปาใส่จนเกิดริ้วรอยแตกพัง

ทำให้คนที่นั่งสงบเสงี่ยมสะดุ้งโหยงไปด้วย

“ไปซื้อใหม่กันเอาเอง” ในเมื่อนี่ก็เงินกูเช่นกัน

จากนั้นจึงค่อยปลดล็อกกลอน

กระแทกครอบบานประตูตรงมุมผนังห้อง

เอ่ยปากบอกพี่ชายที่ยืนหน้าตึงเครียด

“ไปเถอะพี่”

ไปจากที่นี่เถอะ

“ผมได้ของแล้ว”

แย้มยิ้มฝืดๆ ให้พี่ชายคนโต

ก็เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาหา

ลูบแก้มที่ปรากฏริ้วรอยเป็นนิ้วมือ

เราจึงยกมือตนเองขึ้นมากอบกุมเขาเอาไว้

จับจ้องพี่ชายที่กัดกรามแน่น

ข่มอารมณ์ที่เห็นน้องชายคนนี้ต้องมีบาดแผล

“เรื่องเล็กๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่เจ็บ”

สภาพอีกคนหนักกว่านี้อีก

พลางมองบุรุษแพศยาผ่านหางตา

เห็นอีกฝ่ายยังคงนั่งอยู่ตรงพื้นห้อง

ดวงตาคมนั้นวูบไหวสั่นสะท้าน

ริมฝีปากทำท่าจะเรียกขานสรรพนาม

ดูก็รู้ว่าเรื่องพวกนี้จะไม่จบไม่สิ้น

เอาเถอะ…

ถ้าขืนมึงจะหาเรื่องใส่ตัวอีก

รับรองว่าความสงบสุขจะไม่มีอีกต่อไป

“มึงจะคบกับมันก็ตามสบาย” ปริปากบอกแม่ง

คาดหวังให้รับรู้กับความแน่วแน่ดังต่อไปนี้

และความรักของเราจะจบลง

“ต่อไปนี้กูกับมึงไม่รู้จักกัน”

อย่าได้มาวอแวกันอีก

ข้อความมือถือก็ไม่ต้องขยันส่ง

แววตาอาลัยอาวรณ์ของมึงแม่งก็น่าขยะแขยง

บอกตามตรง…

กูไม่สามารถสัมผัสความรักเหล่านั้นได้อีกต่อไป

อีสิ่งที่เคยสอดใส่บุคคลอื่น

ปลายนิ้วทั้งห้าที่เคยลูบไล้เรือนร่างใครๆ

ริมฝีปากที่เคยก้มลงมาประทับนอกเหนือจากแฟนคนนี้

ทุกตารางนิ้วที่มึงเคยสัมผัส

กูบอกเลย…

ไม่เอาแล้ว…

กูไม่อยากได้รับอีกต่อไปแล้ว

จะไม่เป็นมนุษย์ที่ให้โอกาสคนรอบที่สอง

ครั้งเดียวแม่งก็เกินพอ

เจ็บแล้วจำ

ต่อไปนี้จะใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยกระทำ…

ไม่อยากเป็นคนดีอีกต่อไป

ไม่รักษาน้ำใจใครๆ ทั้งนั้น

หากมีความรักก็คงกล้าๆ กลัวๆ คอยหวาดระแวง

มึงเป็นคนทำให้กูรู้สึกเช่นนี้ล้วนๆ

ไม่อยากจะมีความรักอีกเลย

สอนให้เรียนรู้และประจักษ์

ว่าความดีไม่สามารถพิชิตใจคนได้

หันไปมองบนโต๊ะก็เห็นดอกไม้ที่เริ่มเหี่ยวเฉา

สภาพไม่แตกต่างจากนักเขียนอย่างกูเลยสักนิด

 

นับจากนี้เป็นต้นไป…

กูจะเป็นดอกไม้ที่สวยงามในรูปแบบของตนเอง

 

พวกมึงสองคนดูไว้นะ…

และก็รอลิ้มรสได้เลย

จากที่กูเห็นในตอนนี้…

แม่งไม่มีใครหลาบจำเลยสักนิด

ฉะนันรอรับผลกรรมไปด้วยกัน


“อีพวกเหี้ยมารผจญ”
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.3) 16/06/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-06-2019 22:08:10
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.3) 16/06/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 20-06-2019 21:47:27
จัดหนักจัดเต็ม นายเอกแสนดีไม่มีอีกแล้ว :pig4:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.3) 16/06/2019
เริ่มหัวข้อโดย: BabyGB ที่ 23-06-2019 04:05:59
สุดยอดดดด อ่านละหัวร้อนตามเลยอ่ะ บู้สนั่น​มาก อิเด็กรุ่นน้องนี่เลวจริงยังหน้าด้านมาบอกว่าที่แย่งของคนอื่นเพราะชอบนีคือเห็นแก่ตัวไร้จิตสํานึก​มาก รอติดตามต่อนะคะ ชอบมาก ขอบคุณ​สำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.3) 16/06/2019
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 28-06-2019 20:21:24
 o13 o13 o13สุดยอดทุกเรื่องเลย เป็นการเอาคืนที่สาสมมากกับการนอกใจ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.4) 15/07/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 15-07-2019 20:58:28
ไม่ใช่นางเอก : 4



 

‘ดัดจริต’ คือคำที่อยากให้กับคนบางคน…

หัดสำออย

ตอแหล

ทองไม่รู้ร้อน

ทำตัวเหมือนตกเป็นเหยื่อ

คนแบบ ‘มึง’

บอกรักเขา…

จะจับมือข้ามผ่าน

ติดแท็กผัวชั่วช้าที่กูเคยรัก

ถึงกระนั้น ฝ่ายชายก็ใช่ว่าจะตอบกลับ

ดูก็รู้…

ว่าไม่นานก็คงไปไม่รอด

พวกมึงสองตัว…

น่าจะชะตาขาดกันอีกไม่นาน

สิ่งที่กูคิดไว้

มันก็คงจะตรงตามคาดคะเน

แย่งได้

เอาไปได้

ทำบาปได้

แต่ผลกรรมจะตามทัน

ต่อให้กฎหมายไม่เอาผิดพวกมึง

บาปกรรมมันไม่ตามสนอง

มันก็คงเป็นกู…

ที่เป็นผลลัพธ์ของบาป

เป็นฝ่ายลงทัณฑ์พวกมึงเอง

จริงๆ ไม่ได้อยากจะเห็นสักนิด

ไม่อยากจะรับฟังข้อความของพวกมึงใดๆ ทั้งสิ้น

เกลียดใครก็ไม่อยากจะเห็น

รำคาญลูกตา ขยะแขยงเหมือนพวกเสนียดจัญไร

แต่เพื่อนของกูก็ยื่นให้ดู

อดจิกกัดพวกมึงสองคนแทนไม่ได้

“อีเหี้ยนี่แม่งหน้าด้านจริงๆ”

มันก็คงเป็นเช่นนั้น…

เราได้แต่เงียบ

หุบปากไม่เอื้อนเอ่ย

ไม่ตอบคำถาม

เลือกที่จะไม่สนใจ

นั่งตักข้าวเข้าปากตัวเองเงียบๆ

นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว

สองวันแล้ว…ตั้งแต่ทำร้ายพวกมันสองตัว

มหาลัยไม่มาเรียน

ก็คงเดาได้

คงอาย…

แต่ไร้ยางอายตอนเอากัน

เป็นเหี้ยไรมากเหรอ ?

ทีงี้มาอายต่อหน้าสาธารณะ

ที่ลับหลังแย่งผัวชาวบ้าน

หรือนอกจากใจแฟน

ทำไมไม่อาย ?

ทำไมไม่หัดจำสักนิด ?

คิดได้เมื่อทำผิด ?

มีความกระดากอายขึ้นมาทันใด

พวกมึงช่างดูย้อนแย้งในการกระทำ

“เอ่อ…หวัดดีครับ”

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอยู่เหนือหัว

เราเงยหน้ามองเพื่อนในทันที

เห็นพวกมันสองคนเบิกตาโพลง

อ้าปากเหวอในทีแรก

เราจึงหันไปด้านข้าง

มองชายฉกรรจ์ที่ยืนค้ำหัวอยู่ข้างกาย

“?” เอียงคอมองเขาอย่างสงสัย

ใครกัน ?

รู้จักกันด้วยเหรอ ?

บุรุษตรงหน้ามีผิวแทนคร้ามแดด สูงโปร่งหล่อเหลา นัยน์ตาเฉียบคม

ดูเหมือนแบดบอย

บวกกับลุคที่ใส่เสื้อชอปวิศวะ

เหมาะสมกับนิยายเรื่องหนึ่งที่เราเคยแต่ง

‘เขา’ ไม่ได้ตรงสเปคเราเลย

และเราเองในยามนี้…

ก็เริ่มไม่ค่อยจะชมชอบบุรุษเท่าไหร่นัก

หัวใจมันปิดกั้น

เหมือนความหวานของความรัก และความสนใจต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน

คือยาขมขื่นที่ชักชวนให้พะอืดพะอม

“ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”

“…” เราเงียบ

“เรื่องผู้หญิงที่ชื่อมุกกับแฟนของคุณ”

เลิกคิ้วอย่างแปลกใจกับนามที่ได้ยิน

อะไรกัน ? ตัวละครที่สี่เข้ามาสวมบทบาทเพิ่มเติมอีกแล้วเหรอ ?

ขำชะมัด

เหมือนในนิยายเลย

มักจะผุดมามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น

“ไม่ได้จะมาดักตีใช่ไหม ?” เราถาม อย่างน้อยก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

จู่ๆ คนแปลกหน้าก็เข้ามาหา

แถมยังใส่เสื้อชอปวิศวะอีก

เป็นใครก็คร้ามเกรงกันทั้งนั้น

“เปล่าครับ ผมแค่อยากมาถามไรนิดหน่อย”

หึ ไม่นิดแล้วมั้ง

น่าเครียดทะมึนเชียว

“งั้นก็คุยตรงนี้เลย” เราตอบกลับ มองเขาด้วยแววตาเย็นชา

แท้จริงก็ไม่ได้กลัวหรอก

นับตั้งแต่เกิดเรื่องพรรค์นั้น

ความรู้สึกกริ่งเกรงก็ไม่เคยมีเลยสักนิด

“เอ่อ กูว่ามึงออกไปคุยกับน้องเขาสองคนเถอะ” เพื่อนเราหันมาบอก ไม่วายสะกิดแขน

เราพรูลมหายใจออกจากปาก

คือเบื่อ

เบื่อทีจะต้องเสวนากับเรื่องพรรค์นั้น

บางสิ่งบางอย่าง…

ก็อยากให้ลบหายไปจากความทรงจำ

ทีละเล็กทีละน้อยก็ยังดี

“เฮ้อออ” ถอนหายใจด้วยความเซ็งจิต

ลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยพลัน

เดินสวนผ่านชายฉกรรจ์

เราเดินนำหน้าเขาโดยไม่หวาดระแวง

ตอนนี้ก็อยู่ในมหาลัย

คาดเดาว่าคงไม่โดนดักตีง่ายๆ หรอก

ครั้นเดินถึงจุดที่มีต้นไม้สูงชะลูด

กิ่งไม้และใบไม้สีเขียวขจี ต่างแผ่คลุมเป็นวงกว้าง

มอบเงาทะมึนที่บดบังแสงแดดต่อเรือนกาย

บรรยากาศจุดนี้ทำให้เราผุดคิด

ล้มตัวนั่งตรงเก้าอี้ม้าหินอ่อน

แอบตั้งคำถามภายในใจ

ลมเย็นพัดผ่านช่างร่มรื่น

อืม ก็น่ามาแต่งนิยายตรงนี้ดี

คนก็ไม่ค่อยจะมีด้วย

จิตใจน่าจะเย็นสงบขึ้นมาบ้าง

ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมตัวเองขึ้นทัดหูเล็กน้อย

มันระข้างพวงแก้มจนน่ารำคาญ

สงสัยต้องตัดทิ้ง

ตัดความรำคาญเหมือนความสัมพันธ์

“ว่ามา” เราที่ก้มหน้างุดช้อนตาขึ้น

จับจ้องบุรุษที่พินิจเราอย่างผิดปกติ

“นาย” เราเอ่ยเรียกเตือนสติคนตรงหน้า

เขาทำท่าเหมือนลืมจุดประสงค์

“เอ่อ โทษที” คนตรงหน้ากระแอ่มกระไอ ยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยแก้เขิน

“ผมชื่อตี้นะ เป็นแฟนเก่าของมุก ผู้หญิงที่แย่งแฟนคุณนั่นแหละ”

“…” เราขมวดคิ้วมุ่น ยกแขนขึ้นมากอดอก พลางนั่งไขว่ห้างในบันดล

ก็เคยได้ยินมาบ้าง

เคยรับรู้มาบ้างว่ามุกกำลังคบกับผู้ชายคนนึง

แต่ไม่เคยคิดจะไปเสร่ออยากเห็นหน้าคร่าตาของแฟนชาวบ้านเลยสักนิด

“อืม” ขานรับ ก็บ่งบอกว่ารับรู้

ยินดีที่ได้รู้จัก…

ในนามของคนรักเก่าที่ถูกหลอกลวง

“โดนนอกใจเหมือนกันสินะ” อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถาม หลุดเสียงหึเล็ดลอดภายในลำคอ

มองคนตรงหน้าที่มีสีหน้าซึมเซาลง

อีกฝ่ายดูท่าจะเด็กกว่าเราเยอะ

เพียงแค่ตัวสูงโปร่งกว่าก็เท่านั้น

สีหน้าแบบนี้ดูท่าจะรักมาก

รักจนหน้ามืดตามัวพอๆ กัน

“ดวงเราสองคนคงสมพงษ์”

เราหยัดกายขึ้นยืน

มองคนตรงหน้าที่เงยขึ้นมาสบตา

เราจึงย่างกรายเข้าไปใกล้

อีกแค่ก้าวเดียวเราสองคนก็ประชั้นชิด

ยกมือข้างขวาขึ้นมา

ยื่นปลายนิ้วชี้จรดลงที่อกข้างซ้ายของคนตัวโต

ทิ่มลงตรงกลางใจ

สัมผัสเนื้อหนั่นหนา

ผุดรอยยิ้มเจื่อนๆ

ปริปากถึงถ้อยคำเสียดแทงความรู้สึก

คล้ายกับหนาม…

ที่รัดรอบอยู่ภายในใจ

คอยบีบรัดเมื่อหวนระลึกถึง

ว่าดวงเราคงสมพงษ์…

“ถึงได้โดนนอกใจเหมือนกันเลย”

“…”

“แฟนเก่ากับแฟนเก่าที่โดนนอกใจมาเจอกัน”

เราปริปากเลือกที่จะใช้คำพูดตลกร้าย

“ไม่ทราบว่าน้องตี้ที่เป็นแฟนเก่าของรุ่นน้องผู้ร่านรักของเรา…”

“…”

“จะมาถามเรื่องอะไรกับรุ่นพี่คนนี้เหรอ ?”

แย้มยิ้มกว้าง หัวเราะตลกร้ายในดวงชะตา

ไม่ได้นึกสงสารบุรุษตรงหน้าแม้แต่น้อย

“จริงหรือเปล่าที่พวกเขาคบกัน ?”

ประดุจคำถามของเด็กน้อยไม่ประสีประสา…

ผู้ที่ยังไม่สามารถยอมรับกับความเป็นจริงในบางประการ

“ดูท่าจะรักมาก ถึงได้แต่ตั้งคำถามปัญญาอ่อน”

“…”

“ก็เห็นถึงขนาดเจอพวกแม่งสองตัวเอากันในห้องตัวเอง”

“…”

“น้องตี้คิดว่ายังไงล่ะ ?”

พอใจกับคำตอบแล้วหรือยัง ?

ถามคำถามที่ทำให้นึกถึงภาพโสมม

ฉุกคิดก็อยากจะร้องไห้

โทสะมันเริ่มผุดขึ้นมาอีกระลอก

หน้าในตอนนี้ก็คงแดงจัด

แย้มยิ้มยังคล้ายกลบเกลื่อนความรู้สึกภายในใจ

ฝืนทนความเจ็บปวด

“ขอโทษครับ”

ชายหนุ่มตรงหน้าดูรู้สึกผิด

ส่วนเราหันหลังกลับ

โน้มตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ดังเดิม

ยกมือขึ้นมาลูบหน้าไปพลาง

และเงยหัวขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์

ขับไล่ความทรมาน

อาจเพราะว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้

อาจเพราะว่าตอนนี้ไฟมันยังสุมอก

อาจเพราะว่าตอนนี้ยังไม่รู้สึกดี

หรืออาจเพราะว่าตอนนี้บาดแผลลึกยังติดค้าง

ทุกคนเลยพูดปลอบให้เราปล่อยวาง

นิ่งเฉยนะ

ไม่ต้องสนใจหรอก

ลืมมันไปได้แล้ว

ดีแล้วที่ถอยออกมาจากบุรุษแพศยา

เตือนสติเราครั้งแล้วครั้งเล่า

เบื่อ

รู้หรอก…

หากเราทำกันได้คงทำไปนาน

ทุกสิ่งมันย่อมใช้กาลเวลาไม่ใช่เหรอ ?

และเวลาในตอนนี้อาจไม่มากพอในการบรรเทา

“คุณร้องไห้”

“เปล่า” เราปฏิเสธ แต่รู้สึกได้ว่ากระบอกตามันอุ่นร้อน

เราโคตรเบื่ออาการนี้

“ผมขอโทษ”

“เลิกพูดขอโทษสักที มันไม่ใช่ความผิดนาย”

ชักจะรำคาญ ปรายตามองคนตัวโต

ไม่ได้ใช้น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากหรอก

ออกจากนิ่งเรียบดูเย็นชา

คล้ายคนหมดอารมณ์จะคุย

“อืม ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อว่ามุก… หึ ไม่สิ ‘เธอ’ ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะนอกใจผม”

คนตรงหน้าเค้นเสียงอย่างยากลำบาก

อากัปกิริยาคล้ายคนไม่อยากจะเอื้อนเอ่ยสรรนาม

อาการเดียวกัน…

เหลือเชื่อ ปะปนด้วยความโกรธ

แอบแฝงด้วยความรังเกียจ

ขยะแขยงเหลือหลายกับบุรุษและสตรีมารผจญ

ส่วนลึกก็เพราะกมลสันดานของคนเรา…

เราเข้าใจความรู้สึกของตี้ดี

“ทุกสิ่งย่อมไม่แน่นอน มันก็ดีที่ทำให้เรารู้สันดานชั่วช้าของคนเรา ฉะนั้นช่างมันเถอะ” เราพูดปลอบ

“อนาคตข้างหน้าอาจเจอคนที่ดีกว่า”

“…”

“แต่ไม่เจอเลยก็ดี มีแต่พวกไม่น่าไว้วางใจ ผู้ชายเลว”

เอ่ยเสียงแผ่วเบาในประโยคท้าย

ก้มหน้าไม่สบตาอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

หยิบใบไม้บนโต๊ะหินอ่อนที่ร่วงหล่น

นำมาฉีกกระชากเล่น

ทำลายสิ่งธรรมชาติที่อีกไม่นานก็คงแห้งกรัง

ปลิดปลิวไปกับสายลมที่พลิ้วไหว

บัดนี้ใบไม้มันละเอียดเหมือนเศษกระดาษที่ป่นปี้

ความรู้สึกเป็นผุยผง แหลกสลายเหมือนใจคน

“ผู้ชายบางคนก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป” เสียงทุ้มต่ำของอีกฝ่ายกล่าว

เราที่ก้มมองพื้นเห็นรองเท้าสีดำสนิท

อีกฝ่ายเขยื้อนเข้ามาใกล้

สักพักสัมผัสที่นุ่มนวลก็วางลงตรงศีรษะ

เราเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนค้ำหัว

เจ้าตัวแย้มยิ้มอบอุ่นระคนเศร้า

ฝ่ามือหนาไล่ปลอบประโลมบนกลางกระหม่อม

มอบความรู้สึกดีให้แล่นพล่านภายในใจ

มอบให้แก่นักเขียนคนนี้ที่มัวหมอง

สายตาของเราดันวูบไหว

ก่อนจะรีบหยุดยั้งความรู้สึกภายในใจ

ยกมือขึ้นปัด “ทำบ้าอะไรกัน”

“ปลอบเด็ก” คนตรงหน้าตอบ

“บอกตัวเองเถอะ” เราสวนกลับ เขม่นตาใส่ไม่พอใจ

“ก็คุณดูขี้แง”

“หึ เด็กที่ทำหน้าเศร้าในทีแรก กล้ามาบอกว่าคนอื่นขี้แงได้ด้วยเหรอ”

เรายิ้มขำ

ลมหายใจเริ่มผิดปกติ

ทันทีที่คนตรงหน้าโน้มตัวลงต่ำ

ใบหน้าเขยื้อนเข้ามาใกล้

ทำให้เราต้องหดคอถอยหนีไปด้านหลัง

มองสีหน้าที่กำลังยั่วเย้าของเด็กวิศวะ

สายตาประกายคมพินิจมองทุกสีหน้า

เขาหยอกเย้าคล้ายมีความสุข

ผิดแปลกจากก่อนหน้านี้ที่เคยเป็น

พลันอมยิ้มข้างมุมปาก

ลมหายใจอุ่นร้อนรวยรินอยู่ใกล้กลีบปาก

อีกนิดเดียวก็สัมผัสกันได้

เราหยุดชะงัก

นึกไม่ชมชอบกับสิ่งเหล่านี้

ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ

ทำท่าจะด่าว่า

แต่ก็ต้องหุบลง

กลับกลายเป็นหัวใจที่สั่นรัวแรง

โคตรเกลียดความรู้สึกนี้เลย

เกลียดความวูบไหวที่สั่นอยู่ภายในอก

อาการของมันคล้ายคนที่กำลังตกหลุมรัก

ดูท่าจะใจง่าย…

แต่แท้จริงก็แค่รู้สึกดีเท่านั้น

รู้สึกดีเวลามีใครทำเช่นนี้

มันคงเป็นความรู้สึกเพียงแค่ผิวเผิน

เพราะใจของคนเรามันเปลี่ยนกันง่าย

เพียงเพราะประโยคถัดมา

“ดวงเราคงสมพงษ์กันจริงๆ อย่างที่คุณบอก”

“งั้นขอถอนคำพูดเลยละกัน” เอ่ยคัดค้าน

รีบผลักอกกว้างให้ถอยออกห่าง

ลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเดินหนี

บอกตามตรงว่าสะอิดสะเอียน

นึกถึงภาพตอนตัวเองได้เสียกับแฟนเก่า

นึกถึงเด็กที่ชื่อตี้คนนี้ได้เสียกับผู้หญิงคนนั้น

คำพูดนัยแฝงที่มาใช้กับเรา

อารมณ์อิริยาบถเหมือนพวกคนเจ้าชู้

แค่หวนนึกถึงวาจาที่เคยใช้กับคนอื่น

นึกถึงภาพว่าอีกฝ่ายเคยได้เสียกับผู้หญิงคนนั้น…

หรือคบกันมาแล้ว…

ทั้งเนื้อทั้งตัวมันก็ขนลุกไปหมด

ฉะนั้น ไม่มีทาง

หมับ !

แต่เรียวแขนก็กลับถูกกัก

ฝ่ามือใหญ่กำชับเรียวแขนเล็ก

หยุดชะงักเรียวขาของเราที่กำลังหลีกหนี

เราหันไปชักสีหน้าใส่คนข้างหลัง

หมอนั่นรีบโผล่หน้ามายืนด้านข้าง

ทำให้เราต้องหมุนกายมาประจันหน้า

อยากจะถามว่ามีอะไรไม่ทราบ

แค่ทุกวันนี้ก็ปวดหัวมากพอแล้ว

อย่าหาเรื่องใส่กระบาลของเราเพิ่มเลย

“มีอะไรอีก” ถามไปจะได้จบๆ

“ผมจะไปพาคุณไปเลี้ยงขนม หาอะไรอร่อยๆ กินกันคลายเครียด”

“ไม่กิน” เรารีบปฏิเสธ และพูดคาดการณ์ล่วงหน้า

“ถ้าคิดจะจีบ บอกเลยว่าไม่กินเด็ก และไม่เคยคิดจะกินของเหลือจากผู้หญิงแพศยานั่นด้วย”

“งั้นคุณคงต้องผิดหวัง” อีกฝ่ายยิ้มกว้างมีความสุข

น่าแปลกใจที่ความเศร้าสร้อยนั้นแปรผัน…

กลับกลายเป็นรอยยิ้มปรีดา

เมากาวหรือไงกัน

“อะไร ?” เราถามอย่างข้องใจ

กล้าดียังไงมาแทนตัวว่าผมกับคุณ

นี่สังเกตหลายครั้งละ

ทั้งที่เราอายุมากกว่าแท้ๆ

ช่างเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ

“ก็เพราะผมยังไม่เคยมีอะไรกับเธอไง”

“…”

“แม้แต่ครั้งเดียว”

“…”

“แบบนี้จีบได้ยัง”

“ขอบคุณ แต่ไม่จำเป็นต้องบอก เพราะยังไงก็ไม่เอาอยู่ดี”

เอามืออีกข้างแกะมือหนาในทันใด

หันหลังเดินจาก ไม่คิดจะเหลียวหน้าหันไปมอง

หรือสนอกสนใจกับเสียงที่ดังให้หลัง

“กินเด็กวิศวะเป็นอมตะนะคุณ !!”

เรารีบยกมือข้างขวาขึ้น

ชูปลายนิ้วทั้งห้าในบันดล

หุบปลายนิ้วลงทีละนิ้ว

หลงเหลือเพียงปลายนิ้วเดียวที่เด่นหรา

ชูขึ้นแค่ตรงกลาง

 “ฮ่าๆๆ” จึงได้ยินเสียงหัวเราะตอบกลับมา

แต่เดินมาตรงจุดที่ใกล้จะถึงตึกไม่ทันไร

ขาก็ต้องหยุดชะงัก

เสือกดันมาเจอบุคคลที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

“คุณ” เสียงอีกฝ่ายดูแผ่วเบา มีผู้หญิงอีกคนที่เดินตามท้าย

ยัยมุก…

น้ำตาของหล่อนนองหน้า

ต่างจากผู้ชายที่ยืนเครียดต่อหน้าเรา

เราแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

เปรียบเสมือนเห็นภูติผีสองตนที่ไร้ตัวตน

อยู่คนละโลกกับสิ่งที่เรากำลังอาศัย

และดูเหมือนพักนี้จะโดนแตะเนื้อต้องตัวบ่อย

อีกสักหน่อยคงต้องเปิดไพ่ดูดวงชะตา

รีบสะบัดแขนทิ้งคล้ายโดนของร้อน

ถลึงตามองอย่างวาวโรจน์

“ไปไกลๆ ตีน”

มึงรีบไสหัวไปไกลๆ ตีน…

ทั้งมึงและมัน…

กูไม่คิดจะยุ่งหรืออยากรู้สาเหตุด้วยซ้ำ

ว่าเหตุใดยัยมุกถึงได้ร้องไห้

น้ำมูกน้ำตาไหล

ไม่หลงเหลือแม้แต่ความน่ารักอย่างที่เคยเป็น

เราจึงจิกกัด

“วันนี้ดูสวยเป็นพิเศษนะ”

“ฮึก”

“หน้าตาดูธรรมชาติดี” แย้มยิ้มกว้างใส่รุ่นน้อง

“เหมือนสัตว์เลย”

คล้ายลิงบาบูน

แก้มก็แดง ปากก็อมชมพู

มาสคาร่าก็เปรอะเปื้อน

แปลกใจที่วันนี้มึงสองตัวมาเรียนกันด้วย

เก่งจัง

เลยตบมือให้

และไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงทะเลาะกัน

“จะเลิกกันแล้วสินะ” อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มแย้มปั่นประสาท

ตบมือให้ดังลั่น

แต่มีบางคนทนไม่ไหว

รีบพุ่งพรวดมาหาเรา

เราจึงเบี่ยงตัวไปด้านข้าง

หลบหลีกการประทุษร้าย

แต่ดูท่าจะฉุนเฉียวมาก

ขณะที่เราไม่คิดจะตอบโต้

เห็นนักศึกษามองกันเต็ม

เราจึงได้แต่หลบฝ่ามือที่ทำท่าจะตบ

ดันไปเห็นชายหนุ่มที่ชื่อตี้

ฝ่ายนั้นกำลังเบิกตาโพลง

วิ่งตื่นตะลึงมาทางเรา

คงเป็นเพราะเราเอง…

ที่ดันไปสนใจสิ่งรอบตัว

ปลายนิ้วมือของใครบางคน…

จึงฟาดไม่ยั้งแรงใส่แก้มเรา

พลันโซซัดโซเซ ก่อนจะถูกผลัก

ร่างคว่ำคะมำอยู่ที่พื้น

เราใช้ปลายนิ้วเกลี่ยข้างมุมปาก

สำรวจดูดีๆ จึงรู้ว่าเลือดรินไหล

ถือว่ามือหนักดี

แต่โชคดีด้วยนะ…ที่ตอนนี้บทบาทนางเอกของมึง…

มันจบลง

มือถือผู้คนนั้นยกขึ้นมาถ่าย

ส่วนเรานิ่งเฉยไม่ตอบโตเ

ยอมนอนหมอบให้คนที่เข้ามาขึ้นคร่อม

ตบที่หน้า

ตบที่แก้ม

ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง

เรายกแขนขึ้นมาปกป้องบางจังหวะ

ขณะที่อีกคนทั้งข่วนทั้งจิก

ฟาดหน้าเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เราได้ยินเสียงของแฟนเก่าเราที่ห้ามปราม

จากนั้นก็กระชากตัวเธอให้ถอยออกห่าง

เราขดตัวเองอยู่ตรงพื้น

เนื้อตัวสั่นระริก

หยาดน้ำตารินไหลเพราะความเจ็บปวด

ก่อนจะถูกใครบางคนที่เข้ามานั่งคุกเข่าอยู่ตรงพื้น

โอบประคองร่างกายเราจากด้านข้าง

เปรียบเสมือนบุรุษที่ให้เกาะกำบัง

เรารีบซุกหน้าเข้าหาแผงอกกำยำ

ไม่ได้มีเจตนาล่วงเกินชายหนุ่มวิศวะ

“ค…คุณ” อีกฝ่ายเสียงสั่นด้วยความตกใจ

เราสะอื้นไห้จนตัวโยน

มือไม้ก็สั่นระริกเหมือนคนหวาดผวา

ดูขวัญเสียและเกรงกลัวไม่สู้คน

ยกแขนที่รู้สึกแสบพล่านพาดอยู่บนลำแขนแกร่ง

โชว์ร่องรอยบาดแผลที่คิดว่าน่าจะมี

รอยเลือด

รอยจิก

รอยข่วน

ครั้งนี้ขอบ้าง

ขอสักหน่อย…

บทบาทนางเอกของกู

เราช้อนตามองยัยผู้หญิงที่เกี้ยวกราด

ทำท่าจะกระโจนพร้อมทำร้ายทุกวินาที

ตลกดี คล้ายคนบ้าไม่เต็มบาท

แววตาของเรามันสั่นระริก

ซุกหน้าเข้าหาแฟนเก่าของหล่อนมากยิ่งขึ้น

บดเบียดเข้าหา

ต้องการสิ่งคุ้มครอง

หวังหาที่ปกปักรักษา

พลันถูกประคองให้ลุกขึ้นยืน

“นี่เธอเป็นบ้าอะไรฮะ !”เสียงของตี้เอ็ดตะโรดังลั่น

ตวาดไม่ไว้หน้าสตรีเพศแม่

“เจ็บ” เราเอ่ยเสียงแผ่ว

ดังพอที่คนที่โอบไหล่เราอยู่จะได้ยิน

ชายหนุ่มจึงเบี่ยงเบนความสนใจ

“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล”

“ไม่ต้องไปช่วยมัน !” ยัยมุกชี้สั่ง

“หุบปาก !” ชายหนุ่มรีบหันขวับไปสวนกลับ

“อยู่กับแฟนใหม่ที่คุณแย่งมาเถอะ”

ว้าว

เรานึกอยากคารวะกับฝีปากของเด็กคนนี้

แอบพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน

ลอบสำรวจดูผู้คนที่ถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปไปพลาง

เราถูกจับเหลียวหลังเพื่อจะพาออกจากมหาลัย

หวังไปโรงพยาบาลเพื่อรักษารอยขีดข่วน

คนอื่นยังคงถ่ายคลิป

ส่วนเราร่ำไห้

แต่ภายในใจเหมือนออกมาโบกมือขบขัน

กรีดรอยยิ้มบอกสตรีกับบุรุษชั่วช้าอีกสักครั้ง

นึกอยากกวนส้นตีน

ว่าเนี่ย…

ดูสิ

ดูผลลัพธ์

ครั้งนี้มันจะมาอีกแล้วนะ

น่าสงสารจังเลย

การเล่นสนุกกับสื่อออนไลน์

ฉะนั้น วันนี้เรามาลองสลับบทบาท

เพื่อส่งทอดตำแหน่ง…

ให้แก่มึง และมึงทั้งสอง

เป็นตัวร้ายที่แสนอาภัพ


รวมกลุ่มกันเข้าไว้

ไม่คิดว่าในนิยายที่เคยเขียน

ชอบทำตัวโง่เง่าเต่าตุน

ชีวิตจริงจะมีคนที่ทำเรื่องงี่เง่าเช่นเดียวกัน

ฉีกยิ้มต่อหน้ากล้องสักหน่อยสิ…

อีพวกตัวร้ายทั้งหลายแหล่ : )
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.4) 15/07/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-07-2019 21:34:50
ตี้..พระเอกป่าวเอ่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.4) 15/07/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Fasai25448 ที่ 16-07-2019 09:57:04
สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.4) 15/07/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 17-07-2019 23:35:34
ชอบมาก สะใจทุกเรื่อง :L1:
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.4) 15/07/2019
เริ่มหัวข้อโดย: BabyGB ที่ 20-07-2019 04:18:39
ได้พระเอกที่แท้จริงละ อิมุกมันยังเป็นผีบ้าไม่เลิกเหรอ แต่ว่านะจบแล้วค่ะ โดนเอาคืนแบบสวยๆ อิอิอิอิ สนุกมากเลยยยย รอติดตามเรื่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.5 จบ) 16/12/2019
เริ่มหัวข้อโดย: lookpatty15407 ที่ 16-12-2019 03:28:08
ตอนที่ห้า

 

การหัดสำออย

หรือคำสั้นๆ ที่เรียกว่า ‘ตอแหล’

น่าจะใช้ได้กับคนหลายประเภท

เฉกเช่นเรา

ที่นิ้วหน้าโอดครวญอยู่นี้

หาได้มีความละอายใจไม่

ถูกบุรุษพยาบาลพันผ้าพันแผล

รักษาร่องรอยขีดข่วนที่มีเลือดไหลซิบ

แต่ถ้าถามว่ามันเจ็บมากไหม ?

ก็ไม่เชิงซะทีเดียว

มันก็แค่ความรู้สึกแสบพล่าน

ที่มากล้นไปด้วยความโทสะมากกว่า

อยากจะเอาคืน

อยากจะตบกลับ

นึกแล้วก็คับแค้นใจยิ่งนัก

แต่ต่อหน้าผู้คนก็ต้องเสแสร้งเข้าไว้

ลองบ้างสิ

ลองให้กูทำบ้าง

ลองให้ไม่มีครรลองสายตาผู้คนบ้าง

หวังเหรอว่ามึงจะไร้บาดแผล

อีรุ่นน้องดัดจริต

“เจ็บมากไหม”

คำถามอบอุ่นคล้ายเป็นห่วงเป็นใย

ดังมาจากคนด้านข้าง

ทำเราหันไปมองผู้ตั้งคำถาม

ส่ายหน้าตอบกลับ

“ไม่”

ก็ไม่เท่าไรหรอก

เทียบไม่ได้กับความคับแค้นในจิตใจ

มากล้นเสียจนอยากหยิบมีดมาแทงคน

แค่นึกก็โทสะละ

แต่ก็ต้องปั้นหน้านิ่งให้เรียบเฉย

บ่งบอกให้รู้แจ้ง

ว่าไม่เจ็บนะ

ว่ายังสบายดี

ถึงจะมีซี๊ดบ้างตอนหมอทายา

บาดแผลนี้ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการห่างหาย

เทียบไม่ได้กับแผลในจิตใจเลยสักนิด

ที่ยากเกินจะไร้ร่องรอย

“นายกลับไปเถอะ” หันไปบอกคนข้างกาย

“ขอบคุณมากที่มาส่งโรงพยาบาล”

“เดี๋ยวผมพากลับ”

เราขมวดคิ้วยุ่ง

“ไม่ต้อง”

“ดื้อ”

“เฮ้อ” ถอนหายใจอย่างปวดหัว

ไม่รู้จะตามวอแวไปทำไม

ผลพลอยได้ก็ไม่มี

“จะตื้อจีบให้ติดหรือไงกัน”

เลยถามตรงๆ

พูดไปเลยถึงจุดประสงค์

“เปล่าซะหน่อย”

อีกคนกลับปฎิเสธ

ไม่รู้ทำไมเราถึงคันยุบยิบในอกแปลกๆ

ชักรำคาญ

“งั้นเชิญตามสบาย”

 

บรรยากาศในรถที่เงียบสงบ

ไร้เสียงเพลงที่เปิดคลอให้เพราะพริ้ง

ท้องฟ้าในยามบ่ายก็กลายเป็นมืดครึ้ม

เม็ดฝนโปรยปรายร่วงตกหล่น

ตกกระทบกับกระจกรถดังแปะๆ

ตกกระทบกับพื้นดินบ้าง

ตกกระทบมาถึงน้ำตาในจิตใจของคนเราด้วย

ว่าทำไมนะ

ว่ามันจะมีเหี้ยอะไรกันนักกันหนา

ขนาดไม่ยุ่งวอแวแล้วนะ

ก็มีพวกตัวเหี้ยสองตัวมาโคจรอีก

ต้องทำยังไงกับพวกแม่งดี…

แต่เหมือนคำถามจะได้รับคำตอบ

รถที่มาจอดถึงบ้านไม่ทันไร

เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ซุ่มอยู่ตรงต้นไม้

กางร่มสีแดงฉาน

“ยัยมุก” เราเอ่ยลอยๆ

แต่ดังมากพอที่คนข้างกายจะได้ยิน

อีกฝ่ายมองตามสายตาของเรา

ไปยังทิศทางที่มีหญิงสาว

เราอดไม่ได้ที่จะเอ่ยจิกกัด

“สงสัยมาดักตบ”

แหม ก็ดูสิ

ย่างกรายมาถึงถิ่น

วุ่นวายไม่เลิกรา

อีดอกนี่ชักจะเอาใหญ่ละ

เราปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว

เดินลงมาจากรถยนต์

ฝนสาดกระหน่ำใส่เส้นผม

เปียกปอนไปถึงเสื้อผ้า

เปียกโชกไปทั้งกายา

แต่หายี่หระใดๆ ไม่

เราเอ็ดตะโรดังลั่น

ดังให้ยิ่งกว่าสายฝน

“มึงมาอีกทำไมอีก !?”

“…” ไร้การตอบกลับ

เห็นมันยืนนิ่ง

เราเองก็ยืนกอดอก

ปัดเศษน้ำที่บดบังทัศนียภาพ

หยาดธาราเกาะอยู่บนขนตา

ก่อนที่ตี้จะลงจากรถ

ยัยมุกถึงได้หันเหความสนใจไปทางอีกคน

“ด่าคนอื่นว่าแย่งผัว หึ ตัวมึงเองก็แย่งแฟนเก่าชาวบ้านเช่นกัน อีควาย !” มันด่ากลับ

เรายักไหล่ไม่สะทกสะท้าน

ในใจตั้งคำถาม

มึงด่าได้แค่นี้เหรอ ?

“แล้วไง ?”

เราเดินไปหาอีกคน

ถือวิสาสะเข้ามาควงแขน

ร่างกายเบียดชิด

เสื้อผ้าเปียกปอน

แนบแก้มลงกับไหล่หนา

ถูไถอย่างออดอ้อน

ปั่นประสาทพวกบ้าบอ

เป็นดังคาด

อีมุกโทสะ

ในใจรุ่มร้อน

มันทิ้งร่มลง

เดินย่างกรายมาทางเรา

เราปล่อยแขนจากอีกคนในทันใด

เดินฟาดฟันประจันหน้า

อยากตบก็มา

คิดว่ากูจะกลัวมึงเหรอ ?

แต่แปลกนักที่มันรีบวิ่ง

เราไม่ทันสังเกตว่ามันล้วงหยิบอะไรจากด้านหลัง

มารู้ตัวก็ตอนที่มันใกล้ประชั้นชิด

พลันได้ยินเสียงแม่ของตัวเองเรียกในจังหวะนั้น

แถมเป็นจังหวะที่สายตาค่อยมาเหลือบเห็นคมมีดในครัวเรือน

สิ่งมีดคมสะท้อนแสงไฟจากหน้าบ้านเรา

เราแอบสะดุดลมหายใจกลางคัน

เตรียมจะถอยหลังกรูดหนี

ไม่ก็เสหลบไปอีกทิศทาง

ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะหลบหลีกได้ทันท่วงที

ดันมีคนชิงไหวชิงพริบได้ดีกว่า

จับไหล่เรากระซากผลักหงายหลัง

กลายเป็นอีกคนที่เข้ามาบดบังสิ่งตรงหน้า

เสียงดัง ซัวะ ! จึงตามมา

ทิ่มแทงลงที่หน้าท้องของอีกฝ่าย

เราเห็นหยดเลือด

จากนั้นพื้นที่เคยเปียกไปด้วยสายฝนที่เย็นเฉียบ

ก็แทนที่ด้วยหยาดโลหิตที่มากล้น

สายฝนผสมปนเปไปกับเลือด

ไหลลู่อยู่บนพื้นถนนซีเมนต์

ดูแทบไม่ออกเลย

รอบด้านก็หนาวเหน็บ

เสียงคนก็กรีดร้อง

อีกคนก็โอดครวญ

ยัยมุกมือไม้สั่นระริก

ปล่อยมือจากสิ่งที่กุมเอาไว้มั่น

เราถึงเพิ่งได้สติ

“ตี้ !” เรียกสรรพนามคนตรงหน้าที่ค่อยๆ ซวนเซ

ล้มลงกระแทกกับพื้นดิน

ยัยมุกดูท่าทางสับสน

ตาของมันยังจ้องวาวโรจน์มาทางเรา

“เพราะมึง เพราะมึงคนเดียว” มันชี้หน้าด่าเราเหมือนคนบ้า

จากนั้นก็กระโจนเข้ามาหมายจะตบ

เรารีบลุกขึ้น

ใจหนึ่งก็นึกเป็นห่วงอีกคนที่บาดเจ็บ

ทว่าอีคนประสาทแดกเหมือนเป็นไบโพล่าร์

ดันไม่คิดจะจบง่ายๆ เสียนี่

มันหมายจะฆ่าเราชัดๆ

และมันก็ไม่ล้มเลิกความพยายาม

“มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึง ! ” เราตวาดต่อหน้ามัน

ปัดแขนที่หมายจะมาจิกข่วน

“ลูก !” เสียงแม่เราตกกะใจกับสถานการณ์

เรารวบแขนยัยมุกแน่น

พยายามอย่างมากกับการต่อต้านพละกำลัง

พลันเอ่ยปากเป็นการสั่งแม่

“แม่รีบโทรหารถพยาบาลเร็ว !”

ใจเรามันระส่ำไปหมดแล้ว

หวาดกลัวกับการสูญเสีย

แม้จะเป็นคนแปลกหน้าก็ตามที

แต่ก็เป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอหน้าค่าตา

อีกทั้งยังช่วยชีวิตของเราเอาไว้อีกด้วย

“กูเหลือทนกับมึงละอีสัตว์ !” เราด่าดังลั่น

คราวนี้ให้มันจบๆ กันไป

เอาให้ตายกันไปข้าง

“เพราะมึงคนเดียว กรี๊ดดดด !” มันหวีดเสียงร้องเหมือนผีพราย

ดังจนคนแห่กันออกมาดูนอกบ้าน

กางร่มชะโงกหน้ามา

บ้างก็เปิดกระจกภายในบ้านยื่นหน้าออกมาดู

ทุกอย่างมันรวดเร็วไปหมด

เราไม่มีเวลาจะสนใจ

แต่อีดอกนี่ต้องเอาคืนให้สะใจ

เราเหวี่ยงแขนมันทิ้ง

ตวัดมือขึ้นตบใส่หน้ามันไม่ยั้งแรง

มือที่เปียกเลยกระทบกับแก้มนิ่มอย่างจัง

เพียะ ! ดังลั่น

ไม่สาแก่ใจกับสิ่งที่มันก่อ

เราได้ยินเสียงตี้ร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด

ตาปรือมองมาทางเรา

เราผลักยัยมุกล้มลงหงายหลัง

รีบรุดวิ่งไปดูอาการของอีกฝ่าย

“ทนก่อนนะ เดี๋ยวหมอก็จะมาแล้ว”

รู้สึกผิดชะมัดยาด

คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไม่สมควรมาเจอะเจออะไรเช่นนี้เลย

น้ำตาเราคลอเบ้า

ใต้ตาแดงอยู่หน่อยๆ

ไม่รู้ว่าอีกคนจะสังเกตเห็นไหม

ว่าเรากำลังรู้สึกเศร้ามากแค่ไหน

มือไม้เราสั่นไปหมด

ก่อนจะถูกล็อกคอเอาไว้

ถูกดึงให้ยืนขึ้นสะเปะสะปะ

“มึงตาย” อีมุกพูดกรอกหู

เรารีบจับแขนที่มันล็อก

ใช้พลังกายทั้งหมดดึงออก

ก่อนจะหมุนตัวมาทางมัน

ไม่ไหวแล้วจริงๆ

ยกกำปั้นต่อยเข้าที่หน้ามันอย่างจัง

เราไม่สนว่าจมูกแม่งจะหักไหม

อีดอกนี่จะเป็นยังไง

ไม่เป็นห่วงทั้งนั้น

ช่างปะไร

มันบ้าไปแล้ว

ก็บ้าแม่งไปด้วยเลย

“ตายงั้นเหรอ ?” เราถาม

พลันถีบเข้าที่หน้าท้องมันจนไถลกรูดล้มลงไปกับพื้น

เราอาศัยจังหวะขึ้นคร่อม

หวดหมัดเข้าที่หน้าเต็มๆ แรง

เอาเข้าที่ซีกแก้มให้ฟกช้ำ

มือมันก็พาลข่วนจิกเรากันยกใหญ่

เราหมายกายจะลุกขึ้นยืน

ก็ถูกมันถีบกลับเสียงดังผัวะ !

จนเผลอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด

เกือบจะล้มลงไปเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

อีสัตว์นี่แม่งฤทธิ์เยอะนักนะ

ต้องเอาให้หลาบจำซะบ้าง

กูที่เป็นนักเขียนไม่สนหลีสนแตดไรทั้งนั้น

จะเสียชื่อเสียงหรือออกข่าวก็ช่างหัวแม่ง

มันทำร้ายก่อน

ก็ทำร้ายกลับสิ

รีบเดินถมึงทึง

จิกเข้าที่กลุ่มเส้นผม

ลากตัวมันครูดไถลไปกับถนนซีเมนต์

สร้างรอยบาดแผลที่ผิวเนื้อ

ทั้งเหวี่ยงทั้งถีบ

เตะเข้าที่หน้าท้องจนมันสิ้นสภาพ

เรายกมือขึ้นมาลูบหน้า

ตัวเองก็สะบักสะบอมใช่ย่อย

จากนั้นจึงรีบวิ่งรุดไปหาตี้

ตบเข้าที่ซีกแก้มเบาๆ ไม่ให้อีกคนหลับ

“อย่าหลับนะ อดทนก่อน”

เราได้แต่ให้กำลังใจ

แม้ไม่รู้ว่าอดทนในสภาพนี้ต้องอดทนมากเพียงไร

เราไม่ได้เป็นฝ่ายถูกแทงนี่ไง

เลยได้แต่พูดปลอบประโลมจิตใจก็แค่นั้น

ดีที่แม่โทรหาตำรวจมาด้วย

“เราต้องทำยัง ต้องทำยังไง ฮึก ฮือ”

ร้องไห้ออกมาจนได้

ไม่รู้ว่าต้องกดแผลไหม

ต้องห้ามเลือดยังไงดี

วางไม้วางมือไม่ถูกเลย

จะให้กระชากออกก็คงเสียเลือดมากกว่าเก่า

ได้แต่พยายามกดเบาๆ เอาไว้

เลือดมันไหล่ผ่านง้ามฝ่ามือ

น้ำตาเราก็หยดไปพร้อมกับสายฝน

เสียงไซเรนดังมาแต่ไกล

คงเป็นโชคดีของเราที่บ้านก็ใกล้โรงพยาบาลอยู่

พอพยาบาลมาถึง

เราได้แต่บอกให้รีบช่วยเขาเอาไว้

ที่เหลือเป็นหน้าที่การควบคุมของโรงพยาบาล

ยัยมุกก็เช่นกัน

แต่เราไม่สนใจ

ปล่อยแม่งตายอยู่อย่างงั้น

มีพยาบาลคนหนึ่งไปดูแลแม่ง

หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยตำรวจมาถึงในที่เกิดเหตุ

วุ่นวายชุลมุนจนเราปวดหัว

เรารำคาญเรื่องวุ่นวาย

และความวุ่นวายก็ก่อเกิดมาจากเราทั้งสิ้น

ทั้งเราและมันต่างเป็นต้นเหตุในครั้งนี้

เราให้ปากคำกับคุณตำรวจ

ถึงสาเหตุต่างๆ นานา

โดนลอบทำร้าย

หมายจะฆ่า

เราเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ไม่รู้ว่าเรื่องจะไปไกลถึงขั้นออกข่าวเป็นบ้าเป็นบอ

ผ่านมาหลายวันเรารอให้ตี้พักฟื้นและให้หมอดูอาการ

กว่าจะตื่นก็ผ่านพ้นข้ามไปวันที่สาม

ตี้เสียเลือดจำนวนมาก

ผิวกายขาวซีด

เราได้พบปะเจอหน้าครอบครัวอีกฝ่าย

ทั้งขอโทษที่เป็นต้นเหตุของการเกิดการบาดเจ็บในครั้งนี้

พ่อแม่ตี้ไม่ถือโทษโกรธเรา

เราอธิบายให้ท่านฟังทุกอย่าง

ว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง

สามวันนั้นเป็นวันที่เรานอนเฝ้าอาการตี้

ยิ่งตอนที่อีกฝ่ายปรือตาขึ้น

มือไม้กระดิก

ใจเราที่ร่วงไปถึงตาตุ่มก็กลับมาเต้นผิดจังหวะ

ทั้งดีใจและวาดหวัง

“น้ำไหม” เป็นคำถามแรกที่เราเอ่ยปาก

ก่อนจะรินน้ำให้อีกคนดื่ม

ค่อยๆ พยุงกายให้อีกคนนั่งพิงพนักหัวเหล็กเตียงโดยมีหมอนหนุนหลัง

“คุณเป็นไงบ้าง” เสียงแหบแห้งของอีกคนถามไถ่

“ไม่บาดเจ็บใช่ไหม” ซ้ำยังเป็นห่วงเป็นใยเราซะงั้น

“ไม่” เราส่ายหน้า

น้ำตาเอ่อคลอเบ้า

เผลอบีบมืออีกคนโดยไม่รู้ตัว

เพราะความดีใจล้วนๆ

ไม่คิดว่าจะมีเด็กบ้ามาช่วยเหลือเราเอาไว้ได้ทันเวลา

หากไม่เป็นเช่นนั้น…

ไม่แน่ก็อาจเป็นเรา…

ที่บาดเจ็บล้มตาย

“และเธอล่ะ ?” ตี้ถามถึงอีกคน

“น่วมเลยล่ะ” เราพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

เป็นมุกตลกร้ายที่เกิดขึ้นจริง

“คุณนี่ร้ายกาจ” อีกคนเค้นยิ้ม

ไม่ได้นึกสนใจหรือห่วงว่าฝ่ายนั้นจะเจ็บปวดมากแค่ไหน

“มันแน่นอน” เราผายอกอย่างภาคภูมิ

เรื่องทำร้ายผู้หญิงเป็นอีหน้าตัวเมียนี่ตัดทิ้งไปได้เลย

เราไม่แยแส

ข่าวที่ออกมาก็เขียนจนดังสนั่น

สาเหตุก็เกิดจากการนอกใจ

ซ้ำยังถูกลอบทำร้าย

ทุกคนให้กำลังใจเรา

และใช่…ยัยมุกได้รับการรักษา

ถึงขั้นเป็นบ้าเพียงเพราะถูกบอกเลิก

จิตนางป่วยจนต้องบำบัดที่โรงพยาบาล

เราออกมาจากห้องพยาบาลเมื่อครอบครัวฝ่ายตี้มาเข้าพบ

ทว่าดันมาเจอะเจอกับอีกหนึ่งหายนะของความน่าปวดหัว

โชคดีที่มีพี่เรายืนอยู่ด้วย

ยืนรอด้านนอกตั้งนานแล้ว

เพื่อพาเรากลับบ้านไปอาบน้ำก่อนจะมาใหม่

“คุณ”

“พอกันที” เราเอ่ยขัด

“ให้มันจบสักที” เราย้ำอีกหน

“กูไม่ทนอะไรอีกแล้ว มึงจะมาขอโทษหรือมาขอคืนดีให้กลับมาคบกัน กูบอกเลยว่าไม่เอาทั้งนั้น”

ไม่ว่าเหี้ยอะไรก็ตามที

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะคนชั่วแบบมึงคนเดียว

“ไม่มีใครมาทนกับมึงหรอกนะ” เราเอ่ยด้วยวาจาเสียดสี

กระทบแดกดันด้วยความกรุ่นโกรธ

“อย่ามาให้เห็นหน้าอีกเลยกูขอล่ะ ขออยู่อย่างสงบสักที” เราจ้องตามัน

จ้องด้วยความโกรธเกลียดและขยะแขยงเหลือเกินจะกล่าว

มันเพียงพยักหน้ารับช้าๆ

ไร้คำเอื้อนเอ่ย

เหมือนรู้ซึ้งถึงคำตอบเสียที

หน้าด้านกว่าจะรู้เท่าทัน

ก่อนจะค่อยๆ หมุนกายเดินจากไป

หลังจากนั้นเราถึงได้พรูลมหายใจทิ้งออกมาเฮือกใหญ่

เงยหน้าขึ้นมากักเก็บน้ำตาเอาไว้

ปวดหัวกับเรื่องคาราคาซัง

“ไหวไหม กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถิด” พี่เราปลอบ

ฝ่ามือสัมผัสเข้าที่แผ่นหลังของเรา

เราได้แต่พยักหน้ารับ

รู้สึกร่างกายอิดโรยเกินไป

คงต้องพักผ่อนเสียบ้าง

 

ครั้นกลับมาถึงบ้าน

เราก็อาบน้ำพลัดเปลี่ยนอาภรณ์

ทิ้งตัวลงนอนกับฟูกเตียงนุ่มๆ

ผ่อนคลายความเมื่อยล้าที่เคยมีมา

ในหัวมีแต่ความดำมืด

ตื่นมาอีกทีก็เกือบเย็นซะแล้ว

ปานนี้ฝ่ายนู้นคงอยู่คุยกับครอบครัว

เราเลยถือโอกาสลุกขึ้นมาเปิดโน้ตบุ๊ก

เปิดทวิตอ่านข้อความที่มีเพื่อนนักเขียนมาให้กำลังใจ

เรากลายเป็นที่โด่งดัง

ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ายินดีเท่าไรนัก

เราเปิด word ขึ้นมา

พิมพ์กระแทกแป้นพิมพ์ตามตัวอักษร

ใส่ทุกข้อความบรรจงที่ตั้งใจจะสื่อ

การอธิบายถึงห้วงความคิดและในจิตใจ

ช่างเป็นการพรรณนาที่สละสลวยสำหรับเรายิ่งนัก

เป็นการพรรณนาที่แปลกใหม่จนรับรู้สึกได้

พลอยดำดิ่งกับตัวอักษร

นิยายเรื่องนี้ขึ้นชื่อว่าไม่ใช่นางเอก

เป็นสื่อแทนใจเราทั้งหมดทั้งสิ้น

ทั้งด้านความรัก

ทั้งด้านความรู้สึก

ทั้งในด้านของความสิ้นหวัง

และทั้งในด้านของความโกรธเกลียดใครสักคน

เป็นทั้งในด้านที่หม่นหมองและน่าติดตามในคราเดียวกัน

เราเริ่มเสพติดการบรรยายเช่นนี้

จมดิ่งกับเนื้อหาลายลักษณ์อักษร

แม้พื้นที่หน้ากระดาษจะเปลืองนักหนา

แต่ใจความของมันก็กระแทกกินใจเราเหลือเกินจะกล่าว

 

ปัจจุบันเราอายุ28ปี

เป็นนักเขียนที่มีผลงานเป็นสิบๆ เรื่อง

บ้างก็มีเรื่องที่ได้ทำเป็นซีรีย์

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าภาคภูมิเป็นอย่างยิ่ง

“โกโก้ร้อนๆ ครับ” เสียงพนักงานเดินมาเสิรฟ์

ในจังหวะที่เรากำลังพิมพ์ตัวอักษรในนิยายที่ใกล้จะจบ

เราแหงนหน้าและยิ้มให้อีกฝ่าย

จิบโกโก้ขึ้นดื่ม

แตะขอบแก้วชิดกับริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ

ความร้อนและหอมหวานของมันทำให้เราอิ่มเอมใจ

มีความสุข

เราระบายยิ้มกว้าง

ก่อนจะพิมพ์เนื้อหาต่อที่ใกล้จะจบลง

“รับอะไรเพิ่มไหมครับ” เสียงพนักงานที่เป็นถึงเจ้าของร้านยังคะยั้นคะยอถาม

เราส่ายหน้าพลางอมยิ้มไม่ตอบกลับ

ก่อนจะจบคำว่า ‘Ending’ ในนวนิยายที่ใกล้จะตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม

หลังจากนั้นจึงหันเหความสนใจมาที่คนข้างกาย

เราสบตากัน

พลันเท้าคางและยักคิ้วปั่นประสาทใส่ชายหนุ่มที่เยาว์วัย

“อยากจะกินเด็กอะ มีไหมล่ะ ?”

“โอ๊ะ ร้านเรามีพอดี” อีกคนตอบกลับอย่างร่าเริง

พลันชี้นิ้วมาที่ตัวเอง “ตี้ไง”



End
หัวข้อ: Re: #ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.5) 16/12/2019
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-12-2019 11:42:22
 :pig4: :pig4: :pig4: